พิมพ์หน้านี้ - ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: Civillian ที่ 28-12-2017 03:10:06

หัวข้อ: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 28-12-2017 03:10:06
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้


1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
.
.
.
.
.
.
.

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า
นิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายเรื่องเเรกในชีวิต เเละอาจจะมีคำผิดเยอะ
หรือบางประโยค อ่านเเล้วเหมือนเเปลจากภาษาอื่น
เพราะว่าคนเขียนมาเรียนต่อที่ต่างประเทศตั้งเเต่อายุยังน้อย

เอาจริงๆ ค่อนข้างคิดหนังที่จะเอามาลงในเล้า
เพราะนิยายที่นี่เด็ดๆ ทั้งนั้น 555

นามปากกา Civillian C.
.
.
.

เรื่องย่อ
ขาเป็นเเฮกเกอร์วัยสามสิบปลาย ผู้มากความสามารถในการอ่านโค้ด
เเต่กลับโดนฆ่าตายเมื่อหวังจะถอนตัวจากวงการมาเฟีย
เเละในห้วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต...
เขาได้รอร้องต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โปรดไว้ชีวิตตนเพื่อที่จะได้กลับไปดูเเลน้องสาวเเละหลาน
*
สวรรค์เป็นใจ... เเต่เขากลับฟื้นขึ้งมาในร่างของเด็กหนุ่มวัยยี่สิบที่มีนิสัยไม่สู้คน
เเถมยังเป็นถึงหลานชายของนักธุรกิจชื่อดังอย่างเจ้าสัวธาราอีกด้วย!!!

สารบัญ
ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3761519#msg3761519) • ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3761679#msg3761679) • ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3761682#msg3761682) •  ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3762242#msg3762242)
ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3762244#msg3762244) • ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3762507#msg3762507) • ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3762875#msg3762875) • ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3762880#msg3762880)
ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3762880#msg3762880) • ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3762880#msg3762880) • ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3764133#msg3764133) • ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3764134#msg3764134)
ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3765735#msg3765735) • ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3766221#msg3766221) • ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3767115#msg3767115) •  ตอนที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3768427#msg3768427)
ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3769308#msg3769308) • ตอนที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3798005#msg3798005) • ตอนที่ 20 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3804292#msg3804292) • ตอนที่ 21 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64750.msg3807468#msg3807468) 





ตอนที่ 1 ผมไม่อยากตาย

     ณ ผับเเห่งหนึ่งในเมือง

     "เเกว่าไงนะสาวิทย์?" เสี่ยวิชัย เจ้าของผับเเละกิจการผิดกฎหมาย ถามร่างโปร่งตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์       

     "ผมอยากขอลาออก ผมใช้หนี้ให้เสี่ยหมดเเล้ว ส่วนข้อมูลทุกอย่างของกิจการเสี่ยเเละคู่เเข่งอยู่ในโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้" เจ้าของร่างโปร่งวางโน๊ตบุ๊คประจำตัวลงบนโต๊ะไม้ราคาเเพง "เสี่ยจะทำอะไรกับมันก็ได้ ผมจะพาน้องเเละหลานกลับไปอยู่บ้านเกิด เสี่ยไม่ต้องห่วงว่าผมจะขายข้อมูลให้คู่เเข่ง"   

     เสี่ยวิชัยขมวดคิ้วครุ่นคิด ก่อนที่จะเเสยะยิ้มออกมา "ได้ ถ้าเเกอยากออก ฉันก็ให้เเกออก เชิญ" ผายมือให้ลูกน้องตนออกจากห้อง สาวิทย์รู้สึกเเปลกใจกับท่าทีของอีกฝ่าย เเต่ไม่พูดอะไร เเละหมุนตัวจะเดินออกไป

     ปัง!

     เสียงปืนดังลั่น พร้อมกับร่างสาวิทย์ที่ล้มคว่ำลงพื้น ตาสีน้ำตาลเข้มเปิกกว้าง ลมหายใจติดขัด ร่างกายสั่นเทิ้ม

     "หึ" เสี่ยวิชัยเเสยะยิ้ม "คิดเหรอว่าฉันจะปล่อยเเกไปง่ายๆ ห๊ะ สาวิทย์" เสี่ยวัยกลางคนพูด พลางลุกจากเก้าอี้มายืนตรงหน้าชายหนุ่มที่ยังพอมีสติ เขารู้ดีว่าคนอย่างสาวิทย์ ถ้าคิดจะทำอะไรเเล้วไม่มีใครห้ามได้ จะหาวิธีหนีไปจนได้ ต่างจากน้อยชายมัน

     "ไหนๆ เเกก็จะตายเเล้ว ฉันจะบอกอะไรให้ น้องชายเเกไม่ได้ตายเพราะรถชน เเต่มันโง่ โง่เหมือนเเกไง ที่คิดว่าจะหนีฉันได้
ฉันเลยสั่งฆ่ามันเเล้วเอาไปเผาทิ้ง ฮ่าๆๆ" เสี่ยวิชัยพูดอย่างไม่รู้สึกรู้สากับการฆ่าคนเเละหัวเราะออกมาอย่างสะใจ

     "เเต่ฉันเสียดายฝีมือเเกจริงๆ สาวิทย์" เขาพูดด้วยน้ำเสียงราวกับเสียของเล่นชิ้นโปรด ก่อนที่จะนั่งลงเพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้า เเล้วจ้องเข้าไปในดวงตาเเข็งกร้าวของชายหนุ่ม

     "อึก...กะ...เเก" สาวิทย์พยายามเปร่งเสียง เเต่เลือดกลับไหลออกมากลบเสียงจนเเทบสำลัก

     "หึหึ" เสี่ยวิชัยไม่สะทกสะท้านใดๆ "ครอบครัวที่เหลือของเเกมีน้องสาวกับหลานเเกสองคน.... ความลับไม่มีในโลก ดังนั้นฉันจะจัดการถอนรากถอนโคนให้หมด มันจะได้ไม่ลุกมาเป็นเสี้ยนหนามทีหลัง" เสี่ยวิชัยประกาศเเละลุกขึ้น เดินออกจากห้อง

     สาวิทย์พยายามตะเกียดตะกายไปประตูที่กำลังปิด

     เขายังตายไม่ได้...

     ปล่อยให้มันฆ่าน้องกับหลานทั้งสองไม่ได้...

     เเต่ทว่า ร่างกายกลับอ่อนล้า ดวงตาเริ่มหนักอึ้ง
 
     เขาไม่เคยเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าชีวิตจะหนักหนาเเค่ไหนไม่เคยถือโกรธโทษอะไร เเต่ครั้งนี้ เเค่ครั้งเดียว ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ขอให้เขาได้ปกป้องเเละเจอหน้าครอบครัวอีกซักครั้ง ขอร้อง...

     สติของสาวิทย์เริ่มเลือนลางลงเรื่อยๆ

     เเละสุดท้ายดวงตาของเขาก็ค่อยๆ ปิดลงพร้อมกับบานประตูตรงหน้า



******



     ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ


     "บี๊บ….บี๊บ…" เสียงเครื่องวัดการเต้นหัวใจที่ดังอย่างสม่ำเสมอ บนเตียงมีร่างขาวซีดของชายวัยยี่สิบนอนสลบไสล ผิวขาวซีดเเลดูไร้ชีวิตชีวา ใบหน้าคมสันเหมือนชาวตะวันตก จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากอิ่ม โดยรวมเเล้วชวนให้ผู้คนหลงใหลได้ไม่ยาก ข้างๆ เตียงมีหญิงวัยกลางคนนั่งเฝ้า เเววตาของเธอฉายความห่วงใยชายหนุ่มอย่างเด่นชัด   

     "คุณหนูของป้าอร รีบๆ ฟื้นเถอะค่ะ"    เธอกว่าเเละเอื้อมมือไปเเตะบนเเขนที่ขาวปานกระดาษที่มีเข็มให้น้ำเกลือเจาะอยู่ 

     เปลือกตาของคนบนเตียงเริ่มขยับ เมื่อลืมตาขึ้น ก็เผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าอมเทาราวน้ำเเข็ง ปากอิ่มเปร่งเสียงออกมาอย่างยากเย็น "ทะ....ที่ไหน?" เขาพูดตะกุกตะกักพร้อมๆ กับเเละพยายามลุกขึ้น

     "คุณหนู! คุณหนูฟื้นเเล้ว!"  อิงอรรีบเข้าไปพยุงชายหนุ่มให้นั่งพิงหัวเตียง เเล้วกุลีกุจอรินน้ำใส่เเก้วให้เขาดื่ม

     "คุณหนูอย่าเพิ่งลุกจากเตียงนะคะ เดี๋ยวป้าจะไปตามหมอมา" พูดจบเธอก็ก้าวเท้าออกจากห้องไปอย่างเร่งรีบ

     "คุณหนู" ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างงุนงง ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร? ทำไมเรียกเขาว่าคุณหนู? แถมยังทำตัวราวกับว่ารู้จักกันมานมนาน
เขาหันซ้ายหันขวาสำรวจห้องสี่เหลี่ยมตามความเคยชิน เพื่อที่จะหาทางหลบหนีเวลามีเรื่องคับขัน ดวงตาสีฟ้าสวยของเขาหันไปเจอกระจกเงาบนโต๊ะ นั่นใคร? คนที่จ้องกลับมาเป็นใคร? ชายหนุ่มยกมือจับหน้าเพื่อความเเน่ใจ เงาในกระจกทำตามเขาทุกอิริยาบถ นี่มันอะไรกัน?

     ทำไมเขาฟื้นมาในร่างคนอื่น? สิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้คือ....

     โดนยิง! ใช่เเล้ว ไอ้เสี่ยชั่วฆ่าเขา สมองเริ่มประมวลข้อมูล หรือว่า.... คำขอร้องของเขาจะเป็นจริง? สาวิทย์ยิ้มขอบคุณสวรรค์ที่มอบโอกาสให้เขา

     เเต่ว่า... น้องกับหลานล่ะ? รอยยิ้มของเขาหุบลงเฉียบพลัน หัวใจกระตุกเต้นรัว เขาดึงเข็มให้น้ำเกลือออกจากเเขนอย่างไม่เเยเเสต่อความเจ็บ ร่างโปร่งลุกจากเตียง  ก่อนจะทรุดลงพื้น เมื่อพบว่าเเรงขาเเทบไม่มี เขาพยายามเกาะเตียงลุกขึ้น เเต่มันช่างยากเหลือเกิน ป่านนี้ไม่รู้ครอบครัวเขาเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง

     ขอร้อง... อย่าให้พวกเขาเป็นอะไรเลย




         
         
///ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
ติชมได้ เเต่อย่าเเรงมาก
คนเขียนเซ้นซิทีฟ 555555

โดย Civillian C.



หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 28-12-2017 03:36:10
ตอนที่ 2 สายไปเเล้ว?


     "ว้าย! คุณหนูคะ ลุกขึ้นมาทำไม?" ป้าอรตกใจเมื่อเธอเปิดประตูเข้ามาเเละพบเจอกับกวินทร์ที่นั่งอยู่บนพื้นเเละพยายามเกาะเตียงพยุงตัวเองขึ้น

     ธีรไนยหรือคุณหมอธีที่เข้ามาพร้อมป้าอร รีบเข้าไปพยุงร่างโปร่งขึ้นเตียง เขาเคยเจอหนุ่มน้อยผู้นี้ไม่กี่ครั้ง ตอนพ่อพาเขาไปเยี่ยมเจ้าสัวธารา ปู่ของกวินทร์ ผู้มีพระคุณต่อโรงพยาบาลของครอบครัวตน
     ตอนนั้นมีเคสคนไข้ข้อเท้าเเพลง หมอที่รับผิดชอบเคสนั้นและเป็นคนใส่เฝือกให้คนไข้ชื่อหมอไปรยา เธอเป็นหมอที่โรงพยาบาลรับเข้ามาทำงานเพราะคุณอาของเขาเเนะนำมา เเต่หมอผู้มากฝีมือของคุณอากลับสะเพร่าเเละไม่ใส่ใจต่อคำบ่นของคนไข้ ที่บอกว่าปวดขาหลายต่อหลายครั้ง เธอเเก้ปัญหาอย่างมักง่าย ด้วยการฉีดยาเเก้ปวดให้คนไข้ จนต่อมา คนไข้บอกรู้สึกว่าขาชาไร้ความรู้สึก หมอไปรยาถึงยอมผ่าเฝือกออก เเละพบว่าเธอใส่เฝือกจนรัดเเน่น ทำให้เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงเท้าได้ ทำให้คนไข้ต้องโดนตัดเท้าข้างนั้นทิ้ง
         
     เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่โต ทำให้ชื่อเสียงโรงพยาบาลครอบครัวเขาย่ำเเย่ ผู้สนับสนุนงานวิจัยได้ถอนตัวออกไปหลาราย เเต่เจ้าสัวธาราที่เป็นรุ่นน้องของปู่เขาในตอนนั้นได้ยื่นมือเข้ามาช่วย จนโรงพยาบาลสามารถกอบกู้ชื่อเสียงเเละความเชื่อถือจากประชาชนกลับมาได้ ส่วนอาเขาก็โดนปลดจากตำแหน่งรองผู้อำนวยการมาเป็นหมอธรรมดา เพราะสืบได้ว่ารับติดสินบนจากพ่อของหมอไปรยา ความโลภไม่เข้าใครออกใครจริงๆ

     ถึงธีรไนยจะเคยเจอกวินทร์เเค่ไม่กี่ครั้ง เเต่เขาก็พอดูออกว่าเจ้าตัวไม่ถูกกับญาติพี่น้องคนอื่นๆ เท่าไหร่นัก สามวันที่กวินทร์นอนสลบ นอกจากป้าอรที่เป็นเเม่บ้านเเละเจ้าสัวธาราเเละคุณพริ่งเเล้ว ญาติคนอื่นๆ ไม่เคยโผล่มาให้เห็นเเม้เเต่เงา


     หมอธีรไนยพยายามพยุงกวินทร์ขึ้นเตียง เเต่ชายหนุ่มกลับผลักเขาออก จนต้องกอดเอวคนดื้อไว้เเทน

     "ปล่อย! ผมต้องไป ปล่อยสิโว้ย!" กวินทร์ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เเม้ว่าตอนเป็นสาวิทย์เขาจะมีทักษะในด้านการต่อสู้มาบ้าง เเต่ร่างของกวินทร์นี่สิ นอกจากจะสลบมาสามวันเเล้ว ยังไม่เคยออกกำลังกายอะไรเลย เขาไม่มีทางสู้เเรงหมอธีรไนยผู้ที่เข้าฟิตเนสเป็นประจำได้อยู่เเล้ว

     ป้าอรตกใจกับท่าทีของคุณหนูกวินทร์ของเธอ ทำไมฟื้นเเล้วเหมือนเป็นคนละคน?

     "คุณหนูคะ ป้าขอร้องให้คุณหมอตรวจก่อนเถอะค่ะ เเล้วคุณหนูอยากไปไหน ป้าจะพาไปนะคะ.. เห็นเเก่ป้าเถอะ" ป้าอรขอร้อง   

     กวินทร์นิ่งคิด "วันนี้วันที่เท่าไหร่?" เขาเอ่ยถาม เพราะไม่รู้ว่าตัวเองสลบไปกี่วัน

     "13 กันยาค่ะ คุณหนูสลบไป 3 วัน ยังไงก็ให้คุณหมอตรวจก่อนนะคะ คุณหนูจมน้ำหัวใจหยุดเต้นไปถึง 2 นาที ป้าเป็นห่วง" หญิงชราพูดพลางใช้มือเกลี่ยผมที่ตกลงมาปิดตาสีฟ้า

     กวินทร์นั่งเงียบ ใช้ความคิด เขาไม่ใช่คนวู่วามที่จะทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังหรือไม่เตรียมตัวก่อน เขาโดนยิงวันที่ 10 นั่นหมายความว่าเขาสลบมา 3 วันเเล้ว ไม่ว่าไอ้เสี่ยสารเลวจะทำอะไรกับครอบครัวเขา มันคงทำไปเเล้วเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น มือขาวกำผ้าห่มไว้เเน่นจนมือสั่น ดวงตาเคียดเเค้นจ้องมองพื้น

     ป้าอรลอบมองอาการของกวินทร์ เธอเลี้ยงกวินทร์มาตั้งเเต่อายุ 2 ขวบ เธอเพิ่งได้เห็นท่าทีเช่นนี้ของคุณหนูเป็นครั้งเเรก เดิมทีกวินทร์เป็นเด็กหนุ่มอ่อนโยน จนบางครั้งเเลดูอ่อนเเอ เพราะเจ้าตัวไม่เคยตอบโต้เเม้จะโดนใครทำร้ายร่างกายหรือพูดจาว่าร้ายเเค่ไหนก็ตาม เเต่อยู่ๆ ทำไมถึงได้ลุกขึ้นมาโวยวายจะออกไปให้ได้?
   
     "ก็ได้ เเต่เสร็จเเล้วคุณต้องให้ผมไป" กวินทร์หันไปต่อรอง

     "ค่ะๆ" ป้าอรยิ้มออกอย่างโล่งอก ไม่ได้ถือสาคำพูดห่างเหินเหมือนคนไม่รู้จักกัน

     กวินทร์หันหน้าไปมองหมอหนุ่มที่ยังโอบกอดเขาไว้จากข้างหลัง เเต่หันไปโดยที่ไม่ทันระวัง เเก้มเนียนจึงปะทะเข้ากับจมูกโด่งอย่างไม่ตั้งใจ

     "เฮ้ย!" กวินทร์ตกใจเล็กน้อย "ปล่อยได้เเล้ว!" คนในวงเเขนพูดอย่างหงุดหงิด
ถึงเขาจะชื่นชอบร่างกายของบุรุษเพศ เเต่ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนเกือบ 40 ปีเเล้ว
จะให้มานั่งเหนียมอายมันก็กระไรอยู่

     "อ่า... ครับๆ" หมอธีรไนยรีบปล่อยร่างโปร่ง ลุกขึ้นจากเตียง เเล้วยกมือลูบจมูกตัวเองอย่างเก้อๆ

     กวินทร์ชายตามองหมอหนุ่ม "หมอ! รีบมาตรวจสิ จะยืนอีกนานไหม?!" ร่างโปร่งดุ

     "ครับ ๆ" ธีรไนยรีบเดินไปหยิบเครื่องมือ เห็นที่บ้านหงิมๆ ทำไมวันนี้กลายเป็นเเมวดุอย่างงี้วะ 

     ป้าอรได้เเต่อึ้งกับท่าทีของคุณหนูเธอ ที่เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน มันเป็นไปได้เหรอที่หัวใจหยุดเต้นไปหลายนาที พอตื่นขึ้นมาจะเปลี่ยนทั้งนิสัยเเละการเเสดงออกได้ขนาดนี้ เธอถอนหายใจ เอาเถอะ... เเค่คุณหนูของเธอไม่เป็นอะไรก็พอ



*******



     ใบหน้าของชายหนุ่มจ้องไปที่ถนนข้างนอกอย่างใจจดใจจ่อ ถ้าทำได้เจ้าตัวคงไปขับเสียเอง เเต่โดนป้าอรห้ามไว้ เเละให้คนขับรถของที่บ้านมาขับเเทน กวินทร์พอจะเดาได้ว่าเขาน่าจะมาจากครอบครัวที่รวยไม่น้อย การนอนห้องวีไอพีในโรงพยาบาลระดับต้นๆ ของประเทศนี่น่าจะใช้เงินเกือบเเสน ไหนจะรถ Lexus LX 570 ที่เขากำลังนั่งอยู่ขณะนี้
         
     กวินทร์มองเงาสะท้อนตัวเองในกระจก เฮ้อ... หน้าฝรั่งจ๋าอย่างงี้ โผล่ไปที่ไหนคนก็จำได้ง่ายๆ ฉะนั้นเเล้วจะทำอะไร ยิ่งต้องระวัดระวังตัว เเถมไม่เเน่ใจว่า"เขา"ในตอนนี้มีใครปองร้ายบ้างหรือเปล่า พวกคนรวยถ้าจะมีใครคิดร้ายด้วย คงไม่พ้นคนในครอบครัวเดียวกันหรอก หึ ยิ่งรวยเท่าไหร่ ก็ยิ่งโลภมาก

     ตาสีฟ้าสวยมองซ้ายมองขวา สองข้างทางถนนเริ่มคุ้นตา นี่เป็นทางที่เขาผ่านบ่อยๆ พอใกล้ถึงบ้าน หัวใจของเขาเต้นระทึก ฝ่ามือที่กำไว้เริ่มรู้สึกเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ

     "จอดตรงนี้" กวินทร์พูดอย่างร้อนรน

     พอรถจอดยังไม่สนิทดีเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มก็เอื้อมมือขาวซีดไปเปิดประตูเเละกระโจนออกไปอย่างเร่งรีบ ขายาวเรียวสองข้างก้าวเดินเเกมวิ่ง ใจเต้นเเรงราวกับจะหลุดออกจากอก

     เมื่อมาถึงหน้ารั้วบ้าน กวินทร์เเทบทรุดลงกับพื้น บ้านที่เขาเคยใช้ชีวิตอยู่มาหลายปี บัดนี้ได้โดนไฟกลืนกินเหลือไว้เเต่ซากไม้ไหม้ดำ
     บ้านที่เคยเป็นที่พักพิงทั้งกายเเละใจของเขา ยามได้อยู่กับน้องเเละหลาน บ้านที่พ่อเเม่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำเเรง เเม้ว่าจะเสียชีวิตตอนผ่อนบ้านใกล้หมดเเล้ว เเต่เขาก็ยังพยายามรักษามันไว้ได้หลายปี   

     กวินทร์วิ่งไปที่ซากไหม้ดำของบ้าน มือเรียวดึงซากไม้เเละสิ่งของ ขุดคุ้ยหาสิ่งที่เขารู้ว่าไม่มีทางเจอ เเต่ก็ยังทำ... มือสวยที่เคยขาวสะอาด ตอนนี้ดำเป็นเปื้อนเเละสั่นไหวอย่างควบคุมไม่อยู่ 
         
     เเก้มเนียนของชายชายหนุ่มชุ่มไปด้วยหยดน้ำตา ปากที่เคยสีเเดงสดตอนนี้ซีดเทาเเละพึมพำอยู่กับคำพูดเดิม "ไม่จริงๆ"

     ป้าอรทำอะไรไม่ถูกเมื่อเธอตามมาพบเจ้าตัวในสภาพเนื้อตัวดำมอมเเมม ใบหน้าดูกระวนกระวาย ขนตางอนยาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา มือเรียวรื้นค้นซากไหม้ของบ้านหลังหนึ่งในละเเวกชุมชนที่ไม่คุ้นตา เธอทนไม่ได้ที่เห็นคุณหนูของเธอในสภาพเช่นนี้ จึงรีบเดินไปหาชายหนุ่มเพื่อประครองให้ลุกขึ้น

     "คุณหนูคะ ลุกขึ้นเถอะค่ะ" ป้าอรพูดอย่างเป็นห่วง

     "ไม่! ปล่อยผม!" เขากลับสะบัดมือของหญิงร่างท้วมออก

     "เฮ้ย พวกเอ็งทำอะไรกันน่ะ?" เสียงคุ้นหูของร่างโปร่งดังขึ้น กวินทร์รีบหันไปมอง

    ลุงเทพ!
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 28-12-2017 04:35:35
เราเคยตามเรื่องนี้อยู่ในเด็กดีค่ะ
ดีใจที่เอามาลงเล้านะคะ
อย่าหายไปอีกนะคะ พลีสส นิยายสนุกมากกอะ
ตอนนั้นรอแต่ละตอนรู้สึกยาวนานมาก
เพราะเราติดนิยายเนี่ยยแหละ555
รอค่าา
ปล. เราแทรกตอนแน่ๆเลย YY
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 28-12-2017 09:01:46
รออออ :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 28-12-2017 11:24:03
งุ้ยยย เอามาลงเล้าละเหรอ เราตามอ่านอยู่เด็กดีด้วยยย  :mew1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 28-12-2017 15:24:53
ตอนที่ 3 ความหวังริบหรี่

     กวินทร์หันขวับไปทางต้นเสียงที่คุ้นเคย ชายวัยหกสิบปลายกำลังยืนเท้าเอวมองมาที่พวกเขาอย่างเอาเรื่อง กวินทร์จำชายคนนี้ได้

     "ลุงเทพ" เป็นลุงข้างบ้านที่คอยช่วยเหลือเขาเเละครอบครัวหลังจากเสียพ่อเเม่ไป ตอนนั้นเขาเพิ่งขึ้นมัธยม 5 ได้ไม่นาน พ่อกับเเม่ทิ้งเงินประกันไว้ให้ 6 เเสน เเต่กลับต้องเอาไปใช้หนี้ที่กู้มาซื้อบ้าน เพราะยังผ่อนไม่หมด เขาจึงจำใจต้องหยุดเรียนเเละหางานทำ เพราะรู้ดีว่าเงินจะต้องไม่พอใช้เเน่ๆ

     ลุงเทพฝากเขาเข้าทำงานในร้านอาหารของคนรู้จัก เริ่มจากการเป็นเด็กล้างจาน
เเละเพราะเขาเป็นคนหนักเอาเบาสู้ เจ้าของร้านเลยสอนให้ทำอาหาร เเละเลื่อนขึ้นมาเป็นผู้ช่วยพ่อครัว ส่วนวันหยุดกวินทร์ก็เขียนธีมขายในเว็ปต่างๆ เช่น Tumblr เเละ Blogger เพราะเขามีความรู้ในด้านการเขียนโค้ดอยู่เเล้ว เเต่ที่ไม่หางานทางนี้เพราะชายหนุ่มรู้ดีว่าไม่มีบริษัทไหนจ้างเด็กอายุ 15 ที่ยังไม่จบเเม้กระทั้งมัธยม 5 อย่างเขาหรอก

     เพราะมัวเเต่ทำงานเเละหมกมุ่นอยู่กับคอมพิวเตอร์ทำให้กวินทร์ลืมไปว่าน้องๆ ไม่ใช่คนเข้มเเข็งเหมือนตน โดยเฉพาะสารัช น้องชายคนกลางที่กลายเป็นคนก้าวร้าวเเละคบเพื่อนกลุ่มนักเลง กว่าเขาจะรู้ตัว น้องก็จบเเค่ม.6 เเละไม่ยอมเรียนต่อเเล้วย้ายออกไปอยู่กับเพื่อน ไม่ว่าเขาจะไปตามกี่ครั้ง ทั้งบังคับเเละขอร้อง สารัชก็ไม่เคยกลับมา

     เพื่อที่จะไม่ผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง เขาจึงลาออกจากร้านอาหาร หันมาทำข้าวเเกงขายเองที่ตลาดโดยมีน้องสาวคอยช่วยเล็กๆ น้อยๆ อาศัยว่าหน้าตาเเละอัธยาศัยดีจึงเป็นที่ชื่นชอบของสาวน้อยสาวใหญ่ รวมทั้งกับข้าวเองก็อร่อยถูกปาก ทำให้ขายหมดทุกวัน ลำพังเเค่เงินขายข้าวเเกงเล็กๆ น้อยๆ เขารู้ว่าคงไม่พอใช้ เพราะต้องเก็บเงินส่งน้องสาวเรียน
     กวินทร์จึงรับงานด้านเจาะข้อมูลต่างๆ ภายใต้ชื่อ [Viper] มาจากคำว่า Viperidae หมายถึงวงศ์งูแมวเซาที่มีพิษร้ายเเรง งานส่วนมากเป็นงานจ้างจากต่างประเทศติดต่อกันผ่านทางอีเมล์โดยไม่เห็นหน้า เขารู้ว่ามันเสี่ยง เลยรับเเต่งานที่ง่าย เเละเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เขาจึงสร้างบัญชีรายรับกับ Swiss Bank กวินทร์ใช้ชีวิตเเบบนี้จนอายุยี่สิบ ไม่ว่าจะฝีมือการเเฮกหรือทำอาหาร เขาสามารถทำออกมาได้ดีไม่น้อยหน้าใคร
     เเฮกเกอร์ที่เก่ง ไม่ใช่พวกที่มีรายชื่อระดับต้นๆ ที่สามารถหาอ่านได้ตามอินเตอร์เน็ต เเต่เป็นเเฮกเกอร์ที่สามารถเข้าออกระบบทุกระบบได้อย่างไร้ร่องรอยต่างหากล่ะ

     ไม่กี่ปีต่อมาสารัชก็กลับมาอยู่บ้าน เขาไม่ถามหาเหตุผล เเค่น้องกลับมาก็ดีใจเเล้ว เเต่อยู่พร้อมหน้ากันได้ไม่ถึงเดือน สารัชก็เสียชีวิตลง ต่อมาไม่กี่วันก็มีคนมาทวงหนี้ของสารัชเมื่อเขามีจ่ายไม่พอ พวกมันก็บังคับเขาให้ไปทำงานกับเสี่ยวิชัยโดนเอา
สิริน น้องสาวเขามาขู่

     ในวงการเเบบนี้ลูกน้องที่ไม่สำคัญมักโดนปล่อยให้ตาย ดังนั้น กวินทร์เลยต้องเดินหมากให้ฉลาด ถ้าเป็นเเค่เด็กทำงานขัดดอก อาจถูกสั่งให้ทำงานที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ดังนั้นเขาจึงยอมเผยสถานะเเฮกเกอร์ของตนออกมา หลังจากนั้นงานของเขาก็มีเเต่หน้าคอมพิวเตอร์ ยิ่งมีประโยชน์เท่าไหร่ เสี่ยวิชัยยิ่งรักษาความปลอดภัยของเขาเเละไม่ไปยุ่งกับครอบครัว

     ไม่นานกวินทร์ก็กลายเป็นทั้งเลขาเเละเเฮกเกอร์ของเสี่ยวิชัย ไม่ว่าจะไปพบหรือประสานงานต่อรองกับลูกค้าล้วนเป็นงานของเขาหมด ลูกค้าส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นที่ต้องเรียนรู้หลายภาษาเเละวัฒนธรรม ถึงจะไม่คล่อง เเต่ก็สามารถสื่อสารให้รู้เรื่องได้
     เพราะคลุกคลีมาหลายปี กวินทร์ถึงรู้นิสัยใจคอของลูกค้ารายสำคัญ ดังนั้นการเเก้เเค้นไอ้เสี่ยชั่วจึงไม่ยาก เขาจะค่อยๆ ทำลายมันให้จมดิน คอยชักใยจากเงามืดไม่ให้มันรู้ตัว เขาจะไม่ฆ่ามัน เเต่จะทำให้มันตกนรกทั้งเป็น!           


 
   ******


     “ว่าไง? พวกคุณเป็นใคร? มาทำไรที่ของคนอื่น?” ลุงเทพถามด้วยน้ำเสียงเคลือบแคลงและหลี่ตามองคนเเปลกหน้าทั้งสองอย่างไม่ไว้ใจ กวินทร์รีบลุกขึ้นปัดมือกับกางเกง เเล้วสาวเท้าไปหาชายชราที่เปรียบเสมือนญาติ

     "ลุงเทพ น้องสะ... สิรินกับเด็กๆ อยู่ไหน? บอกผมที"  กวินทร์เอื้อมมือไปเขย่าเเขนลุงเทพ พยายามห้ามเสียงไม่ให้สั่น เเละเกือบหลุดคำว่าน้องสาวออกไป     

     ลุงเทพเเม้จะเเปลกใจว่าไอ้หนุ่มหน้าฝรั่งมันรู้ชื่อเขาได้อย่างไร เเต่ก็ดูออกว่าคนตรงหน้ากำลังร้อนรนเเละเป็นห่วงทั้งสามคนอย่างจริงจัง   

     "ไอ้หนุ่ม ก่อนข้าจะตอบคำถาม เอ็งบอกข้ามาก่อนว่าเป็นอะไรกับครอบครัวนี้?"

     "ผมเป็น... เพื่อนกับสาวิทย์ครับ เขา... ฝากผมให้ดูเเลน้องสาวกับหลาน"ดวงตาสีฟ้าอ่อนสื่อความจริงใจ เขารู้ดีว่าชายชราคนนี้ต้องการปกป้องครอบครัวตน ลุงเทพถอนหายใจ เมื่อเห็นว่าตาหนุ่มคนนี้ไม่น่าจะมาปองร้ายใคร

     "คนร้ายมันมาเมื่อสามวันที่เเล้ว... หนูสิ... หนูสิเสียเเล้ว ตำรวจบอกว่าโดนยิงก่อนมันจะลงมือเผาบ้าน" มือเรียวปล่อยเเขนลุงเทพอย่างหมดเเรง น้ำตาที่เเห้งหดไปไม่นาน ไหลลงเปื้อนเเก้มเนียนอีกรอบ

     "ดะ..เด็กๆ ล่ะ?" เขาถามเสียงเเผ่วอย่างสิ้นหวัง ถ้าสิรินตาย ความเป็นไปได้ว่าเจ้าเเฝดทั้งสองจะรอดนั้นมีน้อยเหลือเกิน

     "มันตั้งใจจะปล่อยให้ไฟคลอกเด็กๆ ตาย" ลุงเทพเข่นเขี้ยวอย่างโมโห

     "โชคดีของเด็ก มีคนผ่านมาช่วย เเต่จับคนร้ายไม่ทัน พวกมันหนีไปก่อน" กวินทร์เงยหน้าขึ้น ตาสวยเบิกกว้างอย่างมีความหวัง

     "ข้าติดต่อเจ้าวิทย์ไม่ได้ ไม่รู้ตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไง" ลุงเทพถอนหายใจเหนื่อยล้า "เลยเอาเด็กๆ ไปฝากสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนไม่ไกลจากนี้ ข้าจะเอามาไว้บ้านก็ไม่มีคนดู ได้เเต่ไปเยี่ยมบ่อยๆ"
         
     กวินทร์พยักหน้า อย่างน้อยเจ้าเเฝดทั้งสองก็ปลอดภัย ถ้าไม่มีใครรอด เขาคงตามฆ่าเสี่ยวิชัยโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตัวเอง เเต่ในเมื่อมีสองชีวิตน้อยๆ ให้ดูเเล เขาต้องวางเเผนให้รอบคอบก่อนทำอะไรลงไป อย่าโง่เเละโลกสวยเหมือนครั้งที่เเล้ว ชีวิตของทั้งสองต้องมาก่อนทุกอย่าง ไม่เว้นเเม้เเต่ความเเค้นของตน

     ตอนนี้คงต้องไปดูเด็กๆ ที่สถานสงเคราะห์นั้นก่อน ถึงจะเคยขับรถผ่านบ่อยครั้ง เเต่เขาก็ไม่เคยย่างก้าวเข้าไปข้างใน ถ้าสภาพไม่ดียังไงเขาก็จะไม่ปล่อยให้เด็กทั้งสองอยู่ในที่เเบบนั้นเเน่นอน เเต่กวินทร์เองก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ในร่างของใคร เเละมีศัตรูที่ไหนบ้าง ถ้าเป็นไปได้ เขาควรดูลาดเลาก่อนรับเด็กๆ ไปอยู่ด้วย คนร้ายหนีไปได้ นั้นเเปลว่าจะไม่มีใครสาวถึงตัวเสี่ยวิชัยอย่างเเน่นอน เเละเป็นไปได้สูงว่ามันจะไม่โผล่มาเเถวนี้อีกครั้ง ยิ่งเขาตาย มันยิ่งไม่ใส่ใจเด็กที่เพิ่งคลาน พอตั้งสติได้เขาก็เริ่มเบาใจขึ้นเล็กน้อย

     "ลุงพอจะรู้ไหม ว่าใครเป็นคนช่วย?" กวินทร์ถาม

     "ข้าเองก็ไม่คุ้นหน้า" ลุงเทพกอดอกทำหน้าครุ่นคิด "เเต่ข้าได้ยินเสียงคนหนึ่งคุยโทรศัพท์กับคนชื่อภูผาบอกว่าคนร้ายหนีไปก่อน เเล้วเรียกคนที่มาด้วยกันว่าเสือ" 

     "ขอบคุณลุงมาก เเต่ตอนนี้ผมขอตัวก่อน ผมมีธุระต้องจัดการ" กวินทร์ยกมือไหว้เเละหมุนตัวกลับ เเต่ก่อนที่จะทันได้ก้าวเท้าออกไปก็โดนลุงเทพท้วง

     "เดี๋ยวพ่อหนุ่ม เอ็งเห็นตาวิทย์บ้างไหม? ลุงเป็นห่วงมัน"

     "สาวิทย์... ตายเเล้วครับ" กวินทร์หันมายิ้มอย่างปลอบประโลม "ลุงไม่ต้องห่วงหรอก ทั้งสิรินเเละสาวิทย์พวกเขาไปสบายเเล้ว ผมจะจัดการทุกอย่างเเทนทั้งสองเอง ไม่ว่าจะเรื่องเด็กๆ หรือคนร้าย"


     "คุณหนูคะ..." ป้าอรเรียกเจ้าตัวเสียงเเผ่ว กวินทร์ส่ายหน้าช้าๆ "ป้าอย่าเพิ่งถามผมตอนนี้เลย ผมยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไรทั้งสิ้น"


     "ภูพากับเสืองั้นเหรอ" กวินทร์พึมพำกับตัวเอง สองชื่อนี้เขาจะจำเอาไว้
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 28-12-2017 15:26:46
ตอนที่ 4 เจ้าเเฝด

     รถคันสวยราคาหลายล้านจอดเทียบหน้าสถานสงเคราะห์เด็กอ่อน กวินทร์หันไปพูดกับป้าอรที่นั่งข้างตัวเอง "ป้ารออยู่นี้เเหละครับ เดี๋ยวผมเข้าไปไม่นาน"

     "เเต่คุณหนูเพิ่งออกจากโรงพยาบาลนะคะ" ป้าอรทักด้วยความเป็นห่วง คุณหนูของเธอเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ ขนาดท่าเดินที่เเต่ก่อนมักเดินก้มหน้าห่อไหล่ เเต่เวลานี้กลับดูสง่าเเละมั่นใจ

     "ผมไม่เป็นไรหรอก ป้าไม่ต้องเป็นห่วง" ร่างโปร่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ถึงจะรู้จักหญิงชราคนนี้ได้ไม่กี่ชั่วโมง เเต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความห่วงใยของเธอ อย่างน้อยเขาก็ไม่ควรทำตัวให้เธอลำบากไปมากกว่านี้

     "มาหาใครคะ?" พี่นวล เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์หญิงเกล้าผมมวยท่าทีใจดีวัยสี่สิบกลาง เอ่ยปากถามเมื่อเห็นถามหนุ่มต่างชาติกำลังเดินเข้ามา

     กวินทร์ยกมือไหว้เธอ "สวัสดีครับ ผมชื่อสะ.. กวินทร์ครับ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา มีเด็กเเฝดอายุเก้าเดือนถูกเอามาไว้ที่นี้ ผมอยากรู้ว่าพวกเขาเป็นยังไงบ้าง"

     พี่นวลมองชายตรงหน้าอย่างเคลือบเเคลง เธอจำเด็กเเฝดได้ เเละทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เด็กทั้งสองได้มาอยู่ที่นี้ "คุณเป็นอะไรกับเด็กๆ? ที่ต้องถามก็เพื่อความปลอดภัยนะคะ"

     "ผมเป็นเพื่อนกับผู้ปกครองทั้งสองครับ เเละเพิ่งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขอผมเข้าไปดูเด็กๆ หน่อยเถอะครับ ผมขอร้อง" กวินทร์อ้อนวอน ณ เวลานี้ ขอเเค่ได้เห็นว่าทั้งคู่ปลอดภัยเขาก็พอใจเเล้ว

     เจ้าหน้าหญิงที่ยืนชั่งใจซักพักก่อนจะใจอ่อน เมื่อเห็นเเววตาหวานเศร้า "ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปเจอพวกเเก ตามมาค่ะ" เธอเดินนำร่างโปร่งไปยังห้องเด็กอ่อน

     พี่นวลพากวินทร์มาหยุดหน้าห้องกว้างที่มีกระจกใสเป็นประตู ตาสีฟ้าครามกวาดมองรอบห้อง เเละไปหยุดอยู่ที่เด็กเล็กสองคน ตัวอวบกลมหน้าตาละม้ายคล้ายกัน เเละกำลังร้องไห้จ้าโดยมีพี่เลี้ยงสาวคอยปลอบเเต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล

     "ตั้งเเต่มาอยู่ที่นี้ทั้งสองก็เอาเเต่ร้องไห้" พี่นวลพูดเเล้วถอนหายใจ

     "ขอผมเข้าไปได้ไหมครับ?" กวินทร์ถามเสียงสั่นไหว

     "ได้สิ" เจ้าหน้าที่หญิงพูดเเละผลักงประตูเข้าไป


****** 


     "โธ่ น้องปลื้มน้องปรายคะ เลิกร้องเถอะค่ะ พี่เเก้วไม่รู้จะทำไงเเล้ว" พี่เลี้ยงพยายามปลอบประโลมร่างกลมป้อมสองร่าง ที่เอาเเต่ร้องไห้โยเยมาหลายนาทีเเล้ว

     "เอ่อ..." พี่เลี้ยงสาวรู้สึกเเปลกใจ เมื่ออยู่ๆ มีหนุ่มต่างชาติมายืนตรงหน้าตนเเละเด็กๆ

     "เขาเป็นเพื่อนกับผู้ปกครองน่ะ ปล่อยให้เขาได้เล่นกับเด็กๆ หน่อยเเล้วกัน" พี่นวลอธิบาย

     "อ๋อค่ะ" พี่เลี้ยงรับคำ เเละลุกขึ้นไปดูเด็กอื่นๆ

     กวินทร์นั่งลงกับพื้น มือขาวรวบร่างน้อยทั้งสองมากอดไว้กับอก "เป็นไรหื้ม เจ้าหมูอู๊ตๆ ร้องทำไม?" เสียงร้องหยุด กลายเป็นเสียงสะอึกสะอื้นเมื่อได้ยินชื่อเล่นที่
เเม่เเละคุณลุงชอบเรียกเป็นประจำ ใบหน้ามนเงยขึ้นมองเจ้าของอ้อมกอดอุ่น ตากลมโตชุ่มไปด้วยน้ำตา กวินทร์วางทั้งคู่ลงพื้นเเละใช้กระดาษทิชชู่ที่วางอยู่ใกล้ซับน้ำตาให้ ก่อนจะอุ้มฝาเเฝดให้นั่งตักตน เเล้วโยกกายไปมาซ้ายขวา

     "เอ่ เอ้ เอ.. เอ่ เอ้ เอ.. เอ่ เอ้ เอ.." เสียงทุ้มขับร้องเพลงที่เขาเคยได้ยินน้องสาวร้องกล่อมเจ้าหนูทั้งสองบ่อยๆ จนจำขึ้นใจ ร่างเล็กตุ้ยนุ้ยที่สงบลงเริ่มขยับหยุกหยิกหามุมสบายเมื่อได้ยินเพลงกล่อมที่คุ้นเคย ซักพักตากลมเริ่มปรือ ทำปากขมุบขมิบ ซุกหน้าหาไออุ่นเเละหลับในที่สุด

     เมื่อเห็นว่าเด็กๆ หลับเเล้วเขาจึงลุกขึ้น เดินไปที่เตียงเด็กอ่อนที่มีชื่อทั้งสองติดอยู่ เเล้ววางเจ้าเเฝดลงกับเตียงโดยมีพี่เลี้ยงคอยช่วย กวินทร์ห่มผ้าเเละก้มลงหอมกระหม่อมมน

     "อีก 5 วัน..." ร่างโปร่งหันไปพูดกับพี่นวล

     "ผมขอให้พี่ดูเเลพวกเขาอีก 5 วัน เเล้วผมจะรวบรวมเอกสารทุกอย่างเเละรับเด็กๆ ไปอยู่ด้วย" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     "ได้สิคะ" พี่นวลรับปาก ภาพที่ร่างโปร่งตรงหน้ารับมือกับเด็กๆ ทำให้เธอมั่นใจว่าเขารักฝาเเฝดคู่นี้อย่างเเน่เเท้

     "ขอบคุณครับ" กวินทร์ยกมือไหว้เธอ หันไปมองน้องปลื้มเเละน้องปรายอย่าง
อาลัยอาวร ปากสีชมพูสดเม้มเข้าหากันเเน่น ก่อนจะเดินออกจากสถานสงเคราะห์   

     "คุณหนูคะ รีบมาเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณท่านไปถึงโรงพยาบาล ไม่เจอคุณหนูเเล้วจะโมโหเอา" ป้าอรเดินมาจับเเขนเมื่อเห็นกวินทร์เดินออกมา


     ถึงเวลาเดินหมากตัวเเรก....     



/// โห มีคนมาตอบด้วย ขอบคุณมากค่ะ
นี่กังวลว่าจะไม่มีใครตอบ เเล้วเอาลงหน้าหนึ่งเป็น20ตอน 55555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 28-12-2017 17:01:03
สนุกมากค่ะ ติดตามอยู่นะค่ะ

อยากรบกวนซักนิดนะค่ะ สระแอ กับ สระเอ นะค่ะ

เวลาคุณผู้เขียนใช้ สระเอ2ตัวแทนสระแอ เครื่องมันจะอ่านออกเสียงเพียนนะค่ะ

คืออยากให้แก้ให้ แต่ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรนะค่ะ  รับได้ค่ะ แฮะๆ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 28-12-2017 17:47:25
เราบวกเป็ดแล้วน้าา  เนื้อเรื่องน่าสนใจ มีเด็กด้วย เราชอบ อิอิ
รออยู่น้า เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่า :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 29-12-2017 00:31:23
เนื้อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ รอติดตามนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 29-12-2017 17:44:13
ตอนที่ 5 Selective Amnesia

     ภายในรถคันหรูที่กำลังมุ่งหน้ากลับโรงพยาบาลถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน มีเเค่ป้าอรคอยชำเลืองมองคุณหนูของเธอเป็นพักๆ ทั้งเเปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของกวินทร์เเละสงสัยว่าเจ้าตัวมายุ่งเกี่ยวกับคนพวกนี้ได้อย่างไร เเต่เธอต้องจำใจเก็บความสงสัยนี้ไว้เพราะคุณหนูขอร้อง เธอได้เเต่นั่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

     กวินทร์นั่งเงียบเเละมองเงาสะท้อนตัวเองในกระจกรถ พอรู้ว่าเด็กๆ ทั้งสองปลอดภัยดี เขาก็สบายใจขึ้นมาก ทั้งที่ตอนเเรกไม่กล้าเเม้เเต่จะคิดว่าจะมีคนรอดด้วยซ้ำ เขาสบตาตัวเองในกระจก อดคิดไม่ได้ว่าไอ้หนุ่มตาน้ำข้าวคนนี้หน้าตาหล่อเหลาเอาการ เเต่ทรงผมยาวรุงรังอย่างกะฮิปปี้ เด็กนี้ไม่รู้เหรอว่ามันไม่เข้ากับหน้าตัวเองเอาเสียเลย เเถมยังปิดหน้าปิดตาน่ารำคาญ ตัดผมคงเป็นสิ่งเเรกที่เขาควรทำ ที่เหลือค่อยคิดค่อยวางเเผนเเล้วกัน ตอนนี้ตัวเองเป็นใครกวินทร์ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ

     เมื่อมาถึงโรงพยาบาลป้าอรก็รีบให้กวินทร์ไปล้างเนื้อล้างตัวเเละเอาชุดใหม่ให้กวินทร์เปลี่ยน ถ้าคุณท่านรู้คุณหนูคงโดนดุ คุณหนูของเธอเป็นคนที่มีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับอะไร เเต่จริงๆ อ่อนไหวง่ายเเละไม่เคยต่อปากต่อคำกับใคร จึงมักโดนญาติๆ บางคนเอาเปรียบเเละรังเเกบ่อยครั้ง เธอปรายตาไปมองกวินทร์ที่กำลังนอนไขว่ห้างกระดิกเท้าเเละกดโทรศัพท์มือถือของเจ้าตัวบนเตียง อย่างกับมีคนมาสิงร่างของคุณหนูอย่างไรอย่างงั้น เธอคิดเเล้วหันกลับไปเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าต่อ


******


     หมอธีรไนยกำลังยุ่งกับการดูผลตรวจของคนไข้เมื่อโดนตามตัวให้ไปดูหนุ่มผม
บลอนด์ พลอยทำให้นึกถึงเเก้มนุ่มๆ เเล้วเผลอหลุดยิ้มออกมา เเม้ว่าเเก้มนิ่มๆ ดังกล่าวจะมีเเต่กลิ่นยาก็เถอะ พอคิดเเล้วก็อดขำไม่ได้ จนโดนพี่สา พยาบาลสาวใหญ่เเซว

     "เเหม หมอธีกำลังคิดถึงใครอยู่คะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่"

     "ฮ่าๆๆ ไม่ได้คิดถึงใครหรอกครับ เเค่อารมณ์ดีเฉยๆ" หมอหนุ่มหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

     "ค่าาา" พี่สาลากเสียงตอบรับเหมือนไม่เชื่อ

     หมอธีรไนยเป็นที่หมายปองของสาวๆ หรือเเม้กระทั่งหนุ่มๆ หลายคน หน้าตาเขาอาจจะไม่หล่อเท่เท่าพวกพระเอกฮอลลีวู้ดที่เธอชื่นชอบ เเต่ก็ถือว่าดูดีมากเลยทีเดียว เเถมยังเป็นถึงลูกเจ้าของโรงพยาบาลระดับต้นๆ ของประเทศ จึงไม่เเปลกที่จะมีเเต่คนทอดสะพานให้ เเต่หมอหนุ่มก็ไม่มีทีท่าว่าจะตอบรับใคร วันๆ มีเเต่ทำงานเเละเห่อหลานๆ เเล้วมักเอารูปที่ถ่ายกับหลานมาอวดบรรดาหมอเเละพยาบาล ด้วยความที่เป็นคนไม่ถือตัวเเละอัธยาศัยดี ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน


     หมอธีรไนยเปิดประตูเข้ามาเจอกับคนผมบลอนด์ที่กำลังนอนไข่วห้างเล่นโทรศัพท์มือถือ เเละกระดิกเท้าดิกๆ จนเขาอดรู้สึกหมั่นไส้ไม่ได้

     "เอ้า คุณหมอสวัสดีค่ะ" ป้าอรเอ่ยทักเมื่อเห็นหมอหนุ่มเข้ามาอย่างเงียบๆ

     "สวัสดีครับ" หมอธีรไนยตอบรับเเละยกมือไหว้

     ขณะที่คนอายุน้อยสุดในห้องเเค่ลุกขึ้นนั่ง มองเขา ทักสั้นๆว่า "หมอ" เเล้วพยักหน้าให้ เหมือนผู้ใหญ่ทักรุ่นน้องอย่างไรอย่างนั้น เขาได้เเต่ยิ้มรับเเกนๆ

     "เดี๋ยวหมอขอตรวจร่างกายหน่อยนะครับ"

     หมอธีรไนยสอบถามเเละตรวจร่างกายกวินทร์ซักพักเเละพบว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง "อืม ไม่มีอะไรผิดปกติ ร่างกายดีขึ้นเยอะเเล้วครับ น่าจะกลับบ้านได้เลย" หมอหนุ่มยิ้มเเละพูดกับคนไข้

     ร่างโปร่งพยักหน้ารับรู้ เเต่ก็ไม่ตอบอะไร

     "งั้นดีเลยค่ะ เพราะป้าเก็บของไว้เเล้ว" กลับเป็นป้าอรที่ตอบเเทน เพราะไม่อยากให้เสียน้ำใจคุณหมอ


     จู่ๆ ประตูห้องคนป่วยก็ถูกเปิด ชายชราวัยเจ็ดสิบต้นๆ เดินเข้ามา ตามด้วยชายวัยฉกรรจ์ที่เหมือนจะเป็นคนติดตาม รั้งท้ายด้วยผู้หญิงสองคน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเเม่ลูกกัน หน้าตาเเลดูบึ้งตึง กวินทร์ไม่เคยเห็นทั้งคู่มาก่อน เเต่กลับรู้สึกคุ้นหน้าชายชราคนนี้มาก เหมือนเคยเห็นที่ไหนซักเเห่งในงานสังสรรค์ที่เขาเคยติดสอยห้อยตามเสี่ยวิชัย

     "สวัสดีค่ะ คุณท่าน"

     "สวัสดีครับคุณธารา" หมอธีรไนยเเละป้าอรกล่าวทักทายชายชรา

     กวินทร์สะดุ้งเมื่อได้ยินชื่อของชายชราที่เพิ่งเข้ามาในห้อง ธารางั้นเหรอ? ดวงตาสีฟ้าครามเบิกกว้าง ไม่ผิดเเน่ๆ ชายตรงหน้าคนนี้คือ "เจ้าสัวธารา" ใบหน้าที่แม้จะมีริ้วรอยชราตามอายุขัยเเต่กลับดูน่าเกรงขาม ดวงตาเฉียบคมสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นเหมือนจะสามารถมองทะลุเข้าไปในวิญญาณเขาได้

     กวินทร์ได้เเต่กัดปากเข่นเคี้ยวกับความโชคร้ายในความโชคดีของตน โชคดีที่ได้รับโอกาสอีกครั้ง เเต่โชคร้ายมาเป็นหลานเจ้าสัวธารา กว่าเจ็ดสิบล้านคนในประเทศไทยเเต่ดันมาสวมรอยเป็นหลานของคนในวงการเดียวกันซะได้ เขาอยากจะลงไปนอนชักดิ้นชักงอบนพื้นเสียจริงๆ! มัวเเต่คิดเรื่องเจ้าเเฝดกับน้องจนลืมคิดเรื่องอื่น

     งั้น... คงมีเเค่ทางออกเดียวกระมั้ง

     "สวัสดีครับคุณปู่" กวินทร์ยกมือไหว้เจ้าสัว ตามน้ำไปก่อน

     "เออ ไม่เห็นหัวชั้นเลยสินะตากวินทร์!" น้ำเสียงกระเเทกเเดกดันเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าคนป่วยไม่ยกมือไหว้ตน

     "เอ่อ... คุณเป็นใครครับ?" ร่างโปร่งถามด้วยสีหน้างวยงง จะว่าเเสดงละครก็ไม่ใช่ เพราะเขาไม่รู้จริงๆ ว่าสตรีวัยทองหน้าหงิกงอตรงหน้านี้เป็นใคร

     "อย่ามาตอเเหลเล่นตลกไอ้กวินทร์!" เสียงเเหลมของคนที่กวินทร์คาดว่าน่าจะเป็นลูกสาวเเว้ดขึ้น เขาปรายตามองเธอ ใบหน้าพิมพ์นิยมของคนไทยสมัยนี้ ผิวขาวปากนิดจมูกหน่อยเเต่ใส่บิ๊กอายจนดูน่ากลัวมากกว่าน่ามอง ไหนจะชุดนักศึกษาที่ทั้งสั้นทั้งรัด คนเป็นเเม่ไม่คิดจะสั่งสอนเลยหรือไง กวินทร์ถอนหายใจอย่างเอือมระอา

     "คุณหนูจำไม่ได้เหรอคะ? นี่คุณเอมอรป้าสะใภ้คุณหนูไงคะ" ป้าอรพูด

     กวินทร์ทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะส่ายหัวเเล้วตอบ "จำไม่ได้ครับ"

     "เเล้วคุณกวินทร์จำอะไรได้บ้างไหมครับ" หมอธีรไนยรีบถามน้ำเสียงเครียด

     "อืม... ผมชื่อกวินทร์ อายุยี่สิบ เรียนที่มหาวิทยาลัยX คณะอักษรศาสตร์เอกภาษาอังกฤษ.. อ้อ เเล้วนั้นปู่ธารา" กวินทร์ต้องขอบคุณป้าอรที่เอาโทรศัพท์มือถือเขามาด้วย ทำให้พอรู้ประวัติของตนบ้าง

     "หมอคงต้องขออนุญาตพาคนไข้ไปตรวจสมองให้ละเอียดกว่านี้นะครับ" หมอหนุ่มพูดขึ้น

     "อืม เเล้วจะใช้เวลานานไหมหมอธี?" ปู่ธาราถาม ถึงจะตกใจ เเต่อย่างน้อย
กวินทร์ก็ยังพอจำอะไรได้บ้าง

     "น่าจะซักสองชั่วโมงครับคุณธารา โดยรวมเเล้วร่างกายปกติดี คาดว่าน่าจะความจำเสื่อมชั่วคราว ถ้าไม่มีอะไรร้ายเเรงกว่านี้จะกลับไปพักที่บ้านเลยก็ได้ครับ เพราะดูเหมือนคนไข้จะเบื่อที่นี่เต็มทน" หมอธีรไนยหันไปเย้าเเหย่ร่างโปร่งบนเตียง

     "เเสนรู้นะหมอ" คำพูดเเดกดันเเต่น้ำเสียงกลับราบเรียบ จนคนที่โดนว่าอดหัวเราะไม่ได้ 

     "งั้นฉันจะรอฟังผลที่นี่เเล้วกัน ส่วนพวกเธอสองคนจะกลับไปก่อนก็ได้" เจ้าสัวหันไปบอกสองเเม่ลูก

     "งั้นเอมกับน้องเกรซกลับก่อนนะคะ" ทั้งคู่ยกมือไหว้เจ้าสัวเเล้วเดินออกจากห้องเหมือนรอโอกาสนี้มานาน


******


     "Selective amnesia งั้นเหรอ?" เจ้าสัวถาม

     "ครับ คนไข้เสียความจำบางส่วนไป คาดว่าเป็นเพราะขาดอากาศไปเลี้ยงสมองตอนจมน้ำ ถ้ากลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมความจำพวกนั้นก็อาจกลับมาครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง" หมอธีรไนยอธิบายเเล้วหันไปยิ้มให้คนไข้ ที่ปั้นหน้าเฉยเมย

     เเต่ใครจะรู้ว่าภายในเจ้าตัวกำลังหัวเราะร่าอย่างผู้ชนะ เขาไม่รู้จักหรอกหรอกไอ้ Selective amnesia ที่ว่าเนี่ย เเค่เคยอ่านเจอเรื่องเเบบนี้ในมังงะญี่ปุ่น ไม่นึกว่าจะเอามาใช้ได้ เเกเห็นไหมยัยสิ ว่าการบ้ามังงะเนี่ย ไม่ได้ไร้สาระเลยนะ เขาอดนึกถึงน้องสาวไม่ได้ เพราะสิรินมักค่อนขอดเขาที่เอาเวลาว่างไปอ่านมังงะจนลืมกินข้าวกินน้ำ

     "กวินทร์ ปู่สั่งคนให้ย้ายข้าวของจากบ้านใหญ่มาไว้ที่บ้านเล็กเเล้วนะ จะได้อยู่ใกล้หมอเวลามีอะไร" ปู่ธาราหันมาสั่งกวินทร์

     "อ่า ครับ" ตอนนี้คงต้องไหลตามน้ำก่อนที่จะลงมือทำอะไรต่อ...
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 29-12-2017 17:49:32
ตอนที่ 6 กวินทร์

  บ้านเล็กที่คุณธารากล่าวถึง มันใหญ่กว่าบ้านของพ่อกับเเม่เขาตั้งสี่เท่า พื้นที่สนามหญ้ากว้างขวาง มีต้นไม้ใหญ่สี่ห้าต้น ไม้ประดับประปราย เเล้วยังมีบ้านเล็กเเนวยาวเรียงกันหลายหลัง เป็นบ้านพักของคนรับใช้
     ภายในตัวบ้านดูโอ่อ่าสมกับเป็นบ้านของเจ้าสัวจริงๆ มีห้องหับไว้รับเเขกหลายห้อง เเถมถูกตกเเต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดัง ถ้าเจ้าเเฝดมาอยู่คงไม่มีปัญหาเรื่องห้องนอน ส่วนเจ้าของบ้านจะอนุญาตหรือไม่นั้นเขาเองก็ไม่รู้...

     กวินทร์ได้เเต่ถอนหายใจ


******


     "ห้องคุณหนูอยุ่ทางนี้ค่ะ" ป้าอรเดินนำร่างโปร่งไปยังห้องนอนของเขา

     ห้องที่เธอพามาค่อนข้างกว้างเเถมมีห้องน้ำส่วนตัวอีกด้วย ตาสีฟ้าอ่อนกวาดมองทั่วห้องก่อนจะไปสะดุดที่โน๊ตบุ๊ค ที่วางอยุ่บนโต๊ะเครื่องเขียน ดูรุ่นเเล้วน่าจะราคาหลายหมื่น

     "ป้าอรไปพักพ่อนเถอะ เดี๋ยวผมขอเก็บของนิดหน่อยก่อน" กวินทร์หันไปพูดกับเเม่บ้าน

     "ได้ค่ะ ถ้าคุณหนูมีอะไรรีบเรียกป้าเลยนะคะ"

     "ครับๆ"

     เขาก้าวเท้าไปยังโน๊ตบุ๊คก่อนสิ่งอื่นใด เมื่อสตาร์ทเครื่องก็เจอปัญหาด่านเเรกซะเเล้ว การเจาะเข้า windows นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ขนาด script kiddie ยังทำได้ พวกนี้มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ไม่เยอะ บางคนเขียนโปรเเกรมไม่เป็นด้วยซ้ำ เเต่มักเรียนเเบบวิธีการเเฮกของคนอื่นเพื่อเอาไว้อวดเพื่อนฝูง

     กวินทร์ถอนหายใจเป็นรอบที่สองของวัน ไอ้ง่ายมันก็ง่ายอยู่หรอก เเต่ต้องใช้เวลาเเละต้องใช้คอมพิวเตอร์อีกเครื่องเพื่อโหลดโปรเเกรมที่จะมาใช้กับเครื่องนี้ ขอเดาสุ่มๆ ก่อนเเล้วกัน ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือก็มีเยอะพอควร

     ผ่านไปห้านาทีเเล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าจะเข้าได้ กวินทร์นั่งท้าวคาง ก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูอีกครั้ง กดเข้าไปในอินสตาเเกรม ชื่อโปรไฟล์ ChaiLisa งั้นเหรอ? คงมีความหมายอะไรซักอย่างกับเจ้าตัว โปรไฟล์ไม่มีรูปหรือยอดฟอลโล่เลย เเต่กำลังติดตามคนอื่นอยู่สิบกว่าคน ที่ดูเหมือนจะเป็นช่างภาพทุกคน มีรูปธรรมชาติสวยๆ หลายรูป นายคงชอบอะไรเเบบนี้สินะ"กวินทร์" ร่างโปร่งคิด เเล้วลองพิมพ์ชื่อโปรไฟล์ในกล่อง password

     ....

     "welcome"

     เยสสส ในที่สุดก็ได้ซักที!

     ดูเหมือนเด็กนี่จะเล่นเฟสบุ๊คกับเขาด้วยเเฮะ เเต่โปรไฟล์กลับดูเเทบจะว่างเปล่าไม่มีการโพสอะไรเลย เเค่เเชร์รูปถ่ายจากเพจอื่นๆ มีเพื่อนอยู่เเปดสิบกว่าคน คุยเเชทกลุ่มอยู่สี่คนที่เหมือนจะเป็นเพื่อนร่วมคณะ ส่วนมากจะคุยเรื่องเรียนเเละเรื่องสัพเพเหระทั่วไป

     อ่านไปเรื่อยๆ ก็เจอเรื่องน่าสนใจ ... เป็นข้อความปลอบใจจากผองเพื่อน
เลื่อนลงทีละนิดๆ สรุปใจความได้ว่า

     เด็กกวินทร์เป็นเกย์

     เด็กกวินทร์มีเเฟนเป็นถึงเดือนคณะที่คบกันอย่างลับๆ

     เด็กกวินทร์โดนญาติตัวเองที่ชื่อ"เกรซ"เเย่งเเฟน เเละชอบควงมาเยาะเย้ยบ่อยๆ

     ร่างสูงอดขำไม่ได้ ทั้งที่อยู่คนละคณะเเท้ๆ ช่างมีความพยายามเสียจริงๆ
เอ... ถ้าจำไม่ผิด ใช่คนเดียวกับที่เขาเจอในโรงพยาบาลไหมนะ เหมือน"ป้า"ของเขาจะเรียกเด็กที่เเต่งตัวไม่ดูตาม้าตาเรือคนนั้นว่าเกรซ ถ้าให้เดา เด็กเกรซคงเเค่อยากเอาชนะเด็กกวินทร์ เเละไม่ได้ชอบพอผู้ชายคนนั้นมากมาย คิดเเล้วก็อดสมเพชชีวิตคนพวกนี้ไม่ได้ มีเงินล้นฟ้าเเต่หาความสุขไม่เจอ ถึงกายจะห้อมล้อมไปด้วยเงินตรา เเต่จิตใจกลับเเห้งเเล้งเพราะไร้น้ำใจเเละร้อนระอุไปด้วยความริษยา

     เเชทอีกอันเป็นข้อความเยาะเย้ยจากเกรซ รูปโปรไฟล์เป็นคนเดียวกันกับเด็กสาวที่เขาเจอในโรงพยาบาล ผิวก็ขาวอยู่เเล้วไม่เห็นต้องเเต่งรูปจนซีดขนาดนี้เลย ร่างโปร่งคิดอย่างขำขัน

     นอกจากข้อความถากถางเยาะเย้ย ก็ยังอุตส่าห์ส่งรูปเเนบชิดเเนบกายบนเตียงของตนกับชายหนุ่มที่เเย่งไปได้มาให้เขาอีก อดใจไม่ได้ ร่างโปร่งเลยพิมพ์ข้อความสั้นๆตอบกลับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจ

     "ฤดูผสมพันธุ์?"

     เเละเมื่อดูนั้นดูนี้จนเป็นที่พอใจเเล้ว ต่อมาก็เช็คยอดเงินในบัญชี อันนี้สำคัญ เพราะการเอาเด็กมาอยู่ด้วยต้องใช้เงินเยอะ เเล้วเขายังไม่รู้เลยว่าเจ้าสัวธาราจะรับได้หรือไม่
มีสองทางเลือก คือออกไปธนาคารตอนนี้ เเต่...ปู่คงไม่อนุญาต อย่างที่สองคือเเฮกข้อมูลของธนาคาร ซึ่งน่าจะใช้เวลานานหลายชั่วโมง เเต่เครื่องมือไม่ครบ ไม่ควรเสี่ยง

     สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจรอ


******


     กวินทร์เดินดูนั่นดูนี่ในห้องไปเรื่อย เเละเจอรูปวาดสีน้ำสวยๆ หลายรูปวางกองกันอยู่มุมห้อง ถ้าเอามาใส่กรอบติดฝาผนังน่าจะเข้าท่า สวยพอๆ กับพวกรูปที่เขาเคยเห็นในอินเตอร์เน็ตเลย ดีนะที่กวินทร์ไม่ได้เรียนศิลปะหรือด้านออกเเบบ เพราะคนที่สามารถวาดนกฮูกให้ออกมาเป็นสโนว์เเมนได้อย่างเขาคงสวมรอยเรียนไม่รอดเเน่ๆ เเต่อักษรศาสตร์เอกอังกฤษน่าจะพอถูๆไถๆ ไปได้บ้าง

     ก๊อกๆ เสียงเคราะประตูห้องดังขึ้น

     "เข้ามาเลยครับ" กวินทร์ขานรับ

     ป้าอรเปิดประตูเข้ามาพร้อมถือถาดอาหารกับเครื่องดื่มสีเเดงเหมือนน้ำกระเจี๊ยบ

     "ป้าเอาอาหารเย็นมาให้คุณหนูค่ะ" ป้าอรยิ้ม เเล้วถือถาดมาวางบนโต๊ะตรงหน้าเขา

     "ขอบคุณครับ ผมกำลังหิวพอดี" กวินทร์ยิ้มยิงฟัน ทำเอาป้าอรอดยิ้มตามไม่ได้ คุณหนูของเธอเป็นคนยิ้มสวย ยิ้มเเล้วทำให้คนมองรู้สึกมีความสุขไปด้วย เเต่น้อยครั้งนักที่จะยิ้มให้ใคร

     "เอ่อ ป้าอรครับ ช่วยเล่าเรื่องชีวิตให้ผมฟังหน่อยได้ไหม? พ่อกับเเม่เสียไปตั้งเเต่ผมอายุเท่าไหร่?" กวินทร์ถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเเน่ใจ

     ในถือมือมีรูปกวินทร์ตอนอายุน่าจะสี่หรือห้าขวบถ่ายกับพ่อเเม่ หลังจากนั้นก็ไม่มีรูปทั้งสองอีกเลย เขาเลยเดาเอาว่าน่าจะเสียไปเเล้ว

     "พ่อกับเเม่ของคุณหนูเสียไปตั้งเเต่คุณหนูอายุหกขวบค่ะ" เธอยิ้มเศร้าๆ ให้กวินทร์

     "พร้อมกันเลยเหรอครับ?" 

     "สงสัยป้าต้องเริ่มเล่าเรื่องจากตอนต้นเลย คุณเกรียงชัยพ่อของคุณหนูเป็นคนเรียนเก่งเเละเชื่อฟังคุณท่านที่สุดในบรรดาพี่น้องคนอื่นๆ เเถมยังเรียนจบคณะบริหารด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลยนะคะ ทำให้คุณท่านภูมิใจมาก พอเรียนจบก็มาทำงานที่บริษัทของที่บ้าน ไม่นานคุณท่านก็หาคู่หมั้นคู่หมายมาให้ คุณชัยเองไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เเต่ฝ่ายนู้นเหมือนจะชอบพอคุณชัยมาก่อนเเล้วเลยเร่งรัดวันหมั้นค่ะ เเต่ก่อนวันหมั้นเเค่วันเดียวคุณชัยก็พามาคุณลิซ่าเเม่ของคุณหนูมาที่บ้าน เธอเป็นสาวฝรั่งที่สวยมากค่ะ ผมเเละตาสีเดียวกับคุณหนูเลย" ป้าอรยิ้มเมื่อนึกถึงหญิงสาวคนนั้น ถึงจะเจอเธอไม่นาน เเต่ความสวยกลับตราตรึงยิ่งนัก เเถมดูอ่อนน้อมถ่อมตน

     "คุณชัยบอกว่าจะเเต่งงานกับคุณลิซ่าเท่านั้น ป้าจำได้ว่าวันนั้นคุณท่านโมโหเเละเถียงกันเเรงมาก ไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายคุณท่านเลยบอกให้คุณชัยเลือกว่าจะเเต่งกับผู้หญิงที่หาให้หรือคุณลิซ่า ถ้าเลือกคุณลิซ่าก็ให้ออกจากบ้านไป
     ตอนนั้นคุณท่านคงคิดว่าคนที่เคยเชื่อฟังท่านมาตลอดอย่างคุณชัยคงไม่ทำให้ผิดหวัง เเต่คุณชัยกลับจับมือคุณลิซ่าเเล้วเดินออกจากบ้านไป โดยไม่เอาอะไรติดตัวไปด้วยเลย พอคุณพริ้งรู้เรื่องเธอโกรธคุณท่านมาก ที่ไปบังคับลูกจนหนีออกจากบ้าน" กวินทร์ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครก็คงครอบครัวนี่เเหละ รักลูกจนเกินไป รักจนต้องปูทางให้ทุกอย่า จนลืมคิดว่าอีกฝ่ายต้องการหรือไม่

     "ผ่านไปไม่กี่เดือนคุณท่านก็จ้างนักสืบให้จับตาดูคุณชัยอยู่ห่างๆ ป้าว่าคุณท่านเองก็คงเป็นห่วงคุณชัยเหมือนกัน เเต่ทิฐิสูงทั้งคู่ เลยไม่ได้ปรับความเข้าใจกันซักที จนคุณหนูอายุหกขวบคุณชัยก็โทรมาบอกว่าจะมาขอขมา เเต่ตอนเดินทางมากลับโดนรถชน ทำให้คุณชัยเเละคุณลิซ่าเสียชีวิต ส่วนคุณหนูรอดมาได้อย่างกับปาฏิหาริย์" ป้าอรยิ้มทั้งน้ำตา เธอเลือกที่จะไม่บอกว่าตัวกวินทร์นั้น ตั้งเเต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ก็มีท่าทางเย็นชาต่อคุณท่านทั้งสอง เเละไม่สุงสิงกับใครในบ้าน

     กวินทร์บีบมือให้กำลังใจป้าอร ถึงจะไม่เคยรู้จักป็นการส่วนตัว เเต่เขาก็อดสงสารเด็กนี่ไม่ได้ อยู่กับพ่อเเม่เเค่หกปีก็ต้องจากกัน ส่วนคุณชัยก็ไม่ทันจะได้ปรับความเข้าใจกับพ่อตัวเอง ถึงเขากับน้องชายผิดใจกัน เเต่อย่างน้อยก็ได้ใช้ช่วงสุดท้ายของชีวิตด้วยกัน

     "เเล้วสองเเม่ลูกที่โรงพยาบาลเป็นใครครับ? เหมือนพวกเขาจะไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่" กวินทร์เปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากให้ป้าอรเศร้าไปกว่านี้

     "คุณเอมอรเป็นป้าสะใภ้ของคุณหนูค่ะ เธอมีลูกสี่คน คนเล็กคือคุณเกรซที่คุณหนูเจอวันนี้ เเละมีพี่อีกสามคน คุณเเก้ม คุณกิ่ง เเละคนโตคุณกร ที่เเต่งงานเเละย้ายหนีไปอยู่เชียงราย เพราะคุณเอมอรไม่พอใจที่ไม่เเต่งกับผู้หญิงที่ตัวเองหามาให้ ส่วนคุณ
เกรซกับคุณกิ่งก็ชอบมารังเเกคุณหนูของป้า" เธอส่ายหัวอย่างเอือมระอา พวกเธอมีครบ
ทุกอย่างเเต่กลับขี้อิจฉาคนอื่นไปทั่ว

     "ไม่เป็นไรครับ จากนี้ผมจะไม่ให้เขามารังเเกอีกเเล้วล่ะ" กวินทร์พูดทีเล่นทีจริง เเต่ภายใต้เเววตาขี้เล่นกลับส่อความจริงจัง ป้าอรยิ้มรับอ่อนๆ 

     ก่อนป้าอรจะออกไป เขาบอกให้เธอเตรียมเอกสารที่ต้องใช้พรุ่งนี้พร้อมกับพวกทะเบียนบ้านต่างๆ เธอทำหน้าเเปลกใจเเต่ก็รับคำว่าจะเตรียมไว้ให้

     "อ้อ พรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงวันเกิดคุณพริ้ง คุณหนูอย่าลืมเตรียมของขวัญไว้ให้คุณย่าด้วยนะคะ" ป้าอรพูดทิ้งท้ายก่อนเดินออกจากห้องไป

     กวินทร์ได้เเต่เอามือกุมขมับ โธ่ คุณย่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไรเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำ ชายหนุ่มทิ้งตัวลงลนเตียงนุ่ม หกโมงเย็นเองเหรอ เเต่เขากลับง่วงซะจริงๆ ขอนอนก่อนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำธุระเเต่เช้าเเละหาซื้อของหวัญให้คุณย่าด้วย   

.
.
.



สนุกมากค่ะ ติดตามอยู่นะค่ะ

อยากรบกวนซักนิดนะค่ะ สระแอ กับ สระเอ นะค่ะ

เวลาคุณผู้เขียนใช้ สระเอ2ตัวแทนสระแอ เครื่องมันจะอ่านออกเสียงเพียนนะค่ะ

คืออยากให้แก้ให้ แต่ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรนะค่ะ  รับได้ค่ะ แฮะๆ
คืออันนี้ทยอยเอาที่เขียนเสร็จมาลงค่ะ เเละใช้ เอๆ มาตลอดเลยอ่า
ตอนเริ่มเขียนใหม่ๆ จะพยายามเตือนตัวเองให้เขียน เเอ เเทนนะคะ
 :hao7:

หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: 177266 ที่ 29-12-2017 21:17:20
เคยอ่านเรื่องนี้สนุกมากกกกกก รอตอนใหม่นะคะ ติดตามๆๆๆ o13 :L1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 29-12-2017 21:22:50
มาเจิมจากในเด็กดีให้ค่าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: กำแพงเมืองจีน ที่ 29-12-2017 21:47:22
อ่านเพลินดีค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ
อยากเห็นกวินเลี้ยงเจ้าแฝด ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 29-12-2017 23:16:08
สนุก เราตามอยู่นะ อย่าพึ่งท้อ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 30-12-2017 00:46:29
ติดตามจากอีกที่ค่ะ 
ให้กำลังใจคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 30-12-2017 00:48:46
ตอนที่ 7 นริศรา    


     กวินทร์ตื่นเเต่เช้ามืดเพราะเผลอหลับไปตั้งเเต่หกโมงเย็น เขาอาบน้ำเเต่งตัวเสร็จก็ลงไปที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างที่คุณธารากำลังนั่งดื่มชาอยู่ ข้างๆ ท่าน มีหญิงชราที่ยังดูสวยสมวัยนั่งอยู่ด้วย นั่นคงเป็นคุณย่าพริ้งสินะ

     "อรุณสวัสดิ์ครับคุณปู่คุณย่า" กวินทร์กล่าวทักทาย เเละนั่งลงร่วมโต๊ะ บ้านหลังนี้อยู่กันเเค่สองคน คือเจ้าสัวเเละคุณพริ้ง นอกนั้นเป็นคนรับใช้สี่ห้าคน

     "เป็นไงบ้างตากวินทร์ ดีขึ้นไหมลูก?" คุณพริ้งถามด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง เเม้จะรู้ว่ากวินทร์ความจำเสื่อม เธอก็ยังเกรงว่าจะถูกหลานเย็นชาใส่เหมือนครั้งก่อนๆ เเต่ตรงกันข้าม กวินทร์กลับยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี

     จากที่สำรวจห้องตัวเองเมื่อคืน เขาเจอรูปวาดที่เป็นภาพวิวด้านหลังของชายหญิงชราคู่หนึ่ง กำลังนั่งชมพระอาทิตย์ตกบนหาดทราย โดยกวินทร์ได้ตั้งชื่อรูปว่า Forgive ถ้าเขาไม่ได้คิดไปเอง คนในรูปคงเป็นปู่ธาราเเละย่าพริ้ง น่าเสียดายที่คนวาดกลับเสียชีวิตก่อนที่จะได้บอกกล่าวท่านทั้งสอง

     "ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมากเเล้วครับ" กวินทร์พูดยิ้มๆ

     คุยกันไม่นานเเม่บ้านก็ยกอาหารมาเสิร์ฟ เป็นข้าวต้มเเละเครื่องเคียงสี่ห้าอย่าง ล้วนดูน่ากินทั้งสิ้น กวินทร์ไม่รอช้ารีบลงมือรับประทานทันทีเพราะนัดกับป้าอรไว้ค่อนข้างเช้า เเต่กวินทร์ก็ไม่ลืมที่จะตักอาหารใส่ถ้วยให้คุณปู่เเละคุณย่า เขารู้ดีว่าคนชราทุกคนไม่ว่าจะปากเเข็งขี้บ่นเเค่ไหน ต่างก็ชอบให้ลูกหลานเอาอกเอาใจทั้งนั้น ไม่เว้นเเม้กระทั่งเจ้าสัวธารา

     ทั้งเจ้าสัวเเละคุณพริ้งเองก็เเปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของหลานชาย เเต่ลึกๆ เเล้วทั้งคู่ก็อดรู้สึกใจชื้นไม่ได้ กวินทร์คนเดิมไม่เคยพูดคุยอะไรมากเกินความจำเป็น วันๆ เเทบจะนับคำได้ เเต่ตอนนี้หลานชายกลับพูดชมอาหารไม่ขาดปาก เเละคอยตักนู้นตักนี้ใส่ถ้วยผู้สูงอายุทั้งสองอีกด้วย พออิ่มเเล้วก็เอามือตบท้องเเปะๆ

     "อาหารมื้อนี้อร่อยมากเลยครับ" กวินทร์หันไปยกนิ้วโป้งให้เเม่บ้านที่คอยยืนรอรับใช้อยู่ข้างๆ  ทุกคนรู้ว่าคุณกวินทร์ความจำเสื่อมเเละนิสัยเปลี่ยน เเต่พอเจอรอยยิ้มสดใสที่เจ้าตัวมอบให้หยุดจ้องมองไม่ได้ คนที่ไม่ค่อยยิ้มพอยิ้มกลับน่าดูเเละทำเอาเคลิ้มกันทั้งบ้าน

     "วันนี้ผมจะออกไปทำธุระข้างนอกกับป้าอร คงต้องขอตัวก่อนนะครับ" ยังไม่ทันจะได้ลุกจากเก้าอี้ กวินทร์ก็อุทานเหมือนนึกอะไรได้

     "อ่อ คุณปู่คุณย่าครับ เมื่อคืนป้าอรเล่าเรื่องชีวิตของผมให้ฟังหมดเเล้ว..." คุณพริ้งหน้าซีดเล็กน้อยส่วนเจ้าสัวเองก็ชะงักเมื่อได้ยินสิ่งที่กวินทร์เอ่ย

     "อะไรที่มันผ่านไปเเล้ว ก็อย่าไปคิดถึงมันอีกเลยนะครับ ทุกอย่างไม่ได้เป็นความผิดของใครทั้งนั้น ที่ผ่านมาผมขอโทษ" น้ำเสียงที่นุ่มนวลเเต่กลับเเฝงไปด้วยความจริงจัง กวินทร์ยิ้มอ่อนโยนให้ทั้งคู่ก่อนจะยกมือไหว้ เเล้วเดินออกไปหาป้าอรกับคนขับรถที่รออยู่ข้างนอก

     คุณพริ้งเเละเจ้าสัวอึ้งเกินกว่าที่จะทันได้ทักหลานชาย พอรู้ตัวกวินทร์ก็ขึ้นรถไปเเล้ว

     "คุณธารา.. ตากวินทร์..." คุณพริ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เจ้าสัวได้เเต่โอบไหล่เเละกุมมือเธอไว้ ปล่อยวางงั้นเหรอ นี้คงเป็นการกล่าวให้อภัยอย่างอ้อมๆ ใช่ไหมตา
กวินทร์?


******


     ธุระที่ธนาคารผ่านไปได้ด้วยดี เขาไม่ใช่เด็กอมมือที่จะไม่รู้เรื่องพวกนี้ กวินทร์พบว่าเงินในบัญชีของตนนั่นมีหลายล้านเลยทีเดียว ลำพังเเค่เงินมรดกจากพ่อเเม่เองก็ใช้ไม่หมดในชาตินี้ ถ้าเจ้าสัวให้เขาเเละเด็กๆ ออกไปจริงๆ การเงินจะไม่เป็นปัญหาอย่างเเน่นอน เเต่ถึงจะไม่มีเงินพวกนี้เขาก็มั่นใจว่าสามารถตั้งตัวด้วยตัวเองได้ ในเมื่อไม่ต้องไปเป็นขี้ข้าใคร เเค่ความสามารถด้านคอมฯของเขาก็หางานทางเน็ตได้ไม่ยาก บางทีออกไปอยู่คนเดียวอาจง่ายเเละสบายใจกว่าอยู่กับครอบครัวกำมะลอเสียอีก กวินทร์คิดในใจ ก่อนจะปรายตามองป้าอรที่ดูเหมือนกำลังวุ่นอยู่กับการอ่านเมนูอะไรซักอย่าง

     "ป้าอรทำอะไรอยู่ครับ" ชายหนุ่มชะเง้อหน้าไปมองอย่างสนอกสนใจ

     "เมนูอาหารงานเลี้ยงวันเกิดคุณพริ้งค่ะ"

     กวินทร์อ่านเมนูเเต่ละอย่างเเล้วขมวดคิ้ว

     "ทำไมมีเเต่อาหารฝรั่งล่ะครับ เเขกที่เชิญมาเป็นคนต่างชาติเหรอ?"

     "ไม่ถึงห้าคนหรอกค่ะ เเต่เมนูพวกนี้คุณเอมอรเเละคุณกิ่งลูกสาวคนโตของเธอเป็นคนสั่ง" ป้าอรพูดอย่างเอือมระอา ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าทั้งคู่ทำเอาหน้า เเม้ว่าเธอจะเเย้งว่าคุณพริ้งชอบอาหารไทยๆ พวกหล่อนก็ยังยืนกรานไม่ยอมเปลี่ยนเมนู เเต่โชคดีที่เเม่ครัวไม่ต้องทำเอง เพราะคุณเอมอรให้สั่งจากร้านอาหารระดับห้าดาวของโรงเเรมหรู

     "เเล้วคุณปู่กับคุณย่าชอบอาหารประเภทไหนเหรอครับ?"

     "ถึงคุณท่านจะมีเชื้อสายจีนเเต่กลับชอบอาหารไทยที่มีรสชาติไทยๆ มากกว่าค่ะ" ป้าอรรู้ดี เพราะเธอเป็นเเม่บ้านให้ครอบครัวเจ้าสัวมานานหลายปีเเล้ว เธอไม่ได้อยู่เพราะความสุขสบาย เเต่เพราะความผูกพันซะมากกว่า

     "งั้นเหรอครับ..." กวินทร์ทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง

     "ป้าอรจัดการสั่งอาหารกับทางโรงเเรมให้เอามาส่งพรุ่งนี้เลยครับ เดี๋ยวเราไปตลาดกัน" วิญญาณพ่อครัวเข้าสิง เขารู้สึกคันไม้คันมืออยากทำอาหารขึ้นมาดื้อๆ ถ้าทำของว่างของคาวเเละหวานอย่างละสองสามเมนูไปเสริมน่าจะไม่ยาก 

     "ไปทำไมคะ?" ปาอรถามอย่างงวยงง

     "ก็คุณปู่คุณย่าชอบอาหารไทยไม่ใช่เหรอครับ เอาเเต่อาหารฝรั่งไปเสิร์ฟอย่างงี้คงทานกันนิดๆ หน่อยๆ"

     "งั้นไปที่ห้างไม่สะดวกว่าเหรอคะ วันนี้อากาศร้อนนะคะคุณหนู" ถึงจะเเปลกใจ เเต่ป้าอรก็เริ่มชินกับความเเปลกใหม่ของคุณหนูเธอเเล้ว

     "ที่ห้างของเเพงครับ เเล้วยังไม่สดเท่าตลาด ลุงโชคไปตลาดเลยครับ" เจ้าตัวหันไปสั่งคนขับรถเสร็จสรรพ


******


     ร่างโปร่งจับจ่ายของสดอย่างคล่องเเคล่ว เเก้มขาวใสเริ่มเเดงเพราะความร้อน เดินไปร้านไหนก็โดนเเม่ค้าเเซว เพราะไม่เคยเจอหนุ่มชาวตะวันตกที่พูดจาภาษาไทยอย่างฉะฉานเหมือนเจ้าของภาษามาเอง เเถมยังเลือกของสดเก่งยิ่งกว่าคนขาย

     มองของที่ซื้อมา ป้าอรพอจะดูออกว่ามีเมนูอะไรบ้าง เเต่บางอย่างเธอเองก็ไม่รู้จักเเละอดคิดไม่ได้ว่าคุณหนูของเธอไปรู้จักผักพวกนี้ได้อย่างไร

     "ป้าอรกับลุงโชคไปส่งผมที่ห้างเเล้วเอาของกลับไปเก็บตู้เย็นได้เลยนะครับ พวกของสดจะได้ไม่เสีย เดี๋ยวผมต้องหาซื้อของขวัญให้คุณย่าก่อน" กวินทร์บอก เพราะไม่อยากให้ทั้งคู่รอตัวเอง เเถมกลัวพวกเนื้อสัตว์เน่าเสียก่อน

     "จะดีเหรอคะ คุณหนูเพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นานเองนะคะ" ป้าอรกล่าวอย่างเป็นห่วง

     "ไม่เป็นไรครับ ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะเเล้ว" ว่าเเล้วก็ยกเเขนโชว์มัดกล้ามที่... ไม่มีอย่างภาคภูมิใจ อ่า เขาคงต้องทำอะไรซักอย่างกับร่างกายเด็กหนุ่มคนนี้ซะเเล้ว ผอมเเห้งเสียจริงๆ เเต่จะว่าไป ทำไมพวกคนรวยล้วนเเต่มีหุ่นเเห้งๆ เป็นไม้เสียบผีทั้งนั้นเลยนะ



     กวินทร์เดินวนในห้างอยู่นานหลายนาทีก็ยังคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรดี จนเดินผ่านร้านตัดผม ถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยากตัดผมยาวๆ นี่ออกใจจะขาด ไหนๆ เจอร้านเเล้วก็ เข้าไปตัดเลยเเล้วกัน

     ในร้านถูกตกเเต่งอย่างทันสมัย เเถมยังกว้างมีที่นั่งหลายที่ เเละยังมีรูปลูกค้าที่ดูเหมือนจะเป็นพวกดาราเเละคนดังในวงการถ่ายคู่กับช่าง เอามาหอยติดเอาไว้บน
ฝาผนังการันตีความโด่งดังของร้าน

     "ฮ้ายยยยย เวลคำค่ะ มายเนมอีสเจ๊พีม ฮาวเเคนไอเฮปยูว" หนุ่มใจสาวร่างท้วมเอ่ยทักทายด้วยภาษาปะกิตสำเนียงไทยชัดเจน จนร่างโปร่งอดขำไม่ได้

     "ตัดผมครับ"

     "อุ้ย พูดไทยได้เหรอคะ เชิญค่ะ" กระเทยสาวร่างท้วมเชื้อเชิญให้กวินทร์นั่งบนเก้าอี้หน้ากระจก เพราะยังเช้าอยู่เลยไมค่อยมีลูกค้า

     "มีทรงที่คิดไว้ยังคะ?"

     "สั้นๆ ครับ ทรงไหนก็ได้ที่ไม่เเหวกเเนวจนเกินไป"

     เจ๊พีมจับศีรษะเขาหันไปซ้ายทีขวาที ก่อนเดินไปหยิบหนังสือเเบบเเละเปิดดูเเบบไปเรื่อยๆ เเล้วเอาให้กวินทร์ดูทรงที่ตัวเองเลือก

     "เจ๊ว่าหน้าหล่อๆ อย่างคุณน้องทรงไหนก็ดูดี เเต่ทรงนี้น่าจะเข้าท่าสุดค่ะ ตัดเเล้วปังมว๊ากกกก ไม่ธรรมดาเเละไม่เว่อร์จนเกินไป" เจ๊ดาจีบปากจีบคอพูด

     กวินทร์ที่กำลังอ่านข่าวบนโทรศัพท์มือถือเหล่ตามองนิดหน่อยเเล้วเออออตกลงเมื่อเห็นว่าเป็นทรงที่ดูไม่เลว


     "เสร็จเเล้วค่า" ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงซึ่งถือว่าไม่นานสำหรับคนทั่วไป เเต่ชายหนุ่มผู้ไม่เคยใส่ใจทรงผมตัวเองถือว่านานเอาเรื่องเลยทีเดียว มองเงาสะท้อนในกระจก เอ...ไอ้เด็กนี่ตัดผมเเล้วดูดีใช่หยอก

     "เชิญคิดเงินตรงนี้ค่ะ"

     "600บาทค่ะ" กวินทร์ถึงกับตาโต 600?! ตอนยังเป็นสาวิทย์เขาไม่เคยเสียเงินให้กับร้านตัดผมด้วยซ้ำ ไม่น้องสาวก็พวกเพื่อนร่วมงานที่ตัดให้กัน

     "ตอนนี้ทางร้านเรามีโปรโมชั่นค่ะ ถ้าให้เราถ่ายรูปเเล้วเเท็คคุณลูกค้าในเฟส ก็จะได้ส่วนลดถึง 30% เชียวนะคะ"

     กวินทร์นิ่งคิด เเค่โพสลงเฟสบุ๊ค ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

     กวินทร์ถูกจับถ่ายรูปเเละบอกชื่อเฟสตัวเองเสร็จสรรพ เขาก็เดินออกจากร้านอย่างสบายใจ ถึงจะมาฟื้นในร่างของหลานเจ้าสัวธารา เเต่เขาก็ยังเป็นสาวิทย์คนเดิมที่เพื่อนๆ เเละน้องสาวค่อนขอดว่างกสุดๆ เเละเขาก็มักเเย้งว่าใช้จ่ายเป็นต่างหากล่ะ

     ด้วยสายอาชีพทำให้กวินทร์มีเพื่อนน้อยคน ซึ่งทุกคนมาทำงานให้เสี่ยวิชัยด้วยเหตุผลที่ไม่ต่างจากเขานัก ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไร หวังว่าจะไม่บุ่มบ่ามเเก้เเค้นเเทนเขานะ เอาเถอะ เดี๋ยวค่อยคิดเรื่องนี้


******


     กวินทร์เดินทั่วห้างมาเป็นเวลาสองชั่วโมงเเล้ว เขายังไม่เจออะไรถูกใจเเละคิดไม่ออกเลยว่าจะซื้ออะไรให้คุณพริ้งดี เขาอยากกลับบ้านเต็มเเก่เเล้ว ทั้งเมื่อยขาทั้งหิว สงสัยไอ้เด็กกวินทร์ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเเน่ๆ เลย เหนื่อยง่ายเหลือเกิน ไหนจะสายตาทอดสะพานของสาวเล็กสาวใหญ่ยามเขาเดินผ่านอีก ตัวเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กกวินทร์มันหน้าตาดี ไม่ว่าจะเป็นสีผมอันโดดเด่นเเละความสูงเกินที่เกินมาตรฐานชายไทย ทั้งหมดทั้งมวลทำให้เขาดูเป็นจุดเด่นได้ไม่ยากเลย กวินทร์เดินไปเรื่อยๆ จนผ่านซุ้มขายกรอบรูป เขาจึงฉุกคิดถึงรูปวาดสีน้ำคู่ชายหญิงชราของกวินทร์ ของขวัญที่เเพงๆ หรูๆ คงไม่มีค่าต่อจิตใจเท่าภาพวาดที่หลานเธอได้ตั้งใจทำให้

     ของขวัญในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ ควรมาจากหลานจริงๆ ของเธอ มากกว่าเขา

     "ไอ้กวินทร์!" กวินทร์ที่มัววุ่นอยู่กับการเลือกกรอบรูปสะดุ้งกับเสียงเเหลมที่ตะโกนเรียกชื่อตนจากข้างหลัง พอหันกลับไปเเละเจอว่าเป็นใคร ร่างโปร่งก็ได้เเต่ถอนหายใจอย่างรำคาญ

     เขาไม่มีเวลาต่อปากต่อเสียงกับเด็กสาวหรอกนะ ทานข้าวตั้งเเต่เช้าตรู่ จนตอนนี้เที่ยงเเล้ว เขาหิว! เขาอยากรีบซื้อเเล้วรีบไปหาอะไรทาน!

     ร่างโปร่งทำเมิน เเล้วหันกลับไปหยิบกรอบรูปพร้อมเดินจะไปจ่ายเงิน

     "ไอ้กำพร้า ชั้นพูดกับเเกอยู่นะ หูหนวกหรึไง!"

     กวินทร์จิ๊ปากอย่างรำคาญ "มีไรก็ว่ามา"

     นริศราไม่พอใจกับท่าทีเหมือนจะรำคาญของกวินทร์ เเต่เธอต้องการเอาเรื่องมันที่กล้ามาด่าเธอในเฟสบุ๊ก

     "เเกด่าชั้นในเฟส คนอย่างเเกไม่มีสิทธิ์มาใช้คำพูดต่ำๆ อย่างนั้นกับชั้น!" สายตาจะกินเลือดกินเนื้อ ถ้าไม่ติดว่ากำลังอยู่ในที่สาธารณะ เธอคงถลาเข้ามาตบเขาเเล้วมั้ง

     ร่างโปร่งทำหูทวนลม เดินไปจ่ายเงิน เเล้วทำท่าจะเดินออกจากร้าน โดยมีญาติสาวเเละคู่ควงที่เป็นเเฟนเก่าเขายืนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกคอยเดินตามอยู่ข้างๆ มันเป็นควายเหรอวะ จูงไปไหนก็ไป

     กวินทร์ปรายตาประเมิน"เเฟนเก่า"ตัวเอง หน้าตาถือว่าหล่อระดับพระเอกละคร เเต่กลับดูไร้เสน่ห์ เเล้วสายตาเว้าวอนที่ส่งมาให้เขานั้นคืออะไร? ถ้าให้ทายคงไม่ใช่ชายเเท้สินะ คบนริศราบังหน้า ส่วนนริศราก็ได้หักหน้าเขา ได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย เเหมช่างสมกันดีเเท้ๆ

     กวินทร์ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด เเต่อดปากไม่ได้จริงๆ ให้ตายสิ...

     "คำพูดต่ำๆ ใช้กับการกระทำต่ำๆ ก็ถูกเเล้วนี่" 

     "ไอ้กวินทร์!! เเก...เเก" กวินทร์มองญาติสาว"เต้นเเร้งเต้นกา"เเละทำปากพงาบๆ เหมือนกำลังนึกคำด่าอย่างเวทนา อายุเเค่นี้จะอะไรหนักหนากับญาติกำพร้าอย่างเขา วันๆ คงไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้ใคร คอยอิจฉาคนนู้นทีคนนี้ที

     "ไอ้เด็กพ่อเเม่ไม่สั่งสอน อ๋อ ลืมไป เเกไม่มีพ่อเเม่คอยสั่งสอนนี่นา เเถมยังไม่มีใครคบ จะมีก็เเต่พวกต่ำๆ เหมือนเเก หึ" พูดจบก็กอดเเขนชายหนุ่มข่างกายเเล้วมองเขาอย่างเหนือกว่า

     ถ้าเป็นกวินทร์คนเดิม เมื่อมีคนเอาจุดอ่อนเรื่องพ่อเเม่มาพูดคงเสียใจเเละเดินหนี เเต่เขาคือสาวิทย์ หนุ่มใหญ่ที่เลี้ยงน้องมาตั้งเเต่ตนยังเป็นวัยรุ่นเเละผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะพอควร กับเเค่คำพูดจิกกัดของหนุ่มสาวที่ยังเเบมือขอเงินพ่อเเม่ใช้มีเหรอจะระคายเขาได้ ตั้งเเต่พ่อเเม่เสียไป เขาก็ถือคติที่ว่า
     "sticks and stones may break my bones but words will never hurt me"
พูดง่ายๆ คำพูดคำด่าทำอะไรเขาไม่ได้ มันก็เเค่ลมปาก เเต่การใช้กำลังนี่สิ เจ็บจริงเเละถ้าโชคร้ายอย่างเขาก็อาจถึงตายได้

     เเต่ก่อนที่กวินทร์จะทันได้ตอบโต้หรือเดินหนีก็มีเสียงอันคุ้นหูดังขึ้นขัดจังหวะ
 
     "น้องกวินทร์ มาอยู่นี้เอง ทำไมหายไปนานจังครับ" เสียงของร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีดำพอดีตัวทำให้มองเห็นกล้ามเเขนได้อย่างเด่นชัดบวกกับใบหน้าตี๋ที่เหมือนจะยิ้มอยู่ตลอดเวลา

     "สวัสดีครับคุณหมอ" ถึงจะงงๆ กับคำพูดของหมอหนุ่ม เเต่เขาก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ ถึงจริงๆ เเล้วตนจะเป็นรุ่นพี่ก็เถอะ ต้องทำให้ชิน...

     "จะสวัสดีพี่อีกทำไมครับ เพิ่งเจอกันไม่กี่นาทีเอง" ว่าเเล้วก็เข้ามากอดคอเขาอย่างถือวิสาสะ

     "พะ... พี่หมอมากับไอ้ เอ้ย มากับกวินทร์เหรอคะ?" นริศราหน้าเสีย เธอรีบปล่อยเเขนจากเเฟนหนุ่มเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอมีเเฟนเเล้ว เเละเริ่มหวาดระเเวงว่าหมอธีรไนยที่เธอหมายตาอยากสานสัมพันธ์จะได้ยินสิ่งที่เธอพูดก่อนหน้านี้

     "ครับ วันนี้พี่นัดทานข้าวกับน้องกวินทร์กับคุณเเม่น่ะครับ"

     "เอ่อ คุณป้ามาด้วยเหรอคะ งั้นเกรซขอไปสวัสดีคุณป้าด้วยจะได้ไหมคะ?" นริศราเคยเจอคุณกานดา เเม่ของหมอหนุ่มไม่กี่ครั้ง ถ้าทำคะเเนนกับเธอได้ การเข้าใกล้หมอธีรไนยคงไม่ใช่เรื่องยาก หล่อนเป็นถึงหลานเจ้าสัวธารา มีหรือคุณกานดาจะไม่ปลื้ม

     "เอาไว้วันหลังดีกว่านะครับ" หมอธีรไนยปฏิเสธด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เเต่กลับไม่ให้เหตุผลว่าทำไม เหมือนบอกเป็นนัยๆ ว่าไม่เเค่อยากให้เธอไป

     "งั้นพี่กับน้องกวินทร์ขอตัวก่อนนะครับ" คุณหมอยิ้มให้นริศราเเละเเฟนหนุ่ม ก่อนจะหันไปหยิบของจากมือคนข้างกาย

     "มาครับ พี่ถือให้" หมอหนุ่มพูด เเล้วพาร่างที่ตนกำลังกอดคออย่าง"สนิทสนม"หันหลังเดินไปอีกทาง โดยมีสายตาไม่พอใจสองคู่มองตามหลัง 


******


     "ผมไม่ยักกะรู้ว่านอกจากเป็นหมอเเล้วคุณยังเป็นประติมากรอีกด้วย" กวินทร์พูดเเละเงยหน้ามองคนตัวสูงที่ยังไม่ยอมเอาเเขนออกจากคอเขา

     "หืม?" หมอหนุ่มก้มหน้าถาม 

     กวินทร์นึกสนุก ยื่นหน้าไปใกล้ๆ หูอีกคนก่อนจะกระซิบ

     "ปั้นน้ำเป็นตัว" พูดจบก็ผละตัวออกจากวงเเขนเเกร่ง ยื่นมือไปหยิบถุงของตัวเอง
ยิ้มให้อย่างมีเล่ห์เหลี่ยม ก่อนจะโปกมือลา เเล้วเดินออกไปจากห้าง

     ทิ้งให้หมอหนุ่มยืนอึ้งมองตามตาปริบๆ พอตั้งตัวได้ เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาไม่อายคนที่กำลังเดินผ่านไปมาเเละมองอย่างใคร่รู้

     ขนาดเดินเข้าภัตตาคารที่เขานัดเพื่อนเอาไว้ยังหุบยิ้มไม่ได้ ให้ตายสิ เขารู้สึกถูกชะตากับหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าครามนั้นเสียจริงๆ

 
     "เฮ้ย ไอ้ธี! ไหนบอกมาถึงนานเเล้ว ทำไมเพิ่งโผล่หน้ามาวะ" เสียงทักทายจากกลุ่มชายหนุ่มสามคนในห้องวีไอพีของภัตตาคารหรูที่นัดเเนะกันไว้ นานๆ ทีพวกเขาจะมารวมกลุ่มกันได้ เพราะภาระการงานที่ต้องรับผิดชอบของเเต่ละคนนั่นเยอะเเยะมากมาย

     "บังเอิญเจอคนไข้" ตอบยิ้มๆ ตามสไตล์ฉายาคุณหมอใจดี เเต่เเววตากลับเเพรวพราวระยิบระยับจนคนมองหมั่นไส้

     "คนไข้จริงเหร้อ กูไม่เห็นมึงยิ้มเหมือนคนบ้าเเบบนี้นานเเล้วนะ" ทั้งเสียงหัวเราะเเละเสียงเเซวดังขึ้นหลังพูดจบ

     "ไอ้ภูยังไม่มาเหรอวะ?" หมอธีรไนยเอ่อปากถามเมื่อเห็นว่ายังขาดไปอีกคน

     "เดี๋ยวคงมา มันเพิ่งโทรหากูไม่กี่นาทีที่เเล้ว" ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดาเเต่กลับมีรูปร่างกล้ามเนื้อบึกบึนที่สุดในกลุ่มเป็นคนตอบ

     พูดไม่ทันขาดคำ เสียงบานประตูก็ถูกเปิดขึ้น พร้อมกับชายหนุ่มผิวสีเเทนใบหน้าคมเข้มที่เดินเข้ามาในห้องเเละยกยิ้มน้อยๆ ทักทายเพื่อนฝูง

.
.
.
.
ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเม้นค่ะ
 :man1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 30-12-2017 07:06:48
 o13 มาต่อเร็วนะ สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-12-2017 09:22:21
ชอบบบบบบบบบบบบ สนุกมากกกกกกกกกก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

รอวันสาวิทย์ เอาคืนเสี่ยวิชัย  :z6: :z6: :z6:
เกรซ ก็เศษแก้วเศษกระจกแค่นั้น
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 30-12-2017 10:35:49
ชอบๆๆ มาอีกน้าาา  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 30-12-2017 11:01:47
 o13
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 30-12-2017 17:14:18
ภูที่เป็นเพื่อนในกลุ่มคุณหมอนี่จะใช่คนเดียวกับภูผากับเสือที่ช่วยเด็กไว้ไหมนะ สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปไม่ไหวแล้วว  :katai2-1:

ปล.เวลาอัพตอนใหม่ ช่วยแก้ไขหัวข้อนิยายด้วยนะคะ คนอ่านจะได้รู้ว่ามาอัพเพิ่มแล้วน่ะค่ะ พวกตอนที่อัพ วันที่อัพน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: tn ที่ 30-12-2017 19:21:41
สนุกกกก  :impress2:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 30-12-2017 19:50:10
ชอบกวินทร์ร่างนี้จัง 555  แต่ก็สงสารกวินทร์คนเดิมมากเลย
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 30-12-2017 21:00:37
ตอนที่ 8 เหยื่อที่เเว้งกัด


     "นั่นไง พูดถึงก็มาเลย ไอ้ภู มึงกับไอ้หมอนี่ยังไงวะ โสดสนิท เเต่เสือกว่างน้อยกว่าพวกกู" ธนวัตน์ทักขึ้นเมื่อภูผาหย่อนตัวลงข้างๆ ตน

     "งานเยอะนี่หว่า ไม่เหมือนพ่อบ้านช้างเท้าหลังอย่างมึง" หมอหนุ่มชิงตอบอย่างไม่ต้องคิด

     "ส้นตีน" ถึงจะด่าเเต่ปากกลับยกยิ้มเเล้วหัวเราะอารมณ์ดี ธนวัตน์หรือกัน หนุ่มใหญ่ที่เเต่งงานมาเเล้วหกปีกับเเฟนสาว คนที่คบกันมาตั้งเเต่มัธยมปลาย จนมีโซ่คล้องใจเเล้วถึงสามคน พอคลอดลูกคนที่สาม ภรรยาที่เป็นเเม่บ้านมาตั้งเเต่ตอนเเต่งงานกันใหม่ๆ ก็อยากใช้วิชาชีพที่เธอร่ำเรียนมาหลายปี ตอนเเรกทั้งคู่ปรึกษากันว่าจะจ้างพี่เลี้ยงเด็ก เเต่ธนวัตน์กลับสองจิตสองใจ จนสุดท้ายก็โยนงานที่บริษัทให้พี่ชายตนเเล้วหันมาเปิดร้านกาเเฟเเทน วันไหนเบื่อๆ ก็พาลูกๆ เเวะไปดูร้าน ถือว่าชีวิตชิวที่สุดเเล้วในกลุ่ม

     ถัดมาคือกฤตินทนายพ่อม่ายลูกติดที่เเต่งงานมาเเล้วถึงสองครั้ง ภรรยาคนเเรกเสียชีวิตหลังคลอดลูกได้ไม่นาน ส่วนคนที่สอง เเม่เขาเเนะนำให้ เเละเลิกลากันไปเพราะเธอรับไม่ได้ที่เขาสนใจลูกชายมากกว่าหล่อน ครอบครัวของกฤตินเปิดสำนักงานกฎหมายมาตั้งเเต่รุ่นทวด วันๆ ตัวเขาก็จะยุ่งอยู่กับกองกระดาษมากมาย พอถึงวันหยุดก็มักใช้เวลาอยู่กับลูกชาย ด้วยหน้าตาที่ถือว่าดูดีระดับหนึ่งทำให้มีสาวๆ มาทอดสะพานไม่ขาดสายเเต่เขาขออยู่เลี้ยงลูกคนเดียวดีกว่า เพราะผู้หญิงที่คบๆ มาล้วนต้องการให้เขาคอยตามเอาอกเอาใจ ไปออกเดท ดินเนอร์ ช้อปปิ้ง เเต่สำหรับกฤตินลูกต้องมาก่อนเสมอ บางทีเขายังเเอบคิดเล่นๆ เลย ว่าในเมื่อผู้หญิงที่เจอมาเรื่องมาก เขาหันมาเดินสายเดียวกับไอ้หมอดีไหมนะ... เเต่มันก็เป็นเเค่ความคิดเล่นๆ เท่านั้นเอง

     หนุ่มกล้ามโตอีกคนในกลุ่มคือจักรภพหรือเเจ๊ค หนุ่มเจ้าสำราญที่เข้าออกผับบ่อยพอๆ กับยิม  เเละต่างจากสี่คนตรงที่เขาไม่ได้เรียนมัธยมมาด้วยกัน เเต่รู้จักเเละสนิทกับ
ธนวัตน์เเละภูผาตอนเรียนมหาวิทยาลัย ด้วยความที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีทำให้จักรภพได้ใกล้ชิดกับนางเเบบเเละดารามากหน้าหลายตา จนเป็นข่าวซุบซิบในโลกโซเชียลบ่อยครั้งในเรื่องควงหญิงไม่ซ้ำหน้า เเต่เจ้าตัวก็ไม่เคยเเคร์
     เขาไม่ได้หลอกผู้หญิงพวกนั้นเสียหน่อย พวกหล่อนยอมควงกับเขาเพราะได้เป็นข่าวเเละเครื่องประดับที่เขามอบให้ก็ถือว่าเป็นของเเถมที่ไม่เลวเลยทีเดียว นอกจากควงสาวไม่ซ้ำหน้าเเล้ว เขายังนิยมใช้ของของแบรนด์เนมสุดหรูเเละเล่นกล้ามจนร่างกายบึกบึน เหตุผลง่ายๆ ที่เขาเคยบอกหมอธีรไนยคือ "หน้ากูไม่หล่อเท่าพวกมึงเลยต้องเอากล้ามเข้าสู้ไงวะ" จักรภพไม่ได้เป็นคนขี้เหร่ เเต่พอนั่งกับไอ้สี่ตัวนี่ กลับทำเขาหมองตลอดเลย ให้ตาย!

     เเละคนสุดท้ายในกลุ่ม ผู้ที่มาสายกว่าเพื่อน ภูผาหรือที่เพื่อนๆ ชอบเรียกว่าไอ้คุณชาย ฉายาเเต่สมัยมัธยม นอกจากฐานะดีเเล้ว หนังหน้ายังเสือกหล่อไม่เกรงใจเพื่อน ทั้งๆ ที่ไม่ได้ดูเเลตัวเองเลยด้วยซ้ำ นอกจากการเข้ายิมเป็นบางครั้ง วันๆ ก็หมกตัวอยู่ที่บริษัท เเฟนเฟินไม่ต้องพูดถึง นอกจากบ้างานเเล้วยังขี้รำคาญ ขนาดหมอ
ธีรไนยที่ว่างานเยอะยังมีควงหนุ่มๆ อยู่บ้างนานๆ ครั้ง เเต่ภูผากลับไม่เคยควงสาวหรือหนุ่มคนไหนเลย จนถูกพวกมันสี่ตัวเเซวว่าตายด้าน ต่างจากภคินน้องชายคนเล็ก ที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับจักรภพ วันดีคืนดีคงพลาดทำใครท้องให้คุณเเม่ด่า เเต่ก็ดี คุณหญิงทิพกาจะได้เลิกพยายามหาคู่ให้เขาเเล้วไปสนใจไอ้คินเเทน ยิ่งพี่สาวฝาเเฝดเขา
เเต่งงานเเละมีเจ้าตัวเล็กสามขวบ เเม่ก็ยิ่งเร่งอยากได้หลานคนที่สอง โดยอ้างว่าน้องพลอยจะได้มีเพื่อนเล่น เเต่โชคดีที่เธอไม่บังคับ เเค่คอยเเนะนำคนนู้นคนนี้ให้รู้จัก พอเขาเฉยๆ ไม่นานเธอก็ลืมไปเอง ถึงอายุภูผาจะอายุเข้าเลขสามเเล้ว เเต่ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องคู่ครองเท่าไหร่ อยู่เเบบนี้ก็ดีอยู่เเล้ว


     "พูดเรื่องเเฟน คุณชาย มึงเตรียมตัวเป็นโสดคนเดียวได้เลย เพราะไอ้หมอกำลังมีเมียว่ะ วันนี้มันมาสายเพราะเจอเมียในอนาคตเว้ย ฮ่าๆ" จักรภพพูดจบเเล้วหันไปยักคิ้วให้หมอธีรไนย

     ภูผามองหมอหนุ่มเเล้วเลิกคิ้วนิดหน่อยเหมือนกำลังถาม

     "ไม่ใช่โว้ย คนไข้ๆ หลานเจ้าสัวธาราไง มึงเคยเจอไม่ใช่เหรอ" หมอหนุ่มปฏิเสธสถานะที่เพื่อนยัดเยียดให้ ก่อนจะหันไปพูดกับภูผา

     "อืม เคยเจอครั้งสองครั้ง" ทำไมเขาจะจำเด็กหนุ่มหน้าตะวันตกไม่ได้ ผมสีบอลนด์กับผิวขาวผ่อง ดูเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ต่างจากญาติสาวของเจ้าตัว ที่พยายามเข้ามาทำความสนิท พอๆ กับที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงเธอ ไม่ใช่ปฏิเสธไม่ได้ เเต่เพราะไม่อยากฉีกหน้าเจ้าสัว เเค่นั้นเอง

     "นั่นเเหละ ก่อนหน้านี้น้องมันตกน้ำเเล้วความจำเสื่อม จำได้เเค่บางเรื่อง" สี่หนุ่มพยักหน้าเออออ จะเเสดงท่าทีห่วงใยก็ใช่เรื่องเพราะไม่ได้สนิทกันกับกวินทร์

     พูููดคุยเเละถามสารทุกข์สุกดิบกันจนผ่านไปเเล้วสองสามชั่วโมง ถึงเวลากลับไปดูลูกของพ่อบ้านลูกสามอย่างธนวัตน์เเละเวลาเข้าประชุมกับเข้าเวรของอีกสี่คน ก่อนเเยกทางกัน หมอธีรไนยนึกอะไรขึ้นได้ ก่อนจะถามภูผา

     "เฮ้ย ไอ้ภู เย็นนี้ครอบครัวมึงไปงานวันเกิดคุณพริ้งด้วยใช่ไหม?"

     "อืม"

     "โอเค งั้นเจอ"

     ภูผาพยักหน้ารับรู้ เจ้าสัวเเละคุณพริ้งเป็นคนสนิทของครอบครัวเขา เเล้วยังเคยร่วมงานกันมาหลายต่อหลายครั้ง เเต่เเปลกที่เเม่เขาไม่เคยเเนะนำหรือชวนหลานสาวเจ้าสัวออกไปทานข้าวด้วยซักครั้ง สงสัยจะดูออก คิดเเล้วก็ยิ้มที่มุมปากก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถืออกมาโทรหาลูกน้องคนสนิท

     "เสือ เตรียมรถให้ฉันด้วย" 

 
******


ภูผาเดินมาถึงรถที่จอดรออยู่ รถที่ใช้ประจำไม่ใช่รถราคาเเพงอะไรมากมาย เหตุผลเพราะต้องการความกลมกลืนเเละไม่เป็นเป้าสายตา เเต่กระจกที่ใช้เป็นกระจกกันกระสุนอย่างดี 

     พอรถเริ่มเลื่อนออกไป ชายหนุ่มก็ฉวยโอกาสหยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน ถึงวันนี้จะไม่มีงานด่วนเเต่ก็มัวเฉยชาไม่ได้ เตรียมตัวไว้ดีกว่าปล่อยเวลาเลยผ่านไปเฉยๆ

     รถขับเลื่อนมาติดไฟเเดง ภูผาเงยหน้าจากใบกระดาษเเล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง สายตาสะดุดเข้ากับหนุ่มชาวตะวันตก มือหนึ่งถือไม้ลูกชิ้น อีกมือถือเเก้วน้ำปั่นเเล้วยังมีถุงห้อยที่ข้อมืออยู่อีกสองสามถุง ปากเเดงก็เคี้ยวตุ้ยๆ จนเเก้มป่อง ผิวขาวที่พอโดนเเดดยิ่งดูเหมือนจะเปล่งเเสงได้ มองเเล้วรู้สึกเพลินตา

     คุ้นหน้า... เป็นความคิดที่เเล่นเข้ามาในหัวเขา เเต่ทันจะได้สังเกตร่างโปร่งต่อ โทรศัพท์มือถือเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน ทำให้ต้องละสายตาจางอีกฝ่าย ประจวบกับป้ายไฟจราจรเปลี่ยนสีพอดี


******


     เเยกจากหมอธีรไนย กวินทร์ก็ตัดสินใจหาของกินนอกห้างเพราะไม่อยากบังเอิญเจอญาติสาวของตนอีกครั้ง... ขี้เกียจรับมือ เเต่ก็ไม่ลืมที่จะซื้อน้ำกระเจี๊ยบปั่นที่เขาหมายตาไว้ก่อนออกมา

     ยายเขาเคยปลูกต้นกระเจี๊ยบไว้รั้วบ้านหลายต้น เเละมักเก็บมาต้มน้ำกระเจี๊ยบรสชาติเปรี้ยวอมหวานให้ตนเเละน้องๆ ได้ดื่มเสมอ เเต่พอตากับยายเสียเเละพ่อได้ตำเเหน่งงานใหม่ที่กรุงเทพ ครอบครัวเขาก็ตัดสินใจขายบ้านพร้อมที่ดินเเละมาเริ่มชีวิตใหม่ที่นี่

     กวินทร์เดินออกมาได้ซักพักตาก็เหลือบไปเห็นรถเข็นที่กำลังขายลูกชิ้นปิ้ง เดินไปกินไป ดูดน้ำปั่นไป ชีวิตช่างดีจริงๆ

     เขาไม่ใช่คนที่ชอบจมปลักกับความทุกข์ นอกจากจะเเก้ใขอดีตไม่ได้เเล้ว ยังอาจทำให้อนาคตพังเพราะมัวเเต่นั่งเศร้าอีกด้วย สู้ใช้โอกาสที่ได้รับให้เป็นประโยชน์ดีกว่า ถ้ามัวเเต่เศร้าเสียใจ ยัยสิคงโผล่มาตบเขาในฝัน

     กินลูกชิ้นหมดไปห้าไม้ เเต่รู้สึกว่ายังไม่อิ่มเลย ตาคมจึงสอดส่องหาร้านอาหาร จะให้หิ้วท้องกลับไปกินที่บ้านคงได้เป็นลมก่อนพอดี

     เดินต่อไปไม่กี่ก้าวก็เจอร้านที่มีหนุ่มสาวหลายคนนั่งอยู่ ป้ายรูปอาหารโชว์ทั้งไทยเเละเทศ ราคาก็ไม่ถือว่าเเพงจนเกินไป เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในร้าน พนักงานชายที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวกับเขาพาไปนั่งโต๊ะติดกระจกเงาที่สามารถมองออกนอกหน้าร้านได้ 

     ในขณะที่เดินตามพนักงานก็มีสายตาที่ทั้งเเอบเเละมองอย่างตรงๆ อยู่หลายคู่ "ฝรั่ง"น่ะเคยเจอ เเต่"ฝรั่ง"ที่เเลดูเหมือนเพิ่งเดินออกจากแมกกาซีนน่ะ มีให้เห็นบ่อยที่ไหน ไม่ใช่เเค่เฉพาะสีผิวที่คนไทยนิยมชมชอบ เเต่ผมบลอนด์ที่เกือบขาวยิ่งเป็นที่สะดุดตา ไหนจะรูปร่างสูงโปร่งที่โดดเด่น กวินทร์เเต่งตัวธรรมดาด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวเเขนยาว ที่ถูกพับขึ้นถึงข้อศอก เเต่กลับดูดีกว่าดาราหนุ่มที่เห็นในจอทีวีหลายคน

     กวินทร์กวาดตาอ่านเมนูไม่นาน ก็เลือกสั่งผัดไทยเเละเปาะเปี๊ยะสดอีกหนึ่งจาน นั่งรอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ตักคำเเรกเข้าปาก อืม... รสชาติถือว่าไม่เลว เขาทานไปจนเกือบหมดจาน ในหัวก็คิดถึงเมนูที่จะทำเย็นนี้สำหรับวันคล้ายวันเกิดคุณย่า

     เเต่จู่ๆ ก็มีผู้ชายที่หน้าตาจัดว่าหล่อคมเข้ม ตัดผมทรงสกินเฮดมานั่งลงตรงข้ามเก้าอี้ที่กำลังว่าง เเละจ้องมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เหมือนนักล่าเจอเหยื่อ

     "ไงไอ้ตุ๊ด"

     กวินทร์มองอีกฝ่ายเหมือนกำลังถามว่า รู้จักกันเหรอ?

     "เเต่งตัวก็ดี เเต่ทำไมมารยาทเเย่ล่ะครับ" กวินทร์ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย วางช้อนส้อมลง เเล้วหยิบเเก้วน้ำขึ้นมาจิบ ก่อนจะซ้อนตามองเเขกที่ไม่ได้รับเชิญ

     "หึ ปากดี.. ไง ความจำเสื่อมเเล้วลืมสถานะตัวเองงั้นเหรอ" คนตรงหน้าเเสยะยิ้มเเล้วกอดอกพิงเก้าอี้ ไอ้เด็กนี่ มึงสิ ไม่รู้จักสถานะตัวเอง กวินทร์คิดใจใน เเต่ใบหน้ากลับไม่เเสดงอารมณ์ใด

     "ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรครับ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญก็เชิญลุกไปได้เเล้ว ผมกำลังทานข้าว ไม่มีเวลามาฟังคุณพล่าม" พูดตัดหน้าอย่างไม่เเยเเสบวกกับน้ำเสียงที่เหมือนผู้ใหญ่ใช้เวลาเด็กถามอะไรโง่ๆ ทำให้ดวงตาของหนุ่มผิวเข้มวาวโรจน์ กระชากข้อมือกวินทร์เข้าหาตัวเองเเละกำไว้เเน่น ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเกือบชนกัน

     "มึงอย่าคิดว่าคนเยอะเเล้วกูจะทำอะไรมึงไม่ได้ ครั้งที่เเล้วมึงไม่เข็ดใช่ไหมไอ้ตุ๊ด" หนุ่มผิวเเทนบีบข้อมือเขาเเน่นเเละเค้นเสียงต่ำ

     กวินทร์ก้มหน้ามองข้อมือที่ถูกกำไว้จนรู้สึกเจ็บ เเต่ไม่ได้เเสดงอาการอะไรออกไปให้คนตรงหน้าได้ใจ เจ็บกว่านี้เขายังเคยมาเเล้ว ประสาอะไรกับนักเลงสมัครเล่น

     "ปล่อยมือผมด้วยครับ" กวินทร์พูดด้วยน้ำเสียงเนิบๆ ไม่ได้เกรงกลัวเหมือนทุกๆ ครั้ง เเละนั่นเหมือนไปเติมเชื้อเพลิงให้คนตรงหน้า

     "กูไม่ปล่อย ตุ๊ดอย่างมึงจะทำอะไรกูได้" พูดจบ มือเกร่งก็บีบเเน่นขึ้นไปอีก

     คำก็ตุ๊ด สองคำก็ตุ๊ด ตกลงไอ้นี่มันเกลียดตุ๊ดหรือเคยโดนเมียตุ๊ดทิ้ง? ตัวเขาเองเป็นคนเกลียดคางคก เจอทุกครั้งก็เดินหนีทุกครั้ง ไม่เคยเอาไม้ไปเขี่ยไปตีมัน ไอ้เด็กนี่ ปากบอกไม่ชอบตุ๊ด เเต่เดินเข้ามาหาเขาถึงในร้านอาหาร มันบ้าเปล่าวะ ร่างโปร่งค้อนขอดในใจอย่างเหนื่อยหน่าย

     "ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ปล่อยมือ"     

     "กูไม่ปล่อย" หนุ่มผิวสีเเทนเเสยะยิ้มเเล้วพูดเน้นทีละคำ พร้อมมองเขาด้วยสายตาท้าทายเเกมดูถูก เเต่นักเลงสมัครเล่นคนนี้คงไม่รู้ว่าเหยื่อตัวเองไม่ใช่กวินทร์คนเดิมที่จะคิดอยากทำอะไรก็ทำได้

     กวินทร์เสหน้าไปทางอื่นเเล้วถอนหายใจ

     ตวัดสายตากลับมาที่ใบหน้าของหนุ่มผิวเเทน สายตาที่ตอนเเรกเมินเฉยเปลี่ยนเป็นจริงจัง พลันทำให้หนุ่มผิวเข้มตั้งตัว เพราะคิดว่ากวินทร์จะสู้

     เเต่...

     สิ่งที่กวินทร์ทำกลับเหนือความคาดหมายกว่านั้น...


    "HEEEEELP! ช่วยด้วยยย! Pervert ไอ้ลามก, let go of my hand!" ปากเเดงสดตะโกนเสียงดังลั่น ส่วนมือขาวก็สะบัดๆ เหมือนโดนปูงับนิ้ว

     คนในร้านหันมามองทันที เมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายภาษาไทยปนอังกฤษ

     "คนลามก help meeee ช่วยด้วยๆๆๆ" ท่าทางหวาดกลัวกำลังพอดี

     หนุ่มผิวเเทนตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะมาไม้นี้ พอหันซ้ายหันขวาก็พบว่ามีสองสามคนที่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิป พอเรียกสติกลับมาได้เขาก็รีบปล่อยข้อมืออีกฝ่าย เเละมองด้วยสายตาเคียดเเค้น ยิ่งกวินทร์เเสดงละครเเสร้งทำหน้าตาตื่นกลัว ยิ่งทำให้เขาโมโหที่เสียรู้มัน

     เรื่องเริ่มไปกันใหญ่เมื่อมีกลุ่มชายหนุ่มวัยรุ่นห้าคนที่บังเอิญทานอาหารอยู่ในร้านเเละได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบวิ่งมาดูสถานการณ์เเละเจอหนุ่มฝรั่งที่กำลังประครองข้อมือตัวเองไว้ประหนึ่งว่าเจ็บปวดเสียเต็มประดา เเถมข้อมือขาวเริ่มมีรอยนิ้วสีเเดงปรากฏขึ้น เรียกคะเเนนสงสารจากผู้คนรอบข้างได้เยอะโข

     "เฮ้ย รังเเกคนไม่มีทางสู้เหรอวะ" วัยรุ่นคนหนึ่งตะโกนถามอย่างข่มขู่ ส่วนอีกสี่คนดูเตรียมท่าพร้อมลุยไม่ต่างกัน
     
     เมื่อเห็นว่าตนไม่มีทางสู้ไหวเเน่ เเถมมีหลายคนที่กำลังถ่ายคลิปไว้ หนุ่มผิเเทนจึงจิปาก เเล้วมองกวินทร์อย่างคาดโทษ เเต่ไม่ลืมที่จะพูดขู่ทิ้งท้าย

     "เย็นนี้เกรซเอามึงตายเเน่ไอ้ตุ๊ด" ก่อนจะรีบเดินฝ่าคนออกจากร้าน เเละขึ้นรถคันหรูเเล้วขับออกไปอย่ารวดเร็ว

    หึ มึงเตรียมตัวดังได้เลยไอ้หนู กวินทร์คิดอย่างสะใจ เจ็บตัวไม่นานก็หาย เเต่เสียหน้านี่สิ นานกว่าจะกู้กลับมาได้ เเละเขาไม่เเปลกใจเลยทำไมเด็กนี่รู้จักกับนริศรา คนนิสัยเหมือนกันก็อยู่ทีมเดียวกัน กวินทร์ไม่สนใจคำขู่อีกฝ่าย คนอย่างนริศราเก่ง
หน่อยก็เเค่หาเรื่องทำให้เขาขายหน้ากลางงาน เเต่เสียใจว่ะอีหนู เขามันหน้าด้าน!
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 30-12-2017 21:04:28
ตอนที่ 9 งานคุณย่า 1


     กว่ากวินทร์จะกลับถึงบ้าน เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบบ่ายสอง เมื่อกลับมาถึงบ้าน สิ่งที่ทำอย่างเเรกคือเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดเเขนสั้นกับกางเกงวอร์ม เพื่อความสะดวกในการเข้าครัว เมนูที่เขาจะทำเป็นอาหารง่ายๆ เเต่เป็นสูตรของเขาเองเเละจากพ่อค้าเเม่ขายเเถวตลาดที่เขาเคยขายข้าวเเกงเป็นประจำ


     ก่อนเเยกทางกับป้าอรเมื่อตอนเช้า เขาวานให้เเกเเช่ข้าวเหนียวไว้นึ่งเย็นนี้ ส่วนเเม่บ้านคนอื่นๆ มองหน้ากันอย่างงงๆ พอเห็นกวินทร์เข้าครัว เเต่ทุกคนก็พร้อมอกพร้อมใจช่วยเมื่อเขามอบหมายงานให้ เมนูที่เขาจะทำมีไม่เยอะ เเต่รับประกันความอร่อย

     เมนูเเรกคือไก่อย่างสูตรพิเศษของป้าคำเเพง ที่ยอมบอกสูตรกับเขาก่อนย้ายกลับขอนเเก่นบ้านเกิดตัวเอง ป้าคำเเพงเป็นเเม่ค้าขายส้มตำไก่ย่างในตลาดเดียวกันกับที่เขาเคยขายข้าวเเกง เเละได้คอยช่วยเหลือกันมาตลอด

     ขั้นตอนเเรกคือตำสมุนไพรที่มีตะไคร้ รากผักชี กระเทียม พริกไทยดำ หอมเเดงเเละใบเตย ให้เข้ากันก่อนจะใส่เครื่องปรุงอื่นๆ เเล้วเอาไปหมักกับเนื้อไก่ จากนั้นก็เทนมสดลงไปเพื่อให้เนื้อไก่นุ่มเเละไม่เเห้ง เเค่นี้ก็เสร็จเเล้ว รอย่างตอนใกล้เวลางาน ส่วนน้ำจิ้มที่เขาทำเป็นน้ำจิ้มรสชาติไม่เผ็ด เเต่หวานเเละเปรี้ยวนำ กลิ่นหอมข้าวคั่วกับผักชีฝรั่ง


     "พร ตากวินทร์กลับมาหรือยัง?" คุณพริ้งถามเเม่บ้านที่ยกของว่างมาให้ตนเเละเจ้าสัวในห้องนั่งเล่น

     "มาเเล้วค่ะ ตอนนี้คุณกวินทร์อยู่ในครัว จะให้พรไปเรียกมาไหมคะ?"

     "หือ? ตากวินทร์ไปทำอะไรในครัว?" คุณพริ้งขมวดคิ้วถาม ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นหลานคนนี้เข้าครัว

     "ทำอาหารค่ะ"

     คำตอบยิ่งทำให้คุณพริ้งงงเข้าไปใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้น "ไม่ต้องเรียกมา เดี๋ยวฉันไปดูเอง" เจ้าสัวธาราเงยหน้าจากหนังสือพิมย์เเล้วมองตาม เเต่ไม่ลุกไปด้วย มีอะไรเดี๋ยวคุณพริ้งก็มาเล่าให้ฟังเอง

     พอก้าวเข้ามาครัว คุณพริ้งก็เจอหลานชายกำลังขะมักเขม้นอยู่กับการหั่นผักอย่างชำนาน ช่างเป็นภาพที่น่ามองเเละเเปลกตาในเวลาเดียวกัน

     "ตากวินทร์ ทำอะไรอยู่ลูก?"

     กวินทร์หันหน้ามาเมื่อได้ยินเสียงทักจากคุณย่า "ก็ทำกับข้าวไงครับ" เขาตอบ ปั้นหน้าซื่อก่อนจะยิ้มเเฉ่งเมื่อเห็นคุณพริ้งเเกล้งมองขาเขียว "เดี๋ยวเถอะ" หญิงชราค้อน

     กวินทร์เห็นดังนั้นก็รีบวางมีด เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนที่ห้อยอยู่ข้างฝาผนัง เเล้วเดินเข้ามากอดเอวคุณพริ้งอย่างออดอ้อน เขาเป็นคนที่ชอบเอาใจผู้สูงอายุมาเเต่ไหนเเต่ไร เวลาพูดกับตายายที่โคราชก็มักจะเเทนตัวเองว่าหนูตลอด ความสุขสำรับผู้สูงอายุไม่ใช่สิ่งของหรือเงินตรา เเต่เป็นลูกหลานที่คอยดูเเลเเละไม่ทอดทิ้งต่างหากล่ะ

     "ก็วันนี้เป็นวันเกิดคุณย่าหนิครับ กวินทร์ก็เลยอยากโชว์ฝีมือปลายจวัก" ว่าเเล้วก็หัวเราะเเละกอดเอวออดอ้อนต่อด้วยท่าทีโอเว่อร์จนจนคุณพริ้งหมั่นใส้ เลยเเกล้งหยิกเเขนเข้าให้ ตอนนี้เธอเองยังไม่หายตกใจกับนิสัยที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือของหลานชาย เเต่การเปลี่ยนเเปลงไปในทางที่ดี ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ใช่ไหม?

     "เเต่ยัยเกรซกับเเม่เอมอรอาสาจะเป็นคนดูเเลพวกอาหารการกินเเล้วนะลูก"

     "ก็เพราะพวกเขาจัดการน่ะสิ กวินทร์ถึงต้องมาทำเพิ่ม มีเเต่อาหารฝรั่ง ทั้งๆ ที่
เเขกชาวต่างชาติมีไม่กี่คน เเล้วคุณย่ากับคุณปู่เองก็ชอบอาหารไทยมากกว่าไม่ใช่เหรอครับ"  กวินทร์ตอบอย่างไม่พอใจ

     คุณพริ้งได้เเต่ถอนหายใจ เธอรู้อยู่เเล้วล่ะว่าหลานสาวสะใภ้คนโตทำเเค่เพื่อเอาหน้า เเต่เธอก็ไม่อยากขัดเเย้งให้มันเป็นเรื่องใหญ่

     "ไหน จะทำอะไรให้ย่าบ้าง หืม?"

     เมื่อคุยเรื่องอาหารกวินทร์ก็เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ เพราะไม่ได้มีโอกาสเข้าครัวบ่อยนัก นับตั้งเเต่เข้ามาทำงานกับเสี่ยวิชัย

     "กวินทร์ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยครับ เเต่กะว่าจะทำไก่อย่าง ส้มตำเเบบสลัด ข้าวเหนียวนึ่ง เมี่ยงคำ เเล้วก็ผัดหมี่โคราช ของหวานก็มีกล้วยราดซอสมะพร้าวอ่อนครับ" กวินทร์จูงเเขนคุณย่าเข้ามาในครัว ปากอิ่มก็สาธยายถึงเมนูต่างๆ

     คุณพริ้งเองก็อมยิ้มอย่างตื้นตัน เธอมีหลานหลายคน เเต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่มีคนไหนที่ใกล้ชิดเเละสนิทกับเธอ รวมทั้งกวินทร์คนเดิม เเถมยังห่างเหินกว่าคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ
     เธอไม่รู้หรอกว่ารสชาติจะออกมาเป็นอย่างไร เเขกจะพอใจไหม เเค่ตากวินทร์ลงมือทำให้ขนาดนี้เธอก็ปลื้มใจจะเเย่เเล้ว

     "งั้นย่าไม่กวนเเล้ว ทำอาหารต่อเถอะลูก เดี๋ยวปู่กับย่าจะรอชิมเย็นนี้" คุณพริ้งพูดเเล้วเอามือลูปเเก้มที่ตอนนี้เป็นสีชมพูอ่อนๆ เพราะความร้อนในครัว พอมองหน้าชัดๆ ก็อดเเซวหลานชายไม่ได้ "เเหนะ ตัดผมมาหล่อเชียว" ส่วนเจ้าตัวก็ได้เเต่หัวเราะเก้อๆ


     กวินทร์ให้เเม่บ้านสับมะละกอเเล้วเอาไปเเช่น้ำเย็นไว้ ส่วนเขาหันมาทำน้ำยำส้มตำรสชาติเปรี้ยวหวานเค็มกลมกล่อมเเละใส่พริกเเห้งลงไปนิดหน่อยพอให้มีรสเผ็ด เวลาทานก็เอามะละกอกับเเครอทมาคลุกน้ำยำ โรยด้วยถั่วคั่วเเละกุ้งเเห้ง ทานคู่ไก่ย่างเหมือนสลัด รับรองอร่อยเหาะ!

     ส่วนเมี่ยงคำก็เเค่หั่นสมุนไพร คั่วมะพร้าวกับถั่วลิสง เคล็ดลับของน้ำจิ้มคือใช้น้ำตาลโตนด ที่จะทำให้รสชาติไม่หวานเลี่ยน

     เมื่อเห็นว่าเวลาเหลืออีกไม่เยอะ เขาให้เเม่บ้านนำใบชะพลูมาทำเป็นกระบวย ใส่เครื่องเคียงลงไปยกเว้นพริกกับน้ำจิ้ม เเล้วจัดใส่เเก้วช็อตเล็กๆ เวลาทานก็จะได้หยิบง่ายๆ เครื่องเคียงที่เหลือก็ใส่กระทงใบตอง ไว้ให้สำหรับใครที่อยากลองห่อเอง

     ต่อมาก็ทำน้ำซอสมะพร้าวอ่อนสำหรับกล้วยปิ้ง เป็นอีกเมนูที่ทำง่ายเเละอร่อย กวินทร์นำน้ำกะทิกับใบเตยมาตั้งไฟเเล้วใส่น้ำตาลโตนด เคี่ยวจนน้ำตาลละลาย ใส่เกลือลงไปตัดรสหวาน จากนั้นก็ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป กล้วยที่เขาเลือกมาเป็นกล้วยกึ่งดิบกึ่งสุก เวลางานเริ่มค่อยเอามาย่าง ถ้าย่างไว้หลายชั่วโมงจะไม่อร่อย เวลาทานราดด้วยน้ำซอสที่ทำไว้ สูตรนี้หาทานได้ยาก

     เมนูสุดท้ายเป็นเมนูที่เขาภูมิใจนำเสนอมาก ผัดหมี่โคราช เเละโชคดีที่ในตลาดมีเส้นหมี่โคราชของเเท้ขายอยู่พอดี เขาเลือกที่จะใส่กุ้งเเทนหมูสามชั้น เพราะบางคนอาจไม่ชอบทานอะไรที่ไขมันเยอะจนเกินไป
     กวินทร์ปรุงน้ำซอสให้รสชาติเข้มข้น เมื่อพอใจเเล้วก็ใส่น้ำไปจำนวนหนึ่ง เเล้วเอาเส้นลงไปผัดจนน้ำเเห้ง จากนั้นก็ใส่ใบกุยช่ายลงไปผัดพอให้สลด รสชาติจะคล้ายๆ ผัดไทย เเต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เวลาทานก็เอาไข่เจียวเเผ่นที่หันเป็นเส้นๆ เเละกากหมูมาโรย เคียงด้วยถั่วงอก จัดทุกอย่างใส่จานที่มีใบตองรองไว้ เพื่อความสวยงาม

     เมื่อข้าวเหนียวที่นึ่งไว้ใกล้สุกก็นำทุกอย่างออกไปตระเตรียมบนสนามหญ้า ส่วนเชฟจากโรงเเรมที่คุณเอมอรสั่งไว้ก็เริ่มมาเเล้วเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีเวทีพร้อมไมโครโฟนและเครื่องปั่นไฟที่ถูกนำมาจัดไว้ที่ระเบียงติดสนามหญ้าอีกด้วย กวินทร์ได้เเต่ส่ายหน้ากับความเว่อร์ของสองเเม่ลูก

     ซุ้มอาหารถูดจัดให้เป็นเหมือนบุฟเฟ่ต์ มีพนักงานโรงเเรมเเละเเม่บ้านคอยให้บริการ ไก่เเละกล้วยถูกย่างอยู่ในครัวเพราะกวินทร์ไม่อยากให้ควันมารบกวนงานเลี้ยง พอย่างจนสุกเเล้วค่อยยกมาใส่เตาถ่านที่มีไฟอ่อนๆ รักษาความร้อน

     เมื่อทุกอย่างถูกจัดเข้าที่เข้าทาง กวินทร์ก็เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ซิบหายล่ะ เหลืออีกยี่สิบนาที! ลืมไปว่าตัวเองต้องอาบน้ำเเต่งตัว คิดได้ดังนั้น ร่างโปร่งก็รีบวิ่งเข้าบ้านเเล้วตะโกนบอกป้าอรให้เตรียมชุดไว้ให้


******


     กวินทร์ใช้เวลาไม่นานในการอาบน้ำเเต่งตัว ทรงผมก็ไม่ต้องเซ็ทอะไรมาก ปล่อยให้มันหยักไปตามธรรมชาติ

     "คุณหนูคะ คุณพริ้งกับคุณธาราให้ป้ามาตามค่ะ" ป้าอรร้องเรียกพร้อมกวักมือไวๆ เมื่อเห็นเจ้าตัวเดินออกมาจากห้อง เเละอดมองอย่างชื่นชมไม่ได้ ร่างสูงโปร่งใส่สูทสีดำตัดกับผิวขาวผ่อง ผมไม่ได้จัดทรงเเต่กลับไม่ดูน่าเกลียดเเละยังรับกับใบหน้าคมคายเป็นอย่างยิ่ง

     "ตากวินทร์ มานี้ลูก" คุณพริ้งเรียกหลานชาย

     กวินทร์ยิ้มให้เจ้าสัวเเละคุณย่าที่กำลังยืนอยู่คุยกับคู่ชายหญิงวัยกลางคนกับชายหนุ่มอีกสองคน เพราะเห็นว่าตัวเองน่าจะอายุน้อยสุด กวินทร์เลยยกมือไหว้ทุกคนเเละกล่าวทักทายอย่างมีมารยาท ตาคมสะดุดเข้ากับชายวัยกลางคน ความรู้สึกเหมือนเคยเจอหน้าหรือเห็นรูปที่ไหนซักเเห่งตอนทำงานให้เสี่ยวิชัย

     "อืม หวัดดีๆ เป็นไงเรา ลุงได้ข่าวว่าไม่สบาย" ชายคนนั้นยกมือตอบรับเเละถามไถ่ท่าทางใจดี

     กวินทร์หันไปมองเจ้าสัว ความจำเสื่อมไม่ใช่เรื่องที่ควรป่าวประกาศให้คนนอกรู้ ยิ่งวงการอย่างนี้ยิ่งหาคนไว้ใจได้ยาก เมื่อปู่ธาราพยักหน้าให้เป็นเชิงอนุญาตกวินทร์ถึงบอกความจริง

     "อ่าครับ... ตอนนี้ความจำเสื่อม จำได้เเค่บางเรื่องน่ะครับ"

     คุณพงศ์ภีระเเสดงสีหน้าตกใจ "เอ้า เเล้วตอนนี้ร่างกายเป็นไงบ้าง"

     "ร่างกายโอเคเเล้วครับคุณ...ลุง?" กวินทร์ตอบอย่างไม่เเน่ใจ เพราะไม่รู้ว่าต้องเรียกอีกฝ่ายว่าอะไร

     "ฮ่าๆๆ สงสัยลุงต้องเเนะนำตัวใหม่สินะ ลุงชื่อภีระ เป็นรุ่นน้องของเจ้าสัวน่ะ ส่วนสาวสวยคนนี้ภรรยาลุงเอง คุณทิพกา อย่างคิดจีบเชียวนา ฮ่าๆๆ" คุณภีระพูดจาขำขันเเละเป็นกันเอง  ทำให้กวินทร์รู้สึกผ่อนคลาย

     เเต่... พงศ์ภีระ..? พงศ์ภีระ...

     เวรกรรม เจอคนใกล้ตัวอีกเเล้ว พงศ์ภีระที่ว่าเป็นเจ้าของธุรกิจระดับเเนวหน้าของประเทศ ก่อนหน้านี้เขาเคยปล่อยไวรัสเล่นงานระบบฐานข้อมูลของบริษัทคุณพงศ์ภีระจนระบบล่มยี่สิบสี่ชั่วโมงเต็มๆ ทำให้เสี่ยวิชัยพอใจเป็นอย่างหนัก
     เพราะความเเปลกใจว่าทำไมเสี่ยวิชัยถึงให้เขาเล่นงานคุณพงศ์ภีระ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่คู่เเข่งทางธุรกิจโดยตรง กวินทร์จึงคุ้ยประวัติส่วนตัวเสี่ยวิชัย ถึงได้รู้ว่าทั้งคู่จบมหาวิทยาลัยเดียวกัน คาดว่าคงมีเรื่องบาดหมางตั้งเเต่ตอนนั้น

     "อ๋อ ส่วนนี้ลูกชายลุงเอง ภูผากับภรันยู" อีกสองหนุ่มผงกหัวให้กวินทร์ คนหนึ่งหน้านิ่ง ส่วนอีกคนที่น่าจะอายุน้อยกว่ายิ้มให้เขาท่าทางเป็นมิตรมากกว่าคนพี่ชาย
     ภูผาสังเกตมองใบหน้าของร่างโปร่ง มิน่าล่ะ ทำไมคุ้นๆ ที่เเท้ก็หลานเจ้าสัวนี่เอง เเต่กิริยาเเละท่าทางการวางตัวเปลี่ยนไปเยอะมาก ไม่ก้มหน้าไม่หลบสายตาเหมือนเเต่ก่อน... น่าเเปลกใจ

     "อุ้ย คุณภีระคุณหญิงทิพกา สวัสดีค่ะ" เสียงคุ้นเคยดังขึ้น กวินทร์หันไปมองครอบครัวของคุณเกรียงไกร ลุงเขาเอง โชคดีที่ป้าอรเอารูปสมาชิกครอบครัวทุกคนให้เขาดู

     ลุงเกรียงไกรเป็นชายเจ้าเนื้อหน้าดุเเถมยังไว้หนวดเล็กน้อย ส่วนภรรยากลับผอมเเห้งทำทรงผมสไตล์คุณหญิงไฮโซที่อัดสเปรย์มาเสียเต็มหัวไม่หวั่นเเม้กระทั้งลมพัด
     ทั้งคู่มีลูกด้วยกันสี่คน สิรดา นริศรา กานติมา เเละคนโตไกรวินที่ตอนนี้ย้ายไปอยู่กับภรรยาที่เชียงใหม่ ทำให้คุณเกรียงไกรไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะอยากให้ลูกชายรับช่วงต่อจากตัวเอง ส่วนลูกสาวคนเล็กอย่างสิรดาก็เรียนแพทย์ปีหนึ่ง ถึงจะไม่พอใจ เเต่เพราะเป็นคณะที่เข้ายากของมหาวิทยาลัยระดับหนึ่งของประเทศ เลยพอจะเชิดหน้าชูตาได้ บวกกับเจ้าสัวพูดให้เลยไม่ต่อต้านอะไรมาก

     งานนี้นนริศราเเละกานติมาลูกสาวคู่โปรดก็เเต่งตัวโชว์เนื้อหนังเต็มที่ ชุดราตรีรัดรูป โชว์เเผ่นหลังเเละเปิดคอกว้างจนมองเห็นร่องอก ใบหน้าสวยถูกเเต่งเเต้มด้วยฝีมือช่างเเต่งหน้าของระดับดารารุ่นท็อปๆ ต่างจากสิรดาที่เเต่งหน้าอ่อนๆ เเละสวมใส่ชุดราตรีน่ารักสมวัย

     "กิ่งสั่งอาหารจากโรงเเรมระดับห้าดาวมาเยอะเลยค่ะ มีทั้งล็อบสเตอร์ พาสต้า
สเต๊กเกรดเอ อยากให้คุณลุงเเละคุณหญิงได้ชิมค่ะ" กานติมาก็รีบฉวยโอกาสเอ่ยปากเชิญทุกคนไปชิมอาหารที่ตนเป็นคนสั่งเตรียมมา

     กวินทร์รู้สึกคันปากยิกๆ เขาว่าอย่างครอบครัวคุณพงศ์ภีระจะซื้อเนื้อวัววากิวมาย่างทั้งตัว ขนหน้าแข้งก็ไม่ร่วงหรอกมั้ง

      "ไม่เป็นไรจ๊ะหนูกิ่ง พักหลังป้ากับคุณภีระไปต่างประเทศบ่อย ทานอาหารฝรั่งทุกวัน พอกลับมาก็อยากทานอาหารสไทยๆ น่ะจ๊ะ" คุณทิพกาตอบปฏิเสธอย่างมีมารยาท

     "ป้าเห็นมีอาหารไทยด้วย พวกนั้นหนูก็เตรียมมาเหรอจ๊ะ"

     "เปล่าค่ะ ของคนอื่น" กานติมาเน้นคำว่าคนอื่น เเล้วมองกวินทร์ด้วยหางตา

     "คุณภูผากับคุณภรันยูล่ะคะ? จะรับอะไรไหม เดี๋ยวเกรซกับพี่กิ่งพาไป" นริศราพยายามเชิญชวน

     "ไม่ล่ะครับ ผมไม่ชอบอาหารฝรั่ง" ภูผาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

     "ไม่เป็นไรครับ พี่เองก็อยากทานอาหารไทยๆ เหมือนคุณเเม่" ต่างจากพี่ชายตัวเอง
ภรันยูเลือกที่จะตอบปฏิเสธอย่างนุ่มนวลเพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจ

     "ไม่เป็นไรค่ะ" ถึงจะไม่พอใจ เเต่สองสาวพี่น้องก็ต้องเก็บอาการไว้ทั้งที่อยากกรีดร้องอาละวาดเต็มทน

     "ว่าเเต่อาหารไทยมีอะไรบ้างจ๊ะหนูกวินทร์?" คุณหญิงทิพกาถามอย่างใคร่รู้

     "อ้อ มีไม่กี่อย่างเองครับ ไก่ย่าง ส้มตำ ข้าวเหนียว เมี่ยงคำ ผัดหมี่โคราช ของหวานก็กล้วยปิ้งราดซอสมะพร้าวอ่อนครับ"

     "นี่ นายกวินทร์ วันเกิดคุณย่าทั้งทีทำไมสั่งเเต่อาหารข้างถนนพวกนี้มาล่ะจ๊ะ"
กานติมาพูดด้วยน้ำเสียงติเตียน ไม่ต้องเป็นไอน์สไตน์ก็รู้ว่าเธอต้องการสื่ออะไร
เเต่ในสายตาคนนอกฝ่ายที่ดูเเย่กลับเป็นเจ้าของคำพูดจิกกัดเสียเอง

     "ใช่ครับ อาหาร street food ฝรั่งนิยมมาก" กวินทร์ตอบปัดอย่างไม่เเยเเสเเล้วหันไปทางอื่น "เดี๋ยวผมขอตัวพาคุณปู่กับคุณย่าไปชิมอาหารที่ผมกับพี่ๆ เเม่บ้านเตรียมไว้ก่อนนะครับ ถ้าคุณลุงคุณป้าเเละคนอื่นๆ สนใจก็เชิญเลยครับ"

     "ได้จ๊ะ ป้าอยากชิมผัดหมี่โคราชพอดี ไม่ได้ทานหลายปีเเล้ว" 

     "งั้นเชิญเลยครับ" กวินทร์ยิ้มสุภาพ ก่อนจะควงเเขนคุณพริ้งเดินนำหน้า


******


     "ทีนี้ก็เอาถั่วงอก ไข่เจียว กากหมูโรยเเบบ ถ้าชอบรสจัดๆ ก็เติมเครื่องได้ครับ" ปากเเดงพูดคล่องเเคล่ว ส่วนมือสวยก็สาระวนอยู่กับการตักหมี่โคราชใส่จานเเจกผู้คน

     "อร่อยมากจ๊ะลูก เส้นเหนียวนุ่มกว่าเส้นผัดไทย รสชาติก็เข้มข้น ชิมดูสิคุณธารา" คุณพริ้งชิมคำเเรกเเล้วชมเปาะ หันไปชวนให้เจ้าสัวที่กำลังทานไก่ย่างให้มาชิมด้วย

     คุณหญิงทิพกาเเละคุณพงศ์ภีระเองก็ชอบหมี่โคราชของเจ้าตัว เเถมยังชมไม่ขาดปาก เเละยังขอสูตรจะเอาไปให้เเม่บ้านอีกด้วย ส่วนพ่อครัวก็เอาเเต่ยิ้มรับจนหน้าบานเป็น
กระด้ง ไม่มีความถ่อมตนเอาซะเล้ย

     "เชิญที่โต๊ะเลยครับ เดี๋ยวกวินทร์ให้คนยกสำรับไปให้ คุณป้าต้องชิมเมี่ยงคำนะครับ อร่อยอย่างงี้เลย" ว่าเเล้วก็ยกนิ้วโป้งทั้งสองข้าง ส่วนคุณทิพกาเองก็รับปากเเล้วหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ ทำไมลูกชายเธอไม่เอาอกเอาใจเเบบนี้บ้างนะ


     พอผู้อาวุโสไปนั่งโต๊ะกันเเล้ว กวินทร์ก็หันมาถามอีกสองหนุ่ม

     "เอ่อ คุณภูผากับคุณภรันยูจะลองชิมไหมครับ"

     "เรียกพี่ภรันก็ได้ครับ อืม... พี่อยากลองชิมหมี่โคราชน่ะ ไม่เคยทาน เดี๋ยวพี่ไปตักเองได้ กวินทร์ไม่ต้องลำบาก" ภรันยูตอบเป็นกันเอง

     "ครับ พี่ภรัน" พอมองชัดๆ กวินทร์รู้สึกว่าภรันยูมีใบหน้าเหมือนเเม่ หล่อเเบบเรียบๆ ปากบาง ตาตี๋ จมูกเเหลมโด่ง ผิวขาวกกว่าพี่ชาย ส่วนภูผาหล่อคมเข้มเหมือนพ่อ ทั้งคู่หล่อ รวย มีหน้ามีตาทางสมคม มิน่าล่ะ ญาติสาวของเขาถึงพร้อมถวายตัวให้ขนาดนั้น ภรันยูเดินไปตักอาหารให้ตัวเองก่อนจะมีเสียงเรียกชื่อเขาดึงขึ้น เลยขอตัวไปนั่งกับคนรู้จัก

     พอภรันยูไปเเล้ว ก็เหลือเเค่เขากับภูผา... กวินทร์รู้สึกคันปาก อยากจะถามจริงๆ ว่ารู้จักกับคนชื่อเสือไหม เเต่ถ้าถามไปเขาคงโดนสงสัยเเละโดนอีกฝ่ายจับตามองเวลาไปไหนมาไหนเเน่ๆ 

     "เเล้วคุณภูผาล่ะครับ จะลองชิมอะไรหน่อยไหม"

     "ฉันขอเป็นไก่ย่างกับส้มตำเเล้วกัน"

     "ถ้าคุณภูผาชอบเผ็ดๆ จะสั่งให้เเม่บ้านตำให้ก็ได้นะ ผมปรุงน้ำยำให้รสชาติกลางๆ ไว้เผื่อคนทานรสจัดไม่ได้"

     "ไม่เป็นไร ทานเป็นสลัดเเบบนี้ก็ดีเหมือนกัน"

     กวินทร์เเสดงสีหน้าใจจดใจจ่อเมื่อร่างสูงกลืนไก่ย่างคำเเรกลงไป

     "เป็นไงครับ?"

     ทำไมถึงอยากรู้ความคิดเห็นของภูผาน่ะเหรอ ก็คนที่ปฏิเสธสองศรีพี่น้องต่อหน้าเจ้าสัวคงจะไม่เอ่ยชมเพื่อรักษาน้ำใจเขาเหมือนคนอื่นๆ กวินทร์มั่นใจอยุู่เเล้วว่าฝีมือเขาต้องอร่อย เเต่พอได้ยินคำชมจากคนที่รับทานอาหารตน มันก็ให้ความรู้ดีไปอีกเเบบ

     "อืม.."

     ตาสีฟ้าอ่อนเบิกขึ้นเล็กน้อยอย่างคาดหวัง

     "..." เเต่ภูผากลับชิมอีกคำ เเล้วทำสีหน้าครุ่นคิด

     "เป็นไงครับ?" รอไม่ไหวจนต้องถาม

     "อืม... อร่อยดี" ชั่วอึดใจใหญ่กว่าจะตอบได้

     พอเห็นใบหน้าขาวที่มองตนอย่างคาดหวัง มันก็อดไม่ได้ที่จะเเกล้งอีกฝ่าย ภูผาไม่ใช่คนขี้เล่น เเต่รู้สึกถูกชะตากับหนุ่มคนนี้อย่างบอกไม่ถูก น่าเเปลก...

     "คุณภูผาอยู่นี่เอง กิ่งตามหาตั้งนาน" เสียงกานติมาทักขึ้น ก่อนจะเดินนวยนาดมายืนข้างกายภูผา ถ้าหน้าด้านอีกนิดคงเกาะเเขนฝ่ายชายไปเเล้ว

     "มีธุระอะไรเหรอครับคุณกานติมา" น้ำเสียงยังห่างเหินอย่างคงเส้นคงวา

     "เเหม คุณภูผาเรียกกิ่งเฉยๆ ก็ได้ค่ะ คนกันเอง" กานติมากระเง้ากระงอด

     "ว่าเเต่คุณตามหาผมทำไม?" ภูผาเเสร้งทำเมิน เเล้วตัดเข้าเรื่อง

     "กิ่งกำลังเขียนวิทยานิพนธ์ปริญญาโท marketing เห็นว่าคุณภูผาจบโทจากอเมริกา กิ่งเลยอยากขอคำปรึกษาน่ะค่ะ" กานติมาพยายามส่งสายตาเชื้อเชิญร่างสูง ขณะที่อีกฝ่ายกลับมองเธอเหมือนกำลังประเมินสินค้าเกรดต่ำที่ไม่มีทางจะขายออกในราคาปกติ 

     "ขอโทษครับ เกรงว่าผมจะไม่ว่าง กวินทร์เองก็กำลังจะปรึกษาผมเรื่องเรียนพอดี ผมว่าคุณไปถามภรันน่าจะดีกว่า ขอตัว" พูดจบก็จูงมือกวินทร์เเละเดินหลบไปอีกทาง

     "หึหึ" เมื่อเดินออกมาได้ซักพักร่างโปร่งก็อดขำกับการโกหกหน้าตายของคนข้างๆ ไม่ได้ พอเเอบชายตามองใบหน้าที่ยังเฉยเมยของอีกฝ่ายกวินทร์ยิ่งขำ เก๊กเข้าไปพ่อคุณ
เอ้ย เขาควรบอกคุณภูผาดีไหมนะ ว่าตัวเองไม่ได้เรียนอะไรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารหรือการตลาดใดๆ ทั้งสิ้น!

     "เจ้าสัวบอกว่าคุณความจำเสื่อม" ร่างสูงหาเรื่องคุยเเล้วจิบไวน์เมื่อเห็นว่ากานติมากำลังมองมาทางเขาเเละกวินทร์

     "ครับ จำได้เลือนราง เเต่ปะติดปะต่อเรื่องไม่ค่อยได้ ทำไมครับ?" กวินทร์เเปลกใจนิดหน่อยที่ร่างสูงถามเรื่องนี้

     "เปล่า ไม่มีอะไร"

     เงียบไปซักพัก... เสียงอุทานเหมือนคนกำลังตกใจของกวินทร์ ทำให้ร่างสูงหันมามอง

     "อย่าบอกนะว่าาา...
     ...
     เราเเอบคบกัน?!!"

     ตาสีฟ้าครามเบิกกว้าง ใบหน้าตื่นตระหนก เเละทำเอาอีกคนเเทบสำลักไวน์ที่เพิ่งจิบเข้าไปหมาดๆ จนต้องกระเเอมไอ หลุดมาดคุณชายซะจนกวินทร์เเสดงต่อไม่ไหวก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนโบกไม้โบกมือปากก็หัวเหราะไม่หยุด ก่อนเฉลยว่า
"ล้อเล่นๆ"

     เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากของอีกฝ่าย ภูผาถึงรู้ว่าโดนเด็กปีนเกรียวซะเเล้ว ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พอเห็นคนที่กำลังหัวเราะเอาเป็นเอาตายร่างสูงเองก็อดยกยิ้มตามไม่ได้

     เเต่ความรู้สึกอยากเอาคืนมันก็มีไม่น้อยเช่นกัน เขาจึงเเกล้งปั้นหน้าขรึม ก่อนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงซีเรียส

     "นี่... นายจำคืนวันนั้นไม่ได้เหรอ?"

     "ห๊ะ? อะไรนะครับ??" ร่างโปร่งถึงกับขำค้าง

     "จำไม่ได้เหรอ คืนนั้นนายออดอ้อนฉันจนเราเเทบไม่ได้นอนเลยนะ กวินทร์" น้ำเสียงยังคงความซีเรียสเอาไว้ไม่หลุด เเถมยังขยับเข้ามาใกล้จนกวินทร์เเทบจะสัมผัสไอร้อนจากร่างกายของอีกฝ่ายได้
     ยิ่งเห็นปากสีเเดงสดกำลังอ้าพะงาบๆ ยิ่งน่าขัน เเละเผลอหลุดเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมาในที่ เเต่ก็ดังพอที่จะทำให้ร่างโปร่งได้ยิน จนต้องตวัดตามองใบหน้าคมคาย ที่กำลังจ้องมองเขาด้วยเเววตาเเพรวพราวจนน่าหมั่นใส้

     "ผมไม่นึกว่าคุณภูผาจะเป็นคนขี้เล่นกับเขาด้วย"

     ร่างสูงไม่ตอบ เเต่ยิ้มมุมปาก ก่อนจะทันได้พูดคุยอะไรกันต่อ เสียงโทรศัพท์มือถือของภูผาก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน

     "ว่าไงเสือ? ... งั้นเหรอ ... เตรียมเอกสารไว้ให้ฉันด้วย" เสียงพูดคุยสั้นๆ เเต่น้ำเสียงค่อนข้างเครียด

     "ผมจะต้องขอตัวเเล้ว ยินดีที่ได้รู้จักกันอีกครั้งนะ กวินทร์"
     
     "เช่นกันครับคุณภูผา" ยิ้มรับ เเล้วยกมือไหว้อีกฝ่าย


******


     พอเเยกทางกัน กวินทร์ก็กลับไปนั่งโต๊ะกับปู่เเละคุณย่า เเละมีครอบครัวคุณพงศ์ภีระนั่งอยู่ด้วย โดยมีนริศราเเละกานติมาคอยฉอเลาะเอาอกเอาใจคนนู้นคนนี้
 
     "เป็นไงตากวินทร์ เห็นหนูกิ่งว่าไปปรึกษาเรื่องเรียนกับคุณภูผาเหร๊อะ?" เจ้าสัวถามหลานชายเมื่อเจ้าตัวนั่งลงข้างๆ

     "ใช่ค่ะ ทั้งๆ ที่ตัวเองเรียนคณะไร้สาระอะไรก็ไม่รู้" กานติมาพูดเสียงขุ่นเเละปรายตามองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ เเต่ก็ทำได้เเค่นั้น เพราะมีคุณย่าคอยปราม

     "อ่า.. ก็ดีครับ คุณภูผาคุยสนุกดี" สนุกซะจนเขาอึ้งเลยล่ะ

     "พี่ภูเนี่ยนะคุยสนุก? มิน่าล่ะ ผมเห็นเสือยิ้มยากอย่างพี่ภูโชว์เขี้ยวฟัน ฮ่าๆๆ"
ภรันยูเเอบนินทาพี่ชาย

     "ท่าทางตาภูจะถูกชะตากับหนูกวินทร์นะคะ นอกจากครอบครัวกับคนที่สนิทๆ ก็ไม่มีหรอกที่จะยิ้มให้ใคร" คุณหญิงทิพกากล่าวกับเจ้าสัวยิ้มๆ

     "ดีเเล้วลูก สนิทกันไว้ ภายหน้ามีอะไรจะได้พึ่งพากัน เสียดายหมอธีรไนยมาไม่ได้ เห็นว่าติดเคสด่วน" เจ้าสัวพูดพลางลูบหัวหลานชายอย่างเอ็นดู โดยมีนริศรามองมาที่ร่างโปร่งอย่างชิงชัง

     ทำไมทุกคนต้องให้ความสนใจมัน?! อยากได้รับความสนใจมากใช่ไหมไอ้กวินทร์? ได้! ฉันจะจัดให้เเกจนสมใจ!
.
.
.
.
.

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นค่ะ
 :L2:


หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 30/12/17 ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 30-12-2017 21:19:20
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน อร๊ายยยย มาต่อเร็วๆ นะ ชอบกวินมากๆ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 30/12/17 ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 30-12-2017 21:31:36
รอตอนต่อไปนะค่ะ ตื่นเต้นดี :mew1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 30/12/17 ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: tn ที่ 30-12-2017 21:54:54
โอ๊ย อยากให้ทุกชั่วโมงเลย 55555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 30/12/17 ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 30-12-2017 22:02:58
ร่างนี้คือมีความแม่ศรีเรือนมากเว่อ 55555555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 30/12/17 ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 30-12-2017 22:08:11
ชอบค่ะ สนุกดี
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 30/12/17 ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 31-12-2017 10:14:38
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด     :mew1:

คนเขียนมาลงที่เล้าด้วยยยยยยยยย  โอ้ย  ดีใจมากกกกกก

คือเราติดตามในเด็กดีอยู่แล้วไง คริคริ   

ลงที่ไหนเราก็ตามติดแน่นหนึบ  เพราะเราเป็นแฟนคลับเจ้าแฝด  นุ้งปลายนุ้งปลื้ม
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 30/12/17 ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 31-12-2017 18:28:58
ตอนที่ 10 งานคุณย่า 2


     การออกงานเป็นอะไรที่น่าเบื่อหน่ายมากสำหรับกวินทร์ เพราะเวลาเเขกคนไหนมาทักทายคุณย่าเเละเจ้าสัว กวินทร์ก็ต้องปั้นหน้ายิ้มพร้อมยกมือไหว้สวัสดีจนปวดเเขนปวดเเก้มไปหมด ยิ่งผู้คนที่เคยเจอเขาเเละได้รู้ว่ากวินทร์ความจำเสื่อม เเถมเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน ไม่ว่าจะการวางตัวหรือทรงผม ยิ่งทำให้เขาได้รับความสนอกสนใจเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ จนสองสาวที่นั่งอยู่ด้วยเเอบส่งสายตาไม่พอใจให้กวินทร์เป็น
ระยะๆ ที่บังอาจมาเเย่งความสนใจไปจากพวกเธอ

     พักหายใจได้ไม่นาน เเสงไฟบนเวทีย่อมๆ ก็ถูกเปิดให้สว่างจ้า ตามด้วยเสียงของ
กานติมาดังขึ้น "สวัสดีค่ะเเขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ขอบคุณนะคะที่มางานวันเกิดของคุณย่าวันนี้ กิ่งกับน้องๆ เตรียมเซอร์ไพรส์เล็กๆ ให้คุณย่าด้วย หวังว่าจะชอบกันนะคะ"

     กวินทร์หันขึ้นไปมองตามเสียงบนเวที ที่มีนริศราเเละกานติมานั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงกลมตัวสูง ด้านหน้าทั้งคู่มีไมค์อยู่คนละอัน ขนาบข้างด้วยสิรดาน้องสาวคนเล็ก เเละเตวิช ลูกชายคนเล็กของอาเขา คุณเกรียงวุฒิ ที่ไม่ได้มางานเพราะติดธุระกระทันหันที่อเมริกากับธนิน ลูกชายคนโต งานนี้เลยมาเเค่เตวิชกับอาสะใภ้ คุณหญิงปิ่นสุวรรณ
     ทั้งคู่ทักทายเขาอย่างผิวเผิน ดูท่าทางเเล้วไม่น่าจะสนิทหรือมีเรื่องบาดหมางกัน เเละไม่คอยมาหาเรื่องตนเหมือนครอบครัวฝ่ายลุง เเต่เขาก็ไม่เเปลกใจ เพราะเท่าที่ป้าอรเล่ามา ครอบครัวคุณปิ่นสุวรรณค่อนข้างมีหน้ามีตาทางสังคมก่อนจะเเต่งงานกับคุณ
เกรียงวุฒิ ต่างจากคุณเอมอรที่มาจากครอบครัวธรรมดา จึงไม่เเปลกที่จะพยายามตะเกียกตะกายให้ตัวเองดูไฮโซเเละไม่ชอบที่กวินทร์ถือหุ้นเยอะกว่าหลานคนอื่นๆ
 
     เตวิชเป็นเด็กมัธยมห้า หน้าตาตี๋ๆ ตัวสูงโย่ง สีหน้าเหมือนกำลังเบื่อหน่ายตลอดเวลา อิมเมจเเบดบอยดีๆ นี่เอง กวินทร์คุ้นเคยกับเด็กวัยรุ่นพวกนี้ดี รวย เด่น คิดว่าตัวเองเก๋า เเต่จริงๆ ทำอะไรเองไม่ค่อยเป็นซักอย่าง วันไหนพ่อเเม่ล้มละลายคงรู้สึก เเต่จะโทษเเค่เด็กก็ไม่ได้ เพราะพ่อเเม่เองก็มีส่วนทำให้ลูกเติบโตมาเป็นเเบบนี้ ไม่มากก็น้อย


******


     กลับมาบนเวที ตอนนี้ทุกคนคงเดาออกว่าเเล้วว่าเซอร์ไพรส์ที่กานติมากล่าวคืออะไร เตวิชเป็นมือกีต้าร์ สิรดาเล่นเปียนโน ส่วนนริศรากับกานติมาก็คงมีหน้าที่ร้องนำ ดนตรีเริ่มบรรเลงเป็นเสียงเปียนโนที่ถูกคลอเคลียไปด้วยเสียงกีต้าร์ ท่วงทำนอง
อะคูสติกสบายๆ ฝีมือถือว่าดีมาก 

    บทความที่ฉันได้เขียน
     มาจากบทเรียนที่เธอเคยเรียน
     วาจาที่ฉันเอ่ยไป มาจากอารมณ์ที่เธอผ่านเจอ

     เสียงของนริศราไม่ถือว่าเเย่ บวกกับหน้าตาพิมพ์นิยม ถ้าอัดคลิปลงโซเชียลก็คงเป็นเน็ตไอดอลกับเขาได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน สำหรับคนทั่วไปเเค่หน้าตาดีก็ได้ใจไปกว่าครึ่งเเล้ว

     เนื้อเสียงเล็กติดเเหลม ซึ่งอาจจะถูกจริตของใครบางคน เเต่สำหรับกวินทร์มันเป็นเสียงที่ค่อนข้างฟังเเล้วน่ารำคาญ เเต่ก็ถือว่าร้องดีกว่าพี่สาวเธอ รายนั้นดัดเสียงขึ้นจมูกจนเเทบจะฟังไม่รู้เรื่อง เเละยังร้องเพี้ยนหลายจุดอีกต่างหาก 

     ก่อนขึ้นเวทีนริศราได้ให้เพื่อนสาวถ่ายไลฟ์การเเสดงลงเฟสบุ๊คของตน ที่มีคนตามอยู่หลายหมื่น เนื่องจากเธอเป็นถึงดาวคณะเเละหลานสาวเจ้าสัวธารา สถานะที่เธอภูมิใจนักหนาเเละไม่กระดากที่จะตอกย้ำบ่อยๆ
 
     การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้
     การเรียนรู้ของเราสองคนคือความเข้าใจ
     เธอเข้าใจและฉันเข้าใจก็ทำให้เรามั่นใจ ในความรัก...

     จบสักที! กวินทร์คิดในใจ ดีนะที่เสียงเปียนโนกับกีต้าร์ไม่เพี้ยนไปด้วย กวินทร์ฟังเพลงได้ทุกเเนว เเต่ถ้าเสียงเเหลมๆ เล็กๆ เขาจะไม่ค่อยชอบ

     พอเพลงจบ ทั้งสี่คนก็ลงจากเวทีเเล้วเดินมากราบตักคุณพริ้ง พร้อมเสียงปรบมือของแขกเหรื่อ ช่างเป็นภาพที่สวยงาม เเต่ทำไมกวินทร์รู้สึกตะหงิดๆ เเละมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีนะ...


******


     สองสาวพี่น้องหันไปสบตากันก่อนจะเเสยะยิ้มอย่างมีลับลมคมใน จากนั้นนริศราก็เดินขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง

     "ขอบคุณสำหรับเสียบปรบมือของทุกท่านนะคะ เเต่... การเเสดงยังไม่จบลงเเค่นี้ค่ะ" นิรศราเว้นวรรค ก่อนจะหันหน้ามาทางกวินทร์เเล้วยิ้มหวานหยด ทำเอาร่างโปร่งเเทบอยากฟุบหน้าลงกับโต๊ะ   

     "ขอเสียง ปรบมือให้กวินทร์ด้วยค่ะ!"

    กูว่าล่ะ ร่างโปร่งคิดอย่างปลงตก

     เเละเมื่อเสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้กวินทร์ต้องจำใจลุกขึ้นจากเก้าอี้ พยายามปั้นสีหน้าไม่ให้บูดเหมือนอารมณ์เขาในตอนนี้ พอเดินผ่านกับนริศรา หล่อนก็ไม่วายที่ยิ้มเยาะให้ร่างโปร่ง

     นริศราเเละกวินทร์อายุเท่ากัน เเต่หญิงสาวเกิดก่อนเขาไม่กี่เดือน ทั้งคู่เรียนที่เดียวกันมาตลอด เเละทุกครั้งที่ต้องพรีเซ้นต์งานต่อหน้าห้อง กวินทร์จะมีอาการประหม่า มือไม้สั่น เสียงสั่น จนบางครั้งถึงกับอ้วกออกมา นริศรารู้ข้อด้อยข้อนี้ของกวินทร์ดี เเละชอบงัดมันออกมาใช้ในการกลั่นเเกล้งเขาบ่อยๆ

     ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน ให้เขามาพูดจ่อหน้าคนเยอะๆ โดยที่ไม่ได้ตั้งตัวเลยเเม้เเต่น้อย นอกจากนั้น นริศรายังไม่ลืมให้เพื่อนไลฟ์การเเสดงของกวินทร์ลงเฟสบุ๊คเช่นเดียวกัน หึ ฉันบอกเเล้ว ว่าจะจัดให้เเกจนสมใจ ไอ้กวินทร์!

     คุณพริ้งมองตามร่างโปร่งด้วยความกังวล เธอรู้ดีว่ากวินทร์ไม่มีทางที่จะยอมตกลงไปเเสดงอะไรบนเวที เเละตัวการคงหนีไม่พ้นนริศรากับกานติมา เธอตวัดสายตาไปที่สองพี่น้องอย่างติติง

     กวินทร์ไม่ได้เดินตรงไปยังเวที เเต่กลับหมุนตัวไปอีกทาง ที่มีเตวิชนั่งกอดอกสีหน้าเบื่อหน่าย ข้างกายมีกีต้าร์พิงเก้าอี้ไว้ เตวิชค่อนข้างจะชินกับการคอยเเกล้งญาติผม
บลอนด์ของสองสาวพี่น้อง ดูๆ ไปก็ไม่ต่างจากลูกสาวเเละเเม่เลี้ยงของ
ซินเดอเรลล่าเลย เขาเองก็ใช่จะเป็นคนที่จะต้องคอยเข้าไปช่วยมันตลอด อย่างไงคนอ่อนเเอก็ไม่ต่างจากคนโง่ ที่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด

     "ยืมหน่อย" เตวิชเเทบจะตกเก้าอี้เมื่อจู่ๆ กวินทร์ก็เดินดุ่มๆ มาหยุดตรงหน้าเขา เเถมหยิบเอากีต้าร์รุ่นลิมิเต็ดของตนไปอย่างไม่รอคำอนุญาต ดีที่เขาคว้ามือมันไว้ได้ทัน

     "ไม่ได้! กูไม่ให้ยืม!" เตวิชดึงเเขนร่างโปร่งมาใกล้ เเล้วกระซิบลอดไรฟัน เพราะผู้คนกำลังจับตามองมาทางเขาทั้งคู่

     "น้องตั้มครับ พี่กวินทร์ขอยืมแป๊บเดียว" กวินทร์ยิ้มหวานให้อีกฝ่าย ซึ่งมองยังไงก็ดูไม่จริงใจเอาซะเลย เเถมยังตั้งใจพูดเสียงดังให้คนอื่นได้ยิน ก็ไม่รู้สินะ ถ้าเตวิชไม่ให้เขายืม ในสายตานอก เด็กหนุ่มคงเหมือนใจร้ายใจดำน่าดู

     "ไอ้กวินทร์ นี่มันกีต้าร์รุ่นลิมิเต็ด!" เตวิชหันรีหันขวาพยายามกดเสียงข่มอารมณ์

     กวินทร์จิปาก ก่อนจะขยับหน้าเข้าไปใกล้เตวิช ที่สูงพอๆ กัน เเล้วกระซิบเบาๆ

     "มึงจะให้กูยืมดีๆ หรือจะให้กูสะดุดล้มเเล้วทำมันพัง!" คำพูดช่างต่างจากใบหน้าที่กำลังยิ้มระรื่นยิ่งนัก

     เตวิชนิ่งชะงัก มองใบหน้าร่างโปร่งอย่างอึ้งๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยได้ยินมันพูดกูๆ มึงๆ เเถมยังกล้าขู่เขาอีก งงจนเผลอจนปล่อยข้อมือขาว เเต่โชคดีที่ยังทันขู่ทิ้งท้ายได้ก่อนอีกคนจะหมุนตัวหนี   

     "ถ้ากีต้าร์กูมีรอยเเม้เเต่นิดเดียวกูเอามึงตายเเน่"

     ปากอิ่มคลี่ยิ้ม หันกลับมาเเล้วเอื้อมมือไปหยิกเเก้มเตวิชอย่างไม่ออมเเรง "ขอบคุณครับน้องตั้ม" กล่าวขอบคุณเสียงหวาน เเต่ในใจตั้งฉายาให้ญาติรุ่นน้องเป็นที่เรียบร้อย ไอ้เด็กเปรต!

     ส่วนคนที่เพิ่งได้รับฉายาใหม่เอี่ยมทำได้เเค่เอามือกุมเเก้ม เเละมองตามอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ


******


     ร่างโปร่งก้าวเดินไปยังคุณพริ้ง "คุณย่ามาเป็นนางเอกให้กวินทร์หน่อยครับ" ว่าเเล้วก็ควงเเขนประครองหญิงชราขึ้นไปนั่งเก้าอี้บนเวที คุณย่าก็ยอมขึ้นไปกับอีกฝ่าย
อย่างงงๆ

     "เอ่อ... สวัสดีครับทุกคน เมื่อกี้ทั้งสี่คนร้องเพลงให้คุณย่าไปเเล้ว ผมเลยจะมาร้องเพลงจีบคุณย่าบ้าง" กวินทร์กล่าวใส่ไมค์พร้อมด้วยรอยยิ้มเพรียวพราว น้ำเสียงขี้เล่น เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้เยอะทีเดียว

     ใบหน้าคมไม่ได้เเสดงอาการประหม่าใดๆ เเต่ก่อนที่จะเริ่มดีดกีต้าร์ร่างโปร่งเหมือนเพิ่งคิดอะไรได้

     "อ้อ ปู่ไม่ต้องหึงนะ ฮ่าๆๆ" เสียงหัวเราะจากเเขกเหรื่อดังขึ้นอีกครั้ง ทำเอาเจ้าสัวคันไม้คันมืออยากลุกไปเขกหัวเจ้าตัวจริงๆ! เเต่ถึงอย่างนั้นก็อดยิ้มตามไม่ได้อยู่ดี

     กวินทร์เริ่มดีดกีต้าร์เบาๆ ทำนองตัวโน้ตเบสิคๆ มีเพี้ยนบ้างในบางช่วง เเต่ยังคงความละมุนเอาไว้ได้ คนที่รู้จักเขาเเปลกใจไปตามๆ กัน เพราะไม่เคยรู้เลยเจ้าตัวเล่นกีต้าร์เป็น

     เเล้วทุกคนต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเขาเริ่มร้องเพลงลุกทุ่ง!

     ไม่ใช่พระเอกในหัวใจน้อง
     ไม่ใช่พระรองในห้องใจหล่อน
     ไม่ใช่ดาวร้ายในใจเจ้า
     จะว่างี่เง่าแง่งอน แต่รักบังอรจนล้นอุรา


     เนื้อเสียงนุ่มกับลูกเอื้อนออดอ้อนหวานเสนาะหู เเถมยังส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้คุณย่าที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างๆ

     เเสงไฟสปอตไลท์ที่สาดส่องขับให้ผิวขาวดูเปร่งปรั่ง  ผมสีบลอนด์สะท้อนเเสงเป็นประกาย เป็นรูปที่สวยงานจนหนุ่มสาวที่มาร่วมงานหลายคนต้องถ่ายรูปเพื่อที่จะ
โพสลงเฟสบุ๊ค โดยเฉพราะภรันยู ตากล้องสมัครเล่นที่เคยเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัย
เเละชอบท่องเที่ยวถ่ายรูปสวยๆ อัพลงเพจตัวเอง โดยมีคนตามเป็นเเสน เพราะ
ตากล้องหล่อเเละรูปถ่ายสวยงามทุกรูป

    ขอเป็นพระแอบอยู่แนบใจสาว
     รู้ตัวว่าเฝ้า จนเศร้าลำเค็ญ
     พระเอกพระรองไม่ต้องฝันใฝ่
     ยังไงก็ไม่ได้เล่น ทำได้แค่เป็นพระแอบรักเธอ


     เพลงจบลงพร้อมเสียงปรบมือที่ค่อนข้างดังกว่าการเเสดงเเรกอย่างเห็นได้ชัด ร่างโปร่งหันไปยักคิ้วให้นริศราเเละกานติมาที่จ้องมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ช่วยไม่ได้ พวกเธอคิดผิดเเล้วที่จะทำให้เขาขายหน้าด้วยวิธีอย่างงี้ 

     ตอนพ่อเเม่ยังมีชีวิต เขาชอบไปหัดเล่นกีต้าร์กับลูกชายลุงเทพเเต่หัดได้ไม่นานพ่อเเม่ก็ด่วนจากไปเสียก่อน เลยเล่นได้เเค่2-3เพลง เพราะยังไม่เก่งพอที่จะเเกะเพลงเอง
โชคดีที่เสียงกวินทร์ค่อนข้างนุ่มน่าฟัง การร้องเลยไม่เป็นปัญหา ถ้าเกิดกวินทร์เสียงเเย่ เขาก็สามารถพลิกสถานการณ์ให้เป็นการร้องเอาเเค่สนุกๆ เเถเป็นเรื่องตลกไปได้ไม่ยาก เขาไม่ใช่คนหน้าบางที่จะมานั่งซีเรียสกับเรื่องไร้สาระ

     ส่วนคนบงการอย่างนริศราเเละกานติมาเองก็ตกใจเเพ้คนอื่น นอกจากกวินทร์จะไม่ทำตัวเองเสียหน้าตามเเผนเเล้ว เขายังสามารถเรียกเสียงปรบมือเเละคำชมจากเเขกในงานได้มากกว่าพวกเธอเสียด้วยซ้ำ นริศราโกรธจนควันออกหูเเละลืมไปว่ากำลังให้เพื่อนตนไลฟ์การเเสดงสดของอีกฝ่ายลงเฟสบุ๊คเช่นกัน จนตอนนี้ยอดไลค์เเละยอดเเชร์พุ่งนำหน้าคลิปเธอไปไกลเเล้ว 


******


     เเละคืนนั้น โลกโซเชียลก็ได้ร้อนระอุไปด้วยข่าว เทพบุตรตาน้ำข้าวสุดหล่อโดนไอ้หื่นลวนลามในร้านอาหาร

     ส่วนคลิป หนุ่มฝรั่งผมทองสุดหล่อร้องเพลงลูกทุ่ง เองก็ถูกเพจดังๆ ดูดคลิปออกไปเผยแพร่มากมาย

     กว่านริศราจะรู้ตัวเเละลบคลิปออกจากเฟสบุ๊คตัวเองก็สายไปเเล้ว เธอได้เเต่กรีดเสียงในห้องส่วนตัวอย่างโมโหจนต้องระบายอารมณ์ด้วยการปาโทรศัพท์ใส่ฝาผนังจนเเตกเป็นเสี่ยงๆ ต่างจากคนต้นเรื่องอย่างกวินทร์ที่กำลังหลับเป็นตายอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว...
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 30/12/17 ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 31-12-2017 18:34:58
ตอนที่ 11 กระตุกหนวดเเมว


     เช้านี้กว่ากวินทร์ตื่นค่อนข้างสาย กว่าอาบน้ำเเต่งตัวเสร็จก็ปาเข้าเกือบเที่ยง วันนี้เขากะว่าจะออกไปซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีอยู่ จะว่าดีมันก็ดีอยู่หรอก เเต่เขาไม่ชอบการตามกระเเสเเค่นั้นเอง งานคุณย่าเมื่อวาน หันไปทางไหนเจอเเต่คนใช้ไอโฟน

     ก่อนหน้านี้เขามีโทรศัพท์มือถือสองเครื่อง ซึ่งก็คือ Android เเละโทรศัพท์มือถือโง่ๆ อีกเครื่องที่ใช้ได้เเค่โทรเข้าโทรออกเเละส่งข้อความ ไม่มีลูกเล่นเเปลกใหม่ เเต่ก็ยากต่อการโดนเเฮกเช่นเดียวกัน เขาเลยใช้เครื่องนี้ติดต่อลูกค้าเเละเสี่ยวิชัยเวลามีธุระสำคัญ ส่วนเครื่องAndroid เขาก็จัดการ root จนเเทบไม่เหลือเค้าเดิม

     การ root โทรศัพท์มือถือหมายถึงการรื้อเอาระบบทั้งหมดออก ทำให้สามารถควบคุม แก้ไข เเละเปลี่ยนแปลงตัวเครื่องได้ 100% นอกจากนั้นยังมีอิสระในการเก็บหรือทำการสำรองข้อมูลไว้ พูดง่ายๆ ก็คล้ายการอัพเกรดตัวเองจากลูกเพจมาเป็น
เเอดมิน เเต่เหตุผลหลักของเขาคือ... ไม่อยากเป็นทาสอากู๋ หรือ Google นั่นเอง!


     กวินทร์กำลังนั่งเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ อยู่ที่โต๊ะคนเดียว เพราะคุณพริ้งกับเจ้าสัวทานเสร็จเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว

     "คุณหนูคะ ป้าลืมบอกว่าเที่ยงนี้ คุณหยกกับคุณอาร์ตจะมาเยี่ยมนะคะ เพราะป้าโทรไปบอกเรื่องอาการคุณหนูเเล้ว" ร่างโปร่งพยักหน้าหงึกๆ พอจะนึกออกว่าทั้งคู่เป็นใคร เพราะเมื่อวานเเอบส่องเพื่อนเเต่ละคนในเฟสบุ๊คของกวินทร์เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว

     "ว่าเเต่ คุณปู่กับคุณย่าอยู่ไหนครับป้าอร?"

     "คุณท่านออกไปธุระกับคุณภูผา ส่วนคุณพริ้งอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลาริมสระค่ะ"

     บ้านหลังนี้ตัวบ้านนอกจากจะใหญ่ระดับคฤหาสน์เเล้ว บริเวณบ้านก็กว้างขวาง ไม่ว่าจะสนามหญ้าขนาดใหญ่หรือสระบัวด้านหลังที่มีศาลาเล็กๆ ริมสระ สามารถนั่งรับลมได้อย่างสบาย มองดูปลาสีสวยชิวๆ บรรยากาศทำให้ผ่อนคลาย ถือว่าเป็นบริเวณโปรดของคุณพริ้ง

     หลังจากทานข้าวเสร็จ กวินทร์ก็เดินออกไปยังสระบัว สายตาคมเหลือบไปเห็นรูปวาดงานสีน้ำที่ตนให้คุณพริ้งเป็นของขวัญติดอยู่ฝาผนัง ปากสวยครี่ยิ้มเล็กน้อย

     "สวัสดีครับคุณย่า" ยกมือไหว้เสร็จร่างโปร่งก็สวมกอดเเล้วหอมเเก้มหญิงชราฟอดใหญ่ ก่อนจะผละตัวออกเเล้วหันรีหันขวาเหมือนกำลังหวาดระเเวง จนคุณพริ้งต้องเอ่ยปากถาม

     "เป็นอะไรตากวินทร์"

     "กวินทร์กลัวคุณปู่มาเห็นเเล้วโมโหหึง" ว่าเเล้วก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดี พูดเองขำเองเสร็จสรรพ ทำเอาคุณพริ้งหมั่นไส้ จนต้องเอื้อมมือหยิกเเขนเบาๆ เเต่หลานชายกลับร้องโอดโอยราวกับเจ็บเสียเต็มประดา จนโดนค้อนให้วงโต

     "คุณหนูคะ คุณหยกกับคุณอาร์ตมารออยู่ที่ห้องนั่งเล่นเเล้วค่ะ" เสียงสาวใช้ร้องเรียก

     "งั้นกวินทร์ไปก่อนนะครับคุณย่า"

     "จ๊ะ" คุณพริ้งมองตามเเผ่นหลังหลานชายพร้อมรายยิ้มที่หุบไม่ลง


******


     "หวัดดี"

     ชายหญิงที่กำลังนั่งรออยู่ห้องนั่งเล่นรีบหันหน้ามาเมื่อเสียงกวินทร์ทักขึ้น ฝ่ายหญิงคือณัชชาหรือหยก สาวห้าวท่าทางทะมัดทะแมง เเต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์ขายาวเเละเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตเเขนสามส่วน ผมยาวประบ่าถูกมัดมวยครึ่งหัว ผิวขาวเล็กน้อย ปากบาง ตาเฉี่ยวคม ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางใดๆ เเต่ยังดูสวยใสสมวัย

     ส่วนอีกคน ศราวุธหรืออาร์ต หนุ่มหน้าตาตี๋เเต่ผิวสีน้ำผึ้ง ผมยาวเท่าณัชชา หยิกงอเเละถูกไถข้างเดียว ตัวสูงเเละหนากว่ากวินทร์นิดหน่อย ใส่กางเกงขายาวสีดำเเละเสื้อเเขนกุดโขว์กล้าม สวมเเว่นทรงกลมกรอบดำ ดูเป็นหนุ่มมาดเซอร์

     "กวินทร์! นี่เเกความจำเสื่อมจริงๆ เหรอ? จำพวกฉันได้ไหม? เเล้วนี้ร่างกายโอเค
ยัง?" ณัชชาจับไหล่ร่างโปร่งเเล้วยิงคำถามใส่ไม่ขาดสาย จนศราวุธต้องปราม "หยก ปล่อยให้มันพูดบ้าง"

     กวินทร์ไม่ได้ว่าอะไร เเค่ยิ้มนิดหน่อย เพราะรู้ดีว่าณัชชาคงเป็นห่วงเพื่อนมาก

     "ร่างกายโอเคเเล้ว เเต่ความจำยังไม่กลับมาเลย"

     "ลืมหมดเลยเหรอ? เปิดเทอมก็ขึ้นปีสี่ ปีสุดท้ายเเล้วทำไงเนี้ยะ?" ดูเหมือนณัชชาจะสติเเตกเเทนกวินทร์ไปเเล้ว

     "ก็จำได้บางเรื่อง หยก อาร์ต นุ เเล้วก็เมย์ จำได้ทุกคน เเต่จำไม่ได้ว่าเคยผ่านอะไรกันมาบ้าง" ณัชชาเเละศราวุธหน้าเสียเล็กน้อย

     "เอาเถอะ อย่างน้อยมึงก็จำพวกกูได้" ศราวุธบีบไหล่ปลอบใจร่างโปร่งเบาๆ 

     "เเล้วเรื่องเรียนอ่ะ?" หญิงสาวถาม

     "จำไรไม่ได้เลย" กวินทร์ตอบเสียงอ่อย

     "เฮ้ยยยย เเล้วเเกจะทำไงอ่ะ?" ณัชชาละล่ำละลัก ส่วนศราวุธเองก็ดูเครียดไม่ต่างกัน ผูกมิตรมาตั้งเเต่ปีหนึ่ง ถ้าขาดอีกคนไปในตอนรับปริญญาก็น่าใจหายไม่น้อย

     "ไม่เป็นไรหรอก เรารวย" เชิดหน้าภาคภูมิใจอย่างโอเว่อร์

     "ย่ะ" ณัชชาเเบะปากเเต่เริ่มยิ้มออก

     "เเกตัดผมเเล้วดูหล่อขึ้นเป็นกองเลยนะเนี่ย" ณัชชายื่นหน้าเข้ามาสังเกตใบหน้าขาวปราศจากริ้วรอยเเละไม่มีกลุ่มผมยาวมาบังไว้เหมือนเเต่ก่อน

     "อาร์ตๆ มาเป็นตากล้องดิ๊ ฉันจะเอารูปลงเฟสอวดยัยเมย์กับไอ้นุ"

     ศราวุธถอนหายใจ เเต่ก็ยอมรับโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายมาถ่ายให้ กว่าเเม่คุณจะพอใจก็ปาเข้าไปเเล้วเกือบยี่สิบรูป ไม่ว่าจะภาพเดี่ยวภาพคู่


     สองหนุ่มปล่อยให้ณัชชาอัพรูปเเละเล่นเฟสบุ๊ค ศราวุธในสายตาของกวินทร์ดูเป็นคนเงียบๆ เหมือนจะเข้าถึงได้ยากเเละไม่ค่อยเเคร์ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับตน ร่างโปร่งจ้องมองใบหน้าอีกฝ่าย จะว่าไป... หน้าของเด็กหนุ่มคนนี้เองก็ดูคุ้นๆ ตา เเต่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าเหมือนใครกันเเน่

     "กวินทร์ๆๆ! ดูนี่ๆ" ณัชชาเปิกตากว้างกวักมือเรียกร่างโปร่งด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างเก็บไว้ไม่อยู่

     "ไรอ่ะ"

     ณัชชายื่นโทรศัพท์มือถือให้อีกฝ่ายดู บนหน้าจอปรากฏรูปกวินทร์ตอนกำลังร้องเพลง"จีบ"คุณพริ้งบนเวที ใบหน้าดูหล่อคมเเต่มีความอ่อนหวานในตัว มือเรียวสวยกำลังตั้งใจตีดกีต้าร์ ปากอิ่มยกยิ้มเล็กน้อย ผมบลอนด์เเละผิวขาวผ่องสะท้อนเเสงไฟขับให้ร่างโปร่งดูสว่างไสวจนละสายตาหนีไม่ได้ อีกรูป ร่างโปร่งกำลังยิ้มตาเป็นประกรายให้หญิงชราข้างกาย เเละรูปสุดท้ายเจ้าตัวเงยหน้าสบตากล้องพอดี ดวงตาสีฟ้าครามเหมือนน้ำทะเลที่ยิ่งมองยิ่งชวนหลงใหล ทุกรูปออกมาสวยเหมือนโดนถ่ายโดยช่างกล้องมืออาชีพ เเละนอกจากนั้น ยังมีคลิปเสียงอีกด้วย

     รูปเเละคลิปถูกเเชร์ลงบนเพจ หนุ่มหล่อต้องบอกต่อ ด้วยหน้าตาที่เอนมาทางฝั่งตะวันตกบวกกับน้ำเสียงเอื้อนเอ่ยขับร้องเพลงลูกทุ่งยิ่งทำให้เขาดูน่าค้นหา ทำให้ยอดเเชร์เเละคนมากดไลค์ทะลุหลักหมื่นเลยทีเดียว

      อร๊ายย หล่อมากกก เเถมยังเสียงดีฟุดๆ เเละที่สำคัญนะคะลูกเพจขา คนที่อัพรูปของน้องคนนี้ลงไม่ใช่ใครที่ไหนไกล พี่ภรันยูศิษย์เก่ามอX คร้าาาา หุหุ

     ร่างโปร่งขมวดคิ้ว ภรันยูน่ะเหรอ? ถ่ายรูปสวยหนิ คงเป็นตากล้องสมัครเล่นกระมั้ง นิ้วเรียวเลื่อนลงอ่านคอมเม้น

>>เเม่จ๋า หนูเจอลูกเขยเเม่เเล้วววว
>>อยากไปนั่งเเทนคุณยายจัง
>>น่ารักแบบวัวตายควายล้ม โอ๊ยย
>>เขาเป็นใคร??? อยากได้เฟส ไอจี เบอร์ห้อง 555
>>ขาวจนกูเเสบตาเลยค่ะ
>>พี่ภรันเอาลงเหรอ? อร๊ายย คิดลึกอ่ะ
   >> เราก็คิดค่าาา
   >> สาววายเชิญทางนี้
   >> เราตามพี่ภรันค่ะ ไม่เคยเห็นพี่เอารูปหนุ่มสาวคนไหนลงเลย มีเเต่รูปวิว อยากรู้จริงๆ ว่าหนุ่มคนนี้เป็นใครน้ออออ
   >> จิ้นๆค่ะจิ้น

>>กรี้ดดดด เจอเเล้วค่ะ ชื่อกวินทร์ เด็กมหาลัยX คณะอักษรศาสตร์เองภาษาอิ้ง เเละที่สำคัญเป็นหลานเจ้าสัวค่ะ หล่อเเล้วยังรวย
     อีก มาเป็นผัวหนูเถอะ!
   >> เทพบุตรจุฑาเทพชัดๆ!
   >> ขอวาร์ปด่วน
   >> ตามเฟสนี้เลยค่ะ กอ กวินทร์ เเต่เหมือนจะไม่ค่อยเล่นเฟสเลยอ่า

>>เฮ้ย ใช่คนเดียวกับที่เป็นข่าวในลิ้งนี้ป่ะ เทพบุตรสุดหล่อตาน้ำข้าวโดนไอ้หื่นลวนลามในร้านอาหาร
   >> ใช่ๆๆๆ คนเดียวกัน โถ่ ไอ้มืดนั้นเป็นใคร? บังอาจมาลวนลามน้องเเบบนี้!!
   >> ดูน้องกุมข้อมือสิคะ เหมือนจะเจ็บมาก
   >> โถ่ว หนูกวินทร์ของเจ๊ *ถีบไอ้หื่น*
   >> นั่นนั้นมันป้อง คณะวิศวะมอX ใช่ไหมมมมม
   >> เออ จริงด้วยยย ป้องเดือนวิศวะ!! เราเคยปลื้มนางมาก เเต่เห็นคลิปนี้เเล้ว เทค่ะ!
   >> พี่ป้องจริงๆ เเอดมินเคยเอารูปนางมาเเชร์ในเพจ
   >> ผิดหวังค่ะ เดี๋ยวเเอดขอเเชร์ลิ้งข่าวลงหน้าเพจด้วยนะคะ ถึงจะบ้าผู้ชาย หล่อๆ เเต่หล่อเเล้วเลวก็ไม่ไหวค่ะ! เเอดมิน
              ญาญ่า
   >> ขอเฟสนางด้วยค่ะ เราจะตามไปยำ
   >> นี่เลย Pong Aniwatt เราไปส่องเฟสเขามา โดนคนด่าเยอะมาก สมน้ำหน้า

     ตามด้วยบทสนทนายาวเหยียด เเต่กวินทร์ขี้เกียจอ่านเลยส่งโทรศัพท์มือถือคืนเพื่อนสาว เเล้วถอนหายใจเบาๆ อยากรู้จริงๆ ว่าคนพวกนี้อายุเท่าไหร่ถึงได้มาเรียกเขาน้อง! ลาก่อนชีวิตอันเงียบสงบ จะว่าไป... ชีวิตเขามันเคยสงบเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาด้วยเหรอ? เลิกหวังอะไรลมๆ เเล้งๆ เเบบนั้นเถอะกวินทร์เอ้ย

     "กวินทร์! นี่เเกร้องเพลงกับเล่นกีต้าร์เป็นด้วยเหรอ??" ณัชชาร้องถามอย่างตื่นตกใจ

     "ไม่รู้สิ ไม่ได้ตั้งใจขึ้นไปเเสดงด้วยซ้ำ เหมือนเป็นไปตามสัญชาตญาณมั้ง" กวินทร์ยักไหล่

     ศราวุธคว้าโทรศัพท์มือถือไปดูบ้าง เขามองหน้าจอขมวดคิ้ว "นี่มันกีต้าร์รุ่นลิมิเต็ดหนิ มึงไปเอามาจากไหนวะกวินทร์?"

     "อ๋อออ ของไอ้ตั้มน่ะ ยืมมันเล่น" กวินทร์ยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมเเต่ไม่พูดอะไรต่อ ส่วนคนถามได้เเต่เลิกคิ้วอย่างฉงน

     "เเล้วเเกนึกไงขึ้นไปร้องเพลงบนนั่นวะ เเกไม่ชอบเป็นจุดสนใจไม่ใช่เหรอ?"

     "เเต่ก่อนก็คงจะเป็นอย่างงั้น พอตายไปสามนาทีเลยคิดได้มั้ง ว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร" ร่างโปร่งตอบยิ้มๆ "เเล้วไม่ได้อยากขึ้นไปหรอก เเต่สถานการณ์บังคับ"

     "ยังไงอ่ะ?" ณัชชาถามงงๆ

     "เกรซ" สั้นๆ เเต่เป็นอันเข้าใจกัน

     "นังนี่อีกเเล้ว วันไหนฉันทนไม่ไหวนะ เเม่จะตบให้ซิลิโคนเบี้ยวเลยคอยดู" หญิงสาวพูดเเละเเสดงท่าทีประกอบ 

     "กวินทร์ ทำไมมีข่าวว่ามึงโดนลวมลามวะ?" ศราวุธเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก

     "อ๋อออ จริงๆ ก็ไม่ได้โดนลวนลามหรอก หึหึ" กวินทร์เล่าความเท็จจริงของข่าว ที่ทำเอาเพื่อนทั้งสองอึ้งไปชั่วขณะก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะก๊ากออกมาอย่างขบขันระคนสะใจ เป็นที่รู้กันว่าอนิวัตหมายปองนริศราเเละยอมทำทุกอย่างที่เธอขอ หนึ่งในนั้นคือคอยรังควานชีวิตกวินทร์ เรียกสั้นๆ ตามสไตล์ณัชชาก็คือ ขี้ข้า ดีๆ นี่เอง
     คุยเล่นกันไปมาจนบ่ายกว่าๆ เพื่อนทั้งสองจึงได้เวลาขอตัวกลับเมื่อเห็นว่ากวินทร์สบายดีเเละไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องความจำเสื่อม เเถมยังปรับตัวรับสถานการณ์เเย่ๆ ได้ดีกว่าเเต่ก่อนด้วยซ้ำ

     "เห็นมึงอยู่ดีพวกกูก็เบาใจล่ะ" ศราวุธเอ่ยขึ้นเเละยิ้มให้ร่างโปร่ง

     "นั้นสิ ฉันว่าเเกเป็นเเบบนี้ก็ดีเเล้ว อย่าไปยอมใครเว้ย" พูดเเล้วก็ตบเเปะๆ ที่ไหล่เพื่อน


******


     หลังจากณัชชาเเละศราวุธออกไปได้ซักพัก กวินทร์ก็เตรียมตัวจะออกไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ ตอนเเรกป้าอรจะให้พ่อบ้านตามมาด้วย เเต่กวินทร์เเย้งว่าจะเเวะซื้อเเค่โทรศัพท์มือถือเฉยๆ ไปกับคนขับรถคนเดียวก็ได้ ถึงจะไม่เห็นด้วยเเต่ก็ยอมโดยดีเมื่อคุณหนูของเธอมากอดมาอ้อน

     "ลุงโชคจะออกไปหาซื้ออะไรรอก็ได้นะครับ ผมอาจใช้เวลาซักสามสิบนาที เสร็จเเล้วเดี๋ยวผมโทรหา"

     "ได้ครับคุณกวินทร์"

     กวินทร์เเยกทางกับลุงโชค เขาใช้เวลาในการเลือกโทรศัพท์มือถือไม่นาน เพราะมีรุ่นที่คิดจะซื้อในใจเเล้ว

     ตลอดทางเดินกวินทร์สังเกตว่ามีวัยรุ่นหนุ่มสาวหลายคนมองตามเขา ต้นเหตุน่าจะมาจากเพจที่เเชร์รูปเขาไป เห็นคนไลค์เพจตั้ง7เเสนกว่าคน บางคนเเค่มองไม่พอ เเต่เเอบหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปเขาอีกต่างหาก เอาเถอะ อยากทำไรก็ทำไป เขาปลงเเล้วล่ะ... เเค่ขึ้นชื่อว่าหลานเจ้าสัวธาราก็เป็นที่รู้จักมากพอเเล้วยังจะมาหน้าตาฝรั่งจ๋าอีก ณ เวลานี้ถ้าเลือกได้เขาขอไปเป็นลูกตาสียายสาชาวไร่ชาวนาจนๆ ยังจะดีกว่า เเต่ทำไงได้ เเค่มีโอกาสกลับมาหาเจ้าเเฝดทั้งสองก็ดีเกินพอเเล้ว...

     กวินทร์ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เพิ่งจะผ่านไป15นาทีเอง เขาไม่มีอารมณ์เดินดูของต่อ เลยมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถเเทน

     เเต่ก่อนที่จะทันได้ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาลุงโชค ร่างโปร่งก็โดนฝ่ามือหยาบปิดปากล็อคคอจากด้านหลังเเละมืออีกสองคู่ยกขาเขาขึ้น ก่อนจะอุ้มไปมุมเปลี่ยว
     กวินทร์พยายามดิ้นให้หลุด เเต่ร่างกายที่ผอมเเละไม่เคยผ่านการใช้กำลังมาก่อน มีหรือจะสู้ร่างบึกบึนของคนพวกนี้ได้ เมื่อเห็นว่าไม่มีทางดิ้นหลุดอย่างเเน่นอน กวินทร์จึงตัดสินใจเก็บเเรงไว้รอจังหวะหนี

     "ไง หมดเเรงเเล้วเหรอไอ้ตุ๊ด หน้าตาก็ดีไม่น่าเสียชาติเกิดเลยมึง" ชายร่างหนาไว้หนวดเยาะเย้ย

     "เเต่เขาว่าข้างหลังเเน่นถึงใจกว่าข้างหน้านะเว้ย มึงดูหุ่นสิวะ โคตรบางเเถมขาวเหี้ยๆ" อีกคนพูดขึ้นเเละจ้องมองร่างโปร่งที่ดิ้นจนกระดุมหลุดลุ่ยเผยให้เห็นเเผงอกขาวเนียนกับยอดอกสีชมพูชวนสัมผัส

     "ถ้าไม่ติดว่ากลัวคนผ่านมาเห็นกูจะจัดให้ซักดอกสองดอกเลยสัตว์" พูดจบก็เอื้อมมือหวังลูบผิวเนียน เเต่กลับถูกร่างโปร่งถีบเข้าที่กล่องดวงใจเเทน

     "โอ๊ย ไอ้เหี้ย!" คนร้ายจุกเเละล้มไม่เป็นท่า เเต่พอตั้งตัวได้มันก็ชกเข้าที่ท้องเขาอย่างเเรง ทำให้ร่างกายที่ไม่เคยโดนทำร้ายเช่นนี้มาก่อนจุกเเละเจ็บจนตัวงอ ถ้าไม่โดนล็อคตัวไว้เขาคงลงไปกองอยู่กับพื้น หลังจากนั้นกวินทร์ก็โดนประเคนทั้งหมัดเเละเท้าอย่างไม่ยั้ง เขาพยายามเปร่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เเต่คามือของคนร้ายด้านหลังที่ปิดปากเอาไว้

     "เฮ้ย พวกมึงทำไรวะ หยุดเดี๋ยวนี้! รปภ.! รปภ. มีคนโดนทำร้าย!" เเละอยู่ๆ ก็มีเสียงพลเมืองดีตะโกนห้ามขึ้นในที่สุด ไม่พูดเปล่า หนุ่มวัยรุ่นคนนั้นยังกรู่เข้ามาต่อสู้ เเลกหมัดกับหนึ่งในคนร้าย เเละเมื่อเห็นว่าคนมาช่วยต่อสู้เก่งเเค่ไหน พวกมันจึงตะโกนบอกกันอย่างลนลาน

     "เหี้ยเอ้ย กูว่าหนีก่อนดีกว่าว่ะ"

     "เออๆ เเต่ก่อนไป.." ผวัะ คนร้ายที่โดนเขาถีบ ชกเข้ามุมปากกวินทร์จนได้กลิ่นคาวเลือด ก่อนจะจิกผมเขาให้เงยหน้าขึ้นเเล้วเค้นเสียงกระซิบ "คุณป้องฝากมาบอกว่านี้เป็นบทเรียนสำหรับความปากหมาของมึง"

     พูดจบก็ทิ้งร่างโปร่งลงพื้นเเข็งเหมือนถุงขยะ ก่อนจะผละวิ่งหนีไปอีกทางเมื่อได้ยินเสียงรปภ.สองสามนายกำลังวิ่งมา

     ความเจ็บตัวยังไม่เท่าความเจ็บใจของร่างโปร่งในตอนนี้ โกรธที่รู้สึกไร้ทางสู้ เจ็บใจที่ร่างกายไม่ทำตามสมองสั่ง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าต้องเอาตัวรอดอย่างไร ถึงสาวิทย์จะไม่ได้มีร่างกายหนาใหญ่เหมือนคนร้ายทั้งสาม เเต่ก็ไม่ได้อ่อนปวกเปียกอย่างกวินทร์

     "คุณๆ เป็นอะไรมากไหม?" พลเมืองดีที่มาช่วยถามอย่างเป็นห่วงก่อนจะช่วยประคองกวินทร์ที่เหมือนจะลุกไม่ไหว เเต่เสียงทักตื่นตระหนกของลุงโชคก็ดังขึ้นเสียก่อน "คุณกวินทร์! เกิดอะไรขึ้นครับ?" เเล้วเข้ามาช่วยประคองอีกเเรง

     "ไม่เป็นไรครับลุงโชค เเค่โจรน่ะครับ" ร่างโปร่งพูดปด

     "ขอบคุณมากนะครับที่มาช่วย" กวินทร์เปลี่ยนเรื่อง เเล้วหันไปพูดกับหนุ่มพลเมืองดีที่น่าจะอายุน้อยกว่าตน ดวงตาสวยตวัดมองเเก้มอีกฝ่ายที่โดนชกจนเริ่มเป็นรอย

     "อ่อ นี่ค่าเสียหายครับ ที่ทำเอาคุณต้องมาเจ็บตัวไปด้วย"  กวินทร์ทำท่าจะควักธนบัตรจากกระเป๋าให้อีกฝ่าย

     "เฮ้ย ไม่เป็นไรครับ ช้ำเเค่นี้เองคุณ" ชายหนุ่มรีบปฎิเสธเป็นพัลวัน

     กวินทร์ยังไม่ทันจะได้คะยั้นคะยออะไรต่อ เสียงริงโทนของอีกฝ่ายก็ดังขึ้นขัดจังหวะ

     "ฮัลโหล คร้าบๆ เฮียภู คินอยู่ลานจอดรถ อีกยี่สิบนาทีน่าจะถึงบ้าน" ชายหนุ่มหันมาทำปากว่าขอตัวเเล้วค้อมให้กวินทร์นิดหน่อยในขณะที่ยังคุยโทรศัพท์ต่อ ก่อนจะเร่งฝีเท้าไปยังรถของตน


     กวินทร์คุยกับรปภ.เป็นที่เรียบร้อยก็ขึ้นมานั่งในรถ เตรียมตัวกลับบ้าน ใบหน้าคมมีเเค่รอยปากเเตก เเต่ร่างกายใต้ร่มผ้าน่าจะฟกช้ำหลายจุดพอควร

     "ลุงโชคไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับคุณปู่คุณย่านะครับ กวินทร์ไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ อีกอย่างมีกล้องวงจรปิด เดี๋ยวก็จับคนร้ายได้"

     "เเต่... มันจะดีเหรอครับ?" ลุงโชคถามอย่างไม่เเน่ใจ เพราะถ้าคุณท่านรู้เองเรื่องจะยิ่งไปกันใหญ่

     "นะครับ คนเเก่พอไม่สบายใจเดี๋ยวร่างกายไม่เเข็งเเรง"

     "เอ่อ... ก็ได้ครับ" ลุงโชครับปากอย่างไม่เต็มเสียง

     เขาไม่อยากให้คุณพริ้งเเละเจ้าสัวไม่สบายใจ อีกอย่าง เรื่องเเค่นี้เขาอยากจัดการเองได้ ปากอิ่มยกยิ้ม วิธีการของเขา นองจากจะแนบเนียนเเยบยล เเล้วก็... เขาอยากรู้ว่าพ่อนักเลงสมัครเล่นคนนี้มีความลับอะไรบ้าง
     เรื่องเจาะข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นเป็นอะไรที่เขาชอบมากเป็นพิเศษ ทุกคนมีความลับที่ไม่อยากให้ใครรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือเรื่องน่าอับอายก็ตาม เเละในยุคสมัยที่เทคโนโลยีกำลังบูม คนส่วนมากมักเก็บความลับพวกนั้นเป็นข้อมูลทางดิจิทอล


     รอกูหน่อยนะ ไอ้ป้อง...

.
.
.
.

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นค่า
จริงๆ ไม่คิดว่าจะมีคนมาตอบหรอก
เพราะเอาลงเด็กดีไปเยอะเเล้ว 5555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 31-12-2017 18:53:34
คนตระกูลนี้นี่ก็ดีจัง เห็นลูกหลานโดนรังแกขนาดนี้ ห้ามได้แค่นี้อ่อ ไม่แปลกที่กวินทร์ร่างเก่าจะนิสัยแบบนั้นอะ ไม่มีคนในบ้านที่อยู่ด้วยแล้วจะสบายใจสักคน
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 31-12-2017 20:15:41
ไม่รู้จักกวินในรูปแบบใหม่ซะแล้ว ป้องเตรียมตัวรับผลงานที่ทำก็แล้วกัน หุหุหุ
 o18
รู้สึกรักคุณย่าพริ้งยังไงไม่รู้นะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-12-2017 20:20:04
Happy New Year 2018
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑  ขอให้ไรท์สุขสันต์ มีความสุขมากๆ

ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 31-12-2017 20:32:54
รออออ อ่านแล้วก็อ่านซ้ำอีก 5555 ตามๆ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 31-12-2017 22:02:02
สนุกมากเลย แต่เดาไม่ออกใครพระเอกอ่ะ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 31-12-2017 22:23:24
ตอนที่11ไปไหนน้อ :z13:

รอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 31-12-2017 22:57:43
รอออออ สนุกมากกก มาต่ออีกเยอะๆนะไรท์
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 01-01-2018 01:31:54
สวัสดีปีใหม่ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาา  คนเขียน

ขอให้มีความสุข  สุขภาพแข็งแรง
มาลงนิยายบ่อยๆ  มีเลิฟซีนมั่งให้หนูกวินทร์ 555 (เสียวสันหลังวาบเลย  ฮึ้ย )    o18
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 01-01-2018 10:25:41
มารอ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-01-2018 11:02:15
สนุกมากเลยค่ะ ชอบการเขียนที่เนื้อเรื่องกระชับ ดำเนินเรื่องน่าติดตาม ทำให้อยากรู้ว่ากวินทร์จะทำอะไรต่อไปแล้วจะไปรับน้องแฝดอู๊ดๆตอนไหน อยากเจอน้องแฝดแล้ว :กอด1:

รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 02-01-2018 02:40:23
ตอนที่ 12 ชีวิตใหม่


     "คุณภูผาคะ เจ้าสัวธารามาถึงเเล้วค่ะ"

     "เชิญเข้ามาได้เลย" ภูผาวางโทรศัพท์ลง เเล้วหันกลับไปสนใจเอกสารในจอคอมพิวเตอร์

     ห้องทำงานของเขาอยู่ชั้นบนสุดของตึกสูง ภายในห้องกว้างถูกตกเเต่งเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น

     ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น

     "เชิญครับ"

     คุณรุ้ง เลขาสาวใหญ่เปิดประตูเข้ามาพร้อมเจ้าสัวธารา ภูผาลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เเล้วย้ายตัวมายังมุมรับเเขก ที่มีโต๊ะเตี้ยๆ เเละโซฟาวางอยู่

     "เชิญนั่งก่อนครับเจ้าสัว"

     นั่งลงได้ไม่นาน เลขาสาวก็ยกเครื่องดื่มมาให้โดยไม่ต้องรอคำสั่ง

      "อืม ขอบใจ ขอโทษนะที่ปู่มารบกวนเวลาทำงานของภู"

     "ไม่เป็นไรครับ ช่วงนี้ไม่ได้มีงานด่วน เจ้าสัวมีอะไรให้ผมช่วยครับ?"

     คุณธาราถอนหายใจเล็กน้อย จริงๆ ท่านก็ไม่อยากรบกวนชายหนุ่มหรอก เเต่เจ้าสัวคิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุดเเล้ว

     "ภูรู้ใช่ไหมว่าตากวินทร์ความจำเสื่อมเพราะจมน้ำ"

     "ครับ"

     "นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่กวินทร์โดนทำร้าย เเล้วรอดมาได้อย่างหวุดหวิด เเต่คราวนี้หนักกว่าเดิม... เเละปู่คิดว่าเป็นฝีมือของคนในบริษัท" หรืออาจเป็นคนในครอบครัว เจ้าสัวคิดในใจ

     "ทำไมล่ะครับ?"

     "ตอนนี้ปู่ถือหุ้นเยอะที่สุดในบริษัท เเต่ถ้าปู่เสียชีวิต คนที่จะถือหุ้นเยอะที่สุดก็คือ
กวินทร์" ภูผาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

     "ปู่เคยทำร้ายพ่อกับเเม่ตากวินทร์ไว้เยอะ สำหรับกวินทร์ เปอร์เซ็นหุ้นพวกนี้คงเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เสียไป"

     อีกฝ่ายพยักหน้าเข้าใจ เขาพอจะรู้มาบ้างว่าลูกชายคนกลางหรือพ่อของกวินทร์เสียชีวิตไปหลายปีเเล้ว

     "เเล้วเจ้าสัวต้องการให้ผมช่วยอะไรครับ?" 

     "ทีเเรกปู่กะว่าจะให้กวินทร์มาฝึกงานที่บริษัท เเต่พอเกิดเรื่องโดนทำร้ายจนเสียความจำไปหลายส่วน ปู่เลยเปลี่ยนใจ"

     พูดถึงตอนนี้ภูผาพอจะเดาออกว่าคุณธาราต้องการให้เขาช่วยอะไร

     "ภู ปู่ขอให้ตากวินทร์มาฝึกงานที่นี่ได้ไหม? ปู่อยากให้กวินทร์เรียนรู้จากหลาน เเละอยู่ห่างๆ บริษัทจนกว่าจะจับคนที่อยู่เบื้องหลังได้"

     ภูผานิ่งไปซักพัก เขาเคยคุยกับกวินทร์ไม่ถึงห้านาทีในงานคุณพริ้ง เเต่เป็นห้านาทีที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายที่สุดในรอบหลายเดือน เซ้นส์เขาบอกว่าหลานเจ้าสัวคนนี้น่าค้นหา ควรรับเข้ามาฝึกงาน เเต่ถ้าทำงานไม่ได้เรื่อง... ก็โยนให้เลขาเขาจัดการเเล้วกัน เมื่อคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มจึงเอ่ยปากรับคำ

     "ได้ครับเจ้าสัว"

     "ขอบใจมากภูผา ถ้าไม่ได้หลานปู่ก็ไม่รู้จะไว้ใจใครได้" เจ้าสัวกล่าวขอบใจอย่างโล่งอก ถ้าหลานสาวเขาได้เรื่องซักคนท่านคงยกให้อีกฝ่ายไปเเล้ว น่าเสียดายที่ไม่เป็นเช่นนั้น ส่วนคนที่เป็นโล้เป็นพายกว่าใครอย่างสิรดาก็มีเเฟนหนุ่มที่ชอบพอกันอยู่เเล้ว เเละท่านเองก็ไม่อยากเเยกทั้งคู่

     "ไม่เป็นไรครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"

     "ถึงตากวิทนร์จะเป็นหลานปู่ เเต่ภูเป็นเจ้านาย จะดุจะสอนก็เอาตามที่ภูเห็นชอบ
ปู่ไม่ว่าอะไร"

     "เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ" ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก เขาไม่ใช่คนใจดี ถึงจะเป็นหลานเจ้าสัวที่เขานับถือ เเต่งานก็ส่วนงาน

     เจ้าสัวหยิบเเฟ้มยื่นให้อีกฝ่าย "นี้เป็นประวัติส่วนตัวของตากวินทร์ ยังไงปู่ก็ฝากด้วยนะ"

     "ครับ"

     "เอาล่ะ รบกวนเวลาทำงานมากพอเเล้ว ปู่ขอตัวเลยเเล้วกัน" คุณธาราพูดพร้อมลุกขึ้นจากโซฟา

     "ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ"


******


     ภูผาทำงานจนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายสาม วันนี้เขารับปากว่าจะกลับไปทานข้าวที่บ้าน พี่สาวโทรตามเขาตั้งเเต่อาทิตย์ที่เเล้ว อ้างว่าน้องพลอยบ่นถึงเขาทุกวัน เเต่เด็กเเค่สามขวบจะบ่นได้ขนาดนั้นเหรอ? คนที่บ่นน่าจะเป็นเเม่กับพี่สาวเขามากกว่า

     ร่างสูงโทรบอกให้เลขาเตรียมรถไว้ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงาน เเละไม่ลืมที่จะหยิบเเฟ้มประวัติส่วนตัวหนุ่มนัยน์ตาตาสีฟ้าใสติดมือไปด้วย

     ในเเฟ้มมีกระดาษเเผ่นเดียวเเละประวัติสั้นๆ ร่างสูงสะดุดตากับการศึกษาอีกฝ่าย คณะอักษรศาสตร์เอกภาษาอังกฤษงั้นเหรอ? เเต่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าเรียนคณะอะไรส่วนมากก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ทั้งนั้น ความสามารถอย่างอื่นก็เเทบไม่มี นอกจากใช้ Microsoft Office เป็นเล็กน้อย... เขาเริ่มไม่เเน่ใจกับการตัดสินเขาตัวเองเสียเเล้วสิ


     พอเเพรพิไลเห็นน้องชายฝาเเฝดของตนเดินเข้าบ้าน เเทนคำทักทาย เจ้าหล่อนกลับตะโกนบอกคุณเเม่เเทน

     "ต้ายยย หิมะจะตกที่กรุงเทพเเน่เลยค่ะคุณเเม่"

     "หือ? ทำไมเหรอเเพร?"

     "ดูสิคะ ใครมา" เเพรพิไลร้องตอบ พร้อมส่งสายตาหยอกล้อให้ชายหนุ่มตรงหน้า

     คุณทิพกาเดินมายังห้องโถง ก่อนจะยิ้มดีใจเมื่อเห็นลูกชายตนที่นานๆ ครั้งจะเเวะมาทานข้าวที่บ้าน จนเเพรพิไลเเอบเเซวว่าน้องชายตัวเองสละโสดเเต่งงานอยู่กินกับบริษัทเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว

     "เดี๋ยวเเพรขอตัวไปดูน้องพลอยก่อนนะคะ พอรู้ว่าวันนี้อาภูจะมาดีใจใหญ่" เเพรพิไลพูดยิ้มๆ

     คุณทิพกาพยักหน้าให้ลูกสาว เเล้วเดินไปสวมกอดภูผา ก่อนจะผละออกเเล้วขมวดคิ้ว "ตาภูผอมลงไปหรือเปล่า หืม?" เธอจับไหล่หนาเเละสังเกตร่างกายกำยำ ในสายตาคนอื่นอาจมองว่าชายหนุ่มตรงหน้าหุ่นดีทีเดียว เเต่สำหรับคนเป็นเเม่ เเค่ลดไปสองสามกิโลกรัมก็ถือว่าผอมเเล้ว

     "ไม่เเน่ใจเหมือนกันครับ" 

     "ไปอาบน้ำอาบท่าไป เดี๋ยวเเม่เข้าไปดูในครัวเสียหน่อย วันนี้มีเเต่ของชอบภูทั้งนั้น"

     "ครับ" ร่างสูงยิ้มให้กับความใส่ใจของเเม่

     "เดี๋ยวก่อนภู! โทรหาตาคินด้วยนะ บอกเเม่ว่าออกจากห้างตั้งเเต่สามสิบนาทีที่เเล้วเเต่ป่านนี้ยังไม่เห็นเลย" คุณทิพกาตะโกนบอกร่างสูง

     "ได้ครับ" ภูผารับคำ เเล้วหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาน้องชาย

     ....

     "ฮัลโหล"

     "คิน ใกล้ถึงบ้านยัง?"

     "คร้าบๆ เฮียภู คินอยู่ลานจอดรถ อีกยี่สิบนาทีน่าจะถึงบ้าน"

     "อืม ไม่ต้องรีบ ขับรถระวังๆ ล่ะ"

     "ครับผ๊ม"


     ภูผาอาบน้ำเสร็จเเละยังไม่ทันจะเดินออกมาถึงห้องนั่งเล่น เสียงฝีเท้าเล็กๆ คู่หนึ่งก็วิ่งเเปะๆ มาหาเขา เเล้วกระโดดกอดขาร่างสูงไว้เเน่น ก่อนจะเงยหน้ายิ้มเเฉ่งโชว์ฟันซี่เล็ก เเล้วยกมือป้อมๆ ไหว้สวยงามตามที่คุณเเม่เคยสอน

     "สวัสดีค่ะน้าภู น้องพลอยคิถุงงงง"

     คุณน้าก้มลงอุ้มหลานสาวตัวน้อยขึ้นก่อนจะหอมเเก้มซ้ายขวา

     "อาภูก็คิดถึงน้องพลอยครับ"

     "น้องพลอย! เเม่บอกห้ามวิ่งในบ้าน เดี๋ยวก็ล้มเจ็บตัวอีกนะคะ" เเพรพิไลดุลูกสาวตัวน้อย น้องพลอยทำปากจู๋เเก้มพองเเล้วสะบัดหน้าซุกอกคุณน้าที่ได้เเต่ยิ้มเเละส่ายหัวให้พี่สาว เเพรพิไลเองก็สะบัดหน้าเดินไปห้องครัว น้องพลอยจะเหมือนใคร ก็เหมือนเเม่เเกนั่นเเหละ ร่างสูงเเอบคิดในใจ

     ภูผาอุ้มหลานสาวมานั่งที่โซฟาโดยมีเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงคอยรายงานว่าน้าภูไม่อยู่เเล้วใครเเกล้งอะไรน้องพลอยบ้าง พี่สาวกับคุณเเม่อยู่ในครัว ถึงจะมีเเม่บ้านอยู่เเล้ว เเต่คุณทิพกาชอบทำอาหารเองเเละให้เเม่บ้านคอยเป็นลูกมือเสียมากกว่า ประมุขของบ้าน คุณพงศ์ภีระกำลังรดน้ำต้นไม้ จะขาดก็เเต่ลูกชายคนเล็ก ภคินที่กำลังมา ส่วนภรันยูตอนนี้อยู่เเม่ฮ่องสอน ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ตระเวนถ่ายรูป เจ้าตัวบอกว่าอยากทำในสิ่งที่ชอบให้สุด ก่อนจะมาช่วยงานในบริษัทปีหน้า


     พอเเม่บ้านตั้งโต๊ะเสร็จ ภคินก็มาถึงบ้านพอดี "สวัสดีค้าบบบ ทุกคน" เด็กหนุ่มยกมือไหว้เเล้วหมุนตัวเป็นวงกลมอย่างกับนักมวย น้องพลอยหัวเราะคิกๆ ชอบอกชอบใจ คุณทิพกาได้เเต่ส่ายหัวอย่างหน่ายๆ ก่อนจะอุทานออกมาเมื่อเห็นรอยโดนต่อยที่มุมปากภคิน

     "ตาคิน! ปากไปโดนอะไรมา? อย่าบอกนะว่าไปมีเรื่องชกต่อยอีกน่ะ เเม่บอกว่าไง..."

     "หยู๊ดดดด หยุดๆๆ สต๊อบๆ อย่าเพิ่งด่าครับคุณเเม่ ครั้งนี้คินไม่ผิดนะคร้าบ" เด็กหนุ่มยกมือห้ามเป็นพัลวัน

     "คืองี้ครับ ตอนจะกลับบ้านคินเจอคนโดนทำร้ายที่ลานจอดรถ เลยเข้าไปช่วย เเล้วโดนชกเข้าให้ เเต่ไม่ต้องห่วง ไอ้พวกคนร้ายน่วมกว่าเยอะ ฮ่าๆๆ" เท้าเอว เเอ่นอก เชิดหน้าเเละเล่าอย่างภาคภูมิใจ

     เเต่อิมเมจฮีโร่จำต้องพังทลายลงเมื่อโดนพี่สาวตบหัวป้าบเข้าให้ "โอ๊ย เจ๊เเพร ตีเค้าไมอ่า" ภคินถามเสียงอ่อย ลูบหัวป้อยๆ

     "ทำไรไม่คิด ถ้าพวกมันมีมีดมีปืนจะทำไง? ห๊ะ?" เเพรพิไลดุ

     "ก็เห็นพวกมันรุมเตะคนอื่นอยู่ เลยคิดไม่ทันเนาะ" เด็กหนุ่มเเก้ตัว ก่อนจะหันซ้ายหันขวาหาทางออก "โอ๊ะ! เฮียภู!" ทำเป็นตื่นเต้นกลบเกลื่อน เเล้ววิ่งหนีพี่สาวไปเล่นกับน้องพลอยอย่างเนียนๆ


******


     หลังทานข้าวเสร็จ ครอบครัวจรัสวัฒนพงศ์ก็มานั่งร่วมวงดูทีวีเเละพูดคุยกันที่ห้องนั่งเล่นโดยมีน้องพลอยคุยจ้อกับคนนู้นทีคนนี้ทีเป็นเสียงแบ็คกราว ส่วนภคินก็ก้มๆ เงยๆ อยู่กับไอเเพดตามประสาวัยรุ่น

     "เฮ้ยยยยยย เเม่ครับ เเม่ๆ คนนี้ไงที่คินช่วยอ่ะ" ภคิมตะโกนบอกเเล้วยกไอเเพดให้คนอื่นๆ ดูรูป

     "เอ๊ะ นี่มันหลานเจ้าสัวธาราหนิ คินเเน่ใจเหรอ?" คุณทิพกาเอ่ยเมื่อเห็นรูปถ่าย

     "ใช่ครับ คนนี้เเหละ" ภคินพูด ก่อนทำหน้างงๆ "คินจำเขาไม่ได้อ่ะ ก็ตัดผมมาซะน่ารักเชียว ฮ่าๆๆ" เเพรพิไลกลอกตากับความหน้าหม้อของน้องชาย เป็นที่รู้ๆ กันว่าภคินนั่นหญิงก็ได้ชายก็ดี เเต่ไม่เคยคบใครจริงจัง

     "จับคนร้ายได้ไหมคิน?" ภูผาที่เงียบมาตลอดเอ่ยปากถาม

     "ไม่อ่ะเฮีย พอรปภ.มาพวกมันก็รีบวิ่งหนีไปเลย เหมือนโผล่มาทำร้ายร่างกายเฉยๆ ตอนวิ่งหนี คินไม่เห็นพวกมันหยิบอะไรติดมือเลย"

     "อืม" ภูผาขมวดคิ้วเเละนึกถึงสิ่งที่เจ้าสัวบอกกับตนก่อนหน้านี้ นอกจากเป็นเจ้านายเเล้ว เขาอาจต้องเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของกวินทร์ด้วยใช่ไหม?

     "อุ้ย เเพรเพิ่งรู้ว่าหลานเจ้าสัวหล่อขนาดนี้" เเพรพิไลไม่เห็นหน้ากวินทร์มานาน เพราะเธอไม่ค่อยได้ออกงานกับครอบครัว ซึ่งมักจะเป็นภูผาเเละภรันยูเสียมากกว่า ส่วนเธอกำลังทำงานเบื้องหลังในวงการบรรเทิงเเละเป็นที่รู้จักในวงกว้างด้วยฐานะทางบ้านเเละความสามารถที่มี

     "ต๊าย มีคลิปร้องเพลงด้วย เสียงใช้ได้เลย เข้าวงการรับรองเเฟนคลับเยอะ"

     "ตัวจริงมองใกล้ๆ โคตรน่ารักเลยพี่เเพร ปากอิ่มๆ เเดงๆ ตัวงี้ข๊าวขาว อยากจับมาฟัด" ว่าเเล้วก็ดึงน้อยพลอยเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงจนหนูน้อยกรีดร้องเเละหัวเราะเอิ๊กอ๊าก

     ภูผาถอนหายใจ เอาเถอะ ลองให้เด็กมันมาทำซักสองสามวัน ถ้าไม่ได้เรื่องจริงๆ จะให้เขาตามสอนงานเหมือนที่รับปากเจ้าสัวธาราก็คงไม่ไหว อาจเปลี่ยนให้ไปเดินเอกสารเเทน หวังว่ากวินทร์จะรับมือไหวกับเพื่อนร่วมงานที่คอยจะดูถูกว่าเขาเป็นเด็กเส้น เข้ามาฝึกงานในบริษัทเเถวหน้าของประเทศ ทั้งที่โปรไฟล์ธรรมดา นายจะสู้ไหวเหรอกวินทร์?


******


     ทางบ้านกิตติปรียากุลเองก็เพิ่งทานข้าวเสร็จ กวินทร์มองดูเเผ่นกระดาษที่ตนได้จ้างให้คนปลอมเเปลงขึ้น มันเป็นพินัยกรรมปลอมๆ ของสาวิทย์บ้านเเละที่ดินถูกยกให้มูลนิธิ ทรัพย์สินเงินทองในบัญชีเขาบริจากให้สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนที่เจ้าเเฝดพักอยู่ เเละสิ่งสำคัญที่สุด ที่มีตัวหนังสือเขียนขึ้นอย่างชัดเจนว่า ถ้าหากตนเเละสิรินได้เสียชีวิตไปก่อนที่สองเเฝดจะบรรลุนิติภาวะ การดูเเลทุกอย่างจะตกอยู่ในมือของนาย กวินทร์ กิตติปรียากุล เพียงผู้เดียว! ปิดท้ายด้วยลายเซ็นที่ไม่มีทางดูออกว่าถูกสร้างขึ้นหลังการเสียชีวิตของเจ้าของพินัยกรรม

     กวินทร์สูดหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมสติก่อนไปบอกเรื่องนี้กับคุณปู่เเละคุณย่า เขาเตรียมเรื่องไว้เเล้ว การโกหกที่แนบเนียนคือการเล่าความจริงครึ่งเดียว

     ตอนนี้คุณพริ้งกำลังนั่งดูทีวี ส่วนเจ้าสัวกำลังอ่านเอกสารอะไรซักอย่างในห้องรับเเขก

     "คุณปู่คุณย่าว่างไหมครับ กวินทร์มีเรื่องอยากคุยด้วย"

     ทั้งคู่เงยหน้ามองหลานชาย "ว่างสิ มีอะไรเหรอตากวินทร์?" คุณธาราถาม

     "คือ... ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง ชื่อสาวิทย์ เขามีน้องสาวหนึ่งคนที่มีลูกฝาเเฝดอายุสิบเอ็ดเดือน เเต่เมื่อไม่นานมานี้ผมได้รับข่าวว่าสาวิยท์กับน้องสาวเสียชีวิตเเล้ว"

     กวินทร์เว้นระยะให้ทั้งคู่ซึมซับสิ่งที่เขาพูด

     "ทั้งคู่ไม่มีญาติพี่น้อง เเล้วในพินัยกรรมของสาวิยท์ เขามอบสิทธิในการเลี้ยงดูเด็กๆ ให้ผม เเละผมเองก็ยินดีที่จะทำตามคำขอร้องของเพื่อน"

     คุณธาราเเสดงสีหน้าไม่เห็นด้วย "เเล้วถ้าปู่ไม่อนุญาต?" คุณธาราเลิกคิ้วถามหยั่งเชิง

     "ผมไม่อยากดื้อกับปู่ เเต่เรื่องนี้ผมตัดสินใจไปเเล้ว เเละไม่อยากให้เด็กๆ โตมาในบ้านเด็กกำพร้า อีกอย่างตอนนี้ผมอายุยี่สิบเเล้ว ถ้าปู่ไม่อนุญาต ผมก็คงไม่มีทางเลือกนอกจากออกไปอยู่ที่อื่น" กวินทร์ตอบเสียงเรียบ เขาไม่ได้อวดดี เเต่เเค่พูดความจริง

     "กวินทร์! ไม่ได้ ย่าไม่ให้ออกไปอยู่ที่อื่น!" คุณพริ้งรีบค้าน หลานเธอไม่เคยทำงาน เเค่ดูเเลตัวเองก็ยังเเทบไม่ไหว เเล้วนี่จะย้ายไปอยู่คนเดียวเเถมต้องเลี้ยงเด็กอ่อนอีกสองคน เธอไม่ปล่อยให้หลานไปลำบากตามลำพังเเน่นอน!

     "เเน่ใจเเล้วใช่ไหมตากวินทร์ ที่จะเอาลูกเค้ามาเลี้ยงเอาเมี่ยงเค้ามาอม" เจ้าสัวถามย้ำ

     "ครับ" เขาตอบหนักเเน่น ดวงตามุ่งมั่นดูเป็นผู้ใหญ่จนเจ้าสัวยังเเปลกใจ 

     "เอาเถอะ ถ้ามั่นใจเเล้วอยากทำอะไรก็ทำไป" ชายชราพูดส่งๆ

     กวินทร์ตาโต รีบเข้าไปกราบตักทั้งคู่เเล้วขอบอกขอบใจยกใหญ่ ออดอ้อนคุณย่าเเละโม้ถึงความน่ารักของเด็กๆ จนคุณพริ้งตื่นเต้นตามไปด้วย


******


     วันรุ่งขึ้นกวินทร์รีบออกไปรับเด็กๆ ส่วนเรื่องเอกสารต่างๆ ผ่านไปอย่างราบรื่น เเต่กว่าทุกอย่างจะลงตัวก็ใช้เวลาไปสองสามวัน เพราะต้องซื้อของใช้เด็ก ปรับเปลี่ยนห้องว่างให้เป็นน้องนอนสำหรับเด็กอ่อนที่กำลังเห่อความสามารถใหม่ของตน ซึ่งก็คือการใช้ขาเเละเท้า ถึงจะยังเดินไม่คล่อง เเต่ก็ขยันหาเรื่องจริงๆ เขาเลยจำเป็นต้องติดตั้งที่กั้นบันได เเละอะไรเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย

     ตอนเเรกเจ้าสัวค่อนข้างไม่พอใจกับการตัดสินใจของกวินทร์ เเต่พอโดนน้องปลื้มกับน้องปรายตัวคอยพันเเข้งพันขาอ้อนให้เล่นด้วย ชายชราก็อ่อนปวกเปียกยอมตามใจเด็กๆ ทุกครั้ง จากบ้านที่เคยเงียบกลับเต็มไปด้วยเสียงร้องอ้อเเอ้เรียกความสนใจของหมูน้อยสองตัว

     เพื่อนๆ ทั้งสี่ของเขาก็เเวะเวียนมาเยี่ยมบ่อยๆ รวมถึงสาวหมวยหน้าหวาน เมย์ จีรวรรณเเละหนุ่มใต้ นุหรืออนุชิต เเต่พักหลังๆ เหมือนจะมาเยี่ยมเด็กๆ เสียมากกว่า ส่วนกวินทร์ก็ต้องจำใจใช้เวลาไปกับการอ่านชีทที่ณัชชาเอามาให้เพราะใกล้เปิดเทอมเเล้ว จากที่คิดว่าเรียนเอกอังกฤษคงง่ายๆ สบายๆ เพราะตนพูดอ่านภาษาอังกฤษคล่องเเคล่วอยู่เเล้ว เเต่...เขาคิดผิดอย่างไม่น่าให้อภัย! เพราะมันมีทั้งบทความที่ใช้ภาษาเก่าๆ เเละวรรณคดีที่เขาต้องเรียนรู้อีกหลายเรื่อง เเล้วเเบบนี้เขาจะจบปี 4 ได้ไงวะ?!


     "ไม่อ่งไม่อ่านมันเเล้วเว้ยยยย" กวินทร์ตะโกนในห้องคนเดียว ก่อนจะโยนกองกระดาษไปบนเตียง หยิบคอมมาเปิด บนหน้าจอเผยข้อมูลทั้งรูปเเละคลิปของอนิวัต ข้อมูลที่เขาได้มาจากการเเฮกมือถือของอีกฝ่าย

     เขาก็เเค่ขับรถไปจอดเเถวๆ หน้าบ้านอีกฝ่าย เเล้วเเฮกบลูทูธของมือถืออนิวัตโดยใช้ MultiBlue Dongle ที่มีหน้าตาไม่ต่างจากแฟลชไดร์ฟธรรมดาๆ ทั่วไป เเต่เป็นเครื่องมือที่สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่มีบลูทูธ เเละให้อำนาจคนใช้ในการควบคุมมือถือเป้าหมายผ่านคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์
     หลังจากนั้นกวินทร์ก็ก๊อปทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น รูป คลิป เสียง รหัสผ่านต่างๆ ใส่คอมฯของตน ท้ายสุดกวินทร์ก็ติดตั้ง Spyware เเอพที่คอยสอดส่องเเชท อีเมล์ อัดเสียงสายโทรเข้าโทรออกเเละความเครื่อนไหวทุกอย่างของเป้าหมาย เขาใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง เเละไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เเล้วขับรถกลับบ้านอย่างสบายอารมณ์


******


     "ปะๆๆ" เสียงเล็กๆ ร้องเรียกกวินทร์ เมื่อเขาเดินไปที่สนามหลังบ้าน คุณพริ้ง เจ้าสัว เเละเเม่บ้านสองคนกำลังเล่นกับคุณหนูทั้งสอง เมื่อเห็นหัวทองๆ ของกวินทร์ ร่างป้อมก็วิ่งตุปัดตุเป๋ ชูเเขนอวบๆ ให้เขาอุ้ม
     กวินทร์รวบหมูน้อยสองตัวเข้ามาอุ้มในวงเเขน หลังโดนดักทำร้ายร่างกาย กวินทร์ก็พยายามเล่นเวทออกกำลังกายจนเริ่มมีกล้ามเล็กน้อยพองาม ไม่งั้นคงอุ้มเจ้าเเฝดทั้งสองไม่ขึ้น

     "ว่าไงน้องปลื้มน้องปราย วันนี้ดื้อกับคุณทวดไหมครับ" ว่าเเล้วก็หอมเจ้าเเฝดคนละสองฟอดใหญ่ เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากเด็กๆ ที่ชี้มือเล็กไปยังผู้สูงอายุในบ้าน "จวดๆ" 

     "เอ๊ะ ทำไมเรียกทวดชัดกว่าเรียกปะป๊าล่ะหือ?" ร่างโปร่งถามเเล้วเเกล้งงับเเก้มยุ้ยอย่างหมั่นเขี้ยว ทำเอาเด็กๆ จั๊กจี้ดิ้นดุ๊กดิ๊กหนีอ้อมกอดอุ่นๆ ของปะป๊า เเละหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างสนุกสนาน ก่อนจะรีบคลานหนี เเต่เมื่อเห็นว่าปะป๊าไม่ไล่ตามก็หันหน้ากลับมา เเล้วมองเขาเหมือนกำลังจะบอก ปะป๊ารีบไล่จับหนูสิ

     เล่นไล่จับไม่กี่นาทีเจ้าหมูน้อยทั้งสองก็สลบเป็นที่เรียบร้อย

     อีกสองวันมหาวิทยาลัยก็จะเปิดเทอมเเล้ว เขายังไม่พร้อมเลยเเม้เเต่น้อย ชีทกองโตก็ยังอ่านไม่หมด ถ้าเอาไปปั่นกับโยเกิร์ตเเล้วมามาร์คหน้าความรู้มันจะมีการออสโมสิสเข้าสู่สมองเขาไหมนะ?!

     ไหนจะเรื่องฝึกงานอีก ตอนเเรกกวินทร์นึกว่าเจ้าสัวต้องให้เขาไปฝึกในบริษัทของที่บ้านอย่างเเน่นอน เเต่ก็ผิดคาด เพราะเจ้าสัวเพิ่งมาบอกเขาว่าคุยกับภูผาไว้เเล้ว เเละอ้างว่าอยากให้เขาเรียนรู้กับคนที่มีความสามารถอย่างภูผา เอาเถอะครับคุณปู่ กวินทร์จะพยายามเชื่อเเล้วกัน

หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 31/12/17 ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 02-01-2018 02:41:13
ตอนที่ 13 คุณลุงเเปลกหน้า


     มหาวิทยาลัยเปิดเทอมได้เป็นเดือนเเล้ว การบ้านเเละรายงานสำหรับกวินทร์ผ่านไปได้อย่างทุลักทุเล เวลาส่วนมากก็ถูกใช้ไปกับการ อ่าน อ่าน เเละอ่าน จนเขาอยากจะลาออกให้มันรู้เเล้วรู้รอด เเต่มันดันมีคำว่า"บุญคุณ"ค้ำคออยู่ เจ้าสัวยอมให้เขารับเด็กๆ มาเลี้ยงดูในบ้าน เเถมยังคอยปรามคุณเอมอรที่มาด่าเขาฉอดๆ กวินทร์เลยต้องกัดฟันสู้ เพื่อไม่ให้ขายหน้าคุณปู่ที่มีหลานไม่เอาไหนเเละเรียนไม่จบ
 
     เเต่โชคดีที่เขามีเพื่อนเกรดสวยอย่างณัชชาเเละจีรวรรณคอยติวให้ เลยพอถูๆ ไถๆ คลานตามเพื่อนได้ทัน
     เเต่ทั้งสองสาวโดยเฉพาะณัชชารู้สึกจะอินกับบทติวเตอร์มากจนเกินไป ติวเข้มจนเขาต้องเเอบหนีมาตั้งตัวเเละโซ้ยน้ำเเข็งใสที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ พวกเเม่ค้าพ่อขายในมหาวิทยาลัยนี่ใจดีจริงๆ พอเห็นหนุ่มฝรั่งปากหวานขี้อ้อนก็ตักอาหารให้จนพูนถ้วย

     ถึงจะเเอบหนีมาเเต่เขาก็ยังใส่หูฟัง ฟังเลคเชอร์ที่ณัชชาส่งมาให้อยู่นะ จะหาว่าเขาอู้ไม่ได้ หูฟัง ปากเคี้ยว ตาก็มองสอดส่องไปเรื่อย จนปะทะเข้ากับร่างของอนิวัต ทำเอากวินทร์เเทบสำลักน้ำเเข็งใส

     กวินทร์ไม่ได้กลัว เเต่เขาไม่อยากอยู่ในเรดาร์ของอีกฝ่ายก่อนที่จะปล่อยคลิป
เขาอยากให้อนิวัตชะล่าใจเเละลืมว่ามีศัตรูที่ชื่อกวินทร์

     ร่างโปร่งรีบลุกขึ้นเเล้วหนีไปนั่งโต๊ะเเถวๆ ข้างหลัง ที่มีกลุ่มนักศึกษานั่งอยู่ เเละหน้าตาเหมือนกำลังเคร่งเครียดกับอะไรซักอย่างบนจอคอมฯ

     "ขอนั่งด้วยนะครับ"

     ทั้งสี่มองร่างโปร่งอย่างงงๆ จะปฏิเสธได้ไง ในเมื่อเจ้าตัวหย่อนก้นลงโดยไม่รอคำอนุญาตด้วยซ้ำ

     "ไม่ต้องเกรงใจครับ ผมไม่กวนหรอก" ยังมีหน้าไปบอกเขาไม่ต้องเกรงใจ...

     "ทำไมเเก้เท่าไหร่ก็ยังไม่ได้วะ" เสียงโอดครวญจากหนุ่มร่างอวบ

     "นั้นดิ ฉันลองมาทั้งคืนเเล้ว ยั๊งไม่ได้เลย" หญิงสาวในกลุ่มเห็นด้วย

     "ไอ้เมต มึงอ่ะ?"

     "ยัง" ผู้ชายที่นั่งข้างกวินทร์ตอบ

     "บุ้ง?"

     "ทุกอย่างโอเค lib output เหมือนจะไม่มีปัญหา กูเขียนไพทอนสคริปต์ไว้คอยเช็คล่ะ ส่วน external IP ตามเว็บต่างๆ มันก็โชว์ proxy IP นะ เเต่พอเปิด iceweasel กับ proxychains กลับใช้ไม่ได้ว่ะ" หนุ่มเเว่นร่างผอมตอบ ทำเอาคนที่กำลังซดน้ำเเข็งใสหูผึ่ง เเละพยายามเนียนเเอบเหล่ตามองโจทย์บนกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้าคนข้างๆ

     "ขนาดหัวกะทิอย่างไอ้บุ้งยังไม่ได้ เเล้วอย่างกูเนี้ย จะเอาขี้สมองที่ไหนมาทามม?" เพื่อนร่างหมีบ่นเสียงยาน

     "อาจารย์จรินทร์นี่ก็สรรหาโจทย์มาให้ทำจริงจริ้ง"

     "กูได้ข่าวว่าเเกเคยเป็นแฮกเกอร์หมวกขาวเว้ย โดนบริษัทใหญ่ๆ จ้างไปเจาะระบบเพื่อหาจุดอ่อนเเละวางระบบป้องกันมาเเล้ว"

     "มิน่าล่ะ วิธีสอนไม่เหมือนอาจารย์คนอื่นๆ เเต่ฉันว่าท้าทายดีนะ ได้เรียนรู้เเละปฏิบัติจริง ดีกว่าให้มานั่งท่องจำตำรา" ช่าย นั่งท่องจำเหมือนกูเนี่ย กวินทร์คิดในใจเห็นด้วยกับหญิงสาว

     "เเต่โจทย์ครั้งนี้ยังไม่มีกลุ่มไหนทำได้เลยว่ะ" ว่าเเล้วก็ถอนหายใจกันทั้งกลุ่ม

     อย่างนี้ล่ะน้า เด็กที่เรียนมาก็มักจะคิดในกรอบที่ถูกสอน ต่างจากพวกเเฮกเกอร์อย่างเขา ที่รักในการเจาะข้อมูล เเละการที่จะเเฮกอะไรซักอย่างได้ เราก็ต้องทำความเข้าใจกับโครงสร้างของมันอย่างละเอียด ส่วนพวกนักศึกษาก็อ่านเเต่สิ่งที่อาจารย์สอน

     กวินทร์หยิบกระดาษมาจดหยุกหยิกๆ อยู่ซักพัก "ขอบคุณที่ให้นั่งด้วยนะครับ ไปล่ะ" พูดจบก็ยื่นกระดาษให้ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ตน เเล้วลุกเดินหนี เขาช่วยได้เท่านี้เเหละ ถ้าไม่เข้าใจข้อความก็ตามเวรตามกรรมเเล้วกันนะเด็กๆ

     "โว้ยยยย ไอ้เมต มึงนี่ฮ็อตกับทุกเพศทุกวัยจริงๆ" ชยากรเเซวเพื่อนหน้าหล่อ

     "คนนี้ฉันว่าน่ารักดีอ่ะ เเต่หน้าคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเห็นในเฟส" ปานกมล หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มช่วยเสริม

     เธียรวิชญ์ส่ายหัวให้กับความช่างยุของเพื่อน ก่อนจะคลี่กระดาษดูว่าชายหนุ่มหน้ามึนเมื่อกี้เขียนอะไร

     go back .config file-->proxy-->''tab'' twice between ''http''-->64th line

     คิ้วเข้มขมวด เขานึกว่าจะเป็นไอดีไลน์หรือไม่ก็เบอร์โทรศัพท์เหมือนทุกๆ ครั้ง เเต่กลับเป็น... เธียรวิชญ์เบิกตากว้างเมื่อเขาเริ่มปะติดปะต่อข้อความบนใบกระดาษได้ มือเขาเริ่มทำงานโดยมีเพื่อนๆ นั่งมองอย่างงงๆ

     ห้านาทีผ่านไป

     "ได้เเล้ว" เธียรวิชญ์พูดเสียงเเผ่ว

     "เฮ้ย มึงทำไงวะเมต?"

     "กูไม่ได้ทำ" ชายหนุ่มตอบ เเล้วเอากระดาษข้อความให้เพื่อนดู

     "ใครวะมึง? พวกเรานั่งคิดทั้งวันยังคิดไม่ออก เเต่นี่มานั่งเเค่สิบนาที เสือกทำได้เฉย" ชยากรบ่นกระปอดกระแปด

     "อ๋ออออออ" บุญทิวาที่นั่งเงียบมาตลอดตบมือดังฉาดเหมือนคิดอะไรออก "คนที่เป็นข่าวกับไอ้ป้องไง เนี่ยๆ" หันจอคอมฯให้เพื่อนดู

     "จริงด้วย มิน่าล่ะมานั่งกับพวกเรา สงสัยหลบไอ้ป้อง เมื่อกี้กูเห็นมันเเว๊บๆ"

     "ข่าวเน่าขนาดนี้ยังมีหน้ามาทำกร่าง คนเขาเกลียดทั่วมหาลัยฯ มีเเต่พวกหน้าเงินอ่ะ ที่คอยเลียเเข้งขา เชอะ"  ปานกมลเเบะปาก "เเต่เดี๋ยวนะ... ฝรั่งเมื่อกี้ไม่ได้อยู่คณะเราหนิ ในเพจมันบอกอยู่อักษร กรี๊ดดดด กูอาย" ก็เด็กอักษรนี่ขึ้นชื่อว่าเรียนหนักเเละอ่านหนังสือเยอะมาก เเต่เจ้าตัวกลับมีความรู้ด้านคอมฯ จนเธอเองที่เป็นเด็กวิศวะเอกคอมฯ เเท้ๆ ยังอาย


******


     กวินทร์เเทบจะบินออกจากห้องเมื่อถึงเวลาเลิกคลาส ตอนนี้เขาปรับตัวเข้ากับการเป็นนักศึกษาได้เเล้ว เเต่ถ้าให้เลือกก็ขออยู่บ้านเล่นกับเจ้าเเฝดดีกว่า

     "กวินทร์!"

     ร่างโปร่งหันไปตามเสียงเรียก นึกว่าใคร เเฟนเก่าเขานั่นเอง

     "มีไร?" น้ำเสียงเรียบ ไม่สื่ออารมณ์ใดๆ ก็คนมันไม่ได้รู้จักมักจี่กันนี่นา

     "โอ๊ตขอคุยด้วยได้ไหม?"

     "ก็คุยดิ" กวินทร์ตอบอย่างสบายๆ เเต่อีกฝ่ายกลับยื่นมือมาจับเเขนเขา

     "คือ.. โอ๊ตอยากคุยแบบส่วนตัวหน่อยน่ะ กวินทร์ว่างไหม? ปะ.." ยังไม่ทันได้พูดจบก็มีเสียงนริศราทักขึ้นมา

     "โอ๊ต!"

     ทำให้สหรัถรีบปล่อยมือจากเเขนร่างโปร่งทันที โดยมีกวินทร์กรอกตากับการกระทำของอีกฝ่าย ส่วนนริศราเองก็รีบปรี่เข้ามากอดเเขนสหรัถเเละเเสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่

     "โอ๊ต มายืนทำอะไรกับมัน?" นริศราเสียงเขียว

     "เอ่อ.. เปล่าครับ เเค่เดินผ่าน"

     "หึหึ" กวินทร์หัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำโกหกของอีกฝ่าย น่าสมเพช

     "ขำอะไรไอ้กวินทร์?!"

     "เปล๊า ก็เเค่ขำเสียงหมาเสียงเเมว" กวินทร์ตอบอย่างยียวน

     "เเกหาว่าฉันเป็นหมาเหรอไอ้กำพร้า! ไอ้วิปริต ออกไปไกลๆ เดี๋ยวเชื้อตุ๊ดมาติดเเฟนฉัน" นริศรานี่ยั่วโมโหง่ายจริงๆ

     "นี่ ถ้ายังหาคำด่าที่มันแอดวานซ์กว่ากำพร้าหรือเหยียดเพศไม่ได้ก็ไม่ต้องเปลืองน้ำลายหรอก มันไม่เจ็บ ขี้เกียจฟัง เเต่ฉันก็เข้าใจนะ ว่าสมองเธอมันคิดได้เเค่นี้"   

     "กะ.. เเก เเก.." หญิงสาวเต้นเร่าๆ พยายามคิดคำด่า โดยมีร่างโปร่งเเกล้งอ้าปาก
พะงาบๆ ล้อเลียน

     นริศราทนไม่ไหว ยกมือทำท่าจะตบใบหน้าที่กำลังลอยไปลอยมาของอีกฝ่าย 

     "เอาดิ! เธอตบมาฉันตบกลับ" เขาไม่ใช่พวกสุภาพบุรุษที่จะมายืนให้ผู้หญิงตบหรอกนะ ความเลวมันไม่เลือกเพศเลือกวัย

     เเต่ก่อนจะทันได้ปะทะคารมกันต่อ ก็มีมือเเกร่งมาจับเข้าที่เเขนกวินทร์เสียก่อน

     "ขอคุยด้วยหน่อย"

     กวินทร์ถอนหายใจ "นี่มันวันอะไรเนี่ย ทำไมมีเเต่คนอยากคุยกับกูวะ" อีกฝ่ายเเค่เลิกคิ้วกับคำบ่น เเต่ไม่ปล่อยมือ

     พอเห็นใบหน้าของคนมาใหม่ นริศราก็อยากเข้าไปตบกวินทร์เสียเดี๋ยวนั้น ไปรู้จักกันตอนไหน? ทำไมเธียรวิชญ์ต้องให้ความสนใจมันขนาดนี้? ที่เธอควงสหรัถทุกวันนี้ก็เเค่ต้องการทำร้ายจิตใจกวินทร์เเละเพราะอีกฝ่ายเป็นดาราหน้าใหม่ที่กำลังมาเเรง เเต่ฐานะครอบครัวของชายหนุ่มถึงจะพูดได้เต็มปากว่ารวยเเต่ก็เทียบไม่ติดเลยกับเธียรวิชญ์หรือหมอธีรไนย

     "สวัสดีจ๊ะเมต รู้จักกันเหรอ" เธอชี้นิ้วไม่ทางกวินทร์ ทำท่าเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้มีปากเสียกัน

     "เปล่า"

     นริศรายิ้มพอใจ "เหรอ... งั้นเราว่าเมตไม่ควรไปไหนมาไหนกับกวินทร์สองต่อสองนะคะ เดี๋ยวคนจะนินทาเอา ขนาดโอ๊ตยังเคยโดนเลย" เธอพูดเหมือนเป็นห่วงเธียรวิชญ์ เเละอ้างชายหนุ่มข้างกายที่กำลังปั้นหน้าไม่ถูก

     "นินทา? ทำไม?"

     "เเหม ใครๆ เขาก็รู้ว่ากวินทร์น่ะ เป็นตุ๊ด อุ้ย เป็นเกย์ เกรซไม่อยากให้เมตโดนเข้าใจผิด" ใครไม่รู้ว่าเธอจงใจพูดผิดก็คงโง่เสียเต็มประดา 

     "เข้าใจผิดว่าอะไรล่ะครับ?" เธียรวิชญ์ถามทั้งที่ยังไม่ปล่อยมือ

     "ก็เข้าใจผิดว่าเมตเป็นคู่ขาไอ้กวินทร์น่ะสิ น่าอายจะตาย" นริศรายิ้มหยัน

     "เหรอ" ชายหนุ่มหันมามองกวินทร์ที่กำลังยืนถอนหายใจ ใบหน้าเเสดงควาาม
รำคาญเต็นทน

     "ถ้าโดนเข้าใจผิดกับคนนี้...ผมไม่ถือ" เธียรวิชญ์ยิ้มมุมปาก เเล้วลากอีกฝ่ายเดินหนีโดยไม่กล่าวขอตัวซักคำ


     "เอาล่ะ นายมีธุระอะไรก็ว่ามา" กวินทร์เอ่ยปากถาม

     "เปล่า เห็นกำลังโดนผู้หญิงตบเลยมาช่วย" ตอบหน้าตาย

     "เหรอ?" น้ำเสียงเหมือนไม่เชื่อ "เเน่ใจนะว่าเเค่นี้?" ถามย้ำ

     อีกฝ่ายพยักหน้ายกยิ้มเล็กน้อย

     กวินทร์พยักหน้าส่งๆ "ถือว่าฉันเชื่อเเล้วกัน ไปล่ะ" พูดจบก็ผละไปขึ้นรถตัวเอง โดยมีสายตาคมมองตามหลัง


******


     กลับมาถึงบ้าน กวินทร์ก็พาหมูน้อยสองตัวไปอาบน้ำ อาบพร้อมกันทั้งสามคนนั่น จะได้ไม่เสียเวลา ยังไงๆ เขาก็ต้องเปียกเพราะมือป้อมๆ ที่คอยตีน้ำให้กระเด็นอยู่ดี ปากเล็กร้องกรี๊ดกร๊าด หนูๆ สนุก เเต่ปะป๊าเปียกเป็นหมาตกน้ำไปเเล้ว

     "น้องปรายอยู่นิ่งๆ เดี๋ยวตกเตียง" กวินทร์ดุลูกสาวเเสนน่ารัก เเต่ยัยหนูก็ไม่เเคร์ เเถมยังมองเขาด้วยสายตาดูถูก อย่างปะป๊าจะทำไรหนูได้

     "ปะๆๆ" ว่าเเล้วก็คลานไปขอบเตียงอีก จนกวินทร์ต้องละมือจากการเปลี่ยนเเพมเพิสให้น้องปลื้มเเล้วรีบไปจับร่างอวบย้ายมาไว้กลางเตียง เเต่ไม่กี่วินาทีก็เอาอีก จนเขาต้องเหยียบชายเสื้อไว้เเทน เเละดูเหมือนน้องปรายจะไม่ชอบใจเป็นอย่างยิ่ง

     "อืออ งื้อ" หนูน้อยพยายามคลานหนี เเต่ก็ไปไม่ได้ ถึงขนาดนั่นก็ยังไม่ลดละความพยายามจนกวินทร์อดขำไม่ได้

     "อ่ะ เสร็จเเล้ว" ร่างโปร่งอุ้มหนูน้อยทั้งสองวางลงพื้นที่มีของเล่นวางอยู่

     "น้องปลื้มกับน้องปรายรอปะป๊าอยู่นี่นะครับ เดี๋ยวปะป๊าลงไปทำหม่ำๆ ให้" ร่างสูงไม่ค่อยกังวลที่จะปล่อยให้เจ้าเเฝดเล่นอยู่ชั้นบนของบ้าน เพราะมีที่กั้นตรงบันไดหนาเเน่น อีกอย่างเขาสอนเด็กๆ ให้ขึ้นลงบันไดจนคล่อง เเต่ก็ยังห่วงอยู่ดีเลยต้องมีที่กั้นอย่างที่เห็น

     หมูน้อยทั้งสองส่งเสียงอ้อเเอ้สื่อสารกันไปมา เเละอยู่ๆ ก็มีเสียงกึกกักปลดล็อคตรงบันได เจ้าเเฝดรีบทิ้งของเล่นในมือ ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเเล้ววิ่งตุตะไปยังที่มาของเสียงเพราะคิดว่าเป็นปะป๊า ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นตา

     ใครกัน? สูงกว่าปะป๊า หน้าดุเหมือนคุณทวดเลย เเต่ไม่เป็นไร น้องปรายชอบคนหล่อ หนูน้อยหัวเราะคิกคัก คลานดุ๊กๆ ไปหยุดที่เท้าร่างสูง ส่วนน้องชายพอเห็นพี่สาวนำหน้าไป ก็คลานตามติดๆ พี่ไปไหนหนูไปด้วย

     น้องปรายชูเเขนหวังให้ร่างสูงอุ้ม "อุม!"

     เเต่คุณลุงกลับนิ่งเฉย น้องปลื้มเลยช่วยอีกเเรก ชูเเขนกำมือเข้าๆ ออกๆ "อื้อออ อุมๆ" 

     ถึงกระนั้นคุณลุงเเปลกหน้าก็ยังนิ่ง เเละมองเจ้าเเฝดทั้งสองอย่างงงๆ จนหนูน้อยต้องงัดไม้ตายมาใช้ ปากเล็กจิ้มลิ้มเริ่มเเบะ ตากลมโตสั่นระริกทั้งพี่ทั้งน้องราวกับนัดกันมา ไม่นานเสียงสะอื้นฮักๆ ก็ดังขึ้น จนคุณลุงเเปลกหน้าถอนหายใจ เเล้วก้มลงอุ้มหมูสองตัวขึ้นมา

     "อะไร เมื่อกี้ยังเเบะปากจะร้องอยู่เลย" ชายหนุ่มเอ่ยปากถามเมื่อเสียงสะอื้นเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะคิกๆ เเย่งกันเล่นเนคไทของคุณลุงเฉย

     "เจ้าหมู ปะป๊ามาละ... อ่าว คุณภูผา"

     ร่างสูงหันไปมองต้นเสียง ที่เป็นหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนในชุดกันเปื้อนลายการ์ตูนหวานเเหวว เเต่เจ้าตัวกลับไม่มีท่าทีเขินอายเลยซักนิด

     "อะไรเนี่ยเจ้าหมู ไปรบกวนอะไรคุณลุง?"

     หนูน้องทั้งสองยิ้มร่าโชว์ฟันที่มีอยู่ไม่กี่ซี่ อีกคนซบไหล่เเกร่ง อีกคนงับเนคไทจนชุ่มไปด้วยน้ำลาย

     "มาหาปะป๊านี่มา" กวินทร์กางเเขนยื่นมือรับเด็กๆ เเต่ทั้งสองเเฝดกลับหันหน้าหนีปะป๊า เเถมซบอกเเน่นๆ ของคุณลุงเเปลกหน้าเฉ๊ย ทำไงได้ ก็เเขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของคุณลุงอุ้มเเล้วสบายก้นนี่เนอะ ไม่เหมือนเเขนเรียวๆ ของปะป๊า

     "วันนี้ปะป๊าทำซุปฟักทองหวานๆ มันๆ ด้วยนะ จิ้มขนมปังอร่อยยยย หม่ำๆ" เอาของกินเข้าล่อ เเต่หนูน้อยก็ยังเกาะคอคุณลุงไว้ไม่ปล่อย อย่าหาว่าฟ้อง ก็ตอนปะป๊าทิ้งพวกหนูไปเรียน คุณย่าทวดป้อนขนมน้องปลื้มกับน้องปรายอิ่มจนพุงกลางเลย

     ไม่ว่ากวินทร์จะทำไงเจ้าเเฝดก็ไม่ยอมปล่อย เเถมเห็นเป็นเรื่องสนุกเข้าใจว่าปะป๊ากำลังเล่นด้วย หัวเราะคิกคักๆ สลับกันโผล่สลับกันซบอกคุณลุง

     จนภูผาต้องเอ่ยปากช่วย "นายนำทางไปสิ เดี๋ยวฉันอุ้มตาม"

     "เอางั้นก็ได้ครับ" กวินทร์รับคำ เห็นของกินเเล้วขี้คร้านจะดิ้นกระแด่วๆ ออกจากวงเเขนเเกร่ง

     เเล้วก็เป็นไปตามคาด พอเห็นถ้วยซุปสีเหลืองข้นเเละมีขนมปังชิ้นเล็กวางจุ่ม เเถมส่งกลิ่นหอมเตะจมูกเล็ก ร่างอวบๆ ป้อมๆ ก็ดิ้นดุ๊กดิ๊กส่งเสียง "หม่ำๆ" จนกวินทร์ช่วยรับเเฝดคนน้องมาหย่อนใส่เก้าอี้เด็กเเทบไม่ทัน

     "คุณภูช่วยติดผ้ากันเปื้อนให้น้องปรายหน่อย" กวินทร์ยื่นผ้ากันเปื้อนให้อีกฝ่ายในขณะที่ตัวเองติดให้น้องปลื้ม

     หยิบช้อนให้คนละคัน "เอ้า ลงมือเลยครับลูกหมู" หนูน้อยปรบมือเเปะๆ ชอบใจ รับช้อนมาเเล้วตักทานเอง เข้าปากบ้าง เลอะบ้าง เเต่กวินทร์อยากให้เด็กๆ ช่วยตัวเองได้เเต่อายุยังน้อย อะไรทำเองได้ก็อยากให้ทำเอง เขาไม่อยากให้เด็กๆ โตมาเป็นลูกคุณหนู

     "โอ๊ะ ลืมไปเลย" กวินทร์อุทานขึ้น "ผมว่าเนคไทคุณถอดออกดีกว่าครับ เดี๋ยวผมซักคืนให้ เลอะเอนไซม์น้องปลื้มขนาดนั้น" พอได้ยินปะป๊าเรียกชื่อตัวเอง เด็กชายก็เงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบซุปเเล้วยิ้มเเฉ่ง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานต่อ

     "ไม่เป็นไร" คนตัวสูงกล่าวเสียงเรียบ

     "ไม่ได้หรอกคุณ ยิ่งปล่อยไว้นานเดี๋ยวเป็บคราบซักไม่ออก มาๆ" ไม่พูดเปล่า มือเรียวก็เอื้อมไปปลดเนคไทภูผาเหมือนบังคับกลายๆ

     ใบหน้าของกวินทร์สูงเท่าอกเขาพอดี มองใกล้ๆ ผิวหน้าขาวละมุนไร้ริ้วรอย ขนตาที่เป็นเเพรยาวสีเข้มตัดผิวขาวละเอียด ปากชมพูอิ่ม ถ้าโดนบดขยี้ให้บวบเจ่อจะน่ามองขนาดไหนนะ ... กำลังคิดอะไรวะภูผา?! ร่างสูงตกใจกับความคิดตัวเอง สงสัยทำงานเยอะจนเบลอ เขาเลยเบนความสนใจไปยังสองเเฝดที่หม่ำซุปจนเเทบจะยกซด เเก้มป่องๆ มือป้อมๆ เลอะเทอะไปหมด ทำเอาเขาอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้


******


     "ผมเพิ่งรู้ว่าเจ้าสัวมีเหลน" ภูผาพูดยิ้มๆ

     "ปู่เองก็เพิ่งรู้ไม่นานมานี่เอง" เจ้าสัวยิ้มขำ

     ร่างสูงเลิกคิ้วไม่เข้าใจ

     "อยู่ๆ ตากวินทร์ก็เดินมาบอกปู่กัยย่าว่าจะเอาลูกของเพื่อนที่เสียเเล้วมาเลี้ยงเพราะเด็กไม่มีญาติ" เจ้าสัวส่ายหัวเล็กน้อย เเต่มีรอยยิ้มเเตะริมฝีปาก   

     "ผมทายว่าเจ้าสัวคงไม่ยอม?"

     "หึหึ ถูก" ชายชราตอบเเล้วยกน้ำชาขึ้นมาจิบ

     "เลี้ยงหลานมาเกือบยี่สิบปี เพิ่งจะมีวันนั้นมั้ง ที่ปู่รู้สึกว่าตากวินทร์โตเป็นผู้ใหญ่เเล้วจริงๆ พอปู่บอกไม่ได้ กวินทร์กลับตอบว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวย้ายออกไปก็ได้ ดูมัน ฮ่าๆ"

     ภูผาอดเเปลกใจไม่น้อยที่กวินทร์จะยอมทิ้งการใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเพื่อรับเลี้ยงลูกของคนอื่น นอกจากว่าเจ้าตัวจะพูดขู่เฉยๆ เเละเหมือนเจ้าสัวจะอ่านความคิดอีกฝ่ายออก

     "ฟังเหมือนคำขู่ของเด็กอมมือใช่ไหม? เเต่น้ำเสียงตากวินทร์ในวันนั้นไม่ใช่การขู่ ไม่ได้อวดดี เหมือนเเค่เป็นการบอกเล่าธรรมดาๆ"

     ภูผาไม่นึกเลยว่ากวินทร์จะมีมุมอย่างนี้ น่าสนใจจริงๆ


     ก๊อก ก๊อก เสียงเคราะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ

     "เข้ามาได้" คุณธาราตอบ

     กวินทร์เปิดประตูเข้ามาอย่างทุลักทุเลเพราะกำลังถือถาดที่มีถ้วยซุปสองถ้วยกับขนมปังสามสี่ชิ้น ซุปฟักทองที่เขาปรุงให้ถูกปากผู้ใหญ่ ส่งกลิ่นหอมของเนยเเละเครื่องเทศชวนน้ำลายสอ

     "ขอโทษที่รบกวนครับ กวินทร์เห็นว่าบ่ายเเก่เเล้ว ปู่ควรมีอะไรรองท้องนะครับ คุณภูผาก็ด้วย เข้าขากับคุณปู่ขนาดนี้คงบ้างานจนลืมทานอาหารบ่อยๆ ล่ะสิท่า" พอเห็นเจ้าสัวทำท่าจะค้าน หลานชายก็รีบพูดดัก "คุณปู่ไม่ต้องเเก้ตัวเลย คุณย่าเล่าให้กวินทร์ฟังหมดเเล้ว"

     ทำเอาภูผากับเจ้าสัวได้เเต่มองตาปริบๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยโดนเด็กที่ไหนกล้ามาดุมาสอนเหมือนเจ้าคนนี้ นิ้วเรียวสวยหยิบถ้วยวางอย่างคล่องเเคล่ว

     "มีน้ำเสาวรสเย็นๆ ด้วยครับ จะได้สดชื่น นี่กวินทร์ทำเองเลยนะ ถ้าไม่ติดว่ารวยอยู่
เเล้วจะทำขายซะเลย ฮ่าๆ" ถ่อมตัวคืออะไร? เจ้าสัวได้เเต่ส่ายหน้าอย่างเอื่อมระอา

     อยู่ป่วนคุณปู่ไม่กี่นาทีโดยมีสายตาสนเท่ห์ของภูผาคอยมอง กวินทร์เลยขอตัวออกไป ร่างสูงมีความรู้สึกว่าการรับกวินทร์เข้ามาฝึกงานอาจจะไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด

     "เอ้า ไหนๆ ก็ยกมาเเล้ว ทานไปด้วยคุยไปด้วยเเล้วกันนะตาภู" คุณธาราเชื้อเชิญเมื่อหลานชายออกไปเเล้ว

     ชายหนุ่มตักซุปเข้มข้นเข้าปากคำเเรก อืม เขายอมรับว่ามันอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว รสชาติหวานมันกำลังพอดี เอาขนมปังมาจิ้มยิ่งอร่อย

     ขนมปังที่ร่างโปร่งนำมาไม่ใช่เเบบนุ่มๆ นิ่มๆ เหมือนที่คนไทยนิยม เเต่เป็นขนมปังซาวร์โดที่มีรสชาติออกเปรี้ยวและมีเนื้อปุย มักนำมาทานกับของคาว เข้ากันได้ดีอย่าบอกใครเชียว


******


     ก่อนกลับบ้าน ไม่รู้อะไรดลใจให้เขามาเเวะมาหยุดอยู่หน้าห้องที่มีเสียงหยอกล้อเเละเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของเด็กน้อยอวบอั๋นสองคน

     พอเห็นคุณลุงเเปลกหน้า เจ้าหนูทั้งสองก็ทิ้งปะป๊าเเล้ววิ่งเตาะเเตะไปกอดขาร่างสูง ก่อนจะเงยหน้ายิ้มเเฉ่ง

     "อะไรเนี่ยเจ้าหมู" กวินทร์เท้าเอวมองภูผาที่ก้มลงอุ้มเด็กๆ เเละเขาสาบานได้เลยว่าคนหน้านิ่งเเอบอมยิ้มเหมือนถือไพ่เหนือกว่า

     "ฉันกำลังจะกลับ เลยเเวะมาลาเด็กๆ" ภูผาทำท่าจะวางเจ้าเเฝดลง เเต่กลับโดนกอดคอไว้เเน่น

     "ผมว่าคุณภูผาเอาเด็กๆ มาวางที่เตียงดีกว่าครับ ซนมาทั้งวัน หัวถึงหมอนเดี๋ยวก็หลับ"

     พอถูกวางลงบนเตียงหมูสองตัวก็กลิ้งไปมา อ้อนเเกมงอเเงให้ปะป๊าเเละคุณลุงมานอนขนาบข้าง หัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ เเต่ไม่นานก็สงบนิ่งให้ปะป๊าจุ๊บเหม่ง ก่อนจะหันไปมองคุณลุงอย่างคาดหวัง จนร่างสูงต้องก้มหน้ามาจุ๊บถึงส่งเสียงพอใจ เเละไม่ถึงนาทีก็หลับสนิทกันทั้งคู่


     คืนนั้นกวินทร์ส่งภูผากลับบ้านพร้อมมะยงชิดลอยแก้วกล่องโต ก็ทำไว้ซะเยอะ เเล้วมะยงชิดก็ได้มาฟรีๆ เพราะไปผูกมิตรกับเด็กเกษตร ตอนกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เพื่อนใหม่อย่างปทิตเลยขนผลไม้มาฝากเขาถุงใหญ่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเเบ่งไปให้อีกฝ่ายเเละเพื่อนๆ เพราะมันอร่อยมากกก เขาเลยอยากอวดฝีมือ! มะยงชิดรสชาติหวานอมเปรี้ยวกับน้ำเชื่อมหวานละมุน มีกลิ่นใบเตยเเละดอกมะลินิดๆ ได้ทั้งรสได้ทั้งกลิ่นเลยทีเดียว


******


     ภายในรถเก๋งคันหรู

     "มีอะไรดีๆ ที่บ้านเจ้าสัวเหรอครับบอส?" 

     "ทำไม?"

     "ตั้งเเต่ออกจากบ้านเจ้าสัวมา ผมก็เห็นบอสยิ้มไม่หุบ เหมือนเวลาไอ้สิงห์กลับ
จากบ้านเเฟนมันเลย"

     "เสือ"

     "ครับ?"

     "หุบปาก เเล้วขับรถ"

     ....







ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่าาา
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 02-01-2018 07:06:29
เรื่มมีใจแล้ว :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 02-01-2018 11:11:21
ไปส่องในเด็กดีมาละก็ตามมาในเล้า ฮาาาาาาา มาเร็วๆนะเค้ารออยู่ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 02-01-2018 11:31:49
สนุกมากเลย ดูแล้วภูผาน่าจะเป็นพระเอกนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: missm2c ที่ 02-01-2018 13:05:58
สนุกอ่าาาา อยากอ่านทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 02-01-2018 18:52:01
 :hao7: :hao7: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 02-01-2018 18:59:47
คุณภูผาาาาา  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 03-01-2018 00:07:19
ลงเยอะๆๆๆๆๆ  สนุกอ่ะ o13
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 03-01-2018 01:32:37
อูยยย อยุ่ๆ ก็อบอุ่นขึ้นมา
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: Nekosama ที่ 03-01-2018 01:38:48
ไม่รุ้จะเชียร์ใครดี หมอก็ท่าทางจะดี ภูผาก็เหมือนจะใช่ เลือกจิ้นไม่ถูกงะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 03-01-2018 08:11:57
อุ๊แหมะ ห่านเสน่ห์ไปทั่วเลยนะสาวิทย์ เดี๋ยวเถอะๆ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-01-2018 11:24:54
มีความเขิลแล้วดุ55555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 03-01-2018 17:12:06
โดนแซวแล้ว ทามมาเปงงงง
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: seii ที่ 03-01-2018 17:47:12
นุ๊งกวินทร์คนน่ารักกก
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 04-01-2018 16:57:05
งื้ออออออ่านเพลินมากกกก

แอบสงสัยอยู่ว่าแล้ววิญญานของน้องกวินทร์ตัวจริงล่ะ?


ขอบคุณที่เอามาลงในเล้านะคะ เพราะคนอ่านบางคนก็ไม่ได้อ่านนิยายในเด็กดี555555555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁ 1/1/18 ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 04-01-2018 21:33:17
ตอนที่ 14 อ้วยมีผัวเเล้ว


     ข่าวคลิปหลุดของลูกชายนายทหารยศสูงเเละกลุ่มเพื่อนมั่วยารุมโทรมขืนใจเด็กสาว น่าจะเป็นเรื่องที่คนให้ความสนใจมากที่สุดในเวลานี้ เขาคิดว่าคนอย่างอนิวัตถ้าไม่เห็นโลงศพก็ไม่มีทางหลั่งน้ำตา

     กวินทร์เลยติดต่อไปยังหญิงสาวที่โดนกระทำ เเละเเน่นอน เขาไม่ได้เปิดเผยตัวเอง เเค่ให้คำเเนะนำว่าเธอควรเเจ้งความเอาเรื่อง ส่วนที่เหลือเขาจะจัดการเอง เเลกกับการที่จะยอมให้เขาปล่อยคลิป เเต่กวินทร์รู้ดีว่าข้อหาพวกนี้ไม่มีทางทำอะไรอนิวัตได้ ฉะนั้นการปล่อยคลิปให้สังคมกดดันคนร้ายจึงเป็นหนทางที่ถือว่าได้ผลดีที่สุด นอกจากจะกดดันหน้าตาทางสังคมของคนร้ายเเล้ว ยังถือว่าเป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ทางอ้อมด้วยเช่นกัน เเค่นี้ก็คงเอาเรื่องอีกฝ่ายได้เเล้ว ถ้า...อนิวัตเป็นลูกคนธรรมดาที่ไม่รวยเเละมียศถาบรรดาศักดิ์น่ะนะ
 
     ก็อย่างที่เขาเคยบอก ในสมัยนี้ไม่ว่าใครก็ตามที่ใช้สมาร์ทโฟนหรือคอมฯในการสื่อสารเเละเก็บข้อมูล คนๆ นั้น ย่อมมีความลับบางอย่างที่ไม่อยากให้ใครรู้

     พลโท อพิเชษฐ พ่อของอนิวัตเองก็ไม่ต่างกัน

     กวินทร์ก็เเค่ขุดเรื่องเน่าๆ ของตาเเก่บ้ากามขึ้นมาแบล็คเมล์อีกฝ่ายเท่านั้นเอง เลือกเอาว่าจะเสียหน้าเพราะรสนิยมที่ชอบโดนผู้หญิงใส่กางเกงทอมกระเเทกประตูหลัง
หรือจะยอมให้ลูกชายไปนอนในคุกเเละจ่ายเงินค่าเสียหาย ชื่อเสียงเเละเกียรติยศที่สร้างมาทั้งชีวิตเชียวนา ท่าน...
     เเละถ้าไม่ตอบอีเมล์ภายใน 2 ชั่วโมง เขาจะถือว่าอีกฝ่ายปฏิเสธข้อเสนอ เเล้วจะปล่อยคลิปทั้งหมด ทำไมต้องให้เวลาเเค่นั้น? นั่นก็เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายมีเวลาคิดนานหรือวางเเผนเเก้ทางเขา ยิ่งเวลาน้อยก็ยิ่งลนลานเเละยอมทำตามข้อเสนอในที่สุด

     เบสิคจิตวิทยา

     สุดท้าย ไม่ว่าจะเพราะกลัวขายหน้าหรือยังมีจิตสํานึกของความเป็นคนอยู่บ้าง พลโท อพิเชษฐ  จึงยอมปล่อยให้เรื่องเป็นไปตามกฎหมายท่ามกลางเสียงชื่นชมของสังคมที่เขาไม่ยอมให้ท้ายคนผิด

     ส่วนคนที่ชักใยอยู่ด้านหลังอย่างกวินทร์ ก็เเค่เอนหลังกับเก้าอี้ ผ่อนคลายเเล้ว enjoy the show โดยที่ไม่มีใครจับมือดมได้ มึงเล่นผิดคนเเล้วว่ะไอ้ป้อง


******


     วันนี้กวินทร์เเละคุณพริ้งมาร่วมงานการกุศลไฮโซอะไรซักอย่างที่กวินทร์ไม่ค่อยใส่ใจอยากจะรู้ เเต่โดนบังคับให้มา ส่วนญาติสาวทั้งสองที่มาด้วยกันก็หน้าระรื่นเป็นปลา
กระดี่ได้น้ำ เเต่งตัวอย่างจัดเต็ม ชุดเดรสเเบรนด์เนมอวดทรวดทรงเเข่งกับเหล่าดาราสาวเเละลูกหลานไฮโซที่มางาน

     กวินทร์เองก็มาในสูทสีดำทั้งตัว ไม่ผูกเนคไทหรือหูกระต่าย รูปร่างเขาสูงเพรียว ผิวขาวผ่องอย่างเป็นธรรมชาติ ผมที่มักถูกปล่อยให้หยิกไปตามธรรมชาติตอนนี้ถูกทาเจลเเละหวีเปิดใบหน้าคมคาย ขับให้ตาสีฟ้าอ่อนของเขาดูเด่นมากขึ้น เเม่บ้านทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคุณหนูหล่อเเละมีเสน่ห์เหลือล้น เเต่พอเจ้าตัวส่องกระจกเเล้วกลับ...

     "นี่มัน เดรโก มัลฟอย ชัดๆ!"


     คู่ย่าหลานเดินควงเเขนกันในงานถือว่าเป็นภาพที่ไม่ค่อยพบเจอบ่อยนัก ส่วนใครที่เล่นโซเชียลมีเดียก็พอที่จะจำร่างโปร่งได้บ้าง 

     อยู่ไม่ถึงชั่วโมง คุณพริ้งก็ขอตัวกลับไปพักผ่อน ส่วนกวินทร์ยังอยู่ต่อ ไหนๆ ก็มาเเล้ว
ดูลาดเลาไว้หน่อยก็ดี งานพวกนี้ส่วนมากมักจะเป็นการมาพบปะของพวกไฮโซเเละนักธุรกิจเสียมากกว่า เเละเป็นการสร้าง connection ไปในตัว ตอนเป็นสาวิทย์ เขาก็มักไปออกงานพวกนี้กับเสี่ยวิชัยบ่อยๆ หน้าที่ก็ไม่มีอะไรมาก เเค่คอยติดตามเงียบๆ


     ร่างโปร่งเดินดูนู่นดูนี่ไปเรื่อย เเละคอยตอบรับคำทักทายของพวกคุณหญิงคุณนายเเละลูกสาวพวกเธอ พอรู้ว่าเขาเป็นหลานเจ้าสัวธารา พวกหล่อนเเทบจะจับลูกสาวใส่พานมาให้ เเต่...ขอโทษนะครับ ลูกพวกคุณมีเนื้องอกผิดที่น่ะ อยากจะบอกอย่างนั้น เเต่ทำได้เเค่ขอตัวอย่างมีมารยาท

     กวินทร์เอ้อระเหยไปเรื่อย จนหันไปสบตากับภูผาที่ยืนอยู่ข้างคุณพงศ์ภีระเเละคุณ
ทิพกา จะไม่เข้าไปทักทายก็กระไรอยู่ เล่นจ้องเขาขนาดนั้น

     จริงๆ เเล้วเขาไม่อยากคุยกับอีกฝ่ายหรอกนะ บังอาจมาเเย่งความรักจากลูกหมูเขาไป! หลังจากวันนั้นเจ้าเเฝดก็ถามหาเเต่ "จุนยุงๆ" ไม่หยุด มันน่านัก!

     "สวัสดีครับ" กวินทร์ยกมือไหว้ทั้งสาม

     "เอ้า หนูกวินทร์ สวัสดีจ๊ะ" คุณทิพกาเอ่ยทักขณะที่สามีเเละลูกชายเเค่ไหว้ตอบ

     "ขอบคุณสำหรับผลไม้เเช่อิ่มนะ ลุงชอบมาก"

     "ไม่เป็นไรครับ เเบ่งกันทาน สมัยนี้มะยงชิดหาทานยาก"

     "หนูกวินทร์ไปหาซื้อจากที่ไหนจ๊ะ เนื้อเเน่นสด ไม่หวานมาก คุณภีระทานไปเยอะเลย" เธอเเอบค้อนสามี

     "กวินทร์ทำเองครับ เพื่อนที่มอกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเลยขนมะยงชิดมาฝาก กลัวมันจะเน่า กวินทร์เลยเอามาทำเเช่อิ่ม"

     "เก่งจริง หนุ่มสาวสมัยนี้ส่วนมากทำอาหารกันไม่ค่อยเป็นเเล้ว" คุณทิพกาชมร่างโปร่งที่ยิ้มรับ ก็เขาไม่ใช่หนุ่มสาวสมัยนี้นี่นา

     "เอ้อ ไม่นึกว่าจะเจอคุณภูผาในงาน ผมเลยไม่ได้เอาเนคไทมาคืน" กวินทร์หันไปบอกร่างสูงที่ยืนฟังเงียบๆ โดยมีคุณเเม่เจ้าตัวเลิกคิ้วอย่างสนอกสนใจ

     "ไม่เป็นไร วันหลังก็ได้"

     "ทำไมเนคไทเเกทำไมไปอยู่ที่นั้นล่ะตาภู? นี่ถ้าหนูกวินทร์เป็นผู้หญิงลุงคงคิดว่าหนุ่มสาวเเอบไปค้างเเรมกัน ฮ่าๆ" คุณพงศ์ภีระพูดอย่างอารมณ์ดี

     "อาทิตย์ที่เเล้วคุณภูผาเเวะไปหาคุณปู่น่ะครับ โดนลูกๆ ของกวินทร์งอเเงให้อุ้ม
เเล้วไปงับเนคไทคุณภูผาเล่นซะจนชุ่มเลย" กวินทร์ยิ้มเเหยๆ

     "อุ้ย? หนูกวินทร์ไปเเอบมีลูกตอนไหนจ๊ะ? ดูอย่างตาภู เข้าเลขสามเเล้วเเฟนก็ยังหาไม่ได้เลย" คุณทิพกาอุทานตกใจเล็กน้อย เเละไม่วายที่จะหันไปเเซะลูกชาย

     "ลูกบุญธรรมครับ เป็นลูกของน้องสาวเพื่อน เเต่ดันเสียชีวิตพร้อมกัน กวินทร์เลยรับเลี้ยงไว้ รักเหมือนเป็นลูกตัวเองเลย" ร่างโปร่งกล่าว น้ำเสียงเเละการพูดฟังดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว

     "ตายจริง เเล้วอายุกี่ขวบจ๊ะ?"

     "อาทิตย์หน้าก็ครบสิบสองเดือนเเล้วครับ เเฝดชายหญิง ซนเป็นที่หนึ่ง"

     "วัยอยากรู้อยากเห็น" คุณพงศ์ภีระเสริม

     "ครับ ทำเอาป่วนกันทั้งบ้าน" พอพูดถึงเด็กๆ ดวงตาสีฟ้าอ่อนทอประกายจนคนมองเคลิ้มตาม

     "อ้อ พูดถึงเจ้าเเฝด ถ้าไม่เป็นการรบกวน วันไหนคุณภูผาว่างๆ เเวะมาหาเด็กๆ บ้างก็ได้นะครับ บ่นหา จุนยุงๆ จนกวินทร์ไม่รู้จะว่าไงเเล้ว" กวินทร์ซ้อนตามองภูผา ที่กำลังยกยิ้มตรงมุมปาก เเหม จะยิ้มกว้างๆ ก็ไม่มีใครว่าหรอกพ่อคุณเอ้ย ร่างโปร่งเเบะปากใส่เล็กน้อย เเต่นอกจากอีกฝ่ายจะไม่ถือสาเเล้วยังยิ้มเหมือนกำลังเยาะเย้ยเขายังไงยังงั้น!

     เเละเหตุการณ์ทั้งหมดก็ตกอยู่ใสสายตาของคู่สามีภรรยาที่เเอบสบตากัน

     "นอกจากน้องพลอย หลานสาวที่บ้านเเล้ว เด็กคนอื่นๆ เวลาเห็นหน้าตาภูมีเเต่จะวิ่งหนีนะคะ" คุณทิพกาพูดอย่างขบขัน กวินทร์หันไปมองชายหนุ่มหน้าขรึม ก็ไม่เเปลกใจหรอก

     "อาทิตย์หน้าวันเสาร์ กวินทร์ว่าจะจัดงานวันเกิดให้เด็กๆ คุณป้าพาน้องพลอยมาด้วยก็ได้นะครับ"

     นัดเเนะกันเรื่องงานวันเกิดพร้อมเเลกเปลี่ยนเบอร์โทร กวินทร์ก็ขอตัวกลับ ไม่ใช่อะไรหรอก เขาเเค่คิดถึงหมูน้อยสองตัวที่บ้านเฉยๆ

     ภูผามองตามหลังร่างโปร่งที่ไม่ว่าจะเดินเหินไปทางไหนก็เหมือนจะเป็นเป้าสายตาตลอดเวลา ใบหน้าคมก้มมองเบอร์โทรอีกฝ่ายบนจอโทรศัพท์มือถือ

     เเละตอนนั้นเอง เขาถึงรู้ตัวว่าได้ให้เบอร์ส่วนตัวกับอีกฝ่ายไป เบอร์ที่มีเเต่ครอบครัวเเละเพื่อนสนิทไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้...


******


     ภูผาปรายตามองร่างเพื่อนรักที่นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาห้องทำงานตน ช่างทำตัวไม่เข้ากับอายุเลยจริงๆ ใบหน้าเพื่อนรักส่ออาการคิดไม่ตก เเละถอนหายใจเป็นพักๆ

     "กูถอนหายใจเป็นร้อยครั้งเเล้ว เเต่มึงจะไม่ถามกูซักคำเลยว่างั้น?" ธนวัตน์เอ่ยถามภูผาที่ทำตัวไม่ยินดียินร้าย

     "นิสัยอย่างมึงทนได้ไม่นานเดี๋ยวก็เล่าเอง"

     ธนวัตน์จิปากอย่างขัดใจ

     "เออ กูยอม! เเม่งเดือนที่ผ่านๆ มากำไรร้านกาเเฟกูลดลงเกือบครึ่ง"

     ภูผาละสายตาจากใบเอกสารเเล้วหันมาฟังคำบ่นอีกฝ่าย

     "มันมีร้านกาเเฟมาเปิดใหม่ ขายถูกมากกก เเละที่สำคัญ เน็ตเเม่งโคตรเเรง"

     "มาเปิดใกล้ๆ กับมึง?"

     "เออดิ! เอาลูกค้ากูไปเกือบหมด โชคดีที่อาหารกับเครื่องดื่มร้านกูอร่อยกว่า ไม่งั้นคงเจ้งไม่เป็นท่า"

     "เเล้วจะทำไง?"

     "ทำไรได้วะ มันมีหลายสาขาด้วย! ถูก เน็ตเร็ว กูอยากรู้จริงๆ มันได้กำไรจากไหนเยอะเเยะมาขยายสาขา" ร้านของธนวัตน์อยู่ละเเวกมหาวิทยาลัยเเละโรงเรียนมัธยม ฉะนั้นลูกค้าส่วนมากจึงเป็นนักเรียนเเละนักศึกษาเสียส่วนใหญ่ เลยไม่เเปลกที่จะเลือกของ
ธรรมดาเเต่ราคาเบากระเป๋า

     ธนวัตน์เปิดร้านกาเเฟเเค่สนุกๆ ไม่ได้หวังกำไรมากมายอยู่เเล้ว ถึงกระนั้นก็ยังอดใจหายไม่ได้ จากร้านกาเเฟที่เคยไปได้สวย ตอนนี้ต้องเรียกว่าไปได้เรื่อยๆ ความจริงเเล้วไม่มีร้านกาเเฟเขาก็อยู่ได้ จะห่วงก็เเต่พนักงานในร้าน พักนี้เศรษฐกิจซบเซา หางานยาก

     "กูเเอบเนียนเข้าไปในร้านเเล้วจิ๊กโบรชัวร์มา มึงดูดิ โคตรถูกเลย" หยิบโบรชัวร์ยับๆจากกระเป๋ากางเกงให้เพื่อนดู

     ก็จริง เมนูเครื่องดื่มเเละเค้กถึงจะดูธรรมดาเเต่ราคาค่อนข้างถูก ทำเลดีขนาดนี้เเถมเน็ตเร็วก็ไม่เเปลกที่จะเเย่งลูกค้าวัยรุ่นจากธนวัตน์ไปได้

     "เเล้วมึงมานี่จะให้ช่วยอะไร?"

     "ช่วยฟังกูบ่น ฮ่าๆๆ"

     ภูผารู้สึกคันมือยิกๆ อยากจะปาเม้าส์ในมือใส่ใบหน้าที่กำลังหัวเราะร่าของเพื่อนรักเสียจริงๆ  ก้มมองโบรชัวร์อีกครั้ง ตาคมสะดุดเข้ากับชื่อเจ้าของกิจการ

     วิเชียร ภูสิทธ์อุดม ... นามสกุลคุ้นๆ


******


     ร้านกาเเฟ Baresso เป็นร้านที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย เครื่องดื่มราคาถูก เเละที่สำคัญเน็ตเร็วมาก ร้านเลยเต็มไปด้วยพวกนักศึกษาที่มานั่งทำรายงานเเละส่องหนุ่มหล่อสาวสวย

     กวินทร์กับเพื่อนๆ เองก็ชอบมานั่งทำรายงานที่ร้านนี้เหมือนกัน คุยไปเเอบโหลดอนิเมะไป 10GB โหลดไม่ถึงชั่วโมง เเทบจะเป็นร้านเดียวเลยก็ว่าได้ที่มี fiber connection ความเร็วระดับ gigabit ซึ่งถือว่าดีมากเลยล่ะ ดีจนมันไปสะกิดต่อมบางอย่างของเขา ต่อมที่บอกว่า ของดีที่ไร้ข้อเเม้มันไม่มีอยู่จริง! เเต่เพราะไม่อยากหางานให้ล้นมือ เขาเลยปล่อยมันไป

     กวินทร์นั่งคุยกับกลุ่มเพื่อนอย่างผ่อนคลาย เเละอยู่ดีๆ พนักงานเสิร์ฟก็ยกเครื่องดื่มผลไม้ปั่นสีชมพูสดมาวางตรงหน้าสาวหมวย จีรวรรณ

     "เอ่อ หนูไม่ได้สั่งนะคะ"

     "ผู้ชายคนนู้นฝากมาครับ"

     ทั้งห้าหันไปมอง อ๋อ.. กลุ่มของเธียรวิชญ์นั้นเอง เเละมีชยากรกำลังเก๊กหล่อชูมือทักอย่างที่เจ้าตัวคิดว่าเท่สุดๆ มาให้สาวหมวย

     "ขอนั่งด้วยนะที่อื่นเต็มอ่ะ" บุญทิวาหนุ่มเนิร์ดร่างเล็กเอ่ยปากขอ

     "ได้ๆ"

     "เมย์ชอบน้ำปั่นที่ฮ่องเต้สั่งให้ไหมจ๊ะ?" ไม่ต้องเสียเวลา เริ่มต้นจีบเลย

     "ก็...อร่อยดีนะ" สาวเจ้าเเสดงอาการเขินนิดๆ ใครจะคิดล่ะว่าผู้หญิงขี้อายอย่างถ่องเเท้จะชอบผู้ชายโหวกเหวกบ๊องๆ เเต่ว่าดูไปดูมา มันก็เข้ากันได้อย่างเเปลกๆ เเฮะ

     "ฝรั่ง เปลี่ยนที่กันดิ๊ กูจะนั่งใกล้ๆ สุดที่รัก รักที่สุด" ท่อนเเรกทำเป็นสั่งเขา
ท่อนสุดท้ายล่ะน้ำเสียงหวานหยดเชียว ทำเอากวินทร์อดหมั่นใส้ไม่ได้ 

     "จะอ้วก"

     "อะไรกัน ได้กับไอ้เมตไม่นานท้องเเล้วเหรอ? ฮ่าๆ" ชยากรเเหย่

     "เป็นฮ่องเต้ดดีๆ ไม่ชอบ อยากเป็นห้องส้วมเหรอจ๊ะ?" กวินทร์ข่ม เเล้วลุกขึ้นไปนั่ง
เเหมะลงบนตักของเธียรวิชญ์เเทน พร้อมกอดคออีกฝ่ายเอาไว้

     "ตัวเองดูสิ ไอ้ห้องส้วมมันเเกล้งเค้า" ความสะดีดสะดิ้งมาเต็ม ทำเอาทั้งโต๊ะฮาพรืดไปตามๆ กัน

     ส่วนสุดหล่อประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์เองก็ใช่น้อยเสียที่ไหน วงเเขนเเกร่งโอบเอวร่างโปร่งเข้าหาตัว "ไม่เป็นไรครับ  เดี๋ยวผัวจะจัดการมันให้" ตลกหน้าตาย ปล่อยทีสามช่ายังอาย

     "ขอให้ได้เสียกันจริงๆ เถอะ ส๊าธุ!" ณัชชายกมือท้วมหัว

     ร่างโปร่งเเค่ยิ้มรับ รูปร่างหน้าตาของเธียรวิชญ์จัดอยู่ในสเป๊กเขาเลยล่ะ ร่างกายสูงใหญ่ไหล่กว้าง ผิวสีเเทน หน้าตาคมเข้มเเบบไทยๆ เเต่ปัญหาคือ เขาไม่ชอบเด็ก! อีกอย่าง เขาดีรู้ว่าเธียรวิชญ์ไม่ได้ชอบตนในเชิงชู้สาว กวินทร์ชายตามองหนุ่มเเว่นร่างเล็กที่กำลังเคี้ยววาฟเฟิลจนเเก้มตุ่ย ไม่รู้ตัวกันทั้งคู่ วัยรุ่นสมัยนี้ความรู้สึกช้าเสียจริงๆ 

     "ไอ้โซ่ๆ!" กวินทร์ตะโกนเรียกปทิต เพื่อนต่างคณะหนุ่มอีสานร่างสูงล่ำบึ๊ก ปทิตไม่ได้หล่อสะดุดตา เเต่มองนานๆ เเล้วกลับดูมีเสน่ห์ในตัว เเม้ว่าจะดูดีเเละเป็นถึงเดือนคณะเกษตรก็ใช่ว่าจะมีสาวๆ มาจีบ เพราะมันเล่นด่าตะเพิดพวกผู้หญิงที่มาจีบ จนไม่มีสาวไหนในมหาวิทยาลัยกล้าเข้าหาอีก

     ปทิตบอกว่าชอบผู้หญิงที่เป็นกุลสตรี ขี้อาย เเม่ศรีเรือน งั้นมึงก็ไปหาเอารุ่นป้าเถอะ!

     "ไรกวินทร์"

     "กูฝากซีดีให้น้องมึงหน่อย"

     "ห๊ะ?! อย่าบอกนะว่ามึงบ้าจี้รับรักไอ้ขวัญมันจริงๆ?"

     "เหอะน่า รับไปเร็วๆ อยากรู้ก็ไปฟังพร้อมน้องมึงเเล้วกัน"

     "เออ เคๆ" ปทิตรับซีดีไปอย่างงงๆ ก่อนจะผละออกไปเมื่อเพื่อนเรียกตาม

     "ซีดีไรวะกวินทร์?" ศราวุธเอ่ยถาม

     "วันก่อนน้องสาวไอ้โซ่ไรท์เพลง เเฟน ของวง LIPTA มาให้" ร่างโปร่งตอบยิ้มๆ

     ปทิตเกลียดสาวใจกล้าที่เข้าจีบผู้ชายก่อนอย่างไหน จอมขวัญ น้องสาวมันก็เป็นอย่างนั้น เวลาเธอเเวะมา"อ่อย"เขา พี่ชายก็จะโผล่มาขัดเหมือนมีพรายกระซิบ

     "เเล้วเเกเอาเพลงไรให้น้องอ่ะ" ณัชชาอยากรู้

     "ไม่บอกกกก" กวินทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์


     "สวัสดีค่ะคุณวิเชียร" พนักงานเสิร์ฟสาวที่กำลังทำหน้าที่อยู่โต๊ะใกล้ๆ กล่าวทักทายชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในร้าน

     กวินทร์เหลือบตาขึ้นคนที่เข้ามา ตาสวยเปิดกว้างเมื่อเห็นหน้าชายคนนั้น เเต่เขารีบเก็บอาการได้ทัน เเละโชคดีไม่มีใครสังเกตเห็น

     ลูกชายเสี่ยวิชัยมาทำอะไรที่นี่? เเล้วทำไมทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของร้าน?

     มือเรียวหยิบมือถือขึ้นมา เเล้วเซิร์ชข้อมูลของร้านกาเเฟ Baresso

     ร้าน Baresso มีสามสาขา เเละกำลังจะเปิดเพิ่มอีกสอง ถือว่าเป็นกิจการที่เติบโตเร็วมาก

     เลื่อนลงไปเรื่อยๆ ก็เจอภาพถ่ายเจ้าของร้าน ที่กำลังยืนอยู่หน้าร้านพร้อมพนักงาน
เเละเจ้าของร้านคนนั้นก็คือ นายวิเชียร ภูสิทธ์อุดม ลูกชายคนโตของเสี่ยวิชัย ถ้าเปรียบลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น พ่อลูกคู่นี้เองก็คงเป็นเช่นนั้น

     เขาว่าจะไม่ยุ่งกับร้านกาเเฟเเล้วเเท้ๆ เเต่เมื่อมันเป็นอย่างนี้เเล้ว จะไม่ยุ่งก็ไม่ได้ คนอย่างวิเชียรไม่มีทางจ่ายค่าเน็ตเเพงๆ ให้ลูกค้าได้ใข้อย่างสบายๆ หรือเเม้กระทั้งเครื่องดื่มราคาย่อมเยา นอกจากจะมีจุดประสงค์อื่นเเอบเเฝง

     เอาเถอะ ไหนๆ เรื่องอนุวัตก็จบเเล้ว รายต่อไปก็เป็นมึงเเล้วกันนะ ไอ้วิเชียร


******


     คืนนั้นที่อพาร์ทเม้นท์เเถวมหาวิทยาลัยX

     ขณะที่พี่ชายกำลังอาบน้ำ จอมขวัญก็เอาซีดีที่กวินทร์ฝากมาให้เธอยัดเข้าเครื่องเล่นซีดี เเล้วยิ้มระรื่น ตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ พี่กวินทร์จะส่งเพลงอะไรมาให้เธอน้าาา
 
     สิเฮ็ดจั่งได๋ละน้อน้อง เข้าใจอยู่ว่าฮักหลาย
     จะให้ทำไงเล่าน้อง ก็เข้าใจว่ารักมาก
     แต่สิให้เฮ็ดจั่งได๋ กะอ้ายมี น้อผัวแล้ว
     เเต่จะทำไงได้ ก็พี่นั้นมีสามีเเล้ว

     "กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ฮื่ออออออ ฮื่อๆ"

     "เฮ้ยยย ขวัญ! เป็นหยัง? (เป็นไร)" ปทิตวิ่งหน้าตื่นออกจากห้องน้ำ เอาผ้าโสร่งพันเอวพร้อมฟองเเชมพูเต็มหัวที่ยังไม่ทันได้ล้างออก

     เจอน้องสาวตัวดีกำลังดิ้นปักๆ อยู่บนพื้น เเละร้องไห้โวยวายเเต่ไร้น้ำตา มันเศร้าจริงเปล่าวะ?

     "ไห่เฮ็ดหยัง? (ร้องทำไม)" เท้าเอวถาม

     "อึก เพลง อะ.. อ้ายกวินทร์ ฮื่ออออออออ" ทั้งพูดทั้งสะอื้น เเล้วชี้มือไปยังเครื่องเล่นซีดีที่เล่นเพลงมาถึงท่อนฮุกพอดี

     บ่ฮู้สิเฮ็ดจั่งได๋ ฮู้แต่ว่าหัวใจอ้ายบ่มักแม่หญิง
     ไม่รู้จะทำอย่างไร รู้เเต่ว่าหัวใจพี่ไม่ชอบผู้หญิง
     ...
     บ่ต้องห่วงอ้าย เพราะผู้ชายกำลังเลี้ยงดู
     ไม่ต้องห่วงพี่เพราะผู้ชายกำลังเลี้ยงดู

     "กร๊ากกกกกก ฮ่าๆๆๆๆ โอ้ยยย บักกวินทร์มีผัวเเล้ว ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้าาา" ปทิตหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจคนเศร้า ที่แผดเสียงร้องหนักกว่าเดิมเมื่อโดนล้อ


     "อร๊ายยยยย ฮื่ออออออออ!!!!"

.
.
.
.



ปล. เพลง "อ้ายมีผัวเเล้ว" ไปหาฟังในยูทูปได้ ฮามาก 5555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 04-01-2018 21:38:38
สงสารจอมขวัญ 555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-01-2018 21:54:43
กวินทร์ ฮามาก กับเพลง "อ้ายมีผัวแล้ว"
เข้าใจเลือกเพลงนะบอกตรงๆไปเลย  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 04-01-2018 22:00:03
 :3123:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 04-01-2018 22:08:54
ลั่น
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 04-01-2018 22:16:55
กวินทร์เป็นคนตลก :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 04-01-2018 22:41:01
ผัวที่ชื่อ  ภูผา  ใช่มั้ย  กวินทร์     :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 04-01-2018 22:42:18
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 04-01-2018 23:01:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 04-01-2018 23:43:14
บอกให้รู้ไว้...ว่า'อ้ายมีผัวแล้ว'กร้ากกกกกกก
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 04-01-2018 23:58:27
พ่อพระเอกของเราทำไมออกมาน้อยนิดเยี่ยงนี้เล่าเจ้าคะ


ปล.สงสาารน้องจอมขวัญ 555555555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 05-01-2018 02:01:06
โคตรสนุก
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 05-01-2018 02:28:48
ชอบเรื่องนี้ อ่านแล้วไม่เครียด  :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 05-01-2018 06:32:08
ขอบคุณมากๆ สนุกมากค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 05-01-2018 07:37:23
สนุกสุดๆๆคะ อ่านหลายรอบเลย
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ~@GusbellS@~ ที่ 05-01-2018 14:27:19
มาต่อบ่อยๆ นะครับ ชอบมากเลยครับ น่ารักดี
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-01-2018 17:22:24
 :katai2-1: :laugh: :katai2-1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 14 อ้ายมีผัวเเล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 05-01-2018 19:07:53
โอ๊ย ขำ 555 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁4/1/18 ตอนที่ 15 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 05-01-2018 20:41:29
ตอนที่ 15 TOR


     วันนี้เป็นวันเกิดของเด็กๆ กวินทร์เเละพวกเเม่บ้านเตรียมอาหารไว้เยอะเเยะมากมาย ส่วนเค้กก็สั่งเค้กสตรอว์เบอร์รี่จากร้านเบเกอรี่ ส่วนอาหารก็จะเป็นพวกของว่างเสียมากกว่า เช่นเต้าหู้อาเงะดาชิ อาหารญี่ปุ่นที่นำเอาเต้าหู้ไปชุบเเป้งทอดกรอบ ทอดในน้ำมันร้อนๆ ให้เหลืองเล็กน้อย เวลาทานก็ตักใส่ถ้วยเล็กๆ ราดน้ำซุปที่มีรสหวานอมเค็ม โรยหน้าด้วยคะสึโอะบุชิหรือปลาเเห้งนั่นเอง

     อีกเมนูคือเนื้อห่อหน่อไม้ฝรั่ง เอาเนื้อเเผ่นบางไปพันรอบๆ หน่อไม้ฝรั่ง นำไปคลุก
เเป้งมันสำปะหลัง ทอดในน้ำมันเล็กน้อย พอเนื้อเริ่มสุก เทน้ำซอสเทอริยากิลงคลุก ปล่อยให้เนื้อซึมซับซอสเข้าไปซักพักก่อนจะตักขึ้น โรยงาขาวลงไปเล็กน้อย รสชาติอร่อยเด็ด เนื้อนุ่มๆ กับหน่อไม้ฝรั่งกรุบๆ เหมาะกับการทานเล่น นอกจากนี้ยังมีพาสต้าสลัดที่ปรุงรสกลางๆ ไว้ทานคู่กับพวกบาร์บีคิวที่มีทั้ง เนื้อ ไก่ หมู ของทะเลจำพวกกุ้งเเละปลา ราดด้วยน้ำซอสสองสามชนิดที่เขาทำเอาไว้ เด็กๆ เองก็สามารถทานได้ ส่วนของเเก้เลี่ยนก็มียำวุ้นเส้นเเละยำมะม่วงเข้ามาเสริม


     งานนี้เด็กๆ ที่มาก็มีเเค่น้องพลอยเเละญาติเด็กตัวเล็กของเพื่อนเขาสองคน เมนูสำหรับพวกเด็กๆ มียากิโซบะใส่กุ้ง ที่กวินทร์หั่นผักให้เป็นชิ้นเล็กๆ ลงไปผัดด้วย ปรุงรสชาติให้หวานเล็กน้อย อีกเมนูก็คือมันหวานเเละเเครอทหั่นเป็นเเท่งๆ เหมือนเฟรนช์ฟราย คลุกกับน้ำมันมะกอก โรยเกลือพริกไทยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปอบจนกรอบนอกนุ่มใน รสชาติหวานอยู่เเล้ว ไม่ต้องจิ้มอะไร เจ้าเเฝดชอบมาก

     นอกจากนั้นก็มีของหวานเล็กๆ น้อยๆ เช่นวุ้นผลไม้ เเละไอศครีมที่เขาทำเอง โดยการนำเอากล้วยกับผลไม้ที่ชอบไปฟรีซจนเเข็ง จากนั้นก็ปั่นให้เนื้อเนียนละเอียด ไม่ต้องเติมน้ำตาลหรือครีม จะโรยด้วยช็อกโกแลตหรือน้ำผึ้งก็ได้ เป็นเมนูของหวานแคลอรี่ต่ำที่กำลังฮิตในบ้าน


******


     เเขกมาถึงงานกันหมดเเล้ว เพื่อนกวินทร์ที่มาก็มีเเค่ณัชชาเเละจีรวรรณกับหลานชายสองคนของณัชชา เสียดายกวินทร์บอกเพื่อนๆ ช้าไปหน่อย คนอื่นเลยไม่ว่างกัน

     นอกจากสองสาวก็มีคุณทิพกา เเพรพิไลเเละน้องพลอย คุณลุงของเจ้าเเฝดติดงาน มาไม่ได้

     ส่วนญาติๆ เขาน่ะเหรอ? กวินทร์เเค่เชิญพอเป็นพิธี เเละไม่ได้บอกด้วยว่าคุณทิพกาจะมา เลยไม่มีใครโผล่หรือเเม้เเต่จะเเจ้งให้เขารู้ว่าจะไม่มา ยกเว้นสิรดา ลูกสาวคนเล็กของป้าสะใภ้ ที่โทรมาบอกว่าต้องไปติวกับเพื่อน กวินทร์ล่ะไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเขาเรียนเเพทย์เหมือนหญิงสาวเขาจะทำอย่างไร?!


     เด็กๆ กำลังวิ่งเล่นกัน โดยมีเพื่อนเขาคอยทำหน้าที่พี่เลี้ยง ส่วนเจ้าสัวเเละคุณพริ้งกำลังคุยกับคุณทิพกา

     "ไม่ได้เจอน้องกวินทร์นาน เเปลงโฉมซะพี่จำไม่ได้เลยนะคะ" เเพรพิไลเเซวร่างโปร่งอย่างเป็นมิตร เธอรู้สึกถูกใจชายหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ ยิ่งรู้ว่าเจ้าตัวรับเด็กมาเลี้ยงถึงสองคน เธอยิ่งชื่นชม เพราะคนเป็นเเม่ย่อมรู้ดีว่าเลี้ยงเด็กนั้นยากเเค่ไหน

     "ฮ่าๆๆ ไว้ผมยาวเเล้วมันรกหูรกตาน่ะครับ เลยไปตัดออก"

     "เข้าใจเลือกทรงมากค่ะ ถ้าน้องกวินทร์สนใจเข้าวงการบันเทิง บอกพี่ได้เลยนะคะ
หน้าอย่างงี้หายยากในบ้านเรา"

     "ไม่เอาดีกว่าครับ เเค่เลี้ยงเด็กๆ ก็ไม่มีเวลาเเล้ว"

     "ถ้าเปลี่ยนใจบอกพี่ เดี๋ยวจัดให้"

     "ครับๆ" กวินทร์ตอบรับยิ้มๆ

     "ป๊ะ หม่ำๆ" สองเเฝดวิ่งมาหาร่างโปร่ง สงสัยเล่นซนจนหิว ตัวป้อมๆ พยายามเเย่งกันปีนขึ้นตักเขา โดยมีพี่ชายวัยสี่กับสามขวบคอยดันก้น ดูน่ารักน่าเอ็นดูจนณัชชาต้องหยิบมือถือมาถ่าย

     "เด็กๆ มาทานข้าวก่อนครับ"

     หลานชายของณัชชาทานง่ายไม่อิดออด เเต่น้องพลอยนี่สิ พอเห็นผักใบเขียวเเซมอยู่ในยากิโซบะ เด็กน้อยก็ย่นจมูกใส่ทันที ส่วนเมนูอื่นๆ ก็ไม่ทาน คุณเเม่พยายามตะล่อม เเต่หนูน้อยก็ไม่ยอมท่าเดียว มีเเต่ร้องจะกินของหวาน

     "น้องพลอยไม่ทานเหรอครับ? อร่อยน้าา" กวินทร์ชวนหนูน้อยที่กำลังกอดอกหน้าบึ้ง เพราะคุณเเม่ไม่ยอมให้ทานวุ้นผลไม้

     "น้องพลอยมะฉอบปัก" 

     "ทำไมครับ?"

     "ไม่ย่อย"

     "เอ้า เเล้วน้องพลอยรู้ได้ไงว่าไม่อร่อย?"

     กวินทร์ยิ้มอย่างรู้ทันเมื่อเห็นเด็กหญิงทำท่าคิดหนัก

     "พี่กวินทร์ทำเองเลยนะครับ ถ้าน้องพลอยไม่ลองชิมพี่คงเสียใจ" กวินทร์พูดด้วยน้ำเสียงหงอยๆ เเละทำเนียนเเทนตัวเองว่าพี่ ปั้นหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจดวงน้อยกระตุกเลยทีเดียว

     "หม่ำ ย่อยๆ" น้องปรายเคี้ยวยากิโซบะจนเเก้มตุ่ย มือขวาถือส้อมที่ปะป๊าม้วนเส้นไว้ให้ มือซ้ายก็ถือเเท่งมันหวานอบ เเต่ก็ยังมีเวลามาพูดอีกน้อ

     "เห็นไหมครับ น้องปรายยังบอกว่าอร่อยเลย" กวินทร์พูดพร้อมยื่นส้อมให้เด็กหญิง
ที่ค่อยๆ รับไปอย่างไม่เเน่ใจ

     "อั้น น้องพลอยจาชิมนิ้ดดดนุง"

     "ครับๆ นิ้ดดดดหนึ่งก็ได้"

     จากนิดหนึ่งก็เพิ่มเป็นอีกนิดหน่อย ทีละคำๆ จนน้องพลอยเริ่มทานอย่างเอร็ดอร่อยไม่น้อยหน้าเจ้าเเฝด ไม่เกี่ยงเเม้กระทั้งผักสีเขียวชิ้นเล็กในยากิโซบะ ทำเอาคุณเเม่เเละคุณยายปลื้มยิ่งนัก

     "ปกติน้องพลอยไม่ทานผักเลย ใครกล่อมก็ไม่ฟัง" เเพรพิไลกล่าว

     "เด็กๆ ก็อย่างงี้เเหละครับ พอเห็นเด็กรุ่นเดียวกันทาน ก็อยากลองดูบ้าง"

     "ถ้ากลับบ้านไปไม่ยอมทานเหมือนอยู่นี่ สงสัยพี่ต้องโทรตามกวินทร์กับน้องปลื้มน้องปรายเเน่ๆ เลย"

     "ได้เลยครับ" กวินทร์ตอบรับขำๆ

     ทานอาหารเสร็จ พวกผู้ใหญ่ก็จับเด็กๆ ไปล้างไม้ล้างมือ เพราะปล่อยให้ทานเองตามสไตล์เจ้าบ้าน หลังจากนั้นก็ถึงเวลาร้องเพลงแฮปปีเบิร์ดเดย์โดยมีเสียงเพี้ยนๆ ของเด็กๆ ทั้งสามคอยเสริม

     "เเอพปี้บ้าดดดดเท
     เเอพปี้บาดเททท
     เเอพปี้บ้าดเท ทูจูววว"

     ครับ เอาที่สบายใจเลยหนูๆ

     นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมความเพี้ยนด้วยเสียงปรบมือที่ไม่เข้าจังหวะเอาเสียเลยของเจ้าเเฝด เดี๋ยวช้า เดี๋ยวรัว ตามอารมณ์ล้วนๆ

     กวินทร์เอาเทียนมาปักคัพเค้กสองก้อน ให้เจ้าเเฝดคนละก้อน "เอาล่ะ เจ้าเเฝดมาเป่าเค้กมา"

     สองเเฝดไม่เข้าใจ มีเเต่เอื้อมมือป้อมๆ หมายจะคว้าเอาเค้กสีสวย

     "ไม่จับครับ เป่าปู้ดๆ"

     "ปู้ดๆ" น้องพลอยทำปากจู๋ช่วยอธิบาย

     เจ้าเเฝดทำหน้างงๆ เเต่พอเห็นท่า"ปู้ดๆ"ของน้องพลอยก็หัวเราะคิกคักเเละพยายามเรียนเเบบ

     "ปู้ๆๆ" น่ารักน่าชังจนสาวๆ หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายคลิป

     น้องปลื้มกับน้องปรายเป่าปู้ๆ อยู่หลายครั้ง เเต่นอกจากจะไม่มีลมซักเเอะเเล้ว ยังมีเเต่น้ำลายหยดติ๋งๆ ถึงกระนั้นเจ้าเเฝดก็ยังไม่ย่อท้อ สีหน้าจริงจังเเถมยืดตัวจนจะตกเก้าอี้อยู่รอมร่อ

     เเต่จนเเล้วจนรอดเทียนก็ไม่มีทีท่าว่าจะดับ ทำเอาสองเเฝดเริ่มเเสดงอาการฮึดฮัดขัดอกขัดใจ

     "เอ้าๆ ไหนลองใช้หลอดเป่าสิครับ" กวินทร์ปิ๊งไอเดีย

     ปู๊ดเดียวดับ หนูน้อยดีอกดีใจ ปรบมือเเปะๆ เงยหน้ายิ้มเเฉ่งให้ร่างโปร่ง ปะป๊ะหนูฉลาดที่สุดเล้ย

     ทานเค้กเเละปล่อยให้เด็กๆ เล่นกันนิดหน่อยเเขกก็ลากลับบ้าน เพราะถึงเวลางีบของพวกหนูๆ เขาล่ะ กวินทร์เเลกเฟซบุ๊คเเละไลน์กับเเพรพิไลเสร็จสรรพ เอาไว้เม้าท์กันเรื่องลูกลิง ส่วนเจ้าเเฝดพอทุกคนกลับได้ไม่นานก็สลบนอนกองก้นตุ้บป่องสบายกว่าใคร นอนช่วงเย็นๆ อย่างนี้ สามทุ่มคงไม่ยอมนอนเเน่ๆ เลย เเค่คิดกวินทร์ก็เหนื่อยเเล้ว!


******


     ตอนนี้เวลาจะสามทุ่มเเล้ว เเต่เจ้าเเฝดยังไม่นอน เเถมคึกคักสุดๆ วันนี้ได้ของเล่นใหม่เยอะ เห่อยิ่งกว่าอะไรดี กวินทร์บอกทุกคนให้ซื้อของเหมือนกันสองชิ้น เพราะถ้าได้คนละเเบบเดี๋ยวเเย่งกันเล่น

     ในขณะที่กวินทร์กำลังปล่อยให้เจ้าเเฝดวิ่งเล่นเจี๊ยวจ๊าวกันที่ห้องโถน เสียงริงโทนเพลงประจำตัวของ ดาร์ธ เวเดอร์ ก็ดังขึ้น เท่ระเบิด เวลาดังข้างนอกรู้สึกไม่อยากรับเลย อยากปล่อยให้มันดังไปเรื่อยๆ

     "ฮัลโละ- น้องปลื้มอย่าเคาะโต๊ะ คุณทวดกำลังหลับ" พูดฮัลโหลยังไม่ทันจบคำ เเฝดเบอร์หนึ่งก็สร้างเรื่องเเล้ว

     "ยังไม่นอนเหรอ?"

     กวินทร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาจำเสียงได้ เเต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโทรมา เลยมองหน้าจอเพื่อความชัวร์เเละปรากฏชื่อภูผาตามคาด

     "เอ่อ สวัสดีครับคุณภูผา เจ้าเเฝดยังไม่นอนเลย วันนี้คึกมาก"

     "ฉันอยู่หน้าบ้าน"

     กวินทร์ชะโมงหน้าไปมองประตูรั้ว  มีรถคันหรูของภูผาจอดเทียบประตูเหล็กอยู่ โชคดีประตูเป็นเเบบอัตโนมัติที่สามารถใช้รีโมทเปิดได้จากในบ้าน ไม่งั้นคงเเย่ เพราะพวกเเม่บ้านพ่อบ้านเข้าไปพักผ่อนที่เรือนเล็กหมดเเล้ว จะเรียกให้มาเปิดประตูก็กระไรอยู่ ดูเหมือนภูผาเเละพยัฆค์กำลังเเบกกล่องอะไรซักอย่างมาด้วย

     "น้องปลื้มน้องปราย ดูซิ ใครมาเอ่ย" 

     เจ้าหนูเงยหน้าขึ้น พอเห็นภูผาก้าวเท้าเข้ามา เด็กๆ ก็ร้องกรี๊ดกร๊าด เเล้วโยนของเล่นในมือทิ้งอย่างไม่ใยดี ก่อนจะวิ่งตุตะไปหา

     "จุนยุง อุมๆ" เเหนะ อะไรจะอยากให้อุ้มขนาดนั้น กวินทร์คิดในใจ

     "เจ้าเเฝด สวัสดีคุณลุงก่อนเร็ว" กวินทร์ทำท่ายกมือไหว้ให้ดู  ซึ่งหนูq ก็ทำตามอย่างเเข็งขัน ก้มหัวจนเเทบจะติดพื้น มีสัมมาคารวะมากครับลูก

     ไหว้เสร็จก็ไม่รีรอ รีบวิ่งไปหาคุณลุงทันที ส่วนภูผาก็วางกล่องลงเเละอ้าเเขนรับ เจ้าหนูหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ เเถมหอมเเก้มร่างสูงฟอดใหญ่ เจอกันเเค่ครั้งเดียว เเต่ทำอย่างกับคุณลุงเป็นพ่ออีกคน ชริ

     "ฉันเอาของขวัญมาให้เด็กๆ" ภูผาบอก ส่วนเจ้าเเฝดก็โม้ใหญ่ ส่งเสียงพูดคุยภาษา
เอเลี่ยนปนมนุษย์ใส่คุณลุงของพวกเขา

     "เย่นๆ" น้องปลื้มพูดกับภูผาเเละชี้ไม้ชี้มือไปยังกองของเล่นใหม่

     "ของขวัญใหม่เหรอ?"

     เเฝดเบอร์หนึ่งพยักหน้าหงึกๆ เบอร์สองส่ายหน้าดิ้กๆ ตกลงยังไงกันเเน่ครับเจ้าเเฝด? ร่างสูงหัวเราะหึหึ ก่อนจะวางเด็กๆ ลงพื้น พอเท้าเเตะพื้นปุ๊บสองเเสบก็เดินไปดูกล่องปริศนาปั๊บ จับๆ เเตะๆ เเล้วชี้ให้ปะป๊าดู "ปะๆ"

     "เดี๋ยวฉันกับเสือจะประกอบให้ นายอยากวางตรงไหน?"

     "มุมนี้ก็ได้ครับ" เอาไว้ห้องโถงดีที่สุดเเล้ว ขืนยกขึ้นห้องนอนมีหวังไม่ยอมนอนเเน่ ของที่ภูผาซื้อมาเป็นรั้วกั้นเด็กขนาดย่อมๆ ส่วนอีกกล่องมีลูกบอลเล็กๆ เท่ากำปั้นเจ้าเเฝดหลายร้อยลูก จากในรูปเหมือนจะเอาบอลใส่ในคอกเเล้วให้เด็กๆ เข้าไปเล่น ดูเเล้วราคาน่าจะหลายพัน

     "เพิ่งเลิกงานเหรอครับ?" กวินทร์หาเรื่องคุย

     "อืม"

     ภูผาเเละพยัคฆ์กำลังช่วยกันประกอบรั้วกั้น โดยมีหมูสองตัวคอยช่วยหยิบนั้นหยิบนี้ ไม่รู้จะเรียกว่าช่วยงานหรือช่วยป่วนดี

     "เเล้วทานข้าวเย็นกันหรึยังครับ?"

     "ฉันกะว่าจะเเวะทานที่บ้าน"

     กวินทร์พยักหน้าหงึกๆ "ช่วยดูเจ้าเเฝดซักสิบนาทีหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมมา"

     "อืม"


     กวินทร์กลับมาพร้อมถาดที่มีจานข้าวราดเเกงเขียวหวานเนื้อ ทอดมันปลา กับแกงจืดฟักมะนาวดองคนละถ้วย เป็นเมนูเเกงจืดที่หาทานได้ยาก รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยวนิดๆ ทำไม่ยากเเต่อย่าให้ลูกมะนาวเเตกเชียว ไม่งั้นเเกงจืดจะกลายเป็นเเกงขม คุณปู่คุณย่าทานไปเยอะเลย เจ้าเเฝดเองก็ชอบ

     พอกวินทร์กลับมารั้วกั้นก็เสร็จพอดี เเกะกล่องเอาลูกบอลเทใส่ทำเอาเจ้าเเฝดตาวาววับ ส่งเสียง ว้าวๆ ไม่ขาดปาก

     "เสร็จเเล้วก็มาทานข้าวกันก่อนครับ"

     "ไม่เป็นไร พวกฉันไม่อยากรบกวน"

     "เเต่กวินทร์ยกออกมาเเล้ว คุณภูผาจะให้ยกกลับเหรอ?" กวินทร์ย้อน เขาเเอบเห็นพยัคฆ์มองจานข้าวตาละห้อยตอนร่างสูงปฏิเสธ

     "มาครับ เชิญๆ คุณเสือ" ตัดบทง่ายๆ

     ในขณะที่สองหนุ่มทานข้าว เจ้าเเฝดก็สนุกอยู่กับคอกลูกบอล ดำผุดดำว่ายเหมือนกำลังเล่นน้ำ โดยมีกวินทร์ทำตัวเป็นฉลามจากนอกรั้ว พอปะป๊ายื่นมือเข้ามา เจ้าหนูก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอย่างสนุกสนาน

     ภูผามุมปากกระตุกกับภาพตรงหน้า ลูกน้องคนสนิทยิ้มอย่างรู้ทัน เเต่ชะงักกึกเมื่อเจ้านายส่งสายตาพิฆาตมาให้ พยัคฆ์เลยก้มหน้าก้มตาทานข้าวกลบเกลื่อน เเหม เขินก็บอกเถอะครับบอส


     "น้องปลื้มน้องปราย คุณลุงจะกลับเเล้วมาบ๊ายบายเร็ว" กวินทร์บอกเจ้าเเฝดที่กำลังเล่นกันอย่างไม่เเคร์ใคร เเต่พอได้ยินปะป๊าเรียกก็พยายามตะเกียกตะกายปีนรั้วออกมา หลังจากนั้นก็ไปพันเเข้งพันขาออดอ้อนให้คุณลุงอุ้ม "ยุงๆ อุม" ส่วนคุณลุงเองก็ไม่อิดออด

     เเต่วันนี้มีของเล่นใหม่ หอมเเก้มคุณลุงเเละไหว้ขอบคุณตามที่ปะป๊าทำให้ดูเจ้าเเฝดก็ดิ้นอยากลงไปเล่นลูกบอลต่อ

     "นายเองก็ชอบไปร้าน Bresso ด้วยเหรอ?" ภูผาถามเมื่อเหลือบไปเห็นเเก้วน้ำปั่นที่มีโลโก้ร้านคู่เเข่งเพื่อนเขาวางอยู่ขอบหน้าต่าง

     "เพื่อนลากไปทำรายงานที่นั้นบ่อยๆ น่ะครับ ทำไมเหรอ?"

     "ร้านคู่เเข่งเพื่อนฉันเอง ร้าน Coffee Room"

     "อ๋อ ร้านที่ดูหรูๆ ใช่ไหมครับ?"

     "อืม"

     "ดูร้านเงียบๆ นะ ผมว่าถ้าเพื่อนคุณภุูผาอยากได้ลูกค้าพวกนักศึกษาควรมีเมนู ของหวานเเละเครื่องดื่มราคาเบาๆ เพิ่ม ผมเคยไปครั้งเดียว เเพงยิ่งกว่าสตาร์บัคอีก ผมเข้าใจนะว่าของเกรดดี เเต่ถ้าเพิ่มพวกเมนูเกรดธรรมดาลงไปซักสองสามอย่าง เเล้วจ้างเน็ตไอดอลคนดังจากมหาลัยฯใกล้ๆ ให้ช่วยโปรโมทเนียนๆ ผ่านโซเชียล ผมว่าน่าจะได้ลูกค้าเพิ่มหลายประเภทนะครับ" กวินทร์พูดยาวเหยียด

     "อืม ถูกของนาย ไอ้กันเเค่ลงทุน เเต่ไม่ได้บริหารเอง เดี๋ยวฉันจะเอาไอเดียนายไป
เสนอเเล้วกัน"

     "ผมเเค่ออกความคิดเห็นส่งๆ ไม่ต้องใส่ใจก็ได้ครับ ฮ่าๆ"

     "เเต่ที่นายเสนอมาก็ถือว่าใช้ได้" 

     "ขอบคุณครับ เเต่ไม่เเน่นะ อยู่ดีๆ คู่เเข่งเพื่อนคุณภูผาอาจเจ๊งไปเองก็ได้ฮ่าๆ" กวินทร์พูดทีเล่นทีจริง เเล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดีเเต่ภูผากลับรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างภายใต้รอยยิ้มซื่อๆ นั้น

     "เห็นว่ามีหลายสาขาเเละกำลังขยายเพิ่ม" มีหลายสาขา หมายความว่ากำลังไปได้ดีเเละมั่นใจว่าจะอยู่อีกนานเจ้าของกิจการจึงกล้าขยาย

     "นั่นสินะ..." กวินทร์ไม่ขยายความ ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่ถามอะไร

     "ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์เเวะมา เเล้วยังซื้อของขวัญให้เจ้าเเฝดด้วย"

     "ฉันยินดี" ร่างสูงตอบนิ่งๆ ตามสไตล์

     "กลับดีๆ นะครับ" กวินทร์ยกมือไหว้คนตรงหน้าเเละรวมไปถึงพยัคฆ์ นอกจากคนสนิทเเละครอบครัวก็ไม่มีคนอายุน้อยที่ยกมือไหว้รวมไปยังลูกน้องเขา เป็นสิ่งที่ทำให้ภูผาเเปลกใจเเละรู้สึกชอบการกระทำของร่างโปร่งไม่น้อย


******


     ภายในห้องสวีทของโรงเเรมหรู สองร่างของชายหญิงกำลังกอดก่ายเเละปลดเสื้อผ้ากันอย่างเร่าร้อน เเต่ทว่าเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดวังหวะเสียก่อน วิเชียรผละฝ่ายหญิงออกเเล้วเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ เเต่ฝ่ายหญิงกลับดึงเเขนเขาไว้

     "ไม่ต้องรับหรอกค่ะเชน เรามาต่อกันดีกว่า" หญิงสาวยิ้มอย่างเชิญชวนเเละลูบอกเเกร่งของฝ่ายชาย

     "ปล่อย" วิเชียรสะบัดเเขนอย่างเเรงจนไปโดนหน้าคู่ขา "ว๊าย" เเต่เขากลับไม่เเคร์
เธอมองเขาอย่างหัวเสียก่อนจะลุกหนี

     "ฮัลโหล"

     "สวัสดีนาย วิเชียร ภูสิทธ์อุดม" ชายหนุ่มขมวดคิ้วเพราะไม่คุ้นกับเสียงของผู้หญิงในสาย เเต่...น้ำเสียงโมโนโทนเเปลกๆ เหมือนไม่ใช่คน คล้ายเสียงโปรแกรมอัตโนมัติของ Google translate ที่สามารถอ่านข้อความได้

     "คุณเป็นใคร?"

     "ฉันเป็นใครไม่สำคัญ เรามาคุยเรื่องของคุณดีกว่า" น้ำเสียงโมโนโทน การออกเสียงเเปลกๆ วิเชียรมั่นใจเเล้วว่าไม่ใช่เสียงคนพูดเเน่นอน
 
     "เรื่องอะไร?"

     "ก็เรื่องร้านกาเเฟที่เปิดบังหน้าการเผยเเพร่สื่อลามกอนาจารเเละค้าประเวณีเด็กไงจ๊ะ" คำพูดกวนบาทา เเต่น้ำเสียงกลับไร้ชีวิต ทว่าฟังเเล้วชวนหงุดหงิดยิ่งนัก

     "มึง!" วิเชียรคำรามใส่มือถือ

     "คุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์ JUST KIDDING... เข้าใจตั้งชื่อนะ" Just kidding เเปลว่า เเค่ล้อเล่น เเต่คำว่า kid เฉยๆ เเปลว่า เด็ก...

     "คุณใช้ TOR network เพื่ออำพรางเซิร์ฟเวอร์ เเละก็ซ่อนได้ดีเลยล่ะ แต่ซ่อนฉันไม่ได้" เสียงที่เปร่งออกมาเป็นเสียงผู้หญิง เเต่คนเบื้องหลังจริงๆ กลับเป็นชายหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้า ผู้ซึ่งกำลังป้อนข้อความให้โปรแกรมอ่าน เสียงนิ้วกระทบคีย์บอร์ดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง สื่อให้รู้ว่าเจ้าตัวมาสามารถพิมพ์ได้เร็วขนาดไหน

     "เเต่เส้นทางหัวหอมโปรโตคอลมันไม่ได้ลับหูลับตาอย่างที่คุณคิดหรอกนะ เพราะว่าคนที่ควบคุมทางออก ก็จะควบคุมเส้นทางข้อมูลได้เช่นกัน เเละนั่น หมายความว่าฉันเป็นคนควบคุมทั้งหมด"

     ใช่เเล้ว TOR หรือ the onion routing เป็นเครื่องมือในการอำพรางตัวเวลาท่องอินเทอร์เน็ต เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าคุณเป็นใครหรือเชื่อมต่อจากที่ไหนธรรมดาเเล้วเวลาคนทั่วไปเล่นอินเทอร์เน็ตข้อมูลจะถูกส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์เดี่ยวที่ไม่มีการป้องกัน เเต่เส้นทางหัวหอมโปรโตคอลหรือ the onion routing protocol จะใช้จุดเชื่อมต่อหลายๆจุด เเละทุกๆ จุดจะมีการ encrypt หรือเข้ารหัสข้อมูล เเละจะถูกเปิดก็ต่อเมื่อถึงผู้รับข้อมูลปลายทางเเล้ว 

     "ไอ้เหี้ย! มึงเป็นใคร?!" วิเชียรตะโกนอย่างความคุมอารมณ์ไม่อยู่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรม เเถมน้ำเสียงโมโนโทนของโปรเเกรมก็ไม่ต่างจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่สาดใส่ให้อารมณ์เขาลุกโชน

     "ฉันมีข้อมูลทุกอย่างของคุณ อีเมล์ ไฟล์ รูป"

     "ไอ้สัตว์ มึงเเฮกกู! กูจะเเจ้งจำตรวจจับมึงเเล้วฆ่ามึงทิ้งซะ"

     "ตำรวจงั้นเหรอ คุณอยากให้ตำรวจรู้เรื่อง สื่อลามกตั้ง100TBเเละการค้าประเวณีเด็กอายุไม่ถึงสิบห้าปีของคุณน่ะเหรอ? ได้ข่าวว่ามีเด็กที่ขโมยจากนักท่องเที่ยวชาวยุโรปมาหลายรายเลยหนิ ถ้าโดนจับ คุณจะไม่มีทางสามารถใช้เงินซื้อตั๋วออกจากซังเตได้อย่างเเน่นอน"

     เพราะคดีจะโดนจับตามองจากประเทศอื่นๆ ถ้าตำรวจรับเงินใต้โต๊ะเเล้วปล่อยให้วิเชียรหนีไป มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศทันที

     "มึงกำลังเเบล็กเมล์กู? มึงต้องการเงินปิดปากใช่ไหม? กูไม่ให้! ถ้ากูยอมจ่ายตอนนี้ เดี๋ยวมึงก็จะเอาอีกหลายๆ ครั้ง อย่าลืมว่ามึงเองก็ทำผิดกฎหมายนะไอ้สัตว์" วิเชียรพูดด้วยน้ำเสียงดุดันและเกรี้ยวกราด

     "ก็เเค่ส่วนหนึ่ง ห้าพันห้าร้อยห้าสิ-" อ่าว ส้นตีน!!! มือสวยกดลบเเทบไม่ทันเมื่อโปรแกรมไม่อ่าน 5555 ให้เป็น ห้าห้าห้าห้า ตามที่เขาต้องการ

     "ปกติเเล้วนะ ฉันจะไม่โทรหาคนร้ายอย่างนี้หรอก เเต่มันมีโอกาสที่คุณจะหลบหนีหรือบอกผู้ดูแลระบบให้รื้อเซิร์ฟเวอร์ของคุณ เเล้วลบข้อมูลทุกอย่างทิ้ง ฉันก็เลยใส่เวลาเเละสถานที่ของตอนนี้ลงในข้อมูลที่ส่งให้ตำรวจ"

     พอพิมพ์จบ ตาคมก็มองไปยังหน้าจอคอมฯอีกเครื่องที่มีวีดีโอกล้องวงจรปิดของโรงเเรมที่เหยื่อเขาพักอยู่ ตำรวจไม่ต่ำกว่าสิบนายได้เคลื่อนไหวมาใกล้ห้อง 710 เเล้ว

     "ดะ...เดี๋ยวๆ อย่างเพิ่งวาง คะ...คุณต้องการเงินเท่าไหร่? ผมยอมจ่ายให้หมด" วิเชียรอ้อนวอนอย่างละล่ำละลักเมื่อรู้ว่าตัวเองได้ถูกต้อนให้จนตรอกเเล้ว

     ตอนนี้ตำรวจมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเเล้ว มือเรียวพิมพ์ข้อความสุดท้ายเเล้วกด Enter ก่อนจะตัดสายทิ้ง

     "นั่นคือส่วนที่คุณคิดผิด เงินไม่ใช่ประเด็น"

     ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

     "ฮัลโหลๆ!!!!" วิเชียรตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างบ้าคลั่ง

     ปั้ง! เสียงประตูที่ถูกเปิดดังขึ้นอย่างเเรง เเละนายตำรวจหลายสิบนายก็กรูเข้ามารายรอบเตียงพร้อมเล็งปืนไปทางวิเชียรทุกนาย 
 

******


     ภารกิจเสร็จสิ้น มือเรียวพับจอโน๊ตบุ๊คลง เรื่องนี้เป็นคดีข้ามประเทศเพราะมีเด็กต่างชาติที่ถูกขโมยมาขายตัว คงไม่มีนักการเมืองตำรวจยศสูงนายไหนโง่พอที่จะเล่นไม่ซื่อให้เขาเเบล็กเมล์หรอกนะ

     เสี่ยวิชัยรักลูกทุกคน เเต่รักตัวเองมากกว่า ดังนั้นเรื่องนี้ เสี่ยวิชัยคงไม่กล้าสู้อย่างเเน่นอน ปากอิ่มคลี่ยิ้ม เเต่อีกไม่นานหรอก เดี๋ยวเสี่ยก็ได้ไปนอนในซังเตกับลูกชายเเน่นอน ถ้าไม่โดนศัตรูคนไหนฆ่าตายก่อนนะ...






ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเม้นค่า
ตอนนี้ inspired มาจาก mr robot เลย
ไม่รู้มีใครดูไหม
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-01-2018 22:27:36
สนุกมากค่ะ ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 05-01-2018 23:49:00
ทุกอย่างดูง่ายไปเลยเนอะ เมื่อมีเงิน  แต่พระเอกของเราค่าตัวแพงจริงๆ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 06-01-2018 00:16:43
งิ้อออออ  กวินทร์ฉลาดดดดดดด :mew3:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 06-01-2018 00:37:00
แต่งได้สนุกดีค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 06-01-2018 05:10:28
มีความแทรกซึมไปทางเด็กๆ คุณภูผา  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 06-01-2018 06:38:00
 :mew1: :mew1: เค้ารอออออออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 06-01-2018 08:52:50
คุณภูผาคือเนียนเข้าหาเด็กๆ เอ็นดูความจุนยุงๆ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-01-2018 14:26:58
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-01-2018 14:34:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 06-01-2018 17:45:15
สนุกดี :L2:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 06-01-2018 20:11:30
กำลังสนุกเลยอ่ะ

ต่อๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 13 TOR
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 06-01-2018 21:04:10
ละมุนได้แปปเดียว โหดซะงั้น
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁5/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 07-01-2018 02:55:56
ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?     


     ฝึกงานวันเเรก กวินทร์เเต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำเเละเสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดา เเต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าเขาก็ยังดึงดูดสายตาหลายคู่อยู่ดี

     พอมาถึง พยัคฆ์ก็พากวินทร์มาที่ห้องกระจกเล็กๆ ที่อยู่ข้างห้องของภูผา ภายในมีโน๊ตบุ๊ควางอยู่เครื่องหนึ่งพร้อมใช้ จากนั้นพยัคฆ์ก็โยนหน้าที่สอนงานเขาให้กับเลขาที่ชื่อจินลดา สาวใหญ่วัยสามสิบปลาย ตัดผมบ๊อบเหมือนจินตหรา พูนลาภ เเละย้อมสีเเดงเข้ม ท่าทางทะมัดทะแมง

     กวินทร์เห็นว่าอีกฝ่ายพูดคุยด้วยง่าย คล่องเเคล่วเป็นการเป็นงาน น่าจะพึ่งพาได้ ไม่เสียหายอะไรถ้าจะทำตัวให้สนิทเข้าไว้

     ส่วนเลขาสาวใหญ่เองก็พึงพอใจกับเด็กหนุ่มไม่น้อย ถึงเจ้าตัวจะมีฐานะสูงส่งกว่ามาก เเต่กลับมีท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน เเละตั้งใจฟังเวลาเธอสอนงาน ตอนเเรกนึกว่าจะเป็นเด็กเส้นที่ไม่ได้เรื่องเสียอีก

     จินลดาพาเขามาเเนะนำกับพนักงานในเเผนกฝ่ายเลขานุการ บางคนมองเขาด้วยสายตาชื่นชมในรูปลักษณ์ภายนอก บางคนก็เหมือนจะดูถูกที่เขาเป็น"เด็กเส้น"ไร้ความสามารถ เเต่ส่วนมากก็ดูอัธยาศัยดี

     "เอาล่ะ ไปรอที่ห้องได้ค่ะ เดี๋ยวคุณพยัคฆ์จะมอบหมายหน้าที่ให้ ถ้ามีอะไรก็เรียกพี่ได้เลยนะคะ"

     "ขอบคุณครับพี่จิน" กวิทนร์ยกมือไหว้ คุยกับผู้ใหญ่ต้องมือไม้อ่อนเเละรู้จักกล่าวขอบคุณอย่าง เเต่อย่าพูดเยอะ เพราะมันจะดูเสเสร้ง

     "จ๊ะ"

     กวินทร์มองตามหลังหญิงสาว จินลดาไม่มีห้องทำงานเป็นของตัวเอง เเต่มีเคาน์เตอร์อยู่หน้าห้องภูผาเพื่อความสะดวกเวลามีเเขกมาพบ ถัดมาอีกนิดก็เป็นห้องเขา ร่างโปร่งเดินไปยังห้องทำงานตัวเอง เป็นเเค่เด็กฝึกงาน เเต่มีห้องเป็นของตัวเอง

     หึ ถ้าไม่โดนเขม่น นริศราก็คงกลายเป็นเลสเบี้ยน!

     เปิดโน๊ตบุ๊คที่ได้รับมา เห... spec ไม่เลว รุ่นนี้ราคาน่าจะสูงพอควร เเต่ก็สมเเล้วกับบริษัทใหญ่ระดับนี้ นอกจากนั้นก็มีพวกโปรเเกรม Microsoft Office กับ anti virus รุ่นที่คนนิยมใช้

     เเต่เพื่อความเเน่ใจ กวินทร์จึงหยิบแฟลชไดร์ฟประจำตัวมาเชื่อมต่อกับคอมฯ เเล้วปล่อยให้มันทำหน้าที่สเเกนว่ามีไวรัสหรือพวกโปรเเกรม spyware หรือไม่

     ใช้เวลาไม่นาน ก็ยืนยันได้ว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้สะอาดทั้งฮาร์ดแวร์เเละซอฟต์แวร์ เเต่กันไว้ก็ดีกว่าต้องมาเเก้ทีหลัง

     ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะกระจกดังขึ้น ก่อนพยัคฆ์จะผลักประตูเข้ามาพร้อมเเฟ้มหลายอัน

     "คุณภูผาอยากให้คุณทำความเข้าใจกับบริษัทก่อน จะได้ร่วมงานกันง่าย ยังไงก็อ่านให้หมดด้วยนะ" พยัคฆ์วางเเฟ้มทั้งหมดลงบนโต๊ะ รวมกันเเล้วสูงจบเเทบจะปิดหน้าเขาได้

     "ครับ" มีทางเลือกด้วยเหรอ? ลองบอก ไม่ครับสิ มีปัญหาเเน่นอน

     ชายร่างหนาพยักหน้าให้ ก่อนจะเดินออกไป ตาสีฟ้าจ้องมองกองเเฟ้มก่อนจะพ่นหายใจออกมา เอาล่ะ เริ่มเลยเเล้วกัน

     กวินทร์ไม่เชื่อในการทำงานหนัก เเต่การทำงานอย่างฉลาด ดังนั้นเขาจึงใช้แอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือมาเเปลงเอกสารที่ส่วนมากเป็นภาษาอังกฤษให้เป็นตัวหนังสือในคอมฯเเล้วใช้โปรเเกรมอ่านออกเสียงให้ฟัง สเเกนเอกสารไป ฟังไป ไม่นานก็สเเกนจนหมด หลังจากนั้นก็เอนหลังพิงเก้าอี้ หลับตา หมุนเก้าอี้ซ้ายทีขวาที อ่าาา... ผ่อนคลายจริงๆ เล้ย


     "เสือ ฉันจะออกไปเจอคุณทรงภพ เตรียมเอกสารไว้เเล้วใช่ไหม?" ภูผาเอ่ยถามลูกน้อง เเละเตรียมตัวลุกจากโต๊ะ

     "เรียบร้อยครับ"

     "ดี งั้นออกไปตอนนี้เลย"

     ร่างสูงใหญ่เดินผ่านห้องทำงานกระจกของคนบางคน เเละอดที่จะชายตามองไม่ได้ ป่านนี้คงก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารข้อมูลที่เขาสั่งล่ะมั้ง ช่วยไม่ได้นะ ในเมื่อมาฝึกงานเป็นผู้ช่วยเลขานุการก็ต้องมีความรู้รอบด้าน ไม่มากก็น้อย

     เเต่ผิดคาด... นอกจากจะไม่อ่านเเล้ว กวินทร์ยังหันหลังให้ประตูเเล้วนั่นหมุนเก้าอี้เล่นโดยที่ไมสนใจกองเเฟ้มบนโต๊ะสักนิด! ชายหนุ่มเริ่มไม่พอใจกับการกระทำของอีกฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง ไม่นึกเลยว่าจะไร้ความรับผิดชอบขนาดนี้

     "ไปเตรียมรถ เดี๋ยวฉันตามไป" สั่งลูกน้อง เเต่คงยังจับจ้องไปยังกลุ่มผมบลอนด์ที่โผล่บนเก้าอี้

     "ครับ" เสือรับคำ เเล้วมองตามสายตาเจ้านาย คิดอะไรของนายเนี่ยกวินทร์?! คุณภูผาไม่ใช่คนใจร้าย เเต่เป็นคนเด็ดขาด ถึงจะเป็นหลานเจ้าสัว เเต่พยัคฆ์เชื่อว่าบอสไม่มีทางละเว้น 

     ภูผาถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง กะจะตักเตือนเเรงๆ ให้คนอู้งานสลด เเต่กลับชะงักเมื่อได้ยินเสียงอ่านเอกสารดังอย่างต่อเนื่อง นี่สินะ พนักงานประเภทฉลาดเเต่ขี้เกียจ มักจะหาทางออกง่ายๆ มากำจัดงานที่ยุ่งยากน่าเบื่อ

     ก๊อกๆ ร่างสูงเคาะกระจกให้อีกฝ่ายหันมา

     "เอ้า คุณภูผา สวัสดีครับ" กวินทร์ยกมือไหว้ เเล้วกดพักเสียงอ่านให้หยุดทำงานชั่วคราว

     "ฉัน..." ภูผากระเเอมก่อนจะพูดต่อ "เเค่เเวะมาดู"

     "ครับ ผมเหลืออีกเเค่เเฟ้มเดียวก็จะอ่านหมดเเล้ว น่าจะเสร็จก่อนพักเที่ยง" กวินทร์รายงาน

     "หลังพักเที่ยงฉันจะสั่งให้คุณจินลดาสอนเรื่องชงกาเเฟเเล้วกัน"

     "ครับ" กวินทร์รับคำเเละมองคนตรงหน้ายิ้มๆ เหมือนรู้ทัน ภูผาคิ้วกระตุกกับรอยยิ้มของอีกฝ่าย ก่อนจะมองเลยไปยังด้านหลังของกวินทร์ ก็พบกระจกที่กำลังสะท้อนเงาเขาอย่างเด่นชัด เเต่ร่างก็สูงยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉยเเละไม่เเสดงอารมณ์ใดๆ ไว้ได้

     "อืม" พยักหน้าให้กวินทร์เเล้วหมุนตัวเดินออกไป

     ทำเป็นเนียนนะครับเจ้านาย เขาเห็นตั้งเเต่ปั้นหน้าทะมึนเเล้วเดินดุ่มๆ มาทางนี้เเล้ว ไหนจะตอนร่างสูงชะงักกึกเพราะรู้ตัวว่ากวินทร์ไม่ได้เเอบอู้ ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นคุณยุง ของเจ้าเเฝดนะ พ่อจะโพสลงเฟสเเล้วเเท็คเเพรพิไลด้วยเลย ฮึ่มมม


******


     กวินทร์มาฝึกงานจนครบหนึ่งอาทิตย์เเล้ว งานที่ทำก็ไม่มีอะไรมาก คอยอ่านเอกสารศึกษางานนิดๆ หน่อย ชงเครื่องดื่มให้ภูผาเเละเเขกที่เข้ามาพบ บางครั้งก็เเปลเอกสารเเล้วส่งต่อ กวินทร์เเทบไม่ได้พบพนักงานคนอื่นๆ เลย นอกจากเลขาของพวกผู้อำนวยการเเต่ละเเผนกที่คอยเอาเอกสารสำคัญๆ มาฝากให้ท่านรองประธาน

     "น้องกวินทร์ ช่วยเอากาเเฟไปเสิร์ฟให้คุณภูผาสามที่ด้วยค่ะ" จินลดาต่อสายเข้าหาร่างโปร่ง

     "ได้ครับ"

     กวินทร์ยกถาดกาเเฟเข้าไปในห้องทำงานของภูผา ดูเหมือนเจ้านายเขากำลังนั่งคุยอยู่กับหมอธีรไนยเเละเพื่อนอีกคนที่เขาไม่เคยเห็นหน้า

     "กาเเฟครับ"

     "เอ้า น้องกวินทร์?! ทำไมมาเป็นเด็กเสิร์ฟให้ไอ้ภู?" ธีรไนยถามขึ้นอย่างเเปลกใจ
 
     "สวัสดีครับคุณหมอ" กวินทร์ยกมือไหว้คุณหมอเเละชายหนุ่มอีกคน ก่อนจะหันไปตอบคำถามเมื่อครู่ "มาฝึกงานครับ"

     "กวินทร์" ไม่ทันจะได้คุยอะไรต่อ เจ้านายก็ทักขึ้นเสียก่อน "นี่ธนวัตน์  เจ้าของร้าน Coffee Room"

     กวินทร์ถึงกับบางอ้อ

     "เรียกพี่กันก็ได้ครับ ไอ้ภูเอาไอเดียน้องกวินทร์มาเสนอให้ฟัง ถ้าได้ผลพี่จะให้ทานฟรีตลอดชีวิตเลย ฮ่าๆๆ"

     "ผมเเค่พูดเล่นๆ" กวินทร์ตอบเเหยๆ ก่อนจะลอบมองเจ้านาย ไม่เห็นต้องเล่าหมดไส้หมดเปลือกขนาดนั้นเลย!

     "น้องกวินทร์มานั่งนี่มา" หมอธีรไนยดึงเเขนร่างโปร่งมานั่งข้างๆ ตน

     "เเหมไอ้หมอ ที่มีเยอะเเยะ มึงจะให้น้องเขาไปนั่งเบียดมึงทำไมวะ?" ธนกันต์ถามอย่างรู้ทัน

     หมอหนุ่มไม่ตอบ เเต่โอบไหล่คนข้างกายเเล้วเนียนชูนิ้วกลางให้เพื่อน

     "จะสี่สิบเเล้วนะหมอ" เล่นอะไรเป็นเด็กๆ

     "ฮ่าๆๆ จุกไหมล่ะไอ้หมอ โดนรุ่นน้องสอน" รุ่นน้องเหรอ? ตอนเขามีเเฟนคนเเรกน่ะ พวกคุณสามคนยังใส่เเพมเพิสกันอยู่เลยนะครับ ... ถึงจะเป็นป๊อปปี้เลิฟตอนอยู่ประถมก็เถอะ!

     "กลับมาเรื่องร้านกาเเฟ ตั้งเเต่ไอ้ร้านคู่เเข่งโดนจับ ลูกค้ากูก็เพิ่มขึ้นเยอะเลย เเต่ยังมีคนบ่นๆ เรื่องราคาอยู่ น้องกวินทร์พูดถูก สงสัยพี่ต้องเพิ่มเมนูราคาไม่สูงเข้ามา"

     "นั่นสิ" ภูผาพูด เเต่สายตาคมจับจ้องมาที่ร่างโปร่งอย่างไม่ปิดบัง กวินทร์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เเหม ถ้าเขาเป็นคนเก็บอารมณ์ไม่อยู่คงตายไปนานเเล้ว ...เอ๊ะ เเต่เขาตายเเล้วไม่ใช่เหรอวะ? เอาเถอะ การที่ภูผาสงสัยเขานั่นก็ไม่เเปลก เเละกวินทร์เองก็ตั้งใจจะให้เป็นอย่างนั้นอยู่เเล้ว อีกอย่าง ป่านนี้คุณธาราคงสืบจนรู้เเล้วว่าสาวิทย์เป็นใคร

     กวินทร์เเละสาวิทย์เป็นเเฮกเกอร์ เเล้วเเปลกตรงไหนถ้าจะผูกมิตรกันทางคอมฯ?

     "ข่าวอะไรวะ?" หมอหนุ่มถาม 

     "โถ่ไอ้หมอ ออกนอกโรงพยาบาลบ้างนะมึง ก็ไอ้ร้านคู่เเข่งกูไง ค้าประเวนีเด็กเล็กๆ เเม่งโคตรเลว"

     "เหรอวะ?"

     "เออดิ!"

     ขณะที่เพื่อนทั้งสองกำลังคุยกัน ภูผากลับคอยจับตามามองกวินทร์เป็นพักๆ เมื่อเห็นว่ากวินทร์ไม่มีพิรุธอะไรให้จับผิด ร่างสูงจึงหันไปร่วมวงสนทนากับเพื่อนเเทน โดยที่ไม่ได้ทันสังเกตว่ามุมปากอิ่มของลูกน้องตนยกยิ้มอย่างมีเลศนัย

     "งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" กวินทร์กล่าว ก่อนจะลุกออกจากวงเเขนของหมอหนุ่ม ที่เเสดงท่าทีเสียดายอย่างไม่เห็นได้ชัด ไม่เจอกันเป็นเดือน ร่างกายที่ผ่ายผอมตอนนี้ดูมีน้ำมีนวลขึ้นเยอะ ร่างโปร่งใส่เสื้อเซิ้ตเเล้วยัดชายเสื้อเข้ากางเกงที่พอดีตัว อวดปั้นท้ายกลมกลึงเเถมงอนจนน่ากัดเล่น

     "ชอบเหรอ?" ภูผาถามเสียงเรียบหลังประตูปิดลง รู้สึกไม่ค่อยพอใจกับสายตาเพื่อนอย่างไม่มีเหตุผล

     "อือ กลมดี"

     .... เงียบ

     "ห๊ะ? เฮ้ย! เอ่อ... ก็น่ารักดี เออ น่ารักๆ" หมอธีรไนยเเก้ตัวอย่างละล่ำละลัก

     "ฮ่าๆๆๆ ไอ้หมอบ้ามกาม เเต่คนนี้มึงจะเล่นๆ ไม่ได้นะเว้ย หลานเจ้าสัวเชียวนะมึง" ธนวัตน์ขู่

     "ก็... ชอบไหม? ไม่เเน่ใจว่ะ ตอนนี้เเค่รู้สึกถูกใจ"

     หลังจากนั้นสามหนุ่มก็เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น ก่อนจะเเยกย้ายกันกลับ


******


     กวินทร์กำลังเดินออกจากลิฟท์หลังเลิกงาน ร่างโปร่งก้มหน้าสาละวนอยู่กับการหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเป้ วันเขานี้ตื่นสายเลยไม่ได้ขับรถมาเอง เเถมลืมโทรบอกที่บ้านให้มารับ คงได้รอกันยาวเเน่ทีนี้ 

     "น้องกวินทร์!" 

     กวินทร์หันไปตามเสียงเรียก เเละเจอกับหมอหนุ่มที่กำลังเดินมาทางเขา

     "ครับ?"

     "กำลังกลับบ้านเหรอ?"

     กวินทร์พยักหน้าตอบ เเละยังคงวุ่นอยู่กับการหาโทรศัพท์มือถือ ข้อเสียของการมักง่าย มีอะไรก็ยัดๆ ลงไป ทั้งๆ ที่ช่องใส่ก็มีอยู่เเท้ๆ!

     "ไปทานข้าวกับพี่ไหม?"

     กวินทร์คิดหนัก อยากกลับไปหาเจ้าเเฝด เเต่ท้องเขาเองก็เริ่มส่งเสียงประท้วงตั้งเเต่ตอนบ่ายเเล้ว ถ้ารอลุงโชคคงนานเป็นชั่วโมง ช่วงคนเลิกงานรถยิ่งติด 

     "หมอจะเลี้ยงเหรอ?" เป็นหลานเจ้าสัวเเต่งกได้ใจจริงๆ

     "ครับๆ เลี้ยงทั้งชีวิตยังไหว" หมอธีรไนยตอบพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่ม

     "ก็ได้ครับ ผมอยากทานอาหารไทยนะ หมอล่ะ?"

     "ดีเลยครับ พี่มีร้านประจำ"

     กวินทร์โทรบอกที่บ้านเพราะไม่อยากให้เป็นห่วง ก่อนจะจัดของในกระเป๋าให้เป็นระเบียบ เพราะมัวเเต่ดูกระเป๋าไม่ดูทาง ทำให้ร่างโปร่งสะดุดเข้ากับที่กั้นอย่างจัง ถ้าเป็นในละคร พระเอกก็คงดึงร่างนางเอกเข้าไว้ในก้อมกอด หรือไม่ก็ล้มทับเเล้วปากเเตะปากกัน

     เเต่... นี่ไม่ใช่ละคร เเละหมอที่เพิ่งได้หยุดหลังอยู่เวรหลายวัน จนตอนนี้ก็ยังเบลอๆ มีหรือจะคว้าเเขนร่างโปร่งได้ทัน นายเอกอย่างกวินทร์จึงต้องล้มอย่างไม่เป็นท่า

     "โอ๊ย เชี้ย" น่าอายชะมัด ดีนะไม่มีคน!

     เจ็บตัวยังไม่พอ ของในกระเป๋ายังมาหล่นระเนระนาดอีก กวินทร์หันขวับไปมองหน้าคุณหมอที่ยังยืนค้างในท่าคว้าอากาศ ร่างโปร่งส่งสายตาให้เขียวปั๊ด ยังอีก! ยังไม่มาช่วยเขาอีก!

     "หมอ!" พอโดนตวาดคุณหมอก็เหมือนเพิ่งตื่นจากภวังค์ เเล้วรีบกุลีกุจอเข้าไปช่วยเก็บของบนพื้นอย่างทันที กวินทร์ลุกขึ้น ปัดฝุ่นจากมือ เหล่ตามองอีกคน อย่าคิดนะว่าเขาไม่เห็นหมอธีรไนยเเอบกลั้นหัวเราะจนหน้าเเดง เดี๋ยวเถอะไอ้คุณหมอ


     กวินทร์เเละหมอธีรไนยมาหยุดอยู่ที่รถเก๋ง Tesla Model S สีเทา เป็นรุ่นที่ดูหรูเเต่เรียบง่ายสมกับเจ้าของโรงพยาบาล ราคาอาจไม่ถึงสิบล้าน ซึ้งถือว่าถูกมากในวงการไฮซ้อไฮโซ เเต่พอมาอยู่กับหมอหนุ่ม มันกลับดูเเพงขึ้นหลายเท่าตัว

     หมอธีรไนยพากวินทร์มาร้านอาหารที่ตกเเต่งอย่างไทยๆ ภายในร้านมีโต๊ะติดกระจกให้ชมวิวท้องถนนเเละโต๊ะเเบบส่วนตัวด้านใน ทั้งคู่เลือกที่จะนั่งติดกระจกเเละสั่งอาหารมาสามสี่อย่าง เเล้วนั่งทานเงียบๆ เพราะหิวโซกันทั้งคู่ ทานอาหารพร่องไปจนเหลือครึ่งเดียว กวินทร์ก็เริ่มบทสนทนา

     "หมอชอบผมเหรอ?" ถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

     "เเค่กๆ ไรนะครับ?" เอาซะอีกคนตั้งตัวไม่ทันเเละสำลักข้าวจนไอหน้าดำหน้าเเดง

     "ก็หมอกำลังจีบผมอยู่ไม่ใช่เหรอครับ?" ยังคงถามด้วยเนื้อเสียงที่เหมือนกำลังชวนคุยเรื่องท้องฟ้าอากาศ

     "อ่าาา... ครับ กำลังจีบ" ทำไมรู้สึกเหมือนกำลังโดนสอบปากคำยังไงยังงั้น

     กวินทร์ยิ้ม เขาดูออกหรอกน่า ว่าหมอธีรไนยเเค่สนใจรูปลักษณ์ภายนอกของตน

     "พูดตรงๆ นะครับ หมอไม่ใช่สเปคผมเลย"

     "ไม่ลองไม่รู้นาาา..."

     "หมอครับ อายุอานามก็ปูนนี้เเล้ว หมอไม่มีเวลามาลองผิดลองถูกเเล้วนาาา..." กวิทร์พูดทีเล่นทีจริง

     "เเละอีกอย่างนะ นิสัยผมกับหมอมันไม่ค่อยเหมาะที่จะเป็นคู่รักเท่าไหร่หรอก เซ้นส์มันบอก"   

     "โถ่ พี่ไม่ได้เเก่ขนาดน้านนน" คุณหมอค้าน ลึกๆ เเล้วเขาเองก็รู้สึกเห็นด้วยกับอีกฝ่ายเหมือนกัน กวินทร์เป็นเหมือนรุ่นน้องที่มีเอาไว้จีบเเละเเซวเล่นพอหอมปากหอมคอ ยกขึ้นหิ้งเเต่เอาลงมากินไม่ได้

     "เฮ้อ... เเต่ก็จริงอย่างที่น้องกวินทร์พูดนะครับ งั้นเราคบกันเเบบพี่น้องเเล้วกันเนอะ" เเหนะ บอกคบกันเเบบพี่น้องเเต่สายตาพราวระยับเชียว

     "ไม่ใช่พี่น้องท้องชนกันนะหมอ" กวินทร์ดักทาง

     "จิ๊ เกลียดจริงคนรู้ทัน ไหนๆ น้องกวินทร์ก็หักอกพี่เเล้ว กุ้งตัวสุดท้ายพี่ขอเเล้วกัน" ไม่รอคำอนุญาต คุณหมอรีบปักส้อมลงบนตัวกุ้งทันที

     "เฮ้ย ไม่ได้หมอ! ผมเล็งไว้เเล้ว" กวินทร์เองก็เร็วใช้ได้ มือขาวเสียบส้อมดักไว้ตรงหัวกุ้ง ไม่ให้อีกฝ่ายยกขึ้นจากจาน

     "พี่เเก่กว่า เด็กต้องยอมผู้ใหญ่สิครับ" พูดจบก็ลากกุ้งไปทางตัวเอง

     เเก่กว่าบ้านป้าคุณสิไอ้หมอ กูเนี่ยสี่สิบเเล้วนะ!

     "ไหนว่าชอบกันไงหมอ?!" กวินทร์ลากกุ้งกลับมาฝั่งตน

     เถียงกันไปเถียงกันมา จนสุดท้ายหมอธีรไนยก็ยอมเเพ้ เเละทำหน้างอนเขาอย่างกับเจ้าเเฝด

     "โอ๋ๆ งอนเป็นเด็กเป็นเล็ก อะป้อน" กวินทร์เเกะเนื้อปลาทับทิบสามรสป้อนคุณหมอสุดหล่อ


     รถเก๋งกันกระสุนสีดำที่ดูธรรมดาๆ เคลื่อนมาติดไฟเเดงตรงข้ามร้านอาหารพอดี สายตาคมของคนในรถกำลังมองมายังสองพี่น้องหมาดๆ ที่กำลังหลอกล้อกัน เเต่ในสายตาคนนอกมองอย่างไรก็ไม่ต่างจากคู่รักหวานชื่น

     มือเเกร่งเผลอกำกระดาษจนเริ่มยับก่อนจะคลายออกเมื่อรู้สึกตัว ทำไมถึงไม่พอใจ? นั่นคงเพราะ... กวินทร์เป็นหลานของคนที่เขาเคารพ? ภูผาหันไปมองทั้งคู่อีกครั้งก่อนรถจะเคลื่อนหนีเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนสี

     นึกว่าจะเป็นคนที่ฉลาดมีไหวพริบ เเต่สุดท้ายก็ไม่ต่างจากพวกเด็กคนเก่าๆ ของหมอธีรไนย น่าผิดหวังจริงๆ


******


     ภูผาจ้องมองร่างโปร่งที่กำลังจัดเอกสารให้เขา มือขาวผ่องกระทบเเสงอาทิตย์ทำให้มองเพลินตา จนฉุกคิดถึงเรื่องเมื่อวาน

     "นายกับหมอธีรไนยคบกันเเล้วเหรอ?" ภูผาเอ่ยปากถาม

     กวินทร์เงยหน้ามองอีกฝ่ายที่เขา เเต่ตวงตาคมกลับกำลังจดจ้องอยู่ที่จอคอมฯ

     "ก็... ตกลงคบกันเมื่อวานครับ" คบเเบบพี่น้องนะ กวินทร์พูดต่อในใจ

     "งั้นเหรอ"

     ถึงจะรู้คำตอบอยู่เเล้ว เเต่ภูผายังคงสะบัดความรู้สึกไม่ชอบใจออกไปไม่ได้ น่าจะเพราะกวินทร์เป็นหลานเจ้าสัว คนที่เขานับถือ ใช่ น่าจะเป็นเช่นนั้น...

     เสียงโทรศัพท์มือถือภูผาดึงขึ้นขัด ร่างสูงเลยโบกมือให้อีกฝ่ายออกไปได้ มองดูชื่อคนโทรเข้า ตายยากจริงๆ พอพูดถึงก็โทรมา

     "ไง"

     "เออ โทรมาเรื่องผลการตรวจร่างกายมึงนั่นเเหละ รู้หรอกว่านัดคงไม่มีเวลามา"

     "อืม ว่าไง?"

     "ปกติดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เเดกน้ำเยอะๆ พักผ่อนให้พอ ไม่ใช่ทำเเต่งาน"

     "เออๆ ขอบใจมาก"

     "เเค่นี้เเหละ"

     "เดี๋ยวไอ้หมอ กูมีเรื่องถาม"

     "เรื่องไรวะ?"

     "มึง... คบกับลูกน้องกูเเล้วเหรอ?"

     "หือ? ลูกน้องคนไหนวะ?" หมอหนุ่มงง

     "กวินทร์ไง หรือมึงเเอบจีบไอ้เสือด้วย?"

     หมอธีรไนยเเทบหงายหลังตกเก้าอี้ ไอ้ห่า จีบพยัคฆ์เนี่ยนะ? พูดมาได้

     "คบห่าไรล่ะ กูยังไม่ได้เริ่มจีบก็โดนหักอกล่ะ บอกคบกันเป็นพี่น้อง อ่าว เฮ้ย กูโดนตามตัว เเค่นี้ก่อนนะ" ว่าเเล้วก็วางสายทันที

     คบกันเเบบพี่น้อง? สรุปคือเขาคำถามเขามันกว้างไปสินะ! เเต่ภูผากลับรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด ยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะกดโทรออก "ฉันขอกาเเฟเเก้วหนึ่ง" ทั้งที่เเก้วเดิมยังอุ่นๆ เเละดื่มไปไม่ถึงครึ่งเลย

     ไม่นานกวินทร์ก็เข้ามาพร้อมกาเเฟดำเเก้วใหม่ ก่อนจะหันกลับ โดยมีสายตาคมมองตามเเผ่นหลังเจ้าตัว เเล้วค่อยๆ เลื่อนสายตาลงมาที่เอวขอด เลื่อนลงมาเรื่อยๆ เเละคำพูดไอ้หมอก็เเล่นเข้ามาในหู

     "อืม ก็กลมจริงๆ" พอรู้ตัวก็หลุดปากออกไปเเล้ว...

     "ห๊ะ? อะไรนะครับ?" กวินทร์หันกลับมาถาม

     ".... กาเเฟกลมกล่อมดี" สงสัยอยู่กับไอ้หมอเเละไอ้เเจ๊คเยอะไปหน่อย รู้สึกว่าพักนี้โกหกได้ลื่นไหลเสียจริงๆ ภูผายกถ้วยเเตะปากจิบกาเเฟกลบเกลื่อนว่าเพิ่งพูดปด

     เหี้ย ร้อน! เเต่ต้องเก็บอาการ

     กวินทร์ขมวดคิ้วเหมือนไม่เชื่อ เขาสาบานได้เลยว่าเมื่อกี้ร่างสูงไม่ได้พูดเเบบนั้น ว่าเเต่....กาเเฟดำมันมีอะไรให้กลมกล่อมวะ??

     พอประตูปิดลงภูผาเเทบจะทะยานไปหยิบน้ำจากตู้เย็นมาดื่มเพื่อกลบความร้อน ถ้าไอ้เสือมาเห็นคงหัวเราะเขาเเปดชาติ






ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นเด้อออ
 :3123:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-01-2018 03:40:09
 :m20:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: ~@GusbellS@~ ที่ 07-01-2018 05:28:47
ใส่เลขตอนผิดหรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: absolutepoison ที่ 07-01-2018 05:44:52
สนุกค่ะ อ่านแล้วตื่นเต้นดี คุณภูผาจะไม่ยอมให้น้องฝึกอย่างอื่นนอกจากชงกาแฟหน่อยเหรอคะ  อดโชว์ความสามารถเลย อิอิ ชอบเรื่องที่นายเอกเป็นแฮกเกอร์อ่านแล้วนึกถึงตอนเรียนดีค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 07-01-2018 05:49:09
ใส่เลขตอนผิดหรือเปล่าครับ

ใช่ค่ะ ไม่คุ้นกับเล้าเป็ด เกิดอาการงงเล็กน้อย
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 07-01-2018 06:01:59
 :laugh :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 07-01-2018 06:32:52
สั้นจัง :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 07-01-2018 06:42:15
ฟังจนจบ มีแต่ สระเอ สระเอ  :ling1:

ตัวเองจะไม่แก้จริงเหรอ เริ่มตอนที่24ก็ได้

เค้าจะรอนะ สระเอ สระเอ

กูเกลียจสระเอ :m31:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 07-01-2018 08:36:34
ได้ปากเจ่อสักทีนะคะบอส...เจ่อเพราะกาแฟลวกปากอ่ะนะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 07-01-2018 08:47:04
อะไรจะละเมอพูดอย่างนั้นนะบอสส ดีที่กาแฟช่วยชีวิตไว้ ช่วยได้มาก แถมลวกปากอีกต่างหาก
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-01-2018 10:13:45
เพราะมัวแต่มองบั้นท้ายน้อง กาแฟลวกปากเลยยยยย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 07-01-2018 10:15:42
ตอนนี้ภูผาอย่างฮาอ่ะ 5555 แหนะมีหึงซะด้วย
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 07-01-2018 10:58:42
ไปจ้องตูดเขาอีก
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-01-2018 14:51:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 07-01-2018 16:06:55
ขออีกตอนสิ สนุกอ่ะะะะะะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-01-2018 16:22:17
ภูผา ชอบกวินทร์ ก็บอกไปเลย อย่ารีรอ
ภูผา กวินทร์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 07-01-2018 16:34:17
จับคนขี้เก๊กได้ 1 อัตรา
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-01-2018 20:50:22
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: 177266 ที่ 07-01-2018 21:32:24
ชอบความชัดเจนของกวินทร์มากกกก เขียนสนุกมากค่ะถ้าจำไม่ผิดคนแต่งไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กแต่ใช้ภาษาได้ดีมากเลยนะคะ โดยเฉพาะพวกอาหารไทยเนี้ยละเอียดจนหิวเลยค่ะ 555 o13
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: Nekosama ที่ 07-01-2018 23:38:13
ทำไมขำภูผา คนอะไรขี้เก๊ก กาแฟดำรสชาติกลมกล่อมมากเพราะกวินท์ชงให้ไงล่ะ!!  :katai3:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 07-01-2018 23:43:46
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: seii ที่ 08-01-2018 01:45:43
ขำคุณภู :jul3:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 08-01-2018 12:23:41
อุ๊บ หลุดปาก555555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 08-01-2018 15:14:24
รออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: KAZUMA ที่ 08-01-2018 19:12:59
ชอบเรื่องนี้ คนแต่งมาต่อไวๆนะคะ รออยู่ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :mew1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 16 พี่น้องหรอกเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 08-01-2018 21:46:59
สนุกดี
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 09-01-2018 02:30:55
ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่


     กวินทร์รวบรวมกระดาษใส่แฟ้มหลังถ่ายเอกสารเสร็จ พอเดินออกมาก็สวนกับพนักงานฝ่ายเลขานุการ สองหญิงและชายไม่แท้อีกหนึ่ง ทั้งสามจ้องมองเขาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น กวินทร์ไม่ใส่ใจ และก้าวเท้าจะกลับห้องทำงาน แต่นึกขึ้นได้ว่าลืมแก้วกาแฟที่ตนถือเข้าไปด้วย จึงหมุนตัวกลับ แต่ได้ยินเสียงข้างในพูดชื่อตัวเอง ร่างโปร่งเลยหลบและแอบฟัง

     "นี่เหรอแก เด็กเส้นที่คนพูดกัน? ยิ่งดูใกล้ๆ ยิ่งโคตรหล่ออ่ะ" สาวเทียมในกลุ่มพูดขึ้นเพราะคิดว่ากวินทร์เดินออกไปแล้ว

     "หล่อแค่หน้าย่ะ แต่โง่มากจนต้องเอามาฝากงาน"

     "เหรอ เม้าท์ค่ะเม้าท์?"

     "แหม เขาลือกันทั่วบริษัท เห็นว่าเป็นถึงหลานเจ้าสัวธารา สงสัยบริษัทครอบครัวรับไม่ไหว เลยต้องโยนมาให้ทางนี้"

     ทั้งสามหัวเราะคิกคักโดยไม่รู้เลยว่าคนที่กำลังพูดถึงนั่นยืนฟังอยู่ไม่ไกล

     จริงๆ แล้วกวินทร์ก็ไม่ได้สนใจคำนินทาหรอกนะ ก็แค่พวกขี้อิจฉาที่เอาจุดอ่อนของคนอื่นมาเหยียบเพื่อให้ตัวเองดูสูง หมายังเห่าซึ่งๆ หน้า แต่พวกแอบนินทาแบบนี่น่าจะเรียกอึ่งอ่างเสียมากกว่า 

     "อะแฮ่ม" กวินทร์กระแอมให้ทั้งสามคนรู้ตัว

     "ขอทางหน่อยครับ ผมลืมแก้วกาแฟไว้" ปากอิ่มยิ้มให้เล็กน้อย แสร้งทำเหมือนไม่ได้ยินคำนินทาสบประมาทเมื่อครู่ เขาไม่ค่อยอยากจะต่อความยาวสาวความยืด จะนินทาลับหลังก็ทำไป แต่อย่ามาหาเรื่องเขาต่อหน้าก็แล้วกัน

     กวินทร์เดินกลับห้องทำงาน แต่สายตาเหลือบไปเห็นแผ่นหลังคุ้นตาเดินอยู่ไวๆ

     "เมต!" กวินทร์ตะโกนเรียกเธียรวิชญ์

     "อ่าว ไงกวินทร์" เธียรวิชญ์กล่าทักทาย และดูเหมือนจะแปลกใจเล็กน้อยที่เจอหน้ากวินทร์ เพราะทั้งคู่เริ่มฝึกงานมาเป็นเดือนแล้ว แต่เพิ่งจะเห็นหน้ากันวันนี้ แถมกวินทร์เองก็ไม่อัพเดทอะไรลงโซเชียลมีเดียเท่าไหร่ เลยดูเหมือนหายหน้าหายตาไปนาน

     "ทำไมกูไม่ค่อยเห็นมึงที่แคนทีนเลยวะ?" เธียรวิชญ์เอ่ยปากถาม

     "อาหารไม่อร่อย เลยหิ้วมาเอง ขี้เกียจฟังคนนินทาด้วย" กวินทร์ยักไหล่ไม่ใส่ใจ

     "งั้นวันนี้ลงไปนั่งกับพวกกูดิ ไม่ปากมากเหมือนแผนกอื่นหรอก"

     "เออ โอเคๆ งั้นเจอกัน เดี๋ยวโทรหา"

     ตกลงนัดหมายกันเสร็จสรรพทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปทำงานต่อ


******


     ถึงเวลาพักเที่ยง หนุ่มผมบลอนด์ก็หิ้วปิ่นโตเดินฉับๆ ไปเข้าลิฟท์พร้อมพนักงานคนอื่นๆ ที่ต่างมองเขาอย่างสนเท่ห์ พนักงานหิ้วปิ่นโตเป็นภาพที่ร้อยวันพันปีก็ไม่เคยมีให้เห็น แต่นี่เป็นหนุ่มหล่อชาวตะวันตก ยิ่งไม่เคยพบเจอ

     "เฮ้ยกวินทร์ ทางนี้ๆ"

     กวินทร์หันไปตามเสียงเธียรวิชญ์ที่กำลังยืนกวักมือเรียกเขา

     "นี่กวินทร์ เพื่อนผมเอง เรียนที่มหาลัยฯเดียวกัน" เธียรวิชญ์แนะนำเพื่อนกับชายหนุ่มห้าคนบนโต๊ะ แต่ละคนก็น่าจะอายุยี่สิบกลางๆ ไปจนถึงสี่สิบต้นๆ

     สามคนเป็นหนุ่มเนิร์ดสวมแว่น แต่งตัวเนี้ยบ อีกคนดูธรรมดาที่สุดแล้วในกลุ่ม ส่วนคนสุดท้ายไว้ทั้งหนวดและยังมีลายสักที่แขน ถ้าเป็นบริษัทอื่นของคนไทยคงไม่รับเข้าทำงานด้วยซ้ำ กวินทร์ยกมือไหว้ทุกคนอย่างเป็นมิตร ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เธียรวิชญ์

     "น้องกวินทร์ฝึกงานอยู่แผนกไหนครับ?" หนึ่งในนั้นถาม

     "ฝ่ายเลขาครับ"

     "อ่าว ไม่มาอยู่ไอทีกับไอ้เมตล่ะ?"

     "อ๋อ ผมเรียนอักษรครับ"

     ถามไถ่กันซักพักชาวไอทีก็หันไปปรึกษากันเรื่องงานที่กำลังค้างอยู่ ปล่อยให้เด็กฝึกงานคุยกันตามลำพัง

     "ฝึกงานเป็นไงบ้าง?" กวินทร์เอ่ยถาม พร้อมเริ่มเปิดปิ่นโต วันนี้เขาเอาอาหารที่เหลือจากช่วงเย็นของเมื่อวานมา มีทั้งผัดเผ็ดปลาดุก แกงเขียวหวานหมึกยัดไส้ และไข่เจียวกุ้งฝอย ที่เอามาเยอะเพราะเขามักจะทานข้าวพร้อมจินลดาและคนในแผนกอีกสองสามคน บางวันพยัคฆ์ก็จะถือจานข้าวเดินมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง แย่งตักกับข้าวที่ชอบแล้วหลบหนีเข้าห้องทำงานตัวเอง กวินทร์ล่ะไม่รู้จะขำหรือโมโหดี เดี๋ยวเถอะ วันหลังเขาจะแอบปรุงรสให้เค็มปี๋ ชนิดที่กินคำเดียวแล้วโรคไตถามหาเลย คอยดู!

     "ยุ่งว่ะ พักนี้เซิร์ฟเวอร์บริษัทเหมือนจะมีปัญหา พวกงานเล็กๆ น้อยๆ เลยตกมาอยู่ที่กู" เธียรวิชญ์ทำหน้าเซ็งพร้อมตักข้าวเข้าปาก มีแอบเหล่มองปิ่นโตของร่างโปร่งเป็นพักๆ 

     "มึงล่ะ?"

     "ชิวๆ ชงกาแฟ แปลเอกสาร เดินเอกสาร ไม่มีไรมาก" กวินทร์ตอบอย่างสบายๆ
ตอนนี้กลิ่นอาหารของเขากำลังส่งกลิ่นยั่วน้ำลายยิ่งนัก อาหารพวกนี้เขาเพิ่งเอาไปอุ่นในไมโครเวฟมา ทำเอาน้ำลายสอกันทั้งโต๊ะ

     "ทานด้วยกันก็ได้นะครับ ผมคนเดียวคงไม่หมดแน่ๆ"

     "งั้นกูไม่เกรงใจล่ะนะ" เธียรวิชญ์พูดจบก็ลงมือทันที

     "มึงเคยเกรงใจกูด้วยเหรอ?" กวินทร์แบะปากใส่เพื่อน ก่อนจะหันไปเชื้อเชิญคนอื่นๆ

     "เชิญครับ เชิญๆ"

     ตักคนละนิดคนละหน่อย ไม่นานอาหารก็หมด พอได้ชิมของอร่อยๆ การพูดคุยก็เริ่มลื่นไหลมากขึ้น ถึงจะอยู่แผนกไอที แต่ก็พอได้ยินเรื่องซุบซิบของเด็กเส้นหลานเจ้าสัวธาราอยู่บ้าง ไม่นึกว่าจะเป็นกันเองขนาดนี้

     "ว่าแต่ มึงคิดยังไงมาฝึกงานที่นี้วะกวินทร์?" เธียรวิชญ์ถาม

     "ไม่ได้คิด ปู่เอามาฝาก" ร่างโปร่งยักไหล่ อีกฝ่ายก็ไม่ได้ซักต่อ

     พูดคุยกันซักพักก็เริ่มรู้สึกสนิทกันมากขึ้น จนตอนแยกย้ายกันไปทำงานยังชวนเขาถ้าวันไหนๆ ว่างให้มาดื่มด้วยกัน แหม ช่างชวนถูกคนเสียจริงๆ เขายิ่งคอทองแดงด้วย


******


     หลังพักเที่ยงกวินทร์ก็นั่งเล่นเกมส์อยู่ในห้องทำงาน เพราะไม่มีงานให้ทำ แต่นั่งหายใจทิ้งได้ไม่นาน พยัคฆ์ก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมแฟ้มสีดำในมือ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ

     "เนื้อหาการประชุม อ่านซะ อีกสองชั่วโมงจะมีประชุม นายต้องเข้าไปกับบอสด้วย"

     "อ่า ครับ" กวินทร์เปิดแฟ้มดู หนาพอควร

     "ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามคุณจินนะ" พยัคฆ์สั่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

     เนื้อหาในแฟ้มเกี่ยวกับการลุงทุนอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทและผลกำไรที่ได้ในปีนี้ เอาจริงๆ ก็ใช้เวลาอ่านไม่นาน ที่แฟ้มหนาก็เพราะพวกมีกราฟและสถิติต่างๆ เสียมากกว่า


     กวินทร์เดินเข้าห้องประชุมตามหลังเจ้านาย "ในการประชุมครั้งนี้ ฉันต้องการให้นายเป็นคนจดบันทึกเนื้อหา" ภูผากล่าวขึ้น

     "เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษครับ?"

     "แล้วแต่นาย"

     กวินทร์พยักหน้าเข้าใจ แล้วตระเตรียมโน๊ตบุ๊คให้พร้อม ไม่นานผู้จัดการของแต่ละฝ่ายก็ทยอยกันเข้ามา และทุกคนก็จะมีเลขาเข้ามาด้วยหนึ่งคน

     พอการประชุมเริ่มขึ้น กวินทร์เลือกที่จะจดบันทึกเป็นภาษาอังกฤษ เพราะสามารถพิมพ์ได้เร็วกกว่าภาษาไทย

     ในขณะที่เลขาคนอื่นๆ กำลังพยายามพิมพ์ให้ทันเสียงเจรจา กวินทร์กลับเลือกที่จะหยุดฟังเป็นพักๆ เรียบเรียงข้อมูลในหัวให้เข้าที่ หลังจากนั้นก็สาดนิ้วลงบนคีย์บอร์ดที่ต้องเรียกว่าสาดนิ้ว เพราะเสียงนิ้วกระทบคีย์บอร์ดที่ดังอย่างต่อเนื่องจนไม่มีช่องว่าง เอาทำผู้ร่วมประชุมบางคนถึงกับเหล่ตามอง หนึ่งในนั้นก็คือ ตรีภพ ผู้มีศักดิ์เป็นอาของภูผาและควบตำแหน่งผู้อำนวยการแผนกจัดซื้อ ถึงแม้จะอายุสี่สิบกว่าแล้ว แต่รูปร่างหน้าตายังดูเป็นหนุ่มใหญ่ที่หล่อเหลาไม่แพ้เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ บวกกับความขี้เล่นเป็นกันเอง ทำให้ตรีภพเป็นหวัญใจของสาวน้อยสาวใหญ่และชาวสีม่วงในบริษัท

     การประชุมดำเนินมาถึงโค้งสุดท้าย ภูผาที่นั่งเงียบๆ และเป็นผู้ฟังมาตลอดก็ได้เอ่ยปากขึ้น

     "ทำไมผมถึงไม่ได้รับรายงานเอกสารของรีสอร์ทภูสีฟ้าล่ะครับ?"

     ภูสีฟ้าคือรีสอร์ทสไตล์โมเดิร์นราคาสูง เป็นรีสอร์ทที่บริษัททุ่มทุนสร้างไปไม่ต่ำกว่าสามร้อยล้าน ตอนนั้นภูผายังศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ เขาเลยไม่ได้ใส่ใจนัก

     "เอ.. สงสัยอาลืมให้พนักงานเอามาใส่ ถ้าภูต้องใช้เดี๋ยวอาสั่งคนเอามาให้ก็ได้นะ"
ตรีภพพูดและแสดงสีหน้าจริงใจ

     "ผมเห็นมันขาดไป ก็เลยถามดูเฉยๆ ไม่มีปัญหาอะไรก็ดีแล้วครับ เพราะงานผมเองก็มีเยอะอยู่แล้ว" ภูผาตอบเหมือนไม่ได้คิดจะใส่ใจเรื่องรีสอร์ทที่เอ่ยถึงเมื่อครู่อีก

     "งั้นจบการประชุมแค่นี้แล้วกันครับ" ร่างสูงกล่าว ก่อนทุกคนจะทยอยออกไป

     "นั้นสินะ เป็นรองประธานงานย่อมเยอะเป็นธรรมดา อย่าหักโหมมากนะภู" ตรีภพตบไหล่หลานชายเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมตามคนอื่นๆ จนเหลือแค่ภูผา พยัคฆ์ และกวินทร์

     ภายนนอกแลดูเหมือนอาหลานที่พูดคุยธรรมดา แต่ในที่กวินทร์ดูแล้ว มันกลับเหมือนนักมวยที่กำลังดูเชิงกันมากกว่า แต่ช่างเถอะ เรื่องของเจ้านาย เขาไม่เกี่ยว คงไม่พ้นเรื่องอิจฉาริษยาที่หลานชายได้ตำแหน่งรองประธานแทนที่จะเป็นตัวเขาเองหรอก 

     "เอาบันทึกไปเรียบเรียงไม่ให้เกินสามหน้ากระดาษแล้วส่งมาให้ฉัน" พยัคห์หันไปบอกกวินทร์

     "ครับ" ร่างโปร่งรับคำแล้วขอตัว


     "เสือ ไปหาเอกสารและข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับรีสอร์ทภูสีฟ้ามาให้ฉัน ตั้งแต่ตอนเริ่มก่อสร้างจนถึงปัจจุบัน เช็คดูด้วยว่าเอกสารถูกปลอมแปลงมาหรือเปล่า แล้วก็สืบเงียบๆ ห้ามให้ใครรู้ตัว"

     "ครับบอส" พยัคฆ์ก้มหัวให้เจ้านายนิดหน่อยก่อนจะขอตัว เขาทำงานให้ภูผามานาน ดังนั้นการสั่งงานจึงไม่ต้องกล่าวอะไรให้มากความ

     สาเหตุที่อยู่ดีๆ ภูผาลุกขึ้นมาให้ความสนใจรีสอร์ทภูสีฟ้าเป็นเพราะเขารู้สึกไม่ชอบมาพากลกับรีสอร์ทที่ถูกลงทุนสร้างไปหลายร้อยล้าน แต่กลับต้องมานั่งซ่อมแซมบ่อยๆ แถมแต่ละครั้งก็เบิกค่าอุปกรณ์การก่อสร้างสูงผิดปกติ แล้วคนที่อยู่เบื้องหลังโปรเจคนี้ก็คืออาตรีภพนั่นเอง

     แต่ตอนนี้อะไรยังไม่แน่ชัด ตรีภพถือว่าเป็นคนในครอบครัว ฉะนั้นไม่ควรลงมือทำอะไรโผงผาง ทุกอย่างคลี่คลายเมื่อไหร่คงต้องส่งต่อให้ประธานบริษัท ซึ่งก็คือพ่อเขาเป็นคนจัดการ


******


     ภายในสถานที่จัดงานของโรงแรมระดับห้าดาว กำลังมีงานเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัทเจ้าสัวธาราที่ร่วมงานกับบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของเมืองไทยอย่างบริษัท Thaiton และสินค้าที่กำลังกล่าวถึงก็คือเครื่องปรับอากาศรุ่นที่สามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 15%

     โดยมีกานติมา ลูกสาวคนโตของคุณเอมอรเป็นกรรมการผู้บริหารโปรเจค สาวมั่นที่เพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลกที่ประเทศสิงคโปร์

     กานติมาพรีเซนต์คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์อยุ่บนเวทีคล่องแคล่ว สายตาคนที่มางานต่างจับจ้องและให้ความสนใจเธอ หญิงสาวที่สวย เก่ง แล้วยังเป็นถึงหลานสาวเจ้าสัวธารา สำหนักข่าวย่อมให้ความสนใจเป็นธรรมดา

     "นอกจากนั้น BS Corporation กับ Thaiton Electronics ยังได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา เพื่อพัฒนาเครื่องปรับอากาศที่มีคุณภาพและประหยัดพลังงาน โดยตั้งชื่อบริษัทใหม่นั่นว่า FreshAir" กานติมากล่าวอย่างภูมิใจ

     "และดิฉันขอแนะนำทุกท่านให้รู้จักกับผู้ที่จะมานั่งตำแหน่งประธานบริหารของบริษัทเรา คุณชัชนันท์ ชัยวิเศษ ค่ะ"

     ชัชนันท์เป็นชายหนุ่มวัยสามสิบปลาย ไม่ได้หล่อเหลา แต่รูปร่างและบุคลิกดูดี เขารับตำแหน่งประธานต่อจากบิดาที่ตัดสินใจวางมือจากธุรกิจ

     Thaiton Electronics ไม่ได้ใหญ่โตเท่าบริษัทสุริยันของครอบครัวภูผาหรือ BS Corporation ของเจ้าสัวธารา แต่ก็เติบโตขึ้นทุกวัน และการลงทุนครั้งนี้ดูเหมือนจะประสบความสําเร็จไม่น้อย


     กวินทร์และเจ้าสัวยืนมองกานติมากับชัชนันท์บนเวที ร่างโปร่งไม่ได้รู้สึกยินดียินร้าย คนที่เขาแคร์คือคนในบ้านเจ้าสัวธารา ญาติคนอื่นๆ เขาไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่จะหลีกหนีก็คงเป็นไปได้ยาก ในเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นญาติกัน... 

     "ฝึกงานกับภูผาเป็นไงบ้างตากวินทร์?" เจ้าสัวเอ่ยปากถามหลานชายขณะที่สายตายังจดจ้องบนเวที

     "ก็ดีครับ" เรียนรู้การทำกาแฟและแปลเอกสารนจนโปรแล้ว กวินทร์แอบคิดในใจ

     "ปู่อยากให้กวินทร์มาดูงานที่ FreshAir ด้วย เดี๋ยวจะให้คนจัดตารางงานให้"

     "โถ่ คุณปู่ แล้วกวินทร์จะได้อยู่กับเจ้าแฝดเหรอ?" กวินทร์โอดครวญ

     "ปู่จะให้ไปแค่อาทิตย์ละครั้งกับเวลามีประชุมก็พอ"

     มันก็ยังฟังดูเยอะอยู่ดี ทุกวันนี้เขาฝึกงานแค่วันจันทร์ถึงวันพฤหัส คิดได้ดังนั้นกวินทร์ก็ถอนหายใจด้วยท่าทางโอเว่อร์

     "เอาน่าตากวินทร์ จะเร็วจะช้า ก็ต้องเรียนรู้งานอยู่ดี" เจ้าสัวปลอบแล้วขยี้ผมหลานชายอย่างเอ็นดู แล้วหันไปให้ความสนใจกับเวทีอีกครั้ง


     "ทำไมถึงตั้งให้คุณกานติมาเป็นกรรมการผู้บริการตั้งแต่อายุยังน้อยและเพิ่งจบปริญญาโทได้ไม่นานครับ?" นักข่าวคนหนึ่งเอ่ยปากถามชัชนันท์

     "ในต่างประเทศมีนักบริหารอายุน้อยหลายคนที่ประสบความสำเร็จ ผมเชื่อว่าคุณกานติมาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น และเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยระดับต้นๆ ก็คงพิสูจน์ได้ส่วนหนึ่งนะครับ" ชัชนันท์ตอบได้ดีราวกับเตรียมมาพร้อม ทั้งการยกตัวอย่างถึงต่างประเทศ และพูดถึงเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของกานติมา สิ่งที่ต่อให้มีอำนาจแค่ไหนในประเทศไทยก็มิอาจซื้อมาได้ ต้องใช้ความสามารถล้วนๆ

     แต่... กวินทร์ไม่ชอบสายตาชัชนันท์ยามที่มองญาติสาวของตนเอาเสียเลย ถ้ามองผ่านๆ ก็จะเห็นแค่สายตาที่ชื่นชมหญิงสาว แต่กวินทร์กลับรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น

     "บริษัทเราร่วมงานกับ Thaiton มานานยังครับปู่?" กวินทร์ถาม

     "สิบกว่าปีแล้ว แต่ชัชนันท์เพิ่งมารับตำแหน่งแทนพ่อเขาได้แค่สองปี"

     "แล้ว... คุณชัชนันท์นี่ไว้ใจได้ใช่ไหมครับ?" กวินทร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคลือบแคลง เจ้าสัวหันไปมองหน้าหลานชายที่กำลังสำรวจชัชนันท์อยู่ ชายชราถอนหายใจเล็กน้อย นั่นสินะ วงการธุรกิจมันไว้ใจคนได้ยาก แต่ถ้าไม่ลงมือเสี่ยง ก็จะไม่มีวันได้กำไรตอบแทน

     "เรื่องอนาคตคงไม่มีใครทำนายได้ แต่มันงานของยัยกิ่งน่ะ ปู่เองก็คงได้แต่มองและแนะนำอยู่ห่างๆ"

     ไม่ทันจะได้คุยอะไรกันต่อ หนึ่งในเลขาคุณธาราก็เดินเข้ามาเรียกตัวชายชราไปเสียก่อน


******


     "ทิ้งลูกมาเที่ยวเหรอ?"

     กวินทร์สะดุ้งเมื่ออยู่ๆ ก็มีทักขึ้นจากข้างหลัง

     "โถ่ คุณภูผา มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง" ร่างโปร่งหันไปมองค้อนเจ้านายเล็กน้อย แต่อีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ และเดินมายืนขนาบข้างเขา

     "ผมไม่ได้ทิ้งนะครับ เจ้าแฝดหลับไปตั้งแต่หกโมงเย็นแล้ว" ร่างโปร่งทำหน้ามุ่ย
ภูผาไม่ตอบโต้ง ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบและคิดในใจ คนๆ นี้ บางทีก็ไม่ต่างจากเด็ก แต่บางทีกลับสุขุมเหมือนคนสูงอายุ

     "นายไม่เจ็บใจเหรอที่ลูกพี่ลูกน้องกำลังได้เป็นถึงผู้บริหาร ขณะที่นายเป็นแค่เด็กฝึกงาน แถมไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน?" ภูผาถามลองใจ เลือกใช้คำพูดที่ไม่ร้ายแรง แต่หักหน้าอีกฝ่ายได้ไม่ต่างกัน

     "ไม่เลยครับ" กวินทร์ตอบอย่างไม่ต้องคิดและทำหน้าขยาดเหมือนไม่อยากเข้าใกล้ตำแหน่งที่ว่า

     "ยิ่งอยู่สูงยิ่งปัญหาเยอะ เวลาว่างส่วนตังก็โดนสูบไปหมด เพื่อแลกกับอะไรล่ะครับ? เงินเหรอ? เงินผมก็มีเยอะแล้ว หรือเกียรติยศ? ก็ไม่เห็นจะอยากได้ นี่ถ้าเลือกได้นะ ผมอยากเป็นพ่อบ้านเลี้ยงเจ้าแฝดอยู่บ้านเฉยๆ ด้วยซ้ำ ฮ่าๆ" ว่าแล้วก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดี จนภูผาอดยิ้มตามไม่ได้ และรู้สึกชอบใจกับคำตอบของกวินทร์

     "รู้ว่านายรวย แต่เวลาเด็กๆ โตล่ะ? เงินมีแค่ไหนถ้าไม่หาเพิ่มก็หมดได้"

     "เอ้า คุณไม่คิดจะให้เจ้าแฝดทำงานเลี้ยงตัวเองเหรอครับ?" กวินทร์ถามกลับอย่างเหลืออด พูดอย่างกับเจ้าแฝดเป็นลูกตัวเองนะพ่อคุณ

     "เผื่อกรณีฉุกเฉิน"

     "งั้น... ผมก็หาแฟนที่มีเงินเดือนสูงๆ ไงครับ เอ... จะว่าไป...." ร่างโปร่งลากเสียงและมองคนข้างกายอย่างสังเกตสังกา

     "หืม?" ภูผาสงสัยกับท่าทีอีกฝ่าย

     "คุณภูผาเองก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยนา... รวย หน้าที่การงานดี แถมเข้ากันกับเจ้าแฝดได้เป็นเป็นปี่เป็นขลุ่ย ว่าไงครับ? สนใจมะ?" ไม่พูดเปล่า ร่างโปร่งยังยื่นหน้าเข้าไปใกล้ภูผา แล้วเลียริมฝีปากอิ่มแดงจนชุ่มฉ่ำอย่างเชิญชวน แถมยังกระดิกนิ้วดิ้กๆ ทีเล่นทีจริง แล้วมีหรือภูผาจะถอย ร่างสูงขะยับเข้าใกล้กวินทร์จนไหล่ชนกัน ก้มหน้าลงไปจนแทบชิด ก่อนแขนแกร่งจะโอบเอวอีกฝ่ายเข้ามาแนบตัว ทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นแป้งเด็กที่หอมอ่อนๆ จนอยากฝังจมูกลงบนแก้มใสเหมือนเวลาทักทายเจ้าแฝดและน้องพลอย ทว่าไม่รู้โชคดีหรือโชคร้าย โทรศัพท์มือถือของกวินทร์ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน ร่างโปร่งผละตัวออกจากวงแขนและขอตัวไปรับโทรศัพท์ ก่อนจะเดินกลับมาขอตัว

     "คุณปู่โทรตามน่ะครับ ผมขอตัวก่อนแล้วกัน เดินทางกลับบ้านดีๆ นะครับ" กวินทร์กล่าวลา ยกมือไหว้เจ้านายตนแล้วเดินออกจากงาน

     ภูผามองตามร่างโปร่ง ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกแล้วค่อยๆ พ่นออกมา รู้ว่าอีกฝ่ายล้อเล่น แต่ทำไมเขาต้องบ้าจี้คล้อยตามเป็นครั้งที่สอง ทั้งที่ปกติแล้วไม่เล่นอะไรไร้สาระเช่นนี้? แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกเสียดายร่างอุ่นๆ ในวงแขนเมื่อครู่?


******


     วันนี้เป็นวันหยุดของแพรพิไล เธอเล่นกับน้อยพลอยทั้งวันจนถึงเวลานอนกลางวันของเด็กหญิง คุณแม่อย่างเธอเลยมีเวลาพักและมานั่งเลื่อนดูข่าวสารในเฟสบุ๊ค จนมีสกู๊ปหนึ่งที่ทำเอาเธอแทบตกโซฟา

     "คุณแม่คะ คุณแม๊" หญิงสาวตะโกนเรียกแม่ลั่นบ้าน

     "อะไรเนี่ยยัยแพร เดี๋ยวน้องพลอยก็ตื่นหรอก" คุณทิพกาบ่น

     "คุณแม่ดูนี่สิคะ" เธอยื่นไอแพดให้คุณทิพกาดู น้ำเสียงตื่นเต้น

     "อุ้ย นั่นตาภูหนิ!"

     บนหน้าจอปรากฏรูปลูกชายคนโตของเธอและชายหนุ่มอีกคน ทั้งคู่หันหลังให้กล้อง แต่หันหน้ามองกันจบแทบชิด ขยับอีกหน่อยจมูกก็จะแตะกันแล้ว 

     ลูกชายเธอ ผู้ที่ไม่ยิ้มอย่างจริงใจเช่นนี้ให้ใครนอกจากครอบครัวและคนสนิท แต่นี่ นอกจากรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะชอบใจนักหนาแล้ว สายตากลับมองคนข้างกายพราวระยับ ไหนจะแขนแกร่งที่โอบเอวอีกฝ่ายไว้ ทั้งที่ปกติไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่าม

     สำหรับคนเป็นแม่มีเหรอที่คุณทิพกาจะดูไม่ออกว่าลูกชายเธอรู้สึกอย่างไร แต่เจ้าตัวสิ จะรู้ไหม? เก่งทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องความรัก

     โธ่ ตาภูนะตาภู คนในโลกก็มีเยอะแยะ ทำไมต้องเป็นหลานสุดหวงของเจ้าสัวธาราด้วยนะ? เกิดทำเขาเสียหายแล้วแม่จะช่วยแกยังไง?


หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-01-2018 03:25:35
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 09-01-2018 04:04:45
ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะคุณแม่ น้องกวินทร์อาจเป็นฝ่ายมาขอลูกชายคุณแม่เองก็ได้ค่ะ


ปล. คนเขียนลืมเปลี่ยนวันที่ ที่หน้าแรกเด้อ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁6/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 09-01-2018 04:17:22
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-01-2018 06:35:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 09-01-2018 08:41:03
คุณแม่จ๊ะ อยากมีคุณแม่ที่เข้าใจลูกๆ แบบนี้บ้างจังเลย
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 09-01-2018 08:41:38
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-01-2018 09:17:57
คุณภูไม่ได้บ้าจี้คล้อยตามกวินทร์หรอก แค่จิตใต้สำนึกของความรู้สึกมันเรียกร้องเท่านั้นเองงงงง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 09-01-2018 09:28:57
คุณแม่คะ จัดการทีค่ะ ลูกสะใภ้แบบนี้หาได้ไม่ใช่ง่ายๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 09-01-2018 11:31:56
อุ๊ย น้องกวินทร์รุกเองเลยนะเนี่ย พี่ภูจะเอายังไงต่อล่ะ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 09-01-2018 12:16:15
55555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 09-01-2018 13:04:30
แหมๆๆ พี่ภูหวั่นไหวหรือตกหลุมรักเด็กค่าาาาา
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 09-01-2018 13:43:23
ต้องขอกราบขอบพระคุณงามๆกับคนเขียนด้วยนะค่ะ

ขอบคุณจากใจจริงเลยค่ะ นิยายสนุกมาก

แล้วก็ไม่มีนังสระเอแล้ว ดีใจจัง :laugh5:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-01-2018 19:59:39
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 09-01-2018 21:25:56
 :katai5: พึ่งมีโอกาศอ่าน ตอนแรกเห็นชื่อเรื่องเฉยๆอะ แต่พอเริ่มอ่านเท่านั้นแหละ

โอ้ยมันสนุกมากกกกกกก ขอไห้สาวิท แก้แค้นไอเสี่ยไวๆ เอาไห้มันค่อยๆทรมานนเลย จุมลุงน่ารัก ปะป๋ากวินแอบนอยนิดๆๆฮ่าๆๆ


เอาจริงๆกวิน กับ พี่หมอไม่เหมาะหรอก

นิสัยอย่างพี่หมอแกควรเป็นเคะ เพราะอ่านๆๆไป สปีชี่เดียวกันเลย ฮ่าๆๆๆ

มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: Virgin_J ที่ 09-01-2018 21:26:35
 :katai2-1:
ขอบคุณค่า นิยายสนุกมากๆๆ เลยค่ะ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 10-01-2018 05:43:26
สนุกอ่ะ :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 10-01-2018 11:01:18
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-01-2018 11:43:53
จะกลัวอะไรล่ะ เดี๋ยวแฝดก็มีพ่อทูนหัวที่รวย หล่อ เก่งแล้ว :laugh:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁8/1/18 ตอนที่ 17 หมาหยอกไก่
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 10-01-2018 12:33:39
หมาหยอกไก่นี่ กวินทร์เป็นหมาสินะ55555
อย่ามาหยอดแล้วจากไปนะ
พูดงี้ให้ความหวังเด็กมันนะลุง
อ่านตอนแรกๆเราคิดว่าหมอธีเป็นพระเอก
แต่พอเจอภูผา หมอธีคือใครหรอ??55555
เราเชียร์ภูผามากๆ คริ
นี่ยังสงสัยเลยว่า ที่เด็กๆไม่กลัวภูผา
เพราะจำได้ว่าเคยช่วยพวกแกรึป่าวน้า
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 10-01-2018 21:37:43
ตอนที่ 18 แย่งซีน


     หลังจากที่เครื่องปรับอากาศของบริษัท FreshAir ได้วางออกขายสู่ตลาดเพียงแค่อาทิตย์เดียว ก็สามารถขายได้กว่าสามหมื่นเครื่อง ทำให้ราคาหุ้นพุ่งแซงหน้าคู่แข่งอย่างเทียบไม่ติด และในทางกลับกัน ราคาหุ้นของคู่แข่งเองก็ตกลงอย่างหนักหน่วง กานติมาอ่านข่าวบนไอแพดอย่างสบายอารมณ์เมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เธอมีนัดถ่ายรายการเกี่ยวกับนักธุรกิจอายุน้อยไฟแรง ใบหน้าสวยที่แต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางคลี่ยิ้มให้กับความสำเร็จในงานชิ้นแรกและกำลังไปได้ดีของตน ต่างจากแม่ของเธอผู้กำลังเดินลงบันไดด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ

     "ยัยกิ่ง แกอ่านข่าวนี้ยัง?" คุณเอมอรถามลูกสาวเสียงขุ่น

     "อะไรคะคุณแม่?"

     "อ่านซะ!" เธอกระแทกโทรศัพท์มือถือลงกับโต๊ะให้ลูกสาวได้เห็น ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วกอดอกท่าทางฮึดฮัด

     กานติมาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู และเห็นรูปของกวินทร์กับภูผา โดยที่ภูผากำลังกอดเอวญาติชายของเธอเอาไว้ พร้อมยิ้มให้ร่างโปร่งด้วยรอยยิ้มที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน หากดูผ่านๆ ก็คงคิดว่าเป็นคนรักกัน

     "ช่างเถอะค่ะคุณแม่"

     ถ้าเป็นแต่ก่อน กานติมาคงหัวเสียและโกรธเคืองกวินทร์ไปพร้อมกับแม่ หญิงสาวยอมรับว่าเคยหลงในรูปลักษณ์และฐานะของชายหนุ่ม เคยพยายามเข้าใกล้เขาโดยมีคุณเอมอรคอยสนับสนุน แต่ตอนนี้เธอกำลังสนุกกับงาน และอายที่จะต้องเสนอหน้าเข้าหาผู้ชายที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการเธอ มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงโปรไฟล์ดีๆ อย่างเธอควรทำ

     "ช่างมันอย่างงั้นเหรอ? แกไม่อายหรือไงที่แพ้เกย์อย่างไอ้กวินทร์น่ะ หา?!"

     "แม่จะให้กิ่งหน้าด้านเข้าหาคุณภูผา ทั้งๆ ที่เขาแสดงออกว่ารำคาญกิ่งขนาดไหนน่ะเหรอคะ? แบบนั้นไม่น่าอายกว่าเหรอ? อีกอย่าง... กิ่งเองก็มีคนที่ชอบแล้ว"

     "เห๊อะ ชัชนันท์น่ะเหรอ?" คุณเอมอรพูดอย่างดูถูก

     กานติมาสะอึก ไม่คิดว่าแม่จะรู้ เธอไม่ได้บอกใครเรื่องคบกันกับชัชนันท์ เพราะกลัวคนจะกล่าวหาว่าเธอเอาตัวเข้าแลกกับตำแหน่งกรรมการผู้บริหาร

     "ฉันเป็นแม่แกนะยัยกิ่ง ทำไมฉันจะไม่รู้!" คุณเอมอรถอนหายใจเสียงดัง "แกคิดอะไรอยู่ห๊ะ?! ชัชนันท์แก่กว่าแกตั้งสิบกว่าปี แถมฐานะก็ด้อยกว่าเยอะ" คนเป็นแม่พูดอย่างไม่พอใจในตัวลูกสาว

     "แล้วแม่จะให้กิ่งทำไง? วิ่งตามคุณภูผาให้เขาดูถูกเหรอคะ? กิ่งไม่ใช้ยัยเกรซนะ ขอตัวก่อนค่ะ กิ่งมีงานต้องทำ" หญิงสาวตัดบทก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ใส่ใจเสียงแม่ที่ตะโกนตามหลัง


******


     ในที่สุดก็ถึงวันหยุดเทศกาลเสียที เป็นทาสภูผาสี่วันต่ออาทิตย์ ส่วนทุกๆ วันศุกร์ก็ไปดูงานที่ FreshAir ดูงานที่ว่าก็คือดูจริงๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะกานติมากลัวว่าเขาจะทำให้เสียงาน ซึ่งกวินทร์ก็ไม่โต้แย้งอะไร เขาไม่ได้สนใจหรืออยากมีส่วนร่วมอยู่แล้ว ถือว่าพอใจกันทั้งสองฝ่าย

     ตั้งแต่รับเจ้าแฝดมาอยู่บ้านเจ้าสัว กวินทร์ได้พาเด็กๆ ออกข้างนอกแค่ไม่กี่ครั้ง วันหยุดนี้เลยถือโอกาสจะพาหนูๆ ไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าซะหน่อย และพอดีว่าหยุดพร้อมเธียรวิชญ์ กวินทร์จึงชวนอีกฝ่ายให้ไปด้วยกัน แต่...เหตุผลจริงๆ ที่กวินทร์ไม่ได้บอกเพื่อนก็คือ เขาต้องการคนมาช่วยดูเจ้าแฝดต่างหากเล่า! ครั้นจะให้คนที่บ้านไปเดินตามก็ใช่เรื่อง ดังนั้นเธียรวิชญ์นี่แหละ ตัวเลือกที่ดี ไหนๆ ก็ฝากท้องกับอาหารที่เขาห่อไปที่ทำงานหลายต่อหลายครั้งแล้ว ใช้คืนนิดๆ หน่อยๆ จะเป็นไรไป แถมเจ้าแฝดก็น่ารักน่าชังขนาดนี้... มั้งนะ   

     "เอ้าเด็กๆ ครับ วันนี้ลุงเมตจะพาไปเที่ยว เย้ๆ" กวินทร์ชูมือร้องเย้ ส่วนเจ้าแฝดพอเห็นปะป๊าทำก็เอาบ้าง ชูมือป้อมกระโดดดึ๋งๆ อย่างดีอกดีใจ ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเล้ย

     เธียรวิชญ์ชายตามองเพื่อน "ลุงเลยเหรอ? กูว่าอาก็พอมั้ง"

     "หน้าทรยศอายุอย่างมึง กูให้เป็นลุงก็หรูแล้ว"

     เธียรวิชญ์ได้แต่จิปากแล้วส่ายหัวเอือมๆ

     "ไหนเด็กๆ เรียกลุงเมตหน่อยครับ ลุงเมตตต"

     "ยุงเหม็น" น้องปลื้มพูดเสียงดังฟังชัด พอเห็นแฝดน้องพูด พี่สาวก็เอาบ้าง "ยุงเหม็น"

     "หึหึ เมตครับ เมตๆ" กวินทร์หลุดขำและพยายามสอนเจ้าแฝดออกเสียง

     "เหม็นๆ" เจ้าหนูพูดตาม แถมหัวเราะคิกคักนึกว่าปะป๊าฉีกยิ้มให้ตัวเอง โธ่ เจ้าแฝด ปะป๊าพวกหนูกำลังกลั้นหัวเราะต่างหากเล่า

     สอนกันอยู่นาน เดี๋ยวเหม็นเดี๋ยวเม็ต สุดท้ายคุณลุงก็ต้องยอมแพ้ และจบด้วยลุงเธียแต่เพี้ยนไปเป็นเจีย แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็ดีกว่าลุงเหม็นล่ะน่า


******


     กวินทร์จับเจ้าแฝดมาใส่ชุดฮู้ดแขนสั้นสีเหลืองอ๋อยลายปิกาจู เดินไปไหนก็เด่นสะดุดตาดูน่ารักและมองหาง่ายในหมู่คนเยอะๆ

     ร่างโปร่งกลัวหลงกับเด็กๆ เลยจะอุ้มหนูๆ เอาไว้ แต่เจ้าแฝดกลับไม่ยอม ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยากลงเดินเอง กวินทร์จึงเปลี่ยนมาจับมือแทน เธียรวิชญ์จับมือน้องปรายส่วนเขาจับมือน้องปลื้ม แล้วเจ้าแฝดก็จับมือกันอีกที ถ้าเป็นคู่ชายหญิงก็ไม่ต่างจากครอบครัวพ่อแม่ลูกเลย แต่นี่คู่ชายชาย คนส่วนมากคงคิดว่าพวกเขาเป็นคู่รักเกย์ กวินทร์ไม่ซีเรียสกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ส่วนเธียรวิชญ์เองก็เฉยๆ

     เดินเล่นเป็นเป้าสายตาชาวบ้านได้ไม่นาน เธียรวิชญ์ก็เสนอไอเดียพาเจ้าแฝดไปสนามเด็กเล่นบนชั้นสาม

     ซึ่งพอเห็นสนามเล่นและเด็กๆ รุ่นราวคราวเดียวกันหลายคน เจ้าแฝดถึงกับตาโต หันมามองปะป๊าแล้วส่งเสียงฮู้หูชอบอกชอบใจ "ปะๆ" ชี้ไม้ชี้มือ อยากให้เขาพาไปยิ่งเห็นชิงช้าหนูๆ ยิ่งรบเร้า วิ่งตุตะมาเกาะขา มองปะป๊าที มองชิงช้าที เหมือนกลัวคนอื่นจะมาแย่งเล่น

     "ไอ้เมตมาช่วยอุ้มน้องปรายดิ๊ ยืนเป็นนายแบบอยู่นั่นแหละ" กวินทร์ร้องเรียกเพื่อน

     และพอได้นั่งชิงช้าสมใจเจ้าแฝดก็ร้องกรี๊ดกร๊าดและส่งเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน ปากเล็กๆ ร้องบอกปะป๊าและลุงเจียให้แกว่งสูงๆ "ยุงเจียๆ"

     พอเบื่อชิงช้า ดวงตากลมโตก็มองซ้ายมองขวาสอดส่องหาเครื่องเล่นใหม่โดยมีปะป๊าและลุงเจียเป็นผู้ช่วย

     วิ่งเล่นจนเหนื่อย เจ้าแฝดก็เดินจับมือกันยิ้มแฉ่งมาแต่ไกล โดยมีเธียรวิชญ์เดินตามหลัง เหนื่อยกว่าเจ้าแฝดก็ลุงเจียเนี่ยแหละ เดี๋ยวอุ้มเดี๋ยววิ่งตาม กวินทร์คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เอาเพื่อนมาด้วย คนไรวะ โคตรฉลาดเลย!

     "ว่าไงครับน้องปลื้มน้องปรายสนุกไหมเอ่ย?"

     "หม่ำๆ" มือลือเล็กตบท้องป่องๆ สื่อให้รู้ว่าหนูหิวแล้ว

     "ครับๆ" กวินทร์เตรียมข้าวผัดกุ้งมาจากบ้าน เพราะรู้ดีว่าเจ้าแเฝดต้องหิวก่อนเที่ยงแน่ๆ

     "ไอ้เมต อย่าแย่งหลานกิน เดี๋ยวกูตบหัวคว่ำซะเลยหนิ" กวินทร์หันไปดุเพื่อนเมื่อเห็นอีกฝ่ายแอบจิ้มแครอทเข้าปากตัวเองขณะที่กำลังป้อนน้องปราย

     "เอามาตั้งเยอะ น้องปรายกินไม่หมดหรอกน่า อย่างกแทนลูก"

     "มึงอย่าดูถูกพื้นที่กระเพาะเจ้าแฝดเชียว รีบๆ ป้อน เดี๋ยวกูพาไปหาไรกิน"

     แล้วก็เป็นไปตามที่กวินทร์พูดไม่มีผิด ข้าวผัดเต็มกล่องตอนนี้หายเข้าไปอยู่ในท้องป่องๆ ของเจ้าแฝดเป็นที่เรียบร้อย


     ป้อนข้าวเด็กเสร็จก็ถึงเวลาอาหารของผู้ใหญ่ ทั้งสี่ลงมาชั้นสองที่เหมือนจะมีงานโปรโมทอะไรซักอย่าง เห็นหนุ่มหล่อสาวสวยที่น่าจะเป็นดาราอยู่บนเวที มีพวกแฟนคลับยืนมุงกันเต็มไปหมดพร้อมชูโทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปและรูป

     กวินทร์และเธียรวิชญ์ไม่สนใจดาราอยู่แล้ว เลยไม่ได้คิดจะหยุดดู แต่ทว่า...

     "เราจะจับหมายเลขผู้โชคดีที่จะมาร่วมสนุกชิงรางวัล Astro A50 Gen3 กันนะครับ ใครอยากร่วมสนุกก็เชิญไปจับหมายเลขกับน้องฝ้ายได้เลยครับ"

     หือ? หูฟังเกมมิ่งรุ่น Astro A50 Gen3 นี่มันราคากว่าสองหมื่นเชียวนะ!

     "เมตๆๆๆ เดี๋ยวก่อน" กวินทร์เรียกเพื่อนที่จูงมือน้องปลื้มเดินนำหน้า ส่วนน้องปรายกำลังหลับอยู่บนไหล่ของเขา

     "มีไร?"

     "มึงได้ยินที่เขาประกาศไหมวะ?" กวินทร์ถามด้วยน้ำเสียงที่ลั้ลลาจนไม่น่าไว้ใจ

     "เออ แล้วไง?" เธียรวิชญ์ขมวดคิ้วถาม

     "มึงไปจับฉลากแข่งชิงรางวัลแทนกูหน่อย"

     "ไปเองดิ กูไม่ชอบคนเยอะ" ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย 

     "แต่กูต้องดูแลเด็กๆ นะเว้ย ไปแทนกูหน่อยยย"

     "เดี๋ยวกูดูให้เอง มึงไปเถอะ"

     "ไม่ได้ น้องปรายตื่นมาไม่เจอกูแล้วจะร้องไห้ นะๆ มึงไปแทนกูหน่อย" อ้อนวอนเต็มที่

     "ไม่!" เธียริวิชญ์ยังคงยืนกราดปฏิเสธเสียงแข็ง


******


     กูมาทำเหี้ยอะไรอยู่บนนี้? นั่นคือสิ่งที่เธียรวิชญ์กำลังถามตัวเอง อ๋อ โดนไอ้หัวทองขู่ แล้วนี่ดูมัน ยังมีหน้ามานั่งยิ้มหวานประจบเขาอีก หมั่นไส้เว้ยยย แต่ถ้าถามกวินทร์ เจ้าตัวก็จะบอกว่า เปล่าเล้ย ขู่เข่อที่ไหนกั๊น? กวินทร์ก็แค่พูดว่าถ้าไม่ได้หูฟังมาใช้ในเวลาเล่นเกมส์ เขาก็อาจจะเบื่อจนต้องพาบุญทิวาคนซื่อไปเปิดหูเปิดตาเท่านั่นเอ๊ง เห็นไหม? ไม่ได้ขู่อะไรเลย กล่าวหากันชัดๆ


     ตั้งแต่เธียรวิชญ์ขึ้นไปยืนบนวีที เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นเป็นเท่าตัว หล่อเข้มแบบหนุ่มละตินบวกกับกล้ามเนื้อแน่นๆ เลยไม่แปลกที่เธียรวิชญ์จะแย่งเอาความสนใจจากดาราชายไปได้เยอะขนาดนี้ ไหนจะใบหน้าที่บึ้งๆ ตึงๆ แต่กลับดูขรึมถูกใจสาวๆ ไปเสียอย่างนั้น แล้วเจ้าตัวยังจับพลัดจับผลูผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้เฉย

     "เอาล่ะครับ คำถามสุดท้าย ถ้าคุณตอบได้ ก็รับของรางวัลไปเลย ฟังให้ดีๆ นะครับ" พิธีกรกล่าวกับเธียรวิชญ์

     และคำถามที่เขาได้ ก็เป็นคำถามถามเกี่ยวกับคอมฯ มีเหรอที่เธียรวิชญ์จะตอบไม่ได้

     "ขอพูดคุยกับผู้ชนะหน่อยนะคะ ตั้งแต่ขึ้นเวทีมาก็แย่งแฟนคลับสาวๆ ไปจากพี่เอสหลายคนเลย"

     สาวๆ กรี๊ดดังขึ้นเมื่อพิธีกรพูดจบ พร้อมกับเสียงเรียกชื่อชายหนุ่ม "พี่เมตๆ" เธียรวิชญ์เป็นคนดังของมหาวิทยาลัยไม่แปลกที่จะมีคนรู้จัก

     "คุณเมตเป็นเกมเมอร์เหรอคะ? จะเอาหูฟังของ Astro ไปทำอะไรเอ่ย?"

     "เปล่าครับ" ชายหนุ่มเว้นวรรคก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากแล้วมองไปทางเพื่อนรักและสองแฝดที่กำลังเคี้ยวขนมพร้อมดูอะไรบางอย่างในโทรศัพท์ มีความสุขเหลือเกิน ไม่สนใจเขาเลย!

     "ไม่ได้มาเล่นให้ตัวเองครับ แต่คนที่มาด้วยเขางอแงอยากได้" เอาสิ กูขึ้นมามึงก็ต้องขึ้นมาด้วยไอ้ฝรั่ง!

     "ต้ายยย คนไหนคะคนไหน?" พิธีกรสาวถามอย่างกระตือรือร้น

     ฝ่ายเธียรวิชญ์เองก็ให้ความร่วมมืออย่างไม่ตกหย่อน ชี้มือไปยังหนุ่มผมบลอนด์ "นู้นครับ ฝรั่งกับเด็กแฝด" ไม่ต้องหานาน ฝรั่งกับเด็กแฝดมองปราดเดียวก็เจอแล้ว

     ซักพัก ร่างโปร่งและเจ้าแฝดก็ปรากฏตัวในจอมอนิเตอร์บนเวที จากนั้นเสียงกรี๊ดก็ดังแทบลั่นห้าง จะไม่ให้กรี๊ดได้ไง ในเมื่อคนไทยแพ้ความขาวอมชมพูขนาดนี้ แถมเด็กๆ ที่กำลังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนตาหยีก็ทำเอาคนที่เห็นใจละลายกันถ้วนหน้า พอรู้ตัว ร่างโปร่งก็เงยหน้าดูจอและยิ้มแหยๆ ก่อนจะส่งสายตาคาดโทษให้เธียรวิชญ์ แต่ช่างไม่รู้เลยว่าคนเข้าใจผิดในความสัมพันธ์ของตนและเพื่อนไปถึงไหนต่อไหน แล้วยังจะมาทำตาค้อนใส่เธียรวิชญ์เหมือนคู่รักงอนกัน

     "ปะ" น้องปรายชี้มือเมื่อเห็นตัวเองบนจอมอนิเตอร์ เด็กหญิงมองจอตาแป๋วก่อนจะโบกมือให้ตัวเองในจอแล้วหัวเราะคิกคัก ขณะที่น้องชายกำลังก้มหน้าก้มตาหม่ำขนม แถมยื่นมืออวบๆ ป้อนปะป๊าทีพี่สาวที ได้ใจผู้คนไปเต็มๆ 

     นี่กูจะไปโผล่ในโซเชียลอีกครั้งใช่ไหมเนี่ย? กวินทร์คิดในใจอย่างปลงๆ ยอดคนตามในเฟสบุ๊คมีเป็นหมื่นทั้งๆ ที่เขาไม่ได้อัพเดทอะไรเลย ล่าสุดก็รูปที่ร้านตัดผมแท็คมา มีคนมากดไลค์น่าจะประมาณสามพันได้


******


     ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะฝ่าฝูงคนออกมาได้ ตอนแรกกะว่าจะทานข้าวด้วยกันก่อนกลับบ้าน แต่เธียรวิชญ์มีธุระด่วน กวินทร์เลยให้อีกฝ่ายกลับไปก่อน เดี๋ยวทานข้าวเสร็จเขาค่อยโทรให้คนที่บ้านมารับก็ได้ ร่างโปร่งจับหนูๆ นั่งเก้าอี้สำหรับเด็ก แล้วสั่งแพนเค้กสอดไส้นูเทลล่ามาหนึ่งชิ้น ก่อนจะแบ่งให้เจ้าแฝดคนละครึ่งพร้อมสตอเบอรี่ ดูเจ้าแฝดจะตื่นตาตื่นใจกับแพนเค้กมาก เพราะปะป๊าไม่ค่อยให้ทานของหวาน

     "เฮ้ย ไอ้กวินทร์"

     "อ่าว ไอ้โซ่ มาๆ มานั่งด้วยกัน"

     ปทิตพอจะรู้เรื่องเจ้าแฝดอยู่บ้าง แต่เพิ่งมาเจอตัวจริงโดยบังเอิญก็วันนี้แหละ

     "อุ้ย พี่กวินทร์ สวัสดีค่ะ" จอมขวัญกล่าวสวัสดีเมื่อเอาอาหารมาเสิร์ฟพี่ชายที่โต๊ะ

     "เสียดายอ่ะ วันนี้หนูทำงาน มานั่งด้วยไม่ได้" หญิงสาวกล่าวหน้าละห้อย เธอทำใจเรื่องกวินทร์ได้แล้ว เพราะไม่ได้จีบจริงจังตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ยังหยอดคำพูดหวานๆ อยู่บ้าง นิดๆ หน่อยๆ ก็เอา!

     "พี่ไปก่อนน้าน้องปลื้มน้องปราย" จอมขวัญโบกมือให้เด็กๆ

     "บัยๆ" เดี๋ยวนี้เก่ง ไม่ต้องให้ปะป๊าบอก ใครเดินไปก็บ๊ายบายเขาหมด


     น้องปราย จากที่นั่งเก้าอี้เด็กอยู่ดีๆ ก็งอแงอยากจะลง กวินทร์เลยต้องยอมตามใจหนูน้อย เดี๋ยวมาร้องไห้รบกวนลูกค้าในร้าน ร่างโปร่งนึกว่าเด็กหญิงอยากลงมาเดินเล่น ที่ไหนได้ ทำท่ากระมิดกระเมี้ยนด่อมๆ มองๆ ปทิต ก่อนจะปีนขึ้นไปนั่งบนตักอีกฝ่ายหน้าตาเฉย

     จะตื่นคนบ้างก็ได้นะลูก ปะป๊าไม่ว่าหรอกครับ! ดูสิ ยิ้มชอบใจ เหงือกจะแห้งแล้วไหมนั่น คนเป็นน้องพอเห็นพี่สาวไปก็มองตามพอเป็นพิธี ก่อนจะรีบหันมาเล็งแพนเค้กที่เหลือในจานของเด็กหญิง

     "ช้าๆ ครับน้องปลื้ม" กวินทร์พูดดัก เมื่อเห็นเจ้าหนูรีบเอาแพนเค้กที่เหลือของตัวเองเข้าปากจนแก้มพอง และเตรียมฉกของพี่สาวอีกชิ้น น้องปลื้มเงยหน้ามองปะป๊าตาแป๋ว ปากก็เคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มใสพอง เป็นเด็กที่กินแล้วดูมีความสุขมาก

     "น่ารักอ่าาาา" จอมขวัญเดินมาเล่นที่โต๊ะเป็นพักๆ เพราะลูกค้าไม่ค่อยเยอะในช่วงนี้

     "พี่กวินทร์ไม่อยากได้หนูไปเป็นแม่ของน้องปลื้มกับน้องปรายเหรอคะ?" หญิงสาวถามพร้อมขยับมานั่งใกล้ๆ ร่างโปร่ง

     "อีขวัญ อย่าสะคักหลาย (อย่าเยอะ)" สาบานนะว่านั่นปากผู้ชายแท้ๆ

     "พี่โซ่อ่ะ ก็ขวัญเสียดายพี่กวินทร์นี่นา"

     "ไม่ต้องเสียดาย ถึงมันเป็นชายแท้มันก็ไม่เอามึงหรอก" ปทิตกล่าวอย่างเหลืออด

     "เนอะน้องปรายเนอะ" ชายหนุ่มก้มหน้าพยักพเยิดกับหนูน้อยบนตัก น้องปรายเงยหน้าหัวเราะคิกคัก เอื้อมมือไปจับหน้าคุณลุง

     ส่วนจอมขวัญก็สะบัดหน้าหนีก่อนจะเขยิบมาเกาะแขนกวินทร์แล้วแบะปากใส่พี่ชาย


     "แหมๆ มีผู้หญิงหลงผิดมาชอบเกย์แรดๆ ด้วยเหรอเนี่ย" เสียงพูดกระแนะกระแหนดังขึ้น ก่อนเจ้าของเสียงจะเดินนวยนาดมาหยุดอยู่ข้างโต๊ะ

     กวินทร์ถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเป็นใคร แต่ก็ใช่ว่าจะแปลกใจเท่าไหร่ เพราะคนที่คอยหาเรื่องเขาก็มีแต่นริศราคนเดียว และวันนี้ดูเหมือนจะมีเพื่อนหญิงมาด้วยสองคน

     "แล้วพี่มายุ่งอะไรด้วยคะ?" จอมขวัญถามท่าทางเอาเรื่องไม่น้อยหน้าอีกฝ่าย

     "เห็นว่าเป็นเพศหญิงเหมือนกัน ฉันเลยไม่อยากให้เธอหลงผิดไงจ๊ะ แต่ว่า..." นริศรามองจอมขวัญตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูแคลน "เธอเองก็ดูเหมือนเด็กบ้านนอกคอกนา คงอยู่ที่ต่ำๆ จนแยกอะไรไม่ค่อยออก" พูดจบหญิงสาวก็ยิ้มอย่างเหนือชั้น

     "แหม ก็หนูมันสาวดอกหญ้าหนิคะ ไม่ใช่ดอกทองเหมือนคุณพี่" จอมขวัญลอยหน้าลอยตาตอกกลับ โดยมีโต๊ะข้างๆ เผลอหลุดเสียงหัวเราะออกมา

     "อีเด็ก.."

     "นริศรา!" กวินทร์เรียกญาติสาวเสียงเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยอำนาจ จนอีกฝ่ายที่เตรียมตัวปรี่เข้ามาเอาเรื่องหยุดชะงัก

     "เป็นดาราไม่ใช่เหรอ?" กวินทร์ถามเสียงเรียบแล้วปรายตาดูผู้คนรอบๆ หญิงสาวมองตามสายตาร่างโปร่ง ก่อนจะรีบสงบท่าทีเมื่อเห็นว่าคนกำลังจ้องมาทางตัวเองอย่างสนอกสนใจ 

     "ไปทานที่ร้านอื่นเถอะพวกเรา ร้านนี้พนักงานมารยาทต่ำ!" พูดจบก็มองจิกกวินทร์และจอมขวัญ แล้วเดินออกจากร้านด้วยใบหน้าฉุนเฉียว

     คนเรานี่ก็แปลก ด่าคนอื่นได้ แต่พอโดนเอาคืนกลับจะเป็นจะตาย ถ้าอย่างเขาเรียกว่าแรด นริศราก็คงแรดระดับปรมาจารย์ล่ะน่า

     น้อยปรายที่พอเห็นหญิงสาวเดินจากไปก็ยกมืออวบ "บัยๆ" ทำเอาปทิตถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วจับน้องปรายหอมแก้มซ้ายขวาอย่างหมั่นเขี้ยว จนหนูน้อยจั๊กจี้และหัวเราะชอบใจ


******


     "กรี๊ดดดด อีกวินทร์! มึงรีบเข้าไปในทวิตเตอร์แล้วดูแฮชแท็กที่กูส่งให้เลยเร็วๆ!" เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ เพิ่งจะโดนจิกหัวเรียกเป็นผู้หญิงก็คราวนี้แหละ

     "เออ เคๆ" กวินทร์รับคำณัชชาอย่างส่งๆ

     "ให้ไวค่ะ แค่นี้นะ" แล้วก็วางสาย มาไวไปไวจริงๆ

     #ใครเป็นดารากันแน่วะ แฮชแท็กเหี้ยอะไรเนี่ย? กวินทร์คิดอย่างงงๆ พอกดเข้าไปดู
ก็เจอทั้งรูปและคลิปของตัวเองกับเธียรวิชญ์พร้อมเจ้าแฝด

     >>โถ่วพี่เอส โดนแย่งซีนเต็มๆ
     >>เอาซะพี่เอสตูหมองไปเลย
     >>บอกฉันทีว่าเขาเป็นแฟนกันนนน
     >>เดือนมหาลัยเราค่าาา @MateTRW ส่วนอีกคนไม่รู้
     >>งุ้ย เด็กๆ ก็น่ารัก หลงมากมาย
     >>จิ้นค่ะจิ้น (แนบคลิปที่ตัดต่อใส่เพลงพร้อมเอฟเฟค)
     >>อีกคนชื่อกวินทร์ค่ะ นี่เฟสพี่เขา กอ กวินทร์
   >>ติดตามๆ     
   >>เฟสเงียบมาก มีแค่รูปเดียว แต่น่ารักจริงอะไรจริง
     >>เฮ้ย น้องกวินทร์ เมื่อวานก็เป็นข่าวกับคนนี้ (รูปกวินทร์กับภูผา)
   >>กรี๊ดดดด คนนี้ก็หล่ออออ
   >> เฮ้ย ภูผานี่ไม่ธรรมนะคะ หล่อ รวย ครบเครื่องมาก

     .... ตามด้วยหลากหลายคอมเม้นท์ ทั้งรูปทั้งคลิป มึงขุดมาให้หมดเลยครับ

     กลับมาที่เฟสบุ๊ค ยอดคนตามเขาสูงขึ้นเป็นห้าหมื่นแล้ว และเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สงสัยเขาคงต้องเคลียร์เรื่องเธียรวิชญ์ ก่อนจะโดนเข้าใจผิดไปมากกว่านี้สินะ

     ไอ้เมตไม่ชอบผลไม้จำพวกฝรั่งครับ แต่มันชอบทานผักบุ้ง ต้ม ผัด แกง ทอด หอมอร่อยในพริบตา ผักบุ้งบุญทิวา ♪ @Mate @Boontiwa

     จะเรียกว่าเคลียร์ก็ได้ หรือโยนขี้ก็ไม่ผิด คลิ๊กโพสเสร็จ ร่างโปร่งก็เดินผิวปากออกจากห้องไปหาอะไรมาทานเล่น กลับขึ้นมาอีกทีก็มีคนมาคอมเม้นท์แล้วเกือบห้าสิบคน และหนึ่งในนั้นก็คือเธียรวิชญ์

     >>ไอ้กวินทร์ ไอ้เหี้ย!

     สั้นๆ ได้ใจความ

     แต่ดูเหมือนว่าคนเริ่มหันไปจิ้น"เมตบุ้ง"ตามที่กวินทร์ต้องการ ร่างโปร่งยิ้มกริ่ม แลกกับคำด่านิดๆ หน่อยๆ ของไอ้เมตถือว่าคุ้มมากเลยทีเดียว แล้วอีกอย่าง เขากำลังช่วยเธียร์วิชญ์นะเนี้ยะ ชอบบุญทิวามานาน แต่ไม่ลงมือจีบเสียที

     >>แต่พี่กวินทร์ไม่ปฏิเสธข่าวกับคุณภูผา งั้นก็แสดงว่าาา.....
   >>เฮ้ยจริง!!! นางไม่พูดถึงคุณภูผาเลย
   >>อุ้ยๆๆๆๆ
   >>กรี๊ดดด เราว่าคู่นี้เข้ากันกว่าเมตอีก

     "อีหนู มึงจะขี้สังเกตเกินไปแล้วนะ!" ร่างโปร่งพึมพำอย่างเหลืออด แต่ช่างเถอะ ไปกวนแม่บ้านในครัวดีกว่า


******


     "คุณแม่คะดูนี่สิคะ ข่าวน้องกวินทร์" แพรพิไลยื่นโทรศัพท์มือถือให้คุณทิพกาดู

     "ไหนยัยแพร สองหนุ่มหล่อจนดาราโดนลืม อุ้ย อีกคนนี่ใครจ๊ะ?"

     "แพรก็ไม่รู้ค่ะ แต่เหมือนแฟนกันเลย ดูสิคะ ยิ่งมาอุ้มน้องแฝดเดินด้วยกันยิ่งเหมือน" หญิงสาวพูดดังๆ หวังให้น้องชายที่กำลังนั่งอ่านเอกสารบนโซฟาได้ยิน และเหมือนจะได้ผลเสียด้วย เมื่อใบหน้าหล่อขวมคิ้วจนเป็นปม

     "จริงด้วย ต๊ายย น้องกวินทร์มองค้อนเหมือนงอนให้แฟนเลย" คุณแม่ตอกไข่ลงไปอีกฟอง

     คู่แม่ลูกเม้าท์มอยปรุงแต่งใส่เครื่องอย่างสนุกสนาน โดยไม่กล่าวถึงโพสที่หนุ่มผมบลอนด์เพิ่งอัพไปเมื่อครู่เลยซักคำ! แถมคอยชะเง้อมองปฏิกิริยาของคนหน้าขรึมเป็นพักๆ พอเห็นว่าภูผาอ่านกระดาษแผ่นเดิมอยู่หลายนาที คุณแม่และคุณลูกก็หันมาพยักพเยิดและยิ้มอย่างรู้กัน

     "เอ้า ตาภูจะไปไหนล่ะนั่น?" แพรพิไลตะโกนตามหลังน้องชายที่อยู่ๆ ก็ลุกเดินขึ้นบันได

     "อาบน้ำ" ชายหนุ่มตอบน้ำเสียงหงุดหงิด

     "แต่นี่เพิ่งจะหกโมงเย็นเองนะ"

     ร่างสูงเดินขึ้นบันไดไม่สนใจเสียงพี่สาวหรือกองเอกสารบนโต๊ะเลยแม้แต่น้อย ทำเอาแม่และพี่สาวกลั้นหัวเราะแทบตาย

     ทำไงได้ ก็พวกเธอชอบกวินทร์และเจ้าแฝดเอามากเลยนี่นา แต่ภูผาสิ มัวแต่ชักช้าอยู่นั่นแหละ! 


******


     ในขณะที่ครอบครัวจรัสวัฒนพงศ์กำลังล้อมวงทานข้าวเย็นกัน

     "คิน" ภูผาเอ่ยชื่อน้องชายคนนเล็ก

     "ครับเฮีย?" ภคินเงยหน้าจากถ้วยแกงส้ม

... ร่างสูงเงียบเหมือนกำลังชั่งใจว่าจะพูดดีหรือไม่ และมีสายตาของคนในครอบครัวมองลุ้นไปด้วย ท่าทางไม่แน่ใจของภูผานี่ไม่มีให้เห็นบ่อยครั้งนัก กับภคินแล้วยิ่งไม่เคย


     "แก... ช่วยสอนฉันจีบผู้ชายที"

     "ห๊า? แค่กๆ"

หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 10-01-2018 21:52:39
 :m20:
ึคนฟังถึงกับสำลักเลยทีเดียว อีพี่ภูผาก็ตรงเกิ้นนนน
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 10-01-2018 22:07:05
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 10-01-2018 22:21:21
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 10-01-2018 22:23:20
ค่าาาาจีบซะทีค่าาาา
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 10-01-2018 22:37:44
 :m20:


โถถถถ พ่อคุณ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-01-2018 22:39:19
เริ่มแล้วซิ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: absolutepoison ที่ 10-01-2018 22:39:46
เฮียยยยยยยย เจอข่าวเข้าไปนี่เก็บอาการไม่อยู่เชียวน้าา  :hao7:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-01-2018 22:40:58
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 10-01-2018 23:30:13
อ่านประโยคสุดท้ายแล้วหลุดขำหนักมาอ่ะ 55555
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 11-01-2018 00:41:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-01-2018 10:28:10
รอดูพี่ภูจีบกวินทร์

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 11-01-2018 13:09:05
ตรงเกิน 555

เอาใจช่วยจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 11-01-2018 14:31:03
จัดเต็มเลยคุณภู
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 11-01-2018 15:15:45
  :3123:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: kimlowbatt ที่ 11-01-2018 22:46:53
เอาอีกเอาอีก ติดมาๆเลยข่าาา ฮื่ออ
น้องอยู่ใกล้แล้วนะภูผา อย่ายอมแพ้ล่ะ
รุกหนักๆไปเล้ยยยย
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: Snimsoi ที่ 12-01-2018 00:57:55
อ่านเรื่องนี้แล้วแฮปปี้มาก 55 ยิ้มไม่หุบ หลังๆ นี่ฮาเชียว  :m20:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: แมว ที่ 12-01-2018 18:02:21
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 12-01-2018 19:23:28
 o13   o13   o13
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-01-2018 20:55:00
 ชอบบบบ กวินทร์  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 13-01-2018 22:12:12
งื้อออออ เมื่อไหร่จะมาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 14-01-2018 00:48:43
Finally!!!!!!!!!!!ได้เวลาจีบแล้วววววววว........
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: missm2c ที่ 19-01-2018 10:02:25
มาต่อเร็วๆนะ เรารอติดตามอยู่จ้าาา
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 19-01-2018 13:19:23
เพิ่งเข้ามาอ่านรวดเดียว สนุกมากชอบๆๆๆ รอคุณภูผาเรียนวิธีจีบปู้จายย :m20:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: เฉื่อย ที่ 21-01-2018 14:33:56
เด็กๆน่าเอ็นดู งุงิงุงิ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-01-2018 04:00:47
ชอบเด็กแฝดมาก ๆ เลย น่ารักดี  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 23-01-2018 18:24:05
กวิน ลันลา ทำตัวเด็กสมอายุ

อิอิ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 27-01-2018 15:23:36
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:สนุกจังเรื่องนี้อัพบ่อยไหม อย่าทิ้งไปนานๆๆ เน้อออออ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 30-01-2018 00:04:29
 o13สนุกมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 04-02-2018 05:28:28
สนุกมากกกกกก ชอบมากเลย!!!
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 07-02-2018 01:04:53
 :z13:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 12-02-2018 10:39:47
รอๆๆๆๆ เมื่อไหร่จะมา คิดถึงแล้ววววว  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-02-2018 16:05:04
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 12-02-2018 21:01:22
ติดหนึบ กับความน่ารักของหนุ่มฝรั่ง ขอบคุณคนเขียนนิยาย ที่รักภาษาไทย
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: awfsp ที่ 23-02-2018 19:12:19
สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 27-02-2018 11:02:38
ต่ออออออค่าาาาาาาาาาา   :z3:
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 28-02-2018 12:17:59
ฮ่า ๆๆๆๆๆ คุณภู ในที่สุดนางก็คิดได้เริ่มจะรุกน้องแล้ววว
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 18 เเย่งซีน
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 28-02-2018 18:35:14
รอติพตามครับ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 01-03-2018 05:32:58
ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?     


     "แก... สอนฉันจีบผู้ชายที"

     "ห๊า? แค่กๆ" ภคินสำรักน้ำแกงจนหน้าดำหน้าแดง "เฮียล้อเล่นป่ะเนี่ย?" น้อยชายถามเมื่อหยุดสำลัก

     "เปล่า" ร่างสูงตอบ

     สองแม่ลูกสบตาแล้วยิ้มอย่างตื่นเต้นและรู้กัน

     "เอาจริงง๊ะ?" ภคินถามเพื่อความแน่ใจ

     "อือ"

     "ไม่ได้อำผมใช่ป่ะ?"

     "อือ"

     "จริงนะ?" น้องชายคนเล็กยังเซ้าไม่หยุด

     "ไอ้คิน!" ภูผาเอ่ยชื่ออีกฝ่ายเสีงเข้ม เหมือนจะเตือนว่าถ้ายังเล่นไม่เลิกถ้วยแกงข้างมืออาจไปอยู่บนหัวใครบางคนก็เป็นได้ 

     "โธ่ ก็คินตกใจอ่ะ อยู่ดีๆ มาบอกให้สอนจีบผู้ชาย ถ้าเป็นเฮียภรันก็ว่าไปอย่าง" ภคินกล่าวเสียงอ่อย

     "ว่าแต่ เฮียจะไปจีบใครที่ไหนอ่ะ? ใครมันทำให้เฮียลงจากเขาหลินซานมาได้?" หลินซาน? มันมีแต่เหลียงซานไม่ใช่เหรอ? คุณพงศ์ภีระส่ายหัวอย่างเอือมๆ ให้กับลูกชายคนเล็ก

     "หลานชายคุณธารา" เป็นคำตอบที่ทำเอาคุณทิพกาและแพรพิไลยิ้มให้กันจนแก้มแทบปริ

     "ห๊า??? เฮียจะไปจีบไอ้ตั้มอ่ะนะ?! เฮียไปชอบมันตอนไหน?" ภคินตะโกนลั่น ตาโตเป็นไข่ห่าน ส่วนคนอื่นๆ มองน้องเล็กของบ้านด้วยอาการที่ทั้งอึ้งทั้งเอือม ถามมาเนี่ย แกคิดแล้วใช่ไหมภคิน? นี่โง่จริงหรือแกล้งโง่เนี่ย?

     "เอาจริงๆ เฮียจะจีบไอ้ตั้มเหรอ?" สรุปโง่จริง... ภูผาถอนหายใจกับคำถามน้องชาย

     "ไอ้คิน! ที่แกสอบได้เกรดสามปลายๆ นี่ แกโกงข้อสอบมาใช่ไหม ทำไมโง่ไร้ที่ติขนาดนี้ยะ?" พี่สาวถามอย่างเหลืออด "ตาภูหมายถึงน้องกวินทร์ย่ะ น้องกวินทร์!"

     "อ่าวเหรอ แหะๆ" ภคินเกาหัวเก้อๆ โดยมีพี่สาวค้อนให้ปะหลับปะเหลือก

     "เอ้า เห็นว่าเป็นเฮียภูนะหนิ ไม่งั้นคินไม่ช่วยหรอก เพราะคนเนี้ย คินเล็งไว้แล้ว ถ้าคินลงมือจีบนะ เฮียไม่มีทางชนะแน่นอนนน" เชิดหน้ากอดอกโม้เข้าไป นานๆ ภคินจะได้อยู่เหนือพี่ชายอย่างภูผา ต้องเอาให้คุ้ม! 

     "เออ งั้นไม่ต้องช่วย เดี๋ยวฉันหาวิธีเอง" ภูผาทำท่าลุกขึ้น

     "โอ้ยยย เฮียยยย ล้อเล่นนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่ได้ นั่งๆๆๆ" น้องชายรีบร้องห้าม ว่าแต่...ปกติคนขอความช่วยเหลือมันต้องเป็นฝ่ายขอร้องไม่ใช่เหรอ? ภคินคิดอย่างตะหงิดๆ

     "ก่อนอื่นเลยนะเฮียนะ จีบผู้ชายเนี่ย มันไม่เหมือนจีบผู้หญิง ว่าแต่... เฮียเคยจีบหญิงมาก่อนใช่ป่ะ?" ภคินถาม เพราะไม่เคยเห็นมีชายมีแฟนกับเขาซักคน

     "ไม่เคย"

     "แล้วแฟนอ่ะ? ทำไมคินไม่เคยเห็นเฮียมีแฟนเลย?"

     "ก็ฉันไม่เคยมี" ภูผายังคงตอบอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนตัว คนอายุสามสิบที่มีครบทั้งหน้าตาและฐานะแต่กลับไม่เคยมีแฟน... ปกติมาก! 

     "ห๊า?!" น่าจะเป็นคำอุทานรอบที่สิบของภคินในค่ำคืนนี้

     "ถ้าจะขนาดนั้นเฮียก็ลาพักร้อนเข้าคอสจีบหนุ่มไปเลยปะ" งานนี้ภคินขอยกธงขาว สอนน้องพลอยจีบหนุ่มยังจะง่ายกว่าสอนเฮียภูเสียอีก! 

     ร่างสูงยักไหล่ ทำไงได้ ถ้าให้เขาจีบเอง ก็คงเดินไปบอกกวินทร์ว่าชอบและขอเป็นแฟนแบบตรงๆ ซึ่งไม่น่าจะได้ผลกับคนอย่างหลานเจ้าสัวธาราคนนี้ ตอนแรกเขาว่าจะให้หมอธีรไนยช่วย แต่ฉุกคิดขึ้นได้ว่าธีรไนยเองก็ชอบกวินทร์เหมือนกัน ดีไม่ดีเดี๋ยวมันคาบเอาไปกินเอง


******


     กวินทร์รู้สึกว่าวันหยุดนี่มันช่างผ่านไปเร็วเสียจริงๆ ร่างโปร่งนั่งถอนหายใจพร้อมมองเอกสารที่ต้องอ่าน ทำความเข้าใจ และแปล บางทีร่างโปร่งก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมไม่จ้างคนแปลให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยถ้ามันจะเยอะขนาดนี้ ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะลงมือทำงาน อย่างน้อยก็ดีที่ไม่ค่อยมีงานเร่ง ก้มหน้าก้มตาทำงานไปได้ครึ่งหนึ่ง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

     "กวินทร์พูดครับ"

     "น้องกวินทร์คะ กาแฟสาม ชาหนึ่งค่ะ" เสียงจิลดาดังขึ้นในสาย

     "ได้ครับ" เป็นอันรู้กัน

     เขามาฝึกงานได้สองเดือนกว่าแล้ว และเริ่มชินกับหน้าที่ของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องพูดสั่งงานให้ยืดยาว เพราะจิลดาเองก็มีงานท่วมมืออยู่แล้ว 

     กวินทร์จัดแจงชงกาแฟและชา ก่อนจะยกเข้าไปเสิร์ฟในห้องภูผา และไม่ลืมที่จะเคาะประตูก่อนเสมอ

     "ขออนุญาตเสิร์ฟเครื่องดื่มครับ" ร่างโปร่งกล่าว พร้อมวางถาดลงกลางโต๊ะแล้วยกถ้วยวางตรงหน้าภูผาและแขก
 
     แขกที่มาในวันนี้มีสามท่าน ชายวัยกลางคนพร้อมลูกชายและลูกสาว ที่น่าจะอายุมากกว่ากวินทร์สามสี่ปี

     ในขณะที่ร่างโปร่งกำลังวางถ้วยเครื่องดื่ม สายตาทุกคู่ก็มองตามอย่างอดไม่ได้ ผิวขาวนวลอย่างธรรมชาติที่มีเลือดฝาดและไม่ได้แต่งแต้มเหมือนเพศหญิง มือเรียวสวยจนทำเอาหญิงสาวหนึ่งเดียวในห้องรู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย

     "ไม่ต้องออกไป เอาโน๊ตบุ๊คฉันมานั่งจดรายละเอียดอยู่ตรงนี้" ภูผาพูด แล้วตบมือลงบนที่นั่งข้างๆ ตน ซึ่งกวินทร์ก็ทำตามสั่งอย่างว่าง่าย ก่อนจะเอนตัวพิงโซฟาแล้วยกโน๊ตบุ๊คของภูผามาไว้บนตัก


     ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างเมื่อเห็นหน้ากวินทร์ชัดๆ เธอติดตามข่าวและความเครื่อนไหวของภูผามาตลอด และข่าวล่าสุดก็คือรูปคู่กับเลขาคนนี้ ที่เป็นถึงหลานชายของคุณธารา วลัยวรรณจำรอยยิ้มของภูผาได้ติดตา เมื่อคิดได้ดังนั่น เธอเลยพลอยรู้สึกไม่ชอบหน้ากวินทร์ไปโดยปริยาย

     หญิงสาวยกถ้วยชาขึ้นมาจิบเพื่อระงับความไม่สบอารมณ์ "เอ๋ นี่มันชาอะไรคะ?"
วลัยวรรณเอ่ยปากถาม

     "เอิร์ลเกรย์ครับ" กวินทร์ตอบ

     "แต่เจนนี่สั่งชาอู่หลงหนิคะ" หญิงสาวกล่าวเสียงห้วน และเริ่มทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

     กวินทร์เลิกคิ้วและคิดใจใน การแทนตัวเองด้วยชื่อกับคนที่ดูยังไงก็อายุน้อยกว่านี่เป็นเรื่องปกติเหรอ? อยากดูเป็นเด็กขนาดนั้นเลย?

     "ทางบริษัทเรามีแต่กาแฟกับชาเอิร์ลเกรย์ครับ" กวินทร์ตอบอย่างสุภาพ ทั้งที่จริงๆ อยากบอกเจ้าหล่อนเหลือเกินว่า ที่นี่ไม่ใช่ร้านขายชาแถวเยาวราช ที่จะได้มีชาอู่หลงอยู่ในสต็อกนะครับ

     "แต่..." หญิงสาวยังไม่ยอมหยุด

     "เจน พอได้แล้ว อย่าทำให้คุณภูผาเสียเวลา" พ่อของหญิงสาวพูดขัด เขาทำงานกับบริษัทภูผามาหลายปี และรู้ดีว่าร่างสูงไม่ชอบมาเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง

     "แต่คุณพ่อ..."

     "เจน!" เทพทัตเอ่ยชื่อลูกสาวเสียงเข้ม

     "ผมว่าเราหยุดเสียเวลา แล้วมาเข้าเรื่องกันดีกว่านะครับคุณเทพทัต" ภูผากล่าวขัดจังหวะด้วยประโยคที่ทำเอาหญิงสาวหน้าร้อนผ่าวเพราะความอาย

     "ครับๆ" เทพทัตรีบรับคำ เขายอมรับว่าตอนแรกพาลูกสาวมาด้วยเพราะต้อง
การแนะนำให้ภูผารู้จัก เผื่อว่าจะพัฒนาไปเป็นอย่างอื่น แต่เขาน่าจะรู้แต่แรกแล้วว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ 

     ในที่สุด การคุยงานก็เริ่มขึ้น ส่วนมากจะเป็นเทพทัตที่พูดและมีลูกชายคอยเสริมเป็นระยะๆ ภูผาฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เพราะอย่างไงเทพทัตก็ต้องส่งเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอของบริษัทตัวเองมาให้เขาอยู่แล้ว ชายหนุ่มหันไปมองร่างโปร่งข้างกายที่กำลังพิมพ์สิ่งที่เทพทัตพูดอย่างขะมักเขม้น ร่างสูงยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะแสร้งทำเป็นขยับตัวให้นั่งสบายขึ้น และขยับแต่ละครั้งก็ใกล้ตัวกวินทร์เข้าทีละนิดๆ

     "แล้วเรื่องงบประมาณล่ะครับ?" ภูผาถาม ทำเป็นเอนตัวอ้าแขนพาดบนโซฟา ทำให้ดูเหมือนกำลังโอบกวินทร์อยู่กลายๆ

     กวินทร์แอบช้อนตามองเจ้านายตน นี่ตั้งใจมาใกล้หรือเลื้อยแบบไม่รู้ตัว? หนุ่มผมบลอนด์คิดในใจ ก่อนจะแอบอมยิ้มเมื่อไอเดียอยากทดลองอะไรบางอย่างผุดเข้ามาในหัว

     มือเรียวเอื้อมไปหยิบกระดาษบนโต๊ะมาอ่าน แต่ในจังหวะที่เจ้าตัวจะวางกลับที่เดิมเขาดันทำมันหลุดมือเสียอย่างนั่น

     "ขอโทษครับ" กวินทร์พูด ก่อนจะลุกจากโซฟาไปหยิบมันมาวางที่โต๊ะ แต่จากนั้นเจ้าตัวกลับไม่นั่งที่เดิม และหันไปนั่งอีกฟากของโซฟา ห่างจากภูผาเป็นเท่าตัว แล้วก้มหน้าก้มตาพิมพ์รายงานต่อเหมือนไม่มีะไรเกิดขึ้น   

     "คุณเทพทัตครับ ใกล้เที่ยงแล้ว ผมว่าพอแค่นี้ก่อน ยังไงก็รบกวนส่งรายละเอียดมาให้ผมด้วยก็แล้วกัน" ภูผาตัดบท ใบหน้าดูเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรซักอย่าง แขกทั้งสามได้แต่งุนงง จะมีก็แต่หนุ่มผมบลอนด์ที่กำลังแอบยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

     แต่เอ๊ะ... แล้วทำไมภูผาอยากเข้ามาใกล้เขาล่ะ??

     "ได้ครับคุณภูผา เดี๋ยวทางเราจะส่งให้ภายในวันนี้เลย"

     ภูผาพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะลุกขึ้น เตรียมตัวส่งแขก

     "คุณภูไปทานมื้อกลางวันกับเจนนี่ไหมคะ? เจนนี่รู้จักร้านอาหารอิตาลีระดับห้าดาวอยู่ร้านหนึ่ง รับรองว่าคุณภูต้องติดใจ" วลัยวรรณเอ่ยเชิญชวน ไม่แน่ใจว่าอยากให้ภูผาติดใจอาหารหรืออย่างอื่นกันแน่

     "ผมไม่มีเวลา" ชายหนุ่มปฏิเสธทันควัน แล้วผายมือไปทางประตู "เชิญครับ" 

     วลัยวรรณทำท่าจะพูดต่อ แต่โดนพ่อลากแขนออกจากห้องไปเสียก่อน

     "หึหึ" ภูผาหันมาเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของกวินทร์ ชายหนุ่มเลิกคิ้วก่อนจะเอ่ยปากถาม "มีอะไรสนุกเหรอ?"

     "เปล่าครับ แค่คิดว่าเจ้านายนี่ก็เนื้อหอมไม่เบาเลยนะครับ" กวินทร์มาฝึกงานนานแล้ว จึงไม่กลัวที่จะพูดเล่นนิดๆ หน่อยๆ กับร่างสูง เจ้าตัวพูดจบก็กดเซฟงานเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะลุกขึ้นแล้วยกโน๊ตบุ๊คไปวางบนโต๊ะทำงานของเจ้านาย แล้วหมุนตัวกลับ แต่ดันเกือบชนเข้ากับแผงอกแกร่งของเจ้านายหนุ่ม ที่ตอนนี้ยืนใกล้จนแทบจะสิงร่างเขาอยู่แล้ว กวินทร์เงยหน้ามองอีกฝ่ายแววตาฉงน

     "แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันเนื้อหอม?" ภูผาเอ่ยปากถาม ตวงตาพราวระยับ แลดูเจ้าเล่ห์เสียจริงๆ ใบหน้าคมก้มลงมาใกล้พวงแก้มใส แล้วกระชิบถามต่อ "นายเคยดมแล้วเหรอ?"

     ตาสีฟ้าอ่อนเบิกกว้าง ถามมาแบบนี้จะให้เขาตอบอย่างไงเล่า? แล้วตกลงเจ้านายเขากำลังอ่อยหรือป่วยทางจิต? เดี๋ยวเขาจับทำสามีขึ้นมาจริงๆ แล้วจะหนาว! 

     ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น

     กวินทร์ถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่มีคนมาเคาะประตูขัดจังหวะก่อนที่คนเจ้านายจะโดนเขาจับทำสามี

     ... คิดไปนั่น ทั้งๆ ที่ตัวเองกำลังโดนภูผาคร่อมอยู่แท้ๆ

     แต่ดูเหมือนทั้งคู่ลืมคิดไปว่าประตูถูกเปิดอ้าไว้ ดังนั้นคนที่ยืนอยู่หน้าห้องจึงเห็นอิริยาบถทุกอย่างก่อนหน้านี้

     คุณพงศ์ภีระจ้องมองลูกชายอย่างรู้ทัน แววตากรุ้มกริ่มเหมือนอยากจะแซวเจ้าลูกชายมาดขรึมเต็มทนแล้ว

      "งั้น ผมขอตัวก่อนนะครับ" กวินทร์ยกมือไหว้ภูผาและคุณพงศ์ภีระ แล้วเดินออกจากห้อง โดยมีสายตาหนึ่งคู่มองตามอย่างเสียดาย


     "น้องกวินทร์คะ สามโมงเย็นเตรียมตัวออกไปธุระกับคุณภูผาด้วยนะคะ เดี๋ยวพี่ส่งรายละเอียดไปทางอีเมล์" จินลดาตะโกนบอกตอนร่างโปร่งเดินผ่านโต๊ะทำงานเธอ

     "คร้าบบบ" กวินทร์รับคำ เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบออกไปข้างนอก ไปได้ แต่ถ้าให้เลือกขอไม่ไปดีกว่า ซึ่งก็คงไม่ต่างจากพวกแฮกเกอร์คนอื่นๆ เท่าไหร่นัก

     กวินทร์เปิดอ่านอีเมล์ที่จิลดาส่งมา เป็นการไปตรวจงานที่บริษัทลูก เลื่อนอ่านไปเรื่อยๆ มีวงเล็บแอบบอกด้วยว่า ปกติเจ้านายจะไปคนเดียว หรือไม่ก็ส่งพยัคฆ์ไปแทน อ่าว แล้วจะให้เขาไปด้วยทำไมเนี่ย?


******


     รองประธานของบริษัทลูกพาภูผาดูความคืบหน้าและผลสรุปรายได้อันเป็นที่น่าพอใจ การดูงานครั้งนี้กวินทร์ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากคอยเดินตามภูผาเฉยๆ ตกลงเอาเขามาด้วยทำไมก็ไม่รู้ และไม่ถึงสามสิบนาที ทั้งคู่ก็กลับเข้ามาในรถเตรียมเดินทางกลับ โดยมีเจ้านายเป็นคนขับ กวินทร์ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ไว้ใจในฝีมือการขับรถของเขาหรือแค่อยากขับเอง

     "เด็กๆ เป็นไงบ้าง?" ภูผาเปิดเรื่องคุย

     "สบายดีครับ พอพูดได้หลายคำยิ่งพูดไม่หยุดปากเลย ตอนนี้เรียกปะป๊าได้ด้วยนะครับ" ปากชมพูคลี่ยิ้ม ร่างสูงหันมามองคนข้างกายเล็กน้อย และอดยิ้มตามไม่ได้

     "คุณภูผาอยากดูไหม? ผมถ่ายคลิปลงในเฟสบุ๊คด้วย" พอเข้าเรื่องเจ้าแฝด คุณพ่อวัยหนุ่มเริ่มอยากอวดอยากคุยขึ้นมาทันที

     "เอาสิ"

     ได้ยินดังนั้น ร่างโผร่งก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดเข้าไปในเฟสบุ๊คที่มีรูปและคลิปเจ้าแฝดเต็มไปหมด ส่วนมากกวินทร์จะโพสให้แค่เพื่อนในเฟสได้เห็น นานๆ ทีจะตั้งเป็นสาธารณะ จนเธียรวิชญ์ตั้งแฮชแท็กให้เขาว่า คนอวดลูก ส่วนณัชชาที่คอยตามกรี๊ดตามชมก็กลายเป็น คนอวยหลาน ไปแล้วเช่นกัน พอเห็นสัญญาณไฟแดง กวินทร์ก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้อีกฝ่ายดู

     เป็นคลิปที่เจ้าแฝดร้องเรียกปะป๊าให้กวินทร์ขานรับ

     "ปะป๊า"

     "ครับ"

     "ปะป๊า"

     "คร้าบบบบ"

     "ปะป๊า คิกๆ" เป็นอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง จนภูผาต้องยิ้มให้กับความกวนโอ๊ยที่แสนน่ารักของร่างป้อมๆ สองร่าง

     "ไม่กี่เดือน โตขึ้นเยอะเลยหนิ" ร่างสูงออกความเห็น

     "ใช่ครับ ว่างๆ คุณก็มาเล่นกับเด็กๆ สิครับ ไม่ได้เจอคุณลุงหลายเดือนแล้ว" ร่างสูงยกยิ้มพอใจกับคำเชิญ ก่อนจะกระตุกกับคำพูดต่อมาของคนข้างกาย "เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ลุงหมอๆ"

     "หมอธีรไนยเหรอ?" ภูผาขมวดคิ้วถาม

     "ครับ แวะบ่อยจนเด็กๆ จำรถได้"

     ภูผาขมวดคิ้ว ไหนมึงบอกแค่พี่น้องไงไอ้หมอ?! สงสัยเขาคงต้องรุกหนักกว่านี้แล้ว ไอ้น้องชายตัวดีก็ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย

     "วันนี้นายเอารถมาไหม?" ภูผาเอ่ยปากถาม

     "เปล่าครับ"

     "เดี๋ยวฉันไปส่งนายเลยแล้วกัน"

     "คุณภูผาไม่มีงานต่อเหรอครับ?" กวินทร์ถาม

     มีสิ เต็มโต๊ะเลย ร่างสูงคิดในใจ "ไม่มี วันนี้ฉันว่าง" โกหกคำโต

     "งั้นคุณภูผาส่งผมแค่ที่ห้างแถวบริษัทก็ได้ เพราะผมต้องแวะซื้อของก่อนกลับ"

     "ไม่เป็นไร แวะได้ งานฉันเสร็จหมดแล้ว" เสร็จจริง เสร็จไปตั้งห้าเปอร์เซ็นแหนะ!

     "งั้นก็ ขอบคุณครับ ที่ไปส่ง" กวินทร์หวานยิ้มให้อีกฝ่าย





ต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: ▁▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂▁10/1/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 01-03-2018 05:33:53
     หกโมงเย็นเป็นช่วงเวลาที่คนเลิกงานและแวะมาซื้อของมาทานข้าวที่ห้าง ดังนั้นคนจึงเยอะเป็นพิเศษ

     กวินทร์หันไปมองภูผาที่กำลังเตรียมตัวออกจากรถ ก่อนจะเอ่ยปากถาม "คุณภูผาจะเข้าไปด้วยเหรอครับ?"

     "มีปัญหาอะไรเหรอ?"

     "ผนน่ะไม่มีหรอก แต่ถ้านักข่าวมาเจอแล้วเอาไปเขียนข่าวเหมือนครั้งที่แล้ว ผมเกรงว่าคุณจะไม่ชอบ"

     ร่างสูงเงียบไปซักพัก จนกวินทร์คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่เข้าไปด้วย แต่หารู้ไม่ว่าคนหน้าขรึมกำลังกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ

     "เป็นข่าวกับนายเหรอ? ฉันไม่ถือ" 

     กวินทร์เลิกคิ้ว พูดมาแบบนี้แล้วจะให้เขาตีความว่าอย่างไง? ถ้าคิดเข้าข้างตัวเอง กวินทร์คงคิดว่าร่างสูงกำลังจีบเขาอยู่แน่ๆ

     แต่... ภูผาเนี่ยนะ? จีบเขางั้นเหรอ? บ้าน่า...


     เป็นอีกครั้งกับการมาเดินห้างแล้วต้องตกเป็นเป้าสายตาคน แต่กวินทร์ก็ชินกับมันแล้วล่ะ ด้านภูผา ถึงจะไม่ใช่ดาราแต่มักโดนจับไปทำข่าวบ่อยๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เสียส่วนมาก หล่อ รวย เพอร์เฟคขนาดนี้ ไม่แปลกที่สาวๆ จะอยากติดตามและหมายปองชายหนุ่ม

     และต่างจากนักธุรกิจวัยเดียวกันที่ชอบมีข่าวกับดาราหญิงสวยๆ ภูผากลับมีข่าวในเชิงนี้แค่ครั้งเดียว โดยฝ่ายหญิงเป็นคนออกมาพูดเองทั้งหมด ทำนองว่าชายหนุ่มกำลังให้ความสนใจตน แต่นอกจากจะไม่มีใครเชื่อเธอและโดนสื่อจิกจัดแล้ว ดาราคนนั้นก็หายไปจากวงการ ไม่ต่างจากดาวที่ดับลงและไม่มีวันเกิดใหม่อีกครั้ง เป็นอันรู้ว่าไม่ควรดึงชื่อ ภูผา จรัสวัฒนพงศ์ ลงมาในระดับตน!


     "นายเดินดูของเถอะ เดี๋ยวฉันเข็นรถให้" พูดจบก็ยึดรถเข็นจากมือของร่างโปร่งมาเข็นเอง ซึ่งกวินทร์ก็ไม่ว่าอะไร ดีเสียอีก เขาจะได้เดินเลือกของง่ายๆ

     กวินทร์รู้ว่าเย็นนี้จะทำเมนูอะไรจึงไม่ใช้เวลานานในการหาของสด เมื่อได้ของครบแล้วก็หันไปชวนเจ้านายที่ตอนนี้รับบทคนใช้คอยเข็นรถตามหลัง

     "ถ้าไม่มีงานต่อ คุณภูผาอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันนะครับ"

     "ได้สิ" จะไม่คิดหน่อยเหร๊อะพ่อคุณ?

     "แล้วอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ? เดี๋ยวผมทำให้"

     ร่างสูงนิ่กไปซักพักก่อนจะตอบ "ปลา"

     "งั้น แกงกะหรี่ปลาดีไหมครับ?"

     "อืม แล้วแต่นาย ฉันทานได้หมด" ภูผาไม่ใช่คนเลือกทาน ตอนเรียนอยู่เมืองนอกเขาก็ทานอาหารง่ายๆ ที่ไม่ต้องเสียเวลาทำ

     "ของครบแล้ว ไปคิดเงินเลยแล้วกันครับ คุณภูผาจะเอาอะไรไหม?"

     "ไม่ ไปคิดเงินเลย"

     ร่างสูงมองตามกวินทร์ที่กำลังเดินนำหน้า ถึงจะเป็นคำถามง่ายๆ ทั่วไป แต่กลับรู้สึกถึงความใส่ใจของอีกฝ่ายที่ไม่ได้แสแสร้งแกล้งปฏิบัติ พอถึงตอนชำระเงินภูผาก็รีบแย่งจ่าย โดยไม่ขอความคิดเห็นอีกฝ่ายเลย แถมยังหิ้วถุงเดินไปก่อน ทำอย่างกับเขาเป็นผู้หญิง! 

     "อยู่กับคุณภูผาพลอยจะทำให้ผมเสียคน" กวินทร์ค้อนขอด พลางดูดน้ำปั่นในมือ

     "ทำไม?" อีกฝ่ายเลิกคิ้วถาม

     "ก็ทั้งขับรถมาส่ง เข็นรถ หิ้วถุงให้ แถมยังชิงจ่ายเงินก่อนผมอีก ป๋าชัดๆ" คำสุดท้ายแอบพูดเบาๆ แต่อีกคนก็ยังได้ยิน ป๋าที่ไหนกัน ผัวต่างหากล่ะ!

     ภูผามองปากแดงๆ ที่กำลังคาบหลอดอยู่ ความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัว

     "ขอฉันดื่มหน่อย คอแห้ง"

     กวินทร์ทำตาโต "แต่ผมมีหลอดเดียวนะครับ" จะมาไม้ไหนอีกล่ะเนี่ย

     "ไม่เป็นไร หรือว่านายถือ?"

     "ไม่ครับ" จะให้ตอบยังไง? ในเมื่อตัวเองยื่นหน้าเข้ามาให้เขาป้อนขนาดนี้ คืนนี้เตรียมตัวเป็นข่าวได้เลยกวินทร์เอ้ย


******


     ช่วงเย็นเป็นเวลาคนเลิกงาน กว่าจะมาถึงบ้านก็ปาเข้าไปหกโมงเย็นแล้วน้องปลื้มกับน้องปรายกำลังเล่นที่สนามหญ้ากับพี่เลี้ยงและแม่บ้าน และรีบวิ่งตุตะออกมาดูเมื่อได้ยินเสียงรถ พอเห็นปะป๊าก็รีบวิ่งมาเกาะขาออดอ้อนกันใหญ่

     "เอ๋ ไหว้ปะป๊าก่อนสิครับ" กวินทร์ย่อตัวลงแล้วพูดบอกเด็กๆ ซึ่งเจ้าแฝดก็ทำตามที่บอกไม่อิดออด

     "เก่งมากครับผม" กวินทร์พูดแล้วดึงเจ้าหนูเข้ามากอดหอมฟอดใหญ่ "ดูซิ วันนี้ปะป๊าพาใครมาเอ่ยยยย"

     ไม่เจอกันสองเดือน แต่เจ้าแฝดจำได้ขึ้นใจว่าของขวัญชิ้นโปรดที่เล่นทุกวันนั่นเป็นของใคร พอเห็นหน้าภูผาเลยดี้ด้ากันใหญ่ ดิ้นหนีจากวงแขนปะป๊าแล้ววิ่งเข้าใส่ร่างสูงแทน

     "จุนยุงๆ" ตอนนี้เจ้าแฝดออกเสียงคำว่าลุงได้แล้ว แต่จุนยุงก็ยังเป็นจุนยุงเหมือนเดิม

     ดูๆ ซบไหล่ไม่สนใจปะป๊าเลย ใช่ซี่ แขนแห้งๆ มันไม่สบายก้นเหมือนกล้ามโตๆ หนิ


     "อ้าว ภูผา ไปไงมาไงล่ะ?" เจ้าสัวธาราถาม เมื่อเห็นภูผาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมสองแสบที่กำลังหัวเราะคิกคักในอ้อมแขนชายหนุ่ม

     "ผมมาส่งกวินทร์น่ะครับ" ภูผาพูด

     "ทานมื้อเย็นด้วยกันสิ" เจ้าสัวชวน

     "รบกวนด้วยนะครับ"

     "อืมๆ ตามสบายเลยนะ ปู่จะขึ้นไปพักสายตาซักหน่อย" พูดจบประมุขของบ้านก็เดินขึ้นบันไดไป

     "คุยกับคุณปู่เหรอครับ?" กวินทร์เดินมาสมทบหลังจากเอาของสดไปเก็บ

     "อืม"

     ร่างโปร่งปรายตามองสองแฝดที่ยังนั่งซุกอกคุณลุงอยู่ไม่ห่าง "อาบน้ำยังครับน้องปลื้มน้องปราย?"

     เจ้าหนูพยักหน้าหงึกๆ ทั้งที่ยังไม่อาบเลย

     "จริงเหร้อ? ไหนมาให้ปะป๊าดมซิ" กวินทร์ยื่นหน้าเข้าไปหอมเจ้าแฝดฟอดใหญ่ แต่มันติดตรงที่หนูๆ กำลังซบอกคุณลุงอยู่เนี่ยสิ ทำให้ปอยผมกลิ่นหอมละมุนไปคลอเคลียที่ปลายคางภูผา จนชายหนุ่มเผลอก้มสูดกลิ่นแชมพูเข้าปอด

     นั่งเล่นกับซักพัก กวินทร์ก็ลุกขึ้นไปเปิดการ์ตูนให้เจ้าแฝดดู จะได้ไม่รบกวนภูผามาก

     "ผมฝากเจ้าแฝดหน่อยนะครับ ถ้ามีอะไรก็เรียกพี่เลี้ยงได้เลย เดี๋ยวผมขอตัวไปทำอาหารเย็นแป๊บหนึ่ง" กวินทร์บอก

     "อืม ไม่เป็นไร" ร่างสูงพูดแล้วก้มลงมองน้องปลื้มและน้องปรายที่กำลังจ้องโทรทัศน์ตาแป๋ว


     เย็นนี้กวินทร์จะทำแกงกะหรี่ปลาอินทรีแบบอินเดีย รสชาติกลมกล่อมและเข้มข้น เน้นเครื่องเทศ ต่างจากของไทยที่มักปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล

     ก่อนอื่นนำปลาอินทรีมาทำความสะอาด หั่นเป็นแว่น แล้วคลุกกับผงขมิ้น เกลือ น้ำมะนาว แล้วก็พริกอินเดีย ซึ่งมีรสชาติที่ไม่เผ็ด จากนั้นก็เอาไปทอดในน้ำมันให้พอเหลืองเล็กน้อย แล้วมาก็เตรียมเครื่องเทศกัน เอาเมล็ดมัสตาร์ด ยี่หร่า และลูกผักชีไปคั่วในกระทะ แล้วมาปั่นรวมกับกระเทียม ผงขมิ้น พริกไทยดำ ขิง และพริกชี้ฟ้าเพื่อความร้อนแรงเล็กน้อย ที่สำคัญแอปเปิ้ลหนึ่งลูก ต่อมาตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันมัสตาร์ด เอาเครื่องเทศและหอมแดงลงไปผัดให้หอม ตามด้วยเครื่องแกงกะหรี่ที่ปั่นไว้เมื่อครู่ ผัดให้สุกและเข้ากันดี ก่อนจะใส่มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ กะทิและน้ำเปล่าให้พอขลุกขลิก ปรุงรสด้วยเกลืออย่างเดียว อาศัยความหวานจากแอปเปิ้ล สุดท้ายใส่ปลาที่ทอดไว้ลงไป ปิดกระทะ แล้วหรี่ไฟลงปานกลาง ทิ้งไว้ซักยี่สิบนาที แล้วใส่ผักชีและใบกะหรี่ลงไป เป็นอันว่าเสร็จ

     ของเจ้าแฝดกวินทร์ทำซุปลูกชิ้นไก่ เมนูง่ายๆ แต่อร่อยถูกปากเด็กๆ เอาน้ำซุปไก่ไปตั้งเตาให้ร้อน ใส่แครอทและมันฝรั่งที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอคำ ลงไปในหม้อ

     ส่วนของลูกชิ้น กวินทร์ใช้อกไก่ ขนมปังที่ตัดเอาขอบออก ไข่ และครีมไขมันต่ำ ปรุงรสด้วยเกลือและซอสปรุงรส ปั่นทุกอย่างรวมกันจนเนื้อเนียน จากนั้นก็ใช้ช้อนตักให้เป็นวงรี หย่อนลงในน้ำซุปที่กำลังเดือด ตบท้ายด้วยใบขึ้นฉ่ายสับและซีอิ๊วขาวเล็กน้อย เป็นซุปที่ทำไม่ยาก ลูกชิ้นจะเบาและนุ่มกว่าลูกชิ้นไก่ทั่วไป เหมาะสำหรับเจ้าหนูตัวน้อย


     หลังจากทำอาหารเสร็จ กวินทร์เลยออกมาดูคุณลุงและสองแฝด การ์ตูนก็ยังคงเล่นอยู่ในจอทีวี แต่ปรากฏว่าคนดูทั้งสามกลับสลบไปแล้ว กวินทร์ขยับเข้าไปใกล้หวังจะปลุกเจ้านายตน แต่... ภาพแบบนี้มีให้เห็นบ่อยๆ ที่ไหนกันล่ะ คิดได้ดังนั้น กวินทร์ก็รีบกุลีกุจอวิ่งไปหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าทำงาน ก่อนจะวิ่งกลับมาและไม่ลืมที่จะปิดเสียงกล้องแล้วหามุมแจ่มๆ ลงทุนหมอบลงไปกับโต๊ะหน้าโซฟา ยื่นโทรศัพท์ให้ใกล้อีกนิด

     หนึ่ง สอง สาม แชะ

     ดูเจ้าแฝดทำปากจุ๊บจั๊บแล้วดิ้นหยุกหยิกเข้าหาคุณลุง น่ารักวุ้ย ขออีกรูปแล้ว

     หนึ่ง สอง...

     "แอบถ่ายรูปฉันเหรอ?" เสียงทุ้มของเจ้านายดังขึ้นในขณะที่กวินทร์กำลังเล็งกล้อง ร่างโปร่งตกใจจนเกือบทำโทรศัพท์หลุดมือ นี่สินะที่เขาเรียกว่า จับได้คาหนังคาเขา

     กวินทร์เงยหน้าสบตาภูผาที่กำลังเลิกคิ้วมองตัวเอง ก่อนจะหัวเราะเสียงแห้ง กระแอมออกมาเล็กน้อยแก้เก้อ "ก็ไม่ได้แอบนะครับ" แล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

     ภูผายิ้มมุมปาก ก็ถูกของเจ้าตัว ไม่ได้แอบ แต่ถ่ายซึ่งๆ หน้าเลยต่างหากล่ะ

     "ส่งให้ฉันด้วย"

     "หือ?" กวินทร์นึกว่าตัวเองหูฝาด "เบอร์ที่คุณให้ไว้ใช่ไหมครับ?"

     "อืม"

     กวินทร์กดหยุกหยิกบนโทรศัพท์มือถือซักพักก่อนจะช้อนตามองอีกฝ่าย "ผมเอาลงเฟสได้ไหมครับ?" ได้คืบจะเอาศอก แต่จริงๆ กวินทร์แค่ถามไปอย่างงั้นแหละ คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมหรอก

     "เอาสิ" เจ้านายหนุ่มตอบกลับอย่างสบายๆ

     หือ? กวินทร์เบิกตากว้าง อะไรจะตอบตกลงง่ายขนาดนั้น?!

     "แต่อย่าลืมแท็กฉันมาด้วยล่ะ"

     "คุณภูผาเล่นเฟสด้วยเหรอครับ?"

     ร่างสูงไม่ตอบ แต่ค่อยๆ ดึงมืงออกจากน้องปลื้มเพราะไม่อยากให้เจ้าหนูตื่น แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด ก่อนจะเงยหน้าบอกกวินทร์ "กดรับด้วยล่ะ"

     ประจวบกับเสียงเตือนของเฟสบุ๊คดังขึ้นพอดี

     ภูผา จรัสวัฒนพงศ์ ขอเป็นเพื่อนคุณ

     กวินทร์กดรับ ด้วยความรู้สึกหนักอกหนักใจ คนฉลาดที่ไหนจะแอดเจ้านายตัวเองเป็นเพื่อน?! ไม่มีหรอก! แต่ภูผาเล่นส่งคำขอและนั่งคุมเขาอย่างงี้ จะไม่รับก็ไม่ได้ ดีนะที่เขาไม่เคยบ่นเรื่องที่ทำงานลงในเฟสบุ๊คเหมือนหนุ่มๆ สาวๆ ทั่วไป ไม่งั้นบรรลัยแน่

     "งั้นผมเอาลงเลยนะ? คุณภูผาไม่กลับคำนะครับ?"

     "อืม"

     กวินทร์อัพรูปลงพร้อมแคปชั่นว่า คุณลุง และไม่ลืมที่จะแท็กคนหน้าคมในรูป ไม่เห็นเลยว่าเจ้านายหน้าขรึมกำลังยิ้มอย่างพอใจ


******


     ภายให้ห้องพักเก่าๆ ห้องหนึ่งแถวชุมชนแออัด
 
     "พี่ไม้ ทำไงดีวะ? มันจะให้พวกเรา DDoS สุริยันคืนนี้" เด็กวัยรุ่นร่างผอมถามพี่ชายที่นั่งอยู่หน้าจอคอมฯข้างๆกัน ด้านหลังมีเตียงยับๆ ที่เด็กน้อยตัวเล็กวัยหกขวบกำลังนอนกอดตุ๊กตาดูพี่ๆ ทั้งสอง

     "นี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ สุริยันไม่ใช่บริษัทเล็กๆ นะโว้ยยย ขนาด recon ยังต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์! แล้วอยู่ๆ มาบังคับให้พวกเรา DDoS ภายในคืนนี้" เด็กหนุ่มคนเดิมยังโวยวายต่อไปอย่างหัวเสีย "เราไม่ใช่อาวิทย์นะ!"

     ภายในห้องเกิดความเงียบหลังจากเด็กหนุ่มเอ่ยชื่อสาวิทย์ขึ้นมา พี่ใหญ่ถอนหายใจ

     "แล้วมีทางเลือกเหรอ? ถ้าโดนจับก็ดีเหมือนกัน มึงกับกูไปสถานพินิจ ส่วนไอ้เอยก็ไปบ้านเด็กกำพร้า อาจดีกว่าอยู่ที่นี้เป็นขี้ข้าไอ้เสี่ยวิชัยก็ได้" พี่ชายพูดอย่างขมขื่น

     "เอยคิดถึงอาวิทย์ อาวิทย์ไปไหน? ทำไมไม่มาหาเอย?" เด็กน้อยที่นั่งฟังมาตลอดและสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันตึงเครียดพูดขึ้นเบาๆ ส่วนแขนเล็กก็กระชับกอดตุ๊กตาให้แน่นขึ้น

     พี่คนกลางลุกขึ้นเดินไปหาหนูน้อย ก่อนจะรวบร่างเล็กเข้ามากอดปลอบใจ แล้วหันไปปรึกษาพี่ชาย "หรือพวกเราจะหนีดีวะพี่?"

     "ถ้ามันง่ายอย่างนั้นก็ดีสิไอ้วาด มึงไม่เห็นเหรอว่าอาวิทย์เป็นยังไง?" ประโยคสุดท้ายเป็นเสียงกระซิบ เพราะไม่อยากให้เด็กชายตัวน้อยได้ยิน

     "ยังไงก็ต้องทำ ถ้าเว็บไม่ล่มคืนนี้ พวกมันคงไม่ปล่อยเราไว้แน่"

     เด็กหนุ่มไม่ตอบ วางแก้มลงบนหัวทุยๆ ของหนูน้อยในอ้อมกอด และหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง

     ถ้าอาวิทย์อยู่ มันคงไม่เป็นแบบนี้...






มาเเล้วค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเเละทิ้งคอมเม้นน้าาา
ตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลาเขียนเลย ทำซับซีรี่ย์
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 01-03-2018 06:06:23
หายไปนานมากเลย. ดีใจมาต่อซักที่
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 01-03-2018 06:21:44
นึกว่าลืมไปซะแล้ว ขอบคุณที่มาต่อนะ
 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 01-03-2018 08:22:17
ยังมีผลกระทบอีก 3 ชีวิต แล้วอาวิทจะช่วยเหลือได้มั้ย
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-03-2018 08:34:29
ดีใจที่มาอัพ ความสัมพันธ์เริ่มก้าวหน้าแล้ว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 01-03-2018 08:35:35
สงสัยอาวิทย์จะได้เลี้ยงหลานเพิ่ม :hao3:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 01-03-2018 09:10:05
 o13   อ่านกี่รอบๆ ก็ชอบจ้า 
 :L1:  :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-03-2018 11:20:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-03-2018 15:28:10
จุนยุงๆๆๆ น่ารักจังเลยลูกน้องแฝด :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 01-03-2018 15:47:56
คนที่โผล่มาตอนท้ายน่าสงสารอ่ะ กวินทร์มาช่วยเถอะ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 01-03-2018 16:55:33
มาแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: casper75 ที่ 01-03-2018 19:35:19
สนุกๆ มาช่วยลุ้นกวินทร์ให้แก้แค้น เอาให้หนักๆเลย
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-03-2018 20:20:24
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-03-2018 21:03:24
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 01-03-2018 21:41:54
คิดถึงเหลือเกินเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 01-03-2018 21:44:28
ดีใจที่มาต่อค่ะ

 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-03-2018 03:01:47
คิดถึงเด็ก ๆ จังเลย รักนะเด็ก ๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: Midorima ที่ 02-03-2018 03:50:48
เราติดเรื่องนี้งอมแงมซะแล้วววว   :ling2:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 02-03-2018 11:39:40
ดีใจที่คนเขียนมาต่อแล้วว :m4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 02-03-2018 12:46:56
พึ่งเข้ามาอ่าน สนุกมากกกกก  :L2:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 02-03-2018 21:02:30
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: kimlowbatt ที่ 03-03-2018 03:51:47
ดีใจที่กดเข้ามาดู
ฮือออ ในที่สุดก็มาต่แล้ว
แอบสงสารเด็กวามคนที่ทำงานกับเสี่ย
หวังว่ากวินทร์จะสามารถช่วยได้นะ

ปล.รออ่านข่าวคุณภูผากับน้องอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 03-03-2018 13:30:50
 :katai2-1: :katai2-1:โคตะระดีใจเลยที่ไรท์กลับมาต่อ มีตัวละครเพิ่มมาอีกสาม อย่าหายไปนานน๊าาาา รอๆๆ เป็นกำลังใจให้คะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 03-03-2018 16:04:58
รอตอนต่อไปครับ

         :z3:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: กำแพงเมืองจีน ที่ 04-03-2018 01:28:23
เราตามมาจากในเด็กดี ไม่นึกว่ามีลงในนี้ด้วย
รอตอนต่อไปนะคะะ อยากอ่านต่ออออ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 04-03-2018 05:13:57
จะรอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: t152_rakjai ที่ 08-03-2018 01:05:04
สนุกมากรอนะคะ
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 09-03-2018 14:16:59
รอติดตามน๊าา
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂1/3/18 ตอนที่ 19 จีบกันเหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 10-03-2018 07:41:58
กวินทร์ไปช่วยเด็กมาจากเสี่ยให้ทันนะ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 15-03-2018 01:56:24
ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่

     แกงกะหรี่ปลาอินทรีของกวินทร์ขายดีเป็นอย่างมาก คุณพริ้งชมไม่ขาดปาก และดูเหมือนเจ้านายเขาเองก็ติดใจไม่น้อย ถึงกับเติมข้าวจานที่สอง ทานคู่กับแกงเห็ดฟางน้ำใสใส่ยอดมะขามอ่อน เปรี้ยวคล่องคอ ตัดกับความเข้มข้นของแกงกะหรี่ได้เป็นอย่างดี ส่วนเมนูซุปลูกชิ้นไก่ก็ฮิตไม่น้อย เจ้าแฝดทานหมดเกลี้ยง แถมยกถ้วยซดจนเกือบหงายหลังตกเก้าอี้ แล้วตบท้องป่องแปะๆ โชว์คุณทวดทั้งสอง

     ทานข้าวเสร็จเจ้าแฝดก็ออดอ้อนให้คุณลุงอยู่ต่อ วิ่งกลับไปกลับมา หาของเล่นออกมาอวดให้คุณลุงเล่นด้วย

     โธ่เจ้าแฝดเอ้ย คุณลุงนี่สามสิบแล้วนะ กวินทร์ได้แต่ยิ้มและส่ายหัวให้กับลูกๆ จอมซนทั้งสอง

     "เอาล่ะเจ้าแฝด ได้เวลาอาบน้ำแล้ว"

     หนูน้อยที่วิ่งตุตะไปมาชะงักกึกเมื่อได้ยินคำว่าอาบน้ำ ร่างป้อมๆ ทิ้งของเล่นในมือแล้วบีนขึ้นไปกอดแขนคุณลุงบนโซฟา

     "ไม่!" หมูน้อยสองตัวซุกแขนคุณลุงจนแทบจะปีนตัก

     กวินทร์ถอนหายใจ เห็นเขาไม่ค่อยดุเวลามีแขกมาล่ะได้ใจใหญ่ พูดอะไรไม่ค่อยฟัง

     "คุณลุงอยากกลับบ้านแล้วนะครับ"

     น้องปรายแอบโผล่หน้าจากท่อนแขนมองปะป๊า แล้วรีบมุดหัวกลับเมื่อเห็นกวินทร์จ้องด้วยสายตาถมึงทึง

     "คุณภูผาลุกขึ้นหน่อยครับ จะดูซิ พอไม่มีที่ซุกแล้วจะทำไง" กวินทร์กอดอกบอกร่างสูง ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำตามไม่อิดออด

     เจ้าแฝดส่งเสียงประท้วงงุ้งงิ้ง พอขาดที่พึ่งร่างป้อมๆ ทั้งสองก็เปลี่ยนเป็นมากอดกันเอง แล้วแบะปากส่งสายตางอนๆ ให้ปะป๊าและคุณลุง

     "เย่น" แหนะ ยังมีหน้ามาบอกจะเล่นต่อ   

     "ไม่เล่นแล้วครับ อาบน้ำๆ" ไม่พูดพร่ำทําเพลง กวินทร์ซ้อนตัวน้องปลื้มจากโซฟา "คุณภูผาครับ รบกวนด้วยนะครับ" หันไปใช้เจ้านายเสร็จสรรพ

     เมื่อโดนปะป๊าอุ้ม เด็กชายก็แผดเสียงร้องดังลั่นและพยายามดิ้นหนี ต่างจากพี่สาวที่แสดงสีหน้าแง่งอนแต่ไม่ตีโพยตีพายเหมือนเจ้าน้องชายตัวแสบ

     "เย่น ฮื่อออออ ฮื่อ" เอาเข้าไป เจ้าเด็กซนเอ้ย

     ห้องของเด็กๆ อยู่ติดกับห้องกวินทร์ที่ชั้นบนและมีห้องน้ำส่วนตัวทั้งคู่ กวินทร์วางเจ้าหนูลงกับพื้นพร้อมกำชับว่าห้ามไปไหน ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมน้ำให้สองแสบแต่มีเหรอน้องปลื้มจะฟัง

     พอปะป๊าหายเข้าห้องน้ำปุ๊บ เจ้าหนูก็วิ่งตุตะหมายจะออกจากห้องปั๊บ แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวังเพราะกวินทร์ล็อคประตูไว้ เจ้าหนูพยายามเปิดอยู่นาน จนสุดท้ายก็หันมาส่งสายตาละห้อยขอความช่วยเหลือจากภูผา "จุนยุง เย่น"

     ภูผาส่ายหัว "ฉันยังไม่อยากผิดใจกับปะป๊าของนาย" 

     แค่เห็นคุณลุงส่ายหน้ากับเอ่ยคำว่าปะป๊าเจ้าหนูก็เข้าใจความหมายแล้ว น้องปลื้มทิ้งก้นแหมะลงหน้าประตู กอดอกทำหน้ามุ่ยใส่คุณลุง จะได้รู้ว่าหนูงอนแล้วนะ


     สิบนาทีต่อ

     "เย้ยๆๆ" เสียงเล็กๆ ร้องปะสานกันอย่างอย่างสนุกสนาน ไม่เหลือคราบงอนตุ๊บป่องจากเมื่อกี้แม้แต่นิด มืออวบตีน้ำให้กระจายจนกวินทร์เปียกม่อล่อกม่อแล่กตามไปด้วยคน

     "สนุกกันเข้าไป ทีตอนแรกล่ะไม่อยากอาบ"

     "คิกๆ" สองแฝดยิ้มแฉ่งให้ปะป๊า 

     เห็นแล้วหมั่นไส้ กวินทร์แกล้งวิดน้ำใส่ จนสองแฝดกรี้ดร้องอย่างชอบอกชอบใจ แล้วเอาคืนปะป๊าเป็นสองเท่า! "ว๊ากกก พอแล้วคร้าบ ยอมแล้ว"

     ภูผายืนกอดอกพิงประตูมองสามพ่อลูก สายตาที่ปกติเย็นชาในตอนนี้กำลังจับจ้องภาพตรงหน้าอย่างอ่อนโยน ถ้าลูกน้องมาเห็นคงได้มองกันตาค้าง

     และอยู่ๆ ภูผาก็นึกอะไรได้ ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วแอบถ่ายคลิปสามพ่อลูกอย่างเนียนๆ โดยที่กวินทร์ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย จะมีก็แต่น้องปรายที่บังเอิญหันหน้ามา เอียงหัวงงๆ แล้วยิ้มหวานให้กล้อง จนคนถ่ายหลุดขำออกมาเบาๆ ในขณะที่ปะป๊าพยายามห้ามน้องปลื้มที่กำลังตีน้ำให้กระเด็นใส่ปะป๊าพร้อมร้องเย้วๆ อย่างสนุกสนาน

     ร่างสูงถ่ายคลิปสั้นๆ หนึ่งนาที ยิ้มพอใจกับผลงานตัวเองแล้วเก็บโทรศัพท์มือถือกลับที่เดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


     อาบน้ำปะแป้งให้เจ้าแฝดจนหน้าขาววอก วันนี้มีคุณลุงอยู่ด้วย เจ้าแฝดเลยงอแงไม่อยากนอน แล้วกลิ้งไปมาบนเตียง

     และนี่ก็เป็นครั้งที่สอง ที่ภูผาและกวินทร์ได้มานอนขนาบข้างหนูน้อยทั้งสอง ดูเหมือนเจ้าแฝดจะชอบใจเอามาก ยิ้มแป้นแล้นโชว์ฟันซี่เล็ก ปีนป่ายซบอกปะป๊าบ้างคุณลุงบ้าง 

     "จุนยุงๆ จิทัน" หืม? ภูผาถึงกับไปไม่เป็น อะไรคือจิทัน?

     "นิทานน่ะครับ" กวินทร์เฉลยให้ฟัง พร้อมเดินไปหยิบหนังสือนิทานที่มีรูปการ์ตูนสีสวย น้องปลื้มน้องปรายปรบมือแบะๆ ตื่นเต้นดีใจ

     แต่พอกวินทร์ทำท่าจะเปิดหนังสืออ่าน น้องปรายกลับรีบมาแย่งไปจากมือแล้วส่งให้คุณลุงแทน

     "จะให้ฉันอ่านเหรอ?" หนูน้อยพะยักหน้าหงึกๆ "จิทัน" แฝดน้องก็ปรบมือแบะๆ เห็นดีเห็นชอบ

     น้ำเสียงของภูผาทุ้มและลึกกว่ากวินทร์ ฟังแล้วชวนเคลิ้ม อ่านไม่ทันจะจบเล่ม ตาเจ้าแฝดก็เริ่มตาปรือ ดิ้นหยุกหยิกหาตำแหน่งสบายตัวและหลับลงในที่ :ling1:สุด


******


     หลังจากกล่อมเด็กๆ จนหลับ ภูผาเลยขอตัวไปคุยกับเจ้าสัว

     ริจะสร้างบ้านก็ควรตัดต้นไม้ที่ขวางทางออกให้หมดเสียก่อน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต ภูผาเป็นคนที่ทำอะไรจริงจังและไม่ชอบวอกแวกเสียเวลา รวมทั้งเรื่องหัวใจเองก็เช่นกัน วันนี้เขาเลยตัดสินใจที่จะคุยกับเจ้าสัวธาราเรื่องของกวินทร์

     "ไปไงมาไงถึงมากับตากวินทร์ได้ล่ะ" นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ภูผามาทานเข้าที่บ้านของเจ้าสัวธารา แต่เป็นครั้งแรกที่อยู่นานและไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน แถมยังขลุกอยู่กับ
กวินทร์และเจ้าแฝดเป็นชั่วโมง

     "ผมมีเรื่องอยากคุยกับเจ้าสัวครับ" ภูผาเริ่มเข้าเรื่อง

     "ว่ามาสิ"

     "ผมชอบกวินทร์" น้ำเสียงมั่นคงสม่ำเสมอ "และอยากขออนุญาตจีบหลานชายคนนี้ของเจ้าสัว"

     คุณธารามองพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้า คนที่ท่านเอ็นดูเหมือนหลานอีกคน จะว่าแปลกใจก็ไม่ใช่ เพราะสายตาที่ภูผาทอดมองกวินทร์ยามเจ้าหลานตัวดีเผลอมันก็ชัดเจนเสียขนาดนั้น อีกอย่างเจ้าสัวเองก็รู้นานแล้วว่าหลานชายตัวเองชื่นชอบในเพศเดียวกัน และไม่เคยห้ามปรามอะไรเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ภูผานี่สิ..

     "ปู่ไม่เคยรู้ว่าหลานเป็นเกย์เหมือนตากวินทร์"

     ภูผานิ่ง นั่นสิ เขาเป็นเกย์เหรอ?

     "ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร รู้แค่ว่าไม่เคยชอบใครเท่ากวินทร์มาก่อน" พูดเองก็รู้สึกเลี่ยนเอง แต่มันคือความรู้สึกของเขาจริงๆ ในเวลานี้

     ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมองใคร ไม่เคยให้ความสนใจใคร จนเขาคิดว่าตัวเองเป็นหนึ่งในคนกลุ่มคนน้อยอย่าง Asexual พวกที่ไม่ฝักใจทางเพศ ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ แต่ถ้าถามว่าชอบอะไรในตัวกวินทร์ เขาเองก็ตอบไม่ได้เช่นกัน

     เจ้าสัวถอนหายใจ "ปู่ไม่บังคับหลานคนไหน ถ้ากวินทร์ชอบพอกับภู ปู่ก็จะไม่ห้าม" ภูผาเองก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ออกจะเป็นตัวเลือกที่ดีด้วยซ้ำไป อีกอย่าง หลังจากความจำเสื่อม หลานชายท่านก็กลายเป็นคนละคน ถึงจะทำตัวเด็กบ้าง ผู้ใหญ่เกินอายุบ้าง แต่เจ้าสัวเชื่อว่าหลานชายคนนี้สามารถดูแลตัวเองได้ดีกว่าแต่ก่อนมาก

     "เรื่องพวกนี้ปู่ให้กวินทร์เป็นคนตัดสินเอง"

     "ขอบคุณครับ" ภูผาพอจะเดาออกอยู่แล้ว ว่าเจ้าสัวไม่มีทางบังคับกวินทร์ในเรื่องความรัก

     "แต่ถ้าภูทำตากวินทร์เสียใจ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ถึงเวลานั้นปู่คงอยู่เฉยไม่ได้" คุณธาราพูดและยกถ้วยชาขึ้นมาเป่าแล้วจิบเบาๆ มันไม่ใช่คำขู่ แต่มันคือคำสัญญา

     ถ้า แอล คาโปน เป็นเจ้าพ่อแห่งวงการมาเฟีย เจ้าสัวธาราก็คงไม่ต่างจากเจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจของไทย ทั้งธุรกิจดำและขาว ก่อนที่จะเจอกับคุณพริ้ง เจ้าสัวธาราเคยทำธุรกิจใต้ดินมาหลายปี ถึงจะวางมือไปนานแล้ว แต่เส้นสายและบารมียังคงฝังลึกและสามารถขุดมาใช้ได้ทุกเมื่อ เพียงแค่ท่านเอ่ยปากขอ และต่อให้เป็นถึงสุริยัน ก็คงล้มไม่เป็นท่าเช่นกัน
 
     "ครับ ผมเข้าใจ"

     "แล้วการงานเป็นไงบ้างล่ะ?" เปลี่ยนเรื่องง่ายๆ

     "ก็เหมือนเดิมครับ"

     เจ้าสัวพยักหน้าเข้าใจ "งานเยอะเหมือนเดิมสินะ?"

     "ใช่ครับ" ภูผาตอบกลับโดยไม่ได้คิดอะไร ก่อนจะรู้ตัวว่าพลาดไปเสียแล้ว เมื่อผู้อาวุโสยิ้มอย่างรู้ทัน งานเยอะ แต่มีเวลามาขลุกอยู่กับหลานท่านตั้งหลายชั่วโมง

     "งั้นเหรอ"

     ภูผาและเจ้าสัวคุยเรื่องงานกันต่อซักพัก ร่างสูงก็ขอลากลับ

     ชายชรามองตามแผ่นหลังกว้างของร่างสูง มานั่งคิดดูดีๆ ระหว่างภูผากับกวินทร์ คนที่ควรโดนตักเตือนน่าจะเป็นเจ้าหลานตัวดีซะมากกว่า ไม่รู้คบกันไปจะชวนภูผาทำเรื่องพิเรนทร์ๆ อะไรไหม แต่งานนี้คงถูกใจคุณพริ้งเขาล่ะ อยากได้หลานเขยหล่อๆ ถ้ารู้ข่าวคงยินดีต้อนรับหลานเขยคนนี้


******


     กวินทร์เดินมาส่งเจ้านายที่รถ ตอนนี้เขาอยู่ในชุดนอนลายการ์ตูนตัวใหญ่โคร่ง ดูแล้วไม่ต่างจากเด็กอายุสิบหกสิบเจ็ด

     "ขอโทษนะครับที่รบกวนเวลาคุณภูผา จริงๆ คุณไม่ต้องตามใจเด็กๆ มากก็ได้นะ"

     กวินทร์รู้สึกผิดเล็กน้อยที่เจ้าแฝดดื้องอแงไม่ยอมให้เจ้านายเขากลับบ้านจนค่ำมืดขนาดนี้

     "ไม่เป็นไร ฉันว่าง"

     "ครับๆ" กวินทร์ยิ้มรับ ว่างก็ว่าง ย้ำจนเขาเริ่มสงสัยว่าว่างจริงหรือเปล่า

     ร่างสูงกำลังจะพูดอะไรบางอย่างต่อ แต่เสียงโทรศัพท์มือถือเขากลับดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน ชายหนุ่มมองดูชื่อในจอแล้วกดรับ

     "ว่าไงเสือ?"

     ภูผาแสดงสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อยกับสิ่งที่ปลายสายพูด

     "อืม เดี๋ยวฉันไปดู"

     "งานเข้าเหรอครับ?" กวินทร์ถามเมื่อภูผาวางสายลง

     "มีเรื่องนิดหน่อย"

     "งั้นผมไม่รบกวนล่ะ คุณรีบไปดูงานดีกว่าจะได้กลับไปพักเร็วๆ"

     ร่างสูงยกยิ้มเพียงเสี้ยววินาทีกับความห่วงใยของอีกฝ่าย

     "งั้นฉันไปล่ะ"

     "ขับรถดีๆ นะครับ" กวินทร์บอกทิ้งท้าย ก่อนภูผาจะปิดประตูรถแล้วขับออกไป โดยมีร่างโปร่งยืนมองตามจนรถขับออกไปจากประตูเหล็ก

     เอ๋... ทำไมรู้สึกเหมือนกำลังส่งสามีไปทำงานยังไงยังงั้น?

     วู้ คิดอะไรเลอะเทอะ กวินทร์ตำหนิตัวเอง ส่ายหัวรัวๆ ก่อนจะวิ่งเข้าบ้าน


******


     "เกิดไรขึ้นเสือ?" ชายหนุ่มผู้มีรูปร่างและใบหน้าละม้ายคล้ายพยัคฆ์เอ่ยปากถาม ในมือเขาลากกระเป๋าเดินทางใบหย่อมๆ มาด้วยหนึ่งใบ

     "เว็บบริษัทล่มว่ะ  รอพวกไอทีมาดู"

     "แล้วมึงโทรเรียกกูมาหาพระแสงอะไร?" ชายหนุ่มหัวเสีย เพราะยังไม่ได้พักพ่อนตั้งแต่ลงจากเครื่องบินมา

     "เรียกมาเป็นเพื่อน" พยัคฆ์ตอบอย่างสบายอารมณ์ จนผู้มาใหม่รู้สึกเท้ากระตุก

     พยัคฆ์กับราชสีห์เป็นพี่น้องฝาแฝดที่ภายนอกเหมือนกันทุกระเบียบนิ้ว ไม่ว่าจะใบหน้าหรือรูปร่างสูงใหญ่ แตกต่างกันแค่ทรงผมและอุปนิสัย

     ราชสีห์คนพี่ตัดผมสั้นทรงธรรมดาทั่วไป แต่พยัคฆ์คนน้องไว้รองทรง ดูหล่อแบบเท่ๆ และขี้เล่นเข้ากับนิสัยเจ้าตัว ต่างจากพี่ชายที่เป็นการเป็นงานคล้ายๆ เจ้านาย ภูผาเลยให้ราชสีห์เป็นคนไปดูงานที่ต่างประเทศแทนตัวเองบ่อยๆ 

     ราชสีห์ถอนหายใจเสียงดัง ตบหัวน้องชายป๊าบใหญ่ แล้วเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆ กัน


     ทีมไอทีมาถึงบริษัทและพยายามแก้ปัญหาจนเกือบชั่วโมงแล้ว แต่แก้ยังไงก็แก้ไม่ได้ นี่เป็นครั้งที่สอง ที่บริษัทโดนโจมตีและไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทั้งแผนกไอทีล้วนแสดงสีหน้าเคร่งเครียด โดยเฉพาะปุริมผู้เป็นหัวหน้าแผนก

     "สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?"

     ทุกคนหันไปตามเสียงของภูผาที่กำลังเดินเข้ามา โชคดีรถไม่เยอะ เขาเลยมาถึงภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที

     "DDoS ครั้งนี้แย่กว่าครั้งที่แล้วเยอะเลยครับ ยิ่งแก้เหมือนยิ่งแย่ลงกว่าเดิม" ปุรินรายงานอย่างหัวเสีย

     ราชสีห์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเสิร์ช "ยังไม่มีสำนักข่าวไหนรายงานครับบอส"

     "อืม"

     ทั้งชีวิตภูผาทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนรู้เรื่องธุรกิจ ส่วนความรู้ด้านไอทีก็น่าจะมีมากกว่าคนทั่วไปแค่เพียงแค่เล็กน้อย งานนี้คงต้องขึ้นอยู่กับลูกน้องเขา

     เว็บไซต์ของสุริยันเป็นเว็บให้ข้อมูลลูกค้าและคนทั่วไป ไม่ใช่เว็บการให้บริการ ดังนั้นความเสียหายทางการเงินจึงแทบจะเป็นศูนย์ แต่ปัญหาของเว็บแบบนี้ล่มจะส่งผลเสียไปที่ชื่อเสียงของบริษัท และอาจทำให้ลูกค้าบางรายหมดความเชื่อถือ

     วันนี้เป็นวันเกิดของหัวหน้ากลุ่มไอที ทั้งแผนกเลยนัดสังสรรค์กัน ในขณะที่กำลังเฮฮาก๊งเหล้ากันอยู่ หัวก็หน้าโดนตามตัวและยกกันมาเป็นโขยง

     ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีแม้กระทั้งเสียงกดคีย์บอร์ดหรือเสียงคลิ๊กของเม้าส์ เพราะฝ่ายไอทีเองก็จนปัญญา และทำได้อย่างเดียวคือรอ หนึ่งชั่วโมง? สองชั่วโมง? หรือสิบชั่วโมง? ไม่มีใครตอบได้ แต่ที่แน่ๆ ยิ่งนาน ความเสียหายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

     "เอ่อ... จริงๆ แล้วผมรู้จักคนที่อาจจะพอช่วยได้นะครับ" เธียรวิชญ์เอ่ยปากทำลายทำความเงียบ

     พอพูดจบ ทุกสายตาก็พุ้งตรงมาทางเขาทันที

     ภูผาแสดงสีหน้าครุ่นคิด "ไว้ใจได้ไหม?"

     "ได้ครับ ผมรับประกัน" เธียรวิชญ์ยืนยันหนักแน่น

     "งั้นรบกวนนายช่วยตามตัวเขามาตอนนี้เลยได้ไหม?"

     "ครับ เดี๋ยวผมโทรตามมันตอนนี้เลย ขอตัวแป๊บหนึ่งนะครับ" เธียรวิชญ์เดินออกจากห้องแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นกดหาชื่อ แล้วโทรออก


     "มึง บริษัทโดน DDoS ว่ะ ทั้งทีมไอทีอยู่นี่ แต่ทำไรไม่ได้เลย"

     "... DNS?"

     "ลองหมดแล้ว"

     "กูต้องไปว่างั้น?"

     "มึงเป็นความหวังสุดท้ายแล้วนะเว้ย"

     ... ปลายสายเงียบไปพักใหญ่

     "เออๆ อีกยี่สิบนาที ลงมารับกูด้วย!!"







มาล่ะ ตอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ
 :L1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-03-2018 02:42:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 15-03-2018 02:55:19
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-03-2018 02:56:09
ใครนะที่จะมาช่วย  :hao4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-03-2018 03:45:44
 ได้โชว์ฝีมืออีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 15-03-2018 06:25:48
สนุกตื่นเต้นมาก น้องจะได้โชว์ฝีมืออีกแล้ว
เด็กๆ ก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-03-2018 08:58:53
สนุกน่าติดตามจนอยากให้มาอัพต่อแบบวันเว้นวันอ่ะ


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-03-2018 09:36:26
อยากได้หลาน ต้องขอปู่   :3123:

ภูผา เข้าหาปู่แล้ว    :hao3:

ปัญหาไอที  กวินทร์แก้ได้   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ภูผา กวินทร์    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 15-03-2018 10:16:56
เดินหน้าจีบอย่างหนักหน่วงแล้ว เดี๋ยวภูผาจะได้รู้ความสามารถของกวินทร์เพิ่มขึ้นอีกอย่างแล้วด้วย
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: ~@มาวินฮับ@~ ที่ 15-03-2018 10:33:23
ติดตามครับ ชอบมากๆๆ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 15-03-2018 11:19:05
 :oni2:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 15-03-2018 12:10:55
 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-03-2018 15:11:56
ฝากตัวเป็นหลานเขยเรียบร้อย :laugh:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 15-03-2018 18:26:31
ใครเอ่ย
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 15-03-2018 22:15:35
เพิ่งได้อ่าน อ่านจบรวดเดียวเลย สนุกมากค่ะ ฝาแฝดน่ารักน่าฟัดสุดๆ
รอพี่ภูจีบกวินทร์ ขอคุณปู่ก็ขอแล้ว เหลือขอกวินทร์เป็นแฟนอย่างเดียว สู้ๆพี่ภูผา
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 16-03-2018 00:00:19
มาต่อเร็วๆ ฮือออออออ :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 16-03-2018 06:37:23
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 16-03-2018 08:45:47
ฮื่ออออ ยิ่งอ่าน ยิ่งชอบ อยากให้มาทุกวันจัง
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 16-03-2018 09:23:04
 :hao5: :hao5:ดีใจที่ไรท์กลับมาต่อ  :mc4: :mc4: :mc4: แต่ว่าาาาาา :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:ค้างหนักมากกกกก พลีสสสสสได้โปรด อย่าหายไปนานน๊าาาาาา ลุ้นมากกกกกก  :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 17-03-2018 09:05:33
สนุกมากๆเลยค่ะ กลับมาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 17-03-2018 13:41:22
มาาาา  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 21-03-2018 07:16:21
ตายละ พลาดมาไปอยู่ไหนมาถึงไม่เคยอ่าน ฮือ ชอบมากค่ะ

สนุกมากๆ ฮาด้วย เหมือนจะม่าแต่ม่านิดหน่อยแบบฮาๆ

ติดตามเลยค่ะ อยากอ่านต่อจนจบเลย นี่ก็อ่านมาราธอนมาก

อยากเห็นกวินทร์โชว์ฝีมือ อ้อ อยากให้กสินทร์ช่วยเด็กๆ 3 คนนั้นด้วย

สงสารไอ้เจ้าน้องเอย ยังเด็กอยู่เลย

ป.ล. ต้องขอบคุณกระทู้นิยายแนะนำมากๆที่พาให้มาเจอเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂21/3/18 ตอนที่ 21 DDoS
เริ่มหัวข้อโดย: Civillian ที่ 22-03-2018 00:21:51
ตอนที่ 21 DDoS     



     "เออๆ อีกยี่สิบนาที ลงมารับกูด้วย!!"


     กวินทร์วางสายแล้วถอนหายใจมองเกมส์ในจอคอมฯตาละห้อย ก่อนจะเลื่อนมือกดเซฟแล้วปิดเครื่อง

     ถ้าใครเข้ามาในห้องร่างโปร่งคงคิดว่าเขาเป็นคนติดเกมส์ เพราะมีทั้งหูฟังและคีย์บอร์ดรูปร่างหน้าตาแปลกจากอันทั่วๆ ไป หรือจอมอนิเตอร์แบบโค้งราคาเฉียดแสน แต่จริงๆ แล้วกวินทร์ไม่ได้บ้าเกมส์และเล่นอยู่ไม่กี่อัน หนึ่งในนั่นก็คือ This War of Mine เกี่ยวกับสงครามแต่แตกจากเกมส์อื่นๆ โดยไม่เน้นการต่อสู้ของกองทัพทหาร แต่เป็นการดํารงค์ชีวิตของคนธรรมดาภายใต้สงคราม ตัวละครต้องทำการตัดสินใจที่ยากลำบากหลายอย่างเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ทุกวัน และตอนจบของเกมส์ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจที่ผ่านมาของผู้เล่น

     และเธียรวิชญ์ก็โทรในขณะที่เขากำลังทำการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่!!! ไอ้เมตนะไอ้เมต!

     ร่างโปร่งบ่นกระปอดกระแปดกับตัวเองซักพักแล้วลุกจากเก้าอี้ เดินหาของที่คิดว่าต้องใช้ เช่น USB แฟลชไดรฟ์ที่สามารถบูท Kali Linux ซึ่งเป็นลินุกซ์ดิสทริบิวชั่นที่รวมเครื่องมือกว่า 600 โปรแกรมในการใช้การตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางดิจิทัลและการโจมตีฐานข้อมูล ถ้าพูดให้เห็นภาพสำหรับคนทั่วไป ก็เหมือนกล่องเครื่องมือช่าง ที่มีเครื่องมือทุกอย่างในนั้น ขอแค่ใช้มันเป็น ล็อคที่ไหนก็เอาคุณไม่อยู่ อีกอย่างที่ชายหนุ่มหยิบใส่กระเป๋าไปด้วยก็คือโน๊ตบุ๊ค dual-boot เครื่องรอง เพราะไม่อยากเอาไปปนกับตัวเก่งที่เขาใช้งานส่วนตัว ทั้งสองเครื่องเหมือนกันตรงที่สามารถบูทได้ทั้ง Windows และ Kali Linux 

     กวินทร์ยัดทุกอย่างลงในกระเป๋าคอมฯ พร้อมของทานเล่นสามสี่อย่าง เขาค้นพบว่าการแฮกไปด้วย เคี้ยวขนมไปด้วย สมองจะแล่นเป็นพิเศษ!

     "พี่อั๋น มาขับรถให้ผมหน่อยนะครับ ผมจะแวะไปที่ทำงาน" กวินทร์โทรตามคนขับรถที่อายุน้อยกว่าลุงโชค ดึกๆ ดื่นๆ ไม่อยากรบกวนเวลานอนแก 

     "ได้ครับ เดี๋ยวผมเตรียมรถรอ"

     "ขอบคุณครับพี่"

     จากนั้นกวินทร์ก็วานแม่บ้านให้ขึ้นมานอนเฝ้าเจ้าแฝดข้างบน แล้วแวะเข้าไปดูเด็กๆ น้องปรายและน้องปลื้มกำลังหลับปุ๋ยพร้อมตุ๊กตาหมีข้างกาย กวินทร์ก้มจุ๊บเหม่งคนละที ก่อนจะค่อยๆ ย่องออกจากห้อง

     "งื้อ.. ป๊า.."

     กวินทร์สะดุ้งหยุด แล้วหันไปมองต้นเสียง

     น้องปลื้มลุกขึ้นนั่งงัวเงีย กำปั้นเล็กๆ ขยี้ตาให้หายง่วง แล้วเงยหน้าหันมองซ้ายขวา ก่อนจะยิ้มแฉ่งเมื่อเห็นร่างอันคุ้นตาของปะป๊า

     "ปะป๊า!" เจ้าหนูตะโกนเรียกเสียงแหบเพราะเพิ่งตื่น ร่างป้อมๆ อวบๆ ยืนขึ้นเกาะไม้กั้น

     "ปะป๊า อุ้มๆ"

     มาตื่นอะไรเอาตอนนี้เนี่ย กวินทร์ได้แต่ถอนหายใจ แล้วเดินไปอุ้มตามที่ตัวแสบสั่ง กวินทร์อุ้มน้องปลื้มขึ้นแล้วลูบหลังสองสามทีก่อนวางลงเตียง แต่เด็กชายกลับไม่ยอมและกอดปะป๊าไว้แน่น พร้อมส่งเสียงแผดร้อง จนกวินทร์ต้องรีบพาออกจากห้องเพราะไม่อยากให้น้องปรายตื่นมาอีกคน

     "ปะป๊า เย่น" เจ้าหนูชวนเล่นตาใสแจ๋ว

     โธ่ น้องปลื้ม ปะป๊าต้องออกไปข้างนอกนะคร้าบบบบ


******


     กวินทร์ทั้งกล่อมทั้งขอร้องให้เจ้าหนูนอน แต่นอกจากจะตาสว่างขึ้นแล้วยังกอดคอเขาไม่ปล่อย พอจะวางลงกับพื้นก็ดิ้นใหญ่แล้วกอดเขาแน่นกว่าเดิม

     ร่างโปร่งเหลือบมองนาฬิกา เขาบอกเธียรวิชญ์อีกยี่สิบนาทีจะไปถึง แต่ตอนนี้ผ่านไปแล้วสิบนาที แต่เขายังไม่ได้ออกจากบ้านเลย

     กวินทร์ก้มหน้ามองเจ้าตัวแสบในก้อมกอด น้องปลื้มเงยหน้ายิ้มแฉ่งให้ปะป๊า "คิกๆ" เอาซะเขาอดยิ้มตามไม่ได้

     สุดท้ายกวินทร์ก็ต้องบอกแม่บ้านให้จัดนมและของทานเล่นของเด็กพร้อมแพม
เพิสใส่กระเป๋าอีกใบ แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถคันใหญ่ที่มีคาร์ซีทติดไว้ เพราะต้องจำใจพาเจ้าตัวแสบไปด้วย

     "ง่ำๆ" ดู นั่งหม่ำแก้วมังกรไม่รู้สึกรู้สา

     กวินทร์ส่ายหัวให้อย่างระอาแกมเอ็นดู แต่ เอ.. ทำไมรู้สึกเหมือนกำลังลืมอะไรวะ? ร่างโปร่งเช็คดูของอีกครั้ง ก็เอามาหมดแล้วนี่นา ช่างเถอะ สงสัยคิดมากไปเอง

     "ปะป๊า โม๊ะ" มือเล็กชูถุงเปล่าให้กวินทร์ดูว่ากินหมดแล้ว

     "กินเร็วจริงๆ เจ้าหมูเอ้ย" กวินทร์พูดแล้วเอาถุงเก็บ "ไหน ให้ปะป๊าดูพุงหน่อยครับ"
น้องปลื้มเลิกเสื้อขึ้นแล้วตบพุงบ่องๆ ของตัวเอง แปะๆ

     "ปะป๊า จูๆ" เด็กชายพูดพร้อมสีหน้าตื่นเต้นดีใจและชี้นิ้วใส่ปะป๊า

     "หือ? อะไรครับ"

     "จูๆ ปะป๊า จูๆ" ชี้นิ้วใส่เขาใหญ่ กวินทร์ก้มมองตัวเอง อ๋อ ปิกาจู

     ... ห๊ะ?!

     เหี้ยยยยย ว่าแล้วลืมอะไร ที่แท้ลืมเปลี่ยนชุด!!

     โอ้ยยย ไอ้กวินทร์ ไอ้ควายเอ้ยยยย

     กวินทร์อยากจะทึ้งหัวตัวเอง แถมมารู้เอาตอนรถเลี้ยวเข้าบริษัทพอดิบพอดี! แล้วมันไม่ใช่ลายปิกาจูสีพาสเทลตัวเล็กน่ารักๆ แต่มันเป็นรูปปิกาจูตัวใหญ่สีเข้มเหมือนลายการ์ตูนสกรีนเสื้อเด็กสีฉูดฉาดที่เขาขายกันตามตลาดนัด และจะนั่งมองหรือตีลังกามองยังไง มันก็ชุดนอนชัดๆ!

     ถึงกวินทร์จะเป็นคนที่หน้าด้านไม่ค่อยแคร์ความคิดคนอื่น แต่ก็ไม่ได้ติสต์ถึงขั้นใส่ชุดนอนตัวโคร่งลายปิกาจูออกมาข้างนอกขนาดนี้นะครับ!
 

******


     "พี่อั๋นออกไปเดินเล่นรอแถวๆ นี้ก็ได้นะครับ ไม่ต้องขึ้นไป เดี๋ยวจะเบื่อเอา" กวินทร์บอกคนขับรถ

     "เอาอย่างงั้นก็ได้ครับ"

     "เดี๋ยวผมโทรหา"

     "เฮ้ย ไอ้กวินทร์ มึงไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะสาด" เธียรวิชญ์ตบฝุ่นที่ก้นพร้อมตะโกนทักเพื่อน แล้วมองชุดนอนเขาด้วยสายตาเหมือนกำลังถามว่า มึงไม่เต็มหรือมึงล้น?

     "มึงใส่ส้นตีนไรมาเนี่ย?"

     "ไอ้ห่า พูดไม่เพราะ ลูกกูก็อยู่" แต่คำว่าไอ้ห่านี่ไม่หยาบเลยว่างั้น?

     "แล้วมึงเอาลูกมาด้วยทำไมวะ?" เธียรวิชญ์ถาม แล้วแย่งเจ้าหนูมาอุ้ม "น้องปลื้มมาหาพี่เธียมา" ยังคงพยายามให้เจ้าแฝดเรียกตัวเองว่าพี่แทนลุง

     "งอแงไม่ยอมนอน เลยต้องหอบมาด้วย"

     "อืมๆ แล้วววว..." เธียรวิชญ์ลากเสียงพร้อมมองร่างโปร่งตั้งแต่หัวจรดเท้า

     "ลืมเปลี่ยน" ตอบแบบหน้าตาย

     "ทั้งชุดเนี่ยนะ?" เธียรวิชญ์ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ

     "เออ!" กวินทร์กระแทกเสียง มึงอย่าย้ำได้ไหม!

     "คนบ้าไรลืมเปลี่ยนชุดนอนก่อนออกจากบ้าน" ไอ้เพื่อนตัวดีพึมพำ

     "ปะป๊าบ้าไปแล้วครับน้องปลื้ม" เธียร์วิชญ์พูดกับหมูน้อยด้วยน้ำเสียงราวกับว่ากำลังเล่าเรื่องน่าตื่นเต้น

     "ปะป๊าบ๊ะ" เสียงเล็กพูดตามใสกิ๊ก!

     "ไอ้เมต มึงสอนอะไรลูกกูเนี่ย!" นี่ถ้าไม่ติดว่ามันอุ้มลูกเขาอยู่ กวินทร์คงตบเธียรวิชญ์หัวทิ่มไปแล้ว

     "ปะป๊าบ๊ะๆๆ" น้องปลื้มส่งเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมปรบมือชอบอกชอบใจยิ่งนัก

     "บ๊ะๆๆๆ เชพบ๊ะ!" เธียรวิชญ์ร้องเป็นเพลงพร้อมพาหนูน้อยเต้นหมุนไปด้วยกัน

     ดูทำเข้า ทีอยู่มหาลัยฯ ล่ะทำเป็นขรึม สงสัยแม่งเก็บกด ไอ้ตุ๊ดหลบในเอ้ย! ลูกเขาก็ดูจะสนุกเหลือเกิน หัวเราะเอิ้กอ๊ากไม่หยุด 

     "ไม่เมต มึงจะเล่นอีกนานไหมเนี่ย เร็วๆ!" กวินทร์หันกลับไปสั่งเพื่อนที่ยังมัวแต่เต้นอยู่กับน้องปลื้ม


     กวินทร์เดินไปขึ้นลิฟท์ ถามว่ารู้สึกประหม่าไหม? เขาตอบได้อย่างเต็มปากเลยว่าไม่ ทำไมต้องประหม่าล่ะ? นอกจากเธียรวิชญ์เขาก็เพิ่งมารู้จักคนอื่นๆ ตอนฝึกงานนี่เอง แล้วแปลกตรงไหนถ้าคนพวกนั้นจะไม่รู้ว่าเขาเก่งในเรื่องไอที? ฉะนั้น อย่าคิดมาก ยิ่งคิดหรืvพยายามปิดก็ยิ่งจะดูมีพิรุธ

     และถ้าให้เดา ภูผาก็คงอยู่ด้วยแน่ๆ เพราะอีกฝ่ายโดนโทรตามก่อนเขาแค่ไม่กี่ชั่วโมง นิสัยอย่างภูผา ถ้าปัญหายังแก้ไม่ได้ ก็ไม่มีทางกลับบ้านหรอก

     "ปะป๊า" น้องปลื้มร้องเรียกปะป๊าพร้อมอ้าแขนให้อุ้ม

     "ทำไมครับ? เหม็นลุงเมตเหรอ?" กวินทร์กัดเพื่อน

     "ลุงเม็ต คิกๆ" เด็กชายตัวอวบขำ "ปะป๊าบ๊ะ" อ่าว... หันมาว่าปะป๊าตัวเองเสียอย่างงั้น

     กวินทร์แอบส่งสายตาคาดโทษให้เธียรวิชญ์ที่ยักไหล่อย่างไม่รู้ไม่ชี้ ยักไปเถอะ ก่อนมึงจะไม่มีไหล่ให้ยัก


******


     "มาแล้วครับ" เธียรวิชญ์นำหน้าเปิดประตูเข้าไป มืออีกข้างถือสำภาระของกวินทร์ ทุกคนในห้องหันหน้าดูผู้มาใหม่เพราะอยากรู้ว่าหนุ่มรุ่นน้องพาใครมา

     แล้วทุกคนก็ต้องเบิกตากว้างเพราะความคาดไม่ถึง เมื่อเห็นกลุ่มผมบลอนด์และผิวขาวนวลของร่างโปร่งที่เดินตามเข้ามา

     "ไอ้กวินทร์?!" แผนกไอทีตะโกนชื่อเขาพร้อมเพียง

     "อ่าว ไอ้เมตไม่ได้บอกเหรอว่าผมจะมา?" กวินทร์ถามพร้อมยกมือไหว้ทุกคน

     "กวินทร์?" ภูผาพึมพำเบาๆ กับตัวเอง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างฉงน ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าเขาควรรู้สึกยังไงกับการปรากฏกายของร่างโปร่ง.....ในชุดนอน?

     กวินทร์มาฝึกงานที่บริษัทเขาหลายเดือนแล้ว และภูผาเองก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายมีนิสัยที่ไม่ค่อยแคร์สายตาใคร แต่... ใส่ชุดนอนลายการ์ตูนออกข้างนอกเนี่ยนะ?

     ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรต่อ ร่างป้อมๆ ของหมูน้อยที่ไม่ยอมนอนก็กระโดนดึ๋งๆ ตามเข้ามา แล้วกอดขาปะป๊าหัวเราะคิกคัก ก่อนตากลมใสจะเบิกกว้างเมื่อเห็นภูผา

     "จุนยุงๆ" เด็กชายอ้าแขนวิ่งเข้าใส่ภูผา ที่ก้มลงรับเจ้าหนูขึ้นมาอุ้มอย่างไม่ลังเล

     "ฝากด้วยนะครับคุณภูผา" กวินทร์หันไปบอกเจ้านาย ก่อนจะพูดกับลูกชายตัวแสบ "คุยกับคุณลุงไปก่อนนะครับน้องปลื้ม" อย่างกับลูกชายตัวเองคุยรู้เรื่อง แต่เด็กชายก็พยักหน้าหงึกหงักเหมือนจะรับทราบ แล้วซบลงบนไหล่ของคุณลุง

     "สถานการณ์เป็นไงพี่?" กวินทร์ถามปุริน

     "ลองหยุดให้บริการแล้วก็รีบูทเซิร์ฟเวอร์แต่มันไม่กลับขึ้นมาว่ะ" หัวหน้าแผนกไอทีกล่าวหัวเสีย และมองกวินทร์เหมือนจะไม่ค่อยเชื่อว่าอีกฝ่ายจะช่วยได้

     "อ่า... ขออนุญาตนะพี่" ร่างโปร่งกล่าวและทำสัญญาณมือให้อีกฝ่ายลุกจากเก้าอี้
พอปุรินลุกขึ้น กวินทร์นั่งลงไปแทน แล้วเริ่มทำการแก้ปัญหาขั้นต้นเหมือนที่ปุรินทำเพื่อดูการตอบสนอง และก็เป็นไปตามคาด

     ตัวหนังสือสีขาวโผล่ขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย เหมือนกำลังตอกย้ำความผิดพลาดของระบบ

     destination unreachable [time out]...

     access denied...

     DDoS หรือ Distributed Denial of Service การโจมตีโดยปฏิเสธการให้บริการแบบกระจาย แต่ถ้าแปลให้เข้าใจง่ายๆ ก็ไม่ต่างจากการโดนรุมยิงจากหลายๆ ที่ในเวลาเดียวกัน โดยผู้โจมตีเริ่มจากการเทกโอเวอร์คอมฯเป็นจำนวนมากในอิตเตอร์เน็ต จากนั้นก็ติดตั้งซอมบี้หรือบอทซอฟต์แวร์ลงบนคอมฯพวกนั้น โดยที่เจ้าของเครื่องส่วนมากจะไม่รู้ว่าคอมฯตัวเองกลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว ซึ่งกวินทร์เองก็ได้สร้างกองทัพซอมบี้ไว้เหมือนกัน มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี

     หลังจากนั้น ผู้โจมตีก็ใช้ซอมบี้ไปโจมตีเหยื่อด้วยการยิงข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของเหยื่อซ้ำๆ จนเซิร์ฟเวอร์รับกระแสข้อมูลที่เข้ามาไม่ไหวและหยุดทำงานลงในที่สุด เป็นการโจมตีที่แทบจับมือใครดมไม่ได้

     และถ้าเป็นการโจมตี DDoS แบบธรรมดา มันควรไม่ยากที่จะรับมือ แต่ทำไมล่ะ?

     กวินทร์ขมวดคิ้ว หรือว่า..?

    ร่างโปร่งแสดงสีหน้าเหมือนคิดอะไรได้แล้วลงมือกดพิมพ์คีย์บอร์ดอย่างรวดเร็วและเงยหน้ามองจอเป็นพักๆ กูว่าล่ะ ร่างโปร่งคิดในใจ

     "ผมว่าไม่น่าจะใช่ DDoS ธรรมดา ใครก็ตามที่กำลังโจมตีเรา น่าจะติดตั้ง rootkits ไว้ในเซิร์ฟเวอร์" กวินทร์หมุนเก้าอี้บอกภูผาและคนอื่นๆ ในห้อง แล้วหันไปเซ็คดูน้องปลื้มที่หลับอยู่บนเก้าอี้ จากนั้นก็ค้นกระเป๋าเอาขนมออกมาแกะ ขืนไม่รอให้เจ้าตัวแสบหลับ มีหวังงอแงอยากกินด้วยแน่ๆ

     ปุรินตบเข่าดังฉาด "rootkits! ผมลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย!" เขาอุทานแล้วมองกวินทร์อย่างทึ่งๆ

     "rootkits คืออะไร?" เสียงเอ่ยถามมาจากชายหนุ่มที่กวินทร์ไม่เคยเห็น แต่พอเดาออกว่าเป็นพี่ชายฝาแฝดของพยัคฆ์

     "rootkits เป็นเหมือนส่วนประกอบที่ถูกดีไซน์ขึ้นให้อำพรางตัวเองหรืออำพรางพวกไวรัสกับมัลแวร์ต่างๆ น่ะครับ ทำให้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสทั่วๆ ไปตรวจสอบไม่เจอ" ปุรินเป็นคนอธิบายแทนกวินทร์ที่กำลังเอาฟูกมาปูให้น้องปลื้มนอนได้สบายขึ้น เขาเตรียมมาเพราะรู้อยู่แล้ว ว่าเด็กชายต้องสลบก่อนกลับบ้าน

     และ rootkit ที่นั่งอยู่ในเซิร์ฟเวอร์นั่นก็เป็นของตูเอง กวินทร์แอบคิดในใจ เขาพอจะเดาออกแล้วว่าการ DDoS ครั้งนี้เป็นฝีมือใคร

     สิ่งที่ปุรินลืมบอกก็คือ rootkits สามารถใช้เป็น backdoor หรือประตูหลังได้ ถ้าแฮกเข้ามาได้ครั้งแรกและติดตั้ง rootkits ไว้เป็นประตูหลัง ครั้งต่อๆ ไปก็สามารถเข้าระบบของเหยื่อได้เหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก และคนที่กำลังโจมตีบริษัทอยู่ในขณะนี้ ก็คงใช้ backdoor ที่เขาสร้างขึ้นและเคยสอนวิธีใช้ให้พวกมันเสร็จสรรพ!

     "แล้วจะหยุดมันยังไงล่ะถ้ามองไม่เห็น?" พยัคฆ์ถาม

     "นั่นแหละครับปัญหา เราหยุดมันไม่ได้" รองหัวหน้าแผนกกล่าวเสียงเครียด

     "ซิบหายล่ะ เซิร์ฟเวอร์กำลัง time out ไม่มีตัวไหนกลับขึ้นมาเลย!" ปุรินสถบ

     เออสิโว้ย นั่นแหละที่ตูต้องการ หนุ่มผมบลอนด์คิด พอมาเห็นพวกแผนกไอทีหัวเสียกับผลงานของตัวเองแล้วรู้สึกภูมิใจพิลึก

     กวินทร์รู้ดีว่าคนทั่วไปจะแก้ปัญหาระดับเบื้องต้นด้วยการรีบูทเซิร์ฟเวอร์ และทุกครั้งที่รีบูท โค้ดที่เขาเขียนขึ้นจะทำให้ไวรัสก็อปปี้ตัวเองแล้วแพร่กระจายไปทั่วและทำลายโฮสต์ ตามที่ปรากฏบนจอในขณะนี้

     "ดึงกลับมาได้ใช่ไหม?" ภูผาที่นั่งเงียบมาตลอดเอ่ยปากถาม

     "ทำไม่ได้ครับ เพราะทุกครั้งที่รีบูทก็จะจบด้วยการแพร่ไวรัสไปทั่ว" กวินทร์ตอบและพยายามลดความตื่นเต้นในเสียงตัวเอง "ทางออกเดียวก็คือทำให้ระบบทั้งหมดออฟไลน์ ล้างเซิร์ฟเวอร์ที่ติดไวรัสแล้วดึงกลับขึ้นมาใหม่"

     ทุกคนยกเว้นเธียรวิชญ์มองหนุ่มผมบลอนด์เหมือนเป็นคนละคน การที่จะเก่งเรื่องไอทีนั่นไม่ใช่ง่ายๆ และเก่งถึงขั้นหาจับตัวอยากขนาดนี้ ในประเทศไทยยิ่งไม่ค่อยมีให้เห็น

     "ห้องเก็บเซิร์ฟเวอร์อยู่ไหนครับ?" กวินทร์ถาม

     "ตามฉันมา นายด้วยปุริน" ภูผาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินนำออกไป โดยไม่ได้หันมามองว่าอีกฝ่ายตามมาหรือไม่


******


     กวินทร์ใช้เวลาหลายนาทีในการกำจัดไวรัสออกจากเซิร์ฟเวอร์ แล้วทำเป็นเหมื่อยขาหาที่นั่งเหมาะๆ เพื่อที่จะไม่ให้ปุรินเห็นว่าตัวเองกำลังทำอะไร แล้วลงมือทำงาน ไม่รับรู้ถึงสายตาคมที่กำลังจับจ้องตัวเอง

     astu trace -pid 244 -cmd

     กวินทร์ต้องการรู้ว่าใครเป็นคนโจมตีในครั้งนี้ ถึงจะมั้นใจตั้ง 95% ว่าใคร แต่เขาไม่อยากเสี่ยงกับอีก 5% ที่เหลือ

     ps aux | grep root | cpuset

     แฮกเกอร์ทุกคนชอบทิ้งอะไรบางอย่างไว้ โดยเฉพาะการโจมตีในรูปแบบ DDoS

     แล้วก็เป็นไปตามที่เขาคิดไว้

     steeleagle.dat ฉายาของเด็กสองคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดี

     กวินทร์รีบทำการลบทุกอย่าง รวมทั้ง rootkit ของตัวเองไม่ให้เหลือร่องรอย

     ร่างสูงจ้องมองกวินทร์ที่กำลังรัวนิ้วลงบนคีย์บอร์ดเหมือนไม่ต้องคิดอะไรมาก ราวกับว่าคุ้นเคยต่อปัญหาที่ลูกน้องเขาเองยังจนปัญญา

     ชายหนุ่มคนนี่ คนที่แต่ก่อนเขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยมอง ไม่เคยอยากรู้จักมากไปกว่าคนทั่วไป จนกระทั้งอีกฝ่ายเข้ามาเป็นผู้ช่วยเลขาของตน กวินทร์กลับไม่เหมือนอย่างที่เขาคิดไว้แม้แต่น้อย ภูผานึกว่าอีกฝ่ายจะเป็นแค่เด็กเอาแต่ใจและไม่มีความสามารถในการทำงาน แต่ผิดคาด กวินทร์กลับมีมีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาทั่วไปและรู้จักวางตัวว่าอะไรควรไม่ควร

     "สตาร์ทได้เลยพี่ปืน"

     "เคๆ"

     ถึงภูผาจะไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับไอที แต่เขาก็รู้ดีว่าการที่จะมีความสามารถถึงระดับนี้ได้นั่น กวินทร์ต้องเคยผ่านการทำอะไรผิดกฎหมายมานับไม่ถ้วน และที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นคือ กวินทร์ดูเหมือนจะชอบและมีความรู้ด้านไอทีมาก แล้ว.. ทำไมถึงเรียนอักษรศาสตร์?

     ภูผาไม่ใช่คนขี้สงสัย แต่ถ้ามีเรื่องไหนที่เขาอยากรู้ เขาก็ต้องรู้ให้ได้

     ความรู้สึกของร่างสูงที่มีต่อกวินทร์ในตอนนี้เหมือนกำลังตีกัน ทั้งสงสัยเคลือบแคลงและอยากค้นหาในเวลาเดียวกัน


     "งั้นผมขอตัวพาลูกกลับไปนอนก่อนนะครับ" กวินทร์เก็บของเสร็จแล้วไหว้ลาโดยไม่รอให้ใครท้วง "ไอ้เมต มาเร็วๆ เอากระเป๋ากูมาด้วย"

     "เคๆ"

     พอลงมาถึงลานจอดรถ กวินทร์ก็หันไปพูดกับเพื่อน "มึงกลับไปรอที่บ้านกูกับพี่อั๋นก่อนนะ กูมีธุระต้องยืมรถมึงหน่อย"

     "มึงจะไปไหนดึกๆ ดื่นๆ ขนาดนี้วะ?" เธียรวิชญ์ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

     กวินทร์ถอนหายใจเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าจะบอกเพื่อนยังไงดี "กูมีธุระสำคัญ"

     เธียรวิชญ์นิ่งเงียบไปซักพัก ก่อนจะถามต่อ "เกี่ยวกับเรื่อง DDoS วันนี้ใช่ไหม?"

     "อืม"

     คนฟังแสดงสีหน้าปลง "เออๆ" เธียรวิชญ์รู้ดีว่าถึงเขาเซ้าซี้ต่อ กวินทร์ก็ไม่บอกอยู่ดี

     "เดี๋ยวกูโทรหา" หนุ่มผมบลอนด์พูดทิ้งท้าย


******


     ขับรถออกมาเกือบชั่วโมง กวินทร์ก็มาถึงที่หมาย

     เกือบปีแล้ว แต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม กวินทร์ตัดสินใจไม่รอมาพรุ่งนี้ เพราะเขากลัวว่าจะไม่ทัน กวินทร์ผิดต่อพวกมันที่มีชีวิตใหม่แล้วลืมที่จะมาเช็คดูความเป็นอยู่ของเด็กพวกนี้ ลืมไปว่ายังมีสามชีวิตที่กำลังต่อสู้เกมส์ที่เขาแพ้ไป

     มือเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดเข้าบริการอีเมล์ของสาวิทย์ที่เขาไม่เคยใช้ในฐานะกวินทร์ เขาพิมพ์ข้อความสั้นๆ แต่ได้ใจความ พร้อมแนบรูปงานวันเกิดเจ้าแฝดที่กำลังยิ้มให้กล้องในก้อมกอดตน แล้วกดส่ง และรอ...

     เขารู้ว่าเด็กพวกนี้ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ และไม่มีทางตามเขาไปจากที่นี้ถ้าไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันว่ากวินทร์เป็นเพื่อนกับสาวิทย์ ดังนั้นรูปถ่ายเจ้าแฝดที่โตขึ้นและกำลังยิ้มอย่างมีความสุขพร้อมกวินทร์ จึงเป็นตัวเลือกที่ดี

     สิบนาทีต่อมา เสียงเตือนว่ามีอีเมล์เข้าก็ดังขึ้น

     ทางเข้านาร์เนียอยู่ที่ไหน? กวินทร์คลี่ยิ้ม

     เหมือนแฮกเกอร์ทั่วไป เขาและเด็กพวกนี้ก็มักมีโค้ดลับที่ใช้กันแค่สามคน มือเรียวจึงกดตอบอย่างทันที

     ตู้เสื้อผ้าไอ้ไม้ ขอฉันขึ้นไป?

     ไม่นานอีกฝั่งก็ตอบกลับมา

     ได้

     กวินทร์สูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเปิดประตูรถเดินออกไป เขาหวังว่าพวกมันจะไม่ซุ่มโจมตีเอาอะไรมาทุบหัวเขานะ ร่างโปร่งก้มมองตัวเอง

     เอาว่ะ ไอ้ชุดนอนปิกาจูนี่น่าจะช่วยให้ดูน่ากลัวน้อยลงล่ะน่า


******


     "สิงห์ ฉันรู้ว่านายเพิ่งกลับมา แต่ฉันมีงานให้ทำ" ภูผากล่าวกับลูกน้องคนสนิท

     "งานอะไรครับบอส?"

     "ไปสืบเรื่องของนาย กวินทร์ กิตติปรียากุล มาให้หมด การศึกษา เพื่อน นิสัย ความเครื่อนไหวของบัตรเครดิต ฉันต้องการรู้ทุกเรื่อง" ดวงตาคมกริบกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่าง

     "ได้ครับบอส"

     ถึงจะสงสัยในตัวกวินทร์ แต่เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ศัตรู ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังอยากรู้จักตัวตนจริงๆ ของอีกฝ่ายให้มากขึ้นอยู่ดี

     เห็นทีเราต้องมาทำความรู้จักกันใหม่เสียแล้วคุณพ่อลูกสอง...ของฉัน ภูผายกยิ้ม เขาไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเท่านี้มาก่อนเลยจริงๆ



ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่าาาา
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-03-2018 00:42:53
กรี๊ดดดดด กวินทร์มาแล้ว จิ้มมมมมมม  :z13: ผู้แต่ง


****เพิ่มคห.****

แง้ ดีใจจัง กวินทร์มารับเด็กน้อย 3 คนนี้แล้ว อยากให้เจอกันเร็วๆ

ส่วนคุณภูผา อะไรอ่ะใครเป็นของคุณกัน โมเมนะเนี่ยเราเอา
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 22-03-2018 09:39:00
เป็นกำลังใจครับ  o13
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 22-03-2018 16:12:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 23-03-2018 18:19:56
เด็กๆน่ารัก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 23-03-2018 23:03:50
มาต่อย่อยๆ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 24-03-2018 18:59:03
ไม่เสือก็พยัคฆ์ป่ะพ่อเด็กแฝด เอ้าาาาเดาไปอีกดีใจที่กวินท์มาหาน้องๆ3คนที่ :man1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: nijikii ที่ 24-03-2018 19:31:06
อ่านเรื่องนี้แล้วตื่นเต้นเสมือนตัวเองไปอยู่ในเรื่องเลยแม้ความรู้เรื่องไอทีจะ=0
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 26-03-2018 12:42:17
 :z13: :z13: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าที่ถูกถีบจากสวรรค์ ที่ 27-03-2018 16:12:56
ลืมตอนก่อนหน้าไปแล้วอ่ะ ฮืออ กลับไปอ่านใหม่แป๊ป
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 27-03-2018 19:34:05
 :3123: :3123: :3123:
อ่านวนอีกครั้ง 5555
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Midorima ที่ 27-03-2018 20:53:30
ชอบอ่ะ เอาอีก เอาอีก  :ling1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Themamo ที่ 29-03-2018 18:14:40
กลัวใจนักเขียน เป็นคนที่ไม่ค่อยอ่านนิยายที่ยังแต่งไม่จบเท่าไหรอ่านเรื่องไหนโดนนักเขียนเทตลอดดดดดด :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 29-03-2018 23:24:53
เรื่องนี้ต้องติดตามมมม ....คนเขียนมาต่อไวๆนะจร๊ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 30-03-2018 10:48:47
โครตลุ้นเลย ขอให้สามพี่น้องหลุดพ้น  :call: :call:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าที่ถูกถีบจากสวรรค์ ที่ 31-03-2018 19:24:52
เอาอีกกก  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 01-04-2018 00:56:31
คุณพ่อลูกสอง...ของฉัน งุ้ยยยยยย :o8:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: ooomukooo ที่ 03-04-2018 07:15:44
ชอบๆ สนุกมากเลยคะ
รอตอนต่อไป  :mew1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Pinkping ที่ 08-04-2018 02:56:55
อ่านรวดเดียวเลย สนุก​มาก​ค่ะ​ เป็นกำลัง​ใจ​ให้​นักเขียน​นะคะ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 08-04-2018 06:04:12
นานจัง
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: toomild ที่ 09-04-2018 19:08:23
อ่าน21ตอนรวดเลยค่ะ สนุกมากกกกกกกกกกกก แอบหวังว่าตอนท้ายๆมันจะไม่ดราม่านะคะ5555//อ่านตอนคุณภูรุกกวินทร์นี่เขินไส้บิดมากเลยค่ะ จะบอกให้ไปขอก็ไม่ได้เพราะขอมาแล้ว5555 สู้ๆนะคะ รอน้า :กอด1: ปล.ชอบชื่อน้องบุ้งมาก อยากเรียกน้องบุญ :o8:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าที่ถูกถีบจากสวรรค์ ที่ 15-04-2018 07:28:15
นานอยู่อ่ะ   :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 15-04-2018 12:44:43
เพิ่งมาจ้ะ อ่านรวดเดียวจบ  (พลาดเรื่องนี้ไปได้อย่างไร) สนุกมากๆๆ
มารอเป็นเพื่อนทุกคน ^0^
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: tistaek ที่ 16-04-2018 12:32:52
 o13 อ่านรวดเดียวจบสนุกมากๆๆเลยชอบกวินท
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 22-04-2018 01:37:30
ไรท์รอนะจ๊ะ อย่าหายไปปป
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: LAFIA ที่ 22-04-2018 04:06:01
รอนานแล้วววว คิดถึงเด็กแฝดจะแย่แล้วน้าาาา เรื่องกำลังเจ้มจ้นเลย  :sad4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 24-04-2018 15:39:27
โห่น เพิ่งตามอ้าน สนุกมากๆๆๆๆ ชอบมากๆๆๆๆ

นี่เป็นแฮกเกอร์ปะคะเนี่ย555555
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 24-04-2018 18:20:23
สงสัยจะโดนเทอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 27-04-2018 15:57:19
สนุกมาก รออ่านตอนหน้า มาต่อเร็วๆ นะคะ  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 28-04-2018 02:52:34
อ่านรัวๆต่อกันยาวๆมาตั้งเเต่หัวค่ำแล้วค่ะ  ไม่มีตอนไหนที่นิยายจะสนุกได้เท่ากับตอนใกล้สอบอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าที่ถูกถีบจากสวรรค์ ที่ 13-05-2018 13:57:09
ไม่นะ...เดือนครึ่งแล้ว.. นี่ตั้งใจไม่เข้ามาดู 1 เดือน รออัพ
ปรากฎว่าว่างเปล่า ม่ายน้าาาา .__. รอนะคะ จะมาช้าไม่ว่า แค่มาก็พอ ฮืออ อย่าพึ่งลืมเรื่องนี้น้าา T__T  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 13-05-2018 21:07:21
กวินทร์เวอร์ชั่นใหม่มีพร้อมขนาดนี้ ใครไม่รักไม่หลงก็ให้รู้ไป
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 13-05-2018 22:42:32
เนื้อเรื่องสนุกและน่าติดตามมาก ภูผาคงเป็นคนแรกที่รู้แน่ๆว่ากวินทร์ไม่ใช่กวินทร์
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 14-05-2018 07:04:47
ดองเค็ม
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 14-05-2018 11:44:12
แง้ๆๆๆๆ มาต่อนะคะ  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 14-05-2018 13:02:32
จะโดนเทอีกเรื่องมั้ยหนอออออ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: t152_rakjai ที่ 14-05-2018 14:53:29
 :call: :call: :call :call: :call: :call :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: missm2c ที่ 22-06-2018 22:59:18
รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 23-06-2018 05:57:12
รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ



มารอด้วยคน นานจนรากงอกก็จะรอ มาเถอะคนเขียน คนอื่านจิขาดใจตายแล้วววววววววววววววววววว

 :hao5: :hao5: :hao5: :katai1: :katai1: :katai1: :ling1: :ling1: :ling1: :serius2: :serius2: :serius2: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 23-06-2018 10:28:24
ไม่น่าหลงเข้ามาเลย ติดกับซะงั้น อยากอ่านต่อๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 23-06-2018 12:54:50
มาต่อเถอะเรากำลังจะลงแดงแล้วนะ......  :ling3: :ling3: :ling1:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 23-06-2018 14:25:29
มาต่อเถอะเรากำลังจะลงแดงแล้วนะ......  :ling3: :ling3: :ling1:

อ่านใน dek-D  มีตอนเยอะกว่า :really2:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าที่ถูกถีบจากสวรรค์ ที่ 09-08-2018 13:10:21
จะครึ่งปีแล้ว เราก็ยังรอต่อไป  :hao3:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 09-08-2018 14:24:30
รอเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: toomild ที่ 04-12-2018 19:39:23
ยังรอเรื่องนี้อยู่นะคะ คิดถึงมากๆเลยค่ะ :mew2:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 21-04-2019 21:15:11
 :katai4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 22-04-2019 21:37:09
คิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 26-04-2019 11:36:38
สนุกๆ มาต่ออีกนะครับ
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 27-04-2019 12:40:09
สนุกก รอกลับมาอัพในเล้านะคะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 18-10-2022 22:27:01
รออ่าน
คนเขียนมาต่อได้แล้วววววววว

 :call: :call: :call: :call: :call: