พิมพ์หน้านี้ - เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: patwo ที่ 17-02-2017 20:24:50

หัวข้อ: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 17-02-2017 20:24:50
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 

- - - -- - - - - -- - - - - - -

►►   สารบัญ  ◄ ◄

เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: บทนำ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3581039#msg3581039)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 1  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3581039#msg3581039)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 2  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3581829#msg3581829)   
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 3  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3582585#msg3582585)   
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 4  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3586016#msg3586016)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 5  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3587326#msg3587326)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 6  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3590702#msg3590702) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 7 (ชัดโม) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3591883#msg3591883)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 8 (ชัดโม) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3595108#msg3595108) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 9  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3596283#msg3596283) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 10  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3599028#msg3599028)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 11  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3600182#msg3600182)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 12  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3603396#msg3603396)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 13  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3604540#msg3604540)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 14  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3607696#msg3607696)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 15  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3608809#msg3608809)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 16  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3611580#msg3611580)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 17  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3612889#msg3612889)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 18  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3615892#msg3615892)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 19  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3617119#msg3617119) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 20 (ชัดโม) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3620450#msg3620450)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 21  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3621794#msg3621794) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 22  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3625058#msg3625058)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 23  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3626174#msg3626174) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 24  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3629433#msg3629433) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 25  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3630760#msg3630760)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 26  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3633847#msg3633847) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 27  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3635078#msg3635078) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 28  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3637807#msg3637807)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 29  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3639083#msg3639083)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 30  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3642039#msg3642039)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 31  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3643280#msg3643280)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 32  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3646061#msg3646061)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 33  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3647216#msg3647216) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 34  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3650404#msg3650404)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 35  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3651700#msg3651700)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 36  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3654827#msg3654827) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 37  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3655962#msg3655962)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 38 ( ตอนจบ )  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3658910#msg3658910)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 39  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3660267#msg3660267) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 40  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3663381#msg3663381) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 41  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3664572#msg3664572) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 42  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3667864#msg3667864)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 43  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3669161#msg3669161)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 44  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3672177#msg3672177)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 45  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3673232#msg3673232)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 46  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3676216#msg3676216)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 47  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3677200#msg3677200) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 48 ( เปิดจองนิยาย )  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3679947#msg3679947)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 49 ( เปิดจองนิยาย )  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3681039#msg3681039) 
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 50 ( เปิดจองนิยาย )  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3683787#msg3683787)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 51  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3684773#msg3684773)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนพิเศษ " คุณแม่อาขม "  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3687288#msg3687288)
เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู :: ตอนที่ 52 ( ตอนสุดท้ายที่จะลง ) "  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58323.msg3690882#msg3690882)  :katai2-1: :katai4:


ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ


ประกาศรวมเล่มนิยาย ' เฮ้ย!! มันไม่ใช่ลูกกู ' 
เปิดจองตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม - 15 ตุลาคม ( รอบแรก )

รายละเอียดโดยรวม + ราคา

หนังสือ ' เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู ' เป็นหนังสือชุดมี 3 เล่ม ราคาชุดละ 1200 บาท

​(http://www.mx7.com/i/111/2rX9GG.jpg)
(http://www.mx7.com/i/003/L1eXfR.jpg)


รายละเอียดของหนังสือ

 เนื้อหาหลัก 38 ตอน ตอนพิเศษ 29 ตอน รวม 67 ตอน / * นิยายจะลงในเล้าเป็ด , ธัญวลัย , เด็กดี จนถึงถึงตอนที่ 53 เท่านั้น / - เนื้อหาตอนพิเศษของพิเศษ เพิ่มอีก 17 ตอน  / ** หนังสือเล่มพิเศษ 17 ตอนนี้ สงวนขายเฉพาะการตีพิมพ์ในรูปแบบหนังสือเท่านั้น ไม่นำขายใน ebook / - ปลอกสวมหนังสือเป็นชุด 1 ชิ้น

ของแถม       

    - ที่คั่น 3 ชิ้น โปสการ์ด 1 ใบ 

    - แฟนอาร์ตจิบิ เนื้อหาน่ารัก ๆ

สำหรับคนที่สั่งจองในรอบแรก !!! ( ภายในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ )

- การ์ดขอบคุณจากน้องกาลิค  50 คนแรก

- หนังสือตอนพิเศษ 3 ตอน !!


(http://www.mx7.com/i/1cc/3KSzoj.jpg)


รายละเอียดการสั่งจอง + โอนเงิน                 

1. เมื่ออ่านรายละเอียดเรียบร้อบแล้ว ให้โอนเงินมาที่บัญชี  ชื่อบัญชี นางสาวอรชา ภูมิมาตร  ธนาคารไทยพานิชย์ สาขา บางจาก  เลขที่บัญชี 0892649044  **( ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์และไม่มีพร้อมเพย์ )  " ถ่ายสลิปหลักฐานการโอนเงินเก็บไว้ด้วยนะคะ "

2. หลังจากโอนเงินแล้ว ให้แจ้งโอนมาที่ e-mail :: atrealkanomอย่าแสดงเมลบนบอร์ด พร้อมทั้งกรอกรายละเอียดดังต่อไปนี้ ชื่อ - นามสกุล ที่อยู่ ( อย่างชัดเจน อีกอย่างช่วยพิมพ์ให้ด้วยนะคะ อย่าส่งกันมาเป็นรูปที่อยู่นะคะ ) จำนวนหนังสือที่สั่งจองมีกี่ชุด  ความต้องการพิเศษอื่นๆ และกดส่งมาโล๊ดดดด

3. เมื่อแจ้งโอนแล้วจะได้รับข้อความตอบกลับภายใน 3 วัน  และถ้าหากไม่ได้ข้อความตอบกลับภายใน 3 วัน  DM twitter : @realkanom // กล่องข้อความ facebook : หนมมี่ผู้ใสซื่อ


#ทั้งนี้ที่1 หนังสือไม่ต้องจอง โอนเงินได้เลย
#ทั้งนี้ที่ 2 การโอนจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เมื่อได้รับอีเมล์ตอบรับค่ะ 
#ทั้งนี้ที่ 3 รายชื่อของคนโอนเงินแล้วจะอัพเดทให้ทุก 1 อาทิตย์ โดยประมาน



เช็ค และ ติดตามความคืบหนังสือของได้ทางเพจ fb " หนมมี่ผู้ใสซื่อ "

หากมีข้อสงสัย ติดต่อ  twitter : @realkanom  facebook : หนมมี่ผู้ใสซื่อ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 17-02-2017 20:25:30
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
บทนำ

   มันเป็นเช้าวันอัปปีย์วันนึงของผม หลังจากที่สอบกลางภาคเสร็จ  ผมกับเพื่อนก็เมาหัวราน้ำอยู่ในคอนโดตัวเอง สภาพคนที่ตอนนี้ละม้ายคล้ายไปทางศพเพราะยกเหล้าซดกันเป็นขวดๆอย่างบ้าระห่ำตามประสาคนไม่มีภาระอะไร อากาศหนาวต้องร่างที่ใส่แค่บ็อกเซอร์ของผม คว้าเอาถุงขนมที่อยู่ข้างตัวมากอดไว้ ก่อนจะบรือตาตื่นนิดหน่อยตอนที่คมของปากห่อแทงเข้าที่นม

   กริ้ง กริ้ง กริ้ง

“ อื้ออออ " ผมลากเสียงยาวตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียนั้น ผ่อนลมหายใจออกมาเซ็งๆ หน้าตาที่ตอนนี้ขมวดเข้าไปรวมเป็นจุดเดียว ผมจำใจตื่นขึ้นจากพื้น “ เออๆ กูมาแล้วเว้ย ใครแม่งมาเรียกตั้งแต่เช้าว่ะ "  ถกบ๊อกเซอร์ที่เข้าวินอยู่ครึ่งตูดลงไป ผมเกาตูดตัวเองเสียงดัง แกร็กๆ ก่อนจะดึงมันขึ้นมาขยี้จมูกปลุกตัวเองให้รู้สึกสดชื่นไปอีกแบบในยามเช้า

“ ใครมาว่ะ เงียบๆหน่อยเว้ย กูจะนอนน " ไอ้ภาพเจ้าของคอนโดร่วมกันกับผมตะโกนขึ้นมา มือที่กอดตุ๊กตาหมีตัวโปรดของมันไว้แน่นนั่น ดูรักมันมาก และขาดไม่ได้เลย แดกเหล้าแล้วเมาทีไรก็เอามานั่งกอดดูมุ้งมิ้งหาที่สุดไม่ได้เลย

“ เงียบๆครับ พี่ชัดจะนอน " เพื่อนอีกคนที่นอนอยู่บอก

“ ไอ้สัดขมมมมม บอกให้มันเงียบที " เสียงไอ้ภาพดังขึ้นมาอีกผมก็ถอนหายใจ

“ ครับๆ กูกำลังจะเปิดเดี๋ยวนี้แหละ ไอ้คุณชายทั้งหลาย " เปิดประตูคอนโดตัวเองหลังพูดประโยคนี้  แต่ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับแสงสว่างมากๆที่วาบเข้ามาใ่หน้าผม ให้เอนหลังตกใจน้อยๆ

“ พี่ขม มีนาเองค่ะ "

“ มะ มีนา " ผมปิดประตูใส่เธอแต่เหมือนมือนั้นจะกันเอาไว้ได้ เอาจริงๆกูสร่างเมาเลยในจุดนั้น " เดี๋ยวๆ มีนาพี่โป๊อยู่นะครับ แปปนะ ขอใส่เสื้อก่อน "

“ มีนาไม่ถือหรอกพี่ขม ออกมาก่อน มีนารีบ " เธอว่า

“ แฮ่ๆ มีอะไรเหรอ " ผมยิ้มแห้งๆ เธอก็ยิ้มหวานใส่ มีนา เป็นสาวสวยต่างมหาลัยที่อยู่ในคอนโดเดียวกันกับผม เธอเรียนมหาลัยรัฐชั้นนำ คณะอักษรศาสตร์ เป็นคนรูปร่างผอม หน้าตาสวยหวาน ผิวขาวเหลืองของเธอ ชวนให้ทุกอย่างมันดูน่ามองไปหมด เป็นคนในแบบที่ผมชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นจนถึงตอนนี้

   ถ้าถามว่า ตอนนี้ทำไมยังโสด ก็บอกออกไปตรงๆเลยว่า ' โสดรอน้องมีนาไงละจ๊ะ จุ๊บๆ เพราะพี่ไม่ได้อยากจะคบน้องเป็นแฟนหรอก พี่อยากจะคบน้องให้เป็นแม่ของลูกพี่ตังหาก โอ๊ยยยยยย กร้าวใจเหลือเกิน '

“ พี่ขมค่ะ พี่ขม พี่ขม "

“ ครับๆ "

“ คิดอะไรอยู่เหรอคะ " เธอถามก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา ผมก็ส่ายหน้าปฎิเสธ จะบอกได้ไงว่ากำลังคิดถึงอนาคตของเรา เดี๋ยวเจ้าสาวในอนาคตตกใจหมด

“ ไม่มีอะไรหรอก น้องมีนามีอะไรเหรอ "

“ คือ เด็กคนนี้มารอพี่ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าแล้ว " เธอมองลงต่ำผมก็มองตาม 

“ มาหาพี่ ? มาหาทำไมวะ.. ครับ " ลืมไปว่าอยู่ต่อหน้าสาว ต้องทำตัวผู้ดีสักหน่อย แม้จะไม่ค่อยมี

“ ป่าป๊า "

“ ฮ่าๆๆ " ผมหัวเราะกลบเกลื่อนคำพูดพวกนั้นก่อนจะปั้นหน้าดุใส่เด็กตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า " หลงห้องแล้วมีนาไม่มีใครเป็นพ่อไอ้นี่หรอกนะ ฮ่าๆ " ผมสะบัดมือไล่ มีนาทำหน้างง

“ หนูก็บอกน้องแล้วนะ แต่น้องก็ยังยืนยัน " เธอว่าก่อนจะก้มหน้าลงมองเด็กผู้ชายตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างเธอ มองจากในมุมมองผมมันก็เป็นเด็กน่ารักแต่ดูท่าทางว่าจะออกแนวไปทางลูกครึ่งนิดหน่อย เหมือนว่าแม่ไปได้พ่อฝั่งยุโรปแต่ยีนส์เด่นเอเชียมันชัดกว่าก็เลยออกมาแบบ ตากลมๆสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่ง ปากได้รูป แถมทรงผมที่ตัดออกมาให้ดูน่ารักเข้ากับหน้าหวานๆนั่นอีก เอาโดยรวมที่ว่า ถ้าออกไปข้างนอกแล้วเจอ ผมคงต้องชมว่า ' ไอ้เด็กคนนี้แม่ง น่ารักวะ '

“ ยืนยันว่าไรอะ "

“ คนนี้ป่าป๊า "  พูดไม่พอยังชี้มือมาหากูอีก ผมตีมือแม่งเลยครับแต่มันหลบทัน

“ ชี้มั่วซั่ว กูเสียหายนะเว้ย "

“ มึงพูดเหี้ยอะไรอยู่ว่ะ ขมกูจะนอน " ไอ้ภาพเดินเกาเกลื้อนตรงพุงเข้ามาใกล้ผม หัวที่ดูฟูไม่เป็นทรง ขมวดคิ้วหน่อยๆก่อนจะก้มลงมองเด็กคนนั้นที่ยืนอยู่หน้าประตู

“ คนนี้ก็ป่าป๊า " นิ้วชี้เล็กๆนั่นชี้มาที่ไอ้ภาพ

“ ห๊ะ ? อะไรนะ “ สติที่ยังไม่เข้าร่างของมัน ทวนถามเด็กซ้ำ ผมก็ขมวดคิ้วงง

“ เดี๋ยวนะ เดี๋ยวกูงงไปหมดแล้ว มึงเจอกู ก็บอกว่ากูเป็นป่าป๊า เจอไอ้ภาพก็บอกว่ามันเป็นป่าป๊า ตกลงคนไหนพ่อมึงเนี้ย "

“ ป่าป๊าทั้งคู่เลยมั้ง "

“ หื้ม ? เหี้ยไรเนี้ย บ้า ใครที่ไหนจะมีพ่อสองคน ผิดห้องแล้วมีนา  พาลงไปแจ้งออฟฟิศข้างล่างเถอะ " ผมบอก ก่อนที่เด็กคนนั้นจะคว้าเอาภาพใบนึงออกมาจากกระเป๋ากางเกงของมัน  มีนาก้มลงมองภาพนั่นก่อนจะพูดขึ้น

“ เอ๋ ? นั่นมันภาพพี่สองคนนี่ค่ะ "

“ แต่.. “ พวกผมหยิบภาพนั้นขึ้นมาดู ก็พบว่ามันคือภาพของเราสองคนจริงๆนั่นแหละ แต่ว่านะ.. “  เฮ้ย!! น้องครับ นี่มันไม่ใช่ลูกกู!! “

และเรื่องราวชวนปวดหัวของผมกับไอ้ภาพ ก็เริ่มต้นขึ้นจากวันเหี้ยๆวันนั้นเหละครับ

.........................................................
หัวข้อ: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 17-02-2017 20:32:37
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 1
“ ตื่นๆ กลับๆ ไปๆ พวกมึง! ตื่นเว้ยๆ ตื่นนน " ไอ้ภาพไล่ปลุกไอ้โมกับไอ้ชัดเพื่อนสองคนที่ยังคงงัวเงียไม่สร่างเมาเท่าไหร่ มันสองคนขมวดคิ้วงงๆตอนที่ลุกขึ้นนั่ง ไอ้ชัดหนุ่มใต้ผิวสองสี หน้าตาคมกลิ้งไปนอนอีกด้านไม่ได้สนใจ ตีนที่เขี่ยตูดมันอยู่เลย 

“ เหี้ยไรว่ะ ยังเช้าอยู่เลยมึง ไอ้ภาพ กูจะนอนน " มันบอกก่อนจะหลับต่อ

“ มึงนอนต่อไม่ได้แล้ว มึงต้องลุกเดี๋ยวนี้!! ไอ้สัด เร็ว! ”

“ อะไรกันวะ เสียงดังจัง " ไอ้โมลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆก่อนจะขยี้หัวตัวเอง งงๆ ไอ้โมเป็นเพื่อนอีกคนของเรา มันเรียนคณะเดียวกันกับผม โมมันเป็นหนุ่มตี๋หน้าจีนเอามากๆ ขนาดที่ว่าถ้าออกไปเที่ยวก็ถูกถามทางภาษาจีนบ่อยๆแต่ถามว่าพูดได้มั้ย คำตอบ คือ ไม่.. จีนแต่หน้าเท่านั้นแหละ และอีกอย่างคือ มันเป็นลูกคุณหนูที่รวยเอามากๆเลยด้วย

“ โม มึงกลับไปก่อน กลับไป กลับๆ " ผมบอกมันก่อนจะดึงแขนมันให้ลุกขึ้นยืน

   ก่อนอื่นกูต้องปลุกไอ้พวกปากหมานี่กลับบ้านให้หมดก่อน เพราะจะให้มันเห็นเด็กคนนั้นไม่ได้ ยิ่งมารู้ว่า ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กในตอนนี้ แม่เด็กก็ไม่รู้ เรื่องแม่งคงยาว คงถูกล้อ ถูกพูดต่อๆกันไปทั้งมหาลัยแน่  เพราะงั้นให้รู้ไม่ได้เด็ดขาด ตอนนี้ก็เลยฝากเด็กคนนั้นไว้ที่มีนาที่อยู่ข้างๆก่อน ข้ออ้างง่ายๆที่ผมบอกคือ ' ไม่อยากจะให้เด็กเห็นภาพที่ไม่ดี '  ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่เก็บขวดเหล่าเปล่าๆใส่ถุงขยะ อดคิดไม่ได้เลยว่า เหี้ยไรว่ะอยู่ๆ ก็มีเด็กมาชี้หน้าว่าเป็นพ่อ แต่ทั้งกูทั้งไอ้ภาพเลยเหรอวะ คิดแล้วก็ งง  กูไปเอาแม่มันเมื่อไหร่ไม่เห็นจะจำได้ แล้วแม่มันเป็นใครนี่สิที่อยากจะรู้ 

“ มึงตื่นดิว่ะ ไอ้ชัด กลับไปก่อน เหี้ย เร็วๆ " เอาตีนแตะขามันแรงขึ้นคนที่ยังนอนขี้เซาก็จำใจลุกขึ้น มันจ้องหน้าผมด้วยอารมณ์โกรธๆ " เร็ว! กลับ! แม่กูจะมา "

“ ห๊า! แม่มึงจะมา " มันสองตัวลุกขึ้นพร้อมกันพอได้ยินคำนี้ หลังจากนั่งอ้อยอิ่งอยู่นาน คว้าหาเสื้อผ้าตัวเองกันแบบรีบร้อน บ่งบอกเลยว่า อยากจะพบแม่ของผมเป็นอย่างมาก

“ แม่มึงจะมา " ไอ้ภาพพูดเสียงเบามันหันมายักคิ้วใส่ผม เหมือนจะถามว่า ' จริงเหรอวะที่พูด ' ผมถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้า กูก็เบื่อความโง่ของไอ้สัดนี่จริง ๆ

“ อำกูป่ะสัด " ไอ้ชัดถาม

“ อำเหี้ยไร เร็วๆ มึงอยากเจอแม่กูรึไง เร็วๆ กูจะให้แม่บ้านขึ้นมาจัดห้อง "  จริงๆแม่ของผมก็ไม่ใช่คนน่ากลัวอะไรขนาดนั้น แต่ที่พวกมันไม่อยากเจอเพราะแม่ผม คงเพราะว่าท่านเป็นคนที่ค่อนข้าง ' เยอะ ' ไปสักหน่อย ระเบียบจัดแถมยังชอบเจ้ากี้เจ้าการไปทุกเรื่องแม้แต่เรื่องของเพื่อนผม ไอ้พวกนี้คงรำคาญแล้วก็เกร็งๆเวลาเจอหน้าแม่ผม ก็นะ ท่านทำงานเป็นนักโภชนาการในโรงพยาบาลด้วยละมั้ง นิสัยก็เลยเป็นแบบนี้

“ ไปเดี๋ยวนี้เหละเว้ย มือถือกูอยู่ไหนวะ อ๊ะ.. เจอละ " พูดเองตอบเองก่อนจะหันไปหาไอ้โม " โม มึงจะกลับพร้อมกูรึเปล่า "  มันถามไอ้โมที่ทำท่าอ้ำอึ้งนิดๆ มันคิดอยู่เป็นนาที

“ มึงจะเงียบอีกนานเปล่าว่ะ ไอ้โม วิญญาณยังไม่เข้าร่างเหรอมึง " ภาพบอกก่อนจะเกาหัวตัวเองเซ็งๆ

“ เออๆ ไป ไปก็ได้ " มันว่าก่อนจะก้มลงหาของ " มือถือกูอยู่ไหนวะ "

“ ก็ถืออยู่ไม่ใช่รึไงว่ะ " ไอ้ชัดบอก

“ จริงด้วยว่ะ "

“ แฮ้งค์สัดอะ กลับบ้านไปอาบน้ำนอนต่อเถอะมึง ไปๆ " ผมโยนกระเป๋าให้มัน ดันหลังให้แม่งทั้งคู่ออกจากห้อง ได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาเซงๆในตอนนั้น แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร
 
   ทุกอย่างในห้องเหลือแต่ความเงียบกับห้องที่สะอาดขึ้นมานิดหน่อย อย่างน้อยก็ไม่มีขวดเหล้า ขวดเบียร์ โซฟา หรือว่าศพชายฉกรรจ์นอนเมาอืดก็แล้วกัน ผมถอนหายใจออกมาพร้อมไอ้ภาพเราเหลือบมองกัน มันก็กดโทรศัพท์สั่งให้แม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาด

“ กูอาบน้ำก่อนนะ " ผมบอกก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไป บางทีอาบน้ำแล้วกูอาจจะพบว่า เรื่องนี้เป็นแค่ฝันก็เป็นได้

“ ตกลงเอาไง "  ไอ้ภาพหันมาถามผม หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยทั้งสองคน ผมเงียบตอนนั้นคิดแค่ว่า ' ไม่ใช่ฝัน ' รู้สึกอยากจะอ้วกขึ้นมายังไงพิกล ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด ผมมองป้าที่กำลังทำความสะอาดท่าทางที่สอดรู้สอดเห็นของเธอ ยิ้มให้ผมจางๆตอนที่สบสายตากับผมพอดี

“ ป้าครับ วันนี้ทำแค่นี้ก็พอ " เธอหันมายิ้มให้แต่ในใจคงนึกเสียดายแหละผมรู้ คนทำความสะอาดที่นี่เป็นประเภทมนุษย์ป้าขาเม้าส์ อยากรู้เรื่องใครในคอนโดขอให้ถาม ดาราคนไหนไฮโซคนดังรู้หมดทุกเรื่อง

“ ค่ะ " ตอบแบบสั้นๆ รับเงินที่ตั้งอยู่บนเค้าเตอร์แล้วเดินออกไป ผมกับไอ้ภาพหันมองเธอที่เดินออกจากห้องไป ตอนที่เสียงประตูปิดลงภาพก็ถาม

“ ตกลงจะเอาไงดีวะ "

“ ไปเอามันออกมาจากห้องมีนาก่อน ดีกว่าว่ะกูว่า เราจะถามมัน ว่ามันเป็นใคร ชื่ออะไร เผื่อได้เรื่องอะไรบ้าง "

“ ลูกมึง มึงไปเอาดิ " ไอ้ภาพบอก ผมที่กำลังยืนชะงักฝีเท้า

“ ลูกมึงนั่นเหละ ไอ้สัดภาพ! มันคงไม่ใช่ลูกกูหรอก กูเอากับสาวนับครั้งได้ " อันนี้คือความสัตย์จริง แต่ไม่โกหกใดๆ ผมเคยมีอะไรกับผู้หญิงแต่นั่นก็ไม่ใช่แนว วันไนท์สแตนแบบที่ไอ้ภาพมันชอบ ของผมคือ คบกัน เป็นแฟน ถึงมีอะไรกัน " ของมึงแน่ๆ มึงแม่งชอบเอากับสาวแบบไม่ผูกมัด มึงมีความเป็นไปได้มากกว่ากูอะ "

“ ถึงกูจะชอบเอากับผู้หญิงแบบนั้น แต่กุใส่ถุงทุกครั้งมันไม่หลุดออกไปหรอกน่า " มันยักไหล่ด้วยท่าทางมันใจ ผมยกยิ้ม

“ เหรอ ? Kไม่เคยว่างการสอดใส่อย่างมึงนะเหรอ มันอาจจะหลุดถุงยางออกไปก็ได้ใครจะรู้ " ประโยคที่ชวนให้คนมั่นใจสลดไปได้ทันที มันถอนหายใจออกมาก่อนจะขยี้หัวตัวเองแรงๆ

“ โอยยยยยยยยย กูไม่รู้เว้ย แต่มันก็อาจจะเป็นมึงก็ได้ อย่าลืมนะว่า มึงเอากับสาวแบบเลือกๆก็จริง แต่เอากันถี่.. ผู้หญิงก่อนหน้านี้ที่มึงเลิกไป มึงเอากับเค้ายกเว้นช่วงเมนส์มากูจำได้ "

“ ไอ้สัดไม่ขนาดนั้น เชี้ย!! “

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก ... 

   เสียงที่กำลังเถียงกันของเราหยุดลงไอ้ภาพมองไปที่ประตู ก่อนจะเชิดหน้ามาทางผมบอกใบ้ให้ไปเปิดประตู ' ทำไมมันต้องเกิดเรื่องเหี้ยๆแบบนี้กับกูด้วยว่ะ เชี้ยเอ้ยยย '

   ใครจะไปรู้ ว่าไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหน อยู่ๆโผล่มาอีกที ลูกก็สามสี่ขวบแล้ว ปีนี้ผมเองก็เพิ่งอยู่ปีสาม ถ้าย้อนกลับไป 5 ปีก่อนหน้านั้นผมกับไอ้ภาพก็คงต้องอยู่ในช่วง ม. 4 ม.5  เลยนะ  เพราะงั้นแม่เด็กก็ต้องรุ่นๆเดียวกันจำได้ว่าตอนนั้นเหมือนยังอยู่ในช่วงเห่อKอยู่ด้วย มีเซ็กส์กับสาวถี่จนจำไม่ได้หรอกว่า เอากับใครมาบ้าง  ว่าแต่มึงที่เอาไอ้เด็กนั่นส่งมาให้กูเนี้ย ' มึงแม่งเป็นใครวะ '

“ มีนา " ผมเปิดประตูทักคนที่เคาะประตูเรียก

“ พี่ขม  มีนาเอาน้องมาส่ง มีนาจะไปเรียนแล้วค่ะ " เธอบอกก่อนจะดันหลัง เด็กชายผู้สร้างปัญหา เข้ามาในห้องของพวกผม

" ขอบคุณมากครับที่ช่วยดูแลให้ ยังไงไว้พี่เลี้ยงข้าวตอบแทนนะ " หยอดสาวสวยเล็กน้อย เธอที่ยิ้มแห้งๆก่อนจะเดินจากไป ผมก้มลงมองไอ้ตัวเล็กที่ก็เงยหน้ามองผม " ไปนั่งข้างพ่อมึงไป "

“ ห๊ะ ? มึงว่าไรนะ " ไอ้ภาพถามเสียงดังแต่ถึงอย่างงั้นคนที่ผมบอก ก็ว่าง่ายเดินไปนั่งข้างๆแบบไม่รู้เรื่องเลยว่า ผู้ชายร่างสูงข้างๆจะแดกหัวมันอยู่แล้ว สายตากลมหันไปมองไอ้ภาพด้วยสายตากลัวๆ ก่อนจะขยับร่างตัวเองให้ออกห่างไปเรื่อยๆ จนไปนั่งที่ริมสุดติดขอบโซฟา 

“ พูดจาแล้วก็ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิวะ แม่งกลัวมึงแล้วอะ "

“ ดี! " ไอ้ห่าภาพคงคิดจะทำให้เด็กกลัว ภาระจะได้มาตกลงที่ผมคนเดียวแน่ๆ .. มึงแม่ง..เลวมากในจุดนี้ พี่ขมจะไม่ทน

“ มึงดูท่าทางไม่ชอบมันนะ หรือว่ามึงกลัวว่ามันจะเป็นลูกมึง " ผมถาม

“ พูดจาให้มัน ดีๆ ไอ้สัด! ใครพ่อมัน "

“ เรายังพิสูจน์ไม่ได้ ว่าใครพ่อมัน แต่ถ้าดูจากท่าทางของมึงที่ทำให้มันกลัว รังเกียจ กูก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่แล้วว่า มึงจะไม่ใช่ "

" คิดเหี้ยอะไรแบบนั้นวะ "

" อ้าว ก็ก็มีสิทธิจะคิดเปล่าวะ คนที่มันดูระแวงมันก็ดูเหมือนจะมีอะไร แอบไว้อยู่ไม่ใช่เหรอ "

" ตลก " มันเบือนหน้าหนี ก่อนจะถอนหายใจออกมา " กูว่าหน้าแม่งเหมือนใครก็ลูกคนนั้นอะ แต่ดูท่าทางไม่น่าจะใช่ลูกกู หน้าหวานๆ น่าจะลูกมึง " มหกรรมโยนขี้ โยนกลับมาให้กูอีกแล้ว

    หันมองหน้าเด็กตัวเล็กที่มองผมทีมองไอ้ภาพด้วยความสงสัยที่เห็นเราเถียงกัน คือมันจะบอกว่าเหมือนผมก็คงไม่เชิงหรอกครับ หน้าผมดูหวานก็จริงแต่ไม่ได้หวานสวยอะไรขนาดนั้น แค่ขาว ตากลมๆ คือถ้าเทียบกับมาตรฐานผู้ชายที่ต้องสูง คมเข้ม ก็คงไม่ใช่อะไรแบบนั้น ส่วนสูงก็ค่อนไปทางเตี้ยอีกถ้าเทียบกับผู้ชาย แบบไอ้ภาพแล้ว ผมก็เหมือนกับ คู่ขนานกับมัน รายนั้นทั้งสูง ทั้งหล่อ ผิวขาวเหลืองของมัน ดูไม่อ่อนแอเหมือนผม ชวนให้สาวหลงออกเสียด้วยซ้ำ อาจเพราะมันมีลูกเสี้ยวแขกก็ได้มั้ง แต่ผมดันลูกเสี้ยวจีนไง ได้อาม่ามาเยอะ ขนาดแฟนคนเก่ายังบอก ' ขมดูดีออก ดูเป็นผู้ชายน่ารัก ของขวัญชอบ ' แต่ก็ทิ้งกูไป จ๊ะ

“ กูว่ามันดูมีเชื้อฝรั่งอยู่หน่อยๆนะ " ภาพพูดขึ้นมา

“ กูก็คิดงั้น " พยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยถาม " ภาพ  มึงเคยเอากับฝรั่งบ้างมั้ยวะ "

“ ก็ตอนไปเรียนซัมเมอร์ที่เยอรมันสักสี่ห้าครั้งมั้ง  "

“ ตอนนั้นมึงอยู่ ม.สี่นี่หว่า ก็น่าจะเป็นไปได้อยู่นะ " ผมพูดกับตัวเองก่อนจะคิดคำนวนอายุเด็กกับช่วงเวลาตอนนั้น 

“ มึงจำไม่ได้เหรอว่ะ กูยังจำตอนมึงไปส่งกูได้เลยนะ ฮ่าๆ "

“ เงียบปากไปเลยมึง ไอ้เหี้ย " คว้าหมอนปาอัดใส่หน้าอีกคนที่ก็ยังหัวเราะ

   ผมกับไอ้ภาพรู้จักกันมานานมากแล้ว ความสัมพันธ์ของเรามันเป็นมากกว่าเพื่อนสนิทซะอีก อาจเพราะผมเป็นลูกคนเดียว มันเองก็ลูกคนเดียว บ้านเราอยู่ใกล้กัน ตอนที่ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ตอนประมาน สามสี่ขวบ ก็เจอกับมัน เป็นเด็กข้างบ้านที่ผมเข้าไปทำความรู้จักแล้วก็ชวนเล่นด้วย จากนั้นเราก็สนิทกันมากขึ้น มากจนทำให้ครอบครัวเราเองก็สนิทกัน

   เพราะไม่เคยห่างกับมันมาก่อน ไม่รู้ตอนนั้นรู้สึกอะไร แต่ตอนที่ภาพสอบได้ไปเรียนซัมเมอร์ที่เยอรมันวันที่ไปส่งผมร้องไห้เหมือนคนบ้า น้ำตานองหน้าที่สนามบิน ไอ้ภาพมันยิ้มตอนที่เห็นผมที่เป็นแบบนั้น มันดึงผมเข้าไปกอด ลูบหลัง ' ไม่ต้องร้อง กูจะติดต่อมึงมาบ่อยๆ จะคิดถึงมึงทุกวัน ให้มากกว่าเอ็ดดี้เลย ' ครับ.. ตอนนั้นมันบอกว่าจะคิดถึงผมมากกว่าหมาตัวโปรดพันธุ์ไซบีเรียนของมัน แล้วผมก็พยักหน้างึกงัก จำได้ว่าตอนนั้น กลัวมาก ว่ามันจะไม่กลับมากลัวมันจะอยู่เรียนต่อที่นู้น รู้สึกเหงาที่ปิดเทอมนี้เราจะไม่ได้เที่ยวเล่นด้วยกันเหมือนอย่างที่เป็นมา ' รีบกลับมานะภาพ ' ผมบอกมันก่อนที่มันจะผละตัวออกห่างผมไปกอดพ่อแม่ตัวเอง ไหว้แม่ผมที่ก็มาส่งมันด้วย ก่อนจะเดินเข้าเกตไป จำได้ว่าช่วงเวลาตรงนั้น เป็นอะไรที่เหงามาก เหมือนจะเหงาที่สุดในชีวิตแล้ว

' โอ๊ยยยยยย คิดแล้วจะอ้วก แหวะ ! ' ผมทำท่าอ้วกออกมากับความรู้สึกที่คิดถึงช่วงเวลาเด็กน้อยพวกนั้น ถ้าย้อนกลับไปได้กูจะไม่ร้องไห้สักหยอด ไม่ร้องให้มันมานั่งล้อยันมาลูกโผล่มาหน่อนึงหรอก สัด!

“ แล้วรีบกลับมานะภาพ อึก ฮือๆ " ดัดเสียงดูแรดๆ มันหัวเราะชอบใจ " จ้าๆ แล้วผัวจะรีบกลับมานะจ๊ะที่รัก "

“ ไอ้สัด ใครเมียมึงวะ!! ” ฟาดหมอนไปที่มันอีกทีแต่ ไอ้ภาพก็ยังไม่หยุดหัวเราะ

“ เมียอ่าา นี่ผัวไงจำไม่ได้เหรอ " มือหนาเอื้อมาเกาคางชอบใจ

“ ผัวพ่อมึงสิ!! ” ผมตวาดเสียงดัง

“ พอๆ ไอ้สัด เด็กงง มึงถามมันสิ มันชื่ออะไร มาจากไหนอะไร ยังไง เผื่อได้คำตอบตัวแม่ "

“ กูนี่ก็เบ้จัดการอะไรๆให้มึงตลอดเลยนะ " ถอนหายใจออกมาก่อนจะ หันไปถามเด็กผู้ชายตัวเล็กที่นั่งอยู่ติดขอบโซฟา ดวงตากลมมีท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อย " นี่.. ชื่ออะไร แล้วอายุกี่ขวบแล้ว "

“ กาลิค สี่ขวบ " นิ้วเล็กๆชูจำนวนของอายุตัวเองขึ้นให้ผมดูแบบกล้าๆกลัวๆ
 
“ มันดูกลัวๆมึงอะ ขม " มันเป็นเด็กที่เงียบกว่าที่ผมคิดนะ หรือเรพาะอาจจะไม่สนิทกันก็ไม่รู้ อันนี้ไม่แน่ใจ แต่เด็กไม่ซนก็คงไม่มีในโลกหรอกมั้ง ขนาดไอ้ซูกัสลูกเฮียตู้ ลูกพี่ลูกน้องผมยังซนยังกับลิง

“ ชื่อกาลิคเหรอ ? หัวหอมอะนะ "

“ ไอ้เหี้ย กระเทียม " ภาพหันมาด่า โทษทีละกันพอดีภาษาองักฤษพี่มันแย่

“ เออน่าา แล้วนี่มาจากไหน "

“ อเมริกา "

“ อเมริกา!!! “ พวกเราประสานเสียงกันดังตอนที่เด็กตรงหน้าตอบ

“ มึงบินมาคนเดียวเหรอวะ "  มันส่ายหน้าไปมา

“ มีคนมาส่ง หม่ามี๊ให้คนพี่คนนึงมาเป็นเพื่อน มาส่งที่นี่แล้ว พอเค้ามาส่งเค้าก็บอกว่า ให้กาลิคเอาภาพนี่ไปให้พี่สาวที่นั่งตรงนั้น แล้วบอกว่ามาหาป่าป๊า พี่สาวที่ต้องตรงนั้น ก็พยักหน้ารับแล้วให้กาลิคนั่งตรงนั้นรอก่อน แล้วพี่มีนาก็เดินมา พี่สาวตรงนั้นเลยบอกให้พี่มีนาจูงมือกาลิคมาหาป่าป๊าครับ "

“ ไม่เข้าใจ " ไอ้ภาพบอก ก่อนจะเกาหัวตัวเองงงๆ

“ ก็หม่ามี๊ให้พี่คนนึงมาส่งกาลิค พี่คนนั้นพากาลิคมาจากอเมริกามาส่งที่นี่ "

“ เออๆ กูเข้าใจแล้ว " ผมบอกปัดมัน " ไม่ต้องพูดแล้วละ "

“ มึงเข้าใจ ? “

“ กูคิดว่า คงมีคนจากอเมริกามาส่งมันที่นี่ เค้าบอกให้มันเอาภาพมึงกับกูไปให้พี่ที่ออฟฟิคคอนโดดู  แล้วบอกว่ามาหาเราสองคน เค้าเลยให้มันนั่งรอที่โซฟาข้างล่างรอจนกว่ากูกับมึงจะลงไป แต่เพราะกูกับมึงไม่มา มีนาที่เดินลงไปก่อน เห็นว่ารู้จักกัน เลยฝากมีนาขึ้นมาหาเรา "

“ ฉลาดสัด " ยกไหล่ไหวๆให้คำชม เอาน่า กูต้องมีมุมที่ฉลาดๆบ้าง ถึงมันจะน้อยมากๆก็เถอะ แต่มันต้องมีสิน่า

“ แล้วหม่ามี๊หน้าตาเป็นยังไง "

“ สวย " สั้นๆ คำเดียว ได้ใจความ กูคงรู้แหละว่าใคร เด็กในโลกนี้แม่งก้ชมแม่ตัวเองสวยกันไปหมดไม่ใช่เหรอวะ
 
“ แล้วมึงมีภาพหม่ามี๊มึงมั้ยไอ้หัวหอม "

“ เชี้ยขม กูบอก กาลิค กระเทียม มึงจะเรียกมันว่า หัวหอม หัวหอม อีกนานมั้ย สัด "

“ ก็กูจะเรียกหัวหอมอะ มันน่ารักกว่า กระเทียมกับกาลิค มึงเหี้ยไรเนี้ย เสือกจัง ลูกมึงอ๋อ หวงสินะ "

“ ไม่ใช่เว้ย " ไอ้ภาพตะโกนขัด

“ ว่าไง หัวหอมมึงมีภาพแม่มึงมั้ย หม่ามี๊น่ะ "

“ ไม่มี หม่ามี๊ไม่ให้เอามา " ถอนหายใจออกมาพร้อมกันอีกครั้ง ก็นะ ในความเป็นจริงใครมันจะให้เอามาวะ เอาลูกมาทิ้ง ถ้าให้เอามาก็ต้องถูกส่งคืนอยู่แล้ว

“ มึงคิดออกบ้างมั้ยภาพ ว่าใครเป็นแม่เด็กบ้าง "

“ มาจากอเมริกาเหรอวะ ไม่มีเลยวะ " มันส่ายหน้าไปมา ผมเองก็คิดว่าตัวเองไม่มีนะ แต่เอาจริงๆจะให้เขียนรายชื่อที่เข้าข่ายว่าเป็นแม่ของเด็กทั้งหมดตอนนี้ผมยังเขียนไม่ได้เลย ไอ้ภาพคงหนักกว่า " มันต้องมีหลักฐานบ้างสิ "

“ หลักฐานเหรอ หลักฐานไรอะ "

“ ก็หลักฐานตั๋วเครื่องบิน มันต้องมีชื่อเด็ก ถ้ามันไม่มีพ่อ มันต้องใช้นาสกุลแม่ ถูกมั้ยละ "

“ ไหนลุกขึ้นสิ " ผมบอกก่อนจะดึงไอ้หัวหอมให้มายืนตรงหน้า ล้วงกระเป๋ากางเกงก็ไม่มีอะไร " ตั๋วอยู่ไหนวะ หัวหอม ตั๋วอะ ตั๋วเครื่องบิน "

“ ไม่มีครับ อยู่ที่พี่คนนั้น "

“ อ้าว อะไรวะ นู้นก็ไม่มี นี่ก็ไม่มี กูชักของขึ้นแล้วนะเว้ย " ผมลุกขึ้นถามด้วยความหงุดหงิด สายตากลมก็เบิกตาน้อยๆก่อนจะถอยหลังหนีไปก้าวนึง

“ ใจเย็นๆดิวะ เด็กมันไม่รู้เรื่องมึงจะไปเอาอะไรกับมัน ถ้าจะมีใครผิดก็ต้องเป็นแม่มันรึเปล่า มันคงไม่ทำอะไรให้เราจับได้เร็วๆหรอก ว่าใครเป็นแม่เด็ก นั่งลง " ไอ้ภาพคว้ามือผมที่กำลังหงุดหงิดให้นั่งลง ผ่อนลมหายใจออกมา ไอ้ภาพก็คว้าเด็กตรงหน้าเข้าไปใกล้ " ไหน กูขอดูรูปที่มึงเอามาอีกทีนึงได้มั้ย "

“ นะ นี่ ครับ " ภาพแผ่นนั้นถูกยื่นมาให้ไอ้ภาพ มันเป็นภาพเราสองคนที่ถ่ายตอนช่วงคริสมาสเพราะมันมีต้นคริสมาสเป็นพื้นหลัง เสื้อหนาวถักที่ใส่อยู่นั้นดูคุ้นตาอยู่แต่ก็จำไม่ได้หรอก ว่าตอนนั้นอยู่ที่ไหน ใครอยู่ที่นั่นบ้าง

“ มึงพอจำได้บ้างมั้ย " ภาพถามผมก็ส่ายหน้า

“ คิดไม่ออกมา เอาผู้หญิงมาตั้งเท่าไหร่ ใครจะไปรู้ว่า คนไหนถุงยางจะแตก " บอกแบบหงุดหงิดผมมองหน้าเด็กด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่ แววตาใสๆที่มองมานั้น จะว่าไปมันก็ไม่ผิดหรอก จะไปโกรธมันก็ไม่ได้

“ กูขอภาพนี้นะกาลิค "

“ ครับ " 

“ มึงจะเอาไปทำไมวะ "

“ น่า เสือกจริง " ไอ้ภาพบอกปัด ผมก็ถอนหายใจออกมา

“ แล้วของมึงมีแค่เป้ใบนี้เหรอ "

“ ครับ " พยักหน้ารับอีกทีผมก็คว้าเป้มันมาเปิดดู เผื่อมีอะไรที่สามารถสาวถึงตัวคนเป็นแม่ของเด็กได้บ้าง ผมเปิดกระเป๋านั่นออกมาในนั้นมีแค่เสื้อผ้าอยู่ชุดเดียวกับของเล่นที่เหมือนจะได้รับจากเครื่องบิน แล้วก็กล่องเหล็กที่พอเปิดดูก็ชวนให้เบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ

" เชี้ย.." สบถออกมาพร้อมกันสองคนกับสิ่งที่เห็น มันคือเงินครับ เงินดอลล่าห์ปึกใหญ่ที่หนาเกือบสองข้อนิ้วมือของผมเลยทีเดียว
 
“ ทำไมมึงพกเงินเยอะขนาดนี้วะ "

“ หม่ามี๊บอกว่าให้เอาไว้ใช้ในตอนฉุกเฉิน "

“ อายุมึงเท่าไหร่ มึงถึงต้องมีเงินฉุกเฉินขนาดนี้ กูโตจนป่านนี้เงินขนาดนี้กูยังไม่มีเลย " ไอ้ภาพบอกก่อนคว้าเอาเงินทั้งหมดเก็บใส่กล่องไว้

“ เดี๋ยวๆ นั่นมึงจะอมตังค์เด็กเหรอ "

“ เปล่าเว้ย จะเอาใส่กระเป๋ามันไว้ " ภาพบอกผมก็เหล่มองมันแบบไม่เชื่อเท่าไหร่ มันหันไปหาไอ้หัวหอม " แล้วอย่าบอกใครว่ามีเงินนี่อยู่เข้าใจมั้ย "

“ เข้าใจครับ "

   ความเงียบเข้ามาปกคลุมในคอนโดของเราอีกครั้ง ทั้งเด็กที่ยืนกำเสื้อตัวเองก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไรแล้วมองพวกผมด้วยสายตาหวาดๆ เราเองทั้งคู่ก็เหมือนจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เหมือนต่างคนก็ต่างคิดว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ใช่คนที่เป็นแม่เด็กรึเปล่า

“ เราโดนหลอกรึเปล่าวะ " อยู่ๆไอ้ภาพก็พูดขึ้นมา " เอาจริงๆ กูไม่มีทางจะทำให้ถุงยางหรอก ไอ้เรื่องหลุดถุงยางคงไม่เกิดขึ้นกับกู เพราะกูไม่ใส่สดอยู่แล้ว ไม่ใช่ซ้ำด้วย "

“ กูเองก็ไม่ " ผมบอก " แต่มันมีรูปเราได้ไงวะ "

“ แค่รูปในเฟสบุ๊คก็มีรึเปล่า "

“ แต่พวกเราไม่มีรูปนี้ในเฟส " บอกมันแบบนั้นอีกคนก็ถอนหายใจออกมา

“ ภาพตัดต่อรึเปล่าวะ แค่ภาพใบเดียว เราต้องยอมรับเป็นพ่อมันเหรอ " เงยหน้ามองเด็กผู้ชายที่กำลังมองเรา ด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ เค้าที่เหลือบมองนู้นนี่ไปมา

“ เลิกพูดเรื่องนี้ก่อนเถอะวะ สงสารเด็กมัน " ผ่อนลมหายใจออกมาผมดึงตัวเองเข้าไปใกล้ ย่อตัวลงตรงหน้า ไม่รู้แววตากลมๆนี้จะกำลังคิดอะไรอยู่ จะกำลังโศกเศร้าที่เห็นตัวเองโยนไปให้คนนั้นที คนนี้ทีรึเปล่า " หิวมั้ย กินอะไรรึยัง "

“ ยังครับ " ส่ายหน้าไปมา ผมก็มองเวลาที่ตอนนี้ก็ปาเข้าไปจะเที่ยงวันแล้ว

“ ออกไปกินข้าวเถอะ กูพามันไปกินข้าวนะภาพ "

“ แล้วกูละ " มันชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ผมก็เลิกคิ้ว

“ มึงไม่ชอบออกไปข้างนอกนี่ " ดูแบบนี้ไอ้ภาพไม่ชอบไปที่คนเยอะๆนะคะ ในห้องนี้คนที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านคือผมคนเดียวเท่านั้น ซื้อของเข้าบ้าน ทิ้งขยะ ซื้อกับข้าว ผมคนเดียว เพราะมันไม่ชอบทำอะไรแบบนี้

“ แต่วันนี้กูจะไปด้วย "

“ หรือว่ากลัวกูจะล้วงความลับเด็กจนรู้ว่า สุดท้่ายพ่อเด็กคือมึง "

“ สัด กับแค่ข้อมูลแค่นั้น กูไม่คิดว่ามันจะสาวมาจนถึงกูหรอก " มันว่าก่อนจะคว้าเอากระเป๋าเป้ของหัวหอมแล้วก็ กุญแจรถกระเป๋าตังค์ของมันเองแล้วเดินนำเราไป ผมยื่นมือไปคว้ามือของเด็กคนนั้นไว้ ก้มลงไปยิ้มให้มัน

“ กูก็ไม่รู้ว่ามึงเป็นรู้ใคร ไม่รู้ว่า ลูกกู หรือ ไอ้ภาพ แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไรเลยนะ ไปกินข้าวก่อนดีกว่า " พยักหน้ารับช้าๆ เราเดินออกไปจากห้อง พร้อมกันทั้งสามคน

...................................................................

นิยายเรื่องใหม่มาแล้ว #เปิดม่าน
นิยายเรื่องนี้เราจะสดใสกันจนถึงขีดสุดทิ้งความดราม่าที่มี ฉีกทุกอย่างทิ้งไป
แล้วลั๊นล๊าไปกับนิยายเรื่องใหม่นี้กันเถอะ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ ห้า ของ หนมมี่ผู้ใสซื่อ คนนี้แล้ว
ยังไงก็ฝากอ่าน ฝากคอมเม้นท์ และติดตามกันเยอะๆนะคะ
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยจ้าา

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ เหมือนเดิม
ป.ล. ตอนสองยาวมาก เจอกัน วันอาทิตย์ จุ๊บๆ :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 17-02-2017 20:34:03
มาจากอนาคตเหรอออ   :ruready
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 17-02-2017 21:21:55
น่ารักจังเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกสมุนตัวเอฟ ที่ 17-02-2017 21:40:50
 :pig4: :L1: :z13:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 17-02-2017 21:53:04
เด็กน้อยน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-02-2017 22:10:44
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 17-02-2017 22:48:38
มาติดตามด้วยคน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-02-2017 23:02:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 17-02-2017 23:17:46
ต่อหน้าเด็กพูดดีๆก็ได้มั้งกูมึงถามดีๆก็ได้  แล้วทำไมไม่พาไปตรวจดีเอ็นเอ งง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 17-02-2017 23:51:35
  ติดตามด้วยคนคับ น่าสนุกดี สงสารน้องกาลิค มาเจอสองคนนี้ที่ไม่พร้อมจะเป็นวัยเลี้ยงเด็ก อีกอย่างที่คอนโดก็คงมีกล้องวงจรปิดให้ตรวจสอบนะ 555  รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 17-02-2017 23:56:05
น้องหัวหอมมมมมม สื่อรักหรออ หรือยังไง เดาไม่ค่อยออกเท่าไหร่
แต่ถ้ามันน่ารักกุ๊งกิ๊ง ก้โอเคร
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-02-2017 00:04:46
แม่ใจเด็ดแบบประหลาดมาก ให้ลูกมาคนเดียวโดยลูกไม่รู้อะไรเลยนอกจากรูปภาพแบบนี้ มันอะไรอย่างไงกัน แต่สงสารเด็กนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 18-02-2017 00:54:18
กรี๊ดดดดดพี่ขนม เข้ามาให้กำลังใจ

ตอนแรกเฉยๆกับเรื่องนี้ แบบอยากอ่านอีกเรื่องของพี่ขนมมากกว่า

แต่พอเข้ามา อ้าวเฮ้ย! น่ารักนะหือออออ ... คิดว่าตอนต่อไปควรมาได้แล้วอ่ะค่ะ

แบบว่าต้องการตอนต่อไป น่ารักอ่ะ ... เนื้อเรื่องไปไงมาไงไม่รู้ แต่ดูรวมๆแล้วมีสเน่ห์เหลือเกินนนน

น่ารักอ่าาาา พี่ขนมสู้ๆน้าาา :mew1: :hao7: :hao6: o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-02-2017 03:54:56
ติดตาม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 18-02-2017 07:48:16
น่าติดตาม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 18-02-2017 10:19:38
 :hao4: อยู่ดีๆก็มีเด็กให้เป็นพ่อ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { บทนำ + ตอนที่ 1 - 17.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 18-02-2017 10:50:07
ก็นี่ไงพ่อแม่ลูกพร้อมหน้าแล้วครบเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 18-02-2017 20:36:05
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 2

   ลงลิฟต์ไปที่ชั้นจอดรถ รถเก๋งคันดำของไอ้ภาพที่จอดอยู่ผมเปิดประตูหลังให้อีกคนขึ้นไป ท่าทางที่เงียบไปถนัดตาของเด็กคนนั้นชวนให้ผมใจหายอยู่ไม่น้อย ทั้งๆที่ช่วงวัยนี้ควรจะร่าเริงสนุกสนานแต่คนนี้กลับไม่ ...ก็นะ ใครมันจะมีความสุขยิ้มร่าเริง อะไรเบอร์แรงว่ะ ถูกแม่ทิ้งให้มาอยู่ไกลอีกค่อนทวีป ส่งมาอยู่กับพ่อที่แม่งตอนนี้ก็เกี่ยงกันสุดๆ ว่าใครเป็นพ่อ

“ ขม คิดเหี้ยไรอยู่ ขึ้นรถสิ "

“ ครับ ขึ้นละครับ " เปิดประตูรถตรงคนนั่งข้าง พอปิดประตูลงไอ้ภาพก็ออกรถไปห้างทันที

   มันเลือกมาห้างที่ไกลออกจากตัวคอนโดของเราสักหน่อย โดยไม่ถามกันสักคำว่า ' อยากกินอะไร ' หรือว่า ' อยากจะไปห้างไหนกันเหรอ ' แต่อยู่ๆคุณชายก็ขับรถพาเรามาที่ห้างกลางเมืองที ห้างใหญ่ที่คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เราลงจากรถผมเดินไปเปิดประตูหลังก่อนจะคว้ามือของเด็กน้อยมาจูง

“ ไปกินข้าวกันหัวหอม อยากจะกินอะไร "

“ ไม่รู้ครับ " เค้าตอบสั้นๆผมก็ถอนหายใจออกมา เหลือบมองไอ้ภาพ

“ อาหารญี่ปุ่นแล้วกัน กูอยากจะกิน "

“ อาหารญี่ปุ่นแล้วกันนะ " หันไปบอกหัวหอมอีกคนก็พยักหน้ารับแบบว่าง่าย เดินจากลานจอดรถขึ้นไปบนห้างผมที่จูงมืออีกคนไว้อดรู้สึกสงสารมันไม่ได้เลย ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกชาในอกหนักขนาดนี้ เหมือนผมกำลังเอาตัวเองเข้าไปคิดแทนมันในทุกๆอย่าง ถ้าเกิดว่าเราสลับความรู้สึกกันตอนนี้ ถ้าเกิดว่าแม่ส่งผมไปอเมริกาดินแดนที่ผมไม่มีคนรู้จัก บอกกันว่า มีพ่อรออยู่นะแต่พอมาถึง กลับโดนผลักให้ไปหาคนนั้นที คนนู้นที ผมอายุขนาดนี้ยังรู้สึกแย่เลย แล้วเด็กตัวแค่นี้มันจะไม่รู้สึกแย่ได้ไงวะ

“ ขม ขม ไอ้ขม! ” เสียงที่เอ่ยเรียก มือเล็กๆที่เขย่ามือผมแรงๆ หลุดออกจากความคิดที่หลุดลอยไปของตัวเองผมหันไปยิ้มให้ไอ้ภาพก่อนจะก้มลงมองหัวหอมที่ก็ช่วยอีกคนเรียกผมเหมือนกัน

“ มีอะไร "

“ ถึงร้านแล้ว มึงจะเดินผ่านไปไหน "

“ อ้อ โทษทีกูคิดอะไรเพลินไปหน่อย "

   เราเดินเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นแบบครอบครัว ที่ขายอาหารเป็นเซ็ตๆอร่อยแบบฝีมือคุณแม่ทำให้กิน แต่เอาจริงๆก็พ่อครัวนั่นแหละ

“ เมนูค่ะ อีกสักครู่จะมารับเมนูนะคะ " พนักงานบอก ผมก็เปิดเมนูพร้อมๆกับคนนั่งข้าง

“ หัวหอมมึงจะกินอะไร " ผมถามอีกคนก็มอง ไม่ยอมตอบ " อยากจะกินอะไรก็บอกนะ กูจะสั่งให้ " พยักหน้ารับแบบว่าง่าย ผมเปิดเมนูไปเรื่อยๆ ก่อนที่มือเล็กจะหยุดที่ข้าวหมูทอดทงคัตสึ “ เอาอันนี้นะ "

“ อื้อ "

“ โอเค งั้นกูเลือกบ้าง " เอาจริงๆ ก็ไม่ต้องเลือกมากหรอก มาทีไรก็กินแต่อันนี้ เป็นข้าวหมูบดย่างถ่าน อร่อยที่สุดเลยผมชอบ

   จัดการสั่งอาหารเรียบร้อย ผมหันมองหัวหอมที่เหลือบมองคนนั่งตรงหน้าอย่างไอ้ภาพ ก่อนจะก้มลงด้วยท่าทางกลัวๆ ริมฝีปากน่ารักนั่นเม้มเข้าหากันชวนให้ยิ้มเอ็นดู

“ มึงจะทำหน้าดุ คิ้วขมวดไปถึงไหนวะ ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อย "

“ สดชื่นนนนน ? “ ไอ้ภาพลากเสียงยาว " โหหห สดชื่นมากเลยมึง เช้านี้ตื่นขึ้นมามีลูกโผล่มาคนนึง แบบไม่รู้ว่าแม่เด็กเป็นใคร เหอะ กูคงสดชื่นหรอก สัด "

“ แล้วจะให้ทำไงวะ มันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องแก้ไขไป "

“ โดนหลอกรึเปล่าเถอะ " ภาพก็ยังคงคิดแบบนั้น มันดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่าหัวหอมจะเป็นลูกมันหรือผมที่หลุดทะลุถุงยางมา มันคงคิดว่ามันดูแลป้องกันตัวเองดีแล้ว แต่เรื่องแบบนี้ผมว่า ถ้ามันจะเกิดมันก็เกิดแหละ ถุงยางแตกไม่แตกเราจะไม่รู้ได้ไง " แต่ภาพ ภาพเดียวมันทำให้เราเชื่อไม่ได้หรอก ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกเรา "

“ ตรวจดีเอ็นเอเลยมั้ยละ " ผมถาม " ถ้าลูกมึง มึงรับไป ลูกกู กูก็จะรับ " มันเงียบกับความคิดเห็นของผม ภาพเบือนหน้าหนี " เห็นมั้ย พอกูบอกแบบนี้มึงก็ไม่กล้าเพราะมึงก็คิดว่าคงเป็นไปได้อยู่ครึ่งๆนั่นแหละ  "

“ เออกูยอมรับ ว่ากูก็คิดว่ามันอาจจะครึ่งๆที่พลาด แต่กูก็ไม่อยากให้เราตกเป็นเครื่องมือใคร ไม่อยากจะให้ใครมาหลอก แม่เด็กอาจจะแค่เคยมีอะไรกับเรา หรือไม่พลาดกับคนอื่นพ่อเด็กตัวจริงไม่รับก็เลยโยนมาให้เราก็ได้ กูไม่อยากโง่เลี้ยงลูกให้ใคร "

“ ภาพ "

“ เรายังเรียนอยู่เลยนะเว้ย เรายังอยู่ในวัยสนุกสนาน ยังเที่ยวเล่นได้ มึงพร้อมจะมีภาระแล้วเหรอขม " สายตาจริงจังถามผม " เด็กคนนึงเลยนะเว้ย มึงจะเลี้ยงมันยังไง เรายังขอเงินพ่อแม่อยู่เลย จะบอกพ่อแม่ยังไง ว่ามีลูก เค้าต้องถาม ไปทำใครท้องแล้วทำไม เด็กพึ่งโผล่มา มึงจะบอกว่าไม่รู้ ไม่ได้หรอกนะ เพราะถ้าบอกว่าไม่รู้ เค้าก็ต้องคิดเหมือนที่กูบอก คือเราถูกหลอกรึเปล่า "

“ แต่ภาพ มึงก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเลย " อีกคนถอนหายใจออกมา ก่อนจะก้มหน้าลง

“ กูไม่อยากมีลูก ขม กูยังไม่พร้อม "

“ ถ้าไม่พร้อมก็อย่าเอาKไปสอดใครสิวะ จะได้ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรแบบนี้ " ผมบอกมัน " มึงควรพร้อมตั้งแต่วันที่มึงคิดจะเอาKสอดใครสักคนแล้วกูจะบอกให้ ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่อง ถึงจะมาบอกว่าไม่พร้อม มันหน้าตัวเมีย "

“ ขม..”

“ กูไม่รู้ว่ามันเป็นลูกใครหรอก  มึงหรือกู กูไม่รู้ด้วยว่ากูจะถูกหลอกรึเปล่า แต่ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้ คือดูแลมันไปก่อนไม่ใช่เหรอวะ ดูแลมันจนกว่าเราจะหาได้ว่า แม่มันเป็นใคร "

“ มึงคิดว่าดูแลเด็กคนนึงมันง่ายเหรอขม "

“ แล้วจะให้ทำไง เอาเด็กไปปล่อยที่สถานสงเคราะห์เหรอไงวะ! ” ผมตะโกนบอกอีกคนเสียงดัง ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา ภาพที่นิ่งไปในตอนนั้นมันเหลือบมองไปรอบๆ คงเพราะมีคนในร้านหันมามองเราที่อยู่ๆก็เสียงดังขึ้นมา

“ ขอเสิร์ฟอาหารนะคะ " อาหารที่ถูกยกเข้ามา วางลงตรงหน้าภาพก็บอกปัด

“ กินข้าวเถอะ เรื่องอื่นค่อยคิดแล้วกัน "   

“ หัวหอม กินข้าวนะ อะ " ผมหยิบช้อนให้อีกคนที่ก็นั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไรตลอดเวลาที่เราทะเลาะกัน มันที่เอาแต่ก้มหน้า ชวนให้ผมคิดถึงเด็กเล็กๆที่ต้องอยู่ในสภาพสังคมที่พ่อแม่ทะเลาะกันและเถียงกันตลอดเวลา มันชวนให้ผมคิดถึงตัวผมเอง ตอนนั้น..ผมก็คงรู้สึกเป็นเหมือนกับมันในตอนนี้ละมั้ง

“ คิดอะไรอยู่อีก "

“ เปล่า ทำไมพอกูเงียบมึงต้องคิดว่ากูคิดอะไรอยู่ จะให้กูพูดทั้งวันเลยรึไง "

“ มึงได้เงียบอย่างเดียวขม หน้ามึงเศร้าๆ เหมือนคิดเหี้ยไรอยู่ "

“ เปล่าหรอก ไม่ได้คิดไร “ ส่ายหน้าให้ไอ้ภาพ ผมใช้ส้อมตักหมูทอดทงคัตสึในจานหัวหอมมาไว้ที่จานตัวเองชิ้นนึง " กูหั่นหมูให้นะ จะได้กินง่ายๆหน่อย " จัดการหั่นหมูเป็นชิ้นเล็กๆ ผมราดซอสให้มันกินกับข้าว หัวหอมกินเรียบร้อย ไม่พูดไม่จาอะไร ท่าทางที่ชวนให้ผมอึดอัดมากขึ้นไปอีก

   นึกถึงตัวเองสมัยนั้นก่อนที่จะย้ายไปอยู่ใกล้บ้านกับภาพ ตอนนั้นอายุผมก็คงเท่ากับคนที่นั่งข้างๆ นี่แหละ มันเป็นช่วงเวลาที่แย่อยู่เหมือนกัน ที่ต้องเห็นพ่อแม่ตัวเองทะเลาะกันทุกวัน จนสุดท้ายแม่ก็ตัดสินใจแยกทางกับพ่อมาอยู่กับผมที่บ้านหลังใหม่

   มารู้ตอนโตว่าที่เลิกกันเพราะ พ่อเป็นคนที่ขี้หึงมาก ส่วนแม่เองเป็นนักโภชนาการต้องคุยกับคนอื่นเยอะแยะมากมาย มีเพื่อน มีสังคม เป็นคนที่แฮปปี้กับชีวิต แต่พ่ออยากจะให้แม่แค่อยู่บ้านเลี้ยงผม และแน่นอนว่าขัดกับไลฟ์สไตส์ของเธอย่างมาก พวกเค้าสองคนก็เลยเลิกกัน

“ อิ่มแล้วเหรอ " ผมหันไปถามคนนั่งข้างๆที่กินข้าวไปแค่ครึ่งเดียว กับหมูทอดทงคันสึไม่ถึงครึ่งชิ้น อีกคนพยักหน้ารับ " มึงกินน้อยจัง กินเข้าไปอีกหน่อยสิ " หยิบช้อนตักข้าวขึ้นป้อนมันอีกคนก็ส่ายหน้าไปมา ปากที่เม้มกันสนิท

“ มันคงอิ่มแล้วมั้ง เด็กจะกินอะไรเยอะแยะละ " ไอ้ภาพบอก ก่อนจะคว้าเอาจานข้าวของไอ้หัวหอมไปกินต่อ " กูกินเองเสียดาย "

“ ไอ้ตะกละ " ผมบอกสั้นๆอีกคนก็ยกไหล่ หาได้สนใจอะไรไม่ หน่ำซ้ำยังยื่นช้อนมากินหมูในจานกูอีก " เชี้ย ภาพ ของกู "

“ ทำไมจะแดก มึงไม่ต้องแดกเยอะ เดี๋ยวอ้วน ! "

“ อ้วนพ่อมึง! ถ้าคนอย่างกูอ้วนคงไม่มีคนผอมในโลกแล้วสัด " ผมด่ามันก่อนจะหันมาหาหัวหอม " มึงกินขนมหวานมั้ย " เอ่ยถามมันก่อนจะขอเมนูจากพนักงาน ผมเปิดหน้าของหวาน " มีไอติมชาเขียวอะ มึงกินมั้ย หรือว่า อยากจะไอติมช็อคโกเล็ต หรือยังไง "

“ อยากกินไอติมช็อคโกเล็ต "

“ ช็อคโกเล็ตที่นี่คงไม่อร่อย ไว้ออกไปกินข้างนอกนะ รอก่อน " ผมกระซิบบอกมันเพราะมีพี่พนักงานร้านยืนอยู่

“ ไม่อร่อยเหรอ "

“ เชี้ย " ปิดปากมันทันที ตอนที่ยื่นเมนูไปให้พนักงานผมก็ยิ้มแก้เก้อ " ไม่รับอะไรแล้วครับ ขอบคุณมาก "

“ ค่ะ " เธอยิ้มก่อนจะเดินออกมา ผมก็ถอนหายใจออกมา

“ พูดว่าไม่อร่อย ไม่ได้เหรอ "

“ พูดได้ แต่ไม่ใช่ต่อหน้าพี่พนักงานไง " ลูบหัวมันที่พยักหน้าเข้าใจ " ไว้ออกไปกินข้างนอกกันนะ "

“ มึงนี่ดูรักเด็กนะ "

“ เหรอ  คงเพราะสงสารมันมั้ง เห็นแล้วก็คิดถึงตัวเอง " สบสายตาภาพที่มองผมตอนที่พูดคำนั้นออกมา คำพูดที่ทำให้มันถอนหายใจออกมา

“ ถ้าไม่เกิดเรื่องนั้น เราก็ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้สนิทกันหรอก สำหรับมึงอาจจะแย่ แต่กูไม่ได้รู้สึกแย่ไปกับมึงนะ กูว่ามัน..ก็ดีออก " เผลอยิ้มออกมาตอนที่มันพูด ผมก้มหน้าลงกินข้าวขี้เกียจแซว เดี๋ยวพี่ภาพจะหน้าแดง ที่ผมจะบอกว่า ' ดีใจที่เค้าอยู่กับตัวละสิ คุคิ '

   ถ้ามาคิดว่าเพราะเรื่องนั้นเราถึงได้เจอกัน มันก็คงไม่ใช่เรื่องแย่หรอก เพราะแม่แยกทางกับพ่อเลยต้องย้ายบ้านมาเจอกับมัน ไปเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตลอด ขึ้นรถโรงเรียนคันเดียวกัน เราเรียนห้องเดียวกัน เวลามีกิจกรรมอะไรแม่ผมก็จะฝากผมไปกับแม่ของไอ้ภาพ ทำงานกลับดึกๆก็อาศัยบ้านไอ้ภาพนี่แหละอยู่จนกว่าแม่จะกลับ บางทีไปประชุมต่างจังหวัดผมก็อยู่บ้านมัน เติบโตขึ้นมาด้วยกันสนิทกันมากกว่าพี่น้องเสียอีก

   จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย เราสามคนก็เดินออกมาจากร้านอาหาร ผมกับไอ้ภาพผ่อนลมหายใจออกมาพร้อมกันก่อนจะหันมองหน้า " จะเอาไงต่อ " ภาพถามผมก็ถอนหายใจออกมา

“ ไม่รู้ว่ะ " ย่อตัวลงนั่งตรงหน้าหัวหอมมันที่มองผมด้วยสายตาที่ไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไหร่ " มึงบอกอยากจะกินไอติมนี่ใช่มั้ย งั้นเราไปกินกันมั้ย "

“ อื้ม "

“ ไอ้ขม "

“ ตอนนี้ยังคิดไม่ออก งั้นเดินเที่ยวห้างเล่นๆก่อนก็แล้วกันนะ " จูงมือไอ้หัวหอมที่จับมือผมไว้แน่น พามันเดินไปที่ร้านไอศกรีมร้านดังดีแดง ผมอุ้มมันขึ้นมาตอนที่ชี้ชวนให้มันมองลงไปในตู้ " อยากกินไอติมรสอะไร "

“ ช็อคโกเล็ต "

“ ช็อคโกเล็ตเหรอ " ผมถามซ้ำ " มันก็มีหลายช็อคนะมึง เอาช็อคแบบไหนละ "

“ แบบนี้ " มันชี้ไปที่ไอศกรีมรสร็อคกี้โรส พนักงานร้านก็ตักมาให้สกู๊ปนึงใส่ลงไปในโคนวาฟเฟิลกรอบๆ

“ นี่จ้า " เธอยื่นให้หัวหอมที่ผมอุ้มอยู่ ก่อนจะรับเงินที่ผมจ่าย " น้องน่ารักจังเลย ชื่ออะไรเหรอคะ "

“ ชื่อหัว.. กาลิคน่ะครับ " ผมบอก เธอก็ยิ้มรับ " บ๊ายบายพี่สาวก่อนเร็ว "

“ บ๊ายบาย " โบกมือไปมาแบบว่าง่าย ผมอุ้มมันออกจากร้านไปหาไอ้ภาพที่ยืนอยู่

“ แล้วเมื่อกี้ก็กินข้าวไม่หมดนะมึง " มันเอื้อมมือมาขยี้หัวไอ้หัวหอม

“ ท้องเด็กน่ะ มันแยกส่วนกันเว้ย ระหว่างข้าวกับของหวานน่ะ " ผมก้มลงมองมัน " เลอะไปหมดเลย ดูกิน " เอาทิชชู่ที่แถมมาเช็ดปากให้หัวหอม จะว่าไปตั้งแต่มันมา ยังไม่เห็นมันยิ้มเลย " อยากจะได้อะไรมั้ยหัวหอม ของเล่นเอารึเปล่า " พยักหน้ารับด้วยความสนใจไอ้ภาพก็ปราม

“ มึงให้มันกินให้เสร็จก่อนเถอะ ปากเลอะ มือเล็กแบบนี้ไปจับของเล่นเค้า เค้าได้กรี๊ดสิ "

“ แค่จับของเล่นต้องกรี๊ดด้วยเหรอ "

“ กรี๊ดสิ " ภาพย่อตัวลงบอกก่อนจะเอาทิชชู่ที่ผมถือไปเช็ดมือให้อีกคน " เพราะว่ากาลิคมือเลอะ มันสกปรก ถ้าของที่กาลิคจะซื้อมันสกปรก กาลิคจะอยากได้มั้ยละ "

“ ไม่ครับ "

“ เพราะงั้นถ้ากาลิคเอามือเลอะๆไปจับมัน มันจะไม่มีคนอยากจะซื้อนะ งั้นก็กินให้เสร็จก่อน แล้วค่อยไปซื้อกัน "

“ อื้อ " หัวหอมพยักหน้ารับ ผมก็มองมันที่ก็เงยหน้ามองผม

“ มองอะไร "

“ ก็เปล่า แค่รู้สึกว่า ถ้าให้พูดดีๆ มีสาระ กับเด็กมึงก็พูดได้นี่ " ภาพที่ถอนหายใจออกมา " เริ่มรู้สึกปลงๆกับเรื่องนี้ได้บ้างแล้วยัง ยังไงเราก็ต้องรับผิดชอบหัวหอมมันนะ "

“ ยังคิดว่าถูกหลอกอยู่ กูไม่เชื่อง่ายๆหรอก "

“ ตรวจดีเอ็นเอมั้ยละ " มันมองผมตอนที่ผมบอก

“ ถ้ามันเป็นลูกมึง มึงจะทำยังไง "

“ ทำใจ "  ผมบอกอีกคนก็ยกยิ้ม

“ มึงทำใจไม่ได้หรอก แค่ทำใจเหรอกับอนาคตมึงทั้งชีวิตอะ พูดตอนนี้มึงพูดได้หมดแหละ ทุกอย่างมันยังห้าสิบ ห้าสิบอะ "

“ กินหมดแล้วครับ " หัวหอมพูดขึ้นขัดความเงียบของเรา ผมหันไปยิ้มให้มันก่อนจะจูงมือมันไปล้างมือในห้องน้ำ อุ้มขึ้นไปที่ขอบอ่าง ปั้มน้ำยาล้างมือแล้วถูลงไปที่มือเล็กๆนั่น

" ถูๆ ถูให้สะอาด "
" กาลิคเรียกว่า ขม ได้มั้ย " คำถามที่เงยขึ้นถามผมด้วยดวงตากลมๆติดเศร้านั้น ท่าทางเหมือนจะกลัวเล็กน้อย " ขม.. ขมใจดี "

" เรียกว่า อาขมดีกว่า " ผมบอกก่อนจะอุ้มมันลงมายืนบนพื้นข้างล่าง หยิบทิชชู่เช็ดมือให้สะอาดเรียบร้อย " หัวหอม ทำไมถึงยอมที่จะขึ้นเครื่องบินมาที่นี่ละ แม่ไม่มา ไม่คิดถึงแม่เหรอ "

“ กาลิคคิดถึง แต่หม่ามี๊ก็บอกว่าให้มา กาลิคร้องไห้ไม่ยอมมาจะอยู่กับหม่ามี๊แต่หม่ามี๊ก็ยังให้มา หม่ามี๊ให้เพื่อนหม่ามี๊มาส่ง บอกว่าให้มาอยู่กับป่าป๊าที่นี่ ป่าป๊าจะดูแลกาลิคเองเพราะหม่ามี๊ดูแลไม่ได้แล้ว "

“ ทำไมดูแลไม่ได้ละ รู้มั้ยเพราะอะไร "

“ ไม่รู้ครับ หม่ามี๊บอกว่า ถ้ากาลิคอยู่ หม่ามี๊จะลำบาก หม่ามี๊เลยให้กาลิคมาอยู่ที่นี่ มาหาคนในรูปนี้ " มันคงหมายถึงรูปของผมกับภาพที่แม่มันให้มา

“ แล้วหม่ามี๊บอกมั้ย ว่าคนไหน " หัวหอมส่ายหน้า

“ ไม่ได้บอก "

“ ใจร้ายจังนะ " ผมบอกอีกคนก่อนจะดึงเข้ามากอด สงสารยังไงก็ไม่รู้วะ เด็กอายุแค่นี้ต้องห่างมาจากอกแม่ของตัวเองที่ทั้งรักทั้งผูกพัน ไม่ต้องเดาก็พอรู้ว่า มันต้องร้องไห้แล้วงอแงแค่ไหนก่อนจะมาถึงที่นี่ ความรู้สึกทรมานของมันที่มันได้รับ ผมคิดสภาพของเด็กที่กรีดร้อง แล้วรั้งมือของแม่ตัวเองไว้ แม่ที่ผลักมันออกมาให้ไกล เหตุผลอะไรผมไม่รู้ แต่ผมก็มองว่ามันไม่ใช่คนดีแล้วละ คนที่ทิ้งลูกตัวเองให้มาอยู่กับคนอื่นที่ไม่รู้นิสัยใจคอได้ จิตใจมันคงไม่ได้ดีอะไรหรอก เหี้ยชัดๆแหละ อย่างงี้ 

“ อาขม " มันเรียกผมตอนที่เห็นผมเงียบไป

“ ออกไปข้างนอกกันเถอะ ไปซื้อของเล่นกัน "

“ อื้อ " จูงมืออีกคนออกมา ภาพที่กำลังยืนก้มหน้าเล่นมือถืออยู่ หน้าตาเคร่งเครียดของมัน ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะทัก

“ เฮ้ย ทำไรอยู่ "

“ เปล่า " มันบอกก่อนจะก้มลงมองหัวหอมแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ผมหันมองหัวหอมที่มันก็เงยหน้าขึ้นมามองผม ยิ้มแห้งๆให้มันก่อนจะเดินเข้าไปในโซนของเล่นของห้าง
หัวข้อ: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 18-02-2017 20:36:43
เด็กรุ่นราวคราวเดียวกับคนที่ผมจูงเดินไปตามพร้อมกับพ่อแม่ของตัวเอง มือมันกระชับมือผมแน่นตอนที่มองเด็กคนนึงกำลังงอแงจะเอาของเล่นแต่แม่ไม่ให้

“ หัวหอมอยากจะได้อะไร " มันมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดดูตรงเครื่องทำตุ๊กตา " ตุ๊กตาเหรอ "

“ เค้ากำลังทำตุ๊กตาเหรอ "

“ ใช่ ที่ร้านนี้เค้าจะให้ทำตุ๊กตาเอง  ถ้ามึงอยากได้ก็ไปเลือกเลยว่าอยากจะได้แบบไหน " ผมบอกก่อนจะจูงมือมันเดินเข้าไปข้างใน " เลือกตุ๊กตาตรงนี้นะ มึงอยากได้แบบไหนละ "

“ แบบนี้มั้ย " ไอ้ภาพหยิบขึ้นมามันเป็นตุ๊กตาหมีสีหม่นๆ

“ ไม่เห็นน่ารักเลยมึง ดูหม่นๆ "

“ ก็เด็กผู้ชายมึง มันต้องชอบแบบเท่มากกว่าแบบน่ารักๆเปล่าวะ "

“ ให้หัวหอมเลือก " ผมดึงหมีในมือไอ้ภาพวางลงในกระบะที่เดิม

“ มึงไม่อยากได้บ้างเหรอ น่ารักออก "

“ ไม่อะ กูไม่ใช่มึงสักหน่อย " เหล่มองมันที่ทำท่าไม่สนใจ ไอ้ภาพมีความลับที่ไม่ค่อยมีคนรู้ คือมันชอบตุ๊กตาหมีครับ คือหน้าเข้มๆ หล่อๆ นี่แหละ แต่พี่แก ฟรุ้งฟริ้งมาก พี่แกชอบตุ๊กตาหมีมากๆ ตอนนี้ก็ยังมีหมีตัวโปรดที่ยังกอดอยู่ หมีตัวที่ผมซื้อให้เมื่อตอนวันเกิดอายุ 6 ขวบของมัน " ว่าแต่มึงเถอะ ไม่ซื้อหน่อยละ ชอบไม่ใช่เหรอ "

“ ไม่อะ กูไม่ได้อยากจะได้เพิ่มอะไร "

“ มึงก็มีตัวนั้นแค่ตัวเดียวไม่ใช่เหรอวะ ทำเหมือนมีเยอะ "

“ ก็ไม่ได้อยากได้เพิ่มอะ " มันยังยืนยันคำเดิม ผมก็หันมองหัวหอมที่ก็ยื่นตุ๊กตามาให้ผม มันเป็นหมูสีน้ำตาลขนนุ่มๆครับ หน้าตาน่ารักเชียว

“ เอาตัวนี้นะ "

“ อื้อ " มันพยักหน้ารับ

“ แล้วทำไมถึงซื้อน้องหมีละ มีของเล่นตั้งเยอะแยะ ปืน หุ่นยนต์ อะไรแบบนี้ไม่ได้อยากได้เหรอ "

" กาลิคเหงา " เด็กผู้ชายตรงหน้าผมบอก " กาลิคอยากจะให้น้องหมีอยู่เป็นเพื่อนกาลิค " ทั้งผมทั้งไอ้ภาพเงียบไป เราที่มองหน้ากันพนักงานก็เดินเข้ามาพอดี

“ เลือกตุ๊กตาได้แล้ว เลือกเสียงใส่ให้ตุ๊กตามั้ยจ๊ะ "

“ ใส่เสียงด้วยเหรอครับ " ผมถาม เธอก็พยักหน้ารับ

“ แต่จะไม่ใส่ก็ได้นะคะ "

“ จะใส่เสียงให้ตุ๊กตามั้ยกาลิค " ภาพถามอีกคนก็หันมองผมเหมือนจะให้ช่วยตัดสินใจ

“ ถ้าใส่เสียง กดที่หน้าอก มันจะพูดได้ แต่ถ้าไม่ใส่มันก็พูดไม่ได้ " ว่าแบบนั้นก่อนจะก้มลงกระซิบมัน " ตอนนอนกลางคืนคนเดียว ถ้ามึงไม่กลัวหมีพูดได้ มึงก็ใส่เถอะ "

“ ไม่ใส่ครับ " มันหันไปบอกพนักงาน เค้าก็จูงมือไปที่ใส่นุ่น

“ ตอนนี้เราก็จะใส่เครื่องในให้ตุ๊กตาแล้วนะครับ " ภาพบอก ผมก็หลุดหัวเราะ " มีเครื่องใน ตับ ไต พร้อมแล้ว "

“ ดูสิ มีหัวใจด้วย " หยิบหัวใจดวงสีแดงขึ้นมาไอ้ภาพก็หัวเราะใหญ่ " หัวหอม หยิบหัวใจให้พี่เค้าเลย คุณหมีจะได้มีชีวิต "

“ หัวใจครับ " มันหยิบหัวใจให้พนักงาน

" ใส่เข้ามาเลยครับ " หัวใจถูกใส่ลงไปก่อนที่เธอจะยื่นหมีให้มันกอด

“ นุ่มขนาดนี้พอมั้ย หนูอยากจะให้มันนุ่มอีกรึเปล่า " แขนเล็กๆกอดตุ๊กตาหมีไว้ ผมเอื้อมมือไปจับมัน

“ เอาให้นุ่มอีกดีมั้ย "

“ ดีครับ "

“ ขอนุ่มๆเลยครับ " บอกพนักงานเธอก็จัดการใส่นุ่นเพิ่มอีกนิดหน่อยแล้วก็เย็บให้ดีก่อนจะยื่นให้หัวหอม

“ เสร็จแล้วจ๊ะ คราวนี้หนูก็ไปอาบน้ำให้มันตรงนู้นนะ " เธอบอกก่อนจะชี้ไป มันเป็นแค่เครื่องจำลองไงไม่มีน้ำจริงๆออกมาหรอก หัวหอมที่วิ่งกระตือรือร้นไป มันจับแปรง ทำท่าเปิดน้ำผมก็หลุดยิ้มขำ

“ เด็กหนอ เด็ก "

“ อาบน้ำให้สะอาดๆเลยนะ กาลิค " ภาพบอก หันไปมองมันเองก็ยังยิ้มกับภาพน่ารักๆนั่น

“ เสร็จแล้วครับ "

“ คราวนี้มาเลือกชุดกัน อยากจะให้มันใส่ชุดอะไรละ " ผมบอกก่อนจะชี้ไป
 
“ ต้องมีชุดด้วยเหรอ " ภาพถาม " กูว่าหมีตัวเปล่าๆ น่ากอดกว่าเยอะเลยนะ "

“ แต่น้องจะโป๊นะ " กาลิคขัดขึ้นมา " ถ้าไม่ใส่เสื้อผ้าน้องจะโป๊นะ "

“ เออ จริง เค้าจะโป๊นะ ต้องใส่เสื้อผ้าสิ อย่างน้อย น้องก็ต้องนุ่งกางเกงใน " ผมจูงมือหัวหอมไปเลือกกางเกงในให้น้องหมี มันเลือกกางเกงในสีขาวน่ารัก " เสื้อผ้าละ "

“ ใส่แค่นี้ครับ "

“ ใส่แค่นี้เหรอ "

“ ก็ ภาพบอกว่าใส่ชุดแล้วจะไม่น่ากอด " ผมพยักหน้ารับ

“ ก็จริงนะ กอดหมีตัวเปล่าๆ มันน่ากอดกว่าแหละ " หัวหอมจัดการใส่กางเกงในที่เลือกให้น้องหมี ก่อนจะเดินไปบอกพนักงาน

“ เสร็จแล้วครับ "

“ เสร็จแล้วเหรอจ๊ะ งั้นก็มาทำใบสูติบัตรให้น้องหมีกันเลยนะ "

“ ใบสูติบัตร คืออะไรเหรอ " มันหันมาถาม

“ คือใบแจ้งเกิด คนเราเวลาเกิดมาบนโลกใบนี้แล้ว ก็ต้องไปบอกให้ใครคนนึงรู้ว่า ตอนนี้มีเด็กคนนึงเกิดมา  เด็กคนนั้นชื่ออะไร พ่อแม่ชื่ออะไร " ภาพบอกก่อนจะย่อตัวลงมองหัวหอมที่ยืนฟังคำอธิบายอยู่

“ แต่กาลิคไม่รู้ว่าพ่อของกาลิคเป็นใคร " คำพูดที่ชวนให้ภาพนิ่งไปมันหลบสายตากลมๆที่จ้องมองมันไปทางอื่น

“ เดี๋ยวก็รู้ " ผมบอกก่อนจะชี้ชวนให้หันไปสนใจเครื่องคอมพิวเตอร์ " เรามาทำประวัติให้น้องหมีของมึงกัน "

“ อื้อ " เด็กชายพยักหน้ารับก่อนจะถูกผมอุ้มขึ้นมานั่งบนตัก ก่อนอื่นก้ต้องสแกนที่ป้ายก่อน จากนั้นก็ตั้งชื่อ

“ ตั้งชื่อว่าน้องอะไรดี มึงอยากจะให้มันชื่ออะไรละ "

“ ชื่อว่าน้อง "

“ ชื่อว่า น้องน้อง มันฟังดูแปลกนะหัวหอม " ผมบอกก่อนจะหัวเราะ

“ ก็กาลิคอยากจะเรียกน้องว่า น้อง เฉยๆ "

“ งั้นก็ตั้งว่า น้อง " ผมเขียนลงไป " ชื่อของเจ้าของ เขียนว่าไงดี กาลิค หรือว่า หัวหอม "

“ เขียนว่ากาลิค " เด็กชายตัวน้อยบอกผมก็พยักหน้ารับ " วันนี้วันที่เท่าไหร่ " ผมถามไอ้ภาพก็เอ่ยบอก " โอเคเสร็จแล้ว ไปจ่ายเงินกัน "

“ ขอพี่เอาตุ๊กตาใส่กล่องนะคะ " พนักงานบอกหัวหอมอีกคนก็ส่ายหน้า

“ ไม่เอา กาลิคจะอุ้มน้องเอง "

“ ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องใส่ก็ได้ " ผมบอกพนักงานก็จัดการคิดราคาผมที่กำลังจะหยิบกระเป๋าตังค์ ช้ากว่าไอ้ภาพที่ยื่นบัตรจ่ายเงินไปแล้วเรียบร้อย

“ อาภาพซื้อให้ ขอบคุณอาภาพสิ "

“ ขอบคุณครับ " หัวหอมก้มหน้าบอกผมก็ย่อตัวลง

“ ไม่ใช่ ต้องทำแบบนี้ ถ้าจะขอบคุณผู้ใหญ่เราต้องเอามือสองข้างทำแบบนี้แล้วก็ก้มลง แบบนี้ แล้วก็บอกว่า ขอบคุณครับ ไหนลองทำอีกที " ผมสอน หัวหอมก็ทำตามแม้จะดูเงอะงะไปสักหน่อยแต่นั่นก็น่าเอ็นดูดี

“ เก่งมาก " ขยี้หัวมันเบาๆ เราเดินออกจากร้านขายตุ๊กตา

“ กลับบ้านเลยมั้ย " ภาพถาม ผมก็พยักหน้ารับ ตอนที่มองนาฬิกาข้อมือที่บอกถึงเวลาช่วงเย็นแล้ว

   ขับรถออกจากห้างในเวลาที่รถติดมากๆ ผมหันมองหัวหอมที่นั่งอยู่เบาะหลังแล้วกอดตุ๊กตาหมีไว้แน่น มันที่มองออกไปนอกหน้าต่าง รถที่ขับไปเรื่อยๆจนออกนอกเขตเมือง

“ ภาพ มึงจะไปไหนวะ คอนโดเราไม่มาทางนี้นะ "

“ ไปหามื้อเย็นกิน " อีกคนบอกสั้นๆ ผมก็หันไปมองหน้ามัน รถขับออกไปไกลเรื่อยๆ ชวนให้ผมสงสัยมากขึ้น ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้พาเราสองคนไปกินมื้อเย็นแล้ว

“ มึงจะพาไปไหนกันแน่ นี่ไม่ใช่ทางไปร้านอาหารแน่ๆอะ " คำถามที่ผมไม่ได้รับคำตอบอะไร ภาพเลี้ยวรถเข้าไปในซอยนึงที่ผมยังไม่ทันจะได้อ่านป้ายชื่อของมันรถจอดลง ภาพมันก็ลงไปจากรถ เปิดประตูอุ้มหัวหอมที่ยังคงงงๆกับกระเป๋าใบที่มันสะพายลงไปจากรถ วางไว้ที่หน้าประตูรั้วใหญ่ก่อนจะกดกริ่งแล้วรีบวิ่งขึ้นรถ

   รถที่ขับออกไปอย่างเร็วผมเหลียวมองป้ายที่มันพาหัวหอมมาส่งมันเขียน " สถานสงเคราะห์เด็ก " อ่านได้แค่นั้นผมก็เบิกตากว้างก่อนจะหันมามองมัน " ไอ้เชี้ยภาพ! มึงทำอะไรวะ "

“ มึงเงียบ! “ มันตวาดใส่ผม

“ มึงพามันมาทิ้งทำไม นั่นมันอาจจะเป็นลูกของมึงก็ได้นะ ภาพ! ไอ้เชี้ย! จอดรถเดี๋ยวนี้ กูบอกว่าให้จอด! จอดเดี่ยวนี้ ไอ้สัด จอด! ” ตะโกนด่ามันตอนที่หันไปมองข้างหลัง ผมเห็นเงาของเด็กตัวเล็กที่วิ่งตามออกมา แต่รถที่ขับเร็วมากก็ไม่ได้ทำให้เห็นมันชัดเท่าไหร่ ภาพที่ค่อยๆห่างออกไปเรื่อยๆ  " จอด... กูบอกให้จอด! ถ้ามึงไม่จอด กูจะเปิดรถลงไปเดี่ยวนี้แหละ "

“ มันไม่ใช่ลูกเราหรอก ขม มึงเชื่อกู เราโดนหลอกแล้ว ปล่อยมันไปเถอะ แม่มันยังไม่เอามันเลย แล้วทำไมเราต้องสนใจด้วยวะ เรายังต้องมีชีวิตต่อไปนะมึง ทำไมเราต้องปล่อยให้อีแม่ใจร้ายทิ้งลูกตัวเองมันมีอนาคต แล้วเรากลับต้องมาแบกรับเลี้ยงเด็กคนนึงที่มันยังไม่เอาด้วยวะ การเลี้ยงเด็กตอนไม่พร้อมก็เหมือนการตกนรกนั่นแหละ  "

“ การมีลูก ไม่ใช่การตกนรกนะมึง! ถ้ามึงพูดแบบนี้ ตอนที่พ่อกูหย่ากับแม่กู กูก็ทำให้แม่กูตกนรกนะสิ  กูทำให้แม่กูต้องลำบาก " ผมบอกมันทั้งน้ำตา " อึก ฮือๆ ไอ้เชี้ยภาพ กูขอร้อง มึงกลับไปเถอะ กลับไปรับมัน มันอาจจะเป็นลูกมึงก็ได้นะเว้ย อึก ฮือๆ ไอ้ภาพ " มันที่ยังเงียบผมสูดลมหายใจออกมา ก่อนจะคว้าคอเสื้อมันแล้วดึงมันเข้ามาใกล้ " กูบอกให้มึงจอดรถแล้วกลับไปเดี๋ยวนี้ กลับไป!! "

   ผมคิดถึงตัวผม ผมที่ตอนนั้นถูกผลักให้มาอยู่กับแม่ แม่ที่ต้องทำงานหนักเพื่อผ่อนบ้านและเลี้ยงดูผม " เด็ก! ไม่ใช่ภาระ มันไม่ผิดที่มันเกิดมา แต่คนที่ผิดคือคือคนที่ทำให้มันเกิดมาตังหาก อย่าทิ้งมันไว้แบบนี้ กูขอร้อง อย่าทิ้งมันไว้แบบนี้เลย ภาพ กลับไปรับมันเถอะ อึก ฮือๆ ไอ้ภาพ ไอ้ภาพมึงกลับไปรับมันเถอะนะ มันไม่ผิดหรอก มันไม่ใช่คนผิด ถ้ามึงคิดว่ามันผิด กูก็คงผิดที่เกิดมาแล้วทำให้แม่ต้องเคยลำบากเหมือนกัน อึก แล้วกูผิดเหรอวะ ที่เกิดมา กูไม่ได้อยากจะเกิดมาสักหน่อย ไอ้หัวหอมน่ะ..ถ้ามันรู้ว่าต้องเกิดมาแล้วเป็นส่วนเกิน เป็นของที่ไม่มีใครอยากได้ เป็นคนที่ทำให้คนอื่นต้องลำบาก มันก็ไม่อยากจะเกิดมาหรอก กูเองก็เหมือนกัน  "

   เอี๊ยดดดด

   เสียงเบรครถดังสนั่นตอนที่ผมพูดจบ คนขับรถนิ่งอยู่นานหลังพวงมาลัยก่อนจะก้มหน้าลงกับพวงมาลัยรถของตัวเอง ผมรู้ว่ามันเองก็คงสับสนและไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับเรื่องนี้และสิ่งที่คิดได้ในช่วงเวลาสั้นๆแบบไม่คิดให้ดี คือการผลักปัญหาออกไปให้ไกลตัว เหมือนเด็กไร้ความคิดทั่วไปเค้าทำ

" ไอ้ภาพ.." ใบหน้าคมหันมามองผมด้วยแววตาคมที่มีแต่น้ำตา มันกำพวงมาลัยตัวเองแน่น ก่อนจะถอนหายใจแล้วเลี้ยวรถกลับไปในทางเดิมที่มาจอดรถลงตรงหน้าหัวหอมที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก ผมวิ่งลงไปจากรถพร้อมภาพ ดึงมันเข้ามากอด แขนเล็กนั่นก็กอดผมไว้แน่น เสียงสะอื้นที่ดังไม่หยุดคำพูดที่แทบจะฟังไม่ออกแต่กลับกรีดลงไปในใจของผมจนทำได้แต่ร้องไห้ออกมา

“ อย่าทิ้งกาลิคไป อึก ฮือๆ อย่าทิ้งกาลิค กาลิคกลัว อึก อย่าทิ้งกาลิคไปไหน ฮือๆ  ช่วยกาลิคด้วย อย่าทิ้งกาลิคไป กาลิคจะเป็นเด็กดี จะไม่ดื้อ อาขม อาภาพ อึก อย่าทิ้ง อย่าทิ้งกาลิคไปนะ อย่าทิ้งกาลิคไป ฮือๆ  "

“ ไม่ทิ้งหัวหอม ไม่ทิ้ง กูจะไม่ทิ้งมึง กูขอโทษ ขอโทษนะหัวหอมนะ หัวหอม ขอโทษนะ "  มือของผมลูบหลังมันที่ยังร้องไห้ไม่หยุด

“ กาลิค กูขอโทษ " ไอ้ภาพพูดเสียงเบาๆ มันที่ย่อตัวลงนั่งข้างๆเรา มือที่ลูบหลังหัวหอมไว้ " ขอโทษนะนะ กาลิค กูผิดเอง ที่คิดอะไรสั้นๆแบบนั้น "

“ กาลิค กาลิคไม่รู้ว่ากาลิคเป็นลูกของใคร แต่อย่าทิ้งไปเลยนะ กาลิคไม่อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากถูกทิ้ง อย่าทิ้งกาลิคนะ อย่าทิ้งกาลิคไป "

“ ขอโทษนะคะ แต่ไม่ทราบว่าเมื่อกี้กดกริ่งรึเปล่า " คำถามที่เอ่ยถามเรา ผมหันไปมองคนที่เอ่ยทักเป็นผู้หญิงคนนึงที่ท่าทางดูใจดี เธอยิ้มให้เราแต่ในสายตาก็เหมือนไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไหร่

“ เอ่อ..”

“ ใช่ครับ ผมเป็นคนกดเอง " ภาพบอก " พอดีเรากดผิดน่ะครับ "

“ กดผิด " เธอทวนคำพูดที่ดูไม่เชื่อเท่าไหร่

“ ผมเป็นพ่อของเด็กคนนี้เองครับ " มันบอกก่อนจะก้มลงมองหัวหอม " ผมคิดจะเอาเค้ามาทิ้ง แต่เปลี่ยนใจแล้ว ผมจะรับผิดชอบเค้าเอง ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆที่มาสร้างความวุ่นวายให้ ขอโทษมากๆเลยครับ " มันยกมือไหว้ผู้หญิงคนนั้นก้มหัวลงขอโทษเธอที่ก็นิ่งไป

“ ไม่เป็นไรหรอกคะ " เธอบอก " แต่ว่า อย่าคิดที่จะทำแบบนั้นอีกนะคะ เพราะเด็กวัยนี้น่ะไม่ว่าพ่อแม่จะเจอปัญหาอะไร เค้าก็มีความสุขที่สุดที่ได้อยู่กับพ่อแม่ของเค้า อย่าทิ้งเค้าเลยนะคะ "

“ ครับ ขอโทษอีกครั้งจริงๆครับ ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ " มีที่ขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก้มหน้ายกมือไหว้ขอโทษด้วยความรู้สึกผิดกับความคิดสั้นๆของมันเองที่ทำอะไรลงไปแบบนั้น

“ ภาพ " ผมเอ่ยเรียกมันที่ย่อตัวลงแล้วดึงหัวหอมไปกอดไว้

“ กูขอโทษนะ กาลิค ขอโทษจริงๆที่คิดทิ้งมึงไว้ ขอโทษที่เอาแต่คิดว่าอยากจะปัดภาระ ไม่อยากจะให้ทั้งตัวเอง ทั้งไอ้ขมต้องลำบาก ขอโทษที่กูทำเหมือนผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆที่กูควรคิดหาทางออกที่ดีกว่านี้ ที่รอบคอบกว่านี้ แต่กูก็ไม่ทำ ขอโทษมึงด้วยนะกาลิค กูขอโทษมึงจริงๆ แต่ต่อไปนี้กูจะไม่ทำแบบนั้นอีก จะไม่ทิ้งมึงไว้อีก กูขอโทษนะ "

“ อึก ฮือๆ " เสียงของกาลิคที่ร้องไห้ออกมาดัง ภาพที่กอดมันไว้ ผมเองก็ร้องไห้ออกมาอีก ตอนที่เห็นภาพนั้น สายตาคมของภาพเงยหน้ามองผม มันที่ยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ก่อนจะขยี้หัว

“ ขอโทษมึงด้วยนะ กูคิดสั้นไป " มันบอก " แต่มึงสมควรเกิดมานะ บนโลกใบนี้น่ะ มึงสมควรเกิดมา "

“ ไอ้เชี้ยยย กูเกลียดมึง ไอ้สัด " ผมบอก " ทีหลังมึงอย่าทำแบบนี้อีกนะ มีอะไรต้องปรึกษากูก่อน อย่าตัดสินใจคนเดียว ไม่ต้องคิดเผื่อกู ว่ามันจะทำลายอนาคตกู มาปรึกษากูก่อนว่ากูคิดยังไง " ดึงตัวเองเข้าไปกอดมันสองคนไว้ " เรามีทางออกอยู่แล้วเว้ยมึง ค่อยๆคิด มันหาทางออกภายในวันเดียวนี้ไม่ได้หรอก มึงมีกูอยู่ กลัวเหี้ยอะไรวะ ต่อให้มึงเป็นพ่อมัน นี่ก็หลานกู กูต้องอยู่ข้างๆมึงอยู่แล้ว แล้วถ้ามันเป็นลูกกู มึงเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันใช่มั้ย "

“ อื้ม " ภาพตอบสั้นๆ เราที่ถอนหายใจออกมาพร้อมๆกัน

“ กลับบ้านเถอะ กลับไปวางแผนกันว่าต่อจากนี้ จะทำยังไง " สำหรับชีวิตของผู้ชายสองคน ที่ต้องดูแลเด็ก วัยสี่ขวบอีกคนนึง  แล้วชีวิตวุ่นวายของผม มันก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่นั้น

...................................................................

8ิดว่าทุกคน คงโกรธพี่ภาพแน่นอน ร้อยเปอร์เซ็นต์ #ส่งฮอลล์คลูไป
จริงๆเราตั้งใจจะเขียนนิยายเรื่องนี้ให้ใสๆ ดุจแก้ว แต่ก็มานั่งคิดนะว่า ถ้าเราอยู่ๆมีลูกโผล่มาคนนึงจะทำยังไงวะ
กูแม่งโดนหลอกเปล่าวะ หรือว่า นี่ลูกใคร ใช่ลูกกูจริงๆเหรอ เราต้องพยายามหาคำตอบ แก้ไขปัญหากับสิ่งที่เกิดขึ้น
บ้างก็แก้แบบมีสติ ( อย่างน้องขม ) แก้แบบไร้สติ ( อย่างพี่ภาพ ) เราเขียนตอนนี้ออกมามันเหมือนใจภาพ
ก็กลัวอะไรหลายๆอย่าง ถูกหลอกบ้าง หรืออาจจะจริง นางสับสน
มีคนถามว่า " เอ๊ะ ถ้าอย่างงั้นทำไมไม่ตรวจ DNA ละ " จะได้จบๆ
คือ..ถ้าตรวจ ดีเอ็นเอ เราคงไม่ตั้งชื่อเรื่องว่า เฮ้ย มันไม่ใช่ลูกกู นะคะ ฮ่าๆๆๆ
 พล๊อตเรื่องคือการตามหาว่าใครเป็นพ่อเด็ก
ถ้าเอาไปตรวจดีเอ็นเอแล้วรู้ คงจบในสองตอน เพราะงั้น เลยไม่ให้ตรวจ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 

เรายังยืนยันว่ามันเป็นนิยายใสๆ ที่สื่อถึงเพื่อนรักสองคนที่ต้องมาปรับตัวเองในหลายๆเรื่องให้เป็นพ่อคนแม่คน
เพื่อดูแลเด็กคนนึง ต้องผ่านเรื่องราวมากมายไปด้วยกัน จน...... #ไม่บอกหรอก #มองอ่อน

ยังไงฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ ตอนต่อไปอัพวันอาทิตย์นี้
ฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:




หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 18-02-2017 21:07:26
 :impress3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 18-02-2017 21:45:42
โหยโกรธภาพอ่ะ ไม่ชอบก็ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ป่ะ คือแบบเอาความรู้สึกตัวเองเป็นหลักแล้วไม่สนใจความรู้สึกเด็กหน่อยเหรอ ยังดีที่ขมเตือนไว้แต่เด็กมันก็จำไปแล้วป่ะวะ คือแบบยังไงก็เสียความรู้สึกอ่ะ อินแรง :serius2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-02-2017 21:50:28
สงสารกาลิค
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-02-2017 21:55:46
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 18-02-2017 22:07:02
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 18-02-2017 22:12:04
ร้องไห้ตอนที่ขับรถออกมาแล้วทิ้งกาลิคไว้
น้องทำผิดอะไรทำไมต้องทิ้งน้องด้วย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: ศตรัศมี ที่ 18-02-2017 22:13:36
สงสารกาลิคน้อยมากๆเลยอ่ะ เรื่องราวที่เจอในวันนี้กับสิ่งที่ภาพกระทำอย่างจงใจ ซึ่งสัมผัสได้ว่าไม่ใช่ความคิดชั่ววูบแน่นอนแต่เป็นการไตร่ตรองไว้ก่อนแล้วแน่ๆ มันเป็นอะไรที่แย่มากๆในความคิดเรา เพราะเด็กน้อยบริสุทธิ์ไม่มีความผิดอะไร มันจะกลายเป็นปมฝังใจเด็ก เฮ้อออ ทำผ้าผืนน้อยสีขาวสะอาดเปื้อนซะแล้วนะคุณภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 18-02-2017 22:22:35
    สงสารกาลิค เจอคนอย่างไอ้ภาพนี่ เป็นเพื่อนยังพอไหวอ่ะ รออ่านตอนต่อไปว่าจะเลี้ยงเด็กยังไง เรื่องใหญ่ขนาดนี้จะทำยังไงกันต่อ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-02-2017 22:50:56
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกอึดอัดใจจริงๆ สงสารหัวหอมที่สุด คนผิดคนแรกคือผู้หญิงที่เป็นแม่เลย ทิ้งลูกให้มาเจออะไรแบบนี้คนเดียวได้ไง เป็นแม่ที่ใจดำมาก เกลียดอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 18-02-2017 23:09:13
สงสารหัวหอมมากอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-02-2017 23:14:48
 :o12:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: bookie ที่ 19-02-2017 02:22:21
ไม่โกรธอ่ะ แต่เกลียดเลย 5555

สงสารตั้งแต่โยนไปมา พีคสุดคือทิ้งน้อง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: PaePT ที่ 19-02-2017 04:17:16
ขออนุญาตวิจารณ์

คือเนื้อเรื่องแบบนี้มันทำให้ใส ให้น่ารักได้แบบไม่ต้องดราม่าตั้งแต่ต้นได้เลย
คืออ่านตอนแรกก็ดูจะเป็นอย่างนั้น ประเภทเด็กแก่นๆ กล้าๆ ฮาๆ รู้ทันๆ
เพราะเปิดมามีเด็กมายื่นรอหน้าห้องคนเดียวได้นี่ คิดไว้ว่ามันต้องมาแนว
แสบๆ คันๆ แน่ แต่กลับกลายเป็นดราม่าหนักหน่วงแบบ มีเอาเด็กไปทิ้ง
อีกรอบนี่มันเหว่อมาก

แอบเสียดายที่เส้นเรื่องมาทางนี่ .... แต่ก็จะติดตามต่อ

ปล.เวลาภาพกับขม คุยกันนี่เหมือนลืมเด็กไปเลย คือคุยเรื่องเด็กรุนแรง
และเป็นเรื่องทำร้ายจิตใจเด็กมากๆ แต่สองคนนี่ก็พูดคุยไปแบบลืมนึกถึง
ความรู้สึกเด็กไปเลย อันนี้ไม่แน่ใจว่าตั้งใจหรือเปล่าที่จะไม่บรรยาย
ความคิดของตัวเด็ก คือดูสองคนนั้นไร้หัวใจมาก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 19-02-2017 07:15:53
ร้องไห้หนักมาก น้ำตาไหลไม่หยุด สงสารขมตอนที่ร้องไห้ สงสารกาลิคที่ต้องโดนทิ้ง งอนภาพ งื้ออออออออ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 19-02-2017 13:42:04
 :pig4 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 19-02-2017 18:31:53
ง่ะ ทิ้งเด็กแบบนี้ได้ไงอ่ะ
คนอ่านนี่ร้องไห้เลยนะ T^T
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 19-02-2017 20:31:31
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 3

   เราขับรถกลับบ้านด้วยความเงียบ ผมมองออกไปนอกหน้าต่างรถ กระชับมือกอดเด็กตัวน้อยที่หลับสนิทอยู่บนตัวพร้อมกับตุ๊กตาหมีที่กอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย อาจเพราะมันเหนื่อยจากการเดินทางยาวๆและเหตุการณ์วุ่นวายตลอดทั้งวันนี้ ผมก้มลงมองเสี้ยวใบหน้าของมันตอนที่รถติดไฟแดง แพรขนตายาวๆ ปากแดงๆที่กำลังบี้อยู่กับอก น่ารักจนเผลอจะยกยิ้มขึ้นมา

' แม่มึง ทิ้งมึงได้ยังไงวะหัวหอม ทั้งๆที่มึงหน้าตาน่ารักขนาดนี้ ' ผมตั้งคำถามนี้ในใจ เป็นคำถามที่ทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้ อยากรู้ว่าคนแบบนี้จะหน้าตาเป็นยังไง นิสัยยังไง ท่าทาง อยากนั่งคุยกับเค้า อยากรู้ว่าเค้าคิดเห็นยังไง อยากรู้ว่าคำพูดที่พูดออกมาจะเห็นแก่ตัวแค่ไหน แต่อีกใจก็รังเกียจที่ได้ฟัง ได้เห็น จนคิดว่าผมอยากจะอ้วกออกมาก็ได้ถ้าเผลอไปฟังความคิดเธอเข้า

   จอดรถที่ใต้คอนโด ผมขยับตัวเองเปิดประตูประคองร่างของคนที่หลับสนิทไว้ในอ้อมกอด เราเดินเข้าตึกมาเงียบๆ เปิดประตูห้อง ผมจัดการพาหัวหอมไปนอนในห้องของตัวเอง ห่มผ้าห่ม เปิดแอร์ก่อนจะเดินออกมาข้างนอก อยากจะหาน้ำเย็นๆกินสักแก้ว รู้สึกคอแห้งแล้วก็เหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก

“ ขม " เสียงทุ้มเอ่ยเรียกตอนที่ผมยืนกดน้ำจากหน้าตู้เย็นอยู่ หันไปมองมันอีกคนก็เหลือบมองไปทางอื่นไม่กล้ามองผม

“ มีอะไร "

“ ขอโทษ " มันพูดสั้นๆก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา แล้วก้มหน้าลง " ขอโทษวะ กูผิดเองที่ทำแบบนั้น กับมึง แล้วก็กาลิค "

“ ไม่เป็นไร แต่ถามมึงจริงๆเถอะ ทำไมถึงคิดทำแบบนั้นวะ "

" กูเห็นแก่ตัวขม กูคิดว่า กูไม่อยากมีภาระ กูจะเลี้ยงดูมันยังไง ทุกวันนี้กูยังขอเงินป๊ากับม๊าอยู่เลย แล้วกูต้องเดินไปบอกเค้าว่า ป๊า ม๊า ภาพมีลูก ภาพไปทำผู้หญิงท้องมา " มันหลุดหัวเราะออกมาทั้งๆที่ตัวเองกำลังเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปโดยไม่คิดให้ดีเสียก่อน " ม๊ากูต้องถามแน่ๆ ใครเป็นแม่ของเด็ก กูจะบอกม๊าว่ายังไงวะ  ไม่รู้ม๊า ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน จะให้กูบอกออกไปแบบนั้นเหรอ เค้าจะคิดยังไงกับสิ่งที่กูพูดวะมึง ไม่รู้ว่าแม่เด็กเป็นใคร ไม่รู้ว่ามายังไง  แต่ต้องรับผิดชอบ เค้าคงหัวเราะใส่กูแล้วก็บอกกูโดนหลอกแล้วละ "

“ กูก็เข้าใจมึงนะภาพ แต่มันอาจจะไม่ใช่ลูกมึงก็ได้ อาจจะเป็นลูกของกู มึงอย่าตัดสินใจอะไรโง่ๆแบบนี้ดิวะ  มึงจะเอาทุกอย่างนั้นไปแบกไว้คนเดียวทั้งหมดไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้มึงต้องรับผิดชอบคนเดียว ไม่ใช่ เรายังไม่รู้เลยว่ามันเป็นลูกใครถูกมั้ย เพราะงั้นเราก็ไม่ควรแก้ปัญหาแบบนั้น เผื่อมันเป็นลูกมึง หรือกูจริงๆขึ้นมาจะทำยังไงละ  " ผมเดินเข้าไปหามันตบไหล่เบาๆ " กูก็เครียดเหมือนกัน ไม่ใช่พอโอกาสที่มันจะเป็นลูกกูน้อย กูจะไม่เครียด อะไรก็เกิดขึ้นได้เว้ย ไอ้ภาพ  "

“ กูมันเหี้ย กูไม่น่าทำแบบนั้นกับมันเลย กูแม่งทำร้ายไอ้กาลิคแล้ววะขม กูทำร้ายมัน " ร่างสูงตรงหน้าก้มหน้าลง ผมรู้ว่ามันเครียดกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนรับตัวไม่ทัน ไม่รู้ว่าอะไรที่เราควรทำตอนนี้ หรือไม่ควรทำ เราไม่รู้อะไรสักอย่างเหมือนเดินไปตามทางที่มันมืดๆอย่างคนไม่รู้อะไร มือหนายกขึ้นขยี้หัวตัวเองแรงๆจนยุ่งมันพูดเสียงเบา " กูมันเลว อัปปีย์จริงๆ "

“ อื้ม มึงรู้ตัวก็ดี " ผมบอก " ที่มึงทำ มันเหี้ยมาก ตุ๊ดยังแมนกว่ามึงอะ แม่งโคตรป๊อด สารเลว ระยำ อัปปีย์ อุบาท ชาติชั่ว ขนาดกูจะด่ามึงว่าเหี้ย กูยังสงสารเหี้ยอะ บอกเลย "

“ อื้ม "

“  มึงทำกูร้องไห้ มึงทำให้หัวหอมต้องร้องไห้ เหี้ยมาก เหี้ยจริงๆ กูพี่ขมคนนี้จะไม่ทน " ไอ้ภาพยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมาตอนที่ผมยกมือขึ้นทาบอกตัวเอง ผ่อนลมหายใจก่อนจะเดินไปจับไหล่มัน ผมมองตาคมที่ก็สบสายตามองผม " สัญญากับกูภาพ ว่ามึงจะไม่ทำแบบนี้อีก สัญญากับกูว่าคิดจะทำอะไรต้องบอกกูก่อน ปรึกษากูก่อน อย่าคิดเออเองคนเดียว อย่าคิดแทนกู มีอะไรต้องบอกกู เราเป็นเพื่อนรักกันนะเว้ย กูไม่ทิ้งมึงหรอก มีอะไรก็บอกกันสิวะ ไม่เห็นต้องแบกรับเรื่องนี้ไว้คนเดียวเลยนี่หว่า "

“ ครับ " มันพยักหน้ารับ " ที่หลังกูจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก โอเคมั้ย ? “

“ โอเค " พยักหน้ารับคำพูดของมัน ผมหันหลังไปกดน้ำมากินต่อ มันก็คว้ามือผมมากุมไว้ สบสายตาคมที่กำลังจ้องมองกัน แววตาที่กำลังลังเลเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่กล้า

“ กู..ขอโทษนะ " ภาพบอก " มึงอย่าโกรธกูเลยนะ "

“ กูไม่โกรธมึงเพราะเรื่องแค่นั้นหรอก ทั้งชีวิตนี้มึงเคยทำเหี้ยกับกูมามากกว่านี้อีกไอ้สัด แต่กูจะโกรธมึงถ้ามึงทำแบบนี้อีก และคนที่มึงควรจะถามว่าโกรธมึงรึเปล่า กูไม่คิดว่าเป็นกูหรอก แต่เป็นไอ้หัวหอมมากกว่า  "

“ แต่ไม่โกรธกูแน่นะ มึงน่ะ "

“ ถามเซ้าซี้กูจัง "

“ ก็ไม่อยากจะให้มึงโกรธ " ผมหลุดยิ้ม

   ไอ้เหี้ยนี่ก็เป็นแบบนี้ตลอด เวลาทำระยำ ตอนทำไม่คิด สุดท้ายแม่งก็ชอบมาถาม ' โกรธมั้ย กลัวมึงโกรธ ' แล้วตอนนั้นมึงจะให้กูพูดอะไรกับมึงอีก ก็มึงทำลงไปแล้ว โกรธมึงจะได้เหี้ยอะไรขึ้นมา นอกจากจะมายืนฟังมึงพูดขอโทษพร้อมกับหน้าลูกหมาหงอยๆ

" งั้นทีหลังช่วยกลัวกูจะโกรธก่อนที่ตัวจะทำเรื่องเหี้ยๆได้มั้ย " ผมถามอีกคนก็เหลือบมองไปทางอื่น การแสดงออกที่บอกว่าไม่ตกลงกับสิ่งที่ผมขอ เพราะคิดว่าคงจะเผลอทำอีก ไอ้ภาพเป็นคนนิสัยแบบนี้คือ ถ้ารับปากว่าจะทำก็จะทำให้ได้ แต่ถ้าแม่งไม่รับปาก นั่นคือ ต้องมีอีกหลายครั้งแน่นอนไม่ต้องห่วง " กูไม่โกรธมึงหรอกภาพ ไม่โกรธจริงๆ โอเค๊ ? แค่อย่าทำแบบนั้นกับหัวหอมอีก อย่าแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียว ปรึกษากูก่อนก็เท่านั้น " ถอนหายใจออกมาผมยกมือขึ้นเท้าสะเอว " นี่ กูย้ำมึงหลายครั้งแล้วนะ ถ้ามึงยังแพนิคต่อไปอีก กูจะตบมึงแล้วนะ ไอ้สัด "

“ เออ ก็กูอยากให้ชัวร์ๆ ว่ามึงจะไม่โกรธ "

“ กูเป็นพระอาทิตย์ที่มึงต้องโคจรรอบทุกวันเลยรึไง ถึงต้องแคร์กูอะไรขนาดนั้น " ผมหลุดหัวเราะ ตอนที่กำลังหันหลังหาที่นั่งพักตรงโซฟาในห้องนั่งเล่น ก็ได้ยินเสียงเบาๆของมันพูดขึ้นมา แต่ก็ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่

“ จะว่าแบบนั้นก็ใช่อยู่ "

“ ว่าอะไรนะ " ถามย้ำมันก็ส่ายหน้า

“ มานั่งคุยเรื่องไอ้กาลิคกัน เราจะเอายังไงต่อไป แรกเริ่มมึงว่าจะทำยังไง " ภาพถามผมก็คิด " เอาจริงๆวันนี้เราทำเหี้ยกับมันหลายเรื่องมาก "

“ มึงเอามันไปทิ้ง " ผมบอก

“ เราพูดเหี้ยๆกับมันเยอะมากนะ เราโยนกันไปมาว่าใครเป็นพ่อเด็ก ต่อหน้าเด็กแบบไม่คิดถึงใจมันเลยด้วยซ้ำ " พออีกคนบอกแบบนั้นผมที่กำลังยิ้มเถียงมันเล่นๆก็สลดขึ้นมาทันที จะว่าไปก็ใช่อย่างที่มันพูด วันนี้สิ่งที่เราทำ มีแต่เรื่องเหี้ยๆทั้งนั้น เป็นการเจอกันครั้งแรกที่โคตรจะเหี้ย เดินทางมาหาพ่อที่ไม่รู้ว่าคนไหนว่าแย่แล้ว ยังมาฟังเราพูดคำหยาบแล้วโยนให้เป็นลูกคนนั่นที คนนู้นทีอีก " เราจะไม่พูดกันเรื่องนี้อีกนะ ถ้าจะพูด ก็ค่อยมากันตอนที่มันหลับแล้ว อย่าให้มันได้ยิน ตกลงมั้ย "

“ อื้ม ตกลง " พยักหน้ารับให้มัน ภาพก็ถอนหายใจออกมา

“ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ มาแก้ไขปัญหานี่ด้วยกันเถอะ " เหลือบมองมันที่พูดจาดูเป็นทางการแล้วแอบยิ้ม " ยิ้มเหี้ยอะไร "

“ มึงพูดโคตรทางการอะ เหมือนหัวหน้างานที่แบบให้กำลังใจลูกน้อง " ยื่นมือไปตบไหล่มัน " สมแล้วที่เป็นนักบริหาร ว่าที่เจ้าสัวรุ่นที่สี่ "

“ ไอ้เชี้ย " มันสะบัดมือผมออก

“ แหม เขินเหรอ น้องภาพของพี่ ไม่ต้องเขินพี่ขมหรอกนะจ๊ะ คนดี " เอื้อมมือหยิกแก้มมันอีกคนก็นิ่ง

“ อย่าให้กูทำกับมึงบ้างนะ กูไม่หยุดแค่หยิกแก้มหรอก "

“ อูยยยยย " ทำตาโตใส่หลุดหัวเราะออกมาก่อนจะทำทีนั่งเรียบร้อยให้มาขึ้น " มาจริงจังกันเถอะครับน้องขมจะไม่กวนตีนแล้วพี่แล้ว"

 " เข้าเรื่อง เอาที่จำเป็นๆก่อนนะ คือ เราต้องหาแม่เด็กก่อน ซึ่งในระหว่างนี้เราต้องเลี้ยงดูมัน แล้วแน่นอนว่ามันมีค่าใช้จ่าย "

“ อื้ม "

“ กาลิคไม่มีกระเป๋าเดินทางติดตัวมาเลยเหรอวะ แบบว่า ของใช้ส่วนตัว มีมาแค่เงินเหรอ "

“ เท่าที่กูรู้ คือ ไม่มี " ผมบอก " แล้วมึงว่าเงินที่มันติดตัวมันเยอะเท่าไหร่วะ "

“ ก็เยอะอยู่นะ แต่คงไม่เยอะที่จะส่งมันเรียน ให้มันกินหรอก ถ้าไม่เก็บ ยังไงก็ต้องหมด " ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ภาพบอก
 
“ เดี๋ยวนะภาพ เราต้องส่งมันเรียนด้วยเหรอวะ "

“ อ้าว ไอ้สัดนี่ ส่งสิ มันต้องเรียนหนังสือแล้วนะ อายุขนาดนี้ต้องเข้าอนุบาลแล้ว มึงจะให้มันโง่รึไง "

“ ก็เปล่าหรอก " ผมบอกเสียงอ่อน " แต่ค่าเทอมแม่งแพงมากเลยนะ สมัยนี่อะ ถ้าส่งไปเรียนที่ไม่ดี สังคมแม่งก็ไม่รู้จะเป็นยังไงอีก ลำพังเงินที่เราได้รายเดือน ก็ไม่ได้เยอะเป็นแสนๆ ล้านๆ สักหน่อย "  คนตรงหน้าผมจมลงไปกับความคิดตัวเองมันเงียบไปสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม

“ เลิกคิดเรื่องนั้นก่อนก็แล้วกัน มันยากไป เอาเรื่องง่ายๆแล้วกัน คือมันจะอยู่กับเรายังไง เราต้องไปเรียน "

“ เราเรียนคนละคณะกันอยู่แล้ว เราก็แบ่งเวลากันสิ " ผมบอก

“ มันมีตารางเรียนที่เราเรียนพร้อมกันอยู่นะ "

“ เออ ก็จริงวะ " ความชิบหายค่อยๆ เกิดขึ้นทีละเรื่อง ผมกับภาพเรียนมหาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ ไอ้ภาพเรียนบริหารธุรกิจ ส่วนผมเรียนศิลปกรรม เวลาเรียนมีตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็มักตรงกัน เพราะว่าจะได้ไปด้วยกันเลยเลือกที่จะลงเรียนแบบนั้น

“ มันก็โอเคอยู่ เวลาที่กูมีเรียนเช้า มึงมีเรียนเย็น เราแบ่งสลับกันได้ แต่ว่า ถ้าเรามีเรียนเช้าด้วยกัน เย็นด้วยกัน ใครจะเลี้ยงมันวะ " ถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่ ผมพิงตัวเองกับโซฟา

" แบบนั้น มันเลยต้องไปเรียนสินะ ถ้ามันไปโรงเรียน เราก็ดูแลมันเฉพาะเสาร์อาทิตย์ แล้วก็เช้าเย็นเท่านั้น "

“ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก เรื่องดูแลเด็กน่ะ " ไอ้ภาพว่าผมก็ขมวดคิ้ว " เอาเป็นว่า ช่วงนี้หยุดหลังสอบพอดีเราก็จัดการเรื่องสำคัญๆให้มันก่อนก็แล้วกัน "

“ เรื่องนั้นคือ ? “

“ เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวของมัน ให้มันนอนกับมึงแล้วกัน "

“ เดี๋ยวๆ ไหงยกให้กู อย่างงั้นละสัด " ยกมือขึ้นท้วง ไอ้ภาพก็ยกยิ้ม

“ มันดูติดมึง มากกว่ากูอะ "

“ แล้วทำไมมึงไม่ทำตัวให้มันติดมึงด้วยละ จะให้กูรับผิดชอบหมดไม่ได้นะเว้ย มึงเป็นพ่อมันนะมึงบอกคนที่สถานสงเคราะห์แบบนั้น "

“ มึงก็อาจจะเป็นพ่อมัน มึงบอกกูเอง "

“ ไอ้สัด " สถบด่าอีกคนก็ยกยิ้ม ทำไมสุดท้ายเหมือนว่ากูต้องมาอยู่ในสถานะของแม่ไอ้หัวหอมทั้งๆที่ คนที่มีสิทธิ์ว่าน่าจะเป็นพ่อมันอย่างไอ้ภาพต้องดูแลด้วยว่ะ

   เราที่ต่างเงียบให้กันผมรู้สึกถึงความกังวล ความยาก ความเหนื่อย รายล้อมอยู่รอบตัวตั้งแต่ยังไม่ทันจะเริ่มวันใหม่  ตอนนั้นแม่จะเป็นยังไงนะ ตอนที่รู้ว่าวันรุ่งขึ้นต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องดูแลผมคนเดียวจากนี้และตลอดไป ตอนนั้นเคยมีปัญหาเรื่องการเงินบ้างมั้ย เคยเครียดว่าผมจะอยู่กับใครตอนที่ไปทำงานในวันหยุดบ้างรึเปล่า

" เราจะเลี้ยงมันรอดเหรอวะภาพ " ผมเอ่ยถามอีกคนก็ยิ้มให้ผม

“ ไม่รู้วะ " มันบอกสั้นๆ " แต่มึงบอกกูนิเมื่อกี้ว่าเราเป็นเพื่อนรักกัน เราจะไม่ทิ้งกัน กูเลยคิดว่า ถ้ามึงไม่ทิ้งกู กูไม่ทิ้งมึง ก็คงไม่เป็นอะไรหรอก กูไม่กลัวหรอก " มันยักคิ้วให้ผม หลุดยิ้มออกมากับคำพูดนั้นของมัน

“ เอาจริงๆ ถ้ากูเป็นผู้หญิงแล้วได้ยินประโยคนี้ กูคงตกลงเป็นเมียมึง "

“ เป็นผู้ชายก็ตกลงเป็นเมียกูได้ กูไม่ซีเรียสหรอกน่า " ประโยคล้อๆหลุดออกมาจากปากมันก่อนที่ไอ้ภาพจะดึงตัวเองเข้ามานั่งข้างผม  มือหนากอดคอดึงเข้าไปใกล้ก่อนจะหอมแก้มไปเสียเต็มฟอด

“ ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย มึงหอมแก้มกูอีกแล้วไอ้สัดภาพ ไอ้เลววว เควี่ย! " ยกหมัดต่อยเข้าไปแขน แต่แม่งก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร เหมือนด้านเอาเสียมากมายอย่างงั้น

“ โอ๊ยแม่คุณทำเป็นเขิน กูหอมมึงตั้งแต่ตัวมึงเท่าเมี่ยง "

“ ตอนนั้นตัวมึงก็เท่าเมี่ยงเหมือนกันอะสัด " หันไปเถียงมันอีกคนก็หัวเราะ จะว่าไปไอ้ภาพก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ ชอบแกล้ง กวนตีน เมื่อก่อนตอนเด็กๆเวลาผมถูกล้อว่าเหมือนเด็กผู้หญิง ก็มันนั่นแหละ ที่เริ่มล้อผมก่อนใคร

   แล้วสุดท้ายพอผมโกรธ ไม่ยุ่งกับมัน มันก็ชอบเข้ามาใกล้ กอดแขน หอมแก้มแล้วก็บอกว่า ' ก็ขมน่ารัก เนี้ยๆ ภาพอยากหอมแก้มขม เพราะขมน่ารัก ' แล้วพูดง้อสารพัดเอานู้นนี่นั่นมาให้ สุดท้ายผมก็แพ้มัน เพราะขนมถุงโต ที่มันซื้อมาง้อประจำ จะว่าไปก็เป็นคนเห็นแก่กินมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

   อีกอย่างเราโกรธกันไปก็โกรธไม่นานหรอก สุดท้ายก็ต้องดีกัน ก็มีกันอยู่แค่สองคน ไม่เล่นกับมันก็ไม่มีใครเล่นด้วยแล้ว ก็เลยยอมหายโกรธง่ายๆ 

" เมื่อก่อนกูหอมแก้มมึง มึงไม่เห็นโกรธ ตอนนี้ทำมาเป็นยั๊วะเหรอ ดอก ตอแหล " ท่ากระเทยเข้าสิงอีกละ ผมถอนหายใจ

" คือบางที กูก็เบื่อที่จะโกรธคนหน้าด้านอย่างมึงแล้ว โกรธไปก็ไม่มีเหี้ยไรดีขึ้น มึงก็ทำเหมือนเดิม ขี้เกียจโกรธ เอาเวลาไปกัดเล็บตีนตัวเองดีกว่า "

“ มึงกัดเล็บตีนด้วยเหรอ "

“ กูเปรียบเทียบไอ้สัด เปรียบเทียบบบบ " ผมลากเสียง " ให้มึงเห็นว่า การโกรธมึงมันเสียเวลาแค่ไหน "

“ แหมม เขินก็บอกพี่มาจ๊ะ เมียรัก " ยื่นมือมาจับคางก่อนจะดึงให้มาเผชิญหน้า " แก้มแดงนะเรา "

“ อย่างมึงก็เป็นได้แค่ เมียกูเท่านั้นแหละ " ไอ้ภาพยกยิ้มตอนที่ผมพูด มันลอยหน้า ลอยตาเหมือนคำพูดของผมมันเชื่อไม่ค่อยได้ ก่อนจะหัวเราะ เอาจริงๆ กูเตะมึงสักบ้าปได้มะ

“ เรื่องแบบนี้ พี่ขอพูดแค่ว่า ตัดสินบนเตียงง่ายกว่า " มันเอียงหน้ามองผม " ลองมั้ยจ๊ะ "

“ ไปลองกับพ่อมึงอะ ไอ้สัด " หันไปบอกมันก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง " กูไปอาบน้ำนอนละ รำคาญมึงชะมัด "

“ เค้าบอกว่า ยิ่งเกลียดยิ่งรักนะจ๊ะ เมีย " เสียงที่ดังไล่หลังมา เอาจริงๆ ใครก็ได้เอาไอ้เหี้ยนี่ไปเก็บที รำคาญแม่งชะมัด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 19-02-2017 20:31:50

   เดินเข้ามาในห้องนอน ผมหย่อนตัวเองลงนั่งที่เตียง แอบยิ้มกับไอ้ตัวเล็กที่ยังคงหลับอยู่แบบนั้น แก้มกลมๆถูกเบียดกับตุ๊กตาหมีของตัวเอง ปากสีสดเผยอขึ้นน้อยๆ อดไม่ได้ที่ต้องก้มลงหอมแก้มไปเสียเต็มฟอด

“ ชื่นใจ วันนี้ขอโทษแทนภาพด้วยนะหัวหอม แล้วกูก็ขอโทษที่ทำตัวไม่ดีกับมึงเลย แต่ว่าพรุ่งนี้เรามาเริ่มกันใหม่นะ " ลูบหัวมันผมยิ้ม " หลับฝันดีนะหัวหอม " บอกแบบนั้น ก่อนจะลุกเดินเข้าไปอาบน้ำ เตรียมตัวนอนเหมือนกัน

   สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาตอนเช้าที่เช้ากว่าปกติ ผมหยิบมือถือขึ้นมากดดูมันบอกเวลาเพียงแค่แปดโมงเช้าเท่านั้น หลับตาลงนอนต่ออีกสักหน่อยแต่ผมก็พบว่าตัวเองนอนไม่หลับแล้ว

“ พอวันหยุดก็เสือกตื่นซะเช้า เหี้ยเอ้ย " เกาหัวตัวเองหน่ายๆ ผมหันมองหัวหอมที่ยังคงหลับอยู่ เอื้อมมือไปอังหน้าผากมน นอนนานขนาดนี้จะป่วยรึเปล่า แต่อุณหภูมิร่างกายนั่นก็ปกติดี " หลับนานจังนะมึง ท่าทางจะเหนื่อยจริงๆ "

   ลุกขึ้นจากเตียงเดินออกไปนอกห้องนอน ผมผงะเล็กน้อยตอนที่เห็นคนที่คิดว่ากำลังนอนอยู่อย่างไอ้ภาพ กลับยืนกินอะไรสักอย่างอยู่ในครัว

" อ้าวมึง ตื่นเร็วจัง "

" นอนไม่หลับ " มันบอกก่อนจะกินนมจากปากขวดขึ้นไปกระดกทั้งขวด

" โอ๊ยย เชี้ย เอาอีกแล้ว กูขอให้ปากมึงเป็นสังคังไอ้สัด! " ผมเดินเข้าไปบอกก่อนจะคว้าขวดนมที่มันถืออยู่ออกมา " กูบอกกี่ทีแล้วว่าเวลากินนมให้รินใส่แก้ว ไม่ใช่บ้านมึงนะเว้ยที่มีมึงคนเดียวกินนมจืดอะ กูก็กินด้วย "

" มึงแม่ง ขี้บ่นวะ จะอะไรนักหนาทำเป็นรังเกียจ "

" ฟันก็ยังไม่ได้แปรง เช้าตื่นขึ้นมามึงก็เอาปากที่มีน้ำลายบูดทั้งคืนของมึงมันสัมผัสกับปากขวดนม ที่พอกูตื่นก็จะเอาแก้วมาริน นมที่มึงแดกเมื่อกี้ นมกูต้องผ่านคราบน้ำลายบูดของมึงก่อนจะใส่แก้วกู "

" ขี้บ่นวะ ขม " มันคว้านมไปจากมือผม ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา " เปิดขวดใหม่ไป รำคาญ "

“ มันมีอยู่ขวดเดียว "

“ ถ้ามึงคิดว่าไม่แฟร์ อะ " มันตั้งขวดนมรสจืดฝาสีน้ำเงินขวดใหญ่ลงบนโต๊ะ " แดกผ่านปากขวดเหมือนกูก็จบ วินวิน น้ำลายบูดมึง น้ำลายบูดกู ผสมๆกันไป จบมั้ย "

“ นี่มึงคิดได้ไงวะ " ผมส่ายหน้าไปมา บางทีก็รู้สึกเหนื่อยกับนิสัยของไอ้ภาพมันเหมือนกัน อาจเพราะเราถูกเลี้ยงดูมาคนละแบบ ไอ้ภาพถึงจะเป็นลูกคนเดียวแบบผม แต่มันก็ถูกเลี้ยงดูแบบ ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ที่บ้านมีคนงานคอยทำนู้นนี่นั่นให้ตลอด ส่วนผมต้องดูแลตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองเพราะที่บ้านแม่ไม่มีเวลาดูแลเลยต้องทำแทนทั้งหมด

   หลายเรื่องที่ตั้งแต่มาอยู่ด้วยกันที่คอนโดนี้ ตอนเข้าเรียนปีหนึ่ง ผมถึงรู้สึกว่า ไอ้เชี้ยนี่การอยู่ร่วมห้องกับคนอื่นแม่งเป็น ศูนย์จริงๆ คือพี่แกจะทำตามที่พี่แกอยากจะทำและทำอย่างที่เคยทำมา ไม่ได้คิดว่าจะมาอยู่กับคนอื่นแล้วต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่มีอะไรแบบนั้นในสมองของไอ้ภาพเลย มีแต่ความเป็นตัวเองเท่านั้นแหละ เวลาที่อยู่กับผมน่ะ

    แต่โชคยังดีที่ป๊าม๊ามันใจดี รู้ว่าลูกชายตัวเองเป็นแบบไหน ก็เลยซื้อคอนโดแบบ สองห้องนอนให้มัน ให้ผมอยู่ห้องนึงเป็นส่วนตัว ส่วนไอ้ภาพก็อยู่อีกห้อง  ไม่ต้องถามถึงว่าในห้องส่วนตัวมันรกขนาดไหน เอาเป็นว่าขนาดแม่บ้านมาทำทุกอาทิตย์ผมยังได้ยินเธอบ่นบ่อยๆว่ารก

“ เลิกบ่นน่าา รำคาญ " 

“ เป็นอะไรวะ นั่งหน้าเหมือนตูดหมาขี้ไม่สุด " ผมเดินไปหยิบแก้วแล้วมานั่งข้างมัน เพิ่งสังเกตว่ามันนิ่งไปแล้วก็เอาแต่ขมวดคิ้วหลับตาลงเหมือนจะหลับแต่คงไม่หลับ เหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่ คนนั่งหน้านิ่วหันมาชักสายตาใส่ตอนที่ผมทัก " ทำไม เครียดนอนไม่หลับเหรอ เรื่องไร ไหนเล่า "

“ จะมีเรื่องอะไรวะ " มันบอกผมก็พยักหน้ารับ รินนมใส่แก้วตัวเอง เปิดทีวีไม่ได้สนใจอะไร ไอ้ภาพที่ยังจ้องมองผม

“ ทำไม "

“ มึงนี่ท่าทางสบายใจดีนะ "

“ แล้วจะเครียดทำไมอะ เมื่อคืนกูว่าเราก็เคลียร์กันแล้วนะ มึงยังปลอบกูอยู่เลย นี่มึงยังจะเครียดอีกเหรอ " ผมถามหน่ายๆ " มึงจะเครียดทำม๊ายยย เรื่องเกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่ว่าถ้านั่งเครียดมากๆ ไอ้หัวหอมจะหายไปสักหน่อยถูกมั้ยละ "

“ เมื่อคืนกูนอนไม่หลับเลย นอนคิดว่าแม่เด็กจะเป็นใครบ้าง " ผมพยักหน้ารับ ไอ้ภาพก็ยื่นถือมาให้ผมดู หน้าจอที่จดโน๊ตไว้เป็นรายชื่อผู้หญิงทั้งไทยทั้งอังกฤษเรียวยาวลงมาเป็นตับ

“ เดี๋ยวนะ เดี๋ยวๆ " ผมหลุดหัวเราะ " นี่คือผู้หญิงที่มึงคบทั้งหมด "

“ เปล่า แค่ที่เอาด้วยเกินสองครั้ง แล้วคิดว่าน่าจะใช่ "

“ ไอ้เหี้ย " ผมหลุดร้องออกมา ก็รายชื่อมีมากกว่าสิบคนขนาดนี้ " นี่Kมึง..”

“ แน่นอน " เด้งKใส่หน้ากูอีกเอากับมัน ผมกรอกตามองบนก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา

“ หึ ทำมาเป็นเด้งKใส่กู ก็ไอ้เหี้ยนี่นั่นแหละที่ทำให้มันมีปัญหาตอนนี้ ไอ้สัด! " ถีบเข้าไปที่ส่วนกลางมันเต็มๆ อีกคนก็เบิกตากว้างก่อนจะเอนตัวล้มลงนอนบนโซฟาทันที   

“ ไอ้เชี้ยยย ขม มึงถีบลูกกู "

“ สมน้ำหน้า "

“ อึก ฮือออออ อึก ฮือๆ อึก ฮือๆ " เสียงร้องดังขึ้นขัดเสียงโวยวายของไอ้ภาพไป ผมวางแก้วนมลงบนโต๊ะ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตัวเองแล้วพบว่า คนที่หลับอยู่เมื่อครู่ตื่นแล้วเรียบร้อย เด็กผู้ชายตัวน้อยนั่งร้องไห้อยู่บนเตียงกอดตุ๊กตาหมีแน่นพลางมองไปรอบๆแบบไม่คุ้นเคย

“ หัวหอม ตื่นแล้วเหรอ "

“ อาขม~ อึก อาขม กาลิคตื่นแล้วครับ " สองแขนเล็กกางออก ผมนั่งลงบนเตียงมันก็ดึงตัวเองมานั่งบนตัก กอดคอผมไว้แน่น " อาขมอย่าทิ้งกาลิคไป อย่าทิ้งกาลิคไป กาลิคกลัว อึก ฮือๆ กาลิคกลัว "

“ ไม่ได้ทิ้ง มึงแค่ฝันร้ายเท่านั้นแหละ ไม่มีใครทิ้งมึงทั้งนั้น " ลูบหลังมันปลอบๆอีกคนก็พยักหน้ารับ มันที่กอดผมแน่น

“ กาลิคฝัน ฝันว่าอาภาพกับอาขม ขับรถไปทิ้งกาลิคไว้ในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก แล้วพอ พอกาลิคตื่นขึ้นมา  อึก กาลิค กาลิคก็อยู่ในห้องนี้  "

“ ฝันร้ายจริงๆด้วย " ผมย้ำมันแบบนั้น อยากจะให้มันเชื่อเหลือเกินว่าสิ่งที่มันได้เจอมาเป็นแค่ฝันร้ายเท่านั้นไม่ใช่ความจริง " ที่นี่เป็นห้องนอนกู มึงไม่เคยเข้ามา มึงก็ต้องคิดว่าเป็นที่อื่นถูกมั้ยละ "

“ อื้อ " มันพยักหน้ารับตอนที่ผมดึงมันให้จ้องหน้าผมแล้วยิ้มให้ เช็ดน้ำตาเม็ดเล็กๆที่ไหลออกมา

“ ไม่ต้องร้องไห้ ร้องไห้ทำไม "

“ หนูกลัวโดนทิ้ง " สายตากลมที่จ้องผม น้ำตาที่ยังคลอแววตาน่ารักนั่น เอื้อมมือไปลูบหัวมันก่อนจะกอดไว้

“ ไม่มีใครกล้าทิ้งมึงหรอกหัวหอม กูคนนึงแหละที่จะไม่ทิ้งมึง ภาพเองก็ด้วย "

“ จริงนะ " มันย้ำ

“ อื้ม "

“ สัญญากันนะ " นิ้วก้อยเล็กๆที่ถูกยื่นออกมา ไม่รู้ใครสอนแต่ก็น่าเอ็นดูเหลือเกิน ผมเอื้อมมือไปเกี่ยวก้อยมัน

“ สัญญา " ผมบอกมันก็ยิ้ม หัวหอมดึงตัวเองขึ้นมาหอมแก้มผม รู้สึกเขินอย่างน่าประหลาด แก้มแดงๆของผมตอนนั้นทำได้แค่กอดมันไว้แน่น " มึงแม่ง โคตรรรรน่ารักเลย "

“ อื้ออออ อาขมกอดกาลิคจนกาลิคเจ็บเลย "

“ ฮ่าๆ โทษที " ผละตัวเองออกห่างจากมัน " ตอนนี้มึงอยากจะกินอะไรสักหน่อยมั้ย หรือว่าจะอาบน้ำก่อน หิวรึยัง "

“ หนูหิว " มันบอกสั้นๆ ผมก็อุ้มมันมายืนที่พื้นจูงออกมานอกห้องที่มีไอ้ภาพนั่งอยู่หน้าทีวี ไอ้หัวหอมสะดุ้งตัวน้อยๆ มันจับมือผมไว้แน่น

“ ไหงแม่งทำท่าแบบนั้นตอนที่เจอกูวะ " ไอ้ภาพถาม ผมก็ยกไหล่

“ สงสัยหน้าโนเมคอัพของมึงจะน่ากลัว "

“ โทษที ปกติ พี่ก็ไม่ได้เมคอัพ " มันว่าก่อนจะยิ้มให้หัวหอมที่ก็ก้มหน้าลง

“ อ้าว ยิ้มให้ก็ไม่ยิ้มกับกูอีก กอดขาพ่อเค้าแน่นเลย สงสัยรู้ว่าใครพ่อ "

“ ไอ้สัดภาพ " ผมเรียกสติมันเพราะถ้าพูดมากกว่านี้มันคงโดนผมด่า อีกคนที่รู้ตัวเบือนหน้าหนีไปทางอื่นก่อนจะยิ้มมีความสุข " หัวหอมมึงอยากจะกินอะไร นมหน่อยมั้ย "

“ กาลิคไม่กินนมแบบนี้ " มันชี้ไปที่ขวดที่ตั้งอยู่ ผมกับไอ้ภาพก็ขมวดคิ้ว

“ อ้าว ถ้าไม่กินแบบนี้แล้วมึงกินแบบไหน " ภาพถาม

“ กินแบบที่มันมีสีชมพู ไม่ก็กินแบบสีช็อคโกเล็ต "

“ มุ้งมิ้งจัง " ไอ้ภาพยิ้ม " แต่ที่นี่ไม่มีหรอก มีแต่นมสีขาวแบบนี้ กินไปก่อนก็แล้วกัน กินแบบนี้ดีนะ จะได้สูงๆ "

“ ไม่เอา กาลิคไม่อยากกิน " มันส่ายหน้าไปมากับขาผม มือที่กอดไว้แน่น

“ ไม่อยากสูงเหรอไง มึงน่ะ ระวังเตี้ยนะ ไม่กินนมจืดอะ จะเตี้ย "

“ ไม่จริงหรอก " มันเถียงกลับ หน้าตางองำของมัน เหมือนไม่อยากจะยอมรับสิ่งที่ไอ้ภาพพูด
 
“ ต่อไปอาจจะถูกล้อก็ได้นะ กาลิคเตี้ย กาลิคเตี้ย แบบนี้ "

“ ไม่!! อาภาพโกหก " แผดเสียงเถียงออกไป ไอ้หัวหอมที่กลัวว่าตัวเองจะเตี้ยก็ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมาแต่ไอ้ภาพก็ยังเย้าต่อ เป็นคนที่มีความสุขเสมอถ้าเห็นเด็กกำลังร้องไห้

“ เอ้า! จริงๆ ถ้ามึงกินนมแบบนี้นะ มึงจะตัวเท่านี้ตลอดไป "

“ โอยยยยย พอๆ อย่าเถียงกันกูรำคาญ " ผมห้ามศึกก่อนจะส่ายหน้าไปมา " ที่นี่ไม่มีนมแบบที่มึงจะกินหรอกหัวหอม งั้นเราไปอาบน้ำ แล้วออกไปซื้อกัน "

“ มึงจะออกไปซื้อของเหรอ "

“ ก็ใช่นะสิ เสื้อผ้ามันก็ยังไม่มี ของใช้มันก็ยังไม่มี กูต้องไปซื้อให้มันสิ "

“ อาขม อาภาพโกหกใช่มั้ย " หัวหอมถามผมก็คิด

“ จะพูดยังไงดีละมึง "

“ พูดยังไงก็ได้ อาขมจะยืนพูดหรือนั่งพูดก็ได้ " ไอ้ภาพหลุดหัวเราะเสียงดังออกมา ผมก็เองก็ยิ้มกับความไร้เดียงสาของมัน

“ โอเคกูจะนั่งย่อตัวลงแบบนี้แล้วพูดกับมึง คือ นมก็มีหลายแบบ นมแบบไหนกินแล้วก็ทำให้สูงขึ้นทั้งนั้นแหละ แต่ถ้าเราอยากจะสูงเยอะๆ สูงมากๆ เราต้องกินนมแบบนี้ " ผมชี้ไปที่ขวดที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ

“ แล้วหนูจะสูงขึ้นมั้ย ถ้าหนูชอบกินนมสีชมพู "

“ สูงแหละ ไม่ต้องกลัว สูงกว่านี้แน่นอน " บอกแบบนั้นคนฟังก็ยิ้มก่อนจะกอดคอผมไว้แน่น

“ อาขม อุ้ม หนูจะไปอาบน้ำ "

“ ขี้อ้อนจัง " ดึงตัวเองขึ้นเต็มความสูง ผมเดินเข้าไปห้องนอน จัดการอาบน้ำล้างหน้าให้อีกคน บ้วนปากด้วยน้ำเล็กน้อยเพราะไม่มีแปรงสีฟัน

   แต่งตัวด้วยชุดที่มันใส่มาในกระเป๋าแค่ชุดเดียวนั้น เป็นชุดเหมือนแบบ นักกีฬากางเกงขายาวสีดำเล่นแถบลายข้างๆสีขาว เข้ากับเสื้อแบบเข้าชุด เวลาใส่มันก็จัดการรูดซิบเสื้อขึ้นไปจนถึงคอ  คือโคตรดูดีดูหรูอย่างบอกไม่ถูกเลย เอาจริงๆ สมัยก่อนแม่กูจับใส่แค่เสื้อบอลสีสดๆ ตัดกับกางเกงสีดำนั่นก็ดูหรูสุดแล้วละ

   ผมเองก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็เดินออกจากห้องนอนตัวเองพร้อมกับไอ้หัวหอม มันที่ถือตุ๊กตานั้นมาด้วยไม่ยอมปล่อย

“ นั่นจะเอาตุ๊กตาไปด้วยเหรอ "

“ อื้อ "

“ ครับสิ " ผมบอกมัน " เวลาผู้ใหญ่ถาม ถ้าจะตอบว่า อื้อ ใช่ ก็ให้พูดว่า ครับ หรือว่า ใช่ครับ "

“ ครับ " มันบอกไอ้ภาพก็ยิ้ม ผมมองมันที่ก็แต่งตัวเหมือนเตรียมจะออกไปข้างนอก

“ แล้วนั่นมึงจะไปไหน " ผมถาม

“ ออกไปข้างนอกพร้อมกับมึงไง ขับรถพามึงสองคนไปซื้อของ " มันบอกผมก็เบิกตา ปกติไอ้ภาพไม่ใช่พวกซื้อไปเดินซื้อของใช้ มันไม่ชอบเดินห้างที่วุ่นวาย ของส่วนใหญ่ในห้องก็เลยเป็นผมมากกว่าที่ต้องจัดการ

“ เอาจริง ปกติมึงไม่ชอบนิ "

“ กูอยากไป ยังไงกูก็ต้องช่วยมึงดูแลมันนี่ จะให้มึงทำคนเดียวได้ไง " แบะปากตัวเองแรงๆทีนึงตอนที่ฟังคำพูดดีๆของมัน ผมจูงมือหัวหอมออกเดินจากห้องไปพร้อมๆกัน

   ลงลิฟต์ไปที่ชั้นจอดรถของคอนโด ตอนที่ไอ้ภาพกดปลดล๊อครถ ผมที่เปิดประตูหลังให้มันขึ้น แต่อีกฝ่ายก็ขืนตัวไม่ยอมขึ้นไป

“ ทำไม่ไม่ขึ้นไปละมึง "

“ หนูกลัว " มันบอกเสียงเหมือนจะร้องไห้ แววตาที่เหลือบมองผมที่กำลังสะพายกระเป๋าเป้ของมันอยู่ คงเหมือนเมื่อวานที่ไอ้ภาพก็ทำแบบนั้น เราพามันขึ้นรถ ไปกินข้าว แล้วก็พามันไปทิ้งไว้

“ หัวหอม "

“ หนูกลัวอาภาพจะเอาหนูไปทิ้งอีก หนูกลัว หนูไม่ไปกับรถนี่ หนูกลัว " มันงอแงผมเองก็ถอนหายใจออกมา

“ ไม่ใช่แบบนั้น กูเอากระเป๋ามึงไปเพราะเอามันใส่เงินมึงไป กูจะเอาไปแลก แล้วไปจัดการซื้อของใช้ให้มึง แล้วเอาเงินไปฝากธนาคาร ก็เลยต้องเอากระเป๋ามึงไปด้วย ก็แค่นั้น " อธิบายมันไปก็เท่านั้นเพราะเหมือนคนที่กลัวก็ยังงอแงไม่ยอมขึ้นรถ

“ ขึ้นรถมาสิวะ " ภาพเร่ง ผมก็ถอนหายใจแล้วหันมองมัน

“ มันไม่ยอมขึ้นอะ "

“ ทำไม "

“ ก็เมื่อวานมึงเอามันไปทิ้ง วันนี้มันก็กลัวว่ามึงจะเอามันไปทิ้งอีก มันเลยไม่ยอมขึ้นรถ " ไอ้ภาพนิ่งไปตอนผมบอก ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินมาย่อตัวลงข้างๆหัวหอม

“ กาลิค "

“ หนูกลัว หนูกลัวอาภาพจะเอาหนูไปทิ้งอีก "

“ ขอโทษนะ " มันพูดออกมาก่อนจะดึงเด็กผู้ชายตรงหน้าไปกอดไว้ " เมื่อวานกูขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ แต่ว่ากูให้สัญญากับมึง ว่ากูจะไม่ทิ้งมึงอีก จะไม่ทำแบบนั้นกับมึงอีก " ภาพกอดกาลิคแน่นขึ้นมันที่ถอนหายใจออกมา " อาภาพขอโทษนะกาลิค ให้อภัยอาภาพได้มั้ย อาภาพจะไม่ทำแบบนั้นกับกาลิคอีก อาภาพสัญญา  "

“ ถ้าจะไม่ทำอีกก็เกี่ยวก้อยสัญญากันสิ " ผมบอก หัวหอมก็เงยหน้าขึ้นมองผมที่ก็ย่อตัวลงไปนั่งข้างไอ้ภาพ " แบบที่มึงขอให้กูสัญญาเมื่อเช้าไง คนเราถ้าเกี่ยวก้อยแล้ว จะไม่ผิดสัญญาหรอกนะ "

“ สัญญานะ "  นิ้วก้อยเล็กๆยื่นไปตรงใบหน้าคมที่ยิ้มออกมา

“ อื้ม กูสัญญา " มันเกี่ยวก้อยกับหัวหอมที่ก็ยิ้มออกมาเหมือนกัน " เพราะงั้นตอนนี้ก็ขึ้นรถได้แล้ว เราจะได้ไปกินของอร่อยๆกัน "

“ ครับ " พยักหน้ารับสั้นๆ หัวหอมยอมขึ้นรถอย่างว่าง่าย ผมปิดประตูรถให้มันไอ้ภาพที่เดินไปอีกฝั่งก็หันมามองผมที่ยังยืนยิ้มอยู่
“ ยิ้มอะไร " มันถาม

“ สัญญากันนะว่าจะไม่ทิ้งกัน " ผมยื่นนิ้วก้อยไปให้มัน รู้สึกว่านิ้วก้อยเดียวที่ยื่นออกไป มันช่างเป็นความรู้สึกที่ทั้งตลก แล้วก็น่ารักน่าเอ็นดูเป็นพิเศษอย่างบอกไม่ถูกเลย 

“ ไอ้สัดเอ้ย " มันเบือนหน้าไปอีกทางเขินๆ ก่อนจะยื่นมือมาเกี่ยวก้อยผมไว้  เราที่ตอนนั้นยิ้มให้กัน " สัญญา "

...............................................................

หายงอนพี่ภาพกันนะ #ยื่นนิ้วก้อย  :mew2:
เค้าง้อ ตัวเองอย่างงอนเค้านะ  เค้าผิดไปแล้วจริงๆ คราวหลังเค้าจะไม่ทำอีกแล้ว

แล้วเจอกันตอนหน้าค่าาา
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ ฝากคนอ่านทุกคนช่วยโปรโมท นิยายเรื่องนี้ให้หนมด้วยนะคะ อ่านกัน อ่านกัน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ ค่า  :กอด1: :L2: :3123: :L1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 19-02-2017 20:59:14
ทำไมภาพใจร้ายแบบนี้ ไม่สงสารหัวหอมบางหรอ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-02-2017 21:04:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-02-2017 21:17:32
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 19-02-2017 21:48:39
 :ruready
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 19-02-2017 21:49:26
   รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 19-02-2017 21:58:17
โอ้นนยยยน่ารักกกก เค้าจีบกันอะค่ะ เค้าจีบกันนนน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 19-02-2017 22:00:47
รอสะสมหลายๆตอนก่อน เดี๋ยวมาอ่านนะคะ สงสารกาลิค ฮือๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 19-02-2017 22:25:23
 :mew4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-02-2017 22:38:03
หัวหอมฝังใจไปแล้ว เฮ้อ สงสารเด็กจริงๆ ต้องพยายามปรับเข้าหาเด็กหน่อยโดยเฉพาะ ภาพ อะ

แล้วจะดีนะถ้าทั้งคู่ลดการพูดมึงกูกับเด็กเนี่ย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 19-02-2017 22:50:16
ขอบคุณฮะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 19-02-2017 23:17:34
พูดเพราะๆกับหัวหอมหน่อยสิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 19-02-2017 23:23:09
น่ารัก  :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 19-02-2017 23:28:45
เป็นคนรักเด็ก อ่อนไหวเป็นพิเศษกับตอนนี้ สงสารหัวหอม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-02-2017 02:35:01
 :3123: :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-02-2017 07:31:42
ช่างเป็นการเลี้ยงลูกที่โคตรห่าม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: armize ที่ 20-02-2017 08:18:21
ส่งสารหัวหอมมาก. น้ำตาไหลเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 20-02-2017 12:05:28
หัวหอมลูกกก มากินหนมบ้านพี่มั้ยย????
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-02-2017 16:08:15
อยากรู้ใครคือแม่กาลิค...
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 20-02-2017 17:44:43
หัวหอมตัวน้อยๆ ทั้งน่ารัก ทั้งน่าสงสาร
ภาพนี่ก้อใจดำพอที่คิดจะทิ้งเด็กเลยนะ แต่ก้ออย่างว่าภาพก้อยังไม่ได้โตพอที่จะคิดได้แบบผู้ใหญ่(ผู้ใหญ่บางคนเองยังคิดไม่ได้เลย)
ดีที่มีขมเตือนสติไว้ ดีที่ภาพยอมกลับไปรับหัวหอม
รอติดตามตอนต่อไปจร้า...^^
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 20-02-2017 19:30:09
 :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 20-02-2017 20:02:13
ภาพห้ามใจร้ายกับหัวหอมอีกนะ

ถ้าทำอีกจะโกรธจริง ๆ

 :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 20-02-2017 21:43:47
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 20-02-2017 23:50:52
เด็กต่างด้าว!!! แล้วจะเอาหลักฐานที่ไหนไปสมัครเรียนล่ะหัวหอมเอ๊ยยยยย  :z3:
นี่เราจริงจังไปป่ะ? :m20:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 21-02-2017 13:18:02
เหมือนหัวหอมจะพูดเก่งขึ้น อ้อนเก่งขึ้น
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 3 - 19.2.60} #หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 21-02-2017 13:41:11
น่าร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 24-02-2017 21:01:38
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 4

   ห้างใหญ่ใจกลางเมืองที่เราเดินทางมาถึง วันนี้โชคดีที่ออกมาเร็วก่อนเวลาห้างเปิดที่จอดรถเลยไม่ใช่เรื่องยากอะไรแถมยังได้ที่ที่ใกล้กับประตูเข้าออกของห้างอีกด้วย จูงมือไอ้หัวหอมเดินเข้ามาให้ห้างโดยมีไอ้ภาพเดินอยู่ข้างๆ

“ เราจะทำอะไรก่อน " ผมหันไปถามไอ้ภาพ

“ เอาเงินไปแลก กูดูค่าเงินวันนี้มาแล้ว ก็โอเคอยู่แลกได้แหละ " มันบอกผมก็พยักหน้ารับ ก่อนจะยื่นกระเป๋าให้มันโชคดีนะที่มีถุงผ้าอยู่ในรถ ไม่งั้นก็ต้องเดินหิ้วกระเป๋าเป้ไอ้หัวหอมไปมา ซึ้งมันแบ๋วเอามากๆ ไม่เข้ากับหน้าเอาซะเลย

   ธนาคารเป็นที่แรกที่เราแวะเข้าเพื่อจัดการแลกเงินตราต่างประเทศนี้ให้เป็นเงินไทยให้เรียบร้อย ยอดเงินเจ็ดหลักต้นๆที่เกิดมาเพิ่งได้จับ ผมกับไอ้ภาพได้แต่เหลือบมองตากัน เรารู้อยู่แล้วว่ามันต้องเยอะ แต่แค่ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้

“ ดูเหมือนเค้าไม่ใช่คนที่ไม่มีเงินจนต้องส่งลูกมาให้คนเป็นพ่อเลี้ยงเลยนะ " ภาพพยักหน้ารับ

“ เอาเงินไปฝากกันเถอะ " มันว่าผมก็จูงมือหัวหอมเดินตามไอ้ภาพไป ดูเหมือนมันวางแผนไว้แล้วว่าต้องแลกเงินธนาคารไหน แล้วต้องไปฝากธนาคารไหน " เราจะเอาเงินฝากเป็นชื่อใคร "

“ ชื่อมันไม่ได้เหรอ " ชี้ไปที่ไอ้หัวหอมอีกคนก็พยักหน้า

“ เราไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับมัน เอาจริงๆเราไม่สามารถที่จะส่งมันเข้าเรียนหรืออะไรเลย แล้วตามกฏหมาย ไอ้กาลิคมันเป็นคนต่างชาติแน่นอนว่ามันอยู่ในไทยได้ไม่เกิน 90 วันเท่านั้น ตามกฏหมายอะนะ "

" 90 วัน! ไอ้เชี้ยย สามเดือนอะนะ จะบ้าเหรอ ถ้าเราหาพ่อแม่ให้ไอ้หัวหอมไม่ทัน มันไม่ต้องอยู่ที่นี่ในฐานะคนหลบหนีเข้าเมืองเลยเหรอวะ "

" แม่มันอาจจะมารับก่อนที่จะครบ 90 วันก็ได้ ก็เลยไม่กล้าส่งเอกสารอะไรมาให้เราเลย ส่งมาแค่เงิน "

“ ผู้หญิงบ้า " ผมบอกมันก็หัวเราะ ไอ้ภาพจัดการเปิดบัญชีฝากเงิน เราเอาเงินฝากไว้เป็นจำนวนเงินถ้วนๆ ส่วนเศษที่เหลือครึ่งแสนมันก็ยื่นให้ผม " ให้กูทำไม "

“ เอาไปซื้อของให้ไอ้กาลิค "

“ โอเค " พยักหน้ารับเก็บเงินใส่กระเป๋าไว้ ผมผ่อนหายใจออกมาตอนที่มองหน้าเด็กผู้ชายที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร กำลังขยับตุ๊กตาหมีเล่นไปมา แล้วจุ๊บลงที่จมูกก่อนดึงมากอดไว้

   ท่าทางน่ารักที่ชวนให้ยิ้มก่อนที่มันจะเดินเข้ามาพิงตัวเองลงที่ระหว่างขาของผม ลูบหัวมันเบาๆ ด้วยความเอ็นดูเพราะไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง

“ อาขม " มันเงยหน้ามองผม

“ หื้ม ? “

“ หิวแล้ว "

“ แปปนึงนะ อาภาพยังทำเรื่องบัญชีไม่เสร็จ "

“ บัญชีคืออะไร ทำไมต้องทำด้วยละ แล้ว.. แล้วเราที่นี่ทำไม "

“ ที่นี่คือธนาคาร " ผมบอก คอยดูนะ ว่ามันจะต้องถามกูต่อไปอีกยาว

“ ธนาคารคืออะไร " มันเริ่มละ

“ ธนาคารก็ คือที่ที่เราเอาไว้ฝากเงิน ถ้าเรามีเงินเยอะๆ ใช้ไม่หมด ถ้าเก็บไว้ที่บ้านก็อาจจะมีคนมาขโมยเงินเราไป เราก็เลยต้องเอา มาฝากไว้ที่ธนาคาร พี่ๆที่ธนาคารก็จะดูแลเงินของเราให้ปลอดภัย เงินที่มึงเอามาก็เหมือนกัน ถ้าเก็บไว้ที่มึงมันจะอันตรายถูกมั้ย  ภาพกับกูเลยต้องเอามาฝากไว้ ในที่ที่ไม่มีใครขโมยไปได้ "

“ แล้วทำไมต้องกลัวคนมาขโมยละ "

“ ก็คนไม่ดีชอบขโมยของไง ถ้าขโมยไปมึงก็ไม่มีเงินใช้ ต้องเก็บให้ดี " จบยัง จบความสงสัยยัง มันมองหน้าผมเอียงหัวไปมาเหมือนยังไม่ค่อยเข้าใจแล้วคิดว่า น่าจะยังไม่หมดความสงสัย

“ แล้วทำไมเค้าต้องเป็นคนไม่ดีละ พ่อแม่ไม่รักเหรอ " หลุดหัวเราะกับความคิดของมัน จะว่าไปก็สงสัยเหมือนกันว่าไอ้เลวๆในข่าวมันเป็นเติบโตมาแบบไหน ถึงกลายเป็นคนไม่ดี  พ่อแม่ไม่รักมึงรึไง๊ หัวหอมกล่าว

“ ไม่ใช่พ่อแม่ไม่รักหรอก มันคงเป็นเหตุผลอื่น "

“ แล้วทำไม..”

“ แล้วมึงคิดว่า ทำไมคนขโมยของถึงไม่ดีละ " ผมถามมันก็นิ่งไปเหมือนไม่คิดว่าผมจะถามกลับ กูรู้วิธีจัดการไอ้คำว่าทำไมของมึงแล้ว ไอ้หัวหอม

“ ก็คนดีจะไม่ทำแบบนั้น " ผมพยักหน้ารับ ก็จริงของมัน " เค้าต้องเป็นลูกน้องของใครสักคนในแก้งค์ของผู้ร้าย "

“ ของผู้ร้ายยังไง "

“ ก็ในการ์ตูนไง ในการ์ตูนนะอาขมมันจะมีผู้ร้ายเป็นคนไม่ดี มาทำร้ายคนดีๆ แล้วก็จะมีคนเก่งๆ มาช่วยเอาไว้ได้ แล้วก็ผู้ร้ายนะจะมีบูกี้แมนสิงอยู่ในตัว บูกี้แมนคือคนไม่ดี เป็นคนที่ไม่น่ารัก "

“ อ่าห๊ะ อย่างงั้นเหรอ " พยักหน้ารับไปแบบนั้นอะ กูไม่เข้าใจ บูกี้แมนคืออะไรวะกูโตมาจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้จักเลย แล้วจากเรื่องธนาคารมันมาถึงเรื่องไอ้บูกี้แมนนี่ได้ กูงง

“ อื้อๆ อย่างงั้น " มันพยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมือมากอดผมไว้แน่น " อาขม หิวแล้ว "

“ กูก็หิวเหมือนกัน " ดึงมันขึ้นมานั่งตักก่อนจะโน้มตัวมันลงไปที่พื้นแล้วรีบดึงขึ้นมา " แฮ่! " อีกคนก็หัวเราะลั่น

“ ฮ่าๆ เอาอีก เอาอีก " โน้มลงไปที่พื้นอีกครั้งให้หัวมันใกล้ถึงพื้น ทำท่ากัดที่ท้องมันก่อนจะดึงขึ้นแบบรวดเร็ว " ฮ่าๆ อาขมมม "
“ หิวแล้ว หิวแล้ว กินพุงเด็กเลย "

“ อ่าาา อย่ากินหนู อย่ากินกาลิคน้าา " เสียงใสที่บอกผม โน้มมันลงไปที่พื้นอีกครั้งก่อนจะดึงมันขึ้นมาแล้วกอดไว้ ตอนที่รู้สึกมีใครบางคนกำลังจ้องมองผมอยู่ สบสายตากับไอ้ภาพที่ก็หลบสายตาไปทางอื่นทันทีตอนที่เห็นแบบนั้น

“ เสร็จยัง " ผมถามมันก็ พยักหน้ารับ

“ อีก ห้านาที " มันว่า

“ อีกห้านาทีเสร็จแล้ว เพราะงั้นขอกินพุงเด็กคำสุดท้าย คราวนี้จะกินเยอะๆเลย นี่แหน่ะ " โน้มมันลงไปจนจะทิ้งพื้นก่อนจะเหวี่ยงมันขึ้นมาแล้วหอมแก้มไปเสียเต็มฟอด ทำท่าเหมือนกัดไปตามตัวมันอีกคนก็เอาแต่หัวเราะ " งั่มๆ "

“ อาขมกินหนู อาขมกินกาลิค "

“ งั่มๆ " ขยับปากที่แก้มมันอีกคนก็เอียงหน้าหนีก่อนจะกอดผมไว้แน่นเหมือนจะบอกให้หยุด ไอ้ภาพที่ลุกเดินมามันยื่นสมุดธนาคารให้ผม

“ เสร็จละเอาไป "

“ ให้กูทำไมอะ มึงเก็บไว้สิ "

“ เก็บไว้ที่มึงน่ะดีแล้ว " มันบอก " เปิดบัญชีด้วยชื่อกู แต่สมุดบัญชีเก็บไว้ที่มึง กูไม่รู้ว่าเลขบัญชีอะไร กูถอนเงินไม่ได้อยู่แล้ว มึงเองไม่มีลายเซ็นกู มึงก็ถอนเงินไม่ได้ เพราะงั้นถ้าใครจะเอาเงินจากบัญชีนี้ก็ต้องยินยอมทั้งสองฝ่ายถูกมั้ย เก็บไว้ที่มึงอะ "

“ โอเค " รับสมุดบัญชีมาใส่กระเป๋าไว้ ไอ้ภาพก็ขยี้หัวเด็กน้อยที่กำลังซบอยู่ตรงอกผม

“ หิวยังมึง "

“ หิวแล้วครับ อาขมก็หิวแล้ว หิวจนต้องกินกาลิคเลย อาขมกินกาลิคตรงนี้ ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้ " มันชี้ไปตามตัวมัน ทั้งแก้ม ทั้งแขน

“ เหรอ อย่างงั้นเหรอ งั้นให้กูเอาคืนให้มั้ย " หัวหอมเงียบ มันเอียงหน้ามองภาพก่อนจะหันมองผม มันคงไม่เข้าใจคำพูดของภาพ แต่ผมก็เหมือนกัน ผมก็ไม่เข้าใจ

“ อะไรของมึง หิวจนเบลอเหรอสัด " 

" ก็.." มันนิ่งไปตอนผมบอก ไอ้ภาพพยักหน้ารับเหมือนคนคิดคำอ้างไม่ออก " ก็คงงั้น หิวแล้ว กินกันดี  กาลิคอยากจะกินอะไร "

“ กินของอร่อยๆ "

“ มันก็อร่อยทั้งนั้นอะ " ก้มลงบอกอีกคน ผมก้มองไปรอบๆ " มึงมีอะไรที่อยากจะแดกเป็นพิเศษมั้ย "

“ ไม่มี มึงอยากจะแดกอะไรก็แดกได้ทั้งนั้น "

“ ข้าวแกงกระหรี่มั้ย " ผมถามก่อนจะก้มมองไอ้หัวหอม " มึงเคยกินรึเปล่า ข้าวแกงกระหรี่อะ " ใบหน้ากลมส่ายหน้า

“ หนูไม่รู้ "

“ ทำไมมึงไม่กินไก่ทอดวะ พิซซ่างี้ ง่ายๆ "

“ มันไม่มีประโยชน์ "

“ มันไม่มีประโยชน์นะครับ " ไอ้หัวหอมพูดตามผม เอื้อมมือไปเขย่าเสื้อไอ้ภาพ มันย้ำ " อาภาพๆ มันไม่มีประโยชน์ "

“ เออ กูรู้แล้ว ไม่ต้องย้ำหรอกนะ เดี๋ยวก็กินตับเลย " คว้าไอ้ตัวเล็กไปอุ้ม มันหอมแก้มหัวหอมไปหลายทีติด เสียงโวยวายที่ดังอยู่แบบนั้น ผมถอนหายใจออกมาตอนที่หยิบมือถือออกมาค้นหาร้านอร่อยๆ ที่มีประโยชน์ในร้านนี้ ก่อนจะเจอเข้ากับร้านที่ถูกใจ

" ไปกินข้าวห่อไข่กัน "

" เคยกินอีกมั้ย ข้าวห่อไข่น่ะ ห๊ะ ไอ้เตี้ย "

" ไม่เตี้ยยยย อย่าว่ากาลิค กาลิคแค่ยังเด็ก เลยตัวเล็กอยู่ " มันเถียงก่อนจะยื่นหน้าไปหอมแก้มไอ้ภาพเสียงฟอดใหญ่ " นี่แหน่ะ ทำโทษอาภาพเลย "

" โอยยยย มุกนี้ พ่อมึงตายไปเลยไอ้หัวหอมเอ้ย " ผมหันไปแซวไอ้ภาพที่มันนิ่งไปตอนโดนไอ้หัวหอมหอมแก้ม หน้าแดงๆของมันจ้องมองคนในอ้อมกอดก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มคืน " น่ารักจริงๆเลยไอ้หัวหอมเอ้ย " ขยี้หัวมันแรงๆด้วยความหมั่นไส้

   เราเดินขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบน ตอนร้านข้าวห่อไข่ ร้านดังที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีผู้คนเท่าไหร่เพราะห้างเพิ่งเปิด ผมมองซ้ายขวาหาโต๊ะนั่งที่ถูกใจ ไอ้ตัวเล็กก็พูดขึ้น

“ กาลิคอยากจะนั่งตรงนั้น ตรงนั้น " มันชี้ไปที่นั่งแบบญี่ปุ่นที่ต้องถอดรองเท้าขึ้นไปนั่ง " ตรงนั้นนะ นั่งตรงนั้นนะครับ "

“ ก็ได้ ก็ได้ " ไอ้ภาพตามใจตอนที่มันปล่อยหัวหอมลงบนพื้น มันก็วิ่งไปจับจองที่นั่งด้านในสุด มือเล็กๆตบที่ฟูกข้างตัวมัน

“ อาขมนั่งตรงนี้ นั่งข้างๆกาลิค นั่งตรงนี้นะ นั่งๆ "

“ ครับๆ นั่งครับผม " หย่อนตัวลงนั่งข้างมันอีกคนก็ดึงตัวเองเข้ามาใกล้ จะว่าไปมันก็เป็นเด็กที่พอสนิทด้วยแล้ว จะขี้อ้อนแล้วก็น่ารักมากเลย ไม่ได้ดื้อแล้วก็ซน งอแงเหมือนหลานผมเท่าไหร่ รายนั้นถ้าไม่ใช่พ่อแม่มัน ฝากใครเลี้ยงก็ไม่มีใครอยากจะเลี้ยงหรอก ทั้งดื้อทั้งซน พูดอะไรก็ไม่เคยฟังทั้งนั้น ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจก็เท่านั้น

“ กินอะไรกันดี " ไอ้ภาพว่าก่อนจะเอาเมนูมาเปิด ผมเปิดไปเรื่อยๆ ก่อนจะเจอกับเมนูข้าวห่อไข่สำหรับเด็ก

“ หัวหอมของมึงชุดนี้นะ น่ากินมั้ย "

“ อาขมให้หนูดูด้วย หนูจะดู " มือมันเอื้อมมาดึง

“ ไม่แย่งของจากมือผู้ใหญ่นะหัวหอม " ผมบอกมัน " มึงต้องขอก่อน ถ้าขอแล้วก็ต้องรอให้เค้าก่อน ไม่ดึงแย่งจากมือนะ "

“ ครับ อาขม อาขมให้กาลิคดูด้วยนะ " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองมาใกล้ๆ มือที่กอดแขนผมคอยอย่างใจเย็น ผมก็เลื่อนเข้าไปใกล้

“ อะ  ดูกันสองคนนะ " สายตาที่ตั้งใจดุของมันเหมือนไอ้ภาพเลย ถ้ามองจากมุมนี้แต่อย่าพูดไป เดี่ยวพี่แกจะใจเสียเอาเด็กไปทิ้งอีก " มึงกินแบบชุดเด็กนะ ดูสิ จานน่ารักอะ เป็นตัวการ์ตูน อังปังแมนด้วย "

“ ครับ แล้วอาขมจะกินอันไหน "

“ กินอันไหนดีเหรอ " ผมคิดตอนที่เปิดไปเรื่อยๆ " กินอันนี้ดีกว่า ข้าวห่อไข่แบบซอสมะเขือเทศท๊อปปิ้งทงคัตสึ "

“ กาลิคจะสั่งพี่คนขายให้อาขมเอง ให้กาลิคทำนะ "

“ สั่งให้ถูกนะมึง " บอกแบบนั้นคนอยากทำก็พยักหน้ารับ

“ แล้วอาภาพอยากจะกินแบบไหน กาลิคจะสั่งให้ "

“ อื้ม เอาเป็นข้าวห่อไข่ลาวาซอสมะเขือเทศ ท๊อปปิ้งโคโรเกะกุ้ง "

“ จำได้เหรอมึง " คนจะสั่งอาหารพยักหน้างึกงักผมก็ยกมือเรียกพนักงาน " สั่งอาหารครับ " 

“ รับอะไรดีคะ "

“ กาลิคจะสั่งอาหารครับ พี่สาว " มันบอกพนักงานก็ยิ้มรับ

“ ได้เลยค่ะ หนุ่มน้อยรับอะไรดีจ๊ะ " 

“ ของกาลิคอันนี้ครับ " มันเปิดไปที่เมนูของเด็ก นิ้วเล็กทีจิ้มลงไป เธอก็พยักหน้ารับ " แล้วก็ของอาขม.. " มันหันมองหน้าผม

“ หึ จำไม่ได้ละสิมึง " ส่ายหน้าไปมาผมผ่อนลมหายใจออกมาปากที่กำลังจะบอกมันก็ยื่นมาปิดปากผม

“ อาขมบอกกาลิค กาลิคจะสั่งให้นะ กระซิบตรงนี้ " ชี้ที่หูตัวเองอีกแหน่ะ

“ สั่งข้าวห่อไข่แบบซอสมะเขือเทศท๊อปปิ้งทงคัตสึ "

“ สั่งข้าวห่อไข่ ใส่ซอสมะเขือเทศใส่ทงคัตสึด้วยครับ "

“ ค่ะ "

“ อาภาพ อาภาพกินอะไร กระซิบตรงนี้ๆ " ชี้ที่หูอีกครั้งก่อนจะโน้มตัวไปหาไอ้ภาพที่ก็ก้มลงมาบอกมัน " ข้าวไข่ลาวาใส่ซอสมะเขือเทศ คาราโอเกะกุ้ง "

“ ไม่ใช่ คาโรเกะกุ้งเว้ย คาราโอเกะใครมันจะไปแดก ไอ้นี่ "

“ อันนั้นละครับพี่สาว " มันบอกพนักงานที่ก็ยิ้มรับ เธอกลั้นขำก่อนจะถามต่อ

“ ไม่ทราบว่ารับน้ำอะไรดีคะ "

“ รับน้ำอะไรดีคะ " หัวหอมทวนคำถามผมก็กระซิบบอกมัน " น้ำเปล่า น้ำแข็งสามแก้วครับ "

“ โอเคค่ะ ขอทวนเมนูก่อนนะคะ " เมนูที่ถูกทวนออกมาถูกต้อง เราพยักหน้ารับเธอก็เดินออกไป หัวหอมหันมาถามผม

“ อาขม อาขม กาลิคสั่งอาหารเองได้แล้ว "

“ ยังไม่ได้นะกูว่า เมื่อกี้มึงจะยังจะสั่ง คาราโอเกะให้ไอ้ภาพกินอยู่เลย " มันทำหน้างอตอนผมบอก

“ ได้ ผิดนิดเดียว " มันเถียงผมก็เอื้อมไปกอดมันไว้

“ หมั่นเขี้ยวมึงจริงๆเลย ให้ตายเถอะ "

“ หมั่นเขี้ยวคืออะไรเหรอ อาขม " มาอีกละ อีหนูทำไม กูว่ากูชักเกลียดคำนี้แล้วนะ

“ คือการที่เรารู้สึกอยากจะทำแบบนี้ " ผมก้มลงไปหอมแก้มมัน บี้จมูกกับแก้มกลมๆที่หัวเราะคิกคักชอบใจ " กับใครสักคน นั่นแหละเค้าเรียกว่าหมั่นเขี้ยว "

“ งั้นกาลิคนะ กาลิคก็หมั่นเขี้ยวอาขมเหมือนกัน " มันดึงตัวเองหอมแก้มผมไปเต็มฟอด

“ หัวหอมเอ้ย ใจกูบางไปหมดแล้ว " น่ารักจนอยากจะฟัดหลายๆที ทำไมมึงถึงช่างอ้อน ช่างพูด แล้วน่ารักน่าฟัดได้ถึงขนาดนี้ แม่มึงทิ้งเด็กน่ารักๆมาให้พวกกูได้ยังไง

“ ใจบาง ? “ มันพูดเสียงเบา " อาขมไม่สบายเหรอ ทำไมใจบาง "
 
“ เอ่อ..” คำนี้กูอธิบายไม่ค่อยถูกแล้ววะ จะบอกว่ามันคือศัพท์วัยรุ่น กูแม่งก็ต้องมานั่งอธิบายอีกว่า ศัพท์วัยรุ่นคืออะไร จะบอกว่ามึงน่ารักจนใจกูอ่อนแอ คือ กูต้องเป็นโรคแน่ๆในทางวิชาการอะนะ

“ ขอเสิร์ฟอาหารค่ะ " โชคดีไปไอ้ขมมึง ผมผ่อนลมหายใจโล่งอกออกมาเหมือนมีคนมาช่วยชีวิตยังไงอย่างงั้น
 
“ ของกาลิคมาแล้ว " จานอาหารรูปอังปังแมนน่ารักดึงความสนใจของมันออกไปได้ในทันที กาลิคที่สนใจกำลังสนใจในจานอาหารตัวเอง ไอ้ภาพก็ยกมือถือมาตรงหน้ามัน

“ ไหนถ่ายรูปหน่อย "

“ กาลิค ยิ้มหวานนนนนนนนน " มันพูดออกมาผมก็ยื่นช้อนให้มัน

“ อะช้อน กินได้เลย "

“ อาภาพ อาภาพถ่ายภาพอาขมด้วย " มันบอก ไอ้ภาพก็ยื่นมือถือมาตรงหน้าผม เอานิ้วจิ้มแก้ม ยิ้มหวานสู้กล้องไอ้หัวหอมก็ประท้วงขึ้นมาอีก " อาขม อาขมต้องบอกว่า ยิ้มหวานนนนนนนนน แบบนี้ด้วยนะ "

“ อะๆ ยิ้มหวานนนนนนนนนน "  ผมหัวเราะก่อนจะหยิบมือถือมาจากไอ้ภาพ " มึงบ้างอะ พูดด้วยนะ ยิ้มหวานนนน "

“ ปัญญาอ่อน " มันบอก หัวหอมกับผมก็มองหน้ากัน

“ ปัญญาอ่อนคืออะไร "

“ มึงรีบทำ ไม่อย่างงั้นกูจะให้มึง ตอบคำถามในหัวข้อชุดปัญญาอ่อนทั้งหมดเลยนะ " ผมขู่อีกคนก็นิ่ง พลางถอนหายใจออกมา
 
“ อะ ยิ้มหวานนนนนนนน " ยิ้มเกร็งๆของหน้าซังกะตายได้อีก โถ่ น่าสงสารได้อีก พี่ภาพกู  " กูกินได้ยัง ไอ้กาลิค "

“ อื้อ กินกันเลย "

   กินอาหารเสร็จเรียบร้อย เราสามคนก็เดินออกจากร้านอาหารมาในโซนของเสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าหลากหลายแบบแขวนเรียงรายแบบชนิดที่ชวนให้หยิบจับไปหมดทุกตัว ไอ้หัวหน้าที่เดินจูงมือผมอยู่ข้างๆผม มันมองขวามองซ้ายเหมือนตัวเองก็เลือกเสื้อผ้าได้แล้วเหมือนกัน

“ มึงดูราคาสิ " ไอ้ภาพหยุดอยู่ที่เสื้อตัวเองก่อนจะยื่นให้ผมดู เสื้อผ้าเด็กธรรมดาดูเบสิคราคา สองพันกว่าบาท ผมยิ้มแห้งๆให้มันที่หลุดหัวเราะออกมา " กูแม่งยังใส่ตัวละ สามร้อยเก้าเก้าเลย "

“ เอาไงดีวะ แพงอะ " ผมบอก มีเงินก็จริงแต่ไม่อยากจะไปสิ้นเปลืองกับอะไรพวกนี้เลยวะ รู้สึกว่ามันไม่คุ้ม เพราะอีกไม่กี่เดือนก็ตัวโตขึ้น เด็กตัวโตเร็วจะตาย

“ ซื้อแค่ที่จำเป็นสิ " หันมองภาพอีกคนก็หันมาอธิบาย " ซื้อของแพงเท่าที่จำเป็น เสื้อผ้าแพงๆก็ควรมีบ้าง สองสามชุดจะได้ใส่เวลาไปไหนที่สำคัญๆ แล้วก็ค่อยไปซื้อพวกใส่อยู่บ้านที่อื่น "

“ โอเคตามนั้นก็ได้ กูอยากจะซื้อรองเท้าผ้าใบเท่ๆให้หัวหอมสักคู่มึงว่าไง "

“ ก็แล้วแต่มึง " มันบอก " กางเกงขายาวสีดำตัวนั้นสวยวะ " มันชี้ไปผมก็พยักหน้ารับ ไอ้ภาพหยิบมาให้ผมที่ก็เอาไปทาบตัวหัวหอม

“ ต้องไปลองวะ จะได้รู้ว่าใส่ได้รึเปล่า " ผมพูดกับตัวเองก่อนจะเลือกเสื้อผ้าอีกสองสามชุดแล้วก้มลงบอกอีกคน

“ หัวหอมไปลองเสื้อผ้ากัน "

“ ครับ " มันเดินตามผมไปอย่างว่าง่าย ไอ้ภาพที่หย่อนตัวนั่งลงตรงหน้าห้องลองเสื้อผ้า

“ กูนั่งรอตรงนี้นะ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับสั้นๆ จะว่าไปก็มีผู้ชายหลายคนกำลังนั่งรออยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ผมที่เข้ามาในห้องลองเสื้อกับไอ้หัวหอมตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับแม่เด็กคนอื่นๆที่กำลังจับลูกชายตัวเองลองเสื้อผ้าอยู่ยังไงอย่างงั้น " ฟิวลิ่งครอบครัวสุขสันต์มาเต็มเลยไอ้เหี้ย "

“ อาขม " หัวหอมเอ่ยเรียกผมที่ก็นั่งลงตรงหน้ามัน " กาลิคต้องใส่กางเกงเหรอ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ " มึงต้องลองนะ จะได้รู้ว่ากางเกงตัวนี้ใส่ได้รึเปล่า ใส่แล้วเท่ห์มั้ยจะได้ซื้อไง อะ ถอดกางเกงออกเลย " ผมจัดการใส่กางเกงขายาวให้มัน ไอ้เด็กนี่ก็แปลก ใส่เหี้ยอะไรก็ดูดีน่ารักไปหมด คิดสภาพว่าถ้าใส่ชุดบอลมันก็คงจะดูดีอีก แต่กับหัวหอมผมอยากจะให้มันแต่งตัวเท่ๆ ฮิปๆ ผมชอบอะไรแบบนี้ " ดูดีวะ อึดอัดมั้ย "

“ ไม่ครับ "

“ วิ่งออกไปให้อาภาพดูไป ว่าโอเครึเปล่า ถ้าอาภาพบอกว่าโอเคเราก็เอาตัวนี้ "

“ ครับ " มันวิ่งออกไปหาอีกคนอย่างกระตือรือร้น ผมได้ยินเสียงมันแว่วมาจากข้างนอก " อาภาพ อาขมให้กาลิคมาถามอาภาพว่า กาลิคใส่กางเกงตัวนี้แล้วหล่อรึเปล่า "

“ หล่อครับ " มันตอบก่อนเสียงวิ่งจะเปิดประตูลองเสื้อเข้ามา

“ อาขม อาภาพบอกว่าหล่อ "

“ โอเค งั้นก็เอาตัวนี้ แล้วก็ลองตัวนี้สิ " คราวนี้เป็นกางเกงยาวประมานหัวเข่าสีกรมท่า  สีน้ำตาล แล้วก็ดำ จัดการลองมันทั้งหมด ถอดใส่จนคนโดนลองเริ่มงอแง

“ ไม่ใส่แล้วนะ กาลิคไม่อยากจะใส่แล้ว " มันพูดเสียงงอแงก่อนจะดึงตัวเองมากอดคอผม " กาลิคใส่ได้ กาลิคไม่ต้องลองหรอกอาขม "

“ ขี้เกียจแล้วละสิมึง "

“ ไม่อยากจะใส่แล้ว " มันว่า

“ งั้นลองเสื้อนี้อีกตัวนึง "

“ ไม่เอาแล้วววว กาลิคจะไปหาอาภาพ " มันว่าแบบนั้นก่อนจะวิ่งออกไปทันที มือที่จะคว้ามันไว้ได้แค่คว้าลมเปล่าๆ ผมถอนหายใจ ก่อนจะเคว้าเอาเสื้อที่ลองแล้วเดินออกมาจากห้อง

“ มึง ยังลองไม่เสร็จเลยนะ ไอ้หัวหอม " ผมเอ่ยบอกกับไอ้ภาพที่หลุดหัวเราะออกมา ตอนที่ก้มลงมองหัวหอมที่ซุกอยู่ที่ระหว่างขามันแล้วกอดมันไว้ 

“ ใส่ด้ายยยยยยยย " มันลากเสียง

“ ไหนมึงซื้อไรบ้าง " ไอ้ภาพคว้าเสื้อที่ผมถือมาดู

“ กางเกงขายาวตัวนี้แล้วก็ กางเกงขาสั้นสองตัวเสื้อเชิ้ตตัวนี้ แล้วก็เสื้อตัวนอกอีกสองตัว " ผมพยายามซื้อสีที่พอใส่แล้วจะสามารถใส่ได้นานๆ แบบ เสื้อนอกก็เลือกสีดำธรรมดาเป็นทรงเหมือนเสื้อหนาวที่ใส่เที่ยวได้  อีกตัวก็สีขาวปักตัวเองเก๋ๆบนอกทรงคล้ายๆกัน ส่วนเชิ้ตก็เอาสีขาวปักลายแบรนด์หัวใจที่หน้าอก  " แต่มันยังไม่ได้ลองเชิ้ตเลย "

“ มันใส่ได้แหละ " ไอ้ภาพบอกปัด พอเห็นเด็กอ้อนหน่อยแม่งก็จะไม่ให้ทำอะไรละ

“ ไม่ได้มึง มันแพง ถ้าใส่ไม่ได้ขึ้นมา เปลืองเงิน " ผมบอกมันก็จะย่อตัวลงสะกิดอีกคน " ไอ้หัวหอม หันมานี่ "

“ งื้ออออออ อาภาพ หนูไม่อยากใส่แล้ว " แหน่ะ รู้อีก ว่าต้องอ้อนใคร

“ ตัวเดียวเองมึงนะ มันแพงอะ ถ้าไม่ลองแล้วเกิดจะใส่ ใส่ไม่ได้เปลืองตังค์นะ นะ หัวหอมคนดีของอาขม นะ นะ น้า " ผมสะกิดเรียกมันไอ้ภาพก็หัวเราะ " หัวเราะเหี้ยไรมึง "

“ นะ นะ น้าา ของมึงอะ " มันว่า ก่อนจะพูดเสียงเบา  " น่ารัก " ผมนิ่งไปตอนที่ได้ฟังทำไมถึงรู้สึกแปลกวะ ปกติมันก็ชมแบบนี้ไม่เห้นจะรู้สึกอะไร คงเพราะเมื่อก่อนไม่ได้พูดคำเดียวแบบนี้มั้ง มันมักจะมีคำอื่นมาด้วยแบบ ' ไอ้เหี้ยทำผมทรงนี้น่ารักวะ ' ' เออขม มึงแต่งตัวแบบนี้น่ารักวะ ' แต่พอฟังคำว่า น่ารัก สั้นๆนี่ ถึงกับไปไม่เป็นเลยกู  " กาลิคให้อาขมลองเสื้อหน่อยสิ ตัวเดียวเอง นะ เสร็จละเดี๋ยวไปซื้ออีกร้านก็ไม่ต้องลองแล้ว "

“ จริงเหรอ " มันเงยหน้าขึ้นมองภาพ อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ ถ้ามันลองอีก กูจะจัดการให้ "

“ จัดการยังไงเหรอ " มันถามไอ้ภาพก็คิดก่อนจะยิ้มแล้วก้มลงไปกระซิบอีกคน

“ ให้อาขมลองเสื้อหน่อยนะ "

“ ครับ " พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายผมก็เหล่

“ อะไรกันวะ "

“ ความลับ " ภาพพูดสั้นๆ ผมก็ส่ายหน้าไปมาไม่สนใจ จัดการลองเสื้อให้หัวหอมเรียบร้อย ใส่ได้ ดูดี ผมก็เดินไปจ่ายเงิน ไอ้หัวหอมที่วิ่งตามผมไปในตอนนั้น ระหว่างรอผมก็เหล่มองไอ้ภาพที่ยังนั่งอยู่ทีเดิมไกลจากเค้าเตอร์คิดเงิน
 
“ หัวหอม " ผมเอ่ยเรียกมันอีกคนก็เดินเข้ามาใกล้

“ ครับ "

“ เมื่อกี้อาภาพมึงบอกวาจะทำโทษอะไรกู "

“ บอกว่าจะทำแบบที่กาลิคทำ " มันว่าก่อนจะเอื้อมมือมาดึงเสื้อผม " อาขม มานี่สิ กาลิคจะทำให้ดู " ผมย่อตัวลงนั่งข้างๆมันแล้วใส่ตอนนั้น มือเล็กๆก็ดึงคอผมเข้าไปกอด มันหอมแก้มไปเต็มฟอด " อาภาพจะทำโทษอาขมแบบนี้เลย "
 
   ผมเข้าใจทุกอย่างที่มันพูดเลยในตอนนั้น การทำโทษของไอ้หัวหอมมันเป็นแบบนี้จริงๆ นั่นคือการหอมแก้มแรงๆไปเลยเต็มฟอด

“ อาขมกลัวมั้ย " ผมยิ้มกว้างออกมาตอนที่มันถาม ส่ายหน้าไปมาก่อนจะหอมแก้มไอ้ตัวเล็กคืนไป ตอนที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ผมพูดกับตัวเอง

“ ไอ้เหี้ยภาพจะทำแบบนั้นจริงๆเหรอวะ หึ.. หลอกเด็ก "

...............................................................

อยากจะเขียนนิยายเรื่องนี้ ให้น่ารัก เข้มข้นนิดๆ ใสๆแบ๊วๆ มีความจริงบ้าง ความเท็จบ้าง ปะปนกันไป
อยากให้อ่านกันแบบสนุกๆ เนอะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
คลายเครียดจากนิยายเรื่อง #ฟานคีย์ ที่เครียดมาสักพักนึง
ป.ล. หัวหอมน่ารักกกกกกกกก ขี้อ้อน~ ชอบเด็กขี้อ้อน อ้อนให้ อาภาพ อาขม หลงรักกันไปเล๊ย~
:กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ หนมจะได้รี โปรโมตนิยายตัวเอง #มองอ่อน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 24-02-2017 22:19:40
กรี๊ดดดด หัวหอมน่ารัก ขี้อ้อนอะไรเบอร์นั้น
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 24-02-2017 22:47:46
น้องหัวหอมน่ารัก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-02-2017 22:54:04
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
กาลิคจะน่ารักไปถึงไหนลูก อยากได้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-02-2017 22:56:34
หลงหัวหอมอะ น่ารักจริงๆ อยากให้หัวหอมเป็นลูกแท้ๆ ของภาพจริงๆ เลย 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 24-02-2017 22:57:37
หลอกเด็ก หรือว่าเต๊าะผู้ใหญ่คร้าาาาา
คิดดีๆนะขม 555555555 #ฟิลลิ่งแฮปปี้แฟมิลี่ ^0^
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 24-02-2017 23:02:58
อย่าพูดหยาบคายต่อหน้าเด็กสิ พ่อ ๆ เรียกไอ้ก็ไม่ได้นะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-02-2017 23:03:17
กาลิคตัวน้อยน่ารักจริง ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-02-2017 23:05:40
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 24-02-2017 23:47:17
น่าร้ากกกกกกก

ชุดคำถามต่อไปเป็น... ทำไมถึงเรียกอาขมว่ามึง แล้วอาภาพเรียกตัวเองว่ากู เอออออ เอาสิ๊!!!

ไม่อยากให้เด็กจำไปใช้อ่าาา  :mew2:

เจ้าหัวหอมน้อยจะอยู่ยังไงล่ะถ้าอาๆไปเรียนหนังสือ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 24-02-2017 23:49:22
ฝังใจเรื่องหัวหอมถูกทิ้ง ร้องไห้น้ำตาหยดแหมะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 25-02-2017 00:28:55
ครอบครัวสุขสันต์ อิๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 25-02-2017 00:53:08
 :impress2: หนูน้อยน่ารักมากๆ ครอบครัวสุขสันต์จริง ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-02-2017 01:13:51
ครอบครัวสุขสันต์
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 25-02-2017 02:09:59
ชื่อเรื่องออกแนวสนุกไม่คิดว่าจะมีดาม่าด้วยเสียฟิวเลย
ขออย่ามีแบบนี้อีกนะคัฟรับไม่ได้จริงๆอ่านไปน้ำตาไหลไป :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 25-02-2017 08:50:47
หัวหอมน่ารักมากๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 25-02-2017 12:55:09
ฟค.หัวหอม >||<
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 25-02-2017 13:55:27
ภาพหวั่นไหวล่ะสิ :katai5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 25-02-2017 14:41:11
หลงหัวหอมกันละ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: fyfh34 ที่ 25-02-2017 16:22:09
พึ่งมาอ่านค่ะ สนุกมากเลย จะคอยติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-02-2017 16:37:26
ครอบครัวสุขสันต์~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: เมื่อนั้นฝันว่า ที่ 25-02-2017 16:46:25
แพ้เด็กขี้อ้อน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: wasu ที่ 25-02-2017 21:57:22
หลงรักหัวหอมมมมมมม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 26-02-2017 01:18:14
ภาพนางเอาจริงนะขม ทำเล่นไป เอ้ออออ
กาลิคก็ยังน่ารักเหมือนเดิมเลย น้องหัวหอม งื้อออ แพ้เด็ก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 26-02-2017 07:45:45
 o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 26-02-2017 20:09:22
นี่มันครอบครัวสุขสันต์ชัดๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 26-02-2017 20:24:55
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 5

   เราเดินออกจากร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ญี่ปุ่นในห้างที่ได้เสื้อผ้าของไอ้หัวหอมออกมาอีกถุงใหญ่ หลังจากที่ก่อนหน้านั้นไปก็เดินเข้าไปช็อปในแบรนด์สวีเดนมา

" กูว่าพอแล้วมั้ง " ไอ้ภาพบอกผมก็พยักหน้ารับ " กูจะเอาของไปเก็บก่อน มึงรอแถวนี้นะ "

" กูจะรอมึงอยู่ในร้านขายหนังสือนะ จะไปซื้อหนังสือการ์ตูนให้ไอ้หัวหอมมัน "

" โอเค " ภาพเดินออกไป ไอ้ตัวเล็กที่มองตามมันเงยหน้าขึ้นมาถามผม

" อาขม อาภาพไปไหน "

“ เอาเสื้อผ้ามึงไปเก็บที่รถ " ผมบอก " หัวหอมไปดูหนังสือกัน กูจะซื้อหนังสือการ์ตูนไว้อ่านให้มึงฟังตอนกลางคืนก่อนนอนไง "

“ ต้องอ่านด้วยเหรอ "

“ แล้วมึงไม่อ่านเหรอ " ผมถาม อีกคนก็ส่ายหน้า

“ ไม่อ่าน กาลิคไม่เคยอ่าน " มันว่า

“ ถ้าอ่านมึงหลับฝันดี " ยักคิ้วให้มันอีกคนก็ทำหน้างงใส่อีกเหน่ะ สมัยก่อนตอนเด็กๆช่วงเวลาที่มีความสุขคือ ตอนที่แม่นั่งอ่านการ์ตูนให้ฟังก่อนนอน เสียงขึ้นลงเป็นจังหวะบางทีก็ลุ้นบางทีก็ยิ้ม ผมเลยคิดอยากจะซื้อการ์ตูนอ่านให้ไอ้หัวหอมอ่านบ้าง มันจะได้มีช่วงเวลาแบบนั้นเหมือนผม

" จะหลับฝันดีไม่มีบูกี้แมนเหรอ "

" ใช่แล้ว " จูงมืออีกคนเดินเข้าไปในร้านหนังสือที่แบ่งเป็นโซนต่างๆ ตรงมุมหนังสือเด็กนั้นมีเด็กหลายๆคนนั่งอ่านหนังสืออยู่ ผมปล่อยมือมันให้เข้าไปในนั้น มันที่นั่งลงดูหนังสือข้างๆเด็กคนอื่นด้วยความสนใจ ผมเองก็ละสายตามาหาหนังสือการ์ตูนที่เหมาะกับมันบ้าง

   หนังสือการ์ตูนหลากเล่มที่ใช้อ่านก่อนนอนถูกผมเปิด พลิกดูไปมาเลือกเล่มที่น่าสนใจที่สุดมาสองสามเล่ม เป็นหนังสือที่มีภาพ บางอันมาก็เป็นสามมิติ สวยดี

“ อาขม อาขม กาลิคอยากได้ " มันวิ่งเอาหนังสือระบายสีที่มีสติกเกอร์มาให้ผมดู " กาลิคจะเอาไประบายสี "

“ แล้วมึงมีสีเหรอ " ผมถาม มันก็ส่ายหน้า

“ อาขมก็ซื้อให้กาลิคสิ "

“ ชิ้นเดียวนะ ซื้อได้แค่ชิ้นเดียว แน่ใจนะ ว่าจะซื้ออันนี้ "

“ แน่ใจ " มันพยักหน้ารับผมก็ยิ้ม

“ งอแงจะเอาอย่างอื่นด้วยละน่าดู " กาลิคกอดหนังสือการ์ตูนที่ตัวเองอยากได้ไว้ ก่อนจะวิ่งออกไปตอนที่ไอ้ภาพเดินเข้ามา มันที่ชี้ชวนให้ดูหนังสือภาพที่มันอยากได้

“ มึงเสร็จยัง " มันถามผมก็พยักหน้ารับ

“ เสร็จแล้ว กำลังจะไปจ่ายเงิน หัวหอมเอาหนังสือมึงมากูจะไปจ่ายเงิน " ผมบอกอีกคนก็ก็ยื่นหนังสือมาให้

“ แล้วนี่มึงจะไปไหนต่อ "

“ กลับบ้านนอน " ไลฟ์สไตส์สโลวไลฟ์ชิบหาย เดินไปต่อคิวจ่ายเงินระหว่างรอ ผมหันไปเจอหนังสือภาพเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็ก เอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาตอนเปิดอ่านผมก็หัวเราะอยู่นาน จนไอ้ภาพเดินเข้ามาถาม " หัวเราะอะไรมึงคนเดียว "

“ หนังสือเลี้ยงเด็กนี่ เค้าบอกว่า เด็กช่วงอายุ 2-4 ขวบจะมีความอยากรู้อยากเห็น จะถามถึงสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ กูเลยคิดถึงคำว่าทำไมของไอ้หัวหอมไง ทำไมอะ ทำไมอะ ทำไมอะ ตลก "

“ มึงตลกง่ายดีนะไอ้เหี้ย " มันว่า ผมก็ยกไหล่

“ ก็คิดถึงมันแล้วกูตลก ซื้อเล่มนี้ด้วยดีกว่า พัฒนาการลูกน้อย "

“ มึงดูจริงจังนะ ทั้งๆที่ว่า บางทีแม่มันอาจจะมารับกลับก็ได้ หลังจากหมดสามเดือนนี้ "
 
“ แล้วทำไมมึงถึงคิดว่า แค่สามเดือนเลี้ยงๆไปเถอะ ให้รอดๆไป รอแม่มันมาเคลียร์แล้วจบๆ ทำไมไม่คิดว่า อยากทำสามเดือนนี้ให้มันสนุกวะ กูว่าสร้างความทรงจำไว้ก็ดีนะ ต่อไปถ้ามันไม่ได้อยู่กับเราจริงๆ แต่ไอ้หัวหอมจะมีความทรงจำดีๆของเราติดไป "

“ ความเป็นแม่สูงสัด " มันบ่น

“ ห๊ะ ? “ ผมเอียงหน้าจะหาเรื่องมันอีกคนก็ยกไหล่

“ กูแค่รู้สึกว่ามึงดูแลไอ้หัวหอมดีมาก ยังกับแม่คนเลย "

“ ก็มึงไม่ทำอะ " มันบอก " ถ้ากูไม่ทำอีกคนมันคงต้องอยู่แบบอดๆอยากๆอะ  "

“ มึงก็มากไปมั้ง "

“ ไม่มากหรอกไอ้เหี้ย ดูจากสันดานมึงตอนนี้กูยังดูออกเลย ถ้ามีมึงคนเดียวตอนนี้ไอ้หัวหอม แม้แต่ข้าวก็ยังไม่ได้กินมั้ง แม่งมึงคงเอาแต่นอน "

“ มากไป ถ้าไม่มีมึงกูก็ทำได้เถอะ "  เหลือบมองมันด้วยหางตา ไอ้ภาพก็ก้มมองผมแบบหาเรื่อง

“ ลองเลี้ยงมันดูสักวันมั้ยละ แบบไม่มีกู  "

“ กาลิค " ภาพก้มลงไปพูดกับอีกคน " ขมบอกว่า มันจะให้กูเลี้ยงมึงคนเดียว มึงโอเคมั้ย "

“ อาขมจะไปไหน " หัวหอมเดินเข้ามากอดขาผมไว้ " กาลิคไม่อยู่กับอาภาพสองคนนะ กาลิคจะอยู่กับอาขมด้วย "

“ เห็นมั้ย ไม่ใช่กูเลี้ยงมันไม่ได้ แต่มันไม่ยอมให้กูเลี้ยงมันคนเดียวมากกว่า "

“ นี่มึงเล่นมุกนี้เลยเหรอ สัด " ยักไหล่ไหวๆ แต่ไอ้หัวหอมก็ยังไม่รู้ตัว ยังคิดว่าผมจะทิ้งมันให้อยู่กับไอ้ภาพสองคนเหมือนเดิม

“ อาขม อาขมอย่าทิ้งกาลิคไป กาลิคไม่อยากจะอยู่กับอาภาพสองคน "

“ ทำไมละ " ผมถาม

“ กาลิคกลัวอาภาพเอากาลิคไปทิ้งอีก " สายตากลมที่มองผม สองมือที่กอดขาไว้แน่น ท่าทางกลัวถูกทิ้งของผมไอ้ภาพก็ถอนหายใจออกมา

“ ตราบาปจนตายแน่มึง ไอ้ภาพเอ้ย " ตบไหล่ร่างสูงเบาๆ ผมย่อตัวลงบอกหัวหอม " มันไม่เอามึงไปทิ้งหรอก มันไม่กล้าหรอก ไม่ต้องกลัว ภาพก็สัญญากับมึงแล้วนี่ว่าจะไม่ทิ้งน่ะ "  มันก้มหน้าลงแม้ผมจะพูดยังไงแววตามันก็ยังดูไม่ค่อยเชื่อใจในตัวไอ้ภาพเท่าไหร่ " หัวหอม "

“ กาลิคอยากจะอยู่กับอาขม แล้วก็อาภาพด้วย อยากจะอยู่กับทั้งสองคนเลย ไม่อยากจะอยู่กับแค่อาขมคนเดียว หรือว่าอาภาพคนเดียว กาลิคกลัว "

“ กลัวอะไรวะ ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวเลย "

“ กลัว กลัวว่าจะอาขมกับอาภาพจะพากาลิคไปให้คนอื่น พาไปให้คนอื่นแบบที่หม่ามี๊ทำ ก็กาลิคไม่อยากจะไปนี่น่า กาลิคอยากจะอยู่กับอาขมกับอาภาพ กาลิคมีความสุขแล้ว "

" ทั้งๆที่มึงมาอยู่กับกูแค่วันเดียวเอง อย่างงั้นเหรอ " ผมถามมันก็พยักหน้ารับ หัวใจผมราวกับถูกบีบรัดแน่นตอนที่ได้ฟังคำพูดของคนตรงหน้า แววตากลมที่สดใสหม่นหมองลงถนัดตา ราวกับว่ามันกำลังคิดถึงเรื่องราวแสนเศร้าของมัน

“ หม่ามี๊ชอบพากาลิคไปให้คนอื่น แต่ว่าไม่ว่าจะพาไปให้ใคร ก็มีใครสนใจกาลิคเหมือนอาขม อาภาพเลย มีแต่คนไม่ชอบกาลิค ไม่รู้ทำไม เค้าถึงไม่ชอบกาลิค แต่กาลิคจะเป็นเด็กของอาขมอาภาพนะ จะไม่งอแง จะไม่ดื้อ แต่อาขมอาภาพอย่าเอากาลิคไปให้คนอื่นเลยนะ อย่าทิ้งกาลิคไปนะ " ผมคว้ามันมากอดไว้แน่นในตอนนั้นผมไม่อยากจะรับฟังอะไรอีก อยากจะให้มันหยุดคิดถึงสิ่งเศร้าๆที่มันต้องเจอมาด้วย

“ ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ต้องคิดถึงมัน กูไม่ทิ้งมึงหรอกไม่ต้องกลัว ภาพเองก็ด้วย "

" อื้ม " ไอ้ภาพขานรับก่อนจะยื่นมือมาลูบหัวมัน

" เราสัญญากันแล้วไง เกี่ยวก้อยแล้วไง มึงจำไม่ได้เหรอ "

“ กาลิค จำได้ " มันพยักหน้ารับ ผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ เราไปซื้อของกันดีกว่า ของใช้เข้าบ้าน แล้วก็มื้อเย็น เย็นนี้กินไรกันดี " 

   ซื้อของใช้ส่วนของไอ้หัวหอมเรียบร้อย พ่วงด้วยของใช้ในบ้านที่ยังขาดอยู่ มื้อเย็นวันนี้เป็นไก่ทอดเคเอฟซีเช็ตใหญ่ เพราะผมกับไอ้ภาพแน่นอนว่าเราทำกับข้าวไม่เป็น ไอ้โมเม้นท์ซื้อของสดกลับไปทำกับข้าวให้มันกิน เพื่อโภชนาการแน่นอนว่าไม่มีทางเกิดอะไรแบบนั้นหรอก

   แต่พวกกับข้าวง่ายๆ ผมยังพอทำได้ แต่ไอ้ภาพนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย อีกอย่างเราไม่มีอุปกรณ์สำหรับทำครัวหรอก แม้จะมีครัวก็เถอะ ความขี้เกียจมันสูงมาก อาศัยกินข้าวมหาลัยก่อนกลับถ้าไม่มีตังค์ ไม่ก็ฝากท้องกับร้านในห้าง เป็นผู้ชายบอยๆที่ไม่สนใจอะไรพวกนี้โดยแท้จริง แดกได้ทั้งนั้นแหละ ไม่สนคุณประโยชน์ใดๆ ให้มันอิ่มก็พอ

“ ถึงบ้านแล้ว " หัวหอมเปิดประตูบ้านให้พวกผมขนของกันขึ้นมา วางของทั้งหมดลงที่พื้นหน้าห้องช้าๆ ก่อนจะลากตัวเองมานั่งบนโซฟาด้วยความเมื่อยล้า ของเยอะแต่ละโภบอยากจะขนให้หมดทีเดียวสองคนมันก็แบบนี้ ไอ้ภาพผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่มันที่นั่งข้างผม ไอ้หัวหอมก็ทำท่านวดๆ " อาภาพ กาลิคจะนวดให้ อาภาพจะได้มีแรง "

“ โอ๊ยๆ จะเป็นลมแล้ว " ผมแสดงท่าทางที่เหมือนจะเป็นลมอีกคนก็ หยิบกระดาษบนโต๊ะมาพัดให้เบาๆ

“ อาขม อาขมไม่เป็นไรนะ " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองขึ้นมานั่งบนตัก มือน้อยๆลูบแก้มผมก่อนจะหอมแก้ม " กาลิคเพิ่มพลังให้แล้วไม่เป็นไรแล้วนะ "

“ อื้ม " ผมหลุดหัวเราะออกมาตอนที่กอดมันไว้ไอ้ภาพก็ท้วง

“ แล้วกูละ ไม่เห็นมึงเพิ่มพลังให้บ้างเลย ลำเอียงเหรอวะ "

“ อาภาพ ลำเอียงคืออะไร " คนโดนถามนิ่งผมก็หัวเราะ

“ ฮ่าๆ โดนเข้าให้แล้วครับ เซ็ตคำถามทำไม ชุด ลำเอียงคืออะไร " 

“ ถามอาขมสิ " ไอ้ภาพโยนมาให้ผม ไอ้หัวหอมก็หันมามองหน้าผมเหมือนกำลังรอคำตอบ

“ อ้าว ไอ้สัด นี่มึงโยนขี้ให้กูเหรอ " หุบปากที่กำลังหัวเราะค้างอยู่แค่นั้น

“ อาขม ลำเอียงคืออะไร " คนอยากรู้รบเร้า ภาพก็หัวเราะ

“ ลำเอียงก็คือมันไม่เท่ากันไง " ผมบอก " สมมุติว่ามึงมีขนมอยู่ในถุงหลายชิ้น ถ้ามึงให้ภาพ สามชิ้น ให้กูชิ้นเดียว นั่นก็คือมึงลำเอียง "

“ รำเอียงไม่ใช่แบบนี้เหรอ " มือหนาตั้งวงรำก่อนจะเอียงตัว เด็กน้อยที่เพิ่งคำอธิบายไปจากผมก็ขมวดคิ้ว

“ อย่าไปสนใจคนบ้าเลยหัวหอม " ดึงหน้ามันให้มาสนใจผม 

“ แล้วลำเอียงแบบนั้นคืออะไร " ผ่อนลมหายใจออกมา โอยยยยยย ไอ้เหี้ยภาพมึงแม่งงงง

" ฮ่าๆ " ไอ้ภาพหัวเราะ เสียงหัวเราะที่มีความสุข ยิ่งทำให้ผมยิ่งยั๊วะ คือกูยิ่งเหนื่อยๆอยู่ เพลียก็เพลีย ยังต้องมาเคลียร์มุกเหี้ยๆของมึงกับเด็กที่ไม่รู้ประสาอีกเหรอวะ สัด!

“ คือ.." ความโกรธของผมเหมือนกรุ่นขึ้นช้าๆ ตอนที่มองหน้ามันที่ยังหัวเราะไม่หยุด ราวกับภูเขาไฟจะระเบิด " คือการรำชนิดนึง รำคืออะไร คือ การแสดงศิลปะอย่างนึงของไทย การแสดงคืออะไร การแสดงก็คือการทำสิ่งต่างๆให้คนอื่นดู เหมือนกู " ผมง้างมือขึ้นสูง ตบลงไปแรงๆที่หลังไอ้ภาพแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

   เพี๊ยะ!!

“ ไอ้เชี้ยยยยยยยขม! กูเจ็บ! ” มันร้องลั่น

“ คราวนี้มึงอยากรู้อะไร เพิ่มเติม ถามไอ้ภาพนะ กูจะไปจัดของละ " ลุกขึ้นจากโซฟาที่ตัวเองด้วยความหงุดหงิด

   การตอบคำถามว่าทำไมเยอะๆ ชวนให้ผมอยากจะพ่นไฟออกมาแบบไม่มีสาเหตุ มันหงุดหงิด มันอยากจะหงิกมือทั้งยี่สิบของตัวเอง มันอยากจะตะโกนออกไป แบบ ' โอ๊ยยยย เชี้ย กูไม่รู้แล้วไอ้เหี้ยเอ้ยยย ไปถามคนอื่นไป เลิกถามกูสักทีเถอะ  ' โดยไม่สนอะไร แต่ก็ทำไม่ได้ ไง นั่นเด็ก การตอบคำถามคือพัฒนาการของมัน แต่กูก็ทำใจตอบอะไรแบบนี้นานๆไม่ได้เหมือนกันเว้ย!!!

“ ขมโกรธมึงแล้วกาลิค มึงถามเยอะ "

“ ไม่ได้โกรธหัวหอม " ผมบอกก่อนจะชักสีหน้าใส่ไอ้ภาพ คือถ้ามึงไม่ทำเป็นรำเอียงๆ อะไรของมึงแม่งก็จบแล้วไง นี่ไม่จบก็เพราะมึงนั่นแหละ " กูโกรธมึงมากกว่า "

“ อ้าว เรื่องแค่นั้นอะนะ " มันว่า

“ เออ กูรำคาญ! “ ย้ำกับมันเต็มเสียง สีหน้าหงุดหงิดของผมชวนให้ไอ้หัวหอมมีท่าทีแปลกไป และเห็นทีว่าผมในตอนนี้ควรจะใจเย็นลงหน่อยแล้ว " กูไม่ได้โกรธมึงที่มึงถามนะหัวหอม มึงถามได้เพราะมึงอยากรู้ ก็ถามมาได้เลย แต่ไอ้ภาพไม่ช่วยอธิบายเหี้ยอะไรแล้ว ยังมีทำให้กูต้องอธิบายเพิ่มขึ้นอีก กูก็เลยหงุดหงิดไอ้ภาพ กูไม่ได้หงุดหงิดมึงนะ มึงถามได้ " เด็กน้อยพยักหน้ารับมันที่วิ่งจากโซฟามาหาผม สองมือที่กอดผมไว้

" อาขมอย่าหงุดหงิดกาลิคนะ "

“ ไม่หงุดหงิดมึงหรอก " ผมลูบหัวมันผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ อารมณ์ก็เริ่มเย็นลง " มานั่งนี่มา " อุ้มมันขึ้นมานั่งบนเก้าอี้กระดาษบิลที่อยู่ในกระเป๋า พลิกข้างหลังแล้วเขียนคำว่า ' ลำเอียง / รำเอียง ' ลงไป " สองคำนี้อ่านเหมือนกัน แต่เขียนไม่เหมือนกันก็เลยคนละความหมายกัน ลำเอียงอันแรก คือ มึงมีขนมอยู่หนึ่งถุง ให้ไอ้ภาพสามอัน ให้กูอันเดียว นั่นคือลำเอียง มันไม่เท่ากัน ส่วนอันที่สอง คือ รำเอียงแบบนี้ " ผมเปิดคลิปรำในมือถือแล้วยื่นให้มันดู " แบบนี้ เค้าเรียกว่า การรำ มันเอียงไปมา ก็เลย รำเอียง เข้าใจรึยัง "

“ เข้าใจแล้วครับ " หัวหอมยิ้มผมก็ขยี้หัวมัน

“ ต่อไปเวลามีสงสัยอะไรก็ถามกูได้นะ กูไม่ได้หงุดหงิดอะไรหรอก กูอยากจะตอบมึงทุกคำถามเลย " เพราะความเหนื่อย นอนก็น้อยเลยชวนให้หงุดหงิด แต่ต่อไปต้องหัดใจเย็นกว่านี้ ต้องอดทน จะให้เด็กต้องรู้สึกกลัวที่จะถามไม่ได้ หัวหอมต้องถามมันจะได้ฉลาดๆ

“ คิดว่าฝึกความใจเย็นไง อย่าหงุดหงิดน่า " เหลือบมองคนพูดที่ก็ไม่ได้รู้สึกใดๆ ขมวดคิ้วมองมัน ผมเบือนหน้าหนี

“ อย่าทำให้กูต้องเบื่อมึงมากกว่านี้เลยภาพ "

“ อะไรวะแค่นี้โกรธเหรอ เรื่องเล็กๆอะ มึงแม่งอย่าซีเรียสมากนักได้มั้ยวะ มึงตอบมันเอาฮาก็ได้ ไม่ต้องจริงจังหรอก " ผมเงียบขี้เกียจจะเถียงกับมัน

   เปิดถุงของที่ซื้อมาจากห้างเอาของกินมาไว้บนโต๊ะ จัดการแยกของใช้ในห้องกับของไอ้หัวหอมไว้คนละส่วนกัน เสื้อผ้าที่ต้องเอามาแยกส่งซักนั่นก็ด้วย

" นี่มึงโกรธจริงเหรอวะ " ไอ้ภาพเดินเข้ามาถามมือหนาดึงไหล่ผมให้หันไปเผชิญหน้า ผมเดินเลี่ยงมาในครัวเอาของที่ต้องเอาเข้าตู้เย็นมาจัดใส่ให้เรียบร้อย มันที่เดินตามมา " ไอ้ขม "

“ กูเหนื่อยภาพ " ผมบอก " มึงคิดว่ามันสนุกเหรอเลี้ยงลูกน่ะมึง มันไม่ใช่เลี้ยงหมานะเว้ย ที่มันจะไม่มีความคิด พูดไม่ได้ มึงจะเชยชมมันแค่ตอนที่มันทำท่าน่ารักๆไม่ได้ มันไม่ได้ง่ายเลี้ยงเด็กน่ะ "

“ แต่มึงก็ไม่เห็นต้องซีเรียสขนาดนั้น "

“ ชีวิตคน มึงจะให้กูทำเล่นๆได้ไง " อีกคนเงียบ " ถ้าไม่ช่วยกันก็อย่าสร้างภาระให้กูเพิ่ม มันไม่ได้ตลกนะมึงที่กูต้องตอบคำถามที่กูรู้แล้ว แต่ต้องตอบให้เด็กเข้าใจน่ะ มันไม่ตลก "

“ ก็ตอนแรกเห็นมึงขำ " ยังจะเถียงอีก

“ อะไรที่มากไปมักไม่ดีหรอก ยกเว้นเงิน " สายตาคมหลบหน้าไปอีกทางมันที่เหมือนอยากจะเถียงต่อตามนิสัย ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปตบไหล่มัน " ภาพ มึงโตจนมีลูกแล้วนะ เล่นก็ได้ แต่ต้องจริงจังบ้างสิวะ " 

“ มึงอาจจะมองว่ากูเถียง แต่กูมองว่ามึงจริงจังมากเกินไป ในการตอบคำถามกาลิควะ " มันว่า " กูรู้ว่ามันต้องตอบเพื่อพัฒนาการอะไรนั่น แต่มึงที่จริงจังกับการหาคำตอบขนาดนั้นเหรอวะ เล่นตลกๆก็ไม่ได้เหรอ กูว่ามันจะไม่ใช่เปล่าวะ รีเร็กหน่อยสิวะ อย่าขี้หงุดหงิด มึงเครียดมากไปแล้วนะเว้ย " สองมือจับไหล่ผมก่อนจะบีบเบาๆ " พักก่อนมั้ย มึงเหนื่อยเกินไปรึเปล่า " มือที่เอื้อมขึ้นมาตบเบาๆที่หัว มือที่กำลังจะลูบแต่เปลี่ยนลงมาจับที่ไหล่แทน " กูรู้ว่ามึงทำอะไร มึงจะจริงจังแต่กาลิคถ้ามันจะรับรู้ถึงความจริงจังของมึง มันจะเครียดเอานะ " หันมองไอ้หัวหอมอยู่สักพักก่อนจะหันมาสบสายตากับอีกคน

“ กูคงเหนื่อยไปอะ " การตอบคำถามมากๆอาจจะทำให้ผมหงุดก็เป็นได้เพราะจริงก็อย่างที่มันบอก ก่อนหน้านี้ยังหัวเราะมีความสุขอยู่เลย แล้วยิ่งไอ้ภาพมาโยนคำถามที่รู้สึกว่าต้องตอบยาวอีกเป็นพรืดๆ ก็หงุดหงิดมากขึ้นไปอีกเพราะไม่อยากจะตอบแล้ว " โทษที "

“ เลิกจัดของแล้วไปแดกก่อนไป " มันกอดคอผมเดินมาที่โต๊ะ ดึงให้นั่งลง ไอ้ภาพเดินไปหยิบจานแล้วก็ช้อนมาให้เรา จัดการตักข้าวให้กาลิคพร้อมกับไก่หนึ่งชิ้น ซึ่งมันก็กินแบบว่าง่าย

   หลังมื้ออาหารเย็นจบลง ผมก็ล้าจานทั้งหมดแล้วก็เก็บของทั้งหมดที่ซื้อมาเรียบร้อย เสียงทีวีที่ดังอยู่หันไปมองไอ้ภาพที่นั่งดูการ์ตูนกลับหัวหอมผมก็เอ่ยเรียก " ไอ้หัวหอม อาบน้ำนอนได้แล้ว "

“ แต่ว่ากาลิคยังดูการ์ตูนไม่จบเลย อาขมมานั่งดูด้วยกันก่อนสิ นั่งนี่นะ นั่งๆ " เอื้อมมือตบที่ข้างตัว ผมก็ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินลงไปนั่งข้างๆมัน " การ์ตูนที่ฉายอยู่ตรงหน้าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องที่ผมคุ้นเคยดี คือ โปเกม่อน

“ นั่นมันยังมีโปเกม่อนฉายอยู่อีกเหรอวะ "

“ ในช่องการ์ตูนไง " ไอ้ภาพบอก ผมก็พยักหน้ารับ จับได้ว่าเมื่อก่อนติดมากต้องดูทุกเช้าวันเสาร์อาทิตย์ ติดจนสะพายเป้กับไอ้ภาพสองคนแล้วตามหาโปเกม่อนกันในหมู่บ้าน หลุดหัวเราะออกมาก่อนที่เพลงจบตอนจะดังขึ้นมา ผมลุกขึ้นจากที่นั่งมองคนที่คิดว่าอีกเดี๋ยวต้องต่อรองดูอีกเรื่องแน่ๆ

“ อาขม กาลิคอยากจะดูการ์ตูนอีก "

“ ไม่ได้ มึงต้องไปอาบน้ำแล้ว ก็บอกว่าเรื่องนี้จบไง นี่ไง จบแล้ว คราวนี้ก็อาบน้ำได้แล้ว " บอกมันที่ไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน ไอ้ภาพก็ยืนขึ้นมันขยำกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะจนกลมก่อนจะโยนใส่ผม

“ ข้าเลือกเจ้าไอ้ขม ใช้ท่าไม้ตายพลังมนุษย์แม่ อุ้มกาลิคไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ "

“ เชี้ยไรของมึง " หลุดพูดออกมาก่อนจะยิ้มขำมันที่ก็ตั้งท่าเหมือนการ์ตูนอย่างดี " ไอ้บ้า ฮ่าๆ "

“ รับมุกสิไอ้สัด " มันพูดเสียงเบาๆตอนที่ก้มลงมองหัวหอม คือกูต้องบ้าไปกับมึงด้วยใช่มั้ย แล้วพลังมนุษย์แม่ของมึงนี่เป็นยังไงละไอ้เหี้ยกูจะรู้มั้ย

“ แล้วต้องรับมุกยังไงละ " ตอบมันเสียงเบาๆ " พลังมนุษย์แม่ ของมึงเป็นยังไงละไอ้เหี้ย "

“ อย่าเข้ามานะ !! “ โปเกม่อนตัวจิ๋วของไอ้ภาพวิ่งออกไปแล้ว ผมที่ยืนงงตรงนั้นอีกคนก็บอก

" วิ่งจับมันสิ ไอ้ขม จับมันไปอาบน้ำ  " หันมองไอ้หัวหอมที่วิ่งวนไปมาผมก็เริ่มวิ่งตามจับมัน " ไปเลย ไอ้ขม จัดการมันซะ ฉันเลือกนายแล้ว "

“ อย่าน้าาาาาาาาา อย่าจับกาลิค พลังสายฟ้า " มือเล็กๆทำท่าโยนออกมาใส่ผม ที่ก็ทำท่าหลบ... แล้วทำไมชีวิตกูต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ สัด

“ ไม่โดนหรอก หลบทัน เว้ย มานี่เลยยยยยย "

“ สู้เค้า ปิจาจูขม "

“ จ๊ะ อีซาโตชิภาพ " หันไปมองแรงใส่มันที่ก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังๆ ผมวิ่งไปดักหน้าไอ้หัวหอมที่กำลังจะวิ่งมาก่อนจะคว้าตัวมันมากอดไว้แน่น  “ มานี่เลย มาอยู่ในมอนเตอร์บอลซะ " ร่างเล็กดิ้นไปมาก่อนจะสงบลง นี่ก็ทำเหมือนโปเกม่อนทุกอย่าง ผมหลุดยิ้มเอ็นดูมัน

“ กูจับมึงได้แล้ว คราวนี้กูจะสั่งอะไรก็ได้ถูกมั้ย " ภาพบอกอีกคนก็พยักหน้ารับ จะว่าไปมันก็ฉลาดเว้ย เออ เข้าท่า " กูสั่งให้มึงไปอาบน้ำแล้วเข้านอนได้แล้วไป "

“ แต่ว่า แต่  กาลิคอยากจะเป็นคนจับบ้างอะ กาลิคอยากเป็นซาโตชิบ้าง " มันท้วง

“ พรุ่งนี้ๆ เป็นกันคนละวันนะ วันนี้เป็นโปเกม่อนไปก่อน ไปอาบ้ำได้แล้วไป " ภาพบอกมันก็พยักหน้ารับแบบว่าง่ายอย่างน่าเหลือเชื่อ
   อุ้มอีกคนเข้ามาในห้องตอนที่วางลงในตู้อาบน้ำ หัวหอมจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองก่อนจะยื่นให้ผม เปิดฝักบัวอาบน้ำด้วยตัวเอง ผมหันหลังเอาเสื้อใส่ในตะกร้าอีกฝ่ายกปิดน้ำเดินออกมาจากตู้อาบน้ำแล้ว

“ อาบเสร็จแล้วครับ "

“ เดี๋ยวๆ มึงเร็วไปนะกูว่า " ผมบอก " ไปอาบใหม่เลยอะไรกูแค่เดินเอาเสื้อใส่แล้วไปใส่ไว้ในตะกร้ามึงอาบเสร็จละ "

“ สะอาดแล้ว " เสียงเถียงที่ดูยังไงก็ไม่น่าเชื่อสบู่คงยังไม่ได้ถูหรอก

“ อาบน้ำ มาๆ กูอาบให้ " ดึงมันเข้าไปในห้องอาบน้ำอีกรอบ จัดการเปิดน้ำแล้วกดสบู่เหลวของเด็กถูให้เรียบร้อย ผมจจัดการสระผมคนที่ยืนนิ่งๆก็เอามือจับกำแพงไปเรื่อยเปื่อยๆ เสียงฮัมเพลงดังเบาๆ" คราวนี้ก็แปรงฟัน " หยิบแปรงบีบยาสีฟันยื่นให้มันอีกคนก็แปรงไปเรื่อยๆ " แปรงให้ทั่วนะมึง "

“ อื้ออ " มันขานรับพลางยื่นแปรงที่แปรงแล้วให้ผมหลังจากแปรงเสร็จจัดการล้างแปรง ล้างตัวเรียบร้อยก่อนจะหยิบผ้าขนหนูมาห่มให้อีกคน

“ ออกไปแต่งตัวได้เลย "

“ หนาววววววว " มันร้อนบอกตอนที่ออกมายืนนอกห้องน้ำแค่แปปเดียวแล้ววิ่งกลับยืนในห้องน้ำที่เดิม มือเล็กๆปิดประตู " กาลิคหนาว กาลิคไม่ออกไปหรอก "

“ ไม่ออกไปจะยิ่งหนาวนะ " ผมขู่ก่อนจะก้มลงอุ้มมัน " กอดกูไว้ แล้วรีบแต่งตัวไม่หนาวหรอก " วางมันลงบนเตียงอีกคนก็ไม่ยอมออกห่างไปไหน ผมทาแป้งให้มัน " ทาแป้งที่หน้าก่อน ยืนขึ้นดีๆ "

“ กาลิคหนาวววว หนาวจังเลยอาขม กอดกันนะ " เพราะมันไม่ยอมให้ทาดีๆเลยต้องทาแบบตามมีตามเกิดไปแบบนั้นไม่รู้ไปปะส่วนไหนบ้างแต่ช่างมันเถอะ คราวนี้ก็ใส่ชุดนอน เป็นชุดนอนที่เพิ่งซื้อวันนี้แหละ กางเกงในก็ด้วย

“ เรียบร้อย เสร็จแล้ว หายหนาวยัง "

“ หายหนาวแล้วนิดนึง " มันว่าก่อนจะยืนขึ้นเต็มตัว แป้งขาวที่ติดอยู่บนหน้า ไม่ต่างอะไรกับ ตกกระป๋องแป้งมาเลยเอาจริงๆ 
" คราวนี้ก็นอนได้แล้ว กูจะอ่านหนังสือการ์ตูนให้ฟัง อยากจะฟังเปล่า "

“ อยากครับ " มันลงไปนอนห่มผ้าเรียบร้อยแบบกระตือรือร้น ผมที่เปิดหนังสือการ์ตูนแบบสามมิติเล่มใหญ่ขึ้นมา มันก็ตื่นตาตื่นใจใหญ่ " โหหห สวยจัง"

“ สวยใช่มั้ยละ " พยักหน้ารับด้วยความสนใจผมปิดไฟในห้องเหลือแต่โคมไฟเอาไว้ เสียงขึ้นต้นชวนลุ้นต่อด้วยน้ำเสียงขึ้นลงจนจบเรื่อง ผมปิดหนังสือลงแต่คนที่คิดว่าควรหลับกลับยังคงนั่งมองผมตาแป๋วอยู่เลย " ไม่มีอาการง่วงเหรอเหรอมึง หลับตามั้ย "

“ ต้องนอนแล้วเหรอ "

“ เด็กดีก็ต้องนอนแล้วละ สามทุ่มแล้ว ยังไม่ง่วงเหรอมึงน่ะ วันนี้เที่ยวทั้งวันน่าจะง่วงนะ " ลูบผมนุ่มๆให้ไปทางเดียวกัน ก่อนที่มือเล็กๆก็ดึงตัวเองเข้ามากอดผมไว้ " กูยังไม่ได้อาบน้ำนะ หัวหอม ไม่เหม็นรึไง "

“ ไม่ครับ อาขมหอม " มันว่าแล้วก็กอดผมแน่นขึ้น " กาลิครักอาขม อยากจะอยู่กับอาขมตลอดไป "

“ กูก็รักมึงนะหัวหอม " ก้มลงหอมลงที่ผมนุ่มๆ แววตากลมก็เงยหน้าขึ้นมามอง

“ กาลิคมีความสุขที่ได้อยู่กับอาขม อาขมมีความสุขที่ได้อยู่กับกาลิคมั้ย "

“ มีสิ " ผมบอก แม้จะเป็นความรู้สึกที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิต แม้ยังไม่รู้ว่าตัวเองยังจะต้องปรับตัว หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง แต่ตอนนี้ก็มีความสุขดีที่มีมึงอยู่


......................................................

แต่งไปแต่งมาคล้ายๆ จะต้องเปลี่ยนชื่อเป็น ครอบครัวใหม่หัวใจติดปีก
ให้ฟิวลิ่งแบบ พ่อแม่ไม่พร้อมจะมีบุตร แต่บังเอิญมี ก็วุ่นวายกับการมีบุตรเอามากๆ ตั้งตั้งสติ ต้องข่มอารมณ์
จริงๆเราอยากจะเขียนให้ หัวหอม หรือน้องกาลิค เป็นเด็กซนๆนะ ขี้อ้อน น่ารักๆ นะคะ แต่.. ยังไม่ถึงเวลา
ขอให้ภาพกับขมปรับตัวให้ได้มากกว่านี้หน่อยนึง ดีมั้ยย เพราะยังมีเรื่องสนุกๆรออยู่ อีกมากก
สุดท้ายนี้ ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะคนดี
เจอกันตอนหน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 26-02-2017 20:56:03
หัวหอมน่ารักอะ กลายเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กันทั้งคู่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 26-02-2017 21:07:35
ขำพลังมนุษย์แม่55555555555 :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-02-2017 21:13:34
สงสารหัวหอมนะถ้าครบสามเดือนแล้วแบบ ไม่อยากจะคิดเลย :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: เมื่อนั้นฝันว่า ที่ 26-02-2017 21:39:02
หัวหอมลูกน่ารักไปแล้วนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-02-2017 21:46:19
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-02-2017 22:07:39
ดูป่วนมากจริง ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 26-02-2017 22:09:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-02-2017 22:42:14
แม่หัวหอมนี่เป็นแม่ประเภทไหน ยิ่งอ่านยิ่งอยากบีบคอให้ตายๆไปซะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 26-02-2017 22:50:42
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 26-02-2017 23:09:25
เกลียดแม่หัวหอมอะ จิตใจทำด้วยอะไร
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-02-2017 23:14:31
หลงเสน่ห์หัวหอมน้อย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 26-02-2017 23:46:41
ถ้าให้ภาพเลี้ยง ก้ต้อง #อย่าปล่อยลูกไว้กับพ่อ 5555
ขมมีความเปนแม่สูง เหลือแค่ทำกับข้าวแล้วแหละ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 27-02-2017 06:51:02
อยากรู้จริงๆแม่หัวหอมเป็นใครแล้วตกลง ภาพเป็นพ่อจริงรึเปล่า

ถ้าครบ3เดือนจริง ขมจะยอมให้หัวหอมกลับหรอ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 27-02-2017 09:47:18
ครอบครัวน่ารัก :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 27-02-2017 10:05:45
หัวหอมมมมมมมมม ^^
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 27-02-2017 12:08:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 27-02-2017 17:02:49
หัวหอมน่ารัก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 27-02-2017 18:57:59
หัวหอมน่ารักกกกกกก   
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 27-02-2017 22:35:31
หัวหอมน่ารักจังเลยลูกกกกกกก >\\\\<
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 27-02-2017 23:15:21
โอ้ยยย หัวหอมลูก  :o8: :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 27-02-2017 23:43:39
หัวหอมน่ารัก รู้จักออดอ้อน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-02-2017 00:41:33
ต้องตามมมม หัวหอมน่ารัก!!  แระแบบนี้ตอนไปเรียนจะยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 28-02-2017 09:17:45
รอๆ  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 28-02-2017 11:22:41
หัวหอมน่ารักมาก
น่าสงสารตอนพูดถึงแม่ที่เอาไปให้คนโน้นคนนี้


 :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 03-03-2017 20:40:53
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 6

   วันหยุดหนึ่งอาทิตย์ช่วงหลังสอบผ่านพ้นไปแล้ว ความวุ่นวายที่ต้องจัดการปัจจัยสำคัญเกี่ยวกับเด็กก็เสร็จสิ้นไปแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะซื้อของใช้ หรือว่าของเล่น ตอนนี้เท่าที่จำเป็นก็มีครบหมดทุกอย่างแล้ว ต่อจากนี้ก็คงเหลือเพียงแค่บททดสอบที่ว่า เราสองคนจะเลี้ยงเด็กคนนึงที่ไม่รู้ว่าลูกไอ้ภาพ หรือลูกผมกันแน่ รอดรึเปล่า

“ หัวหอมมานี่ ฟังกูนะ กูมีอะไรจะพูดด้วย " ผมอุ้มมันมานั่งบนเตียง เด็กผู้ชายตัวเล็กที่ยังคงงัวเงียเพราะเพิ่งตื่น มันขยี้ตาตัวเองมือข้างนึงก็กอดตุ๊กตาหมีไว้

“ อาขม อาขม จะไปไหนเหรอ " มันถามเพราะคงเห็นว่าวันนี้ ผมแต่งตัวแปลกกว่าทุกวันที่จะใส่แค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น

“ ไปเรียนน่ะ "

“ แล้วกาลิคละ กาลิคต้องไปเรียนมั้ย " ส่ายหน้าไปมาให้มัน อีกคนก็ถอนหายใจก้มหน้าลงเศร้าๆ สงสารเหมือนกันวะ แต่ยังทำยังไงได้วะ  เอกสารพาไปสมัครเรียนอะไรก็ไม่มี ถ้าจะเข้าได้ก็คงเข้าเรียนโรงเรียนที่คนใหญ่คนโตรู้จัก สามารถฝากเข้าไปได้โดยไม่แคร์เอกสารอะไรแบบนี้ แล้วคนที่ผมรู้จักคนนั้น ก็มีแค่ พ่อไอ้ภาพ ซึ่งแน่นอนว่า มันคงไม่บอกเรื่องนี้กับพ่อมันหรอก เอาจริงๆในใจลึกๆของเรา เราก็ยังคิดนะว่า แม่ของมันจะปรากฏตัวออกมาเมื่อครบกำหนดอยู่ไทยของหัวหอม

" หัวหอม "

“ ครับ " เสียงเศร้าๆของมันตอบรับใจผมก็เหมือนอ่อนยวบไปหมด แต่จะให้ทำไงวะ เรียนก็ต้องไป โดดไม่ได้ด้วย

“ เดี๋ยวทั้งกู แล้วก็ภาพจะต้องไปเรียนพร้อมกัน มึงต้องอยู่ห้องคนเดียวนะ "

“ อยู่ที่นี่คนเดียวเหรอ " มันถามย้ำผมก็พยักหน้ารับ แววตากลมที่ดูกลัวๆผมก็มองลึกลงไปในตามัน สายตาที่มีแต่ความมั่นใจของผมมองเพื่อเสริมความมั่นใจให้มัน ว่ามันต้องอยู่ที่นี่คนเดียวได้แน่นอนแล้วมันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น

“ เดี๋ยวกูไปเรียนแล้วจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดเลย มึงอยู่คนเดียวได้แน่นอนไม่ต้องห่วงนะ แค่แปปเดียวไม่นาน ไม่กี่ชั่วโมงเอง กูเตรียมกับข้าวให้มึงแล้ว มึงแค่กินเท่านั้นเอง แล้วกูกับภาพจะรีบกลับมานะ "

“ ไม่ไปไม่ได้เหรอครับ กาลิคไม่อยากจะอยู่คนเดียวนี่น่า "  เสียงที่เริ่มงอแงของมัน ผมก็ได้แต่เงียบ " อาขม~ กาลิคไม่อยากจะอยู่คนเดียว "

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เสียงเคาะประตูดังขึ้นผมถอนหายใจออกมาตอนที่คว้าเอาประเป๋าเป้ของตัวเองสะพายไหล่ เอื้อมมือไปจูงมือมันที่เดินออกมาจากห้องนอนด้วยน้ำตาคลอๆ ไอ้ภาพที่ยืนอยู่หน้าห้องก้มลงมาหัวหอมก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผม เหมือนจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“ มันไม่ยอมอยู่คนเดียววะ "

“ กาลิค " ร่างสูงย่อตัวลงตรงหน้าอีกคน " กูกับขมไปเรียนแปปเดียว เดี๋ยวก็กลับ อยู่บ้านดูการ์ตูนไปก่อนนะ  เดี๋ยวกูสองคนหลับมานะ " เจ้าตัวเล็กส่ายหน้าไปมา

“ ไม่อยากให้อาขม กับอาภาพไปไหน ไม่อยากอยู่คนเดียว กาลิคกลัว " มันว่าเสียงเครือ

“ ไม่ได้อยู่คนเดียวนะ " ผมบอก ก่อนจะเดินไปหยิบตุ๊กตาหมีของมันมา " อยู่กับน้องตังหาก น้องหมีจะคอยอยู่เป็นเพื่อนมึงเอง แปปเดียว เดี๋ยวกูก็กลับนะ ไอ้หัวหอมคนเก่งของอาขมนะครับ นะ  " ย่อตัวดึงมันเข้ามากอด ตอนนั้นไอ้ภาพก็เอ่ยเร่ง

“ ไอ้ขม วิชานี้มึงเข้าสายไม่ได้นะ เราต้องไปแล้ววะ ไม่งั้นรถจะติดแล้วไปไม่ทัน  " เป็นที่รู้กันว่า อาจารย์คณะผมถ้าเกิดมีคนไปสายจะโดนไล่ออกจากห้องทันที ไม่มีสิทธิ์เข้าเรียนสายได้เลย ยกเว้นว่าวันนั้นป่วยหนักไม่ไปเท่านั้นแต่นั่นก็ต้องมีใบลา

“ อาขม~ “ เสียงอ้อนที่เอ่ยเรียกผมไว้ ตัดใจเดินไปเปิดทีวีช่องการ์ตูนไว้ให้มัน เอื้อมมือไปลูบหัวเบาๆ

“ อย่าทำให้ลำบากใจกันเลยนะหัวหอมนะ เดี๋ยวกูกลับมา ตอนเย็นเจอกันนะ แล้วอย่าเปิดบ้านให้ใครละ ถ้าไม่ใช่อาภาพ กับ อาขม ก็ห้ามเปิดเด็ดขาดเลยนะ " เราไม่ได้รอฟังคำพูดของมันเพราะรู้ว่าถ้าต้องพูดต้องยาวแน่นอน ตัดสินใจเดินออกมาจากบ้านทันที แม้จะมีเสียงร้องไห้ที่เหมือนเจ้าตัวเล็กจะวิ่งไล่หลังตามมาก็ตาม เสียงที่ดังออกมาจากห้องนั้น 

“ อย่าไป กาลิคไม่อยากอยู่คนเดียว อาภาพ อาขม พากาลิคไปด้วยนะ อึก พากาลิคไปด้วยยย ฮือๆ อาขมอาภาพ พากาลิคไปด้วยนะ " ผมกับภาพยืนนิ่งเราล็อคประตูห้อง ก่อนที่สายตาคมจะหันมามองผม 

“ ขม "

“ ไปกันเถอะ " ก้าวเดินออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด ผมไม่อยากจะได้ยินเสียงอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะถ้ามันมากกว่านี้ผมคงต้องเปิดประตูแล้ววันนี้ก็คงไม่ได้ไปเรียนแน่ๆ

   ขับรถออกจากคอนโดความรู้สึกเงียบๆ แม้เพลงที่เปิดคลอเบาๆจะเป็นเพลงที่ชอบแต่ก็ไม่ชวนอยากจะร้องตามเหมือนปกติ อดเป็นห่วงมันไม่ได้เลยในใจลึกๆ บางทีผมรู้สึกแผลที่โดนทิ้งมาหลายครั้งคงลึกเกินกว่า ผมจะทิ้งมันอยู่ในห้องแล้วออกมาเรียนด้วยซ้ำไป แต่จะให้เอาไปเรียนด้วยก็ไม่ได้ จะส่งมันไปเรียนก็ไม่ได้ ฝากไว้บ้านใครก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน ตันทุกทางจริงๆ

“ ถึงละ " คำพูดของภาพที่เอ่ยขึ้นเบาๆ ตอนที่ผมยังหันไปมองนอกหน้าต่างแต่กลับไม่รู้เลยว่า รถมันเคลื่อนตัวมาจอดที่ลานจอดรถของมหาลัยแล้ว

“ อะ ถึงแล้วเหรอ " สติที่เหมือนจะเพิ่งเข้าร่าง ผมขยับตัวเตรียมจะลงจากรถแต่ตอนนั้นมือหนาก็เอื้อมมือคว้าไหล่ไว้  มันถาม

“ โอเครึเปล่า "

“ โอเคดิ " ผมบอก ก่อนจะถอนหายใจ " จะไม่โอเคได้ไงวะ มันไม่มีทางเลือกนี่หว่า เราต้องเรียนหนังสือ ถ้าไม่ใจแข็งทิ้งมันไว้ ก็ต้องอยู่กับมันไปตลอด ถ้าเป็นอย่างงั้นก็เตรียมตัวดรอปเรียนได้เลย  "  ผมยกยิ้มก่อนจะตบไหล่มัน "  ไม่เป็นไรหรอก ไอ้หัวหอมมันต้องอยู่ได้แน่ๆ เราต้องฝึกให้มันเข้มแข็งสิ กูไปเรียนละ เจอกันตอนเย็น "

“ อื้ม " มันขานรับ ผมก็เดินออกจากรถแล้วตรงไปที่คณะตัวเองทันที

   เปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน ตอนที่หย่อนตัวลงนั่งข้างไอ้โมมันก็หันมาถาม " เป็นไงมึงสัดขม หายเงียบไปเลยนะ กูส่งข้อความไปก็ไม่ค่อยตอบ จะชวนไปแดกเหล้าก็ไม่ตอบกู "

“ โทษที กูไม่ค่อยว่างวะ " ผมบอกปัดมัน

“ อย่างมึงอะนะ จะไม่ว่าง ปกติชวนแดกเหล้าไม่เคยปฎิเสธนี่หว่า "

“ อาจารย์ทำไมช้าจังวะ " มองนาฬิกาแล้วก็บ่นออกมา ใกล้จะถึงเวลาแล้วแต่ยังไม่มาสอนสักที ผมอยากจะให้เค้ามาสอน สอนเสร็จะได้รีบกลับบ้านสักที

“ เค้ายังไม่มาหรอก อีกตั้งสิบนาทีมึง นี่ ไอ้ขม กูว่ามึงดูท่าทางแปลกๆนะ "

“ เหรอ " ผมหันไปมองหน้ามันอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ สติมึงยังอยู่กับตัวรึเปล่าวะ ท่าทางมึงดูรีบๆ "

“ ไม่ได้รีบอะไรหรอก " บอกไปแบบนั้นแต่เหมือนมันจะยังไม่เชื่อเท่าไหร่ สายตาไอ้โมที่มองมาเหมือนกำลังหาคำตอบว่าผมปิดบังอะไรไว้ " แล้วมึงตกลงไปกินเหล้ากับใครมากูลืมถาม "

“ ห๊ะ ? “

“ ที่วันนั้นมึงชวนกูไปกินเหล้า กูไม่ได้ไป ไม่ตอบไลน์มึง แล้วตกลงมึงได้ไปรึเปล่า หรือไม่ได้ไป "

“ ก็ไป " มันพยักหน้ารับ " ไอ้ชัดชวนกู "

“ ไอ้ชัด ? “ ผมขมวดคิ้วงง " เพื่อนไอ้ภาพอะนะ "

“ อื้ออ " ลากเสียงนิดหน่อยตอนที่พูดออกมา มันก้มหน้าลงมองมือถือตัวเอง เหมือนคนไม่อยากจะพูดอะไรต่อ

“ สนิท..กัน..เหรอ..วะ " คำถามแบบเว้นเสียงที่เอ่ยถามมัน คือผมน่ะ สนิทกับไอ้โมตอนมาเรียนที่นี่แหละ ส่วนไอ้ภาพมันก็สนิทกับไอ้ชัดเหมือนกัน   

   ไอ้โมมันเป็นลูกคุณหนูซึ่งตอนแรกๆมันก็กลัวไอ้ชัด แล้วรู้สึกว่าไอ้หนุ่มเข้มคนนั้นน่ะ น่ากลัวมาก มันไม่อยากจะอยู่ใกล้เท่าไหร่ เพราะตอนเด็กๆมันเล่าว่ามันกับเพื่อนเคยมีเรื่องกับคนสไตส์นี้ มันเลยมีอดีตที่ฝังใจกับ ผู้ชายรูปร่างใหญ่ผิวคล้ำแบบไอ้ชัด
 
   แต่เพราะมันมีผมเป็นเพื่อนแค่คนเดียวในคณะ เวลาไปไหนมาไหนผมก็ต้องหนีบมันไปด้วย เหมือนฝาแฝดก็ไม่ปาน เวลาเรียนเราติดกันมากกว่าปาท่องโก๋ซะอีก แต่ผมเองก็สนิทกับไอ้ภาพ ซึ่งมีเพื่อนเป็นคนหน้าเข้มแบบไอ้ชัด มันเลยต้องเข้าใกล้ไอ้ชัดโดยปริยาย

   เมื่อก่อนเวลาไปเที่ยวด้วยกันสี่คนไอ้โมจะตัวเกร็งมากถ้าได้นั่งใกล้ไอ้ชัด แต่ไม่รู้เพราะอะไรอยู่ๆ มันก็เลิกกลัวไอ้ชัดขึ้นมา อย่างที่บอกว่า ไปกินเหล้ากับไอ้ชัดนี่.. ก็เป็นอะไรที่โคตรจะแปลก

“ ก็มันชวน " โมตอบผม " แบบว่ากูไม่กล้าปฎิเสธมัน ก็เลยไป "

“ ให้ตายเถอะมึง นี่มึงกลัวมันจนไม่กล้าปฎิเสธเลยเหรอวะ "

“ ก็..นะ " หันไปมองทางอื่น ผมที่กำลังจะถามต่อ ตอนนั้นอาจารย์ก็เดินเข้ามาพอดี  ตรงเวลาเริ่มสอนพอดีเป๊ะ

“ สวัสดีครับ นักศึกษา วันนี้จะเริ่มคลาสเรียนด้วยการออกไปวาดรูปรอบมหาวิทยาลัยกันนะ จะเลือกวาดที่ไหนก็ได้ ศาลาไทย ต้นไม้ ตึกคณะ ท้ายคาบก็เอามาส่ง อย่าให้เกินเที่ยงละ หลังบ่ายโมงผมจะไม่รับงานแล้วนะครับ แค่นี้แหละ " พูดจบก็เดินออกไปจากห้องสอน เหมือนรีบร้อนไปไหนสักที่ แต่ติดธุระมาสอนเลยต้องมา

“ แค่นี้ ? " ผมพูดเสียงเบาๆ เหมือนกับทุกคนที่ยังงุนงงแต่ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่ง  " ง่ายดีวะ ว่ามั้ย "

“ มึงจะวาดอะไรวะขม " โมถาม

“ มึงละ ? " ให้ทายแม่งก็คงต้องตอบว่า มึงว่าอะไรกูก็วาดอันนั้นแหละ

“ มึงวาดอะไรกูก็ว่าอันนั้นแหละ " นั่นไง กูทายผิดที่ไหน ผมยกยิ้มให้มันตอนที่สะพายเป้ขึ้นบ่า เราก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกับ เพื่อนๆร่วมคลาสเดินแยกย้ายกันไปผมก็เดินไปที่หน้าต่าง หามุมที่จะวาดภาพอะไรสักอย่าง " วาดอะไรดีมึง "

“ อื้ม ต้นไม้ตรงนั้นดีมั้ย มึงก็วาดคนละมุมกับกู สวยดี กูอยากวาดอะไรเขียนๆ ส้มๆ วะ " ใบไม้มันกำลังเปลี่ยนสีพอดี เพราะมันโดนแดดเผาและกำลังร่วงลงจากต้น ไม่ได้โรแมมติกไรหรอก แต่ผมคิดว่าองค์ประกอบมันสวยดี " มึงว่าไง "

“ ได้หมด ถ้าสดชื่น "

“ โอ้วตายย คุณโมไปเอาคำนี้มาจากไหนวะครับเนี้ย เดี่ยวนี้อินเทรนด์นะสัด " ผมแซวอีกคนยิ้มๆ คุณชายก็หัวเราะถูกใจใหญ่

   ใต้ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นใกล้โรงอาหารมหาลัย ผมหย่นตัวลงนั่งข้างโม ก่อนจะเริ่มจัดของที่ต้องใช้และลงมือวาดภาพตรงหน้า แบบร่างที่สเก็ตออกมาเป็นรูปเป็นร่าง

“ อาจารย์ไม่ได้สั่งใช่มั้ยวะ ว่าให้วาดแบบร่าง สีน้ำ หรืออะไร "

“ อื้ม ไม่ได้สั่ง คงวาดอะไรก็ได้ละมั้ง " ไอ้โมบอก " มึงจะวาดอะไร "

“ อยากจะร่างคร่าวๆแล้วลงสีน้ำ "

“ งานยากเลยนะมึง " มันบอก ผมก็พยักหน้ารับ

“ กูอยากจะทำ มึงละจะทำอะไร "

“ จะสเก็ตแล้วตัดเส้นด้วยปากกาดำเอา "

“ ก็ดูสวยดี " เราก้มหน้าลงวาดภาพไปเรื่อยๆ เป็นแค่คนสองคนที่ตัดสินใจนั่งวาดภาพอยู่ใต้ต้นไม้ ความเงียบที่ได้ยินแต่เสียงรถผ่านไปมานานๆเพราะเป็นมุมที่ค่อนข้างอับ เหลือบมองไอ้โมที่หยิบมือมาพิมพ์อะไรสักอย่างพลางมองซ้ายขวาก่อนจะวางลงข้างตัวแล้วเริ่มทำงานต่อ

   ใจนึงก็อยากจะรีบทำงานแล้วกลับบ้าน แต่ก็กลัวว่าจะทำออกมาไม่ดีเลยต้องพยายามโฟกัสกับงานให้มากที่สุดตอนนี้ พยายามลืมๆเรื่องของไอ้ตัวเล็กที่ตอนนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้างที่พวกเราออกมาจากบ้านแบบนี้ มันจะยังร้องไห้งอแง หรือว่าดูการ์ตูนอยู่ก็ไม่รู้ ถ้ามีมือถือก็คงดี จะได้โทรไปถามว่าโอเครึเปล่า ถ้ามันได้ยินเสียงผม มันจะอุ่นใจขึ้นบ้างมั้ยวะ

   ความคิดของผมหยุดนิ่งลงตอนที่เงาดำทอดฟาดลงกับภาพที่กำลังวาด เงยหน้าขึ้นมองก็เจอเข้ากับหนุ่มร่างสูงผิวคมเข้มคนคุ้นตาเพื่อนไอ้ภาพ อย่างไอ้ชัดที่เดินมายืนอยู่ข้างๆโม พร้อมกับ ชาเย็นแก้วใหญ่ไซส์โรงอาหาร

“ อะ " ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร ไม่มีการทักทายก่อนด้วยซ้ำ แก้วน้ำนั่นก็ถูกยื่นมาตรงหน้าไอ้โมที่ก็ทำหน้างงๆ กับการกระทำที่อยู่ๆก็เกิดขึ้นกับมัน " เอามาให้ ที่บอกไปวันนั้นว่าอร่อยไง "

“ เหรอ ขอบคุณนะ "  มันตอบเสียงเบาก่อนจะรับน้ำแก้วนั้นมา แต่คนที่เอาน้ำมาให้ก็ยังยืนค้ำหัวมันอยู่ไม่ได้เดินไปไหน มันจ้องเหมือนกำลังบอกใบ้ให้อีกคนชิม โมมันก้มดูดชาเย็นแก้วนั้นไปหนึ่งคำก่อนจะพยักหน้ารับ

“ อื้ม อร่อยดีนิ "

“ ใช่มั้ยละ " บอกแบบนั้น ชัดก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าตอนเช้าที่แดดกำลังส่องลงมาตรงไอ้โมพอดี มันขยับตัวตามแดดที่กำลังส่องลงมา จนผมเองก็อดไม่ได้เลยที่จะเงยหน้ามองตามมันสงสัยว่ามันมองอะไรของมัน แล้วผมก็ได้คำตอบทันทีในตอนที่เมฆก้อนใหญ่ก้อนนึงเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้พระอาทิตย์แล้วบังแสงแดดนั่นไว้  มันยกยิ้มก่อนจะก้มลงมองโม " งั้นไปละ "

“ อ่า อื้ม " ร่างบางที่ตอบสั้นๆ มองตามอีกคนที่เดินกลับไปทางเดิมที่มันเดินมา ผมเหลือบมองโมมันที่ยิ้มแห้งๆให้ผม

“ เมื่อกี้มันเห็นกูมั้ยวะ "

“ ต้องเห็นสิ " ไอ้โมบอก ผมก็ชี้เข้าตัวเอง

“ แล้วน้ำกูอะ ทำไมมีแต่ของมึงวะ "

“ เอ่อ นั่นสินะ ไม่รู้วะ " ส่ายหน้าไปมา ผมที่จ้องมันอยู่แบบนั้น แววตากลมก็หลบไปมาเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรจนสุดท้ายก็ยื่นน้ำมาให้ผม " ชาเย็นมั้ยมึงอร่อยนะ "

“ ไม่อะ กูคิดว่ามันคงหวานไป "

“ พูดเชี้ยอะไรของมึงวะ " คำพูดบอกปัดของมันทำให้ผมยิ้มออกมา แบะปากมองบนทำเป็นไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น แต่คงไม่ค่อยเนียนหรอก โมมันคงรู้

   ก้มหน้าลงวาดภาพต่อสงสารน้องโมแก้มแดงไปหมดแล้วหรือว่ามันสองคนจะแอบรักกัน แต่มันไปกิ๊กกันตอนไหนวะ กูงง กูพลาดข่าวอะไรไปรึเปล่า ต้องถามไอ้ภาพ ต้องให้ไปภาพไปสืบจากไอ้ชัดมา เรื่องนี้กูต้องรู้ ต้องรู้ก่อนใครให้จงได้

   แต่เดี๋ยวนะ.. ถ้ามันชอบกัน ไอ้โมมันก็ต้องเป็นเกย์อะดิ เพราะไอ้ชัดเป็นผู้ชาย แต่ช่างเถอะ เรื่องของเพื่อนไม่ใช่เรื่องเราสักหน่อย อีกอย่างความรักมันไม่มีเพศหรอก มีความสุขก็คงพอแล้ว

........................................

   
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 5 - 26.2.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 03-03-2017 20:41:09
จัดการส่งภาพตามเวลาที่อาจารย์กำหนดไว้ได้พอดีเป๊ะๆ ผมยกนาฬิกาขึ้นมาดูตอนนี้มันบอกว่าเพิ่งจะแค่เที่ยงสิบนาทีเท่านั้น

“ อีกตั้งสองชั่วโมงกว่ามันจะเลิกเรียน "

“ บ่นเหี้ยอะไรวะ ไอ้ขม " ไอ้โมเอ่ยถาม มือที่ยังถือชาเย็นที่แม้จะมีแต่น้ำแข็งอยู่แล้วก็ตาม เงยมองหน้ามันก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“ มึงกลับบ้านเลยมั้ยโม "

“ ก็คงกลับเลย วันนี้ที่บ้านมีเลี้ยงวันเกิดป๊า " ผมพยักหน้ารับ

“ กูกลับด้วยสิ "

“ มึงไม่รอไอ้ภาพเหรอ ปกติอยู่รอไอ้ภาพนิ " มันถามผมก็ส่ายหน้า

“ วันนี้กูรีบนะ กูขอติดรถมึงไปลงที่บีทีเอสหน่อย สถานทีไหนก็ได้ กูจะกลับบ้านละมีธุระ ถ้ารอแม่งก็ ช้า ไม่ทันใจ "

“ โอเคได้สิ งั้นก็กลับกันเลย "

   ขึ้นรถ BMW สีขาวสุดหรูของคุณหนูโม จัดการคาดสายรัดนิรภัยเรียบร้อยอีกคนก็เคลื่อนรถออกจากลานจอด เพลงเบาๆถูกเปิดคลอไปเรื่อย ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงรักเก่าๆสมัยยังเป็นเด็ก ผมเคยถามว่าทำไมฟังเพลงแบบนี้ มันก็บอกว่ามันชอบฟังเพลงเก่าๆ รู้สึกเพราะกว่าเพลงสมัยใหม่ เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยสนใจอะไรหรอก แต่ตอนนี้พอนึกถึงไอ้ชัดขึ้นมาแล้ว พอมันฮัมเพลงรักในรถแบบนี้ ก็รู้สึกว่า ไอ้เหี้ยโมมันมีความรักรึเปล่าวะ ต้องใช่ ต้องใช่แน่ๆ

“ โม "

“ ว่า ? “ อีกคนหันมามองก่อนจะหันกลับไปมองถนน

“ ถามไรหน่อย "

“ ว่ามา "

“ มึงกับไอ้ชัดนี่ยังไง " คำถามที่ทำให้อีกฝ่ายเงียบ จัดว่ามันไม่ใช่คนที่ขี้ตกใจจนเบรครถหัวทิ่มตอนที่ได้ฟังคำถามของผมละนะ แต่ว่าไหงไม่ตอบว่ะ " โม..”

“ ก็ไม่ไง "

“ ชาเย็นนี่ยังไง "

“ ก็แค่วันนั้นมันชวนกูไปกินเหล้า กูไลน์หามึงก็ไม่ติด โทรไปก็ไม่รับ "  ผมพยักหน้ารับวันนั้นจัดการอาบน้ำไอ้หัวหอมอยู่แลบยุ่งๆแล้วไม่ได้สนใจมือถือเท่าไหร่  เห็นว่ามันติดต่อมาก็ดึกมากแล้วเลยไม่ได้ติดต่อกลับ

“ แล้วไงต่อ มึงก็ไปกับมันงั้นเหรอ"

“ ก็.. อื้ม กูว่างพอดีอะ ไม่มีอะไรทำ กูก็เลยไป "

' แปลก ' คิดอยู่ในใจแต่ไม่พูดอะไรออกมา ยิ่งฟังก็ยิ่งแปลก มึงเคยบอกว่า มึงกลัวมันแต่อยู่ๆมึงไปเที่ยวกับมันทั้งๆที่ไม่มีกู แล้วมันก็เอาชาเย็นมาให้มึงด้วย แล้วมึงก็มีท่าทางเขินๆ

" ทำไมเงียบไปวะ " ไอ้โมถาม " มึงคิดอะไรอยู่รึเปล่า กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้ชัดนะเว้ย ไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย แบบว่า ชอบ หรือว่าอะไรแบบนี้ กูไม่ได้รู้สึกนะ แค่เพื่อนอะ เพื่อนเฉยๆ "

“ กูยังไม่ได้พูดอะไรเลย ไม่ต้องเถียงหรอกนะจ๊ะ " ยื่นมือไปตบไหล่มัน ยักคิ้วให้มัน ไอ้โมก็เถียง

“ มึงคิดกูรู้ " เบือนหน้าหนีมัน ไม่อยากจะบอกเลยว่า ก็มึงจะไม่ให้กูคิดได้ยังไง มันก็เห็นกันชัดๆอยู่แล้ว

“ จอดส่งกูที่สถานีหน้าก็ได้มึง เดี๋ยวกูขึ้นรถไฟฟ้าต่อไปเอง "

“ ไม่เป็นไรอะ กูผ่านคอนโดมึงอยู่แล้ว เดี๋ยวกูไปส่ง " มันว่าก่อนจะเหลือบมองผม " ขม มึงกูไม่ได้คิดไรกับไอ้ชัด "

“ กูก็ไม่ได้คิดอะไรนี่หว่า " ผมเถียงมัน ก่อนจะหันไปจ้องตามัน ถลึงตาตัวเองให้กว้างเอาเข้าไปใกล้หน้ามัน " มึงจ้องตากู กูไม่ได้คิดอะไรเรื่องมึงกับไอ้ชัดจริงๆ เห็นมั้ย ไม่ได้คิด "

“ แค่เพื่อนกันเฉยๆ กูอยากจะให้มึงคิดงี้ "

“ เอาที่มึงสบายใจเถอะจ้า กูได้หมดถ้ามึงสดชื่น "

“ ไอ้ขม..”

“ ถึงแล้ว มึงจอดเลยตรงนี้แหละ " ชี้ไปที่ข้างทางรถหรูของไอ้โมก็จอดลง ผมเอื้อมมือไปตบไหล่มัน " ขอบใจมากมึงที่มาส่ง ยังไงเดี๋ยวกูถามภาพให้เอามั้ย ว่า ไอ้ชัดรู้สึกไงกับมึง "

“ ไอ้เชี้ยยยย อย่านะเว้ย "

“ มึงไม่อยากรู้หราาาาาาา " ทำเสียงล้อๆอีกคนก็เถียงหน้าแดง

“ ไม่เว้ย!!”

“ น้องโมหน้าแดงนะครับ พี่ขมว่า " เปิดประตูรถออกไปข้างนอกอีกคนที่ยังปั้นหน้าไม่พอใจ

“ อย่าถามเชียวนะเว้ย "

“ เออน่ารู้แล้ว ไม่ถามหรอก ขอบใจที่มาส่งนะ เจอกันพรุ่งนี้ "

“ เจอกัน " ปิดประตูรถเรียบร้อย มองดูรถคันหรูขับออกไปผมก็รีบวิ่งเข้าไปในคอนโด กดลิฟต์ขึ้นไปที่ห้องของตัวเองตอนที่วิ่งมาถึงหน้าห้องผมหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ

   ไขประตูเข้าไปมือไปผลักประตูรู้สึกหนักๆเหมือนมีอะไรมากั้นประตูไว้ไม่ให้มันถูกเปิดออก ช่องว่างที่แง้มอยู่นั้นผมสอดส่องสายตาเข้ามาดู ก่อนจะเห็นภาพที่ชวนให้ใจทั้งใจหล่นวาบลงไปแบบไม่ทันตั้งตัว คนที่คิดว่าน่าจะดูการ์ตูนอยู่ แต่เปล่า หัวหอมไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย มันแค่นั่งอยู่ที่หน้าประตูนั้น นั่งกอดตุ๊กตาหมีรอพวกเรากลับมา รอจนมันเผลอหลับไปแล้ว

“ ไอ้หัวหอม..” ถอนหายใจออกมาตอนที่เอ่ยชื่อมัน ผมพยายามดันประตูให้พอที่ร่างกายจะสอดตัวเข้าไปในห้องได้ พยายามผลักอยู่นานกว่าจะเข้ามาได้เพราะไม่อยากจะอีกคนเจ็บด้วยการผลักแรงๆก็เลยต้องค่อยๆผลัก ค่อยๆดัน " ไอ้หัวหอมเอ้ย "

   ก้มลงอุ้มมันที่นอนอยู่บนพื้นขึ้นมาก่อนจะพาไปนอนบนโซฟาให้ดี ใบหน้าน่ารักเปอะไปด้วยคราบน้ำตาผมเช็ดคราบพวกนั้นตอนที่กอดมันไว้รู้สึกตัวอีกคนอุ่นๆยังไงก็ไม่รู้ อาหารที่ผมเตรียมไปก่อนไปยังตั้งอยู่ที่โต๊ะไม่พร่องลงเลยสักอย่าง มันคงเอาแต่ร้องไห้แล้วนั่งรอเราอยู่ตรงนั้น การ์ตูนไม่ดู ข้าวก็ไม่กิน

“ อาขม อาขม " เสียงละเมอเบาๆที่พูดออกมา ผมดึงมันมากอดแนบอกไว้ อยากจะให้ความอุ่นจากตัวผมทำให้มันรู้สึกว่าผมกลับมาแล้ว ไม่ได้ทิ้งมันไป ไม่เหมือนความฝันนั้น ฝันที่กำลังมีคนทิ้งมันไป

“ หัวหอม " ลูบผมของมันขึ้นไปจากหน้าผากมนที่เหงื่อเริ่มซึมออกมา ก่อนที่แววตากลมจะค่อยๆบรือตาขึ้นมา ตอนที่มันเห็นผม มันยิ้มออกมาก่อนจะดึงตัวเองขึ้นกอดผมไว้แน่น

“ อาขมมมมมมมมม "

“ ครับผม " กอดตอบมันมันทันทีตอนที่ก้มลงหอมแก้มอีกคนก็ร้องไห้ออกมา

“ อาขม อาขมกลับมาแล้ว อาขมทิ้งหนู อึก อาขมทิ้งหนูไป ฮือๆ อาภาพด้วย "

“ ไม่ได้ทิ้ง กูไปเรียนหนังสือ " ผมบอกมันอ้อมกอดที่กระชับแน่นขึ้น " ถ้ากูทิ้งมึง กูจะกลับมาทำไมละ กูไม่ได้ทิ้งหรอก แค่ไปเรียนเฉยๆ ไปเรียนเสร็จก็กลับมาหามึงแล้วนี่ไง มึงเถอะ ทำไมไปนอนอยู่ที่หน้าประตู ข้าวก็ไม่กินอีก "

“ หนูกลัวโดนทิ้ง หนูอยากให้อาขม อึก กับอาภาพ อึก มารับหนู หนูเลยรอ รอที่ประตูตรงนั้น " เสียงอ้อนๆของมันเอ่ยบอกผมเช็ดน้ำตาให้มันอีกคนก็ซบลงที่อก " หนูกลัว "

“ ไม่ต้องกลัว กูไม่ทิ้งมึงหรอก กูแค่ไปเรียนแล้วกลับมาตอนเย็น อื้ม.. เหมือนพ่อแม่ที่ออกไปทำงานแล้ว ลูกยังเด็กไปทำงานไม่ได้ ไปโรงเรียนก็ไม่ได้ไป ก็เลยต้องอยู่บ้านไง แบบนั้นแหละ "

“ เหรอครับ จริงนะ "

“ จริงสิ " ผมพยักหน้ารับ " ว่าแต่ทำไมมึงไม่กินข้าว กูเตรียมไว้ให้แล้ว ทำไม่กิน "

“ หนูไม่อยากกิน หนูอยากจะให้อาขมป้อนหนู "

“ ไอ้หัวหอมเอ้ยย " ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ดูท่าว่าไม่ดีแน่แล้ว แต่พอคิดทางออกอื่นนั่นก็ไม่มีเหมือนกัน ถึงจะไปบอกพ่อไอ้ภาพถ้าเค้าเข้าใจนั่นก็ดี แต่ถ้าไม่เข้าใจ ก็ได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาแน่ " หัวหอมมึงฟังกูนะ มึงต้องอยู่คนเดียวให้ได้นะ เวลาที่กูกับภาพไปเรียนน่ะ "

“ แล้วทำไมอาขมกับอาภาพไม่พากาลิคไปด้วย พากาลิคไปด้วยนะ กาลิคจะไม่ดื้อไม่ซนเลย "

“ ไม่ได้หรอก กูไปเรียน ไม่ได้ไปเที่ยวสักหน่อย " อธิบายมันออกไป " มึงแค่นั่งดูการ์ตูน หิวก็กินข้าว เดี๋ยวกูจะให้มือถือมึงไว้ กูจะโทรมาหา ถ้ามึงคิดถึงกู มึงก็โทรไปหากู ดีมั้ย "

“ พรุ่งนี้ก็จะทิ้งกาลิคไปอีกเหรอครับ " แววตากลมเอ่ยถาม " พรุ่งนี้ก็จะทิ้งไปแบบวันนี้อีกเหรอ "

“ ไม่ได้ทิ้ง กูแค่ไปเรียนแปปเดียวก็กลับ  " มันคงไม่เข้าใจสินะ ว่าเด็กทุกคนต้องไปเรียนหนังสือถ้าขืนบอกไปแบบนั้นไม่รู้ว่ามันจะถามอีกมั้ยว่า มันละ ทำไมถึงไม่ได้ไปโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆเค้า

“ ไม่อยากให้ไป อย่าไปเลยนะ " มันกอดผมงอแงแบบไม่มีที่สุด

   กริ้ง กริ้ง กริ้ง

   เสียงกดกริ้งดังขึ้นมาผมหันไปมองไอ้ภาพคงกลับมาแล้ว ผมลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมกับอุ้มอีกคนไป มองดูตาแมวที่ก็ไม่ผิดจากที่คิด เปิดประตูให้อีกคนไอ้ภาพก็เดินเข้ามา

“ ทำไมมึงไม่รอกลับพร้อมกูวะ "  คำถามแรกที่มันแถม ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะเหล่มองไอ้ตัวเล็กที่ยังซบอกผมไม่ยอมห่างไปไหน " อะไรกันวะเนี้ย "

“ พอกูบอกว่า พรุ่งนี้กูต้องไปเรียนอีกมันต้องอยู่คนเดียวแบบวันนี้ ก็เป็นอย่างที่มึงเห็นนี่แหละ ยังไม่หยุดงอแงเลย " คนฟังยิ้มก่อนจะหันไปมองที่โต๊ะกินข้าว

“ นี่ข้าวก็ยังไม่กินเหรอวะ "

“ อื้ม มันไม่ยอมกิน  กูกลับมาก็เจอมันนอนอยู่ที่ประตูนู้น " พยักหน้ารับมัน อีกคนก็เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะจับเอวไอ้ตัวเองที่ผมอุ้มอยู่แต่มันก็นิ่ง 

“ กาลิค "

“ ไม่ อาภาพอย่ามายุ่งกับกาลิค กาลิคไม่รักอาภาพแล้ว "

“ อ้าวไหงงั้น เฮ้ยย ไอ้เตี้ยหันมาคุยกันให้รู้เรื่องนะเว้ย "

“ ไม่ได้เตี้ยนะ! “ หัวหอมหันไปเถียงมัน " ตัวเล็ก กาลิคยังเด็กเลยตัวเล็กๆอยู่ "

“ เออ ไม่ได้เตี้ยนะเว้ย " ผมบอกพลางหัวเราะหน้าตาจริงจังของมัน

“ แล้วนี่งอนอะไรกู ถึงมาบอกว่าไม่รักกูแล้ว "

“ กาลิคไม่รักอาภาพแล้ว อาภาพพาอาขมไปจากกาลิค ให้กาลิคอยู่คนเดียวที่บ้าน แล้วพรุ่งนี้อาภาพก็จะพาอาขมของกาลิคไปอีก " ไอ้ภาพหลุดยิ้มออกมา ตอนที่ฟังมันพูด

“ กาลิค มึงน่ารักอะ " มันยิ้มก่อนจะขยี้หัวอีกคน

“ เอ่อ.. มึง มันโกรธมึงอยู่ " ผมบอกเตือน คือเหี้ยนี่คืออะไรอยู่ๆ เปลี่ยนเรื่องเฉย

“ อาภาพห้ามเอาอาขมไปจากกาลิค "

“ กูเอาไอ้ขมไปจากมึงเมื่อไหร่ เราต้องไปเรียนเว้ย เรียนเสร็จก็กลับมาหามึง ถ้าไม่ไปเรียนก็โง่ดิ มึงจะไม่มีตังค์กินหนมนะ ถ้าพวกกูไม่เรียนอะ พวกกูจะโง่ จะหางานทำไม่ได้ แล้วจากนั้นก็ไม่มีตังค์ ซื้ออะไรให้มึงไม่ได้เลย "

“ จริงเหรออาขม " มันหันมาถาม ผมก็พยักหน้ารับ " แล้ว กาลิคละ ทำไม กาลิคไม่ได้เรียนหนังสือ "

“ เพราะอายุยังไม่ถึงน่ะ " ผมบอกมันก่อนจะลูบผม " ต้องโตกว่านี้ถึงจะไปเรียนได้นะ ต้องแข็งแรง เพราะฝึกที่จะอยู่คนเดียวให้ได้ก่อน ถึงจะไปเรียนหนังสือได้ ต้องรู้เวลาว่า ตอนเที่ยงต้องกินข้าว ไม่ใช่ ไม่กินข้าวแบบนั้น "

“ กาลิคจะฝึก กาลิคอยากจะไปโรงเรียน กาลิคอยากมีเพื่อน " มันบอกด้วยความตื่นเต้น ผมก็ฝืนยิ้มออกมา

“ เพราะงั้นต่อไปนี้ เวลาที่กูกับภาพออกไปเรียน มึงก็ต้อง กินข้าวให้หมดนะ รอกูสองคนกลับมา เข้าใจมั้ย "

“ จะกลับมาใช่มั้ย จะกลับมาหากาลิค "

“ กลับสิ ต้องกลับมาหามึงอยู่แล้ว ไปเรียนแปปเดียว ยังคิดถึงมึงจะแย่เลย " ไอ้ภาพบอกก่อนจะก้มลงหอมแก้มมัน ท่าทางที่ดูงอนๆอยู่อีกคนก็บอก " กูยอมให้มึงทำโทษก็ได้นะ ถ้ามึงโกรธกูแล้วละก็ "

“ ไม่ กาลิคไม่อยากจะหอมแก้มอาภาพ " มันเบือนหน้าหนี

“ โอ๊ยตาย น่าสงสาร มาโดนเด็กปฎิเสธทั้งๆที่มีสาวๆเข้าหามาทั้งชีวิต " เอื้อมมือไปตบไหล่มัน ผมหัวเราะออกมากาลิคก็บอก

“ แต่กาลิคหายโกรธอาภาพแล้วนะ "

“ จริงอะ " เด็กน้อยพยักหน้ารับ

“ ถ้าไม่อาภาพเชื่อกาลิค กาลิคจะให้อาขม หอมแก้มอาภาพแทนกาลิค "

“ อะไรนะ " ผมหันไปมองหน้ามันที่มองตาผมด้วยแววตาไม่รู้เรื่อง รู้ราวอะไร " เดี๋ยวๆ กูไปเกี่ยวอะไรด้วยเนี้ย "

“ กูไม่ค่อยมั่นใจเลย กลัวกาลิคยังโกรธอยู่ " หน้าตาตอแหลของมันมองหน้าผมก่อนจะกระพริบตาปริบๆ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อหรอกไอ้สัด จะแกล้งกูชัดๆ

“ อาขม หอมแก้มอาภาพหน่อยสิครับ "

“ ไม่ เกี่ยวไรกับกู มึงงอนมัน มึงหายโกรธมันแล้ว มึงก็หอมมันเองสิวะ "

“ แต่กาลิคไม่อยากหอม อาขมหอมให้หน่อยนะครับ นะๆ หอมอาภาพให้กาลิคหน่อย " เบือนสายตาอ้อนๆของมัน มาจ้องไอ้เชี้ยภาพที่ที่ก็ทำหน้าตาตอแหลแล้ว เอียงแก้มให้ผมเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา " นะ อาขมนะ "

“ แล้วมันเกี่ยวเหี้ยอะไรกับกูวะ ต้องแพ้เวลามึงอ้อนตลอดเลยเนี้ย " บ่นออกไปแต่ถึงอย่างงั้นผมก็ถอนหายใจแล้วก้มลงไปหอมแก้มอีกคนแบบจนใจ ไอ้ภาพยกยิ้มขึ้นมาท่าทางมีความสุขสุดๆเพราะได้แกล้งผมก่อนที่มันจะเอื้อมมืออุ้มกาลิคแล้วล้มตัวลงนอนบนโซฟา เสียงตะโกนของมันดังลั่นออกมาพร้อมเสียงหัวเราะของไอ้ตัวเล็กที่ก็มีความสุขเสียเหลือเกินตอนที่ไอ้ภาพหอมแก้มมัน

“ กูรักมึงกาลิค มึงนี่มันโคตรน่ารักกกกกกเลย "
   
...........................................................
ตอนเดียวแต่หลายความรู้สึกเหลือเกินนนน ทั้งสงสการเด็กน้อย
โดนให้อยู่บ้านคนเดียวเพราะคุณพ่อทั้งสองไปเรียนกันหมด
เดี๋ยวต้องมีคนอ่านแบบ ฮือๆ ทำไมทิ้งน้องไว้ ถ้าให้ตอบตามพล๊อตคือ ก็น้องไม่มีเอกสารแสดงตัวตนไปสมัครเข้าอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ถ้าให้ตอบแบบคนเขียนก็ คือ วางเข้าพล๊อตต่อไปค่าาาาาา ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
แต่ท้ายที่สุดนี้... แอบรัก ชัดโม นะ จุ๊บๆ.. ถ้ามีคนสงสัยว่าไอ้สองคนนี้เป็นใครวะ
แนะนำว่าให้ขึ้นไปอ่านตอนที่หนึ่งแล้วจะพบคำตอบจ้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ ฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่าาาาาาา
 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 03-03-2017 21:40:46
หัวหอมน่ารักเสมอ

ชัดโม นี่ยังไงค่ะ
รออ่านคู่นี้ด้วย

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-03-2017 21:49:54
ตอนนี้ทั้งรักทั้งหลงหัวหอม อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 03-03-2017 23:14:33
โอย สงสารเด็กน้อย คงเป็นแผลลึกจริง ๆ เรื่องโดนทิ้ง

คุณพ่อมือใหม่สองคนก็ต้องค่อย ๆ ประคับประคองครอบครัวน้อย ๆ ไปนะ สู้ ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 03-03-2017 23:50:11
 o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 03-03-2017 23:56:46
หัวหอมจะน่ารักไปหนายเนี่ยยย เอาอีกๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 04-03-2017 00:09:20
นี่คือจีบใช่ไหม :-[
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 04-03-2017 00:48:08
รอตอนต่อไปค่าา  :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-03-2017 00:49:48
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-03-2017 01:33:03
หลงเด็ก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: tonnum18 ที่ 04-03-2017 07:26:55
น้องกาลิคออกจะน่ารัก ทำมั้ยแม่ถึงเอาน้องกาลิค มาไว้กับขมแลัภาพหนอ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 04-03-2017 08:40:40
สงสารกาลิกจังเลย   แต่ยอมรับเลยว่ากาลิกน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 04-03-2017 12:17:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 04-03-2017 12:47:52
แล้วเมื่อไรยัยแม่โรคจิตของหัวหอมจะปรากฏกายมาแก้ปัญหาซะที โคตรสงสารเด็กเลย ยิ่งให้อยู่คนเดียวแบบนี้ คือมันไม่ใช่นะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: เมื่อนั้นฝันว่า ที่ 04-03-2017 13:36:12
จะกลายเป็นเด็กมีปมไหมเนี่ย หัวหอมเอ้ยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 04-03-2017 13:40:59
โธ่เอ๊ย...ต้องทิ้งหัวหอมไว้บ้านคนเดียว น่าสงสารๆ
แต่ทางเลือกมันก้อมีไม่มากนี่นะ TT
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 04-03-2017 14:28:17
น่าสงสารหัวหอมโดนทิ้งให้อยู่คนเดียว

หาคนมาอยู่เป็นเพื่อนน้องไม่ก็เอาไปฝากเลี้ยงก็ได้นะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-03-2017 14:50:05
สงสารหัวหอม~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 04-03-2017 14:58:52
เมื่อไหร่ภาพขมจะเลิกพูดมึงกูกับเด็ก :serius2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 04-03-2017 16:47:20
หัวหอมเอ๊ย น่าสงสารจริง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 6 - 3.3.60} #หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 04-03-2017 17:08:40
หัวหอมหนูน่ารักกกกกกกก  :mew1: ทั้งสงสารเด็กน้อยแอบน้ำตาซึมตอนน้องนอนรอที่หน้าประตูง่ะ :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 05-03-2017 20:28:30
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 7

   ปรับเกียร์เข้าสู่โหมดพักก่อนจะดึงเบรคมือขึ้นมาเพราะรู้ว่าอีกนานแน่ กว่ารถของผมจะเคลื่อนตัวออกไป คิดถึงคำพูดของไอ้ขมตอนที่พูดเรื่องไอ้ชัดก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา สายตาที่มองผมแบบล้อเลียนนั้นเหมือนมันมั่นใจในความคิดตัวเองทั้งหมดแล้ว แต่ก็แค่มาถามย้ำล้อๆกันก็เท่านั้น หันมองแก้วชาเย็นที่มีน้ำไหลซึมออกมาตามแก้ว ผมยกมันขึ้นมาก่อนจะดูดน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งนั้นทั้งหมด ตัดน้ำแข็งใส่ปากก่อนจะชูมันขึ้นตรงหน้าตัวเองเซ็งๆ

 " เพราะมึงเลย เพื่อนกูก็เลยเข้าใจผิด "

   ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากตอนเรียนปีหนึ่งวันที่ไอ้ขมแนะนำไอ้ภาพให้ผมรู้จัก เพื่อนสนิทของมันที่เป็นเด็กคณะบริหารรูปร่างสูงแถมหน้าตายังหล่อเหลา แล้วต่อมาหลังจากนั้นไม่นาน ภาพก็พาไอ้ชัดมาแนะนำให้เรารู้จัก ความรู้สึกแรกที่ผมเห็นคือ ' น่ากลัว ' มันเป็นผู้ชายผิวสองสี หน้าตาคมเข้ม แถมยังไว้ผมยาวปะป่ามัดครึ่งหัวอีก ลักษณะแบบนั้นยิ่งชวนให้มันดูน่ากลัวขึ้นไปอีกในความรู้สึกของผม

   คิดถึงสมัยม.ปลายที่แก้งค์เพื่อนเผลอไปมีเรื่องกับคนท่าทางแบบนี้ตอนไปฉลองเรียนจบที่หัวหินเลย  ทั้งๆที่เราเดินอยู่ริมหาดแล้วเพื่อนคนนึงของผมดันเผลอไปสะดุดขวดเหล้าที่เพิ่งเปิดล้มลงก็เท่านั้น ตอนนั้นคิดว่า ขอโทษคงจบ แต่เปล่าเลย มันไม่จบแค่นั้นเพราะพี่แกเสือกเมาอยู่ ท่าทางที่จะต่อยหาเรื่องเราให้ได้ พอผมพูดว่าจะจ่ายค่าเสียหายให้มันก็เบนเข็มมาทางผมแล้วคว้าคอเสื้อไปจนต้องคว้าไปให้ตั้งสองพัน แถมเพื่อนยังไม่ช่วยออกสักบาทเดียว

   เพราะเพื่อนชอบคิดกันว่ารวยที่สุดในกลุ่ม เงินเท่านั้นผมจ่ายได้ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ไม่มีความหมายอะไร ติดว่ารวยสุดในกลุ่มแล้วเป็นแบบนี้ทุกที ตอนที่เล่าเรื่องนี้ให้ไอ้ขมฟังมันพยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยยิ้มๆ
“ ไม่เป็นไรหรอก กูว่าชัดนิสัยดีนะมึง มันเงียบๆก็เถอะ แต่มันชอบช่วยเหลือคนอื่นนะ ไม่ใช่พวกกร่างๆแบบที่มึงเจอหรอก ไม่ต้องกลัว " มือที่ยื่นมาตบหลังปลอบๆ " แต่ถ้ามึงไม่โอเค กูจะไม่ให้มันอยู่ใกล้มึงเลย ถ้าเกิดว่ากูไม่อยู่ตรงนั้น โอเคปะ กูเข้าใจกูก็ไม่ชอบแมลงสาปเหมือนกัน มันคงฟิวเดียวกัน "

“ เปรียบเทียบอะไรของมึงแบบนั้นวะ " กูกลัว ไม่ได้เกลียดสักหน่อยไอ้บ้า แต่ถึงอย่างงั้น ขมมันก็ทำตามที่พูดไว้จริงๆ ถ้ามีไอ้ชัดแล้วผมต้องไปด้วยมันจะชอบเข้ามาอยู่ใกล้ๆ ไม่ให้ผมรู้สึกกลัวเท่าไหร่ แม้มันจะมองผมแล้วชวนคุยบ้างแต่ก็มีขมอยู่ด้วยตลอด มันจะชวนคุยไม่ให้ผมต้องรู้สึกหนักใจเมื่อต้องคุยกับไอ้ชัด แต่ดูท่าทางไอ้ชัดมันจะรู้เหมือนกัน ถ้าไม่มีไอ้ขมมันก็ไม่เคยเข้ามาคุยกับผมหรอก

   ตลอดสองปีมันเป็นแบบนั้น จนช่วงขึ้นปีสามแรกๆ ที่ผมมีนัดกับเพื่อนสมัยม.ปลายอีกครั้ง ที่ผับดังย่านเอกมัย เสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม เสียงคุยของเราเหมือนกับต้องแข่งกับเพลงพวกนั้น ผมนั่งยิ้มนั่งเม้าส์กับเพื่อนตัวเองไปเรื่อยๆ ก่อนจะหันไปเจอใครบางคนที่ก็จ้องผมอยู่ก่อนแล้ว ตาผมเบิกกว้างเพราะตกใจไม่น้อยเลยที่ต้องมาเจอคนรู้จักที่นี่

“ อ้าว ชัด " ผมพูดออกไปตามมารยาท มือที่ยกขึ้นทักมัน อีกคนก็ยิ้มก่อนจะยกแก้วเบียร์ในมือขึ้นทักผมเหมือนกัน

“ รู้จักกันเหรอวะโม " เพื่อนที่นั่งร่วมโต๊ะถาม ผมก็พยักหน้ารับ

“ อื้ม เป็นเพื่อนของเพื่อน ของเพื่อนน่ะ "

“ ห๊า ? “ มันเอ่ยปากงงๆ " งงวะ อะไรของมึง "

“ ช่างเถอะ กูไม่ได้สนิทอะไรกับเค้าหรอก " บอกปัดไปแบบนั้น ไม่อยากจะสนใจอะไรมากมาย ผมพยายามทำเป็นไม่สนใจแต่ทว่าก็ไม่ได้รู้สึกสนุกที่ได้นั่งคุยเรื่องตอนม.ปลายกับเพื่อนแล้ว เพราะไอ้ชัดมันเอาแต่คอยมองผมตลอด มองจนเพื่อนผมที่นั่งคุยด้วยยังรู้สึกว่าถูกจ้องตลอดเวลา

“ โม เพื่อนของมึง จ้องมึงตลอดเลยวะ "

“ อื้ม กูรู้แล้ว " คว้าแก้วเหล้าขึ้นมากิน ไม่กล้าจะเหลือบมองไปเลย กลัวว่าจะสบกับสายตาคมนั้นที่จ้องมองมา " ทำไมต้องจ้องด้วยวะ อึดอัด น่ากลัวด้วยอีเหี้ย  " ก้มหน้าลงพูดกับตัวเอง ผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะวางแก้วลงกับโต๊ะ " กูอยากจะกลับแล้ววะ " ผมบอกเพื่อนที่นั่งข้างๆ ตอนที่ลุกขึ้นยืนยังไม่ทันจะหันตัวไปไหน ก็มีผู้ชายคนนึงที่เมาเหล้าได้ที่โซซัดโซเซมาชนผมเข้าอย่างจังแถมยังเซไปชนกับเด็กเสิร์ฟเหล้าที่หอบเหล้าชุดใหญ่เดินผ่านมาอีก

“ เชี้ยยย !! “ คนเมาร้องเสียงดัง ผมที่สะดุ้งตัวด้วยความตกใจยืนอยู่ตรงนั้น ทั้งๆที่ยังไม่ทำอะไรแต่คนที่ล้มก็หันมาชักสีตาหาเรื่องใส่ทันที ผู้ชายตัวสูงแขนล่ำที่แน่นอนว่าถ้าใครโดนมันชกคงต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลแน่ๆ " มึงผลักกูทำไมวะ "

“ ห๊ะ ? “ ผมเอ่ยออกไปงงๆ ตอนไหนวะที่กูไปผลักมึง กูก็ยืนอยู่เฉยๆของกู  " กูไม่ได้ผลักมึงสักหน่อย กูยืนอยู่เฉยๆ ผลักเหี้ยไรวะ "

“ ไอ้เหี้ยมึงเถียงเหรอ มึงผลักกูชัดๆ จ่ายค่าเหล้าที่กูชนให้กูเลยนะไอ้สัด มึงต้องรับผิดชอบ!! " มันลุกขึ้นจากพื้นที่มันล้มโซเซมาคว้าเอาคอเสื้อผมก่อนจะดึงเข้าไปใกล้ " ไม่งั้น กูอัดมึงเละแน่ "

“ เชี้ยโม! มันเอาจริงแน่ๆเลย จ่ายๆ เค้าไปเถอะ ค่าเหล้าแม่งถูกกว่าค่านอนโรงพยาบาลนะมึง " เพื่อนข้างๆผมกระซิบและผมก็เห็นด้วยแบบนั้น แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยพูดตกลงอะไร ร่างสูงที่จ้องผมมาตลอดก็เดินเข้ามาใกล้ ไอ้ชัดคว้ามือผู้ชายคนนั้นที่จับคอเสื้อผมก่อนจะบิดข้อมือนั้นจนใบหน้าหาเรื่องนั้นได้แต่ทำหน้าเจ็บปวดออกมา เค้ายอมปล่อยมือจากคอผมก่อนจะถูกชัด ผลักให้ออกห่าง ออกก่อนจะดึงให้ออกห่าง  ก่อนที่เค้าจะเดินมายืนขวางหน้าผม ปกป้องผมไว้ เสียงทุ้มๆที่เอ่ยบอกผู้ชายคนนั้น

“ จะให้คนที่ไม่ได้ผลักมึงล้ม จ่ายค่าเหล้าที่มึงต้องรับผิดชอบเอง มันไม่ใช่มั้งกูว่า "

“ แล้วมึงเสือกอะไรวะ! ” ผู้ชายคนนั้นว่าก่อนจะผลักอกไอ้ชัดที่ก็ไม่มีทีท่าว่าหลีกไปไหน

“ ชัด ไม่เป็นไรหรอกมึง กูจ่ายให้เค้าก็ได้ เรื่องจะจบๆไป " กระซิบบอกมันแบบนั้นอีกคนก็หันมามองหน้าผม สายตาคมดุๆของมันบอกว่ามันไม่เห็นด้วยที่ผมจะจัดการเรื่องนี้ด้วยเงิน " ช่างเถอะ "

“ ไม่ได้! " มันปฎิเสธ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้คนเมายั๊วะหนักขึ้นมา

“ มึงแม่งเสือกวะ ไอ้เชี้ยนี่มันทำกูล้มลง มันต้องรับผิดชอบสิวะ กูเดินของกูดีๆ "

“ มึงเมา แล้วมึงก็ชนมัน พอหันไปเห็นว่าคนใกล้ๆ หน้าตาไม่น่าเอาความ มึงก็จะปัดความรับผิดชอบ ไม่จ่ายค่าเหล้าแบบนี้ มันหน้าตัวเมียนะกู ทำอะไรก็รับผิดชอบสิที่ตัวเองทำสิวะ " มันบอกผู้ชายคนนั้นก็คว้าเอาเสื้อไอ้ชัด ใบหน้าแดงกล่ำด้วยความโกรธ เค้าพูดรอดไรฟัน

“ แล้วมึงเห็นรึไง ว่ากูเป็นคนชน อย่าเสือกจะได้มั้ย มึงอยากจะตายรึไง ถึงได้มาทำตัวเป็นพระเอก ทำเก๋าอยู่แถวนี้ ห๊า! "

“ กูมองโมมันอยู่ตลอดเวลา มันอยู่ในสายตาของกูตลอด กูเลยมั่นใจว่ามันไม่ได้ชนมึงแน่ " ชัดบอก คำพูดที่ชวนให้ผมนิ่งไป " แต่ถ้าจะเอาจุดอ่อนของมันที่ไม่ชอบมีเรื่องของคนอื่นมาบีบให้มันรับผิดชอบเรื่องที่มึงทำแล้วละก็ กูคงยอมไม่ได้เพราะมันเป็นเพื่อนกู กูต้องปกป้องเพื่อนกู "

   ผมเงยมองคนที่ออกตัวปกป้องผมทั้งๆที่ผมไม่เคยเรียนมันว่าเพื่อนเลยสักครั้ง แถมยังทำทีออกห่างมันมาตลอดอีก แต่ตอนนี้กลับเป็นมันคนเดียวที่ยื่นมือมาปกป้องผม ต่างจากคนที่ผมเรียกว่าเพื่อนด้วยซ้ำ คนที่สอนให้ผมเอาเงินทองของตัวเอง จ่ายแก้ปัญหาตลอด โดยไม่คิดเลยว่า บางทีคนที่มันมองว่ารวย มีเงินเยอะจ่ายกับความคิดที่ว่า ' แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก โมมันรวย มันจ่ายได้ ' แต่บางทีผมก็ไม่อยากจะจ่ายให้กับเรื่องงี่เง่าที่ผมไม่ได้ผิด และ ผมไม่ได้ก่อหรอก เงินไม่ว่าจะกี่บาทก็มีค่าสำหรับผมเหมือนกัน

“ แม่งพูดซะกูเป็นหมาเลย ที่บอกให้มึงจ่ายๆเงินไปจะได้จบเรื่อง " เพื่อนผมเอ่ยบอกเบาๆ

“ นี่มึงยังไม่เลิกเสือกใช่มั้ย " ผู้ชายที่หาเรื่องผม มันยังไม่จบง่ายๆ

“ มึงดูท่าทางว่าจะไม่ใช่นะ เอาแบบนี้ละกัน " ชัดเงยมองไปที่กล้องวงจรปิด มันชี้ขึ้นไป " เอามันลงมาดู คงรู้แหละว่าตกลงใครผิดใครถูก "

“ มึง..” เสียงกัดฟันที่พูดรอดไรฟันออกมา มือหนากำหมัดแน่นแล้วในตอนนั้นเองเค้าก็ง้างหมัดตัวเองออกแต่คงช้าไปเพราะ ชัดมันกลับต่อยเข้าที่ท้องของผู้ชายคนนั้นเต็มๆ แรงอัดที่ทำให้คนหาเรื่องงอตัวลงช้าๆ มันก้มลงไปกระซิบอะไรสักอย่างเป็นคำพูดที่ผมไม่ได้ยิน

“ ตกลงมึงจะจ่ายมั้ย "

“ จ่าย กูจ่ายเอง " ชัดยกยิ้มขึ้นมาตอนที่ได้ยินคำตอบนั้น ก่อนจะหันมามองผม

“ จะกลับบ้านไม่ใช่เหรอ มาสิเดี๋ยวไปส่งที่รถ "

“ อะ อื้ม " พยักหน้ารับมันก่อนจะหันไปบอกเพื่อนตัวเอง " งั้นพวกมึงกูกลับบ้านก่อนนะ ไว้เดี๋ยวโทรคุยกัน "

“ อื้ม " ยิ้มให้เสียงตอบรับพวกนั้นผมเดินตามหลังชัดออกมาจากในผับ มาถึงรถคันสีขาวของตัวเอง มันหยุดยืนที่หน้ารถผมก่อนจะก้มลงมองหน้าผมที่ก็เป็นจังหวัะเดียวกันที่ผมเงยหน้ามองมัน

“ เอ่อ ขอบใจมากมึงที่ช่วยกูไว้ "

“ ทีหลังถ้ามีคนไถเงินแบบนั้นอย่าไปยอมละ ถ้ายอมก็ต้องยอมไปเรื่อยๆ " มันว่า ผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา " เงินมันมีค่านะ พ่อแม่หามาให้มึงใช้ไม่ได้หามาให้มึงเอาไปจ่ายอะไรแบบนั้น "

“ รู้แล้วน่า ก็กูไม่ชอบมีเรื่องกับคนอื่น ค่าโรงพยาบาลมันแพงกว่าค่าเหล้านะ มึงไม่คิดงั้นเหรอ " มันยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะเบือนหน้าหนีคำพูดของผม แต่ก็ยอมพยักหน้ารับเห็นด้วย

“ นั่นก็จริง "

“ ยังไงกูก็ต้องขอบใจมึงนะ ที่ช่วยมึงไว้ ดูท่าทางว่าถ้ามึงไม่ช่วยไว้ กูต้องต้องจ่ายค่าเหล้าแน่ๆ เพราะเพื่อนกูคงไม่ออกตัวช่วยหรอก อย่างมากก็แค่บอกให้จ่ายๆไปเหมือนทุกที "

“ ไม่เป็นไรหรอก ก็เราเพื่อนกัน เพื่อนก็ต้องปกป้องเพื่อน " มันบอกก่อนจะหันไปมองทางอื่น เราที่ยืนข้างกันเงียบๆแบบนั้น ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับมันแล้ว ไอ้ชัดที่เห็นแบบนั้นมันเลยเอ่ยถามขึ้นมา " แล้วจะกลับบ้านเลยเหรอ "
“ ก็แบบนั้นแหละ มึงละ คงกลับไปกินเหล้าข้างในต่อใช่มั้ย "

“ ก็คงแบบนั้น " ผมพยักหน้ารับ " งั้นก็ขับรถกลับบ้านดีๆ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับมันอีกครั้ง ไม่รู้ว่าต้องแสดงท่าทางหรือความรู้สึกแบบไหนต่อนหน้ามัน คงเพราะปกติเราไมไ่ด้คุยกันแบบนี้ทุกอย่างก็เลยดูเกร็งไปหมด มันเกร็งแบบแปลกๆ รู้สึกหน้าของผมมันร้อน ใจของผมมันเต้นแรง หันไปยิ้มให้มันอีกครั้งตอนที่เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ จัดการคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย สตาร์ทรถ สบสายตาคมที่ยังคงมองอยู่ผมขับรถออกมา มองดูชัดที่มองผมและคิดว่ามันคงมองอยู่แบบนั้น จนกว่าจะลับสายตาของมัน

   ขับรถกลับมาถึงบ้านของตัวเอง ผ่อนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มก่อนจะคิดถึงใบหน้าคมที่เข้ามาช่วยกันไว้เมื่อครู่ บางทีผมคงต้องมองมันใหม่แล้วมั้ง ถึงจะหน้าตาน่ากลัวไปหน่อยแต่ว่า จริงๆมันก็เป็นคนใจดีแถมยังเป็นห่วงเป็นใยผมอีก คิดถึงคำพูดของมันที่พูดว่าต้องปกป้องผมเพราะผมเป็นเพื่อนมัน ก็ชวนให้ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้

   ครืน ครืน  ... เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาผมกดรับสายไอ้ยิมเืพ่อนร่วมแก้งค์ที่ไปกินเหล้าด้วยกันวันนี้ มันที่ตอนนี้ฟังจากเสียงก็คงอยู่ในรถและกำลังขับกลับบ้านแล้ว

' ไอ้โม กูมีอะไรจะเล่า กูรู้แล้วว่าทำไมไอ้คนที่จะให้มึงจ่ายค่าเหล้าให้ มันถึงยอมเพื่อนมึงง่ายจัง '

“ อ่าห๊ะ ทำไม "

' เพื่อนมึงมันเป็นนักมวยเว้ย อยู่ยิมดังเค้าเลยกลัวไม่กล้าจะสู้ต่อ '

“ เหรอ " เพิ่งรู้เหมือนกันว่ามันเป็นนักมวยแต่รู้จักกันมาสองปีก็เคยมีแผลที่หน้านะ เป็นนักมวยแบบไหนของมันกันวะ แค่นักมวยที่ซ้อมให้พวกสาวๆ ดาราที่มาออกกำลังกายต่อยมวยรึเปล่าเถอะ เพราะมันก็หล่อแล้วก็ดูดีอยู่นะ

" แล้วอีกอย่างที่มึงต้องฟังไว้ มันบอกไอ้ผู้ชายคนนั้นว่า อย่ามายุ่งกับมึงเพราะมึงเป็นแฟนมันวะ โคตรเชี้ยยย พูดแบบนั้นได้ไงวะ มึงเสียหายหมดว่ามั้ย ช่วยมึงก็ดีอยู่หรอกแต่พูดแบบนี้ก็ไม่ไหวเปล่าวะ " เหมือนสมองผมไม่ได้ฟังคำพูดที่เพื่อนออกความคิดเห็นอะไรสักเท่าไหร่ ทุกอย่างมันหยุดลงตอนที่ได้ฟังว่า ไอ้ชัดบอกกับคนนั้นว่า ผมเป็นแฟนมันตังหาก

" มันบอกว่ากูเป็นแฟนมันจริงๆเหรอ "

" อื้ม " ไอ้ยิมตอบรับ " กูได้ยินมันพูดกับเพื่อนมันอะ ว่าอย่ามายุ่งกับกลุ่มเรานักมวยคุมงี้ "

" อื้ม " พยักหน้ารับลง เผลอกลืนน้ำลายตัวเองด้วยความประหม่าหน้าแดงๆของผมตอนนี้ไม่มีคำพูดอะไรมากกว่านี้อีก เหมือนมันพูดไม่ออกแถมใจยังเต้นแรงแปลกๆอีก

" มึงไม่โอเคใช่มั้ยไอ้โม เหี้ยวะ พูดแบบนั้น "

" ช่างเถอะ " ผมบอกปัด " พูดไปแล้ว มันเอากลับคืนมาไม่ได้หรอก "

" มึงแม่งก็ใจดีเกินไป ไปบอกมันเลยว่าทีหลังอย่าพูดแบบนั้น มึงเสียหาย มึงไม่ได้เป็นเกย์สักหน่อย ถ้าสาวๆมาได้ยินเค้าจะหนีมึงหมดนะสัด "

" นั่นนะสินะ เออๆ กูจะจัดการเอง ยังไง ขอบใจมึงมากที่โทรมาบอกนะ " บอกแบบนั้น ผมผ่อนลมหายใจออกมาจก่อนจะวางสายลง " บอกว่าเป็นแฟนเลยเหรอวะ " คิดถึงใบหน้าของมันตอนที่จ้องมองผมแล้วเอ่อยคำนั้นออกมา ก่อนจะเบือนหน้าหนีความคิดตัวเองที่กำลังทำให้ใจเต้นรัวแบบไม่เป็นจังหวะ " อย่าคิดมากน่าไอ้โม เค้าก็คงแค่พูดไป คงไม่ได้มีอะไรหรอก "


.........................................................

“ คุณโมครับ จะให้ผมมารับกี่โมงดีครับ " เสียงของคนขับรถที่วันนี้ขับรถมาส่งผมที่มหาลัยเอ่ยถาม ยกนาฬิกาขึ้นดูจริงๆก็มีนัดกับไอ้ขมไว้แล้วว่าสอบเสร็จจะไปกินเหล้าที่คอนโดมันต่อ ไม่รู้เลยว่าจะกลับตอนไหน แถมรถส่วนตัวที่มีก็ดันต้องเอาไปเช็คระยะวันนี้อีก

“ ยังไม่รู้เลยครับ ยังไงถ้าจะกลับเดี๋ยวโมโทรบอกนะครับ อาจจะค้างคืนบ้านเพื่อน ขอบคุณมากครับคุณลุงที่มาส่ง "
“ ครับคุณโม " ลุงคนขับรถพยักหน้ารับ ผมก็เดินลงจากรถ  วันนี้เป็นสอบวันสุดท้ายแล้วหลังจากนี้ก็จะหยุดยาวเป็นอาทิตย์ ตั้งใจจะนอนนิ่งๆ ทั้งวันแบบไม่ออกไปไหนเลย

   หลังจากสอบเสร็จเรียบร้อยผมที่ออกมาหลังไอ้ขม เดินเข้าไปหามันที่นั่งรออยู่แล้ว " มึง ไปกันเลยมั้ย ไอ้ภาพสอบเสร็จยัง "

“ กูมีอะไรต้องบอกมึงวะ คือ ไอ้ภาพมันเสือกชวนไอ้ชัดไปด้วยวะ ได้มั้ยวะ มึงโอเครึเปล่า " ไหงดันมีชื่อคนที่ผมไม่อยากจะเจอหน้าอยู่ด้วยวะ ตั้งแต่วันนั้นที่เจอมันที่ผับ ได้ยินเรื่องราวที่มันบอกชายคนนั้นจากเพื่อน ผมก็หลบหน้ามันตลอดเพราะเป็นช่วงสอบด้วย สอบเสร็จก็กลับ แต่สุดท้าย หนียังไงแม่งก็ไม่รอด ต้องเจออยู่ดี " โม มึงดูไม่โอเคเลยวะ ยังไงเรานัดกินเหล้ากันหลังจากนี้ก็ได้ ขอโทษจริงๆมึง " หน้าตารู้สึกผิดของมันชวนให้ผมหนักใจพอๆกับการต้องไปเจอไอ้ชัดนั่นแหละ

“ ไม่เป็นไรมึง กูไปได้ " ผมบอกมันอีกคนก็ยิ้มกว้างออกมา
 
“ เหรอ โอเค งั้นเราก็ไปกันเลย ไป "

   ติดรถไอ้ภาพมาลงที่คอนโดมันสองคน ไอ้ชัเป็นคนแวะซื้อเหล้าแล้วก็พวกของกินทั้งหมด ผมพยายามไม่มองหน้าชัด แค่ยิ้มให้เฉยๆ เพราะไม่อยากให้มันรู้สึกว่าผมแปลกไป แต่ก็ดูเหมือนว่ายิ่งทำแบบนั้น ก็ยิ่งทำให้มันยิ่งจับผิดได้ว่าผมมันไม่ปกติ

“ มึงเป็นอะไรรึเปล่าวะ โม " มันเอ่ยถามตอนที่ผมกำลังเทน้ำแข็งใส่โถจะเอามาตั้งที่วงเหล้า ส่ายหน้าให้มันอีกคนก็ยังมองมาแบบไม่เชื่อกันเท่าไหร่

“ ทำไมวะ "

“ มึงดูเกร็งๆ เวลาอยู่กับกู "

“ ไม่มีอะไรหรอก มึงอะคิดมาก " ผมยิ้มให้มัน ตอนที่เอื้อมมือไปตบไหล่อีกคนก่อนจะเดินออกมา

   นั่งกินเหล้าจนแบบสนุกสนาน เสียงหัวเราะที่ดังไม่ขาดการไอ้ภาพไอ้ขมที่ตั้งใจเล่าเรื่องตลกๆ จนผมได้แต่ขำจนลืมเรื่องทุกอย่างไป ช่วงเวลายาวนานที่ผ่านไปเรื่อยๆจนผ่านเข้าสู่อีกวัน ผมลืมตาตื่นขึ้นมาตอนที่ถูกปลุกแบบรีบร้อนจากไอ้ขม

“ โม มึงกลับไปก่อน กลับไป กลับๆ " ถูกดึงขึ้นมาจากโซฟาพร้อมกับประโยคของไอ้ขม ผมนั่งมึนๆเพราะยังคงแฮงค์เหล้าที่กินไป มองซ้ายขวาก่อนจะดูภาพที่ปลุกไอ้ชัดอยู่เหมือนกัน

“ มึงตื่นดิว่ะ ไอ้ชัด กลับไปก่อน เหี้ย เร็วๆ " ภาพเอาตีนเขี่ยก่อนที่มันจะลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าโกรธๆ แต่พอไอ้ขมบอกว่าที่มันต้องไล่เพราะแม่มันกำลังจะที่นี่ จากที่นั่งหน้ามึนกันอยู่ทุกอย่างก็เหมือนจะเปลี่ยนไปโดยเร็ว ผมจัดการจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้ดี คว้าโทรศัพท์มือถือสะพายกระเป๋าเป้แต่ยังไม่ทันพูดอะไร ไอ้ชัดก็เป็นคนถามผมขึ้นมาก่อน

 " โม มึงจะกลับพร้อมกูรึเปล่า "  คำถามที่ชวนให้ผมนิ่งไป มองหน้ามันที่ไม่รู้จะตอบยังไงจนไอ้ภาพพูดขึ้นมา

“ มึงจะเงียบอีกนานเปล่าว่ะ ไอ้โม วิญญาณยังไม่เข้าร่างเหรอมึง "

“ เออๆ ไป ไปก็ได้ " ผมว่าก่อนจะก้มลงหามือถือของตัวเองแก้เก้อที่เมื่อกี้ตัวเองอึ้งอยู่นานที่ต้องกลับกับไอ้ชัด ผมบ่นออกมา " มือถือกูอยู่ไหนวะ "

“ ก็ถืออยู่ไม่ใช่รึไงว่ะ " ไอ้ชัดบอก ผมก็มองหน้ามันก่อนจะหันมองที่มือตัวเองแล้วตอนนั้น ผมก็ยิ้มแห้งๆให้คนที่บอก

“ จริงด้วยว่ะ "

“ แฮ้งค์สัดอะ กลับบ้านไปอาบน้ำนอนต่อเถอะมึง ไปๆ " ไอ้ขมออกปากไล่ มันแปลกอยู่สักหน่อยที่มันให้ผมกลับกับไอ้ชัดสองคนแบบนี้ทั้งๆที่ปกติ มันก็รู้ว่าผมไม่ค่อยชอบไอ้ชัดเท่าไหร่

“ ไปขึ้นลิฟต์กันเถอะ " ผมเฉไฉไปทางอื่น เดินนำมันไปขึ้นลิฟต์ มือที่กำลังจะกดโทรออกหาคนขับรถที่บ้านให้มารับ ไอ้ชัดก็ถามขึ้น

“ มึงจะให้คนที่บ้านมารับเหรอ "

“ ก็ใช่นะสิ ไม่งั้นจะกลับไงละ "

“ กูไปส่งมั้ย " คำพูดสั้นๆของมัน ทำให้ผมหันไปมองแล้วคิด " ถ้ามึงคอยคนที่บ้านมารับ กว่าเค้าจะมาถึงก็น่าจะใช้เวลานานนะ ให้กูไปส่งก็ได้ จะได้ไม่ต้องคอยไง "

“ เอ่อ..” ผมเม้มริมฝีปากกับคำชวนที่เอ่ยออกมา ก็จริงอย่างที่มันพูดอยู่ ถ้ามันไปส่งผมก็ได้กลับบ้านเร็ว ไม่ต้องคอยให้คนที่บ้านมารับเพราะไม่รู้ด้วยว่าเค้าจะว่างมารับรึเปล่าและไม่รู้ว่าจะมารับเลยได้มั้ย แต่จะให้ไปกับคนที่เคยบอกคนอื่นว่า ผมเป็นแฟนมันนั่นก็ดูแปลกอยู่นะ

“ ว่าไง "

“ ไปก็ได้ " ผมตอบรับ ก่อนจะเดินไปขึ้นรถของชัดที่จอดอยู่ใต้คอนโด รถญี่ปุ่นทั่วไปสีดำผมเข้าไปนั่งหน้าข้างคนขับที่ก็ขับรถตรงออกไป ผมบอกทางมันเรียบร้อยอีกคนที่พยักหน้าเข้าใจก่อนจะเอ่ยถาม

“ จริงๆ กูมีเรื่องที่อยากจะคุยกับมึงหน่อย "

“ หื้ม ? เรื่องอะไร " หันไปมองอีกคน สบสายตาคมนั้นก็เหมือนจะนึกขึ้นมาได้ในทันทีเลยว่าเรื่องอะไร ' ชิบหายกูก็ไม่น่าขึ้นรถมันมาจะหนีก็ไม่ได้อีก '

“ ตั้งแต่วันที่กูช่วยมึงจากร้านเหล้า กูรู้สึกว่ามึงพยายามหลบหน้ากูอยู่นะ "

“ ไม่หรอก ช่วงสอบด้วยรึเปล่า " ผมเฉไฉ " ช่วงสอบก็เลยไม่ค่อยได้เจอกัน กูจะไปหลบหน้ามึงทำไม "

“ ตอนนั้นกูเดินออกจากห้องน้ำ มึงจะเข้ามาพอมึงเห็นกูมึงทำเป็นมองไปที่อื่นแล้วเดินออกไป " พอเอ่ยเรื่องนี้ออกมาผมก็ถอนหายใจทิ้ง มันเป็นความซุ่มซ่ามของผมเอง อย่างที่มันบอกทั้งๆที่จะเข้าห้องน้ำตอนนั้นเจอกันทักกันก็น่าจะสิ้นเรื่อง แต่ด้วยความตกใจที่เห็นหน้ามัน อยู่ๆหน้าผมก็แดง ใจผมเต้นแรง และกลับกลายเป็นว่าตัวผม กลับหนีมันซะงั้น " มีอะไรรึเปล่า "

“ ก็เปล่าหรอก "

“ โม..”

“ กูไม่อยากจะพูด มึงไม่บีบคั้นกูได้มั้ยวะ กูก็ไม่อยากจะพูดอะ " ผมบอกออกไปก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง นิสัยร้ายแรงที่ไม่ค่อยแสดงกับใครในที่สุดก็โผล่ออกมาจนได้ ผมไม่ชอบการบีบบังคับ แต่ถ้าไม่อยากจะทำอะไรไม่ว่าใครก็จะบังคับไม่ได้ด้วย เป็นนิสัยแบบคุณหนูที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจโดยแท้

“ โทษที " ชัดพูดเสียงเบา " กูแค่คิดว่าหลังจากวันนั้น เราน่าจะสนิทกันขึ้นก็เท่านั้น ไม่คิดว่าจะโดนหลบหน้าอีก "

   ทุกอย่างเงียบไปไม่มีแม้เพลงที่เปิดคลอตอนขับรถ ผมที่ได้แต่ถอนหายใจออกมาในตอนนั้นปากก็เอ่ยถามมันออกไป ทั้งๆที่เป็นสิ่งที่รู้แน่ชัดอยู่แล้ว

“ วันนั้นที่ผับ ตอนที่ช่วยกูไว้ มึงก้มลงไปบอกคนคนนั้นเหรอ ว่ากูเป็นแฟนมึง "

“ ใช่ กูบอกไปแบบนั้น " มันยอมรับหน้าตาเฉยๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร " กูบอกมันว่า รู้จักยิมนักมวยของกูเปล่า อย่ามายุ่งกับแฟนกู ก็แค่นั้น "

“ แล้วมึงบอกเค้าไปแบบนั้นทำไม "

“ ก็กูกลัวมันจะเข้ามายุ่งกับมึงอีกเลยขู่ไป ทำไมอะ มึงไม่ชอบเหรอ "

“ แล้วกูต้องชอบด้วยเหรอ " ไอ้เหี้ยนี่ก็ถามอะไรแปลกๆ ผมถอนหายใจออกมา " เราไม่ได้เป็นอะไรกัน มึงพูดว่ากูเป็นแฟนมึงได้ไงวะ "

“ คือ จริงๆกูอยากจะให้ ..” มันที่เหมือนจะพูดอะไรออกมาก่อนจะนิ่งไปสักพัก "  คือกูจะบอกว่า กูก็รู้ว่าตัวเองเป็นคนหน้าตาน่ากลัวนะ แล้วกูก็รู้ด้วยว่ามึงกลัวกู ปกติกูไม่ค่อยแคร์ว่าใครจะชอบ หรือไม่ชอบตัวกูหรอก แต่กลับมึง กูอยากจะให้มึงเลิกกลัวกูสักทีนึงนะ "

“ กูก็ไม่ได้กลัวอะไรขนาดนั้น " เบือนหน้าหนีมัน ไหงเรื่องที่พูดมันถูกเปลี่ยนไปเฉยๆอย่างงั้นว่ะ ผ่อนลมหายใจออกมางงๆ ผมอธิบาย " อย่างน้อยก็ไม่ได้กลัวแล้ว หลังจากที่มึงช่วยกูไว้ แต่แค่เข้าหน้ามึงไม่ติด เพราะเรื่องที่มึงไปบอกคนอื่นว่ากูเป็นแฟนมึงนี่แหละ แต่ถ้ามึงพูดไปเพราะไม่คิดอะไร ก็ช่างเถอะ "

“ กูไม่อยากจะให้เค้าเข้ามาทำอะไรมึง ถ้ามันรู้ว่ามึงเป็นแฟนกู มันคงไม่กล้ายุ่ง " ชัดบอกผมก็พยักหน้ารับ แต่สายตาคมที่ยังคงมองมา เหมือนมีอะไรที่อยากจะพูดอีก

“ จะพูดอะไรรึเปล่าวะ "

“ จะพูดว่า กูสนใจ..มึง " ทุกอย่างเงียบไปทันทีในตอนนั้น ผมเองที่นั่งนิ่งแทบไม่เคลื่อนไหว ในตอนนั้นมันเหมือนมีหมอกที่ชวนอึดอัดลอยเต็มรถไปหมด ชัดหลบตาไปทางอื่นก่อนจะพูดออกมาว่า " กูสนใจมึง เสื้อนักศึกษามึงสวยอะ ซื้อนี่ไหนเหรอ "

“ ห๊ะ ? “ ผมอ้าปากค้าง " เสื้อนักศึกษา ? “ ก้มลงมองดูเสื้อตัวเอง คือก็มีขายทั่วไปตามร้านขายเสื้อผ้านักศึกษา " ตัวนี้ ซื้อที่มหาลัยมั้ง ไม่แน่ใจ "

“ อื้ม สวยดี ไว้ไปซื้อบ้าง " มันพยักหน้ารับก่อนจะถอนหายใจ แล้วหันไปตั้งใจขับรถตามเดิม มือที่ยกขึ้นลูบผมตัวเองแบบคนทำอะไรไม่ถูก ผมรู้สึกว่า ใบหูของมันแดงอยู่หน่อยๆ เสียงบ่นเบาๆของคนขับที่ผมได้ยิน " พูดเหี้ยอะไรของกูวะ สัด ไม่ได้เรื่อง "

“ มึงโอเคนะชัด " ผมถามอีกคนก็พยักหน้ารับแรงๆ

“ คือโมกูมีอะไรจะถามมึงอีก คือถ้าเกิดว่ากูโทรชวนมึงไปกินเหล้าด้วยบ้าง มึงจะไปมั้ยวะ "

“ ก็ถ้ากูว่าง กูก็ไปได้ " ผมบอกมันไปแบบนั้น ก่อนจะยิ้มให้มัน " จริงๆเราก็เป็นเพื่อนกันได้ "

“ แล้วถ้ามากกว่านั้นละ " คำถามที่เหมือนหลุดออกมาจากปากที่พูดไม่ค่อยคิดอะไรของมัน เป็นผู้ชายตรงๆที่คิดจะพูดก็พูด แต่บางทีก็พูดอะไรไม่รู้ ไม่เข้าใจ เหมือนอย่างที่มันพูดอยู่ตอนนี้

“ ห๊ะ ? ถ้ามากกว่านั้น คือ ? “

“ หมายถึง ถ้าเราเป็นเพื่อนสนิทกันได้ก็ดี "

“ อ๋ออ ได้สิ " ผมพยักหน้ารับ มันก็ถอนหายใจออกมา

“ ยิ่งพูดยิ่งเหี้ยอะไรกันวะ " มันที่เริ่มหัวเสีย ผมก็หลุดหัวเราะออกมามือที่ยื่นไปตบไหล่มัน

“ ไว้ค่อยไปกินเหล้ากันนะ นัดมาแล้วกัน กูก็อยากจะเป็นเพื่อนสนิทกับมึงเหมือนกัน " ชัดหันมามองผมตอนที่พูดแบบนั้น แต่ทว่าในแววตาสบกันเหมือนมันมีคำพูดอะไรสักอย่างอยู่อีก คล้ายว่ามันจะพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่กล้าพูดออกมาความรู้สึกที่อยู่ๆก็หายไปจากแววตานั้นหลังจากที่จ้องมองผมอยู่นาน ชัดหลบตากลับไปมองถนนมันถอนหายใจออกมา

“ อื้ม เป็นเพื่อนกันไปก่อนก็ได้ "
........................................................... 

ตัดมาที่คู่รองกันบ้าง ไม่มีอะไรมากแค่อยากเขียน คัดไม้คัดมือไปหมด
จนแบบเอาว่ะ เขียนหน่อย ไม่รู้ทำไม แต่รู้สึกชอบคู่นี้จัง มันดูหวานๆ น่ารักๆ ใสๆ แบ๊วๆ ยังก็ไม่รู้
ยังไงก็ฝากแท็ก #มมชลก หน่อยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ ค่าาา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 05-03-2017 20:44:00
เชียร์ชัด โมก็อย่ากลัวชัดเลยนะ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 05-03-2017 21:35:34
จะจีบคุณหนูตองใจเย็นๆนะชัดอิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 05-03-2017 21:48:59
โอยยย คู่รองน่ารักอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 05-03-2017 21:54:30
หน้าดุเหมือนเสือแต่ใจอย่างแมว 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-03-2017 22:00:44
 :hao3: น่าสนใจคู่รอง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-03-2017 22:07:01
อย่างชัดนี่เวลาจะจีบใครสักคนก็ดูน่ารักนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-03-2017 22:27:24
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 05-03-2017 22:56:42
งานคู่รองก้มา 55555
ชัดดดูสับสนตัวเองเน้ออ 555
ลุยๆๆๆไปเลย ขมเชียร์เต็มที่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-03-2017 23:22:09
 :3123: :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-03-2017 00:03:55
เพื่อนช่วยเพื่อน. ละเสร็จเพื่อน ><
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 06-03-2017 00:33:44
 o18
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 06-03-2017 08:24:45
ขำชัดอะ กล้าๆหน่อยสิเห้ย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: เมื่อนั้นฝันว่า ที่ 06-03-2017 08:49:36
เป็นเพื่อนกันไปก่อนก็ได้เนอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-03-2017 08:58:44
ชัดสู้ๆ~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 06-03-2017 09:04:54
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 06-03-2017 10:09:18
คู่นี้ก็โอเคค
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: ่joyjaa ที่ 06-03-2017 22:35:42
เราร้องไห้ :m15:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: ่joyjaa ที่ 06-03-2017 22:40:27
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 07-03-2017 01:15:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 07-03-2017 02:30:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 08-03-2017 02:13:42
รอๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-03-2017 23:24:45
ชอบบบบ สนุกมากกกก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เห็นชื่อเรื่องแล้วแปลกๆ แต่พออ่านแล้ว ชอบบบบ
ไรท์ เขียนได้น่ารักมาก หัวหอม ก็น่ารัก น่าเอ็นดู
ภาพ ท่าทางแอบชอบขม แต่ไม่กล้าบอก
แต่แคร์ขมมาก กลัวแต่ขมจะโกรธ ขอโทษตลอด
ขม ดูไม่รู้เรื่อง แม้ภาพจะหอมแก้ม
ที่ทำเป็นว่าก็หอมแก้มขม มาตั้งแต่เด็กแล้ว
ยิ่งมีกาลิค ยิ่งทำให้ภาพเข้าหาขม แบบถึงเนื้อถึงตัวได้ง่ายขึ้น
ภาพ ก็หลุดมองขมฟัดกาลิค อยากฟัดๆขมบ้าง  :z3: :z3: :z3:
ชัด ชอบโม แล้วหลุดความไม่มั่นใจเวลาพูดตลอด ชัดน่ารัก
ไรท์ มาต่อไวๆนะ ติดงอมแงมและ  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: SecretOfLove ที่ 09-03-2017 20:20:43
คิดถึงหัวหอมมมมม :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 10-03-2017 00:32:46
เชียร์โม  น่ารักกกกกกก   หัวหอมนี่น่าจะไปโรงเรียนได้แล้วนะ  รู้ดีทุกเรื่องเลย  55
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Jessiebier ที่ 10-03-2017 00:57:18
น่ารักจางงงุ้ยยยน้องหัวหอม  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 10-03-2017 20:49:07
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 8

   เสียงโทรศัพท์ของผมดังไม่หยุดเลย หลังจากที่ให้เบอร์ติดต่อกับไลน์ส่วนตัวไปกับคนที่มาส่งที่บ้านหลังสอบเสร็จวันนั้น  ออกจากห้องน้ำเตรียมตัวเข้านอน ผมคว้ามือถือขึ้นมาดู กลายเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกชั่วโมงไปแล้วตั้งแต่วันนั้นมา

“ ไปกินเหล้ากันมั้ย " ถือว่าเป็นประโยคแรกที่ไม่ใช่ สติกเกอร์ไลน์ รูปหมีบราว กับ คำพูดที่ว่า สวัสดีตอนเช้า เที่ยงแล้วกินข้าวรึยัง หรือว่า ทำอะไรอยู่ของมัน ที่ส่งกันมาตลอดในช่วงสัปดาห์นี้

“ กินเหล้า ? ตอนไหน " ผมถามกลับ

“ ตอนนี้แหละ " เงยมองนาฬิกาในห้อง ตอนนี้เวลาเข้าใกล้ทุ่มครึ่งแล้วขับรถออกไปคงถึงประมาน สองทุ่ม ก็จัดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมอยู่นะ

“ แล้วใครไปบ้าง "

“ ก็คงเป็นเพื่อนๆในคณะแหละมั้ง มึงชวนขมมาด้วยสิ " มันบอกผมก็ถอนหายใจออกมา ถ้าขมไปด้วยก็อยากจะไปนะ แต่ถ้ามันไม่ไปแล้วผมต้องไปคนเดียว ไปร่วมแจมกับเด็กคณะบริหารมันก็ไม่ไหวเปล่าวะ ผมไม่ใช่พวกที่ร่วมแจมกับใครคนอื่นง่ายๆสักหน่อย ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทกันจริงๆ ก็ไม่ค่อยอยากจะไปกินเหล้าด้วยหรอก

“ งั้นขอกูชวนขมก่อนนะ "

“ อื้ม " ข้อความตอบรับมาพร้อมกับหมีบราวหน้าตางงๆ ผมหลุดยิ้มออกมา ก่อนจะกดส่งข้อความไลน์ไปหาไอ้ขม แต่กลับไม่มีใครตอบกลับมา รออยู่สักพักผมก็ตัดสินใจโทรไป แต่นั่นก็ไม่มีคนรับอีก

“ ไปไหนของมันวะ " ผมบ่น ผิดวิสัยของมันปกติไม่เคยจะห่างมือถือเพราะติดเกมส์ จะบอกว่าหลับแล้วคงไม่ใช่ ติดธุระจริงๆมั้ง " มันไม่รับสายกูวะ " ส่งข้อความไปบอกชัดอีกคนก็ส่งภาพหมีบราวเอานิ้วจิ้มกันมาให้ผม

“ แล้วมึงจะไม่มาเหรอ " หลุดยิ้มออกมากับข้อความแล้วก็สติกเกอร์ไลน์ที่มันส่ง

“ อื้ม " พอกดส่งไปแบบนี้ก็ส่งหมีบราวปิดหน้ามาให้อีก เหมือนว่ามันคงรู้แล้วว่าผมคงไม่ไปมันเลยไม่ค่อยอยากจะฟัง " ทำไมมึงต้องส่งสติกเกอร์แบบนั้นมาให้กูด้วยวะ ตลก " พอบอกแบบนั้นมันก็ส่งหมีบราวนั่งกอดเข่ามาให้อีก

“ อยากให้มา " ชัดบอก " เป็นเพื่อนกันแล้วมากินเหล้าเป็นเพื่อนกันหน่อยสิ "

“ ที่ไหนอะ " ผมถามกลับด้วยความใจอ่อน คิดถึงตอนที่มันช่วยเอาไว้แล้วก็ถอนหายใจออกมา  " ไปกินเหล้าด้วยก็ได้วะตอบแทนที่มันช่วยเอาไว้ " พูดกับตัวเองแบบนั้นตอนที่มองชื่อร้านที่มันส่งมา เป็นร้านที่ผมไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่แต่อยู่ในโซนทองหล่อก็คิดว่าน่าจะหาง่ายอยู่แล้วละ

“ จะมาจริงๆเหรอ "

“ อื้ม " พอตอบไปแบบนั้น หมีบราวแสดงท่าดีใจก็ส่งมา ผมหลุดหัวเราะ

“ กูจะรอที่ร้านนะ "

“ อื้ม มึงส่งโลเคชั่นที่อยู่มาให้กูในไลน์หน่อยสิ กูกลัวหาร้านไม่เจอ "

“ โลเคชั่นที่อยู่เหรอ “ มันพิมพ์ตอบกลับมา " กูส่งไม่เป็นวะ "

“ เอาจริง "

“ ขอโทษครับ " ส่งน้องหมีบราวเอานิ้มจิ้มกันมาให้อีกแล้ว " แต่มาเถอะนะ อยากเจอ " ยิ้มออกมาตอนที่อ่านข้อความนั้นผมพยักหน้ารับแม้ว่ามันจะไม่เห็น

“ อื้ม "

   ลุกขึ้นจากเตียงเข้าไปในห้องแต่งตัวเปิดตู้เสื้อผ้าตู้ใหญ่ของตัวเอง มองหาชุดที่ดูดีที่สุด หยิบเสื้อตัวนู้น ใส่เสื้อตัวนี่ ถอดกางเกงตัวนั้น ลองอยู่นานก่อนจะได้ชุดที่ชอบเป็นกางเกงขายาวทรงเดฟใส่คู่กับเสื้อยืดคอวีสีขาวธรรมดา

“ แม่ง เบสิคไปเปล่าวะ " ผมถามตัวเองกับหน้ากระจก ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปตัวเองส่งให้ไอ้ยิมเพื่อนสมัยม.ปลายช่วยตัดสินใจ " ยิมมึงว่ากูใส่ชุดนี้โอเคมั้ย "

“ จะไปไหนวะ " มันถาม

“ แค่ไปแดกเหล้านี่แหละ "

“ แค่แดกเหล้าแค่นี้ก็หรูแล้วสัด นี่ เดี๋ยวนี้แค่แดกเหล้าต้องส่งไลน์มาถามเพื่อนแล้วเหรอวะ ว่าใส่อะไรดี "

“ เออ ก็ไม่มั่นใจ กูอยากจะดูดีสักหน่อยอะ "

“ เดี๋ยวๆ อยากจะดูดีแบบนี้ นี่ มึงจะไปกับใครไอ้โม "

“ ไปกับเพื่อน " ผมตอบมัน " มึงคิดว่ามันโอเคแล้วเหรอวะ แบบว่ากูต้องใส่สร้อยมั้ย นาฬิกาสักหน่อยดีกว่าวะ มึงว่ามั้ย จะได้ดูมีอะไร "

“ นาฬิกาก็ดี " มันบอก " แต่จะไปกับเพื่อนแน่เหรอ กูว่าไม่น่าจะไปกับเพื่อนแล้วนะแบบนี้น่ะ  ไปเดทกับแฟนก็บอกไอ้โม ถึงได้วุ่นวายกับชุดขนาดนี้ หื้มมมม สาวที่ไหนสวยมั้ย บอกกูมา " คิดถึงหน้าคนที่นัดแล้วได้แต่ยิ้มแห้งๆ สวยมั้ยเหรอวะ ผมก็ยาวอยู่นะ แต่ค่อนข้างจะตัวใหญ่กว่ากูมากเลยแหละ

“ เพื่อนจริงๆ " ย้ำมันอีกครั้ง " กูตกลงใส่ชุดนี้แหละนะ มึง ขอบคุณมาก กูไปแหละ สายแล้ว "

“ โอเค มั่นใจเมื่อไหร่พามาเปิดตัวด้วยนะเว้ย "

“ ก็บอกว่า แค่เพื่อนไอ้สัดนี่นิ " ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะยิ้มเขินกับคำพูดของเพื่อน ทำไมพอมันแซวกูต้องคิดถึงหน้าไอ้ชัดขึ้นมาด้วยวะ ผมส่ายหน้าไปมาก่อนจะเอามือถือใส่กระเป๋ากางเกงรวมถึงกระเป๋าตังค์ คว้ากุญแจรถที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะขับรถออกมาจากบ้าน

   ผับแถวย่านทองหล่อที่ชัดนัดผมมาเป็นผับแบบนั่งชิวแถมยังเป็นผับเล็กๆที่เหมือนจะไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ก็ว่าทำไมตอนที่อ่านชื่อร้านครั้งแรกแล้วมันไม่ค่อยคุ้น จอดรถที่หน้าร้านตอนที่เดินเข้าไปข้างในผมมองหาคนนัดที่กำลังอยู่คนเดียวที่โต๊ะกลางร้าน ใบหน้าคมก้มลงมองมือถือ มือที่กำลังกดพิมพ์อะไรสักอย่างแบบไม่ถนัด ท่าทางที่ดูไม่ค่อยมั่นใจในตอนที่กดส่งเรียบร้อย

   กริ้ง

   เสียงมือถือของผมมันดังขึ้นทันที หลุดยิ้มออกมากับท่าทางที่เหมือนกำลังรอฟังคำตอบนั้น ผมก็ก้มลงอ่าน “ ถึงไหนแล้วครับ " หมีบราวเอานิ้วจิ้มกันส่งมาอีกแล้ว น่าแปลกที่ผมรู้สึกว่า ไอ้สติกเกอร์ตัวนี้เข้ากับมันชะมัด

“ ถึงแล้ว ส่งมาถามทำไมวะ " เดินเข้าไปบอกร่างสูงที่เงยหน้าขึ้นมา มันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเก็บมือถือใส่กางเกงไว้ ผมหันมองไปรอบๆ บนโต๊ะก็มีแค่เหล้าแก้วเดียวเท่านั้น " แล้วไหนเพื่อนมึงละ "

" เพื่อน ? "

" อ้าว ก็ที่บอกว่ามึงมากับเพื่อนในคณะมึงไง " ผมอธิบายคนที่งงๆกับคำถามของผม ตัวเองพูดชวนเองแล้วลืมเองเหรอวะ ตลกละ

“ อ๋อ..คือ  เพื่อน.. เพื่อนมันกลับไปแล้ว เลยเหลือกูคนเดียว "

“ อย่างงั้นเหรอ " ไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่เลยวะ ผมบอกตัวเองในใจ เพื่อนกลับไปแล้วแต่มีเหล้าอยู่แก้วเดียวนี่อะนะ แถวขวดเหล้าที่อยู่ตรงหน้ามันยังเหลืออยู่เต็มขวด แก้วตรงหน้ามันเหล้ายังเต็มแก้ว น้ำแข็งที่ละลายจนเริ่มล้นแก้วออกมาแล้ว เพราะเจ้าของยังไม่กินมันเลย

“ มึง โอเครึเปล่า กินเหล้ากับกูสองคน "

“ โอเค ไม่มีปัญหาหรอก " ผมว่าแบบนั้นมันก็พยักหน้ารับ ก่อนจะยกเหล้าตรงหน้าขึ้นกินหมดแก้ว ก่อนจะยิ้มจางๆให้ผม

“ แล้วร้านหายากมั้ยวะ "

“ ก็ยากนิดหน่อย กูไม่เคยมา "

“ กูแชร์ไอ้โลเคชั่นแบบที่มึงบอกไม่เป็นวะ ไม่ค่อยได้ใช้อะไรแบบนี้เท่าไหร่ " มันว่าก่อนจะยื่นมือถือมาให้ผม " สอน สอนหน่อยได้มั้ย "

“ ได้สิ " พนักหน้ารับอีกคนก็เลื่อนเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ผม ผมก้มหน้ายิ้มกับท่าทางเงอะงะแบบนั้นของมัน เอาจริงๆตอนนี้มันดูเหมือนไม่ใช่ไอ้ชัดคนน่ากลัวที่ผมรู้จักเลย เหมือนมันกำลังประหม่าอะไรสักอย่าง ตื่นเต้นเอามากๆอย่างงั้นอะ

    เปิดมือถือของมัน ผมก็กดเข้าไปในไลน์ เพิ่งสังเกตว่าตรงแชทที่มันคุยมีแค่ผมคนเดียวเท่านั้นที่มันคุยเป็นเพื่อน ไม่มีเพื่อนคนอื่นเลย แม้แต่ภาพก็ไม่มี " สมมุติว่าจะแชร์ที่อยู่ร้านนี้ให้กูแล้วกันนะ "

“ อื้ม " มันตอบแต่กลับไม่ได้มองมือถือเลยด้วยซ้ำ สายตาคมที่จ้องผมอยู่ ชวนเอามือที่กดนู้นนี่อยู่ที่หน้าจอของมันชะงักค้างกดในสิ่งที่ผมรู้ไม่ถูกไปเสียเฉยๆ

“ คือ ชัด "

“ หื้ม ? “ ผมหันไปมองมัน

“ มึงให้กูสอน มึงก็มองมือถือสิ จะได้ทำได้ไง " มองหน้ากูแล้วมึงจะทำได้มั้ยละ ชาตินี้

“ อ๋อ นั่นสินะ อื้ม สอนมาเลย "

“ ก่อนอื่นก็เข้าไปที่ตรงนี้ ที่รูปบวกตรงมุมนี้ จากนั้นก็กด แชร์ตำแหน่งที่อยู่ แค่นั้นก็เสร็จแล้วละ "

“ แค่นั้นเหรอ " มันถาม ผมก็พยักหน้ารับ

“ ก็แค่นั้น " หันมองหน้ามันอีกคนแต่มันที่ขยับเข้ามาใกล้ก็ไม่ได้ขยับตัวเองออกไปไหนอีก มันคว้าแก้วเหล้าที่เตรียมไว้ จัดการใส่น้ำแข็งก่อนจะถามผม

“ มึงกินแบบไหน "

“ ไม่ต้องเข้มมาก อย่างละครึ่งๆละกัน " เหล้าชงเสร้จถูกยื่นมาให้ ผมชิมเข้าไปคำนึงมันก็ถาม

“ โอเคมั้ย "

“ โอเค " พอตอบเสร็จ ทุกอย่างหลังจากนั้นก็เงียบ หลงเหลือแต่เสียงเพลงเบาๆที่ทางร้านเปิดคลอไปเรื่อย ผมเงยหน้ามองไปชัดที่กำลังมองผม ตัวเองก็หลุดยิ้มออกมา " นี่เราจะนั่งเงียบๆแบบตัวใครตัวมันเหรอวะ "

“ กูไม่รู้จะพูดอะไร " ชัดบอกก่อนจะแก้วเหล้าขึ้นกิน

“ อะไรก็ได้ ถามๆมาเถอะจะได้มีเรื่องคุย จะนินทาเพื่อนก็ได้ กูไม่ว่าหรอก "

“ มึงมีแฟนยังวะ " แค่คำถามแรกของมันก็ชวนให้ผมนิ่งไปสักพัก คือ มึงเริ่มคำถามแรกได้เหี้ยมาก แทนที่จะถามว่า คณะมึงเรียนเป็นยังไงบ้าง ยากมั้ยอะไรยังไงจะได้ตอบได้ยาวๆ ชวนคุยต่อได้แบบไม่กระอักกระอ่วมชวนเขินอะไร  แต่นี่อะไรวะ

“ ก็ยังไม่มีหรอก " ส่ายหน้าเป็นคำตอบให้มัน อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ กูก็ยังไม่มี " แล้วไง ผมอยากจะถามแบบนั้น คือ แล้วบอกกูทำไมอะ ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย แต่..รู้ไว้ก็ดีเหมือนกันละมั้ง" แล้วปกติกินข้าวเที่ยงชอบกินอะไรที่โรงอาหาร "

“ ชอบกินผัดคะน้าไก่กรอบที่โรงอาหารตรงศิลปกรรมอะ อร่อย แต่ชาเย็นที่มหาลัยไม่ค่อยอร่อยนะ "

“ เหรอ มึงชอบกินชาเย็นเหรอ " ผมพยักหน้ารับ

“ กูก็ชอบกิน แต่มันมีร้านนึงนะที่อร่อย "

“ ร้านไหน " ผมถามด้วยความอยากรู้ อีกคนที่กำลังจะบอกเงียบไปสักพักก่อนจะบอก

“ ไว้กูจะซื้อไปให้แล้วกัน " แล้วถ้ามึงบอกกูว่าอยู่ที่ไหนมันจะง่ายกว่ามั้ยละวะ จะซื้อมาให้ทำไม พูดเหมือนเจอกันง่ายๆอย่างงั้นละ จะว่าไปผมก็ไม่ค่อยเข้าใจความคิดมันเท่าไหร่เลย นี่ถ้าตัวผมเป็นผู้หญิงคงคิดไปแล้วว่ามันคงมีใจให้ ถึงได้มีท่าทางเขินๆ แล้วดูตื่นเต้นเวลาอยู่กับผมขนาดนี้

" แต่มันเป็นผู้ชายจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงละวะ " ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ตอนที่เขย่าแก้วเหล้าตรงหน้า ก่อนจะยกขึ้นดื่ม วางแก้วเปล่าลงตรงหน้า ไอ้ชัดก็ยกแก้วขึ้นไปชงเหล้าแก้วใหม่ให้ผม มันวางแก้วนั่นลงตรงนั้นตอนที่ผมเงยขึ้นสบตามันอีกคนก็ชี้นิ้วไปที่ข้างแก้ม

" มีน้ำติดอยู่ " มันบอกผมก็เช็ดออก แต่เหมือนจะยังติดอยู่ " โทษทีนะ " มือที่เอื้อมมือมาใกล้ นิ้วโป้งเกลี่ยลงที่แก้มเบาๆ " ออกละ "

“ ขะ ขอบใจ " หัวใจที่เต้นแรงของผมก้มหน้าลงทันทีไม่กล้าแม้จะสบตามันเลย ยกแก้วเหล้าขึ้นกิน ไม่มีคำพูดอะไรระหว่างเราอีกหลังจากนั้น ผมไม่กล้าจะสบตามันแล้วเพราะความรู้สึกอุ่นๆของมือหนาที่สัมผัสแก้มผมแท้ๆ บ้าบอชะมัด

“ เป็นอะไรรึเปล่าวะ " ชัดเอ่ยถาม " ทำไมหน้าแดงๆ "

“ ยังมีหน้ามาถามอีก ก็เพราะมึงนั่นแหละ " ผมพูดเสียงเบาอีกคนก็ก้มหน้าลงมาใกล้ เหมือนมันไม่ได้ยิน " เปล่าหรอก กูแค่ร้อน "

“ งั้นจะกลับเลยรึเปล่า ดึกแล้ว เดี๋ยวมึงขับรถกลับดึกกว่านี้จะอันตราย "

“ เอางั้นก็ได้ " ผมพยักหน้ารับ ดีเหมือนกัน อยู่ไปก็เขินจนไม่กล้าจะชวนคุยอะไรอีกแล้ว สัมผัสอุ่นๆี่แก้มยังรู้สึกอยู่เลย บ้าบอชะมัด แล้วสายตายังมีสายตาของมันที่คอยเอาแต่จ้องผมอีก เพราะงั้นให้กูกลับเถอะ ก่อนที่ใจจะรู้สึกแปลกไปมากกว่านี้

   เดินออกจากผับพร้อมกับชัด มันเดินมาส่งผมที่รถ ก่อนที่ผมจะมองไปรอบๆลานจอด กำลังมองว่ารถของมันอยู่ไหนแต่กลับไม่เห็นมีรถที่เคยไปส่งผมเลย

“ แล้วมึงกลับไง " ผมถาม " รถมึงละ "

“ วันนี้ขับฮาเล่ย์มา " มันบอกก่อนจะเชิดหน้าไปทางรถมอเตอร์ไซต์ฮาเลย์คันเท่ห์ที่จอดอยู่

“ งั้นก็ขับรถกลับบ้านดีๆ อย่าบิดเพลินจนยกล้อละ "  เอ่ยแซวร่างสูงที่ยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมา ชัดเดินไปที่รถของมันจัดการใส่หมวกกันน๊อคผมก็เดินเข้าไปนั่งในรถบ้าง จะว่าไปรถแบบนี้ก็เหมาะกับมัน มากกว่ารถยนต์อะไรแบบนี้ซะอีก 

   เครื่องยนต์แรงๆของรถฮาเล่ย์ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้รถของผม ไอ้ชัดเคาะกระจกหน้าต่างรถของผมก็กดหน้าต่างลง ทั้งๆที่กำลังเตรียมตัวจะออกรถแล้ว

“ กูจะไปขับตามไปส่งมึงที่บ้าน "

“ ไม่ต้องหรอก " ผมบอกก่อนจะยกมือขึ้นห้ามมัน " มึงขับมอเตอไซต์อันตรายกว่ากูเยอะ มึงกลับบ้านไปเถอะ กูขับกลับได้ บ้านกูไม่ไกล กูไม่ได้เมาด้วย "

“ อยากไป " มันพูดสั้นๆ ก่อนจะขับรถออกไปรอที่หน้าทางเข้าร้าน ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่กดกระจกรถขึ้นก็อดสถบขึ้นไม่ได้เลยกับการกระทำของอีกฝ่าย

“ อะไรของเค้าวะ "

   มองรถฮาเล่ย์ที่ขับตามมาผ่านกระจกหลังแล้วก็ประจกมองข้างผมก็ได้แค่ยกยิ้ม จอดรถติดไฟแดง ไอ้ชัดที่จอดรถข้างๆ ผมหันมองมันที่ก็หันมามองผมเหมือนกัน แต่เพราะกระจกรถผมฟิล์มดำมองเข้ามาจากข้างนอกไม่เห็นหรอก แต่ข้างในนี่แหละที่เห็นคนข้างนอกชัดเจน 

“ ไอ้บ้า ขับรถมอเตอไซต์มาส่งกูที่บ้าน ทั้งๆที่กูขับรถยนต์นี่อะนะ ตลก เพื่ออะไรวะ "  ไม่เข้าใจเลยว่าทำไม สำหรับการกระทำของมัน ผมที่ได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมา ตอนที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้กระจก อีกฝ่ายก็มองจ้องเข้ามาเหมือนกัน ผมหลุดหัวเราะออกมาในใจก็รู้สึกแปลกๆ กับการกระทำที่ตัวผมเองยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไรมันถึงทำแบบนั้น รู้แค่ว่า ก็รู้สึกดีไปอีกแบบนึง อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่ว่าไม่น่าจะรู้สึกอะไรแบบนี้ กับคนอย่างมันเลย

   ชะลอรถตอนที่ใกล้จะถึงบ้าน รถฮาเล่ย์ที่ขับตามมาก็จอดเทียบข้างๆ ผมลดกระจกลง ชัดถอดหมวกกันน็อคมาตั้งไว้ที่ขาก่อนจะดับเครื่องยนต์  ท่าทางที่ดูเหมือนว่าการพูดคุยหนนี้มันคงไม่ใช่บรสนทนาสั้นๆแน่นอน

“ เดี๋ยวเข้าไปในบ้านแล้ว จะนอนเลยรึเปล่า "

“ ถึงบ้านแล้วก็ต้องอาบน้ำนอนเลยสิวะ กี่โมงกี่ยามแล้วละตอนนี้ " ผมบอกก่อนยิ้มให้มัน ชัดพยักหน้ารับมันมองไปรอบๆ " มึงอะ กลับบ้านได้แล้ว ขับรถดีๆ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับมันก็เชิดหน้าไปทางประตูบ้านผม " มึงขับเข้าไปในบ้านก่อนสิ "

“ นี่คือต้องส่งกูให้ถึงบ้านจริงๆใช่มั้ยวะ "

“ ก็ตั้งใจว่าจะทำแบบนั้น " มันพูดเสียงนิ่งๆ ก่อนจะจ้องมองผมด้วยสายตาอบอุ่นและจริงจังว่ามันตั้งใจจะส่งผมให้ถึงบ้านจริงๆ ผมหลบสายตานั่นก้มหน้าลงอย่างรู้สึกประหลาด ใจที่เต้นแรงไม่ค่อยเป็นจังหวะ ประหม่าจนต้องกลืนน้ำลายที่ต้นคอลงไปอย่างไม่รู้จะทำยังไงกับสายตานั้น ผมเหลือบมองไปอีกทางก่อนจะยิ้มให้มัน

“ งั้นกูก็เข้าบ้านก่อนก็แล้วกัน เพื่อไม่ให้มึงเสียความตั้งใจ ไปละนะ เจอกัน ขอบใจเว้ยที่มาส่ง "

“ อื้ม เจอกัน " มันบอกผมก็ขับรถออกไปห่างจากมัน ก่อนจะจอดลงอีกครั้ง ผมหันมาตะโกน

“ ถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกด้วยนะมึง "

“ ครับผม "

   ขับรถกลับเข้ามาจอดในบ้านเรียบร้อยตอนที่ลงจากรถปิดประตูผมก็ได้ยินเสียงรถฮาเล่ย์เร่งเครื่องยนต์ก่อนจะขับไกลออกไป ชัดคงกลับบ้านแล้วผมยิ้มออกมาตอนที่ตัวเองก็เดินเข้าบ้านเหมือนกัน หย่นตัวลงนั่งบนเตียงตัวเองตอนที่หยิบมือถือขึ้นมาดู

“ คงยังไม่ถึงหรอก คงไม่เร็วขนาดนั้น อาบน้ำก่อนก็แล้วกัน " ขาที่กำลังเดินเข้าห้องน้ำของผมหยุดชะงัก " แล้วถ้ามันส่งมาตอนที่เข้าห้องน้ำอยู่ละวะ เราก็ไม่ได้ยินสิ " ตัดสินใจคว้ามือถือเข้าไปตั้งในห้องน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำด้วยเสียงที่เบาที่สุด จดจ่อเเสียงไลน์ดังยิ่งกวาครั้งไหนๆ  เอาจริงๆก็เป็นห่วงมันด้วยแหละ ขับรถมอเตอไซค์กลับไม่รู้จะบ้านมันกลับบ้านผมไกลกันมั้ย อยากจะให้ถึงเร็วๆ จะได้หมดห่วง

   กริ้ง ผมหันไปที่มือถือที่ตั้งอยู่ที่อ่างล้างหน้าไม่มีแสงไฟฉายขึ้นมาแต่รู้สึกเหมือนจะมีเสียงเตือนไลน์ดังขึ้นมา จัดการรีบอาบน้ำล้างตัวเรียบร้อย คว้ามือถือตัวเองมาดูก่อนจะพบว่ามันไม่มีอะไรทั้งนั้น " ยังไม่ถึงสินะ "

   จัดการแต่งตัวเรียบร้อย ล้มตัวลงนอนมองมือถือที่ไม่มีข้อความเข้ามาสักทีจนเกือบจะหลับไปแล้ว ก่อนเสียงไลน์จริงๆแบบชนิดที่ไม่คิดไปเองดังขึ้นมาพร้อมกับหน้าจอมือถือที่สว่างขึ้น

“ ถึงแล้วนะ "

“ อื้ม " ผมตอบ ก่อนจะส่งสติกเกอร์โอเค ไปให้มัน

“ จะหลับแล้วยัง " มันถาม

“ ก็จะหลับแล้ว "

“ งั้นฝันดี "

“ อื้ม ฝันดี " หลับตาลงได้แบบสนิทสักที ชัดถึงบ้านแล้ว สำหรับผมตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอีก

....................................................

   
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 7 - 5.3.60} #หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 10-03-2017 20:49:46
นั่งวาดภาพอยู่ใต้ต้นไม้สำหรับงานของคราสแรกที่เข้าเรียนหลังจากสอบเสร็จ แดดแรงๆที่ส่องลงมาแม้จะไม่จัดเท่าไหร่แต่คนแบบผมที่ไม่ถูกกับแสงแดดเท่าไหร่จัดว่ายังแรงไปอยู่ดี ปิดเสียงมือถือที่ดังเข้ามาไม่อยู่ของไอ้ชัด แต่พอยิ่งปิดก็ยิ่งไม่สมาธิกับงานผมคว้ามันขึ้นมาดูตอนที่ตัดสินใจจะวาดอะไรแต่ก็ยังไม่ได้ลงมือสักที

“ อยู่ไหน " คำถามสั้นๆของมันเอ่ยถามผมก็มองไปรอบๆ

“ แถวๆโรงอาหาร ถึงสวนข้างหลังน่ะ ที่ต้นไม้ใหญ่ กำลังนั่งวาดส่งอาจารย์กับไอ้ขมอยู่ มีอะไร " ผมถามกลับอีกคนก็ไม่ตอบอะไร ผมปิดโทรศัพท์ก่อนจะตั้งใจวาดภาพที่อยากจะวาด ก่อนแสงแดดที่สาดลงมาใส่กระดาษจะค่อยๆหายไปเพราะมีใครบางคนเดินมายืนช้อนอยู่ด้านหลัง คนที่ไม่คิดว่าจะมาหากัน 

“ อะ " แก้วชาเย็นแก้วใหญ่ถูกยื่นมาให้ แบบที่ไม่ได้เอ่ยทักทายผมหรือไอ้ขมสักคำ... อะไรของมันวะ  " เอามาให้ ที่บอกไปวันนั้นว่าอร่อยไง "

“ เหรอ ขอบคุณนะ "  รับแก้วชาเย็นนั่นมา แล้วเสือกซื้อมาแก้วเดียวด้วยนะทั้งๆที่ก็รู้ว่านั่งกันอยู่สองคน ผมยิ้มขอบคุณมันแต่เหมือนอีกคนจะต้องการอะไรมากกว่านั้น สายตาที่จ้องมองเหมือนคงอยากจะให้ชิมก่อนว่าถูกใจมั้ย ผมก้มลงชิม จัดว่ารสชาติดีมากเลยอร่อยกว่าร้านแบรนด์อีก ผมพยักหน้ารับ “ อื้ม อร่อยดีนิ "

“ ใช่มั้ยละ " บอกแบบนั้น ชัดก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ส่องลงมาทางผมพอดี มันขยับตัวบังแดดนั่นก่อนจะเงยมองอยู่นานจนเมฆก้อนใหญ่ลอยเข้ามาบังมันถึงจะก้มลงมาบอกผม " งั้นไปละ "

“ อ่า อื้ม " ตอบสั้นๆ ก่อนจะมองตามอีกคนที่เดินกลับไปทางเดิมที่มันเดินมา ไอ้ขมที่หันมามองผมด้วยความสนใจสำหรับความสัมพันะ์ที่แปลกไปของเรา

“ เมื่อกี้มันเห็นกูมั้ยวะ " ขมถาม ผมก็พยักหน้ารับ

“ ต้องเห็นสิ " พอบอกแบบนั้นมันก็ชี้เข้าตัวเองเหมือนไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ผมพูดเท่าไหร่

“ แล้วน้ำกูอะ ทำไมมีแต่ของมึงวะ "

“ เอ่อ นั่นสินะ ไม่รู้วะ " ส่ายหน้าปฎิเสธคนที่จ้องอยู่ เพราะน้ำนี่แก้วเดียวเลย บ้าจริง ไอ้ชัดบ้า ผมยื่นแก้วชาเย็นให้โม  " ชาเย็นมั้ยมึงอร่อยนะ "

“ ไม่อะ กูคิดว่ามันคงหวานไป " อีกคนบอกผมก็รีบพูดปัด

“ พูดเชี้ยอะไรของมึงวะ " รอยยิ้มที่แบะปากมองบนของไอ้ขมทำเหมือนไม่รู้เรื่องแต่ผมก็รู้ว่ามันคิดอะไร ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่มันเงียบไปอยากจะเถียงอะไรก็เถียงออกไปไม่ได้เพราะดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้ฟังอะไรแล้วและคิดไปตามที่ตัวเองรู้สึกก็เท่านั้น ไอ้ชัดนะไอ้ชัด ทำเรื่องให้กูแล้วมั้ยละ
..........................................................

   เพลงรักทำนองไม่ช้านักเปิดคลอไประหว่างทางที่ผมกำลังขับรถกลับบ้าน แต่วันนี้มีไอ้ขมติดรถกลับบ้านด้วย เพลงที่ชวนให้ขับไปยิ้มไป ผมฮัมเพลงไปเรื่อยเปื่อยตอนที่หยิบแก้วชาเย็นที่มีแต่น้ำแข็งเปล่าๆขึ้นมาดูด " ยังมีมือเปล่าว่างอยู่ให้จับเท่านั้น วางมือที่แก้มฉัน มือเธอนั้นนุ่มเหนืออะไร "

“ โม "

“ ว่า ? “

“ ถามไรหน่อย "

“ ว่ามา " ผมบอกมัน

“ มึงกับไอ้ชัดนี่ยังไง " คำถามตรงๆที่เอ่ยออกมาผมชะงักไปทันทีตอนที่ได้ฟังมันถาม โชคดีแค่ไหนที่ควบคุมได้ไม่งั้นก็เหยียบเบรคให้แม่งพุ่งตัวออกไปนอกรถแล้ว  " โม..”

“ ก็ไม่ไง " ปฎิเสธมันอีกคนก็ขมวดคิ้ว

“ ชาเย็นนี่ยังไง "

“ ก็แค่วันนั้นมันชวนกูไปกินเหล้า กูไลน์หามึงก็ไม่ติด โทรไปก็ไม่รับ "  อธิบายมันอีกคนก็พยักหน้ารับทำท่าคิดถึงเรื่องที่ผมพูด

“ แล้วไงต่อ มึงก็ไปกับมันงั้นเหรอ"

“ ก็.. อื้ม กูว่างพอดีอะ ไม่มีอะไรทำ กูก็เลยไป " ฟังดูแปลกๆแน่เลยว่ะ พูดอกไปแล้วผมก็คิดไอ้ขมแม่งต้องไม่เชื่อแน่ มีอย่างที่ไหนไปนั่งกินเหล้ากับคนที่ตัวเองบอกว่ากลัว สองต่อสอง บ้า " ทำไมเงียบไปวะ มึงคิดอะไรอยู่รึเปล่า กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้ชัดนะเว้ย ไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย แบบว่า ชอบ หรือว่าอะไรแบบนี้ กูไม่ได้รู้สึกนะ แค่เพื่อนอะ เพื่อนเฉยๆ "

   อธิบายบอกมันอีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะยิ้มออกมา สายตา ท่าทางที่ดูไม่เชื่อไอ้ขมเอื้อมมือมาจับไหล่ผมไว้ มันหัวเราะ “ กูยังไม่ได้พูดอะไรเลย ไม่ต้องเถียงหรอกนะจ๊ะ "

“ มึงคิดกูรู้ "

“ จอดส่งกูที่สถานีหน้าก็ได้มึง เดี๋ยวกูขึ้นรถไฟฟ้าต่อไปเอง "

“ ไม่เป็นไรอะ กูผ่านคอนโดมึงอยู่แล้ว เดี๋ยวกูไปส่ง " ผมบอกก่อนจะมองคนข้างๆ คือจะให้มันลงไปทั้งๆที่เรายังพูดกันไม่รู้เรื่องก็คงเห้นทีว่าจะไม่ได้  " ขม มึง..กูไม่ได้คิดไรกับไอ้ชัด "

“ กูก็ไม่ได้คิดอะไรนี่หว่า " มันบอกก่อนจะเบิกตากว้างแล้วดึงหน้าเข้ามาใกล้ๆผม" มึงจ้องตากู กูไม่ได้คิดอะไรเรื่องมึงกับไอ้ชัดจริงๆ เห็นมั้ย ไม่ได้คิด "

“ แค่เพื่อนกันเฉยๆ กูอยากจะให้มึงคิดงี้ " ผ่อนลมหายใจบอกมัน อีกคนก็พยักหน้ารับหงึกหงักเหมือนจะเชื่อนะ แต่ ผมก็คิดไว้ว่าไม่

“ เอาที่มึงสบายใจเถอะจ้า กูได้หมดถ้ามึงสดชื่น "

“ ไอ้ขม..”

“ ถึงแล้ว มึงจอดเลยตรงนี้แหละ " จอดรถตามคำสั่งของมัน มันก็หันมาตบไหล่บอก " ขอบใจมากมึงที่มาส่ง ยังไงเดี๋ยวกูถามภาพให้เอามั้ย ว่า ไอ้ชัดรู้สึกไงกับมึง "

“ ไอ้เชี้ยยยย อย่านะเว้ย " ตะโกนบอกมันอีกคนก็หัวเราะลั่น ไอ้เชี้ยนี่ กวนตีน

“ มึงไม่อยากรู้หราาาาาาา " 

“ ไม่เว้ย!!” ปั้นหน้าไม่พอใจแต่คิดว่ามันจะสำนึกไม่แกล้งหรอกเหรอ ไม่ใช่ไอ้ขมหรอก

“ น้องโมหน้าแดงนะครับ พี่ขมว่า " มือที่ปิดประตูลงผมก็เปิดกระจกรถบอกมันไม่ให้พูดอะไรกับภาพเด็ดขาด ถ้าเกิดว่าไอ้ชัดรู้แล้วคิดเป็นเรื่องอื่นแม่งก็แย่อะดิ

“ อย่าถามเชียวนะเว้ย "

“ เออน่ารู้แล้ว ไม่ถามหรอก ขอบใจที่มาส่งนะ เจอกันพรุ่งนี้ "

“ เจอกัน " ขับรถออกจากหน้าคอนโดไอ้ขมมาติดไฟแดงข้างหน้า ผมผ่อนลมหายใจออกมา ยกน้ำที่มีอยู่แก้วเดียวขึ้นมาดูดก่อนจะคว้ามือถือที่กำลังสั่นเพราะสายเข้าขึ้นมาดู  " ไอ้ชัด " เอ่ยชื่อคนโทรมาผมถามตัวเองในใจ ' โทรมาทำไมวะ ' กดรับสายโทรเข้าผมเอ่ยทัก " ฮัลโหล "

“ อยู่ไหนน่ะ "

“ กำลังจะขับรถกลับบ้าน มีอะไรรึเปล่า " 

“ เปล่าหรอก คิดว่าอยู่มหาลัยว่าจะชวนไปกินเครปสักหน่อย "

“ กลับบ้านแล้วอะ พอดีที่บ้านมีงานน่ะ "

“ เหรอ แล้วนี่ใกล้ถึงบ้านยัง "

“ ยังเลย คงอีกสักพัก " ผมบอกมันก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ เม้มริมฝีปากตอนที่ได้ยินเสียงมัน จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้คุยกับมันทางโทรศัพท์ " เหนื่อยวะ ขี้เกียจขับรถ "

“ ย้ายมาอยู่คนเดียวสิ "

“ ทำยังกับง่าย แม่กูไม่ให้มาอยู่หรอก " แม่กับพ่อผมเป็นคนห่วงลูกมาก ครอบครัวเราอบอุ่นชอบอยู่ด้วยกันพร้อมหนัาพร้อมตา มีกิจกรรมวันอาทิตย์ เป็นวันครอบครัวทุกๆอาทิตย์ ผมเคยบอกเค้าเหมือนกันว่าเหนื่อยขี้เกียจขับรถอยากจะไปอยู่คอนโด เค้าก็พูดแค่ว่า ถ้าเหนื่อยก็จะให้คนขับรถรับส่งให้ แต่เรื่องออกมาอยู่คนเดียว ไม่ให้เด็ดขาด แม่อยากให้อยู่บ้าน เค้าอุ่นใจ " แล้วนี่มึงเพิ่งเรียนเสร็จเหรอ "

“ อื้ม กำลังจะกลับบ้าน มึงขับรถดีๆละกัน ถึงบ้านแล้วไลน์มา " ทำไมต้องไลน์ด้วยวะ มึงห่วงกูเหมือนกูเป็นเด็กสาวที่มึงกำลังตามจีบอยู่อย่างงั้นอะ แอบยิ้มเขินกับความคิดของตัวเอง กัดริมฝีปากตัวเองก่อนจะพยักหน้ารับมัน ผมตอบเสียงเบา

“ อื้อ เดี๋ยวถึงบ้านแล้วไลน์บอก "

“ โอเค สวัสดีครับ "

   วางสายจากมันผมเปิดเพลงในรถเสียงขึ้นอีกหน่อยแล้วขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าทุกวัน จอดรถที่โรงจอดผมเดินลงจากรถก่อนจะเจอกับพี่แม่บ้านที่เดินอยู่แถวนั้น

“ คุณโม มีอะไรให้ช่วยถือมั้ยคะ "

" ถือน้ำแก้วนี้ให้หน่อย " ผมยื่นแก้วชาเย็นที่ไม่มีอะไรแล้วให้เธอ ก่อนจะเปิดประตูหลังหยิบกระเป๋าขึ้นมา

" ทิ้งเลยนะคะ ไม่มีอะไรแล้ว "

" ไม่ได้ ! อย่าทิ้งนะ " บอกแบบนั้นอีกคนก็เอียงหน้างง เธอคงคิดว่ามันเป็นแก้วพลาสติกธรรมดาทั่วไป ทำไมจะทิ้งไม่ได้ในเมื่อของของในมันหมดแล้ว " โม จะเอาไปใส่น้ำน่ะ " เอาแก้วกลับมาถือเองผมเดินเข้าไปในบ้านที่ยังไม่มีใครกลับมา จัดการล้างแก้วในที่ถืออยู่แล้วกดน้ำเปล่าจากตู้เย็นใส่ไปเสียเต็มแก้ว

“ ยังจะเอามาล้างแล้วใช้อีกเหรอคะนั่น " แม่บ้านถาม เธอยิ้ม " แก้วในบ้านมีตั้งเยอะคุณโม ดูใช้แก้วสิ "

“ ก็มันไม่เหมือนนิ " ผมยิ้ม " อ้อ ถ้าเห็นมันตั้งอยู่ในห้องบอกคนที่ทำความสะอาดห้องโมนะ ว่าห้ามทิ้งเด็กขาด ไม่งั้นเจอดีแน่ จะโกรธเลย "

“ หวงจังนะคะ แฟนให้มาแน่เลย " ก้มหน้ายิ้มคำแซวของแม่บ้าน ผมส่ายหน้าไปมา ตอนที่คิดถึงคนให้

“ แค่เพื่อนน่ะ .. เพื่อนสนิท "  อ้อ.. จะว่าไปก็ลืมไปเลยว่าเพื่อนสนิทบอกว่า ถึงบ้านแล้วให้ไลน์ไปบอกด้วย เอื้อมหยิบมือจากในกระเป๋าขึ้นมา ผมก้มส่งความไปหามัน ' ถึงบ้านแล้วนะชัด '

' ครับผม ' แล้วนั่นก็เป็นข้อความตอบรับสั้นๆ ที่เพื่อนผมส่งกลับมาครับ

.............................................................
ชอบชัดโม อย่างไร้เหตุผล รู้สึกน่ารัก ใสๆดี
ใครโดนจีบแบบนี้ ไม่มีไม่รู้ว่าเค้าจีบหรอก แค่รู้แต่ทำเป็นไม่รู้มากกว่า ว๊ายยยยย
มีใครคิดถึงหัวหอมบ้างงง ตอนหน้า หัวหอมน้อย มาแล้วค่าาา
เจอกันตอนหน้านะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ คนดี
 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-03-2017 21:08:40
จ๊ะ เพื่อนสนิท นะโมนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 10-03-2017 21:36:48
ยอมรับเถอะโม ว่าชัดจีบอยู่


 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-03-2017 22:36:10
เพื่อนสนิทของโม สนิทกับใจน่ะ
ชัด โม มุ้งมิ้ง น่ารัก
โอ.......โมกินชาหมด ไม่ทิ้งแก้ว
เก็บแก้วไปไว้ใส่น้ำกินบนห้องซะด้วย
แถมสั่งคนงานในบ้านห้ามทิ้งมีแก้ว ทิังมีโกรธซะด้วย :katai1:
ขำ ขมที่ถามโม ว่าชัดเห็นขมหรือเปล่า
ก็ชัด เล่นไม่มอง ไม่คุยกับขม คุยแต่โมคนเดียว
แล้วรู้ทั้งรู้ว่าโมอยู่กับขม
ชัด ยังซื้อชามาแก้วเดียว ให้เฉพาะโมเท่านั้น  :hao3:
ถ้าซื้อสองแก้ว มันไม่สื่อความหมาย ไงโม
พอเป็นเรื่องชัด โม ขมงี้รูทัน รู้ไวเชียว
แต่เรื่องภาพ รู้สึกยังไงกับตัวเอง ไม่รู้เรื่องเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 10-03-2017 22:37:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 10-03-2017 22:37:45
คู่นี้ก็ดี อีกคู่ก็น่ารักมีเด็กด้วย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-03-2017 01:48:20
แจ้ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-03-2017 05:36:17
เพื่อนสนิทห้ามทิ้งแก้ว  :ruready
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 11-03-2017 08:45:24
ชัดโมต่างคนต่างแอบชอบกันสินะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 11-03-2017 10:27:44
ชัดโมมันฟิวกู้ดจิงๆๆๆๆๆ
ปลื้มมม
ภาพขมก้อดีนะ เลิฟเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: เมื่อนั้นฝันว่า ที่ 11-03-2017 11:07:04
เพื่อนสนิทเนอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 11-03-2017 11:53:08
จ้าๆ เพื่อนสนิทจ้า แค่เพื่อนๆ :katai3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-03-2017 15:55:14
ตั้ลล้ากกกก~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 11-03-2017 16:13:28
น่ารักกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 11-03-2017 16:38:31
ตามนั้น
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 11-03-2017 23:17:03
 :impress2: อร๊ายย ฟินคู่โมชัดอ่ะ จีบกันได้ใสมากกกกก
เข้าตำราเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อสินะ อิอิ  :laugh:
#คิดถึงหัวหอมมมม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 8 - 10.3.60} #หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 12-03-2017 19:01:16
โอ้ยย น่ารักกมากก เขินนนล้านเท่า
้น้องโม ไม่อยากรู้หรือจ๊ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 12-03-2017 20:48:27
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 9

“ เสร็จยังวะ มึงจะสายแล้วนะเว้ย " ไอ้ภาพเอ่ยเสียงเร่งผมที่ตอนนี้กำลังจัดการอาหารทั้งเช้าและก็กลางวันให้กลับกาลิคอยู่ในครัว มือที่กำลังเร่งทานูเทล่าบนขนมปังสองแผ่นรินนมสำหรับตอนเช้า แล้วก็ข้าวไข่เจียวที่ใส่กล่องแบบเก็บความร้อนไว้เรียบร้อยสำหรับตอนเที่ยง

“ หัวหอมมึงฟังกูนะ " ผมอุ้มอีกคนมานั่งที่เก้าของตัวเอง " อันนี้ตอนเช้าเป็นขนมปังนะ  ส่วนตอนเที่ยงอยู่ในกระเป๋าในนี้ กินเสร็จก็เอาไปใส่ไว้ในอ่างล้างจานนะ กูกลับจะล้างเอง โอเคมั้ย "

“ ครับ " มันตอบเสียงเต็มใจขึ้นจากวันแรกเยอะ เพราะผ่านมาสี่วันแล้วมันคงเริ่มชินสำหรับพวกผมที่ต้องออกไปเรียนทุกวัน หอมแก้มใสๆนั่นไปเต็มฟอด มันก็หอมกลับ

“ อาขม อาภาพรีบกลับมานะ "

“ ครับผม กูไปก่อนนะ ตอนเย็นเจอกัน "

“ บ๊ายบาย " มันโบกมือแต่สายตากลมๆที่มองตามผมไปจนถึงหน้าประตู ชวนให้รู้สึกว่ามันก็คงเหงาและเศร้าอยู่ดีที่ต้องอยู่ที่นี่คนเดียวเกือบทั้งวัน " บ๊ายบาย อาภาพ บ๊ายบายอาขม เจอกันนะครับ "

“ หัวหอม.. " ผมเดินกลับมาหามันก้มลงกอดมันไว้ ตอนที่มันงอแงก็รู้สึกสงสารแบบนึงแต่พอมันอยู่คนเดียวได้ก็สงสารมันอีกแบบนึง ก้มลงหอมที่ผมนุ่มๆของมัน “ เสาร์ อาทิตย์นี้กูว่าง เราจะอยู่ด้วยกันทั้งวันเลยนะ "

“ ครับ " มันพยักหน้ารับ ตอนนั้นไอ้ภาพก็เดินมาคว้าแขนผมที่กำลังอ้อยอิ่งกับความสงสารของลูกตากลมๆนั้นให้ออกมาจากห้องเสียที มันก้มลงขยี้ผมไอ้หัวหอม

" แล้วเจอกันนะคนเก่งของกู " มันบอกก่อนจะหันมองผม " ไปได้แล้วมึง เดี๋ยวสาย " มันคว้าแขนผมให้เดินออกมาจากห้องเสียทีเพราะไม่งั้นคงสายแล้วก็เข้าคลาสไม่ทันแน่ๆ และนั่นก็จะกลายเป็นหายนะของผมแน่นอน

“ ไม่อยากจะไปเรียนวะ " ผมบอกภาพตอนที่มันปิดล็อคห้องอีกคนก็หันมามองหน้า มือหนาเอื้อมมาจับที่หน้าผากของผม ที่ก็เหลือบตามองมัน " อะไรของมึงวะ "

“ มึงไม่ป่วย ไม่มีไข้ จะไปขอใบลาป่วยเพื่อขาดเรียนก็ไม่น่าจะได้นะก็ว่า ยกเว้นจะตอแหล "

“ ไอ้ภาพพพ " ผมเอียงตัวไปใกล้มัน ซบที่ไหล่อีกฝ่ายก็ยกยิ้มก่อนจะยกไหล่ตัวเองขึ้น

“ เชี้ยไร "

“ กูอยากอยู่บ้านวะ อยากอยู่มัน ไม่อยากจะไปไหน " ดันตัวเองออกมายืนนิ่งๆก่อนจะมองหน้าอีกคนที่ถอนหายใจออกมา

“ กูก็อยากอยู่เหมือนกัน แต่เราต้องไปเรียน มันก็เป็นหน้าที่นึงของเรานะเว้ย "

“ อื้ม " ตอบมันสั้นๆด้วยใบหน้าเซงๆ มือหนาก็เอื้อมมากอดคอก่อนจะดึงให้เดินไปด้วยกัน กดลิฟต์ลงไปชั้นล่างระหว่างรอมันก็หันมาหัวเราะหน้าเซงๆของผม " หัวเราะเหี้ยอะไรวะ "

“ มาหาเรื่องกูอีกไอ้นี่ " ใบหน้าคมส่ายหน้าไปมาผมที่มองไปที่ห้องตัวเอง อยากจะกลับไปอยู่กับมันจริงๆนะ อยากเล่นด้วย อยากจะกอด เป็นห่วง กลัวมันเหงา ถ้ามันได้ไปโรงเรียนก็ดี ผมคงไม่ห่วงมันแบบนี้ " เดี๋ยวตอนเย็นไปกินข้าวตอนเย็นกันมั้ย "

“ หื้ม ? “

“ ออกไปกินข้าวนอกบ้านกัน "

“ มึงไม่ชอบออกไปข้างนอกนี่  " แล้วยิ่งช่วงเย็นยิ่งเป็นไปไม่ได้ ไอ้ภาพเกลียดรถติดถ้าไม่ติดว่าต้องออกไปเรียนหรือกลับบ้าน มันก็ไม่คิดจะออกไปไหนหรอก "  รถติดมากนะมึงกูบอกไว้ก่อน ถ้ามึงมาอารมณ์เสียใส่ กูตบนะ กูบอกไว้ก่อน "

“ เออน่า ไม่อารมณ์เสียหรอก ไปกินข้าวข้างนอกกัน พาไอ้กาลิคไป มันจะได้ออกไปไหนบ้าง "

“ อุ้ย คุณพ่ออออ " แซวอีกคนก็หันมาชักสีหน้าใส่ ผมยกมือปิดปากตัวเองทันทีในตอนนั้นมันก็ส่ายหน้าก่อนจะยกยิ้มออกมา
 
   ขับรถมาถึงมหาลัยทันเวลาเรียนแบบเฉียดฉิว ตอนที่หย่นตูดลงนั่งอาจารย์ก็ก็เปิดประตูเข้ามาพอดี ผมนั่งหอบแทบขาดใจไอ้โมก็ยื่นมือมาลูบหลังพลางหัวเราะ

“ หวุดหวิดนะมึง "

“ กูวิ่งขาแทบขวิดไอ้สัด " กลืนน้ำลายคงคอก่อนจะเปิดหนังสือเรียนทฤษฎีของวิชาในวันนี้ ดินสอกดที่ผมขีดๆเขียนๆลงบนหนังสือฟังอาจารย์สอนไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะหันไปสนใจเสียงหัวเราะเบาๆของคนข้างกาย ไอ้โมที่ไม่ได้สนใจเรียน มันเอาแต่กดมือมือตอบไลน์ด้วยมือข้างเดียวของมัน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ผมก็เหลือบมองแบบสอดรู้สอดเห็น ว่ามันคุยกับใคร " คุยกับใครอยู่วะ " พอถามออกไปอีกคนก็ปิดหน้าหนังสือตัวเองลงทันทีก่อนจะหันหน้ามาผมแบบตกใจพลางส่ายหน้าไปมา .. โกหกไม่เนียนเลยไอ้คุณหนู

“ เปล่า ทำไมวะ "

“ ก็เปล่า กูเห็นมึงนั่งยิ้มนั่งหัวเราะคนเดียว คิดว่าเป็นบ้า "

“ แค่คุยกับเพื่อนน่ะ มันตลกกูเลยขำ อื้ม นั่นแหละ แค่เพื่อนน่ะ " อีกคนบอกไม่เต็มเสียงเท่าไหร่ มือบางยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองก่อนจะกำหนังสือนั่นไม่แน่นไม่ยอมเปิดออก แก้มแดงๆของมันชวนให้ผมยิ้ม คือกูยังไม่ถามอะไรเลย เขินเหี้ยอะไรของมันวะ

“ เพื่อนเหรอ " มันพยักหน้ารับ " ชื่อ ชัดปะ "

“ ไอ้บ้า!!! “ หันมาด่าผมแบบเสียงเบาๆ แก้มแดงแป๊ดของมันผมก็ทำมือจุ๊ๆที่ปาก

“ โอเค กูจะเงียบไม่บอกใคร จุ๊ไว้ จุ๊ไว้ "

“ เชี้ยอะไรมึงวะ กูไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย แล้วกูก็ไม่ได้คุยกับไอ้ชัดด้วย " ปากที่กำลังเถียงแต่หน้าก็แดงขึ้นเรื่อยๆ ใครก็ได้ช่วยบอกให้มันยอมรับความจริงเถอะ คือปากมึงปฎิเสธแต่กายมึงนี่ยอมรับกับกูทั้งหมดแล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร

“ เหรอออออ งั้นขอดูไลน์หน่อยคุยกับใคร "

“ เอ่อ..” อีกคนที่นิ่งไป ผมยักคิ้วให้ตอนที่ยื่นมือไปตรงหน้าอีกคนก็หันไปมองกระดานดำทำเป็นไม่สนใจอะไร เสียงของไอ้โมเอ่ยเบาๆบอกผม " ตั้งใจเรียนดีกว่า "

“ หึ " ส่ายหน้ายิ้มๆ กับท่าทางหลบเลี่ยงของมัน " เออๆ กลับไปตั้งใจคุยกับพี่ชัดเถอะไป " ไอ้โมเงียบไม่ตอบอะไรมันคงคิดว่าแต่หน้าแดงๆของมันก็ตอบผมหมดแล้วละ

   หยิบมือถือส่งไลน์ไปหาไอ้ภาพ ว่าจะถามเรื่องไอ้โมกับไอ้ชัดว่าเป็นยังไง แต่ก็ยุ่งโคตรจนลืมไปเลย เอาจริงๆ พอเจอหน้าไอ้หัวหอมผมก็ลืมทุกอย่างแล้วละ อยากจะกอดอยากจะอยู่กับมันอย่างเดียวไม่อยากจะทำอะไรอย่างอื่นหรอก ถ้าไม่จำเป็นละก็นะ " ผัวขาาาาา "

“ อะไรจ๊ะเมีย " มันส่งข้อความกลับมาผมก็หลุดหัวเราะ ไอ้สัดมีกวนตีนกลับ

“ มึง กูมีอะไรถาม จะถามนานละแต่ลืม "

“ ถามอะไรจ๊ะ "

“ ไอ้ชัดชอบไอ้โมเหรอวะ กูเห็นมันมาวอแวเพื่อนกูตลอด ซื้อน้ำมาให้ นี่ส่งไลน์คุยกันตลอดเลยนะมึง "

“ อ้าว มึงไม่รู้เหรอ " สัด... ก็ไม่รู้นะสิ ถ้ารู้จะถามมึงเพื่อ

“ เอาจริงดิ ไอ้เชี้ยย ไอ้ชัดเป็นเกย์เหรอวะ " คือผมไม่รู้ว่าไอ้โมคิดยังไงกับไอ้หรอก มันจะเป็นเกย์ เป็นไบ อันนี้ผมไม่รู้ แต่ว่าการที่ไอ้ชัดมันมาจีบไอ้โม มันก็ต้องเป็นอยู่ก่อนแล้วใช่มั้ยละ

“ คงเป็นไบ " มันพูดสั้นๆ " ก็ที่มันมาคบกับกูเป็นเพื่อน เพราะมันชอบไอ้โมไง มันเห็นมึงที่เป็นเพื่อนกู สนิทกับไอ้โม มันก็เลยมาคบค้าสมาคมกับกู "

“ อ้อ ไอ้เชี้ยนี่ทำดีหวังผล " ไอ้ภาพส่ง สติกเกอร์หัวเราะมาตอนที่ผมบอกแบบนั้น " แล้วตอนนี้มันก็จีบไอ้โมอยู่ "

“ อื้ม ก็คงอย่างงั้นอะ เค้าไปกินเหล้าด้วยกัน เค้าไปส่งบ้าน เค้าคุยไลน์กัน ขนาดกูไอ้ชัดยังไม่ไลน์มาคุยกับกูเลยนะ "

“ โอ๊ยยย พี่ชัดกูจะเป็นลม มึงเอาเวลาตอนไหนไปจีบกันวะ "

“ ตอนที่มึงเลี้ยงลูกอยู่บ้านไง " กรอกตามองบนตอนที่อ่านข้อความของมัน พยักหน้ารับหงึกหงัก " แล้วมึงคิดว่าไง "

“ อะไรคิดยังไง "

“ ก็เรื่องไอ้ชัดกับไอ้โม "

“ ก็ไม่คิดยังไง " ผมบอก " มันก็ชอบกันเป็นแฟนกัน ก็เรื่องของมัน ไม่เดือดร้อนใครสักหน่อย หัวใจก็หัวใจมัน กูโอเคแหละ ถ้ามันมีความสุขละก็ "

“ หมายความว่า มึงก็ไม่ได้รัจเกียจอะไรแบบนี้ "

“ อื้ม รังเกียจทำไมอะ ตูดไอ้โม ไม่ใช่ตูดกูสักหน่อย " ผมว่าขำๆก่อนจะยิ้มกว้างออกมา " มึงว่าถ้าคบกันแล้ว มันจะมีอะไรกันปะ "

“ ถามเหี้ยอะไรแบบนั้น "

“ อ้าว เวลามึงมีแฟน มึงยังมีอะไรกับมันเลย อันนี้ก็ปกติปะ ถ้าไอ้โมกับไอ้ชัดมันจะมีอะไรกัน " ผมไม่ได้รังเกียจอะไรแบบนี้ แต่ก็แค่อดจินตนาการถึงตอนที่มันจูบกันหรือว่ากำลังทำเรื่องแบบนั้นกันไม่ได้ กอดกัน จูบกัน แล้วก็ทำเรื่องแบบนั้น ความรู้สึกในตอนนั้นมันจะเป็นยังไงวะ

“ แล้วการแสดงความรักด้วยร่างกาย มันแปลกเหรอไงวะสำหรับมึง "

“ ก็ไม่แปลก แต่ว่านี่มันผู้ชายกับผู้ชายไง มันจะรู้ได้ไงวะ ว่าต้องทำยังไง "

“ พอถึงตอนนั้นก็คงรู้เองแหละ อารมณ์มันพาไปอยู่แล้ว "

“ อ๋อเหรอออ มึงนี่ดูเชียร์ไอ้ชัดจังนะ " ผมบอก

" ก็มันชอบ กูก็แค่แนะนำว่าต้องทำไง "

" ดูเซียนนะมึง แล้วตอนนี้เมียเซียนอยู่ไหนแล้วอะครับ "

" ก็กำลังคุยอยู่ด้วยนี่ไง " เบิกตามองข้อความที่ส่งมานั่นยิ้มๆ " เมื่อกี้ยังเรียกกูผัวขาอยู่เลยไม่ใช่เหรอ "

" ว๊าย น้องลืม "

" นี่ลืมผัว ? " สติกเกอร์หน้าเบื่อถูกส่งกลับมาผมก็ยิ้ม

" ถ้ามันมีความสุขก็ดีนะกับทางที่มันเลือกน่ะ " ผมหันมองโมก่อนจะยิ้มออกมา อีกคนที่กำลังมีความสุขกับการพูดคุยกับใครอีกคน ต่อให้อีกฝ่ายเป็นเพศไหนสำหรับผม ถ้ามันมีความสุขนั่นก็ดีที่สุดแล้ว

“ ถ้ามันใจตรงกัน มันมีความสุขอยู่แล้วละ " พยักหน้ารับความคิดของมันก็จริงนะ ที่ไอ้ภาพพูด

“ แล้วมึงอะ ไม่คิดจะจีบใครรึไง ดูเงียบๆนะ เมียไม่มี " ปกติไอ้เชี้ยนี่ไม่เคยขาดผู้หญิงเลย ภาพควงสาวตลอดและมีแทบทุกคณะแต่หลังๆมามันดูว่างๆ โสดๆ ยังไงแปลกๆ

“ กูเบื่อจะลอยไปลอยมา อยากจะหาคนที่คบแบบจริงจังน่ะ "

“ นี่เพิ่งคิดได้เหรอวะ " ผมถาม มันก็ส่งสติกเกอร์หัวเราะมาให้ " แต่คิดแบบนั้นก็แล้ว เผื่อหัวหอมเป็นลูกมึง มึงต้องหาแม่แบบจริงจังให้มันนะ ไม่ใช่ร่อนไปมาเรื่อยเปื่อย "

“ จ้าๆ กูทราบแล้วครับแม่ " สติกเกอร์กราบส่งมาให้ ผมก็ไม่ได้ส่งอะไรตอบไป จัดการปิดหน้าจอมือถือแล้วสนใจสไลค์ตรงหน้าเพราะอาจารย์กำลังจะสั่งงานชิ้นแรกของเทอมนี้ เป็นงานที่อยากเอาการเลยเพราะมันคือการออกแบบผลิตภัณฑ์ในหัวข้อ หัวข้อนึงซึ่งเราเองที่ต้องเป็นคนทั้งออกแบบแพ็คเก็ตและตัวสินค้านั่น กำลังงานคืออาทิตย์หน้า .. ทำไมอาจารย์หลายๆคนถึงสั่งงานเหมือนคิดว่า พวกเรามีการบ้านแค่ของเค้าวิชาเดียวกันนะ ไม่เข้าใจเลย

   เดินลงจากตึกมาที่โรงอาหารใกล้คณะสำหรับมื้อเที่ยง หย่นตัวลงนั่งที่โต๊ะผมผ่อนลมหายใจออกมา คงต้องเริ่มคิดการบ้านแล้วช่วงนี้ชีวิตผมยุ่งมาก ถ้าทำการบ้านไปด้วย ดูแลไอ้หัวหอมไปด้วย กูต้องทำไม่ทันแน่

“ กินอะไรกันดีวะขม "

“ เหมือนเดิมแล้วกันมึง " ผมบอก " ไก่กรอบผัดคะน้าไข่ดาว มึงจะไปกินร้านไหน "

“ คงกินข้าวร้านเดียวกับมึง "

“ งั้นฝากสั่งที "

“ โอเค "

“ ไอ้ขมกูนั่งด้วยสิ " เสียงของหนึ่งในสองแฝดเอ่ยทัก มันสองคนนั่งลงข้างๆผมก่อนจะฟลุบหน้าลงบนโต๊ะพร้อมกัน

" แล้วทำไมมึงสองคนถึงต้องมานอนเลียนแบบกูด้วยวะ " เอ่ยถามมันสองตัวที่ก็เงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมกัน โคตรหลอนไอ้สัดคนหน้าเหมือนกันสองคนจ้องกูเป็นตาเดียว

" ชีวิตกูเหนื่อยไม่ได้เลยเหรอ ไอ้ขม กูนอนพักเพราะกูเหนื่อย กูต้องตามมึงมั้ยละสัด กูไปนอนบนแขนมึงเหรอ " แฝดพี่ที่ชื่อผ้าม่านบอก ส่วนอีคนน้องมู่ลี่ก็เสริมทัพ

" เออ จริง  กูสองคนก็นอนบนแขนกูตัวเองอะ " 

   ' ผ้าม่าน มู่ลี่ ' เป็นแฝดคู่เดียวในคณะของผมเพราะ หน้าตาที่คล้ายกันของมัน ชอบอะไรก็เหมือนๆกัน ไอ้สองคนนี้มันเลยชอบทำผมคนละสี บางทีก็คนละทรง คนจะได้แยกออกว่าใครเป็นใคร แต่จริงๆไอ้ภาพก็เคยบอกผมว่ามันไม่เหมือนกันซะอีเดียวหรอก ถ้าดูดีๆละก็ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามันแปลกอยู่ดีในความรู้สึกของผม เหมือนความมหัศจรรย์อย่างนึงในโลก ผมหมายถึงแฝดนะครับ ไม่ใช่ไอ้แฝดนรกสองตัวนี้

“ อ้าว ไอ้ม่านไอ้มู่ กินไรอะ " ไอ้โมเอ่ยทักมันสองคนที่ก็มองไปรอบๆ

“ ข้าวหน้าเป็ดมั้ง ข้าวร้านป้าอาหารตามสั่งคนเริ่มเยอะแล้วอะ "  ไอ้ม่านบอกก่อนจะเดินออกไปซื้อข้าวมาสองจาน " พวกมึงเอาน้ำอะไรมั้ย กูจะไปซื้อเผื่อ "

“ เอาน้ำเปล่า คนละขวดพอ " โมบอกมันยื่นแบงค์ห้าร้อยให้อีกฝ่าย

“ โอ๊ยอีรวยมึงไม่แบงค์ยี่สิบเหรอคะ คุณหนู " ม่านบอกผมก็ล้วงเงินยื่นให้มัน

“ เอานี่ "

“ โอเช มึงปลุกอีมู่ขึ้นข่าวทีขม กูไปซื้อน้ำก่อน "

“ จ้าๆ " เอื้อมมือไปปลุกไอ้มู่ที่สะลึมสะลือขึ้นจับช้อนแบบเนือยๆ จะว่าไอ้สองคนนี้ไม่ได้จัดว่าหน้าตาน่ารักแบบเก๋ๆดีนะ เหมือนผู้หญิงที่ชอบอยู่ในงานถ่ายภาพแบบมินิมอลเลยมันสองตัวอะ

“ อะ น้ำ " ขวดน้ำสองขวดที่ถูกยื่นให้ เราเริ่มต้นกินข้าวเม้าส์มอยเรื่องการบ้านของอาจารย์นำทีมโดยอีม่านแฝดพี่

“ อาจารย์แม่งสั่งการบ้านแบบไม่ให้กูมีเวลาอยู่กับผัวเลยอะ "

“ มึงมีผัวด้วยเหรอวะ " ไอ้มู่ถาม อีกคนก็แบะปากมองบน

“ อีมู่...กูสมมุติ สมมุติว่ากูมี ”

“ มึงฝันอยู่เหรอ " โอ๊ยปากแม่ง รุนแรงแบบลอกหนังกำพร้าที่ใจของพี่มันโดยแท้สำหรับชะนีหน้าตาดีแต่ไม่มีผัว

“ เออ กูถามหน่อยแล้วเวลามีแฟน แฟนพวกมึงไม่จีบสลับกันบ้างเหรอวะ แบบ ทักม่านเป็นมู่งี้ " ไอ้โมถาม

“ ก็เพราะแบบนี้ไง กูสองคนเลยต้องทำผมคนแบบ คนละสี นี่ทำเพื่อผู้เลยนะ ผู้จะได้จีบถูกไง ว่าจะเอาพี่เอานาง "

“ สุดยอด ปฎิธานการหาผัวเด็ดเดี่ยว " ยกนิ้วโป้งให้มันที่ก็ยกนิ้วโป้งคืนให้ผมที่ก็ยิ้มก่อนจะมองไปรอบๆแล้วเจอเข้ากับ ร่างสูงหน้าคมเข้มคุ้นตาที่เดินเข้ามาในโรงอาหาร " โมๆ ไอ้ชัดมาอะ "

“ ห๊ะ ? “ เชิดหน้าไปอีกทาง โมมันก็มองตามด้วยสีหน้าที่ขึ้นสีแดงนิดๆ มันหันกลับมามองผมทำท่าลุกลี้ลุกลนเหมือนจะลุก " กู ไป ห้องน้ำก่อนนะ "

“ เฮ้ยย ไปไหนมันก็นู้นแล้ว มึงลุกไม่ได้ " คว้ามือจับมันไว้ ไอ้โมหันหน้าไปอีกทางทำเป็นไม่เห็นผมก็ล้อ

“ ยิ้มเหี้ยไรวะ "

“ ก็พวกมึงทำกันเหมือนการ์ตูนตาหวานอะ จีบกันมุ้งมิ้ง "

“ มุ้งมิ้งพ่อง " มันด่าออกมา ตอนนั้นไอ้ชัดก็เดินถึงโต๊ะเราพอดี แก้วชาเย็นวางลงตรงหน้าโม

“ กูซื้อมาฝาก " ชัดว่าสั้นๆอีกคนก็พยักหน้ารับ " กูเพิ่งพักเที่ยงน่ะ "

“ เหรอ " ผมตอบแทนอีกคน

“ กูนั่งด้วยได้มั้ย "

“ ได้สิ " ผมขยับตัวเองให้มันนั่งตรงข้ามกับโมแต่มันก็ยังยืนนิ่งไม่นั่งลง ชัดก้มหน้าลงมองโมที่ก็นิ่ง หน้าแดงไม่ยอมพูดอะไร

“ ขอนั่งด้วยคนได้มั้ย " คำถามที่ไม่มีใครตอบ มีแต่ไอ้โมที่ขยับไปข้างๆ ให้อีกคนได้นั่งลงข้างมัน ผมที่กำลังกลั้นยิ้มรู้สึกเขินเหมือนโดนจีบเอง ไอ้ม่านที่นั่งข้างผมก็กระซิบ

“ นี่คือเหี้ยอะไรอีดอก โปรดบอกกู สุดหล่อขมเข้มคนนี้กับอีโมนี่ มันจีบกันเหรอมึง " ยักคิ้วแถมพยักหน้าเป็นตอบอีสองแฝดก็เบิกตากว้าง " ไม่ธรรมดา จัดว่าแซ่บ "

“ แซ่บอยู่ "  ผมพยักหน้าบอก ก่อนจะเอ่ยถามร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆไอ้โม " นั่งกันอยู่ตั้งสี่คน มึงซื้อน้ำมาเลี้ยงแค่ คนเดียวนี่เหรอวะ "
“ อยากกินเหรอ จะน้ำอะไรอะ เดี๋ยวไปซื้อให้ "

“ ใจดีด้วยอะ " สองแฝดพูดขึ้นมา อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ พี่ชัดเค้า ใจดี รวย สปอร์ต บริหาร เว้ย " ผมแซวอีกคนก็ยกยิ้มก่อนจะยืนขึ้น

" กินน้ำอะไรกันเดี๋ยวไปซื้อให้ "

" ไม่เอาอะ พวกกูมีน้ำแล้ว " ยกขวดน้ำของตัวเองขึ้นมา ผมก็เอ่ยถามมัน " แล้วไอ้ภาพอะชัด "

" ซื้อไส้กรอกทอดอยู่ เดี๋ยวคงตามมา " มันว่าก่อนจะเดินออกไปซื้อข้าว สองแฝดก็หันมาถามผม

" ไอ้ภาพนี่ผัวมึงปะขม "

" สัด! เพื่อนกู " บอกก่อนจะเหล่มองไอ้โมที่ก็ก้มหน้ากินข้าวเงียบๆ เสียงบ่นงุ้งงิ้งของมันชวนทำให้เราหัวเราะขึ้นมา

" จะมาทำไมก็ไม่รู้ "

" ก็เค้าคิดถึง อยากเจอ อยากจะเห็นหน้า " ไอ้มู่บอก อีกคนก็เหลือบตามองเหมือกำลังบอกให้เลิกแซว

" กูว่ามันจีบมึงน่ารักดีวะ เหมือนจีบสาวทั่วไปเลยอะ "

" พวกมึงแซวเหี้ยไรวะ กูกับมันก็เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นแหละ " โมบอก เราสามคนก็ถอนหายใจพลางบอกพร้อมกัน

" เออ เพื่อนก็เพื่อน " 

   ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เดินออกมาจากโรงอาหารคนเดียว ปล่อยให้ไอ้ชัดกับไอ้โมนั่งกินข้าวกันอยู่สองคน ไอ้สองแฝดหายหัวไปแล้ว เห็นบอกว่าจะไปตากแอร์หาไอเดียงานที่ห้องสมุด หย่นตัวลงนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าคณะ ก่อนจะคว้ามือถือตัวเองขึ้นมากดโทรออกหาใครบางคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่

“ สวัสดีครับ กาลิคกำลังพูดอยู่นะครับ " เสียงน่ารักที่ตอบรับหลังจากรอสายอยู่นาน

“ หัวหอมทำอะไรอยู่ " เอ่ยถามมันอีกคนก็ตอบเสียงสดใสขึ้นมาทันที

“ กำลังคิดถึงอาขมอาภาพอยู่ครับ " ยิ้มกว้างกับคำตอบที่ได้ฟัง อยากจะทะลุเข้าไปในโทรศัพท์แล้วดึงมันเข้ามากอดไว้แน่นๆ จับมานั่งตักแล้วหอมแก้มนิ่มๆสักฟอด

“ เหมือนกันเลยยยย กูก็กำลังคิดถึงมึงอยู่ อีกแปปนึงอาขมอาภาพจะกลับบ้านแล้วนะ แล้วนี่กินข้าวรึยัง "

“ กินแล้ว วันนี้กาลิคกินข้าวหมดเลย แล้วกาลิคก็เอาจานไปไว้ในอ่างน้ำแล้วด้วยครับ "

“ เก่งมาก คนเก่ง เดี๋ยวกลับไปบ้านเราออกไปกินของอร่อยๆกันนะ กาลิคอยากจะกินอะไรเอ่ย "

“ กินไอติมมม " เสียงใสๆที่ดังลอดเข้ามา พร้อมกับถุงไส้กรอกสีแดงที่วางลงบนตักผม ร่างสูงที่นั่งลงข้างๆมันหันมามองหน้าเหมือนถามว่ากำลังคุยกับใคร

“ งั้นบอกคนพาไปนะ อะ " ยื่นมือถือให้ไอ้ภาพที่ก็เคี้ยวไส้กรอกแดงอยู่เต็มปาก มันหยิบมือถือไปพูด

“ ครับผม "

“ อาภาพพพ กาลิคอยากจะกินไอติม "

“ ได้เลย เดี๋ยววันนี้กูพาไปกินนะ " มันบอก " แล้วนี่กินข้าวรึยัง "

“ กินแล้วครับ "

“ เก่งมาก เดี๋ยวอีกไม่นานกูกลับนะ ดูการ์ตูนรอไปก่อนนะ เดี๋ยวเราออกไปกินไอติมกัน "

“ ครับผม " มันขานรับ

“ แค่นี้นะ "

“ ครับ บ๊ายบาย บ๊ายบายอาภาพ บ๊ายบายอาขม รีบกลับมานะ จุ๊บๆครับ "

“ จุ๊บๆ " ผมบอกผ่านมือถืออีกคนที่วางสายไป ผมก็ถอนหายใจออกมา " คิดถึงแล้วเนี้ย คิดถึงแล้ววว " ไอ้ภาพส่ายหน้าไปมามันจิ้มไส้กรอกแดงทอดขึ้นกิน " วันนี้ตกลงตอนเย็นเราไปกินอะไรกัน " ปิ้งย่างมั้ย "

“ จัดไป กูอยากกินอยู่พอดี " คิดถึงเบคอนอร่อยๆ น้ำจิ้มรสแซ่บ คิดถึงข้าวผัดกระเทียม กลืนน้ำลายลงคอตอนที่คิดถึงเตาย่าง คิดถึงไอติมรสชาติดีเผื่อไอ้หัวหอมไปด้วย " กูว่า ไอ้หัวหอมต้องชอบแน่เลย "

“ ก็ที่กูพาไป เพราะคิดว่าทั้งมึงแล้วก็ไอ้กาลิคต้องชอบไง " ยิ้มให้มันที่นั่งเคี้ยวไส้กรอกไม่สนใจ มันจะรู้ตัวมั้ยวะ ว่ามันตอนนี้เหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปแล้วนิดหน่อย อย่างน้อย คนที่สนใจแค่ตัวเองอย่างมัน ตอนนี้กลับสนใจคนอื่นขึ้นมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะเจ้าตัวเล็กที่บ้านของเรา คนที่ตอนนีิ้ ภาพ มันให้ความสนใจเป็นพิเศษ

.............................................................

ไปเรียกเค้าผัวเดี๋ยวได้ไปเป็นเมียเค้าหรอก
ตอนนี้ไม่ค่อยมีหัวหอม ตอนแรกคิดว่าจะเขียนให้น้องหัวหอม ออกเยอะๆเพราะคิดถึง
แต่รู้สึกมันฉาบฉวยไป เลยคิดว่าค่อยไปเป็นค่อยไปดีกว่า
ตอนหน้าค่อยจัดเต็มใน พาสพี่ภาพ..
ยังไงฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้าาา  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 12-03-2017 21:07:00
ความสามีเริ่มบังเกิดแล้วสินะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 12-03-2017 21:10:43
ทั้งสองคนมีพัฒนาการไปในทางที่ดีมาก ๆ อะ ชอบ ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 12-03-2017 21:22:48
หัวหอมน่ารักจัง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-03-2017 21:27:45
ภาพ เริ่มตะล่อมขม แล้ว
ว่าคิดไงกับชัดชอบโม แบบชายรักชาย
แล้วภาพก็ได้คำตอบ อย่างที่สบายใจตัวเอง
สามารถเอาไปต่อยอดกับขมได้  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวหอมเข้ามาอยู่ในหัวขม ภาพ ขม หลงรักหัวหอมแล้ว
คนอ่านก็รักหัวหอมเหมือนกัน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-03-2017 22:08:00
เมื่อไหร่แม่ของกาลิคจะมา ไม่ใช่อะไร อยากให้น้องได้ไปโรงเรียน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-03-2017 22:13:52
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-03-2017 22:25:50
บรรยากาศครอบครัว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 12-03-2017 22:39:15
แม่กาลิคควรติดต่อมาบ้างนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-03-2017 22:50:56
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 12-03-2017 23:18:48
โอยยย ครอบครัวสุขสันต์ น่าร๊ากกกก  :-[
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 13-03-2017 00:16:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-03-2017 00:20:56
โอ้ยยย ดีไปไหน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 13-03-2017 00:39:03
อ่านแล้วอมยิ้มตลอดอ่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 13-03-2017 01:35:09
ทำไมนี่รู้สึกว่าภาพชอบขมม แต่ขมมไม่รู้ตัวววว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-03-2017 07:28:55
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-03-2017 07:54:55
อ่านแล้วได้ฟีลครอบครัวสุขสันต์มากๆ
แต่อยากให้บอกผู้ใหญ่สักทีนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 13-03-2017 09:58:25
ครอบครัวนี้น่ารักจัง :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 13-03-2017 11:18:14
เริ่มมีความเป็นพ่อบ้านแล้วนะภาพ

เมื่อไหร่กาลิคจะได้ไปโรงเรียน ไม่ต้องอยู่คนเดียวซะที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 13-03-2017 12:45:49
ครอบครัวสุขสันต์
ไม่อยากรู้แล้ว ว่าใครเป็นพ่อหัวหอม
อยากให้อยู่กันแบบนี้
ไม่อยากนึกถึงวันที่ไม่มีหัวหอม
หรือต้องโดนจับแยกกัน


 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 13-03-2017 13:50:31
พูดอะไรเปนลางนะขมมมมม ผัวๆเมียๆ >\\\<
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 13-03-2017 19:34:17
ฟิวกู้ดมากก อ่านแล้วยิ้มตาม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 13-03-2017 20:35:05
หลงน้อง น่ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 13-03-2017 21:20:51
งุ๊ยยยย...น่ารัดน่าเลิฟ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 13-03-2017 23:00:53
เรื่องนี้ feel good ของจิง ไมเอามาม่านะ
มันไม่มีประโยชน์ ไม่ค่อยอยากกิน 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 9 - 12.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 13-03-2017 23:05:47
กาลิคคคค น่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 17-03-2017 20:45:31
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 10

   ขับรถกลับมาถึงคอนโด จอดรถที่ลานจอดรถปกติ ก่อนที่เราสองคนจะเดินลงจากรถผ่านทางหน้าเค้าเตอร์ของคอนโด เพื่อจะไปกดลิฟต์อีกฝั่ง สายตาของผมหันมองผู้หญิงสองสามคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น ขาที่ผ่อนลงช้าๆแล้วหยุดลงทันที เหมือนมีความคิดนึงผ่านเข้ามาในหัว ในขณะที่ไอ้ขมกลับเดินตรงไปถึงลิฟต์แล้ว แต่เพราะไม่เห็นผมข้างกาย มันเลยตะโกนเรียก

" ไอ้ภาพ มาสิ " กวักมือเรียกผมด้วยรอยยิ้มอย่างเช่นทุกวัน มันคงคิดถึงเจ้าตัวเล็กจนแทบจะทนไม่ไหวแล้วในตอนนี้ รอยยิ้มที่ชวนให้ผมยิ้มตามอย่างไม่เคยเบื่อ ก่อนจะเดินเข้าไปหามัน

" มึงขึ้นไปเถอะ กูไม่ขึ้นไปละ ขี้เกียจ เดี๋ยวก็ต้องลงมาอีก มึงจัดไอ้กาลิคให้เรียบร้อย แล้วพามันลงมาก็แล้วกัน กูจะรอตรงนี้ "
 
" เอางั้นเหรอ แล้วมึงจะไม่ฉี่ ไม่อะไรเลยเหรอ ล้างหน้า พักผ่อน สักหน่อยมั้ย" มันถามด้วยท่าทางเป็นห่วง มีเพื่อนก็เหมือนแมีแม่นั่นแหละ สำหรับไอ้ขม มันจัดการผมทุกเรื่องยิ่งกว่าแม่ซะอีก

" ไม่อะ " ผมส่ายหน้า " เดี๋ยวจัดการฉี่ที่ห้องน้ำตรงนั้นก็ได้ " เชิดหน้าไปที่ห้องน้ำของคอนโดอีกคนก็พยักหน้ารับ

" นานอยู่นะมึง กูจะจัดการอาบน้ำให้มันก่อน ล้างจาน แล้วค่อยลงมานะ ไม่นอนพักแน่อะ " มันถามย้ำ 

“ เออน่า กูรอได้ "

“ เอางั้นก็ได้ " มันพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์ที่มาถึงพอดี ผมกดปิดลิตฟ์แต่อีกคนด้านในกลับกดเปิดมันออก ก่อนจะเอียงหน้าออกมาถามอีกครั้ง " ไม่ไปจริงอะ "

“ จริงๆ มึงไปจัดการ กาลิคเถอะไป กูนั่งคอยตรงนี้แหละ "

“ งั้นเจอกัน " เสียงเซ็งๆของมันกดปิดลิฟต์อีกครั้ง ผมก็ยกยิ้มออกมา มองดูลิฟต์ที่ค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นไป ผมหัวเราะก่อนจะส่ายหน้าไปมาตอนที่คิดถึงท่าทางของมันเมื่อกี้

   ตั้งแต่เด็กจนโตไอ้เชี้ยนี่ก็เป็นแบบนี้มาตลอด เจ้ากี้เจ้าการ วุ่นวาย ขี้บ่น แต่อีกด้านมันก็เป็นอ่อนโยน ชอบคิดมากถึงความรู้สึกของคนอื่นประจำ แล้วนิสัยที่ชอบที่สุด คือมันขี้อ้อน ช่างพูด แล้วก็เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ท่าทางที่ดูเป็นธรรมชาติของมัน ไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะ หรือแม้แต่จะร้องไห้ ก็มีอิทธิพลกับตัวผมไปเสียทุกอย่าง และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า มันจะมีอิทธิพลต่อตัวผมมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะกับใจ

" สวัสดีค่ะ คุณภาพ "

" สวัสดีครับ " หันไปทักทายพนักงานที่เค้าเตอร์ผมที่กำลังจะเดินไปนั่งที่โซฟาชะงักตัวเองลงก่อนจะหันไปมองเธอ เพราะความคิดนึงที่ผุดขึ้นมา เงยหน้ามองขึ้นไปรอบๆก่อนจะเจอเข้ากับกล้องวงจรปิดหลายๆมุม ผมเดินออกไปตรงทางเข้าด้านหน้ามันมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่แทบทุกส่วน ทั้งสวนด้านหน้า ประตูทางเข้า รปภ ' ถ้าขอดูกล้องวงจรปิดวันที่กาลิคเข้ามา อาจจะรู้ก็ได้ว่าใครเป็นแม่เด็ก เพราะกาลิคมันคงมาที่นี่คนเดียวไม่ได้หรอก '  ความคิดที่ผุดขึ้นของผมก่อนจะเดินตรงเข้าไปที่เค้าเตอร์ข้างใน " ขอโทษนะครับ ผมขอสอบถามหน่อย "

“ ได้ค่ะ มีอะไรคะคุณภาพ “

“ ถ้าผมจะขอตรวจดูภาพจากวงจรปิดจะได้มั้ยครับ "

“ เอ่อ.. มีอะไรที่อยากจะรู้เหรอคะ " เธอตั้งคำถามกลับมา ก็จริงนะใครมันจะให้ดูภาพกล้องวงจรปิดแบบชนิดที่ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากคดีทางตำรวจวะ เจ้าหน้าที่คอนโดก็ต้องกลัวว่าผมอาจจะมาตรวจดูเวลาเข้าออกคอนโดของสาวสักคนแน่ๆ

“ คือว่า ยังจำเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่มีคนมาฝากไว้ได้มั้ยครับ ฝากให้ผมกับขมน่ะ "

“ อ้อ จำได้ค่ะ เด็กผู้ชายที่พี่ฝากให้น้องมีนาพาขึ้นไปหาน้องขมกับน้องภาพ "

“ ผมอยากรู้น่ะครับ ว่าใครเป็นคนมาส่งเค้า " เธอพยักหน้ารับก่อนจะถาม

“ แล้วเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกน้องภาพ หรือว่าน้องขมเหรอคะ " คำถามที่ชวนให้ผมเงียบ เธอก็พูดต่อ " พี่คิดว่าเป้นลูกหรือหลานนะคะ เห็นมีภาพของน้องภาพกับน้องขม เลยให้น้องมีนาไปส่ง "

“ ใช่แหละครับ " ผมบอกปัด " แค่ผมแค่อยากรู้ว่าใครมาส่งเท่านั้นแหละครับ ยังไงช่วยจัดการให้หน่อยได้มั้ย "

“ ค่ะ ได้ค่ะ " เสียงตอบรับของเธอมาพร้อมกับกระดาษแผ่นนึงที่ยื่นมาให้กรอก รายละเอียดของการขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด " น้องภาพกรอกเอกสารแจ้งความจำนงจะขอดูกล้องนะคะ แล้วถ้าได้ความยังไงแล้ว พี่จะติดต่อไปนะคะ "

“ ครับ ขอบคุณมาก " ผมกรอกเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยทั้งชื่อของตัวเอง แล้วก็เวลาที่ต้องการจะตรวจ พื้นที่บริเวณที่อยากจะดู ส่งคืนให้พี่พนักงานที่รับไปอ่านก่อนจะหันมายิ้มให้

“ เรียบร้อยค่ะ "

“ อาภาพพพพพพพพพพ " เสียงใสลากยาวที่เอ่ยเรียกผม หันไปมองก็เจอเข้ากับเจ้าตัวเล็กที่วิ่งตรงมาหาจากลิฟต์ ย่อตัวลงกางแขนออกอีกคนก็พุ่งตัวเข้ามาใส่ จับอุ้มขึ้นมาตอนนั้นก็โดนหอมแก้มไปเต็มๆ " คิดถึงอาภาพที่สุดเลย ทำไมอาภาพไม่ขึ้นไปหากาลิคพร้อมกับอาขม "

" เพราะว่าอาภาพขี้เกียจ " บอกมันตรงๆก่อนจะหอมแก้มใสนั่นไปเต็มฟอด " แล้วอีกอย่างนะ ถ้าขึ้นไปพร้อมอาขม กาลิคก็ต้อง อาขม หนูคิดถึงอาขมแล้วก็กอดอาขมคนเดียว ไม่สนใจกูเลย อยู่รอข้างล่างนี่แหละดี มึงได้วิ่งเข้ามากอดไง "

“ อาภาพ อาภาพงอนกาลิคเหรอ งั้นกาลิคง้อนะ  "

“ ไปเอาคำพวกนั้นมาจากไหนวะ " ไอ้ขมที่เดินเข้ามาใกล้ถาม มันก้มลงผูกเชือกรองเท้าผ้าใบให้อีกคน ที่ก็จับหน้ามาส่ายไปมากาลิคจุ๊บลงที่ข้างแก้มก่อนจะกอดผมไว้

“ ไม่งอนกาลิคนะ โอ๋ๆ " น่ารักอีกแล้ววววว..ผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะก้มลงหอมแก้มมันไปเต็มฟอดด้วยความหมั่นไส้ คำพูดคำจาช่างอ้อนจริงๆเด็กอะไรวะ เหมือนไอ้ขมตอนเด็กๆเลย เวลาโกรธกันถ้ามันทำผิด มันจะชอบมายืนบิดชายเสื้อตัวเองไปมาอยู่ตรงหน้าผมก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไร พอเงยหน้าสบตาเข้าหน่อยมันก็ถามเสียงอ้อมแอ้มว่า ' ภาพ ภาพโกรธขมเหรอ ขมขอโทษนะดีกัน ' แล้วพอเป็นแบบนั้นผมก็โกรธมันไม่ลงทุกที

“ นี่มึงสอนเหรอ " ผมถามอีกคนที่ก็เงยหน้าขึ้นมาพลางส่ายหน้า

“ ทำไมถึงคิดว่ากูสอนมันวะ "

“ ก็มึงก็ชอบทำแบบนี้ตอนเด็กๆ "  มันขมวดคิ้วตอนได้ยินแบบนั้น ท่าทางที่เหมือนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่าตัวเองจะขี้อ้อนอะไรแบบนี้

“ กูทำที่ไหน มึงคิดไปเองรึเปล่า ตอนนั้นมึงก็ยังเด็กจำได้เหรอ " ยกยิ้มให้มันที่เอื้อมมือมาปัดแป้งที่ติดอยู่หน้ากาลิคให้เรียบร้อย มันที่จัดการทุกอย่างไม่ต่างจากแม่กาลิคเลยในตอนนี้

“ กูจำได้แม้กระทั้งว่า จูบแรกของมึง คือกูอะ "

“ ไอ้เชี้ย! เพียะ! " เสียงตบมาพร้อมเสียงด่าและความเจ็บปวดที่ชาไปแม่งทั้งหลัง

“ โอ๊ยย กูเจ็บนะไอ้ขม "

“ แล้วมึงพูดเหี้ยไรวะ  "

“ อาขมมมม อาขมตีอาภาพทำไม " กาลิคเอ่ยถาม มันเบิกตาด้วยความตกใจ แววตาสั้นๆที่มองทั้งขมมองทั้งผมแบบไม่เข้าใจก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหลังของผมเบาๆ " อาภาพเจ็บมั้ย "

“ ไม่เจ็บหรอก " ผมบอกมันที่ยังมองด้วยสายตาเป็นห่วงผม

“ ทะเลาะกันเหรอครับ "

“ เอาแล้วไงมึง " ผมหันไปบอกร่างบางที่ถอนหายใจออกมา มันคงรู้ว่าเพราะมันนั่นแหละที่ทำให้ กาลิคใจเสียเพราะคิดว่าเรากำลังทะเลาะกัน 

“ ไม่ได้ทะเลาะหรอก " ขมบอกก่อนจะยิ้มเก้อๆกับท่าทางของกาลิคที่ตอนนี้เหมือนคิดไปว่า เรากำลังโกรธกันและทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ " เราแค่แกล้งกันน่ะ แกล้งกัน เล่นกัน แบบผู้ใหญ่เล่นกันเนอะ  " มันเชิดหน้ามาทางผมที่ก็พยักหน้ารับ

“ อื้ม ไม่ได้ทะเลาะเลย "

“ ใช่ๆ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเลย เรายังรักกันเหมือนเดิม " มือบางเอื้อมมากอดคอผมก่อนจะเอาหน้ามาเบียดใกล้ๆ  ท่าทางที่แสดงให้ไอ้ตัวเล็กที่กำลังตกใจหายจากความรุ้สึกนั้นโดยเร็ว

“ จริงนะ " มันย้ำ เราก็พยักหน้ารับพร้อมกัน

“ อาขม รักอาภาพจะตาย ไม่เชื่อจะหอมแก้มให้ดูก็ได้อะ " แล้วก็หอมลงมาเต้มฟอดที่แก้มผมในวินาทีถัดมานั้น ยกยิ้มแก้เก้อกับความรวดเร็วที่เกิดขึ้นก่อนจะโดนสะกิดให้พูดอะไรสักอย่าง

“ ใช่ ไม่ได้โกรธกันทะเลาะอะ เล่นกันเฉยๆ " เอื้อมมือไปกอดไหล่มันบ้างผมหอมแก้มมันที่ก็ยิ้มกว้างออกมาแม้จะดูฝืนๆเพราะตอนนี้ในใจมันคงเครียดแค้นกับคำพูดของผมที่เอ่ยแซวมันไปก่อนหน้านี้  “ เห็นมั้ย เราไมไ่ด้โกรธกันเลย รักกัน รักกัน "

“ การตีแบบนั้นคือ ผู้ใหญ่เล่นกันเหรอครับ " กาลิคเอ่ยถาม เราสองคนก็พยักหน้าลงพร้อมกัน

“ สำหรับอาภาพกับอาขมมันเป็นแค่เรื่องล้อเล่นกันเท่านั้นแหละ เราไม่ตีกันแล้วทำให้อีกต้องเสียใจหรอก เราไม่เคยทำอย่างงั้น  " ขมก็มบอกมัน ก่อนจะลูบหัวอีกคน

“ แต่กาลิคไม่อยากให้อาขมตีอาภาพ แล้วก็ไม่อยากให้อาภาพตีอาขม " มันว่า " กาลิคไม่อยากให้อาภาพเจ็บ แล้วก็ไม่อยากจะให้อาขมเจ็บด้วย ทำไมเราไม่พูดกันดีๆ "

“ เออ ทำไมเราไม่พูดกันดีๆ " ผมก้มลงถามไอ้ขมที่ก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ เป็นยิ้มเกร็งๆที่ในใจคงมีคำด่าผมเป็นพันคำ

“ นั่นนะสินะ งั้นภาพกูขอโทษนะที่ตีมึง "

“ อื้อหื้ออ แสดง "

“ ภาพ..” มันกัดฟันยิ้ม “ ตอบรับคำขอโทษของกูสิครับ “

“ ไม่เป็นไรไม่โกรธหรอก แค่หลังเกือบหักเท่านั้นเอง “ ท้ายประโยคผมพูดเบาๆก่อนที่มันจะยิ้มให้กาลิค

“ ถ้าทำผิดก็ต้องขอโทษเนอะ “

“ อื้อ ไม่โกรธกันแล้วนะทั้งคู่ “ เด็กน้อยหันมองผมที หันมองภาพที เราก็พยักหน้ารับพร้อมกัน

“ งั้นก็ไปกินข้าวกันเถอะ หิวแล้วยัง " มือบางเอื้อมมืออุ้มอีกคนไป เราเดินตรงไปที่รถปลดล็อครถไอ้ขมก็จัดการให้กาลิคนั่งข้างหลังเรียบร้อย ก่อนจะมายืนรอผมที่ประตูคนนั่งข้างไม่ยอมเข้าไปนั่ง มันกัดที่ฟันพูด " เพราะมึงนั่นแหละ ไอ้สัด "

“ คราวหลังถ้ามึงตีกูอีก กูจะฟ้องกาลิค " กัดฟันตอบมันไป อีกคนก็เบิกตาขึ้นมา

“ ห้ามพูดเรื่องนั้นอีกนะ ไอ้สัดกูจะต่อยมึง "

“ ต้องพูดกันดีๆน้าาา " ผมเลียนเสียงกาลิคก่อนจะส่งจูบให้มัน แล้วก็ตัดบทเข้าไปนั่งในรถของตัวเอง นึกขำท่าทางโกรธของมันก่อนจะส่ายหน้าไปมากับเหตุการร์ตอนเด็กที่ยังคงจำได้ดี

   ตอนนั้นรู้สึกว่าเพิ่งจะขึ้นป.หนึ่งมั้ง มันเป็นช่วงปิดเทอมที่สนุกมากๆเพราะไม่ต้องไปเรียนพิเศษแถมยังได้เล่นด้วยกันทั้งวัน เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า แม่ไอ้ขมต้องไปทำงานต่างจังหวัดแม่ผมก็เลยรับอาสาดูแลมันให้ ตอนนั้นจำได้ว่าตอนกลางคืนเราดูหนังกินขนมกันอยู่ที่ชั้นล่างกับแม่ปกติ แล้วตอนนั้นในหนังก็มีฉากจูบ เราก็สองคนก็ตั้งใจดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็กที่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ แล้วตอนนั้นแม่ก็โวยวายบอกให้ขึ้นไปข้างบนซะ โดนไม่ได้อธิบายอะไรเลยว่าเค้าทำอะไรกัน ภาพที่ติดอยู่ในตาผม ตอนนั้นแม้จะต้องนอนแล้ว แต่ก็ยังนอนไม่หลับ

' ขมๆ ' ผมเอื้อมมือไปปลุกมันอีกคนก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมานั่ง

' มีอะไรอะเหรอ ' มันถามก่อนจะขยี้ไปมา

' มาทำแบบในทีวีกัน '

' แบบในทีวีอะไรอะ ' มันตอบงงๆก่อนจะล้มตัวลงนอน " ไม่เอา ขมจะนอนแล้ว "

' ลุกขึ้นมาก่อนนน ' ดึงมันให้ลุกขึ้นนั่ง

' ง่วงแล้ว ' ท่าทางงอแงของมัน ผมก็เอาไฟฉายใต้หมอนมาส่องหน้ามัน

' ตื่นๆ ตื่นมั้ย ให้ภาพเอาตรงนี้ไปชนตรงนี้ของขมก่อน ' ชี้ที่ปากตัวเองก่อนจะชี้ปากของมัน ด้วยความง่วงอีกคนก็เลยพยักหน้างึกงักยอมกันไป ในตอนนั้นก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่เหมือนกัน คงแค่คิดว่าอยากจะรู้มั้งว่ามันรู้สึกยังไง ทำไมในละครเค้าถึงทำหน้าตาแบบนั้น หน้าตาที่ดูเหมือนกำลังมีความสุข

' อื้อ ' มันพยักหน้ารับในตอนนั้น ผมก็เลื่อนตัวเข้าไปจูบมัน มันไม่ใช่จูบดูดดื่มอะไรหรอก แค่เอาริมฝีปากจูบกันเท่านั้น

' ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย ' ผมรู้สึกแบบนั้น ไม่เห้นจะมีความสุขอย่างที่เห็นในละครเลยสักนิด

' งั้นขมนอนนะ ' คนโดนจูบล้มตัวลงนอนแล้วหลับสนิทไปในเวลาต่อมา แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นนั้นผมก็เดินลงไปข้างล่าง พี่แก้วพี่เลี้ยงที่เดินอยู่แถวนั้นก็เอาอาหารเช้ามาให้ผมกับขมกิน ในตอนนั้นด้วยความอยากจะรู้ว่าการเอาปากสัมผัสกันเรียกว่าอะไรก็เลยเอ่ยถามเธอ

' พี่แก้วๆ ภาพมีอะไรจะถาม '     
 
' คะ น้องภาพจะถามอะไรเอ่ย '

' จะถามว่า ถ้าเราเอาปากตรงนี้ไปชนกับปากของเพื่อนแบบนี้ เรียกว่าอะไรเหรอครับ '

' เรียกว่าจูบค่ะ ' เธอบอก ' เอาไว้สำหรับคนรักกัน ถ้าเรารักกันเราก็จูบกัน น้องภาพถามทำไมเหรอ '

' ก็เมื่อคืนนะ ภาพอะ จูบขมไปแล้วแหละ แต่คงไม่เป็นหรอก จูบได้ ภาพรักขมอยู่แล้ว ' คำพูดตอนเด็กๆที่พูดออกไปแบบนั้นทำให้พี่เลี้ยงตกใจไม่น้อย เธอเข้ามาส่งเสียงจุ๊ๆให้เงียบไว้ ก่อนจะอธิบายว่า ผู้ชายเค้าไม่จูบกับผู้ชายหรอก จากนั้นก็เลยเอามาล้อไอ้ขมบ่อยๆเลยว่ามันถูกผม ช่วงชิงจูบแรกไปเสียแล้ว

“ ภาพ คิดเหี้ยอะไรอยู่เมื่อไหร่จะออกรถวะ " เสียงเอ่ยทักที่ทำให้ผมหลุดออกมาจากภวังค์ที่เผลอไปคิดเรื่องราวในอดีตอยู่เสียนาน พยักหน้ารับมัน ก่อนจะถอยรถออกจากร้านจอดไปที่ร้านอาหารปิ้งย่างอย่างที่ตั้งใจไว้

   ร้านอาหารปิ้งย่างที่อยู่ตรงซอยสุขุมวิทเป็นร้านประจำที่ผมกับภาพมาด้วยกันบ่อยๆ เวลาที่อยากจะปิ้งย่าง แม้ว่าของไม่เยอะเท่าร้านอื่นแต่ว่าคุณภาพเนื้อและของสดดี พนักงานก็บริการดีก็เลยชอบกินร้านนี้

“ ถึงแล้วว " ไอ้ขมเอ่ยบอกกาลิคที่ย้ายตัวเองจากข้างหลังมานั่งตักอีกคนระหว่างทาง สายตากลมๆเงยมองขึ้นไปรอบๆด้วยความสนใจ ก่อนจะหันไปหาไอ้ขมที่มันนั่งตักอยู่

" อาขม เราจะมากินอะไรกัน "

" มากินปิ้งย่างกัน "

“ แล้วปิ้งย่างเป็นแบบไหนเหรออาขม " กาลิคถาม

“ อยากรู้ละสิ เพราะงั้นเราก็ลงไปกินกันเลย จะรู้ว่าเป็นยังไง ดีมั้ย ไปกินกัน ปิ้งย่างเป็นแบบไหนกันน้า " เสียงเชื้อเชิญของมันชวนให้กาลิคอยากจะรู้ขึ้นมาทันทีว่า ปิ้งย่างเป็นยังไง กาลิคออกมายืนข้างรถคว้ามือไอ้ขมที่ก็ลุกออกมาจากรถแทบไม่ทัน 

“ อาภาพไปกินกัน ไปกินปิ้งย่าง " มือเล็กๆคว้ามือผมที่ยืนรออยู่ท้ายรถ สองมือที่จับมือเราไว้คนละข้างท่าทางร่าเริงและมีความสุขมากกว่าใครที่ได้ออกมาข้างนอก

“ สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ากี่ท่านคะ "

“ อาขม อาภาพ แล้วก็กาลิคครับ " เสียงใสๆตอบพนักงานก็หลุดยิ้มออกมา เธอก้มลงมาลูบหัวมัน

“ สามคนครับ " ผมตอบ เธอก็เปิดประตูให้ก่อนจะพาไปนั่งที่โต๊ะด้านในสุดที่ติดกับกระจกสูง กาลิคนั่งกับไอ้ขม เป็นแบบนั้นตลอดเวลาเราออกมากินข้าวข้างนอก  เพราะคนนึงก็ชอบให้อ้อน ส่วนอีกคนนึงก็ชอบอ้อนเสียเหลือเกิน

“ เมนูค่ะ " พนักงานยื่นเมนูมาให้ คนตรงหน้าผมสองคนก็ก้มลงดูด้วยความสนใจ เสียงงุ้งงิ้งที่ก้มเลือกกันอยู่สองคนชวนให้ผมยิ้มกว้างออกมา

“ หัวหอมจะกินอะไรกันดี "

“ กินกุ้งงงง "

“ กุ้งนะ กุ้งสองครับ " ไอ้ขมเริ่มสั่ง " แล้วก็เนื้อหมูตรงนี้  เนื้อวัวก็อันนี้ แล้วก็อันนี้ " นิ้วที่จิ้มชี้บอกพนักงานไปเรื่อยเปื่อย ผมคิดว่ามันคงสั่งเผื่อผมแล้วโดยที่ผมไม่ต้องสั่งอะไรเพิ่มอีก ไอ้ขมรู้อยู่แล้วว่าผมกินอะไรไม่กินอะไร " เอาหอยแมลงภู่ด้วย แล้วก็ อื้ม ผัก ข้าวผัดกระเทียมสองที่ ส่วนน้ำ กินน้ำเปล่าดีกว่ามั้ยมึง กินแป็ปซี่เดี่ยวเด็กกินตาม " ประโยคหลังมันถามผมที่ก็พยักหน้ารับ

“ อื้ม ตามนั้น " 

“ น้ำเปล่า สามแก้ว แค่นี้ครับ "

“ แค่นี้ครับ แค่นี้นะ " ไอ้ตัวเล็กพูดตาม ขมยื่นเมนูไปให้พนักงานก่อนจะก้มลงกอดแล้วหอมแก้มมันด้วยความหมั่นเขี้ยว " อาขม อันนี้อะไร " มันชี้ไปที่เตาปิ้งตรงหน้ามัน

“ อันนี้เหรอ คือเตาย่าง ห้ามจับนะ มันร้อน เดี๋ยวเราจะเอาของที่สั่งมาเมื่อกี้นะ มาตั้งไว้บนนี้ พลิกไปมาให้สุก แล้วก็กิน แบบนี้เลยเรียกว่า ปิ้งย่าง "

“ ปิ้งย่าง ปิ้งย่างคือ เอาของพวกนี้มาตั้งไว้บนนี้เหรอ " กาลิคชี้ไปที่เนื้อที่ถูกเอามาวาง

“ ช่ายยแล้ว เพราะมันยังไม่สุกยังกินไม่ได้ พอเราเอามาตั้งบนนี้ พลิกไปมามันจะสุก พอสุกแล้วก็กินได้ อาหารต้องทำให้สุกก่อนถึงจะกินได้นะ " อีกคนบอกก่อนจะเคลียร์โต๊ะขยายพื้นที่ให้พนักงานตั้งของได้ถนัด “ ภาพ มึงช่วยขยับร่างกายช่วยพี่เค้าด้วยสิ มึงจะนั่งนิ่งอีกนานมั้ย "

“ อ๊ะ โทษที โทษที " ยื่นมือไปรับของจากพนักงานมาตั้งข้างๆตัวทันทีที่ขมบอก เพราะมัวแต่มองมันก็เลยไม่ได้สนใจอย่างอื่นเท่าไหร่

“ อาขมๆ เพราะว่าอาภาพมัวแต่มองอาขมอยู่ ก็เลยไม่ได้ช่วยพี่เค้า " กาลิคบอกอีกคนก็เหลือบมองหน้าผม

“ ไอ้ภาพ มองกูทำไม " ไอ้ขมถาม ก่อนจะก้มห้นาลงขอบคุณพนักงานที่เสริมของให้จนครบ

“ นี่มึงก็ไปเชื่อมัน "

“ ก็ลูกพี่กูบอกอะ กูต้องเชื่อลูกพี่กูดิ " ไอ้ขมเชิดหน้าไปทางเจ้าตัวเล็กที่ก็มองผมอยู่ " กินอะไรดีครับลูกพี่ผมจะปิ้งให้ก่อน กุ้งเนอะ ส่วนของไอ้ภาพก็อันนี้ อันนี้ แล้วนี่ก็ของกู "

“ อาขม อาขม กาลิค อยากจะทำแบบอาขม " มือน้อยยื่นมาจับที่คีบ ที่ก็คีบเนื้อไปวางบนเตา ท่าทางสนใจของมันชวนให้ผมถ่ายรูปเก็บไว้ตั้งหลายภาพ หมูที่ถูกปิ้งจนสุกก่อนจะนำไปวางที่ข้าวผัดกระเทียมของกาลิค

“ กินกับข้าวนะหัวหอมอะ หมูร้อนๆ เป่าก่อนนะ "

“ ครับ "

“ อะ ของมึง " มันยื่นเนื้อวัวมาให้ผมที่ก็หยิบเนื้อหมูส่งให้มันเหมือนกัน

“ มึงบ้างเถอะ ตักให้คนอื่นอยู่ได้ " ผมบอกอีกคนก็ยิ้ม " กูตักเองแหละ มึงดูแลกาลิคเถอะ "

“ หัวหอม กินผักบ้างมา " ไอ้ขมว่าพลางหยิบผักกาดหอมตักข้าวแล้ววางหมูลงไปห่อเป็นคำ ก่อนจะยื่นไปจ่อปากอีกคน

“ กาลิคไม่กินผักสีเขียวๆนี่นะ "

“ อร่อยนะทำไมไม่กิน " ขมถามก่อนจะยัดเข้าปากตัวเอง " อื้มม อร่อยไม่ขมด้วย จริงๆ แล้วมึงจะติดใจ ลองดู " มันเชื้อเชิญไอ้ตัวเล็กที่ก็ทำแบบเดิมแล้วยื่นมาป้อนอีก " กินเร็ว อร่อยนะ "

“ ไม่เอา ไม่กินนนน "

“ อาภาพก็ไม่กินผักเหมือนกัน อาภาพยังบอกว่าอร่อยเลย " มันหันมาหาผม กูไม่เคยกินผักยังไง ปกติก็กินผักอยู่แล้วมีแต่มันแหละที่ไม่ค่อยกิน เวลากินก็เลือกตลอด ว่าอันนี้กิน อันนี้ไม่กิน " นี่ดูๆ อาขมจะป้อนอาภาพให้อาภาพกินนะ อะ มึง อ้าปากรับเร็ว อ้ามมม "

“ อั้ม " อ้าปากรับอาหารในมือของมันมาเคี้ยวก่อนจะทำตาโตเหมือนอร่อยซะมากมาย ผมกลืนลงไป " อร่อยจัง "

“ เห็นมั้ยลองๆ ของหัวหอม อาขมจะทำชิ้นเล็กๆแบบนี้ ใส่ข้าวใส่หมู อะ อ้ามมมม " ปากเล็กอ้าปากแบบไม่ค่อยโอเคกับการกินผักเท่านั้น กาลิคเคี้ยวก่อนจะกลืนลงไป " เป็นไง "

“ อร่อยครับ "

“ กินอีกนะ กินผักเยอะๆ มึงไม่ค่อยได้กิน ต้องกินผักเยอะๆ "  มันจัดแจงทำแบบเดิมให้กาลิคกินตั้งหลายคำ กุ้งก็แกะให้ วุ่นวายอยู่กับเด้กจนตัวเองไม่ได้กินเลยสักชิ้น

“ อะ มึง " ผมคีบเบคอนไปจ่อปากมัน " กินหน่อย มึงป้อนกาลิคไป กูป้อนมึงเอง ถ้ามึงไว่างดูแลตัวเองเดี่ยวกูดูแลมึงเองก็ได้ " ไอ้ขมยิ้มออกมา ตอนที่อ้าปากรับแล้วเคี้ยวไปเรื่อยๆ มันก็เชิดหน้าลงไปที่ข้าวตัวเองพร้อมบอก

“ งั้นก็ป้อนข้าวกูด้วยเลย "

“ โอเค " จัดการตักข้าวป้อมนัพร้อมกับหมูที่ย่างเสร็จใหม่ๆ ใบหน้าหวานที่เคี้ยวอย่างเอร็ดชวนให้ผมยิ้ม

“ หัวหอม กุ้งของมึงอะ อ้าปากเร็ว " คนถูกป้อนที่เอาแต่เล่นรถบังคับเล็กๆไปมาบนโต๊ะไปยอมสนใจ ไอ้ขมที่รอจะป้อนก็เลยต้องเปลี่ยนแผนใหม่ " หัวหอมครับ นี่  ปึ้นๆมา  ปึ้น~ ปึ้น~ รถสุดเท่มาแล้ว อ้าปากเลย “ รถสุดเท่ ถูกกินเข้าไปแล้ว กินข้าวด้วยอีกคำ อั้ม ดีมาก " ป้อนข้าวตามเข้าไปมันถอนหายใจออกมา ผมเข้าใจมันอยู่นะ เพราะกว่าจะป้อนได้สักคำเล่นเอาเหนื่อย สารพัดจะหลอกล่อ " จรวดเล็กกำลังจะพุ่งชนโลกแล้ว อ้าปากเลย อ้ามม หัวหอม นี่ถ้ายังนิ่งไม่กินข้าว อาขมจะยึดรถแล้วนะ "

“ อย่ายึดไปนะ " มันเอารถที่กำลังแนบอกตัวเองไว้ก่อนจะส่ายหน้าไปมา " อาขมอย่ายึดรถหนู "

“ ถ้าไม่ให้ยึดก็หันมากินข้าวดีๆ "

“ อาขมอย่าดุกาลิคสิ " มันหันมาอ้อนอีกคนก็ปั้นหน้านิ่งทั้งๆที่กำลังจะยิ้มออกมา

“ ก็กาลิคชอบให้อาขมดุนี่ บอกว่าให้กินข้าวก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยเล่น กินให้เสร็จ อะ อ้าปาก ถ้าไม่กินจะไม่ป้อนแล้วนะ " มันรับกุ้งกับข้าวเข้าไปเคี้ยวพลางพูดอ้อน

“ ป้อน กาลิคอยากจะให้อาขมป้อนหนู "

“ งั้นก็ตั้งใจกิน " ป้อนข้าวเข้าไปอีกคำพร้อมผัก คราวนี้คนที่เคยเอาแต่เล่นก็ตั้งใจกินขึ้นมากกว่าเดิม

“ มึงก็กินบ้างสิอะ ไอ้ขม " ผมบอกก่อนจะยื่นข้าวไปป้อนมัน แต่เพราะมันยังวุ่นวายอยู่กับการแกะกุ้งเพื่อป้อนอีกคน มันก็เลยไม่ได้หัวมาสนใจผม มีแต่กาลิคที่มองอยู่ มันก็เลยบอก

“ อาภาพ อาภาพต้องบอกว่า ปึ้นๆ ปึ้นๆ ปึ้นๆ แล้ว อาขมจะหันไปสนใจอาภาพ แล้วอาขมก้จะกินข้าว " คือกุต้องทำอะไรที่มันปัญญาอ่อนขนาดนั้นด้วยเหรอวะ " อาภาพ ลองพูด ปึ้นๆ ปึ้นๆ "

“ ปึ้นๆ ปึ้นๆ ปึ้นๆ เครื่องบินลากตะเวนกำลังจะบินเข้ามาใกล้แล้ว " คำพูดของผมชวนให้ให้ร่างบางหันมาจ้องหน้า มันที่ขทวดคิ้วก่อนจะยิ้ม

“ นี่มึงก็เอากับมันด้วยนะ "

“ กูว่ามันได้ผล นะ มึงหันมาสนใจเลยอะ "

“ สนใจในความปัญญาอ่อนของมึงไง " กูก็คิดว่างั้นเหมือนกัน ผมยกยิ้มไอ้ขมก็อ้าปากกินข้าวเข้าไปเต็มคำ " เอาหมูชิ้นนั้นด้วย แล้วย่างหมูเพิ่มให้กูหน่อย "

“ ครับๆ "

“ ดูแลกูให้ดีหน่อยภาพ " มันว่ายิ้มๆพลางเชิดหน้าเหมือนพวกคุณนาย ทั้งๆที่มือก็กำลังแกะกุ้งให้ไอ้กาลิค แล้วป้อนอีกคนพร้อมกับข้าว

“ กูต้องดูแลมึงดีอยู่แล้ว " เพราะกูทำแบบนั้นมาตลอด แต่มึงไม่เคยสังเกตเห็นเท่านั้นเอง

.....................................................


ภาพขม น่ารักจังง พี่ภาพ แอบรู้สึกอะไรกับขมก็ยอมรับออกไปเลย
บอกเลยมั้ยภาพ บอกขมเลย
สุดท้ายนี้ รักน้องหัวหอมเหลือเกิน งื้ออออ
เขียนไปเขียนมาก็ให้ความรู้สึก ภาพคือพ่อ ขมคือแม่ และ หัวหอมคือลูก
คือมันดี ชอบบ แบบนี้

ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-03-2017 21:04:58
ฮ่อลลลลล ครอบครัวสุขสันต์ๆๆๆ >\\\\\\\<
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-03-2017 21:07:18
ครอบครัวชัดๆเลย
จูบแรกของขม ภาพได้ไปแล้ว
ป้อนข้าวกัน น่ารัก
ขมป้อนหัวหอม ภาพป้อนขม ฮิ้วววว หวานละมุนละไม
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 17-03-2017 22:09:38
ครอบครัวสุขสันต์
ภาพคือพ่อ ขมคือแม่
หัวหอมคือลูก

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-03-2017 22:17:40
นึกภาพความวุ่นวาย (อันน่าเอ็นดู) บนโต๊ะอาหารออกเลย (หัวเราะ)
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 17-03-2017 22:32:28
คิดแล้วว่าภาพต้องคิดอะไรกับขมแน่ ๆ

รอวันครอบครัวสุขสันต์จริง ๆ จัง ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-03-2017 23:11:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 17-03-2017 23:29:24
น่านไงงอภาพชอบขมแน่นอนนนน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 17-03-2017 23:56:10
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-03-2017 01:45:20
โอ้ย. อิจฉา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-03-2017 02:47:47
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 18-03-2017 07:14:08
สมคนพ่อ แม่ ลูกไปกินข้าวนอกบ้าน...แอร๊ยยย ดีต่อใจ :impress2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-03-2017 08:03:17
ขนาดนี้แล้วก็ชอบกันเถอะ ภาพขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 18-03-2017 08:05:51
ขอขมเป็นแฟนเลยมั๊ยภาพพพพพ

ขมจะได้มาเป็นแม่ของกาลิคไง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 18-03-2017 11:14:49
ครอบครัวอบอุ่นมากกก <3
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 18-03-2017 12:28:11
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 18-03-2017 16:34:00
ว้ายยย แฮปปี้มาก

ภาพเกือบพลาดนะ ถ้าขมยอม จะยิ่งรู้สึกผิดกว่าเดิมแน่
ขมน่ารัก มีความแม่ ภาพรักขมชัวร์ แต่อยู่ใกล้เกิน เลยบอกยาก

กาลิคน่ารัก ขี้อ้อนเกิ้นนน น่าฟัดมาก

โมคะ อย่าทำเขิน แค่เพื่อนค่ะ 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 18-03-2017 17:41:27
ครอบครัวสุขสันต์มาก   :mew1:  กาลิคน่ารักมากทำไมแม่ถึงทิ้งลงนี่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 18-03-2017 19:18:22
น่ารักจังเลยยยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 18-03-2017 21:03:15
 :o8: :o8: :o8: :o8:
โอ้ยย
เหมือนพ่อแม่ลูกกกมาตั้งนานแล้ววววว
น่ารักจิงง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ming88 ที่ 18-03-2017 23:06:05
มีความละมุนนน น่าร้ากก  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 18-03-2017 23:41:44
พ่อแม่ลูกชัดๆเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: เมื่อนั้นฝันว่า ที่ 19-03-2017 09:29:43
ถ้านี่เป็นพี่ภาพก็ใจสั่นค่ะ นี่ขนาดเป็นแค่คนอ่านยังใจสั่นเลย น้องขมอ้อนโคตรน่ารักกกกก :hao6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 10 - 17.3.60} #หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-03-2017 16:38:01
ครอบครัวสุขสันต์จริงๆ 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 19-03-2017 20:49:37
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 11

“ อาขม อาขมกำลังทำอะไรอยู่ “ เสียงใสที่เอ่ยเรียกผมในคืนวันอาทิตย์หลังจากที่เราออกไปเดินเที่ยวห้างกันมาแล้วเรียบร้อย พรุ่งนี้เป็นวันที่ต้องกลับไปเรียนตามปกติแล้วทั้งผมทั้งไอ้ภาพ เพราะฉะนั้นเสี้ยวเวลานับจากนี้คือการเคลียร์การบ้านที่ถูกสั่งกันมาทั้งอาทิตย์แต่ผมกลับไม่ได้มันเลยภายในสองวันที่ผ่านมา

“ กำลังทำการบ้านครับ “ ผมบอกมันทั้งๆที่ไมไ่ด้หันไปสนใจคนที่กำลังเอียงหน้ามองผมอยู่ “ หัวหอม มึงออกไปเล่นกับภาพข้างนอกก่อนนะ กูจะเคลียร์งานแล้วก็ ทำการบ้าน ไม่งั้นไม่เสร็จ อาจารย์ได้เอากูตาย “

“ การบ้านคืออะไร แล้ว อาจารย์เอากูตาย คืออะไร “ มันเอ่ยถามผมก็ผ่อนหายใจออกมา

“ เวลาเราไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน คนที่สอนเรา เราจะจะเรียกว่า คุณครู หรือ ว่าอาจารย์ คนคนนั้น จะให้มอบการบ้านให้เรามาทำที่บ้านแล้วเราเราเอากลับไปให้เค้าตรวจ ถ้าไม่เสร็จ เค้าก็จะโกรธเราม๊ากมาก “

“ แล้วเค้าจะตีอาขมเหรอ “

“ เปล่าหรอก เค้าจะทำอะไรบางอย่างที่มากกว่าการตี “ เช่นการหักคะแนน และ ให้ F ซึ่งแม่งร้ายแรงกว่าการถูกตีอีก ให้ตบให้ต่อย ยังดูโอเคซะกว่า

“ กูไม่ว่างอะ มึงออกไปเล่นข้างนอกก่อนนะ ไอ้เล่นกับภาพก่อนไป “

“ อาภาพก็บอกว่า อาภาพทำรายงานอยู่เหมือนกัน ให้มาเล่นกับอาขม “ เออว่ะ ภาพมันก็มีการบ้านของมันอะนะ

“ งั้นมึงไปดูการ์ตูนก่อนได้มั้ยนะ ไปนั่งดูการ์ตูนคนเดียวก่อน เดี่ยวพอกูทำการบ้านเสร็จ กูจะออกไปเล่นด้วยนะ "

“ แต่ว่ากาลิคอยากจะให้อาขมนั่งเล่นเป็นเพื่อน " เสียงงอแงของมันพร้อมกับมือที่เอื้อมมือเขย่าเบาๆที่มือ " นะ อาขมนะ ไปนั่งดูการ์ตูนเป็นเพื่อนกาลิคหน่อย "

“ แต่อาขม ต้องทำงาน " ผมลูบหัวมัน " อยากจะดูการ์ตูนด้วยอยู่นะ แต่ต้องทำงานจริงๆ อาขมจะทำให้เสร็จเร็วๆ ระหว่างนี้หัวหอมไปนั่งดูการ์ตูนคนเดียวก่อนนะ "

“ ก็ได้ครับ " มันตอบเสียงอ่อนตอนที่เดินออกไปจากห้อง ผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมารู้สึกใจอ่อนยวบขึ้นมาอีกแล้วแต่จะทำไงได้วะ งานก็กองอยู่ตรงนี้ ไม่ทำก็ไม่ได้ ส่ายหน้าไปมากับความรู้สึกสงสารของตัวเองที่มีต่อไอ้หัวหอมที่เดินก้มหน้าท่าทางจ่อยๆออกไป

“ ต้องรีบทำงานให้เสร็จ ถ้าเสร็จไวก็จะได้ออกไปเล่นกับมันเร็วขึ้น “ คิดได้แบบนั้นผมก็พยายามตั้งสติกับงานของตัวเอง จดจ่อเขียนงานคร่าวๆของตัวเองขึ้นมา ว่าการบ้านอาทิตย์นี้อะไรบ้าง อะไรที่ต้องส่งเร็วที่สุดก็ต้องเริ่มทำจากอันนั้นเป็นอย่างแรก ส่วนใหญ่คณะผมจะไม่ค่อยมีสอบ เลยมีการบ้าน มีงาน โปรเจ็คจบ เสียมากกว่า ไม่เหมือนคณะไอ้ภาพ การบ้านน้อยกว่าแต่ก็มีสอบด้วย

   นั่งทำงานของตัวเองไปเรื่อยๆจนไม่รู้เวลาว่าเดินไปนานเท่าไหร่ ตอนที่เสร็จงานแล้วผมเงยหน้าขึ้นจากแม็คบุ๊คของตัวเองก็พบว่าตอนนี้เวลาผ่านไปจากตอนที่เริ่มทำงานเกือบจะสี่ชั่วโมงแล้ว  จัดการเซฟงานเรียบร้อย ผมปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองลง ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องแล้วก็พบว่า คนที่รอให้ผมมาดูการ์ตูนด้วย หลับไปเสียแล้ว

“ หลับไปแล้วซะงั้นอะ " ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ โชคดีที่ตัดสินใจอาบน้ำให้มันตั้งแต่กลับมา ผมอุ้มหัวหอมจากโซฟาเข้ามาในห้อง จัดการห่มผ้าให้มันนอนเร่งแอร์ขึ้นหน่อยก่อนจะนั่งลงข้างๆ " โทษที คืนนี้เลยไม่ได้อ่านการ์ตูนให้ฟังเลย แถมยังไม่ได้ดูการ์ตูนเป็นเพื่อนด้วย โทษทีนะหัวหอม "

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูพร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามา มันมองมาที่เตียงก่อนจะทัก " อ้าว หลับแล้วเหรอ กูเพิ่งเสร็จงานอะ คิดว่าจะมานั่งดูการ์ตูนเป็นเพื่อนมันหน่อย "

“ หลับไปแล้ววะ กูเองก็มัวแต่ทำงานเหมือนกัน บอกให้มันรอ มันรอจนหลับไปแล้วเนี้ย "

“ เหรอ " ภาพพยักหน้ารับ " แล้วนั่นการบ้านมึงเสร็จยัง "

“ เสร็จแล้ว แต่ยังง่วงว่าจะทำอีกอันต่อเลย จะได้มีเวลาเล่นกับมันเยอะๆ " มือที่เอื้อมไปลูบหัวมัน ภาพก็บอก

“ ค่อยๆทำไปก็ได้ กูไม่มีรายงานของอาทิตย์นี้แล้ว ยังไงเดี๋ยวกูช่วยดูแลมันเอง "

“ เหรอ อื้ม แต่ทำไว้นั่นแหละ กูเองก็อยากจะอยู่กับมันเหมือนกัน "

“ ติดไอ้หัวหอมจังนะมึง " มันแซวก่อนจะย่อตัวลงนั่งข้างเตียง " ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าลูกมึงรึเปล่า แต่มึงทำตัวเหมือนแม่มันเลย "

“ เชี้ย!” ง้ามือจะตีมันอีกคนก็ชี้ขู่

“ อย่านะเว้ย มึงตีกู กูฟ้องไอ้กาลิคแน่ ต้องพูดกันดีๆ "

“ ก็ปากมึงไอ้สัด โคตรน่าตบ " ไอ้ภาพหัวเราะ ตอนที่ผมทำเสียงชิในปาก มองใบหน้าน่ารักที่กำลังหลับสนิท " ไม่รู้ว่าแม่มันจะคิดถึงมันบ้างรึเปล่านะ จะห่วงมันบ้างมั้ย ว่ามันเป็นยังไงบ้าง อยู่กับเราสองคนได้มั้ย "

“ นั่นนะสิ กูก็คิดเหมือนกัน คิดไปถึงว่าเหตุผลอะไรวะ ที่เค้าเอามันมาให้เรา จะบอกว่าเงินเหรอ ก็ไม่น่าจะใช่ ให้เงินกาลิคพกมาขนาดนั้น ก็ดูว่าไม่น่าขาดแคลนหรอก "

“ แล้วก็ดูเหมือนไม่ได้อยากจะเอามาให้เราขาดด้วยนะ เหมือนแค่เอามาฝากเลี้ยงเฉยๆ " ผมคิดว่ามันคงเป็นแบบนั้น เพราะถ้าอยากจะเอามาให้ตลอด ก็ต้องให้เอกสารมาด้วย มาคุยกันให้รู้เรื่อง แต่นี่เหมือนแค่ฝากไว้แล้วจะกลับมาเอา

“ อื้ม "

“ แต่อย่าคิดมากเลย " ผมก้มลงบอกอีกคนที่ถอนหายใจออกมาเสียงดัง เอื้อมมือไปจับไหล่ไอ้ภาพที่เงยหน้าขึ้นมองผม

“ มึงอะ อย่าคิดมาก "

“ กูไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย " ภาพแบะปากตอนที่ผมพูดออกมาแบบนั้น ผมรู้ว่ามันคงรู้ถึงความรู้สึก มันไม่ใช่ความรู้สึกรักที่มีให้ไอ้หัวหอม แต่มันเป็นทั้งความรัก ความเป็นห่วง แล้วความสงสารในเวลาเดียวกัน

“ ยอมรับออกมาเถอะน่า คุณแม่ " มือหนาเอื้อมมือบีบปลายคางผมก็สะบัดออก

“ มึงนี่นะ เรียกกูคุณแม่อีกทีกูถีบมึงแน่คราวนี้ "

“ ครับๆ กลัวแล้ว " มันลุกขึ้นเต็มความสูงเดินออกไปนอกห้องผมก็เดินตามไป ปิดประตูห้องตัวเอง ภาพก็หันมาถาม " ทำไรอะ "

“ หุงข้าวให้กาลิค พรุ่งนี้จะได้แค่กดอุ่นแล้วเอาเอาใส่กล่องได้เลย "

“ อ๋อ " มันพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มล้อผม

“ ทำหน้าแบบนั้น หมายความว่าไงวะ "

" ก็ไม่ทำไม แต่รู้สึกว่า มึงก็มีความเป็นคุณแม่จริงๆนั่นแหละ..  โครม! " สิ้นเสียงมันขาผมก็ถีบเข้าไปลำตัวมันทันที ไอ้ภาพที่ไม่ทันระวังล้มลงทันทีบนเก้าอี้ที่ก็นั่งนิ่งอยู่นาน

“ เชี้ย โดนตา " มันพูดขึ้นมาเสียงเบาๆ

“ เชี้ยจริงดิ ขอโทษ ไหนมาดู " ย่อตัวลงประคองหน้ามันเข้ามา " ไหน ตรงไหน เจ็บตรงไหน ตรงนี้เหรอ " ผมกดที่หัวคิ้ว " หรือว่าตรงนี้ " ผมกดที่ตา ไอ้ภาพที่ลืมตาขึ้นมอง " ว่าไง เจ็บตรงไหนสัด โทษที ไม่ได้ตั้งใจจะถีบแรงขนาดนั้น "

“ เป็นห่วงกูด้วยอะคุณแม่ "

“ ไอ้สัด นี่มึงแกล้งกูใช่มั้ย " ปล่อยมือออกจามัน อีกคนก็ยิ้มก่อนจะส่ายหน้า

“ เจ็บจริงๆไม่ได้แกล้งเล่น เจ็บตรงหัวคิ้วเนี้ย " มันชี้ " พรุ่งนี้เขียวเป็นรอยแน่ "

“ ก็กูบอกแล้วว่าไม่ให้พูดคำนั้น มึงก็ล้อกูอยู่ได้ โทษปากตัวเองด้วยเลยไอ้สัด " ผมลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เย็นหยิบเจลเย็นมาให้มัน " ประคบไว้ อะ "

“  แล้วนั่นมึงจะไปไหน มานั่งประคบเจลให้กูเลย "

“ เรื่องอะไร เวลากูเป็นเงินเป็นทองมึงมือไม่ได้เจ็บก็นั่งประคบเองไปเลย " ยังจะมีหน้างอแงเป็นเด็กๆอีกไอ้นี่ " กูจะหุงข้าวแล้วเดี๋ยวต้องกลับเข้าไปทำงานต่ออีก "

“ อย่านอนดึกมากแล้วกัน เดี๋ยวนี้มึงก็ตื่นไปเรียนไม่ไหว "

“ ไหวน่า " ผมบอกปัด " แล้วพรุ่งนี้กูไม่รอมึงกลับนะ กูจะกลับพร้อมไอ้โมเลย จะได้กลับมาอยู่กับไอ้หัวหอมเร็วๆ "

“ ก็ตามใจมึงเถอะ กูยังไงก็ได้ เพราะกูมันหมดความสำคัญแล้วนี่เมื่อก่อนรอกูได้ เดี๋ยวนี้มีคนทำให้มึงอยากจะกลับบ้านเร็วๆแล้ว กูยังไงก็ได้แหละ ไมไ่ด้นึกน้อยใจอะไรหรอก " ดูมันทำท่างอน น่ารักตายอะสัด ผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะส่ายหน้ายิ้มๆ ผมบ่นในใจ ' ไอ้คนขี้น้อยใจเอ้ย ' 

   .....................................................
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 19-03-2017 20:50:54
“ สายแล้ว สายแล้ว สายแน่แล้ว เชี้ยขมมมมม "  ผมลุกขึ้นจากเตียงวิ่งวุ่นเข้ามาในครัวเป็นอย่างแรก จัดการกดปุ่มอุ่นข้าว เอาไก่เทริยากิที่ซื้อได้จากร้านสะดวกซื้อเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ ก่อนจะวิ่งเข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน จัดการแต่งตัวไปเรียนแบบไม่อาบน้ำ แล้วก็เข้ามาในครัวต่อ

“ ไอ้ขมเสร็จยังอะ " ไอ้ภาพเดินออกมาจากในห้องนอน ผ่อนลมหายใจมองผมที่ยังวิ่งวุ่นไม่เลิก " นี่มึงเพิ่งตื่นเหรอวะ "

“ เอออะดิ เมื่อคืนกูทำงานเพลินอะ จะเสร็จแม่งก็ตีสองแล้ว " หยิบไก่ออกจากไมโครเวฟ " โอ๊ย ร้อนๆ เชี้ย ร้อน " เปิดซองพลาสติกแล้วราดมันลงบนข้าวที่ตักใส่กล่องเก็บความร้อน แพ็คในกล่องเปิดฝาเรียบร้อยผมก้บอกไอ้ภาพที่เหมือนไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีให้ช่วย  " ภาพมึงมาช่วยทำอาหารเช้าให้ไอ้หัวหอมก่อนเร็ว กูจะไปปลุกมันมาอาบน้ำ กินข้าว "

“ แล้วจะให้ทำอะไรวะ "

“ ก็ทาช็อคโกเล็ตลงบนขนมปัง แล้วก็รินนมแค่นั้นพอ กูจะไปอาบน้ำให้หัวหอมก่อน มึงทำด้วยนะ " ผมวิ่งเข้ามาในห้องจัดกระเป๋าเรียนตัวเองก่อนจะเดินไปปลุกอีกคนที่ยังคงงัวเงีย " หัวหอม ตื่น ตื่นได้แล้ว สายแล้วนะ วันนี้ก็อาขมสายแล้ว ตื่นเดี่ยวนี้เลยมึงงง "

“ อาขม~ กาลิคยังง่วงอยู่เลย " เสียงงอแงว่าพลางขยี้ตาตัวเองแต่ผมก็ไม่มีเวลาจะมาปลอบหรือเชื่องช้าอะไรทั้งนั้น ต้องอุ้มมันเข้าไปในห้องน้ำทันทีจัดการแปรงฟันทั้งๆที่มันกำลังหลับอยู่แบบนั้น อาบน้ำรียบร้อย แต่งตัว ก่อนจะอุ้มมานั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว

“ เชี้ยย โคตรเร็ว " ไอ้ภาพบอกก่อนจะวางขนมปังกับนมลงตรงหน้าหัวหอมที่ดูเหมือนจะยังไม่ตื่นเต็มตาเท่าไหร่แม้จะอาบน้ำแล้ว " กาลิคอะ ขนมกับนมนะ " มันว่าก่อนจะก้มลงเช็ดปากที่ยังมีคราบยาสีฟันติดอยู่ " มึงให้มันนอนต่ออีกหน่อยก็ได้ กาลิคมันก็อาบน้ำเองได้ "

“ ไม่ได้หรอก ถ้ากินข้าวไม่ตรงเวลา เดี๋ยวจะเป็นกระเพาะ " ปากที่บอกมือก็จัดการเรื่องของของกินตอนเที่ยงไว้ให้บนโต๊ะ ผมก้มลงบอกมัน “ หัวหอมครับ อาขมกับอาภาพไปเรียนก่อนนะ เดี๋ยวเจอกันนะ อาหารตั้งไว้ที่เดิม อย่าลืมกินให้หมดนะ "

“ บ๊ายบาย " เสียงเนือยๆของมันบอกเรา แต่ตอนนั้นผมก็ไม่มีเวลาจะทำให้มันร่าเริงอะไรทั้งนั้นแล้ว ทำได้แค่จูบที่หัวมันแล้วคว้ามือไอ้ภาพออกมาจากห้องให้เร็วที่สุด

" ไปกันเถอะ เร็ว กูสายแล้ว สายแน่แล้ว สายแน่ๆ " ผมวิ่งไปกดลิฟต์แบบเร่งๆ อีกคนที่เดินตามมา ก็คว้ามือให้ออกห่างจากปุ่มทีผม่กดย้ำอยู่แบบนั้น

" มึงจะรีบไปไหนของมึง กดทีเดียวมันก็มา "

" ก็กูรีบ มึงแหกขี้ตาดู เราสายไปยี่สิบนาทีแล้ว " เวลาที่ตอนนี้เราควรอยู่ในรถและเดินทางไปได้เกือบจะครึ่งทางแล้ว " สายแน่แล้ว เชี้ยเอ้ย "

“ มันไม่ได้ทำให้มึงถึงเร็วมากขึ้นหรอก " ไอ้ภาพบอกก่อนจะยกข้อมือขึ้นดู " มันก็ยังไม่ได้สายมาก ถ้ารถไม่ติดก็คงทัน "

“ รถไม่ติด..” ผมทวนคำพูด " มึงพูดว่า รถไม่ติดทั้งๆที่มึงอยู่กรุงเทพอะนะ "

“ ถ้ารถไม่ติดมากไง " เดินเข้าไปในลิฟต์ที่เปิดออกตรงหน้า ลงไปที่ลานจอดรถก่อนจะขับรถออกไปด้วยความเร็วปกติ แต่วันนี้เหมือนจะโชคดีอยู่หน่อยตรงที่ รถไม่ได้ติดเหมือนทุกวัน ไอ้ภาพจอดรถที่หน้าคณะผมที่ก็เปิดประตูลงไปทันทีด้วยความรวดเร็ว วิ่งขึ้นบันไดแทนที่จะยืนรอลิฟต์ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องเรียนหอบหายใจแรงๆตอนที่หย่อนตัวเองนั่งลงที่เก้าอี้ข้างไอ้โม

“ อ้าว เอางานมาส่ง " เสียงของอาจารย์ที่ดังขึ้นทันที ตั้งแต่ที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง ผมกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเปิดกระเป๋าออกแล้วพบว่า งานที่ต้องส่งวันนี้.. ผมไม่ได้เอามา

“ ไอ้เชี้ย อยู่ไหนวะ " ผมพูดกับตัวเองตอนที่เปิดหาแบบรนๆไอ้โมก็เอียงหน้าถาม

“ งานมึงละ ไอ้ขม "

“ หาอยู่นี่ไง " เทของในกระเป๋าเป้ออกมาทั้งหมด กระดาษที่กระจัดกระจายออกไป แต่ไม่มีแผ่นไหนเลยที่เป็นงาน จริงๆเมื่อวานหลังจากทำเสร็จก็ปริ้นงานเย็บแม็คใส่แฟ้มไว้เรียบร้อยแล้วนี่หว่า แต่สงสัยจะไม่ได้เอาแฟ้มนั้นมา ผมทรุดลงที่เก้าอี้ตัวเอง

“ มึงลืมเอามาเหรอวะ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับอีกคนสั้นๆ " ไปดร็อปเลยดีมั้ย "

“ เชี้ย เร็วไป ไปบอกอาจารย์ดิวะ ว่าลืม เอามา "

“ ตลก มึงคิดว่าเค้าจะเชื่อรึไง " อาจารย์ที่สอนเราเป็นอาจารย์ที่เคี่ยวที่สุดในคณะแล้ว เข้าสายไม่ได้ถ้าเข้าสายหลังเค้า จะถูกไล่กลับไปทันที ถ้าขาดเรียนต้องมีใบลาจากแพทย์เท่านั้นไม่งั้นจะถูกเช็คว่า ขาดเรียน ซึ่งการขาดเรียน ไม่ว่าจะสายหรือป่วย ถ้าเกินสามครั้งก็จะไม่สิทธิส่งงานใดๆ และต้องดรอปวิชานี้ เพื่อเข้าเรียนใหม่ในปีหน้า

“ ก็ลองไปคุยกับเค้าก่อน " โมบอก ผมก็ผ่อนตัวเองลงนั่งที่เก้าอี้ในห้องเรียน นักศึกษาหลายคนที่กำลังต่อแถวให้อาจารย์ส่งงาน ผมกดโทรศัพท์ออกไปหาไอ้ภาพ แต่ก็ไม่มีใครรับสาย มันคงเข้าเรียนอยู่

“ มึงคิดว่ากลับไปเอาตอนนี้ทันมั้ยวะ "

“ ตอนนี้อะนะ " เหลือบมองนาฬิกาในห้องเรียนไอ้โมส่ายหน้า " กูคิดว่าไม่ทันวะ กูว่าลองคุยกับเค้าก่อน บอกเค้าว่าเราทำแล้วแต่ลืมเอามาขอกลับไปเอาได้มั้ย หรือว่ายังไง มึงจะทำใหม่เลยก็ได้ กูเอาคอมมาอยู่ในรถ  "

   ตัดสินใจทำตามคำแนะนำของไอ้โมผมยืนรออาจารย์เป็นคนสุดท้ายรอให้เค้าตรวจงานทั้งหมด เพื่อบอกจุดแก้ไขแล้วให้เอาไปแก้และนำมาส่งใหม่ ไอ้โมเป็นคนที่ส่งงานเกือบคนสุดท้าย งานของมันไม่มีอะไรต้องแก้เหมือนเค้าจะถูกใจอยู่แล้วเป็นหนึ่งในไม่กี่ชิ้นที่เค้ารับไว้ โดยไม่ส่งกลับ

“ อาจารย์ครับ " ผมเรียกเค้าเสียงอ่อนก่อนจะนั่งคุกเข่าลงตรงหน้า

“ งานเธอละ นรภัทร “

“ ผมลืมเอามาครับ เมื่อเช้าผมสาย เลยรีบจนลืมงานของอาจารย์ครับ "  บอกเค้าไปตามตรง อีกฝ่ายก็เงียบก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ แล้วจะให้ฉันทำยังไง "

“ ถ้าเกิดว่าอาจารย์ช่วยต่อเวลาไปสักหน่อยได้มั้ยครับ ผมจะกลับไปเอางานที่บ้าน แล้วกลับมาส่งอาจารย์ "

“ ในความเป็นจริงนะ นรภัทร ตอนที่เธอออกไปทำงาน เธอจะไม่ได้โอกาสในการแก้ตัวเวลาที่เธอลืมงานของลูกค้า หรือว่าหัวหน้าหรอก ที่บอกว่า ตื่นสายเลยลืม ฉันมองว่านั่นเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ ที่ทำให้ขาดความรับผิดชอบต่องานมากกว่า มันไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่ไม่มีงานมาส่ง อย่าเอาต้องเข้าเวลาเรียนให้ทันมาอ้างว่าทำให้สาย เรื่องของการตรงต่อเวลามันสำคัญนะ คนทุกคนก็ควรตรงต่อเวลาที่นัดหมายไว้ในเรื่องต้องรับผิดชอบ เธอคือนักศึกษา หน้าที่ก็คือการมาเรียน เธอก็ต้องมาตรงเวลา นั่นมันไม่ถูกเหรอ "

" ถูกครับ อาจารย์ " พยักหน้ารับอีกคน ผมที่ได้แต่ก้มหน้าลงจะทำยังไงได้วะ ก็มันจริงของเค้า เราลืมงานเอง งานที่เราต้องรับผิดชอบ

“ ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง นายอยากจะให้ฉันทำยังไงดีละ " เค้าถาม " นายคิดว่า ฉันควรทำยังไงกับนายดี "

“ แต่ผมทำงานเสร็จจริงๆนะครับ แต่ลืมหยิบแฟ้มที่ใส่งานมา "

“ ฉันรู้ว่านายทำงานเสร็จแล้ว แต่ที่จะถามคือ นายจะให้ฉันทำยังไง กับงานที่นายลืมแล้วมันไม่ได้ส่ง ตอนนี้ "

“ ขอผมทำส่งใหม่ได้มั้ยครับ "

“ โดยใช้โจทย์เดิมกับเพื่อนๆ ที่ส่งกันหมดแล้วอย่างงั้นเหรอ "  อาจารย์ถามผมก็นิ่ง " เอาแบบนั้นมั้ย เพิ่มสเป็คงานเข้าไป ทำเสร็จก่อนบ่ายสี่โมงวันนี้ ส่งที่ห้องพักอจารย์ ถ้าเสร็จทันจะรับงานไว้แล้วกัน "

“ ได้ครับ " ไม่มีสิทธิ์จะบอกว่า ไม่ได้หรอก ถ้าไม่มีคะแนนก็ต้องดรอปวิชานี้ ซึ่งผมไม่อยากจะทำแบบนั้นเลย รับโจทย์งานใหม่มาจากอาจารย์ มันเป้นโจทย์งานเก่านั้นแหละแค่เพิ่มรายละเอียดเข้าไปเยอะมากๆ ผมยกมือไหว้อีกคนที่ยังให้โอกาสได้แก้ตัว เค้าที่เดินออกไปไอ้โมที่ยืนข้างๆก็ก้มหน้าลงอ่านโจทย์งานของผม

“ โคตรยาก " มันว่าก่อนจะเอื้อมมือตบไหล่ " แต่ไม่เป็นไรมึง เดี๋ยวกูอยู่ช่วยมึงเองยังไงวันนี้กูก็ไม่ได้รีบไปไหนอยู่แล้ว  เอาคอมกูทำก็ได้ กูเอาคอมมา "

“ ขอบใจนะมึง "

   ผ่อนลมหายใจออกมาผมเดินไปเอาคอมกับไอ้โมที่รถก่อนจะเดินขึ้นไปทำงานที่หอสมุดหลังจากกินข้าวเสร็จ มองดูเวลาที่ปกติวันนี้ จะได้กลับไปหาหัวหอมก่อนไอ้ภาพ คงต้องกลับพร้อมมันไม่ก็หลังมันแล้วแหละ

' ภาพ วันนี้กูต้องอยู่ทำงานคงกลับบ้านเร็วไม่ได้ ยังไงถ้ามึงเลิกเรียนแล้วกลับไปหาไอ้หัวหอมก่อนเลยนะ กูจะกลับกับไอ้โมเอง ' ผมส่งข้อความไลน์ไปหามัน แต่ไม่นานอีกฝ่ายก้ส่งกลับ

' รายงานกูก็มีปัญหาเหมือนกัน ยังไงกูจะกลับแล้วจะบอก ' อ่านข้อความของไอ้ภาพที่ส่งมาก็ได้แต่ขมวดคิ้ว งานมีปัญหาเหมือนกันเหรอวะ แต่จะว่าไปเมื่อวานมันก็นั่งทำรายงานอยู่

' รายงานมีปัญหาไรวะ '

' ก็เมื่อวานกูรีบทำเพราะจะไปเล่นกับกาลิค เลยลืมดูว่าอาจารย์เค้าสั่งให้ทำแบบไหน กูเลยต้องมานั่งแก้งานเนี้ย กูทำผิดหมดเลย ' เออ เจริญ สภาพไม่ต่างกันนี่ก็ลืมหยิบงานมาเพราะมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับมันตั้งแต่เช้า ส่งสติกเกอร์ไลน์หน้าเศร้าไปให้เป็นอันเข้าใจมันอย่างที่สุด ผมเปิดคอมพิวเตอร์ของไอ้โม ก่อนจะเริ่มทำงานของอาจารย์ทันที โดยมีไอ้โมนั่งช่วยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ด้วยการคุยไลน์กับไอ้ชัดแบบมีความสุข

   จัดการร่างงานที่อาจารย์ให้มาผมยื่นให้ไอ้โมดูเป็นระยะ ขัดขวางทางรักของมันที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้คนในหน้าจอ " โม ดูอันนี้ให้หน่อย มึงว่าโอเคยัง "

" ไหน " พูดออกมาแบบนั้นแต่ตาก็ยังจ้องอยู่ที่โทรศัพท์ มันหันมามอง " อื้ม กูว่าก็ได้แล้วนะ เจ๋งดีอะ "

" โอเค ขอบใจมาก มึงกลับไปคุยกับไอ้ชัดต่อเถอะไป "

" กูไม่ได้คุยกับไอ้ชัด "

" แล้วคุยกับใคร "

“ เพื่อนนนน " มันลากเสียงก่อนจะคว่ำหน้ามือถือลง ผมก็แอบเหล่

" นี่ถามจริงๆ กับไอ้ชัดนี่ไปถึงไหนแล้ว "

“ อะไรถึงไหนวะ " มันมองไปทางอื่นตอนที่ผมถาม

“ อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง นี่กูถามจริงๆ กูอยากรู้ ว่าไง ถึงไหนแล้ว เป็นแฟนกัน "

“ แค่เพื่อน ไอ้เหี้ย " ก็ยังคงตอบออกมาแบบนั้น ผมก็เหล่มองมัน " ก็คุยๆกันแต่ไม่ได้คุยกันแบบ เชิงชู้สาวอะไร มึงเข้ามั้ย เหมือนกูคุยกับมึงอะ กูก็คุยกับไอ้ชัดแบบนั้น ก็เท่านั้นเอง ไม่ได้แบบ คิดถึงจังเลยทำอะไรอยู่ ไม่ได้อี๋อ๋อเป็นแฟนอะไรกันสักหน่อย "

“ แล้วมึงว่ามันเป็นไง "

“ อะไรเป็นยังไง " ยังมาทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกคนเรา นิสัย

“ ถ้าไอ้ชัดจีบมึง มึงจะตกลงแบบ ถ้าไอ้ขัดว่า โมมาเป็นแฟนกันมั้ย มึงจะตอบว่าไง "

“ ถ้ากูบอกว่าตกลง นั่น หมายความว่า กูต้องยอมรับว่ากูเป็นเกย์ใช่มั้ย " มันถามผมด้วยแววตาที่เศร้าลงถนัดตา ผมไม่รู้ความรู้สึกลึกๆของมันหรอก ว่ามันรู้สึกยังไง แต่ท่าทางมันคงสับสนน่าดู  " กูไม่รู้จะบอกมึงยังไงวะ กูก็ไม่เคยรู้แบบนี้มาก่อนเหมือนกัน "
“ ยังไง ? “ ผมวางงานที่ตัวเองกำลังทำ แล้วหันไปสนใจมันเต็มที่

“ ไม่รีบทำงานเหรอ " โมถามยิ้มๆ ผมก็บอกปัด

" เอาเรื่องมึงก่อน ต้องเสือกก่อน เดี๋ยวทำงานไม่ราบรื่น " มันยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมา

“ กูก็ยังรู้สึกชอบผู้หญิงอยู่นะ เวลาเจอคนสวยๆก็ยังชอบมองอยู่ แต่ว่ากูก็มีความสุขเวลาที่ได้คุยกับไอ้ชัด  มันบอกไม่ถูกอะไร กูก็รู้นะ ว่ามันกำลังจีบกูอยู่ ถ้าใจไม่ชอบก็ต้องถอยห่างออกไปแล้ว แต่ตอนนี้กูรู้สึกว่ามันเหมือนเฟิร์สเลิฟอะมึงจากเมื่อก่อนเราเป็นคนที่คิดคำให้ผู้หญิงเค้ามีความสุข ตอนนี้เราก็ได้รับความสุขนั่นเอง " ผมยิ้มแซวมันตอนที่มันพูดแบบนั้น " แต่ชัดมันไม่ใช่คนหวาน ไม่ใช่คนที่เอาใจ ช่างพูด แต่มันเป็นอะไรที่แบบ ก็มันเป็นมันอะ กูก็บอกไม่ถูก ถามว่าชอบมั้ย ไม่กล้าพูดออกไปหรอกวะ เหมือนยังไม่อยากจะยอมรับว่า ตัวกูเองจะชอบผู้ชายด้วยกัน มันก็รู้สึกแปลกๆ "

“ ในความคิดของกู ถ้าตัดเรื่องเพศออกไป กูว่ามันก็ไม่แปลกนะ "  ผมบอก " จะว่ายังไงดีละมึง ถ้ามึงรู้สึกดีกับมัน กูว่ามันก็แค่ความรักนะ แต่คนทั่วไปกลับใส่ชื่อ ความรักของคนเพศเดียวกันว่า เกย์ เลสเปี้ยน ก็เท่านั้นแหละ ทั้งๆที่มันก็เป็นความรักเหมือนกัน เหมือนกับทั่วๆไปที่มี มึงก็แค่ชอบเค้าไม่ใช่เหรอวะ ถ้าใช่ ก็รออะไรละ เป็นแฟนกันเลย "

“ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกมึง " โมบอก

“ แล้วอะไรที่ยาก ความคิดมึงรึเปล่าที่ยากกอะ  " สบตามันที่ถอนหายใจออกมา ผมไม่รู้คำตอบของมัน แต่คิดว่า โมมันคงมีคำตอบในใจของมันอยู่แล้ว

“ มันแปลกนะมึง กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลย ตอนอยู่ม.ปลายอยู่ ชายล้วนก็ไม่เคยรู้สึก เรียนมหาลัยก็ไม่เคยรู้สึก แต่พอว่ามันเข้ามาสนิทด้วย กลับรู้สึก กูรู้สึกใจเต้นแรงเวลาที่มันทำอะไรให้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็กลัวมันจนไม่อยากจะมองหน้า "

“ แต่ตอนนี้กลับคิดถึงจนอยากจะเห็นหน้าตลอดเวลา " ผมแซว อีกคนก็หันมายิ้มเขินก่อนจะบอกปัดตามปกติ

“ ไอ้เชี้ย ไม่ใช่เว้ย กูไม่ได้คิดถึงมันตลอดเวลาสักหน่อย "

“ หน้าแดงอะมึง " ยื่มมือไปเขี่ยแก้มอีกคนก็ปัด

“ ไอ้เชี่ยขม มึงนี่ยังไงวะ "

“ ทำงานดีกว่า ไม่อยากจะใส่ใจคนมีความรัก ว๊ายยย " ผมเอ่ยแซวก่อนจะหันมาสนใจทำงานของตัวเอง หลังจากที่เสือกเรื่องของเพื่อนเสร็จเรียบร้อย

   ร่างงานในแผนงานทำทุกอย่างอย่างบรรจง อยากจะทำให้สวยที่สุดเพราะอาจารย์อุตส่าห์ให้โอกาสในการแก้ตัว ผมจดจ่ออยู่กับงานจนคนที่นั่งอยู่ข้างๆหลับไปแล้ว ความเหนื่อย และเมื่อยล้าที่ก่อตัวผมบิดหลังเล็กน้อยก่อนจะทำงานต่อไปเรื่อยๆ พยายามฝืนทำจนเสร็จเรียบก่อนจะปริ้นงานที่จะส่งนั่นออกมา 

“ โม " ผมสะกิดเรียกอีกคนที่สะลืมสะลือตื่นขึ้นมา " ไปส่งงานกัน "

“ เสร็จแล้วเหรอ "

“ อื้ม เสร็จแล้ว " บอกแบบนั้นมันก็ยกมือขึ้นบิดขี้เกีียจก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูง

“ ไหนของดูงานหน่อย " ยื่นงานไปให้มันดูอีกคนก็พยักหน้ารับตอนที่เห็น " สวยวะ เอาไปส่งกัน " ผมพยักหน้ารับก่อนจะปิดคอมทุกอย่างของไอ้โมเรียบร้อยแล้วเดินเอางานไปส่งอาจารย์ที่คณะ มองเวลาที่ใกล้เดทไลน์ แต่ก้โชคดีที่ยังทัน อาจารย์รับงานของผมไว้ ได้รับคอมเม้นท์นิดหน่อย แต่โชคดีที่ไม่ต้องแก้ไขงานอะไรแล้ว

“ แล้วคราวหลัง อย่าลืมงานอีกละ " อาจารย์บอกแบบนั้น ผมก็หน้าลงก่อนจะยกมือขอบคุณแล้วออกมาจากห้องพักอาจารย์

“ เป็นไงบ้าง " ไอ้โมเอ่ยถามผมก็พยักหน้ารับ

“ ผ่านไปได้ด้วยดีวะ "

“ โชคดีไปนะมึง " ผมพยักหน้ารับก่อนจะทรุดลงนั่งที่หน้าคณะ หลับตาลงอยู่นานอีกคนก็ลูบหลังถาม " โอเคมั้ยวะมึง "

“ โคตรเพลียเลยวะ กูแม่ง เหมือนจะอ้วกเลย "

“ สงสัยเพราะจ้องหน้าคอมมากไป ช็อคโกเล็ตมั้ย หรือว่าน้ำ กูไปซื้อให้ "

“ ไม่เป็นไรอะมึง เรากลับบ้านกันเถอะ " ผมบอกโมอีกคนก็พยักหน้ารับแม้จะมีสีหน้าเป็นห่วงอยู่ แต่ผมก็ขี้เกียจอธิบายอะไรมันมากกว่านี้แล้ว ตอนนี้มีเด็กคนนึงรอเรากลับไปที่บ้าน เมื่อเช้ารีบออกมา เลยไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง

   รถจอดลงที่หน้าคอนโด ผมปลดสายเข็มขัดนิรภัย ตอนที่ผ่อนลมหายใจออกมา ยังรู้สึกปวดหัวแล้วอยากจะอ้วกอยู่เลย สงสัยเพราะจ้องคอมพิวเตอร์มากเกินไป

“ ขอบคุณที่มาส่งนะมึง แล้วก็ขอบคุณมากที่อยู่เป็นเพื่อนกูทำงาน "

“ เรื่องเล็กน้อย ไม่เป็นไรหรอก มึงอะ ขึ้นไปก็อาบน้ำแล้วพักผ่อนซะ หน้ามึงแม่งไม่ไหวแล้วอะ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ ตอนที่ลงจากรถแล้วเดินขึ้นไปบนตึก กดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนของห้องล้วงกุญแจในกระเป๋าออกมา ผมสูดลมหายใจเข้าปอดไปลึกๆ ผ่อนคลายอารมณ์ให้สดใสก่อนจะไขกุญแจเข้าไป ก่อนจะทำได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นอย่างพูดอะไรไม่ออกสำหรับสภาพห้องที่ได้เย็นอยู่ตอนนี้

   ห้องที่เคยสะอาดเละเทะไปด้วยคราบช็อคโกเล็ต และของเล่นที่กระจัดกระจายเต็มห้องไปหมด สีเทียนถูกละเลงไปตามผนังของห้อง ก่อนที่เจ้าตัวเล็กที่เละไปด้วยช็อคโกเล็ตทั้งตัวจะวิ่งเข้ามากอดผม

“ อาขมกลับมาแล้วววววว "

“ หัวหอม.. นี่มัน เกิดอะไรขึ้นวะ " ผมเอ่ยถามมันก่อนจะทรุดลงนั่งบนพื้นด้วยความเหนื่อยใจอย่างที่สุด ก้มหน้าลงพูดอะไรไม่ออกแค่เห็นของเล่นมากกว่าและความเละเทะของห้องก็อยากจะร้องไห้แล้ว ทั้งๆที่อยากจะกลับมานอนพักสักหน่อยแต่นี่คืออะไรวะ " หัวหอมมึง..”

“ อาขมมมม " เสียงเล็กออดอ้อนมันนั่งลงบนตัก ผมก็ซบลงบนตัวมัน ก่อนจะมองไปในครัวที่ก็ดูเละเทะไม่แพ้กัน ข้าวที่กินไม่หมดกองอยู่บนซิงค์น้ำ ไม่ต้องไปมองก็รู้ว่า ตอนนี้คงมีมดมหาศาลบุกเข้ามากินเศษอาหารเยอะขนาดไหน

“ ทำไมมึงทำแบบนี้วะ " ผมเอ่ยถามมันอีกคนก็เงียบ " ช็อคโกเล็ตพวกนี้มาจากไหน แล้วทำไมกินข้าวไม่หมด "

“ ก็มันไม่อร่อย มันไม่อร่อยเลย มันยังเป็นน้ำแข็งอยู่ข้างในด้วย " อีกคนบอก " แล้วกาลิคก็หิวก็เลยกินช็อคโกเล็ต ช็อคโกเล็ตที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมันอร่อย "

“ ไอ้เชี้ยภาพ " ผมสบถออกมาเบาๆในใจ เพราะเมื่อเช้าผมให้มันจัดการทำอาหารเช้าแต่มันคงไม่ได้เก็บเอาไว้ให้ถูกที่ อีกคนก็เลยเอามากินได้ หรือเพราะกูเองที่รีบจนลืมเก็บไปหมดวะ 

“ อาขม อาขมโกรธกาลิคเหรอ กาลิคขอโทษนะ แต่กาลิคหิวแล้วก็ไม่มีอะไรกิน ก็เลยไปกินช็อคโกเล็ต " มันบอกเสียงอ่อน ผมก็ถอนหายใจออกมา

“ จะโกรธมึงได้ไง กูไม่โกรธหรอก กูผิดเองแหละ ที่เลี้ยงดูมึงไม่ดี " ผ่อมลมหายใจออกมาตอนที่อีกคนกอดผมไว้ หรือว่าว่าจริงๆ เราสองคนจะไม่เหมาะกับการเลี้ยงเด็กจริงๆวะ

..........................................................

หัวหอมลูก สงสารเด็กก็สงสาร
สงสารภาพขมก็สงสาร เรียนก็ต้องเรียน หน้าที่เด็กรับผิดชอบ ก็ต้องมี
อ่านเรื่องนี้ โปรดอย่าคิดกับว่า เราแต่งให้คนที่มีรักในวัยเรียน มีลูกไป เรียนไปไม่ได้นะคะ
แต่เรามองว่า เด็กน่ะ ปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่ได้หรอก มันต้องมีคนดูแล
ก็แก้ไขปัญหากันไปนะ ว่าที่คุณพ่อมือใหม่
แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ ภาพขมจะจัดการยังไง โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป นะคะ ฮ่าๆๆๆ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
ฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 19-03-2017 21:03:28
โอย อยากอ่านตอนหน้าเร็วๆ อยากเห็นวิธีแก้ปัญหาของสองอาจริงๆ ลุ้นนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-03-2017 21:16:55
น่าจะเอาไปฝากเนอส์เซอรี่ หรืออะไรทำนองนั้นนะ
กาลิคจะได้ไม่เหงาด้วยตอนที่ทั้งสองคนต้องไปเรียน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 19-03-2017 21:34:34
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-03-2017 22:05:42
นึกว่าขมจะวีนหัวหอมซะแล้ววววว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 19-03-2017 22:11:13
สงสารทั้งอาจม อาภาพ แล้วก้กาลิคคค ขนาดเราไม่มีลูกกลับมาจากเรียนหรือทำงานยังอยากทิ้งตัวเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 19-03-2017 22:12:55
โถ่ๆๆๆๆๆ หัวหอมมมมม
สู้ๆนะคุณพ่อทั้ง2 เอ๊ะ หรือคุณพ่อ คุณแม่หละ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 19-03-2017 22:14:14
น่าสงสารหัวหอม แต่ก็สงสารพ่อ ๆ ด้วย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-03-2017 22:21:21
ปรึกษาผู้ใหญ่เถอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-03-2017 22:24:23
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 19-03-2017 22:34:23
อืม...สู้ต่อไปนะพี่ขมขุ่นภาพ เด็กน้อยก็อย่างนี้แหละ :hao4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 19-03-2017 23:21:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-03-2017 23:38:53
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-03-2017 23:42:44
โถ่ๆ ลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 20-03-2017 00:11:03
สงสารทั้งภาพ ขม และหัวหอม
ขะแก้ปัญหากันยังไง

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 20-03-2017 00:16:43
สู้ๆนะคะ ภาพขม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 20-03-2017 00:20:47
ทั้งภาพทั้งขมควรบอกผู้ปกครองนั่นแหละ ตัวเองก็ไม่ได้มีวุฒิภาวะมากพอ ควรจะบอกให้ผู้ใหญ่รับรู้ปัญหานะ แล้วเรื่องพูดคำหยาบกับหัวหอมนี่ก็พอกัน ในชีวิตจริง เด็กวัยนี้แยกแยะไม่ออกหรอกนะ ว่าคำนี้ควรพูดหรือไม่ควรพูด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-03-2017 00:29:30
โอ๊ยยยย มือใหม่ยังปรับตัวไม่ได้ วุ่นวายเลยทีนี้ คงไม่ทะเลาะกันอีกนะ

กาลิคยังเด็ก แล้วยังอยู่คนเดียว ฟรีเลยทีนี้ ผนังสวยเลย

ขมกับภาพ อดทนนะ ค่อยๆสอน แล้วก็ต้องใจเย็นๆ ช่วยกันคิดนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 20-03-2017 09:13:59
ขมก็เลี้ยงหัวหอมได้ดีแล้วแหล่ะ แต่แค่ไม่มีเวลาให้เต็มที่

หาพี่เลี้ยงซักคนมั๊ย หรือฝากแม่บ้านที่คอนโดมาดูให้ก็ยังดีนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 20-03-2017 16:14:04
หัวหอมน่าสงสาร  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: nut2557 ที่ 20-03-2017 16:45:23
หัวหอม น่ารัก   :haun4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 20-03-2017 17:09:21
อ้อนขนาดนี้ใครจะไปโกรธหนูลงลูกกกก :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-03-2017 17:32:53
เห็นใจทั้งหัวหอม ขม ภาพ
หัวหอม ยังเป็นเด็กเล็ก ถูกทิ้งไว้ ให้อยู่ตามลำพัง
ห้องจะเละ รก เละเทอะ ก็ไม่แปลก
ถ้าไม่ เละ รก เละเทอะ นี่สิแปลก
ขณะที่ภาพ ขม ต้องไปเรียน
ภาพ ขม คงต้องคิดหาที่ดูแลเด็กเนิร์สเซอรี่ละมั้ง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 20-03-2017 17:36:16
อยู่คนเดียวได้โดยไม่ร้องไห้งอแงหรือเป็นอันตรายถือว่ากาลิคเก่งมาก

ภาพขมควรแก้ปัญหาด้วยวิธีใหม่แทนการปล่อยเด็กทิ้งไว้คนเดียวได้แล้ว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 20-03-2017 18:17:49
เป็นกำลัลใจให้พ่อแม่มือใหม่คะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: nokhook ที่ 20-03-2017 18:55:24
สงสารหัวหอมสงสารอาภาพอาขมด้วย สู้ๆๆนะคุณอาทั้งสอง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 20-03-2017 20:29:41
สงสารพ่ออๆนะ  แต่สงสารกาลิกมากกว่า  งื้อออ...เด็กน้อย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: เมื่อนั้นฝันว่า ที่ 20-03-2017 20:35:35
ตอนนี้สงสารขมมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 20-03-2017 22:10:01
ชอบเรื่องนี้มากๆ ต้องอดทน และค่อยเรียนรู้กันไปน่ะครับ ขมภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: SeaBreeze ที่ 21-03-2017 06:24:34
พ่อภาพ แม่ขม o18
เรียนไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วยพยายามกันมากจริงๆ o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 21-03-2017 07:28:56
สู้ๆนะคุณพ่อภาพ คุณแม่ขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 21-03-2017 09:12:49
ปัญหาเริ่มเกิดแล้วซินะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: SecretOfLove ที่ 22-03-2017 21:14:24
สู้ๆนะคะ คุณพ่อทั้งสอง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 24-03-2017 00:44:24
การเลี้ยงเด็กไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เข้าใจขมกับภาพ แต่อยากให้สู้ ไม่ท้อ ไม่ถอดใจ หเวหอมน่ารักและไม่ดื้อเลย ค่อยๆ ปรับตัวกันไป  ชัดกับโมน่ารักดีนด ฟินเบาๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 24-03-2017 07:33:54
สู้ๆนะขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 24-03-2017 16:56:48
เอาหัวหอมไปโรงเรียนดิ  ง่ายจะตายเนอะภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 24-03-2017 20:53:50
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 12

   ผ่อนลมหายใจออก ร่างกายที่แสนเหนื่อยของผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงมองหน้าอีกคนที่เงยมองด้วยความงุนงงเพราะผมที่เงียบไป จัดการถอดเสื้อผ้าของมัน ผมพูดสั้นๆ

“ หัวหอมไป อาบน้ำไป " ผมบอกมันสั้นๆตอนที่จุงอีกคนเข้าไปในห้องน้ำ จัดการเปิดน้ำล้างตัวถูกสบู่ไปเงียบๆ เจ้าตัวเล็กก็เอ่ยถาม

“ อาขม อาขมโกรธกาลิคเหรอ ที่กาลิคกินช็อคโกเล็ต แล้วกินข้าวไม่หมด "

“ ทำไมมึงคิดงั้นละ " เอ่ยถามมันก่อนจะล้างหน้าใบหน้าน่ารักที่มีช็อคโกเล็ตเปื้อนเต็มไปหมด " เปล่าเลย กูไม่ได้โกรธมึงเลยสักนิด กูโกรธตัวเองมากกว่า " โกรธตัวเองที่ละเลยทุกอย่าง ทั้งเรื่องงานของตัวเอง ทั้งเรื่องเลี้ยงเด็ก เหมือนพยายามจะทำให้ดีทุกอย่างแต่มันไม่มีสักอย่างเดียว หรือบางทีคนเราแม่งต้องทำแค่อย่างเดียววะ เจาะจงทำไปแค่อย่างเดียวเท่านั้น

“ ก็อาขม ไม่พูดกับกาลิคเลย "

“ กูแค่เหนื่อยน่ะ " ผมบอกมัน มือเล็กๆก็เอื้อมมือมาลูบหน้าผม เหมือนเวลาตอนเด็กๆถ้าแม่เห็นเราเหนื่อยๆ เค้าก็จะล้างหน้าล้างตาให้จะได้สดซื่นขึ้น

“ หายเหนื่อยยังครับ "

“ หายแล้วละ ขอบใจนะหัวหอม " ก้มหน้ายิ้มให้มัน ผมสูดลมหายใจที่อยากจะร้องไห้ออกมาเพราะความเหนื่อย กับความล้าของตัวเอง กลั้นน้ำตาแล้วอาบน้ำมันให้เสร็จ ทาแป้งแต่งตัวเรียบร้อย ก่อนจะออกมาจัดการในครัวเป็นอย่างแรก เทข้าวที่มันกินเหลือทิ้งไว้โชคที่ไม่มีมด อย่างที่คิดไว้ เพราะผมแพ้อย่างรุนแรงเห็นแทบไม่ได้เพราะจะคันไม่ทั้งตัว ล้างกล่องใส่ข้าว ล้างหม้อหุงข้าว ล้างทุกอย่างแม้กระทั้งขวดนูเทล่าที่หมดแล้ว ก่อนจะเปิดเครื่องดูดฝุ่นให้ดูดฝุ่นที่กระจายกระจายอยู่ในห้อง " หัวหอมมานี่มา "

“ ครับ " มาวิ่งมาหาผมก็ยื่นตะกร้าใส่ของเล่นให้มัน

“ เก็บของเล่นทั้งหมดใส่ในตะกร้าแล้วเอาไปตั้งไว้ที่เดิมนะ "

“ แต่ว่าเดี๋ยวกาลิคก็เล่นอีก " มันต่อรอง

“ ถ้าจะเล่นอีก ตอนที่จะเล่นก็ค่อยเอาออกมาเล่น ตอนนี้เก็บเรา เราต้องทำความสะอาดห้องก่อนนะ "

“ แต่ว่า อาขม "

“ ไม่งอแงนะ " ผมพูดเสียงนิ่งๆ " อาขมเหนื่อยแล้ว ช่วยอาขมหน่อยนะ "

“ อาขมเหนื่อยเหรอ " มันถามผมก็พยักหน้ารับ  “ ทำไมถึงเหนื่อยละ "

“ เพราะวันนี้อาขมเจอเรื่องแย่ๆมา เพราะงั้นหัวหอมก็ต้องช่วยอาขมนะ เก็บของเล่นของตัวเองซะ "

“ ก็ได้ครับ " มันว่าง่ายขึ้นมาทันที อาจเพราะไม่เคยเห็นมุมนิ่งๆแบบนี้ของผม  มุมที่ผมพยายามข่มจิตข่มใจให้นิ่งที่ที่สุดเพราะไม่อยากจะระเบิดอารมณ์หงุดหงิดใส่เด็ก " เสร็จแล้วครับ "

“ เสร็จแล้วก็มานี่ อาขมมีอะไรจะถาม "

“ ครับ " มันเดินมายืนใกล้ๆตรงหน้าผนังที่มีปากกาสีขีดเขียนเต็มไปหมด ผมย่อตัวลงข้างหมด ผมพร้อมกับผ้าชุบน้ำหมาดๆสองผืน
 
“ บอกกูหน่อย ทำไมถึงเอาสีมาเขียนบนผนังแบบนี้ "

“ ก็เหมือนในทีวีไงครับ "

“ ทีวี ? “

“ ในทีวีนะ พอเราเอาดินสอไปเขียน มันก็ลบออกได้ แค่เอาผ้าเช็ดๆ " มันหยิบผ้าที่ผมถืออยู่ไปเช็ดแล้วก็พบว่า มันไม่ออก " อ้าว..ทำไมไม่ออก "

“ ก็นี่มันไม่ใช่สีแบบในทีวีไง " ผมทรุดลงนั่งกับพื้นอีกครั้ง อยากจะหัวโหม่งกำแพงแม่งให้พังไปเลย กูจะโทษใครดี โทษที่ตัวเองไม่ได้นั่งดูทีวีกับมัน หรือโทษทีวีที่ทำสื่อออกมาไม่ดี

“ โอ๋ๆอาขม " มันก้มลงมาลูบหลังผมปลอบๆ ก่อนจะดึงตัวเองลงนั่งตักแล้วกอดผมไว้ " ไม่ต้องร้องไห้นะ "

“ จะร้อง จะร้องไห้ ฮือๆ " ผมแกล้งบีบน้ำตา มือน้อยๆก็ลูบหลัง

“ โอ๋ๆ " มันที่ปลอบผม เอื้อมมือไปเช็ดคราบสีแต่พบว่ามันออกแต่พวกจุดเล็กๆ แต่พวกภาพใหญ่ไม่ออกเลย

“ นี่มึงวาดรูปอะไรเหรอ " ผมเอ่ยถามอีกคนก็หันมามอง

“ อันนี้คืออาขม " มันชี้ไปที่ภาพอะไรสักอย่างเหมือนไม้กางเขนขาดๆเกิน " อันนี้คืออาภาพ แล้วตรงกลางนี้ คือกาลิค ตรงนี้เป็นบ้านของเรา อันนี้เป็นน้อง เป็นน้องหมีของกาลิคแหละ "

“ เหรอ " ถอนหายใจออกมาตอนที่ได้ฟัง ผมแอบยิ้มแล้วหยุดที่จะเช็ดมัน " นี่คือภาพครอบครัวของมึงสินะ "

“ ช่ายยย นี่คือภาพครอบครัวของกาลิค มีอาขมนะ มีอาภาพ แล้วก็มีน้อง แล้วก็มีกาลิคด้วย " ยิ้มแล้วกอดมันไว้ แบบนี้จะให้ดุมึงลงได้ยังไงวะ ไอ้หัวหอมเอ้ยย

“ แต่หัวหอมฟังอาขมนะ มึงจะเอาสี หรือปากกา ดินสอ หรืออะไรก็แล้วแต่ มาขีดเขียนบนผนังไม่ได้ นี่ไม่ใช่ที่ขีด แล้วก็ไม่ใช่ที่เขียน ที่ขีดเขียนคือ บนกระดาษ เข้าใจมั้ย " ดึงมันให้ลุกขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแล้วหนิบกระดาษเอสี่สีขาวมาปึกใหม่ ก่อนจะตั้งไว้ใต้ทีวี " อันนี้อาขมให้หัวหอมนะ เอาไว้ขีดเขียนอะไรก็ได้ที่อยากจะขีด มันเขียนได้สองหน้าเห็นมั้ย " ผมพลิกกระดาษให้มันดู " ถ้าหมดแล้วก็บอก เดี๋ยวอาขมจะหยิบให้นะ "

“ ครับ "

“ แล้วต่อไป ให้จะวาดอะไรก็ วาดบนกระดาษนะ " ใบหน้าเล็กพยักหน้ารับ ผมก็ผ่อนตัวลงนั่งบนพื้นหน้าโซฟาอีกครั้ง

“ อาขมเป็นอะไร " หัวหอมเดินมานั่งตัก มันยกมือขึ้นลูบหน้าผม เหมือนผมที่ทำให้มัน

“ กูเหนื่อยอะ วันนี้เหนื่อยมากๆเลย "

“ เพราะกาลิคเหรอ "

“ ไม่ใช่หรอก " กอดมันไว้ก่อนจะซบลงไปที่ไหล่ " มันเป็นเพราะกูเองละ " กูที่ตื่นสาย ลืมของ แถมยังจัดการของกินเอาไว้ไม่ถูกที่อีก ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของใครหรอก ของกูเองทั้งนั้น เพราะถ้าตื่นเวลาปกติคงไม่มีปัญหาอะไร " กูจะไปอาบน้ำหน่อย มึงดูการ์ตูนไปก่อนนะ "

“ ครับ " หัวหอมพยักหน้ารับ ผมก็เข้าไปอาบน้ำสระผม ใส่ชุดกางบอลที่เนื้อผ้าเย็นๆก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟาที่อีกคนกำลังนั่งระบายสีอยู่บนพื้น หลับตาลงด้วยความเหนื่อยก่อนจะหลับไปทั้งอย่างงั้น ทั้งๆที่หัวยังเปียกอยู่

......................................................

“ กลับมาแล้วครับ " เอ่ยทักจากหน้าประตูห้อง ก่อนเท้าเล็กจะวิ่งเข้ามาหาผม พลางยกนิ้วแล้วทำเสียง ' ชู่ววววววว ' ยาวๆใส่ เหมือนกำลังจะบอกว่าให้เงียบ

“ อย่าเสียงดังนะ อาภาพ อาขมกำลังหลับอยู่ " หลุดยิ้มออกมากับคำพูดของเจ้าตัวเล็ก ผมอุ้มมันขึ้นมาก่อนจะเดินไปมองร่างบางที่กำลังนอนยาวอยู่บนโซฟา สงสัยคงจะเหนื่อยมาก ได้ข่าวจากชัดว่ามันต้องทำงานใหม่หมดเพราะลืมงานที่ต้องส่งไว้ที่บ้าน แต่ผมเองก็ไม่ต่างกัน เสือกทำรายงานผิดแบบไม่ดูอะไร เลยต้องนั่งทำงานใหม่ทั้งหมด กว่าจะได้กลับบ้าน ไม่น่ารีบทำเลยกู เพราะอยากจะมาเล่นกับไอ้ตัวเล็กตรงหน้านี่แท้ๆเลย  ผมคว้ากาลิคเข้ามากอดหอมแก้มไปที พอปล่อยอีกคนก็เดินไปหาไอ้ขมมองมันหลับอยู่สักพัก มือเล็กก็เอื้อมไปหยิบผมที่ติดอยู่ที่หน้าอีกคนออก ก่อนจะนั่งลงเล่นที่เดิม

   ผมจัดการไปอาบน้ำเรียบร้อยก่อนจะเดินออกมานั่งข้างๆกาลิคที่กำลังสาดรูปอยู่ ไอ้ขมก็ยังหลับเหมือนเดิม ผมเอ่ยถามมัน " กาลิคกินอะไรกันดี "

“ อะไรก็ได้ครับ " มันบอกก่อนจะหันไปมองขม " อาขมยังไม่ตื่นเลย "

“ ปลุกมันดีมั้ย นี่ได้เวลากินข้าวแล้วนะ "

“ ไม่ได้นะ " มันห้ามผม " วันนี้อาขมเหนื่อยมาก แล้ว วันนี้กาลิคก็ซนมากๆ ทำให้อาขมเหนื่อย อาขมต้องพักผ่อนก่อน "

“ แล้วมึงไม่หิวเหรอ " อีกคนส่ายหน้า

“ หนูจะรอกินข้าวพร้อมอาขม "

“ นี่ ถ้ามันทำงานหนักมากๆ มันอาจจะหลับแล้วตื่นอีกที พรุ่งนี้เช้าเลยก็ได้นะ " และนั่นก็เป็นประสบการณ์คนที่ชอบรอมันกินข้าวแบบผม ครั้งนึงมันเคยทำงานทั้งคืนไม่นอน กลับมาจากเรียนคิดว่าจะไปกินข้าวด้วยกัน รอมันตื่นอยู่นานจนสุดท้ายต้องสั่งเคเอฟซีมากิน " ไปหาอะไรกินกันเถอะไป "

“ แต่อาขมยังไม่ตื่น "

“ เดี๋ยวเราค่อยซื้ออะไรมาเผื่อมันก็ได้ ไปกันเถอะไป " ผมก้มลงไปกระซิบมัน " ไปหาขนมกินกันไม่ต้องบอกขมด้วย ไป "

“ ไปครับ " กาลิคหันมายิ้มให้ผม มันที่ลุกขึ้นก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มไอ้ขมแล้วกระซิบบอก " เดี๋ยวกาลิคจะซื้อขนมมาฝากอาขมเยอะๆเลยนะ "

' พากาลิคออกไปกินข้าวนะ ถ้าตื่นแล้วก็โทรมา ภาพ '  ผมเขียนข้อความใส่กระดาษไว้ ก่อนจะส่งเข้าไปในมือถืออีกที เดี่ยวตื่นมาไม่เจอใครมันจะตกใจคิดว่ากาลิคหายตัวไป “ ไปกันไป " เอื้อมมือไปจับมือของอีกคนไว้ ผมคว้าเอากระป๋าเงิน มือถือ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ห้างใกล้คอนโดที่เพียงแค่ข้ามถนนผมพาอีกคนมาสูดอากาศเย็นๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ " กินอะไรกันดี กาลิคอยากจะกินอะไร "

“ อยากกินขนม " มันบอก

“ ขนมค่อยซื้อ กินข้าวก่อน กินอะไรกันดี เคเอฟซีมั้ย "

“ ไม่ได้นะอาภาพ อาขมบอกว่ามันไม่มีประโยชน์ " ไอ้ตัวเล็กหันมาเถียงผม ที่ก็ตาโตขึ้นทันที คือมันจะรู้มั้ยว่าไอ้ที่มันกินๆเข้าไป ที่ไอ้ขมคิดว่ามีประโยชน์แม่งก็ไม่มีหรอก เผลอๆ เคเอฟซีที่ทอดร้อนๆ ยังจะมีประโยชน์ซะกว่า อย่างพวกขนมปังกับนมผมเห็นสมควรอยู่ แต่พอเป็นอาหารเที่ยงที่ซื้อของสำเร็จมาจากเซเว่น แล้วอุ่นเอา โซเดียมแม่งเยอะกว่าเห็นๆ แต่มันแค่ไม่รู้สึกตัวเท่านั้นแหละ

“ แล้วมึงอยากจะกินมั้ยละ " ผมก้มลงถาม " ถ้ามึงอยากกินกูจะไม่บอกขมหรอก เก็บไว้เป็นความลับดีมั้ย " เจ้าตัวเล็กทำท่าคิดก่อนจะเม้มริมฝีปากตอนที่ผมพาเดินไปยืนอยู่หน้าร้านเคเอฟซี มันเอียงตัวเข้ามาเบียดผมก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ก็อยากกินครับ "

“ งั้นไปกินกัน " อุ้มมันขึ้นให้ดูเมนูที่ป้ายใหญ่ๆ เลือกเมนูที่อยากจะกินกันเป็นไก่กรอบตรงส่วนน่องกับสะโพก จัดการสั่งข้าวเปล่าให้กาลิคด้วย ส่วนผมก็แน่นอนว่า ต้องสองชิ้นพร้อมกับข้าวยำไก่แซ่บ แล้วก็แป็ปซี่แก้วใหญ่

“ มาแล้วๆ " อีกคนที่บอกเสียงดัง ผมยกของไปตั้งไว้บนโต๊ะ ก่อนจะตักไก่สองชิ้นให้มันในจาน ยื่นน้ำเปล่าให้อีกคนก็ถาม " อาภาพ อาภาพ กาลิคอยากจะกินอันนั้น " มันชี้มาที่แป็ปซี่ผมก็พยักหน้ารับ

“ ได้ เดี๋ยวให้ลองกิน แต่มึงต้องกินข้าวก่อน กินข้าวเสร็จเดี๋ยวให้กินนะ "

“ ครับ " พยักหน้ารับก่อนจะเริ่มกินข้าวแบบไม่งอแง สองมือเล็กข้างนึงจับไก่กินข้างนึงตักข้าวใส่ปาก ซอสที่ทาลงบนข้าวกับไก่ ถ้าไอ้ขมมาเห็นตอนนี้ต้องกรี๊ดจนห้างถล่มแน่นอน เพราะมีแต่ของที่มันไม่ค่อยอยากจะให้กาลิคกินทั้งนั้น " อาภาพ อร่อย "

“ ใช่มั้ยละ "

“ เดี๋ยวเราไปซื้อขนมกันด้วยดีมั้ย "

“ อื้อๆ ไปครับ กาลิคจะให้หมดเลย แล้วเดี๋ยวเราไปซื้อขนมกันด้วยนะ "

“ ครับผม กินให้หมดละกัน " แล้วมันก็ทำตามที่มันพูดไว้ กาลิคกินข้าวจนหมด ไก่สองชิ้นนั้นไม่มีเหลือเลย ผมรินแป็ปซี่ใส่แก้วให้มันครึ่งแก้ว คำแรกที่อีกคนดูดเข้าไป มันก็ย่นหน้าก่อนจะทำเสียงซ่าส์ออกมาจากปาก

“ อร่อย "

“ แน่นอน นี่แหละของดี "

“ อยากจะกินอีก " มันว่าก่อนจะยื่นแก้วมาให้ผม " ขอกินอีกนะอาภาพ "

“ จัดไป เอาไปเลย " รินแป็ปซี่ให้มันอีกนิดหน่อยอีกคนที่ดูดจนหมดมันยิ้มออกมา

“ อร่อย กาลิคอยากจะกินอีก " ยื่นแก้วมาให้อีกรอบผมก็ยื่นเงินให้มัน

“ เอาไปเงินไปซื้อไป บอกพี่เค้าว่า แป็ปซี่แก้วเล็กนะ " รับเงินจากผมไป มันก็วิ่งไปที่เค้าเตอร์ ผมมองดูมันที่รอรับแป็ปซี่แก้วเล็กก่อนจะเดินดูดมา มันยื่นเงินให้ก่อนจะไปนั่งกินเรียบร้อยอยู่ตรงหน้า เหลือบมองมือถือที่ตั้งอยู่ข้างๆ กลัวที่สุดก็สายเข้าแล้วถามว่าอยู่ไหนนี่แหละ ถ้ามาเห็นไอ้กาลิคกินแป็ปซี่เป็นแก้วแบบนี้ คงต้องเอากูตายแน่ๆ

   เดินออกจากร้านอาหาร มันที่ยังดูดแป็ปซี่อยู่นั้นผมจุงมืออีกข้างของกาลิค เดินไปเรื่อยๆตามทางที่ก็ต้องยอมรับเลยว่าโคตรจะอิ่ม ผมเดินไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่อีกคนชอบกิน จัดการสั่งอาหารเช็คนึงกลับบ้าน ก่อนจะก้มลงไปบอกกาลิค

“ กาลิค "

“ ครับ "

“ เดี่ยวเรากลับถึงบ้าน ถ้าอาขมถามว่าไปกินอะไรกันมา ให้บอกว่า ไปกินอาหารญี่ปุ่นมานะ เข้าใจมั้ย " อีกคนพยักหน้ารับ " ไหนซ้อมสิ สมมุตินะกูเป็นขมนะ หัวหอมวันนี้ไปกินอะไรกับอาภาพมา "

“ ไปกินอาหารญี่ปุ่นมาครับ "

“ ดีมาก " ขยี้หัวมันอีกคนก็ยิ้มหวานให้

“ อาภาพ อาภาพ กาลิคอยากจะกินขนมร้านนั้น  " ผมหันมองตามมือเล็กๆของอีกคนที่ชี้ไป มันเป็นร้านขนมญี่ปุ่นครับราคาก็ใช้ได้อยู่แต่ก็อร่อยสมเป็นขนมนำเข้าละนะ

“ ได้สิ " จ่ายเงินพนักงานร้านอาหารเรียบร้อยก่อนจะเดินไปที่ร้านขนมอีกร้าน กาลิคมันเดินดูอยู่นานก่อนจะเดินไปหยิบตะกร้าแล้วเดินมาถามผม

“ อาภาพ กาลิคซื้อได้กี่ชิ้น "

“ กี่ชิ้นเหรอ " ปกติไอ้ขมจะเป็นคนกำหนดสินะว่าให้ซื้อได้กี่ชิ้น จะว่าไปขนมที่นี่ก็แพงอยู่ชิ้นเดียวก็หลายบาทแล้ว ถ้าให้ซื้อชิ้นเดียวก็สงสาร มันคงอยากจะกินเยอะๆ ผมหยิบเงินแบงค์พันขึ้นมา

“ เอาเป็นว่าเราสองคนซื้อในงบนี้ก็แล้วกัน ห้ามเกินโอเคมั้ย "

“ ครับ " เจ้าตัวเล็กว่าเสียงใสก่อนจะเดินไปหยิบขนมที่มันชอบมาใส่ตะกร้า ผมหยิบพวกเจลลี่ที่ไอ้ขมชอบใส่ตะกร้าไปเกือบทุกรส แล้วก็พวกขนมที่มันชอบกินแบบ มันฝรั่งทอดมันม่วง กาลิคเองมันก็เลือกช็อคโกเล็ตแล้วก็ขนมที่แปลกๆ ที่มันไม่เคยกิน จัดการคิดเงินก็อย่างที่บอกไม่เกิน พันนึงหรอก แต่ก็เก้าร้อยกว่าๆแล้ว

“ คราวนี้ก็ไปเอาข้าวให้อาขมแล้วกลับบ้านกัน " จูงมืออีกคนไปรับข้าวกล่องจากที่ร้านอาหารก่อนจะเดินกลับมาที่คอนโด " กาลิค ดูดน้ำให้หมดเร็วต้องทิ้งแล้ว "

“ ต้องทิ้งเหรอ "

“ ใช่ ถ้าอาขมรู้ว่ามึงกิน อาขมจะโกรธนะ เพราะงั้นอย่าให้อาขมรู้นะเข้าใจมั้ย " มันพยักหน้ารับ " แล้วจำได้ใช่ว่าถ้าอาขมถามว่า ไปกินอะไรมา ให้ตอบว่าอะไร "

“ ตอบว่าไปกินอาหารญี่ปุ่นมา "

“ ดีมาก อะ ดูดซะ ดูดๆ ให้หมดนะ " ผมว่า อีกคนก็ดูดน้ำจนหมดแล้ว เสียงที่ดูด ที่ดูดจนแทบจะแก้วแทบทะลุ " พอแล้วมั้ง จะกินแก้วเข้าไปด้วยรึไง "

“ กาลิคเอาไปทิ้งนะ " มันบอกก่อนจะวิ่งดุ๊กดิ๊กไปที่ถังขยะ ก่อนจะกลับมาจูงมือผม " อาภาพ กลับขึ้นไปบนห้อง กาลิคจะกินขนมเลยได้มั้ย "

“ ได้สิ แต่ต้องแบ่งไว้กิน ห้ามกินหมดทีเดียวละ "

“ ครับ " เจ้าตัวเล็กพยักหน้า " แล้ว แล้วอาภาพว่า อาขมจะตื่นยัง "

“ ไม่รู้สิ ยังมั้ง มันเหนื่อยอะ หรืออาจจะตื่นแล้ว "

“ เดี๋ยวกาลิคนะ จะวิ่งไปหอมแก้มอาขมแหละ แบบนี้ แบบนี้ " มันหอมลงที่แขนผมก่อนจะเหวี่ยงไปมายิ้มๆ เราเดินมาถึงหน้าคอนโด กาลิคลิฟต์เปิดผมก็กดปุ่มชั้นของห้อง ตอนที่ไขกุญแจเข้าไปในห้องผมพบว่าคนที่หลับอยู่ตอนที่เราออกไปก็ยังหลับอยู่ตรงนั้น

“ ยังหลับอยู่เลย " ผมบอก กาลิคก็เดินเข้าไปใกล้ มันหอมแก้มไอ้ขม ก่อนจะพูดเสียงเบาๆ

“ อาขม กาลิคกลับมาแล้วนะ ซื้อข้าวอร่อยๆ แล้วก็ขนม มาให้อาขมด้วยนะ "

“ เหรอ! ” คนโดนหอมเด้งตัวขึ้นมาก่อนจะกอดรัดเจ้าตัวเล็กไว้ อีกคนที่สะดุ้งน้อยๆด้วยความตกใจก่อนจะกลายเป็นหัวเราะชอบใจตอนที่ถูกอุ้มไปกอดแล้วหอมแก้มเสียฟอดใหญ่

“ หื้ม นี่ไปกินอะไรกันมา " คำถามที่ทำให้ผมกลืนน้ำลายลงคอ มองดูไอ้ตัวเล็กที่หันไปบอกเสียงใส

“ ไปกินอาหารญี่ปุ่นครับ "

“ เหรอ อาหารญี่ปุ่นที่ว่ากินอะไรกันเหรอ " ไอ้ชิบหาย กูก็ลืมเตี้ยมว่าให้บอกว่ากินอะไร

“ กาลิคกินไก่ทอด " มันว่าซื่อๆ " อร่อยมากเลย "

“ ไก่ทอดเหรอ "

“ คาโรเกะอะมึง " ผมบอกตัดความสงสัยของมัน อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ เหรอ คาโรเกะ แต่กลิ่นติดแก้มนี่ยังกับไก่เคเอฟซี " คำพูดที่ชวนให้ผมชะงัก ก่อนจะยิ้มบอกมัน

“ ไก่ทอดเหมือนกัน กลิ่นมันคงคล้ายๆกันนั่นแหละ " วางถุงขนมกับข้าลงบนโต๊ะผมเปลี่ยนเรื่อง " กูซื้อข้าวมาให้มึงด้วยอะ มากินได้แล้ว "

“ ขอบใจ " มันว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินมาที่โต๊ะ จัดการเปิดถุงตัวเองออกดูก่อนจะหันไปมองอีกถุง " เดี๋ยวนี่ซื้อขนมมาทำไมเยอะจังวะ นี่มึงซื้อให้กาลิคเหรอ "

“ มีของมึงแล้วก็ของกูด้วย รวมๆกัน "

“ ตามใจมันมากกว่ากูว่า  " ขมบอกก่อนจะส่ายหน้าไปมา มันรื้อถุงขนมก่อนจะบ่นไปเรื่อย " มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยเนี้ย แล้วดูแต่ละอย่างก็หวานๆทั้งนั้นอะ หัวหอมนี่อันไหนของมึงบ้าง "

“ ทั้งถุงเลยของกาลิค " เด็กน้อยว่าอวด แต่หารู้ไม่ว่ากำลังสร้างความชิบหายให้ผม

“ ไม่ใช่ มีของกูด้วย " ผมบอกปัดมันอีกคนก็เหล่มอง " อย่ามองกูแบบนั้นสิวะ กูผิดเหี้ยอะไรเนี้ย ก็แค่ขนมก็เก็บไว้กินสิ "

“ เด็กมันไม่เก็บไว้กินหรอกมึง เดี่ยวก็งอแงจนขอกินจนหมด ทีหลังถ้าจะซื้อชิ้นเดียวพอเข้าใจมั้ย "

“ ครับ " ผมตอบเสียงอ่อนกาลิคก็เดินมาใกล้

“ อาภาพหนูอยากจะกินขนม "

“ บอกอาขมสิ "

“ ไม่เอา บอกอาขม อาขมไม่ให้กิน บอกอาภาพดีกว่า อาภาพให้กิน นะครับนะ ขอกินขนมหน่อย " คำพูดที่ทำให้ไอ้ขมมองผมนิ่งๆ ที่ก็หยุดยิ้มแห้งๆให้มันก่อนจะมองไปทางอื่น " หยิบขนมกล่องนึงให้มันอีกคนก็วิ่งไปนั่งหน้าทีวีไม่ทุกข์ร้อนอะไรแล้ว หลงเหลือไว้เพียงแค่กูที่คิดว่ายังคงตอบคำถามคนตรงหน้าอีกยาว

“ นี่ตามใจถึงไหนวะ บอกความจริงกูมาดีกว่า คาโรเกะเนี้ย.. เคเอฟซีใช่มั้ย ไอ้สัด " ผมเงียบอีกคนก็หันไปหากาลิค " หัวหอมมานี่หน่อย "

“ ครับ "

“ วันนี้ไปกินเคเอฟซีมาใช่มั้ย " มันเหลือบมองผมตอนที่ไอ้ขมถาม " ไม่ต้องมองอาภาพหรอก เด็กดีไม่โกหกนะ ถ้าโกหกอาขมจะโกรธมากๆเลยด้วย วันนี้ไปกินเคเอฟซีมาใช่มั้ย "

“ หนูบอกไม่ได้ อาภาพบอกว่าไม่ให้บอกอาขม " อื้ม...นั่นมึงก็บอกไปแล้วไง ผมผ่อนลมหายใจออกมาอีกคนก็ยกยิ้ม

" แล้วกินอะไรบ้างละ ที่เคเอฟซีน่ะ "

" กินข้าวกับไก่แล้วก็น้ำอร่อยๆครับ "

" น้ำอร่อยๆ " มันทวนคำ " สีอะไรเหรอ "

" สีดำครับ " ไอ้ชิบหาย บอกทำไมมมมมมมม

" ชาดำเย็นก็ได้มึง " ผมขัดขึ้นไอ้ขมก็หันมาชักสีหน้าใส่ มันผ่อนลมหายใจออกมา

" ไปนั่งดูทีวีไป " 

“ แค่นิดหน่อยอะมึง เดี๋ยวมันไม่เคยกิน มันก็พูดกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง ก็เท่านั้นอะ " ผมอธิบายให้อีกคนฟังที่ก็ยังนิ่งอยู่ สายตาเรียวที่มองหน้าผม " อย่าโกรธเค้านะ เค้าขอโทษ "

“ ภาพ .. เคเอฟซียังพอทนนะ แต่แป็ปซี่นี่..หัวหอมมันยังกินไม่ได้ท้องมันยังไม่ดี แป็ปซี่กินเข้าไปแล้วมันจะกัดกระเพาะ "

“ แต่ตอนที่กูให้มันกิน มันกินข้าวแล้วนะ กินไปเยอะด้วย "

“ นี่มึงยังจะเถียงอีกเหรอวะ "

“ ก็เปล่าครับ " ผมก้มหน้าลงอีกคนก็ส่ายหน้าไปมา มันถอนหายใจออกมา

“ อย่าให้มีเป็นครั้งที่สองแล้วกัน กูไม่รู้พูดเหี้ยอะไรกับมึงแล้ว รำคาญ " เจ็บยิ่งกว่าคำด่าใดๆ คือไอ้ขมที่ไม่พูดอะไรและไม่สนใจผมนี่แหละ " พูดไปก็เท่านั้น กูแล้วกินข้าวดีกว่า "

“ เชี้ยขม ขอโทษ " ผมบอกอีกคนก็ถอนหายใจ

“ ไม่ได้โกรธ แค่มึงน่าจะรู้บ้างว่าอะไรควรให้กิน อะไรไม่ควรให้กิน อะไรที่ตามใจได้ อะไรที่ไม่ได้ เราต้องช่วยกันเลี้ยงมันนะ ไม่ใช่ให้กูต้องเลี้ยงคนเดียวแล้ว  กูเป็นคนออกกฏแล้วมึงให้ท้ายมันช่วยมันแหกกฎ แล้วกูจะสร้างกฏมาเพื่อมะเขือยาวเหี้ยไรละ แล้วขนมนี่อีก เยอะไปไอ้สัด ซื้อทำไมเยอะแยะ เดี่ยวมันก็กินแต่ขนมไม่กินข้าวอีก " ยืนฟังมันบ่นนิ่งๆ ไอ้ขมที่ถอนหายใจออกมา มันเดินเข้าไปในครัวหยิบช้อนมากินข้าวไม่สนใจผมอีกเลย

“ เชี้ยขม อย่าโกรธดิวะ "

“ โกรธ ไม่ต้องมาพูดกับกู พรุ่งนี้กูถึงจะหาย จะไม่คุยกับมึงทั้งคืนเลย ค่อยคุยใหม่พรุ่งนี้ "

“ เชี้ยย ไม่เอา คุยกันก่อน "

“ ไม่ สัด " มันบอกปัดผมก็นั่งลงตรงหน้ามันอีกคนก็ยังทำนิ่งไม่สนใจ หันไปมองถุงขนมผมหยิบเจลี่ที่ซื้อมันขึ้นมา อีกคนก็มองตาม ไอ้ขนมชอบเจลี่จากญี่ปุ่นเจ้านี้มาก กินทีสองสามห่อ

“ กูซื้อเจลลี่มาฝากมึงด้วย หมดนี่เลย "

“ เหรอ " มันเผลอพูดออกมาทันทีตอนที่เห็นของกินผมก็หลุดยิ้ม

“ ไหนบอกไม่พูดไง "

“ ไอ้สัด ไม่ต้องเอาของกินมาล่อกูเลย " มันก้มหน้าลงกินข้าวต่อทำเป็นไม่สนใจอีกครั้ง

“ ไม่กินจริงเหรอวะ " ผมยื่นให้อีกคนก็ยังนิ่ง " อะ กูให้จริงๆ " มือบางที่ยื่นมือมารับผมก็ยึดไว้ก่อนจะเอ่ยถาม " หายโกรธกูก่อนแล้วจะให้ "

“ ทำไมมึงชอบต่อรอง ด้วยของกินตลอดตั้งแต่เด็กแล้วนะ "

“ ก็มันได้ผล "

“ มันทำให้กูดูเหมือนคนเห็นแก่กิน " ผมหลุดยิ้มตอนที่อีกคนบอก ก็จริงอย่างที่มันว่ากับมันแค่ล่อด้วยของกินแค่นั้นก็หายโกรธแล้ว

“ ไม่เห็นจะเป็นไร ดีซะอีก ที่มีอะไรสักอย่างมาทำให้มึงหายโกรธกูได้ตลอด "

" ไม่อยากจะโกรธกับกูขนาดนั้นเลยเหรอ " คำถามที่ทำให้ผมคิดตอนที่จ้องหน้ามันอยู่ตอนนี้ ถ้าต้องโกรธกันหรือไม่ได้พูดอะไรด้วยกันสักพัก

" ไม่ใช่ว่าโกรธกันไม่ได้นะ แต่ทางที่ดี ไม่โกรธกันดีกว่า " ผมบอกมันก็ยิ้ม " ยิ้มเหี้ยอะไร "

“ เหมือนกันเลยไอ้สัด " ขมบอก เราที่ต้องหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา " เป็นความสัมพันธ์ที่เหี้ยดีจริงๆ จะโกรธกันให้ครบชั่วโมงยังไม่ได้เลย " เป็นความสัมพันธ์ของเพื่อนที่ประหลาดดี ประหลาดจนบางทีก็รู้สึกว่า มันน่าจะมากกว่าเพื่อนไปแล้ว

..........................................................

นิยายตอนนี้อาจจะมีคำผิดเยอะกว่าปกติ ขออภัย
คนเขียนป่วย ปวดท้องหนักมากไม่สามารถตรวจเช็คได้ทันเวลา
จริงๆกว่าจะเสร็จตอนนี้ใช้เวลานานไปหน่อยนะคะ เลยไม่มีเวลาตรวจ
ยังไงขออภัยด้วยนะคะ #กราบงามๆ
ขอบคุณทุกคนคอมเม้นท์ที่เข้ามาเม้นท์นะคะ หนมอ่านทุกเม้นท์เลย
อยากให้คอยช่วยเป็นกำลังใจพ่อแม่มือใหม่ไปเรื่อยๆ ทุกปัญหามีจุดเริ่มต้น เพื่อแก้ไข และ ปูไปหาพล๊อตใหม่เรื่อยๆ ละเนอะ ทุกอย่างก็มีเหตุผลของมัน แม้กระทั้งว่า ทำไมไม่เข้าโรงเรียน ทำไมไม่บอกผู้ใหญ่ มันมีเหตุผลของมันอยู่ ต้องอ่านกันไปเรื่อยๆนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
หนมฝากแท็ก #มมชลก  ในทวิตด้วยนะคะ
เจอกันตอนหน้าจ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-03-2017 21:46:27
น่ารักเกินไป ไม่ไหวล้าววว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-03-2017 21:47:17
ขำภาพอ่ะ  พ่อบ้านใจกล้าชัดๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-03-2017 22:27:54
ไรท์ คงไม่ได้กินน้ำดำ อย่างที่หัวหอมกินนะ
ไปหาหมอ ตรวจเช็คสุขภาพให้ชัดเจน นะไรท์
ไม่อยากให้ไรท์ ปวดท้องอีก  :mew1: :mew1: :mew1:

ชอบที่ขม เลือกที่จะข่มความโกรธ ไม่ระเบิดออกมา
ที่กลับมาบ้าน  แล้วบ้านเละเทะ หัวหอมไม่กินข้าวกินแต่ช้อคโกแลต
พยายามควบคุมอารมณ์ แล้วพูดสอนหัวหอมดีๆ
ไม่อย่างนั้นหัวหอมต้องกลัวแน่ๆ
ภาพ กลัวขมโกรธ แต่ก็ทำเรื่องให้โกรธ ยังไง  :katai1:
แล้วง้อด้วยของกิน ไม่พูดก็ง้อให้พูด  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-03-2017 22:48:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 24-03-2017 22:52:25
พ่อบ้านใจกล้ากะคุรแม่มือใหม่วัยงง  555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 25-03-2017 00:41:16
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 25-03-2017 00:50:03
ภาพไม่กล้าหือกับขมเลย แต่ที่ขมพูดมันก็ถูกนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 25-03-2017 02:43:50
เรืืองนี้น่ารักมากเลยค่า นี่เราไปอยู่ไหนมา กรี้ดดดดด หัวหอมน่ารักม้ากกก อาขมอาภาพด้วย  :mew1: หวังว่าหัวหอมจะไม่ปวดท้องนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: saruwatari_guy ที่ 25-03-2017 02:52:49
พ่อบ้านใจกล้าชัดๆ เลย เหมือนสมัยเด็ก พ่อพาออกไปซื้อของเล่นแล้วไม่ให้แม่รู้ ต้องแอบไว้ในตู้เสื้อผ้าพ่อบอกให้เอาออกมาเล่นตอนแม่ไม่อยู่ 5555 สุดท้ายแล้วแม่ก็จับได้อยู่ดี
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 25-03-2017 04:17:54
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 25-03-2017 04:58:57
 :impress2:ขอเยอะๆๆๆๆหลายตอนเลยได้มั่ยอ่ะ
ค้าง
ค้าง
ค้าง




ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 25-03-2017 09:04:32
คนแต่งหายป่วยไวๆ นะคะ

ป่วนดีแท้ ดีที่ภาพไม่ชวนกาลิคทำวุ่นอีก ถ้าตื่นมาแล้วเจอห้องเลอะอีก ขมโกรธสามชาติแน่
สงสารขมนะ จะร้องก็ไม่ได้ จะด่าก็ไม่ดี แต่ขมสอนได้โอเค

ปรับกันไปนะ ถ้าไม่บอกผู้ใหญ่ ก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 25-03-2017 09:09:48
เหมือนพ่อแม่ลูกเข้าไปทุกที กาลิคน่ารัก :mew3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 25-03-2017 10:40:18
นยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าปล่อยคุณลูกไว้กับคุณพ่อสินะ 555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 25-03-2017 11:35:32
หัวหอมมมมมมมม :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 25-03-2017 12:13:55
โดนขมจับผิดจนได้นะภาพ

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 25-03-2017 13:10:15
หัวหอมลูกมาอยู่กับพี่มั้ย ทำไมหนูน่ารักขนาดนี้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Faiia ที่ 25-03-2017 14:20:48
น่ารักอ่ะ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 25-03-2017 15:05:00
นี่มันครอบครัว พ่อแม่ลูกเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-03-2017 15:38:36
อาขมกลายเป็นคุณแม่ขี้บ่นไปแล้ว~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-03-2017 19:32:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 12 - 24.3.60} #หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 25-03-2017 19:51:51
อย่าโกรธกันเลย

เครียดนะ ยิ่งอยู่ด้วยกัน เห็นหน้ากันตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 26-03-2017 20:31:25
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 13

   ตื่นมาตอนเช้าด้วยความรู้สึกที่สดใสมากกว่าทุกวัน อาจเพราะเมื่อวานนอนหลับไปตื่นนึงพอถึงกลางดึกก็หลับเร็วอีก เช้าวันนี้ก็เลยตื่นก่อนนาฬิกาปลุกเสียอีก ผมจัดการอาบน้ำจัดกระเป๋าของตัวเองเรียบร้อยเช็คให้แน่ชัดว่าไม่ลืมอะไรแน่ๆก่อนจะเดินออกไปจัดการทำอาหารเช้าแล้วก็เที่ยงเตรียมไว้ให้เด็กที่ยังคงหลับสนิทอยู่ในห้อง

“ อ้าว ตื่นแล้วเหรอวะ " เสียงทักที่มาพร้อมกับประตูห้องที่ถูกเปิดออก ไอ้ภาพที่ยังคงงัวเงียมันหาวออกเสียงดังก่อนจะขยี้หัวไปมา

“ ทำไมมึงตื่นเร็วจังวะ "

“ กะว่าจะตื่นมาช่วยมึงทำนู้นนี่ให้กาลิคบ้าง มึงจะได้ไม่เหนื่อยทำคนเดียว " หันไปมองหน้ามันด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่ามันจะเป็นคนพูดคำนี้ออกมา " มองเหี้ยอะไรแบบนั้น "

“ ก็เปล่า แค่รู้สึกว่าคนอย่างมึงนี่อะนะ จะมาช่วยกู "

“ ช่วยมองกูในแง่ดีหน่อย " ภาพบอกก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อที่โซฟา ผมเองก็กรอกตามองบนกับการกระทำทั้งหมดนั่นและสิ่งที่มันแสดงออกมา คือกูจะมองมึงในแง่ดีได้ไงวะกูงง คือพอมึงตื่นมาเห็นกูตื่นแล้ว มึงก็ไม่ต้องทำแล้ว มึงนอนต่อเลย โอ้โห มองทางไหนก็มีแต่ความเลวอะครับพี่บอกเลย

“ แล้วมึงไม่ไปอาบน้ำอะ "

“ อีกสิบนาทีค่อยอาบ " มันบอกก่อนจะคว้ามือถือมาทำอะไรสักอย่าง คงจะตั้งเวลาก่อนจะหลับต่อที่โซฟานั้น ผมจัดการของสำคัญให้หัวหอมจนเสร็จ วันนี้ทำขนมปังเผื่อตัวเองด้วย อยากจะกินอาหารเช้าพร้อมมัน

“ เสร็จเรียบร้อย ต่อไปก็ไปปลุกไอ้หัวหอมมาอาบน้ำกินข้าว " พูดกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน นั่งลงบนเตียงปลุกอีกคนที่ยังหลับสนิทอยู่ " หัวหอม ตื่นได้แล้ว เช้าแล้ว " เขย่าแขนปลุกมันช้าๆก่อนที่อีกคนจะลุกขึ้นมาทำหน้างงๆเพราะยังง่วงอยู่

“ อาขมมม " มันเรียกก่อนจะเอื้อมตัวมากอดผมไว้ ลูบหลังอีกคนเบาๆ

“ กินน้ำหน่อยมั้ย อะ "  ยื่นน้ำขวดเล็กที่เดี๋ยวนี้ต้องเอามาตั้งข้างเตียงทุกวันเพราะตื่นเช้ามาหัวหอมต้องกินน้ำผมเคยอ่านหนังสือเค้าบอกว่าจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี รวมถึงระบบต่างๆในร่างกายด้วย " คราวนี้ก็ไปอาบน้ำ วันนี้นะกูทำขนมให้มึงกินเรียบร้อยแล้ว อาบน้ำแล้วก็ออกไปกินขนมอร่อยๆกัน "

“ คร๊าบบบบ " หัวหอมพูดเสียงเบา ผมพามันไปอาบน้ำเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาจากห้องแล้วพบว่าคนที่นอนอยู่เมื่อกี้เข้าห้องไปอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว

“ ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้เลย เดี๋ยวกูไปรินนมให้ " ปล่อยมือจากมันอีกคนที่เดินไปนั่งบนเก้าอี้เรียบร้อย เลื่อนขนมปังของตัวเองมาไว้ตรงหน้าก่อนจะหยิบขึ้นกิน " อันนี้นมนะ " วางนมของอีกคนลงตรงหน้าเป็นนมสีชมพูรสโปรดของมัน ก่อนจะกลับไปรินนมของตัวเองแล้วมานั่งลงที่เก้าฝั่งตรงข้าม หยิบขนมปังขึ้นมากิน

“ อาขม อาขม เมื่อไหร่จะเสาร์อาทิตย์ "

“ เสาร์อาทิตย์เหรอ " วันนี้ก็วันอังคารแล้ว " อีกสามวัน อยากจะไปเที่ยวแล้วละสิ "

“ อื้มๆ อยากไปเที่ยว อยากไปข้างนอกกับอาขม อาภาพแล้ว  " มันว่าก่อนจะกินนมเข้าไปแล้วตามด้วยขนมปังอีกแผ่น " เสาร์อาทิตย์นี้อาขมอาภาพจะพากาลิคไปไหน "

“ ไปสวนสัตว์เป็นไง " เสียงของไอ้ภาพดังออกมาพร้อมกับประตูห้องที่เปิดออก มันเดินมาที่โต๊ะก่อนจะคว้าเอาขนมที่ผมกินอยู่เข้าไปกินแบบคำเดียวหมด

“ ไอ้เชี้ยภาพพพพพ นั่นของกูนะ ทำไมแย่งวะ นิสัยไม่ดีเลย สัด "

“ ฮ่าๆ " เสียงหัวเราะถูกใจของมัน แต่ยังไม่หมดแค่นั้น มันยกนมในแก้วของผมขึ้นกินจนหมดก่อนจะวางแก้วเปล่าไว้ที่เดิม

“ ไอ้เชี้ยยยย นมกู "

“ ก็ไปรินใหม่สิ ขี้เหนียววะ " มันบอกก่อนจะเชิดหน้าไปถามไอ้หัวหอม " อาขม ขี้เหนียวเนอะกาลิค "

“ อาภาพนิสัยไม่ดี แย่งขนมกับนมของอาขมหมดเลย " มันบอกแต่อีกคนก็หาได้ใส่ใจอะไรไม่ ภาพเดินเข้าไปในครัวเปิดตู้หาขนมที่ซื้อมาเมื่อวานก่อนจะแกะกิน

“ ยัง ยังไม่ขอโทษกูอีก นี่มึงทำผิดนะไอ้สัดภาพ "

“ ซีเรียส ? “ มันถาม ผมก็หันมองหัวหอมที่มองเราอยู่

“ เป็นการกระทำที่เด็กไม่ควรเอาอย่างอะ ทุเรศ คนดีๆที่ไหนเค้าทำ " ด่ามันเสร็จผมก็หันไปบอกไอ้ตัวเล็กที่นั่งอยู่ " หัวหอมฟังนะ อย่าแย่งของของเพื่อนกิน แม้แต่ของของอาขมหรือ อาภาพก็ไม่ได้นะ เพราะเราจะดูไม่ดี แล้วมันก็เป็นนิสัยที่ไม่น่ารักด้วย เห็นมั้ยเมื่อกี้อาภาพ ดูไม่น่ารักเลย แล้วก็ดูแย่เอามากๆ อย่าไปเอาอย่างคนแบบนั้นนะ "

“ คนแบบนั้นเลยเหรอวะ " ไอ้ภาพถาม

“ ใช่ คนแบบมึงอะ อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะ ไม่งั้นหัวหอมจะไม่มีเพื่อนเลยรู้มั้ย " เอื้อมมือไปลูบหัวอีกคนที่พยักหน้ารับ " แล้วเวลาทำผิด ก็ต้องขอโทษไม่ใช่ทำตัวเหมือนไม่คิดว่าตัวเองผิด ผิดก็ต้องยอมรับว่าตัวเองผิดนะ "

" ครับ แต่ว่า อาภาพไม่รู้ว่าตัวเองผิดเลยไม่ขอโทษอาขม "

" รู้ครับ แต่อาภาพน่ะ เป็นคนนิสัยไม่ดี เลยไม่ขอโทษใคร หัวหอมก็อย่าเอาเป็นตัวอย่างนะ "
 
" ครับ กาลิคจะไม่ทำแบบอาภาพ เพราะอาภาพนิสัยไม่ดี แล้วก็ไม่น่ารัก " มันว่าแบบนั้นก่อนจะหันมองร่างสูงที่ยังยืนนิ่งมองเราสองคนที่ก็ยังมองมันอยู่ สายตาที่มองมันความไม่ชอบใจของเราทั้งคู่อีกคนก็เลิกลั่กก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา

" ผมขอโทษครับ ที่ทำแบบนั้น คราวหลังจะไม่ทำอีก ขอโทษนะครับ "

" อาภาพขอโทษแล้ว อาขมหายโกรธอาภาพยัง " หัวหอมถามผมก็มองหน้ามัน ก่อนจะพยักหน้ารับ

" อาขมให้อภัยอาภาพนะ เพราะเราเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน แล้วหัวหอมจำเอาไว้นะ ไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะหายโกรธกันง่ายๆหรอก เพราะฉะนั้นทำอะไรก็ต้องระวังนะ อย่าไปทำให้ใครโกรธนั่นดีที่สุดแล้ว " ผมบอกก่อนจะขยี้หัวมันอีกที แล้วเดินเข้าไปในห้องครัว หยิบขนมที่ไอ้ภาพกับหัวหอมซื้อมาเมื่อวาน สองกล่องก่อนจะจัดการล็อคกุญแจเรียบร้อยกันเด็กแอบเปิดกิน 

“ อาขมกับอาภาพจะไปแล้วเหรอ "

“ ใช่แล้ว จะออกไปแล้ว " ภาพบอกก่อนจะเดินไปหามัน มือหนาลูบหัวอีกคนก่อนจะก้มลงหอมแก้ม " เดี๋ยวตอนเย็นกลับมาเล่นด้วยนะ "

“ อันนี้ขนมสองกล่องเอาไว้กินตอนดูทีวีนะ " มือเล็กที่รับไปอีกคนก็บอก

“ กลับมาเร็วๆนะ กาลิคจะคอย "

“ อื้ม เดี๋ยวเรียนเสร็จจะรีบกลับมาเลย " ผมบอกเสริม " ไหนมากอดกันก่อน " คำพูดที่ชวนให้เด็กตัวน้อยวิ่งลงจากที่นั่งแล้วตรงเข้ามาหาผม เรากอดกันแน่นมันที่หอมแก้มผม ส่วนผมเองก็หอมแก้มมัน " แล้วอาขมกับอาภาพจะรีบกลับมานะ "

“ ครับ "

“ เป็นเด็กดีละ แล้วมีอะไรโทรหาอาขมนะ โทรออกเป็นใช่มั้ย " อีกคนพยักหน้ารับผมก็หยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมาสะพาย
 
“ ไปก่อนนะไอ้ตัวแสบ ตอนเย็นเจอกัน "

“ บ๊ายบายย " มือเล็กๆที่โบกบ๊ายบายเราสองคนที่ก็เดินออกมาจากห้อง ล็อคประตูเรียบร้อยก่อนที่ผมจะหันไปกระชากคอไอ้ภาพเข้ามา เมื่อพ้นสายตาเด็กแล้ว

“ มึงแย่ง ขนมกูไอ้สัดดดดดด " จ้องมองหน้ามันอีกคนก็ยังยิ้มหว้างไม่ได้มีสีหน้ากังวลหรือว่ากลัวอะไร มันว่าล้อๆ

“ โห เชี้ยยยย น่ากลัวจัง "

“ แม่ง! นิสัยไม่ดีมาแย่งขนมกู "

“ อยากได้คืนอ๋อ " มันถามก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้ผม

“ อะไรของมึง "

“ จะจูบมึงไงแล้วคะย่อนเอาของกินใส่ปากมึง "

“ เชี้ย อย่านะมึง " ผมปล่อยมือออกจากคอมันก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น จะเอาเรื่องกับไอ้เหี้ยนี่สักที รู้สึกเหมือนตัวผมยังอยู่ไกลจากความเป็นไปได้อยู่มากโข เพราะมันต้องทั้งหน้าด้านและเล่ห์เหลี่ยมจัด ผมไม่มีทางสู้คนแบบนี้ได้หรอก ตั้งแต่เล็กจนโตเลย ให้ตายเถอะ

   ขับรถมาถึงมหาลัยในเวลาเช้ากว่าปกติ รถที่เคลื่อนเข้าไปจอดที่ลานจอดรถสายตาของคนขับก็เหมือนจะหันไปเห็นอะไรดีๆเข้า

“ ขมๆ ดูทางซ้ายดิ "

“ ทางซ้ายยย " เอียงหน้าไปมองตามมันบอกก่อนจะหลุดยิ้มออกมา มันเป็นภาพของไอ้โมกับไอ้ชัดที่กำลังยืนคุยกันอยู่ ท่าทางก็ไม่ได้ดูสวีทอะไรกันหรอกแต่ก็อดแซวไม่ได้เลย " มึงชะลอรถกูจะแซวมัน "  รถที่ชะลอผ่านหน้าไอ้สองคนนั้นผมลดกระจกก่อนจะตะโกนออกไป " สวีทอะไรกันตั้งแต่เช้าละแจ้ " 

“ ไอ้เชี้ย " ไอ้โมที่พูดออกมาไม่ออกเสียง ผมก็ปิดกระจกรถก่อนไอ้ภาพจะจอดรถตรงล็อคที่ว่างผมก็เดินลงไปทักไอ้ชัดกับไอ้โม

“ ว่าไงคู่รัก "

“ พูดเชี้ยอะไรของมึงวะ " ไอ้โมบอกก่อนจะขยับเดินมายืนข้างผม มันเหลือบมองไอ้ชัดที่ยิ้มให้ก่อนจะก้มหน้าลง หน้าแดงๆของมันทำให้ผมหันไปยิ้มให้ไอ้ชัดที่ยืนมองอยู่

“ ขี้เขินเนอะ "

“ อื้ม " ชัดตอบ ไอ้โมก็ยิ่งเขินไปใหญ่

“ ไปเรียนเถอะมึงไป เดี๋ยวสาย " หน้าแดงๆของมันดึงแขนผมที่ก็พยักหน้ารับตามใจ จะเขินอะไรกันหนักหนาก็ไม่รู้ ทำตัวเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นไปได้ ผมหันไปตะโกนบอกไอ้ภาพ

“ ภาพกูไปก่อนนะ โมมันเขินชัด "

“ เออ ไปเถอะ " ยกมือโบกบ๊ายบายมันอีกคนก็โบกกลับมา ผมเดินออกจากลานจอดรถไปพร้อมๆไอ้โม ทีก็ยังเดินนิ่งๆไม่พูดอะไรออกมา แก้มแดงๆของมันชวนให้ผมหัวเราะ

“ หัวเราะอะไรของมึงวะ " มันเอ่ยถามผมก็ส่ายหน้า

“ เปล่าหรอก แต่มึงสองคนน่ารักดี ดูไปดูมา มึงสองคนก็ดูเข้ากันดีนะ "

“ พูดอะไรของมึงวะ " มันบอกปัดหน้าแดงๆ

“ เขินอีก "  ส่ายหน้าไปมากับพวกปากไม่ตรงกับใจ เราเดินขึ้นดึกเข้าไปห้องเรียน เม้าส์มอยกับเพื่อนอยู่สักพักอาจารย์ก็เดินเข้ามาสอน

   เวลาร่วมชั่วโมงที่ดำเนินไปช้าๆ หลายหลายทฤษฎีที่เรากำลังเรียนอยู่นั้น ผมนั่งจดสิ่งสำคัญที่คิดว่าจะออกสอบลงไปในสมุด ก่อนจะรู้สึกถึงความสั่นเบาๆ ของมือถือตัวเองที่ปิดเสียงไว้ " ใครโทรมาวะ " พูดบ่นออกมาเบาๆ ตอนที่เอาออกมาดูผมก็พบว่ามันเป็นเบอร์ของไอ้หัวหอม " หัวหอม "

“ พูดอะไรวะ ขม " ไอ้โมถามผมก็ส่ายหน้า

“ เปล่า แค่เพื่อนกูโทรมาอะ " กดปิดหน้าจอ " ไม่มีอะไรหรอก " คงจะแค่โทรมาเพราะคิดถึงมั้ง เดี๋ยวค่อยโทรกลับก็ได้

“ แล้วไม่รับสายละ "

“ รับได้ไงเล่าเรียนอยู่ รับอาจารย์ก็ได้ฆ่ากูสิ "

“ เออว่ะ ก็จริง " ผมหันมาสนใจสิ่งที่อาจารย์พูดอีกครั้ง ไม่อยากให้ไอ้โมรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ แต่แล้วโทรศัพท์ที่ไม่มีทีท่าจะเงียบ หรือหยุดสั่น ในใจผมที่ก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมา อดคิดถึงเรื่องร้ายแรงที่สุดไม่ได้เลย เด็กตัวเล็กแค่นั้น อยู่คนเดียวอีก ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา..

“ โม กูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ "

“ อ่าๆ ได้สิ " ลุกขึ้นแล้วก้มหน้าให้อาจารย์ตอนที่เดินออกไปนอกห้อง ผมยกมือถือขึ้นมามาดูก็ยังมีสายเข้าของไอ้ตัวเล็กอยู่ ผมกดรับสาย

“ ว่าไง หัวหอม "

“ อึก ฮือๆ อาขม อาขม กาลิคปวดท้อง ปวดท้อง ปวดดดดด ปวด อาขม อึก ฮือๆ อาขมอยู่ไหน อาขมมาหากาลิค " เสียงงอแงที่ทำให้ผมตกใจได้ไม่น้อย ปากที่พูดอะไรไม่ออก ฟังแต่เสียงที่มันร้องไห้จนมือไม้สั่นไปหมด
 
“ ปวดท้องเหรอ ปวดท้อง ทำไงดีละ  ปวดท้อง ขี้มั้ย ขี้ยัง อึอื๊อน่ะ อึอื๊อยัง "

“ กาลิคอึอึ๊อแล้วแต่กาลิคยังปวด อึอึ๊อไปหลายครั้ง อาขม กาลิคปวดท้อง อาขมช่วยด้วย อาขม อึก ฮือๆ "

“ กู กูจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้แหละ มึงทนหน่อยนะ กูกำลังจะไป ไม่เป็นไรนะ กาลิค อดทนนะ อดทนไว้ " ผมบอกมันทั้งๆที่ปากตัวเองยังสั่น สมองที่คิดไปต่างๆนานา หรือมันจะกินอะไรที่ผิดสำแดงไปวะ ผมพยายามนึกแต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิมทุกวัน

“ อาขมมม "

“ ไม่เป็นไรนะครับนะ อาขมกำลังจะไป จะไปเดี๋ยวนี้เลย "  ผมบอกผ่านมือถือ ตอนที่วางสายมัน มือสั่นๆก็กดโทรหาไอ้ภาพ ที่ก็ไม่ยอมรับสักที ขาของผมวิ่งออกไปที่คณะของมันที่ห่างกับคณะของผมอยู่มาก ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันเรียนอยู่ห้องไหนก็ตาม สายที่ถูกตัดผมโทรออกไปอีกรอบ โทรอยู่แบบนั้นจนกว่ามันจะรับ

“ มีอะไร " มันพูดเสียงเบาๆออกมา พร้อมกับเสียงของอาจารย์ที่เหมือนกำลังสอนอยู่

“ ภาพ กาลิคมึง กาลิคโทรมาหากูบอกปวดท้องมากๆ กูว่ามันน่าจะท้องเสีย มึง เรากลับบ้านเถอะ กูไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง มันร้องไห้งอแงใหญ่เลย กูว่ามันน่าจะปวดมาก เราพามันไปโรงพยาบาลเถอะ .. ภาพ ไอ้ภาพ " เพราะไม่มีเสียงตอบรับ ผมเลยเรียกปลายสายซ้ำๆ แต่แล้วสายนั้นก็กดตัดสายไป " อ้าว ไอ้สัด " สถบออกมาตอนที่กดโทรไปหามันอีกครั้งแต่ก็ไม่มีคนรับแต่ผมกลับเห็นมันที่วิ่งลงมาจากตึก ด้วยท่าทางรีบร้อน " ภาพ!”

“ มันเป็นยังไงบ้างวะ " อีกคนถามผม ด้วยท่าทางที่ร้อนรนไม่แพ้กัน " มึงโทรหามัน เรารีบไปกันเถอะ "

“ อื้ม " กดโทรออกแต่ก็ไม่มีคนรับสายนั้นอีก ใจผมที่เป็นห่วงก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูกมากขึ้น ไม่น่าเลย เมื่อกี้ไม่น่าวางสายแล้วโทรหาไอ้ภาพเลย ทำไมถึงทำอะไรไม่มีสติขนาดนั้นวะ เชี้ยเอ้ย!! " มันไม่รับเลยวะมึง มันจะเป็นอะไรเปล่าวะ "

“ โทรไปอีก โทรไปจนกว่ามันจะรับ " ขาที่วิ่งอยู่ข้างหน้า ผมเองก็ที่วิ่งตามหลังมา เราวิ่งมาจนถึงรถที่จอดก่อนจะขับออกไปทันทีแบบไม่ได้สนใจอะไรที่มหาลัยอีกเลย

“ มันไม่รับเลยวะ " ผมส่ายหน้าไปมา มือที่เริ่มสั่นของผม ตอนที่กดโทรอีกครั้ง อยู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมา ผมเผลอคิดว่าตอนนี้มันจะเป็นยังไงบ้าง อาจจะปวดท้องจนไม่สามารถมารับสายผมไหว หรืออาจจะปวดจนสลบไปแล้ว หรือว่าอะไรที่มันร้ายแรงกว่านั้น " ภาพ ทำไมมันไม่รับสิ รับสิ รับ หัวหอม มึงรับสายกูหน่อยเถอะนะ คนดี รับสิ รับ "

“ ใจเย็นๆ " มือหนาที่กำลังขับรถเอื้อมมือมาจับมือผม ในตอนนั้นผมก็ตวาดมันออกไป

“ กูใจเย็นไม่ได้แล้ว!! อึก ฮือๆ  กูเป็นห่วงมันภาพ กูเป็นห่วงมัน “

“ กูรู้ขม กูรู้ กูกำลังรีบอยู่นี่ไง ใจเย็นๆนะ อีก สิบนาทีถึง มันต้องไม่เป็นไรสิ ใจเย็นๆนะ ถ้ากาลิคเห็นมึงร้องไห้เดี๋ยวมันก็คิดว่ามันจะเป็นอะไร มึงใจเย็นๆก่อนนะ " มือหนาที่กำมือผมไว้แน่นพยักหน้ารับมันก่อนจะยกมือขึ้นน้ำตาที่อาบแก้วอยู่ มือของผมก็ยังโทรหามันอยู่แบบนั้น  ภาพมันเลื่อนมือขึ้นมาจับไหล่ปลอบๆ ก่อนจะปล่อยออกแล้วกลับไปตั้งใจขับรถเพื่อให้เราถึงเร็วที่สุด

   จอดรถที่หน้าคอนโดผมวิ่งลงไปก่อน ไม่ได้รอไอ้ภาพเอารถไปจอดที่ลานจอดรถแต่อย่างใด กดลิฟต์ย้ำซ้ำๆ ตอนที่ขึ้นไปชั้นบน ผมวิ่งไปที่หน้าห้องก่อนจะไขกุญแจเข้าไปด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะเบิกตากว้างกับภาพที่เห็น ภาพที่ไอ้ตัวเล็กกำลังนอนขดตัวเองอยู่ที่พื้นหน้าห้องของผม เหงื่อมากมายที่ไหลออกมาจากตัวมัน พร้อมกับใบหน้าที่ซีดเผือก ผมวิ่งเข้าไปกอดมันไว้

“ หัวหอม หัวหอมมึงเป็นอะไรอะ หัวหอม "  ตบหน้ามันเบาๆ อีกคนก็บรือตาขึ้นมามันพูดเสียงเบาจนผมแทบจะไม่ได้ยิน

“ อาขม.. ปวด.. ปวดท้อง ช่วย.. กาลิคด้วย กาลิคปวด "

“ กาลิค! “ เสียงของไอ้ภาพที่วิ่งเข้ามาสมทบมันอุ้มอีกคนขึ้นไปจากตักผมทันที ผมวิ่งตามมันลงไปที่รถ เข้าไปนั่งด้านในอย่างรู้งานไอ้ภาพก็อุ้มกาลิคมาวางบนตักผมที่ก็ลูบหัวมันแล้วกอดมันไว้แน่น รถที่สตาร์ทแล้วขับออกไปทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนผมแทบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่โรงพยายามอยู่ไม่ไกลจากคอนโดเรามาก และโชคดีมากๆที่ตอนนั้นรถไม่ติดหนักอย่างที่คิด

“ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร เรากำลังจะไปโรงพยาบาลกัน เดี๋ยวมึงจะไม่ทรมานแล้วนะหัวหอม อดทนหน่อยนะ "

    ภาพจอดรถที่หน้าโรงพยาบาลผมที่วิ่งอุ้มมันออกไปบุรุษพยาบาลก็เข็นเตียงเข้ามาผมก็วางมันลงไปบนนั้น น้ำตาอาบหน้าของผมพูดจากคำไม่เป็นคำ " ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย หัวหอม หัวหอมปวดท้อง เค้าปวดท้องมากๆ เค้าบอกว่าเค้าท้องเสียหลายครั้งแล้ว แล้วเค้าก็เหมือนจะไม่มีแรงอะไรเลย  ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย ช่วยลูกผมด้วย "

“ ใจเย็นๆก่อนนะครับถึงมือหมอแล้วเดี๋ยวให้หมอช่วยตรวจให้นะครับ " บุรุษพยาบาลคนนั้นว่า ผมก็วิ่งตามรถเข็นเข้าไปที่ห้องตรวจ เสียงของหัวหอมก็ดังเบาๆออก

" อาขม.. อาภาพ.. อาขม.. อาภาพ.. กาลิคปวดท้อง ช่วยกาลิคด้วย "

“ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ถึงมือหมอแล้วนะหัวหอม ไม่เป็นไร " เอื้อมมือไปจับมือมันไว้ก่อนที่ผมจะถูกดันให้ออกไปจากห้องตรวจแล้วเค้าก็บอกให้รออยู่ตรงนั้น

“ เป็นยังไงบ้างมึง " ภาพที่วิ่งเข้ามาใกล้ ผมส่ายหน้าไปมาก่อนน้ำตานั้นจะไหล ไอ้ภาพดึงผมเข้าไปกอดไว้ก่อนจะผ่อนหายใจออกมา " เอาน่า ใจเย็นๆมันถึงมือหมอแล้ว เดี๋ยวมันก็หาย "

“ อื้ม " ตอบรับสั้นๆ ก่อนจะดึงตัวออกจากอ้อมกอดของมันแล้วไปนั่งลงที่โซฟาหน้าห้องตรวจ

   ผมพยายามคิดว่าอะไรทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ขนมปังก็เหมือนเดิมผมก็กิน ไม่เห็นเป็นอะไร ช็อคโกเล็ตที่ทาก็แบบเดิม นมก็เหมือนเดิม หรือว่าขนม ขนมที่ให้มันกินสองกล่องนั้น แต่มันก็ดูเหมือนไม่น่าจะใช่อีก คิดถึงสายตาที่ทรมานของมันใบหน้าน่ารักที่เคยออดอ้อนกัน ซีดเผือก เนื้อตัวเย็นๆของมัน " ภาพ..”

“ หื้ม ? มีอะไร " ผมหันมองมันที่ก็ก้มลงมามองผม

“ กูว่าเราเอาหัวหอมไปให้คนอื่นเลี้ยงดีมั้ย " คำพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาของผม " ถ้ามันไม่ได้อยู่กับเรา ตอนนี้มันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้นะ เราเลี้ยงมันไม่ได้หรอกมึง กูเข้าใจแล้ว กูเข้าใจคำพูดของมึงแล้ว ว่ามึงหมายถึงอะไร อึก ฮือๆ ขนาดมันป่วยขนาดนี้กูยังไม่รู้เลยว่าเพราะอะไร ทำไม มันถึงป่วย เราเลี้ยงมันภาษาอะไรวะ ทำไมเรื่องแค่นี้เราถึงไม่รู้ ทั้งๆที่เราเป็นคนที่อยู่กับมันแท้ๆ หรือว่าตอนที่เราปล่อยให้มันอยู่คนเดียวแล้วมันเผลอกินอะไรเข้าไปด้วยความอยากอยู่ เราที่เรียนไปด้วย แล้ว เลี้ยงเด็กไปด้วย มันไม่ดีจริงๆนั่นแหละ เราไม่เหมาะสมที่จะเลี้ยงมัน "

“ ขม ใจเย็น " มือหนาเอื้อมมือกอดไหล่ผมไว้ มันที่ดันให้หน้าผมซบลงไปที่อก " ใจเย็นก่อน "

“ มันเป็นความผิดของกูเองที่ดูแลมันไม่ดี กูผิดเองภาพ กูทำให้มันต้องเป็นแบบนี้ "

“ ไม่ใช่หรอก ถ้าใครสักคนจะผิด เราผิดด้วยกันทั้งคู่ ไม่ต้องร้อง พอได้แล้ว " ภาพยื่นมือมาเกลี่ยน้ำตาที่ไหลของผม

“ ถ้าเราเลี้ยงมันแบบนี้ต่อไป สักวันมันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกนะมึง แล้ววันนั้นอะ เราจะกลับมาช่วยมันไว้ทันเหมือนวันนี้รึเปล่าวะ "  คนฟังถอนหายใจออกมามันที่เหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่าง มือที่ลูบหลังผมปลอบๆ มันเองก็คงเสียใจไม่ต่างจากผม แค่มันไม่ใช่คนที่ร้องไห้ออกมาง่ายๆก็เท่านั้น " กูกลัวว่ะ กลัวว่ามันจะเกิดขึ้นอีก กลัวจนไม่กล้าจะจากมันไปไหนแล้ว กูกลัว "

“ ขม "

“ กูจะดรอปเรียนแล้วมาดูแลมันเต็มที่เลย แล้วรอจนกว่าแม่มันจะมารับ ถ้าแม่มันไม่มารับเราก็จะได้หาทางทำอย่างอื่นต่อไป " คำพูดที่พูดออกไปตอนนั้น ร่างสูงที่นั่งข้างๆก็ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะพูด

" เราหาทางแก้ไขกันได้ กูมีทางแก้ไข ยังไง.." แต่ทว่าภาพยังพูดไม่ทันจบ ตอนนั้นหมอในห้องตรวจก็เดินเข้ามาขัดซะเราซะก่อน
“ สวัสดีค่ะ พ่อแม่ของผู้ป่วยรึเปล่าคะ "

“ ใช่ครับ " ผมลุกขึ้นยืนพร้อมกับภาพ เธอก็ยิ้มให้ก่อนจะมองเราตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แล้วสะดุ้งตัวขึ้นมาน้อยๆเหมือนเมื่อครู่เธอจมลงไปกับความคิดอะไรสักอย่าง

“ น้องปลอดภัยแล้วนะคะ ท้องเสียนะคะ ตอนนี้หมอฉีดยา แล้วก็ให้น้ำเกลือแล้ว ยังไงก็ให้น้องนอนที่นี่สักคืนนะคะ รอดูอาการก่อน ยังไงเดี๋ยวพยาบาลจะย้ายน้องไปที่ห้องพัก เชิญไปรอที่ห้องพักได้เลยนะคะ สอบถามกับนางพยาบาลที่เค้าเตอร์ได้เลย "

“ ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ " ผมก้มหน้าลงบอกเธอก็ยิ้ม " แล้วสาเหตุของการท้องเสีย.. "

“ อันนี้ก็ต้องถามพ่อแม่นะคะ " คำพูดที่ทำให้พวกเรานิ่งไป " อาจจะมาจากอาหารเช้า นม หรืออะไรก็แล้วแต่ "

“ ขอบคุณมากครับ "  ภาพบอก เราก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน

“ โล่งอกไปทีเนอะมึง "

“ อื้ม "

“ โล่งอกเหรอ ? " คุณหมอสาวมองเราด้วยสายตาที่เหมือนกำลังหงุดหงิดเสียเต็มทนกับแค่คำพูดนั้นของเราสองคน " ท้องเสียน่ะ สำหรับเด็กเล็กแล้วมันอันตรายนะ เพราะเด็กน่ะ เค้ามีร่างกายที่ไม่แข็งแรงเหมือนผู้ใหญ่ พ่อแม่ที่เลี้ยงดูเค้า จะต้องใส่ใจให้มากๆ แล้วที่สำคัญอยากจะให้คุณพ่อคุณแม่รู้ไว้ด้วยว่า โรงพยาบาลไม่ใช่สถานท่ีแก้ไขปัญหาให้พ่อแม่ที่เลินเล่อนะคะ " ประโยคสุดท้ายที่บอกก่อนจะเดินออกไปทันทีด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ ผมหันมองภาพก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยบอก

“ เหี้ยไรวะ นี่แม่งไม่ด่ากูแรงไปใช่มั้ย "

“ ช่างเถอะ เราก็เลินเล่อจริงๆนั่นแหละ " ผมบอกปัดไม่อยากจะสนใจคำพูดของคนอื่นมากนัก แม้จะรู้สึกเจ็บเพราะมันเป็นความจริงก็เถอะ " ไปรอหัวหอมที่ห้องกันเถอะ "

........................................................................
   
นิยายตอนนี้ค่อนข้างสั้นไปสักนิดเนอะ
เพราะว่าพล๊อตตอนนี้ค่อนข้างยาว หนมตัดแบ่งเป็นช่วงๆ ตอนนี้คือการเกริ่นมาก่อน ขออภัยหากสั้นไปสักนิด
อีกอย่าง หนมไม่แน่ใจว่าเด็กอนุบาลสองหรือสาม จะสามารถทำได้แบบกาลิคมั้ยนะ ที่สามารถโทรบอกว่าป่วย คือหนมอิงตามหลานของหนมเอง คือช่วงนั้นเป็นช่วงที่สามารถกดโทรออกหาเบอร์นู้นนี่ได้แล้ว รับสายได้ พูดรู้เรื่อง เลยอิงตามพัฒนาการของหลานตัวเองไปนะคะ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วย
แล้วปัญหาคราวนี้ ภาพขมจะแก้ไขยังไง ขมจะต้องดรอปเรียนจริงๆมั้ย แล้วภาพจะมีวิธีการแก้ไขยังไงในเรื่องนี้ โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป  5555555555
เจอกันตอนหน้านะคะ  ขอบคุณที่เอามาอ่านและคอมเม้นท์ ยังไงฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะค่าาาาา   


เจอกันจ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 26-03-2017 20:37:44
โอยยย สงสารอะ แต่ก็เข้าใจนะว่าทิ้งเด็กให้อยู่คนเดียวมันไม่สมควรจริง ๆ แหละ ภาพกับขมอาจจะต้องหาทางออกอื่นที่เป็นทางช่วยแล้วล่ะ

ส่วนเรื่องโทรศัพท์หลานผมก็โทรได้ครับ วัยประมาณนี้แหละ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 26-03-2017 20:43:40
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 26-03-2017 21:09:28
ขมเหมือนคุณแม่เข้าไปอีกแหล่ะ สนุกๆจ้า อยากรู้ว่าเหตุเกิดขนาดนี้ แก้ปัญหายังไงดีของสองคุณพ่อ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-03-2017 21:17:10
บททดสอบ สู้ๆนะพ่อแม่ลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-03-2017 21:23:25
ขม ภาพ ต้องคิดหาสถานที่เลี้ยงเด็กเล็กที่มีคุณภาพได้แล้ว
หัวหอม ไม่ควรอยู่ตามลำพัง
วัยนี้ควรมีคนดูแล มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนวัยเดียวกัน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 26-03-2017 21:44:39
สงสารทั้ง ขม ภาพ หัวหอม
จะทำไงดี
ไม่อยากให้ขมดรอปเรียนด้วย

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 26-03-2017 21:54:20
 ใจเย็นๆนะอาขม:เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-03-2017 21:57:33
 o1 o1 o1 o1
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 26-03-2017 22:07:23
สงสารกาลิคน้อย....งื้อออออ....
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-03-2017 22:13:35
สู้ๆ นะทุกคน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-03-2017 22:28:35
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 26-03-2017 22:29:46
ครียดละ เริ่มเครียด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 26-03-2017 22:48:57
หัวหอมสู้ๆหายไวๆนะคัฟเด็กดี :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 26-03-2017 22:59:39
สงสารกาาลิคคค
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 26-03-2017 23:06:06
สงสารหัวหอม :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 26-03-2017 23:12:11
เฮ้อออออ ไม่รู้จะพูดอะไรดี สงสารหัวหอม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 26-03-2017 23:12:58
ขมอารมณ์คุณแม่มาเต็มอะ หัวหอมหายเร็วๆน้า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: tnkgif ที่ 27-03-2017 02:03:29
ขมกับภาพไม่เคยเลี้ยงเด็ก แต่หมอ พยาบาลไม่รู้ ถึงไม่รู้ยังไงก็ไม่ควรจะพูดแบบนั้นอยู่แล้วมั้ย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 27-03-2017 02:13:48
ควรบอกพ่อแม่ได้แล้วววว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 27-03-2017 08:30:39
กาลิคน่าสงสารจัง

ขมที่เป็นคุณแม่เต็มตัวแล้วซินะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-03-2017 09:04:13
สู้ๆนะต้องผ่านมันไปให้ได้!
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 27-03-2017 09:56:46
โถ...ห้วหอมเอ้ยน่าสงสารซะจริงๆ :mew4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 27-03-2017 12:03:33
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 27-03-2017 13:32:38
สู้ๆ นะ ทั้งคู่เลย เอาใจช่วยมากๆ อย่าโทษตัวเองเลยนะขมไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: เมื่อนั้นฝันว่า ที่ 29-03-2017 10:32:26
 :katai1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 30-03-2017 06:17:52
พ่อภาพแม่ขม(?) สู้ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 30-03-2017 11:13:24
ทั้งภาพทั้งขม ก็พยายามที่จะดูแลแล้ว แต่มันคงไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดสำหรับเด็กเล็กอายุเท่านี้ เฮ้อ อ่านแล้วก็จิตใจห่อเหี่ยว

น่าจะต้องหาใครมาช่วยเลี้ยงช่วงที่ทั้งคู่ไปเรียนแล้วล่ะมั้ง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 13 - 26.3.60} #หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 30-03-2017 13:06:20
โอยยยย. ดีงามมม. สนุกมากกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 31-03-2017 20:46:15

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 14

      เดินไปรอมันในห้องพิเศษที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ให้ ผมหย่นตัวลงนั่งที่โซฟาภาพก็ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะมองหน้าผม " มึง จะเอาอะไรรึเปล่า กูจะกลับไปเอาของ "

“ เออ เราต้องกลับไปเอาของใช้สินะ " เพราะว่าคืนนี้ต้องนอนโรงพยาบาลกัน

“ เอาผ้าขนหนูแล้วกัน แล้วก็ชุดอยู่บ้านสักชุด พรุ่งนี้กูคงไม่ไปเรียน แล้วก็ชุดของหัวหอมด้วยนะ "

“ อื้ม " มันพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไป ผมก็บอก

“ ภาพ ช่วยดูให้หน่อยว่าอะไรที่เสีย ที่หัวหอมมันกินเข้าไป พวกของหมดอายุ "

“ ได้ " พยักหน้ารับอีกครั้ง มันที่เดินออกไปผมก็ผ่อนตัวเองลงนั่งที่โซฟา คว้ามือถือขึ้นมาดูก่อนจะพบว่ามีสายโทรเข้ามา มากกว่าสิบสาย แล้วทุกสายก็คือ ไอ้โม

“ เชี้ย ลืมไปเลยว่าบอกมันว่าจะไปเข้าห้องน้ำ " มองดูเวลาที่ตอนนี้คงเลิกเรียนแล้ว ผมก็กดโทรกลับ

“ ไอ้เชี้ยขม มึงอยู่ไหนวะ นี่กูโทรหาจนมือถือจะพังแล้ว ไอ้สัด " เสียงทักของปลายสายที่กดรับ ชวนให้รู้สึกผิดขึ้นมาทันที " กูคิดว่ามึงโดนฉุดไปปล้ำ หรือว่าโดนทำร้าย โทรไปก็ไม่รับ อยู่ๆจะหายก็หายไปเลย "

“ โทษที " ผมบอก " พอดีที่บ้านกูมีเรื่องด่วนอะ "

“ ก็โล่งใจไป " โมบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา " วันนี้อาจารย์ไม่สั่งการบ้านอะไร กระเป๋ามึงกูเก็บไว้ให้แล้ว ยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้เอามาให้ละกัน "

“ อื้ม ขอบใจมาก แต่ว่า พรุ่งนี้กูคงไม่ไปเรียนนะ "

“ อ้าว "

“ พอดีเรื่องมันยังเคลียร์ไม่เสร็จอะมึง "

“ เรื่องอะไรวะ " ไอ้โมถามส่วนผมกลับเงียบไป ความเงียบที่ทำให้ปลายสายคงรู้สึกว่าผมไม่ค่อยอยากจะบอกมันเท่าไหร่ " ช่างมันเถอะ มึงคงไม่สะดวกเท่าไหร่ ยังไงเดี๋ยวค่อยเล่าก็ได้ "

“ อื้ม ไว้เดี๋ยวเล่าให้ฟัง " ผมบอก " งั้นแค่นี้ก่อนนะมึง ไว้เจอกัน "

“ โอเค ไว้เจอกัน " วางสายลงแล้ววางมือถือไว้ข้างตัว ก่อนที่ประตูจะถูกเคาะขึ้นพร้อมกับเตียงเล็กที่เข็นเด็กตัวน้อยเข้ามา ผมลุกขึ้นยืนทันทีมองดูบุรุษพยาบาลอุ้มมันมาวางไว้บนเตียง ก่อนจะเดินออกไปหลังจากอธิบายทุกอย่างเสร็จแต่เพราะใจจดจ่ออยู่แต่กับร่างที่นอนอยู่เลยไม่ได้สนใจอะไรนัก

   เดินเข้ามาใกล้อีกคนที่นอนนิ่งอยู่เลื่อนเก้าอี้ตัวที่อยู่ใกล้มานั่งข้างเตียงก่อนจะจับมือข้างที่ไม่มีสายน้ำเกลือของมันขึ้นมา ลูบใบหน้าน่ารักที่กำลังหลับใหลก่อนจะหอมแก้มไปเต็มฟอด

“ ขอโทษทีนะหัวหอม เพราะอาขมเองที่ดูแลหัวหอมไม่ดี " ผมรู้สึกแบบนั้นมันเป็นความเลินเล่อของผมคนเดียวด้วยซ้ำไปเพราะภาพมันไม่ได้จัดการดูแลหัวหอมอะไรขนาดนั้น ผมมากกว่าที่ต้องทำทุกอย่างคนเดียวในตอนเช้าของวันนี้ " แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องห่วงนะ อาขมจะดูแลหัวหอมอย่างดีเลย มันจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ขอโทษนะ "

“ กลับมาแล้ว " เสียงจากหน้าประตูดังขึ้นมาพร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามา ภาพวางกระเป๋าที่โซฟาก่อนจะถาม " กาลิคยังไม่ตื่นอีกเหรอ "

“ ยัง " ผมบอก  ก่อนที่อีกคนจะเลื่อนเอาเก้าอี้มานั่งข้างๆผม

“ นี่ ถามจริงๆเถอะ จะดรอปเรียนจริงๆเหรอ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับมันสั้นๆตอนที่ผมยังมองไอ้ตัวเล็กอยู่ " แล้วมันมีทางอื่นให้ทำมั้ยวะ ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกจะทำยังไง กูว่าทำแบบนี้แหละ เป็นทางออกที่ดีที่สุดของตอนนี้แล้ว "

" ขมมันเป็นทางที่โง่มากอะมึง สิ้นคิดพอๆกับกูที่เอาไอ้กาลิคไปทิ้งวันนั้น มึงดรอปเรียนแล้วอยู่กับมันเฉยๆที่บ้านอย่างงั้นเหรอ ดูแลมัน อยู่กับมันทั้งวัน แล้วไงต่อ รอให้แม่มันรับ แล้วมึงก็ค่อยไปเรียนใหม่ เหรอ อย่างงั้นเหรอ มึงจะบอกแม่ว่าอะไร เพราะมึงช้าไปอีกปีเลยนะ อ๋อ ตอนนั้นดรอปเลี้ยงลูกอยู่ อย่างงั้นเหรอ " คำถามที่ทำให้ผมถอนหายใจออกมา " เราเองก็เพิ่งเคยเป็นพ่อแม่คนนะเว้ย เพิ่งได้ลองดูแลใครเป็นครั้งแรก มันก็ต้องมีผิดบ้างถูกบ้าง ไม่ใช่เหรอ แล้วการแก้ไขอะ มึงก็บอกกูเองว่าอย่าทำอะไรสิ้นคิด ให้คิดดีๆ "

" แล้วมันมีทางอื่นมั้ยวะ! ” ผมหันไปถามมันเสียงหนัก " ถ้าเราไม่ดูแลมันให้ดี มันอาจจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ได้ แล้วกูก็ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นอีก รอบนี้มันโชคดีที่เรามาทัน แต่ถ้ารอบหน้ามันไม่ละ   มันต้องมีใครสักคนดูแลมันภาพ หัวหอมยังเด็กมันอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก มันทำไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิดหรอก "

“ กูว่ามันมีทางออกที่ดีกว่านั้น "

“ ทางออกอะไร "

“ กูจะรับกาลิคเป็นลูกกูเอง แล้วกูจะไปบอกพ่อ..”

“ ไอ้ภาพ " หัวใจของผมเหมือนหล่นลงไปที่ปลายเท้าตอนที่มันบอก สีหน้าเรียบเฉยของมันถอนหายใจออกมาก่อนจะมองหน้าเด็กน้อยที่นอนอยู่บนเตียง

“ ถ้ากูไปบอกพ่อ แล้วขอให้มันได้ไปโรงเรียน เราก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว มันเองก็ได้มีเพื่อน ได้เรียนหนังสือ ส่วนเราก็ไปเรียนหนังสือได้โดยไม่ต้องห่วงมัน กูว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วละ ยังไงก็ปิดเรื่องนี้ไว้ได้ไม่นาน ยังไงก็บอก ก็บอกมันตอนนี้เลยแล้วกัน "

“ ภาพ แต่พ่อมึงคงไม่..”

“ อื้ม เค้าคงไม่โอเค แต่กูคิดว่า ถ้ามันเป็นหลานเค้า เค้าคงไม่ใจร้ายหรอก " ทุกอย่างเงียบไปหมดตอนที่มันพูดจบเราก็ได้แต่นิ่งอยู่แบบนั้น พ่อของภาพไม่ใช่คนใจร้ายหรอก เค้าเป็นคนใจดี แต่ก็มีมุมที่น่ากลัวอยู่จำได้ว่า ครั้งนึงตอนที่จับได้ว่าไอ้ภาพสูบบุหรี่ตอนม.ต้นเค้าตบหน้าไอ้ภาพจนเลือดกลบปาก ภาพที่ดูดกลืนความรู้สึกดีๆที่มีต่อเค้าไปทั้งหมด ไม่ว่าเค้าจะเคยใจดีกับผมยังไงก็ตาม แล้วถ้าไปบอกเค้าว่า มีลูก ซึ่งเป็นเรื่องที่ร้ายแรงยิ่งกว่าการสูบบุหรี่เป็นสิบๆเท่า พอคิดได้แบบนั้นผมก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องอะไรกับมันขึ้นมาบ้าง

“ ภาพ แต่กูว่าเราน่าจะหาทางออกอื่นนะ กูหมายถึงว่า ถ้าหัวหอมไม่ใช่ลูกมึง แล้วพอครบสามเดือนแม่มันมาพามันกลับไป ตอนนั้นมันก็ต้องมีปัญหาอีก เพราะมึงบอกพ่อไปแล้วว่า หัวหอมเป็นลูก เค้าจะยอมให้มันกลับไปเหรอ.. เอาให้ครบสามเดือนก่อนมั้ยแล้วค่อยบอก " ภาพเงียบไปตอนที่ผมถาม ถึงจะรู้สึกว่าความคิดของตัวเองสิ้นคิดมากๆที่ดรอปเรียนเพื่อออกมาเลี้ยงกาลิคแต่ มันก็คงดีกว่าที่จะให้ไอ้ภาพไปบอกพ่อมันที่ไม่รู้ว่า ผลตอบรับจะออกไปในทางไหน " ภาพ กูว่า..”

“ ไม่มีแต่แล้ว เพราะกูจะไม่ยอมให้มึงต้องมาเสียสละอนาคตของตัวมึงเองหรอก "  ใบหน้าคมยิ้มให้ผมก่อนจะเอื้อมมือกอดคอไว้ " เราเลี้ยงมันได้แน่ไอ้กาลิคอะทั้งๆที่เรายังเรียนอยู่นี่แหละ แต่เราก็แค่ต้องแก้ปัญหากันไปเรื่อยๆเว้ย เพราะเราไม่สามารถทำอะไรที่เพิ่งเริ่มทำครั้งแรกได้สมบูรณ์แบบหรอก "

“ ภาพ.. แต่ถ้ากาลิคไม่ใช่ลูกมึงละ " ผมถามอีกคนเสียงเบา มันก็ยกยิ้ม

“ ถ้ามันเป็นลูกมึง มันก็ต้องเป็นหลานกูอยู่แล้ว แค่นี้กูช่วยหลานตัวเองไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป "

“ งั้นกูจะบอกแม่กูด้วยจะได้แฟร์ๆ "

“ ไม่ต้องบอกหรอก " ไอ้ภาพขัด " บอกแม่มึงไปเค้าก็เครียดเปล่าๆ มึงเองก็จะเครียดด้วย ปล่อยให้เป็นหน้าที่กูเถอะ "

" เชี้ยภาพ..” ผ่อนลมหายใจออกมากับความคิดของมันที่ตอนนี้กำลังปกป้องทุกอย่างเอาไว้ด้วยตัวเองคนเดียว

" ถ้าบอกแม่มึงว่ามึงมีลูก เค้าก็เครียด แล้วก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกถูกมั้ย เพราะนอกจากจะให้มึงแล้วต้องให้หลานเพิ่มอีก กูว่าบอกพ่อกูนี่แหละดีที่สุด เค้าจะได้จัดการเรื่องโรงเรียนให้ได้ด้วย  " ก็จริงอย่างที่มันบอก ถ้าบอกแม่ผมก็มีแต่ความเครียดกับภาระที่เพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าบอกพ่อภาพเค้ามีทั้งเงินแล้วก็อำนาจที่จะสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดให้เราได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น หรือว่าฝากหัวหอมเข้าไปเรียนที่โรงเรียนดีๆสักแห่ง

" กูเหมือนคนเห็นแก่ตัวที่ไม่ได้ช่วยอะไรมึงเลย เหมือนเอาตัวรอดอยู่คนเดียวทั้งๆที่หัวหอมมันอาจจะเป็นลูกกูก็ได้ "

" เห็นแก่ตัวเชี้ยอะไร " อีกคนบอกก่อนจะยื่นมือมาชยี้หัว " คิดมากอะมึง มึงเองก็ดูแลไอ้หัวหอมตลอดไม่ใช่เหรอ กูไม่เห็นจะทำอะไรเลย เพราะงั้นมันก็ถูกแล้วที่พอมีปัญหาสำคัญ กูต้องเป็นฝ่ายจัดการ ก็เหมือนครอบครัวปกติไง "

" ยังไง " ผมเหล่มองมันอีกคนก็ยิ้ม

" นี่พ่อ " มันชี้ที่ตัวมัน ก่อนจะชี้ที่ตัวผม " แม่ " แล้วก็ชี้ที่เจ้าตัวเล็กที่นอนอยู่ " ลูก "

" ไอ้สัด " เอื้อมมือตบหลังมันแรงๆ อีกคนที่หัวเราะออกมาเสียงดัง เป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ทำให้เราหัวเราะขึ้นมาได้ทั้งๆที่ปัญหาหนักใจอยู่ในตอนนี้   

   ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ผมมองภาพที่หันมายิ้มให้ผม ในแววตาที่ดูเหมือนสบายๆ ไม่คิดอะไร แต่ผมก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น  มันเองก็เครียดแล้วก็กังวลกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นอยู่

“ ไม่ต้องคิดมากหรอก ไม่ใช่ครั้งแรกที่กูทะเลาะกับพ่อซักหน่อยนิ " มันยกไหล่ทำเหมือนไม่สนใจอะไรเท่าไหร่กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแต่ผมก็รู้ว่ามันแค่ทำให้ผมสบายใจก็เท่านั้น

“ ถ้ามีอะไรก็บอกนะ " ผมบอกก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือมัน " กูอยู่ข้างๆมึงอยู่แล้ว "

“ กูรู้ กูเองก็อยู่ข้างๆมึงเหมือนกัน " 

“ งื้อออ " เสียงครางเบาๆดึงให้เราทั้งคู่หันมาสนใจร่างเล็กบนเตียงที่กำลังบรือตาตื่น " อาขม อึก ฮือๆ อาขม " มันร้องไห้ทันทีที่เห็นหน้าเรา ผมหย่อนตัวเองนั่งลงบนเตียงตอนที่ดึงมันมากอดไว้เด็กผู้ชายตัวเล็กก็กอดกลับ

“ ไม่ต้องร้องไห้ ไม่เป็นไรแล้วนะ โอ๋ๆ อาขมอยู่นี่ อยู่กับหัวหอมตรงนี้แล้ว " ลูบหัวมันเบาๆอีกคนก็กอดผมไว้แน่น บี้หน้าที่มีแต่คราบน้ำตาลงบนเสื้อผม  " ตอนนี้ยังปวดท้องอยู่มั้ย "

“ ไม่ แต่ กาลิค ไม่อยากให้อาขม  อึก กับ อาภาพ อึก ไปไหนอีก กาลิคกลัว อึก กาลิคไม่อยากอยู่คนเดียวแล้ว ฮือๆ " ลูบหัวมันเบาๆผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่มันบอกแบบนั้น มันคงกลัวว่ามันจะปวดท้องขึ้นมาอีก กลัวว่าตัวเองต้องเจ็บแล้วก็บอกใครไม่ได้ ไม่มีใครให้บอกว่าตัวเองเจ็บอะไร แต่ผมก็ถือว่ามันเป็นเด็กที่เก่งมากที่พยายามโทรหาผม เพื่อบอกว่าตัวเอง ปวดท้องได้

“ ไม่ทิ้งแล้ว ไม่ทิ้งนะ ไม่ต้องร้อง " เช็ดน้ำตาให้มัน ผมกอดมันไว้อยู่แบบนั้นพลางลูบหลังอีกคนเบาๆ

“ เออ กูลืมบอกมึงไปเลย " ไอ้ภาพทักขึ้นเหมือนมันนึกอะไรขึ้นได้ " กูว่าที่มันท้องเสียน่าจะเป็นเพราะนมว่ะ "

“ นม ? “

“ อื้ม นมมันเสีย หมดอายุแล้วอะ กูกลับไปดูเมื่อกี้ ขนมที่ซื้อก็ยังไม่ได้กินนะ กูเลยคิดว่าน่าจะเป็นของกินเมื่อเช้า  พอไปดูนมในตู้เย็น มันหมดอายุแล้ววะ " ภาพบอกก่อนจะพยักหน้าลงช้าๆ มันเหลือบมองผม " หมดมาหลายวันแล้ว "

“ เหรอ "

“ แต่มันก็พลาดกันได้เปล่าวะมึง ปกติเรากินนมกันหมดก่อนซื้อใหม่ตลอด เราเลยไม่ชิน "

“  มึงไม่ต้องปลอบใจกูหรอก ก็อย่างที่หมอบอก กูมันเลินเล่อเอง " ลูบหลังหัลหอมเบาๆ ผมก้มลงมองหน้ามัน " หัวหอม ขอโทษนะ อาขมผิดเองแหละ ที่ไม่ดูให้ดี คราวหลังอาขมจะรอบคอบกว่านี้นะ ขอโทษที่ทำให้หัวหอมต้องเจ็บนะ "

“ กาลิคไม่โกรธอาขม กาลิครักอาขม " เจ้าตัวเล็กบอก หัวหอมที่กอดผมไว้ " อาขมไม่ได้ทำให้กาลิคเจ็บ นมทำ นมทำกาลิค "

“ อาขมทำ อาขมเป็นคนเอานมให้หัวหอมกินเอง " ผมไม่อยากจะให้มันเป็นคนที่โทษคนอื่นเวลาที่ทำความผิด ผมควรยอมรับความจริง  เพื่อสอนให้หัวหอมรู้ว่า หัวหอมเองก็ต้องยอมรับความจริงเหมือนกัน " นมไม่ได้ทำหรอกหัวหอม นมจะทำได้ไง นมไม่มีชีวิตนะ เพราะงั้นคนที่ทำก็คือ คนที่เอานมให้หัวหอมกินก็คือ อาขม อาขมเป็นคนทำให้หัวหอมต้องเจ็บนะ เพราะงั้นนะ อาขมก็ต้องขอโทษหัวหอม ขอโทษนะหัวหอม "

“ แต่ แต่กาลิคไม่โกรธอาขมนะ  กาลิครักอาขม " มันที่กอดผมไว้ ก่อนจะยื่มมือมาจับที่หน้า " โอ๋ๆ ไม่ร้องไห้นะ กาลิคไม่โกรธนะ "

“ กูไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย " ผมบอก ไอ้ภาพก็หัวเราะออกมา

“ แล้วนี่หิวรึเปล่า อยากจะกินอะไรมั้ย "

“ กินได้เหรอมึง เพิ่งท้องเสียมานะ " ผมถามอีกคนเสียงเบา ที่ก็ยกไหล่ พลางส่ายหน้าไปมา " หัวหอม หิวมั้ย "

“ ไม่ครับ " มันส่ายหน้าไปมากับอกผม

“ งั้นลงไปนอนดีๆมั้ย ดึกแล้วหลับซะหน่อยนะ ดูท่าทางยังง่วงอยู่ " ลูบหัวมันเบาๆอีกคนก็เงยหน้าขึ้นบอก

“ หนูอยากให้อาขมนอนกับหนู "

“ ไม่ได้หรอก นี่เตียงคนป่วย เค้าให้คนป่วยนอน คนไม่ป่วยเค้าไม่ให้นอน " ผมบอกมัน ขี้เกียจนอนเบียดกับมันด้วย แม้จะนอนได้สบายๆก็เถอะ

“ งั้นหนูจะกอดอาขมไว้แบบนี้ " เด็กป่วยที่เริ่มดื้อกอดผมไว้แล้วเริ่มหลับตาลงมือเล็กๆที่กำเสื้อของผมไม่ยอมปล่อย ไอ้ภาพก็หัวเราะ

“ มันติดมึงมากอะ "

“ เออ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงติดขนาดนี้ " จะบอกว่าตามใจก็คงจะไม่ ไอ้ภาพตามใจหัวหอมมากกว่าผมอีก ผมออกจากมีกฎแล้วก็ข้อห้ามนู้นนี่นั่นตั้งเยอะแยะ ลูบหลังมันเบาๆจนรู้สึกว่าคนอยู่ในอ้อมกอดค่อยๆหายใจสม่ำเสมอแล้วผมก็ก้มลงมองดู " หลับละ "

“ งั้นก็จัดการให้นอนได้ " ไอ้ภาพเอื้อมมือไปจัดหมอน ตอนที่เอนตัวลงให้อีกคนนอนแต่พบว่ามือเล็กๆนั่นกลับกำเสื้อผมไว้แน่นแบบไม่ยอมปล่อย

“ กูต้องนอนกับมันวะ แม่งกำเสื้อกูไว้แน่นเลย " หลุดหัวเราะกันออกมา ในที่สุดก็ต้องจำใจ  ล้มตัวเองลงนอนข้างกายอีกคนจนได้  ผมลูบหัวมันก่อนจะหอมไปเต็มฟอด แก้มยุ้ยๆที่บี้เข้ากับหน้าอกผม ภาพดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มเราไว้

“ มึงนี่จริงๆเลยนะกาลิค "  ร่างสูงยื่นมือมาขยี้หัวมันก่อนจะก้มลงหอมแก้ม " เดี๋ยวกูออกไปซื้ออะไรกินหน่อย มึงจะเอาอะไรมั้ย "

“ ไม่อะ ไม่ค่อยหิว "

“ โอเค งั้นเดี๋ยวกูมานะ "

“ อื้ม "  ภาพเดินออกไปจากห้อง ผมที่ก้มลงมองไอ้ตัวเล็กที่กำลังหลับอยู่ก็ได้แต่กอดมันไว้แน่น เผลอคิดถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นก็อดกังวลใจแทนมันไม่ได้เลย ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ถ้าไปบอกพ่อมันให้รู้เรื่องหัวหอม เรื่องมันจะออกไปทางแง่ดี หรือแง่ร้ายกันวะ

......................................................

   ปิดประตูห้องพิเศษของกาลิคก่อนจะเดินลงมาเรื่อยๆจนถึงชั้นล่างของโรงพยาบาล ผมหย่นตัวลงนั่งที่ชั้นล่างตรงหน้าแผนกจ่ายยาก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่ไม่ได้ถืออะไรอยู่เลยสักอย่าง มันเหมือนความหนักใจที่พูดออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ผมคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งผลที่อาจจะออกมาดีที่สุด และ ร้ายแรงที่สุด

   ผมหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาเลื่อนหาเบอร์ที่ต้องการก่อนจะกดโทรออก เสียงรอสายที่ดังอยู่ไม่นาน ปลายสายนั้นก็กดรับ
“ ว่าไงภาพ " เสียงของผู้หญิงที่ผมคุ้นเคยเจ้าของเครื่องกดรับ

“ ม๊าทำอะไรอยู่ " ผมถาม เธอก็นิ่งไปสักพักก่อนจะบอก

“ กำลังนั่งดูทีวีกับป๊าอยู่ มีอะไร เงินไม่พอใช้เหรอ "

“ ไม่พอใช้อะไรของมันอีก " เสียงของป๊าแทรกเข้ามา ผมก็ยกยิ้ม พ่อแม่ก็มักเป็นแบบนี้สินะ สำหรับเค้าถ้าปกติเราไม่ได้โทรไปหาแล้วอยู่ๆโทรไป เค้าก็ต้องคิดว่าเราต้องมีปัญหาอะไรแน่นอน 

“ พรุ่งนี้ออกไปบริษัทรึเปล่า "

“ พรุ่งนี้เหรอ " เธอเว้นเสียงทำท่าคิด " คงไม่หรอก เนอะป๊าเนอะ "

“ อื้ม มันมีอะไรรึเปล่า " เสียงของป๊าถามขึ้นมา

“ แล้วภาพมีอะไรรึเปล่า "

“ เปล่าหรอก แค่พรุ่งนี้จะกลับบ้านเลยโทรมาถามว่าอยู่รึเปล่า ถ้าอยู่จะได้เข้าไปไง ถ้าไม่อยู่จะไม่ไป "

“ อ๋อออ อยู่สิ " เธอบอกก่อนจะเงียบไป

“ ม๊า " เอ่ยเรียกเธอสั้นๆอีกคนก็หัวเราะ

“ มีอะไรรึเปล่า "

“ เปล่าหรอก ค่อยพูดพรุ่งนี้แล้วกัน แค่นี้นะ สวัสดีครับ " ผมกดวางสายลง ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา พิงตัวเองลงบนเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ ก่อนจะพูดกับตัวเอง " อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดวะ " ไม่รู้ตอนนี้ อีกนานก็คงรู้ ก็สู้บอกไปเลยดีกว่า แล้วอีกอย่างผมไม่อยากจะให้ไอ้ขมมันต้องเสียสละอะไรแบบนั้นด้วย ถ้าพ่อผมช่วยได้ก็คงดี ขมมันจะได้สบายใจแล้วก็หมดห่วงกาลิคด้วย ผมเองก็เหมือนกัน

   อาการของกาลิคดีขึ้นมากในเช้าวันรุ่งขึ้น คุณหมอที่เข้ามาตรวจอาการของมันเช็คอะไรนิดหน่อยก่อนจะบอกให้กลับบ้านได้ ผมเป็นคนจัดการค่าใช้จ่ายของมันทั้งหมด ส่วนขมก็แต่งตัวให้กาลิคด้วยชุดอยู่บ้านที่ผมเตรียมมาให้ เราขึ้นรถแล้วก็ขับออกไปจากโรงพยาบาล ไปในทางที่ไม่ใช่ทางกลับคอนโดของเรา

" จะไปไหนกันวะ " ไอ้ขมถาม

" ไปบ้านไง " ผมตอบมันก็พยักหน้ารับ

" คิดดีแล้วเหรอมึง " มันถามย้ำ " มึงจะโอเคแน่นะ "

" คิดดีแล้วสิวะ " ผมหลุดหัวเราะ ตอนที่หันไปมองมันที่ทำหน้าเศร้า " ทำหน้าเศร้าทำเหี้ยอะไร พ่อกูไม่ฆ่ากูหรอก เมื่อคืนกูโทรไปบอกแม่กูแล้วด้วย  "

“ บอกเรื่องหัวหอมอะนะ "

“ เปล่า แค่บอกว่าจะไปหา "

“ อีโธ่เอ้ย " ขมถอนหายใจออกมา มันที่ยังมองผมอยู่ไม่วางตา " กูเป็นห่วงมึงจริงๆนะเว้ยภาพ "

“ ไม่มีอะไรหรอกน่า " เอื้อมมือไปลูบหัวมัน กาลิคที่นั่งอยู่บนตักไอ้ขมก็เอ่ยถาม

“ เราจะไปไหนกันเหรออาภาพ อาขม "

“ ไปบ้านอาภาพกับอาขมน่ะ " ผมก้มลงตอบก่อนจะเงยหน้ามองอีกคน " ขม เดี๋ยวพอไปถึงที่บ้าน มึงอยู่ที่บ้านมึงก่อนนะ เสร็จธุระที่บ้านกูแล้ว กูจะไปรับ "

“ แต่กูอยากจะไปด้วยนะ " มันพูดขัดผมก็เหลือบมองกาลิค ขมเองก็มองตาม " กูต้องอยู่กับหัวหอมสินะ "

“ อื้ม มึงอยู่กับกาลิคนะ กูอยากจะเข้าไปคุยกับพ่อแม่กูคนเดียวมากกว่า " เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าขมเข้าไปด้วยกาลิคก็ต้องเข้าไปด้วยแล้วถ้า กาลิคเห็นภาพที่ไม่ดีของพ่อผม หรือความรุนแรงอะไร ก็อาจจะทำให้มันกลัวพ่อผมจะฝังใจได้เหมือนไอ้ขมที่มันก็ยังฝังใจอยู่เรื่องที่พ่อตบผม ตอนที่สูบบุหรี่คราวนั้น

“ ถ้ามีอะไรก็โทรมานะ " ขมบอกผมก็พยักหน้ารับ รถเคลื่อนตัวเข้ามาในเขตหมู่บ้านจอดรถที่หน้าบ้านของขมมันก็เปิดประตูให้กาลิคลงไป ส่วนมันก็ยังลังเลเหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยากจะพูดอยู่ แววตาเป้นห่วงที่หันมามองผม " มันจะไม่เป็นไรหรอกนะ มันไม่เป็นไรหรอก "

“ อื้ม ไม่เป็นไร " พยักหน้ารับตอนที่ยื่นมือไปขยี้หัวคนที่ดูเป็นห่วงผมเหลือเเกิน ไอ้ขมก็ดึงตัวเองมากอดผมไว้ " มึงเป็นห่วงกูเหมือนกูจะไปตายอะ "

“ แล้วมันไม่เหมือนกันเหรอวะ ถ้ามึงบอกความจริงกับพ่อมึง มึงอาจจะโดนตบเหมือนวันนั้นก็ได้ "

“ เอาน่า แค่โดนตบ " ผมบอกปัด " ไม่ได้เจ็บอะไรนักหนาหรอก ลูกผู้ชายอะ แค่นี้ สิวๆ มึงลงไปได้แล้ว ไอ้กาลิคงงใหญ่ละ "

“ อื้ม " มันพยักหน้ารับตอนที่หันมองกาลิคที่ก็เอียงหน้ามองเรา ขมลงไปจากรถมันบอกเด็กน้อยที่ยืนจับมือมันไว้ " ไหนหัวหอมให้กำลังอาภาพหน่อยสิ "

“ แล้วอาภาพจะไปไหนเหรอ " มันถามไอ้ขมก่อนจะหันมามองหน้าผม " อาภาพ อาภาพจะไปไหน "

“ จะไปทำอะไรสักอย่างเพื่อหัวหอมนะ อะไรสักอย่างที่ต้องใช้ความกล้ามากๆเลยแหละ อาภาพทำเพื่อปกป้องมึงเอาไว้นะ " มันอธิบาย แต่ผมรู้สึกว่ามันคงข้างเป็นคำอธิบายที่ดูโอเว่อร์ไปหน่อยนะ

“ ปกป้องหนูเหรอ " กาลิคเงยหน้าถามขมอีกครั้ง มันก็พยักหน้ารับ

“ อื้ม ให้กำลังใจอาภาพหน่อยสิ บอกอาภาพว่า สู้ๆนะ "

“ อาภาพ " เสียงใสๆที่มาพร้อมกับร่างเล็กที่ดึงตัวเองเข้ามาในรถแล้วกอดผมไว้ จมูกเล็กๆนั้นหอมแก้มผม " สู้ๆนะ กาลิคจะคอยอาภาพอยู่กับอาขม อาภาพรีบกลับมารับเรานะ "

“ อื้ม ขอบใจนะ " ผมพยักหน้ารับก่อนจะหอมแก้มมันเหมือนกัน  กาลิคลงไปจากรถ ประตูที่ปิดลงน่าแปลกที่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาให้ใจของผมมันเปลี่ยนไป จากที่เคยคิดว่ามาบอกๆไป มันไม่ใช่แบบนั้นแต่มันเหมือน ต้องบอกไปต้องทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วก็ต้องปกป้องและดูแลมันเอาไว้ให้ได้ ไม่ใช่กาลิค แต่สำหรับผม มันรวมไอ้ขมเข้าไปด้วย เหมือนกำลังเป็นคุณพ่อที่ปกป้องครอบครัวของตัวเองยังไงอย่างงั้น สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด ผมมองไปยังบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าที่คุ้นตาอย่างดี ก่อนจะเอ่ยบอกตัวเอง ' ไม่เป็นไรหรอก  อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดอยู่แล้ว '

....................................................................


ความเป็นพ่อของภาพ ช่างยิ่งใหญ่
ในเวลาที่วิกฤตภาพก็ต้องเป็นคนออกโรงปกป้องสินะ มันถึงจะถูก ต้องปกป้องไว้ทั้งขม และ กาลิค
ช่างเป็นว่าที่คุณพ่อที่พึ่งพาได้จริงๆ แม้จะไม่ค่อยได้ช่วยเลี้ยงกาลิคเท่าไหร่ก็เถอะ
แต่ในเวลานี้ภาพ ก็พึ่งพาได้นะเออ
ค่อยๆ ปรับตัว เปลี่ยนแปลงกันไปเรื่อยๆ นะ ทั้งคู่

ว่าแต่ตอนหน้า.. พ่อของภาพ จะว่ายังไงนะ

เจอกันตอนหน้านะคะ
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตให้หนมด้วยน้าาา
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 31-03-2017 21:03:38
เริ่มมีความเป็นครอบครัวมากขึ้น ภาพมีความเป็นพ่อมากขึ้น พอ ๆ กับที่ขมมีความเป็นแม่มากขึ้น

หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกสมุนตัวเอฟ ที่ 31-03-2017 21:16:04
สู้ๆน่ะอาภาพ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 31-03-2017 21:17:10
^^
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 31-03-2017 21:31:53
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 31-03-2017 21:38:09
ลุ้นแทนภาพจะโดนพ่อตบอีกไหมเนี่ย แต่เห็นด้วยที่ควรจะบอกพ่อแม่สักที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-03-2017 21:50:25
ภาพ ตัดสินใจได้ยอดมาก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
มีผู้ใหญ่รับรู้ ช่วยดูแล
ผู้ใหญ่มีประสบการณ์ ดูแลเด็กมากกว่า
และช่วยแก้ปัญหาต่างๆอย่างดี
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-03-2017 21:55:23
สู้ๆนะพ่อภาพ  :3123: :3123: :3123: :3123:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 31-03-2017 22:08:12
วิญญาณคุณพ่อเข้าสิงภาพแล้วซินะ สู้สู้ละกัน หวังว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรงนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-03-2017 22:32:32
สู้ๆๆๆไ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Faiia ที่ 31-03-2017 22:32:43
อาภาพสู้ๆ

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-03-2017 23:00:29
 :3123:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 31-03-2017 23:08:26
ขอให้ผ่านไปด้วยดีนะ อาภาพสู้ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 31-03-2017 23:37:48
เอาใจช่วยนะอาภาพพพพพพ o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 31-03-2017 23:52:01
โอ้ยยยตตายแล้ว คุณพ่อภาพพพพพ
หล่อเลยอะ
แต่ว่าสู้ๆนะ
คุณปู่คงไม่ทำอะไรมากหรอกมั้ง
เผลอๆ จะรักกาลิกด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 01-04-2017 00:08:38
ทำไมภาพกะขมไม่ตรวจจดีเอ็นเออออ จะได้รุ้สักทีว่าลุกใคร หรือว่าไม่ใช่ลูกของทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 01-04-2017 00:16:55
ภาพพพพพ สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-04-2017 00:24:22
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-04-2017 00:25:45
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 01-04-2017 04:17:48
 :pig4: :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 01-04-2017 05:48:50
สู้ๆนะภาพ  เราเชื่อว่าความน่ารักของหัวหอมต้องเอาชนะใจพ่อแม่ภาพได้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 01-04-2017 06:29:18
คุณพ่อภาพต้องสู้เพื่อกาลิคและแม่ขมน้าาาาเป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 01-04-2017 06:47:42
สู้ๆนะภาพ บอกเรื่องขมไปด้วยเลยม่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-04-2017 08:05:16
สู้ๆนะภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 01-04-2017 08:40:08
ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีนะภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 01-04-2017 10:10:34
คุณพ่ออาภาพสู้ๆเพื่ออาขมกะกาลิคน้า :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 01-04-2017 12:57:12
สู้ๆ นะ อาภาพของหัวหอมเท่ที่สุดเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 01-04-2017 14:23:36
แหม๋ เหมือนจะค้างนะ พ่อจะว้ายังไงบ้างนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 02-04-2017 06:58:54
ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 02-04-2017 12:40:10
ภาพ สู้ๆ ดีแล้วที่ตัดสินใจแกปัญหาแบบนี้ ถ้าพ่อกับแม่เจอหัวหอมก็ต้องรักแถมหลงหลานมากๆแน่นอน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 14 - 31.3.60} #หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 02-04-2017 15:24:44
สนุกดีค่ะ ถึงจะตะขิดตะขวงใจที่ไม่ยอมไปตรวจ DNA เเล้วมานั่งเถียงกัน"ลูกกูลูกมึง"อยู่ได้
มันอ่านเเล้วเเปลกๆ ถึงคนเขียงจะบอกว่าไปตรวจนิยายก็จบสิอ่ะนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 02-04-2017 20:27:06

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 15

   ประตูรั้วที่เปิดออกอัตโนมัติ ผมขับรถเคลื่อนเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของบ้าน ล็อครถเรียบร้อยก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน หันมองไปรอบๆเพื่อหาเจ้าของบ้านสองคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ไหน

“ คุณภาพ กลับมาบ้านเหรอคะ " เสียงของอดีตพี่เลี้ยงของผมเอ่ยทักด้วยความตกใจเล็กน้อย ผมยกมือไหว้เธอ

“ พี่แก้วสวัสดีครับ "

“ สวัสดีค่ะ " เธอพยักหน้ารับ " มาหาคุณพ่อคุณแม่เหรอคะ "

“ ครับผม "

“ อยู่ในห้องนั่งเล่นนะคะ กำลังดูข่าวกันอยู่ " เธอบอกก่อนจะชี้ไปทางห้องนั่งเล่นของบ้าน พยักหน้ารับคำก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องนั้น สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วเลื่อนประตูเปิดเข้าไป แอร์เย็นๆก็พัดเข้าใส่หน้า

“ สวัสดีคร๊าบบบบ " เอ่ยทักทั้งพ่อแล้วก็แม่ที่ก็หันมามองที่ประตูพร้อมกัน ยิ้มกว้างให้ทั้งสองคนที่พอเห็นผม พ่อก็หันกลับไปมองทีวีต่อส่วนแม่ก็กางมือออกมาเหมือนชวนให้เข้าไปให้กอดอย่างทุกครั้ง " ม๊าาา คิดถึง " ลากเสียงยาวๆตอนที่กอดเธอไว้แม่ก็ก้มลงมาหอมแก้ม

“ คิดถึงจังเลย หายหน้าหายตาไปเลยนะเราน่ะ "

“ ก็เพราะว่ามันมีเงินไง ถ้ามันไม่เดือดร้อน มันก็ไม่มาหรอก " พ่อว่าทั้งๆที่ตาก็กำลังมองทีวีอยู่

   พ่อของผมเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่เหมือนกับผม เราตัวเท่าๆกัน แต่ถ้าถามถึงนิสัยว่าเหมือนมั้ย ผมรู้สึกว่าไม่เหมือนเลยสักนิด แต่ม๊าก็บอกว่าเหมือนกัน เพราะเหมือนกันก็เข้ากันไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่

   ถ้าถามว่าดุมั้ยก็คงไม่จะไม่เท่าไหร่หรอก แค่เป็นคนที่มีกฎกระเบียบในแบบของเค้าเอง ผมจะทำอะไรก็ได้แค่ห้ามไปล้ำเส้นกฏนั้นของเค้า อย่างตอนม.ต้นที่สูบบุหรี่ ไม่ใช่ว่าเค้าไม่ให้สูบหรอก แต่เค้ามองว่า ยังเด็กเกินไปที่จะลองของแบบนี้ตังหาก ตอนนั้นก็เลยโดนจัดการไป ตบด้วยฝ่ามือเน้นๆ ทีเดียว แล้วหลังจากนั้นจำได้เลยว่า ไม่ได้แตะบุหรี่อีกเลยจนเข้ามหาลัยที่ก็สูบบ้าง แต่ก็ไม่ติดอะไร

“ เพราะป๊าพูดแบบนี้แหละ ลูกก็เลยไม่ค่อยกลับบ้าน " แม่บอกก่อนจะยิ้มให้ผม " แล้วภาพกลับบมาคนเดียวเหรอ ขมละ "

“ ขมก็กลับมาเหมือนกัน แต่ผมส่งมันที่บ้านมันแล้วครับ " แม่พยักหน้ารับ ผมก็สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด " ม๊า ป๊า ภาพมีเรื่องจะพูดด้วย "

“ เห็นมั้ย ยังไงถ้ามันมามันก็ต้องมีเรื่องแหละ " พ่อบอก ตอนที่แม่ผมนิ่งไปแล้วหันไปมองเค้า " เรื่องอะไร พูดออกมาเลย "

“ ช่วยปิดทีวีแล้วหันมาฟังภาพก่อนได้มั้ย " อยากให้เค้าตั้งใจฟัง หันหน้ามาคุยกันดีๆเพราะมันเป็นเรื่องสำคัญแต่ทว่าดูเหมือนว่าพ่อ จะไม่ได้คิดว่า เรื่องของผมมันสำคัญอะไรมากมายเท่าไหร่ เค้าคงคิดว่าเหมือนทุกทีที่ผมจะมาแค่ของเงินเพิ่มแล้วก็กลับไป " ภาพทำผู้หญิงท้อง "

   ทุกอย่างในตอนนั้นดูเงียบลงไปถนัดตาทั้งๆที่มีทีวีเปิดอยู่แต่มันกลับเงียบไปหมด แววตาของแม่ที่เคยยิ้มแย้มเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดมือที่กอดผมไว้ค่อยๆคลายออก เหมือนเธอกำลังช็อคในสิ่งที่ผมพูด ทีวีถูกปิดลง ในวินาทีต่อจากนั้นพ่อก็หันมาถามเสียงเบาๆเหมือนเค้าเองก็ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินเท่าไหร่เหมือนกัน

“ อะไรนะ " เค้าถามก่อนจะค่อยๆยืนขึ้น " เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ "

" ภาพทำผู้หญิงท้องป๊า "

" ภาพ.. " ม๊าเอ่ยเรียกผม เธอผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนจะหันไปคว้ามือพ่อผมไว้เพราะเหมือนเค้ากำลังจะเดินเข้ามาใกล้ด้วยความโกรธ " ป๊าใจเย็นก่อน "

" แกทำผู้หญิงท้อง " เค้าถามผมอีกครั้งด้วยเสียงเบาๆ

" ครับ "

“ แกทำแบบนั้นทำไม ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยว่าให้ระวัง ให้ป้องกันน่ะ ห๊า! แล้วทำไมแกทำแบบนี้ แกปล่อยให้พลาดได้ยังไง แกคิดอะไรอยู่ คิดว่าเอากันมันส์ๆอย่างเดียวหรือไง แกทำลายชีวิตตัวเองยังไม่พอ ตอนนี้แกยังทำลายชีวิตของคนอื่นด้วย " ป๊าคว้าคอเสื้อของผมเข้าไปใกล้ตะโกนใส่หน้าอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

“ ป๊าใจเย็น อย่าทำอะไรภาพ " แม่คว้ามือหนาของพ่อไว้ก่อนจะดึงให้ปล่อยคอเสื้อของผมลงแต่เหมือนอารมณ์โกรธของคนที่ได้ยินคำพูดของผม ก็ไม่มีอะไรจะทำให้อารมณ์ของเค้าเย็นลงได้ " ภาพคงไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นหรอก "

“ ไม่ได้ตั้งใจแล้วยังไง ตอนนี้มันก็เกิดชึ้นแล้วนี่ ไม่ตั้งใจเหี้ยอะไร มันต้องตั้งใจจะไม่ใส่ถุงตั้งแต่แรกแล้วละ เรื่องมันถึงออกมาเป็นแบบนี้ อย่าเรียกว่าไม่ได้ตั้งใจ ถ้าเอากันแบบไม่ใส่ถุงนั่นคือมันต้องรู้อยู่แล้วว่า อาจจะท้องแต่มันก็ยังทำ แบบนั้นจะบอกว่าไม่ตั้งใจได้ไง ไม่ใช่ว่ามันไม่ตั้งใจหรอก มันตั้งใจ !! "

" ป๊า " แม่ที่เริ่มร้องไห้แต่ก็มือที่รั้งพ่อของผมไว้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยออก เธอคงกลัว กลัวว่าพ่อจะโมโหจนลงมือรุนแรงกับผม

" หรือเพราะฉันผิดเองที่ให้อภัยมันมาตลอดเพราะคำพูดที่บอกว่าไม่ตั้งใจของมัน  ทุกอย่างมันเป็นเพราะฉันรึเปล่า แกทำลายชีวิตของแก แกทำลายชีวิตของคนอื่น แกบอกว่า แกไม่ได้ตั้งใจแกไม่ได้ตั้งใจได้ยังไงภาพ แกตอบฉันสิ แกไม่ได้ตั้งใจได้ยังไง แกทำไปด้วยความคึกคะนอง แกคิดว่ามันมันส์ แกคิดว่าสนุก แกคิดว่าแกนับรอบเดือนผู้หญิงได้ แกคิดว่าแกเก่งแกปล่อยนอกได้ แล้วสุดท้ายพอผู้หญิงท้อง แกก็บอกว่าแกไม่ได้ตั้งใจ ฉันให้สิ่งดีๆกับแก ให้ชีวิตที่ดีกับแก ให้เงิน ให้ทุกอย่างแต่นี่คือสิ่งที่แกตอบแทนฉันเหรอภาพ นี่เหรอ แบบนี้เหรอ ห๊า!!!! ” มือที่กำเสื้อผมไว้แน่นตอนที่หันไปสบสายตาของอีกคน หัวใจของผมก็หล่นวูบไปทันที ผู้ชายที่ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นตอนนี้เค้ากำลังร้องไห้ออกมา ร้องเพราะผมทำลายชีวิตตัวเอง แล้วก็ร้องไห้ที่ผมทำลายชีวิตของคนอื่น ร้องไห้เพราะลูกที่ไม่ได้เรื่องแบบผม

" ป๊า.. ภาพขอโทษ "

" ทำไมถึงไม่คิดให้ดีก่อนว่าจะทำอะไร ทำไมแกถึงทำไมแบบนี้ ”

" ป๊า "

" ทำไม ทำแบบนี้ ทำไมไม่คิดถึงผลที่จะตามมาบ้าง " เค้าพูดเสียงเบาลงก่อนจะปล่อยมือที่กำเสื้อผมไว้ พ่อที่กำลังร้องไห้ " ทำไมวะ ฉันไม่เข้าใจแกเลย ฉันสอนแกไม่ดีเหรอภาพ ฉันบอกแกตลอดว่าให้ใส่ถุง อย่าเชื่อผู้หญิงต่อให้พูดว่าอะไร ก็ต้องใส่ถุงยาง ทำไมแกยังพลาดวะ ไม่รักตัวเองบ้างเลยเหรอ ทำไมวะภาพ แกบอกฉันสิว่าทำไม "

" ภาพขอโทษป๊า ป๊าจะตบภาพก็ได้นะ จะตีภาพก็ได้ แต่ป๊าอย่าร้องไห้เลย ภาพขอโทษป๊า ภาพขอโทษ " ผมบอกเค้าเสียงสั่น อีกคนก็ทำได้แค่ยกยิ้ม

" ตบเหรอ ? ให้ฉันตบแกเหรอ ? ตบแล้วได้อะไรขึ้นมาละ ตีแล้วได้อะไร ตีไป ตบไป แกก็เจ็บเปล่าๆ เค้าก็ท้องแล้ว ฉันก็มีหลานแล้ว ตบไปก็เท่านั้น เจ็บมือเปล่าๆ ถ้าตบแกแล้วเค้าไม่ท้อง แกไม่มีลูก ฉันคงตบไปแล้ว แต่นี่ ตบแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ฉันก็ไม่รู้ว่าจะตบทำไม "

“ ป๊า " ผ่อนเสียงเรียกเบาๆออกมา ผมเดินเข้าไปใกล้เค้าก่อนจะยกมือขึ้นไหว้แนบกับแขนของอีกคน แล้วตอนนั้นน้ำตามันก็ไหลออกมา

   ตั้งแต่เกิดมานี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าผิดหวังตัวเองที่ทำแบบนี้กับพ่อแม่ รู้สึกว่าตัวเองทำให้เค้าต้องเสียใจที่สุดในชีวิตแล้วตั้งแต่มีลูกแบบผม ทั้งๆที่เค้าเองก็ให้เราทุกอย่าง ไม่เคยมีอะไรที่อยากจะได้แล้วไม่ได้ แต่นี่เหรอ คือสิ่งที่ผมตอบแทนเค้า ทั้งๆที่ยังทำให้ท่านภูมิใจไม่ได้เลย เรียนก็ยังไม่จบ แต่กลับสร้างปัญหาใหญ่ให้เค้าซะแล้ว  " ภาพขอโทษ ขอโทษป๊า ขอโทษม๊า ภาพขอโทษ "

“ แกนี่นะ " คำพูดที่มาพร้อมอ้อมกอดของพ่อที่หันมากอดผมไว้ ดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นมาทันทีของผมก่อนจะร้องไห้ออกมาีกไม่มีหยุดเลย มือหนาๆของเค้าลูบหัวผมเหมือนตอนเด็กๆอย่างที่เคยทำประจำ ตอนที่สูบบุหรี่พอพ่อตบแล้วเค้าก็กอดผมไว้ แล้วก็พูด มันไม่ใช่พูดที่ยืดยาวอะไรเค้าพูดแค่สั้นๆ ' เลิกซะเถอะ มันไม่ดีนะลูก ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่นานๆรึไง ' เมื่อก่อนถ้าในพูดออกมาเป็นประโยคอธิบายผู้ชายคนนี้ พ่อในความคิดผม คือ พ่อดุ เจ้าอารมณ์ ไม่ค่อยมีเหตุผล เสียงดังเข้าว่ายังไม่ทันฟังจบก็เสียงดังโมโหตะคอกใส่ไว้ก่อน แต่พอมาตอนนี้ถ้าให้พูดถึงเค้า คงต้องพูดว่า ' พ่อรักผมมากเลยหงุดหงิดกับเรื่องของผมทุกเรื่องแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม '

“ ภาพ โถ่เอ้ย ลูก..  " แม่เรียกผมเธอที่เอื้อมมือมากอดผมไว้เช่นกัน มือบางยกขึ้นลูบหลังผมปลอบๆ ก่อนที่พ่อจะผละตัวออก เค้ายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาแล้วนั่งลงที่โซฟาตัวเดิมของเค้า

“ แล้วทางนั้นเค้าเป็นลูกสาวใคร "

“ ไม่รู้อะป๊า " ผมก้มหน้าลงบอก พ่อกับแม่ก็ขมวดคิ้ว

“ ไม่รู้ ? ทำไมไม่รู้ หมายความว่าไง งง " ผ่อนลมหายใจออกมาผมนั่งลงตรงหน้าท่านทั้งสอง

“ คือเรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อเดือนก่อนอยู่ๆ เด็กคนนึงก็ถูกส่งมาให้ภาพกับขม แล้วบอกเราว่า เราเป็นพ่อของเด็ก "

“ อ้าว ไม่ใช่ลูกของภาพหรอกเหรอ " แม่ถามก่อนจะหันไปมองพ่อผมที่ก็หันมามองเธอเหมือนกัน 

“ แล้วคือพอเค้าเอามาให้ ทั้งสองคนก็เชื่อว่าเป็นลูกของตัวเองจริงๆ " พ่อถาม " หึ โดนหลอกรึเปล่า "

“ ภาพไม่คิดว่าจะโดนหลอกนะ เพราะว่าเค้ามีภาพของ ภาพกับขมมายืนยันด้วย มันเป็นภาพที่ไม่ใช่ว่าจะได้จากในเฟส หรือตัดต่อ แต่เป็นภาพที่เราเคยไปที่นั่นจริงๆ แล้วเหมือนว่า มันจะเป็นภาพที่เราให้สาวที่นั่นไว้ .."

" แกจะบอกว่า เด็กถูกส่งมาให้โดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กเมื่อเดือนก่อน แล้วทำไม เพิ่งมาบอกตอนนี้ " พ่อถาม

" จริงๆ ผมกับขมคิดว่าจะเลี้ยงดูกันได้เพราะอาจจะแค่สามเดือนที่เค้าอยู่ที่นี่ "

" งั้นก็คงไม่ใช่เด็กเล็ก " แม่แทรกคำถามขึ้น ผมก็พยักหน้ารับ

" สี่ขวบแล้วม๊า " เธอพยักหน้ารับ

" อีกอย่างคือ เธอให้คนมาส่งเด็กที่คอนโดเรา ให้รูปมากับเด็ก แต่กลับไม่ได้ให้เอกสารอะไรเลย เราเลยพาเค้าไปฝากเลี้ยงอะไรที่ไหนไม่ได้ เข้าโรงเรียนก็ไม่ได้ เลยต้องเลี้ยงอยู่ในคอนโด เวลาเราไปเรียนเค้าก็ต้องอยู่คนเดียว คราวนี้ก็ปัญหาก็เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ เราเรียนหนักแต่พอกลับมาบ้านก็ต้องมาดูแลเด็กอีกซึ่งบางทีมันก็ไม่ไหว  แล้วเมื่อวานเค้ากินนมเสียเข้าไป แล้วก็ปวดท้องมากจนต้องเข้าโรงพยาบาล ขมมันก็เลยทนไม่ไหวแล้ว มันเลยจะขอดรอปเรียนแล้วออกมาเลี้ยงเด็ก ผม..ไม่อยากจะให้มันทำแบบนั้นก็เลยมาบอก ป๊ากับม๊าดีกว่า "

" แล้วทำไมไม่ให้เอกสารอะไรมาเลย " แม่ถาม

" ผมกับขมคิดว่า คงเพราะว่าเค้าจะมารับกลับไปแหละ เลยไม่ให้เอกสารอะไรมาเลย "

" อีกอย่างไม่ก็ เพราะเธอไม่อยากให้แก ตามตัวเธอเจอแล้วรู้ว่าเธอคือใคร เค้าเลยไม่ส่งเอกสารอะไรมา เพราะถ้าส่งมาแล้วแกไม่รับเด็กคนนี้ก็มีสิทธิ์ส่งกลับไปได้ เพราะมันมีชื่อเธออยู่  " พ่อบอกผมก็พยักหน้ารับ " แต่ประเด็นนะ แกบอกว่า เธอให้ภาพมาใบนึง ซึ่งในนั้นมันมีทั้งแก ทั้งขม เลยไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นพ่อเด็ก แล้วทำไมไม่พาเด็กไปตรวจดีเอ็นเอละ ถ้ารู้ว่าเป็นลูกใครจะได้ทำเอกสารแล้วทำเรื่องเลี้ยงดูให้มันเป็นขั้นตอน  "

" ใช่  เค้าอาจจะไม่ใช่ลูกของภาพก็ได้นะ  พาไปตรวจดีเอ็นเอซะสิ ถ้าเค้าเป็นลูกของขมก็ให้ทางฝั่งนั้นเค้าดูแล แต่ถ้าเป็นลูกภาพ เราก็จะได้จัดการดูแลต่อ "  แม่เสริมผมก็นิ่ง

“ ภาพไม่อยากตรวจ "

“ ไม่อยากตรวจ ? หมายความว่าไงที่ไม่อยากจะตรวจ แกจะรับมันเป็นลูกทั้งๆที่ไม่รู้ว่าใช่ลูกแกจริงๆรึเปล่าไม่ได้นะ แล้วเมื่อกี้แกจะมาบอกฉันทำไมว่ามันเป็นลูกแก ถ้าแกยังไม่ตรวจดีเอ็นเอ " พ่อเริ่มเสียงดังขึ้นมาอีก " ทำไม ทำไมไม่อยากตรวจ แกบอกฉัน ภาพ ทำไมแกไม่อยากจะตรวจ แกจะกลัวอะไรอีก ถ้ามันเป็นลูกแก แกไม่ต้องกลัวฉันจะรับผิดชอบเอง เต็มที่ด้วย เพราะลูกแก ก็หลานฉัน ไปตรวจสิ ตรวจเลย "

“ แต่ภาพไม่อยากตรวจ " ผมยังย้ำคำเดิม คราวนี้พ่อที่เริ่มหงุดหงิดก็คว้าคอเสื้อผมให้เข้ามาใกล้

“ ไปตรวจ! ทำไมแกไม่อยากจะตรวจวะ บอกสิทำไม ห๊ะ!  ”

“ ก็เพราะว่ากลัวว่ามันจะไม่ใช่ลูกภาพน่ะสิเลยไม่อยากจะตรวจน่ะ!!” ตะโกนบอกเค้าไปทั้งสองคนก็นิ่ง ผมผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ " ถ้ามันเป็นลูกภาพ ภาพรู้ว่าป๊ากับม๊าก็คงไม่ใจร้ายกับหลานหรอก แต่ที่ไม่อยากจะตรวจตอนนี้เพราะกลัวว่ามันจะเป็นลูกของขมตังหาก ขมมันไม่ได้รวยเหมือนเรา แม่มันเองถ้ารู้ว่าตัวเองมีหลาน ครอบครัวนั้นก็ต้องลำบากมากขึ้นไปอีก "

“ แต่บ้านขมเค้าก็ไม่ได้จนนะภาพ " แม่บอก " แม่ของขมน่ะเค้าทำงานเก่ง เงินเดือนเค้าก็สูง เค้าเลี้ยงได้แน่นอน เราจะไปคิดแทนคนอื่นทำไม เอาเชือกมาผูกคอตัวเองมันไม่สนุกนะ ไปตรวจดีเอ็นเอเถอะ จะเสียสละเป็นพ่อเด็กทำไม อนาคตเรายังได้เจอคนอีกมากนะได้เจอสาวสวยๆ คนที่มีฐานะ ทำไมถึงมาตัดอนาคตตัวเองแบบนี้ละ "

“ ภาพ..” ผมไม่รู้จะอธิบายแม่ยังไงให้เค้าฟังแล้วเค้าเข้าใจแบบที่ควรเข้าใจ " คือขมมันรักแม่มันมาก แล้วก็คงไม่อยากจะทำให้แม่มันเสียใจ ถ้าเด็กคนนั้นเป็นลูกมัน คนอย่างมันคงต้องออกจากมหาลัยแล้วไปทำงานเลี้ยงลูกแน่ๆ แล้วภาพก็ไม่อยากจะให้มันเป็นแบบนั้น ไม่อยากจะให้มันเครียด แล้วก็ไม่อยากจะให้มันเสียใจ ภาพไม่อยากจะเห็นขมร้องไห้แล้วมีชีวิตที่ลำบากแบบนั้น "

“ ภาพ นี่แก...” พ่อเว้นเสียงตอนที่ผมหันหน้าไปหาเค้า พ่อถอดหายใจออกมา แม่ที่จับคอเสื้อผมนั้นผ่อนลงอีกครั้ง

“ ภาพก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ แต่นี่แหละคือความรู้สึกทั้งหมดที่ไม่อยากจะไปตรวจดีเอ็นเอ มันอาจจะฟังแล้ว เอาแต่ใจ ดูเป็นเด็ก ไม่ค่อยมีเหตุผล แค่เพราะไม่อยากให้เพื่อนลำบาก ตัวเองถึงขั้นเอาเชือกมาผูกคอแบบนี้ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม  ช่วงนี้เหมือนตัวเองจะไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ผมน่ะ มีความสุขกับเรื่องแปลกๆ อยู่ตลอดเลย " จากที่ไม่เคยรู้สึกอะไรเวลาที่ได้ใกล้ไอ้ขม แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังรู้สึกและรู้สึกมากขึ้นทุกที " ขอโทษนะครับที่ภาพทำให้ป๊ากับม๊าเสียใจเพิ่มขึ้นอีกเรื่องนึงแล้ว "

   พ่อกับแม่ผมหันมองหน้ากันเค้าที่ผ่อนลมหายใจออกมา ไม่มีคำด่าอะไรออกมาอย่างที่ผมเคยคิดไว้ อย่างพวกคำพูดที่พูดว่า  ให้เลิกซะ เลิกรู้สึกอย่างงั้นกับขม หรือว่า ออกมาให้ห่างจากขมซะ มันมีแต่ความเงียบก่อนที่แม่ผมจะก้มลงมากอดผม
 
“ ขอโทษทำไม ถ้าเป็นเรื่องนี้แม่ว่าเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย " เธอบอก พ่อเองก็ผ่อนลมหายใจออกมาเหมือนกัน มือหนานั้นเอื้อมมือมาจับไหล่ผม

“ ใช่ ถ้าเรื่องนี้แกไม่ได้ทำอะไรผิด "

“ แต่ม๊าก็มีอะไรอยากจะเตือนภาพหน่อยนะ " เธอยิ้มก่อนจะบอก " ภาพต้องมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองมากกว่านี้นะ ถ้าชอบเค้าก็คือชอบ ไม่ต้องกลัวที่จะรู้สึกอะไรทั้งนั้น อย่ากลัวว่าใครคนอื่นจะคิดกับเรายังไง เพราะเราคือเรา ถ้าคิดว่าใช่ก็ให้ทำตามนั้น ม๊ากับป๊าเข้าใจภาพอยู่แล้ว และที่สำคัญ ใช้ชีวิตให้ดี ไม่ว่าภาพจะเป็นยังไง ภาพคือลูกม๊ากับป๊า แล้วนั่นจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง "

“ ขอบคุณครับ "

“ เรื่องนั้นอะมันไม่สำคัญ เอาเรื่องเด็กดีกว่า แล้วตกลงว่าแกจะเอายังไง แกจะไม่ตรวจดีเอ็นเอเพื่อปกป้องแฟนแกเอาไว้ถูกมั้ย"

“ เดี๋ยวๆ ไม่ใช่แฟนเว้ย " ผมเถียงออกไปรู้สึกร้อนหน้ายังไงแปลกๆ พอคิดถึงหน้ามันแล้วรู้สึกว่ามันเป็นแฟน แล้วได้โอบกอดกัน
“ แล้วจะให้พูดยังไง แกเสียสละเพื่อเค้ายังกับพระเอกน้ำเน่าขนาดนั้น ยังจะบอกว่าเพื่อนเหรอ "

“ ใช่ ก็ยังเป็นแค่เพื่อนอะ ไม่ได้อยากบอกความรู้สึกอะไรกับมันทั้งนั้นอะ เพราะงั้นก็ยังเป็นแค่นั้นอยู่ " พูดโวยวายใส่พ่อแม่ที่ล้อเป้นเรื่องตลก ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา " อีกอย่างผมอยากแน่ใจกว่านี้ ว่ารู้สึกแบบนั้นจริงๆกับมัน แล้วค่อยบอก "

“ อ่อนว่ะ " ป๊าบอกก่อนที่เค้าจะยกยิ้ม " ลองหาคนใหม่มั้ย..”

“ ไม่อะ ถ้าไม่ใช่มันผมคิดว่าเป็นผู้หญิงน่าจะดีกว่า " ส่ายหน้าไปมา " เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ เอาเรื่องเด็กก่อน "

“ โอเค สรุปว่าแกจะไม่ตรวจดีเอ็นเอแล้วไงต่อ คือเอาตรงๆ ฉันก็ไม่อยากจะเลี้ยงเด็กที่อาจจะไม่ใช่หลานฉันหรอกนะ "

“ ผมอยากจะขอเวลาป๊าสักหน่อย ช่วยหาโรงเรียนให้กาลิคหน่อยได้มั้ย ให้กาลิคได้ไปโรงเรียน ผมกับขมไม่อยากจะให้มันอยู่บ้านคนเดียว แล้วถ้าครบสามเดือนนี้แม่เค้ายังไม่มารับ ผมจะพากาลิคไปตรวจดีเอ็นเอตามที่ป๊ากับม๊าต้องการ "

“ จะเอาอย่างงั้น "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ

“ สัญญาแล้วนะ ว่าถ้าแม่ของเด็กไม่มารับ หลังจากสามเดือนนี้แกจะไปตรวจ "

“ สัญญาครับ "

“ แล้วแกรู้ใช่มั้ย สำหรับฉัน สัญญาคือสัญญา " ผมพยักหน้ารับ พ่อก็ผ่อนลมหายใจออกมา " ฉันให้เวลาแกสามเดือนนะ ทำตามสัญญาด้วยละ "

" ครับ "

" ฉันจะหาโรงเรียนให้ก็แล้วกัน ว่าแต่กี่ขวบแล้วละ แล้วชื่ออะไร ผู้ชายหรือว่าผู้หญิง "

“ เป็นเด็กผู้ชาย ชื่อกาลิค อายุ สี่ขวบ "

“ แล้วพามาด้วยมั้ยละ หรือว่าอยู่กับขมที่คอนโด "

“ พามาด้วยครับ ตอนนี้อยู่บ้านขม พอดีเพิ่งออกจากโรงพยาบาลน่ะ ไม่สบาย ท้องเสีย "

“ งั้นก็พามาหาป๊ากับม๊าสิ มาให้เห็นหน้าหน่อย ป๊ากับม๊าน่ะ เห็นหน้าก็บอกได้แล้วว่าลูกใคร "  ม๊าบอก ผมก็ยิ้มแห้งๆก่อนจะหยิบมือถือจากในกระเป๋ากางเกงออกมาโทรออกหาขมที่อยู่อีกบ้าน ปลายสายที่รอไม่นานก็รับเพราะเหมือนอีกคนจะรอให้ผมโทรอยู่แล้ว

“ ภาพเป็นยังไงบ้างวะ "

“ ทุกอย่างโอเค " ผมบอกมัน

“ เหรอ.. โล่งอกไปที แล้วป๊ากับม๊ามึงว่าไงบ้าง "

“ เค้าบอกให้เอากาลิคมาให้เค้าดูน่ะ มึงพามาหน่อยสิ "

“ ได้เหรอ " มันถามย้ำ

“ ได้สิ กูเคลียร์แล้วพาเข้ามาเลย "

“ อื้ม โอเค " สายโทรศัพท์ที่วางไปผมก็หันไปบอกพ่อกับแม่

“ ป๊ากับม๊า ไม่ต้องพูดเรื่องที่ภาพบอกว่า ไม่อยากจะตรวจดีเอ็นเอเพราะว่าไม่อยากจะให้ไอ้ขมลำบากนะ ให้มันรู้แค่ว่าป๊ากับม๊ารู้ว่ากาลิคเป็นลูกภาพก็พอ "

“ ความรักของวัยรุ่น เข้าใจยากจัง " แม่พูดออกมาเสียงเบาๆ ผมก็ได้แต่นิ่งทำเป็นไม่ได้ยินอะไร

   ประตูห้องนั่งเล่นจะถูกเปิดออกเรียกความสนใจของคนในห้องให้หันไปมองดู ขมเดินเข้ามาให้ห้องพร้อมกับเจ้าตัวเล็กที่เดินตามมาแต่ก็เกาะขามันแจแบบไม่ออกห่าง ทั้งพ่อทั้งแม่หลุดยิ้มออกมาตอนที่เห็นหน้ากาลิค ใบหน้าน่ารักที่ซ่อนอยู่ข้างหลังไอ้ขม

“ ป๊ากับม๊า สวัสดีครับ " ขมยกมือขึ้นไหว้ท่าน ก่อนจะก้มลงบอกอีกคน " หัวหอมไหว้ป๊ากับม๊าของอาภาพสิ "

“ อาขม อาขม อุ้มกาลิค อุ้มกาลิคหน่อย " มือเล็กๆเขย่าชายเสื้ออีกคนที่ก็ย่อตัวลงไปจะคุยด้วยแต่ก็ถูกอีกคนกอดไว้ไม่ยอมปล่อย

“ นี่ หัวหอม หันไปคุยกับอาภาพก่อน หัวหอม..”

“ ท่าทางจะเขินนะ " แม่ผมบอก " แล้วทำไมขมเรียกว่า หัวหอมละ ตกลง ชื่อ กาลิค หรือ หัวหอม "

“ ชื่อกาลิคครับม๊า " ไอ้ขมตอบ " แต่ขมเรียกว่า หัวหอมเพราะว่ามันน่ารักดี "

“ ไม่บอกไปละ ว่าจริงๆ คิดว่า กาลิคแปลว่าหัวหอม เลยเรียกว่าหัวหอมแก้เสียหน้า " ผมบอกอีกคนก็หันมาแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะหันหน้าไปยิ้มให้พ่อกับแม่ผม

“ เพราะมันน่ารักเว้ย " ไอ้ขมเถียงกลับ

“ เอาน่าๆ ไม่ต้องเถียงกันทั้งคู่เลย ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยเปลี่ยน " แม่ปรามเราก่อนจะเอียงหน้ายิ้มให้เจ้าตัวเล็ก " ไหนหันมาแนะนำตัวหน่อย เด็กผู้ชายคนนั้นน่ะ ชื่ออะไรเอ่ย "

“ กอดขมแน่นเลย สงสัยจะอาย " พ่อว่าเพราะดูท่าว่าเจ้าของมือเล็กๆนั่นจะไม่ยอมปล่อยแล้วหันหน้ามามองท่านง่ายๆ จนไอ้ขมต้องหันไปพูดกล่อมแล้วดึงให้หันมาเผชิญหน้า

“ หัวหอมหันมาแนะนำตัวก่อนครับ หนูชื่ออะไร ไหนบอกคุณพ่อคุณแม่ของอาภาพสิ "

“ เรียกว่าปู่กับย่าก็ได้ " พ่อบอกก่อนจะยิ้มให้กาลิคที่ยังมองด้วยสายตาไม่ค่อยชิน แววตากลมๆมีความอายอยู่ในนั้นหน่อยๆ มันหันมองขมที่ก็พยักหน้าให้กำลังใจมัน

“ เอาเลย สวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ " มันยกมือไหว้ก่อนจะก้มหน้าลง   " ชื่อ.. ชื่อน้องกาลิค อายุสี่ขวบ " นิ้วเล็กๆถูกยื่นออกมาเพื่อจะบอกว่าตัวเองสี่ขวบแต่ทว่ากลับยื่นออกไปแค่สามนิ้ว

“ นี่ครับ สี่ขวบอีกนิ้วนึงนะ แบบนี้สี่ขวบ "

“ สี่ชวบครับ " มันบอกเสียงเขินๆก่อนจะนั่งลงบนตักไอ้ขมอีกครั้ง 

“ น่ารักจัง ไหนขอดูหน้าชัดๆหน่อย มาให้ย่ากับปู่เค้าอุ้มหน่อยสิ " แม่กางแขนออก กาลิคก็หันมองขมเหมือนจะถามว่าตัวมันจะเดินมาให้แม่ผมกอดดีมั้ย

“ ไปสิ ไปให้คุณปู่กับย่าเค้ากอดนะ " ขมบอกมัน กาลิคก็ลุกขึ้นเดินไปหาแม่ผมที่ก็กอดมันไว้ก่อนจะลูบหัวมองด้วยความเอ็นดู

“ หน้าตาน่ารักจัง ตาก็กล๊มกลม เด็กน้อย "

“ รู้เลยว่าลูกใคร " พ่อบอก แม่ก็หัวเราะ

“ ใช่ รู้เลย " ประโยคที่ทำให้ขมหันมามองผมที่ก็ยักไหล่พลางส่ายหน้าให้มัน " แล้วกาลิคอยู่กับอาภาพ อาขมมีความสุขมั้ย "

“ ก็มี.. มีความสุขครับ อาขมใจดี อาภาพตามใจ " พ่อกับแม่เหล่ผม

“ อย่าตามใจเด็กกันมาจนเสียเด็กละ " แม่บอก

“ ไม่หรอกครับ " ผมบอก " อย่างน้อยไอ้ขมก็ไม่ค่อยตามใจหรอก "

“ อาขมไม่ค่อยตามใจเหรอเราน่ะ " แม่ถามกาลิคก็พยักหน้ารับ

“ แต่ว่าแต่อาขมก็ใจดีนะครับ "

“ ท่าทางจะติดขมมากนะเนี้ย "

“ ไม่ห่างกันเลยแหละ " ผมบอกแม่ก็หัวเราะ

“ ก็เรามันเหมือนป๊า นิสัยห่ามๆก็เท่านั้น บทจะตามใจก็เป็นพักๆ ไม่อ่อนหวานกับเค้า เด็กที่ไหนจะมาติดละ "  เธอถอนหายใจออกมาก่อนจะลูบหัวอีกคน " เอาแบบนี้มั้ย กาลิคมาอยู่กับย่า ย่าจะเลี้ยงกาลิคเอง อยู่กับสองคนนี้ได้กินของดีๆบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ "

“ ไม่ครับ กาลิคอยู่กับย่าไม่ได้ กาลิคต้องอยู่กับอาขมกับอาภาพ เพราะว่าถ้ากาลิคไม่อยู่ตอนกลางคืนจะไม่มีใครให้กอดอาขม แล้วก็จะไม่มีใครหอมแก้มอาภาพด้วย " เสียงอธิบายที่เรียกรอยยิ้มเราทุกคนให้ยิ้มออกมา แม่ที่กอดมันไว้แน่นขนาดพ่อที่นิ่งๆยังเอื้อมมือมาลูบหัวมันด้วยความเอ็นดู

“ แต่กาลิคน่ารัก ย่าต้องมีความสุขมากแน่ๆ ถ้ากาลิคมาอยู่กับย่า "

“ งั้นกาลิค กาลิคจะมาหานะครับ "

“ สัญญานะ " แม่ผมบอก เจ้าตัวเล็กก็หันมามองผม

“ อาภาพ อาภาพจะให้กาลิคสัญญามั้ย "

“ แล้วถามอาภาพทำไมละ " พ่อผมถาม

“ ก็ อาภาพเป็นคนขับรถ ถ้าอาภาพพามากาลิคก็จะได้มา แต่ถ้าอาภาพไม่พามากาลิคก็จะไม่ได้มา " มันว่าพ่อผมก็พยักหน้าเข้าใจ

“ เข้าใจคิด ฉลาด "

“ สัญญาครับ ไว้จะพามาหาปู่กับย่านะ "

“ งั้นกาลิคสัญญาครับ เกี่ยวก้อยกันนะ " มันยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวนิ้วของพ่อผมส่วนอีกข้างก็เกี่ยวนิ้วแม่ผมไว้ " สัญญา สัญญา "

“ น่าเอ็นดูลูกเอ้ย " แม่ผมก้มลงกอดมันอีกครั้งก่อนจะหอมแก้ม " นี่ๆ ไหนๆก็มาแล้ว เย็นนี้อยู่กินข้าวที่บ้านกันก่อนสิ ไม่ก็นอนที่นี่ไปเลย พรุ่งนี้มีเรียนรึเปล่า "

“ มีครับ " ผมกับขมบอกพร้อมกัน

“ แต่ก็คิดว่าจะนอนที่นี่นั่นแหละครับ เพราะพรุ่งนี้ยังไงก็ต้องฝากป๊ากับม๊าเลี้ยงกาลิคก่อน จนกว่าจะหาโรงเรียนได้ เพราะผมสองคนไม่อยากจะทิ้งแกไว้ที่คอนโดคนเดียวแล้ว กลัวเกิดอะไรขึ้นเหมือนเมื่อวานอีก "

“ ดีจังเลย งั้นวันนี้นะย่าจะสั่งให้แม่ครัวทำอาหารอร่อยๆเลย ต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์เยอะๆ แล้วก็เหมาะกับกาลิค ดีมั้ย กาลิคว่าดีรึเปล่า "

“ ดีครับ กาลิคจะกินข้าวเยอะๆเลย "

" งั้นเดี๋ยวจะตักผักให้กินเยอะๆเลย " ขมบอกมันก็ยู่หน้าใส่

" งั้นกาลิค กาลิคจะตักให้อาภาพทั้งหมดเลย แล้วกาลิคก็จะกินแต่น้องหมูกลมๆ " คำพูดน่ารักที่ชวนให้เราหัวเราะออกมา ผมรู้สึกว่าตัวเองตอนนี้เหมือนปลดความรู้สึกหนักใจออกไปครึ่งนึง มันไม่ได้แย่หรอกที่พูดความจริงออกไป ตรงกันข้ามมันกลับดีมากเสียอีกที่ได้บอก แต่มันก็ยังมีบางเรื่องที่ผมไม่กล้าจะพูดออกไป เรื่องบางอย่างที่ละเอียดอ่อนเกินกว่าจะพูดออกไปตรงๆได้ เรื่องความรู้สึกลึกๆที่อยู่ในใจของผมตอนนี้ ไม่รู้ว่าถ้าพูดออกไป ผลตอบรับจากคนที่ได้รับฟังอย่างขม จะดีเหมือนอย่างเรื่องนี้รึเปล่า

.......................................

ภาพที่ปกป้องทั้งขม และ กาลิคนั้น... #กอดที่เค้าด้วยความประทับใจ
ตอนแรก ว่าจะเขียนให้ดราม่าแบบ พ่อแม่ภาพรับไม่ได้ซึ่งสิ่งใด
รับกาลิคไม่ได้ รับที่ภาพรู้สึกชอบขมไม่ได้ โดยตบ ไล่ออกจากบ้าน ไม่ให้เงินใช้
ทั้งสองคนตกที่นั่งลำบากแบบสุดๆ ไปทำงานข้างนอกเลี้ยงดูเด็กตัวเล็กๆ ( คิดได้เว่อร์มาก )
จนพอได้ลองเขียนจริงๆ ไอ้สิ่งที่คิดมาทั้งหมด ก็ย่อลงเหลือแค่นี้ เรารู้สึกว่าว่า เฮ้ย พ่อแม่ที่มันรับได้มันก็มี ทำไมต้องเขียนด้านที่โหดร้ายอย่างงั้น นี่คือนิยายใสๆ ( นางงามก็เข้าสิงดิฉันในทันที ) และพอเขียนจบย้อนกลับขึ้นไปอ่าน ก็รู้สึก อินจัง
คือเศร้าตอนที่พ่อภาพ กับ ภาพพูดกัน ( หวังว่าคนอ่านจะชอบเหมือนกันนะคะ )
คราวนี้ก็ไขปัญหาที่ว่า " ทำไมไม่ตรวจ DNA  / ไม่พาไปฝากเลี้ยง  " ได้สักทีเนอะ อดทนรอไม่ตอบคนอ่านมาอย่างยาวนานเพื่อตอนนี้เลยนะคะ ทุกท่านนนนนนนนนนนน

ยังไง ฝาก แท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่าาา 
 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-04-2017 20:50:28
พอคุณย่าพูดว่าตากลมป็อก... รู้เลยว่าเป็นลูกใครนี่ ทำไมเรานึกถึงขมขึ้นมาหนอ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 02-04-2017 21:02:56
ชอบเวลาภาพคุยกับพ่อแม่อ่ะ รู้สึกกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 02-04-2017 21:04:59
ดีใจแทนภาพกับขม กาลิคมีคนดูแลแล้ว  น่ารักแบบนี้ปู่ย่าหลงแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 02-04-2017 21:13:52
ลูกใครน่อ ทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 02-04-2017 21:14:07
ภาพชัดเจนมาก คือรักขมมากอะ

หวังว่ากาลิคจะเป็นกามเทพน้อย ๆ ให้ทั้งคู่นะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 02-04-2017 21:15:59
เหตุผลดีค่ะ ฟังขึ้น  o13
น้องหัวหอมก็น่ารักตลอด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-04-2017 21:22:46
ปู่กับย่าต้องหลงหัวหอมมากแน่ๆๆถ้าพาหัวหอมมาหาบ่อยๆ


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-04-2017 21:23:42
><
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 02-04-2017 21:28:39
:katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Moonuglygirl ที่ 02-04-2017 21:30:25
อ๊ากกก!!! ความหัวหอมนี้อ่าา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 02-04-2017 21:32:24
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-04-2017 21:54:24
ทำไมปู่ย่าดูออก ภาพตากลมไหม
แต่ก็แอบคิดว่าลูกขมเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 02-04-2017 21:56:52
หัวหอมน่ารักกก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 02-04-2017 22:08:57
คิดว่าคุณพ่อคุณแม่ของภาพ คงเห็นภาพสองคนตั้งแต่เด็กๆแล้วแหละ

ว่าเป็นเพื่อนรักกันมาขนาดนี้  :katai2-1:

กาลิคอยู่กับคุณปู่คุณย่าตอนพ่อๆไปเรียนก่อนน้าาาา เป็นกำลังใจให้คนแก่ก่อน อิอิ

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 02-04-2017 22:21:24
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 02-04-2017 22:51:00
รู้เลยว่าลูกใคร นี่ลูกใครหรือคะป๊าม๊า (นี่ก็เนียนไปอีก)

และความปกป้องของภาพนั้น....อื้อหืออออ

ปล. รักในความเข้าใจลูกของป๊าม๊าน้องภาพมากๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-04-2017 22:56:50
ภาพ สารภาพ เรื่องกาลิค กับพ่อแม่ไปแล้ว
รวมทั้งเรื่องที่ชอบขมด้วย
พ่อแม่ภาพ รับได้ และดูไม่แปลกใจ
แต่ดูแล้วเหมือนพ่อแม่ภาพ คิดว่ากาลิคเป็นลูกขม นะ
จริงๆน่าสงสัย ว่ากาลิค ลูกใครกันแน่
เหมือนจะเป็นภาพ กับขมไม่น่าใช่
หรือจริงๆกาลิคไม่ใช่ลูกของทั้งสองคน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 03-04-2017 00:11:19
พี่ภาพแมนมากกจ้า สรุปแล้วว ลูกครายยย?
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 03-04-2017 00:28:13
พ่อแม่ของภาพน่ารักจังเลย
โชคดีที่สุดที่มีพ่อแม่แบบนี้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 03-04-2017 00:51:33
แฮปปี้ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 03-04-2017 01:11:00
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-04-2017 01:17:55
 :L1: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 03-04-2017 02:09:27
พ่อกับแม่ใจกีมากเลย นึกว่าจะดราม่าหนักกว่านี้อีก
กาลิคมีคุณปู่คุณย่าแล้วนะ ไม่เหงาแล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 03-04-2017 02:45:39
ภาพเริ่มทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวแล้ว สงสัยจะลูกภาพแน่ๆ เลยอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 03-04-2017 06:40:15
หัวหอมน่ารักขนาดนี้จะไม่รักไม่ไหลงได้ยังไงละเน๊อะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-04-2017 06:50:01
หัวหอมน่ารัก ใครๆก็หลงได้ไม่ยาก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: janny_j ที่ 03-04-2017 08:15:31
น่ารักมากๆ เอาจิงๆ พ่อแม่ ต่อให้ดุแค่ไหน ถ้าลูกกล้าดินมาปรึกษา ไม่มีพ่อแม่คนไหน ไม่ช่วยหรอกค่ะ ภาพทำดีแล้ว ชอบพ่อแม่ภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 03-04-2017 08:41:52
น่ารักมากๆ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-04-2017 08:46:42
เฮ้อ โล่งอก...
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 03-04-2017 08:56:05
ทำไมจากตอนนี้คิดว่าเป็นลูกขมอ่ะ แต่ก็ดีใจที่พ่อกับแม่ภาพรับได้

โล่งไปทีไม่มีดราม่า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-04-2017 09:41:05
ดีใจที่เรื่องออกมาไม่มีดราม่า ต้องบอกว่า พ่อแม่ของภาพเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพมาก ไม่ใช้อารมณ์จนไม่ฟังเรื่องราวอะไรเลย แบบนี้หัวหอมเราก็ปลอดภัยระดับหนึ่งแล้ว ไม่ต้องอยู่คนเดียวเวลาที่พ่อกับแม่ไปเรียน 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 03-04-2017 09:48:34
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-04-2017 11:57:37
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 03-04-2017 12:40:49
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 03-04-2017 23:12:15
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 03-04-2017 23:55:55
ปู่ย่าต้องหลงความน่ารักของกาลิคแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-04-2017 00:43:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 04-04-2017 05:53:54
รักหัวหอม55555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 04-04-2017 10:35:24
รอ  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 04-04-2017 12:15:31
หัวหอมโคตรน่ารักเลยค่ะะะ อยู่ใกล้ๆ จะจับมาฟัด  :katai1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 04-04-2017 16:21:35
โอ๊ย โล่งเลย :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 04-04-2017 22:05:42
พ่อกับแม่ดูออกปานนั้นว่าลูกใคร ออกแนวรักแบบนี้ รู้เลยว่าลูกใคร

เด็กน้อยน่าเอ็นดู กาลิคช่างอ้อน ดีนะ รู้ว่าใช้โทรศัพท์ยังไง ไม่ทนเจ็บไป

ขมก็ทุ่มเทมากเลย ก็เข้าใจเนาะ คนทั้งคน แถมเกิดเรื่องสองรอบแล้ว
ภาพแน่มากค่ะ ตัดสินใจดี ในที่สุดก็ผ่านไปด้วยดี
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 07-04-2017 02:47:47
 :mew6:เข้ามารอ :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 07-04-2017 05:34:32
น่าร๊าก~~~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 15 - 2.4.60} #หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: nung ที่ 07-04-2017 07:11:25
คิดถึงหัวหม  :mew2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 07-04-2017 20:30:53

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 16

   อาหารหน้าตาน่าทานถูกวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะในมื้อเย็นที่มีประโยชน์มากกว่าทุกวัน ไอ้หัวหอมที่ดูตื่นเต้นกับอาหารหยิบนู้นกินนี่แถมยังกินได้เยอะยิ่งกว่ามื้อไหนๆ ท่าทางที่มีความสุขของมันชวนให้ผมรู้สึกว่า อาหารสำหรับเด็กไม่ใช่แค่กินๆไปให้อิ่มเท่านั้น  แต่มันต้องทั้งอร่อย หลากหลาย แล้วก็มีประโยชน์ครบถ้วนถึงจะดีที่สุด

“ อร่อยจังเลย กาลิคอิ่มแล้วครับคุณปู่คุณย่า " เสียงใสๆที่บอกพ่อกับแม่ของไอ้ภาพ ลืมเจ้าเด็กที่ขี้อายเมื่อกี้ไปได้เลย เพราะเพียงแค่ได้กินข้าวนั่งคุยกันสักพักก็กลายเป็นว่า มันจัดการอ้อนพ่อแม่ไอ้ภาพจนหลงรักมันไปหมด

“ กินอิ่มแล้วเหรอ " แม่ลูบหัวมันเบาๆอีกคนก็พยักหน้ารับ " งั้นกินไอติมมั้ย ที่นี่น่ะ มีไอติมด้วยนะ "

“ กินครับ กิน คุณย่ากาลิคจะกินไอติม "

“ ได้เลย " เธอบอกก่อนจะหันไปหาแม่บ้านที่ยืนอยู่ " น้าแก้ว ไปเอาไอติมให้น้องกาลิคหน่อยนะคะ "

“ ได้ค่ะ " พี่เลี้ยงไอ้ภาพรับคำก่อนจะเดินเข้าไปในครัวแล้วกลับออกมาพร้อมกับไอศกรีมช็อคโกเล็ตถ้วยใหญ่เธอวางตรงหน้ากาลิค
“ ขอบคุณครับ น้าแก้ว " มือเล็กยกมือไหว้คนที่เอามาให้ ก่อนจะเริ่มกินไอศกรีมตรงหน้า

“ งั้นเดี๋ยวผมต้องขอตัวกลับก่อนแล้วนะครับ วันนี้ว่าจะกลับไปนอนที่บ้านสักหน่อย " ผมเอ่ยบอกทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารก็หันมามองหน้า

“ แม่มึงอยู่บ้านเหรอ "
 
“ ไม่หรอก ไปต่างจังหวัดน่ะ แต่ว่าขมไม่ได้กลับบ้านนานแล้วก็เลยอยากจะไปนอนที่บ้านน่ะครับ " หันไปยิ้มเขินๆให้พ่อกับแม่ กาลิคที่นั่งกินไอศกรีมอยู่ข้างๆก็พูดขึ้น

“ ให้กาลิคกินไอติมเสร็จก่อนนะอาขม "

“ ได้สิ " ลูบหัวมันเบาๆ พ่อก็ถาม

“ แล้วทำไมกาลิคไม่นอนที่นี่กับอาภาพละ "

“ เพราะว่า กาลิคต้องนอนกับอาขม ไม่งั้นอาขมจะเหงาครับ "

“ นอนกับอาภาพก็ได้นี่ " แม่ที่บอกแบบนั้นแต่เจ้าตัวเล็กก็ส่ายหน้าไปมาทันที ก็แน่นอนละ มันไม่เคยนอนกับไอ้ภาพเลยสักครั้งอยู่กับไอ้ภาพมากสุดก็ตอนครั้งที่ออกไปกินเคเอฟซี แป็ปซี่ แล้วกลับมาด้วยขนมถุงใหญ่คราวนั้นแหละ

“ ไม่ได้ครับ "

“ มันไม่เคยนอนกับภาพหรอกม๊า กาลิคอยู่กับไอ้ขมตลอด มันติดไอ้ขมจะตายไป " ภาพบอก ก่อนจะก้มลงกินข้าวไปเรื่อยเปื่อยด้วยรสชาติที่ถูกปาก

“ อาภาพท่าทางงอนๆนะ " ผมหันบอกหัวหอมที่ก็เงยหน้าขึ้นถามงงๆ

“ อาภาพงอนกาลิคเหรออาขม "

" ก็หัวหอมไม่ยอมนอนกับอาภาพไง นอนแต่กลับอาขม อาภาพก็เลยงอนๆ ดูสิ ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียวเลย " ภาพเหลือบตาขึ้นมองผม มันส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกไร้สาระเพราะมันเองไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างงั้น

“ อาภาพพพ " เสียงติดอ้อนที่เอ่ยเรียกคนตรงหน้าที่ยังกินไม่หยุดปาก

“ นี่ภาพ ลูกเรียกก็หยุดกินแล้วมองก่อนสิ " แม่ตีหลังมันที่ยังซดน้ำซุปในถ้วยของตัวเองไม่สนใจอะไร มันวางช้อนลงอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะเอ่ยถามคนที่เรียกมัน

“ ทำไมครับ ทำไมละกาลิคลูกกกกกกกกก "

“ อาภาพอย่างอนกาลิคนะ กาลิคต้องนอนกับอาขม ไม่งั้นอาขมจะเหงา "

“ ไม่เหงาหรอก ไปนอนกับอาภาพบ้างก็ได้ " ผมพูดกับอีกคนที่ก็ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเอนตัวมากอดแขนผมไว้แน่น

“ ไม่เอา กาลิคจะนอนกับอาขม "

“ เห็นมั้ย มันไม่นอนกับภาพหรอก กาลิคมันติดไอ้ขมจะตายไป " พูดแบบนั้นก่อนจะยื่นจานปล่าวให้กับแม่บ้าน ขอข้าวเพิ่มอีกจาน
“ แต่แม่อยากจะให้กาลิคนอนที่นี่นะ  ขมนอนที่นี่สิลูก แม่ไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ "

“ แต่ว่า "

“ นะๆ คืนนี้ม๊าอยากจะนั่งดูการ์ตูนกับกาลิคก่อนนอน ใช่มั้ยป๊า " แม่หันไปถามพ่อที่ก็พยักหน้ารับด้วยความสนใจ

“ ขมนอนที่นี่สิ นอนห้องภาพน่ะ ป๊าว่าไอ้ภาพมันคงชอบ "

“ แค่กๆ " เจ้าของห้องสำลักแกงจืดที่กำลังกินอยู่ทันที มันหันมองพ่อตัวเองด้วยสายตานิ่งๆแต่อีกฝ่ายกลับมีท่าทีไม่สนใจอะไรนัก ผมเหลือบมองมันที่ก็หันมาสบตาผมเพียงครู่แล้วก้มลงไปกินข้าวของตัวเองต่อ

“ นะขม นอนที่นี่เถอะ ม๊าอยากจะอยู่เล่นกาลิคสักหน่อยนะ " คำพูดของผู้ใหญ่ที่ชวนให้ผมไม่กล้าขัด ตอนนั้นก็เลยจำใจต้องพยักหน้ารับไปอย่างช่วยไม่ได้

   มื้ออาหารเย็นที่อิ่มหนำจบลง ไอ้ภาพเดินลูบพุงขึ้นไปชั้นบนช้าๆเหมือนมันกำลังจุกที่กินเข้าไปเยอะเกินไป ก็แน่ละเล่นกินข้าวตั้งสามจานตบด้วยไอศกรีมอีกมันจะไม่อิ่มได้ไงวะ เปิดประตูเข้าไปในห้องที่กว้างขวางของมันจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่นอนที่นอนก็ตอนประถมห้า แล้วหลังจากนั้นก็ไม่นอนอีกเลย ต่อให้แม่ไปต่างจังหวัดก็นอนที่บ้านคนเดียวเหมือนเริ่มโต ก็เริ่มดูแลตัวเองได้แล้ว

“ อาภาพห้องอาภาพใหญ่จัง " มันวิ่งขึ้นไปที่เตียงกระโดดอยู่บนนั้นก่อนจะมองไปรอบๆ " อาภาพ อาภาพมีหุ่นยนต์ด้วยยย " มือที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบหุ่นยนต์ราคาหลายบาทที่ตั้งอยู่ที่ตู้โดนไอ้ภาพคว้าตัวไว้ก่อนจะล้มลงบนเตียงทันที

“ หยุดเลยไอ้ตัวแสบ อันนี้แตะต้องไม่ได้นะ " มันว่าผมก็ยกยิ้มก่อนจะมองเหล่าหุ่นยนต์แล้วก็ฟิกเกอร์ของสะสมราคาหลายบาทของมัน ที่มันหวงเอามากๆ

“ แตะต้องไม่ได้ " มันพูดตามก่อนจะเอียงหน้ามองอีกคน " ทำไม ทำไมแตะต้องไม่ได้ "

“ มันเป็นของรักของหวงของกูน่ะ " ภาพบอกเด็กน้อยก็ยิ่งงง

“ อธิบายให้มันดีๆ ก่อนที่ของราคาหลายหมื่นของมึงจะเหลือแค่ชื่อ " ผมเตือนอีกคนก็หน้าซีดลง

“ เชี้ย ไม่ได้นะ ขมมึงอธิบายให้หน่อย บอกมันอย่ามายุ่งกับของของกูเดี๋ยวมันพัง มันแพงนะมึง บางอันก็หาซื้อไม่ได้แล้วด้วย "

“ อาขม " หัวหอมเรียกผม เหมือนมันไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกคนพูดเท่าไหร่

“ เอามือไปจับไม่ได้นะ ดูได้อย่างเดียวแล้วก็ต้องดูไกลๆด้วย เพราะนี่น่ะเป็นของรักของหวงของอาภาพ "

“ ของรักของหวง คืออะไร "

“ อื้ม มึงมีของที่ไม่ว่าจะเป็นอาภาพ หรือว่าอาขม หรือว่าใครๆ มึงก็ให้ไม่ได้มั้ยละ "

“ น้องไง น้องหมีน่ะ " ภาพบอกอีกคนก็ส่ายหน้าไปมา

“ อาขมหนูให้อาภาพยืมกอดน้องหมีได้นะ " มันบอก ก่อนจะเอียงหน้าคิดพลางมองหน้าผม " อาขมไง หนูหวงอาขม หนูจะไม่ให้อาขมกับใครหรอก " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองเข้ามากอดแล้วหอมแก้มผมไว้

“ ไอ้เด็กขี้อ้อน " ผมก้มลงหอมแก้มมันกลับ ภาพก็ถาม

“ กับอาภาพก็ไม่ให้เหรอ "

“ ไม่ให้หรอก " มันส่ายหน้าไปมามือเล็กๆนั่นก็กอดผมไว้แน่น

“ ของพวกนั้นที่อาภาพไม่ให้ หัวหอมจับก็เพราะว่า มันเป็นของรักของหวงของอาภาพเหมือนกัน เหมือนที่หัวหอมหวงอาขมไง เหมือนกันเลย " ผมบอกมันก็พยักหน้ารับ " เราไม่อยากจะให้ใครจับมัน เพราะว่ากลัวว่ามันจะพัง หัวหอมยังเด็ก ยังไม่รู้ว่าของพวกนั้นมันแพง จับไม่ได้ เพราะงั้นถ้าโตขึ้นเมื่อไหร่ อาภาพก็ให้จับเองละ "

“ จริงเหรอ " มันเงยหน้าถามผม ผมก็พยักหน้ารับ ก่อนจะดึงมันมายืนบนพื้น

“ ยืนดูจากตรงนี้ก็พอ ห้ามล้ำเขตเข้าไปละ ถ้ามันพังแล้วละก็ อาภาพต้องเสียใจมากแน่ๆ เพราะงั้น หัวหอมก็อย่าทำให้อาภาพเสียใจนะ "

“ ครับ " หัวหอมพยักหน้ารับ

“ โอเค คราวนี้เราก็อาบน้ำกันได้แล้ว " จับมันถอดเสื้อถอดกางเกงเรียบร้อยไอ้ภาพก็เอื้อมมือไปสะกิดส่วนกลางของไอ้ตัวเล็กแซวๆ

" อุ้ยๆ นี่อะไร "

“ งื้ออ อาภาพมาจับน้องทำไม " มือเล็กๆเอื้อมปิดส่วนกลางของตัวเองก่อนจะทำหน้ายู่ใส่  " นี่น้องนะ น้องของกาลิค "

“ เหรอ นี่น้องเหรอ แล้วชื่ออะไรอะ "

“ ชื่อน้องหนอน "

“ น้องหนอนเหรอ น้องหนอนตัวเล็กอะ "

“ น้องหนอนตัวเล็ก เพราะกาลิคยังตัวเล็กอยู่ " มันเอาทาบอกตัวเองไอ้ภาพก็คว้ามันมากอดด้วยความน่ารัก

“ เล่นกันพอยัง ไปอาบน้ำได้แล้วไป โป๊ๆ น้องหนอนจะหนาวนะหัวหอม ไปอาบน้ำกัน " ผมจูงมืออีกคนเข้าไปในห้องน้ำ จัดการอาบน้ำให้เรียบร้อยไอ้ภาพก็เดินหยิบผ้าขนหนูมาให้แบบรู้งาน ปะแป้งให้มันจนหอมตอนที่เดินออกมาผมเองก็ลืมไปเลยว่า หัวหอมไม่มีชุดนอนสำหรับใส่คืนนี้ " ภาพ กูลืมวะ "

“ ลืมอะไร "

“ ลืมไปว่าหัวหอมมันไม่มีชุดนอน ขอเสื้อมึงสักตัวสิ "

“ ไปหยิบเอาเลย ในตู้อะ " ผมเดินไปหาเสื้อที่อยู่ในตู้ก่อนจะหยิบเสื้อนอนตัวนึงออกมาใส่ให้อีกคนที่ตอนนี้โดนไอ้ภาพจับผูกจุกเรียบร้อยแล้ว ชุดนอนที่หัวหอมใส่ยาวจนถึงตาตุ่มแต่ก็น่ารักน่าเอ็นดูไปอีกแบบ

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น แม่ไอ้ภาพที่เดินเข้ามายิ้มให้ไอ้ตัวเล็กที่ก็วิ่งเข้าไปหาทันที " กาลิค อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ ไปดูการ์ตูนที่ห้องย่ากันมั้ย "

" ไปครับ " อีกคนที่ไม่ปฎิเสธ เดินจูงมือแม่ออกไปก่อนจะหันมาบ๊ายบายกับผม " เดี๋ยวกาลิคมานะ บ๊ายบาย "

" บ๊ายบาย "  ยกมือขึ้นโบกบ๊ายบายกลับไป ประตูที่ปิดลงผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ ถึงขนาดต้องถอนหายใจเลยเหรอวะ " ไอ้ภาพพูดขึ้นผมก็หันไปมองหน้ามัน

“ ก็เออนะสิไอ้เชี้ย นี่กูเกร็งจะตายห่าอยู่แล้ว "

" แล้วมึงจะเกร็งทำไม "

" ก็กูไม่รู้ว่ามึงไปเคลียร์กับพ่อแม่อีท่าไหน ทำไมพ่อแม่มึงดูไม่โกรธ ไม่เคืองเหี้ยอะไรเลยวะ  กูก็ทำตัวไม่ถูกเนี้ย เดี๋ยวดี๊ด๊าเกินไปจะกลายเป็นว่า  อ๋อออ ไม่ใช่ลูกมึงสินะ มึงเลยดี๊ด๊าได้ กูเลยได้แต่เงียบๆ เกร็งๆเนี้ย " ถอนหายใจออกมาแรงๆ ผมทรุดตัวลงนั่งข้างอีกคนไอ้ภาพก็หัวเราะ " หัวเราะเชี้ยไรวะ "

“ ก็หัวเราะมึงอะ "

“ ไม่ได้โดนตบใช่มั้ยวะ " ผมจับหน้ามันส่ายไปมาเพื่อเช็คดู ภาพก็ส่ายหน้า

“ เปล่า ไม่ได้โดนตบ "

“ แล้วบอกพ่อกับแม่ยังไงเค้าถึงดูไม่โกรธ แถมยังดูเอ็นดูไอ้หัวหอมอีกทั้งๆที่ว่าน่าจะไม่ชอบเปล่าวะ ลูกใครก็ไม่รู้ " ไอ้ภาพเหลือบมองผมก่อนจะทำท่าคิด

“ กูแค่พูดความจริงออกไปเท่านั้นแหละ ไม่อยากจะโกหก " มันบอกผมก็ขมวดคิ้ว

“ ความจริงยังไง มึงบอกยังไงวะ "

“ จำไม่ได้แล้ววะ " ภาพบอกปัด

“ อ้าว.. "

“ แต่เอาเป็นว่าผมลัพธ์มันไม่แย่มึง กูไม่ได้โดยอะไร ไม่ได้หักเงินเดือน หรือโดนตบ อะไรพวกนั้นมันไม่มี ไม่มีอะไรเลย พ่อรับมันเป็นหลานจะพาเข้าโรงเรียนนั่นคือสิ่งที่กูต้องการ แล้วมันก็มีแค่นั้น " สายตาที่ยังไม่เชื่อของผม มองหน้ามันที่เลิกคิ้วขึ้นมอง " อะไรของมึงอีกขม ก็กูบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว ทำไม มันดูง่ายเกินไปเหรอ "

“ อื้ม มันง่ายเกินไป " จะมีพ่อแม่สักกี่คนที่เข้าใจว่าลูกไปทำผู้หญิงคนอื่นท้องง่ายๆวะ ปกติคนเป็นพ่อแม่ก็ต้องโกรธแล้วไม่ชอบใจไม่ใช่เหรอ " หรือว่ามึงไปพูดอะไรแบบพวกสัญญากับเค้าไว้ "

“ ไม่ได้พูด "

“ ภาพ..” ผมจ้องหน้ามัน " มองหน้ากู แล้วบอกความจริงกูมา เดี๋ยวนี้ ไอ้สัด " สายตาคมที่มองไปทางอื่น ไอ้ภาพไม่มีทางหลอกผมได้หรอก

“ ก็ไม่มีอะไร แค่บอกว่าช่วยเลี้ยงให้ก่อนสามเดือน ถ้าแม่มันไม่มารับจะไปตรวจดีเอ็นเอ ว่าเป็นลูกใคร "

“ แล้วทำไมไม่ตรวจตอนนี้เลยวะ กูโอเคนะ ตรวจเลยก็ได้ " ผมบอก มันก็ส่ายหน้า

“ กูไม่อยากจะตรวจก่อนอะ " มันว่าก่อนจะทำทีเป็นลุกขึ้นยืน " โอ๊ย ไปอาบน้ำดีกว่า โคตรเหนียวตัวเลย เมื่อวานทั้งวันก็ยังไม่ได้อาบ "

“ ไอ้ภาพ " ผมเอ่ยเรียกมันที่ดูท่าทางเหมือนกำลังเปลี่ยนเรื่อง

“ ถ้าตรวจแล้วกาลิคเป็นลูกมึง มึงจะทำยังไงวะขม "คำถามที่เอ่ยถามผมจากคนที่กำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ร่างสูงที่หันมาจ้องผมที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง

“ ถ้าหัวหอมเป็นลูกกู กูก็แค่เลี้ยง "

“ เลี้ยงยังไง "

“ ก็ทำทุกอย่างอะ แต่จะไม่มีทางให้แม่ต้องมาลำบากกับลูกแบบกูแน่นอน กูคงบอกแม่ก่อนเป็นอย่างแรกแล้วก็ หางานทำ เพื่อที่จะส่งมันเรียน หรือไม่ก็ขอให้แม่ช่วยส่งให้กูเรียนจบก่อน ยืมเงินเค้าแล้วก็ผ่อนจ่ายให้ไปหลังจากเรียนจบแล้วได้งาน ถามทำไม "

“ ก็เปล่า " ภาพส่ายหน้าไปมา " แค่คิดว่าก็รอหน่อยเถอะ ยังไงก็บอกป๊าไปแล้วว่าเราจะรอจนกว่าแม่กาลิคจะมารับ เดี๋ยวเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา เค้าจะหงุดหงิดอีก " มันพูดแค่นั้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ
 
   ผมผ่อนลมหายใจออกมาบางทีก็ไม่เข้าใจมันเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องรอเวลาแล้วทำให้ทุกอย่างมันช้ามากขึ้นไปอีก สำหรับผม ถ้าหัวหอมเป็นลูกผม ผมก็พร้อมเผชิญปัญหาที่จะตามมาอยู่แล้ว แม้มันจะหนักหนาและไม่ได้ทำได้ง่ายๆอย่างที่พูดออกไปก็เถอะ

.........................................................


   ขับรถกลับมารับหัวหอมที่บ้านไอ้ภาพหลังจากเรียนเสร็จเรียบร้อบ ถุงเสื้อผ้าและของใช้สองสามถุงใหญ่ถูกขนขึ้นรถโดยแม่บ้านของบ้าน วันนี้พ่อกับแม่ของภาพจัดการพากาลิคเข้าไปสมัครเรียนเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าต้องใช้เส้นสายนิดหน่อยเพื่อดำเนินเรื่อง สำหรับโรงเรียนนานาชาติใจกลางเมืองที่ค่าเทอมค่างข้างสูงขนาดนั้น

" ได้เรียนที่ดีๆซะด้วยน่าอิจฉาสุดๆไปเลย " ไอ้ภาพพูดเปรยๆตอนที่เราเข้ามานั่งในรถเตรียมตัวกลับไปคอนโด ซึ่งตอนแรกท่านก็ไม่ค่อยอยากจะให้มา เพราะอยากจะให้อยู่ท่านมากกว่า แล้วพอไอ้ภาพแซวว่าติดแล้วหลานเหรอ ผมก็ได้ยินเสียงอ้อมแอ้มของพ่อพูดแค่ว่า จะได้ช่วยกันดูแลหาข้าวปลาหาให้กินจะได้ถูกหลักอนามัยเด็กจะได้โตไวๆแล้วก็แข็งแรงก็เท่านั้น

   แต่ถ้าอยู่ที่บ้านหัวหอมมันคงต้องตื่นไปโรงเรียนตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันเพราะค่อนข้างไกลจากตัวเมืองอยู่ที่คอนโดคงสะดวกกว่า พวกเราเองก็ด้วย สีหน้าไม่ดีของพวกท่านตอนที่เราจะออกมา ตอนนั้นไอ้ภาพก็ก้มลงบอกอะไรกับไอ้หัวหอมสักอย่าง มันที่วิ่งเข้าไปกอดท่านทั้งสองไว้ พร้อมเสียงเล็กๆติดอ้อนที่พูดออกมา ' คุณปู่คุณย่า วันเสาร์นี้กาลิคจะมาเยี่ยมนะครับ ' เป็นประโยคสั้นๆที่ท่านทั้งสองก็จับมันไปหอมแก้มเสียหลายที ก่อนจะปล่อยตัวให้ออกกันมาได้ ก็เรียกว่าเป็นขวัญใจคนใหม่ของบ้านนั้นแทนไอ้ภาพไปแล้วละนะ

“ เดี๋ยวเราแวะห้างก่อนนะ "

“ แวะทำไมวะ " ผมหันไปถามคนขับที่ก็ผิวปากร้องเพลงสบายใจ

“ ก็แวะซื้ออุปกรณ์การเรียนไง รองเท้าใส่ไปโรงเรียนก็ยังไม่มี กระเป๋าด้วย " ภาพบอกผมก็พยักหน้ารับก่อนจะหยิบเอาระเบียบการขึ้นมาอ่านคร่าวๆ

“ แต่เค้าบอกว่า ใส่ผ้าใบแบบไหนก็ได้ แล้วกระเป๋าก็แบบไหนก็ได้ ทั้งสองอย่างมันก็มีแล้ว มึงจะซื้ออีกทำไมวะ เปลืองตังค์ "

“ ไม่ได้หรอก มึงรู้มั้ยว่า กาลิคมันควรมีรองเท้ากับกระเป๋าเจ๋งๆนะ เอาให้เท่ แล้วสาวเหลียวไปเลย "

“ ภาพ.. มึงกำลังฝังนิสัยฟุ่มเฟือยให้ลูกนะ " ผมเตือนอีกคนก็หันมายิ้มแห้งๆ

“ น่าๆ ไม่ฟุ่มเฟือยหรอก มันก็จำเป็นคนเราควรมีรองเท้าที่ใส่โรงเรียน แยกกับรองเท้าที่ใส่ไปเที่ยวสิจริงมั้ย "

“ ต้องมีเหรออาขม " คนที่นั่งอยู่บนตักผมหันมาถาม มือเล็กที่กำลังเคี้ยวช็อคโกเล็ตตุ่ยๆ ผมเช็ดปากให้มันก่อนจะส่ายหน้า

“ ไม่จำเป็นหรอกเรามีอะไร เราก็ใช้ไปอย่างงั้น พังแล้วก็ค่อยซื้อให้ แต่ว่าถ้ามีคนอยากจะซื้อให้เรา เราก็รับไว้ แต่จำไว้นะ มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องเอาไปอวดเพื่อนนะ "

“ อื้มๆ กาลิคจะจำไว้ "

“ ทำไมพอมึงสอนกาลิคทีไร กูดูเหมือนคนเหี้ยๆคนนึงที่เด็กไม่ควรเอาอย่างเลยวะ " ไอ้ภาพบอกผมก็ยกยิ้ม

“ รู้ตัวก็ดี "

“ แล้วนั่นเป็นอะไร "

“ อะไรเป็นอะไร " ผมหันไปหามัน รถที่ชะลอจอดเพราะว่ารถติดไฟแดงพอดีร่างสูงที่หันมามองผมด้วยสีหน้าจริงจัง

“ มึงทำหน้าเครียดมาสองวันแล้วนะ เป็นเหี้ยอะไร เรื่องก็เคลียร์แล้ว มึงจะกังวลเรื่องเหี้ยไรอีก "

“ กูคิดหลายเรื่องน่ะ "

“ เช่น " ภาพถามผมก็ยกมือขึ้นไปปิดหูเจ้าตัวเล็กไว้ ผมพูดเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะไม่อยากจะให้หัวหอมได้ยิน

“ เกรงใจพ่อแม่มึงถ้ามันเกิดเป็นลูกกูขึ้นมา อีกอย่างส่งหัวหอมไปเรียนโรงเรียนั้นค่าเทอมแพงมากเลยนะเว้ย กูจะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนไปส่งมันเรียนต่อ ยังไงก็ให้มันออกมาเรียนโรงเรียนธรรมดาก็เท่านั้น " ผมก้มหน้าลงซบที่ผมนุ่มๆของเจ้าตัวเล็กไอ้ภาพก็นิ่งไป

“ ไหนใครเคยบอกกูว่า อย่าไปคิดถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ให้คิดถึงปัจจุบันก่อน "

“ เออ กูรู้ว่าเราไม่ควรกังวล แต่มันก็อดกังวลไม่ได้นี่หว่า มึงบอกพ่อแม่มึงไปแล้ว พ่อแม่มึงก็โอเคแล้วแต่กูนี่สิ ถ้าเกิดว่าเป็นของกูขึ้นมา กูก็ต้องไปบอกแม่กูเหมือนกัน แล้วยังไม่รู้เลยว่าเค้าจะว่ายังไง "

“ คิดมาก อีกสามเดือนอาจจะมารับก็ได้ ตอนนี้เลี้ยงมันให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เถอะ กูว่าอย่างน้อยนะ ก็เป็นความทรงจำดีๆของมัน ว่าครั้งนึงมันเคยเจอคนดีๆที่รักแล้วก็ดูแลมัน มึงเองก็เคยพูดนิใช่มั้ย " 

“ ไม่รู้จำไม่ได้ " ผมบอกปักมือหนาก็เอื้อมมือมาขยี้หัวก่อนจะหัวเราะ

“ คิดมากไอ้เหี้ย เอาให้มันเป็นเรื่องที่ต้องเครียดก่อนค่อยเครียด ตอนนี้เราไม่ต้องให้กาลิคมันอยู่บ้านคนเดียวแล้ว มันได้ไปเรียนหนังสือ มีเพื่อน มีสังคม นั่นก็โอเคแล้ว "

“ แต่เรื่องนี้กูก็เครียดนะ " ก้มมองมันก่อนจะหอมแก้มไปเต็มฟอด " ไม่รู้ตัวแค่นี้ไปโรงเรียนจะถูกเพื่อนแกล้งรึเปล่า จะเรียนทันเพื่อนมั้ยก็ไม่รู้ แม้จะเข้าอนุบาลสองก็เถอะ แต่เด็กสมัยนี้ตัวใหญ่จะตายกูกลัวมันโดนเพื่อนแกล้งเนี้ย แถมโรงเรียนนั้นยังมีแต่พวกคุณหนูอีก มีปัญหาอะไรขึ้นมาแย่แน่ๆ "

“ ไม่โดนหรอกน่า สอนมันสิ อีกอย่างมึงอย่าคิดไปว่าพวกคนมีฐานะจะปกป้องลูกแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันสิ คนบางคนเค้าก็มีความคิด มีเหตุผล แต่ถึงเราจะเจอคนไม่ดี ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร พ่อกูก็ใหญ่เหมือนกัน มึงคิดว่าเค้าจะยอมให้ใครมาแกล้งกาลิคอยู่ฝ่ายเดียวเหรอ "

“ อื้ม ก็จริง " กูลืมไปว่าพ่อมึงมีอิทธิพลหนา ไม่งั้นคงฝากเข้ามาให้เรียนไม่ได้หรอก ทั้งๆที่เอกสารที่ยื่นเข้าเรียนมีไม่ครบด้วยซ้ำไป “ หัวหอม "

“ ครับ " ดวงตากลมๆที่เงยหน้าขึ้นมามองผม ที่ก็กอดมันไว้ ไม่อยากให้ไปเรียนเลย กลัวโดนแกล้ง กลัวมันไม่มีความสุข กลัวไปหมด " อาขมกอดกาลิคแน่นเลย "

“ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแล้ว "

“ แบบที่อาขมกับอาภาพไปใช่มั้ย " มันถามผมก็พยักหน้ารับ

“ ถ้าเพื่อนแกล้งก็จัดการมันเลย " ภาพบอกผมก็หันไปชักสายตาใส่

“ ทำแบบนั้นไม่ได้นะ ถ้าเพื่อนแกล้ง ก็หลีกซะ บอกว่า อย่ามาแกล้งกาลิค แต่ถ้าเพื่อนยังแกล้งก็ให้บอกคุณครู แล้วถ้าบอกแล้ว เพื่อนยังแกล้ง ก็มาบอกอาขมนะ "

“ อื้ม "

“ มันจะเข้าใจมั้ยละ ว่ามันโดนแกล้ง " ภาพบอกผมก็ส่ายหน้าไปมา

“ แต่เพื่อนกันจะไม่ทำให้ เพื่อนเจ็บตัวโดยตั้งใจหรอกนะ " ผมบอก อีกคนก็พยักหน้ารับ หัวหอมจ้องมองผมมันที่เอื้อมมากอดคอมก่อนจะหอมแก้มผม " หอมแก้มกูทำไมละ หื้ม ? อ้อนกันเหรอ "

“ ก็อาขมเศร้า ไม่เป็นไรนะ กาลิคจะไปไม่นานแล้ว กาลิคจะรีบกลับมาอยู่กับอาขมนะ ไม่เหงานะ อาขมต้องเข้มแข็ง " ไอ้ตัวแสบพูดเหมือนตอนที่ผมปล่อยให้มันอยู่ที่บ้านเลย

“ อื้ม " ตอบมันได้สั้นๆ ก่อนจะก้มลงกอดมัน ไม่อยากจะให้ไปไหนเลย แม้แต่ตัวผม ผมก็ไม่อยากจะไปไหนทั้งนั้น อยากจะอยู่กับมัน อยู่ด้วยกันทั้งวันเลย

“ อาภาพ อาภาพต้องดูแลอาขมด้วยนะ "

“ ครับผม จะดูแลให้นะ " ภาพบอกก่อนจะขยี้หัวมัน

“ มึงอะ ดูแลตัวเองนะ อย่าให้ใครแกล้งละ " ผมบอกหัวหอมก็พยักหน้ารับ

“ ครับผม ไม่ต้องต้องห่วง " แต่พูดแบบนั้นแหละ ที่ห่วงที่สุดเลยรู้มั้ย ไอ้ตัวเล็ก


.............................................................

จะไปโรงเรียนแล้วลูกกกกก ตั้งใจเรียนนะคนดี #กอดน้อง คุณแม่ขมก็ดูห่วงลูกชายตัวเองมากเลยนะคะ #แซว
ส่วนคุณพ่อภาพก็ดูสมเป็นพ่อจริงๆ แบ่งโซนได้ดีค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ความรู้สึกตอนนี้เหมือนส่งลูกเข้าโรงเรียนจริงๆเลย  #โบกผ้าเช็ดน้ำหมากให้กาลิค
ตอนหน้ามาอ่านกัน ว่าไอ้ตัวเล็กไปโรงเรียนวันแรก จะเป็นยังไง จะเกิดเรื่องวุ่นๆ อะไรขึ้นอีกมั้ย
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่าา  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 07-04-2017 21:02:24
อาจให้ทั้งคู่ซื้อคาร์ซีทให้หัวหอมด้วยนะ เอาเด็กนั่งตักมันอันตราย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 07-04-2017 21:22:52
อาขมเหมือนคุณแม่ที่ต้องส่งลูกไปโรงเรียนเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 07-04-2017 21:28:17
โอ๊ย! หลงกาลิคขั้นหนักมากตอนนี้
แม่ขมช่างเป็นแม่ที่ดีเหลือเกิน 55
กาลิคจะไปโรงเรียนแล้วตื่นเต้นแทน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 07-04-2017 21:29:13
กาลิคจะได้ไปโรงเรียนแล้วววว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: HanTwoH ที่ 07-04-2017 21:29:50
อ้ายยยย  ได้เข้ามาเม้นซะที
ชอบบบบบ กาลิค น่ารักกกกกกกก ชอบนิยายครอบครัวที่ขนมแต่งจัง :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-04-2017 21:35:35
หัวหอม หนูไปว่านเสน่ห์ต่อที่โรงเรียนเลยนะลูก ต้องมีแต่คนแย่งกันรักหนูแน่นอน 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 07-04-2017 21:37:31
โอ๋ๆๆๆ  สงสารจริง 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 07-04-2017 21:50:57
กาลิคน่ารัก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-04-2017 21:58:03
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-04-2017 22:21:10
ขม เลยห่วงมาก คิดมากไปหมด
พ่อแม่ภาพ เข้ามาจัดการ หัวหอมมีที่เรียนแล้ว
ภาพ ขม เรียนได้อย่างสบายใจได้และ
แต่ขมไม่วายห่วงต่อ กลัวหัวหอมโดนแกล้งอีก
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-04-2017 22:22:42
หวังว่าหัวหอมจะไม่โดนใครแกล้ง :call:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-04-2017 22:30:44
ไปโรงเรียนวันแรกคงไม่ร้องไห้โยเยนะหัวหอม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 07-04-2017 22:40:00
เอ็นดูหัวหอม อย่าให้มีอะไรมาทำร้ายหนูอีกเลยนะลูก หนูคือกำลังใจของอาขมแล้วก็อาภาพนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 07-04-2017 22:47:20
คุณแม่ขมมมมมม~~ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 08-04-2017 00:18:03
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 08-04-2017 00:36:15
มีใบสมัครเป็นคุณครูอนุบาลมั้ยคะ จะไปดูแลกาลิคแทนให้ ฮือออ เหมือนส่งลูกไปรร.จริงๆด้วยยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 08-04-2017 00:59:08
หัวหอมไปโรงเรียนแล้วว
ขมมีความเปนแม่ขึ้นทุกวัน 55555
ภาพก้มีความเปนพ่อ
เมื่อไหร่ กาลิกจะมีน้องน้าาา อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: bookie ที่ 08-04-2017 01:28:41
ไม่น่าใช่ลูกของทั้งสองคน แต่เป็นคนใกล้ตัวที่พ่อแม่ก็น่าจะรู้จัก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 08-04-2017 01:49:30
รักกัน หลงกันหนักมากค่ะ อ้อนขนาดนี้อยากจะฟัดหนักๆเลย

ภาพก็ชิลมาก เคลียร์แล้ว แต่ถึงยังไงคิดว่าภาพคงไม่ปล่อยหรอก
ขมก็คิดมาก ทำไงได้เนาะ ยังไม่รู้ความจริง ขมน่ารักนะ
มีอาการคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ปล่อยลูกออกจากอก


หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-04-2017 03:28:41
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 08-04-2017 07:37:11
ขมมมออร่าคุณแม่มาเต็มมากอะ คุณแม่สุดๆ น่ารักทั้งบ้านเลย หัวหอม คุงพ่อด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-04-2017 08:22:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 08-04-2017 08:35:56
ครอบครัวสุขสันต์  :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 08-04-2017 08:42:53
สรุปขมเป็นแม่กาลิคใช่มั๊ย 55555 เหมือนแม่เข้าไปทุกทีแล้วนะ  :-[
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 08-04-2017 09:00:35
พ่อของภาพมรแซวลูกเล็กๆ ด้วย เด๋วขมรู้นะพ่อ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 08-04-2017 09:20:34
รักหัวหอมขึ้นมาอีกตอน
 :mew1: :mew1:
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 08-04-2017 11:03:53
ภาพกอดปลอบขมหน่อยเร็ว อยู่กับหัวหอมไม่ทันเท่าไหร่ วิญญาณมนุษย์เข้าสิงเต็มตัวแล้ววว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-04-2017 11:49:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-04-2017 13:49:03
อ่านแล้วน้ำตาปริ่มๆ มีความเปงแม่สูงมาก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: DEKMORPAI ที่ 08-04-2017 14:22:46
 :o12:  เมื่อไหร่จะมาต่ออ้อะค้าบบ :sad4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-04-2017 16:03:48
หัวหอมจะไปโรงเรียนแล้ว~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 16 - 7.4.60} #หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 08-04-2017 16:32:07
ก้าวไปอีกขั้นและปราบปลื้ม :o12:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 09-04-2017 20:42:49
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 17

   ตะวันสาดแสงเข้ามาบอกเวลาเช้าวันใหม่ที่มาถึงแล้ว วันนี้หัวหอมต้องไปโรงเรียนเป็นวันแรก ทั้งๆที่เปิดเทอมมาร่วมอาทิตย์แล้วสำหรับโรงเรียน แต่ก็ยังโชคดีที่เมื่อวานตอนที่พ่อกับแม่ของภาพพามันไปสมัครเข้าโรงเรียน อาจารย์ที่นั่นทดสอบความรู้มันนิดหน่อยแล้วก็ได้ผลออกมาว่า สามารถเรียนร่วมกับเพื่อนได้ไม่มีปัญหาอะไร ภาษาอังกฤษเก่งมากแม้จะเขียนภาษาไทยไม่ได้เลย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะที่นี่เป็นโรงเรียนนานาชาติอยู่แล้ว ผมจัดการอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก่อนจะปลุกอีกคนให้ลุกขึ้นจากที่นอน

“ หัวหอม ตื่นได้แล้ว ไปโรงเรียนกัน " ดึงมันให้ลุกขึ้นจากที่นอน เด็กน้อยที่ลุกขึ้นนั่งขยี้ตาไปมาก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาแล้วซบลงบนอกผม

“ อาขม กาลิคง่วง "

“ นอนก็เร็วทำไมยังง่วงอีกละ หื้มม " ผมก้มลงลูบหัวมันจะบอกว่าป่วยก็ไม่น่าจะใช่ สภาพร่างกายก็ปกติดี สงสัยจะขี้เกียจซะมากกว่าละมั้ง " เรารีบไปอาบน้ำกันดีกว่า เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ หรือว่าไม่อยากจะไปโรงเรียน "

“ อยากไปปป " หัวหอมลากเสียงก่อนจะดึงตัวเองลงจากเตียงแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการอาบน้ำได้ด้วยตัวเอง ก่อนจะมายืนแปรงฟันที่อ่าง " เสร็จแล้วครับ "

“ เก่งมาก คราวนี้ก็แต่งตัวหล่อๆ " ผมบอกก่อนจะทาแป้งลงไปบนตัวมัน แล้วก็ทานิดหน่อยบนหน้าจะได้ดูสดชื่นหวีผมให้เข้าทรงก่อนจะจัดการใส่กางเกงในแล้วก็ชุดนักเรียน ซึ่งชุดนักเรียก็เป็นกางเกงสีดำขาสั้นกับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวจั๊มตรงเอวและตราโรงเรียนติดอยู่ที่กระเป๋าเสื้อ

“ หล่อมั้ยครับ "

“ หล่อสุดๆไปเลย โอเค คราวนี้ก็ใส่ถุงเท้า  มานี่นะ อาขมจะสอนใส่ถุงเท้า " ดึงมันให้นั่งลงบนเตียง " ตอนแรกก็ดูก่อนว่าข้างไหน  สูงๆตรงนี้คือนิ้วโป้ง แล้วก็ใส่วิธีการใส่ก็ ม้วนลงมาแบบนี้แล้วค่อยๆใส่ " ผมใส่ให้มันข้างนึงส่วนอีกข้างหัวหอมก็เป็นคนใส่เอง ท่าทางที่ดูเงอะงะของมันแต่สำหรับผมถ้าทำให้ทุกอย่างก็ไม่ดีหรอก ดีที่สุดต้องสอนให้ช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากๆ

“ เสร็จแล้ว "

“ เสร็จแล้วคราวนี้ก็ออกไปข้างนอกกัน กินขนมปังกับนมก่อนไปโรงเรียนนะ "

“ ครับ " มันว่าตอนที่วิ่งออกไปข้างนอกก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะอย่างรู้งาน

“ ว้าวๆ สุดหล่อ แต่งชุดนักเรียนแล้วหล่อจังเลย " ไอ้ภาพที่เดินออกมาจากครัวเอ่ยแซว มันวางแซนวิชทูน่าที่ซื้อมาจากห้างเมื่อวานลงบนโต๊ะให้อีกคน

“ นั่น มึงอบให้มันร้อนแล้วรึยัง แซนวิชน่ะ " ผมถามอีกคนก็พยักหน้ารับ น่าแปลกที่วันนี้ตื่นเช้ามาช่วยดูแลหัวหอม สงสัยท่าทางฝนจะตกหนัก

“ ต้องอบแล้วสิครับ  อะนี่ของมึง " ภาพยื่นให้ผมที่ก็นั่งลงข้างๆเจ้าตัวเล็ก พร้อมกับนมแก้วใหญ่

“ อันนี้นมนะ "

“ ถ้ากินแล้วกาลิคจะปวดท้องอีกรึเปล่า " มันเงยหน้าถามผมก็ส่ายหน้า

“ ไม่หรอก อันนี้อันใหม่แล้วเพิ่งซื้อมา กินได้ปลอดภัยแน่นอน "

“ งั้นกินนะ " ยกแก้วนมสีชมพูที่ชอบกินเข้าไปพร้อมกับแซนวิชจนหมด ก่อนจะเดินหยิบจานกับแก้วของตัวเองไปไว้ที่อ่างมันเปิดน้ำใส่ไว้อย่างรู้งาน ไอ้ภาพที่นั่งอ่านอะไรสักอย่างในมือถือก็พูดขึ้น

" ม๊าส่งข้อความมาหากูวะ บอกให้ถ่ายรูปกาลิคตอนไปโรงเรียนวันแรกมาให้หน่อย " มันหลุดหัวเราะออกมา " ม๊าบอกขอเป็นวิดีโอด้วยก็ดี "

" เค้าก็อยากเห็นอะนะ " ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นหยิบจานกับแก้วของตัวเองแล้วก็ของไอ้ภาพไปไว้ที่อ่าง จัดการล้างมันเรียบร้อยเพราะเห็นว่ายังเหลือเวลา ส่วนไอ้ภาพก็จัดการใส่รองเท้าคู่ใหม่ที่มันแสนจะภูมิใจนำเสนอให้ไอ้กาลิคอยู่ เป็นรองเท้าไนกี้รุ่นดังของเด็กที่ตอนเห็นราคาผมบอกได้คำเดียวเลยว่า ' สิ้นเปลือง ' นี่ยังไม่นับรวมกระเป๋าเป้ไปเรียนยี่ห้อเดียวกันอีกซึ่งก็แพงพอกัน

“ โคตรเท่เลยเว้ย มาๆ ถ่ายรูปส่งไปให้ปู่กับย่าดูกันหน่อย เอ้า ยิ้ม หนึ่ง สอง สาม " ผมยืนมองไอ้ภาพถ่ายภาพไอ้ตัวเล็กที่ก็ชูสองนิ้วด้วยความร่าเริง ถึงแม้ว่าผมจะหนักใจเรื่องกลัวเพื่อนแกล้งมันอยู่หน่อยๆ แต่ว่า เรื่องงอแงตอนไปโรงเรียนก็คงไม่มีให้เห็นละนะ " ส่งภาพเรียบร้อย "

“ นี่ ถ่ายเป็นคลิปด้วยสิ เก็บไว้ ไปโรงเรียนวันแรก "

“ มึงนี่ก็ไม่ค่อยเห่อเลยนะคุณแม่ " ไอ้ภาพหันมาบอกผมก็เอื้อมไปตีหลังมันเต็มแรง " โอ๊ยยยย "

“ แมลงกัดมึงอะ กูเอาออกให้ เจ็บใช่มั้ย โอ๋ๆ เอาออกให้ละไม่เจ็บแล้วนะ " ผมตบไหล่มันเบาๆแสร้งทำเรื่องอื่นเดี๋ยวจะเป็นตัวอย่างไม่ดีกับเด็กที่กำลังมองเราอยู่ ผมย่อตัวลงไปยืนข้างๆหัวหอม " ภาพถ่ายรูปให้หน่อย "

“ ตบกูแล้วยังมาขอให้กูถ่ายภาพให้อีกนะ " 

“ เร็ว " ผมบอกมันสั้นๆ อีกคนก็กดถ่ายภาพให้ " มึงก็มาถ่ายด้วยสิ ถ่ายรูปๆ "

“ กูต้องถ่ายด้วยเหรอ "

“ ถ่ายสิ เอาน่าทำเป็นเขินไปได้ " ไอ้ภาพเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูปตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาให้ถ่ายทีไรถ้าไม่ทำหน้าเล่นๆไปเลย ก็ต้องไปแอบถ่ายตอนเผลอ ขนาดรูปคิ้วบอยในเพจมหาลัยที่มีคนกรี๊ดกันเยอะๆ เค้ายังมาแอบถ่ายมันเลย ไม่มีหรอกภาพจากโซเซี่ยลหล่อๆที่เจ้าตัวถ่ายเองน่ะ

“ อาภาพเขินเหรอ " หัวหอมถาม

“ ไม่ค่อยชอบถ่ายรูป " มันบอกก่อนจะย่อตัวลงข้างๆเจ้าตัวเล็กที่ก็ยื่นมือไปปิดหน้าของอีกคนไว้ รอยยิ้มที่ยิ้มแฉ่งให้ผม

“ อาภาพบอกว่าอาภาพเขิน งั้นปิดหน้าไว้ "

“ จะถ่ายแล้วนะ " ผมบอกก่อนจะกดถ่ายภาพไปหลายที รวมถึงภาพที่หลังจากนั้นไอ้ภาพดึงเจ้าตัวเล็กข้างมันมากอดแล้วก็หอมแก้มด้วย " เสร็จแล้ว คราวนี้ก็ไปโรงเรียนได้ "

“ ไปโรงเรียนกัน " หัวหอมคว้ามือผมให้เดินออกไปจากห้อง ส่วนไอ้ภาพก็มีหน้าที่ปิดประตูห้องแล้วเดินตามหลังเรามา 

   ขับรถออกจากคอนโดกันในเวลาที่ค่อนข้างเช้าเพราะเผื่อเวลารถติดอีกอย่างไปโรงเรียนวันแรกด้วยไม่อยากจะให้ไปสายเท่าไหร่ ผมหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายมันฆ่าเวลาที่รถติด

“ หัวหอม หันมานี่หน่อย "

“ ครับ " ใบหน้าน่ารักหันมาหาก่อนจะกอดผมไว้ " อาขม อาขมทำอะไร "

“ ถ่ายวิดีโออยู่ไง วันนี้ไปโรงเรียนวันแรกเป็นยังไงตื่นเต้นมั้ย "

“ ไม่ครับ " มันส่ายหน้าไปมา " กาลิคอยากจะไปโรงเรียนจะได้มีเพื่อนเยอะๆเลย "

“ เหรอ " ลูบหัวมันอีกคนก็กอด ผมกดปิดวิดีโอที่ถ่ายแล้วก็กอดตอบมันไว้ " ไปโรงเรียนอย่าให้เพื่อนแกล้งละรู้มั้ย "

“ ครับ "

“ แล้วถ้ามีอะไรก็มาบอกอาขมนะ "

" ครับ " มันพยักหน้ารับ

" ต้องบอกทุกเรื่องเลยนะ "

“ ครับ "

“ กูต้องเป็นห่วงมึงจนเรียนไม่รู้เรื่องไปทั้งวันแน่ๆเลย "  คำพูดที่ดึงให้คนในอ้อมกอดเงยหน้ามองผม มือเล็กๆที่เอื้อมมาลูบที่แก้ม

" โอ๋ๆ อาขมไม่ต้องห่วงกาลิคนะ กาลิคจะไม่โดนแกล้งหรอก "

" ใช่แล้วจะไม่โดนแกล้งหรอก แต่ต้องกลัวไปแกล้งเค้ามากกว่าจริงมั้ย " ไอ้ภาพบอกอีกคนก็หันไปขมวดคิ้ว

“ กาลิคเป็นเด็กดี กาลิคไม่แกล้งใครหรอก กาลิคไม่ใช่อาภาพสักหน่อยที่ชอบแกล้งกาลิคแล้วก็อาขม "

“ ดูมันต่อปากต่อคำ "

“ ใช่มั้ย เราต้องไม่แกล้งเพื่อนนะ คนที่แกล้งเพื่อนมันคือคนนิสัยไม่ดีจริงๆนั่นแหละ " ผมบอกก่อนจะลูบหัวอีกคนให้เข้าทรง รถเคลื่อนตัวเข้าไปในบริเวนโรงเรียนเราจอดเราที่ลานจอดผมมองไปรอบๆที่ตอนนี้มีเด็กมากมายทยอยกันมาที่โรงเรียน เปิดประตูรถหัวหอมก็เดินลงไปผมที่คว้ามือมันไว้จัดการจัดเสื้อเสื้อให้เรียบร้อยก่อนจะย่อตัวบอก " หัวหอมตั้งใจเรียนหนังสือนะ แล้วก็เชื่อฟังคุณครูรู้มั้ย "

“ ครับ "

“ แล้วตอนเย็นอาภาพกับอาขมจะมารับ "

“ ครับ " มันรับคำแบบเต็มใจ ท่าทางที่ดูอยากจะไปโรงเรียนเสียเหลือเกินนั้นไอ้ภาพที่ลงมาจากรถก็เดินมาลูบหัวแล้วก็บอก

“ สนุกให้สุดๆไปเลยนะ มีเพื่อนเยอะๆละ "

“ ครับ "

“ พร้อมมั้ย " ผมหันไปถาม อีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะกระชับมือผมแล้วก็มือไอ้ภาพอีกข้าง

“ พร้อมครับ ไปกันเล๊ย " ร่างเล็กเดินจูงมือนำเราเข้าไปหลังจากที่พูดจบคุณครูที่ยืนอยู่ที่หน้าทางเข้า หัวหอมยกมือไหว้คุณครูก็เอ่ยยิ้ม " คุณครูสวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับกาลิค มาโรงเรียนแล้ว " เธอบอกก่อนจะหันมายิ้มให้ผมแล้วก็ภาพ

“ สวัสดีครับ " ผมยกมือไหว้เธอพร้อมกับไอ้ภาพ เธอเองก็ไหว้ตอบ " ผมสองคนเป็นผู้ปกครองของน้องหัว เอ่อของน้องกาลิคครับ "

“ คุณครูคนนี้อาขมครับ แล้วก็คนนี้อาภาพ " มันแนะนำผมให้คุณครูรู้จักเธอก็ยิ้ม ท่าทางที่ดูใจดีแล้วก็เป็นมิตรชวนให้ผมสบายใจขึ้นนิดหน่อย อย่างน้อยถ้ามีอะไรมันก็คงกล้าบอกคุณครูของมันละนะ

“ สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นคุณครูผู้ช่วยของห้องน้องกาลิคนะคะ ผู้ปกครองของน้องทราบเวลากลับของน้องแล้วใช่มั้ยคะ "

“ ทราบแล้วครับ " ภาพพยักหน้ารับ เธอก็ยิ้มแห้งๆให้เรา

“ ยังไงผมขอเบอร์คุณครูไว้หน่อยได้มั้ยครับ เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกัน "

“ ได้ค่ะ ของห้องเราจะมีไลน์กรุ๊ปไว้ติดต่อกับผู้ปกครองอยู่แล้ว สำหรับการบ้านที่บางทีน้องอาจจะลืม หรือไม่ก็เป็นการแชร์ภาพกิจกรรมที่ทำในห้องนะคะ ยังไงเดี๋ยวครูจะดึงเข้ากลุ่มให้นะคะ " ไฮโซวะ ..ผมเผลอสบถกับตัวเองตอนที่ได้ฟังเดี๋ยวนี้พ่อแม่มีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอวะ แต่ก็ดีนะจะได้รู้ว่าวันๆเด็กๆทำอะไรบ้าง มีกิจกรรมอะไร เผื่อสื่อสารกับไอ้ตัวเล็กไม่รู้เรื่องจะได้ไลน์ไปถามครู ยังไงการพิมพ์หากันก็ดีกว่าการโทรละนะ ผมยกมือถือขึ้นให้เธอพิมพ์ไอดีไลน์ของเธอก่อนที่เธอจะส่งคืนมาให้ผม

“ ขอบคุณมากครับ "

“ ไม่เป็นไรค่ะ "

“ ยังไงก็ขอฝากเจ้าตัวเล็กตัวนะครับ " ผมบอกเธอก็พยักหน้ารับ

“ ไม่ต้องห่วงนะคะ "

“ อาขมกับอาภาพกลับแล้วนะ เดี่ยวตอนเย็นมารับ ตั้งใจเรียนหนังสือละ " ผมบอกก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวอีกคนที่ก็พยักหน้ารับ หัวหอมเดินเข้ามากอดเอวผมมันที่เงยหน้าขึ้นมองผมที่ก็ก้มหน้าลงมองมันพอดี

" มารับกาลิคด้วยนะ ต้องมารับเร็วๆนะ "

" ครับผม จะมารับเร็วๆเลย " ขยี้หัวมันไอ้ภาพก็เอื้อมมือลงมาหยิกแก้ม

" เรียนให้สนุกนะ แล้วก็เชื่อฟังคุณครูด้วยรู้มั้ย เดี๋ยวตอนเย็นอาภาพกับอาขมมารับ "

" ครับ "

" งั้นก็ต้องโบกมือบ๊ายบายกันแล้ว " คุณครูเอ่ยบอกมันก็ยกมือขึ้นโบกบ๊ายบายเราก่อนที่คุณครูจะเดินจูงมือมันเข้าไปในห้อง ผมยืนมองแผ่นหลังของไอ้ตัวเล็กจนสุดสายตา ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆไอ้ภาพก็เอื้อมมือมากอดคอผมไว้

“ ไม่ต้องเครียดน่า มึงเครียดอะไรของมึงวะ มันมาเรียนหนังสือ ไม่ได้มารบสักหน่อย "

“ กูรู้ แต่ก็อดห่วงมันไม่ได้นี่หว่า " ผมบอกก่อนจะก้มหน้าลง " อยู่บ้านก็เป็นห่วงมันแบบนึง พอให้มาโรงเรียนก็เป็นห่วงมันอีกแบบนึง เห็นมันแบบนี้แล้วกูนึกถึงตัวเองตอนเป็นเด็กเลย คิดถึงแม่ ไม่รู้ว่าตอนนั้นเค้าจะรู้สึกเหมือนกูตอนนี้มั้ย จะรู้สึกเป็นห่วงกูตอนที่เค้าต้องออกไปทำงาน แล้วก็กังวลตอนที่กูต้องย้ายโรงเรียนเข้าไปโรงเรียนใหม่มั้ย "

" คนเป็นพ่อเป็นแม่ เค้าก็รู้สึกเป็นห่วงลูกทุกคนนั้นแหละ แม่มึงก็คงไม่ต่างกัน "

" เหรอ " ผมหันมองมันอีกคนก็พยักหน้ารับ

" ขนาดมึงยังเป็นห่วงไอ้กาลิคขนาดนี้เลย แล้วแม่ที่คลอดมึงออกมาแท้ๆจะไม่ห่วงมึงได้ไง "

" นั่นนะสินะ " ผมหลุดยิ้มออกมา ไอ้ภาพก็เอื้อมมือมาขยี้หัวผม

“ คิดมาก มีมึงคนเดียวนั่นแหละที่เครียด ไอ้กาลิคมีความสุขจะตายไป ได้ไปโรงเรียน "

“ แล้วมึงไม่ห่วงมันบ้างเหรอ " หันหน้าไปถามคนข้างๆที่ก็ยิ้มก่อนจะส่ายหน้า

“ แต่จะบอกว่าไม่เป็นห่วงเลยคงไม่เชิงหรอก กูไม่อยากจะแสดงทีท่ากังวลให้มันเห็นเดี๋ยวมันจะคิดว่าโรงเรียนไม่ปลอดภัยให้มึงทำท่าทางแบบนั้นคนเดียวก็พอละ กูอยากจะทำให้มันรู้สึกว่าการมาโรงเรียนสนุก ไม่มีอะไรน่ากังวลทั้งนั้น เป็นสถานที่สนุกๆ แล้วอีกอย่างคนแบบกาลิค ถ้ามีอะไรมันไม่เก็บไว้หรอก มันต้องเอามาบอกมึงแน่นอน เพราะงั้นกูเลยไม่ค่อยห่วงมันหรอก "

" คุณพ่อ " ผมพูดเสียงเบาๆ มันก็แบะปากมองผม

“ โถ.. เรียกกูคุณพ่อ ถ้าคุณพ่อมึงก็คุณแม่อะ แพนิคเหลือเกินแม่คุณกลัวนู้นนี่นั่นไปหมด " ไอ้ภาพพูดล้อๆผมก็กระทุ้งศอกใส่มันก่อนจะหันไปจัดการแต่ทว่า ร่างสูงกลับไหวตัวทันวิ่งหนีออกไปขึ้นรถก่อนแล้ว แต่ถ้าให้พูดกันตามความจริงมันก็เป็นอย่างที่ไอ้ภาพพูดนั่นแหละ ผมเองยังรู้สึกได้เลย รู้สึกว่าตัวเองจะห่วงไอ้หัวหอมจนจะกลายเป็นแม่มันเข้าไปทุกวันแล้ว

...........................................................   

   ขับรถจากมหาลัยมารับอีกคนตอนที่ใกล้เวลาเลิกเรียน เราลงจากรถเดินเข้าไปในโรงเรียนแล้วก็นั่งรอกันที่ด้านหน้า ภาพเป็นคนบอกให้เราออกมาก่อนเวลาเพราะกลัวว่าไอ้ตัวเล็กเห็นเพื่อนมีคนมารับกลับบ้านแล้วตัวเองไม่มี มันจะคิดว่าเราไม่มารับ
" จะว่าไปโรงเรียนนี้ก็ใหญ่มากเลยนะ "

" อื้ม นี่ถ้ากูเกิดช้ากว่านี้อีกนิดนึงกูคงได้อยู่ที่นี่นั่นแหละ "  ไอ้ภาพว่าก่อนจะเอื้อมมือมาจับไหล่ผม " แล้วเราก็คงจะไม่ได้เจอกัน มึงโชคดีนะที่กูเกิดเร็ว "

“ แต่กูว่ากูโชคร้ายมากกว่าที่มึงเกิดเร็ว " ผมบอกอีกคนก็เอื้อมมือมาจับที่คางก่อนจะดึงให้มาเผชิญหน้า " โอ๊ยเชี้ยยย เจ็บนะมึง ไอ้สัด "  ผมดึงมือมันออกแต่ก็ดูท่าว่าจะไม่ได้ง่ายอย่างงั้น

“ พูดอะไรแบบนั้น หื้มมมมม ตอนเด็กๆใครที่คอยช่วยเหลือมึงเวลาโดนแกล้งกูใช่มั้ยละ "

“ แต่มึงก็แกล้งกูพอๆกับไอ้พวกคนที่แกล้งกูนั่นแหละ "

“ แหม นิดหน่อยเอง ก็ตอนนั้นน้องขมน่ารัก " ภาพยักไหล่แล้วยิ้มแห้งๆผมก็ดึงมือมันออก " นี่เดี๋ยวออกไปกินอะไรกันดีมั้ย ฉลองกาลิคเข้าโรงเรียน "

“ กินไรดีละ " ผมหันไปถาม

“ เอ็มเคมั้ย มีผัก มีเนื้อ แล้วก็เราก็สั่งข้าวให้มันสักถ้วย กูว่าดีนะ " อีกคนก็เสนอผมก็พยักหน้ารับ

“ ก็ดีนะ "

   กริ้งงงงงงงงงง เสียงกริ่งหลังเลิกเรียนที่ดังขึ้นผมหันไปมองที่ทางเข้าของฝั่งอนุบาล พ่อแม่หลายคนที่เดินเข้าไปข้างในทำให้รู้ได้ว่าถ้าเป็นเด็กอนุบาลผู้ปกครองคงต้องเดินเข้าไปรับข้างในแน่ๆ

“ เข้าไปรับมันกันเถอะ " ผมบอกตอนที่ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินเข้าไปข้างใน ฝั่งอนุบาลที่ถูกแบ่งสัดส่วนออกมาเหมือนเป็นบริเวณเฉพาะ มีสนามเด็กเล่นที่เหมาะกับช่วงของอายุ ผมเดินผ่านห้องของเด็กอนุบาลหนึ่งก่อนจะมองเข้าไปในห้องที่เขียนว่าอนุบาลสองที่ก็มีอยู่ด้วยด้วยกันสองสามห้อง

“ นั่นไง " ไอ้ภาพเอ่ยบอกผมก่อนจะเชิดหน้าไปที่ห้องนึง เป็นห้องกระจกที่สามารถมองเข้าไปเห็น ไอ้หัวหอมที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเงยหน้ามามองเราพอดี ท่าทางดีใจที่ยกมือโบกม๊ายบายให้ เราก็ยกมือบ๊ายบายมันกลับ " ดูท่าทางมันจะมีความสุขแล้วก็สนุกสนานดีนะ "
“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับเห็นด้วยกันอีกคน แล้วในตอนนั้นอาจารย์ที่เราเจอเมื่อเช้าก็เดินเข้ามาทัก

“ มารับน้องกาลิคแล้วเหรอคะ "

“ ใช่ครับ " เราตอบพร้อมกันเธอก็ยิ้มให้

“ เอ่อ.. แต่ว่าก่อนอื่นคุณอาทั้งสองพอว่างมั้ยคะ พอดีคุณครูอยากจะขอคุยอะไรด้วยหน่อยนะคะ เกี่ยวกับน้องกาลิค " ท่าทางยิ้มแย้มของเธอแต่ในนัยย์แววตาที่ดูมีอะไรสักอย่างนั้นเอ่ยบอกเราเสียงลังเล

“ ได้ครับ " พยักหน้ารับให้เธอ ก่อนที่เธอจะผายมือออกไปอีกฝั่ง

“ งั้นเชิญมาทางด้านนี้เลยค่ะ " ห้องเล็กที่เราเดินเข้าไปเป็นห้องที่คงมีไว้ให้ผู้ปกครองมารับฟังปัญหาของเด็ก เรานั่งลงที่เก้าอี้กลางห้อง คุณครูก็หันมายิ้มก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเรา

“ มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ " ผมถามเสียงอ่อนๆ เธอก็ส่ายหน้าไปมา

“ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอกค่ะ แต่ว่าอยากจะสอบถามหน่อย คือน้องกาลิคอยู่กับคุณอา ทั้งสองคนเลยใช่มั้ยคะ "

“ ใช่ ครับ " ไอ้ภาพตอบ

“ แล้วไม่ทราบว่าที่บ้านคุณอาพูดคุยกันแบบไม่สุภาพกันด้วยรึเปล่า แบบมึงกูนะคะ พูดมั้ยคะ พอดีว่าวันนี้ตอนที่น้องกาลิคเข้ามาเค้าก็เล่นกับเพื่อนปกตินะคะ แต่คำพูดของเค้าคือ เค้าใช้คำว่า มึงกู พูดกับเพื่อนตลอดเลย " คำถามที่ทำให้ผมสองหน้านิ่งไปชั่วขณะราวกับมีใครสักคนสาดน้ำที่เย็นมากๆใส่หน้า ผมพยักหน้าลงตอบรับคำถามของคุณครู

“ พูดครับ เราพูดระหว่างกันสองคน "

“ แล้วพูดกับน้องกาลิคมั้ยคะ " เหมือนโดนสาดน้ำใส่เข้ามาอีกทีจังๆสำหรับคำถามนี้ ผมพยักหน้ารับแบบเลี่ยงไม่ได้ก่อนจะตอบเธอด้วยเสียงเบาๆ

“ ก็พูดครับ ในบางที " บางทีถี่ๆเลยละมั้ง พูดด้วยความติดปาก พูดทั้งกับไอ้ภาพแล้วบางทีก็เรียกแทนชื่อหัวหอมว่ามึงด้วย

“ ถ้าเป็นแบบนั้น คุณครูอยากจะขอความร่วมมือ ไม่พูดคำหยาบต่อหน้าเด็กนะคะ เพราะว่าเด็กวัยนี้เค้าจะฟังแล้วก็นำมาใช้ กาลิคเป็นเด็กร่าเริงสดใส แล้วก็เข้ากับเพื่อนได้ง่าย วันนี้อยู่ๆเค้าก็พูดกับเพื่อนว่า ' มึงอะช่วยหยิบยางลบให้กูหน่อย ' " เอิ่อม... เห็นมันนิ่งๆไม่เคยพูด ก็เคยคิดเลยว่าจะแอบเอามาพูดกับเพื่อนซะอย่างงั้น ฟังแล้วจะเป็นลม

" ขอโทษคุณครูด้วยนะครับ " ผมบอกเธอก็ยิ้มจางๆ

" ไม่เป็นไรค่ะ คุณครูแค่กลัวว่าเด็กในชั้นเรียนที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน จะพูดตามกาลิคนะคะ ยังไงขอความร่วมมือด้วยนะคะ "

“ ได้ครับ " ผมสองคนตอบรับก่อนจะก้มหน้าลง " ขอโทษด้วยนะครับที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น "

“ ค่ะ อีกอย่างเด็กวัยนี้เป็นวัยของการเลียนแบบ แล้วก็จดจำ นำไปใช้ แถมยังช่างถาม คนที่เป็นผู้ปกครองก็ต้องค่อยๆปรับไปนะคะ "

“ ขอบคุณมากนะครับ "

“ ค่ะ เรื่องที่อยากจะคุยด้วยก็มีเท่านี้ค่ะ เดี๋ยวออกไปรับน้องกาลิคกันเลยดีกว่านะคะ แกคงรอแย่แล้ว " เธอว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินนำเราออกไปจากห้อง แล้วเดินตรงไปที่ห้องเรียนของอีกคน

“ เหมือนโดนเรียกผู้ปกครองตั้งแต่วันแรกที่พามาเข้าโรงเรียนเลยวะ " ไอ้ภาพพูดสั้นๆผมก็ยกยิ้มขึ้นมา หยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องกาลิคที่วิ่งออกมากอดผมไว้เป็นคนแรก  ก่อนจะยกมือไหว้ผมแล้วก็ไอ้ภาพ

“ ยกมือไหว้คุณครูแล้วยัง " ก้มลงถามมัน

" คุณครูกาลิคกลับแล้วครับ สวัสดีครับ " หัวหอมก็หันไปยกมือไหว้คุณครูแล้วหันกลับมากอดผมอีกครั้ง
 
“ สวัสดีค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะ "

“ ครับ " เจ้าตัวเล็กพยักหน้ารับก่อนจะคว้ามือผมไว้ข้างนึง ไอ้ภาพไว้ข้างนึง " อาภาพ อาขมกลับบ้านกัน กลับบ้าน "

“ ไป กลับบ้านกัน " ผมบอกก่อนจะเดินออกไปตามทางเรื่อยๆ

“ วันนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง " ไอ้ภาพเอ่ยถามอีกคนที่ก็เงียบไป มันคิดอยู่สักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบ

“ กาลิคมีเพื่อนแล้วแหละ เพื่อนของกาลิคมีทั้งผู้ชายแล้วก็ผู้หญิงเลย ชื่อว่าน้องรินเน่ ชื่อน้องเพลงเพราะ เป็นผู้หญิง แล้วก็มีน้องอลันกับน้องเจ้านายที่เป็นผู้ชาย  "

“ อย่างงั้นเหรอ เพื่อนเยอะจังนะ " ผมบอกแบบสนใจมันก็พยักหน้ารับ

“ ใช่แล้ว แต่ว่าวันนี้กาลิคโดนคุณครูดุด้วยแหละ "

“ แล้วทำไมถึงโดนดุละ " ภาพถามต่อ มือเล็กๆที่แกว่งไปมาสลับกัน ท่าทางดุมีความสุขไม่ได้สะเทือนใจอะไรที่ถูกดุมาเลยสักนิดเดียว นี่ถ้ามันเป็นลูกไอ้ภาพจริงๆก็พูดได้คำเดียวเลยว่า เชื้อแรงจริงๆ

“ ก็เพราะว่ากาลิคน่ะนะ พูดไม่เพราะกับเพื่อนๆ กาลิคเรียกน้องอลันว่า มึงอะ แล้วบอกให้น้องรินเน่หยิบยางลบที่ตกว่า มึงอะหยิบยางลบให้กูหน่อยสิ พอพูดแบบนั้นคุณครูก็บอก พูดไม่เพราะเลย เด็กดีเค้าไม่พูดกัน แล้วตอนนั้นนะ กาลิคก็เถียงคุณครูไปเลยว่า ทำไมจะไม่เพราะละครับ อาขมกับอาภาพยังพูดเลย พูดกับกาลิคด้วย แล้วอาขมอาภาพนะก็เป็นคนดีไม่ใช่คนไม่ดีสักหน่อย แต่ว่านะ คุณครูก็ไม่ให้กาลิคพูดละ บอกว่า ถ้าพูดจะไม่ได้สติกเกอร์ทำดี แต่ถ้าไม่พูดจะได้วันละหนึ่งดวงละ "

   ทุกอย่างเงียบทั้งผมทั้งไอ้ภาพได้แต่ฟังแล้วเงียบอยู่แบบนั้น ผมรู้สึกชาไปหมดไอ้ภาพก็คงไม่ต่างกัน เหมือนโดนสาดน้ำเย็นใส่สลับด้วยแรงตบจากมือหนักๆแบบไม่ยั้ง หน้าชา หน้าเบลอไปให้  ยิ่งมาฟังเจ้าตัวก่อเรื่องพูดก็ยิ่งชาหนักเข้าไปอีก คือนอกจากจะพูดมึงกูแล้ว มันยังมีการเถียงคุณครูอีกเเหน่ะว่ามันเป็นคำพูดที่ดี ไม่ใช่ไม่ดีสักหน่อย เอากับมันสิ ผมหันมองหน้าไอ้ภาพที่หลุดยิ้มออกมา

“ ไม่พูดอะดีแล้ว เด็กเค้าไม่พูดกันหรอก " ผมบอกตอนที่เราเดินถึงรถ แล้วเข้าไปนั่งด้านในกาลิคดึงตัวเองมานั่งบนตักผมที่ดึงกระเป๋ามันออกไปตั้งข้างหลัง ก่อนที่ใบหน้าน่ารักนั่นจะเงยหน้าขึ้นมา

“ อ้าว แล้วทำไมอาขมกับอาภาพถึงพูดกันได้ละ เพราะโตแล้วใช่มั้ยถึงพูดได้น่ะ เด็กพูดไม่ได้ใช่มั้ย "

“ ใช่ เด็กพูดไม่ได้ ต้องโตแล้วถึงจะพูดได้ มันเป็นคำที่เด็กๆเค้าไม่พูดกันหรอกรู้มั้ย "

“ แต่คุณครูบอกว่า คนไม่ดีจะพูดคำนี้ แต่กาลิคเห็นอาขมกับอาภาพพูดกันบ่อยๆ อาขมกับอาภาพยังเป็นคนดีเลยนะ " มันเถียงด้วยความใสซื่อของมัน ความใสซื่อที่ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงให้มันเข้าใจดี

“ คำว่ามึงกูเด็กเค้าไม่พูดกันหรอก เพราะเค้าจะมองว่าเป็นเด็กไม่ดี พ่อแม่ไม่สอน " ไอ้ภาพบอก

“ แต่อาขมกับอาภาพก็ไม่เคยสอนจริงๆนะ ว่าไม่ให้พูด "

“ อื้มม จริงของมัน " ผมพูดเสียงเบาๆ ไอ้ภาพก็นิ่ง " อาภาพกับอาขมน่ะ เราพูดคำว่า มึงกู กันครั้งแรกตอนนั้นเราโตแล้วนะ ตอนที่ตัวเท่าหัวหอม อาขมกับอาภาพยังแทนตัวเองว่า ขม กับ ภาพ อยู่เลยเราไม่เคยพูดหรอก "

“ เหรอครับ " มันถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง

“ ต่อไปนี้อย่าพูดอีกนะ ถ้าหัวหอมพูดว่ามึงกู เค้าจะมองว่าหัวหอมเป็นเด็กไม่น่ารัก ถ้าเป็นแบบนั้นนะ คุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนๆก็จะไม่ให้เพื่อนๆมาเล่นกับหัวหอม เพราะไม่มีใครอยากจะให้ลูกตัวเอง มาพูดกับเด็กที่พูดไม่เพราะหรอก "

" งั้นถ้าโตขึ้นละ ถ้าโตขึ้นเท่า อาภาพ อาขม กาลิคพูดได้มั้ย "

" ได้สิ ถ้าโตเท่ากับอาภาพ อาขมแล้วจะก็พูดได้ " ผมพยักหน้ารับ

" แต่ว่าทำไมคุณครูบอกว่า คนที่พูดมึงกูถึงเป็นคนไม่ดี แต่ทำไมอาภาพอาขมเป็นคนดีละ "

" ก็เพราะว่าคุณครูไม่อยากจะให้หัวหอมเป็นเด็กไม่ดีไงเลยบอกว่า คนไม่ดีเค้าถึงพูดกัน คราวหลังอะ ไม่พูดคำว่ามึงกูแล้วนะ รู้มั้ย จะได้มีเพื่อนเยอะๆไง "

" ครับ กาลิคจะไม่พูดกับเพื่อนแล้ว " มันโบกมือไปมาปฎิเสธผมก็ลูบหัวมัน
 
" แล้วอาขมกับอาภาพก็จะไม่พูดเหมือนกัน ไม่พูดเหมือนๆกับกาลิค ดีมั้ย "

" ห๊า ? " ไอ้ภาพหันมามองผมตอนที่ผมบอก เอื้อมมือไปจับไหล่มัน

" ภาพจ๊ะ คราวหลังไม่พูดมึงกูกับขมแล้วนะ มันไม่น่ารักรู้มั้ย " ผมบอกอีกคนออกไปเสียงเบาๆ ภาพที่นิ่งไปมันเบือนหน้าหนี

" นี่เอาจริงดิ ขนลุกชะมัดเลยขมจ๋า "

“ อย่าว่าแต่ภาพเลยขมเองก็กล้ำกลืนเหมือนกันจ๊ะ " เราสองคนที่ได้แต่มองหน้ากันยิ้มๆ ในแววตาที่มีแต่ความรู้สึกฝืนๆแล้วคิดสภาพว่าทั้งผมทั้งมันจะต้องพูดกันแบบนี้กันไปตลอดสิ โอยยยย ความชิบหายของการไปเรียนวันแรกนี่หนอ  จะทนได้นานแค่ไหนกันวะ 

................................................
สงสารขมภาพ พอๆกับสมน้ำหน้านั่นแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
คราวนี้เราก็ตอบคำถามได้แล้ว ที่คนอ่านพูดกันเยอะมากๆๆๆๆๆว่า " ทำไมต้องให้ไอ้สองคนนี้มันพูดมึงกูกับเด็กด้วย " เหตุผลก็บอกว่า เราจะเขียนตอนนี้ค่าาาาาาาาาาา ฮ่าๆ
อ่านความแสบแบบใสซื่อของหัวหอมแล้วอยากจะบีบแก้มน้องง ก่อนจะดึงมาหอม มาฟัด ให้เต็มแรง
แล้วแบบนี้อาขม กับอาภาพที่พูดมึงกูกันจนชิน จะพูดจ๊ะจ๋า กันไปได้ถึงเมื่อไหร่นะ
โปรดติดตาม
สุดท้ายนี้ ในมีทวิต หนมฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะคะ
ช่วยการกระจายความน่ารักของหัวหอม และอาภาพ อาขม กันด้วยนะค่าาาาาาา

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
หนมมี่จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 09-04-2017 20:57:25
เด็กหนอ 555+ ไงหล่ะ
ขมกับภาพก็จ๊ะจ๋ายาวๆไปเพื่อหัวหอมนะ 55
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: ่joyjaa ที่ 09-04-2017 21:00:58
ภาพจ๊ะ ขมจ๊ะ เหมือนจะหวานแต่ทำไมขนลุก 55555 :o8:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-04-2017 21:02:11
 :m20: สงสารพ่อแม่มือใหม่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 09-04-2017 21:05:10
ภาพจ๊ะ ขมจ๋า5555 :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 09-04-2017 21:18:54
ขำผู้ใหญ่  :m20:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-04-2017 21:19:41
 :3123: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 09-04-2017 21:20:00
ว่าแล้วว่าเรื่องมึงกูต้องเป็นเรื่อง กาลิคก็ช่างจดช่างจำดีเหลือเกิน
เป็นเด็กที่น่ารักแบบนี้ต่อไปนะลูก
คิดภาพสองคนนี้พูดกันเพราะๆแล้วขนลุกเลย 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 09-04-2017 21:21:54
เขาเรียนวันแรกก็เจอเรียกพบผู้ปกครองเลยเหรอ ต่อไปคงต้องพูดเพราะๆกันเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็ก 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-04-2017 21:24:25
กาลิค น่ารัก
พอกาลิคเข้าเรียน
ภาพ ขม เลยต้องเปลี่ยนวิธีการพูด
เป็นพูดจา ภาษาสุภาพ ไพเราะ
กับกาลิค และพูดสุภาพระหว่างทั้งคู่
แม้จะฝืน แต่ก็เป็นเรื่องที่ดี
เป็นตัวอย่างที่ดีกับหัวหอมด้วย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 09-04-2017 21:37:24
หัวหอมมม แอบร้ายไม่เบานะเนี่ย ทีพูดกับอาภาพอาจมนี่เพราะเชียว
งานยากมาอีกชิ้นแล้วสินะภาพขม555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-04-2017 21:39:33
โอย อดขำไม่ได้ นี่ละหนาให้ผู้ชาย (วัยรุ่น) เลี้ยงเด็กกันลำพัง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 09-04-2017 21:41:21
 :laugh: :m20: :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 09-04-2017 21:44:13
เอาแค่ขม กับ ภาพก็พอไหม? ไม่ต้องถึงกับจ๊ะจ๋าหรอก

นี่นึกภาพตามแล้วอดขำไม่ได้เลยเนี่ย ฮาาาา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-04-2017 21:49:42
 :z2: :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 09-04-2017 21:55:38
ชอบเรื่องนี้ม้ากกกกกก น่ารักสุดๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 09-04-2017 22:04:08
แค่ชือนะไม่เท่าไหร่   แต่จ๊ะจ๋าส่งท้ายนี่คืออะไร  555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-04-2017 22:13:37
ดีแล้วๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 09-04-2017 22:38:24
เอ็นดูหัวหอมอ่า น่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-04-2017 22:43:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 09-04-2017 23:23:59
หัวหอมลูกกก เอ็นดู~~~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 09-04-2017 23:27:13
5555 กะแล้ว หัวหอมต้องพูดดดดด
พูดจิง โดนครูว่าด้วยย 55555
เป็นไงคะ คุณพ่อคุณแม่ๆๆๆๆ ตายแล้ววว
ต้องเรียนกันจ๊ะจ๊าให้น่ารักเลยนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 09-04-2017 23:42:44
เป็นลูกไอ้ภาพแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: HanTwoH ที่ 10-04-2017 00:09:18
เด็กน้อยยยยย 55555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 10-04-2017 00:31:56
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 10-04-2017 00:51:44
เรียกที่รักแทนสิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-04-2017 05:20:55
หึหึ น่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 10-04-2017 07:13:29
เอ็นดูหัวหอม
ได้ไปโรงเรียนแล้ว

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 10-04-2017 08:44:36
อ่านตอนนี้แล้วขำแม่ขมกับพ่อภาพ :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 10-04-2017 09:01:52
5555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 10-04-2017 09:16:07
กาลิคน่ารักกกกกกกกกกกกกกก

ไม่รู้จะสงสารหรือขำขมกับภาพดี
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-04-2017 13:47:39
เป็นตัวอย่างที่ดีให้กาลิคนะจ๊ะขม ภาพ เด็กกำลังจำ สงสารและสมน้ำหน้าไปพร้อมๆกัน :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: PAtxxkMxxn ที่ 10-04-2017 15:32:57
น้องคาลิคอยู่กับขม ภาพ มาเดือนหนึ่งแล้วรึป่าวคัะ เหลือ2เดือนไหม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: krouy ที่ 10-04-2017 21:52:24
น้องหัวหอมน่ารักจังเลยลูกกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-04-2017 21:33:32
เจอ ภาพจ๊ะ ขมจ๋า เข้าไป  :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:

ทีนี้ก็เรียกกันดีๆนะ เดี๋ยวหัวหอมจะจำไปพูดอีก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 11-04-2017 23:36:39
โดนเรียกผู้ปกครองตั้งแต่วันแรกเลย 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 12-04-2017 06:12:18
ฮาอ่ะ ภาพจ๊ะ  o18 ขมจ๋า~ :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-04-2017 09:08:30
น่ารักอ่ะ~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 14-04-2017 21:19:10
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 18

“ ถึงแล้วจ๊ะขม ถึงแล้วจ๊ะกาลิค “ เสียงของไอ้ภาพเอ่ยบอกเราสองคน ตอนที่มันจอดรถลงที่หน้าร้านเอ็มเคสาขาแยกที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในห้าง " ลงไปกินข้าวกันเถอะนะจ๊ะ “

“ ไปกินข้าวกันนะ ไป “ เปิดประตูรถให้หัวหอมลงไปก่อนที่ผมจะเดินตามลงไป มันคว้ามือผมไว้ตอนที่เราเดินเข้าไปในร้านแล้วเลือกนั่งตรงโต๊ะตัวนึงที่พนักงานแนะนำให้ เมนูถูกส่งมาให้ หัวหอมก็ตาโตขึ้นด้วยความสนใจ

" อาขม อาขมนี่อะไรเหรอ " มือเล็กๆชี้ไปที่หม้อที่ตั้งอยู่ตรงกลางโต๊ะ

" เค้าเรียกว่า สุกี้ จ๊ะ "

" เหมือนกับปิ้งย่างที่เราเคยไปกินรึเปล่า " มันถามต่อ

" ก็คล้ายๆนะ แต่อันนี้เราเอาใส่ลงไปในน้ำซุปให้มันสุกไม่ได้เอาไปปิ้งให้มันสุก มึง..” ผมหยุดชะงักไปตอนที่จะเอ่ยเรียกอีกคนด้วยคำพูดที่ตัวเองพูดจนชินปาก " หัวหอมจะกินอะไร กินอะไรกันดี "

“ ไม่พูดแบบนั้นนะครับขม "

“ กู.." ผมที่กำลังจะอ้างปากด่าไอ้ภาพก็เบิกตาเหมือนกำลังห้ามผมที่จะพูด " ขมรู้แล้วครับภาพ "

“ น่ารัก พูดจาเพราะที่สุดเลย "

“ อึดอัดชะมัด " ผมพูดเสียงเบาๆแต่คนตรงข้ามก็ยังได้ยินอยู่ดี มันที่กัดฟันพูด

“ คิดว่าเป็นคนเดียวรึไง นี่ก็อึดอัดเหมือนกัน "

“ อาภาพ อาขมพูดอะไรกันเหรอ "

“ เปล่าหรอกครับ " ผมบอกปัด " มาดูกันดีกว่าหัวหอมอยากจะกินอะไรเอ่ย " 

“ สั่งผักอะไรดี “ ภาพถาม

“ ไม่ต้องสั่งเป็นชุดหรอก สั่งเฉพาะแค่ที่กินก็พอ “ ไล่สายตาไปตามเมนู ผมสั่งเฉพาะแค่ผักที่กินง่ายๆ อย่างผักบุ้ง ผักกาดขาว เห็ดเข็มทอง แล้วก็สาหร่าย “ หัวหอมจะกินอะไรดี สั่งเลย “

“ กาลิคจะกินคุณปลาอันนี้ “ มือมันชี้มาที่ลูกชิ้นปลาผมก็จัดการสั่ง

“ แล้วเอาอะไรอีก “

“ แล้วก็กลมมีไส้สีแดงอันนี้ “

“ โอเคอันนี้นะ “ หันไปสั่งพนักงานตามที่อีกคนบอกว่าอยากจะกิน ก่อนจะเพิ่มพวก ไข่ แล้วเนื้อสัตว์อีกมากมายเพราะต้องเผื่อไอ้ภาพด้วย “ ภาพจะกินอะไรมั้ย ขมสั่งเผื่อแล้วนะ จะเพิ่มอีกรึเปล่า “

“ ไม่ละครับ “ มันตอบก่อนจะยื่นเมนูให้พนักงาน “ ขอน้ำเปล่านะครับ “

“ น้ำเปล่าด้วยเหมือนกันครับ ของเด็กก็ด้วย “ ผมบอก พนักงานก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไป

“ ของเด็กก็ด้วย ก็คือของกาลิคก็ด้วยใช่มั้ยอาขม " มือเล็กๆเอื้อมมือกอดคอผมไว้ก่อนจะถาม พยักหน้ารับมันอีกคนก็ยิ้มก่อนจะจุ๊บลงข้างแก้ม " อาขม กาลิครักอาขม "

“ จริงอะ " ผมหันไปถามมัน จะว่าไปเดี๋ยวนี้ถูกหอมบ่อยมากจากผู้ชายตัวเล็กข้างๆนี้แหละ หอมกันยังไงก็ไม่มีเบื่อ หอมกันทั้งวัน

“ กู.. “

“ อะแฮ่ม! ” ไอ้ภาพกระแอมในลำคอ

“ อาขมเองก็รักกาลิคนะ " หันไปบอกมันก่อนจะหอมแก้มมันไปเต็มฟอด เจ้าเด็กขี้อ้อนก็ดึงตัวเองมานั่งลงที่ตัก จัดการลูบหน้าลูบผมให้มัน แต่งทรงผมให้เรียบร้อย 

“ น้อยใจอะ “ ไอ้ภาพพูดเสียงไม่เบานักมากจากฝั่งที่นั่ง ใบหน้าคมที่กำลังปั้นหน้าเศร้าหันไปมองอีกทางเหมือนตัวเองรู้สึกเสียใจอยู่มากมาย “ เค้ารักกันอยู่แค่สองคนไม่เห็นรักเราบ้างเลย น้อยใจจัง “

“ น่าสงสารรร “ หัวหอมบอกตอนที่มองไปที่ภาพ มันดึงตัวเองลุกขึ้นจากตักผมแล้วเดินลงไปหาไอ้ภาพ มือเล็กๆเอื้อมไปเช็ดหน้าให้อีกคน “ ไม่ต้องเศร้าไปนะอาภาพ กาลิคก็รักอาภาพเหมือนกัน “

“ อย่างงั้นเหรอ “ มันถามกลับอีกคนก็พยักหน้ารับ “ งั้นหอมแก้มอาภาพหน่อย “ ยื่นแก้มลงมาให้เด็กน้อย กาลิคก็หอมแก้มอีกคนไปเต็มฟอด

“ อาภาพ กาลิคก็รักอาภาพเหมือนกันนะ “

“ เหรอ กูเองก็รักมึง “ มันบอกก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวอีกคน

“ ภาพ พูดไม่เพราะเลยนะจ๊ะ “

“ อ้อ โทษทีๆ ลืมตัวๆ " ท่าทางตกใจของมันที่เหมือนจะคิดขึ้นมาได้ มือหนาเอื้อมมือไปขยี้หัวอีกคน " ลืมไปก่อนๆ ลืมคำเมื่อกี้ไปก่อนนะ จงลืมมม แล้วก็จำใหม่ อาภาพเองก็รักกาลิคเหมือนกันนะครับ “

“ ครับ “ พยักหน้ารับทีนึง “ แล้วอาภาพกับอาขมรักกันรึเปล่า “

“ เอ่อ..” ไอ้ภาพที่นิ่งไป มันเหลือบมองผมเหมือนไม่ค่อยอยากจะตอบ

“ ทำไม ภาพไม่รักขมเหรอ " ถามมันออกไปตรงๆเล่นๆ แต่อีกคนก็ยิ่งอึกอักที่จะตอบ " เป็นอะไร ก็ตอบออกมาสิว่า รักเค้าน่ะ "

" เออ ก็รักแหละ " มันว่าก่อนจะหันไปอีกทางไม่ยอมสบตาผม หัวหอมยืนมองหน้ามันงงๆ ก่อนจะเอ่ยถาม

“ แล้วทำไมอาภาพต้องหน้าแดง "

“ ร้อนเว้ย " มันบอกปัดอีกคนที่ก็ยังเอียงหน้างงไม่หาย

“ หนาวนะ ไม่ร้อนหรอก "

“ มึงเอามันไปทีขมไป " ภาพโบกมือไล่ ผมก็จิ๊ปากใส่มัน

“ พูดให้มันดีๆสิภาพ "

“ โอ๊ยยย " เสียงคนที่กำลังรำคาญลากเสียงยาว " ขมครับ ช่วยเอากาลิคออกไปหน่อยน้าาา ภาพไหว้ละ "

“ หัวหอมมานี่มา มานั่งนี่ อาหารจะมาแล้วนะ " ผมบอกก่อนจะตบเบาๆที่ที่นั่งข้างๆผม เจ้าตัวเล็กที่เดินมานั่งอย่างว่าง่ายแต่ทว่าก็เหมือนจะยังไม่หายสงสัยอยู่ดี

“ อาขม อาขม ทำไม อาภาพต้องหน้าแดงด้วยละ "

“ ยังไม่หยุดอีก " ภาพพูดเสียงเบาๆ ผมก็หลุดหัวเราะ

“ สงสัยจะเขินมั้ง "

“ เขินเหรอ ? เขินคืออะไรอะ แล้วอาภาพเขินทำไมละครับ " 

“ เขินก็คือ เราจะหน้าแดงๆ เวลาถูกถามอะไรสักอย่าง  หรือว่าไปเจอคนที่เราไม่รู้จักไง แบบที่ตอนแรก หัวหอมเขินเวลาที่ไปเจอปู่กับย่าไง ตอนนี้เราก็อายไม่ใช่เหรอ กอดขาอาขมแน่นเลย " ผมบอกอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ งั้นอาภาพก็เขินอาขมเหรอ "

“ สงสัยจะเป็นอย่างงั้นมั้ง พอให้บอกว่ารักอาขมหน่อย ก็เขินอาขมใหญ่เลย ดูสิ ยังเขินอยู่เลย " ผมมองหน้ามันที่ก็ชักสีหน้าไม่พอใจมองผม แต่เพราะผมยิ้มให้มันก็เลยเลิกเก็กแล้วหลุดยิ้มออกมาเสียแบบนั้น

“ พอเลย พอ เลิกพูดมากได้แล้ว "

“ เขินอะไรนักหนา ทำเหมือนบอกรักแฟนไปได้ หรือว่า.. พี่ภาพจะแอบปิ้งน้องขมอยู่ " สบตามันที่มองผมนิ่งๆตอนที่พูดคำนั้นถูกเอ่ยออกไป  สายตาที่ดูไม่เหมือนเดิมราวกับว่าคำพูดที่พูดออกไปเล่นๆของผมอีกฝ่ายจะคิดเป็นจริงเป็นจังอย่างงั้นแหละ รอยยิ้มของผมยิ้มที่ยิ้มให้มันค่อยๆคลายตัวลงช้าๆ ไอ้ภาพก็ยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะพูดเสียงเล่นๆ

" แหม พี่ก็ต้องปิ๊งน้องขมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วละจ๊ะ " มันตอบออกมาแบบนั้น แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นคำพูดกลบเกลื่อนของอีกคนเสียมากกว่า

" ขออนุญาติเสิร์ฟอาหารนะคะ " พนักงานที่ยกอาหารที่เราสั่งมาวางไว้ที่โต๊ะทีละอย่าง ในตอนนั้นผมที่มองมันอยู่ก็ยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้า คนอย่างไอ้ภาพไม่คิดอะไรแบบนั้นกับผมหรอก เมื่อกี้ก็คงจะแกล้งก็เท่านั้น เหมือนทุกทีนั่นแหละ คิดมาก

..................................................

“ โอ๊ยยยยย อิ่มสัด อิ่มเหี้ยๆ เลย " ไอ้ภาพเสียงดังขึ้นมาตอนที่หย่อนตัวเองลงนั่งในรถหลังจากมื้ออาหารที่เพิ่งกินกันเสร็จไปของเรา มันผ่อนลมหายใจออกมาผมก็เอื้อมมือไปตีไหล่มัน หัวหอมก็เอ่ยถาม
 
“ อาขม อิ่มสัดคืออะไรเหรอ คืออิ่มมากๆใช่มั้ย "

“ อิ่มสัดเป็นคำพูดที่ไม่เพราะเค้าไม่พูดกันหรอก "

“ แล้ว อิ่มเหี้ยๆละ "

“ อันนั้นก็พูดไม่ได้ ถ้าอิ่มเราก็พูดว่า อิ่มมากๆเลย หัวหอมห้ามพูดว่า อิ่มสัด กับ อิ่มเหี้ยๆ ที่โรงเรียนนะหรือว่าที่ไหนๆก็ไม่ได้ ไม่งั้นคุณครูต้องดุ แน่ๆเลย เพราะมันเป็นคำที่เด็กไม่พูดกัน " มันพยักหน้ารับกับผม ก่อนจะหันไปมองภาพ

“ แต่อาภาพพูดได้ใช่มั้ยครับ เพราะอาภาพโตแล้ว "

“ อาภาพเค้าแค่เผลอพูดนะ ไม่ได้ตั้งใจะพูดออกมาหรอก " ผมบอก ตอนที่หันไปชักสีหน้าให้ร่างสูง มันก็ยิ้มแห้งๆ

“ แหม เค้าก็ลืมตัวไปบ้าง อย่าถือสาเค้าเลยนะ " ภาพบอกก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวไอ้ตัวเล็กที่นั่งมองมันอยู่ " อาภาพแค่อิ่มนะ อิ่มากๆจนเผลอพูดคำไม่เพราะออกมาเลย ขอโทษนะครับ " หัวหอมส่ายหน้าไปมา " แล้วกาลิคอิ่มมั้ย "

“ อิ่มครับ "

“ ทีหลังไม่พูดแบบนั้นอีกนะจ๊ะ ภาพ มันไม่สุภาพ "

“ ครับขม ทีหลังภาพจะไม่พูดแบบนั้นอีก "

“ กาลิคก็จะไม่พูดแบบนั้นด้วยครับอาขม " มันหันมาบอกผมก่อนจะยิ้มให้

“ ดีมาก ไม่พูดน่ะดีแล้ว อาขมไม่อยากจะให้คนมองว่าหัวหอมเป็นเด็กไม่ดีนะ "

“ ครับ กาลิคจะไม่พูด " มันบอกก่อนจะเลื่อนตัวเองนั่งบนตักผมให้ถนัดขึ้น เราขับรถออกไปจากลานจอดรถ ภาพก็หันมาถามผม

“ ขมจ๊ะ เราจะต้องแวะห้าง หรือว่าเซเว่นเพื่อนซื้ออาหารเช้าให้กาลิคมั้ยจ๊ะ "

“ ต้องแวะจ๊ะ เพราะว่าไม่มีของกินตอนเช้าแล้ว " ผมตอบมันอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ งั้นภาพแวะห้างแล้วกันนะจ๊ะ มีของให้เลือกเยอะดี "

“ ถ้าจะแวะห้าง ขมว่าก็กลับคอนโดเราเถอะจ๊ะ แล้วค่อยเดินไปซื้อที่ห้างใกล้คอนโดมันสะดวกกว่านะจ๊ะขมว่า "

“ อุ้ย ขมฉลาดจัง " มันบอกผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ ขมไม่ได้โง่เหมือนภาพนี่น่าาา " ยิ้มให้มัน อีกคนก็ยิ้มกลับก่อนจะกัดฟันพูด

“ มึงว่ากูโง่เหรอไอ้ขม "

“ นี่มึงยังไม่รู้ตัวเหรอไอ้ภาพ " ผมกัดฟันตอบมัน " ฉลาดน้อยนะมึง "

“ อาขม อาภาพพูดอะไรกันเหรอ " คนที่นั่งบนตักผมเงยหน้าขึ้นถาม ผมก็ส่ายหน้า

“ เปล่าหรอก แค่คุยกันว่าจะซื้ออะไรให้หัวหอมกินดีพรุ่งนี้น่ะ เลยว่าจะแวะเข้าไปในห้างก่อนจะขึ้นคอนโด "

“ ตอแหลจัง " ไอ้ภาพกัดฟันพูด ผมก็ยกยิ้ม " ถามจริงนี่ไม่รู้สึกว่าตัวเองตอแหลเหรอ "

“ รู้สึกสิไอ้สัด " กัดฟันตบก่อนจะลูบหัวคนที่นั่งอยู่บนตักที่ก็เงยหน้ามองเราที่กำลังกัดฟันสททนากันอยู่ ท่าทางงงๆของมันชวนให้ผมชวนมันคุยเพื่อเปลี่ยนเรื่อง " พรุ่งนี้กินอะไรก่อนไปโรงเรียนดี ข้าวมั้ย หรือว่าแซนวิช อยากจะกินอะไรดี "

“ กาลิคกินได้ทุกอย่างงงงงงงงเลย  "

“ จะว่าไปก็อยากจะไปเรียนทำอาหารนะ " ไอ้ภาพเบรครถอย่างแรงตอนที่ผมพูดคำนี้ออกมา มันที่หันมามองผมผมก็หันไปมองมัน " ตกใจอะไรของมึง.. อุ้ย.. ภาพตกใจอะไรเหรอ "

“ ตกใจที่ได้ยินมึงพูดว่าจะไปเรียนทำอาหาร "

“ ไม่พูดมึงสิไอ้สัด " กัดฟันพูดบอกมัน อีกคนก็ถอนหายใจก่อนจะถามใหม่

“ ขมจะไปเรียนทำอาหารจริงๆดิ "

“ ก็แค่คิดแหละ " ผมบอกปัดมัน

   จริงๆมันเป็นความคิดที่อยู่ลึกมากๆของผม เพราะตอนเช้าแถวนี้มันไม่มีใครขายอะไรเท่าไหร่ ถ้ามีก็ต้องรอห้างเปิดซึ่งมันก็เลยเวลาเข้าเรียนแล้ว อีกอย่างจะให้กินข้าวนอกบ้านทุกเย็นก็ไม่ไหว กินทีสามคนก็ตั้งหลายบาทหารกันก็จริง ไอ้ภาพจ่ายเยอะสุดก็จริง แต่ผมก็เริ่มจะเกรงใจมันแล้ว อีกอย่างก็คิดว่า ถ้าทำอาหารเป็นบ้าง ในตอนเช้าหัวหอมมันจะได้ไม่ต้องกินอาหารเวฟด้วย

   ผมเองยังจำตอนที่หัวหอมไปกินข้าวที่บ้านไอ้ภาพได้เลย ตอนนั้นมันกินอาหารได้เยอะมาก เป็นอาหารที่ทำเสร็จใหม่ๆ เป็นของดีๆ แถมยังเหมาะสุขภาพของมันอีก เลยคิดเล่นๆว่า ถ้าผมทำกับข้าวได้บ้างก็คงดี อย่างน้อยก็จะได้ทำให้มันกินบ้าง

“ ลองทำสิ ภาพก็อยากจะกินกับข้าวฝีมือขมนะ " คนขับรถพูดขึ้นเสียงไม่เบานัก มันที่หันมายิ้มให้ที่ตอนนั้นก็นิ่งไปนิดหน่อย รู้สึกว่าเสียงของมันนุ่มๆยังไงก็ไม่รู้ ดูอบอุ่นเหมือนกำลังให้กำลังใจกัน

“ เหรอ "

“ อยากจะรู้ว่ารสชาติจะเหมือนแดกอาหารเม็ดของหมารึเปล่า "

“ ไอ้เหี้ย " ผมพูดไม่ออกเสียง อีกคนก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นรถ " ตกลงว่ากินอะไรดี หัวหอม แซนวิชมั้ย ง่ายดี "

“ ก็ได้ครับ " มันพยักหน้ารับ รถเคลื่อนตัวมาจอดด้านในคอนโด เราเดินลงไปจากรถไอ้ภาพก็บิดขี้เกียจเสียครั้งใหญ่เพราะเมื่อยจากการขับรถนานๆ

“ ภาพว่านะจ๊ะขม ถ้าวันไหนเราไม่มีเรียนเช้า เราขึ้นบีทีเอสไปส่งกาลิคกันดีกว่า "

“ งั้นภาพก็ไปส่งนะจ๊ะ เพราะขมไม่ชอบเบียดคนเยอะๆ ตอนเช้า " มีแต่ความเงียบจากคนตรงหน้า ผมรู้ว่าไอ้ภาพเองก็ไม่ชอบที่จะไปเบียดใครเยอะๆเหมือนกัน โดยเฉพาะตอนเช้าๆของขบวนบีทีเอส

“ ขับไปก็ได้จ๊ะ แหมม " มันว่าเสียงเบา ผมก็ยกยิ้มขึ้นมา

“ หัวหอมไปซื้อแซนวิชกันเถอะ พรุ่งนี้จะได้เอาไว้ไปกินที่โรงเรียนไง "

“ ครับ แล้วอาขม อาขม กาลิคซื้อขนมได้รึเปล่า "

“ ขนมเหรอ " ผมทวนถามอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ วันนี้ที่โรงเรียนตอนพักเที่ยงคุณครูให้กินข้าว แล้วก็นะ รินเน่น่ะ ก็เอาขนมออกมา อลันก็ด้วย แล้วเค้าก็กินกันแหละ เป็นขนมที่คุณแม่ของรินเน่แล้วก็อลันให้มาจากที่บ้าน กาลิคอยากจะเอาไปบ้าง กาลิคจะได้กินกับเพื่อน "

“ เหรอ ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ได้ แต่แค่กล่องเดียวนะตกลงมั้ย "

“ ครับ แค่กล่องเดียว " มันพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนจะดึงตัวเองเข้ามากอดผม "  อาขมใจดีที่สุด กาลิครักอาขม "

“ อาภาพใจดีกว่าตั้งเยอะ ทำไมไม่รักบ้างละ หื้มมมมมมมมม " ภาพก้มลงอุ้มอีกคนที่กำลังกอดผมไว้ มันหอมแก้มไอ้ตัวเล็กไปหลายฟอด " ตอนนั้นอาภาพซื้อขนมให้ตั้งเยอะนะ "

“ ก็เพราะว่า ภาพตามใจบ่อยไงจ๊ะ แต่ขมไม่ค่อยตามใจหัวหอม หัวหอมก็เลยอ้อนขม มันก็ปกติ " ผมยื่นมือไปหยิกแก้มเด็กที่ไอ้ภาพอุ้ม " แต่ขี้อ้อนก็เท่านั้นแหละ คนนี้น่ะ "

“ งื้อ อาขมหยิกแก้มหนู " มันหันตัวหนีไปกอดคอไอ้ภาพไว้ ผมก็จักกะจี้มัน

“ นี่แหน่ะ นี่แหน่ะ "

“ งื้อออ อาขม อย่าทำ อย่าทำกาลิค " มือเล็กๆที่ดึงมือผมออก เราหัวเราะสนุกสนานในช่วงเวลาสั้นๆนั้น ก่อนที่ผมจะก้มลงไปหอมเบาๆที่หลังมันด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ จะทำ หมั่นเขี้ยวเด็ก เด็กขี้อ้อน เด็กน่ารัก " ผมบอกมันก่อนเราจะเดินออกไปชั้นลานจอดรถ แล้วข้ามถนนไปที่ห้างที่อยู่อีกฝั่ง ผมเดินตรงไปที่ร้านแซนวิชสีเขียวเป็นร้านแรก จัดการสั่งแซนวิชของเจ้าตัวเล็กเพราะสั่งง่ายที่สุด หัวหอมกินผักไม่กี่อย่าง ใส่เยอะไปก็พาลจะไม่กินอีก แต่ถ้าใส่เนื้อสัตว์เยอะๆ พวก เบคอน ชีส ทูน่า แล้วละก็ บอกเลยว่ากินสู้ตาย เพราะชอบมาก " ภาพจ๊ะ ขมสัั่งแบบชิ้นใหญ่เลยนะ  เอาแบบหัวหอมนี่แหละ โอเคมั้ย "

“ โอเคครับผม " เงยหน้ามองพนักงานตอนที่ผมกำลังสั่งเธอก็ เบิกตามองผมยิ้มๆ คงสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า ทำไม อีลูกค้าคนนี้มันถึงพูดจาชวนอ้วกอย่างงั้น ผมยิ้มแห้งๆให้เธอ  เดี๋ยวมึงมีลูก มึงก็เข้าใจเองแหละ

“ อบร้อนมั้ยคะ " เธอถามผมก็ส่ายหน้า

“ ไม่ต้องครับ คิดเงินเลย " ผมบอกเธอ ที่ก็จัดการห่อแซนวิชแถวยาวให้เรา แซนวิชที่อัดไปด้วยเนื้อแล้วก็มีผักอีกนิดหน่อย พรุ่งนี้ตอนจะกินก็เอามาแบ่งๆกัน แล้วก็อบร้อนทีเดียวจะได้อร่อยๆ

“ กาลิคดูสิ แซนวิชที่เราสั่งยาวมากเลย " ไอ้ภาพลูบหลังอีกคนที่เหมือนนิ่งไปให้หันมาสนใจแซนวิซที่พนักงานกำลังม้วนแล้วยื่นมาให้ผม   

“ นิ่งเลย ท่าทางจะง่วงแล้วมั้ง " ผมเอียงหน้าดูอีกคนที่สายตาเริ่มบรือลงช้าๆ หน้าตานิ่งๆที่บอกว่ากำลังง่วงเต็มที่แล้ว " หัวหอม ไม่หลับนะ เดี๋ยวไปซื้อขนมกันไง ไม่อยากจะกินเหรอครับ "

“ กินครับ " มันว่าพร้อมกับดึงตัวเองออกจากไหล่ไอ้ภาพ แต่ก็ไม่ไหวทรุดลงไปอีกที มือที่กอดอีกคนไว้แน่น

“ ท่าทางจะง่วงจริง "

“ อย่าให้นอนนะภาพ เดี๋ยวคืนนี้ไม่หลับแล้วเป็นเรื่องนะจ๊ะ "

“ จ๊ะ ขม " มันตอบรับคำผม ก่อนจะเชิดหน้าไปที่พนักงาน " รับเงินทอนสิ "

“ อ้อ ขอโทษทีครับ " ผมหันไปยิ้มให้เธอที่ก็ก้มหน้ายิ้มให้ผม " ขอบคุณนะครับ " เก็บเงินใส่กระเป๋า เราเดินออกมาจากร้านผมก็หันมองไอ้ภาพ

“ ขมว่านะ เมื่อกี้คนขายมองขมแปลกๆ "

“ ก็สมควรมองแหละจ๊ะ ไอ้คำที่พูดอยู่ใครมันพูดกันละจ๊ะ "

“ น่ารักดีออก เหมาะสำหรับเด็กด้วย เด็กฟังแล้วสดชื่นหู ไพเราะออกนะจ๊ะ หัวหอมจะได้จำแล้วเอาไปพูดกับเพื่อนที่โรงเรียนไง " ผมบอกอีกคนที่ส่ายหน้าไปมา " แวะร้านขนมก่อนะจ๊ะภาพ "

“ จ้าๆ " มันตอบรับ " อ้าวไหน ใครอยากจะกินขนมก็มาเลือกเลย "

“ กาลิคจะเอาอันนี้ " มันดึงตัวเองมาหยิบลูกอมแต่ผมก็เบรคไว้

“ ไม่เอาอันนี้นะ เอาอันที่มีประโยชน์หน่อย อันนี้กินไปฟันผุนะ "

“ แต่กาลิคอยากกิน " มันบอกเสียงเบาๆก่อนจะเริ่มทำหน้ายู่ " ให้กาลิคซื้อนะอาขม กาลิคอยากจะกิน "

“ เอาอย่างอื่นดีกว่านะ "

“ แต่กาลิคอยากกินลูกอมมม ลูกอม จะเอา จะเอาลูกอมม อึก ฮือๆ อยากกินลูกอม ลูกอม ฮือๆ " เสียงพูดที่อยู่ๆก็ร้องไห้ออกมาแบบไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ยอะไรทั้งนั้น

“ แล้วจะร้องไห้ทำไม "

“ ก็อาขมไม่ให้ซื้อ อึก แต่ กาลิค กาลิคอยากกิน " มันว่าเสียงงอแงก่อนจะชี้ไปที่ลูกอมห่อนึงที่อยากจะได้มากมาย มันเป็นลูกอมแบบที่ซื้อไปไอ้ตัวเล็กก็ไม่กินแน่ๆ เพราะมันเป็นลูกอมที่เปรี้ยวมากๆก่อนถึงจะหวาน

“ อันนี้หัวหอมกินไม่ได้หรอก เชื่ออาขมสิ "

“ กินด้ายยย " มันที่ยังเถียงด้วยแววตาแดงๆ ผมผ่อนลมหายใจออกมา ไอ้ภาพก็พูดเสียงเบา

“ ตามใจมันไปเถอะน่า ซื้อไปก่อนมันไม่กินหรอก เราค่อยกินก็ได้ "

“ ไม่ได้ ไม่ได้คือไม่ได้ ไม่ตามใจ " ผมบอก " เสียนิสัย ไม่ใช่ว่าอยากจะได้อะไรแล้วร้องจะเอา ถ้ายอมตามใจครั้งนี้ ครั้งหน้าก็ต้องร้องไห้จะเอาอีก " ผ่อนลมหายใจออกมากับเด็กที่อยากจะนอนด้วยก็เลยยิ่งงอแง ผมดึงกาลิคที่ภาพอุ้มอยู่มาอุ้มแทน " หัวหอมครับ มองหน้าอาขมก่อน "

“ ไม่มอง อาขมไม่ให้ซื้อลูกอม กาลิคไม่รักอาขมแล้วว  "

“ ถ้าไม่มองอาขม งั้นอาขมคิดว่าเราคงพูดกันไม่รู้เรื่องแล้วนะ เพราะงั้นเราจะกลับบ้านกันไม่ซื้อขนมอะไรทั้งนั้นสักชิ้นเดียว ไว้หัวหอมตั้งสติได้ เราค่อยมาใหม่ " บอกแค่นั้นก่อนจะเดินพาอีกคนออกไปจากร้าน แล้วในวินาทีนั้นเจ้าตัวเล็กก็ร้องไห้งอแงขึ้นมาแบบครั้งใหญ่ " ถ้ายิ่งร้องไห้อาขมก็จะยิ่งไม่ซื้อให้นะ เพราะว่าหัวหอมไม่มีเหตุผลเลย "

“ ก็อาขม อึก ฮือๆ ไม่ให้ซื้อ อึก กาลิคจะกิน ขะ หนม ฮือๆ "

“ ซื้อได้ ซื้อให้ แต่ไม่ใช่ลูกอม " ผมพูดเสียงแข็งนี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเองเหมือนจะดุมันอยู่หน่อยๆ " ถ้าไม่หยุดร้องไห้ก็ไม่ต้องเอาอะไรเลย กลับบ้าน แต่ถ้าหยุดร้องไห้แล้วหันมาพูดกันให้รู้เรื่อง ว่าจะซื้อแค่ขนมที่มีประโยชน์ และซื้ออันที่อาขมอนุญาติ อาขมก็จะพาหัวหอมกลับไปซื้อ แต่ถ้าหัวหอมยังดื้อจะซื้อของที่ไม่มีประโยชน์ก็กลับบ้านกัน " ทุกอย่างเงียบเจ้าตัวเล็กที่หันมองภาพที่เดินตามผมมา มันที่พยายามเอื้อมมือไปหาอีกคนเหมือนให้ช่วย ผมก็บอก  " อาภาพก็ไม่ช่วย ไม่ต้องหาคนให้ช่วยเลย เอาไงจะซื้อขนมมีประโยชน์หรือจะกลับบ้าน " แววตาออดอ้อนที่มองมาทางผมทีมองไอ้ภาพที

“ ไม่กลับบบค้าบ อึก จะซื้อคาหนมมม " มันว่า

“ งั้นก็นิ่งซะ ไม่ต้องร้องไห้ " เอื้อมมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้มันอีกคนก็ซบลงบนไหล่ก่อนจะสะอื้นเป็นพักๆ " จำไว้นะหัวหอม ร้องไห้จะเอาของที่อยากจะได้ ก็ยิ่งจะไม่ได้ เพราะงั้นถ้าบอกว่าไม่ก็คือไม่ ถ้าบอกว่าจะซื้อให้ ก็จะซื้อให้ตามที่พูดเหมือนกัน "

“ อึก ฮือๆ อาขม กาลิคจะไม่กินลูกอมแล้ว จะกินขนมที่มีประโยชน์  อึก ครับ อาขมซื้อ ซื้อขนมให้กาลิคนะ น้าา " มันดึงตัวเองขึ้นมาบอกผม แก้มชมพูกับแววตาที่ใสๆชวนให้ใจอ่อนลงไปแต่ก็ต้องปั้นหน้านิ่งไว้ เพื่อให้มันรู้ว่ากำลังเอาจริง

“ แน่นะ "

“ แน่ครับ สัญญา " มันพยักหน้ารับก่อนจะยื่นนิ้วก้อยมาให้ ผมเกี่ยวก้อยมันกลับก่อนจะหอมแก้มมัน

“ อาขมรักหัวหอมนะ " ผมบอกมันอีกคนก็พยักหน้ารับ " ตอนนี้เราตกลงกันได้แล้ว งั้นก็ไปซื้อขนมที่มีประโยชน์กันนะ "

“ ครับ " มันพยักหน้ารับ

“ กาลิคเก่งมาก ไม่งอแงแล้ว "  ภาพว่าพลางเอื้อมมือมาขยี้หัวมัน เราเดินกลับมาที่ร้านขายขนมที่แม่ค้ายิ้มให้เราด้วยความใจดี เธอเอียงหน้าทักเจ้าตัวเล็ก

“ ไม่ร้องไห้งอแงแล้ว เก่งจังเลย "

“ คราวนี้ก็ลงไปเลือกขนมได้แล้ว " ผมบอกก่อนย่อตัวให้มันเดินไปเลือกขนม หัวหอมเลือกขนมมันม่วงเป็นแท่งๆมากล่องนึง ก่อนจะเดินมาหาผม

“ อันนี้ได้มั้ยครับ "

“ ได้ครับ เอาอันนี้นะ " มันพยักหน้ารับ ท่าทางดูหงอยจนสงสารเลย อยากจะซื้อเพิ่มให้กินอีกสักชิ้นแต่ก็ต้องแข็งใจไว้ ไม่ได้เด็ดขาด " งั้นก็ยื่นให้พี่สาวเค้าเลย เราจะได้จ่ายเงินกัน "

“ นี่ครับ " มันว่าเสียงอ่อยๆ คนขายก็ยิ้มกว้างกับท่าทางของมันก่อนจะยื่นป๊อกกี้ที่เป็นซองเล็กๆมาให้

“ อันนี้พี่ให้นะ สำหรับคนเก่ง "

“ ขอบคุณครับ " ยกมือไหว้เรียบร้อยเราจ่ายเงิน หัวหอมก็ถือขนมของตัวเองก่อนจะดึงมือผม " อาขม อุ้ม อุ้มกาลิค "

“ ให้อาภาพอุ้มดีกว่ามา " ภาพเสนอตัวอีกคนก็เดินไปให้อุ้ม มันที่ซบลงไปบนไหล่ใบหน้าน่ารักที่ชวนให้ผมถอนหายใจออกมา บทจะน่ารัก ก็โคตรน่ารัก บทจะดื้อ จะงอแงก็สุดๆไปเลย " กลับบ้านกัน จะซื้ออะไรอีกมั้ยจ๊ะ "

“ ไม่ละจ๊ะ " ผมส่ายหน้าบอกอีกคน เราก็เดินออกจากห้างกลับเข้าไปในคอนโดตัวเอง  ในลิฟต์เงียบเชียบที่มีแต่เราสามคน ผมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อกี้แล้วรู้สึกขำตัวเองชะมัด ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ได้ ไอ้แบบที่ว่าวางกฏแล้วพยายามควบคุมนิสัยหัวหอมแบบนั้น

“ คิดอะไรอยู่ " ภาพถามผมก็หันไปมองหน้ามัน

“ คิดว่าเมื่อกี้กูทำไปได้ยังไงวะ  กูทำตัวเหมือนแม่คนเลย "

“ คราวนี้พูดเองนะจ๊ะ " ไอ้ภาพว่าผมก็หลุดหัวเราะออกมา แต่ช่างเถอะถ้าจะเลี้ยงเด็กสักคนมันต้องมีใครสักคน ทำหน้าที่แม่อยู่แล้ว และผมก็คิดว่าถ้าทำให้หัวหอมเติบโตเป็นคนดีแล้วก็มีเหตุผลได้ จะบอกว่าผมเหมือน แม่ แบบนั้นก็คงไม่เป็นไร  ผมเต็มใจเป็นให้อยู่แล้วถ้ามันจะเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กดีแล้วละก็นะ ...  แต่จะว่าไป อุดมการณ์แบบนี้ ก็คงมีแต่คนเป็นแม่เท่านั้นแหละที่เป็น แต่เอาว่ะ! แม่ก็แม่

....................................................

แม่ก็คือแม่ กล่าวคือ เป็นแม่จริงๆแล้วนั่นแหละ ขม ฮ่าๆๆๆ
ทำไมแอบขำ คำพูดคำจาของไอ้สองคนนี้วะ ตลกอะ อ่านแล้วแบบ อะไรของมัน
จะให้กาลิคไปพูดกับเพื่อนที่โรงเรียนแบบ รินเน่จ๊ะ คุณครูจ๊ะ งี้เหรอ ฮ่าๆๆๆๆๆ
แต่เอาเถอะ พ่อแม่เค้าคิดว่าว่าดีแล้ว ให้เค้าทำไปก่อน เดี๋ยวลูกเต้าทนไม่ไหวก็คงบอกเอง
สุดท้ายนี้ สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ ทุกท่านนนนนนนน

ยังไงฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ แล้วก็ฝากแชร์ในเฟสด้วย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์นะจ๊ะ
รักค่ะ หนมมี่ ~   :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 17 - 9.4.60} #หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 14-04-2017 21:29:49
ขมเด็ดขาดมากเลยไม่มีท่าทีใจอ่อนใดๆ
แม่ก็คือแม่สินะ 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 14-04-2017 21:39:19
ขมเป็นแม่ที่ดี

 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Faiia ที่ 14-04-2017 21:46:15
น่ารักมากกกกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 14-04-2017 22:07:41
แม่ก็คือแม่ 555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 14-04-2017 22:20:32
นึกว่าหลุดออกมากจากยุคไหนจะ๊จ๋ามาเต็มขำกลิ้ง5555 ขมสุดยอดคุณแม่มากกกกกกกบอกเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 14-04-2017 22:34:41
แม่ก็แม่เนอะอาขม

ว่าแต่...ขำกับท้ายเสียงมาก จะมาจ๊ะจ๋ากันตลอดงี้จริงสิ ฮาาาาา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-04-2017 22:47:52
มีแต่จ๊ะ มีแต่จ๋า มีแต่จ้าเต็มไปหมดเลย ดีแล้วฝึกไว้จะได้ชินเวลาเปลี่ยนสถานะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-04-2017 22:59:58
ขุ่นแม่ดุมากกกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 14-04-2017 23:01:30
ขำตรงภาพกับขมคุยกันนี่แหละ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 14-04-2017 23:08:34
เชื่อฟังแม่ขมนะหัวหอม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 14-04-2017 23:36:14
ขม แกหน่ะ โครตแม่เลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-04-2017 00:08:36
 :3123: :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 15-04-2017 00:17:30
เหนื่อยแทนตรงพูดจ๊ะจ๋านี่แหละ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-04-2017 00:34:34
ใจแข็งน่าดู
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 15-04-2017 01:05:58
แม่ขมมมมมม~~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-04-2017 01:06:21
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-04-2017 06:21:17
กราบแม่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-04-2017 06:51:20
อึดอัดกับภาษาของขมกับภาพ พูดปกติก็ได้แค่ไม่มีคำหยาบก็พอมะ5555 ชอบที่ขมสอนกาลิคนะไม่ตามใจทุกอย่าง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-04-2017 07:28:33
ว่าที่จริงไม่พูดคำหยาบกันให้เด็กได้ยินน่ะถูกต้อง
เพราะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เด็กจะทำตาม
แต่ทำไมใช้ "จ๊ะ" ล่ะ ดูมันตลกๆ เพราะปกติ จ๊ะ มีแต่ผู้หญิงพูด
แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่เห็นใช้กันนะ
มีแต่ค่อนข้างมีอายุใช้ กับไม่ใช่ในเมือง
พูดชื่อ เรียกชื่อ แล้วตามด้วยครับ น่าจะเหมาะนะ
เพราะหัวหอม ก็เป็นเด็กผู้ชาย
แบบ "ขมครับ กินอะไรดี"
"ภาพครับ เดี๋ยวเราแวะห้าง ซื้อของเข้าบ้านนะครับ"
"แล้วแต่ขม ละกัน"
ก็เสนอไรท์  ยังไงก็แล้วแต่ไรท์นะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 15-04-2017 08:56:18
จ๊ะๆจ๋าๆ อ่านแล้วจั๊กกะจี๊ 55555555
แม่ขม แม่ก้อคือแม่จิงๆ ^0^
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 15-04-2017 10:30:42
ขมกับภาพพูดจ๊ะจ๋าแล้วรู้สึกแปลกๆ พูดธรรมดาไม่ได้หรอ ขนลุก 55555

ขมนี่สมกับเป็นแม่จริงๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: SeaBreeze ที่ 15-04-2017 11:19:07
พูดธรรมดาได้ไหมคะ ภาพพูด'จ๊ะ' ตอนอ่านความรู้สึกมันไม่ได้จริงๆอ่ะคะ :a5:

คุณแม่มือใหม่ แม่ขม สู้ๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 15-04-2017 11:48:32
องค์แม่ประทับ 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: PAtxxkMxxn ที่ 15-04-2017 11:50:53
แม่ขม :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 15-04-2017 12:19:37
ขมเป็นคุณแม่เจ้าระเบียบ ส่วนภาพก็ตุณพ่อจอมตามใจที่ไม่กล้าหือกับคุณแม่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 15-04-2017 13:02:38
 :m20: แม่ขมจ๊ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-04-2017 16:05:39
แม่ก็คือแม่...จริงๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 18 - 14.4.60} #หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-04-2017 00:12:45
โหมดโหดต้องมาค่ะ ขมเริ่มออกอาการคุณแม่จริงๆละ 5555 ทำไงได้เนาะ ตามใจมากก็จะติดจนเคยตัว
แล้วแถมไม่เคยงอแงอีก อยู่ดีๆก็งอแง ต้องค่อยๆสอนเนาะ

กาลิคเอ้ยยย ทำไมฉลาดแบบนี้ เลือกจำทำไม 5555 อาขมกับอาภาพก็งานเข้ากันไปค่ะ
กว่าจะบอกให้เข้าใจก็หลายยก

ขมภาพ จ๊ะจ๋าก็เยอะไป เรียกแค่ชื่อ แล้วพูดปกติก็ได้อยู่นะ พ่อแม่มือใหม่
มาเรียนรู้ มาสู้กันต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 16-04-2017 21:17:21

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 19

“ แซนวิชสำหรับมื้อเช้าเสร็จแล้วจ๊ะ " ผมบอก ก่อนจะวางแซนวิชอบร้อนที่ซื้อมาเมื่อวานใส่จานให้หัวหอม พร้อมกับนม ก่อนจะเดินเข้าไปเอาของไอ้ภาพแล้วก็ของตัวเอง " อันนี้ของภาพ นะจ๊ะ แล้วอันนี้ก็ของขม "

“ ขอบคุณนะจ๊ะขมจ๋า "

“ จ๊ะภาพ ไม่เป็นไร " นั่งลงข้างอีกคนเรียบร้อย หัวหอมที่มองหน้าเราด้วยแววตาที่ขมวดคิ้วจนยุ่ง ผมก็ถาม " เป็นอะไรครับ ทำไมไม่กินละ "

“ อาขม ทำไม อาขมต้องพูดกับอาภาพแบบนั้น "

“ แบบไหนเหรอ "

“ แบบจ๊ะๆ ทำไมต้องพูด จ๊ะๆ ตลอดเลย "  หน้าตาเหยเกของมันเอ่ยถามผมที่ก็นิ่งไป " กาลิคไม่เห็นชอบให้พูดแบบนั้นเลยอะ "

“ ทำไมอะ เพราะออกนะ น่ารักดีด้วย เอาไว้ไปพูดกับเพื่อนที่โรงเรียนไง แบบว่า กาลิคว่านะจ๊ะ รินเน่ "

“ ไม่เอาอะ กาลิคไม่พูดหรอก จะเรียกตัวเองว่า กาลิคเฉยๆ ถ้าพูดจ๊ะๆมันดูไม่แมนอะ " ผมเบิกตามองคำคอมเม้นท์ของคนข้างๆ แต่ไอ้ภาพที่แทบจะสำลักนมที่กินอยู่

“ มันดูไม่แมน "

“ ถ้าพูด จ๊ะๆ มันไม่แมนอะ กาลิคไม่ชอบเลย ขนาดรินเน่เป็นผู้หญิง รินเน่ยังเรียกตัวเองว่า รินเน่เฉยๆเลย ไม่มีจ๊ะ " มันส่ายหน้าบอก " อาขม อาภาพอย่าพูดเลย มันดูไม่แมนนะ "

“ เชี้ย " ผมกัดฟันสบถออกมา " นี่คือกูโดนเด็กสี่ขวบคอมเม้นท์ว่า ว่ากูไม่แมนถูกมั้ย "

“ ก็คงอย่างงั้นอะจ๊ะ " ไอ้ภาพตอบผมก็แบะปากใส่มันกลับไป

“ กาลิคไม่ชอบเลย มันแปลก "

“ แล้วชอบให้พูดแบบไหน " ภาพ ถามมันก็คิด

“ พูดเหมือนเดิม "

“ แบบเดิมมันไม่เพราะ " ผมบอก " ถ้าพูดแบบเดิมเดี๋ยวหัวหอมเอาไปใช้ที่โรงเรียน คุณครูก็จะบอกว่า หัวหอมเป็นเด็กไม่น่ารักอีกนะ "

“ กาลิคจะไม่พูด " มันโบกมือไปมา " กาลิคเป็นเด็ก อาขมบอกว่าเด็กจะไม่พูดคำพูดไม่เพราะ แต่ว่า ผู้ใหญ่พูดได้ อาขมบอก "

“ ก็จริงอยู่แต่ว่า อาขมก็กลัวกาลิคเอาไปพูด " ถ้ามันพูดตอนที่มันโตแล้วก็ไม่เป็นไรหรอก ผมถือว่ามันแยกแยะอะไรได้เองแล้วในตอนนั้น แต่ตอนนี้จากที่คุณครูเล่ามาผมก็คิดได้มันคงแยกแยะไม่ได้หรอก ก็เลยติดสินใจพูดให้มันเพราะๆกับภาพ

“ กาลิคจะไม่พูด " มันยังคงยืนยัน

“ ก็เอาแบบนี้สิ เวลาเราพูดกับกาลิค เราก็พูดให้มันดีๆหน่อย ไม่พูดมึงกูกับกาลิค แต่เวลาเราคุยกัน เราก็คุยกันเหมือนเดิม แต่ลดคำหยาบลง แบบว่า ..” ภาพเงียบไปก่อนจะพูดไม่ออกเสียง " เหี้ย สัด ควาย ส้นตีน อีห่า "

“ เดี๋ยวๆ นั่นด่ากูรึเปล่า หน้าตาดูจริงจัง "

“ อุ้ย รู้..” มันสะดุ้งตัวถอยหลังนิดหน่อยผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา " คำพูดพวกนั้นเราก็ไม่ต้องพูด ไว้ด่ากันส่วนตัว "

“ แต่กูกลัวกาลิคจะเอาไปพูด "

“ กาลิคไม่พูดหรอก เด็กไม่พูดกัน " มันว่าก่อนจะยกนมขึ้นดื่ม

“ จริงนะ ไม่พูดจริงๆนะ " มันพยักหน้ารับผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ กาลิคไม่ชอบที่อาขม อาภาพพูดแปลกๆ มันแปลกๆ "

“ มันแปลกยังไงละ " ภาพถาม

“ ก็มันแปลกๆนะ  มัน.. มัน..” มันคงอธิบายไม่ถูกว่าสิ่งที่ตัวเองรู้สึกคืออะไร " มันไม่ใช่อะ อย่าพูดเลยนะ มันไม่แมนด้วย ผู้ชายเค้าไม่พูด จ๊ะๆกันหรอกนะ "

“ รู้ดีไปอีก แต่มันก็มีคนพูดกันนะ " ผมบอก

“ ขนาดคุณครูที่โรงเรียนยังเรียกกาลิคว่า กาลิคครับเลย คุณครูดูแมนกว่าอาขมอาภาพไปแล้ว "

“ โอเค โอเคยอมละ ไม่พูดก็ได้ ไม่พูดแล้ว " ยื่นมือไปลูบหัวอีกคนไอ้ภาพก็บอก

“ ที่กาลิคบอก อาจจะหมายถึงว่า ที่เราพูดมันดูไม่ธรรมชาติอะ หรือจะพูดง่ายๆก็คือ.. " มันเว้นเสียงก่อนจะพูดไม่ออกเสียงแต่กลับทำหน้าจริงจังใส่หน้าผมตอนที่พูดคำพูดนั้น " ตอแหล "

“ จ๊ะ " พยักรับมัน คือผมก็รู้สึกแบบนั้นแหละ ว่าหัวหอมมันต้องอยากจะพูดอะไรแบบนั้น แต่เพราะหัวหอมมันยังไม่รู้คำพูดพวกนั้นไง ว่าแบบนั้นเรียกว่าอะไร เลยพูดออกมาไม่ถูก  " ว่าแต่เย็นนี้กลับจากโรงเรียนอยากจะกินอะไร "

“ อยากจะกินเหมือนที่บ้านคุณย่า อยากกินวูด แล้วก็กุ้งทอด "

“ แกงจืดกับกุ้งชุปแป้งทอดนั่นเองนะครับ " ไอ้ภาพบอก ผมก็พยักหน้ารับ จะว่าไปเมื่อคืนก็นอนไม่หลับ ผมเลยจัดการดูคลิปวิดีโอสอนทำอาหารในเน็ตแล้วรู้สึกว่า มันก็ไม่ยากอะไรเลยนะ ถ้าหัดผมคงทำได้แหละ

“ งั้นอาขมจะทำให้กินนะ "

“ ห๊ะ ? อาขมว่าอะไรนะ ขออีกที " ร่างสูงตรงหน้าเอียงหน้าถามด้วยสายตาไม่เชื่อเท่าไหร่ ผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ อาขมจะทำให้หัวหอมกินเอง แค่สองอย่างใช่มั้ยละ "

“ อื้ม "

“ จะดีเหรอ " ภาพถาม " ค่ารักษาที่โรงพยาบาลแพงนะ "

“  นี่ มึงอย่ามาดูถูกกู " ผมบอก " ถ้ากูทำอร่อยขึ้นมา มึงอย่ามาขอข้าวเพิ่มนะเว้ย "

“ โอ้โหหหหห กล้าที่จะพูดคำนั้น ปกติ มึงทอดแต่ไช่ดาว ไข่เจียวไม่ใช่รึไง "

“ แต่นั่นก็เรียกว่ามีพื้นฐานงานครัวมั้ยละวะ กูต้องทำได้แน่นอน แล้วจะอร่อยด้วย "

“ อย่าใส่ผงชูรสเยอะ จนแดกทีผมร่วงหมดหัวละ " มันบอก ผมก็เชิดหน้าหนีไม่ใส่ใจ  จำไว้กูจะต้องทำให้อร่อยจนมึงต้องขอข้าวเพิ่มให้ได้เลย

“ เอาเป็นว่าวันนี้เดี๋ยวอาภาพ ไปรับหัวหอมกลับจากโรงเรียน อาขมจะเตรียมทำอาหารรอไว้นะ ตกลงมั้ย "

“ ได้ครับ " มันพยักหน้ารับ " เอาอร่อยๆเลยนะอาขม "  คำพูดที่ชวนให้ร่างสูงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“ เอาจริงดิ อย่าให้สัญญาณเตือนไฟไหม้ดังนะมึง เดี๋ยวยุ่ง "

“ มึงแม่งโคตรดูถูกอะ " ผมบอกด้วยสีหน้ามุ่ยๆที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ กับกานที่มันเอาแต่ดูถูกฝีมืองานครัวของผม เคยทอดไข่ไหม้แล้วไงวะ ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์ไม่ใช่รึไง แล้วไม่ลองทำมันจะไปรู้รึไงว่าทำได้รึเปล่า อาจจะอร่อยก็ได้ใครจะไปรู้

“ ดูถูกนั่นก็ถูกแล้วนี่ ก็ดีกว่าดูผิดปะวะ "

“ หนอยยยยย มึง " ผมกัดฟันพูด อีกคนก็ยักคิ้วให้ ไหนใครแม่งบอก ภาพก็อยากจะกินอาหารฝีมือขม เมื่อวานแม่งยังพูดอยู่เลย
“ ก็หวังว่าคงไม่ต้องสั่งอาหารเดลิเวลี่มากินละนะ "

“ เออ!!” ผมตะคอกมัน ก่อนจะก้มหน้าลงกินแซนวิชที่ตั้งอยู่ในหมด ไอ้ภาพที่ส่ายหน้าไปมายิ้มๆ คอยดู กูจะทำให้มึงต้องชมว่า อาหารกูอร่อยให้ได้เลย แล้วคราวนี้พอมึงอยากจะให้กูทำให้มึงทำอะไรให้มึงกิน กูจะเล่นตัวกับมึงบ้าง ไอ้สัด จำไว้!!

   จัดการส่งหัวหอมที่โรงเรียนก่อนจะขับตรงมาที่มหาลัย ไอ้ภาพจอดรถส่งผมที่หน้าคณะแต่ก็ไม่วายเอ่ยบอกสิ่งทีมันดูถูกผมไว้ตั้งแต่คอนโด ' ออกไปกินข้าวที่ร้านกันดีกว่าน่า ' ผมหันไปชักสีหน้ามัน ที่ก็ยกยิ้มอยู่แบบนั้น ลงจากรถขึ้นมาบนตึกเรียนก่อนจะวางกระเป๋าลงบนโต๊ะด้วยความหงุดหงิด

“ อะไรของมึงวะ เสียงดังจัง " ไอ้โมทัก ผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา " ไปแดกรังแตนที่ไหนมาอีกเหรอละ ทะเลาะกับไอ้ภาพเหรอ "

“ เออ แม่งกวนตีนกู!”

“ อะไรกันอีกละวะ " มันว่ายิ้มๆ ผมก็พูดเสียงเบาๆ

“ ก็วันนี้กูจะทำกับข้าวให้มันกิน แล้วมันก็บอกว่า น่าจะท้องเสียให้ออกไปหาอะไรแดกดีกว่า มันหาว่ากูทำกับข้าวไม่น่าจะอร่อยอะ แล้วก็บอกว่ากูไม่มีแววเป็นแม่ครัวด้วย "

“ ก็จริงของมันนี่ " โมบอกผมก็หันไปขมวดคิ้วมองมัน

“ มึงแม่งง ก็เอากับมันด้วยเหรอวะ ทำไมอะ เดี๋ยวนี้พอแฟนตัวเองเป็นเพื่อนกับไอ้ภาพ ก็เข้าข้างไอ้ภาพเหรอ กูเพื่อนมึงนะเว้ย อย่าได้แฟนทิ้งเพื่อนสิโม "

“ เชี้ยย พูดอะไรของมึง ใครแฟนไอ้ชัดกัน " มันเถียงด้วยหน้าแดงๆ ของตัวเองผมก็ถอนหายใจออกมา

“ กูยังไม่พูดเลย ว่าเพื่อนคนไหนของไอ้ภาพ พูดเอง เออเองเลยนะ ว่าเป็นไอ้ชัด "

“ อะไรของมึง " มันหันหน้าไปอีกทาง ผมก็หลุดยิ้ม

“ ว่าไงถึงไหนแล้วละ "

“ ถึงไหนเหี้ยอะไรวะ ก็เรื่อยๆ ไม่ได้อะไรทั้งนั้นอะ " คำตอบโกหกของมันพูดออกมาเหมือนผมนี่โง่เอามากๆ

“ นี่มึงคิดว่าพูดออกมาแบบนั้นแล้วกูจะเชื่อมึงจริงๆเหรอวะ " ผมถาม อีกคนก็ก้มหน้าลงกับกระเป๋าตัวเอง พอพูดตรงใจเข้าหน่อยก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ไม่ใช่ไม่รู้สักหน่อยว่ามันไปกินข้าวกับไอ้ชัดหลังเลิกเรียนบ่อยๆ ไอ้ชัดออกตัวแรงมากว่าชอบมัน แต่ก็เหมือนมีแต่ไอ้โมนี่แหละที่ยังลังเล ไม่ยอมบอกออกไปตรงๆสักทีว่าใจตรงกับเค้า " ระวังเถอะมึง ถามว่าเป็นอะไรกันแล้วมัวเขินอยู่แบบนี้ ระวังคนอื่นจะคาบไปแดกนะจ๊ะ " โมเงยหน้าขึ้นมามองผมที่พูดแบบนั้น สายตาที่ดูกังวลของมันสีหน้าแดงๆที่กำลังเขินเมื่อครู่เปลี่ยนไปทันที

“ อื้ม กูก็รู้แหละ "

“ เดี๋ยวๆ กูแค่พูดเล่น ไม่ต้องดราม่าอะไรขนาดนั้นก็ได้นะ "

“ กูไม่ได้ดราม่า " มันว่าก่อนจะถอนหายใจออกมา " จริงๆ มันก็เป็นอย่างที่มึงพูดแหละ แต่กูไม่รู้จะทำยังไงนี่หว่า " ฟุบลงบนกระเป๋าตัวเองอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมาดังๆ โมเงยหน้าขึ้นมามองผม " ชัดมันขอกูเป็นแฟนตรงๆแล้ว แต่กู ไม่กล้าตอบมันออกไปตรงๆวะ "

“ ห๊ะ ? “ ผมสบถออกมาอีกคนก็ยิ่งถอนหายใจ หน้าตาที่ดูเหมือนหนักใจเอามาก

“ อื้ม กูไม่กล้าตอบ "

“ ทำไมไม่กล้าตอบวะ "

“ กูเป็นผู้ชายนะเว้ย มันก็แปลกมากแล้วไม่ใช่เหรอวะที่กูต้องมารู้สึกแบบนี้กับผู้ชายด้วยกันเอง  แล้วจะให้กูตอบออกไปตรงๆว่า ได้สิ คบกันนะ เหรอ อย่างงั้นเหรอ กูไม่กล้าอะ กูไม่รู้ว่ากูรออะไรทั้งๆที่ใจกูมันก็บอกใช่ไปแล้ว แต่กูก็ยังไม่กล้าอยู่ดี แล้วพอกูมานั่งคิดว่า ยิ่งไม่พูดอะไรแบบนี้สักวันชัดมันอาจจะเบื่อคนเล่นตัวแบบกูก็ได้ พอคิดแบบนั้น กูก็กลัววะ "

“ กลัวว่าจะเสียมันไป " ผมขยายความอีกคนก็นิ่ง

“ อื้มมม ก็ไม่เชิงอย่างงั้น "

“ แล้วมึงกลัวอะไร "

“ กลัวอะไรเหรอ " มันทวนคำถามก่อนจะคิด " กลัวว่าจริงๆ ตัวเองจะไม่ได้รู้สึกแบบนั้น แค่รู้สึกว่ามันดีด้วยเลยรู้สึกดีไปกับมันก็แค่นั้น "

“ มึงอยากจะมั่นใจมากกว่านี้ก่อนสินะ "

“ อื้ม " โมพยักหน้ารับ " กูเคยชอบผู้หญิงมาก่อน กูเลยลังเล กูถามตัวเองว่าดีแล้วเหรอที่ชอบมัน ถ้าเกิดว่ากูแค่ประทับใจละ แต่อีกใจก็บอกว่าก็ถ้าชอบก็แค่ชอบ ถ้าเราไม่ลองดูจะไปรู้ได้ไง "

" นั่นนะสิ มึงก็ต้องลองก่อน ถ้าไม่ใช่ก็แค่เลิก ถอยออกมา สมัยนี้อะความรักมันไม่จำกัดเพศนะ อย่าคิดว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงสิวะ คิดแค่ว่า มึงชอบมันมั้ย เท่านั้นก็พอ ถ้าชอบก็ลุยเลย แต่ถ้าไม่ใช่ก็ถอยออกมา "

" ความรัก มันถอยออกมาไม่ได้ง่ายๆอย่างตอนที่เดินเข้าไปหรอกนะมึง " โมพูดสั้นๆ " ถึงปากเราจะบอกว่าแค่ลองดูกลัวอะไร แต่พอหัวใจมันเจ็บเข้าจริงๆ มันก็ไม่ได้ลืมง่ายๆเหมือนปากที่บอก ถ้าไม่ใช่ก็ถอยออกมาหรอก "

" แล้วมึงจะเป็นอย่างงี้เหรอ " ก็เข้าใจอยู่ที่มันกลัวกับความสัมพันธ์ในรูปแบบที่ไม่เคยมี แต่อีกใจผมก็รู้สึกว่า ถ้าไม่ตัดสินใจทำอะไรเลย ปล่อยไปแบบนี้สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรสักอย่าง " ความรู้สึกชอบที่ไม่ถูกตอบรับจากอีกฝ่าย มันน่าเบื่อนะมึงที่ต้องเป็นฝ่ายให้ไปข้างเดียวอะ "

" อื้ม กูรู้ " มันพูดสั้นๆ ในตอนนั้นผมก็เอื้อมมือไปจับไหล่มัน

" คิดให้ดีก็ได้ รอบคอบมันก็ดี แต่อย่านานเกินไปจนเค้าทนไม่ไหวละกัน " ผมเตือนมัน ไม่อยากจะให้มันเสียใจเพราะการกระทำที่เชื่องช้าแล้วแสนจะปากแข็งของตัวเอง ผมรู้ว่ามันชอบไอ้ชัดแหละ แต่แค่ไม่กล้าจะบอกเท่านั้นเอง หรือไม่อีกอย่างยังไม่มีอะไรกระตุ้นให้มันรู้สึกว่าสำคัญ แบบนั้นมันก็เลยยังลังเลอยู่

“ เลิกพูดเรื่องกูเถอะ เอาเรื่องของมึงอะ ตกลงว่าวันนี้จะทำกับข้าวจริงๆอะ " มันว่ายิ้มๆ ผมก็ถอนหายใจออกมา

“ เออ จริง คอยดู ว่ามันต้องอร่อย แน่นอน! "

“ ผลเป็นไงบอกกูด้วยละกัน " ขนาดไอ้โมยังมีสีหน้าดูถูกผม หนอยพวกมึง... ดูถูกกูกันเข้าไป กูทำอร่อยแล้วอย่ามาง้อนะเว้ย

   หลังเลิกเรียนผมติดรถไอ้ม่านกับไอ้มู่กลับมาที่คอนโดก่อน วันนี้ไอ้ภาพจะเป็นคนไปรับหัวหอมที่โรงเรียน ส่วนผมจะเป็นคนที่ทำกับข้าวรอมันทั้งสองกลับมาที่บ้าน ดูมีความแม่ศรีเรือนอย่างที่สุด แวะเข้าไปในห้างก่อนจะกลับคอนโด ตรงไปที่ซูปเปอร์ที่ขายของสด ผมคว้ารถเข็นก่อนจะเข็นไปตามทางเรื่อยๆ

“ หัวหอมบอกว่า มันอยากจะกินแกงจืดกับกุ้งทอดสินะ " ผมพูดงึมงัมกับตัวเองตอนที่เข็นรถเข็นไปเรื่อยๆ แล้วหยิบผักกาดขาวขึ้นมาเป็นอย่างแรก แล้วก็หยิบเนื้อหมูทั้งแบบบดแล้ว และเป็นแผ่น มีทั้งเห็ดแล้วก็วุ้นเส้น แล้วก็ เต้าหู้ไข่ " แค่คิดก็ดูน่าอร่อยแล้ว ต้องอร่อยมากแน่นอน แล้วก็ไปซื้อกุ้ง แล้วก็แป้งสำหรับทอด แค่นี้ก็เสร็จ " จัดการซื้อของเรียบร้อยแล้วเดินหิ้วกลับมาที่คอนโด ผมวางกระเป๋าลงที่โซฟาก่อนจะเดินเข้ามาในครัว วางหม้อใบเล็กลงบนเตาใส่น้ำสำหรับกินสามคนลงไป จากนั้นก็จัดการหั่นผักทุกอย่างโยนลงไป รวมทั้งหมูก็ด้วย " เวลาทำต้องให้น้ำสุกก่อนแล้วต้องใส่ปะวะ " ผมถามตัวเองทั้งๆที่ของทุกอย่างก็อยู่ในหม้อนั่นแล้ว " ช่างเถอะ ถ้าแม่งอร่อยแม่งก็ต้องอร่อยแหละ คราวนี้ก็หุงข้าว " การหุงข้าวถือว่าเป็นงานถนัดของผม ทั้งชีวิตนี้เหมือนจะรอดมาได้เพราะหุงข้าว แล้วก็ทอดไข่เจียว ไข่ดาวได้นี่แหละ " จากนั้นก็ทำกุ้งชุปแป้งทอด "

   ผมเอากุ้งขึ้นมาวางบนเค้าเตอร์ ผมผ่ากุ้งไม่เป็นด้วยแต่เท่าที่รู้คือเอาหัวออกไปก่อน ผมจัดการเอาหัวออก แล้วโยนกุ้งลงไปในแป้งทีผสมน้ำแล้วเรียบร้อย จากนั้นก็ตั้งกระทะใส่น้ำมันแล้วก็โยนกุ้งทั้งหมดลงไป

“ ไหนมาชิม แกงจืดหน่อย " คนทุกอย่างให้เข้ากัน ผมตักผักขึ้นมาแต่รู้สึกว่า มันติดกันเป็นแพเพราะตัดไม่ขาดด้วยความรีบ " ไหงผักไม่ขาดวะ " ผมคว้ากรรไกรที่อยู่แถวนั้นล้างให้เรียบร้อยก่อนจะตัดมัน ชิมรสชาติของน้ำซุปที่ดูเหมือนจะอ่อนไปหมด " ขาดอะไรไปวะ น่าจะพริกไทย น้ำตาล แล้วก็เกลือ " จัดการใส่ทุกอย่างที่คิดว่าน่าจะทำให้มันอร่อยขึ้นลงไปแล้ว ปิดฝากอีกครั้ง ก่อนจะหันมาดูกุ้งทอดที่ก็ไหม้แล้ว " เหี้ยๆๆๆ ไหม้แล้ว ไหม้ๆ " คว้าช้อนที่อยู่ใกล้มือตักกุ้งที่กำลังไหม้พวกนั้นใส่จาน หน้าตาที่ดูไม่น่ากินของมันทำให้ผมถอนหายใจออกมา " จะแดกได้เปล่าวะ "

“ อาขมมมม กาลิคกลับมาแล้วครับ " เสียงจากหน้าประตูที่มาพร้อมกับเจ้าตัวเล็กที่เปิดประตูเข้ามาเป็นคนแรก หัวหอมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นสักพักก่อนจะมองมาที่ผม " อาขมทำอะไร "

“ กำลังทำกับข้าวให้หัวหอมไง " ผมบอกมันก่อนจะยิ้มแห้งๆให้อีกคน ไอ้ภาพที่เดินเข้ามาสะดุ้งตัวนิดหน่อยก่อนจะปิดประตูแล้ว ดมกลิ่นที่กำลังอบอวนอยู่ในห้อง

“ กลิ่นเหี้ยอะไรวะเนี้ย "

“ กูทำกับข้าวไง "

“ นี่มึงเอาจริง " มันหันหน้ามามองหน้าผมก่อนจะเดินเข้ามาในครัว ภาพมองไปจานกุ้งก่อนจะเบิดตาขึ้นมา " เชี้ย นี่กุ้งทอดหรือมึงเอาไปคลุกถ่าน ทำไมดำงี้อะ "

“ ก็กู เอามันขึ้นมาจากกระทะไม่ทันอะ " ผมตอบอีกคนก็หยิบใส่เข้าปากไป ไอ้ภาพเคี้ยวแค่แปปเดียวก่อนจะอ้าปากแล้วหยิบทิชชูแถวนั้นมาคายอาหารในปากนั่นทิ้ง " ไอ้เชี้ยย มึงคายทำไม "

“ ไอ้เหี้ยย แดกไม่ได้เลย รสชาติเหี้ยมาก เหมือนแดกดินอะ " มันว่า ผมก็หน้ามุ่ยลงทันที

“ แล้วต้องพูดรุนแรงขนาดนั้นเหรอวะ " ผมถาม ร่างสูงก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ มึงลองกิน " มันหยิบกุ้งให้ผม ที่ก็รับไปเคี้ยวก่อนจะคายออกมาทันทีเหมือนกัน " เป็นไง "

“ กุ้งยังไม่สุกนี่หว่า " ผมว่า " งั้นทอดใหม่ " ผมหยิบจานใส่กุ้งพวกนั้นเทลงไปในกระทะอีกครั้งไอ้ภาพก็ตาโตขึ้นมาด้วยความตกใจ คงไม่คิดว่าผมจะหน้าด้านอะไรเบอร์แรงขนาดนี้ ทั้งๆที่ทำอาหารไม่เป็นก็ยังจะพยายามต่อไป  " ถ้าทอดให้มันสุก มันคงอร่อยอะ กูว่ารสชาติมันก็ไม่ได้แย่ "

“ รสชาติไม่แย่ " ไอ้ภาพทวนคำพูดนั้นก่อนจะส่ายหน้าไปมา มันเดินตรงเข้าไปที่หม้อแกงจืด ปิดฝาดูก่อนจะปิดแก๊สทันที

“ ไหม้แล้วไอ้สัดขม "

“ เชี้ยไหน " ผมหันไปดูและมันก็จริงอย่างงั้น " เหมือนจะแค่ใส่ผักเยอะเกินไป เดี๋ยวเติมน้ำหน่อยก็โอเค "

“ นี่มึง..” ไอ้ภาพพูดสั้นๆ มันคงเหนื่อยใจกับความดื้อดึงของผม

“ เอาน่าๆ มันจะอร่อยกว่านี้ มึงไปนั่งที่โต๊ะเลย ข้าวสุกแล้วเดี๋ยวกูตักให้นะ " ดันหลังมันออกไปจากในครัว รวมถึงไอ้ตัวเล็กที่ยังยืนงุนงงกับสถานการณ์นั้นอยู่ " หัวหอมไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวนะ เดี๋ยวอาขมจะตักข้าวให้ "

“ จะกินได้จริงๆเหรอครับ " มันถาม ผมก็ยิ้มกว้างออกมา

“ แน่นอน อร่อยที่สุด ไปนั่งเลย ไปๆ " ดันหลังทั้งสองคนไปนั่งที่โต๊ะ ผมก็จัดการแก้ไขกับข้าวที่ยังไม่โอเค ใส่น้ำลงไปในแกงจืดอีกแล้วก็ทอดกุ้งใหม่ใส่จานไว้ ตักข้าว รอให้แกงจืดเดือดก็เอามาเสิร์ฟให้กับทุกคน

   วางแกงจืดถ้วยขนาดกลางลงตรงหน้าทั้งสองคนพร้อมกับข้าวสวย แล้วก็กุ้งทอดจานใหญ่ไว้ตรงกลาง ยื่นช้อนให้พวกมันไอ้ภาพถอนหายใจออกมา พรอมกับหัวหอมที่ดูลังเล

“ กินเลย อร่อยแน่นอน มันไม่เหมือนที่มึงชิมครั้งแรกแน่ๆ " ผมบอกไอ้ภาพก็ตักน้ำซุบขึ้นชิมเป็นคำแรก  " เป็นไงภาพ เป็นไง "

“ เหมือนกินน้ำเปล่าอะ " มันบอกผมก็ตักซุปของตัวเองขึ้นชิมบ้าง แล้วก็รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ เหมือนน้ำเปล่าที่มีรสชาติแปลกๆ
“ อาขมนี่คืออะไร " หัวหอมถามมันดึงผักที่เป็นแพยาวขึ้นมาจนสุดแขน

“ ผักที่ยังหั่นไม่ขาดน่ะ " ไอ้ภาพอีกคนก็วางลงก่อนจะชิมน้ำซุปเข้าไป หัวหอมวางช้อนทันที

“ เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งถอดใจ ลองกินกุ้งทอดก่อน กุ้งทอดอาจจะอร่อยนะ "

“ อาจจะอร่อย " ไอ้ภาพว่า ผมก็ถอนหายใจออกมาแล้วหันมามองหัวหอมที่ยังนิ่ง

“ หัวหอม กุ้งทอดอะ "

“ อาขม " มันเรียกผมเสียงเบาๆก่อนจะหันมามอง " กาลิคไม่กล้ากิน กาลิคกลัวปวดท้องอีก "

“ ไม่ปวดหรอกน่า ลองดู "

“ ไม่เอา ก็มันดูไม่เหมือนกุ้งทอด เหมือนอะไรก็ไม่รู้ ที่น่ากลัวๆ ดำๆ กลมๆ ไม่เอา กาลิคไม่กินนะ " มันว่าก่อนจะลุกจากที่นั่งวิ่งไปที่ทีวี ตรงชั้นล่างตู้วางทีวีที่ผมใส่แฟ้มโปรชัวอาหารเดลิเวอรี่ไว้ มันหยิบแล้ววิ่งเอามาให้  " อาขมนี่ครับ "

“ อะไร " ผมถาม แต่ไอ้ภาพกลับหัวเราะเสียงดังลั่นไปแล้ว

“ สั่งข้าวมากินกันเถอะนะ  "

“ เอ่อ..” เหมือนโดนแฟ้มโปรชัวฟาดเข้าที่หน้าอย่างจัง ในตอนนั้นมันที่ยิ้มกว้างให้ผม เป็นความไร้เดียงสาที่ทำร้ายความเป็นแม่ครัวของผมไปเสียหมดสิ้น พร้อมด้วยคำพูดใสซื่อคำสุดท้ายของมัน

" สั่งอาหารกันครับ กาลิคอยากจะกินของอร่อยๆ " แล้วของกูที่ทำมันไม่อร่อยรึไงวะ!!!

แต่ก็อย่างที่เค้าบอก เด็กไม่พูดโกหก และผู้ใหญ่ก็ควรยอมรับความจริงด้วย!

.................................................................


เอ็นดูขม โถ่ แม่ครัววว โดนกาลิคจัดการเข้าให้ เป็นไงละ
เอ็นดูกาลิคอะ เด็กอะไรทำไมน่ารักอย่างงี้ #กอดน้องงงงงงงง
คนอ่านหลายคนยังรับคำพูดของภาพขมไม่ได้ กาลิคมันจะไปรับได้ไงงง
แต่จริงๆการพูดจ๊ะจ๋าของภาพขมมาก หนมแค่เขียนให้มัน อ่านแล้วขำๆ ปวดประสาทกับพวกมันมากกว่าอะ แบบ ทำอะไรของพวกแกกกก ไม่ได้คิดจะเขียนให้พูดตลอดไปน้าาาา ฮ่าๆๆๆ เพราะถ้าให้เขียนนี่ก็เขียนไม่ได้เหมือนกัน ขำไปเขียนไป
โอเชชชช งั้นก็เจอกันตอนหน้า
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์น้าาา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 16-04-2017 21:40:12
หมดกันภาพพจน์ความเป็นแม่ศรีเรือน ของแม่ขม :hao4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-04-2017 21:48:51
เอ็นดูกาลิคจริงๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Faiia ที่ 16-04-2017 22:25:32
 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 16-04-2017 22:33:59
ขม..มึงต้องฝึกอีกเยอะค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: iAlexiajang ที่ 16-04-2017 22:36:23
สงสัยว่าคุณแม่คงต้องเข้าคอร์สทำอาหารแล้วล่ะค่ะ
น้องหัวหอมผู้น่าสงสารและน่าเอ็นดู 55555555555555
หนูทำร้ายจิตใจของคุณแม่ขมมากเลยนะคะล฿ก~ *บีบแก้ม*
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 16-04-2017 22:39:42
ขำแนะนำไปเรียนทำอาหารจะได้เอามามัดใจลูกและพ่อของลูก5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 16-04-2017 22:45:09
ขมไปเรียนทำอาหารเถอะ


 :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 16-04-2017 23:24:16
ขมเอ๊ยยย ไปเรียนทำอาหารเถอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-04-2017 23:28:13
ต้องฝึกอีกเยอะนะคะคุณแม่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-04-2017 23:28:40
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 16-04-2017 23:52:56
 ผู้ชายสมัยนี้เขาทำกับข้าวเป็นกันนะ อร่อยด้วย อาขมต้องไปหัดทำกับที่บ้านแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 17-04-2017 04:45:49
เราเข้าใจคุณหนมนะ ว่าเขียนให้ภาพกับขมพูดจ๊ะพูดจ๋ากันเพราะออกแนวกวนมากกว่า ซึ่งเราชอบ ตลกดีค่ะ 555555555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-04-2017 06:06:23
โธ่.....นึกว่าขม จะเปิดยูทูป
ดูการทำอาหาร
นี่ทำไป ทั้งที่ไม่เคยทำ
ขม.....ช่างกล้า
ทั้งที่โดนภาพ โม ปรามาส ไว้แล้วนะเนี่ย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 17-04-2017 07:51:07
โอ้ยยยย...สงสารขม   555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 17-04-2017 08:09:42
ไหนว่าเปิดยูทูปดูแล้วไงอะขม ทำไมออกมาเป็นแบบนี้

จะให้หัวหอมกินจริงหรอ เดี๋ยวก็เข้าโรงพยาบาลอีกหรอก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 17-04-2017 08:33:11
สงสารคุณแม่ขมซะจริงๆๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 17-04-2017 08:44:22
555555 ขนาดกาลิคยังงง คนอ่านก็งงด้วยค่ะ ฟังคงแปลกจริงๆ

กาลิคทำไมทำกับอาขมแบบนี้ล่ะ ขมต้องยอมรับนะ พยายามได้ ไว้ทำใหม่
ภาพแบบว่าตรงไปอีก มาช่วยทำเลย

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: PAtxxkMxxn ที่ 17-04-2017 08:56:11
โถ่ ขมมมมม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 17-04-2017 09:52:14
โอยยย สงสารขม  o18
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-04-2017 10:10:57
โธ่คุณแม่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-04-2017 10:22:33
ทำกับข้าวอย่างที่คิด (ไปเอง) ด้วยอ่ะขม ที่จริงมันก็ใช้ได้นะ...สำหรับบางคน (ที่มีพื้นฐาน) น่ะ ขำสุด ๆ
ไปเรียนทำอาหารกับแม่ของภาพก่อนเถอะขม ฮ่า ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 17-04-2017 11:22:14
สงสารขมก็สงสาร ขำก็ขำ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-04-2017 12:27:10
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 17-04-2017 12:30:02
 :laugh: :laugh: :laugh: สงสารขม ฝึกฝีมือเรื่อยๆ เดี๋ยวก็อร่อยเองนะคุณแม่ แต่มื้อนี้สั่งเดลิเวอรี่ก่อนนะจ๊ะ คุณลูกขอร้อง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-04-2017 16:41:45
โธ่ แม่ขมสู้ๆนะ!
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 17-04-2017 17:40:34
เอานะคุณแม่ เอ๊ย อาขม วันพระไม่ได้มีหนเดียว
รอบหน้าก็ค่อยๆฝึกทำอาหารไปนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 17-04-2017 22:46:23
 :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:
โอ้ยยยตลกกกก
กาลิกอยากกินของอร่อย 555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 18-04-2017 11:37:39
น่ารัก  ฮาดี  o13 o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 18-04-2017 18:47:36
ไปให้แม่สามีหัดให้ไหม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 18-04-2017 19:32:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 18-04-2017 23:50:07
คไอ้เด็กแสบ รู้ไปหมด
น่ารักกกกกก5555555 :impress2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 19-04-2017 10:48:10
 :monkeysad:สู้เขานะขม ฝึกอีกๆเดี๋ยวอร่อยแน่ๆ สองพ่อลูก ต้องมาร้อง ขอชีวิต เอ้ย ร้องขอกินอีก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 19-04-2017 21:43:19
โถๆ น่าสงสารคุณแม่ขม
อุตส่าห์ลงครัวโชว์ฝีมือทำอาหารให้คุณพ่อภาพกับลูกหัวหอมกิน
แต่แนะนำว่าไปเรียนทำอาหารก่อนดีมั้ยคุณแม่ขม 55
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 21-04-2017 21:23:33
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 20

   ' ระวังเถอะมึง ถามว่าเป็นอะไรกันแล้วมัวเขินอยู่แบบนี้ ระวังคนอื่นจะคาบไปแดกนะจ๊ะ '  คำพูดที่ยังคงหมุนวนอยู่ในสมองของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกแย่กับคำพูดนี้นัก หรืออาจเพราะผม กำลังกลัวว่าทุกอย่างมันอาจจะเป็นแบบนั้น

   ทอดขาเดินออกไปเรื่อยๆตามทางเดินของมหาลัยหลังจากเลิกเรียน ผมเดินมาที่ร้านขายชาเย็นเข้าอร่อยในหมาลัยที่ไอ้ขัดเป็นเป็นคนแนะนำ 

“ ชาเย็นแก้วใหญ่แก้วนึงครับ " ผมบอก พี่คนขายก็จัดการตักน้ำแข็งแล้วรินใส่แก้วใบใหญ่ให้ ผมก้มหน้าลงหยิบเงินแต่ยังไม่ทันจะจ่าย ก็มีมือหนายื่นเงินตัดหน้าไปซะก่อน

“ นี่ครับป้า " เสียงคุ้นที่ผมหันไปดู ไอ้ชัดรับน้ำแก้วนั้นก่อนจะยื่นให้ผม

“ จ่ายให้ทำไม กูจ่ายเองได้ " ผมบอกมันก็ยกยิ้ม

“ อยากเลี้ยง "

“ รวยมากเหรอวะ " หลุดยิ้มให้มัน ร่างสูงก็ตอบ

“ คงไม่รวยเท่าคุณหนูโมหรอก "

“ แล้วมีอะไร " ผมยกชาเย็นขึ้นดูดก่อนจะเอ่ยถามมัน

“ กูไลน์หามึงเป็นสิบข้อความตอนที่เดินผ่านคณะกู แต่ไม่เห็นมึงจะรู้สึกตัว โทรมาก็ไม่รับ " ผมคว้ามือถือขึ้นมาดูตอนที่อีกคนบอก จริงของมัน โทรที่ไม่ได้รับ สายหนึ่งกับข้อความไลน์อีกเยอะแยะที่ส่งเข้ามา

“ พอดีปิดเสียงวะ "

“ แล้วนี่จะกลับบ้านเลยเหรอ "

“ ทำไม มีอะไร "

“ ก็เปล่าหรอกถ้ากลับบ้านเลยจะได้เดินไปส่งที่รถ แต่ถ้าไม่ จะชวนไปกินไส้กรอกที่หน้าคณะก่อน "

“ ก็ไม่ได้รีบนะ " ผมว่า อีกคนก็ยิ้มขึ้นมาก่อนจะพยักหน้ารับ

“ งั้นก็ไปนั่งกินด้วยกันก่อนนะ " ไม่ได้ตอบอะไรร่างสูงแต่ผมกลับเดินตามอีกคนไป ข้ามถนนจากโรงอาหารเดินตรงขึ้นไปที่หน้ามหาลัยอีกนิดหน่อย แวะร้านไส้กรอกแดงเจ้าอร่อยที่อยู่ระหว่างทางไอ้ชัดก็เอ่ยสั่ง " ไส้กรอกแดง 50 บาทครับ "

“ 50 บาทเลยเหรอ " ผมเอ่ยถามมันอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ ทำไม เยอะไปเหรอ "

“ ก็เยอะนะ "

“ กูกินหมดน่า เดี๋ยวไปนั่งหน้าคณะ เผื่อเจอไอ้ภาพ ไอ้เชี้ยนั่นชอบกิน แปปเดียวก็หมด " ผมพยักหน้ารับแล้วก้มลงกินน้ำต่อ ผมเหลือบมองมันที่กำลังก้มหน้าหยิบเงินออกมาจ่าย เสี้ยวใบหน้าของมันที่ชวนให้ผมรู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่มอง ผมตรงยาวปะป่าสีดำที่ถูกมัดไว้ครึ่งหัว ไรหนวดเป็นทรงของมัน น่าแปลกทั้งๆที่เซอร์ๆอย่างงั้นแต่กลับดูดี อาจเพราะหน้าตาคมเข้มของมันที่รับกับทรงผมแล้วก็ไรหนวดแบบนั้นด้วยละมั้ง

“ นี่ๆ " เสียงของผู้หญิงที่เอ่ยขึ้นเบาๆหน้าร้านถ่ายเอกสารที่อยู่ตรงกันข้าม ผมหันไปมองเธอที่ก็เหมือนกำลังชี้ชวนให้เพื่อนที่ยืนข้างๆ มองไอ้ชัดที่กำลังยืนอยู่ เธอพูดแบบไม่ออกเสียงกับเพื่อนเธอ ที่ผมเองก็อ่านปากเธอได้ง่ายๆ " หล่อเนอะ "

“ อื้ม หล่ออะ โคตรเซอร์เลยอะ " เพื่อนเธอว่าแบบนั้น " ไม่รู้มีแฟนรึยังนะ "

“ นั่นนะสิ " พวกเธอพูดจบแต่สายตาก็ยังชัดอยู่แบบนั้น ผมก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้ชัดด้วยความรู้สึกนึงที่ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกันเหมือนกับแค่อยากจะตอบคำถามของผู้หญิงสองคนนั้นที่ยังคงสงสัยในตัวชัดอยู่ ผมยื่นแก้วชาเย็นไปให้มัน ปากของผมก็เอ่ยถาม

" กินมั้ย " โดยที่ไม่ตอบอะไร ผมก้มลงดูดชาเย็นในแก้วก่อนจะยื่นหน้ามากระซิบ

" แบบนี้เรียกว่าจูบทางอ้อมนะ "

" ไอ้บ้า " ผมพูดเสียงเบาๆ ตอนนั้นป้าคนขายก็ทอดไส่้กรอกเสร็จพอดี มันจ่ายเงินเรียบร้อยก่อนจะหันมาถามผม

" จะเอาน้ำจิ้มอะไร "

“ อื้ม ซอสมะเขือเทศผสมกับน้ำจิ้มไส้กรอกอันนี้ " ผมว่าอีกคนก็จัดการตักราดให้

“ ขอบคุณนะครับ " มันบอกป้าที่ร้าน ก่อนที่เราจะเดินออกมาด้วยกัน เรานั่งลงที่โต๊ะหน้าคณะที่ว่าง ก่อนที่ผมจะลงมือกินไส้กรอกที่มันซื้อมา

“ เจ้านี้ อร่อยที่สุดในมหาลัยแล้วมึงว่าปะ "

“ แล้วที่โรงอาหารคณะมึงละ ไม่อร่อยอะ "

“ ไม่อร่อย " ผมส่ายหน้าไปมาอีกคนก็ยิ้มให้ " น้ำจิ้มไม่เหมือนแบบนี้ ที่นี่อร่อยสุด "

“ งั้นมากินบ่อยๆสิ มาแล้วก็โทรมาด้วยนะ "

“ จะลงมาเลี้ยงเหรอ " ผมถามอีกคนก็ยกยิ้ม

“ ถ้าอยากจะให้เลี้ยงก็เลี้ยงได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว " จะว่าไปตั้งแต่ที่รู้จักกันมาผมไม่ต้องออกเงินจ่ายอะไรเองเลยถ้าไปกินข้าวกับมัน ไอ้ชัดเป็นคนออกเองทั้งหมด ด้วยประโยคสั้นๆแค่ว่า ' หนหน้ามาด้วยกันมึงค่อยจ่าย ' แต่ก็ไม่เห็นว่าผมจะได้จ่ายสักครั้งมันแย่งจ่ายตลอด

   เรานั่งกินด้วยกันเรื่อยๆเงียบๆไม่ได้คุยอะไรกันแต่ก็ไม่มีใครเล่นมือถือ ผมเหลือบมองมันที่นั่งกินอยู่ข้างผม ยังจำวันที่อีกฝ่ายสารภาพรักได้เลย แม้ไม่ใช่คำพูดที่ยืดยาวอะไร แต่ก็ตกใจเหมือนกันที่ได้ยินอย่างงั้น มันเป็นวันที่เลิกเรียนปกติไอ้ขมกลับบ้านไปแล้ว และเหลือแค่ผมที่กำลังจะเดินไปที่ลานจอดรถ แต่ทว่ารถขับมาปกติมันกลับสตาร์ทไม่ติดเสียอย่างงั้น

“ เชี้ยอะไรวะเนี้ย " ผมสถบออกมา ตอนที่ตัวเองลองสตาร์ทรถซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ไม่ติดสักที แล้วตอนนั้นไอ้ชัดก็โทรศัพท์เข้ามา " ฮัลโหลว่าไงมึง "

“ กลับยัง "

“ ยัง รถสตาร์ทไม่ติดเนี้ยไม่รู้เป็นอะไร "

“ เปิดกระโปรงดูดิ สายอะไรหลวมรึเปล่า " มันว่าผมก็ถอนหายใจ " ทำไมดูไม่เป็นเหรอ "

“ อื้ม " ใครจะว่ายังไงแต่ผมก็เป็นแบบนี้ เป็นพวกไม่รู้เรื่องรถอะไรทั้งนั้น ขับเป็นอย่างเดียว " มึงอยู่ไหนวะ "

“ ขับรถออกจากมหาลัยมาแล้ว " มันว่า " งั้นแค่นี้ก่อน "

“ อื้ม " ผมกดวางสายก่อนจะพยายามสตาร์ทรถใหม่อีกครั้ง " ติดเถอะนะ ลูกนะ ติดทีเถอะนะ ติด เพี้ยงๆ "  ท่องมนต์แล้วสตาร์ทแต่ก็ปรากฏว่ามันไม่ติดเหมือนเดิม " โอ๊ยเชี้ยยยยยยย โทรไปที่บ้านก็ได้วะ " หยิบมือถือที่ตั้งอยู่ที่ตักตอนที่กำลังจะกดโทรออกรถคันคุ้นตาก็ขับเข้ามาพอดี พร้อมกับร่างสูงที่เดินลงมาจากรถ แล้วเคาะกระจกรถผม 

“ เป็นยังไงบ้าง " มันเอ่ยถามตอนที่ผมเปิดประตูลงไปหามัน ส่ายหน้าไปมาเป็นคำตอบให้คำถามนั้น

“ สตาร์ทไม่ติดอะ "

“ เปิดกระโปรงรถ " เปิดกระโปรงรถให้มัน อีกคนก็ยกฝากระโปรงขึ้นแล้วใช้ที่ค้ำยันเอาไว้ สอดส่องดูอยู่สักพัก มือมันจับนู้นบิดนี่แบบที่ผมไม่เข้าใจเท่าไหร่ ก่อนจะหันมาบอก " ไปลองสตาร์ทหน่อยไป "

“ โอเค " จัดการสตาร์ทรถตามคำสั่งของมัน แล้วเครื่องยนต์นั้นก็ติดขึ้นทันที " เชี้ย ติดจริงๆด้วย "

“ มึงทำยังไงวะ "

“ ก็แค่เช็คดู อาจจะโชคช่วยนิดหน่อย " มันว่าเหมือนไม่ค่อยยอมบอกกัน

“ บอกหน่อยสิวะ เผื่อรอบหน้าสตาร์ทไม่ติดอีก กูจะได้ทำได้ " เดินไปยืนข้างมัน อีกคนก็ยิ้มก่อนจะดึงที่ค้ำนั่นลงก่อนจะปิดฝากกระโปรงรถให้

“ ไม่ต้องหรอก ไว้กูมาจัดการให้แล้วกัน "

“ มึงจะมาช่วยกูทุกที ที่กูมีเรื่องเลยรึไง " ผมถาม อีกคนก็ยิ้ม

“ กูต้องอยู่ใกล้คนที่กูชอบเพื่อช่วยเค้าอยู่แล้ว " ทุกอย่างเงียบ ผมที่ตอนนั้นได้แต่ก้มหน้าลงกลับพูดอะไรไม่ออกเลยสักอย่าง รู้สึกร้อนที่แก้มตัวเองหางตาที่เหลือบมองมันที่มองผมอยู่ในตอนนั้นก็ได้แต่เอ่ยแก้เก้อออกไป

“ ใครบอกให้มึงพูดแบบนี้วะ โคตรบ้าเลย "

“ ไอ้ภาพบอก ว่าจีบใครให้อยู่ใกล้เค้าให้มากๆ " ส่ายหน้าไปมากับคำพูดของมัน หัวใจที่เต้นแรงของผมพยายามหนีเดินกลับไปที่รถเพื่อหลบหน้าแดงๆนั่น แต่มือหนาก็ดึงแขนเอาไว้ " มีอะไรจะพูดด้วยหน่อย "

“ อะ อะไร อะไรเหรอ "

“ ชอบ " มันว่าสั้นๆแบบนั้นก่อนจะจ้องหน้าผม " ชอบ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเดินอยู่กับขมแล้ว เป็นแฟนกันมั้ย " ประโยครวบรัดของมัน ชวนให้ผมนิ่งค้างไปทันที ก็รู้แหละว่าตลอดมามันรู้สึกยังไงกับผม ไม่ใช่คนที่ไม่ดูออกอะไรขนาดนั้น แต่ยังไงมันก้ยังตกใจแล้วก็ตื่นเต้นอยู่ดี เพราะนี่ครั้งแรกที่โดนผู้ชายด้วยกันเองสารภาพรัก หัวใจของผมมันเต้นแรงความรู้สึกตอนนั้นเหมือนโลกทั้งใบรอบข้างว่างเปล่าไปหมดแล้วเหลือเพียงแค่ผมกับมัน " โม..”

“ กูไม่รู้วะ " ผมก้มหน้าลง " กูยังไม่อยากตอบ "  แล้วก็ไม่กล้าที่จะตอบออกไปตรงๆด้วย จะให้พูดว่า ' อื้ม ก็ได้ ' อย่างงั้นเหรอ ผมไม่กล้าหรอกแม้ใจจะเต้นแรงขนาดไหนที่ได้ยินมันพูดคำนั้นออกมาก็เถอะ

“ เข้าใจแล้ว " มันว่าก่อนจะปล่อยมือผม ผมก็คว้ามือมันไว้

“ เดี๋ยว! มึงเข้าใจอะไร " เงยหน้ามองหน้ามันด้วยหน้าแดงๆอีกคนก็จ้องผม " ไม่ใช่ว่า ไม่ได้ แค่ขอคิดก่อน "
 
“ ขอคิดก่อน คนส่วนใหญ่จะปฎิเสธไม่ใช่เหรอ "

“ แต่สำหรับกู คิดก่อนคือคิดก่อนจริงๆ ไม่ได้หมายความจะปฎิเสธด้วย "

“ อย่างงั้นเหรอ " มันบอกก่อนจะพยักหน้ารับ สายตาที่ดูผิดหวังของมัน ผมรู้ว่ามันคงรู้สึกอย่างที่มันพูดออกมา มันคงคิดว่าผมผฎิเสธมันไปแล้ว " รถมึงก็สตาร์ทติดแล้ว งั้นกูกลับละนะ "

“ นี่ชัด " จับมือมันไว้แน่นตอนที่อีกคนกำลังจะเดินออกไป ผมก้มหน้าลง " กูไม่ได้คิดจะปฎิเสธมึงนะ เพราะงั้นอย่าเปลี่ยนไปเพราะคำพูดที่ว่า ขอคิดก่อนของกูเลย ช่วยเป็นเหมือนอย่างที่มึงเป็นกับกูมาตลอดเถอะนะ ที่บอกว่าขอคิดก่อนก็แค่อยากจะคิดให้ดี เพราะมันเป็นครั้งแรกที่กูเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็เท่านั้นเอง" ผมกลัวมันจะเปลี่ยนไปเพราะคิดว่าผมไม่มีใจให้ กลัวมันคิดแบบนั้น ทั้งๆที่ว่าไม่ใช่เลย ไม่ใช่ว่าผมไม่มีใจ ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบ ไม่ใช่แบบนั้น ผมแค่ไม่มั่นใจ ไม่มั่นใจกับความรู้สึก และไม่มั่นใจที่จะพูดคำนั้นออกไปก็เท่านั้น คำพูดที่อยากจะพูดแต่ก็ไม่กล้าพูดออกไปตรงๆทั้งๆที่อีกคนกลับพูดมันออกมาแบบตรงไปตรงมาด้วยซ้ำ " ขอโทษ "

" ขอโทษทำไม " มันว่าก่อนจะหลุดยิ้มออกมา เงยหน้ามองมันที่จ้องผมอยู่ ทั้งๆที่ชอบมากแท้ๆทั้งๆที่จะตอบตกลงก็ได้ แต่ทำไม ถึงพูดไม่ออกก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจเลยว่าตัวเองลังเลอะไร

“ กูกลัวมึงเปลี่ยนไป "

“ กูไม่เปลี่ยนไปหรอก กูเข้าใจมึงอยู่เหมือนกันนะ จะให้บอกว่า ตกลงกับคนที่เป็นผู้ชายด้วยกัน มึงคงต้องคิดหลายอย่างหน่อย แม้จะชอบ แต่ก็ต้องคิดให้ดี มันก็ปกตินี่ บางทีกูก็คิดว่า กูพูดเร็วไปหน่อย มันอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดก็ได้ "

" ชัด..”  มันดึงมืออีกข้างขึ้นมาขยี้หัวผม ชัดยิ้ม 

" ขับรถกลับบ้านได้แล้ว กูจะขับตามไปส่งที่บ้าน เผื่อรถมีปัญหาอีก "

“ อื้ม "

   แล้วตอนนั้นมันก็ขับรถกลับมาส่งที่บ้านผมเหมือนเดิม และทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ผมขอ มันก็ยังเหมือนเดิม ยังคงส่งไลน์ โทรศัพท์คุยกัน ราวกับว่าคำสารภาพรักนั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาก่อน ส่วนผมคนที่ฟังคำสารภาพรักนั่นไปแล้วก็ได้แต่คิดว่าตัวเองจะตอบคำถามนั่นว่าอะไรดี แล้วถ้าได้คำตอบแล้ว จะได้ตอบมันเมื่อไหร่กัน

“ โม ไม่กินเหรอ " ชัดเอ่ยทักผมที่เหมือนจะคิดอะไรเพลินไปหน่อย ยิ้มแห้งๆให้มันก่อนจะส่ายหน้า แล้วจิ้มไส้กรอกนั่นกิน

 " โทษที คิดถึงงานของอาจารย์อยู่น่ะ "

“ งานเยอะเหรอ "

“ ก็นิดหน่อยนะ แต่อย่าพูดเลย เครียด กินดีกว่า  " ร่างสูงยิ้มให้ผมตอนที่พูดออกมาแบบนั้น มันก้มหน้าลงกิน ผมก็เอ่ยถาม " แล้วนี่มึงไม่เรียนเหรอ "

“ เรียนแต่ตอนนี้โดดอยู่ "

“ อ้าว ไอ้เชี้ยยย " ผมสถบบอกมันอีกคนก็ยิ้ม

“ เมื่อกี้ออกมาเข้าห้องน้ำเห็นมึงเดินมาเลย ส่งไลน์ไปทัก พอส่งไปไม่มีใครส่งกลับ ก็เลยโทรไป แต่มึงก็ยังนิ่งกูเลยวิ่งลงมาหา "

“ กลับขึ้นไปเรียนไป " เชิดหน้าไปทางตึกเรียนอีกคนก็ส่ายหน้ามาให้

“ อีกสิบนาทีเลิกแล้ว ไม่ขึ้นละ วิชานี้ไม่มีเช็คชื่อ " ไส้กรอกถูกกินเข้าไปหลังจากที่อีกคนพูดจบ มองหน้ามันที่กำลังกินอย่างมีความสุข นี่ถ้าเป็นอาจารย์ที่คณะผมป่านนี้มันได้โดนเช็คชื่อขาดไปแล้วโทษฐานที่เข้าเรียนไม่ครบคาบ

“ ระวังเถอะ อาจารย์จะเช็คชื่อว่ามึงขาด เพราะมัวแต่โดดเรียน แล้วกูจะสมน้ำหน้าให้ "

“ ไม่หรอกน่า " มันบอกปัดก่อนจะยิ้มแล้วยกคิ้วให้ผมที่เผลอคิดเรื่องของมัน กับคำสารภาพรักนั้นขึ้นมาอีกแล้ว

   ' ถ้าวันนั้นตอบรับความรู้สึกของมันออกไป วันนี้เราจะนั่งคุยอยู่ตรงนี้เหมือนอย่างตอนนี้ หรือว่ากำลังทำอะไรอยู่กันวะ ' คำถามสั้นๆที่ผมเอ่ยถามตัวเองตอนที่จ้องหน้ามันอยู่ตอนนี้ ถ้าเรารักกันเราต้องทำอะไรกันบ้างวะ โดยพื้นฐานมันก็ต้องจับมือ หอมแก้ม แล้วก็จูบ ขยับขึ้นไปหน่อย ก็คือมีอะไรกัน

   ผมก้มลงต่ำมองแผ่นอกของมัน จินตนาการถึงแผ่นอกที่ไร้เสื้อนักศึกษานั้น เราที่กำลังกอด จูบ กันอย่างดูดดื่ม ผมที่เป็นของมัน แล้วสุดท้ายถ้าต้องเลิกกัน วันนึงผมไปคบกับผู้หญิงสักคนแต่งงาน มีลูก อดีตในวันนี้มันจะทำให้ชีวิตตอนนั้นเป็นยังไงกันนะ จะรู้สึกแปลกๆ เฉยๆ หรือว่าจะรู้สึกว่า ไม่น่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 19 - 16.4.60} #หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 21-04-2017 21:25:08
“ โม " หันมองเสียงที่เอ่ยเรียกแต่กลับพบว่า ใบหน้าคมของคนที่เรียกนั้นกลับอยู่ใกล้กันแค่คืบเท่านั้น ผมดึงตัวเองออกห่างจากมันอีกคนก็เอ่ยถาม " ดูท่าทางว่าจะไม่ได้คิดเรื่องงานแล้วมั้ง "

“ คิดเรื่องงาน " ผมยังบอกอีกคนแบบนั้น แต่สายตาของชัดก็ดูเหมือนไม่เชื่อเท่าไหร่ สายตาที่ดูเศร้าลงไปของมันก่อนจะเอ่ยถามผม

“ คิดเรื่องนั้นอยู่เหรอ " มันถาม " เรื่องที่โดนกูสารภาพรัก "

“ ไม่ใช่สักหน่อย " ปฎิเสธออกไปทันทีแต่สายตาที่ดูไม่ค่อยเชื่อนั้นก็ชวนให้ผมอยากจะบอกความจริงกับมันออกไปตรงๆเลย เรื่องที่ผมกังวลอยู่ " คือชัดกู..”

“ นั่นไง ไอ้เชี้ยชัด! ” เสียงดังของใครอีกคนที่ตะโกนเรียกมันทำให้ ร่างสูงที่กำลังฟังผมพูดหันไปมองทันที

" โดดมานั่งคุยกับไอ้โม ตรงนี้นี่เอง ก็ว่าหายหัวไปไหน กูคิดว่ามึงชักโครกตัวเองลงไปแล้ว " ไอ้ภาพว่าก่อนจะหย่นตัวลงนั่งข้างผมส่วนเพื่อนที่เดินมาก็นั่งลงร่วมโต๊ะกับเรา

" อันนี้หนังสือมึงเอาไป " ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มที่นั่งข้างชัด ยื่นหนังสือให้อีกคนที่ก็รับไว้ เธอหันมายิ้มให้ผม ผมก็พยักหน้ารับ " หวัดดี "

“ หวัดดีครับ " ทักทายกลับไป ภาพก็เป็นคนแนะนำเพื่อนๆมันให้ผมรู้จัก

“ นี่ ปาย " มันชี้ไปที่ผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม ก่อนจะแนะนำเพื่อนผู้ชายอีกคน " ส่วนนี่ก็ไอ้เก่ง แล้วก็พวกมึงสองคน นี่ โม เพื่อนไอ้ขมเพื่อนกูอีกที "

“ อ๋อ เพื่อนของขม " ปายกับเก่งพยักหน้ารับ ผมก็ยิ้มให้ทั้งคู่ " นี่ไอ้ชัด วันนี้อาจารย์สั่งรายงานคู่ ไอ้ภาพกับไอ้เก่งมันจะคู่กัน มึงคู่กูนะ "

“ ได้ " ใบหน้าคมพยักหน้ารับ มือของปายก็ยื่นมาลูบหัวมัน

“ ดีมาก คนเก่งของแม่ " คำพูดที่ดูสนิทสนมชวนให้ผมรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาทันที สายตาที่เอาแต่จ้องการกระทำของเธอ จนภาพเอ่ยถามขึ้นมาถึงได้ผละสายตาออก

“ แล้วนี่ไอ้ขมละ "

“ กลับไปพร้อมกับไอ้ม่านไอ้มู่แล้วละ "

“ เหรอ งั้นกูกลับก่อนดีกว่า เผื่อรถติด ไปนะพวกมึง เจอกัน " ภาพยืนขึ้นเต็มความสูง โบกมือลาเพื่อนตัวเองทั้งหมดก่อนจะเดินออกไป

“ เชี้ยชัด น้ำติดหนวดมึงอะ " ปายพูดขึ้นผมก็หันไปมองการกระทำของทั้งคู่อีกครั้ง
 
   เธอยื่นทิชชู่ส่งให้อีกคน แต่ชัดมันก็แค่ยกเอาหลังมือเช็ดก็เท่านั้น " อย่าเช็ดแบบนั้น มือมึงสกปรก มึงก็เอาไปเช็ดปากมึงอีก เอาทิชชู่ เช็ดแบบนี้ เช็ดๆ " ปายจับหลังคอของชัดก่อนจะทิชชู่ม้วนใหญ่เช็ดเข้าที่ปากอีกคนที่ก็พยายามเบือนหน้าหนีแต่ก็ไม่สำเร็จ โดนเช็ดด้วยทิชชู่ไปเต็มแรง

“ โอ๊ย เชี้ย กูเจ็บ "

“ แม่คือแม่ จริงๆ " เก่งว่ายิ้มๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผมที่มองเหตุการณ์นั้นงงๆ " ไอ้เชี้ยปายมันชอบดูแลคนอื่นอะ "

“ เรียกว่า เจ้ากี้เจ้าการดีกว่า " ชัดบอก ผมก็ยิ้มให้เธอที่ทำหน้ายู่ลงทันที ที่โดนเพื่อนพูดถึงแบบนั้น

“ แล้วมันน่าให้จัดการเปล่าวะ พวกมึงแม่งโคตรไม่ดูแลตัวเองเลย โดยเฉพาะไอ้ชัด " มันหันมามองผู้ชายร่างสูงข้างกายตัวเอง " ผมมึงนี่คือเหี้ยไร แล้วหนวดมึงอีก เห็นแล้วหงุดหงิด โคตรอยากจะตัดออกมา คันมือ "

“ ใจเย็นๆ " เก่งว่า

“ กูว่ามึงน่าจะโกนหนวดออกนะ คือ ไว้ผมยาวก็โอเค แต่ถ้าโกนหนวดออก หน้าตาจะได้ไม่ดูน่ากลัวแบบนี้ว่ามั้ยโม  " เธอหันมาถามผมที่ก็นิ่งไป ไอ้ชัดเองก็หันมามองเหมือนกัน

“ มองกูทำไมวะ " ผมถาม

“ มึงว่าโกนหนวดแล้วดีขึ้นมั้ย มึงจะกลัวกูน้อยลงรึเปล่า "

“ กู..” กูว่าตอนนี้มันไม่น่าจะเกี่ยวแล้ว ผมอยากจะบอกมันแบบนั้นแต่ปายก็ขัดขึ้นมาก่อน

“ โมเคยกลัวไอ้ชัดเพราะมันไว้หนวดด้วยเหรอ "

“ ก็นะ " พยักหน้ารับ เธอก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

“ กูบอกแล้วว่าให้โกน ให้โกน ถ้ามึงโกน สาวๆจะหันมองมึงเยอะกว่านี้อีกกูจะบอกให้ " ชัดยกคิ้วขึ้น ท่าทางที่ดูเหมือนกำลังคิดและเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อน

“ เหรอ "

“ จริง เชื่อกู น่าโกนหน่อย เพื่อกู กูเห็นไม่ได้เนี้ยยย กูเห็นแล้วกูอึดอัดอยากจะเอามือไปดึงมัน หมั่นไส้โว้ยย " เสียงที่เหมือนอดทนไม่ไหวแล้ว มือของสาวเจ้าก็ยื่นมาตรงหน้าอีกคนหมายจะจับหนวดของชัด แต่มันก็คว้ามือเธอเอาไว้

“ มึงไม่ได้จับหนวดกูง่ายๆหรอก ไอ้ปาย "  มือของปายพยายามข่มแรงของอีกฝ่ายที่แน่นอนว่าก็ไม่มีทางสู้ได้หรอก ชัดดัดแขนอีกคนให้ไขว้ไว้ข้างหลัง ก่อนที่ต่างฝ่ายจะยิ้มออกมาให้กัน ดูเป็นธรรมชาติจนชวนให้รู้สึกว่ามันสองคนดูราวกับว่ากำลังมีใจให้กันอยู่อย่างงั้น ปายอาจจะไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยมากแต่ก็เป็นคนที่ยิ้มแล้วดูน่ารักแล้วก็ สดใสดี

“ ไอ้เชี้ยชัดเจ็บ ชอบเล่นแรงๆประจำเลยมึง "

“ เอ่อ..ขอตัวกลับบ้านก่อนนะ " ผมว่าขัดคนสองคนที่กำลังเล่นกันอยู่ ชัดก็หันมาถาม

" จะกลับแล้วเหรอ "

" อื้ม " พยักหน้ารับ " ไม่อยากจะกลับเย็นมากอะ เดี๋ยวรถติด กลับก่อนแล้วกัน ไว้เจอกันนะ " ผมบอกคนที่นั่งร่วมโต๊ะก่อนจะหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้น

   ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ ก็ไม่รู้ ภาพที่ดูสนิทสนมพวกนั้น ทั้งๆที่รู้ว่าเค้าเป็นเพื่อนกัน แต่ในใจมันก็แปลกๆ ทำไมไม่เป็นกูวะ  ผมรู้สึกแบบนั้น ทำไมไม่เห็นทำอะไรกับกูแบบนั้นบ้างเลย สนิทเกินเพื่อนมากเกินไปรึเปล่า แล้วเรื่องที่ของให้ตัดหนวดเพื่อเพื่อนอะไรแบบนั้นมันมีที่ไหน เพื่อนที่ไหนเค้าขอกัน ถ้าเป็นความชอบของชัดก็ให้มันทำไปสิ ถ้าเป็นแฟนกันแล้วขอ ก็ว่าไปอีกเรื่อง แล้วท่าทางที่ดูเหมือนว่า ไอ้ชัดจะทำให้นั่นอีก แม่งคืออะไรวะ มันชอบกันเหรอ ไอ้สองคนนั้นน่ะ แล้วกูละ .. กูคืออะไร

“ ไอ้เหี้ย " ผมสบถออกมาก่อนจะถูกคว้าข้อมือให้กลับไปมองคนที่เดินตามมาจากข้างหลัง " ชัด..”

“ กลับบ้านด้วยคนสิ "

“ ไม่นั่งคุยกับเพื่อนแล้วละ " ถามมันออกไปอีกคนก็ส่ายหน้า

“ ไม่ละ ไว้คุยกันเมื่อไหร่ก็ได้ "

“ นั่นนะสินะ จะคุยเมื่อไหร่ก็ได้อยู่แล้ว" ผมบอกก่อนจะดึงมือตัวเองที่มันจับอยู่ออกแต่อีกคนก็ยังจับไว้แน่น " จับทำไมวะ คนมองเยอะแยะ " ชัดหันมองซ้ายขวาตอนที่ผมบอก

“ ไม่เห็นมีคนมอง " มันว่าก่อนที่ผมจะเงียบไป " เป็นอะไร อยู่ๆก็ลุกขึ้นมา ท่าทางหงุดหงิด "

“ หงุดหงิดไรวะ แค่คนจะกลับบ้าน "

“ ก็หน้ามึงบอก ว่ามึงกำลังหงุดหงิด " ผมหันมองมันที่ยังยืนยันอย่างงั้น แม้มันจะพูดถูกแต่ใครมันจะไปยอมรับว่ากำลังหงุดหงิดถ้ามันรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ มันคงได้ใจแน่

"  กูจะหงุดหงิดเรื่องอะไร เรื่องที่มึงเล่นกับปายเพื่อนมึงแบบสนิทสนมอย่างงั้น หรือว่า เรื่องที่ปายมันขอให้มึงโกนหนวด แล้วมึงก็ดูท่าทางว่าจะโกนให้ ทั้งๆที่ว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าแค่เพื่อนขอเราก็ไม่จำเป็นต้องทำให้นิหว่า ถ้าแฟนขอก็ว่าไปอย่าง " ผมหัวเราะให้คอมมองอีกคนที่ยังจ้องมองผม " เว้นแต่ว่า มึงจะรู้สึกพิเศษกันอยู่ "

“ กูกับไอ้ปายนี่อะนะ " ชัดถามผม " มึงเอาความคิดส่วนไหน มามองว่ากูกับมันคิดอะไรกันแบบนั้นกัน ไอ้ปายมันมีแฟนแล้วนะ " ผมนิ่งตอนที่อีกคนบอก ปากที่อึกอักพูดไม่เป็นคำของผมหลบตามันที่จ้องมาก่อนจะมองไปทางอื่น

“ ก็..ใครมันจะรู้ว่ามีแฟนแล้ว กูเห็นแบบไหน ก็พูดไปตามที่เห็นอะ ก็มึงสองคนเป็นแฟนกัน "

“ กูไม่โกนหนวดกูง่ายๆหรอก ยกเว้นว่ามึงบอกว่าให้โกน เพราะถ้าโกนแล้ว มึงจะกลัวกูน้อยลง แล้วจะอยู่ใกล้กูได้มากขึ้น เปิดใจให้กูมากขึ้น แบบนั้นกูคงโกน "

“ เกี่ยวอะไรกับกู " ผมบอกปัดมัน อีกคนก็เดินเข้ามาใกล้

“ เมื่อกี้มึงบอกไม่ใช่เหรอ ว่าเรื่องโกนหนวดมันต้องเป็นแฟนขอกัน ถึงจะทำให้ได้ และแบบนั้นสำหรับกูก็คงมีแค่มึงเท่านั้นแหละที่ขอได้ "  ทุกอย่างเงียบผมที่ก้มหน้าลงชัดก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ มันที่กระซิบลงข้างหูผม " ทำแบบนี้เหมือนหึงกันเลยนะ ไหนบอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับกูไง "

“ ใครบอกว่าไม่รู้สึก " ผมถามมันกลับอีกคนก็นิ่งไป " กูบอกมึงเมื่อไหร่ ว่ากูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมึง "

“ ก็มึงไม่ตอบรับ "

“ ตอนนั้นกูตอบว่าอะไร กูตอบว่าขอคิดดูก่อนไม่ใช่เหรอ " ย้อนถามมันอีกครั้ง ชัดที่สบสายตากับผมในตอนนั้นปากมันก็พูดออกไป ความจริงในใจทั้งหมดที่ค้างคาอยู่ " มึงคิดว่ามันง่ายเหรอวะ กูเป็นผู้ชายนะ ที่ต้องมารู้สึกดีกับมึงกูก็ไม่รู้จพทำยังไงแล้ว ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามใจไป แต่วันนึงพอมึงมาสารภาพรัก กูดีใจ แต่อีกใจนึงก็คิดต้องเกิดอะไรขึ้นต่อไปนี้วะ ถ้าตกลงคบกัน เราต้องจูบ กอด หรือทำอะไรมากกว่านั้น แล้ววันนึงถ้าคบกันไปแล้วไม่รอดขึ้นมา จะทำยังไง กับชีวิตหลังจากนั้น กูจะกลับไปคบกับผู้หญิงได้มั้ย หรือว่ากูจะต้องคบกับผู้ชายคนอื่นต่อไป เกย์เป็นยังไงกูยังไม่เข้าใจเลย ที่กูรู้จักที่กูเห็น คือ กูเห็นพวกมันมีแฟนไม่ทั่ว เปลี่ยนแฟนไปเรื่อย มีอะไรกันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งกูไม่อยากจะเป็นแบบนั้น กูไม่ได้อยากจะมีอะไรกับคนอื่น แต่พอคิดว่าจะปฎิเสธมึง ใจมันก็บอกไม่ได้ ต้องเป็นมึง อยากจะคบด้วย อยากจะลองดู แต่กูก็คิด กูคิดจนวุ่นวายไปหมด คิดจนกลัวว่ามึงจะหายไปจากกู เลยได้แต่บอกมึงว่า อย่าหายไปนะ แล้วนี่อะไร มึงมาบอกกูว่า กูพูดว่ากูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมึง นี่เหรอวะชัด ที่มึงบอกว่ากูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมึง นี่เหรอ ? กูรู้สึกสิ ไม่รู้สึกจะหึงมึงกับมันมั้ยละ ไม่รู้สึกจะคิดมากมั้ยละ ไอ้เหี้ย! " ตะโกนออกไปในคำสุดท้าย ผมผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ เหมือนคนสติหลุดที่เพิ่งได้สติหลังพูดความในใจออกไปหมดทุกคำแล้ว " อะ เอ่อ.. กู กลับบ้านละ "

   หันหลังเดินหนีมัน ผมเร่งฝีเท้าของตัวเองจนมาถึงลานจอดรถ ชัดคว้ามือผมไว้ให้หยุดเดินก่อนที่มันจะเดินเข้ามาใกล้ผม รู้สึกถึงลำตัวหนาที่แนบชิดเข้ากับร่างกาย ลมหายใจของผมติดขัด ชัดก็บอก

“ กูคงไม่กล้าบอก ว่าถ้าคบกันแล้วเราจะไม่เลิกกัน เพราะกูไม่อยากจะให้ความหวังมึง ไม่อยากให้มึงเจ็บปวดกับคำพูดของกูในอนาคต แต่ที่มึงบอกว่า ถ้าเลิกกันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้อนาคต จะเสียใจมั้ยในอนาคตที่คบกับกู งั้นกูขอถามกลับได้มั้ย " มือหนาดึงร่างของผมให้หันมาเผชิญหน้ากับมัน " แล้วถ้าไม่คบจะเสียใจมั้ยที่ไม่ได้คบกัน "

   นั่นนะสิ จะเสียใจมั้ย.. ถ้าเกิดว่าไม่ได้คบกัน ถ้ามันไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ แล้วหายไปจากสภาพแวดล้อมของผมทั้งหมด ไม่มีไลน์เด้งเข้ามาในทุกวัน มันที่ไม่มากินเข้าวเที่ยงด้วย ไม่นัดออกไปตอนเย็น ไม่มีคนช่วยซ่อมรถ หรือว่าไปส่งที่บ้าน มันที่หายไปแล้วไม่ได้เจอกันอีก หลงเหลือเพียงแค่ ' ไอ้ชัด เพื่อนของเพื่อนขมที่ผมกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ '

“ ก็คงเสียใจ " ผมตอบเสียงเบาอีกคนก็ยิ้มให้ ชัดขยี้หัวผม

“ ไว้ค่อยก็ได้ กูเข้าใจมึงแล้ว ว่ามึงคิดอะไรอยู่ มึงอาจจะไม่มั่นใจในตัวกู งั้นก็ไม่เป็นไร กูจะพยายามต่อไปให้มึงมั่นใจ แล้วค่อยพูดคำนั้นอีกที " มันว่าแค่นั้นก่อนจะถอยห่างออกไปจากตัวผม " มึงขึ้นรถเถอะ กลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวรถติด "

“ อะ อื้ม " พยักหน้ารับมัน ผมที่เดินเข้าไปในรถปิดประตูลงก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วคิดอยู่นาน หันมองออกไปที่หน้าต่างรถมันที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นแต่กลับไม่ได้มองมาที่ผมเลยอาจเพราะฟิล์มดำเลยทำให้มองอะไรไม่เห็น แต่ในใจกลับรู้สึกว่างเปล่าพิกลเหมือนกับว่า ถ้าช้ากว่านี้แล้วมันไปเจอใครที่ดีกว่าผม ถูกใจกว่าผม มันก็คงไปชอบเค้า แล้วผมก็คงเหมือนคนที่อยู่ในฟิล์มดำอย่างตอนนี้ คือจะกลายเป็นคนที่มองเห็นมัน แต่มันคงจะมองผมไม่เห็นอีก " ชัด..” ผมเปิดประจกรถทักมันอีกคนก็ก้มลงมอง

“ หื้ม ว่าไง "

“ รถจอดอยู่ไหน "

“ อยู่ที่ลานจอดรถข้างหน้า " ผมพยักหน้ารับก่อนจะปลดล็อครถ

“ ขึ้นมาสิเดี๋ยวไปส่ง จะกลับบ้านเลยไม่ใช่เหรอ "

“ อื้ม " มันพยักหน้ารับก่อนจะเดินวนมานั่งที่คนนั่งข้าง ผมกดล็อครถแต่ก็ไม่เคลื่อนตัวออกไปไหน หัวใจที่เต้นแรงของผมมีคำตอบนึงโผล่ขึ้นมาว่าไม่อยากจะให้มันหายไปจากตรงนี้เลย แล้วตอนนั้นปากก็เอ่ยถามมันออกไปทั้งๆที่มือยังกำพวงมาลัยรถแน่น

“ ชัด..ช่วยถามคำถามนั้นอีกสักครั้งจะได้มั้ย "

“ คำถามอะไร  " มันหันมามองผมก็มองตรงไปข้างหน้าไม่ยอมหันมามองมัน

“ วันที่รถกูเสียแล้วมึงมาซ่อมให้ วันนั้นที่มึงถามน่ะ  "

“ ที่ถามว่าเป็นแฟนกันได้มั้ย แล้วมึงขอคิดดูก่อนนะเหรอ " ผมพยักหน้ารับ " คิดดูก่อนก็ได้ กูเข้าใจว่ามันไม่ง่ายที่จะ..”

“ กูกลัวว่ะ " ผมหันไปมองหน้ามัน มือที่จับพวงมาลัยรถตัวเองไว้แน่น " กลัวว่าไม่ยอมรับ แล้วมัวคิดก่อนต่อไปเรื่อยๆ มึงอาจจะเจอใครที่ดีกว่ากูก็ได้ มึงอาจจะหายไป ไปชอบเค้าแล้วไม่หันมาสนใจกูอีก กูที่มองมึงอยู่ แต่มึงกลับไม่ได้หันมาสนใจแบบนั้น กูไม่อยากจะทุกอย่างต้องเป็นแบบนั้นเลยวะ "

“ เป็นแฟนกับกูนะโม " ชัดบอกก่อนจะเอื้อมมือมาจับหัวผมไว้ มันที่ส่งยิ้มมาให้ " เป็นแฟนกับกูนะ ถ้ามึงตอบรับรักกูอย่างน้อยวันนี้มึงก็ไม่ต้องเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้ ส่วนเรื่องอนาคตก็ปล่อยให้มันเป็นไร มันจะกลายเป็นความทรงจำแบบไหน มันอยู่ที่เราไม่ใช่เหรอ "

   ก็คงจริงอย่างที่มันพูด ความรักของเราจะกลายเป็นความทรงจำแบบไหนมันอยู่ที่เราปฎิบัติต่อกันนับจากนี้ สำหรับชัด ผมคงเสียใจแน่ถ้าตอนนี้ไม่รับรักมัน แต่ในอนาคตนั้นเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนว่าจะเสียใจรึเปล่า  เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ควรตัดสินใจในเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก่อน

“ เป็นแฟนกับกูนะโม " ชัดถามย้ำอีกครั้ง ผมมองนิ่งๆอีกคนก็ยกยิ้ม " ยังจะทำเป็นนิ่งอีกทั้งๆที่พูดออกมาหมดขนาดนั้นแล้ว "

“ ก็ไม่รู้จะตอบรับแบบไหน " ผมหันไปมองทางอื่นตอนที่พูดตอบมัน

“ งั้นแบบนี้ก็ได้มั้ง " ใบหน้าคมดึงตัวเองเข้ามาใกล้ผม ประทับจูบบนริมฝีปากที่ก็ได้แต่นิ่งไป หลับตาลงช้าๆราวกับตัวเองตกลงไปในหลุมลึก ลอยเคว้งอยู่ในอวกาศเสียนานก่อนจะรู้สึกถึงลิ้นชื้นๆที่เคลื่อนตัวเข้ามาในโพรงปากที่เผยอตอบรับและเกี่ยวลิ้นนั้นกลับ จูบอบอุ่นกลายเป็นจูบที่ดูดดื่ม ตอนที่ชัดผละออกมันยกยิ้มให้ผม " แค่นี้ก็น่าจะเป็นการตอบรับการเป็นแฟนของเราแล้วละ "

“ นิสัย " ผมดันตัวเองออกมา ผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆกัดปากก่อนจะยิ้มให้กับทางข้างหน้า

' แล้วสุดท้าย... ก็ได้เป็นแฟนมันจนได้ '

................................................................


ชัดโมมาแล้ววว ขอเบรคความน่ารักของน้องกาลิคใสๆ
มาดูความรักแบบผู้ใหญ่กันบ้าง เปลี่ยนแนว เผื่อมีคนคิดถึง
ก่อนที่อีคนแต่งคนนี้จะลืมพล๊อตของคู่นี้ไป เอาจริงๆตั้งแต่เขียนนิยายมา
นี่ก็เป็นเรื่องแรก ที่มีคู่รองน้อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก ปกติคู่รองจะเยอะพอๆคู่หลัก
แต่คู่นี้คิดว่าอยากจะเขียนให้แบบ กรุ่มกริ่ม น่ารัก ใสๆ ความรักอารมณ์ การ์ตูนตาหวาน
#ความใสซื่อจงเข้ามาครอบงำอิชั้นบัดเดี๋ยวนี้
ยังไงฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
 
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-04-2017 21:47:08
เป็นแฟนกันแล้ว  :impress2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-04-2017 21:49:44
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 21-04-2017 22:23:19
สมหวังตัดหน้าไปแล้วหนึ่งคู่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-04-2017 22:27:14
เย้ ๆๆๆๆๆ เป็นแฟนกันแล้ว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 21-04-2017 23:19:53
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 21-04-2017 23:21:52
เขาเป็นแฟนกันแล้วค่าาาาาา

ว่าแต่อิคู่พ่อแม่น่ะ เมื่อไรจะได้กันซะที

แนะนำคนอื่นนี้ดี๊ดี แต่ของตัวเองไม่รอดสักทีนะ ทั้งภาพทั้งขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 21-04-2017 23:23:51
เพื่อนสมหวังแล้วน้าาาา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 21-04-2017 23:39:10
ตอนของชัดกับโมพึ่งมีแค่2ตอนใช่ไหมคะ เผื่อเราตกหล่นตอนไหนไป มันน่ารักง่าาา55555555555555อยากอ่านอีก ชอบความมุ้งมิ้งนี้ คืออยากรู้ตอนช่วงแรกที่ขัดชวนโมไปร้านเหล้าอะ หลังจากนั้นมันเริ่มต้นซัมทิงวรอง กันได้อะไรยังไง ไรเงี้ยอยากรุ้ๆๆๆๆอยากเบาหวานขึ้นตา ก่อนคุ่ขมกับภาพ55555555555 น่ารักหงะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 22-04-2017 01:17:14
เป็นแฟนกันแล้ววว
ต่อไปปปก้...
คู่พระนางงงอิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-04-2017 06:45:40
กว่าโมจะยอมเป็นแฟน... ต้องรอให้หึงก่อนสินะ ถึงจะรู้ตัว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 22-04-2017 07:28:17
โอ๊ยกว่าจะได้เป็นแฟนกันลุ้นแทบตาย 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-04-2017 09:10:31
ภาพ ก็ป๊อด กลัวขม  :เฮ้อ:
จะคืบหน้าเหมือนชัด ที่รุกโมตลอดได้ไง  :katai1:
ชัด โม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
คงได้เห็นชัด ยิงเอาใจโม มากกว่าเดิมแน่ๆ ชอบบบบบ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: PAtxxkMxxn ที่ 22-04-2017 09:51:14
ชัดโม สมหวังแล้ว ตัดไปทค่ที่ภาพ 'อ่อนว่ะ'  :z2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 22-04-2017 10:27:42
อ่านแล้วยิ้มชัดโมเค้าชัดเจนกันแล้ว
เป็นแฟนกันแซงหน้าคู่คุณพ่อภาพคุณแม่ขมแล้วนะนั่น
คู่นั้นเมื่อไหร่คุณแม่ขมจะรู้ตัวสักทีน๊อ
คุณพ่อภาพรู้ตัวแล้วแต่ก็ไม่กล้าแสดงออกไปอ่ะนะ
ลุ้นต่อคู่คุณพ่อคุณแม่น้องกาลิค
หัวหอมเอ๊ยเป็นกามเทพให้พ่อกับแม่เค้าหน่อยเร็ว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 22-04-2017 10:40:36
ชัดโมน่ารัก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-04-2017 11:04:32
ช้ดโมล้ำไปแล้วนะภาพ มาทีหลังดังกว่าไปอีกค่ะ

โมกว่าจะชัดเจนนะ ต้องขอบคุณปายไหม ทำตัวสนิทมากไป จนทำโมหึง หน้ามืด ของขึ้นขนาดนี้
ชัด ก็ชัดเจนมากเหมือนกันค่ะ ก็รักไปแล้ว บอกให้รอก็รอได้ ทำไงได้เนาะ

แต่ตอนนี้ชัดสมหวังแล้วค่ะ เพราะโมกลัวถูกเมินจริงจัง  เย้ๆๆๆๆ ชัดโม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 22-04-2017 11:45:48
ชอบชัดดโมมมมมคร่าาา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 22-04-2017 13:05:31
ความน่ารักความอบอุ่นของชัดดดดดดด :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-04-2017 14:01:23
จ้าาาา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-04-2017 14:05:10
เป็นแฟนกันแล้ว~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-04-2017 15:14:27
ชัดโมเป็นแฟนกันแล้ว เหลือพ่อภาพกับแม่ขมเนี่ยแหละจะเป็นแฟนกันวันไหน


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 20 - 21.4.60} #หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 23-04-2017 09:35:41
โมหึงจนหลุดปากออกมาหมดเลย เป็นแฟนกันแล้ว :impress2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 23-04-2017 20:48:56

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 21

“ อาขาฮ่ะ อาขม " เสียงเล็กที่เอ่ยเรียกผม พร้อมกับมือที่เขย่าชายเสื้อไปมากาลิคที่ยังอยู่ในชุดนักเรียน วันนี้เป็นศุกร์เราออกมากินข้าวนอกบ้านกันเหมือนปกติ แล้วก็ตบท้ายก่อนกลับเข้าคอนโด ก็คือการแวะชอปปิ้งของใช้กันสักหน่อย ผมหันไปมองประโยคลงท้ายของอีกคนด้วยความสงสัย แต่เด็กน้อยก็แค่ยิ้มกว้างมาให้ " อาขมฮ่ะ "

“ เดี๋ยวนะ นี่ไปเอาคำว่า ฮ่ะ มาจากไหน หื้ม ? หัวหอม "

“ จากเพื่อนที่โรงเรียนฮ่ะ น้องรินเน่พูดแหละ พูดว่าฮ่ะ ฮ่ะ ตลอดเลย กาลิคก็เลยพูดด้วย เพราะน้องรินเน่บอกว่า น้องรินเน่เหงา ไม่อยากจะพูดคนเดียว " ขมวดคิ้วพลางกรอกตามองบนกับความคิดของไอ้ตัวเล็กตรงหน้า เออ เอากับมัน ไปพูดกับเพื่อนเพราะไม่อยากจะให้เพื่อนเหงา ดูเป็นคนดีนะเราน่ะ  " ทำไมฮะ ไม่น่ารักเหรอ "

“ ก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่เด็กผู้ชายมันก็ควรพูดครับ ไม่ใช่เหรอ "

“ ขนาดรินเน่เป็นเด็กผู้หญิง รินเน่ยังไม่พูดค่ะเลยนะ แล้วทำไมกาลิคต้องพูดครับละ "

“ เอิ่อม..” อธิบายยากซะจริงๆเว้ย ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี แต่เอาวะ อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่คำไม่สุภาพละนะ เด็กติดเดี๋ยวมันก็เลิกติดแล้วเปลี่ยนคำใหม่มา " แล้วเมื่อกี้เรียกอาขมทำไม "

“ กาลิคจะถามว่า กาลิคขึ้นไปนั่งบนนี้ เหมือนกับเด็กคนนั้นได้มั้ยฮะ " มือเล็กที่ชี้ไปเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับมันที่นั่งอยู่บนรถเข็น ผมก็ก้มลงไปอุ้ม

“ ได้สิ อะ อึ้บ นั่งดีๆนะ ชอปปิ้งกัน " ผมบอกก่อนจะมองสอดส่องไปเรื่อย " แล้วนี่อาภาพไปไหน "

“ เลือกของอยู่ตรงนั้นไงฮ่ะ " หันไปตามมือของอีกคน ไอ้ภาพที่กำลังก้มหน้าก้มตาเลือกไอติมอยู่ในตู้ผมก็ส่ายหน้าไปมา มันบอกว่าอยากจะซื้อไอติมไปเก็บไว้กินตอนกลางวันช่วงวันหยุดที่ร้อนๆ แต่เอาจริงๆมั้ยผมคิดว่ามันคงหมดตั้งแต่เย็นของวันนี้แหละละ เพราะมันไม่มีทางรอดมือไอ้ตัวแสบที่นั่งอยู่ในรถเข็นนี้ไปได้หรอก อีกอย่างไอ้ภาพเองไม่เคยแข็งใจต่อเสียงออดอ้อนของหัวหอมได้สำเร็จเลยสักครั้งเดียว " อาภาพกำลังซื้อไอติมให้กาลิคแหละฮ่ะ อาขม "

" ใครว่า อาภาพซื้อไปกินคนเดียว "

" งื้ออออ ซื้อให้กาลิคด้วย " มันว่าเสียงงอแงก่อนจะดึงตัวเองมากอดผมไว้ เข็นรถเข็นไปตามทางตรงหน้าผมหยิบผักกาดกาวหัวเล็กๆขึ้นมาเลือกดู

" นั่นมึง ยังคิดจะทำกับข้าวอีกเหรอ " คำถามของไอ้ภาพที่ชวนให้ผมผ่อนลมหายใจออกมาพลางมองมันที่ยกยิ้มก่อนจะวางไอติมที่เลือกมาใส่ในรถเข็น

“ เออ แล้วมึงจะทำไม "

“ ก็ไม่ทำไม แต่ยังจำได้มั้ย รอบที่แล้วทำ ทิ้งยกหม้อเลยนะ แถมกาลิคยังเอาโปรชัวอาหารมาให้เลือกอีก นี่ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ " มันก้มหน้าลงมามองผม เอียงหน้ามองด้วยสายตาที่โคตรจะดูถูกกัน เป็นวันที่ยังจำได้ดีเลย สุดท้ายก็ต้องสั่งอาหารญี่ปุ่นมากินกัน แถมอาหารทั้งหมดต้องทิ้งไปเพราะไม่มีใครกินสักคน แม้แต่ตัวผมเองก็ยังกินไม่ได้เลย แต่มันจะแปลกอะไรวะ ใครมันทำอาหารเป็นตั้งแต่ครั้งแรกบ้าง มันก็ต้องหัด ต้องค่อยเป็นค่อยไปสิวะ

“ ก็กูอยากจะทำอะ " ผมบอกมัน อีกคนก็ยกยิ้มปากที่กำลังเอ่ยเถียงผม " กูอยากจะทำอาหารที่หัวหอมมันชอบได้ เผื่อวันไหนไม่มีอะไรกินจะได้ทำกินกันได้ "

" มึงกำลังห่วงเรื่องเงินรึเปล่า " ภาพถามผมก็นิ่ง " ถ้าเป็นเรื่องเงินไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่กูโอนเงินให้กูอยู่แล้ว สำหรับค่าเลี้ยงดูกาลิค "

" กูไม่ได้ห่วงเรื่องเงิน กูรู้ว่ามึงรวย กูแค่อยากจะทำกับข้าวให้หัวหอมกินก็เท่านั้น อยากให้มันกินของอร่อยๆ ฝีมือกูบ้าง " ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น แค่รู้สึกว่าถ้าได้เห็นมันนั่งกินข้าวแบบอร่อยๆ แล้วผมเป็นคนลงมือทำทั้งหมด นั่นคงเป็นความสุขของผมอย่างนึงเหมือนกัน จริงๆเคยอ่านมาว่าถ้าเราสอนให้เด็กทำอาหารก็จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้เค้าด้วย

   ตอนนี้หัวหอมค่อนข้างติดทีวี  ผลมาจากตอนที่เราทิ้งมันไว้ที่บ้านให้ดูแต่ทีวีคราวนั้น ตอนนี้ผมเลยพยายามทำอาหารให้เป็น จะได้เพิ่มกิจกรรมให้มันบ้าง และที่สำคัญเลยคือไม่อยากจะให้มันติดกินข้าวนอกบ้าน อยากให้มันกินข้าวที่บ้านได้ด้วย และเป็นกับข้าวที่เราทำกันเอง

“ อย่างงั้นเหรอ " ท่าทางที่ดูเหมือนพยักหน้ารับแบบของไปทีของมัน ชวนให้ผมถอนหายใจออกมา

" มึงมันไม่เข้าใจความรู้สึกเล็กๆน้อยๆแบบนี้หรอก เพราะมึงมันไม่อ่อนโยน อีกอย่างมึงเองอะไรก็ซื้อได้ด้วยเงินทั้งนั้น แล้วกูจะไม่ยอมให้มึงเลี้ยงหัวหอมแบบนั้นเด็ดขาด "

“ กูมันก็ผิดทั้งนั้นอะ " ร่างสูงว่าก่อนจะก้มลงจัดของในรถเข็น " ขนาดกังวลว่ามึงจะเครียดรึเปล่าเรื่องเงินที่แบ่งออกมาจ่าย มากินข้าวที่มีประโยชน์กันทุกวันแบบนี้เลยลองพยายามทำกับข้าว กูยังผิดเลย "

“ เดี๋ยวๆ นี่งอนเหรอวะ " ผมหันไปถามมันยิ้มๆ อีกฝ่ายก็ถอนหายใจไม่พูดอะไรออกมา เอื้อมมือไปจิ้มแก้มมัน " อะจิ! อะจิ! จิ้มๆ อย่างอนน่า โอ๊ยยย ซีเรียสส ขอโทษ พูดไม่คิดไปหน่อย อย่าโกรธน่า เป็นกูไม่งอนเพราะเรื่องแค่นี้หรอก "

" หึ ถ้าเป็นกูพูด ป่านนี้มึงงอนกูมากกว่าอีก “ ยิ้มแห้งๆให้มันก่อนจะจับไหล่ร่างสูงแล้วลูบเบาๆ

" น่าๆ น้องขมขอโทษพี่ภาพนะครับ น้องขมไม่ได้ตั้งใจจะพูดว่า พี่ภาพเก่งแค่ใช่เงินอะไรแบบนั้น แต่น้องขมแค่ไม่อยากจะให้หัวหอมมันใช้เงินเก่งแบบนั้น เดี๋ยวมันกินข้าวที่บ้านไม่เป็น อีกอย่างน้องขมอยากจะให้หัวหอมมีกิจกรรมอย่างอื่นด้วยนะครับ แค่นั้นเอง พี่ภาพอย่างอนสิ นะๆ " จิ้มแก้มมันอีกคนก็ปัดออก ไอ้ภาพยิ้มจางๆ   

" อาภาพกับอาขมทะเลาะกันเหรอฮะ " คำถามของคนที่นั่งฟังอยู่นานเอ่ยถาม ผมส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันไปบอกมัน

" แค่พูดคุยเสียงดังกันนิดหน่อยน่ะ "

“ เหรอ " เอียงหน้ามองผมนิดหน่อยก่อนที่อีกคนจะกอดผมไว้ " ไม่ทะเลาะกันนะเด็กดี นะเด็กดี "

“ ไปเอาอะไรแบบนั้นมาจากไหนอีกละนั่น " ไอ้ภาพว่าก่อนจะขยี้หัวอีกคน

“ ที่โรงเรียนคุณครูเวลาใครร้องไห้ คุณครูจะกอดแล้วบอกว่า เด็กดีนะเด็กดี "

“ เหรอ ครูสอนอย่างงั้นเหรอ " ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือไปกอดไหล่ไอ้ภาพแล้วลูบเบาๆ " ไม่โกรธน้องขมนะครับพี่ภาพ เด็กดีนะเด็กดี " ภาพเหล่ผมที่ก็เอียงหน้ายิ้มให้มัน จนมันยิ้มตาม ผมก็ก้มลงเลือกผักกาดขาวต่อ " ภาพ กูว่ากูซื้อแบบนี้ดีกว่า " มันเป็นผักกาดขาวหัวเล็กๆครับ คิดว่าถ้าลองทำ ทำทีละหัวก็น่าจะโอเคไม่เยอะด้วย

“ อื้ม ก็ดีนะ เล็กๆ เอาไว้ลองทำ " มันพยักหน้ารับ ผมก็จดจ่อเลือกแพ็คที่สวยๆ ก่อนจะมีเสียงนึงเอ่ยขึ้นทัก

“ อ้าว พี่ภาพ พี่ขม สวัสดีค่ะ "

“ มีนา " ผมเอ่ยเรียกคนที่เห็นตรงหน้าด้วยท่าทางที่แทบจะหลุดลอยไป ข่มยิ้มของตัวเองเอาไว้ไม่ได้เลยต้องยิ้มออกไปอย่างห้ามไม่อยู่ เธอที่มาในชุดนักศึกษาของมหาลัยดัง มือนึงที่หิ้วตะกร้าอยู่นั้น เบนสายตาจากผมไปมองไอ้ตัวเล็กที่มองเธอด้วยสายตาที่งุนงง

“ จำกันไม่ได้แล้วเหรอ กาลิค อามีนาไง " เธอว่าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มอีกคน

“ กาลิค ทำยังไงอามีนาก่อน " ภาพก้มลงบอกมันเสียงเบาอีกคนก็ยกมือไหว้

“ สวัสดีครับอามีนา "

“ สวัสดีครับ " เธอยิ้ม " ไปโรงเรียนแล้วเนอะ เป็นยังไงบ้าง ที่โรงเรียนสนุกมั้ย "

“ สนุกมากๆเลยครับ " มันว่า เธอเองก็ลูบหัวหัวหอมเบาๆก่อนจะหันมาหาผม

“ แล้วพี่ขมกับพี่ภาพมาทำอะไรกันเหรอคะ "

“ มาซื้อของเข้าบ้านกันนะ กำลังเลือกผักว่าจะไปลองทำแกงจืดให้หัวหอมกิน "

“ หัวหอม ? “ เธอเอียงหน้างงๆ ผมก็ยิ้มแก้เก้อ

“ ก็กาลิคนั่นแหละ แต่พี่เรียกว่าหัวหอม เพราะมันน่ารักกว่า "   ผมว่า " แล้วนี่มีนามาซื้ออะไร "

“ มาซื้อของทำกับข้าวนิดหน่อยนะคะ พอดีเสาร์อาทิตย์นี้คิดว่าจะอยู่บ้านทำรายงาน ไม่ออกไปไหน เลยจะมาซื้อของตุนไว้ "

“ อย่างงั้นเหรอครับ " ผมพยักหน้ารับเหมือนคนเคลิ้มไปกับใบหน้าและรอยยิ้มของเธอ มีนาเป็นคนสวยผมยาวตรงๆของเธอชวนให้ทุกอย่างดูอ่อนหวานและอ่อนโยนไปหมด  " แล้วมีนาทำกับข้าวเป็นหรอ "

“ ก็พอได้นะคะ " เธอว่ายิ้มๆ

“ พี่ทำไม่เป็นไรเลยอะ นี่วันก่อนทำไปก็ต้องทิ้งทั้งหม้อเลย "

“ ซะงั้นไปพี่ขม แล้วจะทำอะไรเหรอคะ เผื่อมีนาช่วยสอนทำให้ได้ "

“  แค่แกงจืดแล้วก็กุ้งทอดน่ะ " ผมบอก

“ ถ้าอย่างงั้นมีนาทำได้นะ ยังไงจะช่วยสอนให้ก็ได้ค่ะ "

“ ห๊ะ ? ยะ..อย่างงั้นเหรอ ดีจังเลย พรุ่งนี้พี่ว่างพอดี แต่ยังไม่รู้เลยนะสิว่าของที่ต้องเตรียมไปมีอะไรบ้าง " ความรู้สึกตื่นเต้นแล่นขึ้นมาถึงหัว อยู่ๆสาวข้างห้องที่แอบปิ๊งก็จะมาช่วยสอนทำกับข้าวให้ โอ๊ยเชี้ยยย นี่มันยังกับถูกล๊อตเตอรี่เลยนี่หว่า เพราะความดีที่กูคิดดีทำดีอยากจะเลี้ยงไอ้หัวหอมดีๆแน่นอนมันถึงส่งผลให้มีเรื่องดีๆแบบนี้เกิดขึ้น " งั้นมีนาช่วยพี่เลือกของที่ต้องใช้หน่อยได้มั้ย "

“ ตอแหล วันนั้นยังเลือกเองคนเดียวได้เลย วันนี้ทำเป็นเลือกไม่เป็นขึ้นมาละ " ไอ้ภาพพูดเสียงเบาๆผมก็ยกขาถีบยันเข้าที่ขามันเข้าให้ " โอ๊ย "

“ อาภาพเป็นอะไร อาภาพร้องโอ๊ยทำไมฮะ " หัวหอมถามอีกคนด้วยความเป็นห่วง แต่ไอ้ภาพก็แค่ส่ายหน้าไปมา

“ มีนาช่วยพี่เลือกหน่อยนะ "

“ ได้ค่ะพี่ขม " เสียงตอบรับชวนให้หัวใจของผมบีบรัดราวกับติดปีกบินไป เลื่อนรถเข็นตามเธอไปช้าๆ ไอ้ภาพก็ก้มลงมากระซิบผม

“ นี่.. ไอ้ขม ไอติมกูละลายหมดแล้ว "

“ ช่างหัวมันเถอะน่า เอาไปใส่ช่องเย็นเดี๋ยวมันก็แข็งขึ้นมาใหม่ มึงดูสถานการณ์ตอนนี้สิ มันมีมาบ่อยที่ไหนกันเล่า กูต้องหาแม่ให้ไอ้หัวหอมก่อน เข้าใจ๋? " ผมหันไปกระซิบมันกลับอีกคนก็จิ๊ปากเซ็ง มันพูดเสียงเบา

“ อย่างกับเค้าจะเอามึง "

“ ทำแกงจืดก็ง่ายนะคะพี่ขม ก็มีผักกาดขาว แครอท วุ้นเส้น เต้าหู้ไข่ หมูสับ  "  คนสวยที่กำลังอธิบายผมก็เดินตามเธอไปเรื่อยๆ มือที่ก้มลงไปหยิบจับของแล้วเลือกมาใส่รสเข็นให้ผม " ส่วนเครื่องปรุง ก็ใช่ผงปรุงรสหมู แค่นั้นก็อร่อยแล้วค่ะ ส่วนถ้าจะเพิ่มรสชาติ ก็ใส่น้ำปลา น้ำตาล เกลือ ตามความเหมาะสม "

“ แบบนั้นนี่เอง " ผมรับคำก่อนที่ มีนาจะเดินไปหยิบผงปรงรสหมูซองสีเขียวมาให้ " วันนั้นพี่ไม่ได้ใส่ไอ้นี่แหละ แบบนั้นเลยทำให้ไม่อร่อยมั้ง " 

“ นอกจากนั้นจะตัดผักไม่ขาดอีก รสชาติเหมือนกินน้ำเปล่าอะมีนา " ไอ้ภาพว่าก่อนจะก้มลงไปมองหัวหอม " เนอะ หัวหอมเนอะ รสชาติแย่มาก "

“ ไม่แย่นะอาภาพ " มือเล็กๆโบกมือไปมาก่อนจะหันมามองผม " ไม่แย่นะอาขม "

“ ไม่แย่หรอกเนอะหัวหอม มันก็ยังมีรสชาติของแกงจืดอยู่ " ก้มลงถามมันอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ ไม่แย่ครับ เพราะ เพราะไม่มีอะไรเลย ไม่เค็ม ไม่หวาน ไม่มีอะไรเลย ไม่แย่นะฮะ " จบคำพูดอธิบายของหัวหอมไอ้ภาพ รวมทั้งมีนาก็หลุดหัวเราะออกมาโดยพร้อมเพียงกัน  เด็กน้อยยิ้มกว้างกับเสียงหัวเราะพวกนั้นก่อนไอ้ภาพจะพูดขึ้นโดยไม่ได้แคร์ภาพลักษณ์ต่อหน้าสาวของกูเลย และไม่ได้แคร์ด้วยว่า ผมกำลังทำหน้ายังไงอยู่

“ แบบนั้นแหละ กาลิคที่เค้าเรียกว่า ไม่อร่อยแล้วก็แย่น่ะ นั่นแย่มากๆเลยด้วย ฮ่าๆ " ไอ้ภาพหัวเราะเสียงดังขึ้นผมก็หันไปเหล่มัน

“ นี่ตลกมากมั้ยมึง "

“ ตลกอยู่นะ มีนายังขำเลยอะ ฮ่าๆๆ " มันชี้ไปหาสาวข้างผมที่ก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะก้มหน้าหัวเราะเบาๆ เธอเอื้อมมือมาหยิกแก้มหัวหอม

“ ช่างพูดจริงนะตัวแค่นี้ "

“ ซื้อของต่อเถอะ คราวนี้กุ้งชุปแป้งทอดต้องใช้อะไรบ้างเหรอ "

“ ก็มีค่ะ กุ้ง แป้งทอดกรอบ แป้งสาลี หลักๆก็คงแค่นี้ค่ะ ที่เหลือพี่ขมน่าจะมีที่บ้านอยู่แล้ว พวกเกลือ น้ำมันพืช "

“ อ๋อมีๆ " ผมพยักหน้ารับ เราก็เดินออกไปเลือกกุ้งตัวโตๆ

“ แล้วมีโซดามั้ยคะ "

“ โซดาเหรอ ก็น่าจะมีนะ ทำไมเหรอ "

“ คือถ้าอยากจะให้กุ้งทอดกรอบ เค้าจะต้องใส่โซดาลงไปด้วยนะคะ กุ้งจะกรอบมากขึ้น " เธอว่า

“ อย่างงั้นเหรอ ความรู้ใหม่เลยนะเนี้ย "

“ ความรู้ใหม่อะไรวะ ก็ความรู้เก่ามึงยังไม่มี ความรู้ใหม่เหี้ยอะไร " ไอ้ภาพว่าผมหันไปชักสีหน้าใส่ไอ้ภาพอีกคนก็ทำเป็นมองไปทางอื่นไม่รู้ไม่ชี้

“ แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ " มีนาหยิบแป้งสำหรับใช้ทำกุ้งทอดใส่ในรถเข็นผมก่อนจะยิ้มให้ " ยังไงพรุ่งนี้มีนาจะไปสอนให้พี่ขมก่อนเที่ยงก็แล้วกันนะคะ กาลิคจะได้กินเป็นมื้อเที่ยง "

“ โอเคครับ ยังไงเจอกันนะ "

“ ค่ะ งั้นมีนาขอตัวไปซื้อของต่อก่อนนะ "

“ ครับผม " พยักหน้ารับเธอ ผมก็หันไปบอกหัวหอม

“ บอกลาอามีนาสิหัวหอม บอกว่าพรุ่งนี้เจอกันนะครับ "

“ เจอกันนะครับอามีนา " เจ้าตัวเล็กว่า ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายให้เธอที่ก็ โบกมือกลับแล้วเดินแยกออกไปซื้อของอีกทาง ผมมองตามแผ่นหลังนั่นไป ผ่อนลมหายใจก่อนจะยิ้มจางๆออกมา

“ อาขมเป็นอะไรฮะ ทำไมทำหน้าแปลกๆ " หันมามองอีกคนที่เอ่ยถาม ผมย่อตัวลงบอก

“ เค้าเรียกว่า คนกำลังมีความสุขตังหาก " หอมแก้มมันไปเต็มฟอด

“ แล้วทำไมเวลาอยู่กับอาภาพ อาขมไม่เห็นทำหน้าแบบนั้นเลย "

“ นั่นนะสินะ น่าน้อยใจชะมัดเลยเนอะ " ไอ้ภาพว่ามันที่เข็นรถเข็นออกไป เจ้าตัวเล็กก็พยักหน้าตอบมัน

“ อื้อ " แต่ตอนนั้นใครมันจะไปสนใจอย่างอื่นได้วะ คนที่ชอบมาอยู่ใกล้ๆแท้ๆ แถมพรุ่งนี้เรายังจะได้อยู่ด้วยกัน ช่วยกันในครัวอีก นี่มัน..

' สวรรค์ ชัดๆเลยยยย ' พูดกับตัวเองในใจก่อนจะเดินหลังกลับไปมอง ไอ้ภาพกับกาลิคก็พบว่ามันสองคนเข็นรถออกไปไกลแล้ว ผมวิ่งตามไปก่อนจะกอดคอไอ้ภาพแล้วซบลงที่ไหล่มัน " พี่ภาพน้องขมมีความสุขครับ "

“ อื้ม " มันบอกรับสั้นๆ มือก็เอื้อมไปหยิบนมดูวันที่แล้วส่งให้หัวหอมที่เอาใส่ตะกร้าไว้

“ อะไร ทำไมมีแค่ อื้ม สั้นๆ นี่เพื่อนกำลังมีความสุขนะ " ชี้นิ้วเข้าตัวเองอีกคนก็เหลือบมองก่อนจะถาม

“ แล้วไง มึงมีความสุขแล้วกูจำเป็นต้องมีเหรอ "

“ อ้าวววววว อะไร ก็ควรยินดีกับเพื่อนปะ " ผมท้วง ผมก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“ จำเป็นเหรอวะ "

“ เดี๋ยวๆ พูดจาแบบนี้ ถามจริง นี่หึงกูปะ " มือที่กอดคอมันอยู่ผมดึงเข้ามาใกล้จะเอียงหน้าถาม

“ ทำไมกูต้องหึงมึง " เสียงเรียบๆเอ่ยถามผมก็ยกยิ้ม

“ ก็เพราะว่ากูจะมีแฟนสวยๆที่เหมาะสมจะเป็นแม่ของลูกก่อนมึงไง "

“ หึ ไร้สาระ " มันปัดมือผมออก ก่อนจะเข็นรถต่อไป ข้าวของมากมายถูกหยิบใส่รถเข็นตามจำนวนของขาดๆในบ้าน เราจัดการเข็นไปเช็คราคาที่เค้าเตอร์จ่ายเงิน หารจ่ายกันคนละครึ่งเหมือนทุกครั้ง ผมหยิบถุงที่ไม่ค่อยหนักสองสามถุงให้ไอ้ตัวเล็ก

" อันนี้ของหัวหอมนะ อะถือไป " ส่วนที่เหลือผมสองคนก็เป็นคนจัดการหิ้วเอง เราเดินออกจากห้างใช้ทางเชื่อมรถไฟฟ้าเดินเข้ามาในคอนโดเลยเรียบร้อย

“ ถึงสักที " ภาพวางของลงพื้น ก่อนจะวิ่งเดินไปหย่อนตัวลงที่โซฟา หัวหอมเองก็ทำแบบนั้น มันวางของที่ถือมาลงที่พื้นก่อนจะวิ่งไปเปิดทีวีช่องการ์ตูนที่ดูประจำ ผมก็ถอนหายใจออกมา

“ หัวหอมปิดทีวี "

“ ทำไมฮะ ไม่เอานะ กาลิคจะดูการ์ตูน " มันหันมาบอกผมก็เดินเข้าไปใกล้
 
“ ซื้อของมาแล้วก็ต้องมาช่วยกันจัดสิ ไม่ใช่ให้อาขมจัดคนเดียว มันไม่ใช่ของอาขมคนเดียวสักหน่อยนะ นี่มันของทุกคน " ผมบอกก่อนจะยื่นมือไปตีขาของไอ้ภาพ " มึงก็ด้วย ลุกขึ้นมาจัดของ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก "

“ ครับๆ " ร่างสูงว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินไป หัวหอมที่หันมามองหน้าผม

“ เปิดทีวีไปจัดไปได้มั้ยฮะ "

“ ไม่ได้ " ผมบอกปัดความต้องการของมันที่หน้ามุ่ยลงทันที " จัดของให้เสร็จ อาบน้ำแล้วถึงจะดูทีวีได้ ปิดทีวีซะ เดี๋ยวเราค่อยนั่งดูด้วยกันนะ "  แม้จะทำหน้างอแงแต่มือนั้นก็เอื้อมปิดทีวีตามคำสั่งของผม " เก่งมาครับ ไป ไปช่วยกันจัดของที่ซื้อมาดีกว่านะ "

   จูงมือมาที่ของที่ซื้อมาไอ้ภาพตัดการเอาของที่ซื้อออกจาถุงแล้ววางลงบนโต๊ะกินข้าว กาลิคก็ทำตาม มันมีทั้งของใช้ ทั้งของกินแล้วก็ของสดที่ใช้ทำอาหาร

“ เอาไอติมไปแช่ให้ห้องแข็งนะไป " ผมบอกก่อนจะถุงไอติมให้มัน กาลิควิ่งไปที่ตู้เย็นคว้าเอาเก้าอี้ของตัวเองแล้วปีนขึ้นไป ก่อนจะใส่ไอติมไว้ในช่องที่ผมใส่อยู่ประจำ

“ เสร็จแล้วครับ "

“ แล้วเก็บเก้าอี้รึยัง "

“ ยังครับ " มันว่าก่อนจะวิ่งไปเอาเก้าอี้เก็บเรียบร้อย แล้ววิ่งกลับมาหาผมอีก " เก็บแล้วฮ่ะ "

“ ดีมาก คราวนี้ก็เอานมของตัวเองไปแช่ไว้ในตู้เย็นนะ "

“ ฮ่ะ "

“ นี่มันไปเอาคำว่าฮ่ะ นี่มาจากไหนวะ " ไอ้ภาพเอ่ยถาม เพราะมันฟังอยู่นานแล้ว ผมยิ้มให้อีกคนก่อนจะตอบ
“ เห็นว่าจากเพื่อนที่โรงเรียน "

“ เสร็จแล้วฮะ "

“ งั้นก็นี่นะฮะ  เอาอันนี้ไปเก็บไว้ในตู้เก็บของใช้นะฮะ " ยื่นพวกของสต๊อกแบบแปรงสีฟัน ยาสีฟันให้มันอีกคนก็ยิ้มกว้างแล้วตอบรับก่อนจะวิ่งไป

“ ฮ่ะ "

“ เสร็จแล้วงั้นมาช่วยเก็บถุงกันได้แล้วนะฮะ " ไอ้ภาพว่าอีกคนก็วิ่งกลับมายืนที่เดิม มันช่วยเก็บถุงที่กระจัดกระจายอยู่ยื่นให้ภาพ

“ นี่ฮ่ะ "

“ ขอบคุณนะฮะ "

“ อาภาพ กับ อาขม พูดฮ่ะเหมือนกาลิคเลย " มันว่าก่อนจะเอียงหน้ายิ้มไปมา

“ อย่างงั้นเหรอฮะ " ภาพดึงอีกคนเข้ามากอดก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาไปเสียเต็มฟอด " นี่ก็หมั่นเขี้ยวจังเลยนะฮะ อยากจะหอมหลายๆฟอดจังเลยนะฮะ "

“ หอมด้วย หอมด้วย อยากจะหอมหลายๆ ฟอดด้วย " ผมบอกตอนที่เดินเข้าไปใกล้คนทั้งคู่ เอื้อมมือกอดหัวหอมไว้เหมือนกับไอ้ภาพผมหอมแก้มซ้ายไอ้ภาพก็หอมแก้มขวา " หอมนะฮะ หอมกัน หอมฮะ หอมๆ "

“ งื้อออออ อย่าหอมแก้มเค้าเยอะๆนะฮะ " มือเล็กเอื้อมมือปิดแก้มตัวเอง รอยยิ้มกว้างๆกับเสียงหัวเราะนั้นชวนให้เรา ยิ้มตามกันไปในช่วงเวลาเย็นของวันที่มีความสุข

..................................................................

   ตื่นตั้งแต่เช้าเพราะความตื่นเต้นที่วันนี้สาวข้างห้องอย่างมีนาจะมาที่บ้าน ผมจัดการเก็บของที่กระจัดกระจายอยู่ให้เข้าที่ ผมอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดอยู่บ้านที่หล่อกว่าปกติ ใส่เจลตัดแต่งทรงผมให้เข้าทรงราวกับออกจากร้านทำผมก่อนจะมองไปรอบๆห้องของตัวเองที่ดูสะอาดเรียบร้อยดีด้วยสำหรับการโชว์สาววันนี้

“ จะไปไหนของมึงตั้งแต่เช้าวะ " เสียงงัวเงียของไอ้ภาพเอ่ยทักผมก่อนจะเกาท้องของตัวเองเบาๆแล้วตรงไปที่ตู้เย็น มันหยิบนมขึ้นมาผมก็วิ่งไปหา

“ เอาแก้วใส่ด้วยเลยนะ "

“ คร๊าบบบบ รู้แล้วคร๊าบบบ " มันว่าแบบลากเสียงก่อนจะเดินเอานมไปรินใส่แก้ว แล้วกินเข้าไป ผ่อนลมหายใจออกมาไอ้ภาพก็ยังคงขมวดคิ้ว " แล้วนั่นจะไปไหนตั้งแต่เช้า "

“ นี่ลืมไปแล้วเหรอ " ผมถามมันก่อนจะยกยิ้มให้ " วันนี้น้องมีนา นัดกูไว้จะสอนทำกับข้าวให้กูที่บ้านไง "

“ อื้ม " มันว่าหน่ายๆก่อนจะหันไปล้างแก้วคว้ำไว้เก็บนมในตู้เย็นก่อนจะเดินออกมาจากครัว

“ แล้วนี่กูดูเป็นไงบ้าง โอเคมั้ยมึงว่า "

“ ดูเว่อร์ไปหน่อย หน้าก็เทาเหมือนคนใช้แป้งผิดเบอร์ แล้วผมนั่นคือเหี้ยอะไร " มันเดินเข้ามาใกล้ผมก็ขมวดคิ้ว

“ กูทาแป้งเด็กธรรมดา มันจะผิดเบอร์เชี้ยอะไร " แล้วไม่ได้ทาเยอะสักหน่อยเอาแค่หน้าดูสว่างสดใสก็เท่านั้น ไอ้ภาพจับเข้าที่หน้าของผมมันจ้องอยู่สักพักก่อนจะเอามือมาขยี้หัวผมแบบแรงๆ จนเสียทรงไปหมด " โอ๊ยย ไอ้เหี้ยภาพ! ปล่อยหัวกู " สะบัดตัวเองออกห่างจากตัวมันตอนที่หันไปมองกระจกผมที่เคยเป็นทรงแม่งก็ยุ่งเหยิงพอๆกับตอนที่ช่างทำเป่าไดร์ทผมให้แห้งแต่แบบไม่จัดทรงให้

“ แบบนี้แหละ หล่อ "

“ หล่อพ่อมึง นี่มันแทบมองไม่เห็นทางด้วยซ้ำ ไอ้สัด! ” ผ่อนลมหายใจออกมาผมจัดทรงให้เข้าที่ ก่อนจะหันไปชักสายตาใส่มันที่ก็ยักคิ้วแบบไม่แคร์อะไร " อย่าคิดว่ากูไม่รู้ ว่าที่มึงทำแบบนี้ทำไม "

“ ทำไม "

“ เพราะมึงอิจฉากูที่น้องมีนาเค้าสนใจกู มากกว่ามึง " ผมว่า ไอ้ภาพถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแต่ไม่ก็วายฝากคำสุดท้ายให้คิด

“ มึงแม่งก็โง่เหมือนเดิมนั่นแหละ ไอ้สัด "

“ นี่ตื่นมาเพื่อกินนม ทำให้ผมกูยุ่งแล้วเข้าไปนอนต่อแค่นั้นเหรอ " ผมพูดกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจมันเอาซะเลย " อะไรของมันวะ "

............................................................. 

พี่ภาพ บอกเค้าไปค่ะ ว่าพี่ภาพหึงเค้า อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย
ส่วนขม มึงแม่งก็โง่เหมือนเดิมแหละ #เนียนหลอกด่าไปอีกนะฮะ
ส่วนน้องหัวหอมนะฮะ น่ารักเหมือนเดิม งื้อออออออ #หยิกแก้มพลางจับฟัด
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่ะ
ตอนหน้าพี่ขมจะเรียนทำอาหารกับน้องมีนาที่ตัวเองแอบปิ๊ง แล้วพี่ภาพจะเป็นยังไงในสถานการณ์นี้
แล้วน้องมีนาละ ทำไมเธอถึงเลือกเข้ามาสอนให้ มีเงื่อนงำอะไรรึเปล่า
โปรดติดตามต่อ อาทิตย์หน้า ~
ฝาก แท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่าาาาาา  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 23-04-2017 21:23:30
มีนาใช้ขมเป็นสะพานเข้าหาภาพชัวร์
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-04-2017 21:32:44
โอ้ยยยยยยยย อาขมฮะ อาภาพมันหึงฮะ 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 23-04-2017 21:52:50
หึงสุดอะไรสุด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-04-2017 21:55:17
 :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 23-04-2017 21:59:40
ก็บอกขมไปสิว่าหึงหนะ
แต่ขำกาลิคมากก็ไม่แย่นะฮ่ะ เพราะไม่มีรสชาติอะไรเลย 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 23-04-2017 22:12:06
ขมชอบมีนา มีนาชอบภาพ ภาพชอบขมมม รักสามเศร้ารึเปล่าน้าส
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-04-2017 22:26:17
ขม โง่เหมือนเดิมตลอด เหมือนภาพว่า
แต่เรื่องชัดโม ขม ฉลาดนะ
สรุปขม โง่เฉพาะเรื่องภาพ สินะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-04-2017 23:04:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-04-2017 23:34:09
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 23-04-2017 23:37:53
คุณพ่อหึงคุณแม่ก็บอกไปอย่าปากหนักนะฮะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 24-04-2017 01:02:33
หึงก้บอกว่าหึงซิภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 24-04-2017 08:36:04
อาขมอย่าความรู้สึกช้าซิ เดี๋ยวอาภาพเสียใจ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 24-04-2017 11:14:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 24-04-2017 12:27:11
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-04-2017 16:27:41
ไม่มีความคืบหน้าเรื่องแม่เด็กเลยเหรอ?
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 24-04-2017 17:21:19
พี่ภาพควรทำให้ขมเริ่มเอะใจแล้วก็รับรู้ได้แล้วนะ

ระวังขมน้อยหลุดมือไปนะเออ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: Faiia ที่ 24-04-2017 21:37:19
อาภาพหึง ก็บอกว่าหึงสิคะ :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 24-04-2017 22:07:04
ภาพก็รุกขมบ้างซี่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 25-04-2017 00:26:16
 :L2: :3123: :pig4: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 25-04-2017 00:32:59
หึงต่อไปภาพ และขมมันก็ยังไม่รู้ภาพ 5555555

ภาพอ่อนเหมือนที่พ่อว่าไว้เลยอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 25-04-2017 09:05:35
อาขมซื่อบื้อจังเลยนะฮะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 26-04-2017 10:45:37
อ่านตอนนี้แล้วบอกเลยว่าสงสารพี่ภาพอ่ะ
น้องขมไม่ได้รู้อะไรบ้างเลย แถมยังไปชื่นชอบน้องมีนาออกนอกหน้าอีก
เฮ้อออ...เมื่อไหร่จะรู้ตัวเนี่ย พี่ภาพบอกๆ ไปเลยเหอะ น้องขมมันโง่ 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 21 - 23.4.60} #หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 28-04-2017 08:35:14
หายไปนานจังเลย คิดถึงกาลิค
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 28-04-2017 20:59:36
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 22

“ จะมายัง จะมายังน้า " ผมหันไปมองประตูคอนโดเป็นรอบที่ร้อยตั้งแต่เข้าสู่ช่วงเวลาเก้าโมงเป็นต้นมา ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆแล้วหันไปมองที่ประตูทุกสามสิบวินาทีที่ได้ยินเสียงคล้ายกับคนเคาะประตู

“ อาขม อาขมมองอะไรฮะ " เสียงของหัวหอมเอ่ยถามผม มันคงสงสัยอยู่ไม่น้อยที่คนนั่งดูการ์ตูนอยู่ข้างมัน กลับเอาแต่มองดูแต่ประตูไม่ได้สนใจการ์ตูนตรงหน้ากับมันเหมือนปกติเลย

“ กำลังมองว่า เมื่อไหร่อามีนาจะมาน่ะ " ผมบอก เด็กน้อยก็พยักหน้ารับ

“ วันนี้อามีนาจะมาเหรอฮะ "

“ ช่ายแล้ว วันนี้อามีนาจะมาสอนอาขมทำกับข้าวเที่ยงให้หัวหอมกิน แล้วนี่หิวยัง " ผมถามก่อนจะเอื้อมมือไปจับพุงกลมๆของมันอีกคนก็ส่ายหน้า

“ ไม่ฮ่ะ กาลิคยังอิ่มอยู่ " ว่าแบบนั้นก่อนจะเอียงตัวเองมาซบที่ตัวผมแล้วดูทีวีของตัวเองต่อไป  หันไปมองประตูอีกครั้งไอ้ภาพที่นั่งอยู่ที่โซฟาตัวเดียวแล้วกำลังเล่นเกมส์ก็เอ่ยบอก

“ เค้ายังไม่มาหรอกน่า นี่มันเพิ่งผ่านมื้อเช้าไปเอง คงมาตอน 11 โมงนู้น มึงเลิกมองไปที่ประตูเถอะน่า กูรำคาญ "

“ ก็กูกลัวเค้ามาแล้ว เค้ามาคอยกูงี้ มันเสียมารยาทเค้าอุตส่าห์มาสอนให้ "

“ อ๋อเหรอ " มันแบะปากบอก ท่าทางที่ดูก็รู้ว่าไม่ได้เชื่ออะไรขนาดนั้น " เอาจริงๆ มึงก็ไม่ต้องไปลำบากมีนา กูพามึงไปบ้าน ไปเรียนทำกับแม่ครัวที่บ้านกูก็จบแล้ว เก่งกว่าด้วย "

“ มันต่างกันมั้ยละไอ้เหี้ย " ผมหันไปบอกอีกคนพร้อมกับเอามือปิดหูหัวหอมไว้ " นี่มีนามาสอนนะเว้ย เก่งไม่เก่งมันไม่สำคัญหรอก มันสำคัญที่ว่ามีนาสอนกูตังหาก "

“ งื้ออ อย่าปิดหูกาลิค กาลิคจะดูการ์ตูนนะอาขม " เสียงเล็กโวยวายมันปัดมือผมออก ก่อนจะเงยหน้าบอก " กาลิคจะไม่พูดคำที่ไม่ดี ไม่ต้องปิดหรอกนะ อย่ามาปิดหู ~ "

“ จ้าๆ โทษทีนะ " ผมบอกมันก่อนจะลูบหัวแล้วหันไปคุยกับไอ้ภาพต่อ

“ ไร้สาระ " ไอ้ภาพเอ่ยเบาๆ ก่อนจะถามเด็กน้อยที่ดูการ์ตูนอยู่ " กาลิค อยากจะไปบ้านคุณปู่คุณย่ามั้ย ไปกัน ไปกินของอร่อยๆกันไงไปมั้ย "

“ เชี้ยยยย " ผมลากเสียงเบาๆ " ไม่ได้นะเว้ย ยังไปไม่ได้กูนัดมีนาแล้ว กูผิดนัดน้องเค้าไม่ได้!! "

“ แล้วไงก็เลื่อนนัดสิ " มันว่าแบบไม่แคร์ก่อนจะหันไปถามหัวหอมต่อ " ว่าไงกาลิค  อยากไปบ้านคุณปู่คุณย่ามั้ย " ผมหันมองเจ้าตัวเล็กในใจก็ภาวนาของให้มันไม่ได้อยากจะไป

“ อยากไปครับ " .. ไอ้สัด คำร้องขอของพระเจ้าจากกูมันไม่ได้ผล ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะกรอกตามองบนไอ้ภาพก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง

“ งั้นก็ไปกันเลยไป "

“ เดี๋ยวๆ ไม่ได้ ไปไม่ได้ " ผมเบรคมันไว้ ก่อนจะก้มลงบอกหัวหอม " ไปไม่ได้นะหัวหอม "

“ ทำไมฮะ " มันเอียงหน้าถาม  ผมที่ไร้ข้ออ้างใดๆก็พยายามมองไปรอบๆก่อนจะเจอเข้ากับการ์ตูนที่กำลังฉายอยู่

“ การ์ตูนไง ถ้าไปตอนนี้จะดูการ์ตูนไม่จบนะ เพราะไปถึงบ้านปู่กับย่าการ์ตูนมันก็จบแล้วนะจะบอกให้ เด็กน้อยชั่งใจ ไอ้ภาพก็เสริม

“ ไม่เป็นไรเดี๋ยวโทรให้น้าแก้วอัดไว้ให้ก็ได้ ถ้าเราอัดวิดีโอเอาไว้ เราจะดูสักกี่รอบก็ได้ "

“ จริงเหรอ อาภาพ " หัวหอมเงยหน้าถามมันอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ จริงสิ "

“ ไอ้เชี้ย " ด่ามันแบบไม่ออกเสียง ไอ้ภาพก็ยักคิ้วให้  " แต่ว่าหัวหอม ไม่อยากจะกินแกงจืดกับกุ้งทอดเหรอ เดี๋ยววันนี้อาขมกับอามีนาจะทำให้กินไง "

“ ทำให้เหมือนวันนั้น ที่กินกันไม่ได้น่ะเหรอ ที่รสชาติแย่ๆอะนะ "

“ งั้นไม่กินฮะ " ไอ้ตัวเล็กส่ายหน้าไปมา " กาลิคจะไปกินที่บ้านคุณปู่คุณย่า "

“ ให้คนที่บ้านกูสอนให้ดีกว่า ไปเถอะน่า มึงแน่ใจได้ไงว่ามีนาจะทำอร่อยจริงๆ แล้วจะทำอร่อยจนกาลิคมันกินจริงๆ เดี๋ยวก็ได้เททิ้งอีก " ภาพบอก ผมก็ถอนหายใจ คือตอนนี้มันไม่ได้อยู่ที่ อร่อยไม่อร่อยแล้วไง มันอยู่ที่ว่ามีนาจะมาสอนผมทำ แล้วทำจะพลาดโอกาสนี้ไม่ได้ ต้องอยู่บ้าน จะไปไหนไม่ได้

“ ไม่ได้กูนัดมีนาแล้ว " ผมบอกปัดมัน ไอ้ภาพก็ก้มลงมองหัวหอม

“ งั้นมึงก็อยู่รอ ให้เค้าสอนแล้วละกัน กูไปกับกาลิคสองคน "

“ อย่างงั้นยิ่งไม่ได้เลย " ยกมือห้ามมันอีกคนก็เอียงหน้าถาม

“ ทำไม "

“ มันน่าเกลียดนะสิมึง กูเล่นไปบอกน้องเค้าว่าจะทำกับข้าวให้หัวหอมกินแล้วอยู่ๆ พอเค้ามา ไม่มีหัวหอมแบบนี้ น้องเค้าจะคิดยังไง ไม่คิดว่ากูหลอกล่อเค้ามาทำไม่ดีไม่ร้ายในห้องสองต่อสองเหรอ มึงก็ไม่อยู่ "

“ น้องเค้าไม่น่าจะคิดอะไรนะ ทั้งห้องมีแต่ผู้ชาย ยังกล้ามาเลย " ไอ้ภาพว่าก่อนจะยกยิ้ม

“ มึงพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงวะ " ผมลุกขึ้นยืน จ้องใบหน้าคมที่ยังคงไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูดเชิงดูถูกที่พูดออกมา " มึงพูดแบบนั้นน้องเค้าเสียหายนะ เค้าก็แค่หวังดีมาช่วยกูก็เท่านั้น "

“ เหรอ ? " มันทวนคำพูดก่อนจะแบะปาก ท่าทางที่บอกว่ามันไม่ได้คิดเหมือนผม " ลองคิดง่ายๆละกัน ถ้ากาลิคเป็นเด็กผู้หญิง โตขึ้นมึงจะให้มันเข้าไปในห้องผู้ชาย ที่มีผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันถึงสองคน และเด็กเล็กอีกคน ด้วยเหตุผลที่ว่าจะสอนทำอาหารมั้ยละ ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ขอร้องเธอ เธอออกปากเองด้วยซ้ำ มันน่าแปลกนะ ทั้งๆที่ว่า เราอยู่คอนโดใกล้กัน คุยกันไม่ค่อยบ่อย แต่อยู่ๆก็ออกตัวมาช่วย "

“ เค้าอาจจะสนใจกูก็ได้ "

“ ก็เลยเข้ามายั่วยวนมึงด้วยความอ่อนหวาน " มันถามผมก็ขมวดคิ้ว

“ มึงเลิกมองน้องเค้าในแง่ร้ายสักทีเถอะน่า  เค้าหวังดีกับเรา มึงก็มองว่าเค้าไม่โอเคขึ้นมาอย่างงั้นทั้งๆที่เมื่อก่อน มึงไม่เคยเป็นเลย เอาจริงๆ นี่อิจฉากูรึเปล่า ที่เค้าเข้ามาใจดีกับกู หรือว่ามึงชอบมีนา หรือยังไง "

“ กูไม่จำเป็นต้องอิจฉามึง ถ้ามีใครสักคนที่กูจะอิจฉาละก็ กูอิจฉามี.. ” มันที่ยังพูดไม่จบเงียบไป ก่อนจะหันไปทางอื่น

“ จะพูดอะไรของมึง พูดแล้วก็พูดให้จบสิวะ ไม่เคลียร์เลย "

“ อาขม อาภาพ อย่าทะเลาะกัน " เสียงใสเอ่ยเรียกเราด้วยท่าทางที่หันไปมองซ้ายทีขวาที มือเล็กๆจับมือผมก่อนจะเงยหน้าบอก " อาขม อย่าทะเลาะกับอาภาพ อย่าทะเลาะกันนะ "

“ ไม่ได้ทะเลาะสักหน่อย " ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะย่อตัวลง แววตากลมๆที่เหมือนกำลังจะร้องไห้ เอื้อมมือไปลูบหัวมันก่อนจะยิ้ม " ขอโทษทีนะ เราคงเสียงดังไปหน่อย หัวหอมก็เลยตกใจ เราไม่ได้ทะเลาะกันหรอก แค่คุยกันแบบเสียงดังเฉยๆก็เท่านั้นเอง "
 
“ เหรอฮะ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับ มันก็หันไปมองภาพ ขาที่เดินเข้าไปใกล้มันจับมือภาพไว้

“ อาภาพ อาภาพไม่ได้โกรธอาขมใช่มั้ยฮะ "

“ ไม่ได้โกรธหรอก " มือหนาลูบหัวอีกคน หัวหอมก็พยักหน้ารับก่อนจะดึงไอ้ภาพให้เดินเข้ามาใกล้ผม

“ ถ้าไม่โกรธกันก็ต้องดีกันนะ จับมือกันไว้ " หัวหอมบอกก่อนจะเอามือของผมมาจับมือของภาพไว้ " ไม่พูดเสียงดังๆกันนะ ไม่ทำหน้าโกรธๆด้วย ไม่ทำนะ ดีกัน ดีกัน " แกว่งมือเราที่จับกันอยู่ไปมาช้าๆ ไอ้ภาพก็ถอนหายใจออกมา มันจ้องหน้าผมอยู่สักพัก

“ ไม่ไปแล้วก็ได้ "

“ ขอบใจ "

“ แต่กูยังยืนยันคำเดิมนะ  ว่าในความคิดกู เธอไม่ได้เป็นแบบที่มึงคิดหรอก "  ผมเงียบไปไม่ตอบอะไร ไอ้ภาพที่ลุกขึ้นยืนมันก้มลงบอกหัวหอม " กินไอติมกันดีกว่า ไหนมีเด็กคนไหนอยากจะกินไอติมกับอาภาพบ้าง "

“ กาลิคฮะ!!! “  สองมือที่ยกขึ้น ไอภาพจับมันอุ้มขึ้นไป ก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นของบ้าน เปิดชั้นบนของตู้เย็นออกมาก่อนจะหยิบไอติมมาคนละอัน ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่เห็นภาพนั้น ก่อนจะสมองจะหวนคิดถึงสิ่งที่มันพูด เอาจริงๆถ้าผมมีลูกสาวก็ไม่อยากจะให้เธอไปห้องผู้ชายหรอก แล้วผู้หญิงที่เสนอตัวมาห้องแบบนั้น .. เอาจริงๆก็ดูแปลกๆอยู่นะ  แต่คนเรียบร้อยอย่างมีนาเหรอจะเป็นแบบที่ไอ้ภาพบอก นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากจะเชื่ออยู่ดี

   กริ้ง กริ้ง กริ้ง

   เสียงกริ่งหน้าประตูที่ดังขึ้นในเวลาประมานสิบเอ็ดโมง ผมหันไปมองประตูก่อนจะลุกขึ้นไปเปิด ผมพบว่าก็เป็นคนที่ผมรอคอยมาตลอด มีนามาในชุดที่ดูน่ารักหวานๆ เสื้อสีขาวด้านในใส่ทับกับชุดกระโปรงสายเดี่ยวลายดอกเล็กๆสีเข้มด้านนอก พร้อมกับที่คาดผมเป็นโบว์ที่ดูเข้ากับชุด

“ มีนา สวัสดีครับ "

“ สวัสดีค่ะ พี่ขม " ก็ยกมือไหว้ก่อนจะมองไปที่ทีวี " พี่ภาพ สวัสดีค่ะ "

“ สวัสดีครับ " ภาพหันมาพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนจะสะกิดหัวหอมที่นั่งอยู่ข้างกันให้หันไปทักทาย " เอาไอติมมานี่ แล้วหันไปไหว้อามีนาเค้าดีๆก่อนไป "

“ สวัสดีครับ อามีนา " มันลุกขึ้นยกมือไหว้เรียบร้อย ก่อนจะกลับไปนั่งกินไอติมตามเดิม

“ งั้นเรามาเริ่มกันเลยมั้ยคะ " เธอถามผมก็พยักหน้ารับ

“ ได้ครับ "

“ พี่เตรียมอุปกรณ์ไว้ครบแล้วละ " ผมบอกเธออีกคนก็ยิ้มก่อนจะตรงไปล้างมือ

“ งั้นเรามาทำแกงจืดกันเป็นอย่างแรกดีกว่านะคะ "

“ ครับ "

“ มีนาว่า พี่ขมทำดีกว่าเดี๋ยวมีนาจะบอก พี่ขมจะได้ทำเป็น แล้วมีนาจะจดไว้ให้ด้วย " เธอว่าก่อนจะหยิบเอาปากกากับสมุดเล่มเล็กที่ผมเตรียมไว้ขึ้นมา

“ โอเคครับ " ผมยิ้มให้เธอ ที่ก็ส่งยิ้มกลับมา  เอาจริงๆนะ น้องมันอาจจะไม่ได้คิดอะไรก็ได้ น้องแค่ไว้ใจเราก็เลยมาสอนให้ ไอ้ภาพอะ คิดมาก

“ ก่อนอื่นก็เตรียมหม้อสำหรับใส่แกงจืดค่ะ " เธอบอกผมก็หยิบหม้อมาตั้งไว้บนเตา " วิธีของมีนาก็คือ เวลาจะกินแกงจืด จะตักน้ำสะอาดใส่ในถ้วยที่เราเตรียมไว้จะใส่แกงจืดเมื่อมันเสร็จนะคะ เราจะได้รู้ว่าเราจะทำแค่เท่านี้ "

“ อ๋อ โอเค " พยักหน้ารับก่อนจะรินน้ำใส่ในถ้วยแล้วก็ เทใส่หม้อ

“ จากนั้นก็มีเตรียมของที่จะใส่ลงไปในแกงจืดกัน กะปริมานให้มันเหมาะกับถ้วยที่จะใส่ อย่างน้ำแค่นี้ก็สัก สองหัวเล็กก็น่าจะพอแล้ว "

“ โอเค " ผมหยิบผักกาดขาวขึ้นมา

“ วิธีทำก็หั่นตรงปลายออกก่อน ประมานแค่นี้ " เธอยื่นมือมาชี้ผมก็ตัดส่วนปลายของมันทิ้ง " จากนั้นก็แยกใบมันออกมาทีละใบ จัดให้อยู่ในทางเดียวกัน เราก็ดูว่ามันใหญ่ไปมั้ย ถ้าใหญ่ไปเราก็ห่ั่นครึ่งทางตรงจากหัวลงมาถึงท้ายถ้าคิดว่าไม่ใหญ่ก็หั่นปกติได้เลย "

" ก็ไม่ใหญ่นะ พี่ว่า "

" งั้นก็หั่นปกติได้เลยค่ะ " เธอว่าแบบนั้นผมก็หั่นไปตามที่เธอบอก มีนายื่นถ้วยใบเล็กๆให้ " พี่ขมหั่นใส่ถ้วยใบนี้ไว้ก็ได้ค่ะ "

" โอเคครับ " ผมหันไปยิ้มให้เธอที่ก็ยิ้มให้ผม มีนาสอนผมแบบละเอียด แล้วก็ดูใส่ใจไม่น่าจะเป็นแบบนี้ไอ้ภาพว่าหรอก

" อาขม อาขม " เสียงของไอ้หัวหอมเอ่ยเรียกผมก่อนจะวิ่งเข้ามาในครัว มือมันจับที่ชายเสื้อก่อนจะเขย่า

" ครับว่าไง "

" กาลิคอยากจะกิน ไอติมอีก กาลิคกินได้มั้ย "

" ไม่ได้แล้วนะ เดี๋ยวต้องกินข้าวแล้ว ไว้กินหลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วนะ " มันทำหน้ายู่ตอนที่ได้รับคำปฎิเสธนั้น มือมันที่กอดขาผมหน้าที่ซุกลงไปตรงเอว

" แต่กาลิคอยากจะกิน ขอกินอีกคำเดียวนะครับ อาภาพยังกินได้เลย แล้วพอกาลิคขออาภาพก็บอกว่าให้มาขออาขมก่อน "
" งั้นหัวหอมก็ไปขอให้อาภาพแบ่งให้สิ "

" อาภาพไม่ให้ อาขมบอกอาภาพเลย บอกอาภาพว่า ให้กาลิคกินด้วย " ผมผ่อนลมหายใจออกมา คือทำไมมึงต้องมาแกล้งเด็กเอาตอนนี้วะ หันไปมองร่างสูงที่นั่งตักไอติมดูทีวีสบายใจ

" ภาพให้หัวหอมกินไอติมด้วยสิ " เอ่ยปากบอกอีกคนก่อนจะก้มลงบอกไอ้ตัวเล็ก " อาขมบอกแล้ว ไปกินได้เลยไป " พอพูดแบบนั้นมันก็วิ่งออกไปจากในครัว ผมหันไปยิ้มแห้งๆให้มีนา

" โทษทีนะมีนา วุ่นวายไปหน่อย "

" ไม่เป็นไรค่ะ มีนาเข้าใจ ครอบครัวก็ต้องวุ่นวายแบบนี้แหละค่ะ มันธรรมดา " เธอว่าก่อนจะยื่นแครอทให้ผม " อันนี้ปลอกเปลือกแล้วหั่นเป็นแว่นๆให้เท่ากันนะคะ "

“ ครับ " จัดการหั่นเป็นแว่นๆให้เท่ากันอย่าที่เธอบอก แต่ก็ไม่ค่อยเท่ากันเท่าไหร่หรอก จากนั้นมีนาก็ยื่นบางอย่างให้ผม มันเป็นเหมือนพิมพ์เป็นรูปดอกไม้ทำจากสเตเลส " อันนี้คือ "

“ ปกติมีนาจะให้พิมพ์แบบนี้กดลงไปตามแครอทที่หั่นเป็นแว่นๆแล้วนะคะ มันจะชวนให้ดูสวย แล้วก็น่ากิน "

“ อย่างงั้นเหรอครับ " สมเป็นผู้หญิงจริงๆ ใส่ใจแม้กระทั้งการทำแครอทให้ดูน่ากิน จัดการปั้มแครอทไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ทันเสร็จ เสียงงอแงก็มาพร้อมกับเด็กน้อยที่เดินเข้ามาในครัวอีกครั้ง หัวหอมร้องลั่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มไปหมด

“ อึก อึก อาขม ฮือๆ " มันกอดขาผมไว้ก่อนจะพูดสิ่งที่ทำให้เสียใจและเสียความรู้สึกอย่างที่สุด " อาภาพ อาภาพไม่ให้กาลิคกินไอติม อึก ฮือๆ อาขมม "

“ โอยยยยยย " ผมพูดออกมาเสียงเบาๆก่อนจะล้างมือแล้วเช็ดให้แห้งก่อนจะก้มลงไปเช็ดน้ำตาให้มัน " ไม่ต้องร้อง ร้องไห้ทำไม่ ไม่อายอามีนาเค้าเหรอ "

“ อึก ฮือๆ " มันบี้หน้าลงกับกางเกงตัวที่ผมใส่กอดไว้แน่นไม่ไปไหน " กาลิคจะกิน อึก ไอติม อึก ฮือๆ อาภาพแกล้ง อาภาพไม่ให้กิน  อึก ฮือ ๆ "

“ มีนาเดี๋ยวพี่มานะ "

“ ได้คะพี่ขม " เธอพยักหน้ารับ ผมก็อุ้มไอ้ตัวเล็กขึ้นมาก่อนจะเดินออกไปจากในครัวเดินไปที่โซฟาที่ไอ้ภาพยังคงกินไอติมอยู่แบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น  ผมผ่อนลมหายใจออกมาแล้วเรียกมัน

“ ไอ้ภาพ "

“ อะไร "

“ มึงจะช่วยดูแลหัวหอมหน่อยได้มั้ย กูจะทำกับข้าว เกรงใจมีนาเค้า เค้ามาช่วยสอน มึงจะแกล้งเด็กมันทำไมวะ " ผมพูดเสียงเบาๆอีกคนก็หันมามองหน้า

“ แล้วไง หมั่นไส้ อี๋อ๋อกันอยู่นั่น นี่ถ้าทำไม่เป็นขนาดนั้นเลยเหรอ ถามจริง หรือว่าตอแหลว่าทำไม่เป็นไรวะ " ไอ้ภาพถามผมก็ชมวดคิ้ว

“ อะไรของมึง หงุดหงิดเหี้ยอะไร แค่คนกับข้าวด้วยกัน " พูดออกไปแบบนั้นมันก็เบือนหน้าหนี ก่อนจะพูดพึมพำ

“ แค่ทำกับข้าวแน่เหรอวะ หรือว่าอยากจะทำอย่างอื่นด้วย "

“ เชี้ยอะไรของมึง! พูดไม่รู้เรื่อง แล้วทำหน้าให้มันดีๆหน่อย จะทำหน้าเหี้ยไปถึงไหน " ผมย่อตัวลง วางเด็กน้อยที่ยังงอแงลงให้นั่งข้างมัน " แล้วแบ่งให้ไอติมให้หัวหอมกินด้วย ถ้ามันร้องแงงอเข้าไปกวนกูอีก มึงโดนแน่ "

“ โดนเหี้ยอะไร " ไอ้ภาพยกยิ้มถาม ผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ มารยาทอะมึงมีบ้างมั้ย คนเค้ามาสอนให้ ก็ควรให้เค้าตั้งใจสอนสิวะ นี่เหี้ยอะไรของมึง แกล้งไอ้หัวหอมกวนกูอยู่ได้ "

“ แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จกลับๆไปได้แล้วไป " มันถามเสียงไม่เบานักผมก็เอื้อมมือไปปิดปากมันก่อนจะหันไปมองมีนาที่ก็ยังอยู่ในครัวและขอภาวนาว่าอย่าได้ยินคำพูดพวกนี้เลย

“ เชี้ย! พูดเหี้ยอะไรของมึงวะ เกรงใจเค้าหน่อย ”

“ แล้วไง ? ใครแคร์ " ท่าทางที่ไม่สนใจอะไรของมัน ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรของมัน อยู่ๆก็ทำตัวไม่ชอบมีนาขึ้นมามากมายเหมือน มีนาไปเหยียบตาปลาแม่มัน หรือว่าแค้นกันมาตั้งแต่ตอนไหนผมเองยังไม่รู้เลย เมื่อก่อนก็ยังชมให้ฟังอยู่เลยว่ามีนาสวย แล้วตอนนี้มันเป็นเหี้ยอะไรของมันขึ้นมา

“ กูแคร์! ” ย้ำเสียงบอก

“ งั้นก็ยิ่งกลับไปเร็วๆเลยไป นี่ก็คอนโดของกูครึ่งนึงเหมือนกันนะ ถ้ากูไม่พอใจให้ใครเข้ามาก็สิทธิ์ของกู "

“ ภาพ .. อะไรของมึงวะ " ผมถามมันงงๆ ไม่เข้าใจแม้กระทั้งความคิดของมันเลยสักนิด ใบหน้าคมที่เบือนหน้าหนีผมที่ตอนนั้นได้แต่ถอนหายใจออกมา " ถ้าอย่างงั้นมึงก็ดูแลหัวหอมให้ดี อย่าให้หัวหอมเข้าไปยุ่งกูในครัวกูจะได้รีบทำให้เสร็จสักที "

   เดินกลับเข้ามาในครัว ผมถอนหายใจออกมา ล้างมือก่อนจะจัดการทำอาหารต่อ เอียงหน้ามองมีนาที่ยิ้มให้ผม " โทษทีนะมีนา พอดีมันยุ่งๆนิดหน่อยนะ " ผมว่าเธอก็ส่ายหน้าไปมา

“ ไม่เป็นไรค่ะ มีนาเข้าใจ บ้านไหนมีเด็กก็ต้องยุ่งแบบนี้แหละ " จัดการทำแครอทจนเสร็จ จากนั้นก็เริ่มแบ่งหมูสับมาใส่เครื่องปรุงรสหมูแล้วก็พริกไทยอีกนิดหน่อย คลุกให้เข้ากันแล้วปั้นไว้เป็นก้อนๆ ผมเปิดแก๊สรอให้น้ำเดือดจัดใส่ผงซุปหมู แล้วก็ใส่หมูที่ปั้นเป็นก้อนไว้ จากนั้นก็ตามด้วยแครอท  " พอใส่ของพวกนี้เสร็จแล้วเราก็รอจนน้ำเดือดอีกทีแล้วค่อยใส่เต้าหู้ไข่ วุ้นเส้นแล้วก็ผักกาดขาว จากนั้นก็รอจนกว่าเราจะได้ผักแบบที่ชอบกินค่ะ "

“ แค่นี้ก็เสร็จแล้วเหรอ " ผมหันไปถามเธอ

“ ก็ลองชิมดูถ้ารสชาติ โอเคก็เสร็จแล้วค่ะ " เธอว่าผมก็รอจนผักกาดกาดเปื่อยหน่อยเพราะหัวหอมเป็นคนชอบกินผักนิ่มๆ ชิมรสชาติที่ก็อร่อยกว่าครั้งนั้นเยอะมาก จัดการโรยพริกไทยลงไปนิดหน่อย ก่อนจะเพิ่มผงปรุงรสหมู รอให้เดือดอีกที มีนาก็เอื้อมมือมาปิดแก๊ส " แค่นี้ก็เสร็จแล้วคะ "

“ ง่ายดีจัง "

“ คราวนี้ก็มาทำกุ้งชุปแป้งทอดกัน ง่ายๆค่ะ ไม่มีอะไรมาก ก่อนอื่นก็เอาหัวกุ้งออกก่อน " เธอบอกก่อนจะทำให้ผมดู " แล้วเอามีดเอาขี้ที่หลังกุ้งตรงนี้ออก จากนั้นก็มาทำแป้ง "

“ อ่าห๊ะ " มีนาสอนผมเป็นคนทำ ตั้งแต่เอาน้ำเปล่า สี่ช้อน แล้วก็โซดาสองช้อนโต๊ะ ใส่ลงไปในแป้งทอดเพื่อละลาย คลุกแป้งที่ผสมพริกไทย เกลือเอาไว้ แล้วก็เอามาคลุกกับแป้งที่ละลายน้ำ กระทะร้อนจัดผมก็เอาลงไปทอดในน้ำมันท่วมๆ " อันนี้ก็ดูง่ายดีจัง ขอบคุณนะมีนาที่มาสอนพี่ทำกับข้าว "

“ ไม่เป็นไรค่ะพี่ขม มีนาเข้าใจว่า คนที่ทำไม่เป็นมันก็ยากจริงๆ " เธอว่าก่อนจะหันไปมองไอ้ภาพที่นั่งอยู่ที่โซฟากับหัวหอม ก่อนจะหันมามองผม " ว่าแต่..มีนาถามอะไรหน่อยได้มั้ยคะ "

“ อะไรเหรอ "

“ ตกลงว่าน้องกาลิคเป็นลูกใครเหรอคะ " คำถามที่ทำให้ผมนิ่งไป เธอก็ยิ้มจางๆก่อนจะเอียงหน้ามองผม " ขอโทษด้วยนะคะ ที่ถามคำถามที่ลำบากใจแบบนั้น "

“ ก็ไม่เชิงว่าลำบากใจอะไรหรอก แค่ยังไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอน่ะ เลยยังไม่รู้ว่าลูกใคร " ผมบอกเธอที่ก็พยักหน้ารับ มีนาหันไปมองคนสองคนที่กำลังนั่งอยู่ที่หน้าทีวีอีกครั้ง " อีกอย่างนะพี่สองคนคิดว่า อีกสามเดือนแม่เค้าคงจะมารับ "

“ หมายถึง แม่แท้ๆของกาลิคนะเหรอคะ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะพลิกกุ้งที่อยู่ในหม้อทอด แล้วตักขึ้นมาทีละตัวตอนที่มันเริ่มมีสีเหลืองเรืองสวยแล้ว

“ แต่มีนาว่า กาลิคน่ะดูติดพี่ขมมากเลยนะคะ "

“ อย่างงั้นเหรอ " ผมพยักหน้ารับเธอ ที่ก็ส่งยิ้มมาให้

“ เค้าว่ากันว่าคนเราพ่อแม่กันมักมีสายสัมพันธ์ประหลาด เราจะรู้สึกรักและเอ็นดู คนที่เป็นลูกเราได้แม้ว่าจะไม่รู้ว่าเป็นลูกเราก็ตาม กาลิคไม่ค่อยติดพี่ภาพ แต่กลับติดพี่ขมมากเลย บางทีอาจจะเป็นความสัมพันธ์แบบนี้ก็ได้นะคะ " คือจะพูดว่า หัวหอมดูน่าจะเป็นลูกกูมากกว่าไอ้ภาพ ว่างั้นเถอะ ง่ายๆ

“ เหรอ " ผมตอบเธอสั้นๆ อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ แล้วพี่ภาพเค้ามีแฟนรึยังคะพี่ขม " ทุกอย่างนิ่งไปตอนที่ผมได้ฟังคำถามนั้น กูรู้สึกตะหงิดๆตั้งแต่ที่มีนายัดหัวหอมให้เป็นลูกกูละ ผมหันไปมองเธอที่ตั้งคำถามเหมือนว่าตัวเธอเองไม่ได้คิดอะไร

“ ก็ยังหรอก ยังโสดนะ "

“ เหรอคะ " ท่าทางที่ดูเปลี่ยนไปของเธอ ผมหันกลับมาสนใจจานกุ้งทอดของตัวเองที่สวยกว่าครั้งแรกมากแต่ความรู้สึกที่น่าดีใจตอนนี้ มันเปลี่ยนเป็นอีกแบบความรู้สึกตอนนี้ของผมคือ กูอยากจะขอ how to ทำอย่างไรให้ควบคุมอารมณ์ไม่ชักสีหน้าใส่ซะจริงๆ
 
   สรุปว่าจริงๆที่เธอมาสอนทำกับข้าวผม ก็แค่.. อยากจะรู้เรื่องของไอ้ภาพก็เท่านั้น เหอะ.. ไอ้เราก็คิดว่า สวย ใจดี เรียบร้อย เป็นมิตรซะอีก ที่แท้ก็แค่สนใจผู้ชายเหรอวะ

   ผมยอมรับว่าตัวเอง รู้สึกพาลนิดหน่อยตั้งแต่ที่ได้ยินเธอถามถึงไอ้ภาพ และไม่ได้สนใจผมอย่างที่ตัวเองมโนไป  หันมองไอ้ภาพที่ยังเล่นกับหัวหอมแบบมีความสุข ผมเผลอแบะปากออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะผุดคำถามขึ้นมาในใจของตัวเอง ' หล่อนักเหรอวะ ไอ้สัด ' แล้วพอจ้องมันสักพักผมก็ได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมาเพราะก็ได้คำตอบอย่างที่รู้สึกเหมือนทุกที  ' เออ หล่อ ไอ้ส้นตีน ' แต่แม่ง ก็หงุดหงิดจริงๆ

   แต่ก็แบบนี้ทุกทีสาวที่เข้ามาคุยด้วยก็คุยเพราะอยากจะจีบไอ้ภาพกันทั้งนั้น เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว จะบอกว่าอิจฉามันก็ไม่ใช่ความรู้สึกนั้นแต่เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน หึงเหรอวะ หวงเหรอ ก็คงจะราวๆนั้น ก็เวลามันมีแฟนมันทิ้งผมทุกที เพราะแบบนั้นก็เลยรู้สึกว่า ตัวเองหวงมันลึกๆเหมือนกัน แต่ก็นะ คงเป็นแค่ความรู้สึกของเพื่อนหวงเพื่อนเท่านั้นแหละ

“ เสร็จแล้ว " ผมจัดการกุ้งทอดเสร็จเรียบร้อยก่อนจะให้ไปยิ้มให้มีนา " มีนาพี่ขอบคุณมากนะ สำหรับวันนี้ "

“ ไม่เป็นไรค่ะพี่ขม ยังไงไว้เดี๋ยวมีนามาสอนทำเมนูอื่นอีกนะ "

“ อ๋อได้ครับ จัดไปเลย " ผมพยักหน้ารับกับเธอ ตอนแรกตั้งใจว่าจะชวนกินข้าวด้วย แต่ตอนนี้ไม่ละ ยิ้มให้อีกคนที่ยืนนิ่งอยู่สักพักอาจจะรอให้ชวนกินข้าว

“  งั้น มีนากลับก่อนนะคะ "

“ ครับ ขอบคุณมากนะ ไว้พี่จะเลี้ยงขนมตอบแทน "

“ ค่ะ " เธอยิ้มกว้างก่อนจะหันไปหาภาพที่นั่งอยู่ " พี่ภาพ มีนากลับก่อนนะคะ "

“ อ๋อครับ ขอบคุณมากนะครับมีนา "

“ ค่ะพี่ภาพ ไปนะกาลิค บ๊ายบาย "

“ อามีนา สวัสดีครับ บ๊ายบาย " เด็กน้อยก้มหน้าบอกก่อนจะโบกมือลา ผมเดินตามเธอไปที่ประตูห้อง ปิดประตูเรียบร้อย ตัวเองก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ มากินข้าวได้แล้ว " ผมบอกคนสองคนที่นั่งอยู่ที่โซฟา หัวหอมวิ่งมาตามคำสั่งผมหยิบจากประจำตัวของมันตักข้าวให้ หัวหอมก็เดินเอาไปวางที่โต๊ะ ก่อนจะเดินกลับมาเอาจานของผม แล้วก็ของภาพไปวาง ผมยกแกงจืดถ้วยใหญ่ พร้อมกับกุ้งทอดมา ก่อนจะเดินกลับมาเอาถ้วยแบ่ง แบ่งให้เป็นสามถ้วยเท่าๆกัน

“ อาขม อาขมทำน่ากินจังเลย " หัวหอมเอ่ยชมผมก็ก้มลงไปหอมแก้มมัน

“ จริงเหรอ ชื่นใจจังเลย " อย่างน้อยเหตุผลหลักที่ทำก็เพราะอยากจะให้มันได้กินละนะ มันชมแบบนี้ก็ดีใจ

“ อาภาพดูสิ มีดอกไม้ด้วย "

“ ก็น่ากินดี " ไอ้ภาพว่าก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ มันจัดการชิมน้ำซุปก่อนจะพยักหน้ารับ " ก็อร่อยดี อื้ม..เป็นแกงจืดละนะ แต่ถ้าให้แน่ไว้ชมอีกทีตอนมึงทำคนเดียวดีกว่า " ผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะหันไปมองหัวหอมที่กินเข้าไปคำโต

“ อร่อยมั้ยหัวหอม "

“ อาหร่อยยยย กาลิคชอบฮะ "

“ ดีจัง งั้นลองชิมกุ้งทอดนี่ดู นี่ จิ้มๆกับกับซอสมะเขือเทศด้วย " เอาส้อมมันมาจิ้มกุ้งกับซอสให้อีกคนก็เคี้ยวก่อนจะพยักหน้ารับ

“ อาขม อาหร่อยยย กาลิคชอบ "

“ เห้อ โล่งไปที " ลูบหัวมันเบาๆ ผมเองก็เริ่มกินข้าวของตัวเองบ้าง แล้วตอนนั้นไอ้ภาพก็ถาม

“ น้องเค้าก็ทำกับข้าวอร่อยดีนี่ ให้มาสอนให้มึงทำเป็นหลายๆอย่างก็ดีนะ ของที่กูชอบกินด้วย อะไรแบบนี้เป็นไง "

“ ไม่ดีอะ " ผมบอกปัดอีกคนก็เงยหน้าขึ้นมา

“ ทำไม นี่งอนกู ที่เมื่อกี้ว่ามึงรึไง "

“ ก็เปล่าหรอก แต่คิดว่าไปให้แม่ครัวที่บ้านมึง หรือว่า แม่กูสอนดีกว่า น่าจะทำออกมาอร่อยกว่านี้ " อีกอย่างจะได้ไม่ต้องกังวลใจเรื่องอื่นด้วย โดยเฉพาะเรื่องจริงๆที่มีนาต้องการ

“ คิดได้อย่างงั้นก็ดี " ภาพบอก ผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา ก้มหน้าลงไปมองหัวหอมที่กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย แม้จะเข้ามาสอนให้แบบมีความต้องการอย่างอื่นแอบแฝง แต่ผลการสอนที่ออกมาดีขนาดนี้ ก็คิดซะว่าช่างมันก็แล้วกัน แต่คงไม่มีหนหน้าแล้วละ บาย
 
..........................................................

หึงมา หึงกลับ ไม่โกง พี่ขมไม่ได้กล่าวแต่หนมแซวเอง ฮ่าๆ
และเช่นกัน แอบชอบมา แอบชอบกลับ อันนี้ก็ไม่โกงเหมือนกัน
ทางดีสารภาพรักกันเลยมั้ย ตอนนี้ก็เป็นพ่อแม่ของน้องกาลิคแล้วละ ครอบครัวจะได้สมบูรณ์แบบไงเธอ
แต่จะก็เข้าใจอยู่นะ ว่าความรักเพื่อนสนิท มันพูดยากส์~
ตอนนี้ดูยาว ดูมีสาระและเรื่องราว ดีจัง #ปาดน้ำตา
เจอกันตอนหน้านะคะ ในมีทวิตหนมฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 28-04-2017 22:00:31
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-04-2017 22:04:28
ดีๆ หึงมาหึงกลับไม่โกง 5555
แต่ สงสารหัวหอม โดนอาภาพแกล้ง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 28-04-2017 22:42:40
55555
หึงมาหึงกลับ ไม่โกง
แต่แค่ไม่ยอมรับว่าหึงเองงง หุหุ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-04-2017 23:25:47
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 28-04-2017 23:44:50
ภาพนิสัยไม่ดีแกล้งลูกอะ มันไม่ควรนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 29-04-2017 00:20:10
เป็นไงหล่ะขม เงิบเลย  :jul3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 29-04-2017 01:08:46
หึงซ่อนแอบ หึงหลับใจ เครียดดดดดเมื่อไหร่จะถึงซึ่งหน้าค่าตอบที รุกเลยคะภาพจับกดแนะนำ (ไม่ได้หื่น)แค่อยากให้หัวหอมมีน้อง อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: iAlexiajang ที่ 29-04-2017 02:08:07
อาภาพนังต้องรู้แน่ๆค่ะ นังเลยหยอดระเบิดใส่ขมอีกลูก หึหึหึหึหึึก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-04-2017 02:26:34
 :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 29-04-2017 07:20:37
5555  แอบขำขมนะ  ซึนมากกกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-04-2017 07:27:34
ขม ความรู้สึกช้า  :z3: :z3: :z3:
โธ่.....ขนาดภาพ ชอบตัวเองยังไม่รู้  :hao3:
มีนา ชอบภาพ แต่เข้าทางขม
ขมชอบสาวอยู่แล้ว เลยยิ่งไม่รู้ใหญ่
ปกติมีแต่สาวเข้าหาภาพ พอเข้าหาตัวเอง เลยกระดี๊กระด๊า
พอรู้ใจจริงมีนา ว่าชอบภาพ เลยแฟบ
แถมหวงๆภาพ เลยหมดกันความปลื้มมีนา
ดีแล้วละ อย่ามีใครมาวุ่นวายพ่อแม่ลูกเลย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 29-04-2017 08:07:08
อาขมผู้น่าสงสาร โดนใช้เป็นทางผ่าน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 29-04-2017 12:22:49
หวายๆ อาขมหึงโดยไม่รู้ตัวอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 29-04-2017 12:44:52
หึหึ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 29-04-2017 13:33:49
เริ่มรู้สึกบ้างละสินะน้องขมมมม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 29-04-2017 14:04:52
กว่าจะรู้นะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 29-04-2017 14:27:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 29-04-2017 14:36:40
ชัดเจนในความรู้สึกแล้วนะ ทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 29-04-2017 17:04:44
อาขมจะรู้ใจตัวเองเมื่อไหร่น้า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-04-2017 17:39:43
มีหึงกันไปกันมาด้วย~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 29-04-2017 23:20:57
ขมก็ไม่ได้รู้เลยว่าภาพหึงเหมือนกัน พอเจอกับตัวเอง บายยยยเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 22 - 28.4.60} #หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 30-04-2017 18:26:11
แม้จะรู้ความรู้สึกตัวเอง  แต่ก้คงไม่มีใครกล้าพูด
เพราะกลัวจะเสียเพื่อนหรือเปล่า อย่างนี้ต้องมีตัวช่วยกระตุ้น
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 30-04-2017 20:27:11
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 23


“ เอาละ จะเริ่มหาแล้วนะ " เสียงที่ตะโกนออกไปตอนที่ผมกำลังหันหลังแล้วปิดตาอยู่ที่ประตูห้องของตัวเอง " พร้อมรึยังงง "

“ ยังไม่พร้อมมมม " เสียงที่ตอบกลับดังออกมา ผมก็หลุดยิ้ม

   มันเป็นกิจกรรมวันเสาร์อาทิตย์ของเรา ในขณะที่เด็กคนอื่นอาจจะต้องไปเรียนพิเศษดนตรี หรือว่าวิชาการ แต่สำหรับหัวหอมผมกลับให้มันแค่เล่นสนุกสนานอยู่บ้านแบบนี้น่าจะดีกว่า พักผ่อนจากการเรียนหนักๆทั้งอาทิตย์ แล้วใช้จิตนาการของตัวเองจากการเล่นเกมส์ต่างๆ หลุดออกจากหน้าทีวีที่มันเอาแต่นั่งดูทุกวัน เปลี่ยนมาเล่นด้วยกันในบ้านเพื่อให้มันรู้สึกว่า นอกจากการ์ตูนก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่สนุกกว่าการนั่งดูการ์ตูนคนเดียวเสียอีก อย่างที่เรากำลังเล่นอยู่ตอนนี้ก็ด้วย ' การเล่นซ่อนหา '

“ งั้นจะนับหนึ่งถึงสิบนะ "

“ พร้อมแล้วครับ! ” เสียงที่ตะโกนมาผมก็หันหลังกลับมามองไปรอบๆ มองผ่านไอ้ภาพที่กำลังนั่งทำรายงานอยู่ที่โต๊ะหน้าทีวี ผมเดินหาเจ้าตัวเล็กไปเรื่อย ก่อนจะหยุดอยู่ที่ผ้าม่านตรงกระจกสูงของห้อง ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดูอย่างไร้สาเหตุ

   เราเล่นซ่อนหากัน หัวหอมเป็นคนแอบแล้วมันก็มาแอบที่หลังผ้าม่าน มันที่มันอุตส่าห์แทรกตัวเองสอดเข้าไปในผ้าม่านบางๆนั้นเพราะคิดว่าผมต้องไม่เห็นแน่นอน แต่กลับไม่รู้เลยว่า ขาตัวมันเองที่โผล่ออกมาเต็มๆอยู่ที่พื้นนั่นแหละ

" ไม่ได้เนียนเลย " ไอ้ภาพสถบออกมา ก่อนจะยกมือถือขึ้นถ่ายรูป ส่วนผมก็แสดงแอคติ้งออกไปอย่างผู้เชี่ยวชาญ

" หัวหอมอยู่ไหนน้า มองไม่เห็นเลย ตายแล้ว จะหาเจอมั้ยเนี้ย หัวหอม อยู่ไหนเอ่ยยย อยู่ไหนกันน้า " หลุดยิ้มเอ็นดูกับมือเล็กๆที่เอาแต่ปิดปากตัวเอง ก่อนที่มันจะเอียงหน้าโผล่ออกมาจากผ้าม่านแล้วกระโดดมากอดผมไว้

" อาขม! อยู่นี่! “ มันว่าก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความสุข " กาลิคอยู่นี่ครับ อาขม "

" อ้าว อยู่นี่เองเหรอ ไม่รู้เลยนะเนี้ย เมื่อกี้ไปซ่อนตรงไหน "

" ตรงนี้ครับ ตรงนี้ " มันบอกแบบกระตือรือร้น ชี้ไปที่ผ้าม่านที่ตัวเองซ่อนตัวเมื่อครู่ " อาขม อาขมมองกาลิคไม่เห็นเลยแหละใช่มั้ย "

" ใช่แล้วมองไม่เห็นเลย เก่งจังนะ " ลูบหัวก่อนจะดึงเข้ามากอดอีกคนก็เอียงหน้าถาม

" กาลิคจะเล่นอีก " มันว่า ผมก็พยักหน้ารับ

" งั้นเล่นกันอีกรอบนะ "

“ ครับ " เดินไปกลับไปที่ประตูห้องตัวเองไอ้ภาพก็เอ่ยถาม
 
“ นี่ถามจริงๆ ไม่เห็นจริงๆอะ "

“ เห็นสิวะ " ผมบอกเบาๆ อีกคนก็หลุดยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมา กลับไปยืนที่เดิมผมตะโกนบอก " เอาละนะ จะนับแล้วนะ เอ้า หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ จะหาแล้วนะ " ทุกอย่างเงียบผมก็หันกลับมา ก่อนจะนิ่งค้างไปกับที่ซ่อนใหม่ของหัวหอมที่ตอนนี้อัพเลเวลขึ้นมาแล้ว

   ไอ้ตัวเล็กเอาหมอนมาบังหน้าตัวเองก่อนจะไปนั่งหลบมุมอยู่ที่ห้อง หมอนที่บังได้แค่หน้าแต่ตรงตัวก็เห็นโคตรจะชัดเหมือนเดิม

“ นี่มันคงคิดแค่ว่าตัวเองไม่เห็นคนอื่น แล้วคนอื่นจะไม่เห็นตัวเองถูกมั้ย " ผมบอกแบบนั้น ไอ้ภาพมันก็หัวเราะ

“ ไอ้กาลิคเอ้ย " หลุดหัวเราะกันออกมาสองคน ผมเดินเข้าไปหามันก่อนจะดึงหมอนขึ้นมา

“ จับได้แล้ว "

“ งื้อออออ ทำไมอาขมเห็นน ไม่เอา อาขมต้องไม่เห็น " ยังจะถามอีก พ่อคุณ

“ ทำไมเป็นแบบนั้นละ ต้องเห็นบ้างสิ ก็อาขมเห็นนี่น่า " บอกแบบนั้น หัวหอมก็หน้ามุ่ยลง " ทำไมทำหน้าแบบนั้น "

“ ก็กาลิคอยากจะชนะ อยากให้อาขมไม่เห็น "

“ ได้ไง คนเราเล่นเกมส์ ก็ต้องมีแพ้มีชนะ เราไม่ได้ชนะตลอดหรอกนะ " ลูบหัวบอกมัน ผมเดินเอาหมอนมาตั้งที่โซฟาก่อนจะนั่งลง หัวหอมก็เดินมาแทรกตัวตรงระหว่างขาของผม มันก้มลงซุกหน้าที่ตัก

“ แล้วทำยังไงกาลิคถึงจะชนะตลอด กาลิคอยากจะชนะตลอดเลย "

“ อยากจะชนะตลอดก็ต้องเก่ง แต่ว่านะ คนเราอะไม่ต้องชนะตลอดก็ได้ ชนะบ้าง แพ้บ้าง มันธรรมดานะ มันต้องมีบ้างแหละ ที่เพื่อนเก่งกว่า แล้วบางทีเราก็เก่งกว่าเพื่อน "

“ เหรอครับ " มันถามเสียงหงอยๆ ผมก็ยิ้ม

“ อื้ม แล้วจะเศร้าทำไม การเล่มเกมส์น่ะ มันคือการสอนเราคนเล่นให้ รู้แพ้ รู้ชนะ ตังหาก ยอมรับว่านี่แพ้แล้วนะ แล้วก็ยอมรับว่า ชนะแล้วนะ พอใจกับความชนะของตัวเองแล้วก็ไม่ถมทับความพ่ายแพ้ของเพื่อนด้วย " 

“ จะไม่มีใครชนะตลอดไปเหรอครับ "

“ อื้ม ใช่แล้ว "

“ แล้วจะไม่มีใครแพ้ตลอดไปด้วยใช่มั้ยครับ "

“ ถูกต้อง " ผมบอกก่อนจะดึงมาขึ้นมานั่งบนตัก อารมณ์ร้อนๆข้างนอกของเที่ยงวันแค่มองออกไปก็รู้สึกร้อนแล้ว แม้ว่าข้างในนี้จะเย็นก็เยอะ ลูบหน้าของอีกฝ่ายที่มีแต่เหงื่อเต็มหน้าไปหมดเช็ดหน้ามันด้วยฝ่ามือเบาๆก่อนจะดึงให้ขึ้นมานอนบนตัก " ง่วงมั้ย นอนกันดีกว่า "

“ อาขม กาลิคจะได้ไปบ้านคุณปู่คุณย่ามั้ย "

“ ได้ไปสิ แต่รออาภาพทำการบ้านให้เสร็จก่อนนะ " ผมบอกมันอีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะหันไปบอกร่างสูงที่นั่งอยู่บนพื้น มือเล็กคว้าที่เสื้อของภาพมันเขย่า

“ อาภาพ รีบทำการบ้านให้เสร็จนะ กาลิคทำเสร็จแล้วละ "

“ ครับผม จะรีบทำให้เสร็จนะ หรือว่ากาลิคมาช่วยอาภาพดี " ร่างสุูหันมาถามอีกคนก็ตาโตขึ้น มันพยักหน้ารับ

“ กาลิคช่วยได้นะ กาลิคเก่ง กาลิคทำการบ้านของคุณครูถูกทุกข้อเลย "

“ เหรอ "

“ แล้วอาภาพจะให้กาลิคทำอะไร ลากเส้นมั้ย หรือว่า ระบายสี จับคู่ก็ทำได้นะ "  ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่อีกคนบอก ท่าทางนำเสนอของมัน ดูจริงจังและมุ่งมั่นมากๆ ชวนให้ไอ้ภาพที่ยิ้มกว้างหุบยิ้มทันที

" นี่ถามจริง คิดว่าหัวหอมจะช่วยมึงได้จริงๆเหรอ " ผมถามอีกคนก็ถอนหายใจ

" กาลิคทำได้นะอาขม กาลิคทำได้ " มันตบอกตัวเองด้วยความมั่นใจ แต่ไอ้ภาพก็แค่ยื่นมือมาลูบหัวมัน

" เอ่อ.. ไม่เป็นไร ถ้าทำได้แค่ลากเส้น ระบายสี งั้นก็ขอบใจนะ อาภาพทำเองดีกว่า "

“ แต่กาลิคทำได้นะ " คนที่อยากจะช่วยเสียงอ่อนลง น่าสงสารที่สุด มันคงอยากจะช่วยจริงๆ ใบหน้าน่ารักหันมามองหน้าผมที่ทำให้ผิดหวังอยู่หน่อยๆ " อาขม..”

“ หัวหอมยังเด็ก ทำไม่ได้หรอก อันนั้นมันการบ้านของผู้ใหญ่เค้า ดูสิ เห็นมั้ย มีแต่ภาษาอังกฤษยากๆทั้งนั้นเลย " ผมหยิบกระดาษรายงานของอีกคนขึ้นมาให้มันดู

“ แต่กาลิคอยากจะช่วยอาภาพ อยากจะให้อาภาพทำการบ้านเสร็จไวๆ" มันบอกเสียงอ่อนผมก็แล้วกระซิบมัน

“ ไปหอมแก้มอาภาพสิ แล้วก็กอด บอกอาภาพว่า กาลิคจะให้กำลังใจนะ แค่นั้น อาภาพก็ทำได้เร็วแล้วละ "

“ แบบนั้นก็ช่วยเหรอฮะ " มันเงยหน้าขึ้นมาถาม ผมก็พยักหน้ารับ

“  ฮ่ะ! เค้าเรียกว่าช่วยให้กำลังใจไง "

“ งั้นกาลิคจะทำฮ่ะ " ไอ้ตัวเล็กว่าแบบนั้นก่อนจะดึงตัวเองลงจากตักผม แล้วกอดไอ้ภาพไว้จากด้านหลัง มันหอมแก้มอีกคนไปเต็มฟอด มือน้อยๆนั่นก็ลูบหลัง " โอ๋ๆ กาลิคให้กำลังใจนะ อาภาพจะได้ทำงานเสร็จไวๆ "

“ โอ๊ยยย ชื่นใจจัง ไหนมากอดหน่อย " ภาพดึงมันเข้าไปกอดหอมแก้มซ้ายขวาจนหนำใจ

    เสียงหัวเราะมความสุขของมันชวนให้ผมยิ้มตาม ตั้งแต่มีกาลิคเข้ามาผมมองว่าทุกอย่างมันก็ดูความสุขไปหมด ทั้งๆที่สิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่อยากทำเลยสักนิด ไม่ใช่การดูหนังเรื่องโปรด ไม่ใช่การได้ไปซื้อของ หรือกินของอร่อยๆ มันแค่การอยู่บ้านนิ่งๆ ทำการบ้านให้เสร็จ สอนกาลิควาดรูป เราเล่นของเล่นกัน ซ่อนแอบ บางทีก็ทำขนมที่ไม่อร่อยแต่เรากลับมีความสุข

   เมื่อก่อนความสุขของผมมักขึ้นอยู่กับการกระทำ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความสุขของผม จะขึ้นอยู่กับตัวบุคคลซะแล้ว จนบางทีก็รู้สึกว่าที่เราเป็นกันอยู่นี้ก็เหมือนครอบครัวอย่างน่าประหลาด และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเรื่องที่ว่า หัวหอมเป็นลูกใครก็ไม่ได้อยู่ในหัวของเราแล้ว

“ งื้อออ อาภาพหอมกาลิค งื้ออ " เด็กน้อยว่าเสียงงอแงที่โดนหอมแรงๆ ผมเอื้อมมือไปดึงหัวหอมขึ้นจากตักไอ้ภาพแต่อีกคนก็ยังจับไว้แน่น

“ ร้อนวะ ลงไปหาอะไรเย็นๆกินกันที่ห้างดีกว่า  หรือว่าเซเว่นดีมั้ย "

“ อาขม กาลิคไปด้วย " มันว่าพลางดิ้นให้หลุดจากอีกคนแต่ไอ้ภาพก็ยังกอดมันไว้แน่นไม่ยอมปล่อย  " งื้ออ กาลิคจะไปด้วย จะไปกับอาขม อาขมม งื้ออ "

“ ก็ไปสิ งอแงทำไมละนั่น " ปล่อยมือจากเจ้าตัวเล็กที่อีกคนไม่ยอมปล่อยสักที ผมเดินเข้าห้องไปหยิบกระเป๋าตังค์กับหมวกทั้งของผมแล้วก็ของกาลิคแต่ดูเหมือนว่าคนที่กอดมันไว้ก็ไม่มีทีท่าจะปล่อยไปไหน จนในที่สุดกาลิคมันก็เริ่มร้องไห้ออกมา

“ อาภาพ ปล่อย อึก ฮือๆ กาลิคจะไปกับอาขม อาขม อาขมช่วยกาลิคด้วย "

“ ไม่ให้ไปอยู่นี่แหละ อยู่เป็นเพื่อนอาภาพ " อีกคนบอกก่อนจะรัดมันไว้แน่น

“ ไม่อาววววว จะไป จะไปกับอาขม อาขมม อึก ฮือๆ "

“ โอยยยย นี่มึงจะแกล้งมันให้ร้องไห้ทำไมวะ โรคจิตจริง " ผมบอกตอนที่ดึงมือเล็กๆขึ้นมาจากตักไอ้ภาพแต่มือหนาก็ยังรั้งไว้

“ จุ๊บก่อน เดี๋ยวให้ไป " กาลิคหันไปจุ๊บอีกคนตามคำสั่งก่อนจะถูกปล่อยตัวมา ผมก้มลงเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายที่ก็งอแงเหลือเกิน

“ นี่ก็ขี้แงจริงๆ อาภาพแกล้งนิดเดียวก็ไม่ได้ " ว่าแบบนั้นมันที่กอดขาผมไว้แน่นแล้วทำหน้ามุ่ยลง

“ ก็กาลิคกลัว อึก ไม่ไป อึก ไปกับอาขม "

" ได้ไปสิ ทำไมจะไม่ได้ไปละ อาแกล้งเอง ไม่เป็นไรนะ " ใส่หมวกให้เรียบร้อยผมคว้ามือมันจูงไว้ก่อนจะถามเอ่ยถามอีกคนที่นั่งทำรายงานอยู่ “ มึงเอาไรมั้ย "

“ เอาไอติมแล้วขนม อะไรก็ได้มาละกัน อะไรน่ากินก็ซื้อๆมา " มันว่าผมก็พยักหน้ารับ

“ งั้นเราก็ไปกัน "

“ อาภาพ กาลิคไปก่อนนะ แล้วจะซื้อขนมมาฝากนะ " มือเล็กโบกบ๊ายบาย เราเดินออกไปจากห้อง ลงมาที่ชั้นล่างตอนที่กำลังเดินผ่านหน้าเค้าเตอร์พนักงานพี่เค้าก็เรียกผมไว้

“ น้องขมค่ะ น้องขม "

“ ครับผม " หันไปมองเธอที่กวักมือเรียกผมมาใกล้ๆ

“ พี่ของฝากของไปให้น้องภาพหน่อยได้มั้ยคะ " เธอถามผมก็พยักหน้ารับ

“ ได้ครับ แต่เดี๋ยวผมกลับเข้ามาเอาได้มั้ย พอดีจะออกไปซื้อของที่ห้างก่อน เดี๋ยวมานะครับ " ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรอก แต่ขี้เกียจเดินหิ้วไปมา ยังไงก็ต้องกลับมาอยู่แล้วค่อยเอาตอนนั้นก็แล้วกัน

   เดินเข้ามาในห้าง ลมเย็นๆที่พัดเข้ามาโต้ที่ใบหน้าผมสูดลมหายใจเข้าปอดไปก่อนจะกระชับมือของเด็กน้อยไว้ " กินไอติมกันดีกว่า " ผมบอกก่อนจะเดินไปข้างในฝั่งของซูปเปอร์ เปิดตู้แช่ที่ขายไอติม หยิบไอติมแบบเป็นถ้วยใหญ่รสไมโลขึ้นมาสามถ้วย พร้อมกับรสช็อคโกเล็ตแบบอื่นๆ เพราะที่บ้านมีแต่คนชอบกินไอติมรสนี้กันทั้งนั้น

“ อาขม อาขมต้องซื้อขนมให้อาภาพด้วย "

“ อ่า ใช่แล้ว " พยักหน้ารับมัน หัวหอมก็วิ่งไปเอาตะกร้าหิ้วมาให้ " อาขมใส่นี้ "

“ ขอบคุณครับ " ขยี้หัวมันเบาๆ เราเดินมาที่ชั้นขายขนมหยิบเลย์รสสีเหลือง สีเขียว แบบที่มันชอบใส่ตะกร้า หัวหอมก็หันมาถามผม

“ อาขม เราจะไปที่ร้านขนมที่เราซื้อบ่อยๆมั้ยครับ " มันคงหมายถึงร้านขายขนมจากญี่ปุ่นที่เราพามันไปแวะทุกครั้งเพื่อซื้อขนมจากร้านนั้น ผมทำท่าคิด

“ ไปดีไม่ไปดีน้าา ไม่รู้มีใครอยากจะกินอะไรรึเปล่า "

“ มี~ มีกาลิคไง กาลิคอยากจะกินขนมที่ร้านนั้น กาลิคอยากจะกินฮะ " มือเล็กๆเอื้อมมากอดตัวผมไว้ก่อนจะซบหน้าอ้อน ขยี้หัวด้วยความหมั่นเขี้ยวกับความช่างอ้อนเสียเหลือเกินของมัน "

“ งั้นเราซื้อแค่นี้ ที่เหลือไปซื้อร้านนู้นแล้วกัน " เดินเอาของไปจ่ายเงินเรียบร้อย เราเดินจากฝั่งชูปเปอร์ออกมาที่หน้าร้าน หัวหอมก็เขย่ามือที่ผมจูงมันอยู่

“ อาขมฮะ "

“ ครับ ว่าไง "

“ วันนี้กาลิคซื้อได้กี่กล่องฮะ "

“ สองแล้วกัน สำหรับวันนี้กล่องนึง พรุ่งนี้กล่องนึง โอเคมั้ย " มันพยักหน้ารับตามที่ผมบอก ก่อนจะเงยหน้ามาพูดต่อ

“ แต่ว่า แต่ว่านะฮะ กาลิคต้องไปบ้านคุณปู่คุณย่าถ้าเอาไปแค่กล่องเดียวมันจะไม่พอนะ เพราะว่ามี มีคุณปู่ คุณย่า น้าแก้วแล้วก็น้าขวัญด้วย  กาลิคเวลากินขนมก็ต้องแบ่งคนอื่นๆ อาขมสอนว่าอย่าขี้เหนียวให้แบ่งกัน แล้วคุณปู่ คุณย่า น้าแก้ว น้าขวัญ เค้าก็ตัวใหญ่ๆ เค้าก็ต้องกินเยอะ กาลิคจะได้กินนิดเดียวนะ อาขม " คือที่พูดมาสรุปว่าจะให้ซื้อมากกว่าสองกล่องใช่มั้ยไอ้ตัวแสบ ผมส่ายหน้าไปมากับความช่างพูดช่างจาของมัน

“ เค้าไม่กินขนมของหัวหอมหรอก " ผมบอก มันก็ทำตาโตก่อนจะส่ายหน้า

“ อาภาพยังกินเลย อาภาพชอบมากินขนมของกาลิคบ่อยๆ " มันเถียงผมก็ถอนหายใจออกมา

“ งั้นให้ซื้อ สามกล่องแล้วกัน " ผมบอกอีกคนก็พยักหน้ารับ " ไม่ต่อรองแล้วนะ "

“ ครับผม " มันพยักหน้ารับแบบยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งไปที่ร้านทันที กาลิคหยิบขนมที่ส่วนใหญ่มันก็กินเหมือนเดิม พวกมันฝรั่งแท่งรสแปลกๆ แล้วก็ขนมเป็นชิ้นๆ " อาขม เอาสามชิ้นนี้ "  มันยื่นมาให้ดูผมก็พยักหน้ารับ เดินไปหยิบเยลลี่ที่ชอบอีกสามซอง เจ้าของร้านก็คิดเงินให้

“ นี่ครับสุดหล่อ "  ถุงหิ้วที่มันเอื้อมไปรับไว้ก่อนจะบอก

“ ขอบคุณครับ " มองหัวหอมที่เดินออกมาจากร้าน มันเดินมาคว้ามือผมก่อนที่เราจะเดินออกไปพร้อมกัน กลับมาที่คอนโดผมไม่ลืมแวะที่เค้าเตอร์ด้านหน้าที่ก่อนหน้านี้พี่เค้าบอกเอาไว้

“ นี่ค่ะ น้องขม " เธอยื่นให้ผมก่อนจะเปิดแฟ้มให้เซ็น " ช่วยเซ็นชื่อรับของตรงนี้ด้วยนะคะ "

“ ครับผม " จัดการเซ็นชื่อเรียบร้อย ซองสีน้ำตาลขนาดเอสี่ก็ถูกส่งมาให้  ข้างหน้าไม่เขียนอะไรทั้งนั้นเหมือนจะไม่ใช่จดหมายสำคัญอะไร เว้นแต่ชื่อห้องว่าเป็นของเรา " ขอบคุณมากนะครับ "

“ ค่ะ " เธอตอบรับผมก็พลิกซองกระดาษด้วยความงงก่อนจะเดินเข้ามาในลิฟต์

“ เอกสารอะไรของมันวะ "

   เดินกลับเข้ามาในคอนโดตัวเอง ผมวางถุงของทั้งหมดไว้บนโต๊ะในครัว จัดการเอาไอติมไปแช่ไว้ในห้องแช่แข็งก่อนยื่นถุงขนมให้ไอ้ภาพที่ก็รับไว้พร้อมกับซองเอกสาร

“ นี่อะไร "

“ ไม่รู้สิ พี่ที่เค้าเตอร์ข้างล่าง ฝากกูมาให้มึง " ไอ้ภาพนิ่งคิด ก่อนจะเบิกตานิดหน่อยตอนที่ดึงมาวางไว้ข้างตัว ท่าทางที่ชวนให้ผมสงสัย  " อะไรวะ "

“ ไม่มีอะไรหรอก " จ้องหน้ามันที่พูดคำนั้น ไอ้ภาพเองก็สบตาผม ท่าทางที่ดูลำบากใจของมัน

“  ไม่อยากจะบอกก็ไม่ต้องบอก "

“ งอนกูอีกละ " มันว่าก่อนจะเอ่ยยิ้มๆ

“ ไม่ได้งอน งอนเหี้ยอะไร ไร้สาระ " เดินเข้าไปที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง หัวหอมที่กำลังเลือกขนมของตัวเองอยู่ มันหยิบขึ้นมากล่องนึง

“ กาลิคจะกินกล่องนี้ก่อน "

“ โอเค เอาไปเลย ส่วนอีกสองกล่องนี้ไปกินที่บ้านคุณปู่คุณย่านะ "

“ ครับผม " มันวิ่งไปนั่งกินข้างๆภาพที่กำลังทำรายงานของตัวเองอยู่ แกะขนมกินพร้อมกันหัวหอมที่หันไปหาภาพ

“ ดูการ์ตูนกันมั้ยกาลิค "

“ ดู~ ดูครับ! " มันพยักหน้ารับทีวีก็ถูกเปิด ผมหยิบไอติมจากตู้เย็นพร้อมกับช้อนไปนั่งลงอีกฝั่ง การ์ตูนที่เริ่มฉายหัวหอมก็พูดขึ้น “ อาภาพ กาลิคขอกินขนมด้วยได้มั้ย อาขมสอนว่าเราต้องแบ่งบันกันนะ "

“ ไม่มีปัญหา " ไอ้ภาพยื่นถุงขนมไปให้ มันก็หยิบขนมสองสามชิ้นใส่ปากของตัวเอง " งั้นเอาขนมของกาลิคมาแบ่งบันอาภาพหน่อย " แต่พอเป็นของตัวเองทุกอย่างกลับนิ่ง หัวหอมที่ทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของไอ้ภาพชวนให้ผมอมยิ้ม

“ หัวหอม อาภาพบอกว่าแบ่งบันขนมให้อาภาพหน่อย "

“ เราต้องแบ่งบันกันนะ " ภาพบอกอีกคนก็ก้มลงมองดูขนมของตัวเอง

“ แต่ แต่ว่า ขนมของกาลิคน้อย แบ่งไม่ได้หรอกนะ  ของอาภาพเยอะแบ่งได้ " มันว่าแบบนั้นผมก็ส่ายหน้าไปมากับความหัวหมอของมัน

“ แบบนี้ก็มีด้วยเว้ย นี่ใครสอน "

“ กูไม่ได้สอนนะ " ผมพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองเด็กตัวเล็กที่ยังคงหวงขนมอยู่ข้างๆ " หัวหอม หัวหอมต้องแบ่งบันนะ อาภาพให้กินขนมของอาภาพแล้ว หัวหอมก็ต้องให้กินขนมของตัวเองได้สิ "

“ แต่ว่า แต่ขนมของกาลิคมันน้อย~  " อีกคนเถียงผมก็ก้มลงมองดู ก็ยอมรับว่าน้อยจริงๆนั่นแหละ " กาลิคกลัวอาภาพกินของกาลิคหมด "

“ ถ้ากลัวว่าคนอื่นจะกินของตัวเองหมด ก็ไม่ควรจะไปขอกินขนมของเพื่อนแล้วบอกว่า ต้องแบ่งบันกันนะ เพราะตัวเองยังไม่แบ่งเลย " ผมบอกก่อนจะยกถ้วยไอติมออกห่างจากมัน " นี่ก็ไอติมของอาขม อาขมไม่แบ่งบันให้หรอกนะ " มันหน้ามุ่ยลงตอนที่ผมบอกแบบนั้น " หัวหอมรู้มั้ยว่าทำไมคนเราต้องแบ่งบันกัน ก็เพราะว่าเราจะได้กินขนมเยอะขึ้นไง ดูนี่นะ ภาพเอามาแลกกัน "

“ อะ " ภาพยื่นถุงขนมให้ผม ผมเองก็ยื่นไอติมให้มัน

“ เห็นมั้ย ได้กินทั้งขนม แล้วก็ได้กินทั้งไอติม ส่วนคนที่ไม่แบ่งปันคนอื่น ก็เหมือนอย่างหัวหอมนั่นแหละ ก็ได้แค่กินขนมของตัวเองแค่อย่างเดียว นี่ถ้าแบ่งบันนะ จะได้กินขนมตั้งสามอย่าง ได้กินไอติมของอาขม ได้กินขนมของอาภาพ แล้วก็ของตัวเองด้วย นี่แหละข้อดีของการแบ่งบันให้กันแหละ "

“ แล้วคราวนี้จะเปลี่ยนใจ มาแบ่งบันขนมกันกินเปล่า " ไอ้ภาพยิ้มถามมันอีกคนก็ก้มหน้ารับ

“ กาลิคจะแบ่งบันขนมให้อาภาพ กับอาขมฮะ " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองมานั่งใกล้ผม ถุงขนมของมันยื่นให้ผม " แบ่งบันกันนะ "

“ ดีมาก " ลูบหัวมันเบาๆ ตอนที่หยิบขนมของมันขึ้นมากินชิ้นนึง ผมก็ยื่นถุงขนมที่ตัวเองถือให้มัน " แล้วไม่ใช่แค่กับอาภาพแล้วก็อาขมนะ กับคนอื่นเราก็ต้องรู้จักแบ่งบันนะรู้มั้ย "

“ แต่การแบ่งบันก็ไม่ใช่ว่า เราอยากจะกินของคนอื่นแล้วถึงจะแบ่งบันให้เค้านะ " ไอ้ภาพบอก " การแบ่งบันน่ะคือ ถ้าเรามีขนมอยู่ชิ้นนึง แล้วเพื่อนเราไม่มี แล้วเพื่อนก็อยากจะกิน เราก็แบ่งขนมชิ้นนึงของเราให้เพื่อนได้ "

“ ถ้าเพื่อนอยากจะกินขนมของกาลิคแต่ว่า เพื่อนไม่มีขนม กาลิคก็จะแบ่งให้เพื่อนครับ แล้วก็ถ้าเกิดว่าเพื่อนลำบากกาลิคก็จะแบ่งให้ด้วย " หัวหอมบอก

“ แล้วการแบ่งบันนั้น คือการให้ โดยที่เราไม่เดือดร้อนนะ " ภาพอธิบาย

“ เดือดร้อนคืออะไรเหรออาภาพ " มันเอ่ยถาม ผมก็อธิบายต่อ

“ ก็คือ สมมุติกาลิคมีขนมอยู่ชิ้นนึง รินเน่อยากจะกิน เจ้านายก็อยากจะกิน ถ้าแบ่งให้ทั้งสองคน กาลิคที่เป็นเจ้าของเองก็จะไม่ได้กินถูกมั้ยละ ถ้าแบ่งให้แบบนั้นเราจะเดือดร้อนเพราะไม่ได้กินมันแบบนั้นเราก็ค่อยแบ่งบันคราวหน้าก็แล้วกันนะ " คนฟังพยักหน้ารับหงึกหงักผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจในสิ่งที่ผมอธิบายไปมั้ย แต่เอาเป็นว่าให้มันเข้าใจพื้นฐานของการแบ่งบันนั่นก็ดีแล้ว ผมไม่อยากจะให้มันเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ก็ไม่อยากจะให้มันเป็นคนที่ถูกเอาเปรียบด้วย แบบนั้นก็ต้องสอนไปเรื่อยๆแล้วละนะ  " เดี๋ยวกินขนมเสร็จแล้ว ไปล้างมือให้เรียบร้อยเตรียมตัวไปบ้านคุณปู่คุณย่าได้แล้วนะ "

“ ครับ " หัวหอมพยักหน้ารับ เรานั่งกินขนมกันจนอิ่มเด็กน้อยก็วิ่งไปล้างมือตามคำสั่ง ภาพหันไปทำรายงานที่ใกล้เสร็จแล้ว ส่วนผมก็จัดการเก็บขนมที่เหลือแล้วตอนนั้นไอ้ภาพก็พูดขึ้น

“ เอกสารที่เค้าเตอร์ฝากมาน่ะ เป็นภาพวงจรปิดที่กูให้เค้าตรวจดูว่าใครเป็นคนมาส่งกาลิค แต่กูก็ขอไปตั้งนานแล้วนะ นานจนลืมไปแล้วว่าเคยไปขอไว้ " มือที่กำลังเก็บของชะงักไป ผมที่หันไปมองมันภาพทำได้แค่พลิกซองไปแต่ก็มาไม่ได้เปิดดู

“ เหรอ "

“ อื้ม " มันก็พยักหน้ารับ

“ มึงรู้มั้ยเหมือนตอนนี้กูจะลืมไปแล้วละ ว่าหัวหอมมันไม่ใช่ลูกกู " ผมยิ้มให้ภาพที่ก็มองหน้าผม หลุดหัวเราะออกมาทั้งๆในใจกลับเศร้ามากอย่างบอกไม่ถูก " กูมีความสุขที่มันอยู่ด้วยจนกูชิน จนกลายเป็นว่ากูคิดว่าหัวหอมมันเป็นลูกกูกับมึงไปแล้ว แต่กูก็คงลืมไปว่าเราเป็นผู้ชายทั้งคู่จะมีลูกด้วยกันได้ไงวะ แต่ก็ชินที่มีมันอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวแบบนี้จริงๆวะ " 

“ อื้ม.. กูก็ชินแล้วเหมือนกันที่มันอยู่ " ภาพพูดเบาๆเราที่มองหน้ากันตอนนั้น ภาพเก็บเอกสารสอดไว้ใต้หนังสือของตัวเองตามเดิม ราวกับว่ามันเองตอนนี้ก็ไม่คิดอยากจะหาคำตอบอะไรทั้งนั้นเกี่ยวกับหัวหอมแล้ว

   จากที่เคยกลัวว่ามันเป็นลูกใคร ตอนนี้ไม่กลัวอะไรแบบนั้นแบบ จากที่เคยมองว่า อีกสามเดือนถ้าแม่หัวหอมมารับมันกลับไปนั้นก็จบ จากที่เคยมองว่านั่นเป็นความหวัง แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นความกลัว กลัวว่าเธอจะมารับมันกลับไป กลัวว่าเด็กคนนี้จะหายไปจากพวกผม  และผมก็ได้แต่ภาวนาว่า อย่าเป็นแบบนั้นเลย

...........................................................

สมเป็นตอนของวันอาทิตย์ สดใส มีความลุ้นนิดนึงให้ต่อไปถึงวันศุกร์หน้า
มีคนถามว่า ไม่มีเรื่องความคืบหน้าแม่หัวหอมเลยเหรอ มีแล้วนี่ไง วิ้ววววว
นิยาย เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู เป็นนิยายที่แบ่งออกเป็นสามพาสใหญ่ๆนะคะ
พาสแรกคือ พาสที่ตามหาว่าใครเป็นพ่อของเด็ก พาสที่ภาพกับขมปรับตัวเข้าหากันเพื่อเลี้ยงเด็ก พอจบพาสนี้นิยายก็จะจบเลย เพราะหนมรู้สึกว่า มันก็จบตามชื่อเรื่องแล้ว " เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู แล้วมึงเป็นลูกใครวะ " พอรู้ตัวพ่อแล้วก็จบไป
ส่วนพาสสอง จะเป็นเรื่องราวความรักของภาพขม และ พาสสามก็จะเป็นเรื่องของครอบครัวพ่อแม่ลูกสุขสันต์  คิดโครงสร้างมันไว้ประมานนี้ อยากจะให้เป็นนิยายที่อ่านแล้ว ยิ้มไป ไม่มีเบื่อ หัวหอมน่ารัก ฝ่ายพ่อฝ่ายแม่ก็น่าเอ็นดูงี้
ยังไง ฝากติดตามกันด้วยนะค่าาา ทุกคนนนน
โอเคค สุดท้ายนี้หนมของฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
แล้วก็ฝากแชร์ ฝากไลค์ในเพจหนมมี่ผู้ใสซื่อด้วย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 30-04-2017 20:59:04
 :pig4: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 30-04-2017 21:01:28
ใจนึงก็อยากรู้ อีกใจนึงก็ไม่อยากรู้  :hao4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 30-04-2017 21:11:33
น่ารักมากเลย   ยอมใจในความแม่ในตัวขม คืออ่านแล้วรู้สึกรักขม อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 30-04-2017 21:27:51
ลูกกูกับมึง  :hao3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 30-04-2017 21:31:36
กาลิคน่ารัก ภาพขมก็น่ารักสอนกาลิคได้ดีเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 30-04-2017 21:39:17
แม่ขมมมมมมมมม

ชอบความค่อยๆ สอนและเปรียมเทียบให้กาลิคเห็นภาพของขมนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-04-2017 22:03:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 30-04-2017 22:34:32
ได้ภาพอะไรมาอยากรู้จังงงง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 30-04-2017 22:36:42
เป็นเรื่องที่อ่านไปแล้วยิ้มไปจริง ๆ ครับ คนเขียนทำได้ดีมากเลยขอชมเชย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-04-2017 23:19:57
 o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-05-2017 00:00:25
 :3123: :3123: :3123: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-05-2017 02:11:46
ขมไม่เข้าใจภาพเลย คนเค้าหึง เค้าหวง เลยไม่อยากให้ยุ่ง แต่ดีที่ยังยอมฟังกัน ต้องเจอเองเนาะคนเรา

ภาพแหย่หัวหอมบ่อย เผื่อจะไปขัดซีนแหวว โลกสวยของขมได้บ้าง
ขมก็ฟินกับใคนไม่รู้ รู้ว่าเค้ามาทำไม เลยเปลี่ยนข้างหันมาหวงภาพแทนซะงั้น

กาลิคน่ารัก เด็กน้อยอะนะ เลียนแบบกันง่าย ฉลาดมากด้วย ตอนไม่งอแงก็น่าฟัด ตอนงอแงก็น่าแกล้ง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 01-05-2017 07:50:11
ถึงว่าาาาา ว่าทำไมภาพกับขมถึงทำไมยังไม่ปะฉะดะกันซักที. อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 01-05-2017 09:07:50
อยากอ่านเรื่อยๆ รู้สึกอ่านเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-05-2017 16:31:50
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-05-2017 18:25:43
เริ่มสอนดีขึ้นแล้ว คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-05-2017 18:40:06
กาลิค น่ารัก  :mew1:
ขม สอนกาลิคได้ดีมาก  :katai2-1:
เด็กๆทำให้จิตใจผู้ใหญ่อ่อนโยน มีแต่ความน่าเอ็นดู
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 01-05-2017 19:24:38
ผ่านมาหลายตอน คนอ่านก็เริ่มอยากรู้แล้วว่าน้องหัวหอมเป็นลูกใคร
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-05-2017 19:32:47
เป็นการเล่นซ่อนแอบที่น่าเอ็นดูมากๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 01-05-2017 21:25:42
น่ารักจิงๆเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 01-05-2017 22:35:48
:impress: :impress:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 02-05-2017 07:50:57
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 02-05-2017 09:09:29
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: Trystan ที่ 02-05-2017 11:00:05
ขอพาทขมกับภาพรักกันเลยได้ไหม5555 :hao6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 23 - 30.4.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 02-05-2017 11:09:05
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 05-05-2017 20:31:45
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 24

   กระชับมือของตัวเองที่กำลังโอบกอดไอ้ตัวเล็กที่กำลังหลับสนิทอยู่บนตักของผม รถที่กำลังแล่นกลับคอนโดในคืนวันอาทิตย์ที่รถติดหนัก โชคดีที่ผมตัดสินใจอาบน้ำมันตั้งแต่ก่อนจะขึ้นรถกลับกันมาเพราะคิดไว้แล้ว มันคงหลับตั้งแต่อยู่ในรถแล้วละ
 
“ หลับซะแล้ว เด็กน้อย " ไอ้ภาพยื่นมือมาสะกิดแก้มอีกคนตอนที่รถติดไฟแดง

“ นี่ อย่าไปยุ่งกับมันน่า เดี่ยวมันตื่นขึ้นมา มันก็งอแง กูรำคาญต้องมาปลอบอีก " ผมหันไปดุมันอีกคนก็หัวเราะชอบใจ บ่งบอกถึงความโรคจิตที่ชอบแกล้งเด็กโดยแท้  " ภาพ กูถามอะไรหน่อยสิ "

“ อะไร "

“ ตกลงว่าได้ดูภาพกล้องวงจรปิดที่พี่ที่เค้าเตอร์ให้มารึยัง "

“ ยังไม่ได้ดู " มันว่าก่อนจะหันมามองผม " ทำไม มึงอยากดูเหรอ "

“ ก็ไม่เชิงว่าอย่างงั้น กูก็สองจิตสองใจเหมือนกัน ใจนึงกูก็ไม่อยากจะดู ไม่อยากจะรับรู้ อีกใจนึงก็อยากจะดู จะได้รู้ไว้ จะได้คาดการณ์ถึงอนาคตถูก "

“ กูก็คิดเหมือนมึง " ภาพบอกก่อนจะปลดเกียร์รถตอนที่สัญาณไฟเขียวสว่างขึ้นมา รถที่เคลื่นอนตัวออกไป " กูอยากจะรู้ว่าเธอเป็นใคร กูจะได้โทรไปคุยกับเธอ ติดต่อไป เรื่องของกาลิค จะได้จัดการเรื่องทั้งหมดสักที แต่อีกใจก็ไม่อยากรู้ กลัวว่าเธอจะไม่ตกลงอย่างที่กูคิด "

“ อื้ม นั่นสินะ " ความเงียบที่มีแต่ความกังวลลอยฟุ้งไปหมด ผมก้มลงมองหัวหอมที่กำลังหลับฝันดี ผมอยากจะมีมันไว้แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นลูกภาพหรือลูกผม แต่ผมก็ยังจะได้เห็นว่ามันมีความสุขดี แต่ถ้ากลับไปอยู่ในที่ที่มันจากมาก็ไม่รู้ว่ามันจะมีความสุขอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้มั้ย " ภาพ.."

" หื้ม ? " อีกคนหันมามอง ผมก็หันไปมองหน้ามัน

" กลับถึงบ้านแล้วกูว่าเรามาดูกันเถอะ ภาพวงจรปิดน่ะ กูว่าเตรียมรับมือไว้ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนะ "

" ก็จริงของมึง "

   กลับมาถึงคอนโดไอ้ภาพเปิดประตูห้องให้ผมเดินไปที่ห้องของตัวเอง ก่อนจะวางอีกคนนอนลงบนเตียง ห่มผ้าห่มเรียบร้อยหัวหอมขยับตัวนิดหน่อยผมก็ตบตูดมันเบาๆให้มันได้หลับต่อ คว้ารีโมตแอร์มาเปิดก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา เอาจริงๆผมก็ไม่ค่อยอยากจะไปบ้านไอ้ภาพสักเท่าไหร่หรอก กลัวว่าจะเจอแม่ตัวเองแล้วพูดไม่ออกเรื่องของหัวหอม แม้ไอ้ภาพจะบอกว่าให้บอกว่าเป็นลูกมันก็เถอะ แต่ถ้าไม่ใช่ขึ้นมาจะทำยังไงวะ อีกอย่างการเดินทางจากบ้านกลับมาที่คอนโดก็นานอยู่เพราะรถติด แถมพอวันรุ่งขึ้นก็ต้องเตรียมตัวจัดการพามันไปโรงเรียน ส่วนผมเองต้องไปมหาลัยอีก แต่จะไม่ไปก็ไม่ได้ พ่อแม่ไอ้ภาพรักแล้วก็เอ็นดูหัวหอมมากด้วยความขี้อ้อนแล้วก็ช่างพูดของมัน ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า หัวหอมเป้นหัวใจของคนบ้านนั้นไปแล้ว

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ เฮ้ย " เสียงทักที่มาพร้อมประตูห้องนอนของผมที่เปิดออก ไอ้ภาพชูซองกระดาษสีน้ำตาลโบกไปมา " ไปเปิดดูกัน "

“ อื้ม " เดินตามมันออกไปนอกห้องหย่นตัวลงนั่งที่โซฟา ไอ้ภาพก็จัดการตัดปากซองแล้วหันมามองผม

“ จะเปิดแล้วนะ "

“ สักทีเถอะไอ้สัด รำคาญจริง "

“ แต๋นแต้นน " กระดาษสีขาวถูกดึงออกมา ผมก็เอียงหน้าจ้องลงไปกระดาษแผ่นนั้นพร้อมกับไอ้ภาพ เราขมวดคิ้วงงๆกับคนในภาพก่อนจะมองหน้ากัน ภาพที่เห็นมันเป็นภาพขาวดำแถมยังไม่ค่อยชัด คนที่พาหัวหอมมาดูจากในภาพเป็นคนที่รูปร่างสูงแถมยังดูเหมือนไม่ใช่คนไทย

“ ดูเหมือนไม่ใช่คนไทยเลยวะ "

“ อื้ม จริง " ภาพบอกก่อนจะจ้องไปที่ผู้ชายคนนั้นให้ชัดขึ้น " แต่กูรู้สึกไม่คุ้นเลยวะ มึงคุ้นบ้างมั้ย "

“ กูก็ไม่คุ้นหรอก " ผมบอก " อีกอย่างผ่านเลือนลางขนาดนี้เอาอะไรมาคุ้นวะ จะถ่ายเอกสารเป็นสีมาให้หน่อยก็ไม่ได้ ขี้เหนียว "

“ น่าๆแม่งให้ก็บุญแล้ว "  ไอ้ภาพเสริมผมก็ถอนหายใจออกมา " นี่เราได้ข้อมูลอะไรเพิ่มบ้างวะ "

“ ก็น่าจะไม่มีมั้ย " ผ่อนลมหายใจออก ผมเอื้อมไปตบหลังมัน " ช่างมันเถอะ ไม่มีก็ไม่เห็นเป็นไร ยังไงเราก็ต้องเลี้ยงไอ้หัวหอมอยู่แล้ว "

“ ก็จริงของมึง "

“ อะไรจะเกิดมันก็คงต้องเกิด " และผมก็เชื่อแบบนั้นมาตลอดแหละ เรื่องนี้เองก็ด้วย เพราะงั้นตอนนี้ก็ควรทำให้ดีที่สุด

..............................................................

   เช้าที่วุ่นวายของผมเกิดขึ้นทุกๆวันจันทร์ มือที่กำลังทาช็อคโกเล็ตลงบนขนมปังปิ้งสองแผ่นให้หัวหอม ตาก็ต้องคอยดูว่าตอนนี้เด็กน้อยที่ผมสั่งให้ไอ้ภาพช่วยใส่ถุงเท้ากับหวีผม มันเสร็จไปถึงแล้ว แต่ผมก็พบว่ามันยังไม่ถึงไหนกันหรอก ก็มัวแกล้งกันเหมือนเดิม

“ หวีผมไปทางไหนดี "

“ กาลิคหวีเองด้าย~ " มือเล็กๆเอื้อมไปจะจับหวีแต่อีกคนก็ชูขึ้นสูง " อาภาพเอาหวีมากาลิคจะหวีผม "

“ ไม่เอาจะหวีให้ หวีให้น้า~ " มันว่าแต่ก็ชอบหวีผมทรงแปลกๆให้ ไอ้หัวหอมทุกที อย่างวันนี้ก็มาเป็นบางระจันแสกกลางมาเลย เด็กคนไหนมันจะชอบ " แบบนี้หล่อแล้ว "

“ ไม่เอา ไม่เอาทรงนี้ จะหวีเอง เอาหวีมาให้กาลิคน้า~ อาภาพพพพ " เสียงงอแงที่ดังกันตั้งแต่เช้า ผมกรอกตาไปมาก่อนจะเดินเอาขนมปังที่ทาเสร็จแล้วมาวางไว้บนโต๊ะ ประจวบเหมาะที่หัวหอมมันหันมาเห็นผมพอดีก็เลยเข้ามาฟ้องเหมือนทุกทีที่ชอบทำ " อาขมมมมมม อาภาพแกล้ง " มันวิ่งมาเขย่าเสื้อผม ก้มหน้าลงดูหน้าไอ้ตัวเล็กที่ก็ไม่ได้เข้ากับทรงผมเลยสักนิดเดียว ผมหัวเราะออกมา

“ ไอ้ภาพมึงนี่นะ เอาหวีมา แกล้งมัน "

“ ทรงนี้เท่จะตาย ไม่เหมือนใคร ทำไมต้องเหมือนคนอื่น "

“ ไม่เอา! ไม่เอาทรงนี้~ ไม่เอา! " หัวหอมเริ่มงอแงหนัก ผมก็จัดการลูบหัวมันให้เป็นทรงอื่น สรางผมให้เป็นทรงประจำที่มันชอบก่อนจะดึงเก้าอี้ให้มันนั่ง

“ ไม่เอาก็สรางผมด้วยมือก็เสร็จแล้ว ไม่เห็นต้องใช้หวีเลแล้วก็ไม่เห็นต้องงอแงด้วย จริงมั้ย " ผมบอก " คราวนี้ก็กินได้แล้วอะ เดี๋ยวไม่ทัน " เลื่อนขนมกับนมมาตรงหน้ามัน ไอ้ภาพก็ผ่อนลมหายใจเซ็งๆออกมา

“ อะไรวะ แกล้งไม่สะใจเลยมึงนี่ "

“ มึงก็บ้านะ ชอบแกล้งให้มันร้องไห้ถึงจะหยุด "
 
“ อาขม อาขม อาภาพใจร้ายชอบแกล้งกาลิค " เสียงฟ้องของเจ้าตัวเล็กหันไปมองภาพตาขวาง ก่อนจะมองหน้าผมด้วยสายตาอ้อนๆ ผมที่ก็หันไปมองหน้ามัน

“ เราเองก็ชอบร้องไห้ ยิ่งร้องไห้ อาภาพก็ยิ่งแกล้งนะ "

“ ก็อาภาพแกล้ง กาลิคเลยต้องร้องไห้ "

“ ก็น่าแกล้งนี่~ นี่แหน่ะ " ไอ้ภาพจัดการเอาหวีมาเปลี่ยนทรงให้อีกคนที่ก็เอามือสรางผมของตัวเองทันทีแบบไม่ชอบใจ " ฮ่าๆ นี่แหน่ะ "

“ งื้อออ อย่าแกล้งกาลิค! เดี๋ยวตีเลยยย  “ มันว่าพลางยกมือขึ้นหมายจะตีอีกคน ผมก็ขมวดคิ้วมอง

“ ไม่เอา เอามือลง ไปเอาท่าทางแบบนั้นมาจากไหน หื้มม ไม่น่ารักเลย "

“ ก็อาภาพแกล้ง " หัวหอมเถียงก่อนจะหันมานั่งกินขนมกับนมของตัวเอง

“ อาภาพแกล้งก็บอกอาภาพดีๆ บอกว่า อย่าแกล้งกาลิคนะ แต่ไม่ยกมือขู่จะตีแบบนั้น ไม่เอานะ " ผมบอกก่อนจะหันไปบอกไอ้ตัวขี้แกล้งที่ก็เหมือนจะเป็นโรคจิตอยู่หน่อยๆ " ส่วนมึงก็เลิกแกล้งมันเถอะ มึงเป็นบ้ารึไง ถึงชอบแกล้งมัน กูเหนื่อยนะ ต้องมาคอยห้ามมึงเนี้ย เดี๋ยววันไหนกูให้มึงอยู่เลี้ยงกาลิคคนเดียว คราวนี้พอมันร้องขึ้นมาจริงๆ แล้งมึงปลอบให้หยุดไม่ได้ แล้วกูจะสมน้ำหน้าให้ "

“ แล้วมึงจะไปไหน " มันถาม ผมก็ผ่อนลมหายใจออก คือการที่กูบอกว่าเผื่อกูไม่อยู่ กูพูดให้มึงสำนึกไง ว่ามึงควรดูแลมันดีๆ อยู่ด้วยกันให้ได้ จะได้อยู่ด้วยกันได้ตอนที่กูไม่อยู่

“ ขี้เกียจจะอธิบายคนอย่างมึง กูแดกดีกว่า " ก้มลงกินอาหารเช้าของตัวเอง ก่อนจะออกจากบ้านไปส่งหัวหอมแล้วเราสองคนก็ค่อยขับรถต่อมาที่มหาลัยเหมือนเดิม

   หย่นตัวลงนั่งที่โต๊ะในห้องข้างไอ้โมที่ก็หันมายิ้มให้ผม ท่าทางที่ดูมีความสุขของมันจะว่าไปตั้งแต่มีความรักนี่ก็ดูสวยขึ้นเป็นกองเลย อิทธิพลจากความรักเสริมดวงชะตาชีวิตแม่งสุดๆ แล้วเดี๋ยวนี้คุณหนูไม่ขับรถมาเองแล้วนะครับ เค้ามีแฟนไปรับทุกวัน โรแมนติกกันสุดๆ เที่ยงก็มานั่งกินข้าวด้วยกัน ไอ้ม่านไอ้มู่อิจฉากันจะตาย

“ ช่วงนี้มึงมามหาลัยเร็วนะ "

“ อื้ม ก็กูต้องไปส่ง.. เอ่อ คือ กูตื่นเร็วน่ะ " ผมพยักหน้าบอกมัน " มึงเองก็เดี๋ยวนี้ก็ดูมีออร่าความรักมากเลยนะ "

“ ออร่าความรักเหี้ยอะไรของมึง " โมมันหันมาหัวเราะกลบเกลื่อนทั้งๆที่แก้มแดงๆของมันก็บอกหมดทุกอย่างแล้ว ว่ามีความสุขกับความรักที่มีอยู่มากแค่ไหน ผมขยับเข้าไปใกล้มันก่อนจะตั้งคำถามด้วยความอยากรู้

“ แล้วเป็นยังไงบ้างคบกับไอ้ชัด  "

“ ก็ไม่อะไร ก็..โอเค " มันพยักหน้ารับก่อนจะเหลือบมองผม " มันก็เป็นมันนั่นแหละ  ไม่รู้สิ กูอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน "

“ กูถามอะไรหน่อยมั้ย มันอาจจะเป็นคำถามที่ไม่โอเคเท่าไหร่ แต่กูอยากรู้ "

“ อื้ม ว่ามา "

“ มันต่างกันมั้ยวะ เวลาเราคบกับผู้หญิง กับ เวลาเราคบกับผู้ชาย "

“ ก็ต่างกันนะ เวลาเราคบกับผู้หญิงเราต้องทำให้เค้าทุกอย่าง ไปรับ ไปส่ง กลับบ้าน เวลาไปกินข้าวก็ต้องเลี้ยง เราต้องดูแลเอาใจใส่เค้า แต่พอมาคบกับชัด จากที่กูเคยต้องเป็นคนดูแลคนอื่น ตอนนี้ก็มีคนมาดูแลกู แต่จะเรียกว่าดูแลมั้ย มันก็ไม่เชิงว่าดูแล เหมือนอย่างตอนเช้ามันก็ไม่ได้มารับกูหรอก "

“ อ้าว กูเห็นมาด้วยกัน " ผมบอก มันก็ส่ายหน้า

“ กูตื่นเช้าขึ้นมาก็ขับรถไปที่คอนโดมัน จอดรถไว้ที่นั่นแล้วมาด้วยกันถ้าทัน แต่วันไหนที่กูสายกูก็มาเอง อย่าเวลาไปกินข้าว มันก็เลี้ยงกูนะ แล้วก็มีบ้างที่กูเลี้ยงมันแม้มันจะเป็นแบบ ต้องชิ่งจ่ายก่อนก็เถอะ ก็คงเหมือนกันว่า เมื่อก่อนเราดูแลคนอื่น ตอนนี้ก็เปลี่ยนกัน มีคนมาดูแลเรา "

“ มึงโอเคใช่มั้ยกับอะไรแบบนี้ กูคิดว่ามึงคงไม่มีปัญหาหยุมหยิมคิดเล็กคิดน้อยเหมือนที่ผู้หญิงเค้าเป็นกันใช่มั้ย " ไอ้พวกที่ว่าบอกคบกับครั้งแรกเรามารับที่บ้านตรงต่อเวลาแต่พอนานไปสายบ้างก็ หาว่า ไม่ใส่ใจบ้างละ ละเลยบ้างละ ผู้หญิงเป็นประเภทเก็บรายละเอียดแต่ผู้ชายเค้าไม่ค่อยเก็บรายละเอียดขนาดนั้น ผมเลยมองว่าปัญหาน่าจะน้อยกว่า

“ ก็คงงั้น แต่ไม่ใช่มันไม่มีปัญหานะ ปัญหามันมี แต่ปัญหามันก็แล้วแต่บุคคลมากกว่า ว่าจะเป็นประเภทไหน " โมมันถอนหายใจออกมา ผมก็เอียงหน้ามอง

“ มึงทำเหมือนตอนนี้มีปัญหา "

“ ก็มีนะ " มันว่า " กูมันเป็นพวกไม่ค่อยกล้าจะพูดความจริงอะไรออกไปวะ เหมือนบางทีรู้สึกแต่ก็ไม่กล้าพูด ไม่เหมือนชัด ชัดมันเป็นคนตรงๆ อย่างเรื่องที่เราคบกัน เพื่อนมันรู้หมดแล้ว แต่สำหรับกู กูมีแค่มึงแล้วก็ไอ้ม่านไอ้มู่ที่รู้ ส่วนเพื่อนม.ปลายไม่มีใครรู้เลย กูไม่กล้าบอก " โมก้มหน้าลงยิ้ม ๆ" ไม่รู้ทำไมถึงไม่กล้าบอก ไม่กล้าแนะนำ กูอาย กูเขิน กูไม่รู้ว่าผลตอบรับกับเพื่อนมันจะเป็นยังไงที่กูมีแฟนเป็นผู้ชาย กูไม่ได้เป็นแบบชัดที่ไม่ได้แคร์อะไรทั้งนั้น เป็นตัวของตัวเอง ถ้ากูเลิกแคร์คนอื่นได้แล้วเป็นแบบชัดได้ กูว่าความรักของกูกับมันคงดีกว่านี้ แล้วเราก็คงใกล้ชิดกันมากกว่านี้ด้วย "

“ อาจเพราะยังคบกันไม่นานรึเปล่า มึงเพิ่งคบกัน ความห่างเหิน ความเขิน มันก็ต้องมีบ้างแหละน่า อีกอย่างชัดมันเป็นไบ เพื่อนมันคงรู้อยู่แล้ว คงไม่แปลกหรอกที่มีแฟนเป็นผู้ชาย แต่มึงมันไม่ใช่นี่ มึงไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน มันก็ไม่แปลกเปล่าวะ ที่เราจะไม่กล้าแสดงความรู้สึกออกไปกับเค้าตรงๆ "

“ อื้ม..” มันพยักหน้ารับ " มันมีอีกหลายเรื่องมึง กูยังเกร็งๆอยู่ แต่ก็คงเป็นอย่างที่มึงบอกคือยังไม่ชินละมั้ง ก็ต้องให้เวลากับมัน "

“ อย่าคิดมากน่า " เอื้อมมือตบหลังมันเบาๆ " ลองปล่อยหัวใจไปบ้าง ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก มึงอยากจะจับมือมันมึงก็จับ อยากจะทำอะไรก็ทำไป ตามใจตัวเองบ้าง"

“ จริงเหรอวะ ที่เค้าบอกว่า ถ้าดูเล่นตัวมากๆแฟนจะเบื่อ "

“ แล้วแต่บุคคลวะ มึงก็ลองดูดิ ลองอ้อนมันบ้าง ชัดจ๋า~ ว่าไป "

“ ไอ้บ้า " ไอ้โมหัวเราะผมก็ ขำออกมาเสียงดัง

“ มึงนี่ก็ชอบไอ้ชัดมากเหมือนกันนะ "

“ ทำไมถึงคิดแบบนั้นวะ " ไอ้โมหันมาถามผม ด้วยสายตาที่แปลกใจอยู่หน่อยๆ

“ ก็คนเรา ถ้าไม่รักไม่แคร์กันมาก จะคิดมากทำไมละจริงมั้ย "

“ ก็คงจริงของมึง " ยิ้มกว้างให้มัน เอื้อมมือกอดคอมันปลอบๆ ในตอนนั้นประตูห้องเรียนก็ถูกเปิดออกพร้อมกับอาจารย์ที่เข้ามาสอนพอดี

" วันนี้ก่อนเริ่มเรียนอาจารย์มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบกันหน่อยนะ วันจันทร์อังคารหน้าห้องเราจะไปกิจกรรมที่ต่างจังหวัดกัน "

“ ห๊าา~ " เสียงฮือฮาของเด็กให้ห้องที่พูดขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน ส่วนผมตอนนั้นก็ได้แต่อ้าปากค้างนิ่งๆกับสิ่งที่อาจารย์บอก

“ เราจะไปดูงานกันที่นั่น ค้างหนึ่งคืนแล้วก็ไปทำงานกันด้วย ของที่ต้องเตรียมจะอยู่ในกระดาษแผ่นนี้ มารับได้หลังเลิกคาบนะ ส่วนตอนนี้ก็เริ่มเรียนกันได้เลย "

“ คือนี้..ไม่มีโอกาสให้ได้ปฎิเสธเลยถูกมั้ย " ไอ้โมหันมาบอกผมก็ที่ยกยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ก็เป็นแบบนี้ตลอดไม่ใช่เหรอ " ผมผ่อนลมหายใจออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงไม่เป็นอะไรหรอก ไปเข้าต่างจังหวัดสองวันสนุกจะตาย แต่พอมาเป็นตอนนี้ผมคิดว่ามันไม่น่าจะสนุกอย่างงั้น เตรียมรับหายนะตั้งแต่ยังไม่ไปจนถึงวันไปได้เลยไอ้ขม แล้วจะต้องปล่อยให้หัวหอมอยู่กับไอ้ภาพสองคน.. แม่งจะรอดมั้ยวะเนี้ย

.............................................................

“ ไปเข้าค่าย! ” เสียงของไอ้ภาพตะโกนดังขึ้นมาตอนที่ผมบอกมันในรถว่าจะไปต่างจังหวัดเป็นกิจกรรมของห้อง ตอนที่เรากำลังจะขับรถไปรับไอ้หัวหอมกลับจากโรงเรียน " เดี๋ยวๆ ค่ายเหี้ยไรของมึงกูงง "

“ มันไม่ได้เรียกว่าค่ายเปล่าวะ กูไม่ได้ไปช่วยใครสักหน่อย แค่ไปดูงาน ดูวัฒนธรรมเกี่ยวกับชาวมอญที่กาญ เพื่อมาทำการบ้าน เรียกว่าไปทำกิจกรรม ไปดูงาน อะไรแบบนี้น่าจะดีกว่ามั้ง "

" แล้วไปตั้งสองวันหนึ่งคืน "

" อื้ม แล้วยังไงอะ " ผมหันไปถามมันที่ผ่อนลมหายใจออกมา ไอ้ภาพพูดเสียงเบา

“ ไม่ไป ไม่ได้เหรอวะ บอกอาจารย์ไปว่าแม่ป่วยหนักต้องดูแล "

“ แล้วนี่เป็นเชี้ยไร มาแช่งแม่กูไอ้ห่า " ผมว่ามันก็ถอนหายใจสีหน้าหงุดหงิดของมัน " ไม่อยากจะให้กูไปก็บอกมา ไม่อยากจะดูแลไอ้หัวหอมคนเดียวละสิ "

“ ก็เออน่ะเซ่! กูทำยังไงวะ ถ้าไม่มีมึงขึ้นมา "

“ หึ " ผมยกยิ้มขึ้นมาตอนที่มันพูดคำนั้นออกมา " คราวนี้มึงเห็นความสำคัญของกูแล้วใช่มั้ย วันก่อน ไอ้เหี้ยไหนบอก ถึงไม่มีกูอยู่มึงก็ดูแลมันได้ไง คราวนี้แม่งก็ช่วยจัดการให้ได้ด้วยเลยละกัน " ยักคิ้วให้มันไอ้ภาพก็ถอนหายใจออกมา

“ นี่กูซีเรียส "

“ ไอ้หัวหอมไม่ใช่เด็กเล็กมันไม่ได้ดูแลยากขนาดนั้นหรอกมึง มึงทำได้แค่สองวันหนึ่งคืนเอง " พูดออกมาแบบนั้นมันก็ถอนหายใจออกมาไม่หยุด

“ ไม่ไปไม่ได้เหรอวะ "

“ ไม่ได้ มันเป็นงาน กับวิชานี้ไม่ได้เลย "

“ แล้วมึงคิดว่าไอ้กาลิคมันยอมให้มึงไปเหรอ " คำถามที่ทำให้ผมนิ่งคิด หัวหอมติดผมมาก นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงบอกว่าแม่งเป็นหายนะตั้งแต่ยังไม่เริ่มไปไง

“ เอาน่า เดี๋ยวกูพูดกับมันเอง " รถจอดลงที่ลานจอดรถของโรงเรียน ผมเปิดประตูลงไปรับเด็กชายกาลิคที่ก็วิ่งมาหากันทันทีตอนที่เห็นหน้าผม

“ อาขมมมมม " สองแขนเล็กกอดเข้าที่ตัวผม ก่อนจะดึงตัวเองออก หัวหอมก้มลงไหว้ " อาขม สวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ " ขยี้หัวมันเบาๆก่อนจะจูงมืออีกคนกลับมาที่รถ เปิดประตูรถเข้าไปหัวหอมก็ขึ้นมานั่งที่ตักผม มันปลดกระเป้วางลงข้างหน้าก่อนจะหันไปหาภาพ

“ อาภาพ สวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ "

“ วันนี้เป็นยังไงบ้าง เรียนอะไรบ้างไหนเล่าให้ฟังหน่อย " ผมลูบหัวมันที่มีแต่เหงื่อพลางถาม ดูท่าว่าหลังเลิกเรียนมันเล่นกับเพื่อนจนเพลิน

“ วันนี้สนุกม๊ากกกก วันนี้ตอนเที่ยงนะ กาลิคได้เล่นของเล่นด้วย แล้วกาลิค น้องรินเน่ น้องเจ้านาย น้องอลัน เราไปต่อแถวเล่นของเล่นที่เป็นแบบนี้ " มันทำท่าประกอบคล้ายๆกับสไลเดอร์

“ เค้าเรียกสไลเดอร์รึเปล่า " ผมว่าอีกคนก็ส่ายหน้า

“ กาลิคไม่รู้ แต่สนุกมากๆเลยแหละครับ แล้วก็นะ วันนี้น่ะนะ คุณครูก็ให้วาดรูปด้วยสนุกมากเลย คุณครูให้วาดรูป ครอบครัวของฉัน " มันว่าก่อนจะเปิดกระเป๋าแล้วเอางานออกมาให้ผมกับไอ้ภาพดูแบบกระตือรือร้น

   ภาพที่ถูกยื่นให้เป็นเส้นวนๆที่ดูไม่ค่อยเหมือนมนุษย์ด้วยซ้ำ มือใหญ่ๆกับแขนใหญ่ ตัวเล็กๆ ดูไม่สมส่วนที่สุด แต่กลับเป็นภาพที่ชวนให้ผมยิ้มกว้างออกมา เพราะภาพวาดตรงกลางที่ดูเหมือนตัวเล็กกว่าใครกำลังจูงมือคนสองคนที่ขนาบข้างเค้า

 " คนนี้นะ คือกาลิค " มันชี้ไปที่คนตรงกลาง " แล้วคนนี้ก็คืออาขม ส่วนคนนี้คืออาภาพ แล้วตรงนี้คือน้องหมี แล้วก็ที่ไกลๆตรงนี้ คือคุณปู่ คุณย่า แล้วก็มีน้าแก้ว น้าขวัญด้วย "

“ ครอบครัวใหญ่จังนะเรา มีคนเยอะแยะเลย " ผมบอก อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ อื้ม ครอบครัวของกาลิคเองแหละ มีแต่คนที่กาลิครักทั้งนั้นเลย " มันว่าก่อนจะหันมากอดผมไว้ เหลือบมองไอ้ภาพที่ยื่นมือมาลูบหัวอีกคน ผมก้มลงกอดตอบเจ้าตัวเล็กไว้แน่น

“ ขอบคุณนะหัวหอม ที่ให้อาขมเป็นหนึ่งในครอบครัวด้วยน่ะ "

“ กาลิครักอาขม " มันว่าด้วยเสียงใสๆของมัน

“ อาขมก็รักกาลิคเหมือนกันนะ "

“ รักกัน รักกันนะ " เสียงเล็กๆที่มาพร้อมมืออีกข้างที่ปล่อยออกจากตัวผม แล้วไปดึงไอ้ภาพให้เข้ามากอดด้วย " อาภาพ รักกัน รักกัน "

“ หึ อะ รักกันๆ " ภาพดึงเราที่กอดกันเข้าไปในอ้อมกอดมัน ก่อนที่มันจะกระซิบบอกผม " มึงบอกกาลิคเรื่องไปกาญของมึงสิ " 

“ ไม่เอาอะ " ผมบอก " ไว้ก่อนแล้วกัน " ตอนนี้ขอให้มีความสุขก่อน ค่อยบอกแล้วกัน

.................................................................

เอ็นดูกาลิค งื้ออออออ
ความรู้สึกที่เหมือน แม่ที่ต้องจากลูกไปของ ขมนี้..
แล้วภาพ กับการเลี้ยงหัวหอมคนเดียวนี้
แล้วหัวหอมที่ต้องอยู่กับภาพสองต่อสองนี้ หายนะอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
โปรดติดตาม ตอนต่อไป~
สุดท้ายนี้ ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตเตอร์
ฝากแชร์ ฝากไลค์ในเพจเฟสบุ๊ค หนมมี่ผู้ใสซื่อด้วยนะคะ
แล้วก็~ ขอโทษด้วยนะคะ ตอนนี้อาจจะสั้นไป พอดีน้องหมาของหนมตาย หนมเลยเขียนไม่ค่อยออกนะคะ ให้อภัยเก๊านะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้าาา  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-05-2017 21:06:39
กาลิคขี้อ้อนมากกกกกกก
น่ารัก น่าเอ็นดูอ่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 05-05-2017 21:23:06
อาภาพขี้แกล้งจังเลย

ว่าแต่กาลิคจะยอมให้อาขมไปดูงานหรือเนี่ย? ติดอาขมสุดๆขนาดนี้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 05-05-2017 21:45:29
แค่คิดภาพต้องเลี้ยงหัวหอมคนเดียว ก็รู้สึกสยองแล้ว เชื่อสิว่าขมจะกังวลมากจะอยากให้ไลฟ์สดตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 05-05-2017 21:55:39
ถ้าบอกแล้วกาลิคจะงอแงมั้ยเนี่ยยยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 05-05-2017 21:55:59
กาลิคจะห่างจากอาขมได้เร้อออ. ติดกันขนาดนี้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 05-05-2017 22:40:19
คาดว่าภาพอาจจะคลั่งตายได้ในวันที่ขมไม่อยู่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 05-05-2017 23:03:46
กาลิคช่างอ้อนมากเลยลูก แบบนี้รักตายเลย พอแม่ตัวจริงโผล่มาก็ไล่กลับไปเลยนะ ว่าแต่อาภาพจะเลี้ยงกาลิคคนเดียวรอดมั้ย 555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-05-2017 23:23:25
 :mew1: :mew1: :3123: :3123: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 06-05-2017 00:31:31
กาลิก แล้วแม่ละลูกกก
ทำไมไม่มีแม่หนูในรูปปปปปปป

ขมมจะไปไงเนี่ย ห่วงลูกตายยย
ภาพโชคดีนะ ถ้าไม่ไหว ก้บ้านปู่ย่านะ 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: gunghan ที่ 06-05-2017 00:49:02
แม่(ขม) ไม่อยู่ 48 ชั่วโมงนี้
พ่อ (ภาพ) ถ่ายรายการ The Retrun of Superman ได้เลยนะเนี้ย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 06-05-2017 06:01:37
รีบๆบอกน้า เดี๋ยวเด็กรู้ทีหลัง จะงอลเอานะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 06-05-2017 06:35:03
งานนี้ท่าจะหนัก 555  อาขมจะไม่อยู่ อาภาพกะกาลิคจะรอดไหม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 06-05-2017 07:07:18
รอเลย 1 man 1 night 1 baby  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 06-05-2017 08:20:11
กาลิคร้องไห้บ้านแตกแน่ถ้ารู้ว่าขมจะไม่อยู่

เอาไปให้ย่าเลี้ยงดีมั๊ย ภาพท่าทางจะเลี้ยงไม่รอด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 06-05-2017 08:38:39
อะไรจะเกืดขึ้นเมื่อแม่ขมไปดูงาน 5555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 06-05-2017 08:40:52
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 06-05-2017 09:38:43
เด็กหนอเด็ก เป็นเจ้าหนูจำไม เป็นเด็กดื้อนิดๆ แต่ฉลาด
กาลิคน่าจับฟัดวันละหลายรอบ ขมภาพก็คงไม่ต่างกัน ตอนอ้อนเอย งอแงเอย ช่างพูด

ภาพชอบแกล้ง ขมก็ดูแล ครอบครัวนี้ดีจริง 55555

แล้วคนมาส่งเป็นผู้ชายไปอีก อยากรู้ค่ะ

ภาพแย่แน่ถ้าขมไปดูงาน

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 06-05-2017 11:08:47
เอาจิงๆ กาลืคนี่ไม่ร้องไห้คิดถึงแม่มั่งหรอลุกก :z3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-05-2017 18:04:02
น่าร๊ากกกกก~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: salaseen ที่ 06-05-2017 19:25:07
หัวหอมน่ารักมากเลยยยยยยฮืออยากพามาเลี้ยงที่บ้าน555555555555555


ปล.เหมือนคนเขียนจะพิมพ์คำว่าแบ่งปันเป็นแบ่งบันเกือบหมดเลยอะค่ะหรือไม่รู้ว่าเป็นเพราะเครื่องเรารึป่าว ยังไงลองดูอีกทีนะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-05-2017 19:56:00
น่ารักจิงๆเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-05-2017 20:30:25
กาลิค น่ารัก  :mew1: :mew1: :mew1:
ปัญหามาแล้ว
ขมไปค่าย กาลิค รึจะยอมดีๆ
ภาพ ก็งอแงแล้ว
ภาพ ขม จะแก้ปัญหายังไงนะ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 06-05-2017 21:21:00
งานเข้าอาภาพล่ะทีนี้ ฮี๊ววววว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 24 - 5.5.60} #หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 06-05-2017 22:07:11
งานเข้าภาพอย่างแรง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 07-05-2017 21:18:28

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 25

“ ทำการบ้านเสร็จแล้วครับ " หัวหอมเงยหน้าบอกผมตอนที่มันระบายสีการบ้านของตัวเองเสร็จเรียบร้อย ปิดหนังสือของตัวเองเก็บใส่กระเป๋า ตั้งไว้ที่โซฟาเรียบร้อย

“ งั้นก็ได้เวลาดูการ์ตูนหนึ่งชั่วโมงครึ่งนะ " ผมบอกก่อนจะหยิบรีโมตมาเปิดทีวีให้มัน ตั้งเวลาปลุกเอาไว้เรียบร้อย ไอ้ภาพที่อาบน้ำเสร็จก็เดินมานั่งข้างมัน

“ ทำอะไรอยู่ครับ "

“ ดูการ์ตูนครับ " มันหันไปบอกอีกคน ก่อนที่ไอ้ภาพจะอุ้มมันขึ้นมานั่งบนตัก แล้วก้มลงหอมแก้มแบบไร้เหตุผล แต่ผมคิดว่าเหตุผลของมันคือการกวนตีนอีกคนไม่ให้ได้ดูการ์ตูนแบบมีความสุขก็เท่านั้นแหละ " อาภาพ กาลิคจะดูการ์ตูน " มันบอกแล้วพยายามขืนตัวเองลงมานั่งที่โซฟาตามเดิมแต่เหมือน อ้อมกอดของอีกคนจะรัดแน่นเกินกว่าที่แรงเด็กจะดิ้นให้หลุดออกมาง่ายๆ " อาภาพปล่อย ปล่อยกาลิค "

“ ไม่ปล่อย อยากจะกอดไว้ อยากจะหอมมมม " มันว่าแบบกวนตีนก่อนจะก้มลงหอมอีกคนไปเต็มฟอด

" งื้อออ อาภาพ "

“ ว่าไงเบ็น " เสียงในการ์ตูนที่พูดขึ้น ไอ้ภาพก็พูดตาม " ว่าไงเบ็น ว่าไง นี่กาลิคอยากจะเป็นตัวไหน "

“ จะเป็นเบ็นเท็นครับ "

“ เป็นตัวร้ายดีกว่ามั้ง เป็นตัวนั้นอะ  มันชี้ไปที่ทีวี ตัวร้ายที่เป็นหุ่นยนต์ยักษ์อีกคนก็ทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ "

“ ไม่เอา ให้ตัวนั้นเป็นอาภาพ กาลิคไม่เป็น กาลิคจะเป็นเบ็นเท็น "

“ ไม่ให้เป็น " ภาพเถียงมันกลับ

“ กาลิคจะเป็น " อีกคนก็เถียงสู้ ผมถอนหายใจออกมา เอาจริงๆไม่นานแม่งต้องมีคนร้องไห้แน่

“ นี่พอเถอะ ไม่ดูการ์ตูนกันเหรอวะ "

“ ก็อาภาพแกล้งกาลิคอะ อาขมมม " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองจากไอ้ภาพมาหาผม แต่ทว่าอีกคนก็ยังแกล้งจับขาไว้

“ ไม่ให้ไป จะไปไหน มานี่ มาๆ "

“ อื้อออออ ปล่อย อาภาพปล่อยกาลิคนะ " ขาเล็กดิ้นไปมา ผมเองก็ถอนหายใจหนักขึ้น หันมองหน้ามันที่มีความสุขกับการแกล้งเด็ก ผมก็ได้แต่กรอกตามองบน

“ คือทำไมมึงต้องแกล้งมันตอนดูการ์ตูนตลอดเลยวะ มึงปล่อยให้มันดูการ์ตูนไปนิ่งๆไม่ได้เหรอ มึงดูโรคจิตนะภาพ "

“ ดูนิ่งๆไม่เบื่อเหรอ เล่นกันดีกว่ามานี่ " มันดึงขากาลิคเข้าไปก่อนจะก้มลงหอมแก้มแล้ว จูบลงไปบนท้องของอีกคนเสียหลายที เสียงโวยวายเล็กๆที่ดังขึ้นมาผสมกับเสียงหัวเราะที่คงทั้งจักกะจี้แล้วก็รำคาญไม่น้อย  " กาลิคมาเล่นกันดีกว่า "

“ ไม่เอาจะดูการ์ตูน " เด็กน้อยส่ายหน้าก่อนจะพยายามดึงตัวเองมานั่งลงที่โซฟา " อาภาพ ปล่อยกาลิคนะครับ " มันพูดด้วยเสียงน่ารักก่อนจะดึงตัวเองขึ้นหอมแก้มอีกคน

“ ถ้ามันพูดแบบนั้นแล้วมึงควรปล่อยนะ " ผมบอก ไอ้ภาพก็ยิ้มก่อนจะก้มลงกอดมันไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม

“ เรื่องอะไร มันน่ารักกูไม่ปล่อยหรอก กาลิคคคคคคคคค เล่นกันนนน เล่นๆ "

“ นี่แม่งเป็นคนประเภทไหนกันวะ " ส่ายหน้าไปมา ผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนไอ้ภาพที่อุ้มกาลิคไว้จะค่อยๆดึงอีกให้นอนลงบนพื้นแล้ว ดึงกลับมาที่เดิมแบบเร็วๆ จังหวะขึ้นลงที่สุดแสนจะเสียวชวนให้คนที่อยากจะดูการ์ตูนเมื่อครู่หันมาสนใจการเล่นของร่างสูงเสียมากกว่า หัวหอมหัวเราะเสียงดัง

“ ฮ่าๆ อาภาพ สนุก เอาอีก เอาอีกเยอะๆเลย "

“ ใช่มั้ยละ เล่นอีกนะ "

“ เล่นอีก เล่นอีก " เด็กน้อยร้องเรียก ไอ้ภาพก็เร่งความเร็วของตัวเองที่ยกอีกฝ่ายขึ้นลงราวกับดัมเบลที่ใช้ยกให้กล้ามขึ้นยังไงอย่างงั้น ความสุขที่กินเวลาไปเรื่อยๆและกินสภาพแวดล้อมที่ควรระวังไปด้วยเช่นกัน จนกระทั้ง..

   ' โป๊ก! ' เสียงของหัวเล็กๆของกาลิคกระทบเข้ากับสันโต๊ะไม้ที่อยู่ใกล้กันเข้าไปเต็มแรง ไอ้ภาพหยุดชะงักมือที่ยกมันทันที เด็กน้อยที่ยังมีแววตาอึ้งๆอยู่สักพัก ก่อนจะค่อยๆแบะปากร้องไห้ออกมาเสียงดังภายในไม่กี่วินาทีต่อมา

“ อึก แงงงงงงง อึก แงงงงง อาขม แงงง กาลิคเจ็บบบบ " มันมาเสียงร้องลั่นผมที่นั่งเบิกตาเพราะเสียงกระทบนั้นเลื่อนตัวมารับอ้อมกอดของมันที่กางออกให้ผมอุ้มไว้แทบไม่ทัน " แงงงง อึก ฮืออออ เจ็บกาลิคเจ็บ เจ็บจังเลย เจ็บบบ ฮือๆ"

“ โอ๋ๆ มานี่มา ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร โอ๋ๆ " ผมลูบหัวมันที่อีกไม่นานคงบวมขึ้นมาแน่นอน " มาๆ เป่าๆ เป่ามนต์ให้หายเจ็บ เพี้ยงเลย โอมมมมม เพี้ยงงงงง เพี้ยงๆ หายเจ็บนะ "

“ ไม่หายย เจ็บอยู่ อาขม~ กาลิคเจ็บตรงนี้ อาภาพทำ อาภาพทำกาลิค อึก ฮืออๆ " มันส่ายหน้าไปมา น้ำตาที่นองหน้าของเจ้าตัวเล็ก ชวนให้ไอ้ภาพหน้าเสียไปแล้ว 
 
“ โอ๋ๆ อาภาพไม่ได้ตั้งใจนะ แค่อยากจะเล่นกับกาลิคไง " ผมปลอบมันแต่อีกคนที่ยังงอแงก็กอดผมไว้แน่น หันมองหน้าไอ้ภาพที่แสดงสีหน้าไม่สบายใจเท่าไหร่ มือหนาเอื้อมมือมาลูบแผ่นหลังเล็กๆ มันจับมือของหัวหอม

“ กาลิค อาภาพขอโทษ อาภาพไม่ได้ตั้งใจ "

“ ไม่ กาลิคโกรธ โกรธอาภาพแล้ว อาภาพทำกาลิคเจ็บ เจ็บตรงนี้เลยยยย " มันเอื้อมมือมาจับหัวตัวเอง น้ำตาที่ไหลไม่หยุดของมันยิ่งชวนให้ไอ้ภาพใจเสีย

“ ไปโรงพยาบาลมั้ย ทำไมมันดูเจ็บมากเลยวะ " ร่างสูงถามผม " ไปโรงพยาบาลกันเถอะไป หัวมันอาจจะแตกอยู่ข้างใน "

“ บ้าน่า แค่หัวกระแทกนิดเดียว มึงก็จิตตกไปได้ " ผมดึงมันให้นั่งลงเหมือนเดิม แต่สีหน้าที่ดูไม่ดีของมัน ไอ้ภาพเหลือบมองกาลิค
 
“ กาลิค อาภาพขอโทษ ขอโทษนะ " มันว่า ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา " กูแค่อยากจะเล่นกับมันเฉยๆ กูเคยเห็นมึงเล่นแบบนี้กับมัน แล้วมันก็ดูสนุกดีด้วย กูเลยทำบ้าง เพราะมึงจะไปต่างจังหวัดกูเลยอยากจะรีบสนิทกับมันไว้ แต่กูก็ไม่คิดว่า มันจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น "

“ กูรู้ เอาน่าๆ มึงไม่ต้องทำหน้าซีเรียสขนาดนั้นเว้ย มันผิดพลาดกันได้  " ผมเอื้อมมือไปตบไหล่มัน แต่สีหน้าไอ้ภาพที่ยังเป็นกังวลนั้นมันถามผมซ้ำๆ

“ ไม่ไปโรงพยาบาลแน่เหรอวะ มันดูเจ็บนะ "

“ ไม่ต้องหรอก " ผมบอกปัด ก่อนจะเงยหน้าดูเวลาที่ก็ดึกมากแล้ว " มันใกล้เวลานอนแล้วด้วย มันเลยงอแงเข้าไปใหญ่ ไม่เป็นไรหรอก มึงไม่ต้องคิดมาก " จะว่าไปก็แอบสงสารมันเหมือนกัน อยากจะให้เด็กรัก เด็กสนิท แต่ก็ทำตัวไม่เป็น ไม่รู้จะทำยังไง  ทำได้แค่แกล้ง ทำได้แค่เล่นด้วยแต่คนอย่างมันก็ดันเล่นกับเด็กไม่เป็นอีก

“ ขม กูจะอยู่กับมันได้เหรอ มึงไม่อยู่อะ กูว่า กูพามันไปอยู่บ้านพ่อกับแม่กูดีกว่า "

“ ทำไมคิดงั้นวะ ทำไมมึงจะทำไม่ได้ ลองดูสิ มีอะไรก็โทรไปหากู กูจะรับสายมึงตลอดเลย ถ้าไม่ลองเริ่มทำ ก็จะทำไม่ได้หรอกมึง กล้าๆหน่อยนะ ว่าที่คุณพ่อ " ผมตบไหล่มันตอนที่ลุกขึ้นจากโซฟา หัวหอมเริ่มเงียบไปแล้วเหลือแต่เสียงสะอึกสะอื้นที่ดังอยู่ไม่ขาด
" ส่วนไอ้หนูคนนี้ไปนอนดีกว่า นอนแล้วจะได้หายเจ็บนะ อาขมจะทายาให้ " ผมดึงมันที่กอดผมไว้แน่นให้หันมามามองไอ้ภาพสักหน่อย " แล้วหายโกรธอาภาพได้มั้ย อาภาพไม่ได้ตั้งใจทำให้กาลิคเจ็บหรอก อาภาพแค่อยากจะเล่นด้วยสนุกๆเท่านั้นเอง "

“ ขอโทษนะกาลิค ขอโทษนะ " มือหนาเอื้อมมือมาจับอีกคนที่ไม่ตอบอะไร มันเบือนหน้าหนีมากอดผมตามเดิม ไอ้ภาพก็ยิ่งหน้าเสียไปใหญ่

“ คิดซะว่า มึงโดนเอาคืนที่ชอบแกล้งมันแล้วกัน ไอ้ภาพ " ผมว่าอีกคนก็ถอนหายใจเซ็งๆตามหลังมา

   อุ้มหัวหอมมานอนในห้องนอน วางลงบนเตียงแต่อีกคนก็ยังกอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อยไปไหน  ผมดึงมันลงมาให้เผชิญหน้ากันกับผม เช็ดน้ำตาที่เลอะอยู่ที่ขอบตาและแก้วกลมๆ

“ อย่าโกรธอาภาพเลยหัวหอม " ผมบอกมันที่กำลังมองผม " อาภาพไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้หัวหอมเจ็บหรอก อาภาพแค่อยากจะเล่นด้วย "

“ แต่ กาลิคเจ็บน้า~ " มันว่าก่อนจะเอื้อมมือไปจับที่หัวตัวเอง " เจ็บ~”

“ เค้าเรียกว่าอุบัติเหตุน่ะ รู้จักมั้ย อุ บัต ติ เหตุ " ย้ำทีละคำอีกคนก็ส่ายหน้า " อุบัติเหตุคือ ความเจ็บที่เราไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น เหมือนเมื่อกี้ที่อาภาพทำให้หัวของหัวหอมชนโต๊ะ อาภาพก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น มันเลยเป็นอุบัติเหตุไง " อีกคนนิ่งไปผมคิดว่ามันคงยังไม่เข้าใจหรอก มันคงคิดว่าภาพทำมันเจ็บ มันคงคิดแค่นี้ " อาภาพไม่ได้ตั้งใจหรอก อาภาพรักหัวหอมมาก อาภาพจะอยากให้หัวหอมเจ็บทำไมจริงมั้ย อาขมเองยังไม่อยากจะให้หัวหอมเจ็บเลย เล่นกันก็ต้องมีเจ็บตัวบ้างสิ ถ้าเกิดว่าเจ็บตัวแล้วให้อภัยกันไม่โกรธกัน พรุ่งนี้ก็เล่นกันได้อีก แต่ถ้าโกรธกันแล้ว พรุ่งนี้เดี๋ยวไม่มีเพื่อนเลยนะ ใครจะไปส่งเราที่โรงเรียนละ "

“ อาขมไง "

“ อาขมไม่มีรถจะพาไปส่งยังไงละ " ผมบอกอีกคนก็เงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้น
 
" อาภาพ อาภาพรักกาลิคไม่อยากจะให้กาลิคเจ็บจริงๆใช่มั้ยครับอาขม อาภาพไม่ได้ตั้งใจ "

" ใช่ อาภาพไม่ได้ตั้งใจหรอก อาภาพแค่อยากจะเล่นสนุกๆกับหัวหอมเท่านั้นเอง ไม่มีใครอยากจะให้หัวหอมเจ็บตัวหรอก "

" จริงเหรอครับ "

" จริงสิ ใครจะอยากให้คนที่เรารักเจ็บบ้างละ "

" งั้น กาลิคจะไม่โกรธอาภาพแล้ว เพราะว่า อาภาพไม่ตั้งใจจะทำกาลิค " มันว่าก่อนจะกอดผมไว้ " อาขม อาขมก็รักกาลิคใช่มั้ย อาขมไม่อยากจะให้กาลิคเจ็บใช่มั้ยครับ "

" ใช่แล้ว อาขมก็รักหัวหอมไม่อยากจะให้เจ็บเหมือนกัน "

" แล้วก็รักอาภาพด้วยใช่มั้ย เลยไม่อยากจะให้กาลิคโกรธอาภาพ " ผมเงียบไปตอนที่ไอ้ตัวเล็กถาม กูว่าคำถามเริ่มแปลกๆนะ รักอะไร แบบไหนที่ไอ้ตัวแสบมันคิดวะ 

" ทำไมคิดอย่างงั้นละ "

" ก็ ก็เหมือนกาลิคไง กาลิครักอาภาพ แล้วก็รักอาขม กาลิคไม่อยากจะให้ อาภาพกับอาขมทะเลาะกัน ไม่ให้โกรธกัน ให้รักกันม๊ากมาก อาขมก็คิดเหมือนกาลิคใช่มั้ยครับ เพราะว่าอาขม รักอาภาพ แล้วก็รักกาลิคด้วย ก็เลยไม่อยากจะให้กาลิคกับอาภาพโกรธกัน "

“ อื้ม ก็คงจะเป็นแบบนั้นแหละ " ความรักของเด็กนี่ดีจังนะ เหมือนจะมีแค่ความหมายเดียวเท่านั้น ไม่มีความรู้สึกอื่นใดแอบแฝงอยู่เลย รักก็คือรัก หมายถึงรัก แค่นั้นจริงๆ " คราวนี้หายโกรธอาภาพได้ยัง "

“ ได้แล้วครับ " หัวหอมพยักหน้ารับก่อนจะดึงตัวเองเข้ามากอดผมไว้แน่น " กาลิคจะไม่โกรธอาภาพแล้ว อาภาพไม่ได้ตั้งใจ กาลิคไม่อยากให้จะให้อาขมเสียใจด้วย เพราะว่าอาขมรักทั้งกาลิครักทั้งอาภาพเลย "

“ เด็กดีจัง ดีแล้วละ ไม่โกรธกันนะ "

“ ครับ " มันพยักหน้ารับ ผมก็หลุดยิ้มออกมา

“ งั้นคราวนี้ก็นอนลงได้แล้ว " ล้มตัวลงนอนบนเตียงพร้อมกัน จัดการให้อีกคนนอนลงบนหมอนเรียบร้อย แล้วไม่นานหัวหอมก็หลับไป ผมนอนมองใบหน้าที่กำลังหลับด้วยความสุข เป็นครั้งแรกเลยที่ไม่อยากจะออกจากบ้านไปไหน ไม่อยากไปทำกิจกรรมต่างจังหวัดอะไรทั้งนั้น อยากจะแค่อยู่บ้าน ไปเรียนแล้วกลับมาบ้านเท่านั้น ไม่อยากจะจากไอ้ตัวเล็กนี่ไปไหนเลย เอื้อมมือไปกอดมันไว้ ผมหอมแก้มมันไปเต็มฟอด

" กูต้องคิดถึงมึงมากแน่ๆ ไอ้หัวหอม "

................................................................


“ อาขม ทำไม อาขมซื้อของเยอะจัง " คำถามของไอ้ตัวเล็กที่เอ่ยถามผมตอนที่เรากำลังซื้อของอยู่ในห้างด้วยกัน ผมเข็นรถไปเรื่อยๆ นอกจากจะเป็นของใช้ที่ต้องเอาไปแล้ว แน่นอนว่ายังมีขนมอีกซึ่งก็เยอะมาก เพราะทั้งไอ้ม่าน ไอ้มู่ แล้วก็ไอ้โมก็บอกว่าให้ซื้อไปเผื่อพวกมันด้วย เอาจริงๆ เดี๋ยวเค้าแวะตามจุดแวะพักก็ค่อยไปซื้อไปแดกไปแม่งจะไม่ดีกว่าเหรอวะ ลำบากให้กูขนไปให้อีก ไอ้พวกคุณหนูไร้มารยาทเอ้ย

“ เพราะว่าอาขมจะไปต่างจังหวัดน่ะ "

“ ต่างจังหวัด " มันทวนคำพูดของผมก่อนจะเอียงหน้ามอง " ต่างจังหวัดคืออะไรเหรอ อาขม "

“ คือไปที่อื่นน่ะ ไม่ใช่ที่นี่ "

“ อาขมจะไปไหน " มันถามเสียงเครือ " ให้กาลิคไปด้วยนะ "

“ ไปไม่ได้ อาขมไปทำงาน ไปทำงานของผู้ใหญ่ เอาเด็กไปด้วยไม่ได้หรอก "

“ แต่กาลิคจะไปกับอาขม กาลิคไม่อยากจะอยู่กับอาภาพ ให้กาลิคไปด้วยนะ อาขมอย่าทิ้งกาลิคไป " มันเอื้อมมือมาจับมือผม แววตาตกใจกลัวของมัน ทำให้ผมที่อยากจะอธิบายเรื่องนี้ให้จบๆไปหยุดลงไปทันที ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ผมลูบหัวมัน
 
“ อาขมไม่ทิ้งหัวหอมไปไหนหรอก ไม่ต้องกลัวนะ " ผมว่า " อยากจะกินขนมอะไรรึเปล่า ไหนเลือกเลย กินอะไรกันดี " พยายามเปลี่ยนที่พูดคุยกันอยู่ ไม่อยากจะให้มันรู้สึกกลัวอะไรไปมากกว่านี้ เผลอลืมนึกไปเลยว่า หัวหอมไม่ใช่เด็กที่ผมจะพูดออกไปตรงๆแบบนั้นได้ มันผ่านเรื่องการโดนทิ้งมา มันต้องกลัวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

“ เอาอันนี้ กาลิคจะกินอันนี้ "

“ โอเค ห่อนี้นะ " ผมหยิบขนมให้มัน จัดการซื้อของเรียบร้อยเราก็เดินกลับมาที่บ้าน วางถุงขนมลงบนโต๊ะ ผมแยกของที่จะเอาไปเที่ยวไปส่วนนึง ส่วนของที่บ้านก็ส่วนนึง ยื่นขนมให้หัวหอมที่ก็รับไปก่อนจะวิ่งไปนั่งดูการ์ตูนตรงที่ของมัน

“ กลับมาแล้วเหรอ " ไอ้ภาพเอ่ยถามผม มันเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางงัวเงีย เมื่อกี้ตอนกลับมาจากรับหัวหอมที่โรงเรียน  มันก็ขอขึ้นมานอนเลยเพราะง่วงมาก วันนี้ผมกับหัวหอมเลยไปกินข้าวนอกบ้านกันแค่สองคน

“ กูซื้อข้าวมาให้มึงแล้วนะ " เชิดหน้าไปที่กล่องข้าวมันพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปเอาช้อนแล้วเปิดข้าวขึ้นกิน

“ ซื้อของไปกาญครบแล้วเหรอวะ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับมันไอ้ภาพก็เงยหน้ามองผม

“ ทำไม ทำหน้าเหี้ยอย่างงั้น "

“ กูไม่รู้จะบอกหัวหอมเรื่องจะไปกาญยังไงวะ เมื่อกี้เกริ่นไป แม่งบอกกูจะทิ้งมัน จะพูดยังไงให้มันไม่เสียใจดีวะ ให้มันเข้าใจว่า เดี๋ยวกูกลับนะ ไม่ได้ทิ้งไปไหนสักหน่อย "

“ มึงรีบบอกเถอะ อีกสองวันก็ไปแล้ว "

“ มึงช่วยคิดหน่อยสิ ทำยังไงดี กูไม่อยากจะบอกมันอ่ะ ช่วยบอกให้หน่อยสิ " หันมองหน้ามัน ไอ้ภาพก็ทำท่านึกก่อนจะก้มลงกินข้าวต่อ เป็นท่าทีที่บอกถึงการช่วยเหลืออย่างยิ่ง

" โอ๊ย~ อิ่มสุดๆ " ไอ้ภาพว่าหลังจากกินข้าวที่ซื้อมาให้เสร็จไป มันเอาขยะไปทิ้ง ล้างช้อนของตัวเองก่อนจะเดินไปนั่งข้างหัวหอมที่ดูการ์ตูนอยู่ " ขอกินขนมด้วยคนสิกาลิค ได้มั้ย "

“ ได้ครับ " อีกคนพยักหน้ารับ มันสองคนนั่งดูการ์ตูนด้วยกันนิ่งๆจนจบ ภาพก็เอ่ยชวน

“ มาเล่นต่อเลโก้กันดีกว่ามั้ย "

“ ดีๆ กาลิคอยากเล่นอาภาพ เล่นกันนะ " หัวหอมพยักหน้ารับคำชวนก่อนจะวิ่งไปเอากล่องเลโก้ของตัวเองมาตั้งไว้บนโต๊ะ มันเทเลโก้ของมันลงบนโต๊ะก่อนจะเริ่มต่อ

“ เรามาต่ออะไรกันดี " ภาพถาม

“ กาลิคจะทำบ้านของกาลิค "

“ งั้นอาภาพทำบ้านของอาภาพด้วยละกันนะ "

“ ครับ แล้ว แล้วเราก็เอามาต่อกันนะ เป็นบ้านที่อยู่ใกล้ๆกันเลยนะอาภาพ เป็นภาพหลังใหญ่ๆเลย "

“ โอเคครับผม " นั่งมองทั้งไอ้ภาพ แล้วก็ หัวหอมต่อบ้านตัวเองอยู่นานจนเสร็จ " ของอาภาพเสร็จแล้ว "

" ของกาลิคก็เสร็จแล้วเหมือนกัน อาภาพดู บ้านกาลิคสวยมั้ย "

" สวยครับ " มันตอบ " งั้นคราวนี้กาลิคมานั่งนี่ อาภาพจะอธิบายบ้านของอาภาพให้ฟัง " อยู่ๆไอ้ภาพก็ดึงเจ้าตัวเล็กมานั่งบนตักมัน หยิบตุ๊กตาตัวเล็กๆในชิ้นเลโก้ขึ้นมาสามชิ้น " นี่บ้านของอาภาพ ที่บ้านของอาภาพ มี อาภาพ อาขม แล้วก็นี่กาลิค "

" ตัวเราเท่ากันเลย " หัวหอมบอก

" อื้ม เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ แล้วเราก็รักกันมากด้วย กาลิคเนี้ย ติดอาขมมาก " มันเอาเลโก้ตัวของผมไปกอดตัวของกาลิคไว้ " แต่กับอาภาพ กาลิคไม่ค่อยติด สงสัยจะไม่ค่อยรัก "

" ไม่นะ กาลิคก็รักอาภาพน้าาา "

" ชื่นใจจัง " มันก้มลงหอมแก้มอีกคนที่ยิ้มกว้าง " ทุกเช้า อาภาพกับอาขมต้องไปส่งกาลิคที่โรงเรียน แล้วอาภาพกับอาขมก็ต้องไปเรียนเหมือนกัน แล้วคราวนี้เวลาไปเรียนก็ต้องมีการบ้าน การบ้านที่นักเรียนทุกคนต้องกลับมาทำ "

" อาภาพๆ การบ้านของกาลิค กาลิคทำเสร็จแล้ว " เด็กน้อยบอก

" เก่งจัง " ไอ้ภาพหอมแก้มมันอีกที " การบ้านของอาภาพก็เสร็จแล้ว แต่ว่าการบ้านของอาขมยังไม่เสร็จนะสิ "

" งื้ออ ทำไมอาขมทำการบ้านไม่เสร็จละ " มันหันมาถามผม ที่ก็ยิ้มแห้งๆให้มัน เออออไปตามเรื่องราวของไอ้ภาพที่พูดออกมา แม้จะไม่เข้าใจว่าเกี่ยวอะไรกับผมก็เถอะ

" เพราะว่าการบ้านของอาขม ต้องไปทำที่อื่น ทำที่บ้านไม่ได้ อาขมก็เลยต้องออกจากบ้านไปทำการบ้านที่อื่น แล้วพอเสร็จแล้ว อาขมก็จะกลับมาหาเราเหมือนเดิม "

" แล้วกาลิคไปด้วยได้มั้ย "

" กาลิคไปไม่ได้ ถ้ากาลิคไปการบ้านอาขมจะเสร็จช้าขึ้น " ภาพบอก " เพราะงั้นกาลิคต้องอยู่ที่บ้าน คอยอาขมอยู่ที่บ้านกับอาภาพ เป็นเด็กดี แล้วอาขมก็จะรีบกลับมา กลับมาหากาลิค กลับมากอดแบบนี้เลย "

" แต่กาลิคอยากจะไปด้วย อาขมให้กาลิคไปด้วยไม่ได้เหรอ "

" ถ้ากาลิคไปแล้วอาภาพจะอยู่กับใครละ " มันว่าพลางทำหน้าเศร้า ในตอนนั้นผมก็เข้าใจได้ทันทีว่าเรื่องราวที่มันพูดขึ้นมานั้น เกี่ยวอะไรกับตัวผม มันคงกำลังช่วยผม อย่างที่ผมได้ขอร้องมันเอาไว้ " อาภาพก็คิดถึงกาลิคนะ อาขมก็ไม่อยู่กับอาภาพ แล้วกาลิคก็จะไม่อยู่กับอาภาพอีกเหรอ  "

" แต่ว่านะ...”

" อาขมจะรีบไปแล้วรีบแล้วมา " ผมเดินไปย่อตัวตรงหน้ามันก่อนจะบอก " ไม่หายไปไหนนานหรอก จะรีบไปแล้วรีบกลับมาหาหัวหอมแน่นอนเลย เพราะว่าอาขมน่ะนะ ก็คิดถึงหัวหอมเหมือนกัน " 

“ กาลิคอย่างอแงเลยนะ เข้าใจอาขมหน่อยนะ อาขมเค้าก็ไม่ได้อยากจะไป แต่ก็ต้องไปจริงๆ " ไอ้ภาพว่าพลางกอดมันไว้ แววตากลมสบสายตาผมก่อนจะหันไปมองภาพ " อยู่กับอาภาพสองคนแล้วคอยอาขมกลับมาหาด้วยกันนะ "

“ อาขม แค่ไปทำการบ้านจริงๆเหรอ ถ้ากาลิคไม่ไปด้วย อาขมจะทำเสร็จเร็วใช่มั้ย "

“ ใช่ อาขมจะทำให้เสร็จเร็วๆเลยนะ แล้วรีบกลับมาหาหัวหอม สัญญาว่าจะไม่ทิ้งแน่นอน แล้วจะโทรหาหัวหอมทุกวันเลย ดีมั้ย "

“ สัญญาแล้วนะ " นิ้วก้อยเล็กๆ ถูกยื่นออกมา ผมเกี่ยวก้อยนั้น ไว้แน่น

“ สัญญา ไว้จะซื้อของมาฝากนะ อย่าดื้อกับอาภาพละ "

“ ต้องกลับมาเร็วๆนะอาขม " มันบอกก่อนจะดึงตัวเองที่นั่งอยู่บนตักไอ้ภาพ มากอดผมไว้แน่น " กาลิคจะเป็นเด็กดี แล้วจะคอยอาขมอยู่ที่บ้านกับอาภาพนะ "

“ ครับผม " ก้มลงกอดตอบมันไว้ ผมผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไอ้ภาพที่ยกยิ้มเท่ห์อยู่แบบนั้น  ทั้งๆที่ตอนแรกคิดว่ามันจะไม่ช่วยแท้ๆ แต่ก็ต้องยอมรับละนะว่าเรื่องที่มันเล่าได้ผลจริงๆ แม้จะแอบแบ๊วจนอยากจะแซวว่าคนอย่างมันก็คิดอะไรแบบนั้นได้ด้วยก็เถอะ ไม่เข้ากับหน้าเอาซะเลย  “ ขอบใจนะมึง "

“ รีบกลับมาเร็วๆก็แล้วกัน " คำพูดของอีกคนที่ก้มลงไปต่อเลโก้ต่อ มันคงเขินที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้ แบบที่พูดกับหัวหอมให้ผมฟัง หูแดงๆของมันที่กำลังเขินจัด ชวนให้ผมยิ้มกว้าง

“ จ้าาา  "

“ ว่าแต่นะ อาขม เรื่องการ์ตูนที่อาภาพเล่าเป็นเรื่องจริงเหรอ " มันถามผมก็หลุดยิ้ม

“ เอ้า! นี่เล่าตั้งนานคิดว่าการ์ตูนเรอะ " ไอ้ภาพว่า มันก็กรอกตามองบน

" เรื่องจริงสิ ไอ้ตัวแสบ "

" งื้ออออออ งั้นไม่อยากจะให้ไปแล้ววววว ไม่ให้ปาย~ "

" สายไปแล้ว ตอบตกลงไปแล้วนี่น่า เสียใจด้วยนะไอ้ตัวเล็ก "

“ งื้อออออ ไม่ให้ไป " ก้มลงกอดมันจูบที่ข้างแก้มของมันที่ยิ้มกว้าง

" นี่ ไม่รู้จริงๆเหรอ ว่าเค้าพูดจริงน่ะ " ผมถาม อีกคนก็ส่ายหน้า

" ยู้ววววว " มันลากเสียงยาว " แกล้งอาภาพกับอาขมเฉยๆ " มือที่กอดผมไว้แน่นนั้นผมเอื้อมมือไปหยิกแก้มมันด้วยความหมั่นเขี้ยว

" แสบนักนะ แกล้งอาขมเหรอ "

" แต่ว่าอาขมต้องรีบกลับมานะ อย่าให้กาลิคกับอาภาพ คอยนานนะ คิดถึง " สายตากลมเงยหน้าขึ้นบอกผมก็พยักหน้ารับ

" จ้า รู้แล้วไม่ไปนานจนหัวหอมต้องคิดถึงหรอก "

" กูด้วย " เสียงทุ้มแย้งขึ้นมา ผมเงยหน้ามองมัน ไอ้ภาพก็เหลือบมอง หูแดงๆของมันแดงจัดก่อนจะเอ่ยบอก " อย่าไปนานจนกูคิดถึงละ "

" รู้แล้วละน่า ไปไม่น่าหรอก "  เพราะกูก็คงคิดถึงพวกมึงเหมือนกัน     

.............................................................................

พูดขนาดนี้แล้ว ก็ เป็นแฟนกันไปสักที สารภาพรักกันซะ!
ตอนแรกว่าจะเขียนแบบ หัวหอมอแงขึ้นสุด ส่งอาขมด้วยน้ำตา แล้วอาภาพก็แบบ เอาไม่ค่อยอยู่
เขียนไปเขียนมา ต้องลบตั้งตอน รู้สึกแบบว่า จากที่เขียนว่าหัวหอม ฉลาด พูดดีๆ ด้วยก็รู้เรื่อง
เลยคิดว่าแต่งให้มันน่ารักไปเลยดีกว่า แล้วพอแต่ง ก็ ดันออกมายาวมากกกกกกกกก ออกทะเลไปเลย เลยต้องตัดๆออกมา
อ่านไปก่อนเน้ออออ
หนมชอบเวลาหัวหอมพูด อยากหยิก เด็กอะไรพูดจาได้น่าหยิก คุณแม่ขมเลี้ยงลูกดีมากเลย
ส่วนพ่อภาพก็สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ รัก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สุดท้ายนี้ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตเตอร์ด้วย  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์นนะจ้าา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 07-05-2017 21:37:29
โอ๊ย!เขิน  :-[
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 07-05-2017 21:42:04
อยากให้เค้าสารภาพรักกันสักที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 07-05-2017 21:45:53
ความแฟนมาเต็มๆในตอนนี้  อุ้ยยยย...คิดถึงด้วยยคนสิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 07-05-2017 21:51:45
ขนาดนี้แล้วรีบ ๆ รักกันซะที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 07-05-2017 21:56:46
อุ้ย อาภาพเริ่มมีพัฒนาการแล้วล่ะกาลิค มีการบอกคิดถึงอาขม(แบบต่อหน้า)ด้วยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-05-2017 22:07:38
หัวหอม เป็นหัวใจของทั้งบ้านแล้วล่ะ
ภาพ เก่งมากมีวิธีพูดให้หัวหอมเข้าใจด้วย
กาลิค รู้จักแกล้งกลับด้วย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-05-2017 22:14:48
หัวโนไหมกาลิคเอ้ย อาภาพเล่นแรงเนอะ แบบนี้กาลิคต้องไม่ให้หอมแก้มไปสามวันเลย อิอิ
นี่ยังแอบบกังงวล จะอยู่กันรอดไหมสองพ่อลูก ถ้าอาขมไม่อยู่เนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 07-05-2017 22:20:39
รอดูพ่อภาพเลี้ยงเด็ก จะเป็นอย่างไรนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-05-2017 22:27:23
รอดูภาพเลี้ยงหัวหอม จะไปกันรอดไหม  :mew5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 07-05-2017 22:40:19
เขินแทนภาพเลย งุ้ยยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-05-2017 23:57:56
ตอนนี้น่ารักที่สุดเลย สกิลความน่ารักของหัวหอมนับวันจะมากขึ้นทุกที เด็กไรว่ะ น่ารักทะลุตัวหนังสือ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 08-05-2017 00:36:36
 :mew1: :mew1: :3123: :3123: :กอด1: :กอด1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 08-05-2017 00:55:12
 :katai2-1: :hao7: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-05-2017 02:57:34
เชียร์อัพคู่อื่นจัง คู่ตัวเองนี่นิ่งเชียว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 08-05-2017 06:05:46
เป็นแฟนกันเลยเหอะถึงขนาดนี้และอะ
ว่าแต่ตอนหน้าคุณแม่ขมไม่อยู่
ป๊ะป๋าภาพจะรับมือลูกกาลิคไหวมั้ยน้อ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 08-05-2017 06:32:13
นี่มันพ่อแม่ลูกชัดๆเลย
ตอนทำกาลิคหัวกระแทกนี่ก็ใจแป้วตามภาพเหมือนกันนะ อาขมไปต่างจังหวัดได้แล้ว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 08-05-2017 07:41:52
อยาแจะรู้ว่าคุณพ่อจะเลี้ยงลูกยังไงเมื่อคุณแม่ไม่อย๊บ้าน  ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 08-05-2017 08:50:20
อาภาพเอาอยู่ล่ะทีนี้ ฮ่าๆ แต่วันไปจริงๆต้องรอดูของจริง ฮ่าๆๆ
อาภาพหยอดอาขมอีกกกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 08-05-2017 08:58:30
หัวหอมเด็กดี พูดรู้เรื่องด้วย น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 08-05-2017 09:32:14
คุณพ่อจะเลี้ยงลุกยังไงนร้าา :z1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 08-05-2017 15:20:05
ครอบครัวอบอุ่นสุดๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 08-05-2017 18:19:35
 o13 o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 09-05-2017 19:57:33
กาลิคน่าร้ากกก ถ้ากาลิคกลับไปอาๆต้องเหงากันมากแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 10-05-2017 01:57:47
ขนาดนี้ สารภาพรักกันเถอะ 555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 25 - 7.5.60} #หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Nnjjntx ที่ 10-05-2017 15:53:06
 :กอด1: น่ารักมากเลยค่า เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
ชอบมากเลยยิ้มตามตลอด  ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 12-05-2017 20:27:25
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 26

   และแล้ววันจันทร์ที่ผมไม่อยากจะให้มันมาถึง ก็มาถึงจนได้ วันที่ไอ้ขมต้องไปงานที่คณะถึงสองวันหนึ่งคืน กระเป๋าสามใบของมันชวนให้ผมขมวดคิ้วงงๆ ว่านี่มันไป สองวัน หรือสองเดือนกันแน่ 

“ ก็มึงดู อันนี้เป้กูส่วนตัวใส่ของไปไหนมาไหน ส่วนกระเป๋าใบนี้ใส่ขนมกินในรถ ส่วนอีกใบก็เป็นเสื้อผ้า " ขมบอกแบบนั้นตอนที่เราช่วยยกของทั้งหมดไปใส่ไว้ที่หลังรถ

“ อาขม " เสียงเล็กที่ดูซึมไปถนัดตา กาลิคคว้ามือไอ้ขมไว้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถาม " สองวันหนึ่งคืนมันนานมั้ยครับ "

“ ไม่นานหรอก ก็แค่วันนี้ คืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ก็กลับแล้ว พรุ่งนี้อาขมกับหัวหอมก็ได้เจอกันแล้วนะ "

“ จริงเหรอครับ " ไอ้ตัวแสบพยักหน้ารับท่าทางเหมือนจะเข้าใจแต่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอก  เราเดินเข้าไปในรถ ขับรถไปส่งกาลิคที่โรงเรียนเป็นอย่างแรก ตอนที่จอดรถลงที่หน้าโรงเรียนไอ้ตัวเล็กมันก็หันมาถาม " กลับไปบ้านวันนี้ กาลิคจะไม่ได้เจออาขมใช่มั้ย "

“ ใช่ " ขมบอก ก่อนจะกอดมันไว้ " แต่ไม่เป็นไร มีอาภาพอยู่ด้วยทั้งคน วันพรุ่งนี้เราก็เจอกันนะ เข้มแข็งนะหัวหอม ไม่ร้องไห้นะ อยู่กับอาภาพก็เป็นเด็กดีละ "

“ ครับ " มันพยักหน้ารับ

“ แล้วอาขมจะซื้อขนมมาฝาก "

“ อาขม อาขมกลับมาหากาลิคไวๆนะ " ขมพยักหน้ารับมัน ก่อนจะเปิดประตูลงไปส่งมันที่โรงเรียนตามปกติ ผ่านไปสักพักมันก็กลับมาขึ้นรถด้วยท่าทางที่ดูแปลกไปของมัน ร่างบางก้มหน้าก้มตาพลางหันไปทางอื่น

“ ออกรถสิวะ "

“ มึงเป็นอะไร " ผมเอ่ยถาม แต่อีกคนก็ยังเบือนหน้าหนี ดึงไหล่มันให้หันมาเผชิญหน้ากัน ไอ้ขมที่ขืนตัวเองแบบนั้นผมคว้าเข้าที่ไหล่ทั้งสองข้างก่อนจะดึงมันให้หันมาจ้องหน้า แล้วผมก็หลุดขำออกมาทันที มันที่หน้าแดงกล่ำกับแววตาที่กำลังร้องไห้

“ ไม่ต้องล้อเลยไอ้เชี้ยยย " มันว่าเสียงเครือ " ก็กูไม่อยากไปอะ กูติดไอ้หัวหอม กูไม่อยากจะทิ้งมันไป กูอยากอยู่กับมัน "

“ ไอ้เชี้ย นี่มึงร้องไห้ " หลุดยิ้มออกมาทันทีตอนที่เห็นหน้ามัน ผลักหัวอีกคนที่น้ำตาคลอจนแทบจะไหลออกมาอยู่แล้ว " แค่สองวันหนึ่งคืนมั้ย "

“ มึงไม่เข้าใจหรอก! กูนอนกอดมันทุกคืน มันนอนข้างกูทุกวัน แล้วเมื่อกี้มันก็กอดกูแล้วบอกว่า ' เจอกันพรุ่งนี้นะอาขม กลับมาเร็วๆนะกาลิคจะเป็นเด็กดี ' ไอ้เหี้ยย!! ทำใจไม่ได้ ไม่ได้อยากไปแล้วสัด! " ประเด็นคือทำไมต้องดัดเสียงเป็นไอ้กาลิคตอนที่พูดถึงกาลิคด้วยวะ งง ผมยกยิ้มพลางส่ายหน้าออกรถจากโรงเรียนนานาชาติของไอ้ตัวเล็กไปที่มหาลัย

   จอดรถใกล้หน้าคณะของไอ้ขม รถทัวร์ขนาดใหญ่จอดอยู่หน้าคณะเพื่อนๆของมันที่เริ่มมากันแล้วแต่ก็ยังดูบางตาอยู่ อาจเพราะเรามาถึงเช้าไปหน่อย

“ ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับหัวหอม โทรถามกูได้ตลอดเวลาเลยนะ กูจะไม่ห่างจากมือถือเลย " ขมบอก ผมก็พยักหน้ารับ " หัวหอมน่ะเป็นเด็กที่ตื่นตอนเช้ามาจะงัวเงียไม่ค่อยยอมตื่น พยายามพูดกับมันดีๆนะ ตอนนั้นมึงอาจจะหัวเสียหน่อย แล้วตู้เสื้อของมันจะอยู่ริมสุดในห้องกู มีสติกเกอร์การ์ตูนติดอยู่ "

“ อันนั้นกูรู้แล้ว " ผมบอก อีกคนก็พยักหน้า

“ เหรอ งั้นอาหารเช้า เมื่อวานกูเพิ่งซื้อนมมา มึงแค่ทาช็อคโกเล็ตลงบนขนมปังให้มันกินกับนมแค่นั้นมื้อเช้า ส่วนตอนเย็นก็พาออกไปกินข้างนอกก็ได้ง่ายดี พยายามสั่งเนื้อน้อยๆนะ เลี่ยงของทอดก็ดี แล้วให้มันกินผักด้วยนะ "

“ ครับ "

“ แล้วก็ กลางคืนมันจะต้องทำการบ้านก่อน อาบน้ำ แล้วก็ ดูการ์ตูนอีกชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะเข้านอน ตอนที่นอนก็ ต้องอ่านการ์ตูนให้ฟังด้วยนะ แล้วให้มันหลับกับมึงนะ ไปนอนกันที่ห้องกูก็ได้ มันจะได้คุ้นๆ แล้วก็..”

“ นี่ขม " ผมเบรคมันที่กำลังจะพูดทุกอย่าง " ไม่เป็นไรหรอก มึงไม่ต้องกังวลหรอกนะ " เอ่ยบอกมันที่เงียบลงไปทันที ท่าทางที่ดูกังวลของมัน ขมคงกลัวว่าผมกับกาลิคเข้ากันไม่ได้ ขมสบตาผมในวินาทีต่อมามันผ่อนความกังวลใจนั่นลง อาจเพราะในแววตาของผมก็บอกมันอย่างที่ปากพูดคือ 'ไม่เป็นไร ผมจะทำให้ได้ และ ไม่ต้องกังวล '

“ แล้วอย่าหาเรื่องทะเลาะกันนะมึง เลิกแกล้งมันสองวันตกลงมั้ย "

“ ตกลงครับ " ผมบอก แต่ไม่คิดว่าจะทำได้หรอก กาลิคน่าแกล้งจะตายไป ตากลมๆ ชอบทำหน้ามุ่ยๆ เหมือนไอ้ขมตอนเด็กๆขนาดนั้นจะไม่ให้แกล้งได้ไง

“ มีอะไรโทรมานะ "

“ ครับผม มึงนี่ก็แพนิคนะสัด " ผมว่า ก่อนจะเอื้อมมือไปจับไหล่ " ไม่เป็นไร เดี๋ยวมีอะไรโทรหา เฟสทามเลยดีมั้ย "

“ ดี อย่าลืมละ " มันว่าก่่อนจะถอนหายใจ " งั้นกูไปละนะ "

“ พูดกับกูให้ดูแลไอ้กาลิคอย่างดีมึงเองก็น่าจะบอกไอ้กาลิคให้ดูแลกูด้วยนะ " มันนิ่งไปตอนที่ผมพูด ไอ้ขมหันมาหัวเราะ " กูบอกไว้แล้ว "

“ บอกว่า ? “

“ บอกมันให้ดูแลอาภาพดีๆ อาภาพขี้ลืม ลืมกินข้าวเย็นประจำ ข้าวเช้าถ้าไม่มีกูก็ไม่เคยได้แดกหรอก " ผมยิ้มกว้างออกมา พยักหน้ารับกับมัน เพราะมันก็เป็นแบบนี้ถ้าไอ้ขมไม่อยู่ ผมมักจะไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าไหร่หรอก ก็มีแต่มันนั่นแหละที่คอยเตือนนู้น เตือนนี่ให้ตลอดเวลา

“ เออ เดินทางปลอดภัยแล้วรีบกลับมา "

“ ครับผม ไปนะ " มันเปิดประตูรถออกไป ขนของทั้งหมดที่อยู่ข้างหลังรถไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ผมก็ขับรถออกจากหน้าคณะมาจอดที่ลานจอดรถของมหาลัย ถอยรถเข้าที่จอดเรียบร้อย หันไปมองรอบๆก่อนจะเจอเข้ากับอะไรอย่างที่คุ้นตา รถไอ้ขัดจอดอยู่ตรงข้ามกับผม ฟิล์มรถที่ไม่ได้เป็นฟิล์มดำอย่างกับรถของผม หรือรถของไอ้โม แล้วภาพที่ผมกำลังเห็นตอนนี้ คือมันที่กำลังจูบดูดดื่มอยู่กับคนรักของตัวเองที่กำลังจะไปต่างจังหวัดแค่สองวันหนึ่งคืน นั่งมองอยู่นานตอนที่มันผละริมฝีปากออกแล้วไล่จูบลงไปบนคอของอีกคน หน้าตาที่กำลังดูความสุขของมันทั้งคู่

“ เหมือนกำลังดูหนังโป๊เลยกู  " พูดกับตัวเองออกมาเสียงเบาๆ แต่ก็ละสายตาออกจากภาพตรงหน้าไม่ได้

   ผมเผลอจินตนาการถึงว่าถ้าภาพตรงหน้านั้นเป็นตัวเอง ตัวผมที่กำลังกระทำการแบบนั้นกับไอ้ขม มันที่กำลังอยู่ในอ้อมกอดของผม ไร้เสื้อผ้าเปลือยเปล่า เราที่กำลังกอดจูบกัน ไล่จูบลงมาที่คอและต่ำลงไปอีกจนถึงหน้าอก ดูดดึงยอดอกของมันก่อนจะ ดันส่วนกลางของตัวเองเข้าไป มือของมันที่กอดรอบคอผม แล้วขยับเชื่องช้าขึ้นลงอยู่บนร่างของผม ใบหน้าหวานที่แดงกล่ำพร้อมกับเสียงที่เอ่ยเรียกชื่อผม

   สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ผ่อนออกมาแล้ว ส่ายหน้าไปมาไล่ความคิดบ้าๆ พวกนั้น " ยังกับจะเป็นไปได้ " เกาหัวตัวเองเบาๆ ไอ้โมลงไปจากรถแล้ว ตอนนั้นไอ้ชัดก็เดินตามลงมา ผมเองก็เปิดประตูรถ

“ ไอ้ชัด " ผมทักอีกคนก็หันมาพยักหน้ารับ

“ ว่าไงมึง " ยกยิ้มให้มันอีกคนก็เดินเข้ามาใกล้

“ ติดฟิล์มใหม่มั้ยสัด " บอกแบบนั้นมันก็หัวเราะเบาๆออกมา

“ ก็ว่าจะไปติดวันนี้แหละ แล้วมึงละ "

“ กูทำไม "

“ เมื่อไหร่จะได้ทำแบบนั้นกับไอ้ขมในรถแบบกูบ้างละ "
 
“ ไอ้สัด " สบถออกมาเบาๆ ไอ้ชัดที่เดินยิ้มไปที่คณะเหมือนกำลังเยาะเย้ยผม ผมก็ได้แต่พูดในใจ 'เอาเป็นว่าให้มึงนำกูไปก่อนก็แล้วกัน'

   แต่ว่านะ ความสัมพันธ์ของกูกับขมมันไม่ได้บอกได้ง่ายๆ เหมือนมึงกับไอ้โมสักหน่อย เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ถ้าจะมาเสียเพื่อนที่รักที่สุดไป เพราะเรื่องแบบนั้น ใครมันจะไปยอมวะ

..........................................................

   ขับรถมารับกาลิคที่โรงเรียนหลังเลิกเรียน วันนี้ตัดสินใจมาเร็วกว่าปกติเพราะไอ้ขมโทรมาบอกว่า อย่าให้กาลิคต้องคอยมันไม่อยากจะให้กาลิครู้สึกว่าตัวเอง โดนทิ้ง เลยต้องให้ผมพยายามอยู่ใกล้กาลิคให้มากที่สุด นึกถึงคำพูดของมันที่โทรมาบอกเสียงเบาๆด้วยเรื่องแค่นี้ก็ทำได้แค่ส่ายหน้า

" ความเป็นแม่สูงซะจริง " บ่นกับตัวเองออกมาเบาๆ ผมลงจากรถออกไปนั่งรอที่หน้าทางเข้า รอสัญญาณเลิกเรียนก่อนที่พ่อแม่ที่มานั่งคอยอยู่ใกล้ๆจะทยอยเข้าไปรับบุตรหลานของตัวเอง

   ผมเดินเข้าไปยืนรอที่หน้าห้องเรียนของกาลิคที่ในตอนนั้นมันที่หันมามองผมพอดี กาลิคยิ้มกว้างก่อนหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นสะพายบอกลาเพื่อน สวัสดีคุณครูแล้วก็เดินออกมาจากห้องเรียน

“ อาภาพ สวัสดีครับ " มันเรียกก่อนจะก้มลงไหว้ ผมก็ย่อตัวลงแล้วดึงมันมากอดไว้

“ สวัสดีครับ คิดถึงจังเลย คิดถึงอาภาพมั้ย "

“ คิดถึงครับ แล้วก็คิดถึงอาขมด้วย "

“ เหรอ งั้นกลับบ้านกัน วันนี้มีการบ้านมั้ย " ผมถาม เด็กน้อยก็พยักหน้ารับ

“ มีครับ มีสองหน้า "

“ งั้นกลับบ้านไปทำอะไรกันก่อนดี "

“ กินข้าววววว " กาลิคบอก ท่าทางวันนี้มันดูไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่เลยหรือว่าผมคิดไปเอง อาจเพราะเวลามันอยู่กับไอ้ขมมันพูดมากกว่านี้ แถมยังทำตัวขี้อ้อนอีก แต่พออยู่กับผมสองคน กาลิคจะนิ่งๆ อาจจะไม่ถึงกับพูดน้อยแต่ก็ไม่ค่อยขี้อ้อนช่างพูดเหมือนตอนอยู่กับไอ้ขมหรอก

“ งั้นก็ไปกินข้าวกันก่อน วันนี้อยากจะกินอะไร " เอ่ยถามมันตอนที่เปิดประตูรถให้อีกคนที่เข้าไปนั่ง หันมองดูซ้ายขวาก่อนจะผ่อนตัวเอนหลังลงกับที่นั่ง ผมเปิดประตูฝั่งคนคนขับตอนที่ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาด เด็กน้อยก็เอ่ยถาม

“ อาภาพ อาขมละ อาขมไปทำการบ้านแล้วเหรอ " กาลิคหันมาถามผมก็พยักหน้ารับ

“ ใช่แล้ว พรุ่งนี้กลับนะ "

“ แล้วพรุ่งนี้ พรุ่งนี้อาขมจะมารับกาลิคที่โรงเรียนมั้ย "

“ อาภาพไม่รู้ว่าอาขมกลับมากี่โมง แต่ว่าถ้าอาขมมาก่อนโรงเรียนเลิก อาภาพจะพาอาขมมารับกาลิค แล้วถ้าอาขมถึงทีหลัง อาภาพจะพากาลิคไปรับ อาขมดีมั้ย "

“ ดีครับดี " มันพยักหน้ารับแบบกระตือรือร้น

“ แล้วตกลงจะกินอะไรกันดี "

“ อาภาพ อาภาพ " มันเรียกผมเสียงเบา " กาลิคอยากจะกินเคเอฟซีกับแป็ปซี่แบบที่เราเคยกินกันวันนั้น วันที่อาภาพบอกกาลิคว่า ไม่ให้บอกอาขมว่ากินอะไร กาลิคจะกินแบบวันนั้นอีก กาลิคอยากกิน เราไปกินกันนะ " ชิบหาย.. ผมสบถออกมาในใจเบาๆ เด็กมันก็ช่างรู้นะ ว่าของแบบนั้นต้องกินตอนไอ้ขมไม่อยู่ " นะ อาภาพนะ ไปกินกันนะ "

“ ขอคิดก่อนนะ " ทำไงดีวะ ไอ้ขมสั่งไว้ว่าให้กาลิคกินผักด้วย นี่ถ้ามันกลับมาแน่นอนมันต้องถามแน่ว่าไปกินอะไรกันมา แล้วสุดท้ายความลับแม่งก็แตกเหมือนเดิม  แต่ถ้าตอนนี้ไม่ตามใจมัน ขืนมันงอแงแม่งก็จบกันตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่อยู่ด้วยกันนี้แน่ๆ " อาภาพไม่อยากกินอะ " ตัดสินใจบอกออกไป อีกคนก็ทำหน้าเศร้าลง ท่าทางที่ชวนให้ผมอยากจะเปลี่ยนใจให้เป็นไปตามใจมันต้องการแทบจะทันที เสียงในใจของผมมันดังขึ้นตอนที่มองตากลมๆที่ส่งมาออดอ้อนผมแม้จะรู้ว่า ของไม่ดีกินไม่ได้ ' แต่แม่งก็นานๆทีไม่ใช่เหรอวะ ที่เราได้กินกัน '

“ อาภาพ นะๆ ไปกินกันนะ น้าาา "

“ เดี๋ยวถ้าอาขมถามว่าไปกินอะไรกันมา มึงก็บอกอีกว่าไปกินไก่เคเอฟซีมา "

“ ไม่บอกๆ กาลิคจะไม่บอกอาขม นะๆ อาภาพไปกินกันนะ " ผมมองหน้ามันที่กำลังเอาตากลมๆ ที่สุดแสนจะน่ารักนั่นจ้องมองมาทางผมที่กำลังข่มจิตข่มใจอย่างถึงที่สุด " อาภาพครับ น้าา น้าาา อาภาพ น้าาาาา " เสียงที่ยิ่งอ้อนยาวๆมือเล็กๆที่เอื้อมมือจับแขนผมแล้วเขย่าเบาๆ ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างอ่อนแรงแล้วในที่สุด

“ ตกลง ไปกินกันก็ได้ " โอเค กูพ่ายแพ้ให้มึงแล้วกาลิค อย่าอ้อนกูมากกว่านี้เลย ยังไงสุดท้ายกูก็ต้องยอมพามึงไปกินของแบบที่มึงอยากกินอยู่ดี แล้วปลอบตัวเองแค่ว่า เอาวะ ยังไงทูน่าคอร์นสลัดแม่งก็เป็นผักเหมือนกันอะ

   จัดการสั่งไก่เคเอฟซีแบบครบเซ็ตมาหนึ่งเซ็ต ก่อนจะสั่งข้าวเปล่ามาให้กาลิคจานนึง งดสั่งแป็ปซี่แล้วก็กินกันแค่น้ำเปล่าแต่มันก็ยังเอ่ยถาม " อาภาพแล้วน้ำแบบที่เรากินกันวันนั้นละ "

" วันนี้เค้าไม่ขาย " ผมบอก " วันนี้ขายแค่น้ำเปล่า "

" จริงเหรอ " มันเอียงหน้าถาม ผมก็พยักหน้ารับ

" จริงสิ อีกอย่างนะ พี่คนขายเค้าไม่ให้ขายของแบบนั้นให้เด็กหรอก " หันไปยิ้มให้เธอ กาลิคก็เอียงหน้างง " ไม่เชื่อถามพี่เค้าสิ "
" จริงเหรอครับพี่คนขาย " มันถาม เธอก็พยักหน้ารับ เออออไปตามเรื่อง

" แต่วันนั้นกาลิคยังมาซื้อเองได้เลย " อีกคนเถียง

" เค้าเพิ่งออกกฏใหม่น่ะนะ เอาน่า อย่ากินเลย กินน้ำเปล่าดีกว่านะ ไปกินข้าวกัน ไป " ยกถาดเดินมานั่งที่โต๊ะ เด็กน้อยที่มีใบหน้าเซ็งนิดหน่อยแต่มันก็นั่งกินแบบว่าง่าย ยังไงถ้าเป็นเคเอฟซีกาลิคก็สู้ตายละนะ ส่วนกูถ้าไอ้ขมรู้ก็ตายเหมือนกัน สู้ไม่ได้ด้วย

   นั่งกินข้าวกันจนเสร็จ ตบท้ายด้วยไอติมโคนที่ร้านอีกหนึ่งอัน มือเล็กที่กำลังจับมือผมแกว่งไปมาเบาๆด้วยความรู้สึกมีความสุขที่ก็ได้กินของที่ตัวเองชอบทั้งนั้น ผมมองไปที่เบื้องหน้าเราที่กำลังจะเดินถึงร้านขนมประจำของมัน และผมก็รู้สึกว่าหายนะกำลังมาเยือนอีกครั้ง

' รู้งี้น่าจะพามันมันเดินออกอีกทาง '

“ อาภาพ กาลิคซื้อขนมได้มั้ย " นั่นไงกูว่าแล้ว ซื้อหวยทำไมไม่ถูกบ้างวะ แววตากลมๆที่หันมาอ้อนกันเหมือนเดิม ผมหยุดนิ่งก่อนจะสูดลมหายใจ คราวนี้ก็ต้องลองใจแข็งดูสักครั้ง

“ ไม่ได้นะ ขนมที่เอาไปที่โรงเรียน อาขมก็ซื้อเตรียมไว้ให้ที่บ้านแล้วไม่ใช่เหรอ " ผมถามอีกคนก็ก้มหน้าลง คือทำไมกับไอ้ขมมึงไม่เห็นเป็นอะไรแบบนี้วะ ทำไมต้องเป็นกับกูด้วย ทีไอ้ขม พอไอ้นั่นบอก ไม่ได้ ก็คือไม่ได้  แล้วทำไมกับกู..

“ ก็ใช่นะ แต่ว่าอาภาพพพ " คือตรงชื่อกูนี่ ไม่ต้องลากเสียงอ้อนก็ได้นะ .. ใจกูบาง  " กาลิคไม่อยากจะกินขนมที่อาขมให้ไป กาลิคอยากจะซื้อใหม่ อยากจะกินอันนี้ " มันชี้ไปที่ตู้ขนม

“ ทำไมพอมากับอาขมไม่เห็นอยากจะได้บ้างเลย ทีพอมากับกูนี่อยากจะได้ตลอดเลยนะ " นี่ถ้ามากับไอ้ขมบอกเลยว่า ไม่มีทางได้หรอก แต่ถ้ามากับผมแล้วละก็..

“ ก็อาภาพใจดี นะ อาภาพนะ กาลิคอยากจะกินขนมใหม่ๆ อยากกินอันนั้น นะๆ "

“ ก็ได้ แต่แค่กล่องเดียวนะ แล้วเอาไปกินที่โรงเรียนด้วย "

“ ครับ " มันพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มกว้าง แล้ววิ่งไปหยิบขนมของตัวเองมากล่องนึง แต่ยังไม่ทันจะจ่ายเงินมือเล็กๆก็หันไปสนใจเยลลี่แบบที่ไอ้ขมชอบกิน " อาภาพ ทำไมอาภาพไม่ซื้ออันนี้ไปให้อาขม อาขมชอบ "

“ ไว้ค่อยให้อาขมมาซื้อเองก็ได้ " ผมตอบ

“ แต่ว่า อาขมจะดีใจนะ ถ้าซื้อไปให้น่ะ อาขมจะดีใจม๊ากมากเลยนะ " มันว่าผมก็ส่ายหน้า ก่อนจะยื่นเงินให้มัน

“ ไม่ต้องเลยมึงกาลิค กูรู้ว่ามึงจะให้กูซื้อเพราะจะได้อ้อนขอกิน " ผมยกยิ้ม ดีใจรู้ทันเด็ก " เอาเงินไปจ่ายแค่ค่าขนมตัวเองเท่านั้นพอ ไปเลย " มันทำหน้ามุ่ยไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่ผมรู้ทัน กาลิคที่จ้องมองผมหันหน้าหนีทันทีคราวนี้กูจะไม่เหลือช่องว่างให้มึงมาออดอ้อนอะไรกูอีก กูจะใจแข็ง กูจะแพ้มึงไม่ได้ คราวนี้กูจะไม่แพ้!!

“ อาภาพตังค์ทอน " กาลิคยื่นเงินทอนมาให้ ก่อนจะสอดมือเข้าไปในมือผม มันที่เงยหน้าขึ้นมาบอก " กลับบ้านกันนะ "

“ โอเค ไปกัน " เดินกลับมาที่คอนโด ระหว่างที่กำลังขึ้นลิฟต์เจ้าตัวเล็กก็หันมาบอก

“ อาภาพ อาภาพ กาลิคจะไม่บอกอาขมว่าวันนี้กาลิคไปกินไก่ที่อาขมไม่ให้กินนะ "

“ แล้วถ้าอาขมถาม จะบอกว่ากินอะไรกันดีละ " ผมถามอีกคนก็เอียงหน้าคิด

“ บอกว่าอะไรดี "

“ นั่นนะสิ แล้วถ้าเป็นมึงจะบอกว่าอะไรละ "

“ บอกว่ากินข้าวเฉยๆ ได้มั้ย "

“ แล้วถ้าอาขมถามว่า ' กาลิควันนี้กินข้าวกับอะไร ' มึงจะตอบว่าอะไรดีละ "

“ กินกับไก่ "

“ ไก่อะไร " ผมถามต่อ

“ ไก่ทอด " มันว่า ผมก็หลุดยิ้ม

“ ไก่ทอดยังไงอะ เคเอฟซีเปล่า "

“ เปล่าน้าา " มันโบกมือไปมาปฎิเสธราวกับตัวผมเป็นไอ้ขมที่ถามมัน " ไม่ๆ อาภาพอย่าถามแบบนี้ อาขมไม่ถามแบบนี้หรอก ไม่หรอกนะ ไม่ต้องถามว่าเคเอฟซีรึเปล่า ไม่ถามแบบนั้น "

“ ไม่ต้องโกหกหรอก " ผมย่อตัวลงนั่งตรงหน้ามันอีกคนก็ขมวดคิ้วงง " ถ้าโกหก เราก็ต้องคิดคำตอบที่โกหกออกไปเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายก็ต้องพูดความจริงออกมาอยู่ดีนั่นแหละ มึงพูดความจริงดีกว่านะ ถ้าอาขมถามก็บอกว่า ไปกินข้าวกับไก่เคเอฟซีมา "

“ แต่ว่า ถ้าบอกแบบนั้น อาขมจะดุอาภาพ " มันว่าเสียงอ่อนผมก็ยื่นมือไปลูบหัวมัน

“ แล้วไงละ ถ้าเราทำผิด เราต้องยอมรับผิดสิ ไม่เป็นไรหรอก ลูกผู้ชายน่ะ กล้าทำต้องกล้ารับนะ "

“ แล้วลูกผู้หญิงละ ลูกผู้หญิงถ้ากล้าทำไม่ต้องกล้ารับเหรอ " หลุดขำออกมากับพูดของมัน จะว่าไปก็จริงของมันแล้วผู้หญิงละ

“ ทั้งลูกผู้ชาย ท้งลูกผู้หญิงนั่นแหละ กล้าทำต้องกล้ารับนะ "

“ ถ้าอาขมถามว่ากินอะไร ก็ต้องบอกว่ากินไก่เคเอฟซีใช่มั้ยครับ เพราะว่ากาลิคเป็นลูกผู้ชาย แล้วก็เป็นเด็กดีด้วย เด็กดีต้องไม่พูดโกหก "

“ ใช่แล้ว " พยักหน้ารับกับมัน จะว่าไปเมื่อก่อนตอนพามันไปกินครั้งแรก เพราะกลัวไอ้ขมโกรธสุดท้ายก็สอนให้มันโกหก พอหนนี้มันเองก็คงรู้ว่าต้องโกหกอีกเลยพูดออกมาแบบนั้น " ต่อไปนี้เราจะไม่โกหกแล้วนะ ดีมั้ย มาพูดความจริงกันดีกว่า "

“ ดีครับ " กาลิคพยักหน้ารับ เราขึ้นมาถึงห้องของตัวเอง เปิดประตูเข้าไปอีกคนก็วิ่งตรงไปที่หน้าทีวี เปิดกระเป๋าของตัวเอง เอาขนมใส่ลงไปในกระเป๋าแล้วเอาถุงไปเก็บแบบที่ไอ้ขมสอนทุกอย่าง " อาภาพกาลิคจะทำการบ้าน ทำการบ้านเสร็จก็จะอาบน้ำครับ "

“ โอเค ตามสบายเลย " หนังสือของมันถูกกางออกมา การบ้านของกาลิคส่วนใหญ่จะไม่มีอะไรมาก ก็แค่โยงเส้นจับคู่ ไม่ก็หาความแตกต่าง ตบท้ายด้วยการระบายสีซึ่งก็เป็นอะไรที่มันชอบมาก

   หย่อนตัวเองลงนั่งดูมันทำการบ้านซึ่งก็ถูกทุกข้อไม่มีข้อไหนผิดเลย กาลิคระบายสีงานของตัวเองไปเรื่อยๆ มันทำอยู่ไม่นาน จนกระทั้งงานทั้งหมดนั่นเสร็จ

“ เสร็จแล้วครับ " กาลิคหันมาบอก ผมก็พยักหน้ารับ

“ งั้นก็ไปอาบน้ำกันเถอะ อาบน้ำด้วยกันเลยไป " ลุกขึ้นเต็มความสูงอุ้มมันขึ้นมาก่อนจะพาเดินไปที่ห้องน้ำในห้องไอ้ขม ผมถอดเสื้อผ้าไอ้กาลิคเองก็ด้วย เราเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกัน ผมเปิดฝักบัวก่อนจะฉีดน้ำจ่อไปที่หน้ามันอีกคนก็ยิ้มหัวเราะออกมาแบบถูกใจ

“ อาภาพอย่าแกล้ง " มันลูบหน้าตัวเองไปมาก่อนจะสะบัดน้ำใส่ตัวผม " นี่แหน่ะๆ แกล้งกาลิค " ผมย่อตัวลงล้างตัวให้มันก่อน แล้วถึงจะลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วล้างตัวตามมัน กาลิคกดสบู่ของตัวเองมาถู ก่อนจะใจดีกดมาถูที่แขนให้ผมด้วย " อาภาพ กาลิคจะอาบน้ำให้นะ แต่อาภาพต้องนั่งลง "

“ ทำไมต้องนั่งละ " ผมหันไปถาม

“ ก็อาภาพสูง ไม่งั้นจะถูๆไม่สะอาด " พยักหน้ารับคำพูดของมัน ผมย่อตัวลงอีกคนก็ถูสบู่ให้จนทั่วหลัง " อาภาพ หลังอาภาพกว้างมากเลย "

“ ถูให้ทั่วหลังนะ  " หันหลังให้มันถูสบู่ให้ที่หลังก่อนที่ผมเองจะสบู่ถูให้มันด้วย กลัวมันอาบน้ำให้ตัวเองไม่สะอาด " คราวนี้ก็ล้างน้ำให้สะอาด " ล้างน้ำให้มันจนสะอาด ก่อนจะล้างให้ตัวเองแล้วกดแชมพูออกมาให้มัน " อะ สระผมด้วย "

“ สระผม สระผม " มันว่าก่อนจะหมุนตัวเองไปมาตอนที่ผมสระผมให้กาลิคที่หันมายิ้ม " อาภาพต้องอาบน้ำให้สะอาดๆนะ อาขมสอนไว้ "

“ เหรอ " มือเล็กกดแชมพูออกมาจากขวด ก่อนจะยืดขึ้นสุดแขนหมายจะสระผมให้ผม

" อาภาพ ย่อตัวลงมา กาลิคจะสระผมให้ "

" ไมต้องหรอก กูสระแล้วเมื่อวาน "

" ไม่ได้นะ ต้องสระ เดี๋ยวผมไม่หอม อาขมบอก "

" อ้างอาขมอยู่นั่นอะ " ผมว่าอีกคนก็ทำหน้ามุ่ย

" ย่อตัวลงมาสระผมเลยนะ อยากเป็นเด็กไม่ดีเหรอ " โอ๊ยมีขู่ ท่าทางนี่เหมือนไอ้ขมไม่มีผิด ยังกับก๊อปกันมา รู้เลยว่าปกติถ้ากาลิคดื้อมันจะพูดอะไรกับอีกฝ่าย

" น่ากลัวจัง "

" อาภาพอ่าาาา ย่อตัวลงมาเลย อาภาพสระผมให้กาลิคแล้ว คราวนี้กาลิคก็ต้องสระผมให้อาภาพคืน " อยากจะเล่นมากกว่า ผมพูดในใจพลางส่ายหน้าแต่ก็ยอมย่อตัวเองลงให้มันสระผมให้

   เราสลับมือกับสระผมให้กันและกัน กาลิคที่หัวเราะชอบใจ มันคงอยากจะทำเหมือนไอ้ขม เวลาที่จัดการอะไรต่างๆนานาให้มัน

" กาลิค ปกติอาบน้ำกับอาขมรึเปล่า "

“ ไม่ครับ " มันส่ายหน้า " อาขมจะอาบน้ำให้กาลิคเฉยๆ บางทีก็ยืนดู ให้กาลิคอาบให้เสร็จ ไม่ได้อาบด้วยกันแบบอาภาพ แบบนี้ "

“ เหรอ "

“ อาขมบอกว่า อาขมเขิน อาขมไม่อยากจะโป๊ อาขมบอก " มันว่าผมก็ยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะยืนเต็มความสูง จัดการถูสบู่ให้ตัวเองใหม่อีกรอบเพื่อความสะอาด

   พลางเหลือบมองไอ้ตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า มันก็จ้องมองส่วนกลางของผม ก่อนจะก้มลงไปมองของตัวเอง ท่าทางที่กำลังนึกอะไรสักอย่างอยู่ มันเงยหน้ามองส่วนกลางของผมสลับกับของมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือที่กำลังจะเอื้อมจับ

“ ทำอะไร! กาลิค! “ เสียงที่ชวนให้อีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก มันยิ้มออกมาก่อนจะโบกมือโวยวาย

“ อาภาพตกใจหมดเลย!!  แกล้งกาลิคอีกแล้ว จะฟ้องอาขม “

“ ฮ่าๆ อะไร มึงมองกูก่อนนะ มองอะไร มีอะไรน่าสงสัยเหรอ "  ผมถามยิ้มๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันสงสัยอะไร

“ สงสัยว่าทำไมหนอนของอาภาพตัวใหญ่จัง แล้วทำไมหนอนของกาลิคตัวเล็กนิดเดียวเอง " มันว่าก่อนจะจับของตัวเองด้วยความสงสัย " แล้วทำไม อาภาพมีผมที่หนอนด้วยละ "   เอิ่อม... กูเริ่มเข้าใจละ ว่าทำไม ไอ้ขมไม่ยอมอาบน้ำกับกาลิค ขนาดจะถามเรื่องตรงนั้นแม่งยังคิดคำถามออกมาได้โคตรน่ารักเลย จากเรื่องหื่นๆเป็นเรื่องน่ารักไปละ เด็กหนอเด็ก " อาภาพ ทำไมเหรอ บอกหน่อย บอกๆ " มันเอื้อมมือมาเขย่าเรียกผมตอนที่เห็นว่าเงียบไปสักพักแล้ว

“ ก็เพราะว่า..” ผมก้มลงมองดูส่วนกลางของตัวเอง กำลังคิดว่าจะตอบว่าอะไรดีให้ดูน่ารัก สำหรับวัยมันที่อยากรู้ อยากเห็น

“ ก็เพราะว่า..” กาลิคพูดตาม ก่อนจะเอียงหน้ามองผม

“ ก็เพราะว่าของกาลิคมันยังเป็นน้องหนอนอยู่ยังไงละ ยังไม่โตเต็มวัย "

“ น้องหนอนเหรอครับ "

“ ใช่ เพราะกาลิคยังเด็กมันเลยยังเป็นน้องหนอนอยู่ ส่วนอาภาพน่ะ อาภาพโตแล้วก็เลยเป็น พี่หนอนแล้ว พี่หนอนพอโตมันจะมีผมละ "

“ งั้นถ้ากาลิคตัวโตเท่าอาภาพ น้องหนอนของกาลิคก็จะ ตัวโตเท่าอาภาพแล้วก็จะมีผมด้วยใช่มั้ยครับ "

“ ถูกต้อง อย่างงั้นเลย " ผมพยักหน้ารับ อีกคนก็พยักหน้ารับเข้าใจก่อนจะเอื้อมมือไปลูบส่วนกลางของมันเองพลางบอกด้วยเสียงน่ารัก

“ โอ๋ๆ ยังเล็กอยู่นะ ยังเป็นน้องหนอนอยู่เลย น้องหนอนนน แต่อีกเดี๋ยวก็จะโตนะ โตไปพร้อมๆกาลิค ไม่ต้องกลัวนะ " เสียงใสๆลากเสียงเบาๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม แล้วชี้ไปที่ส่วนกลางของผม " อันนี้พี่หนอน ส่วนอันนี้ น้องหนอน  "

“ อะนะ " ผมพยักหน้ารับ " จะว่าแบบนั้น ก็คงจะใช่อยู่ละมั้ง "

   แล้วนี่ถ้าไอ้ขมกลับมา ชีวิตกูต้องโดนอะไรบ้างเนี้ย นอกจากเคเอฟซีแล้ว ยังมีความรู้ผิดๆเรื่องน้องหนอนไรนี่อีก ตายแน่ภาพเอ้ย มึงตายแน่ๆ

..............................................................

มันก็จะมีความน่ารักแบบพ่อลูกอยู่หน่อยๆ
แม่ขมไม่อยู่ การเลี้ยงลูกของพ่อภาพ ก็เป็นแบบนี้แหละ
ทำไมกาลิคถึงเป็นเด็กที่น่ารัก น่าเอ็นดู และน่าฟัด อะไรกันขนาดนี้ แล้วนี่ คือพ่อภาพ..
ขนาดนี้ ก็ยังจะไม่สารภาพรักแม่ขมอีก งั้นเหรอคะ #แซว แต่เราก็เข้าใจในความเป็นเพื่อนอะเนอะ
โอเค เจอกันตอนหน้า คิดถึงแม่ขมแล้ววววว กลับมาได้แล้วววว
ใครมีทวิตฝากแท็ก #มมชลก โปรโมตนิยายให้น้องหนมทีนะคะ กาลิคจะได้มีคนเข้ามารักมาหลงเยอะๆงี้ ฝากแชร์ ฝากไลค์ในเพจด้วยไรด้วย
มันก็จะมีความขายของอยู่หน่อย โอเค สุดท้ายนี้ เจอกันตอนหน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-05-2017 20:44:36
 :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:
พี่หนอนกับน้องหนอน


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-05-2017 21:13:08
มันน่ารัก มุ้งมิ้ง ตะมุตะมิ ทุกสิ่งอย่างจริงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-05-2017 21:35:03
 o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 12-05-2017 21:50:05
555 อย่าปล่อยคุณพ่อไว้กับคุณลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 12-05-2017 21:55:07
ขำพ่อภาพ พ่อบ้านใจกล้ามาก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-05-2017 22:03:53
ขม คิดถึงหัวหอมแล้ว ยังไม่ทันได้เดินทางเลย
สั่งเสียภาพซ้า เรื่องการดูแลหัวหอม
ขมต้องคิดถึงหัวหอมมากๆเลยเพราะนอนกอดหัวหอมทุกคืน

หัวหอม ก็คิดถึงอาขม พอขมไม่อยู่ ก็เริ่มทำสิ่งที่ขมห้ามเลย
ภาพ เตรียมตอบคำถามได้และ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 12-05-2017 22:21:02
กาลิ๊คคคคคคคคคคคค  :laugh:

ภาพสู้ๆนะ 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 12-05-2017 22:56:17
ทั้งพ่อทั้งลูก  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 12-05-2017 23:22:11
โอ้ย น่ารักอ่ะ เอ้า พี่หนอน น้องหนอน คืนนี้นอนห้องไหนดี
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 12-05-2017 23:25:10
งานนี้ถ้าแม่ขมกลับมาไม่รู้พ่อภาพจะโดนอะไรบ้าง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 12-05-2017 23:34:54
5555 กาลิคน่ารักก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 13-05-2017 03:31:43
ตายยยน่ารักกกกมากก
พ่อลูกกกกกก
555555
น้องหนอน กับพี่หนอน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 13-05-2017 06:54:19
น้องหนอนกับพี่หนอน เข้าใจคิดนะภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 13-05-2017 07:38:00
เหมือนครอบครัวเข้าไปทุกที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-05-2017 09:42:48
 :mew1: :mew1: :3123: :3123: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 13-05-2017 09:45:27
ภาพก็สอนกาลิคได้ดีนะ แต่ต้องหัดใจแข็งให้มากกว่านี้

เพราะกาลิคอ้อนเก่งมากกกกก  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 13-05-2017 16:22:42
555555 กาลิคช่างพูดช่างถามนะ น่าฟัดจริง

โอ๋ๆนะ ขม ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง สั่งงานเหมือนไปเป็นปี
ภาพตลกละ รอดอยู่เนาะ แค่ใจบาง บางเวลาแค่นั้นเอง

อยากทำแบบนั้นในรถบ้างก็รีบหาทางบอกนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 13-05-2017 17:39:46
นี่มันวิถีพ่อคนชัดๆ แมนๆคุยกัน อยากรู้อะไรถาม อาภาพบอกได้หมด  :laugh: :laugh: :laugh: เรื่องน้องหนอนกับพี่หนอนอย่าวไปพูดให้อาขมฟังนะหัวหอม เดี๋ยวอาขมความดันขึ้น(?)   :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 13-05-2017 18:25:48
เลี้ยงเด็กค่อดน่ารักเลยอาภาพพพ   o18
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 13-05-2017 18:51:17
รอดูตอนขมกลับมา 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-05-2017 21:17:27
น่ารักเกินไปล้าววว แต่รู้สึกเหมือนจะเปงลูกขมเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-05-2017 23:28:52
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-05-2017 23:41:20
 :pigha2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 14-05-2017 00:46:29
พี่หนอน กับน้องหนอน น่าร๊ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 14-05-2017 09:13:43
จริงๆ เรื่องกินไก่น่าจะไม่โดนดุเท่าไหร่แต่เรื่องพี่หนอนน้องหนอนนี่ขมน่าจะลมจับ 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: คุณจัตวา ที่ 14-05-2017 09:43:47
 :hao7:อาภาพคิดได้ไงพี่หนอนกับน้องหนอนเนี้ย         ขำจนท้องแข็งแล้ว :o8: :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 14-05-2017 10:26:07
อันนั้นน้องหนอนส่วนอันนั้นพี่หนอน 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 14-05-2017 11:13:54
พ่อเลี้ยงลูกได้น่ารักเชียว 55 :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 26 - 12.5.60} #หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 14-05-2017 13:42:11
พี่หนอนกับน้องหนอน555555 น้องหนอนโตไปด้วยกันกับกาลิคนะ โอ้ยยยย น่ารัก อยากฟัดแก้มกาลิค :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 14-05-2017 20:26:01

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 27

   ห่อตัวกาลิคด้วยผ้าขนหนูแบบมัมมี่น้อยออกจากห้องน้ำ ส่วนตัวผมก็ใช้ผ้าขนหนูพันรอบเอวออกมา หยิบแป้งเด็กออกมาโรยไปตามตัวมัน ก่อนจะทาไปที่หน้าที่ตอนนี้ก็ขาวไปหมดทั้งตัว ขาวชนิดที่ว่า ถ้ามีน้ำมันร้อนๆก็จุ่มลงไปทอดได้เลย และท่าทางคงจะอร่อยด้วย แก้มนี่ยุ้ยเชียว

“ ดูไปดูมาก็ขาวเหมือนไอ้เด็กในหนังผีจูออนไรนั่นเลย " ผมว่าก่อนจะหลุดหัวเราะออกกับตัวเอง " กาลิคจะใส่กางเกงในสีอะไร "

" ใส่ตัวนี้ " มันเดินมาหยิบผมก็จัดการใส่กางเกงในให้มัน แล้วอยู่ๆสมองของผมก็รู้สึก นึกถึงข่าวที่เคยถูกแชร์ผ่านหน้ามือถือของไอ้ขมแล้วมันก็อ่านให้ผมฟัง เรื่องของเด็กตัวแค่นี้ที่โดนคุกคามทางเพศ ผมมองหน้ามันที่ยิ้มกว้างให้ผม " นี่ กาลิค "

“ ครับ อาภาพ "

“ อาภาพมีอะไรจะสอน จำไว้นะ ห้ามให้ใครมาจับน้องหนอนแล้วก้นของกาลิคนะ " ผมบอก " กาลิคจับมันได้คนเดียวรู้มั้ย ถ้าคุณครูหรือว่าผู้ใหญ่คนไหน บอกว่าให้ถอดกางเกงแต่กาลิคไม่รู้ว่าทำไมต้องถอด ก็อย่าไปถอดนะ "

“ ทำไมครับ " มันเอียงหน้าถาม

“ มันไม่ใช่ของที่จะเอามาโชว์ให้ใครดูได้ เพื่อนก็ไม่ได้นะ "

“ แล้วอาภาพกับอาขมที่เห็นของกาลิคแล้วละ " มันว่าพลางเอามือปิด ผมก็ยิ้ม

“ อันนั้น เราถอดให้ดูเพราะต้องอาบน้ำไง มันก็ได้อยู่ แต่ถ้ามีคนมาบอกกาลิคว่า ไหนกาลิคถอดกางเกงในให้ดูหน่อยสิ แบบนั้นไม่ได้นะ ยิ่งถ้าบอกตอนกาลิคอยู่คนเดียวแบบนั้นก็ไม่ได้เลยนะ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่อาขม อาภาพ ห้ามนะ เจ้าหนอนน่ะมันไม่ใช่ของที่จะเอาไปโชว์ใครนะ รู้มั้ย  "

“ ครับ ห้ามเลย "  มันยกมือขึ้นบอกห้าม ผมก็พยักหน้ารับ

“ มา คราวนี้ก็ใส่เสื้อนอน แล้วก็กางเกงนอนได้แล้ว " จัดการใส่ชุดนอนให้มันเรียบร้อยอีกคนก็เดินออกไปข้างนอก ได้เวลาดูการ์ตูนแล้ว กาลิคจัดการเปิดทีวีด้วยตัวมันเอง ผมเดินเข้าไปในห้องตัวเองแต่งตัวเรียบร้อยก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง

   นั่งดูการ์ตูนกับมันไปเรื่อยๆจนผมเพลินแล้วลืมไปเลยว่า เวลาตอนนี้ได้ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว การต่อสู้ที่แสนจะสนุกของตัวละครชวนให้เรานั่งลุ้นกันแทบไม่ลุกไปไหน ทุกอย่างเงียบ จนกระทั่ง โทรศัพท์ผมดังขึ้นมา

“ ไอ้ขม " ผมพูดกับตัวเองตอนที่เห็นสายโทรเข้า พอเงยหน้ามองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้มันเลยเวลาดูการ์ตูนของไอ้กาลิคมานานมากแล้ว " ชิบหาย " ลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟา อุ้มเด็กน้อยที่นั่งดูทีวีอย่างตั้งใจขึ้นมาก่อนจะปิดทีวีทันทีทันใด

" อาภาพพพพ กาลิคจะดูทีวี ยังไม่จบเลย " เสียงโวยวายของมัน ผมก็ก้มลงไปหอมแก้มปลอบให้มันหยุดโวยวาย

" แต่ตอนนี้ มันหมดเวลาแล้วนะ เราควรนอนกันได้แล้ว มาเร็ว นอนๆ " วางมันลงบนเตียงอีกคนก็หันมามองแบบกำลังจะทำหน้ายู่เสียเต็มที่ แววตาใสๆที่กำลังจะร้องไห้เพราะอยากจะดูการ์ตูนที่ชอบต่อ มันที่กำลังจะแหกปากร้อง " กาลิค อาขมโทรมา ถ้าเกิดว่ามึงร้องไห้ กูจะไม่ให้คุยนะ "

" ไม่ร้องไห้ กาลิคไม่ร้องไห้ " มันว่าแบบเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองทันที ก่อนจะสูดน้ำมูกของตัวเองเข้าไป มือเล็กๆเอื้อมมาขอโทรศัพท์จากผม " อาภาพพพ กาลิคจะคุยกับอาขมครับ ขอนะ ขอกาลิคคุยด้วยน้า "

"  งั้นก็นอนดีๆก่อน "

“ ครับ " ผ้าห่มถูกดึงขึ้นมาห่มตัวเรียบร้อยกาลิคก็หันมายิ้มให้เหมือนจะบอกกันว่า มันเองพร้อมแล้วที่จะคุยโทรศัพท์กับคนที่คิดถึง
" ดีมาก " ดึงตัวลงนั่งข้างมัน ก่อนจะกดรับสายที่ก็รออยู่นานแล้ว  " ว่าไงมึง "

“ ทำไมรับสายช้าจังวะ " มันถามประโยคแรกขึ้นมา แต่ผมก็ไม่ตอบอะไร จะให้บอกได้ไงว่าเพิ่งพากาลิคเข้านอน หูกูชาพอดี

“ แล้วนี่มึงอยู่ไหนละ "

“ อยู่โรงแรม " ปลายสายว่า " เพิ่งถึงเนี้ย โคตรเหนื่อยเลย แล้วนี่หัวหอมมันเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้คงหลับแล้วสิ "

“ ก็ยังนะ " ผมตอบ ไอ้ขมก็ตอบกลับขึ้นมาเสียงดัง

“ ยังไม่หลับ ตอนนี้ยังไม่หลับเหรอ จะสี่ทุ่มแล้วนะมึง " เสียงตกใจของปลายสายบอก ผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเซ็งๆ คืออยากจะบอกว่า นั่งดูการ์ตูนเพลินก็กลัวจะโดนด่า   

“ ก็มันไม่หลับอะ จะให้ทำไงวะ " ผมว่า ปลายสายก็ถอนหายใจออกมาแทน

“ ไหนคุยกับมันหน่อย "

“ อะ อาขมจะพูดด้วย " ยื่นมือถือที่เปิดลำโพงไว้ให้กาลิคที่ยิ้มกว้างออกมา เพราะมันคงคอยอยู่นานแล้วที่จะได้คุยกับคนที่มันสุดแสนจะคิดถึง มือเล็กประคองมือถือไว้กับหูของตัวเอง ผมก็ดึงออกให้ห่างจากหูมัน " คุยแบบนี้ เพราะเดี๋ยวมันจะเสียงดัง "

“ หัวหอม " ปลายสายพูดขึ้นมา ไอ้ตัวเล็กก็ยิ้มกว้าง

“ อาขมม กาลิคคิดถึงอาขมจังเลยครับบบบ เมื่อไหร่อาขมจะกลับมา กาลิคคิดถึงแล้วน้าาา อึก ฮือๆ คิดถึงอาขม " อ้าว..ไหงมึงเป่าปี่ขึ้นมาซะงั้นละ ไอ้เด็กนี่

“ ไม่ต้องร้องไห้นะ โอ๋ๆ อาขมเองก็คิดถึงหัวหอมเหมือนกัน พรุ่งนี้กลับแล้ว ไม่ต้องกลัว คืนนี้นอนกอดกับอาภาพไปก่อน คืนพรุ่งนี้เราค่อยนอนกอดกันนะ "

“ อึก ก๊าบ " เสียงงอแงพยักหน้ารับกับปลายสาย

“ แล้ววันนี้ตอนเย็นกินข้าวกับอะไร อร่อยมั้ย "

“ อร่อย วันนี้กินไก่ทอดที่อร่อยๆ " มันบอก ไอ้ขมก็เงียบไปสักพัก แน่นอนว่ามันคงต้องกำลังข่มจิตข่มใจไม่ให้ด่าผมอยู่

“ อย่างงั้นเหรอ แล้วดื้อกับอาภาพรึเปล่า "

“ กาลิคไม่ดื้อกับอาภาพ แต่ว่าอาภาพดื้อกับกาลิค " มันฟ้อง

“ ดื้อกับกาลิคยังไง ไหนเล่าอาขมหน่อย "

“ อาภาพให้กาลิคดูการ์ตูน แล้วอยู่ๆ ก็ปิดเฉยเลย กาลิคยังดูการ์ตูนไม่จบเลย อาขม อาภาพใจร้าย  "

“ เพราะมันถึงเวลานอนแล้ว ก็เลยต้องนอนไง " ผมบอกไอ้ขมก็หัวเราะ  แต่กาลิคก็เถียงขึ้นมาอีก

“ แต่ว่าปกติอาขมจะให้ดูการ์ตูนจนจบก่อนแล้วค่อยนอนนน " เสียงเล็กๆที่เอ่ยบอก ผมเอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำตาให้มัน กาลิคก็ฟ้องต่อ " อาขมจะบอกว่า เดี๋ยวดูตอนนี้จบก็ต้องไปนอนเลยนะ แต่อาภาพไม่ทำแบบนั้น  อาภาพอุ้มหนูไปที่โซฟาเลย แล้วก็ปิดทีวี แบบนั้นไม่ได้นะ ใช่มั้ยอาขม อาขมไม่ทำแบบนั้นเลย "

“ เอ้า! ก็มันถึงเวลาแล้วอะ ถ้าเกิดไม่อุ้มขึ้นมา เดี๋ยวก็ต้องต่อรองขอดูอีกเรื่องอีก " ผมเถียงมันอีกคนก็ขมวดคิ้วทำหน้ามุ่ยใส่

“ กาลิคไม่ทำแบบนั้นหรอก "

“ จริงอะ " ผมถาม " แล้ววันนี้ใครขอซื้อขนม แล้วพอบอกว่าให้ซื้อกล่องเดียวก็ดันจะเอาหลายกล่อง ใคร คนนั้นใคร "

“ แต่.. แต่กาลิคก็ไม่ได้ซื้อ "

“ ก็เพราะว่าอาภาพไม่ยอมให้ซื้อไง เลยไม่ได้ซื้อ "

“ เอาน่าพอๆ อย่าเถียงกัน หัวหอมก็ไม่ดื้ออออออออออ อาภาพก็เลี้ยงเด็กเก่งมากเลยยยยย " ปลายสายว่าเหมือนประชด ก่อนจะหัวเราะออกมา " ตอนนี้ก็ดึกแล้ว เด็กดีก็ควรนอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้อาขมกลับไป เราจะได้กอดกันแน่นๆไง "

“ ครับ " มันตอบเสียงอ่อน " อาขม อาขมรีบกลับมานะ กลับมากอดกาลิค "

“ ครับผม อาขมจะรีบกลับไปนะ หัวหอมก็นอนได้แล้ว แล้วพรุ่งนี้ก็ตั้งใจเรียนด้วยนะ "

“ ครับ "

“ งั้นขอพูดกับอาภาพหน่อย " มันยื่นมือถือมาให้ผมที่กดปิดลำโพงแล้วเอามือถือแนบหู

“ ว่าไง "

“ เอามันเข้านอนได้แล้ว ลูบหลัง เกาหลังให้มัน เดี๋ยวมันก็หลับ แล้วพอมันหลับโทรมาหากูด้วยนะ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับอีกครั้ง ก่อนจะกดวางสาย ดึงผ้าห่มลงจัดที่นอนให้กาลิคนอนดีๆ ผมห่มผ้าให้มันก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ " นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนอีก "

“ อาภาพ " แววตากลมหันมาหาผม ก่อนจะเงยหน้าถาม " เมื่อไหร่อาขมจะกลับ "

“ ก็พรุ่งนี้ไง "

“ แล้วกลับมาตอนไหนเหรอ "

“ น่าจะเย็นๆนะ หลังกาลิคเลิกเรียนแล้ว "

“ กาลิคคิดถึงอาขม กาลิคอยากจะอยู่กับอาขม กาลิคอยากจะให้อาขมกลับมาอยู่กับกาลิคเร็วๆ " มันว่าด้วยสีหน้าเศร้าๆก่อนน้ำตาหยดเล็กจะไหลออกมา " คิดถึงอาขม อึก ฮือๆ อาขมม คิดถึงง ฮือๆ " อยู่ๆก็เป่าปี่ออกมาซะงั้น ผมที่ชะงักไปมองมันที่ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่เอื้อมมือไปลูบหัวปลอบๆ 

“ ไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวพรุ่งนี้อาขมก็กลับมา ไม่ต้องร้องไห้นะ "

“ กาลิคคิดถึงอาขม กาลิคอยากจะให้อาขมกอดกาลิคนี่ครับ อึก ฮือๆ คิดถึงอาขม " เสียงงอแงที่บอกแบบนั้น ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง

“ แล้วจะให้ทำยังไงละ อาขมไม่อยู่นี่ " ผมว่า " งั้นมานี่มา " อุ้มมันจากเตียงมานั่งบนตัก ลูบหลังเด็กที่กำลังงอแงเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลนั่นเบาๆก่อนจะกอดมันไว้แน่น  " ไม่ต้องร้อง ลูกผู้ชายเค้าไม่งอแงกันหรอกนะ "

“ เป็นผู้ชายร้องไห้ไม่ได้เหรอ " มันเงยหน้าถาม ผมก็พยักหน้ารับ

“ แล้วเวลาอาภาพคิดถึงอาขม อาภาพไม่ร้องไห้เหรอ " คำถามที่ทำให้ผมหลุดยิ้มก่อนจะส่ายหน้า " แล้วเวลาคิดถึงคุณปู่คุณย่าก็ไม่ร้องไห้เหรอ "

“ ก็ไม่ร้องไห้นะ "

“ ถ้าผู้ชายร้องไห้ไม่ได้ แล้วเวลาเสียใจจะทำยังไงละ "

" นั่นนะสินะ ถ้าเราเสียใจจะทำยังไงดีละ " มองหน้ามันก่อนจะยิ้มออกมา ไม่มีคำตอบที่ผมคิดออก ผมไม่ใช่คนที่ชอบร้องไห้ ตอนล่าสุดที่ร้องไห้ก็คงเป็นตอนที่ไปบอกป๊ากับม๊าเรื่องของกาลิคเท่านั้น ร้องไห้แค่ตอนที่รู้สึกว่า มันหนักหนามากจริงๆ

“ งั้นถ้าอาภาพเสียใจ อาภาพแอบร้องไห้มั้ย " กาลิคบอก " ถ้าอาภาพอยากจะร้องไห้ กาลิคจะกอดอาภาพไว้แบบนี้ " มันว่าก่อนจะกอดผมไว้อย่างที่บอก " แล้วกาลิคจะไม่บอกใครว่าอาภาพร้องไห้ " มันบอกก่อนจะจับที่อกตัวเอง " มาซบที่ตรงนี้นะ กาลิคจะปลอบอาภาพเอง เหมือนที่อาภาพปลอบเวลากาลิคร้องไห้  "

“ ขอบใจนะ " พยักหน้ารับคำเชิญชวนของมันผมก้มลงหอมแก้ม พลางมองไปรอบๆ พยายามหาอะไรสักอย่างทำให้มันหลับ ก่อนจะพลันสายตาไปเห็นหนังสือนิทานก็คิดถึงคำพูดไอ้ขมที่บอกไว้ ' เล่านิทานให้มันฟังก่อนนอนด้วยนะ '

“ เล่านิทานให้ฟังนะมา "

   ลูบหลังมันเบาๆผมไม่รู้จะเล่าเรื่องอะไรให้มันฟังเหมือนกัน ในสมองก็มีแต่เรื่องทั่วๆไปที่มันคงฟังจนชินแล้ว " อาภาพเล่านิทาน " คนในอ้อมกอดเอ่ยเสียงเร่ง

“ เมื่อนานแล้ว มีเด็กผู้ชายขี้เหงาอยู่คนนึง เค้าใช้ชีวิตอยู่กับของเล่น แล้วก็พี่เลี้ยงใจดี ชีวิตเด็กชายมีความสุขมากแต่ก็เหงาเพราะไม่มีเพื่อนเล่น "

“ น่าสงสาร ไม่มีเพื่อนเลยเหรอ " เสียงกาลิคบอกเบาๆ ผมก็ยิ้ม

“ นั่นนะสินะน่าสงสาร " ผมตอบก่อนจะเล่าต่อ " เด็กผู้ชายขี้เหงาคนนั้นต้องเล่นคนเดียวมาตลอด จนกระทั้งวันนึงที่เค้ากำลังขับจักรยานอยู่ในบ้าน เค้าก็ได้ยินเสียงร้องไห้ ฮือๆ เป็นเสียงที่ดังมาจากข้างบ้านของเค้า เค้าสงสัยมากว่าเสียงใครก็เลยไปแอบดู แล้วก็เจอเข้ากับ เด็กผู้ชายคนนึงที่กำลังร้องไห้อยู่ที่บ้านหลังข้างๆนั้น ' ร้องไห้ทำไมอะ ' เด็กชายขี้เหงาถามออกไปเสียงห้วนๆ คนที่กำลังร้องไห้ก็ไม่ตอบอะไร เค้าก็เลยตะโกนถามอีกครั้ง ' ถามว่า ร้องไห้ทำไมมมมมมมม '  " ผมยิ้มออกมาตอนที่กำลังคิดถึงภาพนั้นตามไปด้วย ภาพความทรงจำครั้งนึงของผม " กำลังรอแม่กลับบ้าน แต่แม่ยังไม่กลับ " เด็กผู้ชายที่กำลังร้องไห้ตอบ "

" เหมือนกาลิคที่ร้องไห้เพราะอาขมไม่กลับบ้านเลย " เสียงพูดตอบเบาๆของมัน ชวนให้ผมยิ้ม

" ใช่แล้ว และพอได้ยินแบบนั้นเด็กผู้ชายขี้เหงาก็เลยถามออกไปว่า ' ไม่กลับแล้วร้องไห้ทำไม ไม่ต้องร้องไห้นะ เล่นกันมั้ย ' ไม่มีเสียงตอบรับอะไร แต่ว่าเด็กผู้ชายคนนั้นกลับปีนประตูบ้านของอีกฝ่ายเอาของเล่นมากมายไปนั่งเล่นเด็กผู้ชายคนนั้นจนเค้าเลิกร้องไห้ มือเล็กๆที่เอื้อมไปลูบหัว เค้าบอกว่า ' ไม่ต้องร้องไห้นะ เดี๋ยวจะอยู่เป็นเพื่อนเอง ' "  ผมยิ้ม ตอนที่คิดถึงใบหน้าเปื้อนน้ำตาที่หยักหน้ารับแล้วก้มลงเล่นด้วยกันกับผม เด็กผู้ชายขี้เหงาที่ไม่มีเพื่อนคนนั้นในตอนนั้นมันคือผมเอง คนที่ตอนนี้ไม่่ใช่คนที่เหงาอีก แต่กลับเป็นคนที่กำลังแอบรักเพื่อนข้างบ้านคนนั้นแทน " กาลิค " ผมเอ่ยเรียกมันที่เงียบไป ก่อนจะค่อยๆประคองอีกคนนอนลงบนเตียงแล้วพบว่า คนที่ร้องไห้งอแงคิดถึงอาขมเมื่อกี้ หลับสนิทไปแล้ว " ยังเล่านิทานไม่ทันจบเลย " ผมบอกก่อนจะลูบหัวผม " แต่ก็ดีแล้วละ เพราะกูเองก็ยังไม่รู้จุดจบของเรื่องนี้เหมือนกัน ไม่รู้เลยว่า จะเป็นยังไงต่อไป "

   ลุกขึ้นจากเตียงตอนที่เห็นว่ามันหลับสนิทแล้วจัดการห่มผ้าห่มให้ ผมหยิบมือถือที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงออกมา กดโทรหาคนที่สั่งเอาไว้ว่าให้โทรไปหาถ้ากาลิคหลับ ผมรอสายอยู่สักพักมันก็กดรับสาย

“ หัวหอมหลับแล้วเหรอ "

“ อื้ม หลับแล้ว " มันถอนหายใจโล่งออกมาตอนที่ผมบอกแบบนั้น " แล้วนี่มึงยังไม่นอนอีก "

“ ยังอะ ยังนั่งเม้าส์ นั่งแดกกันอยู่เลย นี่กูหลอกพวกมันว่ามาเอาของที่ห้อง ไม่อย่างงั้นไม่มีหวังได้ออกมาหรอกจ้า "

“ หึ "

“ แล้วเป็นไง เลี้ยงไอ้หัวหอม ตอนกูไม่อยู่ ทำให้คิดถึงกูขึ้นมาบ้างปะ " หลุดยิ้มขึ้นมาตอนที่มันพูดออกมาแบบนั้น ผมส่ายหน้าไปมากับความอวยตัวเองของมัน " ให้กูทาย มึงคงต้องคิดถึงกูมากแน่ๆ และภาวนาให้กูกลับไปเร็วๆถูกมะ "

“ นี่ถามจริง มึงคิดว่ากูจะทำอะไรไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ " 

“ ก็ใช่ไง แล้วมันเป็นไง ซนมั้ย "

“ ไม่เห็นจะซนอะไรมากมาย มันก็พูดรู้เรื่องนะ ติดแค่ว่า พออยู่กับกูมันชอบอ้อนจะเอานู้นนี่เรื่อยเลย เหมือนรู้ว่ากูแพ้มัน ถ้ามันอ้อนกูด้วยท่าทางน่ารักอย่างงั้นอะ "

“ เออ มันรู้ " ขมบอก " อย่างกับกู มันยังรู้เลยว่าควรทำยังไงถ้ามันอยากจะได้ของกินน่ะ ไอ้นี่มันหัวหมอ " เราหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันไอ้ขมก็ถามต่อ " แต่กูอยากจะให้มันซนมากกว่านี้นะ ตอนนี้มันไม่ค่อยซนยังไงก็ไม่รู้ "

“ มึงนี่ก็แปลก มันไม่ซน มึงก็อยากจะให้มันซน "

“ ไม่หรอก แต่กูคิดว่าเด็กวัยมัน ควรซนมากกว่านี้ คือจะพูดยังไงดี " ปลายสายเว้นเสียงไปสักพักเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ " ไอ้หัวหอมมันก็ช่างพูดช่างจานะมึง แต่เหมือนยังไม่ซน ไม่กล้าจะเล่นกับเรา เหมือนมันมีอะไรที่มันกลัวอยู่ "

“ แล้วมึงคิดว่าอะไร อะไรที่ทำให้มันกลัวเราอยู่ "

“ กูคิดว่า มันคงกลัวเราทิ้งมันมั้ง มันเลยไม่กล้าที่จะซน ที่จะเป็นตัวเองเท่าไหร่ "

“ เพราะว่ากูเคยทิ้งมันน่ะเหรอ " ผมถาม เหตุการณ์ที่กลายมาเป็นทั้งความรู้สึกผิดที่สุดของผม และความทรงจำที่ร้ายแรงที่สุดของตัวกาลิคเอง

“ ไม่หรอก ถ้ามันกลัวมึงจะทิ้งจริงๆ มันไม่กล้าอยู่กับมึงหรอก แต่กูคิดว่า เพราะว่าแม่มันตังหากที่ทำให้มันกลัว กูเดาว่ามันคงโดนขู่มาหลายครั้งแล้ว ว่าถ้ามันซนจะพามันไปอยู่ที่อื่น แล้วพอมาอยู่กับเรา แม่มันอาจจะขู่มาก็ได้ว่า ให้เป็นเด็กดีถ้าไม่เป็นเด็กดี มันจะโดนพาไปทิ้ง "

“ มึงคิดงั้นเหรอ "

“ อื้ม ไม่รู้สิ แต่กูก็คิดอย่างงั้นละนะ เรื่องแบบนี้คงต้องใช้เวลาให้มันปรับตัว เราเองก็ด้วยต้องทำให้มันเชื่อใจให้ได้มากๆ ว่าแต่มึงเถอะ พามันไปกินเคเอฟซีอีกแล้วนะ กูบอกแล้วนี่ว่าอย่าพาไปมันไม่ค่อยมีประโยชน์ "

“ กูก็รู้ แต่มันอ้อนกูอะ กูแพ้ " ผมบอก อีกคนก็ถอนหายใจออกมา " โทษทีมึง แต่นานๆทีกิน คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง "

“ แล้วจำไว้นะ ทุกครั้งที่มันไปกินข้าวกับมึงสองคน มันจะชวนมึงไปกินเคเอฟซีนั่นแหละ "

“ ครับๆ มึงก็อย่าไปไหนสิ อยู่ด้วยกัน มันก็ไม่เป็นไรแล้ว " ผมบอกอีกฝ่ายก็ถอนหายใจออกมา " แล้วพรุ่งนี้ถึงกี่โมง "

“ คงจะประมานสี่โมงเย็นอะ มึงไปรับกาลิคก่อนแล้วค่อยพามันมาที่มหาลัยก็ได้ "

“ แล้วกูก็กระเตงลูกเดินไปเดินมาทั่วมหาลัย รอรับมึง ดีจัง..” ผมว่าประชด คราวนี้นอกจากจะสายตาที่มองมาแบบสงสัย กูต้องนั่งตอบคำถามอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้

“ มึงก็อย่าโง่  พามันไปกินข้าวก่อน ใกล้เวลาค่อยมารอรับ ตอนนั้นเด็กคณะมึงก็กลับไปหมดแล้ว มารอรับหน้าคณะกู ใครมันจะเห็น "

“ แล้วเพื่อนมึงละ " ผมถามอีกคนก็นิ่งไป " ว่าไง "

“ ช่างมันเถอะน่า .. กูไม่สนใจอยู่แล้วว่าใครจะคิดยังไง กูคิดถึงหัวหอม พามันมารับกูด้วยนะ "

“ ครับ งั้นก็แล้วแต่ เอาไงก็เอากัน มึงว่าดีกูก็ว่าดี "

“ พี่ภาพน่ารักอะ " มันบอก ผมก็ยกยิ้ม " แล้วนี่ไม่คิดถึงกูจริงๆอะ คือหัวหอมไม่ได้ทำอะไรให้มึงลำบากเลยสักนิดเลยอะ ไม่มีเลย "

“ ถ้าเรื่องไอ้หัวหอมก็ไม่มี "

“ เหรอ เออ ก็ดีไป ไอ้เราก็คิดว่าจะได้รับสายโทรศัพท์จนไหม้ สุดท้ายไม่จ้า มึงไม่โทรมาจนกูต้องโทรไปเอง แต่ก็ดี แสดงว่าอยู่กันได้ราบรื่น ดีแล้ว มึงกับมันจะได้สนิทกันบ้าง "

“ ถ้าเรื่องหัวหอมยุ่งวุ่นวายจนทำให้คิดถึงมึง อยากให้มึงช่วยอะ มันไม่มี แต่ว่า ถ้าคิดถึงธรรมดา แบบว่า มึงไม่อยู่ทั้งๆที่ปกติอยู่ ถ้าคิดถึงแบบนั้น กูก็คิดถึงมึงนะ " ปลายสายที่ฟังอยู่นั้นเงียบไป ความเงียบที่ทำให้ผมคิดไปต่างๆนานา ว่ามันอาจจะรู้สึกแปลกๆ กับประโยคนั้นของผมรึเปล่า ผมที่ตอนนั้นก็หัวเราะก่อนจะพูดประโยคกลบเกลื่อนออกไป  " ปกติได้ยินเสียงมึงด่ากูตลอด แล้วทำไมพี่จะไม่คิดถึงน้องขมละจ๊ะ " 

“ จ๊ะ! ” มันย้ำเสียงก่อนจะถอนหายใจเบาๆออกมา " นั่นสินะ เราอยู่ด้วยด้วยกันทุกวัน ด่ากันทุกวัน มันก็ต้องคิดถึงกันอยู่แล้ว "

“ แล้วมึง..” คิดถึงกูบ้างมั้ย ผมอยากจะถามออกไปตรงๆแบบนี้ แต่ดูเหมือนมันจะเป็นประโยคที่ดูแปลกไปหน่อยสำหรับแค่คำว่า เพื่อน

“ อะไร "

“ พี่จะถามว่า แล้วน้องขมละจ๊ะ คิดถึงพี่ภาพบ้างมั้ยละจ้าาา " เสียงเล่นๆของมันเอ่ยถามมันอีกคนก็หัวเราะ ก่อนจะตอบกลับมา

“ คิดถึงสิจ๊ะ ผัวขา คิดถึงทั้งลูกคิดถึงทั้งผัวนั่นแหละค่าาา " ผมยิ้มกว้างออกมากับเสียงที่ได้ยิน  " ภาพ แค่นี้ก่อนนะ กูจะไปปาร์ตี้ต่อละ ไอ้ม่านไอ้มู่โทรจิ๊กกูยิกๆละ "

“ เออ แค่นี้ พรุ่งนี้เจอกัน "

“ บายยยย มารับเค้าให้ตรงเวลานะ ผัวขา "

“ จ้า เมีย "  ผมกดวางสายนั่นลง ผ่อนลมหายใจแล้วยิ้มๆกับหน้าจอมือถือของตัวเอง เอาว่ะ.. ไม่ว่าจะเป็นความคิดถึงแบบไหน แต่ถ้าเค้าคิดถึงเรา นั่นก็คงดีแล้วละ ยังไงก็เป็นคนที่ถูกคิดถึงละนะ

..........................................................

   ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถหน้าคณะศิลปกรรมของไอ้ขม ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยที่ต้องขับรถเวียนไปเวียนมาอยู่ตั้งหลายรอบ ขับออกไปจากมหาลัยตอนเลิกเรียนไปรับไอ้ตัวเล็ก พาไปกินข้าวแล้วก็วกกลับมาอีก สารภาพเลยโคตรเหนื่อย

“ อาภาพ เรามาทำอะไรที่นี่เหรอ " กาลิคหันมาถาม มันมองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ ตอนนี้เวลาประมานบ่ายห้าโมงแล้วไอ้ขมบอกว่ามันคงถึงเลทสักหน่อย

“ มารับอาขมไง วันนี้อาขมกลับมาแล้วนะ มาดีใจกันหน่อย เอ้า หนึ่ง สอง สาม เย้ๆๆๆๆๆ " ชูมือไปมา กาลิคมันก็ชูมือตามก่อนจะส่งเสียง

“ เย้ๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ต้องอยู่กับอาภาพสองคนแล้ว "

“ หมายความว่าไงวะ " ผมก้มหน้าลงถามมันอีกคนก็เอียงหน้าทำเป็นไม่ใส่ใจ ท่าทางที่ทำให้ผมหลุดยิ้ม เอามาจากไอ้ขมแน่นอน ไอ้ท่าทางอย่างงี้

“ แล้วนี่คือ คือที่ไหนเหรอ "

“ อยากจะลงไปดูมั้ยละ " ผมปิดเครื่องยนต์อีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะเปิดประตูลงไป กาลิควิ่งมาจูงมือผม ผมก็อธิบาย " ที่นี่เค้าเรียกว่า มหาวิทยาลัย "

“ มะ หา วิท "

“ มหาวิทยาลัย " ผมทวนคำพูดอีกครั้งแต่มันก็พยักหน้าลง " กาลิคน่ะ พอเรียนจบที่โรงเรียนแล้ว ก็ต้องมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยละนะ " 

“ ถ้าเรียนจบที่โรงเรียนแบบ เรียนหมดแล้วน่ะเหรอ เหมือนพี่คนที่เค้าโตๆ ก็ต้องมาเรียนที่นี่น่ะเหรอ "

“ ใช่แล้วอย่างงั้นละ " พยักหน้ารับอีกคนก็พยักหน้ารับตาม ผมจูงมือมันเดินไปเรื่อยๆ ฟ้าที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีส้มผมอุ้มมันขึ้นมามองดู " ดูสิ ฟ้าเป็นสีส้มเลย "

“ อาภาพ กาลิคอยากจะไปนั่งตรงนั้น " มันชี้ไปที่อัฒจรรย์ข้างคณะไอ้ขม ผมเดินพามันไปยืนบนที่นั่งกาลิคก็เดินก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ ก่อนจะมองลงมาที่ผม " อาภาพสูงจัง "

“ แล้วขึ้นไปทำไมเล่า ลงมานี่ " ผมกวักมือเรียกมันก็นั่งลง ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวลงมาแล้วนั่งลงข้างๆผม

“ เฮ้ยมึง ไอ้ภาพ " ผมหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะยกยิ้มให้ไอ้ชัดที่เดินเข้ามาใกล้ มันขมวดคิ้วน้อยๆตอนที่เห็นกาลิค " นั่นลูกใครวะ หลานมึงเหรอ "

“ เปล่า " ส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันไปมองกาลิค แล้วยกยิ้มตอบ " ลูกกูกับไอ้ขม "

“ ตลก "

“ อ้าว ไม่เชื่อถามมันสิ " ผมหันไปถามกาลิค " กาลิค กาลิคลูกใคร "

“ ลูกอาขมกับอาภาพ " มันว่าเสียงใส ไอ้ชัดก็ยกยิ้ม

“ เล่นเชี้ยอะไรของมึง "

“ กาลิค สวัสดีอาชัดก่อน นี่อาชัด เพื่อนอาภาพเอง "

“ สวัสดีครับ " มันยกมือไหว้อีกคนก็เอื้อมมือไปลูบหัว

“ สวัสดีครับ " ชัดหันมามองหน้าผม " เอาจริงๆ ตกลงยังไง "

“ ก็อย่างที่บอก ลูกกูกับไอ้ขม " ผมหัวเราะ อีกคนก็ยังนิ่ง " ไว้ค่อยเล่าแล้วกัน เล่าตรงนี้ไม่ได้หรอก " ลูบหัวกาลิคเบาๆไอ้ชัดก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีก ไอ้ตัวเล็กวิ่งลงไปเล่นเตะบอลที่กลิ้งอยู่แถวนั้นไปมาคนเดียว ก่อนที่ผมจะวิ่งลงไปเล่นด้วย ฆ่าเวลารออีกฝ่ายที่ก็คงใกล้จะถึงแล้ว

   รถบัสของมหาลัยที่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่หน้าคณะศิลปกรรม ผมหยุดลงส่งลูกบอลที่กำลังเตะส่งไปมากับกาลิค เปลี่ยนมาเป็นยื่นบอลให้อีกคนแทน

“ เอาไปเก็บนะ อาขมมาแล้ว "

“ ครับ " กาลิควิ่งเอาบอลไปเก็บจากตรงที่มันเอามาก่อนจะวิ่งมาจับมือผมที่ยืนรอให้เด็กคนอื่นๆทยอยลงมาจากรถ กระเป๋าเสื้อผ้าถูกทยอยขนลงมาวางไว้บนพื้นเช่นกัน นักศึกษาหลายคนเดินมาหยิบก่อนจะหันไปบอกลาอาจารย์ บ้างก็รอเพื่อน จนกระทั้งคนที่คุ้นตาจะเดินลงมาคนสุดท้ายพร้อมกับเพื่อนของตัวเอง

   ผมเผลอยิ้มออกมาตอนที่เห็นหน้ามัน เหมือนกับไอ้ตัวเล็กที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ กาลิคดึงมือให้หลุดออกจากมือของผมที่กุมมันไว้ แล้วในวินาทีต่อมามันก็วิ่งเข้าไปหาไอ้ขมทันที แขนเล็กที่กอดเข้าไปเต็มอ้อมกอด ที่แสนจะคิดถึงของมัน

" อาขมม กลับมาแล้ววว " เสียงใสๆที่เอ่ยบอกไอ้ขมก็ก้มหน้าลงแล้วย่อตัวกอดมันไว้แน่น ราวกับว่าสิ่งที่ผมอยากจะทำ ตอนนี้กาลิคมันก็ได้ทำแทนผมไปหมดแล้ว

" คิดถึงหัวหอมจังเลยยยยยย หอมๆๆๆ กอดแน่นๆ " มันว่าแบบนั้นก่อนจะหอมแก้มไอ้ตัวเล็กไปหลายที " แปปนะ ขออาขมไปเอากระเป๋าก่อน " มันจูงมืออีกคนไปเอากระเป๋าก่อนจะหันไปไหว้อาจารย์แล้วเดินตรงมาหาผม ที่ก็เอื้อมมือไปรับกระเป๋ามันไว้  " ไม่ต้องถือให้ก็ได้ กูถือเอง "

" มึงอุ้มมันเถอะน่า  ดูมันพันแข้งพันขามึงซะขนาดนั้นแล้ว " ผมเชิดหน้าไปที่กาลิคที่ก็กอดคนที่คิดถึงไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ไอ้ขมก้มลงมองก่อนจะดึงอีกคนขึ้นมาอุ้ม

" เป็นไง คิดถึงอาขมมั้ย "

" คิดถึง กาลิคคิดถึงอาขมที่สุดที่ในโลกเลย คิดถึงเท่านี้เลย " มันกางมือออกสุดแขนก่อนจะกอดอีกคนไว้ จมูกรั้นหอมแก้มไอ้ขมไปเต็มฟอด " คิดถึงอาขมที่สุด "

" อาขมก็คิดถึงกาลิคเหมือนกัน คิดถึงม๊ากกกกมากกกก " มันหอมแก้มอีกคนกลับ

" แล้วอาภาพคิดถึงอาขมมั้ย " กาลิคหันมาถามผม ที่ก็หันไปมองมันสองคน ไอ้ขมที่นิ่งไปนิดหน่อยแต่ก็ยกยิ้มออกมา มันพูดจาทีเล่นทีจริง

" ว่าไง อาภาพละ คิดถึงเค้าเปล่าาา " มือมันเอื้อมมาสะกิดแขนผม ที่ยกยิ้มขึ้นมา

" จะเอาความจริงหรือตอแหลดีละ "

" แน่นอนว่าต้องความจริงอยู่แล้ว " ขมบอก ผมก็หันไปบอกมัน

" กูคิดถึงมึงม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกมากกกก พอใจยัง " ผมว่า มันก็หัวเราะออกมา

" เอาจริงๆนะ ดูตอแหล ม๊ากกกกกกกกก มากอะ "   

“ หึ " คนเรานี่ก็แปลก พูดความจริงก็หาว่า ตอแหล แล้วพอพูดตอแหล ก็คิดว่าเป็นความจริง

...........................................................

ก็มัวชอบพูดทีเล่นทีจริงกันแบบนี้ ใครมันจะไปรู้เล่าาาา ว่ารู้สึกยังไง
แมนๆ อยู่แล้วก็บอกเค้าไปตรงๆเลย ว่ารักเค้า แต่ถ้าพ่อภาพไม่ขัด อยากให้เลาเป็นไปแม่ของกาลิคให้ ก็ได้ #มึงไม่เกี่ยว
พ่อภาพที่มีทั้งความอบอุ่น ตลก และเป็นผู้นำ จัดการให้แม่ขมทุกเรื่องนั้น ความเป้นหัวหน้าครอบครัวมันมีออร่าจริงๆนะคะ
อวยผู้พอแล้ว มาขายของกันดีกว่า
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตเตอร์เพื่อการโปรโมตเบาๆ
ฝากแชร์ ฝากไลค์ในเพจ หนมมี่ผู้ใสซื่อ ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ เราจะเป็นนิยายที่ทำให้คุณฟรุ้งฟริ้งสืบไป
รัก หนมมี่   :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-05-2017 20:44:53
อยู่กันแบบนี้ดีจังๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 14-05-2017 21:03:03
หึๆๆๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 14-05-2017 21:15:19
ภาพพพพพพแมนๆหน่อยรักก็บอกว่ารักอย่ากั๊กเดี๋ยวมีคนมาคาบไปน้า กาลิคน่ารักจุงเบย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 14-05-2017 21:23:02
น่ารักดีค่ะ สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 14-05-2017 21:30:45
เล่นๆกันไป เดี๋ยวก็จริงเองค่ะ 55555

กาลิคมีความกวนนิดนึง งอแงน่าดูเลยนะ แต่ถือว่ารอด

ภาพอยู่ได้ เอาอยู่ ถือว่าไม่แย่ ปลอดภัยดี

ขมมีเขวนะ ระวังนะ ภาพรออยู่

กาลิคอดฟังนิทานเลย ชิงหลับซะก่อน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 14-05-2017 21:36:29
อยากให้เรื่องนี้ยาวๆเลย
อยากอ่านเรืื่องหัวหอมไปเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-05-2017 21:52:29
กาลิค มีความเจ้าเล่ห์ หัวหมอ แฝงอยู่ในตัว
รู้ว่าอยู่กับขม  กับภาพ อยากได้อะไร ทำอะไร
ก็สามารถอ้อนแต่ละคนอย่างนั้น อย่างนี้
กับภาพ ได้หมดเพราะภาพแพ้ทาง ใจอ่อน
แต่กับขม ขมใจแข็ง กลายเป็นกาลิคต้องทำตามขม
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 14-05-2017 22:05:26
มันน่ารักมันอุ่นไปหมด ขออย่ามีดราม่านะคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 14-05-2017 22:06:54
น่ารักกันจังเลย เมืีอไหร่ จะรู้ใจกันเนี่ย :mew2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 14-05-2017 22:19:31
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-05-2017 22:32:46
 :mew1: :mew1:  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 14-05-2017 23:13:44
งุ้ยย ได้กันสักที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 14-05-2017 23:18:23
ขมกับภาพเมื่อไหร่จะเปิดใจกันได้ซะที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 15-05-2017 01:48:49
ทำไมมันดูอบอุ่นแบบนี้ ครอบครัวสุขสรรค์ชัดๆ พ่อภาพนี่มันเหมือนคนรอเมียกลับบ้านเลย (เรื่องจริงไม่รู้เรอะ?)
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: bonitatnd ที่ 15-05-2017 06:57:42
น่ารักกก ไม่รู้จะหลงใครดี อาภาพ อาขม กาลิค  :-[
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 15-05-2017 07:39:56
 :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-05-2017 08:58:44
 :pig4 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 15-05-2017 09:26:26
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 15-05-2017 09:42:50
เหมือนพ่อกับลูกรอแม่กลับบ้านเลย  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-05-2017 11:52:59
พูดเล่นๆเมื่อไหร่จะเป็นจริงซะที!
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: PAtxxkMxxn ที่ 15-05-2017 19:33:06
ไม่เห็นแววขมจะชอบภาพเลย น่าสงสาร~♡
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-05-2017 19:40:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 15-05-2017 20:41:45
น่าร้าก อ่านไปยิ้มไป //แก้มเราจะปริแล้ววว :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 15-05-2017 21:13:26
คุณพ่อภาพหาหัวหอมน้อยมารับแม่ขม  อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 15-05-2017 21:27:23
กลัวจะดราม่าตอนจบจังเลยหัวหอมติดอาขมสะขนาดนี้ถ้าแม่มารับกลับจะไปได้เหรอ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-05-2017 16:22:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 16-05-2017 19:09:06
หวังว่า หัวหอมเป็นลูกภาพนะ มีความเป็นพ่อดี 555 ว่าแต่ถ้าแม่หัวหอมเปิดตัวมาเนี่ย จะพาปัญหาอะไรตามมาบ้างก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: nokhook ที่ 18-05-2017 16:56:54
หัวหอมน่ารักกกกกอยากหยิกแก้ม :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 18-05-2017 18:46:49
แม่ขมไม่อยู่ พ่อภาพกับน้องกาลิคอยู่ด้วยกันก็น่ารักดีนะ 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 19-05-2017 08:17:41
น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 19-05-2017 09:53:25
คิดถึงกาลิค
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 27 - 14.5.60} #หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 19-05-2017 20:48:41
เข้ามารอหัวหอม
 :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 19-05-2017 21:28:26
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 28

   มือหนาเอื้อมมือมารับประเป๋าเดินทางของผมด้วยรอยยิ้มจางๆ ผมที่นิ่งอยู่แบบนั้นส่ายหน้าไปมาให้มันรู้ว่าไม่ต้อง ผมช่วยเหลือตัวเองได้กับกระเป๋าใบแค่นี้ แต่ชัดก็ยังดึงดันที่จะเอาไปถือไว้ให้อยู่ดี

“ เอามาน่า " มันดึงกระเป๋าของผมไปถือให้ ก่อนจะเชิดหน้าไปที่ลานจอดรถ " รถจอดอยู่ตรงนู้น "

“ อื้ม " เดินตามร่างสูงที่เดินนำไปก่อน รถของชัดจอดอยู่ใกล้กับรถของภาพ ที่ตอนนี้กำลังจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งกันพอดี เด็กตัวเล็กหน้าตาน่ารักที่ผมจะเอ่ยถามมันว่าเป็นลูกหลานใคร แต่ยังไม่ทันจะได้ถาม พวกมันที่กำลังดี๊ด๊ามีความสุขที่ได้เจอกันก็ไม่หันมาสนแม้สิ่งใด พอเข้าไปนั่งในรถแล้วไม่ทันที่ผมจะเดินถึงมันก็ขับรถกันออกไปก่อน ไม่ได้หันมาสนใจผมอีก จริงๆก็ไม่สนตั้งแต่ลงรถบัสมาแล้วละ สนใจกันอยู่แค่สามคนเหมือนไปต่างจังหวัด จากกันมาสักเดือนนึงได้ " อะไรวะ โคตรเร็วจะถามสักหน่อย "

“ จะถามอะไร " ไอ้ชัดถาม

“ จะถามไอ้ขมว่านั่นลูกใครหน้าตาน่ารักจัง แต่ยังไม่ทันถามเลย ออกรถไปซะละ "

“ ไอ้ภาพบอกกูว่า ลูกมันกับไอ้ขม " ชัดบอกก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ ผมเองก็ขมวดคิ้วก่อนจะนั่งลงไปข้างมัน ปิดประตูเรียบร้อยผมหันไปถาม

“ มึงว่าอะไรนะ ขออีกที "

“ ไอ้ภาพบอกกูว่า เด็กนั่นเป็นทั้งลูกมันแล้วก็ลูกไอ้ขม "

“ ตลกแล้ว มันเป็นแฟนกันแล้วเอาเด็กมาเลี้ยงรึไง ถึงจะบอกว่าเป็นลูกตัวเองน่ะ "

“ ไม่รู้สิ แต่มันก็บอกกูแบบนั้น พอจะถามอะไรอีกมันก็บอกว่าค่อยเล่า "

“ เหรอ " ผมพยักหน้ารับ " ไว้กูค่อยถามไอ้ขมตอนที่มันมาเรียนก็ได้ แต่เด็กคนนั้นตอนที่วิ่งมาหาไอ้ขมโคตรน่ารักเลย เสียงนี่ใส๊ใส "

“ นี่ เลิกเสือกเรื่องคนอื่นก่อนเถอะน่า มาคุยเรื่องของเรากันหน่อย "

“ เรื่องของเรา ? " ผมหันไปมองหน้ามัน ไอ้ชัดก็เอียงตัวเหมือนมีอะไรที่อยากจะพูดคุยกับผมอยู่ " เรามีเรื่องอะไรให้คุยกับเหรอ "

“ คิดถึง " มันพูดออกมาสั้นๆ ตัวผมที่ชะงักไป แล้วอยู่ๆหน้าที่เคยปกติก็รู้สึกร้อนขึ้นมา ผมเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นด้วยความรู้สึกประหม่า ก่อนจะหันไปมองทางอื่นตอนที่มันเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ชัดจูบที่ข้างแก้มของผม ก่อนจะเลื่อนมาจูบที่ริมฝีปากเบาๆ ละย้ำคำพูดนั้นอีกครั้ง " คิดถึง "

“ รู้แล้วน่าย้ำอยู่ได้ " ผมบอกก่อนจะหันไปมองมันที่ยกยิ้มขึ้นมา

“ ก็เห็นไลน์ไปไม่เคยตอบ เลยคิดว่าไม่รู้ " ตลอดสองวันหนึ่งคืนที่ไปงานของคณะ ไอ้ชัด ส่งข้อความสั้นๆมาให้ผม แค่ว่า ' คิดถึง ' มันเป็นคำพูดสั้นๆที่มีความหมายในตัวของมันเองอยู่แล้ว ความหมายที่บอกอยู่แล้วโดยไม่ต้องแปล และพอยิ่งเป็นแบบนั้น ผมก็ยิ่งไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องส่งข้อความแบบไหนกลับไป ก็เลย ได้แค่อ่าน แต่ไม่ตอบ เอาจริงๆก็ไม่สะดวกที่จะตอบมันด้วย

“ แล้วจะให้ตอบว่าอะไร " ผมถาม

“ คิดถึงเหมือนกันมั้ง ? แล้วมึงคิดถึงกูมั้ยละ " ชัดถาม ผมที่จ้องมันอยู่ก็ได้แต่ถอนหายใจ

“ ทำไมมึงถึงได้เป็นคนที่พูดอะไรห้วนๆแบบนี้วะ " 

“ ห้วนยังไง "

“ ไม่รู้ แต่กูว่ามันแปลกๆ จะเถื่อนมั้ยก็ไม่เถื่อน จะดีมั้ยก็ไม่ดี จะบอกว่ากวนตีนมั้ยก็ไม่น่าจะใช่อีก ไม่สุดสักทาง เหมือน วันจันทร์คนนึง วันอังคารจะเป็นอีกคนนึง "

“ หึ แค่พูดออกไปตรงๆนี่มันแปลกนักเหรอไง " ชัดยกยิ้มกับคำพูดของผม มันส่ายหน้าก่อนจะยื่นมือมาดีดลงที่หน้าผากของผมดัง ปึก!

“ โอ๊ยย เจ็บนะ มาดีดหน้าผากกูทำไมเนี้ย ไอ้สัดชัด "

“ ดีดไปเผื่อหายติ๊งต๊อง " มันว่า " กูก็เป็นกูเหมือนเดิมทุกวันนั่นแหละ มึงไม่ชินกับกูมากกว่าเลยหาว่ากูแปลก อีกอย่างกูมันคนพูดตรงๆ มึงคงไม่ชินหรอก มึงมันคงชอบพูดอ้อมค้อมโอ้มโลก " ชัดหันมามองหน้าผมที่ทำหน้าไม่พอใจใส่มันอีกคนก็ยกยิ้ม มือหนาเอื้อมมือมาขยี้หัวเบาๆก่อนจะถาม

“ แล้วนี่กินมายัง จะไปกินอะไรหน่อยมั้ย "

“ ไม่หิวอะ กินขนมในรถมาแล้ว " ผมบอก " ไอ้ขมจัดหนักจัดเต็มขนมนี่กูต้องกินขนมทั้งหมดนั่นตอนอยู่ในรถแล้วมันก็เยอะมากกกกก ตอนนี้อิ่มขนมมากจนไม่อยากจะกินอะไรละ "

“ งั้นกลับบ้านเลยมั้ย "

“ ก็ดีนะ อยากจะอาบน้ำ แล้วก็นอนเอนหลังบนเตียง "

“ โอเค เดี๋ยวไปส่งเลยแล้วกัน " ชัดว่าก่อนจะขยับเกียร์แล้วเคลื่อนรถออกจากลาจอดรถของมหาลัย ขับรถตรงไปส่งผมที่บ้านแต่ยังไม่ทันถึงครึ่งทาง เสียงโทรศัพท์ของมันก็ดังขึ้น " รับโทรศัพท์ให้หน่อย " เอื้อมมือไปหยิบมือถือที่ตั้งอยู่ข้างหน้าตอนที่กำลังจะกดรับผมชะงักไปนิดหน่อยตอนที่เห็นว่าใครโทรมา " ใครโทรมา "

“ ปาย "

“ กดรับแล้วเปิดลำโพงให้หน่อย " มันบอก ผมก็ทำตามก่อนจะยื่นมือถือไปใกล้มัน " ว่าไง "

“ ชัดดดดดดด มึงอยู่ไหน "

“ มารับโมที่มหาลัย กำลังจะไปส่งโมที่บ้าน "

“ สวีทที่สุด " ปลายสายบอก ผมก็กรอกตามองไปทางอื่น น่าแปลกทั้งๆที่ปายเองเป็นแค่เพื่อน แล้วชัดเองมันก็แสดงให้รู้สึกว่าเป็นแบบนั้น แต่ผมก็ยังไม่ชอบเธออยู่ดี  เหมือนคนที่เราเห็นครั้งแรกก็ไม่ชอบเลย ไม่ต้องทำอะไรให้ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ เหมือนไม่ถูกชะตา

“ มึงมีอะไร "

“ จะชวนไปกินเหล้าสักหน่อยเนี้ย กูโทรไปชวนไอ้ภาพมันก็ไม่ว่าง บอกว่าจะพาลูกพาเมียไปแดกข้าวเหี้ยไรของมันไม่รู้ ส่วนไอ้เก่งมันว่าจะมา แต่กูแดกกับไอ้เก่งสองคนคงไม่มันส์ กูเลยชวนมึงไปด้วย มึงชวนโมด้วยสิ จะได้หนุกๆกัน " ชัดหันมามองหน้าผมที่ก็นิ่งไม่ได้ตอบอะไรมัน

“ ไอ้โมมันคงไม่ไปอะ มันเหนื่อย "

“ เหรอ เสียดาย งั้นมึงมานะ มาเถอะ กูแดกกับไอ้เก่งสองคนมันไม่ใช่ "

“ นึกคึกอะไรถึงอยากจะแดกเอาวันนี้วะ " 

“ นึกว่าตัวเองรวย ต้องผ่อนเงินออกจากกระเป๋าสักหน่อย " ปายว่าแบบนั้น ไอ้ชัดก็หัวเราะ " มึงเลี้ยง ? “

“ ไทยแชร์เถอะนะคะ จริงๆกูก็แค่อยากจะแดกเฉยๆ อีกอย่างกับพวกมึงกูไม่ค่อยกล้าหาญเลี้ยงหรอกจ้า แล้วตกลงจะมามั้ย " คำถามที่ทำให้ชัดหันมาสบตากับผม เหมือนกำลังดูสีหน้าผมว่าอนุญาติให้มันไปรึเปล่า " ไป แต่กูต้องไปส่งโมก่อน มึงอยู่ร้านไหนละ "

“ ร้านเดิมของเรา รีบไปส่งเมียแล้วรีบมานะจ๊ะ " ปายบอกอีกคนก็หัวเราะ ก่อนสายที่พูดอยู่จะตัดไป ผมกดวางสายก่อนจะตั้งมือถือไว้ตรงที่เดิม ชัดก็หันมาบอก

“ เดี๋ยวจะไปกินเหล้านะ "

“ อื้ม ก็ไปสิ มึงบอกมันว่าจะไปแล้วนี่ มาบอกกูอีกทำไม "

“ ทำไมท่าทางดูเหมือนไม่ค่อยพอใจ " ชัดว่าก่อนจะชะลอรถจอดติดไฟแดง ใบหน้าคมหันมามองหน้าผมที่ก็หันไปจ้องมองมันเหมือนกัน

“ ไม่ค่อยพอใจอะไร " ถามมันออกไปอีกคนก็เอื้อมมือมากอดคอ ก่อนจะก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากของผมเบาๆ แล้วผละออก ผมที่นิ่งอยู่แบบนั้น “ โอเคๆ มึงไม่รู้สึกอะไร ก็ไม่รู้สึก เลิกพูดเรื่องอื่นเถอะ สนใจเรื่องของเราดีกว่า " หันมองมันที่กอดคอผมอยู่ ชัดขยับเข้ามาหยิกแก้มก่อนจะยิ้ม

   บางทีอยู่กับมันก็ไม่ค่อยเข้าใจมันหรอก นอกจากคำพูดที่ผีเข้าผีออกของมัน ที่มันยังยืนยันว่ามันไม่ได้แปลกแค่เป็นคนตรงๆแต่ผมไม่ชินนั่น ก็ยังมีท่าทางแปลกๆอีก ชัดชอบหยิกแก้ม บางทีอยู่ด้วยกันสองคนมันชอบกอด หอม แล้วก็จูบ ไม่มีปี่มีขลุ่ยอะไรทั้งนั้น บางทีแค่นั่งข้างกัน มันก็เอื้อมมือมากอด พอหันไปหาก็โดนจูบเข้าให้แล้ว แถมยังโดนมองด้วยสายตาเชื่อมๆแบบแปลความหมายของมันไม่ค่อยออกนั่นอีก จนบางทีมันทำให้ผมรู้สึกว่า ไอ้เชี้ยนี่..เป็นอะไรมากรึเปล่า อยากใช่มั้ยมึง เซ็กส์จัดถูกมะ

“ เรื่องอะไร "

“ คิดถึง " มันยังคงพูดคำเดิมก่อนจะยิ้มแล้วหอมเข้าที่แก้มผม " กูคิดถึงมึงจริงๆนะ "

" ก็พูดอยู่แต่คำนี้อะ "

" เดี๋ยวถ้าพูดมากกว่านี้มึงจะตกใจ " ผมหันไปมองอีกคนก็ยกยิ้ม " มึงเล่นไม่ตอบไลน์ โทรไปก็ไม่รับ กูก็ต้องคิดถึงสิ "

" ใครมันจะไปกล้าตอบ กล้ารับ เพื่อนกูจ้องกูเหมือนจะหาเรื่องล้อกันอยู่ตลอดเลย น่าเบื่อจะตาย ขนาดแม่กูโทรมา มันยังแซวเลยว่าเป็นมึงรึเปล่า ผัวโทรมาเหรอ ผัวโทรมาเหรอ ถามอยู่นั่นอะ ดีนะแม่กูไม่ได้ยิน  ไม่งั้นเป็นเรื่อง " คิดถึงเรื่องตอนนั่งในรถแล้วอึดอัด ทั้งไอ้ม่านไอ้มู่ไอ้ขมก็มัวแต่จับผิดจะแซวผมอยู่นั่น โคตรน่าเบื่อ จะคุยกับไอ้ชัดหน่อยก็ไม่ได้คุยอะไรกันเลยเพราะมัวแต่หลบคนที่จ้องจะแซว 

“ นี่กูกลายเป็นผัวมึงแล้วเหรอ ยังไม่เอากันเลยนะ " ชัดแซวผมก็ขมวดคิ้วมุ่ยหน้าใส่มัน อีกคนก็หัวเราะออกมา ก่อนจะขยับตัวออกไปขับรถตามเดิม จะว่าไปก็คิดถึงมันเหมือนกัน คนเห็นหน้ากันทุกวัน คุยโทรศัพท์กันทุกคืน จับมือกันเวลานั่งรถ เราจูบกัน บางทีการที่ชัดเป็นคนชอบสัมผัสแบบนั้นก็ทำให้ผมชินแล้วก็คิดถึงมันมากกว่าที่ตัวเองคิดไว้ซะอีก

   ครืน ครืน ครืน

   เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง ผมมองดูเบอร์ที่โทรเข้ามา ก็ยังเป็นเธอคนนั้นเหมือนเดิมอีกครั้ง " ปายโทรมา "

“ ไม่ต้องรับละ กดปิดเสียง มันคงโทรมาตามให้ไปเร็วๆ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับชัดก็เร่งเครื่องยนต์ให้เร็วขึ้น ก่อนที่มันจะจอดติดไฟแดงอีกครั้ง ท่าทางที่ดูรีบขึ้นเหมือนจะรีบไปส่งผมให้เสร็จ แล้วจะได้ไปกินเหล้ากับเพื่อนที่โทรตามให้ไปเร็วๆอยู่ตลอดเวลา " นี่ชัด "

“ ครับผม "

“ กูไปกินเหล้าด้วยคนสิ " ผมหันไปบอกมัน อีกคนก็หันไปมองหน้าเหมือนสงสัยอยู่หน่อยๆว่าทำไมผมถึงเปลี่ยนใจ " ไม่มีอะไรหรอก แค่กูเบื่ออะ กลับบ้านไปก็คงไปนอนกลิ้งๆ เพราะยังไม่ง่วง ไปกินเหล้ากับมึงดีกว่า "

“ นี่ถามจริงๆ ยังคิดว่ากูสนใจไอ้ปายอยู่รึเปล่า "

“ เปล่า " ผมส่ายหน้าอีกคนก็เหล่ก่อนจะถอนหายใจออกมา ชัดยื่นมือมาลูบที่หัว " แค่อยากจะไป อยากจะอยู่กับมึงอีกสักนิดแล้วค่อยกลับบ้าน "

“ ถ้าพูดแบบนั้น ไปที่คอนโดกูง่ายกว่ามั้ง "

“ พูดเหี้ยอะไรของมึงวะ " ผมบอก มันก็หัวเราะ

“ แล้วมึงคิดอะไรรึเปล่า " ชัดหันมาจ้องหน้ามือหนาเอื้อมมือสะกิดแก้มผมที่ก็ยกมือขึ้นปัดมือมันออก

“ ไอ้เชี้ยย กูไม่ได้คิดอะไรหื่นๆแบบนั้นสักหน่อย "

“ อะไรกัน กูยังไม่ได้บอกเลยว่ามึงคิดอะไรหื่นๆ กูอาจจะคิดว่าเราแค่นั่งจับมือกันเฉยๆ แล้วดูหนังอะไรแบบนี้ก็ได้ "

“ ไอ้ชัด..” ผมหันไปเรียกมันเสียงนิ่งๆ อีกคนก็หัวเราะก่อนจะยื่นมือมาจับมือผมไปกุมไว้ 

“ โอเคๆ ไม่แกล้งละ  งั้นเดี๋ยวกินเหล้าเสร็จกูไปส่งมึงแล้วกันนะ "

“ อื้ม " ผมยักคิ้วให้มัน เรานั่งจับมือกันไปเรื่อยๆจนถึงร้านเหล้าที่ปายนัดมันมา ผมลงจากรถมองไปรอบๆ รู้สึกคุ้นตาว่าเคยมาที่นี่ ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ " อ้อ ร้านที่มึงเคยนัดกูมานี่ "

“ ใช่แล้ว " ชัดบอกมันกดล็อครถก่อนจะเดินเข้าไปในร้านพร้อมกันกับผม ภายในร้านที่มีคนเยอะกว่าปกติชัดมองไปรอบๆก่อนปายที่มาอยู่ก่อนแล้วจะยกมือขึ้นเป็นสัญญาณว่าเธอนั่งอยู่ตรงนั้น ตรงโต๊ะแบบโซฟาด้านในของร้าน

“ โย่วมึง " ปายทักไอ้ชัดก่อนจะหันมายิ้มให้ผม " โม หวัดดี "

“ หวัดดี "

“ ไหนชัดบอกว่าโมไม่มา " เธอถามผมก็นิ่ง ปายเลยยิ้มแห้งๆก่อนจะพูดต่อ " แต่มาก็ดีละ หลายๆคนสนุกดี "

“ ปายถามเหมือนไม่อยากจะให้มาเลยอะ " ผมบอกยิ้มๆพลางหัวเราะก่อนจะนั่งลงข้างไอ้ชัด

“ ไม่ใช่น้าาาาา อย่าคิดอะไรแบบนั้นสิ ก็ตอนแรกปายโทรไป ไอ้ชัดบอกกำลังไปส่งโม เลยคิดว่าโมจะไม่มา "

“ ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่มาหรอก แต่คิดไปคิดมา มาดีกว่า " ไม่ค่อยอยากจะให้ไอ้ชัดอยู่ใกล้ปายเท่าไหร่ ผมอยากจะพูดต่อไปให้จบประโยคแต่ไม่ดีกว่า เดี๋ยวเค้าจะหาว่าหึงแม้กระทั้งเพื่อน แม้มันจะจริงก็เถอะ

“ กินเหล้ากันดีกว่า มึงเอาแบบเดิมนะ

“ อื้ม " ชัดชงเหล้ามาให้ผมตั้งไว้ข้างหน้า  ก่อนจะชงของตัวเองที่เหมือนจะเข้มกว่าปกติ " เดี๋ยวๆ เข้มไปมั้ง " ผมหันไปบอกมันก็ยกยิ้ม

“ แก้วเดียวน่า เดี๋ยวค่อยลดแก้วหลัง "

“ ห้ามเมานะมึง ไปส่งกูที่บ้านด้วย " ชัดยิ้มมันยักคิ้วส่งมาให้ผม

“ ครับผม ไปส่งแน่นอน "

   ปล่อยให้ไอ้ชัดกินเหล้าไปเรื่อยๆเพราะคิดว่ามันน่าจะควบคุมตัวเองได้แน่นอนอยู่แล้วแม้ว่าเหล้าดีกรีแรงของมันที่บอกว่าจะลดแก้วต่อไป กลับไม่ได้ลดลงอย่างที่พูดก็เถอะ

    เสียงคุยเรื่องไร้สาระของไอ้เก่งกับปาย คลอกับเสียงเพลงที่เปิดเพลินๆ ปายชวนผมคุยบ้างเรื่อยเปื่อยพอให้ไม่น่าเบื่อ แต่สุดท้ายมันก็คุยแต่เรื่องในคณะมัน เป็นเรื่องตลกที่ชวนให้ผมขำไปด้วยกันได้ เรากินกันอยู่นานเกือบจะสามชั่วโมงเข้าไปแล้ว นานจนรู้สึกว่าตัวผมควรจะกลับบ้านได้แล้ว

“ ชัด " ผมหันไปกระซิบคนที่นั่งอยู่ข้างๆ " ไปส่งที่บ้านหน่อย "

“ จะกลับแล้วเหรอ " มันถามเสียงเบา ผมก็พยักหน้ารับ

“ โอเค " มันว่าแค่นั้นก่อนจะชัดเหล้าของตัวเองเข้าไปจนหมดแก้ว เปิดกระเป๋าตังค์ของตัวเองยื่นเงินให้ไอ้ปายก่อนจะยืนขึ้นแบบคนเซๆนิดหน่อย

“ เดี๋ยวๆ ทำไมเซ นั่นเมารึเปล่า " ปายถาม

“ เมาเชี้ยอะไร " ไอ้ชัดบอกไอ้ปาย แต่ผมว่ามันคงกรึ่มๆแล้วละ ไม่เมาได้ไงวะ ชงเหล้าแรงขนาดนั้นไม่รู้ไปอดอยากจากไหนมา  " เอาตังค์ไปค่าเหล้า กูกลับละ จะไปส่งไอ้โม "

“ จะไปส่งไอ้โม ? " เก่งพูดขึ้นก่อนจะเหลือบมองผม ที่ผมเองก็เหลือบมองมัน  เราคงมีคำถามเดียวกันในตอนนี้คือ ' จะพาไปส่งบ้านหรือจะพาไปแหกโค้งตาย '

“ อันตรายนะ สภาพมึงแบบนี้อย่าไปส่งโมเลย ให้โมขับรถไปส่งมึงที่คอนโดดีกว่าไอ้ชัด "

“ ทำไม กูไม่ได้เมาสักหน่อย " ชัดว่าก่อนจะส่ายหน้าไปมา มือหนาที่ดึงผมเข้าไปกอดคอ " ไปกันเถอะ เดี๋ยวกูไปส่งที่บ้าน "

“ โม..” ปายเรียก ผมก็หันไปยิ้มให้เธอก่อนจะพยักหน้ารับ

“ เดี๋ยวกูจัดการเอง ไปก่อนนะ ไว้เจอกัน "

   ประคองอีกคนเดินออกมาจากร้านเหล้า คนที่บอกว่าไม่เมาเอนตัวมาหาผมนิดหน่อยตอนที่เรากอดคอเดินกันอยู่แบบนี้ ชัดล้วงกุญแจรถออกมาจากกางเกงผมก็คว้ามันไว้ก่อน

“ เดี๋ยวกูขับเอง "

“ แต่กูไม่เมานะ " ชัดหันมาบอก ผมก็พยักหน้ารับ

“ อื้ม กูรู้ มึงไม่เมาแต่กูจะขับเอง เพราะกูไม่อยากจะเสี่ยงตายไปกับมึง " ยักคิ้วให้มันก่อนจะเปิดประตูคนนั่งข้างให้มันเข้าไปนั่ง ชัดที่หันมาบอกแบบเด็กดื้อๆคนนึง

" แต่กูไม่ได้เมานะ ยังมีสติดี ยังอยากจะจูบมึงอยู่เลย "

“ แบบนั้นแหละที่กูกำลังมองว่า มึงแม่งไร้สติแล้ว " ดันมันเข้าไปนั่งในรถปิดประตูเรียบร้อยผมก็เดินมาที่ฝั่งคนขับ

   ขับรถของชัดมาส่งมันที่คอนโดแทนที่จะเป็นบ้านของผม แน่นอนว่ามันในสภาพแบบนั้นผมไม่ยอมให้มันขับรถกลับมาคนเดียวหรอก ส่วนผมยังไงถ้าจะกลับบ้านเดี๋ยวให้คนที่บ้านมารับก็ได้

“ ถึงแล้ว ลงไปได้แล้ว " ผมหันไปบอกมันอีกคนก็นิ่ง " มีอะไร "

“ ทำไมไม่ขับไปที่บ้านมึงวะ "

“ แล้วพอกูถึงที่บ้าน มึงจะขับกลับเองงั้นเหรอ " ผมถาม มันก็พยักหน้ารับ

“ ก็ใช่นะสิ ก็กูไม่ได้เมานิ "

“ หึ อย่าหวังว่ากูจะยอมชัด กูยังไม่อยากหาแฟนใหม่ แล้วก็ยังไม่อยากไปงานศพมึงด้วย " เดินลงมาเปิดประตูให้มันอีกคนก็ยกยิ้มก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วดึงผมเข้าไปกอดไว้ 

“ โมน่ารักจัง "

“ ถอยไปเลยไอ้ขี้เมา " ผลักอกมันให้ออกห่างปิดประตูรถก่อนจะทั้งลาก ทั้งประคองมันให้เดินเข้ามาในคอนโด  นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมมาที่คอนโดมันแล้ว ครั้งแรกมาเอาของที่มันลืมไปแต่ครั้งนั้นผมยืนรอแค่นอกห้องไม่ได้เข้าไปข้างใน แต่หนนี้ดูท่าว่าคงต้องเข้าไปแล้ว

   แตะคีย์การ์คเข้ากับปุ่มสแกนประตูคนเข้าออก ผมกดลิฟต์ที่ชั้นห้องของมัน ก่อนจะไขประตูห้องแล้วดันให้อีกฝ่ายเข้าไปข้างใน ปิดประตูเรียบร้อยผมพามันไปไปนั่งที่โซฟาก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา

“ ไม่เมา ไม่เมาเหี้ยไร จะเดินยังเซมาพิงกู ตัวก็หนักยังกับยักษ์ แล้วยังจะบังอาจคิดจะขับรถกลับเองอีก  " ผมว่าก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นในห้องของมัน คอนโดของชัดเป็นแบบสองห้องนอน แต่ดูดีไซน์ออกแบบมาให้สำหรับอยู่คนเดียว ทั้งห้องตกแต่งในรูปแบบ loft เท่ๆ ดูดิบๆเหมือนตัวมัน " ชัดกินน้ำเย็นหน่อยนะ "

“ อื้ม " เสียงตอบรับเบาๆของมัน ผมคว้าแก้วก่อนจะกดน้ำที่หน้าตู้เย็น แต่ยังไม่ทันจะเสร็จคนที่คิดว่ารออยู่ที่โซฟากลับมายืนช้อนหลังกันก่อนจะกอดเอวผมไว้แน่น " โม "

“ อะไร " ผมถามก่อนจะหันหน้าไปมองแล้วยื่นแก้วน้ำเย็นไปให้มัน " กินน้ำสักหน่อย เผื่อจะดีขึ้น "

“ ตอนนี้ไม่อยากจะกินอะไรทั้งนั้น " ชัดว่า ก่อนจะดึงแก้วน้ำในมือผมไปตั้งไว้ที่เค้าเตอร์ใกล้ๆ แขนหนาที่รัดเอวผมมากขึ้นเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมที่กำลังส่งสายตาแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาให้ สายตาแบบที่มีความต้องการอยู่ในนั้น มันก้มลงมาใกล้ริมฝีปากของผม  " ตอนนี้อยากจะจูบมึง "

    ริมฝีปากอุ่นแนบชิดลงบนริมฝีปากของผมในวินาทีต่อมานั้น ชัดไม่ได้ต้องการคำตอบ มันไม่ได้ขออนุญาติเหมือนแค่บอกว่าตอนนี้ตัวมันต้องการอะไรและจะทำเลยทันที ลิ้นชื้นแทรกเข้ามาในปากของผม สัมผัสดูดดื่มที่ทำให้ผมแค่หลับตาไว้แน่นและตอบรับความดูดดื่มที่มากกว่าทุกครั้ง

   เสียงน้ำลายที่ก้องอยู่ในหูนั้นผมยืนนิ่งตอนที่มือหนาที่กำลังกอดเอวอยู่นั้นค่อยๆ เลื่อนเข้ามาในเสื้อแล้วโอบรัดผิวช่วงเอวที่หดเกร็งทันทียามที่มือหนานั้นลากผ่าน แล้วค่อยไล้ขึ้นสูงมาเรื่อยๆ

“ โม..” มันเรียกเสียงเบาๆ ก่อนจะผละริมฝีปากออกแล้วจูบลงไปที่ข้างแก้ม สบสายตาที่มองผมด้วยความต้องการ ชัดจูบลงที่ต้นคอของผม จูบลงไปเรื่อยๆ พร้อมกับมือที่ร่อนเสื้อขึ้นสูง " โม กูอยาก " มันว่าแบบนั้น ก่อนจะเลื่อนตัวเองมาจูบที่หัวนมของผม ใช้ริมฝีปากขบเม้มลงบนจุกหน้าอกนั้น

“ ชัด.. อย่านะ พอเถอะมึง มันมากไปแล้ว มึงพอก่อน วันนี้กูยังไม่พร้อม " ผมพยายามดันมันออก แต่เหมือนอีกคนก็ไม่ยอมหยุดแค่นั้น มือหนาคว้ามือสองที่ผมกำลังดันตัวมันขึ้นแล้วรวบไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะใช้มืออีกข้าง ดึงเสื้อของผมขึ้น มันจูบหน้าอกผมด้วยความดูดดื่ม ความรู้สึกที่ชวนให้ร่างกายร้อนผ่าว หน้าท้องเกร็งราวกับมีพายุลูกใหญ่หมุนวนอยู่ในนั้น

“ โม กูอยาก กูอยากมีอะไรกับมึง อยาก อยากมากไม่ไหวแล้ว อยากมีอะไรกับมึงมากๆ มากจริงๆ " มันพูดออกมาพูดเบาๆ ผมที่พยายามดิ้นออกจากการจับกุมนั้น ชัดกำลังไม่มีสติเพราะเมา มันที่กำลังเมาควบคุมความรู้สึกอะไรของตัวเองไม่ได้ทั้งนั้น  " โม กูรักมึง กูรักมึงมากๆเลย "

“ ชัด ไม่นะมึง ตอนนี้กูยังไม่พร้อม พอก่อนเถอะวะ " ผมบอกมันเสียงสั่นตอนที่มือหนาเริ่มล้วงเข้าไปในก้นของผม มันที่บีบเบาๆก่อนจะใช้นิ้วชี้แทรกเข้าไปถูตรงช่องทางหลัง " ไอ้ชัด อย่า! ตรงนั้น.. นี่! ” พยายามดึงมือที่ถูกมันตรึงไว้เหนือหัวให้หลุดออก ผมกระชามือตัวเองด้วยแรงทั้งหมดที่มี ก่อนจะคว้าเอาแก้วน้ำเย็นที่ตั้งอยู่ใกล้ๆแล้วสาดใส่หน้ามันไปเต็มๆ อีกคนก็นิ่ง " ชัด! ปล่อยกู! "

   ทุกอย่างนิ่งไป ชัดที่กำลังจูบผมมันผละตัวออกห่างเหมือนกับว่าน้ำเย็นที่สาดใส่ตัวนั้นช่วยเรียกสติของมันให้กลับมา สายตาคมเงยหน้ามองผมที่กำลังมองมัน

   ในแววตาที่รู้สึกเสียใจและตกใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น แววตาของผมในตอนนั้นมันมีน้ำตาเอ่ออยู่  ผมแค่ไม่คิดว่ามันจะทำแบบนั้น ขาของผมถอยห่างออกจากมัน แต่มือหนาที่เอื้อมมือเข้ามาใกล้หมายจะจับเพื่อคุยกันให้เข้าใจ แต่ผมในตอนนั้นกลับดันตัวเองออกหนีออกห่างจากมัน ไม่ยอมแม้จะให้มันแตะตัว

“ โม..”

“ กูจะกลับบ้านแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะ " ผมบอกมันแค่นั้นก่อนจะเดินไปที่ประตูโดยที่ไม่ได้ฟังมันพูดสักคำ ปิดประตูห้องลงก่อนจะวิ่งมาที่ลิฟต์แล้วลงไปชั้นล่างทันที

   ผ่อนหายใจหอบๆอยู่ที่หน้าคอนโด สมองผมมันเอาแต่คิดถึงคำพูดของมัน คำพูดที่บอกถึงความต้องการพวกนั้น  ' โม กูอยาก กูอยากมีอะไรกับมึง อยาก อยากมากไม่ไหวแล้ว อยากมีอะไรกับมึงมากๆ มากจริงๆ '

“ ช่างมันเถอะ ไอ้ชัดก็แค่คนเมา " ผมบอกตัวเองก่อนจะสะบัดหน้าไล่คำนั้นออกไปจากสมอง แต่ถึงอย่างงั้นในใจกลับมีเสียงนึงที่เถียงออกมา ' แต่คนเมามักไม่พูดโกหกไม่ใช่เหรอ ' และดูเหมือนว่า ผมจะปฎิเสธความจริงข้อนี้ไม่ได้ซะด้วย

...........................................................

พี่ชัดทำไมพี่ทำแบบนี้!!!! หนมรู้ว่าพี่อยากจะขย้ำน้องโม แต่พี่ต้องใจเย็นๆ
มันต้องค่อยเป็นค่อยไปนะคะ #สาดน้ำทั้งถังเพื่อเรียกสติพี่
แล้วตอนหน้าพี่จะมองหน้าน้องโมอย่างไร น้องโมจะให้พี่มองหน้าน้องเค้ามั้ย เล่าาา แบบนี้เนี้ยยย

วันนี้อัพนิยายช้า มัวเช็คอยู่ คือกลับบ้านมาก็ 20.30 ละแก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
กว่าจะเช็คอีกละ  ซอรี่เด้ออออ
มีคนอ่านประโยคแรกแม่งต้องคิด ทำไมไม่เป็นน้องหัวหอมวะ! #ตบเข่า
ใจเย็นแกรร ก่อนจะลืมคู่หลัก เราต้องเขียนคู่รองบ้างไรบ้าง อย่างที่รู้ คู่รองน้อย คู่หลักเยอะมาก
หลังจบพาสชัดโม นี่ยิงยาว เคนะตัว..

สุดท้ายฝากแท็ก #มมชลก ในทวิต
แล้วฝากแชร์ฝากไลค์ ในเพจหนมมี่ผู้ใสซื่อด้วยเด้อ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้าาา  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 19-05-2017 21:48:38
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 19-05-2017 21:54:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-05-2017 22:01:18
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 19-05-2017 22:19:45
ก็คนมันรักอ่ะน้อ

ว่าแต่คิดถึงหัวหอมจัง!!!
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 19-05-2017 22:36:53
วัยรุ่นไง เลือดร้อนต้องระบาย ยิ่งโมทำแบบแคร์คนอื่นมากเกินแบบนั้นด้วย ชัดก็คงรู้สึกบ้างแหละ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 19-05-2017 22:37:15
 o22 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-05-2017 23:00:41
แป่ว กำลังดีอยู่แล้วเชียว น้ำเมาทำพิษนะชัด พลาด

สงสารโม ไม่ชอบเพื่อนแฟนไม่พอ แฟนยังทำแบบนี้อีก ยิ่งคิดมากอยู่ด้วย
เมาไม่ใช่ข้ออ้างนะชัด เคลียร์ด่วน

5555 สามคนพ่อแม่ลูกเค้าไปดินเนอร์กันหรอ

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 19-05-2017 23:44:39
เฮ้อออ ชัดเอ๊ย

คิดถึงหัวหอมจัง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-05-2017 23:56:24
ก็เข้าใจอารมณ์ชัด
คนรักกัน ก็อยากมีอะไรกับคนรัก
แต่โม เพิ่งยอมคบเป็นแฟนกับชัด
โม เคยแต่ชอบหญิง กว่าจะคบกับชัด ก็ละล้าละลัง
ชัด ทำให้โม ตื่นตกใจไปแล้ว  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
กว่าโม จะยอมรับความรักแบบชายชาย
ชัด เอ๊ย.......ง้อโม ไม่ยิ่งยากรึ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 20-05-2017 00:58:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-05-2017 03:14:04
ความต้องการในส่วนลึกของคนเป็นแฟน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-05-2017 08:32:46
โมตกใจแล้วชัด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 20-05-2017 08:54:58
ง่ะ ชัดนิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-05-2017 10:57:53
โอ้ยยย ใจเย็นนนนนนน ชัดเอ้ย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 20-05-2017 11:02:55
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 20-05-2017 13:21:18
เราว่าเปนแผนของชัด ตั้งใจเมาให้โมมาส่ง แล้วจะจับโมกิน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-05-2017 14:00:52
จะนำคู่หลักหราาา 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-05-2017 15:54:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-05-2017 20:23:11
ชัดรู้ว่ารักและอยากกอดโม แต่รอโมพร้อมด้วยนะ แล้วก็มีสติกว่านี้หน่อย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 21-05-2017 20:48:08
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 29

   ขับรถมาเรียนในรุ่งขึ้นด้วยความรู้สึกในใจที่ไม่ปกติ ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่เห็นร่างสูงคนคุ้นตายืนอยู่ที่หน้าคณะของผม ตั้งแต่เมื่อคืนไอ้ชัดก็โทรหาผม แต่ผมก็ไม่ได้รับสาย ความรู้สึกตอนนี้ถามว่าโกรธมั้ย ก็คงไม่ได้โกรธ ผมเข้าใจว่ามันเมา แต่แค่ตอนนั้นยังไม่อยากจะคุยอะไรกับมันทั้งนั้นเพราะคำพูดพวกนั้นมันยังเข้ามาหลอนหูผมอยู่เลย ไอ้คำพูดที่ว่า ' โม กูอยาก กูอยากมีอะไรกับมึง ' คำพูดที่ชวนให้ร่างกายร้อนไปหมดจนแทบจะเป็นไข้ แล้วตอนเช้าก่อนที่จะออกจากบ้านเมื่อครู่ไอ้ชัดก็ไลน์เข้ามา

   ข้อความสั้นๆมาว่ามันจะรอผมที่หน้าคณะ มีเรื่องที่อยากจะคุยด้วย และผมก็คิดว่าคงไม่พ้นเรื่องเมื่อคืนหรอก

“ โม "

“ อื้ม " ผมหันไปหามันอีกคนก็เดินเข้ามาใกล้ " มีอะไร รีบพูด จะรีบไปเรียน "

“ คือ.. เมื่อคืนขอโทษนะ " มันว่าผมก็พยักหน้ารับ

“ ช่างเถอะ มึงเมา มึงก็คงไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ " ปากที่พูดออกไปแต่ทำไมใจถึงไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยว่ะ ยิ่งมาเห็นมันตอนนี้ก็ยิ่งทำให้ลืมคำพูดพวกนั้นไม่ได้ ไม่ต้องบอกว่าให้สบตามองมันหรอก ยืนใกล้มันยังรู้สึกร้อนเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังชวนให้คิดไปถึงว่าที่มันชอบกอด ชอบจูบผมบ่อยๆ เพราะว่าตลอดเวลาไอ้ชัดมันก็อยากจะมีอะไรกับผมใช่มั้ย แต่มันทำไม่ได้เพราะเราเพิ่งคบกัน ' ไอ้หื่นเอ้ย '

“ กูอยากจะคุยด้วย เย็นนี้ไปกินข้าวกันมั้ย "

“ เย็นนี้เหรอ ? “ ผมทำเป็นคิดทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีนัดอะไรทั้งนั้น " เดี๋ยวไลน์บอกได้มั้ย กูยังไม่รู้เลยวะว่ามีธุระอะไรรึเปล่า "

“ อื้ม ก็ได้ " มันพยักหน้ารับลง ทำไมรู้สึกว่ามันดูโรยแรงอย่างงั้นวะ สภาพเหมือนคนที่ยังไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ

“ ชัด นี่มึงยังไม่นอนเหรอ "

“ อื้ม " มันพยักรับอีกครั้งกับคำถามของผม " นอนไม่ค่อยหลับ " คงไม่ต้องถามว่าเรื่องอะไรผมเองก็รู้อยู่แล้วละ

“ งั้นกูไปเรียนก่อนนะ กูเข้าสายไม่ได้ "

“ โม " มันคว้ามือผมไว้ ในตอนนั้นด้วยความตกใจผมสะบัดออกทันทีอย่างที่ไม่เคยทำกับมันก่อน ชัดหน้าถอดสีคำพูดที่มันจะพูดหยุดชะงักลงไป

“ คือ..โทษที กูตกใจอะ ไม่ได้ตั้งใจจะสะบัดมือมึงออก "

“ ไม่เป็นไร " มันว่าเสียงเบา ผมก็ได้แต่กลืนน้ำลายตัวเองลงคอด้วยความรู้สึกผิด

“ แล้วเมื่อกี้จะพูดอะไร "

“ อยากจะคุยกับมึงจริงๆ ให้กูได้คุยกับมึงนะ " มันว่าแบบนั้นก่อนจะก้มหน้าลง " กูขอร้อง "

“ อื้ม เดี๋ยวว่างแล้วกูจะไลน์บอกแล้วกัน "

   ในห้องเรียนที่กำลังเสียงดังจากอาจารย์หน้าห้องที่กำลังสอน แต่สำหรับผมตอนนี้ทุกอย่างกลับเงียบงันไปเหมือนว่าไม่มีเสียงอะไรทั้งนั้น สมาธิที่ไม่ได้จดจ่อกับการเรียนมัวแต่ล่องลอยคิดเรื่องไร้สาระอย่างไม่มีที่สิ้นสุด คิดถึงหน้าตารู้สึกผิดของชัดเมื่อครู่ คิดถึงหน้าตาที่บอกถึงความต้องการของมันเมื่อคืน เสียงที่บอกว่าต้องการพวกนั้น

“ เป็นอะไรไปวะ " ขมเอ่ยทักขึ้นมา ผมสะดุ้งน้อยๆก่อนจะหันไปมองมันแล้วส่ายหน้า

“ เปล่า "

“ เลิกเรียนแล้วนะ มึงเหม่อตั้งแต่เข้าคาบจนหมดคาบเลย ยังบอกว่าไม่มีอะไรอีก " อีกคนถามผมก็แค่ยิ้มๆ ลุกขึ้นมองคนในห้องที่กำลังทะยอยเก็บของใส่กระเป๋า บ้างก็เดินออกไป ผมเองก็จัดการสัมภาระของตัวเองใส่กระเป๋าไอ้มู่ไอ้ม่านที่นั่งอยู่ข้างหลังก็เดินมาหา

“ พวกมึงวันนี้กินไรกันดี น้องโม วันนี้พี่ชัดมากินข้าวด้วยเปล่า " ไอ้มู่ถาม

“ วันนี้กูไม่กินข้าวนะ " ผมบอก ทั้งสามคนก็หันมามองหน้าผม

“ อ้าว ทำไมไม่กินวะ " ขมถามด้วยสีหน้ากังวล " มึงโอเคปะเนี้ย เป็นอะไรไปวะ "

“ กูโอเค แค่ไม่หิวเฉยๆ "

“ งั้นกูสองคนไปกินละ ขี้เกียจจะเซ้าซี้ " ไอ้ม่านบอกก่อนจะจูงมือไว้มู่แฝดตัวเองออกไป " แล้วมึงไปมั้ยไอ้ขม "

“ เดี๋ยวไป " ขมบอก " พวกมึงไปกันก่อนเถอะ "

“ โอเคได้ " ม่านกับมู่เดินออกไป ผมเหลือบมองไอ้ขมที่ก็เอียงหน้ามอง

“ ทะเลาะกับไอ้ชัดรึเปล่า " นั่นเป็นคำถามที่ขมถามออกมาตอนที่ในห้องไม่มีใครอยู่แล้ว คิดไว้แล้วว่ามันต้องถามแบบนั้น

“ กูไม่ได้ทะเลาะกับไอ้ชัด แต่ก็มีเรื่องนิดหน่อยมึง " ในเมื่อบอกปัดไม่ได้ก็ต้องบอกความจริงไป ไม่งั้นคนแบบไอ้ขมก็ต้องเซ้าซี้ถามจนรู้ให้ได้อยู่แล้ว ผมเดินออกจากห้องเรียน คิดในใจว่าจะเดินไปรอที่ห้องเรียนอีกคาบ แต่ทว่ามันยังมีการเรียนการสอนอยู่ก็เลยจำใจต้องเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ในตึก

“ แล้วมีเรื่องอะไรกัน หนักหนาถึงขั้นมึงต้องหลบหน้ามันเลยอะ "

“ เมื่อวานกูไปเป็นเพื่อนมันกินเหล้า แล้วมันก็เมา กูเลยตัดสินใจพามันไปส่งบ้าน จัดการให้มันนอนที่โซฟาเรียบร้อยแต่อยู่ๆชัดก็ลุกขึ้นมากอดกูที่ยืนอยู่ที่ตู้เย็น มันกอด จูบ มันไม่ใช่กอดจูบแบบที่เราทำกัน มันลึกซึ้งกว่าทุกครั้ง "

“ อ่าห๊ะ " ขมพยักหน้ารับ

“ แล้วหลังจากนั้นมันก็พูดว่า มันอยากจะมีอะไรกับกู มันอยากจะเอากู มันพูดอยู่แบบนั้นหลายรอบด้วยเสียงที่แบบ มันอยากจะเอากูจริงๆอะ ตอนนั้นกูกลัวมาก ไม่พร้อมด้วยแหละ กูเลยสาดน้ำใส่มันไป มันก็หยุดนะ แล้วกูก็วิ่งออกมา " ผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะพูดเสียงเบา " กูก็รู้นะมึงว่าคบด้วยกันแบบนี้ เรื่องอย่างว่ามันก็ต้องมีบ้าง แต่กูยังไม่พร้อมว่ะ "

" กูไม่คิดเลยว่าจะมาได้ยินอะไรแบบนี้ " ไอ้ขมพูดเสียงเบาๆก่อนจะส่ายหน้าไปมา " ตอนนี้มึงก็เลยไม่กล้าเจอหน้ามันว่างั้น "

" อื้ม " ผมพยักหน้ารับ " พอมานั่งคิดๆว่าตลอดเวลา ที่มันมองกู มันกอด มันหอม มันจูบ มันก็คงอยากจะทำเรื่องแบบนั้นอยู่ตลอดเวลา พอคิดแบบนั้นกูบอกตรงๆเลยว่า เวลาเห็นหน้ามันก็เหมือนจะมีเสียงที่บอกว่า กูอยากจะเอามึง อยู่ตลอดเวลาเลย จนรู้สึกร้อนไปหมด บอกไม่ถูกเหมือนกัน ว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไร "

   กำลังเขินที่ได้ยินคำพูดนั้นออกมาตรงๆ หรือกำลังรู้สึกกลัวที่ได้ยิน แต่คงไม่ใช่ความรู้สึกรัจเกียจด้านลบอะไรหรอกมั้ง เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ผมคงไม่กล้าเข้าใกล้มันไปแล้ว

“ แล้วมึงคิดยังไง ถ้าต้องมีอะไรกับมันละ "

“ ถามอะไรแบบนั้นวะ " ผมหันไปมองไอ้ขมมันก็ยิ้ม

“ ไม่เห็นจะแปลกเลย มึงบอกเองว่า มึงรู้ว่าคบกับผู้ชายก็ต้องมีเรื่องแบบนั้นกันอยู่แล้ว  งั้นมึงก็คิดไว้แล้วสิ ว่าสักวันต้องมีอะไรกับมัน งั้นมึงคิดว่าเมื่อไหร่ดีละ "

“ นานกว่านี้อะ เราคบกันไม่ถึงสามเดือนเลยนะเว้ย จะเอากันแล้วมันเร็วไปเปล่าวะ "

“ กูก็ไม่รู้วะ แต่ว่าไอ้ภาพเคยบอกว่ากูว่า เซ็กส์น่ะมันไม่มีคำว่าช้าไปหรือเร็วไปหรอก มันอยู่ที่เราพร้อมรึเปล่าก็เท่านั้น ผู้ชายที่ดีถ้าเราบอกเค้าว่าให้เค้ารอ เค้าก็รอได้ แต่ถ้าบอกไปว่า ให้รอก่อน แต่แม่งไม่รอให้เลิกคบไปเลย ไม่รู้นะ อาจจะดูจักกะจี้ไปหน่อย แต่ลองคุยกับมันสิ ไอ้ชัดคงอยากจะคุยกับมึงอยู่แล้ว "

“ อื้ม "

“ ถ้าแค่อื้ม กูว่าท่าทางก็คงหลบหน้าแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆแหละ " มันบอกก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา แต่ก็ไม่ผิดจากที่มันเดาหรอก ผมก็คิดจะหลบหน้ามันสักพักเหมือนกัน " มึงจะหลบทำไมวะ กูว่าไม่เห็นเข้าท่าเลย "

“ มึงไม่ได้มาเป็นคนฟังมันพูด มึงก็พูดได้ทุกอย่างนั่นแหละ " ผมหันไปบอก อีกคนก็นิ่ง " ถ้าวันไหนไอ้ภาพมาบอกมึงว่า ขมกูอยากจะมีอะไรกับมึง อยาก อยากมากๆ ขอกูเอามึงหน่อยได้มั้ย แล้วมันก็กอด ลูบเข้าไปในเสื้อมึง ดูดหัวนมมึง แล้วก็พูดอีกว่า อยาก กูอยากเอามึงมากๆเลย วันถัดมามึงคงไม่ยิ้มร่าแล้วบอกกับภาพว่า ภาพมาเถอะนั่งคุยกันนะ ขมคิดว่า ขมยังไม่พร้อม ไว้ก่อนนะ แล้วภาพก็โอเคๆ กอดกัน จบ  " ผมเว้นเสียงก่อนจะผ่อนลมหายใจแรงๆแล้วยิ้มให้มัน  " พอมันมาเป็นตัวของมึง เรื่องของมึง มึงทำไม่ได้อย่างที่มึงแนะนำกูหรอกขม "

“ เชี้ย ยกตัวอย่างซะกูขนลุก " อีกคนบอกก่อนจะส่ายหน้าไปมาเรียกสติที่เหมือนจะคิดจินตนาการไปถึงสิ่งที่ผมพูด พลางยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองแรงๆ " นี่มัน ดูดหัวนมมึงด้วยเหรอ "

“ อื้ม ทั้งสองข้างเลย จูบที่ซอกคอ แล้วก็ล้วงเข้าไปในตูด ถูตรงนั้น ตรงที่รูตูดกู" ก้มหน้ารับก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง อย่างไม่รู้จะทำยังไง หน้าร้อนไปหมด หัวใจเองก็เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา

“ มึงคงรังเกียจมันแล้วสินะ "

“ เปล่า ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร " ส่ายหน้าบอกอีกคน ขมก็ขมวดคิ้ว " กูคงแค่ยังไม่ชินละมั้ง ที่มีแฟนเป็นผู้ชายแล้วรู้สึกว่าตัวเองต้องเป็นฝ่ายหญิงแบบนี้ อีกอย่างกูไม่ได้ทำใจเตรียมไว้ว่ามันจะเอานิ้วมาถูรูตูดกูหรอก ไม่คิดว่าจะโดนใครทำอะไรแบบนี้ด้วย  "

“ ใครมันจะชินวะ ให้คนอื่นเอานิ้วมาถูตูดแบบนั้นแม้จะเป็นแฟนตัวเองก็เถอะ แต่มึงจะเอายังไงกับมัน จะหลบหน้ามันเหรอ "

“ กูหลบได้เหรอ " ผมหันไปถามอีกคนก็ยกยิ้มขึ้นมา

" นั่นนะสินะ " ไอ้ขมลุกเดินออกไปที่นอกระเบียงตึกมองไปรอบๆก่อนจะยกมือโบกทักใครสักคนก่อนจะเดินกลับเข้ามาหาผม " มึงหลบไม่ได้จริงๆ ไอ้ชัดมารอมึงที่โรงอาหารแล้วละ มากับไอ้ภาพ "

" มึงลงไปหาไอ้ภาพเถอะ มันคงมากินข้าวกับมึง "

" แล้วนี่มึงจะเอายังไง "

“ กูขอแค่ทำใจก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้ยังไม่อยากคุยอะไรทั้งนั้นอะ " ก้มหน้าลงมองรองเท้ากับพื้นที่ว่างเปล่าตรงหน้า ก่อนจะหันไปมองเสียงเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ท่ามกลางความเงียบของตึกเพราะยังไม่มีเสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียน ร่างสูงคนมาใหม่ที่ทำให้ผมผ่อนลมหายใจออกมา คิดเอาไว้แล้วว่าต้องเป็นมัน คนอย่างชัด ถ้าเป็นเรื่องของผม มันไม่รู้จักการรอคอยหรอก

“ กูไม่ได้พามันมานะ " ภาพพูดขัดขึ้นมาก่อนจะชี้ไปที่ไอ้ชัด " มันตามมาเอง กูแค่มาตามไอ้ขมไปกินข้าว "

“ หน้าตาดูเชื่อไม่ได้สุดๆเลยว่ะ " ขมพูดเสียงเบากับคำพูดของภาพที่พูดออกมา มันก็เหลือบมองผมก่อนจะถอนหายใจออกมา " มึงลงไปกินข้าวด้วยกันมั้ยโม "

“ ไม่ละ มึงไปเถอะ " ผมบอกก่อนจะหันมองชัดที่กำลังมองผมอยู่ " กูจะคุยกับชัดหน่อย "

“ เอางั้นเหรอ "

“ อื้ม " ก็ในเมื่อมันไม่มีทางเลี่ยงแล้ว สิ่งที่ทำได้ก็คือเผชิญหน้ากันมันนั่นแหละ แม้ว่าใจลึกๆจะยังไม่อยากจะพูดอะไรตอนนี้ก็เถอะนะ

“ งั้นกูไปก่อนนะ เดี๋ยวเจอกันตอนเข้าเรียน "

“ เจอกัน " ผมบอก ขมก็เดินไปลากภาพให้เดินออกไปจากตรงนั้น ชัดผ่อนลมหายใจออกมามันหย่อนตัวนั่งลงข้างๆผม " นี่มึงจะไม่คิดให้เวลากูทำใจกับเรื่องนั้นเลยใช่มั้ย "

“ กูรอไม่ได้แล้ว กูไม่อยากรอ  " มันว่าสั้นๆ ผมก็ก้มหน้าลงต่ำ

“ ตอนแรกเพราะคิดว่าหนีมึงไม่พ้นเลยจะคุยเย็นนี้แหละ แต่มึงก็คงใจร้อนกว่าสินะ "

“ ขอโทษนะโม " ชัดบอก " กูขอโทษเรื่องทำลงไป กูเมามาก กูขอโทษ "

“ อื้ม " ผมไม่รู้จะตอบอะไรเลยได้แต่พยักหน้ารับไปแค่นั้น

“ แต่กูรู้สึกแบบนั้นกับมึงจริงๆนั่นแหละ " หันขวับไปมองหน้ามันอีกคนที่หันมามองผม ในแววตาที่ผ่อนลงของมันชัดยิ้มจางๆ " กูจะไม่โกหกว่ากูไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้น กูรู้สึกแบบนั้นจริงๆ กูอยากมีอะไรกับมึงจริงๆนั่นแหละ "

“ พูดเชี้ยอะไรวะ " ผมจ้องหน้ามันขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองทางอื่น

“ ขอจับมือหน่อย "

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 21-05-2017 20:48:44
“ ไม่ให้จับ " ผมว่าก่อนจะดึงมือที่ตั้งนิ่งๆหลบมันเต็มที่อีกคนก็หัวเราะ " ขำเหี้ยอะไรนักหนา ใช่เวลาที่มึงจะมาขำเหรอวะ " คนบ้าอะไรวะมาง้อแฟนมาปรับความเข้าใจเรื่องที่ตัวเองทำไม่ดีไว้แต่เสือกมาพูดยอมรับความเหี้ยของตัวเอง แถมมาขอจับมืออีก นี่กูให้มึงนั่งใกล้กูก็บุญแล้วไอ้เหี้ย

“ ก็บอกว่าขอจับมือหน่อย " มือหนาเอื้อมมือมาจับมือผมไว้ทั้งสองข้างก่อนจะดึงให้หันมาเผชิญหน้ากัน ชัดยิ้มมันผ่อนลมหายใจออกมาแล้วพูด " กูอยากมีอะไรกับมึงจริงๆนะ กูยอมรับว่าตั้งแต่ได้จูบกับมึง กูก็อยากจะจูบอีก อยากจะกอด อยากจะหอมมึงตลอดเวลา แต่ก็ทำได้ไม่มากเพราะกูรู้ว่า เราเพิ่งคบกันทุกอย่างต้องเป็นไปตามลำดับ มึงเองก็ยังไม่เคย กูเลยได้แต่ต้องข่มใจไว้ "

“ แล้วพอมึงแดกเหล้าเข้าไป ความรู้สึกข่มเอาไว้มันก็ประทุขึ้นมา มึงจะบอกแบบนั้นใช่มั้ย "

“ อื้ม ก็มันเป็นแบบนั้น " ชัดพยักหน้ารับก่อนจะปล่อยมือผมออกข้างนึง มันยื่นมือเอื้อมขึ้นมาจับที่หัวผมแล้วจ้องลงไปในแววตา " ขอโทษนะโม ขอโทษจริงๆ กูไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ขอโทษที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ขอโทษที่ทำให้มึงรู้สึกว่ากูมันน่ารัจเกียจ "

“ กูก็ไม่ได้รู้สึกถึงขนาดนั้นหรอก " บอกปัดคำพูดสุดท้ายของมันที่คิดไปถึงขนาดนั้น " กูไม่ได้รังเกียจอะไรมึงสักหน่อย กูแค่ตกใจที่อยู่ๆก็โดนพูดแบบนั้นใส่ แล้วมึงจะมาจับนู้นจับนี่ของกูอีก ทั้งๆที่ตลอดเวลาคบกันมึงก็ไม่เคยทำ แล้วถ้ากูรังเกียจมึงจริงๆ กูไม่ให้มึงจูบตั้งแต่แรกหรอก พูดเหี้ยแบบนั้นออกมาได้ไง "

“ โทษที " มันว่าก่อนจะหันมายิ้มจางๆให้ผม " อย่าทำหน้าหงุดหงิดกูขนานนั้นสิ ไหงยิ่งพูดมึงยิ่งหงุดหงิดกูละเนี้ย "

“ ไม่ให้หงุดหงิดได้ไง มึงรู้มั้ยว่าตัวเองพูดเหี้ยอะไรออกมา รังเกียจเหี้ยไร กูไม่ได้รังเกียจมึงสักหน่อย แยกแยะให้ออกสิวะ ที่ไม่ชอบก็เพราะมันเร็วไปตังหาก ไม่ใช่ว่าเอากันไม่ได้แต่มันเร็วไป ไม่ได้รังเกียจ! " ตะคอกเสียงใส่มันด้วยความหงุดหงิด ไม่ชอบเลยเวลาคนมาเข้าใจความรู้สึกของผมผิดไป แล้วยิ่งเป็นคนตรงหน้าผมก็ยิ่งไม่ชอบ... ไม่ชอบก็เพราะว่าเค้าสำคัญ 

" หงุดหงิดกูใหญ่แล้ว " ชัดบอกก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ " โอเค กูพูดผิดไป กูขอโทษนะ คำพูดกูมันคงรุนแรงไป กูพูดไม่คิดโทษที "

" กูไม่ได้รังเกียจมึง " ผมจ้องแววตามันแล้วบอกเสียงเบาๆอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ โอเค กูรู้แล้ว " มันยิ้มก่อนจะปล่อยมือที่จับหัวผมอยู่ลงข้างตัว ก่อนจะพูดต่อ " แต่ว่าพอทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น การกระทำของกูมันก็ดูแย่มากเลย ทั้งๆที่คิดเอาไว้ว่า จะรอจนถึงวันที่มึงพร้อมแท้ๆ แต่สุดท้ายกูก็แพ้มัน แพ้ความต้องการของตัวเอง " ร่างสูงว่าพลางถอนหายใจออกมา " กูแพ้มันเพราะกูขาดสติ กูไม่น่ากินเหล้าเลย "

" ชัด..” มองคนที่เอาแต่ก้มหน้าแล้วเอาแต่โทษตัวเองอยู่แบบนั้น

“ กูจะเลิกกินเหล้าเวลาอยู่กับมึง จะไม่กินเหล้าอีกถ้ามึงอยู่ด้วย " มันบอก " แล้วก็จะเลิกกอดจูบมึงด้วย ไว้เราทั้งคู่พร้อมเมื่อไหร่ ค่อยว่ากันแล้วกัน " ทุกอย่างเงียบ ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากมัน ราวกับหัวใจของผมที่กำลังนั่งฟังมันหล่นลงไปบนพื้น จินตนาการถึงมือข้างที่ถูกมันกุมอยู่ในตอนนี้ถูกปล่อยลงไป เราที่เคยเดินจับมือกันหลังจากนี้จะทำได้แค่ยืนข้างกันเฉยๆเท่านั้น

“ คิดดีแล้วเหรอ " ผมถาม

“ กูอยากจะให้เราเริ่มใหม่ กูรู้สึกเหมือนตัวเองทำลายความรู้สึกดีๆที่มึงมีให้กูไปหมดแล้ว กูเลยอยากจะเริ่มมันใหม่ได้มั้ย " มันหันมามองผม

   ในตอนนั้นสมองของผมมันว่างเปล่ากำลังคิดว่านี่ดีแล้วเหรอ ต้องถึงขนาดนั้นเลยเหรอ แค่เลิกกินเหล้าตอนอยู่ด้วยกันนั่นก็โอเคแล้วไม่ใช่เหรอวะ แล้วต้องถึงขั้นไม่จับมือ ไม่กอดกันอีกแล้วเลยเหรอ ต้องทำถึงขนาดนั้นเชียว 

“ มึงทำแบบนั้นแล้วสบายใจเหรอ " ถามย้ำมันอีกที " จะสบายใจจริงๆเหรอวะ "

“ อื้ม " คำตอบของชัดเหมือนของหนักๆที่อัดลงมาใส่ใจผม " กูอยากทำโทษตัวเองที่ทำแบบนั้นกับมึง "

“ โดยที่ไม่ถามความสมัครใจของกูเลย ว่าอยากจะให้มึงแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไง " ยืนขึ้นเต็มความสูงของตัวเองตอนที่ถามมันออกไปเสียงเบาๆ 

“ โม..”

“ มึงเข้าใจอะไรกูผิดไปรึเปล่าวะ " ผมถามมัน " แค่บอกว่าไม่อยากจะมีอะไรด้วย ไม่ได้บอกว่า ไม่อยากจะให้กอดนะ ไม่ได้บอกว่าไม่อยากจะให้จับมือ ไม่ได้บอกว่า ไม่อยากจะให้หอมแก้ม ไม่ได้บอกว่า ไม่อยากจะให้จูบ มึงเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ทำไมมึงไม่บอกกูว่าไว้รอพร้อมเมื่อไหร่เราค่อยมีอะไรกัน ทำไมมึงไม่บอกว่า จะไม่กินเหล้าจนเมาแล้วขาดสติอีก ทำไมมึงไม่ถามกู ว่าอยากจะให้มึงทำอะไรเพื่อแก้ตัวมั้ย แต่มึงกลับคิดเองเออเองเรื่องทั้งหมดนั้น มึงคงคิดว่าดีแล้วสินะ " ผมเหลือบมองมันที่เงยหน้ามองผม " งั้นมันคงดีกับมึงคนเดียวแล้วละมั้ง แต่โทษทีว่ะ มันไม่ได้ดีกับกูเลย "

“ โม เดี๋ยว! " ชัดคว้ามือผมไว้ แต่ผมที่นิ่งไปหันมองมันด้วยสายตาแดงกล้ำเพราะอยากจะร้องไห้ออกมาเต็มทน ทำไมกูต้องมาร้องไห้ให้กับเรื่องแค่นี้ เรื่องที่ดูงี่เง่าของเราสองคนที่เหมือนคนพูดจากันไม่รู้เรื่อง มึงมีความคิดของมึง ส่วนกูก็มีความคิดของกู ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องที่เราสองคนควรแชร์ความคิด และความต้องการออกมาด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่เคยถาม เอาแต่ความคิดตัวเอง

   ตึง ตึ่ง ตึ้ง

   เสียงกริ่งเลิกเสียงดังขึ้นพร้อมประตูห้องเรียนที่ถูกเปิดออกมา ผมดึงมือออกจากชัดก่อนจะเบือนหน้าไปอีกฝั่งชัดเองก็ลุกขึ้นมายืนข้างๆ ทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อไม่ให้คนที่เดินออกมาจากห้องเรียนสงสัยในความสัมพันธ์ของเรา

“ อยากจะทำอะไรก็ตามใจละกัน กูไปละ มีเรียนต่อ" ผมบอกปัดมันในช่วงเวลาชุลมุนหันหลังเดินจะออกมา แต่ทว่ามันก็คว้ามือผมไว้ก่อนจะดึงเข้าไปในห้องเรียนวาดภาพห้องเล็กที่อยู่ใกล้ที่สุด " เชี้ย นี่! “

“ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ " ชัดบอกก่อนจะปิดล๊อคห้อง แล้วเดินเข้ามาใกล้ตัวผมที่ถอยร่อนจนติดกำแพง

“ ต้องคุยอะไรอีก มึงก็สรุปทุกอย่างออกมาหมดแล้วนี่ ก็ทำไปอย่างที่มึงต้องการนั่นแหละ ไม่ต้องถามกูหรอก เพราะมึงก็ไม่ได้คิดจะถามกูอยู่แล้วนี่ ว่าจะเอายังไง " ผมบอกก่อนจะหลบตาลงมองต่ำทันที ถึงแม้จะพูดออกไปแบบนั้น แต่ในใจของผมมันกลับบีบแน่นไปหมด รู้สึกน้อยใจมันชะมัด น้อยใจจนอยากจะร้องไห้ออกมาเพราะคำพูดและความคิดของมัน ที่บอกว่าจะไม่กอดผมแล้ว ทั้งๆที่ตัวผมไม่เคยคิดเลยว่าไม่อยากให้มันกอด

" นี่ " ชัดยื่นมือมาดันกำแพงข้างตัวผมไว้ มันที่ก้มลงมาหาใกล้ ผมก็เหลือบมองมัน

" จะทำอะไร "

“ ก็มึงบอกไม่อยากจะให้กูหยุดจูบมึงไม่ใช่เหรอ " คำถามที่มาพร้อมกับริมฝีปากหนาที่แนบสนิทลงบนริมฝีปากของผม ในวินาทีที่หลับตาแน่นอยู่นั้น ผมเผยอรับลิ้นอุ่นๆที่ขอแทรกตัวเข้ามา ทั้งๆที่น้อยใจมันอยู่ ทั้งๆที่โกรธมันอยู่ แต่พอเป็นชัด มือหนาที่กอดผมไว้ จูบอบอุ่นที่มอบให้ผม ความรู้สึกทุกอย่างก่อนหน้านี้ก็เหมือนค่อยๆถูกลืมเลือนไป หลงเหลือไว้แค่ความสุขในวินาทีนั้นเท่านั้น

   นี่เหรอ คือความรัก ความรู้สึกที่จะทำให้เราไม่เป็นตัวเรา เราที่กลายเป็นคนที่ทั้งไร้เหตุผล พูดจาวกวน และไม่ยอมรับแม้แต่ความรู้สึกของตัวเอง

   เวลาโกรธเค้าตอนที่ไม่ได้เจอก็มีความคิดแบบนึง แต่พอได้เจอความคิดก็เปลี่ยนไปเป็นอีกแบบนึง ความคิดที่เด็ดเดี่ยวก่อนหน้านั้นหายไปหมดแล้ว อย่างฉับพลัน ราวกับคนไม่มีสติและถูกชักจูงไปได้ง่ายๆเสียเหลือเกิน

   อย่างผมตอนแรกก็บอกว่าไม่อยากเจอ อยากจะห่างออกไปสักพักก่อน แต่พอชัดมาขอโทษแล้วบอกว่า จะไม่กอด ไม่จูบ ไม่หอม ไม่ทำเรื่องแบบนั้นกับผมอีก ทั้งๆที่ใจควรจะคิดว่าดีแล้ว ห่างกันก่อนไม่อยากจะเจอเรื่องแบบนั้นอีก แต่พอเอาเข้าจริงก็ทำใจไม่ได้ ไม่อยากจะให้มันอยู่ไกลตัว อยากจะให้มันอยู่ใกล้ๆ เสียใจกับคำพูดของมันขึ้นมาทันที ทั้งๆที่เป็นคำพูดที่ควรเห็นด้วย ด้วยซ้ำไป

“ ชักจะเกลียด..” ผมพูดออกมาเสียงเบาตอนที่ชัดผละริมฝีปากออก " ชักจะเกลียดตัวเองขึ้นมาจริงๆซะแล้ว " ลืมตามองมันที่อยู่ตรงหน้าผม " ทั้งๆที่อยากห่างกันเพื่อทำใจแท้ๆ แต่พอมึงพูดขึ้นมาจริงๆ ก็ทำใจไม่ได้ กูน่ะ.. ชักเกลียดตัวเองขึ้นมาซะแล้ว ที่รู้สึกแบบนั้น "

“ เกลียดมันทำไม มึงจะมาเกลียดคนที่กูรักไม่ได้นะ " ชัดบอกก่อนจะดึงผมเข้ามากอดไว้ " แค่เอาความรู้สึกตัดสินแทนสมอง ไม่เห็นว่ามันจะผิดอะไร รู้สึกอะไรก็พูดออกไปตามนั้น กูเองแค่รู้สึกว่า อยากจะทำโทษตัวเองที่ทำกับมึงแบบนั้น เลยอยากจะสร้างกฏให้ตัวเองไม่ยุ่งกับมึงสักพัก ต่อไปจะได้ไม่ทำกับมึงแบบนั้นอีก เพราะรู้ว่ามันคงทรมานมากที่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆมึง แต่ถ้ามึงไม่โอเค ก็บอกออกมา ตามความรู้สึก " ร่างสูงผละตัวออกห่างจากผม ชัดมองตาผม " มึงจะเอายังไงกับเรื่องของเรา โอเคมั้ยกับการตัดสินใจของกู "

“ ไม่โอเค " ผมบอกก่อนจะก้มหน้าลง มือที่วางข้างตัวนิ่งๆเอื้อมไปจับแขนมันไว้แล้วค่อยๆเลื่อนไปกอดตอบมัน " ไม่อยากให้มึงห่างกูไปแบบนั้น อยากให้อยู่ใกล้ๆ อยู่ใกล้ๆด้วยกันเหมือนเดิม "

“ งั้นเราจะทำยังไงดี " ชัดกอดผมแน่นขึ้น มันที่ซุกหน้าลงที่ไหล่ของผม ก่อนจะผละออกแล้วเปลี่ยนมาหอมแก้ม

“ มึงถอยออกไปก่อนสิวะ มาถามทั้งๆที่ทำเแบบนั้นอยู่ ใครมันจะไปคิดออก " ผมว่า มันก็ยกยิ้ม เราที่สบตากันตอนนั้นผมคิดว่า ตัวผมเองนั้น น่าเกลียดจริงๆแค่ถูกหอมแก้มก็ตื่นเต้นจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว ชัดจูบผมอีกครั้งก่อนจะดึงตัวเองออกห่าง ร่างสูงคว้ามือผมเดินไปที่เก้าอี้มันนั่งลงแล้วก็ดึงผมนั่งลงบนตัก " ปล่อยกูก่อนได้มั้ย เก้าอี้ก็มี มึงจะให้กูมานั่งเบียดมึงทำไม "

“ กูอยากกอดมึงไว้แน่นๆ มึงอยากให้กูอยู่ใกล้ๆ ไม่ใช่เหรอ "

“ ก็ให้มันรู้จักสถานที่บ้างสิวะ นี่ไม่ใช่บ้านมึงนะ " ผมขืนตัวเองออกห่างจากมัน อีกคนที่หลุดหัวเราะออกมา ท่าทางดูมีความสุขที่ทำให้ผมโกรธได้ " หัวเราะเชี้ยอะไร "

“ ก็หัวเราะมึง " มันว่าก่อนจะดึงหน้าตัวเองเข้ามาใกล้หน้าผม ที่ก็ชะงักไปทันที " เมื่อกี้ยังบอกอยู่เลยว่าไม่อยากจะให้กูห่างไปไหน อยากจะให้กอด อยากจะให้จูบ ไหงเผลอแปปเดียว บอกให้ถอยห่างอีกแล้วละ นี่ตกลงแฟนกูมีความรัก หรือกำลังเป็นวัยทองกันแน่วะ "

“ ไอ้สัด! ” กัดฟันเบาๆ มันที่ยักคิ้วให้ผม มือหนาก็ดึงเอวผมเอวไปยืนระหว่างขาของมัน มันยิ้มพลางหัวเราะเบาๆที่ได้ปั่นหัวผมให้สับสนอยู่กับความรู้สึกของตัวเองได้ " นี่แผนมึงรึเปล่า "

“ แผนอะไร " มันถาม ผมก็จ้องหน้ามัน สีหน้าที่ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัยอะไรนี่แหละ ชวนให้น่าสงสัยที่สุด

“ แผนที่ทำให้กูหายโกรธมึงง่ายๆ เพียงเพราะมึงมาบอกว่าจะไม่ใกล้กู มึงคงคิดสินะ ว่ากูเองคงไม่โอเคถ้ามึงจะห่างไปมึงเลยคิดแผนขึ้นมาเพื่อทำให้กูหายโกรธมึงเร็วขึ้นใช่มั้ย "

“ กูไม่คิดว่าตัวเองสำคัญกับมึงขนาดนั้นหรอกน่า " ชัดบอกก่อนจะเงยหน้าขึ้นยกยิ้มให้ผม " แต่ก็นะ..มันก็เกินคาดจากที่กูคิดละนะ "

“ เกินคาดอะไร "

“ ก็มึงรักกูมากกว่าที่กูคิดซะอีก ตอนแรกคิดว่ามึงคงแค่ชอบเท่านั้น " ริมฝีปากอุ่นจูบเข้าที่ริมฝีปากของผมอีกครั้ง มันถอนหายใจออกมาก่อนจะยิ้มกว้าง ท่าทางที่ดูยังไงก็ดูน่าหมั่นไส้

“ กูคิดออกแล้วว่าจะทำยังไงกับมึงดี "

“ ทำไง "

“ ห้ามทำอะไรรุ่มร่ามกับกู ไม่ว่าจะจูบ กอด หรือว่าอะไรก็ตาม ถ้ากูไม่อนุญาติก็ห้ามทำ "

“ เดี๋ยวนะ..เดี๋ยว คือต้องขออนุญาติจากมึง ”

“ ใช่ เราใช้ชีวิตตามปกติของเราแต่ว่าถ้ามึงจะมากอดจูบกู ต้องขออนุญาติกูก่อน ก็เท่านั้นแหละ แต่..ถ้าเป็นกูเริ่มก่อน ก็ได้ ไม่มีปัญหา "

" เอาแต่ใจชะมัด " ชัดบ่น " แล้วแบบนี้มันต่างอะไรกับที่กูบอกไว้ กูว่ามันก็คล้ายๆกันนะ "

“ ต่างสิ ที่ต่างคือ กูเป็นคนออกกฏไม่ใช่มึงไง แล้วอีกอย่างไม่คิดเหรอ ว่ากฏกูมันไม่น่าอึดอัดเลยสักนิดเดียว แค่ขออนุญาติเอง อีกอย่างกูก็ออกจะเป็นคนใจดีนะ "

“ หึ " ชัดยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมากับคำพูดของผม " ถ้าอย่างงั้นก็ขอลองหน่อยละกัน โม ขอจูบหน่อย " คำขอรวดเร็วที่ผมยังไม่ตอบอะไรแต่อีกฝ่ายกลับดึงผมเข้าไปกอด ก่อนจูบแบบรวดเร็ว

" ไอ้เชี้ยย กูยังไม่ได้อนุญาติเลยนะ " ผมว่าก่อนจะขมวดคิ้วใส่มัน ที่ก็หลุดหัวเราะออกมากับทีท่าของผม

“ อ๋อ ต้องได้รับคำว่า อนุญาติจากมึงก่อนสินะถึงจะจูบได้ เข้าใจละ "

“ ไอ้เชี้ยยย "

“ ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าหงุดหงิดกูขนาดนั้น " สองมือที่กอดผมไว้ยกขึ้น เหมือนคนยอมแพ้ " กูยอมแล้ว "

“ เออ " เบือนหน้าหนีไปอีกทาง ผมที่ผ่อนลมหายใจออกมาดีเหมือนกันที่อะไรๆก็ออกมาในรูปแบบนี้ และที่ดีที่สุดคือผมไม่ต้องอยู่ห่างจากชัดแล้ว

“ ขอโทษนะโม " คำพูดสั้นๆของคนตรงหน้าที่เอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ หันมองมันที่ยิ้มให้ผม " แล้วก็ขอบคุณที่ใจดีไม่เอาเรื่องกู ไม่รังเกียจกู ขอโทษอีกทีนะ "

“ คราวหลังก็อย่ากินเหล้าจนเมาขาดสติอีกก็แล้วกัน " ผมบอก มันก็พยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

“ งั้นกูไว้กินเหล้าอีกทีตอนที่..” เงยหน้าขึ้นมองหน้ามันที่เว้นเสียงไป ร่างสูงก้มลงมาหาผมพลางกระซิบ " ตอนที่มีอะไรกับมึงแล้วก็แล้วกัน ฉลองที่ได้เมียเต็มตัว "

“ ไอ้สัด " มือผมง้าขึ้นตอนที่เอ่ยคำนั้นแต่ยังไม่ทันฟาด ไอ้ชัดก็ก้มลงมาหอมแก้มผม มันที่ทำให้ผมหยุดค้างไปด้วยสายตาที่สบกันอยู่ในตอนที่มันผละจมูกออกมา ใบหน้าคมก้มลงจูบที่ริมฝีปากของผมอีกครั้งแต่คราวนี้มันเป็นจูบดูดดื่มที่ละมุนนุ่มและอบอุ่นยิ่งกว่าจูบครั้งไหนๆ ที่เราเคยจูบกัน ราวกับว่ามันกำลังขอโทษผม ขอโทษผ่านทางริมฝีปากของมัน และอ้อมกอดของมันที่กอดผมไว้ หัวใจของผมเต้นแรงแบบไร้จังหวะ ตอนที่จูบนั้นหยุดลง ริมฝีปากที่เลื่อนออกห่างช้าๆ ผมลืมตาขึ้นมองมัน มันที่ยิ้มอบอุ่นให้ผม และผมเองก็ยิ้มให้มัน ชัดพูดติดตลก

" โทษที ลืมขออนุญาติแฟนก่อน " ในตอนนั้นผมทำได้แต่ก้มหน้าลงหลบแก้มแดงๆของตัวเองที่ถูกมันจ้องมองอยู่ ผมเม้นริมฝีปากตอนที่ก้าวเข้าไปหามันแล้วซบลงที่ไหล่หนานั้นก่อนจะพูด

" ขอหลบหน้าหน่อย เขิน " 
.....................................................................

งื้ออออออ น้องโม น่ารักกกกกกก เขินตาม #อีนี่ก็อินทุกคู่ที่เขียน
ก็น่ารักไปอีกแบบไง รักใสๆ น่ารักๆ งี่เง่าบ้าง น่ารำคาญบ้าง
ตามภาษา ไม่มีใครว่าหรอก ความรักก็แบบนี้ ชอบทำให้คนผีเข้าผีออก บางทีก็เหมือนคนวัยทองตลอดเวลา
น้องโมเพิ่งมีความรัก ก็ค่อยๆปรับไปนะลูก  #จบพาสชัดโมไปอีกหนึ่งพาส
อาทิตย์หน้า ก้มาต่อกันด้วย น้องหัวหอมคนเดิม เพิ่มเติมคือ อาขมกลับมาร้าวววววววววว #กลับมานานแล้วมั้ย
#น่าๆ เดี๋ยวย้อนให้แกรรร เคนะ

สุดท้ายนี้ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิต
ฝากแชร์ฝากไลค์ ในเพจหนมมี่ผู้ใสซื่อ ด้วยเน้ออ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 28 - 19.5.60} #หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 21-05-2017 20:56:52
เอิ่มมม...พี่ชัดรู้ว่ารักแต่ใจร้อนไปหน่อยมั้ยนั่น
น้องโมเตลิดหนีไม่เข้าใกล้จะทำไงล่ะนี่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 21-05-2017 21:19:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 21-05-2017 21:21:16
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 21-05-2017 21:26:04
อ้าว~ เคลียร์กันได้แล้ว
ดีๆคนรักกันอย่าโกรธกันนานเลยเนอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-05-2017 21:33:56
ชัด โม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
พูดคุยกันเข้าใจกันแล้ว
โม ทำใหรู้ว่าความรักนี่มันซับซ้อนจริง
เดี๋ยวคิดอย่าง แล้วก็คิดอีกอย่าง ตัวโมเองก็งงกับตัวเอง
ชัด ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไป แต่ดีละปรับความเข้าใจกันเร็วๆ
ดีกว่ายิ่งนาน เข้าหน้ากันไม่ติด

รอ ภาพ ขม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
คู่ ชัด โม ล้ำหน้าไปแล้ว
ในใจภาพ คงอิจฉาชัดมากมาย  :z3: :z3: :z3:
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-05-2017 21:38:02
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 21-05-2017 21:44:16
เออ ก็เคลียกันง่ายดี ชอบ ไม่เยิ่นเย้อ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 21-05-2017 22:01:34
ตอนท้าย นึกว่าน้องโมจะตบพี่ชัดสักป้าบเสียแล้วว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 21-05-2017 22:30:02
เคลียร์กันได้ไวดีจริง ก็เพราะรักแหละเนาะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 21-05-2017 22:48:10
แบบนี้แหละ เคลียร์กันง่ายๆ เข้าใจกันง่ายๆนี่แหละดี
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 21-05-2017 22:49:47
น้องโมน่ารักขนาดนี้ ชัดจะไปไหนรอด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-05-2017 23:08:45
หูยย โมน่ารักอ่ะๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-05-2017 23:18:22
จ้ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 21-05-2017 23:34:58
งือออ โมน่ารักก  :-[
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 21-05-2017 23:40:15
มาแรงแซงโค้ง ขมภาพอะ โมเปรียบเทียบขมกับภาพแบบHDมากอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-05-2017 00:32:15
ใจหนอใจ หยอกกันหยอกกันมา จนจะทะเลาะอยู่ละ

เข้าใจคนละอย่างก็สมควรแล้วที่โมจะไม่อยากคุยกัน
โมคิดมาก คิดเยอะ ก็เข้าใจ แต่จริงๆคือแค่ไม่พร้อม
แต่ชัดคิดไปไกลกว่าอีก ดีนะที่ชัดใจร้อนมาง้อไว ไม่งั้นก็จะนอยด์ไปอีก

โมก็พูดถูก ใครไม่เจอก็พูดได้ ถ้าเจอแล้วจะทำได้เหมือนที่พูดไหม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-05-2017 00:44:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-05-2017 11:10:51
อื้อหือ~เท่าที่อ่านมานี่กอด จูบ หอมกันเยอะกว่าตอนยังไม่ได้ตั้งกฎอีกนะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 29 - 21.5.60} #หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 24-05-2017 20:58:33
คิดถึงกาลิค
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 26-05-2017 20:28:53
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 30

“ ถึงบ้านสักที โอ๊ยยยยยย เหนื่อย " ผมผ่อนตัวลงนอนกับโซฟาทันทีตอนที่เดินเข้ามาถึงในคอนโด หลับตาลงช้าๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นเพราะรู้สึกเหมือนมีใครบางคนมองดูอยู่ หัวหอมที่นั่งย่อข้างๆโซฟามันเอียงหน้ามองดูผม เผลอยิ้มออกมาก่อนจะเอื้อมมือดึงมันมากอดไว้ " คิดถึงหัวหอมจังเลยยย ไหนมาหอมกันหน่อย "

“ หอมมม " จมูกเล็กๆหอมลงบนแก้มผม ผมเองก็หอมแก้มมัน

“ นี่ยังหอมกันไม่พออีกเหรอวะ " ไอ้ภาพที่เดินตามเข้ามามันวางกระเป๋าตรงข้างโซฟาที่ผมนอนกอดแล้วก็หอมแก้มหัวหอมอยู่ มันที่เท้าสะเอวมองเรา ผ่อนลมหายใจเซ็งๆกับการแสดงความรักที่ก็ค่อนข้างจะมากเกินไปหน่อยแล้ว 

“ อิจฉารึไง ไม่โดนกูหอม " ผมถามอีกคนก็ผ่อนลมหายใจออกมาอีกครั้ง  ภาพเบือนหน้าหนี " แหม มึงต้องเข้าใจคนมันรักกัน เนอะหัวหอมเนอะ " ผมหันไปบอกภาพก่อนจะดึงตัวเองขึ้นนั่งตามปกติ ไอ้หัวหอมเองก็ด้วย มันขึ้นมานั่งบนโซฟาข้างๆผมพลางยื่นมือเล็กมากอดแขนผมไว้

“ กาลิครักอาขม "

“ อาขมก็รักหัวหอม " เอียงตัวลงไปซบมันอีกคนก็ยิ้มกว้าง

“ แล้วไม่รักอาภาพรึไง พออาขมกลับมาอาภาพนี่หมดความหมายเลยนะ " ร่างสูงถามก่อนจะยักคิ้วให้ไอ้ตัวเล็กที่ก็เอ่ยปากบอกเสียงใส

“ ไม่ใช่นะอาภาพ " หัวหอมโบกมือปฎิเสธ " เพราะว่ากาลิคไม่ได้กอดอาขมหลายวันแล้วตังหาก ตอนนี้ก็เลยต้องกอดอาขมก่อน "

“ อ๋อเหรอจ้าา จ้าๆ  เอาที่สบายใจเถอะจ๊ะ " ภาพบอกก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตัวเดียว มันเอื้อมตัวหยิบรีโมตก่อนจะเปิดทีวี

“ จะว่าไปกูซื้อของฝากมาฝากด้วยนะ " เอื้อมตัวไปหยิบกระเป๋าเดินทางของตัวเองออกมา ก่อนจะคว้าถุงใบโตขึ้นมา " อาขมซื้อชุดชาวมอญมาฝากหัวหอมด้วย นี่ไงงงง " ดึงมันขึ้นจากในถุงเป็นเสื้อไซส์เด็กสีสดใส " ไหนถอดเสื้อ เรามาลองกันดีกว่า "

“ ถอดเสื้อ " เจ้าตัวเล็กลุกขึ้นยืนผมก็ถอดเสื้อนักเรียนมันออกโชว์พุงกลมๆอยู่สักพัก ก่อนจะสวมเสื้อที่ซื้อมาให้

“ น่ารักกกกกก กะแล้วว่าต้องน่ารักมากแน่ๆ ไอ้ภาพมึงดูสิ " ผมหันไปบอกอีกคนที่ก็หันมามองดูก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ได้อยู่ นี่ถ้าทาแป้งหน้าขาวๆ ก็โอเคเลยอะ พาไปปล่อยแถวนู้นก็เป็นลูกชาวมอญไปเลย "

“ แล้วก็ซื้อเสื้อนี่มาฝากด้วย " ผมหยิบเสื้อสีขาว สีแดง แล้วก็สีน้ำเงินขึ้นมาก่อนจะชูให้ไอ้ตัวเล็กที่มีท่าทางงงๆดู " ไปมาแล้วกาญจนบุรี "

“ ไอ้กาลิคไปที่ไหน มึงไปอยู่คนเดียว " ไอ้ภาพว่าขัด ผมก็ถอนหายใจออกมา

“ ก็มันเป็นความทรงจำของกูไงว่ากูไปมาแล้ว แต่จะให้กูใส่เองก็แปลกๆ ซื้อมาให้หัวหอมใส่นี่แหละน่ารัก จะใส่ไปไหนก็ได้ จะเลอะจะสกปรกยังไงก็ไม่เสียดาย น่ารักออก " ผมว่าก่อนจะถอดเสื้อชาวมอญแล้วสวมเสื้อไปมาแล้วกาญจนบุรีสีขาวให้มัน " น่ารัก เด็กหน้าตาดีใส่อะไรก็ดูดีจริงๆน้าา "

“ มึงเหมือนแม่คนอะขม ไม่ก็พวกป้าๆที่ไปเที่ยวแล้วไม่รู้จะซื้ออะไร เลยซื้อเสื้อแบบนี้มาฝาก "

“ ไอ้ภาพ..” ผมหันไปยิ้มจางๆมองหน้ามันอีกคน " กูยังไม่เคลียร์กับมึงเรื่องให้ไอ้หัวหอมกินเคเอฟซีเลยนะ "

“ อุ้ย..” มันว่าเสียงเบาๆก่อนจะยิ้มให้ผมแล้วหันไปสนใจทีวีต่อ

“ แล้วก็ซื้อลูกอมมาให้ด้วย เป็นลูกอมของชาวมอญ "

“ ชาวมอญ คืออะไรเหรอ อาขม " ไอ้ตัวเล็กตรงหน้าถาม มันที่เอียงหน้างงๆ

“ ก็อย่างเราอยู่ในประเทศไทยเค้าก็เรียก ชาวไทย ส่วนคนที่อยู่ประเทศอื่นก็เรียกตามชื่อประเทศเค้า แบบว่า ชาวมอญ ก็คือ คนที่อยู่ในประเทศมอญไง " ผมอธิบายออกไปแบบไม่อิงประวัติศาสตร์เท่าไหร่ เอาเถอะให้มันรู้ไปแบบนั้นก่อน ถ้าอธิบายจริงๆ กูคิดว่าคืนนี้กูคงไม่ได้นอน จะให้มาอธิบายเรื่องเมืองขึ้น การย้ายถิ่นฐาน หรืออะไรแบบนั้น คงจะยังไม่ได้  " ยังมีอีกนะ นี่ อาขมซื้อของเล่นมาด้วย อะ " ผมยื่นให้มัน เป็นพวกของเล่นโบราน อยากกังหันที่ใช้มือหมุนๆแล้วมันจะลอยไป ลูกข่างที่หมุนแล้วเกิดเสียง อีกอย่างก็เป็นไม้พันกระดาษที่พอเหวี่ยงออกไปแล้วมันจะยืดออก

“ ของเล่นอะไรอะ "

“ มันเป็นของเล่นโบราน โบรานก็คือ มันเป็นของเล่นที่มีนานมาแล้ว " ผมบอกมันก็สอนมันเล่นทีละชิ้น พลางเหลือบมองไอ้ภาพที่กำลังดูทีวีอยู่ จะว่าไปก็มีของฝากมันเหมือนกัน แต่ก็อายเกินกว่าจะให้มันออกไปตรงๆวะ เพราะมันเป็นเสื้อไปมาแล้วกาญจนบุรีนี่แหละ ถ้ากูให้แม่งต้องด่ากูว่าเป็นป้ากรุ๊ปทัวร์อีกแน่เลย

“ มองอะไร " เสียงทุ้มที่กำลังดูทีวีอยู่พูดขึ้น ผมหันกลับมามองหัวหอมไอ้ภาพก็หันมาจ้องหน้า " อยากจะให้ของฝากกู ก็ให้ๆมาเถอะน่า คิดมากอะไร "

“ ของฝากเชี้ยไรวะ มึงอย่าหลงตัวเองดิ " ผมว่า มันก็ยกยิ้มก่อนจะเชิดหน้าไปที่ถุงใกล้ตัวผมที่ตั้งอยู่

“ ซื้อเสื้อมาฝากกูไม่ใช่รึไง "  มือหนายื่นมาตรงหน้า " กูรู้นิสัยมึงหรอกน่า เอาออกมาเถอะ ก่อนที่กูจะล้วงออกมาเอง "

“ สัด " สบถออกมาสั้นๆ ตอนที่ล้วงมือเข้าไปในถุง แล้วโยนออกมาใส่หน้ามัน เสื้อไปมาแล้วกาญจนบุรีสีขาว " กูแค่คิดว่าเอาไว้ให้มึงใส่นอน เพราะเนื้อผ้ามันนุ่มดี แล้วลายมันก็น่ารัก  ..ก็แค่นั้น "

“ ก็ยังไม่ได้ว่าอะไร " มันว่าก่อนจะกางออกดูแล้วยกยิ้มให้ผม " ขอบใจนะ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับกับมันภาพก็ถามต่อ

“ แล้วมึงไม่ซื้ออะไรมาให้ตัวเองเลยรึไง "

“ ก็ซื้อ " ผมบอก แม่ง ต้องถามอีกแน่ว่าซื้ออะไร แล้วกูไม่อยากจะบอกด้วยไงประเด็น

“ ซื้ออะไร " นั่นไงว่าแล้ว ผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะหยิบเสื้อตัวเองแบบเดียวกับไอ้ภาพขึ้นมา แล้วคือ เสือกไซส์เดียวกันด้วยนะ

“ เสื้อแบบมึงนั่นแหละ แต่ว่าอย่าเข้าใจผิดคิดว่ากูอยากจะซื้อชุดครอบครัวมาให้ด้วยกันอะไรทำนองนั้นนะ กูแค่ชอบลายมัน แล้วมันก็เป็นลายที่ดูดีที่สุดในร้านแล้วด้วย "

“ อาภาพ อาภาพได้เสื้อเหมือนกาลิคเลย " ไอ้ตัวเล็กที่นั่งเล่นอยู่เอ่ยบอก มันเดินมาหาภาพก่อนจะชี้ที่เสื้อมัน " อาภาพถอดแล้วก็ใส่เลย "

“ เอางั้นเหรอ "

“ อื้อ! " เจ้าตัวเล็กพยักหน้ารับไอ้ภาพก็ถอดเสื้อนักศึกษาของตัวเองออก ก่อนจะใส่เสื้อตัวที่ผมให้ไป " เหมือนของกาลิคเลย "

“ ของอาขมก็มีนะ " ไอ้ภาพชี้มาทางผม ไอ้หัวหอมมันก็เดินมา

“ อาขม อาขมก็ใส่ด้วยสิ ใส่เหมือนกันเลย น้าๆ ใส่ๆ ใส่ด้วยกัน " มันรับเร้าผมด้วยแววตาอ้อนๆ ที่ก็ต้องจำใจใส่เสื้อตัวที่ถืออยู่ในท้ายที่สุด " เราสามคนใส่เสื้อเหมือนกันเลย "

“ เค้าเรียกว่าเสื้อครอบครัวไง " ไอ้ภาพบอกอีกคนที่ก็พยักหน้ารับ " เป็นเสื้อครอบครัวเพราะเราสามคนใส่เหมือนกันเลย "

“ เดี๋ยวๆ กูบอกแล้วไง ว่าไม่ได้ซื้อมาในธีมครอบครัว กูแค่ซื้อมาเพราะเห็นว่าลายมันสวย มึงอย่าพูดว่าธีมครอบครัวสิวะ ธีมครอบครัวเหี้ยไรละ "

“ งั้นคืนนี้กาลิคจะใส่เสื้อครอบครัวนอน "

" นี่ ฟังอาขมหน่อยมั้ย ก็บอกว่าไม่ใช่เสื้อครอบครัว " ผมบอกมันแต่ไอ้ตัวเล็กก็ไม่มีท่าทีจะฟังอะไร มันดึงตัวเองเข้ามากอดผมไว้

" นะ อาขมนะ กาลิคจะใส่เสื้อตัวนี้นอน "

“ ไม่ได้หรอก ยังไม่ได้ซัก ใส่ไปคันพอดี " ผมบอกก่อนจะถอดเสื้อให้มัน " ดึกแล้ว ไปอาบน้ำนอนได้แล้วไป พรุ่งนี้ไปโรงเรียน "

“ แล้วอาขมกับอาภาพจะใส่นอนมั้ย "

“ ไม่หรอก เดี๋ยวอาขมกับอาภาพ ต้องถอดเหมือนกัน "

" จริงเหรอ แล้วถ้าใส่ กาลิคต้องใส่ด้วยนะ ใส่ด้วยกันนะ " มันว่าผมก็พยักหน้ารับ แบบยอมแพ้มัน สรุปว่า ยังไงมันก็ต้องเสื้อครอบครัวสินะ

" โอเค เราต้องใส่ด้วยกันอยู่แล้ว เพราะเสื้อครอบครัวน่ะ ต้องใส่กันเป็นครอบครัว ถ้ามีใครคนใดคนนึงไม่ใส่ เค้าก็ไม่ใส่กันหรอก หัวหอมไม่ได้ใส่อาขมกับอาภาพจะใส่ได้ไงละจริงมั้ย "

“ จริงงงงง " ผมยิ้มให้อีกคน ที่ก็ยิ้มกว้างตอบกลับมา ไอ้ภาพเองที่ก็ยกยิ้มออกมา น่าแปลก รู้สึกแก้มร้อนๆเขินๆยังไงก็ไม่รู้ เสื้อครอบครัวอะไรของมัน พูดออกมาได้ น่าอายจะตายไป 

   พาอีกคนเดินเข้ามาในห้องนอน จัดการถอดกางเกงที่เหลือก่อนที่หัวหอมจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ  ผมเดินตามมันเข้าไปเปิดฝักบัวให้มัน อีกคนก็หันมาบอก

“ อาขมๆ ตอนที่อาขมไม่อยู่ อาภาพกับกาลิคอาบน้ำด้วยกันแหละ "

“ เหรอ เป็นไงบ้างละ "

“ พี่หนอนของอาภาพตัวใหญ่มากเลยยยย ขนาดนี้ " มันอธิบายพร้อมกับมือตัวเองที่ทำขนาดบอก ผมนิ่งไปทันทีในตอนนั้น  ก้มหน้ามองมันไอ้ตัวแสบที่ก็อธิบายต่อ " แล้วก็มีผมด้วย "

“ อะ ระ เหรอ " ไม่รู้จะตอบอะไรเลยได้แต่พยักหน้ารับมัน รู้สึกในใจอยู่แค่อย่างเดียวในตอนนี้ ต่อไปนี้อย่าปล่อยหัวหอมไว้กับไอ้เชี้ยภาพอีกเป็นอันเด็ดขาด ไอ้ห่าาาาาา พี่หนอนมีผมคือเหี้ยอะไร เปิดKให้เด็กดูเพื่ออออ ไอ้สัด!!

“ อาขม ๆ " มือเล็กๆเขย่ามือผม " แล้วอาขมมีพี่หนอนแบบไหนเหรอ กาลิคอยากเห็น " ไอ้ชิบหาย อะไรกันวะเนี้ย กูไม่อยู่คืนเดียวกลับมา ไอ้หัวหอมมาขอดูKกูซะแล้ว แล้วพี่หนอนอะไรกันวะ สอนศัพท์อะไรแบบนี้ให้ได้ไง เหี้ยเอ้ยย

" เอ่อ ไม่ได้หรอก " ผมบอกปัด " อาขมเขินน่ะ "

" ไม่เห็นต้องเขินเลย อาภาพยังไม่เขินเลย "

" ก็ใช่นะสิ ไอ้นั่นมันหน้าด้านนี่ " ผมบอกอีกคนก็เอียงหน้างง

" หน้าด้าน ? "

“ แบบว่า ไม่เขินน่ะ " อธิบายมันอีกคนก็พยักหน้ารับ " อาขมอาย อาขมไม่เปิดให้ดูหรอก " เรื่องอะไรจะเปิดวะ ขืนเห็นของกูแล้วบอกของอาขมเล็กกว่าของอาภาพ แต่ว่าก็มีผมเหมือนกัน กูจะทำยังไง ความเป็นชายต้องโดนเด็กอนุบาลสองดูถูก ไม่มีทางเด็ดขาด!!

“ อ๋อออ " ใบหน้าน่ารักนั่นพยักหน้ารับเข้าใจ " แล้วอาภาพก็บอกว่า น้องหนอนของกาลิคยังเล็กอยู่ เลยไม่มีผม แต่ของอาภาพโตแล้วเลยมีผมละ งั้นถ้าโตขึ้นน้องหนอนของกาลิคจะมีผมใช่มั้ยครับ "

“ ก็ใช่นะ " ผมพยักหน้ารับอีกคนก็ยิ้ม

“ แล้วก็จะตัวโตขึ้นด้วยใช่มั้ยครับ จะตัวโตเหมือนของอาภาพเลย "

“ ก็ใช่อยู่นะ " พยักหน้ารับอีกที ผมพยายามสูดลมหายใจตัวเองเข้าไปเต็มปอด ระงับความอยากจะฆ่าคนสอนเรื่องแบบนี้กับไอ้หัวหอมสุดฤทธิ์ " แต่กาลิคฟังอาขมนะ อย่าเอาเรื่องพี่หนอน น้องหนอนไปพูดที่โรงเรียนนะ "

“ ทำไมละ "

“ เด็กไม่เค้าไม่พูดกันหรอก " ผมบอก " ไว้โตแล้วค่อยพูดนะ ถ้าพูดต้องโดนเพื่อนล้อแน่เลยแหละ คุณครูก็จะมองว่าเป็นเด็กไม่น่ารักด้วยนะ " แล้วคุณครูก็จะเรียกกูไปพบอีกโทษฐานที่สอนให้ลูกตัวเอง อวดน้องหนอนกับเพื่อนๆแบบไม่อาย " แล้วจำไว้นะ ว่าของตรงนี้ จะให้ใครมาดู มาจับ ไม่ได้นะ มันเป็นของสำคัญ เป็นของที่เราไว้ดูคนเดียวนะ "

“ น้องหนอนนี่นะเหรอ ไว้ดูคนเดียว "

“ ใช่ " ผมพยักหน้ารับ

“ แต่ว่าอาขมก็เห็นน้องหนอนของกาลิคแล้วนี่ " มันว่าพลางเอามือมาปิดน้องหนอนของตัวเองสุดฤทธิ์ ดูเค้าทำอยากจะหยิกแก้มมันจริง เด็กหนอเด็ก สอนอะไรก็เชื่อไปหมด นี่แหละน้า ผ้าขาว

“ อาขมน่ะเป็นคนในครอบครัว ไม่เป็นไร แต่ว่าถ้าเป็นคนอื่นน่ะไม่ได้นะ เข้าใจมั้ย "

“ เพื่อนก็ไม่ได้เหรอ "

“ เพื่อนก็ไม่ได้ " ผมบอก ไอ้ตัวเล็กตรงหน้าก็พยักหน้ารับเข้าใจ

“ กาลิคเข้าใจแล้วครับ "

“ ดีมาก งั้นก็อาบน้ำให้สะอาดๆเลยนะ เดี๋ยวเราจะได้แต่งตัวเข้านอนกัน มานอนกอดกันดีกว่า "

“ คร๊าบบบบบบบ "
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 26-05-2017 20:29:27

   อาบน้ำแต่งตัวปะแป้งให้หอมไปทั่วตัวเสร็จเรียบร้อย ผมจัดการใส่ชุดนอนให้หัวหอมที่ก็ขึ้นไปนอนรอบนเตียงทันที หย่อนตัวเองนั่งลงบนเตียงข้างมันหยิบการ์ตูนขึ้นมาเปิด หมายจะอ่านแต่อีกคนก็ห้ามไว้ " อาขมๆ กาลิคอยากจะฟังการ์ตูนของอาภาพต่อ "

“ การ์ตูนของอาภาพเหรอ " ผมทวนถามอีกคนก็พยักหน้ารับ " เรื่องอะไรละ " คงเป็นเรื่องทั่วไปมั้ง พวกการ์ตูนที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว

“ เรื่องที่ว่ามันจะมีเด็กผู้ชายขี้เหงาขี่จักรยาน "

“ ผู้ชายขี้เหงาขี่จักรยาน ? " ผมทวนคำถามกับมันก่อนจะเอียงหน้างง ไม่เคยอ่านเลยวะ นี่มันไม่ได้เล่าเรื่อง หนูน้อยหมวกแดงอะไรเทือกนั้นเหรอวะ  " ไม่เคยฟังเลยนะ แล้วมันว่าอะไรอีก "

“ เด็กผู้ชายขี้เหงาเจอกับเด็กข้างบ้านที่ร้องไห้ไง ที่ร้องไห้รอให้แม่กลับบ้าน แล้วเด็กผู้ชายขี้เหงาเลยไปเล่นเป็นเพื่อนไง " เดี๋ยวนะ ทำไมเรื่องนี้ค่อนข้างคุ้นๆ  " อาขมไม่รู้เหรอว่าเรื่องอะไร "

“ ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้หรอก " ผมบอก หัวหอมก็ดึงตัวเองเข้าไปในนอนใต้ผ้าห่ม เตรียมตัวฟังนิยายก่อนนอนด้วยความสนใจ " แล้วอาภาพเล่าถึงไหนละ "

“ ถึงที่บอกว่า เค้าเล่นกันละ " ผมยิ้มออกมาตอนที่อีกคนบอก

" คิดไงถึงเล่าเรื่องตอนนั้นวะ " พูดกับตัวเองออกมาเบาๆ เผลอคิดถึงเรื่องเมื่อก่อนแล้วตลกชะมัด ตลกทั้งท่าทางของตัวเองแล้วก็ท่าทางของไอ้ภาพด้วย แล้วจำได้ว่าหลังจากวันนั้นวันนั้นมันโดนพ่อกับแม่มันสั่งห้ามปีนรั้วบ้านผมอีก แต่เพราะอยากจะเล่นด้วยกัน เราก็เลยนั่งเล่นกันที่ประตูรั้วผมอยู่ในเขตบ้านผมส่วนมันก็นั่งอยู่นอกรั้ว มาคิดตอนนี้ก็เหมือนพวกแบ่งแยกดินแดนยังไงอย่างงั้น

" อาขม.."

" ต้องเล่าต่อสินะ " ผมว่าก่อนจะนอนลงข้างมัน " เด็กผู้ชายสองคนนั่งเล่นด้วยกัน เด็กผู้ชายขี้เหงา " ผมแบะปากหน่อยๆตอนที่เอ่ยชื่อนั้นออกมา ช่างตั้งชื่อให้ตัวเองเหลือเกินพ่อคุณ แบ๊วมาก ไม่เข้ากับหน้าตาสุดๆ แล้วขี้เหงาเหี้ยอะไร แค่คนที่ไม่เพื่อนเล่นเท่านั้นแหละ ของเล่นแม่งก็เยอะแยะ พ่อแม่ก็ตามใจ พี่เลี้ยงก็มี โถ่ ทำเป็นน่าเอ็นดู " เด็กผู้ชายขี้เหงาก็ถามเด็กคนนั้นว่า ' ร้องไห้ทำไม ' แล้วเด็กคนนั้นก็ตอบว่า ' รอแม่กลับบ้าน แม่ยังไม่กลับ ' เด็กชายขี้เหงาพอได้ยินก็ยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้แล้วก็บอกว่า ' ไม่ต้องร้องไห้นะ เราจะเล่นเป็นเพื่อนจนกว่าแม่จะเลย ' “

“ เด็กผู้ชายขี้เหงาใจดี "

“ อื้ม จะว่าแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอก เค้าใจดี " ภาพเป็นคนใจดี มันอบอุ่นแล้วก็อ่อนโยนจะตายไป แค่เป็นมุมที่อยู่ลึกมากๆของมันก็เท่านั้นแหละ " พอได้ยินแบบนั้น เด็กผู้ชายก็ดีใจมากก็เลยถามออกไปว่า ' จะมาเล่นด้วยกันทุกวันเลยเหรอ ' เด็กผู้ชายขี้เหงาก็บอกว่า ' ใช่ จะมาเล่นด้วยทุกวันเลย '  แต่ว่าเด็กผู้ชายคนนั้นก็ไม่มั่นใจในตัวเด็กชายขี้เหงาสักเท่าไหร่ เค้าที่เงียบไปเด็กผู้ชายขี้เหงาก็เลยยื่นนิ้วก้อยมาให้ ' งั้นเรามาเกี่ยวก้อยสัญญากัน ฉันจะมาเล่นกับนายทุกวันเลยดีมั้ย ถ้าสัญญากันแล้ว ก็จะไม่ผิดสัญญาหรอกนะ ' เด็กคนนั้นพอได้ยินดีใจมากที่ตัวเองจะมีเพื่อนเล่นแล้ว ก็เลยยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับเด็กผู้ชายขี้เหงา ' สัญญานะว่าจะมาเล่นด้วยกันทุกวัน ' เด็กผู้ชายขี้เหงาก็ตอบว่า ' สัญญาสิ จะมาเล่นด้วยกันทุกวันเลย ' แล้วหลังจากนั้นเด็กทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนเล่นกันตลอดไป "

“ เด็กผู้ชายขี้เหงา ก็จะไม่เหงาแล้วใช่มั้ยครับ " หัวหอมถามผมก็พยักหน้ารับ

“ ใช่แล้ว แล้วเด็กคนที่ร้องไห้ก็ไม่ต้องร้องไห้อีก ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันตลอดไป "

“ จบแล้ว "

“ จบแล้วแต่เด็กยังไม่หลับเลย งั้นเรามากอดกันดีกว่า หัวหอมหลับตาลงได้แล้ว " เอื้อมมือไปกอดมัน หัวหอมก็พลิกตัวกลับมากอดผมก่อนจะหลับตาลง

   ความเงียบที่ค่อยๆผ่านไปช้าๆ เสียงลมหายใจของคนในอ้อมกอดก็เช่นกัน มันค่อยๆผ่อนลงเป็นจังหวะบอกให้รู้ว่าเด็กน้อยในอ้อมกอดของผมได้หลับสนิทลงแล้ว ดึงตัวเองลุกขึ้นจากเตียงห่มผ้าห่มให้มันก่อนจะเดินออกไปนอกห้อง หันมองไปรอบๆห้องที่คิดว่าไอ้ภาพจะนั่งดูทีวีอยู่แต่ก็ไม่มี

“ อยู่ไหนของมันวะ " เหลือบมองไปที่นอกระเบียงก่อนจะยกยิ้มขึ้นตอนที่เห็นร่างสูงกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่ตรงนั้น " พอกูกลับมาก็สุขกายสบายใจจริงๆนะไอ้สัด " พูดออกมายิ้มๆผมเดินไปที่ตู้เย็นหยิบเบียร์ที่แช่อยู่ชั้นในสุดออกมาก่อนจะเดินไปเปิดประตูระเบียงแล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างมัน " สุนทรีย์จังนะ ไอ้เด็กชายขี้เหงา "

“ ไอ้สัด " ภาพสบถก่อนจะเงยหน้ามองผมที่ก็ยิ้มก่อนจะเบือนหน้าหนี แล้วเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ก็เลยหันมาถามอีกที  " เดี๋ยวๆ แล้วนี่มึงรู้ได้ไง "

“ เรื่องอะไร เรื่องไอ้เด็กชายขี่เหงาขี่จักรยานเหี้ยไรนั่นอะนะ " ผมถาม คนฟังก็นิ่งมันพยักหน้ารับ " ไม่เห็นยาก ไอ้หัวหอมมันก็ต้องเล่ากูสิ "

“ เชี้ย กูก็คิดว่ามันลืมไปแล้ว "


“ ลืมเชี้ยไร มันออกจะชอบ " ผมบอกก่อนจะเปิดกระป๋องเบียร์ในมือขึ้นดื่ม หันมองไอ้ภาพที่ตอนนี้มือนึงถือเบียร์ อีกมือนึงก็ดูดบุหรี่ " เป็นเหี้ยไรวะ "


“ อะไร ? " มันทวนคำถามงงๆ

“ ก็มึงเล่นแดกทั้งเบียร์ ทั้งสูบบุหรี่ เครียดเรื่องเหี้ยอะไร " มันมองของในมือตัวเองพลางส่ายหน้า

“ เปล่า กูแค่อยากจะแดกเท่านั้นแหละ ไม่แดกเบียร์กับสูบบุหรี่มานานแล้ว " มันบอก " ก็ตั้งแต่กาลิคมาอยู่กับเราเลยละมั้ง "

“ ก็จริงนะ " ตั้งแต่หัวหอมมาอยู่กับเรา เราไม่ได้ออกไปผับอีกเลย แม้จะนั่งกินเบียร์ชิวๆในห้องก็ไม่ได้ทำ

“ แล้วมันเล่ามึงว่าไงบ้างละ " ผมหันไปมองมันที่ก็หันมามองผม " ก็เรื่องไอ้เด็กผู้ชายขี้เหงานั่นไงมันเล่ามึงว่าอะไร "

" ก็ไม่มีอะไร แค่บอกว่าอยากจะฟังนิทานเรื่องที่อาภาพเล่าเมื่อวาน กูก็คิดว่ามึงเล่าเรื่องทั่วไป พอถามไปถามมา เลยรู้ว่ามึงเล่าเรื่องตัวเองซะงั้นอะ "

“ หึ ก็เมื่อคืนกูเล่าไม่จบละนะ มันหลับไปก่อน "

“ คิดถึงเมื่อก่อนเนอะ " เอ่ยบอกมันสั้นๆ ภาพก็หันมามองหน้า " คิดถึงตอนเป็นเด็ก ตอนที่นั่งเล่นกันผ่านประตูรั้ว แล้วพี่เลี้ยงมึงก็ตามหามึงไปซะทั่วบ้านเลย คุณภาพ คุณภาพ แล้วสุดท้ายก็มาเจอมึงนั่งเล่นกับกูที่หน้าบ้าน "

“ แล้วคราวนี้พี่แก้วก็บอกว่า คุณภาพทำไมมานั่งเล่นที่พื้นแบบนี้ละคะ " มันบอกก่อนจะยกยิ้มแล้วยกเบียร์ในมือขึ้นดื่ม " แล้วก็แม่งโวยวายใหญ่เลย ว่ากูนั่งบนพื้นสกปรก จะพากูเข้าบ้านให้ได้ ได้เวลาอาบน้ำแล้ว "

“ แต่มึงก็ไม่ยอมเข้าบ้าน เพราะว่าแม่กูยังไม่กลับ ยังอยากจะเล่นเป็นเพื่อนกูก่อน " ผมเสริม

“ สุดท้ายกูก็ดื้อนั่งเล่นกับมึงจนแม่มึงมาถึงบ้าน "

“ ตอนนั้นมันเหงาจริงๆนะ " ผมบอกมันเสียงเบาๆ อีกคนก็ยิ้ม คิดถึงตอนที่ตัวเองเป็นเด็กแล้วรู้สึกว่า ผมเองก็มีความทรงจำแย่ๆเต็มไปหมดเหมือนกัน จำได้ว่าตอนนั้นเพิ่งย้ายเข้าไปบ้านนั้นใหม่ๆ ไม่กล้าอยู่คนเดียวด้วย เลยตัดสินใจมานั่งรอแม่หน้าบ้าน ทั้งๆที่อายุก็เท่าหัวหอมเอง มาคิดตอนนี้แล้วแม่ก็กล้าเหมือนกันที่ทิ้งผมไว้แบบนั้น แต่ก็นะ มันไม่มีทางเลือกนี่หว่า เราไม่ได้รวยพอที่จะจ้างพี่เลี้ยงหรอก แม่เองก็พยายามเต็มที่แล้วละที่จะเลี้ยงดูผมอย่างดีก็สุดความสามารถที่เค้าจะทำได้แล้ว  แต่ว่าตอนนั้น ผมโชคดีจริงๆแหละที่มีไอ้ภาพอยู่เป็นเพื่อน

“ คิดอะไรอยู่ " ไอ้ภาพถาม " คิดถึงอดีตอีกละสิมึง แก่แล้วรึไงวะ "

“ เกี่ยวเหี้ยอะไรกับแก่วะ "

“ มีแต่คนแก่เท่านั้นแหละ ที่คิดถึงเรื่องอดีตตอนที่เป็นเด็ก " มันบอก ผมก็ถอนหายใจออกมา พลางเหลือบมองมัน

“ กูแค่คิดว่า กูโชคดีที่ตอนนั้นมีมึงเป็นเพื่อน ถ้าไม่มีมึงตอนนั้นกูคงแย่กว่านี้ "

“ มึงนี่ก็พูดเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉยเลยนะสัด " มันว่าก่อนจะส่ายหน้าไปมา หูไอ้ภาพแดงมันที่กำลังเขิน ผมแซว

“ มึงเขินละสิท่า กิ้วๆ  "

“ ก็ต้องเขินมั้ยละสัด! อยู่ๆมาพูดเชี้ยอะไรแบบนั้น " เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนจะก้มลงว่าเสียงเบาๆในประโยคท้าย ยกเบียร์ขึ้นดื่มเราที่นั่งข้างกันเงียบๆ ก่อนที่ภาพจะพูดขึ้นอีก " แต่เอาจริงๆเป็นกูมากกว่าที่โชคดี "

“ หื้ม ? “ เอียงหน้ามองมันที่ก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ามืดๆตรงหน้า

“ กูโชคดีที่วันนั้นได้เจอมึง "

“ ขนลุก พูดเหี้ยอะไรของมึงวะ " บอกปัดแก้เขินกับท่าทางจริงจังของมัน " แล้วพูดไปมองฟ้าไป คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกรึไง ปัญญาอ่อน "

“ หึ กูก็หล่อออกนะ เป็นพระเอกก็ได้แหละ " ยกมือเก็กหล่อใส่กูอีก ไอ้สัดนี่

“ แต่จะว่าไปกูอยากจะให้หัวหอมมันมีเพื่อนแบบที่กูมีมึงเหมือนกันนะ "

“ ยังไง ? “ ภาพหันมามอง

“ ก็เป็นเพื่อนที่เล่นด้วยกันทุกวัน อยู่บ้านใกล้กัน ไปโรงเรียนด้วยกัน เป็นเพื่อนสนิทที่จะอยู่กับมันไปจนโตแบบกูกับมึง ที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กจนโตป่านนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกัน ถ้ามีแบบนั้นก็ดี มันจะได้ไม่เหงาด้วย "

“ ไม่เอาอะ " ไอ้ภาพบอกปัด " ให้มันเป็นแบบนี้ดีแล้ว แค่เพื่อนที่โรงเรียนก็พอ ไม่ต้องมีเพื่อนสนิทถึงขนาดนั้นหรอก ความรู้สึกของคนเรามันไว้ใจกันได้ที่ไหน "

“ อะไรของมึง กูว่าออกจะดี มีเพื่อนที่โตขึ้นมาแบบนั้นก็เหมือนมีพี่น้องนั่นแหละจะได้ช่วยกันคิดนู้นนี่นั่นไง "

“ ไม่ต้องหรอก ถ้าอยากจะปรึกษา มันมีมึงอยู่แล้ว ก็มาปรึกษามึงสิ "

“ แต่เราให้คำปรึกษามันไม่ได้ทุกเรื่องหรอก มันต้องมีเพื่อนสนิทๆสิวะ "

“ กูไม่ให้มี มึงนี่จะยัดเยียดอะไรนักหนา " ภาพเริ่มพูดเสียงดัง

“ แล้วมึงจะยั๊วะอะไรนักหนากับเรื่องแค่นี้วะ " ผมถามกลับอีกคนก็นิ่งไป

“ ก็กูไม่ไว้ใจอะ แรกๆเด็กๆก็เป็นเพื่อนสนิทกันนั่นก็จริงอยู่ แต่พอสนิทกันไปสนิทกันมา สุดท้ายแล้วถ้ามันเสือกชอบกันขึ้นมาจะทำยังไงวะ " มันหันมาเถียงผมกลับ ก่อนจะพูดย้ำแบบไม่ยอมแพ้ " ยังไงก็ไม่ให้มีอะ ความรู้สึกมันไม่ไว้ใจกันไม่ได้  "

" กูแค่บอกว่าจะให้มันมีเพื่อน เพื่อน แบบที่กูกับมึงเป็นเว้ย ไม่ได้บอกว่าจะให้มาเป็นผัวเมียกัน นี่มึงเข้าใจมั้ยเนี้ย ว่าให้เป็นแบบเราสองคน "

“ ก็นั่นแหละ! ” ภาพเถียงกลับ " เพราะเหมือนกูกับมึงนั่นแหละ กูเลยบอกว่าความรู้สึกมันไว้ใจกันไม่ได้ "

“ อะไรของมึงวะ " สถบออกมาเบาๆ กับท่าทางหัวเสียของมัน  ผมยกเบียร์ในมือขึ้นดื่มอยากจะเถียงต่อมันเหมือนกัน แต่ดูท่าทางว่า ถ้าพูดออกไปคืนนี้เราคงเถียงกันไม่จบแน่นอน  จะบอกว่ามันหวงหัวหอมที่จะมีคนเข้ามาสนิทแล้วเปลี่ยนไปแบบแฟนอย่างงั้นเหรอวะ แต่ผมก็บอกแล้วว่า เป็นแบบเราสองคนที่เป็นเพื่อนกัน

   หรือว่า ที่มันบอกว่าความรู้สึกมันไว้ใจกันไม่ได้ เพราะตอนนี้มันกำลังชอบผมอยู่! หลุดยิ้มออกมาพลางเหล่มันตอนที่คิดแบบนั้นส่ายหน้าไปมาก่อนจะยกเบียร์ขึ้นดื่ม " ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่า "

" ไม่มีทางอะไรของมึง "

" เปล่า " ส่ายหน้าให้มันก่อนจะยิ้ม " แค่คิดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้นิดหน่อยอะ "

" อื้ม " ภาพพยักหน้ารับมันหันกลับไปมองข้างหน้าเหมือนเดิม คนอย่างไอ้ภาพนี่อะนะ ? จะชอบผม เป็นไปไม่ได้หรอก   แต่ถ้าให้คิดว่ามันหวงลูกชายตัวเองกลัวว่าจะมีแฟน เรื่องแบบนั้นยังดูเหมือนจะเป็นไปได้มากกว่าเลย แม้ว่าตอนนี้ลูกชายมันจะอยู่แค่อนุบาลสองก็เถอะ ว่าแต่ ..จะหวงลูกชายเร็วไปมั้ยอะครับ คุณพ่อ

..........................................................

น้องหัวหอมมมมมม มาแล้ว~ น่ารักเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือขอหยิกแก้มหน่อย
หนมว่า ความสัมพันธ์ของภาพขม ถ้าไม่ถึงจุดสูงสุด ขมก็คงคิดว่าภาพมันพูดเล่นแบบนี้อยู่ร่ำไปแหละ
เพราะหนึ่ง เพื่อนกัน ไอ้เชี้ยภาพมันขี้เล่น ขมคงคิดงี้ และ สอง ภาพชอบสารภาพรักแบบ อยู่ๆก็พูดขึ้นมา ไม่มีปี่มีขลุ่ย
มันเลยดูเล่นๆอะ แต่ทางนึงก็เข้าใจภาพว่า เจ้าตัวก็คงไม่อยากจะบอกแบบจริงจังหรอก เพื่อนที่เราสนิทมาก ถ้าสารภาพรักไปแล้วเค้าไม่รักตอบ ความสัมพันธ์ในอนาคตมันคงจะกระอักกระอ่วมน่าดู ต่อให้บอกว่า จะก็เหมือนเดิม แต่เชื่อเถอะ ยังไงก็ไม่เหมือนเดิม  พี่ภาพเค้าก็คงไม่อยากจะเสียเพื่อนรักไปหรอก จริงมั้ยละ

ส่วนคำถามที่ว่า  " เมื่อไหร่จะรู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กนั้นอะแกก " หนมก็ขอบอกตรงนี้ว่า
อีกไม่นาน.. เกินรอแน่นอนน ไม่ใช่ตอนหน้า แต่อาจจะเป็น ตอนของตอนหน้า ก็เป็นได้ #ยิ้มอ่อน
แต่มันใกล้แล้วละนะ  ไม่เกิน 7 ตอนแน่นอน เพราะงั้นก็หมายความว่า อีก 7 ตอน นิยายเรื่องนี้จะจบลงเช่นกัน คุคิ

และพอฟังแบบนี้ก็คงมีคำถามต่อว่า
" อ้าววมึง อีคนเขียน ภาพขมยังไม่ได้บอกรักกันเลย อีขมยังมึนๆไม่รู้ว่าภาพสารภาพรักอยู่เลย มึงจะให้จบใน 7 ตอน แล้วยังมีตอนที่ต้องรู้ว่าใครเป็นพ่ออีก มันพอหร๊าาาาาา  "
ทุกคนฟังหนมนะ คือ หนมรู้สึกว่าสำหรับเรื่องนี้ ถ้ารู้ว่าใครเป็นพ่อแล้ว นิยายแม่งก็จบแล้วอะ เพราะมันคือสิ่งที่ตอบโจทย์ของชื่อเรื่องไปแล้วถูกมั้ยแก เพราะงั้นถ้ารู้แล้ว มันก็คือตอนจบแล้วละ 
แต่...แต่ไม่ต้องตกใจไป เราไม่ให้พวกแกค้างแน่นอนเว้ย ไม่ใช่พอจบแล้ว เราจะเงียบหาย โน๊วววค่าา
เหมือนที่เราเคยบอกพวกแกไว้ ในตอนที่เท่าไหร่ไม่รู้ในช่วงทอล์ค
ถ้าพวกแกอ่าน คือเราเคยบอกแกว่า นิยายเรื่องนี้มี สามส่วน คือ ใครเป็นพ่อของหัวหอม , ความรักของภาพขม , เรื่องราวของครอบครัว ถูกมั้ย นั่นหมายความว่าพอรู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กแล้ว มันก็จบแล้ว แต่เราก็จะลงนิยายต่อไปอยู่ดีเพราะมันยังมีเรื่องราวความรักของภาพขม รออยู่~  แกก็อ่านต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะหยุดอัพนั่นแหละ อย่าหายไปไหนก็พอนะคะคนดี #จูบ

เพราะงั้นก่อนจากไปวันนี้ รบกวนช่วยทำแบบสอบถามเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ " เฮ้ย!! มันไม่ใช่ลูกกู " ให้กับเราด้วย
กดจิ้มที่ลิงค์นี้

https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScjHZOAQBuKywGTxPmIV1XZR94k23F0tQYRaDKUsrcmePSIbA/viewform

สุดท้ายนี้
รักนะขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิต และฝากแชร์ในเฟสทีย์
ทอล์คยาวมากเหมือนเมาอะไรสักอย่าง อาจจะเป็นยาดมที่เพิ่งซื้อมาใหม่
หนมมี่ค่า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-05-2017 20:42:04
หัวหอมช่างเจรจา 555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 26-05-2017 21:21:48
ทำแล้ว ขอตอนต่อไปเลยได้ไหม ห้า ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 26-05-2017 21:27:12
อยากให้ความสัมพันธ์ของภาพกะขม มันกระดึ้บๆ ไปไวกว่านี้อีกนิดอ่ะ อึดอัดแทนภาพจริงๆ ดีที่มีหัวหอมนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-05-2017 21:38:26
ถ้าคุณหนม ลงนิยายต่อไป
คนอ่าน ก็อ่านต่อไปเรื่อยๆ ไม่หายไปไหนแน่นอน
เพราะยังอยากรู้ เรื่องราวความรักของภาพขม  :ling1: :ling1: :ling1:

สงสารภาพเลย มิน่าภาพถึงเครียด คงนึกไปถึงชัด โม ด้วย
ขนาดพูดอ้อมๆเรื่องไม่อยากให้หัวหอมมีเพื่อนสนิท
เพราะโตขึ้นมา ความรู้สึกเปลี่ยนจะรักกัน
ขม ยังคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ภาพจะรักตัวเอง  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 26-05-2017 21:42:30
ทั้งสองทำเป็นไม่รู้อีก  :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 26-05-2017 22:19:49
พี่ภาพนี่แทบจะกระโดดลงจากระเบียงเลยครัช.....ขม :ruready
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-05-2017 22:28:54
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 26-05-2017 22:42:59
ภาพหวงลูก 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 27-05-2017 02:30:35
พี้หนอนมีขนรึ ยังสู่พี่ขมตอนนี้ไม่ได้  :katai1: :katai1: :katai1: คิดเองตลอด ถามเลยสิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 27-05-2017 03:19:25
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 27-05-2017 06:15:58
55555ว่าแล้วว่ากาลิคต้องเล่าเรื่องที่ภาพสอนขำก๊ากกเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 27-05-2017 08:12:43
ขมเริ่มมีอาการแล้วววว สู้ๆนะภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 27-05-2017 08:48:09
กาลิคน่าฟัดมาก เด็กฉลาดนี่ดีจริงๆ สอนไรจำได้หมด 55555
ภาพโดนไปหลายดอก ทั้งเรื่องหนอน เรื่องเด็กชายขี้เหงา แต่ก็น่ารักนะ สำหรับการสอนเด็กน้อย ยิ่งกาลิคด้วย

ขมก็น่ารักไปอีก ขมคิดขำๆ แต่ความจริงคือ จริงนะ 55555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 27-05-2017 09:21:17
อยากฟัดหัวหอมจัง เด็กอะไรน่ารักมากๆเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 27-05-2017 09:28:35
 :mew1: :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-05-2017 12:51:38
งุ้ยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-05-2017 14:28:09
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 27-05-2017 14:43:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 27-05-2017 19:34:55
หัวหอมน่ารัก :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-05-2017 22:16:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 30 - 26.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 27-05-2017 23:15:38
อีก 7 ตอน จบบภาคนี้นี่เองงชิมิม
5555
ภาพเอ้ยยย
ไปเรียนจากชัดบ้างนะ สงสารจิงๆ
ขมก้ ซื่อเกิ๊น
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 28-05-2017 20:28:35
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 31

“ พรุ่งนี้วันศุกร์แล้ววววว ไหนใครอยากจะให้ถึงเสาร์อาทิตย์เร็วๆบ้าง ยกมือขึ้น! "

“ กาลิค!!!” เด็กน้อยยกมือขึ้นสุดแขน ระหว่างที่เรากำลังนั่งรถไปส่งมันที่โรงเรียน  อาทิตย์นึงผ่านไปไวจริงๆ อาทิตย์ก่อนยังพามันไปเล่นที่สวนสนุกของเด็กอยู่เลย วันนี้ต้องมาคิดใหม่แล้วว่าจะพาไปไหนดี

“ แล้วคราวนี้ไปไหนกันดีละ "

“ ไปทะเลกันดีมั้ย " ไอ้ภาพบอกผมก็หันไปมองหน้ามัน

“ ไกลไปรึเปล่าวะ มึงขับรถไหวเหรอ " ผมถาม คนขับก็พยักหน้ารับ " แล้วจะไปที่ไหน หัวหิน ? “

“ ก็คงงั้น ดีมั้ยละ ออกเดินทางตอนเย็นวันศุกร์ไปเลย นอนคืนวันศุกร์ กับ วันเสาร์ วันอาทิตย์เราก็กลับบ้าน "

“ แล้ววันจันทร์ก็ตื่นเช้าไปเรียนต่อ ยอดเยี่ยม  "

“ เราก็กลับสักบ่ายๆ ของวันอาทิตย์ จะได้กลับมาถึงบ้านไม่ดึก ก็มีเวลานอนเยอะแยะไป " พยักหน้ารับความคิดเห็นของมัน " ว่าไง มีใครอยากจะไปเที่ยวทะเลบ้าง "

“ กาลิค!! กาลิคอยากจะไปเที่ยวทะเลครับ " สองมือเล็กที่ยกมือแบบร่าเริง ผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้า ได้เหยียบคันเร่งกับเบรคจนขาแข็งแน่มึงงานนี้

“ โอเค งั้นวันศุกร์หลังเลิกเรียน เราก็ไปเที่ยวทะเลกันเลย "

“ เย้~ ”
   วันศุกร์ที่เจ้าตัวเล็กรอคอยมาถึงแล้ว ผมจัดการเก็บเสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แถมยังออกไปซื้อของเล่นพวกห่วงยางเสื้อชูชีพแล้วก็ที่ตักทรายกันแบบไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ด้วย ผมกับภาพตัดสินใจกันว่าจะออกจากมหาลัยไปรับหัวหอมที่โรงเรียนแล้วตรงไปที่หัวหินเลย ถึงช้าสักหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะที่นั่นมีตลาดกลางคืนที่เราอยากจะไปกันอยู่แล้วเลยคิดว่า เช็คอินที่โรงแรมเสร็จก็ออกมาเที่ยวตลาดกลางคืนกันเลย

“ มึงคิดแผนเที่ยวไว้ด้วยนะว่าจะไปไหนกันบ้าง " ไอ้ภาพหันมาบอก ตอนที่เรากำลังขับรถออกจากโรงเรียนของหัวหอม

“ กูคิดไว้หมดแล้วละ คิดไว้ตั้งแต่มึงบอกจะพาไปหัวหินแล้ว "

“ ดูท่าทาง ไม่ค่อยอยากไปเลยนะมึง " มันแซว ผมก็ก้มลงกอดไอ้ตัวเล็กไว้

“ ใครบอกกกก อยากไปจะตายเนอะ หัวหอมเนอะ "

“ อื้อ! อยากไปมากๆเลย กาลิคน่ะนะจะไปเล่นน้ำทะเลแล้วก็จะไปเล่นทรายด้วย " มันบอกก่อนจะยิ้มกว้าง " แล้วเมื่อวานอาขมก็ซื้อที่ตักทรายให้ด้วย งั้นอาขมกับอาภาพก็ต้องมาเล่นกับกาลิคนะ เล่นกันให้สนุกๆเลย "

“ โอเค งั้นเรามาก่อปราสาททรายอันใหญ่ๆเลยดีมั้ย " ไอ้ภาพหันมาบอกเจ้าตัวเล็กที่ก็พยักหน้ารับด้วยสายตาตื่นเต้น

“ ดีๆ อาภาพ งั้นเรา เรามาสร้างปราสาทอันใหญ่ๆเลยนะ ใหญ่เท่าโลกเลย "

“ โอ้โหใหญ่เกิ้น แต่ก็ได้เลยยย " ขานรับคำชวนของอีกคน ร่างสูงก้มลงหอมแก้มมัน หัวหอมก็หอมกลับ ผมก็รู้อยู่ว่ามันกำลังมีความสุขเลยแสดงความรักกัน แต่คิดว่าไม่น่าจะใช่ตอนนี้ ที่มันกำลังขับรถอยู่แล้วเราก็กำลังอยู่บนทางด่วนด้วย!

“ เอ่อ.. มึงๆ กูว่ามึงช่วยตั้งใจขับรถหน่อยดีกว่านะ ค่อยหอมกันตอนถึงแล้วก็ได้ ตอนนี้อันตราย อยู่บนถนน คือกูอยากไปทะเลไม่ได้อยากไปตายไงนะ ช่วยตั้งใจ มองทางไป มองทาง  " ชี้นิ้วไปข้างหน้าไอ้ภาพก็บอก

“ นี่ก็บ่นเป็นเมียเลย "

" ไอ้ภาพ " หันไปมองมันตาขวาง ไอ้สัดนี่... ชอบพูดคีย์เวิลล์เหี้ยๆให้เด็กมันสงสัยแล้วอยากรู้ตลอด ทั้งๆที่แม่งก็รู้ว่าไอ้หัวหอมมันอยู่ในวัยช่างถามช่างอยากรู้

“ อาขมๆ เมียคืออะไรเหรอ " นั่นไงกูว่าแล้ว.. ไอ้เด็กตากลมเงยหน้าขึ้นถามผมที่ก็จำใจต้องผ่อนลมหายใจออกมา ภาพยกมือขึ้นปิดปากตัวเองท่าทางที่ดูตอแหลของมัน ไอ้เชี้ยนี่ก็แบบนี้ทุกที ชอบสร้างปัญหาให้แต่ไม่เคยสำนึกถึงปัญหาที่ก่อไว้เลย สุดท้ายก็กูนี่แหละนี่ต้องรับกรรม กรรมที่ตอนนี้มาให้ในรูปแบบของคำถามของไอ้ตัวแสบตรงหน้านี่ไง

“ เมียเหรอ เมีย ก็คือ ภรรยาไง "

“ แล้วภรรยาคืออะไรละ "

“ อื้ม ก่อนที่ใครคนนึงจะมีลูกคนนั้นจะต้อง.. " เป็นสามีภรรยากันก่อน  ประโยคต่อท้ายที่จะพูดถูกหยุดลงแค่ตรงนั้น ผมมองหน้าคนสงสัยที่ถามออกมาโดยที่ไม่รู้ ถ้าบอกออกไปเต็มประโยคหัวหอมต้องถามกลับมาแน่ๆ อาจจะเป็นคำถามที่ว่าแล้ว สามีของแม่มันละคือใคร หรือว่างั้นก็เป็นเหมือนพ่อแม่ใช่มั้ย ถ้าตอบออกไปทริปหนนี้คงไม่สนุกแน่ๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่เราลืมไปแล้วด้วยซ้ำ สำหรับเรื่องแม่ของหัวหอม หรือแม้แต่เรื่องที่ว่าใครเป็นพ่อของมันนั่นก็ด้วย เราไม่พูดเรื่องนี้กันนานแล้ว และผมก็ไม่อยากจะให้มันคิดหาคำตอบให้ใจต้องเจ็บปวดอีก " ไม่รู้อะ ยากจัง อธิบายไม่ถูก ยังไงเดี๋ยวพอโตขึ้นก็รู้เองเหละ "

“ ถ้าโตแล้วจะรู้เหรอ " หัวหอมถาม ผมก็พยักหน้ารับ

“ ใช่ เดี๋ยวพอโตแล้วจะรู้นะ "

“ งั้นนะ กาลิคก็อยากจะโตเร็วๆจังเลย " มันว่าพลางฟุบหน้าลงกับคอนโซลหน้ารถก่อนจะพูดเชิงงอน " เพราะว่าถ้าโตแล้ว ก็จะได้รู้เรื่องเยอะๆเลย เรื่องที่อาขมไม่ยอมบอก "

“ อาภาพว่า เป็นเด็กก็ดีแล้ว " ร่างสูงหันไปบอก หัวหอมก็มองหน้ามัน

“ ไม่เห็นดีเลยยยยย กินขนมเยอะก็ไม่ได้ เงินก็มีไม่เยอะ แล้วดูทีวีเยอะๆก็ไม่ได้อีกนั่นแหละ การบ้านก็ต้องทำ โรงเรียนก็ต้องไป เป็นเด็กไม่เห็นดีเลยยยยย " เสียงเถียงใสๆกับท่าทางจริงจังของมันชวนให้เราหลุดขำ เด็กน้อยมุ้ยหน้า " ไม่ตลกนะ "

“ ฮ่าๆๆ " เราสองคนหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังกว่าเดิมกับคำว่าไม่ตลกนะของมันนี่แหละ เหมือนตอนนี้ต้องมานั่งฟังความเครียดของเด็กอนุบาลสองเลยกู โอ๊ยย น่าเอ็นดู

“ ไม่ตลกนะ อาขมอย่าหัวเราะ~ " มือเล็กๆเอื้อมมาปิดปากผมที่ก็หยุดขำมันไม่ได้สักที  " งื้อออ หยุดหัวเราะเลย ไม่ตลกเลยนะ "

“ ไม่ต้องตลกยังไงอะ ก็มันตลกอะ ตลกก็มันต้องขำสิ " ผมว่าตอนที่ดึงหน้าออกจากมือเล็กๆนั่น หอมแก้มอีกคนไปเต็มฟอด " ทำไมหัวหอมของอาขมถึงได้น่ารักขนาดนี้ละ หื้มมมมมม ชื่นใจ "

“ อาขม อาขมไม่หัวเราะกาลิคแล้วนะ ถ้าหัวเราะอีกกาลิคจะกอดอาขมเลยยย " มันว่าผมหยักหน้ารับแต่ก็ยังหยุดยิ้มกับคำขู่น่ารักนั่นอยู่ดี เพราะงั้นก็เลยต้องโดนอีกฝ่ายดึงเข้าไปกอดไว้แน่น

“ แล้วตกลงมึงวางแผนทริปนี้ไว้ว่ายังไง " ภาพเอ่ยถาม

“ อื้มม ก็พอเราถึงโรงแรม เราก็เช็คอิน แล้วออกมาเที่ยวตลาดกลางคืนกัน หาอะไรกินซื้อของฝาก แล้วก็กลับมาโรงแรม ตอนนั้นหัวหอมก็ทำการบ้านของตัวเองให้เสร็จนะ " ผมลูบมันอีกคนก็พยักหน้ารับเข้ากับไหล่ของผมก่อนจะผละออกมาบอก

“ พอทำการบ้านเสร็จแล้ว ก็อาบน้ำแล้วก็มาดูการ์ตูนนะอาขม "

“ ได้เลย "

“ แล้วกาลิคจะซื้อของฝาก ฝากเพื่อนด้วย " ไอ้ตัวเล็กบอก " จะซื้อฝากเพื่อนๆทุกคนเลย "

“ มีเงินเหรอ " ภาพถาม " ไหนเงินขอดูหน่อย "

“ อยู่ที่อาขม " มันชี้มาที่ผม ที่ก็เบิกตากว้างมองมันพลางส่ายหน้า เจ้าตัวเล็กก็ส่งเสียงขัดใจ " งื้อออออ อาขมก็ให้เงินกาลิคไง "

“ อาขมไม่มี ต้องอาภาพนู้น " ผมเชิดหน้าไปหาร่างสูงที่ก็เบิกตามองด้วยเหมือนกัน

“ งื้อออออออ อาภาพพพพ อย่าแกล้งกาลิคน้า  "

“ โอเคๆ เดี๋ยวให้ยี่สิบ เอาไปซื้อลูกอมให้เพื่อนคนละเม็ด " มันบอกเจ้าตัวเล็กก่อนจะหันมาถามผม “ แล้วมึงจะไปซื้อของฝากใคร แค่หัวหินไม่ต้องก็ได้มั้ง "

“ ก็ฝากพ่อกับแม่มึงไง " ผมบอก " ปกติไปหาท่านทุกวันอาทิตย์ อาทิตย์นี้ไม่ไปเพราะเรามาเที่ยวแบบนี้ก็ควรมีอะไรติดไม้ติดมือไปฝากหน่อยสิ "

“ ไม่ต้องหรอก สำหรับพ่อแม่กู แค่มีภาพไอ้กาลิคส่งไปให้สักสองโหล เค้าก็มีความสุขแล้ว " ภาพบอกก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวไอ้ตัวเล็ก " เพราะถ้าเลือกได้ เค้าคงไม่ได้อยากจะได้อะไรหรอก คงอยากจะให้กาลิคไปหาเค้าวันอาทิตย์นี้มากกว่า "
“ ก็นะ อาจจะจริงอย่างงั้น "

   ขับรถมาถึงหัวหินด้วยเวลาที่เร็วกว่าที่คิด ภาพถอยรถจอดรถที่ลานจอดของโรงแรมยืดเส้นยืดสายบิดเอวด้วยความเมื่อยอยู่สักพัก  ก่อนที่พนักงานต้อนรับที่เป็นผู้ชายจะเดินออกมาตอนรับเราพร้อมกับช่วยขนกระเป๋าไปให้ที่หน้าเค้าเตอร์เช็คอิน

    โรงแรมหรู บรรยากาศดีติดริมหาด ทุกอย่างทั่วบริเวณนั้นถูกจัดตกแต่งไว้อย่างดี สมกับราคาแพงหูฉี่ที่ผมเองก็บอกกับภาพแล้วว่าไม่ต้องพักกันอย่างหรูถึงขนาดนี้ก็ได้ แต่คนที่จ่ายเงินก็พูดสั้นๆแค่ว่า ' มาเที่ยวทะเลด้วยกันทั้งที ยังไงก็ไม่ได้มาบ่อยๆอยู่แล้ว ก็อยู่สบายๆหน่อยเถอะ ' แต่อย่างว่าละนะ คนมันรวย จะให้ไปอยู่โรงแรมที่มันไม่สะดวกสบายก็คงจะไม่ใช่พี่ภาพหรอก

“ ลูกค้าที่จองไว้ชื่อคุณภาพนะคะ "

“ ครับ " ไอ้ภาพเอ่ยบอก มันที่ก้มลงกรอกข้อมูลของตัวเอง ก่อนที่พนักงานจะยื่นการ์ดให้เรา

“ นี่เป็นคีย์การ์ดนะคะ แล้วคูปองสำหรับอาหารเช้าสำหรับสามที่ สองวันนะคะ "

“ ขอบคุณมากครับ " มันยื่นมือไปรับ เราเดินไปที่ลิฟต์พร้อมกับพนักงานผู้ชายที่เข้ามาช่วยขนกระเป๋าของเราทั้งหมดให้  เสียบคีย์การ์ดเปิดประตูห้องกระเป๋าก็ถูกเอาเข้าไปวางตรงที่ของมัน ไอ้ภาพเปิดกระเป๋าเงินจ่ายทิป ผมเองก็เอ่ยบอกหัวหอมที่มองอยู่

“ หัวหอมครับ ขอบคุณพี่เค้าที่ยกกระเป๋าขึ้นมาให้เราด้วยนะ "

“ พี่ครับ ขอบคุณมากครับ " มันยกมือไหว้ พนักงานก็ก้มลงยิ้มรับให้มันก่อนจะเดินออกไป

   ห้องพักที่เราจองเป็นห้องที่ค่อนข้างกว้างขวางแค่มองไปรอบๆก็ยังทำให้รู้สึกสบายตา ระเบียงห้องที่มองออกไปแล้วเห็นวิวทะเล ผมหย่อนตัวเองลงนั่งบนเตียงก่อนจะมองไอ้ตัวเล็กที่วิ่งวนไปวนมาในห้องด้วยความสนุกและตื่นเต้น

" ห้องกว๊างงง กว้าง แต่ว่ามีเตียงเดียว " มันบอกก่อนจะวิ่งเข้ามากอดผม " อาขมๆ คืนนี้นะ กาลิคจะนอนตรงกลางนะ จะนอนตรงกลางให้ทั้งอาภาพแล้วก็อาขมกอดเลย "

" เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว ขืนไปนอนข้างๆ ก็ได้ตกเตียงสิ " ผมบอกมัน ไอ้ภาพก็หย่อนตัวเองลงนั่งข้างกัน มันที่มองไปรอบๆ

" ก็เหมือนกับในภาพที่ดูมาเลยนะ จัดว่าดี "

" แล้วทำไมมึงถึงเลือกแบบเตียงเดี่ยววะ ทำไมไม่เลือกแบบเตียงคู่ "

" มัน..ไม่มีน่ะ " ร่างสูงบอกผมแบบนั้นแต่ท่าทางที่หันไปมองทางอื่นก็ดูเหมือนปิดบังความจริงอะไรไว้ ผมเหลือบมองมัน " จริงๆ นีมึง่ไม่เชื่อกูเหรอวะ "

" คนอย่างมึง มันเชื่อไม่ค่อยได้ "

" เหี้ยไรของมึง แล้วมึงคิดว่าคนอย่างกูจะมีเหตุผลอะไรที่จะจองเตียงเดี่ยวครับ ? เพราะว่ากูอยากจะนอนเบียดกับมึงแล้วก็ไอ้กาลิค ให้ไอ้กาลิคก้านคอกูตอนนอนอะนะ " ถ้าบอกเหตุผลนี้มันก็พอฟังขึ้นอยู่ละนะ ไอ้หัวหอมนอนร้ายจะตายเวลาหลับทั้งขาทั้งแขนกางออกหมด บางทีนอนๆขาฟาดเข้าที่หัว ไม่ก็ตีลังกาหัวไปอยู่ที่เท้า เท้าไปอยู่ที่หัวก็มี

" นั่นก็จริงของมึง "

" มันไม่มีตังหาก ไอ้ห้องเตียงคู่นั่นน่ะ " ภาพบอกผมก็พยักหน้ารับ

" อาขมๆ กาลิคอยากจะเล่นน้ำทะเล " ไอ้ตัวเล็กวิ่งมาบอกมันที่กำลังจะถอดเสื้อผมก็เบรคไว้
 
" เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆพ่อหนุ่มน้อยของกู ตอนนี้ยังเล่นไม่ได้นะเพราะมันดึกแล้ว ไม่มีใครเล่นน้ำทะเลกันแล้ว วันนี้ออกไปหาอะไรกินกันก่อน ไปซื้อของ ตื่นมาเช้าวันพรุ่งนี้ค่อยเล่นนะ "

“ แต่ แต่ว่ากาลิคอยากจะเล่นวันนี้ " มันบอกก่อนจะดึงตัวเองเข้ามายืนอยู่ที่ระหว่างขาของผมแล้วซุกหน้าลงกับอก เป็นท่าที่เหมือนจะบอกกันว่า มันเริ่มจะงอแงและไม่ฟังเหตุผลเหี้ยอะไรทั้งนั้นแล้วละ  " อาขมมมม "

“ ไม่ได้ กลางคืนดึกแล้ว เล่นไม่ได้นะ ทะเลมันมืด ถ้าหัวหอมหายไปจะทำยังไงละครับ " เอื้อมมือลูบผมนุ่มๆของมันแล้วบอก อีกคนก็นิ่งเงียบเหมือนใช้ความคิดว่าจะเถียงอะไรผมดี เพื่อให้มันได้เล่นน้ำทะเลตอนนี้

“ งั้นกาลิค กาลิคจะติดไฟไว้ที่แขน อาขมจะได้เห็นกาลิต "

“ ไม่ได้หรอก เดี๋ยวคลื่นซัดไปช่วยไม่ทัน "

“ ไม่ซัดไปปปปป " มันซุกหน้าพลางส่ายหน้าไปมา งอแงกันแบบถึงขีดสุด

“ พูดกันให้รู้เรื่องสิหัวหอม " ผมบอก " คืนนี้เราเล่นน้ำไม่ได้แล้วเพราะมันอันตราย เดี๋ยวเราออกไปกินข้าว กินขนม ซื้อของ แล้วกลับมาทำการบ้าน อาบน้ำ ดูการ์ตูน แล้วก็นอนเร็วๆ พอเราตื่นขึ้นมาตอนเช้า เราก็กินข้าวเสร็จ แล้วก็ออกไปเล่นน้ำทะเลกันเลย ไม่ใช่ไม่ได้เล่นสักหน่อย ทะเลน่ะเค้าต้องเล่นกันตอนกลางวัน "

“ แต่ว่า อาขม....”

“ งั้นแสดงว่าเราพูดกันไม่รู้เรื่อง ถ้าหัวหอมยังงอแงไม่ฟังอาขมอยู่แบบนี้ เราก็กลับบ้านกันเลย ดีมั้ย ? กลับไปบ้านไปตั้งสติเดี๋ยวพอพูดกันรู้เรื่องแล้ว ก็ค่อยพามาใหม่ “ ผมก้มหน้าลงถามมันที่กำลังจะแบะปากเตรียมร้องไห้ออกมาทันทีที่ได้ยิน " ไม่ต้องเล่นมันแล้วน้ำทะเลน่ะ ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง ที่บอกว่าจะให้เล่นพรุ่งนี้ ก็ไม่ต้องเล่น   "

“ ฮือออออ ไม่เอาาาาาา ฮือออออ ไม่กลับบ้านนนน ฮือๆ อาขมไม่กลับบ้านน้า อึก ฮือๆ กาลิคไม่กลับบ้านนน "  ส่ายหน้าไปมาพลางร้องไห้งอแงออกมาอย่างหนัก มือเล็กที่โบกทำท่าปฎิเสธไปมา " ม่ายกลับบ้าน อึก ไม่กลับน้าา อาขมไม่กลับ "

“ ถ้าไม่กลับบ้านก็ต้องพูดกันให้รู้เรื่องสิครับหัวหอม  ก็อาขมบอกว่าน้ำทะเลเล่นตอนนี้ไม่ได้แล้ว เพราะมันดึกแล้วอันตรายเดี๋ยวหัวหอมจะหายไป อาขมก็บอกว่าให้รอก่อนค่อยเล่นพรุ่งนี้ตอนเช้า " เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้มัน ลูบผมที่มีแต่เหงื่อขึ้นไป อีกคนก็ดึงตัวเองขึ้นมานั่งตักก่อนจะซบลงที่อก " ว่าไง ตกลงว่าจะกลับบ้าน หรือว่าจะเล่นน้ำทะเลพรุ่งนี้ดี "

“ อึก จะเล่นน้ำทะเลพรุ่งนี้ก๊าบ อึก ฮือๆ ไม่กลับบ้านนน "

“ โอเค เราจะเล่นน้ำทะเลกันพรุ่งนี้นะ ถ้าหัวหอมตกลงได้แล้วแสดงว่าเราคุยกันรู้เรื่อง เราก็ไม่ต้องกลับบ้าน "  ก้มลงเช็ดน้ำตาให้เจ้าตัวเล็กก็กอดผมไว้แน่น " ไม่ต้องร้องไห้ น้ำทะเลน่ะได้เล่นแน่นอน เพราะงั้นตอนนี้ออกไปกินข้าวกันดีกว่าไป หิวรึยัง "

“ หิวแล้วก๊าบ " เสียงงอแงที่บอกชวนให้ผมยิ้ม กระชับมืออุ้มมันขึ้นมาพร้อมตัวเองที่ลุกขึ้นเต็มความสูง

“ งั้นก็ไปกัน " ผมบอกก่อนจะหันไปมองไอ้ภาพที่นั่งมองผมยิ้มๆ " มองไรวะ " 

“ ก็มองมึง กูทึ่งให้ความสามารถของมึง " มันบอก " มึงแม่งเก่งอะ เอามันอยู่ด้วย นี่ถ้าเป็นกูคงต้องตามใจมันไปแล้วละ ไม่ก็หาอะไรมาล่อให้มันยอมทำตามกู แต่นี่มึงแม่งไม่ต้องล่อมันเลย โคตรเก่ง ข้าน้อยขอคาระวะ  "

“ แล้วจะให้กูทำไงได้วะ ถ้ากูตามใจมันเพราะมันร้องไห้ เดี๋ยวครั้งต่อไปหัวหอมมันก็ต้องใช้วิธีบีบน้ำตามาบังคับเราอีก " แม้ว่าหน้าตอนร้องไห้ของมันจะน่าสงสารแล้วก็น่ารักมากๆจนชวนใจอ่อนทุกสองวินาทีที่อยู่ตรงนั้นก็เถอะ และผมก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่าทำไมเวลาปล่อยให้หัวหอมอยู่กับไอ้ภาพ ทำไมมันถึงได้ตามใจกันนัก นั่นคงเพราะไม่ภาพมันไม่เก่งพอจะอดทนกับสายตาของไอ้หัวหอมได้ แถมเสียงอ้อนๆนั่นอีก ภาพคงมีแต่ยอมกับยอม  " มึงก็เหมือนกัน หัดใจแข็งซะบ้าง ไม่ใช่อะไรๆก็ตามใจมันไปหมด "

“ จ้าๆ พี่ทราบแล้ว " ไอ้ภาพว่าพลางก้มหัวลงซ้ำๆ " กลัวจ้า กลัวแล้ว อย่าทำไรพี่เลยนะจ๊ะ " หลุดยิ้มออกมากับประโยคนั้นของมัน ยกขาขึ้นเตะก้นมันด้วยความหมั่นไส้ร่างสูงก็หัวเราะ

“ ไปกันได้แล้ว จะได้กลับมานอนอีก "

“ จ้า แม่ ไปจ๊ะไป "

“ ไอ้สัด กวนตีน "
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 28-05-2017 20:29:50
   ขับรถจากโรงแรมตรงไปที่ตลาดกลางคืนของหัวหิน ผู้คนที่ดูคึกคักอาจเพราะเป็นวันศุกร์ แต่บรรยากาศโดยรอบก็ดูโล่งๆ พอให้หายใจคล่องอยู่บ้าง โต๊ะใต้ต้นไม้หลายๆตัวที่ยังว่างหัวหอมที่เดินจูงมืออยู่ข้างๆผมก็ออกแรงดึงให้ผมเดินไปดูสิ่งที่มันสนใจ

“ กินอะไรกันดี "

“ มันดูไม่ค่อยมีอะไรเลยวะ " ภาพบอกผมก็มองไปรอบๆ ก็จริงของมัน อาหารส่วนใหญ่ก็มีขายในกรุงเทพ พวกผัดไท หอยทอด ไอศกรีมกะทิ แต่จะทำไงได้วะ มาเที่ยวก็ต้องมาเอาบรรยากาศแบบนี้แหละ ถ้าให้ไปกินร้านดังๆ ก็ต่อคิวกันนานอีก แบบนั้นไอ้หัวหอมคงงอแงพอดี เพราะใกล้ถึงเวลานอนของมันแล้ว แบบนี้แหละดีที่สุดซื้อของฝากเล็กๆน้อยได้ด้วย แถมยังได้กินของหลายๆอย่าง ฟังเพลงชิวๆ

“ แดกๆไปก่อนเถอะน่า ค่อยไปหาของกินอร่อยๆกันพรุ่งนี้ "

“ อื้ม "

“ หัวหอมกินอะไรกันดี ไปเลือกกันกันดีกว่าไป " หันไปบอกมันที่ก็พยักหน้ารับด้วยความกระตือรือร้น " เดี๋ยวกูซื้อมาเผื่อมึงละกัน มึงก็ไปเลือกโต๊ะแล้วนั่งจองโต๊ะไว้นะ "

“ โอเค "

“ กินอะไรกันดี " หันไปไอ้ตัวเล็กที่มองไปรอบๆก่อนจะชี้ไปที่ไอศกรีมร้านนึงที่เปิดอยู่

“ กาลิคจะกินไอติม "

“ โอเคได้ แต่ว่าต้องกินข้าวก่อนนะไอติมไว้กินทีหลัง " ผมบอกอีกคนก็พยักหน้ารับ " กินผัดไทมั้ย "

“ แล้วผัดไทเป็นแบบไหน "

“ เป็นแบบเส้นๆคล้ายสปาเก็ตตี้ไง "

“ งั้นกินครับ กาลิคชอบกินสปาเก็ตตี้ " พยักหน้ารับเป็นอันว่าสุดท้ายก็สั่งผัดไทกุ้งสดไปทั้งหมดสามที่ พร้อมด้วยของทอด ทั้งไก่ทอด ลูกชิ้นทอด หมึกย่าง รวมทั้งหมดก็ตั้งสามสี่ถุง

“ ไม่อิ่มก็ให้มันรู้ไปสิวะ " ผมเดินเอาของทอดไปให้ไอ้ภาพก่อนจะกลับมาเอาผัดไทอีกสามจานโดยมีไอ้ตัวเล็กข้างๆช่วยถือมา

“ ที่มึงซื้อมานี่เรามากันสามคน หรือสามสิบคน "

“ น่าา กูอยากกินท่าทางมันน่าจะอร่อย "

“ ท่าทางมึงคงหิวมากกว่า " ภาพแซว

“ เออ จะแดกหัวมึงละ ไปซื้อน้ำทีไป เอาน้ำเปล่านะ "

“ โอเค " ภาพเดินออกไปจากโต๊ะ ผมก็ยื่นช้อนส้อมให้หัวหอม ที่ก็ก้มลงกินผัดไทในจานตัวเองแบบว่าง่าย มันกินเข้าไปคำแรกก่อนจะเคี้ยวไปมา

“ เป็นไง อร่อยมั้ย "

“ อร่อยยยย กาลิคกินได้ " มันว่าผมก็ขยี้หัวมัน โล่งไป คิดว่าจะกินไม่ได้ละ เพราะปกติหัวหอมจะไม่ค่อยกินของที่มันไม่คุ้นแล้วก็หน้าตาแปลกๆ

“ งั้นก็กินให้หมดนะ เอาไก่ทอดด้วยมั้ย หรือว่าปลาหมึก "

“ เอาไก่ทอดครับ แต่ว่าก็เอาปลาหมึกด้วย กาลิคเอาหมดเลย "

“ โอเค เอาหมดเลยนะ " หยิบของให้ถุงให้มันอย่างละชิ้น ผมนั่งมองหัวหอมกินด้วยท่าทางที่ดูน่าอร่อย ปากเล็กเคี้ยวๆ เส้นผัดไทที่เอาเข้าปากไปคำโตดูเลอะเทอะไปหมด ผมที่ต้องคอยนั่งเช็ดปากให้มัน เจ้าตัวเล็กเอ่ยถาม

“ อาขม อาขมไม่กินเหรอ "

“ กินสิ แต่รอให้หัวหอมกินเสร็จก่อน "

“ ทำไมอะ ทำไมต้องรอให้กาลิคกินเสร็จก่อน " ถามไปปากก็อ้ากินไก่ทอดไปคำโต

“ ก็เพราะว่าหัวหอมกินเลอะ เดี๋ยวมันเลอะใส่เสื้อนักเรียน สีขาวมันซักยาก "

“ ไม่เลอะน้าา " มันโบกมือปฎิเสธผมก็ยกยิ้ม จ้า ไม่เลอะ แต่เลอะทั้งปากไปหมดแล้วครับท่าน นี่ท่าไม่คอยเช็ดไว้ดูท่าจะเลอะทั้งตัวทั้งแต่หัวยันตีน

“ โอ้โห ดูน่าอร่อยนะ " ไอ้ภาพนั่งลงก่อนจะเปิดน้ำเปล่าแล้วยื่นให้ไอ้ตัวเล็กตรงหน้า

“ เออ ท่าทางจะอร่อย กินไม่หยุดแล้วเนี้ย มึงเถอะ ระวังกินไม่ทันมัน "

“ อาภาพ อร่อย " มันบอกก่อนจะเอาหลังมือตัวเองเช็ดปาก ไปทีนึงเต็มๆ

“ อื้ม เอาเข้าไป อย่าเอาหลังมือเช็ดปากสิหัวหอมมานี่มา " เช็ดมือให้มันอีกคนก็นั่งกินต่อ " ไหงกูยิ่งเช็ดให้มึงมันยิ่งเลอะวะ กินดีๆ กินให้เรียบร้อยหน่อย กินช้าๆด้วยไม่ต้องรีบหรอก อาภาพไม่แย่ง "

“ ไม่ได้รีบนะ " มันบอก ก่อนจะยัดไก่เข้าไปอีกคำโตๆ " แต่เพราะมันอร่อย "

“ อร่อยจริงอะ ไหนชิม " ไอ้ภาพคีบผัดไทขึ้นมาชิมคำนึง มันเคี้ยวๆอยู่สักพักก่อนจะกลืน " ก็โอเคอะ รสชาติไอ้กาลิคมัน "

“ คือไงวะ รสชาติไอ้กาลิค " ผมถามมันยิ้มๆอีกคนก็อธิบายต่อ

“ ก็พวกรสชาติไม่จัดมากไง ธรรมดาๆ กลางๆ "

“ อ๋อออ เช่นนั้น  "

“ อาขมจะกินไก่ทอดกับปลาหมึกอีก "  หยิบให้มันอีกอย่างละชิ้น นั่งดูหัวหอมกินจนมันกินเสร็จ ก่อนจัดการเช็ดมือให้มันเรียบร้อยอีกคนก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่ง " อาขม กาลิคอยากจะกินไอติม "

“ งั้นก็ไปซื้อกันเลยไป " ไอ้ภาพลุกขึ้นยืนก่อนจะเป็นคนพามันไปซื้อ มันเชิดหน้ามาทางผม " มึงกินข้าวได้แล้ว กูพามันไปซื้อเอง "

“ อ่าา โอเค " หันมากินผัดไทของตัวเองบ้างก็ตามที่อีกคนบอกรสชาติไอ้หัวหอมจริงๆนั่นแหละ  ผมนั่งกินอยู่สักพักคนที่ไปซื้อไอศกรีมก็กลับมานั่งที่เดิม ไอศกรีมรสช็อคโกเล็ตแบบโคนที่กำลังเลอะไปทั้งปากมัน แล้วพอคิดว่าแม่งจะเลอะลงมาที่เสื้อนักเรียนรึปล่า ผมก็คว้าทิชชู่แล้วได้นั่งเกร็งมองดูมันกินอยู่แบบนั้น

“ ถ้ามึงจะกังวลเสื้อนักเรียนมันขนาดนั้น ก็แล้วทำไมมึงไม่ถอดเสื้อมันวะ กาลิคมันก็ใส่เสื้อกล้ามไว้ข้างในไม่ใช่เหรอ "

“ เออวะ ก็จริงของมึง " หันไปยิ้มให้เจ้าของความคิด ผมเอื้อมมือไปถอดเสื้อนักเรียนของหัวหอมออก เหลือแต่เสื้อกล้ามก่อนจะถอนหายใจโล่งออกมา “ คราวนี้จะแดกยังไงก็แดกเถอะลูก ตีลังกาแดกก็ได้ " ผมบอกแบบนั้นก่อนจะพับเสื้อตั้งไว้บนตักแล้วก้มลงกินอาหารตรงหน้าด้วยความสบายใจอีกครั้ง

“ กังวลอะไรของมึงไม่เข้าท่าเลยกูว่า "

“ มึงไม่เข้าใจหรอก กูยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่ากูเป็นอะไรกับเรื่องแค่นี้  แต่เหมือนกูรู้สึกว่าเสื้อนักเรียนถ้ามันไม่ขาว มันจะดูเหมือนว่าครอบครัวนั้นไม่ใส่ใจอะ แบบถ้าหัวหอมมันต้องใส่เสื้อนักเรียนสีมอๆ มันก็ดูแปลกๆอะ มึงไม่คิดงั้นเหรอ "

" ไม่อะ กูไม่คิดหยุมหยิมเหี้ยไรอย่างงั้นหรอก " มันว่า "  ใส่ๆไปเถอะได้เหมือนกันอะ อีกอย่างเสื้อเด็กทำเหมือนจะควบคุมได้ มึงไม่เคยได้ยินเหรอ ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์อะ มันก็ต้องมีเลอะบ้างสิ จะให้ขาวอยู่ตลอดไม่ได้ "

“ แต่ถ้าให้มันขาวอยู่ตลอดมันก็ดีกว่าไม่ใช่รึไงวะ "

“ ปกติมึงไม่ใช่คนคิดเรื่องพวกนี้ไม่ใช่รึไง เป็นเหี้ยอะไรถึงคิดขึ้นมา "

“ ไม่รู้สิ " ผมส่ายหน้าบอกมันก่อนจะหันมองหัวหอมที่กำลังกินไอติมแบบสำราญใจ ปากที่เลอะเทอะของมันเพราะคราบไอติมที่ก็ไหลเปื้อนลงไปที่เสื้อกล้ามตัวที่มันใส่อยู่ " กูก็พอรู้นะว่าเวลาเด็กแดกไอติม แดกแบบไม่ต้องกลัวเสื้อเลอะนี่แหละถึงจะอร่อยที่สุด แต่ก็ไม่รู้วะ กูอยากให้มันกินเรียบร้อย ค่อยๆกิน ไม่อยากจะให้เลอะ สงสัยความเป็นแม่คงกำลังครอบงำกูอยู่มั้ง เพราะนับวัน กูก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะยิ่งนิสัยเหมือนแม่กูเข้าไปทุกทีละ ทั้งนิสัยขี้บ่น คิดเรื่องหยุมหยิม นิสัยของแม่แบบที่เมื่อก่อนกูไม่ค่อยชอบอะมึง  "

“ ฮ่าๆ " ไอ้ภาพหัวเราะ ผมก็หันมองมัน

“ จริงๆนะมึง แบบเมื่อก่อนแม่กูชอบบ่นกูเรื่องไร้สาระใช่มั้ย ตอนนี้ก็เหมือนกูกำลังบ่นไอ้หัวหอมด้วยเรื่องไร้สาระเหมือนกันอะ แบบแม่กูเลย  ขมอย่ากินเลอะสิ ขมกินให้เรียบร้อยสิ ขมเสื้อนี่รอยอะไรทำไมซักไม่ออก  ขมดูการ์ตูนทำการบ้านรึยังน่ะ "

“ ก็เหมือนแม่กูอะ " ไอ้ภาพบอก

“ ตอนนั้นกูแบบ รำคาญอะ เหี้ยไรวะ บ้านก็ไม่ค่อยอยู่กลับมาก็บ่นกูจัง นู้นนี่นั่น แต่พอมาตอนนี้ได้เลี้ยงหัวหอมจริงๆ เหมือนมันทำให้กูรู้สึกขึ้นมาว่า ที่แม่บ่นกูตอนนั้นมันก็เพื่อกูทั้งนั้นอะ กูชอบให้หัวหอมมันทำการบ้านก่อนดูการ์ตูนก็เพราะว่า อยากให้มันมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง อยากให้มันใส่เสื้อสะอาดๆจะได้ดูดี แล้วกูก็คิดว่าแม่กูก็คงต้องคิดแบบนี้เหมือนกันละมั้ง " ผมเหลือบมองภาพที่กำลังยิ้ม ผมเองก็ยิ้มตามก่อนจะพูดเสียงเบาๆ " ใครจะรู้ในอนาคตไอ้หัวหอมมันอาจจะพูดว่ากูน่ารำคาญเหมือนที่กูกำลังพูดถึงแม่กูตอนนี้ก็ได้ "

" พอได้มาเลี้ยงเด็กจริงๆถึงรู้สึกนะมึงน่ะ  "

" คงงั้น " เหมือนพอมานั่งคิดๆแล้วก็รู้สึกว่า เรื่องที่เค้าเคยบ่น มันก็ไม่ได้น่ารำคาญขนาดนั้นสักหน่อย แล้วทำไมตอนนั้นผมถึงได้รู้สึกรำคาญเค้าขนาดนั้นวะ ทั้งๆที่เรื่องที่เค้าบ่นเค้าสอนก็เพื่อเราทั้งนั้น " สงสัยจะเหมือนที่ใครบอกไงมึง คนเราต้องได้เป็นพ่อแม่ก่อน ถึงจะเข้าใจว่า พ่อแม่ของตัวเองนั้นเป็นยังไง "

" ก็คงจริงอย่างงั้นอะ " ไอ้ภาพมองหัวหอมอยู่สักพักก่อนจะหันมายิ้มให้ผม

" แต่กูคงไม่เลี้ยงไอ้หัวหอมแบบจู้จี้เหมือนแม่กูหรอกนะ อันนั้นก็เกินไป ขนาดตัวไม่อยู่ใกล้ บางทียังบ่นเข้าสายโทรศัพท์มาทุกวันเลย ยิ่งเจอหน้ายิ่งไปกันใหญ่ เหมือนบ่นทบต้นทบดอกอะ " ผมยิ้มให้ภาพก่อนจะเอื้อมมือหยิบทิชชู่ไปเช็ดปากให้หัวหอมที่ก็หันยิ้มให้ผม " จู้จี้มากเดี๋ยวโดนเด็กด่าว่าน่ารำคาญ เดี๋ยวเด็กไม่รักอีก แบบนั้นก็แย่แน่เลยถ้าหัวหอมไม่รักน่ะ "

" รักกกกกก " เสียงใสๆบอก " อาขมเป็นยังไงกาลิคก็จะรัก อาภาพด้วย รักทั้งคู่เลยน้า "

" จ้าาาาา " ยื่นมือไปขยี้หัวมัน ตอนนี้เป็นยังไงก็รักแหละ แต่พอโตขึ้นเป็นหนุ่มแค่กูจะอ้าปากพูดก็คงจะหาว่าน่ารำคาญแล้วมั้ง เพราะงั้นช่วงเวลานี้แหละ เป็นช่วงเวลาที่หัวหอมจะน่ารักที่สุดและถ้าทำได้ผมก็อยากจะหยุดมันไว้แค่นี้ ไม่อยากจะให้โตไปมากกว่านี้เลย 

“ จะว่าไปขม มึงก็ดูรู้ตัวนะ ว่าตัวเองมีความเป็นแม่อยู่ " ภาพบอก " แต่มึงแม่งก็ยอมรับบ้างไม่ยอมรับบ้าง ผีเข้าผีออก "

“ เอ้า! กูเป็นผู้ชายมั้ยละไอ้สัด " ผมหันมาบอกมันที่ก็ยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมา " จะให้กูมีความแม่เหี้ยไร กูควรมีความเป็นพ่อมั้ยละ เรื่องหยุมหยิมแบบนี้มันต้องหน้าที่เมียกู ไม่ใช่กู  "

“ งั้นในเมื่อตอนนี้มึงมีความหยุมหยิมเป็นแม่ขนาดนี้แล้ว ก็มาเป็นเมียกูเลยเป็นไง " กรอกตามองบนตอนที่อีกคนพูดออกมาแบบนั้น ผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะคว้ามือกาลิคที่กินไอติมเสร็จเรียบร้อย

“ กินไอติมเสร็จแล้ว ก็ไปล้างมือกันดีกว่าหัวหอม ไป เลอะหมดแล้ว "

“ ก๊าบบป๋ม "

“ เดี๋ยวๆ อะไรวะ นี่เมินเรื่องที่กูพูดขนาดนี้เลยเหรอ นี่กูกำลังขอมึงเป็นเมียกูนะ " ไอ้ภาพท้วงตอนที่ผมกำลังจะเดินออกไป หันไปมองหน้ามันที่ยกยิ้มมองผม

“ มึงก็เลิกพูดเล่นๆแบบนี้สักทีสิ พูดแบบจริงจังให้มันดูน่าเชื่อหน่อย ถ้าพูดแบบนั้น กูอาจจะเชื่อก็ได้นะ "

..............................................................

ความเป็นแม่ของขม นับวัน นับวัน ก็ยิ่ง มากขึ้นทุกทีเลยนะคะ
น้องหัวหอม หนูไม่งอแงกับคุณแม่นะคะ เด็กดี #จุ๊บเหม่ง เอ็นดูหนออ เด็กอยากเล่นน้ำ
ตอนต่อไป น่ารักฟรุ้งฟริ้งถึงขีดสุด กับการไปเที่ยวทะเล ใสๆ  ของครอบครัวนี้
จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โปรดติดตามตอนต่อไป


และสุดท้ายนี้ ก่อนจากกัน
รักนะขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิต และฝากแชร์ในเฟสทีย์
หนมมี่ค่า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 28-05-2017 20:32:58
แกกกก นังภาพ นังขมมันอ่อยขนาดนี้แล้ว จัดไปสิ อย่าให้เสีย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 28-05-2017 20:51:52
ภาพต้องจริงจังกว่านี้ขมถึงจะเชื่อสินะ
ขมนี่โตแล้วจริงๆ นับวันความเป็นแม่ยิ่งออกมา
กาลิคต้องโตมาเป็นเด็กที่ดีแน่นอน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 28-05-2017 21:01:20
ว้ายๆๆๆ มันก็จะอ่อยๆอยู่หน่อยๆป่ะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 28-05-2017 21:02:38
ขมมีความเป็นแม่สูงมากกกกก พ่อภาพอ่อยขนาดนี้แม่ขมยังคิดว่าล้อเล่น น่าน้อยใจ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-05-2017 21:08:39
อ้าวๆ......ขม ภาพเพื่งขอให้ขมเป็นเมีย

ขมนึกว่าภาพพูดเล่นๆ เพราะภาพพูดยิ้มๆ

งั้นภาพ ก็พูดแบบจริงจังให้ดูน่าเชื่อถือ

ขม ก็จะได้เชื่อสักทีว่าภาพพูดจริง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-05-2017 21:47:42
นับวันความเป็นแม่จะยิ่งเยอะขึ้นนะขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 28-05-2017 22:14:26
น่าร้ากกกกกกกกกก  :impress2: ทำไมน่ารักแบบนี้ลูก ไม่ไหวๆอยู่ก็อยากอยู่ในเหตุการณ์  :o8:

ถ้าคุณแม่ขมรู้ว่าที่คุณพ่อภาพพูดเป็นเรื่องจริง คุณแม่ขมจะรับได้ไหม แล้วจะทำยังไงกับสถานการณ์นั้น
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 28-05-2017 22:15:48
ภาพพูดใหม่นะ ทำหน้าจริงจังด้วย ขมจะได้เชื่อ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 28-05-2017 22:38:51
แล้วถ้าพูดแบบจริงจัง ขมจะเชื่อจริงหรอ?

ปล. กาลิคลูกกกกกกก ทำไมน่าเอ็นดูแบบนี้เนี่ย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-05-2017 22:51:33
อ่อยกันเล่นไปมาเนาะ ผีช่วยผลักจิงจังสักที 55555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 28-05-2017 23:33:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 29-05-2017 00:22:33
 :katai2-1: :katai2-1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 29-05-2017 00:39:57
ชีททท ขมมม อ่อยไป๋ๆๆๆๆๆ
ภาพต้องทำแล้วจิงๆ ขมอ่อยขนาดนี้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: kkmm ที่ 29-05-2017 01:05:07
รอครับ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 29-05-2017 07:55:58
ขมอ่อยแล้วนะภาพ แกต้องจริงจังได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-05-2017 08:57:24
จริงจังได้แล้วภาพ!
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 29-05-2017 10:31:29
อ่านแล้วมีความสุขจังครอบครัวนี้ :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-05-2017 11:29:49
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 29-05-2017 18:40:46
จริงจังหน่อยพี่ภาพ
น้องขมนึกว่าหยอกเล่นเหมือนทุกทีแล้วเห็นมั้ย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 29-05-2017 19:17:48
พูดจาน่ารัก หวานแหววกันอยู่ดีๆ ต้องให้ได้มีน้ำตา
กาลิคน่ารัก น่าฟัด ขนาดงอแงยังน่าแกล้ง แต่เวลานั้น ขมทำถูกแล้ว ไม่งั้นก็จะดื้อไปอีก
อ้อนทีก็ละลายกันไป แทบจะยกบ้านให้กันเลย

ขมมีความเป็นแม่ ตอนนี้พ่อก็ขอแล้วนะ แต่จริงจังไม่พอซะงั้น
ภาพต้องพัฒนานะ ต้องจริงจังกว่านี้ด้วย ขมจะได้รับรู้สักที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 29-05-2017 20:45:38
มีความอ่อยเบาๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 29-05-2017 21:30:25
บอกยังงัยก็คิดว่าล้อเล่นตลอดเลยเนอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-05-2017 22:53:33
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 02-06-2017 21:15:13
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 32
   ลืมตาตื่นเช้าขึ้นมาเพราะแรงมือที่เขย่าปลุกให้ตื่นจากคนที่ตื่นเต้นที่สุดในห้องเรา วันนี้หัวหอมตื่นก่อนใคร ตื่นเสร็จก็จัดการปลุกผม ปลุกไอ้ภาพ เรียบร้อย

“ ตื่นๆ อาขม ตื่นเร็ว ต้องไปเล่นน้ำทะเลแล้วนะ ตื่นๆ " ลืมตาดูนาฬิกาตอนนั้นเพิ่งเจ็ดโมงเช้าแต่พอจะหลับตาลงอีกครั้ง มือเล็กๆก็เอื้อมมาจับหนังตาผมให้เปิดขึ้นจนในที่สุดก็ต้องตื่นมาอาบน้ำแล้วจัดการใส่ชุดเล่นน้ำให้มัน ไม่มีอะไรมากแค่กางเกงขาสั้นธรรมดากับเสื้อยืด ของผมก็เหมือนกัน

“ อาภาพยังไม่ตื่นเลย " ผมบอกหัวหอมที่วิ่งขึ้นไปบนเตียงทันที มันกระโดดทุ่มสุดตัวใส่ร่างสูงที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับมือหนาที่คว้าเอาร่างเล็กนั่นไปกอดไปหอมเสียหลายที

“ อาภาพตื่นนนน " มันปลุกก่อนจะยื่นมือไปเปิดตาอีกคนให้ฉีกกว้างออกมา " ตื่นนะ ตื่นๆ "

“ อื้ม ตื่นแล้ว " ตาที่กำลังจะหลับแต่ปากกลับบอกว่าตื่นแล้ว

“ มึงจะนอนต่อหน่อยก็ได้ เดี๋ยวกูลงไปกับมันเอง " ผมบอก ท่าทางมันดูเหนื่อยๆอาจเพราะไอ้ภาพขับรถด้วยละ ฝืนตื่นตอนเช้าไม่ไหวมันก็ไม่แปลกหรอก " ทางที่ดีกกูว่ามึงนอนต่อน่าจะดีกว่า วันนี้ยังต้องขับไปนู้นมานี่อีกหลายที่ พักเอาแรงไปก่อนนะ "

“ ไม่เอาอะ เค้าอยากไปด้วย รอเค้าด้วยน้าาา " มันลากเสียงปัญญาอ่อนก่อนจะก้มลงหอมแก้มหัวหอมที่ก็หัวเราะชอบใจ

“ ไหวเหรอวะ " ผมถาม

“ ไหวสิ ตัวเองไม่ต้องเป็นห่วงเค้าหรอกนะ "

“ ปัญญาอ่อน "

“ รอแปป ขออาบน้ำแต่งตัวห้านาที "

   ลงมาชั้นล่างที่ด้วยธีมเสื้อผ้าแบบเดียวกันหมดทั้งสามคน ก็โชคดีที่ไม่ได้หยิบเสื้อไปมาแล้วกาญจนบุรีมาใส่พร้อมกันหมด โชคดีที่ตัดสินใจเอาเสื้อยืดตัวที่มันดูดีมา ไม่งั้นแม่งต้องดูครอบครัวมากแน่ๆ เพราะแค่นี้แม่งก็ดูครอบครัวเอามากๆแล้วละ

    ห้องอาหารเช้าภายในโรงแรมเปิดบริการให้เราสามคนเป็นกลุ่มแรก แน่นอนมาพักผ่อนแบบนี้ใครมันจะแหกขี้ตาตื่นมาเช้าๆ สำหรับตอนนี้ผู้ปกครองยังเมาขี้ตาอยู่เลย แต่เด็กน้อยที่หิ้วถังใส่ของเล่นมาด้วยกลับตื่นเต้นจนถึงขีดสุด สายตามันลุกวาวยามที่เห็นทะเลอยู่เบื้องหน้า ทำได้คงจากจะวิ่งลงทะเลไปแล้ว

" อาขมมม กาลิคอยากจะไปเล่นน้ำทะเล "

" กินข้าวก่อนนะ " ผมบอกมันก็พยักหน้ารับ

" ถ้ากินข้าวแล้วจะได้ลงไปเล่นน้ำทะเลถูกมั้ยครับ "

" ใช่แล้ว " ผมบอกมันก่อนจะยื่นคูปองอาหารเช้าของทุกคนให้พยักงานโรงแรมที่เปิดประตูให้ ห้องอาหารที่เปิดโล่งที่มีทั้งแบบนั่งในตัวอาคารแล้วก็รับลมด้านนอก

" นั่งไหนกันดี "

" ข้างนอก! นั่งตรงนั้น " หัวหอมชี้ไปที่ที่นั่งข้างนอกที่รับลมทะลแบบสบายๆ ช่างแตกต่างกับผมแล้วก็ไอ้ภาพเหลือเกิน เรามองตากันตอนที่ไอ้ตัวเล็กชี้นิ้วเลือก คือกูแค่อยากจะตากแอร์เย็นๆ นั่งชิวๆ กินกาแฟไง จะไปนั่งตากลมทะเลให้กินยากๆทำไมวะ แดกทีผักปลิวออกจากปากยังไม่ทันงับ จะอ่านหนังสือลมก็ปลิวไปมา..

" ทำไมกูรู้สึกไม่อินอะไรกับทะเลเลยวะ กูอยากจะนอนโง่ๆบนเตียงมากกว่า " ผมพูดออกมาเสียงเบาๆ ไอ้ภาพมันก็หันมายิ้ม

“ เอาน่า ร่าเริงหน่อย แล้วตกลงจะนั่งไหน "

" ตามใจมันแล้วกัน " ผมบอก ก่อนจะยื่นมือไปขยี้หัวไอ้ตัวเล็กที่กำลังมีความสุขแบบสุดๆไปเลย " ก็ทริปนี้เราพามันมานี่นะ "

“ เย้~ “

“ งั้นก็ไปเลือกอาหารกัน กาลิคอยากจะกินอะไร " ภาพก้มลงไปอุ้มอีกคนขึ้นมา ส่วนผมก็มีหน้าที่ถือจานเดินตามแล้วหยิบตามความต้องการของพวกมัน

“ เอาใส่จานใหญ่รวมกัน แล้วค่อยเอาจานเล็กไปแบ่งกินกันก็แล้วกันนะ "

“ โอเคตามนั้น "

“ หัวหอมกินอะไร "

“ กินไส้กรอก "

“ ไส้กรอกนะ " ผมหยิบไส้กรอกขึ้นมาห้าหกชิ้น ตามด้วยไข่ดาวสี่ฟอง ข้าวผัดไข่อีกนิดหน่อย อีกจานก็ใส่พวกขนมปัง ไอ้ภาพจัดการกดนมให้กาลิค ส่วนผมสองคนแน่นอนว่าต้อง กาแฟเข้มๆ เพื่อปลุกชีวิตให้ลุกขึ้นมาร่าเริงอีกครั้ง

   ตั้งอาหารทั้งหมดลงบนโต๊ะข้างนอก ผมเดินกลับเข้ามาข้างในอีกครั้ง รู้สึกยังมีอีกหลายอย่างที่อยากจะกิน ไม่ว่าจะเป็น แพนเค้ก ผัดซีอิ๋ว แซนวิช หรือว่าพวกซีเรียล

“ นี่มึงกินหมดเหรอ " ไอ้ภาพถามตอนที่ผมยกอาหารมาอีกจานใหญ่ๆ กลายเป็นว่าตอนนี้อาหารเราเต็มโต๊ะไปหมด มีอาหารในจานใหญ่ตั้งสี่จาน

“ กูยังอยากจะกินอีกเนี้ย แต่ไว้ก่อน กินตรงหน้าให้หมดก่อน "

“ มึงเป็นเมนส์รึเปล่า "

“ ไอ้สัดนี่ " คว้าช้อนส้อมขู่จะจิ้มตามันอีกคนก็ถอยหลังหนีพลางหัวเราะ " กวนส้นตีน "

" ขี้หงุดหงิดแบบนี้ หรือว่าวัยทอง "

" ไอ้ภาพ "

" จ๋าาาา " มันลากเสียงยาวก็เหมือนอย่างทุกที ทำผมหงุดหงิดเหรอ ? ก็หาได้แคร์อะไรไม่ หงุดหงิดก็หงุดหงิดไปสิ ภาพจะแกล้ง ส่ายหน้าไปมาปลงๆกับคนอย่างมัน ผมหันมาตักซอสใส่ลงบนจานของหัวหอม ก่อนจะตักไข่ดาว ไส้กรอกสามชิ้น แล้วก็ขนมปังแผ่นนึงให้

“ หัวหอมกินข้าว "

“ คร๊าบบบ " จิ้มส้อมลงกินไส้กรอกเป็นอย่างแรก มันที่เคี้ยวด้วยความอร่อย ผมก็ได้เวลาจัดการอาหารตรงหน้าบ้างแล้ว จะว่าไปก็อร่อยทุกอย่างเลย รสชาติกลางๆไม่ได้หนักอะไร เหมาะกับคนทุกเพศทุกวันลย ไทย ต่างชาติ เรานั่งกินอาหารกันสักพักคนที่กินหมดคนแรกแน่นอนว่าต้องเป็นน้องหัวหอม เพราะมันคงอยากจะไปเล่นน้ำทะเลเต็มแก่แล้ว " อาขม กาลิคกินหมดแล้ว "

“ อิ่มแล้วเหรอ " ผมถาม มันก็พยักหน้ารับ

“ งั้นก็รอก่อนนะ 30 นาที " มันยู่หน้าตอนผมบอกแบบนั้น ในใจมันคงคิดว่า อะไรวะ ก็บอกว่ากินข้าวเสร็จแล้วจะให้เล่นไง ทำไมต้องรออีก

“ ทำไมต้องรอตั้ง 30 นาทีละ กาลิคอยากจะไปเล่นแล้วน้าา "

“ กินเสร็จใหม่ๆ ถ้าไปเล่นจะจุกนะ ต้องนั่งรอสักพักก่อน " คนฟังที่ยังไม่เลิกทำหน้ายู่ หัวหอมผ่อนหลังนั่งพิงกับเก้าอี้เซ็งๆ ก่อนจะหยิบเอาของเล่นที่ตั้งอยู่มาเล่นอยู่บนโต๊ะ สมมุติว่าตัวเองตักทรายใส่รถแล้วเข็นไปเทไว้ที่มุมโต๊ะ แล้วก็เข็นกลับมาตักอีก แสดงถึงความอยากจะเล่นมากมายของมัน " น่าเอ็นดู ดูมันทำ อยากเล่นมากเลยเหรอ "

“ อื้อ อยากจะเล่นแล้ว " หัวหอมพยักหน้ารับ " แล้ว 30 นาทีนานมั้ยครับ "

“ ก็ไม่นานนะ " ไอ้ภาพบอกก่อนจะยกมือถือขึ้นมาตั้งเวลานับถอยหลังให้มัน " เดี๋ยวพอมันดังขึ้นมา ค่อยออกไปเล่นแล้วกัน "

“ คร๊าบบบบ " ลากเสียงตอบเบาๆ หัวหอมนั่งเล่นตักทรายในจินตนาการไปเรื่อย ผมกับไอ้ภาพก็นั่งกินข้าวเช้าที่อยู่จนหน้าจนหมด หนังท้องที่ตึงเอามากๆ ผมผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความสุข

“ โคตรอิ่ม แต่ก็อร่อยมากเหมือนกัน "

“ เออ อาหารเช้าโรงแรมนี้ดี บางโรงแรมแดกแทบไม่ได้ " พยักหน้ารับคำพูดของร่างสูง ก่อนจะหันไปมองไอ้ตัวเล็กที่ก็หันมองนาฬิกาแล้วเอ่ยถามผม

“ อาขม เมื่อไหร่จะมันดัง "

“ เดี๋ยวก็ดัง มันยังไม่ถึงเวลาไง ยังไม่ครบ 30 นาที " ผมบอกก่อนจะมองเวลาที่เหลืออีกประมาน 10 นาที ขอร้องอย่าเพิ่งดังเลย สภาพกินอิ่มขนาดนี้ ถ้าต้องออกไปเล่นน้ำทะเลทั้งแบบนี้ มีหวัง อ้วกแตกแน่ๆ เล่นยัดเข้าไปขนาดนั้น " โอ๊ยอิ่มม อิ่มมากๆ "

“ พอเราเล่นน้ำเสร็จ จะไปไหนกัน คนวางแพลนว่าไง " ภาพถาม

“ ก็คิดว่าจะพาไอ้หัวหอมไปดูฟาร์มเลี้ยงแกะละ "  คนฟังหันมามองหน้าผมก่อนจะเบิกตาน้อยๆ " อยากจะไปละสิ "

“ อื้ม! กาลิคอยากไป ไปดูฟาร์มแกะ แกะที่มันตัวสีขาวๆใช่มั้ย "

“ ใช่แล้ว "

   กริ้ง กริ้ง กริ้ง    

   เสียงมือถือเตือนครบเวลาสามสิบนาทีดังขึ้น ผมที่จำใจต้องดึงตัวเองออกจากเก้าอี้แล้วลุกขึ้นเต็มความสูง แม้ว่าจะขี้เกียจแค่ไหนก็ตาม แต่พูดไว้แล้วว่าครบสามสิบนาทีจะพาไป ยังไงก็ต้องพามันไป

“ เย้ ~ ดังแล้วววว ไปเล่นน้ำกันนน อาขม อาภาพ ไปๆ ไปเล่นน้ำกันนะ " อะเลิทถึงขีดสุด หัวหอมลุกขึ้นจากที่นั่งคว้ามือผม มือไอ้ภาพก่อนจะลากออกมาจากโต๊ะที่นั่งกินข้าว วินาทีที่เท้าเล็กๆ เหยียบเท้าลงบนพื้นทราย รอยยิ้มกว้างๆที่พูดออกมาเสียงดังลั่นก่อนจะวิ่งเข้าใส่ผืนทะเลกว้างที่อยู่ตรงหน้ามัน " ทะเล๊~~~~ “

“ บัานน๊อก บ้านนอก นี่มันไม่เคยมาทะเลเหรอวะ อย่าบอกใครนะว่ามันเป็นลูกเรา ดูมันห่างๆก็พอ" ไอ้ภาพว่ายิ้มๆ ผมก็หลุดหัวเราะออกมา ผู้คนที่อยู่รอบๆ หลุดหัวเราะท่าทางตื่นเต้นของกาลิคไม่เว้นแม้แต่ชาวต่างชาติ 

“ อาภาพ อาขม ทะเล~~ “

“ หันมาเรียกมึงละไง " ผมบอก ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้มันย่อตัวลงนั่งข้างๆก่อนจะกอดมันไว้ " ช่ายย ทะเล กว้างมั้ย "

“ กว้างงงง กว้างมากๆเลย "

“ กาลิค น้ำทะเลอะ เค็มนะ " ไอ้ภาพบอกก่อนจะคว้ามืออีกคนจุ่มลงไปในทะเล เท้าที่สัมผัสน้ำทะเลเป็นครั้งแรก ท่าทางที่ตื่นเต้นของมันตอนที่โดนคลื่นซัดเข้ามาแล้วเท้าเหมือนจะโดนดูดลงไปนั้น หัวหอมกอดขาไอ้ภาพไว้แน่น

“ อา อา อาภาพ น้ำทะเล มันจะดูดกาลิคไป "

“ ไม่ดูดหรอก " อีกคนบอกพลางหัวเราะ

“ ไม่เคยเห็นทะเลเหรอไงเราน่ะ " ผมถามมันอีกคนพยักหน้ารับ

“ ไม่เคยเห็น เคยเห็นแค่ในทีวี " ยิ้มให้มันก่อนจะกอดมันไว้ ก็ว่า ทำไมมันถึงตื่นเต้นที่ได้มาขนาดนี้ รู้สึกดีจังที่ได้พาหัวหอมมาที่นี่เหมือนได้เติมเต็มสิ่งที่มันไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นให้มัน

“ อะนี่ ชิมน้ำทะเลสิ " ไอ้ภาพจิ้มน้ำทะเลเข้าไปใส่ปากอีกคนที่อ้าปากรับ หัวหอมทำท่าชิมก่อนจะขมวดคิ้ว

“ เค็มมมมมมมม เค็มปี๋เลย "

“ ก็น้ำทะเลมันจะเค็มละนะ "

“ แล้วทำไมมันถึงเค็มละ " เจ้าตัวเล็กถาม

“ ล้วหัวหอมคิดว่าไงละ "

" คิดว่า คงมีใครสักคนเค้าเอาเกลือเยอะๆ ใส่ลงไปทะเลใช่มั้ยครับ เลยทำให้ทะเลเค็มม๊ากมาก "

“ อาจจะเป็นอย่างงั้นแหละ " บอกมันยิ้มๆ ก่อนไอ้ภาพจะกวักน้ำสาดใส่มันอีกคนก็หลับตาแน่น

“ อาภาพแกล้งงงงงง เปียกเลย นี่แหน่ะ " มันที่สาดคืนร่างสูงที่สาดใส่มัน ก่อนที่ผมจะค่อยๆถอยหลังหนีเพราะไม่ค่อยอยากจะเข้าไปร่วมเกมส์กับมันเท่าไหร่ แต่นั่นก็จะไม่ได้เมื่อไอ้ภาพหันมาเห็นผมซะแล้ว

“ จะไปไหน มานี่เลย " มันคว้ามือผมไว้ก่อนจะดึงเข้ามากอดเอวไว้ " กาลิค! จัดการ สาดน้ำทะเลใส่อาขมเลย "

“ นี่แหน่ะๆ "

“ โอ๊ยยยย อย่าาาา ไอ้ภาพปล่อย " ผมตีมือมันที่กอดเอวผมไว้ พยายามหลับตาไม่ให้น้ำมันเข้าตาก่อนจะสะบัดตัวองหลุดออกมา แล้วจ้องไอ้สองคนแบบหาเรื่อง " รุมเหรอ ใคร เมื่อกี้ใครมันรุมกู "

“ อาภาพทำ อาภาพบอกกาลิคให้ทำ "

“ จัดการหัวหอมนั่นแหละ คนแรก!! ” คว้าตัวมันมาอุ้มไว้ก่อนจะรุมสาดน้ำใส่ไอ้ตัวเล็กที่ก็หลับตาปี๋ เสียงโวยวายแต่สนุกสนานของดังไปทั่วบริเวณแบบไม่ค่อยเกรงใจชาวบ้านชาวช่องเค้ากันสักเท่าไหร่

“ พอแล้ว พอ อย่าทำกาลิค พอแล้ว พออ อย่าทำกาลิคน้าา " มันหลับตาปี๋มือที่โบกไปมาปฎิเสธไอ้ภาพหยุดลงผมก็ปล่อยมันให้ลงยืน มือเล็กๆยกมือขึ้นลูบหน้าลูบตาตัวเองก่อนจะยิ้มกว้างออกมา " นี่แหน่ะ "  มันสาดน้ำใส่เราสองคนก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

“ ไอ้นี่เล่นทีเผลอ นี่แหน่ะ " ไอ้ภาพสาดน้ำใส่มันอีกที แต่อีกคนก็แค่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะลูบน้ำบนหน้า " กาลิคว่ายน้ำเป็นมั้ย "

“ ว่ายน้ำ ? “ มันเอียงหน้างคำถามของไอ้ภาพ ผมก็อธิบายเพิ่ม

“ แบบนี้ไง " ทำท่าว่างน้ำให้มันอีกคนก็ส่ายหน้าไปมา " ว่ายไม่เป็นเหรอ "

“ งั้นอาภาพสอนให้มั้ย เสาร์อาทิตย์หน้าเริ่มเรียนกันเลย ไปว่ายน้ำที่สระคอนโด "

“ อื้ม เรียนว่ายน้ำ เย้ๆ "

“ ทำไมไม่ส่งไปเรียนว่ายน้ำวะ " ผมถาม อีกคนก็หันมาผ่อนลมหายใจหน่ายๆ

“ เปลืองเงิน กูก็ว่ายน้ำได้ ขนาดมึงกูยังสอนมาแล้วเลย จะไปเรียนทำไมให้เปลืองละ " มันว่าปัดๆ ก็จริงของมันไอ้ภาพว่ายน้ำเก่งมากเคยคิดจะเป็นนักกีฬาว่ายน้ำด้วยซ้ำไป ถ้าตอนนั้นมันไปหันมาชอบบาสซะก่อนละก็นะ 

“ กูแค่อยากจะให้มันไปเรียนจะได้มีเพื่อน ไม่ใช่ติดอยู่กับเราทั้งวัน "
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 31 - 28.5.60} #หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 02-06-2017 21:16:42

“ มึงถามมันสิ ว่าอยากจะมีเพื่อน หรือว่าอยากจะอยู่กับเรา " ภาพบอก ตอนที่เชิดหน้าไปหากาลิคที่วิ่งไปเล่นของเล่นตรงหาดทรายข้างบนแล้ว มันที่กำลังตักทรายใส่ถัง ผมก็เดินเข้าไปใกล้ก่อนจะช่วยมัน

“ อาขมช่วยนะ "

“ คร๊าบบ ได้เลย เล่นกัน เล่นกัน "

“ กาลิค " ภาพเอ่ยเรียกมันก่อนจะนั่งลงข้างๆ " เสาร์อาทิตย์ อยากจะอยู่กับอาขมอาภาพ หรือว่าอยากจะอยู่กับเพื่อนมากกว่ากัน "

“ อื้มมมมม " เด็กน้อยลากเสียงยาวก่อนจะเอียงหน้ามองผม แล้วก็ไอ้ภาพ " อยากจะอยู่กับอาขม อาภาพ มากกว่า เพราะว่าไปโรงเรียนก็อยู่กับเพื่อนแล้ว " มันยกมือขึ้นมานับ " อยู่กับเพื่อนตั้งห้าวัน "

“ แหม ก็ยังเข้าใจถาม มาถามตอนที่เราพามันมาเที่ยวนี่นะ " ผมพูดเสียงเบาๆ อีกคนก็ยักคิ้ว

“ แต่มันก็ตอบว่าไม่อยากจะอยู่กับเพื่อนละนะ "

“ นี่หัวหอม " ผมเรียกอีกคน " เรามาฝังตัวอาภาพในทรายมั้ย "

“ ฝังตัวอาภาพ ในทราย " มันเอียงหน้ามองผม เหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจที่ผมพูดเท่าไหร่

“ เราก็ขุดทรายให้ลึกๆ แล้วก็ฝังอาภาพไว้ไง ฝังให้เหลือแต่หัวเลยมาเร็ว "

“ ถามความเห็นกูยัง " ไอ้ภาพที่นั่งอยู่ใกล้ๆไอ้หัวหอมถาม

“ มึงยอมกูกับหัวหอมอยู่แล้ว ไม่ต้องถามหรอกน่า " ผมว่า อีกคนก็ยกยิ้ม " มาเร็วๆ มาขุดดินกัน " จัดการขุดดินให้ลึก หัวหอมที่ช่วยอย่างแข็งขันด้วยการเอาดินที่ผมขุดออกมาไปสร้างปราสาททรายใกล้ๆ " อะ เสร็จละ "

“ ทำไมกูรู้สึกว่ามึงสนุกอยู่คนเดียววะ "

“ เอาน่า อย่าพูดมาก มานอนลงไปได้แล้ว " ผมบอก ไอ้ภาพก็นิ่ง " เร็วววว มานอน เร็วๆ "

“ ไม่เอาอะ "

“ น่าาา พี่ภาพของน้อง มาสิครับ มามะ มาๆ มานอนเร็ววว กูจะเล่นน ไอ้ภาพมา " เสียงที่เริ่มอ้อนเปลี่ยนเป็นสูงขึ้นจนกลายเป็นการขู่บังคับ ไอ้ภาพที่ถอนหายใจออกมาในที่สุดก็ลุกขึ้นมานอนลงบนหลุมทรายนั้น จัดการฝังกลบมันให้เหลือแต่คอ กาลิคที่เอียงหน้ามองงงๆ ก็เดินมาเล่นด้วย

“ ไหงสุดท้ายก็เอากับเค้าด้วยละ ไอ้ตัวเล็ก "

“ ก็มันสนุกจะตาย กลบๆ ฝังอาภาพไว้ใต้ดินเลย "

“ ฝังๆ ฝังอาภาพ " หัวหอมพูดตาม ผมฝังมันไว้ใต้ดินเรียบร้อยก่อนจะเอาทรายใส่ถ้วยใบเล็กๆ มาตั้งทำเป็นนมให้มัน

“ กูว่าละ " ร่างสูงว่าพลางถอนหายใจออกมา หลุดยิ้มออกมาตอนที่ทำนมให้มันเสร็จ ก่อนจะเลื่อนลงไปข้างล่าง " เดี๋ยวๆ นี่อย่าบอกนะ "

“ มันก็ต้องมีมั้ยละ หรือมึงจะไม่มี "

“ ตกลงมึงจะให้กูเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ละไอ้สัด มีนมแต่มีไข่มึงจะบ้าเหรอ "

“ เป็นกระเทยที่ทำนมแล้วแต่ยังไม่มีตังค์ตัดไข่ไง " ผมบอกอีกคนก็แบะปากใส่

“ อาขม ไม่เอา ไม่ตั้งไว้ตรงนี้ " หัวหอมบอกมันปัดมือผม เกลี่ยทรายที่ผมพยายามขึ้นรูปให้เป็นลำทำให้แบนเหมือนเดิม " อาภาพสอนว่าเราจะให้ใครเห็นน้องหนอนไม่ได้นะ อย่านะ ไม่เอา "

“ เออ ใช่ๆ เราจะให้ใครเห็นไม่ได้นะ มึงหยุดเลยไอ้ขม ไอ้โรคจิต "

“ อาภาพ อาภาพอุ่นมั้ย ข้างใน " หัวหอมมันอีกคนก็หันมาตอบ

“ คัน คันไปหมดเลย "

“ งั้นกาลิคจะสร้างปราสาททรายบนตัวอาภาพนะ อาภาพจะได้ไม่คัน " อีกคนบอก ผมกับไอ้ภาพก็มองหน้ากัน เกี่ยวเหี้ยไรวะ ผมช่วยหัวหอมสร้างปราสาททรายบนตัวไอ้ภาพ เวลาผ่านไปสักพักจนผมที่เคยเปียกของมันเริ่มแห้ง ถ้าเกิดว่าอยู่นานกว่านี้ ดูท่าว่าวันจันทร์นี้ไอ้ตัวดีต้องเป็นหวัดแน่นอน

“ นี่ อาขมให้เวลาเล่นอีก 20 นาทีนะ ถ้าถึงเวลาแล้ว เราขึ้นไปอาบน้ำกันนะ "

“ ไม่เอา กาลิคอยากจะเล่นน้ำทะเลอีก "

“ งั้นกาลิคจะไม่ไปดูแกะเหรอ ไปให้อาหารแกะเหรอไง ไม่ไปเหรอ " คนโดนถามนิ่งไป มันที่กำลังใช้ความคิด " จะไม่ไปนั่งรถไฟเหรอ "

“ ไปปปปปปป " มันบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนทันที " ไปเลย ไปตอนนี้ "

“ ไปเลยเหรอ  "

“ แต่ว่า..” มันเงียบไปก่อนจะหันหน้ามาถามเสียงอ่อน " แล้วกาลิคได้กลับมาเล่นน้ำอีกมั้ยอาขม "

“ อื้ม พรุ่งนี้อาขมคิดว่าจะพาไปเล่นสวนน้ำที่สนุกๆ มีสไลค์ มีเครื่องเล่นก่อนกลับบ้านนะ แต่คงไม่ได้เล่นน้ำทะเลแล้วละ " ผมบอกอีกคนก็นิ่งคิดก่อนจะเดินเข้ามานั่งบนตักผม เตรียมตัวอ้อนเต็มที่ " จะอ้อนเอาอะไรอีกละ "

“ แล้วกาลิคจะได้มาอีกมั้ยครับ "

“ ทะเลน่ะเหรอ "

“ อื้ม จะได้มากับอาขม อาภาพอีกมั้ยครับ " คำถามที่ทำให้ผมยิ้ม มันที่ดูชอบทะเลมากๆ ให้เล่นหนเดียวก็ดูน้อยเกินไปสำหรับเด็กอย่างมันจริงๆนั่นแหละ แต่จะให้ทำยังไงได้ละ

“ หัวหอมชอบทะเลมากเลยเหรอ "

“ ชอบมากเลยยยย "

“ ทำไมละ ทำไมถึงชอบมากเลยละ " กอดเอวมันไว้ตอนที่ก้มลงหอมแก้มอีกคนก็หันมามองหน้าผม แขนเล็กที่เอื้อมมากอดผมไว้แน่น

“ ก็ทะเลมีอาขมกับอาภาพอยู่ด้วย  กาลิคก็เลยชอบทะเลม๊ากมากก ทะเลสนุก "

“ แบบนี้เอง " หอมแก้มมันไปเต็มฟอดตอนที่มองออกไปที่ทะเล เป็นครั้งแรกที่รู้สึกชอบทะเลขนาดนี้ ส่วนเหตุผลก็อาจจะเป็นเหตุผลเดียวกับไอ้ตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักผมในตอนนี้ " อาขมเองก็ชอบทะเลนะ เพราะมันมีหัวหอมอยู่ด้วย "

“ ลืมกูไปเลยก็ได้นะ " ไอ้ภาพเอ่ยบอกตัดฉากซึ้งๆในใจของผมไปหมด หันไปมองมันที่นอนอยู่ในกองทราย ผ่อนลมหายใจออกมา " ในใจมึงจะไม่มีกูก็ได้นะ "

“ เออๆ เพราะมันมีมึงรวมอยู่ด้วยนั่นแหละ ทำเป็นน้อยใจไปได้ " 

“ กูเองก็ชอบทะเลที่มีมึงทั้งคู่อยู่ด้วย แต่จริงๆ ก็ชอบไปหมดนั่นแหละ ทุกที่ที่ได้อยู่ด้วยกัน กูชอบมันทั้งหมด " ภาพบอกก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง มันที่ดึงกาลิคขึ้นจากตักผม เงยหน้ามองภาพนั้นก่อนจะหลุดยิ้มออกมา

" เหมือนกันเลย " จริงๆก็ชอบทุกที่นั่นแหละ ทุกที่ที่เราได้อยู่ด้วยกัน เป็นอะไรที่มีความสุขที่สุดแล้ว

“ ไปล้างตัว แล้วออกไปดูแกะกันดีกว่า ไหนใครอยากจะไปดูแกะบ้าง

“ กาลิค~ “ มือเล็กๆยกขึ้นสุดแขน ก่อนที่ภาพจะพามันลาตัวที่ฝักบัวที่ทางโรงแรมตั้งไว้ ผมเดินไปขอผ้าขนหนูจากพนักงานที่อยู่แถวนั้น จัดการห่อตัวมันไว้ ก่อนจะยื่นอีกผืนให้ไอ้ภาพที่ก็จัดการถอดเสื้อตัวเองโชว์ซิกแพคเต็มที่

“ กูถือผ้าให้มึงอาบน้ำเลย ส่วนกาลิคไปล้างของเล่นที่ก๊อกนั่นนะ ล้างให้สะอาดละ "

“ ครับ " รับคำสั่งของภาพ เด็กน้อยวิ่งไป ผมก็จัดการล้างทรายออกจากตัวก่อนจะยื่นมือไปรับผ้าขนหนูผืนนั้นมาห่มตัวไว้ ทรายที่ยังติดที่หัวไอ้ภาพเอื้อมมือเอาผ้าที่มันคลุมอยู่ที่ตัวมาเช็ดหัวให้

“ จะมองอะไรกันนักหนาวะ " ไอ้ภาพพูดขึ้นเสียงเบาๆ ผมที่เงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ ก็มีสาวๆมองเราอยู่นะ แต่แค่ไม่รู้ว่ามองในความรู้สึกแบบไหน

“ มึงหล่อไง "

“ อาจจะมองเพราะคิดว่ามึงกับกูเป็นผัวเมียที่พาลูกมาเที่ยวก็ได้ "

“ มึงไม่โอเคเหรอ " ผมถาม ไอ้ภาพก็นิ่ง จะว่าไปมันก็ไม่แปลกหรอกที่จะมองในแง่นั้น ผู้ชายสองคนทำตัวสนิทสนมกันมาพร้อมกับเด็กตัวเล็กๆคนนึงดูยังไงก็ครอบครัวมากกว่า เพื่อนสองคนที่พาหลานมาเที่ยวละนะ ทางกายภาพของผมกับไอ้ภาพก็บอกแบบนั้นด้วย

“ ก็เปล่า " มันปฎิเสธออกมา ผมก็ยกยิ้ม ตอนที่เงยมองหน้ามัน

“ ถ้าใจเราไม่คิดอะไร เราจะทำอะไรกันก็ได้เว้ย โนแคร์โนสน " ภาพนิ่ง มือที่กำลังเช็ดผมให้ผมอยู่นั้นก็นิ่งไป
 
“ งั้นกูจูบมึงได้มั้ย "

“ จูบตีนกูก่อนมั้ยละ " 

“ ไม่เห็นจะเก่งเหมือนที่พูด ไหนบอกว่าถ้าใจไม่คิดอะไรก็โนแคร์โนสัน เอ๊ะๆ หรือว่าจะคิดอะไรกับกูกันนะ " มันก้มหน้าลงมาใกล้ ผมที่เบือนหน้าหนีเพราะรู้สึกอยู่ๆแก้มมันจะร้อนขึ้นมาซะอย่างงั้น

" คิดเหี้ยอะไรละ ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละเว้ย "

" อ๋อเหรอคร๊าบบบบบบ "  มันพูดก่อนจะปล่อยมือออกจากหัวผมแล้วยกผ้าขนหนูขึ้นเช็ดหัวตัวเองบ้าง " ขม ถามไรอย่าง "

“ ว่า ? "

“ มึงบอกว่าถ้าใจเราไม่คิดอะไร เราจะทำอะไรกันก็ได้ งั้นถ้ากูคิดอะ มึงจะทำยังไง " สายตาจริงจังที่จ้องตาผม

“ นี่มึงจริงจังแล้วถูกมั้ย " ผมว่าก่อนจะยิ้มให้มันที่พยักหน้ารับ

“ ช่วยตอบแบบจริงจังด้วยละกัน "

“ ในความคิดของกู ถ้ามึงมาชอบจะทำยังไงเหรอ อื้ม.. “ คิดไม่ออก อย่างไอ้ภาพนี่อะนะจะมาชอบผม คิดยังไงก็คิดไม่ออก อาจจะเขินมั้งถ้าได้ยิน แต่จะตอบรับมั้ยก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะไม่เคยมีคำตอบในใจไว้เลย ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้สักครั้ง อาจเพราะภาพเป็นเพื่อนที่อยู่ใกล้กันมาตลอดเลยไม่เคยคิดถึงสถานะอื่นของเราเลย 

“ ว่าไง "

“ คิดไม่ออกวะ คงต้องเกิดขึ้นจริงๆละมั้งกูถึงจะคิดออกว่าจะทำยังไง " หันไปยิ้มให้มัน ก่อนที่ผมเดินเข้าไปหาหัวหอมที่ล้างทรายออกจากของเล่นของตัวเองจนสะอาดวับ จัดการช่วยมันเอาของเล่นใส่ลงในถังจนเสร็จ คว้ามือเล็กๆมันมาจูงไว้ ไอ้ภาพก็ยังยืนมองผมอยู่นั้น มันนิ่งไปเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ " ไอ้ภาพ "

" หื้ม ? " ตวัดสายตาขึ้นมองผม หน้าตาที่กำลังดูเครียดๆผมหลุดหัวเราะ

" มึงจะคิดให้มันปวดหัวทำไมวะ ไอ้บ้า! กูกับมึงคบกันตั้งนานมีอะไรบ้างที่กูไม่รู้หรือดูไม่ออกเกี่ยวกับมึง เราเป็นเพื่อนรักกันนะเว้ย ถ้ามึงรู้สึกอะไรกับกูจริงๆ กูต้องดูออกอยู่แล้วจริงมั้ยละ " บอกมันแบบนั้นตอนที่เดินออกมาพร้อมกับหัวหอม ผมเองก็ได้ยินเสียงไอ้ภาพลอยตามลมมาเบาๆ แต่เพราะมันเป็นเสียงที่เบามาก มากจนผมรู้สึกว่า อาจจะหูฟาดไปเอง 

" ไม่จริงหรอก  มึงไม่ได้ดูกูออกไปหมดทุกเรื่อง " 

.............................................................

ขอโทษค่ะ ที่วันนี้อัพนิยายช้าไปหน่อย
พอดีที่ปัญหานิดหน่อย อ่านมาถึงตรงนี้คนอ่านต้องคิดว่า ขมแม่งโง่ ไม่ก็ ภาพแม่งไม่พูดให้มันชัดๆไปเลยวะ
ตอนที่เราเขียนเราก็แอบหงุดหงิดนะ อยากจะให้พูดไปเหมือนกัน
แต่เราก็คิดว่า คำสารภาพรักจากเพื่อนสนิทมันเป็นอะไรที่พูดยากนะ เพราะถ้าแค่เอ่ยออกไปความสัมพันธ์ที่มีมาทั้งหมดมันก็จะ หายไป เพื่อนที่เคยใกล้ มันก็ไกลออกไปแบบชนิดที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ ต่อให้พยายามใกล้เท่าไหร่แต่ความไว้ใจและความรู้สึกที่อีกฝ่ายได้รับรู้มันก็ไม่เหมือนเดิม เป็นความสัมพันธ์ที่พูดยาก คือถ้าตัดสินใจบอกเหมือนกับว่าต้องคิดไว้เลยว่า อาจจะไม่ได้เพื่อนกลับมาอีก ในมุมมองของภาพก็เป็นแบบนี้เรารู้สึกว่าภาพก็กำลังคิดแบบนี้ ขมเป็นเพื่อนคนเดียวที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่าภาพไม่อยากเสียขมไปหรอก
และนั่นคือเหตุผลที่เรารู้สึกกับตัวละครสองตัวนี้ เลยรู้สึกว่า การสารภาพรักในความสัมพันธ์นี้มันไม่ง่ายเลย
อย่าลืมว่า ภาพกับขม มันไม่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไง เหมือนที่เรารู้สึกหน่อย จริงมั้ยละ

ขอโทษอีกครั้งที่อัพช้านะคะ
สุดท้ายนี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ๊ะ
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยน้า
หนมมี่จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 02-06-2017 22:14:41
อึนอะ เข้าใจความรู้สึกแบบนั้นนะ ถ้าอีกคนไม่รู้สึกกับเราล่ะ ความสัมพันธ์มันจะแตกสลายทันทีเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 02-06-2017 22:15:54
อึดอัดแบบอุ่นๆที่ใจอ่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-06-2017 23:27:02
เอ้าาา ขอให้สำเร็จนะภาพ 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-06-2017 23:34:51
ขมจะไม่สะกิดใจเลยหรือ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 02-06-2017 23:42:48
ภาพต้องอยู่สถานะนี้ไปอีกนานแค่ไหน ต้องทำให้มันชัดเจนไปเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 02-06-2017 23:58:37
เอาใจช่วยภาพนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 03-06-2017 00:23:59
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
โอ้ยยยยากกกกก

เล่นกับหัวหอมดีฟ่า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 03-06-2017 00:40:00
สงสารภาพจัง
เมื่อไรจะคืบหน้าสักทีเนี้ยะะะะะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: iAlexiajang ที่ 03-06-2017 02:39:53
แม่จมอย่าไปตัดกำลังใจพ่อภาคซี่~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 03-06-2017 08:14:10
คนแต่งสู้ๆนะคะ

น่ารักมากค่ะ ครอบครัวเวอร์วัง ดูอบอุ่นดี
กาลิคน่าฟัด น่ารักมาก ถามเยอะเหมือนเดิม แต่ฟังเยอะขึ้น เด็กฉลาด

ภาพคนนอยด์ แต่อย่าพึ่งคิดมากนะ ขมยังไม่รู้นี่นา
ภาพอบอุ่นมากเลยค่ะ โมเมนท์คุณพ่อมาเต็ม ยอมเสมอเพื่อเธอ อารมณ์นั้นเลย ยิ่งตอนฟัดกาลิคยิ่งน่ารัก

ขมน่ารักนะ ชอบกอดหอมกาลิค ชอบโมเมนท์แบบนี้ค่ะ ดูขมใส่ใจตลอด
ขมบอกแบบนี้ก็ไม่แปลกนะ สนิทกันมาก ถ้าจะเปลี่ยนไป ก็คิดว่ายังไงก็ต้องเห็น

สู้ต่อไปนะภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 03-06-2017 08:30:40
สงสารภาพจัง...  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-06-2017 12:43:36
น่าเห็นใจภาพนะ เรื่องของผู้ใหญ่น่าปวดหัว สนใจหัวหอมดีกว่า น่ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 03-06-2017 13:32:49
เราพึ่งเข้ามาอ่านตอนแรก..
จบตอนแล้วก็แบบ.. อยู่ก็มีน้ำไหลมาที่แก้ม!!
เราคิดว่าเหงื่อ แต่ไม่ใข้จ้าาาา น้ำตาไหลไม่รู้ตัว 5555 เป็นครั้งที่น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัวจริง ๆ
// เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวทีไรเศร้าทุกที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-06-2017 16:54:59
ยังไม่เคลียร์...
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 03-06-2017 18:56:55
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 03-06-2017 19:32:19
งุ้ยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-06-2017 19:57:02
นี่ดูออกแล้วจริงดิขม :katai1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-06-2017 21:36:11
เอาใจช่วยภาพ  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 03-06-2017 21:42:27
ขมชอบภาพบ้างมั้ยยยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 03-06-2017 21:47:46
 :mew2: ใกล้ความจริงแล้วสินะ สู้เขานะพี่ภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 03-06-2017 21:59:39
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-06-2017 12:10:22
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 04-06-2017 13:18:53
ขมมีใจให้ภาพอยู่แล้วววว ภาพลุยต่อเลยยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 32 - 2.6.60} #หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-06-2017 20:21:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 04-06-2017 20:34:37

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 33

   อาบน้ำแต่งตัวหลังจากเล่นน้ำทะเลกันเสร็จเรียบร้อย เราออกเดินทางจากโรงแรมตรงไปที่ฟาร์มแกะตามที่จีพีเอสบอก จอดรถที่ลานจอดรถของฟาร์ม แสงแดดที่สาดลงมาชวนให้ผมหรี่ตาตัวเองลงก่อนจะสวมหมวกให้ไอ้หัวหอมที่ก็ยังร่าเริงท้าลมร้อนแบบชนิดสู้ตายหายห่วง

“ ร้อนจังเลยวะ " ผมพูดออกมาตอนที่หยิบหมวกขึ้นมาปกให้ตัวเองบ้าง ส่วนไอ้ภาพก็เดินลงจากรถมาพร้อมแว่นดำพร้อมทั้งมือถือที่เตรียมจะถ่ายรูปเด็กน้อยเต็มที่ " นี่มึงเตรียมถ่ายรูปเต็มที่เลยนะไอ้ภาพ "

“ แน่นอน เมื่อเช้าแม่กูหวีดโทรศัพท์แทบแตก โทษฐานไม่มีภาพไอ้หัวหอมตอนเล่นน้ำทะเลครั้งแรกในชีวิตส่งไปให้ " ผมหลุดยิ้มออกมาร่างสูงก็ส่ายหน้า " พอบอกว่าถ่ายไม่ได้มือถือใส่ซองกันน้ำแล้วตัวกูก็เล่นน้ำด้วยแม่ก็ยิ่งวีนใหญ่ บอกว่า รู้มั้ยว่านี่คือความทรงจำที่ดี ต้องถ่ายเก็บไว้ กูละเชื่อเค้าเลย "

“ แต่ก็จริงของเค้านะ ไม่ผิดไปจากที่เค้าพูดหรอกกูว่า " เพราะถ้าผมย้อนกลับไปได้ก็อยากจะถ่ายรูปมันเก็บไว้เหมือนกัน ท่าทางตื่นเต้นกับรอยยิ้มแบบนั้น รู้สึกว่าหนหน้าถ้าได้มาอีกครั้งก็คงไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบในวันนี้แล้วละ

“ นี่มึงก็บ้าจะถ่ายรูปไอ้กาลิคเหมือนกับแม่กูอีกคนแล้วเหรอ " ภาพถาม ก่อนจะเปิดมือถือแล้วยื่นกล้องไปตรงหน้าไอ้ตัวเล็ก " กูไม่เห็นจะชอบเลย ไม่เคยได้ยินเหรอ กูเลยอ่านกระทู้ในพันทิปนะ  เด็กคนนึงไม่ยอมถ่ายรูปกับเพื่อนเลยเพราะเกลียดกล้อง สาเหตุมาจากแม่ตัวเองชอบถ่ายรูปบ่อยๆ "

“ กูว่า ท่าทางการถ่ายรูปของมึงดูจริงจัง ต่างจากคำพูดที่บอกว่าไม่อยากจะถ่ายรูปมันนะ " ขมวดคิ้วมองมันงงๆ อีกคนก็ถอนหายใจแล้วหันมามองหน้าผม

“ ก็กูกลัวคุณหญิงแกวีนไง " มันบอกก่อนจะยื่นมือให้ผม " มึงดูภาพนี้ ถ่ายแบบเผลอๆ มันน่ารักเนอะ ภาพนี้ก็น่ารักดูๆ "

“ อื้ม.. น่ารัก " ผมพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มแห้งๆ ให้คนที่บอกว่าไม่ชอบถ่ายภาพแต่ก็ยังคงกดชัตเตอร์รัวๆ

“ อาขมๆ " มือเล็กๆเอื้อมมือมาเขย่าเสื้อผม " ไหนคุณแกะละ "

“ คุณแกะเลยเหรอ " ผมยิ้มกว้างกับคำพูดของมัน หัวหอมก็พยักหน้ารับ " สุภาพเหลือเกินลูกเอ้ย เอ็นดู~ "

“ พูดว่าคุณแกะไม่ได้เหรอ " มันเอียงหน้าถามผมก็ส่ายหน้า

“ ได้สิ น่ารักดีออก แต่ว่าคุณแกะน่ะ จะต้องเดินเข้าไปดูข้างในนะ "

“ งั้นไปกันไป ไปเลย ไปปปปป  " มันคว้ามือผมกับไอ้ภาพให้เดินเข้าไปข้างใน แต่ผมกลับดึงมือมันให้หยุดอยู่ที่ร้านขายบัตรเสียก่อน ไอ้หัวหอมหันมามองหน้า " อาขมไปปป ไปดูคุณเกะได้แล้วนะ "

" ยังเข้าไปไม่ได้ ต้องต่อคิวซื้อบัตรก่อนนะ " ก้มลงบอกมันอีกคนก็นิ่ง

" ถ้าเราไม่ซื้อ เราก็จะไม่ได้เข้าไปใช้มั้ย พี่ๆจะไม่ให้เราเข้าไปพบคุณเกะใช่มั้ยครับ "

" ใช่แล้ว เพราะงั้นต้องซื้อบัตรก่อนนะ " ผมบอกอีกคนพยักหน้ารับเข้าใจ " จะว่าไปคนก็เยอะเหมือนกันนะ กูคิดว่าคนน้อยๆ "

" อื้ม จริง ทั้งๆที่ร้อนขนาดนี้คนยังเยอะเลย " ภาพเสริม เรายืนต่อคิวอยู่สักพักก่อนจะได้ตั๋วแบบเด็กหนึ่งผู้ใหญ่สองจากคนขายที่ก็ไม่ค่อยจะยิ้มแย้มสักเท่าไหร่

" อันนี้ตั๋วของหัวหอมนะ อะ เอาไป  " ยื่นตั๋วให้มันอีกคนก็พยักหน้ารับ " ส่วนอันนี้ของมึงแล้วก็ของกู ไว้ที่กูแล้วกัน " ผมบอกภาพอีกคนก็พยักหน้ารับ " แล้วเราควรซื้อน้ำ เข้าไปกินหน่อยมั้ย มึงว่าไง ระหว่างเดินเผื่อร้อน  "

“ ไม่อะ อากาศแบบนี้น้ำเปล่าไม่น่าช่วย นาทีนี้กูอยากจะกินแป็ปซี่มากกว่า "

“ ไม่ได้อะ กูไม่ให้กิน " ผมบอกก่อนจะเชิดหน้าไปที่ไอ้ตัวเล็ก คนฟังก็พยักหน้ารับ

“ ก็เพราะรู้ว่าไม่ได้ไง  กูเลยบอกว่า ไม่อะ " มันว่าก่อนจะย่อตัวลงถ่ายรูปไอ้ตัวเล็กที่ก้มองรอบๆด้วยความสนใจ " ถ่ายรูปกันดีกว่า ไหน กาลิคยิ้มสิ "

“ ยิ้ม~ "

“ น่ารักจังเลย " ภาพบอกก่อนจะที่หัวหอมจะเงยหน้าขึ้นถาม

“ อาภาพพพ เข้าไปได้รึยัง ไปกันเถอะ ไปปป ไปกันได้แล้วนะ คุณแกะคอยกาลิคอยู่ " มือเล็กคว้าทั้งมือผมแล้วก็มือของไอ้ภาพลากเข้าไปตรงทางเข้า ยื่นบัตรที่ซื้อมาเราเดินผ่านเข้าไปข้างใน  เด็กน้อยที่ตื่นเต้นกับฝูงแกะแต่ถ้าอย่างงั้นก็ไม่ลืมหยุดถ่ายภาพกับป้ายชื่อสถานที่ให้สมกับที่มาทัวร์ต่างจังหวัดโดยแท้จริง

“ กาลิคดูนั่นดิ ม้าแคระๆ มีม้าแคระด้วย "

“ ไม่ใช่น้า " มือเล็กโบกปฎิเสธไปมา " ไม่ใช่น้าอาภาพ นั่น   นั่นคือลูกม้าาา~ ม้าที่ยังตัวเล็กๆอยู่ " หัวหอมเถียงไอ้ภาพ ผมก็หลุดยิ้มออกมากับความไร้เดียงสาของมัน

“ เค้าแต่งสถานที่แบบคันทรี่มากอะ " ผมมองไปรอบๆก่อนจะเอ่ยบอก " แต่ก็เข้ากับบรรยากาศดีนะ ฟาร์มแกะฟาร์มม้ามันก็ต้องมีอะไรแบบนี้แหละ "

“ กูว่าก็ไม่เห็นมันจะมีอะไรเลย "

“ มีนะ มีแม่น้ำด้วย นั่นไง " หัวหอมพูดขัดไอ้ภาพเสียงดังพลางชี้ไป ขาเล็กออกแรงดึงเราให้ไปที่แม่น้ำในความคิดของมันทั้งๆที่เอาจริงๆ สระน้ำในมหาลัยกูยังใหญ่กว่า เรียกให้ถูกก็คงแค่ บ่อปลาเท่านั้นแหละ " อาขมดูๆ มันมีปลาด้วยนะ " หัวหอมย่อตัวลงก้มดูปลาที่แปวกว่ายไปมาอยู่ในนั้น

“ ใช่แล้ว ในน้ำก็ต้องมีปลาสินะ "

“ แล้วในนาก็ต้องมีข้าวใช่มั้ยละ " ไอ้ภาพเสริมพลางหันมายิ้มให้ผมที่ก็ผ่อนลมหายใจออกมากับมุขเกรดต่ำของมัน ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วหัวเราะเบาๆ.. เอาวะ รับมุขพี่แกหน่อย

“ นู้นๆ หัวหอมคุณแกะแหละ เราไปดูคุณแกะกันดีกว่าเนอะ ไป " สะกิดอีกคนที่ตั้งใจดูปลาอยู่ในตอนนั้น ผมคว้ามือเล็กเดินจูงไปที่ให้อาหารแกะ ตรงเข้าไปในคอกแกะที่เราต้องสามารถให้อาหารมันได้ แต่ทว่าคนที่ดูสนใจอยากจะเจอคุณแกะยิ่งกว่าใครก่อนหน้านี้กลับหยุดนิ่ง แล้วเอาสองมือเล็กๆนั้นกอดผมไว้ทันที

“ อาขม~ อาขม~ อุ้ม~ อุ้ม อุ้มกาลิค~ "

“ อ้าว อุ้มทำไมละ " ก้มลงถามอีกคนที่ก็ยังกอดผมไว้แน่น " ไม่ดูคุณแกะละ นี่คุณแกะไง มาใกล้ๆมันสิ " ชี้ชวนให้อีกคนมองไปที่คุณแกะแต่ก็ไม่ได้ผล หัวหอมยังเอาแต่ยกมือขึ้นสูงแล้วงอแงให้ผมอุ้มมันก็เท่านั้น

“ ไม่เอา ไม่เอา อุ้ม~ อุ้ม~ อาขมอุ้มกาลิคหน่อย อุ้มกาลิคน้า~ "

“ กาลิคเอานี่ ดูนี่ " ภาพเอ่ยชี้ชวนให้หัวหอมหันไปมองมันที่ก็ยืนอาหารของแกะไว้เต็มมือ แต่ทว่ามันที่ยืนอยู่หลังผมทำให้พวกแกะที่ยืนห่างออกไปเข้ามาใกล้เรามากขึ้น ใบหน้าน่ารักแสดงสีหน้ากลัวอย่างเห็นได้ชัดมือที่กำชายเสื้อของผมไว้แน่น แล้วในวินาทีต่อมา เสียงร้องไห้ก็ดังขึ้นทันที

" ฮืออออออ ฮือๆ อาขม~ อุ้มกาลิค ม่ายอาววว ม่ายอาวคุณแกะแย้ว ม่ายเอาาแย้ว อึก  ฮือๆ " ก้มลงไปอุ้มเจ้าตัวเล็กที่กำลังงอแงขึ้นมากอดไว้ หัวหอมซบหน้าลงที่ไหล่ แขนเล็กกอดคอผมไว้แน่นด้วยความกลัว ขาเล็กที่กอดเอวนั่นก็ด้วย สงสัยมันคงจะกลัวมากจริงๆ

" ร้องไห้ทำไม ไม่เห็นน่ากลัวเลยคุณแกะออกจะน่ารักนะ ดูสิ " ลูบหลังมันปลอบๆ แต่อีกคนก็ยังคงหลบหน้าอยู่กับไหล่ผมแบบนั้น " หัวหอมครับ ไม่ร้องไห้สิ หันมามองคุณแกะกันดีกว่า "

" อาขมมมม อึก ฮือๆ "

" ไม่ต้องร้อง ร้องไห้ทำไม มันไม่น่ารักเหรอ " ผมดึงอีกคนให้ผละตัวออกจากไหล่ผม เช็ดน้ำตาที่อาบสองแก้มของมัน

" กาลิค อึก ไม่ชอบคุณแกะตัวโต คุณแกะ ไม่เหมือนในรูปเลย นี่มันไม่ใช่แบบที่กาลิคอยากเจอ " หลุดหัวเราะออกมากับคำพูดเจือน้ำตาของมัน ในจินตนาการมันคงคิดถึงแกะตัวเล็กๆ ขมฟูๆ น่ารักๆ อยู่ในพื้นหญ้ากว้างๆตามในหนังสือในทีวีที่มันชอบดู แต่ที่นี่มันไม่ใช่ไง มันไม่ได้น่ารักอย่างที่มันคิดขนาดนั้น “ อาขม~ “

" คร๊าบบ " หยิกแก้มยุ้ยๆด้วยความหมั่นเขี้ยว ส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันไปมองไอ้ภาพ ที่ก็ไม่รู้ว่าเริ่มถ่ายภาพเราสองคนไว้ตั้งแต่ตอนไหน

" ไอ้เด็กกลัวแกะ " มันว่าอีกคนก็ซบลงที่ไหล่ผม เหมือนไม่อยากจะรับความจริงนั่นเลยสักนิด

" คงเพราะแกะมันอยู่ระดับสายตามันมั้ง พอเดินมาใกล้ๆมันเลยกลัว คิดว่าแกะพวกนั้นจะเอามาทำอะไรมัน "

" ก็อาจจะอย่างงั้น " ภาพพยักหน้ารับ ก่อนที่ผมจะคว้าเอาอาหารแกะในมือของมันที่ถูกอยู่มาถือไว้เอง

" หัวหอมให้อาหารคุณแกะกัน ช่วยอาขมถือหน่อยอะ " ยื่นอาหารแกะให้มันถือครึ่งนึง ส่วนผมก็ถืออีกครึ่งนึง " อาขมจะให้อาหารคุณแกะ คุณแกะจะได้อิ่มๆ " แกะในคอกที่เริ่มทยอยเดินเข้ามาใกล้เรา ผมยื่นอาหารให้มันเจ้าตัวเล็กที่ผมอุ้มก็ได้แต่มองดู เหลือบมองมันที่ก็ตั้งใจมองนิ่งๆผมยิ้ม " ดูคุณแกะเคี้ยวสิ งั่มๆ ไม่น่ากลัวเลย น่ารักออกเห็นมั้ย "

" อาขม คุณแกะเคี้ยวแบบงั่มๆ น่ารัก "

" ใช่มั้ยละ เคี้ยวเหมือนหัวหอมเลย " ผมว่าก่อนจะหอมแก้มมันอีกคนก็ยิ้ม " คราวนี้หัวหอมก็ให้อาหารคุณแกะได้แล้วนะสิ ไหนมาลองดูสิ " ย่อตัวลงนั่งยองกับพื้น หัวหอมที่ยืนอยู่ในตักผมมันยื่นอาหารให้แกะด้วยทีท่ากล้าๆกลัวๆ แต่ก็ยืนให้จนหมด

" อาขม กาลิคให้คุณแกะหมดแล้ว"

" เก่งจังเลย ไม่กลัวคุณแกะแล้ว " เอื้อมมือเช็ดคราบน้ำตาให้มันก่อนจะดึงหมวกที่หัวหอมใส่อยู่นั้นขึ้น ลูบผมที่มีแต่เหงื่อขึ้นไปให้มันก่อนจะใส่หมวกให้อีกครั้ง

" เอานี่ ให้อีกเอา " ภาพยื่นอาหารแกะให้หัวหอม แต่อีกมือก็ไม่ยอมปล่อยกล้องที่ตัวเองกำลังถ่ายอยู่เลยสักนิดสงสัยคงจะเป็นวิดีโอแล้วละ ไม่ใช่ภาพถ่าย 

“ ตรงนี้พอแล้วมั้งไปดูตรงอื่นบ้างมั้ย ไปดูกันข้างในมีอะไร " ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับอุ้มอีกคนไว้ ผมเดินเข้าไปข้างใน ผ่านโซนถ่ายรูปที่ก็หยุดถ่ายกันอยู่สักพัก ก่อนจะเดินตรงเข้าไปข้างในที่มีทั้งของกินแล้วก็กิจกรรมอื่นๆอีกเยอะแยะ " มีให้นมลูกแกะด้วย ให้มั้ย ๆ "

“ ให้ กาลิคอยากให้นมลูกแกะ แต่อาขมจะต้องช่วยด้วยน้า " คนที่ผมอุ้มพยักหน้ารับตกลงไอ้ภาพก็จ่ายเงินก่อนที่เราจะได้นมมาขวดนึง ซึ่ง..น้อยมาก น้อยจนผมคิดว่านี่ทำนมหกลงไปใส่ขวดรึเปล่า ทำไมมันน้อยอย่างงี้ น้อยจนไอ้หัวหอมยังเอ่ยพูดออกมาด้วยความใสซื่อของมัน แต่ติดตรงที่.. มึงจะมาพูดต่อหน้าคนขายไม่ได้!! " พี่สาวให้แค่นี้น้องแกะจะอิ่มเหรอครับ "

“ เอิ่อม..” ผมยิ้มเกร็งๆให้คนขายนม เธอก็ทำหน้านิ่งๆ

“ งั้นก็ซื้ออีกสิค่ะ น้องแกะจะได้กินอิ่มๆ " ผมเบิกตาขึ้นตอนที่เธอพูดแบบนั้น กูไม่แบะปากมองบนใส่ก็บุญละ ขายโคตรเคี่ยวนมในขวดดูดจ๊วบเดียวก็หมดละ แล้วดูสภาพลูกแกะที่โหยหานมกัน แม่ง เบียดจนนัวเนีย น่าสงสารจะตาย นี่ถ้าไม่ติดว่าอยากจะพาไอ้หัวหอมมาเรียนรู้ผมไม่พามาหรอกที่แบบนี้หรอก ดูรังแกสัตว์จะตายไป

“ เรามาให้นมแกะกันดีกว่านะ อะ " ผมเดินพามันไปใกล้กรงลูกแกะที่ก็พยายามแย่งนมกันแบบสุดฤทธิ์

“ อย่าแย่งกัน อย่าแย่งกันนะ ไม่เอาอย่าแย่งกัน " หัวหอมเสียงดังขึ้นมา ผมหลุดหัวเราะออกมา ตอนจะหันไปบอกไอ้ภาพให้มาดู ก็เห็นว่าอีกคนกำลังยิ้มแล้วถ่ายคลิปอยู่ด้วยความสุข " งื้ออ หมดแล้ว หมดแล้วอาขม " มันหันมาบอกผม ขวดนมเปล่าถูกยื่นให้ผมก็ส่งคืนให้พนักงาน

“ งั้นเราไปหาขนมกินกันดีกว่านะ ไปหาของกินอร่อยๆกัน "

“ แต่ว่า น้องแกะยังกินไม่ครบทุกตัวเลย " มันเงยหน้าขึ้นบอก " น้องแกะยังหิวอยู่ ขอเงินซื้อนมให้น้องแกะกินอีกได้มั้ย อาภาพ "

“ พอแล้วนะ เดี๋ยวแบ่งให้คนอื่นๆเค้ามาให้บ้าง ถ้าเราให้หมดน้องแกะอิ่ม คนอื่นก็ให้ไม่ได้นะสิ " ผมบอกปัดมันทันที เพราะเห็นทีแบบนี้ไอ้ภาพน่าจะไม่รอด แววตามันดูสงสารน้องแกะเหลือเกิน ไอ้ภาพต้องใจอ่อนจ่ายให้อีกแน่ๆ และผมก็รู้สึกไม่อยากจะจ่ายเงินให้กับนมจิ๊ดนึงนั่นอีกแล้ว

“ แล้วถ้ากาลิคไปกินขนม แล้วกาลิคก็ซื้อขนมมาฝากน้องแกะได้มั้ย "

“ หัวหอมจิตใจดีจังนะ รู้จักสงสารน้องแกะแล้วก็เป็นห่วงน้องแกะด้วย " ผมลูบหัวมันอีกคนก็หันไปมองน้องแกะของมัน

“ ก็มันดูหิวนี่น่า “

" นั่นนะสินะ " ยิ้มให้มันที่ก็มองผมด้วยสายตาอ้อนๆเพราะสงสารน้องแกะเสียเหลือเกิน " แต่ว่านะ น้องแกะยังกินขนมไม่ได้หรอก น้องแกะยังเด็กอยู่ เลยต้องกินแต่นมเท่านั้นนะ "

“ แต่ว่าน้องแกะยังหิวอยู่เลยนะอาขม "

“ นั่นไง มีคนมาซื้อให้น้องแกะกินแล้ว คราวนี้น้องแกะจะได้กินอิ่มๆละ ถ้าเราซื้อให้อีกน้องแกะอิ่มคนอื่นเค้าก็ไม่ได้ให้นะสิถูกมั้ย เพราะงั้นเราก็ไปซื้อขนมกินดีกว่านะ " โชคดีที่มีคมาซื้อนมป้อนมันพอดี ไม่งั้นกูแม่งต้องยืนอธิบายมันอีกนานแน่ๆกว่าจะยอมไป หัวหอมหันมองคนที่เอานมมาป้อนจนแน่ใจแล้วว่าน้องแกะของมันได้กินจริงๆ ถึงจะยอมเดินออกมาตามแรงจูงของผม " กาลิคหิวรึยัง "

“ กาลิคหิวน้ำ " มันเงยหน้าบอก ผมก็เดินพามันไปซื้อนมเย็นใส่แก้วมาให้มันแก้วนึง

" กินไปก่อนนะ " ก้มหน้าลงดูนาฬิกาที่เลยเวลาเที่ยงมาเยอะแล้ว ผมหันไปหาไอ้ภาพ " เอาไงต่อดีมึง "

" กลับไปเล่นน้ำทะเลกันมั้ย อย่างอื่นก็ดูไม่มีอะไรน่าสนใจแล้วนี่ ที่อื่นเท่าที่กูดูในเว็บ เค้าบอกก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ ที่น่าสนใจก็มีพวกสวนน้ำอะ ที่น่าจะสนุกอยู่ "

" หรือว่าคืนนี้ เราไปเดินตลาดกลางคืนกัน ลองหาที่ชิวๆมั้ย "

“ กาลิคมันคงอยากจะชิวกับเรานะมึง ให้กาลิคนั่งกินน้ำแล้วเราก็นั่งกินเบียร์งี้เหรอ ชวนกันคุยเรื่องที่โรงเรียนงี้ โหยยย " ไอ้ภาพพูดประชด

“ ส้นตีน "

“ มึงพูดเหมือนชีวิตเราตอนนี้มีโมเม้นท์นั่งชิวตอนมันตื่นได้ เราชิวได้อย่างเดียวอะ คือ นั่งอยู่หลังระเบียงแล้วกินเบียร์ตอนมันหลับแล้ว "  ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ 

" ก็จริงของมึง กูไม่เถียงหรอก "

" กูว่าเราไปหาร้านอร่อยๆกิน จากนั้นก็กลับโรงแรมไปเล่นน้ำที่สระน้ำโรงแรม ตกเย็นนั่งกินข้าวที่โรงแรมสักมื้อ แล้วก็ขึ้นห้องมานอนดูทีวีกัน เช้าตื่นขึ้นมากินอาหารเช้าอร่อยๆ เช็คเอ้าท์ กลับบ้านจ้า "

“ ทำไมกูรู้สึกว่าไม่คุ้มเลยวะ แพลนที่มึงบอก ถ้าจะนอนดูทีวีในห้อง กลับบ้านมั้ย พรุ่งนี้กูทอดไข่ให้กินก็ได้ "

“ แล้วการที่มึงต้องทำเอง นั่นเรียกว่า การพักผ่อนเหรอวะ " มันเอ่ยถาม " การพักผ่อนคือ การที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย มีอาหารให้กิน โดยไม่ต้องล้างจาน จะสั่งมากินในห้องก็ได้ นั่งนิ่งๆ นั่นคือการพักผ่อนเว้ย "

“ มึงจะเอาแบบนั้น " ผมหันไปถาม อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ งั้นก็จัดไป กูก็เห็นด้วยนิดหน่อยตรงที่ว่า มึงควรได้พักผ่อนเต็มที่บ้าง เพราะว่าพรุ่งนี้ต้องขับกลับเดี๋ยวขับไม่ไหว "

“ งั้นก็เอาตามนั้น "

   ขับรถรถออกจากฟาร์มแกะแวะกินอาหารริมทะเลร้านดัง ก่อนจะขับกลับมาที่โรงแรมวินาทีแรกที่เปิดประตูเข้ามาในห้องพักไอ้ภาพก็ล้มตัวเองลงนอนบนเตียงทันที ตามด้วยไอ้หัวหอมที่วิ่งขึ้นไปล้มตัวทับอีกคนก่อนจะก้มลงหอมแก้ม

“ อาภาพไปเล่นน้ำกัน "

“ จะไปเล่นเลยเหรอ " มันเอ่ยถามก่อนจะดึงอีกคนมานอนกอดข้างๆ

“ ไปเลย ไปตอนนี้เลย " เสียงใสๆบอกแบบนั้น คนฟังก็ยกยิ้มขึ้นมา

“ โอเคค งั้นก็ไปกันเลย "

“ อ้าว แล้วมึงไม่นอนพักหน่อยเหรอ " ผมถาม  อีกคนก็โบกมือปฎิเสธ

“ ไม่ละ " มันว่า " กูค่อยมานอนคืนนี้ ถ้าตอนนี้ เดี๋ยวคืนนี้นอนไม่หลับ "

“ งั้นก็ตามใจ "

   เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดว่ายน้ำก่อนที่มันทั้งคู่จะลงไปว่ายน้ำที่สระของโรงแรม ส่วนผมขอผ่านแล้วทำหน้าที่แค่ถ่ายภาพเก็บความประทับใจส่งไปให้ที่บ้านไอ้ภาพน่าจะดีกว่า พอมานั่งคิดๆพ่อแม่ไอ้ภาพก็รักหัวหอมมากจริงๆเลยนะ ตามใจทุกอย่าง ทั้งรักทั้งหอม แม้จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นลูกของไอ้ภาพจริงๆรึเปล่า แต่ก็อย่างว่าละ เด็กกับผู้ใหญ่รุ่นพ่อแม่เรามันก็เป็นของคู่กันละนะ ก็ฝ่ายนึงชอบอ้อน ส่วนอีกฝ่ายก็ชอบให้อ้อนนี่น่า

" จะว่าไปก็สองเดือนแล้วสินะที่ หัวหอมมาอยู่ที่นี่ " ผมพูดกับตัวเองตอนที่มองเด็กตรงหน้าที่กำลังมีความสุขกับการเล่นน้ำแบบสุดๆ " ถ้าครบสามเดือนแล้วแม่เด็กยังไม่มารับ เราต้องตรวจดีเอ็นเอ ถ้ามันเป็นลูกไอ้ภาพก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก พ่อแม่มันเต็มใจทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ถ้ามันเป็นลูกผมขึ้นมาจะทำยังไงดีวะ จะบอกแม่ยังไง จะเริ่มต้นพูดด้วยคำพูดไหน "

“ อาขมมมม " เสียงเล็กๆจากสระน้ำตะโกนขึ้นมาทัก มันที่โบกมือบ๊ายบายให้ ผมก็โบกกลับไป

“ แต่ถ้าถึงตอนนั้นจะทำยังไงได้อีก  ก็แค่ยอมรับความจริงแล้วก็บอกแม่ไป จะได้ช่วยกันแก้ปัญหาเพราะถ้ามันเป็นลูกผม คงต้องเริ่มใหม่ อันดับแรกที่รู้คือโรงเรียน บ้านผมคงไม่มีปัญญาส่งมันไปเรียนในที่แพงๆแบบนั้นหรอก  ไม่รู้ว่าพอถึงเวลาจริงๆอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง " ถอนหายใจออกมาเซ็งๆผมเอนตัวเองลงนอนบนเก้าอี้ข้างขอบสระ หลับตาลงแล้วเอ่ยปลอบตัวเองปลงๆ " อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดอยู่แล้วละนะ ต้องเผชิญหน้ากับมัน "
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 04-06-2017 20:35:31

   เวลาเล่นน้ำผ่านไปหลายชั่วโมงจนผมต้องออกโรงสั่งให้มันสองคนขึ้นจากน้ำได้แล้ว เพราะไอ้ภาพที่ดูเมามันส์กับการสอน ส่วนไอ้หัวหอมที่ก็ชอบเล่นน้ำอยู่แล้ว โคตรเข้าคู่กันได้แบบชนิดที่ว่า ไม่มีใครคิดเหนื่อยหรืออยากจะขึ้นจากสระกันเลย

    จัดการพาไอ้หัวหอมไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนที่เราทั้งสามคนจะลงมากินข้าวกัน มื้ออาหารเย็นวันนี้เป็นสเต็กอร่อยๆคนละจาน ส่วนจานกลางแน่นอนว่าต้องมี สปาเก็ตตี้ พร้อมด้วยชุดของทอดที่ดูน่ากินสุดๆ อร่อยรสชาติดีถูกปากจนกินกันไปเกลี้ยงจาน ขนาดผักที่หัวหอมไม่ชอบมันจะกินเข้าไปจนหมด ไม่ต้องบังคับกันเลยแม้แต่สักนิดเดียว

“ อาขม กาลิคอยากกินไอติม "

“ ได้สิ เดี๋ยวบอกพี่เค้าให้นะ " ผมบอกมันก่อนจะเรียกพนักงานมาสั่งไอติมให้มันลูกนึง

“ เดี๋ยวขึ้นไปนะ กูจะดูข่าว อาบน้ำแล้วก็นอน พรุ่งนี้ตื่นมาก็กินอาหารเช้าอร่อยๆอีก "

“ กาลิคขึ้นไป ก็จะอาบน้ำ แล้วก็ดูการ์ตูนเหมือนกัน " หัวหอมบอกไอ้ภาพก็เอื้อมมือมาหยิกแก้ม

“ ไม่ให้ดู กูจะดูข่าว "

“ จะดูการ์ตูน " ไอ้ตัวเล็กเถียง

“ ไม่ให้ดู "

“ จะดู "

“ ไม่ให้ดู "

“ จะดูววววววววว " มันลากเสียงยาวเถียงไอ้ภาพ ผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา กับท่าทางข่มขู่ทางสีหน้าและสายตาที่พวกมันใช้ทะเลาะกัน

“ นี้ พูดกับอาภาพดีๆสิ " ผมบอกหัวหอมมันก็หันมาฟ้อง

“ พูดดีๆแล้วอาภาพไม่เคยฟังเลย อาภาพดื้อ! " อื้ม.. เด็กยังรู้  แล้วอีกอย่างไอ้เหี้ยนี่ดูข่าวที่ไหน ตอแหลแกล้งเด็กทั้งนั้นอะ " กาลิคจะดูการ์ตูน กาลิคจะวิ่งขึ้นไปคนแรกเลย แล้วก็จะเปิดทีวีคนแรก "

“ อ๋อเหรอออ งั้นมาดูกันกูกับมึงใครเร็วกว่ากัน "

“ กาลิค!! “

“ จุ๊ๆ เสียงดังไปแล้ว " ผมบอก ไอ้ภาพก็ยกมือเรียกพนักงานเก็บเงิน เราลุกขึ้นยืนจากโต๊ะหลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย แต่คนสองคนที่กำลังเหลือบมองกันอยู่ก็เกิดการแข่งขันกันขึ้นมา กาลิคที่เดินออกไปก่อนไอ้ภาพก็ไม่น้อยหน้าวิ่งแซงเด็กขึ้นไป แมตซ์ชิงชัยใครกันจะเปิดทีวีในห้องเป็นคนแรก ... เอาจริงๆนะ โคตรปัญญาอ่อนเลย พวกมึงลืมไปแล้วรึไง ว่ากุญแจห้องมันอยู่ที่กู  " นี่.. ไม่รอกันเลยนะ "

“  กาลิคจะต้องไปถึงก่อนนะอาขม " เจ้าตัวเล็กหันมาบอกผม

“ แต่รีบไปก็ไม่มีประโยชน์ กุญแจห้องอยู่ที่อาขม ขึ้นไปก่อนอาขม ก็ต้องรออาขมหน้าห้องอยู่ดีอะ " ผมก้มลงบอกมันก่อนจะเอื้อมมือไปกดลิฟต์ที่รอไม่นานก็เลื่อนลงมา แล้วหลังจากที่พวกมันรู้ว่ากุญแจอยู่ที่ผม.. ผมก็เดินนำออกจากลิฟต์ด้วยความทุลักทุเล เพราะไอ้หัวหอมก็กอดขาเอาไว้ ส่วนไอ้ภาพแม่งก็จับแขนไว้ไม่ยอมปล่อย " โอ๊ยยย อะไรของพวกมึงเนี้ยย ต้องรักกูขนาดนี้เชียว "

“ ก็อาขมมีกุญแจอยู่ " หัวหอมว่า

“ คือรักอาขม กอดอาขมเพราะอาขมมีกุญแจอยู่แค่นั้นเหรอ  ถ้าไม่มีกุญแจก็ไม่รัก ไม่กอดงั้นสิ "

“ ไม่ใช่ กอดน้าาา  กาลิคกอดอาขมตลอดเลย อาภาพนั่นแหละ รักอาขมแค่ตอนที่อาขมมีกุญแจ ปกติอาภาพก็ไม่กอดอาขม " มันเถียงออกมาผมก็ส่ายหน้าไปมา

“ ใครว่าาาา " ไอ้ภาพก็เอากับเค้าด้วยมันลากเสียงบอก เอาจริงๆตอนนี้เหมือนกูเลี้ยงเด็กสองคนอะ นิสัยพอกันแม่งทั้งคู่ เอื้อมมือคว้ากุญแจออกจากกระเป๋าตอนที่กดเปิดประตูยังไม่ทันจะอ้าออกกว้าง ไอ้ตัวเล็กก็รีบพุ่งตัวเข้าไปในห้องทันทีอาศัยที่ตัวเองตัวเล็กกว่าไอ้ภาพ มุมผ่านขาผมไป

“ อยู่ไหนๆ อยู่ไหน " มันพูดเสียงใส ตาก็พยายามหารีโมตทีวีอยู่

“ เจอแล้ว " ไอ้ภาพคว้ารีโมตขึ้นมาก่อนจะเปิดทีวีเป็นคนแรก " เย้~ ชนะเด็กแล้ว ได้ดูหนังแล้ว " เสียงดีใจที่ไม่ได้ดูสีหน้าอีกคนเลยแม้แต่น้อย หัวหอมก้มหน้าลงมันแบะปากทำท่าจะร้องไห้ก่อนจะเดินพาตัวเองมากอดขาผมไว้ด้วยความรู้สึกเศร้าใจ

“ โอ๋ๆ แพ้เหรอ ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวเราก็ค่อยดูทีหลังอาภาพก็ได้ อาภาพดูไม่นานหรอก " ยกมือลูบหัวมันอีกคนก็ร้องไห้ออกมาเสียงเบาๆ มันคงรู้สึกหงุดหงิดใจแน่ๆ ก็เล่นเข้ามาคนแรกแต่ว่ากลับหารีโมตไม่เจอก็เลยไม่ได้ดูทีวีคนแรก

“ อึก กาลิคอยากจะชนะ ฮือๆ "

“ ครั้งหน้าอาจจะชนะก็ได้ ครั้งนี้แพ้ก็ไม่เป็นไร ครั้งหน้าเดี๋ยวเราเก่งขึ้นเราก็ชนะเองแหละ "

“ จริงเหรอครับ "

“ จริงสิ เพราะงั้นตอนนี้ก็ไปอาบน้ำ แปรงฟัน ทาแป้ง เตรียมตัวดูทีวีต่อจากอาภาพกันนะ "

“ ก็ได้ครับ "

   จัดการอาบน้ำให้อีกคนเรียบร้อย หัวหอมที่นั่งอยู่บนเตียงมันขยับตัวเองเข้าไปหาไอ้ภาพ จนสุดท้ายก็เข้าไปนั่งบนตักของร่างสูง ท่าทางอ้อนๆของมันชี้ชวนให้ไอ้ภาพเปลี่ยนไปดูช่องการ์ตูนของมัน " อาภาพมันไม่มีอะไรแล้ว ไปดูการ์ตูนของกาลิคก่อนนะ เดี๋ยวก็กลับมาดูของอาภาพอีก แบ่งกันนะ แบ่งกัน "

" ก็ได้ " ไอ้ภาพว่า แต่สุดท้ายพอได้ดูการ์ตูนแล้ว แม่งก็จอดอยู่ที่ช่องนั้นและไม่ได้เปลี่ยนไปไหนอีกเลย เพราะแค่หัวหอมเอ่ยอ้อนมัน ไอ้ภาพก็ยอมตามใจทุกอย่างแล้ว ไอ้ภาพไม่มีทางชนะลูกอ้อนของไอ้หัวหอมหรอก เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือไอ้ภาพตอนนี้ก็คือความขี้อ้อนของไอ้หัวหอมนี่ละ

“ ดูตอนนี้จบ เข้านอนกันนะ " ผมว่าก่อนจะสะกิดบอกไอ้ตัวเล็กที่พยักหน้ารับเข้าใจ เรานั่งดูการ์ตูนกันจนจบ เสียงเพลงปิดจบเรื่องดังขึ้น หัวหอมก็ดึงตัวเองเข้ามากอดผม

“ อาขม จบแล้ว "

“ จบแล้วงั้นก็นอนกัน " ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มตัวมัน จัดหมอนให้เข้าที่ ก่อนที่ผมจะเอียงตัวหันไปนอนคุยกับมัน " เป็นไง มาเที่ยวสนุกมั้ย "

“ สนุกม๊ากกกกกกกก "

“ แล้วชอบอะไรที่สุด "

“ ชอบเวลาที่เราเล่นน้ำทะเลกันสามคน แล้วก็ชอบที่กาลิคเล่นน้ำกับอาภาพเมื่อกี้ " มันว่าผมก็ยิ้ม

“ แล้วชอบอะไรอีก "

“ ชอบของกิน อร่อย " มันว่า " แล้วอาขม ชอบอะไร "

“ ชอบของกินเหมือนกัน อร่อย " ผมบอกก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มมัน " แล้วก็ชอบหัวหอมด้วย ชอบทะเลที่มีหัวหอมอยู่ "

“ อื้ออออ อาขม " มันว่าเสียงเขินๆก่อนจะเอื้อมมือมากอดคอผมไว้ " กาลิครักอาขม อาขมรักกาลิคมั้ย "

“ รักสิ รักมากๆเลยแหละ "

“ บอกรักกันไม่เกรงใจกูเลยน้าา " ไอ้ภาพว่าก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกข้างของไอ้ตัวเล็กที่ก็หันไปมองมัน

“ แล้วอาภาพ รักกาลิคมั้ย "

“ รักสิ "

“ กาลิคก็รักอาภาพเหมือนกันนะ " มันบอกก่อนจะยืดตัวเองขึ้นหอมแก้มร่างสูง รอยยิ้มหวานๆของมัน นอนยิ้มมีความสุขที่ได้นอนอยู่ตรงกลางเราสองคนแบบนี้ มือเล็กๆเอื้อมมือมาจับมือผม ก่อนจะเอามืออีกข้างมาจับมือไอ้ภาพ " กาลิครักอาภาพแล้วกาลิคก็รักอาขม รักทั้งคู่เลย "

“ รักเหมือนกัน " ภาพบอก หัวหอมก็ท้วง

“ รักทั้งคู่เลยเปล่า ทั้งกาลิค ทั้งอาขมเลยนะ " คนตอบนิ่งไปสักพัก ก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา

“ อื้ม รักทั้งคู่เลย "

“ มึงพูดก่อนนะ " ผมเอ่ยแซว ไอ้ภาพก็หลุดยิ้มกว้างออกมา " อาขมก็รักทั้งคู่เหมือนกัน "

“ อาภาพ อาขม แล้วเราจะได้มาเที่ยวทะเลกันสามคนอีกมั้ย  "

“ ได้สิ " ภาพบอก " ขม ไว้เราพากาลิคมาเที่ยวด้วยกันอีกนะ "  ผมยิ้มกับคำพูดนั้นก้มลงหอมแก้มนุ่มๆนั่นไปเต็มฟอด

“ อื้ม ไว้มาเที่ยวด้วยกันสามคนอีกนะ "

   เราขับรถกลับบ้านกันหลังจากที่กินข้าวเช้ากันเสร็จ เพราะไม่อยากจะต้องไปรอรถติดตอนใกล้ถึงกรุงเทพก็เลยรีบออกไปกันตั้งแต่เช้า อีกอย่างจะได้กลับไปพักผ่อนกันด้วย เพราะว่าพรุ่งนี้วันจันทร์แถมมีเรียนเช้าอีก

“ ถึงสักที โอ๊ยย เมื่อย " ไอ้ภาพพูดเสียงดังตอนที่จอดรถใต้คอนโดเรียบร้อย ผมเอื้อมมือไปปิดปากมันไว้ โทษฐานที่มันกำลังจะทำให้เด็กน้อยที่หลับอยู่บนตัวผมตื่นเอาได้ หัวหอมที่เพิ่งหลับไป ถ้าตื่นขึ้นมาตอนนี้มีหวังได้แหกปากร้องลั่นแน่นอนเพราะนอนไม่เต็มอิ่ม " สั่งไรมากินกันมั้ย อยากกินพิซซ่าวะ "

“ เอาสิ ได้ทั้งนั้นอะ " ผมบอก ตอนที่เดินลงจากรถไอ้ภาพก็บิดขี้เกียจไปบิดขี้เกียจมาก่อนจะกางมือออก คล้ายจะบอกว่า มันจะเป็นคนอุ้มหัวหอมขึ้นไปข้างบนเอง " ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวมันตื่น มึงไปถือกระเป๋ามาไป "

“ ใช้กูเหมือนผัวเลยนะ " มันว่า แต่ผมก็ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกันมัน ภาพเดินนำไปประตูด้านหลังที่ติดกับลานจอดรถ คว้าคีย์การ์ดขึ้นปลดล็อคเข้าไปในคอนโด ผมก็เดินตามมันเข้าไป " เดี๋ยวมึงรอตรงนี้ก่อน กูจะเดินไปดูจดหมาย ค่ามือถือเดือนนี้น่าจะมาแล้ว "

“ อื้ม ตามสบายเถอะ " ยืนรอมันไม่ยอมกดลิฟต์อยู่นาน ผมก็เริ่มรู้สึกว่ามันจะนานเกินไปแล้ว " ทำเหี้ยอะไรของมันอยู่วะ โคตรจะนาน " เดินออกไปหาไอ้ภาพที่หายไปนานเกิน แล้วตอนที่กำลังจะเดินถึงส่วนหน้า มือที่กำลังกดปลดล๊อคประตูก็นิ่งค้างไว้แค่นั้นไม่ได้เปิดออก ขาของผมนั่นก็ด้วย

   ไอ้ภาพที่กำลังยืนคุยอยู่กับใครสักคนนึงที่ผมไม่เห็นหน้า มันที่มีสีหน้าตกประหม่าราวกับตัวมันก็ไม่ได้คาดถึงเลยว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น มือของผมที่กำลังอุ้มไอ้หัวหอมไว้นั้น ไม่รู้ทำไมแต่ผมกลับกอดมันไว้แน่นแบบอัตโนมัติ กอดไว้แน่นราวกับว่าจะมีคนมาแย่งมันไป  ไม่รู้ทำไมแต่เหมือนความรู้สึกลึกๆมันบอกว่าแบบนั้น  แล้วยิ่งแน่ใจมากขึ้นไปอีกตอนที่มองดูสายตาของร่างสูงที่กำลังพูดคุยอยู่กับผู้หญิงคนนั้น   

   หัวใจของผมสั่นรู้สึกแน่นหน้าอกจนอยากจะอ้วกออกมา ขาที่เดินถอยหลังไปช้าๆนั่นสั่น  ทั้งๆที่รู้อยู่ในใจลึกๆแล้วว่ามันคืออะไร แต่ก็ไม่อยากจะยอมรับมันเลยสักนิด

“ เข้ามาคุยข้างในก่อนสิ " ไอ้ภาพพูดกับเธอแบบนั้นเท่าที่ผมอ่านปากมันออก  และประโยคนั้นก็ยิ่งทำให้ผมแน่ใจ ว่าความคิดนั้นคงไม่ผิดแล้วแน่ๆ ในตอนนี้ข้ออ้างที่พยายามบอกว่าไม่ใช่อย่างที่กลัว ได้ถูกกลืนหายไปแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรที่ผมจะต้องหลอกตัวเองอีก  ' คงเป็นเธอสินะ .. แม่ของไอ้หัวหอม '

..............................................................

และตอนหน้า ตอนที่ทุกคนรอคอย ก็มาถึงแล้ววววววววว
เพราะฉะนั้น
กด 1 หาก คุณคิดว่า ภาพ เป็นพ่อของน้องหัวหอม อย่างแน่นอน
กด 2 หาก คุณคิดว่า ขม เป็นพ่อของน้องหัวหอม อย่างแน่นอน
และ
กด 3 หากคุณคิดว่าไม่ใช่ทั้งภาพ และ ก็ขม
ส่งคำตอบมาได้ที่นี่... ในคอมเม้นท์ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไม่มีของรางวัลหรอก แค่อยากรู้ว่า คนอ่านที่อ่านมาตลอด คิดว่าใครเป็นพ่อของหัวหอมกัน
นิยายจะจบแล้วววววว เว้ยยยยย ตื่นเต้นนนนนน
ยังไงก็ หนมฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ ฝากแชร์ในเพจด้วยนะคนดี
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ๊ะ

รักนะ #มินิฮาร์ท
ป.ล. ตอนหน้ามันส์แน่นวลลลลล กรุณาเตรียมจิตใจมาให้มั่นคงตลอดการเดินทางด้วยค่ะ #อะ ล้อเล่น
 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: krazy_kess ที่ 04-06-2017 20:57:23
ภาพเป็นพ่อของหัวหอมแน่เลยยยยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 04-06-2017 20:58:49
ใครจะเป็นก็ได้ทั้งนั้น แต่อย่าพลากทั้งสามจากกันเลย
ใต้ความสงบ มักมีคลื่นใต้น้ำเสมอ
 :ling3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 04-06-2017 21:08:39
กด 1 คิดว่าภาพนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 04-06-2017 21:24:17
ไม่กล้าเดาว่าใครเป็นพ่อเลยอ่า กลัวใจ ><
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 04-06-2017 21:26:03
กด 2  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 04-06-2017 21:26:36
กด 2
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 04-06-2017 21:27:24
กด 2 คิดว่าขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 04-06-2017 21:33:50
1 ภาพเป็นพ่อ เพราะนิสัยหัวหอมคล้ายภาพ

ให้ขมเป็นแม่ทูลหัวอ่ะดีล่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 04-06-2017 21:35:38
อาจจะไม่ใช่ทั้งสองคนก็ได้ แม่กาลิคอาจจะรู้จักทั้งคู่
แต่สองคนนี้ไม่น่าจะใช่พ่อของกาลิคนะ
อย่าพาหัวหอมของเราไปเลยนะ ㅠ ㅠ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-06-2017 21:37:53
กด 1 แล้วมีกดเลือกให้แม่หัวหอมไม่มาเอาหัวหอมกลับไหม :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 04-06-2017 22:04:58
กด  1   ขอให้ภาพเป็นพ่อกาลิค จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป  :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 04-06-2017 22:08:46
ถ้าใครจะเป็นพ่อหัวหอมสักคน ทำไมถึงจำหน้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้กันนะ

กด 3
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 04-06-2017 22:08:54
กด 3 คิดว่าเป็นคนอื่นนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 04-06-2017 22:40:29
มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลยนะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 04-06-2017 22:57:14
กด 1
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 04-06-2017 22:59:43
 :hao5: นาทีนี้เป็นใครก็ได้ แต่อย่าเอากาลิคไปเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-06-2017 23:10:50
 :ling3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-06-2017 23:40:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-06-2017 23:53:54
แรกๆ คิดว่า 1 ภาพ
แต่ คิดว่าต้องหักมุมแน่เลย ตอบ 3 ไม่ใช่ทั้งภาพ และ ขม

กาลิค น่าร้ากกกก  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 04-06-2017 23:59:29
เราว่าขม เดาจากที่ภาพเคยพูดไว้ตอนที่พาเข้าไปที่บ้านครั้งแรก
ถ้าเป็นขมจริง อยากรู้ว่าภาพจะมีวิธีจัดการต่อจากนี้ยังไงมากกว่า
เพื่อให้ขมสบายใจที่บ้านภาพจะซัพพอร์ตหัวหอมต่อไป

ลุ้นๆ

หัวหอมน่าร้ากกกก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 05-06-2017 00:11:40
1 ภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-06-2017 01:10:15
ของขมแน่ๆ เพราะพ่อกะแม่เหมือนพูดว่าคล้ายขมตอนเด้กๆ

แระภาพก้อยอมมาตลอด ยังไงก้อขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 05-06-2017 02:06:31
กดดด 1 เพราะภาพเป็นพ่อ ขมเป็นแม่ เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 05-06-2017 06:28:41
อย่าเอากาลิคไปน๊าา :ling3: :ling3::ling3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 05-06-2017 07:43:21
กดสามไม่ใช่ลูกทั้งภาพแงะขม เพราะพ่อภาพยังม่ได้เข้าหอกับแม่ขมเลย5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-06-2017 08:51:40
ความจริงจะเปิดเผยแล้ว~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 05-06-2017 09:08:57
กด1จ้า ภาพเป็นพ่อแน่ๆเพราะปู่ย่าน่าจะรู้ดี
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 05-06-2017 10:43:47
กด 1หรือ3ก็ได้ แต่อยากให้ขมเป็นแม่มากกว่าพ่อนะ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 05-06-2017 14:23:46
กด3 แค่แฟนเก่า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: coldcream ที่ 05-06-2017 15:47:43
กด 3 ค่ะ ไม่ใช่ลูกของภาพและขม อย่างแน่นอน คิดว่าทั้งภาพและขมอาจเคยเป็นเพื่อนหรือรู้จักแม่ของหัวหอมมาก่อน ซึ่งน่าจะไม่ใช่ผู้หญิงคนที่มาพบนี้ และแม่ของหัวหอมอาจมีปัญหาซึ่งไม่อาจดูแลหัวหอมในช่วงนี้ได้ จึงส่งลูกมาให้ทั้งสองคนดูแล เพราะสองคนนี้เป็นคนที่แม่ของหัวหอมไว้ใจว่าจะรับดูแลเด็กทั้งที่ยังไม่เข้าใจเรื่องราว และการที่ส่งภาพสองคนนี้ให้แสดงว่าแม่เด็กคงสนิทหรือคุ้นเคยกับทั้งสองมาตั้งแต่เด็กก็ได้ และมาห่างกันไปช่วงตอนโต จึงกล้าพอจะส่งน้องมาให้ดูแลค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 05-06-2017 20:07:34
กด 1 ภาพ เป็นพ่อหัวหอมดีกว่า ดูมีอิมเมจความเป็นพ่อลูกกันดี และถ้าเป็นลูกภาพจริงๆจะได้รู้สึกผิดที่จะเอาเด็กไปทิ้งตอนแรก 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 05-06-2017 23:33:09
กด 1 ค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 07-06-2017 00:25:59
เข้ามารอๆ
กดอะไรดีน้าาาาา
กด2ละกัน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-06-2017 00:38:57
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 07-06-2017 12:28:53
ลุ้นไปอีกกกกก :z3:
ถ้าขมเป็นพ่อทำไมขมไม่รู้สึกคุ้นๆหน้าคนที่คุยกับภาพอยู่บ้างล่ะ....เพราะฉะนั้นคำตอบคือ...คือ...
.....ไม่รู้อ่ะ 555555 :ruready
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: SecretOfLove ที่ 08-06-2017 22:53:52
งือๆๆๆๆๆ คิดถึงหัวหอมจังเยยยยยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 08-06-2017 23:18:23
กด 3 ค่ะ กาลิคน่าจะเป็นลูกของเพื่อนหรือญาติที่รู้จักทั้งภาพและขมมากกว่าค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: KS.F ที่ 09-06-2017 04:37:58
 :katai1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 09-06-2017 05:29:21
รอๆๆ :z2: :z3: :z10:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 09-06-2017 20:27:18
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 34

" เดี๋ยวมึงรอตรงนี้ก่อน กูจะเดินไปดูจดหมาย ค่ามือถือเดือนนี้น่าจะมาแล้ว " ผมเอ่ยบอกไอ้ขมตอนที่มันกำลังจะเอื้อมมือไปกดลิฟต์ให้หยุดรออยู่ตรงนั้นก่อน

“ อื้ม ตามสบายเถอะ " ร่างบางพยักหน้ารับ ผมก็ปลดล๊อคประตูของคอนโดแล้วเดินออกไปข้างนอก เลี้ยวเข้าไปในส่วนของตู้จดหมาย ตอนที่กำลังเปิดตู้หยิบเอกสารทั้งหมดออกมา เสียงนึงที่ไม่คุ้นเลยสักนิดก็ทักขึ้นมา

“ ภาพ..” ผู้หญิงที่เอ่ยเรียกผม เป็นสาวลูกครึ่งผมสีดำยาวถึงกลางหลัง ลุคที่ดูเปรี้ยวซ่าส์ของเธอมาในชุดเสื้อกล้ามแบบสั้นครึ่งตัวกับกางเกงยีนส์สีซีดที่เน้นทรวดทรงองค์เอวชัดเจน รอยสักเก๋ๆปรากฏอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมือ ไหปลาร้า หรือไหล่ จมูกที่ถูกเจาะ สะดือที่ถูกเจาะ ชวนให้ผมขมวดคิ้วงง ..

" ครับ ? เรียกผมเหรอ "

" อะไรกัน นี่ยูจำไอไม่ได้เหรอ ให้ตายสิ! จริงๆเลยนะ " เธอว่าพลางเคี้ยวหมากฝรั่งในปากไปมา ก่อนจะกอดอกแน่นแล้วจ้องหน้าผมอยู่แบบนั้น " นี่ จำไม่ได้จริงๆน่ะเหรอ ตายละ นี่ไอเสียใจนะเนี้ย ที่ยูจำไอไม่ได้ แต่ก็ช่างเถอะ แล้วขมละ ? กาลิคละ ? อยู่ไหน " ผมสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยตอนที่เธอเอ่ยถามถึงชื่อของอีกสองคนขึ้นมา กับชื่อขมคงไม่แปลก แต่กับชื่อของไอ้ตัวเล็กนั่น ก็ดูจะแปลกอยู่หน่อยเพราะเรื่องของกาลิคเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครรู้ หรือว่านี่จะเป็น ... ' แม่ของกาลิค '

“ คือ.. "

“ ว่าไง จำได้แล้วเหรอ " เธอทวนถามก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ มือคู่นั้นเอื้อมมาจับแก้มของผม " ยูนี่.. ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ ขนาดนิ่งคิดว่าไอเป็นใคร ยังหล่อแล้วก็น่าหลงใหลสุดๆไปเลย " สบสายตาเธอที่มองผมแบบนั้น " โอลิเวียไง จำไม่ได้เหรอ เราเจอกันที่ออสเตเรียตอนที่ยูไปเที่ยวช่วงซัมเมอร์ไง ยูไปกับขมน่ะ จำได้ยัง "

“ โอลิเวีย ? “ ก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี ผมอยากจะบอกเธอแบบนั้น ตอนนี้สมองมันตื้อไปหมด เหมือนโดนรมก๊าซอะไรสักอย่างที่ทำให้เบลอ สติทุกอย่างหายไปไม่มีความคิดอะไรโผล่เข้ามาในหัวทั้งนั้น

   ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังช็อค รู้สึกว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนผมยังมีความสุข แต่ตอนนี้มันกลับค่อยๆหายไป เพราะผู้หญิงคนนี้ที่จู่ๆก็มายืนอยู่ตรงหน้า เอ่ยทักทายเหมือนรู้จักกันดีแต่ผมกลับไม่คุ้นหน้าตาเธอเลยสักนิด

   เธอพูดชื่อกาลิค ทั้งๆที่ไม่น่าจะรู้จักเด็กคนนั้นด้วยซ้ำ แถมคำพูดคำจายังดูมั่นใจแบบคนไร้มารยาท บุคลิคทั้งภายนอกภายในทำให้ผมคิดทบทวนอยู่นาน แต่ก็ได้เพียงแค่คำตอบเดียวในใจตอนนี้ และมันก็เป็นคำตอบที่ตัวผมไม่อยากจะยอมรับสักเท่าไหร่ คำตอบที่ว่า เธอคือแม่ของกาลิค แล้วพอคิดแบบนั้น สายตาของผมก็มองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

' นี่แม่ของไอ้กาลิคจริงๆเหรอวะ ผู้หญิงท่าทางแบบนี้นี่อะนะ จะอุ้มท้องเด็กที่หน้าตาน่ารักขนาดนั้นออกมา ผู้หญิงแบบนี้เหรอวะ ที่กาลิคมันจะต้องเรียกว่า แม่ แบบนี้เหรอวะ ? '

“ สงสัยจะจำไม่ได้จริงๆ งั้นไอขอถามละกัน เมื่อห้าปีก่อนยูไปเที่ยวออสเตเรียกับขมตอนซัมเมอร์ ยูจำได้มั้ย "

“ จำได้ " ผมพยักหน้ารับ เธอก็อธิบายต่อ

“ ยูพักที่บ้านคนไทยที่เป็นญาติของยูชื่อพี่อเล็กซ์ ถูกมั้ย " ผมพยักหน้ารับเธอก็ยิ้ม " ครั้งแรกที่เราเจอกันคือช่วงวันคริสมาสที่ไอกับแม่ไปงานเลี้ยงฉลองคริสมาสกับพวกกลุ่มคนไทยเพื่อนๆพี่อเล็กซ์ที่มาอยู่ออสเตเรียไง เราเจอกันครั้งแรกที่นั่น คราวนี้ยูจำไอได้รึยังละ ภาพ "

“ โอลิเวีย " ผมพูดออกมาเสียงเบาๆในขณะที่คนตรงหน้ายิ้มออกมา คำอธิบายของเธอเหมือนกับฟิล์มในหนังสักเรื่องที่ฉายขึ้นมาในสมองของผม ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นทะยอยเข้ามาในสมองของผมเป็นฉากๆ แม้ว่าคนตรงหน้าจะแตกต่างจากครั้งแรกที่เคยเห็นกัน แต่ผมก็จำเรื่องราวตอนเจอเธอครั้งแรกได้ดี

   เด็กผู้หญิงลูกครึ่งไทยออสเตเรียหน้าตาน่ารักที่เดินเข้ามากับแม่ของเธอในคืนฉลองวันคริสมาสที่บ้านพี่อเล็กซ์ลูกพี่ลูกน้องของผมที่ไปเรียนต่ออยู่ที่นั่น โอลิเวียในตอนนั้นเธอเป็นคนที่สวยจนสะดุดตา และเพราะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมพี่อเล็กซ์ก็เลยแนะนำให้เราได้รู้จักกัน เธอคุยภาษาไทยได้คล่องบวกกับนิสัยเฟรนลี่เป็นกันเองเราเลยสนิทกันได้รวดเร็วเพียงแค่ช่วงข้ามคืนนั้น แล้วพอวันถัดมา ทริปท่องเที่ยวสามคนของเราที่เคยมีแค่ผม ไอ้ขมและพี่อเล็กซ์ ก็ได้เพิ่มเธอเข้ามาร่วมเดินทางด้วยอีกคน

“ จำได้สักทีนะ "

" หน้าเธอเปลี่ยนไปน่ะ ฉันเลยจำไม่ได้ " ผมบอกสั้นๆ อีกคนก็เหลือบมองไปทางอื่นก่อนจะเอียงหน้ายิ้มอายๆ

" ก็คงจะเป็นเพราะฉันโตขึ้นละมั้ง มันก็มีอะไรหลายๆอย่างให้ลอง " 

" งั้นเหรอ " ก็คงไม่พ้นจากพวกยาเสพติดหรอก เพราะดูท่าทางเธอคงสูบบุหรี่จัดกว่าผมซะอีก แล้วก็คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องยาชนิดอื่นๆของพวกนั้นก็คงลองมาหมดแล้ว ไม่งั้นหญิงสาวที่เคยที่ใบหน้าสวยสะดุดตาคงไม่เปลี่ยนไปจนดูโทรมขนาดนี้

“ แต่ยูดูไม่เปลี่ยนไปเลยนะภาพ ยังหล่อเหมือนเดิมเลย แต่ถ้าพูดให้ถูกคงต้องบอกว่าหล่อกว่าเดิมอีก ก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนี่นะ " ผมพยักหน้ารับก่อนที่เธอจะมองผ่านเข้าไปข้างในประตูคอนโดที่ผมเดินออกมาเมื่อครู่ " แล้วกาลิคละอยู่ไหน ฉันจะมารับเค้ากลับละนะ "

“ กาลิค...เป็นลูกเธอเหรอ "

“ of course!! แน่นอนสิ ทำไมถามแบบนั้นละ “ เธอยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นตบไหล่ผม " ขอบคุณที่ช่วยดูแลให้นะภาพ แต่ต่อไปนี้ ยูไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นละ ฉันมารับเค้าแล้ว "

“ ง่ายจัง " ผมพูดเสียงเบาๆ ก่อนจะมองหน้าเธอที่ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกผิดในเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิด  เธอยังคงยิ้มมีความสุขเหมือนไม่ได้แคร์เลยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอสร้างความลำบากให้พวกผม ไม่ได้สนใจหรือนึกถึงจิตใจของเด็กคนนั้นเลยด้วยซ้ำไป เธอทำเหมือนกาลิคเป็นสิ่งของ เป็นตุ๊กตาที่นึกอยากจะเอาไปฝากใครไว้ ก็เอาไปฝาก แล้วพออยากจะได้คืนก็มาเอามันกลับไปง่ายๆแค่นั้น

“ ยูว่าอะไรนะ "

“ เข้ามาคุยข้างในก่อนสิ " ผมบอกเธอด้วยสีหน้านิ่งๆ ท่าทางที่ทำให้โอลิเวียในตอนนั้นคลายความร่าเริงที่ไม่สนซึ่งสิ่งใดนั้นลง เธอพยักหน้ารับ

“ โอเค ไอคุยก็ได้ "

   ผมกดปลดล็อคประตูของคอนโด ให้โอลิเวียเดินเข้าไปก่อนที่ผมจะเดินตามมา เราเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าลิฟต์ที่มีขมยืนรออยู่ แต่ทว่าร่างบางกลับไม่ได้หันมาสนใจเราเลยสักนิด ไม่ใช่ว่าไม่รู้ตัวหรอกว่าเรามายืนอยู่ข้างหลังแล้ว แต่เพราะรู้แล้วตังหากเลยไม่กล้าที่จะหันมามอง ขมที่ได้แต่กอดกาลิคไว้แน่นในตอนนั้นเป็นท่าทางที่บอกกับผมว่า ตัวมันเองก็คงรู้แล้วว่าเธอคนนี้เป็นใคร

" กาลิคคคคคค คิดถึงจังเลยย มาให้หม่ามี๊กอดหน่อยเร็ว " เธอพูดเสียงร่าเริงก่อนจะคว้าเอาตัวเด็กน้อยที่หลับอยู่ในอ้อมกอดของไอ้ขมขึ้นมาโดยไม่ได้สนสิ่งใด " กาลิค ตื่นๆ นี่หม่ามี๊มารับแล้วนะ ตื่นสิ ดีใจกันหน่อย ตื่นๆ "

“ งื้อออออออ ฮือๆ อาขมมมม จะนอนนน อึก ฮือๆ " เสียงร้องไห้จ้าที่ดังขึ้นหลังจากถูกปลุกให้ตื่นด้วยการเขย่าแรงๆจากคนเป็นแม่ของตัวเอง มือเล็กๆที่ยังหลับจะนอนไม่รู้เรื่องราวอะไรก็ได้แต่เอื้อมไขว่คว้าหาไอ้ขมที่ได้แต่ยืนนิ่งตอนที่เห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดๆ " อึก อาขมมมม กาลิคจะนอน " 

“ เอามานี่ " ขมมันพูดสั้นๆก่อนจะดึงเด็กน้อยกลับมากอดไว้เหมือนเดิม มันที่โยกตัวเดินไปมากล่อมให้กาลิคหยุดร้องไห้แล้วหลับไปอีกครั้ง ท่าทางที่ดูโมโหของมันพยายามผ่อนลมหายใจระงับความรู้สึกของตัวเองไว้ " เด็กกำลังหลับปลุกแบบนั้นได้ยังไง มันตกใจนะ "

“ ก็ไอดีใจนี่! ไอเป็นผิดเหรอ ? ไอเป็นแม่นะ ไอไม่เจอลูกตั้งนานก็ต้องคิดถึงกันเป็นธรรมดา " เธอว่าก่อนจะทำหน้าหงุดหงิดใส่อีกคนที่ติเธอ " ก็ไม่เห็นต้องทำหน้าหงุดหงิดใส่ไอขนาดนั้นเลยนะ " ทุกอย่างเงียบมีแต่เสียงถอนหายใจเซ็งๆทั้งของผมแล้วก็ของไอ้ขม ที่ดังออกมา โอลิเวียเอียงหน้ามองคนที่อุ้มกาลิคไว้ก่อนจะยิ้ม " ว่าแต่ขมจำไอได้มั้ยละ "

“ หึ " มันพูดเสียงในคอ ก่อนจะส่ายหน้าไปมา

“ อะไรกัน อีกคนแล้วเหรอ โอลิเวียไง จำได้รึยัง เราเจอกันที่ออสเตเรียไงเราเคยไปเที่ยวด้วยกันตอนที่ยูกับภาพไปเที่ยวที่นั้น ยูจำได้มั้ย " เธอแนะนำตัวเองก่อนจะยิ้มให้ไอ้ขมที่นิ่งไปสักพักแล้วพยักหน้ารับเข้าใจ

“ โอลิเวีย.. จำได้แล้วละ "

“ จำได้แล้วสินะ! " เธอยิ้มก่อนจะเอียงหน้ามองเด็กน้อยที่ไอ้ขมอุ้มอยู่ " วันนี้ไอจะมารับกาลิคกลับอเมริกาน่ะ " ไอ้ขมดึงตัวเองออกห่างเธอทันทีตอนที่ได้ยินประโยคนั้น มันที่กอดกาลิคไว้แน่นด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่ได้แสดงออกถึงความยินดีในคำพูดนั้นแต่อย่างใด ทุกอย่างรอบตัวของเราเงียบความอึดอัดที่เข้ามาแทนที่โอลิเวียมองขมสลับกับผมด้วยท่าทีงงๆ " อะไรกัน นี่ไอจะมาเอาลูกคืนนะ ทำไมพวกยูต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วยละ พวกยูต้องดีใจสิที่หมดสิ้นภาระแล้วน่ะ "

“ เราไม่คืนให้ง่ายๆอย่างตอนที่เธอเอามาทิ้งหรอก อย่างน้อยก็ต้องคุยกันหน่อย " ผมบอกเธอก็ผ่อนลมหายใจออกมาพลางบ่นเบาๆ

“ แล้วต้องทำให้ยุ่งยากด้วยนะ ไอก็มาเอาเด็กคืนแล้ว พวกยูก็แค่ให้เด็กมากับไอ ก็แค่นั้น ง่ายๆ สบายๆ ทุกอย่างมันจะได้จบ ไอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากด้วย "

“ เหี้ยจัง นี่แม่คนจริงๆรึเปล่าวะ " ไอ้ขมว่าเสียงเบา โอลิเวียก็เบิกตาใส่มันก่อนจะเหลือบมามองผม เธอที่กำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่างผมก็พูดขัดคำนั้นออกไปก่อน

“ ลิฟต์มาแล้ว เข้าไปได้แล้ว " เธอผ่อนลมหายใจหงุดหงิดออกมา เสียงฟึดฟัดที่ไม่พอใจของเธอจำใจเดินตามเราเข้ามาในลิฟต์

   ประตูห้องถูกเปิดออก ขมเดินตรงเข้าไปในห้องของตัวเองทันทีมันปล่อยให้ผมอยู่กับเธอแค่สองต่อสอง โอลิเวียที่ตอนนี้มองไปรอบๆห้องก่อนจะหลุดยิ้มแล้วหัวเราะออกมา

“ คิดไม่ถึงเลยว่าพวกยูจะสนใจการเลี้ยงเด็กกันขนาดนี้ ดูสิของเล่นกาลิคเยอะแยะไปหมด ขอบใจนะที่ช่วยดูแลลูกไออย่างดีน่ะ "

“ นั่งสิ คุยอะไรกันหน่อย เดี๋ยวขอไปตามไอ้ขมออกมาก่อน " เชิดหน้าไปที่โซฟา หญิงสาวก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินไปนั่งลงอย่างว่าง่าย

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เคาะประตูห้องก่อนจะเปิดแล้วเดินเข้าไปหา ปากที่กำลังเอ่ยทักมันให้ออกไปนั่งคุยด้วยกันนั้นอยู่ๆก็ใบ้กินขึ้นมาทันที ขมที่นั่งอยู่บนเตียงเอื้อมมือไปลูบหัวกาลิคครั้งแล้วครั้งเล่ามันที่ก้มหน้าร้องไห้ออกมาก่อนจะเอ่ยถามผมเสียงเบาๆ

" เราต้องคืนมันไปจริงๆใช่มั้ยมึง "

" เชี้ยขม " ผมหลุดสบถออกมา ก่อนจะเงยหน้ามองเพดานเพราะรู้สึกว่าน้ำตามันกำลังจะไหลออกมาเหมือนกัน หย่อนตัวลงนั่งข้างๆมัน ผมเอื้อมมือไปกอดไหล่มันไว้ อีกคนก็ยิ่งร้องไห้ออกมา

" กูรู้ว่ามันเป็นแม่ของไอ้หัวหอม แต่กูไม่อยากจะให้ไอ้หัวหอมไปอยู่กับคนแบบนั้นเลย มึงดูมันสิ ขนาดไอ้หัวหอมหลับมันยังปลุกด้วยท่าทางแบบนั้นได้เลย แล้วถ้าหัวหอมงอแงขึ้นมา แม่มันจะไม่หงุดหงิดแล้วทำร้ายลูกตัวเองเหรอวะ กูทำใจไม่ได้อะมึง กูไม่อยากออกไปคุยเลยอะ กูไม่อยากออกไป " มันส่ายหน้าไปมาพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลออกมา " กูกลัวภาพ อึก กูกลัวจริงๆนะมึง ฮือๆ กูกลัว กูกลัวว่าพอเราคุยกับมันแล้วสุดท้าย ผลออกมาว่า ไอ้หัวหอมต้องไปจากกูจริงๆแล้วแบบนั้นกูจะทำใจได้ยังไงวะมึง อึก กูไม่อยากจะให้เป็นแบบนั้น ฮือๆ กูไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลย ทำไมวะ ทำไมแม่มันไม่เป็นคนอื่น ทำไมแม่มันไม่ใช่คนที่ดูรักมันกว่านี้ ทำไมต้องเป็นผู้หญิงคนนั้นวะ ผู้หญิงที่ทิ้งลูกตัวเองได้โดยไม่รู้สึกอะไร ทำไมวะ ทำไมต้องเป็นผู้หญิงคนด้วย ทำไมวะ อึก ฮือๆ " 

" มึงฟังกูนะ " ผมถอนหายใจออกมาตอนที่มองหน้าขมที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก " มึงบอกว่าอยากจะให้แม่ไอ้กาลิคเป็นคนอื่นที่ดี แต่มึงคนดีๆที่ไหนมันจะทิ้งลูกตัวเองให้มาอยู่กับคนอื่นได้วะ มันก็ต้องเป็นคนที่เหี้ยแบบนั้นแหละมันถึงจะทำได้ " ขมเบือนหน้าหนีคำพูดของผม มันที่เอาแต่ร้องไห้ผมเอื้อมมือไปกอดมันไว้ " ขม กูขอถามมึงสักคำนะ บอกมาตามความจริง มึงเคยมีอะไรกับโอลิเวียรึเปล่า "

" ไม่เคย " มันส่ายหน้า ผมก็ได้แต่ถอนหายใจ

“ แต่กูเคย "  สารภาพความจริงออกไปกับอีกคน ขมก็เบิกตาขึ้นราวกับคนที่คิดอะไรขึ้นมาได้สักอย่าง

“ แล้วมึงจะทำยังไง " สบสายตามันแต่ยังไม่ได้ให้คำตอบอะไร แต่คนที่รอฟังคำตอบอย่างขมก็รวบมือของผมเข้าไปจับแล้วบีบไว้แน่น มันที่พูดทุกอย่างออกมาด้วยความรีบร้อน ที่ทั้งกลัวแล้วก็กังวล " ตรวจดีเอ็นเอเลยมึง ถ้ามันเป็นลูกมึง มึงห้ามให้มันเอาไอ้หัวหอมกลับไปนะ อึก กูขอร้องภาพ กูขอร้อง กูไหว้มึงก็ได้ จะให้กูทำอะไรก็ได้ก็ยอมทั้งนั้น อึก ตรวจดีเอ็นเอนะภาพ กูขอร้อง ฮือๆ ถ้ามึงไม่อยากจะเป็นพ่อมัน กูขอแค่ช่วงนี้ก็พอ พอกูเรียนจบกูจะเอามันมาเป็นลูกกูเอง กูจะเลี้ยงมันเอง แต่ตอนนี้กูขอร้องเถอะภาพ มึงช่วยมันด้วยเถอะนะ อย่าให้มันหัวหอมไปเลย อึก อย่าให้มันเอาหัวหอมไปจากกูนะมึง ฮือๆ "

" ขม ใจเย็นๆมึง ใจเย็นๆนะ" เอื้อมมือไปดึงอีกคนเข้ามากอดไว้แน่น ไอ้ขมก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง นานแล้วที่ไม่เห็นมันเป็นแบบนี้มันที่กำลังไม่มีสติเพราะเห็นท่าทางที่ไม่น่าไว้ใจของผู้หญิงคนนั้น มันที่กำลังกลัวและคาดคะแนถึงเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับกาลิคเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่เข้ามาทำให้มันรักสุดหัวใจ ตั้งแต่ไอ้กาลิคเข้ามาอยู่ที่นี่ ขมก็เลี้ยงกาลิคมาตลอด มันใช้ชีวิตอยู่ใกล้กันแทบจะทุกวัน ทั้งรัก ทั้งดูแล แล้วเอาใจใส่ได้ดี ยิ่งกว่าคนเป็นแม่คนนั้นเสียอีก

“ ภาพ ช่วยหัวหอมที อึก ช่วยหัวหอมของกูที ภาพ อึก กูขอน้อง อือๆ "

" ขมมึงฟังนะ ถ้ากาลิคเป็นลูกกู กูรับแน่ มึงไม่ต้องห่วง แต่กูกลัวว่ามันจะไม่ใช่ลูกกูนะสิ ถ้ามันไม่ใช่ เราก็คงทำอะไรไม่ได้ ตามกฏหมาย ถ้าพ่อแม่ยังอยู่ พ่อแม่เท่านั้นที่มีสิทธิดูแลลูก คนอื่นไม่มีสิทธิ "

" แล้วเราจะทำยังไง ให้กาลิคไปกับมันงั้นเหรอ ไม่เอาอะ ไม่เอา " มันส่ายหน้าไปมา ผมก็ถอนหายใจออกมา

" ออกไปคุยกันก่อน แล้วเรามาหาทางแก้ไขกัน ตกลงมั้ย " ขมหันมองกาลิคที่หลับอยู่ตอนที่ผมพูดแบบนั้น มันที่นิ่งอยู่นาน จำใจพยักหน้ารับ

" เช็ดน้ำตาซะ " ผมเอ่ยบอก มันก็ก้มหน้าลงเช็ดน้ำตาของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามผม   

" หน้ากูเหมือนคนร้องไห้มากมั้ย "

" ยิ่งกว่าเหมือนอีกไอ้สัด ไปล้างหน้าไป แล้วออกไปพร้อมกัน "

" อื้ม " ขมเดินเข้าไปล้างหน้าให้ห้องน้ำ มันที่เดินออกมาผ่อนลมหายใจช้านัยน์ตาที่ยังแดงจัด ผมหันไปมองหน้ามัน

" กูขอให้สัญญากับมึง ยังไงซะกูก็ไม่ให้มันเอาไอ้กาลิคไปจากเราง่ายๆหรอก ต่อให้มันจะไม่ใช่ของลูกกูก็เถอะ "
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 09-06-2017 20:27:53
 เราเดินออกมาจากห้อง ก่อนคนที่บอกให้นั่งรอที่โซฟาจะเอ่ยทักขึ้นจากระเบียงนอกห้อง

" ออกมากันแล้วเหรอ เข้าไปซะนาน " เธอว่า ก่อนจะเดินเข้ามาพลางปิดประตูระเบียงให้ " คอนโดยูก็สบายดีเหมือนกันนะ วิวรอบๆก็สวยดี "

" นั่งลงก่อนสิ " ผมบอกก่อนจะเชิดหน้าไปที่โซฟา เธอก็นั่งลงตามคำสั่ง

" มีอะไรจะถามงั้นเหรอ รีบๆพูดนะ ไอจะได้รีบพากาลิคกลับไปสักที "

" ทำไมเธอถึงพากาลิคมาทิ้งไว้กับเรา " ผมถาม เธอก็เบิกตาขึ้นเล็กน้อยกับคำถามนั้น เอนแผ่นหลังลงพิงกับโซฟา โอลิเวียถอนหายใจ

“ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เพราะว่ายูเป็นพ่อของกาลิคยังไงล่ะ ภาพ "  เธอว่าก่อนจะยกยิ้มพลางกอดอกแล้วยกมือขึ้นเขี่ยเล็บไปมา " ตอนที่เราเจอกันยูยังจำทริปสุดท้ายที่เราไปค้างคืนกันได้ใช่มั้ยละ  เด็กนั่นก็มาตอนที่ไอกับยูมีอะไรกันตอนนั้นนั่นแหละ ยูที่ยืนยันจะใส่ถุงยางแต่ไอก็บอกว่าไม่เป็นไร ตอนนั้นที่บอกว่า ทุกอย่างโอเคจริงๆก็แค่เพราะไอไม่ชอบใส่ถุงก็เท่านั้นแหละ แต่ว่าถึงจะพูดว่าลูกของยู ไอก็ไม่ค่อยชัวร์หรอกนะ เพราะวันนั้นหลังจากมีอะไรกับยู ไอก็มีอะไรกับพี่อเล็กซ์ต่อด้วยน่ะ เลยไม่ค่อยมั่นใจหรอกว่าลูกยูจริงๆรึเปล่า แต่คิดว่าของยูนั่นแหละมั้ง ก็ไอมีอะไรกับยูก่อนตามหลักคนที่ปล่อยก่อนก็ต้องถึงก่อนถูกมั้ยละ " ทุกอย่างเงียบแต่เธอก็ยังยิ้ม " แล้วเพราะแบบนั้นไอก็เลยเอากาลิคมาฝากไว้กับยูไง ยังไงซะ ไม่ว่าจะเป็นยูหรือพี่อเล็กซ์ทั้งสองคนก็เป็นญาติกันละนะ ก็คงไม่เป็นไรอะไรหรอก ไอน่ะ คิดแบบนั้นแหละ "

“ แล้วทำไมต้องเอามาฝากเราไว้ด้วย มีเหตุผลอะไร ที่ต้องให้เด็กตัวแค่นั้นบินข้ามน้ำ ข้ามทะเลมา แถมยังให้ภาพถ่ายเราสองคนมาแล้วก็ไม่บอกให้ชัดๆอีกว่าเป็นลูกใคร " ขมถามออกไป เธอก็หัวเราะ

“ ฮ่าๆ เดี๋ยวนะ ทำไมขมดูหงุดหงิดจัง นี่ไอทำอะไรผิดเหรอ นี่ไอมาเอาลูกคืนนะ ทุกคนต้องแฮปปี้สิ "

“ นี่แม่จริงๆรึเปล่า คนเป็นแม่คน เค้าทำกับลูกตัวเองแบบนี้เหรอ ส่งลูกตัวเองมาอยู่กับใครก็ไม่รู้ เธอแน่ใจได้ยังไงว่าฉันกับไอ้ภาพจะดูแลลูกเธออย่างดี เราอาจจะพามันไปปล่อยไว้ที่ไหนก็ได้ หรือพาไปทิ้ง ทำไมถึงไม่คิดห่วงลูกตัวเองบ้าง "

“ ก็เพราะว่า ที่นี่มีขมอยู่ไง " เธอพูดขัดไอ้ขมก็นิ่ง " ขมน่ะใจดี ไม่มีวันเอาเด็กไปทิ้งหรอก อีกอย่างที่ฉันไม่บอกว่าลูกใครตั้งแต่แรก เพราะว่าขืนบอกไปว่าเป็นลูกภาพ ขมก็คงไม่ใส่ใจกาลิคขนาดนี้หรอก แล้วพอขมไม่สนใจก็ไม่ต้องคิดถึงภาพเลย ภาพน่ะไม่สนใจอยู่แล้ว แต่ถ้าขมสนใจยังไงภาพก็ต้องสนใจแบบนี้ไงฉันเลยไม่บอก ไม่ให้เอกสารอะไรเลยทั้งนั้น เพราะว่าขมจะคิดอยู่เสมอว่าอาจจะเป็นลูกตัวเองก็ได้ แล้วถ้าขมคิดแบบนั้นขมก็จะดูแลกาลิคอย่างดี ภาพเองก็ด้วย "

“ สิ้นคิด " ขมเถียงกลับ " คิดว่าอะไรๆ มันจะเป็นตามแผนของเธอไปหมดรึไง "

“ แต่ไอว่ามันก็เป็นไปตามแผนอยู่นะ " โอลิเวียว่าก่อนจะยิ้ม " หรือขมว่ามันไม่จริงละ ไอน่ะรู้จักพวกยูมากกว่าที่พวกยูรู้จักไอก็แล้วกัน แม้เราจะเจอกันแค่ช่วงเวลาสั้นๆก็เถอะ "

“ แล้วถ้าเธอท้องกับฉัน ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้ ทำไมไม่บอกตอนที่ตัวเองท้องใหม่ๆ เพื่ออะไร "  เธอถอนหายใจออกมาก่อนจะเหลือบมองผม

“ ตอนแรกที่ไอรู้ตัวว่าไอท้อง ตอนนั้นไอมีแฟนอยู่แล้ว ถ้าบอกความจริงไปว่าท้องกับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนตัวเองมันก็คงดูแปลกๆใช่มั้ยละ ไอก็เลยต้องบอกผู้ชายคนนั้นว่า ไอท้องกับเค้า ทุกอย่างก็เหมือนจะไปได้ดีนะ แต่พอกาลิคเกิดมาเค้าดันหน้าเป็นเอเซียมากกว่าจะเป็นฝรั่งยุโรปตามแบบพ่อเค้านะสิ แถมยังไม่มีอะไรเหมือนคนที่ไออ้างว่าเป็นพ่อเด็กเลยสักอย่าง แฟนไอก็เลยแอบพากาลิคไปตรวจดีเอ็นเอตอนที่ไอไม่อยู่ สุดท้ายความก็แตก แล้วเราก็เลิกกัน " เธอว่าก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา " จากนั้นไม่นานไอกับครอบครัวก็ย้ายมาอยู่ที่อเมริกา ไอเริ่มมีสังคมใหม่คราวนี้ก็ติดยา ติดบุหรี่ แล้วไม่ค่อยสนใจชีวิต ไม่ต้องพูดถึงกาลิคตอนนั้นไอไม่สนใจอะไรเด็กนั่นเลยแหละ จนแม่กับพ่อไอก็เริ่มขู่ว่าถ้าทำตัวแบบนี้จะไม่เลี้ยงกาลิคให้อีก ตอนแรกไอก็คิดว่าคงแค่ขู่ แม่กับพ่อไอคงไม่ทำจริงๆหรอกเค้าก้น่าจะรักหลานอยู่บ้าง แต่เปล่า..เค้าทำแบบนั้นจริงๆเค้าไล่ไอกับกาลิคออกจากบ้าน เพราะไม่มีที่จะไป ไอก็เลยต้องไปอยู่ห้องเช่า เงินที่เอาไว้ส่งกาลิคไปเนสเซรี่ก็ต้องมาจ่ายค่าเช่า ค่าของใช้ในบ้านทั้งหมด พอเวลาออกไปทำงาน ไอก็ให้มันอยู่ที่บ้านคนเดียวบ้างถ้าไปไม่นานละก็นะ บางทีฝากเพื่อนเลี้ยงแบบถูกๆบ้าง "

" แล้วตอนนั้นกาลิคกี่ขวบ " ขมถาม

" คงสักสองสามขวบละมั้ง กำลังซนเลยละ ทุกครั้งที่กลับมาถึงห้อง ของก็กระจัดกระจายไปหมด ไอตีมันประจำ ตีจนมันไม่กล้าซนเลยแหละ " นี่สินะเหตุผลที่ไอ้ขมตามหามาตลอด ว่าทำไมกาลิคไม่ค่อยซนเวลาที่อยู่กับเราเลย มันที่ทั้งเชื่อฟังแถมยังเลี้ยงง่าย อาจจะมีบ้างที่งอแงแต่นั่นก็น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับช่วงวัยของมัน “ แล้วพอไอเริ่มทำงาน ไอก็เจอผู้ชายคนใหม่ เค้าเป็นคนที่ไอถูกใจทั้งนิสัยแล้วก็ฐานะ  แต่ไอก็ต้องปิดบังเรื่องกาลิคไว้กลัวว่าเค้าจะรับไม่ได้ อีกอย่างก็ไม่ค่อยแน่ใจด้วยละว่าจะไปกันรอดรึเปล่า เราคบกันอยู่หลายเดือนจนเค้าชวนไอสร้างครอบครัวด้วยกัน  ไอดีใจมากก็เลยตอบตกลงไป แต่เพราะยังไม่ได้บอกเรื่องกาลิคไอก็กลัวว่าจะมีปัญหากัน แล้วพอคิดจะฝากคนรู้จักก็กลัวความจริงจะแตก ไอก็เลยจัดการหาที่อยู่ของยูจากพวกคนไทยที่ไอเคยรู้จัก แล้วจัดการให้น้องชายเป็นพากาลิคมาทิ้งไว้ให้พวกยูเลี้ยงไง  ตั้งใจว่าพอย้ายเข้าไปอยู่กับคนรักใหม่สักเดือน ถึงจะบอกความจริงกับเค้า แต่ไอก็ไม่กล้าจนมันเกินเวลาที่คิดไว้สักหน่อย " เธอว่าก่อนจะยิ้ม " แต่ว่าตอนนี้ไอก็บอกคนรักของไอแล้วนะว่าไอมีลูกติด แล้วเค้าก็โอเคทุกอย่างที่จะให้กาลิคไปอยู่ด้วย ไอเลยจะกลับมารับกาลิคไปอยู่กับไอไง "

“ ดูง่ายจังเลยนะ " ขมบอกก่อนจะยิ้มให้เธอ " เธอโยนเค้าไปมาเหมือนเป็นสิ่งของชนิดนึง เธอเหมือนเอาแต่ตัวเองมาก่อนเป็นอันดับแรก แล้วเอาเค้าไว้อันดับสอง เธอมีเค้าเป็นลูกแต่ทำเหมือนว่าเค้าเป็นแค่สิ่งของที่ต้องดำรงชีวิตอยู่ให้ได้ตามความเปลี่ยนแปลงของเธอ ถามจริงๆเถอะ ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่รับลูกเธอ เธอจะทำยังไง "

“ ก็..” โอลิเวียหันมองผม ก่อนจะเหลือบไปมองทางอื่น " ก็ต้องทำทุกอย่างจนกว่าจะยอมรับละ "

“ โกหก " ผมบอก " เธอแค่จะทิ้งเค้าไว้ที่นี่ตลอดไปใช่มั้ยละ "

“ ก็แล้วมันผิดเหรอ " เธอเถียงขึ้นมา " ไอก็ต้องสบายก่อนสิ กาลิคถึงจะได้สบาย ถ้าไอยังไม่สบายแล้วจะพาลูกไปลำบากทำไมละ อยู่กับพวกยูสบายกว่าเห็นๆ แล้วกาลิคก็ดูมีความสุขด้วย "

“ ถ้าคิดแบบนั้นแล้วกลับมาทำไม " ผมถามเธอก็นิ่ง " ถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต้องกลับมา ปล่อยกาลิคไว้แบบนี้แหละ "

“ ก็บอกแล้วไง ว่าตอนนี้ฉันเคลียร์กับคนรักได้แล้ว และจะพากาลิคกลับไปอยู่เป็นครอบครัวด้วยกันที่อเมริกา "

“ ฉันไม่ให้ไป " ผมบอก " เพราะกาลิคก็เป็นลูกฉันเหมือนกัน "

“ เดี๋ยวๆ ภาพ ยูพูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำจังนะ ยูมั่นใจได้ยังไงว่าเป็นลูกยู เค้าอาจจะเป็นลูกอเล็กซ์หรือว่าใครคนอื่นก็ได้ " โอลิเวียเริ่มเถียง เธอยกยิ้มก่อนจะส่ายไปมา " ตอนที่ฉันท้องไม่เห็นเธอจะมาสนใจ ตอนนี้พอได้เลี้ยงเค้าก็อยากจะเป็นเจ้าของเค้า มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ แล้วอีกอย่างฉันไม่ได้ให้พวกยูเลี้ยงฟรีๆสักหน่อย ฉันจ่ายเงินมาให้พวกเธอด้วยซ้ำ ! “

“ แล้วตอนที่เธอท้อง เธอได้บอกฉัน บอกอเล็กซ์รึเปล่าว่าเธอท้อง ! ใครมันจะเป็นรู้ว่าเธอท้อง ก็เธอบอกเองว่าตอนนั้นเธอมีแฟน เธอเลยให้แฟนเธอรับไป เธอคงคิดว่า ถ้าแฟนเธอรับกาลิคทุกอย่างก็จบแล้วถูกมั้ยละ ฉันกับอเล็กซ์ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรับรู้เรื่องอะไรอีก เธอมันมักง่ายฉันจะบอกให้ เธอคิดเอาแต่ตัวเอง ทางไหนที่ว่าสะดวกเธอก็เอาไว้ก่อน เหมือนอย่างที่เธอส่งกาลิคมาที่นี่ เธอไม่ได้แคร์ว่าเค้าจะรู้สึกยังไง จะร้องไห้ จะเสียใจ หรือว่าพวกฉันจะรับหรือไม่รับ "

“ ก็เพราะว่าไอรู้ว่าพวกยูสองคน..”

“ เธอไม่รู้! “ ผมตะคอกกลับไป " เธอแค่อยากจะทิ้งเด็กคนนั้นให้ออกไปพ้นทาง  เธอเลยมองให้มันเป็นแง่บวกว่าฉัน ว่าขม จะต้องดูแลกาลิคแน่นอน แล้วฉันจะบอกให้ว่า กาลิคมันโชคดีที่มาเจอเราที่ไม่ทิ้งมันก็เท่านั้น  ส่วนเงินของเธอน่ะ ฉันจะคืนให้ทั้งหมดเลยแล้วรู้เอาไว้ซะ ว่าเงินมันซื้อไม่ได้ทุกอย่าง อย่างน้อยมันก็ซื้อความเสียใจที่เธอทำลายเด็กคนนั้นไปแล้วให้คืนมาไม่ได้! ต่อให้เธอซื้อของเล่นให้มันเป็นพันๆชิ้น เธอก็ลบความทรงจำที่เธอเคยทิ้งมันไปไม่ได้! " ทุกอย่างเงียบผมยกยิ้มมองผู้หญิงตรงหน้าที่เบือนหน้าหนีผม " สำหรับเรื่องของกาลิคเธอควรจะขอบคุณขมด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีขมป่านนี้มันคงไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วตอนนี้อาจจะเป็นลูกบุญธรรมของใครสักคนไปแล้ว คงไม่มีกาลิคให้เธอได้เห็น แล้วพูดเห็นแก่ตัวว่าจะเอากลับไปเหมือนสิ่งของแบบนี้หรอก "

" แต่ไม่ว่ายังไง ไอก็จะเอากาลิคกลับไป! เพราะไอบอกคนรักของไอเอาไว้แล้ว ว่าเราจะมาเอาเค้ากลับไปอยู่ด้วย "

“ ฉันไม่ให้ " ผมบอกเสียงนิ่ง " เธอแค่จะเอาเค้ากลับไปเพราะอยากจะตามใจคนรักของเธอและทำตามที่พูดไว้ก็เท่านั้นแหละ แล้วฉันเชื่อว่า ถ้าวันไหนวันนึงเธอมีลูกใหม่กับเค้า กาลิคก็จะเป็นคนที่เธอไม่มีวันสนใจอีก แล้วต่อให้คนรักของเธอทำอะไรมัน เธอจะไม่มีวันช่วยกาลิคเด็ดขาดไม่ว่ากาลิคจะถูกหรือผิดก็ตาม "

“ ไอไม่ได้เป็นแม่ที่แย่ขนาดนั้นนะ ! "

“ เธอแย่ตั้งแต่ที่เธอทิ้งมันแล้ว!! “ ผมตะโกนใส่เธอ ก็เริ่มผ่อนลมหายใจหงุดหงิดออกมา

“ ไอไม่แย่! ถ้าไอแย่ ไอต้องเลี้ยงมันแบบอดๆยากๆ แล้วมันคงตายไปแล้วละ ไม่อยู่รอดมาให้ยูสองคนเลี้ยงได้หรอก จำไว้  อย่าพูดว่าไอแย่นะ! “

“ เธอเป็นแม่ที่แย่ " ขมพูดขัดโอลิเวียขึ้นมา " ที่กาลิครอดมาได้ทุกวันนี้เป็นเพราะแม่ของเธอเลี้ยงเค้ามาตังหาก กาลิคออกมาอยู่กับเธอตอนที่เค้าโตแล้วเค้าก็เลยไม่ตายง่ายๆมันก็เท่านั้นแหละ เธอเป็นแม่ที่แย่ เพราะว่าแม้กระทั้งตอนนี้ กาลิคยังเป็นเด็กที่กลัวว่าตัวเองจะเป็นเด็กไม่ดี นั่นเพราะการเลี้ยงดูของเธอ ที่คอยตีเค้า คอยดุด่าเค้า คอยให้ใครก็ไม่รู้มาเลี้ยงดูเค้ามาอยู่กับเค้า กาลิคเลยไม่เหมือนเด็กทั่วไป เป็นเด็กที่ไม่เหมือนเด็ก เพราะต้องกลัวอยู่ตลอดว่าจะโดนตีรึเปล่า ถ้าเป็นเด็กไม่ดี "

" นั่นมันก็ดีแล้วนิ ไอก็สอนดีแล้ว เด็กซนน่ะ มันใช่ได้ที่ไหน "

" เลิกเถียงสักที !! " ขมตวาดออกมา มันที่ผ่อนลมหายใจช้าๆ " เลิกเถียงแล้วโยนความผิดของตัวเองบอกว่ามันเป็นเรื่องดีๆสักทีเถอะ เธอแย่ เธอยังไม่รู้ตัวเลย เธอมันแย่ เธอมันโคตรแย่ "

“ สรุปว่าจะไม่ให้กาลิคกลับไปกับไอใช่มั้ย ? “ โอลิเวียเอ่ยถาม " งั้นฉันจะไปหาตำรวจแล้วบอกเค้าว่าพวกยู กังขังหน่วงเหนี่ยวลูกชายฉัน "

“ เชิญ! " ภาพบอก " แต่จะไม่มีใครฟังเธอหรอกนะ ฉันมีหลักฐานภาพวงจรปิดวันที่กาลิคถูกส่งตัวมาที่นี่ แล้วเธอละมีหลักฐานอะไรรึเปล่า หลักฐานที่จ้างฉันให้ดูแลลูกเธอ หลักฐานที่บอกว่าเรากักขังหน่วงเหนี่ยว เพราะฉันจะบอกเค้าว่า เด็กคนนี้ถูกส่งมาให้ฉันโดยที่ไม่มีเอกสารอะไรเลย ผ่านไปสองเดือนไม่มีการติดต่อฉันคิดว่าเด็กถูกทิ้งจากแม่แล้ว  ฉันเลยพาไปตรวจดีเอ็นเอ แล้วถ้าปรากฏว่าเค้าเป็นลูกชายฉัน ฉันก็จะมีสิทธิในการเลี้ยงดูเค้าเต็มที่ เพราะคนเป็นแม่อย่างเธอที่บกพร่องทางหน้าที่ความเป็นแม่ทิ้งลูกตัวเองโดยไม่บอกกล่าวอะไร "

“ พวกยู! “ เธอตะโกนขึ้นด้วยความโกรธก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง

“ โอลิเวีย " ขมเรียกเธอก่อนจะลุกขึ้นยืนตาม มันเอื้อมมือไปจับมือของอีกคนที่ก็มองกลับด้วยสายตาที่กำลังโกรธสุดขีด " ถ้าเธอจะเอากาลิคไปแล้วคิดว่าสักวันเธอจะต้องทิ้งกาลิคอีก ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันขอร้องละ อย่าเอาเค้าไปเลยนะ ให้เค้าได้อยู่กับเราที่นี่เถอะ เราจะเลี้ยงดูเค้าอย่างดี จะทำให้เค้ามีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กาลิคเพิ่งเคยไปเที่ยวทะเลครั้งแรกเองนะ มันเลยมีอีกหลายๆที่ ที่เราอยากจะไปด้วยกันอีก เพราะงั้นฉันขอร้องละ ถ้าเอาเค้าไปแล้ว เธอจะทิ้งเค้าอีกอย่างที่เธอเคยทำ ก็อย่าเอาเค้าไปเลยนะ ฉันขอร้องละโอลิเวีย ฉันขอร้อง อย่าเอาเค้าไปเลยนะ อย่าเอากาลิคไปจากเราเลย  "

.........................................................................

เขียนดราม่ามาก็เยอะ แต่ยอมรับเลยว่าดราม่าของเรื่องนี้เขียนยากมาก
มันไม่ใช่ความรู้สึกเศร้าแบบคนรัก อกหัก เสียใจ แต่มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งเศร้า ทั้งสงสาร
ทั้งๆที่น้องหัวหอมก็ไม่ได้ ออกมาพูดอะไร แต่เรากลับรู้สึกสงสารน้อง ใจเรามันหน่วง เราสงสารขม เราเข้าใจความรู้สึกของขมที่ร้องไห้ออกมา เราสงสารภาพ เราคิดถึงจุดเริ่มต้น ตอนที่กาลิคเข้ามาอยู่ที่นี่ครั้งแรก
เราจำวันที่ทั้งภาพทั้งขมเข้ากับกาลิคไม่ได้เลย จนกลายเป็นครอบครัว
จำวันที่ทั้งคู่เอาแต่โยนความเป็นพ่อกันไปมาเพราะไม่อยากได้เด็กคนนี้ จนวันนี้สองคนที่เคยเป็นแบบนั้นกำลังปกป้องเด็กคนนี้สุดกำลังจากผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่แท้ๆ แต่ไม่มีคุณสมบัติความเป็นแม่เลย
#และนี่คือความอินล้วนๆ

เราใช้เวลาแต่งพาสดราม่าทั้งหมดนี้นานมาก และพอมาแก้คำผิด ก็แก้นานมากเหมือนกัน
เราพูดอะไรไม่ออกแล้ว
ในตอนนี้ก็คงมีคำถามที่ค้างคาใจอยู่ว่า ตกลงกาลิคเป็นลูกภาพ หรือ ลูกอเล็กซ์
#น้องขมรอดแล้วแต่เหมือนน้องขมไม่ได้ดีใจเลย
สุดท้ายนี้ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่ะ
เจอกันตอนหน้า
หนมมี่  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 09-06-2017 20:41:21
โอยยย สงสารกาลิค ขมกับภาพสู้สุดตัวเลย เหมือนพ่อสิงห์แม่เสือปกป้องลูกอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: et-file ที่ 09-06-2017 20:47:51
 :z6: โอลิเวียออกมาตอนแรกก็พามาม่า :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 09-06-2017 20:49:18
นางไม่ใช่แม่ที่แย่ แต่นางเป็นแม่ที่เลวมาก   :z6:

ไปตรวจดีเอ็นเอเลย ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวไปเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-06-2017 20:51:50
ขอให้กาลิคได้อยู่กับภาพและขม :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 09-06-2017 20:52:23
โอลิเสัยคือแม่ที่แย่มากจริงๆ ทำผิดไม่ยอมรับผิด
ทำตัวเหลวแหลกทำร้ายจิตใจกาลิค ปล่อยลูกให้ขมกับภาพเถอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 09-06-2017 20:54:01
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-06-2017 21:28:33
โอลิเวีย เป็นแม่ที่แย่มากกกกกกกกก อย่างขมว่าจริงๆ
แย่ในการเลี้ยงดู วิธีการเลี้ยงลูก การลงโทษลูก
น่าสงสารกาลิคที่มีแม่แบบนี้ แล้วทั้งเสพยาอีก
ถึงว่า.....ขนาดแม่ตัวเองยังทนไม่ได้ไล่ลูกตัวเองออกจากบ้าน
เอากาลิคมาทิ้งให้ภาพ ให้ขม โดยไม่รู้ที่มาที่ไป
นี่ถ้าแฟนใหม่ไม่ยอมรับเรื่องลูก ก็คงทิ้งกาลิคไว้ที่นี่ไปเลย
มิน่ากาลิค ถึงติดขม เพราะขมให้ความรัก ความอาทรจากใจจริง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-06-2017 22:07:50
ตายๆ บอกคุณปู่คุณย่าจัดการด่วนนน!! อย่าให้ชะนีผีบ้าเอาไปนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 09-06-2017 22:15:18
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ปวดใจกับขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 09-06-2017 22:21:13
สงสารกาลิตมากกพุดเลยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-06-2017 22:35:22
โอ้ยยยยย ปวดตับกับคนแบบโอลิเวีย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 09-06-2017 22:38:31
โอลิเวีย อิผู้หญิงส่ำส่อน ความเห็นแก่ตัวสูงไปแล้ว ที่จะเอากาลิคกลับไป คงเพราะจะเอาใจผัวใหม่สินะ ชั้นไม่เชื่อเธอหรอกว่าเธอจะดูแลกาลิคได้ ผู้หญิงอย่างเธอมีดีแค่ อ้าขาให้ผู้ชายแค่นั้นแหละ ไม่ได้มีจิตสำนึกอะไรเลย น่าสงสารกาลิคที่ต้องอยู่กับคนแบบนี้!!!  :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 09-06-2017 22:42:15
สงสารกาลิคคคค อิแม่แมร่งเลววว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-06-2017 22:58:29
 :sad4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 09-06-2017 23:23:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 09-06-2017 23:48:33
ปู่ย่าออกโรงช่วยกาลิคด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 09-06-2017 23:51:33
โอยยย หน่วง สงสารใครดี ขอให้โอลิเวียกลับใจให้กาลิคอยู่กะภาพและขมเหอะ สงสารเด็ก :m15:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 10-06-2017 01:27:59
แค่มองแต่ตัวเอง....ไม่ได้มอฃคนอื่นเลยซักนิด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 10-06-2017 01:29:27
มีความสุขยังไม่พ้นวันเลย ความเศร้ามาเยือนซะงั้น

สงสารทุกคนเลย ยกเว้นแม่กาลิค

ขนาดตอนนอนยังร้องหา ไม่ต้องบอกเลยว่า ขมอยู่ในใจแค่ไหน
ขมน่าสงสาร ภาพก็ไม่ต่างกัน ผู้หญิงคนนั้นคิดถูกที่คิดว่าขมจะดูแล แต่ผิดตั้งแต่เกิดแล้วดูแลไม่เป็น

กาลิคเด็กน้อยของอาขมอาภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 10-06-2017 01:38:35
กาลิคเอ๊ยยยยย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-06-2017 08:06:51
จะได้ตรวจ DNA ไหมนะ อยากรู้ว่าใช่ลูกของภาพไหม
แต่น่าจะหาทางให้นังแม่เซ็นยกลูกให้นะ ปรึกษาพ่อกับทนายด่วน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 10-06-2017 09:04:32
 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 10-06-2017 09:15:39
 :sad11: :sad11:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 10-06-2017 10:10:02
 :hao5: :hao5: :hao5:
 ขอให้ภาพเป็นพ่อกาลิคจริงๆเถอะนะ
 :pig4: :L2: คนแต่งค่ะ
 
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 10-06-2017 10:17:07
นังชะนี!! อยากจะจับมาตบๆๆๆๆ โมโหมาก ค้างมากด้วย  :fire:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 10-06-2017 11:16:28
อย่าไปยอออม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 10-06-2017 11:34:14
แม่ขมสู้ๆนะครับ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 10-06-2017 13:27:08
สงสารน้องขม น้ำตาแตกเลยตอนอ่าน
พี่ภาพอย่ายอมให้แม่ชุ่ยๆแบบโอลิเวียร์เอากาลิคไปนคไปนะ
ตรวจดีเอ็นเอเลย สู้ๆนะแม่ขมพ่อภาพ สู้เพื่อกาลิคเนอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 10-06-2017 21:19:43
นาทนี้ขอให้ภาพเป็นพ่อกวงาลิคทีเถอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 10-06-2017 21:36:55
ยิ่งอ่านยิ่งปวดหัว ไหนว่าไม่ดราม่าไง คนเขียนคิดอะไร  :m16:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-06-2017 22:27:19
จุกอ่ะ สงสารกาลิค โอลิเวียไม่มีความเป็นแม่เลยมีแต่ความเห็นแก่ตัวเอง ไม่เคยคิดถึงใจของกาลิคเลย อย่ายอมให้มันพากาลิคกลับไปนะภาพ ขม :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 10-06-2017 22:39:00
ต้องเป็นลูกภาพอยู่แล้ว ชัวร์
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 11-06-2017 00:52:40
แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่อยากให้กาลิคต้องไปเลยจริง ๆ
อยากให้อยู่เป็นครอบครัวแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 11-06-2017 20:49:27
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 35

“ โอลิเวีย " ผมเรียกเธอก่อนจะลุกขึ้นยืนตาม เอื้อมมือไปจับมือของเธอที่มองมาด้วยความรู้สึกที่กำลังโกรธแบบสุดขีด ผมเอ่ยบอกเธอ  " ถ้าเธอจะเอากาลิคไปแล้วคิดว่าสักวันเธอจะต้องทิ้งกาลิคอีก ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันขอร้องละ อย่าเอาเค้าไปเลยนะ ให้เค้าได้อยู่กับเราที่นี่เถอะ เราจะเลี้ยงดูเค้าอย่างดี จะทำให้เค้ามีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กาลิคเพิ่งเคยไปเที่ยวทะเลครั้งแรกเองนะ มันเลยมีอีกหลายๆที่ ที่เราอยากจะไปด้วยกันอีก เพราะงั้นฉันขอร้องละ ถ้าเอาเค้าไปแล้ว เธอจะทิ้งเค้าอีกอย่างที่เธอเคยทำ ก็อย่าเอาเค้าไปเลยนะ ฉันขอร้องละโอลิเวีย ฉันขอร้อง อย่าเอาเค้าไปเลยนะ อย่าเอากาลิคไปจากเราเลย " 

“ เป็นบ้าอะไรกันไปหมด!! " เธอสะบัดมือผมออก " ไอแค่มาเอาลูกไอคืน! พวกยูก็แค่คืนกาลิคมา เท่านั้นก็จบแล้ว เงินที่ไอให้ไว้พวกยูก็เอาไปสิ ถือเป็นค่าเลี้ยงดูกาลิค ไอไม่ได้ส่งกาลิคมาแค่ตัวไอให้เงินมาด้วย ก็เหมือนมาฝากพวกยูเลี้ยงนั่นแหละ! แล้วทำไมพวกยูต้องมาพูดให้ไอดูแย่ด้วยละ ห๊ะ! ทำไมพวกยูต้องรั้งกาลิคไว้ด้วย! ทำไม!เกิดรักกาลิคขึ้นมาแล้วละสิ คงอยากจะได้เด็กคนนั้นละสิ เห๊อะ! นี่น่ะเหรอ ? คนที่บอกกับไอว่า ไอเห็นกาลิคเป็นแค่สิ่งของพวกยูเองก็ไม่ต่างกันหรอก พวกยูก็เห็นเด็กนั่นเป็นของสิ่งของเหมือนกัน! "

“ เราไม่เคยเห็นกาลิคเป็นสิ่งของ! " ภาพเถียงกลับ " เราเห็นกาลิคเป็นลูกเราคนนึงเป็นคนที่เราต้องดูแล แล้วที่เราต้องมายืนเถียงกับเธอแบบนี้ก็เพราะว่าเรารู้ดีไง ว่าถ้ากาลิคไปอยู่กับเธอ เค้าคงไม่มีความสุขแน่ๆ คนอย่างเธอไม่มีวันเลี้ยงเค้าให้มีความสุขได้หรอก เพราะเธอมันคิดถึงแต่ตัวเองไง "

“ ภาพ..ยูก็กล้านะ ว่าไอ้เห็นแก่ตัว งั้นคนไม่เห็นแก่ตัวแบบยูก็คงมีผลตรวจดีเอ็นเอสินะ ว่ากาลิคเป็นลูกของยู " โอลิเวียถามก่อนจะยิ้มให้เรา " ไหนละ เอาออกมาสิพวกยูไม่ใช่คนที่คิดถึงแต่ตัวเองแบบไอนี่ใช่มั้ย ไหนละ ขอหน่อยผลตรวจ " เธอแบมือออกมาตรงหน้าเรา แต่ผมกับภาพก็ได้แต่เงียบ " ไม่มีใช่มั้ยละ เพราะขนาดพวกยูสองคนเองยังไม่กล้าตรวจดีเอ็นเอเลย คงกลัวว่ากาลิคจะเป็นลูกตัวเอง กลัวว่าตัวเองต้องรับผิดชอบ ต้องแบกรับชีวิตของกาลิค ต้องทิ้งอนาคตที่ดีกลายเป็นพ่อหม้ายลูกติด พวกยูที่คิดแบบนั้นก็คือคนที่เห็นแก่ตัวไม่ใช่เหรอ แล้วยังมีหน้ามาว่าไออีกนะ ทุเรศสิ้นดี ถ้าวันนี้ไอไม่มาที่นี่ ไม่เล่าเรื่องพวกนั้นให้ฟัง ตอนนี้พวกยูก็คงยังไม่รู้หรอกว่ากาลิคเป็นลูกของใคร  แล้วก็นะ...ภาพ ยูที่เถียงไอขนาดนี้ถ้าเกิดว่ากาลิคไม่่ใช่ลูกของยูขึ้นมา ยูจะทำยังไงละ..เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ยูก็ไม่มีสิทธิจะมากักขังลูกของไอนะ ” หญิงสาวตรงหน้ายกยิ้มพลางจ้องมองร่างสูงข้างผมที่ก็ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ

“ ใครว่าไม่เคยคิด เราวางแผนไว้แล้วว่าจะไปตรวจ หลังจากที่กาลิคมาอยู่ที่นี่ได้ครบสามเดือน “

" ครบสามเดือน ? ทำไมต้องครบสามเดือน ? ไม่ใช่เพราะว่าพวกยูหวังว่า แม่ของกาลิคจะมารับกาลิคหรอกเหรอ " เธอหัวเราะออกมาก่อนจะส่ายหน้า " พวกยูน่ะ ก็แค่คนที่ไม่ได้อยากจะมีลูก มีภาระ แต่เพราะเด็กคนนั้น มันเข้ามาแล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยต้องเลี้ยงไปด้วยความจำใจไม่ใช่เหรอ แต่พออยู่ด้วยกันไปนานๆพวกยูก็ผูกพันกับกาลิคก็เลยไม่อยากจะให้กาลิคไปไหน ถ้าให้ไอเดาแรกๆ พวกยูเองก็คงพยายามตามหาตัวไอสินะ ว่าไอเป็นใครแล้วก็อยากจะให้มารับกาลิคเร็วๆ " โอลิเวียเงียบไปเธอมองหน้าเราที่กำลังนิ่งมองเธอ " พวกยูก็ไม่ได้ต่างกับไอหรอก พวกยูไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่พวกยูคิด และกำลังด่าไออยู่หรอก "

“ แล้วมันจะแปลกอะไรวะ ถ้าเราคิดแบบนั้น อยู่ๆก็มีเด็กโผล่มาบอกว่าเป็นลูก เธอจะให้เรายิ้มรับมีความสุขตั้งแต่วันแรกที่เรารู้เหรอ เธอคิดว่าการได้รับเด็กสักคนมาเลี้ยง มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ เรายังเรียนหนังสืออยู่ พ่อแม่เราละเราจะบอกเค้ายังไง แล้วเราจะเลี้ยงเค้ายังไง นี่เกิดอะไร เราไปทำใครท้อง เธอคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องคิดอะไรพวกนั้นเลยเหรอ ได้เด็กมาก็เลี้ยงเลยอย่างงั้นเหรอ ? โอลิเวีย นี่ชีวิตจริงนะ ไม่ใช่ซี่รีส์โลกสวยที่เธอคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอไม่ได้ผิดอะไร เธอที่กำลังป้ายความผิดของเธอมาให้คนอื่น ทั้งๆที่ความจริงเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเธอบอกภาพหรืออเล็กซ์สักคำ ว่าเธอท้อง เธอปกปิดความผิดของเธอ คิดแค่ให้เรื่องมันจบพ้นไปวันๆ ไม่ได้คิดถึงจิตใจของกาลิค คิดถึงแต่ตัวเอง "

" คือไม่ว่ายังไง ไอต้องเป็นคนผิดสินะ เพราะเรื่องทุกอย่างมันเริ่มต้นมาจากไอ โอเค ไอผิดก็ได้ แต่ไม่ว่ายังไง ไอก็ต้องพากาลิคกลับไป ไอมีสิทธิในความเป็นแม่ของเด็กคนนั้น!  "

“ แต่ภาพมันก็มีสิทธิในความเป็นพ่อนะ "

“ แล้วทำไมพวกยูต้องมาพูดขัดขวางไออยู่เรื่อยเลยนะ! ยังไงซะ ไอก็จะเอากาลิคกลับไปกับไอให้ได้ พวกยูก็แค่ให้กาลิคมากับไอมันยากนักเหรอ แล้วภาพ ยูเองก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมไง ทุกอย่างมันไม่โอเคเหรอไง ทำไมต้องคิดให้มันวุ่นวายด้วย "

" ฉันเป็นห่วงกาลิค ฉันไม่ไว้ใจเธอ " ภาพบอก อีกคนก็ถอนหายใจ

" งั้นไอก็เป็นห่วงกาลิคเหมือนกัน ในอนาคต ถ้ายูไปมีคนรักใหม่แล้วกาลิคจะทำยังไง กาลิคอาจจะเข้ากับแม่เลี้ยงไม่ได้ก็ได้ แล้วพอยูมีลูกใหม่ ยูก็ต้องรักลูกที่เกิดมาจากคนที่ยูรัก มากกว่ากาลิคอยู่แล้ว แบบนั้นไอก็ห่วงกาลิคเหมือนกันอะ ไอไม่ยอมให้กาลิคอยู่ที่นี่หรอก "

“ ถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันไม่ได้คิดที่จะมีลูกใหม่อยู่แล้ว อีกอย่างเมียฉันท้องไม่ได้ด้วย " คำพูดของร่างสูงชวนให้โอลิเวียขมวดคิ้วงงกับสิ่งที่เธอได้ยิน ปากที่กำลังจะเถียงตอบ แต่ผมก็ขัดขึ้นมาก่อน ไม่อยากจะให้ออกนอกเรื่อง

“ แล้วทำไมเธอถึงอยากจะเอากาลิคกลับไปนักละ เธอบอกว่า เธอมีครอบครัวใหม่แล้ว แบบนั้นมันจะไม่ดีกว่าเหรอถ้าเธอ จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปเลย อยู่กับคนรัก แล้วก็มีลูกกับคนที่เธอรัก จะเอากาลิคกลับไปอีกทำไม "

“ มันก็เป็นเหตุผลง่ายๆ ไม่ใช่เหรอ ก็เพราะกาลิคเป็นลูกชายฉันไง " เธอบอก แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันจะไม่ใช่อย่างงั้นเลยสักนิด โอลิเวียไม่ใช่คนที่รักกาลิคขนาดนั้น ทั้งเห้นแก่ตัว คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่รู้แม้กระทั้งการเลี้ยงเด้ก แล้วการที่มารับกาลิคไปแบบนี้ ก็ไม่ใช่ว่าทำเพราะรักหรอก แต่เหมือนมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ต้องทำไปเพื่อตัวเองมากกว่า

“ ช่วยบอกความจริงได้มั้ย " ผมพยายามถามเธออย่างใจเย็นแต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ใช่คนที่พูดดีๆด้วยแล้วจะเข้าใจ

“ แล้วมันต้องมีความจริงอะไรอีกละ  กาลิคเป็นลูกฉัน!  ฉันก็เลยจะมาเอาลูกชายฉันคืน! "

“ แต่ก่อนหน้านี้ เธอยังพูดอยู่ตลอดเลยนิว่า ยังไงก็ต้องพากลับไปเพราะบอกคนรักของเธอไว้แล้ว ทำไมเหรอ ? ทำไมต้องทำตามที่คนรักของเธอพูดขนาดนั้น เพราะคนรักของเธออยากจะเห็นกาลิคเหรอ เค้าอยากจะเห็นเด็กที่เป็นลูกของเธอกับผู้ชายคนอื่นจริงๆเหรอ หรือว่าเธอเคยเอาภาพกาลิคให้เค้าดู แล้วเธออธิบายเค้ายังไงเค้าถึงยอมรักกาลิคละ " ผมถามด้วยใจที่ร้อนรน ผมอยากได้คำตอบที่ผมสงสัย ผมอยากมั่นใจว่ากาลิคจะมีความสุขแน่นอนถ้าต้องไปอยู่กับครอบครัวใหม่  " เธอบอกเหตุผลมาสิ ว่าทำไม บอกมาก่อน ว่าเค้าจะรักกาลิคมั้ย จะดูแลกาลิคอย่างดีรึเปล่า แล้วถ้ามีลูกใหม่ จะรักเค้าเหมือนเดิมมั้ย จะไม่รักลูกใหม่มากกว่าเค้าใช่มั้ย จะรักพวกเค้าเท่าๆกันใช่มั้ย "

“ ขม..ยูเป็นอะไรอะ ทำไมต้องถามคำถามไร้สาระแบบนั้นด้วย ยูไม่ใช่พ่อของเด็กด้วยซ้ำ! แต่ยูกลับดูร้อนรนยิ่งกว่าซะภาพอีก " โอลิเวียถามผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ ทำไมน่ะเหรอ ? ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกับเด็กคนนั้น แต่ทำไมตัวฉันถึงต้องวุ่นวายกับเรื่องนี้นักน่ะเหรอ ? ก็เพราะรักไง ไม่มีคำตอบอื่นหรอก ฉันรักเด็กผู้ชายคนนั้นโอลิเวีย รักอ้อมกอดเล็กๆของเค้าที่ชอบกอดฉันเอาไว้แน่นๆ  รักเสียงใสๆที่บอกว่า รักและคิดถึงฉันมากแค่ไหนตอนที่ไปรับเค้าที่โรงเรียน รักหน้าตาแล้วก็รอยยิ้มตอนที่ได้กินไก่ทอดที่เค้าชอบ รักเจ้าของน้ำตาหยดใสๆที่มักงอแงในเรื่องที่น่าปวดหัวตลอดเลย ฉันรักคนที่เอาแต่ร้องไห้คิดถึงฉันตอนที่ฉันไม่อยู่ รักคนที่พอตื่นเช้าขึ้นมาก็จะกอดฉันเป็นคนแรก บอกว่ารักฉันคนแรก ยิ้มให้ฉันเป็นคนแรก ฉันรักทุกอย่างที่เป็นเค้า รักทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวของเรา แม้จะเหนื่อยที่ต้องตื่นเช้า เหนื่อยที่ต้องทำดูแลใครสักคน แต่ฉันก็รักมันมากจนกลายเป็นคนที่มีความสุขกับความเหนื่อยพวกนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรอื่นอีกแล้ว ฉันมีเหตุผลเดียว นั่นคือเพราะรักเค้ามาก ฉันรักเด็กคนนั้นมาก มากจริงๆ  " ผมก้มหน้าร้องไห้ออกมาตอนที่คิดถึงทุกอย่างที่บอกเธอออกไป

 " เมื่อวานเราไปเที่ยวด้วยกัน กาลิคบอกว่าเค้าชอบทะเลที่มีฉันอยู่ด้วยมากที่สุด แล้วฉันก็บอกเค้าว่าฉันเองก็ชอบทะเลที่มีเค้ามากเหมือนกัน แล้วเด็กคนนั้นก็ถามฉันว่า ฉันรักเค้ามั้ย ตอนนั้นเรายิ้มให้กัน มันเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขมากๆ ฉันบอกว่าฉันรักเค้า อาขมรักหัวหอมนะ รักมากที่สุดเลย เรากอดกัน ในตอนนั้นฉันกอดเค้าไว้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าฉันควรเค้าไว้ให้แน่นมากกว่านั้น แล้วบอกว่ารักเค้าให้มากกว่านี้ บอกกับเค้ามีฉันมีความสุขแค่ไหนที่เค้ามาอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆฉัน ฉันน่าจะหอมแก้มเค้าอึก หรือทำอะไรก็ได้ ที่ทำให้เค้ามีความสุข ฮือๆ ฉันอยากจะให้เด็กคนนั้นยิ้ม และไม่อยากให้เค้าต้องเสียใจอีกแล้ว  เพราะฉะนั้นฉันขอร้องเธอละ โอลิเวีย .. ถ้าเธอหรือว่าคนรักของเธอ รักกาลิคไม่ได้อย่างที่ฉันรักแล้วละก็ ได้โปรดอย่าพรากเค้าไปจากเราเลยนะ ได้โปรดให้เค้าได้อยู่กับฉันเถอะ ให้เค้าเป็นลูกภาพ แล้วฉันสัญญาว่าฉันจะดูแลเค้าให้ดีที่สุด อึก..จะรักเค้าให้มากๆ  ถ้าเธอเอากาลิคไปแล้วคิดว่าอาจจะทำให้เค้าเสียใจ ร้องไห้ หรืออาจจะทิ้งเค้าอีก ก็อย่าพาเค้าไปเลยนะ ให้เค้าได้อยู่ฉันเถอะ ถือว่าฉันขอร้องละนะ ได้โปรดเถอะ ขอร้องละ ฉันขอร้องเธอจริงๆ อึก อย่าพากาลิคไปเลย อึก อย่าพาเค้าไปเลยนะ ฮือๆ "

" ขม .. " ภาพเดินเข้ามาใกล้มันที่โอบไหล่ผมไว้แน่นก่อนจะดึงเข้าไปกอดไว้ " มึง อย่าร้องไห้ "

" ได้โปรดเถอะ อย่าเอากาลิคไปจากฉันเลย ฉันขอร้อง อึก ฮือๆ "

" พวกยูมันบ้า! บ้าที่สุด บ้า! “ โอลิเวียส่ายหน้าไปมาเธอเดินออกไปที่ประตูห้อง ก่อนจะหันมาบอก " วันนี้ไอจะกลับไปก่อน เพราะดูท่าทางไม่ว่ายังไงพวกยูก็คงไม่ยอม แต่ไม่ว่ายังไง จำไว้! ยังไงซะกาลิคก็ต้องกลับไปกับไอ ต่อให้พวกยูร้องไห้ หรือขอร้องยังไง  ไอก็จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ แล้วคอยดู! ไอเป็นแม่ ต่อให้พวกยูขัดขวางยังไง กาลิคก็ต้องเลือกไอ เพราะไอเป็นแม่ของเค้า! และไอจะทำทุกวิถีทางให้ได้เด็กคนนั้นกลับไป !  "

   โครม! เสียงปิดประตูด้วยอารมณ์ดังลั่นจนเราทั้งคู่สะดุ้ง ผมดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของร่างสูง ผ่อนตัวลงนั่งที่โซฟาถอนหายใจออกมาก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองไว้ น้ำตาที่ไหลไม่หยุดตอนนี้เพราะสมองเอาแต่คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาตลอดตั้งแต่ที่หัวหอมเข้ามาอยู่ที่นี่  มือเล็กๆที่ชอบเอื้อมมือมาจับมือผมไว้ มันที่ชอบขอให้อุ้ม รอยยิ้มน่ารัก ท่าทางการกินที่มีความสุข หรือแม้แต่เสียงออดอ้อน ทุกอย่างเหล่านั้น ผมคิดถึงและไม่อยากจะเสียไปเลย

“ ภาพ เราจะทำยังไงดีวะ " หันไปมองอีกคนที่นั่งลงข้างๆก่อนจะเอื้อมมือมากอดไหล่ผมไว้ มันลูบปลอบๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา " กูไม่อยากจะให้หัวหอมไปกับมันเลย มึงก็ดูรู้ใช่มั้ย ว่ามันก็เหมือนคนเห่อของเล่นใหม่น่ั่นแหละ ท่าทางดูสนุกสนานไร้ความรับผิดชอบแบบนั้น ต่อไปถ้ามีลูกกับผัวใหม่ขึ้นมา ไอ้หัวหอมคงกลายเป็นหมาหัวเน่าแน่นอน "

   ผมคิดถึงสภาพเด็กที่ถูกทำร้ายจากพ่อเลี้ยง คิดถึงข่่าวที่เคยเห็นตามทีวีที่แม่แท้ๆของตัวเองเข้าข้างพ่อเลี้ยงรวมหัวกันทำร้ายเด็ก ข่าวพวกนั้นที่เข้ามาในหัวของผมต่อเนื่องราวกับภาพหลอน ทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อเลี้ยงมันเป็นคนยังไง อาจจะเป็นคนดีแบบที่โอลิเวียบอก แต่ผมก็ทำใจเชื่อแม่ใจร้ายที่ทิ้งลูกแท้ของตัวเองไปเอาผู้ชายคนใหม่ไม่ได้จริงๆ เธอดูหลง จนไม่ต้องหวังเลยว่าเธอจะรักหรือปกป้องกาลิคถ้าเกิดว่ามันทำอะไรผิด แล้วโดนผู้ชายคนนั้นทำร้ายขึ้นมา หนำซ้ำคงจะช่วยกันรุมตบตีด้วยซ้ำไป

“ กูจะพากาลิคไปตรวจดีเอ็นเอนะ เราจะย้ายไปอยู่บ้านพ่อแม่กูในระหว่างที่รอผลตรวจว่ามันเป็นลูกกูจริงๆรึเปล่า "

“ แล้วถ้าระหว่างนี้ โอลิเวียไปแจ้งตำรวจละ ถ้าผลตรวจออกมาว่าไม่ใช่ลูกมึง มึงจะมีความผิดโทษฐานกักขังเด็กนะ "

“ ไม่ต้องถ้าหรอก มันคงไปแจ้งตำรวจแน่ๆนั่นแหละ " ใบหน้าคมคมมองลงต่ำด้วยสายตาที่ทั้งเครียดและกังวล

“ แล้วแบบนั้นมึงจะทำยังไง จะเสี่ยงเหรอ "

“ ใช่! ก็มันเป็นทางเดียวที่ทำได้แล้วในตอนนี้ " ภาพบอก " เพราะถ้ากาลิคเป็นลูกกู กูไม่กลัวหรอก กูมีหลักฐานงัดกับมันอยู่แล้ว อีกอย่างพ่อแม่กูก็คงไม่ยอมแน่นอน ยังไงเค้าก็ต้องหาทนายฝีมือดีๆมาให้สู้คดีนั่นแหละ แต่กูไม่คิดว่าคนอย่างโอลิเวียจะยอมเข้ามาอยู่ในวังวนที่มันวุ่นวายเพราะกาลิคหรอก มันคงอยากจะนอนกกผัวมันมากกว่า แต่แค่ตอนนี้ที่มันอยากจะเอากาลิคกลับไปจนตัวสั่น คงเพราะกาลิคอาจจะเป็นตัวยืนยันคำพูดของมันที่โกหกกับผัวมันไว้ก็ได้ เพราะกูไม่คิดหรอกว่ามัน จะยอมรับกับผัวตัวเองจริงๆ ว่า กาลิคเป็นลูก "

“ หมายความว่าไงวะ "

“ ถ้ามันรักกาลิคจริงๆ ก่อนอื่นก็คงต้องบอก คนรักใหม่ไปตั้งแต่แรกว่ามีลูกติดอยู่แล้ว แต่นี่ตั้งใจจะไม่บอก กูถามจริงๆเถอะ ถ้ามึงมีแฟน รักกันมาดีๆ อยู่ๆแฟนมาบอกว่า มีลูกติดมึงจะช็อคมั้ย "

“ ก็คงช็อค แล้วก็โกรธมากๆด้วยว่าทำไมถึงเพิ่งมาบอกตอนนี้ แต่ถ้าถามว่าโกรธแล้วจะเลิกมั้ย มันก็ต้องดูก่อนว่ารักมากแค่ไหน แล้วก็ต้องดูด้วยว่า มีเหตุผลอะไรที่หลอกกัน "

“ แล้วถ้าบอกว่าเป็นหลานละ พ่อแม่เค้าตายหมด ไม่มีคนเลี้ยงเลยจะเอามาเลี้ยง "

“ ก็คงไม่โกรธ ถ้ากูมีเงินกูก็คงโอเค.. " ผมหันไปมองร่างสูงหันมามองผม " มึงกำลังจะบอกว่า โอลิเวียอาจจะโกหกสามีว่า กาลิคเป็นแค่หลานเหรอ " 

“ อื้ม แต่มันก็เป็นแค่การเดาสุ่มของกูนะ " ภาพบอก "  โอลิเวียดูรักผู้ชายคนนั้นมาก คำพูดเวลาที่มันพูดถึงเค้า ทำให้กูรู้สึกแบบนั้นแล้วคนที่เรารักมากเราก็คงไม่อยากจะทำให้เค้าผิดหวังหรอกจริงมั้ยละ  แบบนั้นมันจะกล้าบอกเรื่องกาลิคเหรอวะ ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้ เรื่องที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นเสียใจ มันไม่มีทางกล้าบอกหรอก "

“ ก็จริงของมึงนะ " ผ่อนลมหายใจหนักใจออกมาอีกครั้ง ยิ่งพูดก็ยิ่งชวนให้หนักใจ

" ตอนนี้กูอยากให้ผลตรวจดีเอ็นเอออกมา แล้วบอกว่ากาลิคเป็นลูกของกู เพราะถ้ามันเป็นลูกกู ทุกอย่างจะง่ายขึ้น กูมีสิทธิในการเลี้ยงดูมันเหมือนกัน แต่ถ้าผลมันออกมาว่าไม่ใช่ นั่นก็คงยากมากๆที่จะทำให้มันอยู่กับเรา " มือหนากุมเข้าหากันมันบีบมือตัวเองแน่น ภาพเองก็คงเครียดไม่ต่างจากผมหรอก แต่มันแค่ไม่ใช่คนที่ร้องไห้ออกมาง่ายๆแบบที่ผมทำก็เท่านั้น " ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้วะ น่าตลกนะมึงว่ามั้ย "

" หื้ม ? ยังไง "

“ ก็ตลกตรงที่ว่า ตอนที่เราเจอกาลิคครั้งแรกทั้งกู ทั้งมึงก็เอาแต่นั่งเถียงกันว่า มันเป็นลูกใคร กูที่เคยเถียงหัวชนฝาว่ามันไม่ใช่ลูก แถมยังเอามันไปทิ้งไม่ใยดี แต่ตอนนี้กูคงนั้น กลับมานั่งอ้อนวอนขอให้ผลตรวจออกมาว่า กาลิคเป็นลูกของกู  "

“ งั้นกูก็ตลกตัวเองเหมือนกัน " ผมเอ่ยบอก " ทั้งๆที่มันไม่ใช่ลูกกู แต่กูกลับเป็นห่วงมันเหมือนมันเป็นลูกของกู กูร้องไห้ คร่ำครวญ ทั้งๆที่กูควรสบายใจที่มันไม่ใช่ลูกกูแท้ๆ แต่ตอนนี้กูกลับคิดว่า ให้มันเป็นลูกกูยังดีซะกว่า กูจะได้ช่วยอะไรมันได้ "

“ เพราะอะไรกันวะ "

“ เพราะตอนที่เราอยู่ด้วยกัน มันมีความสุขมากๆเลยละมั้ง เราก็เลยไม่อยากจะเสียมันไป " หันไปยิ้มจางๆให้มัน ไอ้ภาพที่หันมองผม  มันเหมือนมีอะไรสักอย่างจะบอกแต่ยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรออกมา เสียงเปิดประตูห้องนอนก็ดังขึ้นมาก่อน

    แกร๊ก..

   เราหันไปมองที่ประตูพร้อมกัน ไอ้ตัวเล็กที่เพิ่งตื่นขยี้ตาตัวเองไปมาพร้อมกับลากตุ๊กตาหมีตัวโปรดของมันเดินเข้ามาหาผม แทรกตัวเข้ามายืนที่ระหว่างขามันเอียงซบลงที่อก

“ อาขม กาลิคตื่นแล้ว "

“ ตื่นแล้วเหรอ " ผมก้มลงถามมันก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวมันเบาๆ หอมแก้มใสๆไปเต็มฟอด อีกคนก็ยิ้มหวาน

“ อาขม อาขมรู้มั้ย ตอนที่กาลิคหลับอยู่น่ะนะ กาลิคเห็นหม่ามี๊ด้วยแหละ "  ทุกอย่างเงียบ สีหน้าที่กำลังยิ้มของผมเปลี่ยนไปทันที " กาลิคเห็นหม่ามี๊มาอุ้มกาลิค "

“ ฝันรึเปล่า " ภาพหันมาบอกมัน เอียงคนก็เอียงหน้างง “ ฝันน่ะ คือเรื่องที่ไม่จริง มันจะเกิดขึ้นตอนเราหลับเท่านั้น "

“ จริงเหรออออ อาขม งั้นหม่ามี๊ก็ไม่ได้มาหากาลิคจริงๆน่ะสิ "

“ แล้วถ้าหม่ามี๊มา กาลิคจะดีใจมั้ย คิดถึงหม่ามี๊รึเปล่า " ไม่ได้ตอบคำถามมัน แต่กลับเลือกที่จะถามคำถามอื่นแทน  หัวหอมยิ้มมันเอื้อมมือมากอดคอผมไว้

“ ก็..คิดถึงนะ "

“ เหรอ แล้วหม่ามี๊น่ะ เป็นคนยังไงเหรอ ใจดีมั้ย " ผมถามต่ออีกคนก็เงยหน้าทำท่าคิด

“ หม่ามี๊ไม่ใจดี หม่ามี๊ดุนะ หม่ามี๊จะตีแบบนี้ๆ แล้วก็เขย่าแบบนี้ด้วย " หัวหอมเอื้อมมือมาตีผมเหมือนเวลาที่แม่มันตีมัน ก่อนมือเล็กๆนั่นจะกำเสื้อของผมแล้วโยกไปมา  เหมือนกำลังทำให้ดูว่าตอนโดนเขย่าเป็นยังไง " แล้วหม่ามี๊ก็จะพูดว่า กาลิคซน ซนเหรอ นี่แหน่ะ นี่แหน่ะ อย่าซนนะ อย่าซนนะ แต่ว่า กาลิคก็ไม่ได้ซนนะอาขม " มันโบกมือไปมาปฎิเสธกับผมที่ก็พยักหน้ารับ

" อาขมรู้ ว่ากาลิคไม่ได้ซนหรอก "

" ตอนนั้นนะ กาลิคหิว แต่ไม่มีอะไรกินเลย หม่ามี๊ก็มีนมอยู่ แต่นมมันหนักมากเลย กาลิคก็เลยทำหก แล้วหม่ามี๊ก็โกรธใหญ่เลย หม่ามี๊ตีกาลิค ตีแรงๆเลย ตีตรงนี้ แล้วก็ตีตรงนี้ " จับแขนตัวเองแล้วก็ขาตัวเอง บอกเล่าเรื่องราวเจ็บปวดพวกนั้นให้ผมฟัง

“ แบบนั้นไม่ดีเลยนะ แค่จะกินนมเองก็หัวหอมยังเด็กไม่แปลกหรอกที่จะยกแล้วมันหกน่ะ " ลูบหัวมันปลอบๆ ผมยิ้ม " ลืมมันซะเถอะนะ ถ้าคิดแล้วเจ็บปวดก็อย่าไปจำมันเลย จำเรื่องที่มีความสุขดีกว่า "

“ แล้วก็นะอาขม หม่ามี๊น่ะ จะไม่ให้กาลิคเรียกหม่ามี๊ว่า หม่ามี๊เวลาที่ออกไปข้างนอกนะ หม่ามี๊บอกว่าให้เรียกว่าโอลิเวียเฉยๆ ถ้าเกิดว่ากาลิคเรียก หม่ามี๊ก็จะโกรธแล้วตีแรงๆเลย หม่ามี๊บอกว่า ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าหม่ามี๊เป็นหม่ามี๊ของกาลิค หม่ามี๊บอกว่า มันน่าอายแหละ "

“ เหรอ " ผมกัดฟันกลั้นน้ำตาที่กำลังไหลออกมา ฝืนพยักหน้ารับอีกคนไป อุ้มเจ้าตัวเล็กที่กำลังยืนอยู่ระหว่างขาขึ้นมานั่งบนตัก ผมที่กอดมันไว้ ใบหน้าน่ารักนั่นก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ แล้วอาขมคิดว่า มันน่าอายมั้ย น่าอายรึเปล่าที่มีกาลิคอยู่ตรงนี้ "

“ ไม่นิ ไม่เลย " ผมส่ายหน้าไปมา แล้วน้ำตานั่น..ในที่สุดก็ไหลออกมา ผมไม่รู้จะตอบอะไรเป็นครั้งแรกที่เอาแต่กอดมันไว้แน่นแล้วร้องไห้อยู่แบบนี้ ผมสงสารมัน สงสารมันจนพูดอะไรไม่ออก ทั้งๆที่ตลอดมาไม่ได้เป็นที่ต้องการแต่มันก็ยังรักผู้หญิงคนนั้น ยังบอกว่าคิดถึงผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆที่โดนรังเกียจแบบนั้น แต่มันก็ยังยิ้มตอนที่พูดถึงเค้าด้วยความใจดี หัวใจที่บริสุทธิ์ของมัน ไม่ได้คิดอะไรที่ซับซ้อนเหมือนเรา เด็กคนนี้ คิดแค่ว่า เธอคนนั้นเป็นแม่ แม่ที่ต้องรักมัน อย่างที่แม่ของคนอื่นๆเป็น

“ อาขม อาขมกอดกาลิคแน่นเลย “

" เพราะว่าอาขมรักหัวหอมมากๆเลย " ผมบอกก่อนจะยิ้มให้มัน " อาขมไม่อายหรอกนะ อาขมมีความสุขมากซะอีก ที่มีหัวหอมอยู่ตรงนี้ ไม่เคยอายเลย ไม่เคย "

“ อาขม กาลิครักอาขมมากที่สุดเหมือนกันนะ รักเท่านี้เลยยยย " สองมือเล็กกางออกกว้างบอกปริมานความรักที่มีให้ผม ก่อนจะดึงตัวเองเข้ามากอดผมไว้แน่น ใบหน้าน่ารักที่ซบลงบนไหล่ ผมเองก็ก็ได้แต่ซบลงบนไหล่ของมันเช่นกัน

“ อาขมก็รักหัวหอมมากที่สุดเหมือนกัน " น้ำตาของผมไหลออกมาอีกครั้ง ทั้งๆที่พยายามจะไม่ร้องไห้ให้มันเห็นแต่สุดท้ายก็ต้องร้องไห้ออกมาอยู่ดี พอคิดว่ามันต้องไปอยู่กับแม่มัน แม่มันที่ยังไม่อยากจะให้มันเรียกว่าแม่ต่อหน้าคนอื่น แม่มันที่คอยแต่ตีมันเวลามันซน แล้วมันที่ต้องเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำแบบนั้น

“ อาขม อาขมร้องไห้ทำไม " เด็กน้อยผละตัวออกห่างผมก่อนจะเอียงหน้าถาม " ไม่เอาไม่ร้องไห้นะ โอ๋ๆ โอ๋นะ " มือที่เอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้ผม แต่น้ำตานั่นก็ไม่หยุดไหลออกมาเลย ตอนนี้ผมที่กำลังร้องไห้อยู่มันเป็นคนปลอบผมแล้วเช็ดน้ำตาให้ แล้วถ้ามันกลับไปอยู่กับแม่มันละใครจะเป็นคนเช็ดน้ำตาให้มัน ใครจะเป็นคนปลอบมัน เค้าจะเล่านิทานให้มันฟังมั้ย จะคอยตอบคำถามเรื่องที่มันสงสัยได้รึเปล่า จะพาไปเที่ยวในที่สวยๆ จะคอยเล่นกับมันอย่างที่ผมทำมั้ย แล้วหัวหอมจะมีความสุขรึเปล่า " อาขมอย่าร้องไห้ อาขมร้องไห้ทำไม "

" ขอโทษนะ อาขมแค่ดีใจน่ะ ที่หัวหอมบอกว่ารักอาขมที่สุด " ผมบอกก่อนจะสูดน้ำมูกเข้าไป " ร้องไห้เพราะดีใจมากๆเลย "

" ร้องไห้เพราะดีใจก็ได้เหรอ "

" ได้สิ " ผมบอก

" แล้วต้องรอโตรึเปล่า ถึงจะร้องไห้ตอนดีใจได้ "

" ตอนนี้ก็ทำได้แต่ว่าเด็กเค้าไม่ทำกันหรอก เวลาเด็กดีใจทำไงกันละ "

" จะเย้ๆ แบบนี้ " มันชูมือไปมาก่อนจะก้มลงกอดผมอีกครั้ง ผมที่ถอนหายใจออกมาแล้วกอดมันไว้แน่น

" หิวรึยัง " ไอ้ภาพหันมาถามเราด้วยสายตาแดงๆมันที่ก็คงร้องไห้ไม่ต่างอะไรจากผม หัวหอมพยักหน้ารับ

" กาลิค หิวแล้ว "

" งั้นไปกินข้าวที่บ้านคุณปู่คุณย่ากันนะ " ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนเจ้าตัวเล็กจะคว้ามือของร่างสูงแล้วจับไว้

" เราจะไปหาคุณปู่คุณย่ากันเหรอ อาภาพ "

" ใช่แล้ว อยากไปมั้ยละ "

" อยากกกก กาลิคอยากไปหาคุณปู่คุณย่า อยากไปกินของอร่อยๆด้วย เย้ๆ " เด็กน้อยดึงตัวเองออกจากตัวผม มันกระโดดไปมา ผมก็ลุกขึ้นยืน

" งั้นกูไปจัดชุดให้มันนะ " ผมบอกภาพ ก่อนจะเอ่ยถามมัน " แล้วเราจะให้มันไปโรงเรียนมั้ย กูจะได้จัดชุดถูก "

" ลองไปปรึกษาพ่อกับแม่กูก่อนแล้วกันว่าจะทำไง เอาไปสักชุดก็ได้ เผื่อมันต้องไป "

" อื้ม โอเค "

" อาภาพๆ เราจะไปนอนที่บ้านคุณปู่คุณย่ากันเหรอ "

" ใช่แล้ว " ภาพบอกก่อนจะย่อตัวลงหน้าเจ้าตัวเล็กที่ยิ้มกว้าง มือหนาเอื้อมมือไปจับมือของอีกคน มันยิ้ม " กาลิค กาลิครักอาภาพมั้ย "

" รัก ! " หัวหอมบอกก่อนจะดึงตัวเองเข้าไปกอดภาพ " กาลิครักอาภาพ "

" อาภาพก็รักกาลิคนะ " ภาพบอกก่อนจะดึงอีกคนมาเผชิญหน้า " เพราะงั้นอาภาพมีอะไรจะบอกกาลิคอย่างนึง "

“ อะไรเหรออาภาพ "

“ ถ้ากาลิคมีความสุขที่จะอยู่กับใคร ให้เลือกอยู่กับคนนั้นนะ ถ้าวันนึงหม่ามี๊มารับ กาลิคต้องคิดให้ดีนะว่าอยากจะอยู่กับใคร อยู่กับใครแล้วมีความสุข มีความสุขไปทุกๆวัน ถ้าอยากจะอยู่กับอาขมอาภาพก็อยู่ แต่ถ้าอยากจะอยู่กับหม่ามี๊ก็ไปอยู่กับหม่ามี๊นะ "

" แล้วทำไมต้องเลือกด้วยละ ไม่เลือกได้มั้ย " หัวหอมเอียงหน้าถาม ภาพก็ยิ้ม

" ไม่ได้หรอก ต้องเลือกนะ ขนาดเวลาไปซื้อขนมกับอาขม อาขมยังให้เลือกแค่กล่องเดียวเลยจริงมั้ยละ " ท่าทางที่ดูงงๆของไอ้ตัวเล็ก มันคงไม่เข้าใจหรอกว่าภาพต้องการจะสื่ออะไรถึงมัน อายุมันแค่นี้ ถ้ามันเจอแม่มันจริงๆ มันก็ต้องอยากจะกลับไปอยู่กับแม่มันอยู่แล้ว ไม่ว่าแม่มันจะเป็นยังไง สำหรับเด็กแม่ก็คือแม่  ยังไงก็รัก คิดถึง แล้วก็อยากจะอยู่ด้วยอยู่แล้ว

" หัวหอมมาช่วยอาขมจัดกระเป๋ากันดีกว่านะ "

" อื้ม ก็ได้ " เด็กน้อยขานรับ มันวิ่งเข้าไปในห้อง ผมก็หันไปบอกภาพ

" เราให้มันเลือกไม่ได้หรอกมึง มันตัวแค่นี้ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้หรอก มันต้องเราเท่านั้นที่จะต้องเป็นคนตัดสินใจ แล้วทำทุกอย่างเพื่อมันให้มันออกมาดีที่สุด "

................................................
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 34 - 9.6.60} #หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 11-06-2017 20:49:56

   จัดเสื้อผ้าของหัวหอมและของตัวเองเท่าที่จำเป็น เราขับรถตรงมาที่บ้านของภาพด้วยความรีบเร่ง จอดลงที่โรงจอดรถของบ้าน ก่อนหัวหอมที่กำลังร่าเริงถึงขีดสุดจะเปิดประตูรถออกไปด้วยความเร็ว มันวิ่งเข้าไปในบ้านก่อนจะเอ่ยเรียกทุกคนเสียงดัง ด้วยความร่าเริงอย่างที่ชอบทำ

“ คุณปู่ คุณย่า น้าแก้ว น้าขวัญ  กาลิคมาแล้ววววววว "

“ น้องกาลิค คิดถึงจังเลย ไหนให้น้าแก้วกอดหน่อยสิคะ "  เสียงของพี่แก้วดังออกมาจากในบ้าน เราที่เดินตามเข้าไปในตอนนั้น เสียงของแม่ไอ้ภาพก็ดังขึ้น

“ ไหนๆ กาลิคมาเหรอ ฉันได้ยินเสียงกาลิคนะ "

“ คุณย่า! “ มันหันไปทักอีกคนที่เดินออกมาจากห้องนั่งเล่น หัวหอมก็วิ่งเข้าไปกอดไว้ทันที " คุณย่ากาลิคมาหาครับ "

“ กาลิคคคค คิดถึงจังเลยลูก ไหนมาให้ย่าหอมหน่อย หอมๆ " เสียงหัวเราะคิกคักชอบใจที่โดนหอมแก้มไปเสียหลายฟอด ก่อนที่พ่อไอ้ภาพจะเดินตามออกมาแล้วดึงกาลิคไปกอดไปหอมเหมือนกัน

“ ไหนพวกแกบอกว่าจะไม่มาไง " พ่อเอ่ยทักเรา ที่ก็ส่งยิ้มแห้งๆไปให้ ท่าทางที่ดูแปลก ในตอนนั้นพ่อก็หันไปมองแม่ที่ก็มองเราด้วยความสงสัยเช่นกัน " พวกแกมีอะไรรึเปล่า "

“ ขอคุยด้วยหน่อยสิ " ภาพบอก " พี่แก้วพากาลิคออกไปเล่นที่อื่นก่อนได้มั้ย "

“ ได้ค่ะคุณภาพ " เธอว่าก่อนจะเดินเข้ามาอุ้มหัวหอมออกไป " น้องกาลิคไปเล่นขี่จักรยานกับน้าแก้วดีกว่านะ "

“ ครับผม งั้นเดี๋ยวกาลิคมานะ คุณปู่คุณย่า " เจ้าตัวเล็กที่ถูกดึงออกไป ภาพก็ถอนหายใจออกมา

“ เราเข้าไปคุยในห้องกันดีกว่า "

   ร่างสูงเดินนำเข้าไปในห้องนั่งเล่น พ่อของภาพเอื้อมมือไปปิดทีวีเป็นอย่างแรกก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวโปรดของเค้า ผมนั่งลงข้างๆภาพ แม่ที่เห็นเราเงียบอยู่นานก็ถามขึ้นมา

“ มีอะไรงั้นเหรอ ทำไมสีหน้าไม่ดีกันแบบนี้ละ "

“ เค้ามาแล้วนะ " ภาพบอก " แม่ของกาลิคน่ะ จะมารับตัวกาลิคกลับไปแล้วนะ "  คำพูดที่ทำให้ผู้ใหญ่สองคนตรงหน้าเบิกตาด้วยความตกใจ ท่านเหลือบมองกันเพียงครู่ก่อนที่แม่จะถามต่อออกมา

“ แล้วเค้าว่ายังไงบ้างละ ทางนั้นน่ะ ตกลงว่าเธอบอกรึเปล่าว่าลูกใคร ลูกภาพใช่มั้ย "

“ ใช่ เธอบอกว่า กาลิคมีสิทธิเป็นลูกภาพ "

“ อย่างงั้นเหรอ ม๊ากลับป๊าก็คิดไว้แบบนั้นตั้งแต่เห็นกาลิคครั้งแรกแล้วละ " แม่ยิ้ม " กาลิคอาจจะหน้าตาไม่ค่อยเหมือนภาพแต่ว่ามันก็มีมุมบางมุมที่เหมือนอยู่นะ แบบมุมที่ก้มหน้าลงเขินๆ ตอนนั้นที่เห็นครั้งแรกนั่นนะ เหมือนภาพหรืออเล็กซ์มากเลย เหมือนคนทางฝั่งบ้านเราน่ะ แต่ตอนนั้นแม่ก็ลังเลเหมือนกัน เพราะบางทีเค้าก็ขี้อ้อนเหมือนขม " หัวใจผมหล่นวูบไปตอนที่แม่เอ่ยชื่อใครอีกคนขึ้นมา ผมเหลือบมองภาพที่ถอนหายใจออกมา

“ แล้วทำไมแกถึงพูดว่า มีสิทธิเป็นลูกแก " พ่อถามขึ้น

“ แม่ของกาลิค มาจากออสเตเรีย เราเคยมีอะไรกันตอนที่ผมไปอยู่กับอเล็กซ์ที่นั่นช่วงซัมเมอร์ " ภาพเว้นเสียงมันก้มหน้าลงสักพักเหมือนทำใจก่อนจะพูดต่อ " แล้วอเล็กซ์ก็เคยมีอะไรกับเธอด้วย ผมกับอเล็กซ์เราก็เลยมีสิทธิที่จะเป็นพ่อของเด็กทั้งคู่ "

“ อะไรนะ.. " แม่เอ่ยออกมาเสียงเบาๆ " แต่ว่าภาพ .. อเล็กซ์น่ะเค้าแต่งงานมีครอบครัวแล้วนะ ถ้ากาลิคออกมาเป็นลูกเค้าแล้วมันจะเป็นยังไง ม๊าได้ยินข่าวว่าแฟนอเล็กซ์เอง ก็เพิ่งคลอดลูกนะ ยังไงทางนั้นก็ไม่มีทางยอมรับหรอก ไม่ต้องถึงพูดเรื่องตรวจดีเอ็นเอเลยด้วย "

“ อื้ม ภาพรู้ " มันพยักหน้ารับก่อนจะกำมือแน่น " เพราะแบบนั้นไง ภาพเลยต้องมาปรึกษาป๊ากับม๊าให้ช่วย ว่าเราจะทำยังไงกันดี "

“ แล้วแกคิดว่า แกจะทำยังไง " พ่อเอ่ยถามภาพ

“ ผมไม่อยากจะให้กาลิคไปอยู่กับแม่เค้า ไม่ว่าเค้าจะเป็นลูกผมหรือไม่ ผมก็ไม่อยากให้มันไป แม่ของมันดูก็รู้ว่าไม่ได้รักมันเท่าไหร่หรอก ทั้งติดยาแถมตอนนี้ยังมีคนรักใหม่อีก แล้วที่เธอเอากาลิคมาฝากไว้กับเราเพราะปิดบังคนรักของตัวเองไม่ให้รู้ว่าเธอมีเด็กคนนั้นอยู่ เธอบอกผมว่า ตอนนี้เธอบอกคนรักเธอแล้วเรื่องมีลูก แต่ผมก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เพราะกาลิคก็บอกเองว่า หม่ามี๊ไม่เคยให้เรียกว่าหม่ามี๊เลยเวลาอยู่ข้างนอก แถมยังชอบทุบตีเวลาที่ซนอีก " ภาพมันพูดก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาพ่อกับแม่มัน " ไม่ว่ายังไงภาพก็ไม่อยากจะให้กาลิคไปกับเค้า ภาพจะทำทุกวิถีทางเพื่อรั้งมันไว้ให้อยู่กับภาพถ้ามันเป็นลูกภาพ แต่ถ้ามันเป็นลูกอเล็กซ์ภาพก็จะทำทุกอย่างให้อเล็กซ์ยอมรับเอง แต่ภาพจะเอากาลิคมาเป็นลูกภาพ ป๊ากับม๊าจะโอเคมั้ย ถ้าภาพจะทำแบบนั้น โอเคกับกาลิครึเปล่า "

" ม๊า ไม่มีปัญหาหรอก ม๊าเคารพการตัดสินใจของภาพ แล้วม๊าเองก็รักกาลิคมากๆเลยด้วย "

" ถ้ามันเป็นลูกแก นั่นก็หลานฉัน ต่อให้มันเป็นลูกอเล็กซ์นั่นก็หลานฉันอีกอยู่ดี แล้วถ้าแกมั่นใจว่าพร้อมจะเป็นพ่อคน ฉันก็จะช่วยแกเอง อย่างสุดความสามารถ " พ่อพูดภาพก็พยักหน้ารับ

" ขอบคุณครับ แต่ระหว่างนี้ ผมคงต้องฝากกาลิคไว้ที่นี่ก่อนนะ ภาพไม่อยากจะพามันกลับคอนโด ภาพไม่อยากจะให้มันเห็นแม่มัน อย่างน้อยก็ขอยืดเวลาไว้เพื่อรอผลตรวจดีเอ็นเอ ภาพอยากให้รู้แน่ๆว่ากาลิคเป็นลูกใคร แล้วเราจะได้รู้ว่าเราควรทำยังไงต่อไปดี "

“ งั้นระหว่างนี้กาลิคก็ไม่ต้องไปโรงเรียนแล้วกัน ให้เรื่องเรียบร้อยก่อนค่อยไป "

“ อื้ม " ภาพพยักหน้ารับ 

“ ทั้งภาพทั้งขมเอง ช่วงนี้ก็อยู่ที่นี่ก่อนเถอะ แม่ว่า เธอคงต้องมาหากาลิคที่คอนโดทุกวันแน่ๆ เพราะงั้นทำเรื่องดีเอ็นเอให้เสร็จก่อน ค่อยไปคุยกับเธอ "

" ครับ " ผมตอบรับ แม่กับพ่อก็ส่งยิ้มจางๆมาให้

" ขอให้ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะลูก " แม่ว่าพลางลุกขึ้นมากอดไอ้ภาพไว้ " อดทนนะภาพ แล้วก็พยายามเข้านะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่จะคอยอยู่ข้างๆภาพตรงนี้เสมอ ขมเองก็ด้วย "

" ขอบคุณมากครับม๊า " ภาพเอื้อมมือกอดแม่ของตัวเองไว้ ในห้องเงียบๆที่ได้ยินแต่เสียงของลมหายใจ ผมรู้สึกว่าเราคงผ่านเรื่องนี้ไปได้แน่นอน แต่แค่ไม่รู้ว่ามันจะผ่านไปในรูปแบบไหนมันก็เท่านั้น

..............................................................

   ตื่นเช้าขึ้นมาในวันจันทร์ที่ไม่ได้ไปเรียนกันเหมือนปกติ ผมกับภาพลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เมื่อคืนผมนอนไม่หลับเลยได้แต่พลิกตัวไปมา ภาพเองก็ด้วย แต่ผมก็คิดว่าทุกคนเป็นแบบนั้น ยกเว้นแต่เจ้าตัวเล็กที่ก็ยังร่าเริงอยู่เดิม ความร่าเริงที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ในความเครียดตอนนี้ยังยิ้มได้

" วันนี้กาลิคไม่ต้องไปโรงเรียนเหรอ อาขม "

" ไม่ต้องไปครับ " ผมก้มลงบอกมันก่อนจะแต่งตัวด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นธรรมดา

" ทำไมอะ ทำไมไม่ต้องไปเหรอ "

" เพราะว่าช่วงนี้หัวหอมต้องอยู่บ้านเป็นเพื่อนคุณปู่คุณย่านะสิ ก็เลยไม่ต้องไปโรงเรียนไง" บอกมันแบบนั้นอีกคนก็พยักหน้ารับเข้าใจ " หัวหอมอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่คุณย่าได้ใช่มั้ย "

" ด้ายยยย อยู่แล้วววว " มันลากเสียงก่อนจะยิ้มกว้างให้ผม

“ งั้นแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็ลงไปกินข้าวกันดีกว่าเนอะ หิวแล้ว "

“ หิวแล้ววว "

   เดินลงบันไดจากชั้นบน เข้ามาในห้องทานข้าวที่ตอนนี้กลิ่นข้าวต้มหมูหอมฉุยไปทั่ว หัวหอมนั่งลงข้างผมก่อนถ้วยข้าวต้มจะถูกเสิร์ฟลงมาตรงหน้า มันที่สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด แต่ก็ต้องนิ่งไปตอนที่เห้นว่าทุกคนรอบตัวมัน กลับนิ่งเงียบไม่เหมือนทุกครั้งที่เป็น หัวหอมที่หันซ้ายดูขวาด้วยความแปลกใจ ท่าทางที่ชวนให้ผมยิ้ม มันเองก็ยิ้มเขิน

“ ยิ้มอะไร " ผมถามเสียงเบาๆ มันก็ส่ายหน้า

“ ก็อาขม ยิ้มให้กาลิคก่อน "

“ ก็เลยยิ้มตามอย่างงั้นเหรอ " มันพยักหน้ารับก่อนจะตักข้าวต้มคำโตใส่ปาก เรากินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย ไอ้ภาพก็จัดการอุ้มกาลิคเดินไปบ้วนปากแปรงฟัน เพราะว่าอีกเดี๋ยวเราต้องเดินทางไปตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งการตรวจก็คือการที่ต้องเช็ดเอาเยื้อบุข้างแก้มไปตรวจ ก็เลยต้องสะอาดกันหน่อย

“ มึงอยู่นี่ก็ได้นะ ไม่ต้องไปหรอก " ภาพหันมาบอกผมตอนที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ท่าทางของภาพเปลี่ยนไป มันที่ทั้งดูเศร้าและเครียดมาตลอดตั้งแต่เจอโอลิเวีย แต่ภาพก็พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ไม่ได้ให้ใครรู้สึกว่ามันกำลังรู้สึกอะไร แต่ความเศร้ามากมายขนาดนั้นมันก็ไม่แปลกหรอกที่จะทะลักล้นออกมาให้ผมได้เห็น

“ แล้วมึงจะไปกับหัวหอมสองคนเหรอ "

“ อื้ม ก็ตรงนี้เอง เมื่อคืนมึงก็นอนไม่หลับไม่ใช่เหรอ กลับบ้านไปนอนสักพักดีกว่า พักผ่อนหน่อยเถอะ "

“ มึงเองก็ยังไม่ได้นอนเหมือนกัน " ผมบอกอีกคนก็ถอนหายใจ

“ แต่ตอนนี้เรื่องนี้มันเป็น..”

“ มึงจะบอกว่าตอนนี้เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของมึงแล้ว มึงอยากจะจัดการด้วยตัวมึงเองถูกมั้ย " ภาพเงียบ มันเบือนหน้าหนีผมที่ก็เอื้อมมือไปจับมือมันไว้ " ภาพ.. กูบอกตรงๆเลยนะ กูไม่อยากจะให้มึงเผชิญหน้ากับเรื่องนี้อยู่คนเดียว ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องของกูแล้ว แต่ให้กูไปด้วยเถอะ ถึงกูจะทำอะไรไม่ได้ แต่ในเวลาแบบนี้ให้กูไปอยู่เป็นเพื่อนมึงก็ยังดี "

............................................................................

ถ้าเป็นลูกภาพก็ดีไป แต่ถ้าเป็นลูกอเล็กซ์..
ตอนนี้ทั้งเศร้า ทั้งซึ้ง คือเศร้ากับกาลิค สงสารเด็กตัวเล็กๆที่ต้องอยู่กับแม่แบบนั้น สงสารความไร้เดียงสาของเค้า สงสารขม สงสารภาพ แต่ก็ซึ้งกับความสัมพันธ์ของครอบครัวภาพ ซึ้ง กับความสัมพันธ์ของภาพขมที่ไม่ว่ายังไงก็จับมือกันและไม่ทิ้งกันไปไหน

เราแก้นิยายตอนนี้นานยิ่งกว่าเราเขียนมันซะอีก
แก้ตั้งแต่เช้ายันเที่ยงคืนเลย ให้อารมณ์ นั่งฟังเพลงเศร้าครบ 24 ชั่วโมงยังไงอย่างงั้น
ปวดตาขั้นสุด เศร้าจะใจมันบีบไปหมดแล้วจริงๆ

สุดท้ายนี้ขอฝากแท็ก #มมชลก ให้แท็กกันในทวิต
และ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์นะคะ
เจอกันตอนหน้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 11-06-2017 21:06:26
จะร้องไห้ตามขม สงสารกาลิคภาพขมแทบขาดใจ
เขาเลี้ยงของเขาด้วยความรักจะมาพรากเขาไปได้ยังไง ต่อให้ผลออกมาไม่ใช่ลูกของภาพ แต่เราเชื่อว่าพ่อแม่ของภาพต้องเอากาลิคกลับมาคืนได้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 11-06-2017 21:20:13
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาซึมเลยอะ ฮืออ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 11-06-2017 21:34:16
ไม่ว่ากาลิคจะเป็นลูกภาพหรืออเล็กซ์ กาลิคต้องอยู่กับภาพนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 11-06-2017 21:37:47
เครียด ร้องไห้สงสารกาลิค สงสารภาพกับขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-06-2017 22:08:42
เราคิดว่าถ้าต้องถึงขนาดขึ้นศาล (น่าจะน่ะนะ ถ้าร้องต่อศาลได้ มั้ง) โอลิเวียก็คงไม่อยากให้เรื่องวุ่นวายขนาดนั้น หนึ่งเพราะเรื่องเวลา สองเพราะเรื่องมันจะแดงขึ้นมา ทนอีกนิดนะ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปด้วยดี
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 11-06-2017 22:25:54
โอ้ยย เครียดมากกกกก
แต่ยังไง ก้คงเป็นลูกภาพ ไม่ก้อเล็กซ์
ถ้าทางกฎหมายคงมีผล เพราะแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้
สิ่งที่กาลิกเล่ามีผลทางชั้นศาลได้
แต่ช่วงคดีซิ จะทำยังไง

แต่คิดว่าอีแม่คงไม่ยอมขนาดนั้นหรอก เสียเงินอีก
หึหึ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 11-06-2017 22:48:35
รู้สึกเครียด ถ้าไม่ใช่ลูกภาพ ทุกอย่างก็จบ ที่นี้ล่ะเมิงเอ้ยยยย อิผีบ้านั้นจะทำอะไรกาลิคก็ได้ แค่ที่ผ่านมายังเลวร้ายไม่พออีกหรอ ถึงต้องเอาลูกกลับไปทรมานอีก สภาพแบบนี้เหมือนเอากาลิคไปเล่นแต่งตัวมากกว่าเอาไปเลี้ยง คนแบบนี้ไม่น่าโตมาเป็นตนเลย สงสารต้นไม้ที่ต้องผลิตออกซิเจนให้หายใจ สงสารทรัพยากรโลกที่ต้องมาสละตัวเองให้คนแบบนี้มีชีวิตอยู่บนโลก สงสารทุกอย่างที่หล่อหลอมจนกลายมาเป็นอิคน(?)นี้ กลับไปได้แล้วค่ะ กลับไปสู่ผืนดินคืนประโยชน์ให้ธรรมชาติได้แล้ว เพราะอยู่ต่อไปก็ดีก่อมลภาวะต่อคนอื่น ต่อโลกไปเรื่อยๆ ดังนั้น เมิงควรหายไปได้เเล้วค่ะ อย่าอยู่ต่อให้เด็กคนไหนเกิดออกมาอีกเลย สงสารเด็กค่ะ สงสารพ่อเด็กที่ต้องมาปวดหัวกับการกระทำำของคน(?)แบบนี้ด้วย  :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 11-06-2017 23:02:43
 :katai1: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-06-2017 23:04:37
โอ๊ยยยยยยย กาลิคต้องได้อยู่กับภาพและขมนะ :call: :call: :call: :call:
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-06-2017 23:38:28
สงสารกาลิค
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 11-06-2017 23:40:28
ฮือ สงสารหัวหอม สงสารขม สงสารภาพ
ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีด้วยเถอะ :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-06-2017 23:46:03
ใจคอไม่ดี สงสารกาลิค ไม่รู้โดนอะไรมามั่ง งื้อออ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 11-06-2017 23:57:52
สงสารเด็กน้อย ยังไร้เดียงสา ขนาดเจอมาแบบนั้น แต่กาลิคก็ยังน่ารัก

ภาพกับขมพยายามมากเลยนะ ต่อให้ไม่ใช่เชื่อว่าภาพก็ทำให้ใช่ได้
พ่อกับแม่ภาพน่ารักมากเลยค่ะ ขมภาพไม่ทิ้งกันนะ
 
ผู้หญิงคนนั้นพูดก็ไม่ผิดหรอก ที่ยังไม่ยอมไปตรวจ เพราะกลัวเหมือนกัน
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป ตอนนี้คือทุกคนรักกาลิคมาก ต่างกับแม่ที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 11-06-2017 23:59:15
สงสารกาลิคในอดีต และไม่อยากให้เปนแบบนั้นอีก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 12-06-2017 00:23:53
เศร้าจัง  :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 12-06-2017 01:13:14
 เจอคนแบบแม่หัวหอม เป็นใครก็เครียด

เหมือนผิด-ถูกไม่รู้ แยกแยะไม่ได้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 12-06-2017 08:27:25
น้ำตาหยดแหมะๆๆ ตามเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-06-2017 09:14:58
แม่แบบโอลิเวีย ไม่สมควรเป็นแม่ของเด็กคนไหนทั้งนั้น
คนรักใหม่ พอเห็นกาลิคขากรูปที่โอลิเวียอาจบอกว่าเป็นหลาน
คงหวังประโยชน์จากกาลิค ทางใดทางหนึ่งแน่ๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 12-06-2017 09:37:30
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 12-06-2017 09:44:01
เอาใจช่วยภาพขมและน้องหัวหอม  :mew4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: krazy_kess ที่ 12-06-2017 10:02:48
ปวดใจ ขอให้เป็นลูกภาพนะคะ สงสารกาลิค แม่นิสัยไม่ดีเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 12-06-2017 11:26:04
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 12-06-2017 13:23:46
ภาพ ขมสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 12-06-2017 15:41:56
อยากจะทะลุจอไปตบ หม่ามี้โอลิเวีย จังเลย  หวังว่า ผลตรวจออกมา หัวหอมจะเป็นลูกแท้ๆ ของภาพ ล่ะกัน ทีนี้จะได้จัดการแม่แบบโอลิเวียให้ได้ถนัดถนี่หน่อย  ขมยังมีความเป็นแม่ในตัวสูงกว่า ผญ คนนี้อีกนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-06-2017 16:29:29
โถ่ลูก สู้ๆน้า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 12-06-2017 20:16:20
ขอให้เป็นลูกภาพทีเถอะๆๆ สงสารขมร้องไห้ตามเลย อย่าพรากเอาความสดใสไปจากกาลิคเลยนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 12-06-2017 22:12:45
สงสารน้องหัวหอม แม่ขม พ่อภาพมากมาย
ขอให้ผลออกมาเป็นลูกของภาพเหอะ
แต่ก็กลัวเพราะชื่อเรื่องนี่แหละ เฮ้ออออ...
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-06-2017 23:14:17
 :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-06-2017 01:09:37
ลูกภาพสิ!
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 13-06-2017 22:29:54
สงสารกาลิคมาก น้ำตาซึมตอนกาลิคถามว่าการที่มีกาลิคอยู่ตรงนี้แล้วอายมั๊ย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 14-06-2017 00:41:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 14-06-2017 21:19:57
โอ้ยเครียดด
สงสารกาลิค
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 14-06-2017 22:29:04
" ตอนนั้นนะ กาลิคหิว แต่ไม่มีอะไรกินเลย หม่ามี๊ก็มีนมอยู่ แต่นมมันหนักมากเลย กาลิคก็เลยทำหก แล้วหม่ามี๊ก็โกรธใหญ่เลย หม่ามี๊ตีกาลิค ตีแรงๆเลย ตีตรงนี้ แล้วก็ตีตรงนี้ " จับแขนตัวเองแล้วก็ขาตัวเอง บอกเล่าเรื่องราวเจ็บปวดพวกนั้นให้ผมฟัง

อ่านตรงนี้แล้วเข้าใจเลยว่าตอนที่กาลิคท้องเสียเพราะกินนมหมดอายุ ทำไมกาลิคถึงกินจนหมดแก้ว คงเพราะเคยโดนตีเลยฝังใจ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วของที่มันเสียหรือแปลกไปเด็กน่าจะบอกได้หรือไม่ยอมกิน

ที่สงสัยมานานกระจ่างเลยทีเดียว พร้อมกับต่อมน้ำตาแตกอีกรอบสงสารกาลิค

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: nung ที่ 15-06-2017 08:04:08
คิดถึงกาลิคแล้ววว  :mew2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 15-06-2017 08:30:33
 :m7: :m7:
:m32:
 :m22: :m22: :m22:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 16-06-2017 20:35:51
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 36

   ขับรถจากบ้านมาถึงศูนย์การแพทย์สำหรับการตรวจดีเอ็นเอโดยเฉพาะ เครื่องยนต์ของรถถูกดับลง ร่างสูงคนขับถอนหายใจออกมานิดหน่อย ภาพหันมามองผมที่ก็ส่งยิ้มจางๆไปให้ ก่อนที่เราก้มลงมองเจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่ในตัก แววตากลมมองไปรอบๆด้วยความสนใจ มันหันซ้ายทีขวาที ก่อนจะเอ่ยถามผมเสียงใส

“ อาขม ทำไมเราถึงมาที่นี่กันเหรอ  "

“ วันนี้เรามาหาคุณหมอกันน่ะ อาขมพาหัวหอมแล้วก็อาภาพมาตรวจสุขภาพดูว่าแข็งแรงดีมั้ย " พอเอ่ยบอกไปแบบนั้น มือเล็กๆก็เอื้อมขึ้นจับที่หน้าผากของตัวเองทันที มันคงกำลังตรวจดูว่า ตัวเองกำลังป่วยรึเปล่า ทำไมเราต้องพามันมาหาหมอด้วย

" แต่ว่ากาลิค ตัวไม่ร้อนนะ แล้วอาภาพ.." มันยืดตัวเองเอามือไปจับหน้าผากของภาพก่อนจะหันมาบอกผม " อาขม อาภาพก็ตัวไม่ร้อนนะ "

“ ตัวไม่ร้อนก็ตรวจได้ เรามาตรวจว่าสุขภาพแข็งแรงดีรึเปล่า ไม่ได้ตรวจเพราะว่าป่วยสักหน่อย " อธิบายให้อีกคนฟัง แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กจะไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไหร่ หัวหอมเอียงหัวไปมา

“ งั้นแข็งแรงแล้วมาหาคุณหมอทำไมอะ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย "

“ ไม่เข้าใจงั้นเราก็ไปหาคำตอบกันดีกว่า ไปหาคุณหมอแล้วก็ตรวจดูกันนะ " อุ้มมันลงจากรถ เราเดินเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่หน้าเค้าเตอร์สำหรับการมาตรวจดีเอ็นเอครั้งนี้

   กระดาษสองแผ่นถูกยื่นมาเรากรอกข้อมูลสำคัญลงไป ภาพกรอกของตัวเอง ส่วนผมก็ทำหน้าที่กรอกข้อมูลของหัวหอมเท่าที่รู้ลงไป เขียนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภาพตรวจเช็คมันอีกทีก่อนจะยื่นกระดาษคืนให้เจ้าหน้าที่พร้อมกับซองเอกสารข้อมูลสำคัญที่เตรียมมาทั้งหมด

“ นั่งรอสักครู่นะคะ " เจ้าหน้าที่เอ่ยบอก เราก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวที่ว่าง

“ หัวหอมเดี๋ยวเข้าไปในห้องตรวจกับอาภาพนะ " เอียงหน้าบอกเจ้าตัวเล็กที่ก็ยังเอาแต่มองสภาพแวดล้อมรอบตัวด้วยความไม่คุ้นตา มันที่ส่ายหน้าไปมา

“ ไม่เอา ไปกับอาขม " มือเล็กๆกอดเข้าที่คอมันซบ " กาลิคกลัว "

“ กลัวอะไร มีอาภาพอยู่ด้วย ไม่เป็นไรหรอก " แต่ถึงจะบอกแบบนั้นก็ไม่มีทีท่าว่ายอมฟังกันง่ายๆ ผมถอนหายใจออกมา ไอ้ภาพก็ยกยิ้มก่อนจะยื่นมือไปขยี้ผมเจ้าตัวเล็กจนยุ่ง 

“ มึงเข้าไปด้วยก็ได้ เค้าคงให้เข้าแหละ ไม่มีอะไรหรอก "

“ มึงโอเคนะ " เอียงหน้าถามมันเพราะรู้สึกว่า ในแววตาคมของภาพมันทั้งอิดโรยแล้วก็กังวลมากเหลือเกิน

" กูโอเค " ใบหน้าคมก้มลงต่ำ ผมเอื้อมมือไปกอดคอมันไว้ก่อนจะบีบไหล่เบาๆ

" อาขม อาขม อาภาพกำลังเศร้าเหรอ " หัวหอมเอ่ยถาม ผมก็พยักหน้ารับมัน

" อื้ม คงอย่างงั้นแหละ "

" งั้นกาลิคจะปลอบอาภาพเองนะ "เจ้าตัวเล็กดึงตัวเองลงจากตักของผม มันย่อตัวลงนั่งกับยองกับพื้น ขยับตัวเองเข้าไปอยู่ใต้ใบหน้าคมที่กำลังก้มลงด้วยความหนักใจนั้น แล้วตอนที่สบตากันหัวหอมก็ยิ้มกว้างออกมา " อาภาพ ไม่ต้องเศร้านะ กาลิคจะปลอบอาภาพเองนะ " มือเล็กๆยื่นมาตบไหล่หนา ไอ้ภาพหัวเราะออกมามันเงยหน้าขึ้นก่อนจะเอ่ยถาม

" แล้วกาลิคจะปลอบอาภาพยังไงดี "

“ กาลิคจะกอดปลอบอาภาพ " ใบหน้าน่ารักนั่นเอียงหน้าบอกก่อนจะลุกขึ้นกอดร่างสูงไว้แน่น หัวหอมซบลงที่ไหล่หนาอยู่นานก่อนจะเอียงหน้าถาม " อาภาพ หายเศร้าแล้วยัง "

" หายแล้วละ ขอบคุณนะครับ "  มือหนาขยี้หัวเจ้าตัวเล็ก " เก่งจังเลย รู้ด้วยว่ากอดปลอบแล้วจะหายเศร้า "

" กาลิครู้เพราะว่าเวลาที่กาลิคร้องไห้ อาขมจะกอดกาลิคไว้ตลอดเลย แล้ว แล้วพอกาลิคกอดอาขมไว้นะอาภาพ กาลิคก็จะหายเศร้าทุกทีเลย กาลิคเลยรู้ ว่าเวลาที่เราเศร้าเราก็ต้องกอดกัน "

" อย่างงั้นสินะ เข้าใจแล้วละ "

“ อาภาพ ถ้าอาภาพยังเศร้าอยู่ก็ให้อาขมกอดได้นะ กาลิคจะแบ่งกอดของอาขมให้อาภาพด้วย อาภาพเอาหน้ามาติดไว้ตรงนี้เลยนะ ถ้าติดไว้ตรงนี้จะหายเศร้า " หัวหอมว่ามันเอื้อมมือมาจับที่กลางอกของผม ก่อนจะใช้สองมือประคองแก้มของภาพลงมาซบที่ตัวผม " แล้วก็อาภาพต้องเอามือกอดไว้ตรงนี้ด้วยนะ " จัดแจงเอามือมากอดไว้ที่เอวผมเรียบร้อย " อาขม อาขมกอดอาภาพด้วยสิ "

" อะ กอดดดด " เอื้อมมือขึ้นลูบหลังมัน ผมสัมผัสถึงลมหายใจเข้าออกที่ดูเหนื่อยๆของร่างสูง แต่ถึงอย่างงั้นภาพก็พูดออกมา

" กอดอาขมแล้ว หายเศร้าจริงๆด้วย "

" ใช่มั้ยละ กอดของอาขมน่ะ เยี่ยมที่สุดเล๊ย " คำพูดที่มาพร้อมกับลำตัวเล็กที่ล้มตัวลงมากอดผมไว้อีกคน

   ถอนหายใจออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ก็อยากจะขัดมันอยู่หรอก ว่าอย่ามากอดกันในสถานที่แบบนี้แต่ว่า รอยยิ้มของคนทั้งคู่ที่ผมเห็นก็ชวนให้กลืนคำพูดทุกอย่างนั่นไป ดีแค่ไหนที่เรายังยิ้มออกมาได้ในช่วงเวลาที่เครียดแบบนี้ เพราะงั้นแม้จะเล็กน้อย ก็ขอให้มีช่วงเวลาที่มีความสุขบ้างก็ยังดี

“ คุณภาพ น้องกาลิค เชิญเข้าไปในห้องตรวจเพื่อเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอเลยค่ะ " เสียงของเจ้าหน้าที่เอ่ยเรียกคนสองคนที่ก็เงยหน้าขึ้นมาจากตัวของผมทันที

“ ครับ " ภาพเอ่ยตอบรับ มันยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง

“ ไปตรวจกันเถอะ " ผมเองก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของเจ้าตัวเล็กที่ก็กำมือผมไว้แน่น จนต้องก้มลงไปดู " หัวหอม "

“ อาขมอุ้ม อุ้มกาลิค อุ้มกาลิคหน่อย " มือเล็กชูขึ้นจนสุด มันส่งสายตาออดอ้อนมาให้ คงกลัวกับการที่ตัวเองต้องเดินเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมนั้น

" โอเค อุ้มก็อุ้ม เอ้า อึ้บ! " ก้มลงไปอุ้มเด็กขี้กลัวขึ้นมา หัวหอมที่กอดคอผมไว้ แววตาที่กำลังมองรอบด้านด้วยความกลัวชวนให้ผมยิ้ม " ไม่ต้องกลัวหรอก อาขมอาภาพน่ะไม่พาหัวหอมไปเจอเรื่องอันตราย หรือว่าน่ากลัวหรอกจริงมั้ยละ "

“ จริง " หัวหอมพยักหน้ารับ แต่เพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมลงไปเดินเอง เด็กหัวหมอก็เลยกอดผมแล้วพูดอ้อนๆ " แต่กาลิคอยากจะให้อาขมอุ้ม กาลิคอยากอยู่ใกล้ๆอาขมตลอดเวลาเลย กาลิครักอาขม "

" ครับๆ พ่อหนุ่มช่างอ้อน "

    ประตูห้องตรวจถูกเปิดออก ผมหย่อนตัวลงนั่งข้างไอ้ภาพ ก่อนเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในห้องปฎิิบัติการจะเดินนำชุดอุปกรณ์มาวางไว้ตรงหน้า ผมก้มลงมองหัวหอมที่ตอนนี้กำเสื้อผมไว้แน่นอาจเพราะเจ้าหน้าที่ให้ห้องนี้ใส่ชุดที่ดูมิดชิดจนมันกลัว เสื้อกาวน์สีขาวตัวยาว พร้อมด้วยที่ปิดปากและหมวกคุมผม เธอหยิบถุงมือมาใส่เป็นขั้นแรกก่อนจะใช้สำลีที่พันก้านด้วยไม้ยาวๆยื่นมาตรงหน้าเด็กน้อยในตัก

" อ้าปากนะคะ อ้าาา " เธอว่า อีกคนก็อ้าปากแบบว่าง่าย " อ้ากว้างๆเลย ขอพี่เช็ดนิดนึงนะคะ "

" หัวหอมอ้าปากกว้างๆเลยนะ อ้าา "

“ อ้าาา " เสียงใสๆพูดออกมา ปากก็อ้ากว้างขึ้น

“ อย่างงั้นค่ะ เก่งมากเลย " เธอว่า ก่อนจะดึงสำลีออกจากปากเก็บลงใส่ลงไปในกล่องของทางการแพทย์ " เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ "

“ เสร็จแล้วละ " ผมก้มลงบอกมัน " หัวหอมขอบคุณ พี่เจ้าหน้าที่เค้าหน่อยเร็ว "

“ ขอบคุณครับ พี่เจ้าหน้าที่ " หัวหอมยกมือไหว้ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วหันมาบอกขม " อาขม อาขม กาลิคไม่เจ็บเลย "

“ ใช่มั้ยละ ไม่เจ็บเลยเนอะ ดีจัง  "

“ ต่อไปคุณภาพนะคะ " เจ้าหน้าที่เรียกชื่อคนข้างๆผม ภาพอ้าปากให้เก็บเยื่อบุกระพุ้งแก้มเรียบร้อย " เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนผลของการตรวจจะอยู่ที่ 3 – 7 วันนะคะ ทางเจ้าหน้าที่จะโทรไปแจ้งให้มารับผลนะคะ กรุณามารับด้วยตัวเองนะคะ "

“ ครับ ขอบคุณมากครับ "

“ คราวนี้ก็กลับบ้านกันได้แล้ว เสร็จแล้ว " ภาพบอกก่อนก่อนจะยื่นมือมาอุ้มไอ้ตัวเล็กไปจากผม ก้มลงหอมแก้มนุ่มไปเสียหลายฟอด หัวหอมมันก็หัวเราะชอบใจ

“ แล้วเราจะทำอะไรกันต่อดีละ "

“ พากาลิคกลับไปส่งที่บ้านก่อน แล้วค่อยไปหาที่คุยแล้วกัน "  พยักหน้ารับคำพูดของร่างสูง

   ก็จริงอย่างที่มันพูด เราไม่ควรพูดเรื่องนี้ต่อหน้าหัวหอม มันไม่ใช่เรื่องที่เด็กคนนี้ควรฟังหรือรับรู้ด้วยซ้ำไป หัวหอมควรมีความสุขเหมือนเด็กทั่วไปที่ควรมี ไม่ควรต้องมารับรู้เรื่องที่ว่า มันเกิดมาจากความผิดพลาดของแม่ที่รู้อยู่แล้วว่าถ้าไม่ใส่ถุงยางอาจจะท้อง แต่ก็ยังไม่คิดจะป้องกันตัวเอง 

   แล้วสุดท้ายพอมันเกิดขึ้นมา กลับเห็นมันเป็นแค่สิ่งของ จะโยนทิ้งก็ได้ จะอยากได้ตอนไหนก็ได้ ทำลายความรู้สึกของมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะคิดว่าตัวเองเป็นแม่ แม่ที่ทำให้เกิดมา จะทำอะไรก็ได้ ย่ำยีความรักที่แสนบริสุทธิ์เท่าไหร่ก็ได้ ทั้งๆที่ถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากจะเกิดมาบนความผิดพลาดที่ไม่มีใครยินดีเวลาที่เกิดมา และทั้งๆที่ไม่ได้ขอให้เกิดมา แต่สุดท้ายคนที่เจ็บปวดที่สุดกลับกลายเป็นเด็ก ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

.........................................................

   เราขับรถกลับมาถึงบ้าน ผมก็ก้มลงบอกเด็กน้อยที่นั่งอยู่บนตัก " หัวหอม อาขมกับอาภาพจะต้องไปทำงาน หัวหอมอยู่ที่บ้านกับคุณปู่คุณย่านะ เดี๋ยวตอนเย็นๆ เราเจอกัน ตกลงมั้ย "

“ แล้วตอนเย็นๆ กว่าจะถึงนานรึเปล่า "

“ ไม่นานหรอก แปปเดียวเอง ดูการ์ตูนสามเรื่องก็เจอกันแล้วละ " ยิ้มให้มันอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ งั้นกาลิคอยู่กับคุณปู่คุณย่าก็ได้ อาขมกับอาภาพกลับมาเร็วนะ "

“ ครับผม " พยักหน้ารับมัน ผมกอดมันไว้แน่นก่อนจะหอมแก้มไปเต็มฟอด เปิดประตูรถออกกว้างหัวหอมก็ลุกจากตักวิ่งฉิวเข้าไปในตัวบ้านทันทีด้วยความร่าเริง ผมปิดประตูรถลง ภาพก็ขับรถออกไปจากบ้านอีกครั้ง

" เอาล่ะ คราวนี้มึงจะพูด จะถามอะไร ก็พูดออกมาได้หมดละ " ร่างสูงบอก

" ทำไมไม่พาอเล็กซ์ไปตรวจดีเอ็นเอด้วยเหรอเลยวะ จะได้รู้พร้อมกันไปเลย ว่าหัวหอมลูกใคร ลูกมึง ลูกอเล็กซ์ หรือว่าไม่ใช่ทั้งคู่ ถ้ารอให้ผลตรวจมึงออกมาก่อน แล้วถ้าไม่ใช่ค่อยพาอเล็กซ์ไปตรวจ มันจะไม่นานไปเหรอวะ "

“ มึงคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ "  ภาพหันมาถามผม " มึงจะให้กูเดินไปบอก อเล็กซ์ที่เพิ่งมีครอบครัว มีลูกไม่กี่เดือน ว่ามันมีสิทธิเป็นพ่อกาลิค ลูกของโอลิเวียที่มึงไปไข่ทิ้งไว้ตอนที่เรียนออสเตเรียนะ ช่วยไปตรวจดีเอ็นเอกับกูหน่อยเพราะโอลิเวียบอกว่า พ่อของเด็กไม่กูก็มึง มึงคิดว่าพอมันได้ยินมันจะตอบว่าไงอะ มันคงจะบอกว่า อ้าวเหรอ งั้นเราไปตรวจกัน เหรอ ? มึงคิดว่ามันจะง่ายๆแบบนั้นเหรอ  "

“ ก็จริงของมึงนะ กูก็ลืมคิดไปว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างงั้น  "

" ขืนเข้าไปพูดกับมันตรงๆ ต่อให้มันคิดว่า อาจจะจริงแต่มันก็คงต้องปฎิเสธไว้ก่อน มันคงไม่อยากจะให้เมียมันรู้เรื่องหรอก มึงก็รู้ดีนี่ว่าไอ้อเล็กซ์เวลาอยู่บ้านกับอยู่เมืองนอกยังกับคนละคนกัน " ก็จริงที่ไอ้ภาพมันพูด อยู่บ้านอเล็กซ์ ดูเป็นคุณชายมีชาติตระกูลอยู่ในกรอบสุดๆแต่พออยู่เมืองนอกมันกลับเที่ยวผู้หญิงเที่ยวกลางคืนชอบปาร์ตี้ เรียกได้ว่านอกกรอบสุดๆไปเลยเช่นกัน " เรื่องของกาลิคถ้าไปพูด มันคงคิดว่ากูกรุเรื่องเพื่อมาทำลายครอบครัวมันแน่ๆ "

“ แล้วคราวนี้เรื่องมันก็จะบานปลายไปถึงผู้ใหญ่ "

" ใช่ พ่อกูคงจะมีเรื่องทะเลาะกับพ่อมันแน่ๆอะ แล้วก็คงจะมีคำพูดที่โยนมาใส่พ่อกูว่า เด็กเป็นลูกกูรึเปล่าและพอสุดท้ายเป็นลูกกูจริงๆ เค้าก็คงมารุมดูถูกเราทั้งครอบครัวที่ไปปักปรำเค้า พอมาคิดแบบนั้นกูเลยอยากจะทำให้แน่ใจก่อนว่าไม่ใช่ลูกกูแน่ๆถึงจะไปบอกมันและถ้ามันเป็นลูกกูจริง เราก็จะได้จัดการไปเลยโดยไม่ต้องให้คนนอกครอบครัวมารับรู้เรื่องนี้ เพราะมันคงวุ่นวายเปล่าๆ "

" แล้วถ้ามันเป็นลูกมึง มึงจะทำยังไง "

“ เจรจากับโอลิเวีย " ภาพบอก " แต่ก่อนอื่นเราต้องทำให้เราเป็นคนที่อยู่เหนือกว่ามันให้ได้ เราต้องเป็นคนที่คุมเกมส์นี้ไม่ใช่มัน "

“ คนที่คุมเกมส์นี้ ? “ ทวนคำพูดของอีกคน ภาพก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ กูจะจ้างนักสืบ สืบเรื่องของโอลิเวียตอนที่อยู่ที่ไทยทั้งหมด ว่าทำอะไรที่ไหนบ้าง พักอยู่กับใคร มาจากอเมริกา มาคนเดียวหรือมากับใคร แล้วก็จะให้สืบด้วยว่า ถ้าเธอเจอกับคนนอกที่ถูกใจเธอจะทำยังไงกับเขา จะเล่าเรื่องที่ตัวเองมีคนรักอยู่แล้ว หรือว่าบอกเรื่องว่าเธอมีลูกมั้ย " มันว่านิ่งๆก่อนจะหันมามองผม " เราต้องทำให้ตัวเรามีหลักฐานมากที่สุด หลักฐานที่ใช้ต่อรองกับเธอ หรือหลักฐานที่บอกว่าเธอไม่เหมาะกับการเป็นแม่เด็ก เผื่อสมมุติว่าเราต้องขึ้นศาลขึ้นมาเราจะได้มีสิทธิชนะคดีนี้ ศาลจะให้มีคำสั่งให้คนเป็นพ่อเป็นคนดูแลเด็กแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยโอลิเวียก็มีสิทธิชนะ เพราะตอนนี้โอลิเวียเหนือเราอยู่ข้อเดียว คือ สิทธิความเป็นแม่ที่ศาลมักมักจะตัดสินให้ลูกอยู่ด้วยมากกว่าสิทธิความเป็นพ่อ "

“ อื้ม นั่นนะสินะ " ผมพยักหน้ารับ ถอนหายใจออกมากับเรื่องราวที่แค่ฟังก็รู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิด มีความคิดแง่บวกมากว่าเกิดขึ้นมาในหัว แต่แน่นอนความคิดในแง่ลบก็ลอยตามมาติดๆ  " แล้วตอนนี้เราจะไปไหนกัน "

“ ไปหานักสืบ เมื่อคืนกูคุยกับไอ้ชัดเรื่องนี้พอดี มันก็เลยแนะนำนักสืบเอกชนฝีมือดีให้ กูนัดเค้าที่ร้านกาแฟข้างหน้านี่แหละ "

   ร้านกาแฟที่ภาพนัดนักสืบมาคุยงาน เป็นร้านกาแฟเงียบๆที่ดูไม่มีคนเท่าไหร่ในช่วงเวลานี้ เราเดินเข้าไปสั่งกาแฟเรียบร้อยก่อนที่ผมจะหันไปมองรอบๆร้านแล้วเจอเข้ากับผู้ชายคนนึงที่แตกต่างจากที่ตัวเองวาดภาพเอาไว้ในความคิด จากที่เคยดูตามทีวี ผมรู้สึกว่านักสืบจะต้องใส่หมวก ใส่แว่นตาดำ ทำท่าทางระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา แต่ทว่าคนตรงหน้ากลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เค้าเหมือนพนักงานบริษัทธรรมดา ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสีดำแล้วก็ผูกเนคไท ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้เลย

" คุณภาพใช่มั้ยครับ " เค้าเอ่ยทักเรา ร่างสูงข้างผมก็พยักหน้ารับ " ผม พจน์ครับจากสำนักงานสืบเอกชน " นามบัตรถูกยื่นมาให้ ก่อนที่เราทั้งคู่จะหย่อนตัวลงนั่งตรงข้ามเค้า

   ภาพเริ่มต้นคุยเรื่องงานที่อยากจะให้เค้าทำแบบละเอียด คุณพจน์เองก็จดสิ่งที่พูดคุยเล่านั้นลงในสมุดเล่มเล็กๆของเค้า แต่เพราะเราไม่มีภาพถ่ายของเธอ ก็เลยมีแต่ข้อมูลชื่อและสิ่งที่เราอยากจะให้เค้าสืบให้เท่านั้น รายละเอียดทั้งหมดถูกนับออกมาเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อยเลยที่ภาพต้องจ่ายไปกับเรื่องนี้ แต่ผมคิดว่าถ้าได้ภาพและข้อมูลที่ดีเพื่อใช้ต่อรองกับเธอ หรือใช้ในศาลได้ สำหรับภาพนั่นก็เป็นการลงทุนที่น่าเสี่ยงยิ่งกว่าข้อไหน แต่ว่าถ้าไม่ได้อะไร ก็เหมือนกับว่าต้องเสียเงินไปเปล่าๆเหมือนกัน

“ ถ้าอย่างงั้น ผมจะนำทางคุณไปคอนโดของผม ผมคิดว่าเธอน่าจะมาอยู่แถวๆนั้นเพื่อดักพบเรา "

“ ไม่ต้องหรอกครับ บอกชื่อคอนโดคุณมา เราจะหาผู้หญิงที่มีท่าทางแบบที่คุณว่า และถ่ายภาพมาให้คุณดู ว่าใช่รึเปล่า ถ้าใช่เราจะได้สืบงานต่อเลย กำหนดส่งงานคืออีกห้าวันนะครับ "

“ ครับ " ภาพพยักหน้ารับ " ส่วนค่าใช้จ่ายผมจะโอนมัดจำให้ก่อนนะครับ และจะโอนอีกทีหลังเสร็จงาน "

“ ครับ ขอบคุณที่ใช้บริการนะครับ ทางเราจะทำงานให้ออกมาดีที่สุด "

“ ทางนี้ก็ต้องขอขอบคุณเช่นกันครับ "

“ งั้นผมคงต้องขอตัวไปทำงานก่อน แล้วจะแจ้งข่าวให้ทราบเมื่อมีความคืบหน้านะครับ " คุณพจน์นักสืบลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มหน้าบอกลาเราที่ก็ลุกขึ้นยืนก้มหน้าบอกลาเค้าเช่นกัน เค้าที่เดินออกไปจากร้านในตอนนั้นทั้งผมทั้งภาพก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วนั่งลงที่เดิม

“ เห้อ.. ขอให้ได้เรื่องอะไรด้วยเถอะ สาธุ " ผมยกมือขึ้นไหว้  ไม่รู้ว่าไหว้อะไรเหมือนกันแต่ก็ขอบนบานไว้ก่อน กังวลจนไม่อยากจะทำอะไรด้วยซ้ำแล้วในตอนนี้ กว่าผลดีเอ็นเอจะออกก็ตั้งหลายวัน ระหว่างนี้ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วพอผลออกมาก็ยังไม่รู้อีกนั่นแหละว่าจะทำยังไงต่อไปดี ราวกับว่าตอนนี้ทางตรงหน้าของเรามันมืดไปหมดอย่างงั้นแหละ

“ อื้ม กูก็ขอให้มันได้เรื่องอะไรด้วยเถอะ " เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาเรียบๆ ขนาดตัวผมยังกังวลขนาดนี้แล้วภาพเองที่ต้องเผชิญปัญหานี้ในใจมันตอนนี้จะกำลังแย่แค่ไหนกันวะ คงกำลังร้องไห้ และคงกำลังคิดถึงทางแก้ของปัญหาเรื่องพวกนั้นซ้ำไปซ้ำมา มือหนาที่กำลังกำกันไว้แน่นแบบนั้น มันคงดีถ้าผมมอบพลังให้มันได้เหมือนอย่างยอดมนุษย์ในการ์ตูนสักเรื่อง แต่ทว่าตอนนี้สิ่งที่ทำได้กลับมีแค่มือที่เอื้อมไปจับมือของมันไว้ บีบเบาๆให้กำลังใจก่อนจะยิ้มให้มัน

“ ได้ต้องห่วงหรอกมึง กูว่ามันต้องได้เรื่องแน่นอน หัวหอมเป็นเด็กน่ารัก คงไม่มีใครลงโทษมัน ให้ต้องไปอยู่กับคนแบบนั้นหรอก "

“ อื้ม " ภาพพยักหน้ารับก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา

“ ยิ้มหน่อยสิวะ ถ้ามึงทำหน้าแบบนั้น เดี๋ยวไอ้หัวหอมมันก็สงสัยว่าเรามีเรื่องอะไรกัน " ใบหน้าคมเหลือบมองหน้าผม ตอนที่พูดแบบนั้น มันยกยิ้ม

“ มึงบอกตัวเองเถอะ มึงเองก็ทำหน้ากังวลอยู่ตลอดเหมือนกันอะ "

“ อ๋อเหรอออออ งั้นยิ้มก็ได้ ยิ้ม " ยิ้มกว้างให้มัน ก่อนที่ผมถอนหายใจออกมาแล้วยกแก้วน้ำตรงหน้าขึ้นดื่ม " ถ้าโอลิเวียเป็นคนที่พูดด้วยได้ง่ายๆ แล้วเข้าใจมันก็คงดีนะมึง ถ้ามันอยากจะหาผัวใหม่ อยากมีชีวิตใหม่ก็มีไป แต่ว่าเด็กก็เอามาให้เรา แค่นั้น มันไม่โอเคเหรอวะ แม่งต้องการอะไรวะกูไม่เข้าใจมันจริงๆ จะบอกว่าคนแบบนั้นเห็นลูกตัวเองสำคัญก็ไม่น่าใช่ เพราะถ้าเห็นว่าสำคัญก็คงไม่พามาอยู่กับเรา ไม่หลอกเราด้วยการไม่บอกว่าลูกใครหรอก แต่นี่ทั้งหลอกเรา หลอกคนรักใหม่ แต่สุดท้ายก็อยากจะได้กลับไปอีกเพื่ออะไรวะ "

“ ก็คงจะเป็นอย่างที่กูบอก " ภาพเว้นเสียงก่อนจะยกยิ้ม " มันคงโกหกทางนั้นว่า กาลิคเป็นหลาน แล้วต้องการจะรับเข้าไปอยู่ด้วย เลยเดินทางมาที่นี่เพื่อพากลับไป ก็มึงลองคิดว่าดูว่าคนที่ไม่รักกาลิคแบบมัน จะอยากเอากาลิคไปทำไม ในเมื่อมีครอบครัวใหม่ไม่มีภาระ มันไม่ง่ายกว่าเหรอ แต่ถ้ามันโกหกผัวมันไปแล้วว่าจะมารับหลาน หลานลำบาก มันก็ต้องพยายามพากาลิคกลับไปอย่างที่มันกำลังพยายามทำอยู่ไง ไม่อย่างงั้น ผัวมันคงสงสัยว่า หลานที่ว่าอยู่ไหน ไหนบอกว่าหลานลำบากไม่ใช่เหรอ "

“ แต่ก็อาจจะบอกว่าเป็นลูกก็ได้นะ " ผมบอกขัดมัน " ถ้าไม่คิดถึงคำพูดของหัวหอมที่บอกว่า โอลิเวียให้เรียกว่า โอลิเวียเฉยๆ เวลาอยู่ข้างนอกแล้วละก็ เค้าอาจจะบอกว่าเป็นลูกก็ได้ ตอนนี้ลูกอยู่อย่างลำบากกับพ่อแท้ๆ เลยอยากจะไปรับกลับมาอยู่ด้วย "

“ แต่ถ้าเป็นแบบนั้น แฟนก็คงต้องตบมันก่อน เพราะโทษฐานโกหก ไม่บอกตั้งแต่แรก แล้วมันคงจะไม่อยู่ในสภาพดี๊ด๊าอะไรขนาดนั้นหรอก แต่นี่ดี๊ด๊าเหลือเกิน "

“ นั่นก็จริงอยู่ "

“ อยากจะถามแฟนใหม่มันเลยวะ ตรงๆ ว่า โอลิเวียบอกว่าอะไร สำหรับเรื่องของกาลิค " ภาพมันหันมาบอกผมก่อนจะถอนหายใจออกมา " แต่ไม่มีทางไหนจะติดต่อได้เลย "

“ อเล็กซ์ก็ไม่มีเหรอวะ เค้าอาจจะยังมีเบอร์ติดต่อของแม่โอลิเวียอยู่ก็ได้ " ผมถามไอ้ภาพก็คิดอยู่สักพักก่อนจะส่ายหน้าไปมา

“ กูคิดว่าไม่น่าจะมี โอลิเวียบอกว่าแม่มันไล่มันออกจากบ้าน พร้อมกับกาลิค มึงคิดว่าคนเป็นแม่คน คนเป็นยายคน ที่สามารถไล่หลานเล็กๆกับลูกตัวเองออกไปจากบ้านได้ คนแบบนั้นต้องเสียใจและสุดจะทนกับลูกสาวตัวเองขนาดไหนวะ ถึงจะทำแบบนั้นได้ มันต้องถึงขีดสุดที่เค้าไม่อยากจะยุ่งอีกต่อไปแล้วรึเปล่า เค้าถึงทำ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาบ้าง ก้มลงมองรองเท้าตัวเองอย่างจนปัญญา ไม่ว่าจะคิดทางออกยังไงก็เหมือนว่าทุกทางมีแต่ทางตันเต็มไปหมด

“ เห้อ..”

" กู...กลัวจริงๆนะภาพ กูกลัวจนอยากจะร้องไห้ออกมาทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องพวกนั้น ถ้าเกิดสมมุติหัวหอมต้องกลับไปอยู่กับโอลิเวียขึ้นมาจริงๆเราจะทำยังไงวะ แล้วถ้ามันตี หรือว่าแม่งใช้ความรุนแรงกันทั้งครอบครัว หัวหอมมันจะใช้ชีวิตยังไงวะ มันจะอยู่ยังไงในบ้านหลังนั้นถ้าเค้ามีลูกใหม่ขึ้นมา มันต้องกลายเป็นหมาหัวเน่าถูกมั้ย กูรู้ว่ากูไม่ควรคิดในแง่ร้ายอะไรขนาดนั้น ไม่ควรตัดสินคนแค่ภายนอกและแค่คำพูด แต่กูก็อดคิดไม่ว่ะ มึงดูท่าทางมันดิ ติดยาก็เท่านั้น แล้วคิดเหรอวะ ว่าแฟนมันจะไม่ติดยา เป็นคนดี คือใช่มันมีโอกาส แต่แม่งคงน้อยมากๆอะ กูทำใจคิดแง่ดีไม่ได้เลยวะภาพ คิดไม่ได้จริงๆ "

“ ขม..ใครๆที่เห็น เค้าก็ต้องคิดแบบมึงกันทั้งนั้นแหละ โอลิเวียไม่เหมือนแม่คนด้วยซ้ำ คิดถึงแต่ตัวเอง หึ " มันหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะส่ายหน้า " คำพูดคำจาเหมือนคนที่ใจแตกแล้วก็เท่านั้น ให้กาลิคไปอยู่ด้วยมึงเลิกหวังไปเลยว่าคนแบบนั้นมันจะปกป้องกาลิค มันไม่คิดจะปกป้องตั้งแต่ที่มันส่งไอ้กาลิคมาอยู่กับเราแล้ว "

“ นั่นนะสิ "

“ เมื่อก่อนกูชอบคิดว่า อะไรจะเกิดมันก็คงต้องเกิด ไม่ว่าจะด้านดีหรือว่าร้าย กูพร้อมรับมือแล้วรู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งพอจะยอมรับมัน แต่พอกับเรื่องนี้กูไม่รู้เลยว่า ถ้ามันออกมาเป็นเรื่องร้าย ตัวกูเอง จะยอมรับมันได้รึเปล่า " ภาพก้มหน้าลงซบบนมือตัวเองที่กุมกันไว้แน่น " ตอนนี้ใจกู มันเลยได้แต่ภาวนา ขอให้มันมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นกับเราด้วยเถอะ ขอให้มันออกมาเป็นด้านดีๆ กูไม่อยากจะให้มันไปจริงๆ ไม่อยากจะให้มันไปใช้ชีวิตอยู่ในที่ที่กูไม่รู้เลยว่า มันจะดี หรือว่า ร้าย ไม่อยากเลย "

“ เหมือนกัน " ผมผ่อนลมหายใจออกมา เราที่นั่งข้างกันเงียบๆในร้านกาแฟนั้น ผมหันไปหามันก่อนจะเอื้อมมือไปกอดไหล่มันไว้ เป็นความรู้สึกเล็กๆที่อยากจะบอกมันว่า ผมยังอยู่ข้างๆมัน ยังคิดเหมือนมัน และจะอยู่เป็นเพื่อนมันเสมอไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง

.........................................................

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 16-06-2017 20:36:55


     ขับรถกลับมาถึงบ้านในช่วงเย็น ตอนที่รถแล่นผ่านประตูไปที่โรงจอดรถข้างๆผมก็เห็นเด็กน้อยยืนคอยอยู่แล้ว เปิดประตูรถลงไปในวินาทีต่อมาหัวหอมก็วิ่งเข้ามากอดผมด้วยความคิดถึงเสียเต็มรัก ย่อตัวลงตรงหน้ามันมือเล็กๆก็เอื้อมตัวมากอดคอไว้แน่น

“ อาขม กลับมาแล้ววววว "

“ ใช่แล้ว กลับมาแล้วคิดถึงจังเลย " หอมแก้มมันไปเต็มฟอดอีกคนก็ยิ้มกว้างก่อนจะเอ่ยทักอีกคน

“ อาภาพก็กลับมาแล้ววว " หัวหอมผละออกจากตัวผม มันวิ่งเข้าไปกอดไอ้ภาพที่ก็อุ้มมันขึ้น 

“ ทำไมตัวเปียกอย่างงั้นวะ ทำอะไรมา "

“ กาลิครดน้ำต้นไม้ให้คุณปู่ " มือเล็กๆไปที่สายน้ำตรงสวนหญ้าหน้าบ้าน สายสีเขียวที่ยังเปิดน้ำไว้อยู่ดูเหมือนว่ามันเองก็ยังทำหน้าที่รดน้ำต้นไม้ไม่เสร็จเลย แต่ใครกันวะ ช่างรู้ใจใช้ให้ไอ้หัวหอมรดน้ำต้นไม้ มันกับน้ำนี่ของคู่กันเลยชอบเล่นเป็นชีวิตจิตใจ

“ แล้วเสร็จรึยัง "

“ ยังเลยยย " มันส่ายหน้าไปมาไอ้ภาพก็ปล่อยมันลงให้ยืนข้างๆ ก่อนที่มือเล็กนั่นจะเอื้อมมือมาจับมือมันไว้ " อาภาพ ไปรดน้ำต้นไม้กัน "

“ โอเค ไปสิ "

“ อาขมด้วย ไปกันนนน " เอื้อมมืออีกข้างมาจับมือผม ก่อนที่เราจะถูกไอ้หัวหอมลากไปกลางสวน เจ้าตัวเล็กวิ่งไปเปิดน้ำให้เพิ่มมากขึ้น แต่สายยางที่ถูกไอ้ภาพถือไว้แทนที่จะรดน้ำต้นไม้มันกลับฉีดไปที่ไอ้หัวหอมแทน " งื้ออออ อย่าฉีดน้ำใส่กาลิคนะ กาลิคไม่ใช่ต้นไม้ "

“ อ้าว~  ไม่ใช่ต้นไม้หรอกเหรอ คิดว่าพวกต้นไม้พุ่มสั้นๆ " ไอ้ภาพว่าก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง สักวันถ้าไอ้หัวหอมสูงกว่ามึง กูคนนี้จะหัวเราะให้ฟันกรามหลุดเลย

“ ไม่ใช่น้าา กาลิคไม่ใช่ต้นไม้ อย่าน้า อย่า " มือเล็กๆโบกไปมา มันที่เดินเข้าไปแย่งสายน้ำจากภาพ อีกคนก็ดึงให้สูงขึ้น ก่อนจะฉีดใส่อีกฝ่ายที่เปียกอยู่แล้วให้เปียกไปอีก

“ เดี๋ยวๆ หยุดก่อน กูเปียกไปด้วยแล้วเนี้ย " ภาพบอก แต่มือเล็กๆที่พยายามดึงสายยางรดน้ำก็ไม่ยอมหยุดง่ายๆ

“ รดน้ำอาภาพเลย อาภาพเป็นต้นไม้ "

“ กาลิค อาภาพว่า เรามารดอาขมกันดีกว่า " ผมถอยหลังออกทันทีตอนที่ได้ยินมันพูดกันแบบนั้น สองคนตรงหน้าที่มองตรงมาทางผมด้วยสายตาที่หมายจะฉีดน้ำให้เปียกไปด้วยกัน ขาผมก้าวถอยหลังก่อนจะวิ่งให้ออกห่าง

“ จ้างให้ก็ฉีดไม่โดนหรอกจ้าา "

“ มานี่เลยไอ้ต้นไม้พุ่มเตี้ย! “ ประโยคของไอ้ภาพตะโกนชวนให้ผมหันไปมองมันด้วยหางตา แหม กูเตี้ยกว่าหน่อยเดียว เรียกกูพุ่มเตี้ย มึงก็ไม่ได้สูงมากมายอะไรหรอก สัด!

“ นี่แหน่ะ " หัวหอมวิ่งมาจับตัวผมไว้ เราที่ล้มลงนั่งกลางสวนแต่มือเล็กๆนั่นก็ยิ่งกอดไว้แน่น " กอดอาขมไว้เลย อาขมจะได้ไม่หนีกาลิคกับอาภาพไปไหน กอดแน่นๆเลย "

“ โอ๊ยยย หนีไม่ได้เลย กอดแน่นมากๆ แพ้แล้วทำไงดี "

“ กอดดดดด  " มันบอก ผมก็เอื้อมมือไปลูบผมเปียกๆของมันให้ขึ้นไป

“ เปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำเลย เดี๋ยวอาบน้ำสระผมด้วยนะ "

“ ครับผม " ขานรับแบบนั้นแต่มือก็ยังกอดผมไม่ยอมปล่อย ภาพเดินไปปิดน้ำมันที่นั่งลงข้างๆผม ไอ้หัวหอมก็ผละออกจากตัวผมไปกอดไอ้ภาพไว้ " อาภาพอุ้ม "

“ อุ้มไปไหน หื้ม ? “

“ อุ้มเฉยๆ อุ้มๆ "

“ โอเค อุ้ม " มือหนาอุ้มอีกคนที่ก็ซบลงที่ไหล่ทันที ภาพลูบหลังหัวหอมเบาๆก่อนจะซบลงที่ไหล่ของไอ้ตัวเล็กบ้าง ใบหน้าที่มีความสุขของหัวหอมตอนที่ได้กอดภาพ กับสีหน้าเคร่งเครียดของไอ้ภาพที่ตอนนี้ในสมองมีแต่เรื่องราวยุ่งเหยิง พ่อแม่คนมันเป็นกันแบบนี้สินะ ต่อให้มีเรื่องเครียดอะไร แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าลูกเราก็ต้องยิ้มเข้าไว้

“ ไม่รู้ทำไมตอนเด็กๆกูถึงอยากจะเป็นผู้ใหญ่นักนะ " ผมพูดออกมาพลางมองขึ้นไปบนฟ้าที่กำลังที่ใกล้มืดเต็มทีแล้ว ไอ้ภาพหันมามองทางผมก่อนจะยกยิ้มแล้วเงยมองขึ้นไปบนฟ้าเหมือนกัน " ทั้งๆที่เป็นเด็กน่ะ ดีกว่าจะตาย แต่ตอนนั้นก็ยังคิดอยากจะเป็นผู้ใหญ่ตลอดเลย "

“ คนเรามักอยากจะเป็นอะไรที่ไม่เคยเป็นไม่ใช่เหรอ แล้วจินตนาการว่ามันคงจะเกิดแต่เรื่องดีๆเท่านั้น ถ้าเราได้เป็นแบบนั้น "

“ อื้ม ก็คงจะเป็นแบบนั้น " ผมบอก ก่อนจะหันไปดึงหัวหอมมาอุ้มไว้ " ไปอาบน้ำกันดีกว่า อาบน้ำกินข้าว ดูการ์ตูน ไหน ใครอยากจะดูการ์ตูนบ้าง "

“ กาลิคคคคคค " แขนเล็กชูขึ้นสุดแขน ผมเองก็ลุกขึ้นเต็มความสูง

“ งั้นก็ไปกันเลย "
...............................................................

   เวลาในแต่ละวันผ่านไปช้าๆ 24 ชั่วโมงที่เคยคิดว่าสั้น กลับเนิ่นนานในตอนที่เรากำลังรอคอยอะไรสักอย่าง จากวันแรกที่เราหนีโอลิเวียมาอยู่ที่บ้านไอ้ภาพ ตอนนี้ก็เข้าสู่วันที่สี่แล้ว สี่วันที่ผมรู้สึกว่ามันนานเหมือนเป็นเดือน ไม่มีสายโทรศัพท์จากศูนย์ดีเอ็นเอ หรือแม้แต่การติดต่อจากโอลิเวียก็ไม่มี  ผมอาบน้ำแต่งตัวอยู่หน้าประจกที่ฉายภาพความอิดโรยของตัวผมที่ไม่ได้นอนเลยตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้

" หัวหอมวันนี้ใส่เสื้อสีแดงกันดีกว่า แล้วก็ใส่กางเกงขาสั้นสีดำนะ " ผมเอ่ยบอกเจ้าตัวเล็กที่กำลังเล่นน้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำ เดินออกไปเอาชุดที่ตู้เสื้อผ้าข้างนอก ตอนที่หันหลังมา หัวหอมก็ขึ้นจากอ่างน้ำมายืนอยู่ข้างหลังผมด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวที่คลุมตัวอยู่

" อาขม กาลิคอยากใส่ชุดนักเรียน เมื่อไหร่กาลิคจะได้ไปโรงเรียนเหรอ " เสียงใสที่เอ่ยถามผมก็ได้แต่ยิ้มฝืนๆออกไป ไม่มีคำตอบให้มันเลย ไม่อยากจะโกหกด้วยกลัวเป็นการให้ความหวังมัน

“ แล้วหัวหอมไม่อยากจะอยู่กับคุณปู่คุณย่าแล้วเหรอ "

“ อยากก แต่ก็อยากไปโรงเรียนด้วย กาลิคคิดถึงรินเน่แล้ว "

“ ฮันแน่ๆ ทำไมต้องคิดถึงรินเน่ด้วยละ " ผมยิ้มแซว เจ้าตัวเล็กก็เถียงขึ้นมา

“ ก็เพื่อนกันนน รินเน่ก็ต้องคิดถึงกาลิคแล้วด้วย อลันด้วย เจ้านายด้วย " มันพูดออกมาตอนที่ผมใส่เสื้ออยู่บ้านให้

“ หัวหอม อาขมถามอะไรหน่อยสิ ตอบตามความจริงนะ "

“ อื้ม! " เด็กน้อยพยักหน้ารับ

“ อยู่ที่โรงเรียน มีคนที่ชอบรึเปล่า มีแฟนรึยังเนี้ย "

“ ไม่มี อาขม กาลิคยังเด็กอยู่ จะมีแฟนได้ไง "

“ ใครสอนให้ตอบแบบนี้วะ " ผมว่าก่อนจะส่ายหน้าไปมากับความช่างพูดของมัน แต่จะว่าไปก็เป็นคำตอบที่ใช้ได้เหมือนกัน " ต่อไปนี้นะ ถ้าใครถามว่า กาลิคไปโรงเรียนมีแฟนรึยัง ให้ตอบว่า ยังเด็กอยู่ไปโรงเรียนต้องไปเรียนหนังสือ ไม่ได้ไปหาแฟน โอเคนะ "

“ อื้ม ได้เลย "

“ งั้นมาซ้อมกันนะ  สมมุติว่า คุณย่าถามละกัน กาลิคไหน มาเล่าย่าหน่อยไปโรงเรียนมีแฟนรึยังเราน่ะ "

“ ยังครับ " มันตอบ " ยังเด็กอยู่ไปโรงเรียนอาขมอาภาพให้ไปเรียนหนังสือ ไม่ได้ไปหาแฟน "

“ เออ ดี ฮ่าๆๆ จำไว้นะ ใครถามก็ให้ตอบแบบนี้นะ " ตลกวะ .. ถึงแม้จะไม่เข้าใจก็เถอะว่าทำไมพอเด็กไปโรงเรียนผู้ใหญ่ถึงชอบถามแบบนั้น แต่พอได้ยินเด็กตัวแค่นี้ แก่แดดพูดแบบนั้นก็ตลกดี

“ ขม " ไอ้ภาพเดินเข้ามาในห้องมันเอ่ยทักผมด้วยสีหน้าตื่นๆ จำได้ว่ามันเมื่อเช้าตื่นมาก็ไม่เจอมันแล้ว ผมเลยคิดว่ามันคงไปดูหนังอยู่อีกห้องเหมือนอย่างทุกทีเพราะกลัวไอ้หัวหอมตื่น

“ หื้ม ? มีไร เป็นไรมึง " ผมขมวดคิ้ว

“ ผลตรวจดีเอ็นเอ ออกมาแล้ว " ผมเงียบไปทันทีตอนที่ได้ยินคำพูดนั้น หัวใจที่เร่งอัตราการเต้นขึ้นมาเป็นเท่าตัว มองสบสายตาที่กำลังตื่นกลัวของร่างสูงในตอนนั้นก็ได้แต่ฝืนยิ้มออกมา ผมลุกขึ้นเดินเข้าไปหามันแล้วเอื้อมมือไปจับไหล่ก่อนจะบีบไว้แน่น

“ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเราไปด้วยกันนะ  "

“ อื้ม " มันพยักหน้ารับ ภาพวิ่งเข้าไปในห้องน้ำมัน จัดการอาบน้ำแต่งตัวลวกๆ ผมก็นั่งลงจัดการแต่งตัวให้ไอ้หัวหอมต่อ

“ หัวหอม เดี๋ยวหัวหอมต้องอยู่กับคุณปู่คุณย่านะ วันนี้อาภาพกับอาขมจะออกไปทำธุระ เดี๋ยวพอเราสองคนทำธุระเสร็จ อาขมจะกลับมาเล่นด้วยนะ " ผมบอกอีกคนก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย มือเล็กที่กำลังเล่นรถอยู่บนเตียงดูไม่ค่อยสนใจกันเท่าไหร่

“ เสร็จละ " ภาพหันมาบอก หน้าที่ดูเคร่งเครียดของมัน ทรงผมก็ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ผมเอื้อมมือไปลูบจัดทรงผมของมันให้เข้าที่

“ ทำผมให้มันดีๆหน่อยสิวะ " ผมว่า ก่อนจะยิ้ม " เสร็จละ งั้นก็ไปกัน "

“ โอเค " ภาพว่า ก่อนจะก้มลงไปกอดหัวหอมแล้วดึงขึ้นมาอุ้มไว้ เราเดินลงไปชั้นล่าง พ่อกับแม่ที่รอกินข้าวอยู่ข้างล่าง ไอ้ภาพก็เอ่ยบอก

“ วันนี้ภาพจะไม่กินข้าวนะ ผลตรวจออกแล้ว ภาพกับขมจะไปเอาผลตรวจน่ะ "

“ งั้นเหรอ " แม่พูดออกมาเสียงเบาๆ สีหน้าที่ตกประหม่าของเธอ มองลูกชายตัวเองก่อนจะยิ้มจางๆ " งั้น โชคดีนะลูก "

“ ครับ " พยักหน้ารับก่อนจะย่อตัวปล่อยไอ้ตัวเล็กที่อุ้มมาให้ยืนบนพื้น " กาลิคครับ ช่วยกอดอาภาพแน่นๆหน่อยได้มั้ย "

“ ได้! “ มือเล็กๆเอื้อมกอดภาพไว้แน่น  " อาภาพ กาลิครักอาภาพนะ "  อาจเพราะท่าทางที่ดูเศร้าๆของร่างสูง คงทำให้หัวหอมมันรู้สึกแปลกๆ และตลอดหลายวันที่ผ่านมา มันเองก็คงรู้สึกว่าทุกคนรอบตัวมันเปลี่ยนไป เราสนุกกันเหมือนเดิมก็จริงแต่เราไม่สนุกเท่าเดิม ความสนุกที่เคยมีมันลดลง และเด็กอย่างมันก็คงสัมผัสได้ " กาลิครักอาภาพที่สุดเลย กอดดด "

“ อาภาพก็รักกาลิคที่สุดเหมือนกัน " จมูกคมหอมแก้มเจ้าตัวเล็กอีกคนก็หอมแก้มกลับ ภาพลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะหันไปบอกพ่อกับแม่ตัวเอง " งั้นฝากกาลิคด้วยนะ ป๊า ม๊า เดี๋ยวภาพกับขมกลับมา "

“ อื้ม ไปเถอะ โชคดีละ " พ่อบอกมันก็พยักหน้ารับ แล้วหันมาหาผม

“ ไปกันเถอะ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับก่อนจะหันไปขยี้หัวไอ้ตัวยุ่ง " อย่าดื้อละ เดี๋ยวอาขมกลับมานะ "

“ บ๊ายบายย อาขม อาภาพ บ๊ายบาย " โบกมือลามัน ก่อนจะเดินออกมาจากบ้านและขึ้นรถด้วยความเงียบแบบที่ไม่มีเสียงสนทนาใดๆ ภาพขับรถออกไปจากบ้านช้าๆ ผมที่หันมองมันเป็นระยะจนถึงหน้าศูนย์ตรวจดีเอ็นเอ เราจอดรถดึงเกียร์เรียบร้อยแต่มือที่กำลังจะเอื้อมไปปิดเครื่องยนต์กลับนิ่งอยู่แบบนั้น 

“ ภาพ เราลงไปกันเถอะ " ผมบอก ก่อนจะหันไปยิ้มมัน " ถ้ามึงไม่อยากจะเปิด เดี๋ยวมึงไปรับ กูเปิดให้เองก็ได้ "

“ อื้ม " ภาพตอบยิ้มๆ เราเดินลงไปจากรถแล้วเข้าไปในศูนย์ด้านในพร้อมกัน เรายื่นบัตรประชาขนให้เจ้าที่ที่ก็ก้มลงคีย์ข้อมูลและยื่นเอกสารใบนึงมาให้เรา ภาพก้มลงเช็นมันก่อนจะส่งคืนพนักงานที่ก็รับ และยื่นเอกสารในซองจดหมายสีน้ำตาลมาให้  มือหนานิ่งอยู่นานก่อนจะถอนหายใจแล้วเอื้อมมือสั่นๆไปรับเอกสารนั่นไว้

" กูเปิดให้มั้ย " ผมบอกมันตอนที่เราเดินถอยออกมายืนหน้าเก้าอี้ตัวที่ว่างแถวๆนั้น

" ไม่เป็นไร กูเปิดเอง "

“ โอเค " ภาพก้มลงดูซองเอกสารในมือ มันหลับตาลงสักพักก่อนจะค่อยๆเปิดซองสีน้ำตาลนั้น แล้วดึงกระดาษสีขาวออกมา สายตาคมก้มลงไปอ่านอยู่สักพัก ผมก็เอ่ยถามด้วยความอยากรู้ " ว่าไงมึง " 

   ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย มีแต่สีหน้านิ่งเฉยบนใบหน้าคม แววตาสั่นๆตอนที่ภาพเงยขึ้นมามองผม แล้วในวินาทีต่อมา มือหนาก็ดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น แน่นจนรับรู้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นแรงจากทั้งของมันและของผม ปากที่กำลังเอ่ยถามผลตรวจแต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร ความชื้นมากมายที่ไหลลงซึมที่เสื้อตรงไหล่ก็ชวนให้ตัวผมต้องเงียบไว้ก่อน เอื้อมมือขึ้นกอดมันไว้ ภาพที่กำลังร้องไห้อย่างหนักในตอนนั้น ผมผ่อนลมหายใจออกมาแล้วซบลงที่ไหล่ของมัน

" ขม กาลิคเป็นลูกกู กาลิคเป็นลูกของกูขม กาลิคมันเป็นลูกกู " รอยยิ้มกว้าง ยิ้มออกมาตอนที่ได้รับคำตอบนั้น อ้อมกอดของผมกอดมันแน่นขึ้น ก่อนจะถอนหายใจออกมา

" โล่งอกไปที  ดีใจด้วยนะมึง ดีใจด้วยจริงๆ " 
................................................................

ดีใจด้วยนะคะคุณพ่อ 
ในที่สุด ก็ได้คำตอบแล้ว ว่า ใครคือพ่อของน้องกาลิค
โอเค รู้เรื่อง เพราะฉะนั้น เรื่อง เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ #โดนตบ ฮ่าๆๆ
ฮ่าๆ ล้อเล่นๆ ยังไม่จบหรอกค่าาาาา
มีหลายคนเดาว่า ต้องไม่ใช่ลูกภาพแน่นอน ลูกอเล็กซ์ แน่นอน
เพราะอีคนแต่งจากที่อ่านหลายๆเรื่อง ชอบดราม่ายาว... แหมมมมม แก เอาเรื่องไม่จริงที่ไหนมาพู๊ดดดดดด
คือจริงๆ ก็เคยคิดว่า อยากจะให้เป็นลูกอเล็กซ์แหละ แต่พอมองดูความเป็นจริงแล้วนั้น.. มันยากมากที่น้องหัวหอมจะได้มาอยู่กับภาพ คือมันก็นิยายจะสรรสร้างอะไรก็ได้มันจริงอยู่แหละ แต่อยากจะให้อยู่ในความจริงสักเล็กน้อยด้วยไง แบบว่า ถ้าหัวหอมลูกอเล็กซ์บุ๊ป ภาพต้องหว่านล้อมอเล็กซ์ ครอบครัวอเล็กซ์อีกอะต้องมีปัญหาภายใน แล้วคราวนี้ภาพ เอาหัวหอมมาเลี้ยง อเล็ฏซ์ก็รู้สึกว่านั่นลูกมัน มันจะใจจืดใจดำ มองดูคนอื่นเลี้ยงได้เหรอวะ คืออันนี้ อีนี่คิดคนเดียวแล้วรู้สึก อินเอง อินเบอร์แรง เลยตัดปัญหา ลูกภาพไปละกัน ในสเปิร์มพี่ภาพชนะไปในจุดนี้
ว่าแต่ หัวหอมมีพ่อแล้ว... งั้นคุณพ่อเมื่อไหร่จะหาคุณแม่ให้น้องคะ .. คนข้างๆ คุณพ่อ ว่างนะคะ #หยอด

แหมมมม ทอล์คสนุกไม่สนดราม่าเลยนะมึง..  เอาจริงๆ ตอนนี้แต่งสองวัน แต่ แก้ ก็สองวัน
มันยากมากจริงๆ โอเคค สุดท้ายนี้ ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
เจอกันตอนหน้า
บ๊ายบายยยยยยย

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์นะคะ   :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 16-06-2017 21:05:59
 :hao5: โล่งงงงงงงงงงอกไปที โอ้ย กาลิคของป้า~ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-06-2017 21:10:39
 :เฮ้อ: มีความโล่งใจอยู่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 16-06-2017 21:20:07
โอ๊ยจะร้องไห้ ดีใจมากที่กาลิคเป็นลูกของภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 16-06-2017 21:20:54
ตอนที่ภาพบอกว่า กาลิคเป็นลูกคือ ยิ้มตามเลย

จริง ๆ ก็คิดแบบคนเขียนนะครับว่าถ้าเป็นลูกอเล็กซ์ความยุ่งยากจะตามมาอีกมาก เป็นแบบนี้แหละดีแล้วครับ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-06-2017 21:25:45
โล่งอกไปที เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 16-06-2017 21:28:14
 :กอด1: :mc4: o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 16-06-2017 21:29:06
ดีใจด้วยนะภาพพพพพพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-06-2017 21:56:21
ดีเลย กาลิคเป็นลูกภาพ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

สืบแบบที่ภาพว่า ถูกต้องเลย
เพื่อให้มีหลักฐาน สถานะเหนือกว่าแม่แบบโอลิเวีย

กาลิค ติดขมมากกกกกก น่ารักสุดๆ
รอภาพ หาแม่ให้กาลิค ที่ทั้งลูกทั้งพ่อรัก ติดหนึบ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 16-06-2017 21:57:06
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 16-06-2017 22:00:13
 :katai2-1: เอาล่ะ พร้อมจะสู้กับโอลิเวียแล้ว ลุยเลยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: krazy_kess ที่ 16-06-2017 22:14:13
โล่งอก จะร้องไห้  :sad4: :sad4: สงสารกาลิคช่วงชีวิตที่ผ่านมาที่ต้องอยู่กับแม่แบบโอลิเวียร์
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 16-06-2017 22:28:01
 :กอด1: :กอด1:
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
 
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-06-2017 22:51:25
นอยด์กันไปหลายวัน อึมครึมซะจนไปต่อไม่ถูก แต่ตอนนี้ก็เคลียร์แล้ว

ภาพเป็นพ่อจริงจังแล้วนะ
ขมก็เป็นกำลังใจให้ได้ดีมากเลย

กาลิคช่างอ้อน ช่างพูด น่าฟัดจริงๆเลย

ต่อไปก็มารอลุ้นว่า จะตามสืบโอลิเวียออกมายังไง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-06-2017 23:25:40
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-06-2017 23:37:35
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ทีนี้ก็รอแค่สู้กับแม่กาลิคเรื่องสิทธิ์การเลี้ยงลูก
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 17-06-2017 00:02:37
เย้ๆๆๆๆ
ก้ไม่เป็นอาภาพแล้ว
เปนป๊ะป๊าภาพ กับมะมีขม อิอิ
555555

อยากรู้จริงๆ อีแม่ว่าไงบ้าง หึหึ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-06-2017 00:52:32
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 17-06-2017 01:07:49
โล่งอกค่ะ

คิดว่าจะไปบอกตอนหน้าซะแล้ว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 17-06-2017 01:14:55
โอ๊ยยยย ลุ้นตอนเปิดซอง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-06-2017 01:15:04
ทีนี้ก็เหลือแต่ปัญหาตัวแม่แล้วละ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 17-06-2017 05:54:59
โล่งอกมาก ไม่ได้โล่งอกเรื่องภาพจะเป็นพ่อไหม แต่โล่งอกตรงที่คนเขียนไม่ได้ตัดจบตอนจะเฉลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 17-06-2017 06:13:08
ดีใจที่ภาพเป็นพ่อของกาลิค อย่าให้กาลิคไปกับโอลิเวียนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 17-06-2017 06:52:21
จะร้อง!! ดีใจ~~ น้องกาลิคเป็นลูกพ่อภาพ กรี๊ดดดด~~~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 17-06-2017 06:58:08
จุดพลุฉลองเลยยยยย เย้ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 17-06-2017 07:21:20
ดีใจๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-06-2017 07:45:47
เฮ้อ โล่งอกไปที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-06-2017 09:29:34
เปนข่างดีในรอบหลายวัน (หลายตอนด้วย)
ดีใจอ่าาาาาาาาา >\\\\<
ต่อไปเราก้อต้องสู้ เพื่อให้ได้หัวหอมมา!!
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 35 - 11.6.60} #หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 17-06-2017 12:25:49
อ่านตอนนี้แล้วเศร้ามาก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-06-2017 12:29:16
ผ่านไปอีกด่าน สู้อีกรอบกะชะนีแม่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 17-06-2017 13:37:34
เย้ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 17-06-2017 16:59:31
 โล่งเลย เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แล้วนะ ขาดแต่พ่อภาพรีบจีบแม่ขนซักทีนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: coldcream ที่ 17-06-2017 19:07:52
เย้...ดีใจด้วยกับคุณพ่อภาพนะคะ ทีนี้กาลิคก็ไม่ต้องจากไปไหนแล้ว อยู่กับคุณพ่อและคุณแม่(?)ขมได้แล้ว 55555 :mc4: :mc4:

อ่านทอล์คของผู้แต่งแล้ว รู้สึกถึงความละเอียดอ่อนในการเขียน คิดหลายด้านและดูความเป็นไปได้ของเนื้อเรื่อง และเหตุการณ์ที่จะตามมา ชอบมากค่ะ ที่จริงเราก็คิดแนวนี้เหมือนกัน นั่งภาวนาขอให้ผลตรวจออกมาเป็นแบบนี้ และให้คะแนนผู้แต่งอีกตามเคยที่ให้ภาพ คนที่เคยจะเอากาลิคไปทิ้ง มีความคิด สติ พอที่จะให้นักสืบดำเนินการต่างๆ เพื่อเป็นหลักฐานที่จะต่อสู้เอาลูกไว้ให้ได้ เป็นสิ่งที่ควรทำและเด็กหนุ่มที่ไม่เคยคิดอะไรมาก พอมาถึงเวลานี้ ความรัก ความห่วงใย ความผูกพันก็ทำให้สามารถหาทางต่อสู้ เป็นสิ่งที่ทำให้เราซึ้งมาก และขอบคุณผู้แต่งนะคะที่คิดได้ถึงขนาดนี้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 18-06-2017 00:38:39
มือสั่นมากบอกเลยตอนลุ้นผลนี...พอๆกับลุ้นผลสอบอ่ะ(โฮ่)ลุ้นไปกับพวกเขาทั้งสองงงง :monkeysad:

ปอลิง.ในที่สุดเราก็ไล่อ่านจนจบ!กระซิกๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 18-06-2017 09:55:10
ดีใจด้วยนะภาพ ขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-06-2017 10:58:26
ดีใจมากจริงๆ ทีนี้ล่ะยายป้าโอลิเวียเจอดีแน่ๆๆ คราวนี้ภาพเจอกับหัวหอมสถานภาพก็เปลี่ยนไปแล้วสินะ เป็นพ่อลูกกันจริงๆแล้ว

ปล. หัวหอมหนูดื่มนมเข้านะ โตขึ้นจะได้สูงกว่าพ่อภาพ เอาให้สูงกว่าเยอะๆนะ 55555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 18-06-2017 19:42:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 18-06-2017 20:35:47


เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 37

" ขม กาลิคเป็นลูกกู กาลิคเป็นลูกของกูขม กาลิคมันเป็นลูกกู " รอยยิ้มกว้าง ยิ้มออกมาตอนที่ได้รับคำตอบนั้น อ้อมกอดของผมกอดมันแน่นขึ้น ก่อนจะถอนหายใจออกมา

" โล่งอกไปที  ดีใจด้วยนะมึง ดีใจด้วยจริงๆ "  น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมาตามอีกคนที่ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก  ผมผละออกห่างจากตัวมัน ไอ้ภาพที่ยังร้องไห้นั้นไม่ต่างอะไรจากไอ้หัวหอมเลย " เชี้ยยย เลิกร้องไห้ได้แล้ว มึงเป็นไอ้หัวหอมรึไง "

“ มึงก็ร้อง ว่าแต่กู " ผลักอกมันที่ว่าแบบนั้นจนเซไปข้างหลัง

   เราที่ยิ้มให้กันก่อนจะหัวเราะออกมาเป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดในอาทิตย์นี้เลย โล่งอกจนอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อระบายความสุขนี้ ผมรู้สึกมีหวังขึ้นมา ภาพเองก็ด้วย อย่างน้อยตอนนี้เราก็มีสิทธิครึ่งนึงที่จะได้เลี้ยงหัวหอม นั่นคือสิทธิความเป็นพ่อตามสายเลือดของไอ้ภาพ

   ครืน ครืน ครืน

   เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงดังขึ้นมา ไอ้ภาพเช็ดน้ำตาด้วยหลังฝ่ามือแบบลวกๆก่อนจะเอื้อมมือลงไปล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะกดรับ " ครับ สวัสดีครับ ตอนนี้เลยใช่มั้ยครับ ได้ครับ ครับ สวัสดีครับ "

“ ใครวะ "

“ นักสืบน่ะ เค้านัดกูให้ไปเอาข้อมูลที่แจ้งให้สืบ " มันบอกผมก็พยักหน้ารับ

“ กูลืมไปเลยว่ามึงจ้างนักสืบไว้ให้ตามโอลิเวีย "

“ ไปกันเถอะ " ภาพบอก เราก็เดินออกจากศูนย์ตรวจดีเอ็นเอไปที่ร้านกาแฟร้านเดิมที่เคยนัดพบนักสืบครั้งแรก " ขม มึงเอามือถือกูไปพิมพ์ข้อความส่งไปให้แม่กูที "

“ จะให้พิมพ์ว่าอะไร "

“ ยินดีด้วยคุณได้หลานชายแล้ว " เผลอยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้าไปมากับข้อความที่อีกคนให้ส่ง ผมจัดการพิมพ์คำพูดพวกนั้นของมันส่งไปหาแม่ตามที่อีกคนบอก วางมือถือลงบนตัก เงยหน้าขึ้นมาอีกทีรถก็ชะลอจอดลงที่ร้านกาแฟแล้ว ผมมองเข้าไปในร้านก็เห็นคุณพจน์ที่กำลังนั่งอยู่ตรงมุมด้านในของร้าน เราเปิดประตูเข้าไปด้านในตรงไปเอ่ยทักทายเค้าก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม

“ มาเร็วจังเลยครับ " เค้าเอ่ยทัก

“ พอดีอยู่แถวๆนี้พอดีนะครับ " ภาพบอก คุณพจน์ก็ยื่นเอกสารในซองสีน้ำตาลมาให้เรา

“ เอกสารที่คุณภาพให้ทางเราไปสืบมาครับ สำหรับเรื่องผู้หญิงที่ชื่อโอลิเวีย " เค้าอธิบาย เราก็ดึงเอกสารพวกนั้นออกมา ในนั้นมีทั้งเอกสารสรุปเหตุการณ์แล้วก็ภาพถ่ายอีกบึกใหญ่ " ผมขอสรุปคร่าวๆนะครับ ตลอดสามวันที่ผ่านมา คุณโอลิเวียไปที่คอนโดคุณสองครั้ง คือวันแรกที่ให้เราเริ่มสืบ และ เมื่อวาน แล้วทั้งสองวันจะนั่งรออยู่ประมานครึ่งชั่วโมง แล้วก็ออกมาจากคอนโด หลังจากนั้นเธอก็จะไปที่โรงแรมเพื่ออาบน้ำแต่งตัวแล้วออกมาเที่ยวผับแถวนั้น ทุกวันเธอจะพาผู้ชายคนนึงขึ้นโรงแรมด้วยกันกับเธอ และอยู่ด้วยกันข้างในจนถึงเช้าของอีกวัน เธอถึงจะลงมาส่งผู้ชายที่ด้านหน้าของโรงแรม " ภาพยกยิ้มขึ้นมาตอนที่ฟังเรื่องเล่าเหล่านั้นพร้อมกับเปิดภาพถ่ายดูไปเรื่อยๆ รูปถ่ายชัดเจนที่เห็นตั้งแต่ทั้งสองคนเจอกัน พูดคุย กอดจูบ ขึ้นโรงแรมไปด้วยกันแล้วก็ลงมาจากโรงแรม ผู้ชายสามคนที่ไม่ซ้ำหน้ากัน " เธอใช้เวลาในผับเดิมตั้งแต่ที่มันเปิดจนกระทั้งว่าได้พูดคุยกับผู้ชายที่ถูกคอ รวมๆแล้วก็สักประมาน ห้าชั่วโมง "

“ หึ มาเฝ้าลูกครึ่งชั่วโมง ไปหาผู้ชายห้าชั่วโมง เป็นแม่ที่น่ารักจัง ดูรักลูกสุดๆ " ภาพมันพูดเสียงเบาๆ ผมก็ถอนหายใจออกมา

“ แล้วนี่ก็เป็นคลิปเสียงของเธอ ที่ทางคุณภาพให้เราสืบว่า ถ้าถามว่าเธอมีลูกรึยัง เธอจะตอบว่าอะไร ก็ตามนี้ครับ ผมตัดเรื่องที่คุยก่อนหน้าออกไปเพราะไม่สำคัญ เหลือไว้แค่ข้อความสำคัญนะครับ ส่วนข้อความทั้งหมดผมใส่ลงไปในไดร์ทที่อยู่ในซองแล้ว " คุณพจน์ยื่นที่อัดเสียงให้เราพร้อมหูฟัง บทสนทนาที่มีเสียงรถตามถนนแทรกอยู่เป็นพื้นหลัง ก่อนจะมีเสียงผู้ชายคนนึงที่น่าจะเป็นนักสืบเล่าเรื่องครอบครัวของตัวเองก่อนจะเอ่ยถามเธอ

' แล้วคุณชอบเด็กมั้ย '

' คิดว่าคงไม่ชอบมากกว่ามั้ง ฉันรู้สึกว่าเด็กคือภาระน่ะ จะทำอะไรก็ไม่สะดวกฉันก็เลยไม่มีลูกไง ฉันชอบที่จะอยู่คนเดียวแล้วก็เที่ยวเล่นแบบนี้มากกว่า แต่ก็นะ .. สุดท้ายก็ดันมีหลานจนได้ นี่ไงหลานฉัน ' จากตรงนี้ผมคิดว่า เธอคงยื่นภาพของหัวหอมให้อีกฝ่ายดู

' น่ารักนะครับ ' เค้าตอบ

' หึ ก็ก็แค่ภายนอกเท่านั้นแหละ เด็กนี่ก็มีดีแค่ความน่ารัก แต่จริงๆเค้าซนจะตายไป ชอบสร้างปัญหาให้ฉันตลอด นี่ก็กำลังสร้างปัญหาให้ฉันอยู่ '

' อย่างงั้นเหรอครับ คุณคงทุกข์ใจน่าดูสินะ ต้องมาเลี้ยงหลานซนๆแบบนั้น '

' อื้ม ใช่ '

' ถ้าไม่รังเกียจเล่าให้ผมฟังได้นะ เรื่องทุกข์ใจของคุณน่ะ ผมจะรับฟังไว้เอง  '

' ใจดีจังนะ ' เธอว่าก่อนจะเว้นเสียงไปสักพัก ' ก็ไม่มีอะไรมากหรอก จริงๆฉันมาที่นี่เพื่อรับหลานฉันไปอยู่ด้วยน่ะ แม่เค้าเป็น..พี่สาวฉัน ที่เสียไปแล้วละตอนนี้หลานฉันก็อยู่กับพ่อของเค้าที่นี่ แต่ฉันก็อยากจะรับเค้ากลับไปเลี้ยงเองมากกว่า '

' ทำไมละ ก็คุณบอกไม่ชอบเด็ก ตอนนี้ให้พ่อเค้าเลี้ยงก็ดีอยู่แล้วนะ คุณจะเอาเค้าไปเลี้ยงทำไมละ '

' ก็อยู่เมืองนอก มันดีกว่าอยู่เมืองไทยไม่ใช่เหรอ แค่ได้ชื่อว่าเรียนจบเมืองนอกสำหรับที่นี่ โรงเรียนไหนก็ไม่สำคัญไม่ใช่เหรอ แค่ขึ้นชื่อว่า เรียนเมืองนอกแค่นั้นก็ดูหรูแล้ว ถูกมั้ยละ  '

' งั้นคุณก็คงคิดว่า อยากจะให้หลานคุณมีการศึกษาที่ดีก็เลยจะพาไปอยู่ด้วยงั้นละสิ '

' ก็ไม่เชิงแบบนั้นทั้งนั้นหรอกน่า  ฉันไม่ใช่คนที่รักเด็กแล้วก็ใจดีขนาดนั้นนะ ' โอลิเวียว่า ' ฉันน่ะ เห็นเด็กคนนั้นมาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่ที่เค้าเกิดมาก็สร้างปัญหาให้ฉันมาตลอด เหมือนเป็นคนที่เกิดมาเพื่อทำลายชีวิตของคนอย่างฉันเลยละ ฉันต้องเลิกกับคนรัก ต้องออกจากโรงเรียน ฉันทะเลาะกับแม่บ่อยขึ้น โดยเฉพาะเวลาฉันไปเที่ยว เมา แล้วก็ไม่สนใจเค้า '

' ไม่เข้าท่าเลย ทำไมแม่คุณทำแบบนั้นเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกคุณสักหน่อย ถ้าเป็นลูกคุณก็ว่าไปอย่างแต่นี่เป็นแค่หลานเอง แบบนั้นแม่คุณก็ทำเกินไป ' เธอเงียบสักพักไปตอนที่ได้ฟังคำพูดนั้น

' อื้ม แม่ฉันคงอยากจะให้เด็กคนนี้อยู่กับฉันละมั้ง ' เธอตอบ

' แล้วทำไมคุณถึงคิดจะมารับเด็กคนนี้กลับไปละ ในเมื่อเค้าสร้างความลำบากให้ ' คนถามเงียบไปสักพักก่อนจะเสริมขึ้นมา ' ผมหมายความว่า ก็คุณบอกว่าตอนนี้เด็กอยู่กับพ่อเค้า แล้วก็บอกว่าเด็กคนนั้นสร้างความลำบากให้คุณมาตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นคุณจะมารับเค้ากลับไปทำไมละ ในเมื่อตอนนี้เด็กก็อยู่กับพ่อเค้าแล้ว คุณเองก็จะได้ไม่ต้องลำบากอะไรอีกต่อไป '

'  แล้วคุณคิดว่า จะไม่ให้ฉันได้รับค่าตอบแทนในสิ่งเด็กคนนั้นทำให้ฉันลำบากมาตลอดเลยเหรอ ' เธอถาม ' ความจริงฉันไม่ได้ตั้งใจจะส่งเด็กมาให้พ่อเค้าหรอก ฉันตั้งใจจะเลี้ยงเค้าไปเรื่อยๆ ก็เด็กน่ะ โตเร็วมากเลยไม่ใช่เหรอ พอเค้าโตจนเริ่มทำงานในบ้านได้ ฉันก็จะได้ไม่ต้องทำอะไรไง ฉันน่ะ จะให้เค้าทำงานพวกนั้นแทนฉันทั้งหมด ถ้าพูดง่ายๆก็คงเหมือนเค้าต้องทำงานตอบแทนฉันที่เคยต้องลำบากสมัยเค้ายังเป็นเด็กนั่นแหละ '

' ผมเข้าใจละ '

' แต่พูดแบบนั้นก็ดูใจร้ายเกินไปหน่อยละนะที่ทำเหมือนจะเลี้ยงเค้าไว้เป็นคนรับใช้อะไรทำนองนั้นน่ะ แต่ยังไงฉันก็จะต้องส่งให้เค้าได้เรียนหนังสือละนะ แล้วก็จะให้ที่อยู่ที่กินด้วย '

' แบบนั้นมันก็คล้ายๆกับว่า เราไปเรียนเมืองนอกแล้วก็ทำงานแลกค่าที่พัก ค่ากิน ค่าเรียน อะไรแบบนั้นสินะ '

' ใช่ มันเป็นแบบนั้น แต่นี่ฉันก็ใจดีมากแล้วนะ ฉันยังให้โอกาสเค้ามาเจอพ่อ แถมยังเล้ี้ยงดูเอาไว้ ทั้งๆที่ควรฆ่าเด็กนั่นที่ทำลายชีวิตฉันด้วยซ้ำไป " 

   ผมดึงหูฟังออกตอนที่เสียงสนทนานั้นหยุดลง ในใจที่ว่างเปล่าไม่มีคำพูดใดเอ่ยออกมาแม้แต่ร่างสูงคนข้างๆก็ได้แต่เงียบกับสิ่งที่ได้ยิน ผมผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆแล้วก้มหน้าลงหลับตาแน่นกับสิ่งที่ได้ยิน ดวงตาที่กำลังร้อนผ่าว หัวใจที่กำลังถูกบีบรัดจากคำพูดพวกนั้น อธิบายความรู้สึกอะไรออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลยว่าตอนนี้กำลังรู้สึกอะไร ขยะแขยงกับคนที่มีความคิดแบบนี้จนอยากจะต่อย  อยากจะพุ่งเข้าไปทำร้าย อยากจะเอามีดจ้วงแทงมันสักร้อยแผล เอาปางตาย ให้สมกับที่คิดจะทำลายชีวิตของเด็กบริสุทธิ์คนนึง

   ไม่รับเป็นลูกก็ว่าแย่แล้วแต่ความคิดที่อยากจะเอาไปเป็นคนใช้ของตัวเองเพื่อตอบแทนที่เคยทำลายชีวิตในอดีตนั่นคืออะไรกันวะ เธอคิดว่าหัวหอมทำให้เธอลำบาก ทั้งๆที่เธอควรโทษตัวเองที่ไปแหกขาให้ผู้ชายเอาโดยไม่ใส่ถุงยางมากกว่า แต่นี่อะไรวะ เธอโยนความผิดพวกนั้น มาให้เด็กตัวเล็กๆ ที่ไม่ได้ขอให้เธอเกิดเค้ามาด้วยซ้ำน่ะเหรอ

" เหี้ยเอ้ย..” ผมสบถออกมาเบาๆ ตอนที่กำลังข่มใจไม่ให้รู้สึกโกรธไปมากกว่านี้ ไอ้ภาพก็เอ่ยพูดกับคุณพจน์ 

“ ขอบคุณมากนะครับคุณพจน์ สำหรับข้อมูล "

“ ด้วยความยินดีครับ " เค้าพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มให้เรา " เอกสารพวกนี้มีความสำคัญมาก สามารถใช้เป็นหลักฐานได้อย่างดี เก็บมันเอาไว้ให้ดีนะครับ " คนตรงหน้าเราบอก " ผมรวบรวมไฟล์ทั้งหมดใส่ไว้ในแผ่นซีดีสองแผ่นนี้ แล้วก็ใส่ไว้ใส่ไดร์ทอันนี้แล้วนะครับ เพื่อเป็นการสำรองข้อมูลที่ให้ไปสืบมา "

“ ครับ ผมจะเก็บไว้อย่างดี  ส่วนเงินจะโอนให้เลยนะครับ " มือหนาหยิบโทรศัพท์ออกมากดโอนเงินให้อีกฝ่าย คุณพจน์เองหยิบมือถือขึ้นมากดเช็ค

“ เรียบร้อยครับ ขอบคุณมากนะครับ ที่ไว้วางใจให้เราทำงานนี้  "

“ ครับ ขอบคุณมากเช่นกันสำหรับข้อมูล " ภาพลุกขึ้นยืนมันยกมือไหว้อีกฝ่าย ผมเองก็ด้วย

“ งั้นผมต้องขอตัวกลับก่อนแล้วครับ "

“ ครับ " เราพูดขึ้นพร้อมกันก่อนที่พี่พจน์จะเดินออกไปจากร้าน นั่งที่โซฟาในร้านอีกครั้ง ผมมองดูภาพถ่ายที่วางอยู่บนโต๊ะจัดการเก็บมันรวบรวมมันไว้เป็นกองเดียวกัน ก่อนจะยื่นให้ไอ้ภาพที่ก็จัดการเลือกรูปสองสามใบ ผมเหลือบมองมัน

“ แล้วจะเอายังไงต่อ "

“ กูจะกลับไปคอนโด " ภาพบอก " โอลิเวียอาจจะอยู่ที่นั่น กูจะไปคุยกับมันเรื่องกาลิค  "

“ อื้ม " เราลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกจากร้าน ร่างสูงก็หันมาถามผม

“ มึงโอเครึเปล่าวะขม ไหวมั้ย "

“ กูคิดว่า กูต้องเป็นคนถามมึงรึเปล่าวะ คำถามนั้นน่ะ " หันไปมองมันอีกคน ร่างสูงก็ยกยิ้ม

“ ก็กูเห็นมึงเหมือนจะร้องไห้ตอนที่ฟังคลิปเสียงโอลิเวียพูด ท่าทางมึงดูไม่ค่อยโอเค "

“ กูไหว " ผมบอกก่อนจะหันไปยิ้มให้มัน " กูแค่ไม่คิดว่า คนเป็นแม่คนจะคิดอะไรเลวๆกับลูกตัวเองได้ถึงขนาดนั้น กูแค่คิดในแง่ดีไปหน่อยว่า อย่างน้อยเธอก็น่าจะมีความเป็นแม่บ้าง กูคงมองเธอในแง่ดีเกินไป " เอื้อมมือไปจับไหล่ของอีกคนผมผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ " สู้ๆนะมึง ไม่ว่ายังไงก็ห้ามให้หัวหอมไปกับมันเด็ดขาดเลยนะ ถ้ามึงทำพลาด กูจะฆ่ามึง "

“ มึงไม่ต้องขู่หรอกน่า ยังไงกูก็ไม่มีวันให้กาลิคไปกับมันหรอก " คนข้างกายของผมบอกด้วยสายตาเอาจริงเอาจังที่จ้องไปข้างหน้า มือหนาที่กำมือตัวเองไว้แน่น " ไม่มีวัน "

................................................................

   ขับรถตรงไปที่คอนโดแต่ในระหว่างนั้นโทรศัพท์มือถือของไอ้ภาพก็ดังขึ้น เบอร์ที่ขึ้นโชว์คือเบอร์โทรศัพท์บ้าน ร่างสูงขมวดคิ้วตอนที่เห็นเบอร์นี้โทรเข้ามา อาจเพราะต่างจากปกติที่ถ้าพ่อกับแม่โทรเข้ามาเค้าจะใช้เบอร์ส่วนตัวมากว่าเบอร์โทรศัพท์ของที่บ้าน

“ ครับ " มันกดรับก่อนจะพูดออกไปปลายสายที่ผมไม่ได้ยินได้ แต่จู่รถที่กำลังขับตรงไปกลับเปิดไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง แล้วเบรคลงกระทันหัน ผมหันไปมองมันที่กำลังขมวดคิ้วด้วยสีหน้าบึ้งตึง  " จะกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ ยังไงซะก็ห้ามให้กาลิคออกไปไหนเด็ดขาดเลยนะ ให้อยู่ในห้องดูหนังนั่นแหละ แล้วอย่าให้กาลิคได้ยินเสียงมันนะ " มือถือถูกกดวางสายลง ภาพถอนหายใจหงุดหงิดก่อนจะตีไฟเลี้ยวขอสัญญาณเข้าไปในเลี้ยวก่อนจะยูเทิร์นขับรถกลับไปทางถนนเส้นที่จะกลับบ้านทันที

“ เกิดอะไรขึ้นที่บ้านวะ " ผมถาม มันก็เงียบท่าทางที่เหมือนไม่อยากจะให้ผมรู้สายตาคมเหลือบมองผมด้วยท่าทีเป็นห่วง แต่นั่นแหละที่ต้องรู้ไว้ " ไอ้เชี้ยภาพ มึงบอกกูมา เกิดอะไรขึ้น ทำไมวะ เกิดอะไรขึ้นกับหัวหอมรึเปล่า บอกกูมาเถอะ "

“ โอลิเวียไปที่บ้านกู ตอนนี้มันกำลังยืนตะโกนจะเอากาลิคคืนอยู่ที่หน้าบ้าน " ผมเบิกตาตกใจขึ้นมองคนตรงหน้าตอนที่ได้ยินคำพูดนั้น ไอ้ภาพที่หันมามองเราถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ก่อนที่คนขับอย่างมันจะเร่งความเร็วของรถให้เร็วขึ้นไปมากกว่านั้นอีก
“ แล้วตอนนี้หัวหอมเป็นยังไงบ้าง มันร้องหาแม่มันมั้ย "

“ มันยังไม่รู้ว่าแม่มันมา เพราะมันอยู่ในห้องดูหนังกับป๊าม๊าอะ มันเลยไม่ได้ยิน " ผ่อนลมหายใจโล่งออกมาหน่อยอย่างน้อยก็ยังพอมีเวลาให้เราได้ไปถึงก่อน

มือสองข้างของผมกำเข้าหากันแน่น สายตาที่มองตรงไปยังทางข้างหน้าที่ตอนนี้รถเคลื่อนตัวไปอย่างเร็ว ทั้งๆที่ปกติผมจะเป็นคนที่บอกให้มันลดความเร็วลง แต่ทว่าตอนนี้มันกลับไม่มีคำพูดอะไรออกจากปากของผม หนำซ้ำในใจยังอยากจะขอร้องให้มันขับให้เร็วมากขึ้นไปกว่านี้อีก เพื่อให้เราถึงเร็วกว่านี้ สักวินาทีนึงก็ยังดี

“ ขอร้องละ อย่าเกิดอะไรขึ้นเลยนะ " ผมพูดออกมาเสียงเบาๆ ก้มหน้าลงต่ำแล้วเอาแต่ภาวนาขอพร ราวกับว่าตอนนี้ก็มีแค่สิ่งนี้เท่านั้น ที่ผมจะทำได้ " อย่าเอาหัวหอมไปจากเราเลยนะ ขอให้สิ่งศักดิ์ทั้งหลายช่วยดลบันดาล คุ้มครองหัวหอมด้วยเถอะ ขออย่าให้แม่ของมันเอาตัวมันไปได้เลย ได้โปรดเถอะ ขอให้มันมีความสุข ขอให้มันปลอดภัย ขออย่าให้เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นกับมันเลย "

   รถเลี้ยวเข้าไปในตัวหมู่บ้านก่อนจะจอดลงที่หน้าประตูบ้าน ผู้หญิงคุ้นตาคนนึงที่ยังคงแต่งตัวด้วยชุดที่วาบหวิวเหมือนเดิม เธอในตอนนี้กำลังยืนเกาะประตูรั้วบ้านไว้แน่นด้วยสองมือ พลางตะโกนเรียกชื่อของเด็กน้อยด้วยเสียงดังๆแบบไม่มีหยุดปาก

" กาลิค! กาลิค! หม่ามี๊มารับกาลิคกลับแล้วนะ! หม่ามี๊มาแล้ว! กาลิค! กาลิคออกมาหาหม่ามี๊หน่อย! กาลิค!!  "

“ ทำอะไรน่ะ " ไอ้ภาพเอ่ยถามเธอทันทีตอนที่มันเดินลงจากรถแล้วเดินตรงไปหาเธอ โอลิเวียหันมามองเราก่อนจะหยุดการกระทำทั้งหมดแล้วก้าวตรงมาที่ร่างสูง เธอเอื้อมมือจับที่เสื้อของมันก่อนจะเขย่าไปมาอย่างแรง

“ ยู! ยูเอาลูกของไอไปไว้ไหน! เอาลูกของไอคืนมานะ!! เอากาลิคคืนมาให้ไอ! เอาเค้าคืนมา! ไอจะพาเค้ากลับบ้าน !! “

“ ไม่ได้ " ภาพบอกสั้นๆ เธอก็นิ่งไปทันที

“ ไม่ได้..” เธอทวนคำพูดนั้นด้วยเสียงเบาๆ " ยูพูดออกมาแบบนั้นได้ไง อะไรที่บอกว่าไม่ได้ นี่ไอเป็นแม่ของกาลิคนะ.. ยูมีสิทธิอะไรที่จะมาบอกว่าไม่ได้กัน ห๊ะ! ยูมีสิทธิอะไรภาพ ยูไม่มีสิทธิ!  "

“ ฉันมีสิทธิของความพ่อไง " มันว่าเธอก็เบิกตาขึ้นมาก่อนจะผงะหลังชะงักนิ่งไป " ฉันพากาลิคไปตรวจดีเอ็นเอมาแล้ว แล้วผลก็ออกมาแล้ว ว่ากาลิคเป็นลูกฉัน แล้วฉันก็จะไม่มีวันยอมให้เธอพาเค้าไปเด็ดขาด "

“ ยูไม่มีสิทธิ! “ เธอตะโกน " ไออุ้มท้องแล้วคลอดเค้ามา นั่นคือลูกไอ ไอจะพาเค้ากลับ พ่อที่ไม่เคยคิดจะสนใจเค้าตั้งแต่เค้าเกิด ไม่มีสิทธิมาพูดแบบนี้ ยูไม่มีสิทธิ ไอไม่ให้ยูมีสิทธิอะไรในตัวเด็กคนนั้นทั้งนั้น!! "

“ แล้วแม่ที่ร่านเอากับผู้ชายตลอดสามวันทั้งๆที่มีผัวแล้ว แถมยังหลอกใครๆว่าลูกแท้ๆตัวเองเป็นแค่หลาน เธอคิดว่าคนแบบนั้น  มันมีสิทธิเรียกว่าแม่รึยังไง!! เธอนั่นแหละที่ไม่มีสิทธิ! เธอไม่มีสิทธิให้ใครเรียกว่าเธอว่าแม่ด้วยซ้ำ! โอลิเวีย!!!  " แววตาของหญิงสาวเบิกตาขึ้นด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เธอเหลือบมองซ้ายขวาด้วยท่าทีตื่นๆคงไม่คิดว่าเราจะมารู้ความลับข้อนี้ของเธอ โอลิเวียที่ขยับตัวถอยหลังไป ในตอนนั้นภาพก็ล้วงรูปถ่ายที่มันเลือกไว้ก่อนหน้านี้ออกจากกระเป๋ากางเกง มันโยนลงไปที่หน้าของเธอก่อนจะรูปถ่ายพวกนั้นจะตกลงพื้นแล้วกระจายไปทั่ว

“ ยู!!! ” เธอก้มลงเก็บภาพตัวเองทันทีตอนที่เห็นว่าภาพพวกนั้น คือภาพที่เธอกำลังกอดจูบกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าด้วยท่าท่างมีความสุข

" ตลอดสามวันที่ผ่านมา เธอบอกสามีใหม่ที่นู้นว่าจะมารับหลานแท้ๆของตัวเองที่ประเทศไทย เพราะพ่อของมันไม่เอามันแล้วงั้นสินะ แต่น่าแปลกอยู่นะโอลิเวีย.. มารับหลานแต่ทำไมถึงมีแต่ภาพนัวเนียผู้ชายละ แล้วนี่ถ้าสามีใหม่ของเธอรู้... "

" ไอ้สารเลว! ยูแอบถ่ายไอทำไม " คนที่ก้มเก็บภาพเงยหน้าแล้วชักสายตาถามร่างสูงที่กำลังก้มมองดูเธอ ภาพยกยิ้ม

" คงเพราะฉันรู้สันดานของผู้หญิงแบบเธอดีละมั้ง ว่าเธอมันเป็นคนยังไง รู้ว่าคนอย่างเธอน่ะ มันทั้งร่าน ทั้งเลว ขนาดไหน แถมฉันยังรู้ด้วยนะว่าที่เธอกลับมารับกาลิค เพราะแค่จะเอามันไปเลี้ยงไว้เป็นคนใช้ เอาไปเลี้ยงไว้เหมือนหมาตัวนึงที่ซื่อสัตย์กับเธอแม้ว่าเธอจะไม่เคยให้ความรัก และไม่เคยคิดว่ามันเป็นลูกเธอเลยสักสักครั้ง เธอไม่เคย... "

" นั่นมันเรื่องของไอ!” เธอลุกขึ้นตะโกนใส่ไอ้ภาพเสียงดัง " ไอจะทำอะไรกับมันก็ได้ ไอให้ชีวิตมัน นั่นมันเรื่องของไอ ยูไม่เกี่ยว! "

" ฉันเกี่ยว! เพราะฉันเป็นพ่อมัน! พ่อที่ไม่เคยได้รู้ว่ามีมันเป็นลูก นั่นก็เพราะว่าแม่ร่านๆของมัน คิดจะเอามันไปเป็นเครื่องมือจับผู้ชาย ทั้งๆที่คนเป็นแม่ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครกันแน่ที่เป็นพ่อของมัน เธอเป็นแม่ร่านๆที่แค่อุ้มท้องแต่ไม่เคยให้ความรักกับมันเลยสักครั้ง เป็นแม่ที่เอาแต่โยนความผิดของตัวเองใส่มัน โทษที่มันเกิดมาทำลายชีวิตทั้งที่มันเป็นความผิดของตัวเธอเอง " ภาพเว้นเสียง มันที่ยกยิ้มแล้วมองดูคนตรงหน้าด้วยสายตาสมเพช " แล้วเธอกล้าพูดออกมาว่าตัวเองเป็นแม่ของกาลิคได้ยังไงวะ ทั้งๆที่ตลอดมา เธอเอาแต่ทุบตีมันตอนที่มันเรียกเธอว่าแม่ เธอไม่แม้จะยอมรับด้วยซ้ำว่ามันเป็นลูก แล้วตอนนี้เธอพูดออกมาได้ยังไงว่าเธอเป็นแม่มัน คนแบบเธอน่ะ โอลิเวีย คนแบบเธอไม่สมควรเรียกตัวเองว่าแม่ด้วยซ้ำ อย่างมากที่เป็นได้ก็คงแค่เพศหญิงที่สามารถกำเนิดเด็กได้ แต่เป็นแม่ให้ใครไม่ได้หรอก "

“ ยู รู้ เรื่องนี้ ได้ ยังไง..” เธอเว้นเสียงถามภาพก่อนจะเดินเข้ามาใกล้เรา

“ กาลิคบอกฉัน " ร่างสูงบอก

“ กาลิคโกหก! "

“ เด็กคนนั้นไม่เคยโกหก!!! “ มันเถียงกลับ " กาลิคไม่ใช่เด็กที่ชอบโกหก กาลิคเป็นเด็กดี น่ารัก เป็นเด็กที่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่น มันจะช่วยปลอบเราทุกครั้งที่เราเศร้า กอดเราในเวลาที่เราแย่ มันไม่เคยทำนิสัยไม่ดีให้เราต้องรำคาญใจ เพราะคิดอยู่ตลอดว่าเป็นภาระของคนอื่น คิดอยู่ตลอดว่าถ้าไม่ใช่เด็กดีก็จะโดนทิ้ง อย่างที่เธอทำกับมัน กาลิคไม่ใช่.. "

" พอ! พอแค่นั้น! เลิกพูดถึงเด็กคนนั้นว่ามันเป็นยังไงสักทีเถอะ!! “ โอลิเวียตะโกนขึ้นมา " ฉันไม่ได้อยากจะรู้เรื่องของมัน มันจะเป็นยังไงก็เรื่องของมัน จะรู้สึกอะไรก็เรื่องของมัน พวกยูจะรักมันมากแค่ไหนรู้จักมันดียังไง นั่นก็เรื่องของพวกยู ไม่เกี่ยวกับไอ! สิ่งที่ไออยากรู้คือ ยูสืบอะไรเกี่ยวกับเรื่องของไอ แล้วยูจะทำอะไรไอ บอกมานะ บอกไอมา ยูจะทำอะไรกับไอ ภาพ ยูบอกไอมา! “

" ไม่ทำอะไร " ภาพพูดเสียงนิ่งก่อนจะยิ้มให้อีกคน " แค่เธอต้องเซ็นส์สัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกาลิคอีกตลอดชีวิตก็เท่านั้น แล้วถ้าเธอไม่ทำคลิปเสียงที่เธอบอกว่ากาลิคไม่ใช่ลูกเป็นแค่หลานและจะเอาไปเป็นคนรับใช้ที่บ้าน ทั้งหมดนั่นฉันจะส่งมันให้ตำรวจ แล้วถ้าเธอยังดึงดันอยากจะได้กาลิคแล้วละก็ มาเจอกันที่ศาลเลยก็แล้วกัน ส่วนภาพพวกนั้นตลอดสามวันที่เธอมั่วกับผู้ชายไม่เลือกหน้า แน่นอนว่าฉันจะส่งให้สามีของเธอพร้อมกับเรื่องของกาลิค " สายตาคมจ้องไปที่ผู้หญิงที่ก็จ้องมันกลับด้วยสายตาเกลียดชัง " ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าสามีของเธอ รู้ว่าเธอมีลูก แถมยังมั่วขนาดนี้ เค้าจะรู้สึกยังไง แล่วเค้าจะทำอะไรกับเธอที่หลอกลวงเค้าขนาดนี้ " 

" พวกยูมันไม่ใช่คน! ทำไมพวกยูต้องทำทุกอย่างให้มันเป็นเรื่องใหญ่ด้วย " โอลิเวียบอกเสียงสั่นด้วยความโกรธ " พวกยูจะดับอนาคตตัวเองทำไม จะเอาเด็กคนนั้นเก็บไว้ทำไม พวกยูไม่คิดถึงการมีครอบครัว มีคนรักบ้างเหรอ ถ้าพวกยูเก็บกาลิคไว้ เด็กนั่นก็เป็นแค่ส่วนเกินในชีวิตของพวกยูนะ พวกยูปล่อยมันไปเถอะ ช่างหัวมันสิ มันจะเป็นตายร้ายดียังไง พวกยูแคร์ตัวเองบ้างสิ ไม่รักตัวเองกันรึยังไงถึงจะเก็บมันไว้ ภาพ.." เธอเอื้อมมือไปจับมือของร่างสูงที่ก็สะบัดออกทันที " ยูคืนกาลิคมาให้ไอเถอะนะ แล้วคิดซะว่าเรื่องนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นเราจะได้จบความวุ่นวายนี้ซะทีไง ยูเอาเงินที่ไอให้ไปเลย แล้วส่งกาลิคคืนมาให้ไอ ไออยากได้แค่กาลิคกลับไปด้วยเท่านั้น "

" เธออยากได้กาลิคกลับไปเพื่อเป็นหลักฐานให้สามีรู้ว่า เธอไม่ได้โกหก เธอมาที่ไทยเพื่อรับหลานของเธอจริงๆ แล้วสุดท้ายเธอก็จะเลี้ยงเค้าไว้เหมือนหมาตัวนึง เพื่อรอให้โตจนได้ใช้งาน " ภาพมองเธอนิ่งๆ อีกฝ่ายก็ได้แต่ถอนหายใจ " ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ฉันจะไม่มีวันให้กาลิคไปกับเธอ "

" อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปมากกว่านี้ได้มั้ยภาพ ยูจะไม่ให้ชีวิตไอมีความสุขเลยรึยังไงกันน่ะ ยูรู้มั้ยว่าไอต้องเสียอะไรไปบ้าง ไอต้องเสียคนที่ไอรักเพราะดันมาท้องมัน แล้วครั้งนี้ไอก็เจอคนที่ไอรักอีกครั้งแล้ว มันก็ถึงเวลาแล้วไม่ใช่เหรอ ที่ไอจะได้มีความสุข ให้กาลิคมันตอบแทนไอบ้างสิ มันทำชีวิตไอพังขนาดนี้ มันก็ต้องทำอะไรเพื่อไอบ้าง..”

" เลือกมา ระหว่างยอมเซ็นสัญญาเลิกยุ่งกับกาลิค หรือ จะขึ้นศาลฟ้องร้องสิทธิในการเลี้ยงดู แล้วส่งหลักฐานพวกนี้ไปให้สามีของเธอรู้ความจริงทั้งหมด เลือกมา จะเอาอะไร ”

" ภาพ.." โอลิเวียกัดฟันพูดออกมาด้วยความโกรธ เธอคงหงุดหงิดที่ตัวเองต้องมาเข้าตาจนขนาดนี้ มือที่กำหมัดของตัวเองแน่น จ้องสายตาคมที่ก็มองเธออย่างผู้เหนือกว่า

" หม่ามี๊.." เสียงเล็กๆที่ดังขัดเราขึ้นมา ในตอนนั้นทุกสายตาที่กำลังมองกันอยู่หันไปมองต้นเสียงที่เอ่ยเรียกเป็นตาเดียว หัวหอมกำลังยืนอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน แววตาน้อยๆเบิกกว้างขึ้นด้วยความดีใจที่ได้เห็นคนเป็นแม่ ขาเล็กที่ออกวิ่งเต็มกำลังเข้ามาแล้วในวินาทีนั้นผมเองก็มองหน้าโอลิเวียที่ยิ้มกว้างให้ไอ้ภาพ ราวกับจะบอกร่างสูงว่า วินาทีต่อจากนี้มันไม่ใช่คนที่อยู่เหนือกว่าเธอแต่อย่างใด เพราะเธอคือคนที่อยู่เหนือกว่าแน่นอน ถ้าหากกาลิคยืนยันที่จะไปกับเธอ 


หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 18-06-2017 20:36:55
" กาลิค " เธอเอ่ยเรียกเจ้าตัวเล็กพลางย่อตัวลงกางแขนออกกว้างรอรับให้หัวหอมวิ่งเข้าไปหา ประตูรั้วบ้านที่ถูกเปิดออก แต่ทว่าขาเล็กที่กำลังวิ่งมาถึงตัวของคนเป็นแม่กลับชะลอลงแล้วเปลี่ยนเป็นเดินเข้าไปใกล้แทน ท่าทางกลัวๆของมันก่อนจะเอ่ยเรียกคนตรงหน้า

" โอลิเวีย "

" ทำไมไม่เรียกหม่ามี๊ละกาลิค " เธอดึงลูกชายตัวเองเข้าไปกอดก่อนจะยิ้มกว้างออกมา " เรียกหม่ามี๊สิ หม่ามี๊น่ะ มารับกาลิคกลับไปอยู่กับหม่ามี๊แล้วนะ "

“ เรียกได้เหรอ ถ้าเรียกจะโดนตีรึเปล่า " คำถามที่ทำให้คนที่กำลังยิ้มชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มกว้างออกมาอีกครั้ง

“ เรียกได้สิ ต่อไปนี้ก็เรียกว่า หม่ามี๊ตลอดไปเลยนะ " เอื้อมมือไปจิ้มแก้มอีกคน ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วคว้าจับข้อมือของเด็กผู้ชายไว้แน่น " หม่ามี๊มารับกลับแล้วเพราะงั้นเราก็ไปกันเถอะ ต่อจากนี้ไป เราจะไปมีความสุขกัน แล้วก็อยู่ด้วยกันนะกาลิค ไปกันเลย " 

“ เดี๋ยวสิ! ” ผมคว้ามือของเธอไว้แน่น อีกคนก็หันมาชักสายตาใส่

“ อย่าพูดอะไรไม่ดีต่อหน้ากาลิคลูกชายฉันนะ พวกยูรักกาลิคมากไม่ใช่เหรอ ถ้ากาลิครู้ความจริง กาลิคก็ต้องเสียใจมาก พวกยูอยากจะให้กาลิคเสียใจรึไง อยากให้กาลิคเป็นเด็กที่มีปัญหาเหรอ  “ เธอหันไปมองร่างสูง แต่เด็กน้อยก็เอ่ยขึ้น

“ หม่ามี๊ แต่ว่ากาลิคต้องบอกลา อาขมกับอาภาพก่อน "

“ ไม่ต้อง!! ” เธอหันไปตะโกนใส่หัวหอม ที่ก็สะดุ้งขึ้นมาทันที ท่าทางกลัวของเด็กน้อยชวนให้คนเป็นแม่เปลี่ยนสีหน้า เธอยิ้ม " กาลิคไม่ต้องบอกลาหรอก ยังไงก็ต้องได้เจอกันอีก ในอนาคตถ้ากาลิคอยากจะเจอหม่ามี๊ก็จะพามาหา อาขมกับอาภาพนะ ไปเถอะเรารีบไปกันได้แล้ว เดี๋ยวจะขึ้นเครื่องไม่ทันนะ " บอกลูกชายตัวเองด้วยเสียงหวานๆ ก่อนจะหันมามองผม " แล้วก็ปล่อยมือไอสักที ขม! “

“ ไม่ปล่อย " ผมบอกเธอ " ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือของเธอเด็ดขาด ถ้าเธอยังยืนยันจะพาเค้าไป ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ปล่อย โอลิเวีย อย่าเอาเค้าไปเลย เธอก็โกหกสามีของเธอไปสิว่าพ่อจริงๆของเด็กไม่ให้เอากลับไป เค้าหนี เธอเองก็ไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน ก็เลยกลับมาโดยไม่มีเด็กกลับมาด้วย ถ้าทำแบบนั้นเธอก็จะได้มีครอบครัวใหม่แบบที่เธอตั้งใจไว้ไง ไม่ดีกว่าเหรอ " สบสายตาของเธอที่ก็จ้องผมเขม็ง ก่อนจะก้มลงมองที่มือของผมที่จับมือเธออยู่

" ปล่อยมือฉัน "

" เธอจะเอาเค้ากลับไปทรมานทำไม มันไม่ได้อะไรหรอก เธอเสียทุกอย่างไปแล้ว เริ่มต้นใหม่มันไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าจะเอาเค้าไปแล้วคิดจะทำให้เค้าเสียใจ ทุบตีเค้าให้ร้องไห้เวลาไม่ได้ดั่งใจ จะเอาเค้าไปแค่รับใช้เธอในบ้าน ไม่ให้ความรัก ไม่กอดไม่หอม ไม่ทำดีกับเค้าเหมือนอย่างที่ตอนนี้เธอแสดงอยู่ ก็อย่าเอาเค้าไปเลย ขอร้องละ โอลิเวีย อย่าเอากาลิคไปเลยนะ " ผมพยายามพูดดีๆ พยายามขอร้องเธออย่างใจเย็น ผมอยากให้เธอเปลี่ยนใจแม้รู้ว่ามันยากที่จะเปลี่ยนใจเธอก็ตาม

" พูดอะไรของยูน่ะ ปล่อยไอนะ " เธอสะบัดมือผมออก ผมก็คว้ามือนั่นไว้อีกครั้ง ผมบีบมือเธอแน่น

“ ก็ในอนาคตเธออาจจะทิ้งเค้าอีกก็ได้ไม่ใช่เหรอ ตอนนี้กาลิคเค้าก็มีความสุขแล้วนะ เธอเองก็ควรดีใจสิที่ลูกตัวเองจะมีความสุข ไม่ใช่มาดึงเค้าออกไปจากความสุขของเค้าแบบนี้ ไม่ใช่คิดจะทำร้าย จะทรมานเค้าแบบนี้ อย่าพาไปเลย ฉันขอร้องละ แค่สักครั้งเดียวก็ได้ แต่ช่วยเป็นแม่ที่ดีของเด็กคนนี้ทีเถอะ ช่วยปล่อยมือเค้าแล้วเค้าอยู่กับความสุขของเค้าเถอะนะ โอลิเวีย " คำพูดขอร้องของผมไม่มีความหมายอะไร หญิงสาวที่ฟังด้วยความรำคาญเพียงเพราะแค่ดึงมือตัวเองออกไม่ได้เท่านั้น ก็เลยต้องฝืนใจฟังอยู่ ผมก้มหน้ามองหัวหอมที่กำลังมองผม แววตากลมๆที่มองมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

   " ตัวฉันน่ะ ยังมีเรื่องสนุกๆที่อยากจะทำกับกาลิคอีกเยอะมากๆเลยนะ มีนิทานอีกหลายเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟัง มีที่สวยๆอีกหลายที่ที่อยากจะพาเค้าไปดู มีเกมส์อีกเยอะแยะที่อยากจะลองเล่นด้วยกัน แล้วฉันจะดูแลกาลิคอย่างดี จะทำให้เค้ามีความสุขที่สุด ให้กาลิคอยู่กับภาพเถอะนะโอลิเวีย เธอเองก็จะได้มีความสุขกับชีวิตจริงๆไง ต่อคนต่างไปมีความสุขน่ะ ไม่ดีกว่าเหรอ ? "

" ไม่ต้องมาสั่งฉัน นี่ลูกฉันยูมันก็แค่คนนอก! ปล่อย! " เธอตะคอกใส่ผม ก่อนจะผลักอกอย่างแรงจนล้มลงไปนั่งกับพื้น การกระทำที่ทำให้หัวหอมตกใจจนต้องเอ่ยเรียกผมด้วยความเป็นห่วง 

" อาขม! ”

" อย่าไปนะกาลิค! " แม่มันหันไปตะคอกบอก พลางดึงเด็กน้อยที่กำลังจะวิ่งเข้ามาหาผมให้อยู่กับตัวเอง " อย่าไปสนใจคนเลวๆพวกนั้นกาลิค เค้าพยายามจะพูดเพื่อไม่ให้ลูกอยู่หม่ามี๊นะ เราไปเถอะ ไม่ต้องไปสนใจ " กระชากแขนของกาลิคดึงออกไปให้ห่างจากเรา แต่เด็กน้อยที่ยังมองผมด้วยความเป็นห่วงก็ได้แต่เดินตามเธอไปช้าๆ สายตาที่เอาแต่มองผม " เอ๊ะ! เดินเร็วๆสิกาลิค ถ้าขืนมัวชักช้า เดี๋ยวคนพวกนั้นก็มาพูดมากรั้งเราไว้อีกหรอก มาสิ เร็ว! "

" โอลิเวีย ” ภาพที่กำลังเอ่ยพูด คนโดนเรียกก็หันมาชักสีหน้าใส่

" พอสักที! เลิกพูดอะไรไร้สาระได้แล้ว กาลิคเลือกที่จะไปกับไอ ไม่ได้เลือกอยู่กับยูภาพ  เค้าวิ่งมาหาไอ แบบนี้ยูเองก็คงเข้าใจแล้วสินะ ว่ากาลิคเลือกใคร แล้วไอขอเตือนยูอีกครั้ง ว่าอย่าเปิดเผยความลับของไอ เด็กคนนี้จะตกอยู่ในอันตรายแน่นอนเพราะสามีไอคงจะเหม็นขี้หน้าเค้ามากเลยแหละ แล้วถ้าเค้าทำอะไร ไอก็ไม่สนหรอกนะ " เธอบอกพลางกระชับมือที่จับแขนกาลิคไว้แน่น แน่นจนไอ้ตัวเล็กทำหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ " ถ้าไม่อยากจะให้เด็กคนนี้อยู่ในอันตราย พวกยูก็อย่าเข้ามายุ่งจะดีกว่า ไอสัญญาว่าจะให้เค้าเรียนหนังสือ และมีข้าวให้กินครบทุกมื้อแน่นอน ไม่ต้องห่วง "

“ ฉันไม่ให้ไป ปล่อยลูกฉัน ” ภาพเดินเข้าไปจับข้อมือของโอลิเวียข้างที่เธอกำลังจับแขนกาลิคอยู่ สายตาที่จ้องสบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เด็กน้อยที่หันมองซ้ายขวาด้วยความกลัว ผมก็เอ่ยเรียกมัน

" หัวหอม " แววตากลมหันมามองผมด้วยสายตาที่ยังเป็นห่วงที่ล้มลงไปเมื่อครู่ ผมยิ้มให้มัน " หัวหอม หัวหอมเลือกได้นะว่าอยากจะอยู่กับใคร  อยากจะอยู่กับแม่หรือว่าอยากจะอยู่กับอาภาพอาขม แล้วไม่ต้องกลัวว่าอาภาพอาขมจะไม่อยากอยู่กับหัวหอมหรอกนะ เพราะเราทั้งคู่อยากจะอยู่กับหัวหอมมากๆเลยก็ตอนที่หัวหอมอยู่ด้วยมันมีความสุขมากๆเลยนี่นะ อาขมอยากจะเป็นคนอาบน้ำให้หัวหอมตอนไปโรงเรียน ได้ทำอาหารอร่อยๆให้หัวหอมกิน ได้เล่านิทานให้ฟัง กินขนมด้วยกันแล้วก็เล่นกันซ่อนแอบกันในห้อง ยังมีทะเลหลายๆที่ที่อาขมอยากจะพาหัวหอมไป "

" อาขม.."

" หัวหอมเลือกได้นะ ว่าอยากจะอยู่กับใคร ไม่ต้องคิดว่าเพราะแม่มารับเลยต้องไปกับแม่  ถ้าอยู่กับแม่แล้วไม่มีความสุขแบบที่มีความสุขอยู่ตอนนี้ ก็ไม่ต้องไป ถ้าอยากจะอยู่ต่อกับอาภาพอาขมก็อยู่ต่อได้เลย เพราะว่าเราสองคนก็อยากจะอยู่กับหัวหอมเหมือนกัน "

" หยุดพูดอะไรแบบนั้นให้กาลิคฟังนะ หุบปาก! " โอลิเวียตะโกนออกมาก่อนจะพยายามดึงมือตัวเองให้หลุดออกจากมือของภาพที่ยังกำมือของเธอไว้ไม่ยอมปล่อย " ภาพ! ถ้ายูกำมือไอไว้ไม่ยอมปล่อย ไอจะหักมือกาลิคที่กุมอยู่ซะ "

" งั้นมองดูกันว่าระหว่าง ฉัน กับ เธอ ใครจะเร็วกว่า "

" หม่ามี๊ กาลิคเจ็บน้า~ " เด็กน้อยว่าเสียงงอแงขึ้น มันที่หันมามองหาผม " อาขม~ "

" หัวหอม รู้มั้ยว่าคนเป็นแม่น่ะ ไม่ได้มีหน้าที่แค่เกิดเรามาหรอกนะ คนเป็นแม่จริงๆน่ะ เค้าจะไม่ทำร้ายหัวหอมให้หัวหอมเสียใจหรอก เค้าเลี้ยงหัวหอมอย่างดีที่สุด เค้าจะรักหัวหอม จะกอดหัวหอม แล้วคอยอยู่ใกล้ๆหัวหอม เค้าจะทำให้หัวหอมมีความสุข แล้วอยู่ดูแลหัวหอมตลอดเวลา แบบนั้นน่ะ เค้าถึงเรียกว่าแม่  แต่ถ้าคนที่หัวหอมเรียกว่าแม่ ไม่ทำแบบที่อาขมพูดมา เค้าก็ไม่ใช่แม่ของหัวหอมหรอกนะ เค้าเป็นแค่คนที่เกิดหัวหอมมาเท่านั้นแหละ ไม่สมควรจะให้หัวหอมเรียกว่าแม่หรอก "

“ กาลิค กาลิคอย่าไปฟังคนพวกนั้นนะ พวกมั้นมันคนไม่ดี มันจ้องจะเอากาลิคไปจากหม่ามี๊นะ "

“ หัวหอม ฟัวหอมเลือกได้นะ ว่าอยากจะอยู่กับใคร " ผมตะโกนไป " หัวหอมเลือกได้นะ เลือกที่จะอยู่คนที่หัวหอมคิดว่าอยู่ด้วยแล้วมีความสุข เลือกคนที่ทำให้หัวหอมมีความสุขที่สุดนะ หัวหอม! "

“ ภาพ ยู ปล่อยไอนะ ปล่อยสิ กาลิคมานี่ เดินสิ เดินออกมา!! “ โอลิเวียหันไปวีนใส่ไอ้ภาพ ก่อนจะก้มลงตะคอกใส่เด็กน้อยที่ก็ยังยืนนิ่ง เธอเอื้อมเอามืออีกข้างไปจับกาลิคก่อนจะยกมือข้างที่ไอ้ภาพจับขึ้นเพื่อสะบัดให้หลุดออก " เร็ว! กาลิค! มานี่! “ กระชากเด็กน้อยที่ยืนจ้องผมอยู่แบบนั้นให้เดินตามมา แต่เพราะไม่ได้ตั้งตัวให้ดี หัวหอมก็เลยล้มลงแต่คนเป็นแม่ก็ยังลากมันออกไปทั้งอย่างงั้น ขาขาวถูไปกับพื้นจนเริ่มแดง

" หัวหอม.. " ผมเรียกชื่อมันเบาๆ ก่อนจะกางมือออกทั้งสองข้าง เด็กน้อยที่กำลังมองผมร้องไห้ออกมางยหน้ามองแม่ตัวเองที่ก็ยังพยายามลากมันไปด้วยสายตาโกรธแค้น เสียงของไอ้ภาพคอยห้ามปรามแล้วฉุดกระชากลากเธอไม่ให้ทำแบบนั้น แต่ทั้งสองคนก็ไม่มีใครหันมาสนใจในความเจ็บปวดของมัน วินาทีต่อมานั้นหัวหอมหันมามองผม มันเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะกระชากมือตัวเองให้หลุดออกจากมือของคนเป็นแม่ ขาเล็กที่วิ่งตรงเข้ามาหาผมมันกอดผมไว้แน่น

" อาขม อึก ฮือๆ กาลิคเจ็บ กาลิคเจ็บอาขม อึก ฮือๆ กาลิคจะอยู่กับอาขม อึก อาขม กาลิคจะอยู่กับอาขม ฮือๆ  " เสียงร้องไห้งอแงของมันชวนให้คนสองคนที่ยังคงทะเลาะกันหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วได้แต่ยืนมองนิ่งๆ ผมเอื้อมมือกอดมันไว้แน่นน้ำตาที่ไหลออกมาผมซบลงไปที่ไหล่ของเด็กน้อย ที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก " กาลิคไม่อยากจะไปอยู่กับโอลิเวีย กาลิคกลัว อาขม กาลิคกลัว กาลิคอยากจะอยู่กับอาขมที่นี่ อยากจะอยู่กับอาภาพ อยากจะอยู่กับคุณปู่ คุณย่า  กาลิคไม่อยากจะไปอยู่กับโอลิเวีย กาลิคไม่อยากโดนตี กาลิคไม่อยากโดนทิ้งอีกแล้ว กาลิคอยากอยู่กับอาขม อาขมให้กาลิคอยู่ด้วยน้า อาขมให้กาลิคอยู่ด้วย กาลิคไม่อยากไป ไม่อยากไปกับโอลิเวีย กาลิคอยากอยู่กับอาขม ฮือๆ  "

“ ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว จะไม่มีใครทำอะไรหัวหอมทั้งนั้น และจะไม่มีใครพาหัวหอมไปไหนด้วย อาขมจะปกป้องหัวหอมเอง อาขมสัญญา นิ่งซะนะ ไม่ต้องร้อง โอ๋ๆ นิ่งซะนะ ไม่มีอะไรแล้วละ ปลอดภัยแล้วนะ " ผมกอดมันไว้แน่น ตอนที่มองหน้าโอลิเวียที่กำลังยืนช็อคอยู่ตรงนั้น เธอได้แต่มองมือตัวเองสลับที่ถูกลูกตัวเองสลัดออกสลับเด็กน้อยที่ผมกำลังอุ้มอยู่

“ ไอ้กาลิค! ฉันเป็นแม่แกนะ!! ไอ้เด็กเวร! ฉันอุ้มท้องแกมา ฉันให้ชีวิตแกนะ! แล้วทำไมแกไม่เลือกฉัน ห๊า! แกมันเกิดมาเพื่อทำลายชีวิตฉันจริงๆ แก.. แกมันไอ้ลูกเนรคุณ ไอ้ลูกเลว ไอ้ลูกเหี้ย แกเกิดมาทำลายฉันจริงๆ เกิดมาแค่ทำลายฉัน แกกกก " เสียงโกรธแค้นที่กำลังจะพุ่งเข้ามาใส่หัวหอม ผมหันหลังหลับตาแล้วกอดอีกคนไว้แน่นทันที แต่ตอนนั้นไอ้ภาพที่เร็วกว่ามันฉุดมือของหญิงสาวที่กำลังคลั่งนั่นไว้

" อย่าทำอะไรลูกฉันนะ " มันพูดเสียงนิ่ง พลางมองเธอด้วยสายตาหาเรื่อง พ่อของภาพเดินมายืนกันผมเอาไว้ ในตอนนั้นแม่ก็เดินเข้ามาเธอกอดเอวผม ก่อนจะดึงให้เดินเข้าไปข้างใน

“ ขม พากาลิคเข้าไปข้างใน อย่าให้แกต้องได้ยินคำพูดเห็นแก่ตัวแบบนั้นของแม่ตัวเองเลย " แม่บอกผมก็พยักหน้ารับก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้าน เปิดประตูห้องนั่งเล่นแล้วเข้าไปอยู่ในนั้น ยืนหายใจหอบอยู่สักพักผมซบลงไปบนไหล่เล็กๆของหัวหอมที่ยังร้องไห้ไม่หยุด ลูบหลังมันเบาๆด้วยมือสั่นๆ เดินไปนั่งที่โซฟาก่อนจะก้มลงกอดมันไว้

“ ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่มีอะไรแล้ว อาขมอยู่นี่ ไม่ต้องกลัวนะหัวหอม " ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ผมหลับตาลงคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่ภาพวางแผนไว้อย่างดีแล้ว แต่ถ้าสุดท้ายหัวหอมไม่เลือกเรา ทุกอย่างก็ไม่มีความหมายอยู่ดี

" อาขม~ "

" ครับ ว่าไง หัวหอม " ผมลูบหลังมันเบาๆ เสียงร้องไห้ก่อนหน้านี้ก็หลงเหลือแต่เพียงเสียงสะอื้นเท่านั้น

" อาขม กาลิคจะได้อยู่กับอาขมตลอดไปใช่มั้ย "

" ใช่แล้ว เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ " ผมกอดมันแน่นขึ้นมือเล็กๆที่กอดผมอยู่ก็กอดผมแน่นขึ้นเช่นกัน

" กาลิคดีใจจัง ดีใจที่จะได้อยู่กับอาขม " เสียงที่ค่อยๆเบาลง แรงที่กอดนั่นเปลี่ยนเป็นแรงทั้งตัวของมันที่ทุ่มลงมาบนตัวผม น้ำหนักที่บ่งบอกว่าตอนนี้เด็กน้อยในอ้อมกอดกำลังจะหลับแล้ว ลูบหลังมันไปเรื่อยๆ ผมยิ้มออกมาก่อนจะก้มลงจูบที่แผ่นหลังของเจ้าตัวเล็ก " หัวหอม ขอบคุณนะ ขอบคุณที่เลือกอาขม ขอบคุณที่อยากจะอยู่ด้วยกันนะ ขอบคุณมากๆเลย "

................................................................

   หลายชั่วโมงแล้วที่ผมยังนั่งอยู่ในห้องนี้ กาลิคที่ร้องไห้จนหลับไปแต่ผมก็ยังคงอุ้มมันไว้แบบนั้น พิงตัวลงกับโซฟาอีกครั้งผมขยับขาที่ตะคริวเริ่มกินเป็นครั้งที่สามแล้วตั้งแต่ที่เริ่มนั่งมา อยากจะวางมันลงแล้วออกไปจากห้องดูเหตุการณ์ข้างนอกว่าเป็นยังไงบ้างแต่ก็ทำได้แค่อยู่ที่นี่ ผมกลัวว่าถ้าผมออกไปแล้วหัวหอมเกิดตื่นขึ้นมาแล้วมันไม่เจอใคร มันคงกลัวแล้วคิดว่าตัวเองโดยแม่พากลับไปแล้วแน่ๆ ผ่อนลมหายใจออกมาในห้องที่เงียบเชียบจนไม่ได้ยินเสียงอะไร จนกระทั่งประตูห้องถูกเปิดออก

“ กาลิคหลับอยู่เหรอขม " แม่ของภาพเดินเข้ามาเอ่ยถาม เธอยิ้มจางๆก่อนจะนั่งลงข้างผม

“ ครับ สงสัยแกจะเพลียน่ะ ร้องไห้จนหลับไปเลย " ผมตอบ " แล้ว..เป็นยังไงบ้างครับ โอลิเวียเธอว่ายังไงบ้าง "

“ ไม่มีอะไรแล้วละ เธอยอมทำตามข้อตกลงของภาพ " แม่บอกก่อนจะยิ้มให้ผม " หลังจากขมเข้ามาด้านใน โอลิเวียก็แทบสติแตกเลยละ เธอเอาแต่ด่าว่ากาลิค แล้วก็สาปเช่ง แถมยังจะตามขมเข้าไปข้างในด้วยนะ แต่เพราะภาพเค้ากันไว้ก็เลยโดนยัยนั่นฟาดมือใส่ไปตั้งหลายทีกว่าจะยอมสงบได้ก็ต้องขู่ว่าจะแจ้งความนั่นแหละ "

" เหรอครับ งั้นก็ดีแล้วละที่หัวหอมไม่ได้อยู่ตรงนั้น โชคดีของมันที่ไม่ต้องได้ยินคำพูดพวกนั้น "

" อื้ม ใช่ แล้วพอเธอสงบสติอารมณ์ได้สักพัก ภาพก็เจรจากับเธออีกครั้ง ภาพบอกไม่ให้เธอเข้ามายุ่งกับกาลิคอีกตลอดชีวิต ถ้าไม่อย่างงั้นเราจะส่งคลิปเสียงแล้วก็หลักฐานทั้งหมดที่มีไปให้สามีของเธอ " แม่เว้นเสียงไปสักพักตอนที่เล่ามาถึงตรงนี้ " ตอนนั้นแม่คิดนะขม ถ้าเธอเลิกกับสามี เธอก็ไม่ต้องกลัวคำขู่แล้ว แบบนั้นจะได้ผลอะไร ยังไงคนแบบนี้ก็ต้องกลับมาอีกแน่ๆ "

" นั่นนะสิครับ "

" แต่ว่าพ่อเค้าก็ร่างสัญญาขึ้นมา เป็นสัญญาที่ทำกันระหว่างโอลิเวียแล้วก็ภาพ ในสัญญาก็คือ ภาพจะเก็บความลับของเธอเอาไว้ เธอจะไม่เคยมีลูก ต่อจากนี้ไปกาลิคจะไม่ใช่ลูกของเธอ ภาพจะมีสิทธิเลี้ยงดูกาลิคแต่เพียงผู้เดียว ส่วนโอลิเวียจะไม่มีสิทธิติดต่อกับกาลิคอีก เธอจะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับกาลิคอีกแล้ว และถ้าฝ่ายใดฝ่ายนึงผิดสัญญา จะต้องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้กับอีกฝ่าย "

" แล้วเธอยอมเหรอครับ "

" ตอนแรกแม่ก็คิดเหมือนขมน่ะ ว่าเธอคงไม่ยอม เพราะจากที่ฟังมันดูเหมือนว่ามีแต่เราเท่านั้นที่ได้เปรียบ แต่พอภาพเค้าพูดกับเธอว่า ถ้าต้องเลิกกับสามีคนนี้แล้วไปมีสามีใหม่ โอลิเวียก็จะไปแบบผู้หญิงคนเดียวที่ไม่มีลูกติด ไม่มีต้องโกหก ภาพบอกเธอว่า มันก็ดีไม่ใช่เหรอ ที่ต่อจากนี้ไปจะได้ไม่ต้องมีภาระอีก ไม่ต้องคิดแค้นจะเอาคืนกาลิคหรอก มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก เธอมีแต่เสียกับเสียเท่านั้นเพราะต้องคอยโกหกผู้ชายคนใหม่ไปเรื่อยๆ พอเธอได้ฟังแบบนั้น เธอก็นั่งคิดอยู่สักพัก ก่อนจะตกลงเซ็นสัญญานั่น แล้วก็พิมพ์ลายนิ้วมือลงไป "

" แล้วตอนนี้เธอ..”

" กลับไปแล้วละ เพราะไฟล์บินกลับของเธอคือไฟล์คืนนี้ "

" อย่างงั้นเหรอครับ งั้นก็โล่งอกไปที ที่ทุกอย่างออกมาเรียบร้อย "

" แม่กับพ่อขอโทษด้วยนะขม เพราะเราเผลอหลับไปตอนที่ดูการ์ตูนกับเค้าทั้งคู่เลยไม่รู้ว่าเค้าเดินลงไปชั้นล่างตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าตอนนั้นกาลิคไม่เดินลงไปคงไม่เกิดเรื่องแย่ๆแบบนี้ขึ้นมาหรอก "

" ไม่เป็นไรหรอกครับ พ่อกับแม่ก็เหนื่อยทั้งวันกับการดูแลหัวหอม อีกอย่างบางทีมันคงมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แล้วผมก็คิดว่า มันก็ไม่ได้มีผลเสียไปหมด อย่างน้อยมันก็มีผลดีที่ว่า เราได้เซ็นสัญญาเป็นหลักฐานแน่นอน แล้วกาลิคเองก็ตัดสินใจเลือกที่จะอยู่กับเราโดยไม่มีใครบังคับ "

" นั่นก็เป็นเพราะขมนั่นแหละ " หันไปมองแม่ที่พูดออกมาแบบนั้น เธอยิ้มให้ผม " เพราะขมรักกาลิคมากแล้วก็ดูแลกาลิคมาตลอด กาลิคเองเค้าก็สัมผัสได้ถึงความรักนั้นของขม ความรักที่ขมให้เค้า คือความรักในแบบที่เค้าไม่เคยได้นะ เค้าก็เลยเลือกที่จะอยู่กับขมไง ขอบคุณนะขมที่รักกาลิคขนาดนี้ ถ้าไม่มีขม วันนี้เรื่องทั้งหมดก็คงไม่ออกมาในรูปแบบนี้หรอก "

“ ไม่ใช่เพราะผมคนเดียวหรอกครับแม่ ทุกคนในครอบครัวก็คือคนที่หัวหอมรัก ทุกคนทำให้มันมีความสุขไม่ใช่แค่ผมหรอก ภาพเองมันก็พยายามในแบบของมัน พยายามอย่างสุดตัวเพื่อปกป้องลูกของตัวเองไว้ ก็มันไม่ใช่คนหวานๆนิแม่ คนแบบมันคงไม่พูดอะไรแบบที่ขมพูดหรอก มันนิ่งจะตาย "

" นั่นนะสินะ " แม่หัวเราะออกก่อนจะก้มหน้าลงมองหลานชายตัวเองที่กำลังหลับสนิท " แม่น่ะ รู้สึกตัวอีกทีภาพก็กลายเป็นหนุ่มแล้ว จากเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่ชอบวิ่งซนอยู่รอบตัว แต่วันนี้เค้ากลับเปลี่ยนไปแล้ว แม่ไม่เคยเห็นภาพเป็นแบบนี้เลยรู้มั้ย แม่รู้สึกว่าเค้าขี้เล่น ไม่จริงจังกับอะไร แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น เค้าที่เด็ดเดี่ยวแล้วก็เด็ดขาดแบบนั้น มันทำให้แม่รู้สึกว่า ภาพก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ถึงยังจะเลี้ยงลูกไม่ได้เรื่องก็เถอะ "

“ แม่.. เสียใจมั้ยครับ ตอนที่รู้ว่าภาพเค้ามีลูก "

“ อื้ม.. จะพูดว่าไงดีละ ถามว่าเสียใจมั้ยก็ไม่หรอกนะ แม่เสียดายมากกว่าที่ไม่ได้จัดงานแต่งงานให้ลูกชายคนเดียวของตัวเอง แต่ว่านั่นก็ไม่สำคัญหรอก เพราะถ้าไม่ใช่ความสุขของภาพ พ่อกับแม่ก็คงไม่มีความสุขเหมือนกัน ตอนนี้ภาพเค้ามีความสุขดีแล้วกับทางที่เค้าเลือก นั่นก็คงพอแล้วละ แม่เองก็ได้อุ้มหลานแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่น่าเสียใจอีกแล้วละ แต่ต่อจากนี้ไป ขมคงรับศึกหนักหน่อยนะ "

“ ยังไงเหรอครับม๊า "

“ ก็ต้องเลี้ยงไอ้ตัวเล็กของภาพไปแบบนี้ตลอดเลยนะสิ " เธอว่ายิ้มๆก่อนจะเอื้อมมือมาจิ้มแก้มหลานชายตัวเอง

“ เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจที่จะดูแลหัวหอมให้ภาพอยู่แล้ว สำหรับผมลูกภาพก็เหมือนลูกผม เราป็นเพื่อนสนิทกันนี่น่า ก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้วละครับ " หันไปยิ้มให้เธอ ม๊าเองก็มองตาผมอยู่สักพักก่อนจะก้มหน้าลง เธอพูดเสียงเบาๆ

“ งั้นก็คงไม่มีอะไรน่าห่วงจริงๆแล้วละ " แม่เอื้อมมือมาจับมือผมไว้หลังพูดจบ เธอบีบมือผมเบาๆ " งั้นแม่ฝากกาลิคแล้วก็ภาพด้วยนะ ฝากดูแลพวกเค้าที "

“ ครับ " ตอบเธอออกไปแบบนั้น ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เธอจะสื่อสักเท่าไหร่ แม่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเธอที่เดินออกไปจากห้องสวนทางกับไอ้ภาพที่เดินยิ้มเข้ามา ร่างสูงหย่อนตัวลงนั่งข้างๆผมก่อนจะถาม

“ กูช่วยอุ้มมั้ย มึงหนักรึเปล่า "

“ ไม่เป็นไร ไม่หนักเท่าไหร่ กูอุ้มได้ มึงเถอะ โอเคมั้ย "

“ โอเค ไม่มีอะไรแล้วละ มันผ่านไปแล้ว " ภาพบอกก่อนจะถอนหายใจออกมามันก้มหน้าลงก่อนจะยิ้มแล้วเหลือบมองผม "  ขอบคุณนะมึง ที่ช่วยเรื่องของกาลิค ถ้ากูไม่มีมึง..”

“ ไม่ต้องพูดซึ้งอะไรขนาดนั้นหรอกไอ้เหี้ย " ผมพูดขัดมันไอ้ภาพก็ยิ้ม " กูเป็นเพื่อนมึง ต้องช่วยมึงอยู่แล้ว ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพื่อนกันมันก็ต้องช่วยเหลือกันสิวะ มันก็เรื่องปกติของคนเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ "

" นั่นก็จริง " มันพยักหน้ารับยิ้มๆ

" อีกอย่างนะ จริงๆกูก็ไม่ได้ทำเพื่อมึงสักหน่อย กูทำเพื่อไอ้หัวหอมตังหาก " ก้มลงมองเจ้าตัวเล็กที่กำลังหลับสนิทหลังอยู่ในอ้อมกอดของผม หอมแก้มนุ่มๆนั่นไปเต็มฟอดก่อนจะเอื้อมมือขึ้นลูบผมมันเบาๆ

“ กูจะเป็นพ่อคนได้มั้ยวะ "

“ กลัวเหรอ " ผมถามมันก่อนจะหันไปยิ้มแซวอีกฝ่ายที่ก็หุบยิ้มทำหน้าเซ็งทันที " แต่เท่าที่กูดู สิ่งที่มึงทำตลอดสามวันนี้ กูว่ามึงต้องเป็นพ่อที่ดีได้แน่นอน เผลอๆอาจจะดีกว่าที่กูคิดไว้อีก "

“ อย่างงั้นเหรอ "

“ อื้ม " ยักคิ้วให้มันก่อนจะยิ้ม "  มึงไม่ต้องกลัวหรอก มึงต้องเลี้ยงมันได้ดีอยู่แล้ว เพราะว่ามึงมีกูที่คอยอยู่ช่วยดูแลไอ้หัวหอมไปอีกนาน จนกว่ามึงจะมีเมียที่มึงจริงจังเข้ามาดูแลมันแทนกูนั่นแหละ กูถึงจะเลิกไป "

“ แต่ว่ากูก็ไม่ได้อยากได้ใครมาแทนมึงนะ " ร่างสูงว่าพลางสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด มือหนาที่กำเข้าหากันแน่นราวกับกำลังตื่นเต้นในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะพูดอยู่มากมาย ผมสบสายตาคมที่เอ่ยเรียกชื่อผม  " ขม..”

“ หื้ม ? มีอะไร “

" กูรักมึงว่ะ แต่ไม่ใช่แบบเพื่อนที่ควรเป็นนะ กูรักมึงแบบผู้ชายคนนึงที่จะรักใครสักคนได้ กูรักมึงแบบนั้นว่ะขม "

.................................................................

เรื่องสำคัญที่สุด ก็ต้องบอกในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
คราวนี้ สัญญาว่าจะไม่นกเด็ดขาด!
เดี๋ยวตอนหน้าเรามาดูกัน ว่าขมจะตอบภาพว่าอะไร ในเมื่อโดนสารภาพรักด้วยความจริงจังขนาดนี้

ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องส่วน โอลิเวียนั้น..ทุกคนจะเข้าใจรึเปล่า แต่เราอยากถ่ายทอดความรู้สึกรักและผูกพัน
ที่ขมกับกาลิคมีให้กัน เพราะรู้สึกว่า เค้าสองคนเป็นคนที่อยู่ใกล้กันมากที่สุด
แต่ไม่ได้หมายความว่าพ่ออย่างภาพจะไม่มีความหมายนะคะ
เราเองก็อยากจะให้ภาพทำหน้าที่ปกป้องเหมือนกัน อารมณ์แบบ ภาพใช้สมอง ขมก็ใช้ความรู้สึก อะไรแบบนั้น
ไม่รู้ว่าที่เขียนออกมาจะดีพอรึเปล่า แอบกังวลกับตอนนี้เอามากๆ เลย
ตอนแรกเราคิดจะเขียนให้ ภาพชนะด้วยการบีบโอลิเวียด้วยข้อมูลที่หามา
แต่อยู่ๆตอนเขียนก็มีความรู้สึกขึ้นมาว่า  เราอยากจะให้กาลิคเป็นคนเลือกเองมากกว่า เรารู้สึกว่า ถ้าเด็กเค้าเลือกเกิดได้ เลือกที่จะอยู่กับใครได้ มันคงดี  เลยเขียนออกมาแบบนี้ค่ะ

เพราะฉะนั้น ตอนหน้า ขอประกาศว่าจะลง  ' ตอนจบ '  แล้วนะคะ!!!!
แต่ไม่ต้องตกใจ แค่จบเพราะรู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กเท่านั้น แต่เนื้อเรื่องยังคงดำเนินต่อไป
เรายังอัพเหมือนเดิม เพราะความรักของภาพขมยังไม่เริ่ม และ แน่นอน ความเป็นครอบครัวที่เพิ่มมากขึ้น กำลังรอเราอยู่

โอเคค่ะ เจอกันตอนหน้า
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่ะ  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ป.ล. รู้สึกจะเขียนคำว่า สิทธิ์ เป็น สิทธิ หมดเลยอะ ขอโทษนะคะ เดี๋ยวเราจะไล่แก้ค่ะ TTTT
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 36 - 16.6.60} #หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 18-06-2017 20:57:20
โอ๊ย!บอกแล้ว ภาพบอกรักขมแล้ว
เรื่องร้ายๆผ่านไปแล้วกำลังจะมีเรื่องดีๆเข้ามา
ขมอย่าปฏิ้เสธภาพเลยนะ รับรักไปเถอะ 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-06-2017 21:02:23
อยากโดดถีบขาคู่ใส่นังโอลิเวียมากกกกกกกกกกกกกกกกก :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
ลูกเจ็บยังลากลูกแบบไม่สนใจเลย อีห่าาาาาาาาา :beat: :beat: :beat: :beat:
ภาพบอกความในใจแล้วขมจะว่ายังไงหนอ
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 18-06-2017 21:05:30
 :z6: เจ้โอนี้สุดยอดคนจริงๆความแม่(ง)นี้มีเต็มๆ

โล่งอกเรื่องหัวหอม แต่มาตัดจบที่พี่ภาพสารภาพรักขมแบบนี้ก็ลุ้นกันต่อไปสิครับท่าน :hao3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 18-06-2017 21:25:51
ทุกอย่างกำลังจะลงตัวแล้วใช่ไหม คนเขียนเขียนดีแล้วครับ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 18-06-2017 21:33:18
ว๊าย เขาบอกรักกันแล้วว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-06-2017 21:40:53
ขมจะว่ายังไงละทีนี้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-06-2017 21:50:19
ลุ้นหนักมาก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 18-06-2017 21:50:32
ขมรู้ใจตัวเองเร็วๆน้าาา  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 18-06-2017 21:57:29
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 18-06-2017 22:07:35
อื้อหือออ พอคุณน้องภาพเขาจะชัดเจน เขาก็ชัดเจนแบบมากๆ
นี่คือไม่ได้เลือกเวลาว่าขมจะหนีไปไหนไม่ได้ (เพราะมีกาลิคทับอยู่) ด้วยใช่ไหม?

เอาใจช่วยทุกคนเลยยยย (กอดรวบ)
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 18-06-2017 22:09:01
 o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 18-06-2017 22:11:02
ภาพบอกรักขมแล้ววววววววววววววววว

สงสารกาลิค แม่อย่างนี้จะมีอยู่จริงมั๊ยนะ สงสารเด็กเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 18-06-2017 22:31:25
โอ้ยยยยยยยยย บอกขมสักที ดีนะบอกหลังจากเกิดเรื่องวุ่นๆไปแล้ว  :เฮ้อ:

ขมจ๋าาาา ช่วยรู้ใจตัวเองทีนะ ไม่งั้นภาพก็ให้กาลิคเป็นผู้ช่วยซะเลย อิอิ :mew3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 18-06-2017 22:36:47
ได้ลูกและเหลือแม่ของลูก ภาพจะนกมั้ย 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 18-06-2017 22:56:36
ขอให้เครื่องบินตก จะได้ตายๆไปส่ะโอลิเวีย เกลียดดดนางงง :m31:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 18-06-2017 23:15:43
ดีใจด้วยน้ากาลิก~ในที่สุดก็ได้อยู่กับอาภาพอาขมแล้ว...หรือจะเป็นพ่อภาพแม่ขมดีหนอ :hao6:

เราเข้าใจในสิ่งที่คนเขียนต้องการสื่อนะ ตอนนี้แต่งได้ดีเลยล่ะ อ่านไปนี้คิ้วขมวดไป ฮ่าๆ สู้ๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 18-06-2017 23:22:15
มันก็โอนะแต่ติดที่ทำไมต้องให้กาลิคเจ็บด้วยสัญชาติญานของความเปนพ่อของภาพเหมือนไม่มึ
ทนดูให้แม่ของกาลิคดึงลูกและทำร้ายลูกต่อหน้าได้ในเมื่อฝ่ายภาพเองก็มีหลักฐานสะขนาดนั้น
แถมแม่ของกาลิคยังพูดไม่น่าฟังภาพยังปล่อยให้ลูกของตัวเองไปให้โดนทำร้ายได้ต่อหน้าต่อตาหลักฐานมีชัดเจนทั้งการตรวจดีเอ็นเอและจากนักสืบยังให้ลูกโดนทำร้ายจนเจ็บตัวได้ผมว่ามันไม่ใช่นะ มันขัดกับความรู้สึกของความเปนจริงของคนที่เปนพ่อที่พยายามจะทำให้ลูกมาอยู่ด้วย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 18-06-2017 23:32:39
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
ภาพพพพ ยิงตรงแบบนี้เลยหรอออ
ตายๆๆ
เด๋วขมตกใจ ทำหัวหอมตกทำไง 5555

ขมเอาไง เอาไงดี หุหุ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-06-2017 23:33:52
ในที่สุดภาพก็ได้สารภาพออกไปซักที อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 18-06-2017 23:46:03
นี่ลุ้นเรื่องภาพบอกรักขม มากกว่าเรื่องแม่กาลิคจะเอาตัวเด็กไปซะอีกนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-06-2017 00:41:25
เด่วๆ รุกเร้วเกิ้น เรื่องเก่าพึ่งเคลีย เอาเรื่องใหม่มาใส่อาขมอีกล้าวว 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 19-06-2017 01:04:12
สองตอนนี้เป็นอะไรทีลุ้นตามเครียดตามตลอด ดีใจกับภาพขมและกาลิคด้วย ฮือออ
สิ่งที่กาลิคเจอกับความใจร้ายของแม่มาตั้งแต่เกิดจะได้ความรักของขมและพ่อภาพช่วยเยียวยาเอง
รู้สึกดีที่ลงเอยแบบนี้ แต่แอบกลัวว่าอนาคตโอลิเวียจะกลับมาทำให้ข้อตกลงพลิกผันอีกรอบ
แบบพ่อมีคนรักเป็นผู้ชายแอบทวงสิทธิ์แม่อีกรอบไรงี้ /จับนังแม่ใจร้ายไปถ่วงน้ำซะ 555 :laugh:

ขมขมของหัวหอมจะตอบพ่อภาพว่าไงนะ ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: krazy_kess ที่ 19-06-2017 01:51:58
น้ำตาพรากกกกกกกก หัวหอมได้มีความสุขแล้วนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 19-06-2017 06:23:00
ว้าย ภาพพูดแล้ว ขมจะช็อคมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-06-2017 08:08:49
ขมจะว่ายังไงนะ?
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 19-06-2017 08:24:18
ภาพบอกไปแล้ว ขมจะว่าไงล่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 19-06-2017 14:12:39
ภาพบอกรักขมแล้ว :กอด1:

ขมจะว่ายังไงล่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-06-2017 16:52:33
โอ๊ย......ไรท์ สุดยอด เขียนดีมากกกกกกก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

แล้วความลับของโอลิเวีย ก็กระจ่าง
ยังมีหน้าจะเอาหัวหอมไปทำงานรับใช้ตัวเอง
ทั้งที่รำคาญเด็ก หัวหอมเป็นภาระ ไม่มีความเป็นแม่จริงๆ
ไม่ทันไรก็ทำร้ายหัวหอม ลากไปกับพื้น จะหักมือหัวหอมอีก เลวชั่ว

ดีที่หัวหอมเลือกที่จะอยู่กับอาขม เห็นๆกันไปเลย
ภาพบอกรักขมได้จังหวะจริงๆ ไม่มองเป็นเรื่องเล่น พูดเล่นๆแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 19-06-2017 19:04:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: tomnub ที่ 19-06-2017 19:52:44
ติดตามมาตลอดแต่ไม่ได้คอมเม้นเลย...รักหัวหอมจัง..มีลูกจะตั้งชื้อว่าหัวหอม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 19-06-2017 21:18:51
เอาแล่ววววววบอกรักแล้ว ขมละว่างัยจ๊ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-06-2017 21:21:45
โอ๊ยยยย ทำไมแม่ร้ายแบบนี้ ไม่มีคำบรรยาย

สงสารกาลิค เด็กน้อยเจ็บตัวไม่พอ ต้องมาจำเรื่องแบบนี้อีก แต่ต่อไปกาลิคก็อยู่กับพ่อภาพ อาขมแล้วน้า

ขมทุ่มสุดตัว แต่ก็แพ้ความคิด และจิตใจคน
ภาพถือว่าทำดี เข้มมากค่ะ จัดเต็ม เคลียร์สักทีเนาะ

ว้ายยยย สารภาพแล้ว แบบจริงจังด้วย ขมเคยบอกว่าถ้าจริงจัง ก็จะตอบแบบจริงจัง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 19-06-2017 23:01:38
น้ำตาไหลพรากสงสารกาลิคมีแม่ที่เห็นแก่ตัวขนาดนี้ แต่ละคำที่พูดออกมา :beat: :z6: ดีนะที่มีขมกับภาพอยู่ เฮ้อออ จบลงด้วยดีแล้วเนอะกาลิคอยู่กับพ่อภาพแม่ขมนะลูก o18
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 20-06-2017 00:30:44
เรื่องน้องกาลิคผ่านไปด้วยดี โล่งใจ~
และที่สำคัญพี่ภาพบอกรักน้องขมแล้ว
รอลุ้นคำตอบของน้องขม มาเป็นแม่ขมให้น้องหัวหอมเถอะ ^^
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: Satha ที่ 20-06-2017 03:39:47
มันก็โอนะแต่ติดที่ทำไมต้องให้กาลิคเจ็บด้วยสัญชาติญานของความเปนพ่อของภาพเหมือนไม่มึ
ทนดูให้แม่ของกาลิคดึงลูกและทำร้ายลูกต่อหน้าได้ในเมื่อฝ่ายภาพเองก็มีหลักฐานสะขนาดนั้น
แถมแม่ของกาลิคยังพูดไม่น่าฟังภาพยังปล่อยให้ลูกของตัวเองไปให้โดนทำร้ายได้ต่อหน้าต่อตาหลักฐานมีชัดเจนทั้งการตรวจดีเอ็นเอและจากนักสืบยังให้ลูกโดนทำร้ายจนเจ็บตัวได้ผมว่ามันไม่ใช่นะ มันขัดกับความรู้สึกของความเปนจริงของคนที่เปนพ่อที่พยายามจะทำให้ลูกมาอยู่ด้วย

เห็นด้วยมากๆอ่านแล้วหงุดหงิดแทนที่จะซึ้งแต่พอมองตามเหตุการณ์จริงละไม่ซึ้งอ่ะไม่เมกเซ้นท์ คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นพ่อแค่เห็นมันต้องออกแอกชั่นมากกว่านี้แล้วอ่ะ ไม่ใช่ซีนหายไปนานละแบบแค่บีบแขนโอลิเวียคือสามารถไปถึงตบตีได้เลยนะ สรุปตอนนี้เราอ่านละขัดใจมาก แต่ก็จะติดตามต่อ :m16:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 20-06-2017 21:51:27
เขาสารภาพรักกันล้าวววว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 21-06-2017 00:12:46
โอ้วววว เวลานี้แหละ ที่เหมาะสมมมม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: nung ที่ 22-06-2017 21:56:41
คิดถึงหัวหอม :mew6: :mew2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 22-06-2017 23:00:23
ในที่สุดหัวหอมก็ได้อยู่กับพ่อ และแม่(ใหม่) ซักที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-06-2017 23:57:26
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 37 - 18.6.60} #หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: SecretOfLove ที่ 23-06-2017 19:46:39
หัวหอมหายไปนานจัง คิดถึงหัวหอมแล้ว :serius2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36 { ตอนจบ }
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 23-06-2017 20:44:31

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 38

“ กูรักมึงว่ะ แต่ไม่ใช่แบบเพื่อนที่ควรเป็นนะ กูรักมึงแบบผู้ชายคนนึงจะรักใครสักคนได้ กูรักมึงแบบนั้นวะขม "

   ในที่สุดก็พูดออกไปจนได้..ความรู้สึกที่เก็บไว้มาตลอด แววตาของขมที่มองผมเปลี่ยนไปทันทีในวินาทีที่มันได้ยินคำพูดนั้น ท่าทางที่ชวนให้ร่างกายของผมเหมือนถูกสะกดนิ่งไป ก่อนที่มันจะทำทีเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนขึ้นมาเหมือนอย่างที่ผมเคยทำทุกครั้ง

“ ฮ่าๆ เล่นเหี้ยอะไรของมึงวะ ตกใจหมด แล้วทำหน้าก็โคตรจริงจัง ไอ้บ้า " ตอนที่ยินคำพูดนั้น ห้วงวินาทีนึงผมอยากจะหัวเราะตามมันออกไปแล้วพูดว่า ' รู้ทันจนได้ไอ้สัด ' แล้วทำทีเป็นว่าเรื่องจริงจังพวกนั้นผมเองก็แค่แกล้งเล่นเหมือนทุกครั้ง แต่ในสมองมันก็เกิดคำถามนึงขึ้นมาตอนที่คิดจะทำอะไรแบบนั้น

   ' ถ้าไม่บอกตอนนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้บอก บอกตอนที่มันไม่ทันการณ์แล้วน่ะเหรอ ? ตอนที่มันมีใครคนอื่นเข้ามาในใจมันแล้วน่ะเหรอ ? จะรอจนถึงตอนที่ทำอะไรไม่ได้แล้วเหรอ ? ถึงจะได้กล้าบอก  '  คำพูดที่ชวนให้คิดแล้วตอนนั้นผมก็ผ่อนลมหายใจออกมานิ่งๆจ้องมองมันด้วยสายตาจริงจังที่ก็ไม่ได้ทำเล่นๆอย่างทุกที ผมพูดเสียงเบาๆ

“ กูรู้ว่ามึงรู้ ว่ากูไม่ได้พูดเล่นๆ " ขมหลบตาไปทางอื่นทันที ตอนที่ผมพูดแบบนั้น มันที่ผ่อนลมหายใจออกมาไม่แม้จะหันมามองหน้าผมเลยสักนิด ทุกอย่างในห้องตอนนี้มีแต่เสียงเข็มนาฬิกาที่เดินไปเรื่อยๆ " ขอโทษทีมึง "

“ ขอโทษเรื่อง ? " มันถาม

“ ขอโทษที่มึงต้องมาฟังคำพูดพวกนี้ " ผมก้มหน้าลงก่อนจะบอก " ไม่ต้องตอบรับรักกูก็ได้ ถ้ามึงไม่อยากจะทำหรือว่าไม่ได้คิดแบบเดียวกันกับกู แต่กูแค่อยากจะบอกมึงออกไป กูก็เลยตัดสินใจบอก กูแค่กลัวว่าวันนึง..กูอาจจะไม่ทันได้บอก "

“ อื้ม " มันขานรับสั้นๆ ด้วยคำที่จับความรู้สึกไม่ได้เลยว่าตอนนี้มันรู้สึกยังไงกับประโยคสารภาพรักของผม " เรื่องจริงเหรอวะ " ขมถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบนั้น " เรื่องที่มึงพูด คือเรื่องจริงเหรอวะ "

“ อื้ม เรื่องจริง "

“ แล้วทำไมอยู่ๆถึงพูดออกมาวะ " ขมก้มหน้าลงก่อนจะถาม มันที่ค่อยๆเหลือบมองผม แต่พอผมหันไปมองมันก็หันหน้าหลบ " ไม่ต้องมาสบตากู "

“ อะไรของมึง " ผมหลุดยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมา " ทำไม ? มึงคิดว่ากูอำมึง "

“ ก็มึงมันเชื่อได้ที่ไหนละไอ้สัด สันดานเหี้ยจะตายห่า ชอบแกล้งกู " ขมบอกมันก็เหลือบมองผมอีกครั้ง " แล้ว..แล้วทำไมมึงถึงคิดมาบอกกู "

“ ไม่เห็นมีอะไรมาก กูแค่รู้สึกว่าชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนอะไรสักอย่าง ดูอย่างเราสิ ก่อนจะเกิดเรื่องของกาลิควันก่อนหน้านั้นเรายังสนุกสนานที่ได้ไปเที่ยวด้วยกันอยู่เลย เรายังกอดกัน ยังหัวเราะด้วยกัน แล้วพอหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป ความรู้าึกมีความสุขพวกนั้นถูกพลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ  " ผมเว้นเสียงก่อนจะถอนหายใจออกมา " พอคิดถึงเรื่องของกาลิคที่เป็นแบบนั้น กูก็คิดถึงมึงขึ้นมา ตอนนี้กูมีความสุขมากที่มีเราอยู่ด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน แต่ใครจะรู้ว่ามันจะยาวนานไปถึงเมื่อไหร่วะ วันนึงมึงอาจจะเจอผู้หญิงสักคนที่มึงชอบ แล้วตอนนั้นความรู้สึกของกูก็คงต้องถูกเก็บไป พูดอะไรออกไปไม่ได้อีก แล้วพอคิดว่ามันอาจจะเป็นแบบนั้น กูเลยพูดมันออกไป ในตอนที่มันยังพูดมันได้ดีกว่า "

“ อื้ม " ขมตอบรับสั้นๆตอนที่ผมหันไปมอง ร่างบางก็เอาแต่ก้มหน้าแล้วก็ไม่พูดอะไรต่ออีก

“ ขม อย่าเปลี่ยนไปนะมึง " ผมบอกสิ่งที่ผมกลัวที่สุดหลังจากที่บอกความจริงกับมันไป ถึงแม้จะรู้อยู่ในใจลึกๆว่า ยังไงซะ มันก็ต้องเปลี่ยนไป ไม่มีใครอยู่ใกล้เพื่อนที่บอกว่าชอบตัวเองได้อย่างสนิทใจหรอกแต่ถึงอย่างงั้นผมก็ยังเอ่ยขอร้องกับมัน " ถึงจะไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันก็ไม่ไปไรแต่อย่าเปลี่ยนไปนะ เป็นอย่างที่เคยเป็นมานะมึง กูไม่อยากจะเสียเพื่อนแบบมึงไป "

“ กูไม่เปลี่ยนไปหรอก อย่าคิดว่ากูเป็นคนแบบนั้นสิวะ " มันยิ้มก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา ขมก้มหน้าลง " ยังไงกูก็ยังเป็นกูนั่นแหละ "

“ เหรอ " ผมยกยิ้มให้กับตัวเอง ทั้งๆที่มันพูดออกมาแล้วแท้ๆว่าจะไม่เปลี่ยนไปแต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่า ที่บอกว่าไม่เปลี่ยนนั่นแหละคือกำลังจะเปลี่ยนไป

“ ภาพ.. โทษทีนะมึง " ผมหันไปหามันที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมา

“ เรื่องอะไร "

“ ก็อยู่ๆมึงพูดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา กูไปไม่เป็นเลยวะ บอกตรงๆ ไม่รู้เลย ว่าควรจะตอบมึงว่าอะไร ปกติได้แต่สารภาพรักคนอื่น พอมาเจอกับตัว กูแม่งก็ทำได้แค่นิ่งเท่านั้นแหละ " ขมเหลือบมองผม พอเห็นผมมองอยู่มันก็หลบไปมองพื้น " อย่ามองมาสิวะ "

“ แล้วทำไมจะมองไม่ได้วะ ก็กูพูดกับมึงอยู่ กูก็ต้องมองมึงสิ มึงมากกว่าพูดกับกูแล้วทำไม เสือกไปมองพื้น "

“ เออนั่นแหละ ช่างกูเถอะน่า มึงอย่ามองก็แล้วกัน หันไปทางอื่นบ้างสิวะ จ้องกันอยู่ได้ " ว่าแบบนั้นพร้อมกับแก้มแดงๆของมันที่ชวนให้ผมยกยิ้ม

“ เขินเหี้ยอะไรนักหนา "

“ ไม่ได้เขินเว้ย!! “ มันตะโกนบอกเสียงดังจนคนที่นอนอยู่ในตักขยับตัวเล็กน้อย " มึงแม่ง.. เกือบทำให้ไอ้หัวหอมตื่นเลย "

“ เดี๋ยวๆ " ผมยกมือเบรคคำพูดมัน " เมื่อกี้มึงคือคนที่ตะโกนนะ  แล้วยังจะมาโทษกูอีก "

“ ชิส์! " ขมจิ๊ปากเสียงเบาๆ มันถอนหายใจออกมาอีกครั้ง " ภาพ มึงอยากจะได้คำตอบรึเปล่า "

“ คำตอบอะไร "

“ ก็คำตอบของคำถามเมื่อกี้ "

“ จะตอบเหรอ ไม่ต้องตอบก็ได้มั้ง " ถ้าตอบแล้วจะทำให้กูเสียใจ ก็อย่าเพิ่งตอบเลย ผมรู้สึกแบบนั้นแต่ก็ไม่กล้าจะพูดกับมันออกไปตรงๆ

“ กูอยากตอบ " มันยืนยันผมก็ถอนหายใจออกมา เหมือนเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะได้ฟัง " กูไม่มีคำตอบที่จะตอบหรอก "

“ อ้าว.. " ผมหันไปมองมันก่อนจะขมวดคิ้วงง " แล้วเมื่อกี้มึงบอกว่าอยากจะตอบ พอตั้งใจฟังก็บอกว่า ไม่มีคำตอบที่ตอบ อะไรของมึงกันแน่วะเนี้ย กูงงนะ "

“ ก็กูอยากจะบอกมึงแค่นั้นแหละ อยากบอกว่า กูไม่มีคำตอบที่จะตอบมึง แต่.. แต่กูก็ไม่ได้ปฎิเสธมึงเปล่าวะ " มันหันมาเถียงผมที่ก็ได้แต่ยกคิ้วมองมัน " มันก็เหมือนกับว่า กูบอกมึงว่า กูรับรู้ความรู้สึกของมึงแล้วนะ ว่ารู้สึกยังไง แล้วก็ไม่ได้ปฎิเสธนะกับความรู้สึกนั้น "

“ งั้นมึงก็ตกลง " ผมหันไปมองมันยิ้มๆ อีกคนก็ชะงัก

“ ไม่อะ! ไม่ตกลง "

“ เอ้า! เหี้ยอะไรของมึง ตกลงก็ไม่ตกลงแต่ก็ไม่ปฎิเสธ "

“ เออน่า มึงรู้ไว้แค่นั้นไม่ได้รึยังไงละ "  มันบอกปัด ผมก็เถียงกลับ

“ ไม่ได้! กูต้องการความแน่ชัด ไม่งั้นกูจะคิดเองเออเองเลยนะ "

“ คิดเองเออเองอะไรของมึง " ขมถาม

“ ก็คิดว่าที่มึงไม่ปฎิเสธ เพราะว่ามึงก็อยากจะตอบรับนั่นแหละ แต่ไม่กล้าบอกก็เลยบอกว่า ไม่ปฎิเสธความรู้สึกของกูแต่ยังไม่ตอบรับ งั้นก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวอีกไม่นานมึงก็ต้องตอบรับมันเองแหละ เพราะกูจะทำให้มึงตอบรับเอง "

“ ไอ้เหี้ยโคตรเข้าข้างตัวเอง " มันว่าเสียงเบาๆ ผมก็ยกยิ้ม

“ แล้วไง ก็มึงเสือกตอบไม่เคลียร์เองนิ งั้นมึงก็พูดมาเลยสิ ว่า ไม่ได้รู้สึกอะไรกับกู ปฎิเสธกูเลย  " จ้องหน้ามันอีกคนก็นิ่ง ขมถอนหายใจ มันก้มหน้า

“ กูไม่อยากปฎิเสธ แต่ถ้าให้กูตอบรับตอนนี้ กูก็..”

   ท่าทางลังเลของมัน ทำให้ผมฉุดคิดขึ้นมาได้ว่า ความรักของผู้ชายสองคนมันไม่ได้ตอบรับง่ายได้ขนาดนั้น ตัวผมตอนที่รู้สึกว่ารักมันเกินเพื่อนก็ถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเหมือนคนบ้า เพื่อความมั่นใจ แต่วันนี้ผมมาถามขมเพื่อจะมาเอาคำตอบในวันเดียว มันจะเป็นไปได้ยังไงวะ

   ความรู้สึกของเรามันไม่ใช่แค่ ถ้าไม่ชอบก็ปฎิเสธออกมาเลย ง่ายๆ ตัวผมที่แคร์มัน มันเองก็ต้องแคร์ผม ในสมองตอนนี้ของมัน คงกำลังคิดว่าถ้าปฎิเสธเราจะเป็นยังไงต่อไป หรือถ้าตอบรับจะเป็นยังไงต่อไป และก็คงคิดด้วยว่า ตัวมันกำลังรู้สึกยังไงกับผมกันแน่

“ ขม " ผมเอื้อมมือไปเชยคางอีกคนขึ้นมาสบตา " ไว้วันไหนมึงกล้าจ้องตากูแล้วพูดความรู้สึกจริงๆออกมาได้ว่ารู้สึกยังไงกับกู ก็ค่อยบอกแล้วกัน กูรอได้ "

" แต่กูไม่ได้อยากจะปฎิเสธนะ " มันพูดขึ้นก่อนจะเม้นริมฝีปาก " แต่กูไม่รู้ว่าที่กูรู้สึกอยู่ กูรักมึงแบบเพื่อน หรือรักมึงมากกว่านั้น กู..ไม่มั่นใจ กูไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไรกันแน่ "

" ก็บอกว่า มั่นใจเมื่อไหร่ค่อยตอบ กุรอได้ " เอื้อมมือไปขยี้หัวมัน แต่อีกคนก็เอาแต่ทำหน้าเศร้า

" หรือว่า ให้กูจูบมึงแบบดูดดื่มดูสักครั้งเป็นไง มึงจะได้รู้ว่า ตัวเองรู้สึกยังไง มา! “ เอื้อมมือไปจับตัวมันผมที่ดึงหน้าเข้าไปใกล้อีกคนก็เอนหลังหลบแบบสุดแรงก่อนจะตะโกนออกมา

" ถอยออกไปเลยไอ้เชี้ย! ภาพ แกล้งกูอีกแล้วนะ!!! "  ใบหน้าหงุดหงิดของมันชวนให้ผมขำ แล้วในตอนนั้นคนที่หลับสนิทอยู่ ก็ค่อยๆตื่นขึ้นมา กาลิคขยับตัวก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อคนที่อุ้มมันอยู่

“ อาขม~ " มันเอื้อมมากอดร่างบางไว้ ก่อนจะซบลงไปที่ไหล่ " กาลิคตื่นแล้ว "

“ ตื่นแล้วเหรอ หิวมั้ย "

“ ไม่ แต่กาลิคอยากจะกอดอาขม " มือเล็กที่กอดไว้แน่น มันซบที่อกอยู่แบบนั้น

" ไอ้เด็กขี้อ้อนนน " ไอ้ขมลากเสียงก่อนจะกอดกาลิคไว้แน่น มันลุกขึ้นยืนเต็มความสูง " เราออกไปเดินเล่นข้างนอกกันดีกว่ามั้ย ไปสูดอากาศสดชื่น "

" ไม่ไป! “ เสียงขัดของมันที่ดังขึ้นมา ก่อนจะตามด้วยเสียงงอแง " ไม่เอา ไม่ออกไปนะอาขม อาขมนั่ง นั่งลงตรงนี้ ไม่ออกไปไหนน้า~ "

" ทำไมไม่ออกไปละ "

" โอลิเวีย อยู่ข้างนอก โอลิเวียจะมาเอากาลิคไป กาลิคไม่อยากไป กาลิคจะอยู่กับอาขมมม อึก ฮือๆ ไม่ไป กลัววว กาลิคกลัว~ "

" โอ๋ๆ ไม่ต้องร้องไห้นะ ไม่ต้องกลัว " มือบางลูบหลังอีกคนปลอบๆโยกตัวไปมาแต่กาลิคก็ยังไม่หยุดร้องไห้ " ไม่ต้องร้องไห้ โอลิเวียไม่อยู่แล้วละ ต่อไปนี้จะไม่มีใครพาหัวหอมไปจากอาขมแล้วก็อาภาพอีก ไม่ต้องร้องไห้นะ โอ๋ๆ เอ๋ๆ ไม่ต้องร้องนะ "

“ ครั้งแรกเลยนะ ที่กูได้ยินมึงพูดโอ๋ไอ้กาลิคว่า โอ๋ๆ เอ๋ๆ ไม่ต้องร้องไห้นะ " ผมบอกอีกคนก็ยิ้ม " น่ารักดี "

“ ทำไมมึงพูดคำพูดพวกนั้นออกมาได้หน้าตาเฉยเลยวะ " ขมก้มหน้าลงซบที่ไหล่ไอ้ตัวเล็ก

“ เขินเหรอ " ผมแซว อีกคนก็หันมาชักสีหน้าใส่

“ ไม่ได้เขินเว้ย! " มันบอกก่อนจะหันไปปลอบเด็กน้อยต่อ " ไม่ต้องร้องไห้นะกาลิค พอแล้ว โอ๋นะ โอ๋ๆ อาขมอยู่ตรงนี้ไม่ต้องร้อง " ร่างบางโยกตัวไปมาเพื่อให้อีกคนหยุดร้องไห้ กาลิคที่ค่อยๆเงียบลงเหลือแค่เสียงสะอื้นเบาๆ ขมก็อธิบาย " ที่ต้องโอ๋มันแบบนี้เพราะที่มันร้องไห้ไม่ใช่แค่เรื่องที่มันดื้อหรือมันซนสักหน่อย ตอนนี้มันกำลังกลัว เราก็ต้องโอ๋แล้วก็ปลอบมันสิ มึงอะ ตัวดี ปลอบมันเลย พ่อมันไม่ใช่เหรอ "

“ จ้าๆ " ผมตอบรับก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหลังมันเบาๆ " กาลิคไม่ต้องกลัวนะ ไม่มีใครทำอะไรกาลิคหรอก ไม่ต้องร้องไห้ " เอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้มัน แววตากลมก็จ้องมองผมที่ปิดหน้าตัวเองไว้ก่อนจะเปิดออกเร็วๆ " จ๊ะเอ๋! ไม่ต้องร้องไห้น้า "

“ ฮึฮึ อาภาพเอาอีก เอาอีก " มันบอกผมก็ปิดหน้าตัวเองอีกครั้ง

“ จ๊ะ~ เอ๋! ” แลบลิ้นบิ้นตาใส่มันอีกคนก็หัวเราะชอบใจ ยื่นมือไปขยี้หัวอีกคนจนยุ่งผมถอนหายใจก่อนจะเอียงหน้าสบสายตากับมัน " ไม่ต้องกลัวนะ ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น อาภาพจะดูแลกาลิคเอง จะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายกาลิคเด็ดขาดเลย อาภาพสัญญา " ยื่นนิ้วก้อยไปให้มันอีกคนก็ยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวนิ้วก้อยของผม
 
“ สัญญาน้า "

“ สัญญาครับ และจะไม่ผิดสัญญาแน่นอน "

“ อาขมเองก็สัญญา " ขมบอก กาลิคก็ผละตัวเองออกแล้วเงยหน้ามองอีกคน " อาขมสัญญาว่าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายกาลิคเหมือนกัน อาขมก็สัญญา " ขมยื่นนิ้วก้อยไปให้มัน อีกคนก็ยิ้มกว้างก่อนจะยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกลับ " เกี่ยวก้อยสัญญา สัญญากันนะ "

“ คราวนี้ออกไปข้างนอกได้ยัง "

“ อื้ม " กาลิคพยักหน้าตกลง ก่อนจะดึงตัวเองลงไปยืนบนพื้นมันเอื้อมมือมาจับมือไอ้ขม ผมก็หันไปกระซิบกับอีกคน

“ ขม กูอยากจะพากาลิคไปที่สนามเด็กเล่นของหมู่บ้านอะ สองต่อสองมีอะไรจะคุยกับมันหน่อย "

“ ได้สิ มึงก็พาไปเลย บอกกูทำไมอะ " มันเอียงหน้าถาม ผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา

“ มันติดมึงจะตาย มันจะไปกับกูสองต่อสองมั้ยละ มึงพูดให้หน่อยสิ "

“ อ๋อออออ แล้ว..จะไปพูดอะไรกัน ให้กูรู้ด้วยสิ อยากเสือกอะ " มันว่ายิ้มๆก่อนจะเอาผมทัดหู ผมเอื้อมมือไปดีดหน้าผากมัน

“ เสือก เรื่องของพ่อลูกเค้าจะคุยกัน "

“ ชิส์ " มันสถบเสียงเบาๆ ผมก็แซว

“ แต่จะว่าไปมึงก็ฟังได้นะ กูไม่ปิดมึงหรอก ยังไงมึงก็ต้องมาเป็นแม่ไอ้กาลิคอยู่แล้ว จะไปฟังด้วยก็ได้ "

“ สัด ! ไปกันแค่สองคนเลยไป๊ " มันบอกปัดด้วยท่าทางหงุดหงิดที่ชวนให้ผมยิ้ม ก่อนที่กาลิคจะออกแรงดึงมัน
“ อาขมม ไป ไปกัน ไปขี่จักรยานกัน " 

“ อาขมง่วงนอนอะ อยากนอน ไปกับอาภาพได้มั้ย " ขมเอ่ยบอกมันอีกคนก็ทำหน้ามุ่ย มือเล็กๆที่ยังคงจับมืออีกคนไม่ยอมปล่อย กาลิคเริ่มงอแง

“ งื้ออออ กาลิคอยากไปกับอาขม อาขมไปนะ "

“ อาขมง่วงนอน ไปกับอาภาพก่อนนะ เดี๋ยวอาขมขอนอนแปปนึง ตื่นขึ้นมาจะลงไปเล่นด้วยตกลงมั้ย " มันส่ายหน้าไม่ตอบรับคำพูดของอีกคน ผมก็หลุดยิ้ม

“ ให้อาขมนอนก่อนนะ อาขมคงเหนื่อย เราไปขี่จักรยานกันดีกว่า ไปกินไอติมด้วย ดีมั้ย " ก้มลงถามอีกคน กาลิคชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้ารับแล้วตอบเสียงอ่อยๆ

“ ก็..ได้ครับ "

“ เห็นแก่กินจริงๆเลยน้า~ " ขมลูบหัวเจ้าตัวเล็กมันพูดเสียงเบาๆ ก่อนจะหอมแก้มใสๆไปเต็มฟอด " งั้นเดี๋ยวตามไปนะ ขอนอนก่อน "

“ อื้อ! อาขมรีบตามมานะ " กาลิคเอื้อมมือมาจับมือผม

“ เล่นกันให้สนุกๆนะ "

“ ครับ " พยักหน้ารับอีกที ผมก็จูงกาลิคออกมาจากห้องลงมาที่ชั้นล่างของบ้าน เดินผ่านโต๊ะในสวนด้านนอกของตัวบ้านที่มีพ่อกับแม่นั่งอยู่ เจ้าตัวเล็กมันก็ปล่อยมือผมก่อนจะวิ่งเข้าไปหาแม่ผม แขนเล็กๆที่กอดท่านไว้ " คุณย่าา "

“ กาลิค ตื่นแล้วเหรอ "

“ กาลิคตื่นแล้วครับ " มันบอกเสียงใส แม่ก็ก้มลงหอมแก้มมันพ่อเองก็ด้วย เค้ายื่นมือไปลูบหัวกาลิคเบาๆ อีกคนก็ดึงตัวเองมากอดพ่อผมบ้าง

“ หิวมั้ย กินขนมรึเปล่า "

“ ไม่กิน กาลิคจะออกไปขี่จักรยานกับอาภาพ " มันว่า พ่อกับแม่ผมก็พยักหน้ารับ

“ แล้วอาขมละ " แม่ผมถามมัน อีกคนก็ชี้ไปที่ในบ้าน

“ อาขมบอกว่า อาขมง่วงนอน อาขมจะนอน "

“ อย่างงั้นเหรอ กาลิคก็เลยต้องเล่นกับอาภาพสองคนสินะ "

“ ไปขี่จักรยานได้แล้วไป อากาศกำลังดี " ผมเอ่ยบอกมัน ตอนที่ยื่นมือออกไปกาลิคก็วิ่งเข้ามาจับมือนั้นไว้ เราเดินออกไปที่ลานจอดรถ จักรยานคันเล็กสี่ล้อสีแดงของมันจอดอยู่ที่นั่น กาลิควิ่งไปขี่มันทันทีก่อนจะปั่นวนตัวผมอยู่แบบนั้น " นี่กาลิค ออกไปปั่นข้างนอกกันมั้ย "

“ ไปไม่ได้ คุณปู่ไม่ให้ไป คุณปู่บอกว่าอันตรายให้ปั่นอยู่แต่ในบ้าน  " มันว่าพลางหันไปมองพ่อผมแล้วก็พูดเสียงเบาๆ " แต่ว่าถ้าอาภาพพาไปคุณปู่อาจจะให้ไปก็ได้นะ "

“ ไอ้หัวหมอ " ขยี้หัวมันด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะหันไปบอกพ่อกับแม่ของตัวเอง " ป๊า ม๊า ภาพพากาลิคออกไปขี่จักรยานข้างนอกนะ "

“ ไปสิ ระวังตัวด้วยละ " พ่อบอกแบบนั้น ผมก็พยักหน้ารับ

“ ไปกัน " หันไปบอกมัน ไอ้ตัวเล็กที่อยากจะออกไปข้างนอกก็พยักหน้ารับแบบดีใจสุดฤทธิ์ กดเปิดประตูรั้วกาลิคที่ขี่จักรยานมาข้างๆผมก็อธิบาย " เวลาออกถนนใหญ่ ถ้าไม่มีผู้ใหญ่มาด้วย ก็ห้ามออกมานะ เข้าใจมั้ย "

“ เข้าใจครับ กาลิคจะไม่ออกมา "

“ แล้วพอเราออกมา เราก็ต้องระวังให้ดี มองซ้าย มองขวา ว่ามีรถรึเปล่า แล้วก็ค่อยๆปั่นจักรยานออกมา " เอื้อมมือไปจับหัวรถจักรยานของมันตอนที่อธิบาย เดินข้ามถนนมาอีกฝั่งก่อนจะปล่อยให้มันขับเองอยู่ข้างๆ " ขับตรงไปเรื่อยๆนะ เดี๋ยวไปที่สนามเด็กเล่นกัน "

“ อาภาพ เราจะไปที่สนามเด็กเล่นเหรอ "

“ ใช่แล้ว "  พยักหน้ารับบอกมัน กาลิคก็ปั่นจักรยานเข้าไปในหมู่บ้านลึกขึ้นเรื่อยๆ จนถึงสนามเด็กเล่น ที่ก็จะเรียกว่า สนามเด็กเล่นก็ไม่ถูกซะทีเดียวหรอก เพราะมันเหมือนสวนสุขภาพของหมู่บ้านมากกว่าและไม่มีของเล่นเด็กอยู่เลย มีแค่ทะเลสาบที่ทางโครงการหมู่บ้านสร้างให้มีพื้นที่ได้วิ่งออกกำลังรอบๆ แล้วก็พื้นที่หญ้าสีเขียวอีกนิดหน่อยสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ

“ ไม่เห็นมีของเล่นเลย " มันบอกผมก็หลุดยิ้ม เมื่อก่อนผมก็รู้สึกแบบเดียวกับมัน เวลาที่พ่อบอกว่าจะพาไปสนามเด็กเล่นแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีของเล่นสักชิ้น แต่ถึงอย่างงั้นก็ที่ตรงนี้แหละ ที่ผมกับไอ้ขมวิ่งเล่นกันมาตลอด ไม่มีของเล่นเราก็หอบหิ้วกันมา บางทีก้วิ่งเล่นไล่จับกัน " ลงเล่นน้ำได้มั้ย "

“ ไม่ได้ " ผมหันไปบอกมันก่อนจะส่ายหน้า " มันไม่ใช่ทะเลนะ เค้าเรียกทะเลสาบ มีเอาไว้ดู เท่านั้นแหละ "

“ ถ้าเล่นน้ำไม่ได้ จะมีสระน้ำใหญ่ม๊ากมาก ไว้ทำไมอะ " คำถามเดียวกันกับตอนที่ผมเป็นเด็กเลย

“ ก็มีไว้นั่งดูไง "

“ แค่ดูเหรอ "

“ อื้ม " พยักหน้ารับอีกคนก็ยังขมวดคิ้วงง

“ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย ถ้ากาลิคมีสระน้ำกว้างม๊ากกกแบบนี้ กาลิคจะทำให้ว่ายน้ำได้ แล้วก็จะชวนเพื่อนๆที่โรงเรียนมาเล่นน้ำทุกวันเลย  " ผู้ใหญ่กับเด็กต่างกันก็ตรงนี้ละมั้ง ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงรู้สึกว่าไร้สาระจะสร้างไว้ทำไมถ้ามันลงเล่นน้ำไม่ได้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าแค่ได้นั่งดูน้ำนิ่งๆ รับลมธรรมชาติที่พัดเข้ามาใส่หน้า สูดอากาศบริสุทธิ์นั่นก็ดีแล้วละ  นี่ละมั้ง..ความเป็นผู้ใหญ่ พอเราโตขึ้นอะไรๆก็เปลี่ยนไปความคิดนั่นก็ด้วย 

“ กาลิคมานั่งนี่สิ " ผมบอกก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ เจ้าตัวเล็กที่ทำหน้าเซ็งๆเพราะอยากจะเล่นน้ำมากกว่าลุกจากจักรยานมานั่งข้างผม

“ นั่งทำไมอะ  "

“ มานั่งดูทะเลสาบด้วยกันไง " ผมชี้ไปที่น้ำอีกคนก็มองก่อนจะทำทีเป็นลุกขึ้น

“ กาลิคจะไปขี่จักรยาน~ "

“ คุยกับอาภาพก่อนสิ อาภาพมีอะไรจะบอกกาลิคด้วยนะ " คว้าตัวมันที่กำลังจะเดินออกไปมายืนอยู่ตรงระหว่างขา เลื่อนมือมาจับมือเล็กๆสองข้างนั้นก่อนจะมองหน้ามันที่ก็มองหน้าผม

“ อาภาพจะบอกอะไรกับกาลิคเหรอ เป็นฟามลับเปล่า~ "

“ อาภาพรู้แล้วนะ ว่าใครเป็นคุณพ่อของกาลิค " ผมบอก กาลิคก็นิ่งไปแววตากลมที่จ้องมองผมเหมือนว่าตัวมันไม่ได้คิดเลยว่าผมจะถามออกมาแบบนั้น  " อยากรู้มั้ยว่าใครเป็นพ่อของกาลิค "

“ อยากรู้ " ตอบรับเสียงเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับช้าๆ

“ อาภาพเอง " ผมบอก " อาภาพเป็นพ่อของกาลิคนะ "

“ อาภาพ อาภาพเป็นพ่อของกาลิคเหรอ " มันทวนคำพูดของผมที่ก็ยิ้ม แล้วพยักหน้ารับ

“ ใช่  อาภาพเป็นพ่อของกาลิค " ผมย้ำก่อนจะยิ้มให้มัน " แต่ว่า  อาภาพกับหม่ามี๊น่ะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้นะ เพราะว่าเราสองคนไม่ได้รักกันก็เลยต้องแยกจากกัน หม่ามี๊ตอนนี้ก็ไปอยู่กับคนที่เค้ารักแล้วก็อยากจะอยู่ด้วยแล้ว และกาลิคก็จะลำบากมากๆถ้าต้องไปอยู่กับหม่ามี๊ อาภาพเลยไม่อยากจะให้กาลิคไป  อาภาพอยากจะให้กาลิคอยู่ที่นี่ เพราะงั้นต่อไปนี้กาลิคอยู่กับอาภาพนะ เราจะอยู่ด้วยกันสองคน แล้วเราก็จะไม่แยกจากกันอีก ตกลงมั้ย "

" อื้อ! " เด็กชายตัวน้อย พยักหน้ารับ " เพราะว่าหม่ามี๊จะพากาลิคไปลำบาก จะไม่สบาย จะไม่มีความสุข แบบนั้นอาขมก็เลยบอกให้กาลิคเลือกใช่มั้ย "

" ใช่แล้วละ " ผมบอก " เพราะอาภาพ กับ อาขม อยากจะให้กาลิคมีความสุขไง เสียใจรึเปล่าที่ต่อไปนี้จะไม่ได้เจอหม่ามี๊แล้ว "

" ไม่ครับ " มันส่ายหน้า ก่อนจะบอก " ก็กาลิคมีอาภาพ แล้วก็มีอาขมอยู่ กาลิคไม่เสียใจหรอก "

" ดีใจจังที่ได้ยินแบบนั้น " ผมบอกก่อนจะยิ้มให้คนตรงหน้า " อาภาพน่ะ ต่อไปนี้จะเป็นพ่อแบบไหนให้กาลิคก็ยังไม่รู้เลย จะเป็นพ่อที่ดีได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้ด้วย แต่ที่รู้คือ อาภาพจะดูแลกาลิคให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้กาลิคต้องเสียใจ  แล้วก็จะไม่ยอมให้กาลิคไปกับอยู่ใครที่ไม่ดีด้วย อาภาพจะคอยปกป้องกาลิคตลอดไปเลย อยู่กับอาภาพนะกาลิค อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะ "

“ อื้อ " แววตากลมคลอน้ำตาตอนที่เอ่ยบอกผม " กาลิคจะอยู่กับอาภาพแล้วก็อาขมตลอดไปเลย แต่ว่าอาภาพ..”

“ ว่าไงครับ "

“ กาลิคเรียกอาภาพว่าป๊าได้มั้ย กาลิคอยากมีพ่อ " คำถามสั้นๆที่ทำให้ผมนิ่งไปสักพัก เหมือนมีอะไรสักอย่างมาบีบใจของผมไว้แน่น น้ำตาที่ไหลออกมาผมก้มหน้าลงซบฝ่ามือเล็กๆนั่น

    กาลิคมาที่นี่ก็เพราะแม่มันบอกว่าจะพามาหาพ่อ เพราะงั้นคนที่กาลิคอยากจะเจอที่สุดก็คงเป็นพ่อของมัน คนที่มันอยากจะเอ่ยเรียกคำว่า พ่อออกไปสักครั้ง คนที่มันเคยคิดว่าเค้าจะรักและต้อนรับมันในครั้งแรกที่เห็น แต่ตอนนั้นทั้งผมทั้งขมก็เอาแต่ไม่ยอมรับมัน เราที่เหมือนผลักมันให้ออกไป ผมที่ทิ้งขว้างมัน แล้วทำให้หัวใจของมันต้องเจ็บปวดอย่างหนัก ทั้งๆที่มันไม่ได้ต้องการอะไรเลย กาลิคก็แค่อยากจะมีพ่อเท่านั้น

" กาลิค " เอื้อมมือไปดึงมันมากอดไว้ในวินาทีนั้น ผมซบลงไปตรงไหล่ของมัน เด็กน้อยถามย้ำ

" ได้มั้ย กาลิคเรียกอาภาพว่าป๊าได้มั้ยครับ "

" ได้สิ ได้เลย ต่อไปนี้ กาลิคต้องเรียกอาภาพว่า ป๊านะ เรียกต่อหน้าทุกๆคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน กับใคร ก็เรียกว่า ป๊าว่าป๊าได้เลยนะ เพราะว่าป๊าน่ะ ก็อยากจะให้กาลิคเรียกป๊า ว่าป๊าเหมือนกัน "

" ป๊าาาาา " เสียงใสๆของมันเรียกผม มือเล็กที่กอดผมไว้แน่น ในตอนนั้นกาลิคร้องไห้งอแงออกมาเสียงดัง " กาลิคอยากเรียกป๊า กาลิคอยากกอดป๊า กาลิคอยากเจอป๊าที่สุด ป๊า~ รักป๊าน้า กาลิครักป๊า~ "

" ป๊าก็รักกาลิคนะ ขอโทษนะกาลิค ป๊าขอโทษนะ ขอโทษที่รู้ช้าไป ป๊าขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ " 

" อึก ฮือๆ ป๊าาา " เสียงร้องงอแงที่ดังอยู่ใกล้หูผม อ้อมกอดของผมกอดเด็กน้อยคนนี้ไว้แน่น พร้อมกับหัวใจที่ให้สัญญากับตัวเองไว้ว่า จะไม่มีวันทำให้มันเสียใจอีกและต่อจากนี้จะดูแลมันให้ดีที่สุด ให้สมกับการเป็นพ่อ พ่อที่กาลิคอยากเจอและอยากจะมีมากที่สุด

...............................................................

กาลิคของป้า #ปิดปากร้องไห้สงสารเด็กน้อย
ต่อไปนี้ก็มีคุณพ่อแล้วนะ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็เรียกป๊าได้อย่างมีความสุขแล้วนะ
มีชีวิตที่มีความสุขนะลูก หมดทุกข์หมดโศกสักทีนะ #พรมน้ำมนต์

ในส่วนของเรื่องว่าที่คุณแม่ #เดี๋ยวตอบรับรักค่อยเป็นคุณแม่เต็มตัว
ต้องมีคนบอกแน่นอนว่า โอ๊ยยยย มึงจะเรื่องมากคิดเยอะเหี้ยไรอีก รับรักไปเถอะ ไอ้ที่มึงหึงเค้ากับมีนา คราวที่น้องมันมาสอนทำแกงจืด แกก็รักอีภาพแล้วแหละ อีบ้าาา #ใจเย็น
ไม่เคยได้ยินเหรอ พี่ดาเอ็นโดฟินกล่าวไว้ว่า " ห่างกันเพียงเอื้อมมือแต่มันคือแสนไกล "
เรารู้ว่าทุกคนรู้ว่าขมรู้สึกยังไงกับภาพ แต่ที่ทุกคนไม่รู้คือ มึงจะคิดเหี้ยอะไรอีก #เกรี้ยวกราด
คือ.. กรุณาให้ฉันมีพื้นที่เขียนนิยายต่อไปด้วยค่ะ  กรุณาให้ฉันเขียน แล้วทุกคนก็เข้ามาอ่าน ฮ่าๆ

ขึ้นว่าตอนจบ เพราะรู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กแล้ว เราได้คำตอบของชื่อเรื่องแล้ว " เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู "
และต่อจากนี้ขอเชิญทุกท่านเข้าสู่ .. นิยายแนวครอบครัวใสๆ
เรื่อง ชีวิตครอบครัวของพ่อหม้ายลูกติดกับเพื่อนสนิทที่ยังคิดเหี้ยอะไรของมึงอยู่ .. #ชื่อยาวจัง
อัพนิยายเหมือนเดิม อย่าลืมเข้ามาอ่านกันละ

ส่วนการตีพิมพ์หนังสือนั้น มีแน่นอน เก็บเงิบใส่กระปุกไว้
พร้อมเมื่อไหร่ เปิดจองเมื่อนั้น ตอนนี้ยังไม่พร้อมมมมมมม ยังเขียนไม่เสร็จจจจ #กรีดร้อง
ทอล์คยาวจัง ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 23-06-2017 21:09:13
แงงงงงงงงงง ซึ้งอ่ะ ดีใจกับกาลิค ที่ไม่ต้องทนอยู่กับคนที่คลอดออกมา ดีใจที่ได้รู้ว่าพ่อของตัวเองคือใคร ดีใจที่ต่อไปนี้กาลิคจะมีแต่ความสุข ถ้ากาลิคอยากมีอาขมอยู่ด้วยไปตลอดก็เรียกอาขมว่าม๊าสิ อิอิ  :mew3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 23-06-2017 21:13:03
โอยยยยย บีบหัวใจจริง คนเขียนเขียนดีมาก part นี้จบลงอย่างสวยงาม รอ part ต่อไป
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 23-06-2017 21:24:44
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 23-06-2017 21:27:14
loove  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 23-06-2017 21:33:15
ซึ้ง :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 23-06-2017 21:36:02
หัวหอม~ อ่านแล้วน้ำตาซึมเลย ดีใจด้วย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 23-06-2017 21:38:12
 :sad11: น้ำตาซึมเลย กาลิคเอ้ยเด็กดีจังน้า มีป๊ากับเค้าซะที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 23-06-2017 21:45:39
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 23-06-2017 21:53:02
จริงๆ เด็กก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายเลยนะ :mew6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-06-2017 21:53:20
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-06-2017 21:53:51
น้ำตาซึมไปกับกาลิคตอนเรียกป๊า
 :hao5: :hao5: :hao5:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-06-2017 21:57:52
ในที่สุดหัวหอมก็เจอป๊าแล้วนะลูก
ส่วนม๊าก็นอนรออยู่บ้านให้แมนๆ เค้าออกมาคุยกันไง อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-06-2017 22:02:03
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 23-06-2017 22:07:08
กำลังซึ้งน้ำตาซึมกับป๊าภาพและกาลิค เอ็นดูเด็กน้อยมาก :กอด1: มาฮาแตกกับชื่อเรื่องตอนต่อไปจะยาวไปไหน หาอะไรมากระตุ้นขมหน่อยจะได้รู้ตัวซะที
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 23-06-2017 22:17:19
กาลิคลูกกกกก ต่อไปนี้ก็จะมีป๊าแล้วเนอะ โอ๋ๆ (แล้วก็ไปลากอาขมมาเป็นของตัวเองอีกคนด้วยเนอะ แย่งของป๊ามาเลยยยย)

ปล. ชอบชื่อเรื่องใหม่...ยาวได้ใจจริงๆ ฮาาาา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-06-2017 22:27:56
ก็นึกๆอยู่เหมือนกันว่า ภาพรู้ปล้วว่าภาพเป็นพ่อกาลิค
คำที่กาลิคเรียกภาพ ว่าอาภาพ ต้องเป็นพ่อ/ป๊า  :mew1: :mew1: :mew1:

แต่กาลิคคงเรียกขม ว่าอาขมอย่างเดิมสินะ
เรียกอย้างอื่น ขมคงไม่ยอม

คำตอบของขมฉลาดจัง  " กูไม่มีคำตอบที่จะตอบหรอก "
กับ " ตกลงก็ไม่ตกลง.......แต่กูไม่ได้อยากจะปฎิเสธนะ "
แต่ขมไม่ได้รังเกียจภาพแน่ๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 23-06-2017 22:44:05
ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 23-06-2017 23:23:19
ชอบคนเขียน  :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 24-06-2017 07:46:46
หมดเคราะห์หมดโศกแล้วนะหัวหอมมมมม ^^
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 24-06-2017 07:50:31
 :กอด1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 24-06-2017 08:25:38
คู่พ่อลูกน่ารักจริงๆ ส่วนขม ค่อยๆคิด ค่อยตัดสินใจเนอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 24-06-2017 08:39:20
เอ็นดูกาลิค :mew3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 24-06-2017 09:03:32
ขมรู้ใจตัวเองเร็วๆนะ หัวหอมจะได้มีแม่ใหม่ซักที  :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 24-06-2017 09:07:17
รักกาลิคจัง :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 24-06-2017 09:28:14
เด็กน้อยของอาขมกับป๊าภาพ กาลิคน่ารัก ฉลาด ค่อย ๆ เติบโตเป็นเด็กดีของป๊านะ
กาลิคเข้าใจที่ภาพต้องการบอก เด็กน้อยใสซื่อ ช่างถาม

ภาพได้เป็นพ่อคนแล้วนะ ดูแลให้ดีนะ
แถมสารภาพรักไปแล้วด้วย ขมแต่ยังคิดไม่ตก ภาพก็แหย่อยู่เรื่อย 55555 น่ารัก

ขมทำเขินนะ คิดแล้วแหละ แต่ยังไม่แน่ใจ รอได้จ้า รออาขมมาเป็นคุณม๊านะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 24-06-2017 09:40:57
เข้ามากรีดร้อง ดีใจกับกาลิค ที่ได้มีคุณพ่อสมใจล่ะ เด็กน้อยคงมีความสุขมาก ส่วนอิคู่พ่อแม่ ติดตามกันต่อปาาาย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 24-06-2017 09:49:45
 :m15: กาลิคต้องช่วยป๊าจีบแม่ขมด้วยนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-06-2017 15:14:39
ค่อยๆปรับตัวไป คิดว่า อาภาพจะกลายเป็นป๊าภาพที่ดีได้แน่นอน ยิ่งมีอาขมคอยดูแลอยู่ใกล้ๆแบบนี้ หัวหอมจะต้องมีความสุขที่สุดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 24-06-2017 15:39:27
เรื่อง ชีวิตครอบครัวของพ่อหม้ายลูกติดกับเพื่อนสนิทที่ยังคิดเหี้ยอะไรของมึงอยู่ .. 
 :laugh: ชื่อยาวจัง   ตามอ่านกันต่อไป
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 24-06-2017 16:45:31
เราจะให้พื้นที่คุณคนเขียนเต็มที่ เราจะไม่ว่านุงขมก็ได้ งืมๆ ฮ่าๆๆๆ #ลดความเกรี้ยวกราด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 38 - 23.6.60} #หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-06-2017 11:19:07
โธ่ ลูกกาลิค ขอให้มีความสุขเยอะๆน้า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 25-06-2017 20:27:40
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 39

   ลืมตาตื่นขึ้นในห้องนอนที่ไม่ใช่ของผมทั้งๆที่ไม่ได้ง่วงอย่างที่โกหกไอ้ตัวเล็กไว้เลย แต่พอเอนหลังลงนอนบนเตียงหลับตาลงสักพักไม่ถึงสิบนาทีก็หลับสนิทไปแล้ว บิดขี้เกียจไปมาพลางมองเพดานขาวที่ว่างเปล่า แล้วจู่ๆสมองก็หวนคิดประโยคนึงขึ้นมา

' กูรักมึงว่ะ แต่ไม่ใช่แบบเพื่อนที่ควรเป็นนะ กูรักมึงแบบผู้ชายคนนึงจะรักใครสักคนได้ กูรักมึงแบบนั้นวะขม ' ถอนหายใจออกมาตอนที่คิดถึงประโยคนั้น ยังจำความรู้สึกที่เงียบจนได้ยินแต่เสียงของเข็มนาฬิกาได้อยู่เลย ผมไม่รู้ว่าทำไมภาพถึงพูดออกมาแต่สิ่งที่รู้คือ มันไม่ได้โกหก ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้น คือเรื่องจริง

   แต่ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริงแค่ไหน นั้นก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างสำหรับผมในตอนนี้ดูแปลกไป ยิ่งรู้สึกว่าไม่ควรแปลก ควรทำตัวเหมือนเดิม ผมก็รู้สึกว่า ทุกอย่างรอบตัวก็เริ่มแปลกไป ห้องนอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีก จากที่มันเคยเป็นแค่ห้องนอนของเพื่อนสนิทที่นอนข้างกันได้อย่างสนิทใจ แต่ต่อจากวันนี้ไปมันก็คงไม่สนิทใจแบบนั้นอีก

   ผมก็ไม่รู้ว่าตัวผมรู้สึกยังไงกับมันเหมือนกัน ' ชอบงั้นเหรอ ? ' แต่ผมก็รู้สึกหงุดหงิดตอนที่รู้ความจริงว่าน้องมีนาชอบมันนะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ว่าใครจะชอบภาพ หรือภาพจะชอบใครผมก็ไม่สนใจทั้งนั้น แต่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ตัวผมสนใจทุกอย่างของมันขึ้นมา

   ผมร้องไห้ตอนที่มันมีเรื่องเศร้า ดีใจตอนที่มันมีความสุข และหงุดหงิดตอนที่รู้ว่ามีใครมาชอบมัน เป็นความรู้สึกที่มากกว่าคำว่าเพื่อนเกินไป แต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่เคยคิดถามตัวเองเลยว่า รู้สึกยังไงกับมัน อาจเพราะชีวิตทุกวันในสมองมีแต่เรื่องของหัวหอม เรื่องความรู้สึกส่วนตัวแบบนั้นเลยวางทิ้งมันไว้ข้างหลังไม่ได้เก็บมานั่งคิดอะไร

   แบบนั้นพอมันสารภาพรักก็เลยได้แต่นิ่ง แล้วก็บอกไปแค่ว่า ' ไม่มีคำตอบอะไร แต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธ ' คำตอบที่ไม่ชัดเจน คนถามเองก็คงไม่ได้อยากฟัง คงดีกว่าถ้าผมพูดออกไปให้ชัดเจนเลยว่า ชอบ หรือ ไม่ชอบ แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่กล้าพูดออกไป ทั้งๆที่รู้ดีว่าถ้าตอบออกไปแล้ว มันก็จบ ถ้าชอบก็คบกัน ไม่ชอบก็ห่างกัน มีหน้าที่แค่ดูแลหัวหอม มันอาจจะไปชอบใครสักคนในอนาคตแล้วแต่งงานและ ผมเองก็เช่นกัน
 
   เพิ่งรู้สึกถึงข้อเสียของการเป็นคนสำคัญก็วันนี้เอง บางทีถ้ามันเป็นแค่เพื่อนแบบไอ้โมผมคงตัดสินใจง่ายกว่านี้  แต่ในความเป็นจริงตอนนี้มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ถ้าตอบว่าคบกันภาพคงมีความสุขผมเองก็เช่นกัน ทุกอย่างก็ดำเนินไปแบบเดิม แต่ถ้าเลิกกัน แม้แต่ความเป็นเพื่อนก็คงไม่มีอยู่ และเช่นกัน ถ้าตอบว่าไม่ตกลง ความเป็นเพื่อนของเราคงจบลงแค่ตรงนี้ ถึงจะสัญญาว่าความเป็นเพื่อนจะไม่เปลี่ยนไป แต่ถึงอย่างงั้น ทั้งผมทั้งมันก็รู้ดีอยู่แล้ว ว่ามันคงต้องเปลี่ยน

“ ไม่อยากเสียมึงไปเลย ทำไมถึงเป็นแบบเดิมไม่ได้วะ " เป็นเพื่อนกัน อยู่ด้วยกัน เลี้ยงหัวหอมไปด้วยกัน ไม่ต้องหาใครเป็นคนรักแค่อยู่ด้วยกันไปแบบที่เป็นมาก็พอแล้ว เป็นความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและไม่มีวันเลิกกัน " เห็นแก่ตัวชะมัด คิดเหี้ยอะไรแบบนั้นวะกู "  ยกยิ้มกับความคิดที่อยากจะกักขังมันไว้แบบนั้น ผมพลิกตัวมองข้างตัวที่ว่างเปล่า ที่นอนฝั่งของภาพแต่ไม่มีมันอยู่ตรงนั้น ผมเอื้อมมือไปจับก่อนจะหลับตาลง 

   กลัวจริงๆนะ ที่จะเสียมึงไป กลัวมากจริงๆกับการที่ไม่มีมึงอยู่ใกล้ๆ กลัวจนไม่กล้าจะพูดออกไปตรงๆ ว่าชอบ หรือ ไม่ชอบ ก็เพราะทั้งสองทางที่มึงให้เลือก มันเสี่ยงกับการที่จะเสียมึงไปทั้งนั้น

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เสียงเคาะประตูดึงให้ตัวผมลุกขึ้นจากเตียงทันที ตอนที่ประตูนั้นเปิดออกคนที่เดินเข้ามาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้าของห้องที่โผล่หน้าเข้ามาก่อน พอเห็นผมนั่งอยู่บนเตียงมันก็เดินเข้ามา

“ มึงเองเหรอ " ผมพูดตอนที่เห็นหน้ามัน ล้มตัวลงนอนต่ออีกคนก็หัวเราะ ภาพหย่อนตัวเองลงนั่งที่ข้างเตียงก่อนจะเอื้อมมือมาจับข้อมือผมให้ลุกขึ้นนั่ง

“ ตื่นได้แล้วไอ้เหี้ย ไปกินข้าว จะถึงเวลาข้าวเย็นแล้ว "

“ เหรอ " มันบอกก่อนจะพยักหน้ารับ เงยมองหน้ามันที่กำลังมองผม สังเกตเห็นคราบน้ำตาที่ติดอยู่ตรงแก้ม " มึงร้องไห้มาเหรอวะ "

“ เปล่านิ " มันส่ายหน้าปฎิเสธ ผมก็ขมวดคิ้ว

“ น้ำตาติดอยู่ตรงแก้มมึงอะ " ชี้ที่แก้มตัวเองบอกตำแหน่งกับมันอีกคนก็ทำเป็นโง่ ทั้งๆที่จริงเรื่องแค่นี้มันควรฉลาด

“ ตรงไหนอะ เช็ดให้หน่อย " ยื่นแก้มมาให้ผม ที่ถอนหายใจออกมา เบือนสายตาหันไปหาทิชชู่มาเช็ดให้ ภาพมันก็ถาม " หาอะไรของมึง "

“ ทิชชู่ไง "

“ ไม่ต้อง! มือไปเลย " มันว่า ผมก็เหลือบตามองบนก่อนจะแบะปากส่ายหน้าใส่มัน

“ ไม่เอาอะ รังเกียจ "

“ อ๋อเหรอ รังเกียจเหรอ แล้วรังเกียจมากมั้ย " ร่างสูงเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ผมยันมือกับอกหนากันมันให้ออกห่างจากตัวไว้อีกคนก็หัวเราะ " เร็ว จะเช็ดให้ดีๆหรือจะเช็ดให้แบบแนบชิด "

“ แนบชิดพ่อมึง! ถอยออกไป! " ตะโกนบอกมัน อีกคนก็ยังดันตัวเองเข้ามาใกล้ ทำตัวไม่ต่างอะไรกับสาวเลยกู นี่ถ้าปากเอ่ยบอกว่า พี่ภาพอย่าเข้ามานะคะ แม่งคงใช่อะ " ถอยไปเว้ย เชี้ยภาพ ! ไม่งั้นกูจะโกรธนะ " คำขู่ประดุจเมียหลุดออกมาจากปากผม ทันทีที่พูดออกไปไอ้ภาพมันก็หยุดก่อนจะยกยิ้ม

" มีกง มีโกรธด้วยอะ  ถามจริงจะโกรธกูยังไง ไม่ให้หอมแก้มไรแบบนี้ปะ ว้าวววววว "

" ว้าวพ่อมึง กูไม่ใช่ไอ้หัวหอม " ผมบอกปัดมันอีกคนก็ยกยิ้ม" โกรธของกูคือมึงห้ามเข้ามาใกล้กู " แล้วมันต่างกันตรงไหนวะ ? ผมถามตัวเองในใจ มองยังไงคำพูดท่าทางของตัวผมตอนนี้ก็ดูสาวไปหมดเลยเว้ย อะไรกันวะเนี้ย สัด

" อะไรของมึง อยู่ๆทำหน้าเป็นรูตูดหมาแบบนั้น "

" หงุดหงิดตัวเอง " ผมบอกมัน " กูพูดเหี้ยอะไรออกมาตอนนี้ ก็ดูแรดไปหมดเลย ดูแบบเป็นคำที่สาวๆเค้าชอบพูดกับแฟนอะ "

" คิดมากไอ้เหี้ย ไม่เห็นเหมือน " ภาพบอกก่อนจะหัวเราะ " ทำไมมึงคิดว่าแค่พูดว่า ถอยออกไปอย่าเข้ามานะ ไม่งั้นจะโกรธนี่สาวมากเหรอ " ภาพถามผมก็พยักหน้ารับ " ติงต๊อง! " มือหนาผลักหัวผมพลางส่ายหน้า

“ ก็กูไม่อยากจะเป็นแบบนั้นอะ กูอยากจะเป็นแบบเดิม แต่พอพูดเหี้ยอะไรอ มันก็รู้สึกไม่ใช่ไปหมดเลย มันดูสาวแตกอะ  "

“ มึงคิดไปเองทั้งนั้น อยากจะพูดอะไรก็พูดเป็นแบบเดิมน่ะดีแล้ว " ภาพบอกก่อนจะก้มหน้าลงแล้วหันมายกยิ้มให้ผม " สำหรับมึงต่อให้เรียกกูว่า ผัวขา  มึงก็ยังเป็นมึงนั่นแหละ กูไม่ได้มองมึงเปลี่ยนไปหรอก ยังไงก็ชอบมึงอยู่ดี "

“ พูดเหี้ยอะไรวะ ! " ผมตะโกนขึ้นหลังคำพูดของมัน อีกคนก็หัวเราะ " หุบปากเน่าๆของมึงไปเลย ไอ้สัด ไม่อยากฟัง " พูดแบบนั้นก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่ข้างแก้มให้มันพลางถอนหายใจ ผมเปลี่ยนเรื่อง " แล้วนี่ร้องไห้ทำไม "

“ เปล่าหรอก แค่ไปคุยกับกาลิคมา แล้วรู้สึกว่า ไอ้เด็กนั่นมันเก่งจริงๆ ทั้งๆที่อายุแค่นั้นแต่เก็บความรู้สึกเก่งชะมัด " มันว่าผมก็ขมวดคิ้วมองมัน

“ ยังไง "

“ กูคุยกับมันเรื่องที่ว่ากูเป็นพ่อมัน แล้วมันก็ถามกูว่า  มันเรียกกูว่าป๊าได้มั้ยมันอยากมีพ่อ " ภาพก้มหน้าลงก่อนจะยิ้มแล้วถอนหายใจออกมา " มึงรู้มั้ย ตอนที่กูฟังมันพูด กูคิดถึงครั้งแรกที่มันเจอเรา มันที่บอกว่ามันมาหาพ่อแต่เรากลับบ่ายเบี่ยง กูโยนให้มึง มึงโยนให้กู ตอนนั้นมันจะเจ็บปวดแค่ไหนกันวะ แต่ว่าเด็กนั่นกลับไม่เคยเอ่ยถามเราเลยว่าใครเป็นพ่อมัน เหมือนมันรู้ว่าถ้าถามออกไปคงทำให้เราเสียใจ หงุดหงิด แล้วก็ทะเลาะกันเหมือนครั้งแรกที่เจอ มันก็เลยได้แต่เก็บเรื่องนั้นเอาไว้เงียบๆทั้งที่ตัวเองก็อยากรู้แล้วก็อยากจะเจอ อยากจะเรียกใครคนนั้นว่า พ่อ มาตลอด " 

“ แต่อดีตมันก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว มึงเสียใจกับสิ่งที่ผ่านไปแล้วมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะ " เอื้อมมือไปจับไหล่มัน

   ผมรู้ว่าภาพกำลังเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับความรู้สึกของหัวหอมในอดีต มากแค่ไหน ยิ่งพอคิดว่าตัวเองเคยพาเด็กคนนั้นไปทิ้ง และสุดท้ายก็เป็นตัวเองนั่นแหละที่เป็นพ่อ มันก็ยิ่งเสียใจ

   แต่จะปล่อยให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นตราบาปติดตัวมันไปตลอดนั่นก็ไม่ได้อีกเพราะถ้ามันเป็นแบบนั้น ภาพก็ต้องตามใจหัวหอมเพื่อชดเชยสิ่งที่มันเคยทำให้เสียใจและถ้าเป็นแบบนั้นสุดท้ายหัวหอมก็จะกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจที่นิสัยไม่น่ารัก แล้วผมก็คงจะยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้เหมือนกัน " เราหวนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนะมึง เราย้อนเวลาไม่ได้  แต่เราทำวันนี้ให้ดีที่สุดได้ มันยังไม่สาย สิ่งที่มึงควรทำคือเลี้ยงมันให้ดีที่สุด ให้ความอบอุ่นกับมัน ให้ความสุขกับมัน เติมเต็มความรู้สึกที่ไม่เคยมีให้หัวหอมมันรู้สึกว่า ดีจังเลยที่มีมึงอยู่ ดีจังที่มาอยู่กับมึง " ภาพเงยหน้าขึ้นมามองผม มันก็พยักหน้ารับก่อนจะยิ้มจางๆ

“ อื้ม "

“ ไม่ต้องคิดมากหรอก อดีต มันคือสิ่งที่เตือนใจเราว่าอย่าทำแบบนั้นอีก แล้วมึงก็ไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นอีกถูกมั้ย " ใบหน้าคมพยักหน้ารับ "  เพราะงั้นรู้สึกแย่กับมันได้แต่อย่าจมไปกับมัน เอามันมาปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น แต่กูบอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้ามึงจะตามใจหัวหอมเพื่อที่จะชดเชยสิ่งที่มึงผิด มึงได้ทะเลาะกับกูแน่นอน เพราะกูจะไม่ยอมให้มันต้องเป็นเด็กแบบนั้น "

“ คร๊าบบบบ รู้แล้วคร๊าบบบ กลัวแล้ว" ไอ้ภาพยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นสองมือทำทีเหมือนยอมแพ้ ผมเอื้อมมือไปตบไหล่มัน

“ ไม่ต้องคิดมากหรอกไอ้สัด ถ้ามึงทำดีหัวหอม ความทรงจำของมึงในใจมันก็จะมีแต่เรื่องดีๆแล้วมันก็จะกลบเรื่องแย่ๆนั่นไปเองแหละ " ผมบอก " เด็กจำช่วงเวลาเลวร้ายของตัวเองได้ดีก็จริงอยู่ แต่มึงอย่าลืมว่าเรื่องดีๆมันก็จำได้เหมือนกัน แล้วพอโตขึ้นจนรู้จักเหตุผล มันก็เอาเรื่องดีๆของมึงมาหักล้างเองแหละ "

" ยังไง "

" ก็แบบว่า มันจำได้ว่ามึงเคยเอามันไปทิ้ง แต่มันก็จะคิดขึ้นมาได้ว่า แต่อาภาพก็เคยช่วยเราจากโอลิเวียนะ แล้วหลังจากนั้นอาภาพก็ดีกับเรามากเลย รักเรา ส่งเราเรียน พาเราไปเที่ยว เค้าทำอย่างงี้ให้นะ อย่างงั้นให้นะ อะไรแบบนี้ "

" เหรอ " มันยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับเข้าใจ

" เอาน่า ถ้ามันมีเรื่องแย่ๆสักเรื่องที่ต้องจำไว้ในใจ กูคิดว่ายังไงก็ไม่ใช่เรื่องของมึงหรอก โอลิเวียเลวกว่ามึงเป็นไหนๆ ถูกมั้ย ถ้ามันจะมีความทรงจำแย่ๆสักเรื่อง ก็คงเป็นเรื่องของแม่มันมากกว่า เพราะไม่มีอะไรดีๆมาหักลบเลย " 

“ อื้ม "

“ ไม่ต้องคิดมากเข้าใจมั้ย "

“ เข้าใจครับ " มันพยักหน้ารับ

“ ดีมาก " ตบไหล่อีกคนที่หันมายิ้มให้ เรามองตากันสักพักจนผมต้องเป็นคนหลบออกมาก่อนเพราะเผลอคิดถึงเรื่องคำสารภาพของมัน

“ งั้น..เราลงไปกินข้าวกันได้แล้วละ ตอนนี้เค้าคงตั้งโต๊ะกินข้าวกันแล้วมั้ง " ภาพบอกก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง มันที่เดินออกไปผมเองก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตาม แต่ทว่าอยู่ๆภาพก็หยุดชะงักเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ มันหันมาผม 

“ พรุ่งนี้วันศุกร์ให้กาลิคไปโรงเรียนดีมั้ย เรื่องทั้งหมดก็เคลียร์แล้ว หรือว่าจะให้ไปอาทิตย์หน้าไปเลยดี "

“ ให้ไปพรุ่งนี้นั่นแหละ เดี๋ยวให้ไปวันจันทร์มันจะขี้เกียจ มึงกับกูเองก็ควรไปมหาลัยด้วย หยุดมาตั้งหลายวันแล้ว ตอนนี้งานกูกองสูงกว่าส่วนสูงกูแล้วมั้ง "

“ งั้นก็น้อยอะดิ " ร่างสูงว่าก่อนจะยกยิ้ม " ก็มึงเตี้ยอะ งั้นคงไม่เยอะเท่าไหร่หรอก "

“ ไอ้สัด " ด่ามันเสียงรอดไรฟันแต่อีกคนก็ทำได้แค่ยิ้มก่อนจะเดินออกไป ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรสักนิดไม่กับคำด่านั้น อีกอย่างสูงกว่ากูหน่อยเดียวทำเป็นคุย

   เดินเข้ามาให้ส่วนของห้องทานอาหารที่ตอนนี้อาหารเย็นหน้าตาน่ากินมากมาย วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เด็กน้อยที่กำลังตื่นเต้นกับเมนูของชอบของตัวเอง หัวหอมยิ้มหน้ายิ้มใหญ่กับอาหารตรงหน้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วเอ่ยเรียกเสียงใส

“ อาขมมมมมมม นั่งตรงนี้ " มือเล็กๆตบที่เก้าอี้ข้างมันผมก็เดินเข้าไปใกล้ ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะเอื้อมมือไปตบที่เก้าอี้อีกข้างของมัน " ป๊า ป๊านั่งตรงนี้ "

“ ป๊าเหรอ ? “ ผมเอ่ยพูดเสียงเบาๆ ตอนทีไ่ด้ยินหัวหอมเรียกไอ้ภาพ เผลอยิ้มออกมาตอนที่ก้มลงมองคนที่ดูเขินอยู่หน่อยๆกับสรรพนามใหม่ที่ไอ้ตัวเล็กใช่เรียกมัน

“ เออ ทำไม ? กูเป็นป๊าของกาลิคแล้ว  มึงจะล้อกูเหรอ " ภาพถาม ผมก็ส่ายหน้า

“ เปล๊า~ แค่จะบอกว่าน่ารักดีนิ " ผมชี้ไปที่ร่างสูงก่อนจะชี้ที่ไอ้ตัวเล็ก " นี่ คุณพ่อ แล้วนี่ ก็คุณลูก "

“ แล้วอาขมเป็นอะไรดี " หัวหอมถาม ผมก็นิิ่งไปสักพัก

“ เป็นคุณแม่ดีมั้ย " ภาพบอก

" เชี้ย! " ผมสบถออกมาเสียงเบาก่อนจะหันไปมองพ่อกับแม่ที่ก็แอบหลบตาก่อนจะก้มหน้าลงยิ้มๆ แน่นอนว่าเค้าต้องได้ยินอยู่แล้วมันพูดเสียงเบาที่ไหน แต่ท่าทางที่ไม่ตกใจแถมยังขำแบบนั้น พวกท่านเองก็คงจะรู้ดีอยู่แล้วแน่ๆ สำหรับความรู้สึกของภาพ " อาขมว่า อาขมเป็นอาขมนั่นแหละดีแล้ว " ตอบเด็กน้อยไปแบบนั้นอีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมือมากอดแขนผมไว้

“ อาขมเป็นอาขมของหนู "

“ จ้าๆ พ่อคนขี้อ้อน แต่ตอนนี้กินข้าวได้แล้วนะ " ดึงหัวหอมให้นั่งบนเก้าอี้ดีๆ ก่อนที่พี่แก้วจะตักข้าวใส่จานแล้วยื่นมาให้

" น้าแก้ว ขอบคุณครับ "

" ค่า น้องกาลิคกินเยอะๆเลยนะ " พี่แก้วบอกก่อนจะลูบหัวอีกคนก็ที่พยักหน้ารับ ผมตักทอดมันกุ้งใส่จานก่อนจะแบ่งเป็นคำๆให้มัน

“ งั้นกาลิคกินข้าวแล้วนะ " หัวหอมว่า ก่อนจะตักข้าวกับทอดมันกุ้งของโปรดเข้าปากไปเต็มๆคำ ตักแกงจืดใส่ถ้วยเล็กๆให้มันอีกคนก็กินเข้าไปแบบไม่หยุดปาก เป็นสองเมนูโปรดที่กินสู้ตายกันเลยทีเดียวสำหรับไอ้ตัวเล็ก

   ดื่มน้ำหลังจากยัดข้าวเข้าไปสองจาน ทั้งๆที่สามวันก่อนยังทำตัวเป็นพวกไม่อยากอาหารอยู่เลย หัวหอมที่กำลังกินไอติมเข้าไปคำสุดท้าย ผมจัดการเช็ดปากที่เลอะไปหมดนั้นก่อนที่มือเล็กจะยกน้ำขึ้นมากิน

" อิ่มแล้วววว " เด็กน้อยบอกก่อนจะยิ้มกว้าง มันหันไปหาพี่แก้วที่กำลังเจ็บจานของพ่อกับแม่อยู่ " น้าแก้วๆ น้าแก้วอร่อยมากเลย กาลิคชอบกินทุกอย่างเลย "

" ช่างพูดจริงนะ มันรู้ดีจริงๆว่าควรอ้อนใคร " พ่อเอ่ยบอกพวกเรา ทุกคนก็หัวเราะออกมา

" ขอบคุณนะคะน้องกาลิค ไว้เดี๋ยวน้าแก้วทำให้กินอีกนะ "

" ครับ! กาลิคจะกินให้หมดทุกอย่างเลยยยย " มันบอกเสียงใสด้วยรอยยิ้มกว้าง พ่อกับแม่ลุกขึ้นจากที่นั่งหลังจากที่จานบนโต๊ะถูกเก็บไปจนหมด

" กาลิคเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จไปดูการ์ตูนที่ห้องปู่กับย่านะ "

" กั๊บป๋ม! " เสียงเล็กๆตอบรับ ท่านทั้งสองก็เดินขึ้นไปที่ชั้นบนของบ้านคงไปเตรียมห้องนอน เปิดแอร์ อาบน้ำ เตรียมตัวรอไอ้ตัวเล็กเหมือนทุกทีนั่นแหละ

" งั้นเราก็ขึ้นไปข้างบนบ้างดีกว่า ไปอาบน้ำให้เรียบร้อยแล้วจะได้ไปดูการ์ตูนที่ห้องคุณปู่คุณย่าไง ไปกันเถอะ " ผมลุกขึ้นยืนเอื้อมมือไปหาอีกคนกาลิคก็คว้าจับไว้ก่อนจะหันมองภาพ

“ ป๊าไปกัน " มันชวนก่อนจะยื่นมืออีกข้างไปจับ " ไปกันนะ "

“ โอเค ไปกัน " ภาพเอื้อมมือไปจับมือเล็กๆนั่นไว้ มือข้างนึงของหัวหอมที่จับมือผมอีกข้างจับมือภาพเป็นท่าทางที่ชวนให้ยิ้มกว้าง จนร่างสูงต้องเอ่ยถาม 

“ ยิ้มอะไร "

“ ก็เปล่า " ส่ายหน้าไปมาแต่ก็ยังยิ้มอยู่แบบนั้น เปิดประตูเข้าไปในห้องหย่อนตัวลงนั่งบนเตียง หัวหอมเองวิ่งไปหยิบรถของเล่นของตัวเองมาเล่น ผมเงยหน้ามองนาฬิกา " เดี๋ยวอีกสิบนาทีค่อยไปอาบน้ำก็แล้วกันนะ อาบตอนนี้เดี่ยวจะจุก "

“ บรืนๆ บรืนๆ " เสียงเล็กๆที่กำลังบังคับรถไปมา รถบังคับที่ขับมาที่เท้าผมก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นมาบนตัวผมเรื่อยๆ รถของเล่นแล่นขึ้นมาถึงไหล่ก่อนจะลงไปที่หลัง " บรืน~ บรืนๆ "

“ นี่หัวหอม พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนนะ "

“ จริงเหรอ! " มันหยุดเล่นทันทีก่อนจะเอียงตัวมามองหน้าผม " พรุ่งนี้จะได้ไปโรงเรียนจริงๆเหรอ จริงๆนะอาขม "

“ จริงสิครับ "

“ เย้ๆ ไปโรงเรียน " ท่าทางดีใจของมันที่กระโดดโลดเต้นไปมาไม่ยอมหยุด " พรุ่งนี้จะได้ไปโรงเรียนแล้ว เย้ๆ กาลิคน่ะนะ คิดถึงรินเน่มากๆแล้ว คิดถึงเจ้านายแล้วก็ ก็. คิดถึงอลัน คิดถึงเพื่อนๆทุกคนเลย อยากไปโรงเรียน "

“ แล้วคิดถึงใครที่สุด "

“ คิดถึงรินเน่!! ” หัวหอมตะโกนบอก ไอ้ภาพที่นอนอยู่บนเตียงก็ดึงลูกชายตัวเองเข้าไปกอดไว้มันส่งเสียงล้อ

“ ฮั่นแน่~ ทำไมคิดถึงรินเน่อะ ชอบรินเน่เหรอเราน่ะ คิดอะไรกับลูกสาวเค้าปะวะ ไอ้เสืออออ " ภาพจิ้มแก้มมัน อีกคนก็ส่ายหน้า พลางโบกมือเล็กๆไปมา

“ เปล่านะ~ ป๊า~ กาลิคน่ะยังเด็กอยู่ " มันเอามือทาบอกตัวเอง " ถ้าเรายังเด็กอยู่ เราไปโรงเรียนเราก็ต้องไปเรียนหนังสือ ไม่ได้ไปหาแฟนนะรู้เปล่า  "

“ ใครสอนให้ตอบแบบนี้เนี้ย หื้มมม จับฟัด " มือหนากอดอีกคนแน่นขึ้นมันที่หอมแก้มใสๆเข้าไปเต็มฟอด ก่อนที่นิ้วเล็ๆจะชี้มาทางผม

“ อาขมสอน "

“ เป็นไง คำตอบน่ารักมั้ย " ยักคิ้วให้มันอีกคนก็ยกยิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“ จะว่าไปก็แปลกๆอยู่นะ ทำไมเพื่อนสนิทไอ้กาลิคดันเป็นเด็กผู้หญิงวะ ปกติมันต้องเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ " ภาพพูดขึ้นเสียงเบาๆ ผมก็คิดตามไม่รู้เหมือนกันนะ รู้ตัวอีกทีเพื่อนสนิทหัวหอมก็เป็นน้องรินเน่ไปแล้ว " กาลิค กาลิคไม่มีเพื่อนผู้ชายเลยรึไง "

“ มีน้า~ ก็น้องอลันกับน้องเจ้านายไง " มันหันไปบอกภาพด้วยสายตาจริงจัง " แต่ว่ากาลิคสนิทกับรินเน่ที่สุดเลย "

“ แล้วรินเน่ไม่มีเพื่อนผู้หญิงเหรอ " ผมถาม

“ มีนะ น้องรินเน่ชอบไปห้องน้ำกับเพื่อนเพลงเพราะ แต่ว่าน้องรินเน่สนิทก็กาลิคที่สุด "

“ เป็นความสัมพันธ์ที่แปลกดี " ภาพบอก " แต่เอาเถอะ ดีกว่าไม่มีเพื่อนหรือว่าโดนเพื่อนแกล้งละนะ "

“ แล้วทำไมถึงสนิทกับรินเน่ละ " ผมถาม เด็กน้อยก็เอิียงหน้าคิด

“ ก็รินเน่ใจดี แบ่งขนมให้กินตลอดเลย แล้วรินเน่ก็น่ารักมากกกกกก น่ารักที่สุดในห้องเลย "

“ ฟังดูแปลกๆนะว่ามั้ย " ผมเอียงตัวไปบอกไอ้ภาพอีกคนก็ยกยิ้ม " ในอนาคตมึงอาจจะได้ลูกสะใภ้เป็นน้องรินเน่ก็ได้ "

“ ไม่ลูกสะใภ้ก็เพื่อนสาวของลูกอะ มีอยู่สองอย่าง "

“ ไอ้สัด " ผมสบถออกมา " มึงอะปากดีว่าลูกตัวเอง "

" กูไม่ได้ว่ามันสักหน่อย สำหรับกูมันมีความสุข เป็นคนดีของสังคม เลี้ยงตัวเองรอด ไม่เอาเปรียบคนอื่น ก็พอแล้ว อย่างอื่นก็ตัดสินใจเองเถอะว่าจะเป็นอะไร พ่อแม่กูเลี้ยงกูมาแบบนี้ เค้าเข้าใจกูยังไง กูก็อยากจะเลี้ยงให้มันเป็นแบบนั้นเหมือนกัน อยากจะเข้าใจมันให้มากที่สุด "

“ ถ้าอย่างงั้นเรื่องนั้นมึงก็คงบอกพ่อกับแม่ไปแล้วสินะ " ผมถามมันอีกคนก็ขมวดคิ้ว ทำหน้าดง่ๆไม่รู้เรื่องราว ใสๆแบ๋วๆ

" เรื่องอะไร "

" อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่อง " พอพูดแบบนั้นอีกคนก็ยังเอียงหน้าไปมา

" เรื่องอะไรกันนะ พี่ภาพไม่เห็นรู้เรื่องเลยน้า " ขอตอบแม่งสักทีได้มั้ย โคตรหมั่นไส้เลย
 
" พี่ภาพพพพ " ไอ้หัวหอมเรียกร่างสูงอีกคนก็ก้มลงไปหอมแก้มลูกชายมัน

" ครับ น้องกาลิค " มันหัวเราะก่อนจะเงยหน้ามองผม ที่ยังขมวดคิ้วมองมันอยู่เพราะยังไม่ได้รับคำตอบของคำถาม ไอ้ภาพเอื้อมมือมาหยิกแก้มมันยิ้ม " เออ กูบอกแล้ว บอกไปตั้งนานแล้วด้วย "

“ เหรอ ? “ อ้าปากค้างตอนที่มันพูดออกมาแบบนั้น คือรู้อยู่แล้วว่ามันบอก แต่มาตกใจกับไอ้คำที่ว่า บอกตั้งนานแล้วนี่แหละ " บอกตั้งแต่ตอนไหนวะ "

“ บอกตั้งแต่วันที่พากาลิคเข้ามาที่บ้านแล้ว " มันจ้องหน้าผม " มึงคิดว่าความรู้สึกของกู มันฉาบฉวยเหรอไง ถึงคิดว่ากูจะไม่เตรียมการอะไรเลยเหรอ แบบจู่ๆก็มาบอกมึงเป็นคนแรก "

“ ก็..ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้คิดว่า มึงจะบอกพ่อกับแม่มึงมานานแล้วก็เท่านั้น "

“ ความรู้สึกของกู มันไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้นสักหน่อย กูต้องคิดดีแล้วละ ถึงจะพูดออกมา " ภาพบอกก่อนจะถอนหายใจ " มึงเป็นเพื่อนสนิทกูนะขม ถ้าไม่รู้สึกอะไรจริงๆ กูคงไม่พูดออกไปหรอก กูเองก็ใช่ว่าอยากจะเสียเพื่อนดีๆแบบมึงไป แต่ที่ตัดสินใจพูดเพราะมั่นใจแล้วว่า ความรู้สึกของกูมันไม่ได้ฉาบฉวยแต่เป็นความรู้สึกที่มั่นคง แล้วก็มากขึ้นอยู่ตลอด "

“ อื้ม " หัวใจของผมเต้นแรง แรงจนต้องมือขึ้นมาจับอกของตัวเองไว้ กลัวว่ามันเต้นแรงเกินไปจนใครอีกคนนั้นได้ยิน ผมก้มหน้าลงไม่รู้จะพูดอะไรกับมันอีก แก้มแดงๆที่ชวนให้ร้อนไปทั้งหน้า แล้วในวินาทีนั้น แววตากลมๆของคนที่นั่งเล่นอยู่ก็เอียงหน้าลงมามองผม

“ อาขม อาขมเป็นอะไร "

“ เปล่าหรอก " ผมส่ายหน้า

“ ไม่สบายเหรอ " มันถามก่อนจะทำท่าทีตกใจ " อาขมหน้าแด๊งแดง "

“ ไม่ได้แดงสักหน่อย "

“ แดงน้าาา " มันเถียง ก่อนจะยื่นมือมาลูบที่แก้มผม " ใครทำให้อาขมเป็นแบบนี้ ป๊าเหรอ~ งั้นกาลิคจะจัดการให้นะ " หัวหอมหันไปตีแขนไอ้ภาพ " นี่แหน่ะ ป๊าอย่าทำอาขมนะ "

“ ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย

“ ป๊าทามมมมม " มันลากเสียงยาว ร่างสูงก็ยิ้มกว้าง

“ ทำอะไร "

“ ทำให้อาขมต้องเขินไง อาขมหน้าแดงเพราะป๊าเลย " เด็กน้อยบอกก่อนจะดึงมือตัวเองขึ้นไปบี้แก้มคนเป็นพ่อไว้แน่นด้วยสองมือ " นี่แหน่ะ "

“ โอเคๆ ป๊ายอมแพ้แล้ว งั้นป๊าจะทำยังไงดีละ กาลิคจะให้ป๊าทำอะไรให้อาขมหายเขินดี "

" อื้มมมมม " เด็กน้อยทำท่าคิด " ป๊าต้องกอดอาขม ให้อาขมหายหน้าแดงเลยนะ " มันสั่งไอ้ภาพที่ก็ยกยิ้มก่อนจะทำทีเป็นเอื้อมมือจะมากอดผมไว้ แต่ทว่าผมก็ยกมือห้ามการกระทำนั้นของมันไว้ก่อน ก้มหน้าลงต่ำแล้วเอ่ยเสียงเบาๆ

“ พอเถอะ " ผมบอก " มึงอย่าทำแบบนั้นไอ้ภาพ หัวใจกูเต้นแรงไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว "  ก่อนที่มันจะระเบิดออกมา ช่วยหยุดทุกอย่างเอาไว้แค่นั้นก่อน

" ไม่ได้หรอก กาลิคสั่ง " มันดึงผมเข้าไปกอด ร่างกายที่แนบชิดกับมัน หัวใจที่เต้นแรงขึ้นผมซบหน้าลงกับไหล่หนา เสียงทุ้มกระซิบข้างหู " หัวใจเต้นแรงจัง "

" ปล่อยเลยไอ้สัด! กูก็บอกแล้วว่า หัวใจกูมัน..”

" เปล่า ไม่ได้หมายถึงหัวใจมึง กูหมายถึงหัวใจของกูตังหาก ที่กำลังเต้นแรง "

   มึงนี่มันใจร้ายซะจริง ทำแบบนี้กูก็ยิ่งไม่อยากจะเสียมึงไปสิวะ ไม่ยุติธรรมเลย ทำไมชีวิตกูต้องมีแต่มึงด้วย ถ้าชีวิตกูไม่มีแค่มึง กูจะตอบรับรักมึงแล้วพอถึงวันที่เลิกกัน ไม่ว่าเราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้มั้ย กูก็จะไม่สนใจอะไรอีก  .. แต่นี่มันไม่ใช่ ทำไมชีวิตกูต้องมีมึงคนเดียวด้วยนะ

.................................................................


อยากหยิกแก้มกาลิค หมั่นเขี้ยววว สั่งให้ป๊ากอดอาขมเงี้ยยย หนอย ~

จะว่าไงดี เราชอบความสัมพันธ์ของภาพกับขมนะ เป็นเพื่อนรักที่โตมาด้วยกัน รักกันสนิทกัน
จนเรียกได้ว่าเหมือนครอบครัวเดียวกัน แม้ตอนนี้ในใจของทุกคู่จะไม่แน่ชัด ขมยังกลัว ไม่แน่ใจ กลัวเสียเพื่อนแบบภาพไป ภาพเองก็ยังไม่ได้รับคำตอบของขม แต่ถึงจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกียวของกาลิค มันสองคนจะหันหน้าเข้ามาคุยกัน เหมือนจะลืมเรื่องทุกอย่างแล้วให้ความสำคัญกับเด็กคนนี้เท่านั้น
รู้สึกว่ามีทั้งความรักแบบวัยรุ่นอยู่ แล้วก็ความรับผิดชอบของครอบครัวอยู่

แต่ก็สงสารขมนะ เพราะ ไม่ว่าความสัมพันธ์แบบไหน ถ้าเปลี่ยนไปเป็นคนที่รักกันแล้วจะไม่สามารถกลับมาเป็นความสัมพันธ์เดิมได้อีก ต่อให้เราพยายามแค่ไหน ไม่ว่ายังไงก็ไม่เหมือนเดิม
แล้วขมจะตัดสินใจอย่างไร.. 

ค่อยๆคิดนะจ๊ะน้องขม แต่เร็วก็ดี ตอนนี้พี่ภาพเปิดโปร #ตกลงเป็นแฟนวันนี้แถมฟรีลูกติดอีกหนึ่ง
และอยากบอกว่า คิดเยอะมากๆ ระวังไม่มีผัวนะแกร
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่าาาาา

 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 25-06-2017 20:45:19
โอ๊ยกาลิคนี่โดนป๊าจ้างมาหรือเปล่าลูก มีบอกให้กอดอาขมด้วย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 25-06-2017 20:50:12
โง้ยย กาลิคน่ารักกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 25-06-2017 21:01:43
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-06-2017 21:05:27
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 25-06-2017 21:39:05
กาลิคลูกกกก ป๊าหนูจ้างมาเท่าไรเนี่ย?

ไอติมใช่ไหม? หรือว่าขนม?

ฮาาาาาา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-06-2017 21:41:55
ขม คิดมากเพราะกลัวถ้าความสัมพันธ์เปลี่ยนไป
จะกลับมาเป็นเพื่อนไม่ได้
ที่จริง เป็นการกลัวล่วงหน้า
กลัวแบบนี้ จะทำให้มีแต่ความกลัว เป็นทุกข์ตลอด
เลยทำให้ตัวเองไม่มีความสุข เพราะมัวแต่กลัว

กาลิค น่ารักมาก กาลิคมีความสุขซักที  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 25-06-2017 22:01:27
 :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-06-2017 22:07:07
เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะพ่อลูกคู่นี้
แบบนี้ขุ่นแม่เขินตัวแตกแน่ๆ 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 25-06-2017 22:16:22
เคยกลัวแบบขมนะ เข้าใจความรู้สึกเลยล่ะ ว่ามันน่ากลัวจริง ๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-06-2017 22:33:26
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 25-06-2017 22:54:39
 :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 25-06-2017 23:04:57
โอ้ยยยยยยตายย
กาลิก อยากมีแม่ใช่ไม๊ลูกกก
55555
อาขมเปนอาขมไม่ดี เปนมะม้า ดีกว่าเน้อ อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 25-06-2017 23:22:40
 :hao3: แค่วันแรกก็วีดวิ้วละ แล้วถ้ากลับคอนโด ละ ><~ กาลิคเข้าใจชงให้ป๊าจังลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 25-06-2017 23:30:57
ป๊าจ้างหนูมาเท่าไหร่ลูกกาลิค
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-06-2017 00:07:04
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 26-06-2017 00:17:59
ป๊าคนใหม่ ไปยุอะไรลูกหรือเปล่า ชงจัง  :-[
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-06-2017 00:20:42
หัวหอมหนูชงได้ดีมากลูก สมเป็นลูกป๊าจริงๆ
ว่าแต่ ถึงตอนนี้ ภาพกับขม ก็ยังไม่ได้มีเอกสารอะไรเกี่ยวกับหัวหอมเลยสิเนี่ย แม้แต่หัวหอมเกิดวันไหนก็ไม่รู้ แล้วจะฉลองวันเกิดกันอย่างไง   :katai1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 26-06-2017 04:30:33
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 26-06-2017 06:12:36
พ่อ แม่ ลูก o18
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 26-06-2017 07:30:05
เจ้ากาลิค เจ้าวายร้าย~ จะทำอาขมเป็นลมให้ได้ใช่ไหม ฮ่าๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 26-06-2017 07:32:27
คิดเยอะไปไหมขม รักมากก็กลัวมากเข้าใจ แต่อย่าคิดไปก่อนดิ ถ้ารักกันจริงมันไม่เลิกกันง่ายๆ หรอก คิดเยอะสาวแตกนะ 5555+
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 26-06-2017 09:54:06
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 26-06-2017 11:34:50
เจ้ากาลิคนักชง รีบหาแม่ใหม่จริงๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-06-2017 13:21:32
เกลียดดดดด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 26-06-2017 23:08:55
ป๊าลงทุนให้หนูจีบเมียให้ป๊าหรือลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-06-2017 07:36:36
ครอบครัวสุขสันต์ซะจริง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: nung ที่ 29-06-2017 19:58:16
คิดถึงหัวหอมแล้ว  :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 30-06-2017 21:33:53

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 40

   เดินออกจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ ก่อนหน้านี้ผมก็จัดการอาบน้ำให้ไอ้ตัวเล็กแล้วพาไปส่งที่ห้องพ่อกับแม่เรียบร้อย คาดผ้าขนหนูไว้ที่เอวตอนที่เดินเอาร่างชุ่มน้ำออกมาปะทะแอร์เย็นๆ ผมสูดลมหายใจเข้าปอดไปเต็มฟอดด้วยความฟินระดับสิบ แบบชนิดที่ไม่ได้รู้สึกมานานในช่วงอาทิตย์นี้

“ อื้อหื้ออ นี่คิดจะยั่วยวนกูรึเปล่าว้า วิ้ดวิ้ว~ " เสียงทุ้มที่เอ่ยทักพลางผิวปากดังมาจากเตียง ผมก้มลงมองร่างตัวเองทันทีตอนที่ได้ยินแบบนั้น ยกมือปิดหน้าอกตัวเองเป็นอย่างแรกแบบอัติโนมัติ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่วินาทีหลังจากนั้นผมวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะตะโกนออกมา

“ ไอ้เชี้ยภาพ!! มึงแม่ง!! ”

“ ฮ่าๆ เขินหร๊าตะเองงง  มีปิดนง ปิดนม ด้วยอะ มีนมคัพดีเหรอจ๊ะ ไหนเอาออกมาให้พี่ดูหน่อย " ไอ้ภาพเอ่ยแซว ผมก็ได้แต่ยืนขมวดคิ้วกับตัวเองอยู่ในห้องน้ำ

“ ไอ้สัดเอ้ย กวนตีนกูจริง " 

“ ไอ้ขม "

“ อะไร ? " ผมตะโกนถามไปเสียงเซ็งๆ แต่อีกคนกลับถามกลับด้วยเสียงปนหัวเราะ 

“ มึงไม่กล้าออกมาจากห้องน้ำเหรอวะ "

“ ก็.. ก็มึงแม่ง กวนตีนกูอะ " ผมตะโกนบอก อีกฝ่ายก็ขำเสียงลั่น " มึงคงความสุขมากสินะ แต่ความสุขของมึงมันต้องอยู่กับความทุกข์ของกูโว้ย ไอ้สัด "

“ โอ๋ๆ ออกมาน่านะ " มันว่าเสียงปลอบๆ " กูจะไม่ดูนมมึงแล้ว กูสัญญา "

“ กูไม่มีนมให้มึงดูเว้ย!! "

“ แต่มีหัวนมให้กูบี้อยู่น้า~ "

" K " สบถออกมาสั้นๆตอนที่ฟังคำพูดนั้นของมัน ขนแขนของผมลุกชันรู้สึกสยองกับคำพูดของมันแปลกๆ เอื้อมมือขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูอีกผืนมาคลุมท่อนบนไว้น่าแปลกเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกมาหวงเนื้อตัวขนาดนี้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนให้เดินแก้ผ้าต่อหน้ามันยังได้เลย ไม่มีความเขินอายสักนิด 

“ มึงเป็นคนแบบนี้เองเหรอวะภาพ แม่งหื่นสัด "

“ ตอนแรกกูก็ไม่หื่นหรอก แต่จะหื่นเพราะมึงนี่แหละ " มันบอกผมก็ได้แต่กรอกตามองบนแล้วผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆก็เท่านั้น " ออกมาเร็วๆน่า กูจะเข้าไปอาบต่อ นี่กูจะนับหนึ่งถึงสามนะถ้ามึงยังไม่ออก มึงเตรียมตัวอาบน้ำใหม่ได้เลย "

“ อาบน้ำใหม่ คือ ..”

“ มึงไม่รู้ งั้นต้องลอง "

“ กูออกมาแล้ว!! ” เปิดประตูห้องน้ำแล้วก้าวออกมายืนอยู่หน้าห้องด้วยความรวดเร็ว ขยับตัวให้ออกห่างห้องน้ำและเตียงให้มากที่สุด ผมไม่ได้กลัว แต่ก็ไม่กล้าถึงขั้นลองเสี่ยงอยากรู้ว่าคำตอบนั้นคืออะไร เหลือบมองไอ้ภาพที่นั่งอยู่บนเตียงผมเองก็กระชับผ้าขนหนูทั้งบนทั้งล่างไว้แน่น มันก็หลุดหัวเราะ  " ขำเหี้ยอะไรของมึงวะ "

“ มึงอะ เป็นอะไรของมึง ทำไมมึงต้องหงุดหงิดอะไรกูขนาดนั้น " มันถามยิ้มๆก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมาใกล้ผมที่ก็ได้แต่ถอยหลังให้ออกห่างมัน " ถามจริง มึงกลัวอะไร "

" ไม่นี่ " ปฎิเสธเสียงสูงอีกคนก็ถอนหายใจ ภาพเหล่ลงต่ำ " มึงอะ มองเหี้ยอะไรวะ! " 

“ ถามจริงๆ มึงคิดเหรอ ว่ามือของมึงจะจับทั้งผ้าคลุมไหล่ ทั้งผ้าคลุมตัวได้แน่นพอ " กูไม่ได้คิดอย่างงั้นหรอก แต่จะให้กูตอบมึงออกไปเห็นทีว่าจะไม่ได้ กูเงียบดีกว่า " กูจะบอกอะไรให้นะ แค่ครั้งเดียวกูกระตุกหลุดได้ทั้งสองผืนนั่นแหละ ไม่ได้ขู่ด้วย "

“ เออ กูรู้ว่ามึงเก่งมากๆ งั้นก็เข้าไปอาบน้ำได้แล้วไป " เชิดหน้าให้อีกคนเข้าไปในห้องน้ำ แต่มือหนาที่ยังกวนตีนก็ยังทำทีเป็นเอื้อมมือมาใกล้ " กูบอกว่าอย่าไง ไอ้เชี้ยภาพพพพ อย่าแกล้งกู ไอ้ห่า! กูกลัวแล้ว “ แผดเสียงออกมา อีกคนก็หัวเราะลั่น

“ ฮ่าๆ ไอ้บ้า มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึงไอ้ขม ทำไม มึงคิดว่ากูจะปล้ำมึงทำเมียเหรอ " เม้มปากว่าไว้แน่นทั้งๆที่อยากจะตอบว่า เออ ไอ้สัด กูกลัวเรื่องนั้นแหละ แต่ถ้าขืนตอบมันออกไปแบบนี้มีหวังว่า เรื่องนั้นต้องได้เกิดขึ้นจริงๆแน่นอน ใช้หลักความเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาทั้งชีวิต คนอย่างมันจะเริ่มจากแกล้งกันก่อน แล้วหลังจากนั้นถ้าอารมณ์ตามมาอิสรภาพของกูต้องถูกโจมตีค่ายแตกแน่ๆ ต้องไม่รอดชัวร์ๆ อย่าว่าแต่ไอ้ภาพอดใจไม่ไหวเลย ลำพังตัวเองผมยังไม่ไว้ใจมันเลย

“ เปล่า ไม่ได้คิดงั้นหรอก " ส่ายหน้าเป็นคำตอบให้มัน ใบหน้าคมที่เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ ผมก็ได้แต่เหลือบมองไปทางอื่น " มึง มึงไปอาบน้ำเถอะกูว่า เดี๋ยว เดี๋ยวไอ้หัวหอมมันเข้ามา จะได้นอนกันเลยไง พรุ่งนี้ก็ไปเรียนอีก ต้อง ตื่นเช้าน่า "

" อ้อ จริงสินะ ลืมไปเลย " มันพยักหน้ารับตอนที่เลื่อนใบหน้าออกห่างกัน ผมก็ถอนหายใจโล่ง ภาพหันหลังเหมือนจะเดินไปในห้องน้ำ แต่ทว่าโดยไม่ทันตั้งตัวมือหนาก็เอื้อมมือมาจับผ้าขนหนูผืนล่างของผมก่อนจะกระตุกลงให้หล่นลงพื้น " ว๊ายยยยยย โป๊~ " เสียงแซวกวนตีนของมันดังขึ้นใสตอนที่ผมกำลังตกใจและคิดจะตอบโต้อะไร ไอ้สัดนั้นก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำเสียแล้ว
 
“ ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย "

“ ฮ่าๆ " ไอ้ภาพหัวเราะออกมาดังลั่นห้องน้ำ " แหมมม โตขึ้นนะเรา "

“ มึงเงียบไปเลยนะ " บอกมันเสียงนิ่งๆ ก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนมาใส่แบบรวดเร็ว

“ มึงเขินอะไรนักหนาวะ มันก็ไม่ได้โตขึ้นจากตอนเป็นเด็กหรอก ก็ว่าทำไมไม่ค่อยมีเมีย นิ้วก้อยนี่เอง "

“ มึงแม่ง ใหญ่นักอ๋อสัด! “ ตะโกนถามมันด้วยความหงุดหงิดที่โดนหยาม แต่คนในห้องน้ำก็เงียบก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะดังออกมา

“ แล้วอยากดูมั้ยละ  "

“ ไม่อะ คงไม่เท่าที่อวดไว้หรอก ก็มึงแม่งขี้อวด " ผมบอกปัดมันถึงจะโดนมันดูถูกของส่วนตัวของตัวเองแต่ก็ไม่ได้คิดอยากจะดูของมันหรอก เหมือนในใจมันรู้อยู่แล้วว่าก็คงใหญ่พอควร แต่คนอย่างไอ้ภาพไม่สมควรเกทับอวดดีว่าอยากดูเด็ดขาด เพราะคนอย่างนั้นคงเปิดประตูออกแล้วเอามาให้ผมดูแบบไม่อายแน่นอน หนังหน้ามันหนากว่าถนนคอนกรีตซะอีกมั้ง

“ งั้นเปิดประตูให้ดูนะ "

“ หยุดนะเว้ย!! ใครอยากดูของมึงวะ รีบๆอาบน้ำสักทีเถอะ จะปั่นทอนหัวจิตหัวใจกูไปเถอะไหนวะ ไอ้ห่า " ตะโกนบอกมัน คนในห้องน้ำก็หัวเราะออกมาด้วยความถูกใจ ส่วนผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาตอนที่ได้ยินเสียงน้ำถูกเปิด

   ผมเดินไปที่หน้าโต๊ะกระจก จัดการทาครีมลวกๆแบบคนหงุดหงิด ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเหนื่อย  แทนที่พอรู้ว่าหัวหอมเป็นลูกไอ้ภาพ ผมจะได้เหนื่อยน้อยลงเพราะคนเป็นพ่ออย่างมันคงดูแลลูกมากขึ้น แต่ไหงสุดท้ายกลายเป็นว่า ผมเหนื่อยมากขึ้นวะ นี่นอกจากต้องดูแลลูกให้มัน คล้ายๆตอนนี้เหมือนว่าผมยังต้องคอยรับมือกับความกวนตีนของคนเป็นพ่ออีก " เห้อออ ชีวิตกู "

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เสียงเคาะประตูทำให้ผมที่นอนเล่นมือถืออยู่เด้งตัวเองขึ้นจากเตียงทันที หลับตาลงอยู่เป็นนาทีรู้สึกปวดตาแล้วก็ปวดหัวยังไงแปลกๆ สะบัดหัวไปมาเรียกพลังชีวิตก่อนเดินไปเปิดประตูห้อง ที่ยังไม่ทันเห้นเลยว่าใครมาแต่ทว่าเด็กน้อยก็วิ่งพุ่งเข้ามากอดผมไว้แล้ว

“ อาขมมมม "

“ อ้าว กลับมาแล้วเหรอ " ก้มหน้าลงถามมันแต่อีกคนก็แค่พยักหน้ารับลงกับเอวของผมที่มันกอดเอาไว้

“ แม่เห็นว่าท่าทางแกเริ่มงอแงแล้วน่ะ เลยพามาส่ง คงอยากจะอยากนอนแล้ว "

“ เหรอครับ " ผมยิ้มให้คนตรงหน้า ก่อนจะก้มลงแซวอีกคน " งอแงกับคุณปู่คุณย่าเหรอหัวหอม เด็กงอแง เด็กงอแง "

“ ไม่ใช่น้าาา อาขม " มันว่าพลางบี้หน้าลงกับตัวของผม ท่าทางที่ดูขัดแย้งกับคำพูดอยู่หน่อยๆ

“ งั้นแม่กลับไปนอนละ เด็กคนนี้ก็นอนเร็วๆนะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน " เธอย่อตัวลงก่อนจะจับเอวหัวหอมไว้ " ไหนหันมาให้ย่าหอมแก้มหน่อย จะนอนแล้ว "

“ หอมมม " มันหอมแก้มแม่ แม่เองก็หอมแก้มมัน

“ ฝันดีนะกาลิค "

“ ฝันดีครับคุณย่า " ปิดประตูลงเรียบร้อย ใบหน้าของเด็กน้อยก็เงยมองผม " อาขมอุ้ม~ อุ้มกาลิคหน่อย~ "

“ มา อุ้ม อึ้บ! “ อุ้มมันขึ้นมาใบหน้าน่ารักนั่นก็ซบลงที่ไหล่ แล้วแบบนี้ก็ยังมาบอกว่าตัวเองไม่งอแงอีกนะ ไอ้ตัวแสบ " งั้นเรามานอนกันดีกว่า ดึกแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน "

“ อาขม แล้วพรุ่งนี้อาขมก็ต้องไปโรงเรียนใช่มั้ย " หัวหอมเงยหน้าถามผมที่ก็พยักหน้ารับ พลางหย่อนตัวเองลงนั่งบนเตียงแล้วเอนตัวลงนอนหนุนหมอนพร้อมๆกับมัน จัดร่างของเด็กน้อยให้นอนบนหมอนของตัวมันที่ตั้งอยู่ตรงกลาง แต่ทว่าอีกคนกับขืนตัวเองเข้ามาซุกกับตัวผมไว้ แขนเล็กที่เอื้อมกอดผมที่ก็แอบยิ้มกับท่าทางขี้อ้อนแบบนั้น ผมเองก็เลยกอดมันไว้เหมือนกัน

“ ไปสิ อาขมนะอยากไปโรงเรียนมากกกกก " ไปเคลียร์กับอาจารย์ประจำวิชาที่ห้ามขาดแต่ กูเสือกขาดแบบชนิดโนวแคร์โนวสน เพราะงั้นเห็นทีว่าต้องรีบเข้าไปคุยกับอาจารย์จะได้รู้ว่าต้องดรอปวิชานี้แล้วลงเรียนใหม่เทอมหน้ารึเปล่า

“ แล้วพอตอนเย็นๆ อาขมก็จะกลับมารับกาลิคพร้อมกับป๊าใช่มั้ยครับ "

“ ใช่แล้ว "

“ แหมม นอนกอดกันกลมเชียวน้าาาา " เสียงแซวที่ดังออกมาจากหน้าห้องน้ำ ไอ้ภาพที่อาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาหยิบชุดนอนของตัวเองก่อนจะหายกลับเข้าไปแต่งตัว แล้วเดินออกมานั่งลงบนเตียงก่อนล้มตัวลงนอนข้างไอ้ตัวเล็กที่ก็กอดผมไว้แน่นกว่าเดิม ในตอนที่คนเป็นพ่อเริ่มเลื้อยมือเข้ามากอดเอวมันไว้ " ไหน มาให้ป๊ากอดหน่อย กอดๆ หอมๆ "

“ งื้อออ ป๊าอย่าทำกาลิค "

“ ทำไมอะ ทำไมไม่ได้ อาขมยังกอดได้เลย งั้นก็ขอป๊ากอด ขอป๊าหอมหน่อยน้าา หอมๆ " ว่าแบบนั้นก่อนจะก้มลงหอมไปทั่วตัวของลูกชายที่ตอนนี้ก็คงจะรำคาญพ่อมันอยู่ไม่ใช่น้อย

“ งื้ออออ ป๊าอย่าน้าาาาพอแล้วว เลิกหอมกันก่อน  " เสียงพูดงอแงที่เบียดตัวเองเข้าซุกกับอกผมมากขึ้น ใบหน้าที่กำลังหงุดหงิดของมันผมเอื้อมมือไปดันไหล่ไอ้ภาพให้ถอยออกไปพ้นตัวหัวหอม

“ มึงพอได้แล้วน่าไอ้ภาพ มันจะนอนแล้วมันหงุดหงิด เดี๋ยวมันร้องไห้ขึ้นมากูให้มันปลอบมึงเลย " เอ่ยขู่อีกคน ร่างสูงก็นิ่งไป

" โอเค ยอมก็ได้ งั้นก็ฝันดีนะครับ " ภาพก้มลงหอมแก้มเด็กน้อยอีกครั้งก่อนจะหันไปนอนเล่นมือถือนิ่งๆ มือเล็กที่กอดผมไว้ลูบหลังมันเบาๆ ผมบอก

“ หัวหอม หลับตาลงได้แล้ว "

“ หลับตา " แววตากลมหลับลงจนเห็นแพขนตายาวๆ ผมก้มลงหอมแก้มมัน แล้วในตอนนั้นหัวหอมมันก็ลืมตาขึ้นยิ้มๆ " อาขม หอมแก้มกาลิค "

“ แอบมองเหรอเรา เดี๋ยวเถอะ! "

“ ไม่ทำอะไรกาลิคน้า~ กาลิครักอาขม " พอขู่เข้าหน่อยก็ดึงตัวเองเข้ามาอ้อน มันส่ายหน้าไปมากับอกผมที่ก็ได้แต่ยิ้ม แพ้ท่าทางแบบนี้ของมันตลอด น่ารักจนอยากจะฟัดแก้มแรงๆนัก  ไอ้ตัวแสบ

“ รักกาลิคเหมือนกัน " กอดมันแน่นอยู่สักพักตอนที่คลายออก ผมก็ก้มลงถาม " หัวหอม อาขมถามหน่อยสิ หัวหอม โตขึ้นอยากจะเป็นอะไร "

“ อื้มมม " มันทำท่าคิด " โตขึ้นเหรอ โตขึ้นกาลิคก็อยากจะอยู่กับขมแบบนี้ เพราะกาลิครักอาขม กาลิคก็เลยจะอยู่กับอาขมตลอดไปเลย "

“ โอ๊ยยย " ช่างเป็นคำตอบที่ทำให้คนอย่างผมหัวใจพองโตจริงๆ " ก็น่ารักแบบนี้ จะไม่ให้รักหัวหอมได้ยังไงละ หื้มมมมมม รักจริงๆเลยคนนี้น่ะ รักๆ " หอมแก้มมันไปเต็มฟอดด้วยความหมั่นเขี้ยว  เด็กน้อยในอ้อมกอดก็ยิ้มกว้าง ผมเงยหน้าเหลือบมองไอ้ภาพที่คิดว่ากำลังเล่นมือถืออยู่แต่ทว่าก็ไม่ใช่แบบนั้น มันที่กำลังชูกล้องมือถือมาทางผมเหมือนกำลังถ่ายภาพอยู่  " ไอ้ภาพถ่ายรูปเหรอวะ "

“ วิดีโอเลยแหละ " มันบอก

“ ถ่ายทำไมวะ "

“ ก็ถ่ายไว้ให้มันดูตอนมันโต ถ้าเกิดว่ามันงอแงกับกูว่าจะไปเรียนนู้น เรียนนี่ กูจะได้เอาคลิปนี้ให้มันดู แล้วบอกว่า ไหนบอกว่าโตขึ้นอยากจะอยู่อาขมไง ถ้าแบบนั้นก็ไม่ต้องไปหรอกอยู่บ้านนี่แหละ "

“ นี่งอนเหรอวะ ลูกไม่บอกรัก " ผมแซวอีกคนก็แบะปากใส่ ลูบหลังไอ้ตัวเล็กอยู่สักพักในห้องที่เงียบเชียบนั้น ไม่นานหัวหอมก็หลับสนิท ดึงมันที่ซุกตัวอยู่กับผมให้นอนหนุนหมอนของตัวเองบนเตียงดีๆ ภาพห่มผ้าห่มให้มัน ผมเองก็ลูบหัวมันเบาๆ ไอ้ภาพก็ยิ้ม  " ยิ้มอะไรของมึง "

" ก็เปล่า " มันส่ายหน้า ก่อนจะมองหัวหอม " จะว่าไปกาลิคมันก็หล่อนะมึง "

" โหยย ไรวะ ชมลูกตัวเองก็ได้ด้วยคนเรา "

“ ก็นิดนึง มันหล่อเหมือนกูไง "

“ กูไม่อยากจะบอกว่ามันเหมือนใคร เดี๋ยวมึงกระโจนเข้าตบ " ผมว่า ไอ้ภาพก็ถอนหายใจเซ็งๆ เพราะเรารู้กันอยู่แล้วว่าผมหมายถึงใคร

“ เออ ไม่ต้องพูดก็ดีแล้ว "

“ แต่จะบอกว่าเหมือนเค้าทั้งหมดก็ไม่ใช่หรอก กูว่ามันเหมือนมึงผสมอเล็กซ์อะ จริงๆนะ " ผมรู้สึกแบบที่บอกอีกคนไปจริงๆ ก็ตั้งแต่แต่ก่อนแล้วตอนที่หัวหอมมาอยู่กับเราใหม่ๆ บางมุมของมันก็คล้ายไอ้ภาพอยู่ บางนิสัยก็ด้วย ส่วนหน้าตาโดยรวมผมคิดว่าผสมกันมากกว่าไม่ได้เหมือนใครมากที่สุดหรอก แต่ก็ต้องยอมรับว่า บางมุมมันก็เหมือนแม่ และบางมุมมันก็เหมือนพ่อ แต่นั่นก็ธรรมดาก็คนเป็นพ่อแม่ลูกกัน มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

“ อื้ม " ท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจของมัน ผมเอื้อมมือไปขยี้พุงมันเล่นๆ

“ น่าๆ แต่ลูกมึงก็หล่อจริงๆนั่นแหละ กูไม่เถียงหรอก ทั้งหล่อทั้งน่ารักเลย "

“ อื้ม "

“ อย่ามาทำท่าทางงอนกูดิวะ นี่ไม่พอใจที่กูไม่ตอบรับว่าหัวหอมหน้าเหมือนมึงเหรอไง ก็บอกแล้วไงว่าเหมือนอยู่ นิสัยก็คล้ายๆนะเว้ย "

“ กูไม่ได้โกรธเรื่องนั้น " ภาพบอกผมก็ยกยิ้ม แหมมม เชื่อไม่ค่อยได้เลย ไอ้เสียงอ่อนๆแบบนั้นน่ะ

“ อ๋อหราาาาา "

“ จริงๆ แค่กำลังคิดว่า พอมันโตขึ้นกูจะตอบไอ้กาลิคเกี่ยวกับเรื่องแม่มันยังไงดี กูไม่อยากจะให้มันเจอกันอีก เพราะกูกลัวว่า ต่อไปมันอาจจะมาดึงกาลิคกลับไปก็ได้ แม้กูจะมีสัญญาพวกนั้นอยู่แต่ยังไงแม่ก็คือแม่ถูกมั้ยละ กาลิคมันคงไม่ใจดำหรอกถ้ารู้ว่าแม่ตัวเองกำลังลำบาก " ภาพเว้นเสียงมันยกยิ้มก่อนจะถอนหายใจ " จริงๆกูมันก็แค่ขี้เหนียวอะ เห็นแก่ตัวด้วย กูไม่อยากจะให้กาลิคมันเอาเงินกู เอาเงินพ่อกู ไปให้คนแบบนั้น แม้จะเป็นแม่มันก็เถอะ "

“ ถ้ากูเป็นมึง กูก็กลัว " ผมบอก " มันก็น่ากลัวอยู่เพราะโอลิเวียเป็นยังไงเรารู้ดีและจะไม่มีวันลืมด้วย แต่หัวหอมมันไม่ใช่แบบนั้น มันจำว่าแม่มันไม่ดีก็จริงแต่ถ้าแม่มันตอแหลอะไรสักอย่างมันอาจจะเชื่อก็ได้เพราะอีกคนก็เป็นของแม่มัน "

" อื้ม "

" แต่ว่าโอลิเวียอาจจะไม่กลับมายุ่งกับกาลิคอีกแล้วก็ได้ " ลุกขึ้นจากที่นอนมานั่งมองหน้าอีกคนที่ก็หันมามองผมทันที ไอ้ภาพหลุดยิ้ม

" แล้วทำไมอยู่ๆ มึงต้องจริงจังขนาดนั้น "

" ก็มึงดูเครียดๆอะ " ผมบอกไอ้ภาพก็ยิ้ม

" มึงก็เป็นซะอย่างงี้อะ " ร่างสูงลุกขึ้นนั่งก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้หัวผม " เป็นห่วงกูมากเกินไปอีกแล้ว "

" จริงๆนะมึง กูคิดว่าคนแบบนั้นรักตัวเองมากกว่าจะกลับมายุ่งเรื่องนี้แล้วทำให้ตัวเองต้องมีปัญหา ส่วนหัวหอมเองถ้าเราเลี้ยงมันด้วยความรักมากๆ มันก็คงไม่อยากจะเจอแม่ของตัวเองหรอก มึงไม่ต้องกังวลหรอกนะ " บอกมันด้วยท่าทางจริงจัง แต่ทว่าคนฟังก็ได้แต่ก้มหน้าลงแล้วยิ้ม

“ รู้มั้ย ตอนนี้มีเรื่องมากมายให้กูคิดก็จริงอยู่แต่ที่กูไม่กังวลอะไรเลย ก็เพราะตัวกูมีมึงอยู่ข้างๆนี่แหละ " ภาพหันมามองหน้าผมก่อนจะยิ้ม " มึงแม่งเป็นคนที่ให้พลังบวกกับกูมากจริงๆ ขอบใจนะที่อยู่ข้างๆกูตลอด กูแม่งโชคดีจริงๆนะ ที่มีมึงอยู่ " แอบยิ้มกับคำพูดของอีกคน ผมก้มหน้าลงก่อนจะถอนหายใจออกมา เหลือบไปมองข้างตัวเพราะรู้ว่ามันมองอยู่ก็เลยไม่กล้าสบตาแกล้งทำเป็นล้มตัวลงนอนด้วยท่าทางไม่รู้ไม่ชี้สำหรับคำพูดซึ้งๆของมัน ผมพูดบอกปัด

" ฟังมึงพูดแล้วจะอ้วก กูนอนดีกว่า " เสียงหัวเราะในคอดังออกมา ภาพปิดไฟในห้องจนมืดสนิท มันบอก

" งั้นก็ฝันดี "

" อื้ม ฝันดี " ตอบรับมันเสียงเบาๆก่อนจะพูดขึ้นท่ามกลางความมืดนั้น สำหรับความรู้สึกของผมที่อยากจะบอกมันเหมือนกัน " กูว่า กูตังหากที่โชคดีที่ได้มาเจอมึง การที่ได้มีมึงเป็นเพื่อน มันเป็นความโชคดีของกูจริงๆนะ "

   จากคนที่ไม่มีเพื่อน ตัวคนเดียว ได้มาเจอกับมันที่ตอนแรกก็เป็นแค่เด็กข้างบ้านที่มาชวนเล่นด้วย  แต่นับจากวันนั้นภาพก็คอยอยู่ข้างๆผมตลอด มันอยู่ในทุกช่วงเวลาของชีวิตผม แล้วหลังวันนั้นผมก็ไม่เคยรู้จักกับคำว่าเหงาอีกเลยตั้งแต่นั้น เพราะภาพมันไม่เคยไปไหนไกลจากผมจนทำให้รู้สึกถึงคำนั้นได้เลยสักครั้ง

   เราเป็นเหมือนต้นไม้สองต้นที่ปลูกอยู่ข้างกัน ในบางทีเราก็เจอสังคมที่ต่างกันบ้าง บางครั้งก็มีโลกส่
วนตัวของตัวเองบ้าง แต่ถ้าหันมามอง ผมก็เจอมันอยู่ข้างๆเสมอ มันเองก็เช่นกัน

“ อยากจะพูดแซวมึงเหมือนกันว่า ต่อไปคงโชคดีกว่านี้อีก เพราะนอกจากจะได้กูเป็นเพื่อนแล้ว อนาคตจะได้กูเป็นผัวด้วย แต่เกรงใจ นานๆทีจะซึ้ง " ภาพพูด ผมก็ถอนหายใจออกมาพลางพลิกตัวหนี นอนหันไปอีกฝั่งร่างสูงก็หัวเราะ

" งั้นนอนเถอะไอ้เหี้ย " ผมบอกมัน อีกคนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง แอบยิ้มกับคำพูดกวนตีนของมันก่อนที่ตัวผมจะค่อยๆหลับตาลงช้าและหลับสนิทไป

.....................................................


   ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยแรงมือเล็กๆที่เขย่าปลุก ไอ้ตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆเขย่าปลุกผมที่ก็เอื้อมมือขึ้นลูบหัวมัน ตอนที่หันไปคว้ามือถือตัวเองมาดูเวลาตอนนี้ยังเพิ่งตีสี่อยู่เลย ยังไม่ถึงเวลาตื่นด้วยซ้ำ แถมตอนนี้ผมยังรู้สึกปวดหัวอีก

“ หัวหอม ทำไมตื่นเร็วจัง "

“ อาขม กาลิคกลัว~ อาขม " เด็กน้อยบอกผมก็ลุกขึ้นนั่ง มันก็ดึงตัวเองมานั่งตักแล้วแล้วก็กอดไว้ 

“ กลัวอะไร ไม่ต้องกลัวนะอาขมอยู่นี่ "  ลูบหลังมันเบาๆอีกคนก็ซุกลงกับอก ท่าทางที่ดูแปลกๆ ผมอ้าปากหาวออกมาก่อนจะเอ่ยถาม " ทำไมเหรอ ฝันร้ายเหรอ "

“ ม่ายยยยย " เสียงงอแงที่บอกผมแบบนั้นพลางกอดผมไว้แน่น

“ เป็นอะไรไปวะหัวหอม " ผมพยายามถามแต่อีกคนก็ยังนิ่ง เอื้อมมือขึ้นอังที่หน้าผากแต่อนุหภูมิก็ยังปกติดี " ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่หว่า นี่หัวหอมนอนลงดีๆมั้ย ยังนอนต่อได้อีกชั่วโมงนึงเลยนะ " เอนหลังนอนลงบนเตียงแต่คนที่กอดผมไว้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมปล่อยไปไหน ก้มลงดูหัวหอมหลับตาอยู่แต่ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยผมเลย " อาขมง่วงน้าาา อาขมเพิ่งหลับเอง " ดึงตัวเองขึ้นมานั่งพิงกับหัวเตียงถ้าขืนนอนลงไปตัวผมก้จะหายใจไม่ออก แต่ถ้าให้นอนแบบเอียงตัวก็จะกลายเป็นว่า ตัวผมจะทับมือของมันที่กอดเอวผมอยู่อีก เพราะงั้นจะล้มลงไปนอนท่าไหนก็คงไม่ได้ " แล้วกูจะนอนยังไงวะเนี้ย " พิงตัวเองกับหัวเตียงบ่นไปก็แค่นั้น ไอ้ตัวแสบไม่ปล่อยซะด้วย ผมหลับตาลงช้าๆเพราะฝืนร่างกายตัวเองไม่ไหวจนในที่สุดก็หลับไปในท่านั่งแบบนั้น คล้ายกับลิงที่มีลูกลิงกอดอยู่นั่นแหละ

“ ขม.. ขม.. " เสียงที่เอ่ยเรียกผม ตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาไอ้ภาพก็ขมวดคิ้วมองอยู่ " เป็นอะไรวะ ทำไมมึงนอนท่านั้น ไอ้กาลิคเป็นอะไรรึเปล่าวะ ทำไมมึงเอามันมาอุ้มไว้อะ  "

“ ก็ไอ้หัวหอมอยู่ๆก็ตื่นขึ้นมากลางดึก บอกให้นอนต่อมันก็ไม่นอน มันจะกอดกูไว้แบบนี้ กูก็เลยต้องนั่งหลับน่ะสิ "

“ เหรอ " มันว่าก่อนจะเอียงหน้ามองไอ้เล็กที่ตอนนี้ก็ตื่นมองทุกคนแบบตาแบ๋วอยู่แล้ว น่าเขกหัวซะจริง ทำเอากูต้องนั่งหลังขดหลังแข็งเป็นชั่วโมง " แล้วทำไมตื่นเร็วจัง " ภาพถามก่อนจะดึงเจ้าตัวเล็กให้ขึ้นมาจากตักผม ความชาแล่นริ้วไปทั่วร่างกาย ผมพยายามขยับขายืดเข้าออกคลายกล้ามเนื้อ หัวหอมก็ยื่นมือกางออกจะให้ผมอุ้มอีก

“ เป็นอะไรวะ ทำไมท่าทางมึงดูงอแงไม่สบายเหรอ แต่เมื่อคืนก็จับหน้าผากดูแล้ว ไม่เห็นจะป่วยนะ " จับหน้าผากมันอีกที อนุหภูมิก็ยังปกติ " ปวดหัวมั้ย หรือว่าปวดท้อง เป็นอะไรรึเปล่า "

“ กาลิิคแค่อยากจะกอดอาขมเฉยๆ " คำตอบที่ได้รับชวนผมนิ่งไปก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาทั้งๆที่ถ้าทำให้กูอยากจะวิ่งไปกรี๊ดให้โลกแตก มึงจะเกิดความรักอะไรกับกูตอนตีสี่ละไอ้หัวหอมมมมม หันมองภาพที่ก็ยกยิ้มก่อนจะขยี้หัวมัน

“ จริงๆเลย ทีหลังเรียกป๊าก็ได้ กอดกับป๊าดีกว่านะ "

“ ไม่ดีกว่า " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองมานั่งตักผม " กาลิคอยากจะกอดอาขม ไม่ได้อยากกอดป๊าสักหน่อย "

“ นี่รักพ่อมั้ยเนี้ย " ภาพถาม ไอ้ตัวเล็กก็พยักหน้ารับ

“ รักนะ "

“ แต่รักอาขมมากกว่า " ภาพต่อคำพูดของมัน หัวหอมก็นิ่งไปก่อนจะซบลงที่ไหล่ผม

“ ถูกต้องเล๊ย "

“ ไอ้ตัวแสบบบบ " มือหนาเอื้อมมือหยิกแก้มอีกคนที่ก็หัวเราะออกมาเสียงใส พวกมึงมีความสุขกันดีนะ แต่เห็นกูมั้ย กูยังไม่ได้นอนเนี้ย แล้วตอนนี้ก็ชักจะปวดหัวแล้วด้วย ไมเกรนแม่งจะแดก!

   จัดการอาบน้ำ กินอาหารเช้าก่อนจะขับรถพาหัวหอมไปส่งที่โรงเรียนเรียบร้อย ท่าทางดีใจของมันที่ได้เจอเพื่อนเปลี่ยนจากไอ้ลูกลิงที่เอาแต่กอดผมมาตลอดทางเป็นอีกคนนึงไปเลย

“ พอเจอเพื่อน มึงก็เป็นหมาหัวเน่าไปเลยนะ " ก็อย่างที่ไอ้ภาพบอก ไม่มีคำไหนอธิบายได้ชัดกว่านี้อีกแล้วละ ผมผ่อนตัวเองลงพิงหลังกับเบาะรถคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยก่อนจะหลับตาลงทันทีด้วยความง่วง

“ ขม ขม " แรงมือหนาที่เขย่าตัวผม บรือตาตื่นขึ้นมาทั้งๆที่รู้สึกว่าเพิ่งหลับไปไม่นานเท่าไหร่ ทำไมถึงมหาลัยเร็วจังวะ

“ ถึงแล้วเหรอ " มองไปรอบๆตอนที่ถามมัน แต่กลับพบว่าภายนอกรถบรรยากาศมันไม่ใช่มหาลัยอย่างที่คุ้นตาแต่กลับเป็นคอนโด " ยังไม่ถึงนี่ "

“ กูว่ามึงน่าจะป่วยนะ " ภาพบอกก่อนจะยื่นมือมาอังที่หน้าผากผม " ตัวมึงร้อนมากเลย โอเครึเปล่า "

“ ไม่โอเคอะ กูง่วงมากเลย จะอ้วกด้วย "

“ เมื่อเช้าโจ๊กที่กินเข้าไปก็น้อยนะ ไม่อิ่มจนจะอ้วกหรอก " ร่างสูงว่าผมก็พยักหน้ารับ " ไปหาหมอมั้ย "

“ ไม่อะ นอนสักพักคงหาย " ผมบอกก่อนจะยันตัวเองขึ้นมาจากเบาะรถ " มึงขับกลับคอนโดก็ดี กูจะนอนพักเอาแรงหน่อย วันนี้คงไม่ไปเรียนอะ ค่อยไปเรียนอาทิตย์หน้าเลยก็แล้วกัน "

“ ไม่ไปหาหมอหน่อยละ "

“ กูไม่เคยป่วยจนไปหาหมอนะ มึงจำไม่ได้เหรอ ว่ากูนอนแค่แปปเดียวก็หายแล้ว " บอกมันแบบนั้นอีกคนก็ถอนหายใจออกมา เมื่อก่อนเวลาป่วยผมพยายามจะนอนให้เยอะ แล้วกินยาแก้ไข้ให้หายไปเองเท่านั้น ถ้าไปหาหมอแน่นอนว่าแม่ต้องพาไปซึ่งเราก็ไม่มีเวลาขนาดนั้น ครั้นจะพาตัวเองไปเองก็หอบสังขารไปไม่ไหวอีก ผมไม่อยากจะลำบากบ้านไอ้ภาพ ร่างกายมันก็เหมือนรู้ตัว เลยไม่ค่อยป่วยหนักกับเค้าสักเท่าไหร่

“ ทำไมอยู่ๆถึงป่วยว่ะ ฝนก็ไม่ตกนี่หว่าช่วงนี้ "

“ เครียดมั้ง ตอนที่โอลิเวียมา กูนอนไม่หลับเลย ข้าวก็ไม่ค่อยได้กิน วันนั้นที่เล่นน้ำกันกูก็อยู่จนแห้งไม่ได้รีบเข้าไปอาบน้ำด้วย อากาศข้างนอกก็ร้อน แถมพอเข้ามาข้างในบ้าน บ้านมึงก็ดันเปิดแอร์ทั้งหลังอีกแล้วแม่งก็ยังเย็นมากไปอีก ร้อนๆหนาวๆหลายๆครั้งก็เลยป่วยละมั้ง  " ผมบอกมันแบบเดาๆแบบคุณหมอมาเอง ไอ้ภาพก็พยักหน้ารับมันเอื้อมมือมาลูบหัวผมก่อนจะขยี้เบาๆ

“ งั้นก็ขึ้นไปนอนซะ "

“ แล้วมึงจะไปเรียนรึเปล่า " เอียงหน้าถามมันอีกคนก็นิ่งไปสักพัก ก่อนจะยกยิ้ม

“ จะอ้อนให้กูอยู่ด้วยเหรอ ถ้าจะอ้อนขอน่ารักๆกว่านี้ได้มะ แบบ พี่ภาพอยู่กับน้องขมนะ น้องขมไม่อยากจะอยู่คนเดียว กอดน้องขมนะ จับมือน้องขมไว้ อย่าไปไหนนะ " มันว่า ผมก็เอียงหน้ากลับมาที่เดิม ผ่อนลมหายใจออกมาเปิดประตูรถก่อนจะบอกมัน

“ งั้นจะไปตายที่ไหนก็ไปเถอะไป "

“ อ้าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่น่าา อ้อนกูสิ อ้อนพี่~ "

“ ไปอ้อนแม่มึงนู้นไป กูขึ้นห้องละ ไม่ไหวแล้ว โคตรจะปวดหัวเลย " ปิดประตูลง รถที่นิ่งไม่ขยับแต่ก็ไม่มีการดับเครื่อง ถึงแม้ว่าอยากจะให้มันอยู่เป็นเพื่อน แต่บอกไปตรงๆ ก็คงจะเสียฟอร์มหน้าดู แล้วอีกอย่างคำพูดพวกนั้นก็ไม่มีทางที่คนอย่างผมจะพูดออกไปหรอก  ' อยากให้อยู่ด้วย อยู่เป็นเพื่อนกันนะมึง ' เหอะ.. ฝันไปเถอะ กูไม่พูดหรอกน่า


.......................................................

คือว่า ลืมเช็คนิยาย มานึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เช็คไฟล์ ก็ตอนทุ่มนึงแล้ว
ทั้งๆที่ปกติจะนั่งทำทั้งวัน เตรียมไว้เลย แต่วันนี้ลืมมมมม มัวเขียนนิยายอยู่
โปรดให้อภัยหนมคนนี้ด้วยนะคะ ผิดไปแล้ว~

เราเชื่อว่า ทุกคนต้องเคยผ่านโมเม้นท์แม่ป่วย แล้วชีวิตที่อยู่กับพ่อ มันมีความวุ่นวายเล็กๆซ่อนอยู่
เพราะงั้นเรามาดูกันว่า ความวุ่นวายที่ว่า จะเกิดขึ้นในรูปแบบไหนกับครอบครัวเน้~~~~

เจอกันตอนหน้าเน้อออ
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 30-06-2017 21:51:28
5555
กาลิกรักป๊า แต่รักอาขมมากกว่า 5555
แค่คิดว่าเด๋ววันหนึ่งพ่อลูกต้องแย่งอาขมกัน ก้ขำแล้ว ใครจะยอมใครเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 39 - 25.6.60} #หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 30-06-2017 21:54:47
จะรอดูความป่วน ที่คาดว่าจะต้องมีเคเอฟซีมาเกี่ยวข้องแน่ ๆ

ภาพยิ่งแพ้ความอ้อนของกาลิคอยู่ด้วย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-06-2017 22:00:01
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 30-06-2017 22:02:58
พ่อภาพเตรียมหัวหมุนได้เลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 30-06-2017 22:19:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-06-2017 22:40:20
ไม่น้อยใจนะป๊าาาาา อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 30-06-2017 22:47:24
 :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-06-2017 22:52:23
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 30-06-2017 23:10:05
โอ้ยยเด็กขี้อ้อน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 01-07-2017 00:26:57
วุ่นวาย...มากมายอ่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 01-07-2017 06:28:37
ว้ายๆๆๆ อดใจรอแทบไม่ไหว พ่อลูกติด จะทำยังไงต่อไป
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 01-07-2017 07:27:44
ตายล่ะ...สถานการณ์น่าจะพอๆกับตอนขมไปต่างจังหวัดเลยนะนี้...หรืออาจแย่กว่า? ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-07-2017 07:49:33
กาลิค ยังหลอนเรื่องโอลิเวีย
กลัวการทะเลาะกรีดร้อง ด่าเสียงดัง
บวกกับการใช้กำลังขอโอลิเวียเลยยิ่งกลัวฝังลึก
ก็น่าที่ยังตื่นตระหนกหวาดกลัว จนตื่นมากลางดึก

ขม หายระแวงภาพไวๆ
อยากให้รู้ใจลึกๆของตัวเองที่ขาดภาพไม่ได้
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-07-2017 08:40:27
ภาพขมน่ารักนะ ขมก็เขินไปเหอะ ภาพก็แหย่ไปเหอะ
ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้ว เหลือแต่ขมจะยอมลุยไหม

กาลิคน่ารัก น่าจับฟัด ฉลาดมาก ขี้อ้อน ปากหวาน โอ๊ยยยย กอด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 01-07-2017 08:46:47
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 01-07-2017 08:49:13
กาลิคนี่ติดขมมากจริงๆ รักมากกว่าพ่อด้วย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 01-07-2017 08:57:43
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-07-2017 11:53:51
อนาคตงานหนักแน่ภาพ แย่งขมกับกาลิค5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 01-07-2017 12:46:49
หลงกาลิค  :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 01-07-2017 13:32:12
น่ารักกกกก  ภาพหยอดอีกกกกกก 
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-07-2017 15:25:01
หัวหอมคงฝังใจกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นล่ะมั้งเนี่ย ดูติดขม มากกว่าเดิมเยอะเลย ภาพนี่ตกกระป๋องไปเลย 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 01-07-2017 21:27:24
งุ้ยๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 01-07-2017 23:13:57
กาลิคลูก หนูน่าร้ากจังเลย งื้ออออ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 02-07-2017 20:31:45
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 41

   มองร่างบางที่เดินเข้าไปในคอนโดผ่านกระจกมองหลังภายในรถ ผมยกยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้าไปมาให้กับความปากแข็งของมัน ทั้งๆที่อยากจะจะให้อยู่ด้วยจะตายไป แต่ก็ไม่ยอมพูดสิ่งที่คิดนั่นออกมา เป็นแบบนี้ประจำเลย

“ ไอ้ดื้อเอ้ย " พูดกับตัวเองก่อนจะดับเครื่องยนต์แล้วเดินลงไปจากรถ เข้าไปในคอนโดที่อีกคนเพิ่งขึ้นลิฟต์ไปส่วนผมก็ต้องรอให้มันวนกลับมารับในเที่ยวหน้า ห้องของตัวเองตอนที่เปิดประตูเข้าไปคนป่วยที่ขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็กำลังจะเดินเข้าไปในห้องตัวเองพอดี

“ อ้าว กูคิดว่ามึงจะไปเรียน "

“ พอดีโทรไปถามไอ้ชัดว่าคาบนี้มีอะไรสำคัญรึเปล่า มันบอกว่าไม่มี กูก็เลยคิดว่าไม่ไปดีกว่า ขี้เกียจขับรถไปกลับคนเดียว " อ้างมันไปแบบนั้นแต่คนฟังก็ได้แต่ยกยิ้มก่อนจะตอบ

“ ตอแหล จะอยู่เฝ้ากูก็บอก "

“ ทีมึงอยากจะให้กูอยู่ด้วย ยังไม่พูดเลย " ผมตอบกลับมันไปอีกคนก็ยิ้มจางๆ

“ มึงก็รู้นี่ ยังต้องให้กูบอกอีกเหรอ " ขมเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน ผมเดินตามมันเข้าไปในห้อง ร่างบางจัดการหยิบชุดนอนแล้วเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำแล้วเดินออกมาด้วยท่าทางเพลียๆ

“ กินยาหน่อยมั้ย จะไปเอาให้ "

“ อื้ม " มันพยักหน้ารับตอนที่หย่อนตัวลงนั่งลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว ผมเดินออกมาเอายาที่ตู้ในครัวมาให้มัน กดน้ำธรรมดาใส่แก้ว เพราะว่าถ้าให้ต้มน้ำร้อนตอนนี้เห็นทีว่าคงไม่ทันแดก

“ เอาไป อันนี้ยาแก้ไข้นะ กินสักสองเม็ด ละนี่น้ำ " มือบางรับยาไปใส่ปากก่อนจะกินน้ำตามเข้าไป รับแก้วน้ำมาจากมือมันขมก็ทำท่าทางเหมือนจะเอนตัวนอนลง " นอนสักพักนะ เดี๋ยวกูออกไปซื้ออะไรอุ่นๆมาให้ อยากจะกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า " ดึงผ้าห่มห่มให้มัน ขมก็ส่ายหน้า

“ ไม่อะ แต่ไม่ต้องซื้อเยอะนะ กูไม่ค่อยอยากกิน "

“ โอเครับทราบ " ตอบรับคำพูดของมัน ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ผมยกข้อมือขึ้นดูเวลา ตอนนี้ยังเช้าอยู่ มันน่าจะตื่นมาอีกทีคือกินข้าวเที่ยงแล้วก็นอนต่อ " ลงไปหาซื้อข้าวต้มให้มันก่อนก็แล้วกัน "

   ขับรถออกไปจากคอนโดผมขับไปซื้อโจ๊กเจ้าอร่อยที่มันชอบกิน แม้มันจะบอกว่าตัวมันกินข้าวได้ไม่เยอะ แต่ในความคิดผมถ้าได้ของชอบที่ถูกปากมันก็น่าจะกินได้เยอะกว่าเดิม สั่งซื้อโจ๊กไม่ใช่ขิงให้มันถุงนึง ส่วนของผมเป็นข้าวผัดปูง่ายๆสำหรับมื้อเที่ยง ส่วนมื้อเย็นของวันก็ซื้อเตรียมไว้เลยค่อยอุ่นให้ไอ้ตัวแสบกินหลังจากกลับจากโรงเรียนจะได้ไม่ต้องแวะซื้อให้ยุ่งยากอีกอย่างจะได้กลับบ้านเร็วๆด้วย

“ โอเค แค่นี้ก็เรียบร้อย " ตั้งของทั้งหมดที่ซื้อมาไว้บนโต๊ะ เดินเข้าไปในห้องนอนของอีกคนแต่ก็พบว่าคนป่วยกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงของตัวเอง ผมลงนั่งข้างๆมันเอื้อมมือไปจับหน้าผากที่ร้อนจัดมากกว่าเดิมก็ได้แต่ขมวดคิ้ว " ทำไมตัวร้อนขนาดนี้วะ "

   เดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กในตู้ของขมแล้วไปเอาเจสสีฟ้าลดไข้ในช่องเย็นออกมา ห่อมันไว้เรียบร้อยผมเอาไปตั้งไว้ที่หน้าผากของมันเผื่อความเย็นจะช่วยให้ระบายความร้อนในออกไปได้บ้าง มองใบหน้าที่แดงไปด้วยพิษไข้ผมยิ้มจางๆก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวมัน

“ เดี๋ยวก็หายนะ ไม่เป็นไรหรอก " คำพูดที่เหมือนจะบอกทั้งมันและก็ตัวผมเอง " ดันมาป่วยซะได้ไอ้ขมเอ้ย "

   ทั้งๆที่ปกติมันเป็นคนแข็งแรงไม่ค่อยป่วยกับใครเค้าหรอก นานๆทีมันถึงจะมีอาการปวดหัว ไอ กับเค้าสักที แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ของเราคงทำให้มันเครียดแล้วก็กังวลจนร่างกายพาลอ่อนแอตามลงไปด้วย บวกกับอากาศที่เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวก็ไม่แปลกหรอกที่ร่างกายมันจะทรุด

“ หายไวๆละ " ผมพูดสั้นๆแล้วในวินาทีนั้นโดยที่ไม่ทันคิดอะไรให้มาก ผมดึงเจลเย็นนั่นออกมาแล้วตัดสินใจก้มลงไปจูบเบาๆที่หน้าผากของมัน " โอมมม เพี้ยง! หายไวๆนะมึง " ยกยิ้มขึ้นมากับการกระทำของตัวเอง นี่ถ้าแม่งรู้ตัวป่านนี้กูโดนตบจนหน้าชาไปแล้ว บอกเลย

   เดินออกมานั่งที่หน้าห้องผมเปิดทีวีดูฆ่าเวลารออีกคนตื่น รายการน่าเบื่อในช่วงเที่ยงไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นช่องไหนมันก็เหมือนๆกันหมด ความเบื่อหน่ายที่ชวนให้ผมง่วง แล้วไม่นานตัวผมคนที่คิดว่าจะเฝ้าไข้คนป่วยก็หลับไปช้าๆ

   ครืน ครืน ครืน

   ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์  คว้ามันขึ้นมาดูหน้าจอที่โชว์เบอร์ของแม่โทรเข้ามา ผมกดรับ " ครับผม "

“ ภาพ เย็นวันนี้จะกลับมาที่บ้านรึเปล่า ม๊าจะได้ทำกับข้าวเผื่อไว้ให้ "

“ ไม่ละครับม๊า คงไม่กลับ " ผมบอก อีกคนก็ถอนหายใจแล้วพูดเอาแต่ใจเหมือนเด็กๆ

“ จริงเหรอ ไม่กลับจริงๆเหรอ แต่ม๊าคิดถึงกาลิคนะ กลับมาเถอะ " ผมเหลือบตามองบนตอนที่ได้ยินแม่พูดแบบนั้น ก็แทนที่จะบอกว่าคิดถึงลูกตัวเอง เปล่าจ้า คิดถึงหลาน ก็นะ..ตอนนี้ผมมันกลายเป็นหมาหัวเน่าไปแล้วละ นี่ถ้าบอกว่าอยากได้รถใหม่เพราะตัวเองอยากจะได้เค้าคงไม่ซื้อให้หรอก แต่ถ้าลองบอกว่าอยากจะซื้อรถใหม่เพื่อความปลอดภัยของกาลิคสิ คงตกลงซื้อให้แบบจะทันทีเลยละมั้ง

“ เพิ่งอยู่ด้วยกันทั้งอาทิตย์ คิดถึงกันอีกแล้วเหรอ " แซวอีกคนก่อนจะหัวเราะแม่ก็ตอบกลับ

“ คิดถึงสิ เนี้ย ป๊าเค้าก็คิดถึงนะ "

“ คิดว่าคงกลับอีกทีอาทิตย์หน้ามั้งม๊า ตอนนี้ไอ้ขมป่วยด้วย ผมไม่ค่อยอยากจะให้มันนั่งรถนานๆ อยากจะให้มันพักผ่อนมากกว่า "

“ อ้าว ขมป่วยเหรอ แล้วนั่นเป็นยังไงบ้าง " แม่ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ผมก็เงยหน้ามองนาฬิกา

“ ไม่รู้เหมือนกันครับ นี่ภาพก็กำลังจะไปปลุกมันให้ลุกขึ้นมากินข้าวเที่ยงเนี้ย "

“ ไม่ต้องปลุกหรอก ให้นอนไปอย่างงั้นละ ให้นอนให้เต็มอิ่มไปเลย " แม่บอก " แล้วก็ลองวัดไข้ดู ถ้าสูงมากก็ไปรีบพาไปหาหมอซะนะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ร้อนก็มาก แต่พอเย็นก็ฝนตก เราน่ะ ระวังกาลิคด้วยละกัน เจ้าตัวเล็กยิ่งติดขมอยู่ คืนนี้ก็อย่าให้นอนกับขมละ เดี๋ยวจะติดหวัดจากขม เด็กน่ะ ติดหวัดง่ายนะ ระวังลูกไว้ด้วย "

“ ครับผม โอเค ยังไงแค่นี้ก่อนนะม๊า ไว้คุยกัน "

“ จ๊ะ ดูแลขมดีๆละ แล้วก็ดูแลตัวเองด้วยนะ "

“ ครับ สวัสดีครับ " กดวางสายลง นี่ถ้าแม่ไม่ทักก็ลืมไปเรื่องไอ้กาลิคที่ติดไอ้ขมไปเลย " งั้นคืนนี้ ไอ้ตัวแสบแม่งก็นอนกับไอ้ขมไม่ได้น่ะสิวะ ความชิบหายแม่งมาละ แล้วแบบนี้มันจะยอมกับกูมั้ยละเนี้ย ว่าที่เมียก็ป่วย ลูกก็เรื่องมาก เห้ออ ชีวิตหัวหน้าครอบครัวของกู.. เซ็ง "

   วางมือถือลงบนโต๊ะ ผมเดินเข้าไปในห้องนอนของไอ้ขม แล้วก็พบว่าคนป่วยก็ยังนอนนิ่งอยู่เหมือนเดิม นั่งลงบนเตียงข้างเอื้อมมือไปดึงเจลเย็นที่ก็หายเย็นหมดแล้ว จับไปตามคอตามแก้มแต่ผมก็รู้สึกว่าตัวมันก็ยังร้อนๆอยู่

“ อื้อออ " เสียงครางขัดใจที่ดังขึ้นมา ไอ้ขมลืมตาขึ้นมาช้าๆก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่เห็นผมนั่งอยู่ " ปวดหัวจังเลยวะ "

“ ยังปวดหัวอยู่อีกเหรอ งั้นไปโรงพยาบาลมั้ย "

“ ไม่เอาอะ " มันพลิกตัวหนีผม ก่อนจะบ่นเบาๆ " แพงจะตายห่า เข้าไปทีเหมือนโดนปล้น คลีนิกก็ต้องรอหมอมา โรงพยาบาลก็ด้วย กินยาของเภสัชนี่แหละ เดี๋ยวก็หาย "

“ มึงนี่ก็ดื้อนะ " ผมว่า อีกคนก็นิ่งไป " งั้นกินอะไรหน่อยมั้ย แล้วกินยาลดไข้เอาไปอีกสักสองเม็ด เผื่อดีขึ้น "

“ เอางั้นก็ได้ " มันตอบรับ ผมก็เดินออกไปนอกห้อง จัดการเทโจ๊กใส่ถ้วยยัดเข้าไมโครเวฟอุ่นจนร้อนก่อนจะยกมาเสิร์ฟให้มันในห้อง ขมพยุงตัวเองขึ้นมานั่งมันมองโจ๊กในถ้วยใบใหญ่ก่อนจะเอ่ยถาม

" ใส่ขิงมารึเปล่าวะ "

“ ไม่ใส่สิ มึงไม่กินแล้วใส่มาทำเหี้ยอะไร "

“ แล้วทำไมมึงต้องพูดจารุนแรงกับกูขนาดนั้น คำว่าเหี้ยคืออะไร ไม่เคยได้ยิน รับไม่ได้ บาดหูไปหมด "

“ กวนตีนมากๆกูเอาโจ๊กราดหัวนะบอกไว้ก่อน " ไอ้ขมยิ้มจางๆ ตอนที่ผมบอก มันเอื้อมมือมาบีบไหล่ผม

“ น่าๆ น้องขมก็ล้อพี่ภาพเล่น อยากให้พี่ภาพอารมณ์ดี "

“ ให้หายป่วยก่อนแล้วค่อยมาล้อเล่นกู ไม่ใช่เอาสภาพจะตายแหล่ไม่ตายแหล่มาเล่น ไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนหรอกน่า 
" นั่งลงข้างๆมัน ผมคนโจ๊กในถ้วยตอนที่จะป้อนมันอีกคนก็ขมวดคิ้วก่อนจะดันตัวเองออกห่าง

“ ไม่ต้องป้อนหรอกน่า กูแดกเองได้ ไม่ต้องทำเหมือนนางเอกในละครหลังข่าวหรอก เอามา " เชิดหน้าลงที่ตักตัวเองผมก็เลื่อนถาดอาหารไปวางไว้บนตักมัน แต่ช้อนที่ถืออยู่มีอาหารอยู่แล้วผมก็บอก

“ ขอป้อนคำนึง อยากป้อน "

“ อ้าาา " มันอ้าปากให้ผมป้อนข้าวมันที่ค่อยเคี้ยวก่อนจะก้มลงมองโจ๊กที่อยู่บนตักตัวเอง " หื้มม อร่อยอะ มึงซื้อที่ไหนวะ "

“ โจ๊กเจ้าประจำที่มึงชอบไง " พูดสั้นๆอีกคนก็หันมามองหน้า

“ มันต้องขับไปไกลมากเลยนะมึง "

“ ก็ไม่ไกลนี่ " ผมบอกปัด จะว่าไกลก็ไกลละ แต่ทำไงได้ละ สำหรับผมคิดแค่ว่า ต่อให้ไกลแต่ถ้ามันจะกินข้าวได้เยอะกว่าเมื่อเช้า  ไกลกว่านั้นผมก็ขับไปซื้อมาให้ได้อยู่แล้ว

“ หื้มมม ประทับใจวะ " ขมหยิบช้อนไปจากมือผม มันที่ตักโจ๊กในถาดขึ้นกินเคี้ยวช้าๆ แล้วหันมายิ้มให้ผม
 
“ ไม่ต้องยิ้มเลย ชอบมั้ยละ "

“ ชอบสิ อร่อยสุดๆไปเลย จะกินให้หมดเลยมึง " ยิ้มกว้างออกมากับคำพูดของมัน ผมผ่อนลมหายใจออกมา

“ ได้ยินแบบนี้ก็ค่อยหายเหนื่อย ที่ขับรถหน่อย "

“ แล้วนี่มึงซื้ออะไรมากินละ "

“ ข้าวผัดปู " ผมบอกอีกคนก็ตาโตขึ้นมา แน่นอนว่ามันก็คงอยากกินอีก ร้านนี้ของอร่อยของเค้านอกจากโจ๊กหมู ก็มีพวกข้าวผัด ไข่เจียวปูเนื้อแน่นๆ แล้วก็ต้มยำ

“ อยากกิน "

“ ไว้กินมื้อเย็นละกัน กูซื้อมาเผื่อมื้อเย็นแล้ว "

“ แล้วซื้ออะไรมาให้ไอ้หัวหอมละ " มันถาม คนอย่างมันต่อให้ป่วยยังไงไอ้กาลิคก็ต้องมาก่อนสินะ
 
“ ก็ข้าวผัดปูเหมือนกัน ไข่เจียวปู แล้วก็แกงจืดอีกถุงนึง " ยักคิ้วให้มัน ขมก็พยักหน้ารับ

“ ไอ้หัวหอมต้องกินข้าวหมดกล่องชัวร์ ของชอบมันอยู่แล้ว "

“ อื้ม " พยักหน้ารับคำพูดของมัน " แต่นี่กูยังคิดอยู่ว่าไปรับมันกลับมา จะพูดยังไงไม่ให้มันเข้ามายุ่งกับมึงดี "

“ ถ้ามันเข้ามาหากู ก็จะติดหวัดจากกูไปสินะ " ขมบอก ผมก็พยักหน้ารับ  " แล้วคืนนี้มันเองก็คงต้องนอนกับมึง "

“ นั่นแหละ กูจะบอกมันยังไงดีวะ มึงช่วยคิดหน่อย เอาแบบพูดแล้วรู้เรื่องประโยคเดียวเข้าใจ ไม่วอแว งอแงกับกูต่ออะ "

“ บอกมันด้วยเหตุผลมันก็ฟัง " ถอนหายใจออกมาตอนที่อีกคนบอก ขมมันก็หัวเราะ " หนักใจไรนักหนา ไอ้หัวหอมไม่ใช่เด็กดื้อสักหน่อย พูดดีๆมันก็รู้เรื่อง  "

“ มันไม่ดื้อกับมึง แต่มันดื้อกับกูไง "

“ มึงก็พูดดีๆ ด้วยเหตุผลมันก็ฟังแล้ว " ขมบอกผมก็ได้แต่พยักหน้ารับคำพูดของมัน

   ความแตกต่างของคนเลี้ยงเด็กเป็น กับเลี้ยงเด็กไม่เป็นมันอยู่ตรงนี้ ในความคิดไอ้ขมกาลิคมันคงเป็นเด็กจัดการง่ายๆ แต่นั่นไม่ใช่กับกูไง คิดสภาพว่าถ้ามันงอแงขึ้นมา กูต้องอยากจะงับหัวมันแน่นอนเลย หันมองคนป่วยที่ตักข้าวเข้าไปอีกครั้ง มันเงยมองหน้าผมที่ก็เหล่มองอยู่

“ กินไม่ไหวแล้วละสิท่า " รอยยิ้มจางๆของร่างบางยิ้มให้ ผมก็ส่ายหน้า

“ แล้วก็กล้าที่จะบอกว่า จะกินให้หมดนะคนเรา "

“ กินไม่ลงแล้ววะ แต่กูกินหมูหมดแล้วนะ เหลือแต่โจ๊กเปล่าๆแล้วอะ " ก้มลงดูโจ๊กในถ้วยของมันที่พร่องลงไปเยอะ แค่นั้นก็ดีแล้วละยังไงก็เยอะกว่าเมื่อเช้าอยู่ดี " เจ็บคอด้วยวะ ตอนนี้ "

“ งั้นรอ เดี๋ยวไปเอายามาให้ " ยกถาดโจ๊กออกไปจากตัวมัน ผมเดินออกไปนอกห้อง วางถ้วยโจ๊กลงในอ่างก่อนจะหันมาจัดยาให้มัน กดน้ำร้อนผสมน้ำอนุหภูมิห้องแล้วยกมาให้มัน " อะ ยา "

“ ทำไมรอบนี้สามเม็ดวะ "

“ ก็ยาแก้ไข้ครบสี่ชั่วโมงแล้ว อาการไม่ดีขึ้นก็แดกได้อีก ส่วนอันนี้ยาแก้เจ็บคอ "

“ โอเค "

“ เดี๋ยวรอดูอาการ ถ้าพรุ่งนี้ไม่ดีขึ้น ไปโรงพยาบาลนะ " ริมฝีปากที่กำลังจะอ้าเถียงผมก็ชี้นิ้วใส่มัน " ไม่ต้องดื้อเลย ยังไงก็ต้องไปนี่เป็นคำสั่ง "

“ โอเคๆ คร๊าบบบบบผม " ขมจัดการกินยาที่ผมให้มันทั้งหมด ดื่มน้ำตามเข้าไปจนหมดก่อนจะยื่นแก้วเปล่ามาให้ " วันนี้ออกไปรับหัวหอมเร็วๆนะ อย่าไปสายละ เดี๋ยวมันคอย "

“ รู้แล้วน่า มึงนอนเถอะ ไม่ต้องห่วงมันหรอก กูจัดการมันได้ "

“ เมื่อกี้มึงยังดูไม่มั่นใจอยู่เลย " ร่างบางแซวผมก็ยกยิ้มแห้งๆ ตอนนี้ก็ใช่จะมั่นใจหรอก แต่ถ้าแสดงออกไปเดี๋ยวมันก็ห่วงจนไม่ได้พักผ่อนอีก

“ คอยดูฝีมือกูก็แล้ว " คนฟังผ่อนลมหายใจหน่ายๆออกมา ท่าทางที่ดูไม่เชื่อในตัวผม เอื้อมมือไปขยี้หัวมันเบาๆ " นอนได้แล้วน่า เดี๋ยวเย็นนี้กูไปรับบุรุษพยาบาลตัวจิ๋วมาดูแลมึงเอง "

“ อย่าให้มันเข้ามายุ่งกับกูจะดีกว่านะมึง เดี๋ยวมันป่วย คราวนี้แหละแม่ง หายนะ "

“ เออๆ นอนเถอะน่า มึงเลิกกังวลเรื่องของไอ้กาลิคเถอะ กูจัดการเอง " ผมบอกปัด ขมก็ล้มตัวลงนอน คว้าเอาเจลเย็นที่ตั้งอยู่ข้างตัวมันออกมา " เดี๋ยวไปเปลี่ยนอันใหม่ให้ หลับไปก่อนได้เลย "

“ อื้ม "   

   เดินออกมาเปลี่ยนเจลเย็นให้มัน แววตากลมที่ยังไม่หลับตาลงสักทีผมก็ยิ้ม " หลับตาลงได้แล้ว จะได้หายป่วยไวๆ เผื่อหายทันกาลิคกลับมา "

“ คิดถึงไอ้หัวหอมวะ อยากกอดมัน อยากหอมแก้มสักฟอด " อีกคนบอก " แต่กูป่วยแบบนี้คงกอดมันไม่ได้อะเดี๋ยวมันติดหวัดจากกู "

“ นอนเถอะน่า เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น " ห่มผ้าห่มให้มันอีกคนก็หลับตาลงตามที่ผมบอก นั่งลงดูคนป่วยอยู่แบบนั้นสักพัก พอเห็นว่าหลับสนิทตัวผมก็เดินออกมานอกห้อง

   ตรงเข้าไปในครัวหยิบจานข้าวขึ้นมากินข้าวของตัวเอง พร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาค้นหาข้อมูลในอินเตอเน็ต " จะพิมพ์ว่าอะไรดีวะ " ผมพูดกับตัวเอง " อื้ม ทำยังไงให้ลูกไม่ติดหวัดจากแม่ที่ป่วย ละมั้ง " กดค้นหา

   ข้อมูลในกระทู้ของเว็บดังก็เด้งขึ้นมา ผมอยากจะให้มันได้กอดกาลิคนะร่างกายมันจะได้ดีขึ้นก็เค้าบอกว่ายาที่ดี คือยาสำหรับใจ เรพาะแบบนั้นก็เลยพยายามหาข้อมูลว่าจะทำยังไงให้มันอยู่กับกาลิคได้โดยที่กาลิคไม่ติดหวัด อาจไม่ถึงขั้นว่านอนด้วยกันหรอก แต่ว่าถ้าได้กอดกันสักหน่อยหลังเลิกเรียนเหมือนทุกวันนั่นก็คงดีแล้ว

“  ใส่หน้ากากอนามัยก็ไม่ติดแล้วเหรอวะ " ผมพูดกับตัวเองตอนที่อ่านไปตามกระทู้ของเว็บนั้น หลายความคิดเห็นที่ออกมายืนยัน " โอเค งั้นก็จัดไป "

   ย้ายตัวเองนั่งดูหนังเรื่องโปรดที่ถูกเอาเข้ามาฉายในช่องฟรีทีวีหลังจากที่ล้างจานเสร็จเรียบร้อย ความสนุกที่ชวนให้เพลิดเพลิน  เงยหน้ามองนาฬิกาอีกทีก็พบว่าถึงเวลาที่ต้องออกไปไอ้ตัวแสบแล้ว ผมลุกขึ้นจากโซฟาบิดขี้เกียจก่อนจะคว้ากุญแจแล้วขับรถออกไปรับอีกคนที่โรงเรียน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 40 - 30.6.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 02-07-2017 20:32:03

   กริ่ง กริ่ง กริ่ง

   เสียงกริ่งดังขึ้นทันทีตอนที่ผมขับรถมาถึง ดับเครื่องยนต์เดินเข้าไปในโรงเรียนเด็กน้อยที่เห็นหน้าผม กาลิคยิ้มกว้างก่อนจะหันไปสวัสดีคุณครูแล้ววิ่งออกมาหาทันทีด้วยความดีใจ

“ ป๊า~ สวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ " ย่อตัวลงตรงหน้า เจ้าตัวเล็กก็ดึงตัวเองมากอดผมไว้ " กลับบ้านกันดีกว่า วันนี้นะป๊าซื้อข้าวผัดอร่อยๆ ไข่เจียวปู แล้วก็แกงจืดไว้ให้กาลิคกินด้วยนะ "

“ เย้ๆ งั้น.. งั้นกาลิคกลับไปจะกินข้าวเยอะๆเลย จะกินให้หมดเลยป๊า~ " เด็กน้อยชูแขนขึ้นสุดตัวปากเล็กที่พูดเสียงเจื้อยแจ้ว ผมก็ยิ้มก่อนจะเอ่ยถามมัน

“ แล้ววันนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง "

“ วันนี้มีสอบแหละ " มันบอกด้วยท่าทีเหมือนจะอวด " แต่ไม่ยากเลยป๊า กาลิคทำได้ทั้งหมดเลย "

“ จริงเหรอ เก่งจังนะ " ขยี้หัวมันแรงๆด้วยความหมั่นไส้ผมจูงมันเดินออกมาจากโรงเรียน กดปลดล็อครถให้กาลิคที่วิ่งไปเปิดประตูฝั่งคนนั่งข้างแต่ทว่ามันก็นิ่งไปตอนที่เห็นว่าไม่มีใครนั่งอยู่ตรงนั้นเหมือนวันปกติที่เคยมี ไม่มีเสียงจ๊ะเอ๋ที่ทำให้มันตกใจทั้งๆปกติอาขมของมันจะนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วทักมันแบบนั้นตลอด ถ้าไม่ได้เข้าไปรับในโรงเรียน

“ ป๊า~ อาขมละ  อาขมอยู่ไหนอะป๊า " มันถามผมก็เข้าไปในรถปิดประตูเรียบร้อย กาลิคก็เข้ามานั่งตามแต่ความสงสัยก็ยังไม่หมดไป มันยังคงมองหาขม มองไปข้างหลัง หนำซ้ำยังเปิดล้นชักหน้ารถหาอีก คือถ้าไอ้ขมมันเข้าไปอยู่ในนั้นได้มันคงตัวเท่ากำปั้นละลูก " ป๊า อาขมไม่อยู่จริงๆด้วย อาขมอะป๊า~  "

" วันนี้อาขมอยู่ที่บ้านครับ "

" แล้วทำไมอาขมไม่มารับกาลิคครับ "

" ที่อาขมไม่ได้มารับกาลิค ก็เพราะว่าอาขมไม่สบายน่ะ " บอกไปแบบนั้น ใบหน้าของเด็กน้อยตรงหน้าก็ฉายสีหน้าเศร้าลงทันที " เดี๋ยวๆแล้วทำไมต้องทำหน้าเศร้าแบบนั้นละวะ "

“ ก็..ก็อาขมป่วย~ อาขมไม่ซาบาย อาขมน่าสงสาร "

“ ใช่ อาขมไม่สบายอาขมน่าสงสาร เพราะงั้นวันนี้กลับไปถึงบ้าน กาลิคก็ต้องห้ามดื้อ ห้ามซนตกลงมั้ย "

“ แล้วถ้ากาลิคไม่ดื้อ ไม่ซน อาขมจะหายป่วยใช่มั้ยป๊า~ " มันถามผมก็พยักหน้ารับ " งั้นนะป๊า ถ้ากาลิคกลับไป กาลิคจะกอดอาขมแล้วก็จะเป็นเด็กดีของป๊า จะไม่ดื้อเลย "

“ หูยยย เก่งจัง สัญญานะ " ยื่นนิ้วก้อยไปให้มันอีกคนก็เกี่ยวกลับ กาลิคพยักหน้ารับก่อนจะเอานิ้วมาเกี่ยวผม

" กาลิคสัญญา "

" โอเค งั้นเรากลับบ้านกัน ไปดูแลอาขมกันดีกว่านะ "

“ ครับ ไปดูแลอาขมกันเลย " มันพยักหน้าลงแรงๆ ผมก็สตาร์ทรถขับออกจากโรงเรียนกลับมาถึงคอนโด จอดรถที่ชั้นจอดตรงล๊อคเดิม และทันทีที่ดับเครื่องยนต์ลงประตูฝั่งเจ้าเล็กก็เปิดออก มันที่กำลังจะวิ่งไปตรงทางเข้าเร็วกว่าผมที่กำลังออกจากรถซะอีก

“ กาลิคเดี๋ยวๆ มานี่ก่อนมา " กวักมือเรียกมันอีกคนก็วิ่งกลับมาหาผมก่อนจะคว้ามือไว้
 
“ ป๊า ป๊ารีบไปหาอาขมกันเถอะ ไปหาอาขมกัน  "

“ ได้ครับได้ แต่ว่าเราต้องไปซื้อของกันก่อนนะ ซื้อเสร็จเราค่อยขึ้นไปกัน " ผมบอกอีกคนก็ทำหน้ามุ่ยลงทันทีเพราะโดนขัดใจ เมื่อกี้มันมีเด็กคนไหนบอกว่าตัวเองจะไม่ดื้อวะ นี่ยังไม่ถึงชั่วโมงเลย แบบนี้ทุกที อยู่กับกูละโคตรดื้อ 

“ แต่กาลิคอยากจะไปหาอาขมแล้ว ทำไมป๊าไม่ไปซื้อของคนเดียวละ "

“ ไม่ได้ต้องไปด้วยกัน ป๊าจะให้กาลิคขึ้นไปคนเดียวได้ไง ไม่ได้ " ส่ายบอกอีกคนแต่ยิ่งบอกเหตุผลกาลิคก็ยิ่งทำหน้ามุ่ยหนักขึ้นไปอีก   

“ ด้าย~ “

“ ไม่ได้ ไหนบอกว่าจะไม่ดื้อไง "

“ แต่ป๊า~ กาลิคไม่ได้ดื้อนะ กาลิคแค่อยากไปอยากไปกับป๊า กาลิคอยากจะไปหาอาขม อยากไปกอดอาขม กาลิคไม่ได้ดื้อ แค่พูดแล้วไม่ทำตามเฉยๆ  " ถอนหายใจออกมาปลงๆกับคำพูดนั้นของไอ้ตัวเล็ก.. ก็นั่นแหละที่มันเรียกว่าดื้อนะลูก ไอ้พูดแล้วไม่ตามนั่นแหละครับ

“ แต่กาลิค กาลิคขึ้นไปหาอาขมตอนนี้ก็กอดอาขมไม่ได้หรอกนะ "

" ไม่ได้นะป๊า กาลิคจะกอดอาขม " แววตากลมเถียงขึ้นมาทันที ผมก็พยักหน้ารับ

" ป๊ารู้ ว่ากาลิคอยากจะกอดอาขม เพราะแบบนั้นไงป๊าเลยบอกว่าให้ไปซื้อของกับป๊าก่อน เราจะไปซื้อของที่ปกป้องไม่ให้กาลิคิดติดหวัดจากอาขมไง เข้าใจมั้ย "

“ แล้วถ้าไปซื้อ กาลิคจะกอดอาขมได้ใช่มั้ย "  มันถามย้ำ ผมก็พยักหน้ารับ " งั้นกาลิคจะไปซื้อกับป๊านะ " มือเล็กเปลี่ยนมาจับมือผมทันทีเปลี่ยนท่าภายในสองวินาทีหลังจากได้ฟังคำอธิบายนั่นจบ กาลิคลากผมให้เดินไปที่ฝั่งห้างพลางเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยเร่งผม " ไปกันป๊า ไปกัน กาลิคอยากจะไปหาอาขมแล้ว อยากกอดอาขม "

“ ครับๆ โอเค ใจเน้อออ "

“ เน้ออออ " 

   เดินข้ามถนนมาที่ฝั่งห้างเราตรงไปที่ร้านขายยา ผมซื้อหน้ากากอนามัยมาหกแผ่น พร้อมทั้งยาอมแก้เจ็บคอแล้วก็เพิ่มยาลดไข้ที่สอบถามกับเภสัชกรแล้วเค้าก็แนะนำมา 

" ป๊าๆ ป๊าต้องซื้อนั่นด้วยนะ " มือเล็กชี้ไปที่ร้านแซนวิชผมก็ขมวดคิ้วถามมัน

" ซื้อทำไมอะ กาลิคอยากกินเหรอ " ส่ายหน้าดุ๊กดิ๊กมาให้ ผมก็สบถ " อ้าว "

" ก็อาขมจะซื้อเอาไว้กินพรุ่งนี้ตลอดนี่น่า แล้วอาขมก็จะซื้อนม นมของกาลิคสีชมพูแล้วก็นมของป๊าแล้วก็ของอาขมสีขาว "

" เออใช่วะ ต้องซื้อเตรียมไว้ พรุ่งนี้จะได้มีอะไรกิน ขอบใจที่เตือนนะกาลิค " ขยี้หัวอีกคนก็พยักหน้ารับ แวะซื้อทั้งแซนวิชแล้วก็นมตามที่อีกคนบอก เราที่กำลังเดินออกห้างตอนที่ผ่านร้านขนมผมก็เอ่ยถาม " กาลิคจะซื้อขนมรึเปล่า "

“ ไม่ครับ ไม่ซื้อแล้ว อยากไปหาอาขมมากกว่า ป๊าเร็วๆ อย่าช้า ไปหาอาขมกัน " มือเล็กๆที่ดึงผมให้ออกเดินหลุดยิ้มออกกับท่าทีของมัน นี่แสดงว่ามันรักไอ้ขมมากกว่าขนมที่ชอบอีกนะ แต่ก็สมควรแล้วละ ก็ไอ้ขมเองก็รักมันตั้งขนาดนั้นนี่หว่า

    ขึ้นลิฟต์มาถึงห้องตอนที่เปิดประตูเข้าไปกาลิคก็เตรียมจะพุ่งตัวเข้าไปหาไอ้ขม และโชคดีที่ผมคว้ามันได้ทันซะก่อน “ เดี๋ยว!! มานี่ก่อน "

“ ป๊าา กาลิคจะไปหาอาขม "

“ ครับ ป๊ารู้แล้ว แต่กาลิคต้องใส่นี่ก่อนนะ " หยิบหน้ากากอนามัยใส่ให้มัน ผมเอาด้านสีเขียวออกมาข้างนอกอีกคนก็เอียงหน้าถามด้วยความสงสัย

“ ป๊า ทำไมกาลิคต้องใส่ด้วยละ "

“ อันนี้นะเรียกว่าหน้ากากอนามัยเราต้องใส่ไว้เพื่อไม่ให้ติดหวัดจากอาขมไง แล้วถ้ากาลิคติดหวัดจากอาขม อาขมต้องไม่ให้กาลิคเข้าใกล้แน่นอน แล้วอาขมก็จะเป็นห่วงกาลิคมากๆอีกเข้าใจมั้ย เพราะงั้นก็ใส่ไว้นะ ป๊าจะเอาไปให้อาขมใส่ด้วย "

“ อื้อ! “ มันพยักหน้ารับ ก่อนจะหันมาถามผมอีกที " แล้วป๊าต้องใส่ด้วยมั้ย "

“ ใส่ดีมั้ยน้าา "

“ ต้องใส่นะ! " ไอ้ตัวเล็กบอกเสียงหนัก " ป๊าต้องใส่ป๊าจะไม่สบาย กาลิคไม่อยากให้ป๊าไม่สบาย กาลิคอยากให้ป๊าแข็งแรง แข็งแรง "

“ ขอบคุณที่เป็นห่วงป๊านะ งั้นกาลิคก็ใส่ให้ป๊าหน่อย ใส่เหมือนกาลิคเลยนะ " ยื่นหน้ากากอนามัยให้มัน ผมย่อตัวลงตรงหน้า กาลิคก็จัดการใส่ให้ แววตากลมนั่นยิ้มกว้างผมก็ลุกขึ้นยืน " ขอบคุณนะครับ คราวนี้เราก็เข้าไปหาอาขมกันเถอะ

“ อื้อ! “

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   กาลิคเคาะประตูสามครั้งก่อนจะเปิดประตูเข้าไป คนที่กำลังป่วยยังหลับอยู่บนเตียงเหมือนเดิม กาลิคก้มหน้าลงไปมอง ผมก็ขยี้หัวมัน

“  ยังหลับอยู่เลย ไว้ค่อยมาเยี่ยมใหม่แล้วกัน ตอนนี้ออกไปกินข้าวก่อนดีมั้ย "

“ ป๊าา อาขมจะตื่นเมื่อไหร่ "

“ ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ว่าตอนนี้เราออกไปกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวเราค่อยเข้ามาตอนที่อาขมตื่นดีมั้ย "

“ ออกไปไหนกัน ไปด้วยสิ " เสียงเอ่ยทักเบาๆของคนป่วยที่คิดว่าหลับอยู่ดังขึ้น มันลืมตาขึ้นมองเราแล้วยิ้มออกมาให้เจ้าตัวเล็กที่หันไปหามันทันที มือบางยกขึ้นลูบหัวอีกคน กาลิคก็ล้มตัวลงไปกอดคนป่วยไว้ด้วยสีหน้าเป็นห่วง " หัวหอม ออกไปก่อนนะ เดี๋ยวติดหวัด "

“ ไม่ติดหรอกอาขม ใส่อันนี้แล้ว " มันว่าพลางชี้ไปที่หน้ากากอนามัยของตัวเอง

“ มึงก็ด้วยสิ จะได้ไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น เอ้า! ไอ้ตัวเชื้อโรค " ผมยื่นให้มัน กาลิคก็หันมามองผมด้วยสายตาความไม่ชอบใจ

“ ป๊าไม่พูดแบบนี้นะ นิสัยไม่ดีเลย! “ เสียงเล็กนั่นตะโกนบอก " อาขมป่วย ไม่ได้เป็นตัวเชื้อโรคคคค เดี๋ยวกาลิคก็ไม่รักเลยนิ "

“ กลัวแล้ววววววววว โอ๋ๆ ขอโทษนะ ป๊าไม่ตั้งใจจะว่าอาขมสักหน่อย แค่ล้อเล่นเอง "

“ ล้อเล่นก็ไม่ได้ กาลิคไม่ให้ว่าอาขมน้าาา " มันว่าก่อนจะกอดอีกคนไว้แน่น " กาลิคจะไม่ให้ใครมาทำร้ายอาขม "

“ น่ารักจัง ขอบคุณนะหัวหอม ปกป้องอาขมด้วย เก่งสุดๆ " ขมชมมันอีกคนก็พยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบหน้ากากอนามัยขึ้นใส่ ด้านสีเขียวที่เอาไว้ในด้านใน มันหันมาหาผม " เค้าใส่แบบนี้ถูกมั้ย "

“ ถูกละ "

“ ป๊านิสัยไม่ดีเลยว่าอาขม นี่แหน่ะ " มันเอื้อมมือมาตีผมที่ก็พยักหน้ารับ
 
“ นี่ยังไม่จบอีกเหรอวะ ? โอเคๆ ขอโทษนะครับ คราวหลังป๊าจะไม่ทำแล้ว "

“ กูให้อภัยมึง ไม่เป็นไรหรอก " ขมบอกก่อนจะมันลูบผมกาลิค " อาขมไม่โกรธป๊าแล้ว กาลิคก็ไม่โกรธแล้วใช่มั้ย ดีกันนะ "

“ ครับ " มันตอบเสียงอ่อนก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้างอีกคน

“ ปกป้องอาขมแบบนี้ ไม่กลัวป๊าน้อยใจบ้างรึไง หื้ม ? “ คนป่วยถามอีกคนก็ส่ายหน้า

“ ก็ถ้ามีใครมาว่าป๊า กาลิคก็จะปกป้องป๊าเหมือนกัน “

“ แล้วถ้าอาขมว่าป๊าละ “ ผมถามมันก็ส่ายหน้า

“ อาขมไม่ว่าป๊าหรอก ก็อาขมรักป๊า อาขมจะว่าป๊าทำไม “

“ จริงเหรอ ? “ ขมถามมัน “ แต่ป๊ารักอาขม ป๊ายังว่าอาขมเลยนะ “ หลุดยิ้มออกมากับคำถามของร่างบาง ผมเหลือบมองไปทางอื่นด้วยรู้สึกเขินยังไงก็ไม่รู้วะ

“ ก็ป๊าชอบแกล้ง~ ป๊าแกล้งเฉยๆ ป๊าชอบแกล้งคนที่ป๊ารัก กาลิคก็โดน อาขมเป็นคนที่ป๊ารัก อาขมก็ต้องโดนด้วยนะ ถ้าไม่โดนแสดงว่าป๊ารักนะ รู้เปล่า “

“ อยากกินอะไรลูก เดี๋ยวป๊าซื้อให้ “ ยื่นมือไปลูบหัว เจ้าตัวเล็กก็มีท่าทีงงๆ กับมุกของผม ส่วนไอ้ขมก็ได้แต่หันมามองผม

“ มึงจ้างมันมาเท่าไหร่เนี้ย คุ้มจังสัด “

“ ใครจ้าง ไม่มีอะ เด็กมันอยากมีแม่ มันก็พูดของมันเอง “ ส่ายหน้าไปมากับคำพูดของผม หน้าของไอ้ขมแดงจัดมันที่พิงตัวกับเตียงไม่พูดอะไร ท่าทางเขินๆของมันผมเข้าใจดี แต่คนที่ไม่ใจคือไอ้ตัวแสบมากกว่า

" อาขม อาขมหน้าแดงมากเลยนะ งั้นกาลิค กาลิคจะดูแลอาขมเอง ไม่ต้องกลัวนะ โอ๋ๆ เดี๋ยวก็หายนะ โอ๋นะ โอ๋นะ " มันล้มตัวไปกอดขมไว้ ทำเหมือนตอนที่ขมทำกับมันบ่อยๆเวลาปลอบใจกัน

“ เอ่อ. ใช่ๆ เดี๋ยวก็หาย กาลิคกอดอาขม อาขมต้องหายเร็วแน่นอนเลย "

" แล้วนี่เป็นยังไงบ้างดีขึ้นบ้างยัง " ผมถามมันก็พยักหน้ารับ

" ดีขึ้นแล้วละ ไม่ปวดหัวมากเท่าไหร่แล้ว "

“ งั้นก็ดีแล้ว " 

" อาขม อาขม " มือเล็กเขย่ามืออีกคน " กาลิคจะดูแลอาขมเองนะ กาลิคจะพาอาขมไปเข้าห้องน้ำด้วย "

" ขอบคุณนะหัวหอม อาขมแค่ป่วยเป็นหวัดลูกเอ้ย  ไม่ได้โดนรถชน ยังเดินได้อยู่ " อีกคนบอก ก่อนที่เราจะยิ้มกว้างกับคำพูดคำจาของมัน

" แต่กาลิคอยากจะดูแลอาขมนะ "

" อยากดูแลอาขมเหรอ " ผมถาม มันก็เงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะพยักหน้ารับ " งั้นต้องเป็นบุรษพยาบาลกาลิคแล้วละ "

" คืออะไรเหรอป๊า "

" บุรุษพยาบาลก็คือ ผู้ชายที่ดูแลผู้ป่วยไง อยากจะเป็นมั้ยละ "

" อยาก! กาลิคอยากจะดูแลอาขม กาลิคจะเป็น "

" เดี๋ยวๆ หยุดๆ ไม่ต้องเลย เล่นอะไร เดี๋ยวมันก็ติดไข้จากกูหรอกมึง " ขมบอกก่อนจะส่ายหน้าให้ไอ้ตัวเล็กก็ทำหน้ามุ่ย " ไม่ต้องหรอกหัวหอมเดี๋ยวติดหวัดเอานะ "

" ไม่ติดหรอก อยู่ไม่นาน หน้ากากอนามัยก็ใส่แล้ว "   

“ ใช่ๆ ไม่ติดนะ กาลิคจะเป็นคุณพยายาม "

" พยาบาลครับ พะ ยา บาล "

" อื้อ! จะเป็นคุณพยาบาล จะดูแลอาขมเอง ให้อาขมหายป่วยเลย จะหอมแก้มอาขมให้อาขมหายป่วย " เด็กน้อยว่าอย่างมาดมั่นก่อนจะดึงตัวเองเข้าไปกอดอีกคนไว้ มันหอมแก้มคนป่วยไปเต็มฟอดผ่านหน้ากากอนามัยที่ใส่ ขมก็ยกยิ้ม

“ ให้ดูแลก็ได้แต่ต้องสัญญากันมาข้อนึงก่อน ถ้าพูดอะไรต้องทำตามนะ ถ้าบอกว่าให้ออกไปนอกห้องก็ต้องไปนะ ไม่มีงอแง โอเครึเปล่า " ขมบอกก่อนจะยื่นนิ้วก้อยไปทางมัน อีกคนก็ท้วง

" อาขมๆ นั่นไม่ใช่ข้อเดียวแล้วนะ นั่นหลายข้อแล้ว อาขมจะให้กาลิคสัญญาข้อไหนอะ " หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง ไอ้ขมที่ถอนหายใจออกมามันพยักหน้ารับ

" เอ่อ โอเคๆ งั้นเอาใหม่ สัญญากันก่อน ว่าจะต้องทำตามที่อาขมพูดทุกอย่าง ไม่งอแง ไม่ดื้อ ตกลงมั้ย "

" ตกลงครับ "  กาลิคเกี่ยวนิ้วนั่นกลับ อีกคนก็ถอนหายใจออกมา

“ โอเค งั้นก็ฝากตัวด้วยนะครับคุณบุรุษพยาบาล "

“ ครับผม! กาลิคจะดูแลอาขมให้หายดีเอง~ " มาดมั่นแบบเต็มร้อย แต่ไม่รู้ว่าจะป่วนให้ดีขึ้นหรือทรุดลงกันแน่ ทางนี้ก็ยังสงสัยอยู่

..............................................................


ถึงใครจะบอกว่า กาลิคไม่ป๊า แต่ถ้าเรื่องจีบ อาขมให้ป๊า กาลิคก็สู้ตาย
#ยิ้มกว้างหลังโดนจ้างไปยี่สิบ บ้าาาา เด็กมันอยากมีแม่ พี่ภาพกล่าว
หลายๆคนบอก สงสารภาพ ดูกาลิคไม่ค่อยรักเลย จริงๆก็รักแหละแต่ว่ากาลิคก็ชินกับการอยู่กับเข้า อ้อนขม เค้าแสดงออกกับขมมากว่าใกล้ชิดกันมากว่าไง #ลูกชายมักสนิทกับแม่มากกว่าพ่อนะแก #นี่ก็ชงจัง
คือจริงๆ จากที่เขียนมาตั้งแต่ตอนที่หนึ่ง ถ้าให้เทียบความผูกพันยังไง กาลิคก็ต้องรักขมมากกว่าแหละ แต่กับภาพก็รักแค่น้อยกว่า ก็เค้านอนด้วยกันทุกคืน รักกัน นั่งตักกัน อ้อนกัน ก็น้า~

ตอนแรกจะเขียนแบบตัดพาส อารมณ์แบบ ขมป่วย แล้วก็ตัดเข้าช่วงกาลิคป่วนไปเลย แต่คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่า
มันต้องมีโมเม้นท์อื่นมากกว่าความวุ่นวายดิวะ มันต้องมีการดูแล ความรัก ความอบอุ่นของครอบครัว ผสมความป่วนๆสิวะ สรุป แม่ง ยาว ยาวไป ยาวไปอีก ยัง ยังไม่หายป่วยอีก!

โอเค เจอกันตอนหน้า
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคนดี
ฝากแชร์ฝากไลค์ในเพจด้วย รักนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า ~  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 02-07-2017 20:51:07
เรื่องจีบอาขมให้ป๊านี่ไม่เบาเลยนะกาลิค
กาลิคโตไปสงสัยป๊าคงกลายเป็นหมาหัวเน่าแน่ๆ 55
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-07-2017 21:02:23
อ่าน แล้วมีความสุข  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ครอบครัว ภาพ ขม กาลิค
 
ถ้าเป็นเรื่องขม กาลิคไม่ดื้อ น่ารัก  :mew1: :mew1: :mew1:
มีดุป๊าด้วย ที่ไปว่าขมเป็นไอ้ตัวเชื้อโรค
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 02-07-2017 21:03:49
"เด็กมันอยากมีแม่"555

ดูแลว่าที่เมียไปนะพี่ภาพ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-07-2017 21:35:08
เด็กน้อยยยะน่ารักไปไหนเนี่ยลูกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-07-2017 21:39:52
หัวหอมน่ารัก~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 02-07-2017 21:50:24
 :กอด1: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 02-07-2017 21:53:25
ครอบครัวหรรษา.
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 02-07-2017 22:05:57
แหมมมม นี่ฉากป่วยหรือฉากจีบกัน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 02-07-2017 22:28:57
ครอบครัวนี้น่ารัก  :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 02-07-2017 22:58:57
ตอนหน้าให้ขมหายป่วยนะ ไม่เอาตัวเล็กป่วยต่อนะ มันจะงอแงนะ สงสาร  :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 02-07-2017 23:11:04
กาลิคช่วยป๊าเค้าหาแม่หน่อยลู้กกกก  ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-07-2017 23:18:06
กาลิคจะทำให้รักให้หลงไปถึงไหนเนี่ยยยยย :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 02-07-2017 23:26:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-07-2017 23:54:37
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 02-07-2017 23:58:08
ภาพจ้างหัวหอมเท่าไหร่เนี่ย เชียร์ป๊าเต็มที่เชียว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 03-07-2017 01:11:21
น่าๆพี่ภาพ ลูกก็ช่วยเรื่องเมี_ยแล้วนี้งายย ไม่ต้องงอนที่ลูกรักไม่เท่ากันน้า~

ปอลิง.ชอบจังค่ะ เรื่องวิธีการใส่หน้ากากอนามัย  มันแสดงถึงความใส่ใจในเรื่องที่เหมือนจะเล็กๆน้อยๆแต่สำคัญที่คุณคนเขียนได้แต่งออกมา ไม่รู้สิ...แต่ชอบอ่ะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 03-07-2017 06:18:11
น่ารักกันไปไหนน นี่ว่าที่คุณหมอกาลิครึเปล่าเนี่ย

ต้องมีเรื่องของน้องเองด้วยนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 03-07-2017 10:15:31
อ่านตอนนี้แล้วมีความสุขจังเลย :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 03-07-2017 11:44:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-07-2017 11:53:20
หัวหอมนี่พลังงานความน่ารักสูงมาก

ดูจากสถานการณ์แล้วเนี่ย ภาพเป็นคุณป๊าที่อยู่ในการควบคุมของลูกล่ะนะ 5555555 ไม่เหมือนอาขม คนนี้เอาหัวหอมอยู่
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 03-07-2017 13:00:37
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 03-07-2017 20:10:20
กาลิคออกตัวขนาดนี้ คงได้แม่ใหม่ในเร็ววัน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-07-2017 20:45:00
เด็กมันอยากมีแม่55555 ช่างคิดนะภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 03-07-2017 22:39:04
555555 น่ารักกก ทำไมกาลิคฉลาดแบบนี้ลูกก

ขมเอ้ยยจะหายหรือจะป่วยหนักกว่าเดิมไม่รู้ ป่วนเหลือเกิน
ภาพก็ฮาไปอีก เจอกาลิคจัดไปหลายดอก

ภาพขมแอบหวาน แอบหยอดนะ  :mew2:

ป่วยอีกสองสามตอนก็ได้ค่ะ ไม่ว่า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 04-07-2017 12:41:20
กาลองิคน่ารักจริงๆๆลูกเอ้ยช่วยป๊าจีบแม่ด้วยแหละ5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 41 - 2.7.60} #หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: nung ที่ 06-07-2017 15:39:42
 :mew2: คิดถึงหัวหอม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 07-07-2017 20:38:17

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 42

   ผมเดินออกมาจากห้องนอน ปล่อยให้กาลิคอยู่กับไอ้ขมต่อสอง เดินเข้าครัวจัดการเอาข้าวผัดปูใส่จานอุ่นร้อนเรียบร้อยแล้วเอามาวางไว้บนถาดอาหาร และตอนที่หันไปเตรียมยาเสียงของประตูห้องนอนก็ปิดลงพร้อมกับไอ้ตัวเล็กที่วิ่งตรงเข้ามาหาผม แล้วใช้มือคว้าเข้าที่ชายเสื้อก่อนจะเขย่า

“ ป๊าๆ กาลิคจะดูแลอาขมยังไงดี ป๊าช่วยบอกกาลิคหน่อย "

“ กาลิคจะกินข้าวเลยมั้ยละ หรือว่าจะป้อนอาขมก่อน "  ผมถามอีกคนก็เอียงหน้าคิด

“ กาลิคจะป้อนอาขมก่อน "

“ โอเค ถ้าป้อนอาขมก่อนก็เอาถาดนี้ไปนะ " ยื่นถาดที่อาหารเย็นของคนป่วยกับยาอีกชุดให้มัน ก่อนจะหยิบช้อนให้ " แล้วฟังป๊านะ.. ห้ามกินข้าวจากช้อนเดียวกันกับอาขมเด็ดขาด เพราะเดี๋ยวป่วยเอา เข้าใจใช่มั้ย  แล้วรู้ใช่มั้ยว่าถ้าขัดคำสั่งจะไม่ได้ดูแลอาขมอีกเลยนะ "

“ รู้~ " มันว่าเสียงยาว ผมก็พยักหน้ารับ

“ แล้วพออาขมกินข้าวเสร็จ ก็ให้อาขมกินยาด้วยละ "

“ แล้วน้ำละป๊า " มันถาม ผมก็หยิบแก้วขึ้นมากดน้ำ

“ กาลิคยกไปแค่นั้นแหละ เดี๋ยวป๊าเดินเอาน้ำไปให้ " ผมบอกอีกคนก็พยักหน้ารับ " แล้วอย่าลืมที่สั่งไว้นะ "

“ คร๊าบบบบบบบบบ " มองคนที่ขานรับเสียงยาวเดินยกถาดไปที่หน้าประตูห้องนอนก่อนจะหยุดนิ่งอยู่ที่ประตูเพราะไม่มีมือจะเปิดประตูห้อง เจ้าตัวเล็กเอ่ยบอก " ก๊อก ก๊อก ก๊อก อาขมเปิดประตูหน่อย "

“ แล้วไหงคุณพยาบาลถึงไปใช้ผู้ป่วยแบบนั้นละวะ " ส่ายหน้ายิ้มๆกับมัน กาลิคก็หันมาเถียง

“ ก็คุณพยาบาลคนนี้ ไม่มีมือจะเปิดประตูแล้วอะป๊า คนป่วยนอนเฉยๆก็เลยต้องช่วยไงครับ คนเราต้องช่วยเหลือกันนะ คุณครูบอก "

“ ก็จริง อะ ป๊าเปิดให้ " เปิดประตูให้มันกาลิคก็เดินเข้าไป มันที่ยิ้มกว้าง

“ ข้าวอร่อยๆมาแล้วน้า~ มีใครอยากจะกินบ้างเอ่ย ยกมือขึ้น " หลุดขำออกมากับคำพูดนั้นของมัน ไอ้แสบพูดเหมือนตอนที่ไอ้ขมบอกมันบ่อยๆ เวลาเรียกให้ไปกินข้าว คนป่วยที่นั่งอยู่บนเตียงหลุดยิ้มก่อนจะก้มหน้าลงหัวเราะ " กินข้าวมั้ยเอ่ย กินข้าวมั้ย "

“ กินครับผม "  มือบางยกมือขึ้นอีกคนก็หัวเราะ

“ อาขม อาขมทำเหมือนกาลิคเลยยยยย ' กินครับผม ' " มันว่าพลางยกมือขึ้นสูงล้อเลียนอีกคนที่ก็เอื้อมมือมาขยี้หัว

“ เหมือนหัวหอมเลยเนอะ "

“ อื้อ! อาขมกินข้าวน้าา กาลิคจะป้อน อ้าาา " อีกคนบอกมันตักข้าวคำเล็กๆยื่นไปให้คนป่วยที่ก็เอ่ยบอก

“ ไม่ต้องหรอก อาขมเองกินได้ เอามาตั้งนี่มา " มือบางตบที่ตัก กาลิคก็เอาไปวางแต่มันก็ยังยึดช้อนนั้นไว้ไม่ให้อีกฝ่าย ความดื้อดึงของมันยังไงก็จะป้อนข้าวไอ้ขมให้ได้ " เอาช้อนมาสิครับ "

“ ไม่ด้ายย กาลิคจะป้อนอาขม อาขมป่วยอยู่ กาลิคจะดูแลอาขมเองนะ " มันตบอกตัวเองแบบมาดมั่น อีกคนก็ถอนหายใจพลางเหลือบมองผม

“ งั้นคุณพยาบาลก็ป้อนดีๆ อย่าให้หกนะ " ผมบอกกาลิคก็พยักหน้ารับ

“ อาขมอ้าปาก อ้าๆ " ช้อนที่มีข้าวอยู่ครึ่งนึงถูกป้อนให้อีกคน " อั้มๆนะ อ้ามมม "

“ อั้ม " ขมบอกก่อนจะเคี้ยวข้าวที่อีกคนป้อนเข้าไป " แล้ววันนี้ไปโรงเรียนเป็นยังไงบ้าง "

“ วันนี้มีสอบด้วยอาขม  "

“ สอบเหรอ แล้วเป็นไง ทำได้มั้ย "

“ ทำด้ายยย " มันลากเสียงยาวไอ้ขมก็เอื้อมมือมาลูบหัวมัน " อาขมกินอีกนะ อ้ามม "

“ ครับๆ คุณพยาบาลดุจังเนี้ย ไม่เปิดโอกาสให้คุยด้วยเลยเว้ย "

“ ไม่ดุนะ คุณพยาบาลคนนี้ใจดี " มันชี้ตัวเอง เราก็หลุดยิ้มออกมากับคำพูดนั้น " อีกคำนะ อาขม อั้มม "

“ อั้ม "

“ แล้วนี่ยังเจ็บคออยู่มั๊ย อาการเป็นยังไงบ้าง " ผมถามขมก็พยักหน้ารับ

“ ยังเจ็บคออยู่เลยวะ " ขมยกมือขึ้นลูบที่คอตัวเองก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา " กูรู้สึกปวดหัว ปวดกระบอกตา เจ็บคอ เมื่อย ง่วงนอน กูไอบ้างแต่ไอแบบแห้งๆอะ แล้วข้างในก็ร้อนไปหมด ไม่มีแรงเลย "

" พรุ่งนี้ไปหาหมอเถอะ อย่าดื้อเลย " ผมบอกตอนที่นั่งลงบนเตียงข้างหลังกาลิค เอื้อมมือไปจับหน้าผากมันที่ยังร้อนอยู่มากทั้งๆที่นอนประคบเจลเย็นระบายความร้อนมาทั้งวันแล้ว 

“ ไม่ได้ดื้อ "

“ เหรอ ตอนนี้มึงดื้อกว่าไอ้กาลิคด้วยซ้ำกูจะบอกให้ " กาลิคที่พูดครั้งเดียวรู้เรื่องแต่คนตรงหน้า บอกว่าให้ไปโรงพยาบาลจะกี่สิบครั้งก็ส่ายหน้าไม่ไปลูกเดียว

“ อาขม อาขมไม่ดื้อกับป๊านะ ต้องเป็นเด็กดีรู้มั้ย " กาลิคเอ่ยบอกเรา ไอ้ขมยิ้มจางๆให้มัน ก่อนจะเหลือบมองผมแล้วพยักหน้ารับ

“ โอเคๆ พรุ่งนี้ถ้ากูตื่นขึ้นมาอาการไม่ดีขึ้นเลยกูจะไปโรงพยาบาลกับมึงตกลงมั้ย "

“ อื้ม โอเค " พยักหน้ารับมัน ขมก็หันมามองกาลิค

“ เห็นมั้ย อาขมเป็นเด็กดีแล้ว "

“ อาขมเป็นเด็กดีแล้ว " กาลิคบอกก่อนจะหัวเราะเสียงใส มือเล็กตักข้าวพอดีคำยื่นให้อีกคนที่ก็เคี้ยวช้าๆ " อาขมกินข้าวอีกนะ "

“ อาขมอิ่มแล้วละ " ร่างบางบอกมันก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา " กินไม่ไหวแล้ว เจ็บคอไปหมดกลืนไม่ลงแล้ว "

“ กินอีกสองคำนะ นะๆ อีกสองคำ " คำพูดเหมือนไอ้ขมตอนที่บอกให้กาลิคกินข้าวเปี๊ยบเลย ร่างบางเองมันก็คงรู้ขมที่ได้แต่ยิ้มแม้จะโรยแรงก่อนจะอ้าปากรับข้าวเข้าไปอีกคำ

“ อีกแค่คำเดียวแล้วนะ "

“ ต้องกินอีกนิดก่อน "

“ ไหนบอกว่าสองคำไงคุณพยาบาล " ขมท้วง " นี่กินเข้าไปคำนึงแล้ว งั้นก็เหลืออีกแค่คำเดียวไม่ใช่เหรอ "

“ ก็.. ก็เวลาอาขมบอกให้กาลิค อาขมยังบอกเลยว่า อีกคำนะ อีกคำ แต่สุดท้ายก็หลายคำทุกทีเลย "  กาลิคว่า ผมก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ไอ้ขมเอ้ยย โดนเอาคืนเข้าแล้วมั้ยละมึง

“ แต่ตอนนี้อาขมป่วยนี่น่า ขอกินอีกแค่คำเดียวไม่ได้เหรอ " ก้มหน้าลงอ้อนไอ้กาลิคแบบที่มันชอบทำกับตัวเองบ่อยๆ เจ้าตัวเล็กยิ้มกว้างมันคงรู้ว่าขมทำแบบที่มันชอบทำ

“ อาขมไม่ต้องมาอ้อนเลยยย " กาลิคบอกมันก่อนจะป้อนข้าวอีกคนไปอีกคำเดียว แล้ววางช้อนลงที่เดิม สุดท้ายก็กินได้แค่ครึ่งจานเท่านั้นแหละ ทั้งๆที่เป็นของโปรดแท้ๆ " อาขม อาขมกินยานะ " มือเล็กหยิบยาให้มัน คนป่วยก็ถาม

“ แล้วไม่ต้องให้อาขมกินข้าวแล้วเหรอ "

“ ไม่ต้องแล้วครับ " มันโบกมือปฎิเสธ " ก็เหมือนอาขมไง เวลาที่กาลิคอ้อน อาขมก็จะไม่ให้กินแล้ว กาลิคทำเหมือนอาขมเลยนะ "

“ ใจดีจังอยากจะหอมแก้มลงสักฟอดดด ให้หายชื่นใจ แต่รออาขมหายป่วยก่อนนะ " มันว่าก่อนจะกินยาแล้วก็กินน้ำเข้าไปจนหมดแก้ว

“ ถ้ายอมไปหาหมอตั้งแต่เมื่อเช้า ป่านนี้คงได้หอมไอ้กาลิคไปแล้วละ แต่ก็ยังดื้อไม่ยอมไป มัวแต่รักษาแบบมั่วซั่วอยู่ได้ แบบนี้มันคงหายหรอก "

“ บ่นอีกละ " ขมว่าก่อนจะยื่นแก้วน้ำให้กาลิค " ขอบคุณนะครับ คุณพยาบาล "

“ คร๊าบบ " รับแก้วน้ำกลับมาวางบนถาด ผมก็ยกถาดจากตักขมเอาออกไปข้างนอกห้อง กาลิคที่เดินตามออกมา ผมหันไปถาม
“ กาลิคกินข้าวเลยรึเปล่า "

“ ไม่ครับ กาลิคจะไปตรวจอาขมก่อน " เด็กน้อยว่ามันวิ่งไปที่มุมของเล่นหยิบเอากล่องของเล่นที่เหมือนจะเป็นชุดคุณหมอที่มีอยู่แล้ววิ่งเข้าไปในห้อง ส่วนผมเองก็เดินไปที่ตู้เย็นหยิบเจลประคบที่เย็นได้ที่แล้วออกมา

   เปิดประตูเข้าไปในห้องกาลิคที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงมันเอาของเล่นมาวางเยอะแยะ เอาหูฟังของหมอที่เหมือนจะขาดแล้วมาใส่ก่อนจะฟังไปที่อกของอีกคน

“ เป็นไงบ้างครับคุณหมอ "

“ ต้องฉีดยานะครับ " กาลิคบอกมันก็หยิบเข็มขึ้นมา ไอ้ขมก็ปิดตาแน่น

“ น่ากลัวจังเลยจะเจ็บมั้ยครับคุณหมอ "

“ ไม่เจ็บนะ ไม่ต้องกลัวเดี๋ยวคุณหมอฉีดยาแล้วจะให้สติกเกอร์คุณกระต่ายนะ " มันว่าเหมือนคุณหมอในโรงพยาบาลเด็กที่ตัวมันก็คงเคยไปมาบ้างแล้ว  กาลิคทำทีฉีดยาไปที่แขนของไอ้ขมก่อนจะติดสติกเกอร์ให้อีกคนเรียบร้อย " เจ็บมั้ยอาขม "

“ ไม่เจ็บครับ คุณหมอกาลิคฉีดยามือนิ่มสุดๆเลย ไม่เจ็บเลย "

“ งั้นคราวนี้คุณหมอก็ได้เวลาไปกินข้าว อาบน้ำ แล้วก็นอนได้แล้วนะ อยู่ในห้องกับอาขมนานไปแล้ว " ผมบอกมันก่อนจะหันไปเปลี่ยนเจลเย็นให้คนป่วยเรียบร้อย " ส่วนมึงก็นอนได้แล้ว "

“ ครับผม " ขมบอกมันก็หลับตาลง

“ กาลิคเก็บของเล่นนะ เราจะได้ไปอาบน้ำกินข้าวกัน " บอกมันแบบนั้นก่อนจะเดินไปหยิบชุดนอนของอีกคนในตู้ออกมา เจ้าตัวเล็กเก็บของเล่นด้วยความเรียบร้อยไม่มีดื้อดึงเลยสักสักนิดก่อนจะมาถาม

“ แล้ววันนี้กาลิคจะได้นอนกับอาขมมั้ยครับ "

" ไม่ได้หรอก ถ้ากาลิคนอนกับอาขมเดี๋ยวกาลิคจะติดหวัดจากอาขมเอานะ แล้วถ้าเป็นแบบนั้น อาขมต้องเสียใจมากแน่ๆเลยที่ทำให้กาลิคป่วย กาลิคอยากจะให้อาขมเสียใจมั้ยละ "

" ไม่ครับ " มันส่ายหน้าไปมาก่อนจะคว้ามือผมไว้ " กาลิค กาลิคจะไปนอนกับป๊า กาลิคไม่อยากจะให้อาขมเสียใจ "

" ดีมากเลย งั้นก็ไปกันเถอะให้อาขมพักผ่อนนะ "

" อื้ม! “ ใบหน้าน่ารักพยักหน้ารับ แต่ก่อนที่เรากำลังจะเดินจากห้องมือเล็กที่กุมมือผมอยู่ก็ชะงักหยุดนิ่ง " แปปนึงนะป๊านะ " มันบอกก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มของคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียง " อาขมหายป่วยไวๆนะ "

" น่ารักจัง " ผมเอ่ยชมก่อนจะเอื้อมมือข้างที่ว่างไปขยี้หัวมัน " สงสัยพรุ่งนี้อาขมคงหายป่วยแน่นอน "

" แล้วพออาขมหายป่วยกาลิคก็จะมานอนกับอาขมได้ใช่มั้ยป๊า "

" ใช่แล้ว แต่ว่ากาลิคหอมแก้มให้กำลังใจแบบนั้น คงหายเร็วๆนี้แหละ "

" ทำไมพอกาลิคหอมแก้มอาขมแล้ว อาขมจะหายป่วยอะป๊า "

" ก็เพราะกาลิคทำให้อาขมมีกำลังใจจะต่อสู้กับเชื้อโรคหวัดไงละ คนเราพอใจแข็งแรง เราก็จะชนะทุกอย่างนั่นแหละ "

" งั้นป๊าก็หอมแก้มขมด้วยสิ อาขมจะได้หายป่วยไวๆ "

" ไม่ดีม้างงง " ส่ายหน้าไปมา คือประเด็นไอ้ขมมันจะลุกขึ้นมาตบกูมั้ยละ

" ดี หอมเลยย หอมๆ ใจอาขมจะได้แข็งแรงไง ก็ป๊าบอกเองอะ "

" ก็ได้ " ผมก้มหน้าลงไปใกล้มันตอนที่ยังไม่ทันหอมคนที่นอนอยู่ก็แอบยิ้ม ขมมันคงตื่นอยู่แต่แค่ขี้เกียจลืมตามาคุยกับเรามากกว่าเพราะกลัวว่ากาลิคจะไม่ยอมออกไปง่ายๆ " กาลิคบอกให้ทำนะ "

" อ้าง อยากจะทำก็บอก " มันพูดเสียงเบาๆ แล้วในวินาทีต่อมานั้น ผมก็หอมแก้มมัน

" รู้ทันอีกละ เบื่อจริง "

" ป๊าพูดอะไร " กาลิคถาม ตอนที่ดึงตัวเองขึ้นมายืนข้างอีกคนเหมือนเดิม ส่ายหน้าไปมาก่อนจะดันหลังมันออกจากห้อง

" หายป่วยไวๆละมึง "

" อื้ม "

   ปิดประตูห้องนอนจนสนิท กาลิคเอาของเล่นของตัวเองไปตั้งไว้ที่เดิม ก่อนจะเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าวโดยไม่ต้องให้บอกสักคำ ไม่รู้เพราะมันหิวหรือว่าอะไรกันแน่ ผมเข้าไปในครัวอุ่นข้าวผัดปูแล้วก็แกงจืดที่แบ่งใส่ถ้วยเล็กๆสองถ้วย กาลิคนั่งกินแบบว่าง่าย แกงจืดคำ ข้าวคำ เอร็ดอร่อยจนหมดจานภายในเวลาไม่นาน

“ หมดแล้วครับ อร่อยมากเลยป๊าาา " มันว่าก่อนจะยกจานให้ผมดู ทุกอย่างหมดเกลี้ยงแม้แต่ถ้วยแกงจืด ผักสักชิ้นยังไม่มีเหลือ และดีแค่ไหนแล้วที่มันไม่กินจานข้าวเข้าไปด้วย

“ โอ้โหหหหห ท่าทางจะอร่อยจริง แล้วกินอีกมั้ย "  ผมถาม มันก็ส่ายหน้าไปมา

“ ม่าย~ กาลิคอิ่มแล้ว "

“ โอเค งั้นก็นั่งสักพักแล้วค่อยไปอาบน้ำนะ "

“ ป๊า ป๊าอาบน้ำกับกาลิคนะ อาบด้วยกัน " คำชวนที่ทำให้ผมนิ่ง นี่ถ้ากูอาบงานนี้ต้องมีการประชันพี่หนอนถูกมั้ย แต่ประเด็นคือไอ้ขมเคยห้ามว่าอย่าอาบน้ำด้วยกันไง แล้วแบบนี้กูจะตายมั้ยละ ถ้ามันรู้

“ ไม่เอาอะ เดี๋ยวกาลิคไปบอกอาขมอีกว่าเราอาบน้ำด้วยกัน "

“ แล้วทำไมบอกไม่ได้ละ " มันถาม

“ ก็อาขมไม่ให้ป๊าอาบน้ำกับกาลิคอะ อาขมไม่ให้พูดเรื่องพี่หนอน น้องหนอน อาขมบอกว่า อาขมไม่ชอบให้กาลิคพูด " เด็กน้อยทำหน้ายู่ตอนที่ผมอธิบายออกไป " ดูทำหน้า ทำไม อยากจะเห็นหนอนของป๊าละสิ "

“ ของกาลิคก็มีไม่เห็นอยากจะดูเลย แบร่~ “ มันแลบลิ้นใส่ผม ก่อนจะลุกจากเก้าอี้เอาจานตัวเองไปไว้ที่อ่างน้ำ ผมที่กินข้าวทั้งของตัวเองแล้วก็ของที่เหลือจากไอ้ขมจนเสร็จพอดีก็เดินไปยืนใกล้ๆมัน เปิดน้ำล้างจาน กาลิคก็วิ่งไปหยิบเก้าอี้ตัวเองมายืนให้สูงเหนือซิงค์น้ำขึ้นมาหน่อย

“ ทำอะไร "

“ กาลิคจะช่วยป๊าล้างจาน "

“ จริงเหรออออออ " ผมลากเสียงก่อนจะจุ๊บลงที่หัวมัน

“ กาลิคทำได้ กาลิคเคยช่วยอาขมล้างจานด้วยนะ " มันอวดผมก็พยักหน้ารับ แล้วส่งจานที่ที่แต่ฟองให้อีกคนล้างน้ำ

“ แล้วตกลงว่าวันนี้จะอาบน้ำกับป๊ามั้ย "

“ ม่ายยยยย "

“ ก็ไหนตอนแรกบอกอยากจะอาบ "

“ เอ้า! ก็ป๊าบอกเองว่า อาขมไม่ให้กาลิคอาบน้ำกับป๊าอะ " มันหันมาบอกผมก็พยักหน้ารับ

“ แค่อาขมบอกว่า ไม่ ก็คือ ไม่แล้วเหรอ " ผมถามอีกคนก็พยักหน้ารับ " เด็กดีจังเว้ย "

“ ก็อาขมไม่สบาย ถ้าดื้อ อาขมก็จะยิ่งไม่สบายไม่ใช่เหรอ งั้นกาลิคจะดื้อตอนที่อาขมสบายดีแล้วก็ได้ "

“ ไม่ดื้อตอนอาขมป่วยมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ไอ้ที่บอกว่า ค่อยดื้อตอนหายป่วยแล้วนี่คืออะไร ไอ้ตัวแสบ ได้เหรอ ? ไม่ดื้อก็ไม่ดื้อให้มันตลอดสิวะ " ผมถามอีกคนก็หัวเราะชอบใจก่อนจะเถียงออกมา

“ ป๊าไม่รู้เหรอ มีคนเคยบอกว่าเด็กซนก็คือเด็กฉลาดนะ เพราะงั้นกาลิคต้องซนมากๆ จะได้ฉลาดๆไง "  เหลือบมองมันที่อ้างออกมาแบบนั้น ผมก็ได้แต่กรอกตามองบน ..  ช่างกล้าจริงลูกกู " ป๊าเสร็จแล้วววว "

“ เสร็จแล้วงั้นก็ไปอาบน้ำ แล้วก็ นอนนน "

“ วันนี้กาลิคจะได้ดูการ์ตูนนานๆนะ " มันหันมาบอกผมก็พยักหน้ารับ

“ ครับๆ ทราบแล้วครับคุณชาย " เดินเข้าไปในห้องนอนของผมที่ดูสะอาดตากว่าปกติ อาจเพราะตัวทำรกอย่างผมไม่ได้อยู่ในห้องมาร่วมอาทิตย์ตั้งแต่แม่บ้านมาทำความสะอาดให้ ทุกอย่างก็เลยยังดูดีสุดๆ กาลิคจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองแล้วใส่ลงไปในตะกร้า

   มันที่เดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการอาบน้ำสระผมแปรงฟันก่อนจะแล้วเดินออกมาแบบหัวเปียกตัวเปียกไปหมด ผมยืนมองมันแบบไม่บอกว่าต้องทำอะไรบ้าง อยากรู้ว่ามันจะรู้มั้ยว่าตัวมันจะต้องทำอะไรบ้าง

    มือเล็กๆจัดการเอาผ้าขนหนูเช็ดไปตามตัวแล้วก็ผมจนแห้ง หยิบแป้งมาทาตัวเสียทั่ว แล้วก็เทแป้งอีกครั้งจนแต็มมือโป๊ะลงที่หน้าเต็มๆ กลายร่างเป็นเด็กผีจูออนเรียบร้อย ทั้งฝุ่นทั้งกลิ่นหอมของแป้งเด็กก็คลุ้งไปแทบจะทั้งห้อง มัดจัดการใส่ชุดนอน จากนั้นก็เดินมานั่งบนเตียงก่อนจะยิ้มให้ผม

“ ป๊าา เสร็จแล้ว "

“ ไหนมาเช็ค อาบน้ำสะอาดมั้ย " หย่อนตัวลงนั่งที่เตียง เจ้าตัวเล็กก็ดึงตัวเองเข้ามานั่งตัก ผมหอมแก้มมันไปเต็มฟอดและแน่นอนฝุ่นแป้งแม่งก็เข้าไปปอดจะกูสำลัก " แค่กๆ " ปัดแป้งที่เหมือนไปกระจุกอยู่ที่ดวงตานั่น เกลี่ยให้มันทั่วหน้าอีกคนก่อนจะหอมอีกครั้ง

“  ป๊า~ กาลิคหอมมั้ย "

“ หอมชื่นใจจจ "

“ ไม่ๆ ป๊าต้องทำแบบนี้นะ ต้องทำแบบอาขม  " มันดึงตัวเองขึ้นกอดคอผมก่อนจะหอมลงไปแก้มแล้วบอก " ชื่นนนนนนนใจ ต้องบอกแบบนี้นะ "

“ งั้นมา! “ ผมจับหน้ามันก่อนจะหอมไปเต็มฟอด " หอมชื่นนนนนนนนใจ ไหนมาดูพุงหน่อย พุงน่าหอมมั้ย " ดันมาลงบนเตียงเปิดพุงกลมๆของเด็กน้อย บี้หน้าลงบนพุงงับเบาๆอีกคนก็หัวเราะลั่นถูกใจ

“ ป๊าา อย่าทามม ป๊าไปอาบน้ำเลยยยย " มันว่าเสียงใสผมก็ยืดตัวเองนอนหนุนตักมันกาลิคก็ดิ้นหนี

“ อะไร  มาให้หนุนตักหน่อย "

“ ม่ายยยเอา กาลิคจะดูการ์ตูน " เสียงเล็กๆว่าก่อนจะวิ่งลงไปยืนที่ทีวี จัดการเปิดทีวีเรียบร้อยก่อนจะกดช่องการ์ตูนแล้วมานั่งบนเตียงต่อ " ป๊าไปอาบน้ำสิ "

“ ขี้เกียจอะ หอมแก้มหน่อย เดี๋ยวป๊าไป ป๊าไม่มีแรง เสริมแรงที่แก้มให้หน่อย " พอบอกแบบนั้น จมูกเล็กๆก็ก้มลงมาหอมแก้มผม ที่ก็นั่งยิ้มอยู่นานกับท่าทางน่ารักนั่น ก่อนจะตัดสินใจลุกพาตัวเองไปอาบน้ำ

   กลับมานั่งดูการ์ตูนข้างๆไอ้ตัวเล็กหลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมเงยหน้ามองเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆจนการ์ตูนเรื่องที่ดูอยู่นั่นจบลงผมก็หันไปบอกมัน " ปิดทีวีละนะ จบแล้ว นอนได้แล้วละ "

“ ก็ได้ " มันล้มตัวลงนอนอข้างผมคว้าเอาลูกหมีของตัวเองมากอดไว้ผมก็ห่มผ้าให้ แววตากลมๆจะเงยหน้าขึ้นถาม " ป๊า พรุ่งนี้อาขมจะหายป่วยรึเปล่า "

“ ไม่รู้สิ ถามทำไม คิดถึงอาขมแล้วเหรอ "

“ คิดถึง กาลิคอยากจะนอนกอดอาขม " เสียงที่ทำให้ผมหลุดยิ้ม ก่อนที่เด็กน้อยจะพูดต่อออกมา " แต่ว่ากาลิคก็อยากจะนอนกอดป๊าน้าา " มันดึงตัวเองเข้ามากอดผมไว้คงคิดว่ากลัวว่าผมจะน้อยใจมันอยู่แน่ๆเลย และบางทีผมก็คิดว่ากาลิคเหมือนไอ้ขมมากกว่าคนเป็นพ่ออย่างผมเสียอีก อย่างเรื่องความอ่อนโยนที่คิดถึงใจคนอื่น กาลิคก็ได้คนสอนอย่างไอ้ขมมาเต็มๆเลย

“ กาลิคเนี้ยย รักอาขมจังนะ "

“ รักกก รักม๊ากกกกกกกกมาก " มันบอกก่อนจะยกมือขึ้นบอกปริมาณความรักที่มันมีให้อีกคน " แล้วป๊าละ ป๊ารักอาขมมั้ย "

“ รักสิ " ผมตอบไปแบบไม่ต้องคิดนาน ก่อนจะกางมือออกไม่แพ้มัน " รักม๊ากกกกกกมากเหมือนกัน " หันมองมันที่มองผมอยู่เด็กน้อยก็ยิ้มกว้าง " นี่ กาลิค ป๊าถามอะไรหน่อยสิ "

“ ถ้าเราสามคนอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปจะได้มั้ย หมายถึงว่ามี ป๊า มีกาลิค แล้วก็อาขม เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปแบบนี้ได้มั้ย "

“ ด้ายยยยยย " กาลิคลากเสียงตอบ " ทำไมจะได้ไม่ได้ละป๊า "

“ ก็มันแปลกนะ ปกติแล้ว จะต้องมีแม่ มีพ่อ แล้วก็มีลูก แต่ครอบครัวของกาลิคจะมี ป๊า มีอาขม แล้วก็มีกาลิค แบบนั้นก็เลยต้องถามกาลิคไงว่า ได้มั้ย "

“ ด้ายยยยยยยยย " อีกคนยังย้ำคำพูดเดิมตอบผม มือเล็กที่เอื้อมมือมากอดผมไว้ " ถ้ามีอาขม มีป๊า ยังไงก็ด้ายยยย "

“ แต่เพื่อนอาจจะมองว่าครอบครัวของกาลิคแปลกนะ "

" ไม่แปลกนะป๊า " มันโบกมือปฎิเสธผม " ครอบครัวของคนอื่นๆที่เค้ามีเหมือนกันๆ มันก็น่าเบื่อนะ เพราะเหมือนกันไปหมดเลย แต่ของกาลิคจะไม่น่าเบื่อ เพราะว่า ครอบครัวของกาลิคไม่เหมือนคนอื่น มันดีแล้วนะป๊า~ "

" อย่างงั้นเหรอ "

" อื้ม! " ใบหน้าน่ารักพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มกว้าง " แค่มีป๊ากับอาขมอยู่กับกาลิคแบบนี้ตลอดไป กาลิคจะไม่เหมือนคนอื่นก็ได้ แค่มีป๊ากับอาขมก็พอ "

“ สำหรับป๊า มีแค่กาลิคแล้วก็อาขมก็พอแล้วละ " ผมบอกอีกคนก็กอดผมแน่นขึ้นไปอีก

“ เหมือนกาลิคเลยยย " รอยยิ้มใสๆที่บอก " แล้วก็นะป๊า "

“ อะไรครับ "

“ ถ้าอาขมอยู่ อาขมก็จะบอกเหมือนกันเลยว่า แค่มีป๊ากับกาลิคอยู่ก็พออออ "

“ อย่างงั้นเหรอ " ผมถามอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ อื้ม!! ก็อาขมรักเราสองคนม๊ากมากเลยนี่น่า “  ถ้าอย่างงั้นเห็นที ถ้าไอ้ขมหายป่วย ต้องไปลองถามดูแล้ว ว่ารู้สึกแบบนั้นเหมือนกันรึเปล่า


.......................................................

เขียนตอนนี้แล้วมันตันๆอะ เขียนไม่ค่อยออก ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่น่า..
ไม่น่าจะเขียนรวมหลายๆ ตอนแล้วมานั่งตัดทีแบ่งละตอน เพราะมันจะทำให้ เนื้อหาส่วนต้น ม้างง
ไม่ค่อยมีไรเลย ส่วนเนื้อหาแม่งจะไปกองๆ อยู่ท้ายๆ ในสิ่งที่เขียน
ทั้งๆที่อยากจะเขียนให้กาลิคดูป่วนกว่านี้
แต่ก็เหมือนจะเขียนออกมาได้แค่นี้ ออกไปแนวเชิงน่ารัก และ อบอุ่นมากกว่า แสบๆคันๆ ไงไม่รู้วะ
#ยิ้มแห้ง แล้วพอแก้ ก็ไม่รู้จะใส่อะไรเข้าไปตรงไหนดี
ก็เอาเป็นว่า ขอให้เป็นตอนที่อ่านแล้วยิ้มแล้วกันนะคะ #รู้สึกผิดเบาๆ
โอเคค ยังไงก็ ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ ฝากแชร์ฝากไลค์ในเพจหนมมี่ด้วย

ป.ล. เมื่อตอนที่แล้วเรื่องหน้ากากอนามัย มีคนอ่านแจ้งมาว่า ข้อมูลที่ถูกต้องคือ ใส่ด้านไหนก็ได้
ไม่ใช่ว่า เอาสีเขียวออกคือกันเชื้อโรค ไม่ใช่ คือเราสามารถใส่ได้ทั้งสองด้าน ป้องกันได้หมด
ทั้งนี้ เนื้อหาตอนหน้า จะถูกแก้ไขให้นะคะ ขออภัยในความผิดพลาดด้านข้อมูลจ้า  :sad4:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:


หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 07-07-2017 20:57:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-07-2017 21:37:21
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 07-07-2017 21:39:24
เด็กน้อยน่ารัก พูดรู้เรื่อง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-07-2017 21:47:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 07-07-2017 21:48:57
มีการทำเสียงเคาะประตูให้คนป่วยเปิดด้วย แสบเหลือเกินกาลิค
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-07-2017 21:51:29
เด้กบ้า ไม่อยากให้โตเลย กลัวจะไปตีกะคนอื่นเค้า 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-07-2017 22:04:03
คุณพยาบาลน่ารัก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 07-07-2017 22:04:30
วรัยส์! เด็กมันน่ารัก รู้งานดีจริงๆ :katai3:

ปอลิง.เรื่องการใส่หน้ากากอนามัยเราว่าศึกษาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือก่อนจะดีกว่านะคะ จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องน่าเชื่อถือ ที่เรารู้มาคือใส่สีเข้มไว้ด้านนอกอย่างเดียว ไม่ว่าผู้ใส่จะป่วยหรือไม่ก็ตาม ถ้าถูกผิดอย่างไรก็ขอโทษด้วยนะคะ :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-07-2017 23:35:32
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 07-07-2017 23:42:46
ป๊าเนียนเลยนะ หอมแก้มอาขม :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 08-07-2017 06:32:31
ถ้ากาลิคจะน่ารักขนาดนี้นะ~~~ :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-07-2017 07:07:18
กาลิค น่ารักจริงๆ  :mew1: :mew1: :mew1:
ภาพ ขม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 08-07-2017 08:26:25
 :กอด1: หัวหอมน่ารักจังเลยน้า~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 08-07-2017 08:34:04
คือ หัวหอมจำเป็นต้องน่ารักมากขนาดนี้ไหมลูก น่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 08-07-2017 08:56:35
หลงหัวหอมหนักมากเลยเนี่ย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 08-07-2017 09:07:53
กาลิคคคคคคคคค ทำไมน่ารักอย่างงี้ อยากเอาไปเลี้ยงที่บ้านเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-07-2017 10:34:05
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 08-07-2017 10:34:17
 :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 08-07-2017 10:41:09
กาลิคน่ารักจุยเวย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 08-07-2017 14:20:50
กาลิคน่ารัากกกกกก  ตอนทำเสียงก๊อกๆๆ โคตรน่ารักเลยยยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 08-07-2017 15:07:26
กาลิคน่ารัก เด็กซนเป็นเด็กฉลาดเลยต้องซนเยอะ555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-07-2017 17:10:21
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 08-07-2017 17:13:59
น่ารัก น่าหยิกแก้มจริงๆเลยหัวหอม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 42 - 7.7.60} #หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-07-2017 00:17:08
55555 หัวหอมฉลาดมาก รู้ไปหมด เกรียนด้วย แล้วรักอาขมเยอะมากๆๆๆ ดีที่ไม่งอแง
กาลิคทำให้ขมแบบนั้น บ่งบอกว่าติดภาพที่ขมทำให้มาก น่ารักดี ฉลาดพูด ฉลาดทำ

ภาพเจอหัวหอมเกรียนใส่หลายดอก แต่ก็นั่นแหละนะ เด็กอะเนาะ แต่ที่แน่ๆ ภาพได้กำไรนะ
ขมป่วยที น่ารักไปเลย ตามใจทั้งพ่อทั้งลูก

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 09-07-2017 20:30:10

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 43

   เผลอหลับไปพร้อมกับกาลิคหลังจากที่พยายามทำให้หลับอยู่นานโดยบอกว่า ให้หลับตา ถ้าใครหลับก่อนจะชนะ แต่สุดท้ายผมเองที่คิดว่าจะแค่แกล้งหลับ กลับหลับไปจริงๆซะอย่างงั้น ลืมตาตื่นขึ้นมาดูเวลาประมานตีสอง ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียงหันไปห่มผ้าให้ไอ้ตัวเล็กที่นอนกางแขนกางขายึดครองพื้นที่บนเตียงแบบเต็มที่ ก้มหน้าลงหอมแก้มกลมๆ ก่อนจะลุกออกไปจากห้องเพื่อดูว่าคนป่วยที่อยู่อีกห้องนึงเป็นยังไงบ้าง

   เปิดประตูเข้าไปในห้องผมก้มลงมองคนที่ยังหลับสนิทอยู่ด้วยพิษไข้ หยิบเจลเย็นที่คลายความร้อนออกมา ขมบรือตาตื่นขึ้นมา

“ มึง "

“ เป็นยังไบ้าง " ผมถาม มันก็พยักหน้ารับแต่กลับไม่พูดอะไรต่อ " พยักหน้ารับนี่คืออะไรวะ โอเค ไม่โอเค อะไรยังไง "

“ ดีขึ้นมั้ง นิดนึง " มันว่าเสียงอ่อนผมก็ยื่นมือไปจับที่หน้าผากมัน ก็ดีขึ้นนิดหน่อยแล้วละ ตัวไม่ร้อนมากเหมือนช่วงกลางวันที่ผ่านมาแล้ว " กาลิคหลับแล้วสินะ "

“ ตีสองแล้วนะมึง จะให้มันทำเหี้ยไรอยู่ละ "

“ ก็จริง " ขมตอบ " นี่กูถามอะไรมึงออกไปวะ ถ้าจะบ้า " มันว่ายิ้มๆผมก็หย่อนตัวนั่งลงบนเตียง

“ เช็ดตัวหน่อยมั้ย จะได้สดชื่น "

“ ไม่เอาอะ ขี้เกียจจะลุก " ร่างบางพลิกตัวเองหนีผมที่ก็ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าของมัน หยิบผ้าขนหนูสีน้ำเงินผืนเล็ก แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ชุบผ้านั้นจนเปียกบิดหมาดๆแล้วเดินกลับมาที่เตียง ดึงผ้าห่มของมันออกและกำลังจะเอื้อมมือไปดึงชายเสื้อมันขึ้นอีกคนหันกลับมามองด้วยความตกใจ " จะทำอะไรวะ! “

“ เช็ดตัวให้มึงไง ก็มึงบอกมึงขี้เกียจจะไปทำเองอะ "

“ แต่มึงไม่ต้องทำให้ก็ได้ " มันว่าก่อนจะหันกลับมานอนมองหน้าผม สายตากลมที่มองมาไม่รู้เพราะพิษไข้หรือว่าอะไรแต่ผมเห็นแก้มมันแดงจัด

" ทำไมทำให้ไม่ได้วะ เมื่อก่อนมึงป่วยกูก็เช็ดตัวให้บ่อยๆ มึงยังนอนฉีกแข้งฉีกขาให้กูทำให้ได้เลย " หนำซ้ำยังเคยให้กูเช็ดให้สองรอบอีก แล้วแถมต้องเช็คทั้งตัวยังกับอาบน้ำให้ " นี่อย่าบอกนะว่าอาย.. ไม่ทันแล้วมั้งกูว่า "

" กูไม่ได้อายเว้ย! ” มันเถียงกลับเสียงดัง " กูแค่หนาวกูไม่อยากจะให้ตัวกูเปียก "

" มันไม่ได้เปียกแบบเอาน้ำราด มันคงไม่หนาวอะไรขนาดนั้นหรอก เช็ดตัวบ้าง ความร้อนในตัวมึงจะได้ระบายออกไปบ้างไง " ไม่รอให้มันตอบตกลง ผมดึงผ้าห่มออกก่อนจะดึงแขนมันขึ้นมาเช็ดเบาๆทั้งสองข้าง ร่อนเสื้อนอนที่มันสวมขึ้นถึงกลางอกตอนที่ผ้าขนหนูเปียกเช็ดเข้าที่ลำตัว คนป่วยก็หดหน้าท้องเกร็ง " เป็นอะไรของมึง "

“ เปล่า " ขมบอกปัด " มึงไม่ต้องเช็ดก็ได้ กูโอเค หายแล้วเนี้ย "

“ ทำไม มึงกลัวอะไร " ผมเหลือบมองตัวมันก่อนจะหน้ามองหน้า ใบหน้าหวานที่ไม่กล้าแม้จะสบตาผม " กลัวกูจับหัวนมมึงเหรอ " เอื้อมมือไปจับหัวนมมันตอนที่พูดเสร็จ ไอ้ขมก็ตาโตพลางปัดมือผมออก

“ ไอ้เชี้ย! ทำอะไรของมึงวะ "

“  มึงอะ อะไรของมึง ปกติเวลามึงป่วยกูก็เช็ดตัวให้มันก็ปกติ แล้วทำไมวันนี้เป็นอะไรวะ จับนิดจับหน่อย มึงก็ปัดมือกูละ แล้วไอ้นมเนี้ยทำเหมือนกูจับครั้งแรก เราก็เล่นบี้หัวนมกันบ่อยๆไม่ใช่เหรอวะ แล้วมึงจะซีเรียสเพื่อ ? "

“ ก็ตอนนี้กับตอนนี้มันไม่เหมือนกันแล้วนี่! “ ขมเอ่ยเสียงแข็งก่อนจะยันตัวขึ้นนั่ง เสียงที่บอกว่าไอ้เหี้ยนี่ เริ่มจะหายป่วยละ

“ ไม่เหมือนกันยังไง " เสียงผมเบาลงอีกขมก็ถอนหายใจออกมา

“ ก็ตอนนั้นกูไม่รู้ว่ามึงรู้สึกยังไงกับกูนี่ แต่ตอนนี้กูรู้แล้ว จะให้กูนอนนิ่งๆ ให้มึงคนที่บอกว่าชอบกู มาจับเนื้อต้องตัวกูอะนะ  แล้วถ้ามึงมีอารมณ์Kแข็งขึ้นมาจะทำยังไงวะ ไม่ได้นะเว้ย กูยังไม่พร้อม กูอาจจะมีขี้คาตูดอยู่ก็ได้นะ! " ผมเงียบตอนที่ฟังเหตุผลของมัน ใบหน้านิ่งของผมที่แทบไม่แสดงความรู้สึกอะไร ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ผมบอกขม

“ กูยังไม่ได้คิดเหี้ยอะไรเลยนะ คิดจะเช็ดตัวให้มึงเฉยๆนี่แหละ "

“ ก็.. ก็เผื่ออะ เรื่องแบบนี้มันควบคุมไม่ได้นี่ มึงก็รู้ Kแข็งขึ้นมา อยากจะสอด มันก็จะสอดแหละ "

“ นี่มึงคิดไปถึงจะเซ็กส์กับกูแล้วเหรอ กูยังไม่เคยคิดเลยนะ " ตอแหลจริงๆกู สถบกับตัวเองในใจก่อนจะยักคิ้วให้มัน "  อะไรขม ไหนมึงบอกกูว่า เรื่องที่กูขอมึงเป็นแฟนมึงไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฎิเสธ.. แต่ไหงคิดเรื่องแบบนั้นกับกูแล้ววะ หื่นวะ อยากอ๋อ ? “

“ กูไม่ได้คิดเว้ยไอ้เหี้ย! “ มันเถียงออกมา " แต่กูแค่คิดถึงคนทั่วๆไปที่เค้า แบบว่า อยู่กับคนที่เค้าชอบ มันก็ต้องแบบ แบบว่า คิดแบบนั้นกันบ้างละวะ มึงเป็นพระอิฐพระปูนรึไง ถึงผ้าเอามาถูบนกูเหมือนพระเอกจันดาราแล้วจะแบ๋วไม่คิดไรอะ แต่ถึงไม่คิดอะไรกันมันก็ต้องคิดแหละวะ ถูกมั้ยละ "

“ ไม่ถูก " ผมส่ายหน้า " เมื่อก่อนกูเช็คตัวให้มึงตอนมึงป่วยกูยังไม่ได้คิดอะไรกับมึง แม้แต่ตอนนี้เวลามองมึงก็แค่เห็นว่ามึงน่ารัก กูไม่เคยมองไปที่ตูดมึงแล้วรู้สึกอยากจะเอาด้วยเหรอสักครั้งเดียว จริงๆนะ " ก็มีบ้างที่แบบอยากจะมีอะไรกันหลังจากที่รู้สึกว่า ความชอบในใจมันมากขึ้น แต่มันก็ไม่ได้เป็นมากถึงขั้นที่ว่าแต่ละคืนนอนตอนจะนอนก็คิดว่าอยากจะเอากันแรงๆ มันก็ไม่ใช่ มันเป็นความรู้สึกที่อยากจะลูบไล้ อยากจะกอด อยากจะจูบแบบคนรักมากกว่า ไม่ได้คิดถึงเซ็กส์อะไรแบบนั้น " มึงอย่าเอาความคิดหื่นๆ มายัดเยียดใส่สมองกูได้มั้ยละขม มึงกับกูไม่เหมือนกันนะเว้ย "

“ ไอ้เหี้ยย " ขมด่าออกมาตอนที่ผมพูดเย้า " มึงก็คิด! ไม่ต้องมาทำเป็นพูดว่ากูยัดเยียดความคิดให้มึงหรอก "

“ มาๆเช็ดตัว กูไม่คิดอะไรหรอก เดี๋ยวคิดแล้วจะบอก จะขอมึงตรงๆเลย " ผมว่าอีกคนก็ขมวดคิ้วแล้วพิงหลังตัวเองลงกับเตียง " ถอดเสื้อออกจะได้เช็ดง่ายๆ " พอผมบอกมันก็หยุดชะงัก " อย่าลีลา หรือจะให้กูถอดให้ "

“ เออๆ ถอดแล้ว สัด " มันถอดเสื้อตัวเองออก ก่อนจะหันหลังมาทางผม เช็ดแผ่นหลังอุ่นๆของมันจนทั่ว ขมพลิกตัวเองกลับมานั่งจ้องหน้ากับผม ไล่เช็ดไปตามตัวก่อนจะเลื่อนขึ้นมาที่หน้าอก เช็ดหมุนวนแกล้งมันอยู่แบบนั้นก่อนจะเอานิ้วสะกิดยอกอกของมันอีกคนส่งเสียงขัดใจ " ชิส์! มึงนี่ "

“ โทษทีๆ ก็มือมันไปโดนอะ " เช็ดจนมาถึงขอบกางเกงผมก็บอก " คราวนี้ก็ถอดกางเกงออก "

“ ไม่ต้องก็ได้มั้งกางเกงอะ เช็ดแค่ครึ่งตัวก็พอแล้ว นี่กูก็ดีขึ้นแล้วแหละ "

“ เหรอ จริงๆกูอุตส่าห์จินตนาการไว้ " ผมแกล้งพูดให้มันคิด

“ จินตนาการอะไร "

“ แบบว่าเช็ดตัวส่วนล่างใช่มั้ย ก็เช็ดตัวหน้าปกติ แต่พอเช็ดตูดก็ให้มึงทำท่าหมาหันตูดมาทางกู  กูก็จะเช็ดให้เบาๆ คราวนี้พอเอาผ้าขนหนูถูที่รูตูดมึงก็จะฟิน แล้วก็ร้องว่า อ้าาา ภาพ อย่างงั้น "

“ จากนั้นไม่นาน กูก็ขี้ใส่มือมึง " มันคว้าผ้าขนหนูที่ผมถืออยู่ เขวี้ยงใส่หน้าผมด้วยสีหน้าหงุดหงิด " จะไปไหนก็ไปเลยไอ้เหี้ย "

“ ฮ่าๆ อะไรวะ กูแค่พูดแกล้งเล่นเอง " ผมบอกก่อนจะหัวเราะแต่เหมือนอีกฝ่ายจะทำหน้ามุ่ยไม่หาย เดินเข้าไปในห้องน้ำ ซักผ้าขนหนูแล้วบิดให้แห้งอีกครั้งเดินมานั่งบนเตียงผมก็เช็ดหน้าแล้วก็ลำคอให้มัน " เป็นไงบ้าง สดชื่นขึ้นบ้างมั้ย "

“ ก็ดีอะ "

“ แล้วอาการป่วยเป็นยังไง "

“ ก็ดีขึ้นแล้ว ไม่ปวดหัวแล้ว แต่ก็ยังเจ็บๆคออยู่ "

“ กูว่าก็คงดีแหละ มีแรงเถียงกับกูขนาดนั้น นี่ถ้าบอกว่าไม่ดีขึ้น กูไม่เชื่ออะ บอกเลย " ขมแบะปากมอง ผมก็หลุดหัวเราะออกมามองหน้ามันก่อนจะไล่สายตาลงมองต่ำที่หน้าอก จะว่าไปหัวนมมันก็เหมือนจะต่างไปจากเดิมนะ มันแดงๆแล้วตรงฐานก็นูนๆ แปลกไปจากปกติที่ตรงฐานจะแบนๆแล้วมีติ่งนิดเดียวอยู่บนนั้น

“ เชี้ยภาพ มองอะไร " เสียงถามที่ทำให้ผมดึงสายตาจากหน้าอกของมัน เหลือบไปมองทางอื่น

“ ก็เปล่า "

“ มองนมกูก็บอก ทำไม ? เดี๋ยวนี้ชอบคนนมแบนเหรอ สเป็คตกต่ำนะมึง เมื่อก่อนชอบคนนมแบบเต็มไม้เต็มมือไม่ใช่รึไง " ไอ้ขมแซวผมก็เงยหน้ามองหน้ามัน

“ กูชอบมึงอะ มึงคิดว่านมตัวเองเป็นแบบไหน กูก็ชอบคนนมแบบนั้นนั่นแหละ " ยักคิ้วให้อีกคนที่ก็หน้าแดงขึ้นมาทันที สีหน้าหงุดหงิดของมัน ผมหลุดยกยิ้มกับท่าทางที่หมายจะพูดแกล้งผม แต่สุดท้ายกับเป็นผมที่แกล้งมันแทน " เอาจริงๆรู้มั้ย กูมองทำไม "

“ มองทำไม "

“ มองว่าเมื่อไหร่มึงจะใส่เสื้อสักที กูอยากจะลองดูดหัวนมมึงจะตายอยู่แล้วเนี้ย "

“ ไอ้เหี้ย! “ มันตะโกนขึ้นมาเสียงดังก่อนจะคว้าเอาเสื้อตัวเองขึ้นมาใส่แบบเอาหน้าไว้หลัง เอาหลังไว้หน้าด้วยความรีบ  " ออกไปเลยมึง อยู่กับมึงแล้วไข้กูจะขึ้น " มันล้มตัวลงบนเตียงคว้าเอาหมอนเข้ามากอดก่อนจะซุกหน้าลงไปแต่ผมก็แอบเห็นหูแดงๆที่กำลังเขินของมัน

“ นี่ กูมีอะไรจะบอก "

“ อะไร " มันตอบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจากหมอน

“ จริงๆ กูก็อยากจะมีอะไรกับมึงจริงๆนั่นแหละ แต่ให้ความสัมพันธ์เรามันชัดเจนขึ้นกว่านี้ก่อนน่าจะดีกว่า "

“ ออกไปเลยไอ้สัด ถ้าจะพูดแบบนั้น "

“ อ้อ แล้วมีอีกอย่างที่จะบอก "

“ อะไรอีก! “

“ เมื่อกี้กูแอบจินตนาการว่าได้ดูหัวนมมึงด้วยแหละ "

“ พอแล้ว! ออกไปเลย! ไอ้เหี้ย “ ขมคว้าหมอนโยนใส่ผมแต่ทว่าผมก็หลบทัน

“ แล้วก็มีอะไรจะบอกอีก "

“ ไม่ต้องพูดแล้ว พออออ " มันลากเสียงหงุดหงิด มือสองข้างก็ยกขึ้นปิดหูตัวเองไว้แน่น

“ มึงใส่เสื้อผิดด้านน่ะ "  พอพูดเสร็จร่างบางก็ก้มลงมองเสื้อตัวเองก็ยกยิ้ม " สงสัยอยากจะถอดให้กูดูอีกรอบ ยั่วกุูละสิท่า "

“ ไม่ใช่เว้ย ไอ้เหี้ยยย !! “
   ...........................................................

   รู้สึกหนักที่ท้องตั้งแต่ลืมตาตื่นเช้าขึ้นมา ผมคว้าเอาเท้าเล็กๆของไอ้ตัวแสบที่ทับอยู่บนตัวออก มองดูเวลาที่ตอนนี้ก็เข้าใกล้เวลาเก้าโมงเช้าเข้าไปแล้ว เอื้อมมือไปกอดกาลิคไว้หอมแก้มมันไปเต็มฟอดก่อนจะคว้ามือถือขึ้นมาเช็คข่าวสารอะไรนิดหน่อย ดึงตัวเองขึ้นมานั่งบิดขี้เกียจอยู่สักพักก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

“ อ้าว ตื่นแล้วอะ " เสียงทักของคนที่คิดว่าคงกำลังนอนป่วยอยู่เอ่ยขึ้น ขมที่กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ในครัว ผมก็เดินเข้าไปหา

" ทำไมวันนี้ตื่นเร็ววะ "

" ก็เมื่อวานนอนมาทั้งวันแล้วอะ อาการดีขึ้นแล้วด้วย กูก็เลยตื่นมาเดินบ้างสิ " มันบอกผมก็พยักหน้ารับ

" แล้วนี่ทำไร "

" ชงไมโลกิน เอามั้ย ชงเผื่อ ที่กูก็ชงเผื่อกาลิคด้วย "

" ก็ดี " ผมบอกก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็น " เมื่อวานกูซื้อแซนวิชมาด้วย แบบที่ไอ้กาลิคกินนะ มึงจะกินมั้ย "

" ได้ กินอะไรก็ได้ " มันพยักหน้ารับ " แล้ววันนี้ตอนเที่ยงกินอะไรกันดี "

" แล้วมึงอยากจะกินอะไร "

“ เอาง่ายๆก็พอมั้ง สั่งมากินเอาละกัน กูคิดว่าวันนี้คงเป็นอีกวันที่กูคงกินแล้วนอนอะ รู้สึกยังมีไข้อยู่เลย " เอื้อมมือไปจับหน้าผากมันตอนที่อีกคนบอกแบบนั้น ก็จริงอย่างที่มันพูด ตัวมันยังอุ่นๆอยู่แต่ก็ไม่ได้ร้อนจัดเหมือนเมื่อวาน " ตัวไม่ร้อนมากแล้วใช่มั้ย ไม่ต้องไปหาหมอแล้วเนอะ "

“ มึงนี่เป็นอะไรกับหมอนัก ทำไมถึงไม่ชอบไปโรงพยาบาลวะ "

“ ก็กูไม่ชอบอะมันแพง ส่วนโรงพยาบาลรัฐถ้าไปก็เสียเวลาแทบจะทั้งวันอีก ป่วยแค่นี้แดกยาแล้วนอนเยอะๆเดี๋ยวก็หาย  " ร่างบางว่าก่อนจะยกไมโลขึ้นชิม " อื้ม อร่อยละ "

“ แล้วนี่กาลิคยังไม่ตื่น "

“ ยัง "

“ เมื่อคืนนอนกันกี่โมงวะ ทำไมมันตื่นสายจัง "

“ ก็ไม่ดึกหรอก เวลาปกติของมันนั่นแหละ มึงไม่ต้องไปสนใจหรอก ปล่อยให้มันนอนตื่นสายบ้างมันจะได้นอนเต็มอิ่ม " ผมบอกปัดอีกคนก็พยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบแซนวิชออกมาจากเตาไมโคเวฟ

“ แล้วเที่ยงนี้มึงจะกินอะไร "

“ คงไปหาอะไรกินในห้างแหละ แล้วเดี๋ยวซื้อมาให้มึงแล้วกัน มึงจะเอาอะไร เมนูเดิมมั้ย " ผมถามขมพยักหน้ารับ ก็ไม่พ้นไก่ย่างถ่านอะไรของมันนั่นแหละ ชอบเหลือเกิน กินกี่ทีก็เมนูนี้  มองดูมันเคี้ยวแซนวิชก่อนจะซัดไมโลเข้าไปอีกแก้ว ผมยื่นยากับน้ำเปล่าให้มันอีกคนก็กินก่อนจะหันมายิ้มเฉ่งให้ " ยิ้มเหี้ยอะไร ไปนอนไป รีบหายได้แล้ว "

“ คร๊าบบบบบ " มันขานรับก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตัวเองเหมือนเดิม ผมหยิบเอาไมโลของกาลิคเข้าไปแช่ไว้ในตู้เย็น ส่วนของตัวเองก็กินมันเลยตรงนั้นพร้อมกับแซนวิชที่อีกคนอบให้แล้ว

   กาลิคตื่นนอนหลังจากไอ้ขมเข้าไปนอนต่อได้ไม่ถึง 20 นาที มันที่นอนงอแงหลังจากตื่นอยู่สักพัก พอบอกว่ายิ่งงอแงอาขมก็จะยิ่งป่วย หายช้า พอได้ยินแบบนั้น เด็กเรื่องมากก็กลับมาพูดรู้เรื่องอีกครั้ง ไอ้ตัวเล็กลุกขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัว แล้วก็ออกมากินอาหารเช้า ทำการบ้าน ทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จสิ้นแบบไม่ต้องสั่งหลายที เป็นคำขู่ที่โคตรได้ผล จนไม่รู้ว่า นี่มันไม่อยากจะอยู่กับพ่อแบบผมจนต้องทำตามเพื่อให้อาขมหายป่วยไวๆ หรือแค่เป้นห่วงไอ้ขมเฉยๆ กันแน่

   เสียงทีวีที่กำลังฉายการ์ตูนเรื่องแล้วเรื่องเล่า ผมที่นั่งดูกับมันเพลินๆ เงยหน้าขึ้นมาอีกที เวลาบนผนังห้องก็บอกกับผมว่า ได้เวลาออกไปกินอาหารเที่ยงแล้ว

“ กาลิคไปกินข้าวกันไป " ผมบอกก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเล็กๆของอีกคนที่ก็ลุกขึ้นทันที

“ ไปครับ " มันว่าก่อนจะหันมาบอกผม " กินไก่ทอดเหมือนเดิมนะป๊า "

“ ไม่ได้นะ วันนี้ต้องไปกินอย่างอื่น ป๊าจะซื้อข้าวให้อาขมกินด้วย "
“ แต่วันนั้นป๊ายังพากาลิคไปกินไก่ทอดแล้วก็ค่อยกลับมาซื้อข้าวให้อาขมได้เลย " มันเถียง แววตาที่มองมาแบบกดดัน นี่ทำได้จะเอื้อมมือไปบี้แก้มแรงๆสักทีหมั่นไส้ หัวหมอจริง

“ อาขมไม่สบายอยู่ อย่าดื้อสิ " ผมก้มลงไปบอกมันอีกคนก็ขมวดคิ้ว เห็นทีว่าถ้าไม่ใช่มุกนี้ผมคงต้องเถียงกับไอ้ตัวแสบอยู่อีกนาน " กาลิคจะดื้อเหรอ เดี๋ยวอาขมรู้ว่าไปแอบกินไก่ทอดร้านนั้น อาขมจะเสียใจนะ อยากจะทำให้อาขมเสียใจเหรอ "  เด็กน้อยเงียบผมก็ยกยิ้ม กับท่าทางที่เปลี่ยนไปของเจ้าตัวเล็ก กาลิคหน้าเศร้าลงมันพยักหน้ารับแบบจำยอม

“ ก็ได้ จะไม่ทำให้อาขมเสียใจไปกินข้าวก็ได้!” ตะโกนขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดมันหันหลังหนีก่อนจะวิ่งตรงไปที่ห้องไอ้ขม

“ แล้วนั่นจะไปไหน "

“ จะไปหอมแก้มอาขมก่อนจะออกไปกินข้าวครับ ป๊าจะหอมด้วยมั้ยละ "

“ ไม่ละ ตามสบายเถอะจ้า " เพราะถ้าป๊าทำ มันคงตื่นมาแดกหัวป๊าละ ขนาดเมื่อคืนมันป่วยกว่านี้แกล้งมันนิดเดียวโวยวายบ้านแทบแตก

“ เสร็จแล้วไปกันเล๊ยยย " มือเล็กเดินมาคว้ามือผมให้เดินออกไปจากห้อง

“ แล้วนั่นอาขมทำอะไรอยู่ "

“ นอนนนนนน อาขมหลับสนิทเลย แก้มเป็นแบบนี้ " มันบี้แก้มตัวเองจนปากจู๋ผมก็ยิ้ม " อาขมน่ารัก ป๊าเข้าไปดูสิ "

“ น่ารักมากเลยเหรอ "

“ ม๊ากกกกกกก " ลากเสียงยาวใส่ผมก็เหล่ไปที่ห้อง " ป๊าไปดูสิ ไปดูๆ "

“ ก็ได้ กาลิคบอกให้ผมหรอกนะเนี้ย " ทำทีเป็นเดินเข้าไปในห้อง ผมก้มลงมองมันที่ก็เหมือนอย่างที่อีกคนบอก ขมกำลังหลับสนิทแก้มที่บี้ลงกับหมอน ดูน่ารักมากจริงๆ " ก็งั้นๆ ไม่เห็นจะน่ารักเลย "

“ ป๊าา " เสียงใสเอ่ยบอกตอนที่ผมปิดประตูห้องเรียบร้อย ก้มลงไปมองลูกชายตัวเอง " โกหกไม่ดีนะ เด็กไม่ดี"

“ ไปกินข้าวกันเถอะ รู้มากจริง ไอ้แสบเอ้ยย " จูงมือมันเดินออกมาจากห้อง หันไปล๊อคประตูเรียบร้อย แต่จู่ๆเสียงนึงก็ทักขึ้นมาก่อน   

“ พี่ภาพ น้องกาลิคจะไปไหนกันเหรอคะ " น้องมีนาที่กำลังปิดล๊อคห้องของตัวเอง เธอหันมายิ้มให้เราก่อนจะเดินตรงเข้ามาหา
 
   สาวร่างบางในสเป็คของไอ้ขมที่ช่วงนึงมันเคยเพ้อถึงจนเหมือนจะเป็นคนบ้า แต่ดูเหมือนตอนนี้จะเงียบหายไปละ ไม่เคยพูดถึงอีกเลย มีนาที่วันนี้แต่งตัวแบบชุดเดรสลายดอกไม้เล็กๆสีดำมีเสื้อยืดสีขาวอยู่ด้านใน ผมที่ถูกมัดจุกไว้อย่างดี โดยรวมก็น่ารักดี  แต่เหมือนผมจะไม่ค่อยถูกชะตากับเธอสักเท่าไหร่ อยากจะให้ไอ้กาลิคเรียกว่าป้ามีนาด้วยซ้ำ แต่ก็เกรงใจ 

“ อามีนาสวัสดีครับ " กาลิคก็ยกมือไหว้อีกคนก็ยิ้มกว้างก่อนจะถามต่อ

“ สวัสดีครับ น้องกาลิคสุดหล่อ แล้วนี่จะไปไหนกันเหรอ "

“ ไปกินข้าวกับป๊า แล้วก็จะไปซื้อข้าวมาฝากอาขมด้วยครับ " เธอหยุดนิ่งตอนที่กาลิคบอกแบบนั้น ใบหน้าสวยเงยหน้ามองผมด้วยสายตาตกใจอยู่หน่อยๆ ก่อนที่ผมเองจะเลิกคิ้วขึ้นเหมือนถามเธอเช่นกันว่า ตกใจอะไร

“ พี่ภาพ "

“ ครับ "

“ ตกลงว่ารู้แล้วเหรอ ว่าน้องกาลิคเป็นลูกใคร " เสียงเบาๆที่เอ่ยถามผมพยักหน้ารับ

“ ครับ รู้แล้วครับ ไปตรวจดีเอ็นเอมาวันก่อนน่ะ สรุปก็เป็นลูกพี่เองแหละ " ผมบอกเธอยิ้มๆ อีกคนก็พยักหน้ารับด้วยท่าทีอึ้งๆ ก็คิดว่าตกใจเรื่องอะไร เรื่องที่กาลิคเรียกผมว่าป๊านี่เอง

“ ตอนแรกมีนาคิดว่าลูกพี่ขม " เธอบอกผมก็เลิกคิ้วขึ้นมา เหมือนจะถามว่าทำไมเธอถึงคิดแบบนั้น " คือ..แบบว่า มีนาเห็นกาลิคสนิทกับพี่ขมมากน่ะค่ะเลยคิดแบบนั้น "

“ อย่างงั้นสินะ แต่ก็ไม่ใช่ลูกขมหรอก ลูกพี่เอง " ผมบอกก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวกาลิคที่ก็พูดออกมา

“ แต่อาขมก็เป็นครอบครัวของกาลิคเนอะ ป๊าเนอะ "

“ ช่ายยย " ลากเสียงยาวตอบมันผมก็เงยหน้าถามมีนา " แล้วนี่มีนาจะไปไหนเหรอ "

“ จะไปห้างนะคะ ไปซื้อของมาทำอาหารกินหน่อย พอดีมีนาอยากกินสปาเก็ตตี้น่ะค่ะ "

“ พี่เองก็จะไปห้างเหมือนกัน จะพาเจ้าตัวเล็กไปกินข้าว ทางเดียวกัน งั้นเดินไปพร้อมกันเลยแล้วกัน " ผมบอกเธอก็ยิ้มกว้างก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ค่ะ " กดลิฟต์ลงไปชั้นล่างพร้อมกันสามคน มีนาก็เอ่ยถามออกมาเสียงเบาๆ " พี่ภาพ มีนาขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย "

“ ครับ ว่าไง "

“ คือ .. “ เธอเหลือบมองกาลิค " แล้วแม่ของเด็กละคะ "

“ อ๋อ เราแยกทางกันแล้วละ จริงๆพี่กับเค้าก็เป็นแค่วันไนท์สแตนอะนะ เลยแบบไม่ได้อะไรกันหรอก " ผมบอกปัดๆแบบไม่ลงลึก ไม่ค่อยอยากจะให้กาลิคฟังเรื่องพวกนี้เท่านั้น

“ อย่างงั้นเหรอคะ งั้นก็โล่งอกไปที " เหลือบมองเธอที่พูดออกมาแบบนั้น เธอยิ้มเขินๆก่อนจะก้มลงมองไอ้ตัวเล็ก " แล้ววันนี้กาลิคจะไปกินอะไรกับป๊าเหรอ "

“ ไม่รู้ครับอามีนา " ไอ้ตัวเล็กตอบก่อนจะเขย่ามือผม " ป๊าๆ เราจะไปกินอะไรกัน "

“ เราจะไปกินอาหารญี่ปุ่นกันครับ "

“ ไปกินอาหารญี่ปุ่นครับอามีนา "

“ อย่างงั้นเหรอ งั้นก็กินเยอะๆละ " เธอเอื้อมมือมาลูบหัวอีกคนกาลิคก็พยักหน้ารับ " แล้วกาลิคอยากจะกินสปาเก็ตตี้รึเปล่า " มีนาว่าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม " พอดีมีนาจะทำสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ กับขนมปังชีสกินนะคะพี่ภาพ ยังไงเดี๋ยวมีนาทำเผื่อนะคะ แล้วจะเอาไปให้ที่ห้อง "

“ เอ่อ.. ไม่ต้องก็ได้ครับ เกรงใจ " ผมบอกปัดเธอแต่หญิงสาวก็แค่โบกมือไม่มาปฎิเสธ

“ ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ มีนาชอบทำอาหารอยู่แล้ว ถ้าคนที่เราชอบได้กินมันคงดีนะคะ " เธอว่าก่อนจะหยุดนิ่งเหมือนกับว่าตัวเองพูดผิด แต่ผมว่าไม่หรอก เธอตั้งใจพูดแต่แกล้งทำเป็นว่าพูดผิดมากกว่า " คือ มีนาหมายความว่าถ้าอาหารของมีนาทำให้คนอื่นกินละเค้าชอบได้ แบบนั้นก็ดีค่ะ ยังไงเดี๋ยวทำเสร็จแล้วจะเอาไปให้ที่ห้องนะคะ "

“ ถ้าอย่างงั้นก็ ขอบคุณมากนะครับ "

“ แล้วนี่พี่ขมละคะ " เธอถาม

“ ไม่สบายน่ะ แต่ดีขึ้นแล้วละ " มีนาพยักหน้ารับ เราที่เดินออกจากลิฟต์ตอนที่เดินออกไปจากคอนโดผมดึงกาลิคขึ้นมาอุ้มแล้วในตอนที่ใกล้จะข้ามถนน คนข้างกายที่ดูเงอะงะกับการข้ามถนนที่รถค่อนข้างเยอะผมก็หันไปบอกเธอ  “ ขอโทษนะ มีนา "  เอื้อมมือไปจับมือคนข้างกายไว้ จูงข้ามถนนไปฝั่งนึงของห้างก่อนจะปล่อยมือ

“ ขอบคุณมากค่ะพี่ภาพ จริงๆเวลามีนาจะมาห้างจะผ่านทางเชื่อมบีทีเอส เสียค่าผ่านทาง 15 บาทตลอดเลยเพราะไม่กล้าข้ามถนนนี่แหละ เคยโดนรถเฉี่ยวมาน่ะค่ะ "

“ ถ้าอย่างงั้น ถ้าไม่มีเพื่อนพาข้าม ไม่ข้ามน่ะดีแล้ว อันตรายคนขับสมัยนี้พอเป็นไฟเขียวก็เร่งกันสุดชีวิตละ มอเตอไซต์ก็ชอบเบียดอีก " ผมบอกเธอก็พยักหน้ายิ้มๆ เราเดินขึ้นไปบนห้างในระหว่างทางจู่ๆมีนาก็ถามขึ้น

“ พี่ภาพ พี่ภาพน่ะชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ  " เธอหันมายิ้มเขินๆให้ผมตอนที่ถามคำถามนั้นออกมา

“ ทำไมถึงถามละ "

“ ก็แค่อยากรู้นะคะ ไม่อะไรหรอก ไม่ต้องคิดมากนะคะ "

“ อื้ม พี่ไม่มีสเป็คหรอกเดี๋ยวนี้น่ะ  ถ้าเค้ารักกาลิค แล้วเข้าใจในตัวพี่ แล้วพี่รู้สึกว่าภายนอกมันปิ๊ง คบกันแล้วนิสัยก็ใช่ พี่คงก็โอเคกับเค้าแล้วละ ตอนนี้ก็คงมีเท่านี้แหละ "

“ อย่างงั้นเหรอคะ " มีนาพยักหน้ารับ ผมก็หยุดยืนอยู่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งใจมากินพอดี
 
“ ถึงร้านละ งั้นไว้เจอกันนะ " ผมบอกเธอยิ้มให้

“ งั้นมีนาทำสปาเก็ตตี้เสร็จจะเอาไปให้นะคะ " เธอว่า ผมก็พยักหน้ารับก่อนที่เราจะแยกกันไปคนละทาง ย่อตัววางกาลิคลงบนพื้นเจ้าตัวเล็กก็บอก

“ ป๊าๆ น้องรินเน่เคยบอกกาลิคว่า ถ้ามีคนมาถามเราว่า ชอบคนแบบไหน หมายถึงว่าคนนั้นอะ เค้าชอบเราแหละ "

“ รู้มาก " ก้มลงบอกมันอีกคนก็ยิ้มกว้างก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะ

“ อามีนาต้องชอบป๊าแน่เลยยยย กิ้วๆ " ไอ้ตัวแสบว่าก่อนจะชี้นิ้วมาทางผม มึงไปได้ท่าทางแบบนี้มาจากไหนกันวะไอ้ตัวแสบ " กาลิคจะเอาไปบอกอาขม "

“ บอกเพื่ออออ ไม่ต้องเลย ไปกินข้าว " ส่ายหน้าไปมากับความคิดของมัน แต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงหรอก เพราะสิ่งที่มีนาพูด หรือบอกกับผม มันก็สื่อออกมาอยู่แล้ว แค่ตลอดมาผมคิดว่า เธอชอบไอ้ขมไม่ใช่ผม มันก็เท่านั้นเอง แต่พอมารู้ความจริงแบบนี้นั่นก็แล้วไป ' ไม่ชอบเมียกูก็พอแล้วละ ' 

   เพราะส่วนตัวผมถือคติ ถ้าเราไม่สนใจซะอย่าง รักข้างเดียวยังไงก็ข้างเดียวอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ

..............................................

ภาพ แกล้งเมียทำไม.. ไม่ปล้ำไปเลยละ #ขมตบ
และภาพ..แกแย่มาก ในฐานะที่ฉันรักแกข้างเดียวมาตลอด ฉันเจ็บปวดกับคำพูดของแกมาก.. เพราะฉะนั้น
ฉันจะสั่งหัวหอม ไปจัดการแก

รีวิวตอนหน้า..
" แล้วก็อามีนานะอาขมก็บอกป๊าว่า จะทำสปาเก็ตตี้ละ จะทำมาให้เราด้วย พอป๊าบอกว่าไม่เป็นไรนะ อามีนาก็บอกว่าอามีนาชอบทำอาหารให้คนที่เค้าชอบแหละ " มันว่าก่อนจะเขย่งตัวกระซิบไอ้ขมข้างหู แต่ผมก็ยังได้ยิน " ต้องหมายถึงป๊าแน่เลย "
' ไอ้ชิบหายยยย ทำไมมึงพูดแบบนี้!!!!! กาลิคจะพูดอะไรก็ได้แต่จะพูดแบบนี้ไม่ได้นะลู๊กกกกก ' ผมได้แต่พูดตะโกนอยู่ในใจ  ขมหันมามองผมตอนที่กาลิคบอก สายตาขวางๆของมันขมพูดสั้นๆ
" อย่างงั้นเหรอ "

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ #ซ้อมหัวเราะแปป
ฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะคะ ฝากแชร์ในเพจหนมมี่ผู้ใสซื่อ ด้วย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-07-2017 20:59:45
ป๊าโดนกาลิคเล่นซะแล้ว555555 อยากอ่านตอนหน้าแล้ว กาลิคจะบอกอะไรขมบ้าง
ปล. นังชะนีน้อยนี่ยังวนเวียนมาอีกหรา :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-07-2017 21:14:27
ลูกชายมีแซวป๊านะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-07-2017 21:21:03
มีนาพางานเข้าซะแล้วมั้ง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 09-07-2017 21:52:41
กาลิครู้งานมากลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 09-07-2017 22:10:29
 :laugh: กาลิควางยาป๊าซะงั้น
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-07-2017 22:38:35
 :mew1: :mew1: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 09-07-2017 23:01:20
ขมรีบตกลงกะภาพซะทีสิ จะได้หึงได้  :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-07-2017 23:05:01
มีนา ชอบภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 09-07-2017 23:22:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 10-07-2017 00:02:40
โอ้ยยยตายๆๆๆ
เขินน ทำไมมมมม เปนการแกล้งกันน่ารักจิงง

มีนาาาาจะทำให้เขาเปนแฟนกันเรวขึ้นชิมิ 5555555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 10-07-2017 00:38:25
 :mew2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-07-2017 00:45:17
ใจดีเรี่ยราดเดะเถอะ เมียจะตบเอานะป๊า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 10-07-2017 01:39:07
แบบนี้เค้าเรียกว่าอยู่เป็น อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 10-07-2017 01:41:45
อีป๊า ไม่ปฏิเสธเท่ากับให้ความหวังนะแก ตอนหน้าแกตายแน่!#ทีมขมและลูกน้อยของเขา 555  :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 10-07-2017 01:48:16
หัวหอมเล่าให้อาขมฟังเร้ว รับรองหายป่วยเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 10-07-2017 07:31:51
นิสัยมีนาก็น่ารักดีนะ หวังว่าคงไม่ดีแตก แต่ตำแหน่งเมียภาพคือขมเท่านั้น 5555+ กาลิคเล่นพ่อซะแล้ว น่ารักจริงๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 10-07-2017 08:21:25
ตายๆๆๆ รอเก็บศพอย่างเดียวนะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 10-07-2017 08:27:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 10-07-2017 09:05:31
ตัวแปรที่จะทำให้ขมรู้ใจตัวเองไว ๆ ไง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-07-2017 16:15:40
เตรียมตัวไว้เลยภาพ! ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 10-07-2017 23:42:39
กาลิคบอกอาขมเลยลู๊กกกกก 
อาขมจะได้รู้ใจตัวเองไวๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 11-07-2017 08:12:24
พี่ภาพเคอะ ถึงพี่ไม่คิดแต่พี่ขมนี้ไม่แน่นะเคอะพี่! :katai3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 11-07-2017 10:00:44
อย่างหนึ่งที่ชอบของครอบครัวนี้ คือ การแสดงออกถึงความรักนี่แหละ เดี๋ยวกอด เดี๋ยวหอม กันแบบนี้ หัวหอมโตขึ้นต้องเป็นคนที่มีความรักแบ่งปันให้คนรอบข้างแน่นอน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: nung ที่ 11-07-2017 20:55:44
 :mew2: คิดถึงหัวหอม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-07-2017 23:01:47
ลากิคฟ้องแม่เยอะเลย ป๊าอ่อยสาว 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 12-07-2017 09:43:07
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 12-07-2017 11:14:06
ภาพรุกหนักๆเลย กาลิคจะได้มีแม่ซะที 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-07-2017 01:15:59
 o18 o18 ชอบ ๆ รอวัน หัวหอมเรียก "แม่ขม"
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 43 - 9.7.60} #หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 13-07-2017 07:42:55
ป๊าภาพโดนน้องกาลิคเล่นซะแล้ว 555
เอาคำพูดคุณน้องชะนีเอ๊ยมีนาไปฟ้องม๊าขมหมดเลย ม๊าขมจะจัดการไงล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: TKdark ที่ 13-07-2017 21:38:10
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 2

   ลงลิฟต์ไปที่ชั้นจอดรถ รถเก๋งคันดำของไอ้ภาพที่จอดอยู่ผมเปิดประตูหลังให้อีกคนขึ้นไป ท่าทางที่เงียบไปถนัดตาของเด็กคนนั้นชวนให้ผมใจหายอยู่ไม่น้อย ทั้งๆที่ช่วงวัยนี้ควรจะร่าเริงสนุกสนานแต่คนนี้กลับไม่ ...ก็นะ ใครมันจะมีความสุขยิ้มร่าเริง อะไรเบอร์แรงว่ะ ถูกแม่ทิ้งให้มาอยู่ไกลอีกค่อนทวีป ส่งมาอยู่กับพ่อที่แม่งตอนนี้ก็เกี่ยงกันสุดๆ ว่าใครเป็นพ่อ

“ ขม คิดเหี้ยไรอยู่ ขึ้นรถสิ "

“ ครับ ขึ้นละครับ " เปิดประตูรถตรงคนนั่งข้าง พอปิดประตูลงไอ้ภาพก็ออกรถไปห้างทันที

   มันเลือกมาห้างที่ไกลออกจากตัวคอนโดของเราสักหน่อย โดยไม่ถามกันสักคำว่า ' อยากกินอะไร ' หรือว่า ' อยากจะไปห้างไหนกันเหรอ ' แต่อยู่ๆคุณชายก็ขับรถพาเรามาที่ห้างกลางเมืองที ห้างใหญ่ที่คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เราลงจากรถผมเดินไปเปิดประตูหลังก่อนจะคว้ามือของเด็กน้อยมาจูง

“ ไปกินข้าวกันหัวหอม อยากจะกินอะไร "

“ ไม่รู้ครับ " เค้าตอบสั้นๆผมก็ถอนหายใจออกมา เหลือบมองไอ้ภาพ

“ อาหารญี่ปุ่นแล้วกัน กูอยากจะกิน "

“ อาหารญี่ปุ่นแล้วกันนะ " หันไปบอกหัวหอมอีกคนก็พยักหน้ารับแบบว่าง่าย เดินจากลานจอดรถขึ้นไปบนห้างผมที่จูงมืออีกคนไว้อดรู้สึกสงสารมันไม่ได้เลย ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกชาในอกหนักขนาดนี้ เหมือนผมกำลังเอาตัวเองเข้าไปคิดแทนมันในทุกๆอย่าง ถ้าเกิดว่าเราสลับความรู้สึกกันตอนนี้ ถ้าเกิดว่าแม่ส่งผมไปอเมริกาดินแดนที่ผมไม่มีคนรู้จัก บอกกันว่า มีพ่อรออยู่นะแต่พอมาถึง กลับโดนผลักให้ไปหาคนนั้นที คนนู้นที ผมอายุขนาดนี้ยังรู้สึกแย่เลย แล้วเด็กตัวแค่นี้มันจะไม่รู้สึกแย่ได้ไงวะ

“ ขม ขม ไอ้ขม! ” เสียงที่เอ่ยเรียก มือเล็กๆที่เขย่ามือผมแรงๆ หลุดออกจากความคิดที่หลุดลอยไปของตัวเองผมหันไปยิ้มให้ไอ้ภาพก่อนจะก้มลงมองหัวหอมที่ก็ช่วยอีกคนเรียกผมเหมือนกัน

“ มีอะไร "

“ ถึงร้านแล้ว มึงจะเดินผ่านไปไหน "

“ อ้อ โทษทีกูคิดอะไรเพลินไปหน่อย "

   เราเดินเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นแบบครอบครัว ที่ขายอาหารเป็นเซ็ตๆอร่อยแบบฝีมือคุณแม่ทำให้กิน แต่เอาจริงๆก็พ่อครัวนั่นแหละ

“ เมนูค่ะ อีกสักครู่จะมารับเมนูนะคะ " พนักงานบอก ผมก็เปิดเมนูพร้อมๆกับคนนั่งข้าง

“ หัวหอมมึงจะกินอะไร " ผมถามอีกคนก็มอง ไม่ยอมตอบ " อยากจะกินอะไรก็บอกนะ กูจะสั่งให้ " พยักหน้ารับแบบว่าง่าย ผมเปิดเมนูไปเรื่อยๆ ก่อนที่มือเล็กจะหยุดที่ข้าวหมูทอดทงคัตสึ “ เอาอันนี้นะ "

“ อื้อ "

“ โอเค งั้นกูเลือกบ้าง " เอาจริงๆ ก็ไม่ต้องเลือกมากหรอก มาทีไรก็กินแต่อันนี้ เป็นข้าวหมูบดย่างถ่าน อร่อยที่สุดเลยผมชอบ

   จัดการสั่งอาหารเรียบร้อย ผมหันมองหัวหอมที่เหลือบมองคนนั่งตรงหน้าอย่างไอ้ภาพ ก่อนจะก้มลงด้วยท่าทางกลัวๆ ริมฝีปากน่ารักนั่นเม้มเข้าหากันชวนให้ยิ้มเอ็นดู

“ มึงจะทำหน้าดุ คิ้วขมวดไปถึงไหนวะ ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อย "

“ สดชื่นนนนน ? “ ไอ้ภาพลากเสียงยาว " โหหห สดชื่นมากเลยมึง เช้านี้ตื่นขึ้นมามีลูกโผล่มาคนนึง แบบไม่รู้ว่าแม่เด็กเป็นใคร เหอะ กูคงสดชื่นหรอก สัด "

“ แล้วจะให้ทำไงวะ มันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องแก้ไขไป "

“ โดนหลอกรึเปล่าเถอะ " ภาพก็ยังคงคิดแบบนั้น มันดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่าหัวหอมจะเป็นลูกมันหรือผมที่หลุดทะลุถุงยางมา มันคงคิดว่ามันดูแลป้องกันตัวเองดีแล้ว แต่เรื่องแบบนี้ผมว่า ถ้ามันจะเกิดมันก็เกิดแหละ ถุงยางแตกไม่แตกเราจะไม่รู้ได้ไง " แต่ภาพ ภาพเดียวมันทำให้เราเชื่อไม่ได้หรอก ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกเรา "

“ ตรวจดีเอ็นเอเลยมั้ยละ " ผมถาม " ถ้าลูกมึง มึงรับไป ลูกกู กูก็จะรับ " มันเงียบกับความคิดเห็นของผม ภาพเบือนหน้าหนี " เห็นมั้ย พอกูบอกแบบนี้มึงก็ไม่กล้าเพราะมึงก็คิดว่าคงเป็นไปได้อยู่ครึ่งๆนั่นแหละ  "

“ เออกูยอมรับ ว่ากูก็คิดว่ามันอาจจะครึ่งๆที่พลาด แต่กูก็ไม่อยากให้เราตกเป็นเครื่องมือใคร ไม่อยากจะให้ใครมาหลอก แม่เด็กอาจจะแค่เคยมีอะไรกับเรา หรือไม่พลาดกับคนอื่นพ่อเด็กตัวจริงไม่รับก็เลยโยนมาให้เราก็ได้ กูไม่อยากโง่เลี้ยงลูกให้ใคร "

“ ภาพ "

“ เรายังเรียนอยู่เลยนะเว้ย เรายังอยู่ในวัยสนุกสนาน ยังเที่ยวเล่นได้ มึงพร้อมจะมีภาระแล้วเหรอขม " สายตาจริงจังถามผม " เด็กคนนึงเลยนะเว้ย มึงจะเลี้ยงมันยังไง เรายังขอเงินพ่อแม่อยู่เลย จะบอกพ่อแม่ยังไง ว่ามีลูก เค้าต้องถาม ไปทำใครท้องแล้วทำไม เด็กพึ่งโผล่มา มึงจะบอกว่าไม่รู้ ไม่ได้หรอกนะ เพราะถ้าบอกว่าไม่รู้ เค้าก็ต้องคิดเหมือนที่กูบอก คือเราถูกหลอกรึเปล่า "

“ แต่ภาพ มึงก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเลย " อีกคนถอนหายใจออกมา ก่อนจะก้มหน้าลง

“ กูไม่อยากมีลูก ขม กูยังไม่พร้อม "

“ ถ้าไม่พร้อมก็อย่าเอาKไปสอดใครสิวะ จะได้ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรแบบนี้ " ผมบอกมัน " มึงควรพร้อมตั้งแต่วันที่มึงคิดจะเอาKสอดใครสักคนแล้วกูจะบอกให้ ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่อง ถึงจะมาบอกว่าไม่พร้อม มันหน้าตัวเมีย "

“ ขม..”

“ กูไม่รู้ว่ามันเป็นลูกใครหรอก  มึงหรือกู กูไม่รู้ด้วยว่ากูจะถูกหลอกรึเปล่า แต่ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้ คือดูแลมันไปก่อนไม่ใช่เหรอวะ ดูแลมันจนกว่าเราจะหาได้ว่า แม่มันเป็นใคร "

“ มึงคิดว่าดูแลเด็กคนนึงมันง่ายเหรอขม "

“ แล้วจะให้ทำไง เอาเด็กไปปล่อยที่สถานสงเคราะห์เหรอไงวะ! ” ผมตะโกนบอกอีกคนเสียงดัง ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา ภาพที่นิ่งไปในตอนนั้นมันเหลือบมองไปรอบๆ คงเพราะมีคนในร้านหันมามองเราที่อยู่ๆก็เสียงดังขึ้นมา

“ ขอเสิร์ฟอาหารนะคะ " อาหารที่ถูกยกเข้ามา วางลงตรงหน้าภาพก็บอกปัด

“ กินข้าวเถอะ เรื่องอื่นค่อยคิดแล้วกัน "   

“ หัวหอม กินข้าวนะ อะ " ผมหยิบช้อนให้อีกคนที่ก็นั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไรตลอดเวลาที่เราทะเลาะกัน มันที่เอาแต่ก้มหน้า ชวนให้ผมคิดถึงเด็กเล็กๆที่ต้องอยู่ในสภาพสังคมที่พ่อแม่ทะเลาะกันและเถียงกันตลอดเวลา มันชวนให้ผมคิดถึงตัวผมเอง ตอนนั้น..ผมก็คงรู้สึกเป็นเหมือนกับมันในตอนนี้ละมั้ง

“ คิดอะไรอยู่อีก "

“ เปล่า ทำไมพอกูเงียบมึงต้องคิดว่ากูคิดอะไรอยู่ จะให้กูพูดทั้งวันเลยรึไง "

“ มึงได้เงียบอย่างเดียวขม หน้ามึงเศร้าๆ เหมือนคิดเหี้ยไรอยู่ "

“ เปล่าหรอก ไม่ได้คิดไร “ ส่ายหน้าให้ไอ้ภาพ ผมใช้ส้อมตักหมูทอดทงคัตสึในจานหัวหอมมาไว้ที่จานตัวเองชิ้นนึง " กูหั่นหมูให้นะ จะได้กินง่ายๆหน่อย " จัดการหั่นหมูเป็นชิ้นเล็กๆ ผมราดซอสให้มันกินกับข้าว หัวหอมกินเรียบร้อย ไม่พูดไม่จาอะไร ท่าทางที่ชวนให้ผมอึดอัดมากขึ้นไปอีก

   นึกถึงตัวเองสมัยนั้นก่อนที่จะย้ายไปอยู่ใกล้บ้านกับภาพ ตอนนั้นอายุผมก็คงเท่ากับคนที่นั่งข้างๆ นี่แหละ มันเป็นช่วงเวลาที่แย่อยู่เหมือนกัน ที่ต้องเห็นพ่อแม่ตัวเองทะเลาะกันทุกวัน จนสุดท้ายแม่ก็ตัดสินใจแยกทางกับพ่อมาอยู่กับผมที่บ้านหลังใหม่

   มารู้ตอนโตว่าที่เลิกกันเพราะ พ่อเป็นคนที่ขี้หึงมาก ส่วนแม่เองเป็นนักโภชนาการต้องคุยกับคนอื่นเยอะแยะมากมาย มีเพื่อน มีสังคม เป็นคนที่แฮปปี้กับชีวิต แต่พ่ออยากจะให้แม่แค่อยู่บ้านเลี้ยงผม และแน่นอนว่าขัดกับไลฟ์สไตส์ของเธอย่างมาก พวกเค้าสองคนก็เลยเลิกกัน

“ อิ่มแล้วเหรอ " ผมหันไปถามคนนั่งข้างๆที่กินข้าวไปแค่ครึ่งเดียว กับหมูทอดทงคันสึไม่ถึงครึ่งชิ้น อีกคนพยักหน้ารับ " มึงกินน้อยจัง กินเข้าไปอีกหน่อยสิ " หยิบช้อนตักข้าวขึ้นป้อนมันอีกคนก็ส่ายหน้าไปมา ปากที่เม้มกันสนิท

“ มันคงอิ่มแล้วมั้ง เด็กจะกินอะไรเยอะแยะละ " ไอ้ภาพบอก ก่อนจะคว้าเอาจานข้าวของไอ้หัวหอมไปกินต่อ " กูกินเองเสียดาย "

“ ไอ้ตะกละ " ผมบอกสั้นๆอีกคนก็ยกไหล่ หาได้สนใจอะไรไม่ หน่ำซ้ำยังยื่นช้อนมากินหมูในจานกูอีก " เชี้ย ภาพ ของกู "

“ ทำไมจะแดก มึงไม่ต้องแดกเยอะ เดี๋ยวอ้วน ! "

“ อ้วนพ่อมึง! ถ้าคนอย่างกูอ้วนคงไม่มีคนผอมในโลกแล้วสัด " ผมด่ามันก่อนจะหันมาหาหัวหอม " มึงกินขนมหวานมั้ย " เอ่ยถามมันก่อนจะขอเมนูจากพนักงาน ผมเปิดหน้าของหวาน " มีไอติมชาเขียวอะ มึงกินมั้ย หรือว่า อยากจะไอติมช็อคโกเล็ต หรือยังไง "

“ อยากกินไอติมช็อคโกเล็ต "

“ ช็อคโกเล็ตที่นี่คงไม่อร่อย ไว้ออกไปกินข้างนอกนะ รอก่อน " ผมกระซิบบอกมันเพราะมีพี่พนักงานร้านยืนอยู่

“ ไม่อร่อยเหรอ "

“ เชี้ย " ปิดปากมันทันที ตอนที่ยื่นเมนูไปให้พนักงานผมก็ยิ้มแก้เก้อ " ไม่รับอะไรแล้วครับ ขอบคุณมาก "

“ ค่ะ " เธอยิ้มก่อนจะเดินออกมา ผมก็ถอนหายใจออกมา

“ พูดว่าไม่อร่อย ไม่ได้เหรอ "

“ พูดได้ แต่ไม่ใช่ต่อหน้าพี่พนักงานไง " ลูบหัวมันที่พยักหน้าเข้าใจ " ไว้ออกไปกินข้างนอกกันนะ "

“ มึงนี่ดูรักเด็กนะ "

“ เหรอ  คงเพราะสงสารมันมั้ง เห็นแล้วก็คิดถึงตัวเอง " สบสายตาภาพที่มองผมตอนที่พูดคำนั้นออกมา คำพูดที่ทำให้มันถอนหายใจออกมา

“ ถ้าไม่เกิดเรื่องนั้น เราก็ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้สนิทกันหรอก สำหรับมึงอาจจะแย่ แต่กูไม่ได้รู้สึกแย่ไปกับมึงนะ กูว่ามัน..ก็ดีออก " เผลอยิ้มออกมาตอนที่มันพูด ผมก้มหน้าลงกินข้าวขี้เกียจแซว เดี๋ยวพี่ภาพจะหน้าแดง ที่ผมจะบอกว่า ' ดีใจที่เค้าอยู่กับตัวละสิ คุคิ '

   ถ้ามาคิดว่าเพราะเรื่องนั้นเราถึงได้เจอกัน มันก็คงไม่ใช่เรื่องแย่หรอก เพราะแม่แยกทางกับพ่อเลยต้องย้ายบ้านมาเจอกับมัน ไปเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตลอด ขึ้นรถโรงเรียนคันเดียวกัน เราเรียนห้องเดียวกัน เวลามีกิจกรรมอะไรแม่ผมก็จะฝากผมไปกับแม่ของไอ้ภาพ ทำงานกลับดึกๆก็อาศัยบ้านไอ้ภาพนี่แหละอยู่จนกว่าแม่จะกลับ บางทีไปประชุมต่างจังหวัดผมก็อยู่บ้านมัน เติบโตขึ้นมาด้วยกันสนิทกันมากกว่าพี่น้องเสียอีก

   จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย เราสามคนก็เดินออกมาจากร้านอาหาร ผมกับไอ้ภาพผ่อนลมหายใจออกมาพร้อมกันก่อนจะหันมองหน้า " จะเอาไงต่อ " ภาพถามผมก็ถอนหายใจออกมา

“ ไม่รู้ว่ะ " ย่อตัวลงนั่งตรงหน้าหัวหอมมันที่มองผมด้วยสายตาที่ไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไหร่ " มึงบอกอยากจะกินไอติมนี่ใช่มั้ย งั้นเราไปกินกันมั้ย "

“ อื้ม "

“ ไอ้ขม "

“ ตอนนี้ยังคิดไม่ออก งั้นเดินเที่ยวห้างเล่นๆก่อนก็แล้วกันนะ " จูงมือไอ้หัวหอมที่จับมือผมไว้แน่น พามันเดินไปที่ร้านไอศกรีมร้านดังดีแดง ผมอุ้มมันขึ้นมาตอนที่ชี้ชวนให้มันมองลงไปในตู้ " อยากกินไอติมรสอะไร "

“ ช็อคโกเล็ต "

“ ช็อคโกเล็ตเหรอ " ผมถามซ้ำ " มันก็มีหลายช็อคนะมึง เอาช็อคแบบไหนละ "

“ แบบนี้ " มันชี้ไปที่ไอศกรีมรสร็อคกี้โรส พนักงานร้านก็ตักมาให้สกู๊ปนึงใส่ลงไปในโคนวาฟเฟิลกรอบๆ

“ นี่จ้า " เธอยื่นให้หัวหอมที่ผมอุ้มอยู่ ก่อนจะรับเงินที่ผมจ่าย " น้องน่ารักจังเลย ชื่ออะไรเหรอคะ "

“ ชื่อหัว.. กาลิคน่ะครับ " ผมบอก เธอก็ยิ้มรับ " บ๊ายบายพี่สาวก่อนเร็ว "

“ บ๊ายบาย " โบกมือไปมาแบบว่าง่าย ผมอุ้มมันออกจากร้านไปหาไอ้ภาพที่ยืนอยู่

“ แล้วเมื่อกี้ก็กินข้าวไม่หมดนะมึง " มันเอื้อมมือมาขยี้หัวไอ้หัวหอม

“ ท้องเด็กน่ะ มันแยกส่วนกันเว้ย ระหว่างข้าวกับของหวานน่ะ " ผมก้มลงมองมัน " เลอะไปหมดเลย ดูกิน " เอาทิชชู่ที่แถมมาเช็ดปากให้หัวหอม จะว่าไปตั้งแต่มันมา ยังไม่เห็นมันยิ้มเลย " อยากจะได้อะไรมั้ยหัวหอม ของเล่นเอารึเปล่า " พยักหน้ารับด้วยความสนใจไอ้ภาพก็ปราม

“ มึงให้มันกินให้เสร็จก่อนเถอะ ปากเลอะ มือเล็กแบบนี้ไปจับของเล่นเค้า เค้าได้กรี๊ดสิ "

“ แค่จับของเล่นต้องกรี๊ดด้วยเหรอ "

“ กรี๊ดสิ " ภาพย่อตัวลงบอกก่อนจะเอาทิชชู่ที่ผมถือไปเช็ดมือให้อีกคน " เพราะว่ากาลิคมือเลอะ มันสกปรก ถ้าของที่กาลิคจะซื้อมันสกปรก กาลิคจะอยากได้มั้ยละ "

“ ไม่ครับ "

“ เพราะงั้นถ้ากาลิคเอามือเลอะๆไปจับมัน มันจะไม่มีคนอยากจะซื้อนะ งั้นก็กินให้เสร็จก่อน แล้วค่อยไปซื้อกัน "

“ อื้อ " หัวหอมพยักหน้ารับ ผมก็มองมันที่ก็เงยหน้ามองผม

“ มองอะไร "

“ ก็เปล่า แค่รู้สึกว่า ถ้าให้พูดดีๆ มีสาระ กับเด็กมึงก็พูดได้นี่ " ภาพที่ถอนหายใจออกมา " เริ่มรู้สึกปลงๆกับเรื่องนี้ได้บ้างแล้วยัง ยังไงเราก็ต้องรับผิดชอบหัวหอมมันนะ "

“ ยังคิดว่าถูกหลอกอยู่ กูไม่เชื่อง่ายๆหรอก "

“ ตรวจดีเอ็นเอมั้ยละ " มันมองผมตอนที่ผมบอก

“ ถ้ามันเป็นลูกมึง มึงจะทำยังไง "

“ ทำใจ "  ผมบอกอีกคนก็ยกยิ้ม

“ มึงทำใจไม่ได้หรอก แค่ทำใจเหรอกับอนาคตมึงทั้งชีวิตอะ พูดตอนนี้มึงพูดได้หมดแหละ ทุกอย่างมันยังห้าสิบ ห้าสิบอะ "

“ กินหมดแล้วครับ " หัวหอมพูดขึ้นขัดความเงียบของเรา ผมหันไปยิ้มให้มันก่อนจะจูงมือมันไปล้างมือในห้องน้ำ อุ้มขึ้นไปที่ขอบอ่าง ปั้มน้ำยาล้างมือแล้วถูลงไปที่มือเล็กๆนั่น

" ถูๆ ถูให้สะอาด "
" กาลิคเรียกว่า ขม ได้มั้ย " คำถามที่เงยขึ้นถามผมด้วยดวงตากลมๆติดเศร้านั้น ท่าทางเหมือนจะกลัวเล็กน้อย " ขม.. ขมใจดี "

" เรียกว่า อาขมดีกว่า " ผมบอกก่อนจะอุ้มมันลงมายืนบนพื้นข้างล่าง หยิบทิชชู่เช็ดมือให้สะอาดเรียบร้อย " หัวหอม ทำไมถึงยอมที่จะขึ้นเครื่องบินมาที่นี่ละ แม่ไม่มา ไม่คิดถึงแม่เหรอ "

“ กาลิคคิดถึง แต่หม่ามี๊ก็บอกว่าให้มา กาลิคร้องไห้ไม่ยอมมาจะอยู่กับหม่ามี๊แต่หม่ามี๊ก็ยังให้มา หม่ามี๊ให้เพื่อนหม่ามี๊มาส่ง บอกว่าให้มาอยู่กับป่าป๊าที่นี่ ป่าป๊าจะดูแลกาลิคเองเพราะหม่ามี๊ดูแลไม่ได้แล้ว "

“ ทำไมดูแลไม่ได้ละ รู้มั้ยเพราะอะไร "

“ ไม่รู้ครับ หม่ามี๊บอกว่า ถ้ากาลิคอยู่ หม่ามี๊จะลำบาก หม่ามี๊เลยให้กาลิคมาอยู่ที่นี่ มาหาคนในรูปนี้ " มันคงหมายถึงรูปของผมกับภาพที่แม่มันให้มา

“ แล้วหม่ามี๊บอกมั้ย ว่าคนไหน " หัวหอมส่ายหน้า

“ ไม่ได้บอก "

“ ใจร้ายจังนะ " ผมบอกอีกคนก่อนจะดึงเข้ามากอด สงสารยังไงก็ไม่รู้วะ เด็กอายุแค่นี้ต้องห่างมาจากอกแม่ของตัวเองที่ทั้งรักทั้งผูกพัน ไม่ต้องเดาก็พอรู้ว่า มันต้องร้องไห้แล้วงอแงแค่ไหนก่อนจะมาถึงที่นี่ ความรู้สึกทรมานของมันที่มันได้รับ ผมคิดสภาพของเด็กที่กรีดร้อง แล้วรั้งมือของแม่ตัวเองไว้ แม่ที่ผลักมันออกมาให้ไกล เหตุผลอะไรผมไม่รู้ แต่ผมก็มองว่ามันไม่ใช่คนดีแล้วละ คนที่ทิ้งลูกตัวเองให้มาอยู่กับคนอื่นที่ไม่รู้นิสัยใจคอได้ จิตใจมันคงไม่ได้ดีอะไรหรอก เหี้ยชัดๆแหละ อย่างงี้ 

“ อาขม " มันเรียกผมตอนที่เห็นผมเงียบไป

“ ออกไปข้างนอกกันเถอะ ไปซื้อของเล่นกัน "

“ อื้อ " จูงมืออีกคนออกมา ภาพที่กำลังยืนก้มหน้าเล่นมือถืออยู่ หน้าตาเคร่งเครียดของมัน ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะทัก

“ เฮ้ย ทำไรอยู่ "

“ เปล่า " มันบอกก่อนจะก้มลงมองหัวหอมแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ผมหันมองหัวหอมที่มันก็เงยหน้าขึ้นมามองผม ยิ้มแห้งๆให้มันก่อนจะเดินเข้าไปในโซนของเล่นของห้าง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 14-07-2017 20:34:07

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 44
   เดินออกจากห้างหลังจากกินอาหารกันเสร็จ ผมหิ้วถุงข้าวเที่ยงของไอ้ขมกลับมา ส่วนกาลิคก็ได้ขนมจากร้านโปรดของมันมาอีกสองสามกล่อง เรากลับขึ้นมาบนคอนโดตอนที่พอเปิดประตูเข้าไปในห้อง กลับพบว่าคนป่วยที่คิดว่านอนหลับกำลังนั่งกินน้ำส้มแล้วดูหนังอยู่ที่หน้าทีวีด้วยความสบายใจ

“ อาขมมมมมมมมมม " เสียงใสๆของกาลิควิ่งเข้าไปหาอีกคนที่ก็ดึงหน้ากากอนามัยที่ใส่ไว้ใต้คางขึ้นมาปิดจมูกตัวเองทันที " อาขมตื่นแล้วเหรอครับ " มือเล็กๆกอดอีกคนเข้าเสียเต็มรัก ไอ้ขมก็กอดกลับ

“ ตื่นแล้ว " ขมบอก " หัวหอมกินข้าวมาแล้วละสิ "

“ ครับ กาลิคกับป๊าซื้อข้าวมาให้อาขมด้วยนะ " มันชี้มาที่ผม ที่ก็ยกถุงอาหารโชว์อีกคนก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ

“ ข้าวหน้าไก่ย่างถ่าน กูขอข้าวแบบพิเศษมาสองถ้วยเลยนะ เผื่อมึงจะเจริญอาหารขึ้นมาบ้างแล้ว "

“ ขอบคุณมากครับ " ร่างบางว่าก่อนจะก้มลงมองเจ้าเด็กตัวเล็กที่ก็ยังกอดมันแน่นไม่ยอมปล่อย " มาคุยกันดีกว่า หัวหอมกินข้าวกับอะไรมาเมื่อกี้ "

“ กินหมูทอดกับข้าวแล้วก็กินไอติมกับถั่วแดง แล้วก็นะ วันนี้นะอาขม กาลิคกินหมูหมดเลย แล้วก็กินข้าวหมดด้วย "

“ จริงเหรอออ เก่งจังเลยยยย มาๆ ต้องให้รางวัล " หอมแก้มนิ่มๆของไอ้ตัวเล็กผ่านหน้ากากอนามัยที่ใส่อยู่ไปเสียเต็มฟอด กาลิคก็หัวเราะชอบใจ " แล้วนี่ซื้อขนมอะไรมา "

“ ซื้อเยอะเลยอาขม ป๊าตามใจ ป๊าซื้อให้ " มันว่าก่อนจะดึงถุงขนมไปตั้งไว้บนโต๊ะแล้วเอาออกมาโชว์ไอ้ขมทีละกล่อง " อันนี้เป็นช็อคโกเล็ต อันนี้เป็นอันที่กาลิคชอบกิน อันนี้ก็ด้วย กาลิคชอบหมดเลย อาขมกินด้วยกันนะ "

“ โหห เยอะจัง แต่ห้ามกินหมดภายในวันนี้นะ เข้าใจมั้ย " ขมบอกพลางขยี้อีกคนที่ก็พยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบขนมขึ้นมากล่องนึง

“ ตอนนี้กาลิคจะกินอันนี้ก่อนครับ อันนี้ก็เก็บไว้ " จัดการเอาขนมใส่ถุงไอ้ขมก็ชม

“ เก่งมาก รู้จักแบ่งขนมไว้กินแบบนี้ น่ารักจัง งั้นขอหอมแก้มอีกสักที " เสียงหอมที่ดังฟอด เด็กน้อยก็ยิ้มเฉ่งด้วยความดีใจที่ถูกชม " งั้นอาขมไปกินข้าวก่อนนะ " ขมลุกจากที่โซฟามานั่งที่โต๊ะกินข้าว มันที่กำลังเอากล่องข้าวออกจากถุง ก่อนเอ่ยถามผม " แล้ววันนี้ตอนเย็นเรากินอะไรกันดี "

“ สปาเก็ตตี้! ” กาลิคเสียงดังขึ้นมา ก่อนจะวิ่งจากโซฟามายืนข้างๆไอ้ขมเพื่ออธิบายในสิ่งที่มันรู้ " วันนี้ตอนเย็นอามีนาจะเอาสปาเก็ตตี้มาให้เราครับ อามีนาบอก "

“ อย่างงั้นเหรอ "  มือบางลูบหัวเด็กน้อยที่ยืนพิงอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันมามองผม ขมถามเสียงนิ่ง " นี่มึง..เจอมีนามาเหรอ "

" อื้ม เจอตอนจะออกไปข้างนอกอะ เค้าจะไปห้างพอดี ก็เลยไปด้วยกัน "

“ ออกไปด้วยกัน " ขมพูดย้ำความเข้าใจของมันพร้อมกับใบหน้าที่ค่อยๆเปลี่ยนไป จากที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรแต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันกำลังมองผมด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่ผมก็ยอมรับความจริงด้วยการพยักหน้ารับมันไป

“ ทำไมวะ ก็แค่เดินออกไปจากห้องแล้วเจอกัน กูทักมัน มันก็ทักกลับ ก็แค่นั้นอะ " ผมอธิบายแต่เหมือนสีหน้าของขมก็ยังไม่พอใจอยู่แบบนั้นจนกาลิคพูดขึ้น

" แล้วก็อามีนานะอาขมก็บอกป๊าว่า จะทำสปาเก็ตตี้ให้พวกเราละ จะทำมาให้เราด้วย แล้วป๊า ก็บอกว่าไม่เป็นไรนะ อามีนาก็บอกว่าอามีนาชอบทำอาหารให้คนที่เค้าชอบแหละ " มันว่าก่อนจะเขย่งตัวกระซิบไอ้ขมข้างหู แต่ผมก็ยังได้ยิน " ต้องหมายถึงป๊าแน่เลย "

' ไอ้ชิบหายยยย ทำไมมึงพูดแบบนี้!!!!! กาลิคจะพูดอะไรก็ได้แต่จะพูดแบบนี้ไม่ได้นะลู๊กกกกก ' ผมได้แต่พูดตะโกนอยู่ในใจ  ขมหันมามองผมตอนที่กาลิคบอก สายตาขวางๆของมันขมพูดสั้นๆ

" อย่างงั้นเหรอ "

“ นี่เดี๋ยวสิ.. " ผมยิ้มกลบเกลื่อน กาลิคก็พูดต่อ

" แล้วก็นะอาขม ตอนที่เราเดินออกไปจากที่บ้านแล้วจะข้ามถนน ป๊าน้า~ ก็จับมืออามีนาด้วยแหละ "

' ทำไมเก็บรายละเอียดขนาดนั้นครับลูก  ถ้าเก็บได้เหี้ยแบบนั้นไม่ได้ต้องเก็บก็ได้ม้างงงง ไอ้กาลิคคคคค  ไอ้ตัวแสบ!! ' อยากจะเอาหัวโขกเสา แล้วที่เข้าใจเลยคือ มึงจะมาความจำดีอะไรเอาตอนที่ไอ้ขมมันมองกูตาขวางแบบนั้นวะ สาดดดด เอื้อมมือตบหน้าผากตัวเองผมอธิบาย “ เดี๋ยวๆ เค้าแค่ข้ามถนนไม่เป็น กูเลยไปช่วยตังหาก พูดให้มันดีๆกาลิค เดี๋ยวจะโดน "

“ ก็พูดความจริง เนี้ยๆ ป๊าจับแบบเนี๊ยะเลย " มันจับมือขมขึ้นมาทำให้ดู แล้วจะแสดงให้ไอ้ขมมันเห็นภาพเพื่อออ แค่นี้ก็พอแล้วววว  " แล้วก็นะตอนนั้นนะ อาขม อามีนาเค้าก็หน้าแดงเลย "   

“ เดี๋ยวเถอะ ไปสังเกตอะไรขนาดนั้น ป๊ายังไม่เห็นเลย " ผมบอกปัด เจ้าตัวเล็กก็ยิ้ม

“ แต่กาลิคเห็นนะ แล้ว~ แล้วก็มีอีกเรื่องนะอาขม "

“ ยังมีอีกเรื่องเหรอออ " ขมถามเสียงยาวก่อนจะเหลือบมองผมด้วยสายตาหงุดหงิดก่อนจะยกยิ้ม สายตาที่ชวนให้ผมรู้สึกถึงความหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาช้าๆ ก่อนที่มันจะก้มลงไปยิ้มให้กาลิค " ไหนเล่ามาสิ เรื่องอะไร "

“ เรื่องนี้มันคิดขึ้นเองชัดๆ ไม่เกี่ยวเลย ไม่ใช่ความจริงเลย " ผมบอกปัดคำพูดของกาลิคที่รู้อยู่แล้วว่ามันจะพูดว่าอะไร " หยุดเลยนะไอ้ตัวแสบ อย่าเอาความคิดของตัวเองยัดเยียดให้คนอื่นสิวะ ไม่ใช่สักหน่อย "

“ อะไร ไหนหัวหอมเล่าอาขม " มันบอกเร่งไอ้ตัวเล็กด้วยการจับกาลิคให้เผชิญหน้ากับมัน ขมยิ้มก่อนจะเชิดหน้ามามองผมด้วยสายตาหงุดหงิด

“ แล้วมึงจะมามองกูด้วยสายตาหงุดหงิดแบบนั้นทำไม มันไม่ใช่นะเว้ย อย่าไปฟังมันนนน ฟังมันเพื่อ ? ไม่จริงเลย "

“ ถ้าไม่จริงเลย มึงก็ไม่เห็นต้องแคร์นี่ " ขมบอกก่อนจะก้มลงย้ำคำถามกับกาลิค " ไหนหัวหอมบอกอาขมหน่อย "

“ กูไม่แคร์หรอก แต่มึงแคร์นี่ แล้วมึงก็เชื่อมันอะ กูเลยต้องแคร์ "

“ ไอ้วัวสันหลังหวะ " ขมพูดสั้นๆมันหันไปยิ้มให้กาลิค " หัวหอมเล่าอาขมหน่อย แล้วมีอะไรอีกเหรอ มีอีกใช่มั้ย "

“ อื้ม "  มันพยักหน้ารับ " ก็ตอนที่ป๊ากับกาลิคถึงห้างแล้ว อามีนาก็ถามป๊าว่า ป๊าชอบคนแบบไหนแหละ อามีนาเค้าถามเพราะว่าเค้าชอบป๊าแหละ รินเน่เคยบอกกาลิคว่า ถ้าใครถามว่า เราชอบคนแบบไหน คนคนนั้นน่ะนะ เค้ากำลังชอบเรา "

“ ไม่ใช่สักหน่อย มีนามันอาจจะถามไปงั้นๆอะ " ผมบอกปัด ไอ้ขมก็เหลือบมองผมด้วยหางตาก่อนจะยิ้มให้กาลิค

“ แล้วป๊าเค้าตอบว่าไงละ "

“ อื้มม ตอบว่าไรแล้วน้า "

“ พอทีแบบนี้ก็เสือกจำไม่ได้ขึ้นมานะไอ้ตัวแสบ "  ผมบอก กาลิคก็ยิ้มเขิน ขมจิ้มแก้มมัน

“ ไหงหน้าแดงงี้ละ จำได้ละสิ ว่าป๊าพูดว่าอะไร " เด็กน้อยพยักหน้ารับ

“ แต่กาลิคจะกระซิบบอกอาขมนะ จะไม่บอกให้ป๊าได้ยิน "

“ อย่างงั้นเหรอ ก็โอเคนะ " ขมก้มหน้าลงใกล้มันเจ้าตัวเล็กก็กระซิบบอก เป็นเสียงกระซิบที่เบามาก มากถึงขนาดที่ว่าถ้าผมไปยืนอยู่ในห้องนอนก็คงได้ยิน

“ ป๊าบอกว่า ป๊าชอบคนที่รักกาลิคครับ ป๊าบอกแบบนั้น " มันว่าไอ้ขมก็ยิ้มกว้างก่อนจะขยี้หัวมัน

“ แค่นี้ก็ต้องเขินด้วยเหรอไงเรา "

“ ม่ายยยเอา ไม่อยากจะให้ป๊าได้ยิน " มันกอดไอ้ขมไว้แน่น ไม่อยากจะบอกว่ากูได้ยินทั้งหมดที่มันพูดนั่นแหละ ขมมองมันยิ้มๆแต่พอเงยหน้าขึ้นมามองผมกลับตีหน้าหงุดหงิดใส่ซะอย่างงั้น กาลิคดึงตัวเองออกไปนั่งกินขนมอยู่ที่โซฟา ขมก็เริ่มกินข้าวคำแรก ผมเอ่ยถาม

“ อร่อยมั้ยมึง "

“ ก็อร่อยเหมือนเดิมนั่นแหละ " มันก้มหน้าลงเคี้ยวข้าวในจานตัวเองไปเรื่อยๆ เสียงที่เงียบไปจนได้ยินแต่เสียงทีวีของไอ้กาลิคผมหันมองลูกชายที่นั่งดูทีวีสบายใจ ใช่สิ..มึงสร้างเรื่องให้กูแล้วนี่นะ ขยี้หัวตัวเองเซ็งๆตอนนั้นขมก็เอ่ยบอก " วันนี้กูไม่กินข้าวเย็นนะ ถ้ามันมีส่วนของกูก็แดกให้เลย ไม่ต้องแบ่งไว้ "

“ อะไรวะ นี่มึงงอนเหรอ " ผมถามก่อนจะดึงเก้าอี้ตัวที่อยู่ข้างมัน หย่อนตัวลงไปนั่งใกล้ๆ

“ กูไม่ได้งอน แค่คิดว่ากินไอ้ที่มันมีอยู่ตอนนี้หมด ก็คงอิ่มถึงเย็นแล้ว มันเยอะ ก็แค่นั้นอะ" ไม่จริง ผมโคตรอยากจะบอกมันแบบนั้น ปกติเวลาไปกินอาหารร้านนี้เพราะมันชอบไอ้เมนูไก่ย่างถ่านนี่มาก มันชอบขอข้าวเพิ่มประจำแถมขอเยอะด้วย ผมเอาข้าวมาแค่นี้ไม่ถึงครึ่งกระเพาะมันหรอกสำหรับของโปรดเมนูนี้

“ เอาจริงๆนะ คือกูไม่ได้อยากจะแดกสปาเก็ตตี้ของน้องเค้า แต่น้องเค้าเสนอมา ก็เหมือนตอนที่น้องเค้าเสนอตัวมาสอนมึงทำกับข้าวนั่นแหละ กูก็ปฎิเสธไม่ได้เหมือนกัน "

“ กูไม่คิดจะปฎิเสธนะตอนนั้นน่ะ ไม่ใช่ว่าปฎิเสธไม่ได้ " ขมบอกมันก็เหลือบมองผม " แต่กับมึงมันไม่เหมือนกันอะ มึงปฎิเสธได้ แต่มึงเลือกที่จะรักษาน้ำใจเค้ามากกว่า "

" นี่มึงโกรธกู ที่น้องมีนาเค้ามีท่าทีสนใจกูเหมือนที่ไอ้กาลิคพูด หรือว่า มึงหึงกูที่น้องเค้ามาสนใจกูกันแน่ "

" กูไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างที่มึงพูดทั้งสองอย่างนั่นแหละ " มันหันมาบอกก่อนจะก้มลงกินข้าวต่อ มือบางเขี่ยข้าวไปมาก่อนจะถอนหายใจออกมา " อีกอย่างกูรู้มาตั้งแต่วันที่น้องเค้าสอนกูทำกับข้าวแล้ว ว่าเค้าชอบมึง "

“ ห๊า! " ผมอ้าปากค้างตอนที่มันบอก ไอ้ขมก็หันมาชักสีหน้า " แค่ตกใจไง แบบกูคิดว่าเค้าชอบมึง... แล้วก็คิดว่ามึงก็ชอบเค้า " ตอแหลไปอีกกู  ทั้งๆที่จริงๆผมตกใจก็เพราะ มันบอกว่า มันรู้ว่าน้องเค้าชอบผมตังหาก ทางนี้ก็คิดมาตลอดว่ามันไม่รู้

“ ที่ไหนละ ตอนนั้น ที่มันมาสอนกูทำกับข้าวก็เพราะว่าอยากจะมาอยู่ใกล้ๆมึงก็เท่านั้นแหละ อยากมาเห็นมึง แถมยังมาหลอกถามอะไรกูตั้งเยอะแยะ มึงชอบคนแบบไหน มีแฟนรึยัง แถมยังบอกอีกนะ ว่าหัวหอมมันคงเป็นลูกกู ไม่ใช่ลูกมึงหรอก หึ " มันหัวเราะในคอก่อนจะพูดเสียงเบาๆ " แล้วสุดท้ายก็เป็นลูกมึง สมน้ำหน้าอยากได้ดีนัก "

“ นี่ มึงหึงกูนี่น่า " ผมยิ้มกับคำพูดของมันที่ฟังยังไงก็แปลความหมายออกมาได้อย่างเดียวคือ ขม ที่กำลังหงุดหงิดอยู่ตอนนี้มันหึงผมอยู่ แล้วก็หึงมากซะด้วย

“ ไม่ได้หึง หึงเหี้ยอะไร จำเป็นต้องหึงเหรอ มึงจะเลือกใครชอบใครก็เรื่องของมึงเถอะ โตจนมีลูกแล้ว แค่คบใครก็หาดีๆหน่อยละกัน อย่าให้เค้ามาทำร้ายหัวหอม มีลูกใหม่ก็รักลูกทุกคนให้เท่ากันด้วยไม่ว่ามันจะเกิดแม่คนไหน ไม่งั้นกูเอามึงตายแน่ " สายตาขู่ๆของมันชวนให้ผมหัวเราะ " หัวเราะเหี้ยไร "

“ ก็หัวเราะมึงอะ จะจริงจังอะไรขนาดนั้นวะ  กูบอกเหรอ ว่ากูชอบมีนา " ผมถาม มันก็นิ่งไปสักพักก่อนจะส่ายหน้า

“ ก็เปล่าอะ "

“ แล้วจำได้มั้ย กูบอกว่ากูชอบใคร "

“ ก็..จำได้ " ขมพยักหน้ารับ

“ งั้นกูจะย้ำอีกที ว่ากูจะไม่เปลี่ยนใจจากเค้าหรอก " มันเหลือบมองผมก่อนจะหันกลับมาก้มกินข้าวต่อ  ท่าทางที่ชวนผมยิ้มกว้างรู้สึกมันน่ารักอย่างบอกไม่ถูก

" ยิ้มเหี้ยอะไร ขนลุก ไอ้สัด " ไม่มีคำตอบอะไรจากปากผมแต่ตอนที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้มัน ขมกลืนน้ำตาตัวเองลงไปเสียงดัง แก้มแดงๆชวนให้ผมเอื้อมมือขึ้นเกลี่ยแก้มของมันเบาๆก่อนจะบอก " ตอนที่มีนาถามว่ากูชอบคนแบบไหน กูบอกเค้าไปว่า  กูไม่สเป็คตายตัวหรอก ถ้าคนคนนั้นรักกาลิค แล้วเข้าใจในตัวกู แล้วกูก็โอเคกับเค้า กูก็คงชอบเค้าแล้วและนั่น มันก็หมายถึงมึงนะ " ยักไหล่ใส่อีกคนก็หันมามองทำท่าจะอ้วกออกมา ผมยกมือขยี้ผมของมันก่อนจะโยกไปมา  " ไม่เห็นต้องหึงเลยเมียจ๋า ต่อให้ใครมาชอบผัว ผัวก็ไม่นอกใจเมียหรอก รักเมียคนเดียวนะจ๊ะ จุ๊บๆ "

“ ใครเป็นเมียมึงไอ้สัด หุบปากไปเลย " มันหันมาด่าผมก็ยกยิ้ม

“ หึงกูออกนอกหน้านอกตาขนาดนั้น ยังจะบอกว่าไม่ใช่เมียกูอีก หรือว่าต้องเอากันก่อนถึงจะนับว่าเป็นเมีย งั้นจะเอายังไง คืนนี้เลยมั้ย หายป่วยพอดี "

“ สัด เงียบไปเลยไอ้เหี้ย! ” มันหันมาด่าทำมือเหมือนจะฟาดมาทางผมแต่ก็ถูกผมจับไว้ก่อน " ปล่อยเลย "

" ขอจับหน่อย " มือบางที่พยายามดึงออกแต่ผมก็จับมันไว้แน่นดึงมาตั้งอยู่บนตักมันก็ยังดึงไม่เลิก

“ กูกินข้าวลำบาก จะมาจับทำไมวะ ขาดความอบอุ่นรึไง "

“ ก็เค้าอยากจะให้เมียรู้ว่าเค้าไม่ได้คิดอะไร "

“ ก็บอกว่าไม่่ใช่เมียมึงไงไอ้เหี้ยนี่ก็! " ขมดึงมือตัวเองออก แต่ผมก็พยายามจับมันไว้แน่นแต่คนโดนจับก็ไม่ยอมพยายามดึงมือออกอยู่แบบนั้น

“ แล้วนี่มึงเป็นยังไงบ้าง " คำถามชวนเปลี่ยนเรื่องให้มันเลิกคิดเรื่องดึงมือที่ผมจับอยู่นั่นออกเสียที แล้วก็ได้ผลมือนั้นชะงักหยุดทันทีตอนที่ผมถามมันก็เป็นแบบนี้ เวลาทำอีกอย่างชอบลืมอีกอย่าง ขมพยักหน้ารับ

“ กูหายแล้วละ ถ้าเป็นเปอร์เซ็นต์ตอนนี้กูคงป่วยแค่สัก 30 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นแหละ " มันยักคิ้วให้ก่อนจะหันไปกินข้าวต่อคงลืมไปแล้วละว่ามืออีกข้างของมันมีผมจับอยู่

“ งั้นกินข้าวเสร็จก็อย่าลืมกันยาแล้วกัน "

“ อื้ม " ขมพยักหน้ารับ ผมนั่งมองมันกินข้าวไปเรื่อยๆ มือที่กุมมันอยู่ขยับไปมาจับอีกฝ่ายหันมามองก่อนจะดึงมือตัวเองกลับ

“ อ้าว..รู้ตัวซะแล้วละ "

“ สัด! นิสัยเสีย " มันบ่นผมก็หัวเราะ

“ ใครกันแน่ที่นิสัยเสีย พอได้คุยอีกเรื่อง มึงแม่งก็ลืมอีกเรื่องละ นี่ถ้ากูไม่ขยับมือ มึงไม่มีทางรู้ตัวหรอกว่ากูจับมือมึงอยู่ "

“ มึงนั่นแหละนิสัยเสีย รู้ว่ากูเป็นยังไง ก็เอาจุดอ่อนนั่นแหละ มาแกล้งกูเรื่อยเลย "

“ กูแกล้งอะไรมึงงงง " ผมลากเสียงยาวอีกคนก็หันมาชักสายตาใส่ " อะไรครับมาชักสายตาใส่พี่ทำไมครับน้องขมม " ขมลุกขึ้นหลังจากกินข้าวเสร็จมันบอก

“ มึงคิดว่ากูหายโกรธมึงแล้วเหรอ เรื่องน้องมีนาอะ อย่ามาทำเป็นลืม กูไม่ลืมหรอกไอ้เหี้ย "
 
“ เดี๋ยวๆ มึงโกรธเรื่อง ? “ เดินตามเข้าไปในครัวเอ่ยถามมันไอ้ขมก็หันมามองหน้า " กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะ น้องเค้าเข้ามาหาเอง ถ้าเป็นมึง มึงก็ต้องทำแบบกูนั่นแหละ จะให้ไม่พูด ไม่ทัก ได้ไง ก็เค้าทักเราก่อน แล้วเรื่องข้ามถนนมึงจะปล่อยให้คนรู้จักที่ดูเงอะๆงะๆ ตอนข้ามถนน ข้ามคนเดียวเหรอ เกิดรถชนเค้าขึ้นมาจะทำยังไง ส่วนเรื่องคำถามพวกนั้น กูก็ตอบไปตามน้ำอะ จะให้ไม่ตอบก็ไม่ได้จริงมั้ยละ "

“ แต่เค้าก็ไม่ได้ขอให้มึงจับมือเค้านี่ จริงมั้ย " ขมถามก่อนจะเอียงหน้ามองผม " ถ้ามึงไม่จับแล้วบอกเค้าว่า มีนาตามพี่มาตอนเดินข้ามถนน แค่นั้นก็ได้แล้วปะ แต่นี่มึงจับมือเค้า..”

“ ก็แค่จับมือเปล่าวะ " ผมบอกมันอีกคนก็เงียบ ขมผ่อนลมหายใจออกมามันหันไปหยิบแก้วก่อนจะกินน้ำ ท่าทางของมันทำเหมือนผมเป็นพวกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรซะอย่างงั้น " อะไรของมึงวะขมพูดออกมาสิ เคลียร์กันให้จบๆ แล้วหายโกรธกันสักที "

“ ถ้าเค้าไม่ชอบมึง กูคงคิดแหละ ว่ามันเป็นการจับมือเพื่อช่วยเหลือเฉยๆ แต่พอเค้าคิดอะไรกับมึง สำหรับกูมันก็ไม่ใช่การจับมือเฉยๆแล้ว เหมือนมึงทำให้เค้าชอบมึงมากขึ้นโดยที่มึงไม่รู้สึกตัว แล้วพอแบบนั้น กูก็..”

“ อะไร มึงก็อะไร " ผมถาม คนที่กำลังสนทนาด้วยก็เหลือบตามอง สายตาที่ดูก็รู้ว่าคนแบบมันคงไม่พูดออกมาหรอก " พูดยากนักกูบอกเอง มึงก็หึง ไม่โอเค ไม่อยากจะให้จับ อย่าเข้าไปใกล้ ถูกมั้ย มา กูจะแก้ไขปัญหานี้เอง " ยกมือที่จับมือมีนาขึ้นมาตรงหน้ามัน " มือนี้กูจับมือมีนามา กูจะเอาไปล้าง " เดินไปที่อ่างล้างจานผมบีบน้ำยาล้างมือ ล้างมือตัวเองถูๆจนสะอาดก่อนจะหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ด " โอเคเสร็จละ พอใจยัง ถ้ายังไม่พอใจก็นี่ " คว้ามือบางมาจับไว้แน่นอีกคนก็สะบัดออก

“ กูไม่ได้รู้สึกอย่างงั้นเว้ย "

“ กู ม่าย ด้าย ยู้ ซึก อย่าง งั้น เว้ย " ผมว่าเสียงล้อเลียนมันอีกคนก็จิ๊ปากขัดใจ

“ มึงแม่ง.. นิสัย กวนส้นตีน "

“ นี่รู้มั้ยถ้ากูเป็นมึงนะ กูจะบอกความจริงในใจที่กูรู้สึก แล้วรีบรวบรัดกันซะ  บอกไปเลย หึงเว้ย อย่าไปให้ชะนีที่ไหนเค้าจับมือมึงสิวะ มือมึงเป็นของกูนะ ไอ้เชี้ยยยจากนั้นกูก็จะเข้ามาใกล้ กอดเอวแล้วก็ซบลงตรงอก  เขย่งตัวขึ้นจูบปากสักทีแล้วบอกว่า ' ภาพเป็นของขมนะ ต้องย้ำกันรึเปล่าว่าเราเป็นของกันและกันยังไง ' จากนั้นก็ผลักกูเข้าห้องแล้วเราก็... คึคึ " ผมยิ้มออกมาก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอตัวเอง นึกจินตนาการถึงสิ่งที่ตัวเองพูด ก่อนจะแรงตบหนักๆจะฟาดลงบนหลังเสียเต็มแรง

   เพี๊ยะ!!!

“ โอ๊ย! เชี้ย! เจ็บบบบบบบบ "

“ ไปนอนกลางกลางวันไป ไอ้สัด ไร้สาระ " ไอ้ขมส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินออกไปจากห้องครัว " มึงแม่งก็พูดแต่สิ่งที่มึงต้องการอะ "

“ แล้วผิดเหรออออออ ก็เค้าอยากจะให้มันเป็นอย่างงั้นนี่น่า ตัวเองงงงง " ผมลากเสียงยาวๆถามก่อนจะเอียงหน้าทำแบ๊วใส ขมขมวดคิ้วพลางทำท่าทางจะอ้วกตอนที่มันจ้องหน้าผม มันที่หลุดหัวเราะออกมาก่อนจะส่ายหน้า

“ เป็นบ้าอะไรของมึงวะ ปัญญาอ่อน กูแม่งงงง โอ๊ยยยย ฮ่าๆ ไอ้บ้า เลิกทำหน้าปัญญาอ่อนได้แล้ว "

“ นี่ " ผมเอื้อมมือไปจับมือมัน " กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมีนานะ อย่าโกรธเลย ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก จริงมั้ย "

“ ปล่อยมือกูเถอะน่า กูไม่ใช่สาวแรกรุ่นให้มึงมาพูดคำหวานแล้วเขินนะเว้ย " มันสะบัดมือตัวเองออก แต่ผมที่จับมือมันไว้แน่น ขมหันหน้าไปอีกทางแก้มแดงๆของมันที่แดงจัด

" ไหนบอกว่าไม่ใช่สาวแรกรุ่นแล้วเขินทำไม "

“ ก็ร้อนเว้ย มาอัดกันอยู่ในครัว ถอยๆ กูจะไปหาหัวหอม " มันบอกปัด แต่ผมก็ยังไม่ยอมปล่อยมึอ

“ บอกก่อน ว่าไม่โกรธกูแล้วจะปล่อย "

“ เออๆ ไม่ได้โกรธแล้ว " ขมบอกแบบว่าง่าย ผมก็เอียงหน้าถามยิ้มๆ

“ แล้วเมื่อไหร่จะยอมรับสักทีว่าเป็นแฟนกู " ถามมันที่ก็เงยหน้าขึ้นมามอง สายตาเชิงตั้งคำถามของมันส่งมา

“ มึงไม่คิดบ้างเหรอว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว " ขมเอียงหน้ามองผมก่อนจะยิ้ม " กูรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่เห็นต้องเปลี่ยนเป็นแฟนเลย เราอยู่ด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ไปซื้อของ ดูหนัง ไปเรียน ทำอะไรหลายๆด้วยกันมากกว่าคนเป็นแฟนกันแบบไอ้ชัดไอ้โมมันเป็นอีก มึงไม่คิดงั้นเหรอ "

" แต่เพื่อนกันเค้าไม่หึงกันนะ " ผมบอก " ถ้ากูมีเพื่อนใหม่ หรือคุยกับใคร เค้าจะไม่มีการหึงกัน นั่นคือเพื่อน " ขมเงียบไปตอนที่ผมบอก " กูไม่บีบบังคับมึงอยู่แล้วเรื่องความสัมพันธ์ไม่ใช่ว่ากูไม่ยอมต้องเปลี่ยนให้ได้ เปล่าเลย แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของมึงที่ว่า เพื่อนกับแฟนมันเหมือนกัน เพราะกูคิดว่าไม่เหมือน เพื่อนหึงกันไม่ได้แล้วอีกอย่าง เพื่อนเอากันไม่ได้ นั่นแหละสิ่งที่เพื่อนกับแฟนมันต่างกัน "

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เสียงเคาะประตูดังขึ้น เราที่กำลังสบสายตาคุยกันละความสนใจออกจากกันเพราะเสียงนั้น ผมเดินออกไปที่ประตูเพราะรู้อยู่แล้วว่าคนที่มาเคาะเป็นใครกัน

“ พี่ภาพ มีนาเอาสปาเก็ตตี้มาให้ค่ะ " พอเปิดประตูออกไป เสียงของผู้หญิงที่นัดผมไว้ก็เอ่ยทัก ผมก้มหน้ายิ้มให้เธอก่อนจะมองไปที่กล่องใส่อาหารใบใหญ่ที่เธอถือ

“ ขอบคุณมากนะครับ " บอกไปแบบนั้นตอนที่เอื้อมมือไปรับ เธอก็พยักหน้ารับแต่ก็ยังหยุดยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

“ แล้วน้องกาลิคทำอะไรอยู่เหรอคะ " คำถามพร้อมใบหน้าสวยที่เอียงเข้ามาดูในห้อง ถ้าเดาไม่ผิดที่ไม่ออกไปง่ายๆก็คงเพราะอยากเข้ามาข้างในสินะ

“ ดูการ์ตูนน่ะ " ผมบอกเธอก่อนจะเปิดประตูให้กว้างขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ " มีนาเข้ามาก่อนสิ "

“ น้องกาลิค " เธอเอ่ยเรียกอีกคนที่ก็หันมายิ้มกว้างให้แล้วหันกลับไปดูการ์ตูนอีก " แล้วพี่ขมเป็นยังไงบ้างคะ "

“ หายป่วยแล้วแหละครับ " ขมที่ยืนอยู่ในครัวเอ่ยบอก เธอที่หันไปมองเปลี่ยนสีหน้าทันทีตอนที่เห็นขมเดินออกมา

“ อ้าว..พี่ขม " เธอว่าก่อนจะยิ้มจางๆให้อีก

“ มีนาทำสปาเก็ตตี้มาให้พวกพี่เหรอ " ขมถามเธอก็พยักหน้ารับ

“ ใช่ค่ะ พอดีหนูเจอพี่ภาพที่หน้าคอนโดตอนที่ไปซื้ออุปกรณ์พอดี ก็เลยทำมาเผื่อทุกคนเลยค่ะ ลองชิมดูนะคะ ไม่รู้จะถูกใจรึเปล่า "

“ ขอบคุณมากนะครับ " ร่างบางพยักหน้าบอกเธอ มีนาก็หันมายิ้มให้ผมที่ก็ยิ้มให้เธอเช่นกัน

“ อ่ะแฮ่มๆ " เสียงกระแอมของไอ้ขมชวนให้เราหันไปมองมัน มือบางเอื้อมเกาที่คอตัวเองเบาๆ " คันคอ สงสัยยังไม่ค่อยหายดี "

“ แล้วนี่กินยารึยัง " ผมถามมันก็ส่ายหน้า

“ ยังอะ มึงเอาให้หน่อยสิ ปกติมึงเอาให้กูกินทุกวัน กูไม่เคยจัดเอง ยาอยู่ไหนใครจะไปรู้วะ "

“ แล้วก็ไม่บอก " ส่ายหน้าให้มันตอนที่เดินเข้าไปในครัวมีนาก็มองตามผม

“ พี่ภาพ ดูแลพี่ขมดีจังเลยนะคะ "

“ ก็ต้องช่วยกันแหละ อยู่ด้วยกันนี่ ถ้าพี่ไม่สบายมันก็ต้องดูแลพี่ มันไม่สบายพี่ก็ต้องดูแลมัน " เอายาพร้อมกับน้ำมาให้อีกคน ขมกินน้ำจนหมดแก้วก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะ

“ ดีจังนะคะ มีนาเองก็อยากจะมีคนดูแลบ้าง แต่ติดที่ว่าอยู่คนเดียวนี่สิ " เธอว่าก่อนจะยิ้มให้ผม ไอ้ขมก็เอ่ยถาม

“ แล้วแฟนมีนาละ " คำถามที่ทำให้ผมให้ไปมองหน้ามัน ไม่คิดว่าไอ้เหี้ยนี่จะเลือกถามคำถามที่โคตรจะทำร้ายจิตใจน้องมันออกมาได้ มีนามีแฟนแล้วเท่าที่ผมกับไอ้ขมรู้เพราะผู้ชายคนนั้นเคยมาหาเธอที่คอนโดบ่อยๆ แต่เราก็เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจและไม่พูดอะไร มีนาเงยหน้ามองมันด้วยสายตาไม่พอใจเท่าไหร่ที่โดนถามแบบนั้น เธอคงรู้สึกเสียบรรยากาศแต่ถึงอย่างงั้นเธอก็ยังยิ้มออกมา " พี่จำได้ว่า เมื่อวันก่อนพี่เห็นแฟนมีนานะ "

" ก็น่าจะเป็นเดือน หรือสองเดือนก่อนนะคะ เพราะว่าตอนนี้เราเลิกกันไปแล้ว " เธอบอก ขมก็พยักหน้ารับ

“ มีนาโอเครึเปล่า " ผมถามเพราะท่าทางเธอดูเหมือนจะเศร้าลงไปทันทีตอนที่พูดถึงแฟนเก่า ใบหน้าสวยพยักหน้ารับ

“ โอเคคะ ไม่เป็นอะไรหรอก "

“ พี่ขอโทษแทนไอ้ขมมันด้วย มันถามอะไรไม่คิด พอดีมันป่วยสมองมันเลยเบลอๆอะ " หันไปมองอีกคนที่ตาโตขึ้นมาตอนที่ผมพูดแบบนั้น แล้วคราวนี้ก็กลายเป็นไอ้ขมที่ตีสีหน้าหงุดหงิดขึ้นมาแทน ผมพูดเสียงเบา " ขอโทษน้องเค้าสิวะ มึงพูดเหี้ยไรไปกระทบใจเค้ารึเปล่า "

“ แสดงปะเถอะ " มันพูดเบาๆ

" เอาน่า ถึงจะแสดงมึงก็ควรขอโทษเค้านะ " ผมตอบกลับเสียงเบาๆเช่นกัน ขมหันไปยิ้มแห้งๆให้มีนา

“ พี่โทษทีนะมีนา พี่ไม่ได้ตั้งใจอะ "

“ ไม่เป็นไรหรอกคะพี่ขม " เธอว่าก่อนจะหันมายิ้มให้ผม มีนาก้มหน้าลงท่าทางที่ตกประหม่าของเธอดูเหมือนที่ยืนอยู่ตรงนี้เธอเหมือนยังมีอะไรที่จะพูดอีก " พอดีว่าจริงๆ มีนามีเรื่องอยากจะรบกวนพี่ภาพหน่อยนะคะ "

“ พี่เหรอ ? “ ผมชี้เข้าหาตัวเอง เธอก็พยักหน้ารับ

“ คือจริงๆที่มีนาเอาสปาเก็ตตี้มาให้มีนามีเรื่องอยากจะรบกวนนะคะ " รอยยิ้มเขินๆของเธอเหลือบตามองหน้าผมก่อนจะก้มหน้าลง " คือ..จะเป็นไรมั้ยคะ ถ้ามีนาจะขอให้พี่ภาพ ช่วยติวหนังสือให้หน่อย พอดีมันมีวิชานึงที่มีนาไม่ค่อยเข้าใจแล้วพรุ่งนี้ก็จะสอบแล้วด้วย ยังไงพี่ภาพช่วยติวให้หน่อยได้มั้ยคะ"

“ ตอบแทนค่าสปาเก็ตตี้นั่นสินะ " ผมบอกเธอก็ยิ้มเขินแล้วก็พยักหน้ารับ

“ จะว่าแบบนั้นก็ได้คะ "

“ เอามาให้ดูก่อนแล้วกัน ว่าจะให้สอนเรื่องอะไร ถ้าสอนได้ ก็ไม่มีปัญหาหรอก "

“ เย้! ดีใจจัง งั้นมีนาไปเอาหนังสือก่อนนะคะ " สีหน้าดีใจของอีกคนเดินออกไปจากห้องทันทีตอนที่ผมตอบตกลง ถอนหายใจออกมาตอนที่หันไปมองไอ้ขมมันชักสีหน้าใส่ มือบางที่เอื้อมมือจับที่ไหล่มันยิ้มจางๆ

“ เอาเป็นว่า ไม่ต้องแคร์กันก็ได้มึง ตามสบาย " คำพูดที่บอกถึงขีดสุดความหงุดหงิดของไอ้ขม และแน่นอนตอนนี้ผมเองก็รู้สึกว่าคำพูดที่แสนใจดีของผมกับมีนาเมื่อครู่ จะทำให้เกิดหายนะขึ้นกับชีวิตซะแล้ว

...................................................

จะว่าไปขม ก็ขี้หึงเหมือนกันนะ
แต่ถ้าให้มองอย่างเป็นกลาง เราว่าก็ขมไม่ชัดเจนเอง ยังหวงความเป็นเพื่อนกับภาพ แต่ก็หึงเค้า อยากเป็นเจ้าของเค้าซึ่งแบบนี้มันต้องอยู่ในสถานะแฟนไง แกจะมาย้อนแย้งแบบนี้ไม่ได้นะคะ ถ้าแกหึงเค้าแกควรเป็นเมียเค้า อย่ามายุ่งกับผัวกู แต่ถ้าแกคิดจะเป็นแค่เพื่อน กูไม่ควรหึงเค้า อย่างที่พี่ภาพกล่าวไว้ เพื่อนกับแฟน ไม่เหมือนกัน อย่างน้อย เราไม่หึงเพื่อน และ เราเอากับเพื่อนไม่ได้ด้วย #ขีดเส้นใต้ประโยคท้ายสุดในส่วนความต้องการของพี่ภาพ
ส่วนภาพเอง ก็ถือคติ ก็กูไม่ได้คิดอะไร ก็ช่างหัวมันสิวะ เข้ามาเลยมีนา พี่ไม่ได้คิดอะไร หนูทำอะไรพี่ก็ไม่ไหวหวั่น ตบมือข้างเดียวไม่ดัง #งั้นฉันขอเอามือข้าวเดียวฟาดหน้าแกอยากรู้ว่าดังมั้ย  เพราะงั้นถึงไม่คิดอะไร ก็ควรต้องเคร์ คนที่ตัวเองรักด้วยนะคะ คนดี

หนมมี่คนเขียนสายกลาง
สุดท้ายนี้ ขอหยิกแก้มหัวหอมที หมั่นเขี้ยววววววววววววววววววววววววววว
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ ฝากแชร์ฝากไลค์ในเพจหนมมี่ผู้ใสซื่อ
รักมาก เจอกันตอนหน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า


 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 14-07-2017 20:50:09
 o18 มีนา สีนากี่แปลงจ๊ะ เสนอขายดีเหลือเกิน ส่วนภาพนี้ก็นะ ขมจัดไปลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 14-07-2017 20:51:39
แหมๆ หึงก็บอกว่าหึงสิขมไม่ต้องเขิน
ส่วนกาลิคลูกกกก หนูไม่ต้องบอกอาขมหมดก็ได้ 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-07-2017 20:55:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 14-07-2017 21:03:36
ตีองให้เวลาน้องขมนิดนึงเป็นเพื่อนมานานถ้าจะขยับฐานะก็ใจเย็นๆนะป๊า กอดกาลิคแรงๆฟ้องแม่หมดเลย5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 14-07-2017 21:16:45
รำคาญภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 14-07-2017 21:31:36
โอยเบื่อ อิผู้ชายใจดี อดกินของขมกินสปาเกตตี้ไปเหอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: kratair ที่ 14-07-2017 21:38:15
หงุดหงิดภาพ จะไปช่วยมีนาทำไมถ้าอยากให้ขมหึงน่าจะทำวิธีอื่น เเบบนี้เหมือนให้ความหวังมีนา :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 14-07-2017 22:02:05
โคตรขี้หึงอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: aornarak ที่ 14-07-2017 22:23:24
ภาพมันต้องเจอแบบที่ขมเจอ. ถึงขมจะยังไม่แน่ใจแต่แค่มองก็รู้แล้วมั้ยว่าขมเริ่มมีใจ
พูดแค่ไม่คิดอะไร ถ้าเป็นขมทำแบบภาพบ้าง ขี้คร้านนัวภาพเองคงนอยยิ่งกว่า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-07-2017 22:51:14
 :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 15-07-2017 10:43:53
ภาพก็รู้นะว่ามีนาชอบ ทำแบบนีีก็เหมือนให้ความหวังป่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 44 - 9.7.60} #หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 15-07-2017 21:47:48
กาลิคเป็นคนตรงๆ รู้อะไรมาบอกหมดดด
จะรอดูยัยมีนา และความหายนะของภาพ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 16-07-2017 20:37:09
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 45

“ เอาเป็นว่า ไม่ต้องแคร์กันก็ได้มึง ตามสบาย "  เดินไปนั่งข้างหัวหอมตอนที่พูดคำพูดนั้นจบ ผมใส่หน้ากากอนามัยปิดปากตอนที่ก้มลงหอมแก้มมัน เจ้าตัวเล็กก็เงยหน้าขึ้นมอง

“ อาขม เดี๋ยวอามีนาจะบ้านเราเหรอ "

“ ช่ายยย " ผมลากเสียงบอก อีกคนก็พยักหน้ารับ " แล้วหัวหอมดูการ์ตูนเรื่องอะไรอยู่ "

“ ดูโปเกม่อน แต่จะจบแล้ว " มันชี้ไปที่ทีวี ไอ้ภาพก็เดินมา

“ ขม มาคุยกันหน่อย "

“ คุยอะไร " ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้ามัน อีกคนก็ขมวดคิ้ว ใบหน้าคมที่ไม่รู้ว่าตอนนี้รู้สึกอะไรอยู่ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่รู้คือ ภาพมันรู้แน่นอนอยู่แล้วว่าผมไม่ชอบใจเรื่องของมีนา รู้อยู่แล้วว่าผมหึงมัน แต่ที่ผมไม่รู้เลยคือ ในเมื่อรู้ว่ากูไม่ชอบ แล้วทำไมต้องไปใกล้เค้าวะ

“ เรื่องมีนา ลุกขึ้นมานี่ก่อน " มือหนาจับมือผมให้ลุกขึ้น แล้วตอนนั้นหัวหอมก็ดึงมือของไอ้ภาพไว้ มันถาม

“ ป๊าจะพาอาขมไปไหน "

“ ไปคุยในห้อง " ภาพบอกอีกคนด้วยเสียงทุ้มๆแบบกำลังหาเรื่อง มันที่มองผมแบบไม่วางตา หัวหอมที่เห็นท่าทางแบบนั้นของมันเจ้าตัวเล็กก็ลุกขึ้นยืนบนโซฟาก่อนจะโบกมือไปมาแล้วบอก

“ ไม่ทะเลาะกันนะรู้เปล่า แค่คุยกันนะ "

“ ครับผม ไม่ทะเลาะครับ คุยเฉยๆ " ร่างสูงหันไปย้ำกับลูกชายตัวเองแบบนั้นก่อนจะยิ้ม หัวหอมก็ปล่อยมือมัน “ ไปคุยกัน "

   เดินเข้ามาในห้องของผมที่ดึงมือตัวเองออกก่อนจะมองหน้ามันที่ก็มองหน้าผมเหมือนกัน " มีอะไร ว่ามาเลย เดี๋ยวน้องมีนามาจะเสียเวลาติวหนังสือนะ "

“ ไม่ต้องประชด " เผลอแบะปากตอนมันพูดออกมาแบบนั้น " แล้วก็ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย "

“ นี่มันเรื่องของกูปะ แบะปากก็ไม่ได้ พูดอะไรก็ไม่ได้ มึงบ้าปะเนี้ย "

“ มึงเป็นอะไร ถามหน่อยเถอะ นี่กูงงนะ " ภาพถามผมก็สวนกลับ

“ ทางนี้มากกว่าที่ต้องถามว่ามึงอะเป็นอะไร " ผมบอก " มึงรู้อยู่แล้วว่ากูรู้สึกยังไงกับมึง มึงรู้ว่ากูหึงมึงเรื่องมีนา แล้วทำไมมึงต้องทำเป็นไม่รู้วะ ทำไมมึงยังไปตอบตกลงจะติวหนังสือให้เค้า ทั้งๆที่มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบให้มึงไปใกล้กับเค้า หรือว่ามึงกำลังจะทำให้กูทนไม่ไหว แล้วก็ตอบตกลงเป็นแฟนกันมึง อย่างงั้นเหรอวะ "

" ไม่ใช่ " ร่างสูงบอกก่อนจะส่ายหน้า มันที่จ้องหน้าผม " กูไม่เคยคิดจะบีบบังคับให้มึงตอบรับความรู้สึกของกู ด้วยการมานั่งอี๋อ๋อกับน้องเค้าหรอก กูไม่ได้ปัญญาอ่อนขนาดนั้น แล้วมึงที่มองตากูอยู่ตอนนี้ มึงคงรู้ว่ากูไม่ได้โกหกจริงมั้ยละ " ผมเงียบก็เป็นอย่างที่มันพูดนั่นแหละ ภาพไม่ได้โกหก

“ แล้วอย่างงั้น ทำไมมึงต้องไปสอนเค้าด้วยวะ “

" กูแค่สอนเพราะเห็นว่าเค้าอยากจะให้สอน ถ้าเค้าไม่อยากจะให้สอนเค้าไม่ทำสปาเก็ตตี้มาให้เพื่อแลกกับการสอนหรอกจริงมั้ยละ "

" นี่มึงเชื่ออย่างงั้นจริงๆเหรอ " ผมถามมัน " มึงเชื่อว่า น้องมันทำสปาเก็ตตี้มาให้มึงเพื่อแลกกับการสอน กูโง่ขนาดที่ดูไม่ออกเลยเหรอวะ ว่ามันไม่ใช่ สมองมึงโดนกระแทกรึเปล่า ? มึงแยกผู้หญิงไม่ออกแล้วเหรอ ว่าคนไหนเค้าอ่อย คนไหนเค้าจริงจัง " มันเงียบไปผมก็ถอนหายใจออกมา " กูไม่คิดว่านางจะไม่รู้เรื่องหรอก แค่หาเรื่องมาอยู่ใกล้มึงมากกว่า "

   หันมองไปทางอื่น ไม่ชอบใจเลยจริงๆ หงุดหงิด งุ่นง่าน เบื่อ เซ็ง ถ้าทำได้อีกเดี๋ยวถ้าเห็นเธอเดินเข้ามาผมก็อยากจะตะโกนออกไปเสียงดังๆว่า ' ออกไปจากห้องกูนะเว้ย! อย่าเข้ามายุ่ง ไปเลยไป ' แต่ความจริงแม่งก็ทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ ได้แต่อดทน อดทน แล้วก็อดทน ไอ้ภาพไม่คิดอะไรกับเธอก็จริงผมรู้ แต่เธอนั่นแหละ ที่คิดอะไรกับมัน แล้วก็คิดจริงจังมากซะด้วย ก็ขนาดรู้แล้วว่าหัวหอมเป็นลูกยังเดินหน้าอ่อยไม่ถอยเลยนี่หว่า

“ คิดมากไปได้ ไม่ต้องคิดมากหรอก " ภาพจับไหล่ผมก่อนจะก้มหน้าลงมาสบตากัน " กูไม่ได้คิดอะไรกับน้องเค้า แค่อยากจะติวหนังสือให้มันจบๆเรื่องบุญคุณสปาเก็ตตี้กันไปก็เท่านั้น ทีหลังเราเองจะได้ไม่ต้องเกรงใจอะไรเค้าอีก "

" กู.. ไม่ได้คิดมาก " ผมบอก อีกคนก็หัวเราะ

" ตอแหลอีกละ "

" กูไม่ได้คิดมาก กูแค่หึงมึง " ภาพหยุดหัวเราะทันทีตอนที่ผมพูดคำนั้นออกมา ผมก้มหน้าลงถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกยอมแพ้  ผมยอมแพ้แล้วกับความรู้สึกของผมที่ระเบิดออกมาในตอนนี้ " กูไม่มีอะไรพูดอีกแล้ววะ กูไม่มีข้ออ้าง ไม่มีเหี้ยอะไรทั้งนั้น ยกเว้นกูหึงมึง หึงมากๆ หึงจนจะระเบิดอารมณ์ออกไปอยู่แล้ว  มันหงุดหงิด หายใจก็ไม่ออก กูไม่อยากให้เธอยิ้มให้มึง ไม่อยากเห็นมึงยิ้มให้เธอ แต่พูดไปก็เท่านั้น เพราะกูเป็นแค่เพื่อน  เพื่อนรู้สึกหึงไม่ได้สินะ มึงบอกแบบนั้นนี่ "

“ ขม "

“ งั้นกูยอมก็ได้ " เงยหน้าขึ้นบอกมัน ก่อนจะยกยิ้มแบบแพ้ๆให้ไอ้ภาพ " กูยอมแพ้แล้ว ยอมแล้วจริงๆ กูยอมเป็นแฟนมึงก็ได้ เพราะกูหึงมึงมากจนไม่ไหวกับความรู้สึกตอนนี้แล้ว ถ้ากูไม่ทำอะไรสักอย่างกูต้องระเบิดตายแน่ เพราะกูไม่ชอบมากๆ ไม่อยากให้มึงใกล้ใคร กูยอมมึงเป็นแฟนมึงแล้ว ยอมแล้วจริงๆวะ " ยอมโดยไม่มีการบังคับจากใคร แต่เป็นการยอมด้วยความรู้สึกของตัวผมเอง ท่ีสุดท้ายก็ทนไม่ไหวมันซะเอง " ไม่ติวหนังสือให้เค้าได้มั้ยวะ " ผมถามก่อนจะเงยหน้าบอก " ถือว่าแฟนมึงขอร้อง "

   มือหนาดึงผมเข้าไปใกล้ไม่มีคำพูดอะไรโต้ตอบกลับมา ภาพไม่ได้บอกว่า ได้ หรือ ไม่ได้ สำหรับเรื่องที่ผมขอ แต่ภาพกลับโน้มใบหน้าลงมาใกล้แล้วจูบลงริมฝีปากของผมด้วยความนุ่มนวล จูบที่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่หนนี้มันกลับต่างออกไปจากทุกที แววตาสั่นๆของผมที่หลับตาลงช้าๆ ในวินาทีนั้นราวกับร่างกายจะหลุดลอยออกไปไกล มันเหมือนไม่มีความรู้สึก ตัวมันเบา มือหนาที่จับเอวผมไว้ภาพกอดมันไว้แน่น

   ยามริมฝีปากกดย้ำลงมา ลิ้นชื้นแทรกตัวเข้ามาในปากผม สองลิ้นที่กอดเกี่ยวกันและกันดื่มด่ำจนทำให้เราลืมทุกอย่าง ริมฝีปากหนาผละออก ภาพจูบลงไปที่สันคอ ความอบอุ่นที่ประทับลงไปจนถึงไหปลาร้าทำให้ผมอ้าปากค้างด้วยความรู้สึกที่ปะทะเข้ามา ก่อนจะกัดริมฝีปากไว้แน่นตอนที่มันสอดมือเข้ามาในเสื้อ เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกแบบนั้น .. รู้สึกต้องการ แล้วรู้สึกว่าอยากจะได้มากกว่านี้

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ ป๊าา อาขม มีคนมาหา " เสียงของหัวหอมดังออกมาจากหน้าห้อง เราผละตัวเองออกจากกันทันทีราวกับโดนของร้อน เบือนหน้าหนีกันและกันไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น ความรู้สึกแปลกๆตีเข้าใส่หน้าราวกับว่าเพื่อนที่คบกันมานานตรงหน้าเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งจะรู้จักกัน " ป๊าาาา อาขม ป๊าาาา อาขมมม "

“ ครับๆ ออกไปเดี๋ยวนี้แหละ " ผมเอ่ยตอบกลับไปก่อนจะเปิดประตูห้อง ก้มมองเด็กน้อยที่ชี้ไปที่ประตู

“ มีคนมา ใครก็ไม่รู้ครับอาขม "

“ อามีนาน่ะ " ภาพเดินตามออกมามันเอ่ยบอก ก่อนจะก้มลงกระซิบผม " มึงพากาลิคเข้าไปในห้องมึงก่อน "

" อื้ม " ผมพยักหน้ารับมันตอนที่พากาลิคเข้าไปในห้องนอนตัวเอง ผมเหลือบมองภาพแล้วสิ่งที่เห็นคือมันเดินตรงไปที่ประตูนั้นก่อนจะเปิดออกให้ผู้หญิงที่กำลังยิ้มกว้างคนนั้นเดินเข้ามา

“ อาขม " หัวหอมเงยหน้าขึ้นเรียกผม ที่ก็ก้มลงไปมองมัน

“ ครับผมว่าไง "

“ ทำไมกาลิคต้องเข้ามาข้างในด้วยละ ป๊าไม่อยากจะให้เราสองคนอยู่ด้วยเหรอ "

“ ไม่ใช่อย่างงั้นหรอก " เอ่ยบอกอีกคนก่อนจะนั่งลงบนเตียง พร้อมกับดึงเจ้าตัวเล็กที่กำลังสงสัยให้นั่งลงข้างกัน " แต่เรื่องบางเรื่องเค้าก็ไม่อยากจะให้เราได้ยินไง อื้มมม ก็เหมือนหัวหอมที่ไม่อยากจะให้ป๊าได้ยินอะไร เราก็เลยกระซิบกันไง "

“ อ๋อออ "

“ ก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะให้ป๊าอยู่ตรงนั้น แต่เขินที่จะพูดออกไปตรงๆให้ป๊าได้ยินเท่านี้เอง ใช่มั้ยละ "

“ ใช่!” มือเล็กเอื้อมมือเข้ามากอดผมไว้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นบอก " อาขมกาลิคยังอยากจะดูการ์ตูนอีก ขอดูอีกได้มั้ย "

“ ได้สิ " เดินไปเปิดทีวีในห้องให้อีกคน กดช่องการ์ตูนอีกคนก็นั่งดูต่อ ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่เหลือบไปมองประตูของตัวเอง อยากจะรู้ชะมัดว่าข้างนอกนั่นเกิดอะไรบ้าง เป็นความอยากรู้ที่ผสมปนเปกับความไม่อยากรู้นั่นแหละ

   ผมถอนหายใจออกมาตอนที่คิดถึงภาพสุดท้ายมันคงตัดสินใจสอนเธอ ผมรู้สึกอย่างงั้น เพราะไม่ว่าจะรั้งเท่าไหร่ สุดท้ายภาพมันก็เป็นมัน คือมันจะทำตามสิ่งที่มันพูดแต่กับผมที่ขอร้องไป ต่อให้พูดความจริงออกไปแต่ถ้ามันไม่ตอบตกลงก็ไม่มีทางรู้หรอก ว่ามันจะทำให้หรือไม่ทำ

“ อาขม กาลิคอยากจะกินขนม " เอียงหน้ามองไอ้ตัวเล็กที่เอ่ยพูดออกมาสั้นๆ " กาลิคอยากจะกินขนมกับนมที่อยู่ข้างนอก กาลิคออกไปเอาได้มั้ย "

“ งั้นอาขมออกไปเอาให้ดีกว่า รออยู่นี่นะ " ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนทันที เปิดประตูห้องออกไปช้าๆ ภาพที่ผมเห็นคือมีนาที่กำลังยืนคุยกับไอ้ภาพอยู่กลางห้อง มือหนาถือหนังสือนี่น่าจะเป็นของเธอไว้ในมือ ปิดประตูลงเสียงดังแกร๊ก. ก็ชวนให้คนที่ยืนอยู่หันมามอง " คือ พอดีออกมาเอาขนมให้หัวหอมน่ะ ตามสบายเลยนะทั้งคู่ "

“ ค่ะ พี่ขม " มีนารับคำผมก็เดินผ่านเธอเข้าไปในครัว หยิบแก้วของกาลิคขึ้นมาก่อนจะเปิดตู้เย็นแล้วหยิบขวดนมไมโลที่ชงไว้รินใส่แก้ว

" แล้วมีนาจะให้พี่สอนเรื่องอะไรเหรอ "

“ เรื่องนี้ค่ะ " เธอชี้ไปที่หน้าหนังสือ ไอ้ภาพก้มอ่านอยู่สักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้มแห้งๆ

“ เรื่องนี้พี่เองก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันน่ะ สอบผ่านมาแบบเฉียดๆ " มันว่ามีนาก็นิ่งไปทันที " ถ้าเป็นเรื่องนี้มีนาพึ่งดวงตัวเองน่าจะดีกว่า พี่สอนไม่ได้หรอก พี่ไม่ได้เก่งขนาดสอนใครด้วย "

“ งั้นเหรอคะ งั้นเรื่องนี้ก็ได้คะ " เธอเปิดหน้าหนังสือไปที่ด้านหน้า

“ แต่เรื่องนี้น่าจะสอบไปแล้วนะ มันเรียนตั้งแต่ต้นเทอมแล้วไม่ใช่เหรอ " คำถามของร่างสูงทำให้เธอนิ่งไป

    ภาพที่ใครๆรู้จักมันเป็นผู้ชายที่อยู่ในเพจคนหน้าดีของมหาลัย โปรไฟล์ที่คนทั่วไปรู้คือ มันคือหนุ่มหล่อที่ไม่โซเซียล ไม่ชอบถ่ายภาพ เลยไม่ค่อยมีภาพถ่ายลงเพจแม้จะเป็นคนที่ใครๆอยากจะเห็นหน้าตาของมันก็ตาม และถ้ามีคือเป็นภาพที่แอบถ่ายทีเผลอซะมากกว่า ส่วนการเรียนจากคำบอกเล่าของเพื่อนร่วมคณะ มันเป็นคนเรียนเก่ง เคยสอบได้ท๊อปของคราสเรียนในวิชาที่ยากสุดๆ ก็จัดว่าเป็นคนที่เฟอร์เฟ็คอยู่ในสายตาของใครๆ และมีนาเองก็คงรู้ประวัติมันพอควรจากในเพจนั้นอยู่แล้ว ก็เลยหยิบยกเรื่องเรียนมาขอความช่วยเหลือจากมัน

   เพราะงั้นตอนนี้มีนาเองก็คงงงๆอยู่เหมือนกันว่าทำไมเรื่องที่จะให้ภาพสอน มันกลับสอนเธอไม่ได้ และผมก็เดาว่าเรื่องที่ให้สอนเธอคงคิดมาอย่างดีแล้ว ว่ามันไม่ใช่เรื่องยากอะไร ภาพก็คงสอนเธอได้แน่นอน

“ โทษทีนะ พี่คงสอนเราไม่ได้หรอก " ภาพปิดหนังสือก่อนจะยื่นคืนเธอที่ก็รับมาอย่างช่วยไม่ได้ มีนาหยุดนิ่งอยู่แบบนั้นสักพักก่อนจะพูดออกมาเสียงเบาๆ

“ พี่ภาพ คือ.. มีนา คือว่า คือ.. " เสียงตกประหม่าและตื่นเต้นของหญิงสาวที่เงยหน้ามองร่างสูงตรงหน้าเธอก่อนจะเหลือบมองผมเล็กน้อยแล้วถอนหายใจออกมา " คือจริงๆมีนามีเรื่องอยากจะบอกพี่ภาพเรื่องนึง "

“ จะบอกพี่ว่าชอบพี่ใช่มั้ย " มันชิงถามเธอก่อนหญิงสาวตรงหน้าก็เบิกตากว้างขึ้นมา ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงทันทีก่อนจะก้มหน้าลงต่ำ

“ ค่ะ พี่รู้ได้ยังไงเหรอคะ "

“ เจ้ากาลิคบอกน่ะ " มันว่าก่อนจะยิ้มออกมา " กาลิคบอกพี่ว่า ถ้ามีคนมาถามเราว่า เราชอบคนแบบไหน คนนั้นกำลังชอบเราอยู่ "

“ อย่างงั้นเหรอคะ " มีนายิ้มจางๆออกมาก่อนจะยกมือขึ้นทัดผมตัวเอง แล้วเงยหน้ามองอีกฝ่าย " แล้วพี่ภาพ..” คำถามที่ทำให้ร่างสูงยิ้มก่อนจะก้มลงไปบอกหญิงสาวตรงหน้า

“ พี่มีแฟนแล้วน่ะ แล้วแฟนพี่เค้าก็ไม่ค่อยชอบที่พี่จะมาใกล้ชิดกับคนที่แอบชอบพี่ด้วย " ภาพถอนหายใจออกมา " โทษทีนะมีนา แต่พี่คงช่วยติวหนังสือให้เราไม่ได้หรอก " มันว่าก่อนจะยกนิ้วโป้งชี้มาทางผม " พี่ขมเค้าขี้หึงน่ะ " เธออ้าปากค้างตอนที่ได้ฟังก่อนจะหัวเราะออกมา

" ดะ เดี๋ยวนะคะ พี่ภาพหมายความว่าไงน่ะ " เธอถามก่อนจะเหลือบมองผมแล้วหันมองภาพ " พี่กำลังจะบอกมีนาว่า พี่ขมเป็นแฟนพี่ แล้วพี่ขมก็หึงมีนาที่มาขอให้พี่ภาพช่วยติวหนังสือให้ อย่างงั้นเหรอคะ " ร่างสูงยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ

   มีนามองหน้าภาพสลับกับหน้าผมด้วยสายตาที่ไม่เชื่อเท่าไหร่ เธอถอยหลังออกห่างจากภาพไปก่อนจะถามเบาๆ " นี่อำกันเล่นรึเปล่าคะ อย่าล้อเล่นแบบนี้น้า มันไม่ตลกเลยนะ ฮ่าๆ "

" พี่ไม่ได้ล้อเล่น "

" คือพี่ภาพ " หญิงสาวตั้งท่าอธิบาย " ถ้าพี่ภาพไม่ชอบมีนาก็บอกมีนาตรงๆก็ได้นะคะ ไม่ต้องปั้นเรื่องอะไรแบบนั้นหรอก มีนาเข้าใจ คนไม่ชอบคือไม่ชอบ บอกตรงๆเลยก็ได้ค่ะ ไม่เห็นต้องโกหก.."

“ พี่ไม่ได้โกหก " ภาพย้ำ " เรื่องนี้แค่นี้พี่ไม่ปั้นเรื่องโกหกหรอก แล้วถ้าจะปั้นก็ไม่ปั้นเรื่องสิ้นคิดแบบนั้นหรอกจริงมั้ย พี่แค่รู้สึกว่า พี่ไม่อยากจะโกหกเรา เพราะว่าเราก็ดีกับพี่มาตลอด วันก่อนก็มาสอนขมมันทำอาหาร วันนี้ก็เอาอาหารมาให้ " มันเชิดหน้ามาทางกล่องสปาเก็ตตี้ที่ตั้งอยู่ " เพราะงั้นถ้าเป็นมีนา พี่ก็ไม่อยากจะโกหกเพื่อทำร้ายเรา เลือกพูดความจริงดีกว่า มีนาจะได้ตัดใจไปเลย "

“ อย่างงั้นสินะคะ " นั่นเป็นคำที่พูดออกมาสั้นๆในตอนที่ภาพพูดจบ ใบหน้าที่กำลังช็อคอยู่นั้นเธอทำได้แค่ยิ้มแห้งๆก่อนจะเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ มือบางเกาหัวตัวเองเบาๆ ก่อนจะเหลือบมองผมที มองภาพที ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากัน สิ่งที่เธอได้ยินเธอคงช็อคจนพูดไม่ออก ทั้งๆที่ตัดสินใจสารภาพรักแท้ๆ แต่กลับได้ฟังคำสารภาพที่ช๊อคยิ่งกว่าจากปากของคนที่เธอชอบ ก็แน่นอน คนที่ชอบมาตลอดเป็นชอบผู้ชายด้วยกันเอง ใครจะไม่ช็อควะ " งั้นมีนา มีนาขอตัวกลับก่อนนะคะ มีนาไม่รบกวนพี่ภาพแล้วก็พี่ขมแล้วดีกว่า ขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณมากคะ " 

“ ดะ เดี๋ยวก่อนสิ  " พยายามเรียกอีกคนไว้แม้จะไม่รู้ว่าเลยว่า ถ้าเธอหยุดแล้วผมจะพูดอะไร เสียงประตูห้องถูกเปิดและปิดลงผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะหันมามองภาพ " มึง..."

" อะไร ? "

" ดีแล้วเหรอวะ ที่เราทำแบบนั้น "

“ แล้วอะไรที่มึงคิดว่ามันไม่ดี " ร่างสูงถามก่อนจะหันมามองผม

“ เราเหมือน.. ทำร้ายจิตใจเค้าเลย " ผมพูดเสียงเบาๆตรงท้ายประโยคไอ้ภาพก็หลุดยิ้มออกมา

“ หรือมึงจะเลือกทรมานตัวเองแล้วรักษาน้ำใจเค้าไว้ " ส่ายหน้าไปมาตอนที่อีกคนถาม ถ้าให้เธอมานั่งติวกับไอ้ภาพสองคนเพื่อรักษาน้ำใจเธอแล้วกลายเป็นผมที่แบกรับความรู้สึกอึดอัดแล้วหงุดหงิดพวกนั้นไว้ก็คงไม่เอาด้วยหรอก แต่ว่าการทำร้ายความรู้สึกน้องเค้าด้วยการบอกความจริงแบบนั้นมันก็... ผ่อนลมหายใจออกมากรอกตามองบนก่อนจะยกมือขยี้หัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด  นู้นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่เอา โอ๊ยอีเหี้ยยยย เอ้ย! ความรักแม่ง!!! “ มึงเชื่อกูเถอะน่า ว่าทำแบบนี้ดีแล้ว การพูดความจริงน่ะมันดีที่สุดแล้ว "

“ ก็คงอย่างงั้น “ อย่างตัวผมที่พูดความจริงออกไป ทุกอย่างนับจากวินาทีนั้นก็คงจะเปลี่ยนไปแล้ว มีนาเองแม้จะช็อค เสียใจ แต่มันก็จะเป็นความเสียใจที่เกิดขึ้นครั้งเดียวแล้วจบไปเลย ไม่ใช่การเสียใจซ้ำซาก

ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย จะช้าจะเร็วยังไงก็ต้องรับรู้ และ ยอมรับกับมันอยู่ดี
   
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 16-07-2017 20:37:36
สบสายตาคมที่พูดออกมาแบบนั้น ก่อนจะผมจะหลบตามันทันทีในวินาทีถัดมาที่คิดถึงเรื่องจูบดูดดื่มของเราเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ก้มหน้าลงมองถ้วยไมโลของไอ้หัวหอมอย่างไม่รู้จะเอาตาไปมองทางไหน ทำไมกูถึงเป็นแบบนี้ไปได้วะ ทำไมถึงงุ่นง่านอะไรขนาดนี้ ทำไมต้องเขิน ต้องหน้าแดง ทำไมต้องรู้สึกร้อนไปหมด

“ อาขม " เสียงเล็กๆที่ดังอยู่ตรงหน้าห้องนอนดังขึ้นมา แววตากลมที่โผล่มาทางประตูผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะหัวเราะ

“ โทษทีๆ อาขมมัวยุ่งๆน่ะ หัวหอมออกมาเอาก็ได้ มาสิ " กวักมือเรียกเจ้าตัวเล็กก็เดินออกมาจากห้อง แล้วตรงเข้ามาในครัว " ขนมอยู่ไหนแล้วเอ่ย "

“ อยู่ตรงนู้น " มันชี้ไปก่อนจะวิ่งไปหยิบขนมมากล่องนึง

“ นมไม่เย็นแล้ว งั้นอันนี้ของอาขมแล้วกัน ของหัวหอมก็รินใหม่นะ "

“ ครับ " จัดการรินไมโลแก้วใหม่ให้มัน ยื่นให้หัวหอมเรียบร้อยมันก็รับไปก่อนจะเดินไปนั่งที่หน้าทีวี " อามีนาไปแล้วดูทีวีต่อได้ " เราทั้งคู่หันมองเจ้าตัวเล็ก ก่อนจะหันกลับมาสบตากัน แล้วในตอนนั้นเราก็หลบกันไปคนละทางทันที  อยู่ๆก็เขินกันซะอย่างงั้น

“ นี่วันนี้ดูทีวีเยอะไปแล้วรึเปล่า พอได้แล้วม้างงง " ไอ้ภาพหันไปบอกเจ้าตัวเล็ก ก่อนจะนั่งลงข้างๆเพื่อไม่ให้รอบตัวของเราอึดอัดไป

“ ไม่นะ ดูนิดเดียวเองป๊าา " มันเถียงกลับก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพ่อของตัวเอง " วันนี้วันอาทิตย์เป็นวันพักผ่อนของเด็ก เด็กจะทำอะไรก็ได้ "

“ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เด็กจะดูทีวีทั้งวันได้ เด็กต้องทำอย่างอื่นบ้างงงง "  ร่างสูงบอก " เด็กต้องอ่านหนังสือ หรือเล่นอย่างอื่นบ้าง ไม่ใช่ดูแต่ทีวี ไปว่ายน้ำกับป๊ามั้ยละ ที่สระว่ายน้ำคอนโด "

“ ไป " หัวหอมเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาทันที มันเอื้อมมือไปจับมือคนเป็นพ่อก่อนดึงให้ลุกขึ้น " ไปครับ ไป ไปกันเลย "

“ กินขนมให้หมดก่อนสิ " ผมบอก " หรือว่าไม่กินแล้ว ถ้าไม่กินแล้วก็เอามาเก็บ "

“ ไม่กินแล้วครับอาขม  กาลิคจะไปว่ายน้ำ " มันวิ่งเอาขนมกับนมของตัวเองมาเก็บทันที ผมจัดการมัดปากถุงขนมจนเสร็จก่อนจะโดนเด็กน้อยคว้ามือเข้าแล้วลากเข้าไปในห้อง " อาขมไปแต่งตัวกัน กาลิคจะไปว่ายน้ำ ไปว่ายน้ำ ป๊าไปแต่งตัวเลย "

“ ครับๆ คุณลูกชาย "   

   เข้ามาในห้องนอนกาลิคก็เข้าไปอาบน้ำด้วยความตื่นเต้น ผมหยิบกางเกงใส่เล่นน้ำของมันขึ้นมาเตรียมไว้ พร้อมทั้งผ้าขนหนูแล้วก็เสื้อคลุม

“ เสร็จแล้วครับ! " มันวิ่งออกมายืนตรงหน้าผมด้วยสภาพล้อนจ้อน ส่ายหน้าไปมากับความตื่นเต้นของมันตอนที่เช็ดตัวให้หัวหอมผมก็สั่ง

“ นี่ฟังนะ ไปว่ายน้ำที่สระน้ำคอนโด มันมีสิ่งที่ห้ามทำอยู่นะ รู้มั้ยคืออะไร "

“ อื้มมม ไม่เสียงดัง " เจ้าตัวเล็กบอกผมก็พยักหน้ารับ

“ ใช่แล้ว แล้วรู้มั้ย ทำไมเสียงดังไม่ได้ "

“ ก็เพราะว่า มัน มัน อื้ม.. มันจะมีคนเยอะใช่มั้ย ถ้าเราเสียงดังเค้าก็จะหันมามองเรา แบบนั้นก็ไม่ดี ไม่ด้ายยย อาขมเคยสอน "

“ ช่ายยย แล้ว เค้าเรียกว่าที่สาธารณะหมายความว่า ที่ที่ไม่ใช่ของของเราคนเดียว เป็นที่ที่ทุกคนในคอนโดแห่งนี้เค้าใช้ร่วมกันกับเราด้วย เพราะงั้นขึ้นไปแล้วคนอาจจะเยอะ เราก็ไม่ควรเสียงดัง รบกวนเค้า แล้วก็เล่นอยู่ใกล้ๆป๊าเค้านะ อย่าไปไกลละ "

“ ครับ " มันพยักหน้ารับ ผมก็จัดการใส่กางเกงว่ายน้ำให้อีกคน

“ แล้วมีอะไรอีก "

“ มีอะไรอีกน้าาาา " หัวหอมทำท่านึกก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มแล้วกอดคอผมไว้ " อาขมบอกหน่อยกาลิคไม่รู้ " 

“ อ้อนกันอีกละ " ผมยิ้ม " อีกเรื่องคือ ถ้าปวดฉี่ก็ห้ามฉี่ลงไปในสระน้ำเด็ดขาดนะ ถ้าปวดฉี่ก็บอกป๊า ให้ป๊าพามาฉี่นะรู้มั้ย "

“ คร๊าบบบบ " มันยกมือขึ้น ร่าเริงเบอร์แรงอย่างบอกไม่ถูกคลุมผ้าขนหนูให้มัน เจ้าตัวเล็กก็วิ่งไปนอกห้อง " ป๊าาาไปกัน "

“ ครับ ไปกันไป " เสียงของไอ้ภาพที่ผมได้ยินไม่รู้ทำไมแต่จู่ๆก็ไม่กล้าจะเดินออกไปซะอย่างงั้น ขามันแข็งๆ แก้มมันร้อนๆ รู้สึกว่าไม่อยากจะเดินออกไปหามัน ไม่อยากจะเห็นหน้า ถ้าเห็นแล้วคงเขิน จนเก็บอาการไม่อยู่แน่นอน ก็แน่นอนไอ้ภาพคงอยู่ในชุดว่ายน้ำเหมือนกัน แม้จะใส่เสื้อยืดกับกางเกงอยู่บ้านทับอยู่ก็เถอะ

“ โอ๊ยเชี้ยยยยย " ผมทรุดนั่งลงบนพื้นก่อนจะเอียงหน้าลงไปซบตรงขอบเตียง " กูเป็นเหี้ยอะไรของกูเนี้ย ไม่ใช่รักครั้งแรกสักหน่อย สาดดดดดดดด " โวยวายกับตัวเองด้วยการขยำขยี้ผ้าห่มที่กองอยู่บนเตียง ก่อนเสียงประตูห้องจะเปิดออกมา

“ เป็นเชี้ยอะไรวะนั่น " ไอ้ภาพเอ่ยถามผมก็หยุดการกระทำทุกอย่างลงทันที โยนผ้าห่มในมือออกไปให้พ้นตัวคนที่มองอยู่ก็ขมวดคิ้ว " มึงไหวนะขม "

“ กูไม่ได้เป็นไร " ผมบอกก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมา " กู กูแค่จะพับผ้าห่ม "

“ แล้วมึงไม่ไปว่ายน้ำด้วยกันเหรอ "

“ ไม่อะ เพิ่งหายป่วยไปได้ไงละ " ไอ้ภาพพยักหน้ารับ " มึงไปเถอะ แล้วอย่าให้กาลิคเล่นน้ำนานเกินไปละ สักชั่วโมงนึงก็กลับกันมาได้แล้วนะ "

“ ครับผม " มันพยักหน้ารับ ผมก็พยักหน้ารับตามหันสบสายตาของมันผมก็ทำทีเป็นลุกขึ้นมานั่งบนเตียง

“ กูว่าจะนอนสักหน่อย ยังปวดหัวอยู่นิดหน่อย "

“ มึงบอกว่าจะนอนทั้งๆที่เมื่อกี้ก็บอกว่ากำลังพับผ้าห่ม " ไอ้ภาพบอก ก่อนจะเอียงหน้าถาม " แล้วมึงจะพับผ้าห่มทำไม ถ้ามึงจะนอนต่อ "

“ ก็..” เออวะ..ก็จริงของมัน แล้วเมื่อกี้กูตอบอะไรมันออกไปวะเนี้ย ผมเหลือบมองภาพที่กำลังยิ้ม แม่งต้องรู้แน่นอนว่ากูกำลังทำท่าทางแปลกไป " ช่างกูเถอะน่า มึงอย่าสนใจเลย คนป่วยก็เงี้ย มันเบลอๆ มึงไปว่ายน้ำกับหัวหอมเถอะ แล้วอย่าลืมที่กูสั่งละ "

" โอเค งั้นอีกชั่วโมงนึงเจอกัน มึงก็นอนพักผ่อนไปก็แล้วกัน "

" อื้ม " พยักหน้ารับมันสั้นๆ ภาพปิดประตูลงผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนจะเอนตัวเองลงนอนบนเตียง ทำไมใจสั่นขนาดนี้ก็ไม่รู้ เวลาที่ได้เห็นมัน เวลาที่ได้อยู่ใกล้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้โดนมันสารภาพรักมาก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรถึงขั้นนี้เลย แต่ทำไมตอนนี้แค่หลับตาลง ภาพตอนที่จูบดูดดื่มของเรามันก็ลอยวนไปวนมาอยู่แบบนั้น เสียงพูดตอบรับว่าตัวผมเป็นแฟนมันนั่นก็ด้วย " นี่กูเป็นแฟนไอ้ภาพแล้วเหรอวะ "

   ครืน ครืน ครืน

   เสียงโทรศัพท์ดึงความสนใจจากตัวผมให้หันไปมอง หน้าจอมือถือที่กำลังสั่นไปมาผมคว้ามันมาดูก่อนจะพบว่าคนที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนร่วมคณะอย่างไอ้โมนั่นเอง

“ ว่า " ผมกรอกเสียงลงไปตามสาย อีกคนก็หัวเราะออกมา

“ ยังจะมีหน้ามาบอกว่า ว่า อีกนะไอ้สัด พรุ่งนี้ไปเรียนปะวะ "

“ ไปสิ หยุดได้ที่ไหนกันเล่า " ถอนหายใจออกมาก่อนจะดึงหมอนของไอ้หัวหอมเข้ามากอดไว้ " แล้วนี่ที่มหาลัยเป็นยังไงบ้างวะ "

“ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อาจารย์บอกว่าถ้ามึงมาให้เข้าไปพบด้วย "

“ เหรอวะ " ผมพูดเสียงเบาโมมันก็ตอบกลับ

“ ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ไม่ต้องคิดมากหรอกเค้าคงแค่อยากจะถามว่าทำไมมึงไม่มาเรียน มีปัญหาอะไรรึเปล่า ก็แค่นั้นแหละกูว่า "

“ อื้ม "

“ ก็อย่างว่าแหละ คนที่ไม่เคยขาดเรียน เป็นท๊อปคณะอยู่ๆหายไปแบบนี้อาจารย์เค้าก็ต้องนึกเป็นห่วงอยู่แล้ว "

“ มึงก็ว่าไป " ผมบอก

“ แล้วนั่นมึงโอเคแล้วใช่มั้ย เรื่องชีวิตมึงน่ะ "

“ ก็โอเคแล้ว "

“ งั้นก็ดีแล้ว ดีที่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง " โมว่า ผมก็หลุดยิ้มออกมา

“ โทษทีนะโม กูไม่ได้บอกอะไรมึงเลย พอดีมันหลายเรื่องน่ะ หลายเรื่องมากๆ มีแต่เรื่องยุ่งๆไปหมด ไว้กูค่อยเล่ามึงนะ "

“ ไม่มีปัญหาหรอก สบายใจก็ค่อยเล่าก็ได้ " พยักหน้ารับคำพูดของปลายสายก่อนจะถอนหายใจออกมา " กูแค่โทรมาถามเฉยๆแหละว่า พรุ่งนี้มึงจะไปเรียนรึเปล่า "

“ ไปสิ แล้วมึงละเป็นยังไงบ้าง "

“ ก็สบายดี ไม่มีอะไรหรอกกูน่ะ "

“ รวมถึงเรื่องพี่ชัดด้วยเหรอ " ผมแซวอีกคนก็ตอบกลับมาด้วยเสียงที่ดังขึ้นนิดหน่อย พอถามเรื่องไอ้ชัดทีไรก็เป็นแบบนี้ แซวไม่ได้เลยเขินตลอด เขินเกินเบอร์ซะด้วย

“ เออ!! ไม่มีหรอกน่า เรื่องแม่งน่ะ ก็กวนตีนกูเหมือนเดิมนั่นแหละ "

“ อย่างงั้นเหรอ " ผมพยักหน้ารับ จะว่าไปชัดกับโมมันก็คบกันมาสักพักใหญ่ๆแล้วนะ เรื่องจูบคงกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับพวกมัน " แล้วนานแค่ไหนวะ มึงถึงจะชินกับการที่โดนไอ้ชัดจูบ "

“ ห๊ะ? ทำไม อยู่ๆถามอะไรแบบนั้นขึ้นมาวะ " ปลายสายเอ่ยบอกผมก็สะดุ้งตัวเองขึ้นมาทันที นี่กูเผลอพูดบ้าอะไรออกไปอีกวะเนี้ย!

“ มะ เมื่อกี้กูพูดว่าไรนะ "

“ มึงถามกูว่านานแค่ไหนกูถึงชินกับการที่ไอ้ชัดจูบ ถามเหี้ยอะไรวะ " โมบอกก่อนจะหลุดหัวเราะ

“ ก็ เปล่าหรอก แค่อยากรู้อะ ไม่มีไรหรอก แบบว่ากูก็คิดว่าเราเป็นผู้ชายถูกมั้ยละ มาจูบดูดดื่มกับผู้ชายแบบนี้ครั้งแรกๆมันก็คงรู้สึกแปลกๆ เลยอยากรู้ว่า อย่างมึงเป็นแฟนกับชัด นานมั้ยที่มึงจะชินกับการจูบของมัน "

“ ก็..ไม่รู้สิ รู้ตัวอีกทีนึงมันก็ชินไปแล้ว เหมือนเมื่อก่อนโดนกอด โดนมันอ้อนก็แปลกๆ เดี๋ยวก็รู้สึกเฉยๆ คงอยู่ที่เวลาละมั้ง คนเราพอเริ่มชอบใครสักคนมากขึ้น ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปเองไม่ใช่เหรอวะ "

“ ไม่รู้สิ " ผมส่ายหน้าบอกมัน ปลายสายก็หัวเราะออกมา

“ เป็นอะไรของมึงวะ แปลกๆนะไอ้เหี้ย ทำตัวเหมือนคนเพิ่งเคยทีความรักครั้งแรกอย่างงั้นอะ ทั้งๆที่มึงเองไม่ใช่เหรอที่คอยพูดเตือนเรื่องของกูน่ะ ตอนนั้นมึงเป็นผู้เชี่ยวชาญเลยนะ " โมบอกผมก็ยกยิ้มแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

“ อย่างงั้นเหรอ ถ้าเป็นอย่างที่มึงบอกจริงๆ กูคงเป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องของคนอื่นนั่นแหละ "

   เพราะพอเป็นเรื่องของตัวกูเองกูกลับหาคำตอบไม่ได้เลย ว่าสิ่งที่กูต้องทำต่อจากนี้คืออะไร แม้ขนาดจะทำตัวให้เป็นปกติต่อหน้าคนที่รู้สึกรัก ในตอนนี้กูยังทำไม่ได้เลย

.......................................................

ไม่เป็นไรนะน้องขม
ทุกคนเค้าก็เป็นแบบนี้ เก่งเรื่องคนอื่น แนะนำคนอื่นสารพัด แต่พอเรื่องตัวเอง เรากลับหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้
ไม่เป็นไรนะคะ คนดีค่อยเรียนรู้ไปนะคะ ความรักของน้องขมและพี่ภาพยังมีอีกเยอะค่ะ #ใช่ค่ะดิฉันก็ยังเขียนต่อไปในจุดนี้
และทั้งนี้ขอแสดงความยินดี ที่ยอมรับกับใจตัวเองได้เป็นแฟนกับพี่ภาพแล้วนะคะ #จุดพลุ
นี่ถ้าน้องมีนาไม่เข้ามา เกรงว่าพี่ภาพจะแห้วจูบ และแห้วทุกอย่างไปจนถึงจบเรื่องแน่นอน

คงมีคนสงสัยว่า เฮ้ยแกรร ฉันว่านี่มันง่ายไปปะวะ เบสิคสัด ไม่มีการหักมุม หรือร้ายกาจอะไรในตัวมีนามากกว่านี้อีกเหรอ
แบบ อ๊ายยยย ไม่ยอมมม 
แกรรร นี่มันนิยายรักสำหรับครอบครัวใสๆ นี่คือนิยายใสๆแก แกต้องเข้าใจเรานะเว้ย
อีกอย่างนะ เรารู้สึกว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องร้าย ต้องวีดว๊ายอะ คือเค้าไม่ชอบเรา เราก็ไป โลกนี้มีคนหลายแบบ
และอีกอย่าง เรารู้สึกว่าบางคนเข้ามาไม่จำเป็นต้องทำให้คนอ่านรู้สึกเกลียดก็ได้นะ แค่เข้ามาเป็นตัวแปรในความสัมพันธ์ของตัวละครก็พอแล้ว #ทำเป็นพูดดีจริงๆไม่อยากแต่งดราม่าก็พอ 
แหมมมม รู้ใจ~

โอเค เจอกันตอนหน้า
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ ฝากแชร์ฝากไลค์ในเพจหนมมี่ผู้ใสซื่อ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 16-07-2017 21:02:11
ไม่เป็นไรขมไม่เป็นไร มีแฟนเป็นผู้ชายคนแรกก็งี้แหละ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 16-07-2017 21:07:12
เขาเป็นแฟนกันแล้ว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 16-07-2017 21:09:14
 :hao3: เคลิ้มแทนขมเลยเชียว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-07-2017 21:25:49
มีการไม่ชิน ฮา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-07-2017 21:39:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-07-2017 21:42:11
ขำกาลิค วันพักผ่อนของเด็ก เด็กจะทำอะไรก็ได้
เอ็นดูวววววว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 16-07-2017 21:59:52
ขมน่าร๊าก!!!
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-07-2017 22:45:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-07-2017 23:25:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 16-07-2017 23:26:55
ทำตัวเป้นเด้กน้อยไปได้อาขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 17-07-2017 00:48:21
งื้ออออออออ  ในที่สุดดดดดด
เค้าก็เป็นแฟนกันแล้ววววววว  น่าร๊ากกกกกกก 
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-07-2017 07:43:16
ขม ยอมรับแล้วว่าหึงภาพ
ภาพ ขม ่ป็นแฟนกันแล้ว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ทันทีทีขมยอมเป็นแฟน ภาพก็จูบขมเลย ไม่ค่อยรีบเลยนะภาพ
แถมบอกมีนาไปซะเลย สิ้นเรื่องการสอนพิเศษไปเลย

ขมเขิน แต่รู้สึกดีๆกับการจูบ ก็บอกภาพไปเลย  :hao3:
ภาพจะยิ่ง so proud กับตัวเองและตัวขม สุดๆไปเลย  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 17-07-2017 07:47:44
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 17-07-2017 08:00:59
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-07-2017 09:54:17
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-07-2017 10:32:40
โอ๊ย ขม หึงจนทนไม่ได้ 55555 อะๆๆ ให้เวลาปรับตัวกับสถานะใหม่สักแป๊บ เดี๋ยวก็ชิน

หัวหอมนี่น่ารักจริงๆ ยิ่งอยู่กับภาพ เหมือนเป็นเพื่อนต่างรุ่นกันเลย 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-07-2017 17:18:32
มีตัสเร่งปฏิกิริยา มันก้อดีอย่างนี้ๆ >\\\\\\<
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 17-07-2017 17:37:56
น้องขมน่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-07-2017 18:38:24
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 17-07-2017 20:33:55
ได้เวลาที่ขมควรยอมรับกะตัวเอง ก็้ดีนะ น่ารักเลยตอนนี้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 17-07-2017 21:51:10
นี่ก็ดีแล้วนะอย่าหักมุมเลย เราชอบใสๆไม่ดราม่าเยอะ ให้ความดีความชอบชะนีน้อยที่ทำให้พี่ขมยอมบอกว่ารักพี่ภาพเหมือนกัน แต่เข้ามาเร็วไปหน่อยเพิ่งจะเริ่มจูบเอง
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Arancia ที่ 17-07-2017 22:44:25
กาลิค อย่าลืมเรียกม๊าขมนะ 55555 กลับมาจากว่ายน้ำ คิคิคิ

ส่วนเรื่องตัวร้าย เห็นด้วยนะ คนเรามันก็ไม่ได้ร้ายไปซะหมดนะ อะไรจะละครไทยขนาดนั้น
ขอนิยายไทยใสๆ อบอุ่นหัวใจแบบนี้บ้าง เนาะ มาม่าแค่เรื่องจำเป็นพอ

ที่เหลือ ขอสวีทนะคะ 5555555
รออ่านจ้า ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 18-07-2017 08:54:56
 :กอด1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 18-07-2017 10:18:10
ต้องค่อยๆปรับตัวนะขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 18-07-2017 16:46:33
ว้ายๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 18-07-2017 17:31:12
น้องกาลิคเรียอาขมว่าม๊าขมได้แล้วสินะ
พี่ภาพน้องขมเค้าเป็นแฟนกันแล้ว~~ ดีงาม
เอ็นดูน้องกาลิคตรงที่ว่าวันหยุดเป็นวันของเด็ก จ้าๆ 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-07-2017 17:44:44
เรื่องผัวเมียเราไม่ยุ่ง ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 19-07-2017 09:17:13
โอ๊ย เขินแทนอาขม งือออออ :impress2: รอฉาก :oo1: อยู่นะคะคนเขียยยยน//ฉากไรวะ? ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-07-2017 01:36:13
เธอเป็นแฟนฉันแล้วววววววววววววววววววววว  :m4: :m4: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 45 - 16.7.60} #หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: nung ที่ 21-07-2017 17:55:26
คิดถึงหัวหอม  :mew2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 21-07-2017 20:31:06
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 46
   ลืมตาตื่นขึ้นจากเตียงหลังจากหลับไปไม่นาน ผมวางสายจากไอ้โมไปสักพักแล้วหลังจากที่โดนถามคำถามว่าผมไปมีความรักกับใครตั้งนานสองนาน แต่พอบอกว่าพรุ่งนี้จะเล่า เล่าเห็นหน้ามันส์กว่ามันก็เปลี่ยนท่าทางแล้ววางสายไปในทันที ช่างเป็นเพื่อนที่ไม่อยากจะรู้เรื่องเพื่อนเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เอาวะ ตอนทีเรื่องของมันผมก็ขี้เสือกสุดๆ ถือว่าทีใครทีมันก็แล้วกัน

“ นี่ยังไม่เสด็จกลับกันมาอีกเหรอวะ " ผมเงยหน้ามองเวลาที่ก็น่าจะเกินเวลาหนึ่งชั่วโมงที่กำหนดไว้แล้วเรียบร้อย ส่ายหน้าไปมากับความไม่ตรงต่อเวลาของพวกมัน พอไม่ไปด้วยก็เป็นแบบนี้ทุกที

“ เห็นมั้ยบอกแล้วให้ขึ้นเร็วๆ ขึ้นเร็วๆ เราสายมาสองชั่วโมงแล้วกาลิค อาขมให้เราเล่นชั่วโมงเดียวเอง โดนดุแน่นอน " เสียงของไอ้ภาพดังมาจากหน้าห้อง ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ได้ยินมันพูดแบบนั้นก่อนจะพูดกับตัวเองเบาๆ

“ ก็ถ้ารู้ว่าโดนดุแน่นอนก็แล้วทำไมไม่มากันให้ตรงต่อเวลาละวะ "

“ ก็เพราะป๊านั่นแหละ มัวแต่มองผู้หญิงสวยๆอยู่ ก็เลยสายเลย " เสียงของหัวหอมบอกผมก็ขมวดคิ้ว ไอ้ภาพก็เถียงขึ้นทันที

“ พูดอะไรแบบนั้นวะ ไม่ได้มองเฟ้ย! เดี๋ยวเถอะ ไอ้ตัวแสบครั้งที่สองแล้วนะ ที่พูดเรื่องแบบนี้น่ะ อย่าพูดต่อหน้าอาขมเชียวนะเว้ย "

“ ก็มันเรื่องจริง ป๊ามัวแต่แอบมองพี่สาวคนนั้นอยู่ คนที่ใส่กางเกงในกับเสื้อตัวเล็กๆคนนั้น "

“ เค้าเรียกว่าบีกีนี่เว้ย เป็นชุดว่ายน้ำ พูดว่าเสื้อตัวเล็กๆกับกางเกงในเดี๋ยวใครเค้าได้ยินคิดว่าป๊าเป็นโรคจิตหรอก " ไอ้ภาพบอกมัน " แล้วอีกอย่างป๊าก็ไม่ได้มองด้วย กาลิคนั่นแหละ มัวแต่เล่น พอบอกว่าขึ้นได้แล้ว ขึ้นได้แล้ว ก็บอกว่าเดี๋ยวก่อนตลอดเลย "

“ ป๊านั่นแหละผิด มัวแต่มองสาว กาลิคจะไปฟ้องอาขม "

“ เฮ้ยๆ อย่านะเว้ย ถ้าพูดแบบนั้นนะกาลิค ป๊าจะไม่พาไปเล่นน้ำอีกเลย คอยดู "

“ ทำไมอะ ป๊ากลัวอาขมเหรอ "

“ ไม่กลัวเว้ย " ร่างสูงเถียงกลับ " แค่..เกรงใจ ไม่อยากจะทะเลาะด้วย อาขมไม่สบายอยู่ เราก็ไม่ควรทำให้อาขมไม่สบายใจถูกมั้ย "

“ ก็จริงน้า " เสียงใสตอบกลับผมก็ผ่อนลมหายใจออกมาแบบยิ้มๆ พวกมึงสองคนนี้มัน.. “ งั้นป๊า เราจะบอกว่าอะไรดีที่เรามาสาย "

“ ก็บอกว่า เราเล่นน้ำเพลินไปหน่อย "

“ ห้ามบอกว่าป๊าเหล่สาวอยู่เนอะ "

“ ไม่บอกแบบนั้นสิ " ภาพบอก " แล้วก็ไม่บอกว่ากาลิคดื้อไม่ยอมขึ้นจากสระด้วย "

“ อันนั้นก็ไม่บอกสิ " หัวหอมบอก

“ สมที่มึงสองคนเกิดมาเป็นพ่อลูกกันจริงๆ นิสัยที่ถอดกันมาแบบไม่ต้องสืบเลยว่า ลูกใคร " ผมพูดเบาๆแล้วในตอนนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ผมหันไปมองยิ้มให้ทั้งคู่ก่อนที่หัวหอมจะวิ่งเข้ามากอดผมไว้แน่น

“ อาขม กาลิคกลับมาแล้ววว "

“ กลับมาแล้วเหรอ " ขยี้หัวเปียกๆของมัน ผมทำทีเป็นหันไปมองนาฬิกา " บอกว่าให้กลับภายในหนึ่งชั่วโมงแล้วทำไมมันกลายเป็นสองชั่วโมงไปได้ละวะ "

“ เพราะว่าเล่นน้ำกันเพลินน่ะ " ภาพบอกออกมาพร้อมกับหัวหอมที่ก็ตอบออกมาแบบนั้นเช่นกัน

“ เพราะว่าเล่นน้ำเพลินครับ "

“ อย่างงั้นเหรอ " พยักหน้ารับผมก็เดินไปหยิบกล่องใส่สปาเก็ตตี้แล้วก็ขนมปังของมีนาที่วางอยู่บนโต๊ะเข้ามาในครัว ก่อนจะเอาใส่ถ้วยแก้วใบใหญ่สำหรับใช้อุ่นในไมโครเวฟ " ไม่ได้เหล่สาวใส่บีกี่นี่อยู่ แล้วก็ไม่ดื้อจะเล่นต่อหรอกเนอะ พวกมึงน่ะ " หันไปยิ้มให้ทั้งคู่ ทั้งไอ้ภาพทั้งหัวหอมก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะพยักหน้ารับพร้อมๆกัน

“ ใช่ ไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก "

“ อื้ม " ผมยิ้มให้ภาพ อีกคนก็หัวเราะกลบเกลื่อนออกมาเสียงดัง

“ ฮ่าๆ งั้นเราไปอาบน้ำกันดีกว่า แล้วก็ออกมากินสปาเก็ตตี้เนอะ หิวแล้ว " ร่างสูงว่าก่อนจะอุ้มไอ้ตัวเล็กขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในห้องตัวเอง แล้วตอนนั้นหัวหอมก็ถามมันขึ้นมา

“ ป๊า ๆ อาขมรู้ได้ไงอะ "

“ อย่าถามเสียงดังสิลูกกก ไปๆ เข้าห้องๆ " มันบอกปัดลูกตัวเองแบบนั้น ผมก็ได้แต่สายหน้าไปมา

" มันยังเร็วไปที่พวกมึงจะหลอกกู เด็กน้อยเอ๋ย "

    จัดการอุ่นสปาเก็ตตี้เรียบร้อย ผมเอามาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะกลับเข้าไปอุ่นขนมปังอีกรอบ จัดการหยิบจานหยิบช้อนมาตั้งไว้บนโต๊ะระหว่างรอสองพ่อลูกที่เข้าไปอาบน้ำ

“ หอมจังเลยยยย หอมๆ หอมม " หัวหอมเดินออกมาหลังจากแต่งตัวเป็นชุดนอนแล้วเรียบร้อย เด็กน้อยเดินมากอดผมก่อนจะซบลงที่หน้าท้อง " อาขม หอมจังเลย "

“ ไม่ต้องอ้อนเลย " ผมก้มหน้าลงไปบอกก่อนจะหอมแก้มอีกคนไปเต็มฟอด กลิ่นแป้งเด็กหอมๆ ผมขยี้หัวที่กำลังเปียกนั่นก่อนจะดึงมือเล็กที่กอดผมอยู่ออกแล้วอุ้มขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ " มากินสปาเก็ตตี้กันดีกว่ากำลังร้อนๆเลย อาขมตักให้นะ "

“ คร๊าบบบบบบ " มันพยักหน้ารับก่อนจะหยิบช้อนแล้วก็ส้อมของตัวเองเตรียมรอไว้แล้วเรียบร้อย หมุนสปาเก็ตตี้จากถ้วยแบ่งใส่จานให้มันพร้อมกับขนมปังกระเทียมอีกสองชิ้น " ขอบคุณครับ "

“ เก่งมาก กินให้หมดนะหัวหอม "

“ คร๊าบบบบบบบบบบ " มันลากเสียงยาวกว่าเดิมก่อนจะเริ่มกิน ผมก็หยิบจานอีกใบขึ้นมา หันไปมองไอ้ภาพที่เดินออกมาจากห้องพอดีผมก็เอ่ยถาม

“ ภาพ มึงจะกินเลยรึเปล่า "

“ กินเลยครับ " ร่างสูงเดินมานั่งตรงข้ามกับผมตรงที่นั่งประจำของมัน ผมตักสปาเก็ตตี้ถ้วยใหญ่ให้มันพร้อมกับขนมปังกระเทียมวางไว้ตรงหน้าก่อนจะหยิบช้อนแล้วก็ส้อมให้

" นี่ช้อนกับส้อม "

“ ขอบคุณครับ " มันบอกก่อนจะเริ่มลงมามือกิน ส่วนผมก็ตักของตัวเองใส่ในจานบ้าง แต่ก็ตักในขนาดที่น้อยไม่ได้เยอะอะไร วางจานลงตรงหน้าไอ้ภาพก็ถาม  " ทำไมกินน้อยจัง "

“ ไม่ค่อยหิววะ ไม่อยากจะกินด้วย " ผมบอกไอ้ภาพก็ยกยิ้ม " ยิ้มอะไรของมึง "

“ ก็แค่คิดว่านี่มึงยังเคืองคนที่ทำมันมาให้อยู่อีกเหรอ " ผมก้มหน้าลงมองจานตัวเองก่อนจะส่ายหน้าไปมา

“ ใช่ที่ไหน กูแค่อยากจะกินอย่างอื่นมากกว่า "

“ เช่น "

“ พวกสุกี้ ไม่ก็ยำ ส้มตำ อะไรพวกนั้นอะ อยากจะกินของเผ็ดๆ "

“ ไว้พรุ่งนี้ไปกินกันสิ "

“ กาลิคไปด้วย! " เด็กน้อยยกมือขึ้นสูงเราก็หันไปยิ้มให้มัน เอื้อมมือไปขยี้หัวเด็กน้อยก็ยิ้มกว้าง

“ ได้สิ พรุ่งนี้เลิกเรียนเราไปกันนะ " ภาพบอก

“ กั๊บป๋ม "

“ แล้วอร่อยมั้ยครับสปาเก็ตตี้ของอามีนา " ผมถามหัวหอมก็พยักหน้ารับ

“ อร่อยครับ "

“ กูก็ว่าอร่อยนะ รสชาติดีมากเลยอะ " ร่างสูงเคี้ยวเข้าไปเต็มๆคำ ผมก็ก้มลงไปกินบ้าง รสชาติก็เหมือนอย่างที่ใครๆบอกนั่นแหละอร่อยเอามากๆเลย  " เป็นไงอร่อยมั้ย "

“ อร่อยนะ ก็คงทำมาจากความความรักอะ " เป็นอาหารที่ถูกทำอย่างดีเหมือนทำมามัดใจคนที่ชอบ ทุกอย่างเลยออกมาในรูปแบบที่ดูลงตัวไปหมด ขนาดตอนที่เปิดกล่องเอาออกมาอุ่น เส้นสปาเก็ตตี้ในนั้นยังถูกหมุนเป็นก้อนๆวางไว้แบบโคตรน่ากิน

“ หึงอีกละ "

“ ใครว่า  กูพูดตามสิ่งที่เห็นมากกว่า " ผมบอกมัน อีกคนก็แบะปากมองบนทำหน้าเหมือนไม่เชื่อกันเท่าไหร่

“ อาขม อาขมป้อนกาลิคหน่อย " เด็กน้อยยื่นจานมาให้ มันที่ตอนนี้กินเลอะไปทั้งปากผมก็ได้แต่หลุดยิ้มออกมา

“ แล้วทำไมกินเลอะเทอะอย่างงั้นเล่า " หยิบทิชชู่มาเช็ดปากให้มัน ก่อนจะมองจานของหัวหอมที่กินไปได้ครึ่งนึงแล้ว " จะให้อาขมป้อนเหรอ ทำไมละ กินเองไม่ดีกว่าเหรอ "

“ อยากจะให้อาขมป้อนเฉยๆ ไม่อยากจะกินเองแล้ว ก็จะอ้อน น้าา ป้อนหน่อยน้า อาขมน้า " มันเอียงหน้าไปมาบอกผม ไม่รู้ไปเอาท่าทางแบบนั้นมาจากไหนเหมือนกัน แต่นับวันก็น่าหมั่นเขี้ยวซะเหลือเกิน

“ โอเค ป้อนก็ป้อน "  หมุนส้อมกับเส้นสปาเก็ตตี้ป้อนมันไปคำนึง คนกินก็เคี้ยวแบบถูกใจ ภาพที่มองเราอยู่ หัวหอมมันก็เอ่ยถาม

“ ป๊า ป๊าอยากจะให้อาขมป้อนเปล่า "

“ ไม่นะ " ภาพบอกไอ้หัวหอมมันก็ยิ้ม

“ โกหก "

“ ไม่ได้โกหกเว้ย "

“ โกหก " หัวหอมมันยังย้ำแบบนั้นก่อนจะหันมาบอกผม " อาขม ป๊าเค้าโกหก " มือเล็กๆยกขึ้นป้องปากตัวเอง " ป๊าเขิน ป๊าอยากจะให้อาขมป้อน "

“ รู้ดี " ผมก้มลงเอาจมูกแตะที่จมูกมันก่อนจะส่ายไปมาแล้วบอกเสียงเบาๆ เจ้าตัวเล็กยิ้มกว้าง ก่อนจะรับสปาเก็ตตี้ที่ผมป้อนเข้าไปอีกคำโต " อะ คำสุดท้ายแล้วนะ " เอาส้อมที่มีสปาเก็ตตี้ไปจ่อปากมันแต่เจ้าตัวเล็กกลับดึงมือไปทางภาพแทน

“ ป๊ากินนนน "

“ ทำไมต้องกินอะ " ไอ้ภาพสะดุ้งน้อยๆก่อนจะถามอีกฝ่ายงงๆ

“ ก็กาลิคอิ่มแล้ว ป๊าก็กินแทน " มันว่าแบบนั้น ผมที่ไม่ได้หันไปมองมัน แต่สุดท้ายภาพก็กินสปาเก็ตตี้คำนั้นเข้าไปจนหมด เสียงหัวเราะของหัวหอมดังเบาๆออกมา " ป๊าก็เขิน อาขมก็เขิน เขินทั้งคู่เลย "

“ เดี๋ยวเถอะมึง ล้อเลียนผู้ใหญ่รึไง " หันมาทำตาโตใส่ เจ้าตัวดีก็รีบวิ่งลงจากเก้าอี้เข้าไปในห้อง

" ต้องหนีแล้ว "

“ นี่! หัวหอม ล้างมือ ล้างหน้า แล้วก็แปรงฟันให้สะอาดเลยนะ เข้าใจมั้ย "

“ คร๊าบบบบบบ " เสียงขานรับดังมาจากห้องนอน ผมก็หันมากินสปาเก็ตตี้ตรงหน้าของตัวเองต่อ ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่มองผมอยู่แต่พอสบสายตาคมนั้นเข้า ภาพก็ก้มลงกินอาหารของตัวเองเหมือนเดิม

   เรานั่งกินอาหารกันเงียบๆแบบที่ไม่ได้มีบ่อยๆ ทั้งๆที่ปกติเรามีเรื่องที่ชวนคุยกันเยอะแยะ มันกวนตีนผมบ้าง ผมกวนตีนมันบ้าง ตามประสาเพื่อนสนิท แต่ตอนนี้มันเหมือนว่าพอสถานะเปลี่ยน ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป

“ เออ นี่มึง " ภาพเป็นคนเอ่ยทักขึ้นมาก่อน ผมเงยหน้ามองหน้ามันอีกคนก็บอก " เมื่อกี้ที่ไอ้หัวหอมพูด มันไม่จริงนะเว้ย กูไม่ได้มองสาวอยู่นะ "

“ อ๋อเหรอ " ผมยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ

“ จริงๆนะเว้ย "

“ ก็อื้ม " พยักหน้ารับอีกทีก่อนจะถาม " มึงคิดว่ากูไม่เชื่อเหรอ "

“ ก็สายตามึงบอกกูแบบนั้น " ก้มหน้าลงยิ้มให้มัน ผมกินสปาเก็ตตี้คำสุดท้ายก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองร่างสูง

“ กูคบกับมึงมาตั้งแต่เด็ก สันดานมึงข้อไหนบ้างที่กูไม่รู้ กูรู้ทุกข้อแหละ ติดแค่ที่ว่ากูจะสนใจหรือไม่สนใจมันก็เท่านั้น " ยักไหล่ให้มันไอ้ภาพที่กินอาหารเย็นคำสุดท้ายเสร็จพอดี ผมเอื้อมมือไปหยิบจานมันมาเก็บล้าง อีกคนก็บอก

“ แต่กูไม่ได้เข้าไปคุยกับเค้านะเว้ย กูแค่มอง แบบว่า เค้าหุ่นดี กูเลยมอง ผู้ชายทุกคนมันก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอวะ แบบว่า ถ้าเห็นผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำเค้าก็ต้องมอง ถึงไม่อยากจะมองแต่สายตามันก็เหลือบไปเห็นอยู่ดีนั่นแหละ "

“ แก้ตัวจนลิ้นพันกันเลยนะมึง "

" ไม่ใช่ๆ ไม่ได้แก้ตัวเว้ย " มันบอก " เอาจริงๆกูก็มองหมดอะก็มันผ่านตามา แต่ถ้าอยากจะดูจริงๆ มึงถอดสิ "

“ นมกูไม่มีอะ ตูดเป็นสิวด้วยนะรู้สึก " บอกมันหน้าแย่ๆ แต่อีกคนก็แค่ยกยิ้มก่อนจะเดินเข้ามายืนช้อนหลังผม มือที่กำลังล้วงเข้ามาในกางเกง มันก็ก้มมากระซิบบอก

“ มาสิ กูบีบหัวสิวให้ "

“ เชี้ย! อย่านะเว้ย " ดึงตัวเองออกห่างมัน ผมมองขู่ " มึงเข้ามากูเตะไข่ฟ่อแน่ คอยดู "

“ กลัวจุง กลัวไปหมดล้าวววววว " มันว่าพลางทำตัวสั่นๆกวนตีนผม " ถ้าไข่กูแฟ่บระวังไม่ฟินนะมึง "

“ ฟินเหี้ยอะไร ใครจะฟินเหี้ยไรกับมึง " ขมวดคิ้วจ้องหน้ามัน ไอ้ภาพก็ยกยิ้ม

“ กูรู้น่าว่ามึงรู้ อย่าทำเป็นไม่รู้เลย "

“ ไม่รู้เลย ถึงรู้ กูก็ไม่รู้เว้ย " เถียงมันกลับก่อนจะหันมาสนใจจานในอ่าง

" นี่ขม กูว่าเราน่ะมา..” 

“ เสร็จแล้วอาขม " เสียงหัวหอมที่วิ่งออกมาจากห้องขัดคำพูดของไอ้ภาพให้หยุดไว้ตรงนั้น เจ้าตัวเล็กที่วิ่งตรงมากอดไว้ทำให้ไอ้ภาพถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปทันที  " อาขม เสร็จแล้ว " เจ้าตัวเล็กว่าก่อนจะเงยหน้าขึ้นบอก

“ เหรอ แล้วทำไมเปียกอย่างงั้นละ ให้ไปล้างหน้าแปรงฟันไม่ใช่เหรอวะ " ผมแซวอีกคนก็ยิ้มกว้าง " ไหนอ้าปากหน่อย เช็คหน่อยสิ สะอาดรึเปล่า "

“ สะอาดม๊ากกกกกกก เช็คเลย " มันอ้าปากกว้าง ผมมองเข้าไปก่อนจะก้มลงไปจุ๊บปากมันอีกคนก็ยิ้มเขินก่อนจะซุกหน้าเข้าที่เอว " งื้อออออ อาขม อาขมจุ๊บกาลิค "

“ ทำไมอะ ไม่ชอบเหรอ "

“ ช๊อบบบบบ " มันว่าเสียงสูงก่อนจะกอดผมแน่นขึ้นไปอีกด้วยความหมั่นเขี้ยว " อาขม แล้วคืนนี้กาลิคจะได้นอนกับอาขมรึเปล่า "
“ คืนนี้เหรอ ยังนอนไม่ได้นะ " ผมบอก อีกคนก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาทันที

“ ทำมายอ่าาา ก็อาขมหายป่วยแล้ว ไม่เอาอะ กาลิคจะนอนกับอาขม "

“ ก็หายป่วยแล้วแต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ไง มันเลยยังไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังไงคืนนี้ก็นอนกับป๊าก่อน พรุ่งนี้ค่อยนอนกับอาขมนะ ตกลงมั้ย "

“ ไม่ตกลงได้มั้ยอะ " หัวหอมเงยหน้าขึ้นบอกผมก็หลุดยิ้มออกมา

“ ไม่ได้ ต้องตกลง "

“ เอาน่า ไปนอนกับป๊าดีกว่า พรุ่งนี้ก็ได้นอนกับอาขมละ " สีหน้างอแงของเจ้าตัวเล็ก แต่ก็ยอมไปนอนกับไอ้ภาพแต่โดยดี

   ผมจัดการล้างจานของตัวเองจนเสร็จ ตอนที่กำลังเก็บของเล่นที่อีกคนเล่นไว้ให้เป็นระเบียบ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องไอ้ภาพ เมื่อกี้จำได้ว่ามันมีอะไรบางอย่างจะพูดแต่เพราะหัวหอมเดินเข้ามาขัดก่อนมันก็เลยเงียบไป

“ จะพูดอะไรกันวะ " พูดกับตัวเองสั้นๆ แล้วในตอนนั้นประตูห้องนั้นก็ถูกเปิดออกมา " อ้าวมึง ไม่อาบน้ำละ "

“ ยังก่อน " มันว่าก่อนจะเข้าไปในครัว ก้มๆเงยๆอยู่นานก่อนจะยกกระป๋องเบียร์โบกไปมา " เอาสักหน่อยมั้ย "

“ ไม่เอาอะ ป่วยอยู่ จะให้แดกเบียร์เย็นๆอะนะ ตลกละ "

“ แดกบุ๊ปหายบั๊ปเลยนะ ไม่เชื่อลองสิ " มันหัวเราะก่อนจะเดินมากอดคอผมไว้ที่ก็สะดุ้งตัวขึ้นมาทันที ตอนที่มันทำแบบนั้น ไอ้ภาพยกยิ้มก่อนจะเอามือลงแล้วเอ่ยถาม " นั่งคุยกันด้วยหน่อยสิ กูมีอะไรอยากจะคุยกับมึง "

“ อื้ม ก็ได้ " โยนของเล่นชิ้นสุดท้ายของหัวหอมลงไปในที่ของมัน ก่อนจะนั่งลงข้างๆอีกคน " มีไรวะ "

“ เบียร์หน่อยมั้ย " มันยัดเบียร์เย็นๆใส่มือผมพร้อมกับยักคิ้วให้ " เอาสักหน่อยน่า กินหน่อย "

“ ทำไมต้องกินวะ พรุ่งนี้เรียนเช้า ตื่นไม่ไหวแล้วยุ่งนะสัด นี่กูต้องเข้าไปพบกับอาจารย์ในคณะอีก เค้าตามตัวกูแล้วเนี้ย "

“ ก็แดกอย่าให้เมาสิ " ภาพว่า ผมก็ดื่มเข้าไปตามคำขอของมัน เบียร์เย็นจัดไหลลงไปในท้องที่ไม่ได้สัมผัสรสเย็นมานาน ผ่อนตัวลงพิงกับโซฟาคนข้างๆก็ยิ้มก่อนจะนอนพิงลงมาเหมือนกัน " นี่ขม..”

“ หื้ม ? “

“ มึงโอเครึเปล่า กับการตลงเป็นกับแฟนกู "

“ แล้วทำไมมึงถึงคิดว่ากูไม่โอเควะ " เอียงหน้าถามมัน ทั้งๆที่ในใจผมก็มีคำตอบนั้นอยู่แล้ว ตัวเองเป็นคนที่เปลี่ยนไปจนเห็นได้ชัดแท้ๆ แล้วยังมีหน้าไปถามกลับเค้าอีก

“ ถามเพราะไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่วะ " ไอ้ภาพบอกมันหัวเราะ ก่อนจะถอนหายใจออกมา " เอาจริงๆนะ ถ้าไม่โอเคที่จะรู้สึกแบบแฟนกัน เป็นเหมือนเดิมก็ได้ กูโอเคกับความสัมพันธ์ของเรานั่นแหละ ไม่คิดอยากจะเร่งรัดมึงด้วย เรื่องของมีนากูเองก็เข้าใจมึงอยู่ว่ารู้สึกยังไง " มือหนาเอื้อมมือจับหัวผม " มึงรู้ว่ากูรู้สึกยังไง แล้วกูเองก็รู้ว่ามึงรู้สึกยังไง แบบนั้นก็ดีนะ ถ้ามึงจะสบายใจกว่า กูเองก็สบายใจด้วย อยากให้มึงเป็นเหมือนเดิม " ภาพพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาในตอนนั้นผมที่หันไปมองหน้ามัน

“ มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดหรอก " ผมบอกก่อนจะถอนหายใจออกมาบ้าง " กูขอโทษที่ทำตัวไม่เหมือนเดิม แต่กูทำให้มันเป็นเหมือนเดิมไม่ได้วะ " มือที่จับกระป๋องอยู่นั่นกำแน่น " กูมองหน้ามึงเหมือนเดิมไม่ได้ มึงไม่ใช่ไอ้ภาพคนเก่าในสายตาของกูอีกแล้ว มึงเหมือนเป็นใครอีกคน คนที่กูรู้สึกเขินเวลาที่มึงมอง กูอายเวลาที่โดนไอ้หัวหอมบอกให้ป้อนข้าวมึง ใจเต้นเวลาที่มึงอยู่ใกล้ๆ แล้วสมองก็เอาแต่คิดถึงเรื่องจูบของเรา กูไม่ได้ ไม่อยากจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่กูกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วตังหาก " ผมก้มหน้าลงยิ้มๆ " ก็นะ..จะให้กูกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไง ในเมื่อคนข้างๆกูไม่เหมือนเดิมแล้ว มึงไม่ใช่เพื่อนกูแล้วนะภาพ มึงเป็นแฟนกูแล้ว แค่นี้ก็ไม่เหมือนเดิมแล้วไม่ใช่เหรอวะ "

“ ก็จริงนะ " คนข้างๆยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ผม มือหนาที่เอื้อมมือขึ้นกอดไหล่ไว้ ผมผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆเหมือนวิตกไอ้ภาพก็หัวเราะ " กลัวมากเกินไปแล้วมั้ง "

“ ตื่นเต้นน่ะ "

“ แล้วลดความตื่นเต้นยังไงดี "

“ จูบกันอีกทีมั้ย " ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงพูดอะไรออกไปแบบนั้น ขนาดไอ้ภาพที่ฟังอยู่ยังเงียบไปเลย แต่ผมก็รู้สึกแค่ว่าถ้ายิ่งไม่รีบทำตัวใกล้ชิดกันเท่าไหร่ เราก็เหมือนจะยิ่งไกลกันเท่านั้น ด้วยความเขินและอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากเปลี่ยนความสัมพันธ์

   สำหรับเรา ผมอยากจะให้มันเป็นความรักที่ไม่ไกลกันเกินไป แต่ก็ไม่ใกล้กันจนอึดอัด มีความเป็นตัวของตัวเองอยู่ แต่ก็ไม่โจ่งแจ้งจนทำร้ายคนรอบข้างของเรา โดยเฉพาะ เจ้าตัวเล็กคนนั้น

   หลับตาลงช้าๆตอนที่ภาพเอียงหน้าเข้ามาใกล้ผม ริมฝีปากหนาที่แนบสนิทลงมา ผมเผยอริมฝีปากของตัวเองเปิดรับลิ้นชื้นนั้นทันที เกลียวลิ้นของเราสอดเกี่ยวกันและตอบรับ บางทีความจริงแล้วผมอาจจะชอบจูบของมันมากกว่าที่ตัวผมรู้สึก มือหนาที่กอดเอวผมไว้ ในตอนนั้นมือผมก็วางกระป๋องเบียร์ที่ตัวเองถือลงบนโต๊ะหันหน้ามาเผชิญหน้ากับมัน ก่อนจะเลื่อนมือที่ว่างกอดรอบคอมันไว้

   จูบดูดดื่มจนแทบจะหายใจไม่ออก ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดตอนที่มันผละออกแล้วจูบไล่ลงมาที่ต้นคอ ผมที่ได้แต่กัดริมฝีปากของตัวเอง ยามที่เสื้อนั่นร่อนขึ้นสูงภาพจูบที่ยอดอกของผมมันขบเม้นเบาๆก่อนจะดึงขึ้นด้วยริมฝีปาก ไม่เคยรู้สึกเสียวอะไรได้มากเท่านี้มาก่อน

   ลมหายใจแผ่วเบาที่รดไปตามผิว รู้สึกราวกับถูกลิ้นชื้นโลมเลียไปทั่วร่าง หัวใจที่เต้นแรง ร่างกายก็เหมือนจะตอบสนองความต้องการของอีกฝ่ายอย่างไม่เกี่ยวงอนใดๆ ภาพจูบที่แก้มผม ตอนที่เลื่อนมาจูบที่เปลือกตาผมลืมตามองมันอีกคนก็จูบผมอีกครั้ง

“ ขอนะ "

“ ไม่ให้ " ผมบอกอีกคนก็หลุดหัวเราะ " ไม่ต้องหัวเราะ กูไม่ให้จริงๆ ไว้ก่อน ตอนนี้ยังไม่พร้อม"

“ นัวกันมาถึงขนาดนี้แล้ว พร้อมหน่อยเถอะน่า " ภาพว่าผมก็ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะส่ายหน้า

“ ไม่เอาอะ กูต้องศึกษาก่อนว่าเป็นยังไง ทำยังไงถึงจะปลอดภัย "

“ มึงคิดว่ากูเป็นโรคเหรอ " ไอ้ภาพถามผมก็ส่ายหน้า

“ ไม่ใช่เว้ย แต่มันไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ มันก็ต้องมีข้อระวังของมันอยู่แล้ว " อีกอย่างผมเองก็เคยได้ยินมาว่าคู่รักเพศเดียวกันโดยเฉพาะชายรักชายนั้น มีโอกาสมีโรคติดต่อเยอะ ถ้าเราคิดจะรักกัน สำหรับผมมันก็ต้องปลอดภัยด้วย จะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ อีกอย่างตอนนี้ในตูดกูมีขี้มั้ย กูก็ไม่รู้ แล้วแม่งพกถุงยางมารึเปล่า แล้วถ้าทำจริงมันจะใส่มั้ย นั่นก็ไม่รู้อีก เพราะงั้นหยุดไว้แค่นี้ก่อนน่าจะดีกว่า

“ เดี๋ยวพอทำไปธรรมชาติของความรู้สึกมันก็สอนเองแหละ "

“ มันไม่ธรรมชาติตั้งแต่มึงจะเอาKมายัดตูดกูแล้วไอ้สัด! ” ตะโกนบอกคนที่ยังดื้อดึงไม่ยอมจบสักที ภาพผ่อนลมหายใจออกมาผมที่ดึงตัวเองขึ้นนั่งพร้อมกับอีกคนที่ถอนหายใจออกมาเซ็งๆ ผมเอียงหน้าบอก " ไว้ก่อนนะ "

“ ตามใจมึงแล้วกัน " ภาพว่า แต่สีหน้านั่นก็ยังเซ็งไม่หาย เอื้อมมือไปไหล่มันอีกคนที่เงยหน้ามองภาพเลื่อนหน้าเข้ามาจูบผมอีกครั้ง

“ นี่ภาพ กูมีอะไรจะขอหน่อย "

“ อะไร " เสียงทุ้มถาม

“ เรื่องของเรา ไม่บอกหัวหอมได้มั้ย " ผมเว้นเสียงไปสายตาคมก็เงยหน้าขึ้นมอง " เราไม่ต้องบอกกับมันว่าเราเป็นอะไรกัน ไม่ต้องจำกัดความอะไรให้มันว่าเป็นแฟน หรืออะไรที่มันลึกซึ้ง หัวหอมยังเด็กมาก กูไม่อยากให้มันต้องทำความเข้าใจอะไรที่ยากเกินไป ไม่อยากให้มันเหมือนต้องถูกยัดเยีดโดยการกระทำของเรา "

" ยังไง "

" เหมือนถ้าเราจูบกัน กอดกัน หรือทำอะไรแบบลึกซึ้ง มันจะไม่เข้าใจทำไมผู้ชายถึงทำอะไรกันแบบนี้ ในความคิดของมันแน่นอนว่ามันต้องคิดแค่ว่า ผู้หญิงกับผู้ชายคู่กัน กูเลยอยากจะให้มันรู้แค่นั้น ไม่ต้องมาเข้าใจว่า ทำไมผู้ชายถึงคู่กันได้ ความรักงั้นเหรอ ความรักยังไง กูอยากจะให้มันเรียนรู้ด้วยตัวเอง สักวันพอมันโตมันจะรู้เองว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นยังไง มันจะเข้าใจเมื่อมันมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น "

" มึงจะหมายความว่า เราก็ใช้ชีวิตปกติไปแบบเดิม อยู่ด้วยกัน ถ้าอยากจะทำอะไรลึกซึ้งก็ต้องรอเวลาที่อยู่ด้วยกันสองคนถูกมั้ย ไม่ต้องบอกกาลิค ให้มันโตขึ้นแล้วรู้เองว่าเราเป็นอะไรกัน "

" อื้ม " ผมพยักหน้ารับ " กูไม่อยากจะให้มันรู้สึกเหมือนโดนยัดเยียดให้ต้องเข้าใจว่า พ่อมันกับอาขมเป็นอะไรกัน ไม่อยากให้มันเอาเรื่องนี้ไปเป็นปัญหา แล้วกดตัวเองว่า อ้าวในเมื่อพ่อกูเป็นกูต้องเป็นด้วยมั้ย กูเติบโตมากับคนแบบนี้กูต้องเป็นมั้ย กูไม่อยากจะให้มันคิดแบบนั้น อยากจะให้มันเป็นมันเป็นแค่เด็กคนนึง ที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักของคนรอบข้างที่รักมันมากๆก็แค่นั้น แล้วเรื่องของเราสักวันมันพอมันโตขึ้น มันก็จะเข้าใจเองแล้วรู้ได้เองว่า ความรักของเรามันเป็นยังไง "

" ตามใจมึงแล้วกัน " ภาพบอก " ถ้ามึงคิดว่ามันจะไม่มีปัญหา กูก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่สำหรับกูนะ กูคิดว่าแสดงความรู้สึกกันบ้างให้มันรู้ ไม่ต้องโจ่งแจ้งแต่ก็ไม่เคยปิดบังมัน ให้มันรู้สึกว่า เราสองคนก็ไม่ปิดบังมัน แค่ไม่เคยบอกว่าถึงคำจำกัดความมันก็เท่านั้น "

" อย่างงั้นก็ได้ " เอาจริงๆ ผมแค่กลัวว่าอยู่ๆไอ้เหี้ยตรงหน้า จะจูบผมต่อหน้าหัวหอมก็เท่านั้นแหละ เลยห้ามไว้ก่อน ไอ้ภาพเป็นคนชอบแสดงความรัก มันขี้อ้อนกับแฟน ผมก็กลัวว่ามันจะมาแสดงอาการแบบนั้นต่อหน้า หัวหอม สงสารเด็กมัน เดี๋ยวเด็กงง แบบ อะไรวะไหนคุณครูบอกผู้หญิงคู่กับผู้ชาย แล้วทำไมที่บ้านเรา ผู้ชายคู่กับผู้ชายซะได้

" แล้วกับเพื่อนบอกได้มั้ย พ่อแม่ละ "

" ถ้ามึงอยากจะบอกก็บอก " ผมบอกไอ้ภาพก็ยกยิ้ม

" ยิ้มอะไร "

" แค่คิดว่า มึงนี่คิดถึงเรื่องไอ้กาลิคมากกว่ากูอีก "

" ก็พ่อมันไม่คิด กูก็ต้องคิดแทนไง ปล่อยให้มึงเลี้ยงหัวหอมคนเดียว โตมาไม่รู้ว่ามันจะเป็นคนแบบไหน คงขาดความอบอุ่น สุดท้ายก็หันหลังให้โลกใบนี้ แล้วจบที่สร้างความลำบากให้คนอื่น "

" เพราะงั้นกูเลยต้องหาแม่ให้มันไง แล้วมึงนี่แหละ ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว " มือหนาจับใบหน้าของผมที่ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ จูบอุ่นๆ ประทับลงที่ริมฝีปากของผมอีกครั้ง แล้วครั้งนี้ก็เหมือนจะเป็นจูบยาวนานกว่าครั้งไหนๆ

..........................................................   


รู้สึกถึงเพลง " ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน " ลอยขึ้นมาเลยอะ 5555
แอบชอบที่ขมบอกภาพว่า " อยากจะให้มันเป็นมันเป็นแค่เด็กคนนึง ที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักของคนรอบข้างที่รักมันมากๆก็แค่นั้น " รู้สึกถึงความรักของขมที่ีมีให้หัวหอมเลย รู้สึกถึงความเป็นแม่ที่แบบว่า หวงความรู้สึกของลูกมาก่อนเป็นอันดับหนึ่ง
ไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องเป็นแม่ แค่อยากเป็นคนที่หัวหอมรัก และทำให้หัวหอมรู้ว่าตัวเองเป็นที่รักมากๆ เท่านั้น
ประทับใจในตัวขมจัง #หัวใจ

ตอนเขียนฉากนี้ เราคิดเยอะมาก  ออกทะเลสุด ทั้งๆที่แค่ ภาพขมเป็นแฟนกันเฉยๆ นี่แหละ
เราแม่งคิดปัญหาไปไกลมากทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่า ถ้าไม่เขียน ปัญหามันไม่เกิด แต่นี่ก็คิดไปแบบ
เฮ้ยย ถ้าหัวหอมรู้ มันเอาเรื่องนี้ไปบอกเพื่อนด้วยความดีใจ เพื่อนมันจะล้อรึเปล่า ว่าพ่อแม่เป็นตุ๊ด แบบอิงตามสังคมไง
แล้วหัวหอมก็จะไม่ชอบภาพกับขม ที่ทำให้ตัวเองโดนล้อโดนรังแกจากเพื่อนๆ ทั้งๆที่จริงๆแบบที่บ้านก็มีความสุขงี้
กรี๊ดดดดดดดดดดด บทสะเทือนใจสุด

แต่แล้วก็คิดขึ้นได้เหมือนมีใครดึงหัว " มึงงง มึงต้องตั้งสติ มึงไม่ได้เขียนนิยายดราม่า.. “

เออ จริง  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ก็เลยหลงเหลือไว้เพียงความประทับใจและความรักอบอุ่น #แหมมมมมอวยตัวเอง

จบการทอล์คยาวๆ แต่เพียงเท่านี้
เจอกันตอนหน้าเด้อ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านแล้วคอมเม้นท์จ้า ฝากแท็ก #มมชลก ในเฟสด้วยนะคะ
รัก หนมมี่
 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 21-07-2017 20:41:38
ครอบครัวสุขสันต์ พ่อลูกสุดแสบ คิดจะโกหกคุณแม่เหรอ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 21-07-2017 20:46:07
 :mew1:รักอ่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 21-07-2017 21:00:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 21-07-2017 21:02:24
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-07-2017 21:04:13
ชอบๆๆๆ พ่อลูกเหมือนกันเดี๊ยะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-07-2017 21:05:49
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 21-07-2017 21:35:45
 :hao3: หัวหอมแสบกว่าตัวพ่อแน่นอน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-07-2017 21:46:22
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-07-2017 22:05:22
เข้าใจขม ที่ให้กาลิครู้เองตอนโต
แต่แบบที่ภาพว่าก็ดีนะ
เหมือนเป็นการแสดงความรักในครอบครัว
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 21-07-2017 22:06:49
ขม คุณแม่ยอดเยี่ยมมมม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 21-07-2017 22:34:48
ค่อยๆซึมซับบรรยากาศที่เปลี่ยนไปจากเพื่อนสนิทมาเป็นคนรัก
ไหนจะประคับประครองครอบครัวให้ตัวเล็กโตไปอย่างมีความสุขอีก ละมุน  :impress2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-07-2017 22:48:16
แม่ดีเด่นแห่งปี 2017
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 21-07-2017 23:10:03
พ่อกับลูกเหมือนโคลนนิ่งกันมา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-07-2017 23:19:18
แบบที่ขมบอก สมกับเป็นพ่อลูกกันจริงๆ :laugh: แต่คิดจะหลอกขมยังเร็วไปสิบปี5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 21-07-2017 23:25:44
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
โอ้ยยตายย
น่ารักกกกมากกก เขินนเว่อร์ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-07-2017 00:00:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: naezapril ที่ 22-07-2017 06:59:16
เนี่ยหัวหอมก็แอบมองอยู่ ฮ่าาาาๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 22-07-2017 08:04:05
ดีแล้วค่าาาาาาาา ทำให้เปนธรรมชาติ
ไม่ต้องเปิดมากหรือทำตัวปกปิดอะไร ^0^
แล่วดีที่สุด ตรงไม่มาม่านี่แหล่ะค่ะ เราปวดใจตอนโอลิเวียมาเยอะ 55555555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 22-07-2017 09:37:23
พ่อลูก ก๊อปปี้กันมาเป๊ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 22-07-2017 10:01:03
กาลิคแสบนะเราน่ะ แกล้งพ่อฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 22-07-2017 11:34:15
พ่อลูกคู่นี้ 5555 พอกันจริงๆ ภาพกับขมคุยกันเข้าใจแบบนี้ก็ดีแล้ว
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-07-2017 13:52:49
รอไปก่อนนะภาพ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-07-2017 15:54:20
55555 สงสารภาพ ต้องให้ขมรีบพร้อมนะ จะได้มาดูแลสมกับเป็นอาขมของหัวหอม

ภาพก็แก้ตัวไปเหอะ ส่องหญิงจริงๆ
ชอบภาพโมเมนท์ที่อยากให้ขมชัดเจน แต่ก็ไม่อยากให้อึดอัด ดูแลดีเหลือเกิน

กาลิคฉลาดมาก ฉลาดไปอีก เจ้าเล่ห์พอกันพ่อลูก แต่ยังกะเสียงกระซิบไม่ได้ 55555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 22-07-2017 16:24:47
ภาพกับหัวหอมนี่สมเป็นพ่อลูกกันจริงๆ   :hao3:

มอบมงให้ขมในตำแหน่งคุณแม่ดีเด่น
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 22-07-2017 23:51:52
แม่...แม่ขมคะ สมาคมแม่บ้านรอแม่อยู่ค่ะ อ้ายยยย มีจิตวิญญาณความเป็นแม่สูงเหลือเกิน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 23-07-2017 08:54:12
น่ารักที่สุด  :-[
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-07-2017 19:26:43
หัวหอมลูก ป้าคนหนึ่งละ ขอหนับหนุนให้เรียก "มาม๋าขม"  :m26: :m26:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 23-07-2017 20:30:01
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 47

“ วันนี้ไม่รู้ว่าไอ้ขมมันจะมาเรียนรึเปล่านะ " ผมพูดเสียงเบาๆตอนที่มองออกไปนอกหน้าต่างรถยนต์ของตัวเอง แต่ที่แปลกคือวันนี้คนที่ขับรถกลับไม่ใช่ผม แต่จะพูดว่าแปลก ก็คงไม่ใช่หรอก ตั้งแต่คบกับชัดมาหน้าที่ขับรถก็เหมือนจะไม่ใช่ของผมอีก ไม่ว่าวันนั้นจะขับรถของใครก็ตาม ไอ้ชัดก็ทำหน้าที่ขับรถทุกคัน โดยให้เหตุผลแค่ว่า มันไม่ไว้ใจฝีมือการขับรถของผม แต่ก็ไม่แปลกหรอกชั่วโมงบินต่างกัน คนที่ขับรถเก่งๆแบบมันก็ต้องกลัวการขับรถของคนที่เพิ่งหัดขับได้ไม่นานแบบผมอยู่แล้ว

“ เมื่อวานโทรไปคุบกับมันแล้วไม่ใช่เหรอ มันบอกว่าจะมานี่ " ชัดเอ่ยบอกตอนที่หันมามองผมก็พยักหน้ารับ " มันหยุดไปหลายวันแล้ว กูคิดว่ามันคงมานะ อาจารย์เรียกพบมันด้วยนี่"

“ อื้ม มันคงมาแหละ " พยักรับไอ้ชัดก็แซว

“ ทำไมคิดถึงมันแล้วละสิ "

“ อื้ม เบื่อไอ้ม่านไอ้มู่ วันๆหาสาระไม่ได้ ชวนดูแต่อะไรก็ไม่รู้น่าเบื่อ " ผมบ่นคนที่นั่งฟังก็แค่ยิ้ม

   เหลือบมองชัดที่ไม่พูดอะไรต่อหลังจากนั้น ร่างสูงที่วันนี้ผูกผมยาวปะบ่าของตัวเองไว้ครึ่งหัวปรายผมด้านหน้าที่ยาวออกมารับกับใบหน้าคมแล้วก็หนวดที่จัดการตัดอย่างดี จะว่าไปพระเจ้านี่ก็โคตรไม่เท่าเทียมกันเลย ผมทรงเดียวกัน ทำตัวเหมือนกัน แต่กับไอ้ชัด มันกลายเป็นผู้ชายเซอร์ๆ แต่พอเป็นผู้ชายในคณะผม ทำไมมันกลายเป็นคนซกมกไปได้วะ งง เง้าหน้านี่แม่ง แบ่งผู้ชายเซอร์ๆกับผู้ชายซกมกได้เด็ดขาดจริงๆ 

“ จะมองกันอีกนานมั้ยครับ " ผมสะดุ้งน้อยๆกับเสียงทักของมันที่อยู่ๆก็เอ่ยถามขึ้นมา เหลือบมองไปทางอื่นตอนที่มันว่าแบบนั้น ผมเม้นริมฝีปากแน่น

" ไม่ได้มองมึงสักหน่อย "

" ก็เห็นอยู่ว่ามอง " ชัดว่าผมก็มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพูดเสียงเบาๆ

" งั้นแสดงว่ามึงก็มองกูอยู่ เลยรู้ว่ากูมองมึง "

" จะว่าแบบนั้นก็ใช่ ก็แน่นอนว่ากูชอบมองแฟนกูอยู่แล้ว คนน่ารักทำไมจะไม่อยากมอง " ทำท่าอ้วกใส่มันอีกคนก็ หลุดหัวเราะออกมา ชัดถอยรถเข้าที่จอด ดึงเกียร์มือขึ้นมาแต่มันก็ยังไม่ดับเครื่องยนต์ แล้วก็ยังไม่ปลดล็อคประตูรถ

“ ทำไมไม่ลงอะ ดับเครื่องสิ "

“ อยากจะคุยกับมึงก่อน "

“ คุยเรื่อง ? “ เอียงหน้าถามมันอีกคนก็เอื้อมมือมาจับแก้มก่อนจะเกลี่ยเบาๆ  ชัดยิ้ม

“ ขอจูบหน่อยสิ " ผมนิ่งไปตอนที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ยังไม่ชินสักที แม้จะเป็นกฏที่ผมตั้งขึ้นมาเองก็เถอะ

   ตั้งแต่เรื่องราวคราวนั้นที่มันล่วงเกินผมเกินกว่าเหตุ กฏที่บอกว่าถ้าอยากจะทำอะไรก็ต้องขอก่อนเลยถูกตั้งขึ้นมา และตั้งแต่นั้นชัดก็ไม่เคยทำอะไรโดยที่ไม่ขอ แม้จะจับมือกันเล่นๆในรถมันก็ยังเอ่ยขอออกมา และจูบที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ก็เหมือนกัน 

   ชัดจูบผม เป็นจูบดูดดื่มทุกวันก่อนที่เราจะแยกย้ายกันไปเรียน ไม่รู้ทำไมแต่ทุกวันก็เป็นแบบนี้ ชัดจะขอจูบผม เราจูบกันแล้วถึงแยกย้ายกันไปเรียน แล้วพอกลับมาก็เจอกันตอนเย็นก็จูบกันอีก

“ ขอหอมแก้มด้วยนะ " มันหอมลงข้างแก้มตอนที่ผละจูบออก ก่อนจะยกยิ้มมองผมเพราะเห็นสีแก้มแดงๆด้วยความชอบใจ

“ นิสัยเสีย ชอบแกล้งคนอื่น " เพราะไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยตัดสินใจพูดออกไปแบบนั้น ผมก้มหน้าลงแล้วตอนนั้นก็ถูกขอจูบอีกครั้ง

“ ขอจูบอีกครั้งนะ "

“ สุดท้ายแล้วนะ จะไปเรียนแล้ว "

“ ครับผม " จูบที่แนบลงมาบนริมฝีปากในยามที่ผมหลับตาลงสนิท มือหนาที่เอื้อมมากอดเอวผมนั้น ผมเองก็เอื้อมมือขึ้นจับที่เสื้อนักศึกษาของมัน ตอบรับเกลียวลิ้นที่กอดเกี่ยวกันอยู่ในปาก ชัดผละริมฝีปากออกตอนที่มันพึงพอใจกับจูบของเราแล้ว " เสร็จละ "

“ อื้ม " ขานรับเสียงเบาๆ มือหนาก็เอื้อมมือลูบที่หัว ผมเงยหน้ามองมัน

   จะว่าไปตั้งแต่วันนั้นมา ชัดก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องเซ็กส์อีกเลย ส่วนผมเองก็ลืมไปแล้วว่าจริงๆ คนตรงหน้ามีความต้องการสูง เพราะบางครั้งตอนที่มันไปส่งที่บ้านตอนที่เราจูบกันส่วนกลางของมันก็ตั้งลำขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่ต้องบอกรู้ว่ามันต้องสะกดอารมณ์ตัวไว้มากแค่ไหนกัน

“ ไปเรียนกันเถอะ " ชัดดับเครื่องยนต์ มันที่ลงจากรถตามด้วยผมที่ลงตามไปล็อครถเรียบร้อย ผมหันไปบอกมัน

“ เจอกันตอนเย็นนะ "

“ ครับผม " เดินขึ้นตึกหลังจากฟังคำตอบรับของมัน ตอนที่เปิดประตูเข้าไปในห้องคนที่ไม่มาทั้งอาทิตย์ก็นั่งอยู่ก่อนแล้ว

“ ไอ้เชี้ยขม มึงมาเรียนแล้ว "

“ เออ กูมาแล้ว " มันยกมึอขึ้นบอกก่อนจะยิ้มกว้างออก ผมเดินไปนั่งข้างๆแล้วถามประโยคที่อยากรู้ออกไปทันที

“ หายหัวไปไหนมาทั้งอาทิตย์วะ แล้วนีี่ไปหาอาจารย์แล้วแล้วรึยัง "

“ เรียบร้อย ไปหามาแล้ว " มันว่า " โดนเทศน์ซะกระจายเลยมึง นานจนคิดว่ากุจะบรรลุธรรมขั้นสูงละ แต่ยังดีที่เค้าเข้าใจกูอยู่ เค้าก็เตือนว่า ให้ทยอยทำงานมาส่งให้ครบ แล้วก็อย่าขาดเรียนอีก "

“ แล้วตกลงมึงมีปัญหาอะไร " ผมถามคนตรงหน้าก็ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดออกมาให้ผมฟัง เรื่องราวที่ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมาได้ยิน เรื่องของเด็กคนนึงชื่อน้องกาลิคถูกแม่ตัวเองเอามาทิ้งไว้ให้เป็นลูกของไอ้ภาพแล้วก็ไอ้ขมโดยที่ไม่บอกว่าลูกใคร แล้วพวกมันสองคนก็เลี้ยงเด็กด้วยกันมาจนสุดท้ายผู้หญิงมาเอาลูกกลับเลยต้องเคลียร์เรื่องเด็กคนนี้กันเป็นอาทิตย์ " แล้วตกลงว่าลูกภาพเหรอ "

“ อื้ม แต่มึงอย่าบอกใครละ กูไม่อยากจะให้ใครมารู้เรื่องเด็ก เดี๋ยวเอาไปนินทากันในเพจคิ้วบอยมหาลัย ไอ้หัวหอมก็โดนหมายหน้าอยากจะเห็นตัวกันพอดี แล้วไอ้ภาพก็คงโดนพูดถึงแบบเสียๆหายๆ สุขภาพจิตแย่กันพอดี รำคาญ "

“ เออ ไม่เล่าหรอก " ผมพยักหน้ารับ " แล้วนี่มึงบอกอาจารย์ว่าไง "

“ ก็บอกแบบที่เล่ามึงไปนั่นแหละ บอกความจริงกับเค้า ขี้เกียจโกหก " ขมบอกผมก็พยักหน้ารับ " แล้วกูมีอีกเรื่องจะบอกมึง "

“ อะไร "

“ กูกับไอ้ภาพเป็นแฟนกันแล้วนะ " ทุกอย่างเหมือนเงียบไปตอนที่ผมได้ยินคำนั้น ทั้งๆที่ในห้องมีเสียงคุยกันจอแจแต่ผมกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรนั่นเลย หลุดยิ้มออกมาตอนที่ไอ้ขมยิ้มจางๆ แล้วผ่อนลมหายใจออกมา " กูอยากจะบอกมึงไว้ก่อน เพราะมึงเป็นเพื่อนสนิทกู "

“ ดะ เดี๋ยวนะ นี่มึงไปเอาเวลาตอนไหนไปรัก ไปชอบกันวะ โคตรเร็ว นี่มึงหายหัวไปเป็นอาทิตย์ กลับมาอีกที ไอ้ภาพเป็นพ่อคนส่วนมึงก็เป็นเมียมัน "

“ แค่แฟนเว้ย!! “ อีกคนเถียงออกมา " ยังไม่ถึงขั้นเมีย ไม่ใช่มึงสักหน่อยนี่กูหายไปเป็นอาทิตย์ คงเป็นเมียไอ้ชัดไปแล้วละสิ " ขมว่ายิ้มๆผมก็ตะโกนบอก 

“ ยังเว้ย! ใครจะไปเป็น แค่แฟนก็ดีถมเถไปแล้ว "

“ อ๋อเหรอ ~ " มันทำเสียงแซว ผมก็ถอนหายใจพลางมองไปทางอื่น " แล้วนี่มึงเป็นไงบ้าง อาทิตย์ที่ผ่านมา อยู่กับไอ้ม่านไอ้มู่สนุกมั้ย "

“ สนุกกับผีนะสิ ไอ้สัดสองตัวนั่น วันๆอ่านแต่การ์ตูนเกย์ในเว็บแล้วเอามาให้กูดูเนี้ย บอกให้กูไปทำกับไอ้ชัด ส้นตีน ใครมันจะเอาไปทำแต่ละท่า แม่งก็ทำได้แต่ในการ์ตูนเท่านั้นแหละกูจะบอกให้ " ผมบอกอีกคนก็เงียบก่อนจะพูดออกมาเสียงเบาๆ ราวกับเผลอพูดความคิดช่วงนึงของตัวเองออกมา

“ คนเรานี่มันจำเป็นเหรอวะ ที่คบกันแล้วต้องเอากัน "

“ กูก็ไม่รู้วะ " ผมเอ่ยบอก ขมก็หันมามองหน้า " บางทีกูก็คิดว่าแค่จูบ หอมแก้ม จับมือ นั่นก็พอแล้ว จะต้องลึกซึ้งอะไรถึงขนาดนั้นเหรอวะ แต่อีกมุมนึงก็คิดนะว่ามันก็เป็นการแสดงความรักอย่างนึงเหมือนกัน อีกอย่างเราไม่ใช่คู่รักชายหญิงซะด้วยที่ฝ่ายหญิงต้องรักษาพรหมจรรย์ไว้จนถึงวันแต่งงาน"

" ก็จริงนะ อีกอย่างสมัยนี้คนทั่วไปก็อยู่กันก่อนแต่งซะอีก ไม่ได้เป็นแบบสมัยก่อนหรอก "

" อื้ม " ผมพยักหน้ารับ " แล้วพอคิดว่า ก็คบไปนานๆแล้วค่อยมีอะไรกัน กูก็เกิดคำถามขึ้นอีกว่า นานน่ะ มันแค่ไหนกันวะ ถึงเรียกว่านาน สิบปี ห้าปี เราก็ไม่ใช่ผู้หญิงด้วยที่จะมีงานแต่งงาน มันถึงระบุได้ว่าเซ็กส์ครั้งแรกก็ตอนแต่งงานแล้วกัน "

" อื้ม นั่นก็จริง "

" เอาจริงๆสมัยนี้คนมันก็แปลกขึ้นเรื่อยๆจนกูไม่รู้เหมือนกันว่าจะใช้ชีวิตยังไง วันก่อนไอ้ม่านไอ้มู่มาเล่าให้กูฟังว่าเพื่อนของพี่สาวมันตัดสินใจแต่งงาน และตลอดเวลาที่คบไม่เคยคิดจะมีอะไรกันเลยเพราะเค้าเป็นคนค่อนข้างหัวโบราน แต่พอแต่งงานไปกลับมารู้ว่าสามีของตัวเองเป็นพวกเซ็กส์จัดชอบเอาทางประตูหลัง ชอบให้ทำตัวเหม็นๆแบบ เอากันทั้งๆที่ยังไม่อาบน้ำ เลียตีน เลียมือ ก่อนมีอะไรกัน "

" เชี้ย.. แล้วสุดท้ายเป็นไง "

" มันเล่าว่าเลิกว่ะ พอฟังแล้วกูมานั่งคิดว่า เวลาแม่งก็ไม่ใช่ทุกอย่างอยู่ดี สุดท้ายมันก็อยู่ที่ความพร้อมแหละ ถ้าพร้อมจะเอาก็เอากันเถอะ บางทีเซ็กส์ก็อาจจะเป็นการแสดงออกในอีกรูปแบบนึงที่ทำให้เรารู้จักเค้ามากกว่าขึ้นก็ได้ รู้จักเค้าให้อีกแบบนึง แบบที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน "

" พูดขนาดนี้แล้ว เย็นนี้ไปมีอะไรกับไอ้ชัดเลยมั้ย " ไอ้ขมแซว ผมก็ผ่อนหายใจออกมา

" ไอ้บ้า " เท้าคางส่ายหน้าไปมากับรอยยิ้มของเพื่อนตัวเอง จะว่าไปตอนนี้ไม่ใช่ว่าไม่กล้า หรือไม่พร้อมหรอก แต่มันเหมือนไม่มีช่วงเวลาที่คลิ๊กกันจนสามารถนำไปสู่เรื่องนั้นได้มากกว่า อีกอย่างการมีเซ็กส์แบบของผู้ชาย มันต้องทำอะไรตั้งหลายอย่างเพื่อเตรียมความพร้อม แล้วแบบนั้นตอนที่ขอตัวเข้าไปล้างตูดในห้องน้ำจะให้ทำหน้ายังไงวะ  ส่วนตัวผมอยากจะมีเซ็กส์แบบให้อารมณ์พาไปมากกว่า ชอบที่มันเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะมีอะไรกัน รู้สึกเขินน้อยกว่าเวลาที่เราตั้งใจว่าจะทำเรื่องแบบนั้นกัน " แล้วมึงคิดว่าไงวะ "

“ อะไรคิดว่าไง "

“ ก็เรื่องมีอะไรกับไอ้ภาพ "

“ กูไม่เคยคิดเรื่องมีอะไรกับไอ้ภาพเลยสักนิ๊ดดดดดดดดดเดียว " มันลากเสียงยาวก่อนจะส่ายหน้าไปมา " แค่จูบ แค่หอมนั่นก็พอแล้ว อีกอย่างให้เอาKที่กูเห็นมันตั้งแต่ขนาดเท่านิ้วก้อยใส่เข้ามาในตูดกู นั่นก็พิลึกแล้ว "

“ ความแบบเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนนี่ก็เป็นอีกแบบนึงนะ "

“ อื้ม ตอนนี้แค่จูบกันกูยังรู้สึกแปลกๆเลย เรื่องเซ็กส์เลยเป็นอะไรที่กูยังไม่อยากจะคิดอะ รอให้อารมณ์มันพาไปแล้วกัน " ขมบอกก่อนจะหันมามองหน้าผม " แต่มึงดูกังวลกับมันนะกูว่า "

“ เหรอ " เหลือบมองมันอีกคนก็พยักหน้ารับ " กูคงเหมือนมีทั้งเทวดากับซานตาอยู่ในหัวมั้ง แบบความคิดทั้งดีและแย่ ไอ้ความคิดดีๆมันก็ ' ชัดน่ะเป็นคนดีนะไม่เป็นไรหรอกจะได้รู้จักเค้ามากขึ้นไง ' ส่วนไอ้ความคิดแย่ๆมันก็ ' มันอาจจะหลอกฟันมึงก็ได้ ได้กันแล้วก็ทิ้งไปยังคบกันได้ไม่เท่าไหร่หัดคิดถึงเรื่องเอากันแล้วเหรอ แรดจริง ' อะไรแบบนี้อะมึง "

“ ฮ่าๆๆ "  ไอ้ขมหลุดหัวเราะออกมา มันก้มหน้าลงฟุบกับโต๊ะก่อนจะเอื้อมมือมาจับไหล่ผม " โม มึงน่ารักอะ ความคิดมึงน่ารักกูชอบ "

“ เหี้ยอะไรของมึง กูคิดแบบนั้นจริงๆนะ "

“ ถ้ามึงยังลังเลในตัวไอ้ชัด นั่นก็แสดงว่ามึงยังไม่พร้อม วันไหนที่เลิกลังเล ก็ค่อยมีอะไรกับมัน ดีมั้ย ถ้าไม่ลังเลนั่นก็คือเรามั่นใจแล้วว่าใช่ จริงมั้ยละ "

“ ก็จริง " ผมตอบมันเสียงอ่อน " แล้วมึงอะ ถ้าภาพมาขอมีอะไรมึงตอนนี้ "

“ ถ้ากูมีอารมณ์ก็ไม่มีปัญหานะ " ขมยักไหล่ผมก็เบิกตาใส่อีกคน

" ทั้งๆที่เพิ่งคบกันอะนะ "

“ กูคบกับมันมาตั้งแต่เด็กๆนะมึง นิสัยไอ้ภาพเป็นยังไงกูรู้ดีอยู่แล้ว อย่างเรื่องที่มันมาสารภาพรักกู ถ้าไม่จริงจังจริงๆ คงไม่กล้าหรอก ใครจะเสียความเป็นเพื่อนไปละ ยิ่งเป็นกูกับมันแล้วด้วย ทุกอย่างก็ยิ่งยาก "

“ ก็จริง "

“ เพราะงั้นถ้ากูพร้อม มันพร้อม ก็..ไม่มีปัญหาไรหรอก แต่ตอนนี้กูไม่พร้อมไง กูยังคิดว่าถึงKเล็กๆของมันตอนที่เล่นน้ำกับกูตอนเด็กๆ ใครแม่งจะคิดว่า สักวันKที่เห็นนั่นแหละจะเสียบในตูดกูอีกที จริงมั้ยละ "

" ก็จริง " จะว่าไปไม่ว่าความสัมพันธ์แบบไหนก็ไม่มีดีที่สุดนะ เพื่อนสนิทมาเป็นแฟนกันอย่างไอ้ภาพไอ้ขมก็มีข้อที่ดีแล้วก็ไม่ดี เพิ่งรู้จักกันมาเป็นแฟนกันแบบผมกับไอ้ชัดก็เหมือนกัน ไม่มีอะไรดีไปหมดหรือว่าไม่ดีไปหมดหรอก ก็อย่างที่ขมว่าแหละ ถ้ายังลังเลแบบนี้ก็แสดงว่าไม่มั่นใจ งั้นก้รอให้เลิกลังเลก่อนก็แล้วกัน

" ว๊ายยยย อีขมมึงเสด็จแล้ว " เสียงไอ้สองแฝดที่ประสานเสียงกันดังมาจากหน้าห้อง ไอ้ม่านไอ้มู่วิ่งเข้ามาหาอีกคนที่พยักหน้ารับ

“ จ้าๆ กูเสด็จแล้ว "

“ หายหัวไปไหนมาเป็นอาทิตย์ " ไอ้มู่ถามมันก็ยิ้มแห้งๆ

“ ที่บ้านกูมีปัญหาอะ อย่าถามเลยกูไม่อยากจะคิดถึงมัน " มันบอกปัดไอ้สองคนนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ

“ แล้วนี่โอเคแล้วใช่มั้ย "

“ อื้ม โอเคแล้ว " ขมตอบ " ไปหาอาจารย์แล้วด้วย อาจารย์ก็เข้าใจไม่ได้ว่าอะไร "

“ อย่างงั้นก็ดี "

“ มึงกลับมาก็ดี ไอ้โมจะได้ไม่เหงา มึงไม่อยู่นี่แบบ ชีเศร้ามาก ชีเงียบมาก ผัวมานั่งคุยด้วยทุกวันยังไม่ร่าเริงเลย " ไอ้ม่านบอก ผมก็ถอนหายใจออกมา

“ มึงก็เกินไป "

“ ไม่เกินหรอกจ้า ว่าแต่นะโม มึงดูนี่ กูเอาเรื่องใหม่มาให้ดู เรื่องนี้แซ่บมาก " ไอ้ม่านไอ้มู่นั่งลงข้างผมก่อนจะยื่นมือถือมาให้ผมดู เป็นการ์ตูนเกย์เรื่องใหม่ " เรื่องนี้แซ่บมาก เกี่ยวกับชมรมว่ายน้ำ เค้ามีอะไรกันแซ่บมาก มึงดูสิ "

“ ไม่ดูเฟ้ย เลิกเอาอะไรแบบนี้มาให้กูดูสักทีเถอะน่า "  ผมบอกปัดไอ้ม่านก็หัวเราะ

“ มึงก็ดูไว้ สนุกดีออก แรกๆกูก็ไม่ชอบแต่พอดูไปดูมา แม่งแจ่มอะ สนุกจะตายไป "

“ กูไม่สนุกไปกับมึงหรอกเว้ย แล้วอีกอย่างมันไม่ได้ฟินอย่างที่มึงเห็นในการ์ตูนหรอกไอ้บ้า ไอ้หน้าฟินๆแบบนั้นอะ "

" อ้าว มึงไม่เคยมีอะไรกับไอ้ชัดด้วยซ้ำ มึงจะรู้ได้ยังไงมึงทำหน้าแบบนี้รึเปล่า มึงอาจจะทำก็ได้ ใครจะไปรู้ "

" ไม่ทำหรอกเว้ย! " ผมเถียงมันสองตัวก็หัวเราะชอบใจ

" แต่สนุกจริงๆนะ ตอนแรกคิดว่าจะแกล้งมึงเล่นๆ แต่เมื่อคืนกูนอนอ่านทั้งคืนเลยจ้า ทั้งซับไทยซับอังกฤษ สนุกมาก "

" ขนาดนั้น "

" มึงก็ลองอ่านแบบจริงจัง กูบอกแล้วเรื่องแบบนี้ต้องศึกษา ผู้หญิงยังมีร้อยเล่มเกวียนไว้มัดใจผัวเลย มึงเป็นรับทั้งทีก็ต้องมีบ้างสักเกวียนเดียวยังดีนะ ถ้าทำอะไรไม่เป็นเลยผู้ชายมันเบื่อไม่ใช่เหรอ "

" แล้วจะให้กูเชื่อคนที่ไม่มีผัวแบบพวกมึงน่ะเหรอ " บ่นเบาๆออกมา ตอนที่หยิบมือถือออกมาดูมีข้อความจากไอ้ม่านส่งมาให้ เป็นการ์ตูนเกย์เรื่องที่มันบอกให้ผมศึกษา เป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีอะไรครั้งแรกกับผู้ชายที่เป็นแฟนกัน ผมเลื่อนดูไปเรื่อยเปื่อย เขินจะตายไป ให้ดูอะไรแบบนี้ อีกอย่างชีวิตจริงก็ไม่ใช่ในการ์ตูนสักหน่อยนึง

   ใบหน้าที่กำลังมีความสุข ยอดอกที่ตั้งขึ้นมาเหมือนผู้หญิงแบบนั้น ความรู้สึกในตอนนั้น จะเป็นเหมือนในการ์ตูนน่ะเหรอ ถ้าคิดจินตนาการว่านั่นคือชัด ส่วนอีกคนเป็นผม จะมีความสุขได้ขนาดนั้นเลยเหรอวะ

“ ดูอะไรอยู่วะ " ไอ้ขมเอียงหน้าเข้ามามองที่หน้าจอ ยังไม่ทันจะกดปิด อีกคนก็ตาโตขึ้น " เชี้ยโม นี่เดี๋ยวนี้มึงดูอะไรแบบนี้เหรอ "

“ เฮ้ยๆ ไม่ใช่นะเว้ย ไอ้ม่านมันส่งมาอะ กูเลยกดดู "

“ ไหนๆ ขอกูดูหน่อย "  ขมหยิบมือถือผมไปเลื่อนดูด้วยสีหน้าแดงๆ ไอ้ม่านก็พูด

“ เชี้ยโมมันกำลังศึกษาจะเอาไปทำกับผัวเว้ย "

“ ไม่ใช่สักหน่อย ! ใครจะเอาไปทำวะ “ ผมเถียงไอ้ขมก็เหลือบตามองก่อนจะ วางมือถือลงตรงหน้าผม

“ แซ่บเหมือนกันนะเราน่ะ "

“ ก็บอกว่าไม่ใช่ไงเว้ยยยย !! ” ไอ้พวกเพื่อนบ้า แกล้งกู ~

   

   
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 46 - 21.7.60} #หน้า 43
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 23-07-2017 20:30:53

   เดินมาที่รถด้วยท่าทางหงุดหงิดตอนที่เลิกเรียน คนขับรถที่นั่งรออยู่ข้างในรถผมเคาะกระจก ชัดก็ปลดล็อค ผมเข้าไปนั่งด้านใจ ผ่อนลมหายใจออกมาอีกครั้ง

    วันนี้ทั้งวันก้ต้องดูแต่การ์ตูนเกย์บ้าบอที่พวกมันเอามาล้อกันจนหัวเสีย ไม่ว่าจะทำหน้าหงุดหงิดยังไงสุดท้ายก็โดนดึงแก้มแซวก็เท่านั้น ไม่ได้ทำให้พวกมันรู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด

“ หงุดหงิดอะไรขนาดนั้น "

“ เพื่อนแกล้ง " ผมบอกคนฟังก็หลุดหัวเราะ

“ ไม่ตลกไอ้สัด " หันไปบอกมันชัดเอื้อมมือมาขยี้หัว " ไม่ต้องมาแตะเนื้อต้องตัวกูเลย "

“ อะไร นี่กูไม่ผิดนะครับ อย่าพาลสิ " เบือนหน้าหนีออกนอกรถ อีกคนหยิกแก้มก่อนจะเอ่ยถาม " งั้นจะให้ไปส่งบ้านเลยหรือว่าจะไปกินข้าวด้วยกันก่อนดี เดี๋ยวจะตามใจมึงเองว่าไงครับ "

“ ไม่ค่อยอยากจะกินอะไร แต่ก็ไม่อยากจะกลับอะ " ผมบอกมันอีกคนก็ยิ้ม

“ งั้นไปคอนโดกูก่อนก็แล้ว ถ้าอยากจะกินอะไรก็ค่อยออกไปกินกันตกลงมั้ย "

“ ก็ได้ " พยักหน้ารับบอกมัน ชัดก็ขับรถพาผมมาที่คอนโดของมัน เราเดินขึ้นไปที่ชั้นบนของอาคาร แผ่นหลังของร่างสูงที่กำลังไขประตูห้องเข้าไป จะว่าไปนี่มันกี่ครั้งแล้วที่ผมมาที่นี่จำได้ว่าหลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็มาครั้งนึง แต่ไม่ได้อยู่นานเท่าไหร่ เหมือนจะแค่มาเอาของแล้วกลับกันออกไป และวันนี้แหละดูเหมือนว่าจะได้เข้ามานั่งนานกว่าปกติหลังจากผ่านเหตุการณ์วันนั้นมา

“ มึงโอเครึเปล่า " ชัดถามขึ้นมาตอนที่ไขล็อคประตูเรียบร้อยแต่ก็ไม่เปิดประตูห้องเข้าไปสักที

“ อะไรที่มึงคิดว่าไม่โอเค "

“ ก็อยู่กับกูในห้องสองคน "

“ กูโอเค ทำไมจะไม่โอเคละ " หันไปยิ้มให้มัน แววตาที่มีความกังวลอยู่ของร่างสูง ชัดมันคงคิดถึงเรื่องราววันนั้น เอื้อมมือไปจับมือมันผมเปิดประตูเข้าไปก่อนจะเดินนำไปยืนอยู่กลางห้อง ชัดที่เดินตามเข้ามามันล๊อคห้องก่อนจะถอนหายใจ

“ กูแค่คิดว่า มึงต้องอยู่นาน กลัวมึงอึดอัด "

“ จะอึดอัดก็เพราะท่าทางของมึงนี่แหละ " ผมบอก อีกคนก็ยกยิ้มก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็น

“ น้ำหน่อยมั้ย หรือว่า น้ำผลไม้ก็มีนะ เบียร์มั้ย ? “

“ มีน้ำผลไม้ด้วยเหรอ " ผมเอ่ยถามอีกคนก็พยักหน้ารับ ผมเดินเข้าไปใกล้ชัด ตอนที่มองเข้าไปในตู้เย็น ที่ไม่มีอะไรเลยยกเว้นเบียร์ เหล้า น้ำผลไม้ แล้วก็น้ำเปล่า " เอาน้ำส้มดีกว่า " เอื้อมมือไปหยิบน้ำส้มขึ้นมาชัดเองก็หยิบน้ำเปล่าขึ้นมากิน " มึงจะกินเบียร์ก็ได้นะ "

“ ไม่เอาอะ น้ำเปล่านี่แหละ "

“ กลัวจะทำอะไรกูเหมือนอย่างวันนั้นอีกเหรอ "

“ แค่กๆ " คนที่กำลังกินน้ำสำลักออกมาทันที ไอ้ชัดยกมือขึ้นเช็ดปากตัวเอง มันมองผมที่ก็หัวเราะออกมา

" เกร็งเกินไปแล้วมึงอะ " ผมบอก " ถ้าคนเรามีสติควบคุมตัวเองให้ได้ มันก็ไม่มีอะไรหรอก แล้วอีกอย่างตอนนี้กูก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรขนาดนั้นแล้วด้วย " ผมเหลือบมองมัน " ถ้ามึงไม่ทำให้กูตกใจเหมือนอย่างคราวนั้นก็ไม่มีปัญหาหรอก "

" พูดแบบนี้หมายความว่าไงวะ " ชัดเอ่ยถามเบาๆก่อนจะยกยิ้มมองผม " เหมือนมึงจะบอกว่า มีอะไรกันก็ได้ถ้ามีสติด้วยกันทั้งคู่ "

“ ก็ไม่เชิงว่าแบบนั้น แต่ก็.. ไม่ใช่ว่ามันจะไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นหรอก " ผมมองหน้ามันตอนที่ตัวเองเอ่ยคำพูดที่ไม่เข้าใจพวกนั้นออกมา

   ผมสงสารชัด ผมรู้สึกแบบนั้นตอนที่มองหน้ามัน มองแผ่นหลังของมัน ผมรู้ว่ามันต้องการอะไรจากผมในตอนที่เราจูบกันความลึกซึ้งพวกนั้น ผมรู้ว่ามันมีความรู้สึกที่ตัวมันต้องพยายามกดไว้ แล้วรออย่างใจเย็นให้ผมเป็นคนเอ่ยบอกอนุญาติกับมันเอง โดยไม่ทักท้วงออกมา เพราะไม่อยากจะให้เกิดเหตุการณ์แบบที่มันเคยทำร้ายจิตใจผมอีก ชัดเลยเลือกที่จะไม่พูด

“ เออนี่ มึงรู้แล้วใช่มั้ยว่าขมกับภาพเป็นแฟนกัน " ผมดึงตัวเองพิงกับหลังโซฟาตอนที่เอ่ยถามมัน ชัดพยักหน้ารับ " เร็วมากเลยเนอะ มันหายไปเป็นอาทิตย์กลับมาอีกทีเป็นแฟนกันแล้วละ แถมมีลูกแล้วด้วย " ยกน้ำผลไม้ในมือขึ้นดื่มผมรู้สึกตัวเองเหมือนกำลังหาเรื่องพูดไปเรื่อยเปื่อยมันก็เท่านั้น " นี่รู้มั้ย ตอนที่กูรู้ กูแอบถามมันด้วยนะ ว่ามันมีอะไรกับไอ้ภาพรึยัง พอมันบอกว่ายัง ขมมันก็เผลอพูดออกมาด้วยนะว่า แฟนกันมันต้องมีอะไรกันรึเปล่า แล้วกูก็บอกว่ามันอยู่ที่ความพร้อมมากกว่า ถ้าเค้าพร้อมเราพร้อม มันก็โอเคนะถ้าได้รู้จักกันในอีกแง่มุมนึง "

   เงยหน้ามองคนตรงหน้าตอนที่พูดประโยคนั้นออกมา ผมเม้มริมฝีปากแน่น ชัดก็เอ่ยถามออกมา " โม มึงกำลังคิดว่ากูทรมาณรึเปล่า " มือหนาเอื้อมมือมาจับมือผมก่อยยิ้มจางๆ " ถ้ามึงกำลังคิดว่ากูทรมานมึงคิดผิดนะ กูไม่ได้ทรมาน กูโอเค ไม่ต้องพยายามฝืนที่จะต้องพร้อมเพื่อกูหรอก เรื่องแบบนั้นกูรอได้ รอให้เราพร้อมจริงๆแล้วค่อย..”

“ มึงอยากมีอะไรกับกูมั้ย " ทุกอย่างเงียบตอนที่ผมถามคำถามนั้นออกไป ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงถามแบบนั้น แต่มือผมที่กำประป๋องน้ำผลไม้แน่นก็บีบมันแรงจนกระป๋องที่ถืออยู่ในมือนั่นบุบลง " กูไม่อยากจะให้มึงรู้สึกอยู่คนเดียว แล้วที่อยากจะบอกคือมึงไม่ได้ทรมานอยู่คนเดียวหรอก กูเองก็ด้วย " ผมพูดเสียงเบาลงในประโยคสุดท้ายก่อนจะเงยหน้ามองหน้ามัน " ที่พูดมาทั้งหมดมันยังดูไม่พร้อมอีกเหรอ งะ งั้น.. ทำไงดี "

“ บอกว่าพร้อมทั้งๆที่ตัวมึงสั่นขนาดนี้นะเหรอ " ร่างสูงที่เดินเข้ามาใกล้มันที่ค้ำมือสองข้างลงบนโซฟาตัวที่ผมพิงอยู่ ตอนที่สบสายตานั้น ไม่รู้ทำไม แต่ปากมันก็พูดออกไป คำพูดที่ดูเหมือนยั่วยวนนั้น

" งั้นก็ทำให้กูหายสั่นสิ "

" ทำไมวันนี้คุณหนูโมของผม ถึงพูดคำพูดพวกนี้ออกมาได้กันนะ " ริมฝีปากที่แนบสนิทลงมาบนริมฝีปากของผมเอ่ยบอก จูบที่แทรกลิ้นเข้ามาภายใน ลำตัวของผมผ่อนลงทันทีตอนที่มือหนานั่นดึงเอวเข้าไปกอดไว้ ผละริมฝีปากออกจากกันทันทีที่หอมแก้มผมก็ได้แต่ก้มหน้าลง

“ สงสัยวันนี้กู..จะเมาน้ำส้มละมั้ง " ชัดที่ยิ้มกว้างออกมากับคำพูดนั้น ผมที่ยกน้ำส้มขึ้นมาตรงหน้ามัน มือหนาก็ดึงกระป๋องน้ำส้มที่ชวนให้ผมเมานั่นออกไปวางตรงพื้นเรียบๆ ก่อนจะจูบลงบนริมฝีปากอีกครั้ง

    ผมหลับตาสนิทยามที่ความอุ่นนั้นแทรกเข้ามาในโพรงปาก เกลียวลิ้นที่กอดรัดลิ้นชื้นของผมมันเป็นความรู้สึกที่ต่างไปจากทุกทีที่เราเคยจูบกัน ใจที่เต้นแรงของผมแม้แต่มือที่ค้ำอยู่ที่ผนักพิงโซฟาก็ยังจิกลงไปบนหนังนั่นแน่น อาจเพราะรู้ว่านี่จะไม่ใช่การจูบอย่างที่เคยเป็นมา มันลึกซึ้ง และจะเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมอีก

" อื้อ " ผมครางเสียงเบาๆตอนที่มันผละริมฝีปากออก แล้วจูบลงไปที่ต้นคอของผม

   ไอร้อนๆจากลมหายใจที่รดไปตามร่าง มือหนาปลดกระดุมเสื้อของผมออกไปจนหมด แล้วไล่จูบลงไปจนถึงยอดอกของผมก่อนจะใช้ลิ้นเลียมันเบาๆ  ส่วนมืออีกข้างก็เอื้อมขึ้นขยี้ยอดอกอีกข้างจนมันแข็งชันขึ้นมา

" ชัด " เสียงของผมที่เอ่ยเรียกชื่อมันเบาๆ ร่างกายที่เกร็งไปหมดในตอนนี้อาจเพราะริมฝีปากที่กำลังดูดดื่มอยู่กับยอดอกอย่างไม่รู้จักพอ

   มือหนาข้างที่ว่างนั้นลูบเข้าไปในกางเกงบีบก้มกลมของผมไว้แน่นก่อนจะเลื่อนมาข้างหน้า มันปลดเข็มขัดกับกระดุมออกภายในเวลาอันสั้น กางเกงถูกร่อนลงไปถึงพื้นพร้อมทั้งกางเกงในที่สวมใส่ในเวลาเดียว ร่างกายที่เปลือยเปล่าของผมปรากฏอยู่ตรงหน้ามัน

" ขี้โกง "

“ เรื่องอะไร " มันกระซิบข้างหูพลางถามผมขึ้นมา ไรหนวดที่ถูไปมตรงแก้ม ผมเม้มริมฝีปากบอกมัน

“ กูถอดหมดแล้วมึงยังไม่ถอดเลยสักชิ้น ขี้โกง "

“ เรื่องนี้เองน่ะเหรอ "  ทุกอย่างเงียบ ตอนที่ชัดมองร่างกายตัวเองมันก็เอ่ยบอก " งั้นมึงก็ถอดให้กูสิ ขนาดกูยังถอดให้มึงเลย "

“ เรื่องอะไร กูไม่ขอให้มึงถอดให้สักหน่อย "  ผมบอกแต่ก็ยังก้มหน้างุดอยู่แบบนั้นไม่ยอมหันไปมองที่ไหน

“ ใจร้าย " ชัดพูดแบบนั้นสั้นๆ ก่อนจะยกขาของผมข้างนึงขึ้นมาจากพื้น มันที่จูบลงบนริมฝีปากของผมอีกครั้งในช่วงเวลานั้นนิ้วหนาก็ถูกดันเข้าในร่างตรงช่องทางหลังของผมเหมือนกัน ความรู้สึกที่ทำให้ผมเบิกตาตัวเองกว้างผ่อนลมหายใจออกมา ตอนที่นิ้วนั้นเริ่มขยับหมุนวนไปมาในร่างกายของผมแล้วค่อยๆขยายขึ้นจากหนึ่งเป็นสอง และ สาม ในวินาทีถัดมา

   นิ้วที่สอดเข้าออก พร้อมทั้งกับลิ้นที่กอดเกี่ยวกันในปากราวกับว่าชัดกำลังพยายามที่จะบ่ายเบี่ยงความสนใจของผมไม่ให้เจาะจงอยู่กับความรู้สึกไหนเป็นสำคัญ

“ ชัด " ผมเรียกชื่อมันเบาๆ มือก็จับเสื้อที่ใส่ไว้แน่น ยามที่นิ้วนั้นหมุนวนไปรอบๆช่องทางหลัง ผ่านจุดที่ทำให้รู้สึกอธิบายเป็นความรู้สึกอะไรไม่ออก รู้แค่ว่า ตรงนั้น อยากจะให้ทำกับตรงนั้น เขี่ยตรงนั้น กดย้ำมันลงไปอีก " ตรงนั้น ชัด อื้ออ ย้ำลงไป "

“ ของมึงอยู่ตรงนี้สินะ " มันพูดด้วยประโยคที่ผมไม่เข้าใจ ก่อนจะใช้ลิ้นเลียไปตามซอกคอก่อนจูบดูดดื่มอยู่ตรงนั้น นิ้วหนาในร่างขยับแรงและถี่ขึ้นผมเม้นริมฝีปากแน่นรู้สึกถึงส่วนกลางของตัวเองที่เริ่มแข็งชันขึ้นมา น้ำของความต้องการที่เริ่มซึมออกจากส่วนหัว ผมร้องบอกมัน

" อื้ออ ชัด กูเหมือนกับจะ เสร็จ จะให้กูเสร็จ ดะ ด้วย นิ้ว เหรอ อ๊ะ ตรงนั้นมึง " มันกดย้ำลงไปข้างในลำตัวที่แดงกล้ำของผม ชัดดึงนิ้วออกก่อนจะพลิกตัวผมหันหลังให้มัน ริมฝีปากหนานั่นก็จูบลงบนแผ่นหลังของผมพร้อมกับเสียงรูดซิปกางเกงจะดังเป็นเสียงถัดมา " ชัด "

" ครับ " มันตอบในตอนนั้นนิ้วหนาก็ถูอยู่ที่ช่องทางหลังเบาๆ ก่อนที่ส่วนกลางที่ใหญ่กว่านิ้วหลายเท่าจะค่อยๆถูกดันเข้ามาในร่างของผม

" อ๊าาา อื้ออ เจ็บ มันใหญ่จัง เจ็บนะ " ไม่มีคำพูดอะไรมากกว่าคำพูดพวกนี้ เหมือนร่างค่อยๆแตกออกเป็นเสี่ยงๆยามที่ส่วนกลางของมันดันตัวเองเข้ามา ชัดพยามยามกดหลังของผมให้ต่ำลงเพื่อเปิดช่องทางหลังให้กว้างมากขึ้น " อ๊าา " ส่วนกลางนั้นขยับเข้าออก ผมที่เม้มริมฝีปากแน่นซบหน้าลงกับโซฟาตัวที่ค้ำอยู่ด้วยความรู้สึกเจ็บปวด " อ๊ะ อื้อ เจ็บจัง "

" จะทำให้หายเจ็บนะ " มันพูดปลอบๆตอนที่ดึงผมขึ้นมาจากโซฟา มือหนาข้างนึงกอดเอวผมไว้ ส่วนอีกข้างก็ยกขาขวาของผมขึ้นมา ชัดสอดส่วนกลางเข้ามาในจังหวะที่ถี่ขึ้นกว่าเดิม เอียงหน้าจูบกับมัน สะโพกขยับแรงขึ้นเรื่อยๆผมก็ได้แต่ครางเสียงสั่น

" อ๊าาาา ชัด กู ไม่ไหว อื้อ อ๊าห์ " ปลดปล่อยน้ำจากส่วนกลางออกมาในที่สุด ผมผ่อนลมหายใจออกมาที่ตอนที่พิงหลังลงกับอกของมันอีกคนก็ยกยิ้ม

" เสร็จก่อนกูอีก รีบเหรอ " มันถามผมก็ได้แต่เม้มริมฝีปากตัวเองไม่ตอบอะไร รู้สึกเหมือนกันว่าเสร็จเร็วไปหน่อย " กูยังไม่เสร็จ ขอหน่อยนะ " มันพูดแค่นั้น ก่อนจะดันตัวผมไปข้างหน้า วางขาข้างที่ยกสูงนั้นลงแล้วเปลี่ยนเป็นจับเอวของผมไว้ ก้นที่เด้งเข้าออกสอดเสียดกับส่วนกลางที่ขยับเป็นจังหวะ

   เสียงดังของเนื้อที่กระทบกัน ผมครางลั่นเพราะความเร็วที่แทบจะหายใจไม่ทัน กัดริมฝีปากไว้แน่นแล้วในตอนนั้นก็เหมือนว่าตัวผมจะเสร็จอีกครั้งพร้อมกับมัน ที่เหมือนจะเสร็จแล้วเหมือนกัน

" อื้อออออ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อื้อ อ๊าห์~ “

" อื้ม "

   ทั้งเสียงของชัดและเสียงของผมประสานเข้าด้วยกัน ผ่อนลมหายใจออกมาแล้วทรุดตัวลงกับโซฟาทันทีตอนที่ทุกอย่างนั้นหยุดลงขาของผมชาไปหมด ริมฝีปากที่แห้งเพราะการส่งเสียงเป็นเวลานาน กลืนน้ำลายเข้าไปคอก่อนจะโดนร่างสูงดึงเข้าไปกอดเป็นการกอดแน่นที่ไม่มีคำพูดอะไรทั้งนั้น ลมหายใจของมันที่หายใจรดไหล่ของผม ก่อนจะจูบลงที่ข้างแก้ม

" ชัด มีอะไรรึเปล่า "

" กูรักมึง " มันพูดสั้นๆแต่ผมกลับได้แต่นิ่งไป " ไม่ไหวแล้ว รู้สึกรักขึ้นมากกว่าเดิมอีกแล้ว " ก้มหน้าลงแอบยิ้มกับคำพูดธรรมดาของมัน ก่อนจะถูกดึงให้หันไปเผชิญหน้าแล้ววินาทีต่อมาเราก็จูบกันอีกครั้ง จูบที่มาพร้อมกับมือหนาที่อุ้มผมขึ้นเหนือพื้น ก่อนจะที่จะถามอะไรชัดอุ้มพาผมเข้าไปในห้องวางลงบนเตียงของมัน ก่อนที่มันจะถอดเสื้อเผยแผงอกล้ำและซิกแพคชัดเจนของคนที่ออกกำลังกายอย่างดี มันถอดกางเกงออก ก่อนจะจูบที่หน้าผากและข้างแก้มของผม ผละลงมาจูบที่อก หน้าท้อง ต้นขา น่อง ก่อนจะยกหลังเท้าขึ้นจูบเบาๆ ผมที่มองการกระทำนั้นอึ้งๆในขณะที่ชัดเงยหน้าขึ้นมามองด้วยแววตามั่นคงนั้น " กูรักมึง รักทุกอย่างที่เป็นมึง "

“ ชัด "

“ รักมากจริงๆ " เลื่อนตัวเข้ามาจูบที่ริมฝีปากของผมจูบเบาๆของมันตอนที่ผละออกแล้วเราก็จ้องหน้ากัน ผมผ่อมลมหายใจออกมาตอนที่ยิ้มจางๆให้ความความอบอุ่นที่กำลังครอบคลุมให้อุ่นไปทั้งใจ

   มือหนาดึงผมขึ้นไปนั่งบนตักของมัน ซบหน้าลงที่หน้าอกก่อนจะจูบดูดดื่มที่ยอดอก ผมที่กอดมันไว้รู้อยู่แล้วว่าไม่อีกนาทีต่อจากนี้ก็ต้องมีรอบสองต่อแน่นอน แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรที่มันจะเกิดขึ้น ก็ถ้าหากมันจะทั้งอบอุ่นและมีความสุขแบบนี้ ก็ยินดีที่จะได้รู้จักมันในอีกแง่มุมนึง

“ ชัด กูมีความสุขจัง ขอบคุณนะ "
.............................................................

การที่ได้รู้จักกับใครสักคนในอีกแง่มุมนึง มันก็ไม่ได้แย่นะ
เห็นมั้ย พอน้องโมได้รู้แล้ว ก็อยากรู้จักอีกเลย... #ขอมองอ่อน
หลายคนอาจจะไม่ค่อยชอบคู่นี้ เพราะอยากอ่านฝั่งครอบครัวมากกว่า แต่หนมชอบนะ อบอุ่นดี เป็นความรักที่ใสๆ ง่ายๆ
ถ้าเป็นสีคงเป็นโทนที่อบอุ่นๆอะไรแบบนี้
แล้วจะบอกว่า เรื่องจริงๆเรื่องที่สองแฝดเล่าโม เอามาจากเพื่อน เพื่อนเล่ามาอีกที
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นไม่ได้สบับสนุนให้ คนเป็นแฟนกัน มีเพศสัมพันธ์กันก่อนวัยอันควรนะคะ
ดูตัวอย่างพี่ภาพที่มีลูกตั้งแต่ยังเรียนไม่จบสิ หนมแค่เสนอแนวคิดที่แตกต่างกันแต่ละในบุคคลเฉยๆ

ตอนหน้ากลับไปหาน้องหัวหอมเหมือนเดิมมมมม
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
หนมมี่
 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 23-07-2017 20:40:30
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 23-07-2017 20:44:23
โมนี่ไหนว่าไม่ดูๆสุดท้ายก็ดู แล้วก็ปฏิบัติเลย
เร็วไปไหมโมเอ๊ย 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-07-2017 20:47:35
เราชอบชัดมากกกกก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 23-07-2017 20:55:57
 :-[ พี่ชัดคะ ไข่ลวกสักสองไหมคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: Pleanplang ที่ 23-07-2017 21:04:03
เราชอบคู่นี้นะให้ความรู้สึกละมุนอะอบอุ่นในหัวใจงี้
ส่วนคู่ครอบครัวให้ความรู้สึกแสบๆสดใสๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 23-07-2017 21:22:06
เราชอบ ชัดนะใจถึงพึ่งได้ ถ้าคู่หลัก ภรรยาคือ ผบ สูงสุด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-07-2017 21:27:21
 :impress2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 23-07-2017 21:36:24
โมรวดเร็วมาก ศึกษาแล้วปฏิบัติเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 23-07-2017 23:23:58
ละมุน+
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-07-2017 23:30:53
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-07-2017 23:51:55
รอ รอ อยู่ คู่ชัด โม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
แล้วก็สมหวัง มันละมุนละไม ฟินนนน
ชอบบบบ ชัด ดูอบอุ่น รักโมมากกกก
        :L1: :L1: :L1:
   :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-07-2017 01:30:21
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-07-2017 02:11:41
หืมมมมม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-07-2017 03:26:06
 :undecided: :undecided: ไงคู่หลานโม รวดเร็วเยี่ยงนี้ คนแก่คาดไม่ถึงจริง  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 24-07-2017 05:57:25
เราก็ชอบคู่นี้นะ หลังจากที่ระแวงชัดจากคราวก่อนไป
แต่ก็แอบเชื่ออยู่ลีกๆว่าชัดจะทำให้โมยอมรับได้ในที่สุด /หุงข้าวแดงฉลองงง   :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 24-07-2017 07:12:10
ชัดโม มาแรงแซงทางโค้งไปแล้ววววววววว
>\\\\\\\\<
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 24-07-2017 09:04:18
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-07-2017 09:47:29
งื้อ เขาได้กันแล้ว~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 24-07-2017 10:50:16
โมน่าจะเรียนวิทย์นะ ศึกษาปุ๊บ ทดลองปั๊บ 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 24-07-2017 11:32:26
อั๊ยย่ะ! คู่ชัดโม นำหน้าไปก่อนอีกแล้ว  :katai2-1: :-[
แต่ก็นะตามลำดับเค้าคบกันก่อนนี่เนอะ
คู่ภาพขมก็รีบตามมาล่ะ เดี๋ยวไม่ทันเพื่อนนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 26-07-2017 18:35:20
ให้มันได้งี้เซ่ะน้องโม ศึกษาตอนเช้า ตกเย็นจัดเลย เริ่ดดดดดดด
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 26-07-2017 19:01:05
ขมโม สมาคมแม่บ้านเลย5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: xหยกน้อยx ที่ 28-07-2017 12:51:41
สนุกมากคะ รอตอนต่อไปคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 28-07-2017 20:24:41
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 48

   ครืน ครืน ครืน

   เสียงโทรศัพท์ของภาพที่ดังขึ้นในระหว่างการเดินทางจากมหาลัยไปรับเจ้าตัวเล็กที่โรงเรียน มือหนาที่กำลังจับพวงมาลัยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะบอก " ม๊าโทรมา " พยักหน้ารับมันภาพก็หยิบหูฟังขึ้นมาเสียบที่หูแล้วกดรับสาย " ครับ ม๊า เพิ่งเรียนเสร็จครับ กำลังไปรับกาลิคกลับจากโรงเรียน เรื่องนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน คงต้องถามขม " มันว่าก่อนจะดึงหูฟังออก แล้วก็ยื่นมือถือเครื่องนั้นมาให้ผม  " ม๊าจะพูดด้วย "

“ ครับม๊า " ผมตอบรับ อีกคนก็เอ่ยถามขึ้นมา

“ ขม ตั้งแต่เลี้ยงกาลิคกันมาเราสองคนเคยพากาลิคไปฉีดยาที่โรงพยาบาลกันรึยัง "

“ ฉีดยา ? “ ผมทวนคำพูดของเธอ ก่อนจะส่ายหน้าไปมา " ไม่เคยเลยนะครับ ทำไมเหรอครับม๊า กาลิคก็สบายดีนะ "

“ ขมกับภาพควรพากาลิคไปฉีดวัคซีนนะ อย่างพวกโรคอิสุอิใสหรือว่าโรคทั่วๆไปของเด็กเนี้ย มันมีวัคซีนต้องฉีดอยู่นะ ลองไปปรึกษาคุณหมอเด็กแล้วลองถามดู บอกว่าจะมาฉีดวัคซีนต้องฉีดอะไรบ้างเดี๋ยวคุณหมอเค้าก็แนะนำเองนั่นแหละ "

“ เหรอครับ "

“ มันจำเป็นนะ อย่างอิสุกอิใสเนี้ย จำเป็นต้องฉีดเลย กาลิคจะได้ไม่เป็นไง ม๊าโทรมาบอกเพราะคิดว่าเราสองคนคงจะไม่คิดถึงเรื่องนี้กันแน่นอน " เออใช่..ไม่คิดถึงเลยแหละ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องฉีด " แล้วอย่าลืมพาเจ้าตัวเล็กไปฉีดกันซะละ เข้าใจมั้ย "

“ ครับผม ขอบคุณมากครับม๊า "

“ แล้วนี่ อาหารเย็นวันนี้จะไปกินอะไรกัน " ม๊าถามผมก็เหล่มองภาพ จะว่าไปก็ยังไม่คิดกันเลยว่าจะกินอะไร เอาจริงๆ ตั้งแต่ขึ้นรถมาพูดกันไม่ถึงสิบคำเลยด้วยซ้ำ เพราะยังคงมีอาการเขินๆหลงเหลือกันอยู่

“ อื้ม คงจะเป็นเอ็มเคมั้งครับ " ผมบอกไปเดาๆ ไอ้ภาพก็หันมามองหน้า " ม๊ากับป๊าก็อย่าลืมกินข้าวนะครับ ครับ เสาร์อาทิตย์นี้จะไปหา ครับ สวัสดีครับ "

“ เราจะไปกินเอ็มเคกันเหรอวะ " ไอ้ภาพเอ่ยถามตอนที่ผมวางสายลง " ไหนมึงบอกว่าอยากจะกินพวกส้มตำ ไก่ย่างไง "

“ ขืนกูบอกไปว่าไปกินส้มตำ ม๊าได้บ่นสิ ว่ากินของไม่เหมาะกับเด็ก "

“ แล้วเรื่องฉีดวัคซีนกาลิคนี่ยังไง "

“ คงต้องไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลก่อนวะ อีกอย่างจู่ๆจับมันไปฉีดยาเลย มันคงตกใจอะ ไม่รู้มันเคยฉีดยามาก่อนมั้ยด้วย กูไม่อยากจะให้มันกลัวเข็ม เหมือนกับ.. " ผมพูดเสียงเบาลงพลางเหล่อีกคนที่หันมามองหน้า

“ เหมือนใคร กูไม่ได้กลัวเข็มฉีดยานะเว้ย "

“ อ๋อเหรอ ? “

“ ไม่ต้องมาอ๋อเหรอ ด้วยเสียงไม่เชื่อเลย  มึงเองก็รู้ไม่ใช่เหรอที่กูกลัวเข็มฉีดยาน่ะ มันก็ตอนเด็กๆเท่านั้นแหละ แต่พอโตมากูก็ไม่กลัวแล้ว ใช่มั้ยๆ จำได้ใช่มั้ย สมัยม.ปลายที่กูไม่สบายแล้วมึงพาไปฉีดยา ตอนนั้นกูก็ไม่ได้พูดอะไรเลยสักนิด "
“ ตอนนั้นเพราะมึงป่วยหนักจนแทบจะพยุงตัวเองไม่ไหวตังหากก็เลยไม่มีสิทธิ์จะดิ้นอะไร " ผมพูดออกไปเสียงเรียบๆอีกคนก็เถียงกลับเสียงมั่น

“ กูไม่ได้กลัวแล้วเว้ย! “

“ ตอแหล " พูดขึ้นเสียงเบาๆ ก่อนจะหันหน้าไปยิ้มกับนอกหน้าต่าง ผมยังจำความรู้สึกในตอนนั้นได้เลย

   สมัยที่ยังเป็นเด็ก ที่โรงเรียนให้ฉีดยาวัคซีนอะไรสักอย่าง คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมเป็นไอ้ภาพ มันที่ตัวสั่นไปหมดพอถามว่าเป็นอะไรมันก็บอกว่า ' เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร ' แถวที่ร่อนขึ้นไปเรื่อยๆ เด็กหลายคนร้องไห้ออกมาเสียงดัง บางคนดิ้นจนต้องมัด ไอ้ภาพที่มองคนพวกนั้น ผ่านไปคนเล่าผ่านไปสีหน้าซีดเผือกของมัน พอถึงคิวตัวเองพี่พยาบาลก็เอ่ยถามมัน ' น้องกลัวเข็มรึเปล่า ทำไมหน้าซีดจัง ' คำถามที่ทำให้มันแค่ส่ายหน้าไปมาแล้วบอกว่า ' เปล่าครับ '  เข็มที่ถูกเตรียมไว้ มันถูกถลกแขนเสื้อนักเรียนขึ้นมาแล้วเช็ดด้วยแอลกฮอล์ชุบสำลีก็ถูกทาลงบนแขนมันแล้วในตอนนั้นมันก็คว้ามือผมไปจับไว้  ' ขอ ขอผมจับมือเพื่อนไว้ได้มั้ยครับ '

   แรงบีบมือของมันในตอนนั้น แน่นมากจนรู้สึกเจ็บแต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ที่ตอนนั้นถึงไม่ร้อง ไม่โวยวายอะไรออกมาเลย อาจเพราะรู้สึกว่าภาพกำลังเจ็บมั้ง แล้วก็คิดแค่ว่าถ้าตัวเองเป็นที่พึ่งได้ให้มันก็คงดี ภาพฉีดยาจนเสร็จ มันยืนก้มหน้ารอผมฉีดยาอยู่ตรงนั้นก่อนที่เราจะเดินออกมาด้วยกัน

   ทางเดินกลับห้องเรียนเงียบๆที่ไม่มีใครเดินผ่านอยู่ๆ ผมก็หยุดเดินก่อนจะเอ่ยถามมัน ' เจ็บเหรอภาพ ' เป็นคำถามสั้นๆ แล้วในตอนนั้นอีกคนก็นิ่งแล้วพยักหน้ารับ แววตาคมของมันที่มีน้ำตาเอ่ออยู่นั้นไหลออกมาทันทีก่อนจะพูดเสียงงอแงออกมา ' เจ็บ เจ็บมากเลย ฮึก ฮือๆ ' ผมที่เอื้อมมือไปดึงมันเข้ามากอดไว้ในตอนนั้น เอ่ยออกไปสั้นๆพลางลูบหลัง '

 ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หายนะ ' แต่พอยิ่งลูบหลังมันอีกคนก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นก่อนจะพูดออกมา

' อย่าบอกใครว่าภาพร้องไห้นะ อย่าบอกนะ อึก ฮือๆ อย่าบอกใครนะ '

' ไม่บอกหรอกจะเก็บเอาไว้เป็นความลับของเราสองคนตลอดไปเลย '

   นั่นเป็นคำพูดที่ผมพูดออกไปตอนนั้น  และจนถึงตอนนี้เวลากลับไปคิดถึงมันเมื่อไหร่ก็ยิ้มได้ทุกครั้ง ไม่รู้ว่าหัวหอมพอพาไปฉีดยาแล้วจะเป็นแบบไอ้ภาพตอนนั้นรึเปล่านะ พ่อลูกกันจะกลัวเข็มเหมือนกันมั้ยนะ

“ ยิ้มเหี้ยอะไรของมึง " เสียงทุ้มที่เอ่ยถามผม หันไปมองหน้ามันอีกคนก็เหล่ด้วยสายตาดุๆ " มึงคิดถึงเรื่องนั้นเหรอ "

“ เรื่องอะไร ? “ ผมถามก่อนจะเอียงหน้ามองมัน " มึงคิดว่ากูกำลังคิดถึงเรื่องที่มึงร้องไห้งอแงออกมาหลังจากฉีดยาเสร็จว่า เจ็บ เจ็บมากเลย อึก ฮือๆ เจ็บจัง เจ็บจังเลย อะไรแบบนี้รึเปล่า หรือว่ากำลังนึกถึงตอนที่กูกอดมึงแล้วมึงก็เอาแต่งอแงว่า อย่าบอกใครนะว่าภาพร้องไห้ อย่าบอกใครนะ อึก ฮือๆ " ผมทำเลียนเสียงร้องไห้ของมันก่อนจะเอื้อมมือไปกอดไหล่มันไว้ ไอ้ภาพทำหน้านิ่ง " โอ๋ๆ พี่ขมไม่บอกใครหรอกนะ น้องภาพไม่ต้องร้องไห้น้าา นี่ก็ยังไม่เคยบอกใครเลย กับแม่กูยังไม่บอกเลย "

“ แต่ตอนนี้กูไม่กลัวแล้วเว้ย! ตอนนั้นยังเด็กอะ เลยกลัว ” มันว่าผมก็แบะปากใส่ " ตอนนี้ต่อให้ฉีดสักร้อยเข็มกูก็ไม่ร้องไห้ "

“ จ้า " ผมพยักหน้ารับมัน " ตอนม.ปลายขนาดที่ว่าป่วยจนต้องพยุง ฉีดยายังไม่รู้สึก พอมึงรู้ว่าตัวเองโดนฉีดยาไปแล้ว มึงก็หน้าซีดเหมือนจะเป็นลมเลยไม่ใช่เหรอ "

“ ตอนนั้นไม่สบายไง " ร่างสูงที่ก็ยังเถียงเพื่อภาพลักษณ์ของตัวเอง ก็แน่ละนะ มันที่ดูคูลขนาดนี้ หล่อขนาดนี้ ถ้าใครมาดูว่าที่จริงเป็นคนกลัวเข็ม

“ เหรอจ้า~ “

“ มึงเลิกพูดเรื่องนี้ได้มั้ย " มันหันมองผมด้วยสีหน้าเหวี่ยงๆ แววตาที่กำลังหงุดหงิดของมันชวนให้ผมยิ้มกว้างออกมา เอื้อมมือไปกอดคอมันตอนที่หยิกแก้มเบาๆ ภาพก็เบือนหน้าหนี

“ โอ๋ๆ พี่ภาพงอนเค้าเหรอ ทำไมอะ แค่กลัวเข็มเองไม่เป็นอะไรหรอก "

“ มันเป็นนะเว้ย " ร่างสูงพูดเสียงเบา " เป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว จะมากลัวเข็มเหี้ยอะไรอยู่ละ "

“ เรื่องแค่นั้นเอง " ผมบอกก่อนจะส่ายหน้าไปมา

“ มันไม่ใช่เรื่องแค่นั้นนะเว้ยขม " ภาพเถียง " แค่เข็มกูยังกลัว แล้วจะเอาความกล้าที่ไหนไปดูแลลูกกับเมียวะ "

“ ไม่เห็นเกี่ยวเลย " ถอนหายใจออกมาตอนที่มันพูดแบบนั้น " คนเรามันก็ต้องมีเรื่องอ่อนแอบ้าง จะมาแข็งแกร่งทุกเรื่องไปได้ไง มึงเป็นยอดมนุษย์เหรอ ซูปเปอร์แมนรึไง ขนาดยอดมนุษย์เค้ายังมีมุมที่เค้าอ่อนแอ และ อ่อนไหวเลย มึงอย่ามาบ้าบอ " ร่างสูงเงียบไปตอนที่ผมบอกแบบนั้น มันขับรถเลี้ยวเข้าไปในโรงเรียนของหัวหอมตอนที่จอดรถสนิทลงมันที่เปิดประตูรถกำลังจะลงจากรถไป ผมก็คว้ามือมันไว้

“ อะไร "

“ รู้นะ ว่ากำลังหงุดหงิดเรื่องที่ตัวเองกลัวเข็มฉีดยาอยู่ " เอ่ยบอกมัน " ปิดประตูรถแล้วมานั่งคุยกันให้รู้เรื่องก่อน อย่าไปทำท่าหงุดหงิดให้ไอ้หัวหอมมันรู้ " ภาพมองนาฬิกาตอนที่ผมบอกแบบนั้น ก่อนจะหันมาบอกด้วยท่าทางนิ่งๆของมัน ท่าทางที่กำลังบอกผมว่า ไอ้คนร่างสูงตรงหน้าคนนี้กำลังน้อยใจกับคำพูดของผมที่เอ่ยแซวมันเข้าให้แล้ว

“ ใกล้จะถึงเวลาไปรับกาลิคแล้ว กูไม่อยากจะสาย "

“ อีกตั้งยี่สิบนาทีมึงจะรีบไปรอทำไม ปิดประตูแล้วเข้ามาคุยกับกูเดี๋ยวนี้เลย " พูดเสียงหนักใส่มัน ไอ้ภาพปิดประตูลงก่อนจะนั่งนิ่งๆไม่ได้หันหน้ามามองผม เหมือนไอ้หัวหอมไม่มีผิดเวลาดุอะไร ถ้าไม่หันมาอ้อน ก็ทำหน้านิ่งๆแบบนี้ สมแล้วที่มึงเป็นพ่อลูกกัน ยิ่งนับวันยิ่งถอดจากพิมพ์เดียวกับออกมา " นี่มึงคิดจริงๆเหรอว่าคนเป็นพ่อคนมันต้องเก่งทุกอย่าง "

“ อื้ม ก็คงงั้น "

“ แต่กูคิดว่าไม่จำเป็นต้องเก่งขนาดนั้นก็ได้ อ่อนแอบ้างไม่เห็นจะเป็นอะไร แค่เรื่องฉีดยาเองมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการดูแลครอบครัวเลยสักนิดนะมึง " ผมบอกอีกคนก็ถอนหายใจ

" มึงไม่เข้าใจหรอก " ภาพบอก " สำหรับกูมันหมายถึงว่าขนาดฉีดยายังกลัวเลย แบบแบบนั้นจะไปทำอะไรได้ตังหาก "

" ไม่จริง ตอนที่มึงปกป้องหัวหอมจากโอลิเวีย  ในตอนที่กูเอาแต่ร้องไห้ออกมา  มึงที่กอดเราไว้และพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยหัวหอมก็เป็นมึงคนเดียวกันกับมึงที่กลัวเข็มฉีดยาไม่ใช่เหรอวะ " ร่างสูงหันมองหน้าผมมันที่ถอนหายใจออกมา " คนเดียวกันใช่มั้ย ใึงคนที่ปกป้องหัวหอมวันนั้น กับคนที่กลัวเข็มฉีดยา ถ้าอย่างงั้นก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่ ที่มึงจะมีมุมอ่อนแอบ้างจริงมั้ยละ " เอียงหน้ามองมันตอนที่เอื้อมมือเข้าไปกอดมันไว้ไอ้ภาพก็ถอนหายใจออกมา " ไม่ต้องเข้มแข็งไม่ทุกเรื่องหรอก อ่อนแอบ้างก็ได้ ให้กูได้ปกป้องมึงบ้าง ทีมึงยังปกป้องกูไว้ได้ทุกเรื่องเลยนี่ แค่ฉีดยาเรื่องเดียวเองให้กูทำเถอะนะ "

" คร๊าบบ ผม " พยักหน้ารับแบบเสียงยานๆ แต่ยังไม่ค่อยโอเคหรอก ผมรู้

" แล้วคราวนี้ก็หายหงุดหงิดกูได้ยัง " ภาพดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของผม เราที่สบสายตากัน " เอาจริงๆ มึงก็ไม่น่ามาคิดเรื่องแค่นี้เลยนะ มันน่าอายยังไงวะ แค่เวลาฉีดยาแล้วชอบอ้อนแฟน น่ารักดีออก ไม่ใช่ว่าใครเค้าจะเป็นกันง่ายๆนะ เรื่องนี้น่ะ "

" ตกลงว่าจะพูดให้กูเปลี่ยนความคิด หรือซ้ำเติมกูที่กูกลัวเข็มกันแน่ "  หลุดยิ้มออกมาตอนที่พูดคำนั้น ก่อนที่ภาพจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาจูบผม มันจูบซ้ำๆเบาๆอยู่หลายครั้งแล้วยิ้มกว้าง

“ ยิ้มเหี้ยอะไร "

“ ซ้อมไว้ เผื่อไปฉีดยาจะได้จูบแฟนอ้อนๆแบบนี้ไง เจ็บจัง หอมแก้มเค้าหน่อย " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองเข้ามาซบที่อกผม " ให้เค้าดูดนมที เค้ากลัวจุง "

“ ถ้างั้นมึงก็กลัวให้ตายไปเลยไป " ผลักตัวมันออกอีกคนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง " ลงไปรับไอ้หัวหอมกันได้แล้วไป "

“ ไม่อยู่จูบกับกูก่อนอ๋อออออออออ " ภาพถามผมที่ก็ลงจากรถโดยไม่ตอบอะไรมันอีก ปิดประตูเสียงดังใส่มันที่กำลังทำปากจู๋แบบตั้งท่าจูบ ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ

' กูชักจะเข้าใจแล้วว่าทำไมแฟนมึงแต่ละคนถึงทนมึงไม่ค่อยได้ เพราะนิสัยมึงเป็นแบบนี้นี่เอง มีอย่างที่ไหนขอดูดหัวนมกับกลางวันแสกๆ ไอ้สัด นี่กูคนไง ไม่ใช่แม่วัว สัดเอ้ยย'

   กริ้งงงงง

   เสียงกริ่งหมดเวลาเรียนดังขึ้นมาจากในอาคารผมเดินเข้าไปข้างในตามด้วยไอ้ภาพที่เดินมายืนข้างๆกันก่อนจะเอื้อมมือมากอดคอแล้วถาม " ว่าไงยังไม่ตอบกูเลย ขอดูดหัวนมทีมา "

“ ดูดหัวแม่ตีนกูก่อนมั้ย " ยกเท้าใส่มันอีกคนก็หัวเราะออกมา  เราเดินเข้ามาในโรงเรียนเรื่อยๆ หยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องของเจ้าตัวเล็กที่กำลังคุยกับเพื่อนสนุกสนาน ใบหน้าน่ารักที่หันมามองเรา หัวหอมโบกมือบ๊ายบายก่อนจะหันไปบอกลาเพื่อนแล้วก็คุณครู

“ ตกลงเรื่องไปฉีดยาไอ้กาลิคนี่ว่าไง "

“ ค่อยไปละกัน ตอนนี้เงียบๆไปก่อน กูจัดการเอง "

“ อาขมมมมมมมมม ป๊าาาาาาา " เสียงลากยาวที่ตะโกนออกมา ผมย่อตัวลงไอ้ตัวเล็กก็วิ่งเข้าใส่ สองแขนเล็กที่กอดผมไว้แน่นมันหอมแก้มซ้ายขวาก่อนจะผละตัวออกแล้วถอยหลังไป ก้มลงไหว้ด้วยความสุภาพ " สวัสดีครับป๊า สวัสดีครับอาขม "

“ จริงๆมันต้องไหว้ก่อนที่กอดแล้วหอมไม่ใช่เหรอ " ไอ้ภาพบอก ผมก็หลุดยิ้ม ส่วนกาลิคก็ได้แต่ยิ้มเขิน

“ กาลิคลืม กาลิคดีใจอาขมมารับ "

“ ขนาดนั้นเลยเหรอ " ดึงมันเข้ามาหอมแก้มอีกที หัวหอมก็พยักหน้ารับ

“ ช่วยดีใจที่ป๊ามารับด้วยได้มั้ย นี่ป๊าก็อยู่นะ นี่ป๊าไงลู๊กกกก "  มันทำเสียงสูงกาลิคก็หัวเราะชอบใจก่อนจะดึงตัวเองเข้าไปกอดอีกคน ภาพอุ้มมันขึ้นมา " หอมแก้มป๊าหน่อย "

" หอมป๊า~ "

" หอมกาลิค "  จมูกคมหอมแก้มเจ้าตัวเล็กไปเต็มฟอด ส่วนอีกฝ่ายไม่น้อยหน้าหอมแก้มพ่อตัวเองกลับไปอีก เป็นการกระทำที่วนไปวนมาอยู่แบบนั้นจนถึงรถ

   เราขับรถออกจากโรงเรียนไปแวะร้านอาหารอีสานร้านดังที่ผมชอบกิน ไก่ทอดและคอหมูย่างดูเหมือนจะเป็นเมนูเด็ดของไอ้ตัวเล็กไปแล้ว รวมถึงส้มตำแบบเผ็ดน้อยที่มันกินไปซี๊ดปากไปนั่นก็ด้วย ปากเล็กๆสีแดงจัดยามที่เคี้ยวอาหารตรงหน้า เหงื่อเม็ดเล็กๆที่ผุดออกมา ดูน่าเอ็นดูจนเราต้องถ่ายคลิปเก็บเอาไว้สำหรับการกินอาหารอีสานครั้งแรกของมัน
 
“ แซ่บมั้ยกาลิค " ผมถามตอนที่เราล้างมือในห้องน้ำห้างแล้วเดินออกมา หัวหอมที่กำลังดูดน้ำปั่นในมือ มันพยักหน้ารับก่อนจะตอบคำตอบที่ไอ้ภาพสอนไว้

“ แซ่บอีหลีเน้อ~ ”

“ แล้วนี่จะไปไหนต่อ มึงจะซื้ออะไรมั้ย “ ภาพถามผมที่ก็หันไปรอบๆ ที่นี่เป็นห้างแล้วตอนนี้ผมก็อยากจะไปดูของที่โซนของเล่นสักหน่อย แต่ถ้าให้หัวหอมไปด้วยรับรองว่าไม่จบแค่ของที่อยากจะได้แน่นอน

“ กูจะไปซื้อของหน่อย “ ผมบอกมันก่อนจะย่อตัวลงบอกอีกคน  “ หัวหอมเดี๋ยวไปกินไอติมกับป๊าก่อนนะ เดี๋ยวอาขมไปซื้อของเดี๋ยวมา นะ “

“ ไม่เอา กาลิคไปด้วย “ มือเล็กๆเอื้อมมือมาจับมันเขย่าไปมา “ ให้กาลิคไปด้วยนะอาขม “

“ อยากจะพาไปด้วยนะ แต่กาลิคไปไม่ได้หรอก ของที่อาขมจะไปซื้อเป็นของที่เค้าไม่ให้เด็กเล็กๆเค้าไปดูนะ เพราะว่าเด็กอาจจะสร้างความเสียหายได้ ถึงไปก็คอยได้แต่ข้างนอก แบบนั้น หัวหอมไปกินไอติมกับป๊าไม่ดีกว่าเหรอ รออาขม เดี๋ยวอาขมกลับมานะครับ “

“ แต่ว่า ..” มันที่เริ่มลังเล

“ งั้นกาลิคไม่อยากจะไปกินไอติมกับป๊าเหรอ ไปกินกับป๊าเดี๋ยวป๊าให้กินสองลูกเลยนะ “ ภาพถามอีกคนก็หันมองพ่อตัวเองก่อนจะมองผมสลับกัน มันคงคิดว่าตัวมันจะไปกับใครดี แล้วในที่สุดหัวหอมก็เลือกปล่อยมือผมไปในที่สุด บ่งบอกถึงการไม่อยากจะกินไอติมเลยแม้แต่นิดเดียว

" งั้นอาขมไปซื้อของแล้วจะรีบกลับไปหานะ "

" ครับ " เจ้าตัวเล็กพยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมืออีกข้างมาเขย่าเสื้อผม " อาขม อาขม หอมกันก่อน "

" อะ หอมกันก่อน " ก้มลงหอมเด็กช่างอ้อนไปเต็มฟอด หัวหอมที่หอมผมกลับ ภาพก็เดินชี้ไปที่ร้านไอติมสีแดงแบรนด์ดังที่มันชอบกิน

" กูไปรอที่ร้านนะ "

" อื้ม " โบกมือบ๊ายบายเจ้าตัวเล็กจนเข้าร้านไป ผมก็ค่อยๆแว๊บเข้าไปในร้านขายของเล่นแถวๆนั้น มองดูชุดของเล่นที่ต้องการ ผมกำลังหาชุดของเล่นของคุณหมอ ที่มีเครื่องตรวจ หูฟัง แล้วก็เข็มฉีดยา " นี่ไงได้แล้ว ชุดนี้แหละ "

   ขับรถกลับมาถึงคอนโด ระหว่างทางก็โดนเจ้าตัวเล็กถามตลอดว่าอะไรเอ่ยที่อาขมซื้อมากัน ของเป็นกล่องที่อยู่ในถุง ท่าทางตื่นเต้นของมัน เหมือนจะรู้ว่าเป็นของเล่น

“ อาขมครับอาขม ถ้า ถ้าเกิดว่าถึงห้องแล้ว กาลิคเปิดถุงที่อาขมซื้อมาได้มั้ยครับ " หัวหอมถามตอนที่เรากำลังยืนอยู่ในลิฟต์ ผมทำท่าคิดมันก็พูดย้ำ " ได้มั้ยครับ ได้มั้ย ให้กาลิคเปิดนะ "

“ ได้สิ ให้กาลิคเปิดก็ได้ " คำพูดที่ทำให้มันยิ้ม เด็กน้อยเหล่ของในถุงก่อนจะกอดแขนผมไว้แน่นด้วยความตื่นเต้น " แต่ว่ากาลิคจะต้องอาบน้ำ ทำการบ้านให้เสร็จก่อนนะ แล้วเราก็ค่อยมาเปิดพร้อมกัน โอเคมั้ย "

“ คร๊าบบบบ "
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 47 - 23.7.60} #หน้า 44
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 28-07-2017 20:25:17
   
    เปิดประตูเข้าไปในห้องสิ่งแรกที่เด็กน้อยทำ คือวิ่งเข้าไปอาบน้ำเป็นอย่างแรกไม่เคยง่ายดายอะไรขนาดนี้มากก่อน แถมยังจัดการอาบน้ำสระผมให้ตัวเองเรียบร้อยแบบไม่ต้องสั่ง แต่งตัวเสร็จมันก็ออกมานั่งทำการบ้าน สายตาที่เอาแต่ดูถุงของเล่นชวนให้ผมกับไอ้ภาพที่นั่งดูอยู่หลุดหัวเราะออกมา

“ ข้างในถุงจะเป็นอะไรน้าา ตื่นเต้นจัง เปิดดูดีมั้ยน้า "

“ อย่าพูดน่า " ผมบอกไอ้ภาพที่พูดแซวมันขึ้นมา หัวหอมที่หันไปมองพ่อตัวเองตาขวาง " ไม่เปิดหรอก หัวหอมทำการบ้านให้เสร็จนะเดี๋ยวอาขมให้หัวหอมเปิด แล้วอย่าทำหน้าแบบนั้นใส่ป๊าสิ ไม่น่ารักเลย "

“ ก็ป๊าแกล้งกาลิค ป๊าก็ไม่น่ารักเหมือนกัน "

“ ใช่ๆ ป๊าก็ไม่น่ารักเนอะ " ผมขยี้หัวมัน ก่อนจะก้มลงดูการบ้านบนโต๊ะ " ไหนมาดูสิ การบ้านวันนี้ให้ทำอะไร จับคู่ของที่เข้ากัน แล้วรู้มั้ย เก้าอี้ตัวนี้คู่กับอะไร "

“ กับโต๊ะ " มันบอก

“ ใช่แล้วเก่งจัง ฟัดแก้มที " หอมแก้มมันไปอีกที ยอมรับเลยว่าแป้งเด็กกับแก้มนุ่มๆมันฟินมากจริงๆที่ได้ดม " ไหนลากไปสิ โต๊ะอยู่ไหน "

“ ตรงนี้ " ลากดินสอไปจนถึงจุดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม " อาขม แล้วอาขม อาขมซื้อของเล่นให้ใคร " หัวหอมถามมันที่ดึงตัวเองขึ้นมาหอมแก้มผม อ้อนกันสุดฤทธิ์

“ อ้อนกันขนาดนี้ ก็ต้องซื้อให้หัวหอมสิ จะซื้อให้ใครด้ายยยย " ผมว่าอีกคนก็ยิ้มกว้างก่อนจะกอดผมไว้แน่น อ้อนกันเบอร์แรงมากในจุดนี้ " โอเคๆ ทำการบ้านให้เสร็จก่อนนะเดี๋ยวเรามาเล่นกัน "

" แล้วนั่นมึงซื้ออะไรมา " ภาพถามผมก็หันไปบอกอีกคน

" ไม่บอกกกก รอดูพร้อมหัวหอมนะ "

" ช่ายย ป๊าต้องรอดูพร้อมกาลิคนะ! ต้องเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักรู้เปล่า~ "

" จ้า พ่อลูกชาย " 

   การบ้านข้อสุดท้ายถูกทำเสร็จเรียบร้อย เจ้าตัวเล็กที่รีบเก็บของทุกอย่างใส่กระเป๋าตัวเองก่อนหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มกว้าง ท่าทางตื่นเต้นที่ทำให้ผมต้องหลุดหัวเราะออกมา หัวหอมก็ดึงตัวเองเข้ามากอด

“ งื้ออ อาขมหัวเราะทำไม "

“ ก็หัวหอมน่ารัก " ผมบอกก่อนจะยิ้มให้มันแล้วยื่นถุงของเล่นไปให้ " อาขมซื้อให้หัวหอมนะ อะ เปิดเลย "

“ ขอบคุณครับ " มันยกมือไหว้ก่อนจะดึงกล่องของเล่นออกมาจากถุง ข้างหน้ากล่องที่เป็นรูปคุณหมอทำให้มันขมวดคิ้วก่อนจะตาโตขึ้นมาตอนที่เห็นของเล่นหลอกหลายสีสันในกล่อง " คุณหมออออ ของของคุณหมอนี่น่า "

“ ใช่แล้ว ของเล่นที่เราเอาไว้เล่นเป็นคุณหมอกันไง ชอบมั้ย "

“ ช๊อบบบบ " มันบอกเสียงดังก่อนจะดึงผมมากอดผมไว้ มือเล็กๆแกะกล่องไอ้ภาพก็พูดขึ้นมา

“ เข้าใจคิด "  หันไปยักคิ้วให้มัน ผมก็หันกลับมามองหัวหอมต่อ ตอนที่รู้ว่าต้องพาไปฉีดวัคซีนผมก็คิดขึ้นมาได้ว่า ก่อนอื่นต้องทำให้หัวหอมรู้ก่อนว่า การไปหาหมอนั่นมันไม่น่ากลัวเลย แล้วการฉีดยามันก็ไม่เจ็บด้วย ผมก็เลยตัดสินใจซื้อของเล่นชุดนี้ให้มัน จะได้เอามาแสดงละครเป็นคุณหมอให้มันดูว่า เวลาไปหาหมอฉีดวัคซีนมันเป็นยังไง พอไปถึงจริงๆ หัวหอมจะได้ไม่กลัว " แต่ว่านะมึง..”

“ ทำไม ? “ หันไปมองหน้าคนร่างสูงข้างๆ ที่ก็เชิดไปที่กล่องของเล่นของเจ้าตัวเล็ก บนนั้นมีกล่องปฐมพยาบาลของเล่นตั้งอยู่ " อ้าว.. มีแล้วเหรอ "

“ จำไม่ได้เหรอ ตอนที่มึงป่วยมันยังเอาไปตรวจมึงอยู่เลย "

“ เชี้ย.. แล้วนี่กูจะซื้อมาเพื่อ " ถอนหายใจออกมาเบาๆ ไอ้ภาพก็ส่ายหน้าแล้วยื่นมือมาตบไหล่

“ เอาจริงๆ ถ้ามึงบอกกูสักนิด วันนี้มึงคงไม่ต้องเสียเงินฟรี "

“ งั้นแสดงว่ามันเคยไปหาหมอแล้วสิ " ผมหันไปหาภาพอีกคนก็ยักไหล่คล้ายจะตอบกันว่า คงอย่างงั้น ก็แน่ละมันจะไม่เคยได้ยังไง ไม่เคยจะเล่นเป็นหมอตรวจผมตอนที่ป่วยได้ยังไง " กูนี่มัน..”

“ เอาน่า คิดซะว่ามันยังไม่เคย ลืมๆเรื่องนั้นไปก่อนแล้วกันนะ แบบ อุ้ย ความจำเสื่อม "

" เสื่อมพ่อง! “ ด่ามันเบาๆ ก่อนจะหันมามองกองของเล่นที่ถูกแกะแล้วเรียบร้อยด้วยฝีมือของเจ้าตัวเล็กที่ก็ยิ้มแป้นมีความสุขเหลือเกิน ผมถอนหายใจ " เห้อ แล้วนี่กูจะซื้อมาเพื่อ ..”

“ เพื่อเล่นกับกาลิคไง " สงสัยจะบ่นเสียงดังไปหัวหอมมันเลยได้ยิน เด็กตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า มือเล็กเอื้อมมือมาจับมือผม " อาขม อาขมมาเล่นกับกาลิคนะ "

“ อื้ม ก็ได้ งั้นเดี๋ยวเรามาเล่นกันดีกว่า ให้หัวหอมเป็นคนป่วยนะ แล้วเดี๋ยวอาขมจะหมอ ตกลงมั้ย " สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปิด เอาเป็นว่ากูจะลืมความหน้าแตกของกูไปก่อนแล้วกัน

“ แล้ว แล้วพออาขมเป็นคุณหมอแล้ว ครั้งหน้ากาลิคก็จะเป็นคุณหมออีกนะ "

“ ได้เลย "  ผมเอาอุปกรณ์ของหมอมาตั้งไว้บนตัก เด็กน้อยก็วิ่งไปยืนหน้าโต๊ะกินข้าวก่อนจะทำเป็นไอ พลางเดินโซเซเข้ามา

“ แค่ก ๆ แค่กๆ "

“ โอ้โห สมบทบาทสุดๆไปเลย " ไอ้ภาพแซวก่อนจะเอ่ยถามขึ้น " เป็นอะไรมาครับ ไม่สบายเหรอ ดูหนักนะครับเนี้ย แอดมินไอซียูไปเลยมั้ย  "

“ ไม่ซาบาย~ คร๊าบคุณพยาบาล แค่กๆ " มันบอกภาพอีกคนก็ทำทีเป็นเขียนอะไรสักอย่างลงบนมือ

“ แล้วชื่ออะไรครับ "

“ กาลิคครับ "

“ อายุเท่าไหร่แล้วครับ "

“ สี่ขวบครับ " มันยกนิ้วบอกไอ้ภาพก็ยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ

“ งั้นน้องกาลิคก็เข้าไปหาคุณหมอได้เลยนะครับ "   มือหนาผายมือเจ้าตัวเล็กก็เดินเข้ามาหาผม นั่งลงข้างกันก่อนจะทำทีเป็นไอออกมา

“ แค่กๆ "

“ เป็นอะไรมาครับเนี้ย ?  “ ผมถามพลางกลั้นขำท่าทางป่วยของหัวหอมที่แสดงออกมาแบบสมบทบาทในความรู้สึกของเด็ก

“ ไม่ซาบายครับ แค่กๆ  "

“ ท่าทางจะป่วยหนักนะครับเนี้ย " ยิ้มแซวมันหัวหอมก็พยักหน้ารับ " งั้นก่อนอื่นก็หมอขอวัดไข้ก่อนนะ " หยิบปรอทวัดไข้มาทำทีเป็นเสียบไว้ในแขน ตอนที่เอามาดูผมก็เบิกตากว้าง " โอ้โห ไข้ขึ้นสูงเลยนะเนี้ย อาการเป็นยังไงบ้างครับ ปวดหัว เจ็บคอมั้ย "

“ เจ็บครับ เจ๊บม๊ากกกกกกกมากเลย "

“ น่าสงสารจังเลย งั้นคุณหมอขอฟังเสียงหัวใจหน่อยน้า มาดูสิ เต้นเป็นยังไงบ้าง " ใส่เครื่องช่วยฟัง ทำทีเป็นฟังมันหัวหอมก็ดูตื่นตาตื่นใจ " โห หัวใจเต้นแรงเลย งั้นต้องฉีดยาแล้วนะ เคยฉีดยามาก่อนมั้ยเอ่ย "

“ ไม่เคยครับ " มันส่ายหน้าไปมาผมก็เงยหน้ามองภาพ

“ เคยแต่จำไม่ได้แล้วรึเปล่า " ภาพบอก " มันต้องเคยบ้างสิ ไม่งั้นจะรู้ได้ไงว่าเข็มต้องใช้ฉีดยายังไง "

“ ทำไมจะไม่รู้ละคุณพยาบาล ก็ดูในทีวีไง คุณพยาบาลไม่เคยดูทีวีเหรอครับ " คำถามที่ทำให้คนฟังอย่างไอ้ภาพได้แต่เอามือทาบอกพลางเบิกตาขึ้นมามอง พลางเหลือบมองผม

“ มึงดูความร้ายของมัน มึงดู "

“ ฮ่าๆ กูขำ ฮ่าๆๆ " หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังตอนที่ไอ้ภาพทำมือเหมือนจะจิกหัวลูกตัวเองด้วยความหมั่นเขี้ยว ผมเช็ดน้ำตาลูกก่อนจะสูดน้ำมูกเข้าไป เอ่ยถามมันอีกครั้ง " ตกลงว่าไม่เคยฉีดยาเนอะ "

" ไม่เคยนะคุณหมอ " โบกมือเล็กๆไปมาผมก็พยักหน้ารับ

“ โอเค ไม่เคยก็ไม่เคยงั้นก่อนอื่นก็ เอาแขนเสื้อขึ้นนะครับ " แขนชุดนอนถูกดึงขึ้นผมก็ทำทีเป็นเอาสำลีมาเช็ดที่แขนมันก่อนจะฉีดยาลงไปบนแขน " โอเค เสร็จแล้ว เด๋วจะติดสติเกอร์น่ารักๆให้น้า เอาตัวไหนดี " หยิบสติกเกอร็ขึ้นมาเจ้าตัวเล็กก็ชี้ไปที่โปเกม่อนสุดโปรดของตัวเอง

“ โปเกม่อนครับ เอาตัวนี้ครับคุณหมอ เอาปิกาจู เอาตัวนี้เลย "

“ โอเคครับ ตัวนี้น้า อะติดลงไปเลย แค่นี้ก็เสร็จแล้ว "  ติดสติกเกอร์ให้มันเรียบร้อย หัวหอมก็ยิ้มกว้างกับสติกเกอร์ที่ชอบ " ถ้าไปฉีดยาที่โรงพยาบาลนะ ก็จะเป็นแบบนี้แหละ ไม่เจ็บแบบนี้เลย แล้วก็จะได้สติกเกอร์ด้วย ดีจังเลยเนอะ "

“ อื้อ! “ เด็กน้อยพยักหน้ารับผมก็ขยี้หัวอีกคน

“ ฉีดยาไม่เจ็บเลยเนอะ "

“ ไม่เจ็บเลยครับ "

“ ก็แน่ละ แบบนั้นใครจะเจ็บละ " ภาพพูดเสียงเบาผมก็ยกเท้าขึ้นถีบตัวมันเพื่อบอกให้เงียบ หันมายิ้มให้เจ้าตัวเล็กก่อนจะดึงขึ้นมานั่งตัก

“ หัวหอมไม่กลัวหรอกเนอะ เก่งอยู่แล้ว " หอมแก้มมันอีกคนก็หยิบเครื่องฟังขึ้นมาฟังหัวใจของผมบ้าง

“ อาขม กาลิคจะตรวจอาขมบ้างน้าา เอาอันนี้ฟังที่หัวใจของอาขมเลย  "

“ งั้นคราวนี้หัวหอมก็เป็นคุณหมอแล้วสิ งั้นอาขมจะมาฉีดยาครับให้สุขภาพแข็งแรง "  ผมบอกมันเอีกคนก็เอียงหน้างง

“ ไม่สิ ไม่ๆ อาขมจะต้องไอ แค่กๆ แค่กๆ แบบนี้ แล้วก็มาหาคุณหมอ  "

“ มาหาหมอต้องไม่สบายเท่านั้นเหรอ " ผมถามไอ้ตัวเล็กก็พยักหน้ารับ " ไม่ใช่หรอกนะจะบอกให้ หัวหอมรู้มั้ยว่าคนที่แข็งแรงบางคนเค้าก็มาหาหมอนะ เพราะคนแข็งแรงพวกนั้นมาฉีดยาเพื่อให้ตัวเองแข็งแรงยังไงละ จะได้ไปต่อสู้กับเชื้อโรค เพื่อไม่ให้ป่วยหนักๆแหละ "

" แล้วถ้าเราไม่ฉีดละครับ ถ้าเราไม่ฉีดยา เราก็จะแพ้ให้กับเชื้อโรคใช่มั้ย "

" ใช่แล้ว เราจะแพ้นะ เพราะงั้นอาขมจะมาฉีดยาเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค คุณหมอหัวหอมช่วยฉีดให้หน่อยน้า "

“ คร๊าบบ " เด็กน้อยทำทีเป็นฉีดยาให้ผม " วัดหัวใจของอาขมก่อน วัดๆ "

“ ตึก ตึก ตึก ตึก " ไอ้ภาพเลียนเสียงหัวเราะหัวหอมก็หัวเราะ

“ หัวใจของอาขมดัง ตึก ตึก ตึก แบบนี้เลย ป๊าทำ "

“ เหรอออออ " ส่งเสียงล้อมันยาวๆ พลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้จมูกเล็กๆของคนตรงหน้า ที่ก็หยิบลำลีขึ้นมา

“ แล้วก็เอาสำสีมาถูที่แขน ถูๆ แล้วก็ ฉีดยา "

“ คุณหมอต้องทำเบาๆนะครับ "

“ ครับ ทำเบาๆน้า ทำเบาๆ " มือเล็กที่ค่อยๆทำด้วยความเบามือก่อนจะยื่นสติกเกอร์มาให้ผม " อาขมจะติดอันไหน "

“ เอาตัวสีชมพูตัวนี้ "

“ ตัวนี้ชื่อพูริน น้องพูรินเป็นตัวที่น้องรินเน่ชอบ " หัวหอมบอกก่อนจะติดสติกเกอร์ตัวนั้นไว้ที่แขนผม ก่อนจะหันไปหาพ่อตัวเอง " ป๊า คราวนี้ป๊าก็ป่วยบ้าง "

“ ป่วยเป็นอะไรดี " ภาพถาม

“ อะไรก็ได้ "

“ เอาหนักๆมั้ย แบบใกล้ตายดีมั้ย "

“ ดี~ ใกล้ตายแล้วก็ได้ " หัวหอมบอกเสียงใสผมก็หลุดหัวเราะออกมากับความไร้เดียงสาของมัน ภาพที่ดึงมันเข้าไปกอดหอมแก้มหลายทีติดจนเจ้าตัวเล็กหน้ายู่ " งื้อออออ ป๊าอย่าาาา ป๊าต้องป่วยก่อน ป่วยๆ แบบใกล้ตาย "

" อะ ด้ายยยย " ร่างสูงทำทีเป็นนอนลงหนุนตักผม ขยับบอกให้ลุกอีกคนก็ลืมตาข้างเดียวขึ้นมามอง " อะไรนี่กำลังจะตายนะ ขอหนุนตักหน่อย "

" ออกไปเลย " ผมว่าก่อนจะขยับขาอีกครั้ง " ถอยไปเฟ้ยหนัก "

" คิดว่าเป็นโกโบริกับอังสุมารินสิ แต่เวอร์ชั่นนี้มีคุณหมอมาตรวจแล้วงี้ " คำอธิบายที่ฟังแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา มือหนาเอื้อมมือขึ้นมาหมายจับหน้าผม มันที่ทำทีเป็นไอออกมาเหมือนป่วยหนักใกล้ตายจริงๆ " แค่ก แค่ก ฮิเดโกะ ฮิเดโกะ.. "

" ประสาท ฮิเดโกะแม่มึงสิ "

" ป๊าาา กาลิคจะฟังเสียงหัวใจของป๊าก่อน " มันเอาหูฟังมาฟังที่อกไอ้ภาพก็พูดเสียงเบา

" รักกาลิค รักกาลิค "

" งื้ออออ ป๊า ไม่เอา มันต้องดัง ตึกตึก "

" เอ้า ทำไมอะ อยากจะให้ดังแบบนี้อะ รักกาลิค รักกาลิค ไม่ได้เหรอ "

" ม่ายด้ายยย ต้องดังตึกๆสิ " มันเถียงแก้มแดง ตัวแค่นี้รู้จักเขินเวลาใครบอกรักด้วยเว้ย น่าหมั่นไส้ ยื่นมือไปหยิกแก้มมัน หัวหอมที่ทำท่าตรวจ ก่อนจะหยิบสำลีขึ้นมาเช็คที่แขน แล้วฉีดยาให้อีกคน " เสร็จแล้วป๊าเอาตัวไหน "

" เอาตัวที่เท่ที่สุด "

" ตัวนี้ ตัวนี้เป็นมังกร ชื่อว่า ไคริว ป๊าติดตัวนี้นะ "

" ครับผม " สติกเกอร์ถูกติดให้ร่างสูงเรียบร้อยก่อนที่มันจะดึงกาลิคขึ้นมานั่งบนตัวมัน " นี่ถ้าให้กาลิคไปฉีดยาที่โรงพยาบาล กาลิคก็ไม่กลัวแล้วสิ "

" ไม่กลัวครับ " มันตอบก่อนจะกอดอีกคนไว้ " ฉีดยาไม่เจ็บเลยป๊า "

" เก่งจังเลย งั้นตอนนี้เราก็ไปนอนกันได้แล้วไป วันนี้ดึกแล้วนะ พรุ่งนี้ก็ต้องไปโรงเรียนอีก " ผมลุกขึ้นจากที่นั่งไปอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมาจากอกของร่างสูง หัวหอมที่ซบลงตรงไหล่ท่าทางก็ดูอยากจะนอนเต็มที่แล้ว " ไปนอนกันดีกว่าเนอะ "

" แล้วนี่ตกลงว่าพรุ่งนี้ .. "

" ก็ตามนั้นแหละ " ผมพยักหน้ารับอุ้มอีกคนเข้าไปในห้องนอน หย่อนตัวเองลงนอนข้างมันหัวหอมก็ดึงตัวเองเข้ามาซุกที่อกมันที่หลับตาลง ผมก็ยกยิ้มก่อนจะลูบหัวมันกล่อมๆ

   พรุ่งนี้ต้องไปฉีดยาแล้ว ถ้าเกิดว่าทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนตอนที่ซ้อมเล่นๆก็คงดี เพราะทุกอย่างที่ผมทำ ก็หวังแค่ว่า หัวหอมจะไม่กลัวเข็มเหมือนอย่างไอ้ภาพก็เท่านั้น เพราะช่วงเวลาที่ลูกร้องไห้แล้วพ่อแม่ทำอะไรไม่ได้เพราะแม้ตัวเองยังกลัวเอง คงเป็นอะไรที่ทำให้ไอ้ภาพไม่ชอบใจเท่าไหร่ แล้วผมไม่อยากจะให้มันต้องรู้สึกแย่แบบนั้น

..........................................................


เป็นกำลังใจให้น้องหัวหอม สู้ๆ สำหรับการฉีดยานะลูก
แอบขำกับการสร้างเรื่องสอนลูกของขมกับภาพ หัวหอมก็ใสซื่อเกินน เอ็นดู
มีความไอ แค่กๆ เข้ามาหาคุณหมอด้วยอะไรด้วย #หยิกแก้มมมมม

และ ณ บัดนี้ หนมก็มีเรื่องสำคัญที่จะมาแจ้งให้ทราบบบบบบบบบ
ขณะนี้ นิยายของน้องหัวหอมได้เปิดจองแล้วนะค่าาาาาา ตามรายละเอียดดังนี้

ประกาศรวมเล่มนิยาย ' เฮ้ย!! มันไม่ใช่ลูกกู '
      เปิดจองตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม - 15 ตุลาคม  (รอบแรก)

รายละเอียดโดยรวม + ราคา

หนังสือ '  เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู ' เป็นหนังสือชุดมี 3 เล่ม ราคาชุดละ 1200 บาท   #ราคานี้รวมค่าส่งแบบลงทะเบียนแล้ว
 
#ตัวอย่างรูปแบบปกยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงยังไม่สามารถอัพโหลดได้  รอก่อนนะคะ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะอัพเดทให้ชมเลยค่ะ

รายละเอียดของหนังสือ

- เนื้อหาหลัก 38 ตอน ตอนพิเศษ 29 ตอน รวม 67 ตอน
/ * นิยายจะลงในเล้าเป็ด , ธัญวลัย , เด็กดี จนถึงถึงตอนที่ 53 เท่านั้น /

- เนื้อหาตอนพิเศษของพิเศษ เพิ่มอีก 15 ตอน #อาจมากกว่านั้นจะแจ้งอีกทีและจะไม่น้อยกว่านี้
/ ** หนังสือเล่มพิเศษ 15 ตอนนี้ สงวนขายเฉพาะการตีพิมพ์ในรูปแบบหนังสือเท่านั้น ไม่นำขายใน ebook /

- ปลอกสวมสำหรับใส่หนังสือทั้งหมด

ของแถม

- ที่คั่น 3 ชิ้น  โปสการ์ด 1 ใบ
- แฟนอาร์ตจิบิ เนื้อหาน่ารัก ๆ #อยู่ในตัวเล่ม
/* ของแถมส่วนนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเนื้อหา /

และพิเศษ !!! สำหรับคนที่สั่งจองในรอบแรก
เราเพิ่มหนังสือตอนพิเศษ 3-5 ตอน  #สำหรับคนที่โอนเงินสั่งในรอบแรกนี้เท่านั้น!!
#ทั้งนี้ไม่ขายหนังสือแยกชุดไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้น

รายละเอียดการสั่งจอง + โอนเงิน

1. เมื่ออ่านรายละเอียดเรียบร้อบแล้ว ให้โอนเงินมาที่บัญชี #พร้อมถ่ายสลิปหลักฐานการโอนเงินไว้ด้วยนะคะ


              ชื่อบัญชี  นางสาวอรชา ภูมิมาตร
              ธนาคารไทยพานิชย์ สาขา บางจาก
              เลขที่บัญชี  0892649044 
              **( ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์และไม่มีพร้อมเพย์ )
#สำคัญมาก " ถ่ายสลิปหลักฐานการโอนเงินเก็บไว้ด้วยนะคะ "

2. หลังจากโอนเงินแล้ว
ให้แจ้งโอนมาที่ e-mail :: atrealkanom(แอด)gmail.com
พร้อมทั้งกรอกรายละเอียดดังต่อไปนี้

ชื่อ - นามสกุล
ที่อยู่ ( อย่างชัดเจน อีกอย่างช่วยพิมพ์ให้ด้วยนะคะ อย่าส่งกันมาเป็นรูปที่อยู่นะคะ )
จำนวนหนังสือที่สั่งจองมีกี่ชุด
ความต้องการพิเศษอื่นๆ
#สุดท้ายแนบหลักฐานการโอนเงิน

และกดส่งมาโล๊ดดดด

3. เมื่อแจ้งโอนแล้วจะได้รับข้อความตอบกลับภายใน 3 วัน
และถ้าหากไม่ได้ข้อความตอบกลับภายใน 3 วัน #กรุณาติดต่อที่ DM twitter : @realkanom  // กล่องข้อความ facebook : หนมมี่ผู้ใสซื่อ

#ทั้งนี้ที่ 1 หนังสือไม่ต้องจอง โอนเงินได้เลย
#ทั้งนี้ที่ 2 การโอนจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เมื่อได้รับอีเมล์ตอบรับค่ะ
#ทั้งนี้ที่ 3 รายชื่อของคนโอนเงินแล้วจะอัพเดทให้ทุก 1 อาทิตย์ โดยประมาน

เช็ค และ ติดตามความคืบหน้าของหนังสือได้ทางเพจ fb " หนมมี่ผู้ใสซื่อ "


หากมีข้อสงสัย ติดต่อ
twitter : @realkanom
facebook : หนมมี่ผู้ใสซื่อ


เป็นนิยายเนื้อหายาวที่รับรองเลยว่า ถ้าใครชอบเนื้อหาของนิยายเรื่องนี้ ชอบความรัก ความเป็นครอบครัว แล้วก็ความน่ารัก ความแสบๆคันๆของเด็กน้อย ซื้อไปอ่านจะไม่ผิดหวัง ยังไงก็ ฝากด้วยนะคะ
สุดท้ายนี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยเน้ออออ
หนมมี่

 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-07-2017 21:21:36
ครอบครัวสุขสันต์  :mew1: :mew1: :mew1:
กาลิค น่ารักมากกกกก
ภาพ ขม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 28-07-2017 21:27:54
รักเด็กน้อย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 28-07-2017 21:38:12
บ้านนี้เขาเลี้ยงลูกน่ารักเน๊อะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 28-07-2017 21:52:29
ตลกตอนภาพบอกกับหัวหอมว่า"แอดมิทไอซียูเลยมั้ย" :laugh: :m20:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-07-2017 22:23:47
ช่างสรรหา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-07-2017 22:46:31
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-07-2017 23:14:22
นี่คือจบแล้วหลอ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 28-07-2017 23:21:47
น่ารักจังค่ะหัวหอม...
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 29-07-2017 00:07:49
หวังว่าเจอเข็มจริงๆ หัวหอมจะไม่ร้องงอแงเหมือนป๊านะ :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 29-07-2017 03:53:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
จบแล้ว?? :ruready
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 29-07-2017 08:08:21
กาลิคไม่กลัวเข็มเหมือนป๊าหรอกเนอะลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 29-07-2017 11:08:32
จบแล้วหรอคะ ตอนบอกว่าลงตอนจบ

หัวหอมน่ารัก เด็กช่างพูด ช่างอ้อน น่าฟัดจริงๆ

ขมก็น่ารัก เค้ารู้ทางกัน ดูแลพ่อลูกดีมาก
ภาพก็ฮาไปอีก มีเคืองอะ โดนแซ็วหน่อยเดียว

ว้ายยย ชัดโม สมจริงมากค่ะ ในที่สุด โมก็ยอมแล้ว ชัดก็รักหนักไปอีก น่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 29-07-2017 11:20:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 29-07-2017 11:53:57
ไม่คิดว่าภาพจะกลัวเข็มขนาดนี้ 555
หวังว่ากาลิคตัวน้อยๆจะไม่กลัวเข็มนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-07-2017 13:31:30
จบเหมือนไม่จบ..แบบนี้ก็ได้?
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 29-07-2017 19:20:42
ถึงเวลาจริง กาลิคจะกลัวเข็มเหมือนป๊ามั้ยนะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 29-07-2017 20:00:47
หื้ออออออ จบแล้ว????

 :katai5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: mouymai ที่ 29-07-2017 21:58:56
หัวหมอน่ารัก น่าเอ็นดู :-[
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 30-07-2017 01:22:07
ขอให้ฉีดยาโดยสวัสดิภาพ...อาเมน ฮ่าๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 30-07-2017 09:00:09
น่ารักอ่ะ งื้ออออ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 30-07-2017 21:04:05
  เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 49

   เดินออกมาจากห้องนอนตอนที่เจ้าตัวเล็กหลับไปแล้ว ภาพที่กำลังนั่งอยู่หน้าทีวีแต่ไม่ได้เปิดทีวีดูแต่อย่างใด มันหันมามองหน้าผมที่ก็เอ่ยถามมัน

“ ยังไม่อาบน้ำนอนอีกเหรอวะ "

“ ยัง ขี้เกียจ " มันตอบก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม

“ ยิ้มเหี้ยแบบนี้มีอะไร "

“ ขอกอดหน่อย " ภาพบอกก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟารวดเร็วแล้วเข้ามากอดผมไว้ มือหนาที่รัดผมทั้งตัวแน่นจนอึดอัด กรอกตามองผมพลางถอนหายใจออกมา

“ โอยยยยยย กูอึดอัดไอ้เหี้ยยย ถอยไปน่า "

“ ก็เค้าอยากจะกอดขมบ้างไรบ้าง นี่น่า " มันว่าเสียงเบ๋วก่อนจะยื่นหน้ามาหอมแก้มผม ท่าทางที่ชวนให้น่ารำคาญแบบนั้นผมสะบัดตัวเองออกแต่ไอ้ภาพก็ยังกอดไว้แน่นมันที่หัวเราะเสียงดังออกมา " ไอ้เชี้ยภาพ ปล่อยน่า "

" ขอกอดหน่อย " น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของมันชวนให้ผมนิ่ง เหลือบมองมันที่ซบอยู่ที่ไหล่ " พอพูดเสียงอ่อนเข้าหน่อยนี่เป็นห่วงเป็นใยกันขึ้นมาเลยนะ น่ารักจัง " มันหอมแก้มผมไปเต็มฟอดก่อนจะหัวเราะออกมา

“ อย่าบอกนะว่าเครียดเรื่องที่กูจะพาหัวหอมไปฉีดยาวันพรุ่งนี้ "

“ เปล่า "

“ เปล่า เสียงเบาๆ แสดงว่าใช่ ทำไมมึงกลัวมึงปลอบลูกไม่ได้ละสิ เพราะตัวมึงก็กลัวอย่างงี้เหรอ " ผมถามภาพก็นิ่ง " ไม่เอาน่า หัวหอมมันไม่ร้องไห้งอแงหามึงอยู่แล้ว มันร้องไห้หากูนี่ แล้วเดี๋ยวกูจะกอดปลอบมันเอง คิดมาก บอกแล้วไงว่ากูจะปกป้องมึงเอง "

“ แมนจังให้เมียมาปกป้อง " ภาพพูดเสียงเบาผมก็หันมามองหน้ามัน

“ มึงเข้าใจความหมายของการอยู่ด้วยกันรึเปล่า "

“ หื้ม ? ก็เข้าใจสิ แล้วมันเกี่ยวอะไรกันละ "

“ มึงไม่เข้าใจหรอก " ผมบอก " ความหมายของการอยู่ด้วยกันคือการที่ในช่วงเวลาที่ใครคนนึงอ่อนแอ อีกคนก็จะเข้มแข้งเพื่อดูแลคนที่อ่อนแอนั้น จับมือกันข้ามผ่านช่วงเวลาที่ลำบาก นั่นคือความหมายของการอยู่ด้วยกันจริงๆ เข้าใจมั้ยไอ้สัดว่ากูจะสื่อถึงอะไร "
 
“ เออน่า กูรู้แล้ว แต่มึงจะห้ามให้กูไม่คิดมากไม่ได้ ก็กูคิดมากอะ ถ้ากูสั่งสมองว่า เอ้าๆ หยุดคิดมาก แล้วมันหยุด กูสั่งไปแล้วแต่นี่มันสั่งไม่ได้ไง กูเลยแบบงอแงอยากจะกอดมึง ขอกอดหน่อย~ " มือหนาดึงผมที่ถอนหายใจเข้าไปกอด

“ บางทีก็ไม่เข้าใจเลยว่า นี่กูมีแฟน หรือมีลูกกันแน่ " 

“ แม่กั๊บ ~ ขอภาพดูดนมหน่อย "

“ พ่อมึง " ผลักอีกคนออกไปไกลตัวผมหลุดยิ้มออกมาไอ้ภาพเองก็เหมือนกัน " กวนตีน "

“ แงงงงงง แม่อ่าาา แม่ไม่ให้ดูดนมม แม่อ่าาาา แงงงงงงงงง " เสียงร้องหน้าหนวกหูของมัน เอื้อมมือไปปิดปากที่แผดเสียงออกมานั่นทันที

“ เสียงดัง! หัวหอมหลับแล้ว เดี๋ยวมันก็ตื่น ไอ้สัดนี่ โอ๊ยยยย ไปอาบน้ำไป๊จะได้นอน "

“ อาบด้วยกันไป "

“ ไม่เอา เดี๋ยวได้มากกว่าอาบน้ำ " ผมบอกเสียงเขินๆไอ้ภาพก็ผลักหัวผม " อะไร มาผลักหัวกู หรือว่าไม่จริง "

“ จริง "

“ นั่นไงไอ้สัด "

“ นี่ว่ามั้ยตั้งแต่เป็นแฟนกัน เราดูไม่สนิทกันเนอะ " ภาพที่พูดขึ้นมาผมก็มองหน้ามันก่อนจะคิด ก็จริงอย่างที่มันพูดนั่นแหละตั้งแต่สารภาพรักกันความรู้สึกของเราก็เปลี่ยนไป แน่นอนเราไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว แต่มีฐานะที่ลึกซึ้งกว่านั้น บอกตรงๆเลยว่าตอนนี้แค่มันยืนใกล้ๆผมก็ตื่นเต้นแล้ว " แต่กูเข้าใจแหละ เราไม่ใช่เพื่อนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว จะให้มันเหมือนเมื่อก่อนได้ไงจริงมั้ย "

“ อื้ม " เหลือบมองมันที่เดินเข้ามาใกล้ มือหนาดึงเอวผมเข้าไปกอด ภาพก้มลงมาจูบเบาๆที่ริมฝีปากก่อนจะหอมแก้ม ไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกว่ามันโคตรเท่เลยตอนที่ทำแบบนี้กับผม

   ใบหน้าคมในมุมองศาที่เห็นทำให้ใจเต้นแรง ริมฝีปากอุ่นๆที่แนบสนิทลงมาพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ รู้สึกชอบมากที่ได้ทำแบบนั้น แต่ก็กระดากปากเกินกว่าจะบอกมันออกไป ว่าชอบจังนะ จูบของมึง

" กูชอบจัง ริมฝีปากของมึง " ภาพบอกออกมาตรงๆ " มันนุ่มดี ดูน่ารักแบบบอกไม่ถูก แต่ชอบจัง ชอบมากเลย ยิ่งได้จูบก็ยิ่งชอบ จูบอีก จูบอีก จุ๊บ " จูบลงบนริมฝีปากก่อนจะจุ๊บหนักๆลงมาครั้งนึง ผมมองหน้ามันนิ่งๆ

“ มึงดูโรคจิตมากเลยอะ ที่พูดคำนั้นออกมา  "

“ ก็ยังดีกว่าคนบางคนที่ก็ชอบ แต่ไม่ยอมพูดออกมา ก็แล้วกัน "  เบือนหน้าหนีมันทำเป็นไม่รู้เรื่องในสิ่งที่มันพูด ดึงตัวเองออกอ้อมกอดของมันไอ้ภาพก็หัวเราะท่าทางของผม

“ พูดอะไรของมึง "

“ จะทำเป็นไม่รู้ก็ได้ เอาที่สบายใจ " มันว่า มือไม้ที่ดูเก้งก้างในตอนนั้นยกขึ้นเกาหัวตัวเอง ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา

“ กูไปอาบน้ำก่อนดีกว่าาา " ผมลากเสียงก่อนจะหาวออกมาเต็มที่ " เห้อออ ง่วงจัง ไปนอนดีกว่ามึง พรุ่งนี้ต้องจัดการเรื่องอีกเยอะ "

“ ครับๆ ตามสบายเถอะ " ภาพพยักหน้ารับแต่ถึงอย่างงั้นก็ยังดึงผมให้เข้าไปใกล้ มันจุ๊บลงที่ข้างแก้ม " หนีให้รอดตลอดก็แล้วกัน "

   เหลือบมองมันอีกครั้ง ในใจก็อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับมันต่อว่า ' มึงไม่มีทางได้หรอกไอ้เหี้ย ' แต่คิดว่าไม่ดีกว่า เพราะรู้สึกว่าถ้ายิ่งพูดไป มันก็ยิ่งจะเกิดขึ้น หนำซ้ำแม่งอาจจะเกิดเร็วขึ้นด้วยซ้ำไป ขนาดจะพูดออกไปตรงๆกับมันว่า ' ชอบจูบของมัน ' ผมยังไม่พูดเลย เดี๋ยวแม่งจะได้ใจ

   ..............................................................


   ช่วงเวลาที่รอคอยของผมมาถึงแล้ว แต่อย่าเรียกว่ารอคอยจะดีกว่า เรียกว่า ลุ้น ตื่นเต้น อยากรู้ว่าจะเป็นยังไง สำหรับการฉีดยาครั้งแรกของไอ้ตัวเล็ก วันนี้ผมกับไอ้ภาพซุ่มเก็บความลับนี้มาตลอดตั้งแต่เช้าเพราะไม่อยากจะให้มันรู้ว่าเย็นนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับมัน เผื่อมันตื่นเต้นไปเล่าที่โรงเรียนว่าวันนี้จะไปฉีดยา แล้วบังเอิญเพื่อนเคยฉีดแล้วเจ็บมากมาสปอยมัน ทุกอย่างที่ทำแม่งคงจบเห่กันพอดี

“ พร้อมนะมึง " ผมหันไปถามไอ้ภาพอีกคนก็ ยกยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ

“ เหมือนจะไปรบเลย "

“ เออ มันก็ไม่ต่างกันหรอก กูตื่นเต้นเนี้ย " ผมว่าตอนที่มันจอดรถลงที่หน้าโรงเรียนของหัวหอม ถอนหายใจออกมารวบรวมสติอยู่เป็นนาที " โอเค สู้! “

“ สู้น้าาาา คุณแม่ ไฟท์ติ้ง!! "

“ พ่อง! มึง " ตะโกนด่ามันก่อนจะปิดประตูรถ เดินเข้าไปในโรงเรียนหยุดอยู่ที่หน้าสนามเด็กเล่นที่ตอนนี้มันกำลังวิ่งเล่นอยู่กับเพื่อนด้วยความสนุกสนาน เสียงหัวเราะดังไปทั่วไปของเด็กๆ คุณครูที่หันมาเห็นผมที่ก้มหน้ายิ้มก็เอ่ยเรียกหัวหอม

“ กาลิค คุณอามารับแล้วนะ "

“ อาขมมมมมม " มันลากเสียงยาวตอนที่เห็นสไลตัวเองลงจากสไลเดอร์ก่อนจะวิ่งเข้ามากอด " อาขมมารับกาลิคแล้ว " ว่าแบบนั้นก่อนจะดึงตัวเองออก แล้วก็ก้มหน้าลงไหว้ " สวัสดีครับ ลืมอีกแล้ว "

" ไม่เป็นไร ก็หัวหอมดีใจที่เจออาขมนี่ " ผมว่าก่อนจะกอดมันไว้ " งั้นไปเอากระเป๋านะ เดี๋ยวเราจะกลับบ้านกัน "

" คร๊าบบบบบ " เจ้าตัวเล็กบอกก่อนจะวิ่งกลับไปที่ห้องเรียน ออกมาไหว้คุณครูแล้วจับมือผมไว้ " อาขมไปกัน กลับบ้านนะ "

" ไปกัน " เดินจูงมือไปที่รถ หัวหอมที่แกว่งมือผมไปมา ผมเอ่ยถามมัน " วันนี้ตอนเย็นกินอะไรกันดี หัวหอมอยากจะกินอะไร "

“ อื้มมมมม " มันลากเสียงยาวก่อนจะทำท่าคิด " กินของที่มันอร่อยๆ "

“ มันก็ทั้งหมดนั่นแหละ ก็เลยถามไงว่าหัวหอมอยากจะกินอะไรมั้ย เป็นพิเศษ หมายถึงว่า อยากกินอันนี้แหละ อยากกินม๊ากกกกกมาก " ผมก้มลงมองมันหัวหอมก็ยิ้ม

“ อยากกินไก่เคเอฟซี~”

“ มันไม่มีประโยชน์นะ " ผมว่าอีกคนก็หน้ามุ่ยลง

“ แล้วอาขมถามทำไมว่าอยากจะกินอะไร พอกาลิคบอกไป อาขมก็ไม่ให้กิน " หน้าตาน่ารักที่กำลังหงุดหงิดผมก้มลงหยิกแก้มมัน เจ้าตัวเล็กก็โวยวาย

“ งื้อออออออ อาขมอย่าทำแรงๆ "

“ แรงเหรอ " ผมหยุดมือก่อนจะหอมแก้มมันแทน  " งั้นหอมแทนก็แล้วกัน หื้มมมมม "

“ งื้ออออ อาขมเขินน้า " 

“ เขินอะไร เขินที่อาขมหอมแก้มน่ะเหรอ "

“ อื้อ " มันพยักหน้ารับผมก็ส่ายหน้า

“ เขินอะไรกันละ หอมกันออกจะบ่อยไป ทำเป็นไม่ชินไปได้ " เปิดประตูรถให้อีกฝ่ายเข้าไปข้างใน หัวหอมพุ่งเข้าไปกอดไอ้ภาพเต็มอ้อมแขนก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวา

“ ป๊าาาาาาาา สวัสดีครับ " มันก้มหน้าลงไหว้แล้วก็กอดอีกคนแน่นขึ้นอีก ท่าทางที่นานๆทีจะได้เห็น ผมว่านะ.. เหตุการณ์นี้ต้องไม่ธรรมดา แม่งต้องมีเงื่อนงำ!

“ วันนี้ดูรักป๊าเป็นพิเศษเลยนะ " ไอ้ภาพบอก มันเองก็คงสังเกตได้

“ รัก กาลิครักป๊า " มันบอกก่อนจะหอมแก้มร่างสูงอีกที ไอ้ภาพเหลือบมองผม

“ มึงคิดว่าไงขม "

“ เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ " ผมบอกก่อนที่เราจะถามเด็กน้อยออกมาพร้อมกัน " อ้อนขนาดนี้ จะเอาอะไร "

“ อาขมกับป๊าพูดเหมือนกันเลย " ไอ้ตัวเล็กแซว ก่อนจะยกมือปิดปากหัวเราะ 

“ แล้วตกลงหัวหอมจะเอาอะไร " ถามมันอีกครั้ง มือเล็กๆก็โบกไปมา

“ เปล่าน้า ~ ” มันว่าก่อนจะดึงตัวเองขึ้นมานั่งบนตักผมที่ก็ดึงกระเป๋านักเรียนมันออก ตั้งไว้หลังรถ หัวหอมมองภาพ ไอ้ภาพเองก็มองมัน 

“ งั้นกระซิบ " คนเป็นพ่อดึงตัวเองเข้ามาใกล้มัน เด็กน้อยเหลือบมองผมก่อนจะกระซิบเสียงเบาๆ แต่นั่นแหละ ผมก็ได้ยินอยู่ดี

“ กาลิคอยากจะกินเคเอฟซี แอบอาขมไปกินกันนะ " หลุดยิ้มออกมา ผมทำทีเป็นไม่รู้เรื่องเบือนหน้าหนีไปทางอื่นร่างสูงก็พยักหน้ารับ

“ เหตุผลของการอ้อนเบอร์แรง อย่างงั้นนั่นเอง เข้าใจละ "

“ ป๊าว่าไง " มันถามก่อนจะเอียงตัวเองไปหาไอ้ภาพเหมือนจะให้อีกคนกระซิบกลับ

“ เดี๋ยวเราค่อยพูดตอนอยู่กันสองคนนะ "

“ อื้อ!” มันขานรับก่อนจะหันกลับมากอดผมไว้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันไม่ได้พูดอะไรไม่ดีเลยสักนิดนึง ไอ้ตัวแสบเอ้ย อยากจะหอมแก้มแรงๆสักที หมั่นเขี้ยว!

“ นี่หัวหอม อาขมมีอะไรจะบอกแหละ " ผมชวนมันคุยอีกคนก็เงยหน้าขึ้นมอง " เดี๋ยววันนี้ก่อนไปกินข้าว เราแวะโรงพยาบาลก่อนนะ วันนี้หัวหอมต้องไปตรวจสุขภาพนะ "

“ ตรวจสุขภาพ " มันทวนคำพูดของผมก่อนจะทำท่าคิด " เหมือนที่เราเล่นเมื่อวานใช่มั้ยครับ อาขม ไปหาคุณหมอ "

“ ใช่แล้ว เราจะไปหาคุณหมอกัน ไปตรวจสุขภาพว่าหัวหอมแข็งแรงดีมั้ย "

“ แข็งแรงงงง " เจ้าตัวเล็กบอกก่อนจะดึงตัวเองขึ้นหอมแก้มผม " เห็นมั้ย กาลิคหอมแก้มอาขมเสียงดังฟอดเลย กาลิคแข็งแรงนะ  "
“ จ้าๆ รู้แล้วละ แต่ยังไงก็ต้องไปหานะ ให้คุณหมอเค้าตรวจดีกว่า "

“ ครับผม " ท่าทางที่ยังสนุกดีของมัน ไม่รู้ว่าอีกเดี๋ยวจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เราขับรถมาที่โรงพยาบาลใกล้กับคอนโดเพราะตั้งใจจะให้ที่นี่เป็นโรงพยาบาลประจำของหัวหอมอยู่แล้ว เจ็บป่วยอะไรจะได้มาหาง่ายๆ ใกล้ดี จอดรถเรียบร้อยตอนที่เดินขึ้นไปตรงขึ้นไปที่แผนกเด็กผมก็เข้าไปสอบถามกับพี่พยาบาลที่เค้าเตอร์

“ สวัสดีครับ "

“ สวัสดีค่ะ " พยาบาลเอ่ยทักผมเสียงหวาน เธอที่ยิ้มให้

“ พอดีผมพาหลานมาหาคุณหมอนะครับ จะปรึกษาเรื่องการฉีดวัคซีนของเด็ก "

“ ตอนนี้น้องอายุเท่าไหร่คะ "

“ สี่ขวบครับ " ผมตอบ

“ แล้วเคยมีประวัติการแพ้ยา หรือว่านำประวัติการฉีดวัคซีนมามั้ยคะ "

“ เอ่อ..” ผมลากเสียงยาวก่อนจะก้มลงมองเจ้าตัวเล็กที่หันมามองผมตาใสแจ๋ว " หัวหอม ไปหาป๊าก่อนนะ เดี๋ยวอาขมเรียก อาขมจะคุยเรื่องสำคัญกับพี่พยาบาลก่อน "

“ ก็ได้ครับ " มันว่าก่อนจะวิ่งไปหาภาพที่ก็กำลังยืนอ่านโปรชัวอะไรสักอย่างอยู่ที่ผนังของโรงพยาบาล

“ คือว่า หลานเพิ่งย้ายมาอยู่กับพ่อของเค้าเมื่อสามเดือนก่อนนะครับ " ผมชี้ไปที่คนเป็นพ่อที่กำลังคุยกับเจ้าตัวเล็กเสียงดัง " เพราะมันมีปัญหาทางครอบครัวนิดหน่อย เลยไม่สามารถติดต่อสอบถามกับคนเป็นแม่ได้ว่าวัคซีนที่เคยฉีดไปแล้วมีอะไรบ้าง แต่คิดว่าน่าจะได้ครบตามอายุของเค้าครับ แต่ช่วง สามขวบถึงสี่ชวบ คงจะยังไม่ได้ " บอกพยาบาลไปแบบสุ่มๆ คือไม่สามารถบอกได้จริงๆว่าหัวหอมได้รับยามาแล้วหรือยังไม่ได้รับ แต่คิดว่าน่าจะได้รับเพราะว่า ช่วงแรกเกิดถึงสองขวบโอลิเวียเคยเล่าว่าตอนนั้นหัวหอมอยู่กับพ่อแม่เธอ เพราะฉะนั้นก็น่าจะได้ครบตามปกติ แต่หลังจากที่ถูกไล่ออกมาแล้วก็คงไม่ได้รับแน่นอน และช่วงนั้นก็น่าจะเป็นช่วงสามขวบจนถึงตอนนี้

“ งั้นรอสักครู่นะคะ ขอไปปรึกษาคุณหมอก่อนนะคะ เดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบค่ะ "

“ ขอบคุณมากครับ " พยักหน้ารับกับเธอ ผมเดินไปหาสองพ่อลูกที่กำลังชี้ชวนดูนู้นนี่ด้วยความสนใจ พอเดินเข้าไปใกล้ไอ้ภาพมันก็ถาม

“ เป็นยังไงบ้าง "

“ เพราะว่าไม่รู้ว่ามันได้รับวัคซีนไรมาบ้าง พยาบาลก็เลยจะขอไปปรึกษาคุณหมอก่อนว่าฉีดได้มั้ยแหละ " ผมบอกภาพก็พยักหน้ารับก่อนจะยื่นโปรชัวนึงมาให้ผม " อะไรเหรอ "

“ แพ็คเก็จวัคซีน น่าสนใจดี "

“ สมัยนี้ดีนะ มีแพ็คเก็จวัคซีนด้วย " พลิกโปรชัวอ่านไปมา ก่อนที่พยาบาลจะเดินเข้ามาแจ้ง

" คุณอาค่ะ คุณหมอแจ้งว่าสามารถฉีดยาได้ค่ะ " เธอบอกผมก็พยักหน้ารับ " ต้องการจะฉีดมั้ยคะ "

“ ฉีดครับ " ผมบอกเธอก็เดินนำไปที่เค้าเตอร์ หยิบเอกสารแผ่นนึงขึ้นมาให้ผมกรอก

“ นี่เป็นรายละเอียดนะคะ เขียนชื่อ ชื่อเล่น แล้วก็อายุด้วยนะคะ ส่วนตรงนี้เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ปกครองของน้องค่ะ " เขียนชื่อเด็กน้อยลงไปพร้อมกับนามสกุล ก่อนจะเงยหน้าถามไอ้ภาพตรงช่องรายละเอียด

" ภาพ กูใส่ชื่อมึงนะ ตรงผู้ปกครองอะ "

" ใส่ชื่อมึงอะ " ไอ้ภาพบอก " เค้ามีอะไรจะได้บอกมึง มาบอกกูเดี๋ยวกูฟังไม่รู้เรื่อง มึงก็ด่ากูอีก "

' ก็หัดฟังให้มันรู้เรื่องสิวะ ' บ่นอยู่ในใจตัวเอง ผมกรอกชื่อไอ้ภาพเป็นชื่อของพ่อ ส่วนชื่อของผมก็เป็นผู้ปกครองแทน ส่งเอกสารให้คุณพยาบาลที่ก็รับไปเธอยิ้มให้

" นั่งรอสักครู่นะคะ "

" ครับผม " เดินไปนั่งที่เก้าอี้ เด็กน้อยที่กำลังเล่นอยู่กับพ่อของตัวเองก็วิ่งตรงเข้ามาหาผม

" อาขม!” มันที่ซุกตัวอยู่ระหว่างขา ผมก้มลงไปหอมแก้มมัน

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 48 - 28.7.60} #หน้า 44 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 30-07-2017 21:05:19

" น้องกาลิคค่ะ " คุณพยาบาลที่เอ่ยเรียกมัน ทำเอาเจ้าของชื่อสะดุ้งมันที่มองผมตาโต

" อุ้ย มีคนเรียก " ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นแล้วจับมือมันเดินเข้าไปหาพี่พยาบาลที่ยืนรออยู่ " สวัสดีครับ พี่พยาบาลก่อนเร็ว "

" สวัสดีครับ " หัวหอมก้มหน้าลงเธอก็ยิ้ม

" น่ารักจังเลย งั้นเรามาวัดส่วนสูงกันนะจ๊ะ เดี๋ยวน้องกาลิคยืนตรงนี้เลย "

" ยืนตรงนี้เหรอครับพี่พยาบาล "

" ใช่จ๊ะ ยืนตรงๆน้า " เจ้าตัวเล็กยืนเกร็งตัวให้พี่พยาบาลวัดส่วนสูงให้ " โอเคเก่งจังเลย สูง 104 นะ "

“ อุ้ยเตี้ย " ไอ้ภาพที่ยืนอยู่ตรงนั้นเอ่ยบอก หัวหอมก็ปั้นหน้าไม่พอใจก่อนจะเถียงกลับ

“ ตัวเล็ก! ยังเด็กอยู่เลยตัวเล็กๆอยู่ ”

“ เออ ตัวเล็ก เตี้ยอะไรป๊านี่ นิสัยไม่ดีเลยเนอะ " ผมบอกก่อนจะลูบหัวอีกคนที่เดินเข้ามากอดอ้อนๆ

“ คราวนี้มาชั่งน้ำหนักกันน้า " พี่พยาบาลให้มันขึ้นไปยืนบนเครื่องชั่ง " น้ำหนัก 17 กิโลนะคะ "

“ ก็ว่าทำไมตอนอุ้มนี่ แขนเกือบหัก " ภาพบอกแบบนั้นก่อนจะยิ้มให้หัวหอมที่จ้องตามันเขม็ง เด็กน้อยสะบัดหน้าหนีก่อนจะเดินมาหาผม

“ ต่อไปนี้ กาลิคจะไม่ให้ป๊าอุ้มแล้ว จะให้อาขมอุ้มคนเดียวเลย " สะบัดหนีอีกคนผมก็ทำตาโตขึ้นมา

“ ไม่ดีม้างงงงง ถามอาขมด้วยสิ เดี๋ยวแขนอาขมหักน้า "

“ งื้ออออ กาลิคไม่ได้หนักสักหน่อย อาขมมม เดี๋ยวงอนนะ " มันที่กอดผมไว้แน่นบี้หน้าลงกับเอว ผมก็หันไปถามคุณพยาบาล " แล้วน้ำหนักกับส่วนสูงของแกเป็นไปตามเกณฑ์มั้ยครับ คุณพยาบาล "

“ ตามเกณฑ์เลยค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร เดี๋ยวรอพบคุณหมอเลยนะคะ " เธอบอกก่อนจะก้มลงมองหัวหอม " ตื่นเต้นมั้ยครับกาลิค เดี๋ยวจะเจอคุณหมอ "

“ อื้มม นิดนึง " มันว่าพลางทำมือบอกปริมานความตื่นเต้นของตัวมัน พยาบาลเอื้อมมือมาลูบหัวด้วยความเอ็นดูก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง

“ เดี๋ยวกูไม่เข้าไปนะ มึงไปกับมันแล้วกัน กูจะรออยู่นอกห้อง " ภาพเอ่ยขึ้นเสียงเบาๆ ผมหันไปมองหน้ามันที่ตอนนี้ก็ทำท่าทางเคร่งขรึมขึ้นมา

“ อื้ม ตามนั้นก็ได้ " ผมบอก ไม่อยากจะบังคับมัน มันคงไม่ได้อยากจะดูหรอก มันคงไม่อยากจะดูไม่แมนในสายตาของหัวหอมสักเท่าไหร่

“ แต่ไม่ต้องคิดมากละมึง " เอื้อมมือไปจับไหล่มันอีกคนก็พยักหน้ารับ แล้วในตอนนั้นคุณพยาบาลก็เอ่ยเรียกชื่อ

“ น้องกาลิค เข้าพบคุณหมอได้เลยคะ "

“ เข้าพบคุณหมอได้แล้ว ไปกันเลย " ลุกขึ้นจากที่นั่งเดินจูงมืออีกคนเข้าไปในห้อง สายตากลมที่หันไปมองภาพมันโบกมือบ๊ายบาย
“ ป๊า เดี๋ยวกาลิคมาน๊า "

“ ครับผม " ภาพขานรับ เปิดประตูเข้าไปในห้องตรวจที่ตกแต่งไว้แบบน่ารัก ผมเอ่ยทักผู้ชายท่าทางใจดีที่นั่งอยู่ในห้องก่อนจะหย่นตัวลงนั่งที่เก้าอี้ที่ตั้งอยู่ข้างหน้า

“ คุณหมอสวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ " เค้ากล่าวตอนที่เงยหน้าขึ้นมองหน้าผม คุณหมอยิ้มจางๆก่อนจะเหลือบมองหัวหอม " สวัสดีเด็กผู้ชายตัวเล็กคนนี้ด้วยนะ ชื่อน้องกาลิคใช่มั้ยเอ่ย "

“ ทำยังไงคุณหมอก่อน "

“ สวัสดีครับคุณหมอ " หัวหอมบอกแต่ถึงอย่างงั้นก็ยังยืนเบียดอยู่ข้างตัวผมแบบไม่คุ้นเคยกับคนแปลกหน้า  คุณหมอตรงหน้าเราดูเด็กกว่าในความคิดของผมนิดหน่อย ใบหน้าหล่อเหลาสไตส์หนุ่มจีนเค้าที่ยิ้มกว้างแบบใจดีก่อนจะเอ่ยถาม

" แล้วคุณพ่อของน้องชื่ออะไรครับ "

" เอ่อ พอดีเป็นอาน่ะครับ " ผมบอกก่อนจะยิ้มเขินๆให้คุณหมอ " คุณพ่อเค้าอยู่ข้างนอกน่ะ " ว่าแบบนั้นก่อนจะป้องมือกระซิบคุณหมอ " พ่อเค้ากลัวเข็มน่ะครับไม่กล้าเข้ามา "

" อย่างงั้นเหรอครับ " คุณหมอยิ้ม " แล้วคุณอาชื่อ "

" ชื่อขมครับ " ผมบอก คุณหมอก็พยักหน้ารับ

" หมอชื่อ หมอนายนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วนี่คุณขมยังเรียนอยู่เหรอครับ "

“ ครับผม เรียนปีสามแล้วละครับ คุณหมอเรียกผมว่า ขมเฉยๆก็ได้นะ  เรียกว่าคุณขมแล้วผมรู้สึกขนลุกแปลกๆ " ยิ้มให้คนตรงหน้าเค้าก็ยิ้มกลับก่อนจะพยักหน้ารับ

“ งั้นก็ได้ครับ "  เค้าว่าก่อนจะดึงเก้าอี้อีกตัวมาตรงหน้าตัวเอง " น้องกาลิคมานั่งตรงนี้เลย " คนโดนเรียกหันมามองหน้าผมที่ก็พยักหน้ารับ

“ นั่งเลยหัวหอม คุณหมอใจดี เห็นมั้ยเราคุยกันเมื่อกี้ดูใจดีมากเลยใช่มั้ยละ " ผมบอกมันเสียงเบาๆ ที่แหละเหตุผลที่ชวนคุณหมอเค้าคุยนอกเรื่องไปหน่อยจริงๆก็แค่อยากจะให้เจ้าตัวเล็กที่กำลังกลัวคนแปลกหน้า ผ่อนคลายลงสักหน่อยก็แค่นั้นเอง หัวหอมขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้นิ่งๆ คุณหมอก็เริ่มตรวจโดยการเอาเครื่องฟังหัวใจมาฟังเสียงหัวใจของมัน ท่าทางที่ดูตื่นเต้นคุณหมอยิ้ม
 
“ สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆเลย " เค้าสูดหายใจเข้าปอดให้อีกคนดู หัวหอมก็ทำตาม " อย่างงั้นเก่งจังเลย " สายตากลมมองตามเครื่องฟังเสียงหัวใจ มันที่ดูสนใจเครื่องนั้นเอามากคุณหมอก็เอ่ยถาม " อยากจะฟังเสียงหัวใจหมอบ้างมั้ย "

“ อยากกก อยากครับ " มันว่าเสียงยาวก่อนจะพยักหน้า คุณหมอเอาเครื่องช่วยฟังมาใส่ที่หูมันก่อนจะเอาปลายอีกฝั่งมาจ่อที่หัวใจตัวเอง " อุ้ย "

“ เป็นไงครับ เสียงเป็นไง "

“ มันดังว่า ตึก ตึก ตึก " หัวหอมบอกคุณหมอก็ยิ้ม หยิบหูฟังออกจากหูเด็กน้อย เค้าหยิบเครื่องอะไรสักอย่างออกมา

“ งั้นวัดไข้หน่อยน้า " เป็นเครื่องวัดที่แตะลงตรงหน้าผากอยู่สักพัก " โอเคไม่มีไข้ วันนี้เดี๋ยวเราจะมาฉีดวัคซีนกันนะ เป็นวัคซีนรวมเข็มนึงแล้วก็ อิสุอิใสเข็มนึงนะครับ "

“ ครับ "

“ เดี๋ยวหมอจะฉีดคนละข้างนะครับ " คุณหมอบอก " ฉีกวัคซีนรวมก่อนก็แล้วกัน " เข็มฉีดยาถูกเตรียมไว้ ผมก็เอื้อมมือไปถอดเสื้อนักเรียนของหัวหอมให้เหลือแต่เสื้อกล้ามด้านใน หัวใจของผมมันเต้นแรงอาจเพราะเด็กตัวเล็กตรงหน้าเอาแต่นั่งนิ่งด้วยแหละมันเลยเป็นแบบนั้น หัวหอมมันคิดว่าคงไม่เจ็บอะไร ก็คงเหมือนกับที่เล่นกันผมเมื่อคืน สำลีเย็นถูกทางลงไปที่ต้นแขน คุณหมอยิ้ม " เดี๋ยวคุณอาช่วยจับแขนน้องไว้นิดนึงนะ " ผมเอื้อมมือไปจับแขนมัน " เจ็บนิดนึงนะครับคนเก่ง "

   เสี้ยววินาทีที่เข็มฝังลงไปบนผิว แววตากลมที่เบิกตาขึ้นน้อยๆ ตอนที่เข็มถูกดึงออกมันก็ร้องไห้ลั่นออกมาด้วยความเจ็บผสมกับตกใจ

“ อึก อาขมมมมมมมมมม ฮืออออออออออออ  " เสียงร้องไห้งอแงของมันมาพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นเม็ดๆ ไม่ต่างจากที่คิดเอาไว้หรอก รู้อยู่แล้วว่ามันต้องร้องไห้แน่นอนแต่ไม่คิดว่าจะเสียงดังขนาดนี้ ผมเอื้อมมือไปลูบหัวมัน

“ โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร อาขมอยู่นี่ " ผมบอกมันที่ก็ดึงตัวเองเข้ามากอดผมไว้ทันที เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วห้องตรวจ " อึก ฮือๆ เจ็บบบ กาลิคเจ็บ อาขม อึก ฮือๆ "

" เก่งจังเลย ไม่ดิ้นเลย มานะ คุณหมอจะให้สติกเกอร์ติดแผลอยากจะได้ตัวไหนเอ่ย "

" ม่ายอาวววว ม่ายอาวแล้ววว ม่ายเอา อึก ฮือๆ เจ็บบบบ " มันกอดผมไว้แน่นในตอนนั้นคุณหมอก็ยิ้มผมก็ชี้ไปที่โปเกม่อนตัวสีเหลือง

" นี่ ติดปิกาจูกันดีกว่า เดี๋ยวคุณหมอเค้าจะติด ปิกาจูที่หัวหอมชอบให้นะ ไม่ต้องร้องไห้น้า โอ๋ๆ " เช็ดน้ำตาให้มันอีกคนก็ยังกอดผมแน่น ปิกาจูถูกติดลงไปที่แขนขวาก่อนจะเข็มอีกอันนึงจะถูกเตรียมขึ้นมาผมก้มลงกอดมันไว้ ตอนที่คุณหมอใช้ลำลีเช็ดแล้วฉีดยาอีกเข็มลงบนแขนอีกข้าง ในตอนนั้นมันกรีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง

" ฮืออออออ เจ็บบบบ หมอทำกาลิค หมอทำกาลิคเจ็บบบ " เข็มถูกดึงออก สติกเกอร์ติดแผลถูกติดให้คุณหมอก็พูดเอ่ยชมมัน

" เก่งจังเลย เสร็จแล้วน้า กาลิค "

" อึก ฮือๆ อาขมมมม กาลิคเจ็บ เจ็บไปหมดเลย เจ็บบบก๊าบบ  เจ็บ อึก ฮือๆ " มันกอดผมไว้แน่น น้ำตาที่ไหลไม่หยุดผมเช็ดหยอดน้ำใสๆพวกนั้น ลูบหลังปลอบเด็กน้อยที่ยังงอแง

“ เสร็จแล้วนะ เสร็จแล้ว ไม่มีอะไรแล้วละ ไม่ต้องร้องไห้นะโอ๋ๆ “

“ เก่งจังเลย กาลิคคนเก่งไม่ดิ้นด้วย " มือของคุณหมอเอื้อมมือลูบหัวมันอีกคนก็หลบก่อนจะร้องไห้ออกมาเสียงดัง

“ คุณหมอไม่ต้องมาจับ อึก เลย กาลิค อึก ไม่รัก อึก คุณหมอแล้ว ฮือๆ คุณหมอใจร้าย คุณหมอทำให้กาลิคต้องเจ็บ กาลิคไม่รักแล้ว ฮือๆ คุณหมอใจร้าย ใจร้ายที่สุดเลย ฮือๆ "

“ คุณหมอไม่ได้ใจร้ายน้า " คนที่โดนว่าพูดออกมาก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้หัว " อย่าพูดแบบนั้นสิ หมอเสียใจน้า หมอทำให้กาลิคแข็งแรงตังหาก ทำให้กาลิคมีภูมิคุ้มกันที่ดีนะ "

“ ม่ายยยย หมอทำให้เจ็บ ไม่รักแล้ว จะไม่มาหาอีกเลย อึก ฮือๆ " มันซบหน้าลงกับไหล่ผม ร้องไห้งอแงออกมาแบบน่าเอ็นดู เสียงที่บอกว่าไม่รักคุณหมอแล้วชวนให้ทุกคนในห้องนั้นยิ้มออกมา

“ อย่าพูดทำร้ายจิตใจหมอขนาดนั้นสิ หมอให้ปิคกาจูไปตั้งสองตัวเลยนะ "

“ จะเอาไปฟ้องป๊า จะไปบอกป๊าเลย อึก ฮือๆ"

“ ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ " ผมบอกก่อนจะก้มหน้าลงให้อีกคนที่ก็ก้มหน้าขอบคุณกลับเช่นกัน " ขอโทษแทนเจ้าตัวเล็กด้วยนะครับ "

“ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจ " เค้าว่าก่อนจะลูบหัวอีกคน " ไว้เจอกันนะกาลิค "

“ ม่ายเจออแล้ว อึก เจ็บ ฮือๆ ไม่เจอคุณหมอใจร้าย "

“ หัวหอมไม่พูดแบบนั้นสิ " ผมบอก แต่มันก็ไม่มีท่าทางจะฟังอะไรเลย มันที่ยังคงกอดผมไว้แน่นแล้วร้องไห้ ผมหันหลังเดินออกมาคนเป็นหมอก็เรียกไว้

“ คุณขม "

“ ครับ " ผมหันไปตามเสียงเรียก

“ แล้ว  ไว้เจอกันอีกนะครับ " ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะพยักหน้ารับอีกคนไปแต่ยังไม่ทันเอ่ยตอบอะไร ไอ้ตัวเล็กที่ฟังอยู่ก็ตอบออกไปแทน

“ ม่ายห้ายเจออ อึก ฮืออ " มันว่า  "  ไม่ให้อาขมมาเจอคนใจร้ายแบบคุณหมอหรอก อึก แล้ว แล้วกาลิคก็จะไปฟ้องป๊าด้วย ไม่ต้องมาจีบอาขมของป๊าแล้วก็กาลิคเลยนะ "

" เฮ้ยยยย!! ไอ้หัวหอม!” ผมสบถด้วยความตกใจในคำพูดนั้น แม่งไปเอาคำว่าจีบมาจากไหนวะ แล้วมึงพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง นั่นคุณหมอเค้าก็เป็นผู้ชาย กูเองก็ด้วย นางพยาบาลหัวเราะกันจนกลั้นขำไม่อยู่แล้ว เชี้ยยยยยเอ้ย ไอ้ตัวแสบ

" ขอโทษอีกทีนะครับคุณหมอ แล้วไว้เจอกันนะครับ " ก้มหน้าลงบอกเค้าก่อนจะรีบเดินออกมาจากห้องทันที ปิดประตูห้องเรียบร้อยผมดึงมันให้มาจ้องหน้าแต่อีกคนก็ยังกอดแน่นไม่ยอมปล่อยไปไหน ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ภาพเดินเข้ามาหามันก็ยกยิ้มจางๆ

" เป็นไง แผนมึงได้ผลมั้ย "

" มึงน่าจะได้ยินเสียงแหกปากของมันนะ " ผมบอก ไอ้ภาพก็หยักหน้ารับก่อนจะหัวเราะ

" ได้ยินสิ "

" ป๊า~ ป๊าก๊าบบบบ " หัวหอมหันไปอ้อน สองมือที่กางออกให้ภาพอุ้มมัน ร่างสูงดึงอีกคนไปอุ้มเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มนั้นก่อนจะหอมไปแรงๆ

" ไม่ต้องร้องไห้เดี๋ยวก็หายเจ็บนะ โอ๋ๆ "

" ใช่ เดี๋ยวก็หายเจ็บไม่ต้องร้องไห้หรอก " ผมบอกก่อนจะยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้มัน หอมแก้มมันซ้ายขวาก่อนจะจุ๊บลงที่ปาก " หัวหอมเด็กดีไม่ต้องร้องไห้แล้วนะไม่เจ็บแล้วนะ ต่อไปนี้ก็จะแข็งแรง ต่อสู้กับโรคร้ายได้สบายๆเลย "

" แล้ว แล้สถ้ายังเจ็บอยู่ละ ก็ยังร้องไห้ได้อยู่ใช่มั้ย อาขม อึก ก็ กาลิคยังเจ็บอะ อึก ฮือๆ  "

" ไม่ร้องแล้วสิ อย่าร้องไห้เลยนะ เพี้ยง!! หายเจ็บนะ โอมมมเพี้ยง! เป่ามนต์แล้ว หายแล้วนะ "

" ไม่หายยยย ไม่หายเจ็บเลย ฮือๆๆๆๆ " ขยี้หัวมันด้วยความเอ็นดู ก่อนจะมองภาพที่มองมันด้วยสายตาสงสารแบบสุดๆ คงไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดของหัวหอมได้ดีเท่ามันอีกแล้วในความรู้สึกของผม ภาพก้มหน้าลงหอมแก้มมันก่อนที่หัวหอมจะเงยหน้าขึ้นบอก

" อึก ป๊าา คุณหมอในห้องที่ใจร้ายๆนะ เค้า อึก  จีบอาขมด้วย "

" หื้ม ? "

" เฮ้ยๆ ไม่ใช่แล้ว ไปเอาคำพูดพวกนั้นมาจากไหนวะ " ผมบอกปฎิเสธตอนที่ไอ้ภาพหันมามองหน้า " กูกับเค้าแค่ชวนกูคุยเท่านั้นเอง แล้วไอ้หัวหอมก็คิดไปถึงไหนต่อไหนก็ไม่รู้ แล้วไปเอาคำว่าจีบนี่มาจากไหน "

" ป๊า ป๊าอย่าให้คุณหมอเข้ามาใกล้อาขมนะ คุณหมอน่ะนะ บอกอาขมด้วยว่าเดี๋ยวเจอกันใหม่แหละ ป๊าอย่าให้เจอนะ คุณหมอใจร้าย ถ้าคุณหมอเจออาขม คุณหมอต้องฉีดยาให้อาขมเจ็บๆแน่เลย ป๊าอย่าให้เจอนะ "

" นี่ๆ พูดให้มันดีๆ มันแค่การพูดคุยกันแบบธรรมดาเท่านั้นแหละเฟ้ย อย่ามากล่าวหากันนะ พูดอะไรเกรงใจคุณหมอเค้าหน่อยสิวะ “ ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มอีกคน “ หัวหอมไม่พูดแบบนั้นนะ คุณหมอเสียหายรู้มั้ย “ ผมว่าแต่อีกคนก็เอาแต่ซบลงไหล่ของไอ้ภาพแบบไม่ยอมฟังผมด้วยซ้ำ มันคงไม่อยากจะให้ผมเจอคุณหมออีก คงโกรธที่คุณหมอทำให้เจ็บอยู่มาก ผ่อนลมหายใจออกมายิ้มๆตอนที่เงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่จ้องผมอยู่ “ จ้องอะไร นี่อย่าบอกนะว่าเชื่อเด็กไปอีกคน “

“ ก็เปล่า “ น้ำเสียงที่ดูก็รู้ว่าโกหก ภาพเดินไปที่เค้าเตอร์จ่ายเงินเรียบร้อยก่อนจะเดินไปที่ป้ายแนะนำชื่อของคุณหมอในโรงพยาบาล " กาลิคไหนชี้ คุณหมอเมื่อกี้คนไหน "

" คนนี้ "  มือเล็กๆชี้ไป " ป๊าจัดการเลย อย่าให้มายุ่งกับอาขม "

" ไม่ต้องห่วง ไม่ให้มายุ่งแน่นอน "

" คือ... ถ้ามึงจะจริงจังกับคำพูดของเด็กขนาดนี้ ก็ไม่น่าตอบกูว่าเปล่านะไอ้ภาพ โคตรตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิดเลยไอ้สัด " ผมว่ามันที่เดินมาใกล้สายตาคมที่จ้องผมตาเขม็ง ท่าทางที่บอกก็รู้ว่าไม่พอใจ " ขี้หึง "

“ ก็รู้นิ แล้วอย่าไปใกล้ใครหน้าไหนก็แล้วกัน " นี่ถามจริงว่ามึงเชื่อเด็กอายุ สี่ขวบที่ไม่เข้าใจแม้คำว่า จีบ และโกรธหมอที่ฉีดยามันจริงๆเหรอวะ  ...

" ไอ้คนขี้หึงเอ้ย ไร้เหตุผลซะจริง "

.................................................................
หลายคนงงว่าทำไมขึ้นว่า จบแล้ว คือที่บอกว่าลงตอนจบแล้ว ก็เพราะว่า เราเคยบอกไปว่านิยายเรื่องนี้จบตั้งแต่ตอนที่ 38 รู้ว่าใครเป็นพ่อของหัวหอมแล้ว ก็คือจบแล้ว แต่เราก็จะลงต่อไปเรื่อยๆ ถ้าอ่านทอล์คในตอนที่ 38 ที่อธิบายไว้ก็จะเข้าใจเน้อ
เคยบอกไปแล้วหนนึง จ้าา

และในส่วนของนิยายตอนนี้นั้น
คลับคล้ายคลับคลาว่า ความหึงนี้ ก็เหมือนกับแก ตอนหึงพี่ภาพนั่นแหละย๊ะ #ทีมพี่ภาพขอมองอ่อนน้องขม
เอ็นดูเด็กน้อย ฉีดยาครั้งแรก ร้องไห้ใหญ่เลยย เอ๋ๆ กาลิคลูกกกกก #กอดน้าาา กอด เอ็นดูเด็กน้อยย
ฉีดยาจะได้แข็งแรงนะลูก ไม่ป่วยไง #จุ๊บเหม่ง
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์นะคะ ตัวเองงง
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิต และ ฝากแชร์ฝากไลค์ในเพจด้วยยยยย
และในส่วนของใครที่สนใจ การรวมเล่มแล้วละก็.. ตามรายละเอียดนี้เลยยยยยย



ประกาศรวมเล่มนิยาย ' เฮ้ย!! มันไม่ใช่ลูกกู '
เปิดจองตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม - 15 ตุลาคม 


รายละเอียดโดยรวม + ราคา
หนังสือ '  เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู ' เป็นหนังสือชุดมี 3 เล่ม ราคาชุดละ 1200 บาท   
#ราคานี้รวมค่าส่งแบบลงทะเบียนแล้ว
 
#ตัวอย่างรูปแบบปกยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงยังไม่สามารถอัพโหลดได้  รอก่อนนะคะ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะอัพเดทให้ชมเลยค่ะ

รายละเอียดของหนังสือ
- เนื้อหาหลัก 38 ตอน ตอนพิเศษ 29 ตอน รวม 67 ตอน
/ * นิยายจะลงในเล้าเป็ด , ธัญวลัย , เด็กดี จนถึงถึงตอนที่ 53 เท่านั้น /

- เนื้อหาตอนพิเศษของพิเศษ เพิ่มอีก 15 ตอน #อาจมากกว่านั้นจะแจ้งอีกทีและจะไม่น้อยกว่านี้
/ ** หนังสือเล่มพิเศษ 15 ตอนนี้ สงวนขายเฉพาะการตีพิมพ์ในรูปแบบหนังสือเท่านั้น ไม่นำขายใน ebook /


ของแถม
- ที่คั่น 3 ชิ้น  โปสการ์ด 1 ใบ
- แฟนอาร์ตจิบิ เนื้อหาน่ารัก ๆ #อยู่ในตัวเล่ม
/* ของแถมส่วนนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเนื้อหา /

และพิเศษ !!! สำหรับคนที่สั่งจองในรอบแรก
เราเพิ่มหนังสือตอนพิเศษ 3-5 ตอน  #สำหรับคนที่โอนเงินสั่งในรอบแรกนี้เท่านั้น!!
#ทั้งนี้ไม่ขายหนังสือแยกชุดไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้น

รายละเอียดการสั่งจอง + โอนเงิน

1. เมื่ออ่านรายละเอียดเรียบร้อบแล้ว ให้โอนเงินมาที่บัญชี #พร้อมถ่ายสลิปหลักฐานการโอนเงินไว้ด้วยนะคะ

              ชื่อบัญชี  นางสาวอรชา ภูมิมาตร
              ธนาคารไทยพานิชย์ สาขา บางจาก
              เลขที่บัญชี  0892649044 
              **( ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์และไม่มีพร้อมเพย์ )

#สำคัญมาก " ถ่ายสลิปหลักฐานการโอนเงินเก็บไว้ด้วยนะคะ "

2. หลังจากโอนเงินแล้ว
ให้แจ้งโอนมาที่ e-mail :: atrealkanom(แอด)gmail.com
พร้อมทั้งกรอกรายละเอียดดังต่อไปนี้

ชื่อ - นามสกุล
ที่อยู่ ( อย่างชัดเจน อีกอย่างช่วยพิมพ์ให้ด้วยนะคะ อย่าส่งกันมาเป็นรูปที่อยู่นะคะ )
จำนวนหนังสือที่สั่งจองมีกี่ชุด
ความต้องการพิเศษอื่นๆ
#สุดท้ายแนบหลักฐานการโอนเงิน

และกดส่งมาโล๊ดดดด

3. เมื่อแจ้งโอนแล้วจะได้รับข้อความตอบกลับภายใน 3 วัน และถ้าหากไม่ได้ข้อความตอบกลับภายใน 3 วัน #กรุณาติดต่อที่ DM twitter : @realkanom  // กล่องข้อความ facebook : หนมมี่ผู้ใสซื่อ

##ทั้งนี้ที่ 1 หนังสือไม่ต้องจอง โอนเงินได้เลย
##ทั้งนี้ที่ 2 การโอนจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เมื่อได้รับอีเมล์ตอบรับค่ะ
##ทั้งนี้ที่ 3 รายชื่อของคนโอนเงินแล้วจะอัพเดทให้ทุก 1 อาทิตย์ โดยประมาน

### เช็ค และ ติดตามความคืบหน้าของหนังสือได้ทางเพจ fb " หนมมี่ผู้ใสซื่อ "


หากมีข้อสงสัย ติดต่อ
twitter : @realkanom
facebook : หนมมี่ผู้ใสซื่อ

###########################

#รับรองว่าจุใจในเนื้อหา ที่ครบรสเอามากๆ ทั้งดราม่า ครอบครัว ความรัก และที่สำคัญ ความน่ารักของหัวหอม เต็มอิ่มแน่นอน

 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 30-07-2017 21:33:30
กาลิคแค่พูดไปตามความจริงเท่านั้นเอง ว่าเจ็บไหมลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 30-07-2017 21:47:21
โอ๋อ๋กาลิคของป้าไม่ร้องนะ
ถึงจะเจ็บแต่ก็หวงอาขมแทนป๊าด้วยนะเด็กน้อย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-07-2017 21:54:28
เอ็นดูลูกชายจริงๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 30-07-2017 22:45:51
กาลิคตัวแสบ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 30-07-2017 23:23:13
โอ๊ย สงสารเด็กมาก ร้องไห้แย่เลย หัวหอมนี่โตขึ้นต้องแสบแน่นอน 555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 30-07-2017 23:25:47
โอ๋ๆๆๆ หัวหอม ร้องไห้ใหญ่เลย โอ่นะ โอ๋นะ

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 31-07-2017 01:01:51
ขำกาลิค 5555555555 ร้องจ๊ากเลยขมเอ้ยยยยยย  ที่ซ้อมมาไม่ได้ผล55555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 31-07-2017 09:02:03
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 31-07-2017 09:43:33
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 31-07-2017 10:45:01
โอ๋ๆ กาลิคไม่ร้องนะ

ถึงตัวจะเจ็บอยู่ก็ยังมีเวลามากันซีนคนที่จะมาจีบแม่อีกเนอะ เจ้าหัวหอม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 31-07-2017 23:35:10
หัวหอม น่ารักเกินไปแล้ว มาให้ป้ากอดทีลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 01-08-2017 01:16:04
โอ๊ยยยยยย...กาลิคไม่ได้มาหาหมอยาวๆเลยมั้งเนี่ยลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 01-08-2017 06:02:54
โถๆ เอ็นดูน้องกาลิค
ขนาดเจ็บยังหวงอาขมแทนป๊าภาพเลยอ่ะ
ว่าแต่คุณหมอคิดไม่ซื่อจริงๆใช่มั้ย อย่ามาๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-08-2017 17:17:25
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 01-08-2017 19:18:40
ว้าวครอบครัวสุขสันต์ พ่อ แม่ ลูก แต่ว่า ขมยังไม่ได้เผ็นแม่เต็มตัวน้าาาา  มะไหร่จะโดนภาพกินจ้า จะได้เป็นแม่จริงๆสักที  555. สนุกมากๆเลย ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 01-08-2017 22:53:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Fl2iend ที่ 01-08-2017 23:03:28
ยังอ่านไม่จบ แต่ขัดใจกับการพูดจากับเด็กมาก
เนื่อเรื่องสนุกค่ะแต่พูดกับเด็กไม่เพราะเลยเราพยายามอ่านข้ามคำพูดไปแต่ทนไม่ไหว ขอเม้นหน่อย
เห็นมีเปิดจอง ยังไงแก้คำพูดหน่อยก็ดีนะคะ ไม่น่ารัก และไม่น่าอ่านด้วยค่ะ

หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 02-08-2017 01:36:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-08-2017 21:43:14
ฉีดยาครั้งแรกร้องงอแงไม่พอยังหวงแม่ขมกับคุณหมออีก5555 สงสารก็สงสาร ขำก็ขำ แถมทำงานเข้าแม่ขมอีก :laugh: ป๊าภาพก็ขี้หึงเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 30.7.60} #หน้า 45 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 04-08-2017 18:47:27
หัวหอมของอาขมแสบมากกกก
แอบมีดราม่านิดๆ นี่ลุ้นแทบตาย
ใครเป็นป๊า สุดท้ายนักเขียนก็ไม่ทำร้าน
เราให่เกิดดราม่าอีกรอบหลังตรวจ DNA
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 49 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 04-08-2017 20:30:54
  เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 50

   สุดท้ายแล้ว มื้ออาหารหลังจากฉีดยาของมันก็กลายเป็นเคเอฟซีชุดใหญ่ที่สั่งเอาขึ้นมากินที่คอนโด ทั้งๆที่ผมไม่อยากจะให้มันกินเลยแม้แต่นิดเดียว อีกอย่างไม่อยากจะให้มันคิดด้วยว่าที่มันได้กิน เพราะมันไปฉีดยามา อาขมกับป๊าก็เลยปลอบใจด้วยการให้กินเคเอฟซีแบบนี้  ทั้งๆที่ความจริงมันก็แบบนั้นแหละ ตอนที่นั่งรถมาพอถามว่าอยากจะกินอะไรเดี๋ยวจะพาไปกิน เจ้าตัวเล็กก็บอกแค่สั้นๆว่า ' ไก่เคเอฟซี ' ผมพยายามให้มันเลือกอย่างอื่นที่มีประโยชน์แต่ภาพก็แค่พูดขึ้นสั้นๆว่า

" ให้มันกินเถอะ นานๆที ในวันแบบนี้มันก็ต้องกินของที่อยากจะกินบ้างไม่ใช่เหรอวะ พรุ่งนี้ค่อยไปกินของที่ประโยชน์กันก็ได้ ผ่อนลงบ้าง " คำพูดที่ทำให้ผมทำได้แต่ผยักหน้าตามใจ ก็เห็นด้วยกับมันแหละ ของแบบนี้ก็ต้องได้กินบ้าง เปลี่ยนบรรยากาศ

" โอเค ตามนั้นก็ได้ เคเอฟซีก็เคเอฟซี " พอเสียงตกลงออกมาจากปากผมคนที่เอาแต่กอดผมไว้ก็กอดผมแน่นขึ้นไปอีก หัวหอมหอมแก้มผมไปเต็มฟอด

" กาลิครักอาขมที่สุดเลย "

" แต่ที่ให้กินไม่ใช่เพราะว่า ไปฉีดยามาร้องไห้ แล้วถึงให้กินนะ เพราะไม่ได้กินนานแล้ว เลยจะอนุญาติให้กินเฉยๆ เข้าใจมั้ย " ผมบอกมันก็พยักหน้ารับ " แล้วห้ามกินแป๊ปซี่ด้วย ไม่ให้กิน "

" ไม่กิน จะกินไก่อย่างเดียว " เจ้าตัวเล็กบอกก่อนจะผยักหน้ารับ

    จัดไก่ทอดหอมๆที่มาส่งใส่จาน ผมตักข้าวครึ่งนึงให้หัวหอมพร้อมกับไก่ไม่มีกระดูกชิ้นนึงแล้วก็ไก่กรอบส่วนน่องชิ้นนึง ยื่นขวดซอสมะเขือเทศแบบบีบไปให้มัน อีกคนก็ลงมือกิน

" กินแล้วน้าา "

" จ้า กินเลย " ผมบอกก่อนจะหันไปถามภาพ " ของมึงนี่ข้าวยำไก่แซ่บถูกมั้ย "

" ใช่แล้ว " คนที่กำลังล้างมืออยู่ในครัวบอก ผมเอาเอาข้าวทั้งของมันทั้งของผมใส่จาน ภาพเช็ดมือตัวเองก่อนจะเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว ผมเองก็ด้วย

   นั่งมองไอ้ตัวเล็กตรงหน้าที่กำลังเคี้ยวอย่างมีความสุข จะว่าไปตอนเด็กๆผมก็ชอบกินนะไอ้ไก่เคเอฟซีเนี้ย ปัจจุบันก็ยังชอบอยู่เลย แต่ตั้งแต่มีหัวหอม จากข่าวที่เคยได้ยิน ข้อมูลต่างๆ ทำให้ผมก็ไม่อยากจะให้มันกินเยอะ ไม่อยากจะให้มันติดของพวกนี้เท่าไหร่ แต่ก็ยอมรับนะ ว่าเวลาหัวหอมได้กินของพวกนี้เมื่อไหร่ มันจะกินข้าวได้เยอะมากกว่าทุกวัน

“ นี่ถ้ามีสลัด หรือว่า แกงจืดผักสักถ้วย ก็น่าจะโอเคอยู่นะ ไว้หนหน้าถ้ากินอาขมสั่งสลัดที่ร้านแซนวิชให้กินด้วยดีกว่า "

“ อาขมแบบนี้อร่อย " ไอ้ตัวเล็กบอกก่อนจะยัดเอาไก่ไม่มีกระดูดที่จิ้มกับซอสมะเขือเทศเข้าปากไปเต็มคำ พร้อมด้วยข้าวในจานตัวเอง หยิบไก่ทอดชิ้นสะโพกขึ้นมากัดเข้าไปเต็มคำ พร้อมกับนัตเก็ตแล้วก็เฟรนฟรายต่อเนื่องเข้าไปไม่มีหยุด อร่อยสุดๆฉุดไม่อยู่แล้ว

   ครืน ครืน ครืน

   เสียงโทรศัพท์ที่ดังเข้ามาผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ปากกำลังกัดไก่อยู่ใน ผมหันไปมองโทรศัพท์ที่อยู่อีกฝั่งนึง จำใจลุกเดินขึ้นไปดู ก่อนจะพบว่าเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นเป็นเบอร์แปลกที่ผมไม่ได้บันทึกขื่อไว้

“ ใครวะ " ผมพูดขึ้น ไอ้ภาพมันก็ถาม

“ ใครโทรมาวะ "

“ ไม่รู้วะ เบอร์แปลกไว้ค่อยรับละกัน แดกก่อน " กลับมานั่งแดกข้าวต่อจนเสร็จ ผมจัดการล้างจานทั้งหมด เอาขยะไปทิ้งแล้วกลับมาเช็ดโต๊ะในครัวจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็เดินไปนั่งข้างหัวหอมที่กำลังทำการบ้านอยู่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูจำได้ว่าเมื่อกี้มีเบอร์แปลกๆโทรเข้ามา ผมกดดู " ใครวะ " ถามตัวเองงงๆ แต่ก็ไม่คิดจะโทรกลับแต่อย่างใด คงแค่โทรผิดละมั้ง

“ ตกลงเมื่อกี้ใครโทรมาวะไอ้ขม " เสียงที่เอ่ยถามพร้อมกับประตูห้องที่ปิดลง ภาพใส่ชุดนอนเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูที่เช็ดผมตัวเองอยู่ มันเดินเข้าไปในครัวกดน้ำจากตู้เย็นขึ้นมาดื่ม " ว่าไง ตกลงว่าใคร "

“ ไม่รู้เหมือนกัน กูไม่ได้โทรกลับ "

“ ไอ้หมอนั่นละมั้ง " ภาพว่า ผมก็หันมองมัน นี่มันยังไม่จบอีกเหรอวะ  ผมถอนหายใจออกมา

“ จะมึงบ้าเหรอ เค้าจะไปเอาเบอร์กูมาจากไหนละ "

“ ข้อมูลของกาลิคไง มีเบอร์มึงเขียนอยู่ไม่ใช่เหรอ "

“ มึงจะบ้า นั่นข้อมูลติดต่อทางการแพทย์นะ ไม่ใช่เฟรนชิฟเพื่อนสมัยม.ปลาย ที่แค่จะเห็นเบอร์แล้วจะโทรหากันได้ง่ายๆ เค้าเป็นหมอนะมึง เค้าก็ต้องมีจรรยาบรรณเปล่าวะ " ผมเว้นเสียง " มึงอะเลิกเอาคำพูดของกาลิคมาคิดเป็นจริงเป็นจังได้แล้ว เด็กมันก็พูดไป นี่เข้าใจคำว่า จีบ จริงๆรึเปล่าเถอะ "

" เข้าใจนะ " เจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นบอกผม " อาขม กาลิคเข้าใจคำว่า จีบนะ "

" เข้าใจว่าไง ไหนบอกอาขมหน่อย " อุ้มมันที่นั่งอยู่บนพื้นขึ้นมานั่งบนตักจับมันให้หันหน้าเข้าหากัน ก่อนจะหอมแก้มนุ่มๆไปเต็มฟอด

" จีบก็คือ พอเราชอบใครสักคน เราก็จะไปอยู่ใกล้ๆเค้า ไปชวนเค้าคุย แล้วก็เอาขนมไปให้ แล้วก็เอาลูกอมไปให้ด้วย " เสียงใสๆที่อธิบายออกมา ผมไม่รู้ว่ามันรู้ได้ไงเหมือนกันสำหรับคำนี้ และแน่นอนว่า กูไม่เคยสอนชัวร์ๆ

" รู้จริงนี่หว่า " บอกมันที่ยิ้มกว้างก่อนจะตบอกตัวเอง

" เห็นมั้ย กาลิครู้วววววววอาขม "

" จ้าๆ " พยักหน้ารับมันก่อนจะหันไปหาไอ้ภาพ " ภาพ มึงสอนมันเหรอ "

" จะบ้า ใช่ที่ไหน ไม่เคยเถอะ "

" จริงเหรอวะ "

" อาขม อาภาพไม่สอน กาลิครู้เอง " มือเล็กตบอกตัวเอง " ก็น้องเจ้านายน่ะนะ ชอบน้องญี่ปุ่น คุณครูบอกว่า เจ้านายกำลังจีบน้องญี่ปุ่นอยู่ เพราะว่าเจ้านายน่ะนะ เอาลูกอมกับขนมไปให้น้องญี่ปุ่นทุกวันเลย "

" อ๋ออออออ " พยักหหน้ารับเข้าใจมัน ภาพก็ถามมัน

" แล้วกาลิคละ ไม่มีคนที่ชอบบ้างเหรอ "

" มี! " หันไปพยักหน้าบอกภาพก่อนจะหันมามองผม แล้วกอดผมไว้แน่น " กาลิคก็รักอาขมไง "

" โอ๊ยยยยยยยย รักเหมือนกัน รักที่สุดเลย " กอดมันตอบผมโยกตัวเองไปมา ผมหันไปมองไอ้ภาพที่กำลังแบะปากมองบน หมั่นไส้ในความรักของเราสองคนอยู่ไม่น้อย " หัวหอมดูสิ มีคนอิจฉาความรักของเราด้วย " ชี้ไปที่ไอ้ภาพ หัวหอมก็ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองพลางหัวเราะ ท่าทางน่ารักของมันทำให้ไอ้ภาพที่ยืนอยู่เข้ามานั่งลงข้างผมก่อนจะดึงหัวหอมเข้าไปหอมแก้มแรงๆ

" หมั่นไส้นัก นี่แหน่ะ หอมเลยยยยยย หอมๆ "

" งื้ออออ ป๊าาา ป๊าหอมแก้มกาลิคแรงๆ กาลิคไม่ชอบ " เสียงงอนๆที่เอ่ยบอกเจ้าตัวเล็กเอามือปิดแก้มตัวเองก่อนจะส่ายหน้าไปมา " อย่าทำแรงๆ ต้องหอมเบาๆ "

" หอมยังไงหอมเบาๆ ไหนหอมป๊าหน่อย "

" หอม " จมูกเล็กๆหอมแก้มไอ้ภาพ " หอมเบาๆแบบนี้ "

" หอมเบาๆแบบนี้ " ภาพหอมตาม มันสูดลมหายใจไปเต็มปอด " แก้มเด็กนี่ หอมจัง พุงเด็กจะหอมด้วยมั้ยน้า "
" เด็กคนนี้ไม่มีพุง " โบกมือปฎิเสธไปมา มืออีกข้างก็เอาแต่ดึงเสื้อปิดพุงตัวเองไว้ ท่าทางน่ารักที่ชวนให้เราอมยิ้ม ไอ้ภาพจัดการดึงมันให้นอนลงบนตัก เปิดพุงก่อนจะก้มลงหอมเต็มที่ " งื้ออออ ไม่มีพุง  ป๊าาาา อาขมช่วยด้วย ช่วยกาลิคด้วย ป๊าจะกินพุงกาลิคแล้ว " มือเล็กๆเอื้อมมือมาจับมือที่ก็ดึงมาเข้ามาอุ้มไว้

" แล้วนี่ทำการบ้านเสร็จยัง "

" เสร็จแล้ว "

" แล้วเก็บกระเป๋านักเรียนยัง "

" ยัง " มันว่ายิ้มๆ ก่อนจะดึงตัวเองลงไปยืน จัดการเก็บหนังสือใส่กระเป๋า รวมทั้งพวกอุปกรณ์ ผมมองมันที่เก็บของตัวเองอยู่สักพักไอ้ภาพก็ถามขึ้น

" ขม แม่มึงช่วงนี้เค้างานยุ่งมากเลยเหรอวะ "

" คงงั้นมั้ง ทำไมอะ "

" ก็เปล่า แต่กูไม่เจอเค้านานแล้วอะ ไม่ค่อยเห็นมึงโทรหาเค้าเลยด้วย "  ก็อย่างที่ไอ้ภาพมันบอกนั่นแหละ ผมไม่ได้ติดต่อแม่ของผมนานแล้ว วันก่อนลองถามพี่แก้วพี่ขวัญเค้าก็บอกว่า เค้าไม่เห็นแม่ผมกลับมาที่บ้านเลย เหมือนไม่ได้กลับนานแล้วด้วย ส่วนผมเองก็มัวแต่ยุ่งเรื่องของหัวหอม เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่

“ กูมัวยุ่งๆเรื่องหัวหอมอะ เลยไม่ได้ติดต่อเค้า แต่เค้าก็คงทำงานเหมือนทุกทีนั่นแหละ มึงก็รู้แม่กูบ้างานจะตายไป  อีกอย่างพอเห็นว่ากูโตแล้ว ดูแลตัวเองได้เค้าก็ยิ่งบ้างานมากขึ้นไปอีก "

“ กูว่าเค้าก็บ้างานตั้งแต่มึงยังดูแลตัวเองไม่ได้นั่นแหละ  ตอนประถมมึงมานอนค้างบ้านกูบ่อยจะตายไป แล้วอย่างตอนมัธยมอะ มึงยังบอกเลยว่า แม่มานอนค้างที่บ้านมึงนับครั้งได้ว่าปีนึงมีกี่วัน "

“ ก็นะ " ไม่รู้จะตอบอะไร ไอ้ภาพที่เหลือบมองผมมันเอื้อมมือขึ้นตบไหล่

“ ตอนนี้เรื่องกาลิคก็ไม่มีอะไรแล้วนิ ยังไงก็ติดต่อเค้าไปบ้าง บอกเค้าอย่าทำงานหนักมากเกินไป  มึงเป็นห่วง ก็ว่าไป "

“ แค่คิดว่าจะต้องพูดก็ขนลุกละไอ้สัด " ผมย่นหน้าตัวเองลง ก่อนจะส่ายหน้าไปมา ผมอยู่กับแม่แค่สองคนก็จริงแต่จะให้มาพูดอะไรแบบนั้นก็คงรู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน อย่างมากสุดก็แค่ถามว่า งานเป็นยังไงบ้าง แล้วก็เค้าจะบอกปัดว่า มันโอเค เราตั้งใจเรียนเถอะ แล้วเท่านั้นก็คือจบ เราไม่ใช่แม่ลูกที่อี๋อ๋อกัน แม่ไอ้ภาพกับไอ้ภาพยังดูสนิทกว่าอีกมั้ง

“ อาจจะเป็นคำที่แม่มึงอยากจะได้ยินก็ได้ " ภาพว่า ผมก็ลุกขึ้นยืนถ้าขืนนั่งอยู่แบบนี้มีหวังไอ้เหี้ยนี่บีบบังคับให้ผมโทรไปแน่นอน เพราะงั้นตอนนี้หนีมันก่อนดีกว่า

“ หัวหอม ไปนอนกันดีกว่า พรุ่งนี้ไปโรงเรียนกันนะ " เอื้อมมือไปจับมือมัน จูงมือเข้าไปในห้องนอน ผมก็ได้ยินเสียงไอ้ภาพถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดทิ้งท้าย

“ อย่าลืมโทรไปหาแม่บ้างนะมึง "

“ อาขม อาขมคิดถึงคุณแม่เหรอ " เสียงใสๆ ที่เอ่ยถามผม หัวหอมเดินขึ้นไปนั่งบนเตียงมันเปิดผ้าห่มก่อนจะดึงตัวเองลงนอนแล้วซุกตัวอยู่แบบนั้น

“ ทำไมถามแบบนั้นละ "

“ ก็ป๊าบอกว่า ให้อาขมโทรหาคุณแม่ อาขมคิดถึงคุณแม่เหรอ " ผมยิ้มให้มันนั่งลงบนเตียงข้างเด็กช่างถาม ก่อนจะเอียงตัวลงนอนข้างมัน สบแววตากลมที่มองผมด้วยสายตาสงสัย

“ แล้วหัวหอมคิดถึงหม่ามี๊มั้ย " คำถามที่ทำให้นิ่งไป ผมยิ้มออกมา " ตอบได้ตามที่ใจอยากจะตอบเลย ถ้าคิดถึงก็บอกว่าคิดถึง "

“ ไม่คิดถึงหรอก " หัวหอมบอกก่อนจะส่ายหน้าไปมา " ก็กาลิคมีอาขมอยู่แล้ว กาลิคไม่คิดถึงแม่หรอก  " ยิ้มกว้างกับคำตอบของมันผมดึงมันเข้ามากอด หอมแก้มที่ไม่รู้จักเบื่อนั่นไปเต็มฟอด

   อบอุ่นเหลือเกินสำหรับความรักของเด็กน้อยคนนี้มีให้ผม มือเล็กๆที่คอยกอด แล้วบอกว่ารักผมมากมายขนาดไหน ประโยคที่บอกว่าผมสำคัญที่สุด และเป็นคนเดียวที่เป็นที่หนึ่งในหัวใจ ผมว่ามันต่างกันจากความรู้สึกที่ผมมีให้ภาพนะ สำหรับภาพมันเหมือนกันคนที่คอยอยู่ข้างๆ ในช่วงเวลาที่แย่ ภาพจะแก้ปัญหาแล้วจับมือผมเดินไปตลอด แต่กาลิคเหมือนหน่วยพลังงานที่ทำให้ผมมีแรงลุกขึ้นมาใหม่ในทุกๆวัน รอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ทุกๆอย่างที่ทำอยู่ ผมทำเพื่อใคร เป็นงานที่หนักสำหรับการเลี้ยงดูเด็กสักคน งานที่ไม่มีค่าจ้างเป็นเงิน แต่จ่ายด้วยรอยยิ้มและคำว่าพูดว่า รักผมมากแค่ไหน

“ อาขมก็ไม่ได้คิดถึงแม่หรอก เพราะทุกๆวันอาขมอยู่กับหัวหอม ดูแลหัวหอม อาขมก็คิดถึงแต่หัวหอมแหละ " กอดมันไว้แน่น มือเล็กๆก็กอดกลับ

“ เราคิดถึงกันทุกวันเลยเนอะ อาขม กาลิคก็คิดถึงอาขมทุกวันเลย "

“ อื้ม คิดถึงกันทุกวันเลย "  ลูบผมมันให้เข้าที่ ผมเล่านิทานสั้นๆให้มันฟัง ก่อนที่เจ้าของตากลมจะหลับสนิทไปในค่ำคืนนี้ ดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของมัน ห่มผ้าห่มให้เรียบร้อย ก่อนที่ตัวผมก็หยิบมือถือที่ใส่ไว้ในกางเกงขึ้นมาดู ไล่หาเบอร์ของแม่ ก่อนจะกดโทรออก เสียงรอสายที่ดังอยู่นาน แต่ทว่า มันก็ไม่มีคนรับ " คงจะยุ่งอยู่มั้ง " ไว้ค่อยโทรหาอีกพรุ่งนี้แล้วกัน

..................................................................

   จูงมือหัวหอมเดินอยู่ห้างหลังจากที่ไปรับมันที่โรงเรียน วันนี้เราออกมากินข้าวกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านประจำของเราในห้างใกล้คอนโด แล้วตอนนี้คนที่ยังกินข้าวอยู่คนเดียวก็คือไอ้ภาพและเราก็ปล่อยมันทิ้งไว้ในร้านอย่างงั้น โทษฐานเล่นมือถือจนทำให้กินข้าวช้า แล้วยังมีหน้ามาบอกให้รออีก ตลกเกินไปละ อย่างงี้มันต้องดัดสันดานให้รู้สำนึก

“ อาขม แล้วป๊า จะไม่เหงาเหรอ " หัวหอมเอ่ยถาม ตอนที่ผมดึงรถเข็นแล้วอุ้มมันขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งของเด็ก " ป๊ากินข้าวคนเดียวน่าสงสาร "

“ ไม่เหงาหรอก ก็อยากจะช้าเองทำไมละ นั่นแหละ ดูไว้ เพราะมัวแต่เล่นมือถือ ก็เลยถูกทิ้งให้กินข้าวคนเดียวเลย ตอนกินข้าวเค้าไม่เล่นอะไรกันหรอกนะ กินให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเล่น เข้าใจมั้ย "

“ ครับผม กาลิคจะเป็นเด็กดี ไม่เหมือนอาภาพ อาภาพเป็นเด็กไม่ดี " มันว่า " อาขมบอกว่า อย่าเล่นภาพ กินก่อนนะ แต่ว่า อาภาพก็ไม่เชื่ออาขมเลยเนอะ "

“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับ

“ เด็กไม่ดีเลยยยย "

“ แล้วเด็กดีที่ชื่อกาลิค วันนี้กินข้าวหมดมั้ยเอ่ย " เสียงทักไม่คุ้นหู ทำให้เราหันไปมองก่อนที่ผมจะยิ้มออกมาแล้วก้มลงทักเจ้าของเสียง ส่วนหัวหอมตอนนี้กลับเอื้อมมือมากอดผมด้วยความกลัวเสียแล้ว  " ไหงทำท่ากลัวหมออย่างงั้นละกาลิค "

“ ก็คุณหมอใจร้าย ทำให้กาลิคเจ็บ กาลิคยังจำได้นะ " มันว่าก่อนจะเบือนหน้าหนีอีกคน เราสองคนก็หัวเราะกับท่าทางงอนๆนั้น

“ หว้า แย่จัง ยังไม่หายงอนหมออีก " คุณหมอนายว่าก่อนจะยิ้มให้ผม เค้าเอื้อมมือไปจักกะจี้เอวมันแต่ว่ามือเล็กๆก็ดึงออกมา " ท่าทางจะงอนจริงจัง ทำไงดีละเนี้ย "

“ คุณหมอมาซื้อของเหรอครับ " ผมถามตอนที่เห็นเค้าถือตะกร้าแล้วนั้นก็มีของกินอยู่เยอะแยะไปหมด โดยเฉพาะพวกขนม ใบหน้าคมก้มลงมองของในตะกร้าตัวเองก่อนจะยิ้มแห้งๆ

“ ใช่ครับ มาซื้อขนมไปกินนิดหน่อย ผมเป็นพวกชอบกินขนมน่ะ "

“ เหมือนเด็กคนนี้เลย " ผมว่าก่อนจะชี้ไปที่หัวหอมที่ยังกอดผมไม่ปล่อย

“ แล้วคุณขมมาซื้ออะไรเหรอครับ "

“ ก็มาซื้อของเข้าบ้านทั่วไปน่ะครับ พอดีมาแวะกินข้าว ก็เลยมาซื้อของต่อเลย "

“ อย่างงั้นเหรอครับ " เค้าพยักหน้ารับ เราก็เดินออกไปข้างหน้าพร้อมกัน " ผมชอบแวะเข้ามาซื้อขนมน่ะ ในห้างมีขนมให้เลือกเยอะดีผมชอบ "

“ ถ้าชอบกินขนม ไม่ลองแวะร้านที่ขายขนมญี่ปุ่นที่อยู่ตรงโซนหน้าห้างละ หัวหอมเค้าชอบมากเลยนะ "

“ หัวหอม ? “ คุณหมอนายเอียงหน้างงๆ กับสรรพนามที่ผมเอ่ยถึง

“ อ้อ โทษทีครับ หัวหอมเป็นชื่อของกาลิค ที่ผมใช้เรียกเค้านะ "

“ น่ารักดีนะครับ " เค้าว่าก่อนจะพูดเสียงเบาๆ " เหมาะกับคนตั้งให้เลย "

“ ครับ ? “ หันไปถาม อีกคนก็ยิ้มก่อนจะส่ายหน้า " ว่าแต่น่ารักดี ผมเรียกด้วยมั้ยครับ ว่าไง หัวหอม ให้อาหมอเรียกว่า น้องหัวหอมด้วยได้มั้ย "

“ ม่ายด้าย! ให้อาขมเรียกคนเดียว "

“ ขี้เหนียวจัง " ผมว่า ก่อนจะเข็นรถไปที่ตู้แช่นม ดึงเจ้าตัวเล็กที่กอดรัดไว้แน่นออกก่อนจะก้มลงไปเลือกนม ขึ้นมาสองขวด มีทั้งนมจืดแล้วก็นมรสสตเบอรี่ของหัวหอม " แล้ววันนี้คุณหมอไม่ทำงานเหรอครับ "

“ ทำครับ แต่ยังไม่เข้าเวรน่ะ " พยักหน้ารับเค้า ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมต้องเดินตาม คือผมสังเกตุเห็นว่าเค้าก็ซื้อขนมจนเต็มตะกร้าแล้วนะ แต่ไหงยังมาเดินตามผมอีกวะ เข็นรถเข้าไปในล๊อคขนมผมหยิบขนมเป็นกล่องที่หัวหอมต้องพกไปโรงเรียนทุกวันเอามาใส่ตะกร้า

“ อุ้ย นั่นขนมใครน่ะ " 

“ ของกาลิค " เจ้าตัวเล็กตอบก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบขนมมากอดไว้

“ ดูทำ คุณหมอเค้าไม่แย่งหรอก " ผมว่าก่อนจะหันก้มหน้ายิ้มให้อีกคน " แล้วคุณหมอจะซื้ออะไรอีกรึเปล่าครับ "

“ คงไม่แล้วละ คุณขมละ "

“ ก็คงมีแค่นี้แหละครับ " บอกอีกคนแบบนั้นทั้งๆที่ใจจริงก็อยากจะซื้อมากกว่านี้แหละ แต่ดูเหมือนคุณหมอจะเอาแต่เดินตามตลอดเลย ซึ่งกูไม่ชอบไง มึงไม่ใช่ผัวกู ไม่ต้องมาเดินตามกูก็ได้  สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อแม่งแค่นี้แหละ พรุ่งนี้ค่อยมาซื้ออีกก็ได้วะ

" งั้นก็ไปคิดเงินพร้อมกันเลยมั้ยครับ " ผมบอกก่อนจะเข็นรถเข็นไปเช็คเงิน

“ ครับ " อีกคนพยักหน้ารับ คุณหมอต่อคิวเค้าเตอร์คิดเงินอีกเครื่อง เราที่เสร็จออกมาพร้อมๆกันเลยเดินออกมาจากฝั่งห้างกัน ก่อนที่ผมจะชี้ชวนให้อีกคนดูร้านขนมที่ผมบอกเค้าไว้เมื่อครู่

“ นั่นไงครับคุณหมอ ร้านขนมที่ผมแนะนำ อร่อยนะ หัวหอมชอบมากเลยแหละ " เค้าพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มให้

“ ถ้าเคลมว่าน้องหัวหอมชอบมากงั้นก็ต้องอร่อยมากแน่ๆเลย ไว้คราวหลังผมจะลองดูนะครับ " เค้าว่าก่อนจะย่อตัวลงมองดูเจ้าเด็กน้อยที่ยืนจับมือผมอยู่ มือหนาเอื้อมมือไปหยิบช็อคโกเล็ตดังแบบแพ็คสามห่อ ส่งมาให้หัวหอม " อันนี้หมอให้น้องหัวหอมครับ " มันนิ่งตอนที่อีกฝ่ายบอกแบบนั้น " หายโกรธหมอได้มั้ย หมอไม่ได้ตั้งใจทำให้หัวหอมต้องเจ็บหรอกนะ แต่ว่า ถ้าหมอไม่ฉีดยาหัวหอมก็จะไม่แรงสู้กับเชื้อโรคตัวร้ายในร่างกายตัวเองนะ หมอน่ะ มีหน้าที่ต้องทำให้หัวหอมแข็งแรง เพราะงั้นหมอขอโทษนะ ที่ทำให้ต้องเจ็บ เรา..มาดีกันนะ "

“ คุณหมอง้อแล้ว เด็กดีก็ต้องไม่โกรธคุณหมอนานนะ " ผมก้มลงบอกเจ้าตัวเล็ก ที่ก็เอื้อมมือไปรับช็อคโกเล็ตของคุณหมอไว้ด้วยท่าทางเขินๆ มือเล็กเอื้อมมือกอดขาผมก่อนจะซบหน้าลงไป ท่าทางของมันชวนให้เรายิ้ม " อย่ามัวแต่เขินสิหัวหอม ขอบคุณคุณหมอก่อนนะ แล้วบอกคุณหมอหน่อย ว่าหายโกรธคุณหมอแล้ว "

“ ขอบคุณครับคุณหมอ กาลิคไม่โกรธคุณหมอแล้ว " มันว่าเสียงเบาๆ " แต่ว่าครั้งหน้าห้ามทำกาลิคเจ็บๆนะ สัญญามาก่อน " นิ้วก้อยเล็กถูกยื่นออกไป คุณหมอก็ยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับ

“ สัญญาครับ หมอจะไม่ทำให้กาลิคเจ็บอีกนะ " เค้าว่าก่อนจะขยี้หัวมันแล้วลุกขึ้นเต็มความสูง

“ ดีกันได้สักทีนะครับ " ผมแซว เค้าก็พยักหน้ารับ

“ คุณขมเลี้ยงน้องหัวหอมดีจัง แกเป็นน่ารักนะ ช่างพูดด้วย "

“ ก็น่ารักด้วยตัวเองแกเองนั่นแหละครับ " ผมบอก เวลาใครบอกว่าผมเลี้ยงหัวหอมดี ผมไม่ค่อยรู้สึกแบบนั้นเท่าไหร่ มันมีบางอย่างที่ผมยังทำได้ไม่ดี แต่ว่าเพราะหัวหอมมันเป็นเด็กสอนง่าย พูดอะไรก็ฟัง ขู่มันก็กลัว ดื้อบ้างแต่ก็ไม่ถึงว่าควบคุมกันไม่ได้ แล้วอีกอย่างผมกับภาพจะสอนให้มันมีความคิดเห็นของตัวเองเสมอ ถ้าเป็นความคิดที่ไม่ดีเราจะเบรค แต่ถ้าดีเราก็จะส่งเสริมมัน มันเลยกลายเป็นเด็กที่ใครๆบอกว่า น่ารักแถมยังช่างพูด

“ แต่เด็กก็เหมือนผ้าขาว มันอยู่ที่คนลงสีนะครับ คนบางคนก็สาดสีใส่ แต่บางคนก็ค่อยๆแต้มด้วยความตั้งใจ แล้วผมว่า สำหรับหัวหอมที่คุณขมเลี้ยง ก็คงเป็นแบบหลังแหละ "

“ เขินนะเนี้ย คุณหมอ " ผมทำทีเป็นเขิน ก่อนจะหัวเราะให้เค้า

“ งั้นผมไปแล้วนะ เจอกันครับ "

“ ครับ เจอกัน " พยักหน้ารับคำลานั่นก่อนจะก้มลงบอกคนที่ยื่นอยู่ข้างๆ " หัวหอมบอกลาคุณหมอหน่อยเร็ว "

“ คุณหมอบ๊ายบาย " มือเล็กโบกมือลา  เค้าก็โบกมือกลับ ขาของร่างสูงที่กำลังเดินออกไปแต่จู่ๆก็หยุดก่อนจะหันกลับมาหาผมอีกครั้ง

“ คุณขมครับ "

“ ครับ "

“ คือผมกลัวจะไม่โชคดีแบบนี้อีก " เค้าว่าก่อนจะก้มหน้าลงยิ้มๆ " คือเมื่อวานน่ะมีเบอร์แปลกๆโทรไปหาคุณใช่มั้ยครับ " เค้าถามผมก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะพยักหน้ารับ .

“ แล้ว คุณหมอรู้ได้ยังไง..”

“ ก็นั่นเบอร์ผมเองครับ " ทุกอย่างเงียบ ผมเองตอนนั้นก็ได้แต่นิ่ง คุณหมอยิ้มก่อนจะก้มหน้าลงบอกลาผมอีกครั้ง " ไว้ผมจะโทรไปหาใหม่นะครับ " ร่างสูงมที่เดินออกไป ผมที่ตอนนั้นก็ได้แต่นิ่งมองดูแผ่นหลังของเค้าด้วยความงุนงน ปากที่ได้แต่พูดเสียงเบาๆออกมา

“ นี่มันอะไรกันวะ " คุณหมอที่ไปหาเบอร์ผมแล้วโทรมาหา แถมวันนี้พอเจอกันก็มาซื้อของใกล้ๆ แล้วไหนจะมาง้อหัวหอมทั้งๆที่จริงเค้าก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้น  " ไม่เข้าใจเลย "

" อาขมไม่เข้าใจเหรอ แต่กาลิคเข้าใจนะ! “ เสียงใสๆว่า " ก็คุณหมอชอบอาขมไง คุณหมอกำลังจีบอาขมอยู่ แค่นี้อาขมก็ไม่เข้าใจเหรอ " ผมหันมองเจ้าตัวเล็กที่พูดออกมาก่อนจะยิ้มกว้างแล้วหันไปมองอีกทางที่มีไอ้ภาพเดินมา หัวหอมในตอนนั้นปล่อยมือที่จับมือผมอยู่ออกก่อนจะวิ่งไปหา เจ้าตัวแสบตะโกน " ไปฟ้องป๊าดีกว่า "

“ เฮ้ยยยยยย หัวหอม! “ ผมจะคว้ามือมันไว้ไม่ทันแต่ไม่ทันแล้ว มันที่วิ่งออกไปในตอนนั้นกอดเข้าที่ขาไอ้ภาพ ก่อนจะพูดเสียงใสแจ๋ว

“ ป๊าาาาา กาลิคมีอะไรจะเล่า มีคนมาจีบอาขมแหละ "  ชิบหายแล้ว!!! หยุดเลยนะเว้ย ไอ้ตัวแสบ

...............................................................

ฉันว่า พวกแกสองคน ควรเลิกเลี้ยงกาลิควะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
นี่มันครั้งที่สองแล้ว ที่เอาเรื่องของป๊าไปบอกอาขม แล้วก็เอาเรื่องอาขมไปบอกป๊า ไปบอกคิดเอง เออเอง
เหมือนวางระเบิด ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินออกมา ปล่อยป๊ากับอาขมจัดการกันเอาเอง  นางร้ายยยยยยยยยย แสบจริงงง
หยิกแก้มมมมม 
แล้วทุกคนคิดว่าไง คิดว่า หมอจีบอาขมมั้ย #มองอ่อน
อ้าว.. บางทีเค้าอาจจะมาจีบพี่ภาพก็ได้ แต่เข้าทางขมไง เห็นขมเป็นเพื่อนสาว ก็เลย แบบ แกๆ เพื่อนแกชื่อไรติดต่อให้เราหน่อย
นิยายมันต้องมีหักมุมนะ แกไม่เคยอ่านเหรอ #มองฟ้า
โอเคคค เจอกันตอนหน้านะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
สุดท้ายนี้ ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตเตอร์ ฝากแชร์ ในเพจ fb ด้วยเด้อออออ
และ สุดท้าย ของสุดท้ายนี้ นิยายเรื่องนี้ เปิดจองแล้วววววววววววววววววว
ของแถมเพียบบบบบ โอนเงิน 50 คนแรก ได้ การ์ดขอบคุณน้องหัวหอมด้วยนะคะ #หัวหอมมองอ้อนๆ  :monkeysad:
รายละเอียดตามภาพ ~ ~ ~   :impress2:

(http://www.mx7.com/i/23d/qlnqud.png)(http://www.mx7.com/i/2c4/5aeBvh.jpg)
........................................
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 04-08-2017 20:47:07
หึ ๆ ได้เวลาง้อบนเตียงแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 04-08-2017 22:22:03
ตูมมมมมมมมมม
หัวหอมมมมมมม
เด็กขี้ปั่น 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 04-08-2017 22:41:48
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 04-08-2017 22:50:22
หัวหอมผู้เก็บรายละเอียดได้อย่างดี ซวยแน่ขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 05-08-2017 00:46:23
คงจะต้องพลีกาย สังเวยความหึงของอิภาพล่ะงานนี้ ขมเอ๋ย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 05-08-2017 09:59:25
กาลิคร้ายมากกกก55555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 05-08-2017 11:23:49
หัวหอม หนูอัพเลเวลความร้ายขึ้นเยอะเลย 55555 ทำไมยิ่งร้ายยิ่งน่ารัก

ช่วงบทสนทนา ที่ไปทิ้งภาพกินข้าวคนเดียว ทำไมหัวหอมกลับไปเรียก อาภาพ ไม่เรียกป๊า ล่ะค่ะ พิมพ์ผิดหรือเปล่าค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-08-2017 13:51:51
หัวหอมน่ารัก~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 05-08-2017 18:06:27
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 05-08-2017 20:34:18
แสบจริงๆ เลยน้าาาหัวหอม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 06-08-2017 01:36:02
ี้ร้ายนะลูก~~  :hao7:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 06-08-2017 09:09:25
หัวหอมเอ๊ย แสบจริงๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 50 - 4.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 06-08-2017 20:08:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 06-08-2017 20:30:22


เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 51

“ ป๊าาาาา กาลิคมีอะไรจะเล่า มีคนมาจีบอาขมแหละ " เจ้าตัวแสบกอดเข้าที่ขาไอ้ภาพ ร่างสูงที่กำลังยืนอยู่หน้าร้านอาหารก็ก้มลงมองหน้ามันก่อนจะขมวดคิ้วงงๆ ราวกับว่าเสียงของหัวหอมที่พูดนั้นมันได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่

“ ว่าไงนะ ขออีกที "

“ ไม่มีอะไรหรอก " ผมกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาบอกมันหอบหายใจเบาๆ ก่อนจะชี้ชวนให้ไปสนใจอย่างอื่น " เรากลับบ้านไปอาบน้ำ แล้วดูการ์ตูนกันดีกว่ามั้ย "

“ อะไรกันวะ " ภาพว่า มันหันไปมองหัวหอม " เมื่อกี้พูดอะไร ได้ยินว่ามีอะไรจะเล่า "

“ ค่อยไปเล่ากันที่บ้านเถอะน่า ไปๆ กลับกันได้แล้ว " ผมเอื้อมมือไปจับหัวหอมหมายจะดึงมันเข้ามาอุ้ม เพราะดูท่าทางว่าถ้าให้มันอุ้มระหว่างทางไอ้ภาพก็ต้องถามไอ้ตัวแสบเสียเสร็จสรรพแล้วหลังจากนั้น หายนะ มันก็จะเป็นของกู   ผมรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้คุ้นๆคลับคล้ายกับว่า มันเพิ่งเคยเกิดขึ้นมากับ ไอ้ภาพ เหมือนกัน และในจุดนี้ กูก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกของมันละ

“ ป๊าาาาา ป๊าฟังกาลิค " มันดึงคอไอ้ภาพให้เข้ามาใกล้ มือเล็กๆป้องไว้ที่หูก่อนจะกระซิบ แต่เป็นเสียงกระซิบที่เบาเอามากๆ มากจนผมยังได้ยิน และคิดว่าคนที่เดินไปเดินมาแถวๆนั้นก็คงได้ยิน " มีคนมาจีบอาขมแหละ "

“ ใครอะ " ไอ้ภาพถาม ในตอนนั้นผมก็ถอนหายใจออกมา

“ คุณหมอนาย คุณหมอคนที่ทำให้กาลิคเจ็บ เค้ามาจีบอาขมเมื่อกี้ " มันว่าก่อนจะหันมามองผมที่มองมันด้วยสายตาดุๆ ก่อนที่เจ้าตัวแสบจะหันกลับไปซบที่ไหล่คุณพ่อตัวเองทันที เพื่อหนีความผิด

“ จริงๆเลย " พูดเสียงเบาๆออกไปไอ้ภาพก็หันมามองด้วยสายตานิ่งๆ

“ เรื่องจริงสินะ "

“ เค้าไม่ได้จีบกูเฟ้ยยย มึงไปฟังอะไรไอ้หัวหอมมัน มันเป็นเด็ก " ผมว่า

“ กาลิคไหนบอก ป๊า ไอ้คุณหมอนั่นพูดว่าอะไรบ้าง " มันดึงลูกตัวเองให้หันมาเผชิญหน้าเพื่อถามไถ่กัน แต่กาลิคที่เงียบอยู่แบบนั้นมันทำท่าคิด

" อื้มมมมม "

" ถ้าบอกเดี๋ยวซื้อหนมให้กินนะ " มันเอาขนมเข้าล่อ

" มึง อย่าทำให้หัวหอมเสียนิสัย ทำไมต้องเอาขนมไปล่อมันแบบนั้น เดี๋ยวทีหลังจะทำอะไรก็ต้องใช้ขนมล่อหรอก " ผมว่า แต่อีกคนก็หาได้สนใจไม่ ตอนนี้มันมีเรื่องที่ไอ้ภาพอยากรู้มากกว่าจะมาสนใจเรื่องหยุมหยิมแบบนั้น โดยเฉพาะเรื่องของหมอนายที่หัวหอมบอกว่าเข้ามาจีบผม

" ว่าไงครับ "

" คุณหมอบอกว่า คุณหมอโทรเข้ามาหาอาขมแหละ แล้วก็บอกว่าจะโทรเข้ามาหาอาขมใหม่นะ "

“ โทรเข้ามางั้นเหรอ " ภาพหันมาเหลือบผม " แล้วไงต่ออีก "

“ คุณหมอบอกว่าจีบอาขม "

“ อันนี้หมอเค้าไม่ได้พูดนะ " ผมบอกก่อนจะชี้หน้ามัน " เอาความคิดของตัวเองมาใส่คำพูดของคนอื่นแบบนี้ได้ไง ไม่น่ารักเลย "

“ ก็คุณหมอจีบอาขม "

“ คุณหมอไม่ได้พูดว่าจะจีบ " เถียงมันกลับอีกคนก็ทำหน้ามุ่ย " หัวหอมก็แค่คิดไปเองว่าเค้าจะจีบ เราต้องพูดเรื่องที่คุณหมอเค้าพูดกับอาขมจริงๆสิ ไม่ใช่แต่งเรื่องขึ้นมา "

“ งื้อออออออ งั้น งั้นคุณหมอไม่ได้พูดก็ได้ แต่ว่ากาลิครู้นะ ว่าคุณหมอจีบอาขม " มันหันไปบอกภาพอีกคนก็พยักหน้ารับ " แล้วก็คุณหมอก็ให้ช็อคโกเล็ตอันนี้กับกาลิคด้วยป๊า คุณหมอบอกว่าให้กาลิคดีกับคุณหมอ คุณหมอไม่ได้ตั้งใจทำให้กาลิคเจ็บ แล้วคุณหมอก็บอกว่าขอโทษ "

“ เหรอ แล้วมีอะไรอีก "

“ อื้มมมมมมม " หัวหอมมันทำท่าคิด " ไม่มีแล้ว มีแต่เมื่อกี้คุณหมอเข้าไปเดินซื้อของกับอาขมแล้วก็กาลิคด้วย คุณหมอเดินข้างอาขมตลอดเลย " ปากยื่นปากยาวฟ้องแบบละเอียดก่อนจะซบลงที่ไหล่ของไอ้ภาพ " ป๊าาา ซื้อหนม "

“ ได้เลย " ร่างสูงว่าแบบตามใจ มันย่อตัวลงจูงอีกคนไปที่ร้านขายขนมญี่ปุ่นร้านประจำ ถอนหายใจออกมาเซ็งๆกับการกระทำนั้นของมัน

“ คือนอกจากที่กูต้องมานั่งแก้ตัวเรื่องคุณหมอแล้ว ยังมีเรื่องไอ้หัวหอมที่มึงสอนมันผิดๆให้กูแก้อีกเหรอวะ " บ่นออกมาเบาๆ ผมยืนมองไอ้หัวหอมเลือกขนมอยู่สองกล่อง ก่อนจะเดินยิ้มแฉ่งมีความสุขออกมากับไอ้ภาพ

“ อาขม ป๊าซื้อขนมให้กาลิคสองกล่องเลยยย " มันชูถุงให้ผมดู ที่ก็พยักหน้ารับก่อนจะยิ้มให้มัน ย่อตัวลงตรงหน้าเด็กน้อย

“ แล้วรู้มั้ยว่าทำไมป๊าถึงซื้อให้ "

“ รู้ววววว " มันบอก " ก็เพราะว่ากาลิคบอกเรื่องคุณหมอกับป๊าไง "

“ ผิดแล้วแหละ ถึงไม่บอกป๊าก็จะซื้อให้อยู่แล้ว มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่หัวหอมบอกหรือว่าไม่บอกป๊าหรอกนะ ป๊าซื้อให้เพราะว่าเห็นว่าพรุ่งนี้หัวหอมจะได้มีขนมอร่อยๆไปกินกับเพื่อนๆที่โรงเรียนยังไงละ " ใบหน้าน่ารักขมวดคิ้วน้อยๆตอนที่ผมบอกแบบนั้น มันเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด และมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองตอบออกมาก่อนหน้า ว่ามันต้องคิดถูกต้องแล้ว เพราะป๊ามันก็พูดเองว่าเป็นแบบนั้น    

   แม้จริงๆความคิดหัวหอมจะถูกต้องแล้ว แต่จะสอนให้มันคิดแบบนั้นก็คงไม่ได้ ผมอยากจะให้มันเป็นเด็กที่ถามอะไรก็ตอบ ไม่อยากจะตอบก็บอกเหตุผลที่ไม่อยากจะตอบออกมา ไม่ใช่ว่าต้องเอาอะไรมาล่อ ถึงจะยอมบอก เพราะถ้าเป็นแบบนั้น มันจะกลายเป็นเด็กหัวหมอที่ฉลาดแกมโกงไปหน่อย ซึ่งผมก็ไม่ชอบที่ให้มันเป็นเด็กแบบนั้น

“ แต่ว่าป๊า ป๊าก็บอกนะ ว่าป๊าจะซื้อให้กาลิคถ้ากาลิคบอก "

" ก็เพราะว่าป๊าจะซื้อให้อยู่แล้ว เลยพูดออกมาแบบนั้น ถ้าไม่ซื้อให้ก็ไม่พูดหรอก " ผมบอก หัวหอมก็เงยมองหน้าพ่อมัน

" จริงเหรอป๊า " แววตากลมๆถามคนเป็นพ่อ ที่เหลือบผมด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ แน่นอนมันกำลังงอนผมอยู่ แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้ก็ต้องแยกกันนะ

" จะโกรธกูก็โกรธไป แต่เรื่องของหัวหอมอย่าเอาเข้าไปยุ่งด้วยนะ หัวหอมไม่เกี่ยว จะให้มันมานิสัยเสียเพราะมึงโกรธกู กูจะตบมึงให้ คราวนี้นอกจะไม่ง้อแล้ว มึงนั่นแหละที่ต้องมาง้อกู " ภาพเบือนหน้าหนีตอนผมบอก ก่อนจะก้มลงมาบอกไอ้ตัวเล็กที่มองมันอยู่

" ใช่ครับ ป๊าจะซื้อให้อยู่แล้วแหละ ไม่พูดออกมาป๊าก็ซื้อให้นะ "

" เหรอครับ " มันว่าเสียงอ่อน ก่อนจะพยักหน้ารับเข้าใจ มือเล็กๆที่เอื้อมมาจับมือผมก่อนจะเงยหน้ามอง " อาขมๆ ถ้าผู้ใหญ่จะถามอะไรก็ต้องบอกใช่เปล่า "

" ใช่แล้ว แต่ถ้าเราไม่อยากจะบอก ก็บอกเหตุผลเค้าไปว่าทำไมไม่อยากจะบอก เช่น เขิน  ไม่อยากบอก หรือว่า เป็นความลับ อะไรแบบนี้แหละ "

" ถ้าทำแบบนั้น ก็จะเป็นเด็กดีใช่มั้ยครับ "

" ใช่แล้ว เป็นเด็กดีแล้วก็น่ารักมากๆเลยแหละ "

“ งั้นกาลิคจะเป็นเด็กดีครับ " ยิ้มกว้างให้มัน ผมอุ้มมันขึ้นแล้วกอดไว้แน่น อยากจะโกรธมันอยู่หรอกที่มันพูดเรื่องคุณหมอให้ไอ้ภาพฟัง แต่แววตาน่ารักๆที่จ้องผมอยู่ตอนนี้ ก็ทำได้แค่ถอนหายใจออกมาปลงๆ แล้วฟัดแก้มมันไปเต็มฟอดทั้งสองข้างก็เท่านั้นแหละ

   เดินขึ้นมาถึงห้องด้วยความเงียบไม่มีเสียงของไอ้ภาพเลยระหว่างทางที่เราเดินมาถึงบนห้อง เปิดประตูหัวหอมที่วิ่งเข้าไปนั่งที่โซฟาจัดการเอาขนมใส่กระเป๋านักเรียน ส่วนไอ้ภาพก็เดินไปที่ห้องของตัวเองปิดประตูลงเสียงไม่เบานัก

“ ยังเหมือนเดิมทุกที " บ่นออกมาเบาๆ ตอนที่เห็นท่าทางโกรธของมันแบบนั้น  เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ถ้าไอ้ภาพโกรธผมมากๆมันเดินหนีเข้าไปในบ้าน ซุกตัวอยู่คนเดียวไม่ยอมมาเล่นด้วย รอให้ผมไปง้อ ถึงจะยอมออกมา ผมเคยด่ามันหลายทีว่าเป็นการกระทำที่โคตรตุ๊ด แต่ทว่ามันก็ยังทำอยู่ ก็ไม่ได้ใส่ใจในคำด่าของผมแม้แต่น้อย

“ อาขม ป๊าโกรธอาขม " หัวหอมเอ่ยบอก ผมก็ยกยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกคน

“ รู้ด้วยเหรอ "

“ รู้วววว " มันลากเสียงยาวก่อนจะเดินมากอดเอวผมไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นบอก " ไม่เป็นไรนะอาขม โอ๋ๆนะ เดี๋ยวป๊าก็หายโกรธอาขมนะ "

“ แล้วเพราะใครกันหว้า ที่ทำให้ป๊าโกรธอาขม " ทำทีเป็นเหล่มันอีกคนก็ยิ้มเขินก่อนจะค่อยๆยกมือเล็กๆขึ้นมา

“ กาลิคเอง " ไอ้ตัวเล็กว่า " แต่ว่าก็เด็กดีต้องพูดความจริง อาขมสอนนน " ปากยื่นปากยาวบอกผมด้วยท่าทีน่ารักแต่ก็น่าหมั่นไส้ ผมนั่งลงบนโซฟาดึงมันขึ้นมานั่งตักก่อนจะหอมแก้มมันไปเต็มฟอดด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ มึงเนี้ยยย มันน่ารัก "

“ อาขม แล้วอาขมก็ไม่โกรธเด็กดีคนนี้ใช่เปล่า " ชี้ที่ตัวเองผมหลุดยิ้มก่อนจะถอนหายใจออกมา คือที่พูดมาสรุปมันกลัวผมโกรธถูกมั้ย หัวหมอซะจริง

“ ไม่โกรธหรอก ก็พูดความจริงนี่นะ " แม้จะเป็นความจริงที่อยากจะให้โกหกก็เถอะนะ พอคิดว่าเดี๋ยวพอจัดการไอ้หัวหอมเสร็จก็ต้องไปง้อไอ้ภาพ ก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวผมจะง้อมันยังไง ผมถอนหายใจออกมาจุ๊บลงข้างแก้มของคนในอ้อมกอด หัวหอมก็ถาม

“ แล้วอาขม อาขมไม่ไปง้อป๊าเหรอ "

“ ง้อสิ " ผมบอกก่อนจะก้มหน้าลงมองมัน ทำสีหน้าหนักใจใส่อีกคนก็ทำหน้าเศร้าแสดงความห่วงใยตอบกลับมาทันที " แต่ไม่รู้จะง้อยังไงดีนะสิ หัวหอมช่วยคิดหน่อย " แววตากลมที่ทำท่าคิดใบหน้าน่ารักนั่นเอียงไปมาดูน่าเอ็นดูจนผมได้แต่แอบยิ้ม ทำไมน่ารักขนาดนี้ก็ไม่รู้ เหมือนตุ๊กตา เหมือนอะไรสักอย่างที่น่ารักมากๆ อยากจะหอมอยากจะกอดทั้งวัน

“ อื้มม คิดออกแล้ว " หัวหอมว่าก่อนจะยิ้มกว้างให้ผม " อาขมก็เข้าไปหาป๊าแล้วก็บอกว่า อาขมขอโทษ แล้วก็กอดป๊า แล้วก็หอมแก้ม แบบนี้ " มือเล็กๆเอื้อมมือมากอดคอผมก่อนจะหอมแก้มไปเต็มฟอด " พอทำแบบนี้แล้วก็ยิ้มหวานๆ ป๊าก็จะหายโกรธ "

“ โหยยย ทำแบบนั้นแล้วจะหายโกระจริงอะ "

“ จริง " มันพยักหน้ารับแบบมั่นใจ

“ แล้วเพราะอะไรหัวหอมถึงมั่นใจอะ "

“ ก็เพราะว่า..” ลากเสียงคิดอยู่สักพักผมก็ตอบขึ้นมา

“ เพราะว่าหัวหอมทำบ่อยๆ เวลาที่ป๊า หรือว่าอาขมโกรธ ใช่มั้ยละ " แซวมันยิ้มๆอีกคนก็ส่ายหน้าไปมาก่อนจะดึงตัวเองเข้ามาซุกผม " ฮั่นเน่ เรารู้แล้ววว "

“ งื้ออออออ อาขมม่ายช่ายยย " มันว่าก่อนจะบี้หน้าไปบนเสื้อผม " เพราะว่า เพราะว่า "

“ เพราะว่าอ้อนให้คนอื่นหายโกรธบ่อยๆ "

“ ม่ายช่ายยยยย อาขมแกล้ง ม่ายช่ายสักหน่อย กาลิค กาลิคแค่ไม่อยากจะให้อาขมกับป๊าโกรธกาลิค  อยากจะให้รักกันรักกัน ถ้า ถ้าอาขมโกรธ ถ้าป๊าโกรธ ก็จะไม่พูดกับกาลิค จะไม่กอด แล้วก็จะทำหน้าแบบนี้ " มันทำหน้ามุ่ยๆเวลาโกรธให้ผมดู ท่าทางที่ทำให้ผมหลุดหัวเราะ " แล้วทั้งวันก็จะไม่มีความสุข แต่ถ้าเราไม่โกรธกันทุกวันเราจะมีความสุขม๊ากมากนะ "

" อย่างงั้นเหรอออ " ผมเสียงยิ้มให้มัน

   ก็คงจริงของเจ้าตัวเล็กนั่นแหละ แค่โกรธกันไม่กี่ชั่วโมงรอบตัวที่มีก็ดูไม่มีความสุขแล้ว เทียบกับตอนที่เราไม่โกรธกันไม่ได้หรอก ตอนนั้นถึงห้องจะเงียบแต่ใจมันก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรขนาดนี้ แต่จะให้ไปง้อยังไงวะ ผมเองก็ง้อคนไม่ค่อยเป็น จะให้ทำแบบที่ไอ้หัวหอมแนะนำก็คงไม่ใช่ ผมไม่ได้ตัวเล็กเหมือนมันสักหน่อย ขืนไปนั่งตักไอ้ภาพ ไอ้ภาพขาหักพอดี ไม่ก็โดนถีบออกมาก่อน

   จัดการอาบน้ำแล้วพาเจ้าตัวเล็กเข้านอน ดึงตัวเองขึ้นมาจากเตียงตอนที่หัวหอมหลับปุ๋ยไปแล้ว ยิ้มจางๆให้ไปหน้าน่ารักนั่น ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ก่อนที่ผมจะพาตัวเองไปอาบน้ำ แล้วเดินออกมานอกห้อง แต่ก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ ตอนที่เห็นร่างสูงที่กำลังงอนผมยืนกินน้ำอยู่ในครัว มันเหลือบมามองผมก่อนจะหันไปทำเป็นไม่สนใจอะไร

“ ไอ้คนขี้งอน " ผมพูดเสียงเบาๆ แต่อาจเพราะห้องมันเงียบมากอีกฝ่ายก็เลยได้ยิน ภาพบอก

“ กูไม่ได้งอน "

“ เหรอออออออ " ลากเสียงยาวๆ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้มัน " แล้วไอ้ท่าทางที่เดินเข้าไปให้ห้อง ไม่ยอมคุยกับกู พูดด้วยก็ทำหน้าเหวี่ยงๆอย่างตอนนี้มันคือเหี้ยไรวะ "

“ คือกูหึงมึง " สั้นๆแต่ได้ใจความ มันหันมามองผมที่ก็นิ่งอยู่แบบนั้น สบสายตาคมของมันที่มองผมนิ่งๆ แววตาที่กำลังบอกถึงความรู้สึกหงุดหงิดและกังวล

" นี่อย่าบอกนะว่ามึงเชื่อหัวหอม " ผมถามอีกคนก็ขมวดคิ้วน้อยๆ เหมือนผมถามอะไรโง่ๆออกไป

" มันก็เรื่องจริงไม่ใช่เหรอ มึงเจอกับเค้า ไปเดินชอปปิ้งด้วยกัน แล้วเค้าก็จีบมึง "

" เค้าไม่ได้จีบกู " ผมเถียง " เออ มันก็จริงอยู่ที่กูเจอเค้า แต่เราไม่ได้เดินชอปปิ้งด้วยกัน เค้าเดินตามกูมาเอง กูเข้าไปซื้อของในห้างกับหัวหอมแล้วบังเอิญเจอเค้า กูก็ทักทายกันตามประสาคนรู้จัก แล้วจากนั้นคุณหมอเค้าก็แกล้งแซวไอ้หัวหอมมัน แต่พอกูเดินออกไปซื้อของทางอื่น เค้าก็เดินตามมา แล้วมึงจะให้กูพูดว่าไง ออกไป อย่ามาอยู่ใกล้ๆกู อย่ามาเดินตามกู อย่างงั้นเหรอ "

" เออ " มันตอบรับเสียงหนัก

" กูเป็นคนมีมารยาทพอ ไอ้สัด " ถอนหายใจบอกมัน อีกฝ่ายก็ยังนิ่ง " แล้วเรื่องช็อคโกเล็ตที่เค้าให้ไอ้หัวหอม ก็แค่หมอเค้าเอ็นดูมัน เลยง้อมันไม่อยากจะให้มันโกรธ "

" แล้วมันหน้าที่ของหมอเหรอวะ ที่ต้องมาตามง้อผู้ป่วยเด็กที่โกรธตัวเองเรื่องฉีดยาจนทำให้ร้องไห้ เค้าเพิ่งเคยฉีดไอ้กาลิคร้องไห้คนแรกรึไง กูว่าคงไม่ใช่มั้ง เด็กโดนฉีดยารายไหนก็ร้องไห้กันทั้งนั้นอะ แล้วหมอเค้าไม่ต้องตามง้อไปทุกคนเลยรึไง " ภาพว่าเสียงดังก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา " กูว่า ไอ้กาลิคก็แค่ข้ออ้างมากกว่าละมั้ง คงจะอยากมาจีบมึงมากกว่า "

“ แล้วทำไมต้องจีบกูวะ รู้ได้ไงว่ากูเป็น " ผมถาม อันนี้อยากรู้มากเลย คือเมื่อก่อนกูใช้ชีวิตแบบนี้ไม่เห็นมีใครมาสนใจ พอตอบตกลงเป็นแฟนไอ้ภาพบุ๊ปก็มีผู้ชายเข้ามาจีบ ทำไมวะตอนนี้หน้าผากกูมันขึ้นป้ายอะไรเหรอ ทำไมถึงรู้กัน หรือหูกูดำข้างขาวข้าง เค้าเลยรู้ " เค้าอาจจะแค่ชวนกูคุยเพราะเห็นว่ากูเป็นผู้ปกครองไอ้หัวหอมก็ได้ แล้วไอ้หัวหอมที่เอาแต่โกรธเค้าแบบนั้น ต่อไปถ้าเข้าไปตรวจอีกเค้าก็ทำงานยาก มันก็จริงที่เค้าอาจจะไม่ใส่ใจเด็กทุกคน  แต่มึงหัวหอมมันอยู่ตรงหน้าเค้า เค้าก็คงไม่ละเลยเปล่าวะ "

" แล้วมันโทรมาหามึงทำไม " ภาพถามคำถามใหม่ คำถามที่ทำให้ผมถอนหายใจออกมา คืนนี้คงเถียงกันไม่จบแน่ๆสัด

" กูจะไปรู้รึไง "

" ไหนมึงบอกว่าหมอเค้ามีจรรยาบรรณไม่เอาเบอร์ติดต่อทางการแพทย์ของผู้ป่วยมาโทรส่วนตัว แล้วนี่คือเหี้ยอะไร "

“ ก็อาจจะโทรมาถามเรื่องไอ้หัวหอมก็ได้ ว่าแพ้ยาที่ฉีดไปรึเปล่า "

“ งั้นบล๊อคเบอร์แม่งไปเลยเพราะกาลิคไม่แพ้ " มันว่าก่อนจะยื่นมือออกมาตรงหน้าผม

“ อะไร "

“ เอามือถือมึงมากูจะบล๊อคเบอร์มัน "

“ เรื่อง!" ผมตีมือมันให้ตกลง " มึงอย่ามาไร้สาระ ยังไม่รู้เลยว่าเค้าโทรมาหาเรื่องอะไรก็จะไปบล๊อคเบอร์เค้าแล้ว ถ้าเค้ามีเรื่องสำคัญโทรมามึงจะทำยังไง เบอร์ที่ให้ติดต่อเรื่องไอ้หัวหอมก็มีอยู่เบอร์เดียว "

“ แล้วมันจะมาติดต่อมึงเรื่องอะไร " ภาพถาม " ต้องติดต่อเองเลย พยาบาลไม่มีเหรอ โทรศัพท์โรงพยาบาลงี้ คุณหมอใส่ใจคนไข้จังวะ โทรมาหาเองเลย อีกอย่างกาลิคมันจะมีอะไรให้หมอแม่งต้องติดต่อมาเองวะ ยกเว้นว่า อยากจะชวนแม่ของไอ้กาลิคแบบมึงไปกินข้าวแหละมั้ง "

“ มึงแม่ง..คิดเหี้ยอะไรแง่ลบไปหมดเลย "

“ แล้วมันมีมุมไหนให้กูคิดแง่บวกบ้างละ " ร่างสูงมองผมนิ่งๆ " มึงว่ามาสิ แง่บวกที่มึงอยากจะให้กูคิด มันมีอะไรบ้าง คุณหมอโทรมาถามอาการงี้เหรอ เพื่อ ? ทำไมไม่ฉีดยาเสร็จแล้วรอดูอาการแพ้ ทำไมต้องโทรมาทีหลัง ทำงานสะเพร่าเหรอ รึยังไง " มันเว้นเสียงเหมือนให้ผมคิดตาม " แล้วแง่บวกอะไรอีกดี เดินตามมึงเข้าไปซื้อของในห้างต้อยๆ เฟรนลี่มากเหรอมึง ผูกมิตรผู้ปกครอง นี่หมอหรือขายประกัน คุณครูกาลิคเค้ายังไม่ติดต่อมึงส่วนตัวเลย ไหนละแง่ดีของมึงที่ให้กูคิด คิดออกอย่างเดียวแหละ มันจีบมึง "

“ งั้นก็ให้รู้แน่ๆ ว่าเค้าเข้ามาจีบก่อนเถอะแล้วค่อยบล๊อคเบอร์เค้า เรายังไม่รู้ว่าเค้าโทรมาทำไม เราก็ไปตัดสินอะไรไม่ได้เปล่าวะ "  เหมือนไปกล่าวหาเค้าทั้งๆที่มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ และเป็นทางเราที่คิดมากกันไปเอง คนบางคนก็แค่อาจจะอยากมาเป็นเพื่อนด้วยก็ถมเถไป

“ ไม่ มึงบล๊อคเลยกูไม่ไว้ใจมัน ให้มันมาโทรมาคุยกับมึง กูไม่ชอบ มันเป็นใคร จะอยากโทรมาหาเมียคนอื่นเพื่อ ? “
 
" แล้วทำไมมึงแม่งต้องพูดว่ากูเป็นเมีย มึงได้เต็มปากขนาดนั้นวะ ยังไม่ได้มีอะไรกันเว้ย! ไอ้สัด " ถอนหายใจออกมาผมสบสายตาโกรธๆของมัน " ภาพ เค้าอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ มึงเข้าใจกูหน่อยสิวะ กูไม่ชอบทำอะไรที่มันไม่มีเหตุผลเรายังไม่รู้เลยว่าเค้าโทรมาหากูทำไม กูก็บอกอยู่ว่าถ้าเค้าจีบเดี๋ยวบล๊อคให้ " 

   ความเงียบผ่านเข้ามาหมุนรอบตัวเราสองคนอยู่สักครู่ แววตาที่ผมกำลังสบอยู่หลับตาลงช้าๆก่อนจะเบือนหน้าหนี ราวกับว่ามันรู้สึกเหนื่อยแล้วที่ต้องมานั่งเถียงเรื่องแบบนี้กับคนดื้อดึงอย่างผมให้ยอมอ่อนให้มัน

“ มึงพูดว่าให้กูเข้าใจมึงหน่อย แล้วมึงละ เข้าใจกูบ้างมั้ย " คำถามที่ทำให้ผมนิ่งไป " รอให้เค้าโทรมาคุยกับมึงก่อนถ้าจีบแล้วจะบล๊อค กูต้องยอมทนให้คนคนนึงที่กูรู้อยู่แล้วว่าจีบแฟนกูโทรเข้ามาหาแฟนกู ให้แฟนกูคุยกับเค้าอยู่ตลอดอย่างงั้นเหรอ "

" ภาพ "

" มึงคิดว่าคนที่เค้าโทรเข้ามาจีบมึง จะบอกว่าจีบมึงตั้งแต่ประโยคแรกที่เค้าโทรมาหามึงเลยเหรอ แล้วแบบนั้นยังจะให้กูเปิดใจกว้างให้มึงคุยกับเค้าก่อนอะนะ แบบนี้ใช่มั้ยที่มึงบอกว่า ให้กูเข้าใจมึงหน่อย " ร่างสูงที่กำลังโกรธเงียบไปสักพักมันถอนหายใจออกมาก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วหันมามองผมอีกครั้ง " มึงยังจำตอนที่มีนาเข้ามาคุยกับกูได้มั้ย ทุกอย่างในวันนั้นมันก็เหมือนกันกับในวันนี้นั่นแหละ วันนั้นมึงบอกกูว่ามึงไม่มีเหตุผล มึงหึง อยากจะให้กูไม่ต้องไปยุ่งกับน้องเค้า วันนั้นกูยอมทำตามมึงเพราะกูเข้าใจมึง แล้วทำไมวันนี้ มึงถึงไม่เข้าใจกูบ้างวะ "

...............................................................


นั่นนะสิค่ะ !!!!  ทำไมคะ ทำไมวันนี้น้องขมไม่เข้าใจพี่ภาพ!!!!! #ทีมพี่ภาพ
เคยมีคนบอกว่า #ใครบอกแก เออน่า เคยมีคนบอกว่า ผมตัวเองมองไม่เห็น เห็นแต่ผมคนอื่น
กล่าวคือ  เรื่องที่ตัวเองทำ ตัวเองจะมองไม่เห็นว่าดี ไม่ดียังไง แต่พอเรื่องคนอื่นละแหมมมมมม มองออกชัดเจนนักว่าดี ไม่ดี
เอ็นดูคำแนะนำของหัวหอมที่บอกให้อาขมไปง้อป๊า
ส่วนอาขมก็ แม่คือแม่ ผัวก็ต้องง้อ ลูกก็ต้องสอน สงสารไปอีก
แต่ว่าเรื่องนี้ จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องจะเอามาทะเลาะเลย ถ้ามันมีฝ่ายใดฝ่ายนึงยอม และ คิดว่า ขมควรยอมภาพ
เพราะมันจริงอย่างที่ภาพพูด หมอไม่จำเป็นต้องมาเดินซื้อของกับญาติคนไข้เว้ย อยากคุยอะไรกันนักหนา
หมอ หรือ คนขายประกัน และสุดท้ายนี้ #ทีมพี่ภาพ
ป.ล. ทะเลาะกันแบบนี้ น้องกาลิคจะรู้สึกยังไงงงง พวกแกอย่าทะเลาะกันนนนนนนนนนนน
ฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้าาาา

และสุดท้ายนี้ นิยายเรื่องนี้เปิดจองแล้ววว ใครสนใจ รายละเอียดตามภาพเลยค่าาาาา

(http://www.mx7.com/i/23d/qlnqud.png)(http://www.mx7.com/i/2c4/5aeBvh.jpg)
........................................
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 06-08-2017 20:55:59
ดีกันนนนนนเถอะปรับความเข้าใจบนเตียงก็ได้นะไม่ถือ55555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 06-08-2017 21:34:06
โอ้ยย ถ้าในครัวไม่เข้าใจ ลองเคลียร์บนเตียงไม๊ เผื่อจะดี 55555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 06-08-2017 22:12:43
เคลียร์บนเตียงไหม...ยังไม่ได้เป็นเมียก็เป็นมันซะเลยวันนี้
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 06-08-2017 22:16:05
น้องขมทำไมไม่เข้าใจพี่ถาพเลยอะ
ขนาดเด็กอนุบาลอย่างกาลิคยังดูเจตนาหมอออกเลย
อย่าดื้อให้มากนักเลยน้องขม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 06-08-2017 23:55:23
ภาพโกรธนานๆเลยภาพ ขมไม่เข้าใจภาพ !!
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-08-2017 00:09:13
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-08-2017 13:33:25
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 08-08-2017 08:53:38
ดีกันนะ อย่าโกรธกันเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-08-2017 19:52:43
รอตอนต่อไป   :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: AdLy ที่ 09-08-2017 17:19:54
หัวหอมน่ารัก น่ารักจนอยากขย้ำเลย

ป๊าภาพกับแม่ขม ลองไปคุยกันในห้องน้ำไหม อารมณ์ได้เย็นๆ แล้วต่อด้วยเร่าร้อนไปเลยคึคึ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-08-2017 18:57:17
 o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 11-08-2017 20:30:27


เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู :: Special
ตอน "  คุณแม่อาขม  ”

   ภายในห้องเรียนที่อากาศค่อนข้างเย็น โต๊ะกลมๆมีเก้าอี้ของเด็กนักเรียนนั่งล้อมรอบกันเป็นกลุ่ม ใบหน้าน่ารักของเด็กชายตัวน้อย แกว่งเท้าไปมาเรื่อยๆในตอนที่กำลังรอเข้าสู่ชั่วโมงเรียนถัดไป

" เด็กๆ สวัสดีค่ะ " ประตูที่เปิดออกพร้อมเสียงที่ทักทายขึ้นมา คุณครูคนเดิมยืนอยู่ข้างหน้าด้วยรอยยิ้มใจดี

" สวัสดีครับ " เด็กชายตัวน้อยก้มหน้าลงทักทายประสานเสียงกับเพื่อนๆร่วมห้องที่ก็เอ่ยทักทายกลับไปเช่นกัน

" ใกล้จะกลับบ้านแล้ว กาลิควันนี้ใครมารับกาลิคเหรอ " รินเน่ที่เอ่ยถามอีกคนก็ทำท่าคิด

" ไม่รู้สิ ป๊ามั้ง อาขมมั้ง หรือว่ามาทั้งคู่เลย กาลิคไม่รู้หรอก รินเน่ละ วันนี้ใครมารับรินเน่เหรอ " เด็กน้อยถามเพื่อนด้วยความสนใจเช่นกัน รู้สึกแค่ว่าถ้าเพื่อสนใจเรื่องของตัวเองแล้ว ตัวเองก็ต้องสนใจเรื่องของเพื่อนด้วย เป็นการแลกเปลี่ยนกัน

" คุณแม่แหละ ก็คุณแม่มารับทุกวันเลยก็ต้องเป็นคุณแม่แหละ "

" น้องกาลิค กับ น้องรินเน่ ไม่คุยกันนะคะ " เด็กน้อยสองคนสะดุ้งขึ้นน้อยๆ ก่อนจะเอามือปิดปากตัวเองไว้แน่นตอนที่ถูกทักออกมาแบบนั้น " เอาละ ก่อนจะกลับบ้านวันนี้คุณครูมีอะไรจะสั่งนะคะ พรุ่งนี้เรามีกิจกรรมสำคัญที่จะต้องทำกันนะ ไหน มีใครรู้บ้างว่าหยุดวันเสาร์นี้ ตรงกับวันอะไร "

" วันคริสต์มาส! ” เสียงใสของเด็กหญิงข้างๆกาลิคตอบ

" น้องรินเน่ ไม่ใช่วันคริสต์มาสนะจ๊ะ คริสต์มาสยังมาไม่ถึงนะคะ ไหนมีใครคนไหนรู้อีกบ้าง "

" วันที่ต้องไปเรียนพิเศษ " เพื่อนคนอื่นตอบ

“ อันนั้นก็ยังไม่ใช่นะ "

" วันที่ได้นอนตื่นสาย "

" ไม่ใช่นะคะ " เธอยิ้มจางๆกับคำตอบที่เริ่มจะออกไปไกลเรื่อยๆกับจินตนาการที่มากขึ้นของเด็กๆ " โอเคๆ คุณครูจะบอกให้ก็ได้นะ วันเสาร์นี้ คือวันแม่ นั่นเอง ไหนใครรู้บ้างว่าทำไมเราต้องมีวันแม่ด้วย "

" เพราะว่าเด็กๆจะได้รู้ว่าต้องรักแม่ค่ะ " รินเน่ตอบคุณครูก็พยักหน้ารับ

" ใช่แล้วละ แต่ว่า เด็กๆก็รักคุณแม่ทุกวันอยู่แล้วใช่มั้ยละคะแล้วบางคนก็บอกรักคุณแม่ทุกวันเลยด้วย แต่ว่านะผู้ใหญ่บางคนก็ยุ่งมากจนไม่ได้บอกรักคุณแม่เลย แบบนั้น เราก็เลยต้องมีวันแม่เพื่อให้ผู้ใหญ่ที่ยุ่งมากจนลืม คิดถึงคุณแม่ คิดถึงความรักของคุณแม่ ยังไงละจ๊ะเพราะงั้น วันพรุ่งนี้ คุณครูจะมาสอนเด็กๆทำการ์ดสวยๆไปเป็นของขวัญไปให้คุณแม่กันนะ ใครที่อยากจะเอาภาพ คุณแม่กับตัวเองมาตกแต่งก็เอามาได้เลย หรือว่าจะเอาดอกไม้ สติกเกอร์น่ารักๆมาตกแต่งก็ได้เลยนะคะ  "

" แล้วพรุ่งนี้กาลิคจะเอาอะไรมาเหรอ จะเอาดอกไม้ หรือว่าจะเอารูปของคุณแม่มา "

" ไม่รู้ " ส่ายหน้าไปมาให้เพื่อนก่อนจะเอ่ยถามกลับ " แล้วรินเน่ละ "

" รินเน่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าถ้าทำออกมาสวยๆแล้วเอาไปให้คุณแม่ คุณแม่ต้องดีใจมากแน่ๆเลยเนอะ " รอยยิ้มกว้างที่ยิ้มให้ กาลิคก็พยักหน้ารับแล้วยิ้มตาม แม้ในใจจะมีเรื่องที่สงสัยอยู่บ้างก็ตาม

" แล้วกาลิคจะทำไปให้อาขมได้มั้ยน้า "

   เสียงเด็กเล็กที่วิ่งเล่นไปมาหลังเลิกเรียน เพื่อนๆทยอยกันกลับบ้านไปบ้างแล้ว บางคนก็ออกไปเล่นที่สนามเด็กเล่น วันนี้ป๊ากับอาขมบอกว่าจะมารับสายนิดหน่อย ตอนนี้กาลิคก็เลยยังไม่ได้กลับบ้าน

" น้องกาลิค ไม่ออกไปเล่นกับน้องรินเน่เหรอคะ " คุณครูเดินเข้ามาหาก่อนจะย่อตัวลงพูดด้วย " นู้นๆ น้องรินเน่เล่นสไลค์เดอร์ท่าทางน่าสนุกเลยนะ ไปเล่นกันมั้ย " เธอที่เอื้อมมือมาจับมือเด็กน้อยแต่ทว่า อีกคนก็เงยหน้ามองก่อนจะถาม

" คุณครูกาลิคอยากจะถามคุณครู "

" ถามอะไรคะ "

“ คุณครู คุณครูบอะว่าคุณแม่น่ะสำคัญเลยต้องมีวันแม่ให้เด็กๆคิดถึง กาลิคอยากรู้ว่าคุณแม่น่ะสำคัญมากเลยเหรอ ถึงต้องมีวันที่ต้องคิดถึงด้วย แล้ว แล้วสำคัญน่ะ คืออะไรเหรอครับ " คำถามที่ทำให้อีกฝ่ายนิ่งไปสักพัก เธอรู้ปัญหาของนักเรียนคนนี้ดีนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอได้ยิ้มออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวอีกคน

“ สำคัญก็คือ สิ่งที่กาลิคจะขาดไม่ได้ไงค่ะ คุณแม่คุณพ่อเป็นคนสำคัญของเด็กๆที่เด็กๆจะขาดไม่ได้ แต่พอโตขึ้นไปก็อาจจะลืมเราเลยต้องมีวันแม่ให้เด็กๆเมื่อโตขึ้นก็ยังคิดถึงคุณแม่คุณพ่ออยู่ไงจ๊ะ "

“ แต่กาลิคขาดคุณแม่ได้นะคุณครู แต่ แต่ว่า กาลิคขาดป๊ากับอาขมไม่ได้ " โบกมือไปมาย้ำความรู้สึกในใจของตัวเอง

“  งั้นสำหรับกาลิค คุณอาขมเปรียบเสมือนคุณแม่รึเปล่า "

“ ใช่ อาขมเป็นคุณแม่ของกาลิค แต่ว่ามันไม่มีวันคุณอานี่ครับ " เสียงใสบอกเบาๆอย่างรู้สึกเสียดายคุณครูก็ยิ้มกว้างออกมา

“ แล้วถ้ากาลิคคิดว่าคุณอาขมเป็นคุณแม่ ทำไมพรุ่งนี้ถึงไม่ทำการ์ดวันแม่ให้อาขมซะเลยละ "

" ได้เหรอครับ "

" ได้สิครับ " เธอยกมือลูบหัวเด็กนักเรียนตรงหน้า " ฟังคุณครูนะกาลิค เรื่องของคุณแม่ ถ้ากาลิคคิดว่าอาขมเป็นคุณแม่ของกาลิค กาลิคก็ทำการ์ดวันแม่ไปให้อาขมเลยสิครับ ก็อาขมเป็นคนที่คอยดูแลกาลิคมาตลอด เป็นคนที่ทำทุกอย่างให้กาลิค กอดเวลาที่กาลิคกลัว ยิ้มเวลาที่กาลิคมีความสุข แล้วกาลิคเองก็มีความสุขเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆอาขมใช่มั้ยละ "

" ใช่ครับ กาลิคมีความสุขที่สุดเลยคุณครูเวลาอยู่กับอาขม เพราะกาลิครักอาขมม๊ากมากกเลยแหละ "

" ถ้าแบนนั้น พรุ่งนี้กาลิคก็เอาการ์ดวันแม่ไปให้อาขมเลยครับ เอาไปให้คนที่กาลิคคิดว่าเค้าเป็นแม่ เอาไปให้เพื่อขอบคุณอาขมที่รักและดูแลกาลิคมาตลอด แล้วตอนเอาไปให้นะ กาลิคก็กอดอาขมแล้วก็บอกกับอาขมด้วยนะ ว่ากาลิคน่ะ รักอาขมมากแค่ไหน "

" ครับ กาลิคจะทำ "

" แล้วจำครูไว้นะ มันไม่สำคัญหรอกว่ากาลิคจะเรียกอาขมว่าอะไร ถ้ากาลิคคิดว่าอาขมคือคุณแม่ กาลิคก็เอาการ์ดที่จะทำพรุ่งนี้ไปให้อาขมเลยนะ คุณครูรับรองว่า อาขมต้องมีความสุขแน่ๆ "

" งั้นพรุ่งนี้กาลิคจะตั้งใจทำการ์ดให้สวยที่สุดเลย เพราะว่ากาลิคจะเอาไปให้อาขม คนที่กาลิครักมากที่สุดในโลกเลย "

" ดีมาก ! งั้นพรุ่งนี้เรามาตั้งใจทำกันนะ "

" ครับ คุณครู!! " รอยยิ้มกว้างของเด็กน้อยที่ยิ้มออกมาให้คุณครู เข้าใจแล้วว่าวันแม่คืออะไร วันแม่ไม่ใช่วันของแม่ แต่คือวันของคนที่เรารักเหมือนแม่ และรักเราเหมือนแม่เราตังหาก

“ นู้นน อาขมมารับแล้ว กลับบ้านได้แล้วนะ " เธอเชิดหน้าไปที่ประตูห้อง เด็กน้อยก็มองตามก่อนจะยิ้มกว้างพลางโบกมือให้คนที่มารับ กาลิคหันกลับมาเอากระเป๋าก่อนจะยกมือไหว้คุณครู

“ คุณครู สวัสดีครับ กาลิคกลับบ้านแล้วนะ "

“ สวัสดีครับ บ๊ายบาย " โบกมือบ๊ายบายเด็กน้อยก่อนจะก้มหน้าให้ผู้ปกครองที่มารอรับผ่านจากในห้อง

   เปิดประตูห้องเรียนของตัวเองออกไป ขาเล็กที่วิ่งเข้าไปกอดคนที่คิดถึงไว้เต็มอ้อมกอด สูดกลิ่นอุ่นๆที่หลงรักก่อนจะเงยหน้ายิ้มกว้างที่สุดให้อาขมที่ก็ยิ้มกว้างกลับมาให้เช่น ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าลืมอะไร ขาเล็กๆก็ถอยห่างก้มลงยกมือไหว้

“ อาขมสวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ " เสียงที่ตอบกลับมาพร้อมกับมือที่เอื้อมมาจับกันไว้ " กลับบ้านกันดีกว่า ป๊ารออยู่ที่รถนะ "

“ อื้อ! ” พยักหน้ารับแรงๆพร้อมกระชับมือที่จับอยู่ไว้แน่น เราเดินมาที่รถคันเดิมตอนที่ประตูถูเปิดออก กาลิคก็เรียกอีกคนเสียงดัง " ป๊าาาาา สวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ สุดหล่อ " มือหนาเอื้อมมือมาขยี้หัวลูกชายตัวเองที่ก็วางกระเป๋านักเรียนไว้ที่เบาะรถด้านหลัง

" นี่ วันนี้เราไปนั่งคาร์ซีสกันดีกว่า "

“ แล้ว แล้วอาขมจะนั่งตรงไหน " อยากนั่งข้างๆอาขมก็เลยเอ่ยถามไปแบบนั้น มองตาอีกคนด้วยความอยากรู้แต่คนที่โดนถาม กลับไม่ได้ตอบอะไร อาขมยิ้มอย่างเดียวก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มไปเต็มฟอดแล้วก็พูดคำเดิมๆที่ได้ยินบ่อยๆ

“ หมั่นเขี้ยว! “ ไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่า หมั่น เกี่ยวอะไรกับ เขี้ยว ทำไมต้องต้องหมั่นเขี้ยวตอนที่หอมแก้มกันทุกครั้งเลยนะ  " นั่งด้วยก็ได้ ภาพเป็นคนขับรถไปนะ "

“ ครับๆ คุณชายทั้งสองคน "

   ขึ้นมานั่งบนที่นั่งที่ป๊ากับอาขมเรียกว่าคาร์ซีสแต่ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ชอบนั่งบนตักกับอาขมมากกว่าชอบที่มืออุ่นๆมากอดไว้อยู่ตลอดเวลา แต่ป๊ากับอาขมก็บอกว่าถ้านั่งแบบนั้นจะไม่ปลอดภัยให้นั่งบนเจ้าคาร์ซีสจะปลอดภัยมากกว่า แล้วอาขมก็บอกด้วยว่า คาร์ซีสเป็นที่นั่งประจำตัวของกาลิค กาลิคนั่งได้คนเดียว แต่ว่าบนตักของอาขมก็เป็นที่นั่งประจำของกาลิคนเหมือนกันนะ เพราะกาลิคก็นั่งได้คนเดียวเหมือนกัน

“ แล้ววันนี้คุณครูสั่งการบ้านอะไรบ้าง ไหนเอามาดูหน่อย " อาขมหยิบกระเป๋าขึ้นมาเปิดดู ในนั้นมีสมุดสั่งการบ้านอยู่ กาลิคเห็นอาขมอ่านมัน " วันนี้มีการบ้านมีหน้าเดียวเอง กลับบ้านไปกินอะไรดีหัวหอม หัวหอมอยากจะกินอะไร "

“ ให้กูบอกคำตอบให้มั้ย " ป๊าที่นั่งอยู่ข้างหน้าพูดขึ้น อาขมก็หัวเราะ

“ ป๊า ป๊ารู้ได้ยังไงว่ากาลิคอยากกินอะไร "

“ รู้สิ ก็ป๊าเป็นป๊าของกาลิคนี่ งั้นเรามาพูดพร้อมกันเลยมั้ย ป๊าจะพูดสิ่งที่กาลิคอยากกิน กาลิคก็พูดสิ่งที่กาลิคอยากกิน "

“ ก็ได้ งั้นกาลิคจะนับหนึ่งสองสาม แล้วป๊าก็พูดพร้อมๆกับกาลิคเลยนะ "

“ โอเค "

“ หนึ่งงงงง สองงงง สาม เคเอฟซี! ”

“ เคเอฟซี! “ ป๊าที่พูดออกมาพร้อมกัน ตกใจสุดๆไปเลยเพราะไม่คิดว่าป๊าจะรู้ด้วย

“ ป๊ารู้ ป๊ารู้ด้วย ป๊าเก่งจังเลย " ดึงตัวเองเอียงตัวชมคนเป็นพ่อที่ก็ขำออกมาพร้อมๆกับอาขมที่ก็ส่ายหน้าไปมา กาลิคหันมองอาขมก่อนจะยิ้มให้ " อาขม กาลิคก็รู้นะ ว่าอาขมจะพูดว่าอะไร "

“ อันนั้นป๊าก็รู้ "

“ แต่ป๊าอย่าพูด กาลิค กาลิคจะพูดเอง "

“ โอเคๆ แล้วกาลิคคิดว่าอาขมจะพูดว่าอะไร " คนเป็นพ่อถามอีกคนก็ยิ้มกว้างออกมาเพราะว่ามั่นใจในคำตอบอยู่แล้ว

“ ไม่ได้! มันไม่มีประโยชน์นะ กินอย่างอื่นดีกว่านะ " เสียงหัวเราะที่ดังลั่น ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงหัวเราะทั้งอาขมแล้วก็ป๊า กาลิคมองทั้งสองคนสลับกันไปมาแล้วก็หัวเราะออกมาด้วย

“ รู้แล้วก็ยังจะขอไปกินนะ ไอ้ตัวแสบ " โดนอาขมหอมแก้มไปอีกทีนึงเต็มๆยังไงกาลิคก็ไม่เข้าใจอยู่ว่าทำไมอาขมชอบถามว่าอยากจะกินอะไร แต่พอบอกไปก็ไม่ได้กินอย่างที่กาลิคบอกเลยสักครั้ง ยังไงก็ต้องไปกินข้าวร้านที่อาขมบอกอยู่ดี แล้วแบบนั้นจะถามกาลิคทำไมก็ไม่รู้สิน้า~

“ กูว่าวันนี้ไปอาหารแปลกๆใหม่ๆบ้างดีกว่า "

“ อะไรวะ " อาขมถามป๊า แต่ว่าป๊าก็ไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มแล้วก็ยักคิ้วเฉยๆ อยากรู้จังเลยน้า ว่าป๊ากำลังจะพากาลิคกับอาขมไปกินข้าวอร่อยๆที่ไหน

   รถจอดสนิทลงแต่รอบๆข้างกลับไม่ใช่บ้านอย่างทุกที เป็นที่แปลกๆที่ขับรถมานานมากกว่าจะถึง ป๊าปลดเข็มขัดที่คาดอยู่ กาลิคก็เลยปลดเข็มขัดที่คาดอยู่ออกบ้าง ก่อนจะโดนอาขมอุ้มออกไปจากรถ

" กูละเชื่อเลย มึงก็นี่ก็ช่างสรรหาเรื่องแดกนะไอ้สัด " อาขมหันไปบอกป๊าที่ก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหันมาดึงกาลิคไปอุ้ม
" ก็กูดูรีวิวมาวันก่อน มันน่ากินมากกกกกก ก็เลยพาพวกมึงมาลองกันไง เปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง วันนี้ตามึงเลี้ยงข้าวเย็นใช่มั้ย "

" อื้ม " ยักคิ้วเป็นคำตอบ ตอนนั้นกาลิคก็ลองยักตาม

" จริงๆไม่ต้องผลัดกันก็ได้ พ่อแม่กูยังบอกเลยว่าไม่ต้อง "

" ไม่เอาอะ กูเกรงใจผลัดกันแบบนี้แหละดีแล้ว คิดว่าเป็นความสบายใจของกู "

" ก็แล้วแต่ เนอะ กาลิคเนอะ " โดนหอมแก้มไปอีกทีก่อนที่ป๊าจะเดินเข้าไปข้างในร้านที่มีคนนั่งอยู่หลายๆโต๊ะ กาลิคมองไปรอบๆเห็นสระน้ำกว้างๆก็เลยชี้ให้ป๊าดู

" ป๊าาา ดู ป๊าดูน้ำ "

" ตรงนั้นเค้าเรียกว่าแม่น้ำนะ เล่นไม่ได้เข้าใจมั้ย ไม่ต้องคิดจะเล่นเลย " ยิ้มให้ป๊าก่อนจะซบที่ไหล่ เขินจังเลยป๊ารู้ได้ยังไงกันนะว่ากาลิคอยากเล่นน้ำ " เราไปนั่งตรงไหนกันดี ข้างในดีกว่ามั้งยุงไม่กัดเย็นแล้วด้วย "

" แต่กูว่ามีเด็กอยากนั่งริมน้ำน้า " อาขมบอกก่อนจะยื่นนิ้วมาจิ้มแก้ม" หัวหอม นั่งข้างในกันนะ เย็นแล้วเดี๋ยวยุงกัดนะ นั่งข้างในแอร์เย็นๆ "

" แต่ แต่ว่ากาลิคอยากจะเห็นน้ำ "

" ตอนนี้มีโต๊ะด้านในที่เห็นวิวน้ำอยู่ค่ะ เดี๋ยวพี่พาไปนั่งตรงนั้นนะ ได้นั่งข้างในแต่ว่าเห็นน้ำด้วยนะคะ "

" ครับ ! พี่สาว " ยิ้มกว้างให้พี่สาวคนนั้น ก่อนที่เธอจะเดินไปแล้วป๊ากับอาขมก็เดินตาม

    ถูกวางลงบนเก้าอี้ข้างๆอาขมที่ก็ก้มลงมาหอมแก้มกาลิคก่อนจะรับหนังสือเล่มใหญ่ๆจากพี่สาวคนนั้นมาเปิดดู ทั้งป๊ากับอาขมดูมันอยู่นานกาลิคก็เลยเอียงตัวเข้าไปดูด้วย แต่ว่าอ่านไม่ออกเลยว่าเขียนอะไรบ้าง

" กินกุ้งแม่น้ำเผากันดีกว่า อยากกินมันกุ้ง " อาขมบอกป๊ายิ้มๆ ท่าทางมีความสุข

" ตามสบาย "

" แล้วเด็กอยากจะกินอะไร" อาขมหันมาถามก่อนจะหันไปมองหนังสืออีกครั้ง " ข้าวผัดปู ข้าวผัดกุ้ง หัวหอมอยากจะกินอะไร "

" ทั้งสองอย่างเลยยยย " ปูก็อยากกิน กุ้งก็อยากกิน

" มีข้าวผัดปูกับกุ้งนะคะ จะรับมั้ยคะ " พี่สาวพูดขึ้นอีก อาขมมองหน้าป๊าก่อนจะพยักหน้ารับ

" งั้นเอาจานใหญ่จานนึง แล้วก็ต้มยำกุ้งน้ำข้นถ้วยเล็ก แกงจืดเต้าหูหมูสับถ้วยเล็ก ทอดมันกุ้ง กุ้งเผาสามตัวแล้วก็น้ำเปล่า แค่นี้ครับ "

“ ได้ค่ะ รออาหารที่สั่งสักครู่นะคะ "

“ ป๊า อาขม พี่สาวบอกว่ารออาหารที่สั่งสักครู่นะ แหละ "

“ ช่ายยยย รอหน่อยนะ หัวหอมหิวยัง "

“ หิวนิดนึง แต่ว่ากาลิคทนได้ กาลิคเก่ง " บอกออกไปแบบนั้นก่อนจะยิ้มให้อาขมแล้วถาม " อาขม อาขม ก่อนอาหารมาให้กาลิคไปนั่งบนตักอาขมได้มั้ย วันนี้กาลิคยังไม่ได้นั่งเลยนะ "

“ ได้สิ มาเลย " อาขมยื่นมือมาอุ้มกาลิคให้ขึ้นไปนั่งบนตักของอาขม ตักนุ่มๆ กลิ่นอุ่นๆ ชอบจังเลย  กอดอาขมด้วยดีกว่า แล้วก็หอมแก้มอาขมด้วย หอมให้ดังฟอดเลยอาขมจะได้มีความสุข

" อาขม อาขมกาลิครักอาขม "

" อ้อนเบอร์แรงอีกแล้วมึงอะ " โดนอาขมหอมแก้มแบบแรงๆแต่ว่าถ้าเป็นอาขมกาลิคจะไม่งอแงเหมือนตอนป๊าหอม แต่กาลิคจะกอดอาขมเอาไว้แน่นๆแทน ก็ถ้าเป็นอาขมจะทำอะไรกาลิคก็ได้ ยังไงกาลิคก็รักอาขมที่สุดเลย

“ อาหารที่สั่งมาแล้วค่ะ " พี่สาวเอาข้าวผัดปูกับกุ้งจานใหญ่มากๆมาตั้งไว้บนโต๊ะแล้วก็เอาแกงจืด กุ้งทอดกลมๆมาวางไว้ด้วย แล้วก็อะไรอีกก็ไม่รู้ที่กาลิคไม่รู้จัก พี่สาววางลงมาบนโต๊ะจนเต็มโต๊ะไปหมดเลย อาขมอุ้มกาลิคมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมก่อนจะบอก

“ ข้าวผัดมาแล้ว กลับไปนั่งที่ได้ " เสียดายจังเลยได้นั่งนิดเดียวเอง แต่ว่าไม่เป็นไรตอนนี้หิวแล้ว ต้องกินก่อน

“ อาขม น่ากินจังเลย กาลิคจะกินเยอะๆเลยนะ "

“ ดีมาก! จัดไป กินเยอะๆเลยนะ เดี๋ยวขอแบ่งแกงจืดใส่ถ้วยเล็กๆนี่แปปนึง " อาขมเอาแกงจืดของกาลิคแบ่งใส่ถ้วยเล็กๆให้ป๊าแล้วก็ให้อาขมเอง ก่อนจะเอาเลื่อนตัวแกงจืดใบใหญ่ที่สุดมาให้กาลิค " อันนี้ของหัวหอมนะ เดี๋ยวอาขมตักข้าวให้เอาแค่ไหน กินเยอะมั้ย "

“ กินเยอะ เอาเยอะๆเลย "

“ เยอะๆเลยนะ " อาขมตักข้าวให้ แล้วอาขมก็ตักกุ้งทอดกลมๆให้กาลิคตั้งสองชิ้น อาขมทำให้กาลิคหมดเลย นั่นก็เพราะว่าอาขมเองก็รักกาลิคมากที่สุดเลยสิน้า " โอเค เรียบร้อย กินได้! “

   ข้าวผัดปูกับกุ้งที่อาขมสั่งให้อร่อยมากๆเลย แกงจืดก็อร่อย กุ้งกลมๆก็อร่อย กุ้งของอาขมก็ยิ่งอร่อย อร่อยไปหมดทุกอย่างเลย อร่อยจนกาลิคต้องกินข้าวเข้าไปตั้งสองจาน

" อร่อยวะ " อาขมบอกก่อนจะหันมามองกาลิค " หัวหอมอร่อยมั้ย "

" อร่อยมากๆเลย "

" แล้วกินกุ้งเผาอีกมั้ย อะ อาขมให้กินนะ คำสุดท้าย อ้าปาก "

" อ้าาาาา " กินกุ้งเผาสุดอร่อยเข้าไป กาลิคเคี้ยวอาขมก็ยิ้มแล้วก็หยิบน้ำมาให้กินอีก

" เช็ดบิลแล้วกลับบ้านกันดีกว่า กลับไปทำการบ้านให้เสร็จนะเด็กน้อย " อาขมหยิกแก้ม ก่อนจะยกมือบ๊ายบายพี่สาวคนนั้นที่ก็เดินเข้ามาเอาสมุดสีดำๆยื่นให้อาขม แล้วอาขมก็เอาเงินใส่ลงไปให้พี่เค้า

" มึงไม่แวะซื้ออะไรแล้วนะ " ป๊าถามอาขมตอนที่เรากำลังเดินออกจากร้านไปขึ้นรถ กาลิคที่จูงมือกับอาขมก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“ ป๊าาา แวะ กาลิคจะแวะซื้อของ " เอื้อมมือไปเขย่ากางเกงป๊าที่ก็ก้มลงมามองก่อนจะโดนอุ้มขึ้นไป

“ จะแวะซื้อของเหรอ แล้วไหนเงิน " ป๊าแบมือว่างๆออกมาแต่กาลิคก็ดึงลงไป

“ ป๊าจ่ายให้ "

“ แล้วจะซื้ออะไร " ป๊าถาม แต่กาลิคก็หันไปมองอาขมก่อน ไม่อยากจะบอกให้อาขมรู้กาลิคก็เลยต้องกระซิบป๊าไปเบาๆ

“ พรุ่งนี้คุณครูให้ทำการ์ดวันแม่ กาลิคจะไปซื้อของมาทำการ์ดวันแม่ให้อาขม ป๊าพาไปซื้อนะ ไปกันสองคนไม่ให้อาขมรู้ "

“ ไม่ให้อาขมรู้เหรอ " ป๊ากระซิบ กาลิคก็พยักหน้ารับ

“ กาลิค กาลิคจะทำให้อาขมตกใจ ป๊าอย่าบอกอาขมนะ " ป๊าหัวเราะก่อนจะพยักหน้ารับ

“ โอเค รับทราบครับ "

“ เป็นการกระซิบที่บอกได้คำเดียวว่า ไม่ได้ยินเลยยยยย " อาขมบอก กาลิคก็ยิ้มกว้าง ดีใจจังเลยที่อาขมไม่ได้ยินเรื่องที่กาลิคพูดกับป๊า การกระซิบกันเนี้ย มันดีจริงๆเลย

   
....................................................
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 51 - 6.8.60} #หน้า 46 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 11-08-2017 20:31:09
“ งั้น..กูไม่ไปแล้วกัน มึงไปกันสองคน " อาขมบอกตอนที่เราเดินลงจากรถ แล้วก็กำลังจะเดินไปที่ห้างใกล้ๆบ้านที่เราไปกันไม่ทุกวัน
 ป๊าพยักหน้ารับ กาลิคก็โบกมือบ๊ายบายอาขม

" โอเค อาขมเดินเข้าไปในคอนโดแล้ว แล้วตกลงกาลิคจะซื้ออะไรบ้าง "

" จะซื้อของตกแต่งในการ์ด พรุ่งนี้คุณครูจะให้ทำการ์ดให้แม่ แต่กาลิคจะทำการ์ดให้อาขมเพราะว่าอาขมเป็นแม่ของกาลิค "

" อย่างงั้นเหรอ " ป๊าก้มหน้าลงยิ้มๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา

" ป๊าว่าดีมั้ย "

" มันดีมากๆเลยแหละ อาขมต้องดีใจมากแน่นอนที่ได้รับการ์ดวันแม่จากกาลิค "

" จริงเหรอ จริงๆนะป๊า " กาลิคกว้าง " งั้นเราก็ไปซื้อกันเลยนะ "

" จัดไปครับลูก "

   ป๊าจูงมือพากาลิคมาที่ร้านขายดินสอที่อาขมชอบพามาซื้อบ่อยๆ เข้าไปในล็อคที่มีกระดาษเยอะแยะไปหมด ป๊าหันมาถาม " แล้วกาลิคจะซื้อของตกแต่งยังไงใส่ในการ์ดละ "

" กาลิคก็ม่ายรู้ " ส่ายหน้าบอกป๊า แต่ป๊าก็แค่ยิ้มแล้วก็เกาหัวตัวเอง

" แล้วแบบนั้นป๊าจะรู้มั้ยละ ว่าจะซื้ออะไรดี ถ้าเป็นอาขมคงบอกได้นะ แต่ป๊าหัวไม่ศิลปะแบบอาขมนี่สิ " ป๊าหยิบกระดาษขึ้นมาพลิกดูไปมา ก่อนจะจูงมือกาลิคเดินไปเรื่อยๆ " เราซื้อสติกเกอร์ไปติดการ์ดดีมั้ย นี่ไง มีสติกเกอร์หลายๆแบบเลยนะ แล้วก็มีสติกเกอร์เป็นตัวอักษรด้วย " ป๊าชี้ให้ดูสติกเกอร์ที่มีเยอะแยะไปหมด และกาลิคก็เห็นสติกเกอร์อันนึงที่อยากได้มาก

" ป๊าาาา แม็คควีน~ " ชี้ให้ป๊าดูป๊าก็พยักหน้ารับ กาลิคที่กำลังจะหยิบสติกเกอร์แผ่นนั้นแต่ก็คิดอะไรขึ้นมาได้เลยไม่หยิบ

" อ้าว ทำไมไม่หยิบละ "

" ก็อาขม ไม่ได้ชอบแม็คควีนนี่น่า กาลิคจะทำการ์ดให้อาขม ไม่ได้จะทำการ์ดให้ตัวเองสักหน่อย กาลิคต้องเลือกสติกเกอร์ที่อาขมชอบสิ ไม่ใช่ที่กาลิคชอบ "

" เด็กดีจังนะ " ป๊าขยี้ผมของกาลิคก่อนจะหยิบสติกเกอร์แม็คควีนมาให้ " แต่ว่า ป๊าไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก การ์ดที่กาลิคทำให้ไม่ว่ามันจะติดสติกเกอร์รูปอะไรอยู่ อาขมเค้าดีใจทั้งนั้นแหละ สิ่งสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่ภาพบนการ์ด มันอยู่ที่ว่า กาลิคตั้งใจทำมันมาให้อาขมตังหาก "

" จริงเหรอป๊า "

" จริงสิครับ เพราะงั้นกาลิคจะติดอะไรก็ติดไปเลย ขอแค่ตั้งใจทำออกมาให้อาขมก็พอ "

" อื้อ! งั้นกาลิคจะเอาสติกเกอร์แม็คควีน แล้วก็คุณดาว แล้วก็หัวใจครับ "

" ได้เลย " ป๊าหยิบสติกเกอร์ที่กาลิคบอกให้ ก่อนจะเดินจูงมือพาไปจ่ายเงิน

" ป๊าๆ กาลิคอยากจะได้อีกอย่างนึงนะ "

" อะไรครับ " ป๊าหันมาถามก่อนจะย่อตัวลงมาฟังกาลิคกระซิบ

" อยากได้ภาพของอาขมแล้วก็กาลิคถ่ายคู่กัน คุณครูบอกว่าเอาไปได้ แล้ว แล้วกาลิคก็จะเอาไปติดข้างในการ์ดด้วย "

" อ๋ออ ภาพเหรอ ป๊าว่า ป๊ามีอยู่นะ อยู่ในมือถือ " ป๊าหยิบมือถือขึ้นมากดๆเลื่อนๆ ก่อนจะหันมือถือมาให้กาลิคดู " ภาพนี้เป็นไง กาลิคกำลังหอมแก้มอาขมอยู่ น่ารักนะ "

" เอาภาพนี้ กาลิคชอบ "

" โอเค เดี๋ยวเราไปล้างรูปกันที่ร้านกันนะ "

" ครับผม "

   ได้ของครบทุกอย่างใส่ถุงเอาไว้แล้วเรียบร้อบ ป๊าบอกว่าเดี๋ยวพอขึ้นไปที่ห้องให้กาลิคเอาไปใส่กระเป๋าไว้เลยอาขมจะได้ไม่เห็น เราจะเซอร์ไฟส์อาขมกัน ทำให้อาขมตกใจสุดๆที่เห็นการ์ดของกาลิค

" อาขม กาลิคกลับมาแล้วววววว " เปิดประตูเข้าไปในห้อง อาขมที่นอนอยู่บนโซฟาก็ลุกขึ้นมายิ้มให้แล้วกางมือออกให้กาลิควิ่งเข้าไปกอด

" ไหนซื้ออะไรมาบ้าง มาดูหน่อย "

" ให้อาขมดูไม่ได้นะเป็นความลับ " กาลิคบอกก่อนจะเอาถุงซ่อนไว้ข้างหลัง มองหากระเป๋าตัวเองที่ตั้งอยู่บนโซฟา กาลิคกระดึ้บตัวไปใกล้ๆมัน อาขมก็หัวเราะ

" ดู ดูมันทำ "

“ อาขมต้องหลับตาก่อน กาลิคไม่อยากจะให้อาขมเห็น อาขมหลับตานะ หลับตา "

“ โอเคๆ หลับตา " มือสองข้างของอาขมยกขึ้นปิดตา กาลิคก็รีบก็วิ่งเอาของที่ซื้อมาไปใส่ไว้ในกระเป๋าเรียบร้อย ถอนหายใจโล่งออกมาก่อนจะโดนอาขมที่คิดว่าปิดตาอยู่จับไปอุ้ม " มานี่เลยไอ้ตัวแสบบบบ เดี๋ยวนี้หัดมีความหลับกับอาขมเหรอ หื้มมมมม แบบนี้ต้องโดนหอมแก้มมมมม หอมมม หอมมม "

“ ฮ่าๆ อาขมมม หอมแก้มกาลิคอีกแล้ววว " ส่ายหน้าไปมาก่อนจะจับแก้มของอาขมแล้วก็หอมแก้มอาขมคืนไปบ้าง " นี่แหน่ะ! หอมแก้มอาขมคืนเลย "

“ หัวหอมละก็ น่ารักที่สุด " โดนหอมแก้มอีกทีก่อนที่กาลิคจะยิ้มให้อาขมแล้วก็บอก

“ อาขมๆ พรุ่งนี้นะ กาลิคจะไปทำของชิ้นนึงที่ทำให้อาขมมีความสุขมากๆ อาขมตื่นเต้นมั้ยว่ามันคืออะไร " กาลิคอยากจะให้อาขมมีความสุข แล้วก็อยากจะให้อาขมตื่นเต้น ตื่นเต้นเหมือนเวลาที่กาลิคตื่นเต้นเวลาอาขมให้ของขวัญ

“ อะไรกันน้าาาาา ตื่นเต้นจังเลยยยย " อาขมบอก กาลิคก็ปิดปากตัวเองแล้วก็ยิ้มกว้าง

“ กาลิคม่ายยยบอก อาขมต้องเป็นเด็กดีแล้วก็รอนะ เข้าใจมั้ย "

“ เข้าใจครับ โอเค รอก็รอ "
....................................................

   ช่วงเวลาที่กาลิครอมาทั้งวันมาถึงแล้ว คุณครูที่บอกว่าจะสอนทำการ์ดวันแม่ เอากระดาษสีขาวกับกระดาษเป็นสี สีชมพูสวยๆมาให้เด็กๆทุกคนในห้อง

" เอาล่ะ ตอนนี้เด็กๆทุกคนได้กระดาษไปคนละสองแผ่นแล้วใช่มั้ยคะ แบบนี้เนอะ สีชมพู แล้วก็ สีขาว คราวนี้เด็กๆ พับกระดาษสีขาวแบ่งครึ่งแบบนี้นะ ทั้งสองแผ่นเลย "

" แบ่งครึ่ง ทั้งสองแผ่นเลย " กาลิคพูดเบาๆ ก่อนจะทำตามที่คุณครูบอก

" พอเราแบ่งครึ่งกระดาษแล้ว เราก็จะเอากาวทาไว้ด้านหลังของกระดาษสีขาวนะคะ ทาแค่ตรงกลางแล้วก็มุมอีกสี่มุมนะ ตามในกระดานเลย "

" ทากาวลงไปสี่มุมตามในกระดาษ ทา ทา "

" แล้วจากนั้นก็เอากระดาษสีขาวแปะลงไปบนประดาษสีชมพู ดูให้กระดาษสีขาวอยู่ตรงกลางนะคะ "

" แปะกระดาษสีขาวลงไปในกระดาษสีชมพู ทำให้อยู่ตรงกลาง "

" โหหหห กาลิคทำได้แล้ว ทำให้น้องรินเน่หน่อยสิ " รินเน่ยื่นกระดาษให้ กาลิคก็หยิบมาทำให้ก่อนจะยื่นกลับไปให้ " ขอบคุณนะกาลิค เดี๋ยวถ้าอันไหนกาลิคทำไม่ได้ รินเน่จะช่วยกาลิคด้วยนะ "

" ไม่เอา กาลิคจะทำเองคนเดียว ป๊าบอกว่าถ้ากาลิคตั้งใจ อาขมจะมีความสุขมากๆ กาลิคก็เลยจะตั้งใจทำคนเดียวให้หมดเลย " เด็กน้อยบอกก่อนจะหันไปยิ้มกว้างให้เพื่อน

" พอเราทำกระดาษแบบนี้เสร็จแล้ว เราก็ตั้งไว้ก่อนนะ คราวนี้ก็เอาอุปกรณ์ตกแต่งขึ้นมา เด็กๆเห็นมั้ย การ์ดของเด็กๆ เหมือนสมุดเลยนะ มีหน้าปก แล้วก็ข้างใน เดี๋ยวเราจะมาตกแต่งข้างหน้ากัน ส่วนข้างในเราก็จะมาเขียนข้อความถึงคุณแม่กันนะ เด็กๆคนไหนเอาของตกแต่งมาไม่พอคุณครูเตรียมมาให้ด้วยนะ อยู่ข้างหน้านะคะ มาหยิบได้เลย แต่หยิบไปใช้แล้ว ต้องหยิบมาคืนด้วยนะ เพื่อนคนอื่นจะได้ใช้ด้วย เข้าใจมั้ยคะ "

" เข้าใจครับ / เข้าใจค่าา " เสียงประสานที่ดังขึ้นมาพร้อมกันของทุกคนในห้อง คุณครูก็ยิ้มก่อนจะพูด

" โอเค งั้นเราก็มาเริ่มลงมือทำกันได้เลย "

“ กาลิค กาลิคจะวาดอะไรลงบนการ์ดเหรอ " รินเน่หันมาถาม กาลิคก็คิด

“ ไม่รู้เหมือนกันแต่อยากจะทำสวยๆ "

“ แล้วกาลิคจะเขียนอะไรลงไปในการ์ดให้คุณแม่เหรอ "

“ ไม่รู้เหมือนกัน แล้วรินเน่ละ "

“ จะเขียนว่ารินเน่รักคุณแม่ตัวโตๆเลย "

“ แล้วกาลิคจะเขียนว่าอะไรดีน้า ~ “ ยกมือเท้าคางตัวเองตอนที่เอียงหน้าคิดคุณครูก็เดินเข้ามาบอกพอดี

“ เขียนอย่างที่อยากจะเขียนสิคะ "

“ คุณครู " กาลิคเรียก คุณครูก็ยิ้ม

“ ไม่ต้องคิดมากหรอก เขียนคำพูดที่อยากจะเขียนลงไปก็พอ ทำแบบที่อยากจะทำนะ "

“ ครับ " พยักหน้ารับก่อนจะหยิบสีเมจิหลายๆสีมาเขียนไปข้างหน้าว่า Happy Mother's Day แบบที่คุณครูเขียน แล้วก็วาดรูปอาขมที่กอดกาลิคไว้ตรงนี้ แล้วจากนั้นก็ติดสติกเกอร์รูปดาวแล้วก็หัวใจลงไป เปิดมาข้างในกาลิคก็จะติดภาพอาขมกับกาลิคไว้ตรงนี้ ติดด้วยสติกเกอร์แมคควีนเท่ๆ เลย แล้วก็ติดหัวใจแล้วก็ดาวแบบนี้ " แล้วคราวนี้จะเขียนอะไรดีน้า "

" ก็คุณครูบอกว่าจะเขียนอะไรก็ได้ไม่ใช่เหรอ กาลิคก็เขียนคำที่กาลิคอยากเขียนสิ "

" คำที่กาลิคอยากเขียน อื้มมมมม " นั่งคิดอยู่สักพักก่อนจะคิดขึ้นได้แล้วยิ้มออกมา " กาลิครู้แล้วจะเขียนว่าอะไร " บรรจงเขียนคำพูดที่ตัวเองอยากเขียนลงไปเรียบร้อยก่อนจะยิ้มกว้างออกมา " การ์ดของกาลิคเสร็จแล้ว "

“ แล้วอย่าลืมเอาการ์ดที่ทำวันนี้ไปให้คุณแม่ดูในวันพรุ่งนี้ด้วยนะ พรุ่งนี้เป็นแม่ อย่าลืมบอกรักคุณแม่กันด้วยนะเด็กๆ " เสียงของคุณครูบอกตอนเลิกเรียน กาลิคเก็บการ์ดใส่ไว้ในกระเป๋าอย่างดี

" พรุ่งนี้อาขมจะต้องมีความสุขมากแน่ๆเลย " กาลิคคิดว่ามันต้องเป็นแบบนั้นแหละ

.........................................................

“ หัวหอมเดี๋ยวเราจะไปบ้านคุณปู่คุณย่ากันนะ “ อาขมบอกกับกาลิคตอนที่มารับที่โรงเรียน หันไปมองอาขมที่ยิ้มให้ก่อนจะถาม

" แล้วทำไมต้องไปบ้านคุณปู่คุณย่าด้วยละครับ "

" ก็เพราะว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญ ป๊าเลยต้องกลับบ้าน "

" พรุ่งนี้ อ้อออ กาลิครู้แล้วนะว่าวันอะไร "

" วันอะไรเหรอ อาขมไม่รู้อะ บอกหน่อยสิ " อาขมถามแล้วก็จิ้มที่แขน กาลิคก็หันหน้าไปทางอื่นก่อนจะปิดปาก

" ไม่บอกอาขมหรอก ความยับ “

“ โอ๊ยยยยย หมั่นไส้ “  งื้อออ กาลิคโดนหอมแก้มอีกแล้ว~ อาขมเนี้ย ทุกทีเลย

   วิ่งลงมาชั้นล่างหลังจากตื่นนอนแล้วก็อาบน้ำเรียบร้อย อาขมบอกว่าวันนี้จะมีข้าวต้มอร่อยๆ ให้รีบลงไปกินแต่ว่าอาขมจะขอโทรศัพท์ไปหาใครสักคนก่อนเลยให้กาลิคลงไปข้าวก่อนไม่ต้องรอ

“ คุณปู่ คุณย่าาาา กาลิคมาแล้วว “ วิ่งลงมาจากชั้นล่างแต่ก็ต้องหยุดนิ่งตอนที่เห็นป๊ากำลังไหว้คุณย่าที่ตักแล้วก็กอดคุณย่าไว้แน่น คุณย่ายิ้มกว้างมีความสุขก่อนจะกอดป๊ากลับไปเหมือนกัน

“ ม๊า ภาพรักม๊าน้าา สุขสันต์วันแม่ครับ “

“ ม๊าก็รักภาพเหมือนกัน “ คุณย่าที่หอมแก้มป๊า กาลิครู้สึกเขินจังเลย แต่ว่าลืมอะไรไปน้า..

“ นู้นๆ มีคนแอบมอง “ คุณปู่พูด ก่อนที่ทุกคนในห้องจะหันมามองกาลิคกันหมดเลย ขยับตัวแอบอยู่ข้างประตูตอนที่เอียงหน้ามองทุกคนก็หัวเราะ

“ กาลิค เข้ามาสิ “ ป๊าบอก กาลิคก็เลยจะเดินเข้าไปแต่ว่าก็หยุดนิ่งค้างไว้แค่นั้นเพราะนึกขึ้นมาได้ว่ายังมีเรื่องสำคัญที่คุณครูบอกให้ทำแต่ยังไมไ่ด้ได้ทำเลย

“ นึกออกแล้ว~ กาลิค! ต้องวิ่งไปหาอาขมก่อน “ วิ่งขึ้นมาชั้นบนอีกครั้งตอนที่เปิดประตูห้องเข้าไปอาขมที่นั่งอยู่ตรงนั้นเหมือนกำลังเศร้าอยู่เลย แต่ว่าพออาขมหันมาเจอกาลิคอาขมก็ยิ้มให้ กาลิคเองก็เลยยิ้มกว้างกลับไปให้อาขมแล้วก็เดินไปที่กระเป๋านักเรียน หยิบการ์ดที่ทำไว้ซ่อนไว้ข้างหลัง ตอนที่หันมาอาขมก็ยิ้มกว้าง " อาขมครับ..”

“ ครับ ว่าไง "

“ คือว่า วันนี้เป็นวันสำคัญ อาขมรู้มั้ย ว่าเป็นวันอะไร "

“ นั่นนะสิ วันอะไรกันน้าา " อาขมเอียงหน้าคิด กาลิคก็ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้แล้วก็ยื่นการ์ดที่ซ่อนอยู่ข้างหลังไปให้อาขม

“ วันนี้เป็นวันแม่ กาลิคทำการ์ดมาให้อาขมครับ กาลิครักอาขมนะ รักอาขมที่สุดในโลกเลย " อาขมที่มองกาลิคอยู่ร้องไห้ออกมาก่อนจะรับการ์ดไปเปิดดูแล้วก็ยิ้มกว้าง  ตอนนั้นหัวใจของกาลิคเต้นแรง ไม่รู้ทำไมแต่ตอนที่เอื้อมมือไปกอดอาขมไว้กาลิคก็ร้องไห้ออกมา  " อึก กาลิครักอาขม อึก รักอาขมน้าา รักอาขมที่สุดเลย ฮือๆ "

" แล้วร้องไห้ทำไมกันเล่าไอ้ตัวแสบ " อาขมดึงกาลิคขึ้นมานั่งบนตัก ก่อนจะเช็ดน้ำตาให้

" ก็ ก็อาขมยังร้องไห้ได้เลยนี่น่า ฮือๆ “

“ ที่อาขมร้องไห้เพราะว่ารักหัวหอมมาก แล้วก็ดีใจมากๆ ที่ได้รับการ์ดจากหัวหอมตังหาก "

" งั้นเราก็เหมือนกันเลยอาขม  กาลิคก็ร้องไห้เพราะว่ารักอาขมมากเหมือนกัน ก็ อึก พอบอกว่า รักอาขม น้ำตาก็ไหลออกมาเองเลย ก็กาลิครักอาขมนี่น่า รักมากๆเลย น้าา อึก ฮือๆ " รอยยิ้มที่ใจดีของอาขม ยิ้มออกมาตอนที่กาลิคพูด

“ อาขมก็รักหัวหอมมากเหมือนกันนะ ขอบคุณมากนะครับ  "

“ อาขม อาขมมีความสุขมั้ยครับ " กาลิคแค่อยากจะให้อาขมมีความสุข มีความสุขเหมือนที่อาขมทำให้กาลิคมีความสุข

“ มีความสุขสิครับ แค่ได้อยู่กับหัวหอม อาขมก็มีความสุขมากแล้วละ " อาขมกอดกาลิคไว้แน่น แล้วกาลิคเองก็กอดอาขมไว้แน่นเหมือนกัน ตอนนั้นกาลิคก็คิดนะ ว่ากาลิคก็มีความสุขเหมือนกันที่ได้อยู่กับอาขม กาลิคคิดเหมือนอาขมเลย

กาลิค รัก คุณแม่อาขม แล้วนั่นก็เป็นคำที่กาลิคเขียนลงไปในการ์ด

...............................................................

สุขสันต์วันแม่ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันสำคัญนี้กับคนที่รักและสำคัญนะคะ
ก่อนอื่นต้อง ขอโทษด้วย ที่ไม่สามารถลงนิยายตอนต่อไปได้
เดิมที่ตั้งใจจะลงตอนที่ 52 แล้วศุกร์หน้าจะลงตอนที่ 53 ซึ่งเป็นตอนจบ
แต่พอนั่งเช็คนิยายกลับพบว่า แก.. 52 มันจบ แล้ว 53 มันเริ่มต้นดราม่า พอเห็นแบบนั้นก็คิดว่า ถ้าลง 53 ไป
คนอ่านต้องบุกมาฆ่าปาดคออีหนมลงส้วมแน่ ก็เลย ต้องลงแค่ 52 ตอน
แต่ก็บอกคนอ่านไปแล้วว่าจะลง 53 ตอนก็เลย เอาวะ.. ก็พรุ่งนี้วันแม่แล้ว เอาตอนพิเศษวันแม่มาลงเลยละกัน

ซึ่งตอนนี้ก็เขียนยากมากกก คือเมื่อก่อนตอนเขียนฟิค เราเคยเขียนแบบ บุคคลที่สามเล่าเรื่องนะคะ แต่ตั้งแต่มาเริ่มเขียนแบบตัวละครเล่าเรื่อง เรากลับเขียนแบบเดิมไม่ได้อีก คราวนี้ปกติ ขม กับ ภาพ จะบรรยายใช่มั้ย แต่คราวนี้เราใช้น้องหัวหอมมาบรรยาย การบรรยายความคิดของเด็กสี่ขวบ แม่ง โคตรยาก!!
ให้อภัยหนมด้วยนะคะ ถ้าไม่น่ารักเท่าไหร่

สุดท้ายนี้นั่นนนนน เจอกับตอนสุดท้าย อาทิตย์หน้านะ
ฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
และสุดท้ายนี้ นิยายเรื่องนี้เปิดจองแล้ววว ใครสนใจ รายละเอียดตามภาพเลยค่าาาาา
ห้าสิบคนแรก ได้การ์ดขอบคุณของน้องหัวหอมด้วยนะคะ และตอนนี้มันยังไม่เต็มนะแกรรรร

(http://www.mx7.com/i/23d/qlnqud.png)(http://www.mx7.com/i/2c4/5aeBvh.jpg)

(http://www.mx7.com/i/298/eiomTf.jpg)

........................................
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 11-08-2017 20:59:20
จะร้องไห้ตามกาลิคกับขมเด็กดีของป้า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-08-2017 21:10:01
เป็นตอนที่น่ารักมากกกกกกกกก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 11-08-2017 21:18:01
กาลิคน่ารักอะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-08-2017 22:17:07
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 11-08-2017 22:37:44
ขมมมเศร้าาา เปยไรรรรร
เกิดไรขึ้นนนนน
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-08-2017 23:31:38
มีความเอ็นดู
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 12-08-2017 00:06:13
อย่าดราม่าเยอะนะ คนอ่านใจบางมาก สงสารไปหมดทุกคน :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-08-2017 03:54:02
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-08-2017 04:26:22
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 12-08-2017 08:11:16
รักกาลิค รักคุณแม่อาขม รักป๊าภาพมากๆๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-08-2017 08:41:21
กาลิคน่ารัก~
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 12-08-2017 11:33:14
กาลิคน่ารักมากๆๆๆ ดีใจกะบอาขม ได้การ์ดวันแม่ของกาลิค รักครอบครัวนี้จัง อ่านแล้วมีความสุขมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับนิยาย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 12-08-2017 16:10:36
กาลิคลูก มาให้ป้ากอดที น่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 12-08-2017 17:47:12
หัวหอมน่ารักมากลูก ว่าแต่ขมเศร้าเรื่องอดไรหว่า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 12-08-2017 20:16:37
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-08-2017 20:44:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 13-08-2017 09:23:43
อยากหอมแก้มหัวหอมแบบอาขมมั้ง เด็กอะไรน่ารักน่าฟัดมาก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: แป้งข้าวหมาก ที่ 13-08-2017 20:28:03
กาลิคน่ารักจริงๆเลยลูก  :L1:
อืมมมม....แต่ขมเหมือนไม่ได้เจอไม่ได้คุยกับคุณแม่นานแล้วรึเปล่า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 15-08-2017 09:39:06
หัวหอมน่ารักมากๆๆๆๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 15-08-2017 11:01:51
กาลิคน่ารัก เป็นเด็กที่ไม่เหมาะกับการเก็บความลับซินะ 5555

ตอนนี้ซึ้งมากเลย ว่าแต่ขมไม่ไปไหว้แม่หรอ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 15-08-2017 21:08:28
ร้องไห้ตามเลยอ่า
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 16-08-2017 03:30:36
ตอนนี้อ่านแล้วน้ำตาคลอตามเลย กาลิคเป็นเด็กดีและกตัญญูมากลูก หนูสมควรที่จะได้ความรักดีๆจากอาขมแล้ว :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Sasitorn ที่ 16-08-2017 11:53:56
อ่านตอนพิเศษแล้วแบบ น้ำตาคลอ หัวหอมน่ารักมากลูก อยากไห้มีตอนพิเศษออกมาเยอะๆนะค่ะ ชอบน้องหัวหอม ชอบอาขม ชอบป๊าภาพ 55555 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 18-08-2017 20:46:12
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 52

   ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่แปลกไปกว่าทุกวัน ทั้งๆที่เมื่อคืนผมนอนไม่หลับเลยแต่กลับตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า ถอนหายใจออกมาเบาๆตอนที่ดึงขาเล็กๆที่ตั้งอยู่บนอกเพราะนอนดิ้นให้กลับไปอยู่บนเตียง เผลอยิ้มออกมาตอนมองดูหัวหอมที่หลับสนิทแบบนอนฉีกแข้งฉีกขาเต็มที่ ลูบผมนุ่มๆของมันก่อนจะเผลอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนออกมาอีกแล้ว เรื่องที่ทำให้หนักใจจนนอนไม่หลับกับประโยคของมันที่พูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองแล้วไม่เดินกลับออกมาอีกเลย

   ' มึงยังจำตอนที่มีนาเข้ามาคุยกับกูได้มั้ย ทุกอย่างในวันนั้นมันก็เหมือนกันกับในวันนี้นั่นแหละ วันนั้นมึงบอกกูว่ามึงไม่มีเหตุผล มึงหึง อยากจะให้กูไม่ต้องไปยุ่งกับน้องเค้า วันนั้นกูยอมทำตามมึงเพราะกูเข้าใจมึง แล้วทำไมวันนี้ มึงถึงไม่เข้าใจกูบ้างวะ ' 

   ก็จริงอย่างที่มันพูด ถ้าหวนกลับไปคิดว่าให้น้องมีนามานั่งคุยกับมันสองต่อสองผมเองก็คงไม่ชอบใจเหมือนกัน ถอนหายใจออกมาอีกครั้งผมพิงตัวเองเข้ากับหัวเถียง ทั้งๆที่คิดว่าเมื่อวานจะได้เคลียร์แล้วก็คืนดีกัน สุดท้ายแม่งดันแย่กว่าเก่าอีก รู้งี้กูใช้วิธีไอ้หัวหอมดีกว่า แม้ว่าวิธีนั้นมันอาจจะมีต่อมากกว่านั้นในแบบผู้ใหญ่ แต่คิดไปคิดมา แม่งก็คงรู้สึกดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เพราะตอนนี้แค่คิดว่าอีกไม่นานต้องออกไปเจอมัน ก็ไม่รู้จะทำหน้าแบบไหนแล้ว ดูท่าทางมันจะโกรธผมมากกว่าเมื่อวานซะอีก แล้วกูยิ่งง้อใครไม่ค่อยเป็นอีก.. ทุกอย่างก็ยิ่งแย่เข้าใหญ่

“ แค่คิดก็เครียดจนลงกระเพาะแล้ว " ก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจออกมาเซ็งๆ ผมเหลือบมองหัวหอมที่กำลังนอนหลับอยู่  เจ้าตัวเล็กที่ดึงน้องหมีของตัวเองเข้าไปกอดไว้แน่น แก้มกลมๆที่กำลังบี้กับหมอน ปากสีชมพูเจ่อขึ้นมานิดหน่อยเพราะเบียดอยู่หัวของคุณหมี ขนตายาวสีดำเป็นแพ

    ถ้าเป็นเด็กก็ดีเหมือนกันนะ เข้าไปอ้อน ไปง้อ ไม่ถึงสิบนาทีก็ดีคืนกันแล้ว ต่อให้อีกคนโกรธแค่ไหนแต่สุดท้ายก็แค่โดนแก้มแรงๆแบบเต็มฟอดก็เท่านั้น

   ลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวเป็นชุดนักศึกษาเรียบร้อย ตอนที่เดินมาที่เตียงเจ้าตัวเล็กก็ดึงตัวเองขึ้นนั่งแล้วมองมาทางผม แววตาง่วงงุนของเด็กที่เพิ่งตื่นนอน หัวหอมกางแขนสองข้างออกกว้าง

“ อาขมม อุ้ม อุ้มกาลิคหน่อย อุ้ม " มันว่าเสียงงอแง ผมก็เดินไปนั่งบนเตียงเอื้อมมือไปดึงคนงอแงมานั่งที่ตักก่อนที่ใบหน้าน่ารักนั่นจะซบลงไปที่อก ลูบหลังเล็กเบาๆก่อนจะหยิบขวดน้ำลายการ์ตูนที่หัวหอมชอบมาเปิดฝาแล้วยื่นให้ดูด

“ กินน้ำหน่อยอะ " ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมหัวหอมถึงต้องกินน้ำตอนที่ตื่นนอนทุกครั้ง แต่ว่าตอนที่มันมาอยู่ที่นี่อาทิตย์แรกๆ วันนึงมันตื่นขึ้นมาแล้วร้องไห้งอแงกอดผมไว้แน่น ตอนนั้นคิดว่ามันคงหิวนมแต่เพราะมันยังเช้าอยู่มาก ง่วงก็ง่วงเลยจัดการหยิบน้ำตรงหัวเตียงให้กินไปก่อน แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นว่า ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา เจ้าตัวเล็กต้องกินน้ำก่อน

“ อาขม ไม่กินแล้ว " มันยื่นขวดให้ผมก่อนจะนั่งนิ่งๆอยู่แบบนั้นสักพัก

“ เราไปอาบน้ำกันดีกว่า เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ " อุ้มมันลงจากเตียงวางลงบนพื้น

   หัวหอมก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ ดึงเก้าอี้ที่เป็นบันไดของตัวเองออกมาจากข้างประตู แล้วจัดการแปรงฟัน ล้างหน้า ถอดชุดนอนแล้วเดินไปอาบน้ำ จัดการเช็ดตัวด้วยตัวเอง ทาแป้ง แล้วก็แต่งตัวด้วยชุดนักเรียน มือเล็กหยิบถุงเท้ามาใส่เองแม้ว่าจะต้องคอยช่วยบ้าง แต่ก็ถือว่ามันทำด้วยตัวเองเยอะกว่าที่ผมทำให้

" อาขม "

" ครับผม "

" อาขมคืนดีกับป๊ายัง เกี่ยวก้อยกันยัง " คำถามที่ทำให้ผมนิ่งไปสักพัก ไม่คิดว่ามันจะจำได้ ผมก้มลงไปจัดถุงเท้าของมันให้เข้าที่ก่อนจะเงยหน้ายิ้มให้มัน

" ดีกันแล้วสิ " ผมตอบ " จำได้ด้วยเหรอ ความจำดีเว้ย "

“ จำด้ายยย ก็กาลิคอยากให้ป๊ากับอาขมดีกันไวๆ "

“ ใจดีจัง เป็นห่วงอาขมกับป๊าด้วย ขอบคุณนะครับ " ใบหน้าน่ารักพยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมแล้วพาเดินออกไปนอกห้อง

“ ป๊ายังไม่ตื่นเลย " หัวหอมเอ่ยบอกตอนที่หันมองไปรอบๆแล้วไม่เจอใคร มันวิ่งไปที่ห้องไอ้ภาพก่อนพูดเสียงเคาะประตูพร้อมกับมือที่ก็เคาะไปด้วย " ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ป๊า ป๊าตื่นนน ตื่นได้แล้วนะ เช้าแล้ว เดี๋ยวจะสายน้า~ ป๊า~ "

    เดินเข้าไปในครัวตอนที่เห็นไอ้ตัวเล็กกำลังวุ่นวายอยู่ที่ประตูห้องของภาพ จะบอกว่าหลบหน้ามันที่กำลังจะออกมาจากห้องเลยเดินเข้าในครัวก็ได้ ก็อยู่ๆใจผมมันกลับเต้นแรงขึ้นมาตอนที่คิดขึ้นมาว่า ถ้าได้สบตากับมันตอนนี้จะทำหน้ายังไง หรือพูดอะไรออกไปเป็นคำแรกดี

“ ตื่นแล้วว ไหนมาอุ้มหน่อยยยยย " เปิดประตูออกมาแล้วก้มลงอุ้มไอ้ตัวเล็กไว้เป็นอย่างแรก ภาพหอมไปที่แก้มกลมๆนั่นเต็มฟอด " ทำไมแก้มเด็กมันถึงหอมแบบนี้ หื้มมมม  "

“ แล้วแก้มของป๊าหอมมั้ย "

“ ไม่รู้สิ กาลิคหอมหน่อย " ยื่นแก้มให้ลูกชายตัวเองหอม แต่อีกคนก็ส่ายหน้าก่อนจะมาทางผมที่ก็นิ่งไปทันที

“ ให้อาขมหอมก่อน " ภาพเหลือบมองผมที่ตอนนั้นก็มองมัน แต่อีกคนก็หลบหน้าก่อนจะหันไปหอมแก้มหัวหอมต่อ

“ อาขมไม่ว่างทำอาหารเช้าอยู่ กาลิคหอมป๊าหน่อยไม่ได้เหรอไง "

“ ก็ได้ กาลิคจะหอมป๊าเองนะ " ว่าแบบนั้น ก่อนมันจะก้มลงหอมแก้มภาพแล้วทำหน้ายู่ " ไม่หอมเลยป๊าาา ป๊าทาแป้งแบบกาลิคสิ จะได้หอมๆแบบกาลิค "

“ เหรอ โอเคไว้จะทานะ ตอนนี้กินขนมปังกันก่อนดีกว่า จะได้ไปโรงเรียน " ร่างสูงชี้ชวนให้ดูขนมปังที่ผมใส่จานมาวางไว้บนโต๊ะ จัดการรินนมสามแก้ว ผมยื่นให้มันอีกคนก็พยักหน้ารับเหมือนจะขอบคุณ เรากินอาหารเช้ากันแบบเงียบๆ คงเพราะหัวหอมไม่พูดเราสองคนก็เลยไม่รู้จะพูดอะไร

    หลังกินอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย เราก็ขับรถไปเรียนกันเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนดิมคือบรรยากาศภายในรถที่เงียบสนิทและไม่มีใครพูดอะไรออกมา ภาพจอดรถส่งกาลิคที่โรงเรียนผมปลดเข็มขัดนิรภัยออกก่อนจะพูดขึ้น " เดี๋ยวกูออกไปส่งหัวหอมเอง "

" อื้ม " ภาพพยักหน้ารับ ผมก็ดึงอีกคนขึ้นจากตักแต่ทว่าเจ้าตัวเล็กก็ขืนตัวเองไว้

" ไหงไม่ลุกละวะหัวหอม ไปโรงเรียนกัน เดี๋ยวสายนะ "

" ป๊า อาขม " มันเรียกเรา " กาลิคอยากจะให้ทั้งป๊าแล้วก็อาขม ไปส่งกาลิคข้างในโรงเรียน ไปส่งกาลิคพร้อมกันได้มั้ย " คำขอร้องที่ทำให้เราทั้งคู่นิ่งไป

   หัวหอมคงสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไประหว่างผมกับไอ้ภาพ ถึงปากจะบอกมันออกไปว่าดีกันแล้วแต่ว่ามันเองก็คงรู้ว่าเรายังไม่ดีกัน เพราะทุกอย่างรอบตัวของมันไม่เหมือนเดิม มันไม่สนุกสนานและมันก็ไม่มีความสุข

“ ได้สิครับ " ไอ้ภาพบอกมันลงจากรถ ผมเองก็ลงจากรถเหมือนกัน ปิดประตูล๊อครถเรียบร้อย เจ้าตัวเล็กก็ดึงผมที่มันจูงมืออยู่เข้าไปหาภาพ มือข้างนึงของมันเลยจับมือผม ส่วนอีกข้างก็เลยจับมือของภาพ เราเดินเข้าไปในเขตโรงเรียนด้วยกัน

“ เย้~ วันนี้ทั้งป๊าทั้งอาขมมาส่งกาลิคพร้อมกันเลย "

“ ทำเหมือนเราไม่เคยมาส่งพร้อมกันอย่างงั้นอะ " ผมถามมันก่อนจะยิ้ม " ปกติก็มาส่งพร้อมกันบ่อยๆนะ มารับก็บ่อยไม่ใช่เหรอ "

“ ก็เวลาที่อาขมกับป๊ามาส่งกาลิคที่โรงเรียน ทั้งป๊าทั้งอาขมมีความสุขมากเลย กาลิคเลยอยากจะให้ป๊ากับอาขมมีความสุขเหมือนเดิม เลยให้ป๊ากับอาขมมาส่งด้วยกันเลยยยยย " มันว่าก่อนจะแกว่งมือเราไปมา

   ในวินาทีนั้นผมเหลือบมองภาพ ส่วนภาพเองมันก็เหลือบมองผม ก่อนที่เราทั้งคู่จะก้มลงไปมองหัวหอม ไม่รู้ว่ามันตอนนี้จะรู้สึกยังไง ไม่รู้จะเสียใจรึเปล่า กับท่าทางที่เงียบๆของเราตอนนี้ 

" หัวหอม " ผมเอ่ยเรียกมันขาเล็กๆนั่นก็หยุดเดินพอดี เพราะใกล้ถึงจุดที่เราต้องส่งมันให้กับคุณครูแล้วแต่เพราะผมยังมีสิ่งที่อยากจะถามมันอยู่เลยต้องหยุดอยู่ตรงนี้ ย่อตัวลงตรงหน้ามันอีกคนก็เอียงหน้า " อาขมมีอะไรจะถามหน่อย ตอนนี้หัวหอมกำลังรู้สึกเสียใจรึเปล่าที่ป๊ากับอาขมไม่พูดกัน "

" กาลิคไม่ได้เสียใจน้า " มันส่ายหน้า " ก็คุณครูเคยเพื่อนๆที่ทะเลาะกันว่า เราอยู่ห้องเดียวก็ต้องทะเลาะกันบ้าง แต่เราก็ต้องดีกันไว้น้า~ เราจะได้มีความสุขแล้วก็เล่นกันทุกวันเลยไง คุณครูบอกแบบนั้น แล้ว แล้วอาขม ป๊า กาลิคก็อยู่ด้วยกันเหมือนกันเหมือนเพื่อนในห้องเลยใช่มั้ยครับ กาลิคก็เลยรู้ว่าเราก็ต้องโกรธกันบ้าง แต่ว่าก็ต้องดีกันไว้น้า~  " มือเล็กที่จับมือไอ้ภาพดึงมือนั้นให้เอื้อมมือมาจับมือผม " เราจะได้ความสุขเหมือนเดิมไง  "

“ เราไม่ได้โกรธกันหรอก " ภาพเอ่ยบอก หัวหอมก็หันไปมองคนเป็นพ่อ ผมเองก็ด้วย " เราก็แค่มีเรื่องที่ต้องคุยกันให้เข้าใจแต่ตอนนี้ ยังไม่ได้คุยจนเข้าใจก็เท่านั้นแหละ "

“ จริงเหรอป๊า " เจ้าตัวเล็กถามก่อนจะยิ้มกว้างออกมา แล้วหันมองผมกับพ่อของตัวเองสลับกัน " งั้นอาขมกับป๊าก็ต้องคุยกันให้เข้าใจเร็วๆด้วยน้า~ "

“ ครับผม " ภาพรับคำ ผมก็เอื้อมมือไปลูบหัวมัน

“ เข้าโรงเรียนได้แล้ว เดี๋ยวสายนะครับ " บอกแบบนั้นใบหน้าน่ารักก็พยักหน้ารับก่อนจะดึงตัวเองเข้ามากอดผม แล้วก็ไอ้ภาพ

“ ป๊ากับอาขมเย็นนี้มารับกาลิคด้วยกันอีกนะ " โบกมือบ๊ายบายเราก่อนขาเล็กนั่นจะเดินเข้าไปในโรงเรียน ผมลุกขึ้นยืนพร้อมไอ้ภาพตอนที่หลังเล็กนั่นหายไปจากสายตา

“ ไปเรียนกันเถอะ " ร่างสูงพูดออกมาเสียงเบามัันหันหลังเดินไปที่รถ แล้วนั่นก็เป็นคำสุดท้ายที่มันพูดกับผมตั้งแต่ขับรถออกไปจากโรงเรียนหัวหอมจนถึงมหาวิทยาลัย

   เลื่อนเก้าอี้ในห้องเรียนออกผมนั่งลงข้างไอ้โมที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับหน้าจอมือถือ คงกำลังคุยกับไอ้ชัดอยู่แน่นอน ยิ่งช่วงนี้ตัวติดกันยังกับตังเม ความรักสุกงอมเต็มที่ ไอ้โมก็สวยวันสวยคืน และผมก็คิดว่าเหตุผลที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ก็คงเพราะมันมีความสุขมากๆกับความรักที่เป็นอยู่นั่นแหละ ส่วนกูที่หม่อนหมองเหมือนอมทุกข์บวกกับไม่ได้ขี้มาหลายวันนั้น.. คงมีความรักก็ใกล้ถึงวันอวสานเต็มทีแล้วสินะ

“ มาแล้วเหรอมึง " ไอ้โมหันมาถามผมก็พยักหน้ารับ " เป็นอะไร หน้าตาดูไม่ได้ ไม่ได้นอนเหรอวะ "

“ อื้ม นอนไม่ค่อยหลับ "

" ทำไมอะ กาลิคไม่สบายเหรอ "

" เปล่าหรอก " ฟุบลงบนโต๊ะหลังจากบอกมันเสร็จก่อนจะเอียงหน้าถามมัน " โม เคยมีผู้ชายมาจีบมึงมั้ย "

“ ถามทำไมวะ " มันหันมาบอกยิ้มๆ " ก็ไอ้ชัดไง "

“ ไม่สิ ไม่ใช่ไอ้ชัดกูหมายถึงคนอื่น หลังจากคบกับชัดแล้วเคยมีคนเข้ามาจีบมึงบ้างมั้ย "  คำถามที่ชวนให้อีกฝ่ายขมวดคิ้ว โมส่ายหน้าไปมา

“ ไม่มี ทำไมวะ มึงมีคนมาจีบเหรอ "

“ ก็ไม่เชิงว่าอย่างงั้น แต่ไอ้ภาพบอกว่าเป็นอย่างงั้น ไอ้หัวหอมก็บอก " ผมตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ไอ้โมฟังตั้งแต่ที่พาหัวหอมไปฉีดยา เจอกันที่ห้าง แม้แต่เรื่องที่ทะเลาะกับไอ้ภาพเมื่อคืน " มึงคิดว่าไงวะ "

" ขออยู่ฝั่งไอ้ภาพแล้วกัน " มันพูดสั้นๆผมก็ถอนหายใจออกมาแล้วฟุบลงที่โต๊ะอีกครั้ง

“ กูไม่รู้จะง้อมันยังไง นี่มันเอาแต่เงียบไม่พูดอะไรกับกูเลย พอเป็นแบบนั้นกูเองแม่งก็เริ่มไม่ถูก ไม่รู้จะพูดกับมันด้วยประโยคไหนดี มึงว่าเอาไงดีวะ "

“ ก็ชวนมันคุยก่อนดิ แบบเรื่องทั่วๆไป เรื่องกาลิคก็ได้ แล้วจากนั้นก็ค่อยเข้าเรื่อง พอเข้าเรื่องแล้วมึงก็จัดการบล๊อคเบอร์คุณหมอเค้าไปเลยแล้วกัน "

“ บล๊อคเลยเหรอวะ "

“ นี่ถามจริงๆ มึงคิดว่าหมอเค้าจะโทรมาทำไม ถ้าไม่โทรมาจีบมึง " โมเอียงหน้าถาม " ขายแพคเก็ตตรวจสุขภาพกับมึงเหรอ ?  มันไม่ใช่หน้าที่หมอนะกูว่า "

“ มึงรู้มั้ยตอนนี้ที่กูอยากจะบล๊อคเบอร์ของหมอไม่ใช่ว่าคิดว่าเค้าจะมาจีบกูนะ แต่กูรู้สึกว่ากูเองก็ควรเข้าใจภาพอย่างที่มันเข้าใจกูเหมือนกัน คิดสภาพว่าถ้าน้องมีนาโทรมาหาภาพกูเองก็คงไม่อยากจะให้มันคุย ไม่ว่าจะคุยเรื่องอะไรก็ไม่อยากจะให้มันคุยทั้งนั้น เหมือนมันกลัว กลัวว่าพอได้พูดแล้ว ถ้ารู้สึกดีขึ้นมาจะทำยังไง ถ้าไอ้ภาพหันไปชอบมีนาขึ้นมา กูจะทำยังไง "

“ ภาพเองก็คิดแบบนั้นแหละ มึงเองก็รู้ไม่ใช่ว่าไม่รู้สักหน่อย แล้วทำไมยังไม่กล้าคุยกับมันวะ "

“ ไม่รู้จะเริ่มยังไง " ผมก้มหน้าลงก่อนจะถอนหายใจแล้วกระทืบเท้าไปมา หงุดหงิดตัวองเหมือนกัน ที่อยู่ๆก็กลายเป็นคนพูดไม่ออกไปเฉยๆแบบนี้ 

   เมื่อก่อนถ้าโกรธกับมันคงเข้าไปกอดคอแล้วบอกว่า ' มึงอะอย่าโกรธกูดิวะ แม่งงง อะไรกันน ตุ๊ดอ๋อวะ น้อยใจไปได้ ' จากนั้นก็หน้าด้านคุยกับมันไปเรื่อยแล้วสุดท้ายก็ดีกันเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้นแล้ว ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมจะพูดอะไรมันก็ยากขึ้น

“ มึงเป็นเพื่อนสนิทกันมันนะ เมื่อก่อนโกรธกันง้อไงก็ง้อไปแบบนั้นแหละ "

“ ตอนนี้กับตอนนั้นมันไม่เหมือนกันนะเว้ย จะให้พูดเหมือนเดิมได้ไง "

" กูจะบอกให้นะ เพราะมึงคิดอยู่ตลอดว่ามันไม่เหมือนเดิมนั่นแหละ มันก็เลยเป็นแบบนี้  แต่ถ้ามึงคิดว่าทุกอย่างเหมือนเดิมแต่มันแค่เพิ่มขึ้น ตอนนี้มันก็คงไม่มีอะไรยากหรอก "

" เหรอ "

“ ก็เรื่องที่มันเพิ่มขึ้นตอนที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน ก็มีแค่เรื่องหึงกัน กับเซ็กส์ ไม่ใช่เหรอวะ อย่างอื่นมันก็ยังเหมือนเดิม " ก็อาจจะจริงอย่างที่ไอ้โมพูด ทุกอย่างรอบตัวผมมันก็ยังเดิม เราอยู่ห้องเดียวกัน มามหาลัยด้วยกัน กินข้าวเย็นพร้อมกัน เลี้ยงหัวหอมด้วยกัน แต่ที่เพิ่มมาก็แค่ ภาพเป็นคนที่สามารถจูบผมได้แล้ว หรือแม้จะหึงผม ก็ทำได้ " กูว่านะขม ถ้ามึงคิดว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิมได้ มึงคงมีความสุขกว่านี้อะ อย่างน้อยวันนี้มึงก็คงดีกับมันไปแล้วแหละ "

   เดินมาที่รถของมันหลังจากเลิกเรียนมองเข้าไปในรถที่ไม่มีใครมา ผมพิงแผ่นหลังลงที่ประตูรถ ในสมองของผมคิดถึงแต่คำพูดของไอ้โม มันอาจจะจริงอย่างงั้นเพราะตลอดมาก็เหมือนเอาแต่คิดว่า ไม่ใช่เพื่อนแล้วเราเป็นแฟนกัน คิดแบบนี้อยู่ตลอดจนตัวเองก็โคตรที่จะเกร็งตอนที่อยู่ใกล้มัน

   ติ๊ด

   เสียงปลดล๊อครถพร้อมกับไฟที่วาบขึ้นผมหันไปดูอีกทางไอ้ภาพเดินมาพร้อมหนังสือของมัน ผมยิ้มก่อนจะเอ่ยถาม " เรียนเสร็จแล้วเหรอมึง "

“ อื้ม " มันตอบสั้นๆ ใบหน้าคมที่นิ่งอยู่บอกผมว่า มันก็ยังโกรธผมอยู่เหมือนเดิม ภาพเปิดประตูเข้าไปในรถ ผมเองก็เปิดเข้าไปนั่งตามมัน

“ แล้ววันนี้พอไปรับหัวหอมกลับมาจากโรงเรียนแล้วเราไปกินอะไรกันดีวะ มึงอยากจะกินอะไร "

“ กูได้ทั้งนั้นแหละ มึงลองถามไอ้กาลิคแล้วกัน  " แล้วทุกอย่างก็เงียบไป ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะมองมันที่ขับรถนิ่งๆ ก็ไม่รู้จะชวนพูดอะไรอีกคราวนี้ในรถก็มีแต่ความเงียบอีกครั้ง รถแล่นมาถึงโรงเรียนของไอ้หัวหอมเราจอดรถที่ลานจอดก่อนจะเดินเข้าไปข้างในด้วยกัน ผมที่หันไปบอก “ ถ้ามึงไม่อยากจะพูดก็ไม่ต้องพูด แต่ต่อหน้าไอ้หัวหอมก็ช่วยพูดหน่อยแล้วกัน “

“ อื้ม รู้แล้ว “ มันเดินนำผมไป กูอยากจะถีบสักที   ถ้าไม่ติดว่าผู้ปกครองเยอะแยะเดี๋ยวเค้าจะเห็นว่าครอบครัวเรารุนแรงและใช้กำลัง ผมก็คงจะถีบแม่งให้กลิ้งแล้วละ ถามคำตอบคำ งอนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด งอนจนผมตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน แม้ว่าเรื่องทั้งหมด มันจะผิดที่ผมที่ไม่ฟังมันก็เถอะ

" K " พูดออกไปสั้นๆ ผมเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ตอนที่มันหันมามอง อย่าให้กูโกรธมึงบ้างก็แล้วกัน ฝากไว้ก่อนเถอะ

   เสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้นหลังจากเรามาถึงไม่นาน เด็กตัวเล็กๆวิ่งออกมาหาพ่อแม่ตัวเองที่มารอรับ รวมถึงไอ้ตัวเล็กของผมด้วย สองแขนที่กางออกกว้างกอดเข้าที่ตัวผมก่อนจะยิ้มกว้าง

“ ป๊ากับอาขมมารับพร้อมกันเลย "

“ ใช่แล้ว " ผมบอก มันก็ทำหน้าตกใจขึ้นหน่อยๆ

“ อ๊ะ! ลืมอีกแล้ว " เสียงใสๆว่า ก่อนจะถอยหลังไปก้าวนึงแล้วก้มหน้าลงไหว้แล้ว " ป๊าสวัสดีครับ อาขมสวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ " เราพูดพร้อมกันก่อนจะก้มลงยิ้มให้มัน หัวหอมเข้ามากอดผมที่ก็อุ้มมันขึ้นมา

“ กลับบ้านกันดีกว่า อยากจะกินอะไรดีวันนี้ "

“ แล้ววันนี้ป๊ากับอาขมดีกันรึยัง " มันเอียงหน้าผมที่ตอนนั้นไอ้ภาพเองก็เอียงหน้าเข้ามาหาแล้วตอบมัน

“ ดีกันแล้วแหละ "

“ จริงเหรออาขม " มันยิ้มกว้างให้ภาพก่อนจะหันมาถามผมเพื่อความแน่ใจ

“ จริงสิ ดีกันแล้วแหละ "

“ ดีจังเลย เย้ๆ ดีกันแล้ว " ซบลงที่ไหล่ของผม เราเดินออกไปจากโรงเรียน ตอนที่เข้าไปนั่งกันในรถภาพก็เอ่ยถามผม

“ แล้วตกลงไปกินอะไรกันดี "

“ อื้ม " ผมคิดก่อนจะถามคนที่นั่งอยู่บนตัก " หัวหอมอยากจะกินอะไร แต่ไม่เอาเคเอฟซีนะ "


“ งื้อออออออ ก็อยากกินอันนั้นอันเดียวนี่~ " มันว่าเสียงดัง ท่าทางงอแงที่เรียกรอยยิ้มให้เรา แขนเล็กกอดอกก่อนจะหันหน้าหนีผม " งั้นไม่เลือกแล้ว อาขมจะกินอะไรก็กินเลย "

“ มีงอนอีกเว้ย " ไอ้ภาพว่าก่อนจะยื่นมือมาเกลี่ยแก้มมัน

“ ก็เพิ่งกินไปวันนั้นเอง กินอย่างอื่นบ้างสิ สเต๊กมั้ย ไปกินสเต็กหมูกันดีกว่า สปาเก็ตตี้ด้วยเป็นไง หัวหอมจะอยากกินมั้ยนะ "

“ อยากกกกกก " มันหันมาบอก ก่อนจะกอดคอผมไว้ " กินนะ อาขม กาลิคอยากกิน "

“ โอเค กินก็กิน "

“ ตกลงสเต็กนะ แล้วจะกินที่ไหน " มันถามผมก็คิด

“ ในห้างแล้วกัน "

“ โอเค "

   ขับรถไปกินสเต็กร้านดังในห้างกันเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะตรงกลับบ้านแบบไม่รอช้า เสียงพูดคุยเจื้อยแจ๊วชวนให้ยิ้มกันมาตลอดทาง ไอ้ภาพแซวหัวหอมเป็นระยะ ตอนที่เราขึ้นมาบนห้องของคอนโดมันก็เจ้ากี้เจ้าการเอากุญแจจากมือผมไปเปิดประตูห้องให้

" ถึงแล้ววววววววว " วิ่งเข้ามานั่งที่โซฟา วางกระเป๋านักเรียนของตัวเองตั้งลงแบบนั้น และสิ่งแรกที่มันทำคือ คว้ารถของเล่นที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาไถไปมาตามโต๊ะ " บรึ้นๆ ไปเลยยยย ฉิ้วว "

“ หัวหอมเดี๋ยวจะอาบน้ำก่อน หรือจะทำการบ้านก่อน "

“ ทำการบ้านก่อน แล้วก็อาบน้ำ แล้วก็ดูการ์ตูน แต่ว่านะอาขม วันนี้น่ะที่โรงเรียนน้องรินเน่เล่าว่า คุณแม่ของน้องรินเน่ให้น้องรินเน่นอนคนเดียวแล้ว "

" อย่างงั้นเหรอ " ผมพยักหน้ารับ อีกคนก็พยักหน้ารับตาม

" แล้วน้องรินเน่ก็มาถามกาลิคว่า กาลิคน่ะนะ นอนคนเดียวรึเปล่า แล้วกาลิคก็บอกว่าเปล่า กาลิคนอนกับอาขม แล้วน้องรินเน่ก็เลยบอกว่า กาลิคไม่เป็นผู้ใหญ่เลย  "

" อ้าว ทำไมอะ "

" ก็คุณแม่ของน้องรินเน่บอกกับน้องรินเน่ว่า เด็กที่นอนคนเดียวได้คือผู้ใหญ่แล้ว เพราะงั้นน้องรินเน่ก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว  ก็น้องรินเน่นอนคนเดียวได้แล้ว น้องรินเน่บอก  "

“ เหรอออออ " เรื่องหลอกเด็กทั้งนั้นอะ นอนคนเดียวได้คือเป็นผู้ใหญ่มันใช่ที่ไหนกันเล่า ยังไงก็ตัวเท่าเมี่ยงอยู่ดีนั่นแหละ

“ แล้วก็นะ อาขม กาลิคอยากจะเป็นผู้ใหญ่บ้างอะ ให้กาลิคนอนคนเดียวได้มั้ย "

“ ห๊ะ ? “ ผมอ้าปากค้างกับคำถามของมันที่พูดขึ้นมา " เดี๋ยวนะเดี๋ยว คือ จะนอนคนเดียวแล้วจะให้อาขมไปนอนที่ไหนละ "

“ ก็ไปนอนห้องป๊าไง " มันชี้ไปที่ห้องของร่างสูงที่ก็ชะงักแก้วน้ำที่กำลังกินอยู่ในครัวทันที 

" นี่ เดี๋ยวสิอยากจะนอนคนเดียวจริงๆนะเหรอ ไม่กลัวรึไง " ผมถามอีกคนก็นิ่งคิด

" ถ้าน้องรินเน่บอกว่าไม่น่ากลัว กาลิคก็จะต้องไม่กลัว ก็น้องรินเน่เป็นผู้หญิง น้องรินเน่ยังไม่กลัวเลย กาลิคเป็นผู้ชายก็ต้องไม่กลัวสิ " ถอนหายใจออกมาเบาๆ โมเม้นต์ผู้ชายเข้มแข็งจากไหนมาเข้าสิงลูกกูวะเนึ้ย แล้วประเด็นคือ เรื่องแม่งมีให้เกิดได้ทุกวัน แต่แล้วทำไมต้องเป็นวันนี้ วันที่ผมกับไอ้ภาพกำลังโกรธกันอยู่ด้วยวะ

" นี่ จะนอนจริงๆเหรอ อาขมให้เวลานะ คิดดีๆก่อน เดี๋ยวทำการบ้านให้เสร็จ อาบน้ำดูการ์ตูน แล้วค่อยบอกอีกทีก็ได้ "

" กาลิคจะนอนคนเดียว กาลิคจะเป็นผู้ใหญ่แบบน้องรินเน่ "

" คิดอีกทีน่า " คิดอีกทีเถอะลูกกกก แล้วตอนนั้นในใจของผม มันสวดมนต์ขอพรให้ระหว่างนี้หัวหอมเปลี่ยนความคิดอยากจะรู้อยากจะลองนั้นให้หมดไป ลืมคำพูดของน้องรินเน่ แล้วก็ลืมความอยากจะเป็นผู้ใหญ่ของตัวเองไปให้หมดสิ้น

.......................................................
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 18-08-2017 20:47:10

   หัวหอมทำการบ้าน อาบน้ำแล้วก็ดูการ์ตูนเสร็จเรียบร้อยตอนนี้ได้เวลาเข้านอนแล้ว มันที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องนอนผมก็เอ่ยถาม " หัวหอมคืนนี้ให้อาขมนอนด้วยสินะ จะนอนคนเดียวจริงๆอะ จะนอนได้เหรอ "

" ด้ายยยยยยยย " มันลากเสียงยาวก่อนจะพยักหน้ารับ " ก็กาลิคจะเป็นผู้ใหญ่ คืนนี้จะนอนคนเดียว พรุ่งนี้ก็จะได้ไปอวดน้องรินเน่ ว่ากาลิคก็เป็นผู้ใหญ่แล้วน้า~ "

" แล้วแบบนั้นอาขมจะไปนอนไหนละ "

" ก็นอนกับป๊าไง " มันยังคงย้ำอย่างงั้นด้วยความชัดเจน " คุณพ่อคุณแม่ของน้องรินเน่ยังนอนด้วยกันเลย อาขมกับป๊าก็ต้องนอนด้วยกันได้ " หื้ม ? .. ก็นั่นมันสามีภรรยามั้ยละวะ แล้วเค้าก็ไม่ได้โกรธกันเหมือนผมกับไอ้ภาพตอนนี้ด้วยไง  แล้วต้องเสือกจะเป็นวันนี้เนอะ 365 วันที่ผ่านมาทำไมมึงไม่คิดจะอยากนอนคนเดียวบ้าง ทำไมต้องวันนี้!!

“ ระวังน้าา ให้อาขมไปนอนห้องป๊า พรุ่งนี้ป๊าไม่คืนอาขมกลับมาแล้วอย่ามางอแงละกันไม่มีเราให้กอดน่ะ " ยกคิ้วให้มันอีกคนก็เถียงขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง

“ ป๊าต้องให้คืนนนนนน " มันลากเสียง " ก็กาลิคให้ป๊ายืมอาขมไปนอนกอดเฉยๆ ไม่ให้ให้ตลอดไปสักหน่อย " อยู่ๆก็หน้าแดงขึ้นมากับคำพูดของมันซะอย่างงั้น ไอ้ที่บอกว่ากาลิคให้ป๊ายืมอาขมไปกอดเนี้ย กูคนนะเว้ย ไม่ใช่หมอนข้าง " ป๊าาาาา " มันวิ่งเข้าไปหาคนเป็นพ่อกอดขาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง

“ ครับ ว่าไง "

“ กาลิคให้ป๊ายืมอาขมของกาลิคไปนอนกอดหนึ่งคืนนะ แล้วพอกาลิคเป็นผู้ใหญ่แล้ว กาลิคก็จะมาเอาอาขมไปนอนกอดเหมือนเดิม กาลิคให้ป๊ายืมเฉยๆ ป๊าอย่าเอาไปตลอดนะ " เสียงเจื้อยแจ๊วของมันยิ่งฟังหน้าของผมก็ยิ่งร้อนแต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า มันเป็นคำพูดที่น่ารักมากจริงๆ ไอ้ภาพพยักหน้ารับ

“ ได้สิ ไว้เดี๋ยวจะให้คืน "

“ เย้~ “ ส่งเสียงดีใจสุดๆแล้ววิ่งมาจับมือผมก่อนจะลากให้เข้าห้องนอนไป หัวหอมขึ้นไปบนเตียง มันนอนลงแล้วห่มผ้าห่มของตัวเองเรียบร้อย ก่อนจะเอื้อมมือมาตบเบาๆที่เตียงฝั่งที่ว่าง " อาขมมาตรงนี้ มากอดกาลิคก่อนนะ ให้กาลิคหลับแล้วอาขมก็ค่อยไปนอนกับป๊า "

“ ตกลงว่าจะนอนคนเดียวจริงๆอะ " ผมถามย้ำมันอีกครั้ง ใบหน้าน่ารักนั่นก็พยักหน้ารับ

“ คร๊าบบบบ ป๋ม!”

“ โอเค งั้นก็ขยับมาตรงนี้ " อุ้มมันให้มานอนตรงกลางเตียงหน่อยกลัวมันจะดิ้นจนตกเตียงลงมาแล้วจะเจ็บตัวเปล่าๆ ผมนอนลงข้างๆลูบหัวมันแล้วกอดมันไว้ ถ้ามองในอีกแง่หัวหอมที่รู้จักทำอะไรแบบนี้คนเดียว ก็ดูเข้มแข็งแล้วก็เด็ดเดี่ยวพอตัวเลยเหมือนกันนะ เป็นนิสัยที่ผมรู้สึกว่ามันคล้ายไอ้ภาพมากเลยแหละ

     ลมหายใจที่ผ่อนเข้าออกสม่ำเสมอของคนที่กำลังหลับอยู่ในอ้อมกอด ผมดึงตัวเองออกมาจัดผ้าห่มให้มันแล้วเอาหมอนแบบหนาๆหนักๆ ขนาบข้างตัวมันกั้นไว้ไม่ให้มันนอนดิ้นจนเกิดตกเตียงไป

     เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอน กำลังคิดว่าจะเข้าไปอาบน้ำในห้องไอ้ภาพหรือว่าอาบที่ห้องตัวเองดี แต่ถ้าอาบที่ห้องตัวเองผมก็กลัวว่าเด็กที่หลับไปแล้วจะตื่นขึ้นมา แต่ถ้าไปอาบห้องไอ้ภาพที่ไม่พูดไม่จาตลอดเวลา แม่งก็โคตรอึดอัด

“ ไม่ๆ กูจะคิดว่ามันอึดอัดไม่ได้ " ผมบอกตัวเอง " ยังไงก็ต้องเคลียร์กันให้จบในคืนนี้แหละ หน้าด้านไปเลย ขม สู้ๆ " สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

   เดินออกจากห้องของตัวเองไปที่ห้องของอีกคน เจ้าของห้องที่กำลังนอนกระดิกเท้าอยู่ที่โซฟายังอยู่ในชุดเดิมในมือ ถือมือถือไถไปเรื่อยเปื่อย ห้องไอ้ภาพจะใหญ่กว่าห้องของผมอยู่สักหน่อย เตียงกว้างที่ปูผ้าปูนอนลายกราฟฟิคโทนสีเทาเข้ากับโซฟาตัวสีแดงที่ตั้งอยู่ที่ปลายเตียง

“ มึงขออาบน้ำหน่อย "

“ อื้ม " มันตอบสั้นๆผมก็เดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ จัดการตัวเองแต่งตัวเรียบร้อยก่อนจะออกมาถามมัน
 
“ มึงไม่อาบน้ำอะ เล่นโทรศัพท์อยู่ได้ ดึกแล้วนะมึง พรุ่งนี้ไปเรียนอีก " เหมือนเสียงที่ดังออกไป ผมกำลังพูดกับตัวเองอยู่ เพราะคนที่ผมพูดด้วยมันกลับนอนเล่นมือถือนิ่งๆไม่ได้สนใจอะไรเลยสักอย่าง และตอนนี้ผมก็รู้สึกว่า ขั้นกว่าของไอ้หัวหอมก็คือตัวพ่อมันนี่แหละ " ไอ้ภาพ.. "

“ มึงนี่ขี้บ่นจังเว้ย ยังกับแม่กูเลย " มันว่าสั้นๆก่อนจะวางมือถือลงบนโซฟาแล้วเดินไปอาบน้ำตามที่ผมบอก

   ถอนหายใจออกมาเซ็งๆ นอนลงบนเตียงก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเช็คนู้นเช็คนี่ไปเรื่อยเปื่อย เสียงเลื่อนประตูห้องน้ำถูกเปิดออกผมหันไปมองไอ้ภาพที่ใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียวนอนเดินออกมา ลุกขึ้นนั่งมองมันที่กำลังทาครีมแบบลวกๆอยู่ที่โต๊ะกระจก

“ ภาพ นี่มึงยังไม่หายโกรธกูอีกเหรอวะ โกรธนานไปแล้วนะ ดีกันเถอะวะ " ผมบอกอีกคนก็หันมามอง " มันน่าอึดอัดนะมึง มึงที่เป็นแบบนี้อะ  ดีกันเถอะวะ นะ นะภาพนะ นะๆ " เอียงหน้ายิ้มให้มันแต่ร่างสูงกลับหันไปทาครีมเหมือนเดิม  " เชี้ย..” สบถออกมาเสียงเบาๆตอนที่เห็นท่าทางของมันแต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ เสียงโทรศัพท์มันก็ดังขัดผมขึ้นมาก่อน

   ครืน ครืน ครืน

“ ใครโทรมาวะ " ก้มลงดูเบอร์เป็นเบอร์แปลกที่ผมไม่คุ้น " เบอร์ใครวะ "

“ เบอร์คุณหมอมั้ง " ไอ้ภาพบอกก่อนจะทำทีเดินออกไปนอกห้องแต่ผมก็คว้ามือมันไว้

“ แล้วมึงจะไปไหน "

“ ออกไปข้างนอก มึงจะได้คุยโทรศัพท์กับเค้าแบบสบายๆไง ถ้ากูอยู่เดี๋ยวเกร็ง "

“ ไม่ให้ออก " ผมบอกสั้นๆก่อนจะเดินไปยืนกั้นมันเอาไว้ไม่ให้ออกไปไหน มือที่จับแขนมันก็จับไว้แน่น ภาพจ้องผมด้วยสายตานิ่งๆก่อนจะเอ่ยอะไรขึ้นสักอย่างแต่ตอนนั้นมันก็จำใจเงียบลงไป เพราะผมกดรับสายที่ดังนั่นแล้ว " สวัสดีครับ " ผมพูดก่อนจะเปิดลำโพงของโทรศัพท์

“ สวัสดีครับ คุณขม " ปลายสายที่ตอบกลับมา ผมจำเสียงเค้าได้แม่น ไม่ผิดแน่

“ สวัสดีครับคุณหมอ " ผมตอบกลับปลายสายก็เหมือนยิ้มผ่านสายมา

“ ดีใจจัง จำเสียงกันได้ด้วย " เค้าพูดแล้วในตอนนั้นไอ้ภาพก็เหลือบสายตาไปมองทางอื่นทันที " แล้วคุณขมทำอะไรอยู่ครับ ผมโทรมากวนรึเปล่า "

“ ก็ไม่ได้กวนหรอกครับ ผมกำลังเล่นมือถือรอง่วงอยู่น่ะ "

“ อย่างงั้นเหรอ แล้วน้องหัวหอมตอนนี้คงหลับแล้วสินะครับ "

“ ครับ หลับแล้ว " ผมบอก " นี่คุณหมอ ถามจริงๆเถอะ โทรมาหาผมทำไมเหรอ " คำถามที่ทำให้ปลายสายเงียบไปทันที แม้แต่ไอ้ภาพที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมมันก็ยังหันมาสนใจ " ที่โทรมาหาผม มีธุระอะไรเหรอครับ "

“ จะบอกว่าธุระมันก็คงไม่ใช่หรอกนะ " เค้าเว้นเสียงก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ " จริงๆผมชอบคุณน่ะ ก็เลยไปขอเบอร์โทรศัพท์ของคุณจากพยาบาล แล้วก็ตั้งใจว่าจะโทรมาชวนคุยด้วย "

   เหลือบมองภาพที่มันเองก็หันมามองผม ใบหน้าคมยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมาแววตาที่บอกผมว่า ' เห็นมั้ย มันต่างจากที่กูคิดซะไหนละ '

“ งั้น..ต้องขอโทษด้วยนะครับ คือ ผมมีแฟนแล้วละ " ก้มหน้าที่กำลังเขินนั่นลง ผมไม่กล้ามองไอ้ภาพตอนที่เอ่ยคำนั้นออกมา

“ คุณขมมีแฟนแล้วเหรอ “

“ ครับ “ ผมตอบ “ ก็คุณพ่อของเจ้าหัวหอมไงครับ แฟนของผม “ คำพูดที่เอ่ยออกไปนั้น ในวินาทีถัดมาคนที่ถูกกล่าวถึงก็ก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากของผมทันที

   เงยหน้าขึ้นสบสายตากับมันที่กำลังยิ้มก่อนจะก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง จูบที่ผมเผยอปากน้อยๆให้มันสอดลิ้นเข้ามา ปล่อยมือที่กุมมันไว้ภาพกอดเอวผมก่อนจะผละริมฝีปากออกแล้วไล่จูบจากแก้มลงมาถึงคอ

“ อย่างงั้นเหรอครับ " ปลายสายที่พูดเสียงเบาๆ ผมรู้ว่าเค้าคงกำลังผิดหวัง แต่นั่นคงไม่ใช่คนที่ผมต้องแคร์

“ ขอโทษด้วยนะครับ " ผมกัดปากตัวเองเบาๆตอนที่เอ่ยบอกไป เพราะตอนนี้หัวนมของผมมันกำลังแข็งชันด้วยการดูดดึงและขบเม้มจากริมฝีปาก ผ่านเสื้อนอนตัวบางที่ผมสวมใส่ " ผม.. ไม่อยากจะเข้าใจผิดกับแฟนน่ะ เพราะงั้น  เพราะงั้นก็อย่าโทรเข้ามาอีกนะครับ " เสียงพูดที่กำลังสั่นพยายามควบคุมให้มันนิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ภาพจูบลงบนริมฝีปากของผมอีกครั้งตอนที่ผละออกเราสบตากันแล้วในตอนนั้นผมก็บอกออกไป " แล้วผมก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจจากเค้าด้วย "

   เอื้อมมือที่กำลังถือมือถือนั้นไปกอดคอมันเอาไว้ไม่รู้ทำไมแต่ผมกลับยื่นหน้าเข้าไปจูบมันและนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมจูบมันก่อน จูบดูดดื่มที่ไม่ค่อยเชี่ยวชาญของผมชวนให้ไอ้ภาพยิ้มแต่ทว่าเสียงในมือถือที่ยังไม่วางสายไปก็พูดขึ้นมา

" คุณขมครับ แต่ว่านะ "

" ไม่มีแต่ เหี้ยอะไรทั้งนั้นแหละไอ้สัด วางไปได้แล้วคนจะเอากัน แล้วเลิกโทรมาหาเมียกูด้วยนะ กูหวง ของของกู " ภาพดึงมือถือในมือผมไปพูดใส่เสียงดังก่อนจะตัดสายแล้วโยนมือถือของผมลงเตียง

“ ยังไม่ทันบล๊อคเบอร์เลย " ผมบอกตอนที่หันไปมองโทรศัพท์ของตัวเอง ไอ้ภาพก็หอมแก้มก่อนจะไล่จูบลงมาที่คอ มันถอดเสื้อของผมออกแบบรวดเร็ว จูบลงที่แผงอกแล้วใช้ลิ้นสะกิดเบาๆที่ยอดอก " อ๊า.. มึง " ผ่อนลมหายใจกับความรู้สึกที่ชวนให้ลั่นไปทั้งร่าง มือของผมจับที่ไหล่หนาของมัน บีบเบาๆก่อนจะถาม " ภาพ หายโกรธกูยัง "

" หายแล้ว " มันเงยหน้าขึ้นบอก เราสบสายตากันอีกครั้งภาพจูบเบาๆที่ริมฝีปากมันยิ้มกว้าง " หายโกรธตั้งแต่ที่มึงบอกว่า แฟนมึงคือพ่อของไอ้หัวหอมแล้วละ "

" งั้นก็ดี ขอโทษจริงๆนะเรื่องของคุณหมอ ขอโทษที่ดื้อกับมึง "

" ไอ้ดื้อ " ภาพยิ้ม " แต่กูหวงมึงจริงๆนะขม " มันพูดพลางดึงผมเข้าไปกอดแล้วซบลงที่ไหล่ " กูหวงมึงมาก มากจนไม่อยากจะให้ใครหน้าไหนทั้งนั้นเข้ามายุ่ง "

“ เหมือนกัน " ความรู้สึกของผมก็คงไม่ต่างอะไรจากมันในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นความหึงหวง หรือว่าความรู้สึกลึกๆที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ในตอนนี้ ได้แต่หลับตาลงผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆยามที่ริมฝีปากของภาพ จูบไปตามเรือนร่างของผม

   นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกร่างกายตัวเองชาไปหมด หัวใจที่เต้นแรงไม่ค่อยเป็นจังหวะ มันมีคำพูดนึงที่ผมอยากจะเอ่ยออกมาแต่ไม่กล้า ได้แต่ยอมรับในใจของตัวเอง ว่าตอนนี้ตัวผมกำลังรู้สึกดีเอามากๆ ความอุ่นของริมฝีปากที่กำลังดูดดื่มกับร่างกายของผม มือหนาที่ลูบไล้ไปทั่ว สอดเข้าไปในกางเกงนอน ก้นกลมๆถูกบีบเป็นจังหวะ ก่อนที่กางเกงตัวนั้นจะถูกถอดลงไปกองอยู่ที่ข้อขา

   ผมเด้งหน้าอกของตัวเองตอนที่ปลายลิ้นชื้นสะกิดขึ้นลงอย่างหยอกล่อกับยอดอก เม้มริมฝีปากที่กำลังครางเสียงที่น่าอายนั้นออกมา  ส่วนกลางที่กำลังแข็งชันของผม น่าแปลกที่มันตั้งขึ้นง่ายขนาดนี้ ทั้งๆที่คนตรงหน้าเป็นผู้ชายด้วยกัน และหนำซ้ำยังเป็นเพื่อนสนิท

" ภาพ " เสียงเบาๆที่หลุดออกจากปากของผม คนที่ผมเอ่ยเรียกก็เลื่อนขึ้นมาจูบที่ริมฝีปากอีกครั้ง มือหนาที่ลูบอยู่ที่ก้นย้ายลงจับที่ใต้เข่าก่อนจะยกขึ้นมาแนบข้างตัวของมัน

   ผมสะดุ้งตัวน้อยๆตอนที่ปลายนิ้วนั้นถูลงบนช่องทางหลังของตัวเอง ร่างกายของผมสั่นตอนที่ริมฝีปากของมันไล่ลงมาจูบไปทั่วร่าง เป็นจังหวะเดียวกันที่นิ้วนั้นสอดตัวเองเข้าไปในช่องทางหลังของผม นิ้วแรกสอดเข้าไปจนสุด ผมเม้มริมฝีปากแน่นตอนที่มันสอดนิ้วที่สองและสามเข้าไป แล้วตอนที่ขยับเข้าออกช้าๆมันทำให้ผมรู้สึกสะท้านไปทั้งร่าง

   ภาพดึงตัวผมให้หันหลังทั้งๆที่นิ้วทั้งสามยังคงสอดอยู่ในตัว ดึงขาข้างนึงให้ยกขึ้นสูงพอประมานก่อนจะตั้งปลายเท้าลงตรงลิ้นชักหัวเตียง แผ่นหลังโดนดันให้ก้มลงไปข้างหน้า สองมือของผมก็ยันกำแพงไว้

" อ๊าา " เสียงครางน่าอายของผมที่เอ่ยออกมา ตอนที่สามนิ้วนั้นสอดเข้าออกและหมุนวนอยู่ภายในร่าง ไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน มันแปลกแต่ก็รู้สึกว่าต้องการมากเหลือเกิน " ภาพ กูเสียวจังวะ เหมือนว่า.. ตรงนั้นมันจะ อ๊ะ อื้ม ตรงนั้นเลย อ๊า" นิ้วย้ำลงไปตรงนั้นเป็นจังหวะทันทีหลังจากที่ผมพูดจบ แรงนิ้วที่สอดเข้าออกถี่ๆอยู่นานผมเม้นริมฝีปากตัวเองไว้แน่น " อื้ออออออ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊าห์ " ในที่สุดปลดปล่อยน้ำของความต้องการออกมาจากส่วนกลางของตัวเอง ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ แต่ภาพมันก็ยังไม่ขยับนิ้วของมันออกจากช่องทางหลังของผม

“ เสร็จเร็วกว่าที่คิดนะเนี้ย แถมยังใช้แค่นิ้วเอง "

“ เงียบไปเลยสัด " ผมว่า

" ขมิบรัดนิ้วกูใหญ่เลย รูตูดของมึง " ร่างสูงบอก ผมกลืนน้ำลายตัวเองลงก้มหน้ายอมรับว่ามันก็เป็นอย่างที่อีกคนพูดนั่นแหละ ขนาดตัวผมมันยังรู้สึกได้ มันเป็นความรู้สึกที่อยากได้อีก อยากได้มากกว่านี้อีก ทั้งจูบ ทั้งสัมผัส ทั้งนิ้วหรือแม้แต่ส่วนกลางนั่นก็อยากจะลองให้สอดใส่เข้ามา

" อ๊ะ " ภาพขยับเข้าออกอีกครั้งคราวนี้เป็นจังหวะที่ช้าลงสักหน่อย ก่อนมันจะหยุดลงผมก็หันไปมอง " หยุดทำไมวะ "

" ใส่ถุงยางแปปนึง " มันบอกแบบนั้น ผมที่กำลังค้างก็ขยับก้นตัวเองเข้าออกกับนิ้วของมันแทน ท่าทางที่ทำให้ไอ้ภาพยิ้มออกมาก่อนจะก้มลงมาจูบที่แผ่นหลังของผม " มึงนี่มัน เซ็กซี่โคตรๆเลยวะ "

" มึงก็เร็วๆสิวะ " ผมบอกเสียงสั่น ภาพเอานิ้วออกจากช่องทางหลังของผม ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นส่วนกลางของมันที่เริ่มต้นด้วยการถูเบาๆก่อนจะค่อยๆดันมันเข้ามาในร่างของผม " อ๊าาาาาาา " เสียงครางยาวๆของผมดังขึ้นทันทีในตอนนั้นอาจเพราะมันแตกต่างจากนิ้ว ทั้งใหญ่กว่าแล้วก็แน่นกว่า

" กูว่าย้ายที่ดีกว่า " ร่างสูงว่าพลางจับเอวของผมให้มาข้างเตียง ดึงให้ขึ้นไปบนเตียง ผมอยู่ในท่าคลานเข่าก่อนมือหนาจะจับเอวผมแล้วขยับให้ช่องทางหลังนั้นสอดเข้าออกกับส่วนกลางของมัน

   จังหวะเชื่องช้าที่สอดเข้าออกค่อยๆเป็นค่อยๆไป ก่อนจะค่อยๆเพิ่งแรงขึ้นตามลำดับ ส่วนกลางที่ถูกดันเข้ามาในร่างของผมจนมิดด้ามเสียงเนื้อที่กระทบกันของเรา

   นี่เหรอวะ ? เซ็กส์ในแบบของผู้ชายด้วยกัน ความรู้สึกเจ็บปวดจนทำให้น้ำตาไหลออกมา ทุกจังหวะที่ขยับเข้าออกมาก็แทบจะฉีกร่างกายให้ขาดออกเป็นชิ้นๆ แต่ทว่าถึงมันจะทรมานขนาดนั้น แต่กลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เป็นครั้งแรกที่เจ็บมากขนาดนี้แต่ใจมันกลับบอกว่า ต้องการอีก กระแทกลงตรงนั้นสิวะ อยากจะให้ใส่เข้ามาอีก

   ผมจิกผ้าปูที่นอนของตัวเองไว้แน่น เม้มเสียงของความทรมานที่มีความสุขนั้นไว้จนสุดแรงแต่ก็ไม่ไหว " อ๊ะ อ๊าห์ อ๊ะ อ๊ะ ภาพ มึง แรง แรงอีก กูจะเสร็จ จะเสร็จอีกแล้ววะ อ๊ะ อ๊ะ "

" กูเอง ก็จะเสร็จเหมือนกัน " มันว่าก่อนจะเพิ่มแรงอัดเข้ามาในแรงผมเต็มๆและถี่ยิบ ก้นที่ถูกดึงเข้าออกนั้นผมอ้าปากค้างอยู่นานก่อนจะเปล่งเสียงปลดปล่อยออกมาตอนที่น้ำแห่งความต้องการฉีดพ่นลงบนเตียงและเหมือนจะฉีดลงในช่องทางหลังของผมด้วย " อ๊าห์ " ปล่อยร่างช่วงบนลงกับเตียงทันทีด้วยความเหนื่อยอ่อน ผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ แม้ส่วนหลังจะยังถูกสอดใส่อยู่และรู้สึกได้ถึงส่วนกลางของมันที่ยังกระตุกอยู่เบาๆ

" อีกรอบได้มั้ย "

" พอก่อนเถอะไอ้เหี้ย เอาออกไปเลย " ผมบอกปัดมันก็หัวเราะก่อนจะดึงส่วนกลางของตัวเองออกไป ผ่อนร่างทั้งร่างนอนอยู่บนเตียงก่อนจะโดนร่างสูงที่ขึ้นมานอนข้างกันดึงตัวเข้าไปกอดไว้

" ไม่นอนดีๆอะ " มันถามแต่มือนั่นก็ยังกอดกันไม่ปล่อย ภาพจูบลงไหล่ของผมซ้ำๆ มือที่เอื้อมมาคว้ามือผมไปจับก่อนจะสอดนิ้วเข้าหากันแล้วกุมไว้แน่น " ขม กูรักมึง รักมึงมาก " คำพูดที่ทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างไร้สาเหตุผมเผลอยิ้มออกมาแล้วตอนนั้นก็ทำทีเป็นเอามือข้างที่ว่างปิดหูที่ใกล้ปากมันเอาไว้  เหมือนไม่อยากจะได้ยิน " กูรักมึงงงงงไอ้ขมมมม " มันกรอกเสียงเข้ามาในหูผมที่ย่นหูลงกับไหล่ก่อนที่มันจะหัวเราะออกมา

" เชี้ยยยหูกู ไอ้สัด พูดครั้งเดียวก็ได้ยินเล่า " ผมบอกทั้งๆที่ไม่ได้หันไปมองหน้ามัน

" ก็เห็นมึงปิดหูไม่ตอบรับ "

" แล้วจะให้ตอบรับเหี้ยอะไร "

" ตอบว่ารักกูเหมือนกันไง แบบพอกูบอกมึงว่า ขม กูรักมึง มึงก็บอกกูว่า อื้ม กูก็รักมึงภาพ แบบนี้ไง  " ทำหน้าจะอ้วกออกมาคือจะให้พูดคำนั้นออกมาตรงๆผมไม่กล้าหรอก สำหรับผมมันต้องมีช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นแหละ ถึงจะกล้าพูดได้

" ใครจะไปหน้าด้านเหมือนมึง อีกอย่าง.." ผมบอกแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ผมก็รู้สึกเหมือนส่วนกลางของมันที่เพิ่งสงบไปเมื่อครู่จะตั้งขึ้นอีกครั้งและตอนนี้ก็เหมือนกำลังจะดันก้นของผมอยู่ " เชี้ยภาพ พอเลย กูนอนละ "

   ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะปรับมุมนอนหันหัวตัวเองไปหนุนกับหมอน ไอ้ภาพที่หัวเราะเสียงดังขึ้นมาในตอนนั้น มันลุกขึ้นมาค่อมทับผมเอาไว้ก่อนจะยิ้มแล้วก้มลงหอมแก้ม

" ชิบหายแล้ว เหยื่อรู้ตัว " มันจูบที่ริมฝีปากของผม จูบดูดดื่มที่ผมตอบรับมันราวกับเป็นระบบอัติโนมัติ เราจูบกันอยู่นานในระหว่างนั้นมือมันก็คลึงเบาๆที่ส่วนกลางของผม และตอนที่ผละออกก็คือตอนที่ส่วนกลางของผมเองก็ตั้งชันขึ้นแล้วปากของผมก็ยังรู้สึกไม่พอกับจูบนั่นอยู่เลย " ขม กูขออีกรอบ " มันบอกตอนที่ยกขาสองข้างของผมขึ้นมาตั้งบนตักมัน ผมที่ตอนนั้นไม่ได้ตอบอะไรคงเป็นคำตอบให้อย่างดีอยู่แล้ว สำหรับคนชอบเข้าข้างตัวเองอย่างมัน

    เราที่สบสายตากันในตอนนั้นมันแทรกส่วนกลางของตัวเองเข้ามาจนมิดด้าม ก่อนที่แรงดึงดูดจะดึงเราเข้ามาหากันแล้วจูบกันอย่างดูดดื่ม ส่วนกลางที่กระแทกเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นจังหวะ มือของผมจิกลงทีแผ่นหลังหนาที่กอดผมไว้ สบสายตาคมที่มองผมด้วยความรู้สึกที่รักเสียมากมายอดใจไม่ได้เลยในตอนนั้นที่จูบมันเพื่อบอกความรู้สึกของตัวเองเช่นกัน

   น่าแปลกที่ผมกลับไม่รู้สึกเลยว่าร่างหนาที่กำลังกอดและแสดงความเป็นเจ้าของผมอยู่คือเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตของผม แต่ผมกลับมองแค่ว่า มันคือ คนรัก ของผม คนที่เพียงแค่สัมผัสกันเล็กน้อยก็สามารถทำให้ผมรู้สึกต้องการอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับว่าสิ่งตัวผมต้องการมาตลอดนั่นก็คือ มันคนนี้ คนที่ตอนนี้เป็นทั้งเพื่อน คนรัก แล้วก็ ครอบครัว ของผม

“ ภาพ " ผมเรียกมันเสียงเบาๆ ตอนที่บรือตามองมันที่กำลังสอดใส่ส่วนกลางเข้ามาในร่างของผม สองแขนที่กอดมันไว้ ผมจูบมันเบาๆก่อนจะบอก " กูรักมึงว่ะ "

“ กูเองก็รักมึง ขม “

......................................................................
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนพิเศษวันแม่ - 11.8.60} #หน้า 47 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 18-08-2017 20:47:37
“ อาขม อาขม อึก ฮือๆ อาขม อาขมอยู่ไหน อาขม อึก ฮือๆ อาขมมาหากาลิค อึก อาขม “ ผมได้ยินเสียงของหัวหอมร้องไห้อยู่ที่ไหนสักที่ในความฝัน แล้วในที่สุดก็เจอ สองขาที่วิ่งเข้าไปหาเจ้าตัวเล็กก็หันมาแล้วกอดผมไว้ แต่ทว่ามันในฝันนั้นก็ยังไม่หยุดร้องไห้สักที เสียงที่ยังคงงอแงนั้นชวนให้ผมลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วพบว่า เสียงนั่นยังอยู่ และนี่ไม่ใช่ความฝัน

“ เชี้ย " ผมสถบออกมาตอนที่ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมไอ้ภาพที่ก็ตื่นขึ้นเหมือนกัน มันหันมามองหน้าผมก่อนจะลุกขึ้นไปจากเตียงแทน

“ มึงนอนต่อเถอะ กูไปดูมันเอง " ร่างสูงว่าก่อนจะเดินออกไปจากห้องไป ผมตะโกนไล่หลัง

“ เอาน้ำให้มันกินด้วยนะมึง มันตื่น มันต้องกินน้ำ "

“ รู้แล้ว " ภาพตอบผมก็นอนลงบนเตียงที่เดิม ดึงผ้าห่มขึ้นมามองร่างกายตัวเองที่ตอนนี้ใส่เสื้อผ้ายังอยู่ครบ

" จริงๆก็เช็คดูเท่านั้นแหละ " เผื่อไอ้เชี้ยนั่นมาลักหลับผมจับถอดกางเกงใน แล้วไอ้หัวหอมเข้ามาพอดีแม่งก็เป็นเรื่อง  พลิกตัวคว้ามือถือขึ้นดูเวลาที่อีกตั้งสามชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาตื่นจริงๆ ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา

   เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปตั้งตีหนึ่งแล้ว จำได้ว่าพอจบรอบที่สาม มันทำท่าจะขอต่ออีกรอบ แต่เพราะตอนนั้นผมไม่ไหวแล้วครั้นจะบอกมันตรงๆคนอย่างมันก็มีล้านวิธีที่จะสร้างอารมณ์ให้ผมอยากทำกับมันอีก แบบนั้นก็เลยออกอุบายไปว่า ปวดฉี่ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการอาบน้ำให้สะอาดเรียบร้อย แต่คงจะอาบน้ำนานไปมั้ง ออกมาไอ้คนที่หมายจะทำอีกรอบแม่งก็หลับไปละ ไม่รู้มันไปตายอดตายอยากเรื่องแบบนี้มาจากไหน แต่แม่งโคตรบ้าพลัง ส่วนผมตอนนี้ก็พูดได้คำเดียวว่า ปวดตูด ปวดเอว และปวดขาอย่างที่สุด

   แกร็ก

   ประตูถูกเปิดออกผมหลับตาลงทำทีเหมือนกำลังหลับอยู่อยากจะรู้ว่าไอ้หัวหอมมันจะทำยังไงตอนที่เห็นผมหลับอยู่จริงๆ แต่เพราะไม่ได้ลืมตามอง เลยไม่รู้ว่าตอนนี้มันมายืนอยู่ปลายเตียง ก่อนจะกระโดนลงมาทับที่ท้องอย่างจังด้วยความไม่รู้ว่าเมื่อคืนผมผ่านศึกอะไรมา

“ อาขม! "

“ โอ๊ย!!!!! “ ผมร้องเสียงหลงตอนที่เด้งตัวขึ้นมาจากหมอนเพราะความจุก มือที่กุมหน้าท้องของตัวเองไว้ พลิกตัวเองให้คนที่นั่งอยู่บนตัวล้มไปข้างเตียงอีกฝั่ง " โอ๊ยยยยยยย เจ็บจังเลย อึก ฮือๆ เจ็บอะ หัวหอมทำ ฮือๆ เจ็บ " ทำทีเป็นร้องไห้ยกมือขึ้นปิดตาตัวเองไว้ ตอนที่มองผ่านซอกนิ้วเจ้าตัวเล็กก็ทำสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่ มันดึงตัวเองเข้ามาใกล้ผมก่อนจะจับที่มือที่ปิดหน้านั่นไว้แล้วถามไถ่ด้วยความห่วงใย

“ อาขม อาขมเป็นอะไร อย่าร้องไห้นะอาขมนะ "

“ หัวหอมทำ หัวหอมทำอาขมเจ็บ หัวหอมกระโดดมาทับที่ท้อง เจ็บเลย อึก ฮือๆ " ทำทีเป็นร้องไห้แกล้งมันต่อไป มือเล็กที่กอดผมไว้มันคงไม่รู้จะทำยังไง

“ กาลิคทำ กาลิคขอโทษนะ อาขม อาขมอย่าร้องไห้ กาลิคขอโทษ โอ๋ๆ " เสียงใสๆว่าพลางกอดผมไว้ให้แน่นขึ้น " กาลิคจะพาอาขมไปหาหมอ อาขมไม่เป็นไรนะ " ทำทีเป็นดึงผมขึ้นมาจากเตียงแต่เพราะมันแรงแค่นั้นคงยกตัวผมไม่ขึ้นหรอก

“ ไม่ต้องหาหมอหรอก แค่หอมแก้มเติมพลังให้อาขม อาขมก็หายแล้ว " บอกมันแบบนั้น มือเล็กๆก็ดึงมือผมที่ปิดหน้าตัวเองออกข้างนึงก่อนจะ หอมแก้มผมไปเต็มฟอด

“ หอมแล้ว หอมแรงๆเลย อาขมจะได้หายดี อาขมหายเจ็บยัง หายเจ็บยังครับ " มันถามเสียงอ่อนตรงท้ายประโยค ผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะเปิดมืออีกข้างแล้วเอื้อมไปกอดมันให้ล้มลงมานอนข้างๆ

“ หายแล้วววว ได้พลังจากหัวหอมไปหายสนิทเลยไม่เจ็บแล้ว " ไม่เจ็บกับผีนะสิ บอกตัวเองในใจ แม้ตอนนี้จะยิ้มให้มันอยู่แต่ในใจนี่ ร้องไห้โฮออกมาอย่างกับคนบ้าคลั่ง กูเจ็บบบบบบบบบบ

“ อาขม “ เสียงใสเอ่ยเรียกผมด้วยท่าทีอ้อนๆ เจ้าตัวเล็กขยับตัวเองเข้ามาซุกตัวผมมากขึ้นมันกอดไว้แน่น
 
“ ว่าไงครับ หื้ม ? แล้วนี่ร้องไห้ทำไม “ ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มตัวมันไว้อีกคนก็เงยหน้ามอง

“ กาลิคร้องไห้ เพราะตื่นขึ้นมาก็ไม่เจออาขมแล้ว แล้ว อึก ฮือๆ " มันร้องไห้ออกมาตอนที่เล่าให้ผมฟัง " มันมืดไปหมดเลย กาลิคกลัวอาขม กาลิคกลัว มันมืด " ปากเล็กๆนั่นแบะออกมันก็น่าสงสารอยู่หรอกนะ แต่ผมกลับยิ้มเอ็นดูมันออกมาซะอย่างงั้น เด็กหนอเด็กร้องไห้ยังน่ารักเลย

" ก็หัวหอมอยากนอนคนเดียวไม่ใช่เหรอ นอนคนเดียวตื่นขึ้นมาก็ต้องอยู่คนเดียวสิ จะมีอาขมอยู่ด้วยได้ไงละ จริงมั้ย "

" งั้นไม่นอนคนเดียวแล้ว กาลิคจะไม่นอนแล้ว กาลิคจะไม่ห่างจากอาขมอีก " มันส่ายหน้าไปมาทั้งน้ำตา ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้มันผมกอดมันไว้

" ไม่ต้องร้องไห้ อาขมก็อยู่นี่แล้วไง ไม่ต้องกลัวนะครับ  " มันคงจะตกใจมาก และไม่ทันคิดหรอกว่าเมื่อคืนตัวเองก็เป็นคนบอกเองว่าอยากจะนอนคนเดียว แต่พอตื่นขึ้นมากลางดึก มองไม่เห็นผมนอนอยู่ข้างๆเหมือนเคย มันก็คงกลัวมาก แถมในห้องยังมืดอีกเพราะตะวันยังไม่โผล่พ้นฟ้าเลย 

“ พรุ่งนี้กาลิคจะกอดอาขมไว้แบบนี้เลย จะไม่ปล่อยไปไหน " มันว่าเสียงอ้อนๆ ผมก็ได้แต่ยิ้ม

“ งั้นกาลิคก็ไม่เป็นผู้ใหญ่แล้วสิ " ไอ้ภาพที่เดินเข้ามาในห้องเอ่ยบอก มันนอนลงบนเตียงอีกครั้งก่อนจะขยับเข้ามาหาไอ้ตัวเล็กที่ก็ซุกลงกับอกผมแล้วหลบหน้าพ่อตัวเอง นิ้วหนาจิ้มที่แขนมันซ้ำๆ " ไหนบอกว่าอยากจะผู้ใหญ่ไง "

“ ถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้วจะไม่ได้กอดอาขม กาลิคก็ไม่อยากจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะเป็นเด็กแบบนี้ตลอดไปเลย " หัวหอมว่า ทำไมมันถึงเป็นเด็กที่ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขขนาดนี้ก็ไม่รู้ คำพูดคำจาที่ทำให้ผมตกหลุมรักมันครั้งแล้วครั้งเล่า
 
" ทำไมน่ารักอะไรขนาดนี้ " เอื้อมมือไปกอดมัน จูบที่หน้าผากเบาๆ เจ้าของตากลมก็เงยหน้าขึ้นบอก

" กาลิครักอาขม " โอ๊ยยยยยย พอที ใจบางไปหมดแล้ว   

" อาขมก็รักกาลิค " ผมบอกมันก่อนจะจุ๊บปากมันไปทีนึง อีกคนก็เงยหน้าขึ้นมาจุ๊บผมกลับ พอผมหอมแก้มมัน มันก็หอมแก้มผมกลับอีก เล่นกันอยู่แบบนั้นจนไอ้ภาพเอ่ยเสียงเบา

" จะรักกันอยู่สองคนก็ได้นะ ปล่อยป๊าไปเถอะ  ไม่ต้องสนใจกันก็ได้ " เสียงทุ้มว่าก่อนจะหันหลังหนีเรา ผมยิ้มออกมากับท่าทางงอนๆของมัน ก้มหน้ามองเจ้าตัวเล็กที่ก็ปล่อยมือจากตัวผมแล้วเข้าไปกอดภาพไว้ มันหอมแก้มภาพ

" ป๊าา กาลิคก็รักป๊านะ "

" เหรอออออ " มันว่าก่อนจะหันกลับมามองลูกชายตัวเองที่หอมแก้มมันอีกที

" กาลิครักทั้งคู่เลย รักอาขมม๊ากกกมาก แล้วก็รักป๊าม๊ากกกกมาก " เสียงใสๆที่บอกก่อนจะดึงตัวเองมานอนลงตรงกลางนิ่งๆ เราที่นอนมองมันที่กำลังยิ้ม ผมเหลือบสบตากับภาพก่อนจะเอื้อมมือไปกอดมันไว้พร้อมกัน ขยับร่างตัวเองแนบชิดมันไว้เจ้าตัวเล็กก็ยิ่งยิ้มกว้างไปอีก เสียงใสๆแห่งความสุขของมันทำให้เรายิ้มเอ็นดูในความใสซื่อนั่นอย่างไม่มีเบื่อ " ทั้งป๊าทั้งอาขมกอดกาลิคไว้แน่นเลย ดีจัง กาลิคชอบบบบ กาลิครักทั้งคู่เล๊ยยย "

   ....................................................................

มาทอล์คตอนจบกัน..

ในที่สุด นิยายเรื่องนี้ก็มาถึงการอัพเดทตอนสุดท้าย
ต่อจากนี้ไปถ้ามาอัพก็คงเป็นรายละเอียดของหน้าปกหนังสือ ที่กำลังจะเสร็จ  #ตัวอย่างมาแล้วน่ารักมากบอกเลย

ตอนแรกที่วางพล๊อตเรื่องนี้ จริงๆเขียนลงไปในเฟสนานมากแล้ว แต่ไม่ได้เขียนจริงๆจังๆสักที  จนกระทั่งหนมเขียนนิยายก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง จบ แล้วรู้สึกเหนื่อยกับชีวิตมาก เราล้า  มันหมดแรง  เราเลยรู้สึกว่า อยากเขียนนิยายใสๆ ที่มันช่วยฟื้นฟูใจเรา  เราเลยเอาเรื่องนี้มาเขียน  แล้วมันก็ฟื้นฟูใจเราจริงๆ 
น้องหัวหอมทำให้หนมรู้สึกมีความสุขกับการเขียนถึงเค้า และบอกเล่าเรื่องราวของเค้า ตอนที่เขียนเราคิดจะเขียนแค่สั้นๆ แต่สุดท้ายเรากลับติดใจเอง  ติดใจมากถึงขั้น รู้ตัวอีกทีนึงนิยายเล่มเดียวจบ กลับกลายเป็นนิยายชุด ที่มีสองเล่มจบ แถมยังมีตอนพิเศษเยอะมากกกก รวมๆแล้วตั้ง 84 ตอน

มีคนถามว่า ทำไมเขียนเยอะขนาดนั้นบ้ารึเปล่า ไม่บ้าหรอก เราเขียนมันด้วยความรัก เขียนให้คนที่รู้สึกรักครอบครัวนี้เหมือนกันได้อ่าน ก็เลยเขียนไปทั้งหมดที่รู้สึกนั่นแหละ เพราะไม่คิดจะทำภาคสองด้วย ถ้าทำคงเป็นแบบ กาลิคโตแล้วซึ่งมันก็คงเป็นอีกรูปแบบนึง แต่ยังไง หนมก็ชอบตอนกาลิคเด็กๆอยู่ดี
หลายคนคงรู้สึกว่า เขียนแบบนี้จะขายของอีกอะดิแก #เออใช่  ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
แต่จริงๆก็แค่อยากจะบอกว่าถ้าชอบนิยายเรื่องนี้ พยายามซื้อนิยายเรื่องนี้กันนะคะ เป็นไปได้ก็พยายามซื้อล๊อตแรกนี้ให้ได้นะ มันสนุกมากจริงๆ ถ้าได้อ่านเรื่องหาทั้งหมด คุณจะรู้สึกรักครอบครัวนี้ยิ่งกว่าที่รู้สึกตอนนี้อีก
มันมีหลายเรื่องมากๆ ที่อยู่ในหนังสือ และตอนพิเศษที่แถมมา มันครบเอามากๆ #ก็ยาวขนาดนั้นนี่นะ ฮ่าๆ   
ก็นี่มันเป็นนิยายอีกเรื่องที่หนมรักและทุ่มเททั้งหมดให้มันจริงๆ อยากให้ทุกคนรู้สึกดีและมีความสุขที่ได้รับมันไป

สุดท้ายนี้ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยเลี้ยงน้องหัวหอมมาตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้ ขอบคุณที่เอ็นดูเด็กคนนี้ และรักครอบครัวนี้มาเสมอ

ขอบคุณนะคะ เจอกันใหม่เรื่องหน้า
หนมมี่ผู้ใสซื่อ

และสุดท้ายนี้ นิยายเรื่องนี้เปิดจองแล้ววว ใครสนใจ รายละเอียดตามภาพเลยค่าาาาา
ห้าสิบคนแรก ได้การ์ดขอบคุณของน้องหัวหอมด้วยนะคะ และตอนนี้มันยังไม่เต็มนะแกรรรร

https://www.facebook.com/btskkanom/photos/a.565468863550962.1073741827.565459740218541/1329647333799774/?type=1&theater

(http://www.mx7.com/t/24e/NmP3kS.jpg)(http://www.mx7.com/t/0ed/fuGNdD.png)(http://www.mx7.com/t/05e/QHJJIk.png)
........................................
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-08-2017 21:16:59
 :pig4: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 18-08-2017 22:03:58
จบจริงๆ แล้วหรอ ขอบคุณมากนะคะ :3123:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 18-08-2017 22:17:26
จบแล้ว หืออออ
กาลิคขอนอนคนเดียวแค่คืนเดียวขมเรียบร้อยเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 18-08-2017 22:31:22
ใจหายจังเลย
 :mew2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-08-2017 22:47:31
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 18-08-2017 22:48:45
จำวันแรกที่อ่านได้ ตอนที่ภาพเอาหัวหอมไปทิ้ง คือแบบไม่อยากอ่านต่อ แล้วเป็นตอนที่สารภาพว่าอ่านผ่าน ๆ ที่สุด เพราะสงสารหัวหอม แล้วหลังจากนั้นก็เหมือนกับว่าเราทิ้งหัวหอมไปไม่ได้

ขอบคุณคนเขียนที่เขียนเรื่องนี้ครับ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-08-2017 00:28:37
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 19-08-2017 03:57:21
หัวหอมน่ารักจังเลย  แล้วจะนอนกับอาขมตลอดแบบนี้ ป๊าหนูก็อดทำน้องให้หนูอ่าสิหัวหอม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 19-08-2017 07:18:49
ติดตามชีวิตครอบครัวนี้มาตั้งแต่ต้น
จากเพื่อนรักกันแชร์ห้องกันสองคน
จนมีเด็กน้อยน่ารักอย่างน้องกาลิคเข้ามา
กว่าจะหาพ่อตัวจริงเจอ
ความสัมพันธ์ของเพื่อนซี้พัฒนา
จนกลายมาเป็นครอบครัวสมบูรณ์
มีคุณป๊าภาพ คุณม๊าขม และลูกกาลิค
ได้อ่านตอนสุดท้ายรู้สึกใจหายเบาๆ
ยังไงก็ขอบคุณสำหรับเรื่องๆน่ารักๆที่เอามาใหัอ่านกันนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 19-08-2017 07:23:19
จบแล้วหรอ ใจหายเหมือนกันนะ อยู่กันมาตั้งนานเอ็นดูหัวหอมเหมือนลูกเหมือนหลานไปละ  :mew4:
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆนะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 19-08-2017 14:45:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 19-08-2017 16:00:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 19-08-2017 20:27:31
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 20-08-2017 03:58:50
งืออออออ น่ารัก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 20-08-2017 10:09:47
เป็นครอบครัวที่น่ารักมากเลยค้าาาา
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 20-08-2017 18:52:13
เอ็นดูกาลิค ลูกกกกกก

หนูเล่นตอบแบบนี้อาขมจะไปไหนรอดเนี่ย?
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 20-08-2017 18:55:29
จบแล้วหรอ
คงคิดถึงหัวหอมมากเลย
ขอบคุณครับ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-08-2017 21:51:46
จบไปอีกเรื่องสำหรับนิยายดี ๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 21-08-2017 02:58:41
งืออออออ น่ารัก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: eiweiw ที่ 21-08-2017 21:52:06
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 22-08-2017 10:17:24
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ กาลิคน่ารัก อยากให้น้องเล็กๆที่บ้านเป็นอย่างนี้บ้าง (ความจริงช่างโหดร้าย) เรื่องสนุกมากเลยซึ้งด้วย ไม่ดราม่าจน้กินรับได้ ดี
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 22-08-2017 10:31:06
โอ้ย นิยายเรื่องนี้มันดีต่อใจจริงๆ รักหัวหอมของอาขม กอด! ทั้งสองคนแน่นๆ แล้วเขี่ยป๊าภาพออกไปนอกวง 5555
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: eiweiw ที่ 22-08-2017 20:42:45
 o13 :mew1: o13
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-08-2017 10:59:08
ขอบคุณมากนะคะสำหรับนิยายสนุกๆน่ารักแบบนี้  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 28-08-2017 09:31:27
จบแล้วอยากให้มีตอนพิเศษออกมาอีกจัง
ชอบน้องหัวหอม เป็นเด็กน่ารักมากๆ
ชอบคู่ชัดโมด้วย อยากให้มีตอนของคู่นี้เยอะๆ
น่ารักทุกคู่ และน่ารักที่สุดคือหัวหอมมมมม
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 06-09-2017 07:49:21
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 07-09-2017 10:57:24
ทำไมขมต้องเศร้าอ่ะ
คุณแม่ของขมเป็นตัวละครลับซะงั้น
อยากอ่านตอนแม่ของขมเจอกาลิคจัง
ตอนแรกนึกว่าจะเลี้ยงไม่รอดซะแล้ว
แต่ก็อยู่กันแบบครอบครัว น่ารักมากๆ
ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านจนจบนะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว + เปิดจองนิยาย )
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 21-09-2017 21:02:22
หลงรักหัวหอม น่าเอ็นดูจังลูก
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 52 - 18.8.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว+เปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก)
เริ่มหัวข้อโดย: patwo ที่ 11-10-2017 21:28:01
ประกาศรวมเล่มนิยาย ' เฮ้ย!! มันไม่ใช่ลูกกู ' 
เปิดจองตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม - 15 ตุลาคม ( รอบแรก )

รายละเอียดโดยรวม + ราคา

หนังสือ ' เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู ' เป็นหนังสือชุดมี 3 เล่ม ราคาชุดละ 1200 บาท

​(http://www.mx7.com/i/111/2rX9GG.jpg)
(http://www.mx7.com/i/003/L1eXfR.jpg)


รายละเอียดของหนังสือ

 เนื้อหาหลัก 38 ตอน ตอนพิเศษ 29 ตอน รวม 67 ตอน / * นิยายจะลงในเล้าเป็ด , ธัญวลัย , เด็กดี จนถึงถึงตอนที่ 53 เท่านั้น / - เนื้อหาตอนพิเศษของพิเศษ เพิ่มอีก 17 ตอน  / ** หนังสือเล่มพิเศษ 17 ตอนนี้ สงวนขายเฉพาะการตีพิมพ์ในรูปแบบหนังสือเท่านั้น ไม่นำขายใน ebook / - ปลอกสวมหนังสือเป็นชุด 1 ชิ้น

ของแถม       

    - ที่คั่น 3 ชิ้น โปสการ์ด 1 ใบ 

    - แฟนอาร์ตจิบิ เนื้อหาน่ารัก ๆ

สำหรับคนที่สั่งจองในรอบแรก !!! ( ภายในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ )

- การ์ดขอบคุณจากน้องกาลิค  50 คนแรก

- หนังสือตอนพิเศษ 3 ตอน !!


(http://www.mx7.com/i/1cc/3KSzoj.jpg)


รายละเอียดการสั่งจอง + โอนเงิน                 

1. เมื่ออ่านรายละเอียดเรียบร้อบแล้ว ให้โอนเงินมาที่บัญชี  ชื่อบัญชี นางสาวอรชา ภูมิมาตร  ธนาคารไทยพานิชย์ สาขา บางจาก  เลขที่บัญชี 0892649044  **( ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์และไม่มีพร้อมเพย์ )  " ถ่ายสลิปหลักฐานการโอนเงินเก็บไว้ด้วยนะคะ "

2. หลังจากโอนเงินแล้ว ให้แจ้งโอนมาที่ e-mail :: atrealkanomอย่าแสดงเมลบนบอร์ด พร้อมทั้งกรอกรายละเอียดดังต่อไปนี้ ชื่อ - นามสกุล ที่อยู่ ( อย่างชัดเจน อีกอย่างช่วยพิมพ์ให้ด้วยนะคะ อย่าส่งกันมาเป็นรูปที่อยู่นะคะ ) จำนวนหนังสือที่สั่งจองมีกี่ชุด  ความต้องการพิเศษอื่นๆ และกดส่งมาโล๊ดดดด

3. เมื่อแจ้งโอนแล้วจะได้รับข้อความตอบกลับภายใน 3 วัน  และถ้าหากไม่ได้ข้อความตอบกลับภายใน 3 วัน  DM twitter : @realkanom // กล่องข้อความ facebook : หนมมี่ผู้ใสซื่อ


#ทั้งนี้ที่1 หนังสือไม่ต้องจอง โอนเงินได้เลย
#ทั้งนี้ที่ 2 การโอนจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เมื่อได้รับอีเมล์ตอบรับค่ะ 
#ทั้งนี้ที่ 3 รายชื่อของคนโอนเงินแล้วจะอัพเดทให้ทุก 1 อาทิตย์ โดยประมาน



เช็ค และ ติดตามความคืบหนังสือของได้ทางเพจ fb " หนมมี่ผู้ใสซื่อ "

หากมีข้อสงสัย ติดต่อ  twitter : @realkanom  facebook : หนมมี่ผู้ใสซื่อ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 05-12-2017 20:15:11
เมื่อไกร่จะได้น้องหัวหอมน้าาาาา นี้รอที่ท่าน้ำทุกวันเลยยยย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: NooMary ที่ 14-12-2017 01:29:05
น้องหัวหอมน่าร๊ากมาก   เรานี่ร้องไห้ตามเลยตอนที่ภาพเอาน้องไปทิ้ง  ใจร้ายมากกกก  และก็ตอนน้องปวดท้องท้องเสียจนเข้าโรงบาลก็น่าสงสารเป็นที่สุด  เด็กที่ต้องอยู่บ้านคนเดียวแบบนั้น  งื้ออออ :hao5: :hao5: :hao5:

แต่เรื่องนี้ฟีลกู้ดมากเลยค๊า นี่ยังไม่รู้เลยว่าแม่ของขมจะมีปฏิกิริยายังไงบ้าง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 14-12-2017 22:36:02
กาลิคน่ารัก ตกหลุมรักน้องเลย  :m1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 17-12-2017 01:39:52
หลงรักกาลิค น้องน่ารักมากๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 01-05-2018 12:15:31
หลังจากที่เราดองเรื่องนี้มานานไม่ได้เข้ามาอ่านสักที ตอนนี้ได้ฤกษ์เข้ามาอ่าน สนุกมากเลยค่าาาาาาาา คือแบบดองทำไม ดองเพื่ออะไร ฤกษ์เราช้าไปไหม ถถถ หัวหอมคนน่ารักโตมาอยากมีแฟนเป็นป้าไหมคะ 55555 //โดนอาขมตบ ชอบการบรรยายค่ะ ช่วงที่กำลังอ่านไปได้ครึ่งนึงเราก็เริ่มคิดว่า แล้วภาพกับขมจะไปรักกันตอนไหนเนี่ย หัวหอมติดขมหนักมาก ความรักจะกระเตื้องขึ้นไหม.....แต่ในที่สุดก็ได้กันซะทีข่า เรานี่ลุ้นตัวเกร็งไปหมด จะตามไปอ่านต่อในเล่มนะคะ เยิฟฟฟฟ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 01-05-2018 19:20:00
โง้ยย สงสารกาลิค  :hao5: แม่น้องทำไม มีอะไรอ่ะ

ฮือ น่าจะลูกภาพไหมอ่ะ แต่ดูภาพทำสิ สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 01-05-2018 19:28:06
โอ๊ยย อิภาพ  :angry2: ฮือออ จะร้องไห้ สงสารกาลิค
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 2 - 18.2.60} #หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 01-05-2018 21:06:00
เด็กต่างด้าว!!! แล้วจะเอาหลักฐานที่ไหนไปสมัครเรียนล่ะหัวหอมเอ๊ยยยยย  :z3:
นี่เราจริงจังไปป่ะ? :m20:

เห้ย เราก็คิดเหมือนกันค่ะว่าน้องจะเอาหลักฐานจากไหนสมัคร

555 รู้สึกว่าตัวเองอินไปเหมือนกันอ่ะ น่าจะโคตรอินด้วย

แล้วก็ทั้งสองคนปรับตัวพูดดีๆ พูดเพราะๆ กับหัวหอมนะคะ   :L2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 4 - 24.2.60} #หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 02-05-2018 00:59:05
เอ~~ ภาพคิดอะไรเกินเลยคำว่าเพื่อนกับขมใช่มะ

ส่วนหัวหอมลูกกกกก ทำไมน่ารักจัง  :give2:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 11 - 19.3.60} #หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 02-05-2018 18:24:56
โอ๊ย หัวหอมลูกกก  :katai1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนที่ 33 - 4.6.60} #หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 03-05-2018 13:44:15
 :hao5: โอ๊ยยยยย หัวหอมเอ้ย แม่เธอก็นะ ฮือออ

ขอให้ตรวจดีเอ็นเอแล้วเป็นลูกภาพเถอะ อย่าไปอยู่กับแม่แบบ

นั้นเลย อย่างที่ว่านั่นแหละ พอมีลูกใหม่อาจไม่สนใจกาลิคเลย
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 03-05-2018 20:25:14
ลุ้นมาก ลุ้นตั้งแต่แม่กาลิคมาจนถึงพ่อ  :hao5:

แต่ก็นะตอนจบนี่มันแบบ  :jul1: ตายไปแล้วอ่ะ

อันที่ยังค้างคามีเรื่องเดียวคือเรื่องแม่ขม อ้อหอค่าตัวแพงมาก 55


เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ หัวหอมน่ารักมากๆๆ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: NongJesZa ที่ 02-12-2019 23:55:40
เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆ รักกาลิค อาขมและภาพน่ารักมากๆ รักเรื่องนี้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 04-12-2019 20:51:21
  :z13:
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 05-12-2019 13:02:49
อ่านรวดเดียวจบ หยุดไม่ได้
หัวหอมน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกก
โอ๊ยยย เลยละ

ขอบคุณนะคะที่เขียนให้อ่านจนจบ และจุใจ
อ่านแล้วอยากมีหัวหอมเป็นของตัวเอง
มันเขี้ยวน้องมาก อยากฟัดแก้ม อยากหอมตามเลยเชียว


มันเขี้ยว ... สะกด มันเขี้ยว นะคะ
ไม่ใช่ หมั่นเขี้ยว
ถ้า หมั่น ก็จะเป็น หมั่นไส้ หมั่นเพียร ทำนองนั้นค่ะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 19-12-2019 00:23:54
 :-[
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 23-12-2019 21:00:04
น่ารักมากกกกก

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: Areya ที่ 25-12-2019 05:31:57
น่ารักมากเลยลูกหัวหอมของป้า
อ่านรวดเดียวจบค่ะขอบคุณนิยายดีๆที่มีมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 18-01-2020 13:54:02
เรื่องนี้ ผู้ใหญ่ใสๆ แต่เด็กเจ้าเล่ห์ 555555
หัวหอมรู้ดีเกินไปแล้วลูกกกกก  :man1: