พิมพ์หน้านี้ - <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Belove ที่ 05-01-2015 11:29:12

หัวข้อ: <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-01-2015 11:29:12



ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ   ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic= (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=)459.0 
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic= (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=)2160.0 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่ 
 
 
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่ 
 
 
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
 หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
 หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
 และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
 ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
 
 เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ 
 
 
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ 
 
 
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ 
 
 
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว 
 
 
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน 
 
 
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
       7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
       7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
       7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
             - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ 
 
 
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง). 
 
 
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ 
 
 
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวปhttp://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com)  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป 
 
 
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
 
 บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
 นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป 
 
 
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด 
 
 
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ 
 
 
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ 
 
 
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
 (1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
 (2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง ....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
 - ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
   (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
 - ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
 - ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
 - ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
 - ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail   
 
 
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข  17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
 
 
 เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ admin thaiboyslove.com.......................................                                                             
 
 
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7 วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย 
 
 
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



                                                :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2:






X-theme the series เรื่องสั้นนี้มีไว้X
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0)




                                               :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:




X-theme the series Season2


สารบัญ


วิญญาณเสน่หา บทนำ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2923140#msg2923140 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2923140#msg2923140)

วิญญาณเสน่หา บทที่ 1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2931044#msg2931044 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2931044#msg2931044)

วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2938107#msg2938107 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2938107#msg2938107)

วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2939192#msg2939192 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2939192#msg2939192)

วิญญาณเสน่หา บทที่ 3 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2948864#msg2948864 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2948864#msg2948864)

วิญญาณเสน่หา บทที่ 4 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2973461#msg2973461 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2973461#msg2973461)

วิญญาณเสน่หา บทที่ 5 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2983017#msg2983017 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2983017#msg2983017)

วิญญาณเสน่หา บทที่ 6 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2994340#msg2994340 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg2994340#msg2994340)

วิญญาณเสน่หา บทที่ 7.1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3004712#msg3004712 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3004712#msg3004712)

วิญญาณเสน่หา บทที่ 7.2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3004996#msg3004996 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3004996#msg3004996)

วิญญาณเสน่หา บทที่ 8 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3017172#msg3017172 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3017172#msg3017172)

วิญญาณเสน่หา บทจบ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3019427#msg3019427 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3019427#msg3019427)






ตัวประหลาด บทที่ 1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3026828#msg3026828 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3026828#msg3026828)

ตัวประหลาด บทที่ 2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3036236#msg3036236 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3036236#msg3036236)

ตัวประหลาด บทที่ 3 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3049742#msg3049742 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3049742#msg3049742)

ตัวประหลาด บทที่ 4 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3055614#msg3055614 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3055614#msg3055614)

ตัวประหลาด บทที่ 5 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3068286#msg3068286 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3068286#msg3068286)

ตัวประหลาด บทที่ 6.1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3076692#msg3076692 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3076692#msg3076692)

ตัวประหลาด บทที่ 6.2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3079106#msg3079106 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3079106#msg3079106)

ตัวประหลาด บทที่ 7.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3085967#msg3085967)

ตัวประหลาด บทที่ 7.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3089628#msg3089628)

ตัวประหลาด บทที่ 8 ตอนจบ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3097205#msg3097205)




ทดลองรัก บทที่1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3114005#msg3114005)

ทดลองรัก บทที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3120740#msg3120740)

ทดลองรัก บทที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3131316#msg3131316)

ทดลองรัก บทที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3139489#msg3139489)

ทดลองรัก บทที่ 5 ตอนจบ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3143425#msg3143425)




เอาชีวิต บทที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3154899#msg3154899)

เอาชีวิต บทที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3165172#msg3165172)

เอาชีวิต บทที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3201260#msg3201260)

เอาชีวิต บทที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3211293#msg3211293)

เอาชีวิต บทที่ 5 ตอนจบ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3221376#msg3221376)



ลูกเลี้ยง บทที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3244160#msg3244160)

ลูกเลี้ยง บทที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3250123#msg3250123)

ลูกเลี้ยง บทที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3257788#msg3257788)

ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3264572#msg3264572)





เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.0)

เดี่ยวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3272120#msg3272120)

เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3279013#msg3279013)

เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3284599#msg3284599)

เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3286176#msg3286176)

เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 4(ตอนจบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.msg3287042#msg3287042)



ซื้อ X-Theme season 2 ทาง Ebook (https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDczMTkyIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMzk3NDgiO30)


                                                                   




                                               :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:





หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-01-2015 11:35:59

                                                         วิญญาณเสน่หา

                                                              บทนำ   


          “ฮัก ฮัก โอ ดิน ดินของฉัน”


          เนื้อตัวขาวผ่องเป็นยองใยประหนึ่งมิเคยถูกแสงแดดมาแผดเผากำลังบิดกายอย่างปวดร้าว แผ่นหลัง

นุ่มเนียนถูกประคองไว้ด้วยมือหยาบกร้านเพื่อไม่ให้แตะต้องแปดเปื้อนไปกับผืนดินกระด้างเบื้องล่างที่ใช้ต่าง

ที่นอนนุ่มเมื่อร่างกำยำคล้ำไอแดดกำลังชำแรกแทรกกายพาให้เคลื่อนคล้อยไปยังสวรรค์ที่เห็นอยู่รำไร


           “คุณพุ่ม คุณพุ่มของไอ้ดิน ช่างหวานเหลือเกิน”

           สลับเสียงคร่ำครวญไม่ยิ่งหย่อนเมื่อร่างกายที่เฝ้าทะนุถนอมยิ่งกว่าชีวิตกำลังตอดรัดบีบบังคับรัดรึงให้

เสียวซ่านไปทั้งแก่นกายที่สอดแทรกคับแน่น ปวดหนึบไปหมดจนต้องเลื่อนมือไปยึดจับที่สะโพกหนั่นแน่นแล้ว

สวนเอวตัวเองเข้าออกอยู่ในช่องทางเบื้องล่างของคนที่โอบรัดท่อนขาอยู่รอบลำตัวพลางแอ่นอกให้ปลายลิ้น

ร้อนเชยชมไม่เว้นว่าง


         “ดิน ดิน ฉัน อา ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว ดินจ๋า”


           หอบหายใจถี่จนแทบขาดใจไปกับกายสั่นสะท้านเมื่อแท่งร้อนสวนกระแทกเน้นย้ำอยู่ตรงจุดกระสัน

มือนุ่มคว้าท่อนเนื้อของตนไว้ในอุ้งมือพลางสาวเร่งเร้าจังหวะแต่กลับถูกดึงออกและแทนที่ด้วยมือสากหนาเข้า

มากอบกุมกลับยิ่งทำให้กระเจิดกระเจิงจนแทบขาดใจ และยิ่งต้องเบียดกายไปกับลอนกล้ามแข็งแกร่ง


           “รักเหลือเกิน กระผมรักคุณพุ่มเหลือที่จะกล่าว”


           ประโยคบอกรักด้วยเสียงกระเส่าปะปนกับเสียงหอบลึก มือหนาชักขึ้นลงพาให้อีกฝ่ายยิ่งกระโจนใกล้

สวรรค์อยู่รอมร่อ


           “ฉันก็รักดิน รักตลอดไป”


           ลิ้นร้อนในปากหยักบนใบหน้าคมเข้มสอดลึกเข้าไปในโพรงปากหวานเป็นรางวัล บดจูบเค้นคลึงจน

แทบหายใจไม่ทัน เอวสอบกระแทกกระทั้นหนำใจจนเอวลอยไม่ติดพื้น ไม่นานนักกล้ามเนื้อก็บีบรัดไปทุก

สัดส่วน


           “คุณพุ่มของไอ้ดิน ขึ้นสวรรค์พร้อมกันเถิดขอรับ”


           กัดฟันงัดเอวนุ่มขึ้นสูง ไอ้ดินทะลวงสะโพกไม่ยั้งจนใบหน้างดงามบิดเบี้ยวพลางสวนเอวโต้กลับ

ไอ้ดินสาวมือรูดท่อนเนื้อเหมาะมือจนกระทั่งน้ำแตกเปรอะเปื้อนมันจึงซอยสะโพกถี่ยิบให้แตกอัดอยู่ภายใน

ก่อนที่มันจะแช่ค้างให้สวรรค์ของมันบีบรัดจนตาแทบค้าง

           ไอ้ดินปรนจูบไปทั่วใบหน้า พุ่มได้แต่แหงนคอตอบรับกับเสียงพึมพำจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง


           “ไอ้ดินขอสาบานกับเจ้าพ่อต้นไทรริมคุ้งน้ำแห่งนี้ ไอ้ดินจะรักคุณพุ่มจนวันตาย และถึงตายก็ไม่มีวัน

เปลี่ยนแปลง”


           ฟ้าคำรามลั่นทั้งที่ไม่มีเค้าแห่งฝนสักนิด ราวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะรับรู้คำแห่งสาบานรักคำนั้น




             --------------------------------- TBC---------------------------



มาแล้วค่ะ มาแล้ว

แฟนานุแฟนยังมีอยู่ไหมนะ มาคราวนี้ก็เปิดตัวกับพล็อตคลาสสิคก่อนนะคะ


หวังว่าคงจะชื่นชอบกันบ้างนะคะ




                                              :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 05-01-2015 11:46:08
 :jul1: รับหน้าแรกเลยค่ะ  ดีใจมากๆที่เขียนเรึ่องนี้ต่อ

เปิดเรึ่องมาก็สุดยอดแล้วค่ะ  ยิ่งมาแนวพื่นบ้านแบบนี้แล้วด้วย เทใจให้เลยค่ะ เชื่อฝีมือคนแต่ง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-01-2015 11:52:07
 :o8:   แค่บทนำก็นะ อุ่นเครื่องจนร้อน
เรื่องแรกมาแนวพีเรียดสินะ รอติดตามจ้า
รอวันเกิดของเดือนสิบอยู่นะ 555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 05-01-2015 11:55:24
ชอบค่ะ มาติดตามภาค 2 ด้วยคน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 05-01-2015 14:40:00
มาแล้วซี่รีย์ที่รอคอย ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 05-01-2015 14:54:25
เห็นชื่อแล้วรีบกดเลย
ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 05-01-2015 15:31:56
ท่าทางต่อไปน่าจะมีเรื่องอะไรสินะเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 05-01-2015 15:36:36
เห็นชื่อเรื่องแล้วต้องรีบกดเข้ามาเลย ฮ่าๆๆ
ซีซั่นสองงง
รอติดตามนะค้าา o13 o13
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-01-2015 16:13:55
แนวพีเรียดซะด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 05-01-2015 17:03:54
กดเข้ามาอ่านอย่างว่อง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 05-01-2015 17:55:02
เย้ๆๆ ตามมาเป็นกำลังใจให้ครับ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-01-2015 18:10:55
ว้าว season 2 คลอดแล้ว....
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
ปล.รอบนี้ไม่ทำสารบัญเหรอ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 05-01-2015 18:59:24
เริ่มบทนำยังทำเอาร้อนรุ่มขนาดนี้ ซีซั่น2คงต้องสำรองเลือดไว้หลายลิตร :jul1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: มาโซซายตี้ ที่ 05-01-2015 19:24:02
แช๊สสสสสสส  มาสาบานอะไรใต้ต้นไทร ห๊าาาาา
เปิดมาก็เห็นสวรรค์และ สยอง รำไร เชียวค่ะ

ดีใจ ได้อ่าน ซีซั่ม สอง  o22
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: snowprince108 ที่ 05-01-2015 19:41:55
เชียร์เรื่องนี้ มาต่อเร็วๆนะครับ :pighaun: :mew1: :-[
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 05-01-2015 20:00:19
แค่เห็นชื่อก็คลิกเข้ามาอย่างเร็วรี่ ติดตามเหมือนเดิมจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 05-01-2015 20:15:57
เปิดเรื่องได้แบบบบบ   :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 05-01-2015 20:32:44
อร๊ายยยยย จิ้มอ่านแทบไม่ทัน ชอบค้าาาาาา
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-01-2015 20:54:25
โอ้ววววว แค่บทนำก้อกินขาดค่ะ >\\\\<
ดีใจมากอ่ะ ไม่คิดว่า season 2 จะมาเร็วขนาดนี้
รออ่านตอนต่อๆไปฮะ ^0^
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 05-01-2015 22:13:30
คงความเป็นคอนเซปต์มากค่ะ  :haun4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Shadownights ที่ 06-01-2015 00:38:21
คลาสิคมากอ่ะ พล็อตนี้  :mew3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 06-01-2015 03:52:32
ชอบมากกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 06-01-2015 04:06:39
เปิดมาก็เรียกเลือดแทบหมดตัว
ชื่อนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ  :m25:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 06-01-2015 05:54:34
กรี๊ดดดด มาแล้ววว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 06-01-2015 09:31:52
แอบย่องมาหื่นคราวนี้เป็นผีปี้กับคนหรือจ๊ะคนเขียน :mew3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 06-01-2015 12:04:51
รับประกันความแซ่บ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Thyme103 ที่ 06-01-2015 14:58:29
เห็นเรื่องปุ๊บเข้ามาอ่านปั๊บเลยค่า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 08-01-2015 02:09:09
เจิมซีซั่น 2 ด้วยความหื่น  :z1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 08-01-2015 06:26:56

มารอ เย้  :mc4:  :mc4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 08-01-2015 07:25:09
 :L1:  รอค่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 08-01-2015 10:06:15
มาเจิมภาคสอง  :hao3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 08-01-2015 23:23:19
กรี๊ดกร๊าดดดด ซีซั่น2!!!
มาต่อเร็วๆนะตัวเธอววว :impress2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 10-01-2015 12:12:50
รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทนำ>>
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-01-2015 03:11:35
เอิ่ม   เปิดเรื่องมาก็แบบว่า   :jul1:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 13-01-2015 00:57:30

                                                     วิญญาณเสน่หา

                                                          บทที่ 1


           ไตรภูมิวางลังกระดาษที่บรรจุของใช้จนเต็มกล่องลงบนพื้นที่มีแต่คราบฝุ่นหนา ละอองฝุ่นกระจาย

คละคลุ้งจนเขาต้องยกมือปิดจมูกและปากตัวเองไว้เพื่อไม่ให้มันลอยเข้ามาในปอดไปมากกว่าที่เขาสูดเข้าไป

เยอะแล้ว หลังจากที่เขาขนของเข้ามาวางระเกะระกะเต็มห้องโถงเล็กๆ ที่กำลังยืนอยู่ในตอนนี้

         เจ้าของดวงตาเรียวกวาดสายตาไปรอบๆ อย่างพึงใจในขณะที่ยืดลำตัวสูงโปร่งและยกมือเท้าเอวไว้

แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยในการย้ายที่อยู่อาศัยแต่เขากลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกที่จะได้มาอยู่ภายใต้บ้านทรง

ไทยหลังเล็กเก่าคร่ำริมคลองสายน้อยไกลออกมาจากความแออัดของผู้คนในพื้นที่ธุรกิจ

           ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นชายหนุ่มในวัยเพียงยี่สิบปีถ้วนๆ แต่ไตรภูมิกลับเป็นวัยรุ่นที่หลงใหลในความงดงาม

ของอดีต เขารักศิลปะเกือบจะทุกรูปแบบโดยเฉพาะบ้านทรงโบราณที่เขามักจะเฝ้ามองด้วยความทึ่งในการ

ออกแบบและก่อสร้าง เขามักจะขับรถยนต์คู่ใจตระเวณไปถ่ายรูปบ้านเหล่านั้นเก็บไว้จนเพื่อนๆรุ่นเดียวกันต่าง

พากันล้อเลียนว่าเขาเป็นตาแก่ในอดีตกลับชาติมาเกิดแต่ไตรภูมิก็ไม่ถือสา แถมยังขำไปกับคำล้อนั้นด้วยซ้ำ

           ไตรภูมิเลือกเรียนศิลปะอย่างที่ใจรักในมหาวิทยาลัยชื่อดังทางด้านนี้ ครอบครัวซึ่งมีเพียงแม่ของเขา

เพียงคนเดียวไม่ได้ห้าม แม่ของเขาเลี้ยงลูกอย่างฝรั่งจึงปล่อยให้เขาได้เติบโตและตัดสินใจด้วยตนเอง

แม้กระทั่งตอนที่แม่พบรักกับชาวต่างชาติแล้วชวนเขาให้ไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศด้วยกันแต่ไตรภูมิไม่ไป แม่ก็

ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่ซื้อคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองหลวงให้เขาได้อยู่อาศัย แต่ไตรภูมิกลับนึกเบื่อหน่ายความ

แออัดแก่งแย่งแข่งขันของผู้คนจนต้องขับรถยนต์กลางเก่ากลางใหม่ที่แม้ทิ้งไว้ให้ใช้ไปเที่ยวนอกเมืองอยู่

บ่อยครั้ง

           จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ไตรภูมิขับรถมาเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมายมาถึงชานเมืองในแถบ

ปริมณฑล เขาพารถคู่ใจเข้ามาในถนนเส้นเล็กที่มีบ้านเรือนสร้างอยู่กระจัดกระจาย แต่แล้วสายตาของไตรภูมิก็

ต้องสะดุดกับบ้านโบราณหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบ้านสมัยใหม่ บ้านหลังนั้นล้อมรั้วด้วยกำแพงอิฐแดงที่มีไม้

เลื้อยดกอยู่จนเป็นพุ่ม มันงดงามจนไตรภูมิต้องหยุดรถและก้าวลงไปดูชัดๆ

           หน้าจะเป็นบ้านที่สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่หกถ้าความรู้ของเขาไม่ผิดพลาด ไตรภูมิยืนเกาะรั้วเหล็กที่

น่าจะสร้างขึ้นภายหลังจ้องมองตาโต บ้านสองชั้นที่ได้อิทธิพลมาจากบ้านทรงวิกตอเรียของยุโรป ตัวบ้านสร้าง

ด้วยรูปทรงห้องมุขหกเหลี่ยมและมีลายฉลุที่เรียกกันว่าลายขนมปังขิงกำลังทำให้เขาใจสั่น

           ไม่รู้ว่าทำไมบ้านโบราณหลังนี้จึงตรึงสายตามากนัก ทั้งที่มันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากบ้านหลังอื่นที่เขา

เคยเห็น แต่เมื่อได้จ้องไปยังตัวบ้านที่ยังไม่ได้ทรุดโทรมถึงขนาดซ่อมแซมไม่ได้ อยู่ๆ ไตรภูมิก็น้ำตาไหลโดยที่

ไม่รู้สาเหตุ

           เขาอยากได้บ้านหลังนี้!

           บอกกับตัวเองอย่างไม่ลังเล พลันสายตาก็หันไปเห็นป้ายโฟมเล็กๆ ที่มีตัวอักษรเขียนว่าขายด่วนพร้อม

เบอร์โทรทิ้งไว้ ดวงตาของไตรภูมิลุกวาบเขาถลาไปคว้ามันและรีบโทรไปตามเบอร์นั้น และเป็นอีกครั้งที่ไตรภูมิ

แปลกใจกับราคาอันถูกเหลือเชื่อ นัยว่าเจ้าของนั้นเปลี่ยนมือมาหลายคนจนสืบเสาะไม่ได้ว่าเจ้าของรุ่นแรกคือ

ใคร ส่วนเจ้าของปัจจุบันนั้นกำลังอับจนในเรื่องเงินจากธุรกิจที่ล้มละลายจึงประกาศขายราคาถูก แต่ก็ไม่มีใคร

ซื้อเพราะเป็นบ้านเก่าที่ต้องบูรณะอีกหลายส่วน ไตรภูมิเอ่ยปากขอซื้ออย่างไม่ลังเลด้วยเงินเก็บจากการขาย

ภาพวาดของเขานั้นก็มีไม่น้อย และไตรภูมิก็ได้เป็นเจ้าของในที่สุด


           ใช้วันว่างอย่างวันหยุดสุดสัปดาห์ในวันนี้ย้ายของจากคอนโดมิเนียมมาสู่บ้านหลังเก่า ไตรภูมิใช้เวลา

ไปทั้งวันกว่าจะทำความสะอาดบ้านชั้นล่างจนเสร็จเรียบร้อยและจัดของเข้าที่ทาง ชายหนุ่มยืนมองผลงาน

ตัวเองอย่างพอใจก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ยกเฟรมวาดรูปมาจากหลังรถ จึงรีบเดินไปยกเข้ามาในบ้าน และ

ด้วยความสูงของกรอบไม้มันจึงเกี่ยวอยู่กับประตูทางเข้าตัวบ้าน ชายหนุ่มต้องขยับไปมาจนมุมหนึ่งของกรอบ

ไปเกี่ยวเข้าไปเศษผ้าสีแดงเก่าคร่ำที่อยู่ตรงขอบด้านบนของประตูจนมันขาดหลุดปลิวตามลม

           สายลมหอบกรูวูบหนึ่งพัดผ่านกายแตะไล้จนขนลุกชัน ไตรภูมิสะดุ้งอย่างไม่รู้ตัวก่อนที่เขาจะสะบัด

หน้าเรียกสติกลับคืนมา


           “จะบ้าหรือไงไอ้ไตร”

           เขาบ่นตัวเองเบาๆ กับความรู้สึกแปลกๆนั่น พลางวางเฟรมวาดรูปไว้กลางห้องโถงตรงส่วนมุขด้านหน้า

คืนนี้คงต้องนอนที่ชั้นล่างนี่ไปก่อน แล้วพรุ่งนี้ถึงจะไปทำความสะอาดข้างบนชั้นสองที่แบ่งเป็นห้องนอนอยู่สอง

ห้อง ไตรภูมิบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยขบพลางเดินไปอุ่นข้าวกล่องในไมโครเวฟที่หอบหิ้วมาด้วยกินจนอิ่มหนำ พลบ

ค่ำพอดีเมื่อเขาเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำที่ดัดแปลงมาจนทันสมัย แล้วมาล้มตัวลงนอนอยู่บนที่นอนฟองน้ำซึ่งใช้

เป็นที่นอนชั่วคราวในคืนนี้ เขาหลับลงอย่างง่ายดายด้วยความเหน็ดเหนื่อยที่มีตลอดทั้งวัน







           เสียงลมหวีดหวิวพัดหอบใบไม้อยู่เบื้องนอก ไตรภูมิขดตัวนอนอยู่บนที่นอนผืนเล็กอย่างเหน็บหนาวราว

กับสายลมนั้นกำลังกรูเข้ามาอาบไล้ไปตามเนื้อตัวจนหนาวสั่นกับความรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น


           “อื้อ”


           ครางแผ่วเบาเมื่อรู้สึกเหมือนฝ่ามือเย็นเยียบกำลังลูบไล้อยู่ตรงท่อนแขน เปลือกตาที่ปิดอยู่เต้นระริก

ราวกับตกอยู่ในห้วงแห่งฝัน


           “คุณพุ่ม”


           ใคร?


           เสียงเบาจนแทบจับใจความไม่ได้ลอยวนอยู่ในโสตประสาท ไตรภูมิรู้สึกเหมือนเสียงนั้นดังแว่วอยู่ใกล้หู

นี่เอง


           “คุณพุ่มของไอ้ดิน”


           ความรู้สึกหนาหนักโถมทับอยู่บนร่างกายจนอึดอัด ไตรภูมิพยายามที่จะเหยียดข้อแขนออกก็ทำไม่ได้

ราวกับว่าแรงนั้นกำลังโอบรัดอยู่รอบลำตัวจนกระดิกไม่ได้


           “ใครน่ะ”


           ตะโกนถามอยู่ในความมืดมิด ไตรภูมิอดนึกกลัวไม่ได้กับสิ่งที่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร


           “ในที่สุดคุณพุ่มก็กลับมาหาไอ้ดินแล้ว”


           “ปล่อย”


           ไตรภูมิกระสับกระส่ายกับแรงที่ยิ่งบีบรัด ลมหายใจของเขาเริ่มถี่ขึ้นแรงนั้นกดผ่านมาแถวใบหน้าบังคับ

ให้เขาต้องเงยหน้ารับแรงกดคลับคล้ายแรงผู้ชายตัวใหญ่กำลังกอดรัด


           “คิดถึงเหลือเกิน คิดถึงคุณพุ่ม”


           เสียงนั้นดังแว่วอยู่แถวนี้เอง ไตรภูมิขยับปากเพื่อจะบอกกล่าวว่าเขาไม่ได้ชื่อพุ่ม แต่ทันใดปากของเขา

ก็ต้องอ้าค้างเมื่อมวลหนักนั้นทิ้งลงอยู่แถวริมฝีปากแล้วบดลงมาจนเขาร้อนวูบ


           “อื้อ อย่า”


           ร้อนวูบไปทั้งโพรงปากกับสิ่งที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไรกำลังลูบไล้ไปตามลิ้นชื้น มันกระตุ้นหัวใจให้เต้นถี่ไม่

เป็นจังหวะและเผลอไผลเผยอปากรับราวกับคุ้นเคยเนิ่นนาน





กริ๊งงงงงง

           ไตรภูมิสะดุ้งเฮือก ดวงตาโตเบิกกว้างมองเพดานห้องอย่างตกใจ เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือ

ที่ลืมปิดปลุกเขาในยามเช้ากับแสงเรืองรองที่ลอดผ่านเข้ามาในบ้านทำให้เขาตกใจตื่นจากสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ

           เด้งตัวขึ้นมานั่งพลางยกมือวางไว้ที่หน้าอกตัวเองเพื่อควบคุมให้มันสงบ คิ้วโก่งเข้มขมวดเป็นปมเมื่อ

ก้มหน้าสำรวจร่างกายตนเองจึงได้เห็นว่ากระดุมชุดนอนหลุดออกจากกันหลายเม็ด


           “เฮ้ย เป็นไปได้ไงวะ”


           ไตรภูมิงงงัน ต่อให้นอนดิ้นแค่ไหนเขาก็ไม่เคยละเมอขึ้นมาถอดเสื้อแน่ๆ ซ้ำร้ายยังมีรอยแดงจางๆ อยู่

ตามแผ่นอกให้ยิ่งงงเป็นไก่ตาแตก เขายกมือเกาหัวอย่างข้องใจ


           “สงสัยจะเหนื่อยมากจนฝันบ้าๆบอๆ”


           เจ้าของบ้านคนใหม่ส่ายหน้าไปมาพลางลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ ทันทีที่เห็นใบหน้าตัวเองไตรภูมิก็ต้อง

ขมวดคิ้วอีกครั้ง เขายกปลายนิ้วไปแตะอยู่ที่มุมปากเมื่อมองเห็นรอยสีแดงเรื่อปรากฎอยู่


           “รอยเหี้ยไรวะ”


           สบถอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะเปิดน้ำจากฝักบัวให้ไหลรดความร้อนรุ่มออกไปจากร่างกาย



           ถือโอกาสที่ตื่นเช้าไตรภูมิเข้าครัวทำอาหารง่ายๆจากของสดที่เตรียมมาใส่ตู้เย็นไว้ แล้วเดินไปที่หน้า

บ้าน มองเห็นภิกษุชราในจีวรสีเหลืองกำลังเดินเลาะริมถนนตรงมาไม่ห่างนัก


           “นิมนต์ครับหลวงพ่อ”


           ตักข้าวใส่บาตรพระเสร็จเขาจึงยอบตัวรับพร หลวงพ่อนิ่งมองด้วยสายตาปรานี


           “มาอยู่ใหม่หรือพ่อหนุ่ม”


           ไตรภูมิยิ้มรับ


           “ครับหลวงพ่อ ผมเพิ่งซื้อบ้านหลังนี้”


           สายตาที่เริ่มฝ้าฟางของภิกษุชรามองตรงมา แล้วจึงเอ่ยคำพูดที่ไตรภูมิตามไม่ทัน


           “ในที่สุดก็กลับมาหากันจนได้สินะ”


           “อะไรนะครับหลวงพ่อ ใครกลับมาหาใคร”


           “ช่างเถอะ หลวงพ่อก็บ่นเรื่อยเปื่อยตามประสา นั่นมีขวดน้ำอยู่นี่ เอามากรวดน้ำสิหลวงพ่อจะท่องบท


กรวดน้ำให้”


           ไตรภูมิทำตามอย่างที่พระภิกษุบอก ก่อนที่เขาจะมองสบตาดวงตาฝ้าฟางนั้นอย่างแปลกใจเมื่อฝ่ามือ

เหี่ยวย่นล้วงลงไปในย่ามแล้วล้วงหยิบพระองค์เล็กมายื่นใส่มือของเขา


           “คล้องคอไว้เสียพ่อหนุ่ม พระพุทธคุณจะช่วยคุ้มครอง”



           ไตรภูมิหลับสบายในคืนต่อมาหลังจากทำความสะอาดห้องพักชั้นบนเสร็จสรรพ ภายในบ้านหลังเก่า

สะอาดตาขึ้นและภายในสัปดาห์นั้น เขาเกณฑ์เพื่อนฝูงที่เรียนด้วยกันให้มาช่วยกันบูรณะภายนอกจนกระทั่ง

มันงดงามราวกับเป็นบ้านใหม่

           ด้านหลังรั้วบ้านไปไม่ไกลมีลำคลองเส้นเล็กที่น้ำยังสะอาดไม่มีกลิ่นเน่าเสีย วันสุดท้ายของการ

ซ่อมแซมบ้านไตรภูมิจึงชักชวนเพื่อนๆ ไปเล่นน้ำที่คลอง


           “กูนึกถึงแผลเก่าเลยสัส ดูดิ มีต้นไทรอยู่ตรงนั้นด้วย”


           ไตรภูมหันขวับไปมอง ต้นไทรต้นใหญ่จนรากไทรจุ่มจมน้ำ ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วมอง

           เขาต้องเคยเห็นต้นไทรนี่แน่ๆ มันช่างคุ้นตาเสียเหลือเกิน ไตรภูมิไม่เข้าใจว่ามันเพราะอะไร เพราะเขา

มั่นใจว่าเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก















มีต่ออีกนิด




หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 13-01-2015 01:03:03
ต่อกันอีกหน่อย




         เพื่อนๆกลับกันไปหมดแล้วไตรภูมิกลับเข้าไปในบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เชือกร่มที่ใช้คล้องกับพระที่

หลวงพ่อให้มาเปียกชื้นจนเขาต้องถอดไว้ผึ่งลม และใช้เวลาช่วงหัวค่ำในการวาดรูปส่งอาจารย์ไม่นานนักความ

ง่วงก็เข้าครอบงำจนต้องวางมือ ชายหนุ่มหาวหวอดเมื่อทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่มในห้องพักที่เขาเลือกให้เป็น

ห้องนอนของเขา

           แค่ปิดเปลือกตาไตรภูมิก็หลับ เขาหลับสนิทจนกระทั่งดวงจันทร์วันเพ็ญฉายแสงนวลเป็นเงินยวงเข้ามา

ทางหน้าต่างห้อง ลมพัดกลิ่นชื้นของสายน้ำแตะต้องตามเนื้อตัวก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงแรงยวบลงของที่นอน


           “ใคร”


           ได้ยินเสียงตนเองถามออกไปทั้งที่ยังอยู่ในนิทรา แขนสองข้างถูกดึงออกกว้างเพื่อให้มวลหนาหนักแล่น

มาโถมทับจนชวนอึดอัด


           “ออกไป”


           “รังเกียจไอ้ดินมากหรือขอรับ”


           เสียงนั้นแว่วมาอีกแล้ว คราวนี้ตัดพ้อจนไตรภูมิใจหาย


           “ไม่ใช่นะ”


           “ไม่รังเกียจแต่ก็ไม่ยอมให้เข้าใกล้”


           สายลมเย็นพัดผ่านเนื้อตัวแต่กลับทำให้ไตรภูมิร้อนวูบไปทุกจุดที่สายลมแตะไล้ ราวกับมีมือร้อนกำลัง

ลูบไล้ไปตามร่างกาย ปลุกเร้าให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ


           “คิดถึงไอ้ดิน รอไอ้ดินเหมือนที่ไอ้ดินเฝ้ารอบ้างไหม”


           “อื้อออ”


           ราวกับสายลมนั้นจะรวมตัวกันเป็นมวลธาตุ มันหนาแน่นจนก่อเกิดเป็นเงาที่ชัดขึ้นทีละน้อย หากไตร

ภูมิจะลืมตาขึ้นมองร่างโปร่งใสของชายฉกรรจ์ร่างกำยำหนั่นแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อที่กำลังเอนกายลงเคียงข้าง

และใช้มือโปร่งแสงลูบไล้ไปบนกรอบหน้าของคนที่ยังนอนหลับ ดวงตาบนใบหน้าคร้ามทอดมองอย่างอาวรณ์

พลางเลื่อนหน้าลงไปแนบริมฝีปากลงบนกลีบปากนุ่มของไตรภูมิ


           “ดิน ดิน”


           ปากหยักเผยอร้องเรียกอย่างเผลอไผลทำให้ดวงตาของร่างโปร่งแสงเบิกขึ้นอย่างยินดี แขนใหญ่โอบรัด

ร่างที่บอบบางกว่าเข้ามาในอ้อมกอดพลางบดปากลงไปอย่างโหยหา ปลายลิ้นเย็นค่อยๆ สอดลึกลงไปจนไตร

ภูมิผวาอยู่ในความฝันเมื่อรู้สึกถึงร่างกำยำที่แสนคุ้นเคยกำลังบรรจงจูบหนักและตวัดลิ้นเกี่ยวรัดจนต้องเงยหน้า

รับและโต้ตอบให้อีกฝ่ายดีใจ

           ในฝันไตรภูมิแอ่นอกให้อีกฝ่ายค่อยๆ ปลดกระดุมชุดนอนที่ทำจากผ้าฝ้ายนุ่มมือ กางเกงแพรถูกดึงจน

หลุดออกไปจากท่อนขา เขาเบียดตัวเข้าหาร่างร้อนรุมแน่นเนื้อให้ปากร้อนก้มลงฟอนเฟ้นดูดดึงทิ้งรอยสีแดงเรื่อ

ไปทั่วร่าง


           “ดิน ดิน ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว ต้องการเอ็งเหลือเกิน”


           เสียงของเขาเองกับบทสนทนาที่เขาไม่เคยใช้ ได้ยินเสียงลมหายใจกระเส่าดังแว่วเข้าหูก่อนที่ท่อนขาจะ

ถูกจับแยกออกจากกัน


           “ไอ้ดินก็ต้องการคุณพุ่มเหมือนกันขอรับ ให้ไอ้ดินได้มอบความสุขแก่คุณพุ่มเถิดขอรับ”


           “อื้อ ดิน อา”


           ท่อนเนื้อร้อนจ่ออยู่ที่ปากทางค่อยๆ ดันลึกเข้ามาแทรกกล้ามเนื้อจนวาบหวาม ไตรภูมิบิดกายดิ้นพล่าน

ไปด้วยความกระสัน เอวยกลอยรอรับให้มันยิ่งสอดลึกเข้ามาจนเต็มลำ รู้สึกถึงความคับแน่นแทบระเบิด


           “ขยับสิดิน ข้าอยากให้เอ็งขยับ”


           เสียงกระเส่าออกคำสั่ง ร่างกายกำยำครางตอบรับแล้วกระแทกสวนเข้าคราวเดียว


           “อ๊า แรงอีกดิน แรงอีก”


           “ขอรับ คุณพุ่ม โอ คุณพุ่มตอดเหลือเกิน”


           เอวขยับเร็วรี่ ไตรภูมิรัญจวนจนต้องห่อปากหายใจ เขาเอื้อมมือไปโอบรัดแผ่นหลังชื้นเหงื่อแล้วเบียด

กายจนผสานรวมเป็นหนึ่งเดียว


           “ดิน อีกนิด อ๊า อีก ฮัก ฮัก ไม่ไหวแล้ว”


           ไตรภูมิชะงักเกร็งค้างกล้ามเนื้อบีบตัวแน่นจนต้องบีบขาเข้าหากัน เขาเงยหน้าร้องลั่นเมื่อตัวเอง

ปลดปล่อยออกมา


           เขาลืมตาอยู่ในความมืดเพื่อพบว่าตนเองนอนหายใจกระเส่าอยู่บนเตียงพร้อมกับน้ำเมือกที่เปียกชื้น

อยู่เต็มกางเกงนอน






                ------------------------- TBC ------------------------



ขอพื้นที่โฆษณาผลงานของนักเขียนนะคะ

เพลิงพ่าย นิยายBracon Incest ถ้าคุณชอบความเผ็ดร้อนจัดจ้าน

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.0)

น้ำใสของผม น้ำข้นน่ะของเขา ผลงานสไตล์มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44494.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44494.0)


ขอบพระคุณที่ติดตามเจ้าค่ะ

                                   :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:


หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 13-01-2015 01:20:03
มาสนับสนุนเป็นกำลังใจให้ครับ
พล๊อตผีๆน่าสนใจ รอชมกันต่อไป
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 13-01-2015 02:00:31
แล้วจะยังไงต่อนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 13-01-2015 02:25:53
เห็นชื่อเรื่องรีบคลิ๊กเข้ามาอ่านเลย
ผีผ้าห่มเขาเริ่ดนะเออ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 13-01-2015 04:55:52
ผีนายดินแซ่บมวากกกกกกก  :hao6: อยากเจอบ้าง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 13-01-2015 05:14:33
เริ่ดมากค่ะ   โดนวิญญาณลักหลับ  แต่สมยอมน้า    :hao5:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 13-01-2015 05:15:55
อ่านแล้วเศร้าจัง สงสารนะคนที่เฝ้ารออยู่ตรงนั่นอย่างโดดเดี่ยว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 13-01-2015 05:37:45
โอ้โห เด็ดมาก มันจะไปลงเอยที่ตรงไหนน้อ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 13-01-2015 06:03:47

แอร๊ยยยย....มาแล้ววสว  :m25:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-01-2015 06:19:53
 :katai2-1:  สงสารดินเนอะคงรอมานานมากเลย

แค่ฝันนะเนี่ย  :o8: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 13-01-2015 08:10:18
มาต่อไวๆๆๆๆเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 13-01-2015 08:10:29
เก็บกดความหื่นมานาน

ดินเลยจัดซะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 13-01-2015 08:25:44
แล้วจะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันมั้ย ในเมื่ออยู่กันคนละภพแบบนี้ :sad4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 13-01-2015 11:05:04
 :ling3: :ling3: :ling3:
มันเหมือนจริง ยิ่งกว่าฝัน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 13-01-2015 13:19:38
 :z2: :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 13-01-2015 13:50:11
นี่มันฝันแบบ 4มิติเลยนะเนี่ย น่าสงสารผีนายดินจัง จะดราม่ามั้ยน้าาา อยากให้ไปเกิดและมารักกันในชาตินี้จัง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 13-01-2015 15:04:30
อื้ออออ  เขาชอบอ่ะ  เรื่องแนวนี้  ว่าแต่จะรักกันไงน้าาาาา

ส่วนไอ้เรื่องทำรักนี่เสร็จไปแล้ว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 13-01-2015 18:05:02
ฝันที่เป็นจริง :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-01-2015 21:51:28
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 13-01-2015 22:14:01
แค่ตอนแรกก็น่าติดตามแล้ว   :o8:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 13-01-2015 22:18:13
เจอผีผ้าห่มของจริงเข้าให้แล้ว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 13-01-2015 22:24:57
เขาเรียกโดนผีเอา เอ๊ย...โดนผีอำ นะจ๊ะ นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 13-01-2015 23:12:10
 :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 13-01-2015 23:33:10
คุณพุ่มมมม  :z1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: saythong ที่ 14-01-2015 18:09:07
เออ แบบว่าค้างงง มาต่อไวๆน้า :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 1>> 13/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-01-2015 21:42:03
ดินไม่เหงาแล้วหล่ะคราวนี้
ให้คุณพุ่มจำให้ได้เร็วๆ แล้วกัน ฮ่าๆ
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 19-01-2015 20:45:13

                                                          วิญญาณเสน่หา

                                                              บทที่ 2.1


         เสียงเอะอะเอ็ดตะโรกับความชุลมุนที่กำลังเกิดขึ้นไม่ไกลจากที่นั่งจิบน้ำชาอย่างสำราญนั้น ทำให้หัว

คิ้วโก่งที่ตั้งอยู่บนกรอบหน้ารูปหัวใจนั่นต้องขมวดลงอย่างสงสัย ดวงตาเรียวที่มีขนตายาวเป็นแพปกคลุมเบื้อง

บนเพ่งมองอยู่ตรงบริเวณเกิดเหตุที่เป็นริมถนนสายเล็กในตลาดยามเช้า


           “ไอ้ฉ่ำ เอ็งไปดูทีว่าเกิดอะไรขึ้น”


           เสียงนุ่มออกคำสั่งแก่บ่าววัยกลางคนที่นั่งคุยอยู่กับเพื่อนวัยเดียวกันอยู่ที่โต๊ะถัดไปของร้านน้ำชา ทำให้

มันต้องเด้งตัวลุกอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งไปหาข่าวด้วยความชำนาญในการสอดรู้ ก่อนที่จะวิ่งกลับมาหาผู้เป็นนาย

พลางหอบเป็นหมาหอบแดดเมื่อรายงานข่าว


           “นายเหมือน ลูกชายเจ้าคุณฝั่งขะโน้นขอรับ คุณพุ่ม กำลังให้พวกบ่าวรุมตีนไอ้หนุ่มคนหนึ่งอยู่ กระผม

ดูแล้วเห็นท่าจะอาการหนักเพราะคงจะโดนไปหลายตีนแล้ว”


           คุณพุ่มของไอ้ฉ่ำถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะรู้ถึงกิตติศัพท์ดีว่านายเหมือน บุตรชายของพระยาไกรสร

สิทธิ์ที่มีบ้านเรือนหลังใหญ่ตั้งอยู่ใกล้กับคุ้งแม่น้ำนั้นขึ้นชื่อเรื่องอันธพาลแค่ไหน แต่ที่ต้องถอนหายใจออกมาก็

ด้วยความกลัดกลุ้ม พุ่มจะไม่สนใจเลยหากตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวของกับตระกูลนี้ด้วยการหมั้นหมายอยู่กับ

แม่ละมัยน้องสาวของนายเหมือน ที่ใกล้จะถึงกำหนดวิวาห์ในอีกไม่นานนัก

           แต่เมื่อมองเห็นสภาพเจ้าคนเคราะห์ร้ายที่โดนรุมทำร้ายจากชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ในขณะที่มันมีเพียง

สองมือกับสองเท้าเพื่อปกป้องตนเองแล้วนั้น หากไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเกรงว่ามันอาจจะช้ำในจนตายคา

ถนนก็ได้ คิดได้ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นยืนอย่างงามสง่า

           แม้พุ่มจะไม่ใช่ชายหนุ่มรูปร่างกำยำ แต่ด้วยเพราะความสูงโปร่ง ผิวพรรณขาวสะอาดใบหน้าหมดจดนี่

แหละที่ทำให้เขา พุ่ม หรือ ขุนพิพิธโสภณแห่งกรมช่างสิบหมู่ ผู้เป็นบุตรชายโทนของพระยาวิเชียรอัครภาคมี

ชื่อเสียงขจรขจายถึงความงดงามมีเสน่ห์รวมทั้งอุปนิสัยอ่อนน้อมและโอบอ้อมอารี ทำให้หญิงงามในเมืองกรุง

เฝ้าถวิลหา และพากันเสียดายเมื่อเขามีภาระเกี่ยวดองอยู่กับแม่ละมัยเสียแล้ว

           พุ่มก้าวเดินข้ามถนนเส้นเล็กที่ชาวบ้านพากันมุงดูแต่ไม่กล้าให้ความช่วยเหลือเพราะคนต้นเหตุคือนาย

เหมือนยืนกอดอกหน้าเหี้ยมคุมเชิงให้ลูกน้องกุ้มรุมทำลายชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ จะมีเพียงแต่ขุนพิพิธโสภณ

เท่านั้นที่กล้าเข้าไปกล่าวห้าม


           “หยุดก่อนเถิด กระผมว่าทำร้ายหนักมือเกินไปแล้วนะขอรับพ่อเหมือน”


           เสียงนุ่มแต่หนักแน่นทำให้นายเหมือนผู้ชายร่างโตหันหน้ามามองอย่างไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นว่าคนที่

กล้าเข้ามาขัดขวางเป็นใครใบหน้าถมึงทึงจำต้องคลายออกอย่างไม่เต็มใจนัก


           “นึกว่าใครที่กล้ามาห้าม ที่แท้ก็พ่อพุ่มนี่เอง หยุดก่อนพวกมึง ว่าที่น้องเขยกูเข้ามาห้าม ไม่มีตามองหรือ

อย่างไร”


           เสียงโห่ฮาดังขรมจากคนที่ยังไม่พอใจในการรุมทำร้ายคนอื่น แต่พวกมันก็ยอมหยุดตามคำสั่งพลาง

ก้าวเดินถอยหนีแหวกทางให้พุ่มได้มองเห็นชายหนุ่มวัยเพิ่งพ้นแตกพานนอนตัวงอทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ร่องรอยฟก

ช้ำ แต่ดวงตาคมคู่นั้นยังแกร่งกล้าไม่ยอมสยบถึงแม้จะหาทางสู้ไม่ได้  ดวงตาคู่นั้นตวัดมองมายังเขาจนพุ่มต้อง

กะพริบตา

           ใจเต้นตึกตักจนต้องเบนสายตากลับมาอยู่กับผู้ร่วมสนทนา พุ่มเอ่ยถามนายเหมือนที่ยังมีทีท่าคุกคาม

ไม่เลิกรา


           “ไอ้หนุ่มคนนี้มันทำผิดกระทงไหนรึ พ่อเหมือนจึงได้ลงโทษมันแรงขนาดนี้”


           “เฮอะ เพราะมันเหิมเกริมเข้าไปชิงอาหารที่พวกกระผมกินอยู่ พ่อพุ่มลองตรองดูว่ามันเลวแค่ไหน”


           พุ่มลอบถอนหายใจ หากนับว่าผิดก็คงจะผิดจริงในโทษฐานโขมย แต่โดยปกตินายเหมือนก็ตั้งวงสุรา

กินทิ้งกินขว้างอยู่แล้ว หากใจมีเมตตาสักนิดแบ่งปันให้คนยากไร้หิวโหยก็คงจะไม่เกิดเรื่องนี้


           “เอาเป็นว่ากระผมขอมันไว้ก็แล้วกัน เห็นใจกลัวว่ามันจะตายเสียก่อน ขอให้กระผมได้จ่ายอัฐชดใช้

ค่าอาหารให้พ่อเหมือน พ่อเหมือนจะคิดค่าเสียหายเท่าไหร่ก็บอกมา”


           นายเหมือนแสยะยิ้มเมื่อได้ยินคำขอนั้น และเมื่อกล่าวราคาค่าตัวของการช่วยเหลือออกไปก็เรียกเสียง

ฮือฮาจากชาวบ้านที่มุงมองอย่างไม่เห็นด้วย


           “ถ้าพ่อพุ่มใจดีจะเลี้ยงดูสำรับอาหารแทนไอ้เลวนี่ กระผมก็ขอคิดค่าอาหารแค่หนึ่งชั่งคงไม่มากเกินไป”


           พุ่มนิ่งงัน หนึ่งชั่ง สำหรับการช่วยเหลือมนุษย์ที่ไม่มีทางต่อสู้ แต่เมื่อเห็นคนที่พยายามยันกายตนเอง

ขึ้นมานั่งอยู่ตรงพื้นนั่นแล้ว พุ่มจึงตัดสินใจได้ไม่ยาก เขาล้วงห่อเงินมาจากชายพกกางเกงแพรเนื้อดีแล้วโยนให้

นายเหมือนคว้าไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย มีแต่นายเหมือนที่กระหยิ่มกับอัฐที่ได้รับไป


           “พ่อเหมือนน่าจะพอใจกับค่าอาหารแล้วก็เชิญเถิด ส่วนไอ้หนุ่มคนนี้กระผมจะขอตัวไว้เอง”


           นายเหมือนไม่ได้สนใจอีก เขาพาพวกเฮละโลจากไป พุ่มหันไปให้ความสนใจกับเด็กหนุ่มร่างผอมที่

สามารถยันกายขึ้นมานั่งคุกเข่าได้แล้ว


           “เอ็งชื่ออะไร”


           ร่างผอมกะหร่องเงยหน้าขึ้นมา เขาจ้องมองใบหน้าบุรุษที่งดงามที่สุดตั้งแต่เขาเคยพบด้วยความนับถือ

ในน้ำใจที่ให้การช่วยเหลือคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างเขา


           “กระผมชื่อดินขอรับ ขอบพระคุณเหลือเกินที่ช่วยชีวิต กระผมเป็นหนี้ชีวิตของคุณแล้ว”


           “ไม่ต้องคิดว่าเป็นหนี้อะไรดอก ถือเสียว่าข้าช่วยลูกนกลูกกา เอ็งไปได้แล้วไอ้ดิน”


           พุ่มหันหลังกลับโดยมีไอ้ฉ่ำผู้เป็นบ่าวเดินตาม แต่หากเขาหันหลังมามองก็จะเห็นไอ้ดินค่อยๆ ลุกขึ้นยืน


และเดินตามมา


           
          “คุณพุ่มขอรับ ไอ้ดินที่คุณเพิ่งช่วยไว้มันเดินตามมาแน่ะขอรับ”


         
           ไอ้ฉ่ำเอ่ยขึ้นทำให้พุ่มต้องหยุดเดินและหันมามองดินอีกครั้ง



          “เอ็งตามมาทำไมไอ้ดิน”



          ดินทรุดตัวลงกราบแทบเท้าของพุ่ม



          “กระผมเป็นเด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตร ที่คุณช่วยกระผมไว้ครานี้เป็นบุญคุณที่ไม่อาจทดแทนหมด

กระผมไม่มีที่ไป ขอไปอยู่รับใช้คุณเพื่อทดแทนพระคุณเถิดขอรับ”



          พุ่มมองสภาพอิดโรยของดินแล้วจึงตัดสินใจ



          “เอาเถิด หากไม่มีที่ไปเอ็งก็ไปอยู่กับข้า บ้านเรือนใหญ่โตจะเลี้ยงเอ็งเพิ่มอีกสักคนคงไม่เสียหาย เอาไว้

ข้าจะแจ้งแก่เจ้าคุณพ่อของข้าเองก็แล้วกัน”



          นับจากวันนั้น ไอ้ดินก็เข้าไปอยู่อาศัยในบ้านหลังใหญ่ของพระยาวิเชียรอัครภาคในฐานะต้นห้องของ

คุณพุ่มแทนไอ้ฉ่ำที่วัยร่วงโรย ดินขันอาสาทำงานในบ้านเท่าที่จะทำได้ และเพราะข้าวปลาอาหารสมบูรณ์

ในเวลาไม่นานนักร่างกายของดินจึงแข็งแรงขึ้นกลายเป็นชายหนุ่มร่างกำยำที่ไม่กลัวเกรงผู้ใด จะมีก็เพียงคุณ

พุ่มของไอ้ดินเท่านั้นที่มันทั้งรักและบูชา



          “คุณพุ่มของไอ้ดิน”



          กลายเป็นคำติดปากของมัน ไอ้ดินชอบเวลาได้ติดตามเจ้านายออกไปทำงานเมื่อคุณพุ่ม หรือ ขุนพิพิธ

โสภณ กำลังออกแบบและวาดลวดลายวิจิตรอยู่ในอุโบสถของวัด ภาพที่เจ้านายของมันใช้สมาธิในการถือพู่กัน

ลงสีทีละน้อยช่างงดงามจนมันหลงใหล กว่าจะรู้ตัวไอ้ดินก็หลงรักนายของมันเข้าเต็มหัวใจ แต่มันก็ต้องหักห้าม

ไว้เพราะมันกับคุณพุ่มนั้นช่างห่างไกลจนมันไม่กล้าคาดหวัง มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ชายด้วยกันอีกต่างหาก มันได้แต่

คอยปรนนิบัติพัดวีดูแลนายของมัน ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมตั้งแต่เช้าจรดเย็น


                       -------------------  TBC -------------------------



มาทีละหน่อย เวลาอิชั้นน้อยเหลือเกินเจ้าค่ะ

 :mew5: :mew5: :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 19-01-2015 20:56:17
คุณพุ่มจิตใจดีมีเมตตาจริงๆ :-[
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 19-01-2015 20:57:51
สั้นนนน ขออีกๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 19-01-2015 21:31:27
 :-[ คุณพุ่มของไอ้ดิน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 19-01-2015 21:58:40
อัดอั้นก็ต้องระบายออกมาเรื่อยๆนา


ถูกใจมากมายย
ย้อนอดีตหวานๆ กับปัจจุบันหื่นๆ

5555


จริงๆก็หื่นพอกัน



มีพระก็ถอดไว้ ดีเหมือนกัน


จะห่วงไม่ห่วงดีน้า




ทำไมถึงตายอยู่คนเดียวเนี่ย น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 19-01-2015 22:08:08
คุณพุ่มของไอ้ดิน
อิฉันติดตามอ่านเจ้าขาาา
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 19-01-2015 23:20:55
รักถวายหัวเลยสิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 20-01-2015 01:17:57
อื้อหือออออออออออ

ยิ่งอยากอ่าน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 20-01-2015 05:35:36
สนุกจัง  o13
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-01-2015 06:01:37
 :m15:  ยิ่งอ่านยิ่งสงสาร รักที่เป็นไปไม่ได้ เจ็บปวดแทนดิน

คุณพุ่ม.  :man1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 20-01-2015 09:11:54
แล้วไอ้ดินตายเยี่ยงไร รึ ขอรับ

ถึงมิได้ผุดได้เกิดเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: AMEOOS ที่ 20-01-2015 11:10:02
อุเหม่ แหมแม่นักเขียน เหตุไฉนข้าถึงรู้สึกว่าจะมีความมาม่ากันเล่า เหออออออออออ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-01-2015 20:49:28
อย่างงี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.1 >> 19/01/57
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 20-01-2015 21:30:39
อิหั้น คงต้องรอคุณพุ่มของไอ้ดินต่อปายยยย :katai5:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 20-01-2015 21:58:27

                                                         วิญญาณเสน่หา

                                                              บทที่ 2.2                     


           ขุนพิพิธโสภณเอนกายลงนอนบนเตียงพลางยกปลายนิ้วนวดขมับด้วยความตึงเครียด เขากำลังนึกถึง

บทสนทนาที่มีกับเจ้าคุณวิเชียรฯ ผู้เป็นบิดาเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา


           “ถึงเวลาที่พ่อพุ่มต้องตกแต่งเป็นฝั่งเป็นฝากับแม่ละมัยได้แล้ว มันไม่งามที่จะปล่อยให้ลูกเต้าของเขา

กลายเป็นสาวเทื้อคาบ้าน ผัดผ่อนมาเป็นระยะเวลานานพ่อกับแม่เสียหน้ากับคำต่อว่าของเจ้าคุณฝั่งขะโน้น

มิใช่น้อย”


               พุ่มถึงกับขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน ความคิดต่อต้านปะทุขึ้นมาจนเขาต้องหักห้ามไว้ หากเป็นเวลาก่อนอาจ

เพียงแค่เฉยชามิได้กระตือรือล้นในการวิวาห์ แต่ในบัดนี้มันยิ่งรุ่มร้อนดังมีไฟมาลนที่ใจอันเนื่องจากสาเหตุใด

พุ่มก็ยังอธิบายแก่ใจตนเองมิได้ เขารู้เพียงว่าเขาไม่ต้องการแต่งงานกับแม่ละมัย


           “ยังมีงานจิตรกรรมฝาผนังที่วัดหลวงค้างอยู่ขอรับเจ้าคุณพ่อ กระผมเกรงว่าอาจจะไม่มีเวลา…”


           “ไฮ้  พ่อพุ่มอย่าเอาเรื่องงานมาเป็นข้ออ้าง”


           เจ้าคุณวิเชียรฯ โบกไม้โบกมือไปมาเพื่อหยุดคำปฏิเสธของบุตรชายโทน


           “ปีนี้พ่อพุ่มอายุอานามก็ยี่สิบสี่ บวชเรียนรึก็ผ่านมาหมด เป็นเวลาที่เหมาะแก่การมีคู่ครองแล้ว

ไม่รู้ละ เดือนหน้าก่อนถึงฤดูน้ำหลากพ่อจะจัดแจงงานวิวาห์ให้แก่พ่อพุ่มกับแม่ละมัย”


           น้ำเสียงเด็ดขาดของผู้เป็นบิดานั่นเองที่ทำให้เขาต้องมานอนปวดหัวอยู่ในตอนนี้


           “คุณพุ่มเป็นกระไรรึขอรับ สีหน้ามิสู้ดีเลย”


           ผ้าชุบน้ำหมาดที่ลูบไล้อยู่บนท่อนแขนรวมทั้งเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยจากบ่าวที่คุกเข่าอยู่ข้าง

เตียงจุดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าที่มีแต่ความกังวลนั้นได้ไม่ยาก พุ่มเหยียดแขนข้างหนึ่งออกไปให้ไอ้ดินมันเช็ดเนื้อ

เช็ดตัวสร้างความสดชื่นให้ ตั้งแต่ไอ้ดินมาอยู่ด้วยพุ่มมีแต่ความสบายใจเมื่อมันดูแลไม่เคยขาดตกบกพร่อง

จนเขาเอ็นดูมันกว่าบ่าวคนอื่นมากนัก

           เขามองหน้ามัน ไอ้ดิน เด็กหนุ่มที่เขารับมาเลี้ยงจากข้างถนน เพียงเวลาไม่กี่เดือนมันกลายเป็นเด็ก

หนุ่มรูปร่างกำยำ เมื่ออยู่ในเขตบ้านมันจะเปลือยท่อนบนสวมใส่เพียงผ้าขาวม้ายกรั้งจนถึงต้นขา อวดกล้าม

เป็นมัดอยู่บนแผ่นอก ผิวเข้มคร้ามแดดใบหน้าของมันก็ดูคมกริบจนเขาเองยังใจเต้นเมื่อมองหน้ามันตรงๆ


           “ไอ้ดิน ปีนี้เอ็งอายุเท่าใดแล้ว”


           ไอ้ดินเงยหน้ามองคุณพุ่มของมันด้วยแววตาเทิดทูนอย่างไม่ปิดบังเหมือนทุกครั้ง


           “ไอ้ดินอายุจะครบยี่สิบแล้วขอรับคุณพุ่ม”


           คุณพุ่มมองสบตาอย่างมีนัยประหลาดที่ไอ้ดินแปลไม่ออก


           “อายุครบบวชแล้ว ข้าจะให้เอ็งบวช หลังจากนั้นถ้าเอ็งคิดจะมีเมียข้าจะไปขอให้ เอ็งไปรักไปชอบสาว

บ้านไหนไว้บ้างหรือเปล่า”


           โธ่ คุณพุ่มของไอ้ดิน


           ไอ้ดินคร้านจะบอกกับคุณพุ่มว่ามันจะไปรักไปชอบสาวบ้านใดได้ ในเมื่อมันยกหัวใจทั้งดวงให้คุณพุ่ม

ของมันไปหมดแล้ว ไอ้ดินได้แต่สุมความอึดอัดไว้จนคับแน่นในอก มันก้มหน้านิ่งเก็บอาการไว้


           “ดิน ขึ้นมาบนเตียงแล้วมานวดขมับให้หน่อย”


           ไอ้ดินเงยหน้าขวับ จ้องมันนายของมันที่ให้โอกาสมันขึ้นไปบนที่นอนยัดปุยนุ่นที่คุณพุ่มกำลังนอน

หลับตาพริ้มอยู่นี่หรือ


           “เร็วสิไอ้ดิน อย่าชักช้า ข้าปวดหัวอยู่ไม่รู้หรือไร”


           ไม่ต้องรอให้สั่งซ้ำ ไอ้ดินผวาขึ้นไปนั่งอยู่ด้านบน มันยกศีรษะทุยได้รูปของคุณพุ่มมาวางอยู่บนตักของ

มันต่างหมอนพลางใช้นิ้วนวดวนอยู่ตรงขมับให้นายของมัน


           “มือหนักดีแท้ นวดเสียหัวข้าแทบระเบิด”


           “คุณพุ่มเจ็บหรือขอรับ ไอ้ดินขอโทษ”


           มันรีบละล่ำละลักพูดพลางหยุดมือ แต่คุณพุ่มกลับยกมือมาวางอยู่บนหลังมือของมัน ฝ่ามือของ

เจ้านายช่างนุ่มจนไอ้ดินอยากจะดึงมาแนบแก้มสากของมันยิ่งนัก


           “ใครบอก ข้าชอบนะ ดิน ข้าขอบใจเอ็งที่มาดูแลข้าเป็นอย่างดี”


           น้ำเสียงคุณพุ่มดูอ่อนล้าจนยากที่คนโง่อย่างไอ้ดินจะเข้าใจ


           “ถ้าอีกหน่อยข้ามีเมีย เอ็งคงจะมาอยู่แบบนี้ไม่ได้แล้ว”


           ไอ้ดินใจหาย หน้ามันซีดเผือดเมื่อได้ยิน คุณพุ่มของไอ้ดินจะแต่งเมียเข้าบ้าน มือที่แตะอยู่ตรงขมับ

เจ้านายเผลอกำแน่นด้วยความรวดร้าว


           “ผู้หญิงอย่างแม่ละมัยคงจะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ข้าเป็นแน่ ข้าคงจะคิดถึงเอ็งน่าดู อ๊ะ!”


           พุ่มอุทานอย่างตกใจเมื่อขณะที่นอนหนุนตักแข็งของไอ้ดินและหลับตาลงด้วยความไม่สบายใจ จู่ๆ ริม

ฝีปากของเขาก็ถูกปิดแนบลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นเพียงกรอบหน้าคมของบ่าวคู่ใจที่ก้มหน้า

ลงมาจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่รินรดอยู่ข้างแก้ม ริมฝีปากแห้งผากของไอ้ดินทำให้เขาใจสั่นและหมดแรง

ห้ามปราม จนต้องปล่อยให้มันเป็นฝ่ายยกใบหน้าออกไปเอง

           สิ้นไร้ซึ่งคำสนทนา ดวงตาสองคู่ต่างจ้องสบตากันอย่างค้นคว้าเข้าไปในห้วงลึกของอีกฝ่าย ดวงตาคู่

หนึ่งบอกถึงความรักและบูชาจนหมดใจในขณะที่อีกคู่หนึ่งกลับมีแต่ความสับสนและหวาดวิตก


           “ไอ้ดินขอโทษ ไอ้ดินมันเลวที่กระทำการจาบจ้วง ไอ้ดินมัน…”


           พุ่มยกสองมือโน้มคอไอ้ดินลงมาให้มันได้มีโอกาสแนบชิดปากสากลงกับกลีบปากนุ่มของผู้เป็นนายอีก

ครั้ง และคราวนี้มันไม่ยอมสูญเสียโอกาสที่จะขบเม้มไปตามเรียวปากอย่างที่ใจมันต้องการมาเนิ่นนาน ปลาย

ลิ้นอุ่นค่อยๆ แตะไล้ให้คุณพุ่มของมันเผยอปากรับจนมันสอดลึกเข้าไปชิมความหวานจนได้ มือหน้าประคอง

กรอบหน้างดงามให้เงยรับจนความเร่าร้อนเริ่มมาเยือนสู่จูบอันยาวนานของมัน เนิ่นนานจนเกือบขาดใจฝ่ามือ

นุ่มที่จับแค่ก้านพู่กันจึงได้ผลักไหล่มันออกให้ไอ้ดินหอบลึกในขณะที่คุณพุ่มนอนตัวสั่นไหว ไอ้ดินคว้ามือนุ่มมา

แนบแก้มได้สำเร็จอย่างใจนึก มันมองสบตาเรียวที่อยู่บนใบหน้าแดงซ่านของคุณพุ่มแล้วกดจูบไปที่กลางฝ่ามือ


           “คุณพุ่มไม่ต้องพูดกระไรดอกขอรับ บ่าวอย่างไอ้ดินได้เพียงแค่นี้ก็ดีใจเหลือเกินแล้ว”


           “ดิน ข้า…”


           ร่างกายของไอ้ดินกำลังต้องการ มันรู้ตัวเอง และร่างกายของคุณพุ่มก็กำลังต้องการ แต่มันไม่อยากให้

นายของมันแปดเปื้อนไปยิ่งกว่านี้ ไอ้ดินขยับตัวลงไปด้านล่างของเตียงแล้วเอ่ยเบาๆ


           “ให้ไอ้ดินช่วยคุณพุ่มได้มีความสุข นะขอรับ”


           บ่าวต่ำต้อยไม่รอคำตอบ มันเอื้อมมือไปปลดกางเกงแพรลื่นมือออกแล้วดึงขอบผ้าลงช้าๆ ลอบกลืน

น้ำลายเหนียวหนับเมื่อแก่นกายอันจ้อยที่เคยเห็นของนายในตอนนี้กลับฟูฟ่องชวนกลืนกิน ไอ้ดินไม่รอช้า มัน

คว้ามาแล้วอ้าปากแลบลิ้นแตะลงที่ส่วนหัวสีสวยก่อนเม้มปากลงไป


           “ดิน อา”


           พุ่มสะดุ้ง เกิดมาไม่เคยมีใครมาทำให้แบบนี้ ไอ้ดินเหลือบตาขึ้นมองอย่างพอใจเมื่อมันรูดปากลงไป

ช้าๆ ให้แท่งร้อนของนายสัมผัสทุกส่วนของโพรงปาก ลิ้นร้อนควานรอบจนได้ยินเสียงครางลึกจากคุณพุ่ม ไอ้ดิน

ก็เริ่มรูดรั้งสาวขึ้นลงรวดเร็ว


           “ฮัก ฮัก ดิน ไอ้ดิน”


           พุ่มเสียวสะท้านจนต้องเด้งเอวเข้าหา ดวงตาเรียวราวเนื้อทรายปรือฉ่ำหวานพลางสอดนิ้วขยุ้มกลุ่มผม

ดกดำของไอ้ดินไว้แน่น ไอ้ดินดูดรั้งจนแก้มตอบเมื่อเขากระตุกแล้วพ่นอัดน้ำคาวออกมาให้ไอ้ดินกลืนกินไปหมด

สิ้น พุ่มนอนหอบหายใจสะท้านและเผลอหลับไปอย่างสบายตัวที่ได้ปลดปล่อย ในขณะที่ไอ้ดินกระวีกระวาดทำ

ความสะอาดให้นายของมันและนั่งมองอย่างพอใจ ส่วนตัวมันนั้นเล่าแค่ได้เห็นหน้านายและใช้มือสากกอบกุม

ตัวเอง ไอ้ดินก็ปลดปล่อยได้ไม่ยากเหมือนอย่างที่มันแอบกระทำอยู่เกือบทุกวัน แต่ในวันนี้มันต้องรีดน้ำตัวเอง

ออกไปถึงสามรอบกว่าจะสบายตัว


           “คุณพุ่มของไอ้ดิน สุดที่รักของไอ้ดิน”


           มันพึมพำแผ่วเบาก่อนที่จะล้มตัวลงนอนอยู่บนพื้นห้องข้างเตียงของเจ้านายนั่นเอง





                              ------------------------- TBC --------------------------



อย่าลืมไปอ่านเพลิงพ่ายนะคะ กำลังเข้มข้นเลย
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.0)

                        :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:




มีอะไรมาสปอยล์
สำหรับคนที่ติดตามมาตั้งแต่ X-theme ซีซั่นแรกที่กำลังเปิดให้สั่งซื้อรวมเล่ม

อิอิ :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:




ลิ้นของเขาร้อนแรงเหลือเกินเมื่อสอดลึกเข้ามา เวลามันตวัดพลิกลิ้นของผมแล้วเซาะไปตามร่องฟันมันทำ

ให้ผมพลุ่งพล่านยากที่จะบรรยาย มือที่วางอยู่บนบ่าแข็งจิกปลายนิ้วลงไปอย่างเผลอไผลเป็นผลให้เขายิ่งเบียด

ตัวเข้าหา ต้นขาแข็งแกร่งบดเบียดพาให้ผมต้องแยกขาออกเปิดโอกาสให้เขาได้ดึงดันร่างกายถูไถอยู่ตรงเอวจน

น้องชายของเราปะทะกันผ่านเนื้อผ้า




ยังสั่งกันทันน้า........


หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 20-01-2015 22:22:06
 :oo1: :haun4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 20-01-2015 22:47:46
 :m25:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 20-01-2015 23:07:14
คุณพุ่มไม่คิดจะช่วยไอ้ดินบ้างหรือ  :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 21-01-2015 00:23:51
 :jul1: เรื่องนี้จะพากันเสียเลือดหมดตัวกันตั้งแต่ตอนแรกๆเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 21-01-2015 00:57:25
คุณพุ่มของบ่าว :pighaun:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 21-01-2015 04:47:37
รอตอนคุณพุ่มช่วยไอ้ดินนะ ตอนนี้เน้นเบาๆ ตอนหน้าเอาหนักๆ

เพลิงพ่ายก็ยังตามอ่านนะคร้าบบบบบ ชอบชาวี-โนเอลมากๆๆๆๆ

คู่พี่เดี่ยวกะน้องป้องนี่ ...คงหน่วงอีกนาน แต่จะตามอ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 21-01-2015 05:23:20
 :hao5:

สงสารจัง อยากให้มีความสุขครองรักกันได้จริงๆสักที
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-01-2015 06:17:37
 :hao7:   โถๆๆๆ     ไอ้ดินนี่รู้ใจนายที่สุด.
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 21-01-2015 08:00:09
โอยยยย
อย่าแต่งเลยได้โปรดดดด
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 21-01-2015 10:09:48
เหมือนจะดราม่า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 21-01-2015 14:20:50
อาจหาญนักไอ้ดิน

ประเดี๋ยวคุณพุ่มก็ยกทั้งตัว ทั้งใจให้หรอก
อิอิอิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: MintELF13 ที่ 21-01-2015 16:00:31
นายกินช่างกล้า คุณพุ่มจะทำอย่างไรต่อไปเนี่ย
สงสารนายดินอ่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 21-01-2015 20:12:19
มีแววว่าจะไม่ได้จัดงานแต่งแน่นอน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-01-2015 20:24:54
เสร็จแน่คุณพุ่ม หุหุ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 22-01-2015 12:06:22
หนีตามปะ หนีตามใช่ปะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 22-01-2015 19:27:39
คุณพุ่มน่ารักจังงงงงงง  :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 23-01-2015 10:40:23
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 23-01-2015 20:34:13
คุณพุ่มสบายตัวคนเดียว อิอิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ 2.2 >> 20 / 01 / 57
เริ่มหัวข้อโดย: Shadownights ที่ 24-01-2015 01:37:25
สงสัยจะไม่ได้แต่งซะแล้วล่ะมั้งงง
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 30-01-2015 00:30:15

                                                       วิญญาณเสน่หา

                                                             บทที่ 3         

           
              ไตรภูมิผวาสุดตัวจากการหลับใหล ร่างสูงโปร่งยกท่อนแขนเช็ดเหงื่อที่ไหลรินอยู่ตรงขมับราวกับเพิ่ง

ผ่านการวิ่งรอบสนามฟุตบอล และดึกดื่นคืนนี้ก็อีกเช่นเคยที่องคาพยพใต้ร่มผ้าจะปลดปล่อยออกมาพร้อมกับ

หัวใจที่เต้นรัวทั้งที่เพิ่งสะดุ้งตื่น หากแต่ที่แปลกคือในค่ำคืนนี้ความฝันของเขาชัดเจนเสียเหลือเกิน

           ชัดเจนเหมือนกำลังดูละครโทรทัศน์ ภาพชายหนุ่มรูปร่างกำยำกล้ามเนื้อแน่นเป็นลอนช่างคมชัด

มันน่าแปลกที่เขารู้สึกผูกพันจนหน่วยตาชื้นร้อนผ่าว ไตรภูมิยกปลายนิ้วแตะขอบตาตนเองอย่างไม่เข้าใจ

หัวใจของเขาร้อนรนจนทนอยู่นิ่งบนเตียงไม่ไหว ร่างสูงของไตรภูมิก้าวลงจากเตียงเพื่อไปเปิดไฟกลางห้องจน

สว่างไสวก่อนเดินไปที่แผ่นเฟรมผ้าใบที่ขึงกระดาษรออยู่แล้ว เขาหยิบชิ้นงานที่ทำค้างไว้ออกไป คว้าดินสอ

ขึ้นมาร่างเค้าโครงตามนิมิตอย่างรวดเร็ว     

           มันเป็นภาพที่ไตรภูมิร่างแบบได้เร็วที่สุดตั้งแต่เคยทำมาทั้งที่ไม่มีแบบให้เห็นนอกจากใบหน้าในความ

ฝันเท่านั้น ปลายนิ้วเรียวจับดินสอลากเส้นจนกระทั่งแสงสีทองเริ่มจับที่ขอบฟ้าไตรภูมิจึงได้ละมือและยืนมอง

ภาพที่ปรากฏอยู่บนเฟรมอย่างพึงพอใจกับชายหนุ่มครึ่งตัวท่อนบนเปลือยเปล่า ใบหน้าคมอย่างคนไทยแท้ คิ้ว

ดกดำเป็นปื้นจมูกโด่งคมสัน ดวงตาภาพราวกับจะจ้องตรงมายังเขา


           “สวัสดีนายดิน ในที่สุดเราก็พบกันเสียทีนะ”


           ปากหยักในภาพคลี่ยิ้มเล็กน้อยอย่างคนยิ้มยาก ไตรภูมิมองฝีมือตัวเองแล้วหัวใจหวามไหวชอบกล

เขาไม่รู้ว่าการที่จ้องมองภาพผู้ชายแล้วใจสั่นมันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่


           “ท่าจะเพี้ยนแล้วไอ้ไตร”


           เขาโคลงศีรษะเบาๆก่อนหาวหวอดเมื่อความง่วงงุนมาเยือน ชายหนุ่มเดินหลับตาไปทิ้งตัวลงกลาง

เตียงและหลับสนิทลงอย่างรวดเร็ว

           มวลอากาศค่อยๆเกาะกลุ่มรวมกันอยู่ตรงหน้าแผ่นเฟรมจนเกิดเป็นเงาลางก่อนจะเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ

กลายเป็นชายหนุ่มที่มีหน้าตาพิมพ์เดียวกับในภาพไม่ผิดเพี้ยน ชายหนุ่มจากมวลอากาศจ้องมองภาพของตน

อย่างพึงพอใจ


           “ฝีมือของคุณพุ่ม ไม่ว่าเวลาจะผันผ่านไปนานเพียงใดก็ยังงดงามไม่เปลี่ยน”


           ร่างเงาชัดจนเกือบจะมองผ่านคล้ายมนุษย์ตรงไปยังเตียงที่ไตรภูมิหลับสนิท ดินเอนร่างลงไปนอน

ตะแคงเคียงข้างจ้องมองใบหน้าของไตรภูมิอย่างแสนรัก


           “ถึงรูปกายภายนอกจะเปลี่ยนแปลงแต่ไอ้ดินรู้ว่าจิตของคุณพุ่มยังคงเป็นคุณพุ่มของไอ้ดิน”


           มือหยาบไล้แผ่วเบาไปตามกรอบหน้าแล้วเลื่อนมาโอบรัดอยู่ตรงหน้าอก ดินวางแก้มแนบไปกับกลุ่มผม

นุ่มของไตรภูมิ


           “รออีกนิดนะขอรับ ตั้งแต่คุณพุ่มมาอยู่ใกล้ๆพลังของไอ้ดินก็ยิ่งมากขึ้น อีกไม่กี่วันเท่านั้นเราจะได้พบ

หน้ากันเสียที”







           “กรวดน้ำหน่อยไหม ส่งบุญถึงเขา”


           หลวงพ่อบอกเขาในเช้าวันหนึ่งเมื่อเขางัวเงียมาใส่บาตร เมื่อจัดการท่องตามที่หลวงพ่อนำทางให้แล้ว

พระภิกษุชราจึงได้เอ่ยถาม


           “พระที่ให้ไม่ได้คล้องคอไว้หรอกรึ”


           “เอ่อ…”


           ไตรภูมิหัวเราะเจื่อนจนหลวงพ่อโคลงหัว


           “เอาเถอะ เขาก็ไม่ได้มาร้ายหรอกหมั่นทำบุญไปให้นั่นแหละ”


           ไตรภูมิกลับเข้ามาในบ้านเพื่อเตรียมตัวออกไปเรียน เขาแวะเบื้องหน้ากรอบรูปที่เขาวาดและลงสีเสร็จ

เรียบร้อยแล้วหลังจากวันที่ลงมือวาดภาพผ่านไปหลายวัน ตอนนี้ภาพเหมือนเสร็จสมบูรณ์มันเหมือนจริงราว

กับคนในภาพกำลังจ้องมองเขา


           “ไปเรียนก่อนนะดิน ค่ำๆจะกลับมา ฝากบ้านด้วยล่ะ”


           เขาพูดเหมือนดินอยู่ใกล้ ไม่รู้สิ ไตรภูมิรู้สึกเช่นนั้นแม้จะไม่เคยเห็นดินแบบชัดๆ และช่วงนี้เขาก็หลับ

สนิทไม่ได้ฝันอีก ไตรภูมิยังไม่รู้ว่าเรื่องราวต่อจากในฝันจะเป็นอย่างไรทั้งที่เขาเองก็อยากรู้ใจจะขาด

           กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ค่ำมืดเพราะการจราจรติดขัดจากฝนที่ตกหนาเม็ด ไตรภูมิจอดรถยนต์ได้ก็รีบ

วิ่งเข้าบ้านเนื้อตัวเปียกปอนจนต้องรีบอาบน้ำ พอสบายตัวเขาก็คว้าพู่กันเตรียมทำงานที่ค้างไว้แต่ยังไม่ทันจะ

ได้ลงมือด้านนอกกลับบังเกิดพายุฝนกระแทกหน้าต่างปิดดังปังใหญ่ เสียงกระแสลมหวีวหวิวปะปนกับเสียง

สายฝนจนไม่ได้อย่างอื่น ไตรภูมิขมวดคิ้วเมื่อแสงไฟกลางห้องติดๆดับๆ ก่อนจะดับวูบลงจนมืดมิด


           “อ้าวเฮ้ย อย่าเพิ่งดับสิวะงานยังไม่เสร็จ”


           เขาสบถลั่นเพราะงานที่ต้องเร่งส่งอาจารย์ยังค้างอยู่ กำลังนึกหาไฟฉายว่าตนเองวางไว้ตรงไหนพลาง

เดินส่งเดชมาจนถึงหน้ากรอบรูปของดินที่วางอยู่บนหลังตู้ใส่ของสูงขนาดเท่าเอวของเขา มือเรียวคลำหาไฟฉาย

จนคว้าอะไรบางอย่างที่เย็นเยียบ

           ไตรภูมิเอะใจ เขากะพริบตาถี่เพื่อให้ชินกับความมืดแล้วจึงเพ่งมองสิ่งที่ตนเองกำลังจับ


            ท่อนแขน!

         กลั้นหายใจจนเกือบหมดลมแต่หัวใจกลับเต้นถี่ยิบ ริมฝีปากสั่นไปหมดเมื่อเขาฝืนใจเงยหน้าช้าๆ


           “เฮ้ย!”


           ผงะเมื่อเห็นกรอบหน้าคมแจ่มแจ้ง ดวงตาของไตรภูมิเบิกกว้างเหลือกลาน เมื่อแน่ชัดว่าสิ่งที่ปรากฎใน

สายตามันไม่ใช่เพียงบุรุษในภาพ แต่มันมีตัวตนจริงๆเสียแล้ว

           แวบแรกไตรภูมิหวาดหวั่นจนแทบผวา ร่างเพรียวก้าวถอยหลังช้าๆเมื่อรู้สึกว่าขาทั้งท่อนช่างขยับ

ยากเย็นเหลือเกิน หัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อคนในภาพกลับก้าวเดินตามมาเรื่อยๆ ไตรภูมิหมดแรงจนแข้งขาทรุด


           ผี!


         ไตรภูมิบอกตัวเองอย่างนั้น เขาหนาวเยือกไปทุกอณูขุมขนตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า ความกลัวทำให้

หมดแรงจนยืนไม่อยู่


           “คุณพุ่มเป็นกระไรหรือขอรับ”


           ร่างที่ไตรภูมิคิดว่าเป็นผีละลิ่วมารับตัวเขาอย่างรวดเร็ว ไตรภูมิสะดุ้งเมื่อได้สบตากับดวงตาเรียวใน

ความมืด ภาพในความฝันที่เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดอยู่ใกล้แค่คืบ จากที่หวาดกลัวหัวใจของเขากลับ

เต้นระรัวอย่างยินดี น้ำตาแห่งความตื้นตันเอ่อท้นอย่างไม่รู้ตัวเมื่อมือเรียวเอื้อมไปลูบไล้คางสากมือนั้น


           “ดิน”


           “ดีใจเหลือเกิน ที่จิตของคุณพุ่มยังจำบ่าวที่ภักดีคนนี้ได้”


           สติของไตรภูมิเลือนหายไปกับความตกใจจนต้องตั้งสติ กะพริบตาปริบๆ เมื่อนึกขึ้นได้


           “ดิน คุณเป็นผีใช่ไหม”


           ดินยิ้มเศร้า


           “หากคุณพุ่มจะเรียกกระผมว่าผีก็ตามแต่ใจคุณพุ่มเถิดขอรับ”


           “ไม่จริง เป็นผีแล้วทำไมผมจับตัวคุณได้ล่ะ”


           ไตรภูมิกล่าวออกมาอย่างเหลือเชื่อ ดินช้อนร่างผอมขึ้นมาด้วยท่อนแขนแล้วอุ้มไตรภูมิที่ยังสติ

กระเจิดกระเจิงมานั่งที่ขอบเตียงอย่างทะนุถนอม


           “อาจเป็นเพราะแรงบุญที่คุณพุ่มส่งมาให้ พลังของกระผมจึงได้แกร่งขึ้นเรื่อยๆขอรับ กระผมดีใจที่คุณ

พุ่มยังไม่ลืมกระผม”


           สติของไตรภูมิเริ่มหลอมรวมกันได้เมื่อดินไม่ใช่ผีน่ากลัวอย่างที่เคยจินตนาการ ไตรภูมิกล้าจ้องมอง

ใบหน้าคมเข้มนั้น แม้ภายในห้องจะยังมืดมิดแต่เขากลับเห็นดินชัดเจนจนหัวใจกลับมาเต้นรัวอีกครั้ง


           “ผมจำไม่ได้หรอกดินว่าเรื่องในอดีตมันเป็นยังไง ผมรู้อยู่อย่างเดียวว่าผมดีใจที่ได้เจอคุณ”


           น้ำตาร่วงเผาะอยู่ตรงร่องแก้มเมื่อเงยหน้าจ้องร่างสูง ความอาวรณ์เอ่อล้นจนน้ำตาไหลพรากไม่รู้ตัว

ดินสบตาอย่างสงสารพลางเอื้อมปลายนิ้วมาเช็ดน้ำตาให้


           “โธ่ คุณพุ่มของไอ้ดิน อย่าได้ร้องไห้เลยขอรับ ไอ้ดินใจจะขาดเสียให้ได้”


           ดินดึงร่างมนุษย์เข้ามาซุกแนบอกเย็นเยียบ ไตรภูมิร้องไห้อย่างกลั้นไม่อยู่


           “มันทรมานนะดิน ไอ้ความรู้สึกที่ผูกพันแต่จำไม่ได้ ผมอยากจำดินให้ได้เหลือเกิน”


           “คุณพุ่ม”


           ดินเชยคางเรียวขึ้นมาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่เขารู้ว่ามีจิตของพุ่มอยู่ในกายหยาบของไตรภูมิ

ความรู้สึกรักและบูชายังเปี่ยมล้นจนอดใจไม่ได้ที่จะก้มหน้าบดปากซีดเย็นลงกับกลีบปากนุ่มของไตรภูมิ


           “อืม ดิน ดินจ๋า”


           ไตรภูมิครางแผ่วกับรสจูบที่คุ้นเคยเหลือเกิน ไม่รังเกียจสักนิดเมื่อเงยหน้าให้ร่างสูงไล่เม้มไปตามเรียว

ปาก เขาเปิดรับลิ้นลื่นอย่างยินดีแถมยังเผลอไผลคล้องคอหนาให้ยิ่งเบียดหน้าแนบแน่น ร่างกายปะทุจนร้อนรุ่ม

อยู่กับกายเย็นของดิน เขาถึงกับผวาเมื่อดินผละปากออกมา


           “ดิน ยะ อย่าหยุดได้ไหม คิดถึง คิดถึงดินเหลือเกิน”


           ดินจ้องมองไตรภูมิพลางกดร่างมนุษย์ลงกับที่นอนนุ่ม มือเย็นดึงเสื้อยืดผ่านหัวของไตรภูมิออกช้าๆ

ตามด้วยกางเกงขาสั้น ไม่นานไตรภูมิก็เหลือแต่เนื้อหนังมังสาเบียดกับร่างที่ไร้เลือดเนื้อของดิน


           “ถ้าคุณพุ่มไม่ให้หยุด ไอ้ดินก็จะไม่หยุดขอรับเพราะไอ้ดินเองก็คิดถึงคุณพุ่ม”


           ค่อยๆก้มหน้าลงเฟ้นจูบหนักหน่วงจนไตรภูมิเริ่มหอบดินจึงได้ลากไล้ปากมาสัมผัสทั่วเรือนร่างอย่าง

กระหาย ไตรภูมิครางแผ่วกับสัมผัสจากปลายลิ้นที่แวะชิมไปทุกจุดจนกระทั่งดินยกขาของเขาขึ้นแล้วเม้มปาก

ไปที่โคนขาอ่อนก่อนจับแยกออกจากกันเพื่อที่จะได้ลิ้มรสอยู่ตรงทางแยก


           “ดิน อือ…”


           สะดุ้งเมื่อดินห่อลิ้นแล้วแหย่เข้าไปในทางเข้า ไตรภูมิสะดุ้งวาบเผลอยกเอวจนลอยให้ลิ้นนั้นเข้าไปลึก

กว่านั้น มือเรียวสอดขยุ้มเข้าไปในกลุ่มผมดกดำพลางจิกเล็บอย่างรัญจวน


           “คุณพุ่มของไอ้ดินยังหวานเช่นเดิม”


           วิญญาณครางลึกอย่างได้ใจพลางเริ่มสอดนิ้วหนาเข้าไป คราวนี้ไตรภูมิครางกระเส่าเมื่อดินจัดการเขา

ทั้งมือและลิ้น ร่างกายของเขากำลังต้องการดิน


           “ดิน ใส่เข้ามาเถอะ ไม่ไหวแล้ว”


           “ขอรับ คุณพุ่ม”


           รับคำอย่างยินดี ผ้านุ่งยกรั้งหลุดร่วงจากตัวดินเอนกายทาบทับบดเบียดสะโพกหนาจนแก่นกายถูไถซึ่ง

กัน ไตรภูมิผวาหอบหนักเมื่อดินแทรกกายเข้ามาช้าๆ

           เจ็บ แต่ทนได้ ไตรภูมิอ้าขากว้างเพื่อให้ดินดันกายเข้ามาได้อย่างเต็มที่แม้ว่าเขาจะเจ็บจนน้ำตาไหลแต่

เขาอยากให้ร่างของดินได้เติมเต็มในร่างของเขา


           “คุณพุ่ม โอ แน่นเหลือเกินขอรับ”


           ดินครางลึก เมื่อได้ฝังกายเข้าไปจนสุดลำ ร่างกายที่เขารักและหวงแหนแม้ดินจะไม่เข้าใจว่าทำไม

คุณพุ่มจึงไม่ได้ทำตามสัญญาก่อนที่ดินจะกลายเป็นวิญญาณที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด


           “ดิน เสียวมาก ฮื้อ”


           ไตรภูมิเป่าปากเมื่อดินเริ่มขยับ แก่นกายเย็นเยียบกระแทกกระทั้นอยู่ในช่องทางอุ่นร้อน ไตรภูมิแอ่นตัว

เข้าหาเบียดกายแนบชิดให้ดินได้สาวเอวกระแทกกระทั้นพาเขาลอยละล่องครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบรุ่งสางจึงได้

คล้อยหลับท่ามกลางสายฝนที่ยังไม่หยุดโปรยปราย


           เมื่อตื่นขึ้นมาในยามสายไตรภูมิจึงสำเหนียกว่า เขากลายเป็นเมียผีไปเสียแล้ว
   


                            -------------------- TBC --------------------------



เห่นโหลวววว

อิฉันมีเรื่องมาสปอยล์เจ้าค่ะ





         เขาร้องเสียงกระเส่าไฟที่แขนกะพริบวูบวาบ แต่ผมอยากจะบอกว่าผมเองก็เสียวไม่แพ้เขากับการลงทุน

แบบนี้เพราะช่องทางของผมก็ถูกแท่งร้อนควงสว่านอยู่ภายในสัมผัสจุดกระสันจนต้องกัดฟันแน่น

        มือแกร่งเหนียวของบิ๊กอายส์เลื่อนมาจับยึดเอวของผม เขาฝืนตัวลุกนั่งทั้งที่ยังมีผมซ้อนอยู่ด้านบน ปาก

หยักกว้างก้มมาจูบที่ต้นคอแล้วขบลงมา มือหนาร้อนอ้อมเอวคว้าแท่งเนื้อผมไว้ได้ ผมตาลุกวาบเมื่อบิ๊กอายส์

ยังมีแรงอยู่





จำได้ไหมว่าจากเรื่องอะไร

มีเวลาถึง 10 กุมภาพันธ์ศกนี้นะเจ้าคะ

ใครยังมิได้สั่งซื้อยังทันเจ้าค่ะ







 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 30-01-2015 01:16:43
มาซาบซึ้งทั้งบท แต่ขำตรง กลายเป็นเมียผีนี่ละ คึคึ แต่จะว่าไป คุณพุ่มนี่ไวไฟใช่ย่อยนะเนี่ย ^^
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 30-01-2015 01:22:42
คุณพุ่มแอบตลกตรงบรรทัดสุดท้ายนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 30-01-2015 02:11:13
คุณพุ่มยังไงก็จำดินได้ สามีเนาะ

ห่วงแต่ว่าจะได้กลับมาอยู่ภพเดียวกันหรือเปล่าเท่านั้น
ทำไมดินถึงไม่ได้ไปผุดไปเกิด มครทำอะไรไว้หรือเปล่า

ป.ล  จำได้ค่ะว่าเรื่องอะไร กำลังพยายามใส่เกียร์หมาไปจองอยู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 30-01-2015 06:15:12

อยากรู้ทำไมดินถึงตาย เดาว่าโดนจับได้ว่ามีอะไรกับคุณพุ่ม แล้วพี่ชายของคู่หมั้นของคุณพุ่มเลยฆ่าดิน เพราะตัวเองก็อยากได้คุณพุ่มเหมือนกัน

ปล. เราส่งของหมั้น (โอนเงิน) ไปรอวันส่งตัวอย่างใจจรดใจจ่อ อิอิ  :impress2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-01-2015 06:34:40
พลังของความคิดถึงช่างรุนแรง

อิอิ เมียผีก็ได้แซ่บไม่แพ้คนเป็นๆเลยนะเจ้าคะ  :hao6: 

บิ้กอายส์นักมวยปล้ำพิศดารสินะ  :pighaun: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 30-01-2015 06:36:45
อยากรู้ว่าทำไมดินไม่ไปเกิด
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: MintELF13 ที่ 30-01-2015 07:10:35
จับตัวกันได้ปุ๊บ จับกดกันปั๊บ
เชรดดดดดด นายดินกับคุณพุ่มช่างเร็วอะไรขนาดนี้


ปล.บิ๊กอายส์นั่นเรื่องเอาชนะในซีรี่ส์แรกนี่น่า จำไม่ผิดน่าจะเรื่องที่สอง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 30-01-2015 07:53:00
เมียผี 555 ไตรเอ๋ยเพิ่งจะรู้หรอออ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 30-01-2015 12:16:19
ส้ะมีทั้งคนจำไม่ได้ได้ไงเนอะ  :z1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 30-01-2015 12:43:34
ป่านนี้แล้วจะคิดทำไมละไตร ยอมเค้าแล้ว เป็นผีหรือคนก็สามีชัดๆนั่นแหละ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 30-01-2015 13:02:38
เร้าร้อนจนเลือดหมดตัว

ว่าแต่ทั้งสองคนนี้มีสัญญาอะไรกันไว้นะ อยากรู้แล้วสิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 31-01-2015 10:28:21
ขอเวลาซัพเลือดแปป อิอิ
สัญญาอะไรกันไว ยังไงๆๆๆ
ดินตอนเช้ายังอยู่ไหมหนอ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 31-01-2015 11:46:33
อ๋อ...เจ้ากาใช่มั้ย ถ้าจำไม่ผิด
อยากรู้แต่ก็ไม่อยากรู้เรื่องราวในอดีต
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-02-2015 16:03:42
คุณพุ่มพาฮาเลยนะเนี่ย บรรทัดสุดท้ายอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 01-02-2015 17:20:17
อยากรู้จังทำไมดินไม่ได้ไปเกิด แล้วคุณพุ่มสัญญาอะไรกับดินไว้  :hao4:

หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 02-02-2015 01:29:32
รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 02-02-2015 01:47:23
 :jul1: เป็นเมียผีไปแล้ว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 02-02-2015 08:55:43
คุณพุ่มไปสัญญาอะไรกับดินไว้แล้วไม่ทำตาม?
ไตรภูมิพึ่งเจอกันก็ตกเป็นเมียเขาซะแล้ว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 02-02-2015 15:16:24
 :z1: :z1: :z1:
คุณพุ่มไอ่ดิน หึๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-02-2015 00:06:22
เป็นสายสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาด ไม่ว่าภพไหน เวลาผ่านไปเท่าไหร่สินะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่3 >> 30 / 01 / 58
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 08-02-2015 15:10:38
รอๆๆๆๆๆคุณพุ่มมม
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 24-02-2015 01:36:07

                                                           วิญญาณเสน่หา

                                                                 บทที่ ๔


          เรือแจวลำเล็กล่องไปตามสายน้ำในยามเย็นย่ำเมื่ออาทิตย์อัสดง ผู้คนที่ใช้แม่น้ำเป็นเส้นเลือดหล่อ

เลี้ยงทั้งชีวิตประจำวันและสัญจรไปมาบางตาลงทุกทีเพราะต่างก็พากันกลับถึงบ้านให้ทันก่อนฟ้าฝนต้นฤดูกาล

จะเทลงมา ขุนพิพิธโสภณแห่งกรมช่างสิบหมู่แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีส้มที่มีเมฆหนาปกคลุมอย่างกังวลอยู่

ตรงหัวเรือ


         “เร่งพายเข้าเถิดดิน มิอย่างนั้นเราจะไม่ทันหลบฝนห่าใหญ่”


           ร่างกำยำคล้ามแดดที่นั่งจ้วงพายอยู่ด้านท้ายเอ่ยปากรับคำ ก่อนออกแรงจ้วงตามคำสั่งของผู้เป็นนาย

ที่กุมหัวใจของมันไว้ วันนี้นายของมันลงรักปิดทองบานประตูอุโบสถของวัดอารามหลวงจนเวลาล่วงไปบ่าย

คล้อยจึงได้รามือทำได้กลับบ้านผิดเวลาอันสมควร


           “อ้าว นึกว่าใคร พ่อพุ่มนี่เอง เหตุใดวันนี้จึงได้เห็นหน้าเห็นตาเมื่อยามใกล้พลบเช่นนี้เล่า”


           เสียงทักทายด้วยสำเนียงนักเลงดังแว่วมาจากลำเรือเบื้องหลังก่อนที่จะเร่งมาขนาบข้างตีเสมอจนไอ้ดิน

ต้องเหลือบมองอย่างไม่ไว้วางใจ หัวคิ้วเข้มของมันขมวดแน่นเป็นปมหนาเมื่อเห็นว่าเจ้าของลำเรือลำนั้นคือ

นายเหมือนและบ่าวไพร่ที่เป็นโจทย์เก่าของมันนั่งคัดท้ายหลังเรืออยู่อีกถึงสามคน


           “ปกติเห็นว่ากลับเรือนแต่หัววันมิเคยเห็นพ่อจะกลับเสียเย็นย่ำ ชะรอยจะอยากเปิดหูเปิดตายามราตรี

กับข้าเสียกระมัง”


           เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังอย่างน่ารังเกียจในความรู้สึกของพุ่ม ชายหนุ่มตวัดตามองนายเหมือนที่เคย

ร่ำเรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยยังเยาว์ในวัดแถวบ้าน หากแต่นายเหมือนผู้นี้มิได้รักเรียนให้ก้าวหน้ากลับเสาะ

แสวงหาแต่เรื่องบันเทิงเริงใจตั้งแต่เข้ารุ่นหนุ่มและทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ให้ชาวบ้านระอาเพราะถือว่าบิดานั้น

ร่ำรวยและมีบรรดาศักดิ์ใหญ่โตคุ้มกะลาหัว


         “ตามสบายใจพ่อเหมือนเถิด ข้ามิใคร่นิยมเที่ยวเตร่เท่าใดนัก”


           คำพูดไว้ตัวของชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันประกอบกับใบหน้าเฉยชาสร้างความกรุ่นโกรธให้นาย

เหมือนไม่น้อย ดวงตากร้าวอย่างนักเลงหัวไม้จ้องมองหน้าขาวๆของเพื่อนในวัยเด็กพลางชักสีหน้าแสยะยิ้ม

           นายเหมือนลอบพึงใจในรูปร่างหน้าตาของนายพุ่มมาเนิ่นนานตั้งแต่เริ่มนมแตกพานใหม่ๆ หากแต่เก็บ

อยู่ในใจมิสามารถบอกใครได้ ที่ทำได้คือเฝ้าวอแววนเวียนเป็นระยะและพยายามหาหนทางเพื่อให้ได้ใกล้ชิด

เขาทำแม้กระทั่งแนะนำแม่ละมัยน้องสาวให้ลอบมองพ่อพุ่มจนกระทั่งน้องสาวเองก็มีใจจนรบเร้าให้ผู้เป็นบิดา

พาไปออกงานจนได้พบปะกับเจ้าคุณบิดาของพ่อพุ่มเกิดเป็นการหมั้นหมายกันไว้ นายเหมือนคิดจะใช้ความ

เป็นญาติเกี่ยวดองเพื่อเข้าหาพ่อพุ่มตามแต่ใจปรารถนา แต่พ่อพุ่มกลับเลี่ยงงานแต่งเสียจนไฟในอกของเขา

ใกล้ปะทุเต็มทีเพราะรอจนใกล้เบญจเพสเขาก็ยังไม่ได้ลิ้มลองร่างกายที่งดงามตรงหน้า


           “ทำไมรึ พ่อพุ่มทำหน้าเหมือนรังเกียจข้าเสียเต็มประดา เพื่อนเก่าอย่างข้ามันน่าเดียดฉันท์มากขนาด

นั้นเทียวรึ”


            ไม่ได้ต่อว่าแค่เพียงคำพูดด้วยเสียงหาเรื่องแต่นายเหมือนคว้าข้อมือเล็กที่เคยแต่จับอุปกรณ์งานศิลป์

กระชากเข้าหาตัวจนหัวเรือทั้งสองต่างโคลงเคลง พุ่มตกใจพยายามสะบัดแขนหนีแต่มือของนายเหมือนก็ยัง

เหนียวหนึบราวกับตีนตุ๊กแก

ขวับ!

พลัก!


           “โอ๊ย ทำเหี้ยอะไรของมึง”


         นายเหมือนร้องลั่นเมื่อไม้พายฟาดโครมเข้าที่ท่อนแขน เขาหันขวับไปมองต้นเหตุอย่างเดือดดาล เห็น

ไอ้บ่าวที่เคยวิ่งชิงอาหารเพราะความหิวโหยจนถูกพวกตนเองรุมทำร้ายและมีพ่อพุ่มมาช่วยไว้ บัดนี้มันกลับดูดี

ขึ้นมากด้วยการชุบเลี้ยงจากพ่อพุ่ม แถมยังมองเขาอย่างโกรธแค้นมันทำให้เขายิ่งโมโหหนัก


           “ชะ ไอ้คนจรจัด มึงนี่กำแหงนัก คราวที่แล้วรอดตายมาได้ คราวนี้อย่าหวังว่าจะรอดเลยมึง”


           เจ้านายสั่ง ลูกน้องอีกสามที่นั่งคุมเชิงอยู่ท้ายเรือปล่อยหมัดเข้าหา ไอ้ดินมีหรือจะยอมมันปล่อยหมัด

ต่อสู้ทำให้เรือยิ่งเอียงไปมาแล้วพลิกคว่ำในที่สุด     

           ตูม!

           พุ่มใจหายเมื่อร่างกายร่วงหล่นสู่สายน้ำ เขาพยายามประคองตัวไว้ให้ได้พลางมองเหตุการณ์ที่พวก

ของนายเหมือนรุมไอ้ดินที่สู้สุดใจอยู่เหนือผิวน้ำอย่างไม่ยอมแพ้


           “หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้ พ่อเหมือนสั่งให้ลูกน้องของพ่อหยุดทำร้ายคนของข้า หากไม่หยุดข้าจะนำความ

ไปบอกแก่พ่อของพ่อเหมือน แล้วการเกี่ยวดองของสองบ้านจะถูกยกเลิก”

         
           พลัก!


           “ดิน”


           พุ่มผวาเข้าหาเมื่อไม้พายอันหนึ่งลอยละลิ่วมาฟาดเข้ากับหัวของไอ้ดินจนเลือดอาบ ดวงตาคมลอย

คว้างจนพุ่มต้องรีบแหวกว่ายไปประคอง นายเหมือนจ้องภาพบาดตานั้นอย่างชิงชัง กิริยาอันเต็มไปด้วยความ

ห่วงใยเกินนายกับบ่าวทำให้เขาสังหรณ์ใจอยู่ลึกๆ นายเหมือนถ่มน้ำลายลงน้ำแล้วออกคำสั่งให้ลูกน้องพายเรือ

จากไปโดยไม่สนใจไอ้ดินที่ยังหมดสติอยู่ในอ้อมกอดของพุ่มกลางคลอง


           “ดิน ตื่นสิดิน”


         พุ่มใจเสีย ดีว่าเขายังว่ายน้ำแข็งจึงลากคอของดินเข้าฝั่งที่อยู่ไม่ไกลนักให้ขึ้นไปพักอยู่กลางลานดินตรง

คุ้งน้ำใต้ต้นไทรใหญ่ รอยเลือดจากหน้าผากที่ปริแตกยังไหลซึมมาเรื่อยๆ บ้านเรือนแถบนี้ก็มีน้อยจนเขาเป็น

ห่วงหากจะทิ้งดินไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น


           พุ่มเพิ่งจะมั่นใจในความรู้สึกของตนเองว่าเขาเป็นห่วงบ่าวต่ำต้อยอย่างไอ้ดินแค่ไหน


           “ฟื้นสักทีเถิดดิน ข้าเป็นห่วงเอ็งมาก รู้ไหม”


           มองเลือดที่ยังไหลซึมเป็นทางที่ขมับอย่างกังวล พุ่มถอดเสื้อเปียกน้ำของตนออกอย่างไม่สนใจอากาศที่

เริ่มเย็นลงเพราะไอฝนก่อตัว เขาขยุ้มมันเป็นก้อนกดลงไปที่ปากแผลเพื่อห้ามเลือด หัวใจเต้นแรงอย่างยินดีเมื่อ

เห็นบ่าวคนสนิทปรือตาขึ้นมาช้าๆ


           “ดิน เอ็งเป็นเช่นไร”


           ละล่ำละลักถามอย่างดีใจ โน้มตัวเข้าไปเบียดกายขาวเข้าหาเจ้าของตาคมที่กระพริบตาเรียกสติก่อน

จะสะดุ้งมองอย่างตกใจ


           “คุณพุ่ม คุณพุ่มของไอ้ดิน บาดเจ็บตรงไหนบ้างขอรับ โอ๊ย”


           ไอ้ดินอุทานเมื่อเจ็บจี๊ดอยู่ตรงหน้าผาก พุ่มกดร่างหนาให้เอนกลับไปนอนอยู่บนลานดินดังเดิม


           “ข้าไม่เป็นไรดอก มิแต่เอ็งที่เจ็บหัวร้างข้างแตกเนื้อตัวเขียวช้ำเพราะข้า ขอโทษนะดิน”


           “คุณพุ่มอย่ากล่าวเช่นนั้น”


           ไอ้ดินผู้ต่ำต้อยรีบกล่าวออกไปพลางคว้ามือนุ่มมากุมแนบแก้ม


           “ชีวิตของไอ้ดินสละได้เพื่อคุณพุ่ม บ่าวคนนี้รักนายของมันเหลือเกิน รักจนสละได้ทุกอย่าง”


           “ดิน”


           พุ่มก้มลงสบตาคมอย่างซึ้งในน้ำใจ มือสากเอื้อมมาลูบไล้อยู่ตรงกรอบหน้าเนียนก่อนที่ดินจะเปลี่ยนไป

วางแนบที่ท้ายทอยของผู้เป็นนายและกดลงมาเพื่อที่เขาจะประทับริมฝีปากลงไปที่กลีบปากนุ่มอย่างลืมตัว


           “อื้อ อะ”


           พุ่มส่งเสียงท้วงอย่างคนไม่เคยแต่เพราะไอ้ดินนั้นนุ่มนวลเหลือเกิน ไม่นานนักพุ่มก็คล้อยตามจนกระทั่ง

ไอ้ดินพลิกตัวกลับให้แผ่นหลังเปล่าเปลือยของนายมันเป็นฝ่ายแนบไปกับผืนดินชื้นน้ำ ไอ้ดินไล่เม้มเรียวปากให้

เปิดออกแล้วส่งปลายลิ้นอุ่นเข้าไปคลอเคลียซุกไล่หาความหวาน กดกายกำยำเบียดแนบถูไถจนร้อนผ่าวไปทั้ง

คู่ มือหยาบลูบไล้ไปตามเนื้อนุ่มให้เด้งกายรับไปทุกจุดไม่เว้นแม่แต่กึ่งกลางตัวที่ไอ้ดินเลื่อนไล้ปลายนิ้วสัมผัส

ปลุกเร้าให้ตื่นตัวอยู่ในกางเกงแพรเปียกน้ำ


           “คุณพุ่มของไอ้ดินหวานเหลือเกิน ขอให้ไอ้ดินได้บังอาจชิมให้ทั่วตัวเถิดขอรับ”


           “อา ดิน ดิน”


           พุ่มครางกระเส่าเมื่อดินลากลิ้นผ่านลำคอไล่ขบเม้มอยู่ตามแผ่นหนังก่อนไปหยุดชิมเม็ดทับทิมน้อยที่

ผลิบานอยู่เหนือเนินอก ปลายลิ้นชื้นโลมเลียดูดดุนเรียกเลือดลมให้วิ่งพล่าน พุ่มแอ่นอกให้ดินกระดกลิ้นรัวจน

ลืมสนใจเมื่อไอ้ดินกระตุกขอบกางเกงผ้าแพรเปียกน้ำให้หลุดออกจากกันแล้วกระตุกจนพ้นท่อนขาอย่างรวดเร็ว

มือร้อนคว้าแก่นกายงดงามเข้าอุ้งมือบีบเฟ้นทั้งหนักทั้งเบาจนพุ่มหอบลึก


           “ดิน ฮัก ฮัก เสียวเหลือเกิน ดินจ๋า”


           ครางหวานอย่างไม่รู้ตัวเมื่อบ่าวผู้ซื่อสัตย์ไล่มือนวดเฟ้นไปตามร่องสะโพกแล้วกดนิ้วเปิดทางช้าๆทีละ

นิด พุ่มสะท้านไปทั้งตัวเมื่อด้านบนดินก็ยังไม่เลิกลิ้มรสยอดอกโอชะ ในขณะที่ด้านล่างสาละวนชักนิ้วเข้าออก

หมุนวนโดยรอบ ท่อนเนื้องดงามถูกปลุกปั่นจนมองเห็นทั้งเส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโปน พุ่มถอนหายใจอีกเฮือกน้ำ

เมือกก็พุ่งรดอยู่ในมือหยาบที่ยังไม่หยุดรูดรั้ง


           “ไอ้ดินอยากจะล่วงเกินคุณพุ่มให้มากกว่านี้เหลือเกินขอรับ”


           เสียงสั่นพร่ากระซิบอยู่ข้างหูเจ้านายที่ยังหอบหายใจถี่ยิบ ดวงตาคู่หวานฉ่ำเยิ้มไปด้วยไฟรักที่มัน

ปรนเปรอ พุ่มไม่ตอบแต่กลับโน้มลำคอหนาของไอ้ดินลงมาบดจูบแทนคำอนุญาต ไอ้ดินลิงโลดกระตุกผ้านุ่งยก

รั้งของมันออกโดยเร็วพลางเอื้อมมือยกต้นขาขาวขึ้นสูงดึงปลายนิ้วออกมาแล้วเบียดสะโพกแนบแน่นส่งท่อนลำ

ใหญ่โตเข้าไปแทนที่


           “ดิน เจ็บ”


           เจ็บจนน้ำตาซึม สองแขนที่โอบอยู่รอบไหล่เหนี่ยวรั้งเข้าหาตัวจิกเล็บไปบนไหล่กว้างพลางอุทานลั่น

ไอ้ดินต้องรีบตวัดปลายลิ้นคลุกเคล้าให้เจ้านายคล้อยเคลิ้ม แท่งร้อนค่อยๆสอดลึกช้าๆอย่างทนุถนอมจนกระทั่ง

สุดลำ


           “คุณพุ่มของไอ้ดิน โอ ตอดไอ้ดินถี่ยิบเชียวขอรับ”


           มันเองก็อดปล่อยเสียงออกมาไม่ได้กับช่องทางที่คับแน่นรัดอยู่รอบลำแท่งจนร้อนระอุ บีบคั้นให้มันต้อง

ชักออกจนหมิ่นเหม่แล้วแทงกลับเข้าไปใหม่ด้วยแรงเสน่หา


           “ฮัก ฮัก โอ ดิน ดินของฉัน”


           สองมือของไอ้ดินสอดไปรอบลำตัวช้อนร่างเจ้านายยกสูง แรงกระแทกช่วงแรกทำให้พุ่มเจ็บไปหมด

ทั้งตัว แต่เมื่อแท่งเนื้อชำแรกเข้าถึงจุดหนึ่งเขาถึงกลับสะท้านกายไปด้วยความกระสัน เผลอไผลยกท่อนขาเกาะ

เกี่ยวไปรอบเอวหนาให้ยิ่งกดลึกเข้าไปจนสุดโคน


           “คุณพุ่ม คุณพุ่มของไอ้ดิน ช่างหวานเหลือเกิน”


           โน้มตัวไปลิ้มรสอยู่แถวยอดอกอย่างติดใจ พุ่มปรือตาหอบถี่ทั้งแอ่นอกให้เชยชมทั้งสวนเอวเข้าหาแท่ง

ร้อนอย่างติดใจ สองแขนยิ่งโอบรัดให้ร่างกายบดเบียดเร่าร้อนท่ามกลางสายฝนเม็ดโตที่เริ่มโปรยปรายลงมาจน

ผืนน้ำเบื้องหน้าแตกกระจายเป็นวงกว้าง


           “ดิน ดิน ฉัน อา ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว ดินจ๋า”


           พุ่มร้องลั่นโต้กับเสียงลมฝนเมื่อร่างกายบีบคั้นแทบขาดใจเมื่อแท่งร้อนกระแทกจุดกระสันไม่ยั้ง

อยากจะปลดปล่อยจนต้องใช้มือคว้าแก่นกายตนเองมาสาวรูด ไอ้ดินเห็นดังนั้นจึงดึงมือเขาออกและทดแทน

ด้วยมือหยาบของมัน แต่กลับยิ่งทำให้กระเจิดกระเจิงแทบกู่ไม่กลับ


           “รักเหลือเกิน กระผมรักคุณพุ่มเหลือที่จะกล่าว”


           “ฉันก็รักดิน รักตลอดไป”


           คำบอกรักจากผู้เป็นนายทำให้ไอ้ดินลิงโลดจนเร่งสาวเอวไม่หยุดพัก เสียงครางผลัดกันระงมปะปนกับ

เสียงสายฝานที่หนาเม็ดขึ้นเรื่อยๆ แต่ร่างเปียกปอนก็ยังไม่ยอมหยุดกระแทกกายเข้าหากัน


           “คุณพุ่มของไอ้ดิน ขึ้นสวรรค์พร้อมกันเถิดขอรับ”


           ไอ้ดินรู้ ทั้งร่างกายของมันและคุณพุ่มกำลังบีบคั้นถึงขีดสุด มันเร่งจังหวะซอยเอวไม่มียั้งจนกระทั่ง

ช่องทางของเจ้านายตอดรัดยาวนานพ่นน้ำใส่มันอีกคำรบ มันจึงได้ปลดปล่อยพุ่งวาบออกมาก่อนที่มันจะหอบ

ลึกอยู่พักใหญ่

.           ไอ้ดินปรนจูบไปทั่วใบหน้า พุ่มได้แต่แหงนคอตอบรับกับเสียงพึมพำจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง
           








            “ดิน ดินจ๋า”


           ไตรภูมิผวาเข้ากอดร่างเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งในขณะที่ตัวเขากลับร้อนระอุไปด้วยรสรัก เขายกขาให้

ไอ้ดินได้สอดลึกเข้าไปจนถึงใจ ไตรภูมิหอบหายใจพลางส่งเสียงครางหวานไม่ขาดระยะ

           ภาพต่างๆผุดขึ้นมาในหัวทีละเล็กทีละน้อยในขณะที่เขาไม่มีสติจะคิดอย่างอื่น เมื่อร่างอันไร้วิญญาณ

กำลังปรนเปรอไม่ยอมหยุด


           “เสียวมากดิน โอ จัดเต็มเลยครับดิน”


           กล้ามเนื้อช่วงล่างตอดรัดถี่ยิบพากันเกร็งตัวค้างทั้งผีทั้งคน ไตรภูมิดวงตาล่องลอยเมื่อเขาถูกกระชากขึ้นสวรรค์

           เสียงบอกรักดังอยู่ข้างหูจนไตรภูมิแยกไม่ออกว่าเป็นเรื่องจริงหรือจินตนาการในหัว


            “ไอ้ดินขอสาบานกับเจ้าพ่อต้นไทรริมคุ้งน้ำแห่งนี้ ไอ้ดินจะรักคุณพุ่มจนวันตาย และถึงตายก็ไม่มีวัน

เปลี่ยนแปลง”


           ฟ้าคำรามลั่นทั้งที่ไม่มีเค้าแห่งฝนสักนิด ไตรภูมิผวาเฮือกเมื่อได้ยินคำสาบานรักอันคุ้นเคย



                       --------------------------- โปรดติดตามตอนต่อไป ---------------------------




                                           :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 24-02-2015 02:01:17
รักกันร้อนแรง  :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 24-02-2015 05:28:30
เลือดพุ่งๆ ไม่ผิดหวังจริงๆที่เข้ามาอ่านทุกครั้ง

รอเรื่องเพลิงต่อดัวยนะคร้บ โนเอลเรากลายเป็นคนอันตรายซะแล้ว ชาวีจะทำไงน้า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 24-02-2015 05:42:13
ไตรกำลังจะจำได้ใช่ไหมเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-02-2015 06:03:06
ระลึกชาติได้ร้อนแรงมาก. แม้ดินจะตัวเย็นแต่ไม่เป็นปัญหา.
สงสารดินจังเลย พอเห็นเค้าลางสาเหตุการตายของทั้งคู่แล้ว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 24-02-2015 09:36:48
ว๊าย ร้อนแรงมาก
เข้ามาฝากเนื้อฝากตัวเป็นแฟนนิยายนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: AMEOOS ที่ 24-02-2015 09:51:07
รักกันดี๊ดี!!!  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 24-02-2015 10:17:45
ขอเลือดสำรองด่วนจร้า ไม่ไหวๆ เลือดหมดตัว 555

หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 24-02-2015 10:18:02
กลับมาแร้ว  :mc4:  ดีใจเป็นล้นพ้น  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 24-02-2015 13:25:53
สุดยอด เสียวทั้งในอดีต ทั้งปัจจุบัน
555555555555555555555555555555555555555555


น่ารักอ่ะ รักมั่นคง อิจฉาเหลือเกินจะกล่าว


แล้วดินตายด้วยเหตุอันใด
สงสัยต่อไป

หรือว่าไอ้นั่นจะกลับมาฆ่า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 24-02-2015 16:22:51
ไอ้ดินช่างเด็ดดวง  :z1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-02-2015 18:57:51
นายดินนี่ร้อนแรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: เส้นวงกลม ที่ 24-02-2015 20:02:13
เพิ่งได้หนังสือภาคแรกมา ตามมาอ่านภาค2 ต่อ เรียกเลือดเหมือนเดิม  :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 26-02-2015 16:01:56
กลับมาก็ร้อนแรงเลย  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๔ >> ๒๔/๐๒/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Sasima ที่ 27-02-2015 12:22:46
สงสารดินอ่ะ หื้อๆ อยากให้เขาสองคนสมหวังกันจัง
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-03-2015 23:59:45

                                                  วิญญาณเสน่หา

                                                      บทที่ ๕


           “ไตร ไอ้ไตร ห่ะเอ๊ย หลับแม่งยันหมดคาบเรียน”


           แรงเขย่าที่หัวไหล่ปลุกให้ไตรภูมิเงยหน้าขึ้นมาจากท่อนแขนตัวเอง เขาสะบัดหน้าอย่างเมื่อยขบเมื่อ

เผลอฟุบหลับไปตั้งแต่กลางชั่วโมงเล็กเชอร์ นี่ถ้าไม่ได้อาวุธเพื่อนที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆปลุกขึ้นมาไตรภูมิอาจจะยัง

ไม่ตื่นขึ้นมาก็ได้


           “ไปทำอะไรมาวะ ช่วงนี้ท่าทางไม่ไหวเลยมึงอ่ะ” อาวุธขมวดคิ้วถาม สายตาเต็มไปด้วยความห่วงใยจน

ไตรภูมินึกสงสาร


           เขามองออกมาพักใหญ่แล้วว่าเพื่อนสนิทคนนี้คิดกับเขาเกินเพื่อน แต่ไตรภูมิไม่ได้มีใจตอบกลับ เขา

เห็นอาวุธเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งเท่านั้น ไตรภูมิทำได้เพียงนิ่งเฉยทำตัวตามปกติ


           “กูวาดรูปดึกไปหน่อย” ตอบพลางหาวหวอดยกแขนบิดขี้เกียจก่อนลุกขึ้นยืนเก็บของออกไปจาก

ห้องเรียนโดยมีอาวุธเดินตามมาติดๆ


           “ไม่ดึกไปหน่อยล่ะมั้งกูว่าคงโต้รุ่งเลยหรือเปล่า มึงรู้ไหมว่าหน้าตามึงอ่ะดูไม่ได้เลยนะ ขอบตาคล้ำเป็น

หมีแพนด้าเชียวแถมยังดูเหมือนคนอดหลับอดนอนจนผอมไปหมดแล้ว สภาพเหมือนโดนเล่นของชะมัดเลย”


           ไตรภูมิยกมือขึ้นปัดปลายนิ้วของอาวุธที่เอื้อมมาปัดปอยผมของเขาโดยอัตโนมัติ สีหน้าของเขาบึ้งตึง

เมื่อหันไปมองอาวุธ


           “กูไม่ชอบให้ใครมาโดนตัวกู มึงลืมไปแล้วหรือไงไอ้วุธ ขอบใจนะที่มึงเป็นห่วงกู แต่กูไม่เป็นไรกูสบายดี”


           เสียงกระชากที่ตอบมาจากไตรภูมิทำให้อาวุธยิ่งขมวดคิ้วจนแทบมาชนกันอยู่ตรงกลาง ไตรภูมิเดินหนี

กลับไปที่ลานจอดรถยนต์แล้วขับออกไป อาวุธที่เดินตามมาได้แต่มองท้ายรถของไตรภูมิขับห่างออกไป

อาวุธมองตามอย่างหมายมาด กำลังเกิดอะไรบางอย่างกับไตรภูมิแน่ๆ และเขาจะต้องรู้ให้ได้โดยเร็วที่สุด
 











           “ดิน มาแล้วหรือครับ คิดถึงจัง”


           ไตรภูมิวางแขนอุ่นของตนเองแนบไปกับผิวเย็นของท่อนแขนที่สอดเข้ามาโอบกอดจากด้านหลัง ชาย

หนุ่มหมุนตัวกลับไปยกสองแขนคล้องรอบคอร่างที่ยังเลือนลางภายใต้แสงไฟกลางห้อง


           “ผมไปปิดไฟก่อนนะ จะได้มองดินได้ชัดๆ” ไตรภูมิวางพู่กันลงกับถาดสี ทุกวันที่ผ่านมาค่อนเดือนเขา

จะรีบกลับบ้านทันทีที่เรียนวิชาสุดท้ายจบลงเพื่อนำงานที่ต้องส่งมาทำต่อที่บ้านในยามเย็น ไตรภูมิพยายาม

ทำงานตุนไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่เมื่อยามรัตติกาลมาถึงเขาจะได้พลอดรักกับร่างเหนือมนุษย์ได้อย่างเต็มที่

เขายอมรับว่าช่างมีความสุขในยามที่ปิดไฟทั้งบ้านให้มืดมิดเพื่อให้มองเห็นดินได้ชัดเจนขึ้นในความมืดและเขา

ก็เสพติดรสรักจากวิญญาณหนุ่มตนนี้เข้าเสียแล้ว


           ทันทีที่ไฟทั้งบ้านดับลงความมืดก็เข้ามาเยือน ไตรภูมิถูกดึงเข้าไปกอดรัดด้วยท่อนแขนแกร่งไปด้วย

กล้ามราวกับมนุษย์ แรงกอดนั้นทำให้ไตรภูมิยิ้มกว้าง


           “วันนี้กอดได้หนักหน่วงจริงๆนะดิน”


           “คุณพุ่มลืมไปแล้วหรือขอรับว่าวันนี้เป็นคืนวันเพ็ญที่พลังของกระผมจะมีมากกว่าวันอื่นๆ”


           ดินฝังจมูกลงไปกับซอกคางเรียวก่อนใช้ท่อนแขนโอบรัดเอวของไตรภูมิแล้วยกขึ้นอย่างง่ายดาย เขาพา

ไตรภูมิมานั่งที่โซฟารับแขกแล้วจึงทรุดตัวลงนั่งด้วยเข่าอยู่กับพื้นมองไตรภูมิด้วยแววตาเทิดทูน


            “ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่ไอ้ดินจะไม่คิดถึงคุณพุ่ม ถึงกาลเวลาจะผ่านมาหลายสิบปี ความรักของไอ้ดิน

ก็ยังมีให้คุณพุ่มเสมอ ขอเถิด ขอให้ไอ้ดินต่ำต้อยมันได้กอดรัดและบอกรักคุณพุ่มให้สมกับการรอคอยอันเนิ่น

นานเหลือเกิน”


           ดินโน้มใบหน้าเข้าหา สูดดมความหอมจากแก้มนุ่มที่เอียงคอย ริมฝีปากเม้มกลีบปากอิ่มก่อนประกบ

แนบแน่นพลางสอดลิ้นลึกเข้าไปตวัดรัดรึงอยู่กับลิ้นชื้นของไตรภูมิอย่างไม่มีใครยอมใคร มือสากถอดเสื้อผ้า

สมัยใหม่ออกอย่างคล่องแคล่วมากขึ้นโดยมีไตรภูมิที่คอยช่วยเหลือไม่นานนักร่างกายไร้วิญญาณก็สนิทแนบ

แน่นอยู่กับกายอุ่นที่เริ่มหายใจหนักจนอกกระเพื่อมเมื่อดินก้มหน้าลงไปคลอเคลียอยู่ตรงจุดอ่อนไหว จัดแจง

สาวรูดอยู่ในปากปลุกเร้าอย่างชำนาญ


           “อา ดิน ดินครับ ดินรู้ไหมว่าดินกำลังทำให้ผมแทบคลั่ง”


           เสียงกระเส่าครางฮือไตรภูมิเงยหน้าแหงนคออยู่บนพนักเก้าอี้ สองแขนวางพาดยาวไปบนนั้นมือกำ

เบาะหนังจนเล็บจิกพลางเด้งเอวเข้าหาปากที่กำลังดูดดุนแก่นกายของตนจนแก้มตอบ ต้นขานุ่มมือถูกจับแยก

คร่อมร่างกายกำยำที่เริ่มใช้นิ้วคว้านลึกเปิดปากทางให้กว้างออก ไตรภูมิกัดปากตนเองจนห้อเลือด


           “ดิน ไม่ไหวแล้ว เข้ามาเถอะนะดิน”


           เอวคอดถูกดึงร่นลงมาจนก้นพ้นเบาะนั่ง มือเย็นของดินที่ยึดจับอยู่ตรงต้นขานวดเฟ้นลากไล้ไปจนถึง

ปลายเท้าของไตรภูมิก่อนจะดันให้มันอ้ากว้าง ท่อนเอ็นแข็งขืนฟาดหน้าท้องไตรภูมิดังเผียะแวะล้อเล่นอยู่กับ

แท่งร้อนของเขาที่พองฟูจากการปลุกเร้า แล้วจึงกรีดลงมาตามร่องจนกระทั่งถึงปากทาง ดินดันเอวสอด

ประสานเข้าไปช้าๆ


           “ดิน อ๊า เสียวเหลือเกิน”


           เพียงแค่ท่อนเอ็นสอดลึกถึงครึ่งลำไตรภูมิก็ผวาร่างเข้าหาด้วยความกระสัน ดินโน้มตัวลงมาใช้ปาก

โลมเลียยอดอกที่พุ่งชูชันรอรับอย่างรู้หน้าที่ เขาดันสะโพกพรวดเข้าไปทีเดียวจนสุดเรียกเสียงระงมไม่ขาดปาก

จากไตรภูมิที่โอบรัดเขาไว้แน่น


           “ร้อนเหลือเกิน ช่องทางของคุณพุ่ม มันเผาไหม้ไอ้ดินจนอยู่เฉยไม่ได้แล้วขอรับ”


           ดินผุดลุก เขาดันร่างไตรภูมิจนแทบจมไปกับเบาะหนัง จับต้นขาแน่นมือยกสูง เอวสอบชักเข้าออก

แต่ละครั้งสุดลำเนื้อกายเสียดสีจนไตรภูมิหอบหนัก


           “ฮัก ฮัก ดิน แรงๆ เลยครับดิน จะแตกแล้ว อ๊า”


           ไตรภูมิปรือตาฉ่ำหวานอย่างสุขสมแต่ดินก็ยังไม่หยุดปรนเปรอ ไตรภูมิทิ้งกายลงไปทอดตัวนอนยาวกับ

โซฟารับแขกให้ดินจุดไฟครั้งใหม่โดยไม่ทันสังเกตสายตาของดินที่ลุกวาบจนทอแสงเมื่อจ้องมองไปด้านนอก

ของตัวบ้านทั้งที่ยังไม่หยุดขยับเอว



           “เหวออ”


           สิ่งมีชีวิตที่กำลังหลบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ถึงกับตาเหลือก อาวุธถึงกับล้มก้นจ้ำเบ้าเมื่อร่างกายสูงใหญ่นั้น

หันขวับมายังตน ดวงตาสีขาววาบทำให้เขาแทบหมดสติ แต่เหมือนอะไรบางอย่างจะยึดใบหน้าของเขาจนขยับ

ไม่ได้ทำให้เขาต้องมองไตรภูมิกำลังร่วมรักอยู่กับอมนุษย์ ราวกับว่าสิ่งที่ขับเคลื่อนอยู่บนร่างกายไตรภูมิจะ

แสดงความเป็นเจ้าของให้อาวุธได้รู้

           อาวุธไม่นึกว่าการแอบติดตามไตรภูมิมาถึงบ้านแล้วซ่อนตัวเพื่อสืบความผิดปกติจะทำให้เขาได้เห็นสิ่ง

ไม่คาดคิด เขาพยายามตั้งสตินึกถึงบทสวดมนต์ที่พอจะนึกขึ้นได้อย่างลางๆ ทันใดนั้นแรงที่ยึดไว้ก็หายไป อาวุธ

รีบลุกแล้วโกยออกจากเขตรั้วบ้านไปยืนหอบอยู่ด้านนอก


           ไตรภูมิกลายเป็นเมียผี!


         อาวุธไม่อยากจะเชื่อ


           แต่ที่เห็นกับตาก็ยืนยันได้


           เขาต้องหาวิธีให้ไตรภูมิหลุดออกจากไอ้เหนือมนุษย์ที่กำลังครอบงำอยู่ให้ได้








           “เกิดอะไรขึ้นกับผมและดินหลังจากวันที่ตกลงไปในน้ำแล้ว เอ่อ สาบานรักกันอยู่ใต้ต้นไทร”


           ไตรภูมิเอ่ยถามในขณะที่ย้ายมานอนกอดก่ายร่างเย็นอยู่บนเตียงนอนแล้ว แม้ว่าเวลาผ่านไปค่อนคืน

และผ่านบทรักจนเหนื่อยอ่อน ไตรภูมิก็ยังไม่อยากหลับ เขาอยากจะอยู่ใกล้ชิดดินให้มากที่สุดทั้งที่ตอนนี้เขา

แทบลืมตาไม่ขึ้นแล้วก็ตาม


           “ท่านเจ้าคุณของคุณพุ่มเร่งรัดงานแต่งงานให้เร็วขึ้นขอรับ คุณพุ่มบ่ายเบี่ยงจนทะเลาะกันท่านเจ้าคุณ

ไปหลายยก”


           ดินจูบที่ขมับของไตรภูมิ พลางกระชับวงแขนของคนที่คล้อยหลับราวกับจะเห่กล่อมให้ฝันดี











           “ดิน อา แรงอีกเถิดดิน”


           ร่างบอบบางบิดกายจนเอวแทบขาดอยู่บนเตียงนอนภายในห้องหับรโหฐานของตน บ่าวคนสนิทที่

กลายเป็นเจ้าของดวงใจกัดฟันทะยานเร่งเร้าจนเสาเตียงโยกไหว


           “คุณพุ่ม อา หวานเหลือเกิน  ตอดรัดไอ้ดินแทบขาดแล้ว”


           “ดิน ฮัก ฮัก ดิน ข้าจะขาดใจเสียแล้ว เอ็งเร่งนำข้าขึ้นสวรรค์เสียทีเถิด”


           ไอ้ดินบ่าวไร้ที่มาสูดลมหายใจลึกรับคำแข็งขันพลางขยับเอวกระแทกนายเหนือหัวเรียกเสียงครางหนัก

หน่วง เนื้อกายเบียดแนบไม่มีช่องว่างร่างกายเหนียวหนับไปด้วยเหงื่อชื้นและคราบรักที่ผ่านมาไม่รู้กี่ยกในค่ำ

คืนนี้ มันจงใจควงเอวหมุนคว้านกระแทกจุดสำคัญเสียถนัดถนี่ก่อนเร่งเอวสาวลึกจนคุณพุ่มของมันกลั้นใจแล้ว

ปล่อยทำนบจนแตก ไอ้ดินไม่รอช้าดันเอวย้ำลึกรับแรงตอดถี่ยิบก่อนแช่ค้างเมื่อติดตามนายของมันขึ้นสวรรค์ไป

ติดๆ ร่างกำยำคล้ำไอแดดโผลงโซซบไปบนร่างขาวของคุณพุ่มพากันหอบกระเส่าแข่งกัน


           “อ้ายพุ่ม อ้ายลูกสารเลว”


           เสียงกำแหงหาญดังขึ้นหน้าประตูจากนั้นแม้บานประตูจะลั่นดาลไม้ก็มิอาจขัดขวางอารมณ์ราวกับ

ไฟไหม้ป่าของเจ้าคุณวิเชียรอัครภาคที่ก้าวเข้ามายืนจังก้าอยู่กลางห้อง ดวงตาเมื่อยามเห็นบุตรชายเพียงคน

เดียวนอนทอดกายให้ไอ้บ่าวต่ำต้อยยังตระกองกอดประสานกายอยู่บนเตียงนั้นราวกับจะพุ่งไปบีบคอให้แหลก

คามือ คุณหญิงพร้อมผู้เป็นภรรยาและมารดาของพุ่มถึงกับลมจับอยู่หน้าห้อง


           “เจ้าคุณพ่อ”


           พุ่มผวา เขารีบดันกายหนักของไอ้ดินออกจากตัวพลางคว้าผ้านุ่งมาคลุมท่อนล่าง ในขณะที่ไอ้ดินกลับ

ถูกคนของบิดากรูกันมายึดจับท่อนแขนไพล่หลังแล้วกดร่างลงกับพื้นห้อง พุ่มถลาเข้ามากันไม้ตะพดที่ฟาดลง

มาด้วยแผ่นหลังของเขา


           “โอ๊ย!”


           “พุ่ม ลูกแม่ อย่าขวางเจ้าคุณพ่อเลยลูก”


           มารดารีบก้าวเข้ามาห้ามทั้งน้ำตา เมื่อเห็นผู้เป็นสามีโกรธหนักเหลือเกิน


           “มึงมันชั่ว มันเลวทั้งนายทั้งบ่าว”   ท่านเจ้าคุณฟาดไม้ตะพดลงบนแผ่นหลังของไอ้ดินไม่ยั้ง เสียงไม้

กระทบเนื้อและไอ้ดินที่กัดฟันกลั้นเสียงร้องเอาไว้ทำให้พุ่มถึงกับร้องไห้ออกมาแต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงบิดา

ได้ เมื่อหนำใจท่านเจ้าคุณจึงหันมาชี้หน้าบุตรชายด้วยไฟโทสะ


           “มึงด้วยอีกคน มึงเป็นชายแต่กลับมานอนทอดกายให้บ่าวของมึง หากรู้ไปถึงไหนก็คงจะอายไปถึงนั่นที่

บุตรชายของเจ้าคุณวิเชียรอัครภาคกลายเป็นพวกวิปริตผิดเพศให้ฟ้าผ่า”


           “ท่านเจ้าคะ พอเถิดเจ้าค่ะ เท่านี้ลูกก็เจ็บปวดแล้ว” คุณหญิงพร้อมเอ่ยทั้งน้ำตา


           “ก็เพราะหล่อนนั่นแหละแม่พร้อม เลี้ยงลูกอยู่ในอกจนมันผิดเพศ ความผิดของหล่อนแท้ๆ”


           เจ้าคุณวิเชียรฯ เอ่ยปากเสียงดัง


           “อีกเจ็ดวันข้างหน้ามึงเตรียมเข้าหอกับแม่ละมัย กูจะเร่งงานวิวาห์เสียให้เรียบร้อยระหว่างนี้ขังมันไว้แต่

ในห้องนี้ยกข้าวยกน้ำมาให้มันกินอย่าให้มันได้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวัน ส่วนไอ้ดินพวกมึงเอามันไปโยงกับขื่อ

ตากแดดตากลมอยู่ที่ท้ายเรือนอย่าให้มันหนีไปได้”


           “ไม่นะ ดิน”


           “คุณพุ่ม”


           พุ่มผวาเข้ากอด น้ำตาไหลราวกับสายน้ำ คำพูดสุดท้ายก่อนที่ดินจะถูกพาออกไปพุ่มกระซิบที่ข้างหู

แผ่วเบา



           “หนีไปดิน ไปรอที่คุ้งน้ำในคืนวันแต่ง ข้าจะหนีไปพร้อมกับเอ็ง”








มีต่ออีกนิด
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 06-03-2015 00:05:33
ต่อกันอีกหน่อย





           อาวุธเดินจ้ำอ้าวเข้าไปหาไตรภูมิตั้งแต่ยังปิดประตูรถยนต์ไม่สนิทด้วยซ้ำ เขากระชากแขนไตรภูมิให้หัน

ไปหา


           “ไอ้ไตร มึงต้องย้ายออกจากบ้านหลังนั้นแล้วกลับไปอยู่คอนโดของแม่มึงซะ”


           ไตรภูมิมองหน้าอาวุธอย่างสงสัยในความหงุดหงิดที่เพื่อนแสดงออก


           “เหี้ยอะไรของมึงไอ้วุธ ทำไมกูต้องย้าย”


           “สัสส นี่มึงรู้หรือเปล่าว่าไอ้บ้านหลังนั้นมันมีผีสิง” อาวุธสบถรุนแรง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังทำให้เขา

ตกใจไม่เลิก


           ไตรภูมิหรี่ตามองอาวุธ “มึงรู้ได้ไง”


           “กูก็ตามมึงไปไง กูเห็นมึงกำลัง เอ่อ โอ๊ย กูไม่อยากจะพูด” อาวุธหลุดปากออกไปทำให้ไตรภูมิเริ่มเคือง


           “มึงตามกูไปบ้าน มึงทำเพื่ออะไร นั่นมันที่ส่วนตัวของกู มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับพื้นที่ส่วนตัว

ของกู”


           “กูทำเพราะกูเป็นห่วงมึงไงไอ้ไตร มึงอย่าทำเป็นซึนหน่อยเลย มึงก็รู้ว่ากูคิดยังไงกับมึง”


           อาวุธตะคอกเสียงขื่น ไตรภูมินิ่งมองเพื่อนแล้วถอนหายใจยาว


           “เออ กูขอบใจที่มึงห่วง แต่กูดูแลตัวเองได้ ส่วนเรื่องที่มึงคิดยังไงกับกูน่ะ กูขอโทษ กูคงจะไม่ให้

ความหวังมึงหรอกไอ้วุธ กูเห็นมึงเป็นเพื่อนเท่านั้น”


           อาวุธมองไตรภูมิอย่างเจ็บช้ำ เขากระชากต้นแขนของไตรภูมิเข้าหาตัว


           “มึงไม่รักกูซึ่งเป็นคนมีลมหายใจ แต่มึงกลับยอมไปเป็นเมียไอ้ผีชิบหายนั่น มึงมันโง่ไอ้ไตร หึ กูอยากจะ

รู้นักว่ารสชาติของไอ้ผีเหี้ยจะสู้คนเป็นๆ อย่างกูได้หรือเปล่า”


           อาวุธดึงไตรภูมิมาจูบ เขาบดปากลงไปอย่างหนักหน่วงตามอารมณ์ผิดหวังเสียใจ ไตรภูมิออกแรงผลัก

จนกระทั่งหลุดออกมาจากการจับยึด เขายกกำปั้นต่อยอาวุธจนหน้าหัน


           “ไอ้วุธ มึงมันเหี้ย กูไม่ได้รักมึง ต่อให้กูไม่ได้ยอมเป็นเมียดินกูก็ไม่ได้รักมึงอยู่ดีจำใส่กะโหลกไว้ แล้วถ้า

มึงยังอยากจะเป็นเพื่อนกับกูก็อย่าทำเหี้ยๆแบบนี้อีก ไม่งั้นมึงกับกูขาดกัน”


           ไอ้ผีร้ายนั่นชื่อดิน อาวุธคำรามหนักด้วยความแค้นเมื่อไตรภูมิเดินหนีเขาไป เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะ

ทำลายมันลงให้ได้ ไอ้ผีเลวที่ชื่อดิน คนที่แย่งไตรภูมิไปจากเขา







                     ------------------------ โปรดติดตามตอนต่อไป----------------------

หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 06-03-2015 00:40:03
อาวุธนึกว่าแกจะเป็นคนดีสะอีก อย่าทำอะไรดินนะเฟ้ยยย #ดินอย่าเป็นไรน้าาาา  #ขอจบไม่เศร้าไม่ดราม่าเอาจบแฮปปี้โลกสวย :z3:   :ling1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 06-03-2015 01:15:18
กรี๊ดดดดด ดินจะตายอีกรอบหรือนี้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 06-03-2015 04:04:45
เกิดอะไรขึ้นกันแน่
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 06-03-2015 05:33:52
วุธน่ากลัวววว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 06-03-2015 05:41:42
 :z6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-03-2015 06:23:57
 :katai1:  หมั่นไส้คนชอบเสือกจริงๆ สมัยอดีตชาติก็คงเพราะคนขี้เสือกเอาเรื่องไปฟ้องเจ้าคุณพ่อล่ะสิ
แถมตอนนี้ยังมาเจ้าอาวุธขี้ป๊อดด้วย ทำให้ไตรรักไม่ได้ยังมาอิจฉาผีอีก.
ดินน่าสงสารเกินไปแล้วนะ
 คนเราน่ากลัวกว่าผีจริงๆไม่เชื่อดู IS ดิ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 06-03-2015 10:48:26
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนะ อยากรู้แล้ว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Mississippi ที่ 06-03-2015 12:16:07
จบยังไงเดาไม่ออกเลยค้าาา
ไม่อยากมาม่าเบย :hao5:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: caramel ที่ 06-03-2015 12:25:07
 :katai5:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 06-03-2015 12:29:53

สงสัยว่าอาวุธจะเป็นนายเหมือนตามคุณพุ่มมาซะละมั้งเนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 06-03-2015 13:10:49
อาวุธต้องหาวิธีมากำจัดดินแน่เบย~
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 06-03-2015 14:10:40
omg




ลุ้นไส้บิด
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 06-03-2015 20:21:06
โอ้ยยยยยอิบ้่า โลภนัก เขาไม่รักก็ตัดใจไปเสีย!
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 06-03-2015 20:32:02
อีวุธ แกจะทำไรดิน  :z6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Jploiiz ที่ 06-03-2015 21:22:28
อาวุธนี่ใช่นายเหมือนรึเปล่า?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: MintELF13 ที่ 06-03-2015 22:53:58
วุธอย่าทำแบบนี้!!! อย่าทำอะไรดินเลย
วุธต้องเป็นคนดีสิ !!!
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 08-03-2015 00:23:07
ทำไมตงิดๆว่า ดินอาจจะคืนชีพด้วยร่างของวุธ
ถ้าวุธเป็นตัวร้ายอาจจะม่องเท่ง แล้วดินไปยึดร่างอะไรงี้ก็ได้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 08-03-2015 14:43:30
กำลังมันส์เลย รอลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 08-03-2015 17:17:47
อ๊ากกกกกกกกก ก ก ก ก ก ก ก ก ก
ค้างอ่ะ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 08-03-2015 18:00:03
พุ่มไม่ได้ไปหาดินสินะเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๕ >> ๐๖/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 08-03-2015 22:55:54
อย่าทำดินนนนนน
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 17-03-2015 14:53:29

                                                           วิญญาณเสน่หา

                                                                บทที่ ๖           


            “อ้ายไพร่สารเลว”


           แรงอัดพุ่งตรงเข้าที่ลิ้นปี่ทำให้ดินถึงกับจุกจนร้องไม่ออก ร่างกายของดินอิดโรยเพราะตากแดดตากฝน

มาห้าวันห้าคืนแถมยังถูกผูกโยงจนไม่มีทางต่อสู้ เขาจ้องหน้าคนที่บุกเข้ามาทำร้ายในยามวิกาลอย่างแค้น

เคือง


           “มึงนั่นเอง ไอ้เหมือน”


           ไม่มีความเคารพนบนอบแม้อีกฝ่ายจะเป็นถึงบุตรชายขุนน้ำขุนนาง แต่เพราะความกักขฬะเลวทราม

ทำให้ดินเคียดแค้นชิงชังยิ่งนัก


           “ใช่ กูเอง กูนี่แหละที่เป็นผู้แจ้งแก่เจ้าคุณลุงให้ระวังมึงไว้ เกรงว่าจะเป็นไอ้ชาติชั่วกินบนเรือนขี้รดบน

หลังคา แล้วมึงก็ทำเสียจริงๆ ไอ้ดิน”         


           นายเหมือนกระชากผมของดินจนหน้าหงาย ฝ่ามือหนาตบซ้ำๆลงบนใบหน้าเรียกเลือดออกจากมุมปากของดิน

จนหน้าบวมเห่อ แต่ถึงกระนั้นไอ้ดินก็ยังกัดฟันอดทนมิยอมปริปากร้องขอความเห็นใจ จนกระทั่งนายเหมือนหายใจหอบ

เพราะความเหน็ดเหนื่อยจึงต้องหยุดมือลงเองพลางมองดินอย่างเกลียดชัง ดวงตาช้ำเลือดของดินมองตอบอย่างเยาะ

หยัน


           “มึงกระทำไปเพราะหวังดีต่อน้องสาวของมึงที่กำลังจะตบแต่งเข้าหอกับคุณพุ่มหรือทำไปเพราะมึงหึงหวงแล

อิจฉาที่กูได้ครอบครองทั้งกายใจของคุณพุ่มกันแน่รึไอ้เหมือน”


           “ไอ้ดิน มึง”


           กำปั้นแข็งๆทะลวงใส่ลำตัวจนดินแทบช้ำใน นายเหมือนเจ็บใจเหลือเกินที่ไอ้ไพร่ชั้นต่ำบังอาจพูดแทงใจดำที่

เขาเฝ้าเก็บไว้เป็นความลับ ดินปรือตามองอย่างสะใจแม้ว่าร่างกายของตนจะบอบช้ำเต็มที


         “หึ ในเมื่อมึงรู้ความในใจของกูก็ดีแล้ว ชิชะ กูจะบอกมึงให้ กูเฝ้ารักพ่อพุ่มของกูมาหลายปีนัก กูรอโอกาสให้พ่อ

พุ่มเข้ามากลายเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วจึงจะกระทำตามใจกู เพราะถึงเพลานั้นพ่อพุ่มจะโวยวายก็มิได้ แต่มึง ไอ้ดิน

มึงมาชิงหัวใจของกูไป แต่กูก็ยังไม่รังเกียจเดียดฉันท์พ่อพุ่มดอก คอยดู กูจะทำให้พ่อพุ่มตกเป็นของกูเสียให้ได้”


        ก่อนเร้นกายจากไปในความมืดนายเหมือนยังลงมือทำร้ายดินที่ไม่มีทางต่อสู้เสียอีกยกใหญ่ ดินเจ็บใจเหลือเกินที่

ร่างกายบอบช้ำอ่อนแอเยี่ยงนี้


           “ตายละวาไอ้ดิน กูเดินไปเบาชั่วประเดี๋ยว เกิดเหตุอันใดกับมึงจึงได้เจ็บปางตายเยี่ยงนี้”


          บ่าวคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ตรวจเวรยามถึงกับตกใจเมื่อเห็นสภาพของดิน


           “พี่ดำ ช่วยฉันหน่อยเถิดพี่ หากว่าพี่เห็นใจฉันแลคุณพุ่ม เห็นใจในความรักแม้จะผิดผีผิดธรรมเนียม แต่ฉันกับคุณ

พุ่มรักกันโดยแท้”


           ดินพยายามร้องขอความเห็นใจ บ่าวที่ชื่อดำมีสีหน้ายุ่งยากใจทันที


           “ใช่ว่ากูจะไม่เห็นใจมึง แต่บ่าวอย่างกูจะช่วยกระไรมึงได้เล่า”


           “ช่วยได้แน่ๆพี่ดำ” ดินโน้มน้าวให้อีกฝ่ายคล้อยตาม “เพียงแค่พี่ดำช่วยคลายเชือกที่มัดรั้งฉันอยู่ให้หลวมลงสัก

หน่อย ก่อนย่ำรุ่งฉันจะไปโดยไม่ให้พี่เดือดร้อน”


           “ไฮ้ ไอ้ดิน มึงจะหาเหามาใส่หัวล้านกูรึ”


           “ไม่ดอกพี่ดำ อีกเพียงสองวันก็จะถึงวันแต่งงานของคุณพุ่ม ทุกคนในบ้านกำลังโกลาหลเตรียมงานกัน ไม่มีใคร

สนใจขี้ข้าอย่างฉันดอกพี่ พอผ่านงานไปท่านเจ้าคุณคงจะอารมณ์ดีจนไม่ทันสังเกตสังกา นะพี่ดำ เห็นใจฉันเถิด”











           พุ่มผ่ายผอมลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาตรอมตรมจากรักที่ถูกขัดขวาง แม้ว่าในวันนี้จะเป็นวันวิวาห์ของเขากับแม่

ละมัยที่ดีใจจนยิ้มไม่ยอมหุบในขณะที่เจ้าบ่าวอกไหม้ไส้ขม พุ่มปล่อยให้งานดำเนินไปอย่างไม่ใส่ใจเขาทำตัวราวกับหุ่นขี้

ผึ้งเพราะมัวแต่กังวลที่นัดกับดินไว้

           ป่านนี้ดินจะเป็นเยี่ยงไร จะหนีไปได้หรือไม่แล้วจะไปรอเขาอยู่ตรงจุดนัดหมายหรือเปล่า ความคิดของพุ่มมีแต่

ความสับสนจนกระทั่งงานเลี้ยงฉลองยิ่งใหญ่ล่วงมาถึงตอนค่ำที่ใกล้ถึงเวลาส่งตัวเข้าหอเสียแล้ว

            ถือโอกาสที่บรรดาผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านกำลังอยู่ในงานเลี้ยง เขาเลี่ยงออกมาจากงานโดยอ้างว่าปวดท้องหนัก พุ่ม

แอบย่องลัดผ่านชานเรือนจนลงมาสู่พื้นดิน ริมฝีปากอิ่มยิ้มอย่างดีใจเมื่อก้าวไปสู่ความมืดด้านหลังของบ้านได้สำเร็จ


           “จะไปแห่งใดรึ พ่อพุ่ม”


           พุ่มสะดุ้งตัวโยน เขาหันขวับไปทางต้นเสียงจึงเห็นร่างสูงใหญ่ของนายเหมือนเพื่อนแต่วัยเยาว์แฝงกายอยู่ใน

ความมืดของใต้ถุนเรือน นายเหมือนจ้องหน้าอย่างรู้ทันจนพุ่มต้องเชิดหน้ากัดริมฝีปากข่มความกลัวไว้


           “มันเรื่องของข้า มิใช่เรื่องของเอ็ง”


           “ชะ เดี๋ยวนี้พ่อพุ่มบังอาจเรียกกระผมว่าเอ็ง ช่างผิดวิสัยคนสุภาพอ่อนโยนเสียเหลือเกิน”


           เหมือนก้าวพรวดเข้ามาคว้าต้นแขนของพุ่มไปยึดไว้แน่น ดวงตาจ้องมองอย่างจาบจ้วงพุ่มรีบฝืนตัวไว้แต่แรงของ

เหมือนก็มากมายเกินว่าเขาจะต้านไหว


           “ปล่อยข้านะ”


           “ปล่อยพ่อพุ่มไปหาไอ้ดินงั้นรึ ฝันไปเถิด”


           “อะ เอ็งรู้เรื่องนี้” พุ่มตระหนกเพราะไม่คิดว่านายเหมือนจะรู้เรื่องของเขากับดิน เหมือนยิ้มเยาะ มือหนายิ่งบีบต้น

แขนจนพุ่มนิ่วหน้า


           “รู้สิขอรับพ่อพุ่ม และยังเป็นคนไปแจ้งข่าวแก่เจ้าคุณพ่อของพ่อพุ่มให้สำเหนียกอีกด้วยว่าลูกชายกำลังมีผัว

แทนที่จะมีเมีย”


           “ไอ้เหมือน”


           พุ่มโกรธจัดจนลืมตัว มือบางที่เคยแต่จับพู่กันสะบัดแรงไปกระทบซีกหน้าของนายเหมือน ยิ่งกระตุ้นโทสะของ

นายเหมือนจนลุกเป็นไฟ


           “รักมันมากสินะ ไอ้ไพร่ไร้สกุลนั่น พ่อพุ่มชอบผู้ชายด้วยกันทำไมไม่บอกกระผม รู้บ้างไหมว่ากระผมอยากได้พ่อ

พุ่มมาเป็นเมียใจแทบขาด กระผมจะได้ช่วยเหลือเกื้อกูลให้พ่อพุ่มสมใจ”


           “ไม่มีทางหรอก ข้าไม่มีวันยอมเป็นของใครนอกจากดินคนเดียวเท่านั้น”


           พุ่มตะคอกใส่หน้า นายเหมือนยิ่งลุกเป็นไฟ


           “ก็คอยดูว่าพ่อพุ่มจะทำได้หรือเปล่า”


           พูดจบเหมือนก็ต่อยพุ่มเข้าตรงลิ้นปี่ พุ่มสะดุ้งเฮือกตาลอยหมดเรี่ยวแรงจนนายเหมือนผลักให้เขาล้มลงไปนอน


ตัวงออยู่กับพื้น


           “กระผมจะยัดเยียดความเป็นผัวให้พ่อพุ่มเอง”


           พุ่มอ้าปากค้างเมื่อนายเหมือนกระโจนเข้าหา ร่างบอบบางพยายามดิ้นรนผลักไสทั้งน้ำตา


           “อย่านะ อย่า”









           “อย่านะ อย่า”          

   
           ไตรภูมิสะดุ้งเฮือก ดวงตากลมโตเบิ่งกว้างเมื่อตกใจตื่นจากนิทรา ร่างกายเปล่าเปลือยภายในอากาศชื้นฝนมีแต่

เหงื่อกาฬไหลจนเหนียวหนับ ทำให้ร่างกายเย็นเยียบที่นอนกอดก่ายเขาไว้ต้องผงกหัวขึ้นมองอย่างตกใจไปด้วย


           “คุณพุ่ม คุณพุ่มขอรับ เป็นกระไรขอรับ”


           ไตรภูมิถอนหายใจเฮือกเมื่อรู้ว่าเป็นความฝัน เขากวาดสายตามองโดยรอบเพื่อตั้งสติจึงได้เห็นว่าตนเองกำลัง

นอนอยู่บนเตียงในห้องนอนที่ยังมีแต่ความมืดปกคลุมโดยมีร่างไร้วิญญาณของดินตระกองกอดไว้

เขายกมือลูบหน้าตนเองพลางสะบัดหัวไล่ความมึนงง


           “นี่มันกี่โมงแล้วครับดิน”


           ดินชี้มือไปยังนาฬิการุ่นเก่าที่แขวนอยู่บนผนังด้านหนึ่ง


           “เจ้าสิ่งนั้นมันส่งเสียงห้าครั้งแล้วขอรับคุณพุ่ม”


           ตีห้า ไตรภูมิถอนหายใจเมื่อภาพในความฝันมันชัดเจนราวกับเรื่องจริง เขาหันไปสบตากับนัยน์ตาใสซื่อของดิน

แล้วอยู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมา


           “คุณพุ่ม คุณพุ่มของไอ้ดิน”


           ดินดึงไตรภูมิไปกอด เขาบรรจงจูบซับน้ำตาเบาๆ


           “อย่าร้องไห้ขอรับ ไอ้ดินใจจะขาดเมื่อเห็นน้ำตาของคุณพุ่ม”


           ยิ่งปลอบไตรภูมิก็ยิ่งน้ำตาไหล เขายกมือประคองใบหน้าของดินไว้แล้วแนบหน้าผากของตนลงไปกับคางสาก

ของดิน


           “ผมรักดินเหลือเกิน รักจนไม่อยากสูญเสียดินไป อยู่กับผมนะ”


           ดินจูบลงที่หน้าผากเกลี้ยง เขาซ่อนความหนักใจเอาไว้ จะบอกคนที่กำลังสะอื้นอยู่ในอ้อมอกนี้ได้อย่างไรว่าใกล้

ถึงเวลาที่เขาจะต้องไปผุดไปเกิดแล้ว เพียงแต่เขายังติดอยู่กับอะไรบางอย่างที่ต้องรอให้ไตรภูมิเป็นคนคลายมันออก


           “ไอ้ดินก็รักคุณพุ่ม อย่ามัวแต่ร้องไห้ เงยหน้ามาให้ไอ้ดินได้จูบถนัดๆเถิดขอรับ”


           ไตรภูมิเงยหน้าอย่างเต็มใจให้ปากเย็นเฉียบแนบลงมา เขาเผยอปากรับให้ดินสอดลิ้นเข้ามาคลุกเคล้า แม้ว่าจะ

ผ่านบทรักร้อนแรงกันมาค่อนคืนแต่ไตรภูมิไม่เคยนึกเบื่อ มีแต่จะโหยหาร่างไร้วิญญาณอย่างเช่นในตอนนี้ที่เขาเองเบียด

ร่างเข้าหาดิน และเป็นฝ่ายผลักดินให้เอนกายหงายหลังไปบนที่นอนนุ่ม


           “ผมอยากให้ดินมีความสุขบ้าง ให้ผมได้ทำเพื่อดินบ้างเถอะนะ”


           ไตรภูมินอนทอดกายอยู่บนร่างกำยำ เขาลูบไล้ไปทั่วกล้ามเนื้อเต็มมืออย่างหลงใหลก่อนเลื่อนตัวต่ำลงไปหยุด

อยู่ตรงกลางตัว สายตาจ้องมององคาพยพที่เริ่มตื่นแข็งขันอวดปลายบาทให้เห็น ไตรภูมิจับโคนอยู่ในมือ เขาเอียงหน้า

เข้าหาแตะปลายลิ้นร้อนไปตรงรูแฉกโลมเลียไปมาแล้วจึงอมมันไว้ด้วยปากของเขา


            “โอ คุณพุ่ม”


           ดินครางเสียงกระเส่า แท่งเนื้อใหญ่โตแข็งขืนจนเต็มกำมือเมื่อไตรภูมิค่อยๆลากลิ้นลงมาจนถึงโคน เขาเลียไป

ตามเส้นเลือดทีละเส้น ก่อนไปหยุดที่ปลายสามเหลี่ยมอีกครั้ง คราวนี้เขาเปิดปากให้กว้าง เปิดคอให้โล่งแล้วกลืนกินมัน

ทีละนิดจนกระทั่งมันมิดเกือบสุดโคน


           “เสียวเหลือเกิน คุณพุ่มขอรับ”


           มันใหญ่มาก แต่ไตรภูมิก็พยายามจนหมด ท่อนเนื้อเย็นกระแทกอยู่ตรงลำคอให้เขาใช้เพดานปากโลมไล้

ทักทาย ก่อนที่เขาจะดึงหน้าขึ้นมาแล้วรูดปากซ้ำลงไปอีก


           “อะ อือม ดีมากขอรับ คุณพุ่ม”


           ไตรภูมิจับจังหวะได้แล้ว เขาเม้มปากครอบมันไว้แล้วจัดการสาวรูดจนดินถึงกับครางลึกอยู่ในลำคอ

ไม่นานดินก็อัดของเหลวคาปากของเขา ดินเป่าปากก่อนจะเอื้อมมือมาดึงไหล่ไตรภูมิแล้วพลิกตัวให้เป็นฝ่ายนอนบน

เตียงบ้าง


            “เก่งมากขอรับคุณพุ่ม ไอ้ดินมีความสุขเหลือเกิน”


           ดินก้มหน้าไปจูบหนักหน่วง มือเย็นลูบไล้ปลุกผิวกายของไตรภูมิให้ตื่นขึ้นมา ช่องทางที่ผ่านการร่วมรักยังคงเปิด

รับให้ดินสอดกายเข้าไป ดินเลื่อนใบหน้าลงมาแตะลิ้นลงบนเม็ดเล็กสีชมพูหวานที่รอให้เขาได้กิน เขาเม้มปากลงไปดึง

จนมันติดปากขึ้นมา ไตรภูมิครางลั่นและยิ่งแอ่นกายเข้าหาให้ดินได้กระแทกลึกเข้าไปในช่องทาง ไตรภูมิอ้าขาออกกว้าง

เปิดทางรับร่างกายแข็งแรงที่โยกเข้าหาจนเขาสั่นคลอนไปทั้งตัว


           “ดิน อ๊า ดีมาก มันส์มากครับดิน อาตรงนั้น ดินครับรักดินเหลือเกิน”


           ไตรภูมิครางไม่ขาดระยะ ไฟรักยามรุ่งเช้ากระพือโหมจนทั้งคู่ไม่ได้สนใจว่าตัวบ้านชั้นล่างมีเสียงกุกกักผิดปกติ

เสียงฝีเท้าที่พยายามย่องให้เบาที่สุดจนกระทั่งมันมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน


           “ผ่านมาหลายยก แต่คุณพุ่มก็ยังตอดรัดไอ้ดินไม่เลิก ไอ้ดินฉุดไม่อยู่แล้วขอรับ”


           ดินเงยหน้าปล่อยเสียงครางอย่างสะใจ ร่างกายสูงใหญ่ ดันเอวเข้าหาไตรภูมิที่ตาปรือไปด้วยความกระสัน สอง

ขายกพาดไปบนบ่ากว้างของดินที่ยันกายสูงเพื่อที่จะกระแทกกระทั้นให้หนำใจ


           “ดิน ดินครับ ดิน จะแตกแล้วครับ แรงอีกครับดิน อื้อออ”


           เอวบางยกลอยอย่างเสียวกระสัน ไตรภูมิสวนกายเข้าหารับแรงกระแทกให้ยิ่งลึกล้ำ ร่างกายบิดเกลียวไปหมด

เมื่อใกล้ถึงฝั่ง เขาดึงหน้าดินมาจูบหนักก่อนเกร็งไปทั้งตัว


           “ดิน อื้มมมมม”


           ครางหนักยาวเมื่อปลดปล่อยออกมา ดินผวาเร่งเครื่องเร็วรี่เมื่อท้องน้อยกระตุกถี่ เขาแช่ค้างนิ่งนานตามไตรภูมิ

ไปติดๆ


           เสียงประตูถูกผลักเข้ามาดังโครม ร่างที่ยังกอดก่ายกันบนเตียงหันไปมองอย่างตกใจ และเมื่อเห็นผู้บุกรุก

ไตรภูมิก็ต้องเบิกตากว้าง


           “ไอ้วุธ มึงจะทำอะไร อย่านะ”


           ไตรภูมิตะโกนลั่นเมื่ออาวุธสาดน้ำใส่ ร่างไร้วิญญาณของดินตะโกนก้องก่อนค่อยๆเลือนหายไปในความมืด

                               
           
           
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-03-2015 15:02:03
 :z3:  ช่างตามจองล้างจองผลาญจริงว้อยไอ้เหมือน

มันจะข่มขืนคุณพุ่มอีกแล้วใช่ไหม สันดานจริงๆเลย อย่านะๆๆๆ ฮือไม่ยอม  :ling1: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: makone ที่ 17-03-2015 15:45:46
 :a5: นายวุธคือนายเหมือนใช่ไหมค่ะ  o22

 :m16: จะตามจองล้างจองผลาญกันไปถึงไหนฮะ  :m31: :fire: :angry2:

คนเค้าไม่รักก็ยังจะตามมาทำลายความรักของเค้าอีก  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 17-03-2015 16:23:41
วุธ~~~~

 :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 17-03-2015 16:46:02

กิสสสสสสส ค้างงงงงงงง //ประหนึ่งโดนน้ำมนต์ไปด้วยยยยย   o21  o21
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 17-03-2015 20:54:34
ย้ากกกกก มันทำอะไรดินของฉานนนน!!
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-03-2015 21:06:41
ไอ้เหมือนก็กลับมาเกิดด้วยสินะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 17-03-2015 21:25:13
วุธคือเหมือนใช่ไหมเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 17-03-2015 22:09:28
ถ้าดินรู้ว่าพุ่มทำไมไม่ไปตามนัด ดินจะไปใช่ไหม
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 17-03-2015 23:12:08
โอ้ไม่นะ!!!  :serius2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 18-03-2015 01:15:32
ให้เดา วุธคือเหมือน เลวข้ามชาติ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 18-03-2015 20:26:03
เกลียดวุธจริงงงงงง :katai1: :fire: อย่ามาทำไรดินของเค้า เอ้ย!ของไตรน้าาาา  :angry2:
รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 18-03-2015 21:54:06
อะไรอีกล่ะทีนี้ โอ้ยยยยย

หวังว่า ดิน คงจะไม่เป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 19-03-2015 02:37:24
กรี๊ดดดดดดดด อีวุธทำไรเนี้ยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: suphasit ที่ 19-03-2015 03:42:06
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 19-03-2015 10:53:08
วุธเข้ามาในบ้านแล้ว คงโดนดินจัดการแน่
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 20-03-2015 03:24:44
ไอ้ดินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน








ไปเกิดแล้วรึ


5555555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 20-03-2015 07:43:24
อย่ามาทำร้ายดินกับคุณพุ่มอีกนะ
ไอ้นี่ทำไมได้มาเกิดหว่า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 20-03-2015 08:20:49
 o13
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 20-03-2015 22:35:45
ตามมาอ่านจนทันแล้ว แล้วก็ค้างมากด้วยยย อ๊ากกกกก สงสารรรรร  :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๖ >> ๑๗/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 22-03-2015 10:22:05
ชาติที่แล้วก็ทำลาย ชาตินี้มาก็ทำอีก จัดการวุธให้ได้น่ะ
ดินยึดร่างวุธมาเลย
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๑>> ๒๗/๐๓/๕๘ ๒๐.๑๕น
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 27-03-2015 20:12:03

                                                                วิญญาณเสน่หา

                                                                      บทที่ ๗.๑


           “อย่านะ อย่า”


           แรงขัดขืนยิ่งอ่อนลงจนร่างกำยำของนายเหมือนเบียดกายเข้าทาบทับอย่างจาบจ้วง เสื้อคอปกตั้งอย่างชุด

ราชปะแตนสีงาช้างถูกกระชากออกจนเม็ดดุมขาดวิ่นเผยให้เห็นเนื้อในขาวเนียนจนนายเหมือนจ้องถลน  แม้ว่าพุ่มจะ

พยายามผลักไสแต่เพราะความจุกเสียดจากการถูกทำร้ายร่างกายทำให้เขาไม่มีทางต่อสู้คนที่ใช้กำลังเข้าข่มเหงได้เลย


           “ปล่อยกู ไอ้สัตว์นรก”


           น้ำตาเจิ่งนองท่วมเบ้าตาเมื่อรู้ว่าตนเองตกเป็นเบี้ยล่างให้เพื่อนแต่วัยเยาว์กำลังจะกระทำย่ำยีสมใจหมาย หัวใจ

อันอ่อนไหวแทบจะขาดรอนๆ


           “ดิน ดิน ช่วยด้วย”


           “เฮอะ ยังจะหวังให้อ้ายไพร่สารเลวนั่นมาช่วยอีกรึพ่อพุ่มทั้งที่ใกล้จะได้เป็นเมียกระผมอยู่รอมร่อ”


           นายเหมือนเงยหน้าหัวเราะกระหึ่มอย่างสาแก่ใจ มือไม้วางป่ายไปทั่วเนื้อตัวเนียนด้วยใจร้อนรุ่มก่อนจะสาละวน

ดึงปมมัดโจงกระเบนสีกรมท่าให้คลายออกจนเนื้อผ้าหลุดลุ่ยออกจากสะโพกกลมกลึงเผยให้เห็นจุดซ่อนเร้นที่ต้องการ


           “งามเหลือเกินพ่อพุ่มของไอ้เหมือน งามจนไอ้เหมือนกระสันอยากจะได้เสียแต่วินาทีนี้ อย่ามัวร่ำไรอยู่เลย

ยินยอมเป็นเมียของกระผมเสียเถิดอย่าได้ขัดขืน พ่อพุ่มจะได้มิต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัวให้ขุ่นช้ำเสียเปล่าๆ”


           “พ่อเหมือน ผมกราบละ อย่าทำกระผมเลย” พุ่มกลั้นใจประนมมือขอร้องทั้งน้ำตา “กระผมมิได้รักใคร่พ่อเหมือน

ฉันชู้สาวแม้แต่น้อย อย่าทำให้กระผมเสียหายกลายเป็นคนหลายผัวเลย เห็นใจกระผมเถอะ”


           “เห็นใจพ่อพุ่ม ปล่อยพ่อพุ่มไปเสวยสุขกับไอ้ขี้ข้าอย่างไอ้ดินกระนั้นรึ อย่าได้หวังเลยขอรับ กระผมอดเปรี้ยวมา

นานเกินพอแล้วขอให้กระผมได้กินร่างกายหวานๆของพ่อพุ่มให้หนำใจนับแต่บัดเดี๋ยวนี้เถิด”


           ลำแขนใหญ่โตกดหน้าอกของคนเบื้องล่างแล้วตรึงไว้กับพื้นดินแข็งกระด้าง มือหนึ่งง้างงัดลำกล้องของตนออก

มาจากผ้านุ่งหมายจะขืนทั้งใจและกายให้สุขสม นายเหมือนเบียดสะโพกลงให้อีกฝ่ายเปิดทางกว้างอย่างไม่สนใจใบหน้า

ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว พุ่มน้ำตาไหลรินดิ้นรนขัดขืนมือไม้วาดส่ายสะเปะสะปะไปตามพื้นแข็งก่อนจะคว้าก้อนหิน

ก้อนเขื่องพอเหมาะกับอุ้งมือมาได้ก้อนหนึ่ง หัวใจดวงน้อยแล่นวาบอย่างดีใจ เขากำมันแน่นแล้วฟาดเปรี้ยงเข้าใส่ขมับ

ของคนที่กำลังจะข่มเหง


           “โอ๊ย!”


           นายเหมือนร้องลั่นเมื่อของแข็งกระทบหน้าผากเข้าอย่างจัง โลหิตหลั่งกระเด็นแดงฉานเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าที่สวม

ใส่ พุ่มรีบคว้าโอกาสนั้นผลักร่างเทอะทะให้ร่วงลงไปจากร่างแล้วผวาลุกขึ้นคว้าผ้านุ่งพันกายก่อนซมซานก้าวเท้าหนี ริม

คุ้งน้ำที่มีต้นไทรต้นใหญ่คือจุดหมายที่เขามุ่งหน้าเพื่อไปหาเจ้าของหัวใจของเขา


           อีกไม่นานก็จะถึงแล้ว พุ่มรีบสืบเท้าก้าวเดินทั้งที่ยังเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัว ได้กลิ่นไอฝนกระทบพื้นดินคลุ้ง

จมูก แสงสว่างวาบจากท้องฟ้าสีแดงที่เต็มไปด้วยพยับเมฆพาดผ่านเพียงเสี้ยววินาที แต่แค่นั้นก็ทำให้พุ่ม

ดีใจเหลือเกินเมื่อเห็นเงาของร่างที่คุ้นตานั่งหมอบรออยู่ริมตลิ่ง

           เตรียมจะป้องปากตะโกนเรียกให้ได้ยินแต่ทันใดนั้นท้ายทอยก็ถูกฟาดด้วยของแข็งจากด้านหลัง สติของพุ่มพลัน

ดับวูบ สิ่งที่เห็นอยู่ในคลองสายตาครั้งสุดท้ายคือใบหน้าถมึงทึงของนายเหมือนที่ยืนจังก้าพร้อมกับลูกสมุนร่างสูงใหญ่

นับไม่ถ้วน


           “ดิน!”


           คำพูดสุดท้ายก่อนสติสัมปชัญญะจะเลือนหายยังเป็นชื่อศัตรูหัวใจทำให้นายเหมือนกัดฟันอย่างเคียดแค้นเมื่อ

จ้องมองร่างบอบบางที่หมดสติร่วงลงไปกองอยู่กับพื้น เขาชี้นิ้วสั่งการไปยังลูกสมุนที่รออยู่แล้ว


           “มึงแบกพ่อพุ่มกลับเรือนบัดเดี๋ยวนี้ แจ้งต่อเจ้าคุณลุงว่าพ่อพุ่มคิดจะหนีพิธีส่งตัวเข้าหอไปกับไอ้ขี้ข้าอย่างที่ข้า

คาดการไว้ ให้เจ้าคุณลุงกักตัวพ่อพุ่มมิให้ออกไปไหนได้อีก”

           สมุนคนหนึ่งรีบคว้าร่างบอบบางของพุ่มขึ้นบ่าแล้ววิ่งกลับทางเดิมอย่างรวดเร็ว ลูกสมุนที่เหลือแสยะยิ้มรอคำสั่ง


           “คุณเหมือนจะกระทำเยี่ยงไรกับมันเล่าขอรับ”


           นายเหมือนจ้องมองไปทางตลิ่งริมน้ำด้วยดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยไฟแค้น


           “กูจะไม่ปล่อยให้มันต้องเป็นเสี้ยนหนามหัวใจของกูอีกต่อไป”
           







           ดินยอบตัวอยู่บนพื้นใต้ต้นไทรอย่างอิดโรย กว่าจะเล็ดลอดหนีจากการหน่วงเหนี่ยวมัดรั้งไว้เขาก็แทบจะทรงกาย

ไม่อยู่ ร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจากฝีมือของนายเหมือนก่อนจะหาทางซมซานมารอที่จุดนัดพบอย่างกระวนกระวาย

           ป่านนี้คุณพุ่มของมันจะเป็นไรบ้างมันก็ไม่รู้ ดวงตาปรืออย่างหมดแรงเฝ้ารอคอยอย่างระทดท้อเมื่อสายฝนตก

กระหน่ำห่าใหญ่จนแทบมองไม่เห็นแม้แต่นิ้วมือตนเอง


           “คุณพุ่ม”


           ดินตะโกนฝ่าสายฝนอย่างดีใจเมื่อเห็นร่างเงาที่ตรงมาหา แต่เมื่อสายฟ้าฟาดเปรี้ยงส่องแสงสว่างวาบดินก็ต้อง

ตกใจเมื่อเห็นว่าร่างนั้นหาใช่คุณพุ่มของมันไม่


           “ไอ้เหมือน!”


           “เออกูเอง ไอ้ลูกหมาข้างถนน”


           เหมือนกระชากเส้นผมของดินจนหนังหัวแทบหลุด ร่างกำยำของเหล่าลูกสมุนยืนรายล้อมอย่างกระเหี้ยนกระหือ

รือรอแค่คำสั่งของเจ้านาย


           “คุณพุ่มล่ะ ไม่ คุณพุ่มต้องมา” ดินครางอย่างเจ็บปวดเมื่อมองไม่เห็นแม้แต่เงาที่เฝ้ารอ นายเหมือนหัวเราะเยาะ

หยันบาดลึกหัวใจให้เจ็บปวดยิ่งขึ้นไปอีก


           “คิดว่าพ่อพุ่มเขาจะมาหามึงงั้นหรือวะ มึงเป็นใครพ่อพุ่มเป็นใคร หือ ไอ้ขี้ข้า”


           นายเหมือนถ่มน้ำลายใส่หน้าพลางกระแทกกำปั้นใส่จนหน้าหงาย


           “ไม่ คุณพุ่มรักกู เขาต้องมาหากู” ดินครางอย่างเจ็บช้ำ เจ็บกายที่โดนตีนกระทืบยังไม่เท่าหัวใจที่จวนเจียนจะ

ขาดเต็มที


           คำพูดเหล่านั้นยิ่งสร้างโทสะให้นายเหมือน เขาออกคำสั่งให้สมุนกุ้มรุมทำรายคนไม่มีทางสู้จนดินสลบ ลูกน้อง

มองหน้าเจ้านายเมื่อเห็นเหยื่อหมดทางต่อสู้ นายเหมือนมองร่างสลบไสลกลางสายฝนอย่างเหี้ยมโหด


           “หามมันไป ถัดจากริมตลิ่งไปสักร้อยหลามีเรือนเศรษฐีสร้างใหม่กำลังจะลงเสาเอกในรุ่งเช้านี้ กูจะเอามันไปโยน

ไว้ในหลุม ให้มันตายทั้งเป็นกลายเป็นผีเฝ้าเรือนไม่ได้ผุดได้เกิด”


           นายเหมือนลงแรงกระทืบไปที่ร่างกายอันไร้สติอย่างบ้าคลั่งเป็นการส่งท้าย


           “พ่อพุ่มจะไม่ได้เห็นหน้าไอ้ดินอีกต่อไป”





                         ----------------- เดี๋ยวมาต่ออีกครึ่งนึงนะจ๊ะ------------------------


           
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๑>> ๒๗/๐๓/๕๘ ๒๐.๑๕น
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-03-2015 20:21:59
 :fire:   ไอ้เหมือนมันเลวระยำจริงๆ. ยังตามมาเกิดได้อีกเหรอ
สงสารดินใจจิขาด.  :hao5: 

รอค่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๑>> ๒๗/๐๓/๕๘ ๒๐.๑๕น
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 27-03-2015 20:55:38
ไอ้เหมือนนนนนนน  :beat:

ชั่วมาก!!!!
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๑>> ๒๗/๐๓/๕๘ ๒๐.๑๕น
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 27-03-2015 21:12:33
ไอ้เลวววววว
เค้าไม่รักต้องทำร้ายขนาดนี้เลยยยย
สงสารดิน ต้องมาตายแบบนี้
ทำไมไอ้คนเลวๆอย่างไอ้เหมือนถึงได้มาเกิด

เกลียดดดด
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๑>> ๒๗/๐๓/๕๘ ๒๐.๑๕น
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 27-03-2015 21:29:06
เกลียดคนจำพวกนี้ เห็นแก่ตัว เลวระยำที่สุด
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๑>> ๒๗/๐๓/๕๘ ๒๐.๑๕น
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 27-03-2015 23:25:50
นี่เองเหตุเข้าใจผิดของดิน
วุธคงไม่ใช่เหมือนกลับชาติมาเกิดนะ มารความรัก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๑>> ๒๗/๐๓/๕๘ ๒๐.๑๕น
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 27-03-2015 23:31:13
ไอ้เหมือน ไอ้ชั่วเลวระยำจริงๆ

แกน่าจะตายแทน ดิน นะ คนเลวๆ แบบแกไม่น่าเกิดมาเลย

 :fire: :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๑>> ๒๗/๐๓/๕๘ ๒๐.๑๕น
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 27-03-2015 23:53:43
สงสารพ่อพุ่มกับนายดิน
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่ ๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-03-2015 00:07:09

                                                         วิญญาณเสน่หา

                                                            บทที่ ๗.๒


           “ไอ้วุธ ไอ้เหี้ย มึงทำอะไรดิน”


           ไตรภูมิตะโกนลั่นห้องเมื่อเห็นร่างกายไร้วิญญาณเลือนหายไปต่อหน้าต่อตา เขาผวาลุกนั่งพลางไขว่คว้าได้เพียง

อากาศธาตุและสบตาที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้าย ไตรภูมิหันขวับไปมองอาคันตุกะที่ไม่ได้รับเชิญด้วย

สีหน้าเจ็บช้ำก่อนจะก้าวลงจากเตียงและตรงดิ่งไปประเคนหมัดใส่อาวุธโดยไม่สนใจว่าตัวเองยังปราศจากเสื้อผ้าอาภรณ์

ห่อหุ้มกาย

           อาวุธหน้าหันไปตามแรงหมัดแต่เขาหาได้สนใจน้ำตาของไตรภูมิไม่ เมื่อหันหน้ากลับมาอาวุธกลับจ้องตาไตรภูมิ

อย่างมั่นใจว่าสิ่งที่เขากระทำลงไปนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง


           “กูกำลังทำให้มึงตาสว่างและหลุดพ้นจากผีห่าซาตานที่ครอบงำมึงอยู่ไงไตร มึงดูสภาพตัวเองสิว่าตอนนี้มัน

ทุเรศแค่ไหน”


           อาวุธพุ่งเข้าล็อคคอของไตรภูมิและลากให้เดินตามมาหยุดยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นเรือนร่าง

บอบบางเนื้อกายขาวผ่องที่ปรากฏรอยจ้ำสีแดงอยู่ทั่วทั้งตัวดวงตางดงามแดงเรื่อด้วยหยาดน้ำ ไตรภูมิสู้แรงไม่ไหว เขา

ได้แต่ฮึดฮัดสบตาอาวุธผ่านกระจก


           “เห็นตัวเองหรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป มึงกำลังสมสู่อยู่กับผี กูกำลังจะช่วยมึงให้หลุดพ้นจากความเลวระยำที่

ครอบงำมึงอยู่”


           “กูจะสมสู่กับดินก็เรื่องของกู” ไตรภูมิตวาดลั่น “ไม่มีอะไรมาครอบงำกูนอกจากความรัก กูรักดินไม่ได้รักมึง อย่า

หวังว่าทำแบบนี้แล้วกูจะยอมมึงเลยไอ้วุธ”


           อาวุธขบกรามกรอดท่อนแขนที่รัดอยู่ตรงลำคอขาวผ่องยิ่งออกแรงแน่นเข้าจนไตรภูมิแทบจะหายใจไม่ออกก่อน

จะล้วงบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกงยีนส์แล้วโปะเข้าที่ครึ่งปากครึ่งจมูกของไตรภูมิให้เขาสูดเอากลิ่นฉุนจัดเข้าไป

ดวงตาเรียวที่เบิกกว้างด้วยความตกใจค่อยๆหรี่ลงทีละนิดพร้อมกับสติของไตรภูมิที่น้อยลงเรื่อยๆ ไม่นานนักเขาก็หลับลง

ไปพร้อมกับอาวุธที่มองผ่านกระจกอย่างสาสมใจ อาวุธช้อนร่างหมดสติไปวางอยู่กลางเตียง แสงสว่างยามเช้าส่องผ่าน

หน้าต่างเข้ามาให้เขามองร่างเปลือยเปล่าอย่างหลงใหล


           “ถึงแม้ว่าตอนนี้กูจะเอามึงได้โดยที่มึงไม่มีทางขัดขวาง แต่กูจะยังไม่ทำอะไรมึงหรอกไตร”


           อาวุธลูบไล้ไปตามร่างกายของไตรภูมิอย่างกระหาย


           “ไม่ใช่ว่ากูจะปล่อยมึงไปหรอก แต่กูอยากจะให้มึงได้เปรียบเทียบรสชาติระหว่างกูกับไอ้ผีเหี้ยนั่นว่าใครจะเอามึง

ได้ถึงใจกว่ากัน”


           มุมปากของอาวุธถูกจุดยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ


           “หลังจากที่กูปราบไอ้ผีดินผัวของมึงลงได้ด้วยของดีที่กูได้มา มึงจะต้องตกเป็นเมียกูไอ้เพื่อนรัก”










           เมื่อไตรภูมิรู้สึกตัวอีกครั้งร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความเมื่อยขบ เปลือกตากระพริบถี่สำรวจตนเองจึงได้เห็นว่า

เขานอนตะแคงอยู่บนเตียง อาวุธใส่เสื้อผ้าให้เขาอย่างลวกๆ ข้อมือทั้งสองถูกมัดไพล่หลังติดกันอยู่ ไตรภูมิดันตนเองให้

ลุกนั่งอย่างยากเย็น เขาเห็นแผ่นหลังของอาวุธที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงหน้าต่าง

           อาวุธหันขวับมาอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงไตรภูมิขยับตัว ดวงตาของเขาบอกถึงความรักความหลงที่มีต่อ

ไตรภูมิอย่างไม่บิดบังในขณะที่เดินเข้ามาทรุดนั่งลงตรงหน้าแล้วยกมือขึ้นมาบีบปลายคางให้ไตรภูมิสบตากับเขา


           “กูรอมึงตื่นอยู่นานแล้ว ได้เวลาเหมาะเจาะพอดี”


           ไตรภูมิสะบัดหน้าหนี เขาหันไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่มันบอกให้รู้ว่าเขาหลับไปทั้งวันจนกระทั่งตอนนี้ที่ได้เวลา

พลบค่ำ แสงจากดวงอาทิตย์หายลับไปกับขอบฟ้าทิ้งไว้เพียงความมืดที่เข้ามาปกคลุมบรรยากาศอีกครั้ง


           “มึงจะทำเหี้ยอะไรไอ้วุธ”


           “ไม่น่าถามนะ กูก็จะปราบผีผัวมึงอะดิ”


           “ถ้ามึงทำกูจะฆ่ามึง” ไตรภูมิตะโกนใส่หน้าพร้อมกับดิ้นรนสะบัดข้อมือไปมา อาวุธผลักให้เขาหงายหลังลงไปอีก

ครั้งพร้อมทั้งโถมกายมานอนทับไว้


           “กูคงจะปล่อยให้มึงฆ่ากูหรอกนะ หึหึ มึงจะฆ่ากูก็ได้แต่ต้องหลังจากที่มึงกลายเป็นเมียกูก่อน”


           “ปล่อยกู ดิน ช่วยด้วย ดิน”


           อาวุธใช้มือผลักหน้าจนศีรษะของไตรภูมิจมไปกับที่นอน


           “คิดว่ามันจะช่วยมึงได้งั้นสิ แหกตาดูที่คอมึงก่อนแล้วมึงจะรู้ว่าคิดผิด”


           ไตรภูมิรีบเหลือบตามอง เขาเห็นพระเครื่องขนาดเขื่องคล้องอยู่ที่คอของเขา


           “ไอ้วุธ ไอ้เหี้ย”


           “ขอบใจ กูเหี้ยได้มากกว่านี้อีกเพราะกูจะเอามึงให้ผัวผีของมึงดูเป็นขวัญตา เฮ้ย ไอ้ดิน มึงโผล่ออกมาจากภพ

ภูมิของมึงเดี๋ยวนี้”


           เสียงท้าทายดังก้องทั่วห้องนอนก่อนกลุ่มควันบางเบาจะปรากฏอยู่มุมหนึ่ง มันรวมตัวกันจนเกิดเป็นรูปร่างยืน

จังก้าสบตากับอาวุธอย่างชิงชัง


           “ไอ้เหมือน” เสียงเรียกด้วยความแค้นของดินทำให้ไตรภูมิตกใจ


           อาวุธคือนายเหมือนเมื่อชาติที่แล้ว คนที่ขัดขวางความรักจนพุ่มและดินต้องแยกจากกันและยังตามมาจนเมื่อ

ไตรภูมิได้มาเกิดอีกครั้ง


           “เรียกเหี้ยอะไร กูไม่ได้ชื่อเหมือน กูชื่ออาวุธ คนที่จะทำลายมึงให้สิ้นซาก” อาวุธตวาด เขาเริ่มขาดสติเพราะ

ความโกรธแค้นครอบงำจิตใจ  “มาก็ดี มึงจะได้ยืนมองกูเอากับไอ้ไตรเมียของมึงไงล่ะ”


           อาวุธกระชากเสื้อผ้าของไตรภูมิจนขาดวิ่นก่อนจะทุ่มแรงเข้าทาบทับร่างที่ดิ้นรนขัดขืน ดินตะโกนลั่นก่อนพุ่งร่าง

ไร้วิญญาณเข้าหาหวังจะช่วยเหลือแต่เมื่อเข้าใกล้ร่างทั้งสองที่กำลังพัลวันกันอยู่ รัศมีสว่างวาบก็พุ่งมาจากกรอบพระที่

คล้องคอไตรภูมิ แสงนั้นบาดลึกเข้าไปจนดินแสบร้อนไปหมดทั้งตัว เสียงร้องโหยหวนของดินทำให้อาวุธได้ใจหนักขึ้น


           “สะใจกูจริงโว้ย ทำอะไรกูไม่ได้ใช่ไหม ช่วยเมียมึงไม่ได้ใช่ไหม ดีล่ะ งั้นก็ยืนมองกูขึ้นสวรรค์กับเมียมึงเถอะ”


           ไตรภูมิกัดฟันด้วยความเจ็บใจ ห่วงทั้งดินและห่วงตนเองที่ต้องกลายเป็นคนแปดเปื้อนราคีเพราะอาวุธ น้ำตาไหล

รินเป็นทางเมื่อรู้ว่าเขากำลังหมดแรงที่จะต่อสู้ อาวุธกำลังบ้าคลั่งมากขึ้นทุกที ต้นขาของเขาถูกอ้ากว้างไตรภูมิไม่มีแรง

อีกต่อไปเมื่ออาวุธเตรียมดันกายเข้าหา เขาหลับตาลงเพราะไม่ต้องการรับรู้ความเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น


           “เฮ้ย!”


           เสียงร้องอย่างตกใจพร้อมน้ำหนักตัวที่ปลิวหายไปจากตัวทำให้ไตรภูมิต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขามอง

เหตุการณ์อย่างตื่นเต้นเมื่อดินกระชากอาวุธจนลอยละลิ่วแล้วสู้กับอาวุธจนล้มกลิ้งกันไปทั้งคู่ ก้นบุหรี่ที่ยังไม่มอดสนิท

ร่วงลงจากขอบหน้าต่างที่อาวุธวางทิ้งไว้ ไฟของมันกระเด็นไปติดเข้ากับผ้าปูโต๊ะจนไฟเริ่มลุกขึ้นมากลายเป็นเปลวร้อน

ลามเป็นวงกว้าง





                        ------------ ------------- โปรดติดตามตอนต่อไป--------------------------




                         ขออภัยบทที่ไม่มีเลิฟซีนเพราะจะดำเนินเรื่องไปสู่ตอนจบในบทหน้าค่ะ

                                     :z13:   :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 28-03-2015 00:13:26
ว่าแล้วต้องเป็นไอ้เหมือน  :katai4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 28-03-2015 00:17:47
สงสารดิน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 28-03-2015 00:50:42
เฮ่ยยยย ไฟไหม้ๆๆๆๆ ซวนแล้วไตรภูมิเอ๋ยแล้วจะหนียังไง :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 28-03-2015 01:15:58
ดินจะหายไปใช่ไหม ฮือออ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Sasima ที่ 28-03-2015 03:01:12
ดิน อย่าหายไปนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 28-03-2015 04:24:44
บีบหัวใจดีแท่
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 28-03-2015 07:02:13
บ้านไหม้ดินจะไปเกิดได้ใช่มั้ย
แล้วไตรล่ะ

ไอ้เหมือนไอ้เลว เกลียดคนแบบนี้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 28-03-2015 07:10:54
เลวจริงๆ ไอ้เหมือน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-03-2015 07:43:30
โอย จะจบแล้วเหรอ
เอาล่ะสิไฟไหม้คราวนี้จะตายกันหมดหรือเปล่า.  เดาตอนจบไม่ออกจริงๆ. รีบมานะคะ.  :katai1: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: pedgampong ที่ 28-03-2015 10:33:21
 :hao5: สงสารดินแอร้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เกลียดแกอีเหมือนตายแล้วยังตามมาเป็นเพื่อนในชาตินี้อี๊กกกก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 29-03-2015 16:33:52
จะมีอะไรมาช่วยดินกับไตรได้ไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 30-03-2015 19:01:07
ตายกันให้หมดเลยไหม@@@@___@@@

สงสารใครดี แต่ละคนน

เราก็เหนใจคุณอาวุดนะ แต่เดี๋ยวอาวุดไหม้พอดี 55
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 30-03-2015 19:17:21
ลุ้นค่ะลุ้น~

 :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-03-2015 20:23:42
ลุ้นนนน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 30-03-2015 20:35:00
ดินจะไปแล้วใช่ไหม  :katai1:

หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 30-03-2015 20:51:37
ดินนนนนนน  :katai1:

อยากรู้ว่าดินต้องการอะไรจากไตร ทำไมติดอยู่ไม่ไปไหน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 03-04-2015 00:22:28
สงสัยว่าอาวุธคงจะไม่รอดล่ะมั้ง
เดาว่าดินจะคืนชีพโดยใช้ร่างของอาวุธเป็นเครื่องสังเวย
อารมณ์บูชายันอะไรงี้ อาวุธก็ต้องกลายเป็นผีไป
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๗.๒>> ๒๘/๐๓/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 06-04-2015 20:37:06

แอร๊ยยยย ค้างงงง!!  :ling1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-04-2015 13:58:10

                                                        วิญญาณเสน่หา

                                                              บทที่ ๘
 

              ร่างไร้วิญญาณเงื้อมือขึ้นต่อยหน้าของอาวุธเต็มกำลังอาวุธล้มลงก้นจ้ำเบ้า ไฟรักและไฟโทสะเข้าบดบัง

ดวงตาของอาวุธจนขาดสติไปแล้ว เขารีบลุกขึ้นเหยียดกายแล้วชี้หน้าดินด้วยความอาฆาต


                “กูจะปราบมึงให้ได้ไอ้ดิน”


               มือล้วงลึกเข้าไปในกระเป๋ากางเกงคว้าขวดพลาสติกขวดเล็กบรรจุน้ำมนต์ที่ได้มาจากเกจิอาจารย์ขื่อดังแล้ว

เปิดฝาขวดสาดใส่อมนุษย์จนร่างเริ่มจางหาย


               “ดิน ไม่นะ”


               ทั้งที่มือทั้งสองยังถูกพันธนาการไว้แต่ไตรภูมิใช้พลังเฮือกสุดท้ายกระชากจนเชือกขาดแม้ว่ามันจะทำให้ข้อ

มือของเขาเกิดรอยบาดแผลจนเลือดไหลซึม เขาพุ่งตัวไปกระแทกอาวุธที่กำลังจะใช้ผ้ายันต์จัดการขั้นสุดท้ายกับดินจน

เซล้มไปกับพื้น

          กลิ่นไฟติดผ้าลามไปที่ตัวบ้านเริ่มคละคลุ้ง เปลวเพลิงสีแดงฉานลามเลียเรือนไม้เก่าอย่างรวดเร็วด้วยแรงลมพายุ

ควันสีดำลูกใหญ่ลอยทะมึนไปบนท้องฟ้า เสียงไซเรนรถดับเพลิงดัวแว่วมาอยู่ไกลๆ


               “ไอ้ไตร มึงรักมันมากใช่ไหม”  อาวุธแค้นจนแทบกระอักเลือด “รักกันมากก็ตายไปพร้อมกับมันเถอะ”


               อาวุธเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ไตรภูมิ มีดสปริงอันเล็กที่เหน็บอยู่ตรงเอวถูกดึงออกมาแล้วใช้ร่างกายที่ใหญ่โต

ว่าโถมเข้าหากดร่างบอบบางของไตรภูมิให้หงายหลังกระแทกพื้นก่อนที่อาวุธจะตามมาใช้ปลายมีดจ่อเข้ากับคอของ

ไตรภูมิ

                แต่ยังไม่ทันจะกดน้ำหนักมือลงไปอาวุธก็ถูกเตะงัดเข้าตรงปลายคางพอดิบพอดีจนร่วงลงไปกองกับพื้นด้วย

หน้าแข้งของดินที่รวบรวมพลังงานขึ้นมาได้อีกครั้ง ดินก้าวไปนั่งคร่อมอยู่ที่หน้าอกของอาวุธแล้วใช้กำปั้นประเคนลงบน

ใบหน้าของอาวุธไม่ยั้งมือ


               “ดิน ดิน พอเถอะ”


               กลายเป็นไตรภูมิที่ต้องยั้งดินไว้ ท่อนแขนแกร่งของดินถูกไตรภูมิหยุดยั้งเมื่อเห็นอาวุธนอนหมอบกระแตไร้

ทางสู้


               “แต่มันฆ่ากระผม มันทำให้กระผมกลายเป็นผีคุณพุ่มยังจะให้ผมไว้ชีวิตมันหรือขอรับ”


               ดินตะโกนด้วยไฟแค้นที่สุมอยู่ในอก ดวงตาแดงจัดจนไตรภูมิต้องกอดไหล่กว้างนั้นไว้


               “ถ้าดินฆ่ามัน บาปจะติดตัวดินไปอีก เชื่อผมเถอะนะอย่างจองเวรกันอีกเลย ตอนนี้ไฟลามมากขึ้นแล้ว ช่วยผม

หาทางออกไปจากที่นี่ดีกว่า”


               ราวกับน้ำเย็นมาชโลมกาย ไอ้ดินได้สติเพราะคำเตือน เมื่อมันหันไปมองโดยรอบก็เห็นจริงตามคำกล่าวของ

ไตรภูมิ ตอนนี้เปลวไฟได้ลุกลามมาถึงเตียงนอนที่ยิ่งกลายเป็นเชื้อไฟอย่างดี ไอร้อนแผดมาถึงไตรภูมิกับเขาที่ยืนอยู่ตรง

ที่ว่างหน้าประตู


               ดินคว้าท่อนแขนของไตรภูมิเตรียมจะนำทางให้ แต่ขณะที่กำลังจะก้าวเดินข้อเท้าของไตรภูมิก็ถูกกระชากไว้

ด้วยมือของอาวุธจนล้มลงไปกับพื้น


               “คุณพุ่ม ระวัง”


              “จะหนีกูไปไหน ไอ้ไตร”


               มือเหนียวยิ่งกว่าตุ๊กแกแม้ว่าไตรภูมิจะใช้ฝ่าเท้าอีกข้างถีบไม่ยั้ง อาวุธกระโจนเข้าทับไว้ไอ้ดินพยายามจะ

เข้าไปช่วยแต่พลังงานของมันใกล้จะหมดเต็มที  ไตรภูมิสมองหมุนติ้วคิดหาทางรอด เขามองขึ้นไปบนเพดานให้คาน

บ้านไหม้ไฟใกล้จะตกลงมาทุกที เขาใช้มือทั้งสองจับหัวอาวุธไว้แน่นก่อนจะใช้หน้าผากตัวเองโขกใส่อาวุธจนตาลอย

               ไตรภูมิผลักอาวุธด้วยแรงเท่าที่มีจนอาวุธกระเด็นออกไปจังหวะเดียวกับที่คานติดไฟร่วงลงมาทับร่างกายของ

อาวุธไว้จนขยับไม่ได้


               “อ๊ากสสสสส”


               “คุณพุ่ม หนีเร็ว”


               ดินตะโกนเตือนสติ ไตรภูมิได้แต่มองอาวุธที่ถูกทับไว้ด้วยไม้คานท่อนใหญ่ เปลวไฟเผาไหมลามไปทั้งตัวจน

ดิ้นพล่านอย่างตัดใจแล้วจึงลุกขึ้นก้าวออกจากห้องด้วยการนำทางของดิน
               



               ไตรภูมิมาหยุดยืนหอบอยู่ที่ริมคลองที่เขาเคยมาเล่นน้ำกับเพื่อนๆ ลมพายุพัดโหมจนแสงสีแดงของเปลว

ไฟฉายฉานกลางความมืดมิด เสียงไซเรนรถดับเพลิงกรีดร้องอยู่ในความรู้สึกมันทำให้เขาหมดแรงจนเข่าทรุดอยู่ใต้

ต้นไทรที่ช่วยบังละอองฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมา


               “คุณพุ่มเป็นกระไรมากหรือไม่ขอรับ โธ่ คุณพุ่มของไอ้ดิน”


               ไอ้ดินทรุดตัวลงใกล้ๆ ใช้มือใหญ่ของมันลูบไล้ไปตามกรอบหน้างดงามนั้น ไตรภูมิส่ายหน้าพลางฝืนยิ้มให้ดิน


               “ไม่เป็นไรแล้วครับดิน ผมปลอดภัยดี แต่ว่าบ้านถูกไฟไหม้ไปแล้วดินก็ไม่ต้องกลายเป็นผีเฝ้าบ้านแล้วใช่

ไหม”


               ใบหน้าคมเข้มอย่างชายไทยหน้าเศร้าลงฉับพลันจนไตรภูมิใจหาย


               “ดิน มีอะไรปิดบังผมอีกงั้นหรือ”


               “ที่กระผมยังไปเกิดใหม่ไม่ได้ เพราะกระผมยังติดอยู่ในความสงสัยประการเดียว มีเพียงคุณพุ่มที่จะคลี่คลาย

ได้”


               “อะไรหรือครับดิน”


               ดินเงยหน้าสบตาไตรภูมิด้วยความสงสัยแกมเจ็บช้ำ


               “ในคืนวันนั้น คุณพุ่มได้มาหากระผมที่นี่ ณ ริมแม่น้ำแห่งนี้ตามสัญญาของเราหรือไม่ขอรับ”


               “โธ่ ดิน” ไตรภูมิน้ำตาไหลพราก เขาคว้ามือดินมากุมและเบียดกายเข้าหาร่างเย็นเยียบ


               “แค่นี้เองหรือครับที่ทำให้ดินต้องติดอยู่ในภพแห่งวิญญาณ ต้นเหตุเป็นเพราะผมงั้นหรือ ผมขอโทษ”







                เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งตะวันก็แจ้งแก่ตาจนแดดจ้าแล้ว พุ่มผวาลุกขึ้นจึงได้รู้ว่าตนนั้นนอนอยู่บนเตียงในห้อง

หอโดยมีแม่ละมัยนั่งหน้าบึ้งอยู่บนตั่ง เขาทำท่าจะก้าวออกจากห้องหอนั้นแม่ละมัยรีบก้าวมาดึงแขนเขาไว้


              “คุณพี่จะออกไปไหนหรือคะ นี่หนีงานเข้าหอแล้วยังจะหนีหน้าน้องอีกหรือ”


              “แม่ละมัย” พุ่มหันกลับมาเผชิญหน้าดวงตาแดงก่ำ


              “ฉันคงได้แต่ขอโทษแม่ละมัยที่ประพฤติตัวเลวทรามให้แม่ละมัยถูกติฉินนินทาตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน แต่ฉัน

ขอกล่าวกับแม่ละมัยตรงๆว่าฉันมิได้คิดสมัครรักใคร่ในตัวแม่ละมัยแม้แต่น้อย”

              “ไม่รักน้อง แต่เราแต่งงานกันแล้วนะคะ อยู่ๆกันไปคุณพี่ก็คงจะผูกพันรักในตัวน้องบ้าง”

                พุ่มเองก็นึกสงสารแม่ละมัยไม่น้อย เหตุที่เกิดขึ้นมิใช่ความผิดของแม่ละมัยเลย พุ่มได้แต่กุมมือแม่ละมัย

ภรรยาเพียงวันเดียวด้วยความเห็นใจ

                 “ถึงแม้เราอยู่กันไปก็คงหาความสุขมิได้ เพราะฉันมิใช่ชายทั่วไปที่จะให้ความสุขแก่ภรรยาดอกแม่ละมัย”   

                แม่ละมัยผงะหน้าซีดเผือด


                “คุณพี่หมายความว่ากระไร น้องมิเข้าใจ”


                  พุ่มกัดฟันแน่น แต่เขาไม่อยากทำให้แม่ละมัยเสียใจไปมากกว่านี้ เสียใจเพียงครั้งเดียวก็คงจะเพียงพอ   


               “หมายความว่าฉันเป็นผู้ชายที่มีผัวแล้วน่ะสิ อภัยให้ฉันเถิดนะแม่ละมัย”


                   พุ่มไม่สนใจเสียงกรีดร้องโหยหวนของแม่ละมัยอีก เขามุ่งหน้าไปยังคุ้งน้ำโดยไม่มีใครกางกั้นได้อีก แต่

สิ่งที่พบกลับไม่มีแม้แต่เงาของดิน พุ่มทรุดตัวร้องไห้อยู่ตรงใต้ต้นไทร


                “เจ้าพ่อต้นไทรเป็นพยาน ข้าจะไม่รักใครอีกแล้วนอกจากดิน”


               ร่างบอบบางเดินโซซัดโซเซจนกระทั่งถึงยังวัดที่พุ่มทำงานเขียนลายอุโบสถไว้ เขาเข้าไปทรุดตัวหมอบกราบ

อยู่หน้าพระประธาน


               “ลูกขอใช้ร่มพระพุทธคุณเป็นที่พึ่ง เพื่อให้จิตใจของลูกสงบร่มเย็นด้วยเทอญ”

 





              “คุณพุ่มบวชเป็นพระหรือขอรับ”


               ดินถามย้ำพลางกดกระหม่อมให้ไตรภูมิแนบอยู่กับอก


               “บวชตลอดชีวิต ผมอุทิศตนให้กับศาสนาและศิลปะไม่สึกอีกเลย”


               “คุณพุ่ม ช่างมีบุญนัก”


               “ผมอยากจะให้บุญของผมส่งถึงดินบ้าง ทั้งที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าดินหายไปไหน”


               ดินดึงไหล่ไตรภูมิออกแล้วเลื่อนมือมาประคองใบหน้าเปียกชื้นละอองฝนมาจูบแผ่วเบา ไตรภูมิเงยหน้ารับซ้ำ

ยังคล้องแขนไปรอบคอเหนี่ยวให้ร่างของดินล้มกายตามมาทาบทับเขาที่เอนกายไปบนพื้นดินเปียก ไตรภูมิเป็นฝ่าย

เปลื้องเสื้อผ้าตนเองออกจนหมด


               “บอกรักกับผมอีกสักครั้งได้ไหมครับดิน ให้ความรักของเราได้ติดอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป”


               ไม่มีคำปฏิเสธจากร่างไร้วิญญาณแต่เต็มไปด้วยความรัก เมื่อเขาปรนจูบไปทั่วร่างกายขาวโพลนที่นอนทอด

กายท่ามกลางดินโคลนและห่าฝนที่เทลงมาจนน้ำในคลองกระจายเป็นวงกว้าง มือเย็นลูบไล้หนักหน่วงกลับสร้างความ

ร้อนระอุอยู่ในอารมณ์แห่งรักของมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ


               “ดิน ดินของผม”


               ไตรภูมิผวาเบียดกายเข้าหา เนื้อตัวของเขาถูกลูบไล้ไปทุกสัดส่วนด้วยปากด้วยลิ้นด้วยมือของดิน ที่ทั้ง

ทะนุถนอมแต่ก็ปรนเปรอสวาทแทบขาดใจ ไตรภูมิพาดขาไปบนไหล่กว้างเปิดทางให้ดินได้สัมผัสช่องทางรัก ดินโน้ม

กายลงไปดึงแก่นกายงดงามกลืนกินจนหมด นิ้วใหญ่สอดลึกเปิดทางไปพร้อมกันจนไตรภูมิแอ่นกายดิ้นพล่านไปกับดิน

โคลน


               “คุณพุ่มของไอ้ดิน ไอ้ดินจะไม่รักใครอีกแล้ว”


               “อ๊า ดิน”


               ไตรภูมิผวาเมื่อเขาปลดปล่อยออกมาปนเปื้อนไปกับสายฝน ไอ้ดินไม่รอช้ามันสวนกายอัดท่อนเนื้อเข้าหาจน

ไตรภูมิแทบสำลักความสุข


               “ดิน ดินจ๋า ผมเองก็รักดิน”


               ไตรภูมิยกตัวขึ้นกดแผ่นอกกำยำไว้แน่น เป็นฝ่ายใช้ปลายลิ้นกระดกรัวอยู่ที่ยอดอกสีคล้ำของดิน ร่างไร้

วิญญาณเงยหน้าครางลั่นก่อนจะกระแทกกายเข้าหาจนเสียงดัง


               “ฮึก ฮึก อ๊า ดิน ผมจะไม่มีใครนอกจากดิน”


               ไตรภูมิเด้งเอวรับ มือเรียวดึงไปหน้าคมเข้มเข้ามาจูบ ปลายลิ้นยิ่งเกี่ยวกระหวัดรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก

ไตรภูมิเกร็งกล้ามเนื้อเมื่อร่างกายของเขากำลังบีบคั้นครั้งสุดท้าย


               “อ๊า ดินนนนนน”


               “โอ คุณพุ่มมมมม”


               ดินเกร็งกายแช่ค้าง เขามองสบตาไตรภูมิแล้วกดจูบแผ่วเบาที่หน้าผากเกลี้ยง


               “ลาก่อน คุณพุ่มของไอ้ดิน”


               ร่างกายที่ไตรภูมิกอดก่ายไว้จางหายลงทีละน้อย ไตรภูมิที่ยังหอบหายใจถี่เร็วร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นร่างของ

ดินค่อยๆลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าท่ามกลางสายฝนที่ยังโปรยปรายก่อนเลือนหายไปในที่สุด
       






มีต่ออีกนิด...

หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-04-2015 14:07:19
ต่อกันตรงนี้จ้า....




18ปีผ่านไป






               “สายจนได้นะเรา”


               ไตรภูมิในวัยหนุ่มใหญ่บ่นกับตนเองในขณะที่เดินขึ้นอาคารเรียน วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกที่ต้องสอนใน

วิชาที่รับผิดชอบอยู่

               เหตุการณ์เมื่อสิบแปดปีที่ผ่านมาเป็นเรื่องดังอยู่ในสังคมพักใหญ่ เมื่อบ้านทรงไทยโบราณไฟไหม้จนไม่เหลือ

เค้า เจ้าหน้าที่พบศพชายคนหนึ่งแต่ไม่ใช่เจ้าของบ้าน ไตรภูมิให้การว่าอาวุธมาเที่ยวที่บ้านและหนีออกมาไม่ทันเมื่อไฟ

ไหม้

               และเมื่อรื้อถอนซากออกไปกลับพบโครงกระดูกที่ไม่สามารถระบุว่าเป็นใครอยู่ใต้เสาบ้านต้นหนึ่ง เมื่อไตรภูมิ

ได้เห็นเขาก็ร้องไห้ออกมาและนำโครงกระดูกนั้นไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้

               ไตรภูมิกลับมามีชีวิตปกติ เขากลับมาอยู่ที่คอนโดมิเนียม เรียนหนังสือ วาดรูป ทำบุญ จนกระทั่งเรียนจบ

ปริญญาโทไตรภูมิจึงได้มาเป็นอาจารย์สอนคณะสถาปัตยกรรมในวิชาวาดรูป

               ไตรภูมิเป็นอาจารย์วัยใกล้สี่สิบที่ยังดูดี และเขาไม่มีคนรัก

               ไตรภูมิรู้ รู้ว่าเขาคงรักใครไม่ได้อีกแล้ว ในเมื่อความรักของเขามีเพียงชายไทยใบหน้าคมที่มักจะมองเขาอย่าง

เทิดทูน


               “คุณพุ่มของไอ้ดิน”


               วลีนั้นยังอยู่ในใจจนไม่อาจรักใครได้อีก แม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะผ่านมาสองชาติภพแล้วก็ตาม


               ร่างสูงเพรียวของไตรภูมิแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีอ่อนกับกางเกงยีนส์ตัวเก่งก้าวไปยืนบนเวที ด้านข้างมีโต๊ะ

สำหรับวางเครื่องฉาย เบื้องหน้าของเขาเป็นเหล่านักศึกษาปีหนึ่งที่นั่งกระจายตัวอยู่บนเก้าอี้เรียนที่เรียงตัวสูงขึ้นไป เขา

คว้าไมโครโฟนขึ้นมาใกล้ปาก


               “สวัสดีครับนักศึกษา โทษทีที่อาจารย์มาช้าไปหน่อย แต่คงจะไม่ช้าเกินกว่าเราจะรู้จักกันในคาบเรียนแรกใช่

ไหม”


               ใบหน้าอ่อนเยาว์กว่าวัยแจกรอยยิ้มไปรอบๆจนนักศึกษาสาวทำตาปรอย


               “วันแรกขอเช็คชื่อเพื่อเราจะได้รู้จักกันนะ ต่อไปก็ไม่เช็คแล้วล่ะ ใครอยากเห็นหน้าอาจารย์ก็มาทุกคาบก็แล้ว

กัน”


               ไตรภูมิก้มหน้าอ่านรายชื่อและให้นักศึกษายกมือรับทีละคน เขายิ้มรับให้นักศึกษาทุกคนจนกระทั่งถึงชื่อหนึ่ง


               “ปฐพี”


               ........


               ไมโครโฟนร่วงหล่นจากมือ เมื่อไตรภูมิมองเห็นนักศึกษาชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหลังแถวบน

               หัวใจของอาจารย์หนุ่มเต้นโครมครามเมื่อเงยหน้าขึ้นไปสบตา

               จนกระทั่งเสียงไมโครโฟนที่กลิ้งอยู่กับพื้นส่งเสียงหวิดหวิวไตรภูมิเพิ่งจะได้สติ เขาก้มลงเก็บมันทั้งที่มือสั่น

สะท้าน ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นไปมองดวงตาคมวาวคู่นั้นอีกครั้ง
               

               น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อสบตา



               ก็นั่นน่ะ มันดวงตาของดินชัดๆ!
               



             ------------------------------------จบแล้วจ้า -------------------------------



พื้นที่โฆษณา

สำหรับใครที่ยังสนใจ X-theme the series

ฉบับแรก ตอนนี้มีขายใน mebmarket

มีลิงค์อยู่ในแฟนเพจ ปักหมุดรอไว้แล้ว

ขอบคุณค่ะ

                                            :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:






                                    เรื่องต่อไปเป้นแนว อินดี้ ไซ-ไฟ ผู้ชายท้องได้ นะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-04-2015 14:12:37
 :o12:   ปฐพีนี่นี้คือดินที่รัก

ขอตอนพิเศษได้ไหมคะ โอ๊ย ช่างเป็นคนอ่านที่โลภมากจริงๆ เห็นเมะอ่อนกว่าเป็นไม่ได้เลย จะรื้อฟื้นความทรงจำหรือจะสร้างประสบการ์ใหม่ก็ได้ค่ะ ไม่เกี่ยงๆ แต่ว่าเป็นศิษย์กับครูเชียวนะ ดีนะที่ดินอายุคงครบ 18 แล้ว เกิดใหม่ทันใจดีแท้

ขอขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายรักซึ้งตรึงใจอีกเรื่องนะคะ 

  :man1:  คุณพุ่มของไอ้ดิน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 08-04-2015 15:08:09
ขออีกนิดได้มั้ยยยย ไหนๆก็มาเจอกันอีกครั้ง ของอีกนิดเถ้ออออออ อยากรู้ว่าดินจะลืมหรือเกิดมาพร้อมความทรงจำ กรี้ดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 08-04-2015 16:06:11
ในที่สุดดินก็ได้ปลดปล่อยจากบ่วงความรักที่เฝ้ารอมานาน

คุณพุ่งของบ่าว ไอ้ดินของอิฉัน ได้โปรด ขออีกสักตอน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 08-04-2015 16:45:09

ขออีกนิด เถอะค่ะ T/////////////////T
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 08-04-2015 17:25:57
ขออีกนิดได้มิคะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-04-2015 17:33:20
ต่ออีกนิดนึงน๊าาา
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-04-2015 18:21:44
ขออีกนิดเถอะ เด็กหนุ่มเอ๊าะๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 08-04-2015 18:23:58
 :hao5:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 08-04-2015 18:25:03
อย่าใจร้ายกับคนอ่านเลยนะคะ
กราบขอตอนพิเศษ
มันห้วนไปนิด
อยากรู้ว่าปฐพีมีความทรงจะของดินติดมาหรือเปล่า?
เป็นดินกลับชาติมาเกิดหรือว่าหน้าตาเหมือนเฉยๆ
ไตรภูมิเป็นอาจารย์หนุ่มใหญ่แล้วจะเริ่มเต๊าะเด็กยังไงเนี่ย?
ถ้าโดนเด็กเกี้ยวก็ว่าไปอีกอย่างนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 08-04-2015 18:28:06
โอ้ยยยยยยย ค้างมาก ขอตอนพิเศษเถิด ฮือออออออ
อยากรู้ว่าจะจำกันได้มั้ย จะกลับมารักกันได้รึเปล่า หรือจะรักใหม่อีกครั้ง แง้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 08-04-2015 19:32:54
แล้วเขาก็กลับมาเจอกัน~
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 08-04-2015 19:43:25
 :mew2: พลีสสสสส ขอต่ออีกนิดนะคะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 08-04-2015 20:02:35
ขอตอนพิเศษด่วนนนนนนนน :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 08-04-2015 20:23:44
ในที่สุดดินก็ได้ไปเกิด
และได้กลับมาเจอคุณพุ่มอีกครั้ง
ดีใจจังง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 08-04-2015 20:29:54
ขอตอนพิเศษได้ไหมมมมมมมมม ความรู้สึกบอกว่าขอต่อหน่อยเถอะนะ มันยังไม่พ้ออออ
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 09-04-2015 02:53:45
ตอนพิเศษษษ :sad4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 09-04-2015 11:27:44
ขอตอนพิเศษอีกนิดได้มั้ยอ่ะ

ในที่สุดก็ได้กลับมาเจอกันอีก หวังว่าทั้งสองคนจะได้อยู่ด้วยกันนานๆ นะ

หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทที่๘>> ๐๘/๐๔/๕๘ จบตอนแล้วซิ
เริ่มหัวข้อโดย: tantaku ที่ 10-04-2015 13:03:21
ซาบซึ้ง อ่มเอมใจ :m1:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทจบพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 10-04-2015 20:37:23


นิดเดียวจริงๆนะ คริคริ




                                                                   วิญญาณเสน่หา

                                                                         บทจบ


               ไตรภูมิจบการสอนในคาบเรียนแรกตั้งแต่ยังไม่หมดชั่วโมงด้วยซ้ำ บอกตรงๆว่าเขาไม่มีสมาธิกับการสอนเอา

เสียเลย ในเมื่อคอยแต่จะหันไปสบตากับดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองมายังเขาไม่วางตาเช่นกัน

               นักศึกษาทยอยออกจากห้องกันไปหมดแล้ว เหลือเพียงร่างสูงของนักศึกษาที่ชื่อปฐพีที่ยังคงนั่งนิ่งและลุก

ขึ้นยืนเป็นคนสุดท้าย ไตรภูมิหายใจขัดไปหมดเมื่อเด็กหนุ่มเดินลงมาจากแถวที่นั่งบนชั้นสูงแล้วก้าวตรงมายังเขาช้าๆ

               รูปร่างสูงโปร่งไว้ผมทรงสั้นอย่างเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะพ้นจากการไว้ผมเกรียนมาหมาดๆ คิ้วเข้มดกดำพาดอยู่

เหนือดวงตาคมที่ทำให้ไตรภูมิใจสั่นขณะที่ยังจ้องมาทางเขา จมูกโด่งรั้นนิดๆอย่างราวกับเป็นคุณชายน้อยที่ทุกอย่าง

ต้องได้ดั่งใจ หูข้างหนึ่งใส่ต่างหูสีเงินแวววาว

                ไตรภูมิกัดริมฝีปากตนเองไว้เมื่อกลายเป็นว่าเขาควบคุมตนเองไม่ได้เลย หัวใจของเขาเต้นโครมครามจนแทบ

จะหลุดออกมา เขาเบนสายตาหลบจากดวงตาคมคู่นั้นพลางเสไปเก็บตำราหอบใหญ่บนโต๊ะ


               “โอ๊ย บ้าจริง”


               สบถอย่างไม่ได้ดังใจเมื่อมือพลาดกลายเป็นทำหนังสือหลายเล่มร่วงลงจากโต๊ะ อาจารย์หนุ่มทรุดตัวลงไป

เพื่อจะเก็บหนังสือเหล่านั้น


               “ผมช่วยครับ”


               เสียงนุ่มดังอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับก้มตัวลงมาช่วยเก็บ ไตรภูมิชะงักเมื่อมือข้างหนึ่งที่หยิบหนังสือขึ้นมากลับถูก

สัมผัสจากปลายนิ้วของหนุ่มน้อย

               ชายหนุ่มที่ผ่านเรื่องราวต่างๆมาจนอายุเกือบสี่สิบกลั้นเสียงสะอื้น ขอบตาร้อนผ่าวไปหมดเมื่อรู้สึกถึงไออุ่น

จากปลายนิ้ว ไตรภูมิสัมผัสได้ถึงความมีเลือดเนื้อเหล่านั้น เสียงของหัวใจที่เต้นอยู่ในทรวงอกที่ซ่อนอยู่ในชุดนักศึกษา

มันทำให้ไตรภูมิตื้นตันเหลือเกิน


               “อาจารย์ร้องไห้”


               “ปละ เปล่า ผมเคืองตานิดหน่อย”


               ไตรภูมิยิ้มออกมาจนได้เมื่อลุกยืนขึ้นมา ปฐพีที่ยืนอยู่ตรงหน้าก้มหน้ามองเขาเพราะเด็กหนุ่มสูงกว่าเกือบคืบ


               “ผมปล่อยก่อนเวลา นักศึกษาไม่ไปพักก่อนเรียนวิชาต่อไปหรือ”


               “เรียกผมว่าเอิร์ทดีกว่าครับ”


               รอยยิ้มอันอบอุ่นเกิดขึ้นบนใบหน้าของลูกศิษย์


               “ให้ผมช่วยถือหนังสือพวกนี้ไปส่งดีกว่า ท่าทางจะหนักน่าดู”


               ไตรภูมิพยักหน้ารับ เขาเดินนำปฐพีไปทางห้องพักของเขาโดยปราศจากการพูดคุยอีก
               



               เสียงฝีเท้าที่เดินตามหลังสร้างความอบอุ่นในหัวใจที่อับเฉามาเนิ่นนาน ไตรภูมิรู้สึกฉ่ำชื่นราวกับต้นไม้ใน

ทะเลทรายอันแร้นแค้นที่ได้รับการประพรมจากสายฝนแรกจากท้องฟ้า เขาก้มหน้ายิ้มให้กับตัวเองเมื่อเดินมาถึงห้องพัก

ของเขา


               “วางหนังสือไว้บนโต๊ะของผมตรงนี้แหละ ขอบคุณที่ช่วยนะ เอ่อ เอิร์ท”


               “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจที่สุด” ปฐพีฉีกยิ้มให้เขาจนไตรภูมิเผลอยิ้มตอบ ใบหน้าของเขายิ่งสว่างไสวจนปฐพี

จ้องไม่วางตา


               “อาจารย์ครับ ผมกับอาจารย์ เรา เอ่อ เคยรู้จักกันมาก่อนไหมครับ”


               ไตรภูมิสะดุ้งในใจ เขาเงยหน้าเอียงคอมองปฐพี


               “อะไรทำให้เอิร์ทคิดอย่างนั้นล่ะ”


               ปฐพียักไหล่


               “ก็ไม่รู้สิครับ อันที่จริงผมรู้สึกคุ้นชื่ออาจารย์ตั้งแต่เลือกเซคชั่นลงวิชานี้แล้ว ยิ่งเห็นหน้าอาจารย์ครั้งแรกมันก็

ยิ่งคุ้น”


               ไตรภูมิใจสั่นไปหมดแล้วตอนนี้ สายตาของเด็กหนุ่มที่มองมาช่างสื่อความหมายที่เกินกว่าคำพูดที่หลุดออก

มาจากปาก เมื่อนัยน์ตาคู่นั้นบอกถึงความโหยหาอาดูรกว่าที่ปฐพีจะรู้ตัว


               “คุ้นว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน คุ้นว่าเราเคยระ…”


               น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงมาจากดวงตาของปฐพีที่รีบยกมือขึ้นปาดทิ้งอย่างตกใจตัวเองพลางหัวเราะกลบเกลื่อน


               “บ้าจริงผมนี่ พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้ทำให้อาจารย์ตกใจหมดเลย”


               “เอิร์ท”


               อาจารย์หนุ่มทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มปลอบโยน ปฐพีมองใบหน้าอ่อนโยนนั้นแล้วเขาก็ห้ามใจไม่ได้อีกต่อ

ไป


               ร่างสูงของเด็กหนุ่มดึงไหล่ไตรภูมิเข้าไปกอด วงแขนกว้างโอบรัดจนไตรภูมิจมเข้าไปในแผงอก ปฐพีวาง

ใบหน้าแนบไปบนกระหม่อมของไตรภูมิ


               “อาจารย์ครับ ผมขอโทษ แต่ช่วยอยู่นิ่งๆแบบนี้สักพักได้ไหมครับ”


               ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ต่างก็อยู่ในท่านั้น ไตรภูมิแนบหูลงไปกับหน้าอกของปฐพี เสียงหัวใจที่เต้นเร็วและแรง

ทำให้เขาอบอุ่นจนเผลอยกแขนกอดตอบ จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานดังขึ้นทั้งคู่จึงได้สะดุ้งและผละจากกัน

               ไตรภูมิไม่กล้าสบตาเมื่อรู้สึกว่าเลือดลมแถวใบหน้าจะสูบฉีดแรงจนหน้าร้อนเห่อเพราะปฐพีมองมาด้วยสายตา

แพรวพราวผิดปกติ เด็กหนุ่มหัวเราะแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินเมื่อก้าวห่างออกไปจากตัวเขา


               “ไม่รบกวนเวลางานของอาจารย์แล้วครับ ผมขอตัวก่อน”


               ร่างสูงก้าวเดินออกไปจากห้อง แต่ยังไม่ทันพ้นประตูปฐพีก็หันกลับมาอีกครั้งพร้อมคำพูดทิ้งท้ายที่ทำให้

หัวใจของไตรภูมิยิ่งสูบฉีดเลือดหนักกว่าเดิม


               “หนังสือของอาจารย์หนักมากพรุ่งนี้ผมจะช่วยอาจารย์แบกมันแทนอาจารย์จะได้ไม่เหนื่อย ถ้าเป็นไปได้ให้

ผมช่วยทุกวันเลยนะครับ อาจารย์ไตรภูมิ”






                    ----------------จบจริงๆแล้วน้า ให้เค้าเก็บไว้แต่งเพิ่มตอนรวมเล่มนะจ๊ะ-----------------


                                            :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:







หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 10-04-2015 20:55:33

รวมเล่มต้องมีคู่นี้น๊าาาา //หยอดกระปุก  :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-04-2015 21:05:11
 :heaven.  น่าร้ากกกก. เอิร์ทจ๋าปลอบอาจารย์ที
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 10-04-2015 21:12:29
จบแล้วหรอเนี่ย ในที่สุดก็ไเมาเจอกัน ดีใจจังเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 10-04-2015 21:20:23
ดีใจกับไตรภูมิด้วยน่าาาา
ได้เจอดินอีกครั้งง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: sittawan ที่ 11-04-2015 00:20:57
รอออ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 11-04-2015 18:33:33
 :sad11:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-04-2015 21:13:10
สบายใจละ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 11-04-2015 23:05:18
สุดท้านก้อฟินมาก เพราะกลายเป็นโชตะไปเลน 555+
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 12-04-2015 01:22:38
ชอบ ฟินนนนนนนนนนนนนนนน
ขอบคุณคนแต่งที่เอาตอนพิเศษมาฝากเล็กๆน้อยๆค่ะ :mew1:
ปล. ตอนรวมเล่มขอแบบลึกซึ้งๆเลยนะค่ะ -.,-
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 13-04-2015 08:32:42


55555555

อยากได้รวมเล่มเลย


คือซึ้งกว่าเล่มแรกอ่ะ

สงสัยชอบเสพดราม่าเคล้าน้ำตา

หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 <<วิญญาณเสน่หา บทพิเศษเพิ่มนิดนึง>> ๑๐/๐๔/๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 13-04-2015 15:16:04
รออยู่นะค้าาา
สนุกมากซีรีส์นี้ >< 
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 17-04-2015 00:01:41


                                                      ตัวประหลาด

                                                          บทที่ 1



               “ฮัก ฮัก”


               เขากำลังจะตาย


               ปรมะบอกตัวเองในขณะที่พยายามดิ้นรนออกจากสิ่งที่กำลังจะฆ่าเขา

               หัวใจเต้นรัวเร็วอยู่ในอก ดวงตาเบิกโพลงเหงื่อกาฬไหลหลั่งท่วมกายเมื่อความเจ็บปวดแสนสาหัสกำลังจู่โจม

ถึงขีดสุด


               “ปละ ปล่อย”


               แรงกายถดถอยหมดทางต่อสู้ ร่างกายที่เต็มไปด้วยร่องรอยบาดเจ็บฝืนทนต่อไปไม่ไหว ปรมะปล่อยให้น้ำตา

หลั่งไหลระบายความเจ็บปวด มันเป็นทางเดียวที่จะทำได้เพื่อไม่ให้ขาดใจตายเสียก่อน


               “อ๊ากสสสสส”


               เสียงร้องโหยหวนดังลั่นของตัวเองดังเข้าหู แต่ปรมะไม่รับรู้อะไรอีกแล้วเมื่อร่างกายของเขากำลังถูกข่มเหง

ช่องทางระหว่างขาฉีกขาดจนรู้สึกได้ แรงดันเข้าออกไม่ยั้งแรงพร้อมมือใหญ่หนาที่กดอยู่ตรงหน้าอกทำให้ลมหายใจของ

เขาแผ่วลงเรื่อยๆ ร่างกายของเขาถูกบังคับจนเกร็งค้างบีบรัดไปรอบสิ่งแปลกปลอมยิ่งกระตุ้นให้มันออกแรงถี่ยิบ


               “ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย”


               เสียงคำรามดังขึ้นใกล้หู ปรมะกลั้นหายใจเมื่อของเหลวอุ่นร้อนฉีดอัดเข้ามาอยู่ในช่องทางของเขา มันเจ็บ

แสบภายในจนหน้ามืด ในขณะที่มันกำลังเงยหน้าปล่อยเสียงคำรามอย่างต่อเนี่อง


               โอกาสเดียว มันเป็นโอกาสเดียวของเขา วินาทีนี้เท่านั้น สัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอดกระซิบมาจากส่วน

หนึ่งของสมองที่ใกล้จะหมดแรงสั่งการ

               กำลังเฮือกสุดท้ายถูกรวมไว้ที่ท่อนขา ปรมะเกร็งกายฝืนความเจ็บปวดยกปลายเท้าขึ้นมา เขาถีบออกไปสุด

แรงจนมันที่กำลังอ่อนแรงหลังปลดปล่อยออกมากระเด็นออกไปจากร่างกายของเขา


               “อ๊า…”


               เมื่อสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่หลุดออกจากการเสียบแทงปรมะก็ยิ่งเจ็บ โลหิตสีแดงฉานไหลรินมาจาก

เนื้อเยื่ออ่อนรอบช่องทาง แต่เขาไม่มีเวลาคร่ำครวญแล้ว


               หนี!


               ท่ามกลางความมืดมิดจนมองไม่เห็นแม้แต่ฝ่ามือตนเอง ท้องฟ้าสีดำไร้แสงจันทร์ส่องสว่างมีเพียงแสงระยิบ

ระยับจากดวงดาวที่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลยเมื่อปรมะกำลังซมซานพาร่างกายบอบช้ำเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างไร้

ทิศทาง

                เท้าที่ปราศจากการห่อหุ้มเหยียบย่ำไปกับผืนดินแข็งกระด้าง กรวดหนามทิ่มตำไปทั่วทั้งแผ่นเท้าแต่ปรมะยัง

คงต้องไปต่อเมื่อเสียงคำรามดังลั่นกำลังไล่ตามเขามาไม่ห่างนัก

               เสียงคลื่นลมดังแว่วเข้าหู ปรมะเจออุปสรรคสำคัญอีกครั้งเมื่อด้านหน้ากลายเป็นหน้าผากว้างที่เบื้องล่างคือ

มหาสมุทรล้อมรอบ คลื่นทะเลปะทะหน้าผากรีดอยู่ในหัวใจเมื่อปรมะไร้ทางเลือกอีกครั้ง เขาหยุดเท้าอยู่ริมหน้าผาเมื่อหัน

กลับไปเขามองเห็นจุดสีเขียวสว่างคู่หนึ่งกำลังเคลื่อนเข้าหาอย่างรวดเร็ว


               แวบเดียวสำหรับการตัดสินใจระหว่างมันกับทะเลดำมืด


               ร่างของปรมะลอยละลิ่วลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก เขาปิดเปลือกตาลงเพื่อจะปิดกั้นการรับรู้ทั้งปวง











               ร่างสูงก้าวเดินมายังหาดทรายสีขาวสะอาดพลางสูดหายใจนำออกซิเจนเข้าปอด ดวงตาคมจ้องมองทะเลสี

ครามพร้อมรอยยิ้มที่แต้มอยู่บนใบหน้า เสื้อยืดถูกถอดออกแล้วโยนลงบนทรายขาวอย่างไม่ใยดีก่อนที่เขาจะเดินลงไปสู่

น้ำใสที่เริ่มส่องประกายสะท้อนแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ริมขอบฟ้า

               โยธินคือชื่อของเขา ชายหนุ่มเจ้าของรูปร่างเฟิร์มไปด้วยมัดกล้ามเมื่อเขาออกกำลังกายด้วยการแหวกว่ายใน

ท้องทะเลราวกับเป็นฉลามหนุ่ม เขารักทะเล การได้อยู่ในผืนน้ำสีฟ้าครามมันเป็นความสุขจนกระทั่งเขาเลือกที่นี่เป็น

แหล่งที่อยู่ ผิวกายสีแทนเพราะต้องไอแดดไม่เคยทำให้เขานึกชังแสงอาทิตย์อันสดใสเลยแม้แต่น้อย

               ออกแรงว่ายน้ำจนพอใจจึงเดินกลับขึ้นฝั่ง โยธินเริ่มผิดสังเกตเมื่อไกลออกไปจากที่เขากำลังยืนใส่เสื้ออยู่

กลับเต็มไปด้วยชาวบ้านละแวกนั้นยืนมุงอะไรบางอย่าง โยธินก้าวเดินไปอย่างไม่รอช้า


               “เกิดอะไรขึ้น”


               เขาเอ่ยถามชาวบ้านที่ยังยืนออกันเป็นกลุ่ม เสียงพูดคุยดังขึ้นจอแจเมื่อทุกคนต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดีเมื่อ

อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงในเกาะเล็กๆแห่งนี้ ทางเปิดให้โยธินได้ก้าวเข้าไปสู่สาเหตุของการรวมกลุ่ม คิ้วเข้มขมวด

เป็นปมเมื่อมองเห็นร่างของคนนอนคว่ำอยู่กับผืนทรายที่มีน้ำทะเลกำลังซัดเข้าหา


               “คนนี่”


               โยธินหลุดปากออกมา


               “ก็คนน่ะสิหมอ”


               “หมอ” ที่ชาวบ้านเรียกถลาเข้าไปคุกเข่าอยู่กับพื้นทรายพลางใช้มือคลำที่ศีรษะเบามือ เมื่อพบว่าไม่มีร่องรอย

กะโหลกแตกร้าว เขาจึงได้พลิกร่างให้ “คน” ที่ยังไม่มีสติหงายขึ้นมา โยธินก้มหน้าลงไปให้หูอยู่ชิดกับจมูกและสายตา

ของเขาจ้องมองอยู่ที่การเคลื่อนไหวของหน้าอก


               ยังมีการหายใจอยู่แม้จะโรยรินเต็มที โยธินใช้ปลายนิ้วกดลงตรงชีพจรใหญ่ใต้คางก่อนจะยิ้มอย่างยินดีเมื่อ

สัมผัสได้ว่าผู้ชายที่นอนทอดกายสงบนิ่งยังมีชีวิตอยู่


               “เขายังไม่ตาย”


               โยธินประกาศให้ทุกคนรู้ เสียงฮือฮาดังขึ้นอย่างยินดีแกมสงสัยแต่โยธินก็ไม่รอช้า


               “ผมต้องการเปลหรือรถเข็นหรืออะไรก็ได้ ช่วยพาคนๆนี้ไปที่บ้านของผม ผมจะรักษาเขาเอง”


               เพราะความที่โยธินเป็นที่นับถือ ไม่นานนักคนที่ยังสลบไสลก็มาถึงบ้านหลังเล็กที่สร้างอยู่ริมทะเล บ้านดิน

ทรายหลังคามุงด้วยทางมะพร้าวที่สานกันแน่นหนาสามารถกันลมกันฝนได้ดี เป็นบ้านตามแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นของ

ชาวเกาะแห่งนี้ ภายในมีห้องโถงกว้างที่โยธินใช้เป็นห้องเอนกประสงค์ และมีส่วนหนึ่งที่เข้ากั้นไว้เป็นห้องนอนที่มีเตียง

ขนาดกลางตั้งอยู่


               “หมออยากได้อะไรก็บอกนะ เดี๋ยวพวกเราจะหามาให้”


               น้ำใจเป็นสิ่งหนึ่งที่โยธินรัก ชาวบ้านพร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้เมื่อเขาต้องการ โยธินตอบแทน

ด้วยการรักษาอาการเจ็บไข้ให้ฟรีๆด้วยยาที่เขาหอบมาจากฝั่งไกลโพ้นเมื่อเขาขับเรือไปนานๆครั้ง


               ยามสายจัดของวัน โยธินจึงได้อยู่เพียงลำพังกับคนบาดเจ็บแปลกหน้าที่โยธินเสียสละเตียงนอนให้ ร่างกาย

บอบช้ำยังคงไม่ได้สติเมื่อโยธินใช้กรรไกรค่อยๆตัดเสื้อเชิ้ตเปียกชื้นออกตามด้วยกางเกงยีนส์สีซีด ใช้เวลาพักใหญ่จึง

สำเร็จ ชายหนุ่มรูปร่างเพรียวบางนอนเปลือยเปล่าอวดกายให้โยธินได้สำรวจด้วยสายตา


               ผิวขาวราวกับไม่เคยถูกแสงแดดแผดเผา ตามเนื้อตัวมีแต่รอยฟกช้ำจนเกิดสีเขียวม่วงเป็นจ้ำๆ และด้วย

สายตาช่างสังเกต เขามองเห็นร่องรอยที่เกิดขึ้นตรงช่องทางตรงนั้น


               ผู้ชายคนนี้ถูกทำร้ายร่างกาย ที่สำคัญเขาถูกข่มขืน!


               โยธินมองใบหน้าอิดโรยที่ยังคงหลับสนิทด้วยความสงสาร เขาลุกขึ้นคว้าอุปกรณ์มาทำความสะอาดร่างกาย

ให้คนบาดเจ็บจนสะอาด อุปกรณ์เย็บแผลที่ผ่านการฆ่าเชื้อถูกนำมาใช้ โยธินบรรจงกดเข็มไปที่บาดแผลตามแขนขา

ชายหนุ่มตรงหน้างดงามเกินกว่าเขาจะลงมือเย็บแผลแบบลวกๆได้ หลังจากนั้นเขาจึงจัดการสวมเสื้อผ้าของเขาให้แก่คน

แปลกหน้า

               โยธินให้น้ำเกลือเข้าไปในกระแสเลือดเพื่อช่วยให้ร่างกายอ่อนแรงได้ฟื้นตัว หลังจากจัดการทุกอย่าง

เรียบร้อยแล้วโยธินจึงได้ลากเก้าอี้มานั่งมองอยู่ข้างเตียง


               “ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใครและถูกใครทำร้ายมาจนสาหัสขนาดนี้ แต่ถ้าคุณสู้มาถึงขนาดนี้แล้วคุณต้องรอด”


               เขาก้มหน้าไปกระซิบข้างหู


               “ลืมตาขึ้นมาคุยกับผม ชีวิตของคุณอยู่ในมือคุณเองนะ”
               




               โยธินเฝ้าประคบประหงมคนบาดเจ็บจนถึงยามค่ำคืนร่างกายนั้นก็ร้อนระอุไปด้วยพิษไข้ เป็นเพราะร่างกาย

ของโยธินแข็งแรงและอากาศแถบนี้ก็ไม่ได้มีความเย็นมากนักเขาจึงไม่มีผ้าห่มผืนหนาไว้ใช้ ทางเดียวที่เขาจะมอบความ

อบอุ่นให้ได้ก็มีเพียงทางเดียวเท่านั้น


               “มันจำเป็นนะ ผมต้องทำ”


               ร่างกายแกร่งด้วยกล้ามเนื้อถอดเสื้อผ้าออก โยธินทอดกายนอนเคียงข้าง เขาวาดแขนดึงร่างกายที่อยู่นิ่ง

ราวกับตุ๊กตาเข้าหาตัวเพื่อใช้ร่างกายตนเองทดแทนผ้าห่มผืนอุ่น โยธินกระพริบตาปริบๆเมื่อเนื้อตัวของเขาเบียดแนบอยู่

กับร่างกายที่สั่นเทาเพราะพิษไข้



               ให้ตายสิ ทำไมหัวใจของเขาเต้นเร็วขนาดนี้นะ


                                 



               ------------------------------            TBC         ------------------------------




                                      อินดี้นะคะ เรื่องนี้ คนแต่งอยากแต่ง ฮี่ๆ


                                                    :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:                  
               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 17-04-2015 01:08:09
ยังไงกันเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: SLEEPERINDY ที่ 17-04-2015 01:18:22
มาไวไวเด้อค่ะ :ling1: :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-04-2015 02:25:18
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 17-04-2015 04:33:30
หื้มมมมมม เกือบจะงงละ สงสัยต้องรอตอนต่อไป ฮ่าาาาา สะดุดใจ นัยต์ตาสีเขียว แล้วทิ้งตัวลงสู่แรงโน้มถ่วง อยากรู้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 17-04-2015 05:48:28
เอ่อ ที่ข่มขืนนี่ตัวประหลาดปะ อยากรู้อ่าาาาา

เรานี้ท่าจะสนุก เรื่องแรกก็สนุกครับ แต่ผมชอบแนวผู้ชายท้องอ่ะ(แต่กะตัวประหลาดป่าวหวา 55)

รอตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-04-2015 08:24:00
ชอบอะ แฟนตาซีใช่ไหม แต่ก็สงสารนายเอกมากเลยนะ ตัวไม่ตายแต่ใจอาจจะอยากลืม

พอได้เห็นข่าวซาดิสช่วงนี้แล้วหลอนไปเลย
รอต่อจ้ะ  :hao7: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 17-04-2015 08:46:42
เปิดมาก็โดนข่มขื่นเลย ตัวประหลาดทำใช่มะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 17-04-2015 10:24:48
ใครกันที่ทำร้ายปรมะ
ตัวประหลาด??
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 17-04-2015 15:25:27
ตื่นเต้นๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 17-04-2015 16:57:55
บรรยากาศชาวเกาะเลย  o13
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 17-04-2015 18:45:23
โธ่ ไม่เป็นไรนะ ปรมะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้วนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 17-04-2015 19:45:44
กรี๊ดดด น่าสนุก  :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 18-04-2015 00:37:20
เดี๋ยวตัวประหลาดจะตามมาป่าวอ่า  :hao3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 18-04-2015 19:49:49
เหยดดดดดด
ชอบจุง
โดนสัตว์เอา?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 21-04-2015 02:07:25
ดีงามมากเลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 21-04-2015 08:12:38
 :impress2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 21-04-2015 10:06:10
โอ้วววว น่าสนใจมากกกกก
แต่ก้อแอบสงสารนายเอกเรานะ ช้ำหมดแร้ววววส
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 21-04-2015 11:55:03
ผี ก็มีมาแล้ว คราวนี้พระเอกเป็นสัตว์ป่า? หมาป่า?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 21-04-2015 20:02:45
ตัวประหลาดท่าทางน่าแซ่บจัง  :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด >> 17/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Coaramach ที่ 21-04-2015 21:04:44
ฮือ... มาต่อไวๆเลยนะคะ
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 25-04-2015 21:36:26

                                                            ตัวประหลาด

                                                               บทที่ 2


               โยธินเฝ้าดูแลชายหนุ่มแปลกหน้ามาได้ราวหนึ่งสัปดาห์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าเขาจะฟื้นขึ้นมา แม้ว่านายแพทย์หนุ่ม

จะประคบประหงมร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บเต็มกำลัง มีเพียงลมหายใจสม่ำเสมอและอุณหภูมิของร่างกายที่ไม่มีไข้แล้ว

เท่านั้นที่ทำให้โยธินรู้ว่าร่างกายโปร่งบางที่อาศัยที่นอนของเขายังมีชีวิตอยู่

               บาดแผลตามเนื้อตัวเริ่มสมานร่องรอยจนเหลือเพียงสะเก็ดจางๆ ยิ่งทำให้โยธินมองเห็นว่าเรือนร่างที่นอน

หลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้าขาวผ่องและเนียนนุ่มมือเพียงไร

               ความขาวนั้นมองเห็นได้ด้วยตาและความเนียนนุ่มนั้นสัมผัสได้จากการโอบกอดเพื่อถ่ายเทความอบอุ่น แน่ล่ะ

ในวันแรกๆโยธินยังไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักแต่เมื่อวันเวลาผ่านไปกลับกลายเป็นว่าเขากำลังติดใจที่จะได้กอดรัดร่างกายนี้

เขาเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ยังมีความรู้สึกรู้สา และการที่อยู่ห่างไกลผู้คนในเกาะเล็กๆกลางทะเลโยธินเองก็ร้างไกล

ความรู้สึกที่พาให้ใจหวิวๆแบบนี้มาเนิ่นนาน


               “คุณ”


               โยธินเอ่ยปากเรียกใบหน้าที่ยังคงหลับสนิทในเช้าวันหนึ่งเมื่อเขาตื่นจากนิทราที่แสนทรมาน วงแขนที่พาดอยู่

เหนือลำตัวบอบบางกระชับเข้าหาตัวพลางกดจูบเบาๆที่ขมับ


               “คุณแกล้งผมแม้แต่ในฝัน รู้หรือเปล่าว่าคุณทำอะไรไว้กับผมบ้าง”


               ปลายนิ้วสากไล้เบาๆไปตามแก้มซีด ก่อนจะโน้มตัวลงจูบตามไป


               “ในฝันผมกำลังมีความสุขอยู่กับคุณ ผมแม่งหื่นว่ะ แต่คุณเองก็ยั่วผมไว้เยอะนะ แล้วดูสิพอตื่นมาก็ปวดหนึบ

ไปหมด”


               โยธินลากมือไปตามแขนเรียวแล้วไปหยุดอยู่ตรงมือบาง เขาประสานมือเข้าหาและดึงมันมาวางแนบอยู่ตรง

กลางลำตัวที่ดึงดันผ่านกางเกงเลผืนบางที่โยธินสวมอยู่ นายแพทย์หนุ่มสูดลมเข้าปากเบาๆ


               “นิดเดียวนะคุณ ขอยืมแค่มือจริงๆ แค่นี้ผมก็เสียวจะแย่อยู่แล้ว”


               โยธินวางมือแนบไปบนมือของคนแปลกหน้าเพื่อให้มือนั้นกอบกุมจุดสำคัญของเขาไว้ แม้มันจะมีสิ่งกีดขวาง

เป็นเนื้อผ้าแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของโยธินหดหายไปเลย ยิ่งเมื่อเขาบังคับให้มือนั้นกำแท่งเนื้ออุ่นของเขาไว้แล้ว

โยกเบาๆ


               “อา เสียวมากเลยคุณ”


               โยธินกลืนน้ำลายเหนียวหนับลงคอ ยิ่งบังคับให้มือนั้นโยกเร็วขึ้นเขาก็ยิ่งกัดฟันแน่น เสียงครางลึกดังมาจาก

ลำคอโยธินเงยหน้ากัดฟันเมื่อเขาเร่งเร้าจังหวะสุดท้ายจนกระทั่งปลดปล่อยออกมาเต็มกางเกง นายแพทย์หนุ่มหายใจ

เข้าปอดลึกๆก่อนจะจูบบางๆที่ริมฝีปากซีดเป็นการขอบคุณ

               ความละอายแล่นวูบเข้ามาในจิตสำนึกเมื่อถือโอกาสกับร่างกายที่ไร้สติสัมปชัญญะเช่นนี้เพื่อบำบัดความใคร่

โยธินด่าตนเองอยู่ในใจกับการกระทำที่เพิ่งจบลง ในเมื่ออีกฝ่ายหาได้รู้เรื่องอันใดด้วยแล้วสิ่งที่เขาทำลงไปมันจะต่าง

อะไรกับคนเลวที่ข่มขืนชายหนุ่มจนบาดเจ็บปางตายเล่า


               “ผมขอโทษนะ”


               ร่างกายสูงแกร่งอุดมด้วยมัดกล้ามผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว โยธินกำลังโกรธตัวเองสุดๆ เขาลงจากเตียงแล้วเดิน

ดุ่มเตรียมจะเปิดประตูห้องนอนออกไป


               “อะ อือ”


               เท้าที่เตรียมจะก้าวผ่านประตูห้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงครางบางเบา โยธินหันกลับไปมองคนบาดเจ็บที่

กำลังยกสองแขนขึ้นส่ายไปมา


               “อยะ อย่า กลัวแล้ว”


               แม้จะยังหลับตาแน่นแต่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว โยธินรีบชักเท้ากลับแล้วก้าวพรวดไปที่ร่างนั้น


               “คุณ!”


               “อย่าเข้ามา”


               โยธินช้อนร่างบอบบางนั้นขึ้นมากอดแนบอก พลางปลอบโยนแม้ว่าอีกฝ่ายจะยังไม่มีสติ


               “ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ตอนนี้คุณมีผมอยู่ข้างๆคุณแล้ว”


               “มะ ไม่ กลัวแล้ว ออกไป ออกไป!”


               “ตื่นสิคุณ ลืมตาขึ้นมา ตื่นมาดูว่าผมกำลังปกป้องคุณอยู่”


               ร่างนั้นสั่นสะท้านจนโยธินต้องเขย่าเรียกสติ แล้วอยู่ๆ ดวงตาที่ปิดสนิทก็เบิกโพลงขึ้นมา เผยให้เห็นนัยน์ตา

ดำขลับที่ซ่อนอยู่ภายใน ดวงตาคู่นั้นจ้องมองโยธินอย่างตื่นตกใจ


               “คะ คุณ คุณเป็นใคร แล้วที่นี่คือที่ไหน”


               ชายแปลกหน้าเอ่ยถามอย่างงงงันพลางขืนตัวออกจากอ้อมกอดของโยธินอย่างระวังตัว โยธินลดแขนลง

พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่


                “ที่นี่คือเกาะเล็กๆที่ไม่มีชื่ออยู่กลางทะเลอันดามัน มีคนอาศัยอยู่ไม่มากนักเพราะมันห่างไกลจากแผ่นดิน

ใหญ่”


               ดวงตาเรียวยังคงมองเขาด้วยความสงสัยและไม่ไว้วางใจนักเมื่อเอ่ยถามประโยคต่อไป


               “ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่”


               “คุณบาดเจ็บ ผมช่วยคุณไว้ อ้อ ผมเป็นหมอ”


               ชายแปลกหน้ายังคงมองเขาอย่างสับสน เหมือนว่ากำลังจะพยายามทบทวนความทรงจำพักใหญ่จนกระทั่ง

อยู่ๆก็ยกมือกุมศีรษะไว้ โยธินขมวดคิ้วด้วยความเป็นห่วง


               “เป็นอะไร ปวดหัวหรือไง”


               “ปวดมาก ผะ ผมเป็นอะไร แล้ว แล้วผม ผมเป็นใคร”


               คราวนี้ถึงทีที่โยธินจะตกใจบ้าง ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าเหยเกนั้นก่อนจะกระพริบตาปริบๆ


               “นี่คุณจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใครงั้นหรือ”


               ชายแปลกหน้าส่ายศีรษะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ โยธินเม้มปากแน่นเมื่อเห็นภาพดังกล่าว


               ผู้ชายตรงหน้าความจำเสื่อม!


               อาจจะเป็นการดีเมื่อความทรงจำอันเลวร้ายถูกลบออกไปเพื่อที่เขาคนนี้จะได้ไม่ต้องรับรู้เรื่องเจ็บปวดที่เกิด

ขึ้น เรียกว่าเห็นแก่ตัวก็ได้เมื่อโยธินยอมรับว่าไม่อาจเพิกเฉยกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขากำลังจะตัดสินใจ!


               “คุณชื่อว่าชลที่แปลว่าน้ำ คุณบาดเจ็บเพราะพลัดตกจากหน้าผาสาเหตุมาจากคุณกับผมทะเลาะกันด้วยเรื่อง

เข้าใจผิดจนคุณโมโหแล้ววิ่งหนีไปเกิดอุบัติเหตุ”


               ใบหน้าที่ยังคงซีดอ้าปากค้างกับข้อมูลที่ได้รับ ชายที่ได้ชื่อว่าชลสบตากับคนช่วยชีวิตด้วยความคลางแคลง


               “แล้วทำไมคุณกับผมถึงทะเลาะกันจนเกิดเรื่องนี้ขึ้น ผมเป็นอะไรกับคุณ”


               “ฟังนะชล”


               โยธินวางมือไปบนบ่าลาดแล้วกระชับมือแน่น


               “คุณเป็นคนรักของผม เราเป็นแฟนกัน”
               








               ชลนั่งอยู่บนหาดทรายสีขาวเนื้อละเอียดจ้องมองแผ่นหลังกว้างคล้ำด้วยไอแดดที่กำลังยืนเด่นอยู่บนโขดหิน

ดวงตาจับจ้องอยู่แต่แผ่นน้ำทะเลสีครามเบื้องล่างแสงอาทิตย์อัสดงสีส้มเย็นตาเป็นฉากอยู่ด้านหลัง โยธินกระชับฉมวก

ปลายแหลมในมือด้วยความมั่นใจเมื่อแทงมันลงไป ใบหน้าคมยิ้มกริ่มเมื่อเดินกลับมาหาเขาพร้อมปลาตัวเขื่อง


               “มื้อเย็นของเราวันนี้ไงชล”


               ชลมองอย่างเพลิดเพลินเมื่อโยธินลงมือจัดการกับปลาที่ได้มา ฝีมือทำอาหารของโยธินนั้นดีมากจากที่เขาได้

กินตั้งแต่ฟื้นคืนสติเมื่อหลายวันก่อน


               “คุณบอกว่าเป็นหมอ แต่ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ฝีมือการหาปลาของคุณเก่งราวกับเป็นชาวประมง”


               โยธินเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้แล้วจึงหันไปสนใจอาหารที่กำลังทำต่อ


               “ผมมาอยู่ที่นี่หลายปีแล้วก็ต้องเรียนรู้มาบ้างสิครับ ไม่งั้นก็คงอยู่ไม่ได้”


               “ทำไมคุณถึงมาอยู่เกาะกลางทะเลล่ะโยธิน”


               “ผมชอบทะเล ผมเบื่อความวุ่นวายในเมืองก็แค่นั้นแหละ ผมมาเที่ยวที่นี่ตามคำแนะนำของชาวบ้านที่เคย

เข้าไปในเมืองพอได้มาผมก็ติดใจ”


               “แล้วผมล่ะ ผมทำอะไร”


               นายแพทย์หนุ่มชะงักก่อนจะเงยหน้ามาตอบพร้อมรอยยิ้ม


               “คุณไม่ได้ทำอะไรหรอก แค่อยู่ข้างๆผมก็ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้ว”


               “บ้า”


               ชลหัวเราะ เขานั่งมองโยธินที่ยังคงง่วนกับการทำอาหารแล้วลอบถอนหายใจแผ่วเบา


               ถึงแม้โยธินจะบอกว่าเขาเป็นคนรักแต่ชลกลับจำความรู้สึกรักใคร่ผูกพันที่มีต่อโยธินไม่ได้ และยิ่งโยธินทำดี

ต่อเขามากเท่าไหร่ชลก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น

               ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาชลก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากโยธินจนแทบไม่ต้องทำอะไรตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอนอีก

ครั้ง แม้ว่าเขาจะตอบแทนด้วยการนอนหันหลังให้ด้วยความไม่คุ้นเคยแต่โยธินก็ยังไม่ถือสา ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อ

โยธินสอดแขนมาที่เอวแล้วดึงไปกอดจนแผ่นหลังของเขาแนบชิดไปกับอกกว้างรบกวนจิตใจเป็นอันมาก ชลรู้ว่าโยธิน

ต้องการแต่เขาเองต่างหากที่ไม่ได้ตอบสนองแม้เขาจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติของคนรักกัน


               “คิ้วขมวดกันเป็นโบว์แล้ว คิดอะไรอยู่”


               ชลสะดุ้งเมื่อโยธินมานั่งอยู่ตรงหน้า ปลายนิ้วใหญ่เอื้อมมือแตะอยู่ตรงหัวคิ้วของชลพลางยืดมันออกจากกัน


               “อย่ามัวแต่คิดมากเลย มากินปลาเผาสูตรเด็ดของผมดีกว่า”


               โยธินใช้ส้อมดึงเนื้อปลาออก เขาเป่าลมไล่ความร้อนแล้วป้อนใส่ปากชล


               “อร่อยจัง นอกจากเป็นหมอเป็นคนจับปลาแล้ว คุณยังเป็นพ่อครัวได้อีกนะโยธิน”


               “กินเถอะน่า มัวแต่แซวผมเดี๋ยวผมแย่งกินหมดไม่รู้ด้วยนะ”


               ชลยิ้มขำ เขาอ้าปากรับเนื้อปลาที่โยธินป้อน แต่ด้วยความร้อนมันทำให้เขาสำลัก


               “ชล เป็นอะไรมากไหม ผมขอโทษ”


               โยธินตกใจจนโยนส้อมทิ้ง เขาประคองใบหน้าของชลไว้ในอุ้งมือพลางให้นิ้วนวดอยู่ตรงมุมปากที่มีรอยแดง

เพราะความร้อน


               “ไม่เป็นไรแล้วครับโยธิน”


               นัยน์ตาดำขลับเงยหน้ามาสบตา โยธินจ้องลึกลงไปราวกับตกอยู่ในภวังค์ เขาโน้มตัวเข้าใกล้เอียงหน้าเข้าไป

แนบริมฝีปากลงกับเรียวปากของชล ความอุ่นร้อนของกลีบปากนุ่มเรียกร้องให้เขาดันลิ้นชื้นเข้าไปตวัดไปทั่วโพรงปาก

มือสากสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวใหญ่ที่ชลใส่อยู่ โยธินลูบไล้ไปทั่วผิวกายนุ่มมือที่เจ้าของยังตะลึงอยู่กับการกระทำของ

เขา


               “โยธิน ผมยังไม่พร้อม”


               เสียงตะกุกตะกักดังแผ่วเรียกสติคืนมาสู่โยธิน เขาผละปากออกมาพร้อมใบหน้าสำนึกผิด


               “ขอโทษ”


               “ไม่ โยธิน คุณไม่ผิด”


               ชลรีบเอ่ยเสียงสั่น


               “ผมต่างหากที่ผิดที่ทำให้คุณมีความสุขไม่ได้ ทั้งที่คุณช่วยชีวิตและทำดีกับผมขนาดนี้ ผมขอโทษ”


               ร่างโปร่งผวาเข้ากอดโยธินดวงตาหวานแดงก่ำ โยธินเม้มปากแน่นเขาดึงแขนที่กอดรอบลำตัวของเขาออก


               “อย่ายอมเพราะสงสารหรือสำนึกบุญคุณ มันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ”


               เสียงแข็งแทรกปนด้วยทำนองตัดพ้อยิ่งทำให้ชลใจเสีย


               “ผมอยากได้คุณเพราะผมรักคุณไม่ใช่เพราะให้คุณมาตอบแทนด้วยเรื่องงี่เง่าอย่างนี้”


               “โยธิน!”









มีต่ออีกนิด












หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 25-04-2015 21:50:16
ต่อตรงนี้จ้า




               น้ำตาไหลลงมาจนได้เมื่อโยธินลุกขึ้นแล้วก้าวยาวๆหนีไป ชลแทบจะวิ่งตามหลังร่างสูงนั้นจนกระทั่งโยธิน

ยอมหยุดอยู่ตรงชายหาดที่มีคลื่นสาดซัดเข้าฝั่ง นายแพทย์หนุ่มทิ้งตัวลงนั่งท่ามกลางความมืดมิดที่ปกคลุมเมื่อแสง

ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว


               “โยธิน”


               ชลทรุดตัวลงนั่งเบื้องหลัง เขามองหลังคอที่มีเส้นผมดกดำปกคลุมอยู่อย่างชั่งใจ มือเรียวเอื้อมไปแตะไหล่

หนาอย่างหวาดๆ


               “ผมขอบคุณสำหรับทุกเรื่องที่คุณทำเพื่อผมแต่ผมกลับจำเรื่องราวความรักระหว่างคุณกับผมไม่ได้เลย มัน

ทำให้ผมรู้สึกผิด”


               ชลสอดมือเข้ากอดเอวของโยธินพลางแนบใบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้าง


               “แต่ถ้าผมจะขอเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับคุณได้ไหม เริ่มต้นกับปัจจุบันเริ่มต้นกับความดีที่คุณมีให้ผม ผมรัก

คุณนะโยธิน หันหน้ากลับมาหาผมเถอะ ผมไม่อยากให้คุณหันหลังแบบนี้ อะ อุ๊บ”


               ชลตกใจเมื่ออยู่ๆโยธินก็หันกลับมาหาแล้วโผเข้ากอดจนเขาหงายหลังลงกับพื้นทราย ร่างของเขาถูกโยธิน

รวบไปกอดและทาบทับลงมาพลางมองด้วยดวงตาพราวระยับแข่งกับดวงดาวที่เริ่มอวดแสงบนท้องฟ้า


               “พูดแล้วห้ามกลับคำนะ”


               ชลหน้าแดงก่ำอยู่ในความมืด เขาไม่กล้าสบตาจนต้องเสไปมองอยู่ตรงบ่ากว้าง ปลายนิ้วที่วางพาดอยู่บนลำ

ตัวแกร่งเขี่ยเล่นเบาๆด้วยความเขินจัดมันทำให้ตบะของโยธินแตกในที่สุด

               กลีบปากนุ่มถูกครอบครองอีกครั้ง คราวนี้ช่างหนักหน่วงและเรียกร้องจนชลเผลอตวัดลิ้นตอบเรียกเสียงคราง

ลึกในลำคอจากโยธิน มือปลาหมึกสอดลึกดึงเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นตัวเก่าที่เขายกให้ชลใส่ออกจากเรือนร่างขาว

โพลนท้าทายแสงจันทร์ โยธินไล่เม้มขบจากซอกคอต่ำลงมาจนถึงแผ่นอกเขาแตะลิ้นลงตรงจุดเล็กก่อนจะครอบปากลง

ไปแล้วดูดจนรอบลานสีชมพู ชลสะท้านเฮือกแอ่นอกขึ้นอย่างเผลอไผล


               “อา โยธิน”


               “คุณไม่รู้หรอกว่าผมต้องอดทนแค่ไหนระหว่างที่รักษาคุณ”


               พึมพำแผ่วเบาพลางถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกบ้าง โยธินโถมกายทาบทับลากลิ้นลงต่ำจนถึงแอ่งสะดือ เขา

แหย่ลิ้นลงหยอกล้อจนชลต้องเด้งเอวรับ ท่อนเนื้อแข็งขยายตัวเต็มที่ฟาดเผียะลงกับถุงเนื้อแฝดของชลจนเจ้าตัวคราง

ฮือพลางคล้องแขนไปรอบลำคอแล้วกอดเกี่ยวไว้แน่น


               “โยธิน อา ผม อยาก แล้ว”


               เสียงพูดแทบไม่เป็นภาษาจากชลเมื่อโยธินยกต้นขาของเขาขึ้นแล้วงับลงไปตรงเนื้ออ่อน โยธินไม่รอช้าเขา

ดันต้นขาของชลจนแทบชิดไหล่ ช่องทางแสนสวยเปิดชัดอยู่เบื้องหน้าโยธินดันหัวรบเข้าหาแล้วกดเอวลึกเข้าไปทันที


               “อ๊า โยธิน สะ เสียวมาก”


               เสียงครางดังลั่น ร่างกายขาวโพลนดิ้นพล่านอยู่บนทรายเนื้อละเอียด น้ำทะเลสาดซัดเข้าใส่เป็นระลอกยิ่งเร้า

อารมณ์เมื่อโยธินเด้งเอวเข้าออก ชลจิกมือลงกับพื้นทรายปรือตาฉ่ำหวานเมื่อแก่นกายใหญ่กำลังกระแทกจุดสำคัญใน

ช่องทางของตน


               “อา ตอดมาก รัดจนร้อนไปหมด”


               โยธินเองก็กำลังพลุ่งพล่าน แรงอารมณ์กระพือจนต้องเท้ามือลงกับพื้นทรายข้างลำตัวของชลแล้วกระแทก

สะโพกถี่ยิบ แรงบีบมหาศาลกำลังทำให้เขาหน้ามืดเมื่อไม่ได้ปลดปล่อยมาเนิ่นนาน เมื่อช่องทางของชลบีบรัดถึงขีดสุด

โยธินก็ถึงกับต้องกลั้นใจเมื่อเขาอัดผลิตผลเข้าใส่จนเต็มเหนี่ยว








               “ตื่นได้แล้วครับชล อย่ามัวขี้เซา วันนี้เราต้องนั่งเรือเข้าฝั่งจำไม่ได้หรือ”


               จมูกโด่งฝังลงกับแก้มนุ่ม ชลยิ้มทั้งที่ตายังปิด


               “ตื่นแล้วครับโยธิน แต่ลืมตาไม่ไหวผมไม่มีแรงเลย”


               “ไปทำอะไรมาล่ะ หมดแรงขนาดนี้ โอ๊ย เจ็บนะ”


               โยธินแกล้งร้องมือกำปั้นน้อยๆทุบลงบนต้นแขน ทำไมจะไม่รู้ว่าทำไมชลถึงหมดแรง ก็หลังจากครั้งแรกที่

ชายหาดเขาก็อุ้มชลกลับบ้านและจัดการจนไม่เห็นเดือนเห็นตะวันอีกหลายวัน


               “ลุกแล้วๆ ออกไปห่างก่อนสิเหม็นกลิ่นตัวชะมัด”


               ชลนิ่วหน้าพลางผลักโยธินออกห่าง ร่างโปรงดันตัวเองขึ้นจากเตียงอย่างอ่อนเพลีย และทันทีที่ลุกขึ้นยืนบ้าน

ทั้งหลังก็หมุนคว้าง สติของชลหลุดลอยไปพร้อมกับเสียงร้องอย่างตกใจของโยธินเมื่อเห็นเขาร่วงลงไปกองกับพื้น




                                                                         TBC







               
               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-04-2015 22:04:28
เดาไม่ถูกเลยเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 25-04-2015 22:35:00
เชื่อแล้วว่าอินดี้
555555
เดาทางไม่ถูกเลย ยังไงน้าาาา
รออ่านตอนหน้า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: aaoo ที่ 25-04-2015 22:41:35
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 26-04-2015 00:28:28
ฉวยโอกาสจนได้เมียเลยนะโยธิน
ระวังตัวประหลาดตามมาเอาคืนซะล่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-04-2015 00:30:53
ชีวิตกำลังจะดีขึ้นแล้วเชียวหนูชลของหมอโยธิน :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 26-04-2015 01:12:13
กลัวตอนต่อไปมากค่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 26-04-2015 03:50:32
เรื่องนี้นี่มันอะไรกันเนี่ย =[]=
เดาทางไม่ออกเลยง่ะ
แล้วตกลงใครเป็นพระเอกเนี่ยยย
แต่ชอบหมอโยธินนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 26-04-2015 06:28:02
ท้อง???
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 26-04-2015 06:39:54
กรี้ดสลบหวานอ่ะปนขม
กำลังดี
หมอหลอกลวงอ่ะแต่ชอบ
หลอกนานๆหน่อย555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-04-2015 07:13:52
 :mew5:   แหม่. กำลังฟินๆ แบบนี้เดายากจัง
ไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดที่จากไปจะคล้ายๆปรสิตหรือเปล่า ถ้ามันทิ้งเชื้อเป็นตัวอ่อนที่ฝังอยู่ในร่างกายมินล่ะ หรืออาจจะแค่ไวรัส
บรึ๋ยยย แค่คิดก็สยองแทนหมอแล้ว  เกิดวันหลังกำลังฟินๆไอ้จ้อนขาดทำไง.  :hao4:  อย่าฮาร์ดคอร์มากนะคะคนเขียน
 :L2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 26-04-2015 08:09:23
ท้องแน่นอนกับไอ้ปีศาจ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 26-04-2015 10:17:28
ล้มตึงคราวนี้ไม่แน่อาจจะความจำกลับมา  :really2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 26-04-2015 12:30:04
เรื่องของพุ่มกับดินก็เศร้าจนน่าใจหาย เรื่องนี้ก็หื่นจัดหนักกันตั้งแต่ต้นๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 26-04-2015 13:28:50
 :z10:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 26-04-2015 14:04:27
ลุ้นๆๆ จะเกิดอะไรขึ้น
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 26-04-2015 15:09:34
ถ้าชลจำได้ขึ้นมาคุณหมอมีเคลียร์ยาวแน่  :hao3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 26-04-2015 16:06:08
ไอ้ปีศาจคือใครร  :katai4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 26-04-2015 16:29:20
สนุกมาก ไม่ผิดหวังจริงๆคับ ตอนต่อไปมาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 26-04-2015 19:34:58
โหว..แล้วตอนแรก ชลหนีตัวอะไรกันเนี่ย แถมตอนนี้ก็ไปจิ๊จ้ะกับคุณหมอแล้วซะด้วย ถ้าไอ้ตัวนั้นมันตามมาเจอจะรอดหรือได้ตายทั้งคู่ล่ะนั่นเหอเหอ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 26-04-2015 21:13:55
จะท้องรึเปล่า????
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 27-04-2015 11:44:03
เกิดอะไรขึ้น~
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 29-04-2015 21:38:19
โอ้ยยยยย ค้างอ่ะรีบมาต่อไวๆนะ
เรื่องไอ้ดินนี่น่าติดตามตอนพิเศษจริงๆ
สงสัยต้องเตรียมตังไว้ซะแล้ว ฮุฮุฮุ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 2 >> 25/04/58
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 05-05-2015 06:24:14

คุณหมออออ...เห็นเขาจำอะไรไม่ได้ โมเมเอาตามใจเลยนะ  :katai4:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 06-05-2015 23:56:40


                                                              ตัวประหลาด

                                                                  บทที่ 3

              สีหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษของชลทำให้โยธินแทบจะขาดใจ เขากำลังกังวลเหลือเกินในขณะที่ต้องขับเรือ

สปีดโบ๊ทไปยังแผ่นดินใหญ่อันห่างไกล หากเป็นเวลาปกติเขาคงจะเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่แวดล้อมไปด้วยสีครามของ

ทะเลลึกพร้อมทั้งอาจจะคลอเคลียชี้ชมให้ชลได้ชื่นชมมันไปพร้อมกับเขา แต่ในวันนี้เมื่อร่างกายของชลกำลังสั่นสะท้าน

ไปทั้งตัวอยู่บนเก้าอี้นอนข้างๆพังงาบังคับเรือที่เขายืนอยู่ ดวงตาสีนิลเบิกกว้างลอยคว้างราวกับจะหมดสติได้ทุกวินาที

มันทำให้โยธินรู้สึกว่าแผ่นดินที่เริ่มปรากฏสู่สายตานั่นห่างไกลเสียเหลือเกิน


               “ทนอีกหน่อยนะชล ไม่ว่าคุณจะเป็นอะไรผมก็จะช่วยคุณให้ได้”


               เขามองสภาพของคนรักที่มีสีหน้าเจ็บปวดจนบิดเบี้ยวอย่างสงสาร


               “ผมเคยช่วยคุณไว้ได้ครั้งหนึ่ง ไม่มีทางที่ผมจะให้คุณเป็นอะไรไปอีกเด็ดขาด”


               “ยะ โยธิน ผมปวดท้อง ทรมานเหลือเกิน”


               ชลใช้สองมือกดหน้าท้องไว้พร้อมกับนอนตัวงอ ริมฝีปากที่เคยแดงเรื่อกลับซีดผากสั่นระริกจนเจ้าตัวต้องกัด

มันไว้เพื่อระงับความเจ็บปวดที่บีบคั้นอยู่ภายในร่างกาย


               “ชล อีกนิดเดียวทนอีกหน่อยจะถึงฝั่งแล้ว อีกไม่นานก็จะถึงโรงพยาบาลผมจะเป็นคนรักษาคุณเอง”


               โยธินเร่งเครื่องเรือสุดกำลัง เคราะห์ดีที่ไม่มีลมมรสุมเขาจึงขับเรือได้สะดวกและในที่สุดโยธินก็พาชลมาถึง

ท่าเรือได้สำเร็จ เสียงรถพยาบาลจอดรออยู่แล้วเมื่อเขาใช้วิทยุสื่อสารประสานงานก่อนที่จะมาถึง ร่างกายอันอ่อนแอของ

ชลถูกพาไปยังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง โยธินไม่มีเวลารับไหว้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเพราะเขามัวแต่ร้อน

ใจอยู่กับชล เมื่อถึงห้องฉุกเฉินโยธินก็รีบสั่งการทันที


               “ให้นอมอลซาลายน์โซลูชั่น เจาะซีบีซี อิเล็กโตรไลค์แล้วกรุ๊ปแมชเลือดไว้รอด้วย สั่งแผนกรังสีให้เปิดเครื่อง

ซีทีสแกนแล้วส่งคนไข้คนนี้ไปตรวจทันที ทุกคนเร่งมือด้วยคนไข้จะต้องรอด”


               ท่าทางร้อนใจของโยธินทำให้ทุกคนในห้องฉุกเฉินเร่งมือรวดเร็วเป็นสองเท่า โยธินยืนรออย่างกระวนกระวาย

เมื่อพยาบาลกำลังแทงเข็มน้ำเกลือเข้าเส้นเลือดที่แขนของชล โยธินหันขวับไปมองพนักงานคนหนึ่งที่เดินมายังเขา


               “เครื่องซีทีสแกนเปิดแล้วครับผอ. ส่งคนไข้ไปตรวจได้เลยครับ”






               พระเจ้า!


               ราวกับโลกจะถล่มทลายอยุ่ตรงหน้าเมื่อโยธินจ้องมองภาพในจอคอมพิวเตอร์ พนักงานแผนกรังสีเทคนิคที่นั่ง

อยู่กับเขาถึงกับอ้าปากค้าง โยธินอยากจะเชื่อว่าประเทศไทยมีหิมะตกมากกว่าสิ่งที่กำลังเห็นอยู่กับตาในตอนนี้


               เป็นไปไม่ได้!


               ชลเป็นผู้ชายแท้ๆ เขารู้ดีเพราะเขารู้จักร่างกายของชลดีตั้งแต่หัวจรดเท้า โยธินตื่นตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นใน

เมื่อนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามีแต่เพศหญิงเท่านั้นที่สามารถฝังตัว

อ่อนอยู่ในมดลูกได้


               ถ้าเป็นดังเช่นที่กล่าวมาแล้วอะไรบางอย่างที่กำลังเกาะอยู่ตรงผนังหน้าท้องภายในร่างกายของชลเล่า โยธิน

ควรจะเรียกว่าอะไร มิหนำซ้ำยังสามารถจับได้ถึงอัตตราการเต้นเป็นจังหวะเร็วแต่สม่ำเสมอนั่นได้ชัดเจนอีกต่างหาก

โยธินควรจะเรียกมันว่าทารกใช่หรือไม่


               ทารกที่ฝังตัวเกาะอยู่ที่ผนังหน้าท้องลอยตัวอยู่ในช่องว่างของอวัยวะต่างๆของชลและมันกำลังทำให้ชล

ทรมานแทบปางตาย ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้ทฤษฎีที่บอกว่ามีแต่ผู้หญิงที่ท้องได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง


               ใช่แล้ว ชลกำลังตั้งครรภ์ ชลกำลังจะมีลูก!
                               





               โยธินพาชลมายังห้องพักส่วนตัวของเขาที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงพยาบาลแห่งนี้ที่เป็นมรดกของครอบครัว ชล

หลับสนิทด้วยฤทธิ์ยาแก้ปวดอยู่บนเตียงไฟฟ้า โยธินเฝ้ามองใบหน้าซีดเผือดด้วยความเป็นห่วง

               จนถึงวินาทีนี้โยธินก็ยังไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สภาพของชลในขณะที่เกยตื้นอยู่บนชายหาดทำให้เขา

ฉุกคิดขึ้นมา


                “อะไร” ที่ทำให้ชลกลายเป็นผู้ชายท้องได้

               เขาถอนหายใจแผ่วเบาพลางวางมือกระชับไปบนหลังมือนุ่มของชลเมื่อตัดสินใจได้

               ไม่ว่าเด็กในท้องชลจะเป็น “อะไร” ก็ตาม แต่โยธินจะรับเป็นลูก เขาจะดูแลปกป้องทั้งชลและลูกในท้องให้

ถึงที่สุด

               ชลขยับตัวช้าๆ ด้วยความทรมานก่อนเปลือกตาจะกระพริบถี่แล้วเปิดขึ้น นัยน์ตาสีนิลสบตาโยธินอย่างงงงัน


               “โยธิน ตกลงว่าผมเป็นอะไร”


               โยธินหนักใจกับคำถามนั่น เขาดึงมือนุ่มมากุมไว้พลางฝืนยิ้มอย่างยากลำบาก


               “ชล ฟังนะ คุณไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก ก็แค่คุณท้อง”


               “ท้อง ผมท้องเสียหรือว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบคุณก็บอกมาสิ ทำไมมัวแต่พูดเล่นอยู่ได้”


               เสียงอ่อนระโหยของขลทำให้โยธินจำเป็นต้องบอกความจริงจนได้


               “ชล คุณไม่ได้เป็นไส้ติ่งแตกหรือท้องเสียหรืออะไรทั้งนั้น คุณท้อง คุณกำลังจะมีลูก”


               ชลผงะ เขามองโยธินราวกับมองเห็นผี


               “ท้องอะไรกัน ผมเป็นผู้ชายนะ”


               โยธินคว้าแผ่นฟิล์มที่วางอยู่ใกล้มือแล้วยื่นให้ชล ชลมองเห็นเส้นใยสีขาวทึบแปลกตาปรากฏอยู่ในช่องท้อง

ชลอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อสายตา มือเรียววางแนบไปกับหน้าท้องตนเอง


               “เป็นไปไม่ได้ ไม่จริง ผมจะท้องได้ไง ผมท้องกับใคร”


               โยธินดึงชลที่ยังช็อกอยู่เข้ามากอดไว้ มือใหญ่ลูบกลุ่มผมนุ่มเบามือเพื่อปลอบโยน


               “ใช่คุณท้องกับผม เด็กในท้องของคุณเป็นลูกของเรา เราจะเลี้ยงเขาอย่างดีที่สุด”


               “โอ๊ะ!”


               อยู่ๆชลก็สะดุ้งสุดตัวก่อนจะตัวงออย่างเจ็บปวด เขาเงยหน้ามองโยธินอย่างต้องการความช่วยเหลือ


               “โยธิน ช่วยด้วย ผมหิว หิวเหลือเกิน”


               “หิวเหรอ งั้นกินข้าวก่อน ผมให้ห้องอาหารยกมาให้สักพักแล้ว”


               โยธินกระวีกระวาดไปยกถาดอาหารมาให้ แต่เมื่อชลเห็นเขากลับใช้ท่อนแขนกวาดมันร่วงกระจัดกระจายกับ

พื้นห้องทันที


               “ไม่ ผมเหม็น เอาออกไป”


               “งั้นคุณอยากกินอะไรล่ะชล ผมจะไปหามาให้”


               ชลกระสับกระส่าย จมูกของเขาสูดกลิ่นไปทั่วห้องอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นร่างผอมบางก็หันขวับไปมองเครื่องวัด

ความดันโลหิตที่ติดอยู่ตรงหัวเตียง ดวงตาคู่หวานลุกวาบก่อนจะดึงมันออกมาด้วยแรงมหาศาลแล้วจับมันหักครึ่ง ปรอทสี

เงินไหลพรูออกมาจากช่องแคบเล็ก ชลรีบประคองมันไว้ในอุ้งมือแล้วเทมันใส่ปาก


                โยธินยิ่งตกใจหนักขึ้นไปอีกเมื่อเขาเห็นชลทำแบบนั้น ปรอทสีเงินที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อมนุษย์แต่ชลกลับ

กินมันเข้าไปเฉยๆ และเมื่อกินหมดใบหน้านั้นกลับสดใสขึ้นมาทันที

               ทารกในครรภ์กินปรอทเป็นอาหาร!
               








               โยธินให้ชลพักอยู่ในห้องชั้นบนสุดของโรงพยาบาลเท่านั้นโดยมีเพียงเจ้าหน้าที่ไม่กี่คนที่โยธินไว้ใจมาดูแล

หน้าท้องของชลขยายตัวเร็วมากเพียงสามเดือนก็ดูราวกับครรภ์ที่ใกล้คลอดเต็มที


               “คิดถึงน้ำทะเลจัง”


               ชลบ่นอุบพลางขยับตัวอย่างยากลำบากดีที่ได้โยธินช่วยประคองไว้


               “มาอยู่ที่นี่สามเดือนแล้ว ปลาในทะเลคงจะคิดถึงคุณนะโยธิน”


               โยธินยิ้มอ่อน เขายกมือลูบแก้มเนียนที่เปล่งประกายใกล้สีเงินเข้าไปทุกที


               “ถ้าคุณคลอดลูกแล้ว พวกเราจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะนั่น แต่ผมกำลังคิดว่าเราจะทำยังไงที่จะปิดบังคนบน

เกาะว่าคุณเป็นผู้ชายที่มีลูก ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงคิดว่าคุณเป็นตัวประหลาดแน่ๆ”


               ชลยิ้มเศร้า


               “ผมทำให้คุณลำบากใช่ไหมโยธิน ขอโทษนะ”


               “อย่าพูดอย่างนั้น ผมไม่ลำบากสักนิด คุณกับลูกเข้ามาเติมเต็มให้ชีวิตผมต่างหาก ผมรักคุณนะชล”


               โยธินหอมแก้มนุ่มเบาๆ ก่อนที่เขาจะคลี่ยิ้มออกมา


               “ตอนไปอยู่เกาะคุณแต่งตัวเป็นผู้หญิงดีไหม นี่ผมคุณก็เริ่มยาวแล้วนะ รู้ไหมว่าหน้าของคุณน่ะหวานยิ่งกว่าผู้

หญิงอีก”


               ชลยิ้มรับ แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรออกไปเขาก็สะดุ้งตัวโยน


               “โยธิน ผมปวดท้อง”


               โยธินลุกขึ้นทันที เขาคว้าหูฟังพิเศษขึ้นมาวางแนบไปกับหน้าท้องโตที่ใสราวกับลูกแก้ว นายแพทย์หนุ่มหน้า

ซีดเผือด


               “หัวใจเด็กเต้นเร็วมาก ชล ผมว่าคุณต้องผ่าตัดคลอดคืนนี้แหละ”









               โยธินรีบสั่งการให้เปิดห้องผ่าตัดฉุกเฉิน ชลถูกพาเข้าไปภายในแสงไฟสว่างจ้ายิ่งเร่งอาการปวดให้ยิ่งมากขึ้น

จนเขาต้องกัดฟันแน่น


               “ปวด ปวดเหลือเกิน ลูกจ๋าอย่าทำร้ายแม่เลย”


               ชลดิ้นพล่านกระสับกระส่ายจนกระทั่งเขาถูกจัดท่าให้นอนตะแคงคุดคู้เพื่อให้เข็มแหลมแทงเข้าที่ระหว่าง

กระดูกสันหลัง ไม่นานอาการปวดก็ทุเลาลงจนกระทั่งมันหายไป โยธินในชุดสีเขียวของแพทย์ผ่าตัดเดินเข้ามาแล้วจับมือ

ชลไว้


               “ผมจะเป็นคนผ่าตัดคลอดลูกของเราเอง ไว้ใจผมนะชล”


               “ผมไว้ใจคุณโยธิน คุณช่วยชีวิตผมและกำลังจะทำให้ลูกของเราเกิดมา ผมรักคุณนะโยธิน”


               ใบมีดคมกริบปาดลงตั้งแต่ชั้นผิวหนังลงไปจนถึงกล้ามเนื้อ โลหิตไหลรินเป็นสายก่อนจะถูกแผ่นก๊อซซับไว้

เป็นระยะ ไม่นานโยธินก็กรีดน้ำหนักลงไปกับเนื้อเยื่อชั้นสุดท้าย เขาวางมีดลงบนถาดแล้วใช้สองมือควักร่างกายแปลก

ปลอมออกมาจากช่องท้อง เสียงร้องไห้จ้าดังลั่นห้องผ่าตัด ชลยิ้มอย่างตื่นเต้นในขณะที่โยธินนิ่งงันและปล่อยให้แพทย์ผู้

ช่วยเย็บปิดปากแผล


               “โยธิน ผมอยากเห็นหน้าลูก ส่งลูกมาให้ผมเถอะ”


               โยธินถอนหายใจเฮือก เขาเดินมาทางด้านหัวเตียงแล้วส่งเด็กทารกที่ดูไม่แตกต่างจากเด็กคนอื่นเลย ร่าง

อวบอ้วนกำลังร้องโยเยอยู่ในอ้อมกอดของชล


               เด็กน้อยร้องลั่นและอยู่ๆก็ลืมตาขึ้นมา ชลอ้าปากค้างเมื่อสบตากับลูกของตัวเอง


               “ไม่!”


               ชลตะโกนลั่นอย่างหวาดกลัวพลางสะบัดตัวหนีจนโยธินแทบจะรับเด็กไว้ไม่ทัน


               ดวงตาคู่นั้นมีสีเขียวราวกับมรกต!
               







มีต่ออีกนิดจ้า...

หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 07-05-2015 00:03:55
ต่อกันอีกนิดนะ




ห้าปีผ่านไป
               

               NASAT


              องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสาขาประเทศไทย
             

                ร่างสูงของภูริยืนนิ่งอยู่หน้าห้องขังที่ถูกทำลายลงและบัดนี้ภายในมีแต่ความว่างเปล่า ดวงตาของเขาโชน

แสงไปด้วยความเกลียดชังแม้ว่าต้นเหตุของมันจะอันตรธานไปแล้ว

               เสียงเตือนสัญญานระวังภัยดังลั่นไปทั่วอาคารปิดขนาดใหญ่ยักษ์ที่ไม่เคยมีคนรู้ว่ามีที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย

ด้วยเจ้าหน้าที่วิ่งกันขวักไขว่เครื่องมือติดตามทุกชนิดถูกเปิดให้ทำงานกันจ้าละหวั่น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอาคารแห่งนี้คือ

ความลับของมวลมนุษยชาติและความลับขั้นสุดยอดกลับหนีหายไปท่ามกลางการป้องกันที่สุดแสนจะเข้มแข็ง แต่มันก็

ยังหนีไปได้


               อีกครั้ง!


               ภูริกัดกรามจนได้ยินเสียงดังลอดออกมาเมื่อนึกย้อนไปถึงเมื่อห้าปีก่อนที่เขาและใครบางคนได้พบเจอกับ

ความลับนี้และมีหน้าที่รักษาดูแลและศึกษามัน ภาพต่างๆฉายชัดอยู่ในมโนสำนึกราวกับมันเพิ่งจะเกิดขึ้นอยู่ไม่กี่นาทีนี้

เอง
               




               ร่างสูงโปร่งถอดเสื้อคลุมสีขาวออกโยนทิ้งลงถังผ้าก่อนจะเดินไปที่ล็อคเกอร์เก็บของ มือเรียวยื่นปลายนิ้ว

สแกนตรงด้านหน้าประตู ใบหน้าหวานอมยิ้มเมื่อมีอีกมือหนึ่งที่เอื้อมมาจากด้านหลังแล้วดึงเอวเขาเข้าไปกอด ริมฝีปาก

หยุ่นกดลงตรงหลังคอแล้วเม้มเบาๆพอให้ขนลุก ปรมะหัวเราะคิกเมื่อหันกลับมาเผชิญหน้าสองแขนคล้องไปรอบคออีก

ฝ่ายแล้วเผยอรับจุมพิตอย่างคุ้นเคย


               “คิดถึงจังเลยปอ”



               ภูริเม้มขบกลีบปากอิ่มอย่างกระหาย มือใหญ่วางแนบอยู่ตรงท้ายทอยคนตัวเล็กกว่าให้เงยหน้ารับเมื่อเขาสอด

ลิ้นลื่นลงคอ เขาตวัดรับลิ้นเล็กเข้ามาพันเกี่ยวก่อนจะลากออกมาดูดดุนกันตรงนอกริมฝีปาก


               “สองอาทิตย์เองนะภู ทำเป็นปากหวาน”


               ปรมะหัวเราะเบาๆเมื่อภูริดึงเอวคอดของเขาเข้าไปแนบชิด ท่อนขาบดเบียดเมื่อภูริดันแผ่นหลังของเขาให้พิง

ไปกับล็อกเกอร์แล้วก้มหน้ามาฝังจมูกโด่งลงไปกับซอกคอระหง


               “สองอาทิตย์ก็แทบคลั่งแล้วที่ไม่ได้เห็นหน้าปอ ถ้ามากกว่านี้ภูคงขาดใจตาย”


               เป็นเพราะสถานที่ทำงานที่เป็นความลับ นักวิทยาศาสตร์ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในอาคารทรงโดมยักษ์ครั้งละสาม

เดือนและจะได้ผลัดกันหยุดพักคนละสองอาทิตย์ ปรมะเพิ่งจะกลับมาจากการพักผ่อนที่บ้านเกิดของเขาและกลับมา

ทำงานวันนี้เป็นวันแรก


               “ภู เบาๆเดี๋ยวใครมาเห็น”


               ลมหายใจชักร้อนผ่าวเมื่อภูริยังไม่หยุด จมูกโด่งลากไล่ลงช้าๆจนมาถึงเม็ดนูนที่ชูชันผ่านเนื้อผ้าอยู่ตรง

หน้าอก ภูริเม้มมันเบาๆแล้วจึงเพิ่มน้ำหนักขณะที่อีกข้างตกอยู่ในอุ้งมือที่เขาบีบเค้นจนปรมะต้องเงยหน้าแอ่นอกรับ


               “พูดงี้ถ้าไม่มีใครเห็นปอก็ไม่ว่าอะไรใช่ไหม”


               ภูริก้าวพรวดๆไปที่ประตูใหญ่ทางเข้าห้องแต่งตัว เขากดปุ่มใส่รหัสล็อคแล้วรีบกลับมาหาปรมะ เมื่อเผชิญหน้า

กับอีกครั้ง คราวนี้ทั้งสองถึงกับโผเข้าหากัน


               ปรมะวางมือแนบไปบนสันคางของภูริพลางดึงเข้ามาประกบปากจูบแลกลิ้นจนน้ำใสเกาะติดไปรอบเรียวปาก

ภูริดึงเอวคอดเข้ามากอดรัดมือใหญ่กอบกุมแก้มก้นนุ่มมือแล้วขยำเบาๆเรียกเสียงครางแผ่วจากปรมะ มือร้อนคว้าหัว

เข็มขัดของปรมะแล้วปลดมันก่อนจะล้วงลึกลงไปทั้งบีบทั้งเค้นเนื้อก้นอย่างหมั่นเขี้ยว


               “กลับบ้านสองอาทิตย์คิดถึงภูบ้างไหมครับปอ”


               ภูกระซิบถามใกล้ใบหูแล้วงับมันเล่น ปรมะผวาแอ่นกายเฮือกเมื่อจุดซ่อนเร้นถูกภูริกระชับอยู่ในอุ้งมือแล้วบี้หัว

เล่น ปรมะไม่ยอมแพ้เขาเองก็รีบปลดกางเกงของภูริลงแล้วใช้ปลายนิ้วนวดเฟ้นเค้นคลึงปลุกเร้าจนมันผงาดสู้มือ


               “คิดถึงมากภู คิดถึงใจแทบขาด คิดถึงตรงนี้จนกะว่าคราวหน้าจะตัดมันเอาไปด้วย”


               “อา เสียวมากปอ อืม อย่าตัดเลย ตัดแล้วภูจะเอาที่ไหนใช้ ตัดเสียบคารูจะไปสู้ให้ภูเด้งเอวใส่ได้ไง”


               กางเกงถูกรูดลงจนถึงปลายเท้า ปรมะสลัดมันทิ้งพลางสบตาฉ่ำหวานของภูริ ร่างผอมบางของปรมะกระโดด

เข้าหาภูริ สองขากอดเกี่ยวไปรอบเอวแข็งแกร่งที่ผ่านการออกกำลังกายในยิมเป็นประจำ ภูริใช้ท่อนแขนโอบรัดรอบลำ

ตัวพลางดันแท่งเอ็นร้อนสอดใส่ช่องทางอุ่นชื้นช้าๆ


               “อูย แน่นจังปอ”


               ภูริสูดปากเมื่อปะทะกับความคับแน่นภายใน เขากดเอวปรมะลงมาพลางดันฝั่งตัวเองสวนขึ้นเรื่อยๆ


               “อื้อออ ภูก็ ก็ ใหญ่จังวันนี้ โอย เสียว”


               ปรมะกัดฟันพลางหลับตาพริ้ม สองแขนคล้องรอบคอของภูริเมื่อความเสียวซ่านแล่นมาตามเนื้อตัวจนกระทั่ง

รู้สึกได้ว่าภูริดันเข้ามาจนสุดทาง


               “แรงเลยได้ไหมปอ”               


               ภูริถามขณะที่ยังใช้ปากเม้มไปรอบลานนมจนเสื้อเชิ้ตของปรมะเปียกชุ่ม ปรมะพยักหน้าเร็วๆเป็นการอนุญาต

ภูริยิ้มกริ่มพลางเด้งเอวเข้าใส่ สองมือที่โอบกอดอยู่รอบเอวเล็กออกแรงกดน้ำหนักให้ปรมะรับการกระแทกจนใบหน้าขึ้น

สีแดงจัด


               “โอ๊ย สะ เสียว ภู อาลึกมาก”


               “นั่นสิปอ ภูก็โคตรเสียวเลย อา แบบนั้น ขมิบเลยปอ”


               เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสะท้อนห้องแต่งตัวปะปนกับเสียงหอบหายใจดังลั่น ปรมะก้มหน้าลงมาเปิดปากภูริด้วย

ปากของเขาแล้วเป็นฝ่ายส่งปลายลิ้นเข้าไป ลิ้นร้อนจูบแลกน้ำลายกันจนยืดยาวในขณะที่ภูริก็ไม่ออมแรงกระแทก เสียง

ครางหวานดังลอดมาจากปากสีแดงเรื่อของปรมะ ดวงตาคู่หวานปรือฉ่ำพลางถูไถท่อนเนื้อของตัวเองเข้ากับกล้ามเนื้อ

หน้าท้องภูริ ไม่นานหลังจากนั้นน้ำรักขาวขุ่นก็พุ่งพรวดรินรดพร้อมกับที่เขาเกร็งกล้ามเนื้อ ภูริเห็นคนรักขึ้นสวรรค์นับไป

แล้วเขาก็ยิ่งกัดฟันเด้งเอวถี่ยิบ จนกระทั่งแช่ค้างลึกแล้วฉีดอัดในช่องทางให้ปรมะเก็บไว้ทุกหยาดหยด


               กายเบียดแนบชิด ปลายลิ้นยังไม่เลิกพัวพันทั้งที่พากันหอบกระเส่าจนกระทั่งพากันสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียง

สัญญาณเรียกประชุมด่วนดังลั่น ภูริหลับตาลงอย่างเซ็งๆในขณะที่ปรมะหัวเราะร่วน สะโพกแข็งแรงค่อยๆถอนตัวออกมา

จากช่องทางคับแน่นอย่างอ้อยอิ่ง


               “ฮื้อ ภู”


               ปรมะถูกวางลงให้ยืนบนพื้น ภูริก้มตัวลงใช้ปลายลิ้นโลมเลียหยาดรักตัวเองที่ไหลรินลงมาตรงต้นขาจนไม่มี

เหลือ เขาคว้ากางเกงมาใส่คืนให้ปรมะแล้วยืนขึ้นจูบเบาๆที่หน้าผากเกลี้ยง


               “ภูรักปอมากนะรู้ยัง”

               
                                                                    TBC


หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 07-05-2015 00:12:52
เดี๋ยวววววววววววววววววววววววววว  ใครไปกด Skip  ???  :serius2: :serius2: :serius2:   งองู ล้านตัวเลยจร้า

ใครคือปอ ใคร ภูริ แล้วทำไมโยธิน ตอนทำคลอดเสร็จถึงถอนหายในเฮือกๆ คืออะไร แล้วทำไมชลต้องตกใจด้วย

แล้วตกลง ลูกของชลคือตัวอะไร  ???  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 07-05-2015 00:42:31
ภูริกับปอคือใคร เกี่ยวอะไรกับชลไหม หรือหนึ่งในนี้คือชล แล้วลูกเป็นตัวปะหลาดหรืออะไรเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 07-05-2015 01:59:07
พอย้อนกลับไปอ่านตอนแรก ชลกับปรมะ คนเดียวกันแฮะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-05-2015 07:07:40
เกิดอาการสับสน งงงวย o2
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 07-05-2015 08:06:06
อะไรยังไงปอกับภูริคือใคร รอตอนต่อไปจ้า
ปล. สรุปพ่อเด็กนี่คือพวกแรกที่มาขืนใจชลใช่ไหม หรือเพราะกินปรอทเข้าไปเด็กเลยมีสีตาแบบนั้น( อารมผลข้างเคียงจากการกินปรอท) :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 07-05-2015 09:44:19
omg!!!!
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 07-05-2015 10:00:34
สับสนกับชีวิตมาก ตอนนี้ :serius2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 07-05-2015 10:13:39
งงมาก อย่าแกล้งกันแบบนี้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-05-2015 10:16:56
 :z10:  สับสนแต่ก็มันส์อะ เอาเถอะ เรื่องราวที่เกืดขึ้นจากทั้งฝั่งชลและปออาจจะมาบรรจบกัน
ว่าแต่นั่นลูกไคจูรึเปล่าเนี่ย ตาเขียวกินปรอท
ว่าแต่ชลอะ ป่านนี้ได้ความทรงจำคืนมาแล้วมั้ง รอต่อจ้า  :3123: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 07-05-2015 23:10:13
งง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 07-05-2015 23:34:21
ลูกใคร
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: LoveYoukissme ที่ 08-05-2015 00:23:16
ง งูล้านตัว
งงอย่างมากมายเลยค่า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 08-05-2015 07:41:49
5 ปีผ่านไป แล้วหมอโยธินละ โดนตัวประหลาดกินหรอ ภูริ คือคนร่วมงาน หรือยังไง ประมะ คือชล งง ได้อีก อินดี้ที่สุดนะเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: lalune ที่ 08-05-2015 09:46:52
ชลก็คือปรมะ หรือ ปอ เคยทำงานที่ nasat เคยคบกับภูริ แล้วพอบางอย่างซึ่งน่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ถูกขังหนีออกไปก็จับตัวชลไปด้วย แล้วก็ข่มขืนชลจนท้อง
น่าจะใช่ ใช่มั้ยค่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-05-2015 10:02:41
ชลก็คือปรมะ หรือ ปอ เคยทำงานที่ nasat เคยคบกับภูริ แล้วพอบางอย่างซึ่งน่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ถูกขังหนีออกไปก็จับตัวชลไปด้วย แล้วก็ข่มขืนชลจนท้อง
น่าจะใช่ ใช่มั้ยค่ะ

กรี๊ดดดด ถูกต้อง
เอาไปเลยสิบกะโหลก
 o18
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 08-05-2015 10:33:40
แล้วทำไมเขียนว่า 5 ปีผ่านไปอ่า? ไม่ใช่ว่า 5 ปีก่อนเหรอ? เพราะเกิดก่อนที่ชลจะถูกลักพาตัวไปอ่ะ แต่ก็พอจะเข้าใจละ ก็ว่า...ทำไมชื่อปรมะมันคุ้นๆ ชื่อของชลนี่เอง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 3 >> 07/05/58# MPRG#
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 08-05-2015 21:03:12
เอิ่มมมมมมมมม
ปอ กับ ภู คือคราย?????
ลูกของชลกับโยธินหรอ อะไรยังไงเนี่ย งง! TT
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-05-2015 21:50:53


                                                          ตัวประหลาด

                                                              บทที่ 4


               แคปซูลขนาดใหญ่ยักษ์สูงสองเท่าของขนาดมนุษย์คือสาเหตุของสัญญาณเรียกประชุมด่วนเมื่อไม่กี่นาทีที่

ผ่านมา ภูริและปรมะวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องกว้างเปิดไฟสว่างไสวเป็นคู่สุดท้ายในขณะที่ภายในห้องมีบุคลากร

จำนวนหนึ่งยืนอยู่แล้ว

               ที่นี่คือองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือที่ทุกคนรู้จักกันในนาม นาซ่า แต่มีไม่กี่คนที่รู้ว่านาซ่ามี

ฐานทัพเล็กๆแห่งนี้อยู่บนเกาะร้างแห่งหนึ่งกลางทะเลอันดามันของประเทศไทยด้วย และมันก็ตรวจสอบไม่ได้ทาง

ภาพถ่ายดาวเทียมเพราะฐานทัพแห่งนี้ถูกขุดลึกลงมาใต้ดินลึกจนกระทั่งส่วนหนึ่งด้านล่างของโดมยักษ์ล้อมรอบไปด้วย

น้ำทะเล ทางออกของฐานทัพมีเพียงไม่กี่ทาง ทางหนึ่งคือด้านบนที่มีลานจอดของเครื่องบินขนาดเล็กและด้านล่างที่

ต้องใช้เรือดำน้ำออกไป

              แต่เมื่อออกไปภายนอกได้การเดินทางก็ค่อนข้างจะลำบากเช่นกัน เพราะโดยรอบที่ตั้งฐานมีแต่หน้าผาสูงชัน

ของเกาะเล็กๆแห่งนี้ ดังนั้นที่นี่คือสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดที่นาซ่าเลือกใช้เป็นแหล่งเก็บข้อมูลความลับที่ไม่อาจเปิดเผย

ให้มนุษย์โลกรู้ได้

                มนุษย์ต่างดาว เป็นสิ่งที่ใครๆก็พูดถึงในแง่ความเหนือจริง บางคนก็ว่าเป็นเรื่องไร้สาระแต่หากคนนั้นได้มาเห็น

ฐานลับแต่ละแห่งทั่วโลกของนาซ่าแล้วก็จะรู้ว่ายังมีความลับมากมายที่ปกปิดไว้ ในเมื่อโลกของเรายังมีสิ่งมีชีวิตมากมาย

แล้วทำไมดาวดวงอื่นในจักรวาลจึงจะไม่มีสิ่งมีชีวิตเล่า คนที่ทำงานในฐานทัพนาซ่าจึงเต็มไปด้วยนักวิทยาศาสตร์ใน

สาขาต่างๆ เช่นด้านฟิสิกส์คำนวนการเคลื่อนไหวของดวงดาวอย่างภูริหรือจะเป็นนักชีววิทยาอย่างปรมะเป็นต้น

               หัวหน้าฐานทัพประจำประเทศไทยยืนเด่นอยู่ด้านหน้าเป็นชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐาน เขาอธิบายที่มาของ

แคปซูลประหลาดที่ตั้งอยู่กลางห้องควบคุมที่มีกระจกหนาพิเศษล้อมรอบ นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายยืนกระจายตัวจ้อง

มองอย่างตื่นเต้น


               “มียานบินลำหนึ่งบินผ่านโลกของเราและได้ปล่อยอะไรบางอย่างผ่านชั้นบรรยากาศของโลกลงมา เราคาด

เดาว่าจะเป็นยานบินสำรวจของดาวดวงอื่นที่ส่งมาแต่เมื่อมาถึงชั้นบรรยากาศคาดว่าพลังงานคงจะหมดลงจนกระทั่งมัน

ตกลงมากลางทะเลลึกในเขตการดูแลของหน่วยเรา นี่คือยานลำนั้น”


               พูดจบลงเขาก็สั่งให้หน่วยตรวจสอบหลายคนที่สวมชุดป้องกันเต็มที่ก้าวเข้าไปด้านใน ทุกคนทำงานอย่าง

ระมัดระวังเพื่อจะหาทางเปิดเจ้าแคปซูลนั่นใช้เวลาครู่ใหญ่สัญลักษณ์ว่าพวกเขาทำสำเร็จก็ถูกส่งออกมา ผนังด้านหนึ่ง

ของแคปซูลถูกดันขึ้นช้าๆ


               เสียงฮือฮาดังขึ้นจากหน่วยตรวจสอบ คนหนึ่งพูดผ่านไมค์ออกมาอย่างตื่นเต้น


               “มีสิ่งมีชีวิตหนึ่งร่างอยู่ในแคปซูล แต่มันกำลังบาดเจ็บสาหัสมากเราจะทำยังไงดีครับหัวหน้า”


               “นำมันออกมาอยู่ภายใต้การควบคุมตามกฏแล้วให้ฝ่ายชีววิทยาเข้าไปรักษาและศึกษาข้อมูลเชิงสรีรจาก

ร่างกายของมันด้วย”


                นี่คืองานชิ้นใหม่ของปรมะ

               ชายหนุ่มหน้าตาดีที่ใครๆไม่อยากใช้คำว่าหล่อเมื่อได้เห็นเพราะมันค่อนจะไปทางสวยหวานมากกว่า ดวงตาสี

นิลเป็นประกายคือเสน่ห์ดึงดูดจุดใหญ่ของเขาที่ทำให้ทุกคนต่างเหลียวมอง แต่เพื่อนที่ทำงานต่างก็รู้กันว่าปรมะกำลัง

คบหาอยู่กับภูริที่เป็นชายหน้าตาดีอีกคนหนึ่งของฐาน

               
            และตอนนี้ปรมะกำลังตื่นเต้นกับมนุษย์อวกาศจากดวงดาวไกลโพ้นที่เขาเองก็ไม่รู้ที่มา แต่ร่างกายใหญ่โตสีควัน

บุหรี่กำลังรอให้เขาและทีมงานช่วยชีวิต

               แผนกของเขาคือการทำงานด้านชีวิต พวกเขาจะศึกษาวิจัยร่างกายของมนุษย์ต่างดาวที่ถูกจับอยู่ในฐาน แต่

ที่ผ่านมามักจะเป็นร่างที่ไม่มีการเคลื่อนไหว นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปรมะเข้ามาทำงานที่เขาพบว่าสิ่งที่เขาวิจัยอยู่ยังมีลม

หายใจ

               ปรมะและเพื่อนร่วมแผนกกำลังตรวจร่างกายที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงขนาดพอดีกับสิ่งมีชีวิตนั้น ร่างกายภายนอก

สูงใหญ่เกือบเท่าผู้ชายสองคนต่อตัวกัน สีผิวขาวซีดปนเทามีมือเท้าคล้ายมนุษย์โลกแต่ใหญ่กว่ามาก ดวงตาไร้เปลือก

ตาห่อหุ้มแต่มันปิดได้เพราะหนังด้านบนกับด้านล่างมาประกบกันเอง


               “เพศผู้”


               เพื่อนร่วมงานกล่าวขึ้นเป็นข้อมูลให้คนที่ทำหน้าที่บันทึกได้เก็บข้อมูล


               “ลมหายใจเร็วและร้อนมาก ร่างกายก็อุณหภูมิสูงและมีร่องรอยบาดเจ็บ”


               ปรมะขมวดคิ้วเมื่อเขาพบสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายในร่างกายนั้น มือเรียวที่ใส่ถุงมือปราศจากเชื้อวางแนบไปกับ

ส่วนลำตัวพร้อมกับตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ ปรมะเบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น


               “พบสิ่งมีชีวิตอยู่หนึ่งร่างอยู่ในร่างกายนี้คาดว่าน่าจะเป็นลูก”


               เสียงฮือฮาดังขึ้นก่อนที่คนในแผนกจะวิ่งเข้ามาดูผลจากจอมอนิเตอร์เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวภายในช่องท้อง

แต่ทันใดนั้นทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อสัญญาณชีพจากสิ่งมีชีวิตที่นอนบาดเจ็บจะหยุดลง


               “มันหยุดหายใจแล้ว เอาไงดีในท้องมันมีลูกนะ”


               “เราต้องช่วยมัน”


               ปรมะตัดสินใจ เขาวิ่งไปคว้าเครื่องมือผ่าตัดเล็กออกมาแล้วใช้มีปลายแหลมกรีดลงไปบนผนังหน้าท้องหนา

อย่างยากลำบากในขณะที่คนอื่นแบ่งหน้าที่ไปช่วยฟื้นคืนชีพ ครู่ใหญ่ปรมะจึงสามารถแหวกช่องท้องลงไปมองเห็นตัว

อ่อนที่เกาะติดอยู่ตรงช่องท้อง เขาควักมันออกมาท่ามกลางของเหลวสีเขียวอ่อนที่น่าจะเป็นเลือดของสิ่งมีชีวิตจากดาว

อื่น

               ตัวอ่อนขนาดเท่าเด็กสักสองขวบดิ้นไปมาอยู่ในอ้อมกอดของปรมะที่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ในขณะที่เพื่อน

ร่วมงานพากันสบถเมื่อไม่สามารถยื้ออีกหนึ่งชีวิตไว้ได้ พวกเขาพากันมามุงดูสิ่งมีชีวิตแรกเกิดในอ้อมแขนของปรมะ


               “โชคดีนะที่ลูกของมันยังไม่ตาย แล้วเราจะเรียกมันว่าอะไรดีล่ะ”


               ปรมะจ้องมองใบหน้าแปลกประหลาดนั้นแล้วคลี่ยิ้มออกมา


               “เราจะเรียกมันว่าเอวัน”


               ทันทีที่เขาพูดจบปรมะก็สะดุ้งเมื่อผนังหุ้มตาของมันเปิดออก ดวงตาสีเขียวเบิกโพลงจ้องมองปรมะไม่วางตา

               






               “ภูไม่เห็นด้วยเลยที่ปอจะเลี้ยงมันไว้”


               ภูริส่ายหัวไปมาเมื่อรู้ที่มาที่ไปของเอวันที่อยู่ในตู้อบขนาดใหญ่ เขามองมันอย่างไม่ไว้วางใจ


               “จุดประสงค์ของมันที่มายังโลกเราก็ยังไม่รู้ ร่างกายของมันจะมีอันตรายหรือเปล่าก็ยังไม่รู้อีก แล้วจะเลี้ยงมัน

ไปทำไม”


               “ไม่เอาน่าภู อย่าพูดอย่างนั้นสิเอวันน่าสงสารออก เกิดมาพ่อเอ๊ะ หรือแม่ก็มาตายแถมยังมาเกิดในดาวที่ไม่ใช่

ดาวตัวเองด้วย”


               “ใครใช้ให้มาดาวโลกกันล่ะ”


               ภูริยักไหล่พลางขมวดคิ้วมองตัวอ่อนขนาดใหญ่ที่ส่ายมือเปะปะไปมาอยู่ในตู้อบ ดวงตาสีเขียวมองมายังเขา

อย่างหงุดหงิด


               “จะมองกูทำไมไอ้ตัวประหลาด”


               ภูริจ้องตาตอบกลับ


               “ทำเป็นหงุดหงิดไอ้นี่ เดี๋ยวเหอะ”


               “มันคงหิวล่ะมั้งตั้งแต่เกิดมายังไม่ได้กินอะไรเลยนี่”


               “อ้าว แล้วจะเอาอะไรให้มันกินล่ะ”


               ภูริถามอย่างสงสัย ทันใดนั้นเสียงเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของปรมะก็ดังลั่น


               “ผลวิเคราะห์เลือดของมันอย่างละเอียดออกแล้ว ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยสารปรอททั้งนั้น”


               ปรมะดีดนิ้วเปาะก่อนจะวิ่งไปที่ห้องเก็บสารเคมีที่อยู่ด้านหลัง เขาหยิบสารปรอทสีเงินออกมาอย่างระวังกลับ

มาด้วยและใช้หลอดทดลอบดึงมันแล้วยื่นมือเข้าไปในตู้อบจ่อสารปรอทเข้าใกล้ปาก เอวันใช้จมูกใหญ่ดมอยู่พักหนึ่งแล้ว

ค่อยๆดูดกลืนสารปรอทเข้าไปจนหมด


               “สงสัยดาวมันจะมีแต่สารปรอท นี่ไม่เป็นโรคมินามาตะกันบ้างไงวะ”


               ปรมะอดหัวเราะไม่ได้กับอาการพาลของภูริที่ทำท่าฮึดฮัดก่อนจะเดินออกไปทำงานต่อ เมื่อเอวันกินสารปรอท

จนอิ่มหนำก็ปิดเยื่อหุ้มตาแล้วหลับลงไป เขาจึงได้กลับมานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง

               ชายหนุ่มมองผลการวิเคราะห์โครโมโซมของเอวัน สิ่งมีชีวิตที่ดวงดาวอันไกลโพ้นมีโครโมโซมเพศวายเพียง

อย่างเดียวแสดงว่าการผสมพันธุ์จนเกิดตัวอ่อนก็คือโครโมโซมวายกับวาย ปรมะเลิกคิ้วเมื่อเดาว่าดาวดวงนั้นก็จะเป็น

ดวงดาวที่มีแต่เพศผู้เหมือนกันหมดทั้งดวงดาว ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปมองเอวันพลางยิ้มอย่างมีเมตตา


               “เป็นเด็กดีนะเอวัน”


               เขาเดินกลับไปแล้ว ปรมะไม่ทันเห็นดวงตาสีเขียวที่จ้องมองตามแผ่นหลังของเขาไม่วางตา




           

               เอวันโตเร็วมาก เพียงสองเดือนรูปร่างก็สูงใหญ่เกือบจะเท่าตัวเต็มวัย และไม่มีใครเข้าใกล้มันได้นอกจากปร

มะเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มันยอมให้เข้ามาภายในห้องควบคุมที่ต้องขยายขนาดเพื่อรองรับ มีปรมะคนเดียวที่สามารถเจาะ

เลือดหรือแตะต้องตรวจร่างกายมันได้ถ้าเป็นคนอื่นเอวันจะอาละวาดและส่งเสียงกรีดร้องด้วยภาษาที่ทุกคนฟังไม่ออก

และโดยเฉพาะวันนี้ที่มันหงุดหงิดเป็นพิเศษจนกระทั่งเขาต้องเข้าไปฉีดยานอนหลับให้มัน


               “อาละวาดอะไรนักหนาก็ไม่รู้”


               เพื่อนคนหนึ่งบ่นอุบเมื่อเห็นเอวันมองตาขวาง อุณหภูมิร่างกายพุ่งสูงลิบ


               “นี่ถ้าเป็นหมาเป็นแมวที่บ้านจะบอกว่ามันติดสัด ถ้าเป็นคนก็จะบอกว่ามันเงี่ยน ฮ่าๆๆ”


               เพื่อนอีกคนพูดขึ้นจนปรมะยื่นมือไปตบปาก


               “พูดมากลามก”


               “หรือไม่จริงไอ้ปอ แหม การระบายออกซึ่งอารมณ์ทางเพศนี่มันก็เป็นเรื่องปกติหรือเปล่าวะ ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตดาว

ไหนมันก็ต้องมีทั้งนั้นแหละไม่งั้นมันจะสืบพันธุ์มีวงศาคณาญาติกันยังไงล่ะไอ้นี่ทำเป็นเขิน มึงนั่นแหละไอ้ปอระวังเหอะ

เอาเวลามาทุ่มให้ไอ้เอวันนี่มากๆเดี๋ยวไอ้ภูแม่งเงี่ยนขึ้นมามึงแหละจะหนาว”


               ปรมะหน้าแดงก่ำ เขาคว้ากระดาษม้วนอยู่ในมือแล้วโยนใส่เพื่อนพลางหัวเราะอย่างขัดเขิน มันก็จริงอย่างที่

เพื่อนบอก เขาเองก็ไม่ได้มีความสุขกับภูริมานานตั้งแต่เอวันเกิดขึ้นมา ก็น่าที่ภูริจะหงุดหงิดอยู่หรอก


               “ไอ้พวกบ้า หมดเวลาทำงานออกเวรไปได้แล้วพวกมึงโน่นฤทธิ์ยานอนหลับออกแล้ว เจ้าเอวันหลับเรียบร้อย

ไม่มีอะไรต้องห่วง”


               หัวเราะกันลั่นก่อนที่เพื่อนๆเขาจะโบกมือแล้วเดินออกไป วันนี้เป็นวันที่เขาต้องอยู่เวรเฝ้าเอวันเพียงลำพังแต่

อยู่คนเดียวไม่นานก็ได้ยินเสียงสัญญาณเรียกหน้าห้อง ปรมะเดินไปเปิดประตูจึงเห็นภูริยิ้มกริ่มอยู่ด้านนอกปรมะยิ้มรับ

พลางเบี่ยงตัวให้ภูริเดินเข้ามาภายในแล้วปิดประตู


                 ทันทีที่อยู่กันเพียงลำพังภูริก็คว้าปรมะมากอดรัดจนแน่นแล้วฝังจมูกโด่งลงบนซอกคอแล้วสูดกลิ่นตัวหอมๆ

ของปรมะ            


               “ปอใจร้าย เบื่อภูแล้วใช่ไหมถึงได้ไม่สนใจกันเลย”


               “ภูอย่าเข้าใจผิด”


               ปรมะเกี่ยวแขนคนรักให้มานั่งบนเก้าอี้ทำงานตัวเล็กของเขา


               “ปอต้องทำงานหนักเพราะช่วงนี้เจ้าเอวันมันกำลังโต ภูอย่าน้อยใจเลยปอรักภูเหมือนเดิมแหละ คิดถึงมาก

ด้วย”


               ดวงตาสีนิลเป็นประกายฉ่ำหวานเมื่อปรมะกางขานั่งคร่อมลงไปบนตักของภูริ เขาประคองใบหน้าคมของภูริ

แล้วประกบปากแนบชิด ภูริขยับตัวเบียดแนบโอบเอวคอดเข้าหาพลางส่งปลายลิ้นเข้าไปตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กจนหอบตัวโยน


               “อยากจูบปอมาหลายวันแล้วรู้หรือเปล่า”


               เสียงของภูริสั่นไหวแหบพร่า เขาใช้ลิ้นเกี่ยวลิ้นชื้นของปรมะออกมาดูดดุนอยู่นอกริมฝีปากจนน้ำใสเชื่อมกัน

เป็นแนวยาวเมื่อผละจากกัน ปรมะเอียงคอให้ภูริได้ฝังปากขบเม้มถนัดๆพลางเบียดกายเข้าหาให้แผ่นอกถูไถจนลม

หายใจร้อนผ่าว


               “ปอก็คิดถึงภูจะตายอยู่แล้ว”


               ปรมะพึมพำเสียงสั่นพร่าไม่แพ้กัน สองมือโอบกอดไปที่แผ่นหลังแล้วกดบีบเบาๆปล่อยให้ภูริปลดกระดุมเสื้อ

เชิ้ตของเขาทีละเม็ดจนกระทั่งผิวกายขาวผ่องอวดสายตาพร้อมยอดอกสีชมพูงดงามที่ล่อตาให้ภูริใช้ปลายลิ้นแตะลงไป

เบาๆ


               “อื้อ ภู”


               ปรมะเหยียดกายให้ภูริได้ละเลงลิ้นลงบนยอดอกข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ถูกปลายนิ้วของภูริคีบดึงแล้วบีบเค้น

รอบลานนม ร่างโปร่งกดสะโพกเข้าหาจุดกึ่งกลางลำตัวของภูริแล้วถูไถไปมาจนรู้สึกถึงความแข็งขืนอยู่ภายใต้ร่มผ้า ปร

มะเป่าปากสยิวกายไปมาเขาเลื่อนมือไปลูบไล้ขอบกางเกงของภูริแล้วปลดซิปออก มือเรียวคว้าท่อนเนื้ออุ่นจนร้อนมา

คลึงเคล้าจนรู้สึกถึงความชื้นที่ปริ่มออกมา


               “เซ็กซี่จังเลยปอ”


               ภูริครางอย่างถูกใจเมื่อเห็นคนบนตักเงยหน้าสูดลมเข้าปอด ดวงตาคู่สวยปรือฉ่ำพลางเม้มริมฝีปากแดงเรื่อ

เบาๆ ภูริยกสะโพกปรมะเพื่อจะดึงกางเกงออกจนพ้นต้นขา


               “กดลงมาเลยไหมครับปอ ภูอยากจะเข้าไปในตัวปอจะแย่แล้ว”


               เสียงทุ้มกระซิบเบาๆปรมะยิ้มรับ เขาโหย่งสะโพกแล้วจับแท่งเนื้อร้อนจนเส้นเลือดโปนของภูริจ่ออยู่ตรงปาก

ทางแล้วกดช่องทางของตัวเองลงมาช้าๆ สองแขนโอบคลองรอบคอภูริพลางเอียงคอซบไหล่กว้างกัดฟันรับความคับ

แน่นที่ค่อยๆสอดลึกเข้าไปจนกระทั่งเนื้ออ่อนสัมผัสถึงขนหยาบปรมะก็รู้ว่ามันเข้ามาจนสุดโคนแล้ว


               “เสียวมาก คับแน่นฟิตเหมือนเดิมนะครับปอที่รัก”


               ภูริเป่าลมเบาๆเมื่อช่องทางของปรมะกำลังโอบรัดอยู่รอบลำแท่งจนแทบขาดใจ ภูริบีบแก้มก้นนุ่มมือจนได้ยิน

เสียงครางหวานลอดออกมา เขาดึงเอวออกมาพร้อมผ่อนลมหายใจแล้วกระแทกเข้าไปใหม่


               “อ๊า ภู เสียวจัง”


               ปรมะปล่อยเสียงครางลั่น เขาเอียงหน้าไปบดจูบหนักหน่วง สะโพกกลมกลึงเบียดลงแล้วขยับเป็นวงกลมให้

ท่อนเนื้อที่ฝังกายควงสว่านอยู่ภายในจนเบียดแนบจุดกระสันให้ความเสียวซ่านแล่นปราดตั้งแต่หัวจรดเท้า สองขาของ

ปรมะเกาะเกี่ยวไปรอบเก้าอี้แล้วยิ่งคลึงสะโพกเรียกเสียงครางต่ำออกมาจากลำคอของภูริบ้าง


               “จะฆ่ากันหรือปอ นี่เกือบแตกแล้วนะ”


               ภูริเองก็ไม่ยอมแพ้ เขาเด้งเอวเข้าใส่มือใหญ่จับเอวปรมะไว้แน่นแล้วยกขยับขึ้นลงจนพากันสั่นสะท้าน ปรมะ

กอบกุมแท่งเนื้อสีสวยของตัวเองแล้วรูดรั้งไปมา กัดฟันด้วยความเสียวซ่านจนกระทั่งร่างกายทนไม่ไหวบีบเกร็งหดรัด

น้ำขาวขุ่นก็ทะลักออกมา ภูริหอบลึกเร่งเครื่องสาวเอวจนปรมะพ่นเสียงครางฮือเขาจึงอัดผลผลิตให้ปรมะรองรับรีดเค้นจน

ตัวเบา


               ต่างพากันซบหน้าลงบนบ่าของอีกฝ่ายจึงไม่มีใครเห็นดวงตาสีเขียวที่เบิกโพลงมองมาตั้งแต่ภูริก้าวเข้ามาใน

ห้องทดลอง
                        


     


  มีต่ออีกจ้า...

หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-05-2015 22:04:28
ต่อกันตรงนี้






             กว่าจะออกเวรเฝ้าเอวันก็เที่ยงคืน ปรมะล้มตัวนอนหลับสนิทอยู่ในห้องพักเนื้อตัวเบาหวิวเมื่อได้ปลดปล่อยออก

ไปกับภูริเมื่อตอนหัวค่ำแต่เพิ่งคล้อยหลับไปได้ไม่นานก็ต้องสะดุ้งตื่นกับเสียงดังโหยหวนของสัญญาณเตือนภัย ปรมะรีบ

ลุกมาแต่งตัวลวกๆแล้ววิ่งออกมาภายนอกที่กำลังโกลาหลกันยกใหญ่


               “เกิดอะไรขึ้น”


               เขาถามเพื่อนคนหนึ่งเมื่อวิ่งไปถึงห้องทดลอง หัวหน้าของเขากำลังยืนสั่งการหน้าเครียดเมื่อห้องควบคุมเอ

วันถูกทำลายลง ปรมะตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งมาทำงานต่อเวรจากเขานอนอยู่

กับพื้น


               “ทุกคนออกตามหาเอวันแล้วจับมันกลับมาให้ได้ เราจะให้คนอื่นเห็นมันไม่ได้เป็นอันขาด”


               สิ้นคำสั่งทุกคนก็กระจายกำลังกันออกไปจากห้อง จับกลุ่มกันออกไปตามหามนุษย์ต่างดาวจากนอกโลก


                “ปอ ระวังด้วย”


               ภูริเอ่ยด้วยความเป็นห่วง ปืนไฟฟ้าอานุภาพสูงอยู่ในมือของเขา ปรมะพยักหน้ารับพลางกระชับปืนในมือตัว

เองเช่นกัน

                 ปรมะก้าวออกไปทางประตูด้านบนพร้อมกับเจ้าหน้าที่คนอื่น เมื่อประตูที่เปิดออกไปสู่พื้นดินด้านบนเปิดออก

บรรดาเจ้าหน้าที่ก็วิ่งแยกย้ายกันไปเป็นกลุ่มๆ

                ภายใต้ความมืดบนเกาะโดดเดี่ยว มีเสียงแสงจันทร์เสี้ยวที่ช่วยอะไรไม่ได้เลยเมื่อเขาต้องตามหาตัวประหลาด

ปรมะพยายามกวาดสายตาในความมืด ต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมยิ่งเป็นที่ซ่อนให้เอวันได้วเป็นอย่างดี

               แสงสีเขียวสองจุดพุ่งวาบอยู่ในลานสายตา ปรมะหันขวับไปมองก่อนจะตะโกนให้ภูริและเพื่อนอีกสองถึงสาม

คนที่มาทางเดียวกันได้รู้


               “เอวันอยู่ทางโน้น”


               ทุกคนพุ่งไปทางที่ปรมะบอก แต่เมื่อไปถึงกับพบแต่ความเงียบสนิทจนได้ยินแต่เสียงลมหายใจที่ดังสลับกัน

ทันใดนั้นร่างกายใหญ่โตสีควันบุหรี่ก็พุ่งเข้ามากลางวงอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวมันก็ตะปบจนเพื่อนของเขาพากัน

ร่วงลงกับพื้น


               “เอวัน หยุดนะ”


               ปรมะตะโกนห้ามเมื่อเห็นเอวันมุ่งความสนใจไปหาภูริที่ยืนจังก้าส่องปากกระบอกปืนเข้ามา ดวงตาสีเขียว

ชะงักแล้วหันมามองปรมะพร้อมส่งเสียงคำรามลั่น ภูริถือโอกาสยิงไฟฟ้าใส่จนกระแสไฟสีแดงพุ่งวาบถากหัวไหล่มันไป

เอวันร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อเลือดสีเขียวทะลักออกมา มันหันไปหาภูริแล้วกระโจนเข้าหาใช้มือใหญ่ตบอย่างแรงจนภูริ

ลอยกระเด็นไปกระแทกต้นไม้แล้วร่วงลงมากองกับพื้น


               “ภู!”


               ปรมะตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นคนรักบาดเจ็บ และเมื่อเอวันหันขวับมาพร้อมส่งเสียงคำรามปรมะก็กลัวจนตัว

สั่น


               “ปอ หนีไป”


               เสียงแหบโหยของภูริเตือนสติ ปรมะมองร่างกายใหญ่โตที่ย่างสามขุมเข้ามาหา เขาหันหลังวิ่งหนีไม่คิดชีวิต

เมื่อเอวันกำลังพุ่งตัวตามมาด้านหลัง


               ปรมะวิ่งไม่คิดชีวิตไม่ว่าร่างกายจะชนกับต้นไม้หรือเท้าจะกระแทกกับก้อนหิน แต่เอวันก็ยังตามมาและ

กระโจนเข้าใส่ ปรมะถูกมือใหญ่โตกระชากจนร่วงไปนอนกองกับพื้นแล้วคร่อมตัวอยู่บนร่างกายกดหน้าอกเขาจนแทบจม

ดิน


               “เอวัน อย่า ออกไป!”


               เสียงตะโกนอย่างหวาดกลัวไม่ได้ช่วยสักนิดเมื่อเอวันกระชากเสื้อผ้าจนขาดวิ่น ดวงตาสีเขียวเบิกโพลงเมื่อ

ก้มลงมอง ปรมะมองเห็นอวัยวะของมันตื่นตัวจนน่ากลัว


               “ไม่ ช่วยด้วย อย่านะ ใครก็ได้ช่วยที” 


               เอวันคำรามอย่างกระหายมันดันตัวเข้าใส่ช่องทางของปรมะจนสะดุ้งสุดตัว ปรมะอ้าปากค้างเมื่อความเจ็บปวด

แล่นวาบจนร้องไม่ออก ช่องทางคับแคบรัดรึงจนเอวันเบิกตาโต มันกระทุ้งกายเข้าออกจนโลหิตแดงฉานไหลรินอยู่รอบ

ปากทาง ปรมะส่งเสียงร้องจนหมดแรง มือใหญ่กดอยู่ตรงหน้าอกทำให้เขาดิ้นไม่ได้ต้องปล่อยให้มันกระทำจนหนำใจจน

กระทั่งเอวันคำรามยาวเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อร่างกายของมันปลดปล่อยสารออกมาในช่องทางของเขา ปรมะกัดฟันถีบมัน

ออกแล้วซมซานวิ่งหนีในขณะที่มันยังหมดแรง เขาวิ่งไปจนเจอหน้าผากว้าง

               เมื่อหันกลับไปด้านหลังดวงตาสีเขียวยังคงพุ่งตรงมาหา ปรมะตัดสินใจทิ้งตัวลงทะเลลึกเบื้องล่าง เสียงปืน

ไฟฟ้าดังแว่วเข้าหูเมื่อตัวยังคงลอยละลิ่วอยู่กลางอากาศพร้อมกับเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ปรมะได้ยินเสียงภูริดังแว่วเข้าหู

เป็นครั้งสุดท้าย


               “ปออออ”
               




               ห้าปีแล้วที่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น เมื่อเขาตามไปใช้ปืนไฟฟ้ายิงเข้าแผ่นหลังของไอ้ตัวประหลาดนั่นอย่างจัง

จนมันล้มดิ้นพล่าน แต่เขาก็ช่วยร่างบอบบางที่ลอยตกหน้าผาไม่ทัน ภูริกัดฟันกับความสูญเสียที่เขาได้รับ ทะเลลึกกลืน

ชีวิตของปรมะไปโดยที่เขาไม่มีโอกาสจะเห็นแม้แต่ร่างกายไร้วิญญาณ อยากจะฆ่าไอ้ตัวประหลาดให้ตายคามือจนเพื่อน

ร่วมงานที่ตามมาต้องรีบห้ามไว้และควบคุมไอ้ตัวประหลาดกลับมายังฐานอีกครั้ง

               ห้าปีแล้วที่เขาต้องจ่อมจมกับความเจ็บปวดมองหน้าไอ้ตัวประหลาดด้วยความแค้น จนกระทั่งในวันนี้ที่มันหนี

ไปได้อีกครั้ง และคราวนี้ภูริจะคร่าชีวิตมันชดเชยให้กับปรมะให้ได้ เขาสาบาน!








               ร่างสูงโปร่งพอๆกับเด็กวัยรุ่นทั่วไปดำผุดดำว่ายอยู่กลางทะเลลึก ผิวที่เคยขาวถูกไอแดดเผาจนออกสีแทน

ลอยตัวอยู่กลางทะเลสีครามอย่างไม่สนใจเปลวแดดสักนิด


               “หยก กลับมาบนฝั่ง”


               เสียงตะโกนของบุรุษที่ยืนเด่นอยู่บนหาดทรายเรียกความสนใจได้เล็กน้อยแต่เจ้าตัวก็ยังเริงร่ากับน้ำทะเลใส

แจ๋ว


               “หยก พ่อบอกให้กลับมาได้ยินไหม หยก นีลสาคร พ่อบอกให้กลับมา”


               เสียงเรียกชื่อจริงทำให้รู้ว่าคนเรียกชักไม่สบอารมณ์ เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มมองเห็นฟันขาวกระจ่างก่อนจะว่ายน้ำเข้า

ฝั่งแล้วโผกอดเอวบิดา


               “พ่อโยเรียกหยกมีอะไรหรือเปล่าครับ”


               โยธินหัวเราะเบาๆเมื่อถูกกอดรัด เขาลูบผมดกดำของเด็กหนุ่มอย่างรักใคร่ เด็กหนุ่มที่กอดรัดยอมปล่อยท่อน

แขนแล้วเงยหน้าขึ้นมา

               ดวงตาสีเขียวมองโยธินด้วยความรักไม่แพ้กัน



                                                                               TBC


                                                          :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
               
                                    จบตอนนี้น่าจะเข้าใจกันแล้วเนอะ ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นไง ฮี่ๆๆๆ
                                       หรือว่าใครจะลองสรุปให้หน่อยก็ดีน้า

               
               
               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-05-2015 22:08:26
 :katai2-1:  น่าสนุก
พ่อโยยังเลี้ยงลูกด้วยปรอทอยู่รึเปล่าเนี่ย  ไม่อยากให้ภูมาแก้แค้นผิดตัวเลยนะจริงๆ
ว่าแต่คุณแม่ชลล่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: LoveYoukissme ที่ 11-05-2015 22:11:56
ชักเข้มข้นขึ้นมาแล้วสิ
รอตอนต่อไปค่า
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 11-05-2015 22:15:14
จบเรื่องนี้แล้วขอความกรุณาทำบทสรุปให้ด้วย งง ตามไม่ทันเท่าไหร่ อินดี้สุดละเรื่องนี้ 5555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 11-05-2015 22:28:04
 :katai1:  น้องชลไปหน๊ายยยยยยยยยย  แล้วตอนหน้า ภูจะมาเจอตัวหยกสินะ  :z3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 11-05-2015 22:53:09
ชล(ปรมะหรือปอ)เคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ คบกับภูริ วันนึงมีสัตว์ประหลาดตัวผู้ที่กำลังท้องจากนอกโลกตกลงมา ตัวโตตายตัวลูกรอด ชื่อ เอวัน  ไปๆมาๆชล(ปอ)โดนเอวันข่มขืนจนต้องโดดลงทะเล จนความจำเสื่อมแล้วไปเจอกับ โยธิน แล้วก็กลายเป็นแฟนกัน แล้วก็ท้องลูกของเอวัน หรือที่ชื่อ โย


ปลล.ประมาณนี้มั้ย?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-05-2015 22:57:29
ชล(ปรมะหรือปอ)เคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ คบกับภูริ วันนึงมีสัตว์ประหลาดตัวผู้ที่กำลังท้องจากนอกโลกตกลงมา ตัวโตตายตัวลูกรอด ชื่อ เอวัน  ไปๆมาๆชล(ปอ)โดนเอวันข่มขืนจนต้องโดดลงทะเล จนความจำเสื่อมแล้วไปเจอกับ โยธิน แล้วก็กลายเป็นแฟนกัน แล้วก็ท้องลูกของเอวัน หรือที่ชื่อ โย


ปลล.ประมาณนี้มั้ย?


ถูกต้องคร้าบ เก่งมาก
แต่ลูกของชลกับไอ้เอวันชื่อ หยกจ้า ชื่อจริงว่า นีลสาคร แปลว่า ทะเลสีเขียว ขอรับ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 11-05-2015 23:14:46
ชล(ปรมะหรือปอ)เคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ คบกับภูริ วันนึงมีสัตว์ประหลาดตัวผู้ที่กำลังท้องจากนอกโลกตกลงมา ตัวโตตายตัวลูกรอด ชื่อ เอวัน  ไปๆมาๆชล(ปอ)โดนเอวันข่มขืนจนต้องโดดลงทะเล จนความจำเสื่อมแล้วไปเจอกับ โยธิน แล้วก็กลายเป็นแฟนกัน แล้วก็ท้องลูกของเอวัน หรือที่ชื่อ โย


ปลล.ประมาณนี้มั้ย?


ถูกต้องคร้าบ เก่งมาก
แต่ลูกของชลกับไอ้เอวันชื่อ หยกจ้า ชื่อจริงว่า นีลสาคร แปลว่า ทะเลสีเขียว ขอรับ



 เด๊วๆๆๆๆๆ   ตกลงโยเนี่ยคือ เอวันหลอ  จริ๊งงงงงงงงงง  ตกลงยังไง  :m31:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-05-2015 23:23:10
ชล(ปรมะหรือปอ)เคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ คบกับภูริ วันนึงมีสัตว์ประหลาดตัวผู้ที่กำลังท้องจากนอกโลกตกลงมา ตัวโตตายตัวลูกรอด ชื่อ เอวัน  ไปๆมาๆชล(ปอ)โดนเอวันข่มขืนจนต้องโดดลงทะเล จนความจำเสื่อมแล้วไปเจอกับ โยธิน แล้วก็กลายเป็นแฟนกัน แล้วก็ท้องลูกของเอวัน หรือที่ชื่อ โย


ปลล.ประมาณนี้มั้ย?


ถูกต้องคร้าบ เก่งมาก
แต่ลูกของชลกับไอ้เอวันชื่อ หยกจ้า ชื่อจริงว่า นีลสาคร แปลว่า ทะเลสีเขียว ขอรับ



 เด๊วๆๆๆๆๆ   ตกลงโยเนี่ยคือ เอวันหลอ  จริ๊งงงงงงงงงง  ตกลงยังไง  :m31:


เสปิร์มเอวัน แต่โยธินรับเลี้ยงโง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 12-05-2015 00:59:19
ท่าภูริจะมาเจอสินะ  ภูริจะมาเอาปรมะ แล้วเหลือหยกให้โยธินหรือเปล่า?
โคตรอินดี้เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 12-05-2015 04:01:26
เป็นนิยายที่พล็อตโคตรแปลกจริงๆ เลยให้ตายสิ! -O-;; พอจะเข้าใจละ
เรื่องในอดีตเฉลยออกมาแล้ว ทีนี้ก็เหลือให้เรื่องในปัจุบันดำเนินต่อไป (รึเปล่าหว่า?)
ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะจบยังไง และใครเป็นพระเอก!
เป็นกำลังใจให้ค่าาา
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: Gamyaoi ที่ 12-05-2015 07:47:46
คล้ายหนังเรื่องนึงที่เคยดูเลยค่ะ ชื่อเรื่องว่า splice อ่ะค่ะสนุกมากค่ะชอบเรื่องแนวนี้อยู่แล้วด้วย เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ ติดตามทุกเรื่องเลย :impress2: :mew1:่
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 12-05-2015 09:45:42
สุดยอดดดดดด  เรียบเนื้อเรื่องได้อินสุดๆ

รอตอนหน้าครับ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 13-05-2015 12:39:02
โอ้โห อย่างอินดี้เลยเรื่องนี้สนุกค่ะๆ โดยรวมเราเข้าใจแจ่มเลยว่าทำไม่หยกตาสีเขียนแล้วก็ชอบกินปรอท
อดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าปอได้เจอกับภูริอีกครั้งจะเป็นไงนะภูริคงจะแค้นมากจริงๆแล้วที่เอวังหนีไปได้คงจะออกไปตามหาลูกตัวเองชัว :katai5:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 13-05-2015 16:14:36
ไม่งงนะที่คนแน่งต้องการจะสื่อ
แต่ลุ้นตอนจบนี่สิว่าจะเป็นยังไง
ว่าแต่เอวันหนีออกมาตามหาปอหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 13-05-2015 18:59:08
อ่อ เข้าใจเรื่องโดยรวมทั้งหมดแล้วววว เย้!!
แต่ว่าตอนนี้ ชล ไปไหนน๊า
แล้วจะจบยังไงเนี่ย รักสามเศร้า สี่เศร้าของคนกับสัตว์ประหลาดหรอเนี่ย มีลูกด้วยนา ตาเขียวๆๆ =_=
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 13-05-2015 20:16:39
กรี๊ดดดด ไม่ได้เข้ามาอ่านเลยยย
เรื่องแรกจบด้วยดี
เรื่องนี้มาเจ้มจ้นนนนมากกกกกก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 14-05-2015 07:43:43
เดาทางไม่ถูกเลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 14-05-2015 09:34:27
เคยดูหนังแนวๆนี้เลย นักวิทยาศาสตร์ผัวเมียเลี้ยงสัตว์ประหลาดเพศเมีย พอมันโตก็มีความต้องการ จะมีอะไรกับสามีเขา แต่ก็ไม่ได้ พอหวิดไป มันดันกลายร่างเป็นตัวผู้จะเอาเมียเขาอีก แถมสำเร็จ ฆ่าผัวเขา แล้วก็ทิ้งเด็กในท้องไว้ให้ผู้หญิงดูต่างหน้า  พออ่านตั้งแต่เจอภูริกับปอ แล้วมีตัวประหลาดโผล่มาเลยเริ่มเข้าใจเนื้อเรื่องและ แต่ก็เดาอะไรไม่ได้อยู่ดีนะ คนเขียนทำไรเหนือความคาดหมายเสมอ รีบมาต่อนะ รออยู่
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 14-05-2015 13:34:23
หรือเอวันจะหลงรักปอ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 4 >> 11/05/58# MPREG#
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 14-05-2015 15:05:50
 :z2:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-05-2015 00:20:58


                                                         ตัวประหลาด

                                                             บทที่ 5


               นีลสาคร แปลว่า ทะเลสีเขียว

               หยกรักชื่อจริงของเขาที่พ่อตั้งให้ เพราะหยกรักทะเล

               หยกคืออัญมณีที่มีทั้งความแข็งแกร่งและอ่อนโยนอยู่ในเนื้อเดียวกัน


               “พ่ออยากให้หยกเป็นเด็กที่เข้มแข็งแต่ก็อ่อนโยนเหมือนกับชื่อ”


               พ่อบอกอย่างนั้นและหยกก็จำขึ้นใจ

               ความจริงหยกก็จำทุกๆคำสอนที่พ่อพูดอยู่เสมอ รวมทั้งความรู้ต่างๆที่พ่อคอยสอนให้เขาอ่านออกเขียนได้

แม้ว่าจะไม่เคยไปเรียนในโรงเรียน พ่อบอกว่าหยกเป็นเด็กพิเศษที่ไม่จำเป็นต้องไปเรียนกับคนอื่นแค่มีพ่อสอนก็พอแล้ว

หยกก็คิดว่าอย่างนั้นเพราะถ้าหยกไปเรียนในโรงเรียนเล็กๆกลางหมู่บ้านคงกลายเป็นตัวประหลาดแน่ๆ

               จะไม่ให้ประหลาดได้อย่างไรก็ในเมื่อพ่อบอกหยกว่าหยกเพิ่งจะมีอายุครบห้าขวบแต่ตัวกลับโตเท่ากับพี่ชัย

ลูกชายลุงชิดผู้ใหญ่บ้านที่อายุสิบห้าแทนที่จะตัวเท่ากับเจ้าจิ๋วลูกน้าดาที่เกิดใกล้เคียงกัน แถมหยกยังมีเรี่ยวแรงเกินตัว

ขนาดยกของหนักได้ทีเป็นร้อยกิโลแบบสบายๆ นี่อาจเป็นสาเหตุที่พ่อต้องย้ายบ้านที่อยู่ติดกับชายหาดแล้วย้ายไปสร้าง

ใหม่จนไกลลึกเข้าไปในเกาะเพื่อหลีกเลี่ยงจากสายตาคนอื่นที่ชอบสอดรู้สอดเห็น บ้านดินของหยกเป็นบ้านชั้นเดียวมุง

ด้วยทางมะพร้าวรอบบ้านรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่บดบังตัวบ้านไว้ภายในมีสองห้องนอนกับอีกหนึ่งห้องโถงกว้าง

ห้องนอนหนึ่งคือห้องของหยกส่วนอีกห้องหนึ่งคือห้องของพ่อโยธินและแม่ชลของเขา

               พูดถึงแม่ชลรอยยิ้มก็เกิดขึ้นมาจนแก้มบุ๋มเห็นลักยิ้ม แม่ของหยกเป็นผู้หญิงที่แปลกไม่แพ้กันกับหยก หยก

นึกถึงผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่งปล่อยผมยาวสยายที่มักจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าของชาวพื้นเมืองแต่แม่ก็ยังงดงามผิดแผกไป

จากหญิงชาวบ้านทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ก็แม่ของหยกสวยหวานขนาดนั้นมันย่อมแตกต่างอยู่แล้วแต่มันจะดีกว่านี้ถ้าแม่

ของหยกจะเอื้อนเอ่ยด้วยเสียงหวานเหมือนหน้าตาให้หยกได้ยินบ้าง


               ใบหน้าสดใสกลับหมองลงเมื่อคิดถึงตรงนี้ ตั้งแต่เกิดมาหยกไม่เคยได้ยินเสียงพูดของแม่นอกจากเสียงอือๆ

อาๆที่แม่พยายามเปล่งออกมา พ่อบอกว่าเสียงของแม่หายไปตั้งแต่วันที่คลอดหยกพ่อพยายามค้นหาสาเหตุและรักษา

แม่แต่ก็ไม่สำเร็จ หยกอยากให้แม่พูดได้ มันจะดีแค่ไหนถ้าหยกได้ยินเสียงแม่บอกรักหยก


               “ได้ปลามาเยอะหรือเปล่า”


               พ่อโยถามเมื่อพวกเขาเดินลึกจากชายฝั่งเข้ามาจนเกือบจะถึงตัวบ้าน หยกคลี่ยิ้มกว้างเมื่อยกกระชังที่สะพาย

อยู่บนบ่าอวดพ่อ


                “เยอะสิพ่อ คราวนี้พ่อทำปลาเผาให้แม่กินได้อีกหลายวัน”


               “เก่งมาก ไม่เสียแรงที่เป็นลูกพ่อ”


               พ่อโยวางมือมาบนบ่าที่เตี้ยกว่าพ่ออยู่แค่เล็กน้อยแล้วพากันเดินเข้าไปในบ้านที่มีหญิงคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสือ

อยู่บนเก้าอี้สานอยู่ริมหน้าต่าง เมื่อมองเห็นพ่อและลูกเดินกอดคอกันมาหนังสือในมือก็ถูกวางลงบนโต๊ะตัวเล็กที่อยู่ด้าน

ข้างก่อนจะยืนขึ้นแล้วส่งรอยยิ้มต้อนรับ รูปร่างสูงเพรียวสวมใส่เสื้อคอวีลายดอกดวงสะดุดตาและผ้าถุงสีสดยาวกรอมเท้า

เช่นเดียวกับผู้หญิงบนเกาะ ผมสีดำสนิทเฉกเช่นนัยน์ตาของเธอปล่อยยาวสยายถึงกลางหลังยิ่งส่งใบหน้าหวานให้ยิ่ง

งดงาม


               “แม่จ๋าหยกกลับมาแล้ว”


               หยกวิ่งเข้าไปแล้วสวมกอดร่างบางอย่างแสนรัก มือเรียวของแม่วางไว้บนหัวพลางลูบเบาๆหยกยิ้มกว้างก่อน

จะเงยหน้าขึ้นมองมารดา แต่ทันใดนั้นทั้งหยกและพ่อโยก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องไม่เป็นภาษาดังขึ้นพร้อมกับแม่ชล

ที่ยืนตัวแข็งเหงื่อแตกซิกๆ พ่อโยรีบวิ่งมาแยกหยกกับแม่ออกจากกันแล้วกอดแม่ไว้แน่น พ่อหันมาทางหยกเพ่งมอง

ใบหน้าเขม็ง


               “หยก รีบไปใส่คอนแทกเลนส์เร็วเข้า”


               ไม่ต้องเอ่ยซ้ำ หยกรีบวิ่งไปที่หน้าโต๊ะกระจกบานมัวที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้องโถง บนโต๊ะมีกล่องคอนแทก

เลนส์ตั้งอยู่จำนวนมาก หยกรีบคว้ามันมากล่องหนึ่งแล้วเปิดมันออกใส่เข้าไปในดวงตาอย่างชำนาญ

เท่านี้ดวงตาสีเขียวของหยกก็กลายเป็นสีดำ


                “แม่ชล แม่ชลจ๋าหยกขอโทษ ลืมตามองหยกสิครับ ตาหยกเป็นสีดำแล้วนะ”


               หยกคว้ามือนุ่มของแม่มากุมในขณะที่แม่ยังนั่งตัวสั่นอยู่บนเก้าอี้โดยที่มีพ่อโยกอดปลอบโยน ใบหน้าของแม่

ซีดเผือดเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนหยกต้องเอ่ยปากประโยคเดิมอีกหลายครั้งกว่าแม่จะยอมเปิดเปลือกตาขึ้นมามอง

เมื่อเห็นหยกที่มีดวงตาสีดำร่างสั่นเทาก็ค่อยๆบรรเทาลงแต่กว่าจะเป็นปกติก็ใช้เวลาพักใหญ่


               บางทีหยกก็เกลียดดวงตาของตัวเองที่ทำให้แม่ไม่รัก


               “หยกอยากจะควักลูกตาตัวเองทิ้ง”


               หยกพูดกับพ่อโยเมื่ออยู่กันตามลำพัง พ่อโยให้แม่ชลกินยาคลายเครียดแล้วพาไปนอนพักอย่างเช่นทุกครั้งที่

เกิดเหตุการณ์นี้ เมื่อแม่ชลหลับแล้วพ่อโยจึงได้ออกมาจากห้อง


               “หยกไม่อยากให้แม่ชลเกลียดหยกเพราะว่าไอ้ดวงตาที่เป็นสีเขียวไม่เหมือนคนอื่น เป็นตัวประหลาดใน

สายตาคนอื่นน่ะหยกทนได้ แต่หยกไม่อยากเป็นตัวประหลาดในสายตาแม่”


               น้ำใสรื้นไปทั้งหน่วยตาของใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงมารดาแทบไม่มีผิดเพี้ยนยกเว้นลักยิ้มที่บุ๋มเข้าไปใน

แก้มเนียนใสของหยก พ่อโยถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางวางมือลงมาบนหัวของหยกแล้วโยกเบาๆ


               “อดทนนะหยก พ่อเองก็ไม่รู้ว่าทำไมแม่ชลของหยกถึงได้กลัวดวงตาสีเขียวนัก แต่หยกเชื่อพ่อเถอะว่าแม่เขา

ไม่ได้เกลียดหยกแน่ๆ”


               พ่อโยพูดให้หยกคลายความเศร้า หยกเอียงหัวซบลงกับไหล่ของพ่อแล้วร้องไห้ออกมา

               





               “พ่อโย หยกไปว่ายน้ำนะครับ”


               “อย่าไปไกลนักนะหยก ช่วงนี้ลมมรสุมกำลังเข้า”


               พ่อโยเตือนไล่หลังในวันรุ่งคืนเมื่อความสดใสกลับคืนมาสู่บ้านหลังน้อย แม่ชลตื่นขึ้นมาตอนเช้าด้วยอาการที่

เป็นปกติหยกเข้าไปกอดรัดคลอเคลียกินอาหารเช้าฝีมือพ่อโยด้วยกันจนอิ่มท้องหยกจึงได้วิ่งไปที่ทะเล


               หยกรักทะเลเหมือนพ่อโย หยกชอบที่จะแหวกว่ายอยู่ในน้ำทะเลสีครามพลางก้มหน้าลงไปมองปะการังและ

เหล่าฝูงปลาตัวน้อยที่ยังสวยสดอยู่ข้างใต้ เรี่ยวแรงของหยกมีมากขึ้นทุกวันจนสามารถว่ายไปลึกจนสุดลูกตาโดยที่พ่อ

โยยังไม่รู้เพราะหยกไม่อยากให้พ่อโยต้องเป็นห่วง อย่างวันนี้ก็เช่นกันที่หยกลอยคออยู่กลางทะเลท้าทายแสงแดดที่

จัดจ้าขึ้น แต่แล้วความสนุกของหยกก็ชะงักเมื่อหยกมองเห็นควันไฟสีดำพวยพุ่งอยู่ห่างไปไกลลิบ


               “ควันอะไรหวา”


               ด้วยความอยากรู้จนลืมความระมัดระวังหยกจึงว่ายตรงไปยังกลุ่มควันนั้นอย่างไม่รีรอ ภาพเรือติดเครื่องยนต์

ไม่ใหญ่นักเริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นเมื่อหยกว่ายเข้าไปใกล้ ควันดำพวยพุ่งมาจากด้านหลังที่หยกคาดว่าน่าจะเป็นถัง

น้ำมันเชื้อเพลิง หยกลอยคอว่ายไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าเปลวไฟสงบลงแล้วจนไม่น่ามีอันตรายหยกจึงค่อยๆปีนขึ้นไปบน

กราบเรือ



              “เฮ้ย เกิดอะไรขึ้นวะ”


               หยกอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นร่างกายไร้การเคลื่อนไหวกระจัดกระจายกันอยู่ราวสี่ถึงห้าคน หยกจรดเท้าก้าว

ย่องทีละนิด เขารู้ว่าร่างกายเหล่านี้ไม่มีการหายใจอีกต่อไปแล้วด้วยสภาพบาดเจ็บจนโลหิตสีแดงฉานเจิ่งนองเต็มพื้นเรือ

ไปหมด


               “ฮัก  ฮัก”


               หยกหันขวับไปมา หูพยายามเงี่ยฟังแหล่งที่มาของเสียงนั้น ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อเห็นชายคนหนึ่งนอน

คว่ำหน้าอยู่กับพื้นเรือ ใบหน้าด้านข้างเต็มไปด้วยเลือดเกรอะกรังจนแทบมองไม่เห็นใบหน้าแท้จริง หยกรีบก้าวตรงไปย่อ

ตัวลงพลิกให้ร่างชายคนนั้นนอนหงายหายใจรวยรินอยู่บนตักของเขา


               “คุณ คุณ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ”


               เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเหลือเกินสำหรับผู้ชายที่น่าสงสารที่ยังคงมีลมหายใจอยู่เพียงคนเดียวบนเรือลำนี้เมื่อหยก

หันไปเห็นท้องฟ้าที่เคยจัดจ้าด้วยแสงแดดกลับกลายเป็นมืดคลึ้มด้วยเมฆดำที่ก่อตัวหนาจัด เรือเริ่มเอียงไปมาเพราะ

คลื่นที่แรงขึ้นเพราะแรงลม


               “ซวยฉิบ”


               หยกสบถออกมาก่อนจะวางร่างของชายคนนั้นไว้กับพื้นเรือแล้วรีบหาทางแก้ไข หยกวิ่งไปมองเชื้อเพลิงที่ยัง

พอหลงเหลืออยู่อีกนิดหน่อยพลางหันขวับไปรอบๆ จำได้ว่าพ่อโยเคยชี้ให้ดูเกาะร้างที่เคยเป็นเกาะสัมปทานรังนกที่บัดนี้

ไม่มีคนอาศัยแล้วอยู่แถวนี้ หยกรีบมองหาทิศทางที่เขาจำได้


               “ขอโทษนะ แต่มันจำเป็นจริงๆ”


               หยกขออโหสิกรรมให้กับร่างไร้วิญญาณที่นอนเกลื่อน เขายกร่างเหล่านั้นลงทะเลอย่างง่ายดายจนเหลือ

เพียงคนที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงผู้เดียว หยกวิ่งไปที่คันบังคับมองเข็มทิศจนมั่นใจแล้วจึงติดเครื่องยนต์อย่างที่พ่อโยเคยให้

เขาขับ เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นอย่างไม่เต็มใจนักแต่หยกก็รีบบังคับให้มันแล่นไปยังทิศทางที่ต้องการ

               น้ำมันอันน้อยนิดแต่ก็เพียงพอให้เรือแล่นเข้ามายังเกาะร้างที่อยู่เบื้องหน้าได้ เสียงเครื่องยนต์สะดุดสองสาม

ครั้งแล้วจึงดับสนิท ลมพายุพัดจนเรือเอียงวูบสายฝนกระหน่ำลงมาเม็ดโตจนหยกต้องรีบแบกร่างที่น่าจะสูงกว่าเขาขึ้น

พาดบ่าแล้วกระโจนลงน้ำทะเลเพื่อที่จะเข้าไปหลบลมมรสุมบนเกาะ กระท่อมเล็กสำหรับให้คนงานเก็บรังนกอาศัย

กระจัดกระจายอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งนัก หยกรีบตรงไปยังกระท่อมหลังที่สภาพดูดีที่สุดแล้วว่างร่างคนบาดเจ็บลงให้

เหยียดตัวนอนหงายกับพื้นกระท่อมโล่ง


               คุณพระ!


               หัวใจของหยกเต้นโครมครามจนต้องยกมือมากุมหน้าอกด้านซ้ายเมื่อมองเห็นใบหน้าของคนที่เขาเพิ่งจะช่วย

มาชัดๆ สายฝนที่เทลงมาช่วยชะล้างคราบเลือดให้หมดไปจนเผยให้เห็นใบหน้าคมและจมูกโด่งนั้น หยกสาบานได้ว่าเขา

เพิ่งเคยเห็นผู้ชายคนนี้เป็นครั้งแรก หยกไม่เข้าใจอาการของตัวเองที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลย


               หยกตัวสั่นเมื่อเอื้อมปลายนิ้วไปสัมผัสเปลือกตาที่ปิดสนิทมันยิ่งทำให้หัวใจของหยกเต้นรัว ดวงตาสีเขียวที่

ซ่อนอยู่ภายใต้คอนแทกเลนส์สีดำกลอกไปมาเมื่อรู้สึกว่าอยู่ๆร่างกายของหยกก็ร้อนวูบวาบราวกับเลือดในกายจะวิ่ง

พล่านไปทั่วทั้งตัว ยิ่งได้จ้องมองใกล้ๆ เนื้อตัวของหยกก็ยิ่งสั่นสะท้าน ความรู้สึกแปลกๆจู่โจมเวียนวนจนยากที่จะอธิบาย


               “อะ แค่ก แค่ก”


               คนบาดเจ็บไอออกมา เศษเลือดเก่าทะลักออกจากปากจนหยกผวาเข้าไปประคองไว้ หยกใช้มือตบหน้าชาย

คนนั้นเบาๆ


               “คุณๆ ตื่นสิ”


               ตัวร้อนผ่าวด้วยพิษไข้ ริมฝีปากแตกซีดเมื่อหยกเช็ดคราบเลือดออกจนหมด หยกรู้ว่าร่างกายนี้กำลังต้องการ

น้ำจืดเพราะพ่อของหยกเคยสอนไว้ หยกละล้าละลังแต่จำต้องวางร่างนั้นคืนลงกับพื้นกระท่อมก่อนแล้วจึงวิ่งตื๋อลงจาก

กระท่อมพลางมองหาใบไม้ที่ใหญ่พอจะรองรับน้ำฝนได้ หยกประคับประคองให้น้ำจืดที่เขารองมาด้วยใบไม้มาถึงชาย

บาดเจ็บได้มากที่สุด หยกค่อยๆเทน้ำลงใส่ริมฝีปากแตกระแหงที่เผยอรอรับอย่างกระหาย จนเมื่อน้ำจืดหมดชายบาดเจ็บ

ก็หยุดกระสับกระส่ายและหลับไปอีกครั้ง


               ทั้งลมทั้งฝนพัดกระหน่ำไม่ขาดระยะจนกระท่อมสั่นไหว หยกถลาเข้ากอดคนบาดเจ็บด้วยความเป็นห่วงจับใจ

ร่างกายนั้นยังคงร้อนผ่าวเพราะไข้สูงหยกกอดร่างนั้นแนบหน้าลงกับอกกว้างที่เสื้อผ้าขาดวิ่น ความมืดเข้าปกคลุมทีละ

นิดเสียงสายฝนจางลงจนกระทั่งขาดเม็ด กว่าลมมรสุมจะหยุดหยกก็อยู่ท่ามกลางความมืดสลัวยามโพล้เพล้กับชาย

แปลกหน้า


               เสียงอืออาดังแผ่ว หยกเบิกตากว้างวางมือแนบบ่ากว้างเขย่าตัวอย่างยินดี


               “คุณ ตื่นสิ”


               เปลือกตาเต้นระริกก่อนจะเปิดขึ้นมาอย่างยากเย็น นัยน์ตาแดงก่ำเพราะพิษไข้ยังคงเลื่อนลอยเมื่อมองมายัง

ใบหน้าเนียนที่อยู่ใกล้แค่คืบ มือใหญ่ซีดเย็นค่อยๆยกขึ้นมาวางแนบแก้มใสช้าๆ ริมฝีปากแห้งผากขยับแผ่วเบา


               “คุณพูดอะไรนะ”


               หยกยิ่งเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้จนลมหายใจร้อนริดรดอยู่ตรงแก้มเพื่อเงี่ยหูฟังคำพูดอ่อนระโหยนั้น


               “ปอ ปอออ กลับมาแล้ว”


               หยกกลั้นใจเมื่อกรอบหน้าถูกรั้งเข้าหา กลีบปากนุ่มถูกประทับแนบด้วยปากซีดช้าๆ ความร้อนระอุของผิวกาย

ปะทุแข่งกับคนมีไข้เมื่อแผ่นหลังถูกโอบกระชับลิ้นหยุ่นที่ยื่นเข้ามาทำให้หยกยิ่งสั่นสะท้านอย่างควบคุมร่างกายไม่ได้


               จริงๆแล้วแค่ผลักไสด้วยปลายนิ้วก็คงสามารถหลุดจากความใกล้ชิดนี้ได้ทันที แต่ไม่รู้เพราะอะไรร่างกายของ

หยกจึงมีปฏิกิริยาตอบรับกับสัมผัสจากผู้ชายคนนี้ ที่ราวกับคุ้นเคยกันมาเนิ่นนาน แค่เพียงมือร้อนแตะไล้ไปตามแผ่นอก

เปลือยเปล่าคร้ามด้วยไอแดดของหยกก่อนจะผลักเบาๆพลิกให้หยกกลายเป็นฝ่ายหงายลงจนแผ่นหลังเสียดสีกับพื้น

กระท่อมแล้วร่างที่สูงกว่าก็พลิกกลับมาทาบทับอยู่เบื้องบนหยกยังหมดปัญญาจะห้ามปราม


               “ดะ เดี๋ยว เดี๋ยวสิ จะทำอะไร อ๊ะ”


             


มีต่ออีกนิด...




หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-05-2015 00:29:02
ต่อกันตรงนี้





                    คราวนี้เรียวปากถูกครอบครองไว้ทั้งหมด กลีบปากนุ่มถูกไล่ขบเม้มง้างงับก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปยามหยก

เผลอไผล หน้าท้องแบนราบของหยกถูกมือข้างหนึ่งวางแนบลงไปหยกถึงกับสะดุ้งผิวกายไปตามรอยมือ เลือดในกายวิ่ง

พล่านจนยากจะควบคุมในหัวของหยกไร้ซึ่งการสั่งการ มันมีแต่สัญชาตญาณที่กำลังขับเคลื่อนเมื่อคนบาดเจ็บลากปาก

ลงมาเม้มที่เนินเนื้อเหนือแผ่นอก หยกถึงกับผวาและเป็นฝ่ายกระชากเสื้อผ้าขาดวิ่นอยู่แล้วให้หมดไปจากร่างกายที่เต็ม

ไปด้วยร่องรอยบาดเจ็บและเบียดกายเข้าหา


               “ปอ ผมรักคุณ”


               เสียงกระซิบดังแว่วจนแทบจับใจความไม่ได้ หยกสะดุ้งเฮือกเมื่อคนบาดเจ็บงับปากลงตรงเนินสามเหลี่ยม

ก่อนจะลากลิ้นลงไปถึงจุดอ่อนไหว หยกแหงนหน้าหายใจถี่เสียวกายซาบซ่านจนหลังไม่ติดพื้น มือเรียวเสยเข้ากับกลุ่ม

ผมเปียกชื้นแล้วขยุ้มสุดแรงเมื่อกางเกงขาสั้นของหยกถูกรูดรั้งลงจนองคาพยพขนาดเหมาะมือเด้งอวดกายชู่ช่อล้อเล่น

อยู่กับปลายลิ้นที่แตะไล้


               “อะ อือ คุณ ผม อื๊อออ”


               บิดตัวพล่านไปหมดเมื่อช่องปากอุ่นครอบลงมาทีละนิด หยกอ้าขากว้างตั้งฉากเปิดทางให้อีกฝ่ายกลืนกินไป

จนหมด หยกสะท้านไปทั้งตัวเมื่อเขาคนนั้นเม้มปากรูดรั้งช้าๆปลุกอารมณ์แห่งความเป็นมนุษย์จนระอุร้อนอย่างที่หยกไม่

เคยพบพาน กล้ามเนื้อหดรัดจนปวดเกร็งเมื่อปากร้อนรูดยาวครั้งสุดท้ายเสียงครางสั่นพร่าก็ดังออกมาจากปากเมื่อ

ของเหลวสีขาวปนเขียวทะลักออกมาจนไหลรินย้อนกลับมาเปียกชื้นอยู่รอบแท่งเนื้อร้อนของหยก


                ยังไม่ทันตั้งตัวร่างสูงที่อยู่ระหว่างขาก็เลื่อนตัวขึ้นมา ดวงตาเรียวของหยกเบิกกว้างกว่าเดิมเมื่อท่อนขาถูก

ผลักจนส้นเท้าชิดก้น ช่องทางด้านล่างหดรัดอัตโนมัติเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสดุนดันที่ประตูทางเข้า


               “ปอ อย่าเกร็ง เราจะมีความสุขด้วยกันไงครับ”


               ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องทำตามแต่หยกก็หลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆเมื่อรับรู้ถึงการเคลื่อนไหว แท่งเอ็นร้อน

ผ่าวชำแรกแทรกตัวเข้ามาด้วยปลายบานจนหยกถึงกับน้ำตาไหล สองแขนผวากอดรัดร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลแล้ว

ส่งเสียงร้องลั่น


               “อ๊า เจ็บบบบ”


               ริมฝีปากถูกปิดลงอีกครั้ง ลิ้นหยุ่นชื้นตวัดพันเกี่ยวไปมาดึงความสนใจ สะโพกหนั่นแน่นถูกยกขึ้นสูงเมื่อชาย

บาดเจ็บยังคงดันตัวเปิดทางด้วยความเร็วคงที่ เสียงร้องถูกดูดซับจนเหลือเพียงเสียงอื้ออึงจนกระทั่งถุงเนื้อแฝดถูก

กระแทกเบาๆ ความเจ็บปวดที่ไม่เคยรู้จักจึงได้พอจางหายเหลือทิ้งไว้คือความเสียวซ่านสยิวกายจนต้องยกสองขาเกี่ยว

พันไปรอบเอวราวกับเด็กขาดความอบอุ่น เสียงครางต่ำแหบพร่าดังลอดมาจากลำคอของชายแปลกหน้าเมื่อช่องทาง

ของหยกบีบรัดจนอึดอัด เขาคนนั้นดึงท่อนลำออกมาให้พอหายใจก่อนจะกระแทกกลับเข้าจนสุดโคน


               “อื้อออ”


               หยกน้ำตาไหลริน ความเจ็บปวดแล่นเป็นริ้วสลับกับความต้องการที่ถาโถมเข้าใส่ เส้นเอ็นถูไถเสียดสีอยู่

ภายในจนเริ่มฉ่ำชื้นให้ความเจ็บปวดบรรเทาเบาบางจนแทบไม่หลงเหลือและทดแทนด้วยความกระสัน หยกยกก้นให้ยิ่ง

สูงจนท่อนเนื้อสอดลึกยามกระแทกกระทั้น ลมหายใจของหยกร้อนระอุเนื้อตัวบีบเค้นแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ


               “อา ปอ เสียวเหลือเกิน”


               เสียงพึมพำดังอยู่แถวยอดอกเมื่อชายบาดเจ็บวนกลับมาครอบครองด้วยปลายลิ้นรัวเร็ว หยกแอ่นกายให้เขา

ละเลงจนเปียกชุ่ม เนื้อกระทบเนื้อดังแว่วจนหยกยิ่งทะยานอยาก เอวคอดเด้งสวนกลับกระชากอารมณ์ให้ถึงฝั่งฝัน


               “โอ๊ะ ปวด มันจะ อ๊ะ”


               หยกชะงักค้างกลั้นหายใจเมื่อกล้ามเนื้อบีบพรวดออกมาเปียกชุ่มโชก ชายบาดเจ็บส่งเสียงคำรามลั่นเขาเงย

หน้าเลื่อนตัวกระแทกกระทั้นรัวจนกระทั่งร่างกายสั่นไปหมดเมื่อทะยานถึงความหฤหรรษ์


               ร่างสูงโอนเอนตัวทิ้งลงซบไปกับร่างกายของหยกที่ยังไม่หยุดหอบ หยกกัดริมฝีปากจนห้อเลือดเมื่อเขารับรู้

ว่าสิ่งที่ใครๆเรียกกันว่าความบริสุทธิ์ถูกพรากไปจนหมดสิ้นจากผู้ชายที่หยกยังไม่รู้แม้แต่ชื่อของเขา
               


                                                    TBC


                                                  :o12: :o12: :o12: :o12:







               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 23-05-2015 00:53:36
เปิดมาอีกทีน้องหยกป้าเสียจิ้นแล้วซะงั้น
แหม่ ได้ทั้งแม่ทั้งลูกเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 23-05-2015 01:17:30
เอาละสิ  อิรุงตุงนังแล้ว  ภูริมาตามปอ แต่ได้หยก  ชลอยู่กับโยแต่จะไปกับภูริหรือเปล่านี่สิ  โยรักชลแน่ๆ  ไม่รู้สิเรายังเชื่อว่าพ่อของหยกยังอยู่นะ โยหรือเปล่าก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 23-05-2015 05:33:37
โห ปมความสัมพันธ์ยิ่งอินุงตุงนังเข้าไปอีก ดูท่าหยกจะชอบภูรินะเนี่ย แล้วทำไมชลหลังคลอดลูกแล้วถึงพูดไม่ได้อ่ะ? (รอเฉลย) แล้วหยกรู้รึเปล่าว่าชลเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงอ่ะ (ทำไมฉันมีแต่คำถาม -0-;)
รองับบบ เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 23-05-2015 05:56:55
ยุ่งกันไปอีก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 23-05-2015 06:10:09
โห เอาเข้าไปๆ ความสัมพันธ์ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากอ่ะบอกเลย รอตอนต่อไปจ้า
ชักอยากจะรู้แล้วว่าจะจบยังไงนะเรื่องนี้  :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 23-05-2015 06:17:57
ผูกปมมากว่าเดิมอีก ถึงเข้าใจของเก่าแล้ว แต่ของใหม่นี่หนูหยกจะคิดอย่างไง

ใช้กรรไกรตัดปมซะเลยนิ  ฮึ่มๆ

รอคนเขียนมาต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-05-2015 06:26:46
อ้าว ทำไมภูริหื่นงี้เนี่ย. สงสัยหยกจะหน้าเหมือนชลมากๆ
แถมยังเรียกปอตลอดเว น้องหยกเอ๊ย ได้ผัวตั้งแต่ห้าขวบ
สงสารชลจัง. รอต่อนะคะ.  :pig4:   :L2:  คนเขียนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-05-2015 06:27:18
โห เดาทางไม่ถูกเลยอ่า แต่เรื่องของปอกับภูมันจบไปแล้วล่ะ เราว่านะ ยิ่งภูมาได้หยกแบบนี้อีก เหลือแต่พ่อของหยกที่ยังอยู่อ่ะ จะมาสร้างปัญญาอะไรหรือเปล่า :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 24-05-2015 01:41:40
ความสัมพันธ์ซับซ้อนจริงๆ
ภูรินี่เคลมทั้งแม่และลูกเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 29-05-2015 03:14:56
 :mew1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: mink2538 ที่ 29-05-2015 16:11:24
กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย
มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 5 >> 23/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 29-05-2015 17:46:51
ความสัมพันธ์ซับซ้อน
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.1 >> 30/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 30-05-2015 14:59:52


                                                          ตัวประหลาด

                                                            บทที่ 6.1


               ร่างเพรียวที่กำลังกระวนกระวายอยู่ตรงทางเข้าบ้านทำให้โยธินต้องเดินเข้าโอบกอดจากด้านหลังแล้วกดจูบ

หนักลงไปที่ซอกคอ อีกฝ่ายคลี่ยิ้มรับเอียงคอให้คลอเคลียแต่โดยดีพร้อมวางท่อนแขนแนบไปกับวงแขนแกร่งที่กอดรัด

อยู่ตรงเอว


               “เป็นอะไรหรือชล เป็นห่วงหยกหรือ”


               เสียงถอนหายใจแผ่วเบาดังขึ้น ชลขยับตัวหันกลับมาแล้วพยักหน้ารับ ดวงตาเรียวดำขลับบ่งบอกถึงความ

ห่วงใยในตัวบุตรชายทำให้โยธินต้องลูบกลุ่มผมนุ่มที่ยาวสยายไปถึงกลางหลังเพื่อปลอบโยน


               “ไม่ต้องเป็นห่วงหยกหรอกชล หยกเป็นเด็กพิเศษที่แข็งแกร่งและฉลาดพอที่จะเอาตัวรอดได้”


               ชลเงยหน้าสบตา เขามองเห็นแต่ประกายตาอบอุ่นจริงใจที่โยธินมีให้ มือเรียวควักสมุดโน้ตเล่มเล็กที่มีดินสอ

ผูกติดไว้ขึ้นมาจากเอวพลางเขียนลงไปแล้วยื่นส่งให้โยธิน นี่คือการสื่อสารที่เขาใช้ตั้งแต่คลอดหยกออกมา


               “ขอบคุณนะโย คุณดีกับผมและลูกมากเหลือเกินทั้งที่ผมและหยกเป็นภาระสำหรับคุณ”


               โยธินขมวดคิ้ว เขาส่ายหน้ากับสิ่งที่ชลเขียน


               “คุณไม่ใช่ภาระ คุณคือคู่ชีวิต และหยกก็คือลูกของเรา”


               โยธินคิดแบบนั้นจริงๆ เขารักหยกราวกับลูกตัวเองถึงแม้โยธินจะรู้ว่าความจริงแล้วมันไม่ใช่ เขามองดวงตาที่

รื้นไปด้วยหยาดน้ำของชลด้วยความสงสารในชะตากรรม และยิ่งเมื่อชลช็อคจากการที่เห็นดวงตาของหยกตั้งแต่แรก

คลอดจนกระทั่งสูญเสียเสียงทำให้พูดออกมาไม่ได้โยธินก็ยิ่งเห็นใจและรักชลมากขึ้นไปอีก


               โชคของเขายังดีที่ชลยังจำเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่ได้ โยธินไม่เคยถามไม่เคยขุดคุ้ยเขาไม่ต้องการให้ชลจำ

เรื่องราวในอดีต จะบอกว่าเห็นแก่ตัวโยธินก็ยอมรับเขากลัวว่าหากชลจำเรื่องทุกอย่างได้ชลจะจากเขาไป ทางที่ดีโยธิน

อยากจะให้ชลลืมตลอดชีวิตเพื่อที่ชลจะได้อยู่กับเขาตลอดไป


               ชลสบตาโยธินอย่างเต็มตื้น ความดีของโยธินที่ช่วยเหลือมาตลอดห้าปีทำให้ชลทั้งรักทั้งเทิดทูนผู้ชายคนนี้

ถึงแม้จะจำเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะพบกับโยธินไม่ได้แต่ชลก็เชื่อความรู้สึกของตัวเอง เรื่องที่เขาเป็นคนรักของโยธินมา

ก่อนเป็นเรื่องโกหกแน่ๆ และหยกก็ไม่ใช่ลูกของโยธินเด็ดขาดแต่ถึงกระนั้นโยธินกลับทำดีดูแลทั้งตัวเขาและลูกอย่าง

เต็มใจ ความดีของโยธินทำให้ชลสัญญากับตัวเองว่าเขาจะรักและตอบแทนบุญคุณของโยธินตลอดไป


               มือเรียวยกขึ้นประคองใบหน้าคมของโยธินไว้ในอุ้งมือ ชลเปิดปากพูดช้าๆแม้ว่ามันจะไม่มีเสียงเล็ดลอดออก

มาแต่โยธินก็เดารูปปากนั้นได้ไม่ยาก


               “ผมรักคุณ โยธิน”


               ชลโน้มใบหน้านั้นลงมาแล้วเป็นฝ่ายเบียดริมฝีปากแนบแน่น โยธินจูบตอบอย่างกระหายจนพากันหอบหายใจ

หน่วงหนัก ท่อนแขนของโยธินจึงช้อนเข้าไปใต้แผ่นหลังข้างหนึ่งและใต้เข่าข้างหนึ่งเพื่อจะโอบอุ้มร่างโปร่งบางที่ซ่อน

อยู่ในชุดสตรีพื้นเมืองแล้วพาเดินเข้าห้องไปวางอยู่บนเตียงนอนขนาดห้าฟุตที่เขาใช้อาศัยอยู่กับชลมาตลอดห้าปี โยธิน

เอนกายทาบทับพลางมองวงหน้าที่ล้อมกรอบไปด้วยกลุ่มผมดำที่แผ่สยายบนเตียงอย่างหลงใหล


               “เจ้าหยกไปว่ายน้ำนานๆก็ดีเหมือนกัน ผมกับคุณจะได้จู๋จี๋กันนานๆหน่อย ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้มีกิจกรรมกันเลย

นะ คุณคิดเหมือนผมหรือเปล่าชล”


               ชลยิ้มเขินแก้มเนียนแดงเรื่อ มันก็จริงอย่างที่โยธินพูดตั้งแต่หยกเริ่มตัวเกินโตจนเข้าวัยหนุ่มหากเทียบตาม

เกณฑ์ของร่างกายโยธินกับเขาก็ไม่ค่อยได้มีอะไรกันบ่อยนักเพราะเกรงว่าหยกที่ยังมีหัวใจเด็กน้อยจะอยากรู้อยากเห็น ก็

โยธินน่ะบทจะแสดงความรักนั้นรุนแรงใช่ย่อยและแม้ว่าชลจะพูดไม่ได้แต่เสียงครางหวานยามถูกกระทำรักก็ยังหลุดลอด

ลำคอออกมา


               โยธินใช้ข้อศอกยันน้ำหนักไว้กับที่นอนเขาตะแคงมองชลด้วยประกายแห่งเสน่หา นิ้วมือสากลูบไล้กรอบหน้า

หวานผ่านร่องคอลงไปตามสาบเสื้อก่อนจะดึงมันผ่านหัวของชล เผยให้เห็นเนื้อขาวที่มีเสื้อชั้นในดันทรงของผู้หญิง

ปกปิดไว้อยู่ เขาก้มหน้าแตะลิ้นลงไปตรงแผ่นอกแล้วดูดเบาๆให้ชลสะท้านกายเฮือก เขาจึงถือโอกาสนั้นสอดมือเข้าไป

ปลดตะขอที่แผ่นหลังแล้วดึงมันโยนทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ โยธินมองยอดอกที่ชมพูที่ชูชันล่อตาอยู่บนเนื้อกายขาวผ่องด้วย

สายตาวาววามก่อนจะก้มหน้าลงแล้วงับเบาๆ


               “อืมม”


               ชลหลับตาพริ้มพลางแอ่นอกให้โยธินง้างงับถนัดถนี่ สองแขนเรียวยกสูงคล้องไปรอบคอแล้วกดใบหน้าของ

โยธินที่กำลังโลมเลียรอบลานนมก่อนจะปรือตาฉ่ำหวานเลื่อนมือไปดึงขอบกางเกงเลที่โยธินสวมใส่อยู่เพียงชิ้นเดียวให้

หลุดออก โยธินเขี่ยมันทิ้งจนเหลือแต่กายแกร่งสีแทนที่เอนกายเบียดทับ เขาสอดมือไปยังผ้าถุงที่ชลนุ่งอยู่เพื่อจะล้วง

กางเกงชั้นในออกมา


               “ได้กอดคุณ จูบคุณนี่โคตรมีความสุขเลยชล”


               เสียงแหบพึมพำเมื่อปรนจูบไปทั้งลำตัวที่กลิ่นแป้งเด็กติดตัวยั่วยวนจมูก โยธินสัมผัสฝากรักไม่เว้นแม้แต่

ปลายเท้าที่เขายกขึ้นมาแล้วส่งเข้าปาก เขาเม้มงับไล่ย้อนกลับมาจนถึงกึ่งกลางที่ยังคงมีผ้าถุงคล้องอยู่รอบเอวของชล

แต่โยธินก็ไม่ได้สนใจเมื่อความเป็นชายงดงามของชลตั้งลำโชว์อยู่ตรงหน้า โยธินแลบลิ้นไปรอบปากอย่างกระหายเมื่อ

เขาค่อยๆกินมันเข้าไปในปากพร้อมเสียงครางฮือจากชล


               ชลบิดเอวด้วยความเสียวซ่าน มือเรียวคว้าผ้าปูที่นอนมากำไว้แน่นเมื่อท่อนเนื้อสีสวยถูกดูดดุนให้เห็นเส้นเอ็น

โป่งพอง โยธินกลืนกินอยู่ไม่นานชลก็ดิ้นพล่านก่อนจะคายผลผลิตที่เก็บกักมาเนิ่นนานเข้าสู่ลำคอของโยธินที่ยังดูดรีด

มันออกจนแทบไม่เหลือหรอเมื่อเขายอมคายมันออกมาสู่อากาศภายนอก


               โยธินทรงตัวสูงมองชลตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความพึงใจ ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวตาปรือฉ่ำน้ำขบเม้มกลีบปาก

ล่างด้วยความกระสัน ร่างกายขาวผ่องเต็มไปด้วยรอยแดงเรื่อที่เขาฝากรักไว้มันช่างเร่งเร้าจนเขาต้องคายของเหลวที่ชล

ทิ้งไว้ในปากใส่อุ้งมือตัวเองแล้วใช้มันลูบไล้ไปกับช่องทางสีชมพูสดข้างใต้ โยธินดันต้นขาของชลให้ยกสูงจนเห็นรอย

จีบพับที่กำลังขยับยั่วยวนเปียกชื้นไปด้วยน้ำขาวขุ่นที่เขาป้ายไว้ เขาส่งปลายนิ้วเข้าไปหมุนวนให้มันฉ่ำชื้นถึงภายในจน

ชลปรือตาค้อนเมื่อเขาปลุกความต้องการขึ้นมาอีกครั้งแต่ยังไม่ยอมสอดใส่ โยธินหัวเราะเบาๆก่อนจะจับท่อนเนื้อใหญ่โต

ของตนให้อยู่ตรงกับปากทางแล้วดันเอวเข้าไปช้าๆ


               “อื้อออ”


               ชลครางรับ เขาช้อนมือตัวเองไว้ใต้เข่าเพื่อจะเปิดทางให้กว้าง ท่อนเอ็นร้อนรุ่มแทรกกายเข้าหาบดเบียดผนัง

เสียดสีจนหัวใจเต้นโครมคราม ชลกลืนน้ำลายเหนียวหนับลงคอพลางสูดปากหายใจถี่ยิบจนกระทั่งรู้สึกถึงสัมผัสจากขน

หยาบ โยธินจึงได้หยุดชะงักเมื่อเขาประสานกายจนลึกล้ำและแนบแน่น


               “ฟิตมาก ตอดมากเมียของผม”


               โยธินเอนกายลงแล้วบดจูบลงไปที่กลีบปากนุ่ม ชลเผยอรับอย่างไม่รังเกียจที่รอบปากยังคงเปรอะเปื้อนด้วย

น้ำคาวของเขาเอง ปลายลิ้นร้อนพากันตวัดเกาะเกี่ยวจนเกิดเสียงในขณะที่โยธินเริ่มขยับเอววนเป็นวงกลมจนถุงเนื้อแฝด

ถูไถซึ่งกัน


               “อะ อัก ฮึก”


               ชลหายใจหอบสะท้านเมื่อเอ็นร้อนถูกดึงออกจนหมิ่นเหม่ก่อนจะกระแทกกลับเข้ามาสุดโคน ร่างกายสั่น

คลอนเมื่อโยธินสาวเอวเป็นจังหวะ ปากที่ยังจูบหนักหน่วงบดเบียดจนน่าจะบวมเจ่อแถมยังใช้มือบีบเค้นยอดอกทั้งสอง

จนแข็งเป็นไต เขายกท่อนขากอดเกี่ยวลำตัวแกร่งที่เด้งเอวเข้าหาสองแขนโอบกอดแน่นหนาเมื่อโยธินขับเคลื่อน

ร่างกายจนเหงื่อกาฬไหลย้อย


             กลิ่นเหงื่อระคนกลิ่นน้ำคาวยิ่งเร่งเร้าให้ชลขยับสะโพกสอดประสานจนเรียกเสียงครางลึกจากโยธินอย่างถูกใจ


               “ชล อา ขมิบอีก ดี อย่างนั้น อา”


               กล้ามเนื้อบีบรัดบอกให้รู้ว่าประตูสวรรค์อยู่แค่เอื้อม โยธินคว้าแก่นกายพอเหมาะของชลไว้ในมือพลางบีบเค้น

ไปมา


            เสียงครางประสานแข่งกันเมื่อเขาเร่งจังหวะสุดท้ายส่งชลแตะขอบฟ้าแล้วเขาจึงกระตุกเอวแช่ค้างปลดปล่อย

ออกมาจนต้องกลั้นหายใจเอาไว้


               “หมอ หมอ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว หมออยู่หรือเปล่า”


               เสียงตะโกนดังลั่นอยู่ตรงหน้าประตูบ้านทำให้ทั้งคู่สะดุ้งเฮือก โยธินหอบหายใจหนักพลางสบถลั่น เขาดึงเอว

ออกมาอย่างรวดเร็วจนชลต้องเม้มปากกลั้นเสียงร้องไว้ โยธินลุกขึ้นจากร่างบางของชลอย่างเสียดายก่อนที่เขาจะหอบ

หายใจถี่ยิบและคว้ากางเกงเลมาใส่


               “เกิดอะไรขึ้น”


               เขาตัดใจวิ่งไปหน้าบ้านที่มีลุงชิดผู้ใหญ่บ้านยืนหน้าตาตื่นอยู่


               “ไอ้เพิ่มผัวอีดา นอนตายอยู่ตรงท่าเรือ หมอไปดูมันหน่อย”


               โยธินรีบวิ่งกลับเข้ามาในบ้านและคว้ากล่องเครื่องมือแพทย์โดยเร็ว เขาวิ่งเข้าไปในห้องนอนที่ชลเพิ่งจะลุก

มาแต่งตัวแล้วจูบหนักๆที่หน้าผาก


               “อยู่แต่ในบ้านนะชล อ้อ ผมรักคุณนะ”


               โยธินวิ่งตามลุงชิดไปที่ท่าเรือเมื่อเห็นสภาพศพที่ชาวบ้านพากันมุงอยู่ก็ถึงกับผงะ


               ร่างกายผู้ชายชื่อเพิ่มเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทำร้ายจนกระทั่งถึงแก่ความตาย


               ภายในหมู่บ้านเล็กๆกลางทะเลอันดามัน ใครกันที่เป็นฆาตกร

                                                       

                                        :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:





หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.1 >> 30/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: ๋janthara ที่ 30-05-2015 15:19:36
หมอโยธินนี้เร้าร้อนมากกกกก  :m25: :m25:

ลุ้นมากจริงๆเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.1 >> 30/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 30-05-2015 16:40:13
 :katai1: :katai1: :katai1: โว๊วววววววว

คนเขียนใจร้ายมากเลยนะ ไม่คิดว่าชลจะช๊อคจนพูดไม่ได้

แถมยังพ่วงเหตุการ เอวันมาตามหาเมียและลูก

แฟนเก่าที่ได้กับลูกและพร้อมรีเทิร์น อิ๊ยร๊าาา

แล้วเหตุการจะเป็นเช่นไรต่อป๊าย  2Bcon !!!
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.1 >> 30/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 30-05-2015 16:42:40
พ่อจริงๆของหยกมาถึงแล้วมั๊ง  เคยคิดนะว่าโยธินคือพ่อของหยกจริงๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.1 >> 30/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 30-05-2015 16:57:25
ฝีมือเอวันสินะ
ลูกไม่อยู่เร่าร้อนเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.1 >> 30/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: snowprince108 ที่ 30-05-2015 17:34:15
ฝีมือเอวันป่าวหว่า หมอโยธินออกไปทิ้งชลไว้คนเดียวแบบนี้ ถ้าคนทำเป็นเอวันจริงๆ ชลจะโดนเอวันจับตัวไปรึป่าวนี่ ไหนจะเรื่องภูริกับหยกอีก งานนี้นายภูกลายเป็นพยาเทครัวเลยได้ทั้งแม่และลูก :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.1 >> 30/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 30-05-2015 18:05:26
น่าจะเป็นฝีมือเอวันนั่นแหละ
แต่ทางด้านภูริกับหยกเนี่ยสิ จะเป็นยังไงต่อเนี่ย

ขอซูฮกให้กับพล็อตของเรื่องนี้และคนเขียน สุดยอดมาก (_  _) เดาไม่ถูกเลยว่าจะเป็นไงต่อ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.1 >> 30/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 30-05-2015 19:08:40
อ้าววว หมอค้างมั้ยล่ะนั้น
คนเขียนใจร้ายให้เสร็จก่อนก็ไม่ได้
รู้าึกได้ถึงรักหลายซับหลายซ้อน
เอวันกลับมาแล้วสิน่ะ อย่ามาทำไรชลน่าเว้ย
หนูหยกลูก อย่าเพิ่งไปยอมเค้าสิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.1 >> 30/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-05-2015 19:26:16
 :serius2:   ไอ้หยา.  กลัวว่าชลจะฟื้นความจำอันเลวร้ายแล้วเตลิดหนีไปนี่สิ อีกเคสเลวร้ายคือป๋าโยกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป
ลูกหยกหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ แง้
ลุ้นเหนื่อยจริงๆเรื่องนี้

ปล. ตอนที่แล้วกับตอนนี้เห็นกันชัดๆเลยว่าป๋าโยฟินกว่า.    :กอด1:  ขอบคุณ รออีกครึ่งนึงค่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.1 >> 30/05/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 30-05-2015 23:31:17
เอวันมาตามแล้วสินะ นี่คือสัญชาตญาณของเผ่าพันธ์เดียวกันเลยตามมาเจอหรอ กลิ่นทางอากาศ คลื่นไฟฟ้าหรืออะไรนะที่ทำให้ตามมาได้  :a5:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 01-06-2015 21:52:39
                                                            ตัวประหลาด

                                                             บทที่ 6.2



               “ใครกันวะทำร้ายไอ้เพิ่มจนตาย”


               เสียงด่าทอดังขรมจากชาวบ้านที่มุงออกันอยู่โดยรอบ ภาพนางดาที่กอดศพสามีร่ำไห้เป็นที่น่าอนาถใจจน

โยธินที่กำลังชันสูตรศพถึงกับถอนหายใจออกมา


               “ผมคิดว่าฆาตกรน่าจะยังอยู่ในเกาะนี่แหละ เพราะช่วงมรสุมแบบนี้ไม่มีใครเอาเรือออกทะเลหรอก”


               โยธินออกความเห็นเรียกเสียงฮือฮาจากชาวบ้านที่ต่างก็เห็นด้วย


               “ถ้าอย่างนั้นพวกเราต้องช่วยกันหาตัวมันก่อนที่จะทำเรื่องเดือดร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก” ลุงชิดผู้ใหญ่บ้านออกคำ

สั่ง


               “พวกผู้หญิงก็ให้กลับบ้านปิดห้องหับลั่นกุญแจเสียให้มิดชิด ส่วนพวกผู้ชายก็ไปหาอาวุธหรืออะไรก็ได้ที่ใช้

แทนอาวุธแล้วออกตามล่ามัน นี่ก็ใกล้พลบค่ำแล้วพวกเราจะต้องตามหามันให้ได้ก่อนรุ่งสางวันพรุ่งนี้”






               ชลหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ในบ้านเพียงลำพังตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เรื่องที่โยธินกลับมาเล่าให้ฟังเมื่อตอนหัวค่ำ

สร้างความอกสั่นขวัญแขวนกับเหตุร้ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเกาะเล็กๆแห่งนี้ โยธินกลับมาที่บ้านเพื่อจะหยิบฉวยสิ่งที่พอจะ

เป็นอาวุธได้ใส่เป้สะพายหลัง ก่อนไปเขาดึงชลเข้าหาตัวเพื่อจูบหนักที่กลีบปากนุ่มอย่างห่วงใย


               “ปิดประตูหน้าต่างให้ดีนะชลสักพักหยกคงจะกลับมาอยู่เป็นเพื่อน ใครมาเรียกถ้าไม่ใช่ผมหรือหยกก็ห้ามเปิด

ประตูรับเด็ดขาด เข้าใจไหมชล ผมรักคุณนะ”


               ความเงียบสงัดไม่เคยทำให้ชลรู้สึกโดดเดี่ยวได้ขนาดนี้เมื่อตลอดมาเขามีโยธินอยู่ข้างกาย หยกก็มาหายไป

ในคืนแห่งความน่ากลัวนี้ด้วย ชลเป็นห่วงทั้งลูกและสามีจนข่มตาให้หลับไม่ลงต้องมานั่งตัวสั่นอยู่ตรงห้องโถงตลอดทั้ง

คืนจนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง อีกไม่นานก็ใกล้จะรุ่งเช้าเสียงลมฝนหวีดหวิวอยู่ภายนอกไม่นานนักฝนก็เทลงมาห่าใหญ่

เครื่องปั่นไฟที่โยธินลงทุนซื้อไว้พลันเงียบสนิทจนบ้านทั้งหลังมองไม่เห็นอะไรอีกเลย ชลยกขาตัวเองขึ้นมานั่งกอดเข่า

อยู่บนเก้าอี้สายตาเพ่งมองอย่างหวาดหวั่นอยู่ในความมืด


               “โยธินกลับมาเสียที หยกหายไปไหนนะลูก”


               โครม!


               ชลสะดุ้งสุดตัว เสียงต้นไม้ใหญ่นอกบ้านโค่นล้มลงมามันทำให้เขาต้องฝืนใจลุกจากเก้าอี้ไปที่ประตูซึ่งปิดไว้

สนิท ช่องตาแมวฝังอยู่ในเนื้อไม้ทำให้ชลหรี่ตาเพื่อเพ่งมองเหตุการณ์นอกบ้านที่มีแต่ความมืดมิดและความมัวซัวของ

สายฝนที่โปรยปรายจนมองไม่เห็นอะไรนอกจากความดำทะมึน


               เดี๋ยวนะ!


               จุดเล็กๆเรืองรองสองจุดสว่างวาบอยู่ไกลออกไปนั่นคืออะไร ชลถึงกับปากคอสั่นดวงตาคู่งามเบิกโพลงเมื่อ

เห็นจุดนั่นเคลื่อนที่เข้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สมองสั่งการให้หนีแต่ขาทั้งสองข้างกับแข็งราวกับหิน ชลผงะจนหงายหลังเมื่อ

บานประตูถูกกระแทกจนสะเทือนเลื่อนลั่น


               ปัง ปัง ปัง!


               ประตูไม้ถูกกระแทกด้วยแรงมหาศาลก่อนจะปรากฏภาพของผู้บุกรุกในยามค่ำคืน ชลอ้าปากค้างเมื่อมองเห็น

เต็มตา แสงสีเขียวสองจุดเรืองแสงวาบเมื่อมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาพยายามคลานถอยหลังหนีด้วยความกลัวสุดชีวิต


               “ไม่ อย่านะ เอวัน อย่า!”

               






               ภูริขยับกายช้าๆความเจ็บปวดร้าวระบมแล่นวาบไปทุกจุดของร่างกาย เปลือกตาหรี่ปรือพลางกวาดสายตาเพ่ง

มองอยู่ในความสลัวราง ภาพหลังคามุงด้วยใบไม้แห้งเรียงเป็นตับนั้นทำให้เขาต้องนึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งหมด


               ใช่แล้ว เขาและเพื่อนๆจากนาซ่าพากันลงเรือยนต์ขับไล่ล่าอสุรกายตัวใหญ่ที่หนีมาด้วยเรือลำเล็กอีกลำหนึ่ง

แม้เอวันจะไม่เคยขับเรือแต่ใครจะเชื่อว่าทายาทของมนุษย์ต่างดาวที่มาเยือนโลกจะสามารถบังคับลำเรือได้ เป็นเพราะ

เรือของเขาใหญ่กว่าและมีความเร็วมากกว่าพวกเขาจึงมาทันเอวันที่กลางทะเลลึก ภูริยกปืนไฟฟ้าขึ้นเล็งก่อนจะยิงถาก

หัวไหล่ของเอวันจนได้ยินเสียงร้องลั่น มันหันขวับมามองด้วยความโกรธแค้นและทันทีที่เรือเข้าไปใกล้เอวันก็กระโจน

ข้ามกราบเรือขึ้นมาบนเรือของเขา


               ทันทีที่เพื่อนๆของภูริยิงปืนเข้าใส่มันก็ใช้ฝ่ามือหนาหนักตบทีเดียวจนลอยคว้าง มันก้าวเข้ามากระทืบลงกลาง

ลำตัวจนเพื่อนของเขาดวงตาเบิกค้าง ภูริกัดฟันด้วยความโมโหเขากระโจนเข้าทางด้านหลังเหนี่ยวคอจนมันชะงัก


               “ยิงเลย”


               ตะโกนบอกเพื่อนที่ยังเหลือให้ยิงปืนไฟฟ้าเข้าใส่ลำตัวหนาจนเลือดสีเขียวขุ่นไหลทะลักออกมา เสียงกู่ร้อง

ด้วยความเจ็บปวดดังลั่นจากเอวันที่บาดเจ็บ มันใช้มือคว้าร่างของภูริและสะบัดจนกระเด็นไกลก่อนที่มันจะอาละวาดปลิด

ชีวิตเพื่อนร่วมงานของเขาจนหมดสิ้น ดีที่เขานอนหายใจรวยรินอยู่ไกลออกไปภาพสุดท้ายก่อนที่ภูริจะหมดสติคือเอวันที่

เต็มไปด้วยบาดแผลกระโจนหายไปกับทะเลกว้าง


               แล้วที่นี่คือที่ไหน เขามานอนอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ภูริถึงขั้นงงงันขนาดหนักเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วเบาอยู่

ข้างกายเมื่อหันไปมองภูริก็ยิ่งตกใจ


               ร่างกายเปล่าเปลือยเก้งเก้างของเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งนอนตะแคงคุดคู้หันหน้ามาทางเขาให้ภูริได้พิจารณา

ใบหน้า ท่ามกลางแสงอันน้อยนิดในยามเช้าตรู่ ภูริถึงกับขมวดคิ้วเมื่อเห็นใบหน้านั้น


               “ปอ!”


               ไม่ใช่ปรมะแต่ทว่าคล้ายคลึงกันเหลือเกิน หางตาที่ยังเต็มไปด้วยคราบน้ำตาทำให้หัวใจของภูริอ่อนยวบ เขา

ขยับกายขึ้นนั่งอย่างยากลำบากพลางสำรวจตัวเองที่แม้จะยังใส่เสื้อผ้าขาดวิ่นแต่กลับอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยนักแถมยัง

มีหนุ่มน้อยมานอนอยู่เคียงข้างแบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่


               คนหลับสนิทขยับไปมาดวงตากระพริบถี่จนเปิดกว้าง เมื่อเห็นคนบาดเจ็บลุกขึ้นมานั่งเจ้าตัวก็รีบยันกายขึ้นมา

อย่างรวดเร็ว สายตาที่ประสานกันทำให้ปากเล็กเม้มแน่นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีแต่ความพิศวง หยกมองคนตัวใหญ่กว่า

อย่างเคืองขุ่นและตัดพ้อ หยกคว้ากางเกงขาสั้นตัวเก่งมาใส่และลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว


               “อ๊ะ เดี๋ยวสิ”


               ภูริรีบคว้าท่อนแขนนั้นไว้จนร่างเก้งก้างที่เพิ่งจะผุดลุกเสียหลัก นักฟิสิกส์หนุ่มรีบคว้าร่างกายที่ล้มลงมาตาม

แรงฉุดแล้วยึดไว้กับตัว


               “ปล่อยผม”


               เสียงกรุ่นโกรธดังลั่นยิ่งทำให้ภูริแปลกใจเป็นอันมาก


               “คุณ เอ่อ หนูเป็นใคร แล้วเกิดอะไรขึ้นทำไมผมถึงมานอนอยู่ที่นี่ได้แทนที่จะตายอยู่บนเรือ”


               ภูริยิงคำถามออกไปไม่ยั้ง เขามองเห็นใบหน้าที่คล้ายกับปรมะกัดฟันมองเขาอย่างตัดพ้อ


               “แล้วมัน เอ่อ เรา อืมม”


               หยกกัดฟันกลั้นความโมโหไว้ ยิ่งเห็นหน้ายามมีสติคนที่ยึดตัวหยกไว้ในอ้อมแขนก็ยิ่งทำให้หยกใจสั่นไป

หมด แต่คนใจร้ายที่พรากความบริสุทธิ์ไปกลับไม่มีทีท่าว่าจะจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้ สีหน้ายุ่งยากใจนั้นทำให้หยกน้อยใจ

เหลือเกิน


               ความรู้สึกเหล่านี้มันคืออะไร หยกนึกถึงตัวอักษรที่แม่เคยเขียนให้อ่านยามที่หยกถามคำถามที่ยากจะเข้าใจ


               “ระหว่างหยกกับพ่อโย แม่รักใครมากกว่ากัน”


               “รักเท่ากันแต่คนละแบบ”


               หยกเอียงคอมองหน้าแม่ชลเมื่ออ่านจบ


               “คนละแบบยังไงล่ะแม่ รักก็คือรักไม่ใช่หรือ”


               แม่ชลของหยกอมยิ้มและลูบหัวหยกอย่างเอ็นดูก่อนจะก้มหน้าลงไปเขียนขยุกขยิกพักใหญ่แล้วส่งกระดาษ

มาให้หยก


               “แม่รักหยกแบบแม่รักลูก รักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนและพร้อมจะทำทุกอย่างให้หยกมีความสุข แต่แม่รักพ่อ

โยอย่างคนรัก อยากใกล้ชิดอยากเป็นเจ้าของและอยากให้คนรักมีเราเคียงข้างเพียงคนเดียว”



              หยกฉุกใจคิด การที่หยกหัวใจเต้นเร็วแรงตั้งแต่เห็นหน้าผู้ชายคนนี้เพียงแวบแรก และไม่ขัดขืนอ้อมกอด

แม้ว่าจะทำได้ง่ายดายจนกระทั่งเกิดเรื่องเลยเถิดเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ความน้อยใจที่พรั่งพรูจนต้องกลั้นน้ำตาเมื่อผู้ชาย

ตรงหน้าไม่มีหยกอยู่ในสายตาหรือว่าทั้งหมดนี้คือสิ่งที่แม่ชลเรียกว่าความรัก หยกรักคนๆนี้ตั้งแต่แรกเห็นงั้นหรือ


               ไม่นะ หยกไม่เชื่อเรื่องรักแรกพบว่ามันจะมีอยู่จริงๆ แต่หยกก็ปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้


               “ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ แค่ผมไปช่วยคุณมาจากเรือก็แค่นั้น”


               กระชากเสียงตอบและผลักไสร่างสูงด้วยแรงเท่าขี้เล็บ หยกลุกขึ้นยืนและก้าวลงจากกระท่อมหลังเก่าลงไป

ยังพื้นดินทรายเปียกชื้นให้ลมเย็นยามเช้าเป่าพัดความร้อนรุ่มออกจากหัวใจ เสียงก้าวสวบๆเดินไล่หลังมาทำให้หยกเม้ม

ปากแน่นเมื่อท่อนแขนกลับถูกเขาคนนั้นยึดไว้อีกครั้ง


               “ขอบคุณที่ช่วยชีวิต ผมชื่อภูริแล้วหนู เอ่อ คุณชื่ออะไร”


               ภูริ ผู้ชายที่เข้ามาก่อกวนหัวใจของหยกชื่อ ภูริ


               “หยก”


               เสียงห้วนตอบกลับทำให้ภูริคลี่ยิ้มออกมา เขาดึงให้หยกหันมาเผชิญหน้ายิ่งเห็นใบหน้านั้นชัดเจนท่ามกลาง

แสงเรืองรองของดวงอาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้ายิ่งทำให้ภูริต้องมองอย่างครุ่นคิด


               “หยกมีญาติชื่อปรมะบ้างหรือเปล่า”


               คล้ายจนเกือบจะเป็นพิมพ์เดียวกันเพียงแต่หยกมีลักยิ้มยามเม้มปากอย่างขัดใจที่ทำให้เห็นความแตกต่าง

และมีดวงตาที่ไม่เหมือนกัน ดวงตาของปรมะเต็มไปด้วยความอ่อนโยนในขณะที่ดวงตาของหยกบอกถึงความเข้มแข็งไม่

ยอมใครแต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจไม่หลอกลวง


               “ผมไม่รู้จักใครทั้งนั้น ชีวิตของผมมีแต่พ่อกับแม่”


               หยกยิ่งน้อยใจ นอกจากจะจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนได้ประทับรอยฝังลึกลงในจิตใจของหยกแล้วนายภูริคนนี้ยังกล้า

ถามถึงคนอื่นอีก หยกนึกสงสัยอยู่เหมือนกันที่ภูริมองหน้าหยกแล้วถามถึงคนที่ชื่อปรมะอะไรนั่น แต่มันไม่ใช่เวลาที่เขา

จะซักถามในตอนนี้


               หยกสะบัดแขนก่อนก้าวเท้าเร็วๆไปยังชายหาดที่ยังมีเรือลอยลำอยู่ ภูริก้าวตามไปไม่รอช้าเมื่อเห็นเรือของนา

ซ่าเขาก็ต้องถอนหายใจออกมา


               “มีใครรอดไหมหยกนอกจากผม”


               “มีคุณคนเดียว”


               คราวนี้หยกเริ่มเห็นใจเมื่อเห็นภูริสลดลง เขาเงยหน้าขึ้นมาดวงตาคมเต็มไปด้วยความโกรธแค้น


               “เพราะมันตัวเดียว”


               “อะไร”


               “ตัวประหลาดคุ้มคลั่งที่ทำร้ายผู้คน และตอนนี้มันกำลังบาดเจ็บ”


               หัวใจของหยกร่วงลงพื้น สมองอันเฉลียวฉลาดเกินวัยทำงานจนความคิดวิ่งชนกันไปมา


               “จากจุดที่ผมพบเรือของคุณ แผ่นดินที่ใกล้ที่สุดคือเกาะที่ผมอาศัยอยู่ ผมต้องรีบกลับไป”


               “ผมไปด้วย”


               ภูริกล่าวเสียงหนัก


               “ผมจะฆ่ามันด้วยมือของผม”


               “เราจะไปกันยังไง”


               หยกละล้าละลัง ลำพังตัวเองหากจะว่ายน้ำไปจากเกาะนี้ก็คงจะเหนื่อยแค่หอบ แต่ภูริล่ะ


               “ใต้ท้องเรือยังมีแกลลอนน้ำมันเก็บไว้ยากฉุกเฉิน ไปกันเถอะหยก เราต้องรีบไปถึงเกาะของหยกก่อนที่มันจะ

ทำร้ายคนอื่นอีก”


               ไม่นานนักเรือยนต์ที่เขียนชื่อว่ามีนาซ่าเป็นเจ้าของก็แล่นออกจากเกาะร้างด้วยความกังวลใจทั้งภูริและหยก


               ขออย่าให้มีใครเป็นอันตรายเลย หยกภาวนาในใจ


                                                                 TBC

                                                      :ruready :ruready :ruready              


                                                     
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 01-06-2015 22:38:47
 :katai1: :katai1: :katai1:   กร๊สสสสสสสส เจ้มจ้นไปแล้วววว  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-06-2015 23:36:26
กำลังเข้มข้นเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: LoveYoukissme ที่ 02-06-2015 00:31:31
 :ruready :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 02-06-2015 01:02:46
ชลจะรอดไหมเนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 02-06-2015 04:06:22
อยากอ่านต่อแล้ว ลุ้นนน >O<
ชลถูกเอวันจับตัวไปแล้วเหรอเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-06-2015 06:16:36
เข้มข้นขนาดเน่าะ.  อย่าลงเอยด้วยมาม่าน้ำข้นก็พอ.
สงสารชล สงสารหยก
 :mew2: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-06-2015 06:25:35
เข้มข้นสุดๆ ว่าแต่แม่ชลโดนเอวันจับตัวไปแล้วหรือเปล่า ไม่น้าาาาาา :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 02-06-2015 07:10:21
เอวันเจอชลแล้ว อย่าเป็นอะไรเลยนะ
ยังมีภูริที่จะมาที่เกาะอีก จะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย
ลุ้นมากกก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: snowprince108 ที่ 02-06-2015 13:54:18
ชลจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 02-06-2015 20:51:03
ถ้าทุกคนเจอหน้ากัน จะเกิดอะไรขึ้น   :katai1:

สงสารแม่ชลจัง หวังว่าเอวันในที่สุดก็หลงรักชล ปล่อยชไปและยอมสละชีวิตตัวเองในที่สุด แฮะ แฮะ เพ้อล่ะ 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 03-06-2015 02:20:30
ไม่รู้ว่าชลหรือโยธินกันแน่ที่น่าสงสารที่สุดในเรื่องงง
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 03-06-2015 10:09:25
สนุกๆๆๆ
กำลังลุ้นเลยค่ะ

 :mew3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Death_note ที่ 03-06-2015 23:37:47
อ๊ากกกก ชลจะเป็นไงต่ออ้ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 04-06-2015 19:17:31
เจอกันอีกครั้ง จะเป็นยังไงนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 6.2 >> 01/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวเล็ก ที่ 05-06-2015 11:54:53
กรี๊ดแปป จะเป็นยังไงต่อเนี่ย ลุ้นๆ ตื่นเต้นๆ
 :katai1: :z3: :z3:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.1 >> 08/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-06-2015 14:47:38


                                                            ตัวประหลาด

                                                             บทที่ 7.1


               สภาพยับเยินของบ้านทำให้โยธินตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเขากลับมาถึงในยามเช้า หลังจากที่ผู้ชายในหมู่บ้าน

พากันลาดตระเวนหาคนแปลกหน้าที่เป็นฆาตกรแต่กลับพบกับความล้มเหลว ทุกคนแยกย้ายกันกลับพร้อมกับความ

ระแวงและหวาดกลัว โยธินจึงรีบกลับบ้านด้วยความเป็นห่วงชลแต่เมื่อมาถึงหัวใจของเขาก็ร่วงหล่นพื้นทันที


               ต้นไม้ใหญ่โค่นขวางทางเดิน ประตูถูกพังทลายยับเยินและเมื่อรีบวิ่งเข้าไปตะโกนเรียกชื่อกลับมีเพียงความ

ว่างเปล่าพร้อมกับสภาพของใช้ที่กระจัดกระจายกองเกลื่อน โยธินตะโกนออกมาอย่างคุ้มคลั่งเขาวิ่งวนค้นหามันมีเพียง

คราบสีเขียวเกรอะกรังกองอยู่กับพื้นบ้านและหยดเป็นทางไปทางด้านหลัง ดวงตาของโยธินโชนไปด้วยโทสะเขากระชับ

ปืนพกในมือและรีบวิ่งตามร่องรอยสีเขียวที่มุ่งไปบนหน้าผาสูงบนเกาะเล็ก


               ด้านบนสุดเป็นพื้นที่ราบตัดลงไปเป็นหน้าผาที่หันหน้าสู่ด้านหลังของเกาะ ด้านล่างเป็นทะเลลึกที่ไม่ได้ใช้

ประโยชน์เพราะมันมีแต่โขดหินแหลมคม กว่าจะวิ่งขึ้นมาถึงด้านบนโยธินก็หอบหนักเขายืนหันรีหันขวางเพราะต้นไม้ใหญ่

ยังยืนต้นบังอยู่ แต่พอได้ยินเสียงกรีดร้องของชลดังแว่วมาจากหน้าผาโยธินก็รีบวิ่งตามเสียงจนกระทั่งเห็นภาพที่ทำให้

เขาต้องเบิกตากว้าง


               ชลนอนดิ้นรนอยู่กลางพื้นดินใบหน้างดงามมีแต่ความหวาดกลัวในขณะที่มีสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดที่สุดเท่าที่เขา

เคยเห็นคร่อมทับอยู่ด้านบน มันใช้มือใหญ่หนากดหน้าอกและคอของชลจนดิ้นไม่หลุด ร่างกายสีควันบุหรี่มีร่องรอยบาด

เจ็บเป็นแผลเหวอะหวะ และเมื่อเสียงของชลกรีดร้องอีกครั้งก็เรียกสติของโยธินให้พุ่งตัวเข้าหาอย่างรวดเร็ว


               “ช่วยด้วย เอวัน ปล่อยเดี๋ยวนี้”


               ไม่มีเวลาแปลกใจที่ชลกลับมามีเสียงชัดเจนอีกครั้ง โยธินเข้าไปยืนจังก้าต่อหน้าและยกปืนพกยิงเข้าแสก

กลางหน้าผาก แต่เขาก็ต้องตกตะลึงที่กระสุนปืนพกทำได้เพียงระคายผิวจนมีน้ำเมือกสีเขียวไหลรินออกมาแค่เล็กน้อย

และยิ่งกระตุ้นให้ไอ้ตัวประหลาดโกรธจนดวงตาสีเขียวเรืองแสงวาบ


               ดวงตาสีเขียว!


               ความสังหรณ์ใจบางอย่างผุดขึ้นมาในสมองของโยธิน แต่เขาก็ไม่มีเวลาไตร่ตรองเมื่อตัวประหลาดผุดลุกจาก

ร่างของชลและกระโจนเข้าหา โยธินเหนี่ยวไกปืนรัวยิงจนหมดแม็กสร้างความบาดเจ็บเพิ่มได้อีกไม่เท่าไหร่เขาก็ถูกมือ

ใหญ่ตบใส่จนกระเด็นหวือไปหลายเมตร


               “โย ระวัง!”


               ชลยันกายขึ้นมาตะโกนอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นโยธินเพลี่ยงพล้ำ โยธินรีบลุกขึ้นมาแต่กลับถูกมือหนาคว้าคอ

แล้วยกขึ้นสูงก่อนจะกระแทกกับพื้นดินราวกับโยธินเป็นของเล่น โยธินร้องลั่นเมื่อได้ยินเสียงกระดูกของตัวเองหักดังลั่น

ดวงตาของเขาลอยคว้างเมื่อตัวประหลาดทำท่าจะทำร้ายเขาอีกครั้ง แต่มันกลับยั้งมือเมื่อเห็นชลพุ่งเข้ามาขวางทางไว้


               “อย่านะ เอวัน!”


               ดวงตาสีเขียวลุกวาบ คล้ายมีแววตัดพ้อซ่อนอยู่ภายในส่วนลึก มันเงยหน้าส่งเสียงร้องลั่นอย่างเจ็บปวดเมื่อ

สบตากับชล


               “ปอออออ ม่ายยยเคยยยยรักกกกก เอวันนนน”


               ชลเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงเอวัน เขาไม่นึกว่าเอวันจะพูดได้ชลมองเอวันอย่างเด็ดเดี่ยวแล้วเอ่ยออกไป


               “ไม่เคยรัก ทั้งหมดมันเป็นหน้าที่และมนุษยธรรม เข้าใจไหมเอวัน”


               โยธินมองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างอ่อนระโหยเขาเห็นดวงตาสีเขียวนั่นมองมาทางชลด้วยความเจ็บช้ำก่อนที่

จะวาวโรจน์ขึ้นมา


               “จะฆ่าทุกกกกกคนนนที่ปออออรักกกกก”


               ร่างบางที่กางแขนปกป้องโยธินถูกผลักให้พ้นทาง เอวันทรงตัวขึ้นมามองโยธินอย่างอาฆาตและเตรียมที่จะ

คว้าขึ้นมาอีกครั้ง


               แสงสีแดงส่องเป็นลำพุ่งแหวกอากาศมาสกัดที่แขนของเอวันจนมันร้องลั่น เลือดสีเขียวพุ่งกระฉูดออกมา

ราวกับน้ำพุ เอวันหันขวับไปมองร่างสูงที่ปรากฏกายขึ้นมาใช้ปืนไฟฟ้าส่องตรงมาที่มัน ในขณะที่มันกำลังยังตั้งตัวไม่ได้

ร่างปราดเปรียวอีกร่างก็พุ่งปราดมาอุ้มโยธินที่บาดเจ็บให้ห่างออกมาจากมันราวกับสายลม


               “ภู!”


               เสียงเรียกด้วยความตื่นเต้นทำให้ภูริหันขวับไปมอง เขาถึงกับตะลึงงันเมื่อเห็นร่างโปร่งคุ้นตาในชุดเสื้อผ้าพื้น

เมือง แต่ใบหน้างดงามนั้นคือใบหน้าที่ยังวนเวียนอยู่ในความทรงจำมาตลอดห้าปี


               “ปอ!”


               ระหว่างที่ภูริขาดความระมัดระวังร่างสีควันบุหรี่ก็ปราดเข้ามาใช้กำลังตบใส่จนภูริล้มลง เท้าใหญ่โตกระทืบลง

ไปที่กลางลำตัวจนภูริตัวงอ เอวันมองภูริอย่างเกลียดชังพลางก้มลงเตรียมจะใช้มือคว้าแต่มันกลับหงายหลังเมื่ออยู่ๆถูก

ร่างปราดเปรียวกระโดดถีบขาคู่ เอวันตั้งหลักขึ้นมามองคู่ต่อสู้คนใหม่อย่างแปลกใจ


               หยกยืนจังก้าป้องกันภูริไว้ สบตากับไอ้ตัวประหลาดตรงหน้าอย่างเจ็บใจโดยเฉพาะกับสภาพของโยธินและ

ชลที่ได้รับบาดเจ็บ หยกจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายคนที่หยกรักได้อีก ทั้งคู่ท้าทายกันทางสายตาพักใหญ่ก่อน

จะกระโจนเข้าหากัน


          หยกตัวเล็กกว่ามากแต่แรงสูสีกันเพราะเอวันบาดเจ็บไปทั้งตัว หยกออกแรงต่อยจนเอวันหน้าหงายแต่มันก็หัน

กลับมาทุบจนหยกทรุดลงท่ามกลางเสียงร้องอย่างตกใจของทุกคน


          “หยก ระวังด้านหลัง!”


           ลำแสงสีแดงถูกยิงมาจากภูริที่ยังนอนกองอยู่กับพื้น มันพุ่งเข้าหาลำตัวของเอวันจนมันส่งเสียงร้องโหยหวนด้วย

ความเจ็บปวด หยกได้ทีรีบลุกขึ้นมาชกหน้าเอวันอีกครั้งจนคราวนี้มันร่วงไปกองอยู่กับพื้น


         หยกผืนความเจ็บระบมยืนขึ้นมา เขากัดฟันมองไอ้ตัวประหลาดที่กำลังยันกายขึ้นมาเช่นกัน ดวงตาของเอวันเบิก

ตาโพลงเมื่อมองเห็นหยกอีกครั้ง คราวนี้มันกลับเป็นฝ่ายตื่นตะลึง


        “ลูกกกกกก”


         เอวันหันกลับไปมองชล มันเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งตรงไปคว้าชลจนติดมือขึ้นมาก่อนจะลากไปยังปลายหน้าผาจน

หมิ่นเหม่


               “ลูกกกกเอวันนนนช่ายยหมายยย”


               “ปล่อยแม่นะไอ้ตัวประหลาด”


               หยกตะโกนลั่นด้วยความเป็นห่วง


               “หยกอย่าเข้ามา เอวัน เอาสิ ฆ่าฉัน แกเคยฆ่ามาแล้วครั้งหนึ่งแกก็ฆ่าได้อีก เอาเลย”


               ชลมองอย่างเคียดแค้นในขณะที่เอวันกลับนิ่งงันและเจ็บช้ำ


               “เอวันนนรักกกปอออออ”


               ดวงตาสีเขียวลุกโพลงเมื่อหันไปมองหยกอีกครั้งแล้วจึงหันมามองชลพร้อมกับตะโกนก้อง


               “ตายยยด้วยยกันนน”


               พรึ่บบบบ!!


               ลำแสงสีแดงพุ่งเข้าใส่ตรงกลางระหว่างดวงตาสีเขียวที่มองอย่างตกตะลึง หยกทิ้งปืนไฟฟ้าที่ภูริโยนส่งให้

ลงพื้นแล้วรีบกระโดดไปคว้าร่างของชลไว้ได้ทันเมื่อร่างใหญ่โตของเอวันหงายหลังและลอยละลิ่วลงไปกับหน้าผา

ได้ยินเสียงร้องลั่นดังขึ้นมาก่อนที่จะเงียบหายไปตามสายลม หยกกับชลค่อยๆชะโงกลงไปมองทั้งคู่เห็นร่างสีควันบุหรี่ถูก

โขดหินแหลมคมเบื้องล่างแทงทะลุลำตัวเลือดสีเขียวไหลทะลักลงสู่ทะเลกว้าง เอวันหมดลมหายใจลงแล้ว


               หยกตัวสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมกอดของชล ดวงตาสีเขียวเบิกโพลงอย่างตื่นตระหนกเมื่อคอนแทคเลนส์ร่วง

หลุดไปตั้งแต่ถูกเอวันทำร้ายแต่คราวนี้แม่ของหยกกลับไม่นึกกลัวหยกอีกแล้ว มีแต่หยกที่นึกกลัวตัวเอง


               “แม่ บอกหยกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง”


               หนุ่มน้อยหวาดผวากับความจริงที่เพิ่งรับรู้


               “หยกเป็นลูกพ่อโยกับแม่ชล ไม่ใช่ลูกของไอ้ตัวประหลาดนั่น ใช่ไหมแม่ ใช่ไหม”


               “หยกลูกแม่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหยกก็เป็นลูกแม่นะลูก”


               เสียงทุ้มนุ่มที่ดังมาจากลำคอของแม่ชลยิ่งทำให้หยกตกใจหนักเข้าไปอีก แม่ชลของหยกพูดได้แล้วแต่เสียง

นั่นยังไงก็เป็นเสียงผู้ชายชัดๆ


               ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสับสน โยธินที่ประคองท่อนแขนที่หักจนผิดรูปลุกขึ้นยืน เขามอง

สบตากับผู้ชายหน้าตาดีอีกคนพลางกัดฟันแน่น ผู้ชายคนนั้นเองก็ประสานสายตาอย่างคลางแคลงก่อนจะก้าวไปหาสอง

แม่ลูกที่เพิ่งจะคลายอ้อมกอดจากกัน


               “ปอ คุณยังไม่ตาย”


               หยกอ้าปากค้างมองภูริและแม่ชลสลับกัน ภูริเรียกแม่ชลว่าปอ ชื่อนี้คือชื่อที่ภูริเรียกอยู่ซ้ำๆในคืนที่พรากความ

บริสุทธิ์ไปจากหยก หรือว่าแม่ชลคือคนที่ชื่อปรมะ หยกใจหายเมื่อเห็นแม่ยิ้มรับทั้งน้ำตา


               “ภู ปอยังไม่ตาย ดีใจที่ได้พบกับภูอีกครั้ง”


               “พ่อ รอหยกด้วย”


               หยกมองเห็นแผ่นหลังของพ่อโยเดินกลับลงไปจากหน้าผาสูงชัน ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแล่นเข้าหัวใจจน

แทบจะร้องไห้ออกมา หยกวิ่งตามโยธินไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของชลแม้แต่น้อย


TBC



               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.1 >> 08/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-06-2015 14:56:21
โอ๊ย ปวดใจ ใครๆก็รักปอ เอวันนนก็ร้ากกปออ ฮือ  :hao5: 
สงสารหยกสุดแล้ว  :z3: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.1 >> 08/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 08-06-2015 15:55:20
แอบสงสารเอวันอ่า T^T
หยกก็น่าสงสาร ดูท่าจะรักแฟนเก่าแม่ตัวเอง... ความสัมพันธ์ช่างซับซ้อน :เฮ้อ: อยากให้ชลคู่กะโยธินน่ะแหละ จะได้ครบคู่ แต่ไม่รู้ว่าภูริจะรักหยกรึเปล่า เง้อ... T_T
มาต่อไวๆนะค้า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.1 >> 08/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 08-06-2015 20:19:23
เอาละสิทีนี้    ปอนี่เนื้อหอมมากมีแต่คนรัก  ภูริ เอวัน โยธิน  แต่ปอรักภูรินี่  กับโยธินอาจจะเป็นเพราะความดี   กลัวแต่หยกจะท้องกับภูริ   แถมภูริยังจำคืนนั้นไม่ได้ด้วยสิ
มโนเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดก็คือเหลือโยธินกับหยกอยู่ด้วยกันบนเกาะ    แต่จริงๆก้น่าจะเป็นโยธิน-ชล   แล้วภูริก็หันมาเริ่มทำความรู้จักกับหยก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.1 >> 08/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 08-06-2015 20:52:21
สงสารเอวันนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.1 >> 08/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: PaePT ที่ 08-06-2015 21:15:56
สงสารอีเอวัน อ่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.1 >> 08/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: sittawan ที่ 08-06-2015 22:00:01
สงสารเอวันอ้ะ สงสารทุกคนด้วยยมาต่อเร้วๆน้าค้างมากก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.1 >> 08/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 08-06-2015 22:18:39
หวังว่าจะปรองดองกันได้นะ  อดสงสารเอวันไม่ได้  :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.1 >> 08/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 08-06-2015 22:56:50
สงสารเอวัน สงสารหยก
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-06-2015 23:58:57


                                                       ตัวประหลาด


                                                         บทที่ 7.2



            ชลมองโยธินและหยกอย่างสะเทือนใจเมื่อเห็นสายตาเจ็บช้ำระคนตัดพ้อของทั้งคู่เมื่อกลับมาถึงบ้าน โยธินดูแล

อาการบาดเจ็บด้วยตัวเขาเองและหยก เขาปฏิเสธการช่วยเหลือของชลโดยสิ้นเชิง


               “ผมดูแลตัวเองได้ คุณไปดูแลผู้ชายคนนั้นเถอะ เขาก็บาดเจ็บเหมือนกันนี่”


               “โย ฟังผมก่อน คือว่าผม…”


               ชลกลืนน้ำลายลงคอเมื่อโยธินเบี่ยงตัวหนี ชลจึงหันไปหาหยก


               “หยก มาหาแม่…”


               “หยกจะใส่เฝือกที่แขนให้พ่อ แม่ก็ไปหาผู้ชายคนนั้นสิ”


               ชลเม้มปากกำมือแน่นเมื่อเห็นทีท่าหมางเมินของคู่พ่อลูก น้ำตารื้นออกมาด้วยความเสียใจพลางก้าวเดินมานั่ง

ร้องไห้อยู่ที่ริมหาดทรายโดยมีภูริเดินตามมาห่างๆ ภูริเอ่ยถามเสียงเครือเมื่อเขาทรุดนั่งเคียงข้าง


               “ปอ เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ปอตกหน้าผาหายไปในทะเลเมื่อห้าปีที่แล้ว”


               ชลยิ้มเศร้าเมื่อเล่าเรื่องราวต่างๆที่ได้เผชิญมาให้ภูริฟัง เมื่อเล่าจบชลจึงสบสายตากับภูริอย่างรู้สึกผิด


               “ปอขอโทษถ้าจะต้องบอกภูว่า ปรมะได้ตายไปแล้วตั้งแต่วันนั้นปอมีชีวิตใหม่เพราะโยธิน ตอนนี้ปอรักโยธิน

และอยากจะอยู่กับเขาตลอดไป ภูจะด่าจะว่าปอยังไงก็ได้ที่ปอเปลี่ยนใจจากภู ปอขอโทษ”


               กลายเป็นภูริที่ยิ้มเศร้า เขาวางมือลงบนไหล่ของชลและดึงให้เผชิญหน้ากับเขา


               “ถึงจะเจ็บแต่ภูก็เข้าใจ อย่างน้อยภูก็ดีใจที่เห็นปอยังมีชีวิตและได้อยู่กับคนดีที่เขารักปอ ได้โปรดอย่าคิดมาก

เรื่องของภู แค่เราได้เป็นเพื่อนกันต่อไปภูก็ดีใจแล้ว”


               ชลคลี่ยิ้มอย่างดีใจ ภูริมองใบหน้างดงามแล้วกดจูบแผ่วเบาที่กลีบปากนุ่มเพื่ออำลาโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่ามีสายตา

อีกหนึ่งคู่จ้องมองอย่างน้อยใจ


               




               ชลก้าวเข้าไปในบ้านที่มีโยธินกำลังจัดของด้วยแขนเพียงข้างเดียวส่วนอีกข้างอยู่ในเฝือกปูนสีขาวด้วย

ใบหน้าหงุดหงิดชลไม่ได้พูดอะไรเมื่อเข้าไปช่วยเก็บของ บรรยากาศมีแต่ความเงียบงันจนในที่สุดโยธินก็ระเบิดเสียงออก

มา


               “โธ่โว้ย!”


               “โย”


               “เขามาตามแล้วนี่ จะกลับไปกับเขาก็ไป”


               “ฟังกันก่อนได้ไหม”


               ชลถอนใจออกมา ร่างเพรียวเดินไปหาแล้วโอบกอดโยธินจากด้านหลังเขาซบหน้าลงกับแผ่นหลังสีแทนชุ่ม

เหงื่อ


               “ใช่ ผมกับภูคบกันมาก่อน เราทั้งสองคนทำงานที่นาซ่า คุณไม่รู้หรอกว่ามันมีอยู่ในประเทศไทยและมนุษย์

ต่างดาวน่ะมีจริง เราพบมันและเลี้ยงมันเพื่อวิจัยแต่มันกลับหลุดออกจากการควบคุมและมันก็ข่มขืนผม”


               ชลสะอื้นเมื่อภาพความทรงจำอันเลวร้ายประดังขึ้นมาในสมอง


               “แต่คุณช่วยผมไว้นะโย คุณให้ชีวิตใหม่ให้ความรักกับผม”


               “อย่าทำแบบนี้ ผมเคยบอกคุณแล้วว่าอย่าทำเพราะสงสารหรือสำนึกบุญคุณ ผมไม่ต้องการ”


               เสียงขื่นของโยธินทำให้ชลยิ่งกระชับวงแขนแน่นขึ้นไปอีก เขาจะไม่ยอมให้โยธินไปจากเขาเด็ดขาด


               “ผมไม่ได้สงสารหรือจะทดแทนบุญคุณอะไรทั้งนั้น ผมแค่รักคุณนะโย ผมขอเป็นชลของคุณตลอดไปจะได้

ไหมครับ คุณหมอโยธิน”


               เงียบลงอีกครั้งจนได้ยินเสียงลมหายใจ จนกระทั่งชลใจหายเมื่อโยธินพูดแหวกความเงียบขึ้นมา


               “ปล่อย”


               “ไม่ปล่อยหรอก”


               “โง่หรือเปล่า ถ้าชลไม่ปล่อยแล้วผมจะหันกลับไปกอดชลยังไงล่ะ”


               ชลยิ้มกว้าง และทันทีที่ปล่อยโยธินก็หันกลับมาใช้แขนเดียวที่เหลืออยู่ดึงชลเข้ามากอด เขากดจูบหนักๆที่

หน้าผาก


               “ขอบคุณนะโยธิน ขอบคุณที่ให้โอกาสผม”


               “เราให้โอกาสกันและกันต่างหาก ขอบคุณนะชลที่คุณเลือกผม เฮ้อ อยากจะกดคุณให้จมที่นอนจังเลยถ้าไม่

ติดว่าแขนหักนะ”


               ชลเงยหน้ามาด้วยประกายตาฉ่ำหวาน


               “งั้นให้ผมเป็นฝ่ายกดให้คุณได้ไหมล่ะ แค่คุณนอนนิ่งๆให้ผม…”


               โยธินไม่รั้งรอ เขาไม่สนใจข้าวของที่ยังระเกะระกะเต็มห้องโถงเมื่อฉุดชลให้ก้าวตามเข้าไปในห้องนอนแล้ว

ปิดประตูตามดังปัง ดวงตาที่สบประสานต่างเป็นประกายไปด้วยไอรัก และทันทีที่มือเรียวยาวของชลผลักแผ่นอกที่เต็ม

ไปด้วยมัดกล้ามให้หงายหลังลงไปบนที่นอนโยธินก็ฉุดให้ชลล้มลงมาทาบทับอยู่บนลำตัวของเขา


               ริมฝีปากประกบกันแน่นหนา ต่างฝ่ายแย่งกันส่งลิ้นหยุ่นเข้าไปในโพรงปากของอีกคนและตวัดเกี่ยวอย่างไม่

ยอมแพ้ ชลกระชากกางเกงเลที่โยธินสวมใส่ให้หลุดออก เขายกตัวขึ้นสูงดวงตางดงามดั่งเม็ดทรายจ้องมองแท่งเนื้อที่

อวดตัวตรงอย่างหวานฉ่ำ ไม่บ่อยนักที่ชลจะเป็นฝ่ายก้มหน้าลงไปแตะปลายลิ้นลงบนปลายสามเหลี่ยมและขบเม้มลงจน

โยธินส่งเสียงอย่างได้ใจ


               เรียวปากรูดรั้งพลางเหลือบตามองสามีที่กำลังเงยหน้าสูดลมเข้าปาก ชลยิ้มกริ่มด้วยความพอใจในผลงาน

ของตนเอง แท่งเนื้อพร้อมรบปริ่มหยาดน้ำใสแข็งขืนจนเส้นเอ็นแทบทะลุออกมาเมื่อชลค่อยๆคายมันออก เขาขยับตัวชัน

ขาคร่อมไว้พลางถอดเสื้อที่ใส่อยู่ด้วยท่าทางยั่วเย้า มือสวยถลกผ้าถุงที่นุ่งอยู่ดึงผ่านศีรษะตนเองแล้วโยนทิ้งอวดผิวกาย

ขาวเนียนให้โยธินต้องเอื้อมมือที่เหลือแค่ข้างเดียวมาลูบคลำขยำอย่างเมามันในขณะที่ชลยันกายสูงและกดเอวตนเอง

ลงมาเพื่อกลืนกินแท่งเนื้อให้ผลุบเข้าไปช้าๆ


               “อา ชล เสียวมาก ซี้ดดดด”


               โยธินอดใจไม่อยู่ เอวหนาช่วยดันกายให้สอดลึกได้เร็วยิ่งขึ้นจนชลต้องนิ่วหน้าด้วยความเสียวซ่านที่ปะทุขึ้น

มา  เสียงครางแผ่วดังแว่วเข้าหูเมื่อชลกดกายจนมิดและขยับช้าๆให้ภายในสัมผัสเสียดสีทีละน้อย จนช่องทางฉ่ำชื้นไป

ด้วยความพร้อมที่ต่างก็ต้องการซึ่งกันและกัน


               “ผมรักคุณโยธิน”


               ก้มหน้าลงไปบอกรักพร้อมกับส่ายเอวเร่งเร้าไฟปรารถนา ปลายนิ้วลูบไล้ไปตามโครงหน้าคมเข้มจนมาหยุดที่

ริมฝีปาก โยธินส่งลิ้นแตะไล้ก่อนจะอ้าปากง้างงับมันเข้าไปดูดแรงๆยั่วให้ชลบดคลึงสะโพกจนเนื้อตัวสั่นสะท้าน โยธินชัน

หน้าขาตั้งขึ้นแล้วเด้งเอวใส่จนชลร้องลั่น


               “อ๊า ตรงนั้น ฮึกๆ เสียวสุดๆเลยครับโย”


               ความอดทนสิ้นสุดลงทันที ชลออกแรงขย่มใส่พร้อมกันกับที่โยธินเด้งเอวสวน เสียงหอบหายใจหนักหน่วงดัง

สะท้อนทั่วห้องเมื่อต่างก็จูงมือกันแตะขอบฟ้าจนหมดแรง
               




               หยกรู้แล้วว่าทำไมหยกถึงหลงรักผู้ชายร่างสูงที่กำลังมองเหม่อไปกลางทะเลคนนี้ได้เพียงแค่แวบแรก หยก

เดาว่ามันเป็นเพราะแม่ชลของหยกเคยรักภูริ คงเป็นความผูกพันที่ทำให้หยกรักเขาแต่หยกก็ต้องเจ็บปวดเพราะในหัวใจ

ของเขาคงมีแต่แม่ชล ก็ดูที่เขาจูบแม่ชลอย่างแสนรักตอนที่หยกแอบมองนั่นสิ


               “หยก”


               ภูริหันมาเห็นหยกพอดี หยกหน้าง้ำหันหลังเดินหนีแต่ภูริก็รีบก้าวตามมาคว้าแขนเขาไว้


               “จะเดินหนีไปไหน ผม เอ่อ อายังไม่ได้ขอบคุณหยกเลยที่ช่วยชีวิตอาไว้อีกครั้ง”


               พอรู้ความสัมพันธ์ว่าหยกเป็นลูกของปรมะอดีตคนรัก ภูริเลยไม่รู้ว่าจะแทนตัวเองว่าอย่างไรดี เขาถอนหายใจ

เมื่อเห็นหยกทำหน้าบึ้งใส่ ภูริอยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหยกแต่เป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้หยกมึนตึงกับเขา


                “ใคร ใครเป็นหลานของคุณ”


               หยกพูดจากวนใส่ ยิ่งหงุดหงิดเมื่อเห็นหน้าตาใสซื่อของภูริ นึกอยากจะบีบคอให้แหลกคามือนัก


               “ไม่เป็นหลานแล้วหยกอยากเป็นอะไรล่ะ อายอมทุกอย่างนั่นแหละแค่ให้หยกพูดดีๆกับอาบ้าง ไม่ใช่ตะคอก

ใส่อาแบบนี้ อาก็น้อยใจเป็นนะ”


               โอย หยกอยากจะบ้าตาย ไอ้หน้าสลดแบบนี้กำลังทำให้หยกใจอ่อน หยกรีบห้ามตัวเองไว้


               “ไม่เป็นอะไรทั้งนั้นจะไปไหนก็ไป คุณเป็นแฟนแม่มาก่อนนี่ จะไปง้อแม่สร้างความแตกแยกกับพ่อโยก็ไปสิ

รออะไรอยู่”


                ภูริหน้าจ๋อยสนิท คราวนี้เขาปล่อยแขนหยกและหันหลังให้พลางพูดเสียงสั่น


               “แม่ของหยกทิ้งอาไปแล้วเขารักพ่อของหยกมากกว่า ตอนนี้อากำลังอกหักแต่หยกก็ยิ่งพูดตอกย้ำให้อา

เสียใจ อาไม่เข้าใจว่าทำไมหยกถึงไม่ชอบหน้าอาขนาดนี้ อาจะกลับไปทำงานแล้วจะได้ไม่ต้องอยู่ให้หยกทนเหม็นหน้า

อา”


               แม่ชลเลือกพ่อโย ดวงตาสีเขียวที่ไม่จำเป็นต้องใส่คอนแทคเลนส์เพื่อปกปิดเบิกตาโต หยกมองไหล่กว้างที่ลู่

ลงอย่างนึกสงสาร ความจริงภูริก็ไม่ได้มีความผิดอะไรสักนิดเขาสูญเสียคนรักไปเมื่อห้าปีที่แล้วและเมื่อกลับมาพบกันอีก

ครั้งคนรักก็มีความรักครั้งใหม่ หยกกำลังมองร่างสูงที่ก้าวไปยังท่าเรืออย่างชั่งใจ


               “เดี๋ยวสิ”


               ภูริชะงักเท้า เขาหันกลับมาหาด้วยนัยน์ตาสลด หยกเม้มปากแน่นเมื่อก้าวไปประจันหน้ากับภูริอีกครั้ง


               “ถามจริงๆเถอะ คุณจำอะไรเรื่องผมได้บ้าง”


               ดวงตาเต็มไปด้วยความงงงันเมื่อภูริพยายามทบทวนความทรงจำ หยกยิ่งเจ็บใจจนน้ำตารื้น


               “คนบ้า”


               หยกเป็นฝ่ายหันหลังให้และก้าวเท้าหนีบ้าง ภูริรีบคว้าไหล่ของหยกและดึงให้หันกลับมาอีกครั้ง คราวนี้เขา

มองหยกอย่างคาดคั้น


               “บอกอามาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อย่าให้อาต้องกลับไปพร้อมความสงสัยแบบนี้นะหยก”


               หยกกัดปากจนห้อเลือด


               หยกบอกตัวเองให้เข้มแข็ง


               ผู้ชายตรงหน้าไม่ได้รักหยก เขารักแม่ชล ป่วยการที่จะรั้งให้เขามารับผิดชอบด้วยการกระทำที่เกิดจากความ

ไม่ตั้งใจเพียงแค่ครั้งเดียว ผู้ชายที่กำลังจ้องหน้าเค้นคำตอบนี้จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าได้ทำอะไรลงไป มันไม่ได้เกิดจากความ

รักแม้แต่น้อย


               หยกกลั้นใจผลักหน้าอกภูริแค่เบาๆ แต่เขาก็เซห่างได้ไม่ยาก หยกหันหลังกลั้นสะอื้นจนไหล่ไหว


               “จะไปไหนก็ไป มัวแต่โยกโย้น่ารำคาญ”


               ภูริมองด้านหลังของไหล่ที่สั่นสะท้านอย่างคลางแคลงใจ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในคืนวันที่หยกช่วยชีวิตเขาไว้

คืนที่เขาจำได้ว่าเป็นวันแรกในรอบห้าปีที่เขาฝันดีราวกับน้ำทิพย์สดใสที่พรายพร่างมาสู่ชีวิตที่อับเฉา ภูริเอื้อมมือออกไป

อยู่เหนือไหล่ของหยก แต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะวางมันลงเพราะท่าทีเดียดฉันท์ของหนุ่มน้อย ภูริก้มหน้าถอนหายใจเฮือก

ใหญ่เมื่อเขาทิ้งมือกลับมาแนบลำตัว


               “หยก ถ้าอาทำอะไรที่ทำให้หยกเสียใจอาขอโทษ ถ้าหยกไม่อยากเห็นหน้าอา อาก็จะไป แต่อาจะคิดถึงหยก

ตลอดไป”


               น้ำตาของหยกไหลลงมาเป็นทางอย่างสุดกลั้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าย่ำทรายเดินจากไป ความรักครั้งแรกของ

หยกกำลังหายไปพร้อมกับเสียงเรือยนต์ที่แล่นห่างจากท่าเรือจนหายไปกับสายลม







               เป็นเวลากว่าสองสัปดาห์หลังจากที่เกิดเรื่อง ความหวาดกลัวของชาวหมู่บ้านประมงในเกาะเล็กจางลงไป

เรื่อยๆและความมีชีวิตชีวาของหยกก็น้อยลงไปเรื่อยๆจนชลและโยธินเริ่มผิดสังเกต


               หยกที่เคยสดใสกลับนั่งมองเหม่อไปกลางทะเลแทนที่จะลงไปแหวกว่ายดังเช่นเคย ผิวกายคร้ามไอแดดกลับ

ซีดลงทีละน้อย โยธินและชลพยายามทั้งซักถามทั้งปลอบประโลมแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ จนกระทั่งในตอนบ่ายวันนี้ที่ทั้งคู่

ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆร่างกายที่เคยแข็งแรงกลับล้มแผ่หมดสติอยู่กลางพื้น โยธินรีบตรวจร่างกายหยกอย่างรวดเร็วก่อนที่

เขาจะกัดฟันแน่น


               “เกิดอะไรขึ้นกับหยกน่ะโย”


               ชลเอ่ยถามเมื่อเห็นอาการของสามีที่เต็มไปด้วยความเคืองขุ่น และคำตอบของโยธินก็แทบทำให้ชลผงะ

หงาย


               “หยกกำลังตั้งท้อง เจ็บใจจริงๆ ใครกันนะที่ทำเด็กแสนจะบริสุทธิ์อย่างหยกได้ลงคอ”
               




                                                                          TBC



บทหน้าคงจะจบแล้วหละ

ข่าวดี อิอิ

งานหลักน้อยลงแล้ว เวลาแต่งนิยายก็เยอะขึ้นอีกนิด กรี๊ดดด ดีจายยยย

แล้วก็ อยากจะรวมเล่ม คำสาปร้ายพ่ายรัก ใครสนใจก็ไปเม้ามอยซอยหยวกกันได้ในแฟนเพจนะคะ ขอเวลาอีกนิดนึง




อีกนิด มีโพลด้านบนให้ช่วยตอบด้วยเน้อ

ขอบคุณจ้ะ


 :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 12-06-2015 00:28:22
โธ่ หยก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 12-06-2015 00:30:47
กร๊สสสสสส อิคุณอาภู กลับมาก่อนนนน แกมาไข่ทิ้งไว้แบบนี้ได้ไง

กลับมาเลยนะ หรือจะให้นุ้งชลตามไปลากที่ นาซ่า  :katai1:

น้องชลยังเด็กมาก โตแต่ตัวเลยยังไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร กล๊บบมาาาา อิตาบ้า

ปล.ไม่เลือกได้ป่ะ แบบว่า มันเด๊ดทั้งสองเรื่องเลย เลือกไม่ถูก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-06-2015 00:33:08
กรี๊ด หนูหยกของป้าท้องซะแล้ว
ตอนหน้าจะจบแล้วหรอคะ เร็วอ่า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 12-06-2015 01:51:31
หยกท้องแล้ววว ไปตามอิภูริกลับมาด่วนๆ แต่ถ้าคลอดแล้วเสียงจะหายไปอีกคนเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 12-06-2015 02:34:58
เอิ่ม  หยกอายุ 5 ขวบ ท้องลูกภูริที่จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไข่ทิ้งไว้
เจริญแล้วค่ะทีนี้ หยกจะบอกหรือเปล่าว่าเป็นภูริ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-06-2015 06:39:21
 :z6:   อีภู แกปี้เด็กมันแล้วยังไม่รู้ตัวอีก. แหมๆระบบสั่งการอัตโนมัติเหรอ พรากซิงเลยนะ
กลับมารับเมียและลูกด่วน. อย่าให้ต้องประกาศซ้ำ

โยชลหวานชื่นไปแล้วก็เบาใจเหลือน้องหยกกับลูกนี่แหละ แม่วัยใสแท้ๆ.  :mew4: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 12-06-2015 16:09:29
หยกท้องกับภูริ!!!  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 12-06-2015 23:44:01
กรีดร้อง ท้องลูกแฝดเลยยยนนย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวเล็ก ที่ 13-06-2015 01:38:21
หยกท้องเชื้อภูรืนี่แรงดีจริงๆ
 :impress2: o18
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 13-06-2015 06:45:23
ง่าาา ภูใจร้าย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 13-06-2015 09:54:58
อ้าว...เวรกรรม    :mew6:

แม่ชลตามตัวเพื่อนเก่ากลับมาด่วนเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-06-2015 13:59:11
อ้าววว ท้องแล้ว
กลับมารับผิดชอบนะอิอาภู
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 13-06-2015 17:18:08
ถ้าคนอื่นรู้ว่าหยกเป็นลูกครึ่ง(ครึ่งคนครึ่งมนุษย์ต่างดาว)จะไม่อยากจับไปศึกษาเหรอเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 7.2 >> 12/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 18-06-2015 19:39:05
ถือธงรอ
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 19-06-2015 01:04:45


                                                          ตัวประหลาด

                                                             บทที่ 8               

               “โครโมโซมเพศของมนุษย์บนโลกเราคือเอ็กซ์กับวาย ถ้าเป็นผู้หญิงจะเป็นเอ็กซ์กับเอ็กซ์ถ้าเป็นผู้ชายก็คือ

เอ็กซ์กับวายอย่างที่เราทุกคนเคยเรียน”


               ชลอธิบายให้โยธินและหยกที่นอนเหม่อลอยอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลได้รับรู้ หลังจากที่โยธินรู้ว่าหยกตั้ง

ครรภ์เขาก็รีบพาทั้งหยกและชลมาที่โรงพยาบาลของเขาเพื่อให้หยกได้พักฟื้น แต่หยกไม่ได้มีอาการรุนแรงเหมือนตอน

ที่ชลตั้งครรภ์ มีเพียงอาการอ่อนเพลียกับสภาพจิตใจที่ย่ำแย่เท่านั้น


               “แต่เมื่อได้ศึกษาพันธุกรรมของเอวันแล้ว ผมก็พบว่าโครโมโซมเพศของเอวันมีเพียงโครโมโซมวายคู่กับวาย

ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงนั้นจะมีกี่เพศ แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่าโครโมโซมวายของมนุษย์ต่างดาวอย่างเอวันจะมา

ผสมกับโครโมโซมวายของผมจนเกิดมาเป็นหยกได้”


               เสียงเศร้าจนโยธินต้องเอื้อมมือไปปลอบประโลม ชลหันไปมองหยกพลางลูบผมอย่างอ่อนโยน


               “ตอนที่เอวันเกิดมาเขาใช้เวลาเพียงสามเดือนจนโตเต็มวัย ส่วนหยกใช้เวลาห้าปีก็กลายเป็นหนุ่มน้อยในวัย

เจริญพันธุ์ ผมเองก็นึกไม่ถึงว่าหยกจะ เอ่อ ท้องขึ้นมาได้ หยกบอกมาได้ไหมลูกว่าลูกไปมีเซ็กส์กับผู้ชายมาใช่ไหม”


               ใบหน้าที่คล้ายกับชลผินหน้ามาสบตากับมารดา นัยน์ตาสีเขียวเต็มไปด้วยความละอายใจ เสียใจจนกลายเป็น

สีแดงเรื่อ หยกยกสองแขนสวมกอดชลแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลรินชุ่มแก้ม


               “แม๋จ๋า หยกขอโทษ หยกพลาดไปแล้ว หยกยอมให้เขาทำลายหยกเอง”


               “โธ่ หยก ไม่เป็นไรนะลูกอย่าเสียใจเลยนะ”


               ร้องไห้ตามลูกจนโยธินขบกรามกรอด


               “บอกพ่อมาหยกว่ามันเป็นใคร พ่อจะลากคอมันมารับผิดชอบหยกเอง”


               หยกส่ายหน้าแววตาวอนขอจนโยธินอ่อนใจดังเช่นทุกครั้งที่เขาเอ่ยถาม


               “หยกบอกไม่ได้หรอกพ่อ ปล่อยเขาไปเถอะลูกของหยก หยกก็จะเลี้ยงเอง”


               “หยกจะปิดบังไอ้เลวนั่นไปถึงไหน มันทำให้หยกเสียใจถึงขนาดนี้”


               หยกยิ่งหน้าสลดลงจนหัวใจของพ่อกับแม่แทบจะขาด โยธินโกรธเหลือเกินเมื่อหยกไม่ยอมบอกความจริง


               “ตามใจ พ่อจะไม่ถามหยกอีกแล้วหากหยกไม่ยอมบอก เอาเถอะ หลานของพ่อพ่อจะเลี้ยงเองเหมือนกันไม่

ต้องไปง้อมันให้เสียศักดิ์ศรี”
               






               ชลเม้มปากแน่นเมื่ออุ้มหลานไว้ในอ้อมอกในขณะที่หยกยังสลบเพราะการผ่าตัด ใบหน้าของหนูน้อยเพศชาย

ที่กำลังดิ้นและร้องไห้โยเยทำให้เขากำลังนึกถึงความเป็นไปได้ในเรื่องที่เกิดขึ้น


               ดีเอ็นเอเป็นหลักฐานอยู่บนใบหน้าน้อยเมื่อมีเพียงดวงตาสีเขียวเท่านั้นที่เหมือนหยก แต่ที่เหลือกลับไปประ

พิมประพายคลับคล้ายกับใครบางคนที่ชลรู้จักดีเสียด้วย ชลกำลังคิดว่าหยกกับพ่อของเด็กในอ้อมกอดไปพบเจอกันได้

อย่างไร


               หากจะย้อนคิดไปถึงวันที่เอวันบุกมายังเกาะชลเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าหยกมาพร้อมกับภูริ วันนั้นก็มีเรื่องเกิดขึ้น

มากมายจนชลไม่ทันได้สงสัยว่าทำไมทั้งคู่ถึงได้มาพร้อมกันได้ ชลนึกเอะใจว่าตลอดคืนนั้นทั้งคืนหยกก็ไม่ได้กลับมายัง

บ้าน ดังนั้นแล้วหยกจะหายไปไหน


               “เป็นอะไรชลทำไมหน้าเครียดจัง ไหนหลานตาขอตาอุ้มหน่อยสิ ว้า อายุแค่สี่สิบกลายเป็นคุณตาเอ๊าะๆซะ

แล้วเรา”


               สีหน้าของชลยังไม่ดีขึ้นแม้ว่าโยธินจะมาหยอกล้ออยู่ใกล้ๆหลังจากผ่าตัดทำคลอดให้หยกเสร็จแล้ว เขาส่ง

หลานตัวเล็กให้โยธินอุ้ม เมื่อโยธินได้เห็นหน้าเจ้าตัวน้อยเขาก็เริ่มขมวดคิ้ว


               “เอ๊ะ ใบหน้านี่มัน”


               “โยยังไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”


               ชลเอ่ยห้ามเสียงแข็ง


               “ผมฝากโยดูแลหยกกับหลานอยู่ที่โรงพยาบาลนี่ก่อน”


               “แล้วชลจะไปไหน” โยธินถามอย่างสงสัยในขณะที่ชลกัดฟันกรอด


               “ผมจะไปตามคนที่ทำให้ลูกของผมเสียใจ ให้มาจัดการในสิ่งที่ตัวเองทำไว้น่ะสิ”

               




               บ้านขนาดกลางหลังหนึ่งแถบชานเมืองหลวงคือจุดมุ่งหมายของชล มันคือบ้านของภูริที่ชลรู้จักดีเพราะเคย

มาเที่ยวในสมัยที่ยังคบกันอยู่ ภูริบอกไว้ว่าเขาจะลาออกจากนาซ่าเพื่อมาเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ชลจึงได้มุ่งหน้า

มาที่นี่ เขากดกริ่งเรียกหน้าบ้าน รออยู่ไม่นานนักร่างสูงของภูริก็เดินออกมาที่ประตูรั้ว


               “ปอ นี่ฝันไปหรือเปล่า ทำไมปอมาได้ล่ะ โอ๊ะ อะไรกันเนี่ย”


               ภูริอุทานออกมาเมื่อชลง้างแขนแล้วปล่อยหมัดตรงใส่หน้าของเขา หมัดของชลไม่ได้มีน้ำหนักจนทำให้เจ็บ

มากนักแต่มันสร้างความงุนงงได้มากกว่า ภูริยกมือคลำโหนกแก้มที่รับน้ำหนักหมัดเข้าเต็มๆ


               “เกิดอะไรขึ้นปอ ต่อยภูทำไม”


               “ยังจะมีหน้ามาถามอีก ไอ้คนเลว บอกมานะว่าแอบไปเจาะไข่แดงลูกของปอตอนไหน”


               เจาะไข่แดง!


               ภูริอ้าปากค้าง


               ในที่สุดปริศนาทุกอย่างก็ไขกระจ่างแล้ว ปริศนาที่รบกวนจิตใจมาตลอดสามเดือน ปริศนาว่าทำไมเขาถึงได้

เฝ้าคิดถึงหยกที่เป็นลูกของคนรักเก่ามากจนไม่เป็นอันทำอะไร


               ภาพแห่งความฝันที่ลางเลือนค่อยๆเด่นชัดขึ้นมา ร่ายกายร้อนระอุที่กอดเกี่ยวกันอยู่ท่ามกลางความฉ่ำชื้นของ

สายฝนและแสงฟ้าแลบแปลบปลาบ ความสุขสมราวกับได้เดินทอดน่องสู่ดินแดนสวรรค์ ทุกอย่างรวบรวมเป็นความจริงที่

ทำให้ภูริหัวใจสั่นไหว


               เขาเป็นคนพรากความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาไปจากหยกคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ แถมยังทำร้ายจิตใจด้วยการจำ

เหตุการณ์ในคืนวันนั้นไม่ได้ ภูริเลิกแปลกใจแล้วที่หยกมีท่าทางหมางเมินต่อเขา


               “ปอ ภูขอโทษ ทุกอย่างเป็นความผิดของภูเอง”


               “ขอโทษปอก็ไม่มีประโยชน์ ภูต้องไปขอโทษหยก อ้อ และกลับไปรับผิดชอบผลของการกระทำงี่เง่านี่”


               ใบหน้าขุ่นเคืองของอดีตคนรักทำให้ภูริสังหรณ์ใจแปลกๆ


               “หมายความว่าไงปอ”


               ปรมะกระชากคอเสื้อของภูริเข้ามาใกล้แล้วตะคอกด้วยความโมโห


               “ก็หมายความว่านอกจากจะเจาะไข่แดงหยกแล้ว ภูยังไข่ทิ้งไว้ให้หยกมันด้วยน่ะสิ”


               ไข่ทิ้ง!


               ภูริเบิกตากว้าง


               ลูก หยกมีลูกกับเขา
               







               หยกใช้ขวดนมเอียงใส่ปากให้ทารกตัวโตอย่างเก้ๆกังๆ แต่ปากเล็กก็ยังไม่ยอมดูดนมเสียทีจนหยกชักจะ

หงุดหงิด


               “โธ่ กรีน กินนมทีเถอะ แม่หยกขอร้อง”


               น้ำเสียงชักจะหงุดหงิดเมื่อเห็นอาการโยเยของลูกตัวน้อย หยกรับรู้ถึงความยากลำบากในการเลี้ยงลูกมัน

ทำให้หยกคิดถึงแม่ชลที่หายหน้าไปเกือบสัปดาห์หนึ่งแล้ว พ่อโยบอกว่าแม่ชลไปธุระในเมืองหลวง หยกคิดถึงแม่

อยากจะได้กำลังใจจากแม่จนน้ำตาคลอ


               เสียงเคาะประตูห้องพักชั้นบนสุดในโรงพยาบาลเอกชนของพ่อโยปลุกหยกให้ตื่นจากภวังค์ หยกลุกขึ้นอุ้มลูก

เดินอย่างคล่องแคล่ว แผลผ่าตัดคลอดที่หน้าท้องแทบไม่เหลือร่องรอยเพราะร่างกายของหยกแข็งแรงกว่าคนปกติ หยก

หมุนลูกบิดทองเหลืองแล้วดึงประตูให้เปิด เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าห้องหยก็เม้มปากแน่น


               “ให้อาเข้าไปในห้องได้ไหมหยก”


               ใบหน้าที่ก่อกวนใจของหยกมาตลอดตอนนี้สลดจนน่าใจหาย แถมมุมปากยังมีรอยบาดเจ็บสดๆร้อนๆโชว์หรา

อยู่จนหยกต้องหันไปมองพ่อโยกับแม่ชลที่ยืนเยื้องอยู่ทางด้านหลังของร่างสูง พ่อโยชูกำปั้นเป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่าเพิ่งจะ

ซัดหน้าหล่อๆของอาภูจนปากแตก


               “ให้แม่เลี้ยงกรีนให้นะหยก แม่คิดถึงหลาน”


               แม่ชลก้าวเข้ามารับเจ้าหนูกรีนออกไปจากอ้อมอกแล้วยิ้มหวานให้หยก


               “คุยกับอาภูก็แล้วกันนะ หยก คิดถึงใจตัวเอง คิดถึงกรีนไว้นะหยก”


               แม่ชลเตือนสติก่อนจะอุ้มหนูกรีนและจูงมือพ่อโยจากไป หยกมองผุ้ชายตรงหน้าพร้อมหยาดน้ำในตา

มือเตรียมจะผลักประตูใส่หน้าแต่เขากลับอาศัยทีเผลอรีบก้าวเข้ามาในห้องและเป็นฝ่ายดึงบานประตูให้ปิดลง


               “มาทำไม”


               ตวาดเสียงแข็งใส่หน้าหวานงอง้ำพลางก้าวถอยหลังหนีในขณะที่ภูริรีบก้าวเข้ามาแล้วรวบร่างที่ยังเล็กกว่าเขา

ไว้ในอ้อมแขน


               “มาหาคนใจร้าย”


               “ใครใจร้ายกันแน่”


               “หยกนั่นแหละที่ใจร้ายกับอาภู ไม่ยอมบอกความจริงว่าหยกเป็นเมียอาแล้ว หยกเกือบจะพรากพ่อพรากลูก

ออกจากกัน”


               ใบหน้าเนียนแดงก่ำ หยกเงยหน้ามองภูริอย่างแค้นเคือง


               “ใครเป็นเมียอา อย่ามามั่ว”


               “แล้วหยกท้องกับลมหรือไง ถึงอาจะยังเห็นหน้าลูกไม่ชัดแต่ที่เห็นแค่แวบเดียวก็รู้ว่าหน้าเหมือนอาแค่ไหน นี่

หยกจะปฏิเสธหลักฐานที่มัดแน่นขนาดนี้เหรอ”


               “ก็อาจำไม่ได้เอง อาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าอาทำอะไรไว้กับหยก”


               หยกร้องไห้อย่างสุดกลั้นจนภูริต้องรีบกดศีรษะของหยกกับแผ่นอกของเขา


               “อาขอโทษนะหยก อาแม่งโคตรโง่เลย แต่ตอนนี้อาจำได้แล้วว่าอามีความสุขแค่ไหนที่ได้นอนกอดหยก ยก

โทษให้อาได้ไหมครับหยก ไม่เห็นแก่อาก็เห็นแก่ลูกของเรา”


               “ลูกของหยกคนเดียวไม่เกี่ยวกับอาสักหน่อย”


               หยกยังงอแงจนภูริต้องกระชับอ้อมกอดให้ยิ่งแนบแน่น


               “ลูกของเรา อาไม่ยอมให้หยกต้องมารับผิดชอบคนเดียวแน่ๆ ไหนบอกอาทีสิว่าลูกของเราชื่ออะไร”


               ร่างที่สะอื้นจนตัวโยนยังไม่ยอมเอ่ยปาก ภูริดันไหล่สั่นสะท้านออกจากอ้อมอกและเชยคางหยกให้มองหน้า

เขา


               “หยกจ๋า บอกชื่อลูกให้อาชื่นใจหน่อยนะ”


               “กรีน หยกตั้งชื่อว่ากรีนแต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อจริง”


               น้ำเสียงชักจะอ่อนลงจนภูริลอบยิ้มอย่างดีใจ เขากดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนอย่างนุ่มนวล


               “ชื่อเล่นว่ากรีน พ่อชื่อภูริแปลว่าแผ่นดิน งั้นลูกชื่อภูผาก็แล้วกันนะจะได้เป็นเด็กที่เข้มแข็งเหมือนแม่ หยก

ชอบไหม”


               ภูผา ก็ดีแหละนะ


               หยกเม้มปากก้มหน้ามองอยู่แถวสาบเสื้อ ไม่กล้าสู้สายตาวิบๆนั่น หยกไม่รู้หรอกว่าว่านั้นเขาเรียกว่าขัดเขิน

มันน่าเอ็นดูจนภูริเอียงหน้าลงมาแล้วเบียดริมฝีปากเข้าหา หยกเบนหน้าหนีแต่ภูริก็ยังตามวอแวจนหยกยอมแพ้ให้เขาได้

ชื่นชมริมฝีปากอ่อนบาง หยกสะดุ้งเมื่อลิ้นหยุ่นชื้นสอดเข้ามาในช่องปาก สะดุ้งราวกับถูกไฟช็อตเมื่อมันพันเกี่ยวลิ้นเล็ก

ของหยกไว้แน่น


               “อื้อ อะ หายใจไม่ออก”


               ประท้วงอื้ออึงอยู่ในคอเมื่อถูกจูบจนลืมหายใจ จูบนี้ช่างแตกต่างจากจูบในคืนวันนั้นเมื่อคราวนี้มันช่างอ่อน

หวานและยั่วเย้าให้หยกเผลอตวัดลิ้นตอบกลับแถมยังเป็นฝ่ายเบียดกายเข้าหาอย่างลืมตัว จนไม่รู้เลยว่าตนเองถูกพาให้

ก้าวเดินตามให้มาหยุดอยู่ข้างเตียงนอนไฟฟ้าของคนไข้ ภูริกดร่างของหยกให้หงายหลังลงไปช้าๆจนกระทั่งแผ่นหลัง

แตะกับผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา


               “เดี๋ยว อา อัก อ่า จะทำอะไร”


               หยกปรือตาฉ่ำน้ำขึ้นมองภูริที่เอนกายลงมาเม้มเนื้อตรงซอกคอของหยกแล้วดูดจนหยกสะท้านไปทั้งตัว เมื่อ

ภูริผละปากออกรอยแดงสีกุหลายก็เกิดขึ้นแทนที่ ปลายนิ้วของภูริตวัดดึงปมเชือกของเสื้อโรงพยาบาลออกทีละเส้น

พร้อมดวงตาเป็นประกายจนหยกเผลอมองอย่างหลงใหล กว่าจะรู้สึกตัวเสื้อผ้าหลวมของโรงพยาบาลก็หลุดออกจาก

ร่างกายของหยกตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้


               “หยกของอาภู รักอาภูไหมครับ”


               เสียงสั่นพร่าดังขึ้นแผ่วเบาเมื่อภูริก้มหน้าไปครอบครองยอดอกสีทับทิมจนเป็นไตล่อลิ้นให้โลมเลีย หยกเด้ง

กายแอ่นอกให้ภูริใช้มือบีบคลึงพลางกระชากเสื้อเชิ้ตของภูริออกจนขาดวิ่น


               “มะ ไม่ ไม่รักสักหน่อย อะ อ๊า อาภู”


               ได้ยินเสียงครางของตัวเองดังเข้าหูเมื่อภูริเลื่อนกายลงต่ำพลางจูบไล่รอยแผลเป็นที่หน้าท้องก่อนจะลากไล้

จนถึงเนินเนื้อ คราวนี้หยกดึงกางเกงของภูริขาดดังแควก ภูริดันขาของหยกให้อ้ากว้างแล้วก้มหน้าใช้ปากและลิ้นจัดการ

กับช่องทางสีชมพูจนน้ำลายใสเปียกชุ่มรอบทิศ รูจีบขยับรอให้ภูริดันลิ้นเปิดทางเข้าไปจนหยกร้องลั่น


               “อาภู ทำอะไร เสียว อื้อ ซื้ดด”


               หยกดิ้นพล่านจนผ้าปูที่นอนยับย่นเมื่อนิ้วอุ่นสอดลึกเข้าไปในช่องทางพลางขยับวนไปมาตามด้วยลิ้นหยุ่นที่

สอดส่ายเร่งเร้าจนไฟในกายหนุ่มน้อยเดือดระอุ เสียงครางหวานดังลั่นเมื่อนิ้วที่สองตามเข้าไปกระแทกกระทั้นกับผนังจน

ต้องยกเอวดันรับ


               “หยก อา แค่นิ้วยังตอดขนาดนี้ อาทนไม่ไหวแล้วครับคนดี”


               หยกผวาเมื่ออยู่ๆนิ้วที่หมุนวนอยู่กับถูกชักคืน แต่หยกก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่ออะไรบางอย่างที่ใหญ่กว่านิ้วจะ

แทรกเข้ามาจนคับแน่นช่องทาง หยกอ้าปากค้างกับความเจ็บปวดดังเช่นคืนนั้นแม้จะไม่มากเท่า


               “หยกครับอย่าเกร็ง สูดหายใจเข้าลึกๆคนดี อาจะได้เข้าไปให้หมด แค่นี้อาก็ทรมานกับร่างกายของหยกจะแย่

แล้ว”


               “อื้อ อา หยก เบาๆอา”


               ค่อยๆขยับต้านแรงเสียดสี ความคับแน่นของช่องทางที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องกลืนกินได้ทีละน้อยกว่าที่ร่างทั้ง

สองจะผสานกายได้จนหมด ภูริยกท่อนแขนเช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้หยกแล้วจูบตาม


               “อารักหยก” ภูริเอ่ยเสียงนุ่ม


               “มันเป็นความรักที่เกิดจากความสงสารเพราะชีวิตของหยก แล้วหยกล่ะสงสารอา รักอาหรือเปล่า”


               หยกห่อปากสูดลมแก้มแดงก่ำ สองแขนคล้องไปรอบคอกอดกระชับไว้แน่น


                “ถ้าไม่รักหยกจะยอมเหรอ คืนนั้นน่ะ ต่อยอาให้กระเด็นมันง่ายนิดเดียว”


               ภูริยิ้มรับ


               “อยากต่อยอาให้กระเด็นไหมครับตอนนี้ อาพร้อมแล้ว”


               “อื้อ หยกจะต่อยถ้าอายังจะนิ่งอยู่อย่างนี้”


               เสียงหัวเราะถูกใจดังขึ้นจากภูริ มือใหญ่กอบกุมสะโพกแน่นเนื้อของหยกให้ยกสูงพลางดึงท่อนขาของหยก

ให้เกี่ยวอยู่รอบเอวของเขา


               “อากลัวแล้ว กลัวจนสั่นไปทั้งตัว อาไม่ยอมให้หยกต่อยหรอกนะ”


               

             



มีต่ออีกนิด


             
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 19-06-2015 01:13:45
ต่อกันตรงนี้



             สะโพกขยับเคลื่อนที่ช้าๆจนหยกต้องนิ่วหน้า ภูริเร่งความเร็วขึ้นตามลำดับจนหนทางฉ่ำน้ำเรียกความเสียวซ่าน

ทดแทนความเจ็บแปลบ หยกครางดังลั่นเมื่อกล้ามเนื้อในกายบิดเกร็งสะท้าน มือน้อยคว้าแก่นกายตนรูดรั้งขยับตาม

ลางเด้งเอวสู้จนในที่สุดหยกก็กัดฟันแน่นเมื่อร่างกายกระตุกถี่แล้วพ่นลาวาออกมาเปียกรดอยู่ตรงหน้าท้อง ดวงตาสี

เขียวลอยคว้างในขณะที่ภูริคำรามลั่นห้องเมื่อช่องทางนั้นตอดรัดถี่ยิบ หยกที่เพิ่งจะได้สติรีบส่งเสียงเตือนทันที


               “อา หยกยังไม่ได้ป้องกัน เดี๋ยวท้องอีก”


               ภูริสบถเบาๆ เขาเด้งเอารัวจนกล้ามเนื้อบีบรัดก่อนจะดึงเอ็นร้อนแข็งขืนออกมาให้พ่นพิษอยู่ภายนอก เขาใช้

มือสาวรูดให้ความเปียกชื้นเคียงคู่อยู่กับที่หยกปลดปล่อยออกมา เขาเงยหน้าหอบหายใจหนักแล้วทิ้งตัวไปซบอยู่กับอก

ขาวของหยก


               เสียงประตูห้องเปิดออก ใบหน้าชองชลและโยธินโผล่เข้ามา ทั้งคู่สะดุ้งเมื่อเห็นสภาพของคนที่นอนทับกันอยู่

บนเตียง


               “เอ่อ แม่ขอโทษนะหยก ได้ยินเสียงโครมครามนึกว่าทะเลาะกัน”


               “ผมบอกชลแล้วนะว่าอย่าเปิดเข้ามา เป็นไงล่ะ”


               ชลยิ้มแหย


               “หนูกรีนหลับแล้ว แม่พาหนูกรีนไปนอนที่ห้องแม่นะ ตามสบายกันเถอะ”


               ประตูปิดลงแล้ว คราวนี้แม่ชลของหยกล็อคประตูให้ด้วย หยกหันกลับไปสบตากับภูริอีกครั้ง


               ใบหน้าเอียงเข้าหากัน ริมฝีปากประกบหากันและคราวนี้หยกจะไม่ยอมให้อาภูหนีไปจากหยกอีกแล้ว



                                ------------------------จบดีกว่า  หุหุหุ --------------------------------------



               เรื่องหน้าของพักสมอง แต่งแบบสบายๆไร้สาระ เน้นฮาเน้นหื่นนะครัชชช :haun4: :haun4: :haun4:

               ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบตอนจ้า

               อ้อ มีโพลด้านบนด้วยน้า
                :pig4: :pig4: :pig4:



หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 19-06-2015 01:17:13
 :m25: :m25: :m25:  กรี๊สสสส คุณแม่ชลโหดมั๊กๆ  :laugh:

ว่าแต่คู่ลูกปั้มคนที่สองแล้ว คู่แม่ล่ะเมื่อไหร่จะปั้มคนที่สอง ? :hao3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 19-06-2015 02:00:20
สุดท้ายก็แฮปปี้ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 19-06-2015 02:01:36
ก๊ากกก ฟินนน -.,-//
เรื่องนี้พล็อตสุดยอดจริงๆ ปรบมือ! เย้!
รอเรื่องหน้า อิอิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 19-06-2015 05:45:10
55555 เกือบไปแระ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-06-2015 05:59:12
หุหุ. เอางั้นเลยนะ.  :hao6:  มีกันตั้งสี่คนก็เอาหลานอีกสักคนจะได้เลี้ยงกันให้สนุกไง แถมสามเดือนคลอด
ว่าแต่ต้องกินแต่ปรอทหรือเปล่าล่ะเนี่ยน้องกรีน ตั้งแต่อ่านมาสรุปใจความว่าภูรินี่แหละหื่นสุด หื่นจนเป็นเรื่อง เพราะแกเลยเอวันมาเห็นเข้าต้องอะจึ้กๆเลยสัญชาติญาณปะทุแล้วเลียนแบบภูริด้วยการอะจิึกปอ

ขอบคุณค่ะ. สนุกมาก โหวตเรื่องนี้ค่ะ 
รอเรื่องหน้า เน้นฮาหื่น  :hao6:  ถูกใจๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 19-06-2015 07:47:31
ลงตัวพอดี  ภูริหื่นมากค่ะ  เจอหน้าหยกก็เอาอย่างเดียว แบบนี้หยกมีได้ท้องทุกๆ 3 เดือนแล้วสิถ้าหากว่าไม่ป้องกัน 

ปรมะกับโยไม่น่ามีลูกได้อีกหรอกเพราะว่าที่ท้องได้เมื่อก่อนน่าจะเป็นพราะเอวัน แต่ปอเป็นนักวิทยาศาสน์อาจจะทำอะไรก็ได้ เช่นจัดการให้โยธินท้องแทน 5555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 19-06-2015 11:10:47
จบลงด้วยดี อิอิ -.,-
ลงตัว 2 คู่ชู้ชื่น หลังจากผ่านความดราม่ามามากมาย
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 19-06-2015 16:43:25
กรี้ดดดดด
ชอบมากกกก
อยากอ่านต่อ555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: nalavanh ที่ 19-06-2015 19:05:37
 o13สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-06-2015 23:36:14
 :hao6:  ถ้าจะหัวปี-ท้ายปีล่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 20-06-2015 21:42:38
 :ling1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 29-06-2015 00:12:48
ภูรินี่หื่นสุดๆ คืนดีปุ๊ปปล้ำปั๊ป
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 30-06-2015 02:59:49
แฮปปี้เอ็นดิ้ง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ตัวประหลาด บทที่ 8 >> 19/06/58
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 02-07-2015 23:52:35
โอ๊ย ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบเรื่องตัวประหลาดมาก  :o8:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 04-07-2015 23:33:22


                                                           ทดลองรัก

                                                            บทที่ 1


               เอี๊ยดดด


           ประตูห้องถูกผลักช้าๆ เจ้าของร่างสูงสง่าใบหน้าคมในชุดสูทสีดำสนิทหยุดนิ่งอยู่ที่ประตูห้อง เขาเท้าแขนไว้กับ

กรอบประตูแล้วกวาดสายตามองไปรอบห้องสี่เหลี่ยมอย่างรวดเร็ว


           ห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลางทาผนังด้วยสีขาวทุกด้าน เพดานกลางห้องมีชานดาเรียแก้วเปิดไฟสีเหลืองนวลเป็น

ประกายระยิบระยับสะท้อนสีขาว ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นนอกจากเตียงนอนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา

ชวนให้ล้มกายลงไปสัมผัส รอยปากหยักยกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วเบามาจากกลางเตียงนั้น


           กองผ้าห่มหนาค่อยๆขยับออกพร้อมกันกับที่ร่างสูงก้าวเดินอย่างผึ่งผายไปที่เตียง มือเล็กโผล่พ้นออกมาจาก

กองผ้าห่มตามมาด้วยใบหน้าหวานที่ปรือตามองอย่างงัวเงียหลังจากที่เพิ่งตื่นจากหลับใหล และเมื่อมองเห็นร่างสูงที่เดิน

มาหยุดอยู่ตรงปลายเตียงใบหน้าหวานที่เพิ่งฟื้นจากนิทราก็คลี่ยิ้มอย่างยินดี


           “นายท่าน”


           “เนะโกะ”


           เมื่อนายท่านนั่งลงที่ขอบเตียงเนะโกะก็ลุกขึ้นมานั่ง ร่างกายบอบบางเอียงคอมองนายท่านด้วยสายตาแห่งความ

ภักดี


           “นายท่านไม่อยู่ เนะโกะจังเป็นเด็กดีหรือเปล่า”


           ดวงตาคมของนายท่านจ้องมองเนะโกะน้อยอย่างพอใจ ร่างเล็กน่าเอ็นดูอยู่ในสเวตเตอร์สีโอลด์โรสตัวใหญ่ของ

เขาทำให้น่าทะนุถนอมยิ่งขึ้น คอวีของเสื้อเผยให้เห็นเนื้อเนียนขาวผ่องของหัวไหล่บอบบางและลึกลงไปถึงแผ่นอกน่า

ลูบไล้ ลำคอระหงมีปลอกคอหนังนุ่มรัดไว้หลวมๆ เนะโกะใช้ปลายนิ้วเรียวเกาเบาๆอย่างนึกรำคาญ ใบหูขนปุยสีขาวตั้ง

ชันอย่างตื่นตัวพร้อมกับแกว่งพวงหางสีเดียวกับใบหูไปมา เนะโกะขยับเข้าหาและใช้ใบหูสอดเข้าไปใต้มือสากของเจ้า

นายพร้อมกับคลอเคลีย


           “เนะโกะจังเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซนรอให้นายท่านกลับมาหา”


           นายท่านลูบผมยาวระต้นคอเบาๆ ก่อนลากไล้ไปที่ต้นแขนเล็กแล้วสอดมืออุ่นเข้าไปในร่องเสื้อ ปลายนิ้วสะกิด

เม็ดเล็กที่อยู่บนยอดอก เนะโกะทิ้งตัวนอนหนุนตักตะแคงร่างให้เจ้านายล้อเล่นกับร่างกาย ใบหน้าหวานเริ่มเปลี่ยนเป็น

สีชมพูเมื่อเม็ดเล็กนั่นสู้มือเจ้านายจนแข็งเป็นไต


           “อา นายท่าน เนะโกะชอบจัง เขี่ยแรงๆอีกสิครับ หรือนายท่านจะขยำเลยก็ได้”


           แอ่นอกให้พร้อมปรือตาหวามเมื่อเจ้านายดึงสเวตเตอร์แสนนุ่มให้หลุดผ่านลำตัวบางลงไปถึงปลายเท้า เหลือไว้

เพียงร่างกายบอบบางสีขาวสะท้อนแสงไฟล่อตาล่อใจจนเจ้านายต้องถอดสูทสีดำออกจนเหลือเสื้อเชิ้ตสีขาวพลางมอง

ตาเป็นมัน


           “เนะโกะของนายช่างน่ารักเหลือเกิน”


           “เมี้ยววว”


           เสียงเล็กขานรับอย่างถูกใจกับคำชม เนะโกะขยับลุกเข้าใกล้ใช้มือเรียวปลดเนคไทของเจ้านายออก ก่อนก้ม

หน้าใช้ปากเล็กปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดจนหมด มือน้อยสอดเข้าไปในเสื้อแล้วถอดมันโยนทิ้งจนเหลือลำตัวที่

เต็มไปด้วยลอนกล้ามเนื้อน่าหลงใหล ดวงตากลมโตจ้องมองเจ้านายอย่างไม่ละสายตาเมื่อหน้าหวานลดต่ำลงไปใช้เรียว

ปากเม้มลงที่ซิปกางเกงแล้วงับเบาๆ เจ้านายวางมือใหญ่ลงบนหัวของเนะโกะพลางเสยผมนุ่มเมื่อเนะโกะใช้มือปลดหัว

เข็มขัดและใช้ปากรูดซิปกางเกงลงทีละน้อยจนมองเห็นส่วนโป่งพองที่คับแน่นอยู่ในกางเกงชั้นใน เนะโกะแลบลิ้นออก

มาตวัดมันราวกับมันเป็นอาหารชั้นเลิศ


           เจ้านายเงยหน้าครางลึกเมื่อส่วนนั้นขยายตัวชวนให้อึดอัดจนเนะโกะต้องดึงขอบกางเกงในของเจ้านายลงให้มัน

เด้งดึ๋งออกมาได้รับอากาศ ดวงตากลมโตของเนะโกะจ้องมองของเล่นชิ้นใหม่ก่อนจะงับส่วนหัวของมันเข้าปาก


           อา เนะโกะเด็กดื้อ


          มือที่เสยผมของเนะโกะเปลี่ยนเป็นขยุ้มเมื่อเนะโกะกำลังงับไส้กรอกอันใหญ่ของเจ้านายอย่างเอร็ดอร่อยจนมัน

หายเข้าไปในปากเล็ก เนะโกะดูดมันจนแก้มป่องกลายเป็นตอบลึกและเจ้านายกลับใช้ฝ่ามือบังคับให้เนะโกะเลื่อน

ใบหน้าเข้าออกไปมา


         “ทำไมถึงซนกับนายแบบนี้นะ”


          เนะโกะคายไส้กรอกยักษ์ของเจ้านายแล้วเบนกายออกห่างพลางตวัดใบหน้าค้อนอย่างแง่งอน


         “เมี้ยววว ถ้านายท่านไม่ชอบ เนะโกะเล่นเองตัวเดียวก็ได้ครับ”


          ร่างเล็กขยับไปที่หัวเตียงดึงหมอนใบใหญ่ไปวางและเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนโดยใช้หมอนดุนหลัง เนะโกะสะบัดหาง

เร็วเมื่อถูกขัดใจ มือเรียวเริ่มลูบไล้ตัวเองตั้งแต่เม็ดเล็กสีชมพูที่ยังเห็นเป็นตุ่มไต เนะโกะเลื่อนมือมากุมจุดอ่อนไหวของ

ตัวเองแล้วชักมือขึ้นลง ดวงตากลมใสกลับฉ่ำหวานเมื่อเรียวขาเล็กแยกออกจากกันและยกตั้งบนที่นอน นิ้วน้อยค่อยๆ

สอดลึกเข้าไปในรูจีบสีหวานสะดุดตาของตัวเอง


           “เมี้ยวว อะ อ๊า”


           เสียงเล็กครางหวานเมื่อมือหนึ่งก็สาวรูดท่อนเนื้อเล็กที่ขยายตัวพองฟูกับอีกมือหนึ่งก็ควานอยู่ในช่องทางต่ำกว่า

เอวเล็กแอ่นยกรับพลางปรือตาพร้อมส่งเสียงสั่นพร่าจนเจ้านายถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่


           “เนะโกะกำลังแกล้งนายอยู่นะ”


           ใบหน้าหวานเหยเกตามแรงอารมณ์เนะโกะแลบลิ้นเลียไปรอบปากตัวเอง ดวงตากลมหรี่ปรือเมื่อกำลังเร่งจังหวะ

สุดท้ายจากน้ำสีขาวพุ่งออกมาอยู่ตรงหน้าท้อง เนะโกรูดมือให้มันชุ่มอยู่ในอุ้งมือและเปลี่ยนท่าเป็นคุกเข่าสี่ขาหันก้นงอน

งามใส่เจ้านาย หน้าหวานหันกลับมาส่งเสียงร้องอย่างเชิญชวนพลางใช้มือชุ่มน้ำรักป้ายรอบช่องทางจนเปียกชื้นแล้วจึง

ส่ายก้นไปมา


           “เมี้ยววว”


           “เนะโกะเด็กบ้า”


           เจ้านายผุดขึ้นยืนดึงกางเกงออกจากขาจนเหลือแต่ร่างกายกำยำเต็มไปด้วยลอนกล้ามเนื้อ เขายืนจังก้าอวดท่อน

เนื้ออหังการ์ที่พุ่งชี้หน้าตัวเองก่อนจะพุ่งตัวไปบนเตียงกว้างชันกายด้วยเข่าอยู่เบื้องหลังก้นงอน มือร้อนแหวกเนื้อนุ่มเปิด

ทางพลางฟาดไส้กรอกยักษ์ที่เนะโกะชอบหนักหนาลงกับเนื้อนุ่มดังเผียะเป็นการลงทัณฑ์ เนะโกะเงยหน้าร้องเมี้ยวอย่าง

ถูกใจเมื่อท่อนเนื้อยักษ์จ่อเข้ากับปากทางและดันแหวกความคับแคบเข้ามาทีละน้อย


           “อ๊า...นายท่าน”


           แอ่นก้นให้เจ้านายสอดลึกอย่างถนัดถนี่พลางส่ายก้นไปมา เจ้านายดันตัวเข้าจนสุดแถมยังใช้มือรั้งต้นขาของเนะ

โกะยิ่งแนบชิดกับสะโพกของเขา พวงหางยาวแกว่งไกวอยู่ตรงหน้าจนต้องใช้ปากงับไว้ เนะโกะชันหูตั้งขึ้นอย่างเสียว

ซ่านเมื่อเจ้านายชักไส้กรอกยักษ์ออกมาจนหมิ่นเหม่แล้วกระแทกกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว


           “เมี้ยวว นะ นาย เนะโกะ เสียว อิไต อิไต ขอแรงๆเลยครับนายท่าน”


           เจ้านายส่งเสียงคำรามอย่างได้ใจก่อนจะกระแทกกายจนเกิดเสียงดังตับๆ เนะโกะเด้งเอวสวนกลับจนช่องทาง

เริ่มบีบรัดร้อนระอุ





คัททททท
               

เฮือกกกก


           สิ้นคำสั่งเสียงดังลั่นห้องท่อนเนื้อยักษ์ที่กำลังคับแน่นก็ชะงักทันทีพร้อมกับเจ้าของที่กัดฟันนิ่วหน้าเมื่อต้อง

ดึงมันออกมาจากช่องแคบโดยที่ยังไม่ได้ปลดปล่อย ขณะเดียวกับคนที่ยังคุกเข่าถึงกับทิ้งตัวนั่งพับเพียบพลางสูดหายใจ

เข้าออกลึกๆ


            “เหี้ยเอ๊ย”


               คนที่ติดหูแมวปลอมไว้บนศีรษะสบถออกมาอย่างแรงขัดกับหน้าหวานแดงก่ำที่หันมามองเจ้าของเสียงคำสั่ง

พลางยกมือชี้หน้าอย่างขัดใจ


               “สั่งคัททำไมวะพี่เปาไหนบอกเทคสุดท้ายไง”


               “ใช่ จริงอย่างไอ้ฝิ่นมันพูด พี่สั่งคัททำไมกำลังจะไคลแมกซ์แล้วเนี่ย”


               เสียงดังประสานอย่างขัดใจไม่แพ้กันของร่างสูงที่เป็นฝ่ายกระทำดังต่อเนื่องพลางมองเจ้าของชื่อเปาที่ยืนอยู่

ฟากหนึ่งของห้องสี่เหลี่ยมที่ยักไหล่อย่างไม่แยแส ในขณะที่คนอื่นภายในห้องก็กำลังรอฟังคำพูดของเขาอยู่ไม่ว่าจะเป็น

คนแบกกล้องหรือคนที่ถือดวงไฟที่ให้แสงสว่างส่องตรงไปที่เตียงนอนกลางห้องในฐานะผู้กำกับหนังGV


               “หางแมวจะหลุดไม่เห็นหรือไง แล้วไอ้เหี้ยกายก็เสือกงับซะแทบพัง เบาๆหน่อยสิโว้ย อ้าว เก็บอาการไว้ก่อน

เดี๋ยวจู๋ก็เหี่ยวหรอกมึง”


               ร่างสูงโปร่งเปลือยกายใส่หูกับหางแมวถึงกับคว้าหมอนที่เปียกผลผลิตของเขาขึ้นมาปาใส่หน้าผู้กำกับ


               “ผมบอกแล้วว่าไอ้บทแมวน้อยกับเจ้านายห่าเหวไรนี่มันไม่เหมาะกับผมพี่ก็แม่งไม่เชื่อ ตัวผมไม่ใช่เล็กๆเสือก

ให้เล่นบทแมว ค- -“


               สบถหน้าบึ้งเมื่อทีมงานเข้าไปใช้กาวติดหางปลอมเข้าที่ ดวงตากลมโตจ้องมองผู้กำกับอย่างแค้นเคือง ส่วน

เปาที่คว้าหมอนไว้ได้ก็โยนกลับไปบนเตียงและส่ายหน้าอย่างระอา


               “อย่าบ่นไอ้ฝิ่น นี่ถ้าไม่ติดว่ามึงกับไอ้กายเป็นดาราขวัญใจมหาชนชาวจีวีกูก็ไม่ง้อหรอกนะ เอ้า...จะติดกันอีก

นานไหมหางน่ะ เร็วๆหน่อย แล้วก็เดี๋ยวโคลสอัพจู๋ไอ้กายตอนเสียบตูดไอ้ฝิ่นไว้ด้วยนะรอบนี้”






               เจ้านายส่งเสียงคำรามอย่างได้ใจก่อนจะกระแทกกายจนเกิดเสียงดังตับๆ เนะโกะเด้งเอวสวนกลับจนช่อง

ทางเริ่มบีบรัดร้อนระอุ ท่อนเนื้อยักษ์แทรกกายผ่านช่องแคบเสียดสีเร่งเร้าความรู้สึกเสียวซ่าน เจ้านายจับร่างเล็กหมุนให้

นอนตะแคงโดยที่เขาเข้าซ้อนด้านหลังพลางเด้งเอวไม่หยุดยั้ง แมวน้อยเอื้อมมือรูดรั้งแก่นกายงดงามของตนพลางส่ง

เสียงครวญคราง




คัททททท

               


            “ไอ้พี่เปา ไอ้พี่เลว มึงสั่งคัททำไมอีก กูกำลังจะเสร็จ”


             พระเอกเป็นฝ่ายสบถบ้างเมื่อต้องดึงท่อนเนื้อที่แข็งขันจนเห็นเส้นเอ็นปูดออกมาจากร่างกายของฝิ่น ใบหน้า

เรียบเฉยไร้อารมณ์ของเปาออกอาการเบื่อหน่าย เขายกมือขึ้นกอดอกเมื่อเอ่ยตอบนักแสดง


        “ก็ไอ้ฝิ่นแม่งครางเสียงเบา มึงอย่าลืมสิว่าตอนนี้มึงเป็นแมวอยู่เวลาครางช่วยร้องเมี้ยวออกมาด้วยสิวะไอ้ห่า”


        “โอ๊ย ไอ้สัสส ก็กูเป็นคนไม่ใช่แมว มึงอยากได้เสียงดังๆมึงมาร้องเองไหมไอ้พี่เปา นี่กูก็ร้องจนคอแหบแล้วนะ”


        “เฮ้ย ไอ้ฝิ่น อย่าเถียงพี่เปามันมากเดี๋ยวอารมณ์หดหมด มึงกลั้นใจตะโกนแม่งเหอะวะนี่กูขมิบจู๋จนปวดแล้วเหี้ยฝิ่น”


         นายเอกหนังหน้าหวานกัดริมฝีปากตัวเองอย่างเจ็บใจ แต่เขาก็ต้องกลับไปนอนตะแคงให้กายที่เล่นเป็นพระเอก

ดันท่อนเนื้อเข้าไปอีกครั้ง







เจ้านายส่งเสียงคำรามอย่างได้ใจก่อนจะกระแทกกายจนเกิดเสียงดังตับๆ เนะโกะเด้งเอวสวนกลับจนช่องทางเริ่มบีบรัด

ร้อนระอุ ท่อนเนื้อยักษ์แทรกกายผ่านช่องแคบเสียดสีเร่งเร้าความรู้สึกเสียวซ่าน เจ้านายจับร่างเล็กหมุนให้นอนตะแคง

โดยที่เขาเข้าซ้อนด้านหลังพลางเด้งเอวไม่หยุดยั้ง แมวน้อยเอื้อมมือรูดรั้งแก่นกายงดงามของตนพลางส่งเสียงครวญ

คราง


          “เมี้ยวววว นายท่าน เมี้ยววว แรงอีก อ๊าเมี้ยววว”

       
       “เนะโกะของนาย อา ซี้ดดด นายก็เสียว นายจะแตกแล้ว”





มีต่ออีกนิด...


หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 04-07-2015 23:46:53


ต่อกันตรงนี้






           “เหี้ยกาย เอาไปแตกข้างนอก เมี้ยววว โอยนายท่านนน



           “กูไม่ไหวแล้วไอ้ฝิ่น เรื่องนี้กูขอแตกในนะ อา เนะโกะของนาย


            "สัส เรื่องอะไรกูจะยอม อ๊า นายท่าน เมี้ยว เนะโกะจะทำให้นายท่านมีวามสุข


            “เฮ้ย ทำเหี้ยไรไอ้ฝิ่น อา ซี้ดดด เนะโกะจะทำอะไร



           แมวน้อยผินหน้ามามองดวงตาปรือเยิ้ม เนะโกะดึงเอวออกจากไส้กรอกยักษ์ของนายแล้วพลิกตัวกลับมาราวกับ

แมวแสนซน ก่อนจะเลื่อนตัวไปใช้ลิ้นโลมเลียยอดอกสีคล้ำของเจ้านายพลางใช้มือคว้าหมับที่ไส้กรอกไว้พร้อมบีบเบาๆ

ดวงตาของเจ้านายเบิกโพลงก่อนที่น้ำอุ่นสีขาวขุ่นจะพุ่งออกมารดมือเรียว เนะโกะยันตัวขึ้นนั่งพลางใช้ปลายนิ้วแตะที่มุม

ปากแล้วดูดนิ้วของตนอย่างยั่วยวน




คัทททท




             “โอเค ไอ้ฝิ่นท่านี้สวยมาก เลิกกองได้”


              ทันทีที่เปาพูดจบผ้าขนหนูก็ส่งมาให้กายและฝิ่นรับมาพันท่อนล่างไว้ กายคว้าแก่นกายของตนแล้วรูดพิษฉีดใส่

ผ้าปูที่นอนอย่างหงุดหงิด


            “ไอ้กาย ทำเหี้ยอะไร กูนั่งหัวโด่อยู่นี่เสือกว่าวใส่กูอีก”


            “มึงมันเลวไอ้ฝิ่น ชิงออกไปสองรอบทั้งที่กูยังไม่สุดเลย เพื่อนชั่ว”


      กายมองฝิ่นที่กำลังลุกจากเตียงพลางสบถแต่ฝิ่นกลับเลิกสนใจพระเอกของเขาและก้าวดุ่มๆไปเผชิญหน้ากับผู้กำกับ


           “พี่แกล้งผมใช่ป่ะ ผมเคยบอกแล้วไงว่าถ้าไม่ชอบหน้ากันก็ไม่ต้องมาร่วมงานกันอีก จะได้ไม่ต้องทนเหม็นขี้หน้า

กันแบบนี้ ผมอึดอัดว่ะ”


              เปาเบ้ปากพลางส่ายหน้าเมื่อเห็นท่าทางของฝิ่นเหมือนอย่างทุกครั้ง


            “ตัวแต่ตัวแต่หัวแม่งห้าขวบ ใครจะไปแกล้งอะไรมึงที่ทำนี่งานทั้งนั้น ถ้าหนังที่กูกำกับมันออกมาไม่ดีมึงจะมีชื่อ

เสียงในหมู่แฟนคลับและมีเงินส่งตัวมึงกับน้องมึงเรียนจนถึงทุกวันนี้ไหม คิดสิคิดไอ้ฝิ่น”


            คำพูดของเปายิ่งทำให้ฝิ่นต้องเม้มปากแน่นเพราะปฏิเสธไม่ออกเมื่อทุกอย่างที่เปาพูดมันถูกต้องทั้งหมด เรื่อง

ไหนที่เปากำกับมักจะขายได้ราคาดีจนทีมงานได้โบนัสก้อนโตรวมถึงเขาและกายเพื่อนข้างบ้านตั้งแต่วัยเด็กที่ชักชวนมา

เล่นหนังจีวีตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้วที่เขากับกายเพิ่งจะสอบปลายภาคของปีการศึกษาปีที่สองของมหาวิทยาลัยชั้นนำได้

สำเร็จนั่นแหละ


    เขากำลังกลับบ้านด้วยความยินดีกับปิดเทอมที่วางแผนจะไปช่วยมารดาที่เปิดร้านขายข้าวแกงเพื่อเก็บเงินไว้สำหรับปี

การศึกษาถัดไป แต่แล้วฝิ่นก็ต้องพบกับเรื่องที่เขาต้องเสียใจมากที่สุดในชีวิตเมื่อรู้ข่าวว่าบิดาที่เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย

กับมารดาขับรถกระบะมือสองที่ได้จากหยาดเหงื่อของพ่อและแม่เพื่อจะไปซื้อของมาเตรียมทำอาหารขายไปชนกับ

รถเมล์จนทั้งคู่เสียชีวิตคาที่ทิ้งไว้เพียงน้องชายของเขาที่กำลังจะขึ้นมัธยมปีที่ห้า


        ฝิ่นและน้องชายที่ชื่อฝุ่นกอดคอกันร้องไห้กับชะตาชีวิตที่แสนรันทด หลังจากนั้นเขาต้องทำงานไปด้วยเรียนไป

ด้วยเพื่อหาเงินส่งตัวเองและฝุ่น เขารับจ้างทำงายทุกอย่างแม้กระทั่งไปเป็นบ๋อยในผับแต่เพราะเศรษฐกิจที่ตกสะเก็ดมัน

ทำให้รายได้ไม่พอค่าเทอมของสองพี่น้องจนเขาคิดจะลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อส่งฝุ่นให้เรียนคนเดียว


        กายเป็นเพื่อนที่รั้วบ้านติดกันและเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตลอด ต่างกันแต่กายเรียนสายวิทย์และฝิ่นเรียนสายศิลป์

แถมยังเรียนเก่งทั้งคู่จนได้เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันอีกต่างหาก กายห้ามไม่ให้ฝิ่นลาออกและแนะนำให้ฝิ่นทำงานที่จะมี

รายได้



          “มึงคิดดูนะ ชีวิตมึงมีอะไรจะเสียอีกเมื่อสมบัติของมึงเหลือแค่บ้านหลังเล็กๆหลังนี้ แล้วไหนจะยังไอ้ฝุ่นน้องมึงอีก

ถึงแม้มันจะเป็นเด็กดีไม่เกเรก็เหอะ แต่มึงก็ต้องใช้เงินเยอะกว่ามึงจะเรียนจบอีกตั้งสองปี”


           “แล้วมึงจะให้กูทำงานอะไรวะ”


          “คืองี้นะฝิ่น มึงก็รู้ว่ากูชอบเล่นเวทใช่ป่ะ กูก็ไปเจอแมวมองชวนกูไปถ่ายหนังจีวี”


            ฝิ่นสะดุ้งสุดตัวในตอนนั้นเมื่อได้ยินสิ่งที่กายเสนอมา


            “เหี้ย มึงชวนกูไปถ่ายหนังโป๊ให้เกย์ดู ไอ้เพื่อนเลว”


              “ฝิ่น มึงฟังกูนะ มึงต้องยอมแลกไง กูเองก็ไม่อยากกวนเงินพ่อแม่เพราะขึ้นปีสามกูต้องเริ่มทำแล็ปมันใช้เงิน

เยอะอยู่ ส่วนมึงก็ยิ่งอยากได้เงินมากกว่ากูอีก แล้วไง มึงไม่อยากได้เงินเหรอ มึงก็แม่งหน้าตาหวานเหมือนทอมแบบนี้

ยอมรับความจริงเหอะ เล่นหนังกับกูที่เป็นเพื่อนมึงเห็นไอ้จู๋กันมาตั้งแต่เกิดมันแย่ตรงไหน”


       และแล้วเขาก็ต้องยอมรับว่าที่กายพูดมันเป็นเรื่องจริง เขาและกายเดินเข้ามาในวงการหนังจีวีในที่สุดพร้อมกับความ

สำเร็จอย่างงดงามจนกลายเป็นคู่ขวัญกันในหมู่นักดู


        งานที่ทำมันจะง่ายกว่านี้ถ้าไม่ติดว่าค่ายที่เขาสังกัดจะมีผู้ชายร่างสูงหน้าตาไร้อารมณ์ชื่อเปาเป็นผู้กำกับ ฝิ่นรู้สึกอยู่

ตลอดเวลาว่าดวงตาไร้แววคู่นั้นหาเรื่องกลั่นแกล้งเขาอยู่ตลอดเวลา


           ฝิ่นเบ้ปากกลับใส่เปาก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้ก้าวดุ่มๆออกจากห้องอย่างขัดใจ


           ไอ้ฝิ่น แล้วอย่าลืมนะมึง อีกสองอาทิตย์จะต้องไปถ่ายนอกสถานที่ เตรียมตัวให้พร้อมนะมึง”


           ฝิ่นไม่ตอบแต่กลับยกนิ้วกลางขึ้นมาชูทั้งที่ยังหันหลังกระแทกเท้าออกไปจากห้อง เปาส่ายหน้าก่อนจะหันไป

มองกายที่ยืนเท้าเอวต่อหน้าเขาเมื่ออยู่กันเพียงลำพังหลังจากที่ทีมงานคนอื่นเก็บของออกไปจากห้องหมดแล้ว


        “พี่เปานะพี่เปา ผมบอกแล้วว่าผมอยากแตกในไอ้ฝิ่นมัน ขอให้ช่วยผมบ้างก็ไม่เคยเล้ยแล้งน้ำใจว่ะ”

         
          “กูก็จะช่วยแล้วไง แต่เหี้ยฝิ่นไม่ยอมมึงเองนี่หว่า ถามจริงเหอะทำไมอยากแตกในมันนัก หน้าตาก็งั้นๆแถมปาก

หมาอีกต่างหาก”


             “อ้าว ก็บอกแล้วไงว่าผมแอบชอบมันมาตั้งแต่เด็ก อุตส่าห์หลอกล่อมาเล่นหนังด้วยกันเพราะหวังจะฟันมันให้

สาแก่ใจนี่แหละ แต่แม่งก็ไม่เคยสมใจ ผมบอกให้พี่ถ่ายแบบอันคัทเพราะการนี้เลยนะ”


           “เออๆ กูรู้ เอาไว้เรื่องหน้าที่ไปถ่ายกันที่ทะเลมึงกูจะพยายามถ่ายลองช็อทเพื่อมึงเลยไอ้กาย”


           กว่าจะคุยกับเปาจบและเดินออกมานอกห้องฝิ่นก็เข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายแล้ว กายมองเด็กชายวัยรุ่นที่ยังอยู่

ในชุดนักเรียนมัธยมปีสุดท้ายซึ่งนั่งก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่


           “ไอ้ฝุ่น เมื่อไหร่มึงจะเลิกมานั่งเฝ้าพี่มึงที่กองถ่ายสักทีวะ ไอ้เด็กหวงพี่”


             ใบหน้าหวานละม้ายพี่ชายแต่มีแว่นสายตาหนาเตอะบดบังอยู่เกือบครึ่งเงยหน้ามามองกายอย่างขุ่นเคือง


              “เรื่องของผม พี่กายไม่ต้องยุ่ง”


              “อ้าว ไอ้นี่”


                กายที่มีเพียงผ้าขนหนูพันท่อนล่างเท้าเอวมองอย่างหมั่นไส้ ฝุ่นเป็นเด็กติดพี่และเป็นเหมือนกุมารทองที่ตาม

ติดทุกครั้งที่เขากับฝิ่นมาถ่ายหนังกัน มันทำให้โอกาสที่เขาจะจัดการฝิ่นให้ตกเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์นั้นน้อยลงไปอีก


             
                 “น้อยๆหน่อยเหอะมึง ยังไงกูก็เพื่อนพี่มึงนะ”


                 “เฮอะ เพื่อนที่พาเพื่อนทำเรื่องไม่ดี ผมไม่นับถือ”


                “ไอ้ฝุ่น ไอ้เด็กไม่สำนึกบุญคุณ ถ้ากูไม่พาไอ้ฝิ่นมาถ่ายหนังป่านนี้มึงได้ออกมารับจ้างล้างห้องน้ำแน่ เอาหัว

แม่ตีนของมึงไตร่ตรองว่ากูพูดจริงหรือเปล่า”


               “เถียงเหี้ยอะไรกันอีก”


              ฝิ่นที่แต่งกายเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำพลางมองทั้งคู่อย่างระอา


             “มึงจะญาติดีกันหน่อยได้ไหมวะ คนกลางอย่างกูรำคาญนะ ฝุ่นกลับได้แล้วเราต้องอ่านหนังสือสอบแอดมิดชั่น

ด้วยไม่ใช่หรือไง”


              ฝุ่นลุกขึ้นยืนใช้หางตามองกายก่อนจะเดินตามพี่ชายไปติดๆทิ้งให้กายยืนเข่นเขี้ยวตามหลัง


            “หึหึ รู้จักกูน้อยไปซะแล้วทั้งพี่ทั้งน้อง ไอ้ฝิ่นมึงรอกูเลย ผลการวิจัยขั้นสุดท้ายของว่าที่นักเคมีเกียรตินิยมอย่าง

กูที่ทำเพื่อมึงโดยเฉพาะ กูจะทำให้มึงตกเป็นเมียกูอย่างสมบูรณ์ในการถ่ายหนังครั้งหน้าที่ชายทะเลแสนงามนี่แหละ”



                                                            TBC


มาแล้วค่ะ เรื่องใหม่แบบเบาสมอง

อย่าคิดหาเหตุผลจากเรื่องนี้เพราะมันไม่มี

เชียร์ให้ใครได้กับใครคร้า...


 o18 o18 o18


               

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 04-07-2015 23:54:04
 :katai5:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-07-2015 01:08:08
นึกว่าเรื่องใหม่จะมาแบบแฟนตาซีซะอีก  กลายเป็นฉากถ่ายหนังคอสเพลซะนึ่  ฮาตรงตัดฉากระหว่างนักแสดงกะผู้กำกับเนี่ยแหละ 55555  น่าจะได้สองคู่ใช่ปะคะ   :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 05-07-2015 01:12:56
อย่าบอกนะ ว่ากายเหมาทั้งพี่และน้อง  :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวเล็ก ที่ 05-07-2015 01:35:42
เชียร์กายขอสองกับฝุ่น&ฝิ่น 5555
แต่น่าจะเป็นแบบ เปากับฝิ่น และกายกับฝุ่นมากกว่าหรือเปล่า
ก็เดาๆไปตามท้องเรื่อง อิอิ
กายแอบมีอะไรแอบแฝงกับฝิ่นนะ หวังฟันจริงๆ
 :hao6: :hao6: :hao7: :hao7:  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 05-07-2015 02:41:08
เกือบปิดหนีแล้วไหมละ นึกว่าจะมาแนวเอ็นซีไร้สาระทั้งเรื่อง แต่พออ่านไปสักพัก มันได้ใจมาก ปักหมุดจุดอร่อยอยู่ตรงนี้แหละ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-07-2015 06:35:28
ทำไมเราอ่านแล้วอยากให้เป็น 3P กายฝุ่นฝิ่น ล่ะเนี่ย. 555
จะออกมาแบบไหนก็โอเคหมดนะจ้ะ รอตอนต่อไป  :mew1:

พอเห็นคำว่าคัทนี่เรายิ้มกว้างเลย  o13.
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 05-07-2015 07:10:44
ไม่นึกเลยว่าจะเป็นการถ่ายหนัง...... :katai4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 05-07-2015 07:57:37
เลิศค่า!!!! เอาอีกนะ เอาอีก รออ่านเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 05-07-2015 08:40:44
เราโดนหลอก -_- นึกว่าได้จริงๆ กรรม! ถ่ายหนัง
แอบเชียร์กายฝิ่น แต่ดูท่าแล้วคงเปาฝิ่น กะกายฝุ่นป่ะ?
รอๆ น้า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 05-07-2015 10:51:53
ดีนะนี่ที่เห็นมาจากในเฟซแล้วเลยไม่หลงกล อิอิ แต่ก็นะเรื่องนี้ดูท่าจะแซ่บลืม รอลุ้นว่าใครคู่ใคร
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-07-2015 11:31:22
เราเชียร์กายฝิ่นนะ อยากให้เพื่อนรักสมหวัง อิอิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 05-07-2015 12:07:08
กรรม ไอ้เรานึกว่าจะเหนือธรรมชาติอีก
มาโผล่ที่กองถ่ายหนังจีวีซะงั้น
กายนี่แม่งมีจุดมุ่งหมายดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 05-07-2015 16:36:38
หูย เรื่มอินโทรมาคิดแล้วตอนนี้น้องเหมียวมาเต็ม โดนคำว่า"คัต" ตัดฉับเลย กลายเป็นหนังจีวี 55555
เจ๋งค่ะ รอตอนต่อไปนะ รักคนแต่ง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-07-2015 19:59:58
เชียร์กายฝิ่นดีไหมเนี่ย อุตส่าห์แอบรักเค้ามาตั้งนาน แถมยังหลอกล่อเค้ามาถ่ายจีวีอีก ลงทุนสูงเชียวกาย :laugh:
แต่ไม่อยาก 3P อ่ะ พี่น้องกัน ไม่อยากให้มีแฟนคนเดียวกันเลย :mew2:
เปาฝุ่นอีกคู่เนอะ อิอิ :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 1 >> 04/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 11-07-2015 09:08:52
สนุก ทุก ตอนนนนน
ปลื้ม และฟิน~~
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-07-2015 21:31:24


                                                           ทดลองรัก

                                                            บทที่ 2


               “อ้าวฝุ่น มารอพี่ชายเหมือนเดิมเหรอ”


               เสียงทุ้มที่ดังมาจากด้านหลังส่งผลให้ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้แว่นสายตาอันใหญ่เกือบครึ่งหน้าถึงกับเปลี่ยน

สีเป็นแดงเรื่อทันตาเห็นเมื่อเขากำลังจะขึ้นรถญี่ปุ่นมือสองที่พี่ชายตัดใจซื้อมาใช้ ร่างเพรียวที่สูงกว่าพี่ชายหันกลับไปยิ้ม

ให้ผู้กำกับหนังจีวีแล้วเอ่ยคำทักทายกลับ


               “ครับพี่เปา”


               “นี่ใกล้จะสอบแล้วสิ ตั้งใจเข้านะอยากจะเรียนอะไรล่ะเรา”


               “อยากเรียนด้านการแสดงครับพี่เปา ฝุ่นอยากเป็นผู้กำกับหนัง”


               มือใหญ่ของเปายกมาวางบนศีรษะของฝุ่นอย่างเอ็นดูยิ่งเห็นเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนกางเกงขาสั้นทำหน้าเก้อ

เขินเขาก็ยิ่งยิ้มกว้างให้


               “ฝุ่นเก่งอยู่แล้วพี่เชื่อว่าฝุ่นจะทำได้แน่ๆพี่คงจะได้เห็นฝีมือกำกับหนังของฝุ่นในเร็วๆนี้นะ”


               “จะคุยกันอีกนานไหม”


               เสียงขัดคอดังมาจากตำแหน่งคนขับรถที่เอื้อนเอ่ยลอยลมออกมา


               “ง่วง เหนื่อย อยากนอน ถูกคนใช้งานหนักอยากพักผ่อนเข้าใจรึเปล่า”


               ฝุ่นถึงกับหน้าเสียเมื่อพี่ชายพูดเสียงขุ่นจนเปาถึงกับทำหน้าเคร่งทันทีที่ได้ยิน เขายิ้มเจื่อนให้เปาแทนคำขอ

โทษ


               “พี่ฝิ่นคงจะเหนื่อยจริงๆพี่เปาอย่าถือสาเลยนะครับ”


               เปาหัวเราะเบาๆแล้วจึงตอบเสียงดังพอจะส่งให้คนที่นั่งรออยู่ในรถได้ยิน


               “ไม่เป็นไรฝุ่น พี่ไม่ถือคนบ้าไม่ว่าคนเมา”


               “ไอ้พี่เปา”


               ทนไม่ไหวจนฝิ่นต้องเปิดประตูแล้วลงมายืนเผชิญหน้า


               “น้อยๆหน่อยเหอะวะปากเนี่ย ว่างๆก็ไปหาหมอให้เขาผ่าเอาหมาออกไปบ้างก่อนมันจะขยายพันธุ์ในช่อง

ปาก”


               “พี่ฝิ่น เบาๆ”


               ฝุ่นห้ามเสียงหลงเมื่อชักจะไปกันใหญ่กับขาประจำในการปะทะคารม เขาไม่เข้าใจว่าพี่ชายของเขากับเปาที่

เป็นผู้กำกับฝีมือดีจะทะเลาะอะไรกันได้ทุกครั้งที่เจอหน้ากันจนเขาต้องกลายเป็นคนห้าม ก็คงจะพอๆกันกับที่ฝุ่นทะเลาะ

กับกายเพื่อนพี่ชายนั่นแหละ


               “ผมกลับดีกว่าพี่เปาก่อนที่พี่ฝิ่นจะหงุดหงิดมากกว่านี้ ไปล่ะครับ”


               “ไปเร็วๆก่อนพี่จะฟาดปากมันเหอะ แล้วอย่าลืมอีกสองอาทิตย์ไปทะเลนะฝุ่น”


               “ฝุ่นจะนอนที่นี่ใช่ไหมพี่จะไปแล้วนะ” 


               “ไป พี่ฝิ่นขึ้นรถเร็วๆ ง่วงไม่ใช่หรือไง”


               ฝุ่นรีบยกมือไหว้เปาลวกๆก่อนผลุบหายเข้าไปในรถ นายเอกหนังจีวีถือโอกาสยกนิ้วกลางส่งให้ผู้กำกับ

เป็นการสั่งลาอีกครั้งแล้วจึงก้าวเข้าไปสตาร์ทรถและขับถอยหลังจนเปาแทบจะกระโดดหลบไม่ทัน


               “พี่ฝิ่นไปหาเรื่องพี่เปาเขาทำไม”


               น้องชายต่อว่าไม่จริงจังนักแต่พี่ชายก็เคืองจนต้องยกมือมาผลักศีรษะฝุ่นอย่างหมั่นไส้


               “แล้วเราน่ะไปชื่นชมอะไรนักหนาไอ้ผู้ชายเฮงซวยอย่างนั้น แอบชอบมันหรือไง”


               จบคำพูดน้องชายก็ถึงกับหน้าแดงลามไปถึงใบหูจนฝิ่นถึงกับเม้มปากเมื่อสิ่งที่คาดไว้น่าจะเป็นเรื่องจริง เขา

สังเกตมาหลายครั้งแล้วเมื่อฝุ่นเจอเปาทีไรต้องแสดงอาการให้เห็นทุกครั้ง ดวงตาที่อยู่หลังแว่นกรอบใหญ่นั่นจะบอกถึง

ความชื่นชมเป็นพิเศษ


               “ไม่ พี่จะไม่ยอมให้ฝุ่นชอบไอ้พี่เปาเด็ดขาด”


               ฝุ่นหันไปมองหน้าตาบึ้งตึงของพี่ชายอย่างสนเท่


               “ทำไม พี่ฝิ่นมีเหตุผลอะไรถ้าผมจะชอบพี่เปาขึ้นมาจริงๆ พี่เปาไม่ดีตรงไหน”


               ไม่ดีตรงไหนงั้นหรือ


               ฝิ่นกัดฟันกรอดมองถนนเบื้องหน้าเมื่อความหลังตั้งแต่สมัยทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในผับชื่อดังเมื่อสองปี

ก่อนกลับมาในห้วงแห่งความคิดอีกครั้ง








               เสียงเพลงจังหวะเร้าใจดังจนหัวใจต้องเต้นตามพร้อมกับแสงไฟวูบวาบที่ผลัดกันส่องจนลายตาแต่ร่างเพรียว

ที่ใส่เสื้อยืดสีดำของพนักงานเสิร์ฟก็ต้องอดทนที่จะไม่เวียนหัวตาลายไปกับมันเมื่อเขากำลังทำงานในช่วงใกล้ตีสองที่

เป็นช่วงใกล้ปิดแล้ว โต๊ะที่ฝิ่นต้องดูแลกำลังเช็คบิลเขาโค้งอย่างงดงามเมื่อได้ทิปมาเยอะอยู่ จนกระทั่งแขกลุกไปแล้ว

เขาก็หันไปมองเพื่อนที่สะกิดแขนยิกๆ


               “ฝิ่น กูฝากดูโต๊ะกูหน่อย เช็คบิลแล้วแต่เหล้ากับมิกเซอร์ยังเหลือ เมาได้ที่ละมึงคงจะใกล้กลับแล้วล่ะ”


               ฝิ่นมองหน้าเพื่อนพลางเลิกคิ้ว


               “มึงจะไปไหน”


               “กูปวดขี้ นี่กูยืนกลั้นอยู่ตั้งนานแม่งก็ยังไม่กลับ กูไปห้องน้ำก่อนที่กูจะขี้ตรงนี้ละมึง”


               เพื่อนรีบวิ่งไปทันที ฝิ่นส่ายหน้าอย่างระอาก่อนจะเดินเข้าไปใกล้และชงเหล้าให้เมื่อเห็นว่าน้ำสีอำพันในแก้ว

เหลืออยู่ไม่มากนัก แขกที่นั่งอยู่เพียงลำพังกำลังฟุบหน้ากับท่อนแขนตนเองเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เงยหน้าขึ้นมอง

จนฝิ่นสะดุ้ง


               ดวงตาของแขกคนนี้ช่างคมเหลือเกินแถมยังฉายแสงคุโชนจนฝิ่นใจสั่น ฝิ่นฝืนยิ้มเมื่อวางแก้วเหล้าที่ชงเสร็จ

ลงบนโต๊ะ แต่เมื่อจะชักแขนกลับก็ต้องชะงักเมื่อมันถูกผู้ชายที่เมามายคว้าไว้ทันที


               “เอ่อ มีอะไรหรือเปล่าครับ คุณลูกค้าต้องการอะไรหรือเปล่า”


               “ทิ้งผมทำไม”


               ฝิ่นงงหนักกว่าเดิม เขาก้มหน้ามองชายคนนั้นอย่างแปลกใจ


               “ยังไงนะครับ คือ ผม...”


               “ฟ้าทิ้งผมทำไม”


               “ผมไม่ใช้ฟ้า...”


               “มันน่ารังเกียจมากนักหรือไงที่ผมเลือกอาชีพนี้ สำหรับคนอย่างฟ้า”


               ไม่ได้การ!


               ฝิ่นพยายามพลิกแขนตัวเองที่ถูกอีกฝ่ายยึดไว้แต่มือนั่นก็เหนียวยิ่งกว่าตุ๊กแก เขาหันรีหันขวางพลางมองหา

เพื่อนพนักงานแต่ทุกคนก็ยุ่งเกินกว่าจะมีใครมอง


               “ผมว่าคุณลูกค้าเมามากแล้ว ควรจะกลับได้แล้วนะครับกรุณาปล่อยผมเถอะ”


               “ทั้งที่มันก็เป็นอาชีพที่สุจริตแต่ฟ้าก็ยังรังเกียจ ทั้งที่ผมทำทุกอย่างเพื่อสร้างฐานะให้เรา คนใจร้าย”


               “ปล่อยผม”


               ฝิ่นขึ้นเสียงท่ามกลางเสียงดังของดนตรีในผับ ดวงตากลมเบิกโพลงอย่างหวาดหวั่นเมื่อเห็นท่าทีคุกคาม

ทำให้เขาตัดสินใจสะบัดแขนอย่างแรงแต่มันก็ไม่สำเร็จ ซ้ำร้ายผู้ชายตรงหน้ายังใช้แขนอีกข้างโอบเอวเข้ามาใกล้จนดิ้น

ไม่หลุด ฝิ่นอยากจะร้องไห้เพราะไม่กล้าส่งเสียงโวยวาย หากเขาทำอย่างนั้นก็จะกลายเป็นมีเรื่องกับลูกค้าและผู้จัดการ

ต้องไล่เขาออกแน่


               “ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ”


               “ไม่ปล่อย ฟ้าลืมไปแล้วหรือไงว่าเราเป็นอะไรกัน ก็ได้ ผมจะตอกย้ำให้ฟ้าได้รู้จนจำขึ้นใจ”


               เหล้าแก้วสุดท้ายถูกยกกรอกปากทีเดียวหมดแก้วก่อนที่ผู้ชายร่างสูงใหญ่จะกระชากแขนฝิ่นจนตัวลอยให้เดิน

ตามออกมาด้านนอกของผับ สายฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตาแต่ฝิ่นก็ต้องก้าวตามเขามาอย่างขัดขืนไม่ได้จน

กระทั่งร่างเพรียวของฝิ่นถูกผลักเข้าไปด้านหลังของรถกระบะสี่ประตู


               ฝิ่นผวาหนีเมื่อผู้ชายคนนี้ก้าวตามแล้วปิดประตูดังปัง เอวของฝิ่นถูกคว้าไว้อย่างรวดเร็วและกางเกงยีนส์เปียก

ฝนก็ถูกกระชากออก ฝิ่นน้ำตาไหลพลางยกมือพนมไว้ที่อก


               “ปล่อยผม ผมไม่ใช่ฟ้าแฟนของคุณ ผมชื่อฝิ่น อะ อย่านะ”


               ฝิ่นถูกขึงพืดอยู่กลางเบาะแคบด้านหลังรถกระบะ เนื้อตัวเปียกชื้นสั่นเทาเป็นลูกนกเมื่อสบตากับดวงตาคมคู่

นั้นที่ยังไม่มีสติ เสื้อยืดสีดำสกรีนชื่อผับถูกเลิกขึ้นจนเห็นเนินเนื้อหน้าอกสีขาวละเอียด ฝิ่นสะดุ้งสุดตัวเมื่อคนใจร้ายฝัง

เขี้ยวลงกับลานนมอ่อนนุ่ม


               “โอ๊ย เจ็บ ปล่อยกู”


               เสียงร้องของฝิ่นดังลั่นรถ ร่างบางดิ้นไปมาอย่างร้อนรนเมื่อท่อนล่างถูกร่างใหญ่ทับไว้ กางเกงยีนส์ของผู้ชาย

คนนั้นกดเบียดถูไถเนื้อรอบจุดอ่อนไหวจนแสบร้อน ฝิ่นสะดุ้งเมื่อรับรู้ถึงความแข็งขืนภายใต้ร่มผ้าจนกระทั่งเขาปลด

กระดุมรูดซิปและดึงมันออกมาโชว์หราให้เห็นถึงความใหญ่โตของมัน


               “สัส มึงจะทำอะไรกู ปล่อยกูเดี๋ยวนี้”


               ฝิ่นดิ้นพล่านเมื่อเขาคนนั้นใช้ไอ้นั่นมาฟาดอยู่บนหน้าท้องพร้อมกับก้มหน้าใช้ลิ้นและปากโลมเลียอยู่ตรงยอด

อก ร่างกายที่หนาวสั่นพลันร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างฉุดไม่อยู่จนฝิ่นเจ็บใจตนเองเหลือเกิน


               “ชอบใช่ไหม ฟ้าชอบให้ผมรุนแรงกับฟ้าใช่ไหม ดีล่ะ”


               “อย่านะ”


               หัวใจของฝิ่นร่วงไปกองกับพื้นเมื่อต้นขาถูกดันขึ้นสูง สองมือพยายามผลักไสกำแพงยักษ์ที่ไม่สะเทือนเมื่อ

ท่อนเนื้ออุ่นชื้นจ่อเข้ากับช่องทางเบื้องล่างและเสียบเข้ามาทันที


               ฝิ่นกลั้นหายใจอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างเมื่อความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตแล่นวาบเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว

เสียงกล้ามเนื้อถูกกระแทกลั่นเปรี๊ยะจนหูดับกล้ามเนื้อเกร็งไปทั้งตัวก่อนจะสั่นระริก ทั้งหมดนั่นทำให้ร่างสูงใหญ่ที่คร่อม

กายอยู่ด้านบนชะงักวูบ


               “อะ เหี้ยเอ๊ย ยังบริสุทธิ์อยู่เหรอวะเนี่ย”


               ดวงตาคมสบตาคนเบื้องล่างที่ยังตั้งสติไม่ได้ เขากลั้นใจขยับตัวอีกครั้งพลันเสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดก็

ก้องไปทั่วคันรถ


                “ใจเย็นๆ อย่าเกร็ง”


               เสียงร้องถูกปิดด้วยปากหยาบแตกแห้งของเขา ฝิ่นส่ายหน้าหนีแต่เขาก็ยังตามประกบจนกระทั่งฝิ่นหมด

อากาศหายใจ เมื่อฝิ่นผวาสูดลมลิ้นชื้นก็สอดตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว ฝิ่นชักลิ้นหนีแต่ก็ไม่ทันเมื่อมันถูกตวัดเกี่ยว

ซอกซอนจนหน้ามืด


               “อะ อื้อ...”


               เจ็บแปลบอยู่ตรงสะโพกเมื่อท่อนเอ็นดันลึกเข้ามาทีละน้อย น้ำตาของฝิ่นไหลลงมาตรงหางตาจนกระทั่ง

กล้ามเนื้อชาดิกเมื่อมันฝังเข้ามาจนสุดพอถึงตอนนี้ฝิ่นก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน กลีบปากของฝิ่นถูกเขาค่อยๆและเล็มขบ

เม้มมันทำให้ฝิ่นลืมความเจ็บปวดไปได้บ้าง และยิ่งมือนิ้วสากคีบเม็ดเล็กเหนือยอดอกให้ชูช่อจนขยำเหมาะมือ ความรู้สึก

แปลกประหลาดบางอย่างก็เริ่มเข้ามาแทนที่ความเจ็บปวด


                “ฟิตชิบ จะทนไม่ไหวแล้ว”


               “อะ ฮึก”


               สิ่งแปลกปลอมที่คับแน่นขยับกายจนภายในที่สัมผัสเสียดสีจนฝิ่นเสียววูบ สะโพกเผลอยกลอยขึ้นมาโดยไม่รู้

ตัวเสียงร้องอึงอยู่ในลำคอที่ยังถูกครอบครอง ท่อนเนื้อถูกดึงออกจนรู้สึกถึงอากาศก่อนที่มันจะกระแทกกลับมาอีกครั้ง

และอีกครั้ง


               “อ๊า...”


               ได้ยินเสียงครางอย่างน่าละอายของตัวเองพร้อมกับความฉ่ำชื้นเปียกแฉะเมื่อกล้ามเนื้อกระทบกันดังสะท้อน

ก้องทั่วรถ ผู้ชายที่เพิ่งจะเห็นหน้ากันไม่กี่นาทีก้มหน้าใช้ปากงับหัวนมจนไหล่บางสะท้านแอ่นกายขึ้นมา สองแขนของฝิ่น

จิกเข้ากับแผ่นหลังชื้นน้ำชื้นเหงื่อจนเลือดซิบแต่ยิ่งกระตุ้นให้เขาครางลึกและเด้งเอวแรงขึ้นไปอีก


               “ตอดชะมัด เสียวชิบ”


               “อะ ไม่นะ ตรงนั้นมัน..”


               ครั้งหนึ่งที่ท่อนเนื้อกระแทกตรงจุด ฝิ่นผวากอดร่างใหญ่ไว้แน่น ดวงตาเบิกกว้างเมื่อความเสียวซ่านแผ่วูบมา

จนท่อนขาทั้งสองที่เกี่ยวอยู่กับต้นขาแกร่งนั้นบิดเกร็งไปหมด ราวกับเขาจะรู้เมื่อเอวหนากระแทกจุดเดิมอีกไม่กี่ทีฝิ่นก็

กัดฟันแน่นและปลดปล่อยน้ำคาวขาวขุ่นที่เก็บกักไว้เนิ่นนานออกมา


               “เบาๆโอ๊ย รัดจนจะแตกแล้ว”


               เอวแกร่งเกร็งตัวแล้วรัวใส่ไม่ยั้งฝิ่นรู้สึกถึงความแข็งขืนอยู่ในช่องทางก่อนที่มันจะพุ่งความเปียกชื้นจนรู้สึกได้

เสียงคำรามดังลั่นอย่างสะใจกรีดลึกลงไปในใจของฝิ่น ร่างสูงใหญ่กัดฟันถอนกายออกมาจนฝิ่นโหวงว่าง เขายันกาย

สบตาลอยคว้างแล้วจึงทิ้งตัวหลับผล็อยอยู่ตรงไหล่ของฝิ่น ฝิ่นยกหลังมือเช็ดน้ำตาเพราะเมื่อถึงตอนนี้ช่วงล่างของฝิ่นก็

ร้าวระบมไปหมด ได้แต่หยิบกางเกงขึ้นมาสวมอย่างยากเย็นพลางเปิดประตูลงไปยืนขาสั่น ทิ้งให้ผู้ชายคนนั้นหลับอยู่ใน

รถของตัวเองก่อนที่ฝิ่นจะซมซานกลับบ้านและนอนซมไข้ขึ้นโดยไม่มีใครรู้เรื่องนี้


               ฝิ่นไม่กล้ากลับไปทำงานที่ผับอีกเพราะกลัวเจอเขา เมื่อกลายเป็นคนตกงานอีกครั้งความเครียดก็เริ่มมาเยือน

เพราะใกล้ถึงเวลาเปิดเทอมของทั้งฝิ่นและฝุ่น หลังจากนั้นไม่กี่วันกายก็มาเกลี้ยกล่อมให้ฝิ่นไปทำงานถ่ายหนังจีวี ทั้ง

ความจำเป็นเรื่องเงินที่บีบคั้นและความเสียใจที่ต้องเสียตัวให้กับผู้ชายที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อทำให้ฝิ่นตัดสินใจครั้งสำคัญ

เพียงแต่เขามีข้อแม้ว่าจะยอมถ่ายหนังที่มีกายเล่นด้วยเท่านั้นหากเป็นคนอื่นฝิ่นจะไม่เล่น นั่นคือช่วงชีวิตสำคัญของฝิ่น

               และวันแรกเมื่อฝิ่นไปถึงสตูดิโอถ่ายทำเขาก็อ้าปากค้างเมื่อกายแนะนำว่า ผู้ชายร่างสูงใหญ่หน้านิ่งไร้อารมณ์

ที่นั่งรออยู่ในห้องประชุมท่ามกลางทีมงานทั้งหมดคือผู้กำกับหนังหน้าใหม่ฝีมือดี

               จะไม่ให้ฝิ่นตะลึงได้อย่างไรในเมื่อผู้กำกับคนนั้นคือผู้ชายคนแรกของฝิ่น ผู้ชายที่ลากฝิ่นไปปล้ำบนเบาะหลัง

รถกระบะทั้งที่เมามาย และที่ทำให้ฝิ่นต้องกัดฟันแน่นคือไม่มีทีท่าว่าเขาจะจำฝิ่นได้สักนิด มันทำให้ฝิ่นเกลียดขี้หน้าผู้

กำกับเหลือเกิน

               ผู้ชายแสนเลวอย่างนี้จะปล่อยให้ฝุ่นไปชอบได้อย่างไร ฝิ่นจะทำทุกวิธีที่จะขัดขวางฝุ่นไม่ให้ไปเสียท่าผู้ชาย

เลวๆ   อย่างนั้นแล้วจะต้องมาเสียใจอย่างเขา

               



มีต่ออีกนิด




หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-07-2015 21:38:18
ต่อกันตรงนี้




               ร่างสูงโปร่งของฝุ่นก้าวเข้าไปในห้องส่วนตัวบนชั้นสอง ห้องของฝิ่นอยู่ตรงกันข้ามกับห้องเขาเมื่อเข้าไปแล้ว

ฝุ่นก็เหลือบตามองหน้าต่างที่มีมุ้งลวดติดไว้กันยุงพลางมองออกไปยังบ้านที่อยู่ติดกัน ห้องที่อยู่ตรงกับห้องของเขายัง

ปิดไฟมืดอยู่

               หายไปไหนนะ ยังไม่กลับมาอีก ก็เลิกทำงานพร้อมกับพี่ชายของเขานี่นา

               รำพึงอยู่ในใจไม่นานนักไฟในห้องนั้นก็สว่าง ฝุ่นเห็นร่างสูงของกายก้าวเข้ามาในห้องแล้วโยนเป้ลงไปบน

เตียงอย่างเช่นทุกครั้ง

               เดี๋ยวต่อไปก็ต้องถอดถุงเท้าแล้วขว้างลงตะกร้า นั่นไง ไม่ว่ากี่ปีคนที่อยู่ห้องตรงกันข้ามก็จะทำซ้ำๆกันแบบนี้

จนเขาจำได้ทุกขั้นตอน ฝุ่นเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นกายถอดเสื้อโยนลงตะกร้าเผยให้เห็นลำตัวที่ฟิตเฟิร์มไปด้วยกล้าม

เนื้อที่เจ้าตัวภูมิใจหนักหนาที่กว่าจะออกกำลังกายได้ขนาดนี้ ฝุ่นนึกขำเมื่อเห็นกายเบ่งกล้ามกับกระจกแต่ทันทีที่กายหัน

ขวับมาทางเขาฝุ่นก็สะดุ้งและรีบหันหน้ากลับมาทันที


               “ไอ้ฝุ่น แอบมองอีกแล้ว อิจฉาหรือไงวะ หัดออกกำลังกายบ้างสิมึง”


               เสียงตะโกนจากห้องตรงข้ามของบ้านหลังติดกันดังแว่วมา ฝุ่นหันกลับไปมองตาเขียวลอดแว่นตากรอบใหญ่


               “ใคร ใครอิจฉาพี่ โถ่ ไอ้คนหลงตัวเอง”


               “อย่าโกหก กูเห็นมึงแอบมองกูบ่อยๆแอบชอบกูก็บอกมาเหอะ”


               ฝุ่นเม้มปากแน่น เขาเท้าเอวมองผ่านมุ้งลวดไปยังคนที่ส่งเสียงแซวมา


               “รอให้โลกแตกก่อนเถอะ ผมถึงพิจารณาว่าจะชอบพี่ บ้าว่ะ ไม่คุยด้วยแล้วจะอ่านหนังสือ”


               ฝุ่นก้าวไปนั่งตรงโต๊ะหนังสือ แต่อีกฝ่ายยังไม่วายส่งเสียงข้ามมา


               “ไอ้ฝิ่นมันนอนยัง”


               “ไม่รู้ ไม่ได้เสือกเรื่องพี่ฝิ่น”


               “อ้าวไอ้เด็กเวร กูถามมึงดีๆ”


               กายเท้าเอวเหย็งด่าเขาบ้าง ฝุ่นหันไปเบ้ปากใส่


               “กูบอกให้มึงเป็นพ่อสื่อให้กูกับไอ้ฝิ่นตั้งแต่เด็กมึงก็ไม่เคยคิดจะช่วยเหลือกูเลย จนจะจบมหาลัยกูก็ยังไม่ได้

มันเป็นเมียอย่างเต็มภาคภูมิก็เพราะมึงมัวแต่หวงพี่”


               “แล้วไอ้ที่พาพี่ฝิ่นไปเสียบกันในหนังนั่นยังไม่ถึงใจหรือไง ไอ้พี่กาย”


               ฝุ่นถามเสียงห้วน กายเป็นฝ่ายเบ้ปากบ้าง


               “มึงอย่าคิดว่าไอ้การถ่ายหนังจีวีจะมีความสุขสมจนกูขึ้นสวรรค์สิวะไอ้เด็กไร้เดียงสา มึงรู้หรือเปล่าว่า

ท่ามกลางแสงไฟสาดส่องและกล้องที่จ้องจะโคลสอัพไอ้จู๋มึงน่ะ กูต้องใช้ความอดทนเหนื่อยยากแค่ไหน”


               กายพูดอย่างอัดอั้น


               “มึงต้องทนให้จู๋ของมึงแข็งขันอยู่ตลอดเวลาจะปล่อยออกก็ไม่ได้ จะหดก็ไม่ได้จนกว่ามึงจะเลิกกอง มึงคิดดู

ว่ากูต้องเจ็บปวดรวดร้าวสักแค่ไหนแถมพี่ชายมึงก็แม่งไม่ยอมให้กูได้แตกในสักครั้ง”


               “สมน้ำหน้า” ฝุ่นพูดชัดเจน


              “อยากหาเรื่องดีนัก คนอย่างพี่ที่หวังฟันเพื่อนตัวเองน่ะก็ต้องทนน้ำแตกด้วยมือตัวเองต่อไปน่ะดีแล้ว”


               ฝุ่นปิดม่านทันทีเพื่อตัดบทสนทนาก่อนที่เขาจะนั่งเจ็บใจตัวเอง

               ใช่ เขารู้ กายใช้เขาเป็นสะพานทอดไปหาพี่ชายตั้งแต่เพิ่งจะนมแตกพาน แต่ฝุ่นก็ทำบ้างไม่ทำบ้างและยิ่ง

ระยะหลังกลายเป็นกีดกันด้วยซ้ำ หากใครไม่รู้ก็คงนึกว่าเป็นเพราะฝุ่นหวงพี่ชายและไม่ชอบหน้ากายที่พาฝิ่นไปถ่ายหนัง

โป๊จนใครๆก็มองในแง่ไม่ดี

               ฝิ่นอาจจะเข้าใจว่าเขาชอบเปาแต่ฝุ่นรู้ว่าไม่ใช่ เขาเห็นเปาเป็นไอดอลในเรื่องการทำงานเท่านั้น แต่ความลับ

ที่อยู่ในใจของฝุ่นก็คือฝุ่นแอบชอบเพื่อนพี่ชายมานานแล้ว และการที่กายใช้ให้ฝุ่นเป็นพ่อสื่อนั้นเป็นเรื่องที่ฝุ่นน้อยใจ

สุดๆ


               ก็ไม่รู้สินะ จะบอกว่าฝุ่นเป็นเด็กไม่ดีก็ได้ แต่ฝุ่นทนไม่ได้จริงๆถ้าจะเห็นกายกับฝิ่นเป็นแฟนกัน

                                                       TBC
               
               
                                                      :z2: :z2: :z2:
                
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 11-07-2015 21:39:05
จิ้มมม
ไอ้เราก็เชื่อตามไปด้วยว่าฝุ่นจะชอบเปา -O-;
แต่ก่อนอื่นขอกระทืบเปาที่ทำเรื่องไม่ดีกับฝิ่นแถมยังลืมอีก -_-^
รอตอนหน้าน้า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 11-07-2015 21:47:37
อ๋อย~ สงสารฝุ่น :monkeysad:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 11-07-2015 22:23:41
โถ่ๆๆๆ น้องฝุ่นอย่าน้อยใจไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 11-07-2015 23:31:43
สลับคู่ในความคิดแต่ล่ะคนเลย
ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 11-07-2015 23:33:31
สงสัยว่า จะสลับคู่รึป่าวนะนิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-07-2015 06:36:19
 :mew1:   โอ๋ๆนะฝิ่น. ฝุ่น. 
รอลุ้นต่อไป
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 12-07-2015 07:04:46
รอจ้า  :katai5:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-07-2015 08:17:39
อย่างนี้นี่เอง เหมือนความสัมพันธ์จะพันกันอีรุงตุงนัง แต่ก็พอเห็นแววล่ะนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 12-07-2015 09:37:05
เรื่องยุ่งตุงนัง  แล้วจะจบยังงัยล่ะเนี่ย 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-07-2015 11:02:52
เอ๊า...สลับคู่กันซะงั้น
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: papanoy ที่ 12-07-2015 14:14:25
เราว่าเปาไม่ได้ลืมฝิ่นนะ ไม่งั้นจะสั่งคัทกลางคันตั้งหลายครั้งเหรอ 5555

                       :katai2-1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 12-07-2015 16:02:41
 :impress2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-07-2015 16:33:48
กรี๊ดดด อิพี่เปาทำกับร้องแบบนั้นเจอกันยังจำไม่ได้อีกนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 12-07-2015 18:19:53
สนุกมาก ฝุ่นกาย ฝิ่นเปาสิน่าาาา
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 13-07-2015 01:20:23
 :z1: โฮะๆ พอถึงตอนสองก็รู้แล้วสิว่าใครคู่ใคร แบบนี้ค่อยน่าลุ้นนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 13-07-2015 21:18:27
ชอบเนื้อเรื่องทุกเรียนเลยยยย
เขียนได้อินมากกกก :L1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-07-2015 23:32:32
พึ่งมาอ่าน ชอบนะแบบมีหลายเรื่อง อย่างเรื่องล่าสุดก็น่าติดตาม
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 2 >> 11/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: วาย ว๊าย ที่ 14-07-2015 02:16:51
สงสารฝุ่น T^T สนุกทุกเรื่อง เรื่องแรกนี้อยากอ่านต่อมากๆๆๆ เรื่องที่สองนี้สนุกเวอร์ ฟินเฟอร์ ~
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 22-07-2015 00:01:14


                                                      ทดลองรัก

                                                        บทที่ 3


               “เพราะมึงเลยไอ้กายเสือกเล่นเกมดึก กูบอกแล้วว่าให้ตื่นเช้าๆ”


               ฝิ่นด่าพลางวิ่งกระหืดกระหอบไปทางรถตู้ของทีมที่จอดรออยู่หน้าบริษัทโดยมีฝุ่นและกายวิ่งตามมาติดๆเมื่อ

ทั้งคู่ลงจากรถแท็กซี่ที่จ้างมาจากบ้าน


               “มึงด่ากูมาตลอดทางตั้งแต่บ้านถึงที่นี่จนกูสำนึกผิดไม่ทันที่มึงด่าแล้วไอ้เหี้ยฝิ่น”


               กายส่ายหน้าอย่างระอาเมื่อทั้งสามคนมายืนหอบอยู่ข้างรถตู้ เปายืนตีหน้าขรึมกอดอกมองตำหนิจนฝิ่นแอบเบ้

ปาก


               “นัดไว้หกโมงแต่มากันเจ็ดโมงกว่าควรจะเรียกว่าอะไร”


               “พี่เปาโทษที ผมผิดเองแหละเผลอนอนต่อเลยตื่นช้าไปหน่อย”


               กายยกมือไหว้ปะหลกๆเมื่อรู้ว่าเป็นความผิดของเขาเองที่เป็นคนตื่นยาก นี่ขนาดเจ้าเด็กฝุ่นถึงกับเปิด

หน้าต่างมุ้งลวดโยนก้อนหินใส่หน้าต่างห้องเขาก็ยังไม่ตื่น


               “นอนกินบ้านกินเมืองเพราะนั่งตีดอทยันเที่ยงคืนก็บอกไปสิพี่กาย”


               “เงียบเลยไอ้เด็กปากหมา ไม่รู้จะมาเป็นเห็บเป็นเหาเกาะพี่มึงทำไม”


               กายชี้หน้าเพราะเรื่องจริงที่ออกจากปากของเด็กข้างบ้าน ฝุ่นหน้าง้ำเมื่อเจอคำด่าทอจากผู้ชายหน้าตาดีที่ยืน

แยกเขี้ยวให้เขา เสียแรงที่อุตส่าห์ตื่นเช้ามาคอยมองว่าอีกฝ่ายตื่นนอนหรือยัง รู้งี้ปล่อยให้นอนหลับจนไม่ต้องมาทำงาน

ดีกว่า


               “พอๆ เลิกทะเลาะกันได้แล้ว ไปขึ้นรถ”


               “พี่เปา รถเต็มว่ะ ผมคำนวนผิดที่นั่งไม่พอสองที่”


               ผู้จัดการกองถ่ายหน้าเสียเมื่อเห็นทีมงานเยอะเกินที่นั่งในรถตู้ เปายิ่งขมวดคิ้วเมื่อมีอุปสรรคเพิ่มขึ้นอีก


               “ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอารถกูขับไปอีกคันให้ใครมานั่งกับกูก็ได้”


               “ผมไปเองครับ”


               ฝุ่นรีบอาสาเพราะเขากำลังอยากปรึกษาเปาเรื่องที่เขากำลังจะทำหนังสั้นส่งเข้าประกวด นี่เป็นโอกาสดีที่จะ

ได้คุยกับมืออาชีพ แต่แล้วความหวังของฝุ่นก็ต้องพังลงเมื่อฝิ่นมองตาขวาง


               “ไม่ได้”


               “เหตุผลล่ะพี่ฝิ่น”


               ฝุ่นชักโมโหที่ถูกพี่ชายขัดใจ แต่พี่ชายที่ตัวเล็กกว่าก็ยังไม่ยอมเขา


               “พี่ขอใช้สิทธิ์ของการเป็นนักแสดงนำไปนั่งสบายๆในรถของพี่เปา คงไม่มีใครอยากเห็นนายเอกหนังจีวีตูด

เขียวตัวช้ำเพราะต้องไปนั่งเบียดเสียดอยู่ในรถตู้ตั้งแต่กรุงเทพจนถึงชายทะเลใช่ไหม”


               “ช่างเถอะเลิกเถียงกันได้แล้ว ไอ้ฝิ่นมันก็พูดของมันถูก เอ้าทุกคนไปขึ้นรถแล้วไอ้ฝิ่นมากับกู”


               จบคำตัดสินของเปาทุกคนก็รีบกระวีกระวาดกันขึ้นไปบนรถตู้รวมถึงกายและฝุ่นที่พากันหน้าบึ้งอย่างไม่สบ

อารมณ์ เปารอจนรถตู้ออกเดินทางเขาจึงหันขวับไปหาฝิ่นทันที


               “ไปขึ้นรถ”


               เขาเดินนำไปยังช่องจอดรถและเมื่อเห็นรถของเปาฝิ่นก็อ้าปากค้างเพราะแทนที่จะเป็นรถสปอร์ตสองที่นั่งที่

เปาเพิ่งจะถอยมาไม่นานแต่มันกลับเป็นรถกระบะสี่ประตูคันที่เขาไม่เคยลืมเลือน


               “ขึ้นรถสิ ทำไม พอเห็นเป็นรถกระบะนี่ตูดด้านขึ้นมาเลยหรือไง”


               “ปากหมา”


               ฝิ่นเปิดประตูรถด้านข้างคนขับขึ้นไปนั่งโดยไม่มองเบาะหลังที่ฝังใจเขาก่อนจะนั่งเชิดหน้าคอแข็งอย่างไว้ตัว

ส่วนเปาได้แต่มองอย่างหมั่นไส้


               หมั่นไส้ตั้งแต่เห็นผู้ชายหุ่นเพรียวหน้าหวานปรากฏกายขึ้นครั้งแรกในห้องประชุมเมื่อกำลังจะเปิดกองถ่ายทำ

หนังตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน ทันทีที่เห็นเขาถึงกับขบกรามกรอดแต่ก็ต้องรักษาทีท่าให้สงบเข้าไว้เมื่อฝิ่นเองทำท่าเหมือนจำ

เขาไม่ได้ทั้งที่เมื่อหลายวันก่อนเขายังจำได้แม่นยำกับบทรักอันเร่าร้อนจนรถกระบะคันใหญ่ถึงกับโยกไหวไปมา


               เขายังจำได้ถึงร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่องที่มีเขาเป็นผู้ประเดิมจนติดใจถึงกับเก็บไปฝันและต้องกลับไปที่ผับแห่ง

นั้นทุกวันแต่ก็ไม่เห็นหน้า แต่ห่างจากนั้นไม่กี่วันเขากลับมาพบร่างกายที่เขาโหยหาในกองถ่ายหนังจีวี

               นายเอกหนังของเขาไม่รู้หรอกว่าเปาต้องกัดฟันทนแค่ไหนที่ต้องทนเห็นไอ้กายพระเอกรูปหล่อเสียบท่อน

เนื้อเข้าไปในช่องทางที่เขาเคยเป็นคนแรก แต่เปาก็ต้องอดทนเก็บมันไว้เพราะฝิ่นเองไม่ได้ชอบหน้าเขาสักนิด จนคนดิบ

เถื่อนพูดน้อยอย่างเขาคร้านที่จะเป็นฝ่ายเริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่ และดูท่าทางไว้ตัวนั่นสิมันทำให้เขาที่รักศักดิ์ศรีก็หยิ่ง

พอที่จะไม่เข้าไปยุ่งด้วยอีก


               ชาตินี้ทั้งชาติ เปาไม่มีทางที่จะไปยุ่งกับคนใจง่ายคนนี้เด็ดขาด เปาสาบาน
               




               กายมองหน้าคนที่นั่งข้างๆอย่างโมโห ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้เด็กที่เขาเห็นมาตั้งแต่เกิดจะตามติดพี่ชายไปเพื่อ

อะไร จะว่ามันเป็นเด็กขาดความอบอุ่นติดพี่ชายแจก็ไม่น่าจะใช่เพราะเวลาปกติเขาก็เห็นมันไปกับเพื่อนฝูงของมันได้

เหมือนเด็กทั่วไป

               และยิ่งวันนี้ที่เขาคิดจะเผด็จศึกเพื่อนตั้งแต่เด็กในบังกะโลริมชายหาดก็เป็นอันติดขัด เพราะฝิ่นก็ต้องนอน

ห้องเดียวกับน้องชายอยู่แล้ว อย่างนี้เขาจะหาโอกาสไหนที่จะปล้ำเพื่อนของเขากันล่ะ


               “เขยิบขามึงไปเลยไอ้ฝุ่น เอามาสีขากูอยู่ได้”


               กายดันขาของฝุ่นที่นั่งติดกับเขาออกห่าง ฝุ่นมองอย่างไม่เข้าใจ


               “จะบ้าหรือไง พี่จะให้ผมเขยิบไปตรงไหน ก็ผมนั่งติดกับพี่แบบนี้นี่โง่จนได้เกียรตินิยมเลยนะ”


               ก็จริงของมัน ตอนนี้กายนั่งอยู่เบาะสุดท้ายของรถตู้ที่มีผู้โดยสารแถวละสามคน เขากับพี่ทีมงานอีกคนนั่งริม

และมีฝุ่นนั่งกลาง พี่ๆคนอื่นพิงหัวกับเบาะหลับกันหมดแล้วเหลือแค่เขากับฝุ่นที่ยังเถียงกันด้วยเสียงกระซิบเพราะกลัว

รบกวนคนอื่น


               “มึงจะมาด้วยทำไมไอ้ฝุ่น ไหนว่าจะอ่านหนังสือสอบ”


               “อยากมาเป็นก้างล่ะมั้ง”


               “ไอ้เด็กเวร”


               กายด่าลอดไรฟันก่อนจะหันหน้าไปมองวิวภายนอกทั้งที่ใจเดือดปุด ไอ้เด็กเวรที่เขาด่ายักไหล่แล้วยัดหูฟังใส่

หูไม่สนใจเขาอีกแล้วจึงหลับหลังจากนั้นไม่นาน กายหันไปมองหน้าฝุ่นอย่างพิจารณา


               ถ้าดึงแว่นออกจากหน้า ฝุ่นก็คล้ายกับพี่ชายมากแต่หน้าไม่หวานเท่าฝิ่น แถมตัวยังสูงจนกายเองก็ตกใจที่

เผลอไม่นานฝุ่นก็สูงไล่กับเขาเสียแล้วแต่ก็ยังผอมเก้งก้างอย่างเด็กมัธยม กายยังนึกเกรงว่าฝุ่นจะสูงกว่าเขาด้วยซ้ำหาก

เจ้าตัวเล่นกีฬาบ้าง จริงๆแล้วฝุ่นก็เป็นเด็กดีหากจะตัดเรื่องหวงพี่ชายออกไป


               แต่คนอย่างไอ้กายไม่มีทางเสียเชิงเด็ดขาด


               กายกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อคิดถึงของดีที่เขาพกมาในกระเป๋าเป้ เห็นอย่างนี้เขาเองเป็นนักศึกษาคณะ

วิทยาศาสตร์ว่าที่เกียรตินิยมเชียวแหละ และความรู้ด้านเคมีชีวะที่เขาร่ำเรียนมาก็จะนำมาใช้ประโยชน์ในคราวนี้ ยังไงซะ

กายจะต้องได้เผด็จศึกเพื่อนสนิทจนได้มาเป็นเมียสมใจให้ได้







               “เงือกน้อยของฉัน”


           “โอ เจ้าชาย”


           “ไม่นึกเลยว่าจะได้พบไข่มุกงามที่เกาะร้างเช่นนี้”


           เจ้าชายที่พลัดจากเรือล่มเชยคางผู้ช่วยชีวิตที่ได้แต่ยิ้มอย่างเอียงอาย เนื้อตัวท่อนบนขาวผ่องและเกร็ดที่หาง

สะท้อนแสงอาทิตย์อัสดงช่างงดงามยั่วใจจนเจ้าชายผู้สูงศักดิ์อดไม่ได้ที่จะเอียงพักตร์ไปครอบครองกลีบปากแดงเรื่อ

ราวกับปะการังใต้น้ำ


           “อะ อื้อ”


           บิดกายอย่างขัดเขินแต่เงือกหนุ่มน้อยกลับไม่มีแรงต้านทานเมื่อเจ้าชายช่างชำนาญการจูบ ใบหน้าหวานแดงก่ำ

จากเลือดฝาดเมื่อจูบนั้นเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ


           “ทำไมข้าถึงหายใจหอบเยี่ยงนี้”


           เงือกน้อยพึมพำเสียงกระเส่าในขณะที่เจ้าชายไล่รุกขบเม้มไปตามคอระหง มือเปียกชื้นอุ่นจนร้อนลากไล้อยู่ตาม

เนื้อตัวก่อนจะหยุดเมื่อไปเจอติ่งเล็กสีชมพูแล้วจึงใช้ซอกนิ้วบีบเค้น


           “เพราะเงือกน้อยรักเจ้าชายและอยากเป็นของเจ้าชาย”


           “ฮะ ฮึก เจ้าชายล่ะ”


           มือน้อยของเงือกถูกดึงให้ไปกอบกุมแก่นกายใหญ่ที่คับแน่นอยู่ในกางเกงเปียกชื้น เจ้าชายบังคับมือน้อยให้ควัก

ล้วงมันออกมาชมโลก ไม่ช้านานเจ้าชายก็ถึงกับหอบลึกและรีบถอดอาภรณ์ออกอย่างร้อนรนจนเหลือเพียงร่างกายกำยำ

ชื้นน้ำชื้นทราย


           “เงือกน้อยเห็นหรือเปล่าว่าเจ้าชายเองก็อยากจะได้เงือกน้อยใจแทบขาดแต่ติดตรงหางปลาจนเจ้าชายไม่รู้จะทำ

เช่นไร”


           “เจ้าชายรักเงือกจริงใช่ไหม”


           “ใครเล่าจะกล้าปดผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าจากกลางทะเล”


           หัวใจที่ไร้เดียงสาตกหลุมรักเจ้าชายหนุ่มตั้งแต่แรกพบทำให้เงือกน้อยตัดสินใจถอดสร้อยปะการังออกจากคอ

พลันหางปลากลับหายไปกลายเป็นร่างกายของหนุ่มน้อยวัยขบเผาะจนเจ้าชายมองอย่างกระหาย


           “อา งดงามจริงๆ”


           ไม่รอช้า เจ้าชายเอนกายทาบทับให้ร่างบอบบางทอดกายลงกับหาดทรายขาวละเอียดแล้วบรรจงจูบปรนเปรอไป

ทั่วทั้งร่างกาย เงือกน้อยในร่างมนุษย์ได้แต่บิดกายอย่างเสียวซ่าน มือไม้ช่างเกะกะจนเจ้าชายต้องดึงมันมาเกาะเกี่ยวอยู่

รอบคอเมื่อร่างแกร่งเลื่อนตัวจ้องมองท่อนเนื้องดงามที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยเห็น เจ้าชายใช้ลิ้นร้อนแตะทักทายที่ยอดปริ่มน้ำ

แล้วจึงค่อยๆเม้มปากงับทีละน้อย


           “อ๊า ทำไมเสียวเช่นนี้”


           เงือกน้อยเผลอไผลครางเสียงหวานราวระฆังแก้วเมื่อเลือดลมพากันวิ่งพล่านไปทั้งตัว เจ้าชายช่างเก่งนักเมื่อ

กลืนกินเข้าไปและสาวปากขึ้นลงพลางนวดเฟ้นช่องทางสีชมพูให้ผ่อนคลายก่อนสอดปลายนิ้วเข้าไปเพื่อเปิดทาง


           “แน่นมากเงือกน้อย แค่นิ้วยังทำให้รู้สึกดีขนาดนี้ เจ้าชายจะทนไม่ไหวแล้ว”


           ร่างกายแข็งแกร่งราวเทพเจ้าแห่งท้องทะเลดันกายขึ้นสูงอวดท่อนลำจนเงือกน้อยใจเต้น เงือกน้อยเงอะงะทำ

อะไรไม่ถูกเมื่อมันจ่ออยู่ตรงหน้าถ้ำและทะลวงเข้ามา


           “อ๊า เจ้าชาย เจ็บเหลือเกิน”






               คัทททททท


               “อึก เบาสิวะไอ้ฝิ่น ผลักกูออกทำไม”


               ฝิ่นไม่สนใจกายที่กำลังหน้านิ่วเพราะต้องกัดฟันทนให้ตรงนั้นยังคงสู้อยู่ ร่างเพรียวเปลือยเปล่ารับผ้าเช็ดตัว

มาพันท่อนล่างแล้วก้าวมาหาผู้กำกับทันที


               “คราวที่แล้วให้ผมเป็นแมว คราวนี้ให้ผมเป็นปลา นี่พี่จะทำซีรีส์สัตว์โลกน่ารักหรือไง”


               “จะให้กูโทรหาคนเขียนบทมาพูดกับมึงดีไหมไอ้ฝิ่น”


               “แล้วนี่พี่สั่งคัทเรื่องอะไร ผมทำอะไรไม่ดี”


               เปากระตุกยิ้มที่มุมปากแม้ใบหน้าคมจะไม่เปลี่ยนแปลงแต่ฝิ่นกลับมองเห็นร่องรอยเยาะหยันจากสายตาคู่นั้น

ได้


               “เงือกน้อยน่ะไม่เคยผ่านมือใคร เวลาถูกเอาครั้งแรกมึงก็ต้องทำท่าให้เจ็บปวดเหมือนครั้งแรกของมึงสิวะ แต่

ที่มึงทำน่ะมันไม่ใช่ว่ะ ทำได้หรือเปล่าไอ้ฝิ่นหรือว่ามึงลืมครั้งแรกของมึงไปแล้ว”


               เจ็บ!


               ฝ่ามือตวัดฉาดเข้าใส่ใบหน้าของผู้กำกับดังเพียะ ทีมงานถึงกับเงียบกริบเมื่อนายเอกหนังกำมือแน่นและน้ำตา

คลอขณะมองหน้าผู้กำกับที่ยืนนิ่งราวกับหุ่นยนต์


               “มึงมันเลว กูเกลียดมึง”


               “ไอ้ฝิ่น เกิดอะไรขึ้น”


               กายรีบวิ่งมาอย่างตกใจ เขาคว้าแขนฝิ่นไว้


               “เหี้ย ร้องไห้ทำไม”


               ฝิ่นหันมาสบตากับกายอย่างเจ็บช้ำแล้วตะโกนออกมาอย่างเหลืออด


               “กูไม่ถ่ายแม่งแล้ว”


               ฝิ่นเดินจ้ำอ้าวกลับไปทางรีสอร์ท กายที่ยังไม่เข้าใจดีนักได้แต่มองหน้าเปาแล้วรีบเดินตามฝิ่นไปทันทีจน

กระทั่งถึงด้านหน้าบังกะโลเขาก็รีบดึงแขนฝิ่นให้หันมาหาเขา


               “มึงเป็นอะไรฝิ่น ไม่เคยเป็นงี้นี่หว่า”


               “พอกันทีไอ้กาย กูทนไม่ไหวกับสายตาดูถูกอีกแล้ว กูจะเลิกทำงานนี้”


               “แล้วมึงจะเอาเงินที่ไหนใช้” 


               “กูมีเงินเก็บพอที่จะใช้จนเรียนจบ แล้วกูจะหางานอื่นทำ”


               “มันมีอะไรมากกว่านั้นใช่ไหมวะ มึงปิดกูไม่ได้หรอกไอ้เหี้ยฝิ่น”


               กายถามอย่างเป็นห่วงเพื่อน ฝิ่นอึ้งไปพักใหญ่ก่อนจะปล่อยโฮแล้วโผเข้ากอดกาย กายได้แต่โอบกอดฝิ่น

เพื่อปลอบโยน

               และทั้งหมดก็อยู่ในสายตาที่มองอย่างเจ็บปวดของฝุ่นที่นั่งอยู่ใต้ต้นมะพร้าวต้นหนึ่งไม่ไกลนัก
               




มีต่ออีกนิด


หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 22-07-2015 00:06:44
ต่อกันตรงนี้





               “ขอโทษ”


               เสียงหนักดังขึ้นด้านหลังจนฝิ่นได้แต่เม้มปากแน่น


               “บางทีกูก็ปากหมาไปบ้างมึงจะสนใจทำไม”


               เปาก้าวมาใกล้ร่างเพรียวที่ยังหันหลังให้เขา


               “ไปถ่ายต่ออีกฉากแล้วค่อยเลิกกองได้ไหมจะได้ไปกินข้าวกัน ทุกคนรออยู่นะ”


               ฝิ่นหันขวับมามองหน้าอย่างแค้นเคือง


               “ก็ได้ แต่ผมจะยอมพี่เป็นครั้งสุดท้าย จบหนังเรื่องนี้แล้วผมจะเลิกเล่นหนังโป๊เหี้ยๆนี่แล้ว”


               ฝิ่นกระแทกเท้าเดินกลับไปทางกองถ่ายที่ยังคงอยู่ตรงริมหาด เปาถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วจึงเดินตามใน

ขณะที่กายซ่อนยิ้มเมื่อแผนการของเขากำลังจะเริ่มต้น


               “ไอ้ปื๊ด มานี่”


               กายกวักมือเรียกเด็กในกองที่อยู่ฝ่ายบริการ


               “วันนี้มึงเสิร์ฟน้ำใช่ไหม อะนี่ ขวดน้ำของกูกับไอ้ฝิ่นแล้วอันนี้ของพี่เปากูติดชื่อไว้แล้ว ทำไมมองหน้ากูทำไม

นี่กูกำลังช่วยมึงทำงานนะ แล้วขวดนี้ฝากเอาไปให้ไอ้ฝุ่นมันด้วย มายืนมองพี่มันถ่ายหนังจนคอแห้งแล้วมั้ง”


               พระเอกหนังเดินอาดๆกลับไปที่กองถ่ายไอ้ปื๊ดมองอย่างงงๆ


               “พี่กายของกูผีเข้าหรือไงวะวันนี้เสือกใจดีช่วยกู”


               ไอ้ปื๊ดส่ายหน้าไปมาพลางหิ้วถุงน้ำเดินตามหลัง แต่รองเท้าแตะดาวเทียมดันไปสะดุดก้อนหินจนถลาวัดพื้น


               “ชิบหายละ น้ำดารากู”


               น้ำจากขวดน้ำที่บรรจุอยู่ในถุงหิ้วกระฉอกออกมาเพราะบางขวดปิดฝาไม่สนิท ไอ้ปื๊ดด่าตัวเองเพราะเขาขี้

เกียจเดินไปหยิบน้ำขวดใหม่ มันมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าปลอดคนจึงได้เทน้ำที่ปะปนกันอยู่ในถุงพลาสติกคืนกลับไป

ยังขวดที่ฝาเปิดอ้าแล้วจึงปิดฝาขวดดังเดิม


               “วะฮ่าๆ เท่านี้ก็เหมือนเดิม ฉลาดจริงๆกูไม่ต้องเดินกลับไปอีกรอบ”


               เด็กกองที่ขึ้นชื่อเรื่องความเกียจคร้านเดินผิวปากไปแจกน้ำอย่างอารมณ์ดี

               




               “ไอ้ปื๊ด กูมีงานให้มึงทำ”


               ธนบัตรสีแดงยัดใส่กระเป๋าเสื้อไอ้ปื๊ดเมื่อเวลาอาหารเย็นที่ทุกคนกำลังกรึ่มได้ที่ผ่านไปพักใหญ่ กายคล้องคอ

ไอ้ปื๊ดแล้วกระซิบเบาๆ


               “โน่นบังกะโลของกู”


               กายชี้ไปยังบังกะโลหลังหนึ่งที่ภายในแบ่งเป็นสองห้อง เขาจับคู่นอนกับเปาห้องหนึ่งและอีกห้องเป็นของฝิ่น

กับฝุ่น


               “กูแอบรู้มาว่าไอ้ฝุ่นมันแอบชอบพี่เปาโว้ยกูเลยจะช่วยมัน ถ้ามึงเห็นพี่เปาเข้าไปในห้องมึงรีบเอากุญแจนี่ล็อค

ด้านนอกเลยนะ ไอ้ฝิ่นเหรอ เออ เดี๋ยวกูหามมันเข้าห้องเองแล้วถ้ามึงเห็นกูเข้าห้องมึงก็เอาไอ้กุญแจอีกอันไปล็อกห้องกู

เลยนะ ไอ้ฝิ่นมันจะได้ไม่ไปขัดขวางความสุขน้องชายมัน แล้วพอตอนเช้ามึงต้องตื่นก่อนอยู่แล้วมึงก็ค่อยมาไขกุญแจ

ออกให้พวกกูก่อนไปทำงาน เข้าใจไหมวะ”


               ซักซ้อมความเข้าใจกับไอ้ปื๊ดจนเข้าใจกันดี กายก็เดินยิ้มกริ่มเข้าไปหาวงเหล้าที่กำลังสนุกสนานกันได้ที่ เขา

เองก็ดื่มไปไม่น้อยเพราะถูกคยั้นคยอจากทีมงานจนเริ่มมึนแต่ที่หนักกว่าคือผู้กำกับที่รู้กันว่าเมาง่ายสุดๆ


               “พี่เปาเริ่มเลื้อยแล้วไปนอนเหอะวะ”


               กายพูดขึ้นกลางวง เขาใช้ช่วงเวลาที่ฝิ่นไปเข้าห้องน้ำเป็นฤกษ์สะดวก


               “ไอ้ฝุ่น เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าอยู่ดึก มึงลากพี่เปาไปส่งที่ห้องแล้วมึงก็ไปนอนซะ”


               ทุกคนเห็นดีด้วย ฝุ่นจึงจำเป็นต้องประคองเปาที่เริ่มตัวเอียงกลับไปที่บังกะโล

               


               “ฝุ่น ทำอะไร”


               เสียงเข้มของฝิ่นดังขึ้นเมื่อเดินกลับจากห้องน้ำแล้วเห็นความใกล้ชิดของเปากับฝุ่น


               “พวกพี่ๆเขาให้ฝุ่นพาพี่เปาไปนอนอะพี่ฝิ่น”


               ฝิ่นมองอย่างไม่พอใจเพราะเขาไม่อยากให้ฝุ่นเข้าใกล้เปามากกว่านี้ เขากลัวฝุ่นจะตกหลุมพลางของคนเลว

อย่างเปา


               “ไม่ต้อง พี่จะพาไอ้พี่เปาไปเอง”


               ฝิ่นก้าวเข้ามาดึงแขนเปาที่ส่งเสียงอ้อแอ้แล้วประคองไปยังห้องพัก ฝุ่นมองตามอย่างไม่เข้าใจแต่ไม่ได้สนใจ

อะไรมาก จึงได้เดินเข้าห้องน้ำไปปัสสาวะและล้างหน้าล้างตา เมื่อเดินออกมาทั้งที่ยังไม่ได้ใส่แว่นเขาก็เห็นกายเดินเซ

มาทางนี้


               “อ้าวไอ้ฝิ่น กูรอมึงอยู่พอดี ไปไป๊ ไปนอนกับกูดีกว่า”


               ฝุ่นถลาตามแรงฉุดเข้าไปยังห้องนอนของเขากับฝิ่นและทันทีที่ประตูปิดสนิทฝุ่นก็เริ่มรู้สึกแปลกๆที่กลายเป็น

ว่าเขากำลังอยู่ลำพังกับเพื่อนของพี่ชายอย่างกาย
               



TBC

หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 22-07-2015 00:37:05
เป็นเรื่องแล้วสินะ 5555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 22-07-2015 00:46:59
กรี๊ดดด ตอนหน้ากำเดาพุ่งแน่ๆ
อิพี่เปาจำได้ด้วยอ่ะ กรี๊ด
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 22-07-2015 01:35:50
สลับคู่เรียบร้อยเลย ตอนนี้ทิชชู่ 3 ม้วนรอแล้ว  :haun4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 22-07-2015 01:44:49
ถ้าน้องสูงกว่านี้ หนากว่านี้สงสัยพี่กายท่าจะมีวี่แววว่าจะโดนน้องเสียบในภายภาคหน้าหรือเปล่าน้า   

รอโฮกตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-07-2015 04:57:01
 :impress2:    มีลุ้น
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-07-2015 12:01:49
อิพี่เปาก็จำได้หนิแล้วทำไมไม่คุยกับฝิ่นให้รู้เรื่อง!?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 22-07-2015 15:55:26
กร๊าดดดดดดดดด  :serius2: :serius2: :serius2: อิพี่เปากับฝิ่นมัวแต่คิดกันไปเองแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้เข้าใจกัน ฮื้อออ!!! ส่วนกาย เหอะๆ เจ้าแผนการดีนักดูท่าจะผิดแผนอย่างใหญ่หลวงนะ ฮ่าๆๆๆ  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 22-07-2015 17:40:57
ลงล็อคพอดีคู่แน่รอบนี้ หึหึ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 22-07-2015 20:11:44
ไม่อยากคิดเลยว่าตอนหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง    :hao7:

ต้องรีบไปเตรียมเลือดรอก่อนล่ะ    :z1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 22-07-2015 21:04:03
หึหึ สนุกแน่คราวนี้  :mew3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-07-2015 21:30:42
เตรียมสงสารฝุ่นได้เลย... ถ้าเกิดมีอะไรกันแล้วกายเรียกชื่อ ฝิ่น แทนที่จะเป็นฝุ่น คงเจ็บมากๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 22-07-2015 22:09:20
 :really2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: mcooky ที่ 22-07-2015 23:14:44
 :haun4:  ตู้หู่วววส์
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 3 >> 22/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 23-07-2015 03:43:47
เอาล่ะ เตรียมเลือดรอเลยยย
ไม่ผิดฝาผิดตัว ลงล๊อคเป๊ะ
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 30-07-2015 00:37:40


                                                              ทดลองรัก

                                                                บทที่ 4


               ตัวหนักเป็นบ้า!


               ฝิ่นบ่นพึมพำเมื่อต้องแบกร่างกายที่สูงกว่าและใหญ่กว่าเข้ามายืนโงกเงกอยู่กลางห้องพักที่มีเตียงเล็กสองเตียงตั้งอยู่ติดกัน

เขาเหวี่ยงร่างของเปาให้นอนแผ่อยู่บนเตียงหลังหนึ่งแล้วจึงเท้าเอวมอง


               “เหล้าเข้าปากทีไร แม่งไม่เรื้อนก็เหี้ย”


               ฝิ่นด่าใส่เปาที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง ความหลังครั้งเก่ากลับมาทำร้ายความรู้สึกของเขาอีกครั้งเพราะในวันนั้นเปาก็

เมาเช่นนี้เหมือนกัน


               แสงฟ้าแลบสว่างวาบก่อนจะตามมาด้วยเสียงครืนของฟ้าร้องดังลั่น ฝิ่นสะดุ้งตัวโยนเนื่องจากเขาไม่ค่อยถูกกับเสียงฟ้าร้อง

มาตั้งแต่เด็ก ได้ยินเสียงลมฝนพัดกรูอยู่นอกบังกะโลฝิ่นหนาวเยือกตะครั่นตะครอขึ้นมาทันที เขายกมือกุมศีรษะพลางก้าวไปที่ประตูเพื่อ

จะกลับห้องตัวเอง


               แกร้ก

               แปลก!

               ทำไมเปิดประตูไม่ได้

               แกร้ก แกร้ก แกร้ก


               แทบจะเขย่าจนประตูสะเทือนแต่มันก็ยังเปิดไม่ออก มันผิดปกติจนฝิ่นเริ่มหวาดหวั่นรวมถึงความผิดปกติของร่างกายที่เมื่อครู่

ยังหนาวสะท้านแต่อยู่ๆมันกลับร้อนวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าร้อนจนเม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นตามผิวหนัง ฝิ่นกระสับกระส่ายกับความรู้สึกแปลกๆ

ที่เข้ามาเกาะกุม หัวใจของเขากำลังเต้นแรงและเร็วจนเขาเริ่มหอบหายใจลึก


               ได้ยินเสียงกุกกักดังอยู่ด้านหลัง ฝิ่นหันขวับไปมองคนที่เขาเพิ่งจะพาเข้ามาให้นอนแผ่หรากลางเตียง แต่ตอนนี้เปาลุกขึ้นยืน

จังก้า เหงื่อกาฬไหลพลั่กๆและดวงตาคมไร้อารมณ์กลับแดงก่ำเมื่อจ้องมองมายังฝิ่น


               เสียงสายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตากลบเสียงต่างๆภายนอกจนไม่ได้ยินอะไรอีก แม้ว่าอากาศจะเย็นชื้นเพราะ

ฝนตกแต่คนที่ยืนเผชิญหน้ากันอยู่กับร้อนผ่าวพร้อมกับความต้องการอะไรบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้ามาสู่คนทั้งสอง


               ไม่!

               มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา

               อยากจะตะโกนระบายมันออกมาเมื่อฝิ่นรู้แล้วว่าไอ้ความต้องการที่ว่ามันคืออะไรเมื่อเขากำลังจ้องมองเปาที่ถอดเสื้อยืด

เหวี่ยงลงพื้นอย่างไม่ใยดีอวดร่างกายฟิตเฟิร์มยิ่งกว่ากายเสียอีก ดวงตาที่เคยเฉยชาบัดนี้คุโชนราวกับไฟร้อนและเปาถึงกับกัดกราม

กรอดเพื่อยังยั้งอารมณ์ใคร่ที่ปะทุขึ้นมาราวกับภูเขาไฟระเบิด


               ทรมานเหลือเกิน อยากปลดปล่อย


               ฝิ่นกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในอุ้งมือ สมองของเขาปฏิเสธการร่วมรักกับเปาที่เคยทำให้เขาเจ็บช้ำ แต่ตอนนี้ราวกับว่า

อะดรีนาลินกำลังวิ่งวนกันอยู่ในร่างกายเมื่อมันพลุ่งพล่านพาให้ปวดหนึบไปหมดทั้งตัว


               “กูต้องการมึงตอนนี้ไอ้ฝิ่น”


               ไม่เหมือนคนเมาเลยสักนิดแม้ว่าน้ำเสียงจะเค้นออกมาด้วยความหงุดหงิด ฝิ่นตาถลนเมื่อเห็นเป้ากางเกงยีนส์ตุงออกมาแทบ

ปริ และในที่สุดความอดทนของฝิ่นก็ขาดผึง


               โผเข้าหากันอย่างสุดกลั้นกับความต้องการที่ถาโถมผิดปกติ เสื้อลายชายหาดของฝิ่นถูกกระชากขาดวิ่นอย่างง่ายดายจน

เหลือเพียงร่างกายชื้นเหงื่อในขณะที่ฝิ่นเองก็คว้าหมับเข้ากอบกุมเป้ากางเกงแล้วบีบมันอยู่ในมือเรียกเสียงคำรามลั่นแข่งกับสายฝน ฝิ่น

รีบปลดกระดุมกางเกงของเปาและรูดซิปลงมือไม้สั่น


               ร่างโปร่งของฝิ่นลอยละลิ่วหงายหลังลงกลางเตียง กางเกงขาสั้นถูกดึงผ่านปลายเท้าแล้วโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี ฝิ่นกลืน

น้ำลายอึกใหญ่เมื่อเห็นร่างกายทั้งหมดของเปาอย่างเต็มตา แก่นกายขยายตัวจนมองเห็นเส้นเอ็นปูดโปนออกมาจนกลัวว่ามันจะปริแตก

เสียก่อน เปาเองก็กวาดสายตามองร่างเปลือยของฝิ่นด้วยดวงตาวาววามทั้งที่เขาเองก็เคยเห็นจนเบื่อ แต่ตอนนี้มันไม่เป็นแบบนั้น


               “มึงยั่วกูใช่ไหมไอ้ฝิ่น นี่กูเป็นเหี้ยอะไรโว้ย”


               เปาเงยหน้าตะโกนลั่นห้องก่อนจะกระโจนเข้าทาบทับ ร่างกายร้อนผ่าวเสียดสีไปมายิ่งเร่งเร้าความต้องการให้ทรมานหนักข้อ

เปาบดเบียดปากใส่กลีบปากนุ่มอย่างไม่ปรานีแต่ฝิ่นกลับเผยอปากตอบรับพลางตวัดลิ้นสู้จนได้ยินเสียงดังจ๊วบจ๊าบเข้าหูก่อนที่เปาจะ

ยอมผละออกแล้วเลื่อนลงมางับเนื้ออ่อนที่ซอกคอของฝิ่น


               “ไอ้พี่เปา ไอ้คนเฮงซวย กูเกลียดมึง”


               ตวาดลั่นด้วยความเจ็บใจเมื่อร่างกายไม่ทำตามความคิด ริมฝีปากแห้งผากและตอหนวดที่ทิ่มตำอยู่ตรงแผ่นหนังยิ่งทำให้

เสียวซ่านจนต้องบิดกายเร่าอวดเนื้อเนินอกขาวผ่องและปลายยอดสีชมพูล่อตาให้เปาเปลี่ยนเป้าหมาย มือสากขยำหน้าอกข้างหนึ่งบีบ

เค้นเต็มมือส่วนอีกข้างก็ตกเป็นของเล่นให้เขากระดกลิ้นรัวจนฝิ่นต้องกัดริมฝีปากแน่น


               “กูรักมึงตายละไอ้ฝิ่น แม่งโว้ยกูอยากเสียบมึงแล้ว”


               ผละออกจากตัวเพื่อที่เปาจะชันขาขึ้นทรงตัวด้วยเข่าทั้งสอง ปลายเท้าของฝิ่นถูกจับให้แยกกว้างแทบจะเป็นมุมฉากก่อนที่

เขาจะจ่อจรวดอยู่หน้าถ้ำแล้วดันพรวดเข้าไปทันที


               “อื้อ ไอ้พี่เปา กูเสียว”


               น้ำตาไหลอย่างเจ็บใจเมื่อช่องทางของเขายินยอมรับสิ่งแปลกปลอมแต่โดยดี ช่องทางว่างถูกเติมเต็มด้วยท่อนเนื้อจนคับ

แน่น เปาเองถึงกับปล่อยเสียงครางลึกพลางปรือตาไปกับความฟิตที่เขาไม่อยากจะเชื่อ


               ช่องทางที่เขาเคยสัมผัสตั้งแต่ครั้งแรกอาจจะคับแน่นกว่านี้ แต่สำหรับปัจจุบันมันพอดิบพอดีเหลือเกินที่เส้นเอ็นจะเสียดสี

ผนังจนร้อนผ่าว ยิ่งจ้องมองใบหน้าหวานที่เอียงหน้าแนบกับที่นอนด้วยความสยิวกายมันยิ่งทำให้ความต้องการที่เขาฝังมันไว้อยู่ในซอก

ของหัวใจกลับลอยละล่องราวกับตะกอนในบ่อน้ำ


              ใช่ เขาโหยหาร่างกายของฝิ่น และต้องทำใจให้นิ่งที่สุดเมื่อเห็นฝิ่นถูกกายกระทำรักขณะถ่ายทำหนัง เขาเกือบจะกระโดด

เข้าไปกระชากกายออกจากฝิ่นเสียหลายครั้งแต่สิ่งที่ทำได้ก็เพียงสั่งคัทเพื่อให้กายถอนร่างออกจากการครอบครอง


               “ฝิ่น กูอยากแรงกว่านี้”


               “อะ อึก อย่ามัวแต่พูด ไอ้พี่เปา มึงมีแรงแค่นี้หรือไง อ๊า...”


               เอวเด้งขึ้นโดยสัญชาตญาณเมื่อเปากระทุ้งท่อนเนื้อเสียบลึกเร็วและแรง ฝิ่นรอบขาเข้าเกี่ยวลำตัวของเปาพลางคล้องแขนไป

รอบคอ ใบหน้าใกล้ชิดจนได้กลิ่นแอลกอฮอล์ระเหยเข้าจมูกเรียกร้องให้ทั้งคู่แลกลิ้นดูดดื่มกันอีกครั้ง


               “ซี้ด...ลีลามึงเด็ดเหลือเกินฝิ่น จนกูเก็บเอาไปฝันตั้งแต่วันนั้นที่กูเอามึงบนรถ”


               อะไรนะ!


               เขาจำได้


               ฝิ่นเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดของเปา แล้วที่เขาเข้าใจว่าเปาเมาจนจำเขาไม่ได้ล่ะ


               “โอ๊ย ตรงนั้น เสียวชิบ แรงๆสิวะ นี่พี่จำได้งั้นเหรอ”


               “เหี้ย จำได้สิวะ กูแม่งมาหามึงที่ผับทุกวัน ฝิ่น กูไม่ไหวแล้ว”


               มือสากคว้าท่อนเนื้อพอดีตัวของฝิ่นแล้วสาวมือโยกรั้งพร้อมกันกับที่เขารัวเอวเข้าใส่ ฝิ่นครางจนปากคอสั่นก่อนจะเกร็งกล้าม

เนื้อจนผลผลิตพุ่งวาบอยู่ในอุ้งมือ ช่องทางตอดรัดตามจังหวะชีพจรเร่งเร้าให้เปาแทงลึกสุดโคนอีกไม่กี่ครั้งมันก็ทะลักออกมาราวกับ

ทำนบแตก


               กลิ่นกายคละคลุ้งทั่วห้องทั้งกลิ่นเหงื่อและคราบกาม ทั้งคู่ยังคงซบกันแน่นิ่งและพากันหอบเหนื่อย เปายกหน้าขึ้นมาเพื่อ

สบตาหวั่นไหวของฝิ่น


               “ผมนึกว่าพี่เมาหลับจนจำไม่ได้”


               “กูเมา กูหลับ แต่กูไม่ลืม”


               ความร้อนระอุของร่างกายสลายไปอย่างรวดเร็วเปาและฝิ่นเริ่มผิดสังเกตกับร่างกายตนเองอีกครั้งเมื่อกลายเป็นว่าทั้งคู่รู้สึก

หมดเรี่ยวแรงอย่างกระทันหัน


               “พี่เปา พี่กำลังเป็นอย่างที่ผมเป็นไหม ผมขยับแขนไม่ได้ สัสสส ขาก็ชา”


               คิ้วเข้มของเปาขมวดจนเกือบเป็นปมเมื่อเขาก็รู้สึกไม่ต่างกันกับที่ฝิ่นบอก


               “พี่ออกไปจากตัวผมสักทีสิวะ นี่ตะคริวแดกหรือไง”


               “กูขยับได้ที่ไหนกันเล่า โอ๊ย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับกูวะเนี่ย”


               เปาสบถลั่นเมื่อร่างกายของเขาหมดเรียวแรงอยู่ในขณะที่ยังสอดลึกประสานกายกับฝิ่นแนบแน่น ฝิ่นกรอกตาไปมาอย่างใช้

ความคิด


               “ไอ้กายแน่ๆที่จะทำเรื่องเหี้ยๆอย่างนี้ได้”


               “ว่าไงนะ อื้อ ฝิ่นอย่าเพิ่งขยับมาก ร่างกายพี่มันชาแต่ความรู้สึกมันยังอยู่ว่ะ เสียวชิบ ตะกี้บอกว่าฝีมือไอ้กายงั้นเหรอ”


               ฝิ่นเม้มปากแน่น เขาเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเปานักแม้ว่าแขนขาจะหมดแรงแต่กับจุดศูนย์กลางความรู้สึกกลับยังเต็มพิกัด


               “มันทำท่าทางมีพิรุธ”


               “มันอยากฟันมึง มันบอกว่ามันรักมึงมาตั้งแต่เด็ก ทำไมมึงไม่ยอมเป็นแฟนมัน”


               “ได้ ผมจะยอมเป็นแฟนมันถ้ามันทำให้พี่สบายใจ”


               น้ำเสียงค่อนขอดตัดพ้อทำให้เปามองฝิ่นอย่างค้นคว้า


               “มึงก็รู้ว่ากูไม่สบายใจแน่ๆ ทำไมว่ะฝิ่น ทำไมมึงต้องมาถ่ายหนังจีวีด้วย”


               ฝิ่นกลั้นน้ำตาที่คลอเต็มหน่วย นึกอยากจะซัดหน้าคมให้หงายถ้าไม่ติดว่าแขนขาไม่มีแรงแบบนี้


               “พี่จะให้ผมทำยังไงกับชีวิตที่ไม่มีทางเลือก เงินก็ไม่มีแถมยังถูกไอ้เหี้ยขี้เมาที่ไหนก็ไม่รู้มาเปิดซิงหลังรถกระบะ มันยังเหลือ

ทางไหนให้ผมได้เลือกอีก”


               “เลือกกูไง กูที่ไปตามหามึงทุกวันแต่อยู่ๆเสือกมาเห็นมึงที่กูตามหามาเล่นหนังจีวี ไอ้เด็กเวร”


               “ตามหาเพื่ออะไร เพื่อจะเยาะเย้ยเรื่องที่พี่ทำงั้นสิ”


               เปาขบกรามกรอดเมื่อได้ยินน้ำเสียงเย้ยหยัน นี่ถ้าแขนขามีแรงเขาคงลงโทษคนใต้ล่างด้วยจูบของเขา


               “กูตามหาเพื่อจะรับผิดชอบมึงไง ตามหาเพื่อขอโทษที่กูทำเลวใส่มึง นี่มึงโง่หรือปัญญาอ่อนวะถึงไม่รู้ว่ากูน่ะรักมึงแค่ไหน

มึงดูปากกูนะ กูหลงรักมึงตั้งแต่ครั้งแรกที่กูปล้ำมึงเป็นเมีย”


               รัก!


               ฝิ่นอ้าปากค้าง ดวงตาจริงจังทำให้ฝิ่นรู้ว่าเปาไม่ได้พูดเล่นหรือว่าเมา หัวใจของฝิ่นเต้นแรงด้วยความอิ่มเอมเมื่อได้ยิน


               “รู้บ้างไหมว่ากูหึงแค่ไหนที่เห็นไอ้กายเสียบมึงแทนที่จะเป็นกู”


               “แล้วพี่รู้ไหมว่าทำไมผมไม่ยอมให้ไอ้กายมันแตกใน”


               กลีบปากแดงคลี่ยิ้มหวานเมื่อฝิ่นรู้ความในใจของเปา


               “เพราะผมไม่อยากจะให้ใครมาทับรอยที่พี่ทำไว้น่ะสิ”


               ดวงตาประสานกันด้วยความเข้าใจ สายฝนภายนอกจางเสียงลงบ้างแล้วแต่ยังคงโปรยปรายสร้างความชุ่มฉ่ำสร้างบรรยากาศ

ให้เปาค่อยๆประกบปากลงไปบนกลีบปากงามและไล่ขบเม้มทีละน้อย คราวนี้ฝิ่นจูบตอบอย่างอ่อนหวานไม่แพ้กันจนกระทั่งร่างกายทั้งคู่

เริ่มร้อนระอุและเรี่ยวแรงเริ่มกลับมาอีกครั้ง


               “ไอ้กายมันต้องวางยาพวกเราแน่ มันเคยหลุดปากว่าโครงการก่อนเรียนจบของมันเกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาทในร่างกาย

อะไรสักอย่างนี่แหละ”


               “มันคงกะจะให้มึงกินแล้วมันก็จะปล้ำมึง นี่ต้องมึงต้องดีใจนะที่อาสาน้องชายมาส่งกูจนผิดฝาผิดตัว ส่วนกูก็ต้องขอบใจที่มัน

ทำให้กูกับมึงเข้าใจกันได้ ฝิ่น แขนขาเริ่มมีแรงแล้วว่ะ เอ่อ แล้วกูก็เริ่มอยากจะเอามึงอีกแล้ว”


               ฝิ่นเบียดกายเข้าหาเมื่อเขาก็รู้สึกไม่แพ้กัน


               “กว่ายาของไอ้กายจะหมดฤทธิ์พวกเราจะตายก่อนหรือเปล่าพี่เปา”


               เปาไม่ตอบอะไรอีกเมื่อเขาเริ่มขยับเอวที่สอดลึกอีกครั้ง
               




มีต่ออีกนิด


หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 30-07-2015 00:47:37


ต่อกันตรงนี้





               กายกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อลากแขนคนที่เขาหมายปองให้เดินตามเข้ามาในห้อง ผลงานชิ้นโบว์แดงที่เขามั่นใจว่ามันจะต้องได้

ผลดีแน่ๆ เมื่อเขาคิดค้นสารละลายที่ไปกระตุ้นให้อะดรีนาลินหลั่งไหลให้ร่างกายเต็มไปด้วยความต้องการ ส่วนอีกสูตรหนึ่งคือ

สารละลายที่จะไปมีผลกับระบบประสาทจนกล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว


               ขวดแรกเขาจะใช้กับตัวเองจะได้มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะจัดการเพื่อนสนิทได้ต่อเนื่องและยาวนานตลอดทั้งคืน ส่วนสูตรที่

ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงเขาจะให้กับทั้งสามคนเพื่อให้กายกับฝุ่นไม่มาขัดขวางและฝิ่นก็จะนอนนิ่งให้เขาได้จัดการโดยไม่มีทางต่อสู้ แต่

ฝิ่นจะไม่ได้นอนนิ่งเปล่าๆเพราะความรู้สึกตรงส่วนนั้นก็ยังคงอยู่เพราะมันเป็นกล้ามเนื้ออัตโนมัติที่ไม่ขึ้นกับการสั่งงานของระบบประสาท

ส่วนกลาง


               คืนนี้แหละเขาจะจัดเต็มให้เพื่อนสนิทของเขาตลอดทั้งคืนเมื่อยาออกฤทธิ์ในระยะเวลาที่เขาวางแผนไว้แล้ว และทันทีที่

ได้ยินเสียงประตูปิดลงเขาก็หันขวับไปยังคนที่ยืนอยู่เบื้องหลัง เมื่อแสงไฟกลางห้องสว่างชัดกว่าหน้าห้องน้ำในล็อบบี้กายก็ถึงกับผงะ


               “เหี้ย ไอ้ฝุ่น”


               แทบจะหายเมาเป็นปลิดทิ้งเมื่อกลายเป็นว่าเขาลากมาผิดคน กายรีบผลักประตูแต่มันก็สายไปแล้ว


               “ก็ผมน่ะสิ แปลกใจมากหรือไง”


               ตกใจล่ะไม่ว่า


               จะบอกน้องชายของเพื่อนสนิทก็ไม่ได้ว่าเขาวางแผนปล้ำพี่ชายของมัน ฝุ่นส่ายหน้าอย่างระอาก่อนเดินมาที่ประตูและ

พยายามเปิดมัน


               แกรก

               แกรก แกรก แกรก

               ฝุ่นชักหน้าเสีย เขาหันมามองหน้ากายด้วยความสงสัย


               “พี่กาย ทำไมเปิดประตูไม่ได้วะ ผมง่วงแล้วพี่รีบกลับห้องพี่ไปเลย”


               ฟ้าแลบวาบก่อนเสียงครืนจะดังลั่น กายสะดุ้งโหยงหน้าซีดเผือดเพราะเขากลัวเสียงฟ้าร้อง ฝุ่นมองอย่างเป็นห่วงเพราะเขารู้

ว่ากายกลัว ร่างสูงเก้งก้างจึงได้ก้าวเข้ามาจับแขนของกายไว้


               “แค่ฟ้าร้องเองพี่กาย แม่ง ขี้ขลาดว่ะ”


               ไม่ทันที่กายจะแก้ตัวเสียงฟ้าก็คำรามลั่น กายอุทานอย่างตกใจก่อนจะผวาเข้ากอดร่างผอมของฝุ่น ฝุ่นยืนตัวแข็งกับความ

ใกล้ชิดครั้งแรกในชีวิตของเขา แล้วฝุ่นก็ตั้งสะบัดหัวไปมาเมื่ออยู่ๆความอุ่นร้อนก็แล่นวาบตั้งแต่หัวจรดเท้า


               “เฮ้ย เป็นอะไรวะ”


               กลิ่นกายที่ปะปนกับกลิ่นเหล้าจากร่างกายของกายลอยแตะจมูก มันทำให้ความร้อนระอุยิ่งรุนแรงจนอึดอัดไปทั้งตัว ฝุ่นไม่รู้

จะเรียกอาการมวนท้องแล้วปวดหนึบอยู่ตรงกลางลำตัวว่าอย่างไรดีแต่ตอนนี้เขากำลังทรมานเหลือเกิน


               “พี่กาย ผมร้อน พี่กายปล่อยผมก่อน”


               ฝุ่นดันร่างฟิตเฟิร์มที่เขาลอบมองทุกวันออกจากการกอดรัด แต่แล้วความตกใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อกายหงายหลังลงไปนอนกับ

พื้นห้องอย่างไร้เรี่ยวแรง


               “โอ๊ย เหี้ย ร้อนไปหมดทั้งตัวเลย พี่กายเป็นอะไรวะ ทำไมนอนนิ่งอย่างนั้น”


               กายนิ่งงั้น กรอกตาไปมาอย่างตกใจไม่แพ้กัน เขาพยายามยกแขนทั้งสองขึ้นแต่ก็ไม่มีแรงกระทั่งจะกระดิกนิ้วในขณะที่น้อง

ชายของเพื่อนกำลังกระสับกระส่ายจากฮอร์โมนที่กำลังพลุ่งพล่านจนเริ่มถอดเสื้อยืดตัวเก่งที่เขาเห็นฝุ่นชอบใส่บ่อยๆออกจนเห็นลำตัว

ผอม


               “ไอ้ฝุ่น มันไม่ใช่แล้วว่ะ กูว่ามันไม่ใช่แล้ว”


               กายหน้าซีดราวกับกระดาษเมื่อหนูทดลองที่ใช้กลับผิดฝาผิดตัวไปหมด กายจ้องใบหน้าแดงก่ำของฝุ่นอย่างตระหนก


               “ไม่ใช่เหี้ยอะไรวะพี่ โอ๊ยแล้วผมเป็นอะไร ปวดค- -โว้ย”


               ฝุ่นตะโกนสู้เสียงสายฝนด้วยความหงุดหงิดเมื่อเขาไม่รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่คืออะไร และเมื่อกวาดสายตามองกายที่นอนนิ่ง

ตาเหลือกอยู่กับพื้น หัวใจของฝุ่นก็เต้นโครมครามลำคอแห้งผากจนต้องแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง


               “ฝุ่น มึงอย่ามองกูแบบนั้น สัสส ไปอยู่มุมห้องโน่น อยู่ไกลๆกู”


               “พี่กาย พี่แม่ง”


               ฝุ่นย่างสามขุมเข้าหา ความร้อนแล่นลงไปรวมกันอยู่ตรงกลางลำตัวจนเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป กางเกงวอร์มที่เขาใส่อยู่จึงถูก

ถอดออกอย่างรวดเร็ว


               “อะ ไอ้ฝุ่น ไอ้...”


               กายเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นร่างกายไร้เสื้อผ้ายืนโชว์อยู่ตรงปลายเท้า รูปร่างของฝุ่นสูงผอมเก้งก้างจนแทบจะนับ

ซี่โครงได้ แต่ไอ้ตรงนั้นมันกลับ...


               “ทำไมกูไม่เคยรู้ว่าจู๋มึงใหญ่เหี้ยๆขนาดนี้เนี่ยไอ้ฝุ่น”


               มันใหญ่จนเขาที่เป็นพระเอกหนังจีวียังตกใจ มองเห็นเส้นเลือดปูดโปนเป็นริ้วแล่นจากโคนไปถึงยอดมนที่ชี้หน้าเจ้าของอยู่

ฝุ่นหอบหายใจสะท้านหน้าแดงก่ำ


               “ก็พี่กายไม่เคยขอดู แล้วพี่จะรู้ไหมล่ะ พี่กายอย่าเพิ่งพูดมากว่ะ ทำไงดีผมอึดอัดไปหมดแล้ว”


               “มึงไปว่าวออกสิวะจะได้หายเงี่ยน”


               ฝุ่นเบิกตากว้าง คำพูดที่กายหลุดปากออกมาเปิดประเด็นให้เขาเข้าใจ อาการที่ฝุ่นกำลังเป็นอยู่ตอนนี้คือความต้องการระบาย

ออกของอารมณ์อย่างว่า


               “ผมว่าว่าวคงไม่หายละมั้ง”


               ดวงตาของฝุ่นเป็นประกายวาววามเมื่อจ้องมองร่างกายที่หยุดนิ่งอยู่กลางพื้นห้อง เขาทรุดตัวลงและกระชากเสื้อผ้าของกาย

ออกทันที





TBC

ติดตามการลงเอยของคู่กาย-ฝุ่นบทหน้า หุหุ
 :-[ :-[ :-[


ป.ล.เปิดนิยายใหม่ไว้เรื่องนึง แนวพีเรียด Twincest

ใครขอบเชิญอ่านกันได้นะจ๊ะ รับรองว่าแซบตามสไตล์คนแต่งจ้า

บัลลังก์รักใต้เงาแค้น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47755.0)
               

ใครเป็นแฟนคลับชาวี-โนเอล ลงตอนพิเศษให้แก้คิดถึงกันแล้วนะ

เพลิงพ่าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.0)
   
               
               
               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 30-07-2015 00:48:10
แม่! เจ้า! โว้ย!
ฝุ่นเป็นเมะและกายโดนกด!! แอบผิดคาด แต่ก็ตงิดๆ ตั้งแต่ที่บอกว่าถ้าฝุ่นออกกำลังกายคงตัวใหญ่กว่านี้ละ
กายนี่โคตรกรรมตามสนองอ่ะ วางแผนอะไรไว้ เข้าตัวหมดเลย
แต่คู่เปาฝิ่นนี่เข้าใจกันละ หวานเชียะ ><//
รอนะจ๊า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 30-07-2015 01:17:45
ว๊ากกกก กายโดนฝุ่นเสียบ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 30-07-2015 04:28:24
บทลงโทษของกายสินะโดนฝุ่นเสียบเฉยเลย  สงสารกายเหมือนกันนะผิดหวังเรื่องความรัก แต่เอาเถอะได้แฟนหนุ่มน้อยดีกว่า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-07-2015 07:12:25
สาแก่ใจจริงๆ กายเอ๊ย  :ling1: 
ทำดีไง ได้ผัวเลย
ใหญ่กว่าก็ดีแล้ว ฝุ่นจะได้ไม่น้อยใจ 555555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-07-2015 07:44:23
ฝุ่น-กายจะลงเอยยังไงน้า!?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 30-07-2015 08:50:23
ถ้าฝุ่นเมะนี่ กายก็เรียกว่า กรรมตามสนอง
จะฮา หรือ หื่นดี

รออ่านนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 30-07-2015 10:37:41
รอฉากกายจะมีผัวจร้าาาาาาาาาาาา  :oo1:  :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 30-07-2015 10:55:25
กรี๊ด โดนเสียบจนได้ :oo1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 30-07-2015 11:12:35
กรี๊ด!! น้องกายจิมีผัว  :z1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 30-07-2015 11:13:20
 :impress2: :impress2: เย้ พี่เปากับฝิ่นเข้าใจกันแล้วแถมเป็นการปรับความเข้าใจกันบนเตียงด้วย หุหุ  :z1: :z1: ส่วนกายกับฝุ่น งืมๆๆดูจากตอนนี้แล้วทำไมรู้สึกว่ากายจะโดนฝุ่นมันกดว่ะ กร๊ากกกกกก o18 :laugh:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 30-07-2015 11:43:50
คู่พี่เข้าเจ้าใจและ/ด้กันแล้ว
รอลุ้นคู่น้อง
ขำกายอ่ะผิดแผนไปหมด เตรียมรอเป็นเมียฝุ่นเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 30-07-2015 12:57:42
โว๊ะๆ ผิดแผนว่ะกาย กรรมแล้ว  :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 30-07-2015 15:52:56
สงสารกายดีมั้ยเนี่ย
คงไม่ต้องเพราะกายกำลังจะมีผั__ หึหึหึ
จะกดเค้ากละบมาโดนกดก็ฟินไปอีกแบบนะกายยย

ฝิ่นกับเปาเข้าใจกันแล้ว จัดมายาวๆอีกสักตอนจิ อิอิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 30-07-2015 16:39:35
กรี๊ดด นี่อิพี่กายจะโดนกดเรอะ  :a5:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 30-07-2015 16:54:15
คู่ฝิ่นนี่ไม่ผิดคาด
แต่คู่กายฝุ่นนี่สิพลิกโผ 555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 30-07-2015 18:26:14
รอดูกายโดนเสียบ  :z1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 30-07-2015 22:12:14
 :oo1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 30-07-2015 22:32:59
อุ้ยยยย น้องฝุ่นน่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-07-2015 11:20:22
สบายล่ะกาย ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 01-08-2015 06:36:34
จัดเลยน้อง แค้นแทนพี่ชาย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 4 >> 30/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 02-08-2015 19:14:56
ชูป้ายไฟ ฝุ่น - กาย รัวๆเลยจร้า งานนี้ ต้องมีได้เสีย  :laugh: 

อย่าให้พลิกกลับมาได้นะ น้องฝุ่น จัดการเอาพี่กาย ให้กลายเป็น เมียแรดๆไปเลย  :z1:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 02-08-2015 19:28:48


                                                                  ทดลองรัก

                                                                    บทที่ 5


               ร่างกายสุดแสนจะสมบูรณ์แบบที่ฝุ่นแอบมองตั้งแต่เด็กจนกระทั่งกลายเป็นหนุ่มน้อยในวันนี้เปลือยกายนอน

หงายนิ่งงั้นอยู่กลางพื้นห้องแคบๆด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจสุดขีดเมื่อฝุ่นโน้มตัวลงไปมองตั้งแต่หัวจรดเท้า

และวกกลับมามองตรงจุดอ่อนไหวที่ยังสงบนิ่ง


               “ผมต้องทำไงวะพี่กาย บอกตรงๆว่ายังไม่เคยลองของจริงนอกจากดูหนังของพี่กับพี่ฝุ่น”


               น้ำเสียงสั่นพร่าชวนให้หวาดหวั่นอย่างที่สุดเมื่อสายตาของเด็กข้างบ้านกำลังมองเขาผ่านแว่นตากรอบใหญ่

ราวกับตัวการ์ตูนโรคจิตที่เขาอ่าน กายพยายามจะขยับตัวหนีแต่ร่างกายของเขาก็ยังหยุดนิ่งราวกับเป็นอัมพาต และยิ่ง

เห็นมุมปากของฝุ่นคลี่ยิ้มน้อยๆเขาก็ยิ่งกลัวใจของน้องชายเพื่อนสนิทเสียเหลือเกิน


               “มึงไม่อยากทำกูหรอกไอ้ฝุ่น ใช่ไหม มึงเกลียดขี้หน้ากูนี่ มึงคงจะไม่...อ๊ะ เหี้ยอย่าอมสิวะ”


               ตาเหลือกเมื่อฝุ่นคว้าท่อนเนื้ออ่อนพับขึ้นมาแล้วก้มหน้ามาดูดดังจ้วบโดยไม่มีอารัมภบท เมื่อถูกกระตุ้นด้วย

การดูดแรงๆเจ้าน้องชายของกายก็พองตัวฟู่ทันควันจนฝุ่นได้ใจและยิ่งออกแรงดูดจนน้ำลายใสไหลย้อย


               “อึก ไอ้เหี้ยฝุ่น นี่มึงเอาจริงเหรอ กูเป็นเพื่อนพี่ชายมึงนะ”


               กายร้องลั่นเมื่อความต้องการถูกปลุกขึ้นมาในร่างกายที่ต่อสู้ไม่ได้ ฝุ่นคายแท่งเนื้ออวบอ้วนออกจากปาก

พลางอ้าปากงับเข้าใส่ถุงเนื้อแฝดคราวนี้กายถึงกับครางลั่น


               “ไอ้เด็กเปรต มึงจะทำอะไรก็รีบทำ เหี้ย กูยอมแพ้”


               ฝุ่นเงยหน้าแดงก่ำขึ้นมา เขากระชากแว่นตากรอบใหญ่โยนทิ้งแล้วดันต้นขาอ่อนแรงของกายขึ้นสูงจนมอง

เห็นแก้มก้นสีแทนหนั่นแน่นเปิดเผยช่องทางจีบพับให้เห็นถนัดชัดเจน ร่างกายของฝุ่นสั่นไปด้วยความต้องการเอ่อล้นจน

เกร็งไปทั้งตัว


               “ไม่ไหวแล้วว่ะพี่กาย ยิ่งเห็นยิ่งอยาก ผมขอเถอะนะ”


               ทันทีที่พูดจบฝุ่นก็เสียบทันที


               ถ้าหากจะให้กายบรรยายความรู้สึกตอนนี้เขาคงบรรยายไม่ถูกเมื่อตัวเองก็ได้แต่อ้าปากค้างดวงตาเหลือกลาน

ร่างกายช่วงลำตัวเกร็งรับกับความเจ็บปวดที่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะมากมายขนาดนี้ ยิ่งฝุ่นที่ไร้ซึ่งประสบการณ์จริงและเต

ไปด้วยความกระหายจนควบคุมตนเองไม่ได้ดันสะโพกเข้ามาทีเดียวจนท่อนเนื้อใหญ่ยักษ์แทงเข้าไปเกือบครึ่งด้าม กาย

รู้สึกว่ากล้ามเนื้อรอบหูรูดกำลังจะปริแตก


              “พี่กาย ผมดันไม่เข้า ช่องของพี่มันเล็ก”


               “อ๊ากกกก”


               เมื่อสติกลับคืนกายก็แหกปากร้องลั่นมันเจ็บจนน้ำตาซึมอยู่ตรงหางตา เขาผงกหัวมองสบตาฝุ่นอย่างโมโห


               “ไอ้เด็กเปรต ทำเหี้ยอะไรของมึงกูเจ็บชิบหาย มึงรู้จักเล้าโลมไหมวะ เล้าโลมน่ะ”


               เล้าโลม?


               ทบทวนอย่างเร็วจี๋อยู่ในหัวสมองก่อนจะใช้มือบีบขากรรไกรของกายให้เปิดกว้างแล้วฝุ่นก็อ้าปากแนบลงไป

อย่างรวดเร็ว ฝ่ายถูกกระทำเกือบจะสำลักเมื่อเจอการบุกแบบบ้าบิ่น ฝุ่นสอดลิ้นลงไปด้วยความไม่เคยจนกายต้องเป็น

ฝ่ายช่วยตวัดลิ้นสอน


               “อืม พี่กายจูบเก่งชิบ”


               พึมพำอยู่ในลำคอพลางโอบเอวของกายขึ้นมาจนแนบชิด กายเองก็ชักจะเตลิดเมื่อเด็กเรียนรู้เร็วอย่างฝุ่น

พลิกลิ้นตอบโต้แถมยังคว้าน้องชายของเขาไปเป็นตัวประกันในมือ ความต้องการของกายถูกฝุ่นปลุกขึ้นมาเรื่อยๆจน

กระทั่งฝุ่นค่อยๆสอดเอวดันเข้าไปได้อีก


               “อึก ฝุ่น ช้าๆสิวะ กูเจ็บ ใหญ่จนแม่งกูจุก”


               ด่าด้วยเสียงแหบพร่าเมื่อเขาเองก็เริ่มอยากจะให้ฝุ่นพาให้เขามีความสุข”


               “คับว่ะ ไม่ไหวล่ะพี่กายผมเสียว”


               ฝุ่นใช้มือดันพื้นคร่อมร่างของกายแล้วเขาก็เด้งเอาเข้าใส่ กายเผลอครางลั่นเมื่อส่วนล่างขยายพื้นที่รองรับ

ความใหญ่โตจนกระทั่งฝุ่นขยับตัวได้คล่องขึ้น ฝุ่นปรือตาหน้าตาเหยเกเมื่อท่อนเนื้อบีบคั้นจนถึงที่สุด


               “พี่กาย ผมไม่ไหวแล้ว”


               “เหี้ยฝุ่น อย่าเพิ่งนะ กูยังไม่แตกมึงรอกูก่อนไอ้ฝุ่น”


               “ไม่ ไหว แล้ว โว้ย ฮึก ฮึก”


               พรวดดดด


           น้ำคาวขาวขุ่นอัดเข้าไปในช่องทางของกายอย่างยั้งไม่อยู่ในขณะที่เจ้าตัวดวงตาลอยคว้างที่ได้ปลดปล่อย

กายได้แต่ก่นด่าออกมาเมื่อเขายังค้างเติ่งอยู่ยอดดอยหาได้ขึ้นสวรรค์ไปพร้อมฝุ่นไม่


               “มึง ไอ้ฝุ่นไอ้เลว”


               “พี่กายผมขอโทษ ยั้งไม่อยู่จริงๆ”


               มองอย่างขอลุแก่โทษที่ไม่ได้ทำให้กายสุขสมไปด้วยเพราะความด้อยประสบการณ์ หนุ่มน้อยในวัยที่ยังไม่

ครบสิบแปดเต็มถึงกับหน้าเสีย เมื่อตนเองถึงเป้าหมายอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาจึงค่อยเบาบางลงแต่แล้วฝุ่นก็ต้องขมวดคิ้ว

ด้วยความสงสัยที่อยู่ๆร่างกายของเขาก็หมดแรงจนกระทั่งทรงตัวไม่อยู่ร่วงไปกระแทกร่างของกายดังอั้ก


               “โอ๊ย สัสฝุ่นเป็นอะไรอีก”


               “ไม่รู้สิพี่กาย อยู่ๆผมก็หมดแรง”


                กายก่นด่าอย่างหงุดหงิดเมื่อฝุ่นทิ้งน้ำหนักลงมา เขาผลักไหล่ของฝุ่นออกก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าเรี่ยวแรงของ

เขากลับคืนมาแล้ว กายรีบออกแรงผลักฝุ่นที่ยังประสานกายกันออกไปอย่างยากเย็นจนต้องนิ่วหน้าเพราะส่วนล่างของฝุ่น

ยังไม่ยอมยุบตัว ในที่สุดกายก็พลิกตัวขึ้นมานั่งมองฝุ่นที่กลายเป็นฝ่ายนอนนิ่งแผ่หราโดยมีเจ้าน้องชายเปียกชื้นโด่ชี้ฟ้า

อวดโฉมอยู่


               “ไอ้เด็กเปรต สมน้ำหน้า นอนเป็นอัมพาตแทนกูบ้างละมึง”


               กายยกยิ้มอย่างสาแก่ใจเมื่อเห็นฝุ่นมีสีหน้าตระหนก เขาพยายามยกแขนขาแต่มันก็หนักราวกับก้อนหิน


               “พี่กายผมเป็นอะไรวะ ทำไมขยับไม่ได้เหมือนพี่ตะกี้เลย”


               กายมองฝุ่นตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นกัน มันทำให้เลือดลมของเขาเริ่มร้อนระอุและกายก็รู้ว่าการทดลองของเขา

เริ่มเกิดผลกับร่างกายแล้ว เขาไม่รู้ว่ามันเกิดความผิดพลาดจากขวดน้ำทั้งสี่ขวดนั่นอย่างไรแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ใน

ร่างกายที่ปวดร้าวไปทั้งตัวและฝุ่นที่นอนเปลือยยั่วยวนอย่างนี้กายจำเป็นต้องปล่อยใจไปกับมัน


               “ไอ้เด็กเมื่อวานซืนบังอาจมาเปิดซิงกูแล้วทำกูค้าง ต่อไปนี้กูจะเป็นคนสอนมึงเองว่าไอ้ที่ถูกที่ควรน่ะเขาต้อง

ทำกันยังไง”


               กายยิ้มเหี้ยมสายตาวาววับร่างกายของเขาสะบัดร้อนสะบัดหนาวไปหมด เขาสูดลมหายใจลึกๆเพื่อจะใช้

ประโยชน์จากฤทธิ์ของสารทดลอง และผ่านไปไม่นานกายก็เริ่มหอบลึกเนื้อตัวสั่นไปด้วยความต้องการ


               “บทเรียนแรกมึงต้องรู้จักการเล้าโลมคู่นอนของมึงนะไอ้ฝุ่น”


               กายเอนกายลงทาบทับ เขาสอนบทเรียนแรกให้ฝุ่นด้วยการจูบปากอันร้อนแรงจนฝุ่นถึงกับเคลิ้มหลังจากนั้น

เขาก็เลื่อนตัวมาสอนด้วยการจู่โจมยอดอกของฝุ่นจนชูชัน


               “อื้อ พี่กาย ผมเสียว”


               ฝุ่นปล่อยเสียงครางกระเส่าเมื่อผงกหัวมองเห็นกายใช้ลิ้นกระดกรัวอยู่ตรงยอดอก ความต้องการพุ่งวาบขึ้นมา

ทั้งที่ยังนอนนิ่งให้อีกฝ่ายปรนเปรออยู่ฝ่ายเดียว ฝุ่นอยากจะโอบกอดกายให้สมกับความต้องการที่มีมาตลอดชีวิตเหลือ

เกิน


               “พร้อมแล้วใช่ไหม นี่กูอดทนกับมึงมากแล้วนะฝุ่น กูปวดจู๋ใจจะขาด”


               นิ้วมือของกายสอดลึกเข้าไปในช่องทางของฝุ่นจนเจ้าของสะดุ้ง ฝุ่นครวญแทบขาดใจเมื่อนิ้วของกายเริ่ม

หมุนวนอยู่ในช่องทางคับแคบ


               “บทเรียนที่สอง มึงต้องหาจุดอ่อนให้เจอ อืม ตอดกูซะแน่นเลยมึง”


               “อ๊ะ อ๊า...”


               ฝุ่นสะดุ้งเมื่อนิ้วมือหลายนิ้วควงสว่านไปกระแทกจุดหนึ่งที่ผนังของเขา กายยิ้มกริ่มเมื่อเห็นฝุ่นกัดฟันคราง

ออกมา กายรู้ว่าเขาค้นพบของดีเข้าแล้ว กายพยายามจะไม่สนใจท่อนเนื้องของฝุ่นที่ยังอวดร่างใหญ่ยักษ์เยาะเย้ย เขา

จับขาของฝุ่นให้แบะออกจนส้นเท้าแทบชิดก้น แล้วจึงสอดร่างตัวเองเข้าไปช้าๆ


               “อื้อ...เจ็บ”


               ฝุ่นกลายเป็นฝ่ายร้องลั่นบ้างแต่เสียงของเขาก็ถูกกายปิดไว้ด้วยปาก กายจูบจนฝิ่นมัวเมาแล้วดันเอวเข้าไป

ช้าๆจนกระทั่งช่องทางนั้นกลืนกินเขาเข้าไปจนหมด กายถึงกับนิ่วหน้าในความคับแน่น


               “เหี้ยเอ๊ย ทำไมฟินงี้วะ”


               กายสบถเมื่อความรู้สึกตอนนี้ช่างดีจนนึกไม่ถึง ร่างกายของฝุ่นยั่วเย้าอารมณ์จนกู่ไม่กลับ กายปรนจูบเนื้อตัว

ของฝุ่นจนมีแต่คราบน้ำลายพลางขยับเอวเข้าออกจนแข่งกันหอบไปกับพายุอารมณ์


               “บทเรียนที่สาม มึงต้องช่วยคู่ของมึงให้ขึ้นสวรรค์”


               กายกระซิบเสียงสั่นพร่าข้างหูของฝุ่น นิ้วมือของเขานวดเฟ้นไปที่รอบลำกล้องของฝุ่นแล้วขัดลำจนฝุ่นสะท้าน

เฮือกพร้อมกับที่กายเด้งเอวเข้าใส่จุดกระสันที่เขาค้นพบในช่องทางลึก ฝุ่นส่งเสียงระงมไม่เป็นภาษาจนกระทั่งสมองขาว

โพลนเมื่อกายผลักเขาให้ถึงสวรรค์


               “แล้วบทเรียนสุดท้ายมึงก็กระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ทันที”


               คราวนี้กายจัดการเด้งเอวแบบรัวๆก่อนที่เขาจะตัวเบาหวิวเมื่อได้ฉีดอัดผลผลิตใส่ฝุ่นจนไหลเยิ้ม กายเงยหน้า

ห่อปากหอบตาปรือฉ่ำ


               “โว้ย แตกในนี่มันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง ไอ้กายตายไปไม่เสียชาติเกิดล่ะโว้ย ฝุ่น มึงนี่มันสุดๆเลยว่ะกูมองข้ามมึง

ไปได้ยังไงตั้งนานวะ รู้งี้กูสอยมึงนานแล้ว”


               เมื่อเสร็จศึกเร่าร้อนฝุ่นก็มีสติที่จะสบตากับกายอย่างตัดพ้อ หนุ่มน้อยเบือนหน้าหนีพลางกล่าวด้วยเสียง

แง่งอน


               “ก็พี่มันโง่ไงล่ะ มัวแต่มองคนที่เขาไม่เคยมองพี่โดยไม่สนใจเลยว่ามีใครที่รอพี่อยู่”


               กายเอะใจกับคำพูดของฝุ่น เขาเชยคางให้ฝุ่นหันกลับมาสบตากับเขาที่มองฝุ่นอย่างค้นคว้า ดวงตาที่ไร้แว่น

สายตาปิดบังมองกายด้วยความรู้สึกล้ำลึกจนกายต้องถอนหายใจออกมา


               “ฝุ่น นี่มึงชอบกูเหรอ”


               “เออสิวะ ไอ้คนงี่เง่า”


               ฝุ่นยกมือขึ้นตีไหล่ของกายดังพลักจึงได้รู้ว่าเขาขยับตัวได้แล้วฝุ่นจึงยิ่งผลักไสกายให้ออกไปจากตัวเขาแล้ว

ผุดลุกขึ้นนั่งชันเข่าขึ้นมากอดไว้ กายลุกขึ้นมานั่งเคียงข้างพลางโอบไหล่ฝุ่นเข้าหา


               “ปล่อย อย่ามากอด ไปกอดพี่ฝิ่นโน่นรักเขามากไม่ใช่หรือไง”


               “ถ้าพี่ไปกอดไอ้ฝิ่นจริง ฝุ่นจะร้องไห้ขี้มูกโป่งเหมือนตอนเด็กๆป่ะล่ะ”


               กายมองฝุ่นอย่างเอ็นดูพลางโน้มตัวไปหอมแก้มฝุ่นดังฟอด


               “อดทนมานานแค่ไหนแล้วฝุ่นกับการกระทำของพี่ที่ใช้ฝุ่นเป็นสะพานไปหาฝิ่น ขอโทษนะโว้ย”


               คำพูดอย่างอ่อนโยนที่ฝุ่นไม่เคยได้ยินทำให้ฝุ่นร้องไห้โฮและซุกหน้ากับบ่าของกายเมื่อในที่สุดความรักที่เขา

ปิดบังไว้นานแรมปีก็ถูกเปิดเผยให้กายได้รับรู้


               “ถ้าพี่กายไม่ได้รักฝุ่นชอบฝุ่น พี่กายก็ไม่ต้องสนใจฝุ่น ฝุ่นเจ็บแต่ฝุ่นทนได้”


               ปากช่างตัดพ้อถูกปิดลงด้วยปากของกาย ลิ้นร้อนตวัดลึกซอกซอนอยู่ในโพรงปากจนพากันร้อนระอุอีกครั้ง

แต่คราวนี้กายรู้ว่ามันไม่ใช่เพราะฤทธิ์จากสารทดลองของเขาแต่มันเป็นเพราะหนุ่มน้อยที่จูบตอบอย่างโหยหาคนนี้


               “พี่กาย เมื่อกี้ทำพี่กายค้างฝุ่นขอโทษ ขอฝุ่นแก้ตัวได้ไหม”


               เมื่อฝุ่นไม่ได้ใส่แว่น กายก็เพิ่งจะรู้ว่าดวงตาเรียวของฝุ่นงดงามไม่แพ้ใคร และมันทำให้กายยอมแพ้จนต้อง

เอนร่างกลับลงไปบนพื้นห้องเมื่อฝุ่นล้มตัวตามมา ฝุ่นมองร่างกายของกายอย่างหลงใหล


               “บทเรียนแรกต้องเล้าโลมสินะ”


               ฝุ่นพึมพำพลางนึกภาพยามที่มองการกระทำของกายผ่านจอคอมพิวเตอร์ ฝุ่นจูบกายทั่วทั้งตัวจนกายถึงกับ

สะท้าน ฝุ่นเลื่อนตัวไปที่รอยแยกแล้วใช้ลิ้นเปิดทางเรียกเสียงครางจากกายได้บ้าง กายขยุ้มเส้นผมของฝุ่นแน่นเมื่อเขา

ต้องยกเอวจนลอยเมื่อช่องทางถูกล่วงเกินด้วยลิ้นและปลายนิ้วและในที่สุดกายก็ประสานร่างเข้าหาช้าๆ


               “อืมม มึงนี่เก่งเกินไปแล้วไอ้ฝุ่น”


               อาจารย์บ่นงึมงำเมื่อลูกศิษย์เรียนรู้เร็วเกินคาด คราวนี้ความเจ็บปวดจางหายไปอย่างรวดเร็วเหลือเพียงความ

กระสันที่น้อยชายของเพื่อนสนิทกำลังปรนเปรอให้เขา


               “ข้อสอง จู่โจมจุดอ่อน”


               ฝุ่นตอบโต้เสียงกระเส่าไม่แพ้กัน ช่องทางของกายฉ่ำชื้นจนเขาขยับตัวได้ไม่ยาก ฝุ่นยินดีเหลือเกินเมื่อกาย

เสียวจนเด้งกายเข้าหาเมื่อเขาเลื่อนเอวเข้าออกช้าๆ


               “ต่อไปก็ทำพี่กายน้ำแตกให้ได้”


               ฝุ่นช้อนเอวของกายขึ้นมาบนหน้าขาของเขาพลางก้มหน้าลงไปรัวลิ้นกับยอดอกของกาย กายดิ้นพล่านไป

หมดเมื่อร่างกายบิดเกร็ง เขาต้องคล้องแขนไปรอบคอของฝุ่นเพื่อให้ฝุ่นจัดการได้ถนัด และไม่นานนักช่วงลางก็บีบรัด

เป็นจังหวะ


               “ฝุ่น เร็วเข้า แรงได้แรงเลย อ๊า...”


               น้ำรักพุ่งพรวดออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้อง ฝุ่นสุดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอดก่อนจะจัดการจังหวะสุดท้ายจน

พาตัวเองไปแตะขอบหฤหรรษ์อีกครั้ง
               



               สายฝนขาดช่วงไปตั้งแต่ยามดึกสงัดเหลือไว้แต่เพียงความชุ่มฉ่ำของบรรยากาศยากรุ่งเช้า ไอ้เปี๊ยก

สะลึมสะลือหาวตลอดทางมายังบังกะโลของดาราและผู้กำกับตามที่นัดหมายกับกายไว้


               “ป่านนี้พระเอกของกูคงพาพี่ฝิ่นขวัญใจกูขึ้นสวรรค์จนสาแก่ใจแล้วแน่ๆ อิจฉาโว้ย ปลุกพี่เปาก่อนดีกว่าจะได้

ชวนพี่แกไปดูภาพอันงดงาม ฮี่ๆ”


               กุญแจที่คล้องอยู่ด้านหน้าห้องของกายถูกไขเปิดแล้วเปี๊ยกก็ถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปทันที


               “พี่เปา น้องฝุ่น ตื่นได้แล้ว ไปส่องอะไรดีๆกันเร้ววว ว้าย ตายโหง”


               เปี๊ยกอ้าปากค้างเมื่อเห็นคนสองคนที่ยังหลับสนิทนอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงที่มีร่องรอยยับย่นไปหมด เปี๊ยก

เบิกตากว้างเมื่อเขาจำได้ว่าคนที่นอนกอดเปาอยู่คือฝิ่น


               “เหี้ยแล้วไง แล้วพี่กายกูเสือกนอนกับใครวะ”


               เปี๊ยกก้าวพรวดไปห้องตรงข้ามแล้วไขกุญแจมือไม้สั่น และเมื่อประตูเปิดกว้างเปี๊ยกก็หลับตาปี๋เมื่อเห็นกาย

พระเอกขวัญใจของมันนอนหลับกรนครอกเคียงข้างกับน้องชายของฝิ่น





มีต่ออีกนิด


หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 02-08-2015 19:37:19
อ่านต่อตรงนี้



           “อา เงือกหนุ่มของข้า”


           เจ้าชายที่ถูกโจรสลัดจับตัวเรียกค่าไถ่มองผู้ช่วยชีวิตกลางท้องทะเลอย่างหลงใหลเมื่อเรือของโจรสลัดแตก

ทำให้เจ้าชายต้องลอยคออยู่กลางทะเลจนผอมโซ

           มือเรียวลูบไล้แผ่นอกที่เต็มไปด้วยกล้ามจนเงือกหนุ่มเคลิบเคลิ้มด้วยความไม่เคยต้องมือใคร


           “เจ้าแข็งแรงเพราะว่ายน้ำราวกับปลาทุกวันสินะ”


           “ส่วนท่านก็คงทำเช่นนี้กับทุกคนเช่นกัน”


           เงือกหนุ่มตัดพ้อ เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ย่อมจะมีผู้หมายปองจำนวนมากไม่เว้นแม่แต่เงือกหนุ่มที่หลงรักแม้เจ้าชายจะ

มีสภาพอิดโรยเช่นนี้ เจ้าชายได้แต่จูบจนเงือกหนุ่มอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอด


           “เจ้าชายอยากทำรักกับเงือก”


           เงือกหนุ่มมองเจ้าชายตาเป็นมันพลางผลักเจ้าชายลงไปนอนราบกับหาดทรายขาวและเปลื้องอาภรณ์ออกจน

หมด เงือกหนุ่มตาลุกวาบเมื่อเห็นจุดซ่อนเร้นอันใหญ่โตเกินกว่าที่เคยเจอ


           “อา เจ้าชาย”


           เงือกหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอพลางเลียลิ้นไปรอบริมฝีปากก่อนจะงับเล่นเบาๆที่ยอดสามเหลี่ยม เจ้าชายเงยหน้า

ครางลึกพลางผลักเงือกหนุ่มแล้วพลินตัวไปนอนทาบทับอยู่บนเกล็ดปลา


           “อยากใส่แล้ว เจ้าชายอยากเป็นเจ้าของเงือกหนุ่ม”


           เงือกหนุ่มถอดสร้อยประการังออกจากคอ พลันสิ่งอัศจรรย์ก็บังเกิดเมื่อหางปลากลับอันตรธานและกลายเป็นร่าง

ของชายหนุ่มผิวสีแทนล่อตาล่อใจ เจ้าชายมองอย่างวาบหวามก่อนจะบรรเลงเพลงรักกับเงือกหนุ่มกลางหาดทรายแสน

นุ่ม





               “ฝุ่นเล่นดีจัง นี่ขนาดครั้งแรกนะ”


               เปาหันไปมองฝิ่นที่พูดเบาๆอยู่ข้างเขา มือใหญ่โยกหัวฝิ่นเล่น


               “เชื้อไม่ทิ้งแถว ฝุ่นมันสนใจด้านถ่ายหนังอยู่แล้วนี่”


               “พี่เปาเปลี่ยนบทให้ฝุ่นไปเล่นแทนทำไมล่ะ อย่างนี้เจ้าของเขาไม่ว่าเหรอ”


               เปาอมยิ้มทั้งที่สายตายังมองการถ่ายภาพยนตร์ตรงหน้า


               “พี่หวงนายเอกนี่หว่า กลับไปนี่ก็อำลาวงการเลยละกันถือว่าเรื่องแมวน้อยที่เพิ่งจบไปเป็นเรื่องสุดท้าย พี่จะ

บอกเจ้าของหนังเองแล้วพี่จะปั้นคู่ขวัญคู่ใหม่พร้อมกับการพลิกบทบาทจากพระเอกมาเป็นนายเอกของไอ้กาย”
               




               “อา เงือกของเจ้าชาย เสียวเหลือเกิน พี่กาย แตกในนะ”


               “เจ้าชาย แรงอีก ขวาอีกนิด อ๊า.. เหี้ยฝุ่น จะทำอะไรก็ทำ ได้ทีเชียวมึง


               “เงือกจ๋า อ้าขากว้างๆสิที่รัก ว่าผมไม่ได้นะ จู๋พี่เสือกเล็กกว่าผมนี่หว่า พี่เปาเลยให้ผมเป็นพระเอก”


               “เจ้าชาย อ๊า เสียวเหลือเกิน คืนนี้นะมึงระวังตัวเลย กูจะกดมึงให้หมอบ”


               เจ้าชายเงยหน้าคำรามเมื่อรัวเอวเข้าใส่เงือกหนุ่มก่อนจะซบร่างเข้าหากัน เจ้าชายพึมพำแผ่วเบาอยู่ใกล้หู

เงือกหนุ่ม


               “เจ้าชายรักเงือกที่สุด ใครเร็วกว่าก็ชนะแล้วกันนะพี่กาย ใครแพ้ถูกกด”


               เจ้าชายบรรจงจูบเงือกน้อยอย่างเร่าร้อนท่ามกลางแสงเย็นตาของอาทิตย์อัสดง





                คัทททททท
                                                                               
                                                ---------------------จบเหอะ หื่นเกินไป๊---------------------------
               
                                                :mew5: :mew5: :mew5: :mew5: :mew5:


ตอบโพลด้านบนกันด้วยนะจ๊ะ คริคริ
คำตอบของโพลจะมีผลต่อบทพิเศษยามรวมเล่มนะจ๊ะ


 o18 o18 o18

               
               
               
               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 02-08-2015 19:44:15
จิ้มมม
เง้อออ คู่ฝุ่นกายสลับซะงั้น T^T
เปากะฝิ่นนี่น่ารักจริงๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-08-2015 19:50:35
สนุกมาก จบได้สุดยอดค่ะ.

พลิกสะท้านวงการเลยนะพี่เปา. หวงเมียจริงๆ แถมได้พระเอกหน้าใหม่เจี๊ยวใหญ่อีกตะหาก  :laugh: 
คู่กายฝุ่นนี่ดีนะมีฟาดฟันกันทุกค่ำคืน ใครช้าโดนเสียบ.

ขอบคุณมากค่ะ. รอเรื่องถัดไป.  :L1: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 02-08-2015 20:30:43
แหม่....ฝุ่นกายมาแรงแซงทางโค้งเลย 5555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 02-08-2015 21:32:06
หลับฝันดีแน่วันนี้  :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-08-2015 22:09:52
อึ้งกับคู่ฝุ่น-กาย      O-O^
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-08-2015 22:34:20
555555 ตลกกายอ่ะ
เป็นนายเอกท่าจะรุ่งมาก คึคึ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 02-08-2015 22:55:45
 :hao4:  หืมมมมมมมมมมมมมม  คนแต่งหักป้ายไฟ เค้าแรงมากๆๆๆ คู่ฝุ่นกายดันสวิช ซะไได้ แต่ก็ฟินดีนะ  :z1:  ส่วนเปาฝิ่น ช่างน่ารัก  :-[
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 02-08-2015 23:46:22
หง่ัะ กายฝุ่นสลับกันพลิกซะงั้นอะแต่ถึงยังไงดูๆแล้วฝ่ายถูกพลิกมากกว่าน่าจะเปฌนกายนะ ฮาา ว่าแล้วเชียวว่าพี่เปาก็หวงฝิ่นจนให้เลิกเล่นแน่ๆ ก็แหงแหละเมียทั้งคนนี่นะพี่เปาเนอะ  :z1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 02-08-2015 23:49:13
กายฝุ่นทำฉันคลั่ง :-[
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 02-08-2015 23:55:08
คู่ฝุ่น-กายกลับตาละปัดซะได้ แต่ก็ฟินไปอีกแบบ  55555

คงต้องขุนให้ฝุ่นล่ำกว่านี้ จะได้เหมาะกับตำแหน่งพระเอกหนัง GV อนาคตไกล ไหนๆ ก็มีอาวุธบิ้กเบิ้มแล้ว   :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 03-08-2015 00:49:11
 :impress2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 03-08-2015 01:32:04
อยากอ่านคู่ฝุ่นกาย  :haun4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 03-08-2015 09:06:53
ชอบเรื่องนี้ค่ะ หื่นได้ใจ อิอิ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 03-08-2015 11:44:37
น่ารักมากกก

เหมือนจะดราม่าในตอนแรก

ตอนนี้ฟินมากก

หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 03-08-2015 18:55:43
 :laugh:พระเอกจีวี จู๋เล็กกว่าน้องได้ไง?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 03-08-2015 19:18:14
บอกตรงๆนะคู่ที่มันส์ที่สุดก็คู่ฝุ่น-กายนี่แหละ  ผลัดกัน o13
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ทดลองรัก บทที่ 5 >> 02/08/58 จบตอนแล่ววว
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 03-08-2015 19:47:58
โอ้ยยยยยย ฟินมากมาย รอเรื่องต่อไปค่า มาไวๆนะ
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 15-08-2015 21:27:10


                                                           เอาชีวิต

                                                           บทที่ 1



3000 ปีก่อนพุทธกาล


               ข้าบังคับให้ตนเองนิ่งงันอยู่บนคบไม้ขณะที่จ้องมองไปยังเบื้องล่าง หน้าอกข้างซ้ายขยับรัวเร็วราวกับกำลังตี

กลองหนังวัวด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นคนตัวผู้แปลกหน้าก้าวล้ำเข้ามาในเขตแดนแห่งเผ่าของข้า สายตาของมันลอกแลก

สอดส่ายพลางขยับก้าวอย่างระแวดระวังโดยไม่เฉลียวใจว่าการเคลื่อนไหวของมันอยู่ในสายตาของข้าที่ซ่อนตัวอยู่บนกิ่ง

ไม้ใหญ่เหนือหัวของมันอย่างเงียบสงบ


               มือของมันถือหอกอันหนึ่งไว้มั่น ปลายหอกเป็นสำริดตีหยาบจนข้าต้องกลั้นหัวเราะอย่างอดสูแทนมันที่มีฝีมือ

เพียงเท่านี้ในขณะที่ตัวข้าเองกำมีดอันหนึ่งไว้ในมือ มีดที่ข้าตีเองด้วยเนื้อแร่ตัวใหม่ที่ทั้งแข็งทั้งคมกว่าสำริดมากนัก เผ่า

ของข้าค้นพบมันเมื่อย้ายถิ่นฐานมาละแวกนี้ พวกเราเจอมันในถ้ำแห่งหนึ่งที่เลือกไว้เพื่อประกอบพิธีบูชาพระอัคนีเทพ

แห่งไฟที่พวกเรานับถือ พวกเรานำแร่นั้นมาทำอาวุธและเครื่องมือเพาะปลูกได้อย่างดีเยี่ยม เราตั้งชื่อมันว่า “เหล็ก”


               มันกำลังเหยียบย่างเข้ามาในเขตแดน ข้าซึ่งเป็นคนหนุ่มของเผ่าและได้ชื่อว่าแข็งแกร่งรวดเร็วที่สุดในคน

หนุ่มตัวผู้ที่รุ่นราวคราวเดียวกันจนกระทั่งมีแต่คนตัวเมียอยากได้ข้าไปเป็นคู่ ข้าจะไม่ยอมให้มันได้ล่วงล้ำเข้ามาให้เสื่อม

เสียชื่อเสียงของนาม “เสือดำ” อันเป็นชื่อของข้าอย่างเด็ดขาด


               ข้าจ้องมองมันทุกการเคลื่อนไหว จ้องมันทุกย่างก้าว รอคอยให้มันเข้ามาอยู่ในระยะที่ข้ามั่นใจ ดวงตาของข้า

เบิกกว้างและกลั้นลมหายใจสุดแรงเมื่อข้าทะยานลงจากกิ่งไม้ใหญ่ลอยละลิ่วสู่ผืนดินอันเต็มไปด้วยต้นไม้สูงเทียมฟ้า

กว่ามันจะรู้สึกตัวและเงยหน้ามองข้าก็ใกล้จนกระทั่งกระโจนใส่ร่างให้มันหงายหลังไปกับพื้นดินแข็งกระด้างโดยที่มีข้านั่ง

ทับแผงอกของมัน


               ดวงตาของมันเหลือกลาน ข้าจับความรู้สึกหวาดกลัวของมันได้เป็นอย่างดีมันต่อยหน้าของข้าได้หมัดหนึ่ง

ข้ามองมันด้วยดวงตาวาวโรจน์พร้อมกับคว้าหอกของมันขึ้นมาแล้วใช้ด้ามไม้ตรึงลำคอมันไว้จนมันไม่อาจส่งเสียงร้องได้

มันพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ข้าก็ไม่เปิดโอกาสให้มันต่อสู้ได้


               ข้าต่อยมันที่หน้าท้องจนมันสะดุ้งตัวงอ ข้าชิงโอกาสชกมันที่ต้นขาให้มันถ่างออกแล้วข้าก็ดันท่อนเนื้ออันแข็ง

แรงของข้าเข้าไปในร่องลึกของมันทันที


               “อ๊าหหหหหห”


               มันร้องโหยหวนเมื่อข้าล่วงล้ำ ท่อนเนื้อของข้าใหญ่โตกว่าคนตัวผู้ในเผ่าอันเป็นสิ่งที่ข้าช่างภูมิใจนัก ข้าไม่สน

ว่ามันจะเจ็บปวดสักเพียงไหนเมื่อข้าเสียบเข้าไปทีเดียวจนมิด ได้ยินเสียงร่องฉีกและกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งมันทำให้ข้า

ลิงโลดใจนักเมื่อเป็นฝ่ายได้เปรียบ ข้าเด้าท่อนเนื้อใส่มันในขณะที่มือก็ยังดันด้ามหอกกดคอมันไว้ และไม่นานหลังจาก

นั้นข้าก็เห็นดวงตาของมันเริ่มเปลี่ยนสี มันแดงก่ำไปด้วยความใคร่และกลายเป็นมันที่กัดฟันจนเลือดกลบปากแต่ในที่สุด

มันก็เริ่มพ่ายให้แก่ชั้นเชิงของข้า มันสวนเอวสู้ให้ข้าต้องคำรามราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังขย้ำเหยื่อ ข้าตั้งเข่าเด้าเอวจนมัน

หัวสั่นหัวคลอน ร่องลึกเริ่มบีบคั้นจนข้าเองก็ชักจะเสียวท้องน้อย มันปรือตาล่องลอยและขมิบท่อนเนื้อของเข้าสุดแรงเกิด


               “อึก ซี้ดดด”


               “อ่า ฮึก”


               ร่องลึกบีบรัดถี่เร็วยิ่งขึ้น ดวงตาของมันฉายแววสุขสมระคนหวาดกลัวเมื่อข้าดึงมีดที่เหน็บอยู่ตรงขอบแผ่น

หนังที่สวมปิดบังท่อนล่าง มีดที่ตีขึ้นจากเหล็กสะท้อนแสงวาววับเมื่อข้าเด้าเอวเข้าใส่เป็นครั้งสุดท้าย ท่อนเนื้อของมันพุ่ง

น้ำสีขาวขุ่นออกมาพร้อมกันกับที่ข้าเชือดด้านคมของมีดไปที่คอของมันจนเลือดพุ่งเป็นน้ำพุ ลมหายใจของมันจบสิ้นเมื่อ

มันสุขสมข้าเงยหน้าแล้วกู่ร้องออกไปเพื่อบูชาชัยชนะแด่พระอัคนี


               “เสือดำแข็งแกร่ง เสือดำไม่เคยแพ้”


               การทำให้ศัตรูได้สุขสมก่อนปลิดชีวิตคือการบูชาต่อพระอัคนีเจ้าแห่งไฟเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์แห่งพืช

พรรณ หากใครสามารถทำได้พวกเราเชื่อกันว่าเป็นการบูชาเทพเจ้าและประกาศศักดาของผู้ชนะ ข้ากู่ร้องสะท้อนหมู่ไม้

อย่างอหังการ์พร้อมทั้งขยับเอวใส่ร่างกายอันไร้ลมหายใจแล้วดึงท่อนเนื้อออกมาเพื่อปลดปล่อยหยาดหยดแห่งชัยชนะ

รดใส่ร่างกายของมันก่อนที่ข้าจะชันกายยืนอยู่เหนือซากศพที่ใบหน้าของมันสิ้นลมหายใจด้วยความสุขสมที่ข้ามอบให้


               เสียงสวบสาบดังมาจากด้านหลัง ข้ารีบหันขวับไปมองทันที คนตัวผู้อีกคนปรากฏกายอยู่ไม่ไกลนักมันจ้อง

ซากของพวกมันอย่างตกใจและสบตากับข้าด้วยนัยน์ตาแห่งเพลิงแค้น ร่างกายของมันล่ำสันกว่าพวกของมันที่ข้าเพิ่ง

ปลิดชีพหอกสำริดของมันงดงามวาววับจนข้านึกที่งในฝีมือที่มันตีขึ้นมา


               “สูฆ่าน้องข้า”


               มันคำรามลั่นก้องป่าพร้อมกับกระโจนร่างเข้ามาหา ปลายหอกฟาดเข้าใส่ข้าจนเสียหลัก ข้ารีบกวาดมีดที่ยังมี

คราบเลือดใส่มันถากต้นแขนอย่างน่าหวาดเสียว มันซัดด้ามหอกเข้าใส่ลำตัวจนข้าทรุดลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้นและตาม

ด้วยหมัดที่ชกเข้าใส่เบ้าตา ข้าหงายหลังลงไปนอนกับพื้นด้วยน้ำหนักหมัดที่ทำให้ข้าหน้ามึด ศัตรูคนใหม่กระโดดมานั่ง

ทับตัวข้าทันที


               “ข้าจะฆ่าสูสังเวยเทพอัคนีและแก้แค้นให้น้องของข้า”


               มันตะคอกด้วยใบหน้าโกรธขึ้งราวกับปีศาจ มือของมันกดลงมาที่ลำคอของข้าด้วยแรงมหาศาล ข้าพยายาม

จะอ้าปากสูดลมแต่ช่างยากเย็นเหลือเกิน


               “ไม่ อ๊าหหหห”


               สะดุ้งสุดตัวเมื่อมันกระแทกเข่าใส่ท่อนเนื้อที่ยังเปียกชื้นของข้า ข้าชันเข่าตัวงอด้วยความปวดร้าวแทบขาดใจ

และนั่นคือครั้งแรกที่ข้าเสียเชิงให้แก่คนตัวผู้คนนั้นเมื่อมันดันต้นขาข้างหนึ่งของข้าแล้วมันก็เสียบท่อนเนื้อของมันเข้ามา

อย่างรวดเร็ว


               “อะ...อึก”


               เจ็บ!


               ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าเจ็บจนยากที่จะร้องออกไป มันแสยะยิ้มอย่างสาแก่ใจที่ชำแรก

กายเข้าใส่ข้าได้เป็นคนแรก แค่มันเสียบเข้ามาครึ่งทางข้าก็แทบจะหมดลมหายใจและเมื่อมันเริ่มขยับเอวควานลึกข้าก็

เพิ่งจะได้ยินเสียงตัวเอง


               “อ๊ากกกกก”


               กระแทกอีกครั้งมันก็ดันเข้ามาจนถุงเนื้อส่ายก่อนที่มันจะขยับออกแล้วดันพรวดให้ข้าเด้งจนสุดตัว มันเองก็

กำลังกัดฟันเมื่อส่ายเอวเป็นวงกลมทำร้ายร่องลึกของข้าให้ปริแยก และมันยิ่งทำให้ข้าหวั่นวิตกเมื่ออยู่ๆมันก็ก้มหน้าลงมา

งับหัวนมของข้าเข้าไปในปากของมัน


               “ฮึก ฮึก”


               ข้ากัดฟันสั่นสะท้านเมื่อความเจ็บปวดจางลงแต่ทดแทนด้วยความต้องการประหลาดล้ำอันเป็นสัญญาณไม่ดี

เลยสักนิดเมื่อกลายเป็นว่าข้ากำลังต้องการให้มันนั้นเด้าเอวใส่ข้าให้มากขึ้นแรงขึ้น ข้าเผลอแอ่นอกให้มันรัวลิ้นจนน้ำลาย

ไหลย้อย มือที่ผลักไหล่มันเริ่มอ่อนแรงลงและเสียงที่เคยคำรามกลับกลายเป็นเสียงครางดังลั่นจนข้าตกใจ


               “รัดแน่นเหลือเกิน”


               มันคำรามลึกอยู่เหนือข้า เรียกสติของข้ากลับคืนมา


               “ไม่ได้ ข้าคือเสือดำผู้ไม่เคยพ่าย”


               กัดฟันง้างกำปั้นซัดใส่หน้าของมันจนหน้าหงายพลางยกตีนขึ้นถีบบ่าของมันสุดแรงเกิด มันหงายหลังจน

กระทั่งท่อนเนื้อหลุดออกจากร่องของข้าเสียงดังผลัวะ ความโหวงว่างเข้าจู่โจมจนใจหายก่อนที่ข้าจะกลั้นใจกระโจนเข้า

ใส่ร่างหนาของมันแล้วกดน้ำหนักจนมันต้องเป็นฝ่ายดิ้นรนอยู่ใต้ล่างข้าบ้าง


               “นามของสูคืออะไร”


               ข้าตะคอกถาม มันเบิกตาวาวมองข้า


               “นามของข้าคือม้าขาว จำไว้ให้ดีก่อนที่สูจะตาย”


               “ไม่มีทาง เสือดำต่างหากที่จะปาดคอสู”


               ม้าขาวถ่มน้ำลายรดหน้าข้า มันเงื้อหมัดจะชกข้าจึงรีบเบี่ยงหน้าหลบ เรายื้อยุดกันไปมาและข้าเริ่มได้เปรียบ

ข้าคว้าข้อมือของมันตรึงกางแขนลงไปกับพื้นดินและออกแรงเบียดลงไปจนร่างของเราเสียดสีร้อนผ่าว ใบหน้าของเรา

ใกล้กันจนได้กลิ่นกายคนตัวผู้ของกันและกัน ข้ารู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารด มันและข้าสบตาท้าทายซึ่งกันและ

ในที่สุดข้าก็ก้มหน้าลงไปดูดลมหายใจจากปากของม้าขาว


               “อะ...อึก”


               ม้าขาวพยายามจะส่ายหน้าหนีแต่ข้าก็ยิ่งตามติด ข้าออกแรงดูดลมหายใจของมันจนต้องฉกลิ้นเข้าไปในปาก

ของมันและอยู่ๆข้าก็ต้องตกใจเมื่อลิ้นของข้าสัมผัสกับลิ้นของหยุ่นชื้น ความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างก็พุ่งเข้ามาให้

ข้าลืมตัวตวัดลิ้นอุ่นของม้าขาวเป็นพัลวัน


               “อื้มมม” 


               แรงต่อสู้ของม้าขาวถดถอย แต่ข้าเองก็ลืมตัวเช่นกันเมื่อม้าขาวมันตวัดลิ้นของข้ากลับ ม้าขาวชันเข่าหนีบร่าง

ข้าไว้และข้าก็กดเอวลงไปแทงท่อนเนื้อเข้าใส่ร่องลึกของมัน


               “อะ ฮึก”


               มันถดเอวหนีข้ายิ่งตามติด เสียงร้องของมันถูกข้าดูดไว้จนหมดความคับแน่นของร่องลึกบีบท่อนเนื้อของเข้า

จนเสียวสะท้าน มันช่างเร่งเร้าให้ข้าเด้าเอวเข้าใส่จนได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่น ม้าขาวยกเอวลอยคว้างให้ข้าสอด

ลึกสุดลำเราทั้งสองกอดก่ายกันอยู่กลางดินไม่ไกลซากศพของน้องชายมัน เสียงลมหายใจถี่กระชั้นเมื่อเราสบตาด้วย

ความต้องการที่กำลังทะยานอยาก


               “เสือดำ อึก ฮัก”


               “อา...ม้าขาว”


               ร่องลึกบีบคั้นเหลือเกิน ข้ารู้ว่าเราทั้งคู่กำลังจะปลดปล่อย ข้าคว้ามีดเหล็กขึ้นมากระชับมือจ่ออยู่ตรงคอของ

มัน แต่เพราะอะไรนะข้าถึงไม่กล้าที่จะเชือดลงไป


               “ไม่ อา อีกนิด”


               มันเกร็งร่างตะโกนลั่นในขณะที่ข้าส่งเสียงกู่ร้องแล้วเด้าเอวทั้งเร็วและแรง ม้าขาวปรือตาส่ายเอวรับและใน

ที่สุดมันก็บิดตัวฉีดน้ำคาวใส่เอวข้า ส่วนข้าเองก็แช่ค้างพุ่งน้ำคาวใส่ร่องลึกของมันทั้งที่มือกำมีดอยู่ตรงคอ


               เชือดสิ รออะไร!


               ความคิดของข้าสั่งแต่มือกลับไม่กล้าม้าขาวสบตาหวามไหวปะปนแค้นเคือง มันเรียกร้องให้ข้าก้มหน้าลงไป

ดูดปากของมันอีกครั้ง มันเงยหน้ารับและแย่งกันดูดปากจนกระทั่งเสียงกู่ร้องของพวกข้าดังแว่วมาแต่ไกล


               ม้าขาวผลักร่างของข้าออกจนกระเด็น มันกัดฟันลุกขึ้นยืนมองข้าสลับกับร่างไร้ลมหายใจของน้องมัน ก่อนที่

มันจะรีบกระโจนกลับไปยังด้านที่มันจากมาโดยที่ข้าเองกลับปล่อยให้มันหนีหายไปโดยที่ยังมีลมหายใจอยู่


               “เกิดสิ่งใดขึ้น”


               พวกของข้ากลุ่มหนึ่งมาถึงในอีกไม่ช้า เมื่อเห็นซากของคนต่างเผ่านอนอยู่กลางพื้นพวกมันก็โห่ร้องให้ข้า


               “สูเก่งกล้าเหลือเกินเสือดำ สูเชือดคอมันบูชาพระอัคนีได้อีกแล้ว”


               “แต่พวกมันกล้ามาหยามพวกเราถึงเผ่า เราต้องกลับไปบอกพ่อเฒ่าแล้วพวกเราจะไปจัดการพวกมันให้สิ้น

ซาก”


               คนตัวผู้อีกคนกล่าวขึ้น มันทำให้ข้านึกหนักใจขึ้นมาครามครัน


               นี่ข้าจะต้องปลิดลมหายใจของม้าขาวจริงๆงั้นรึ
                               
               


              ----------------------------------------- TBC------------------------------------------


เค้าขอกลับมาอินดี้อีกสักเรื่องน้า.... :hao5: :hao5: :hao5:




ขายของจ้า
น้ำใสของผม น้ำข้นน่ะของเขา และ เกมพิศวาสซาตานร้าย เปิดให้สั่งซื้อแล้วนะคะ
อ่านรายละเอียดที่นี่จ้า ขายนิยาย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48205.0)




หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 15-08-2015 21:36:10
สลับเรอะ - -"
คล้ายๆ เรื่องมวยปล้ำในซีซั่นหนึ่งเลยอ่ะ -..-
รอน้า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-08-2015 22:36:45
 :haun4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 16-08-2015 01:55:46
ตอนนึ้ไม่รู้ว่าจะเม้นท์อะไรเลย  เอิ่มมมมมม
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 16-08-2015 01:59:43
นิยามของเรื่องนี้ก็คือ ผลัดกันกดอย่างแท้จริง

ชื่อพวกนางทำเอาเราจิ้นเป็นภาพม้าขาวกับเสือดำจริงๆ  ไม่หื่นเท่าไหร่เลยนะยายป้านี่  :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 16-08-2015 02:41:15
วิ่งไปซื้อทิชชู่ด่วนๆ :pighaun:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 16-08-2015 02:42:56
ต่างคนต่างเสียดายกันสินะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: heroza ที่ 16-08-2015 03:21:39
แต่ละเรื่องนี้ทำให้ตื่นเต้นตลอดๆ รอติดตามต่อไปจร้า :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-08-2015 09:08:03
เรื่องใหม่มาแล้ว~
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 16-08-2015 10:02:45
เออะ อินดี้สมกับที่บอกจริงๆค่ะ แต่ก็สนุกนะ ฮี่ๆ รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-08-2015 10:55:51
ช่างเป็นการบูชายัญที่เลือดท่วมจอ...
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-08-2015 11:20:09
 :katai2-1:   ดุเดือดดดด
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 16-08-2015 11:27:51
เสือดำปะทะม้าขาว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mississippi ที่ 16-08-2015 11:57:23
ตอนนี้มันช่างเถื่อนได้ใจ อร้ายยยยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 16-08-2015 14:03:49
โห่ว ดุเดือดเลือดพล่านมากๆ  :z13:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 1 >> 15/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 18-08-2015 19:46:57
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย

เจ็บแทนนนน

ใ่ส่กันไม่ยั้ง
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 29-08-2015 01:00:00


                                                              เอาชีวิต

                                                               บทที่ 2



               ฝ่ามือหนาหนักฟาดเผียะเข้าใส่ใบหน้าจนกระทั่งเลือดสีแดงไหลซึมกบปากแต่ข้ายังคงนิ่งงันแม้ว่าจะเจ็บปวด

ปานใด ได้แต่เงยหน้ามองเจ้าของฝ่ามืออย่างแค้นเคืองที่มันลงโทษข้าท่ามกลางสายตาของคนในเผ่าที่ห้อมล้อมมองข้า

เป็นตาเดียว


 
             “สูทำให้คนของข้าต้องตาย”



              เสียงตะคอกก้าวร้าวอยู่เหนือหัวของข้าดังมาจากคนที่ยืนค้ำหัวในขณะที่ข้าถูกบังคับให้นั่งคุกเข่าด้วยคนหนุ่ม

ของมันเมื่อข้ากลับมาพร้อมข่าวการตายของน้องชายข้าที่เป็นคนโปรดของมัน ไอ้กระทิงใหญ่หัวหน้าเผ่าคนที่ผ่านหน้า

ฝนมากว่าสี่สิบปี



              “ข้าเองก็เสียใจที่ต้องเสียม้าลายไป อย่านึกว่าสูจะเป็นผู้สูญเสียฝ่ายเดียว”


               ข้าเถียงมันกลับอย่างชิงชังและสิ่งที่ได้รับกลับมาคือฝ่ามือที่ฟาดมายังใบหน้าอีกข้างจนมันชาดิกเท่าเทียมกัน

ข้าสะบัดหน้าไปมาเพื่อขับไล่ความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ

              เจ็บปวดที่ทำอะไรมันไม่ได้ตั้งแต่ยังเป็นคนอ่อนร่างเล็กเมื่อเกือบสิบปีก่อน ข้าต้องทนเห็นมันบูชายัญพระอัคนี

ด้วยร่างของพ่อข้าที่เป็นพี่แท้ๆของมันและช่วงชิงขึ้นมาเป็นหัวหน้าเผ่าแทนพ่อของข้าที่สิ้นลมด้วยน้ำมือของมันในคืนวัน

จันทร์เต็มดวง พ่อของข้าที่คนในเผ่าเคารพยำเกรงแต่ในวันหนึ่งกลับถูกน้องชายแท้ๆใช้กำลังที่มีมากกว่าเข้าจู่โจมด้วย

ต้องการเป็นใหญ่


               กระทิงใหญ่ต่อสู้กับพ่อของข้าและเอาชนะได้ในที่สุด ข้ายังจำเหตุการณ์นั้นได้ติดตาเมื่อข้าเป็นคนอ่อนผ่าน

หน้าฝนมาได้แค่สิบปี ข้ากอดม้าลายน้องชายของข้าที่ได้แต่ซุกหน้าอยู่กับอกท่ามกลางไฟร้อนสูงท่วมหัวกลางลานดิน

ของเผ่า กระซู่ลมพ่อของข้าถูกมัดกางแขนขาขึงพืดอยู่กับเสาไม้สองต้นที่ปักคู่กัน พ่อเชิดหน้าสูงอย่างไม่หวาดหวั่นแม้

จะรู้ว่าความตายรออยู่เบื้องหน้า กระทิงใหญ่ยืนจังก้ากวาดสายตามองคนในเผ่าที่จ้องมองมันอย่างเกรงกลัวก่อนจะหยุด

มองพ่อของข้าแล้วแสยะยิ้ม


               “ยอมรับเถิดกระซู่ลมว่าสูสู้ข้าไม่ได้แม้ว่าสูจะเกิดก่อนข้า”


               พ่อข้าพ่นน้ำลายใส่หน้ามัน


               “หากสูไม่ใช้ทีเผลอข้าก็คงไม่เสียที สูมันคนขี้ขลาด”


               กระทิงใหญ่เบิกตาวาวเนื้อตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ มันหันกลับมาประกาศก้องให้คนในเผ่าได้ยินถ้วนทั่ว


               “จงดูข้าคนทั้งหลาย ด้วยความแข็งแกร่งของข้าจึงโค่นกระซู่ลมหัวหน้าเผ่าลงได้ ข้าจะลงโทษความอ่อนแอ

ของมันด้วยการใช้มันบูชาแด่พระอัคนีเบื้องหน้า”


               มันหันขวับกลับไปหาพ่อของข้าแล้วกระชากแผ่นหนังเสือโคร่งที่พ่อใช้ห่อกายเบื้องล่างจนเหลือแต่ร่างกาย

เปลือยเปล่ามีเพียงรอยยางไม้ที่พ่อของข้าวาดลวดลายไว้ตามลำตัวก่อนที่มันจะขยับเข้าประชิดและคว้าท่อนเนื้อของพ่อ

ไปอยู่ในอุ้งมือ


               “จงดูข้าพระอัคนีอันยิ่งใหญ่ ข้าจะส่งลมหายใจของมันเพื่อสักการะแด่ท่าน”


               ข้าสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นมันก้มหัวลงกัดที่ซอกคอของพ่อ มือข้างหนึ่งบีบท่อนเนื้อพ่อจนหน้าเขียวส่วนอีกข้างก็

บีบเค้นหัวนมของพ่อแล้วขยำจนพ่อร้องลั่น มือของพ่อกำเถาวัลย์ที่ใช้มัดและเกร็งร่างบิดเบี้ยว แม่ของข้าที่กอดข้าและ

ม้าลายร่ำไห้ออกมาอย่างอดสูและสงสารผัวเมื่อกระทิงใหญ่จับท่อนเนื้อของมันกับพ่อรูดรั้งเข้าด้วยกันจนมันเพิ่มขนาดขึ้น

มา พ่อกัดฟันทนที่จะไม่ส่งเสียงครางให้ใครดูถูก


               “ฮะ ฮ้า เก่งเหลือเกินกระซู่ลมพี่ข้า สู้อุตส่าห์อดทนเพราะเกรงเสียงหยาม ไหนลองมาดูทีว่าถ้าเจอของจริงสู

จะทนได้เยี่ยงไร”


               “อย่า!”


               เป็นข้าที่ตะโกนออกไปด้วยความสงสารพ่อ แม้น้ำตาจะพร่าเลือนแต่ความทรงจำกลับเด่นชัดเมื่อมองเห็น

กระทิงใหญ่หันมาแสยะยิ้มให้ข้า และแล้วมันก็จับท่อนเนื้อของมันดันพรวดเข้าใส่ร่องลึกของพ่อข้า


               “อะ อึก อ๊า”


               พ่อกลั้นเสียงแห่งความเจ็บปวดไม่ไหว ร่างกายที่ถูกมัดลอยอยู่กลางอากาศสั่นสะท้านจนเถาวัลย์ไหว กระทิง

ใหญ่เงยหน้าคำรามอย่างสะใจมันใช้มือสากของมันยึดสะโพกพ่อไว้เมื่อมันเด้าเอวเข้าใส่อย่างไม่ปรานี คนในเผ่าก้มหน้า

กัดฟันอย่างเกรงกลัวกับความดุร้ายของมัน เลือดสีแดงไหลรินจากร่องลึกลงมาตามต้นขาของพ่อจนข้าแทบจะขาดใจ

เมื่อมองเห็น


               “ม้าขาวจงดูแลแม่และน้องให้ดี ฮัก ฮัก อะ อ๊า”


               ร่างของพ่อบิดไปมา กล้ามเนื้อทุกสัดส่วนเกร็งเร่าอย่างเห็นได้ชัด กระทิงใหญ่เร่งเอวเข้าใส่ทั้งเร็วและแรงมัน

หัวเราะร่าพลางคว้ามีดสำริดที่เหน็บบั้นเอวออกมาชูขึ้นชี้ไปทางพระจันทร์เต็มดวง


               “ร่างของพี่ข้าช่างทำให้สุขสมเหลือเกินโว้ย พระอัคนี้จงดู ณ บัดนี้ ข้าจะสังเวยลมหายใจของกระซู่ลมแด่

ท่าน”


               “อ๊า...ม้าขาว ม้าลาย”


               ลมหายใจสุดท้ายเมื่อกล้ามเนื้อบิดเกร็ง พ่อของข้าเบิกตาโพลงเมื่อท่อนเนื้อพุ่งน้ำคาวออกมาทันใดนั้นไอ้

กระทิงใหญ่ก็ปาดคมมีดลงไปที่คอหอย เลือดสีแดงฉานของพ่อไหลพุ่งยิ่งกว่าน้ำพุออกมาใส่ร่างของของมันก่อนที่มันจะ

เด้าเอวเข้าใส่ร่างของพ่อข้าอีกครั้งและชักมันกลับออกมาปลดปล่อยหยามเหยียดร่างอันไร้ลมหายใจของพ่อข้า เสียงกู่

ร้องลั่นป่ากรีดลึกเข้าไปในหัวใจของข้าและม้าลายที่ร้องไห้อยู่กับอกของข้า กระทิงใหญ่หันกลับมามองคนในเผ่าที่พากัน

เงียบกริบจนได้ยินเสียงลมหวีดหวิวบาดใจ


               “บัดนี้หัวหน้าเผ่าของพวกสูคือข้า ทุกอย่างที่เคยเป็นของกระซู่ลมจะกลายเป็นของข้าแม้แต่ลูกเมียของมัน

รวมถึงพวกสูที่ต้องยำเกรงข้ายิ่งกว่าที่เคยยำเกรงกระซู่ลม”


               แม่กอดข้าและน้องแน่น นางจูบลงที่ขมับของข้ากับม้าลายพลางมองกระทิงใหญ่อย่างเคียดแค้น และนางก็

ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเมื่อแม่วิ่งตรงไปที่กองไฟและปล่อยให้เปลวไฟร้อนแรงแผดเผาร่างกายท่ามกลางความตกใจ

ของทุกคนแม้แต่กระทิงใหญ่ที่กัดฟันมองร่างของแม่ข้าที่ทุรนทุรายจนขาดใจอยู่ในกองไฟสูงเทียมแผ่นฟ้าสีดำสนิท


               หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นหัวหน้าเผ่าคนใหม่ที่คนในเผ่าต้องยอมมันด้วยความเกรงกลัวไม่ว่ามันจะต้องการ

สิ่งใด คนตัวเมียรุ่นสาวถูกมันจับไปทำเป็นแม่พันธุ์หลายต่อหลายคนหากมันพึงใจโดยไม่สนว่าคนตัวเมียคนนั้นจะมีผัวอยู่

แล้ว หรือแม้แต่คนตัวผู้หลายคนก็ถูกมันบังคับให้สมสู่กับมันรวมถึงม้าลายเมื่อน้องของข้าเติบโตมาเป็นคนหนุ่มด้วยแม้ว่า

ม้าลายจะเป็นลูกของพี่ชายก็ตาม


               ความจริงแล้วกระทิงใหญ่ก็ต้องการตัวข้าเช่นกัน หากแต่เพราะข้ามีสิ่งที่เป็นข้อต่อรองที่มันไม่อาจขัดได้นั่น

คือฝีมือในการตีสำริดของข้า อาวุธจากมือข้าดีที่สุดจากฝีมือของคนในเผ่าจนข้าใช้มันเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนหากมันบังคับข้า

ก็จะไม่ยินยอมตีสำริดให้มัน แต่ข้าก็ไม่อาจช่วยเหลือม้าลายได้เมื่อในช่วงหนึ่งที่ข้าออกไปหาแร่สำริดในถ้ำลึกหลายวัน

พอกลับมายังเผ่าจึงได้รู้ว่ากระทิงเปลี่ยวใช้เวลาที่บังคับให้ข้าออกไปหาแร่นั้นเข้าครอบครองร่างกายที่เพิ่งพ้นเข้าสู่คน

หนุ่มของม้าลายเสียแล้ว


               ม้าลายกลายเป็นที่โปรดปรานของกระทิงเปลี่ยวมากกว่าคนหนุ่มผู้อื่น ข้าต้องทนมองน้องของข้าที่กลับมา

อย่างบอบช้ำทุกครั้งเมื่อถูกเรียกตัวไปให้กระทิงเปลี่ยวสมสู่ ม้าลายนอนร้องไห้อยู่สองหน้าฝนจนกระทั่งในที่สุดม้าลายก็

ทนไม่ไหวอีกต่อไป


               “เราจะทนกันแบบนี้ไม่ได้แล้วม้าขาว”


               “ข้าขอโทษดูแลสูไม่ได้อย่างที่พ่อฝากไว้”


               ข้าอดสูใจในความอ่อนแอของตัวเองเหลือเกิน น้องของข้ากลับมองอย่างเห็นใจ


               “สูไม่ผิดหรอก ไอ้กระทิงใหญ่มันดุร้ายจนไม่มีใครกล้าสู้ ลำพังสูคนเดียวจะโค่นมันลงคงจะยาก คนในเผ่าก็

กลัวมันจนหัวหดทุกคน”


               “เราต้องหนี”


               ข้าตัดสินใจ ม้าลายมองข้าอย่างสนเท่


               “หนีไปที่ใดจึงจะพ้นจากมัน”


               “หนีอย่างเดียวไม่พอเราต้องหาหนทางต่อสู้กับมันด้วย ข้าไปเจอถ้ำแห่งหนึ่งไกลออกไปจากที่นี่ มันมีแร่ตัว

ใหม่ที่ข้าเพิ่งเคยเห็น ข้าลองแอบเก็บมาตีแล้วมันเป็นอาวุธที่ใช้ได้ดีมาก”


               ข้าหยิบมีดอันเล็กที่ตีขึ้นจากแร่ตัวใหม่ให้ม้าลายดู ม้าลายผลิรอยยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง


               “เราจะไปที่นั่นและตีอาวุธมาสู้กับมัน”


               ม้าลายวางแผนให้ข้าไปรอในคืนวันหนึ่งที่กระทิงใหญ่เรียกให้น้องข้าไปที่กระโจมใบไม้ของมัน ข้าซุ่มรออยู่

ในพุ่มไม้ไม่ไกลนัก มองเห็นร่างตะคุ่มของม้าลายกำลังขึ้นคร่อมอยู่บนไอ้กระทิงเปลี่ยวที่นอนหงายให้น้องข้าปรอเปรอ

มันอยู่ ข้ากัดฟันมองอย่างเจ็บช้ำ


               “มีแรงแค่นี้หรือไง ขย่มแรงๆสิวะ”


               เสียงขู่ตะคอกดังลั่น ม้าลายที่นั่งอยู่บนเอวของกระทิงใหญ่และมีท่อนเนื้อของมันเสียบคาร่องลึกต้องออกแรง

บดเบียดเค้นคลึง น้องข้าร้องลั่นเมื่อกระทิงใหญ่เอื้อมมือมาบิดหัวนมจนเป็นรอย


               “ร้องดังๆข้าชอบ ฮะฮ่า


               ข้าต้องหลับตาลงด้วยความสงสารได้ยินแต่เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นจากกระโจมนั่น พักใหญ่กว่าที่ม้าลาย

จะออกมาหาด้วยใบหน้านองน้ำตา


               “เรารีบไปกันเถิดม้าขาว ไอ้กระทิงใหญ่หลับไปแล้ว”


               ฉวยโอกาสตอนกระทิงใหญ่หลับใหลและเพราะความชะล่าใจข้ากับม้าลายจึงได้ลอบหนีมายังทิศที่ข้าจดจำ

ได้ว่าเคยพบแร่วิเศษ แต่ข้าไม่นึกว่าจะมีคนจากเผ่าอื่นมาครอบครองในแถบนี้จนกระทั่งมาพบไอ้เสือดำที่ปลิดชีวิตน้อง

ข้า ข้าซมซานหนีพวกมันราวกับหนีเสือปะจรเข้เมื่อในที่สุดกระทิงใหญ่กับคนของมันก็ตามรอยข้าจนพบและจับข้ากลับ

มายังเผ่าอย่างผู้สูญเสียทุกอย่าง มันจับข้ามัดมือไพล่หลังและนั่งคุกเข่าต่อหน้าทุกคน


               มันจิกผมข้าจนหน้าหงายพลางมองข้าอย่างโกรธแค้น


               “ไอ้ม้าขาวบังอาจพาคนของข้าไปตาย มันจะต้องถูกลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง”


               มันเปิดหนังเสือดาวแล้วดึงท่อนเนื้อออกมาพลางบีบกรามข้าให้เปิดอ้ากว้างก่อนจะดันท่อนเนื้อเข้ามาในปาก

ของข้า ความรุนแรงทำให้ข้าต้องโก่งคอแต่กระทิงใหญ่ก็ยังกดมันเข้ามากระแทกทั้งลำคอและโพรงปาก ข้านึกอยากจะ

กัดฟันลงมาให้มันขาดวิ่นแต่ดูเหมือนกระทิงใหญ่จะเดาใจข้าได้ มันยิ่งดึงผมของข้าให้แหงนรับและบีบคางด้วยมือที่แข็ง

ราวกับหิน มันเด้งเอวใส่ปากข้าอวดคนทั้งเผ่าจนกระทั่งมันเงยหน้าส่งเสียงกู่ร้องแล้วอัดน้ำคาวรสขมใส่ปากบังคับให้ข้า

กลืนมันลงไปอย่างสะอิดสะเอียน


               มันทิ้งร่างข้ากับพื้น ข้าโก่งคออ้วกด้วยความรังเกียจ


               “ใครที่คิดลองดีกับข้าจะต้องเจอเยี่ยงนี้ ไอ้ม้าขาวจะถูกกักขังเพื่อรอสังเวยร่างกายให้ข้าแทนน้องของมันเมื่อ

ข้าต้องการ”


               ไม่!


               ข้าดิ้นพล่านกับคำประกาศของกระทิงใหญ่ คนของมันจับข้ามาขังไว้ในกรงไม้ขนาดสูงท่วมหัวที่อยู่ด้านหลัง

เขตที่พัก ข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความยินดีในลมหายใจของข้า


               แต่แล้วเมื่อดวงอาทิตย์หมุนเวียนเพียงไม่กี่เพลา ข้าที่นั่งชันเข่าอยู่ภายในกรงไม้อย่างทอดอาลัยก็ต้องสะดุ้ง

อย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงโห่ร้องดังไปทั่วเขตแดนของเผ่า ข้าชันกายเกาะกรงไม้มองภายนอกอย่างงงงันเมื่อไม่รู้ว่าเกิด

อะไรขึ้นกันแน่ และไม่นานหัวใจของข้าที่ใกล้จะหยุดเพราะความเสียใจก็พลันโลดแล่นด้วยความแค้นเมื่อเห็นร่างหนึ่ง

ปรากฏหายอยู่หน้ากรงขัง


                มันคือไอ้เสือดำ!
               


              TBC


 :ling2: :ling2:    โหดขนาดนี้ อ่านกันไหวไหมเนี่ย  ใครไม่ชอบแนวนี้ต้องขออภัยนะคะ :mew5: :mew5:







หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 29-08-2015 01:29:37
อินดี้สะใจเลยค่ะ   แต่ก็โอเคนะ  คือเขียนได้น่าสนใจดี

พ่อของม้าขาวเสร็จสมก่อนตายได้ด้วยหรือคะ?  คือคิดว่าแค่โดนกระทุ้งก็น่าจะเจ็บเจียนตายแล้ว  หรือว่าเราอ่านแล้วเข้าใจผิด?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 29-08-2015 03:03:24
 o22  ได้แต่เอ่มือทาบอกแล้วร้องว่า " อุต๊ะ "

ตกใจมากที่ เจอความอินดี้ของคนเขียนเช่นเธอว์

ใช้วิธีนับปีเป็นหน้าฝน เอาตรงๆ อ่านตอนแรก ร้องเอ๊ะ ไรวะ พิมผิดหลอ ย้อนไปอ่านใหม่ก็ เอ๋ออออ คือการนับปี โอ๊ยยย ชอบๆๆๆ แต่ถามก่อนเค้าจะรักกันได้หลอ ในเมื่อ พี่เสือดำฆ่าน้องม้าลายนินา  :hao4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 29-08-2015 07:24:49
อินดี้จริงๆ เรื่องนี้ =[]=
เสือดำโผล่มาช่วยเหรอ? รึว่าจะยึดเผ่านี้อยู่แล้ว?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-08-2015 08:31:38
เสือดำมาทำไม!?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 29-08-2015 09:00:15
อ๊ากกกกกก ค้างงงงงง :katai1: :katai1: เสือดำมาทำไมอะมายึดเผ่าหรือมาช่วยหรือติดใจ อะไรยังไงเนี่ย แต่ไม่ว่ายังไงจัดการไอ้หัวหน้าเผ่าเลวๆนั่นให้ที  :m16:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-08-2015 11:20:36
เสือดำมาช่วยใช่ไหม หึหึ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-08-2015 12:00:35
โหดร้ายกันจัง 

เสือดำมาตามหาคู่ใช่มั๊ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-08-2015 14:00:54
เสือดำจะทำให้ชีวิต(แสนรันทด)ของม้าขาวดีขึ้นหรือแย่ลงกันนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 01-09-2015 01:23:20
กระทิงบอกเลย ไม่ตายดีแน่  :angry2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 01-09-2015 10:51:34
 :impress2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 07-10-2015 11:58:54
โอ้วววว อิดี้ไปไหนเนี้ย
เรื่องนี้แลดูมาม่ามากอ่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 2 >> 29/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 08-10-2015 20:47:21
โอ้ว สงสารม้าลาย แต่ว่าน่าจะมายึดเผ่ามากกว่า นานๆ ทีมีพล็อตแปลกๆ แบบนี้ ก็ดีนะ
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-10-2015 22:24:59


                                                           เอาชีวิต

                                                            บทที่ 3


               ร่างที่นั่งซุกหน้าลงกับเข่าที่ตั้งชันขึ้นของม้าขาวถลาเข้าจับยึดกรงไม้อย่างรวดเร็ว มันเบิกตาถลนเมื่อมองเห็น

ข้าพลางส่งเสียงคำรามเคียดแค้น ข้านิ่งงันแวบหนึ่งก่อนตัดสินใจใช้มีดเหล็กของข้าฟันลงไปกับเถาวัลย์ใหญ่เหนียวที่มัด

ปิดทางเข้ากรงไม้ และทันทีที่ทางเข้าถูกเปิดออกม้าขาวก็กระโจนออกมาจนข้าหงายหลัง


               “หยุดก่อนม้าขาว”


               ข้าชิงเอ่ยห้ามแต่มันมิได้สนใจ กลับใช้มือบีบคอจนข้าถึงกับสำลัก ดวงตาของมันปูดโปนด้วยความชัง


               “ข้าจะฆ่าสู”


               “แต่ข้ามาเพื่อช่วยสู”


               ข้าเอ่ยออกไปอย่างลำบากยากเย็นเพราะมือของมันเค้นคอข้าไว้ ม้าขาวโกรธแค้นข้าจนไม่ยอมรับฟังข้อความ

ใดๆอีกจนข้าตัดสินใจยกเข่าขึ้นกระแทกแผ่นหลังของมันจนม้าขาวหน้าคว่ำกลิ้งออกไปจากตัวข้า ข้ารีบพลิกตัวกลับแล้ว

หมอบต่ำรอให้ม้าขาวยันกายลุกขึ้นมาจากนั้นข้าก็ทะยานเข้ากดทับร่างของมันอย่างรวดเร็ว


               “หนีไปกับข้า หาเช่นนั้นสูจะถูกปาดคอจากคนตัวผู้จากเผ่าของข้า”


               ม้าขาวชะงักงัน  มันเงยหน้าสบตาข้า


               “สูเอ่ยอะไร เผ่าของสู หมายความว่า...”


               “ใช่ เป็นเพราะสูและน้องล่วงล้ำเข้าเขตแดนของเผ่าข้า ตอนนี้พ่อเฒ่าผู้นำเผ่ากำลังพาผู้คนมากมายมาบุกเผ่า

ของเจ้า”


               สิ้นเสียงคำที่ข้าเอ่ยม้าขาวจึงนิ่งงัน พลันได้ยินเสียงต่อสู้และเสียงครางระงมโหยหวนดังเข้าหูจากเขตพัก

กลิ่นควันไฟลอยละล่องเข้าจมูกจนแสบฉุนไปหมดยืนยันคำเอ่ยของข้าได้เป็นอย่างดี เผ่าของข้าไล่ขยายอาณาเขตมา

นานแล้วจนกลายเป็นเผ่าที่เข้มแข็งเลื่องลือหามีใครกล้าต่อสู้ด้วย


               “ปาดคอข้าเสีย ข้ายินดีจะไปสู่แดนมรณะกับพี่น้องเผ่าข้า”


               ม้าขาวดิ้นรนไปมา แต่อาจเป็นเพราะความโหยแห้งที่ถูกกักขังเป็นเพลานานทำให้กำลังของม้าขาวถดถอยลง

ไป


               “เงียบนะม้าขาว นี่สูอยากให้ใครอื่นได้ยินเสียงว่าข้ามาช่วยสูรึ รู้หรือไม่ว่าหากถูกจับกุมจะเกิดอันใดกับสูบ้าง”


               ข้าตะคอกมันเสียงต่ำเพื่อปรามไว้แต่ดูเหมือนม้าขาวจะไม่ฟังข้าแม้แต่นิดเดียว ข้าก้มหน้าลงไปปิดปากมัน

ด้วยปากของข้า


               “ปล่อยข้านะเสือดำ อึก อะ...”


               ข้าดูดเสียงมัน ลิ้นของข้าตกเข้าไปในปากของมัน ลิ้นของเราต่อสู้พัลวันกันอยู่แต่มันกลับสร้างความรู้สึก

รัญจวนให้ข้าอย่างประหลาดล้ำ ม้าขาวก็คงรู้สึกเยี่ยงเดียวกันเพราะกลายเป็นแรงดิ้นรนขัดขืนลดน้อยถอยลงจนกลายเป็น

นอนนิ่งอยู่กลางผืนดิน ความต้องการบางอย่างวิ่งวนไปมาอยู่กลางท้องของข้า มันทำให้ข้าต้องการร่างกายของม้าขาว

เหลือเกิน


               “อย่า...”


               เสียงห้ามดังแค่แผ่วๆจากม้าขาวเมื่อข้ากดสะโพกลงไปให้มันเปิดทาง ท่อนเนื้อของข้าร้อนวูบวาบไปทุก

สัดส่วนเมื่อข้าแหวกหนังสัตว์ออก จากนั้นข้าก็ดันมันเข้าไปในร่องลึกของม้าขาว


               “อื้อ ไอ้เสือดำ ปละ ปล่อย”


               ลมหายใจของม้าขาวพ่นใส่หน้าของข้า มันร้อนและแรงไปด้วยความกำหนัด ร่างกายของมันเกร็งรับจนยากที่

ข้าจะดันท่อนเนื้อเข้าไปได้หมดจนข้าหงุดหงิด


               “ปล่อยให้ข้าล่องเข้าไปในตัวเจ้าเดี๋ยวนี้ ม้าขาว!”


               “ไม่!”


               มันตะคอกกลับ ข้าโกรธมันจนต้องก้มหน้าลงไปกัดหัวนมของมัน ม้าขาวส่งเสียงร้องลั่นพลางแอ่นอกของมัน

ขึ้นมา ข้าเม้มปากลงดูดดึงหัวนมของมัน ยิ่งข้าทำเช่นนั้นม้าขาวก็ยิ่งส่งเสียง ร่องลึกเปิดรับข้าโดยที่ม้าขาวไม่รู้ตัวและใน

ที่สุดข้าก็แทงมันเข้าไปจนหมด ความคับแน่นของร่องลึกทำให้ข้าอึดอัดอย่างยิ่ง ข้าไม่รอช้าที่จะเด้าเอวใส่มันด้วยความ

ฮึกเหิม


               “โอ เทพอัคนี ฤาสวรรค์จะเป็นเยี่ยงนี้”


               รสชาติของความเสียวซ่านพุ่งพรวดสู่ข้าอย่างไม่เคยเจอมาก่อน ดวงตากลมโตของม้าขาวฉ่ำไปด้วยน้ำระคน

ชิงชังเมื่อข้ายังคงเด้าเอวใส่ร่างโหยแห้งของมัน


               “ฮึก ฮึก ปาดคอข้าเสียให้สิ้นความอัปยศ เสือดำ”


               ม้าขาวตะคอกเสียงกระเส่าในขณะที่เราทั้งคู่กำลังบีบคั้นเต็มที เสียงฝีเท้าของคนตัวผู้กลุ่มหนึ่งวิ่งตรงเข้ามา

อย่างรวดเร็วจนข้าต้องรีบทำทีใช้มีดเหล็กจ่อที่คอหอยของม้าขาว


               “หยุดพูดเดี๋ยวนี้ม้าขาว”


               คนตัวผู้เหล่านั้นเป็นคนจากเผ่าข้า มันวิ่งเข้ามาพลางหัวเราะร่าเมื่อเห็นว่าข้าขี่คร่อมอยู่บนร่างกายของคนต่าง

เผ่า


               “เยี่ยมมากเสือดำ นี่สูคงจะใกล้ถึงเทพอัคนีแล้วสิ”


               “ต้องการให้พวกเราช่วยให้มันสุขสมเร็วกว่านี้ไหมล่ะ”


               “ไม่!”


               ข้าเงยหน้าตะคอกใส่หน้าพวกมัน


               “มันผู้นี้ต้องเป็นของข้า”


               หนึ่งในคนตัวผู้พ่นคำด่าออกมา


               “ตามใจสูเถอะพวกข้ามีให้เล่นอีกเยอะ ตอนนี้พวกเรายึดเผ่ามันได้แล้วผู้คนจากเผ่าของมันต่างยอมสวามิภักดิ์

เหลือแต่ไอ้หัวหน้าเผ่าของมันที่หนีรอดไปได้ สูจะจัดการมันก็จงอย่าช้า จงเร่งตามพวกเราไปตามหาหัวหน้าของพวกมัน”


               พวกมันวิ่งผ่านข้าไปแล้ว ข้าก้มหน้ามองใบหน้าบิดเบี้ยวของม้าขาวที่กัดฟันกลั้นเสียงอับอายไว้ ความตึงโป่ง

ในช่องลึกยังไม่คลายตัวจนข้าต้องกัดฟันเด้าเอวใส่มันไม่ยั้ง


               “อ๊า ไม่นะ”


               ท่อนเนื้อกลับมากระแทกเสียดสี ม้าขาวดิ้นเร่าจนฝุ่นฟุ้งกระจาย ข้าคว้าท่อนเนื้อของมันมาบีบเค้นสนุกมือจน

กระทั่งน้ำแห่งชีวิตพุ่งวาบออกมาข้าจึงกระหน่ำเอวไม่ยั้ง ท่อนเนื้อของข้าอึดอัดไปหมดจนต้องแช่ค้างก่อนจะกู่เสียงออก

มาเมื่อข้าปลดปล่อยมันจนอุ่นร้อนอยู่ในร่องลึก


               เราหอบหายใจใส่กันในขณะที่ม้าขาวอ่อนแรงลงไปเรื่อยๆแต่ถึงกระนั้นมันก็ยังมองข้าอย่างแค้นเคือง ข้า

ตัดสินใจดึงท่อนเนื้อออกมาและยกร่างของม้าขาวพาดบ่า


               “ปล่อย!”


               แม้จะหมดแรงแต่ม้าขาวก็ยังดื้อดึง ข้าใช้ฝ่ามือฟาดเข้ากับบั้นท้ายของมันเสียงดังเผียะ


               “ข้าไม่ปล่อย ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยอมให้สูถูกจับไปหรือยอมให้ใครมาปาดคอสูเด็ดขาด”


               ข้ายังแข็งแกร่งพอที่จะแบกม้าขาววิ่งตลุยเข้าไปในป่าดงดิบ ข้าพามันมาวางลงบนพื้นดินทรายเย็นชื้นภายใน

ถ้ำใต้เขาสูงที่ข้าเคยเดินทางผ่านมันมา มันเป็นถ้ำเล็กๆที่ไม่เคยมีผู้ใดสัมผัสนอกจากข้า


               ม้าขาวนั่งพิงผนังถ้ำเย็นเยียบเราสบตากันอยู่ในความสลัวเลือนลาง มันมองข้าอย่างต้องการคำตอบ


               “สูทำร้ายข้าแต่ก็ยังช่วยข้า สูต้องการสิ่งใดกันแน่เสือดำ”


               ข้านิ่งงันพลางขบคิดคำถามนั้นเช่นกัน ข้าเองก็สงสัยว่าเหตุใดข้าต้องทำเยี่ยงนั้นด้วย


               “ข้าไม่รู้เช่นกันม้าขาว ข้ารู้แต่ว่าข้าต้องการเจ้าจนไม่อาจเห็นผู้ใดทำให้เจ้าเจ็บปวด”


               ไร้ซึ่งคำพูดใดจนได้ยินเสียงลมหายใจบางเบาเมื่อม้าขาวก้มหน้าลงไปอย่างเศร้าสร้อย


               “จงบอกข้าเสือดำ ก่อนที่ม้าลายน้องข้าจะสิ้นลมหายใจด้วยน้ำมือสู มันได้สุขสมหรือไม่”


               ข้าเชยคางม้าขาวขึ้นมาและพยักหน้ารับ ม้าขาวหลับตาลงและปล่อยให้น้ำหยดหนึ่งไหลลงมาจากหางตา


               “ดีแล้ว อย่างน้อยมันก็ยังได้เข้าหาเทพอัคนีก่อนที่มันจะตายโดยที่ไม่เคยรู้จักความสุข”


               ปากของม้าขาวที่สักลายจากยางไม้สั่นระริกเมื่อมันกำลังกลั้นความอดสูเรียกร้องเหลือเกินจนข้าอดใจไม่อยู่

ข้าโน้มหน้าเข้าไปเช็ดน้ำจากดวงตาของมันด้วยปากของข้าจนหมด มันไม่ได้ดื้อดึงอีกเมื่อข้าประกบปากลงไปบนปาก

ของมันอีกครา


               ลิ้นของเราตวัดพันกันหากแต่ไม่ใช่เพราะต่อสู้กันอีกแล้ว สัมผัสอ่อนหวานซึ่งข้าไม่เคยรู้จักแทรกซึมเข้ามาจน

จิตใจอ่อนไหว กลิ่นสาบเหงื่อของม้าขาวอวลเข้าจมูกล่อความต้องการให้ข้าผละออกจากปากนั่นอย่างเสียดายเพื่อจะก้ม

ลงใช้ลิ้นละเลงรสเหงื่ออย่างโหยหา


               “อา เสือดำ”


               ม้าขาวทอดกายลงกับพื้นดินทรายหยาบ มือสากของมันวางแนบไปกำแผ่นหลังของข้าและลูบไล้ไปมา สติข้า

กระเจิงไปด้วยหลุมดำมืดของความต้องการ ท่อนเนื้อของม้าขาวผงกหัวขึ้นมาล่อหลอกจนข้าที่เลื่อนร่างลงต่ำหลงกลอ้า

ปากงับมันเข้าไปทีละน้อย


               “ม้าขาว ข้าต้องการสู”


               เอ่ยออกมาทั้งที่ท่อนเนื้อของม้าขาวยังเต็มช่องปาก ลิ้นของข้าโลมเลียมันอยู่ภายในทำให้ม้าขาวบิดกาย

ดิ้นรนใบหน้าบิดเบี้ยว มันยกเอวกระแทกใส่ข้าจนท่อนเนื้อกระทุ้งเต็มลำคอ ข้าต้องเลื่อนปากหนีก่อนจะกดปากลงมาอีก

ครั้งและอีกครั้ง ม้าขาวส่งเสียงกังวานลั่นโถงถ้ำก่อนที่น้ำเหนียวรสฝาดจะพุ่งออกมาเต็มกระพุ้มแก้มของข้า


               “เสือดำ ได้โปรด”


               ดวงตาคู่นั้นปรือฉ่ำ อ้อนวอน ม้าขาวชันขาสูงเปิดทางให้ข้าเร้นกายเข้าไปในร่องลึกที่ยังปิดไม่สนิท ความชุ่ม

ฉ่ำยังเหลือให้ข้าเคลื่อนตัวคล่องแคล่ว ข้าคุกเข่าตั้งหลักเด้าเอวใส่ร่องลึกที่ตอดรัดจนแทบขาดใจ


               “อา เสือดำ”


               “โอ ม้าขาว ไปพบเทพอัคนีพร้อมข้าเถิด”


               เสียงเนื้อกระทบเนื้อสะท้อนโถงถ้ำ ลมหายใจร้อนระอุต่างเป่ารดลงไปบนกายเหนียวหนับ ความคิดของข้า

พลันหายวูบเหลือแต่ความว่างเปล่าเมื่อก้าวขึ้นไปพานพบสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าสวรรค์สำหรับข้า

               





               กองไฟมอดลงแล้วเมื่อเราทั้งคู่ต่างอิ่มหมีพีมันจากเนื้อกระต่ายป่าที่ขาไปล่ามาเพื่อเป็นอาหาร  กำลังของม้า

ขาวเริ่มกลับคืนเมื่อได้อาหารตกถึงท้อง ภายนอกดึกดื่นหนาวจัดแต่ภายในโถงถ้ำยังคงอุ่นด้วยฟืนไฟที่ข้าจุดไว้ ข้านั่งพิง

ผนังถ้ำเคียงกับม้าขาว ข้าหันไปมองหน้ามันและดึงมันเข้ามาใกล้เพื่อที่ข้าจะได้กอดมันไว้ให้หายหนาว


               “ขอบใจนะเสือดำที่ช่วยข้าไว้”


               “ต้องช่วยแน่เพราะข้าไม่อยากเห็นสูกลายเป็นเครื่องบูชายัญในวันครีษมายันครั้งหน้า”


               วันครีษมายัน วันที่พระอาทิตย์ฉายแสงยาวนานที่สุด และวันนั้นคือวันที่จะมีพิธีกรรมบูชาเทพอัคนี


               “เครื่องบูชายัญจะเป็นเช่นไร”


               ม้าขาวเอ่ยอย่างสงสัย ข้าจึงไขความข้องใจของมัน


               “เผ่าของข้าไล่กวาดต้อนผู้คนมาจากต่างเผ่ามากมาย ใครชอบใจเชลยคนไหนก็จะนำเอาไปใช้งานบ้าง เอา

ไปสมสู่บ้าง และจะใช้เชลยเหล่านั้นเป็นเครื่องบูชายัญ ด้วยการถูกสมสู่จากเหล่าคนตัวผู้ทุกคนในเผ่าก่อนจะปาดคอทิ้ง

ต่อหน้าเทวรูปเทพอัคนี โดยจะเลือกจากเชลยที่ใบหน้างดงาม และครั้งนี้ข้าไม่เห็นใครจะงดงามเกินสู”


               ม้าขาวเลิกคิ้วพลางกดยิ้มที่มุมปาก


               “ข้าน่ะหรือใบหน้างดงาม”


               “ใช่ สูงดงามที่สุดตั้งแต่ข้าเคยเห็นคนตัวผู้ และข้าจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องสู”


               ใบหน้าสักรอยยางไม้ลวดลายงดงามคลี่ยิ้มมีเลศนัย ม้าขาวที่มีกำลังวังชากลับคืนมาแล้วดันข้าให้หงายหลัง

ลงไปกับพื้นก่อนมันจะเคลื่อนตัวมาทาบทับ


               “สูเองก็งดงามเช่นกันเสือดำ”


               มือของม้าขาวลูบไล้ไปตามเนื้อตัวจนขนของข้าลุกชัน



               “สูอยากครอบครองข้า ส่วนข้าเองก็ต้องการครอบครองสูเช่นกัน”


               เนื้อตัวเย็นๆกดเบียดลงมาและมันกำลังสร้างความร้อนแก่ข้าเหลือเกิน





TBC


หายไปนานโปรดอภัย ยังจำเสือดำกับม้าขาวได้หรือเปล่า :m15: :m15:

เวลาอ่านโปรดจินตนาการว่า สมัยนั้นเซ็กส์เป็นแค่เครื่องมือระบายออกและสืบพันธุ์ตามธรรมชาติ

ผู้คนยังไม่รู้จักลีลาท่วงท่า ไม่รู้จักการจูบ หรือการทำอย่างอื่นนะจ๊ะ    :hao3: :hao3: :hao3:
               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 11-10-2015 22:26:03
จิ้ม
มาอัพแล้ววว
คู่นี้นี่มัน... >.,<
รอตอนต่อไปน้าา
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: heroza ที่ 11-10-2015 22:46:38
เห็นว่าคนแต่งมาอัพนึกว่ตาฝาดไป :hao5:
 รออ่านต่อๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 11-10-2015 22:55:34
เลิศค่า!!! รอนานจนเกือบลืมจริงๆ
แต่ชอบนะแปลกใหม่ตลอดแต่อ่านไหลลื่นไม่สะดุด
รออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-10-2015 23:02:24
เห็นโพสต์ในเฟซละรีบกลิ้งเข้ามาอ่านอย่างไวเลย กำลังคิดถึงอยู่เลยเชียว เสือดำม้าขาวร้อนแรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-10-2015 23:37:23
เจอกันแต่ละครั้ง ไม่พูดไม่จากัน ทำศึกกันอย่างเดียวเลยนะจ๊ะ

เสือดำ-ม้าขาว   :hao7:

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 12-10-2015 00:26:24
เย่ เต้นรอบวงมาต่อแล้ววววววว ว ว ว ว ว ว ว ดีใจเว่อออออ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-10-2015 06:04:17
 :katai2-1: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-10-2015 07:40:26
นึกว่าจะไม่ได้อ่านต่อซะแล้ว ดีใจที่กลับมาน้า~
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: littlegift ที่ 12-10-2015 08:28:03
 :pighaun: :m25:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-10-2015 11:40:40
หลังจากนี้จะถูกตามล่าจากกระทิงใหญ่กับพวกเผ่าของเสือดำรึเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 12-10-2015 15:24:09
อีกกี่ตอนจบครับ ได้อารมณ์ดิบเถื่อนชอบ :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 15-10-2015 23:02:22
กว่าจะเข้าใจภาษา  :jul1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 3 >> 11/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 19-10-2015 21:25:18
ข้าชอบเหลือเกิน
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-10-2015 20:50:05

                                                           เอาชีวิต

                                                            บทที่ 4


               ร่างกายของเสือดำช่างงดงามด้วยมัดกล้าม แผงอกของมันล่ำสันจนยอดอกคล้อยต่ำ ต้นแขนแข็งแกร่งน่าบีบ

เค้นจนข้าต้องมองอย่างกระหายและลูบไล้ผิวกายคล้ำอวดสียางไม้ลายสดสวยไปทั้งตัว

               ข้าไล่ดวงตาลงมาตามขนอ่อนที่แล่นผ่านลำตัว มันเรียงเส้นสวยจนไปจรดที่เนินสามเหลี่ยม ท่อนเนื้อของมัน

ใหญ่โตจนข้ารู้แล้วว่าเหตุใดจึงได้เจ็บปวดนักยามที่มันชำแรกร่างเข้าสู่ตัวข้า บัดนี้มันยังนอนหลับสงบนิ่งท้าทายให้ข้า

คว้าจับมันขึ้นมาอยู่ในอุ้งมือ มันอุ่นหยุ่นเมื่อข้าเค้นคลึงด้วยปลายนิ้ว ความกำหนัดไล่ลู่ลงสู่ท้องน้อยจนข้าต้องคว้ามันไว้

ภายในอุ้งมือพร้อมกับท่อนเนื้อของเสือดำ

               ดวงตาของมันเหมือนดาวบนท้องฟ้ายามข้าแหงนหน้ามอง ความมืดในท้องถ้ำยิ่งทำให้มันเด่นชัดเรียกร้องให้

ข้าต้องก้มลงไปปิดมันด้วยปากของข้า ลมหายใจของเสือดำอุ่นระอุเมื่อข้าดอมดมที่จมูกของมันพร้อมกับที่มือของข้ายัง

คงบีบไล่ท่อนเนื้อของเราให้ตื่นจากหลับใหลไปทั้งคู่ ความเย็นชื้นยามราตรีกระตุ้นให้การกอดรัดยิ่งทวีความรุนแรง


               “เปิดทางให้ข้าเถิด”


               ข้ากระซิบข้างหูของมัน ปลายลิ้นของข้าแซะเข้าไปในช่องหูของเสือดำ มันผวาไปทั้งตัวจนข้าสามารถกด

เบียดต้นขาลงไปแยกท่อนขาของมันให้เปิดกว้าง ข้าปล่อยท่อนเนื้อตัวข้าออกจากอุ้งมือเพื่อที่จะจ่ออยู่หน้าหนทางแห่ง

เทพอัคนี ท่อนเนื้อของข้าอวบอัดร้อนรุ่มเหลือหลายเมื่อข้าดันกายเข้าไปอย่างไม่เร่งรีบ


               “อา ม้าขาว สูช่างร้ายนัก”


               มันครวญคร่ำเมื่อข้าค่อยๆขยับเอวทีละน้อย ข้าชักท่อนเนื้อเข้าออกแหวกทางพลางหมุนวนจนเสือดำหมดสิ้น

ความเจ็บปวด มันแอ่นอกเชื้อเชิญจนข้าที่มองอย่างกระหายต้องอ้าปากลงไปครอบครองดูดดุนให้มันกลายเป็นสีแดงสด

ตุ่มเล็กชูช่อล่อหลอกให้ข้ากระดกลิ้นรัวแลกกับใบหน้าบิดเบี้ยวของเสือดำ มันกัดฟันลงกับปากล่างแทบห้อเลือดเมื่อข้า

กระทุ้งกายเข้าไปอีกครั้งจนหมดความยาว


               “ทรมาน สูกลั่นแกล้งข้า”


               เสือดำปรือตาขึ้นมอง แขนของมันโอบคล้องลำคอของข้าที่ยังวุ่นวายอยู่กับแผงอกหนั่นเนื้อ ข้าลอบยิ้มก่อน

จะงับลงไปจนมันสะดุ้งและดึงเอวออกมาเสียเกือบค่อนและแทงกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว


               “อ๊า...”


               ร้องด้วยน้ำเสียงสั่นกระเส่าเร่าร้อน เสือดำยกท่อนขาวางพาดอยู่บนบ่าของข้า ช่องทางยิ่งเปิดกว้างให้ข้าได้

ออกแรงจนเนื้อตัวเหนียวหนับขับไล่ความหนาวเย็น ข้าโถมกายเด้งเอวไม่ยั้งแรงเมื่อช่องหลืบเร้นลึกฉ่ำชื้นเปิดทางสู่

สวรรค์


               “โอ สูกำลังบีบข้า”


               ข้าเงยหน้ากู่เสียงลั่นท้องถ้ำ ร่องลึกคับแน่นบีบคั้นเหลือรับ ข้าช้อนสะโพกเต็มมือให้ลอยสูงยึดต้นขาของ

เสือดำไว้แม่นมั่นพลางขยับตัวข้าให้ยืนด้วยเข่าเพื่อที่ข้าจะได้กระแทกกายเข้าใส่ได้เต็มแรง ท่อนเนื้อของเสือดำลอยอวด

อยู่ใกล้แค่เอื้อม ข้าคว้ามือของมันให้มาบีบเค้นตนเองพร้อมกับที่ข้าเด้งเอวใส่มัน


               “โอ้ เทพอัคนี”


               ข้าหลับตาพริ้มท่องสวดสู่เทพอัคนีเมื่อความกระสันถึงขีดสุดมาเยือน ท่อนเนื้อใหญ่โตของเสือดำพ่นน้ำคาว

ขุ่นออกมา ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวถึงขีดสุดพร้อมเปล่งเสียงร้องดังลั่น ข้ากระแทกกายเข้าหาอีกไม่กี่ครั้งความปวดมวน

ท้องก็มลายสิ้นเมื่อข้าปลดปล่อยมันอยู่ในร่องลึกที่ดูดกลืนน้ำแห่งชีวิตของข้าไปเสียทุกหยด

               ข้าทิ้งกายลงไปหามัน เสือดำอ้าแขนรับให้ข้าเข้าไปมันโอบรัดข้าไว้เมื่อเรายังแข่งกันหอบพลังเข้าปาก เนิ่น

นานกว่าจะกลับมาเป็นปกติ ช้าและมันประสานสายตากันในความมืด แรงดึงดูดทำให้เราทั้งสองต้องดูดปากกันอีกครั้ง ใน

ตอนนี้ความคิดของข้าวิ่งวนชนกันไปหมด ข้าหวงแหนและไม่อยากห่างจากเสือดำเลยสักนิด ข้าไม่รู้ว่าทำไมความรู้สึก

เช่นนั้นจึงเกิดขึ้น


                “สูทำให้ข้าอยากอยู่กับสูตลอดไป ม้าขาว”


               มันพูดออกมาตรงกับความคิดของข้า เราสบตากันอย่างดื่มด่ำในความมืดโดยไม่ต้องมีคำพูดใดอีกต่อไป

ความหนาวเหน็บโอบล้อมอยู่รอบตัวเมื่อกองไฟมอดลงเหลือแต่กองเถ้า แต่ข้าและมันก็ไม่ปล่อยให้ไออุ่นได้จากไปเมื่อ

เรากอดก่ายซึ่งกันตลอดทั้งราตรี
               






               “ข้าจะไปล่าอาหาร”


               เสือดำบอกกล่าวในยามรุ่งเมื่อแสงแห่งเทพอัคนีจับอยู่บนท้องฟ้า มันดึงข้าไปกอดรัดแม้ว่าจะผ่านความสุขสม

มาตลอดทั้งค่ำคืนแล้ว


               “ข้าจะไปช่วยสู”


               “อย่าเลย”


               เสือดำเอ่ยปากขัดขวาง


               “สูต้องหลบกายอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ข้าเกรงว่าใครจะมาพบสูเข้า”


               เสือดำวิ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ข้าทอดถอนหายใจด้วยความกังวลที่กลายเป็นต้นเหตุทำให้ผู้คนในเผ่า

ของข้าต้องทลายลงแต่อย่างน้อยไอ้กระทิงใหญ่ก็สิ้นอำนาจลงได้ ข้าปัดเป่าความคิดนั้นออกไปพลางสำรวจทั่วท้องถ้ำ

เมื่อแสงจากภายนอกพอจะส่องให้มองเห็นได้บ้าง มองเห็นแอ่งน้ำเล็กที่ผุดออกจากพื้นดินอยู่ลึกเข้าไปไม่ไกลนัก ข้ารีบ

เดินเข้าไปวักมันเข้าปากอย่างกระหายก่อนจะล้างเนื้อตัวเหนียวด้วยคราบเหงื่อและน้ำคาวออกจากตัว


               เสียงสวบสาบดังขึ้นจากทางเข้า ข้ายิ้มกับตนเองเมื่อเสือดำกลับมา เพิ่งรู้ว่าการรอคอยเพื่อเห็นหน้าใครบาง

คนมันเป็นสุขใจและอิ่มเอิบเมื่อคนที่รอกลับมาหา ข้าหยัดยืนขึ้นหันร่างเปลือยไปหามัน


               เทพอัคนีช่วยข้าด้วย!


               ร่างสูงใหญ่ยืนบังแสงจากภายนอกทำให้ข้ารู้ว่าหาใช่เสือดำ แต่หากเป็นคนที่ข้าไม่อาจลืมเลือนตลอดชีวิต


               “ไอ้กระทิงใหญ่!”


               มันแสยะยิ้มน่าเกลียดเมื่อเห็นข้า ข้ากลืนน้ำลายเหนียวหนับลงคอเมื่อบัดนี้จ้องมองร่างข้าที่ไร้หนังสัตว์ห่อหุ้ม


               “เทพอัคนีช่างประทานโชค ดูสิว่าข้าได้พบกับใคร ม้าขาวหลานรักของข้านั่นเอง”


               “อย่าเข้ามานะ”


               ข้าขู่พร้อมกับยืนจังก้าตั้งท่าอย่างระแวดระวังเมื่อกระทิงใหญ่ย่างก้าวเข้ามา ข้าต้องเดินถอยกลับไปช้าๆจน

กระทั่งเสียหลักตกลงไปในแอ่งน้ำเบื้องหลัง


               “ปล่อยข้า”


               มันกระโจนเข้าใส่เมื่อเห็นข้าหงายหลัง ข้าชกมันด้วยหมัดจนสุดแรง ไอ้กระทิงใหญ่แค่สะบัดหน้าขับไล่ความ

มึนงงแต่มันก็ยังคงยืนอยู่ได้และยกมือตบลงมาบนใบหน้าของข้า


               เผียะ!


               แสงสว่างแทบจะดับวูบ ในหูมีแต่เสียงอื้ออึงจากฝ่ามือใหญ่หนาของมันรู้สึกถึงรสปร่าของเลือดที่ไหลรินจาก

มุมปาก กระทิงใหญ่คำรามลั่นเมื่อมันผลักให้ข้าหงายหลังลงไปในแอ่งน้ำ


               “รู้บ้างไหมว่าข้ารอวันนี้มานานแล้วม้าขาว วันที่ข้าจะได้ครอบครองสูผู้ที่งดงามที่สุด”


               น้ำเสียงหื่นกระหายดังอยู่เบื้องหน้าเมื่อไอ้กระทิงใหญ่คุกเข่าคร่อมทับร่างของข้าอยู่ในน้ำตื้น ข้าดิ้นรนขัดขืน

ชกมันไปหลายคราแต่หาได้สะเทือนความรู้สึกของมันสักนิด


               “เลวระยำ”


               ข้าด่ามันด้วยความเกลียดชัง


               “สูฆ่าพ่อข้าช่วงชิงตำแหน่งหัวหน้าเผ่าและยังเอาม้าลายน้องชายข้าไปสมสู่อยู่ช้านาน ยังเลวไม่พออีกหรือ”


               “ยังน้อยไปม้าขาว ข้าจะเลวจนได้ครอบครองสูนั่นแหละ”


               มันตะคอกใส่ข้า มือใหญ่กร้านกดไหล่จนจมไปใต้น้ำก่อนจะชกลงมาใต้ยอดอก ข้าสะดุ้งสุดตัวเมื่อมันทั้งจุก

ทั้งเสียดจนตัวงอ


               “จงกลายเป็นของข้าเสียเถิดม้าขาว สูไม่มีทางหนีพ้น”


               มันกระชากเส้นผมข้าจนหนังหัวแทบหลุด ร่างใหญ่ของมันก้มมาฝังเขี้ยวไว้กับคอของข้า ร่างข้าหนาวเหน็บ

ไปหมดทั้งตัวเมื่อหมดแรงต่อสู้ ไอ้กระทิงใหญ่จับขาทั้งสองของข้าแยกออกจากกัน ท่อนเนื้อของมันชี้หน้ารออยู่แล้ว


               เสือดำ ช่วยข้าด้วย


               น้ำตาข้าไหลปะปนกับความเปียกชื้นเมื่อรู้ว่าข้าคงจะไม่มีวันได้อยู่เคียงคู่กับเสือดำอีกแล้ว


               “ข้าจะสมสู่กับเจ้าบูชาเทพอัคนี”


               กระทิงใหญ่ขู่คำรามดังเสียดแทงหัวใจ ท่อนเนื้อของมันจ่ออยู่หน้าร่องลึก อีกเพียงชั่วข้อนิ้วชีวิตของข้าคงจะ

จบสิ้นลง


               พลัก!


               “อ๊ากกกหหห”


               ไอ้กระทิงใหญ่ร้องลั่น และก่อนที่มันจะตั้งสติได้มันก็ถูกทำร้ายด้วยท่อนไม้ใหญ่อีกครั้ง มันหลุดร่วงลงไปจาก

ตัวข้า ข้ารีบตะลีตะลานหนีและเมื่อเห็นคนตัวผู้ที่เข้ามาใหม่ข้าก็อยากจะโห่ร้องด้วยความยินดี


               “เสือดำ”


               เสือดำยืนจังก้า มันพุ่งความสนใจไปที่ไอ้กระทิงใหญ่ที่กำลังลุกขึ้นมาอย่างลำบาก หัวของมันมีเลือดอาบด้วย

ท่อนไม้จากมือของเสือดำ


               “สูเป็นใคร”


               กระทิงใหญ่ชี้หน้าด้วยความเกรี้ยวกราด แต่เสือดำแสยะยิ้มอย่างไม่นึกหวาดหวั่น


               “ใครก็ช่าง แต่ข้าจะไม่ยอมให้สูทำร้ายม้าขาวอีกแล้ว”


               เสือดำไม่รอให้กระทิงใหญ่ตั้งหลัก มันกระโจนเข้าใส่และชกหน้าจนกระทิงใหญ่หน้าหงาย มันทั้งสองต่อสู้กัน

อย่างไม่มีใครรามือ แต่ด้วยพลังของเสือดำที่มีมากกว่าคนตัวผู้ที่เริ่มถดถอ ยอย่างกระทิงใหญ่ทำให้มันเริ่มอ่อนล้าและ

เสียเชิงในที่สุด

               ก้อนหินในแอ่งน้ำถูกเสือดำคว้าไว้และใช้เป็นอาวุธทุบลงที่หน้าผากของกระทิงใหญ่ มันเบิกตาค้างสติ

เลื่อนลอยเสือดำถือจังหวะนี้แยกขาของกระทิงใหญ่และแทงท่อนเนื้อของมันเข้าไปทีเดียวอย่างไม่ปรานี


                “อ๊ากกกหหห”


               เสียงโหยหวนดังลั่นเมื่อมันผู้ไม่เคยพ่ายต้องกลายมาเป็นฝ่ายเสียเชิง กระทิงใหญ่ดิ้นรนขัดขืนเสือดำจึงฟาด

ก้อนหินลงไปอีกครั้ง

               กลิ่นคาวคละคลุ้งนองอยู่ในแอ่งน้ำ กระทิงใหญ่หมดแรงต่อสู้จนต้องปล่อยให้เสือดำเด้าเอวเข้าใส่ ดวงตาของ

กระทิงใหญ่เลื่อนลอยเคว้งคว้างเมื่อเสือดำกำลังทำให้ร่างกายของมันตอบสนอง


               “อึก อึก”


               เสียงกู่ครางดังจากปากของกระทิงใหญ่เมื่อมันติดกับแห่งการสมสู่ เสือดำหันขวับมาหาข้าทั้งที่ยังไม่ลดแรงที่

เอวของมัน


               “ม้าขาว มาตรงนี้”


               ข้าผวาเข้าหา เสือดำดึงมีดเหล็กอันเล็กแต่คมกริบออกมาจากขอบหนังสัตว์ของมันให้ข้า


               “ชีวิตของมันเป็นของสู”


               “อย่า ได้โปรด”


               เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินกระทิงใหญ่ร้องขอ มันยกมือเปะปะทั้งที่ยังส่ายเอวเข้าหาเสือดำ ใบหน้าพ่อแม่และ

น้องชายลอยคว้างอยู่กลางลานสายตา และข้าจะไม่ปล่อยให้มันได้สุขสมเพื่อไปหาเทพอัคนี

               กระทิงใหญ่บิดกายเร่าด้วยความทรมาน เสือดำใช้มือดันไหล่หนาของมันให้อยู่นิ่ง เสียงครวญอุบาทดังลั่นเมื่อ

กล้ามเนื้อของมันใกล้จะขาดผึง


               แคว่กกกก


               โลหิตแดงฉานพุ่งออกจากลำคอของกระทิงใหญ่ราวกับน้ำพุ มันขาดใจตายทั้งที่ร่างกายยังไม่ปลดปล่อย ข้า

โยนมีดเหล็กทิ้งก่อนจะหมดแรงคุกเข่าลงไปข้างซากศพของมัน


               แด่ความตายของครอบครัวข้า


               น้ำตาข้าไหลเป็นทางอย่างไม่อับอาย เสือดำดึงท่อนเนื้อออกจากร่องลึกอย่างยากลำบากเพราะมันเองก็ยัง

แข็งขืน แต่เสือดำก็เข้ามาประคองโอบกอดข้าไว้ ข้าพิงกายไปกับอกของมันพลางเอื้อมมือกอบกุมแก่นกายและช่วยโยก

รั้งเพื่อให้เสือดำหายอึดอัด มันหอบหายใจแรงขึ้นเมื่อน้ำคาวของมันไหลเปรอะมือของข้า

               เราทั้งสองมองตา ดูดปากและโอบรัดกันเนิ่นนาน จากนั้นมันก็พาข้าออกไปจากถ้ำเล็กทิ้งไว้เพียงร่างกายที่

ปราศจากวิญญาณของกระทิงใหญ่







               “สูจะพาข้าไปที่ใดอีก”


               ข้าเอ่ยถามเสือดำเมื่อเราเดินทางอยู่ในป่าดิบชื้นเกินครึ่งวัน เนื้อกวางที่ล่ามาทำให้ข้ามีกำลังกลับมาอีกครั้ง

และบัดนี้ข้าพร้อมจะไปที่ไหนก็ได้ที่มีเสือดำอยู่ด้วย


               “พาสูหลบไปที่ไหนก็ได้ที่คนเผ่าข้าจะหาสูไม่พบ อย่างน้อยก็ให้พ้นวันครีษมายัน”


               “วันใด”


               ข้าเอ่ยถามมันเพราะในเผ่าของข้าไม่มีพิธีกรรมนี้


               “อีกสามวันข้างหน้า”


               มันบอกข้าเมื่อเราหยุดพักกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่เพลาดวงตะวันเลยครึ่งหัว อีกไม่นานความมืดมิดก็จะมาเยือนอีก

ครั้งแม้วว่าช่วงนี้กลางวันจะยาวนานก็ตาม


               เสือดำมองข้าแล้วถอนหายใจ


               “เจ็บไหม”


               ปลายนิ้วของมันสัมผัสไปที่รอยแผลจากฝีมือของกระทิงใหญ่ ข้ายิ้มให้เสือดำและกุมมือมันไว้


               “แค่มีสู ความเจ็บปวดก็หายไปหมดแล้ว”


               เสือดำส่ายหน้าพลางหัวเราะขำขัน


               “คำเอ่ยของสูหวานยิ่งกว่าน้ำหวานจากดอกไม้เสียอีก พักเสียเถอะเราต้องเดินกันอีก”


               มันเอื้อมมือดันให้ข้าเอนมาพิงที่ไหล่ของมัน เสือดำซบหัวลงมาบนหัวของข้า เราต่างหลับตาเพื่อเก็บแรงเอา

ไว้ ความกังวลนานาหายไปเมื่อข้าอยู่ใกล้เสือดำ


               เสียงพื้นดินสะเทือนทำให้ข้าตื่น ข้าเงยหน้าขึ้นมองเสือดำก็เห็นว่ามันลืมตามองข้าอยู่แล้ว มันกุมมือให้ข้าลุก

และออกวิ่งอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นเมื่อคนตัวผู้กลุ่มใหญ่ตีวงล้อมพวกเราในที่สุด




                                                   TBC



วันครีษมายัน คือวันที่มีกลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี ตรงกับวันที่ 21 มิถุนายนของทุกปีค่ะ

เรื่องนี้แต่งยากจริงน้า คนแต่งกลัวใจตัวเองจุงเบย จะรอดไหมเนี่ย :katai1: :katai1:


ฝากนิยาย บัลลังก์รักใต้เงาแค้น http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47755.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47755.0)
เรื่องนี้ก็แต่งยากเพราะใช้ราชาศัพท์เยอะมากๆ ก่อนแต่งก็ต้องหาข้อมูลแน่นๆ ตอนนี้แต่งได้ 8 บทแล้วจ้า

อยากให้ช่วยอ่านและเป็นกำลังใจคอมเม้นท์ให้บ้างนะคะ เห็นยอดเม้นท์แล้วใจหาย :sad4: :sad4:



ส่วนนี้เป็นเรื่องสั้้น ฟิคพี่กรน้องเก๋อจากหนังจีน Like Love เรื่อง Who are you ไม่ว่านายเป็นใครฉันก็จะรัก
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49488.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49488.0)



อ่านกันแบบเล่นๆ เนื้อหาไม่มีมากมายเพราะเรื่องนี้สายกาม ไม่ใช่ติ่งก็อ่านกันได้นะ  คริคริ       
    :z10: :z10: :z10:                    
               
               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 23-10-2015 20:51:36
จิ้ม
แทบักกก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-10-2015 21:15:06
ผจญภัยดุเดือดดีแท้. เป็นความรักดิบๆที่เกิดขึ้นท่ามกลางความป่าเถื่อนจริงๆ
เอาใจช่วยคนเขียนนะคะ.  :mew1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 23-10-2015 22:54:51
 :jul1: :jul1: เปิดฉากมาด้วยความเร่าร้อนของเสือดำและม้าขาวเลือดจิหมดตัว แต่ปิดบทด้วยความค้างคา เฮ้ยๆๆม้าขาวกับเสือดำจะเป็นไรมั้ยอะ ตอนนี้จบแฮปปี้ใช่มั้ยๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 23-10-2015 23:48:44
เหตุการณ์เริ่มดุเดือดอีกแง้ว
ลุ้นทุกตอนนน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-10-2015 00:04:00
สมน้ำห้าไอ้กระทิงใหญ่

ม้าขาว-เสือดำจะเจอพวกไหนกัน  หวังบ่าจะรอดปลอดภัยกันนะ    :mew2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 24-10-2015 01:40:44
นึกว่าจะหนีรอดซะแล้ว รอลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-10-2015 10:22:39
จะหนีรอดได้ไหม
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-10-2015 14:57:16
เกิดอะไรขึ้น!?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 24-10-2015 15:08:38
 :jul1: :a5: :-[ o22
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 25-10-2015 07:59:40
โอ๊ะ โดนจับได้แล้วแน่ๆเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 4 >> 23/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 29-10-2015 19:07:17
ไม่เอาโดนบูชายัญนะ มันโหดร้าย ไหนๆก็เอ็กซ์ทั้งเรื่องแล้วพลีสสสส :katai1: :katai1:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 04-11-2015 11:01:30


                                                        เอาชีวิต

                                                        บทที่ 5               


               “เสือดำ สูกำลังทำอะไร”


               หนึ่งในคนตัวผู้ที่ยืนล้อมข้ากับม้าขาวตะคอกใส่ข้าพร้อมกับยื่นหอกของมันจ่ออยู่ใกล้ม้าขาว พวกมันทั้งหมด

คือคนในเผ่าที่ข้ายังไม่อยากเจอะเจอในตอนนี้ แต่ข้าก็หนีมันไม่พ้น ข้าดึงแขนของม้าขาวให้ก้าวกลับมายืนอยู่ใกล้ข้าด้วย

ความเป็นห่วงในความปลอดภัยของมัน


               “ปล่อยข้าไป ลิงลม”


               ข้ายื่นมีดเหล็กเล่มเล็กอาวุธเพียงชิ้นเดียวที่มีไปตรงหน้าพลางจ้องตาของมันไม่ยอมหลบ ลิงลมเหลือบตาม

องม้าขาวแล้วมันก็ถึงกับแลบลิ้นเลียไปรอบปากด้วยความกระหาย


               “สูได้เชลยชิ้นงามไปแล้วคิดจะพามันหนีงั้นรึ สูจะหวงไว้เพื่อเหตุใด ใยไม่แบ่งให้พวกเราได้พามันไปเยี่ยม

พระอัคนีก่อนจะปาดคอมันเล่า”


               เสียงหัวร่อน่ารังเกียจดังขึ้นรอบตัวจากคนตัวผู้ที่ยืนล้อมอยู่ ดวงตาของพวกมันล้วมีแต่ความใคร่เมื่อยามมอง

ม้าขาวที่ใบหน้าเผือดสีลงเรื่อยๆ


               “ไม่ได้!”


               ข้าส่งเสียงขู่คำรามพลางค้อมตัวตั้งหลัก สายตาจ้องมองพวกมันไม่ละลดแม้ว่าพวกมันจะร่วมอยู่ในเผ่า

เดียวกัน แต่หากตอนนี้ชีวิตของข้ามีม้าขาวที่ต้องรักษามันไว้


               “ข้าจะมิให้มันตัวใดแตะต้องคนของข้าแม้แต่ปลายนิ้ว”


               พวกมันทั้งหลายกู่ร้องส่งเสียงขู่ข้า ข้าหันไปสบตากับม้าขาวและโดยไม่ต้องพูดอันใดข้ากับม้าขาวก็เป็นฝ่าย

กระโจนเข้าใส่พวกคนตัวผู้ ข้าต่อสู้กับมันโดยไม่นึกหวาดหวั่น จะเป็นห่วงก็แต่ม้าขาวที่ต่อสู้จนสุดแรงเกิด


               “อ้ากกก”


               “ม้าขาว!”


               ลิงลมฟาดด้ามหอกลงกับแผ่นหลังของม้าขาวจนมันหน้าคว่ำลงไปกับพื้น จากนั้นก็ใช้คมหอกจ่อลงไปที่

คอหอยเพื่อหยุดม้าขาวให้หมดทางต่อสู้ ข้าเบิกตามองอย่างตกใจจนกระทั่งสูญเสียความระวังตัวและในที่สุดพวกมันก็รุม

ข้าจนกระทั่งพวกมันใช้เถาวัลย์มัดร่างของข้าไว้ได้ในที่สุด






               ข้าถูกผลักให้ล้มลงกลางลานดินของเผ่าต่อหน้าสิงโตเฒ่าผู้เป็นหัวหน้าเผ่า มันเป็นคนตัวผู้ใบหน้าน่าเกรงขาม

เนื้อตัวมีแต่รอยแผลเก่าจากการต่อสู้เป็นการประกาศศักดาถึงความแข็งแกร่ง สิงโตเฒ่าจ้องมองมายังข้าด้วยสายตาที่

เต็มไปด้วยคำถาม


               “สูหายไปไหนมาเสือดำ”


               ยังไม่ทันตอบคำถามลิงลมก็ชิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน


               “มันหนีไปพร้อมกับเชลย”


               ข้าเงยหน้ามองลิงลมอย่างชิงชัง


               “ข้าเป็นผู้จับมันได้ ข้าย่อมได้รับการเป็นเจ้าของมัน”


               สิงโตเฒ่าเพ่งมองข้าด้วยความกังขา


               “ก็แค่เชลย หากสูอยากได้มันไปครอบครองก็แค่บอกข้า เหตุใดต้องพามันหนีด้วยเล่า”


               “เพราะเชลยที่มันต้องการเป็นคนตัวผู้ที่งดงามที่สุดในเผ่าที่เราไปบุกมาเช่นไรเล่า”


               “ไอ้ลิงลม!”


               ข้าจ้องมองมันอย่างเคืองแค้นแม้ว่ามันจะเป็นสหายผู้หนึ่ง มันยิ้มเยาะพลางเดินไปดึงม้าขาวที่ถูกจับมัดให้ก้าว

เข้ามากลางลานดิน มันผลักให้ม้าขาวล้มลงเคียงข้างข้า ผู้คนในเผ่าที่ยืนล้อมมองเหตุการณ์ต่างพากันมองม้าขาวเป็นตา

เดียว

               เรือนร่างสมส่วนไม่ดำไม่ขาวจนเกินไปแต่งแต้มด้วยลายงดงามจากยางไม้สีสดแปลกตาทำให้ม้าขาวเป็น

เชลยที่งดงามที่สุด คนตัวเมียพากันหัวร่อคิกคักชะม้ายสายตามองในขณะที่คนตัวผู้ก็มองม้าขาวด้วยความหื่นกระหาย นั่น

เป็นสิ่งที่ข้าไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย ม้าขาวเหลียวมองรอบตัวอย่างตื่นตกใจจนข้าแสนสงสาร ข้าหันไปมองสิงโตเฒ่าด้วย

สายตาเว้าวอน


               “ได้โปรดเถิดท่านพ่อเฒ่า ข้าต้องการใช้ชีวิตเคียงคู่กับมันผู้นี้ ท่านผู้เฒ่าได้โปรดเห็นใจข้าด้วย”


               สิงโตเฒ่าย่างเท้าก้าวเข้าไปหาพลางใช้มือบีบคางม้าขาวให้เงยหน้าขึ้น ม้าขาวมองโต้ตอบอย่างกล้าหาญ

แม้ว่ามันกำลังสั่นด้วยความหวาดกลัว รอยยิ้มแสยะเกิดขึ้นบนปากซีดแตกระแหงของสิงโตเฒ่าพร้อมกับสายตาโลมเลีย

ม้าขาวไปเสียทั้งตัว


               “งดงามปานนี้ไงเล่า เจ้าเสือดำจึงอยากครอบครองเช่นนี้”


               “พ่อเฒ่าข้าของร้อง”


               ข้าอ้อนวอนอย่างไม่เคยทำมาก่อนแต่สิงโตเฒ่ากลับไม่ปรานีแม้แต่นิดเมื่อมันยืดตัวขึ้นประกาศก้องกลางลาน

ดิน


               “คนตัวผู้อันงดงามผู้นี้จะได้รับพรอันสูงสุดจากเทพอัคนี มันจะได้เป็นกายบูชายัญแด่องค์เทพในอีกสองดวง

อาทิตย์ขึ้น คนตัวผู้ทุกตัวในเผ่าของเราจะได้สมสู่กับมันถ้วนหน้าและหลังจากนั้นเสือดำจะได้รับพรให้เป็นผู้สมสู่เป็นคน

สุดท้ายก่อนปาดคอมันเพื่อบูชาเทพอัคนี”


               “ไม่!”


               ข้าตะโกนก้อง ม้าขาวหน้าซีดเผือดเมื่อมันหันมามองข้าอย่างรวดร้าว ข้าขยับกายเข้าหาแต่กับถูกไม้เท้าของ

สิงโตเฒ่าฟาดใส่ใบหน้าจนหงายหลัง


               “ระหว่างนี้แยกมันสองตัวออกจากกัน อย่าให้เสือดำเข้าใกล้กายบูชายัญได้”


               “เสือดำ!”


               “ม้าขาว!”


               ข้ายื้อยึดสุดแรงเกิดเมื่อม้าขาวถูกลากให้ไกลออกไปเรื่อยๆ ความเจ็บช้ำมาเยือนจนกล้าผยองใส่สิงโตเฒ่า


               “ข้าเคยนึกว่าสูเป็นผู้นำที่ดีจนเพลานี้จึงได้รู้ว่าข้าคิดผิด”


               “ข้าทำอะไรผิดหรือเสือดำข้าทำทุกอย่างเพื่อเผ่าของเรา สูต้องยอมเสียสละบ้าง ข้ารู้ว่าสูหวงแหนมันผู้นั้นแต่

เพื่อเทพอัคนีที่ดูแลพวกเราสูก็ต้องยอม”


               “ทั้งที่มันผู้นั้นคือคนที่ข้าต้องการใช้ชีวิตกับมันงั้นหรือ”


               “ใช่แล้วเสือดำ ข้าขอเตือนสูอย่าได้คิดจะลองดีกับข้า”


               มันเค้นเสียงจากปากซีดของมัน ดวงตาโปนถลนอย่างน่าหวาดกลัวก่อนจะหันกลับย่างเท้าเข้าไปในกระโจม

ใบไม้ เสียงหัวร่อเย้ยหยันจากคนตัวผู้รอบลานดินดังสะเทือนจนหน้าอกข้ากระเพื่อมจากความชิงชังพวกมัน





               พวกมันมิได้พันธนาการข้าแต่ข้าก็ไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ม้าขาวที่ถูกจับขังไว้ในกรงไม้ คนตัวผู้ในเผ่าผลัดกัน

เฝ้าม้าขาวไว้จนกระทั่งถึงวันครีษมายันในที่สุด

                ดวงตะวันใกล้จะตรงหัว กองไฟถูกจุดจนเปลวไฟแดงฉานปล่อยควันให้ลอยละล่องไปบนฟากฟ้า ม้าขาวถูก

จับให้นั่งอยู่บนเสลี่ยงแบกหามมันไปยังเนินดินสูงที่มีแท่นหินใหญ่หน้าตัดเรียบตั้งอยู่ ใบหน้าของม้าขาวเต็มไปด้วยความ

หวาดหวั่นเมื่อร่างเปลือยเปล่าที่ข้าเฝ้าคิดถึงถูกจับจากเสลี่ยงให้ไปนอนอยู่กลางแท่นหิน

               พ่อหมอของเผ่าส่งเสียงกู่ร้องโหยหวนขนลุกพลางเต้นไปรอบกองไฟและแท่นหิน คนในเผ่าพากันส่งเสียง

ตามด้วยความคะนองฮืกเหิม ข้ายืนอยู่แถวหลังสุดเพ่งมองสิ่งเหล่านั้นอยากเกลียดชัง

                สิงโตเฒ่าหัวหน้าเผ่าก้าวเดินขึ้นเนินมาเป็นคนแรก มันชูแขนสองข้างขึ้นฟ้าพลางกู่ตะโกนลั่นป่าก่อนจะหัน

กลับไปมองม้าขาวด้วยดวงตาหื่นกระหาย เสียงร้องตะโกนดังพร้อมตอบรับจากคนในเผ่า ทุกคนต้องการสมสู่กับม้าขาว

แม้แต่คนตัวเมีย ม้าขาวขยับชันกายถอยหลังกรูดอยู่บนแท่นหินอย่างไร้ทางต่อสู้ ข้ากลั้นหายใจเมื่อเห็นสิงโตเฒ่าก้าวขึ้น

ไปคร่อมกายลงกับม้าขาว


               “แด่เทพอัคนี”


               สิงโตเฒ่าประกาศ มันจับขาของม้าขาวแยกออกจากกัน


               พรึ่บ!


               “อ๊ากกกก”


               เสียงดังอื้ออึงพร้อมความโกลาหลเมื่อลูกดอกพุ่งแหวกอากาศเข้าไปปักที่หัวไหล่ของสิงโตเฒ่า มันร้องลั่น

อย่างเจ็บปวดกับพิษจากยางไม้ที่ข้าเคลือบไว้ที่ปลายลูกดอก ม้าขาวยกเท้าถีบมันจนร่วงไปจากแท่นหินส่วนข้ารีบคว้า

ท่อนเหล็กคมกริบที่ลอบไปตีมันขึ้นมาในถ้ำในช่วงสองวันที่ผ่านมาโดยที่ไม่มีใครสนใจ

                ข้าบุกทะลวงเข้าไปใกล้แท่นหินพลางพุ่งหอกคมอีกอันหนึ่งให้ม้าขาวคว้าไว้และร่วมต่อสู้กับข้า มีดเหล็กอัน

ใหญ่ในมือล้มชีวิตคนตัวผู้ในเผ่าได้หลายคนจนกระทั่งข้าเข้าไกล้ม้าขาวและพยักหน้าให้มันออกวิ่งติดตามข้าที่ใช้มีด

เหล็กฟาดฟันเปิดทางนำข้าและม้าขาวหนีไปจากที่นี่


               “ตามมันไป”


               เสียงสิงโตเฒ่าบาดเจ็บลุกขึ้นมาออกคำสั่ง พวกมันที่เหลือวิ่งตามข้ากับม้าขาวมาจนกระทั่งเราต้องหยุดเท้า

ลงเมื่อเบื้องหน้าเป็นหน้าผาสูงชันและมีน้ำตกสาดน้ำซัดเสียงดังสนั่น ข้าหันกลับไปยกมีดเหล็กขู่พวกมันไว้


               “สูทำผิดกฎของเผ่า ทำลายพิธีบูชายัญเพื่อเชลยเพียงคนเดียว ข้าผิดหวังเหลือเกินเสือดำทั้งที่สูเป็นคนตัวผู้

ที่ฝีมือดีที่สุดและเป็นความหวังที่ข้าตั้งไว้เพื่อสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่า”


               “ข้าไม่อาจยินยอมให้ม้าขาวกลายเป็นกายบูชายัญ มันคือคนของข้า”


               “เปลี่ยนใจยังทันเสือดำ”


               สิงโตเฒ่าเกลี้ยกล่อม


               “หากสูยังดึงดัน ข้าจะขับสูออกจากเผ่าแล้วกำจัดสูให้สิ้นลม”


               ข้าหันไปกระชับมือกับม้าขาวและสบตากับมัน


               ไม่มีมันก็ไม่มีข้า เราต่างมองตาและหัวใจ


               และยังไม่มีใครทันคาดคิด ข้ากับม้าขาวก็หันหลังกระโจนแหวกอากาศร่วงลงสู่น้ำตกที่สาดซัดลงไปยังเบื้อง

ล่างโดยไม่หวาดกลัวความตาย
               



             ร่างของข้าซบอยู่กับผืนดินที่ยังมีลำน้ำซัดเข้าหาเป็นระยะ ข้าเงยหน้าสูดลมหายใจและสำลักเมื่อน้ำในร่าง

ทะลักออกมาจากปาก ใช้มือยันกายขึ้นพลางมองหาจนกระทั่งเจอม้าขาวนอนแผ่อยู่ไม่ไกลจากข้านัก


               “จับยึดมือข้าไว้ม้าขาว”


                 ตะโกนบอกมันก่อนกระโดดลงมาจากภูผาสูงร่วงหล่นลงน้ำดังตูม สายน้ำลึกหมุนวนและไหลเชี่ยวพัดพาเรา

ไกลออกมาโดยที่มือของเรายังจับกันไว้มั่น ข้าลอยตัวปล่อยให้สายน้ำเชี่ยวพัดพาเราทั้งสองมาจนกระทั่งมันพาเรามา

นอนเกยอยู่บนฝั่ง

                  ข้าคลานสี่ตีนเข้าไปหายกมือตบหน้าม้าขาวเบาๆ ไม่นานนักมันก็ลืมตาขึ้นมา เปลือกตาของมันปิดและเปิด

อีกไม่กี่ครั้งมันก็หันมาสบตากับข้า ม้าขาวผลักตัวเองขึ้นนั่งก่อนที่เราจะโผเข้ากอดและดูดปากกัน


                “ขอบใจเหลือเกินเสือดำที่ช่วยข้า”


                 มันเอ่ยเมื่อเราผละปากออกจากกันแล้ว ข้ายกมือลูบหน้ามันเบาๆ


                 “ข้าทนไม่ได้หากสูจะต้องถูกคนอื่นย่ำยี”


                  “แม้ว่าสูจะถูกขับออกจากเผ่างั้นรึ สูเสียสละเหลือเกิน”


                  มันมองข้าด้วยสายตาหวานราวกับน้ำผึ้ง ข้าดึงมันเข้ามากอด


                “ไม่อยากให้ข้าอยู่ในเผ่าข้าก็ไม่อยู่ ข้าอยู่ที่ใดก็ได้ที่มีสูอยู่”


               “เสือดำ”


               “อยู่เคียงข้าตลอดไปได้ไหมม้าขาว”


               ข้ากระซิบกับหูและม้าขาวให้คำตอบด้วยการดึงหน้าข้าไปดูดปาก ข้าผลักมันให้กลับล้มไปนอนอยู่บนดินชื้นที่

ยังมีสายน้ำพัดเข้าหา ไล่ลิ้นไปตามลายยางไม้สวยสดจนถึงแอ่งสะดือ ม้าขาวสะดุ้งเฮือกเมื่อข้าจับคว้าท่อนเนื้อของมัน

เข้าไปในปาก


               “ดูดเบาๆเถิดเสือดำ ข้าจะขาดใจเสียก่อน”


               ม้าขาวต่อว่าเสียงกระเส่า มันยกขาตั้งชันเปิดทางให้ข้าได้ดันกายเข้าหา ม้าขาวขยับเอวรับเมื่อข้าสอดดัน

เข้าไปทีละน้อยข้ากอดมันไว้ด้วยความคิดถึง ม้าขาวสอดมือลึกเข้ามาในเส้นผมของข้าและขยุ้มไว้เมื่อเข้าเด้าเอวเข้าใส่

กลีบปากแสนนุ่มของมันห่อเล็กและครางออกมาอย่างน่าดู


               “เสียวเหลือเกิน ร่องลึกของเจ้าช่างรับข้าได้ทุกสัดส่วน”


               ข้าเงยหน้ากัดฟันเมื่อความคับแน่นกำลังจู่โจมจนหน้าท้องเกร็งไปทุกส่วน ข้าชันขาลุกขึ้นยืนพลางสอดมือไป

ที่ใต้เข่าของม้าขาวยกมันจนลอยสูงเหลือเพียงสะบักที่ยังติดพื้น ความต้องการทะยานจนต้องเร่งเอวไม่หยุดยั้ง ม้าขาวส่ง

เสียงดังลั่นมันคว้าแก่นกายตัวเองรูดรั้งจนกระทั่งพากันหน้ามืดเมื่อเราล่วงล้ำไปถึงสวรรค์บนดิน





    มีต่ออีกนิด...
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 04-11-2015 11:15:21
ต่อกันตรงนี้จ้า...



                ในยามราตรีนั้นข้าพิงกายกับโขดหินริมลำธารเมื่อเราต่างอิ่มจากปลาที่เอามาเผากับกองไฟแล้วผลัดกันป้อน

เข้าปาก มีเพียงเราสองคนกับป่ากว้างและท้องฟ้ามึดมิด ข้ายอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเริ่มต้นกับม้าขาว ขอแค่มีมันข้าไม่นึก

อยากมีผู้ใดอีกแล้ว ม้าขาวเหลียวมองข้ามันซุกกายอยู่กับอกข้า


               “สูคือชีวิตของข้า”


               มันเอื้อนเอ่ยออกมาข้าจึงกอดมันเป็นรางวัล มันสะกิดข้ายิกๆ


               “ทำไมรึม้าขาว”


               มันดึงมือข้าไปจับอยู่บนท่อนเนื้อหยุ่นของมันให้ข้านวดเฟ้นมันขึ้นมา


               “ข้าอยากได้สู”


               “ตามใจสูสิ”


               “ข้าหมดแรง”


               ข้าโคลงหัวใส่ม้าขาว แต่ก็ยอมดูดปากและเลื่อนตัวลงมากลืนกินปลุกเร้าจนกระทั่งท่อนเนื้ออวดตัวล้อ

แสงจันทร์ข้าจึงขยับขึ้นไปนั่งทับให้มันถูไถกับช่องทางแหวกเร้น สัมผัสอบอุ่นทำให้ข้าเองก็ต้องการม้าขาวไม่ยิ่งหย่อน

ไปกว่ากัน ข้าจับให้มันเสียดแทงเข้าไปในร่องลึกของข้าทีละนิดในขณะที่ข้าสวมกอดและดูดปากแลกลิ้นจนเสียงดังลั่น


               “อา ลึกมาก ลึกกว่าที่เคย”


               ด้วยท่วงท่าแปลกประหลาดมันสร้างความรัญจวนเหลือเกิน ท่อนเนื้อของม้าขาวสอดเสียดสัมผัสภายในร่อง

ลึกจนข้าหนาวสะท้าน ข้าหมุนเอวเข้าใส่และกระแทกมันลงไป


               “อุ๊ก เสียวเกินไปแล้วเจ้าคนเก่ง”


               ม้าขาวร้องลั่นพลางสวนเอวกลับ ข้าถึงกับสูดปากลั่นเบียดตัวเข้าหามัน ม้าขาวดูดนมข้าจนแดงก่ำ มันยึดเอว

ข้าไว้แล้วชันเข่าเข้าช่วยเมื่อมันดันเอวขึ้นมากระทุ้งจนหัวข้าสั่นคลอน


               “ม้าขาว”


               “เสือดำ”


               ส่งเสียงกู่ร้องเมื่อเทพอัคนีมาเยือนอยู่ตรงหน้า ข้าซบหน้าลงไปบนหัวของมันแล้วพากันหอบหนักพักใหญ่




               “เราทั้งสองอยู่ที่นี่กันก็ดีนะในเมื่อเทพอัคนี้ชี้ทางเรามาที่นี่”


               ม้าขาวเอ่ยขึ้นพลางมองไปโดยรอบ


               “ใกล้ลำธาร มีที่ราบตั้งกระโจมใบไม้ มันสงบและน่าอยู่จนข้าไม่อยากไปที่อื่น”


               “ตามใจสูสิ”


               “เอ่ยคำอื่นบ้างก็ได้เสือดำ สูจะดีกับข้าเกินไปแล้ว”


               ม้าขาวหน้าแดงอยู่ในความมืด มันงดงามจนข้าต้องโลมเลียใบหน้าของมันไม่ว่างเว้น


               “เพราะสูเองก็เอาชีวิตข้าไปแล้ว ตอนนี้ชีวิตข้าเป็นของสู”


               เราต่างจ้องตากันและกัน ข้าดีใจเป็นล้นพ้นที่ไม่ได้ปาดคอม้าขาวตั้งแต่คราวแรกที่ได้เจอ เพื่อที่วันนี้มันจะได้

ชีวิตและจิตใจของข้าไปครอบครอง


               “เช่นนั้น ข้าขอใช้ความเป็นเจ้าของชีวิตสูด้วยการทำให้สูมีความสุขอีกสักครั้งนะเสือดำ”


               เสียงของม้าขาวนุ่มนวลเหลือเกิน ข้าดันกายให้มันล้มลงไปบนพื้นดินแล้วยิ้มให้มันอีกครา


               “ตามใจสูสิม้าขาว”



                                               -----------------------จบแล้ว ย้ากกกก------------------------



เรื่องต่อไปจะแต่งแนวอบอุ่น ใสๆวิ้งๆนะคะ

 :hao3: :hao3: :hao3:



ปอลิง... ทำโพลด้านบนให้บ้างเด้อ    :L2: :L2: :L2:
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                               
               
               
               

               
               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 04-11-2015 12:06:05
จิ้มก่อน
ชอบให้เสือดำเป็นเมะอ่ะ
รอเรื่องหน้าน้า
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-11-2015 12:30:41
เป็นตอนจบที่อ่านแล้วลุ้นทุกตัวอักษร ไม่ใช่อะไรกลัวจบแบบดราม่ามากๆ แต่คนแต่งไม่ใจร้ายกับเราจบแบบครองคู่กันอย่างมีความสุข แฮปปี้มากๆชอบๆ กอดคนแต่งทีนึง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-11-2015 12:44:57
จบแล้ว~รอเรื่องต่อไป
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-11-2015 14:02:33
ลุ้นเสียใจหายใจคว่ำหมดเลยค่ะ
ครองรักกันดีๆนะ ของให้ทั้งสองคนปลอดภัย
รอเรื่องต่อไปค่ะ   :mew1: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 04-11-2015 16:52:33
สมหวังๆ ดีจังเลยยย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 04-11-2015 17:22:29
นึกว่าม้าขาวจะโดนย่ำยีซะแล้ว ดีนะเสือดำมาช่วยแล้วจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
รอเปิดเรื่องใหม่จ้า สู้ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 04-11-2015 19:15:18
ตอนนี้ทำให้รู้ว่าเมื่อสามพันปีก่อน มีการออนท็อปเกิดขึ้น  :m25: :z1: :pighaun: :haun4: :jul1: :oo1:
10/10 เลยเรื่องนี้ อิอิ
แต่จะให้ดีเสือดำน่าจะยิงให้โดนหัวไอ้สิงโตเฒ่าเลยนะไม่ใช่หัวไหล่  :m16:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: heroza ที่ 04-11-2015 21:34:47
 :impress2: สุดท้ายก็ได้อยู่คู่กันสมใจหมาย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 04-11-2015 22:31:34
จะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรารอจบแล้วค่อยมาอ่าน55555
แอบอ่านยากนิดนึง ต้องค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ลุ้น
แต่ภาษาหนุกมาก ชอบๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-11-2015 00:33:17
ลุ้นแทบแย่  สุดท้ายไรท์ก็ไม่ได้ใจร้ายกับเรานัก   :กอด1:

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 05-11-2015 00:41:30
หวายยยย ผลัดกันตลอด55555555555555555555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 05-11-2015 00:57:24
นึกว่าจะเป็นอะไรไปซะแล้ว แฮปปี้จ้า ขออย่าให้มีใครตามมารังควานอีกเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 05-11-2015 02:42:58
 :m25: หว๊ายยยยยย พลิกสุดๆไปเลยพี่เสือดำ ยอมให้พี่ม้าขาวด้วย   :ling1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << เอาชีวิต บทที่ 5 จบตอน >> 04/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 05-11-2015 22:58:30
รอเรื่องต่อไปฮะ
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 30-11-2015 21:04:17


                                                                       ลูกเลี้ยง

                                                                        บทที่ 1               


               ภาติยะเงยหน้าทอดสายตามองควันดำกลุ่มใหญ่ที่กำลังลอยสูงไปบนท้องฟ้ากว้างราวกับกำลังส่งให้มันได้

โลดแล่นไปสู่อิสระอย่างที่ต้นเหตุของมันเคยต้องการหนักหนา เขายืนอยู่นานจนกระทั่งหันกลับไปมองใครคนหนึ่งที่ยืน

สงบนิ่งอยู่ภายใต้ผืนผ้าสีกรัก ใบหน้าสงบนิ่งนั้นยังคงมีร่องรอยความเศร้าหมองฉาบอยู่ขณะจ้องไปยังเปลวไฟที่เผาไหม้

ร่างไร้ชีวิตอยู่บนเมรุตรงหน้า

               ใบหน้าของเด็กวัยรุ่นอายุแค่สิบเจ็ดปีช่างคล้ายคลึงกับรูปถ่ายของผู้หญิงที่ตั้งอยู่ใกล้กับทางเดินลงจากเมรุ

เพียงแต่เด็กหนุ่มคนนั้นมีเชื้อสายของชาวตะวันตกที่ไม่สามารถระบุสัญชาติได้ผสมอยู่ มันกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวกับ

เครื่องหน้าคมเข้มของลูกครึ่งรวมทั้งความสูงกว่าคนที่อยู่วัยเดียวกัน


               “ธาม”


               ภาติยะเดินตรงไปหยุดยืนเบื้องหลังแล้วเอ่ยชื่อเด็กหนุ่มคนนั้น เด็กหนุ่มที่เป็น “ลูกเลี้ยง” ของเขา

               ใช่ ธามเป็นลูกเลี้ยงของภาติยะ ทั้งที่เขาเพิ่งจะมีอายุผ่านหลักสามมาได้แค่ปีเดียวและผู้หญิงในรูปที่กำลัง

กลายเป็นควันอยู่บนท้องฟ้านั่นคือธารีภรรยาของเขาและเป็นแม่ของธาม

                ภาติยะพบเจอกับธารีตอนที่เขาเพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรีด้านดนตรีจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง เมื่อเขาไปรับงาน

เล่นเปียโนแทนเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บในคลับหรูแห่งหนึ่งของโรงแรมกลางเมืองหลวง วันนั้นเป็นวันแรกที่เขาได้พบกับนัก

ร้องสาวเสียงดีที่กล่อมให้ผู้ฟังเคลิ้มตามด้วยเสียงดุจระฆังแก้ว ภาติยะตกหลุมรักธารีทันทีแม้ว่าฝ่ายหญิงจะมีอายุมากกว่า

เขาถึงห้าปีก็ตามแต่ภาติยะไม่ได้สนใจตรงนั้น หากแต่เสน่ห์ในการร้องเพลงต่างหากที่ดึงดูดให้เขาไม่อาจละสายตาจาก

ใบหน้าคมกริบอย่างสาวใต้ของธารี

               ช่วงเวลาที่ยังว่างจากการเสาะหางานทำให้ภาติยะมีเวลามากพอที่จะมานั่งเฝ้าธารีได้ และในที่สุดเพราะความ

อ่อนโยนช่างเอาใจใส่และฝีมือในการเล่นเปียโนของภาติยะก็ทำให้สาวรุ่นพี่เปิดใจให้เขา และครั้งแรกที่ภาติยะได้เรียนรู้

ชีวิตของธารีเขาก็ถึงกับอึ้งเมื่อธารีแนะนำให้ภาติยะได้รู้จักกับเด็กลูกครึ่งวัยสิบขวบที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆธารี


               “นี่คือธาม เขาเป็นลูกของธาร”


               คำแนะนำง่ายๆดังขึ้นเมื่อผู้ชายสองวัยนั่งมองหน้ากัน ผู้หญิงเพียงคนเดียวเปิดใจให้ภาติยะฟังอย่างไม่อาย


               “ธารเป็นเด็กกำพร้าต้องต่อสู้ชีวิตคนเดียวตั้งแต่ยังเด็ก พอเริ่มสาวก็รู้ตัวว่าเป็นคนรักเสียงเพลงเลยมาเป็นนัก

ร้อง ตอนอายุสิบแปดธารมีความสัมพันธ์กับมือกีตาร์ของวงร็อคที่เป็นฝรั่ง อย่าถามนะว่าเป็นใครเพราะชื่อก็ยังไม่รู้จักเลย

เราไปเที่ยวกันมีเซ็กส์กันไม่กี่ครั้งเขาก็กลับไปบ้านเกิด ธารเพิ่งรู้ว่าธารพลาดธารตั้งท้องแต่ธารก็ไม่ต้องการทำลายลูก

ธารให้เขาเกิดมาและพยายามเลี้ยงธามให้ดีที่สุดเท่าที่แม่นิสัยไม่ดีคนหนึ่งจะทำได้”


               ธารียิ้มให้เขาอย่างเข้าใจที่สุด


                “คิดให้ดีก่อนตัดสินใจ อนาคตของภีมยังอีกไกล อาจจะมีผู้หญิงคนอื่นที่เหมาะกับภีมมากกว่าธาร แม่ม่ายลูก

ติดที่ชีวิตเคยเหลวแหลกมาก่อน”


               ภาติยะรักธารีมากเกินกว่าจะตัดใจ

               และในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน ธารีเป็นภรรยาที่ดีทั้งเรื่องการบ้านและเรื่องบนเตียงกับชายหนุ่มที่

ไม่เป็นประสาอย่างเขา แม้แต่ตอนที่แม่ของภาติยะป่วยธารีก็ช่วยดูแลจนกระทั่งเอาชนะใจแม่ของเขาที่ไม่ชอบหน้าธารีได้

และเมื่อแม่ของภาติยะเสียชีวิตลงเขาก็ไม่เหลือญาติคนอื่นอีก ธารีและธามเข้ามาอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านชั้นเดียวหลัง

เล็กที่เป็นมรดกของเขา ภาติยะได้งานเป็นครูสอนเปียโนในโรงเรียนสอนดนตรีและรับงานพิเศษในคลับเฮาส์เฉพาะวัน

ศุกร์เสาร์ ส่วนธารีก็ยังคงร้องเพลงที่เธอรัก ชีวิตคู่เรียบง่ายดำเนินมาจนผ่านไปเจ็ดปีก็เกิดเหตุร้ายเมื่อร่างกายของธารี

ผอมลงเรื่อยๆและยังมีอาการเหนื่อยง่ายอีกด้วย


               “ธารไม่อยากไปหาหมอ เดี๋ยวก็ตรวจโน่นตรวจนี่ค่ารักษาแพงจะตาย ธารไม่เป็นอะไรหรอกน่า เก็บเงินไว้ให้

ธามเรียนดีกว่า”


               ตอบอย่างดื้อดึงทุกครั้งที่ภาติยะให้ไปหาหมอจนเขาได้แต่อ่อนใจ และในที่สุดนาทีวิกฤติก็มาเยือนเมื่ออยู่ร่าง

ผอมของธารีก็ร่วงลงไปกองกับพื้นทั้งที่อยู่บนเวที ภาติยะรีบพาธารีไปพบแพทย์ สิ่งที่รับรู้ทำให้ภาติยะถึงกับช็อก


               “คุณธารีเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะสุดท้าย”


               ดูเหมือนเจ้าตัวจะรับสภาพได้เร็วกว่าสามีเสียอีก ใบหน้าสวยคมทำเพียงถอนหายใจเบาๆในขณะที่เขาละล่ำ

ละลักถามหมอ


               “ยังไงก็รักษาได้ใช่ไหมครับหมอ มะเร็งเม็ดเลือดให้คีโมได้นี่ครับ”


               คำตอบจากนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญราวกับเครื่องประหารชีวิตเมื่อภาติยะได้ยิน


               “คีโมให้ได้เมื่อเป็นช่วงแรกถึงจะได้ผลดีที่สุด แต่ในระยะที่คุณธารีเป็นหมอคิดว่ามันไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น”


               เขาทรุดนั่งอย่างหมดแรง คนที่ปลุกปลอบกลับเป็นธารีที่เข้มแข็งเหลือเกิน


               “ชีวิตนี้ยังไงก็ต้องตายสักวันหนึ่งแค่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น แต่ชีวิตที่ผ่านมาของธารคุ้มค่าแล้วที่ได้มีสามีอย่าง

ภีมและมีลูกอย่างธาม ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ก็ขอแค่ให้ธารได้มีความสุขกับครอบครัวธารก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”


               ธารีใช้ช่วงชีวิตสุดท้ายเข้าๆออกๆโรงพยาบาลอีกเพียงสามเดือนลมหายใจรวยรินก็หยุดลงอย่างสงบ ภาติยะ

นึกเสียดายที่เขาไม่มีลูกกับธารี สิ่งที่เหลือเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่เขารักจึงมีเพียงลูกเลี้ยงวัยสิบเจ็ดปีที่บวชเณรหน้าไฟ

ให้มารดาเป็นครั้งสุดท้าย


               “เย็นมากแล้ว ไปลากับท่านเจ้าอาวาสแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับบ้านกันเถอะ”


               ลูกเลี้ยงหันมามองเขาด้วยนัยน์ตาเรียบเฉย ดวงตาที่ถอดแบบมาจากธารีทำให้ภาติยะสะท้อนใจ อายุเพียงสิบ

เจ็ดปีแต่ธามสูงพ้นหัวของเขาไปแล้ว ใบหน้าที่ปราศจากเส้นผมยังคงหล่อเหลาไม่ต่างจากตอนที่เจ้าตัวปล่อยผมให้ยาว

ระต้นคอแล้วใช้เจลแต่งผมให้มันยุ่งๆตามความนิยมของวัยรุ่นยุคนี้

               นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ภาติยะกลุ้มใจ

               ตั้งแต่รู้จักกันวันแรกก็ดูเหมือนธามจะไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไหร่ ลูกเลี้ยงของเขาเป็นเด็กเงียบขรึม ยิ้มยาก

หากไม่คลุกคลีอยู่กับธารีก็จะอยู่เพียงลำพังกับกีตาร์ตัวเก่งที่เจ้าตัวเก็บเงินซื้อมา ธามพูดกับพ่อเลี้ยงอย่างภาติยะนับครั้ง

ได้เด็กหนุ่มมักจะก้มหน้าลงและเหลือบมองภาติยะมันกลายเป็นบุคลิกที่เขาคุ้นชิน และที่สำคัญธามไม่เคยเรียกเขาว่าพ่อ


                “คุณภีมไม่เหมาะจะเป็นพ่อของผมหรอก”


               แทบจะเป็นประโยคที่ยาวที่สุด แต่มันก็ทำให้ภาติยะเคืองได้มากที่สุดเช่นกัน


               ภาติยะอยากจะรู้นักว่าเขาต้องทำดีกับธามแค่ไหน ลูกเลี้ยงแสนหยิ่งจึงจะยอมรับเขาเสียที


               ก้าวกลับเข้ามาในบ้านหลังเล็กที่มีเพียงสองห้องนอนเท่านั้น ห้องหนึ่งเป็นของภาติยะกับธารีและห้องหนึ่งเป็น

ของธาม ผู้ชายต่างวัยหยุดยืนอยู่ในความเงียบงัน ดวงตาของภาติยะร้อนผ่าวเมื่อวันนี้เป็นวันแรกในรอบเจ็ดปีที่เขาจะต้อง

นอนเพียงลำพังในห้องโดยปราศจากธารี


               “แม่ตายไปแล้ว คุณภีมควรจะทำใจให้ได้”


               คำพูดของลูกเลี้ยงทำให้ภาติยะหมดความอดทน เขาหันไปสบตาธามอย่างตัดพ้อต่อว่า


               “ฉันทำใจไม่ได้ง่ายๆอย่างที่นายทำหรอกนะธาม นายก็รู้ว่าฉันรักธารแค่ไหน น่าแปลกใจนะที่ลูกชายคนเดียว

อย่างนายกลับทำใจได้ง่ายเหลือเกิน”


           ปัง!!                 

        ภาติยะสะดุ้งเฮือกเมื่อกำปั้นของธามลอยผ่านหูเสียงดังวืดไปกระแทกเข้ากับผนังปูนด้านหลัง เมื่อเขาตั้งสติและ

ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหัวใจของเขาก็ต้องเต้นรัวด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างสูงของธามยืนค้ำหัวและก้มหน้าจ้องมองเขาด้วย

สายตาดุดันในระยะใกล้ชิดเหลือเกิน



                “อย่าพูดเหมือนคุณรู้ใจผมนักเลยคุณภีม เพราะคุณไม่รู้หรอกว่าผมคิดอะไรกันแน่”



                ภาติยะรีบหลบตาเมื่อธามกระชากแขนกลับ เขาหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อธามย่ำเท้าเดินกลับเข้าไปในห้องทิ้งให้

เขาหมดแรงจนต้องพิงหลังไปกับผนังของบ้าน ภาติยะถอนหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้มกับความสัมพันธ์อันไม่มั่นคง

ระหว่างเขากับธาม โซ่ที่เหลือเพียงเส้นเดียวของเขากับธารี



                ภาติยะนอนคุดคู้อยู่เพียงคนเดียวบนเตียงกว้าง เขาหลับลงไปอย่างไม่สนิทนักเมื่อหมดแรงไปกับการร้องไห้

ในขณะที่อยู่คนเดียว มันอ้างว้างจนไม่กล้าจะปิดประตูให้สนิท เขาหลับไปอย่างอ่อนเพลียจนไม่รู้ว่าภายนอกห้องมีใคร

บางคนนั่งอยู่ที่โซฟารับแขกเพื่อมองมายังเขาผ่านช่องแคบของประตูด้วยสายตาห่วงใย
               






                ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปเมื่อเสร็จจากงานศพของธารีแล้วภาติยะก็ต้องไปทำงานเช่นเดิม และวันนี้เป็นวันศุกร์

ที่เขาต้องกลับบ้านดึกกว่าปกติเพราะเพิ่งเลิกจากงานเล่นเปียโนในโรงแรม ภาติยะกลับเข้ามาในบ้านพลันก็ต้องแปลกใจ

เมื่อเห็นรองเท้าอีกคู่ที่ไม่คุ้นตา


                เสียงเพลงวัยรุ่นดังลอดมาจากห้องของธาม ภาติยะก้าวเข้าไปหยุดยืนหน้าประตูห้องหวังจะบอกให้ลูกเลี้ยง

เบาเสียงดนตรีลง มือเรียวของนักเปียโนจับค้างที่ลูกบิดและผลักเข้าไปช้าๆ แต่เมื่อเขาเงยหน้ามองภาพที่เห็นทำให้เสียง

ของเขาหายไปไหนลำคอทันที



                “ฮึก โอย เบาๆไอ้เหี้ยธาม รูกูแหกหมดแล้ว”



                “หึ มึงก็รู้ว่ากูยั้งแรงไม่อยู่”



                เสียงขรึมเป็นนิจตอบโต้กลับทั้งที่ยังคร่อมกายอยู่เหนือร่างที่นอนหงายยกขาให้ธามได้กระแทกกระทั้นใส่

ใบหน้าคนใต้ร่างบิดเบี้ยวเหยเกด้วยแรงอารมณ์ ธามขยับชันเข่าแล้วช้อนมือยกสะโพอีกฝ่ายจนลอยเหนือพื้นเตียงแล้ว

สาวเอวใส่ไม่ยั้ง เสียงร้องลั่นครวญคร่ำดังแข่งกับเพลงร็อคที่เปิดไว้ลั่นห้อง



                “โอ๊ย ซี้ด ไอ้ธาม มึงแม่งเจ๋งสุดๆ รู้งี้กูเอากับมึงนานแล้ว”



                ธามไม่ตอบโต้อะไรอีก เขากดยิ้มที่มุมปากเมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังเป็นเป้าสายตาของใครบางคนที่จ้องมองอย่าง

ตกตะลึง ธามกัดฟันซอยเอวไม่ยั้ง เพื่อนของเขาที่ชื่อกบบิดกายพล่านจนหลังไม่ติดเตียง กล้ามเนื้อรอบแท่งเอ็นร้อนระอุ

ตอดรัดจนเขาเองก็ต้องถึงกับเงยหน้ากัดฟันสูดปากพลางสาวเอวจนพริ้วไหว



                “อ๊ากก ไอ้ธามตรงนั้นเสียวชิบหาย มึงเด้าแรงๆมาเลย”



                “แล้วมึงจะได้รู้ว่าสวรรค์มันเป็นยังไง”



                ธามรู้ ร่างกายใต้ล่างใกล้จะถึงฝั่งฝัน เขาช่วยเพื่อนด้วยการกอบกุมแท่งเนื้อที่ชูชันอยู่แล้วสาวรูดสนุกมือ

พร้อมกับเอวที่กระแทกไม่ยอมหยุด กบร้องลั่นพลางยกตัวเบียดกายเข้าหาให้เขาจัดการอย่างถึงใจ ธามมองเพื่อนที่

ตะกายขึ้นฟ้าดวงตาลอยคว้างก่อนจะหันขวับไปยังคนที่แอบมองจนสะดุ้งตัวโยน


                ธามถอนกายออกจากร่างกายที่ยังบิดเกร็งด้วยความสุขสมแล้วก้าวลงจากเตียงหันไปอวดกายเปล่าเปลือยที่

ท่อนเนื้อยังเปียกชื้น เขาดึงถุงยางอนามัยออกและโยนทิ้งถังขยะก่อนจะเงยหน้าส่งยิ้มท้าทายไปยังหน้าประตูห้อง



                “แอบมองทำไมครับ หรือว่าอยากจะมาร่วมวงด้วยล่ะ คุณพ่อเลี้ยง”



                ภาติยะหน้าแดงก่ำเมื่อยืนมองบทรักอันเร่าร้อน เขารู้ว่าลูกเลี้ยงโตเป็นหนุ่มแล้วก็ต้องมีเรื่องเซ็กส์บ้างแต่ไม่

นึกว่าธามจะมีเรื่องอย่างว่ากับผู้ชายด้วยกัน เมื่อได้ยินคำพูดท้าทายภาติยะก็ถึงกับเดือดจนต้องก้าวเข้ามาในห้องจนคน

ที่นอนบนเตียงถึงกับตกใจ



                “เหวอ ไอ้ธาม นี่พ่อเลี้ยงมึงนี่หว่า”



                ภาติยะกำหมัดแน่นมองธามและเพื่อนสลับกัน



                “ทำไมทำตัวอย่างนี้ธาม เรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องธรรมชาติแต่ไอ้ที่ทำอยู่มันผิดธรรมชาติไม่รู้หรือไง”



                ธามยักไหล่แล้วเท้าเอวมองอย่างไม่สนใจคำพูดของภาติยะ ทำให้ภาติยะยิ่งโมโหหนักกว่าเดิม



                “เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาเสียที รู้ไหมว่าถ้าแม่นายรู้จะเสียใจแค่ไหน”



                ดวงตากร้าวหันขวับมาจนภาติยะหน้าเสีย ใบหน้าธามยามโกรธน่ากลัวเหลือเกิน



                “อย่าพูดถึงแม่แบบนั้น แม่จะเสียใจที่ผมทำอะไรโดยไม่มีความสุขต่างหาก”



                ธามชี้มือไปที่ประตู



                “กลับออกไปซะ ผมยังไม่อยากทะเลาะกับคุณภีมตอนนี้”



                ภาติยะกัดฟันข่มอารมณ์ทั้งโกรธทั้งน้อยใจที่เกิดขึ้นจนแยกไม่ออก เขาสะบัดหน้าเดินหนีออกไปจากห้อง

ธามมองตามและก็ถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นร่างเพรียวของพ่อเลี้ยงเดินลับตากลับไปยังห้องของตัวเองแล้ว



                “เฮ้ยธาม มันจะดีหรือวะ”



                กบที่เพิ่งจะลุกจากเตียงเดินมาหยุดยืนอยู่เบื้องหลังแล้วพูดอย่างเป็นห่วง



                “กูรู้สึกไม่ดีเลยว่ะที่มึงต้องมาทะเลาะกับพ่อเลี้ยงของมึงเพราะว่ามึงแค่มาช่วยให้กูหายเงี่ยน กูว่ามึงควรจะไป

พูดกับเขาให้เข้าใจนะ”



                ธามยกมือห้ามเพื่อน



                “ช่างเขาเถอะ สักวันเขาจะเข้าใจเองว่ากูคิดยังไงกับเขาอยู่”



                ธามจ้องประตูห้องที่อยู่ตรงข้ามกับห้องของเขาราวกับจะมองให้ทะลุถึงคนที่อยู่ภายในนั้นก่อนคลี่ยิ้มออกมา
 


                                                             TBC
 


ตอนใหม่ใสปิ๊งๆ หลังจากอินดี้มาหลายเรื่อง


ขอแต่งแนวโรมานซ์ เคะสูงวัยกับเมะวัยอ่อนบ้างนะคะ
 
:-[ :-[ :o8: :o8:
               
               
อ่านแล้วอย่าลืมกดโพลด้วยเด้อ


มีผลต่อตอนรวมเล่มนะจ๊ะ
 
     
o18 o18
                     
                                                               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 30-11-2015 21:14:46
ปูเสื่อรออออออ  :-[ :o8: :impress2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 30-11-2015 21:19:15
น้องธามจะทำอะไรพ่อเลี้ยงคะนั่น
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 30-11-2015 21:31:41
โอจิค่อนนนน
คุณลูกเลี้ยงคิดไม่ซื่อแน่ๆ แต่ทำแบบนี้คุณพ่อทูนหัวเขาจะรู้ได้ไง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-11-2015 21:44:47
เมะอ่อนกว่ามันก็ดีค่ะแต่แอบสงสารสังขารฝ่ายเคะ

โอจิค่อนก็โอเค. ว่าแต่ธามทำไมฝังใจกับคุณภีมล่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 30-11-2015 22:04:56
ฮึ ธามบอกว่าภีมไม่เหมาะจะเป็นพ่อเลี้ยงแต่เหมาะจะเป็นเมียมากกว่าสินะๆ  :oo1: คาดว่าที่ผ่านมาธามคงชอบภีมมาตั้งแต่แรกแต่เพราะเป็นแฟนแม่เลยไม่อยากจะใกล้ชิดสนิทอะไรมากเพราะกลัวจะห้ามใจไม่ได้ล่ะสิ แต่ที่ภีมรู้สึกน้อยใจที่ธามว่านี่เป็นเพราะอะไรล่ะ ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 30-11-2015 22:12:02
โอ้ว...เพื่อนกันเค้าช่วยเรื่องนึ้กันด้วยเหรอ

คุณลูกเลี้ยงไม่รับคุณพ่อเลี้ยงเป็นพ่อเพราะแอบชอบอยู่ใช่มั๊ย   :ruready
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 30-11-2015 22:45:32
ตอนใหม่ ความส้มพันธ์แบบนี้ชอบมาก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 30-11-2015 23:05:00
เทใจให้เรื่องนี้เลย
กรี๊ดดดดด
ดีมาก เคะสูงวัย อรั๊ยยย ลูกเลี้ยง แอร๊ยยยย
โคตรตรงสเปค ><
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 30-11-2015 23:54:14
พ่อเลี้ยง ลูกเลี้ยง ชอบค่ะๆ ไหนบอกว่าอบอุ่นไง เปิดมาก็ดราม่าซะแล้ว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: lovekodak ที่ 01-12-2015 00:51:15
รู้ตัวเร็วๆ นะว่ากำลังถูกเล็งตูดอยู่   :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 01-12-2015 02:03:16
อ้าววว โดนเด็กกิน  :ling1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 01-12-2015 03:18:55
รู้สึกปวดเอวแทนคุณพ่อเลี้ยงเลยค่ะ   ยิ่งธามชอบใส่ไม่ยั้งด้วย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 01-12-2015 03:51:17
ระวังโดนเด็กกินนะคุณพ่อเลี้ยง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 01-12-2015 07:48:15
ฮ่าๆ ๆอ่านตอนนี้ทำให้นึกถึงมังงะyaoi ที่ผมอ่านอยู่เนื้อเรื่องประมาณนี้แหละครับแซ่บอย่าบอกใครเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 01-12-2015 08:45:59
โอ้โนะๆ แอบร้อนแรงให้พ่อเลี้ยงดูหรอหนูธาม แหม่พ่อภีมเค้าก็เขิลเบาๆแหละ แต่ว่าการแสดงของธามนี่ติดลบมากเลยนะ ถ้าแอบรักเค้าก็บอกหรือส่งสัญญาณให้เค้ารู้บ้างก็ดี ไม่ใช่ปกปิดเก็บเงียบไม่พอ แต่นี่ไม่คุยแถมรุนแรงอีกต่างหาก แล้วพ่อภีมจะรู้หรอว่ารัก หืมมมมมม  :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 01-12-2015 09:36:57
เรื่องนี้เลิศมากกกกก
ชอบค่ะ เมะเด็กกว่าาา

รอว่าธามจะเผด็จศึกคุณภีมยังไงน่าาาา
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-12-2015 11:46:24
เรื่องใหม่มาแล้ว~
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 01-12-2015 21:40:13
เว้ยเว้ยเว้ย ของชอบเลยแบบนี้
เข้ามาแอบดูแล้วจากไป
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 01-12-2015 22:33:25
ชอบๆๆๆๆๆ
เชียร์น้องธามสุดใจจจจจจจจจ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 02-12-2015 07:25:48
มาละเว้ย มาละวา  เมียเก่าตายไป  ได้ลูกเลี้ยงมาแทน ตาละลา~  พ่อเคะ  ลูกเมะ  ฮุยฮา...โห่ฮิ้ว~

เพราะดูท่าทางน้องธามจะหล่อ เลว ร้ายน่าดู แล้วอย่างนี้พ่อภีมจะทำยังไงดีค้า~

ขอตั้งเต้นท์รอชมลูกเลี้ยงจับกดพ่อเลี้ยงจ้า...
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: littlegift ที่ 02-12-2015 13:44:25
 :haun4: :pighaun:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 02-12-2015 20:41:29
ฟินแนวนี้จุง ~~~~~~  :m25:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 03-12-2015 07:01:18
เฮ้ยๆๆ ชอบตอนนี้  >_<
เคะแก่กว่า  :hao7: :hao6:
ดูท่าหนุ่มธามจะแอบชอบภาติยะนะ 55555  :-[
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 1 >> 30/11/58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 03-12-2015 09:25:25
 :impress2:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 06-12-2015 22:52:29


                                                               ลูกเลี้ยง

                                                                บทที่ 2


              วันอาทิตย์เป็นวันที่ภาติยะยุ่งที่สุดเพราะผู้ปกครองมักจะพาเด็กในครอบครัวมาเรียนดนตรีกันในวันนี้ ภาติยะมี

คิวสอนเปียโนหลายคอร์สตั้งแต่โรงเรียนเริ่มเปิดจนกระทั่งเย็นย่ำ กว่าจะกลับบ้านได้เขาก่อนอ่อนระโหยโรยแรงเหลือเกิน

โดยเฉพาะวันนี้ที่ท้องฟ้ากำลังมีฝนหลงฤดูโปรยปรายลงมาจนอากาศเย็นชื้น

               เสียงกีตาร์คลาสสิคดังออกมาให้ได้ยินเมื่อภาติยะก้าวเข้าไปในบ้าน เขาเห็นธามกำลังนั่งดีดกีตาร์ตัวเก่งเทียบ

เสียงกับแผ่นคอร์ดที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก ใบหน้าเรียบเฉยเงยหน้าขึ้นมาเมื่อภาติยะก้าวเข้ามา คิ้วดำขมวดเมื่อเห็นสภาพ

ของเขา


               “ทำไมถึงตากฝน คุณภีมเป็นภูมิแพ้ไม่ใช่หรือไง”


               ภาติยะถึงกับเม้มปากเมื่อได้ยินเสียงดุ เขายกมือปัดความเปียกชื้นออกมาเส้นผม เมื่อเข้ามาในบ้านเขาเพิ่ง

รู้สึกว่าอากาศในวันนี้หนาวเย็นแค่ไหน


               “แล้วจะให้ทำยังไง ให้นั่งรอฝนหยุดอยู่ที่โรงเรียนเหรอ ฝนเปลี่ยนฤดูอย่างนี้มันไม่หยุดง่ายๆหรอก ขืนรอฉัน

คงได้นั่งแข็งตายอยู่ที่โรงเรียนนั่นแหละ”


               ได้ยินเสียงถอนหายใจมาจากลูกเลี้ยง ธามวางกีตาร์ลงแล้วเดินไปหลังบ้านที่มีราวตากผ้าอยู่ เขาคว้า

ผ้าเช็ดตัวของพ่อเลี้ยงติดมือกลับมา ธามดึงแขนของภาติยะให้นั่งลงบนโซฟาแล้วจึงใช้ผ้าเช็ดตัวในมือเช็ดผมให้ภาติยะ

               ภาติยะหายใจขัดขึ้นมาทันที เขานั่งตัวแข็งเมื่อธามกำลังเช็ดผมให้เขา แรงมือนั้นพอเหมาะจนภาติยะรู้สึก

สบายและปล่อยให้ธามทำเช่นนั้นจนกระทั่งความเปียกชื้นหายไป เมื่อผ้าเช็ดตัวพ้นไปจากศีรษะภาติยะจึงได้สบตากับ

ดวงตาคมถอดแบบจากธารี


                “ขอบใจ”


               เอ่ยเสียงแผ่วออกไปให้เจ้าของดวงตานิ่งสนิทที่กำลังจ้องหน้าเขาอยู่ และไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้ภาติยะต้อง

หลบตาลงมามองได้แค่ลำคอของธาม อาจเป็นเพราะความห่วงใยที่ซ่อนอยู่หลังความนิ่งเฉยที่เจ้าตัวแสดงออกมา ความ

ขัดเขินที่ภาติยะหาสาเหตุไม่ได้ทำให้เขาต้องทำลายบรรยากาศแห่งความเงียบงันโดยการเสไปมองตัวโน้ตในกระดาษที่

วางอยู่บนโต๊ะ


               “ฝึกเพลงอะไรล่ะ ลองเล่นให้ฟังหน่อยสิ”


               “คุณภีมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตัวแห้งดีกว่า”


               “น่า แป๊บเดียวเอง ลองเล่นดู”


               เพราะความที่อยากจะเชื่อมสัมพันธไมตรีกับลูกเลี้ยงทำให้ภาติยะเอ่ยออกไป ธามนิ่งมองเขาพักหนึ่งจึงคว้า

กีตาร์ขึ้นมาดีดช้าๆตามโน้ตเพลง


               “อ๋อ เพลงนี้เอง กำลังดังในหมู่วัยรุ่นนี่นะ”


               “ผมจะเล่นเพลงนี้ประกวดที่โรงเรียน”


               มองเห็นความจริงจังบนใบหน้าหล่อเหลาที่โด่งดังอยู่ในโรงเรียนมัธยม ภาติยะจึงก้าวไปยังเปียโนตัวเก่าที่ตั้ง

อยู่มุมหนึ่งของห้องโถงมันเป็นมรดกจากพ่อของภาติยะที่เขารักมาก ภาติยะนั่งลงวางนิ้วไปบนปุ่มกดและกดมันลงไปตาม

ตัวโน้ตที่เขาเห็นในกระดาษ


               “ลองไล่โน้ตใหม่สิ”


               ธามกระพริบตากับการกระทำของภาติยะ เขาคว้ากีตาร์ขึ้นมาและดีดมันคลอไปกับเสียงเปียโนของภาติยะ การ

ช่วยเหลือของภาติยะทำให้ธามเทียบเสียงได้ง่ายขึ้นมาก


               “ดีขึ้น โน้ตไม่เพี้ยนแล้ว ดีดกีตาร์เก่งเหมือนกันนี่ธาม”


               คำชมนั่นทำให้ธามมีสีหน้าเก้อกระดากขึ้นมาทันที เขาเงยหน้าจากกีตาร์ขึ้นมองภาติยะและความล้ำลึกใน

ดวงตาทำให้ภาติยะหน้าร้อนเห่อจนต้องลุกจากเก้าอี้เปียโนแล้วรีบก้าวหนีเข้าไปในห้องของเขา


               “ไปอาบน้ำดีกว่า ก่อนจะโดนหวัดกิน”







               ภาติยะเป็นหวัดจนได้

               เขาเริ่มจามตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำแม้ว่าจะรีบเช็ดตัวให้แห้งและสวมชุดนอนอย่างรวดเร็ว ถึงอย่างนั้นเขาก็

ปวดศีรษะเนื้อตัวรุมจนต้องทิ้งกายลงไปบนที่นอนทันที


               “โอ๊ย แม่ง แค่นี้ก็ป่วยแล้ว ไอ้คนอ่อนแอเอ๊ย”


               บ่นตัวเองเสียงดังลั่นเมื่อหนักหัวจนลุกไม่ขึ้น อากาศเย็นของช่วงปลายฝนต้นหนาวทำให้เขานอนขดอยู่ภาย

ใต้กองผ้าห่มโดยไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ ภาติยะรู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆเขาได้แต่หลับตาลง

เมื่อความไม่สบายนั้นกำลังเพิ่มอาการขึ้นอย่างรวดเร็ว

               ท่ามกลางอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นภาติยะรับรู้ถึงยาเม็ดขมที่ถูกส่งเข้าไปในปากพร้อมกับน้ำเปล่าที่เขากลืน

ลงคออย่างยากเย็น เสียงบ่นพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์แว่วอยู่ตรงหูรวมทั้งความอบอุ่นที่มอบให้ ภาติยะเอื้อมมือไขว่คว้ามันไว้

อย่างหวงแหน


               “คุณภีม อย่าทำแบบนี้”


               เจ้าของความอบอุ่นเอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจกับสิ่งที่ภาติยะกำลังทำอยู่ คนไร้สติเพราะเป็นหวัดกำลังกอดรัดธาม

ไว้จนเขาไม่อาจผลักไส ธามมองใบหน้าหลับใหลอย่างหมั่นไส้ที่ไม่รู้จักระมัดระวังทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่ถูกกับฝน

               เมื่อครู่ที่ผ่านมาธามเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ได้ขออนุญาต และมันก็เป็นจริงอย่างที่เขาคาดการไว้เมื่อเห็นพ่อ

เลี้ยงแสนดื้อของเขานอนสั่นเพราะพิษไข้อยู่ในกองผ้าห่ม ธามส่ายหน้าอย่างระอาแต่เขาก็ต้องไปหายาลดไข้มาป้อน

เข้าไปในปากแห้งผาก จริงๆแล้วธามกำลังจะลุกออกไปจากเตียงถ้าไม่ติดว่าภาติยะคว้าเอวของเขาไปกอดไว้

                ธามมองใบหน้าอ่อนโยนแต่ก็ดื้อในบางครั้งด้วยนัยน์ตาห่วงใยอย่างที่ภาติยะไม่เคยเห็น เด็กที่โตกว่าวัยอย่าง

เขาต้องซุกซ่อนมันไว้ภายใต้หน้ากากแห่งความเย็นชา ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะหรือ ก็ตั้งแต่ที่เขาติดสอยห้อยตามแม่ไปฟัง

ภาติยะเล่นเปียโนในโรงแรมที่แม่ร้องเพลงอยู่ครั้งแรกนั่นแหละ

               ผู้ชายหุ่นสูงโปร่ง ใบหน้าเปื้อนยิ้มยามได้อยู่กับเปียโนที่รักและเล่นเพลงขับกล่อมคนฟังทำให้ภาติยะนิ่งงัน

เขาในวัยสิบขวบได้แต่นั่งมองและซาบซึ้งไปกับเสียงเพลงที่บรรเลงอยู่ แม่ของเขาที่นั่งอยู่ใกล้ๆยิ้มกว้างเมื่อเห็น


                “เป็นไงล่ะ เขาเล่นเปียโนเพราะใช่ไหม คนนี้แหละธามที่กำลังจะมาเป็นแฟนของแม่”


               แฟนของแม่!

               ผู้ชายคนนั้นกำลังจะมาเป็นพ่อเลี้ยงของเขา ธามเดาไม่ออกสักนิดว่าตัวเองจะยอมรับความจริงข้อนั้นได้

อย่างไร แม้ธามจะไม่ได้ต่อต้านแต่เขาเลือกที่จะปิดบังมันไว้ภายใต้บุคลิกเย็นชา คงจะมีเพียงคนเดียวที่ดูออก ธารีแม่

ของเขานั่นเอง


               “ถ้าแม่ไม่อยู่แล้วธามคงต้องใช้ชีวิตอยู่กับภีม”


               ธามกลืนน้ำลายลงคอเมื่อแม่พูดกับเขาในวันหนึ่งขณะที่เขานั่งอยู่ข้างเตียงในโรงพยาบาล


               “ผมอยู่คนเดียวได้”


               แม่มองเขาอย่างอ่อนโยนและเข้าใจ


               “ธามอยู่ได้ แล้วภีมล่ะ ธามไม่สงสารคุณภีมของธามเหรอที่เขาต้องอยู่คนเดียว ธามก็รู้ว่าคุณภีมต้องมีใครสัก

คนช่วยดูแลเขา”


               แม่พูดถูก ธามมองไม่เห็นทางเลยสักนิดว่าภาติยะจะใช้ชีวิตเพียงลำพังได้อย่างไร แม้ว่าจะเหนื่อยและอ่อน

แรงเต็มทีแม่ก็ยังยิ้มและหลิ่วตาให้เขาเหมือนเมื่อครั้งแม่ยังสดใส


               “จริงๆแล้วก็รักเขาใช่ไหมล่ะ คุณภีมน่ะ เมื่อไหร่จะเลิกทำปากแข็งทำตาดุใส่เขาเสียทีล่ะ”


               “แม่ครับ เขาเป็นสามีของแม่นะ”


               ร้องท้วงออกมาเมื่อมารดาพูดจี้ใจดำ ธามก้มหน้าข่มความขัดเขินจนธารีต้องเอื้อมมือมาลูบผมบุตรชาย


               “เพราะเขาเป็นสามี เพราะธามเป็นลูก แม่จึงมองไม่เห็นว่าใครจะดูแลสามีของแม่ได้ดีเท่าลูกชาย”


               “แม้ว่าผมจะไม่รักเขาอย่างพ่อกับลูกงั้นหรือครับ”


               “รักแบบไหนก็คือรัก ขอแค่ธามเปิดใจและยอมรับความรู้สึกตัวเองอย่าเอาแต่เก็บงำมันไว้ แม่จะมีความสุขมาก

ถ้าคนที่แม่รักทั้งสองคนจะมีความสุข”


               ขอบตาของธามร้อนผ่าวเมื่อมองแม่ที่เหนื่อยล้าเต็มที


               “คิดถึงแม่ได้แต่อย่าเสียใจที่แม่ตาย จงใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากับลมหายใจที่มีอยู่ ดูแลตัวเองและดูแลเขา คนที่เรา

ทั้งคู่ต่างก็รักจนหมดหัวใจ”


               นี่ภาติยะอายุสามสิบเอ็ดจริงๆหรือเปล่า

               ธามชักไม่แน่ใจเมื่อคนที่แก่กว่าเขาถึงสิบสี่ปีกำลังซุกหน้าอยู่กับเอวพลางกอดธามไว้แน่น ความร้อนใน

ร่างกายยังไม่บรรเทาลงจนธามต้องยอมอ่อนข้อ


               “ยอมให้วันนึงนะคุณภีม”


               ธามว่างร่างโปร่งลงไปกับที่นอนก่อนที่เขาจะซุกตัวตามเข้าไปในผ้าห่มผืนอุ่น ธามวาดแขนโอบกอดภาติยะไว้

เพื่อให้ความอบอุ่นของเขาเข้าไปบรรเทาความหนาวเหน็บเพราะพิษไข้


               “ธาร...”


               ฝันถึงแม่สินะ

               ภาติยะเงยหน้าขึ้นมา เปลือกตาเต้นยิกๆราวกับกำลังฝันมือไม้ป่ายเปะปะอยู่กับแผ่นหลังของธามจนเด็กหนุ่ม

ตัวแข็ง


               “คุณภีม ความอดทนของผมมีขีดจำกัดนะ”


               ธามพึมพำเสียงกระเส่าเมื่อรู้สึกว่าร่างกายกำลังไวต่อสัมผัส และมันกำลังตื่นทั้งที่คนปลุกยังหลับไหลและทำ

มันอย่างไม่รู้ตัว


               “ถ้าไม่หยุด ผมก็อดไม่อยู่นะครับ”


               เป็นเพราะความพลุ่งพล่านในอารมณ์ที่ได้ใกล้ชิด ธามไม่สามารถหยุดยั้งตนเองได้อีกต่อไป เด็กหนุ่มก้มหน้า

ลงไปแล้วบดปากลงกับริมฝีปากแห้งผากที่ไม่ได้ห้ามปรามเมื่อธามสอดลิ้นชื้นเข้าไปภายใน ปากพ่อเลี้ยงของเขาหวาน

กว่าที่คิดเมื่อธามกำลังไล่เล็มเก็บเกี่ยวรสชาติอย่างติดใจ เขาดึงกายร้อนเข้าหาพลางเกี่ยวขากอดประหนึ่งเป็นหมอนข้าง

เนื้อกายตรงกลางถูไถเบียดแนบจนมันตื่นขึ้นมา


               “ปลุกผมแล้วก็ต้องช่วยผมนะคุณพ่อเลี้ยง”


               กระซิบแผ่วเบาข้างหูแล้วงับใบหูเข้าไป ธามคว้ามือเรียวที่พริ้วไหวอยู่บนเปียโนให้สอดเข้าไปในกางเกงบอก

เซอร์ของเขา บังคับให้มันวางแนบลงไปบนกึ่งกลางกายที่พุ่งชูชันและนวดเฟ้นมัน

               อา...เสียวมาก

               ธามเป่าปากเมื่อเกิดความตึงเครียดในส่วนล่าง เขาบดปากจูบลงไปบนกลีบปากแห้งหนักหน่วงเรื่อยๆจนกลาย

เป็นมันเปียกชื้นไปด้วยน้ำลาย เขาบังคับให้มือที่กอบกุมแท่งเนื้อร้อนค่อยๆสาวรูดมันช้าๆจนกระทั่งรู้สึกถึงความปวดถ่วง

จนทนไม่ไหวเขาจึงได้เร่งมือเรียวนั้นให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น จนกระทั่งเขาเผลอครางออกมาเมื่อน้ำเมือกพุ่งออกมาจนลื่นมือ


               “อือ...”


               เสียงครางหวานดังแผ่วเบาจากลำคอที่ธามประกบปากจูบ ความใกล้ชิดของร่างกายทำให้ธามรู้ว่าแม้จะไม่

สบายแต่ภาติยะก็ต้องการเช่นเดียวกับเขา ตั้งแต่แม่ตายภาติยะก็คงจะไม่เคยได้ปลดปล่อยแม้จะด้วยฝีมือตนเอง ธามเดา

ว่าพ่อเลี้ยงก็คงจะอัดอั้นตันใจไม่แพ้กัน


               “ผมช่วยคุณภีมเองนะ”


               เอ่ยโดยไม่ต้องการคำตอบ ธามดันกายให้ภาติยะขยับนอนหงาย เขาดึงกางเกงของภาติยะลงช้าๆจนมันเด้ง

สวนหน้าขึ้นมา ธามจ้องมองแท่งเนื้อสีนวลตาขนาดพอเหมาะด้วยประกายตาวาววาม

               บรรจงใช้ลิ้นแตะและลากตามความยาวอย่างจงใจ เส้นเลือดขยาดตัวเด่นชัดเมื่อธามกำลังรุกเร้า เขาเลียมัน

ราวกับเป็นไอศกรีมรสหวานก่อนจะอ้าปากครอบส่วนหัวเม้มกลืนทีละน้อยและรูดปากลงมาให้มันสัมผัสกับภายในช่องปาก

ของเขา


               “ฮัก ฮัก ...อื้อ อ๊ะ”


               พ่อเลี้ยงของเขาครางหนักพลางเด้งเอวเข้ามา แพขนตากระพริบช้าๆเมื่อสติเริ่มคืนกลับมา แต่ธามก็ไม่ได้

หยุด เขาโลมเลียมันและยกหน้าขึ้นลงจนภาติยะถึงกับหอบ


               “อะ อะไร อื้อ ทำอะไร”


               เสียงกระเส่าถามอย่างยากเย็นเมื่อภาติยะลืมตาตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกเสียวกระสัน เขาผงกหัวขึ้นมองด้วย

ความตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่กำลังกลืนกินส่วนนั้นเข้าไปจนมิดด้าม


               “ธาม อื้อ เสียว”


               ทิ้งหัวลงบนหมอนพลางเผลอสวนเอวเข้าใส่ มือกำผ้าห่มแน่นเมื่อร่างกายกำลังบิดเกร็งค้าง ธามเหลือบตาขึ้น

มองอย่างพอใจก่อนจะเร่งความเร็วกระชากภาติยะจนความต้องการขาดผึง ท่อนเนื้อที่อัดแน่นฉีดอัดพุ่งพรวดออกมาอยู่

ในช่องปากที่กำลังรีดเค้นจนไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว

               ภาติยะได้แต่มองเพดานเมื่อเขาถึงกับอ้าปากหอบ ความอัดอั้นมลายไปสิ้นจากการกระทำของลูกเลี้ยงที่เพิ่ง

จะยอมคืนอิสระให้กับท่อนเนื้อที่คอพับไปแล้ว ภาติยะกลืนน้ำลายเหนียวหนับลงคอเมื่อเพิ่งจะได้สบตากับธามที่เลื่อน

กายขึ้นมานั่งอยู่ข้างๆเขา


               “ทำอย่างนี้เพื่ออะไร”


               ลูกเลี้ยงยักไหล่กวนโทสะ


               “เชื่อมสัมพันธไมตรีมั้งครับ”


               ภาติยะกัดริมฝีปากแน่น


               “ฉันเป็นพ่อเลี้ยงนายนะ”


               ดวงตาดุคุโชนขึ้นมาเมื่อกระชากไหล่ของภาติยะแล้วเขย่า


               “เลิกเสแสร้งเสียที เมื่อไหร่คุณภีมจะยอมรับว่าผมไม่เคยคิดว่าคุณเป็นพ่อเลี้ยง”


               ภาติยะได้แต่อ้าปากค้างเมื่อธามก้าวลงจากเตียงและออกไปจากห้องอย่างฉุนเฉียว เขาถึงกับสะดุ้งกับเสียง

ประตูที่ปิดดังลั่นตามหลังธามไป



TBC

 :serius2: :serius2: :serius2:                

               
               
                จบเรื่องนี้ หรืออาจจะมีอีกเรื่องสั้นๆแล้วคนแต่งจะรวมเล่มแล้วนะคะ ความยาวหน้ากระดาษมันได้ละ

แต่ละเรื่องยาวๆทั้งนั้นเลย


               
               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 06-12-2015 23:23:01
ธามพูดงี้แสดงว่าภีมรู้มาตลอดว่าธามคิดยังไงกับตัวเองใช่มั้ยแต่ไม่อยากยอมรับ เฮ้อ แต่ก็พอเข้าใจอะนะ แต่มาเลยเถิดกันขนาดนี้แล้วคิดว่าต่อไปธามคงรุกหนักแล้วแหละ

จะรวมเล่มแล้วเหรอคะ ขอเปิดจองนานๆนะ ช่วงปลายปี - ต้นปีนี่แกลบมาก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: LoveYoukissme ที่ 06-12-2015 23:29:57
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 06-12-2015 23:31:27
แม่ของธามเข้าใจอะไรหลายๆอย่างดีมาก  :hao5:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 06-12-2015 23:32:39
ชอบเรื่องนี้ สนุกมากๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 06-12-2015 23:51:16
 :z1: :z1: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 07-12-2015 01:32:32
ธามสู้นะลูก
มาขนาดนี้แล้ว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: soul love ที่ 07-12-2015 02:01:27
จัดไปอย่าให้เสีย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-12-2015 07:53:36
 :katai2-1:   กลายเป็นงั้นไป คุณแม่ปูทางไว้ดิบดีเลย
ร้อนลวกปากเลยป้ะธาม

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-12-2015 09:04:54
คุณแม่ฝากฝังไว้ดีมาก ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 07-12-2015 12:02:55
อ่าว โดนซะแล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-12-2015 12:44:48
จะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย!?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 07-12-2015 15:21:58
นังน้องธามพี่ว่าเราพูดกันไม่รู้เรื่องค่ะ
พี่ว่าต้องรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัวเท่านั้นค่ะ555555555555555555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Death_note ที่ 07-12-2015 22:56:24
น้องธามต้องวางแผน เผด็จศึกพ่อเลี้ยงเลยยยย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 08-12-2015 03:49:31
 :serius2:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 09-12-2015 12:53:07
ฟินมากกกกกจร้า  :z1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 2 >> 06/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 09-12-2015 14:28:24
โอ๊ยยย เคะแก่นี่มันน่ารัก น่ารังแกเสียจริงๆ :hao6:
ธามรุกเลย! ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 15-12-2015 01:14:38


                                                                      ลูกเลี้ยง

                                                                       บทที่ 3


               ตื่นนอนมาอีกครั้งยามตะวันสายโด่ง ไข้ลดลงแล้วแต่อาการปวดศีรษะยังคงรุมเร้า ภาติยะรู้ว่ามันไม่ได้เกิดจาก

ฝนเมื่อวันวาน หากแต่เป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับธามต่างหาก

               เหตุที่เกิดเมื่อยามดึกจบลงพร้อมกับเสียงเปิดและปิดประตูตามดังสนั่น ลูกเลี้ยงของเขาหายออกไปจากห้อง

ทิ้งให้ภาติยะนอนเดียวดายอยู่บนเตียงจนเขาได้แต่ถอนหายใจและนอนมองเพดานอยู่ในความมืด ความอบอุ่นของอ้อม

กอดไม่เหมือนธารี ภรรยาของเขามีแต่ความอ่อนโยนเอาใจใส่ปลุกปลอบให้เขาเข้มแข็ง แต่กับธามมันคือการปกป้อง

คุ้มครองให้ภาติยะมั่นใจ มันไม่ควรจะเปรียบเทียบกัน ภาติยะรู้ แต่เขาก็เปรียบเทียบไปแล้ว

               ความหวั่นไหวลึกๆเกิดขึ้นในหัวใจของภาติยะ อันที่จริงมันก็หวั่นไหวมานานแล้วเมื่อเขาได้อยู่ใกล้ธามตั้งแต่

ลูกเลี้ยงเริ่มแตกเนื้อหนุ่ม ยามสบตากับดวงตาคมที่มักจะมองมาทางเขาแต่ก็รีบเบนสายตาไปทางอื่นเมื่อภาติยะหันไป

มอง ทำให้ภาติยะรู้สึกสงสัยมาตลอดว่าธามคิดอย่างไรกับเขากันแน่ อาจจะเกลียดขี้หน้าหรือหมั่นไส้ที่ภาติยะเข้ามาแบ่ง

ความรักไปจากธารีผู้เป็นแม่ภาติยะเองก็ไม่แน่ใจ และความชิดใกล้เมื่อคืนนี้ยิ่งก่อความสับสนให้ภาติยะเหลือเกิน

               มันใกล้ชิดมากเกินไปและลึกล้ำเกินไปสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยง ภาติยะถึงกับกัดริม

ฝีปากเมื่อเขานึกถึงรสลิ้นยามโลมเลียและโพรงปากที่สัมผัสความเป็นชายของเขาอยู่โดยรอบ มันให้ความรู้สึกเสียวซ่าน

แตกต่างจากที่เขาเคยมีเซ็กส์กับธารี และมันกำลังทำให้เขาโหยหาความรู้สึกนั้นแม้กระทั่งตอนนี้


               “บ้าไปแล้วไอ้ภีม ฟุ้งซ่านว่ะ”


               บ่นตัวเองอย่างหงุดหงิดพลางเด้งกายออกจากเตียงไปอาบน้ำและก้าวออกไปนอกห้องนอน ดีที่ว่าวันจันทร์

และอังคารเป็นวันหยุดของเขา ภาติยะจึงสบายใจที่ไม่ต้องไปสอนดนตรีทั้งที่ยังตัวรุมๆอยู่ เมื่อร่างกายสดชื่นท้องว่างก็

เริ่มร้องขึ้นมาทันที

               เมื่อก้าวมาถึงด้านหลังที่จัดไว้เป็นโซนครัวและโต๊ะอาหารเล็กๆภาติยะก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นอาหารวางอยู่บน

โต๊ะแล้ว แม้จะเย็นชืดแต่ภาติยะก็ต้องเผลอยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าคนเตรียมอาหารไว้จะเป็นใครไม่ได้นอกจากธาม บางทีลูก

เลี้ยงของเขาอาจจะทำอาหารไว้เพื่อกินเองแล้วเหลือไว้เผื่อเขาก็ได้ ภาติยะกินเข้าไปทั้งที่ยังไม่ได้อุ่นรสชาติดีจนเขากิน

เกลี้ยง จัดการล้างจานชามเสร็จแล้วภาติยะจึงเดินกลับมาที่ห้องโถงแล้วนั่งลงหน้าเปียโนเพื่อซ้อมหรือฝึกเพลงใหม่อัน

เป็นกิจวัตรในวันหยุด แต่วันนี้เมื่อสายตาเหลือบเห็นแผ่นโน้ตที่ธามกองทิ้งไว้บนโต๊ะ ภาติยะถือวิสาสะหยิบมันขึ้นมาแล้ว

ลองกดไล่ไปตามโน้ต ภาติยะเผลอตัวเล่นเพลงนั้นจนเวลาล่วงเลยไปถึงยามบ่ายเพลงร็อคของวัยรุ่นก็ดังด้วยเสียงเปีย

โนจนร่างสูงที่ก้าวกลับเข้ามาในบ้านถึงกับต้องหยุดฟังอย่างแปลกหู

               เสียงหวานกังวาลของเปียโนในท่วงทำนองโน้ตของเพลงร็อคจากฝีมือของภาติยะมันช่างรื่นหู ธามอมยิ้มเมื่อ

พ่อเลี้ยงของเขาเล่นมันจนจบเพลง และเมื่อธามก้าวเข้าไปภาติยะจึงได้หยุดปลายนิ้วและมองเขาอย่างเก้อกระดาก


               “เพลงวัยรุ่นนี่เล่นยากแฮะ”


               “แต่ก็ไม่เกินความสามารถของคุณภีม”


               แม้เสียงจะนิ่งเรียบแต่กลับทำให้ภาติยะหน้าร้อนวูบเมื่อจับกระแสชื่นชมจากธามได้


               “ก็ลองเล่นดู เห็นนายลืมไว้ ไม่ว่ากันใช่ไหม”


               ธามในชุดนักเรียนกางเกงสีน้ำเงินก้าวเดินตรงมา เขาก้มหน้ามองพ่อเลี้ยงด้วยสายตาล้ำลึกจนภาติยะเดาไม่

ออก


               “ไม่ว่าครับถ้าคุณภีมจะเล่นเปียโนให้ผมฟังสักเพลง”


               คนถูกขอร้องเลิกคิ้วอย่างสงสัย


               “อยากฟังเพลงอะไรล่ะธาม”


               “เพลงเก่าเพลงนั้นที่คุณเล่นให้แม่ฟังและทำให้แม่ตกหลุมรักคุณ”


               ภาติยะนิ่งงันไปครู่หนึ่งจึงได้ก้มหน้าลงมองแป้นเปียโนและพรมนิ้วลงไปอย่างชำนาญ


               

               วิ่งหารักมาอ่อนใจ เอื่อยไหลซัดทรายกระเซ็น

ชื่นฉ่ำเย็นอยากเป็นน้ำเซาะทราย

โลกของฉันมีแต่เธอ เฝ้าฝันละเมอไม่วาย

อยากบอกทรายกับสายน้ำจำนรรจา

ว่ารักฉันสร้างจากทราย อาจสลายเพียงในพริบตา

คลื่นรักทยอยสาดมา เซาะอุราน้ำตากระเซ็น

แอ่งน้ำนั้นปลาใฝ่ปอง แต่รักของทรายจะเย็น

ไม่วายเว้น ต้องการน้ำเซาะทราย

โลกของฉันมีแต่เธอ เฝ้าฝันละเมอไม่วาย

อยากบอกทราย กับสายน้ำ ในความจริง

               (น้ำเซาะทราย/จำรัส เศวตาภรณ์/2536)




                น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงมาตามร่องแก้มเมื่อเล่นถึงโน้ตตัวสุดท้าย ภาติยะคิดถึงธารีจนไม่อาจทนได้ปลายนิ้ว

เรียวค้างอยู่บนคีย์บอร์ดขณะที่เขาก้มหน้าลงไปร้องไห้ตัวโยน รับรู้ถึงแรงกอดอยู่ตรงเอวราวกับจะช่วยปลอบโยนและเมื่อ

ภาติยะหันกลับไปใบหน้าของเขาก็ถูกดึงไปจูบทันที


               “ธาม...อย่า...”


               ธามปรนจูบซับน้ำตาจนแห้งเหือดก่อนจะไล่ลงมาจากสันจมูกโด่ง ภาติยะหมดแรงห้ามเมื่อในที่สุดธามก็มา

หยุดด้วยการประทับรอยจูบลงไปบนริมฝีปากของภาติยะ แม้ธามกำลังคุกเข่าแต่ความสูงช่างพอเหมาะเมื่อเขาใช้มือ

ประคองกรอบหน้าของภาติยะไว้ไม่ให้หนีไปจากการถูกจูบ


               “อื้อ...”


               สมองของภาติยะว่างเปล่าราวกับไม่มีอะไรอยู่ในนั้น เขาคิดอะไรไม่ออกอีกแล้วเมื่อลูกเลี้ยงกำลังไล่ขบเม้ม

ไปตามกลีบปากและดึงดันปลายลิ้นนุ่มเข้ามาตวัดคลอเคลีย ภาติยะได้แต่ยกมือวางไปกับบ่ากว้างและจิกเล็บลงไปแต่ดู

เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมหยุด เด็กวัยสิบเจ็ดกำลังสอนเชิงการจูบจนภาติยะหน้ามืดเมี่อธามเริ่มเรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ

และปลุกเร้าความต้องการของภาติยะจนเขาปวดมวนไปทั่วท้อง


               “พอ หยุดเถอะธาม”


               กัดฟันห้ามอย่างยากเย็นทั้งพยายามผลักไสแต่ไม่รู้ว่าลูกเลี้ยงมีแรงจากไหนถึงได้ดื้อเช่นนี้ มือร้อนของธามที่

กอดเอวของภาติยะอยู่ค่อยๆสอดลึกเข้าไปภายในเสื้อยืดและมันถึงกับทำให้ภาติยะสะดุ้งกับสัมผัส นานกว่านั้นไม่กี่วินาที

เสื้อยืดที่สวมใส่ของภาติยะก็ถูกดึงผ่านหัวและเหวี่ยงทิ้งไปกองกับพื้นด้วยฝีมือของธาม


               “ตัวคุณยังอุ่นอยู่ ผมวางยาลดไข้ไว้ที่โต๊ะทำไมไม่กิน”


               “อื้อ...ธาม...อย่าทำแบบนี้ฉันขอร้อง”


               เพิ่งได้ยินเสียงตัวเองว่าทั้งแหบทั้งสั่นก็เมื่อตอนถูกธามผลักให้ร่างหงายหลังไปบนเก้าอี้เล่นเปียโนนั่นเอง

ธามนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างขาและโน้มตัวลงมาซุกหน้าลงกับซอกคอของเขา


              “คุณภีมก็รู้ว่าไม่เคยสั่งผมได้”


               เม้มปากลงไปจนภาติยะสะท้าน เมื่อยอมปล่อยจึงเกิดรอยสีกุหลาบที่ธามฝากไว้ ธามลากปลายลิ้นลงมาจนถึง

แผ่นอกเนียนเรียบที่มียอดอกสีชมพูสดรอเขาอยู่ เขาแตะลิ้นแผ่วเบาทักทายก่อนรัวลิ้นลงไปพลันได้ยินเสียงครางดังแว่ว

จากพ่อเลี้ยงของเขาจนทำให้ยิ่งได้ใจ มือร้อนลูบไล้กายอุ่นพร้อมกับที่เขาเปลี่ยนข้างหยอกล้อตุ่มไตจนกระทั่งเขาเลื่อน

มือมาถึงขอบกางเกงขาสั้นตัวเก่งของภาติยะธามจึงได้ปลดตะขอรูดซิปและสอดมือเข้าไปข้างใน


               “อึก อื้มม...ธาม เราจะทำเรื่องอย่างนี้ไม่ได้นะ ในเมื่อเราเป็นพ่อละ...”


               “หยุดพูดคำนี้เสียทีคุณภีม ผมเบื่อที่จะฟังแล้ว”


               ภาติยะถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเข้มของธาม ลูกเลี้ยงของเขาเงยหน้าประสานสายตาดุใส่จนภาติยะต้อง

ยอมหยุด


               “อะไรๆก็พ่อเลี้ยงลูกเลี้ยง จะมีพ่อกับลูกที่ไหนเขามากอดจูบลูบคลำกันอย่างนี้บ้าง”


               เสียงตะคอกหยุดลงพร้อมกับที่ธามกดยิ้มที่มุมปากและดวงตาวาววับยามมองภาติยะ มือที่สอดเข้าไปใน

กางเกงบีบเค้นแค่เพียงเล็กน้อยภาติยะก็ถึงกับสะดุ้งโหยง


               “ธาม!”


               “หึหึ อยากจะทำดีกับผม อยากจะให้ผมทำดีกับคุณภีมงั้นสิ มีอยู่วิธีเดียวเท่านั้นแหละ”


               ธามโน้มตัวลงไปงับติ่งหูภาติยะ ปลายนิ้วยาวกอบกุมท่อนเนื้อเหมาะมือแล้วนวดเฟ้นโยกรั้ง ภาติยะถึงกับปรือ

ตากัดฟันไปกับพายุอารมณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการปลุกเร้าจากลูกเลี้ยง


               “ยอมเป็นของผมเสียเถอะคุณภีม”


               “ไม่ ธามมม”


               เจ็บใจเหลือเกินเมื่อร่างกายกลับทำตรงข้ามกับปากพูดเมื่อภาติยะถึงกับหอบและรู้สึกถึงความเปียกชื้นอยู่

ภายในกางเกงที่สวมอยู่ แค่เพียงปลายนิ้วของธามก็ทำให้ภาติยะปลดปล่อยออกมาและธามอาศัยช่วงที่เขายังไม่ทันตั้ง

ตัวกระตุกกางเกงขาสั้นตัวนั้นออกไปพร้อมกางเกงชั้นใน และคราวนี้ภาติยะเหลือเพียงกายเปล่าเปลือยนอนหงายพาดอยู่

บนเก้าอี้เล่นเปียโน


               “ยอมรับสิว่าต้องการผม”


               ปลายนิ้วของธามที่ยังเปียกชื้นน้ำใคร่ของภาติยะลากไล่ไปตอบกรอบหน้าก่อนจะหยุดอยู่ตรงมุมปาก ทั้งที่

อยากจะปฏิเสธแต่ตอนนี้ภาติยะกำลังปวดร้าวไปทั้งตัว ภาติยะรู้ใจตนเองในตอนนี้ว่าเขากำลังต้องการเด็กหนุ่มที่มองเขา

อย่างยั่วเย้า ภาติยะนึกชังตัวเองจนต้องเม้มปากแน่น เมื่อเห็นลูกเลี้ยงของตนปลดหัวเข็มขัดและดึงกางเกงนักเรียนลงจน

ไปอยู่ตรงต้นขา ภาติยะเดาได้ในทันทีว่าธามกำลังจะทำอะไรต่อไป


               “ธาม อย่าทำแบบนี้ ถ้านายทำเราทั้งคู่จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป อ๊ะ อ๊า!”


               ธามยยกขาของเขาจนลอยสูงและยังไม่ทันตั้งตัวช่องทางเบื้องล่างก็ถูกดันตัวแทรกเข้ามาด้วยท่อนเนื้อที่ทั้ง

ร้อนระอุและชื้นฉ่ำไปด้วยความพร้อมของธาม ความเจ็บแปลบเข้ามาเยือนจนภาติยะอ้าปากค้างก่อนจะร้องเสียงดังลั่น

เหงื่อไคลไหลเปียกชุ่มเหนียวหนับจนหน้ามืด


               “อย่าเกร็งนะครับคุณภีม ให้ผมเข้าไปนะ อืม ตอดชะมัด”


               เขาคือคนแรกของภาติยะในช่องทางนี้ธามรู้ดี ความคับแน่นร้อนระอุบอกเขาเช่นนั้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วย

ความเจ็บปวดของพ่อเลี้ยงทำให้เขานึกสงสารแต่ธามมาไกลเกินกว่าจะหยุด เขาได้แต่โน้มตัวลงไปบดขยี้จูบเร่าร้อนลง

กับกลีบปากสีแดงสดที่เขาเฝ้าใฝ่ผันว่าวันหนึ่งจะได้ครอบครอง และนั่นคือวันนี้ธามจะไม่ยอมให้พลาดเด็ดขาด

               ปากตวัดจูบเร่าร้อน มือข้างหนึ่งกอบเค้นยอดอกคลึงขยี้สลับทั้งสองฝั่งส่วนอีกมือก็บขยำบั้นท้ายแน่นมือของ

ภาติยะพลางค่อยๆดันเอวเข้าไปในช่องทางที่เริ่มคลายตัวให้ธามได้แทรกเข้าไปทีละน้อย ช่องทางบริสุทธิ์ถูกธามเบิก

ทางพักใหญ่ตัวเขาเองก็ถึงกับเผลอส่งเสียงออกมาเมื่อดันเอวเข้าไปจนมิดด้าม


                “โอ เสียวชิบ”


               เด็กหนุ่มเป่าปากกับแรงตอดอยู่รอบแท่งเนื้อ ธามทดลองควงแท่งร้อนช้าๆจนกระทั่งพ่อเลี้ยงของเขาสะดุ้ง

ตัวโยนใบหน้าบิดเบี้ยวเมื่อเขาสัมผัสจุดหนึ่งของผนังถ้ำ


               “ตรงนี้สินะครับ”


               ยกยิ้มอย่างยินดี ธามดึงเอวออกมาได้สักครึ่งแล้วก็กระแทกกลับไปอย่างรวดเร็วที่จุดเดิม ภาติยะครางดัง

ลั่นอย่างลืมตัวพลางแอ่นอกเข้าหา ไม่อาจขัดขืนได้อีกแล้วเมื่อตอนนี้ลูกเลี้ยงกำลังทรมานเขาด้วยความปรารถนา รู้สึก

ถึงความชื้นแฉะที่ผุดออกมาช่วยให้ธามขยับตัวได้ง่ายขึ้น ความต้องการปลดปล่อยทะยานสูงลิบจนภาติยะต้องยกสองขา

เข้ากอดเกี่ยวไปรอบเอวของธามให้สิ่งแปลกปลอมยิ่งแทรกตัวลึกสุดโคน

               ธามเองก็ต้องการแตะขอบฟ้าไปไม่น้อยกว่าพ่อเลี้ยง แรงขับของช่วงวัยรุ่นทำให้เขามีกำลังวังชามากเหลือ

เกิน ธามสอดแขนเข้าใต้เอวของภาติยะแล้วกอดไว้แน่นก่อนจะยกกายเปลือยชื้นเหงื่อขึ้นมาแล้ววางลงบนแป้นคีย์บอร์ด

เปียโนจนเกิดเสียงดังลั่นบ้าน


               “ธาม อื้อ ได้โปรด ทรมานเหลือเกิน”


               หมดแล้วซึ่งศักดิ์ศรีภาติยะยอมเอ่ยปากขอร้อง เขากำลังต้องการจนน้ำลายเหนียวหนับและเป็นฝ่ายคล้อง

แขนไปรอบคอของธามพลางเบียดกายเข้าหา ธามมองเขาด้วยนัยน์ตาพราวระยับ


               “ผมเคยบอกคุณภีมแล้วว่าคุณภีมไม่เหมาะจะเป็นพ่อของผมหรอก สิ่งเดียวที่จะเป็นได้คือคุณภีมต้องเป็น

เมียของผมเท่านั้น”


              พูดจบธามก็จูบแลกลิ้นกับภาติยะที่คราวนี้จูบตอบโต้อย่างไม่ยอมน้อยหน้า ธามจับยึดเอวของพ่อเลี้ยงไว้

แน่นหนาเมื่อเขาเริ่มเคลื่อนตัวเข้าออกในช่องทางที่ตอบรับเขาเป็นอย่างดี แรงโยกกระแทกกระทั้นเพิ่มขึ้นจนเสียงเปีย

โนดังก้องไปพร้อมกัน ท้องน้อยของภาติยะบิดเป็นเกลียวจนต้องเด้งเอวตอบรับ


              “อา...ธาม ไม่ไหวแล้ว จะแตก อื้อ...ตรงนั้นนั่นมัน อ๊า...”


               ภาติยะเกร็งกายค้าง ขาสองข้างที่โอบรัดรอบเอวของธามตวัดเข้าหากันเพื่อดันเอวธามให้สอดค้างเมื่อเขา

ปลดปล่อยน้ำรักจนชุ่มโชกหน้าท้อง ภาติยะเงยหน้าหอบถี่เขาหมดแรงในวินาทีต่อมาจึงได้ปล่อยให้ธามได้กระแทกลึก

และเร็วจนร่างของภาติยะแทบจมลงไปกับแป้นคีย์บอร์ด


               “คุณภีม ผมรักคุณ ฮัก ฮัก”


               เงยหน้าส่งเสียงเปล่งเสียงดังลั่น ธามกัดฟันดึงท่อนเนื้อออกมา น้ำรักของเขาฉอกกระเซ็นตั้งแต่ยังดึงออก

มาไม่พ้นช่องทางด้วยซ้ำจนกระทั่งมันเปรอะเปื้อนไปทั้งท่อนขาของภาติยะที่ตอนนี้สบตากับธามด้วยความสับสน         


                 ภาติยะไม่อยากจะยอมรับเลยว่า ตอนนี้เขาตกเป็นเมียของลูกเลี้ยงตัวเองไปแล้ว





TBC

เรื่องนี้เป็นเรื่องโรแมนติก อบอุ่น ไม่มีเรื่องหื่นนะคะ

 :z1: :z1: :z1:



อะ ฟังเพลงโรแมนซ์ๆกันดีกว่า

ฟังเพลงน้ำเซาะทราย (https://www.youtube.com/watch?v=NEsHCszKP-k)




 :heaven :heaven :heaven


พี่น้องเอ๊ย ถ้ารวมเล่มแล้วอย่าลืมช่วยอุดหนุนกันมั่งเด้อ...



หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 15-12-2015 02:23:39
ไม่ค่ะ  ไม่หื่นเลยสักนิดค่ะ  ใสๆ :z1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 15-12-2015 03:12:04
ชอบๆๆ ใสๆ ไม่หื่นๆ 55555555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-12-2015 05:32:24
 :hao6:   เปียโนยังอยู่ดีใช่ไหม

มีแววไข้ขึ้นอีกรอบ.เป็นอมตะไปอีกคน.  :mc4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 15-12-2015 07:22:47
ใสๆ น้ำเต็มบ้าน ฮึฮึ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 15-12-2015 08:39:09
ไม่หื่นเลยอ่ะ จริงๆนะ  :haun4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-12-2015 09:19:33
สุดท้ายคุณพ่อเลี้ยงก็. :z1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 15-12-2015 09:48:31
 :z1: น้ำใสๆเต็มบ้านเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 15-12-2015 10:07:04
ใส ๆ อบอุ่น น่ารัก 555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-12-2015 10:50:34
ใสๆ ไม่หื่นเบยยย คึคึ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 15-12-2015 11:29:55
 :o8:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-12-2015 12:25:45
ได้พ่อเลี้ยงเป็นเมียสมใจแล้วนะธาม
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 15-12-2015 13:44:20
โอ้วว บร๊ะเจ้าา  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 15-12-2015 15:22:45
อุตร๊ะ จัดการตรงเปียโนกันเลยทีเดียว  :pighaun:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 15-12-2015 15:30:58
ชอบเรื่องใสๆ แบบนี้จังเลย
เอาอีกๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 15-12-2015 21:03:33
กรี๊ด!!! บนเปียโนหลังงาม ฉากนี้ใสๆๆ มากเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-12-2015 21:26:56
กินพ่อเลี้ยงแล้วจะเป็นอมตะด้วยหรือเปล่าน้า   :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 15-12-2015 23:02:17
จ๊ะไม่หื่นแค่กามเท่านั้นเอง

ปล.เค้ากลัวดราม่านะตัวเอง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 16-12-2015 07:13:56
 :haun4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 16-12-2015 09:23:01
เน้นหื่นแต่ไม่เอามาม่านะคะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 16-12-2015 15:11:56
โอ ใสๆแบบนี้หนูชอบ  :pighaun:

อิอิ มาต่อเร็วๆนะคะ  :call:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 3 >> 15/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 16-12-2015 19:15:45
แบบนี้ข้างบ้านไม่สงสัยแย่เหรอคะว่าทำไมเสียงเปียโนดังทำนองแปลกๆ  :z1:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-12-2015 23:28:40


                                                              ลูกเลี้ยง

                                                               บทที่ 4


               โกรธ สับสน น้อยใจ

               คืออารมณ์ของภาติยะในตอนนี้หลังจากพายุแห่งความปรารถนาผ่านพ้นไปพักใหญ่ เขายังคงนั่งนิ่งอยู่บนแป้น

คีย์บอร์ดเปียโนและธามก็ยังคงโอบกอดเขาไว้ แก่นกายยาวสอดลึกค่อยๆขยับผ่านช่องทางของภาติยะไปทีละน้อยจน

กระทั่งมันหลุดออกไปจนหมดทิ้งไว้แต่ความโหวงว่างจนภาติยะใจหาย

               สบตาลูกเลี้ยงอย่างตัดพ้อ ริมฝีปากของภาติยะสั่นระริกจนต้องกัดมันไว้ ภาติยะผลักไสธามให้พ้นตัวแต่ไม่

สำเร็จ


               “ปล่อย!”


               “ไม่!”


               “ฉันบอกให้ปล่อย”


               ตวาดใส่หน้าธามเป็นครั้งแรกตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา แต่ลูกเลี้ยงของภาติยะช่างดื้อดึงเหลือเกิน สองแขนที่

เหมือนจะผอมแต่กลับมีแรงมากพอที่จะรั้งร่างของพ่อเลี้ยงไว้ในอ้อมกอดไม่ยอมปล่อย


               “ผมไม่ปล่อยจนกว่าคุณภีมจะยอมรับว่าเป็นเมียผมแล้ว”


               เพียะ!

               ฝ่ามือของนักเปียโนลอยละลิ่วเข้าหาใบหน้าคมของธามจนชาดิก ธามยกมือกุมซีกหน้าตนเองพลางมอง

ภาติยะอย่างไม่เชื่อสายตาที่เขาลงมือรุนแรงกับธาม ภาติยะเองก็สีหน้าเปลี่ยนไปวูบหนึ่งก่อนที่เขาจะเชิดหน้าขึ้นและฉวย

โอกาสนี้ผลักธามให้ออกห่าง

               ร่างโปร่งเพรียวทิ้งเท้าลงกับพื้นบ้าน ทันใดนั้นภาติยะก็ทรุดฮวบลงไปนั่งกองกับพื้นอย่างหมดแรง ภาติยะเพิ่งรู้

ว่าท่อนขาทั้งสองของเขาสั่นราวกับไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลมาสักสิบรอบ ธามตกใจเมื่อเห็นสภาพของภาติยะ เขาขยับ

เข้ามาหาแต่ภาติยะกลับยกมือห้าม


              “อย่ามายุ่งกับฉัน”


               ร่างเปลือยเปล่าใช้มือยันดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนจนได้ ภาติยะเดินโผเผผ่านธามกลับไปยังห้องของเขาโดยไม่รู้

สึกอับอายว่าตนเองไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์แม้แต่ชิ้นเดียวปกปิด จะอายทำไมเล่าในเมื่อธามก็เห็นร่างกายของเขาและสัมผัส

ไปแล้วทุกสัดส่วนเสียด้วยซ้ำ ภาติยะเดินเข้าไปทิ้งตัวลงบนเตียงนอนแล้วหลับตาลงช้าๆ
               

               ธารี

               ผมควรจะมีคุณคนเดียวใช่ไหม

               แต่ตอนนี้ผมกลับผูกพันลึกซึ้งกับทายาทที่คุณทิ้งไว้

               ผมควรจะทำเช่นใดต่อไปดี
                               


               รำพันอยู่ในอกพร้อมกับความกลัดกลุ้มที่เกิดขึ้นในจิตใจ ความรู้สึกวาบหวามกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไม่คลายลงไป

จากเนื้อตัวเหนียวหนับ ภาติยะรู้ว่ามันไม่ใช่การข่มขืนฝืนใจเพราะเขาเองก็ห้ามใจไม่อยู่และเผลอคล้อยตามลูกเลี้ยงอย่าง

ง่ายดาย

             เสียงเปิดและปิดประตูทำให้ภาติยะพลิกตัวตะแคงหันหน้าเข้าหาข้างฝา ภาติยะยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับ

ธามในเวลานี้ แรงอ่อนยวบของเตียงและกลิ่นสาบจากร่างกายเด็กหนุ่มวัยรุ่นทำให้ภาติยะรู้ว่าลูกเลี้ยงนั่งอยู่เบื้องหลังของ

เขานี่เอง


               “ผมขอโทษ”


               เสียงของธามนุ่มกว่าที่เคยได้ยินรวมถึงมืออุ่นที่วางอยู่ตรงเอวของภาติยะก็แสนจะอ่อนโยนจนภาติยะไม่กล้า

ผลักไสพร้อมกับไม่กล้าหันกลับไปมองเช่นกัน


               “ผมมันงี่เง่าเองที่ใจร้อนทำกับคุณภีมโดยที่คุณภีมไม่ได้ตั้งตัว”


                ก็ใช่น่ะสิ รู้ตัวก็ดีแล้ว เด็กบ้า


                “ผมทำกับคุณภีมทั้งที่ยังไม่ได้บอกคุณภีมเลยว่าผมรักคุณภีมมากแค่ไหน”


                ใช่ ไม่ได้บอก


                 อ๊ะ...อะไรนะ


               ภาติยะลืมตาโพลงด้วยความไม่คาดคิดอยู่กับฝาผนังหน้าสายตากับสิ่งที่ได้ยิน

               มือสากนิดๆลากไล้ไปตามเนื้อตัวที่เขาทิ้งรอยจางๆไว้แทนคำขอโทษ ธามลอบถอนหายใจเมื่อเห็นภาติยะยัง

คงนิ่งสนิทอยู่ในท่าเดิม

               บางทีธามอาจจะเข้าใจผิด ดวงตากลมโตที่เขาชอบมองที่มักจะบอกถึงความขัดเขินยามสบตาของพ่อเลี้ยง

อาจจะไม่ใช่เพราะมีใจให้เขาอย่างที่ธามคิดก็ได้


                “ผมรักคุณภีม รักตั้งแต่จำความได้ และแม่ก็รู้ว่าผมคิดยังไงกับคุณภีม”


               ดวงตาคมเข้มของหนุ่มลูกครึ่งสลดลงเมื่อพ่อเลี้ยงยังคงนอนนิ่งไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับ ธามโน้มตัวลงจูบ

แผ่วเบาที่ไหล่ของภาติยะแล้วเอียงหน้าซบนิ่ง


               “ให้โอกาสผมได้ไหม ให้โอกาสผมได้ดูแลคุณภีมอย่างที่แม่ฝากไว้ คุณภีมครับ แม่จากเราไปแล้วตอนนี้เหลือ

แค่เราสองคนที่ต้องอยู่ด้วยกัน คุณภีมเลิกโกรธและรักผมเหมือนอย่างที่รักแม่จะได้ไหม”


               มันเป็นการพูดคนเดียวที่ยาวนานของธาม แต่ภาติยะก็ยังไม่หันมามอง ธามถอนหายใจออกมาแผ่วเบาเมื่อรู้ว่า

ความพยายามของเขาไม่เป็นผล พ่อเลี้ยงที่ดูอ่อนโยนกลับใจแข็งกว่าที่คิด ธามลุกขึ้นจากเตียงและก้าวกลับออกไปช้าๆ

โดยที่ธามไม่รู้ว่ายิ่งเสียงก้าวเดินของเขาห่างไปเท่าไหร่ ภาติยะก็ยิ่งใจหาย


               “พรุ่งนี้ผมจะประกวดวงดนตรีที่โรงเรียนตอนช่วงบ่าย ถ้าคุณภีมว่างก็...”

               





               บรรยากาศโรงเรียนมัธยมทำให้ภาติยะรู้สึกสดใสขึ้นมาบ้าง ภาติยะยังคงสับสนว่าเขาคิดถูกหรือเปล่าที่มาใน

วันนี้ หลังจากที่เขาชั่งใจอยู่ตลอดทั้งคืน

               หลังจากธามออกไปจากห้องภาติยะก็พลิกกลับมานอนหงาย เขามองเพดานอย่างครุ่นคิดกับคำพูดของลูก

เลี้ยงด้วยความประหลาดใจ

               ธามรักภาติยะ

                สายตาเด็กหนุ่มที่มองมายังเขาคือความรัก ปริศนาที่เขาสงสัยได้ถูกไขให้กระจ่าง และการที่ธารีรับรู้ความรู้สึก

ของลูกชายคนเดียวมันช่วยบรรเทาความรู้สึกผิดในหัวใจของภาติยะลงได้มาก

               แล้วเรื่องอายุล่ะ ธามเด็กกว่าเขาตั้งสิบสี่ปีเชียวนะ


               “ความรักกับอายุไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย ผมอายุน้อยกว่าธารแล้วไงล่ะ มันไม่ได้ทำให้ความรักที่ผมมีต่อธาร

น้อยลงเลยสักนิด”


               คำพูดที่ตนเองเคยพูดกับธารีผุดขึ้นมาราวกับอะไรบางอย่างมาช่วยสะกิดให้ภาติยะรู้สึกตัว เขาเด้งกายออก

จากเตียงคว้าเสื้อผ้ามาใส่ลวกๆก่อนจะก้าวออกจากห้องเพียงเพื่อพบกับบ้านที่ว่างเปล่าในยามเย็น ภาติยะมองเห็นโฟม

ใส่อาหารวางอยู่บนโต๊ะรับแขกพร้อมกับกระดาษแผ่นนึง


               “ผมจะไปซ้อมดนตรีบ้านเพื่อนคงจะนอนบ้านมันเลย คุณภีมกินข้าวและยาที่ผมวางไว้ด้วยนะ เป็นห่วงมากนะ

ครับ”


               เพื่อนคนไหน ใช่คนที่พากันมานอนที่บ้านในคืนนั้นหรือเปล่า

               ภาติยะตกใจกับความรู้สึกหึงหวงที่แล่นมาเป็นริ้ว

                เขากำลังหึงหวงและรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของในตัวเด็กหนุ่ม มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกผูกพันกันเช่นเดิมอีกต่อไป

แล้ว ปฏิเสธหัวใจตนเองไม่ได้เลยว่าธามก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของภาติยะ ความอ้างว้างเดียวดายตลอดทั้งคืน

เมื่อไม่มีธามอยู่ร่วมชายคายิ่งตอกย้ำความจริงในหัวใจ

               ภาติยะเองก็รักธามไม่แพ้กัน

               และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ภาติยะตัดสินใจมาที่โรงเรียนมัธยมที่ธามเรียนอยู่ในวันนี้


               โรงเรียนมัธยมคราคร่ำไปด้วยเด็กนักเรียนและผู้ปกครองในวันงานกิจกรรมของโรงเรียน และตอนนี้ทุกคนต่าง

จับจองพื้นที่ด้านหน้าเวทียกสูงที่เป็นกิจกรรมสุดท้ายกับการประกวดวงดนตรี เสียงกรี๊ดกร๊าดโห่ร้องดังขึ้นตลอดเวลาเมื่อ

นักดนตรีแต่ละวงขึ้นมาแสดงฝีมือ และในที่สุดการรอคอยของภาติยะก็สิ้นสุดลง

               เสียงกรี๊ดของเด็กสาวดังมากเป็นพิเศษเมื่อธามและเพื่อนๆก้าวขึ้นสู่เวที ภาติยะที่ยืนหลบแดดยามบ่ายจัดอยู่

ใต้ต้นไม้ด้านหลังกลุ่มคนดูเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นธามในชุดนักเรียนสะพายกีตาร์ตัวเก่งก้าวมายืนด้านหน้า คิ้วของ

ภาติยะขมวดลงเล็กน้อยเมื่อเห็นกบเพื่อนของธามอยู่ในตำแหน่งมือกลอง แต่ช่างเถอะ เขาควรจะสนใจการแสดงของ

ธามมากกว่าเมื่อเสียงเพลงร็อคเริ่มดังขึ้น
               


ไม่ต้องบอกฉัน ถึงวันที่เลยผ่าน

ไม่ต้องบอกฉันว่าเคยมีใครคนไหนยังไง

ถ้าเผื่อฉันเผลอ บังเอิญฉันถามเธอไป

เธอก็ไม่ต้องตอบฉันเลย



และฉันคนนี้ ก็มีที่พลาดผิด

ใช้ว่าชีวิตจะดีจะงาม สักเท่าไร

ไม่อยากให้ถาม มันไม่น่ารู้เท่าไร

ไม่ใช่เรื่องจำเป็นของเรา



วันวานมันคืนย้อนมาไม่ได้ และวันพรุ่งนี้ยังไม่รู้

ฉันพร้อมจะอยู่ ฉันพร้อมจะตายเพื่อรักคำเดียว

ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นใคร

จะผ่านอะไรมาขอจงอย่าเป็นกังวลนี่คือคนของเธอ

ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรต่อจากนี้ไปฉันจะอยู่ดูแลเธอ ด้วยคำว่ารักด้วยใจ



ไม่ต้องบอกฉัน ถึงวันที่เคยผ่าน

ไม่ต้องบอกฉันว่าเคยมีใครแค่ไหนยังไง

แค่บอกว่ารัก แค่เธอรักฉันง่ายง่าย

ฉันต้องการแค่ใจของเธอ



ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นใคร

จะผ่านอะไรมาขออย่าเป็นกังวลนี่คือคนของเธอ

ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น

ต่อจากนี้ไปฉันจะอยู่ดูแลเธอ จะรักเพียงเธอ



(เพลง คนของเธอ / แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม)



                เสียงปรบมือและเสียงกรีดร้องชื่นชมดังยาวนานเหลือเกินเมื่อเพลงจบลง น้ำตาของภาติยะหยดหนึ่งร่วงลงมา

โดยไม่รู้ตัว






มีต่ออีกนิด...

หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-12-2015 23:36:10
ต่อกันตรงนี้





             ธามถอดรองเท้าก้าวเข้ามาในบ้านในตอนเย็น เขาเห็นภาติยะนั่งอยู่ที่โซฟารับแขก คำทักทายติดอยู่ที่ริมฝีปาก


เมื่ออีกฝ่ายก้มหน้าก้มตาอ่านนิตยสารในมือโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้ามามอง เด็กหนุ่มลอบมองด้วยความน้อยใจก่อนจะสืบ

เท้าเดินหนีเข้าไปยังห้องนอน แต่ทันทีที่ธามก้าวเข้าไปดวงตาคมก็ลุกด้วยความยินดี

           ธามก้าวพรวดๆไปยังของที่วางอยู่บนเตียง เขารีบคว้ามันขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น แผ่นการ์ดใบเล็กร่วงลงมาเมื่อ

ธามเปิดกล่อง


“ยินดีด้วยกับความสำเร็จ”


             กีตาร์ไฟฟ้าที่ธามหมายตามาเป็นเวลานานอยู่ในมือแล้ว ธามยิ้มกว้างเป็นครั้งแรกเมื่อเดาได้ถึงที่มาของมัน ร่าง

สูงโย่งรีบเดินออกไปภายนอกห้องพร้อมของขวัญชิ้นพิเศษจนกระทั่งมาหยุดยืนตรงหน้าภาติยะ


             “คุณซื้อให้ผมเหรอ”


               ใบหน้าที่ต้องซ่อนยิ้มไว้ทำทีเป็นเหลือบตาขึ้นมองแวบหนึ่ง


             “ถ้าไม่อยากได้ก็ไม่ต้องเอา”


            ธามมองเห็นผิวขาวๆขื้นสีแดงก่ำจนถึงลำคอ มันทำให้ธามหัวใจพองฟู เขาวางกีตาร์ลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงบน

โซฟาตัวเดียวกับภาติยะธามสอดมือสวมกอดรอบเอวและวางคางเกยไหล่พ่อเลี้ยงของเขา


             “เอาสิ เรื่องอะไรจะปฏิเสธ ทั้งอยากได้ทั้งอยากเอา”


            “เดี๋ยวเถอะธาม ปากดีนักนะ”


            หันหน้าไปดุแต่กลับโดนขโมยหอมแก้ม ภาติยะเลยต้องนั่งนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มในชุดนักเรียน


             “ดีกันนะ”


              “ไม่”


              “โธ่ คุณภีม”


               “จนกว่าจะบอกมาว่า นายกบอะไรนั่นเป็นอะไรกับนาย”


               น้ำเสียงที่ตวัดขึ้นอย่างแง่งอนทำให้ธามถึงกับหัวเราะ เขายกมือบีบจมูกโด่งของภาติยะตามด้วยริมฝีปากที่กด

จูบแผ่วเบา


               “หึงไอ้กบเหรอ โอ๊ย...อย่าตีสิครับคุณภีม กบมันเป็นเพื่อน วันนั้นมันเอ่อ...งะ... ฮื้อ อยากน่ะ ผมก็เลยช่วยมัน

ให้สบายตัว”


              “ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเพื่อนเขาต้องช่วยเพื่อนกันแบบนี้”


             “ฮอร์โมนวัยพลุ่งพล่านไงครับ สัญญาว่าจะไม่ช่วยใครแบบนี้อีกแล้วนอกจากคุณภีมคนเดียว”


              พูดจบธามก็ดันร่างภาติยะให้หงายหลังลงไปบนโซฟาเล็กตามด้วยตัวของเขาที่ทิ้งกายทาบทับไม่ให้ภาติยะ

ลุกหนี แต่คราวนี้ภาติยะกลับยอมอยู่นิ่งในอ้อมกอดซ้ำยังยกนิ้วเรียวแตะเบาๆที่กรอบหน้าของลูกเลี้ยง


           “แน่นอนธาม ฉันจะไม่ปล่อยให้นายไปช่วยใครแบบนี้เด็ดขาด”


          ดวงตาประสานกันลึกซึ้งจนกระทั่งภาติยะมองไม่เห็นอีกเมื่อธามก้มหน้ามาจูบอย่างอ่อนหวาน ภาติยะไม่ขัดขืน

            เขาเผยอกลีบปากอิ่มรับจูบด้วยความเต็มใจ


             "ผมรักคุณธาม”


               คำยืนยันหนักแน่นดังแว่วเข้าหูเมื่อลูกเลี้ยงยอมละจากริมฝีปากเพื่อไล่ขบเม้มไปตามคางและเลื่อนลงไปตาม

ลำคอ มือร้อนซุกซนขยับล้วงเปะปะแต่ภาติยะก็ไม่ได้ห้าม ซ้ำยังปลดกระดุมชุดนักเรียนของธามออกทีละเม็ดจนหมด


               “รักคนแก่ไม่อายคนอื่นหรือไง”


               ธามมองด้วยนัยน์ตาพราวแสงเมื่อเขาดึงเสื้อยืดที่ภาติยะสวมใส่ออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับที่เขาถอดเสื้อ

นักเรียนเหวี่ยงไปอีกทาง


              “ทำไงได้ล่ะครับก็รักไปแล้ว”


              กางเกงถูกถอดตามมารวมถึงกางเกงนักเรียนสีน้ำเงินของธามด้วย ธามทิ้งกายลงแนบชิดกับกายเปลือยของ

ภาติยะพลางบดน้ำหนักลงอย่างจงใจให้จุดอ่อนไหวสัมผัสซึ่งกัน


             “คนแก่ตายเร็วนะ”


            ภาติยะกลืนน้ำลายลงคอเมื่อธามแตะลิ้นลงบนยอดอกสีน้ำตาลอ่อนข้างหนึ่งและบีบเค้นอีกข้างหนึ่งด้วยมือสาก

แก่นกายถูไถซึ่งกันอยู่ในมืออีกข้างหนึ่งของธามที่รวบมันไว้ด้วยกันและนวดเฟ้นเบาๆ


              “คุณภีมไม่ตายง่ายๆหรอกครับ เขาบอกว่ากินเด็กทำให้เป็นอมตะ นี่คุณภีมถูกเด็กกินก็เป็นอมตะเหมือนกัน”


               “ทะลึ่งใหญ่แล้วธาม อ๊ะ อื๊อ...”


                ฝ่ามือร้อนโยกรั้งเป็นจังหวะจนปริ่มน้ำใส ความต้องการพุ่งท่วมร่างกายเกินกว่าที่ภาติยะจะอดทน เขาถึงกับ

แอ่นอกให้ลูกเลี้ยงได้ละเลงลิ้นจนน้ำลายชุ่มฉ่ำ ภาติยะขยับกางขาออกบนเบาะโซฟาเล็กตัวนี้เพื่อให้ธามได้แทรกตัวอยู่

ระหว่างกลาง ภาติยะเม้มปากแน่นเมื่อธามสอดนิ้วแข็งๆของเขาเข้าไปภายในรูจีบพับ นักกีตาร์อย่างธามใช้นิ้วที่สองตาม

เข้าไปควานลึกจนภาติยะเกร็งไปหมดทั้งตัว


              “ส่งเสียงออกมาสิครับคุณภีม”


               ธามกระซิบเสียงสั่นพร่า


             “เสียงของคุณภีมหวานเหลือเกิน อย่าเก็บมันไว้เลย”


               “ซี้ด ธาม ตรงนั้น”


               ร่างโปร่งสะดุ้งเฮือกเมื่อธามล้วงลึกไปถึงจุดไวสัมผัส ธามเองก็แทบจะอดทนไม่ไหวเมื่อภายในของภาติยะ

ตอดนิ้วไปหมด ธามหมุนวนปลายนิ้วย้ำๆจนช่องทางฉ่ำชื้นไปด้วยความพร้อมจากนั้นเขาก็ดึงนิ้วออกและดันท่อนเนื้อของ

เขาเข้าไปแทนที่


               “อ๊า...ธาม”


               “โอ...คุณภีม”


               เร่าร้อนและอ่อนหวานไปพร้อมกันเมื่อธามค่อยๆดันเอวลึกล้ำ เขาจูบหนักหน่วงที่กลีบปากอิ่มของภาติยะที่

โอบกอดศีรษะได้รูปของเขาไว้แน่น ภาติยะขยับยกขาพาดบนพนักเปิดทางรับให้ธามได้เข้ามาจนหมด ธามกำลังเล่นงาน

จนภาติยะแทบลืมทุกสิ่ง


               “อึก อา ดีจังธาม ขอตรงนั้น ซี้ด”


               ธามขยับเร็วและแรงอย่างรู้ใจ เขาจับขาอีกข้างของภาติยะขึ้นสูงเพื่อที่เขาจะโน้มตัวกระแทกให้หนำใจ เสียง

ครางของภาติยะทั้งหวานทั้งเซ็กซี่ในความรู้สึกจนกระทั่งธามไม่อาจเก็บกั้นความต้องการได้อีก


               “โอย คุณภีม ตอดเหลือเกิน”


               ธามยันขากับพื้นแล้วใส่ไม่ยั้งแรง ภาติยะถึงกับหัวสั่นหัวคลอนอยู่บนโซฟาจนต้องใช้มือคว้าที่วางมือไว้เป็น

หลัก ภาติยะหน้ามืดเมื่อช่องท้องของเขาปั่นป่วนไปหมดแล้วตอนนี้


               “ฮัก ฮัก ธาม ธาม ฉันไม่ไหวแล้ว”


               “แทนตัวเองว่าภีมนะครับที่รัก”


               ร้องบอกพร้อมกับผ่อนแรงลงจนภาติยะผวา เขารีบดึงใบหน้าของธามให้เงยหน้าสบตากับเขา


               “ธาม ช่วยภีมด้วย ภีมต้องการธามเหลือเกิน”


               ธามเงยหน้าเปล่งเสียงอย่างพอใจ เขาก้มหน้าลงกลืนกินยอดอกสีสวยชูชันพร้อมกับคว้าแก่นกายของภาติยะ

ที่แกว่งไปมาไว้แล้วโยกรั้ง ช่องทางของภาติยะตอดบีบถี่ยิบบอกให้ธามรู้ว่าพ่อเลี้ยงของเขาใกล้ถึงจุดไคลแมกซ์เต็มที


               “ผมรักคุณภีมที่สุดในโลก”


               เด้งเอวรัวไม่หยุด ภาติยะผวาค้างเมื่อกล้ามเนื้อเขม็งเกลียวก่อนน้ำรักจะพุ่งวาบรดมือของธามที่ยังไม่เลิกรา

แรงรัดทำให้ธามต้องเร่งเอวเมื่อเขาปวดท้องเต็มทีและอีกไม่กี่วินาทีเขาก็แช่เอวค้างในท่าที่ลึกที่สุดเมื่อมันแตกอยู่ในช่อง

ทางจนไหลเยิ้มล้นออกมา

               มีแต่เสียงหอบหายใจที่ประสานกันในตอนนี้ ธามยกท่อนแขนบรรจงเช็ดเหงื่อบนใบหน้าให้ภาติยะที่มองเขา

ด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย ธามรอจนภาติยะหายเหนื่อยเขาจึงประคองให้ภาติยะลุกขึ้นมานั่งอยู่บนตักของเขา ธามคว้ากีตาร์

มาคร่อมร่างของภาติยะแล้วดีดมันเบาๆ

                ภาติยะสบตาและก้มหน้าไปจูบธาม

               ต่อไปนี้บ้านหลังเล็กก็จะมีแต่เสียงเพลงบรรเลงเพลงรักตลอดไป


                                                            The End



กรี๊ดดดด จบแล้วจ้า เป็นไงกันบ้าง


เรื่องดนตรีใสๆ ไม่หื่นเนอะ

:hao3: :hao3: :hao3:


เรียนปรึกษาแฟนขับ

เนื่องจากต้นฉบับเรื่องนี้นั้นหากจะทำเป็นหนังสือขนาดA5

ก็จะได้ความหนาราวๆ300หน้า โดยที่ยังไม่มีตอนพิเศษเลย

จึงขอเรียนถามคนอ่านว่าจะหยุดแค่เรื่องลูกเลี้ยงหรือจะมีอีกเรื่องหนึ่งดีคะ

หากมีอีกเรื่องและรวมบทพิเศษที่ต้องแต่งความหนาน่าจะพุ่งไป 350-380หน้าแน่ๆ


คนอ่านจะแบกกกันไหวหรือเปล่า

จงอภิปรายความคิดเห็น.....

o18 o18 o18 o18 


                      อย่าลืมกดโหวตโพลด้านบนนะคะ



หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58 กำลังอัพ
เริ่มหัวข้อโดย: p^tarn ที่ 23-12-2015 23:38:25
แวะมากินเด็กด้วยคน :pighaun:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58 กำลังอัพ
เริ่มหัวข้อโดย: heroza ที่ 23-12-2015 23:49:43
จบด้วยความโรแมนติก :mew1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58 กำลังอัพ
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-12-2015 23:51:24
คุณภีมมมมมมมมมม
เลือดหมดตัวกันเลยทีเดียว
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: papanoy ที่ 24-12-2015 00:29:23
รู้สึกว่าตอนสุดท้ายนี่มันสั้นๆรวบรัดยังไงไม่รูัอ่ะ
แต่ก็ชอบเรื่องนี้ที่สุดละ ตั้งตารอทุกวัน :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 24-12-2015 00:32:47
ชอบเรื่องนี้ที่สุดเลยค่า
คุณภีมน่ารักกก ในที่สุดธามก็สมหวัง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Youi_chin ที่ 24-12-2015 06:52:13
 :ruready
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 24-12-2015 07:10:53
ดีจังเลยยย
แรงเด็กๆนี่มันดี๊ดีนะ

ชอบเรื่องใสๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 24-12-2015 07:21:11
ในที่สุดคุณภีมก็เป็นอมตะ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 24-12-2015 08:01:13
สองคนนี้นี่จัดที่โล่งตลอดเลอ แซ่บจริงๆเด็กๆก็เงี้ยะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-12-2015 08:34:01
จบไปอีกเรื่อง ใสๆ~
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mississippi ที่ 24-12-2015 08:35:36
ไหวค่ะไหวว ขออีกซักเรื่อง ฮรี่ๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-12-2015 08:43:45
 :jul1:   กรี้ด ตอนที่แล้วเปียโน ตอนนี้โซฟาแถมกีต้าร์
บ้านนี้จะต้องมีทั้งเสียงดนตรีและเสียงหวานของคุณภีมแน่นอน
ตอนหึงน่ารักดีค่ะ โอ๋ๆ คนแก่อย่าน้อยใจนะ เป็นอมตะแล้วนั่นไง

 o13
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: lovekodak ที่ 24-12-2015 12:47:03
แบกไหวคร่า  ทำออกมาหนาแค่ไหนก็แบกไหว   :hao6:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 24-12-2015 13:13:41
อ้าย  :pighaun:

ใสมาก ชอบมาก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: makone ที่ 24-12-2015 13:59:16
ให้เด็กกินก็เป็นอมตะเหมือนกันหรือนี่
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 25-12-2015 21:57:35
จ้า..ไม่หื่น แค่ยาบำรุงเล็กน้อย พอให้กระชุ่มกระชวนแบบปาดน้ำลายเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 26-12-2015 08:50:02
คุณภีมทำใจรักลูกได้รวดเร็วไปหน่อยนะ

แต่เราก็ชอบจบแบบแฮปปี้เนอะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 26-12-2015 19:55:11
ภีมกินธามจนเป็นอมตะ  อิอิ
แนวใสมากจ้า  ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 27-12-2015 05:20:25
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่ากิจกรรมเข้าจังหวะนั้นมี 2 แบบ
แบบแรก ก็เล่นกันบนเปียโนกันไป และแบบที่สองบนโซฟาก็ดี ดีดกีต้าร์คลอเบาๆด้วย  :pighaun:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 27-12-2015 07:09:33
 :pighaun: ให้เด็กกินเป็นอมตะแบบนี้เอง คุณภีมกระชุ่มกระชวยแน่
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 << ลูกเลี้ยง บทที่ 4 ตอนจบ >> 23/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 31-12-2015 20:16:37

ต่อได้เลย เค้าจิแบกกก  :haun4:  ขอทำโพยตอนรวมเล่มนะคะ  ตัดสินใจไม่ถูกเลยยย  :jul1:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 << เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทนำ >> 01/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 01-01-2016 23:35:04


                                                 เดียวดายใต้แสงจันทร์

                                                        บทนำ


              อาจบางทีเนื่องเพราะหัวใจของหวังต้าชานคล้ายดั่งมีความรัก เพราะความรักมันจึงต้องยอมรับว่าแปลก

ประหลาด นับว่าประหลาดยิ่งเมื่อคนที่มันรักเป็นบุรุษหาใช่สตรีสะคราญโฉม

             หวังต้าชานหาใช่วิญญูชน มาตรว่าเป็นวิญญูชนหากมีความรักนับว่าไม่อาจหักห้ามใจได้ยามนี้ เมื่อบุรุษที่มันรัก

นอนทอดกายไร้อาภรณ์ใด ดวงตาดำขลับของเฉินเฟิงหยางทอประกายดั่งรวบรวมดวงดาวมาอยู่ภายใน หวังต้าชานที่มิ

ใช่วิญูญูชนรั้งใจไว้ไม่อยู่ในบัดดล

               ต้นหลิวต้นใหญ่แผ่กิ่งใบบดบังท้องฟ้าดำมืดปราศจากเมฆ จันทราสว่างบนท้องฟ้าส่องร่างเฟิงหยางจน

งดงาม หน้าของมันแดงก่ำเมื่อดวงตาของต้าชานโลมไล้ไปทุกส่วน มือของมันจับจ้องฟอนเฟ้น หากเฟิงหยางเองก็มิอาจ

สกัดกลั้นได้อีกต่อไป


              “อึก ข้าพเจ้าทรมานเหลือเกิน”


              เสียงเฟิงหยางยามคร่ำครวญเมื่อต้าชานดันร่างกายเข้าหา ลมปราณพลันแตกซ่านพลุ่งพลิ้วทั่วร่าง เฟิงหยาง

ขยับรับสัดส่วนแห่งบุรุษให้เข้ามา ใบหน้าแดงก่ำปรากฏเหงื่อเย็นเยียบล่อหลอกให้ต้าชานต้องชิมรสมันเข้าไป ความคับ

ข้องอุ่นระอุรวบรัดร่างทั้งสองจนขาดผึง






             “ข้าพเจ้าจะรอคอยท่านที่ใต้ต้นหลิวแห่งนี้ ในทุกคืนจันทราเต็มดวง”


             “ข้าพเจ้าหากไม่มา”


             “ข้าพเจ้านับว่ายังรอ” เฟิงหยางเอ่ยทั้งน้ำตา อาจเป็นน้ำตาหยดสุดท้ายของมัน


              “มิว่าเช่นไร ข้าพเจ้าจะรั้งรอท่านใต้แสงจันทร์นี้ตลอดไป”





                                โปรดติดตามนิยายเรื่องสุดท้ายของซีรี่ส์


ไม่เคยแต่งแนวนี้มาก่อน

ครั้งนี้ครั้งแรกนะจ๊ะ

อ่านแล้วไม่ชอบก็บอกกันด้วย

ยินดีลบแล้วคิดเรื่องใหม่มาแต่ง

แต่ถึงอย่างไร

เรื่องนี้ข้าพเจ้าก็ตั้งใจจนเกร็งไปหมดล้าววว

หวังว่าจะโดนใจเหล่าท่านทั้งหลายบ้างไม่มากก็น้อย

 :man1: :man1: :man1:





[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทนำ>01/01/59แนวจีนกำลังภายในจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 02-01-2016 00:32:40
ชอบอ่านแนวจีนโบราณแบบนี้ค่ะ

แต่งต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทนำ>01/01/59แนวจีนกำลังภายในจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-01-2016 05:38:41
Ok. เลยค่ะเราชอบแต่อย่ารันทดมากนะ

สงสารเฟิงหยางน่ะ. 
 :pig4: 
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทนำ>01/01/59แนวจีนกำลังภายในจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 02-01-2016 05:59:09
ยังไงกันนะ ต้าชางเฟิงหยาง
ธามดูแลภีมให้ดีนะ แม่ธามน่ารักดี
สงสารม้าลาย
ที่จริิงเอวันก็น่าสงสารนะ แล้วลูกของหยกจะมีลูกได้อีกไหมนะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจั
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-01-2016 08:45:30
ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทนำ>01/01/59แนวจีนกำลังภายในจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: synneva23 ที่ 02-01-2016 13:19:18
อยากอ่านต่อ แต่งต่อเบยยย *0*
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทนำ>01/01/59แนวจีนกำลังภายในจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 02-01-2016 13:31:13
น่าจะเป็นคำแทนตัวเองจาก "ข้าพเจ้า" เป็น "ข้า" แทนเวลาอ่านจะดูลื่นมากกว่านี้
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทนำ>01/01/59แนวจีนกำลังภายในจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-01-2016 18:13:35
จัดมาเลยค่ะ แต่อย่าเศร้ามากก้อพอ
เอาแบบ Happy end~~~!!!
หัวข้อ: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 02-01-2016 20:43:13


                                                        เดียวดายใต้แสงจันทร์

                                                                 บทที่ 1


               สุริยาลับขอบฟ้าแล้ว แสงสีส้มทาบอยู่ตีนฟ้าเป็นแสงสุดท้าย

               เส้นทางสู่สำนักบู๊ตึ๊งบนเขาสูง คราคร่ำมากผู้คนจากหลายสิบทิศ คนทุกผู้ต่างเดินทางเพื่อจุดหมายเดียวนั่น

คือการชุมนุมชาวยุทธบนเขาบู๊ตึ๊งอันเวลาเหลืออีกครบรอบในหนึ่งจันทร์เต็มดวงข้างหน้านับจากวิกาลแห่งข้างขึ้นในคืนนี้

งานชุมนุมจัดขึ้นในรอบสองปีแต่ละครั้งต่างหมุนเวียนให้สำนักและพรรคยอดฝีมือเป็นผู้นำและคราวนี้มีสำนักบู๊ตึ๊งได้

หมุนเวียนครบรอบอีกครา

               ริมทางเดินบนเนินเขาเตี้ยกลับปรากฏตึกสองชั้นไม่ใหญ่ไม่เล็กตั้งอยู่ มันเป็นโรงเตี๊ยมเพียงแห่งเดียวใน

ละแวกนี้ ด้านในมีโต๊ะไม้นับได้ห้าถึงหกตัว ด้านหนึ่งมีบันไดเล็กทอดสู่ชั้นบนอันเป็นห้องพักสิบกว่าห้อง เถ้าแก่วัยชรานั่ง

ง่วงเหงาอยู่ในคอกเล็กด้านข้าง ศิษย์สำนักห่างไกลต่างแวะเวียนเข้ามาพักผ่อนฝีเท้าและหาที่คุ้มลมฝนพักผ่อน หาก

ไม่ทันพิจารณาอาจไม่เห็นบุรุษผู้หนึ่งนั่งเดียวดายในโต๊ะมุมที่สุด ชุดดำที่สวมใส่และหมวกกุยเล้ยใบเก่าปิดบังใบหน้าจน

มองไม่เห็นชัดแจ้ง บนโต๊ะของมันมีเพียงอาหารไม่กี่อย่างและป้านน้ำชาอุ่นจัดเท่านั้น ใบหน้าหรุบลงดวงตามองแน่วนิ่งที่

อาหารของมันแต่หูกลับลอบฟังการสนทนาของแขกผู้อื่นที่นั่งเต็มทุกโต๊ะ

               ไหสุราเคลื่อนที่ทั้งหลายนั่งปะปนกันทั้งสำนักใหญ่น้อยและสำนักคุ้มภัยต่างเมามายคล้ายกันถ้วนหน้า คำ

พูดจาอึงอลไปทั่วโรงเตี๊ยม บ้างกร่างในอาวุธของตน บ้างกล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นจนเป็นที่โจษจันไปทั่วบู๊ลิ้ม


               “ประมุขพรรคสำคัญในยุทธภพต่างทยอยถูกกำจัดไปแล้วถึงห้าคนห้าสำนักทั้งสิ้นเกิดขึ้นในคือเดือนเพ็ญ”


               ผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งเครียด


               “ตลอดห้าเดือนที่ผ่านมานี้ทำให้สะเทือนไปทั้งแผ่นดิน”


               “ล้วนแต่เป็นฝีมือของผู้ใด”


               อีกผู้หนึ่งจากโต๊ะติดกันเอ่ยถาม มันผู้แรกกลับส่ายหน้า


               “ข้าพเจ้าไม่ทราบ หากแต่ท่านอาจารย์ของข้าพเจ้าเล่าขานว่าทุกศพล้วนตายด้วยรอยกระบี่เดียว”


               “รอยกระบี่เดียว? มันผู้ใดช่างหาญกล้านักเมื่อผู้ตายต่างเป็นเจ้าสำนักเลื่องชื่อ”


               “ท่านไฉนไม่ล่วงรู้จักเพลงกระบี่จันทราอันโหดเหี้ยม”


               เสียงดังอวดรู้จากอีกโต๊ะ ผู้กล่าวหัวร่อราวกับมันเองประเสริฐนัก


               “นัยว่าเพลงกระบี่จันทราสาบสูญไปจากยุทธจักรนานนับยี่สิบปีเนื่องเพราะจอมกระบี่มารเฉินจื่อเยี่ยนถูกสิบ

ประมุขสำนักยอดฝีมือร่วมกันขจัดจนตายหมดทั้งตระกูล รวมถึงได้ทำลายคัมภีร์กระบี่จันทราด้วย หากมิทราบเพราะกระไร

ห้าเดือนที่ล่วงผ่านมานี้จึงบังเกิดจอมยุทธกระบี่มารขึ้นมาอีกครา”


               ปลายนิ้วที่จับด้ามตะเกียบถึงกับกำแน่นเข้าเมื่อเหล่าชายฉกรรจ์เอ่ยถึงจอมกระบี่มารเฉินจื่อเยี่ยน หากผู้ใดเก่ง

กล้ามองลอดผ่านกุยเล้ยที่ปิดบังอยู่ ไม่แน่นักอาจเห็นดวงต้าประกายเดือดดาลที่ซ่อนอยู่ในกายนิ่งนั่นเอง

               เสียงก้าวเดินเข้ามาด้านในเรียกให้ทุกผู้หันไปมองอาคันตุกะคนใหม่ นับว่าตกเป็นเป้าสายตาอย่างยิ่งเมื่อบุรุษ

แสนธรรมดาผู้หนึ่งก้าวเข้ามาเพียงลำพังในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ สารรูปช่างปกติธรรมดามันสวมใส่เสื้อคลุมสีขาวหากการตัด

เย็บประณีตยิ่ง ดูจากใบหน้าแล้วอาจมิได้ทำให้ดรุณีโฉมงามต้องสะเทิ้นอายด้วยความหลงใหลหากแต่ไม่อาจมีใคร

ปฏิเสธและรังเกียจยามมันแย้มยิ้มอย่างสำราญใจเช่นนี้เป็นแน่

            ผู้มาใหม่หยุดยืนเป็นเป้าสายตาอยู่กลางร้าน โต๊ะห้าถึงหกตัวนับได้ว่ามีผู้ครอบครองถ้วนทั่วแล้ว หากแต่โต๊ะตัว

หนึ่งประกอบด้วยเก้าอี้ไม้สามถึงสี่ตัว สายตาคมกริบจึงหยุดมองโต๊ะตัวในที่มีผู้ครอบครองเก้าอี้เพียงหนึ่งเดียว ปลายเท้า

พามันไปทันที


                 “เก้าอี้เหล่านี้หากไม่มีผู้ครอบครอง ข้าพเจ้าถือว่าเป็นเกียรติหากได้นั่งร่วมโต๊ะกับสหายท่านนี้”


                  หมวกกุยเล้ยไม่ได้ขยับมีเพียงฝ่ามือผายออกเล็กน้อย ผู้มาใหม่นั่งลงพร้อมกับเสียงตะโกนของเถ้าแก่เรียก

ผู้อยู่ด้านหลังร้านให้รีบออกมา

                เสี่ยวเอ้อผู้หนึ่งเดินออกมาจากผ้าม่านหลังร้าน เสื้อคลุมเข้มเก่าซอมซ่อมีผ้าเช็ดมือพาดบ่าหมวกเก็บคลุมผม

มิดชิดหากแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์คล้ายเพิ่งอายุได้สิบเจ็ดสิบแปดปีรุดมาหยุดยืนด้านหน้าของผู้มาใหม่


                “กงจื้อ(คุณชาย)ท่านนี้มิทราบต้องการอาหารหรือสุราชั้นดีหรือไม่”


               ผู้มาใหม่เหลือบแลอาหารบนโต๊ะที่มีเพียงไม่กี่อย่าง พลันยกมือลูบคางก่อนเอ่ยเสียงแจ่มใสออกไป


             “บนโต๊ะนี้มีอาหารน้อยอย่างยิ่ง น้อยเกินไปสำหรับต้อนรับสหายใหม่ จงนำเนื้อมาอีกสามชั่งพร้อมสุรารสเลิศมา

มอบแด่ข้าพเจ้าเถิด”


              เสียงหัวร่อเย้ยหยันดังมาจากหนึ่งในหมู่โต๊ะที่เต็มไปด้วยผู้ครอบครอง


             “ฮา ฮา เนื้อและสุรารสเลิศ มิแน่ว่าอาจไม่มีปัญญาจ่าย”


              ดังลั่นด้วยเสียงหัวร่อตอบรับ ผู้มาใหม่ได้แต่หันหน้ากลับมาให้ความสนใจกับบุรุษที่ปกปิดด้วยหมวกกุยเล้ยใบ

ใหญ่


               “ข้าพเจ้าแซ่หวังนามต้าชาน มิทราบสหายท่านนี้นามว่ากระไร”


               หัวไหล่โยกไหวเล็กน้อย นับว่าเล็กน้อยจนอาจไม่ทันเห็น


              “พบกันเพียงครั้งเดียว ใยต้องถามไถชื่อแซ่”


               หวังต้าชานงงงันยิ่งเมื่อได้ยินคำกล่าวนั้น มันจับตามองบุรุษชุดดำแสนสุขุม น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยราบเรียบยิ่ง

เยือกเย็นยิ่ง บางทีอาจยิ่งกว่าน้ำในทะเลสาบยามกลายเป็นแผ่นน้ำแข็งในฤดูตงเทียน(ฤดูหนาว)

               เสี่ยวเอ้อหนุ่มเดินยกถาดอาหารและไหสุราวางลงบนโต๊ะ หวังต้าชานรอจนทั้งหมดเสร็จสิ้นจึงเอ่ยกับเสี่ยวเอ้อ


               “มิทราบที่นี้ยังมีห้องพักหลงเหลือหรือไม่”


               เสี่ยวเอ้อมองหวังต้าชานและบุรุษหนุ่มที่นั่งร่วมโต๊ะ


              “ห้องพักมีเพียงห้องสุดท้ายอีกหนึ่งห้องเท่านั้น กงจื้อยังต้องการหรือไม่”


              หวังต้าชานดึงถุงบรรจุตั๋วแลกเงินดึงออกมาสักหลายใบส่งให้เสี่ยวเอ้อน้อย มันรีบรับไว้พร้อมกับเบิกตาโตทันที


             “ข้าพเจ้าจะรีบไปปัดกวาดห้องบัดนี้”


             หวังต้าชานหันกลับมามองสุราราคาแพงที่วางอยู่บนโต๊ะ มันคว้าชามเปล่ามาแล้วจัดแจงเทน้ำสุราลงไป


             “ทั่วยุทธจักรมีผู้คนมากหน้าหลายตา หากแต่น้อยคนนักที่จะได้มาร่วมโต๊ะทั้งที่ไม่รู้จัก นับว่าเป็นวาสนาอย่าง

ยิ่ง หากข้าพเจ้าคิดจะเชิญท่านดื่มสักจอกสักชาม?”


               “ข้าพเจ้ามิชมชอบรสชาติสุรา”


               มือที่กำลังจะเทสุราจากไหชะงักงันพลันยิ้มกระจ่างอย่างยิ่ง


               “รสชาติของสุราอาจฝืดคอ แต่บรรยากาศยามดื่มสุรากับสหายรู้ใจนับว่าประเสริฐ เอาเถอะ หากท่านมิชอบสุรา

ฝืดคอจริงๆ ข้าพเจ้าจะถือว่าน้ำชาตรงหน้าของท่านรสชาติไม่แพ้สุราชั้นเลิศ”


               หวังต้าชานยกชามสุราเทเข้าปาก ยังไม่ทันหมดชามเสียงหวีดร้องจึงดังขึ้น มันหันขวับไปมองทันที

               เสี่ยวเอ้อน้อยร้องลั่นด้วยความตกใจ แขนของมันถูกหนึ่งในไหสุราเคลื่อนที่คว้าไว้ ท่าทีหวาดกลัวยิ่งทำให้

พวกมันกำเริบถึงกับคว้าเอวเสี่ยวเอ้อเข้าไปหา เสียงโห่ฮาดังกระหื่มเมื่อไม่มีใครห้ามปรามจนเสี่ยวเอ้อน้อยถึงกับตัวสั่น

หวาดกลัวอยู่ในหมู่ชายฉกรรจ์เมามาย หวังต้าชานวางชามสุราลงแล้วลุกไปในทันใด


                “เก่อเกอ(พี่ชาย)ท่านนี้ มิทราบมีอันใดจะใช้สอยมันหรือเปล่า”


               หวังต้าชานขยับคว้าท่อนแขนใหญ่โตของผู้ที่ล่วงเกินเสี่ยวเอ้อ ดวงตากลับกลายเป็นจริงจังยามจ้อง มันกลับ

ยิ้มเยาะและยิ่งก่อกวนหนักขึ้น


               “ฮา ฮา ตี่ตี๋(น้องชาย)ใคร่จะร่วมสนุกกับข้าพเจ้าใช่หรือไม่ เสี่ยวเอ้อผู้นี้ร่างเล็กและหน้าตาหมดจดราวดรุณี

น้อย หรือว่าตี่ตี๋ไม่เห็นพ้องด้วย”


               “กงจื้อ ได้โปรด”


               สายตาของเสี่ยวเอ้อละห้อยอ้อนวอนเมื่อตกอยู่ในหมู่ผู้คิดร้าย หวังต้าชานออกแรงเพียงเล็กน้อยบีบท่อนแขน

จนเจ้าของมันหน้าคล้ำ


               “มิว่าเป็นดรุณีหรือบุรุษ จอมยุทธย่อมไม่ทำร้ายผู้ที่อ่อนแอกว่า หากทำเช่นนั้นก็นับว่าขลาดเขลาแล้ว”


               ปึง!!


               มันตบโต๊ะเสียงดังพลันกระแทกกายเข้าใส่ หวังต้าชานเพียงสะบัดมือกลับมีมีดเล็กขาววับยาวหนึ่งเชียะออก

มาจากปลายแขนเสื้อพุ่งใส่มือหนาของชายฉกรรจ์ผู้นั้น นับว่าผิดคาดเมื่อมีมีดอีกอันหนึ่งมาจากแขนอีกครั้งขว้างเข้าใส่

สหายของมันปากแขนโลหิตสาดกระเซ็นก่อนมีดเล็กจะบินวกกลับมาเข้ามือของหวังต้าชาน


               “มีดบินอหังการ์ ฮา ฮา นับว่าประเสริฐแล้วที่ได้ประลองฝีมือ”


               มันผลักเสี่ยวเอ้อออกห่าง โรงเตี๊ยมกลายเป็นเวทีวิวาทหลายคนต่อหนึ่ง มันทั้งหลายราวห้าถึงหกคนยืนล้อม

หวังต้าชานที่ใช้อาวุธเพียงมีดน้อย หากต่อสู้ได้อย่างเร้าใจเมื่อสามารถคว่ำพวกมันได้จนเหลือเพียงสองรุมหนึ่ง แต่ครั้ง

หนึ่งที่หวังต้าชานพลาดเดินถอยหลัง มิคาดหนึ่งในสองคิดฟาดฟันจากด้านหลัง


               ขวับ!!


               ตะเกียบคู่หนึ่งลอยละลิ่วมาจากทิศใดมิอาจทราบได้ มันตรงเข้ากระแทกข้อมือที่จับดาบใหญ่อย่างรวดเร็วยิ่ง

รุนแรงยิ่ง ดาบใหญ่หลุดจากมือดังเคร้งก่อนที่มันจะทรุดฮวบกับพื้นเมื่อหมวกกุยเล้งลอยตามมาเฉือนเอ็นหลังเข่าของมัน

               หวังต้าชานขว้างมีดอีกครั้ง ครานี้คมมีดบินผาดปากผิวหนังลำคอของมันจนสายเลือดปลิวเป็นสาย มันถึงกับ

ตัวสั่นงันงกก้าวหนีพลางยกมือชี้ที่ใบหน้าของหวังต้าชานด้วยความอาฆาต


               “ไอ้ลูกเต่า นับว่าข้าพเจ้าจะปล่อยท่านไปก่อน พบกันครั้งหน้าข้าพเจ้ารับรองจะไม่ไว้ชีวิต”


               เหล่าพวกมันล้วนจากไปแล้ว เถ้าแก่ยืนกล่าวพ่นคำด่าตามหลังยาวเหยียด ผู้อื่นที่นั่งอยู่ต่างกลับไปกินอาหาร

และดื่มสุราอย่างสงบ เสี่ยวเอ้อรีบยกมือโค้งคำนับแด่หวังต้าชาน


               “เสี่ยวเอ้อแซ่ฟ่านคารวะกงจื้อที่ช่วยเหลือ”


               “มิเป็นไร เซียวฟ่าน(ฟ่านน้อย) ข้าพเจ้ามิใคร่ชอบใจยามเห็นผู้อ่อนแอถูกรังแก”


               หวังต้าชานยิ้มแย้มให้ฟ่านเสี่ยวเอ้ออีกครั้งก่อนเดินกลับมาที่โต๊ะ เป็นครั้งแรกที่มันได้เห็นเค้าหน้าของผู้ร่วม

โต๊ะเมื่อไม่มีหมวกกุยเล้งปกปิด

               เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ดีเป็นอย่างยิ่ง แม้เค้าหน้านั้นจะยังคงหรุบต่ำ หากแต่คิ้วโก่งรับกับดวงตาเรียวที่อยู่

เหนือจมูกเชิดรั้งนั้นจับใจหวังต้าชานจนระส่ำระสาย


               “ขอบคุณน้ำใจที่ช่วยเหลือยามลำบาก สหาย...”


               “ข้าพเจ้าแซ่เฉินนามเฟิงหยาง”


               “ไพเราะยิ่ง เหมาะสมแล้วกับฝีมือเยี่ยมยุทธ แม้เพียงตะเกียบหนึ่งคู่กับหมวกเก่าอีกหนึ่งใบมิคาดคิดว่าจะเป็น

อาวุธ ได้รู้จักกับท่านนับว่าประเสริฐแท้ ขอดื่มคารวะท่านสักหนึ่งจอกเถิด”


               “ข้าพเจ้าบอกกับท่านแล้วว่าไม่ชมชอบสุรา และบัดนี้ข้าพเจ้าเลิกหิวกระหายเสียแล้ว”


               ลุกขึ้นยืนเต็มรูปกาย อวดความสูงโปร่งในชุดสีดำสนิท กระบี่คาดที่เอวยิ่งดำกว่า ด้ามจับสีเหลืองทองแวววับ

มือข้างนั้นกระชับมันราวกับไม่เคยห่างมือ


               “ท่านจะไปแล้ว?”


               มิทราบเป็นเพราะกระไรใจของหวังต้าชานจึงหายวาบ ถึงกับเหลียวหลังมองแผ่นหลังนั่นอย่างอาวรณ์


               “แต่เบื้องนอกฝนตก”


               รีบบอกเตือนให้ทราบอาจบางทีเฉินเฟิงหยางจะรั้งรอนานอีกสักนิดเมื่อพายุฝนกระหน่ำลงมา


               “ข้าพเจ้าจะไปยืนรอด้านนอก”


               มันถึงกับไปจริงๆ ไปยืนนิ่งเป็นหุ่นอยู่นอกโรงเตี๊ยม สายฝนเทลงมาห่าใหญ่ ละอองฝนสาดสัดจนเสื้อคลุมสีดำ

เปียกปอน เฉินเฟิงหยางเงยหน้ามองฟ้าเมื่อไม่เห็นแววฟ้าเปิด มันถึงกับทอดถอนใจออกมา


               “ฝนตกหนักไม่เหมาะกับเดินทาง เช่นไรเชิญจอมยุทธเฉินพักรอที่ห้องของข้าจนกระทั่งฝนหยุดจะประเสริฐ

กว่า”






               เฉินเฟิงหยางเข้ามาในห้องพักของหวังต้าชาน  มันนั่งสงวนท่าทีเป็นสง่าอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง ตะเกียงใหญ่ดวง

ใหญ่ส่องสว่างยิ่งทำให้หวังต้าชานมองเห็นเค้าหน้านั้นชัดเจนยิ่งขึ้น ความจับใจแปลกประหลาดก็ยิ่งตอกย้ำมากขึ้น


               “ท่านจะพักนานเพียงไรก็ได้”


               “ข้าพเจ้าอยู่เพียงแค่ลมฝนหยุดลงเท่านั้น ไม่คิดจะรบกวนท่านมากไปเกินนี้”


               เสียงราวกระดิ่งลมโต้ตอบทันควัน ชั่วแวบหนึ่งที่หวังต้าชานสบตากับเฉินเฟิงหยางหัวใจของหวังต้าชาน

กระตุกวูบหนึ่ง เป็นคราแรกที่หวังต้าชานไม่เข้าใจตัวมันเองว่าสืบเนื่องจากเหตุกระไรแน่

               เฉินเฟินหยางหรุบตาลงต่ำอีกครั้งเพื่อหนีจากการประสานสายตา ทีท่านั้นสร้างความอึดอัดแก่หวังต้าชานไม่

น้อย

               มันหวังเพียงให้เฉินเฟิงหยางได้มองสบตามันด้วยประกายตาสดใสบ้าง


                “เชิญท่านพักผ่อน หากจะทำเยี่ยงไรก็แล้วแต่ใจท่านเถิด”


               หวังต้าชานหันกลับไปยังประตูทางออก


               “ท่านกำลังจะออกไป?”


               เสียงของเฉินเฟิงหยางทำให้หวังต้าชานชะงักไปวูบหนึ่ง


               “ปีศาจสุราเยี่ยงนี้จะมีสถานที่ใดเหมาะกับข้าพเจ้ามากไปกว่าไหสุราเล่า”


               หวังต้าชานก้าวเดินลงมายังชั้นล่างที่ไร้ผู้คน คนเดินทางผ่านล้วนจากไป คนจับจองห้องพักล้วนซุกตัวอยู่ใต้

ผ้าห่มนวมคลายหนาว หากแต่มันกลับเดินเตร็ดเตร่ใบหน้าเครียดขรึมสับสน พลันสายตาปะทะกับฟ่านเสี่ยวเอ้อทีกำลัง

ทำความสะอาดพื้นอยู่ชั้นล่าง


               “กงจื๊อ ท่านต้องการสิ่งใด”


               หวังต้าชานฝืนยิ้มให้ฟ่านเสี่ยวเอ้อ เอ็นดูในความขยันขันแข็งของมัน


               “ต้องการเหล้าสักไหใหญ่ มิทราบเซียวฟ่านยังมีหลงเหลือหรือไม่”


               เสี่ยวเอ้อตัวเล็กยิ้มแย้มตอบ มันผายมือให้หวังต้าชานเดินตามมันไปยังด้านหลังของโรงเตี๊ยมอันที่สถานที่

เก็บไหสุราชั้นดีตั้งอยู่บนชั้นวางหลายสิบไห หวังต้าชานหัวร่อชอบใจ


               “สุราล้วนชั้นเลิศ ประเสริฐนัก”


               มันคว้าสุราดีมาได้ไหหนึ่ง พานเทใส่ปากดื่มไม่ยั้งราวกับเป็นปีศาจสุราโดยแท้ ดื่มสุราเพียงอย่างเดียวจนใกล้

หมดไหหวังต้าชานจึงได้ยินเสียงฟ่านเสี่ยวเอ้อดังขึ้นด้านหลัง มิคาดว่ามันยังคงอยู่กับหวังต้าชานในห้องเก็บสุรา


               “อากาศหนาวเหน็บเยี่ยงนี้ กงจื้อมิควรดื่มสุราให้เลือดในกายอุ่นเพียงประการเดียว หากกงจื้อได้มีผ้าห่มแนบ

เนื้อนับว่าประเสริฐกว่ามาก”




                 หวังต้าชานหันขวับกลับมาพานพบภาพไม่คาดคิด ภาพลานตาอย่างยิ่ง





มีต่ออีกนิด...


หัวข้อ: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 02-01-2016 20:50:34


ต่อกันตรงนี้...





                ฟ่านเสี่ยวเอ้อยืนเปลือยกาย มีเพียงหมวกคลุมผมเป็นอาภรณ์ชิ้นเดียว เนื้อหนังสีขาวอวดตาอยู่ในแสงสลัว

ของโคมไฟข้างห้อง เงาวูบวาบของแสงไฟยิ่งทำให้ภาพเร้าใจเกินกว่าหวังต้าชานจะคาดคิด เอวคอดบางสมส่วนกับท่อน

ลำพอเหมาะทอดขาเดินมาหา วาดแขนอ่อนระทวยคล้องคอหวังต้าชานที่กำลังตกอยู่ในฤทธิ์ของสุราพลางซบหน้าออด

อ้อน


               “บุญคุณที่กงจื้อช่วยเหลือจากเหล่าหมูตะกละยามเย็น ขอให้ข้าพเจ้าได้ทดแทนด้วยร่างกายนี้”


               หากเป็นวิญญูชนท่านอื่นคงผลักไสร่างอ่อนระทวยนี้ออกไป แต่หวังต้าชานไม่เคยบอกใครว่าเขาเป็นวิญญูชน

               หวังต้าชานรู้จักวางตัว หากพบเห็นกุลบุตร กุลสตรี หวังต้าชานก็จะประพฤติตนเรียบร้อย สุภาพ

               หากหวังต้าชานพบเห็นคนเลว หวังต้าชานก็จะตอบโต้เลวทรามไม่ละเว้น

                และหากหวังต้าซานเจอผู้ร่านราคะ หวังต้าชานก็จะปฏิบัติกับมันเฉกเช่นเดียวกัน

               ฟ่านเสี่ยวเอ้อที่น่ารักน่าสงสารเมื่อยามเย็นกลับกลายเป็นออดอ้อนยั่วเย้า เนื้อหนังช่างนุ่มยามเบียดเข้าหา

กลิ่นกายกรุ่นเข้าจมูกและประสาทสัมผัสทำให้หวังตาชานหมดความอดทน


               “เซียวฟ่าน!”


               คำรามลึกเมื่อบีบคางให้ฟ่านเสี่ยวเอ้อเงยหน้า หวังต้าชานระดมจูบจนปากเล็กสั่นระริก ฟ่านเสี่ยวเอ้อรีบร้อน

ช่วยเหลือถอดเสื้อคลุมสีขาวออกจนเหลือแต่ชุดด้านในสีขาว ใบหน้าหยาดเยิ้มพลันเบียดกายเข้าหาคว้าแก่นกายของ

หวังต้าชานมาลูบคลำอยู่ในมือ

               หวังต้าชานผลักไสร่างเปลือยให้ก้าวถอยหลัง แผ่นหลังของฟ่านเสี่ยวเอ้อกระแทกเบาๆกับผนังห้อง ฟ่าน

เสี่ยวเอ้อแอ่นกายให้หวังต้าชานขบเม้มทิ้งรอยแดงทั่วลำตัว มือทั้งสองตระกองกอดพลางอ้าขารับเมื่อหวังต้าชานแทรก

กายเข้าไปในช่องทางร้อนรุ่ม


                “อา กงจื๊อ ท่านหนักแน่นเหลือเกิน”


               เสียงครางสะท้อนรอบห้องเก็บไหสุรา ฟ่านเสี่ยวเอ้อบิดกายให้พล่านยามหวังต้าชานกระแทกแก่นกายเข้าหา

หวังต้าชานเงยหน้าสูดลมเต็มที่ พลันวูบหนึ่งที่เขามองเห็นใบหน้าของเฉินเฟิงหยางทับซ้อนบนใบหน้าเปี่ยมสวาทของ

ฟ่านเสี่ยวเอ้อ


               “เฟิงหยาง...”


               เปล่งเสียงออกมาอย่างลืมตัว หวังต้าชานอุ้มเอวเล็กของฟ่านเสี่ยวเอ้อให้ลอยขึ้นเกาะเกี่ยวอยู่กับเอวของมัน

พลันใช้ผนังห้องรับน้ำหนักของฟ่านเสี่ยวเอ้อเมื่อหวังต้าชานกระแทกกระทั้นหนำใจ


               “อึก กงจื้อ อา บ้าที่สุด ตัวร้ายกาจ อยู่กับข้าพเจ้าแต่กับเอ่ยชื่อแพศยาอื่น”


               ฟ่านเสี่ยวเอ้อลงแรงทุบแผ่นหลัง หากหวังต้าชานกลับไม่สะเทือนแม้แต่น้อย ฤทธิ์สุรากระชากสติของมันขาด

วิ่น ได้แต่ปลดปล่อยพายุอารมณ์กับร่างยั่วสวาท


               “กงจื้อเลว อา ตรงนั้น ได้โปรดเถิดช่วยข้าพเจ้าด้วย ฮัก ฮัก ซื้ด อ๊า...”


               เกร็งกายอยู่กับท่อนเอวท่อนขา  ฟ่านเสี่ยวเอ้อครางหนักหอบถี่พลันปลดปล่อยน้ำคาวอุ่นจัดออกมา มันปรือ

ตาห่อปากครั้งที่หวังต้าชานกระแทกเอวใส่มันยกสุดท้าย





               ฝนหยุดตกแล้ว วิกาลผ่านไปนานเนิ่นแล้ว บัดนี้ดึกสงัดไร้เสียงอื่นใด เหลือเพียงความฉ่ำชื้นที่ท้องฟ้าทิ้งไว้

เมื่อหวังต้าชานเดินโซเซกลับมายังห้องพัก

               ห้องพักว่างยิ่ง เงียบยิ่ง ไร้ซึ่งวี่แววของตัวกวนใจ

               ไม่มีเฉินเฟิงหยางอีกแล้วภายในห้อง

               หวังต้าชานทิ้งกายลงไปบนเตียงด้วยความผิดหวัง



               พลันตื่นขึ้นมาในยามอรุณรุ่ง อากาศเหน็บหนาวจับใจ หวังต้าชานล้างหน้าแต่งตัวก่อนเดินจากห้องว่าง มัน

เดินลงบันไดมายังชั้นล่างก็พบผู้คนกลุ่มหนึ่งชุมนุมกันอยู่หน้าโรงเตี๊ยม


               “มีเหตุอันใด”


               สายตาพลันจ้องมองหวังต้าชานเป็นจุดเดียว มันถึงกับงงงันเมื่อฟังเหตุผลที่ผู้หนึ่งกล่าว


               “เหล่านักเลงที่ท่านวิวาทด้วยเมื่อเย็นวัน บัดนี้ถึงกับเสียชีวิตแล้ว”


               หวังต้าชานขมวดคิ้ว


               “ฝีมือผู้ใด”


               หนึ่งในกลุ่มชุมนุมตะโกนลั่น


               “หากมิใช่ฝีมือกงจื้อแล้วเป็นผู้ใด”


               ผู้เดิมรีบกล่าวตอบ


               “มิทราบฝีมือผู้ใด แต่เหตุน่าวิตกคือพวกมันเหล่านั้นล้วนสังกัดพรรคฝ่ามือเหล็กของจางหยวน มันผู้นี้กำลัง

ตามไล่ล่าผู้เข่นฆ่าสมาชิกของมัน ทางที่ดีกงจื้อควรรีบหลีกหนีเรื่องราวจะประเสริฐกว่า”


               “ข้าพเจ้ามิใช่ผู้ลงมือ เพราะวิกาลที่ผ่านมาข้าพเจ้าอยู่กับ...”


               เสียงตะโกนอย่างตกใจดังลั่นจากทางด้านหลังโรงเตี๊ยม พลันเถ้าแก่ชราวิ่งออกมา”


               “เซียวฟ่านเสียชีวิตแล้ว มันนอนเปลือยหมดลมหายใจอยู่ในห้องเก็บสุรา!”



                   --------------------------------- โปรดติดตามตอนต่อไป--------------------------------------



อ่านแล้วช่วยวิจารณ์ อย่ารอรี

เร่งเม้นท์เร็วไว ข้าพเจ้ารั้งรอพวกท่านอยู่

 :hao5: :hao5: :hao5:                
               
               
               



หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 02-01-2016 21:45:56
นายเอกเรื่องนี้โหดเอาเรื่องมาก 5555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-01-2016 22:11:05
 :katai2-1:   ว้าววว

ฝีมือสุดยอด
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 02-01-2016 23:19:22
จอมยุทธปะทะจอมยุทธ  น่าชมยิ่งนัก   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 03-01-2016 09:23:08
สนุก
นายเอกหึงรึเปล่าเลยจัดการเสียเลย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 03-01-2016 10:15:23
โอ๊ะ อย่างไรกัน เหตุฉไนยจึงสิ้นลมกันหมด ช่างน่าตกใจยิ่งนัก คาดว่าเหตุเกิดจากการแก้แค้นและพิษรักลมหึงจากนายเอก  :hao7:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: Dumzila047 ที่ 03-01-2016 19:34:16
ท่านจอมยุทธ ใยท่านไม่พกถุงยาง  :hao6:
นายเอกเรื่องนี้ท่าจะโหด ฆ่าเรียบ  :z10:
รอตอนต่อไปนะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 03-01-2016 20:22:36
ธีมงวดนี้ กำลังภายในจ๋าเลย ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจั
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-01-2016 21:50:48
มันขัดๆกับคำว่า'ข้าพเจ้า'ยังไงไม่รู้!?
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 03-01-2016 23:58:31
ข้าพเจ้า มันแปลกๆ
แต่เนื้อเรื่องน่าติดตามมากก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 06-01-2016 22:56:06
เฟิงหยางอาจจะเกิดความหึงหวงต้าชานหรือเปล่า เลยแอบจัดการหมด
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 1> 02/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 07-01-2016 19:56:31
 :L2:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 2> 10/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 10-01-2016 14:11:45


                                                  เดียวดายใต้แสงจันทร์

                                                            บทที่ 2


               มิทันได้รุดไปถึงร่างไร้ลมหายใจของฟ่านเสี่ยวเอ้อเมื่อมีเสียงตึงตังดังขึ้นจากด้านหนึ่ง พลันผู้คนก็รีบหลีกหนี

ทันทียามขบวนต้นเหตุปรากฏขึ้น เหล่าชายฉกรรจ์น่ากลัวกลุ่มหนึ่งรุดมาหยุดไม่ห่างจากหวังต้าชาน พวกมันเหล่านั้น

แหวกทางให้หัวหน้าของมันก้าวออกมาแสดงตัว มันเป็นบุรุษร่างสูงไขมันพ่วงพีดวงตาถลนยามจ้องมองใบหน้าของหวัง

ต้าชาน ฝ่ามือขวาของมันแดงฉานคล้ายดั่งมีโลหิตทาทาบ


               “ท่านนี้คือ?”


               หวังต้าชานพลันถามด้วยความกังขา มันเบื้องหน้าตบมือฉาดก่อนชี้หน้าหวังต้าชาน


               “ไอ้เต่าสวะนี้ใช่ไหมที่บังอาจหยามข้าพเจ้าด้วยการเข่นฆ่าซือตี๋ของข้าพเจ้าจางหยวนปังจู้(เจ้าสำนัก)พรรค

ฝ่ามือเหล็ก”


               ที่แท้พวกมันทั้งหลายคือพรรคฝ่ามือเหล็ก หวังต้าชานขมวดคิ้วพลันระแวดระวังทันที


               “หามิได้ ข้าพเจ้าเพียงห้ามพวกมันมิให้รุกรานผู้อ่อนแอกว่า หากพวกมันตายเพราะกระไรข้าพเจ้าเองก็ใคร่

ทราบเช่นกัน”


               ดวงตายิ่งถลนน่ากลัว จางหยวนส่งเสียงคำรามขู่ขวัญ


               “หากท่านมิทราบ น่ากลัวไม่มีผู้ใดในโลกล้วนทราบ เพราะที่แท้คือท่านที่บังอาจลงมือ ข้าพเจ้าจะฟาดท่าน

ด้วยฝ่ามือเหล็กทดแทนให้เหล่าซือตี๋”


               จบคำจางหยวนก็พลันถลาเข้าใส่ หวังต้าชานถีบเท้าลอยตีลังกากลางอากาศเร่งให้พ้นจากหน้าโรงเตี๊ยมและ

ผู้คนแถบนั้นไปยังทิวป่าลึก หวังต้าชานมั่นใจในวิชาตัวเบาของมันอย่างยิ่ง เพียงขยับกายไม่กี่ครั้งก็เคลื่อนที่ได้หลายลี้

บนยอดไม้สูง หวังต้าชานมิใคร่ชอบเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง มันชอบใช้ชีวิตอยู่บนกองสำราญมากกว่า

               คาดว่าหลีกหนีได้แล้วหวังต้าชานจึงลดกำลังลง มันเดินชมธรรมชาติอยู่ครู่ใหญ่ก็ถึงกับถอนลมหายใจเมื่อ

ได้ยินเสียงก่อกวนอีกครั้ง


                “จะหนีไปไหน ไอ้ลูกเต่าหดหัวในกระดอง”


               คำด่าเกรี้ยวกราดทำให้หวังต้าชานเดือดดาลเช่นกัน มันถึงกับหันกลับมาสะบัดปลายนิ้วเรียกมีดเล็กขาววับ

ออกมาสู่ฝ่ามือ จางหยวนยกมือเป็นสัญญาณให้สมุนพุ่งเข้าโจมตี หวังต้าชานตั้งกระบวนท่าตอบโต้ขว้างมีดเล็กปลิดชีวิต

พวกมันราวกับใบไม้ร่วง จางหยวนเบิกตากว้างจนน่ากลัวจะหลุดออกมา มันทะยานเข้าใส่ต่อสู้กับหวังต้าชานอย่างสูสี

ครั้งหนึ่งมีดเล็กถึงกับบาดเรียกโลหิตจากจางหยวนได้ หากเพราะความอ่อนล้าจากการต่อสู้ของหวังต้าชานจึงถูกฝ่ามือ

ขวาของจางหยวนตีเข้ากลางลำตัว

               โลหิตทะลักทั้งปากทั้งจมูกของหวังต้าชาน ฝ่ามือเหล็กรุนแรงดังสมญา มันเงยหน้าหัวร่อเตรียมทะยานเข้า

ปลิดวิญญาณของหวังต้าชานที่แม้แต่ขายังไร้เรี่ยวแรง ฝ่ามือข้างขวาของจางหยวนแดงก่ำสุกปลั่งเมื่อมันอยู่ใกล้หวังต้า

ชานเพียงแค่เอื้อมมือ

               มิคาดหวังต้าชานยังไม่ถึงคราวตายเมื่อถึงกับมีผู้ขัดขวางการตาย กระบี่ขาวยาวเก้าเชียะสะบัดคมกระทบข้อ

มือของจางหยวนดังเคร้ง มาตรว่ามิสามารถตัดท่อนฝ่ามือเหล็กลงได้แต่ก็ทำให้จางหยวนชะงักงัน


               “เจ้าตัวร้ายกาจนี้นามกระไร”


               ตวาดลั่นยามเบิกตามองร่างโปร่งซ่อนกายอยู่ในเสื้อคลุมสีดำ ผมสีดำขลับมัดเรียบอยู่ด้านหลังเผยเค้าหน้า

หมดจดของบุรุษแปลกหน้าที่กำลังกดยิ้มลึกทั้งที่ไฟแค้นยังสุมอยู่ในดวงตางดงามคู่นั้น


               “แซ่เฉินนามจื่อเยี่ยน”


               จางหยวนผงะหงาย ประกายตาด่าทอกลับกลายเป็นหวาดหวั่นอยู่วูบหนึ่ง มันฝืนหัวร่อฮาๆทั้งที่ฝ่ามือเย็นชื้น

ไปด้วยเหงื่อ


               “เหลวไหล จอมมารผู้นั้นตายจากไปกว่ายี่สิบปีแล้ว ไฉนจึงมายืนพูดจาเถียงคำไม่ตกฟากเช่นทารกตัวนี้”


               บุรุษชุดดำก้มหน้าเหลือบสายตามองก้อนไขมันจางหยวน นิ้วเรียวกระชับด้ามกระบี่ไว้มั่นราวกับมันเป็นอวัยวะ

ชิ้นหนึ่ง


               “เพราะจอมมารผู้นั้นฟื้นขึ้นมาเพื่อชำระแค้นแด่เต่าเฒ่าทั้งหลายที่ร่วมมือกันเข่นฆ่าผู้อื่นและใส่ความมันเพียง

เพราะต้องการช่วงชิงสมบัติล้ำค่า”


               ได้ยินดังนั้นจางหยวนจึงตัวสั่นเทิ้มแล้ว ข่าวเจ้าสำนักห้าแห่งถูกปลิดชีพด้วยคมกระบี่ลึกลับทำให้มันจับจ้อง

ฝักกระบี่สีดำสนิทและใบหน้าเจ้าของมันสลับไปมา จางหยวนรู้แจ้งเป็นอย่างยิ่ง กระจ่างแท้ว่าบุรุษชุดดำเบื้องหน้าคือ

มัจจุราชที่รอปลิดชีพมัน


               “แผ่นสุดท้ายของคัมภีร์เพลงกระบี่จันทราอยู่แห่งใด?”


               “ข้าพเจ้าไม่ทราบ ไม่ทราบจริงๆ”


               ถึงกับคุกเข่าลงอ้อนวอนร้องขอ ใบหน้าของจางหยวนซีดดั่งไร้วิญญาณแล้ว


               “จอมยุทธเฉินได้โปรด ข้าพเจ้าเพียงติดตามเหล่าผู้กล้าชั้นนำไปเท่านั้น หาใช่ผู้บงการ”


               มันร้องขอชีวิตแต่มิอาจได้กลับคืน เพียงแค่คิดขยับกายหนีแต่ดาบคมในฝักก็ขยับตามเสียแล้ว ดาบเก้าเชียะ

คมกริบตวัดแค่กระบวนท่าเดียวไม่ขาดไม่เกินกรีดใบหน้าล่วงถึงแผ่นอก โลหิตแดงฉานผุดพุ่งราวกับน้ำพุ จางหยวนมิทัน

ได้ต่อสู้ชีวิตของมันก็พลันสูญสิ้น เฉินเฟิงหยางจ้องมองร่างแน่นิ่งครู่ใหญ่ มันใช้ปลายนิ้วเช็ดเศษโลหิตที่ยังทิ้งคราบไว้

บนกระบี่ของมันก่อนจะเก็บคืนเข้าฝัก เตรียมพุ่งตัวทะยานขึ้นฟ้าหากสายตาไม่เหลือบแลไปยังหวังต้าชานที่บาดเจ็บ

เพราะฝ่ามือเหล็กเสียก่อน

               มันสืบเท้าลงทรุดตัวนั่งข้างกับหวังต้าชานที่หายใจรวยริน รอยฝ่ามือเหล็กทะลุเสื้อคลุมสีขาวเข้าไปเผาไหม้

ผิวหนังจนคล้ำเกรียม ทิ้งไว้อีกไม่ถึงชั่วยามคาดว่าลมหายใจของหวังต้าชานคงปลิดปลิว

                เฉินเฟิงหยางทอดถอนลมหายใจหนักหน่วง

               ไม่ช่วยก็สามารถทำได้ หากแต่ใบหน้าและดวงตาของมันยามแย้มยิ้มสำราญใจช่างรบกวนจิตใจของเฉินเฟิง

หยางตั้งแต่คราแรกที่พบหน้า เฉินเฟิงหยางมิเคยพบพานผู้ใดที่หัวร่อได้เบิกบานเท่ามันอีกแล้ว

                แม้ร่างกายจะไม่พ่วงพีนักแต่เพราะการฝึกฝนวิทยายุทธมาตั้งแต่จำความได้ เฉินเฟิงหยางค้อมตัวลงแบกหวัง

ต้าชานที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นพาดบ่าอย่างไม่เดือดร้อน ก่อนกระทืบฝ่าเท้าลงกับพื้นเพื่อทะยานขึ้นไปกลางอากาศอย่าง

รวดเร็ว

               เฉินเฟิงหยางมีวิชาตัวเบาล้ำเลิศแม้จะแบกร่างบาดเจ็บมาด้วย มันพาหวังต้าชานลอยละลิ่วอยู่กลางอากาศ

หลายสิบลี้จนกระทั่งถึงแหล่งน้ำแห่งหนึ่งกลางป่าใหญ่เฉินเฟิงหยางจึงหยุดเท้าและวางหวังต้าชานลงที่โคนต้นหลิวที่แผ่

กิ่งก้านอยู่ริมบึงน้ำให้ร่มเงากว้างขวาง

               วิชาฝ่ามือเหล็กใช้ความร้อนของธาตุไฟ บัดนี้หวังต้าชานร่างกายแดงก่ำไปหมด ลมหายใจของมันร้อนผะผ่าว

ราวกับไฟสุม นี่เป็นเพียงอานุภาพเพียงเจ็ดในสิบส่วนที่หวังต้าชานได้รับยังบาดเจ็บถึงเพียงนี้ หากฝ่ามือเหล็กปะทะเต็ม

ที่หวังต้าชานคงไม่มีรอยยิ้มเบิกบานอีกแล้ว

               เฉินเฟิงหยางขยับร่างของหวังต้าชานพลันถอดเสื้อคลุมกายและเสื้อภายในที่ไหม้เกรียมของมันออก เหลือ

เพียงร่างกายร้อนดั่งไฟแผดเผา เฉินเฟิงหยางทรุดนั่งอยู่เบื้องหลังวางฝ่ามือทั้งสองแนบไปกับแผ่นหลังร้อนปลดปล่อย

ไอเย็นจากลมปราณของมันเข้าสู่ร่างกายของหวังต้าชานทีละนิด

               ไอเย็นขับไล่ไฟร้อนช้ายิ่ง ยากยิ่ง มากกว่านี้ไม่ได้ น้อยกว่านี้ยิ่งไม่ได้ เนิ่นนานกระทั่งสายัณห์เคลื่อนคล้อย

จันทราดวงกลมขยับผ่านไปอยู่กลางฟ้าไอร้อนนั้นจึงหมดไปจากหวังต้าชาน เฉินเฟิงหยางสูดลมหายใจเข้าปอดเนิบนาบ

จวบจนถอนฝ่ามือออกจากแผ่นหลังของหวังต้าชาน มันเองเหน็ดเหนื่อยและเสียแรงไปไม่น้อยจนถึงกับหอบหายใจถี่เร็ว

                ลมหายใจของหวังต้าชานสม่ำเสมอยิ่ง เปลือกตาปิดสนิทอยู่ในนิทรา เฉินเฟิงหยางขยับตัวมันให้หลับสนิทยิ่ง

ขึ้น จนกระทั่งบัดนี้เฉินเฟินหยางยังไม่อาจเข้าใจตนเองเพราะกระไรต้องช่วยเหลือผู้ซึ่งเคยพบพานเพียงไม่นานดั่งเช่น

หวังต้าชานด้วย

               เช่นไรก็ช่วยไปแล้ว มันทอดถอนลมหายใจอีกคราก่อนวางมือสัมผัสร่างกายที่ยังทิ้งไอร้อนไว้อีกเล็กน้อยขณะ

พวกมันอยู่ท่ามกลางอากาศเย็นเยียบกลางป่าลึก เช่นนี้แล้วยังมีหนทางได้ช่วยให้ความอบอุ่นแก่มันอีกเล่า

               ทิ้งกายลงไปนอนเคียงข้าง เฉินเฟิงหยางถอดเสื้อคลุมออก มันแนบกายของมันเข้าโอบกอดร่างของหวังต้า

ชานไว้ทดแทนผ้านวม มิคาดกระแสอบอุ่นประหลาดแล่นผ่านเข้าสู่หัวใจจนเผลอซุกหน้าของมันเข้ากับแผ่นอกอุ่นของ

หวังต้าชาน

                ค่ำคืนเหน็บหนาวนี้เป็นค่ำคืนแรกที่หัวใจของเฉินเฟิงหยางคล้ายอบอุ่นอย่างยิ่งใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องมา








               หวังต้าชานมิทราบตนเองหลับใหลไปนานเพียงใดจนกระทั่งมันขยับเปิดเปลือกตาขึ้นมา ความงงงันบังเกิดจน

ต้องกระพริบตาขับไล่และทบทวน ความจำครั้งสุดท้ายของมันคือความเจ็บปวดจากฝ่ามือเหล็กและร่างกายในชุดคลุมสี

ดำที่ช่วยเหลือไว้ เมื่อความทรงจำกลับคืนมันจึงฝืนกายลุกนั่งกวาดสายตามอง

               กลางป่าลึกกลับมีบึงน้ำกว้างและต้นหลิวอายุร่วมร้อยปีให้ร่มเงาจากแสงอรุโณทัย หวังต้าชานขยับกายเพ่ง

มองคนผู้หนึ่งยืนสง่างามอยู่ริมบึงไม่ไกลนัก เฉินเฟิงหยางเหม่อมองผิวน้ำสะอาดเงาวับเบื้องหน้าพลันยกมือที่ถือขลุ่ย

เหมาะมือขึ้นทาบที่ริมฝีปาก

               เสียงขลุ่ยไพเราะกังวาน หวังต้าชานนิ่งงันรับฟังบทเพลงคุ้นหูที่บรรเลงผ่านขลุ่ยเลานั้นจากปลายนิ้วไล่เสีย

ของเฉินเฟิงหยาง

               เสียงขลุ่ยหยุดลงกระทันหัน หวังต้าชานนึกเสียดาย มันขยับลุกและเดินไปยืนเคียงข้างเฉินเฟิงหยางตรงริมบึง

น้ำ


               “กระไรจึงหยุดขลุ่ยแสนไพเราะเสียเล่า ข้าพเจ้าเพลินเพลินยิ่ง”


               “เป็นเพราะทารกน้อยขยับตัวกวนใจข้าพเจ้าจนมิอาจเป่ามันต่อได้”


               หวังต้าชานลอบยิ้ม เฉินเฟิงหยางยินดีกล่าวกับมันแค่เพียงเล็กน้อยหัวใจของมันกลับเต้นไหวไม่เลิกรา


               “บุญคุณที่ช่วยเหลือ ข้าพเจ้าจะไม่ลืมเลือน”


               เฉินเฟิงหยางไม่กล่าวตอบ แต่มันก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มไว้ภายใต้ท่าทีเงียบขรึม ใบหน้าออกสีระเรื่อยาม

แสงแดดเริ่มส่องแรงขึ้น


               “ข้าพเจ้าใคร่ทราบ บาดเจ็บครานี้หลับใหลเป็นเวลานานเท่าใด?”


               “กว่าเจ็ดคืนเจ็ดวันจนถึงวันนี้”


               เจ็ดคืนเจ็ดวันที่เฉินเฟิงหยางดูแลและอยู่เคียงข้างยามที่มันอ่อนแอถึงที่สุด หวังต้าชานซาบซึ้งจนไม่อาจเอ่ย

ออกมาได้อีก มันสอดปลายนิ้วเข้าไปในอุ้งมืออุ่นของเฉินเฟิงหยางบีบกระชับกับมือของมัน โดยที่เฉินเฟิงหยางกลับมิได้

ตัดรอนเยื่อใย


               “เฉินจื่อเยี่ยนกับท่านเป็นกระไร?”


               หวังต้าชานสอบถามสิ่งที่ได้ยินยามเฉินเฟิงหยางกล่าวกับจางหยวน เฉินเฟิงหยางเม้มปากนิ่งครู่ใหญ่


               “ที่แท้เป็นบิดาข้าพเจ้า”


               “เกิดเหตุแท้จริงใดเมื่อยี่สิบปีที่ผ่านมา?”


               “แปดสำนักชื่อก้องยุทธภพร่วมมือกันบุกไปยังพรรคจันทรา อ้างกับชาวบู๊ลิ้มว่าเพื่อปราบบิดาข้าพเจ้า แต่

แท้จริงแล้วพวกมันรวมหัวกันฆ่าล้างตระกูลข้าพเจ้าเพื่อหวังแย่งชิงคัมภีร์กระบี่จันทรา อันได้ชื่อว่ายอดที่สุดหนึ่งในสาม

เพลงกระบี่”


               “พวกมันเอาไปได้?”


               “ไม่ได้ บิดาข้าพเจ้าต่อสู้จนวาระสุดท้ายเพื่อรักษามันและส่งให้ข้าพเจ้าที่ยังเยาว์ชิงหลีกหนี แต่ในพวกมัน

เหล่านั้นผู้หนึ่งฉีกแผ่นสุดท้ายของคัมภีร์ออกไป ทำให้คัมภีร์กระบี่จันทรามีเคล็ดวิชาไม่สมบูรณ์”


               “เมื่อท่านเจริญวัยจึงถึงเวลาชำระแค้นและเสาะหาแผ่นสุดท้ายของคัมภีร์”


               เฉินเฟิงหยางพยักหน้ารับ หวังต้าชานเห็นใจที่มันต้องมีชีวิตอยู่เพียงลำพังและต้องหลบซ่อนจากผู้กระหาย

วิชา


                “นานเพียงใดที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่เคียงข้างท่านเช่นนี้?”


               “แค่เพียงตื่นจากนิทราก็คิดจาก?”


               กล่าวตัดพ้อจนหวังต้าชานรีบร้อนประคองใบหน้าของเฉินเฟิงหยางไว้


               “ข้าพเจ้าไม่ทราบไฉนท่านจึงคิดกระไรเลวร้ายปานนี้ มีหรือที่ข้าพเจ้าคิดไกลจากตัวกวนใจเช่นท่าน”


               เฉินเฟิงหยางสบตาด้วยหัวใจไหวระรัว สัมผัสอุ่นบนใบหน้าเรียกร้องให้มันเอียงแก้มลงซบแสวงหาความ

อบอุ่น


               “น่ากลัวว่าท่านจะต้องอยู่กับตัวกวนใจไปอีกสักสองสัปดาห์จนถึงงานชุมนุมชาวยุทธบนยอดเขาบู๊ตึ๊ง”


               “เป็นสองสัปดาห์ที่ข้าพเจ้าน่ากลัวจะมีความสุขตลอดชีวิตที่ได้อยู่กับตัวกวนใจเช่นท่าน”


               คำหวานที่กล่าวจับใจเฉินเฟิงหยางอย่างยิ่ง จับใจจนหลงลืมตนเมื่อหวังต้าชานขยับใบหน้าเข้าหาและกดปาก

ลงมาแนบไปกับกลีบปากของเฉินเฟิงหยาง มันได้แต่พริ้มตาลงรับกับสัมผัสแปลกใหม่ หวังต้าชานสอดมือวางแนบเอว

แล้วโอบมันเข้าหาต้ว เฉินเฟิงหยางรีบผลักไสหวังต้าชานออกทันที


               “ขออีกนิด”


               “ไม่ได้ ท่านต้องเอ่ยคำตอบให้ข้าพเจ้าพอใจ”


               “ท่านสงสัยกระไร”


               “ปีศาจสุราเช่นท่านหายไปไหนยามค่ำคืนที่ฝนกระหน่ำ”


               หวังต้าชานใจหาย คำถามนั่นเกรงว่าร้ายแรงกว่าฝ่ามือเหล็กของจางหยวนเสียอีก


               “ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า ไปปลดปล่อยพิษที่ตัวกวนใจเช่นท่านวางไว้ในหัวใจของข้าพเจ้า”


               “เฮอะ ประการนั้นค่ำคืนนี้ข้าพเจ้าจะไม่เป็นตัวกวนใจท่านอีกแล้ว”
               






               เฉินเฟิงหยางกระทำจริงดั่งคำพูด เมื่อแสงตะวันลับเหลี่ยมฟ้ามันจึงนั่งนิ่งอยู่ใต้ต้นหลิวใหญ่ หวังต้าชานนั่ง

เงียบข้างกองไฟในความมืดของราตรี มันเหลือบตามองใบหน้าปั้นปึงของเฉินเฟิงหยาง หวังต้าชานตัดสินใจลุกขึ้นไปนั่ง

เคียงคู่และโอบกอดเฉินเฟิงหยาง


               “ท่านไม่ให้อภัย ข้าพเจ้าเกรงว่าจะหนาวตาย”


               “เรื่องของท่าน”


               “ข้าพเจ้าเกรงที่ท่านช่วยเหลือจะสูญเปล่า อย่างน้อยเป่าขลุ่ยไพเราะให้ข้าพเจ้าฟังสักเพลงนับว่าเป็นพระคุณ”


               เฉินเฟิงหยางตวัดสายตา หากเพราะความอบอุ่นจากอ้อมกอดทำให้มันยอมคว้าขลุ่ยขึ้นมาจรดริมฝีปาก และ

บรรเลงบทกวีออกมา


                                   


มีต่ออีกนิด...


หัวข้อ: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 2> 10/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 10-01-2016 14:23:55


ต่อกันตรงนี้...





                                       อาทิตย์ลาลับฟ้า      เหลือจันทรากลางเวหน

                               เดือนเดี่ยวเปลี่ยวกมล      ยามเฝ้ายลบนนภา

                                     ดั่งใจแสนอ้างว้าง      ไร้คนข้างอย่างตัวข้า

                                  จันทร์ส่องต้องเอกา      ช่างเดียวดายใต้แสงจันทร์



                                        天空日落下        黑黑之月亮。

                                เทียนค่งรื่อลั่วเซี่ย  ,       เฮย เฮย จือ เยวี่ย เลี่ยง.

                                      如寂寞之心          参演光明。

                                  หรู จี้ ม่อ จือ ซิน  ,      ชานเหยี่ยน กวง หมิง.

                                    担心如何             非爱人背后。

                                 ตานซิน หรูเหอ  ,         เฟย อ้ายเหริน เป้ยโฮ่ว.

                                         月亮眼泪下        吾独别人在。

                         เยวี่ยวเหลี่ยง เหยี่ยน เล่ยเซี่ย ,       อู๋ ตู๋ เปี๋ย   เหรินจ้าย.

                  (ให้เสียงภาษาจีนโดย น้องเบลล่า แอดมินบ้าน Hunz_china.com ขอบพระคุณมากๆค่ะ)               



               เสียงขลุ่ยบรรเลงหวานเศร้าแผ่วพลิ้วสะท้อนก้องป่า ความอ้างว้างเดียวดายตลอดชีวิตถ่ายทอดมากับเสียง

ดนตรี หวังต้าชานกระชับอ้อมกอดลดทอนความว้าเหว่นั้นจนเฉินเฟิงหยางน้ำตาเอ่อท้น


               “ข้าพเจ้าจะอยู่เคียงข้างท่าน ท่านมิต้องเดียวดายอีกต่อไป”


               “ต้าชาน...”


               ทอดกายไปกับความอบอุ่นของหวังต้าชานที่รั้งกายให้มันขยับแนบไปกับพื้น แววตาประกายแสงโน้มเข้าหา

แนบสนิทอยู่ด้านบน เฉินเฟิงหยางปล่อยใจให้หวังต้าชานจูบแผ่วเบา ริมฝีปากเย็นเริ่มอุ่นชื้นเมื่อหวังต้าชานสอดลิ้นของ

มันเข้ามาตวัดคลอเคลีย

               ฝ่ามือร้อนบรรจุงดึงเสื้อคลุมของเฉินเฟิงหยางออกทีละชิ้น เหลือเพียงร่างเปลือยอวดสายตาท่ามกลาง

แสงจันทร์ครึ่งดวงที่ส่องสว่าง เฉินเฟิงหยางกระดากเหลือเกินกับสายตาโลมเลีย แต่มันก็ไม่ทันห้ามปรามเมื่อหวังต้าชาน

กวาดมือลูบไล้แผ่วเบาจากแผ่นอกเคลื่อนคล้อยลงต่ำสู่องคาพยพกึ่งกลางกาย


                “อา...”


               หวังต้าชานก้มหน้าลงหายอดทับทิมสีชมพูบนแผ่นอกขาว ปลายลิ้นละเลงยอดมอบความชุ่มชื่น มันบีบเค้น

ฝ่ามือที่กอบกุมส่วนสำคัญพร้อมกัน เสียงหวานครางแผ่วดังจากปากของเฉินเฟิงหยางเมื่อความกำหนัดจู่โจมอย่าง

รวดเร็ว


               “ท่านหวานเหลือเกิน”


               หวังต้าชานพึมพำกระเส่า มันเร่งดึงเสื้อผ้าออกจากกายก่อนทาบทับลงบนอย่างจงใจ มันแนบเอวลงต่ำให้จุด

กำเนิดเบียดร้อนต่างก็ผงาดขึ้นชี้หน้า หวังต้าชานเลื้อยร่างลงต่ำ กัดปากเข้าใส่ต้นขาอ่อนขาวจนเฉินเฟิงหยางสะดุ้งอ่อน

ไหว

               มังกรผงกหัวทักทาย หวังต้าชานไม่รอช้ารีบรุดแตะลิ้นตอบกลับ มันถูไถริมฝีปากเข้ากับมังกรสีเนื้อกระทั่ง

เปียกชื้นและกัดเบาๆ


               “อื้อ...”


               เฉินเฟิงหยางกัดฟันหลับตาปรือ ความกำหนัดแล่นวูบวาบอยู่ในช่องท้องสร้างความทรมานให้กับมันเหลือ

กล่าว เพราะความไม่เคยปลดปล่อยด้วยต้องคร่ำเคร่งฝึกวิชาเมื่อพบกับชั้นเชิงของหวังต้าชาน เพียงไม่นานที่มังกรผลุบ

หายเข้าปาก หวังต้าชานก็รีดพิษคำรบแรกออกมาแล้ว


               “รสรักของท่านช่างหวานนัก”


               หวังต้าชานขยับคายมังกรคืนสู่อิสระ เลื่อนกายขึ้นมาสบตาแดงก่ำด้วยความต้องการถาโถมเข้าใส่ มันผลักดัน

ท่อนขาหนั่นแน่นของเฉินเฟิงหยางกว้างออกเพื่อที่มันจะได้แทรกกายอยู่ระหว่างนั้นได้พอเหมาะ


               “ท่าน...ไอ้ตัวร้ายกาจ”


               ใบหน้าหมดจดแดงก่ำไปด้วยความต้องการ เฉินเฟิงหยางยกแขนคล้องรอบลำคอของหวังต้าชานไว้ขณะมัน

จ่อมังกรของมันไว้หน้าปากถ้ำ


               “ตัวร้ายกาจนี้จะทำให้ท่านร้องระงมด้วยความสุขสม”


               มันคายน้ำรักของเฉินเฟิงหยางใส่ฝ่ามือ หวังต้าชานวาดนิ้วสัมผัสอยู่รอบปากถ้ำก่อนดันเอวเข้าหา มังกรตัว

ใหญ่ของมันเปิดปากถ้ำคับแคบเข้าไปได้เพียงเล็กน้อยเฉินเฟิงหยางก็ร้องออกมา


               “เจ็บ...”


               เจ็บเสียยิ่งกว่าฝึกวิชามากมายนัก น้ำตาซึมอยู่ตรงหางตาของเฉินเฟิงหยาง หวังต้าชานขยับเข้าจูบเร็วรี่


               “โปรดมองตาข้าพเจ้า ท่านจะไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกแล้ว”


               หวังต้าชานระดมจูบ มือสองข้างตรึงข้อมือเฉินเฟิงหยางกับพื้นดิน มันขยับเอวช้ายิ่ง เนิบนาบยิ่ง เบิกทาง

สวรรค์เข้าไปจนมังกรผลุบหายหมดตัว บัดนี้เฉินเฟิงหยางกระสันจนลมหายใจถี่เร็วร้อนผ่าว


               “ข้าพเจ้าจะทำให้ท่านรู้จักคำว่าความสุขต่อหน้าดวงจันทร์ค่ำคืนนี้”


               กระซิบข้างหูก่อนบรรเลงบทรัก หวังต้าชานขยับเอวเคลื่อนที่อยู่ในช่องทางคับแคบ แรงเสียดสีกระหน่ำ

ร่างกายเบียดรัดไม่เหลือช่องว่าง เฉินเฟิงหยางเสียวซ่านไปกับประสบการณ์ใหม่จนปลายเท้าเกร็งจิกพื้นดิน มันเด้งเอว

รับแรงที่หวังต้าชานถาโถมเข้าใส่


               “อา... ฮึก ต้าชาน ต้าชาน”


               “เฟิงหยาง อา ขออีกสักนิด”


               “ฮึก มะ ไม่ไหว ไม่ไหวแล้ว”


               เฉินเฟิงหยางครางลั่น มันบิดกายพล่านรับแรงอีกไม่กี่ครั้งทางสวรรค์ก็เปิดรับมัน หวังต้าชานรีบเร่งขับเคลื่อน

ย้ำก่อนที่มันจะหอบลึกเมื่อติดตามไปทางสวรรค์ไม่ห่างกันนัก

               มันทิ้งกายลงไปโอบกอดร่างนุ่มท่ามกลางพื้นดินใต้ต้นหลิวริมบึงน้ำ และพ่นคำรักตลอดราตรี
                 


                                      --------------------- โปรดติดตามตอนต่อไป------------------------
                                               
                                                                       

               แต่งยากมาก นี่ต้องเปิดเพลงจีนสร้างอารมณ์กันด้วย ชอบกันหรือเปล่าไม่รู้ แต่คนแต่งสนุกมาก 55555

                                                                     :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 2> 10/01/59 จีนกำลังภายใน
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-01-2016 14:41:05
 :heaven.  สุนทรียะมาเต็มๆ

ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 2> 10/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: poporimikoru ที่ 11-01-2016 00:10:01
ร้อนแรเหลือเกิน ตายแปรปปป
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 2> 10/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 11-01-2016 01:01:07
เลือดออกหมูกกกก

อะไรจะร้อนแรงแต่นุ่มนวลแบบนี้
ชอบบ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 2> 10/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-01-2016 10:19:56
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 2> 10/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 12-01-2016 00:35:26
งั้นก็ไม่เดียวดายแล้วล่ะสิ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 2> 10/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 12-01-2016 10:31:26
ให้ความรู้สึกเหมือนดูกระบี่เย้ยยุทธจักร  :hao7:
หัวข้อ: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/1 สั้นๆ> 16/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 16-01-2016 21:15:10


                                                      เดียวดายใต้แสงจันทร์

                                                              บทที่ 3/1


               มีแค้นไม่อาจมีรัก

               คำกล่าวนี้เตือนใจให้เฉินเฟิงหยางเจ็บช้ำยิ่ง

               เนื่องด้วยมีรักย่อมอาวรณ์ มีรักย่อมกระวนกระวายหา อย่างเช่นบัดนี้ที่มันกล่าวได้ว่ามันรักหวังต้าชานเต็ม

หัวใจ

               หวังต้าชานดีกับมันอย่างยิ่ง ปรนเปรอให้มันมากยิ่ง เฉินเฟิงหยางที่ปราศจากอุ่นไอรักซาบซึ้งอย่างยิ่งจวบจน

เวลาผันผ่านไปถึงวันสุดท้ายที่มันจะได้ทอดกายในวงแขนของหวังต้าชาน เมื่องานชุมนุมชาวยุทธบนยอดเขาบู๊ตึ๊งจะ

บังเกิดในวันรุ่ง

               หวังต้าชานก็เช่นกัน

               มันลูบไล้ผิวกายเย็นในวงแขนไปมา

               มันก็รู้เช่นกันว่าถึงกระไรความกตัญญูและความแค้นของเหล่าบุรุษย่อมอยู่เหนือความรัก มาตรว่ามันรัก

เฉินเฟิงหยางมากเท่าใดก็มิอาจขัดขวางจุดมุ่งหมายของเฉินเฟิงหยาง


               “สถานที่นี้จะเป็นสถานที่ของเรา”


               เฉินเฟิงหยางจ้องมองดวงจันทร์เกือบเต็มดวงที่ผ่านพ้นยอดต้นหลิวอยู่บนท้องฟ้าไร้เมฆ มันโอบกระชับอ้อม

กอดโหยหาไอรัก


               “ข้าพเจ้าหากรอดจากชำระแค้น จะเฝ้ารอท่านอยู่ที่ใต้ต้นหลิวแห่งนี้”


               “ข้าพเจ้าหากไม่มา”


               มันทอดถอนใจคราใหญ่


               “ข้าพเจ้านับว่ายังรอ มาตรว่าเช่นไรก็จะรอ”


               หวังต้าชานกังวลไม่น้อย มันห่วงใยเฉินเฟิงหยางคล้ายดั่งเป็นส่วนหนึ่งของตนเอง แต่บัดนี้กระไรจะดีไปกว่า

มอบความรักให้เฉินเฟิงหยางสุขสบายกายและใจอีกเล่า


               “โปรดใส่ใจว่าข้าพเจ้านั้นรักท่าน”


               หวังต้าชานพลันจูบหน้าผากเกลี้ยง เฉินเฟิงหยางพริ้มตารับ มือของพวกมันพากันเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของ

กันและกันจนไม่เหลือสิ่งใด เฉินเฟิงหยางแย้มยิ้มเศร้ากล่าวออกไป


               “ข้าพเจ้าจะปรนเปรอความสุขให้ท่านตอบแทนรักนั้น”


               กายโปร่งขาวนวลทอดกายทาบทับอยู่บนหวังต้าชาน เฉินเฟิงหยางแนบปากอุ่นกับคางสากนั้น มันขบเม้มแผ่ว

เบาแล้วลากลิ้นลงใต้ บดเบียดเนื้อกายลงไปให้อบอุ่น ปลายนิ้วเรียวที่จับแต่ด้ามกระบี่บัดนี้สะบัดคว้าแก่นกายหวังต้าชาน

นวดเฟ้นในอุ้งมือ หวังต้าชานวาดมือบีบเค้นเนื้อหนัง พลันกอบโกยยอดอกปลุกไฟรักให้ลุกโชน

               ดวงตาเฉินเฟิงหยางเป็นประกาย มันขยับสะโพกถูไถต้นขาหนั่นแน่นโหมแรงใส่มังกรหลับใหลให้ลุกขึ้นสู้ทั้ง

ของมันและหวังต้าชาน เฉินเฟิงหยางดันกายสูงขยับปากถ้ำให้กลืนกินมังกรยักษ์เข้าไป


                “อา...”


               สะท้านกายจนหอบหายใจกระเส่า สายลมเอื่อยยามราตรีพัดพากลิ่นดอกไม้ป่าแตะจมูกให้รัญจวนยิ่ง มันถึงกับ

บดขยี้สะโพกลงไปจนมังกรผลุบหายไม่เหลือเห็น หวังต้าชานคำรามลึกพอใจพลันเด้งกายหยอกล้อเรียกเสียงครางผะ

แผ่วจากปากสีแดงเรื่อของเฉินเฟิงหยาง


               “ตัวร้ายกาจกลั่นแกล้ง”


               เป็นเฉินเฟิงหยางอุทานกระเส่า มังกรต่อสู้อยู่ภายในทะลวงถ้ำน้อยจนหยาดฉ่ำเปียกชื้น หวังต้าชานหัวร่อ

ถูกใจมันชันต้นขาตั้งขึ้นประสานมือกับเฉินเฟิงหยางให้กระแทกกายกลับ เฉินเฟิงหยางโน้มกายลงประกบปากแลกลิ้น

ร้อนยามขยับเอวสู้


               “อา ต้าชาน ตัวร้ายกาจ ข้าพเจ้ารักท่าน”


               “ข้าพเจ้ารักตัวกวนใจเช่นท่านไม่แพ้กัน”


               ปรนเปรอรักจนอิ่มเอมดุจจูงมือเดินเล่นบนสวรรค์ เฉินเฟิงหยางจึงได้ทิ้งกายซบแผ่นอกกว้างหลับใหลตลอด

ราตรี





               อรุณรุ่ง

               หวังต้าชานพลันตื่นจากนิทรา มันเหลียวมองสุดกายแต่มิเห็นอื่นใดนอกจากป่ากว้าง หัวใจมันพลันหล่นหาย

               เฉินเฟิงหยางจากมันไปแล้ว ไร้ซึ่งคำร่ำลา มันผุดลุกแต่งกายรัดกุมและเร่งเดินทางเพราะมันรู้ดีว่าจุดมุ่งหมาย

ของเฉินเฟิงหยางคือแห่งใด

               หวังต้าชานมั่นใจวิชาตัวเบาของมัน หากมั่นใจวิชาตัวเบาของเฉินเฟิงหยางมากกว่า มันกลัวเฉินเฟิงหยางจะ

ใช้ไฟแค้นจนลืมสติยามเผชิญหน้ากับเหล่าอธรรมที่เข่นฆ่าล้างตระกูล เร่งฝีเท้าจนกระทั่งถึงเขาบู๊ตึงยามตะวันตรงหัว

พร้อมกับงานชุมนุมชาวยุทธเริ่มต้น

               ลานกว้างของสำนักบู๊ตึ๊งบัดนี้คราคร่ำไปด้วยเหล่าจอมยุทธ สำนักและพรรคใหญ่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มปักธงตรา

ปลิวไสว เบื้องหน้าสูงขึ้นไปปรากฏมีผู้นำของยุทธจักรรวมกันอยู่หลายคน


               “คารวะจอมยุทธทั้งหลาย”


               ซีไท่หยางนักพรตประมุขสำนักบู๊ตึ๊งยกมือคำนับ ได้ยินเสียงขานรับดังก้อง


               “งานชุมนุมชาวยุทธภพในคราวนี้เพื่อพานพบหน้าซึ่งกันประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งนั้นข้าพเจ้าใคร่หารือ

เรื่องเจ้าสำนักเลื่องชื่อถูกกำจัดล้มตาย ล่าสุดคือจางหยวนปังจู้แห่งพรรคฝ่ามือเหล็ก”


               เสียงฮือฮาดังคราหนึ่งเมื่อต่างทราบข่าวการสูญเสียของหัวหน้าพรรคดัง


               “มีผู้พบเห็นกล่าวว่า จางหยวนปังจู้มีเรื่องวิวาทก่อนตาย”


               “มิทราบจางหยวนปังจู้บาดหมางกับผู้ใด ข้าพเจ้าคาดว่ามันผู้นั้นคือตัวการ” ผู้กล่าวคือ ลี่ซ่งสือประมุขสำนัก

คุนลุ้นอันโด่งดัง ผู้คนต่างคาดหมายมันจะเป็นผู้นำยุทธภพคนใหม่ ซีไท่หยางยกมือลูบเคราก่อนตอบ



               “มีคนกล่าวอ้าง มันบาดหมางกับผู้ใช้วิชามีดบินอหังการ์นามหวังต้าชาน”


                “ตัวร้ายกาจหวังต้าชาน บัดนี้มันอยู่ที่ใด”


               “มันอยู่ที่นั่น”


               พลันจบเสียงดังผู้คนต่างหันมองหวังต้าชานเป็นคราเดียว มันตกใจยิ่งนัก หากที่มันตกใจมิใช่เพราะตกเป็นเป้า

สายตาของชาวยุทธ หากแต่เพราะคนที่ออกมากล่าวชี้แนะนำมันต่างหากเล่า

               คนผู้นั้นตัวเล็กกว่าจอมยุทธอื่นยืนเด่นเบื้องหน้าผู้ติดตามจำนวนหนึ่งกริยาอ่อนช้อยเกินบุรุษ มันสวมใส่เสื้คลุม

สีฟ้าสดปักลายนกยูงรำแพน มันก้าวออกมาแนะนำตัวแก่ที่ชุมนุม


                “ข้าพเจ้าแซ่ฟ่านนามชิงไฉ เป็นประมุขพรรคไหมฟ้า”


               “ฟ่านชิงไฉ ไฉนท่านจึงล่วงรู้จักหวังต้าชาน”


               มันแย้มยิ้ม มือลูบไล้ปอยผมไปพลาง


               “ข้าพเจ้าต้องล่วงรู้จักมันเป็นอย่างดี เพราะมันเสพสังวาสกับข้าพเจ้าก่อนที่มันจะกำจัดจางหยวนหนึ่งในบุรุษ

ของข้าพเจ้า”


               ที่แท่ฟ่านชิงไฉกลับมาใบหน้าละม้ายฟ่านเสี่ยวเอ้อในโรงเตี๊ยมริมทางไม่มีผิด





              TBC




แต่งสะสม ไม่ว่างเล้ยยย  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/1 สั้นๆ> 16/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: poporimikoru ที่ 16-01-2016 21:39:09
ละมุนอยู่ดีๆ

สุดท้ายตกใจมาก เคลียร์งานเสร็จเมื่อไหร่มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/1 สั้นๆ> 16/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-01-2016 22:02:24
 :L2:  อ้าวๆเริ่มเข้มข้นแล้วสิ. ขอบคุณมากค่ะ
รอๆ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/1 สั้นๆ> 16/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 16-01-2016 22:42:07
รอจ้าๆๆ  o13
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/1 สั้นๆ> 16/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 16-01-2016 23:19:05
เรื่ องนี้กะลังมันนนน
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/1 สั้นๆ> 16/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 17-01-2016 08:55:58
เนื้อเรื่องเริ่มมันส์ขึ้นเรื่อยๆแล้ว
หัวข้อ: X-Theme the series Season2 <เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/2> 18/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 18-01-2016 16:32:32

                                                 เดียวดายใต้แสงจันทร์

                                                         บทที่ 3/2
           

                ที่แท่ฟ่านชิงไฉกลับมีใบหน้าละม้ายฟ่านเสี่ยวเอ้อในโรงเตี๊ยมริมทางไม่มีผิด ปังจู้พรรคไหมฟ้าสำเร็จเคล็ดวิชาไหมฟ้า

เปลี่ยนหน้า ใบหน้าของมันจึงคล้ายอ่อนเยาว์อายุสิบเจ็ดสิบแปดเพียงนั้นทั้งที่อายุจริงของมันล่วงกว่าเกือบห้าสิบปี นับว่าอาวุโสยิ่ง และ

นิสัยของมันยังนิยมในกามรสกับบุรุษเพศเฉกเช่นเดียวกับมันอีกด้วย


               “ท่าน ฮาฮา นับว่าข้าพเจ้าโง่งมที่ถูกหลอก ท่านที่แท้ยังมีลมหายใจ เถ้าแก่ในโรงเตี๊ยมที่กล่าวคำท่านตายคงเป็นคนของ

ท่านโป้ปดข้าพเจ้า”


               ฟ่านชิงไฉเดินกรุยกรายตรงมายังหวังต้าชาน มันขยิบตายั่วเย้าคล้ายดั่งนางยั่วเมืองก็มิปาน


               “เพราะความจำเป็นที่ข้าพเจ้าต้องชิงหลีกหนีเนื่องเพราะทราบว่าจางหยวนฝ่ามือเหล็กเดินทางใกล้ถึงเต็มที หากข้าพเจ้าไม่

ทำเช่นนั้น เกรงมันจะทราบว่าข้าพเจ้ากำลังบรรเทิงกับชายอื่น แต่กระไรก็ตาม... ลีลารักของท่านพึงใจข้าพเจ้ายิ่งนัก”


               “สารเลว”


               ฟ่านชิงไฉปิดปากหัวร่อระริกกับคำด่าทอของหวังต้าชาน มันชมชอบหลอกล่อให้เหล่าบุรุษหลงกลให้กับมัน


               “นับว่าเป็นคำชมที่ประเสริฐยิ่ง เพียงแต่ข้าพเจ้าไม่คิดว่าท่านจะมีฝีมือเก่งกล้าถึงกับกำจัดจางหยวนลงได้ รวมถึงเหล่าผู้กล้า

จากสำนักใหญ่น้อยที่ตายลงเพราะท่าน ดังนั้นหากข้าพเจ้ากำจัดท่านต่อหน้าชาวยุทธได้คงประเสริฐกว่า”


               สีหน้าของมันพลันดุดันยิ่ง มันถึงกับเตรียมตั้งท่าต่อสู้กับหวังต้าชาน มิคาดกลับมีกระบี่ยาวเก้าเชียะถลาเข้ามา  กรีดใบหน้า

อ่อนเยาว์ของฟ่านชิงไฉจนโลหิตทะลัก มันยกมือกุมหน้าร้องโหยหวนดิ้นพล่านท่ามกลางสายตาตกตะลึงของผู้มาชุมนุม หวังต้าชานมอง

เห็นแล้ว มันพลันวิตกเมื่อเห็นความแค้นล้นทะลักบนใบหน้าของเฉินเฟินหยาง

               ร่างโปร่งในเสื้อคลุมสีดำรัดกุมยืนนิ่งกลางลาน กระบี่คมหลังจากดื่มเลือดกลับคืนสู่ฝักดาบดำสนิท มันยืนก้มหน้าปลายนิ้ว

เรียวกุมด้ามกระบี่แน่นเตรียมพร้อมดียิ่ง นักพรตซีไท่หยางแห่งบู๊ตึ๊งถึงกับมองด้วยความกังขา


               “จอมยุทธท่านนี้คือ?”


               “คนที่พวกท่านตามหา”


               เสียงฮือฮาดังอีกคำรบเมื่อทราบว่ามันคือผู้สังหารเหล่าเจ้าสำนักทั้งหกจนตายด้วยกระบี่เดียว นักพรตซีไท่หยาง ถึงกับเดินลง

มาสู่ลานกว้างเพื่อประจันหน้า


               “นามของท่าน?”


               “เฉินเฟิงหยาง”


               ซีไท่หยางชะงักงัน พลันเพ่งสายตามองใบหน้าของเฉินเฟิงหยาง มือเหี่ยวย่นลูบเคราสีดอกเลาพิจารณา


               “แซ่เฉิน มิทราบว่า...”


                “เฉินจื่อเยี่ยน ประมุขพรรคจันทราคือบิดาของข้าพเจ้า”


               “เจ้าลูกเต่าทารกนี่คือบุตรของจอมมารเฉินจื่อเยี่ยน บัดซบ” ฟ่านชิงไฉกรีดร้องด่าทอ มันแค้นเคืองนักที่เฉินเฟิงหยางทำให้

มันเสียโฉม


               “บัดซบน้อยกว่าเฒ่าทารกเยี่ยงท่าน ที่ในอดีตถึงกับใช้เล่ห์กลหลอกล่อให้บิดาหลงใหลความร่านราคะ และนำให้เหล่าคนที่

ล้วนแต่อ้างคุณธรรมเข้ากุ้มรุมเข่นฆ่าล้างตระกูลของข้าพเจ้าเพียงเพื่อต้องการสุดยอดวิชา”


               “สามหาวยิ่ง!”


               “หยุดก่อนเถิด” นักพรตซีไท่หยางรีบเอ่ยพลันยกมือห้าม


               “เรื่องในอดีตนั้นเป็นเพราะทราบว่าพรรคจันทรามีสุดยอดวิชากระบี่จันทราอันเหี้ยมโหดยากจะมีใครต่อกร เหล่าจอมยุทธผู้

กล้าจึงร่วมแรงร่วมใจกันกำจัดประมุขเฉิน ข้าพเจ้าเข้าใจผิดหรือไม่”


              “ผิดยิ่ง” เฉินเฟิงหยางกล่าวขื่นขม


              “สุดยอดเพลงกระบี่จันทราหากผู้ใดฝึกปรือได้สำเร็จจะกลายเป็นจอมกระบี่ล้ำเลิศที่แม้แต่กิ่งไผ่ก็กลายเป็นคมได้ หากแต่มัน

จะกลายเป็นผู้หลงลืมทุกอย่างในอดีตของมัน ไร้รัก ไร้แค้น มีเพียงคืนที่จันทร์เต็มดวงเท่านั้นที่ทุกอย่างจะฟื้นกลับคืน”


               “บิดาของข้าพเจ้ารู้ว่ามันอันตรายยิ่งหากผู้ที่ฝึกปรือสำเร็จเป็นผุ้มีจิตใจฝ่ายร้ายอยู่ก่อนแล้ว ไร้รัก ไร้ซึ่งสิ่งใดยึดเหนี่ยวย่อม

นับว่ากลายเป็นจอมมาร ดังนั้นบิดาจึงเก็บงำมิดชิดมิให้ตกถึงมือผู้เลวทราม มิคาดกลับมีคนโฉดรู้เรื่องเช่นนี้”

เฉินเฟิงหยางพลันรำลึกอดีต ภาพในวัยเด็กพรายขึ้นมาเป็นฉากตอนเพื่อเอ่ยให้ที่ชุมนุมรับรู้เรื่องราวแท้จริง





                “ท่านพี่”


                 เสียงมารดาร่ำไห้เอ่ยเรียกบิดายามสะบัดแขนทิ้งแล้วเดินหนีออกจากบ้านทำให้เฉินเฟิงหยางในวัยเยาว์ราวห้าถึงหกขวบ

ร้อนใจยิ่ง มันถึงกับแอบวิ่งตามบิดาที่ก้าวเดินลัดเลาะไปยังน้ำตกที่สาดเซาะอยู่ในหุบเขาไม่ไกลนัก พลันเห็นบุรุษหนึ่งยื่นเด่นอยู่เหนือ

โขดหินชะม้ายชายตามองเมื่อเฉินจื่อเยี่ยนเข้าไปใกล้ เฉินเฟิงหยางแอบกายซ่อนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลนัก


                “นัดครานี้ท่านชักช้านัก” เอ่ยเสียงอ่อนหวานกว่าบุรุษอื่น เฉินเฟิงหยางถึงกับงงงันไม่เลิกรากับสภาพของมัน


                “ข้าพเจ้ารีบร้อนแล้ว แต่ฮูหยินกลับห้ามไว้”


                “กลัวแม้แต่อิสตรีนับว่าเป็นลูกเต่า” เฉินจื่อเยี่ยนถึงกับหน้าเขียว มันพลันรวบบุรุษเอวบางเข้าสวมกอดและตะคอกดุดัน


                  “ฟ่านชิงไฉ เจ้าตัวราคะ ข้าพเจ้าหากเป็นลูกเต่าก็นับเป็นลูกเต่าที่ทำให้ท่านครวญครางไม่สิ้นสุด”


                 เฉินจื่อเยี่ยนรวบร่างนั้นแล้วกระโจนลงไปในแอ่งน้ำใสภายใต้น้ำตกสาดกระเซ็น ครั้นทะลึ่งพรวดขึ้นมาจากผิวน้ำก็พลัน

บดขยี้ปากลงกับปากของฟ่านชิงไฉ ทั้งคู่กอดก่ายวุ่นวายพลันดึงเสื้อคลุมออกจากร่างลอยไปตามน้ำ เหลือเพียงกายเปล่าเปลือยกลาง

สายน้ำเย็น


                “ข้าพเจ้าจะคอยดูว่าจอมมารเช่นท่านเก่งแต่คำคุยหรือไม่ อ๊า...”


                 มันพลันเงยหน้าครางลั่นเมื่อกึ่งกลางกายถูกชำแรกแทรกประสานด้วยท่อนเนื้อแข็งแกร่ง ฟ่านชิงไฉยกท่อนขาขึ้นกอดก่าย

ไปรอบลำตัวพลันแอ่นอกให้เฉินจื่อเยี่ยนได้สัมผัสยอดของมันด้วยปลายลิ้น


                  “ฮา ฮา ขยับตอบรับได้ถึงใจยิ่ง ฟ่านชิงไฉ เจ้าช่างช่ำชองมากยิ่ง”


                 เฉินจื่อเยี่ยนเงยหน้าส่งเสียงคำรามดังก้อง มันขยับยกเอวฟ่านชิงไฉที่เกาะมันราวกับลูกลิงให้เปิดรับแรงกระแทก พายุ

สวาทโหมพัดให้เฉินจื่อเยี่ยนยิ่งหลงใหลในร่างกายบุรุษเพศเยี่ยงมัน


               “แสดงเคล็ดวิชากระบี่จันทราอันเลื่องชื่อให้ข้าพเจ้าได้ชมเป็นบุญตาสักครั้งจะได้หรือไม่”


                ฟ่านชิงไฉออดอ้อนยามกลับมาหนุนนอนทอดกายอยู่บนโขดหิน เฉินจื่อเยี่ยนพลันสีหน้าขรึมลงทันที


               “มิได้เป็นอันขาด เคล็ดวิชานี้ไม่จำเป็นไม่แสดงต่อผู้ใด”


                “แม้แต่ข้าพเจ้าที่ท่านเอ่ยนักว่าหลงใหล?”


               “กล่าวถูกแล้ว”


               “มิทราบท่านเก็บคัมภีร์ไว้ที่ใด”


                 “อยู่ใกล้ตัวข้าพเจ้า”


                ฟ่านชิงไฉแย้มยิ้ม มันเลื้อยมานอนทาบทับพลันคว้ามังกรหลับใหลของเฉินจื่อเยี่ยนไว้ในอุ้งมือ


              “ใกล้ตัวท่านข้าพเจ้าเห็นมีแต่สิ่งนี้”


                “ตัวมาร นี่กำลังทำให้ข้าพเจ้าต้องการตัวท่านอีกครั้ง ใกล้ตัวข้าพเจ้านั้นหมายถึงภายในห้องนอนของข้าพเจ้าต่างหาก มานี่

เถิด มาให้ข้าพเจ้าลงโทษท่านเสียอีกครา”


               “ข้าพเจ้ามิใช่คนว่าง่าย หากท่านต้องการร่างกายนี้ เห็นทีต้องทำให้ข้าพเจ้าพึงใจ”


                “พึงใจเช่นไร”


                 “คืนนี้ ให้ข้าพเจ้าเข้าไปปรนเปรอท่านในบ้าน”


                เฉินจื่อเยี่ยนถึงกับขมวดคิ้วเมื่อได้รับฟังข้อเสนอ


                 “แล้วฮูหยินข้าพเจ้า?”


                 ฟ่านชิงไฉยิ้มยั่วยวน มันพลันบิดกายบิดมือเร่งเร้าในอ้อมกอดก่อนผุดลุกเดินหนีหัวร่อท้าทาย


                 “เป็นหญิงก็ต้องอยู่ส่วนหญิง ไฉนท่านปล่อยให้ฮูหยินเก่งกล้าเหนือท่าน หากแม้นเปิดประตูรับสหายเยี่ยงข้าพเจ้ามิได้

กระไรจะเป็นประมุขพรรคอันเก่งกล้าได้”




              รัตติกาล

              ลมหนาวโชยพัดเยือกเย็น

               ทารกเฉินเฟิงหยางยืนเคียงข้างมารดาที่ใบหน้าปกคลุมด้วยน้ำตาเมื่อสามีเปิดประตูรับบุรุษใบหน้าอ่อนเยาว์สะสวยให้ก้าวเข้า

สู่บ้านและเดินตามสามีเข้าไปในห้องนอนที่นางนอนด้วยทุกคืน ไม่มีผู้ใดกล้าห้ามปราม ซ้ำร้าย เสียงครวญครางด้วยความกำหนัดยังกรีด

ใจของนางให้เจ็บช้ำ มิคาด เมื่อเสียงกำหนัดจบสิ้นลงกลับกลายเป็นเสียงเป่าปากคล้ายสัญญาณดังขึ้น และทันใดรอบรั้วบ้านกลับปรากฏ

ผู้คนไม่ต่ำกว่าร้อยบุกเข้าเข่นฆ่าสมาชิกในพรรคที่อาศัยอยู่ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง


             “ฟ่านชิงไฉ เจ้าตัวเลว ปิศาจร้าย นำเหล่าตัวเลวมาบุกถึงบ้านข้าพเจ้า”


             เฉินจื่อเยี่ยนตะโกนอย่างเจ็บใจ มันคว้ากระบี่ขึ้นป้องกันทันทีเมื่อผู้กล้าจากแปดสำนักยืนประจันหน้าส่องอาวุธใส่มัน


              “หากรักตัวกลัวตายก็จงส่งคัมภีร์กระบี่จันทราให้พวกเรา”


               หนึ่งในแปดดังขึ้น เฉินจื่อเยี่ยนเดือดดาลยิ่ง มันไล่ต่อสู้แต่กลับถูกรุมทำร้าย บัดนั้นเฉินเฟิงหยางได้แต่ร่ำไห้เมื่อมารดาสละ

ชีวิตตนแลกกับลมหายใจของมัน เฉินจื่อเยี่ยนผู้เป็นบิดาแทงกระบี่เข้าช่องลับภายในห้องนอนดึงคัมภีร์ติดมือพร้อมทั้งคว้าร่างบุตรชาย

มันถีบเท้าส่งแรงกระโดดตีลังกาหนีออกไปทันที

                เฉินจื่อเยี่ยนเร่งวิชาตัวเบาหนีจนถึงหน้าผา มันสิ้นทางหนีเมื่อหันกลับมามองเห็นคนบุกรุก มันกวาดตามองด้วยความคับแค้น


                 “จอมยุทธเฉินโปรดส่งคัมภีร์มาให้ข้าพเจ้า หากยังต้องการรักษาชีวิตท่านและบุตร”


                   บุรุษผู้หนึ่งกล่าวชัดท่าทางโอหัง ฟ่านชิงไฉตวัดสายตาใส่มันคราหนึ่ง


                   “เจ้าตัวโง่เง่า อย่ามัวงุ่มง่ามดังเช่นเรื่องนั้น ท่านจงบุกเข้าไปชิงคัมภีร์”


                    มันกลับกระทำตามคำสั่งของฟ่านชิงไฉ เฉินจื่อเยี่ยนต่อสู้ป้องกันคัมภีร์และบุตรชายจนกระทั่งคัมภีร์ถูกมันคว้าไว้

เฉินจื่อเยี่ยนรีบดึงคัมภีร์กลับคืน มันพลันตกใจอย่างยิ่งเมื่อคัมภีร์ถูกฉีกหน้าสุดท้ายติดอุ้งมือของผู้แย่งชิง


                 “เซียวหยาง ปกป้องคัมภีร์ไว้และแก้แค้นแทนบิดาด้วย”


                เฉินจื่อเยี่ยนยัดคัมภีร์ใส่มือลูกน้อยก่อนโยนลงไปเบื้องหลังหน้าผาใหญ่ เสร็จสิ้นดังนั้นมันจึงหันกลับไปต่อสู้จนตัวตาย





                ผู้คนต่างนิ่งงัน ฟ่านชิงไฉหน้าซีดเผือดแล้วเมื่อความหลังจบลง ซีไท่หยางมองบุรุษหนุ่มอย่างเห็นใจ


                “กระนั้นจอมยุทธเฉินจึงชำระแค้นแทนบิดาและตามหาแผ่นสุดท้ายของคัมภีร์เพลงกระบี่จันทรา เจ้าสำนักทั้งหกที่ตายเพราะ

คมกระบี่คือผู้บุกฆ่าล้างตระกูลเฉิน หากฟ่านปังจู้แห่งพรรคไหมฟ้าเป็นหนึ่งในสองที่เหลือแล้ว จงคืนสิ่งที่  จอมยุทธเฉินต้องการเสียเถิด”


              “ข้าพเจ้าไม่มี” ฟ่านชิงไฉพลันเอ่ยเสียงดัง


              “คัมภีร์หน้าสุดท้ายหาได้อยู่ที่ข้าพเจ้า”


               เฉินเฟิงหยางหัวร่อเหยียดหยันแล้ว


              “หากไม่มีที่ตัวแพศยา ก็คงอยู่ที่ชู้รักคนสำคัญของมัน คนสุดท้ายที่ประมือกับบิดาข้าพเจ้า”


                “มันคือผู้ใด?” ซีไท่หยางรีบเอ่ยถาม เฉินเฟิงหยางดึงกระบี่คมออกจากฝัก กระบี่สะท้อนแสงอาทิตย์แวววาวกรีดใจคนยิ่งนัก


                “มันคือผู้ที่เบื้องหน้าพวกท่านเรียกว่าคุณธรรมและหวังให้มันเป็นผู้นำยุทธจักรคนต่อไป ลี่ซ่งสือ เจ้าสำนักคุณลุ้น”

       
                   พูดจบเฉินเฟิงหยางจึงกระทืบเท้าตรงเข้าใช้เพลงกระบี่เดียวไม่ขาดไม่เกินปลิดชีวิตฟ่านชิงไฉ คมกระบี่ปาดลำคอจน

โลหิตพุ่งคล้ายน้ำพุขาดใจตายในบัดดล

                      เสียงฮือฮาของผู้ชุมนุมยังไม่จบสิ้นเฉินเฟิงหยางก็กระโดดไปหาลี่ซ่งสือแล้ว




TBC







               
               

               
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/2>18/01/59 กำลังภายในจีน
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 18-01-2016 17:44:48
 :ling1:
เง้ออออ สงสารนายเอกกกก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/2>18/01/59 กำลังภายในจีน
เริ่มหัวข้อโดย: poporimikoru ที่ 18-01-2016 19:06:26
อดีตเจ็บปวดมากกกกกกก มาให้พระเอกดามใจมามะ


ฆ่ามันเลยลูก

ส่วนท่านพ่อนี่ก็ เฮ้ออออ เรียกได้ว่าทำตัวเองแต่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปทั่ว
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/2>18/01/59 กำลังภายในจีน
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-01-2016 19:07:20
 :m15:   
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจั
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-01-2016 23:04:44
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/2>18/01/59 กำลังภายในจีน
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 18-01-2016 23:38:00
สงสารนายเอกกก
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 3/2>18/01/59 กำลังภายในจีน
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 19-01-2016 00:44:06
จัดการให้หมดเลยเฟิงหยาง
หัวข้อ: X-Theme the series SS2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 4จบ>19/01 ปิดซีซั่นย้ายห้องได้
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 19-01-2016 19:08:47


                                                   เดียวดายใต้แสงจันทร์

                                                            บทที่ 4


           กระบี่คมกริบตรงเข้าใส่ ลี่ซ่งสือชักกระบี่ตอบโต้ ฝีมือมันมิได้ด้อยไปกว่าเฉินเฟิงหยาง ถือว่าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง

ในยุทธจักร สำนักคุนลุ้นดำรงอยู่ในคุณธรรมจึงไม่มีผู้ใดคาดคิดเจ้าสำนักคนปัจจุบันจะเป็นหนึ่งในแปดที่นำผู้คนเข่นฆ่า

เฉินจื่อเยี่ยนในอดีต

           ต่อสู้หลายเพลงกระบี่ ลี่ซ่งสือเสียทีเมื่อเฉินเฟิงหยางวาดปลายเท้าเข้าใส่ มันล้มลงกับพื้นพลันออกแรงปัดกระบี่

เก้าเชียะของเฉินเฟินหยางพ้นตัว ลี่ซ่งสือล้วงมือหยิบสิ่งหนึ่งจากเสื้อคลุมและกระโดดหลบคราหนึ่ง


           “ข้าพเจ้าหากตาย คาดว่าท่านจะมิได้แผ่นสุดท้ายของคัมภีร์”


           มิคาดกระดาษเก่าแก่ในมือคือคัมภีร์กระบี่จันทรา ชาวยุทธในงานชุมนุมต่างตะโกนโห่ร้องเมื่อรู้ความจริง เฉินเฟิง

หยางเพ่งมองคับแค้น มันเตรียมตั้งท่ากระบี่หวังจะจู่โจมอีกครา

           กระบี่เก้าเชียะถูกขัดขวางด้วยมีดเล่มเล็กบินปะทะ ชั่วอึดใจหวังต้าชานที่เฝ้ามองอยู่นานกลับกระโดดขัดขวาง มัน

ยืนสง่ากั้นกลางระหว่างเฉินเฟิงหยางและลี่ซ่งสือ


           “ท่านไฉนทำเช่นนี้”


           เฉินเฟิงหยางมองหวังต้าชานไม่วางตา หวังต้าชานมองตอบอย่างเห็นใจ


           “เนื่องเพราะข้าพเจ้ามีหน้าที่ทำสิ่งหนึ่ง”


           คำของหวังต้าชานมิได้ไขขอข้องใจให้กระจ่าง มันตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนมากมาย


           “เรื่องราวในยุทธภพที่หัวหน้าสำนักต่างๆถูกเข่นฆ่าผิดธรรมดา ทำให้วังหลวงสงสัยถึงสาเหตุ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงมา

ที่นี่เพื่อสืบหาความจริงเพื่อไปกราบทูลฮ่องเต้ให้ทรงทราบ และบัดนี้ความจริงกระจ่างแล้ว”


           หวังต้าชานสะบัดมือเบาๆพลันบางอย่างออกมาจากแขนเสื้อสู่อุ้งมือ มันยกขึ้นชูเหนือหัวให้เห็นถ้วนหน้า


           “ป้ายอาญาสิทธิ์จากองค์ฮ่องเต้ มิว่าผู้ใดมิอาจขัดขวาง”


           ทุกผู้ทุกนามต่างคุกเข่าแซ่ซ้องพระนามไม่เว้นแม้แต่เฉินเฟิงหยาง หวังต้าชานกล่าวอย่างองอาจ


           “ลี่ซ่งสือครั้งอดีตก่อนรับตำแหน่งเจ้าสำนักคุนลุ้น กลับพาผู้คนเข่นฆ่าไม่เว้นทั้งทารกและสตรีเพื่อแย่งชิงเคล็ด

วิชาของผู้อื่นและปกปิดความผิด ทำตัวสูงส่งมีคุณธรรมหลอกลวงผู้อื่นเนิ่นนานจนกระทั่งรับตำแหน่งเจ้าสำนักและผู้คน

ยกย่องให้เป็นผู้นำยุทธจักรคนต่อไป ขณะที่เฉินจื่อเยี่ยนกลับตายอย่างไร้ค่าและทายาทเฉินเฟิงหยางใช้ชีวิตด้วยความ

อัปยศ”


           หวังต้าชานสีหน้าเด็ดขาดยามกล่าวประโยคต่อไป


           “รับคำสั่งจากข้าพเจ้า หวังต้าชานชินอ๋องที่สองแห่งองค์ฮ่องเต้(ตำแหน่งชินอ๋องคือตำแหน่งองค์ชายลำดับหนึ่ง

หมายถึงราชโอรสที่เกิดจากองค์จักรพรรดิ์)ให้ลี่ซ่งสือพ้นจากทุกตำแหน่งที่มีและคืนสมบัติทุกอย่างเข้าคลังหลวงพร้อม

ทั้งคืนคัมภีร์แผ่นสุดท้ายให้แก่เฉินเฟิงหยาง ก่อนเข้ารับโทษทัณฑ์”


           เฉินเฟิงหยางตกใจเป็นอย่างยิ่ง ที่แท้หวังต้าชานที่มันรักกลับกลายเป็นองค์ชายรองจากวังหลวงที่ถูกส่งมาสืบ

ความเป็นไปในยุทธภพ ทุกคนถึงกับตะลึงโดยเฉพาะลี่ซ่งสือมันถึงกับเบิกตากว้างกับโทษจากองค์ชายรอง

มิคาดลี่ซ่งสือกำแหงตัดสินใจบุกโจมตีหวังต้าชานคราวเผอเรอ เฉินเฟิงหยางกระตุกหางตาวาบพลันกระโจนกลางอากาศ

ปัดกระบี่ของลี่ซ่งสือออกพ้นตัวหวังต้าชานเพียงแค่ปลายนิ้ว เฉินเฟิงหยางโกรธจนหน้าแดงแล้ว


              “บังอาจ ไอ้เฒ่าสกปรก เข่นฆ่าครอบครัวและยังคิดทำร้ายคนที่ข้าพเจ้ารัก”


               พุ่งตัวออกไปพลันจ้วงแทงด้วยเพลงกระบี่จันทราที่ฝึกฝนมาตลอดชีวิต ลี่ซ่งสือยกกระบี่โต้ตอบอย่างเลือดเข้า

ตา พลันเสียหลักเมื่อเฉินเฟิงหยางโผเข้าใส่ดึงกระดาษในมือไปได้ในที่สุด เฉินเฟิงหยางตีลังกาถอยห่างมันกวาดตาอ่าน

เคล็ดวิชาในแผ่นกระดาษนั้นว่องไวยิ่ง


             “เฟิงหยาง อย่า...”


              มิทันที่หวังต้าชานเอ่ยห้าม เคล็ดวิชาจากคัมภีร์ทั้งเล่มที่เฉินเฟิงหยางท่องขึ้นใจมาตลอดชีวิตประกอบกับไม่กี่

ถ้อยคำในกระดาษแผ่นสุดท้ายเร่งเร้าให้มันร่ายรำเพลงกระบี่ออกมาโดยไม่รู้ตัว ไอเย็นในร่างกายทะลุทะลวงเส้นชีพจรจน

สั่นสะท้าน เส้นผมดำขลับแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวตั้งแต่โคนจรดปลาย ดวงตาพลันสว่างวูบเมื่อมันร่ายรำถึงเพลงสุดท้าย

กระบี่คมกริบก็พุ่งเข้าสู่ลี่ซ่งสือ ครานี้มันได้แต่ตั้งกระบวนท่ารับ กระบี่ลี่ซ่งสือปัดป่ายไปมาเมื่อพบเจอความเร็วของกระบี่

จันทรายามบุกทะลวง ภาพแห่งความแค้นฉายอยู่ในดวงตาของเฉินเฟิงหยางเมื่อกระบี่แทงทะลุคอหอยและกรีดลึกตาม

ลำตัวโลหิตเจิ่งนองพื้นกลางลานบนยอดเขาบู๊ตึ๊ง บรรดาชาวยุทธต่างเงียบกริบเมื่อเห็นอานุภาพร้ายแรงยิ่งของกระบี่

จันทราอันแท้จริง

             เฉินเฟิงหยางยื่นนิ่ง ไม่เหลือบแลผู้ใด มันใช้นิ้วปาดเลือดที่ยังติดอยู่บนดาบของมันทิ้งหมดสิ้นก่อนคืนดาบสู่ฝัก

แววตาเย็นชาแข็งกระด้างคล้างดั่งไม่แยแสกระไรบนโลกใบนี้


               “เฟิงหยาง ท่าน...”


               หวังต้าชานเจ็บปวดอย่างยิ่ง แม้มันจะพร่ำเรียกแต่เฉินเฟิงหยางราวกับมิใช่คนเดิม ใบหน้าเย็นชาล้อมกรอบ

ด้วยเส้นผมสีขาวคล้ายดั่งหิมะหันมามองเพียงแค่เสี้ยวลมหายใจ จากนั้นเฉินเฟิงหยางจึงกระโดดลอยกลางอากาศหนีไป

จากชาวยุทธภพโดยไม่มีผู้ใดคิดติดตาม




             ราตรีเหน็บหนาว

             ดวงจันทร์เต็มดวงปรากฏริมฟ้าพร้อมขับเคลื่อนตลอดรัตติกาล

             หวังต้าชานหยุดเท้าลงที่ใต้ต้นหลิว มันเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ริมบึงกว้างเป่าขลุ่ยอ้างว้างเดียวดาย

เฉินเฟิงหยางหันกลับมา มันรู้ เช่นไรหวังต้าชานต้องมาที่นี่ มายืนเคียงข้างมันใต้ดวงจันทร์ดวงนี้ มันวางมือแนบไปกับอก

ทอดสายตาเศร้าอาดูร หวังต้าชานยกมือลูบไล้ใบหน้ามันช้าๆ นุ่มนวลยิ่ง ก่อนเอียงหน้าประทับจูบเนิ่นนาน

หวังต้าชานตระกองกอด มันสอดแขนอุ้มร่างโปร่งกลับมาใต้ต้นหลิวต้นใหญ่ วางเฉินเฟิงหยางลงไปบนพื้นดินที่เดิมที่มัน

เคยกอดแนบอก สายตาของมันไม่ละจากใบหน้าเฉินเฟิงหยางแม้แต่น้อยนิดแม้ยามที่มันบรรจงถอดเสื้อคลุมสีดำสนิท

ออกไป

              จูบอ่อนหวานปรนเปรอ หวังต้าชานลูบไล้ผิวกายเย็นเยียบ ใบหน้าที่มีเส้นผมสีขาวยิ่งงดงามท่ามกลาง

แสงจันทร์อวดกายผุดผ่องเมื่อหวังต้าชานแนบปากลงไป มันลากไล้ขบเม้มไปทุกสัดส่วนราวกับจะประทับให้อยู่ในความ

ทรงจำ เฉินเฟิงหยางตั้งขาทอดกายให้หวังต้าชานเชยชม มันยกแขนคล้องคอหวังต้าชานไว้ราวกับกลัวมันจะห่างหาย

ท่อนขาเรียวแยกกว้างให้หวังต้าชานดันเอวล่วงล้ำช้ายิ่ง อ่อนหวานยิ่ง ความรู้สึกลึกล้ำในรักกลายเป็นหยดน้ำตาหลั่งริน


             “ต้าชาน ข้าพเจ้ารักท่านเหลือเกิน”


          สะดุ้งกายยามหวังต้าชานขับเคลื่อนท่อนเนื้อรุกเร้า เฉินเฟิงหยางแอ่นกายให้ยอดอกรับลิ้นอุ่นถนัดถนี่ หวังต้าชาน

ละเลงลิ้นเปียกชุ่ม ขยับท่อนเอวหนักแน่น


            “ข้าพเจ้ารักท่านเช่นกัน เฟิงหยาง”


              บทรักทั้งหวาน ทั้งสุขสมอยู่บนกองน้ำตา เสียงเนื้อแนบเนื้อ จูบแลกจูบสะท้อนกังวาน ลมหายใจเป่ารินรดซึ่ง

กันตักตวงความสุขไว้ในความทรงจำมิอาจลืมเลือน เฉินเฟิงหยางพรมจูบหวานล้ำใบทางใบหน้าของหวังต้าชาน


            “หนึ่งเดือน หนึ่งดวงจันทร์เต็มดวงที่ข้าพเจ้าจะไร้รัก ไร้ใจ”


            “เจ็บปวดยิ่งนักยามท่านไม่มีข้าพเจ้าในหัวใจ”


            หวังต้าชานโอบกอดเฉินเฟิงหยางไว้ใต้ต้นหลิว อันเป็นสถานที่ของมันทั้งคู่


           “ข้าพเจ้าจะรอท่านที่ใต้ต้นหลิวแห่งนี้ ในทุกคืนจันทราเต็มดวง”


             เช่นนั้นเพราะในหนึ่งเดือนจะมีเพียงวันเดียวที่หัวใจรักของเฉินเฟิงหยางจะกลับมา หวังต้าชานทอดถอนหายใจ

เมื่อคิดถึงภาระหน้าที่ของมัน


            “ข้าพเจ้าหากไม่มา?”


             “ข้าพเจ้านับว่ายังรอ”


             เฉินเฟิงหยางเอ่ยทั้งน้ำตา ดวงจันทร์เคลื่อนคล้อยมากแล้ว นี่อาจเป็นน้ำตาหยดสุดท้ายของมัน


             “มิว่าเช่นไร ข้าพเจ้าจะรั้งรอท่านใต้แสงจันทร์นี้ตลอดไป”


            หวังต้าชานมิว่าเข้มแข็งเพียงไร แต่มันกลับมีน้ำตาเช่นกัน มันรั้งเฉินเฟิงหยางพลางกดจูบหน้าผากนิ่งนาน


            “เป็นหรือตาย ร้ายหรือดี ข้าพเจ้าจะรีบเร่งมาหาท่านในที่สุด”


            กล่าวคำสัญญาลูกผู้ชาย หวังต้าชานประกบปากลงกับกลีบปากซีดเย็นอีกครา หนักหน่วงไปด้วยความอาลัยใน

รัก เฉินเฟิงหยางเปิดทางให้ลิ้นอุ่นเข้าไปซึมซับ มันเองจูบกลับไม่ยอมแพ้ เรือนร่างที่ยังมีคราบคาวกอดก่ายแน่นหนา

หวังต้าชานพลันยกท่อนขาเรียวข้างหนึ่งของเฉินเฟิงหยางก่อนดันกายแทรกลึกล้ำ เอวแกร่งหมุนวนคว้างให้มังกรผงาด

กลางถ้ำลึก มาตรว่าภายในเหนอะหนะฉ่ำชื้นหากแต่มังกรกลับอหังการ์


             “ให้ข้าพเจ้าปรนเปรอท่านจนอิ่มหนำก่อนตะวันจะทอแสงเถิดเฟิงหยาง”





           รุ่งอรุโณทัย

            แสงสีส้มจับอยู่ตรงขอบฟ้า อากาศยังคงเยือกเย็นยิ่ง

            หวังต้าชานพลันตื่นขึ้นมา มันกวาดสายตาหาพบใครรอบข้าง มีเพียงปอยผมสีขาวทิ้งไว้ข้างกาย หวังต้าชานคว้า

มันขึ้นมาแนบอก


             อาจบางทีที่มันเจ็บช้ำยิ่งกว่า

            หนึ่งเดือนที่ผันผ่านเฉินเฟิงหยางไม่มีมันในใจ

            แต่หนึ่งเดือนที่ผันผ่านหวังต้าชานจะต้องระลึกถึงเจ้าของปอยผมนี้ทุกวัน ทุกชั่วยาม

           หวังต้าชานจะรอ

            มิว่าเฉินเฟิงหยางจะมาหรือไม่ มันก็จะมาที่นี่ทุกคืนจันทร์เต็มดวง สถานที่ของมันกับเฉินเฟิงหยาง

ตลอดไป






            “องค์หวงไท่จื่อเสด็จแล้ว”


            หวังต้าชานเดินผ่านเหล่าองครักษ์และขันทีไปยังห้องสำราญ มันมิได้สนใจสิ่งใดอีกนอกจากตรงไปยังกลางห้อง

ที่มีไหสุราล้ำเลิศรออยู่

           มิคาดองค์ฮ่องเต้พึงใจในผลงานของมันเมื่อกลับมาถึงเมืองหลวง ไม่ช้านานทรงแต่งตั้งมันเป็นหวงไท้จื่อองค์     

ชายรัชทายาทเตรียมสืบบัลลังก์มังกร มันมิอาจปฏิเสธราชโองการได้แต่ก้มหน้ารับคำสั่งและกลายเป็นบุรุษมากอำนาจ

อันดับสองของตงง้วนรองจากองค์ฮ่องเต้

             เป็นหวงไท้จื่อที่หาได้มีความสุขในลาภยศ


           “หยิบขลุ่ยมา”


            คำสั่งรวดเร็วยิ่ง เหล่าขันทีและนางกำนัลทำงานรวดเร็วยิ่งกว่า แค่ชั่วอึดใจขลุ่ยเลางามที่มันเล่นประจำตั้งวางอยู่

ตรงหน้า หวังต้าชานหยิบมาขึ้นมา มันจ้องมองพู่ร้อยปลายสีขาวเป็นพวง มันทิ้งตัวปลิวน้อยๆยามหวังต้าชานขยับปลาย

นิ้ว เสียงขลุ่ยหวานแว่วกังวาน เหล่าผู้คนในวังต่างนิ่งฟังบทเพลงจากองค์หวงไท้จื่อ




                                  อาทิตย์ลาลับฟ้า  เหลือจันทรากลางเวหน

                           เดือนเดี่ยวเปลี่ยวกมล  ยามเฝ้ายลบนนภา

                                ดั่งใจแสนอ้างว้าง  ไร้คนข้างอย่างตัวข้า

                              จันทร์ส่องต้องเอกา  ช่างเดียวดายใต้แสงจันทร์


           น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงมาจากดวงตาขององค์หวงไท้จื่อที่ปลดปล่อยอารมณ์เดียวดายดั่งในเพลง แต่กลับไม่มีผู้ใด

คาดคิด บนหลังคาสูงของวังหลวงกลับมีคนนั่งเร้นกายในความมืดอยู่บนนั้น

           ร่างโปร่งในชุดคลุมสีดำสนิทมีกระบี่ยาวเก้าเชียะฝักดาบสีดำยิ่งกว่าแนบกาย ใบหน้าเย็นชาล้อมกรอบด้วยเส้นผม

สีขาวราวเกล็ดหิมะ

          มันนิ่งฟังเพลง แหงนหน้ามองจันทร์สว่างแค่เพียงครึ่งดวง พลันน้ำตาของมันหยดหนึ่งรินลงมาบนใบหน้าเย็นชา

นั่นเอง

           
                                                    The end



ในที่สุดเราก็แต่งจบ เย้ๆๆๆ

ปิดซีซั่นไปด้วยจำนวน 6เรื่อง แต่จำนวนเนื้อหาเยอะกว่าซีซั่นแรกแน่ๆ

อาจจะถูกใจคนอ่านกันบ้างสักเรื่องล่ะน่า


 :z1: :z1: :z1:

คนแต่งจะรวมเล่มและเปิดให้จองประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์นะคะ

เดี๋ยวจะมาบอกอีกทีนึง

สำหรับใครที่ต้องการให้รีปรินท์เล่มแรก แจ้งคนแต่งด้วยเน้อ

ถ้าได้จำนวนมากพอจะทำให้และส่งพร้อมกัน





สุดท้ายนี้ขอบคุณคนอ่านทุกท่านที่ติดตามเหนียวแน่นจากซีซั่นแรก

และขอบคุณคนอ่านใหม่ๆที่หลงเข้ามา

อ่านจบแล้วช่วยคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้สักคนละเม้นท์ก็จะเป็นพระคุณ


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


สุดท้ายสุดๆ อย่าลืมโหวตโพลด้านบน มีผลต่อตอนพิเศษเน้อ



                     
อย่าลืมโหวต!!!
หัวข้อ: Re: X-Theme the series SS2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 4จบ>19/01 ปิดซีซั่นย้ายห้องได้
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-01-2016 19:19:41
 :katai2-1:   ขอบคุณมากๆค่ะเราขออีบุ้คนะคะ

แอบเศร้านะเนี่ย
หัวข้อ: Re: X-Theme the series SS2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 4จบ>19/01 ปิดซีซั่นย้ายห้องได้
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 19-01-2016 19:40:12
จบเศร้ามากเลย...ไรเตอร์ใจร้าย  ไม่คิดจะให้พระเอก นายเอกได้รักกันแฮบปี้หน่อยเหรอ  แบบประมาณว่าพระเอกลากนายเอกมาเป็นองครักษ์ข้างกาย  อยู่ในวังหลวงด้วยกันตลอดไป  อะไรแบบเนี่ย

จะเป็นแบบไหนก็ได้  ขอให้ได้อยูด้วยกัน  ขอร้องเถอะน้า พลีสสสสสสส
หัวข้อ: Re: X-Theme the series SS2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 4จบ>19/01 ปิดซีซั่นย้ายห้องได้
เริ่มหัวข้อโดย: poporimikoru ที่ 19-01-2016 20:35:09
หวานอมขม ยังดีที่ไม่ตาย ฮรือออ

เศร้า่ะ

ชอบภาษามากกกก อารมณืกำลังภายในมาเต็ม ฉากอย่างว่าแบจีนๆนี่เขินมาก แงงงงง บ้าเจรงงงงง
หัวข้อ: Re: X-Theme the series SS2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 4จบ>19/01 ปิดซีซั่นย้ายห้องได้
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 19-01-2016 22:14:12
เคเาโหวตให้แล้วน่าา ชอบยบเรื่องพ่อลูก 555
หัวข้อ: Re: X-Theme the series SS2<เดียวดายใต้แสงจัน
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-01-2016 22:34:56
จบเศร้าอ่ะ...
หัวข้อ: Re: X-Theme the series SS2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 4จบ>19/01 ปิดซีซั่นย้ายห้องได้
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 19-01-2016 23:07:24
ทำไมเรื่องนี้จบเศร้าอ่ะ  เราอ่านจบน้ำตาไหลพรากเลย ฮืออออออ สงสารองค์ชายหวงไท้จื่อมากอ่ะ ไม่มีทางแก้เลยหรอ
หัวข้อ: Re: X-Theme the series SS2<เดียวดายใต้แสงจันทร์ บทที่ 4จบ>19/01 ปิดซีซั่นย้ายห้องได้
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 20-01-2016 12:27:01
หูย ต้องจากกันอ่ะ  :hao5: รสชาติชีวิต
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 19/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-01-2016 20:19:34
ตอบโพลด้านบนให้หน่อยจะเริ่มทำเล่มแล้วจ้า^^
หัวข้อ: Re: X-Theme the series Season2 19/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 25-01-2016 02:31:59
เศร้าไปนะ อยากให้มีตอนพิเศษของคู่นี้จัง ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน
หัวข้อ: <<X-Theme the series Season2>> Pre-order 3 ก.พ.- 1 เม.ย.59
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-01-2016 10:10:35


ประกาศ เปิด Pre order X-Theme the series Season2
รายละเอียดดังนี้

ขนาด : A5
จำนวนหน้า : 380+

ราคา : 450 บาท รวมค่าส่งแบบลงทะเบียนแล้ว
เวลา : 3 กุมภาพันธ์ - 1 เมษายน 2559


การโอนเงิน
ไปที่แฟนเพจ--> แฟนเพจ (https://www.facebook.com/Belove.no1)
มีบัญชีรออยู่ในโพสปักหมุด



ส่งหลักฐานการโอนมายังเมล์นี้
klamnatamon[at]gmail.com
ชื่อเรื่อง "สั่งซื้อ X-theme"




อนึ่ง สำหรับผู้ต้องการรีปรินท์ X-theme seasonแรก 
เพิ่มเงินอีก 300 บาท และแจ้งมาทางเมล์ด้วย
X-theme the series season1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0)



‪#‎
ไม่ขายแยกเล่มแรกเล่มเดียวนะคะ‬



[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> Pre-order 3 ก.พ.- 1 เม.ย.59
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 28-01-2016 21:59:30
โหวตแล้วค่า ชอบเรื่องแรกอ่า  :ling1:
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> Pre-order 3 ก.พ.- 1 เม.ย.59
เริ่มหัวข้อโดย: yin ที่ 04-02-2016 11:16:07
ชอบน้องธามกับคุณภีมสุดน่ารักดี
หัวข้อ: <<X-Theme the series Season2>> Pre-order 3 ก.พ.- 1 เม.ย.59
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-02-2016 11:33:11


                   “ถ้าไตรไม่บอกว่าประตูห้องตรงหน้าใช่ห้องนอนหรือเปล่า เอิร์ทก็จะจัดการไตรตรงโซฟานี่แหละ ว่าไงครับ


ไตรจะเลือกตรงไหน”




                   น้ำเสียงสั่นพร่ายามกระซิบถามพลางขบเม้มติ่งหูของคนในอ้อมกอด ไตรภูมิหัวเราะออกมากับคารมของ

เด็กหนุ่ม เขามองลับด้วยนัยน์ตาพราวระยับ



                  “มันคือห้องนอนนั่นแหละ แต่ผมก็ให้เอิร์ทเลือกได้นะว่าอยากจะจัดการบนโซฟาเล็กๆแคบๆหรือจะหนำใจ

บนเตียงกว้างๆ นุ่มๆมากกว่ากัน”




ที่หายไปไม่ได้หายเฉยๆ ซุ่มอยู่นะครัช


ใครยังไม่ตัดสินใจซื้อก็ตัดสินใจซื้อเลยเหอะ ^^
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> Pre-order 3 ก.พ.- 1 เม.ย.59
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 12-02-2016 11:51:16
 :pig4:
หัวข้อ: <<X-Theme the series Season2>> Pre-order 3 ก.พ.- 1 เม.ย.59
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 24-02-2016 22:13:14

                 คราวนี้ธามจูบหนักหน่วง ภาติยะเองก็จูบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ จูบหวานกลับร้อนขึ้นเรื่อยๆจนธามเริ่มใช้

ปลายนิ้วไต่ไปตามขอบกางเกงของภาติยะแล้วหยุดอยู่ที่ซิป


               “ธาม อื้อ เรายังกินอาหารเย็นกันยังไม่หมดเลยนะ”


              ปรามเสียงเบาหวิวพร้อมกับลมหายใจที่เริ่มระอุขึ้นเรื่อยๆ แต่มีหรือที่เด็กหนุ่มแสนดื้อจะฟัง ธามรูดซิปกางเกง

ของภาติยะลงจนสุดปลายและจับขอบกางเกงรั้งลงไป


               “กินไป รักกันไปก็ได้นี่ครับ นะครับคุณภีม”





              ใกล้สิ้นเดือนแล้ว อย่าลืมมาสู่ขอกันนะคะ ^^

หัวข้อ: <<X-Theme the series Season2>> Pre-order 3 ก.พ.- 1 เม.ย.59
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-03-2016 15:06:47


           “ปล่อยข้าพเจ้า”


 

          “จอมยุทธเช่นท่าน หากคิดจะหลีกหนีคงไม่ร้องขอให้ข้าพเจ้าปลดปล่อย ข้าพเจ้าคงถูกดาบที่เอวเชือดเฉือนเสีย

นานแล้ว แต่ข้าพเจ้ายังมีลมหายใจทั้งยังกอดท่านไว้ได้ หมายถึงท่านยินดีให้ข้าพเจ้ากอดรัดเช่นนี้”



          หวังต้าชานกระซิบแผ่วชิดใบหู จมูกโด่งคลอเคลียอยู่ใกล้แก้มสีขาวที่บัดนี้สุกปลั่งด้วยเลือดฝาด



          “ร้ายกาจนัก ข้าพเจ้าไม่นึก หวงไท้จื่ออ๋องเช่นท่านนิยมชมชอบกลั่นแกล้งผู้คน”



          “ผู้คนที่ถูกกลั่นแกล้งมีเพียงท่าน”



          “ท่าน อื้อ...”





เย้ๆๆๆ ต้นฉบับเสร็จแล้ว


เหลือแต่ให้พ่อจ๋าแม่จ๋าพี่จ๋าน้องจ๋า(เลียนแบบอีเจี๊ยบเลียบด่วน)


มาสู่ขอนะจ๊ะ


อีก 3 สัปดาห์เท่านั้นน้า
 o18 o18 o18


หัวข้อ: <<X-Theme the series Season2>> Pre-order 3 ก.พ.- 1 เม.ย.59 #โค้งสุดท้ายแล้วจ้า#
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 21-03-2016 11:18:06


               “เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้น่า ดูถูกกันเกินไปแล้ว เออ แล้วไหนล่ะรางวัลที่ช่วยเล่นตามแผนฝิ่น”


               “ไม่มีอะ มีแต่ตัวฝิ่นนี่แหละพอจะเป็นรางวัลให้พี่เปาได้ไหม”



               จบคำพูดท้าทายฝิ่นก็โดนกระชากให้ร่วงลงมานอนแผ่กับพื้น เปาจ้องมองกรอบหน้าหวานอย่างกระหาย เขา


พรมจูบไปทั่วใบหน้าของฝิ่นพลางขยับวางต้นขาถูไถไปกับจุดอ่อนไหวของฝิ่นจนกระทั่งได้ยินเสียงอืออาลอดลำคอออก


มา



               “ฝิ่นก็รู้ว่าพี่ติดฝิ่นจนเลิกไม่ได้”





โค้งสุดท้ายสำหรับ Pre-order

ใครยังไม่ได้จับจองสู่ขอก็รีบโดยพลัน

ตอนพิเศษฟินๆรอท่านอยู่นะจ๊ะ




อีกสิบวันเท่านั้น!!
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> Pre-order 3 ก.พ.- 1 เม.ย.59 นับถอยหลัง5วันสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-03-2016 17:39:40
นับถอยหลัง 5 วันสุดท้ายในการพรีออเดอร์นะคะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: <<X-Theme the series Season2>> แจ้งเลขที่ลงทะเบียน 9/4/59
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 09-04-2016 20:00:21
สวัสดีค่ะลูกค้าทุกท่าน

ก่อนอื่น Belove กราบขอบพระคุณที่อุดหนุนนะคะ
X-theme เป็นอีกผลงานนึงที่ภูมิใจมาก
และหนังสือที่ท่านกำลังจะได้รับในอีกไม่กี่วันนี้
มาจากแรงกายและแรงใจ Belove จริงๆ
หากท่านยังพบเจอข้อผิดพลาดใดๆที่อาจผ่านตา
ต้องขออภัยด้วยนะคะ และตอนนี้ได้จัดส่งหนังสือให้คุณลูกค้าแล้ว
พร้อมกับแจ้งเลขที่ลงทะเบียนไปทางอีเมล์ของคุณลูกค้าค่ะ

Belove คงจะยังไม่แต่ง X-theme อีกพักใหญ่ๆ
หรืออาจจะไม่แต่งอีกด้วยสาเหตุจากเวลา
หากคุณลูกค้าชอบสำนวนของ Belove ได้โปรดติดตาม
ผลงานที่กำลังจะออกกับ Rainy Night เรื่องเพลิงพ่าย
และจะออกกับ Hermit เรื่องคำสาปร้ายพ่ายรัก

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินกับนิยายนะคะ
Belove


ป.ล.มีคุณลูกค้าท่านหนึ่ง โอนเงินมาให้ วันที่ 1 เมษายน
แต่ไม่ติดต่อแจ้งหลักฐานและอีเมล์ติดต่อ
Belove ตามหาตัวไม่เจอนานแล้ว ถ้าได้อ่านโปรดติดต่อด้วยค่ะ
แม่ค้าไม่อยากได้รับเงินฟรีๆ อยากให้คุณลูกค้าได้ฟินกับหนังสือมากกว่าน้า...


 o18 o18 o18
หัวข้อ: <<X-Theme the series Season2>> แจ้งเลขที่ลงทะเบียน 9/4/59
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 01-05-2016 07:45:53
ผักกาด ผักกาดดด

X-Theme the series season 2 ขายทางEbook แล้วจ้า

สนใจอ่านก็ตามไปที่ลายแทงนี้เลย ซื้อ X-theme Season2ทางEbook (https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDczMTkyIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMzk3NDgiO30)

ขอบคุณค่ะ

:pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 12-05-2016 10:17:57
เลือดหมดตัวละค่า  :m25:
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 19-07-2016 00:14:44
 :jul1:..... ถุงเลือดสำรองหมดตู้เย็นแล้วค่ะ


:pig4:  ขอบคุณคนแต่งมากค่ะ
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lllittled ที่ 03-08-2016 09:16:48
 o13
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 26-03-2017 18:34:42
ภาค1 ว่าสนุกสุดฟินล่ะ ภาค 2 สนุกเพิ่มๆมาก ดูแต่ละตอนคือคนเขียนมีจินตนาการเลิศมาก แต่ละตอนโอ้ยเหนือจินตนาการต่อนักอ่าน แต่ทำออกมาได้ดี มีครบทุกรส ทำเราอินได้ทุกตอนทุกเรื่อง เพราะเหนือความคาดหมายจริงๆ ชอบ และ รัก สุดท้ายขอบคุณ
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 26-04-2017 20:31:16
ภาคนี้สนุกมากๆ. ชอบทุกเรื่องเลย

ขอบคุณเรื่องราวดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 30-07-2017 18:49:40
ชอบทุกเรื่องเลยค่ะ แหวกแนวทุกเริ่องเลยงะ แต่ชอบเรื่อง ลองรักนะคะ แปลกดี ทำหนังGV เฉ้ย 555555 ตามอ่านมาหลายเรื่องล่ะ ไรท์เตอร์เขียนดีมากเลยค่า
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 09-11-2017 05:55:17
 :L1:
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 23-11-2017 19:56:26
สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KittybabymApi ที่ 28-05-2018 20:33:39
ขอบคุณไร้ท์มากมายค่ะ แซ่บถึงใจทั้ง ss1และ ss2 ชอบทุกงานเขียนของไร้ท์ belove นะคะ เพิ่งมารู้จักนิยายของไร้ท์ถึงใจมากกก5555   ตอนนี้ไล่ตามอ่านทุกผลงานนะคะ ติดนิยายไร้ท์งอมแงมยิ่งกว่าติดยาเสพติด รักไร้ท์นะ จุ๊บจุ๊บ :3123: :กอด1: