พิมพ์หน้านี้ - (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: pita ที่ 08-01-2012 20:34:52

หัวข้อ: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 08-01-2012 20:34:52
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง
ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,
ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง
ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก
ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ
กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว
ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง
ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะ
เสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น
คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว
ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย
และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย
เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ
ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ
ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ
โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 8/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 08-01-2012 20:46:24
บทนำ
สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่านผมชื่อ “เป็นต่อ” ครับ อ๊ะๆๆ อย่าคิดว่าผมเป็นคนเดียวกับชาคริตนะครับ
 อย่าไปเทียบเลย เพราะผมอ่ะหล่อกว่าเยอะ ฮ่าๆๆ ปีนี้อายุ 25 พอดีพอดิบ
มีอาชีพเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมด๊าธรรมดาที่หวังค่าแรงวันละ300 เหมือนหลายๆคน
เกิดในครอบครัวฐานะปานกลางค่อนไปทางยากจน
มีพี่ น้อง 7 คนแต่ขี้เกียจบอกว่ามีใครบ้างเอาเป็นว่ามี 7 คนก็แล้วกันนะครับ
ผมเป็นลูกคนกลางหรือก็คือลูกคนที่4 ของบ้านนั่นเอง ถึงจะชื่อเป็นต่อ
แต่ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่า ชีวิตผมเป็นรองตลอด
ไม่ว่าจะ การเรียนที่ได้ที่1 จากท้ายตาราง การงานที่ทำมาตั้งนานก็ยังอยู่ตำแหน่งเดิม
หรือแม้แต่ความรักที่มักจะ แห้ว มากกว่า สมหวัง
เรียกง่ายๆว่า ตั้งแต่เกิดมา ผมไม่เคยทำได้อย่างชื่อตัวเองเลยดีกว่าครับ
อ้าว แล้วทุกคนไม่สงสัยกันเลยเหรอครับว่าผมมาพล่ามอะไรอยู่ได้ตั้งยืดยาว เอ่อ -*-
อันนี้ลองถามยัยพิตเอาเองนะครับเขาให้ผมทำ
เอาล่ะๆๆ เข้าเรื่องๆๆ ประเด็นหลักๆเลยคือว่า ตอนนี้ชีวิตที่แสนจะราบเรียบและธรรมดาของผม
กำลังเปลี่ยนไปครับ เรื่องนี้มันน่าตกใจกว่าน้ำท่วมใหญ่ กรุงเทพอีกนะ
เพราะตอนนี้ผมกำลังโดน “จีบ” อยู่ครับ แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าคนที่ จีบผม เป็น น้องกวาง
ที่ผมแอบปลื้มอยู่   แต่คนที่จีบผมอยุ่เป็นผู้จัดการฝ่าย ที่เป็นหัวหน้าโดยตรงของผม
ทุกคนอาจจะ บอกว่า เอ๋า ไอ้ต่อ ก็ดีแล้วนิหว่า ผู้จัดการนะเว้ย
 ครับ มันจะดีมาก ดีมากเลย ถ้า ไอ้คนนั้นมันไม่ใช่
ผู้ชาย!!!!






ลิงค์เรื่องเก่าๆเหมือนเดิมคร่า   
คืนข้ามปี
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=21167.0
ใจฉันเป็นของเธอ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=21268.0
หมอดูแม่นๆ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27943.0
ได้ยินไหมว่ารักเธอ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28058.0
ผู้กองที่รัก
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28796.0
ขอรักคืนใจ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29506.0

ตามไปอ่านกันได้ค่ะ


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 8/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Orange151987 ที่ 08-01-2012 20:48:08
 :pig2: :pig2: รอติดตามค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 8/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 08-01-2012 20:56:56
เจิมๆๆๆๆๆ

 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 8/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 08-01-2012 21:49:43
ตามๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 8/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Daiice ที่ 08-01-2012 21:52:57
แอบตาม ๆ อิอิอิ :m32:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 8/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 08-01-2012 21:54:38
อ่ะ เอ๋ ผู้ชายมาจีบก็ดีนิน่า เปลี่ยนบรรยากาศและรสชาติให้กับชีวิตน้าา เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 8/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 08-01-2012 22:22:18
มีลุ้นกับเป็นต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 8/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey Mouse ที่ 08-01-2012 23:45:34
รออ่านต่อยอยู่น๊าา
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 8/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 09-01-2012 00:43:49
ต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ   :mc4:
แนวๆ เจ้านายลูกน้อง คงต้องตามดูว่าเจ้านายจะเป็นแบบไหน

(เคยอ่านแค่เรื่องผู้กองที่รักเองค่ะ แล้วจะลองตามอ่านเรื่องอื่นๆ นะคะ)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 8/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 09-01-2012 20:12:09
ตอนที่ 1

“เฮ้ย ต่อเลิกงานแล้วไปไหนว่ะ” ไอ้นะ ถามผมทันทีที่เลิกงาน ไอ้นะหรือณนนท์ เป็นเพื่อนคนแรกและเหมือนจะคนเดียวหลังจากที่ผมทำงานที่นี่ได้ปีกว่าๆเพราะผมไม่ใช่คนที่อัธยาศัยดีเท่าไหร่  ด้วยความที่ ผมไม่ชอบสุงสิงกับใครเท่าไหร่ ทำให้เพื่อนในแผนกคนอื่นๆ คิดว่าผมหยิ่ง จะมีก็แต่ไอ้นะ คนเดียวที่กล้าคุยกะผม ไอ้นี่มันอัธยาศัยดีจนน่าตกใจ เรียกได้ว่ามันรู้จักตั้งแต่ ยามไปจนถึงผู้บริหารเลยดีกว่าครับ ผมละนับถือมันจริงๆ
“ไม่รู้สิ กลับห้องมั้ง” ผมตอบแบบขอไปที
“มึงนิ จะเป็นฤๅษีอยู่แล้วนะเว้ย ไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็ได้นะ”
“นี่ไอ้นะกูถามมึงหน่อยตั้งแต่รู้จักกันมามึงชวนกูทุกวันกูเคยไปไหม”
“ไม่อ่ะ”
“แล้วมึงชวนทำไม” ผมบอกหน้าตาย ผมไม่ได้กวนนะครับแต่ไอ้นะมันชวนผมทุกวันจริงๆไม่รู้จะชวนอะไรหนักหนา
“เชี่ยเอ้ย แล้วกูจะพูดไงต่อล่ะเนี่ย มึงเล่นดักกูไว้หมดแบบนี้” ไอ้นะว่าพลางส่ายหน้าปลงๆ
“เออ ไม่ไปก็ตามใจท่านเถอะครับ ท่านฤๅษีเชิญท่านเฝ้าถ้ำของท่านต่อไปเถอะครับกระผมคงต้องขอตัวก่อน”
ไอ้นะบอกก่อนจะเก็บกระเป๋าแล้วเดินออกไป
เฮ้อ ผ่านไปอีกหนึ่งวันชีวิตการทำงานที่แสนจะราบเรียบของผม ผมกวาดของใช้ลงกระเป๋าก่อนจะเดินออกจากบริษัทเพื่อกลับห้องพักที่อยู่ถัดไปสองป้ายรถเมล์ 
ปริ๊นนนนนนน ซ่า!!!!
เสียงแตรลากยาวพร้อมกับน้ำที่สาดมาโดนตัวผมอย่างจัง คงไม่ต้องบอกนะครับว่าไอ้รถบ้านั่นมันทำอะไรกับผม
 ไอ้บ้าขับรถภาษาอะไรว่ะ ชุดนี้กะจะผึ่งแล้วใส่พรุ่งนี้ด้วยซะหน่อย ชิ (เริ่มซกมกแระ)
“ไอ้บ้าเอ้ย!!ขับรถก็แพงแมร่งไม่มีมารยาท” ผมตะโกนด่าออกไป ได้ยินไม่ได้ยินก็ช่างมัน เอาเป็นว่าอยากด่าแล้วกัน ชิ
เอี๊ยด!!
 อ้าวไอ้รถบ้านั่นดันจอดซะงั้น เกิดจะมีความรับผิดชอบอะไรขึ้นมาอีกล่ะ
“เฮ้ย โทดทีๆพอดีผมรีบน่ะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมๆกับที่ผู้ชายท่าทางเพลย์บอยเดินออกมาจากรถ
“ไม่เป็นไรหรอกแต่ทีหน้าทีหลังขับรถให้มันระวังๆหน่อยสิคุณชาวบ้านเขาจะได้ไม่เดือดร้อน” ผมอดประชดไม่ได้ ผมล่ะเบื่อไอ้พวกคนรวยแต่ทำตัวเกะกะระรานชาวบ้านเขา
“อ้าวคุณ แล้วผมจะรู้ไหมว่ามันจะมีน้ำขังตรงนี้เนี่ย หาเรื่องรึไง”
“แล้วแต่จะคิดนะครับ ผมไปล่ะไม่อยากยุ่ง มีเงินซื้อรถแพงๆขับแต่ไม่มีมารยาทในการขับรถ” ผมบอกก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นทันที แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่แค่เรื่องเล็กน้อยทำให้ผมปรี๊ดแตกขนาดนี้  บอกตามตรงว่าหมั่นไส้ครับ อธิบายไม่ถูกรู้แค่เกลียดท่าทางกวนๆของไอ้หมอนี่ชะมัดแบบนี้เขาเรียกว่า “เกลียดขี้หน้า” ใช่ไหมครับ เหอะ สาธุอย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลย

ผมเดินกลับห้องด้วยสภาพที่ไม่ต่างจากลูกหมาตกท่อระบายน้ำคิดๆแล้วเกลียดไอ้บ้านั่นชะมัด ผมเข้าห้องแล้วจัดการทำความสะอาดตัวเองเป็นการด่วนก่อนจะลงไปหาอะไรกินที่หน้าปากซอย ชีวิตของชายโสดมันจะไปมีอะไรมากครับ ผมจัดการล็อคห้องก่อนจะลงไปหาอะไรใส่ท้องที่ตอนนี้พยาธิประท้วงเพื่อเรียกร้องอาหารกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ปริ๊นนนนนนน ซ่า!!!
คุณว่าเสียงนี้มันคุ้นไหมครับคิดเหมือนผมไหมว่ามันคุ้น ไม่ใช่คุ้นแค่เสียงนะแต่น้ำเนี่ยมาเต็มๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย
“เอ๋า คุณอีกแล้วเหรอ โทดทีพอดีไม่ทันมอง” คนพูดยิ้มกวนพลางลอยหน้าลอยตาเดินเข้ามาหาผม จะเป็นใครซะอีกล่ะครับนอกจากไอ้ไส้ติ่งปลาวาฬ คนเดิมนั่นล่ะครับ แต่ผมว่าคราวนี้มันตั้งใจแน่ๆ ไอ้บ้าเอ้ย!!!
“เฮ้ย คุณมันจะมากไปแล้วนะ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง”
“ใครทำอะไรครับ มันเป็นอุบัติเหตุผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ”
“พูดแบบนี้อยากมีเรื่องใช่ไหมว่ะ ไอ้เชี่ย” ผมตะโกนออกไป ไม่ไหวแล้วครับถึงผมจะเป็นคนใจเย็นไม่ชอบมีเรื่องหรือสุงสิงกับใครแต่โดนท้าทายก่อนแบบนี้มันก็ไม่ไหวนะครับ
“โอ๊ะๆ จะทำอะไรครับ คุณบอกผมเองนะว่าให้มีมารยาทแต่ที่คุณกำลังทำมันอันธพาลชัดๆนะครับ”
ไอ้ๆ โถ่เว้ย ผมได้แต่ฮึดฮัดกับตัวเอง ก่อนจะมองไปรอบๆที่ตอนนี้ไทยมุงเริ่มมากันแล้วฝากไว้ก่อนเถอะแก เจอเมื่อไหร่จะสอยให้ร่วงเลย
“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
ผมบอกก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าซอยทันที ไม่กงไม่กินแล้วข้าวเนี่ย กลับไปต้มมาม่ากินดีกว่า เซ็งเป็ด
“เดี๋ยวสิคุณ ” คนมือไวคว้ามือผมไว้แน่น
“อะไรอีกว่ะ ”
“คุณอยู่ในซอยนี้เหรอเดี๋ยวผมไปส่งถือเป็นการไถ่โทษแล้วกัน”
“ไม่จำเป็น” ผมตอบ ใจจริงอยากจะซัดไอ้หน้ากวนๆนี้สักตั้งด้วยซ้ำ
“นี่คุณ จะเอายังไงกันแน่ครับผมไม่มีน้ำใจคุณก็ด่าผมมีน้ำใจคุณก็ไม่รับแล้วจะให้ผมทำยังไง” คนเจ้าเล่ห์มองผมก่อนจะหันไปหาเหล่าไทยมุง
“ทุกคนช่วยบอกผมหน่อยเถอะครับว่าจะให้ผมทำยังไงคุณคนนี้ถึงจะ ยกโทษให้ผม”
ทันทีที่เขาพูดจบเสียงซุบซิบก็ดังขึ้นรอบๆตัวผมเหล่าไทยมุงต่างพูดกันไปต่างๆนานาๆ เฮ้ย ผมไม่ใช่ซุปตาร์นะครับไม่ต้องเอาผมเป็นหัวข้อสนทนาก็ได้เว้ย งานงอกแล้วไงไอ้ต่อ ผมมองหน้าคนกวนก่อนจะเดินเข้าซอย
“จะมาก็รีบมา ซอยนี้รถเข้าไม่ได้” ผมตะโกนบอก
“ก็แค่นี้ ทำเป็นลีลา” เขาบ่นก่อนจะเดินตามผมมา

ผมไขกุญแจเข้าห้องพลางปรายตามองคนที่เดินตามหลังมาเงียบๆ ถ้าเขาอ่านสายตาผมออกมันคงจะบอกประมาณว่า
“มึงไปได้แล้วกูรำคาญ” ประมาณนั้นล่ะครับ แต่เหมือนมันจะไม่สนใจแหะ ยังยืนทำหน้ามึนอีก เว้ย!!
“คุณครับผมถึงห้องแล้วกลับไปสิครับ”
“นี่คุณแขกมาห้องทั้งที จะไม่เชิญเข้าบ้านหน่อยเหรอ” 
จะมาไม้ไหนอีกว่ะเนี่ย ตามไม่ทันแล้วนะเว้ย
“ไม่จำเป็นมั้งเพราะคุณไม่ใช่แขก แต่เป็นคู่กรณี ผมคงไม่ต้องเชิญคุณเข้าห้องหรอกนะครับ” ผมบอกก่อนจะเดินเข้าห้องไปโดยที่ไม่สนใจคนที่ยืนที่หน้าประตูอีก เรื่องอะไรผมจะชวนเข้าห้องล่ะครับ แค่ยืนใกล้ก็เกิดมลพิษจะแย่อยู่แล้ว ถ้าเอาเข้าห้องผมคงต้องไปทำบุญ9 วัดเลยมั้งนั่น

(ภาคฟิวส์)
ผมมองประตูที่ถูกปิดใส่หน้าอย่างไม่ค่อยพอใจนักก่อนจะเผยยิ้มออกมา ถ้าใครเห็นผมตอนนี้คงหาว่าผมบ้าไปแล้วแน่ๆเพราะเดี๋ยวก็ยิ้มเดี๋ยวก็คิ้วขมวด ผมก็บอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกันครับว่าผมเป็นอะไร แค่รู้สึกว่า คนๆนี้ “น่าสนใจ” อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นครั้งแรกที่มีคนต่อว่าผม เป็นครั้งแรกที่ผมโดนใครก็ไม่รู้ด่าฉอดๆ เป็นครั้งแรกที่ผม “ผิด”  เป็นครั้งแรกที่มีคนผลักไสผม เพราะด้วยรูปร่างหน้าตารวมทั้งฐานะของผมไม่ว่าจะหญิงหรือชายต่างวิ่งเข้าหาผมเองทั้งนั้น
 ผมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์  ไม่เคยมีใครที่ผมสนใจแล้วจะหลุดมือไปได้หรอกครับ
“หาประวัติคนที่เช่าห้อง 209 ลินดาคอนโดให้ฉันที ขอด่วนนะ” ผมกรอกเสียงลงในโทรศัพท์ก่อนจะเดินกลับไปที่รถทันที แล้วเดี๋ยวเราคงได้เจอกันอีกนะครับ

ก๊อกๆๆๆ
ผมตื่นตอนเช้าด้วยเสียงเคาะประตู ใครมาปลุกตั้งแต่เช้าว่ะเนี่ยคนจะหลับจะนอน เว้ย!! 
ก๊อกๆๆๆๆๆ   เสียงเคาะประตูยังแรงขึ้นเรื่อยๆเหมือนคนข้างนอกเริ่มจะโมโหที่ผมไปเปิดช้า  จนผมทนนอนต่อไม่ไหวต้องลุกขึ้นไปเปิดประตูทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา
เพี๊ย!!!  เสียงตบดังขึ้นพร้อมๆกับความเจ็บที่กลางหน้าผาก ทำให้ผมต้องลืมตามองผู้มาใหม่
“ตบมาได้ กูเจ็บนะเว้ย” ผมพูดทันทีที่รู้ว่าไอ้จอมมารขัดขวางการนอนในวันเสาร์แห่งชาติของผมคือ ไอ้นะ  = = เคยมีคนบอกแกไหมว่าไม่ให้มารบกวนคนตั้งแต่ 6 โมงเช้าเนี่ย
“มึงจะได้ตื่นไง ไอ้ต่อเพื่อนรัก หึหึ” ไอ้นะตอบได้หน้ากวนมากจนผมอยากจะกระถีบสักทีสองที
“ ง่วงว่ะต่อ กูนอนนะ” ปากพูดส่วนตัวก็ล้มลงนอนบนที่นอนผมทันที ไอ้นี่มันไม่เคยเกรงใจผมเลยใช่ไหมครับเนี่ย -*- ผมได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอากับเพื่อนตัวแสบอยู่กับมันทีไร ฉายา “ต่อหน้าตาย” ของผมหลุดทุกที อ้อ ตอนนี้ไม่ใช่ไอ้นะคนเดียวแล้วสิต้องบอกว่าไอ้คนไร้มารยาทคนนั้นด้วยอีกคน แล้วผมจะไปคิดถึงเขาทำไมครับเนี่ย บ้าไปแล้วแน่ๆไอ้ต่อเอ้ย
“ต่อมานอนดิว่ะเพิ่งหกโมงเองมาๆๆๆ” ไอ้คนที่นอนอยู่บนเตียงกวักมือเรียกผมโดยที่ไม่ลืมตา ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆไอ้นะ แต่อย่าเพิ่งคิดกันไปไกลนะครับ ผมกับไอ้นะเป็นเพื่อนกันจริงๆครับเพราะไอ้คนที่หลับเป็นตายเนี่ยมันมีแฟนแล้วแต่มันก็ไม่ยอมบอกสักทีว่าแฟนมันเป็นใคร

ก๊อกๆๆๆ เสียงประตูเจ้ากรรมดังขึ้นอีกจนได้ วันนี้มันวันอะไรกันว่ะทำไมขยันมาหาผมกันจัง แต่ว่าปกตินอกจากไอ้นะแล้วไม่ค่อยมีคนมาหาผมเท่าไหร่นะครับ อย่างที่เคยบอกผมเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อนไอ้เรื่องที่เพื่อนฝูงจะมาเฮฮาวันหยุดตัดไปได้เลย
“ใคร(ว่ะ)ครับ” ผมพูดทั้งๆที่ยังไม่มองหน้าก็มันง่วงนิครับ
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเป็นต่อ”  เสียงหนึ่งดังขึ้น อืมผมว่า มันคุ้นๆนะไอ้เสียงนี้อ่ะ
“นี่คุณ จะงงอีกนานไหมครับ”   
“คุณ” o.O ครับดูจากอีโมน่าจะพอเดากันออกนะครับว่า ไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างผมตอนนี้เป็นใคร ก็ไอ้คนไร้มารยาทเมื่อวานไงครับ
“เอ๋า พอหายงง แล้วตกใจอีก คุณนี่ตลกดีนะครับ ” เขาบอกก่อนจะอมยิ้ม เอ่อ คือ อะไร ยังไง แล้วไอ้นี่มาทำไม (ว่ะ)
“คะ คุณมาทำอะไรที่นี่” ผมถามทั้งๆที่ยัง งง
“เอ๋า ก็มาไถ่โทษไงคุณ ที่ผมทำความผิดร้ายแรงไว้กับคุณเมื่อวานนี้ไง” เขาบอกหน้าซื่อ แต่ผมว่าคำพูดมันเหมือนประชดเล็กๆนะ
“ไม่จำเป็น เพราะผมลืมมันไปแล้ว คุณกลับไปเถอะ ”
“นี่คุณแขกมาบ้านน่ะ แทนที่จะเชิญเข้าบ้านดันมาไล่อีก แบบนี้เขาเรียกเสียมารยาทนะครับ”
มีย้อนนะมีย้อน แล้วไอ้ที่แกมารบกวนคนอื่นตั้งแต่เช้าเนี่ย มีมารยาทมากเลยนะ
“ใครมาเหรอต่อ” เสียงที่สามดังขึ้นข้างหลังผมพร้อมกับที่ไอ้นะเดินออก ด้วยสภาพเหมือนผมเด๊ะ คือ บ๊อกเซอร์ตัวเดียว หัวเหอยุ่งสุดๆสภาพบ่งบอกมากว่ายังไม่ตื่นดี
“คนรู้จักน่ะ” ผมตอบก่อนที่คนนี้เซาจะพยักหน้าหยึกๆทั้งที่ยังไม่ลืมตา ผมหมั่นไส้เลยดีดหน้าผากไปทีหนึ่ง
 แต่ว่านี่ผมลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ
“เอ๋าคุณ มีธุระอะไรก็ว่ามาสิ ผมจะกลับไปนอน หรือมีความสุขที่ได้รบกวนชาวบ้านครับ”
“ผมขอโทษแล้วกันที่มากวนเวลาส่วนตัวของคุณกับแฟนเอาเป็นว่าผมจะมาใหม่แล้วกัน” เขาบอกก่อนจะเดินกลับไปทันที แต่เดี๋ยวนะ เลื่อนขึ้นไปอ่านประโยคเมื่อกี้สิ เขาว่าผมทำอะไรอยู่นะ

“ผมขอโทษแล้วกันที่มากวนเวลาส่วนตัวของคุณกับแฟนเอาเป็นว่าผมจะมาใหม่แล้วกัน”
เฮ้ย!!! ไอ้บ้าเอ้ย คิดมาได้ยังไงว่าผมเป็น “แฟน”ไอ้นะ แค่คิดก็ขนลุกแล้ว เหอๆไม่อยากคิดภาพตามเพราะมันเป็นอะไรที่สยองมาก


สองครั้งแล้วนะที่คนๆนี้ทำผมหัวเสีย สองครั้งแล้วนะที่เขาทำเหมือนไม่สนใจผม ขัดใจชะมัด คนอย่าง
 ภยันต์พล  เปรมบริภักดิ์  ไม่เคยมีคนปฏิเสธ หึ แต่ก็อย่างที่เขาว่า ยิ่งยากมันยิ่งท้าทายอะไรที่ผมสนใจแล้วมันต้องเป็นของผม ใครก็ไม่มีสิทธิ์แย่ง!!! ถึงแม้คนๆนั้นจะเป็นแฟนของเขาก็ตาม เพราะคนที่มีสิทธิ์เลือก คือผมคนนี้คนเดียวเท่านั้น
“ของน่าสนใจ” แบบนี้ไม่ปล่อยไปง่ายๆหรอก อย่างน้อยๆต้องเล่นจนเบื่อซะก่อน
“เฮ้ย มึงว่างไหม กูมีเรื่องปรึกษา” ผมถามทันทีที่ทีอีกคนรับสาย
“อืม คนนั้นล่ะ พอดีกูมีเรื่องให้มึงช่วยนิดหน่อย”
“ได้แล้วเจอกัน”
ผมวางสายก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ สำหรับผมแล้วไม่ค่อยสนเรื่องวิธีการที่ได้มาหรอก ผมสนแค่ ได้มาหรือเปล่าเท่านั้นเอง
อีกไม่นานเกินรอ คนจอมหยิ่งคนนั้นต้องสยบแทบเท้าผมแน่นอน









หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 9/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey Mouse ที่ 10-01-2012 06:12:34
รอติดตามอ่านต่อไปค้าบบ
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 9/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Daiice ที่ 10-01-2012 07:37:18
อ่า ชอบฟิวส์อ่ะ :กอด1:

รออ่านต่อไป อัพๆๆๆ ><
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 9/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 10-01-2012 07:59:26
ฟิวส์จะทำยังไงกับต่อน้า
ไม่สนวิธีการซะด้วย
หรือจะมอมยาแล้วข่มขืน
ม่ายยยยยยยย  :serius2:

รอ ร๊อ รอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 9/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 10-01-2012 10:56:56
ติดตาม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 9/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 10-01-2012 11:39:03
เป็นต่อจะมีแฟนกับเขาบ้างแล้ว
แต่ความคิดฟิวส์เกินจะเยียวยาจริงๆ
คิดไปได้จะแย่งของคนอื่น :a5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 9/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 10-01-2012 13:07:08
แรกก็น่ารักดีออกนะฟิวส์ ทำไมท้ายบทมันออกแนวเลวหล่ะหาาาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 9/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 10-01-2012 15:22:38
หล่อ รวย เลว ครบสูตรพระเอกในดวงใจ งุงิงุงิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 9/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-01-2012 18:00:20
กด like ให้คุณซัม o13
ชอบเหมือนกัน พระเอกหล่อ เลว ช่างเร้าใจ :m3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 1 9/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 11-01-2012 02:45:30
ตอนที่2

“ไงว่ะมึง มาหากูตั้งแต่ไก่โห่” เสียงทักดังขึ้นทันทีพร้อมกับร่างสูงที่เดินลงมาจากชั้นบน
“ทำไม กูมาหามึงไม่ได้เหรอหรือมีเมียแล้วลืมเพื่อน”
“สาดฟิวส์ ทำงอนเป็นตุ๊ดเลยนะมึง”ไอ้เซ้นส์ด่าพลางเตะขาผมเบาๆ
“แล้วนี่ พี่กันกับเด็กๆไปไหนล่ะหรือยังไม่ตื่น”
“กันน่ะตื่นแล้วล่ะ สงสัยคงอาบน้ำอยู่ข้างบน เข้าเรื่องดีกว่าไหมไอ้ฟิวส์ มาทำอะไรแต่เช้าเนี่ย”
“ก็ที่ฉันโทรมาบอกแกไง เรื่อง “ของเล่นที่น่าสนใจ”ไงเล่าแกจำไม่ได้เหรอ” ผมตอบ ไอ้นี่ท่าจะความจำเสื่อม เพิ่งคุยโทรศัพท์กันหยกๆลืมซะแล้ว
“อืม แล้วไงโดนเขาปฏิเสธมาอีกสิท่า”
“ยิ่งกว่าปฏิเสธอีก เขามีแฟนแล้ว” 
“แล้วไงว่ะ เขามีแฟนแล้วมึงก็เลิกซะสิ คนอย่าง มึง มีคนวิ่งเข้าหาตลอดเวลาอยู่แล้วแล้วจะสนใจอะไรกับคนๆเดียวว่ะ”
“ไม่มีทาง มึงดูปากกูดะนะว่า ไม่ มี ทาง !!!!” ผมตะโกนไม่รู้ว่าทำไมพอได้ยินว่าต้องปล่อยคนๆนั้นไป ผมต้องโมโหมากด้วย รู้แค่ว่าตอนนี้โมโห มาก นี่ถ้าไอ้เซ้นส์ไม่ใช่เพื่อนรักผมนะผมต่อยมันไปแล้วนะครับ
“ไอ้ฟิวส์ กูว่าท่าทางมึงเป็นเอามากแล้วนะ มึงแน่ใจนะว่าแค่ต้องการเอาชนะเขาเท่านั้น”
ไอ้เซ้นส์หรี่ตามองผมอย่างจับผิด เกิดจะมาสงสัยอะไรตอนนี้ว่ะเนี่ย
“ก็เออสิว่ะ มึงอย่าถามมากน่า เอาเป็นว่าหาทางช่วยกูหน่อยแล้วกัน”
“อ้าว ฟิวส์ มาแต่เช้าเลย” เสียงพี่กันเอ่ยทัก หลังจากที่ลงมาจากชั้นสอง
“สวัสดีครับพี่กัน แล้วนี่เด็กๆไปไหนครับ” ผมถามออกไป แหม พี่กันเนี่ยนางฟ้ามาโปรดผมแท้ๆ กำลังหาทางเลี่ยงสามีพี่บังเอิญอยากฉลาดขึ้นมา
“อ้อ เด็กๆยังไม่ตื่นน่ะ ว่าแต่มาแต่เช้าจะกินข้าวเช้าด้วยกันไหม”
“ไม่ดีกว่าครับพี่ เดี๋ยวผมกลับเลยดีกว่า ไปนะครับพี่กัน ไปนะเซ้นส์” 
ฟู่ ผมถอนหายใจอย่าโล่งอกทันทีที่ออกมาจากสายตาจับผิดของไอ้เพื่อนรักได้ แล้วทำไมผมต้องโล่งอกด้วยครับ ผมเป็นอะไรไปว่ะเนี่ย

ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงพยาธิในกระเพาะอาหารที่ส่งเสียงประท้วงว่าหิว ก่อนเหลือบมองนาฬิกาหัวเตียงที่บอกว่าตอนนี้ 10 โมงกว่าแล้ว ผมมองไอ้ตัวที่นอนอืดอยู่ข้างๆ พลางคิดถึงคำพูด ไอ้แขกไม่ได้รับเชิญเมื่อเช้า คิดได้ไงเนี่ยว่าผมกับไอ้นะเป็นแฟน กัน แค่คิดว่าผมกับไอ้นะ จะทำอะไรๆที่คนเป็นแฟนเขาทำกันแล้ว มันขนลุกแปลกๆ แล้ว ขยะแขยง ชอบกล
“ไอ้นะ ตื่นเว้ยสายแล้ว”
“อือ อย่ามายุ่งน่าเบสพี่จะนอน” ไอ้นะบอกเหมือนละเมอ เบสไหนว่ะ ได้ข่าวผมชื่อ ต่อ นะครับ แล้วเบสคือใคร ใครคือเบส ชักแปลกๆแล้วเว้ย
“ไอ้นะ ตื่นสิเว้ย!!! ” ผมตะโกนกรอกหูมัน ถ้ายังไม่ตื่นกูจะตะโกนจนมึงเป็นหูน้ำหนวกเลย คอยดู
“เออๆๆ ตื่นแล้ว ทำไมชอบปลุกพี่แต่เช้าจังห่ะเบส” ไอ้นะโวยวายทันทีที่ตื่น  นั่นไงหลุดชื่อนั้นออกมาอีกแล้ว
“มึงพูดถึงใครว่ะ ไอ้นะ”
“เฮ้ย!!! ไอ้ต่อ” 0.o
“อืมก็กูไง มึงจะตกใจอีกนานไหมได้ข่าวว่าเมื่อเช้ามึงเป็นคนขอนอนห้องกูเองนะ”
 ผมพูดพลางมองหน้าไอ้นะอย่าจับผิด ประมาณว่ามึงมีไรปิดบังตูบอกมาบัดเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเจ็บแน่
“อะ เอ่อ มึงอย่ามองกูแบบนั้นสิต่อ กูกลัวนะเนี่ย”
“ไม่ต้องมาทำเนียน มึงจะบอกกูได้หรือยังว่า เบส เป็นใคร”  ผมถาม นี่ถ้าเป็นหนังฮ่องกงคงจะประมาณว่า ผมจับไอ้นะนั่งบนเก้าอี้แล้วมัดมือ มันเอาไว้ก่อนจะชักปืนมาขู่ เพื่อให้มันยอมบอกความลับแน่ๆ
“เออๆ บอกก็ได้แต่มึงห้ามตกใจนะ”
“เออน่า บอกมาเถอะ”
“คือเบสอ่ะ คือ เอ่อ……แฟนกูเอง” ไอ้นะตอบเสียงเบา
“ก็เท่านั้น เออว่าแต่แฟนมึงชื่อแปลกดีนะ ผู้หญิงชื่อเบสเนี่ย”
“คือว่า เอ่อ แฟนกูเอ่อ ……………..เป็นผู้ชายว่ะ”
“มะ มึงว่าอะไรนะ” ผมได้ยินผิดใช่ไหมครับ ไอ้นะไม่ได้บอกว่าแฟนมันเป็นผู้ชายใช่ไหม
“มึงรังเกียจกูเหรอต่อ ที่กูเป็นเกย์”
“เอ่อ คือ เปล่านะเว้ย แต่ยังไงดีว่ะ เอาเป็นว่ากูไม่ได้รังเกียจแต่แค่ตกใจนิดหน่อยน่ะ กูขอเวลาทำใจสักพักนะ”
ผมบอกใครจะไปคิด ล่ะครับ ว่าไอ้นะจอมกะล่อนเนี่ยนะมีแฟนเป็นผู้ชาย หน้าตาท่าทางมันไม่เห็นเหมือนเกย์สักนิด แต่ของแบบนี้มันดูที่รูปร่างหน้าตาไม่ได้นิเนาะ
“ยังไงมึงก็เป็นเพื่อนกู กูคงไม่ตัดเพื่อนกับมึงเพราะเหตุผลแค่นี้หรอก”
“ขอบใจว่ะเพื่อน ที่ไม่รังเกียจกู”
“แต่ตอนนี้กูหิวมาก มึงทำกับข้าวให้กินหน่อยสิ ต่อเพื่อนรัก”
เอ่อ มึงเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วมากครับไอ้คุณเพื่อน ฮ่าๆๆ ผมได้แต่หัวเราะให้กับความติงต๊องของไอ้นะก่อนจะจัดการทำกับข้าวซึ่งก็คือ ไข่เจียวธรรมดาๆ นี่ละครับ แต่ไอ้นะ มันตั้งชื่อซะ หรูว่า “ไข่เจียวรวมมิตร(ภาพ)” เอากะมันสิ



เช้าวันจันทร์ที่แสนวุ่นวายไม่อยากให้มาถึงเลยให้ตายสิโรบิ้น นี่ดีนะครับที่ห้องผมอยู่ใกล้ที่ทำงานเลยไม่ต้องเจอรถติดเหมือนคนอื่นๆ ผมจัดการอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะเดินไปทำงาน  หวังว่าวันนี้คงไม่เจอคนอะไรเซ็งๆอีกหรอกนะครับ
“ต่อมาพอดีเลย วันนี้ผู้จัดการคนใหม่จะเข้ามาทำงานนะ อีก15 นาทีเจอกันที่ห้องประชุม” พี่นิดสาวเก่งประจำแผนกบอกผมทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะทำงาน
“ครับ”ผมตอบเสียงเรียบ ก่อนจะจัดการกับงานบนโต๊ะต่อ


“เฮ้ยไอ้ต่อ พี่นิดให้มาเรียกไปห้องประชุมน่ะ” ไอ้นะตัวแสบเดินมาเรียกผมก่อนจะลากผมไปที่ห้องประชุมทันทีท่ามกลางสายตาแปลกๆของคนในแผนก ก็จะอะไรซะอีกละครับ ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าไอ้นะน่ะมันเป็นพวกโลกสดใส ยิ้มง่ายยังกะคนบ้าส่วนผม ก็ยิ้มยาก จนใครๆไม่ค่อยอยากสุงสิงด้วย แล้วพอผมกับไอ้นะ สนิทกัน ทุกคนในแผนกแทบจะเรียกว่าสิ่งมหัศจรรย์เลยนะครับ
“มาแล้วคร้าบ” ไอ้นะตะโกนบอกทุกคนหลังจากที่เปิดประตูไปในห้องประชุม ก่อนที่พวกผมจะนั่งรอ ผู้จัดการคนใหม่ที่ผมแอบได้ยินสาวๆในแผนกเขาพูดว่าเป็นลูกชายของ คุณ ภยันต์ภักดิ์  เจ้าของบริษัทด้วยนะครับ เหอะ ก็คงหนีไม่พ้นไอ้พวกลูกท่านหลานเธอ  เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อเหมือนเดิมล่ะมั้ง
“ขอโทษที่ทำให้ทุกคนรอนานนะครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับที่ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
“เอาล่ะทุกคน นี่คุณ ภยันต์พล  เปรมบริภักดิ์  ผู้จัดการคนใหม่ของพวกเราจ๊ะ” พี่นิดแนะนำคุณผู้จัดการคนใหม่ให้พวกเรารู้จัก แต่ทำไมผมรู้สึกคุ้นหน้าอีตาผู้จัดการจังเลยครับเคยเจอที่ไหนรึเปล่าหว่า
อืม เดี๋ยวนะครับขอคิดก่อน  ปากแบบนี้ จมูกแบบนี้ หน้าแบบนี้  เฮ้ย!!!! 0.o นะ นี่ มัน มัน คือ
“คุณ!!!!”  ผมตะโกนขึ้น จนทุกคนในห้องประชุมมองผมเป็นตาเดียว 
“ไอ้ต่อตะโกนทำไมว่ะ ละเมอเหรอ” ไอ้นะกระซิบเบาๆ
“เอ่อคือ ขอโทษครับ” ผมบอกออกไป เฮ้อ ไอ้ต่อนะไอ้ต่อดันคิดซะดังเลย เกือบซวยแล้วไหมเล่า เพราะไอ้คุณผู้จัดการแท้ๆ ทำไมโลกมันต้องกลมขนาดนี้ด้วยครับ คนหล่อไม่เข้าใจ
“เอาล่ะครับ ทุกคนกลับไปทำงานได้” ผู้จัดการบอก เฮ้อ ได้โอกาสเลี่ยงแล้วเว้ย ไอ้ต่อ รีบเลยดีกว่า
“เดี๋ยวครับ คุณที่ตะโกนเมื่อกี้น่ะ ตามผมไปห้องทำงานด้วยนะครับ” เขาสั่งเสียงเฉียบต่างจากมาดจอมกวนที่ผมเคยเจอ จะมาไม้ไหนกันเนี่ย  ผมได้แต่จำใจเดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ เจ้านายสั่งก็ต้องทำใครใช้ให้เรากินเงินเดือนเขาอยู่ล่ะ ด่าเขาไว้ตั้งเยอะจะโดนไล่ออกไหมว่ะเนี่ย
“เชิญเข้ามาสิครับคุณเป็นต่อ”
“ครับ” ผมตอบก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานทันที
“ผู้จัดการมีอะไรจะใช้ผมเหรอครับ”
“แหม คุณใจคอจะเป็นทางการไปถึงไหนเนี่ย ไม่อึดอัดเหรอครับ”
เขาถามท่าทางสบายๆ ยังไงกันแน่ เมื่อกี้ยังวางมาดอยู่เลยนะแล้วนี่ยังไง งง นะครับ เนี่ย
“ไม่ดีหรอกครับ คุณเป็นหัวหน้าส่วนผมเป็นลูกน้อง พูดจาสนิทสนมกันมันคงไม่เหมาะ”
“ฮ่าๆๆ แหมคุณแล้วไอ้ที่คุณด่าผมฉอดๆ วันก่อนน่ะมันดูไม่สนิทสนมเลยเนาะ”
“วันก่อนคือวันก่อนครับที่ทำไปเพราะผมไม่รู้ว่าคุณเป็นหัวหน้าถ้าคุณโกรธผมก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวไปทำงานนะครับ” 
“เดี๋ยวคุณก็รู้ เราสองคนจะสนิทสนมกันยังไง เชิญกลับไปทำงานได้แล้วครับ”


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: ขอบคุณสำหรับเสียงตอบรับนะคะ
มีอะไรก็ติก็ชมได้เน้อ แหะๆ รู้สึกช่วงนี้ตัวเองป่วงๆ เนื้อเรื่องอาจป่วงๆ มึนๆไปบ้าง
อย่ารมณ์เสียนะคะ :L1:


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 2 11/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 11-01-2012 08:09:39
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 2 11/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 11-01-2012 10:30:03
อยากจะรู้เหมือนกันจ้าคุณผู้จัดการว่าจะจับตัวเป็นต่อได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 2 11/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 11-01-2012 10:38:38
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 2 11/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 11-01-2012 15:31:06
เป็นต่อ ไม่รอดมือฟิวส์แล้วล่ะเธอ
จะรอดูฟิวส์ใช้กลยุทธ์ในการรจีบ และเอาชนะใจเป็นต่อ อิ อิ เตรียมใจสนุกจ้ะพิตต้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 2 11/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey Mouse ที่ 11-01-2012 22:58:10
เอาแล้วสิเป็นต่อ
  รอลุ้นต่อไปค้าบบบ
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 2 11/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 11-01-2012 23:33:06
จะหนียังไงน๊อออ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 2 11/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 13-01-2012 12:34:28
ตอน3


เคร้ง!!!  เสียงแก้วกาแฟที่ผมวางลงบนโต๊ะพร้อมกับความโมโหของผมทำให้คนที่ยืนข้างๆถึงกับสะดุ้ง
“มึงเป็นไรว่ะไอ้ต่อ วางดีๆก็ได้แก้วน่ะ”
“กูเบื่อมึงเข้าใจไหม ว่ากูเบื่อ” ผมตะโกนอย่างเหลืออด ไม่ไหวแล้วครับแค่ไอ้ผู้จัดการนั่นมาทำงานที่นี่ก็ใช้งานผมอย่างกะทาส ได้ข่าวว่าเขาเลิกทาสไปนานแล้วนะ วันๆแค่ทำงานผมก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้วยังต้องโดนเจ้านายบ้าอำนาจสั่งให้ชงกาแฟวันละสิบๆรอบ เบื่อครับเบื่อ นี่เขาโกรธผมอะไรนักหนาครับเนี่ย แค่เตือนไปไม่กี่ประโยคเอง ไอ้ผู้จัดการใจแคบ ไม่รู้จักแยกแยะ
“เป็นต่อ ผู้จัดการให้พี่มาตามน่ะเห็นหายไปนาน”  พี่ฝน เลขาสุดสวยของไอ้ท่านผู้จัดการใจแคบเดินมาบอกผม
“ต่อ กูว่ามันแปลกๆแล้วนะเว้ย” ไอ้นะหันมากระซิบกับผม
“แปลกยังไงว่ะ”
“อ้าว เสือกโง่อีก มึงไม่สังเกตเหรอว่าผู้จัดการเรียกใช้มึงตลอดกูว่าผู้จัดการต้องคิดอะไรกับมึงแน่นอน” 
“มึงก็คิดได้เนาะ ควาย เขากำลังแกล้งกูมากกว่าที่กูไปด่าเขาวันนั้น”
คิดได้ไงกัน ดูยังไงๆไอ้คุณผู้จัดการก็ไม่น่าจะเป็นเกย์นะครับ และผมก็คิดว่าตัวเองไม่น่าจะมีเสน่ห์กับเพศเดียวกันขนาดนั้นขนาดไอ้นะมันเป็นเกย์มันยังไม่สนผมเลย จริงไหมครับ
“มึงเชื่อกูบ้างเถอะน่า”
“ไร้สาระน่ะไปทำงานได้แล้วกูจะไปชงกาแฟ” ผมบอกก่อนจะพาตัวเองไปที่ห้องชงกาแฟทันที

ก๊อกๆๆๆ
“เชิญ” 
“กาแฟได้แล้วครับ” ผมบอกก่อนจะวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะทำงาน ตัวใหญ่
“เดี๋ยวก่อนครับคุณเป็นต่อ อยู่ก่อนเผื่อต้องชงใหม่” ผมหยุดก่อนจะมองอีกคนอย่างอาฆาตแค้นถ้าผมมีพลังจิตนะ ผมจะทำให้กาแฟหกใส่หน้าท่านผู้จัดการหย่ายยยยยยยย สักทีสองทีคงซะใจพิลึก
“ไปชงมาใหม่” เขาบอกเสียงเรียบพร้อมกับมาดผู้จัดการ อะไรกันหนักหนาว่ะ
ปัง!!! 
ผมตบโต๊ะทำงานทันทีไม่ไหวแล้วครับขีดจำกัดความอดทนของผมมันหมดไปแล้วผมไม่ใช่ เลขา หรือแม่บ้านที่วันๆจะมีหน้าที่ชงกาแฟ ผมมีงานอื่นที่ต้องทำถ้าจะแกล้งกันขนาดนี้ผมก็ไม่อยู่เหมือนกันคุณอาจจะว่าผมงี่เง่าแค่โดนแกล้งแค่นี้ถึงกับจะลาออก แต่ถ้าคุณมาเป็นผมคุณจะรู้ว่ามันน่าเบื่อมากแค่ไหนที่วันๆต้องมานั่งชงกาแฟเป็นสิบๆแก้วแบบนี้
“คุณต้องการอะไรกันแน่คุณภยัตร์พล”
“คุณจะแกล้งผมไปถึงเมื่อไหร่ หรือจะแกล้งจนผมลาออกเลยใช่ไหม”
เขายังนิ่งและก้มหน้าทำงานไปเรื่อยๆโดยที่ไม่สนใจผมสักนิด เว้ย!! จะบ้าตายไอ้นี่มันคิดอะไรของมันอยู่กันแน่ว่ะ จะแกล้งอะไรผมนักหนาโตๆกันแล้วพูดๆมาซะทีสิว่ะ มันอึดอัด ผมได้ฮึดฮัดในใจ เพราะคู่กรณียังนิ่งไม่เลิก ได้ๆๆอยากเล่นสงครามประสาทใช่ไหม งั้นเชิญเล่นไปคนเดียวเถอะ
“ถ้างั้นผมลาออก แค่นี้คงพอใจใช่ไหมครับ” ผมบอกออกไป เขาชะงักเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองผมช้าๆ
“อืมก็ดีครับ พนักงานที่เอาแต่อารมณ์อย่างคุณบริษัทไม่ต้องการ” เขาบอกเสียงเรียบเหมือนเดิม สายตานิ่งใต้กรอบแว่นทำให้ผมนึกถึงสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองผมวันนั้น คนๆนี้คือคนเดียวกับที่ผมเจอเมื่ออาทิตย์ก่อนจริงๆหรือเปล่า ถ้าเทียบกันแล้วผมว่าคุณภยันตร์พลแบบเมื่ออาทิตย์ก่อนยังดีกว่าไอ้คุณผู้จัดการตอนนี้ตั้งเยอะอย่างน้อยก็ไม่มีรังสีกดดันขนาดนี้
“ได้ แล้วหวังว่าเราจะไม่เจอกันอีกนะ”
“เหอะ ผมดูไม่ผิดจริงๆ คุณมันก็แค่พวกจับจด” เขายังคงโทนเสียงเหมือนเดิมเป๊ะ แต่ตอนนี้ปรอทวัดความอดทนผมใกล้จะแตกอีกแล้ว
“แล้วคุณจะเอายังไงกับผม” ผมถามออกไปพลางกำมัดแน่น
“มาเป็นเลขาผมสิ”
ห่ะ เมื้อกี้เขาว่าอะไรนะครับ ผมฟังไม่ทัน เลื่อนขึ้นไปบรรทัดบนใหม่อีกทีสิ
“คุณพูดว่าไงนะ”
“ผมบอกว่ามาเป็นเลขาส่วนตัวผมคุณไม่ได้ยินเหรอ”
“คุณต้องการอะไร ผมจบการตลาดไม่ได้จบเลขาคงเป็นไม่ได้หรอกและผมก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเป็นเลขาคุณ”
เดี๋ยวๆๆผมว่าเขากำลังหลงประเด็นนะครับผมไม่ได้มาของานเลขานะเว้ย ผมมาขอลาออก
“จำเป็นสิ เพราะตอนนี้คุณลาออกจากการเป็นพนักงานบริษัทนี้แล้วนะ แต่เท่าที่ผมรู้ตอนนี้ทางบ้านคุณกำลังมีปัญหานะครับ หรือคุณจะยอมตกงานล่ะ งานสมัยนี้มันหายากนะครับ”


(ภาคฟิวส์)

เด็กน้อยของผม เอ๊ะ ของผมเหรอ อืมช่างเถอะ อึ้งทันทีที่ผมยื่นขอเสนอออกไป หึหึ เท่าที่ผมสืบมาตอนนี้ทางบ้านเขาค่อนข้างมีปัญหาเรื่องเงิน เขาไม่มีทางลาออกจากงานเด็ดขาดและไม่มีทางปฏิเสธผมแน่นอน
“ว่าไงครับคุณเป็นต่อ”
“คุณต้องการอะไรกันแน่คุณภยันตร์พล ผมไม่เข้าใจว่าคุณทำแบบนี้ทำไมกัน”
ดูท่าทางเขาจะโกรธผมมากนะครับนั่น แต่ใครจะสนผมสนแค่ แผนที่วางไว้สำเร็จเท่านั้น คนอย่างภยันต์พลไม่เคยขาดทุน
ไม่ว่าจะเกิอะไรขึ้นผมต้องได้ในสิ่งที่อยากได้
“ผมให้เวลาคุณคิด สามวันไปเก็บของได้แล้วครับ คุณไม่ใช้พนักงานของที่นี้อีกต่อไปแล้ว เชิญ” ผมบอกเสียงเรียบก่อนจะเงยหน้ามองอีกคน ภายใต้ใบหน้าโกรธทำไมผมเห็นความอ่อนแอในตาคู่นั้นกันนะ
“ครับคุณผู้จัดการหวังว่าเราคงไม่เจอกันอีกนะครับ”
หลังจากที่เป็นต่อออกไปแล้วผมรีบโทรหากุนซือผมทันที จะใครล่ะครับถ้าไม่ใช่ไอ้เซ้นส์
“ไงมึงมีเรื่องอะไรอีก ถึงโทรมาหากูเนี่ย”
“เปล่ากูแค่จะโทรมาบอกว่าปลาติดเบ็ดแล้วว่ะ ต่อเขาลาออกแล้วนะเว้ย”
“แล้วมึงทำไงต่อว่ะ”
“ก็แค่รอ รอให้ต่อมาของานกูทำไง”
“มึงคิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเหรอว่ะ ยังไงๆ คุณเป็นต่อเขาก็เป็นผู้ชายนะเว้ยเขาคงไม่ยอมมาง้อมึงหรอก ไม่เชื่อมึงคอยดู”
“เออน่า กูว่าเขาต้องมาสิ”
“แล้วท่าเขาไม่มาล่ะ”
“กูก็ปล่อยไงเรื่องไรคนอย่ากูต้องไปนั่งง้อ ของเล่น ด้วยว่ะ”
“ให้มันจริง กูต้องวางแล้วนะภรรเมียกูเรียกแล้วไปล่ะ อ้อ กูบอกมึงไว้อย่างนะ มึงแน่ใจเหรอว่าตัวมึงคิดกับคุณเป็นต่อเขาแค่เล่นๆถามใจมึงให้ดีนะฟิวส์ ว่ามึงคิดกับเขาแบบไหนกันแน่”
“เออ จะไปก็รีบไป พล่ามอยู่ได้”
นั่นสินะ นับวันผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองจะทุ่มเทเหลือการกับการแยกต่อ ออกจากแฟน ทำไมผมต้องคิดแผนมากมายเพื่อให้ได้เขามาอยู่ข้างๆ แรกๆผมมองว่ามันคงสนุกดีที่ปราบพยศคนๆนี้ได้แต่หลังจากที่มองเห็นแววตาเศร้าๆของต่อเมื่อกี้ทำไมใจผมต้องสั่นแบบนั้นด้วยล่ะครับ ผมไม่เข้าใจว่าตอนนี้ตัวเองเป็นอะไร ผมไม่เคย “รัก” เพราะไม่คิดที่จะรักใคร ผมไม่เชื่อเรื่องรักแท้ ไม่เชื่อว่าโลกนี้มีรักแรกพบ แต่ตอนนี้ล่ะ ผมควรเชื่อแล้วหรือยัง

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 3 13/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 13-01-2012 12:50:39
น่าน ๆ หลงรักเป็นต่อซะแล้วล่ะ แต่ด้วยที่ผ่านๆมา ก็แค่คิดเล่นๆกับทุกคน
พอตอนนี้ ก็ยังวางฟอร์มไม่ลง เลยยังปากแข็ง ระวังเทอะ จะใสเจีย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 3 13/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey Mouse ที่ 13-01-2012 20:47:05
ตกหลุมรักนายเป็นต่อเข้าซะแล้วนะคุณผู้จัดการ
รอลุ้นต่อไปค้าบบบ
 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 3 13/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-01-2012 21:38:21
สั้นอ่ะตอน นี้ ฮื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค้างคา เอาอีกๆ สงสารต่อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 3 13/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 13-01-2012 21:52:57
ถ้าเป็นต่อไม่มาง้อจริงๆ
แล้วจะรู้สึกน่ะคุณเจ้านาย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 3 13/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-01-2012 22:04:31
ขอให้ต่อได้งานใหม่ทันทีและเจอเจ้านายที่หล่อ แสนดี น่ารัก ไม่เหมือนแก 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 4 14/1/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 14-01-2012 02:32:30
ตอน 4
ตอนนี้ผมนอนตีพุงที่ห้องหลังจากที่ลาออกได้สามวัน และไม่มีทางกลับไปทำงานเป็นเลขาส่วนตัวให้คนแบบนั้นแน่นอน ผมมีศักดิ์ศรีพอและจะไม่ยอมก้มหัวให้คนใจแคบแถมยังบ้าอำนาจแบบนั้นเด็ดขาด แค่โดนผมด่าไม่กี่คำกลับหาทางแกล้งสารพัด แต่ไปๆมาๆผมก็ต้องเริ่มต้นหางานใหม่อีกแล้วใช่ไหมครับเนี่ย เฮ้อ งานยิ่งหายากๆด้วย สงสัยคงต้องไปล้างจานร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วมั้งผม
ก๊อกๆ
ผมรีบลุกไปเปิดประตูทันที คนเดียวนั่นแหล่ะครับ ไอ้นะเจ้าเก่าเจ้าเดิม สงสัยจะเลิกงานแล้ว
“ไงมึง สบายไหมนอนเฉยๆ”
“เชี่ยนะ มึงมาก็ดีแระกูหิวซื้อไรมาฝากกูบ้างเนี่ย”
“อ่ะ ข้าวมันไก่เอาไปกินไป๊” ไอ้นะบอกพลางโยนห่อข้าวมันไก่ให้ผมก่อนจะนั่งลงบนตียง
“อ้าวแล้วมึงไม่กินเหรอ” ผมถามอย่างแปลกใจเพราะข้าวมันไก่มีห่อเดียว อย่าคิดจะมาแย่งของกินกะท่านต่อนะเว้ย ไม่ยอมเด็ดขาดถึงมันจะเป็นคนซื้อก็ตาม
“พอดีกูกินมาแล้วน่ะ”
“กะแฟนมึงเหรอ”
“อืม” มันตอบรับเบาๆ  ทำเอาผมรู้สึกผิดขึ้นมาซะงั้นอ่ะ ก็สามวันนี้มันดูแลผมตลอดเลย ไหนจะทำงานอีกถ้าผมเป็นแฟนมันผมก็น้อยใจเหมือนกันครับ
“มึงทะเลาะกับแฟนเพราะกูเหรอ”
“เปล่าหรอก มึงอย่าคิดมากดิ”
“นะกูขอบใจมากนะ ที่มึงอยู่เป็นเพื่อนกูแต่กูว่ามึงกลับไปง้อแฟนมึงดีกว่าเชื่อกูดิ กูดูแลตัวเองได้ ” ผมบอกมันใจจริงก็ดีใจนะครับที่มันห่วงแต่ผมน่ะโตจนจะมีเมีย???อยู่แล้วก็เป็นผู้ชายด้วย ผมดูแลตัวเองได้แน่ (แฟนนะก็เป็นผู้ชายนะต่อ:พิตต้า)
“งั้นกูไปนะ” ไอ้นะบอกก่อนจะวิ่งออกจากห้องผมไปทันที เฮ้อ บางทีคนมีแฟนมันก็น่าอิจฉานะครับถึงจะทะเลาะกันบ้าง งอนกันบ้าง ก็ยังมีคนให้คิดถึงให้เป็นห่วง แล้วนี่ผมเวิ่นอะไรว่ะ แทนที่จะคิดเรื่องหางานใหม่ดั๊นคิดเรื่องหาแฟน
ก๊อกๆๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกรอบสงสัยไอ้นะจะลืมของมั้งครับ
“ลืมอะไรเหรอนะ”
“อ้าวเฮ้ย!! คุณ”   ผมมองคนมาใหม่ด้วยสายตา อึ้งปน งง นิดๆ คือยังไงล่ะครับ นี่มันสองครั้งแล้วนะที่เขามาห้องผมแต่จะว่าไปเขามาทำไมล่ะครับ
“ครับ ผมเอง” ว่าพลางผลักประตู้แล้วเดินเข้ามาทันทีโดยไม่ถามความเห็นเจ้าของห้องอย่างผมสักนิด
“เดี๋ยวสิคุณภยันตร์พล คุณมาทำไมครับ”
“แหมคุณ เรียกซะห่างเหินเลย เรียกผมว่าฟิวส์ดีกว่านะ” เขาบอกก่อนจะยิ้มแฉ่ง เอ่อ มาไม่ไหนอีกว่ะครับ วันก่อนยังเปล่งรังสีฆ่าฟันใส่ผมอยู่เลยวันนี้มาทำยิ้มให้ เอ่อ กระผม งงกับท่านมากครับ
“ผู้จัดการครับ ถ้าจะมาก่อกวนเชิญกลับไปเถอะครับ ผมก็ลาออกแล้วจะเอาอะไรกับผมอีก” ผมบอกอย่างเหลืออดคนๆนี้ต้องการอะไรจากผมกันนะ ถึงตามรังควานผมอยู่ได้
“ผมมาเอาคำตอบ”
“คำตอบอะไรครับ”
“ก็คำตอบว่าคุณจะไปเป็นเลขาส่วนตัวของผมหรือเปล่าไง”
หือ เท่าที่จำได้ผมบอกเขาแล้วนะครับว่าจะไม่ไปทำงานกับเขาอีกแล้วจะเอาอะไรกับผมนักหนาเนี่ย
“ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะว่าไม่มีทางกลับไปทำงานอีก”
“ผมให้โอกาสคุณอีกครั้ง ”
“จะกี่ครั้งผมก็ยืนยันคำเดิมครับว่าไม่มีทางไปกลับไปทำงานกับคุณ”
“ขอเชิญคุณกลับไปได้แล้วครับคุณ ภยันตร์พล เชิญ” ผมไล่ก่อนจะผลักเขาออกมาจากห้องทันทีเฮ้อ ชีวิต อะไรนักหนาเนี่ย
เอาว่ะไอ้ต่อ ลงมือหางานใหม่ดีกว่านั่งเฉยๆเดี๋ยวอดตาย



(ภาคฟิวส์)

หลังจากที่ถูกไล่ออกมาผมก็ขับรถไปเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมาย เฮ้อ ตอนนี้แผนทุกอย่างมันรวนไปหมดแล้วครับ  ทำไมมันยากขนาดนี้ว่ะเนี่ย หรือผมแกล้งเขาเยอะไปหน่อยก็ผมอยากเจอหน้าต่อนิครับ จะให้ผมทำยังไงเล่า   ตอนนี้ปัญหาสำคัญมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วแต่มันอยู่ที่ความรู้สึกของผมตอนนี้ตะหาก ผมคิดยังไงกับต่อกันแน่นะ ไม่เข้าใจเลยเว้ย รู้แค่ว่าสามวันที่ไม่ได้เห็นหน้ามันทรมานชะมัด เฮ้อ ถอนใจกี่รอบของวันแล้วว่ะเนี่ยไอ้ฟิวส์ 
ผมแวะร้านกาแฟที่บรรยากาศดีร้านนึง เอาเป็นว่าขอนั่งวางแผนต่อสักพักดีกว่า
“เบส เมื่อไหร่จะหายงอนเนี่ย”
“ผมไม่ได้งอนพี่นิ”
เสียงคุยที่ไม่เบานักดังมาจากโต๊ะข้างๆ เฮ้อ ไม่มีความเกรงใจกันเลยนะครับเนี่ย คนยิ่งกลุ้มๆอยู่
“เบส  พี่ขอโทษนะแต่ช่วงนี้ไอ้ต่อมันเดือดร้อนจริงๆ เบสเข้าใจพี่บ้างได้ไหม” ชื่อของบุคคลที่สามทำให้ผมตั้งใจฟังทันที อย่าบอกนะว่า ต่อ ที่ว่าหมายถึงเป็นต่อ
ด้วยความอยากรู้ ผมเลยต้องแอบมองซะหน่อย เฮ้ย! นั่นมัน แฟนเป็นต่อไม่ใช่เหรอ ว่ะนั่น แล้วทำไมถึงมานั่งอยู่กับผู้ชายอีกคนได้ว่ะ หรือว่านายคนนี้กำลังหลอกเป็นต่ออยู่ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แค่คิดว่า คนๆนี้จะทำให้เป็นต่อเสียใจผมก็โกรธขึ้นมาซะเฉยๆ รู้ตัวอีกทีขามันก็เดินไปที่โต๊ะที่สองคนนั้นนั่งอยู่แล้ว
ปัง!!!
ผมตบโต๊ะเสียงดังจน อีกสองคนสะดุ้ง ก่อนจะแผ่รังสีกดดันที่ไอ้เซ้นส์บอกว่าเป็นความสามารถเฉพาะตัวของผมออกมา
“ผู้จัดการ สวัสดีครับ” คนที่ชื่อณนนท์ ทักผมด้วยท่าทางกล้าๆกลัว ๆ
“ผมขอคุยกับคุณหน่อยได้ไหม” ผมบอกเสียงเรียบ
“คุณมีอะไรกับแฟนผมเหรอครับ” ไอ้เด็กที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้น ท่าทางเอาเรื่องไม่เบาครับ แต่ตอนนี้คนที่ผมต้องการพูดด้วยคืออีกคนไม่ใช่ไอ้เด็กนี่
“ว่าไงครับคุณ ณนนท์”
“มีอะไรก็พูดตรงนี้ดีกว่าเพราะผมกับพี่นะไม่เคยมีความลับต่อกัน” ไอ้เด็กนั่นพูดก่อนจะมองผมตาขวาง ได้ในเมื่อให้พูดผมก็จะพูด
“คุณทำแบบนี้ได้ยังไงคุณณนนท์ คุณเป็นแฟนกับเป็นต่อไม่ใช่เหรอแล้วทำไมถึงมาอยู่กับเด็กนี่ได้ล่ะ”  อึ้งสิครับ ทั้งนาย
ณนนท์ ทั้งไอ้เด็กนั้น
“เดี๋ยวๆๆ ผู้จัดการหมายความว่าไง ผมเนี่ยนะครับเป็นแฟนไอ้ต่อ ฮ่าๆๆ แค่คิดก็ขำแล้วครับ” เขาว่าพลางกุมท้องหัวเราะอย่างกับคนบ้า ผมพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอครับ
“ฟังดีๆนะครับ ผู้จัดการ ผมนายณนนท์ไม่ใช่และก็ไม่มีทางใช่แฟนของไอ้ต่อเด็ดขาด ถึงผมจะเป็นแบบนี้แต่กับไอ้ต่อเนี่ยไม่ไหวจริงๆครับ แล้วก็ตอนนี้แฟนผมมีคนเดียวคือคนนี้ครับ” เขาบอกสีหน้าจิงจังก่อนจะชี้ไปที่ไอ้เด็กที่นั่งตรงข้าม
“คุณพูดจริงเหรอ”
“ครับ ผมจะโกหกผู้จัดการทำไมล่ะครับ”
ผมยิ้มทันทีที่รู้ความจริงซึ่งจริงๆมันผิดวิสัยคนอย่างผมมากเพราะน้อยครั้งมากที่ผมจะยิ้มกว้างขนาดนี้ ไม่รู้สิครับแค่รู้ความจริงว่าเป็นต่อยังไม่มีแฟนผมก็ดีใจจนหุบยิ้มลงไม่ได้
“ผู้จัดการครับ”
“ว่าไงคุณ ณนนท์”
“ผมถามจริงๆนะครับ คุณชอบไอ้ต่อมันใช่ไหม”
“ไม่รู้สิ ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเพราะผมไม่เคยชอบใครมาก่อน” ผมตอบตามความจริงเพราะตอนนี้ผมไม่รู้จริงๆว่าผมรู้สึกยังไง
“แหม ผู้จัดการเอางี้นะครับ ถ้าก่อนหน้านี้ผมตอบว่าผมเป็นแฟนไอ้ต่อผู้จัดการจะทำยังไงเหรอครับ”
“ผมก็คงต่อยคุณไปแล้วมั้ง”
“งั้นดูนี่ดีกว่าครับ” เขาล้วงโทรศัพท์ของตัวเองออกมาก่อนจะเปิดภาพๆนึงให้ผมดู  ภาพของเป็นต่อที่กำลังหอมแก้มผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ตอนนี้ถ้าตัวผมเป็นกาน้ำร้อนคงมีเสียงเตือนว่าเดือดเต็มที่แล้วครับ ผมรู้แค่ตอนนี้โกรธ แล้วก็ไม่พอใจมากๆ มากจนจะฆ่าไอ้คนนั้นได้เลยนะครับ
“เอ่อ ผู้จัดการอย่าทำหน้าเหมือนจะฆ่าคนแบบนั้นสิครับผมกลัว”  ณนนท์ บอกผมเบาๆ
“สงสัยพี่แกจะหึงจัดน่ะ พี่นะ นี่แค่เห็นรูปนะถ้าไปเจอพี่ต่อหอมแก้มคนอื่นจริงๆคงฆ่าคนตายมั้งน่ะฮ่าๆๆ” ไอ้เด็กปากเสียที่เงียบไปนานพูดขึ้น
“ใจเย็นครับผู้จัดการ คือคนนี้น่ะพี่ชายไอ้ต่อมันครับ แหะๆ ผมว่าผู้จัดการโคตรจะชัดเจนเลยนะว่าชอบไอ้ต่อมันทำไมไม่จีบเลยล่ะครับ”
“จีบเหรอ”
“ครับ จีบเลย”

ผมกลับมาถึงบ้านด้วยความสับสน นี่ผมต้องจีบจริงๆเหรอครับ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยจีบใครเลยแล้วก็จีบไม่เป็นด้วย แถมทุกวันนี้เป็นต่อยังเกลียดผมเข้าไส้อีก เฮ้อ แล้วผมจะจีบติดไหมล่ะครับเนี่ย T^T



------------------------------------------------------------------------------------


คือแค่จะมาบอกว่า มีตอนพิเศษ โอ๋ ตอง มาให้อ่านค่ะ ใครคิดถึง อีตาหมวดจอกกวนกะน้องตอง ดราม่า
กดไปอ่านเลยนะจ๊ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28796.300
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 4 14/1/2012 p2 (พิเศษโคตร หมวดโอ๋ น้องตอง)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-01-2012 07:31:45
ฟิวส์ทำเขาไว้เยอะ
อยากรู้จริงฟิวส์จะจีบแบบไหน
โฮะๆๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 4 14/1/2012 p2 (พิเศษโคตร หมวดโอ๋ น้องตอง)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 14-01-2012 07:35:10
จะจีบต่อยังไง รอดูนะฟิวส์

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 4 14/1/2012 p2 (พิเศษโคตร หมวดโอ๋ น้องตอง)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 14-01-2012 09:13:25
รอว่าฟิวส์จะทำยังไงกับต่อ ไปจีบแบบนะบอกก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 4 14/1/2012 p2 (พิเศษโคตร หมวดโอ๋ น้องตอง)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 14-01-2012 09:23:51
ต้องจีบแบบโหดๆสิ
จะได้เข้ากับคาเเรคเตอร์
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 4 14/1/2012 p2 (พิเศษโคตร หมวดโอ๋ น้องตอง)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-01-2012 09:47:49
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 4 14/1/2012 p2 (พิเศษโคตร หมวดโอ๋ น้องตอง)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 14-01-2012 10:17:50
 :man1:

ขอตามคู่นี้ด้วยคนไม่รู้เป็นต่อจะใจอ่อนเมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 4 14/1/2012 p2 (พิเศษโคตร หมวดโอ๋ น้องตอง)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 14-01-2012 10:49:21
สมน้ำหน้า ทำตัวเอง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 4 14/1/2012 p2 (พิเศษโคตร หมวดโอ๋ น้องตอง)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-01-2012 11:15:33
ก็อย่างว่า คนเค้าไม่เคยจีบใคร แต่เกือบสายไปซะแล้วไหมล่ะฟิวส์ :z3:
แต่ไงก็เดินหน้าเชียร์เต็มที่นะ :ped149:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)อาจเป็นรัก ตอน 4 14/1/2012 p2 (พิเศษโคตร หมวดโอ๋ น้องตอง)
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey Mouse ที่ 14-01-2012 12:50:01
เอาใจช่วยพี่ฟิวส์
  รอลุ้นต่อไปนะ ว่าเค้าจะจีบกันยังไง
       :ped149:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 4 14/1/2012 p2 (พิเศษโคตร หมวดโอ๋ น้องตอง)
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 15-01-2012 04:11:36
ตอนที่ 5


“สวัสดีครับบริษัท xyzใช่ไหมครับ คือผมอยากสอบถามเรื่องรับพนักงานน่ะครับ”
“อ้อ เต็มแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
เฮ้อ นี่มันบริษัทที่5แล้วนะครับที่ปฏิเสธผม ทำไมงานมันหายากแบบนี้นะครับ โทรไปถ้าไม่เต็ม ก็หมดเขตสมัครแล้วหรือไม่ก็เดี๋ยวเราติดต่อกลับไป ร้อยทั้งร้อยมันคือการปฏิเสธแบบแบบนุ่มนวล กลุ้มๆๆ เงินชดเชยก็ไม่ได้เพราะผมลาออกด้วยเหตุผลที่ไม่สมควร เอาไงดีครับเนี่ย กลุ้มๆๆๆ เบื่อ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะตายอยู่แล้วนะ
“ก็รู้ว่าฉันไม่มีความหมาย ก็รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้”       เสียงเรียกเข้าทำให้ผมหยุดทึ้งหัวตัวเองก่อนจะเดินไปรับ
“ว่าไง เอื้อง”     
“กว่าจะติด คุยกับใครอยู่เหรอพี่ต่อ”         คนในสายถามทันทีที่ผมกดรับ ช่อเอื้องเป็นน้องสาวผมเองครับร้อยวันพันปีมันไม่เคยโทรหาผมสักครั้ง ถ้าเป็นแบบนี้สงสัยมีเรื่องเดือดร้อนแน่ๆ
“เปล่าหรอก ว่าแต่แกโทรมามีไร”
“คือว่า เสาร์ อาทิตย์นี้ เอื้องไปอยู่กับพี่ได้ไหม” งานเข้าแล้วไง
“จะมาทำไมบ้านก็มี ”
“น่านะพี่ต่อนะ เอื้องรำคาญอ่ะวันๆมีแต่พวกทวงหนี้ เฮ้อ เบื่ออ่ะ”
อย่างที่รู้ๆกันตอนนี้บ้านผมมีปัญหาเรื่องเงินค่อนข้างมากเลยครับ เรื่องของเรื่องคือคุณนาย(แม่ผมเองปกติผมจะเรียกท่านว่าคุณนาย) ดันไปเป็นเล่นแชร์ แล้วแชร์ล้ม เรียกง่ายๆว่าโดนโกงอ่ะครับ ถึงจะไม่ใช่คนที่เชิดเงินไปแต่คนในชุมชนก็ลงมติแล้วว่าแม่ผมผิด เพราะคนที่เชิดเงินไปเป็นญาติแม่แล้วแม่ก็เป็นคนชวนทุกคนเล่น  หนี้ที่ไม่ได้ก่อเลยตกที่แม่เต็มๆ เอาล่ะชีวิตนายเป็นต่อเริ่มจะมีกลิ่นโชยมาแล้ว อะไรจะเน่าขนาดนี้ งานก็ไม่มีแถมที่บ้านติดหนี้หลายแสน
“นะพี่ต่อนะ เอื้องไหว้ล่ะ เอื้องอยู่บ้านไม่ได้จริงๆนะๆๆๆ”
“อืมๆ มาก็มาแต่บอกไว้ก่อนนะ ว่าพี่ไม่ตังค์สักบาทเพราะตอนนี้ตกงานอยู่” ผมบอกน้องไป เผื่อมันคิดจะขอตังค์จะได้รู้ว่าตอนนี้พี่ชายแกกรอบมาก
“เรื่องตังค์ช่างมันตอนนี้ เอื้องขอแค่ที่เงียบๆพักสมองบ้างเถอะ”
“อืม จะมาก็มา” ผมบอกก่อนจะวางสายไป เอาล่ะ ปัญหาไม่ได้มีไว้กลุ้ม สู้เว้ยไอ้ต่อ

วันเสาร์
ก๊อกๆๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น คราวนี้ผมค่อยๆแง้มประตูช้าๆเผื่อเป็นไอ้ผู้จัดการบ้านั่น
“พี่ต่อเป็นไร ทำอย่างกะหนีหนี้”
“เปล่าเว้ย มาๆเข้ามา” ผมบอกก่อนจะเปิดประตูให้น้องเข้ามา จะว่าไปปีนี้เอื้องมันก็ ม 6 แล้วนะครับสงสัยต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาลัย อืม ไอ้น้องคนนี้มันขยันเหมือนพี่ชายไม่มีผิด
“เฮ้อ ห้องพี่ต่อเงียบดีจัง อย่างนี้ก็เขียนได้ลื่นแน่ๆๆ” เอื้องบอกก่อนจะนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงผม
“เขียน เขียนอะไรแกไม่ได้มาอ่านหนังสือสอบเหรอ”
“ก็อ่านนะ แต่น่า อีกตั้งเทอม ที่เอื้องมา เอื้องมีภารกิจสำคัญตะหาก”
ภารกิจอะไรมันจะสำคัญไปกว่าเรียนต่ออีกหว่า ผมละงงกับความคิดเด็กสมัยนี้จริงๆ
“ก็เขียนนิยายไง” ไอ้น้องตัวแสบบอกก่อนจะควักโน้ตบุ๊กออกมา
“เฮ้ยๆๆไอ้เอื้องแกมีโน้ตบุ๊กกะเค้าด้วยเหรอ”
“มีดิ นี่ผ่อนเองเลยนะ” น้องบอกอย่างภูมิใจ เด็กอายุ18 มันทำยังไงถึงซื้อเองได้ครับ มันคงไม่….
“เฮ้ยๆๆพี่ต่อ คิดอะไรอยู่ เอื้องอ่ะเอาตังค์ค่าต้นฉบับนิยายไปซื้อมาเหอะ”
“นิยาย” O_o ???
“ช่าย ตอนนี้เอื้องเขียนนิยายวายน่ะ ”
“มันคืออะไรว่ะ”
“ก็นิยาย ชายรักชายไง” ^^ เอื้องบอกแถมยิ้มปลื้มสุดๆ เดี๋ยวนะครับ ช่วงนี้แรมต่ำการประมวลผลช้า ชายรักชาย=ผู้ชายรักกับผู้ชาย=เกย์ OMG!!!! นี่น้องสาวผมเป็นบ้าอะไรครับ
“ไอ้เอื้องแกบ้าไปแล้วเหรอ”
“บ้าไรพี่ต่อ ตอนนี้สาววายมีเยอะจะตายไป ว่างๆเอาไปอ่านดิเอื้องให้อ่านฟรีเลยนะ อย่างพี่ต่อเนี่ยๆดูๆไป มันเคะชัดเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ”
แล้วน้องผมก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เอ่อ ใครก็ได้บอกผมหน่อยได้ไหม ว่าน้องผมเป็นอะไร -*- แล้วไอ้เคะเนี่ยมันคืออะไรครับ
ก๊อกๆๆ เอ๋า ทำไมช่วงนี่ผมถึงขายดี คิวยาวขนาดนี้ครับเนี่ย
“ใครครับ” ถามก่อนเพื่อความแน่ใจเผื่อเป็นคนที่คุณก็รู้ว่าใครจะได้ไม่เปิด
“กูเอง เปิดซะทีสิว่ะไอ้ต่อ”
ผมเปิดประตูให้ไอ้นะเข้ามาก่อนที่เด็กคนนึงจะเดินตามมาด้วย ว่าแต่มันเป็นใครว่ะหน้าตาดีจนน่าหมั่นไส้
“พี่ต่อสวัสดีครับ” ไอ้เด็กหล่อพูดก่อนจะยกมือไหว้ผม
“ครับ ว่าแต่น้องเป็นใครอ่ะ” ผมมองหน้าน้องกับไอ้เพื่อนตัวแสบไปมา
“โทษทีกูลืม ต่อนี่เบส เอ่อ คือ” เอ๋าไอ้นี่ จะพูดก็ไม่พูด
“ผมเป็นแฟนพี่นะครับ” ไอ้เด็กหล่อตอบก่อนจะโอบเอวไอ้นะทันที
“พี่ๆเป็นแฟนกันจริงๆเหรอคะ” เสียงที่ตะโกนมาทำให้ ผม ไอ้นะ และน้องเบส ชะงักไปตามๆกัน เอ่อ ผมมองหน้าไอ้นะทันที สายตามันนี่ประมาณว่า ใครว่ะทำไมมึงไม่บอกว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย
“ทำไมพี่ไม่ตอบล่ะคะ พี่เป็นแฟนกันจริงๆเหรอ” ไอ้เอื้องยังตามต่อ เอ่อ ไอ้ผมก็ทั้ง กระพริบตาทั้งกระแอม มันก็ยังไม่ยอมหยุด
“ครับ” น้องเบสตอบ โอ้ว แมนมากไอ้น้อง
“ว้าว ดีจังเลย ฮ่าๆๆไม่น่าเชื่อว่าความฝันของเอื้องจะเป็นจริงแล้ว เย้ๆๆ” >//<
“พี่คะๆๆ เอื้องขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหม เอื้องจะเอาไปแต่งนิยายนะคะๆๆ”
“เอื้องพอก่อน พี่เขาตกใจแล้วเห็นไหม” ผมบอกก่อนจะลากไอ้น้องสาวตัวแสบออกมา
“พี่ต่อ ลากเอื้องทำไมเอื้องจะกลับไปหาเพื่อนพี่นะ พี่ต่อรู้ไหมนี่มันความฝันของเอื้องเลยนะ”
“แต่แกกำลังทำเพื่อนพี่ตกใจนะ”
“แต่เอื้อง…”
“ไม่เป็นไรหรอกต่อ น้องมีอะไรจะถามพวกพี่เหรอครับ” จู่ๆไอ้นะที่เงียบตั้งแต่เข้ามาก็พูดขึ้น
“พี่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ คือเอื้องชื่อ ช่อเอื้องค่ะ เป็นน้องสาวพี่ต่อ ตอนนี้เรียน ม 6 แต่ที่จะบอกจริงๆคือเอื้องเป็นสาววายค่ะ” น้องผมแนะนำตัวซะทางการเลยเว้ยดีนะไม่บอกชื่อพ่อชื่อแม่ด้วย
“ฮ่าๆๆ เป็นสาววายด้วยเหรอเราน่ะ”
“ค่ะ”
“เอ๋า มีไรจะถาม ถามมาพี่ตอบหมดทุกอย่างเลยคร้าบ” มาแล้วครับไอ้นะ คนเดิม คนที่กวนได้ทั้ง เด็ก สตรีและคนชรา แล้วสองคนนั้นเขาก็สนทนาภาษาวายกันแล้วทิ้งผมกับน้องเบสที่นั่งมองตาปริบๆ ว่าไอ้สองคนนี้มันจะสนิทกันเร็วไปไหม
แล้วหนุ่มวายกะสาววายก็คุยกันตั้งแต่เช้ายันเย็นครับไม่รู้คุยอะไรกันหนักหนาส่วนผมก็ นอนดูบอลกับไอ้น้องเบสไปตามเรื่องครับ จนเกือบทุ่มไอ้เพื่อนตัวแสบถึงกลับทั้งที่วันนี้มันคุยกับผมแค่สองคำ ได้ใหม่แล้วลืมเก่าชัดๆเลย
“พี่ต่อ”
“อะไร”
“พี่นะเขามีแฟนเป็นผู้ชายพี่ต่อไม่คิดจะมีแฟนเป็นผู้ชายกับเขาบ้างเหรอ” จู่ๆไอ้น้องสาวผมก็ถามขึ้น เอ๋าไหง เลขมาออกที่ผมล่ะครับ เหอๆ
“ทำไมไม่ตอบอ่ะพี่ต่อ ตอนนี้มี ผู้ชายมาจีบบ้างป่ะ ” ยังคงตั้งหน้าตั้งตาถามต่อไป ไอ้น้องบ้า  เอ่อ จะว่าไปตอนนี้ก็มีผู้ชายคนนึงเข้ามาก่อกวนเหมือนกันนะครับ เฮ้ย แล้วผมไปคิดถึงไอ้ผู้จัดการบ้านั่นทำไมเนี่ย เวิ่นแล้วไอ้ต่อเอ้ย
“คิดนานแปลว่ามีใช่ไหม”
“บ้าเหรอ ไม่มี ไอ้น้องบ้าใจคอจะยุให้พี่ชายเป็นเกย์ให้ได้ใช่ไหม”
“ชิ ขัดใจ แต่ถ้ามีเมื่อไหร่บอกนะ ฮ่าๆๆ”
แล้วเอื้องก็มุงมั่นกับการเขียนนิยายของมันต่อไป เอ่อ ผมชักจะหวั่นใจแปลกๆยังไงชอบกลนะครับ ผมว่าการที่ไอ้เอื้องมาอยู่ด้วยมันต้องมีอะไรแน่ๆ

........................................................................................

ตอนพิเศษ กัน เซ้นส์ ค่ะ ผู้กองกันกลับมาแย้ว โย่วๆๆ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28796.300

ปล ขอเปลี่ยนทู้นี้ให้เป็นทู้รวมเรื่องสั้นของพิตนะคะ เพราะไม่อยากเขียนแยกอีกแล้ว ทู้เดียว เอาให้คุ้ม
จะได้ไม่ต้องตามอ่านเยอะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 5 15/1/2012 p2 (พิเศษโคตร ผู้กองกัน กะนายซิก
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-01-2012 07:32:09
 :L2:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 5 15/1/2012 p2 (พิเศษโคตร ผู้กองกัน กะนายซิก
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 15-01-2012 08:27:25
พี่ฟิวส์ไปแอบตีซี้กับน้องเอื้องไว้แล้วหรือเปล่า
ติดตามต่อจ้า

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 5 15/1/2012 p2 (พิเศษโคตร ผู้กองกัน กะนายซิก
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey Mouse ที่ 15-01-2012 19:59:24
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 5 15/1/2012 p2 (พิเศษโคตร ผู้กองกัน กะนายซิก
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 18-01-2012 01:07:48
ตอน 6



(ภาคฟิวส์)
ตอนนี้ผมกำลังเอ่อ -*- คิดหนักครับ ทำไมนะเหรอ ก็เรื่อง เป็นต่อไงครับ ผมจะทำยังไงถึงจะจีบเขาติดล่ะก็เขาเล่นเกลียดขี้หน้าผมซะขนาดนั้น จีบติดก็แปลกแล้ว คือที่สำคัญกว่านั้น คือ ผม เอ่อ จีบไม่เป็นน่ะครับ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยจีบใครเลยนะ ถึงจะเป็นคาสโนว่า แต่นายฟิวส์ คนนี้ ไม่เคย “จีบ” เลยนะครับ ยิ่งเป็นผู้ชาย ยิ่งไม่เคยเข้าไปใหญ่ ทุกคนที่ผมเคยพบก็เข้าหาผมเองทั้งนั้นไม่เคยสักครั้งที่ผมจะต้อง ลงมือ จีบเองแบบนี้
“รักเธอๆ รู้เพียงเท่านั้น แม้เราบังเอิญได้พบกัน หรือฟ้าบันดาลให้พบเธอ”
“ว่าไงมึง” ผมพูดทันทีที่กดรับสาย
“ทักทายกูเพราะมากนะเชี่ยฟิวส์”
“แล้วมึงโทรมามีรัยว่ะ อย่าบอกนะว่าโดนพี่กันทิ้ง”
“ปากเหรอที่พูด สาธุ กูขอให้คุณเป็นต่อไม่รับรักมึงขอให้เขาเกลียดมึงมากๆๆๆเพี้ยงๆ” 
“พอเลยมึง แค่นี้กูก็กลุ้มจะแย่อยู่แล้ว มึงจะโทรมาซ้ำเติมกูมึงก็วางเถอะ” ไอ้เพื่อนเวร อันนี้บอกในใจฮ่าๆๆ
“เอ๋าๆๆอย่างงอนดิ ว่ะ คือกูโทรมาว่าคืนนี้ไปดื่มกะกูม่ะ พอดีว่ากูนัดพี่โอ๋กุนซือประจำตัวกูไว้อ่ะมึงมาไหมเผื่อได้คำแนะนำอะไรดีๆ”
อืม เอาไงดีหว่า ลองไปดีไหมครับ เผื่อกุนซือของไอ้เซนส์ช่วยผมได้ ขนาดไอ้เซ้นส์ยังยอมรับแปลว่าต้องพอตัวล่ะน่า
 (ได้ข่าวว่าเหล่ากุนซือก็เอาตัวแทบไม่รอดนะ:พิตต้า)
“อืม ตกลง คืนนี้เจอกัน”
ผมบอกก่อนจะวางสายไป เอาว่ะไอ้ฟิวส์ ลองดูสักครั้ง

“พี่ต่อๆๆๆ”
ตอนนี้ผมโดนอ้อนอยู่ครับจากไอ้ตัวข้างๆเนี่ย นัวเนียผมตั้งแต่เย็นแล้ว
“ไม่เด็ดขาด!!!”
“พี่ต่อไม่รักเอื้องเหรอ พี่ต่อทำเพื่อเอื้องไม่ได้เหรอ” เอาแล้วครับ มันเริ่มนัวเนียผมอีกแล้ว ผมล่ะอยากจะบ้าตาย เฮ้อ มีอย่างที่ไหนอ้อนให้ผมพาไปเที่ยว ผับ ถ้าผมพาไปก็บ้าเต็มทีแล้วครับ
“พี่ต่ออ่ะ เอื้องไม่ได้จะไปเที่ยวซะหน่อยเอื้องจะไปหาข้อมูลมาเขียนนิยายตะหากเล่า”
“แต่แกยังเด็กอยู่เข้าใจไหม ”
“เอื้อง18แล้วนะ โตพอจะดูแลตัวเองได้แล้ว”
“ไม่ได้ เด็ดขาด พี่ไม่ให้แกไปหรอก”
“พี่ต่อ” ไอ้เอื้องบอกงอนๆ นั่นไงล่ะงานเข้าอีกแล้วครับท่าน ถ้ามีอาการแบบนี้แปลว่างอนจริงครับ แล้วไอ้น้องคนนี้มันหายยากด้วย
“เอื้อง ” ผมเรียกน้องเบาๆ ยังนิ่งครับ เฮ้ย อย่าเพิ่งงอนเด้ ผมยิ่งใจอ่อนอยู่ด้วย ไม่ได้ๆๆไอ้ต่อแกต้องใจแข็งเข้าไว้จะพาน้องไปที่แบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด ใจแข็งๆๆ
ฮึกๆๆๆๆๆ  เสียงสะอื้นเบาๆ พร้อมกับอาการสั่นน้อยๆของอีกคนทำให้ผมใจหายวาบ ไอ้เอื้องร้องไห้เหรอ ผมยิ่งแพ้น้ำตาน้องอยู่ด้วย อย่าร้องเด้ T^T
“เอื้องแกร้องไห้เหรอ”
เงียบ พร้อมกับเสียงสะอื้นที่แรงขึ้นเรื่อยๆ เอาไงครับ หรือต้องตามใจมัน เฮ้อ ไม่น่าอนุญาตให้มันมาเล๊ย
“เออ ตกลงพาไปก็ได้ ”
“เย้ รักพี่ต่อที่สุดเล๊ย”
คนที่นั่งร้องไห้อยู่ตะโกนก่อนจะวิ่งมากอดผม เหอๆ เปลี่ยนสีเร็วกว่ากิ้งก่าอี๊ก น้องใครว่ะเนี่ย
“แต่ต้องกลับก่อน สี่ทุ่มนะ โอเคไหม”
“ได้ค่ะ เอื้องไปไม่นานหรอก พี่ต่อไปเปลี่ยนชุดได้แล้วเร็วๆจะดีรีบไปรีบกลับ”
“ครับน้อง” ผมบอกพลางส่ายหน้า ปลงๆ เฮ้อ จะโกรธก็โกรธไม่ลงทำไงได้ ดันใจอ่อนเองนิเนาะ

ตอนนี้ผมกับน้องกำลังยืนมอง เอ่อ คลื่นมหาชนที่กำลังเดินเข้าเดินออกผับกันอย่างล้นหลาม เหอๆ เกิดมา25ปี ไม่อยากบอกว่าวันนี้ผม เอ่อ เข้าผับครั้งแรกอ่ะครับ พูดไปก็จะอายน้องมันเปล่าๆ แต่ไอ้คนข้างๆเนี่ยตามันเป็นประกายมาก
“เข้าไปกันเถอะพี่ต่อ เอื้องอยากเห็นแล้วเร็วๆ” ไอ้นี่ก็สะกิดจั๊ง ให้พี่แกทำใจก่อนได้ไหมเนี่ย
“ไปเถอะน่า” ตกลงใครเป็นพี่กันแน่เนี่ย ชักจะสับสนแระ
“ครับๆ คุณน้อง” ผมบอกก่อนจะเดินเบียดคลื่นมหาชนเข้าไปในผับ
สิ่งแรกที่ได้ยินคือ เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มจนเกิดกฎหมายกำหนด แหมแค่เข้ามาไม่กี่นาทีก็หูแทบแตกแล้วใครคนที่มันอยู่นานๆมันไม่เป็นหูน้ำหนวกกันเหรอครับ เฮ้อ คนก็เยอะ ไม่รู้จะขยันมาเที่ยวอะไรกันหนักหนา
“พี่ต่อๆๆ ไปหาโต๊ะนั่งกันเถอะ” ไอ้เอื้องบอกก่อนจะลากผมเดินลึกเข้าไปในร้าน
“จะทำอะไรก็รีบทำสิเอื้องพี่ไม่อยากอยู่นานนะ”
“พี่ต่อ อุส่ามาทั้งทีไม่ออกไปเต้นล่ะเดี๋ยวเอื้องขอหาข้อมูลก่อน”
“ไม่ล่ะแกอยากทำอะไรก็ทำไป แต่ห้ามออกนอกสายตาพี่เด็ดขาด เข้าใจไหม” ผมสั่ง  ปล่อยไม่ได้ครับใครๆก็รู้ที่แบบนี้เสือ สิงห์ กระทิง แรด ทั้งนั้น ต้องกันไว้ก่อน
“คร่า คุณพ่อ” ไอ้เอื้องบอก ก่อนจะล้วง I Pad (ที่ซื้อเอง) ออกมาพิมพ์อะไรยุกยิกๆไปตามเรื่อง
“พี่ต่อเอื้องไปห้องน้ำแปปนึงนะ”
“อืม ระวังตัวด้วยล่ะ”
“คร่าๆคุณพ่อ” 

“สวัสดีครับ คุณเป็นต่อ”  เสียงกระซิบทำให้ผมต้องเงยหน้ามองผู้มาใหม่ทันที
“คุณ” o_O
“คุณมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงคุณภยันตร์พล”
“ผมต้องถามคุณมากกว่า ว่าทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นใคร” เขาถามเสียงเหี้ยม เฮ้ย แล้วทำไมต้องทำหน้าโกรธขนาดนั้นด้วยเนี่ย
“ผมไม่จำเป็นต้องตอบคุณ” เรื่องอะไรที่ผมต้องกลัว ไอ้คนไม่มีเหตุผลมาถึงก็มาทำเสียงเข้ม ไม่กลัวครับไม่กลัว
“จะเล่นแบบนี้ใช่ไหมได้ งั้นมานี่” เขาบอกก่อนจะลากผมออกมาทันที เฮ้ย แล้วไอ้เอื้องล่ะ น้องผมทั้งคนนะโว้ย!!
“ปล่อยสิว่ะ คุณจะพาผมไปไหน”
“ไปเคลียร์ไง อ้อ แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วง ยัยเด็กนั่นนะเพื่อนผมจะพากลับบ้านเอง”
“แต่ว่า…”
“เงียบ!!! แล้วตามมา” เขาตะคอกก่อนจะยัดผมเข้าไปในรถทันที เอ่อ ใครก็ได้บอกผมหน่อยได้ไหมว่าไอ้บ้าที่นั่งข้างๆผมเนี่ยมันเป็นอะไรครับ จู่ๆก็เดินมาตะคอกๆแล้วก็ฉุดกระชากลากถูผมออกมา นี่ผมไม่ใช่นางเอก ไฟรักอสูรนะเว้ย
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 6 18/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 18-01-2012 07:16:18
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 6 18/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-01-2012 08:34:45
ฟิวส์อย่ารุนแรงกับต่อนะ สงสัยกำลังหึงอยู่
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 6 18/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 18-01-2012 13:50:45
ฟิวส์ขี้หึงมาก นั่นอ่ะน้องสาววุ้ย อย่าทำอะไรต่อนะ
สนุกดี รออ่านต่อนะคะ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 7 22/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 22-01-2012 15:15:42
ตอน 7


(ภาคฟิวส์)

ผมออกจากบ้านตั้งแต่หัวค่ำกะว่าจะเต็มที่กับชีวิตซะหน่อยช่วงนี้ เครียดครับ ไปดื่มซะบ้างเผื่อจะหายฟุ้งซ่าน เพราะ ตั้งแต่ไปทำงานที่บริษัทอารมณ์อยากเที่ยวมันไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่  นั่งไปได้สักพัก ไอ้เซ้นส์ก็มาพร้อมกับพี่คนนึง
“ไงมึง เครียดจนต้องกินเหล้าย้อมใจเลยเหรอ” ทักกูได้น่าเตะมาก
“อย่ามากวนนะเว้ย Teenกูมันยิ่งคันๆอยู่ด้วย”
“โหดนะมึง” เซ้นส์บอกก่อนจะนั่งลงข้างๆผม 
“พี่โอ๋ นี่ไอ้ฟิวส์เพื่อนผมเองครับ”
“ส่วนเชี่ยฟิวส์นี่พี่โอ๋ กุนซือกูเอง”  แหมเรียกกูซะเพราะเชี่ยวไอ้เพื่อนร๊ากกกกกกกก ด่าได้แค่ในใจเพราะตอนนี้ต้องพึ่งมันอีกเยอะ
“หวัดดีพี่” ผมบอกก่อนจะยกมือไหว้พี่โอ๋
“อืม ดีๆ กินไปคุยไปดีกว่าเว้ย วันนี้พี่ฟรี”
หลังจากที่กินไปคุยไปได้สักพักใหญ่ๆผมก็เหลือบไปเห็นใครบางคนเดินเข้ามาในร้าน มันคุ้นๆนะครับเหมือนเคยเห็นที่ไหน คือตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่โซน วีไอพีชั้น2 เลยเห็นทางเข้าชัดหน่อย แต่ว่าคนเมื่อกี้มันคุ้นจริงๆนะครับ
“มองไรว่ะไอ้ฟิวส์” ไอ้เซ้นส์ถามคงเห็นผมจ้องประตูทางเข้ามั้งครับ
“กูรู้สึกเหมือนเห็นเป็นต่อเลยว่ะ”
“อ้าว ไหนมึงบอกว่าคุณเป็นต่อเขาไม่เที่ยวไม่ใช่เหรอ”
อืม มันก็ใช่นะครับ ตามที่ผมรู้มาเป็นต่อเกลียดการเที่ยวการคืนจะตายแล้วเขาจะมาทำไมล่ะครับ
“แต่พี่ว่าลงไปดูให้แน่ใจไหม ” พี่โอ๋บอก ผมพยักหน้าก่อนจะเดินลงไปทันทีอยากจะรู้เหมือนกันว่าใช่ ต่อจริงๆหรือเปล่า
แต่สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมโกรธจนทำตัวไม่ถูก ทำไมต่อถึงมากับผู้หญิงได้ ท่าทางสนิทจนผมอิจฉาหน้าตายิ้มแย้มพร้อมกับแววตาอ่อนโยนที่ผมไม่เคยได้เห็น ทำให้ผมแทบอยากจะไปกระชากผู้หญิงคนนั้นออกมา ผมหวง ทั้งๆที่ผมรู้ว่าผมยังไม่มีสิทธิ์ แค่คิดว่าต่อจะทำดีกับคนอื่นผมก็แทบเป็นบ้าแล้ว
“ฮัลโหล ไอ้เซ้นส์มึงลงมาหากูหน่อยมีเรื่องให้ช่วย”
“เรื่องไรว่ะ”
“กูบอกให้ลงมาก็ลงมาเถอะอย่าเพิ่งถาม” ผมกระโกนก่อนจะตัดสายทันที อารมณ์นี้ไม่อยากพูดกับใครนานๆ มันจะพาลโมโหซะให้ได้
“มีไรครับมึง” ไอ้เซ้นส์เดินมาถามผม มันคงรู้ว่าตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีเลยไม่กวนมากเท่าไหร่
“มึงไปส่งผู้หญิงที่มากับต่อที กูมีเรื่องต้องเคลียร์กับต่อ” ผมบอกมันก่อนจะเดินไปหาต่อที่โต๊ะหลังจากที่ดูจนแน่ใจแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นไปเข้าห้องน้ำ
“สวัสดีครับ คุณเป็นต่อ”  ผมทัก
“คุณ” o_O   
“คุณมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงคุณภยันตร์พล”
“ผมต้องถามคุณมากกว่า ว่าทำไมคุณถึงมอยู่ที่นี่ แล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นใคร” ผมถามด้วยเสียงที่คิดว่าดีที่สุดแล้วในอารมณ์แต่มันก็ยังเหมือนตะคอกอยู่ดี
“ผมไม่จำเป็นต้องตอบคุณ”  เขาตอบหน้าตาย ทำให้อารมณ์ผมโกรธถึงเขียดสุดทันที ผมไม่ชอบให้โดนขัดใจและยิ่งไม่ชอบที่สุดคือคนที่ผมสนใจไม่สนใจผม
“จะเล่นแบบนี้ใช่ไหมได้ งั้นมานี่” ผมบอกก่อนจะลากต่อออกมา
“ปล่อยสิว่ะ คุณจะพาผมไปไหน”  เขาตะโกนถาม ท่าทางจะห่วงยัยเด็กนั่นมากซินะ หึ โถ่เว้ย ยิ่งคิดยิ่งโมโห
“ไปเคลียร์ไง อ้อ แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วง ยัยเด็กนั่นนะเพื่อนผมจะพากลับบ้านเอง”
“แต่ว่า…”
“เงียบ!!! แล้วตามมา”  ผมตะคอกออกไปก่อนจะพาต่อออกไปทันที
“นี่คุณภยัตร์พลครับ คุณจะพาผมไปไหน” ต่อหันมาถามผมหลังจากที่ผมขับออกไกลพอสมควร เอาเข้าจริงผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพาเขาไปไหนแค่ตอนนั้นโกรธมากแล้วก็อยากจะพาเขาออกมาเท่านั้นเอง
“นี่คุณ”
“เงียบ!! แล้วนั่งเฉยๆได้ไหม” ผมตะคอกไปอีกทีใจจริงไม่อยากทำแบบนี้หรอกนะครับแต่ผมไม่อยากให้เขาเซาซี้ กลัวว่าตัวเองจะทำอะไรที่มันเลวๆออกไป ผมไม่ใช่พ่อพระ ไม่ใช่คนดีเพราะฉะนั้นผมคงไม่รับรองนะครับว่าถ้าต่อทำผมสติแตกเขาจะโดนอะไรบ้าง
ผมขับรถอย่างไร้จุดหมายได้สักพักก็เหลือบไปเห็นป้ายระยองแวบๆ อืม หรือจะพาต่อไปที่โรงแรมไอ้เซ้นส์ดีหว่า เอาว่ะคิดออกแค่นี้ก็ไปแค่นี้แล้วกัน  อันที่จริงตอนนี้คนข้างๆหลับไปแล้วล่ะครับ คนอะไรหลับง่ายชะมัดเมื่อกี้ยังโวยวายอยู่เลย เผลอแปปเดียวหลับซะงั้น 
“คุณจะน่ารักเกินไปแล้วนะครับคุณเป็นต่อ”
สงสัยผมคงใกล้บ้าเข้าทุกทีแล้วล่ะครับเมื่อกี้ยังอารมณ์เสียอยู่เลยตอนนี้มานั่งอมยิ้มซะงั้น เหอๆ
ผมขับรถมาถึงระยองประมาณห้าทุ่มนิดๆก่อนจะโทรบอกไอ้เซ้นส์ให้คนที่โรงแรมเอาเรือมารับ แต่ว่าคนขี้เซาที่นอนอยู่ข้างๆก็ยังไม่ยอมตื่นสักที จนผมต้องอุ้มมาขึ้นเรือนั่นล่ะครับ













หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 7 22/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-01-2012 18:00:31
ฟิวส์ไม่บอกเค้า
จะรู้มั๊ยว่าคิดอะรัยอยู่ :z2:
+1จ๊า
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 7 22/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 22-01-2012 18:42:45
ตะคอกเอา ๆ
เดี๋ยวปัดเหนี่ยวเลย
พาไปโรงแรมแล้วก็กดซะเลยสิ
จะได้สิ้นเรื่อง
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 7 22/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-01-2012 19:45:24
 :กอด1:

รอลุ้นว่าจะเคลียร์กันยังไง
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 7 22/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-01-2012 19:46:41
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 7 22/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 22-01-2012 21:49:06
คาแรคเตอร์โหด ยังจะจีบแบบโหดๆ อีก
มีทั้งกุนซือมือดี เพื่อนรักก็มีประสบการณ์ตรง
กรรมของเป็นต่อ  :เฮ้อ:
+1
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 7 22/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey Mouse ที่ 22-01-2012 21:54:30
ลักพาตัวนายเป็นต่ออ
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 8 24/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 24-01-2012 03:01:51
ตอน 8


“อืม” แสงที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นจากการนอนอันแสนสุข
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงของคนที่นอนข้างๆถามขึ้น แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะครับ ขอประมวลผลก่อน เมื่อคืนผมพาไอ้เอื้องไปเที่ยวแล้วเจอกับไอ้ผู้จัดการใจแคบแล้ว เขาก็พาผมออกมาจากผับจากนั้น ผมก็หลับ แหะๆ ก็คนมันง่วงนิครับ แต่ประเด็นตอนนี้คือ เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้มันเสียงใครครับ อย่าบอกนะว่า o_O
“นี่คุณเป็นต่อผมว่ารีบลืมตาดีกว่านะครับ เพราไม่งั้นผมไม่รับรองความปลอดภัย” ง่ะ อย่าเพิ่งเร่งสิว่ะ ทำใจอยู่
“ละ ลืม แล้วๆๆ” ผมลนลานหลังจากที่รู้สึกว่าคนข้างๆเริ่มขยับ
“ก็แค่นี้”
ผมค่อยๆลืมตาช้า ก่อนจะเจอกับไอ้คุณผู้จัดการที่หน้าเนี่ยแทบจะชนกับหน้าผมอยู่แล้วไม่ต้องมาใกล้ตูขนาดนี้ก็ได้เว้ย ตูกลัว
“ตื่นซะทีนะครับ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“ทำไมต้องคุย จำเป็นด้วยเหรอ”
“จำเป็นสิ จำเป็นมากเพราะเมื่อคืนคุณทำผมโกรธมากรู้ไหมครับ” แล้วตูทำอะไรไม่ทราบว่ะ
“ตอบมา ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครแล้วทำไมคุณต้องไปเที่ยวในที่แบบนั้นด้วย” เขาถามเสียงเหี้ยม
“นะ…น้อ” แต่เอ๊ะ แล้วทำไมผมต้องบอกความจริงด้วยล่ะครับ ไม่เห็นจำเป็นสักนิด
“ว่างไครับคุณเป็นต่อ”
“แฟน ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนผม”
“งั้นเหรอ แต่เท่าที่ผมรู้มามันไม่ใช่นะ” เขาบอกท่าทางเจ้าเล่ห์  ถ้ารู้ดีขนาดนี้แล้วจะมาถามทำไมว่ะ ฮ่วย
“รู้แล้วจะถามทำไม”
“หึ ขนาดรู้แล้วคนบางคนยังโกหกเลย” 
เฮ้ย พูดอย่างเดียวก็ได้ม้าง หน้าอ่ะไม่ต้องก้มลงมาก็ได้แค่นี้จมูกก็แทบจะชนกันแล้ว
“รู้ไหมครับว่าคนที่โกหก น่ะ ต้องโดนลงโทษ หึหึ”
“ละ ลงโทษอะไร อย่าเข้ามานะเว้ย” ผมโวยวาย แต่ทำไมร่างกายมันไม่ยอมขยับตามใจเลยคร้าบ
“หึหึ ”
“คะ คุณ………….. อุ๊บส์”  O_o ริมผีปากได้รูปของเขากดลงบนปากผมทันที ก่อนที่เรียวลิ้นจะค่อยๆแทรกเข้ามาในปากไล่ต้อนจนผม จนมุม จูบของเขาแสนอ่อนโยนและร้อนแรงไปพร้อมกัน มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ผมไม่เคยได้สัมผัส    ทำไมล่ะ ทำไมร่างกายผมถึงไม่ปฏิเสธมัน ผมไม่เข้าใจตัวเองเลย  เราจูบกันเกือบ5นาที ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ถอนจูบหลังจากที่ผมเริ่มหมดอากาศหายใจ
“แฮกๆๆๆ” ผมสูดหายใจเข้าเต็มปอดหลังจากที่ปากเป็นอิสระ
“หวานจัง ^^ ” 
เอ่อ ผมรู้สึกถึงความร้อนที่มันค่อยๆเพิ่มขึ้นที่หน้าอย่างรวดเร็ว นี่ผมคงไม่ได้เขินหรอกใช่ไหมครับ  -*-
“คะ คุณภยัตร์พล คุณออกไปเลยนะ ออกไปดิ ”  วินาทีนี้กลัวที่สุดคือการอยู่ใกล้คนๆนี้แหล่ะครับ ทางที่ดีอยู่ห่างๆกันไว้ดีกว่า
“ผมออกไปแน่แต่คุณต้องรับปากผมเรื่องนึงก่อน”
“เรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่จะตกลงไปทำงานเป็นเลขาส่วนตัวของผมไง”
“ผมบอกคุณไปแล้วไงว่า ไม่มีทาง”
“หึหึ” ผมล่ะเกลียดเสียงหัวเราะแบบนี้จริงๆ
“อยากโดนแบบเมื่อกี้อีกหรือไงครับ แต่คราวนี้มันอาจจะไม่หยุดแค่จูบนะ”
ไอ้กระเพาะแพะ ใจคอจะไม่ให้มีทางออกอื่นเลยใช่ไหม  ไอ้คนใจแคบ ไอ้คนเอาแต่ใจ
“ตกลงว่าไงครับ จะเป็น หรือจะเป็น”
“จะเป็นได้ไง เล่าผมลาออกแล้วนะครับ ถ้ากลับเข้าไปใหม่คนอื่นจะว่ายังไง”
“ใครบอกล่ะว่าคุณลาออก ผมทำเรื่องส่งไปว่าคุณลาพักร้อนตะหาก ส่วนเรื่องปรับตำแหน่งมันเป็นเรื่องที่ผมพิจารณาเองใครจะวิจารณ์ก็ช่างเขาสิ ผมรู้ว่าคุณไม่แคร์” มาเป็นชุดนอกจากจะเก่งการตลาดแล้วยังเจ้าเล่ห์อีกนะครับ แล้วผมจะทำยังไง มีทางเลือกไหมเนี่ย ถ้าไม่ทำก็คงตกงานจริงๆ เพราะหลังจากทดลองตกงานมา 3 วัน ชีวิตตกงานมัน โหดโคตรๆ ถ้ากลับไปทำก็ต้องเจอกับอีตาผู้จัดการนี่ทุกวัน ชีวิตผมคงไม่มีทางสงบสุขแน่ๆ T^T
“ตกลงว่ายังไงครับ”
“อืม”
“อืมคืออะไร ตอบมาตรงๆสิต่อ”
“ก็บอกว่าผมยอมไปเป็นเลขาคุณแล้วไงครับ พอใจยัง”
“พอใจครับ พอใจมากเอาเป็นว่าเริ่มงานวันจันทร์นะครับ”
ฟอดด เขายิ้มกว้างก่อนจะหอมแก้มผมแล้วเดินออกจากห้องไป  ไอ้บ้ากามเอ้ย ชีวิตที่แสนสุขของผม มันกำลังจะเปลี่ยนไปแล้วใช่ไหมครับเนี่ย
ติ๊ดๆๆๆ  เสียงเตือนข้อความเข้าดังขึ้นแทบจะทันทีที่ผมเปิดเครื่อง
ไอ้นะ 2 miscall
เอื้อง 3miscall
ดูพวกมันรักผมมากนะ ผมหายไปทั้งคืนโทรหาผมแค่ 2 -3 ครั้งเนี่ยนะครับ
ก็รู้ว่าฉันไม่มีความหมาย ก็รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้”       เสียงริงโทนดังขึ้นทันที ตายยากจริงครับน้องผมสงสัยจะรู้ว่าเพิ่โดนด่าไปหมาดๆ
“กว่าแกจะโทรมานะไอ้เอื้อง ”
“อะไรเนี่ยพี่ต่อ งอนไม่เข้าเรื่อง”
“งอนสิว่ะ พี่หายไปทั้งคืนแกโทรหาแค่ 3 ครั้งเนี่ยนะ”
“ก็พี่ต่อไปกับแฟนไม่ใช่เหรอ เอื้องไม่กล้ากวนหรอก” แฟนไหน ว่ะ ผมเนี่ยนะมีแฟน
“ใครบอกแกว่าพี่ไปกับแฟน”
“พี่นะไง อิอิ พี่ต่ออ่า มีแฟนหล่อขนาดนั้นไม่ยอมพามาให้น้องรู้จักเลยนะ”
“แกกำลังเข้าใจผิดนะเว้ย”
“แหม ไม่ต้องอายหรอกน่า เอื้องไม่ว่าอะไรหรอกพี่ต่อไปเที่ยวกะแฟนเหอะ เอื้องไม่กวนแล้ว ตุ๊ดๆๆๆๆๆๆ”
“อะ เอื้อง เอื้องเดี๋ยว” วางไปแล้วครับ ใจคอมันคิดจะฟังผมบ้างไหมเนี่ย
ก๊อกๆๆ
“อะไรครับ”
“ผมจะมาบอกว่าให้คุณเตรียมตัวด้วย เดี๋ยวผมจะไปส่ง”  คนนอกประตูตะโกนบอก เฮ้อ นี่ก็อีกคน ผมนี่ชักจะเหมือนนางเอกละคร ตบจูบเข้าทุกวันแล้วนะครับ


.....................................................................
ไปๆมาๆ เนื้อเรื่องชักป่วง ฮ่าๆๆ
อ่านไปนะคะ อย่าคิดมากและอย่าเอาอะไรมาก
กะนังพิตเลย เอิ๊กๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 8 24/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 24-01-2012 03:58:02
เอื้องก็แลดูจะเป็นห่วงพี่ชายเหลือเกินนะ 555
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 8 24/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-01-2012 06:19:43
อิๆๆๆๆว่าแล้วต้องใจอ่อน


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 8 24/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 24-01-2012 07:48:33
มีน้องเป็นสาววายต่อคงรอดยากแน่
กองเชียร์ทางฝั่งฟิวส์เยอะน่าดู
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 8 24/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 24-01-2012 09:45:42
เสร็จแน่ๆคุณเป็นต่อ
^___^
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 8 24/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 24-01-2012 09:56:59
น้องเอื้องสนับสนุุนเต็มที่ หุหุ
นะก็บอกแบบนั้นต่อไม่โกรธเหรอ คงไม่ทันนึก เขินอยู่ อิอิ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 8 24/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 24-01-2012 10:04:45
เสร็จแน่ๆคุณเป็นต่อ :z2:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 8 24/1/2012 p2
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 24-01-2012 10:18:28
ทั้งนะ ทั้งเอื้อง
จะใส่ต่อถวายให้เลยหรอไงน่ะ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 9 25/1/2012 p3 ตอนพิเศษ โคตร กันเซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 25-01-2012 00:20:34
ตอน 9


เช้าวันจันทร์ที่แสนสดใด ซะเมื่อไหร่ ตอนนี้ผมยืนเก้ๆกังๆที่หน้าบริษัท เฮ้อ ไม่อยากเข้าไปเลยสักนิดเพราะ จริงๆแล้วเป็นผมที่เลือกเดินออกมาเอง แล้วนี่แค่ไม่กี่วันผมต้องกลับมาที่นี่อีก หรือจะกลับดีครับ
“เฮ้ย ต่อ มายืนเอ๋อไรตรงนี้ เข้าไปดิ” ไอ้นะเดินเข้ามาทักผม
“เอ่อ คือกู เอ่อ”
“มึงทำตัวไม่ถูกเหรอ” ไอ้นี่มันต้องเป็นหมอดูแน่ๆว่าไหมครับ
“เออ สิ กูลาออกแล้วนะเว้ย แล้วที่สำคัญคือกูเลือกออกเอง กูว่ามันเสียศักดิ์ศรีว่ะ”
“เอ๋าเชี่ยนิ มึงเสือกคิดมากทำไมว่ะ อย่าลืมสิว่าผู้จัดการเขาเรียกตัวมึงกลับมาเอง แล้วที่สำคัญที่สุดตอนนี้มึงตกงานไม่ได้ไม่ใช่เหรอ”
“เออๆ เข้าก็เข้าว่ะ”  เอาใจช่วยผมให้พ้นภัยในครั้งนี้ด้วยนะครับT^T

หลังจากที่เดินเข้ามาในแผนกผมก็ต้องเก๊กหน้าตายทันทีเหมือนมันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ ไปแล้วล่ะครับ ทันทีที่ก้าวเข้ามาผมก็เจอกับสายตาสารพัดรูปแบบ ตั้งแต่เฉยๆ สงสัย ไปจนถึงไม่พอใจ ผมรู้ว่าคนในแผนกไม่ค่อยจะชอบขี้หน้าผมเท่าไหร่ยิ่งตอนนี้ทุกคนคงรู้แล้วว่าผมได้เลื่อนไปเป็นเลขาส่วนตัวของผู้จัดการ คงมีหลายคนที่หมั่นไส้ผมอยู่แน่ๆ แต่ก็อย่างว่าผมไม่แคร์สายตาคนนอกอยู่แล้ว ใครจะคิดยังไงผมไม่สนขออยากเดียวอย่ามายุ่งกับผมแล้วกัน เพราะผมไม่ยอมแน่ๆ


ก๊อกๆ ผมเคาะประตูห้องผู้จัดการทันทีที่มาถึง ต้องมารายงานตัวครับและที่สำคัญคือ โต๊ะทำงานผมอยู่ในห้องนี้น่ะสิครับ อยากจะร้องไห้เป็นภาษาแอฟริกาจริงๆเว้ย
“เชิญ”
“มาแล้วเรอครับคุณเป็นต่อ” คนที่นั่งอยู่บนโต๊ะพูดโดยที่ยังไม่เงยหน้าจากกองเอกสาร
“ครับ”
“อืม ดีแล้วนั่นโต๊ะทำงานคุณ ส่วนงานคือแยกเอกสารที่อยู่บนโต๊ะทั้งหมดให้ผม อ้ออย่าลืมจดคิว สำหรับวันนี้ด้วยนะ ” เขาสั่งก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป ผู้ชายคนนี้ทำผมแปลกใจอีกแล้ว จะว่าไปเขาก็เป็นคนเก่งแล้วก็คนที่ตั้งใจทำงานมากคนนึงเลยนะครับ เมื่อก่อนผมไม่เคยเห็นเขามุมนี้สักเท่าไหร่เพราะส่วนใหญ่ที่ผมเข้ามาจะเป็นเวลาพักเที่ยงหรือช่วงที่เขาไม่ได้งานยุ่งอะไรมากกว่า ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายแสนเจ้าเล่ห์ที่ผมเจอเมื่อวานกลับผู้ชายท่าทางเอาการเอางานคนนี้จะเป็นคนๆเดียวกันได้นะครับ
ตึกตักๆๆๆ  เว้ย ไอ้หัวใจบ้า จะเต้นอะไรนักหนาว่ะเนี่ย แกเป็นอะไรว่ะไอ้ต่อ ทำไมแค่เห็นสีหน้ามุ่งมั่นของอีตาผู้จัดการจอมเจ้าเล่ห์แล้วต้องใจเต้นด้วย
“อ้าวยืนอยู่ทำไมล่ะคุณ ทำงานสิ หรือว่า แอบมองผมอยู่ตกหลุมรักผมแล้วใช่ไหม”
ผมขอถอนคำพูดได้ไหม ไม่ทันไรแววเจ้าเล่ห์ออกมาอีกแล้ว ไม่น่าชม(ในใจ)เลยจริงๆ
“ครับๆ” ผมรับคำก่อนจะก้มหน้าทำงาน ของตัวเองไป เฮ้อเพิ่งรู้นะครับว่างานเลขามันยากขนาดนี้ จริงๆแล้วมันก็ไม่ยากเท่าไหร่ (เอาไงแน่ว่ะ) คือมันเป็นงานที่ค่อนข้างจุกจิกอ่ะครับ แล้วบังเอิญผมไม่ค่อยชอบแนวนี้เลยลำบากนิดหน่อย
“คุณๆ เที่ยงแล้วไปหาข้าวกินกันเถอะ” คนที่นั่งอีกโต๊ะบอก ห่ะ เที่ยงแล้วเหรอครับนี่ผมนั่งทำงานเพลินจนลืมเวลาเลยเหรอเนี่ย
“อ้าวเหรอครับ งั้นผมขอตัวลงไปกินข้าวนะครับ”
“เดี๋ยวสิคุณ กินกับผมที่นี่แหล่ะ จะลงไปกินทำไม  อ้อแล้วไม่ต้องขัด เพราะนี่คือคำสั่ง” จบข่าวจะพูดอะไรได้อีกครับ เออ จำไว้นะเว้ย ทีใครทีมัน หึหึ

“ไงว่ะต่อ เป็นเลขาวันแรกสนุกไหม” ไอ้นะถามทันทีเลิกงาน
“ก็ดีนะ ถ้าเจ้านายเป็นคนอื่นไม่ใช่ไอ้บ้านั่น”
“มึงก็พูดเกินไปคุณภยันตร์พล เขาก็ดูโอเคนะเว้ย”
“มึงเข้าข้างคนอื่นเหรอ มึงเป็นเพื่อนกูป่ะเนี่ย” งอนครับไรว่ะ มันเป็นเพื่อนผมมันต้องเข้าข้างผมสิ เรื่องอะไรต้องไปเข้าข้างอีตาผู้จัดการบ้านั่นด้วย
“ในสายตาคุณผมดูเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“เฮ้ย!!” ผมกับไอ้นะร้องขึ้นแทบจะพร้อมกันเพราะว่าไอ้คนที่พวกผมแอบนินทาดั๊นเดินมาได้ยินเข้าพอดี จังหวะดีมากเหมือนรู้กันกะคนแต่ง
“เอ่อ ไอ้ต่อกูมีธุระไปก่อนนะ” ครับแล้วมันก็ชิ่งไปตามระเบียบโดยปล่อยผมให้อยู่กับกรณีสองต่อสอง
“ว่าไงครับคุณเป็นต่อ คุณยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะครับ”
“ก็ไม่เชิงหรอกแค่ เอ่อ แค่” เอาไงดีครับ ลำบากใจนะเนี่ย ยังไงๆเขาก็เป็นเจ้านายผมนะครับแค่แอบนินทานี่ก็ผิดมากแล้ว
“ก็แค่รู้สึกว่าบางครั้ง คุณก็เอาแต่ใจไปหน่อยก็เท่านั้น” 
“เหรอครับ” อ้าวเฮ้ย ทำไมต้องทำหน้าเป็นหมาหงอยแบบนั้นด้วยเนี่ย ผมยิ่งใจอ่อนอยู่ด้วย
“เอ่อ อันที่จริงคุณก็ไม่ได้เลวร้อายอะไรหรอก ก็แค่บางครั้งผมหมั่นไส้ก็เท่านั้นเอง”
“จริงเหรอ”  ยิ้มหน้าบานได้อีก เหอๆ ผมว่าไอ้คุณผู้จัดการมันจะมีหลายมุมเกินไปแล้วนะครับ แต่ดูไปดูมาก็น่ารักดีนะ เฮ้ย น่ารัก นะ น่ารัก เนี่ยนะ ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ อ่ะที่คิดว่าไอ้ผู้จัดการเนี่ยน่ารัก
“เฮ้อ โลกอก ผมนึกว่าคุณจะเกลียดผมซะอีก”
“ทำไมต้องเกลียดด้วยล่ะครับ คุณไม่ได้ฆ่าล้างตระกูลผมซะหน่อย”
“ดีจัง ถ้างั้นเอาเป็นว่าตั้งแต่วันนี้ผมจะ “จีบ”คุณแล้วนะครับ ฮ่าๆๆ”
O_o ห๊า บางทีผมว่าเขาตรงไปนะครับ แกจะตรงเกินไปแล้วนะเว้ย ฮ่วย อ้อมบ้างก็ได้
“ฮ่าๆ เวลาคุณเขินก็น่ารักเหมือนกันนะครับ” เขิน  ใครเขิน ผมเหรอ  ผมเนี่ยนะจะเขินเพราะผู้ชาย ผมไม่ใช่เกย์นะครับถึงผมจะไม่ได้รังเกียจแต่ผมมั่นใจนะว่าตัวเองไม่ได้เป็น
“เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
ฟอด o_O ตกใจอีกรอบ บอก เฉยๆก็ด้ายยยยยยยย ทำไมต้องหอมแก้มด้วยครับ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตลูกผู้ชายอย่างนายเป็นต่อกันแน่ครับ ผมไม่เข้าจายยยยยยยย



.......................................
ตอนพิเศษ พ่อกัน ป๊าเซ้นส์
จิ้มเลยงับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28796.new#new
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 9 25/1/2012 p3 ตอนพิเศษ โคตร กันเซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 25-01-2012 01:01:20
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 9 25/1/2012 p3 ตอนพิเศษ โคตร กันเซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 25-01-2012 01:55:27
แอบไปอ่านเรื่องโน้นก่อนแล้ว :-[
นายต่อไม่รอดแน่ o13
+1
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 9 25/1/2012 p3 ตอนพิเศษ โคตร กันเซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 25-01-2012 11:18:44
เป็นต่อเตรียมรับมือดีดีนะ
เจ้านายจะเริ่มจีบจริงจังแล้ว  :laugh:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 9 25/1/2012 p3 ตอนพิเศษ โคตร กันเซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-01-2012 11:24:20
เจ้านายเริ่มรุกแล้ว :z1:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 9 25/1/2012 p3 ตอนพิเศษ โคตร กันเซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 25-01-2012 21:18:04
รุกแรงๆนะเจ้านาย
เราชอบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 9 25/1/2012 p3 ตอนพิเศษ โคตร กันเซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 25-01-2012 22:16:03
 :ped149:รุกรีบรุกค่ะคุณภยันตร์พล  อย่าให้เป็นต่อตั้งตัวได้เชียว
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 9 25/1/2012 p3 ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 26-01-2012 05:31:56
ต่อเตรียมตัวไว้เถอะไม่รอดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 9 25/1/2012 p3 ตอนพิเศษ โคตร กันเซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 26-01-2012 22:21:37
ตอน 10


ตลอดสองเดือนของการเป็นเลขาส่วนตัวให้ผู้จัดการทำให้ผมหัวหมุนอยู่ไม่น้อย งานเลขาไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะครับแค่จัดคิว เคลียร์คิวก็แทบจะกระอักเลือดตายอยู่แล้ว ยังต้องมานั่ง จัด ขัด แยก เอกสารอีกสารพัด คนเป็นเลขาเนี่ยเขาต้องมีความอดทนสูงมากๆเลยนะครับ ความจริงลำพังเรื่องงานก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับแต่ไอ้ที่รับมือยากมากกว่างานก็คือ คนที่ทำงานอยู่ร่วมห้องเนี่ยแหล่ะ
“ต่อครับ เที่ยงแล้วกินอะไรดี”  น่าน มาแล้วไง เสียงที่ผมได้ยินทุกเที่ยง
“อะไรก็ได้ครับ”  ผมตอบเหมือนเดิมเป๊ะ เอาจริงๆคือขี้เกียจคิดครับ เพราะถึงจะบอกอะไรออกไป อีตาคนเอาแต่ใจก้ตามใจตัวเองอยู่ดี
“นี่ใจคอจะไม่ตอบอย่างอื่นบ้างเหรอ”
“ไม่ล่ะครับ ถึงผมบอกไปผู้จัดการก็เลือกตามใจตัวเองอยู่ดี”
“แหม รู้ใจผมแบบนี้ ชอบผมแล้วล่ะซิ”
เอ่อ อีตาเนี่ย จะหลงตัวเองไปไหนครับ
“ผู้จัดการครับ พอเถอะผมหิวแล้ว”
“คร้าบๆ     รู้ไหมเวลาคุณทำหน้า งอแบบนี้มันก็น่ารักไปอีกแบบนะครับ”
ฟอดด
“อะ ไอ้ ผู้จัดการบ้ากาม” อ๊ากกกกกก เสียรู้อีกจนได้    ผมได้แต่มองคนที่เดินหัวเราะ ออกไปจากห้องอย่างโกรธๆ ทำไมผมต้องเป็นฝ่ายโดนลวนลามตลอดด้วยเนี่ย ชิ ไอ้บ้าเอ้ย 

“อ่ะ กินนี่ด้วยสิต่ออร่อยนะ” เขาบอกพลางตักโน่นตักนี่ใส่จานจนแทบจะกลายเป็นข้าวหมาอยู่แล้ว ดูท่าทางจะมีความสุขมากนะครับนั่น
“พอแล้วมั้งคุณ ผมกินไม่ทัน”
“อ้าวเหรอ ฮ่าๆๆ” เขายิ้มเขิน
พอเห็นผู้ชายตัวโตๆแบบนี้มานั่งเขินมันรู้สึกแปลกๆปนน่ารักยังไงก็ไม่รู้นะครับ  เอ๊ะ น่ารัก น่ารักอีกแล้วเหรอ นี่ผมคิดว่าเขาน่ารักอีกแล้วนะครับ  ว๊ากกก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตผมเนี่ย
3 วันต่อมา
ผมนั่งจับเจ่าอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวเดิมอย่างซังกะตาย ก็ไอ้ผู้จัดการเจ้าของห้องหายหัวไปไหนก็ไม่รู้สิครับ สามวันแล้วเนี่ย จะบอกสักคำก็ไม่มี ชิ หงุดหงิด
ก๊อกๆๆๆ
“พี่เข้าไปนะคะ”
“เชิญครับพี่ฝน” 
“เป็นไงบ้างต่อ ผู้จัดการไม่อยู่เหงาล่ะสิ”
“เอ่อ พี่ฝนหมายความว่าไงครับ” พี่ฝนพูดแปลกๆนะว่าไหม
“นี่ต่อ คนอื่นอาจจะดูไม่ออกแต่พี่ทำงานใกล้ชิดกับผู้จัดการทุกวันทำไมจะไม่รู้ว่าผู้จัดการน่ะรู้สึกยังไง”
“แล้วที่สำคัญ พี่เป็นสาววายนะคะ เพราะฉะนั้นสนับสนุนเต็มที่ค่ะ”
เอ่อ ผู้หญิงทุกวันนี้น่ากลัวนะครับว่าไหมผมว่าไอ้เอื้องน้องผมน่ากลัวแล้วนะครับ พี่ฝนเนี่ยน่ากลัวกว่าเป็นร้อยเท่า ผมอยากบอกทุกคนนะครับว่าผมเป็นผู้ชาย ทำไมชอบยุผมให้ชอบไอ้ผู้จัดการนั่นจังครับ
“พี่ฝนครับ คือ เอ่อ คือว่า พี่ฝนพอจะรู้ไหมครับว่าไอ้ เอ้ย ผู้จัดการไปไหน”
“นั่นแน่ ถามแบบนี้คิดอะไรรึเปล่าเนี่ย” 
“เปล่านะครับ ผมแค่อยากรู้เฉยๆ คือมันเบื่อนะครับอยู่ว่างๆเลยอยากรู้ว่าผู้จัดการจะกลับมาเมื่อไหร่”
“อยากรู้ก็ลองโทรถามผู้จัดการสิจ๊ะ ต่อมีเบอร์ไม่ใช่เหรอพี่ไปทำงานล้วนะ อ้อ อย่าลืมทานข้าวเที่ยงนะจ๊ะมีคนเขาฝากมาบอก”
ผมได้แต่มองตามพี่ฝนตาปริบๆ เอาไงดีล่ะครับ ไอ้สงสัยมันก็สงสัยนะ แต่ว่า จะให้ผมโทรหาไอ้ผู้จัดการบ้านั่นอ่ะนะ ไม่มีทางหรอก





“เฮ้ยไอ้ต่อ จะนั่งจ้องโทรศัพท์อีกนานไหมว่ะ จะโทรก็โทรดิ” ไอ้นะบอกหลังจากที่เห็นผมนั่งจ้องโทรศัพท์มาชั่วโมงกว่า
5วันแล้วนะครับที่ไอ้ผู้จัดการหายหัวไป หงุดหงิดยังไงบอกไม่ถูกครับ
“เรื่องไรกูต้องโทร”
“หึหึ มึงคิดถึงเขาก็ยอมรับมาเถอะ”
“ใครคิด กูแค่ว่างเว้ย จ้างกูตั้งแพงแต่ไม่เห็นมีงานอะไรให้ทำเลย ”
“อ้อเหรอ งั้นกูไปดีกว่าไม่อยากคุยกับคนปากแข็ง”
ไอ้นะไปแล้วแต่ผมก็ยังไม่เลิกมองโทรศัพท์สักที เอาจริงคือมันสงสัยน่ะครับ สงสัยจริงๆนะ  ผมตัดสินใจกดหมาเลขที่ไม่รู้จำขึ้นใจได้ยังทันที
ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงรอสายดังขึ้นพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นของผม ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนว่าจะตื่นเต้นทำไม
“สวัสดีค่ะ” เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ผมต้องชะงักทันที หรือว่าผมกดผิดครับ
“มีอะไรกับฟิวส์หรือเปล่าคะ พอดีว่าฟิวส์อาบน้ำอยู่ค่ะ”
“เอ่อ คือเปล่าครับ แค่นี้นะครับ” ผมบอกก่อนจะรีบกดวางทันที ตอนนี้รู้แค่หงุดหงิดแต่ไม่รู้ว่าผมหงุดหงิดอะไร
“ก็รู้ว่าฉันไม่มีความหมาย ก็รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้”     เสียง ริงโทนดังขึ้น พร้อมกับที่หน้าจอแสดงชื่อคนที่ผมไม่อยากคุยด้วยที่สุด เรื่องอะไรจะรับครับ หึ หงุดหงิด ไอ้ผู้จัดการเฮงซวยเอ้ย ผมเหลือบมองโทรศัพท์ที่ดังอีก สอง สามครั้งก่อนที่เสียงจะเงียบไป ผมนั่งรออีกเกือบ10 นาทีแต่ก็ไม่มีเสียงโทรศัพท์สักแอะ ไอ้คนซังกะบ๊วยเอ้ย หายหัวไปตั้ง5วัน โทรกลับแค่ครั้งเดียวเนี่ยนะ
“ไอ้ผู้จัดการเฮงซวย” ผมพูดกับรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ อย่างหงุดหงิด ใครอย่าได้เข้าใกล้ผมตอนนี้นะครับมีโดนเหวี่ยงแน่
“หายไปตั้ง5วันโทรมาแค่นี้เหรอว่ะ ไหนว่าจะจีบไง ไอ้บ้าเอ้ย” ผมยังระบายอารมณ์กับรูปต่อไป ยอมรับก็ได้ว่าหมั่นไส้แล้วก็หงุดหงิดมากที่เขาไปไหนไม่บอก แล้วที่มาทำดีด้วยสารพัดเนี่ยต้องการอะไรกันแน่ แล้วผู้หญิงที่รับโทรศัพท์เป็นใครกัน ตอนนี้สมองผมมันเครียดจนจะระเบิดตายอยู่แล้ว คอยดูนะกลับมาเมื่อไหร่ ตายแน่!!
ก๊อกๆๆๆ
“เชิญ” ผมบอกเสียงห้วน อารมณ์กำลังหงุดหงิดได้ที่เลยครับ
“ไงว่ะไอ้ต่อ ”
“เข้ามามีอะไร”
“เฮ้ย ทำไมต้องทำหน้ายังกะจับได้ว่าแฟนไปมีกิ๊ก หรือว่าหงุดหงิดที่ไม่ได้เจอผู้จัดการ”  นั่นไง ผมว่าไอ้นะมันต้องเป็นหมอดูแน่ๆ มันทายถูกทุกครั้งเลยนะว่าไหม
“เปล่า”
“ต่อเว้ย จะปากแข็งไปถึงไหน รักก็บอกว่ารัก ชอบก็บอกว่าชอบสิว่ะ กลัวอะไรหนักหนา ”
“ไม่ได้กลัวเว้ย แค่ไม่….ไม่แน่ใจ”
“ไม่แน่ใจอะไร ผู้จัดการหรือตัวมึงเอง”
“ก็ทั้งสองอย่างมั้ง” 
 จริงๆแล้วผมคิดมาตลอดว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงกันแน่ แต่คำตอบที่ได้คือ ไม่แน่ใจ ทั้งตัวผมเองแล้วก็ผู้จัดการ ใครๆก็รู้ทั้งนั้นว่า ภยันตร์พล เปรมบริภักดิ์  เป็นเพลย์บอยอันดับต้นๆของเมืองไทยสำหรับเขาแล้วคำว่า รักหรือชอบ อาจเป็นแค่คำพูดที่ใช่ล่อเหยื่อเท่านั้น ส่วนตัวผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าที่รู้สึกตอนนี้คืออะไร รัก ชอบ หรือแค่เห็นว่ามันเป็นเรื่องแปลกใหม่
“เฮ้อ ไอ้ต่อคำตอบน่ะมันอยู่ในใจมึงนะแหล่ะแค่มึงลองตัดไอ้เหตุผลงี่เง่า รกสมองพวกนั้นออกไปซะบางทีอาจเห็นคำตอบก็ได้นะ เรื่องบางเรื่องอย่าใช้ “หัว” คิดได้ไหม ใช้ “ใจ” คิดบ้างก็ได้ กูอยากเห็นมึงมีความสุขนะเว้ย แล้วไม่ต้องเสือกคิดล่ะว่ามันเร็วเกินไป รักไม่ต้องการเวลา มึงเคยได้ยินม่ะ”
“อ้อ อีกเรื่องนะ ถ้ามึงรักใครอย่าสนใจว่าเขาเป็นเพศไหนแค่ใจบอกว่าใช่ ก็ขอให้รักไปเลย กูไปล่ะเก็บไปคิดซะ เย็นๆเจอกัน”
ผมนั่งคิดตามที่ไอ้นะพูด ไม่รู้หรอกนะครับว่ามันถูกใครจ้างมาหรือเปล่าแต่ที่แน่ๆคือผมเชื่อว่าไอ้นะไม่มีทางคิดร้ายกับผมแน่นอน

วันที่7 ของการหายหัวไปของผู้จัดการ ผมนั่งจับเจ่าที่โต๊ะทำงานตัวเดิม ยอมรับนะครับว่า7วันมานี้มันเหงาแปลกๆเหมือนกัน พอไม่ได้เจอไม่ได้คุยไม่ได้ยินเสียงกวนประสาทแล้วมันรู้สึกโหวงๆเหมือนชีวิตมันขาดอะไรไปสักอย่าง
“ก็รู้ว่าฉันไม่มีความหมาย ก็รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้”     เสียงริงโทนดังขึ้นจนผมสะดุ้ง สงสัยจะเหม่อนานไปนิด แหะๆ
ผมมองหน้าจอที่แสดงชื่อใครบางคนที่หายหน้าไป7วัน เอาไงดีเนี่ย จะรับดีไหม  รับ ไม่รับ รับไม่รับ รับ ไม่รับ
“ครับ” ในที่สุดผมก็ตัดสินใจรับสายไม่มีประโยชน์อะไรที่จะหนี ถ้าผมอยากพิสูจน์อะไรๆให้แน่ใจ คงต้องลุยอย่างเดียวครับ
“ดีใจจังเลย ในที่สุดต่อก็ยอมรับสายผมซะที” เสียงยังคงร่าเริงเหมือนเดิม คนในสายจะรู้ไหมว่าตัวเองทำผมคิดมากแค่ไหน
“โทรมามีอะไรครับ”
“แหม เสียงยังห่างเหินเหมือนเดิมเลยนะ ผมหายไปตั้งอาทิตย์นึงไม่คิดถึงผมบ้างเลยเหรอ”
“ทำไมผมต้องคิดถึงคุณด้วย”
“แต่ผมคิดถึงคุณนิ” เขาบอก เอ๊ะ แล้วทำไมหน้าผมมันร้อนขึ้นๆแบบนี้ล่ะครับ แถมรู้สึกว่ามุมปากมันจะยกขึ้นด้วยนะ
“คะ คุณพูดเรื่อง อะไรเนี่ย พอแล้วผมจะวาง”
“ทุกทีเลยอ่า อยากไปอยู่ใกล้ๆจังเวลาคุณเขินแบบนี้มันน่ารักดี ”   เว้ย ขนาดมาแค่เสียงยังขนาดนี้ถ้ามาตัวเป็นๆผมไม่อยากคิด
“จะบ้าเหรอคุณ”
“ฟิวส์ไปยังฝ้ายกับลูกหิวแล้วนะ” เสียงที่ดังแทรกทำให้ผมต้องชะงัก จะเป็นคนที่รับสายวันนั้นหรือเปล่านะ
“จ้าๆๆ จะไปแล้วจ้า”
“ผมต้องไปแล้วนะต่อ พรุ่งนี้เจอกันครับ” เขาบอกก่อนจะวางสายไป ผมได้แต่ถือโทรศัพท์ค้างไว้อย่างนั้น ทำไมหัวใจผมต้องรู้สึกเจ็บแบบนี้ด้วย แล้ว “ลูก” ที่พูดถึงนั่นล่ะ หมายความว่าอะไร










หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 10 26/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-01-2012 22:43:39
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 10 26/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 26-01-2012 22:48:46
ค้างนะ...
นายต่อลาออก หายตัวไปบ้างเลย
+1
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 10 26/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-01-2012 23:15:02
น่านนนนนนไม่เคลียร์เลย
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 11 27/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 27-01-2012 13:23:34
ตอนที่11
“อรุณสวัสครับต่อ วันนี้มาทำงานเช้าจัง” เสียงร่าเริงที่ผมไม่ได้ยินมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆทักขึ้น
“ครับ”
“เป็นอะไรไม่สบายเหรอ ดูท่าทางเหนื่อยๆนะ” ที่เหนื่อยก็เพราะคุณนั่นแหล่ะ ใจจริงก็อยากจะพูดแบบนี้นะครับแต่ที่ผมพูดออกมาคือ
“ไม่มีอะไรครับ”
“ไม่มีได้ไงหน้าซีดขนาดนี้ ไม่สบายตรงไหนไปหาหมอไหม” เขายังเซ้าซี้ต่อ
“บอกว่าไม่เป็นอะไรไง อย่ามายุ่งกับผมได้ไหม” แค่นี้ก็สับสนจะตายอยู่แล้ว ประโยคหลังผมได้แต่พูดในใจเพราะไม่อยากให้เขารับรู้ถึงความรู้สึก งี่เง่าที่เกิดขึ้น
“ต่อคุณเป็นอะไร บอกผมหน่อยได้ไหม ผมเป็นห่วงคุณนะ”
“ผู้จัดการอย่าห่วงผมเลยครับ ผมเป็นแค่พนักงานคนนึงเท่านั้น”
“คุณอย่าพูดแบบนั้นนะ คุณก็รูว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ สำหรับผมคุณไม่ใช่แค่พนักงานแต่คุณคือคนสำคัญของผมนะ”
“หยุดพูดอะไรบ้าๆแบบนั้นสักทีได้ไหม!!!” ผมตวาด บอกตรงๆว่าผมเองก็ตกใจเหมือนกันที่กล้าตวาดเขาไปแบบนั้น แต่ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ เขาเข้ามาในชีวิตผมทำให้ผมสับสน ทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง ใช่เล่ห์เหลี่ยมกับผมสารพัด ก่อนจะบอกว่าที่ทำไปทุกอย่างเพราะชอบผม เขาเห็นผมเป็นตัวอะไรเหรอครับ ทั้งๆที่บอกว่าผมคือคนสำคัญ แต่ผมกลับไม่เคยรู้อะไรเลย ผมมีความรู้สึก มีจิตใจเหมือนกัน ผมไม่ใช่หุ่นยนต์ที่เขาจะวางหรือบงการยังไงก็ได้ ใครก็ได้ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าเขาต้องการอะไร
“ต่อเป็นอะไรบอกผมได้ไหม ถ้าคุณไม่บอกผมก็ไม่รู้นะว่าคุณเป็นอะไร”
“ปะ” ก่อนที่ผมจะตอบเสียงริงโทนจากโทรศัพท์เรื่องหรูก็ดังขึ้นซะก่อน
“ว่าไงฝ้าย” ชื่อนี้อีกแล้วเหรอ
“หือ ลูก ไม่สบายได้ๆๆฟิวส์จะไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ ฝ้ายรอก่อนนะ”
“ไปต่อ”
“ไปไหนครับ”
“มาเถอะน่า” เขาบอกก่อนจะลากผมไปด้วย ผมไม่เข้าใจว่าเขาจะพาผมไปด้วยทำไม ไปเพื่อให้นั่งฟังเขาโทรศัพท์คุยกับผู้หญิงที่ชื่อฝ้ายตลอดทางอย่างนั้นเหรอ
“ต่อช่วย ขับรถไปจอดทีได้ไหมคือผมต้องรีบ..”
“ไปเถอะ ลูกคุณรออยู่นะ”
ผมบอกก่อนจะขับรถไปจอดตามคำสั่ง ผมเดินไปที่แผนกเด็กเพื่อจะเอากุญแจรถไปคืนเจ้าของแล้วจะได้กลับสักที แต่ผมคิดผิด ผมไม่น่าเดินมาที่นี่เลย ทำไมผมต้องมาที่นี่ด้วยนะ ภาพครอบครัวที่ผมเห็นดูอบอุ่นมาก มากจนผมไม่กล้าเดินเข้าไปแทรกได้เลย ทำไมหัวใจมันต้องเจ็บปวดกับภาพที่เห็นด้วยนะ


“ดีจัง ถ้างั้นเอาเป็นว่าตั้งแต่วันนี้ผมจะ “จีบ”คุณแล้วนะครับ ฮ่าๆๆ”
“แต่ผมคิดถึงคุณนิ”
“คุณไม่ใช่แค่พนักงานแต่คุณคือคนสำคัญของผมนะ”



คำพูดมากมายที่เขาเคยพูดทำไมวนเวียนเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วที่เขาพูดไปทั้งหมดมันคืออะไรเหรอครับ หรือจริงๆแล้วเขาเห็นผมเป็นแค่เรื่องแปลกใหม่ในชีวิตเท่านั้นเอง ผมมองภาพนั้นก่อนจะ ค่อยๆเดินออกมาไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเดินเข้าไปแทรกกลางในครอบครัวที่อบอุ่นขนาดนั้น คิดซะว่าเรียนวิชา สปช อีกรอบแล้วกันนะไอ้ต่อ
“ต่อจะไปไหนน่ะ” เสียงเรียกดังขึ้นก่อนที่ผมจะรู้สึกว่ามือของผมถูกใครบางคนจับเอาไว้
“ผมจะกลับบริษัทครับ ผู้จัดการมีอะไรจะสั่งผมเหรอ”
“คุณยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เพราเรายังคุยกันไม่เสร็จเลยนะ”
“แต่ผมไม่มีอะไรจะคุย”
“ต้องมีสิ วันนี้เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องนะต่อ”
“ฟิวส์ ฝ้ายว่าเบาๆหน่อยได้ไหมที่นี่โรงพยาบาลนะ”
“ฝ้ายก็ดูต่อสิจะกลับท่าเดียวเลย อย่างนี้จะคุยกันรู้เรื่องไหม” น้ำเสียงอ้อนที่ผมแทบไม่เคยได้ยิน คุณฝ้ายคงมีความสำคัญกับเขามากสินะ
“ฟิวส์เนี่ยน๊า เมื่อไหร่จะเลิกเอาแต่ใจตัวเองซะที โตจนเป็นพ่อคนแล้วนะ” เสียงหวานบอกแกมหัวเราะ
 ผมพยายามสลัดมือใหญ่ออกจากมือตัวเอง ก่อนจะเฝ้าถามตัวเองว่าทำไมผมต้องมาอยู่ที่นี่ เขาพาผมมาเพื่ออะไร
“งั้นเดี๋ยวฟิวส์พาต่อไปเคลียร์ก่อน ส่วนฝ้ายพาลูกไปที่ห้องเถอะ”
“ได้จ๊ะ ไปก่อนนะคะคุณเป็นต่อ”
“ไปเถอะ” แล้วคนเอาแต่ใจก็ลากผมมาขึ้นลิฟต์ ก่อนจะกดชั้นบนสุด   เขาพาผมมาที่ดาดฟ้าของโรงพยาบาลที่ถูกตัดแปลง แล้วก็ตกแต่งให้กลายเป็นสวนหย่อมคงเอาไว้ให้คนไข้มาพักผ่อนมั้งครับ
“มีอะไรก็พูดมาสิครับผู้จัดการผมรีบ”
“นี่ต่อ ใจคอคุณจะไม่บอกผมจริงๆเหรอว่าโกรธผมเรื่องอะไร”
“ผมไม่ได้โกรธ”
“คุณโกรธ”
“ไม่ได้โกรธ”
“โกรธ”
“ก็บอกว่าไม่ได้….อุ๊บส์”  o_O
ผมได้แต่เบิกตาด้วยความตกใจทันทีที่เรียวลิ้นถูกแทรกเข้ามาในโพรงปากก่อนจะไล่ต้อนให้ผมจนมุม สมองที่เคยคิดต่อต้านเหมือนจะหยุดสั่งการไปชั่วขณะ ก่อนจะยอมโอนอ่อนไปกับสัมผัสที่แสนชำนาญของเขา
“ทีนี้บอกได้หรือยังว่าโกรธผมเรื่องอะไรครับ”
“ผมไม่ได้โกรธ”
“อืม สงสัยเมื่อกี้จะจูบเบาไปหน่อยปากเลยยังแข็งอยู่ จูบใหม่อีกรอบดีกว่าเนาะจะได้อ่อนซะที”
“พอแล้ว บอกก็ได้”
“อาทิตย์ที่แล้วคุณหายไปไหนมา”
“หือ”
“ไม่ต้อง งง บอกแค่ว่าไปไหนมาก็พอ”
“ไปเชียงใหม่ครับ ไปรับตาหนูกลับกรุงเทพแล้วก็คุยธุรกิจนิดหน่อย”
“แล้ว เอ่อ คือว่า เอ่อ” ผมอึกอัก จะให้ถามออกไปได้ยังไงล่ะครับผมไม่กล้าถาม หรือบางทีผมอาจจะกลัวคำตอบก็ได้มั้ง
“มีอะไรครับ ถามมาเถอะ”
“คือ คุณฝ้าย เอ่อ”
“ฮ่าๆๆๆ ทำไมคุณน่ารักจังเลยครับ”
ฟอด เขาบอกก่อนจะหอมแก้มผมอีกแล้ว ทำไมวันนี้เปลืองตัวบ่อยจังเนี่ย
“รู้ไหมผมดีใจนะเนี่ยที่คุณหึงผม”
“ใครหึง ไม่มี๊”
“ครับๆ ไม่หึงก็ไม่หึง แต่ผมจะบอกคุณไว้นะว่าเรื่องผมกับฝ้ายน่ะคุณสบายใจได้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน”
“แต่ว่า ลูกของคุณ”
“เฮ้อ ตั้งใจฟังดีๆนะครับ จริงๆแล้ว ผมกับฝ้ายเป็นแฝดกันครับ”
“หา!!!” o_O อึ้งอีกสักรอบ เอ่อ เรื่องมันชักจะเน่าขึ้นทุกทีแล้วนะครับ
“ส่วนเรื่องลูก เด็กคนนั้นเป็นลูกของเพื่อนฝ้ายน่ะครับ คือเขาท้องตาหนูตอนที่ยังไม่พร้อม ผมกับฝ้ายก็เลยรับตาหนูเป็นลูกบุตรธรรม ที่นี่เข้าใจหรือยังครับคนขี้งอน ”
“ใครงอน สำคัญตัวเองผิดแล้วคุณน่ะ” ผมบอกก่อนจะรีบหันหลังให้ทันที เรื่องอะไรต้องให้เขารู้เล่าว่าตอนนี้ผมหุบยิ้มไม่ลง น่ะ
“ครับ คุณ ไม่หึง ไม่งอนผมเลยสักนิด”
“ถึงผมจะเคยเจ้าชู้มาก่อนแต่ทุกอย่างที่ผมพูดกับคุณผมจริงจังและก็จริงใจนะครับ”
“ผมรักคุณนะต่อ เป็นแฟนกับผมนะ”
“ขอคิดดูก่อนนะครับ” ผมบอกเรื่องอะไรจะยอมง่ายๆล่ะครับ ถึงผมจะรู้สึกดีก็กับคำพูดของเขาก็เถอะ แบบนี้ต้องปล่อยให้รอซะให้เข็ดจริงไหมครับ
“ต่ออ่า น๊า เป็นแฟนกับผมนะ”
คนตัวโตยังตามงอแง ไม่เลิกเป็นแบบนี้มันก็น่ารักดีนะครับ ฮ่าๆๆๆ



...........................................................
ฮ่าๆๆ ลงไปก็ขำตัวเองป่วงเนาะ อิอิ
คือ พิตไปอ่าน ทู้ที่เกี่ยวกับ เรื่องพฤติกรรมของนักเขียนที่นักอ่านไม่ชอบ
แล้วมัน เครียด แหะๆ คือ พิตไม่แน่ใจว่าตัวเอง ทำแบบนั้นหรือเปล่า
ถ้าเป็นก็ขอโทษด้วยเน้อ
แต่ก็ขอบคุณทุกคนนะคะที่ตามอ่านนิยายพิต ทั้งเงาและไม่เงา
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆด้วยนะคะ
โชคดีหน่อยที่คนอ่านพิตน่ารัก เนาะ^^
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 11 27/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 27-01-2012 13:40:49
ต่อตกลงไปเถอะ
เขาอยากอ่านฉากหวานๆนะ....อิอิอิอิอิ

หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 11 27/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-01-2012 13:54:28
ต่ออย่ารีบตกลงเลย
เล่นตัวอีกนานๆ :z1:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 11 27/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 27-01-2012 13:57:32
เล่นซะเราเครียดเเทนต่อเลย
ตาเจ้านายก็ไม่พูดไม่บอก
อะไรเล้ยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 11 27/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 27-01-2012 22:03:18
ชอบคำลงท้ายจังที่บอกว่า
ถ้าเจอคนที่ใช่เพศอะไรก็รักไปเหอะ
เจอแล้วก็รักไปแล้วแต่โดนปฎิเสธอ่ะ
ไม่เห็นสวยหรูอย่างในนิยาย
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 11 27/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 27-01-2012 22:10:43
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 11 27/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 28-01-2012 12:15:57
ชอบคำลงท้ายจังที่บอกว่า
ถ้าเจอคนที่ใช่เพศอะไรก็รักไปเหอะ
เจอแล้วก็รักไปแล้วแต่โดนปฎิเสธอ่ะ
ไม่เห็นสวยหรูอย่างในนิยาย

นั่นมันอยู่ที่ว่า เรารักจริงหรือเปล่าด้วยนะคะ มันอาจจะดูเพ้อๆนะ
แต่สำหรบพิตแล้ว พิต ขอแค่ได้รักค่ะ
ไม่ได้ขอให้เขามารัก ฮ่าๆๆ บ้าเนาะ ว่ามั้ย
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน 11 27/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey Mouse ที่ 28-01-2012 23:13:20
นายเป็นต่อจะตกลงมั้ยน๊าา
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน จบ 29/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 29-01-2012 16:13:58
ตอนจบ


“ต่อคร้าบ เมื่อวานผมไม่ได้ไปเที่ยวจริงๆน๊า” ผมง้อคนที่นั่งทำงานอยู่ในห้องเดียวกันที่นั่งหน้าหน้านิ่งมาเกือบชั่วโมงแล้ว ผมได้แต่ส่ายหน้ากับความขี้งอนของคนตรงหน้า ทั้งๆที่ปากบอกว่าไม่ยอมเป็นแฟนผมแต่ถ้าผมแอบไปไหนโดยไม่บอกล่ะก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ งอนผมตั้งแต่เช้าแล้วเนี่ย  แต่ผมก็ชอบนะง้อทีไรผม หากำไรได้ตลอด เอิ๊กๆๆ
ฟอด นั่นหากำไรได้อีกแล้ว ผมหอมแก้มนิ่มๆที่นับวันยิ่งน่าหอม ไปหลายฟอด ชื่นใจ คนหน้างอเริ่มหน้าแดงแล้ว อิอิ
“จริงๆนะไม่เชื่อโทรถามไอ้เซ้นส์กับพี่โอ๋ได้เลย เมื่อวานผมไปคุยงานจริงๆ” 
“นะ หายงอนนะ เอาเป็นว่าต่อไปนี้ไปไหนจะโทรบอกต่อก่อนนะครับ”
“พูดแล้วทำให้ได้ด้วย” ต่อบอกเสียงเข้ม
“ครับๆ” เฮ้อ นี่ผมต้องเข้าสมาคมเกลียมัว เหมือนไอ้เซ้นส์ไหมครับเนี่ย ขนาดยังไม่เป็นแฟนกันผมยังหงอขนาดนี้ ทำไงได้ก็รักไปแล้วนิครับ ต่อให้ ต่อจะขี้หึง ขี้น้อยใจ หรือปากแข็งแค่ไหน นายฟิวส์คนนี้ก็รับได้อยู่แล้วครับ
“ต่อ อาทิตย์นี้ว่างไหม”
“ทำไมครับ”
“ไปสัมมนาที่ระยองกันไหม”
“ถ้าในฐานะเลขา ก็คงต้องไปนะครับผู้จัดการ”
“ใครบอกว่าไปในฐานะเลขา ต่อไปในฐานะแฟนผมตะหาก”  ผมบอกก่อนจะดูอีกคนที่ตอนนี้หน้าแดง หูแดงไปหมดแล้ว เห็นแล้วน่าฟัดชะมัดเลยครับ นี่ผมเป็นโรคจิตชอบแหย่ให้ต่อเขินตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย แต่ช่วยไม่ได้นะเวลาต่อเขินมันน่ารักจริงๆนะครับ


“ลมเย็นชะมัด เนาะต่อ” ผมบอกกับคนข้างๆ ตอนนี้เราสองคนอยู่ที่โรงแรมไอ้เซ้นส์เรียบร้อยครับ แหมมาที่นี่แล้วมันคิดถึงความหลังดีเนาะ      คนข้างๆยังไม่ยอมตอบ นั่นไง โดนงอนอีกแน่ๆ คือจริงแล้วมันไม่ได้มีสัมมนาอะไรนั่นหรอกครับผมแค่อยากมาเที่ยวกับต่อเท่านั้นเอง
“งอนเหรอ ขอโทษนะผมแค่อยากมาเที่ยวกับต่อบ้างเท่านั้นเอง อย่างอนนะ”
ฟอด กำไรครับกำไร
“นะหายงอนนะ”
“คุณเบื่อไหมครับ” จู่ๆต่อก็ถามขึ้น อารมณ์ไหนครับเนี่ย
“เบื่ออะไรครับ”
“ก็เบื่อที่ผมเป็นแบบนี้ไง ผมทั้งขี้งอน ทั้งเอาแต่ใจ ปากแข็ง ไม่โรแมนติก คุณเบื่อบ้างไหมที่ต้องคอยตามใจผม”
ผมดึงคนตรงหน้าเข้ามากอด นี่เขาคิดมากขนาดนี้เลยเหรอครับเนี่ย
“ต่อครับ ผมบอกคุณแล้วไง ว่าผมรักคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นยังไง หรือเป็นใครมาจากไหนผมก็รัก อีกอย่าง ผมเป็นคนเอาแต่ใจอยากได้อะไรก็ต้องได้ เพราะฉะนั้นถ้าผมเลือกใครแล้ว อย่าหวังว่าจะหนีผมได้เลย”
“คราวนี้เป็นแฟนผมได้หรือยังครับ” ผมถามคำถามเดิมออกไป ด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ถึงจะพอดูออกว่าเขารู้สึกยังไงแต่ผมก็อยากจะฟังจากปากเขาอยู่ดี
“คือผม………..ผมยอมแล้วก็ได้ครับคุณผู้จัดการ ”
“ยอมอะไรครับ”
“ก็ ก็ ยอมเป็นแฟนคุณไงเล่า” ในอ้อมกอดบอกพลางก้มหน้าชนชิดอกผม สงสัยจะอายมากนะครับนั่น
“ผมรักคุณนะต่อ แล้วคุณล่ะรักผมไหม”
“คือ ว่า อืม”
“อืม อะไรครับ”
“ไอ้คนเจ้าเล่ห์….ก็รักไงเล่า ถ้าไม่รักจะยอมให้กอดให้หอมเหรอ” 
ผมได้แต่กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ตอนนี้มีความสุขครับ ผมไม่เคยคิดว่าการที่ได้ยินคำว่ารักจากปากใครสักคนมันจะมีความสุขมากขนาดนี้ มันเหมือนอะไรบางอย่างที่ผมตามหามานานมันถูกเติมเต็ม ในที่สุดชีวิตของผมก็สมบรูณ์สักที
 ต้องขอบคุณฝ้ายกับตาหนู ฟอนต์ ลูกผมซะแล้วที่ทำให้ต่อ รู้ใจตัวเอง  ผมอาจจะไม่ใช่คนที่ดีเท่าไหร่ แต่ผมก็สัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะเป็นคนดีที่สุดให้ต่อ




................................................
ตอนจบมันช่างสั้น ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน จบ 29/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 29-01-2012 17:30:47
 :L2:ปิดฉากหวานๆ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน จบ 29/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 29-01-2012 18:01:29
สั้นมากเลย
ขออ่านตอนพิเศษนะ
+1
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน จบ 29/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 29-01-2012 18:27:50
สั้นๆจริง
แต่ก๋หวานดีเน้อะ
อยากอ่านฉากอัศจรรย์จังเลยอ่ะ
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน จบ 29/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 29-01-2012 21:50:50
น่ารัก
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน จบ 29/1/2012 p3
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey Mouse ที่ 29-01-2012 22:03:58
น่าจะมีต่ออีกน๊าา ฮ่าๆๆ
สุดท้ายนายเป็นต่อก็ตกลง
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น:บังเอิญไปรักเธอ) No.1 อาจเป็นรัก ตอน จบ 29/1/2012 p3ตอนพิเศษ ใจฉันเป็นของเธอ (ลม
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 29-01-2012 22:32:33
อันนี้เป็นลิ้งค์ตอนพิเศษ หมอลม กับ นัท นะคะ
ใครที่เคย อ่าย หรือไม่เคย อ่าน ก็ลองไปตามอ่านกันดูได้
ไม่หวงคร่า ^^
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=21268.30
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.1 อาจเป็นรัก ตอน จบ 29/1/2012 p3ตอนพิเศษ ใจฉันเป็นของเธอ(หมอลม นัท)) p4
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 30-01-2012 14:10:32
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.1 อาจเป็นรัก ตอน จบ 29/1/2012 p3ตอนพิเศษ ใจฉันเป็นของเธอ(หมอลม นัท)) p4
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 30-01-2012 14:26:03
จบได้น่ารักดี :L2:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.1 อาจเป็นรัก ตอน จบ 29/1/2012 p3ตอนพิเศษ ใจฉันเป็นของเธอ(หมอลม นัท)) p4
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 30-01-2012 21:18:26
ฟิวส์กะต่อน่ารักดี
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย 2/2/2012 p3ตอนพิเศษ ใจฉันเป็นของเธอ(หมอลม นัท))
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 02-02-2012 03:54:57
ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเหมือนเดิมทุกเช้าก่อนที่ผมจะกดเลื่อนเพื่อจะได้นอนต่อ ไม่ต้องมองผมด้วยสายตาแบบนั้นเลย พวกคุณคนอ่านก็ต้องเคยทำแบบผมแน่ ใช่ไหมครับ
“ไอ้นะ เมื่อไหร่แกจะตื่นห๊า ให้ปลุกอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน ไอ้ลูกคนนี้ ตื่นได้แล้ว!!!!” เสียงตะโกนขนาด 180 เดซิเบลดังมาจากหน้าห้องไม่บอกก็รู้ว่าเป็นแม่ผมแน่ๆ เสียงแบบนี้มีเจ๊นี คนเดียวครับ
“อีกห้านาทีได้ไหมม๊า”
“ไม่ได้ ลุกเดี๋ยวนี้นะไอ้ลูกเวร วันนี้เปิดเทอมวันแรกไม่ใช่เหรอห่ะ”
ตายหอง !!! เชี่ยแล้ว ผมลืมได้ยังไงครับ วันนี้มันเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของการเป็นนักศึกษามหาลัยปี2 ของผมนิหว่า
“ตื่นแล้วเจ๊(หมายถึงแม่ผมอ่ะครับ) ” ผมบอกก่อนจะลนลานวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
“ไปแล้วนะเจ๊” ผมบอกแม่ทันทีที่ลงมาข้างล่างซึ่งจริงๆมันก็ห่างกันแค่ 10 นาที ก่อนจะคว้า หนูฟ้า เวสป้าคู่บุญของผมออกมา
แหมระหว่างเดินทางแนะนำตัวไปพลางๆก่อนก็ดีเนาะเผื่อใครยังไม่เคยรู้จักผม ผมนายนะ ครับ ชื่อจริง
นาย ณนนท์  แซ่เซ็ง(เป็นนามสกุลที่ใครอ่านต้องอ่านซ้ำแต่ผมว่ามันเท่ดีนะ) เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวน(หัวเดียวด้วย) ของเจ๊นี กะเฮียกวง นั่นแน่ ไม่ต้องคิดจะล้อเลยนะครับ บอกไว้ก่อน โกรธนะโกรธ พูดแล้วจะหาว่าโม้บ้านผมน่ะเป็นร้านข้าวมันไก่ที่ขายดีแล้วก็อร่อยที่สุดในซอยเลยนะขอบอก เพราะทั้งซอยมีร้านผมร้านเดียว ฮ่าๆ  เห็นม่ะว่าไม่ได้โม้
เกือบๆชั่วโมงผมก็ฝ่าการจราจรอันติดขัดมาถึงมหาลัยจนได้ ก่อนจะเดินเข้าอาคารที่คุ้นเคย ผมเป็นนักศึกษาปี2 เอก การตลาดครับ แต่อย่าถามนะว่าทำไมถึงเรียนการตลาดเพราะผมไม่รู้ วันสมัครดันฝนรหัสผิดก็เลยปล่อยเลยตามเลย แหะๆ
“ไอ้นะ ทางนี้เว้ย” 
“มานานแล้วเหรอว่ะ ไอ้เปียก” ผมถามคนที่นั่งอยู่ ก่อนจะได้สายตาอาฆาตตอบกลับมา จริงๆแล้วไอ้นี่มันชื่อ เป้ครับแต่พวกผมเรียกมันว่าไอ้เปียกเพราะวันรับน้องมันดันเดินตกสระน้ำข้างคณะจนเปียกทั้งตัว ผมเลยเรียกมันว่าไอ้เปียกตั้งแต่นั้นมาแต่จริงๆมันหล่อนะครับ ดีกรีรองเดือนคณะเลยทีเดียว แต่เสียอย่างเดียวมันซุ่มซ่ามไปหน่อย
“กูจะเลิกคบกะมึง เพราะมึงชอบเรียกกูแบบนี้แระ”
“โอ๋ๆๆๆ น้องเปียก เฮ้ย น้องเป้ของพี่นะ ดีกันนะๆๆๆ”
“ไปไกลๆเลยควายนะกูขนลุก”  ไอ้เป้ทำท่ารังเกียจซะจนน่าหมั่นไส้
“กูก็เหมือนกันแระ ว่าแต่ไอ้พวกนั้นยังไม่มาอีกเหรอ” ผมถามหาเพื่อนสนิทอีกสองคนที่เหลือ แต่ยังไม่ทันขาดคำ พอร์ชคันงามก็มาจอดหน้าคณะเรียบร้อยพร้อมกับที่ผู้ชายหน้าตาดี คนนึงเดินลงมา ก่อนจะเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆรอบข้างได้เหมือนเดิมเป๊ะ
“หล่อมาอีกแล้วนะสัด ทัพ” ไอ้เปียกเอ้ย ไอ้เป้เหน็บ แต่จริงๆผมว่ามันอิจฉามากกว่าครับ ไอ้คนนี้ชื่อจอมทัพครับ
รูปหล่อ พ่อรวย เจ้าชู้ เรียกว่า หล่อ รวย เลว ครบสูตร  คนนี้แหละครับที่ซิวตำแหน่งเดือนคณะจากไอ้เป้มาได้ ไอ้เป้มันเลยอาฆาตไม่เลิกเพราะมันบอกว่ามันควรจะได้เพราะหล่อกว่า เค้าคงจะเลือกมันหรอกนะ เดือนบ้าอะไรสะดุดขาไมค์หัวทิ่ม
“อิจฉากูอ่ะดิ มึงอ่ะ” ไอ้ทัพเริ่มแล้วไง ไอ้คู่นี้มันเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดครับ ทะเลาะกันได้ทุกเรื่อง ทะเลาะกันได้ทุกวันบางวันนี่แทบจะต่อยกันเลยก็มี แต่ผมชินแล้วล่ะครับ เพราะถึงมันจะทะเลาะกันแต่จริงๆไอ้สองคนนี้มันเพื่อนตายกันเลยนะ มีอยู่ครั้งนึงไอ้เป้ โดนรุมกระทืบเพราะดันไปจีบเด็กมีเจ้าของเข้าไอ้ทัพเข้าไปช่วยโดยไม่ลังเลสักนิด สรุปคือ นอนหยอดน้ำข้าวต้มกันไปตามระเบียบ 20 ต่อ2 นะครับ ดีเท่าไหร่แล้วที่พวกมันรอดมาได้ ทฤษฏี หล่อกินไม่ได้มันอมตะจริงๆ เหอๆ
“ใครอิจฉามึงว่ะ ระดับท่านเป้ ไม่เคยอิจฉาใครเว้ย”
“ให้มันจริงเถอะเชี่ยเป้”
“ไอ้ทัพ มึงกวนกูเหรอ”
“เออ จะทำไมว่ะ”
“พวกมึงพอเถอะกูรำคาญ” ผมบอกก่อนจะมองตาขวางผมบอกรึยังครับว่าไอ้พวกนี้มันกลัวผม แต่จะเพราะอะไรเดี๋ยวว่างๆเล่าให้ฟังนะครับ
“ว่าแต่เชี่ยต้าร์ไปไหนว่ะ” ไอ้ทัพหันมาถามผม ก่อนจะหยิบโค้กไอ้เป้มาดูดเอาๆ
“เชี่ยทัพ!! โค้กกู มึงคายออกมาเลยนะสัด”
“เรื่องเด่ะ”
“ย๊ากกกกกกก คายออกมานะเว้ย”
ปล่อยมันสองคนไปเถอะครับยิ่งอายุเยอะ สมองก็ยิ่งพัฒนาน้อยทำอะไรไร้สาระขึ้นทุกวัน
“เฮ้ย ตาร์ทางนี้” ผมเรียกผู้ชายท่าทางเรียบร้อยคนนึง แต่อย่าโดนลักษณะภายนอกมันหลอกเอานะครับไอ้นี่ร้ายลึก เจ้าเล่ห์เป็นที่1 เห็นดูนิ่งๆ แถมเรียนเก่งแบบนี้ แต่สัน …มันก็ไม่ได้ต่างจากไอ้ทัพสักนิด
“ทำไมวันนี้มึงมาเช้าได้ว่ะไอ้นะ” อ้าว ไอ้นี่ วอนโดนเตะแต่เช้า
“มึงว้อนเหรอ มากวนแต่เช้าเนี่ย”
“เปล่าคร้าบ ใครจะกล้าแหยมกับคุณณนนท์ล่ะครับ..แล้วไอ้สองผัวเมียนั่นไปไหนล่ะ” 
“ตีกันไปโน่นแล้ว” ผมบอกก่อนจะชี้ให้คนมาใหม่ดู ขำกลิ้ง ลิงกับหมาที่ตอนนี้มันวิ่งไล่เตะกันได้รอบตึกแล้วมั้ง
“กูว่าถ้าไอ้สองคนนี้ได้กัน ลูกต้องหัวปีท้ายปีแน่ๆ”
“เชี่ยตาร์ นี่มึงจะให้พวกมันได้กันให้ได้ใช่ไหมเนี่ย”
“อ้าว ไอ้นี่น่าสนุกจะตายคิดดูนะเว้ย ถ้าไอ้สองคนนี้ได้กันจริงๆคงสนุกพิลึก ฮ่าๆๆ”
“พอเลยๆ ไร้สาระแล้วมึงอ่ะ ไปเรียนเหอะ”  ผมบอก  ขนลุกพิลึก ผมคิดไม่ออกเลยจริงๆนะครับว่าไอ้ทัพกับไอ้เป้ มันจะลงเอยกันได้ยังไง


“โว้ย!! หิวๆๆๆ” เสียงโวยวายจากไอ้เป้ดังขึ้นแทบจะทันทีที่อาจารย์เดินออกจากห้อง ดีนะที่วันนี้พวกผมมีเรียนแค่คาบเช้า ไม่งั้นคงต้องฟังไอ้เป้ บ่นจนหูชาแน่(ตอนนั้นน้องจ๊ะยังไม่ดัง ไม่มีใครมาเกาหูให้ซะด้วย)
“เชี่ยเป้ จะโวยวายทำไมเนี่ย หนวกหู”
“ทำไมมึงต้องหาเรื่อง กูตลอดห่ะเชี่ยทัพ”
“แล้วจะทำไม”  ไอ้ทัพยังตั้งหน้าตั้งตากวนไอ้เป้ไม่เลิก สงสัยพวกมันสองคนจะโรคจิตจริงๆอ่ะครับ กวนกันไปกวนกันมาได้ทั้งวี่ทั้งวัน
“พอเหอะๆ ป่ะไปกินข้าวได้แล้วพวกมึงอ่ะ” 
“คร้าบบบบบบบบบพี่นะ” ตอบซะพร้อมเพียงเชียวนะเว้ย ทีอย่างงี้ทำสามัคคี
“อ้าวต้าร์ ไม่ไปกินข้าวเหรอ”
“คือ กูต้องไปรับน้องว่ะ”
“น้อง???? มึงมีน้องด้วยเหรอว่ะ” ไอ้ทัพสอดทันที
“เชี่ยทัพ ก็ต้องมีสิ ใครจะเป็นลูกคนเดียวกระเทียมลีบเหมือนมึงล่ะ” ไอ้เป้ขัด ว่าแต่ไอ้ คนเดียวกระเทียมลีบ มันคืออะไรครับ ภาษาไทยมีแบบนี้ด้วยเหรอ
“ว่าแต่ผู้หญิงหรือผู้ชายว่ะ ถ้าเป็นผู้หญิงกูไปรับให้ก็ได้นะเว้ย” ไอ้ทัพเสนอตัว
“ พวกมึงสองผัวเมียหุบปากไปเลยนะ น้องกู กูไปรับเองได้ แล้วที่สำคัญน้องกูเป็นผู้ชายเว้ย”
“แล้วมึงจะรับน้องมาทำไมว่ะ”
“ก็น้องกูมันเกิดอยากเข้ามาเรียน สาธิตไง ไม่รู้ว่าอะไรนักหนา ”
“เอาน่า ตาร์น้องทั้งคนไปรับหน่อยสิว่ะ” ผมบอกกะอีแค่รับน้อง มันจะยากอะไรนักหนา
“แต่กูมีนัดกินข้าวกับน้องพายไก่ ดาวสาสุข นะเว้ย” นั่นไง ว่าแล้วเรื่องที่ไอ้นี่จะเครียดมีแค่เรื่องหญิงอย่างเดียวเท่านั้น
“คนนี้กูรักจริงนะเว้ย ต้องดูแลอย่างดี”
“ตอแหล!!!” พวกผมสามคนกระโกนใส่หน้าไอ้คนพูดทันที สัน..อย่างไอ้ตาร์เนี่ยนะจะรักใครจริง คนนี้ผมให้3วัน เชื่อไหมครับ
“นะ” นั่นไง มาแล้วไง สายตาแบบนี้ท่าทางแบบนี้ งานเข้าอีกแน่ๆ
“อะ….อะไร”
“นะเพื่อนรัก ไปรับไอ้เบสแทนกูหน่อยสิ”
“เรื่องอะไร มึงก็ใช้ไอ้สองตัวนั่นสิ”
“พวกกูไม่ว่าง!!!” ประสานเสียงพร้อมเพรียงกันไปไหมครับเพื่อน สรุปคือ งานเข้าใช่ไหมเนี่ย
“สรุปกูต้องไปว่างั้น”
“ใช่แล้วเพื่อนรัก ไปรับสนามบินนะ” ไฮโซ อีก อ้อ ลืมไปว่าไอ้ตาร์ มันลูกเจ้าไร่ส้ม ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดแถบภาคเหนือ
“พวกกูไปนะ”  ไอ้ตาร์บอก ก่อนที่พวกมันสามคนจะแยกย้ายไปขึ้นรถตัวเอง
“เฮ้ย ไอ้ตาร์ กูไม่รู้จักน้องมึงเลยนะ” ผมตะโกนถามเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองไม่เคยเจอไอ้น้องเบสอะไรนั่นเลยสักครั้ง
“ไม่ต้องห่วง กูจัดการเอง มึงไปรับมันก็พอ ก็ไปล่ะ”


.............................................................................................
เรื่องใหม่ หวังว่าจะชอบกันนะคะ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย 2/2/2012 p4ตอนพิเศษ ใจฉันเป็นของเธอ(หมอลม นัท))
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 02-02-2012 08:19:08
 :L2:ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย 2/2/2012 p4ตอนพิเศษ ใจฉันเป็นของเธอ(หมอลม นัท))
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 02-02-2012 11:01:21
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย 2/2/2012 p4ตอนพิเศษ ใจฉันเป็นของเธอ(หมอลม นัท))
เริ่มหัวข้อโดย: nutsumi ที่ 03-02-2012 15:07:01
แปะๆไว้ก่อนเดี๋ยวตามอ่านค่ะ><อิอิ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย 2/2/2012 p4ตอนพิเศษ ใจฉันเป็นของเธอ(หมอลม นัท))
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 03-02-2012 17:21:01
ติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย 2/2/2012 p4ตอนพิเศษ ใจฉันเป็
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 15-02-2012 20:27:37
เข้ามาดัน
อยากอ่านต่อ
เมื่อไหร่จะมา
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย 2/2/2012 p4ตอนพิเศษ ใจฉันเป็นของเธอ(หมอลม นัท))
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 16-02-2012 18:12:29
เป็นต่อช่างน่ารักเสียจริง โดนฟิวส์ทั้งกอดทั้งหอมตลอด
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย 2/2/2012 p4ตอนพิเศษ ใจฉันเป็นของเธอ(หมอลม นัท))
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 19-02-2012 19:51:26
ตอน 2


ผมนั่งแท็กซี่เพื่อไปรับน้องไอ้ตาร์ ตามบัญชาของคุณเพื่อนรักทันทีที่มันโทรมาบอกว่า น้องมันรอที่สนามบินแล้ว
แล้วผมจะหาไอ้เด็กนี่เจอได้ยังไงครับเนี่ย ผมได้แต่ยืนเคว้งกลางสนามบินโดยที่ไม่รู้จุดหมายรูปสักใบก็ไม่มี แล้วจะเจอกันได้ยังไง
“พี่ๆๆ” เสียงเรียกเบาๆพร้อมกับมือใครก็ไม่รู้สะกิดหลังผม
“หือ มีอะไรครับน้อง” ผมหันไปพูดกับไอ้เด็กหัวเกรียนคนนึง  ที่บอกได้คำเดียวว่ามันหล่อ!!
“อ้าวพี่ พี่จะมารับผมไม่ใช่เหรอ”  ผมมองหน้าไอ้เด็กเกรียนอย่างละเอียดและฟันธงได้ว่า ไม่ได้มีเค้าความเหมือนไอ้ตาร์เลยสักนิด ลูกเก็บมาเลี้ยงรึเปล่าหว่า คือไอ้ตาร์มันจะดูหล่อเนี๊ยบ เป็นคุณชายทุกกระเบียดนิ้ว แต่ไอ้เด็กนี่หน้าตาดูกวนทีนมากถึงมากที่สุด จะดูหล่อเลวแบบไอ้ทัพมากกว่า
“จะมองอีกนานไหมพี่ ผมเหนื่อยนะเนี่ย” อ้าวไอ้เด็กเวรนี่ มาถึงก็กวนเลยนะ เดี๋ยวโบกเกรียนเลยนิ
“เออ ไปกลับก็กลับ”
“เออ พี่ว่าแต่พี่ชื่อไรอ่ะ ผมจะได้เรียกถูก”
“นะ” ผมตอบเสียงห้วน คือ บอกก่อนนะว่าผมไม่ค่อยจะชอบเด็กไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ขอแค่เด็กกว่าผมจะไม่ชอบขึ้นมาซะเฉยๆ
“ผมเบส ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่นะ”
“อืม” ผมตอบรับแกนๆ
“เออพี่นะ เมื่อกี้กีตาร์ โทรมาบอกว่าให้ไปอยู่บ้านพี่ก่อน เพราะตอนนี้ที่คอนโด มีแขก”  กีตาร์ ที่ไอ้เด็กนี่พูดถึงหมายถึงเชี่ยตาร์เพื่อนผมเนี่ยแหละ แต่มันบอกว่า ชื่อ กีตาร์อนุญาตให้เฉพาะแม่ของลูกกับคนในครอบครัวเท่านั้นที่เรียกได้ ส่วนคนอื่นเรียกตาร์เฉยๆก็พอ
“ห่ะ ว่าไงนะ!!!” ผมตะโกนดังลั่นจน คนแถวนั้นมองตาม เหอๆไอ้เพื่อนสันขวานพาน้องพายไก่ไปเกาหู ล่ะสิ แล้วทำไมภาระต้องตกเป็นของผมด้วยเนี่ย
“ไม่หาหรอก เอาเป็นว่าคืนนี้ผมนอนบ้านพี่แล้วกันโอเคนะ” พูดเสร็จก็เดิ่นลิ่วนำผมไปซะงั้น
“เฮ้ย พี่เร็วดิ ผมเหนื่อยนะเนี่ย” 
ผมได้เดินตามไอ้เด็กเอาแต่ใจไปเงียบๆ นี่ไงผมถึงไม่ชอบเด็ก เอาใจยากงอแง เว้ย ชีวิต
ผมพาไอ้เด็กเกรียนกลับบ้านผมด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่แต่เพราะผมเป็นคนดีไงครับ รับปากเพื่อนแล้วก็ต้องช่วย แต่ผมชักจะเริ่มทนความเกรียนมันไม่ได้แล้วนะครับ อยากตบเด็ก!!!
“เฮ้ยทำไมชอบทำหน้ายุ่งจังว่ะพี่” คนที่พูดไม่หยุดตั้งแต่สนามบินมาถึงบ้านถามขึ้นหลังจากที่ผมพาเข้าบ้านมา ถ้าจะบอกว่า รำคาญแก จะเป็นการกระทบกระเทือนจิตใจเด็กเกินไปไหมครับ
“เปล่า แล้วนี่เรากินอะไรมารึยัง เดี๋ยวพี่ทำอะไรให้กิน” ผมถามเพื่อตัดรำคาญ
“ยัง ว่าแต่หน้าอย่างพี่เนี่ยนะทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ” อ้าวไอ้เด็กนี่  อดทนไว้ไอ้นะ อดทนไว้ น้องเพื่อนๆๆ ผมสูดหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะได้ตบเกรียนเด็กจริงๆ
“เหอะๆ ล้อเล่นน่าพี่ แค่นี้ก็โกรธขี้น้อยใจนะเราน่ะ”
จะนิยามไอ้เด็กนี่ไงดีครับ ปืนเกลียว ลามปาม สามหาว หรือเกรียน!!!   ผมได้แต่เดินหน้ายุ่งเข้าครัวไปทำกับข้าว หรือจะเอายาเบื่อหนูผสมในข้าวให้ไอ้เด็กเกรียนนี่กินเลยดีไหม ฮ่าๆๆๆๆๆ   ได้แค่คิดแหละครับถึงผมจะไม่ค่อยชอบเด็กแต่ไอ้เบสเนี่ยน้องไอ้ตาร์มันทำงั้นไม่ได้  ผมเปิดตู้เย็นไม่เจออะไรเลยนอกจาก ไข่สองฝองกับโพสอิทที่แปะไว้ที่ไข่
ลูกรัก ป๊ากะม๊า ต้องไปเยี่ยมอาม่าที่เมืองจีน
 สองอาทิตย์นะฝากดูบ้านด้วย
ประจำครับสองคนนี้ ชอบไปไหนมาไหนไม่บอกล่วงหน้า นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ผมต้องทำกับข้าวเป็นเพราะถ้าหวังพึ่งเจ๊นี แกอย่างเดียวได้อดแน่     ไอ้จะให้ไปกินข้างนอกผมก็ไม่ชอบอีก


“อ่ะมีแค่นี้ กินได้ใช่ไหม” ผมวางจานข้าวเปล่ากับไข่เจียวลงบนโต๊ะ
“กินได้อยู่แล้ว  ว่าแต่ไข่พี่เนี่ยกินได้แน่นะ”       
“กินได้สิว่ะ ”    ผมตอบเสียงห้วน  เริ่มจะคันฝ่าเท้ายิกๆ
“เฮ้ย ใจง่ายนะพี่ เพิ่งรู้จักกันจะให้กิน “ไข่” ซะแล้ว” ไอ้เด็กเกรียนพูดพร้อมกับมองผมด้วยแววตาเจ้าเล่ห์  เอ่อ แล้วทำไมผมต้องขนลุกกับสายตาของไอ้เด็กนี่ด้วยเนี่ย
“รีบๆกิน จะได้รีบๆนอนพรุ่งนี้จะพาไปส่งคอนโดเชี่ยตาร์แต่เช้า”
ไอ้เด็กเกรียนพยักหน้าหงึกๆก่อนจะก้มหน้าก้มตากินอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ให้ผมนอนห้องพี่นะ”  ไอ้เบสบอกหลังจากอาบน้ำเสร็จ
“เดี๋ยวแกนอนห้องพี่ ส่วนพี่จะไปนอนห้องแม่แล้วกัน”
“ทำไมต้องทำอะไรยุ่งยากด้วยเนี่ยพี่นะ นอนด้วยกันเนี่ยแระ” ตกลงใครเป็นเจ้าของบ้านกันแน่ครับเนี่ย ตูจะนอนที่ไหนมันก็เรื่องของตูสิว่ะไอ้เกรียน
“เออน่า เอาตามนี้แหละ ” ผมบอกก่อนจะแยกย้ายไปนอน ไม่ไหวแล้วครับวันนี้เหนื่อยเกินไปแล้ว
อ้าว เชี่ย ห้องแม่ล็อคครับ เจ๊นี เป็นไรเนี่ย ร้อยวันพันปีไม่เคยล็อคห้องแล้วเกิดจะมาล็อคอะไรวันนี้ครับ
“อ้าวกลับมาทำไมอ่ะพี่” คนที่นอนบนเตียงถาม
“ห้องแม่ล็อค เซ็ง ถอยดิจะนอน” ผมบอกก่อนล้มตัวลงนอนบ้าง วันนี้เหนื่อยโคตร ไหนจะเรียนไหนจะทะเลาะกะไอ้คนที่นอนข้างๆ อีก
“พี่นะ บ้านพี่มีผีไหมอ่ะ”  อ้าวไอ้เด็กเวร ถามอารายตอนเน้  ผมด่าในใจก่อนจะมองผ่านความมืดมิดของรัตติกาลค้างคาวตัวหนึ่งบินผ่านหน้าต่างเสียงหอนโหยหวนดังระงมไปทั่วซอย เงาร่างสูงใหญ่ค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกที ทุกที ทุกที แอร้ยยยยยยยย พอๆนอกเรื่องไปไกลแล้ว แหะๆไอ้บรรยากาศทั้งหมด มันแค่จิตนาการนะครับ
“จะมีไดไงเล่า อยู่มาตั้งนานแล้วยังไม่เคยเจออะไรเลย”
“แน่ใจเหรอพี่”
“แน่สิว่ะ อย่าถามมากน่า นอนได้แล้ว” ไอ้เด็กนี่ เข้าใจยากจริง คนยิ่งกลัวๆอยู่ ทำไมชอบพูดให้คิดเนี่ย
หมับ!! O_o
แรงรัดที่ไม่เบาหนักของอวัยวะที่เรียกว่าแขนรัดที่ตัวผมแน่น จนหายใจแทบไม่ออก
“เฮ้ย ไอ้เด็กเวร กอดทำไมว่ะ”
“ก็ผมกลัวผีไง” ตอบได้น่าเตะมาก แกไม่ใช่เด็ก 3 ขวบนะเว้ย
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกอดว่ะ”
“ก็กอดกันไว้ เผื่อผีมาพี่จะได้ไม่ทิ้งผมไว้คนเดียวไง” แถได้น่าถีบจริงๆ
“จะกอดทำไม เอางี้พี่สัญญาจะไม่หนี”
“ไม่อ่ะ เอาน่าพี่ นอนๆไปเหอะ กลัวอะไรก็แค่กอด แมนป่ะเราเนี่ย อะโด่  นอนๆๆๆ” 
“เออ” ผมกระแทกเสียง ก่อนจะพยายามข่มตาให้หลับ อยากจะทำอะไรก็เชิญเถอะ ผู้ชายด้วยกันคงไม่เป็นอะไรหรอกจริงไหมครับ

................................................
ขอโทษที่หายไปนานแสนนานนะคะ พิตติดสอบอ่ะ แหะๆ มารับผิดแล้วคร้าบ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน2 19/2/2012 p4
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 19-02-2012 20:16:08
ไม่ได้อ่านเรื่องนี้มานานจยเรื่องฟิวส์จบแล้ว

แต่ดีใจที่ความรักลงเอยกีนได้

ส่วนเรื่องใหม่นึกว่านะจะกินเด็กแต่ดูท่าจะถูกเด็กกินซะแล้วมั้ง

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน2 19/2/2012 p4 +ตอนพิเศษ ผู้กองกัน เซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 22-02-2012 18:48:37
ตอน3

“ตื่นได้แล้วครับ”เสียงทุ้มกระซิบเบาๆที่ข้างหู พร้อมกับสัมผัสอบอุ่นที่หน้าผากมันช่างอ่อนโยนจนผมจนผมเผลออมยิ้ม ใครกันนะ ที่อบอุ่นขนาดนี้หรือผมจะฝันไปถ้าเป็นฝันผมก็อยากจะฝันอย่างนี้ไปนานๆจังเลยครับ
“ตื่นได้แล้วๆๆๆๆ ” เสียงตะโกนดังลั่นจนผมสะดุ้งตื่น ก่อนที่ไอ้ตัวการจะยืนหัวเราะร่าที่ข้างเตียง เด็กเวร กวนแต่เช้าเลยเว้ย
“โอ้ย รำคาญ จะไปไหนก็ไปเลยไป๊” ผมตะโกนตอบก่อนจะมองเบสอย่างกินเลือดกินเนื้อ แก๊ แกทำให้ฉันตื่นจากฝันอันแสนหวาน ฉันจะกระทืบแก อ๊ากกกกกก
“ไรว่ะ คนอุส่าปลุกยังจะมาทำหน้าไม่พอใจอีก ทำคุณบูชาโทษชัดๆ” แน่ะ มีเหน็บด้วย เดี๋ยวจะโดนเหนี่ยว
“แล้วปลุกทำไมเนี่ย”
“หิว”  คำเดียวสั้น ง่าย ได้ใจความ เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณน้องอายุ 3 ขวบเหรอ จะบ้าตาย หิวแล้วต้องมาปลุกเนี่ย
“หิว ก็ไปหาอะไรกินสิ คนจะหลับจะนอน ไป ชิ่วๆ” ผมไล่ก่อนจะล้มตัวลงบนที่นอนแสนสุข อ๊า สบาย
“ตื่นๆๆๆๆๆๆๆๆ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงหนายยยยยยยยยย”
เว้ย ใครก็ด๊ายยยยยยยย ช่วยลากไอ้เด็กนี่ไปไกลๆหน่อยได้ม๊ายยยยยยยยยย T^T
“เออ ตื่นแล้วๆ” ผมจำใจต้องตื่นเพราะถ้าขืนปล่อยให้ไอ้เบสแหกปากอยู่แบบนี้ข้างบ้านเอาครกมาทุ่มใส่แน่ๆครับ
“ก็แค่เนี๊ย ป้านีบอกว่าพี่นะปลุกยาก ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย”
“ป้านี???”
“เอ๋า นี่พี่อย่าบอกนะว่า จำชื่อแม่ตัวเองไม่ได้”  เฮ้ย นี่ไปคุยกันตอนไหนเนี่ย 
“ก็ป้านีโทรมาเมื่อเช้าแต่พี่ไม่ยอมตื่นมารับสักที ผมก็เลยรับแทนไง”  ยังยิ้มรับซะหน้าชื่นตาบาน ไอ้ที่แกทำเขาเรียก เสียมารยาทเว้ย
“รีบลุกดิพี่ ผมหิวจนจะกินช่างได้ทั้งตัวอยู่แล้วนะ”
“เออๆ ” 
หลังจากที่กินข้าวเสร็จผมก็พาไอ้เด็กเกรียนมาช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้านซะหน่อย เพราะของสดหมดตู้เย็นแล้ว แต่อย่าคิดนะว่าพวกผมจะเดินห้าง แนวๆอย่างผมต้อง ตลาดสดเท่านั้นครับ ฮ่าๆ เหตุผลเหรอ มันถูกไง แหม ไอ้ของในห้างน่ะมันผ่านมากี่วันแล้วก็ไม่รู้สู้ของในตลาดไม่ได้หรอกครับ สดจริง ถูกจริง แต่ดูท่าคุณชายที่เดินหล่ออยู่ข้างหลังจะไม่เคยเดินตลาดนะครับ
“เอ่อ พี่นะ ทำไมพี่ไม่ไปซื้อที่ห้างอ่ะ”
“เปลือง ซื้อที่นี่แหล่ะ ถูกกว่า สดกว่า ไม่รู้ไง”
“แหมพี่นี่ ก็มีความเป็นแม่บ้านศรีเรือนกับเขาเหมือนกันนะเนี่ย” แม่บ้านศรีเรือน????  มันคืออะไรครับเนี่ย
“อย่าพูดมากน่าตามมาก็พอ” ผมเอ็ด จริงๆคือรำคาญน่ะครับ
“อ้าว นะ มาซื้อของเหรอ” เจ๊ กิม แม่ค้าขายผักร่างท้วมเอ่ยทักผม 
“มาซื้อเครื่องซักผ้ามั้งเจ๊”
“อ้าวไอ้นี่วอน กวนเหรอห่ะเดี๋ยวมีตบโชว์” แกด่าแต่ไม่ได้จริงจังอะไรเพราะผมกับเจ๊กิมคุ้นเคยกันดีเวลาผมมาซื้อผักทีไรก็จะมาซื้อกับแกเป็นประจำอยู่แล้ว เลยเล่นได้
“โห่เจ๊ รักดอกจึงหยอกเล่น”
“ย่ะ เอาเถอะพ่อคู้นนน แต่อย่ารักเจ๊มากนะ ไปรักคนอื่นบ้างก็ได้” แกว่าแถมค้อนผมซะชุดใหญ่
“เอ๊ะ ว่าแต่พ่อหนุ่มสุดหล่อ ข้างหลังน่ะใครเอ่ย”
เอ๋า ซื้อของเพลินจนเกือบลืมไปเลยว่าพาเด็กเกรียนนี่มาด้วย
“อ้อ นะ น้อ”
“แฟนครับ” อึ้งและช็อคไปตามๆกันทันที่ไอ้เด็กเกรียนพูดแทรกขึ้นมา
“มะ ไม่ใช่นะเจ๊” ผมรีบบอก อยากจะบ้าตาย แถวนี้ใครๆก็รู้ว่าเจ๊กิม น่ะมีฉายาว่า “กิมรู้โลกรู้” เชื่อสิไม่เกินครึ่งชั่วโมงรู้ทั้งซอยแน่ แล้วผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ย
“แหม ไม่เห็นต้องอายเลยมีแฟนหล่อขนาดนี้เป็นเจ๊หน่อยไม่ได้ เจ๊จะประกาศลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งสามวันเลย”
เสียงซุบซิบที่ไม่เบานักของแม่ค้าในตลาดทำให้ผมอายจนแทบแทรกแผ่นปูนหนี ไม่ซงไม่ซื้อมันแล้วครับ ผมรีบเดินออกจากตลาดโดยไม่รออีกคนที่ไปด้วย อยากหาเรื่องเองก็ให้มันหาทางกลับเองเถอะครับ
ผมจอดหนูฟ้า ไว้ที่หน้าบ้านก่อนจะเข้าห้องทันที ผมยอมรับตรงนี้เลยนะครับว่าผมโกรธ แล้วก็โมโหมาก เพราะผมไม่ชอบให้ใครมารู้เรื่องส่วนตัวผมไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม ผมเกลียดการตกเป็นขี้ปากชาวบ้านที่สุดแต่ไอ้เด็กเวรนั้นก็ทำให้ผมต้องกลายเป็นหัวข้อสนทนาของคนทั้งซอยจนได้
ก๊อกๆๆ
“พี่นะ เปิดประตูหน่อย” เสียงของไอ้คนปากไม่มีหูรูดเรียก ตะโกนให้ตายก็ไม่เปิดเว้ย
“เปิดโหน่ยยยยยยยยยย” เสียงโหยหวนยังคงร้องต่อไป เชอะ จ้างให้ก็ไม่เปิด
“เฮ้ยพี่ จะเปิดไม่เปิดว่ะ” อ้าว มีขึ้น ว่ะ ไอ้เด็กเกรียนนิ เดี๋ยวบั๊ดตบเกรียนแตก
คนที่อยู่ข้างนอกยังพยายามเคาะประตู แถมตะโกนซะดังลั่น จนผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แหะๆ ตื่นขึ้นมาก็เย็นแล้ว
แต่เอ๊ะ เสียงเงียบไปแล้วนิหว่า สงสัยกลับคอนโดไอ้ตาร์ไปแล้วมั้ง หุหุ ดีเหมือนกัน  ผมผิวปากอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินลงมาหาอะไรกินข้างล่าง แต่ก็ต้องชะงักเพราะสิ่งมีชีวิตตัวเท่าคนที่หลับอยู่บนโซฟา จะเป็นใครซะล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้เด็กเกรียนน่ะครับ  ผมยืนมองคนหลับอยู่พักใหญ่ไม่น่าเชื่อว่าไอ้เด็กปากเสียนี่มันจะหลับได้น่ารักขนาดนี้นะครับ
“ถ้าแกหลับแบบนี้ตลอดไปก็น่าจะดีนะไอ้หนู”
“พี่พูดจริงเหรอ” คนที่ผมคิดว่าหลับกลับพูดตอบกลับ แถมยังไม่มีท่าทางง่วงสักนิด สรุปคือ ผมโดนเด็กหลอกใช่ไหมเนี่ย
“นี่แกล้งหลับเหรอ”
“เปล่าซะหน่อย ผมน่ะหลับจริงแต่ตื่นตั้งแต่ที่พี่เดินลงมาแล้ว ใครจะไปขี้เซาเหมือนพี่ล่ะ ”
ไอ้เด็กเกรียน ยังไงก็เกรียนวันยังค่ำ ผมขอถอนคำพูดที่ว่ามันน่ารัก ทันไหมครับ
“ที่ยอมลงมาแปลว่าหายโกรธผมแล้วอ่ะดิ”
“ยัง”  ไอ้เด็กเกรียนหน้าสลดไปนิดหน่อย ย้ำว่านิดหน่อยจริงๆ ก่อนที่จะกลับมายิ้มระรื่นเหมือนเดิม
“ไม่เป็นไร งอนไปเถอะ เดี๋ยวผมง้อพี่เอง”
สายตาจริงจังไม่มีแววล้อเล่นของไอ้เด็กเกรียนทำให้ ใจผมมันสั่นแปลกๆ จนไม่กล้าสบตาตรงๆ ทำไมกัน ผมเป็นอะไรไปเนี่ย ไม่เข้าใจตัวเองเลย
“พี่นะ ๆๆๆ!!!!!”
“อะ อะไรเล่า ตะโกนทำไมเนี่ย”
“ก็พี่เหม่อทำไมเล่า หรือว่าอึ้งในความหล่อของผม”
ผมได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอาเต็มที นอกจากจะเกรียนแล้วยังหลงตัวเองเป็นที่หนึ่ง อีกเนาะคนเรา
“แล้วนี่เชี่ยตาร์จะมารับกี่โมง”
“ไม่รู้ กีตาร์ไม่ได้บอก”  ตอบมึนได้อีก อยากจะตบกะบาลจริงๆ
“นี่เบส ไปโรงเรียนน่ะ อย่าทำหน้าแบบนี้รู้เปล่า”
“ทำไมอ่ะพี่”
“ก็เดี๋ยวจะโดน ทีน นะสิว่ะ”
“อุ้ยตาย น้องเบส กลัวจังเลยอ่ะพี่นะ”
ไอ้เด็กเกรียนทำท่ากลัวได้ตุ๊ดมาก จนผมต้องกลั้นขำแทบตาย ฮ่าๆ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้เด็กนี่มันจะมีมุมฮากะเค้าด้วยนะครับ
“พอๆ โทรไปหาไอ้ตาร์นิ ว่ามันจะมารับกี่โมง ให้ไวด้วย”
“เอ้าทำไมพี่ไม่โทรเองอ่ะ”
“เปลือง” ผมตอบเล่นเอาไอ้เด็กตรงหน้า ขำก๊ากทันที อ้าวผมรู้คุณค่าของเงินเนี่ยตลกมากเหรอครับ ธุระก็ไม่ใช่แล้วทำไมผมต้องโทรเองด้วย นาทีละตั้ง 75 สตางค์ เก็บไว้โทรจีบสาวดีกว่าครับ
“พี่นะ กีตาร์จะมารับผมเย็นๆนะ” เบสเดินมาบอกผมหลังจากที่โทรคุยกะไอ้ตาร์
“อืม” ผมตอบก่อนจะเดินเข้าไปหาอะไรกินในครัว
“พี่นะ หน้างออีกแล้วยังไม่หายโกรธผมอีกเหรอ” ไอ้ตัวกวนยังตามไม่เลิก
อันที่จริงผมก็ยอมรับนะครับว่ายังโกรธๆไอ้เด็กนี่อยู่ ผมยอมรับนะครับว่าผมเป็นเกย์และไม่ได้ปิดบังใครเพราะคนใกล้ตัวผมรู้ทั้งนั้น แต่มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปประกาศให้คนรู้ทั้งซอยนิครับ ผมแค่ไม่ชอบการนินทาและไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้านเท่าไหร่
“เกะกะน่า”
“พี่ก็หายโกรธผมก่อนดิ ผมขอโทษ นะ พี่นะ”
ไอ้เด็กเกรียนง้อ ผมนี่ต้องกลั้นขำแทบตายไม่น่าเชื่อว่าไอ้เด็กที่ดูท่าทาง หยิ่งๆกวนๆแบบนี้เวลาอ้อนมันก็ดูแปลกๆดีนะครับ
“ไปไกลๆเลยไป” แกล้งเด็กซะหน่อยอยากจะรู้เหมือนกันว่าไอ้เด็กนี่จะทำยังไงต่อ
“พี่นะ หายโกรธเถอะน๊า”  ผมยังทำเฉย แกล้งเมินไอ้คนที่พันแข้งพันขาผมอยู่
“เฮ้อ ทำไมง้อยากขนาดนี้เนี่ย” คนง้อบ่น ก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองไปทันที อ้าว เฮ้ย เลิกแล้วเหรอว่ะ ผมได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองในใจ
“เชอะ ไอ้คนไม่มีความอดทน” ผมบ่น ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกน้อยใจด้วยที่ไอ้เด็กเกรียนไม่ง้อ 
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน3 22/2/2012 p4 +ตอนพิเศษ ผู้กองกัน เซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 24-02-2012 09:20:22
เล่นตัวไปหน่อยน้องเบสเลยไม่ง้อนะเลย
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน3 22/2/2012 p4 +ตอนพิเศษ ผู้กองกัน เซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 24-02-2012 11:17:14
งอนต่อไปเถอะ เบสมันไม่ล้มเลิกแน่นอน ดูท่าทางจะรักนะนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน3 22/2/2012 p4 +ตอนพิเศษ ผู้กองกัน เซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 28-02-2012 11:33:15
ตอนพิเศษ ทัพ เป้  เพื่อนรัก
9 โมง ผมขับรถเข้าไปในมหาลัย ด้วยใจคิดถึง ใครบางคน แหว่ะ ทำไมผมต้องเลี่ยนขนาดนี้ด้วยว่ะ มันช่างผิดคอนเซ็ป หล่อ รวย เลว ของผมซะเหลือเกิน  แต่ อันนั้นมันเมื่อก่อนครับ ตอนนี้ คำนิยามของนายจอมทัพคือ หล่อ (อันนี้ห้ามเปลี่ยน) รวย ดี ตะหาก ฮ่าๆ ก็ตอนนี้ผมมีแฟนแล้วนะครับ ถึงเขาคนนั้นจะยังไม่ยอมให้ผมบอกใครๆก็ตามว่าเรารักกัน แต่ผมคิดถึงมันชะมัดเลยครับไม่รู้ป่านนี้นั่ง เอ๋อ อยู่ที่ไหน
“กรี๊ดดดดดด” เสียงกรี๊ดจากสาวๆ ดังขึ้นทันทีที่ผมลงจากรถ แหมถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงต้องหว่านเสน่ห์ ไปสักหน่อยแต่ตอนนี้ คนที่ผมคิดถึงนั่งจ้องอยู่ขนาดนั้น คงไม่กล้าหรอกครับ
“หล่อมาอีกแล้วนะสัด ทัพ”  นั่นไงมาแล้วเสียงทักแห่งความคิดถึง ไอ้ที่นั่งหน้างออยู่เนี่ย ที่รักผมเองครับแต่อย่าไปบอกใครนะ น้องเปียกเค้าอาย สงสัยจะหึง ทำใจหน่อยนะเป้ แฟนมึงหล่อ
“อิจฉากูอ่ะดิ มึงอ่ะ”  จัดไปซะหน่อย เพื่อกระชับความสัมพันธ์
“ใครอิจฉามึงว่ะ ระดับท่านเป้ ไม่เคยอิจฉาใครเว้ย” นั่นปากเหรอที่รัก มันน่าจับมาจูบซะให้เข็ด
“ให้มันจริงเถอะเชี่ยเป้”
“ไอ้ทัพ มึงกวนกูเหรอ” มีโมโหๆ เดี๋ยวบั๊ด ตบด้วยปากซะนี่
“เออ จะทำไมว่ะ”
“พวกมึงพอเถอะกูรำคาญ” ไอ้นะ หันมาบอกก่อนจะทำตาขวาง ผมกับที่รักก็เลยต้องหยุดสร้างความสัมพันธ์กันชั่วคราว
 “ว่าแต่เชี่ยต้าร์ไปไหนว่ะ”  ผมถามไอ้นะ ก่อนจะหยิบโค้กที่รักขึ้นมากิน แหมเหมือนได้จูบทางอ้อมเลยเนาะ ^^
“เชี่ยทัพ!! โค้กกู มึงคายออกมาเลยนะสัด” 
“เรื่องเด่ะ”
“ย๊ากกกกกกก คายออกมานะเว้ย” แล้วเราสองคนก็มีอันต้องเล่นหนังอินเดียกันอีกเช้า ฮ่าๆๆ ก็การแกล้งแย่ให้ที่รักมันเป็นความสุขของผมนี่ครับ
………………………………………………………………………………………….
“พอแล้วเป้ มานี่มา” ผมบอกก่อนจะคว้าคนที่วิ่งไล่ผมอย่างเอาเป็นเอาตายเข้ามาในอ้อมกอด พลางดึงเข้ามาในซอกตึกด้วยกัน ลำบากเกินไปนะชีวิต เฮ้อ
“เชี่ยทัพ ปล่อย นี่มันมหาลัยนะ” 
“ก็เค้าคิดถึงที่รักนิ ใครให้ที่รักไม่ค้างคอนโดเค้าล่ะเมื่อคืน”  ผมบอกพลางหอมแก้มฟอดใหญ่
“เชี่ยทัพจะหื่นไปถึงไหนว่ะ เดี๋ยวไอ้พวกนนั้นมันก็สงสัยหรอก” ที่รักนี่ยังไง ดิ้นได้ดิ้นดี คนเค้ารักจะตายอยู่แล้วเนี่ย จะอายอะไรไอ้พวกนั้นมันน่าจะเดาออกตั้งนานแล้วมั้งน่ะ โดยเฉพาะเชี่ยตาร์ ดูตามันก็รู้เจ้าเล่ห์ขนาดนั้นอย่างว่าล่ะครับ คนเจ้าชู้มันมองกันออก
“ก็เค้ารักตะเองนิ เมื่อไหร่ตะเองจะเปิดเผยเรื่องของเราสักทีอ่ะ”
“พอเหอะเชี่ยทัพกูขนลุก พูดแบบเดิมได้ไหม”
“โด่ ไอ้เป้ มึงนี่มันไม่มีความโรแมนติกเอาซะเล๊ย”
“เออสิ กูไม่ใช่สาวๆของมึงนิ ไม่พอใจก็ไปเลยดิไปเลย” ไอ้เป้ไล่ แต่ทำหน้ายังกะจะร้องไห้เป็นใครจะกล้าไปล่ะครับ เฮ้อ ก็รักมันไปแล้วนิ ถึงมันจะ บ้าๆบอๆ ซุ่มซ่าม ไปบ้างแต่แบบนี้มันก็น่ารักดีนะครับ ไม่น่าเชื่อเลย ว่าไอ้คนที่ผมทั้งกอด ทั้งหอมมันอยู่เนี่ยจะเป็นไอ้เป้ ต้องขอบคุณ ไอ้พวกคู่อริพวกนั้นจริงๆนะครับ
หลายเดือนก่อน
“เฮ้ยพวกมึง เห็นไอ้เป้ไหมว่ะ” ผมตะโกนถามไอ้ตาร์กับไอ้นะ เพราะตั้งแต่เที่ยงยังไม่เห็นเงา น้องเปียกเอ๋อคู่อริผมเลย มันไม่อยู่เหงาปากชิบหาย  ไม่รู้จะด่ากับใคร
“เชี่ยทัพ เมียมึงนะเว้ยมึงจะถามพวกกูเพื่อ” ไอ้ตาร์ตอบ ไอ้นี่วอนแต่วัน พูดมาได้ว่าผมเป็นผัวไอ้เป้แค่คิดก็ขนลุกสะเทือนถึงก้านสมองแล้ว ปากหมา แถมซุ่มซ่ามอย่างให้เป้ให้ฟรียังต้องคิดหนักเลยนะนั่น
“อ้าว ไอ้นี่กูถามนี่ อย่ากวน ขอร้องๆ”
“กูว่าหน้าอย่างไอ้เป้แมร่งไป ม่อ ชัวร์” ไอ้นะที่เงียบอยู่นานโคตรหันมาตอบ
“แล้วทำไมคุณ(มึง)ไม่ตอบผม(กู) แต่แรก(ว่ะ)ครับ ปล่อยให้เชี่ยตาร์ปล่อยหมาอยู่ได้”
“อ้าว เชี่ยทัพหาเรื่องเหรอ แต่เสียใจด้วยนะกูไม่ใช่ไอ้เป้กูไม่เถียงกะมึงหรอก” นี่ขนาดไม่เถียงนะ ถ้ามันเถียงคงมีต่อยกันสักหมัดสองหมัดเลยมั้งนั่น
“กูไม่คุยกะพวกมึงแล้ว รมณ์เสีย” ผมบ่นก่อนจะเดินตามหาไอ้เอ๋อ แมร่งอย่าให้เจอนะ พ่อจะด่าให้เข็ดโทษฐานที่ ไปม่อ แล้วไม่ชวน
“น้องจอมทัพขา” พี่พิมมี่ กระเทยเฮ้ยไม่ใช่ๆ สตรีข้ามเพศที่สวยที่สุดในคณะ(พี่แกบอกงั้นนะ) วิ่งกระหืดกระหอบพลางตะโกนเรียกผม ทำอย่างกะหนีตำรวจมา เอ๊ะหรือว่าหนีจริงๆ ข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ฮ่าๆๆ
“มีอะไรครับ” มารยาทสุภาพบุรุษ หญิง????เรียกต้องหยุดคอย
“คือ แฮกๆๆ” พี่พิมมี่ พูดไปหอบไป สงสัยจะเหนื่อยจัด
“ใจเย็นๆพี่มีอะไร” ท่าทางจะเป็นเรื่องไม่ดีแน่ๆ ผมคิดว่านะ
“คือว่าน้องเป้แย่แล้วค่า ”
“ไอเป้ ไอ้เป้เป็นไรพี่” ผมถามอย่างร้อนรน ถึงจะทะเลาะกันบ่อย ต่อยกันบ้าง แต่ยังไงๆไอ้น้องเอ๋อมันก็เป็นเพื่อนผม ยังไงก็ต้องห่วงเป็นธรรมดาจริงไหม
“น้องเป้ โดนพวกไอ้โจ๊ก ซ้อมอยู่ที่หลังตึกเก่าค่า”
ผมรีบวิ่งไปที่หลังตึกเก่าทันที โดยไม่ลืมกดโทรศัพท์เรียกกำลังเสริม ด้วย
“เฮ้ยไอ้นะ ไอ้เป้มีเรื่องที่หลังตึกเก่ารีบมาด่วน แค่นี้นะเว้ยกูจะดูมันก่อน”
แมร่งเฮ้ย ทำไมระยะทางจากที่ผมอยู่ไปหลังตึกเก่ามันไกลขนาดนี้ว่ะ  มึงอย่าเป็นอะไรนะเว้ยไอ้น้องเอ๋อ
กว่าผมจะวิ่งมาถึงตึกเก่าก็ใช้เวลาเกือบ5นาที ภาพที่ไอ้เป้โดนรุ่นพี่ 20 คนล้อมแล้วประเคน ฝ่าเท้าใส่ไม่ยั้งทำให้ผมเลือดขึ้นหน้าทันที ในใลกนี้ไม่มีใครแกล้งไอ้เป้ได้นอกจากผม นายจอมทัพคนนี้ เท่านั้น
“เฮ้ย พวกมึงทำไรเพื่อนกูว่ะ” ผมตะโกนก่อนจะกระโดดถีบไอ้คนที่อยู่ใกล้ที่สุด ทันที ไอ้เป้ที่นอนจมฝ่าเท้าอยู่ลืมตาขึ้นมามองผมก่อนจะยิ้มบางๆ สัดเอ้ย จะตายอยู่แล้วเสือกยิ้มอีก มึงนี่มันจริงๆเลยไอ้เอ๋อ
“เชี่ยนี่แมร่งวอน เฮ้ยพวกมึงจัดการดิ” ไอ้โจ๊กสั่งเพื่อนมันให้ล้อมผมไว้ทันที ซวยแระตู ไม่ใช่ผมต่อยไม่เป็นนะครับแต่ 20ต่อ1 เนี่ยมันก็ท่าจะชนะยาก เอาว่ะ ตายเป็นตาย
ตุ๊บ พลั่ก ๆๆๆ เสียงกระทบกันของสิ่งที่เรียกว่ากำปั้น กระทบกับหน้าผมบ้าง ตัวบ้าง จนแทบหลบไม่ทันไหนจะเท้าที่ประทับลงกลางหลังเต็มทำให้ผมเสียหลักล้มลงไปนอนเคียงข้างไอ้น้องเอ๋อ
“หึ รักกกันมากใช่ไหมพวกมึง งั้นก็โดนพร้อมกันเลยนะ” ไอ้โจ๊กพูด ก่อนจะยิ้มเหี้ยม เห็นแล้วอยากตัด ม ม้า ออกจริงๆ
“เฮ้ย พวกมึงแมร่งหมาหมู่เหรอว่ะ” เสียงที่คุ้นหู ดังขึ้นก่อนที่ไอ้พวกเวรนี่จะประเคนเท้าใส่ผม
“วุ่นวายจริงเว้ย!!!” ไอ้โจ๊ก สบถ
“หึ พี่โจ๊กแมร่งไม่อายเหรอว่ะ รุมคนไม่มีทางสู้” ไอ้นะพูดก่อนจะเดินวนรอบไอ้โจ๊กด้วยท่าทางกวนตีน
“ไอ้หน้าอ่อน มึงจะเอายังไงว่ามา”
“ไม่เอาไง ก็แค่ไม่ชอบหมาหมู่แน่จริงตัวๆไหม”
เฮ้ย ผมตกใจตาแทบถลน ไอ้นะมันต้องคิดสั้นแน่ๆที่ไปท้าต่อยกะไอ้โจ๊ก ที่เป็นแชมป์มวยมหาลัยสองปีซ้อนเนี่ย
“ฮ่าๆๆ นี่น้องพี่ไม่อยากรังแกเด็กว่ะ กลับบ้านไปกินนมนอนไป๊” เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเห็นด้วยกะไอ้โจ๊กอย่างยิ่ง เตี้ยๆ บางๆ อย่างไอ้นะเนี่ยนะจะไปสู้ไอ้โจ๊กได้ รนหาที่ตายแท้ๆเพื่อนกู
“หรือพี่กลัว” ไอ้นะพูดต่อ
“ คนอย่างพี่โจ๊กไม่เคยกลัวใครอยู่แล้วเว้ย แน่จริงเข้ามา”
ไอ้พี่โจ๊กบอกก่อนจะเปิดฉากปล่อยหมัดใส่ไอ้นะก่อน นี่ถ้าไม่เจ็บปางตายผมว่าจะลุกขึ้นเชียร์แล้วนะเนี่ย
ไอ้นะ หลบได้หวุดหวิด ก่อนจะถีบเข้าที่ท้องไอ้โจ๊กเต็มๆ 
“มึง มึงถีบกูอย่าอยู่เลยมึง”
ไอ้โจ๊กตะโกน ก่อนจะวิ่งเข้าใส่ไอ้นะทันที 
พลั่ก  !! O_o
นัดเดียวจอด แต่ไม่ใช่ไอ้นะ นะครับ เป็นไอ้โจ๊กตะหาก โดนจระเข้ฟาดหางไปหนึ่งดอกเต็มๆไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะครับ ส่วนลูกน้องเห็นลูกพี่โดนน็อค ก็วิ่งตาเหลือกไปคนละทิศละทาง
“ไงพวกมึงซ่ากันหนัก” ไอ้นะเดินมาพยุงผมก่อนที่ไอ้ตาร์จะเดินไปพยุงไอ้เป้
“แค่นี้สบายเว้ย ท่านเป้ซะอย่าง อูยยยยยยย” ไอ้เป้บอก
“ไอ้เอ๋อ ปากเก่งนะมึง เมื่อกี้ใครว่ะนอนให้พวกมันรุมน่ะ” เอาซะหน่อยวันนี้ยังไม่ได้ลับฝีปากกันเลย
“เชี่ยทัพ ทำเป็นพูดดีมึงก็โดนเหมือนกันแหล่ะ ไอ้อ่อน”
“มึงดิอ่อน”
“มึงแหล่ะ”
“มึงแหล่ะ”
“เฮ้ย เมื่อไหร่จะเงียบกูรำคาญ เดี๋ยวกูต่อยแมร่งทั้งสองคนเลย” ไอ้นะที่เงียบอยู่นานตะโกนขึ้น ผมกับไอ้เป้เลยต้องรีบหุบปากบอกตรงๆว่าเกรงมันอยู่เหมือนกันคนอะไรว่ะ เก่งโคตร
“วันนี้ คงต้องโดดกันหมด แล้วมั้งเนี่ย” ไอ้ตาร์พูด อืม นานๆจะมีบท ซะที นะ ฮ่าๆ
“อย่าเลย พวกมึงไปเรียนเถอะ กูดูแลตัวเองได้” ไอ้เอ๋อเป้บอก
“ปากเก่งนะมึง สังขารเดี้ยงขนาดนี้” ผมแขวะ คนไม่เจียม
“เอางี้ มึงกับไอ้ตาร์ไปเข้าเรียนกูฝากเลคเชอร์ด้วย กูจะดูแลไอ้เป้มันเอง เออ อาจจะขาดเรียนหลายวันนะเพราะกูดูแล้วสภาพไม่น่าไหวว่ะ”
“เฮ้ย มันจะดีเหรอว่ะ พวกมึงเจ็บทั้งคู่นะเว้ย”
“เออน่า”
“ปล่อยพวกมันเถอะ ไอ้นะ ผัวเมียมันอยากดูแลกันก็ปล่อยมันไป กูกับมึงไปเรียนเถอะ” เชี่ยตาร์บอกก่อนจะลากคอไอ้นะไปที่ตึกเรียน แมร่งถ้าไม่ติดว่าเจ็บนะจะกระโดดถีบยอดอกเชี่ยตาร์สักทีพูดมาได้ว่าผมอยากดูแลไอ้เอ๋อ
“เอ๋ามึงจะยืนเอ๋ออีกนานไหม ไปขึ้นรถดิไป หรือต้องให้กูประคอง”
“ อย่ามายุ่งกับกู”

…………………………………………………………………………………………………..
“โอ้ย เชี่ยเบาๆดิ สัดทัพ กูแสบ”
“มึงก็เลิกแกล้งกูดิ กูก็แสบเหมือนกัน”
ตอนนี้ผมกับไอ้เป้ อยู่ที่คอนโดผมเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ กำลังผลัดกันใส่ยาเป็นที่สนุกสนาน??
“พอเลยๆๆ กูใส่เอง” ไอ้เป้บอกก่อนจะแย่งสำลีจากมือผม
“อย่าดื้อน่า ไม่เถียงสักวันจะตายไหม อยู่เฉยๆไปเลยมึง” ผมเอ็ดก่อนจะลงมือทำแผลให้มัน
“อ่ะเสร็จแล้ว เดี๋ยวมึงกินยาแก้อักเสบแล้วไปนอนซะ” ผมบอกก่อนจะยื่นยาให้มัน
“อืม” มันรับคำอย่างว่าง่าย ซึ่งโคตรแปลกแต่ก็ดีแล้ว ขี้เกียจเถียงยิ่งเจ็บๆอยู่
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน3 22/2/2012 p4 +ตอนพิเศษ ผู้กองกัน เซ้นส์
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 28-02-2012 11:34:06
ผมเดินเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำก่อนจะเดินออกมาเจออีกคนที่หลับอยู่บนเตียง คนอะไรว่ะหลับง่ายชิบหาย
“ตอนมึงหลับดีกว่าตอนพูดตั้งเยอะนะเชี่ยเป้” ผมพูดกับคนหลับก่อนจะล้มตัวลงนอนบ้างไม่ไหวเหมือนกันครับขอพักหน่อย

ผมรู้สึกตัวเพราะความรู้สึกหนักๆทับอยู่บนตัว ผีอำเปล่าว่ะเนี่ย แต่ก็ต้องตกใจหลังจากที่ลืมตา แมร่ง ยิ่งกว่าผีอำอีก ก็ไอ้น้องเอ๋อนะสิครับ มันมานอนซุกอกผมได้ยังไงเนี่ย  ผมเหลือบมองเสี้ยวหน้า หล่อ ที่ตอนนี้ทั้งม่วง ทั้งบวม แถมมีแผลแตกด้วย ปะปราย อย่าพิจารณา จะว่าไปไอ้น้องเอ๋อเวลาที่มัน นอนนิ่งๆไม่เถียงไม่พูดมาก มันก็ดูน่ารักดีเหมือนกันนะครับ มิน่าล่ะมันเกือบได้เป็นเดือนถ้าไม่สะดุดขาไมค์หัวทิ่มซะก่อนอ่ะนะ  ผมปัดปอยผมที่ปรกหน้ามันออกช้าๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่ผลักมันออกปล่อยให้มันนอนกอดอยู่ได้ แถมจริงๆผมกอดตอบมันซะด้วยซ้ำอ่ะนะ  บอกไม่ถูกเหมือนกันครับว่าทำไม ตั้งแต่ที่เห็นมันโดนซ้อมหัวใจผมมันกระตุกวูบจนน่ากลัว ไม่อยากเห็นภาพแบบนั้นอีก ไม่อยากให้ใครทำร้ายมัน ไม่อยากเห็นใครแกล้งมัน ทั้งโลกนี้ คนที่จะแกล้งน้องเอ๋อได้ มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น
“นี่มึงทำอะไรกับกูว่ะเชี่ยเป้” ผมบ่นเบาๆ แค่อยากระบายความอึดอัดในใจออกมาบ้าง
“อือ” คนนอนหลับส่งเสียงเหมือนรู้สึกตัว ทำให้ผมต้องรีบหลับตาแกล้งหลับทันที อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าไอ้น้องเอ๋อของผม (เอ๊ะ ของผมเหรอ เอ่อ ช่างเถอะ ต่อๆ ) ตื่นมาเจอสภาพนี้จะรู้สึกยังไงน๊า แค่คิดก็สนุกแล้ว
“เฮ้ย” เสียงอุทานเบาๆดังจากปากคนเพิ่งตื่น แหมอยากลืมตาดูหน้าเอ๋อๆของมันชะมัดเว้ย
“เชี่ยเอ้ย กูนอนกอดไอ้ทัพได้ไงว่ะ” ผมได้ยินอีกคนบ่นเบาๆแต่ไอ้ที่มันแปลกกว่าคือ ทำไมมัน ไม่ยอมปลุกผมหรือแม้แต่ขยับตัวออกไปเลยล่ะครับ
“เฮ้อ เชี่ยทัพ เวลามึงนอนมึงก็หล่อนะเนี่ย ถ้าตอนที่มึงตื่นมึงเป็นแบบนี้ก็ดีสิ กูจะได้เลิกเถียงกับมึงซะที” เหอะฝันไปเถอะ เพราะอุดมการณ์ของกูคือแกล้งมึงเชี่ยเป้ ผมบอกในใจ
ผมรู้สึกถึงมือนิ่มๆ ลูบไล้บนหน้าผมอย่างอ่อนโยน เฮ้ย คงไม่หรอกมั้ง ไอ้เป้เนี่ยนะจะทำแบบนั้น
“ทัพ กูดีใจนะที่วันนี้มึงไปช่วยกู  กูดีใจมากรู้ไหมที่ตอนนี้กูได้นอนในอ้อมกอดมึง ” เสียงแผ่วๆบอกกับผม  หัวใจผมเริ่มเต้นแรงขึ้นๆหลังจากที่ฟังจบประโยค มันแรงจนผมกลัวว่าคนที่นอนซุกอกผมอยู่มันจะรู้ว่าผมไม่ได้หลับ
“ทัพ กู อยากจะบอกมึงจัง ว่า กูชอบมึง”
“แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อ มึงกับกูเป็นเพื่อนกัน” ไอ้เป้บอกเบาๆ
ผมรีบลืมตาทันทีรู้สึกว่าอีกคนลุกจากที่นอนไปเข้าห้องน้ำแล้ว บอกไม่ถูกว่าอารมณ์ตอนนี้เป็นแบบไหน รู้แค่ใจผมเต้นแรงมาก มากจนมันจะหลุดออกมาจากตัวอยู่แล้ว
“ทัพเฮ้ย ผ่านศึกมาเป็นร้อย แต่จะมาตกม้าตายเพราะไอ้น้องเอ๋อนี่เหรอว่ะ ” ผมหัวเราะกับตัวเองเบาๆ ไอ้น้องเอ๋อเอ้ย มาทำให้พี่ทัพใจสั่นแล้วจากไปแบบนี้ได้ยังไง น้องเอ๋อต้องรับผิดชอบนะรู้ไหม
“อ้าวเชี่ยทัพตื่นแล้วเหรอ กูนึกว่ามึงตายแล้วนะ นอนอืดเป็นศพเลยมึง” ไอ้คนที่ยืนเช็ดผมอยู่หน้ากระจกพูดขึ้น แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นครับ ประเด็นมันอยู่ที่ไอ้น้องเอ๋อ มันไม่รู้หรือไง ว่าไม่ควรใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่บอกว่าชอบคนอื่นน่ะ แบบนี้มันยั่วกันชัดๆนะเว้ย ผมมองร่างขาวๆอย่างตกตะลึงไม่เคยคิดว่าไอ้เอ๋อมันจะรูปร่างดีขนาดนี้ ถึงมันจะไม่ได้ ขาวๆ บางๆ แบบไอ้นะ แต่หุ่นสมส่วนผสมกับกล้ามเนื้อพอประมาณอย่างคนที่ออกกำลังก็ทำให้ผมกำเดาแทบพุ่ง อย่าว่าผมหื่นเลยนะครับ เพราะปกติผมก็ไม่ได้มีอารมณ์กับผู้ชายนะ
“เชี่ยทัพเป็นไรว่ะ โดนของเหรอมึง นิ่งเชียว” เออ สงสัยกูจะโดนของจริงๆแระ มึงทำเสน่ห์ใส่กูแน่ๆเลยเชี่ยเป้ ทำไมจู่มึงก็น่ารักน่ากอดขึ้นมาซะงั้นว่ะ
“ปะ เปล่า มึงหลบดิกูจะเข้าห้องน้ำ”  ฟู่ ผมเป่าปากอย่าโล่งอก ขืนอยู่นานกว่านี้ผมปล้ำมันแน่ๆ คนอะไร น่ากด เอ้ย กอด ชะมัด
“น้องเอ๋อ เฮ้ย สงสัยพี่ทัพจะชอบน้องเอ๋อซะแล้วล่ะ ”
แต่จะทำยังไงให้ไอ้คน ปากแข็งแถมปากไม่ตรงกับใจอย่างไอ้เป้ พูดว่าชอบผมได้ล่ะเนี่ย
…………………………………………………………………………………
“เป้ กูมีอะไรจะให้ช่วย” ผมถามไอ้น้องเอ๋อ ระหว่างที่เรากินข้าวอยู่
“เรื่องไร แต่อย่ามายืมตังค์กูนะ กูจนกว่ามึงช่วยไม่ได้หรอก” มันตอบหน้าตาย
“คือ กูชอบคนๆนึงอยู่นะ”
แค่กๆๆๆ ไอ้คนที่ตั้งหน้าตั้งตา ยักข้าวใส่ปากมีอันต้องสำลัก จนน้ำหู น้ำตาไหล
“เฮ้ย เป็นไรป่าว่ะ อ่ะน้ำๆ” ผมถามก่อนจะยื่นน้ำให้มัน
“ไม่เป็นไร กูโอเคแล้วว่าแต่มึงเถอะ ชอบใครอยู่ว่ะ ” ผมทำท่าเขินก่อนจะมองไปอีกทาง เพื่อจะได้แอบสังเกตปฏิกิริยาของมันด้วย เป็นไปตามคาด ปากหัวเราะแต่ตามึงเนี่ยจะร้องไห้อยู่แล้วนะน้องเอ๋อ แผนขั้นที่หนึ่งสำเร็จ ฮ่าๆ
“กู เอ่อ กู มึงห้ามหัวเราะนะเว้ย คือ กู ชอบ ไอ้นะว่ะ”  ไอ้นะกูขอโทษนะเว้ยที่ดึงมึงเข้ามายุ่ง กูคิดไม่ทันจริงๆ ฮ่าๆ 
คนที่นั่งตรงข้ามผมตอนนี้ อึ้งไปรีบร้อยแล้วครับ
“มะ มึงเป็นเกย์เหรอ” มันกระซิบถาม
“ไม่รู้สิ กูก็ไม่รู้หรอกว่ากูเป็นอะไร กูแค่รู้ว่า กูอยากอยู่ใกล้ อยากกอด อยากปกป้อง แต่กูไม่ได้เป็นกับผู้ชายทุกคนนะเว้ย กูเป็นแค่กับ(มึง)คนเดียว” ผมบอก ดูท่าทางไอ้เป้มันจะซึมๆลงนิดหน่อย จริงๆก็สงสารมันเหมือนกันนะครับ ใครจะไปทนเห็นคนที่ตัวเองรักเสียใจได้ล่ะ แต่ผมก็แค่อยากให้มันเลิกปากแข็งก็เท่านั้นเอง
“ระ เหรอ อะ อืม เดี๋ยวกุจะช่วยมึงเอง มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ เด๋ยวกูกลับก่อน พอดีปวดหัวน่ะ”
“จะไปไหน มึงยังไม่หายดีนะ จะกลับบ้านไปให้ม๊ามึง ถามเหรอว่าไปทำไรมา อยู่กับกูที่นี่แระ หายแล้วค่อยกลับ” ผมบอก เรื่องของเรื่องคืออยากอยู่กับมันมากกว่าอ่ะครับ หึหึ
……………………………………………………………………………………………………….
“ฮึกๆๆๆ” เสียงสะอื้น แผ่วๆที่ลอยมาตามลมทำให้ขนบนตัวผมลุกเกลียว เฮ้ยๆๆ ผีรึเปล่าว่ะ
ผมลืมตาขึ้นอย่างกล้ากลัวๆ ก่อนจะรับรู้ว่าเสียงสะอื้นที่ได้ยินไม่ใช่เสียงผี แต่เป็นเสียของไอ้คนข้างๆตะหาก นี่มันเสียใจ จนร้องไห้เลยเหรอครับ ความรู้สึกผิดเริ่มเข้าเกาะกินหัวใจผมอีกครั้งทั้งๆที่ บอกตัวเองแล้วแท้ๆว่าม่อยากเห็นน้ำตาของมัน แต่เอาเข้าใจผมกลับทำให้มันร้องไห้จนได้ ใจจริงอยากจะดึงมันเข้ามากอดด้วยซ้ำแต่ผมรู้นิสัยมันดี คนอย่างไอ้เป้ไม่ยอมให้ใครเห็นน้ำตามันเด็ดขาด
“ทัพ เชี่ยทัพ ตื่นได้แล้ว เช้าแล้วนะเว้ย”
ผมลืมตาขึ้นตามเสียงปลุก สิ่งแรกที่เห็นคือหน้าตากวนๆปนเอ๋อ ของไอ้เป้ เฮ้อ ถ้าทุกเช้าตื่นมาแล้วเป็นแบบนี้มันคงดีไม่น้อยนะครับ
“ปลุกกูแต่เช้าเพื่อ วันนี้บอกแล้วไงว่า กูกับมึงจะโดดเรียน กูไม่เอาสภาพแบบนี้ไปมหาลัยนะเว้ย”
“สุขกู มึงจะทำไม การก่อกวนมึงคือความสุขของกูจำไว้นะเชี่ยทัพ” มันลอยหน้าลอยตาตอบนี่ถ้าไม่ติดว่ากูรักมึงนะ กูจะถีบยอดหน้ามึงทันทีเลยไอ้น้องเอ๋อ
“เป้ กูภามไรมึงอย่าได้ไหม”
“ว่า”
“มึงมีคนที่ชอบยัง”
“มะ มึง ถามทำไม” มันตอบเสียงสั่น แน่ ติดอ่างเชียวมึง หึหึ มึงเสร็จกูแน่ครับน้องเอ๋อที่รัก
“ก็เปล่า เผื่อกูช่วยมึงได้ไง”
“ไม่มี คนอย่างกูรักอิสระเว้ย ไม่ชอบผูกมัด” มันเฉไฉ
“อืม แต่มึงอย่าลืมแล้วกันที่จะช่วยกูน่ะ ” ผมย้ำ
“เออ ไม่ลืมหรอก”
………………………………………………………………………………………………………………………..
หลังจากวันนั้นขาดเรียนไปสามวันเต็มๆ ผมกับไอ้เป้ก็มาเรียนตามปกติแต่ที่ไม่ ปกติคือผมสังเกตว่าไอ้เป้มันชอบหลบหน้าผมอยู่เรื่อย เวลาชวนไปไหนก็อ้างโน่นอ้างหนี้สารพัดเกือบสองอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้เจอกัน มันจะรู้บ้างไหมเนี่ยว่าผมคิดถึงมันอ่ะ ไอ้น้องเอ๋อเฮ้ย
“เชี่ยทัพ มึงรู้ไหมว่ะ ว่าเป้มันเป็นไร ทำไมช่วงนี้มันห่างพวกเราว่ะ” ไอ้นะถามผม กูอยากจะบอกว่า กูก็ไม่รู้ครับ เพื่อน
“หน้าอย่างไอ้เป้ ติดหญิง ชัวร์” ไอ้ตาร์เดา แต่เป็นการเดาที่น่าโดนถีบมาก ไอ้เป้ มันรักกูจะตาย มันไม่กล้าหรอก (มั้ง??)
“ไอ้ทัพมึงรู้ป่ะ ว่าเมียมึงเป็นอะไร” ไอ้ตาร์หันมาถามผม
“ไม่รู้เว้ย กูไม่ได้ตัวติดกะมันนิ”

“ต๊ายยยยยยยยยยย น้องทัพ น้องนะ แล้วก็สามีตาร์ มานั่งทำอะไรแถวนี้คะ ” เจ๊พิมมี่ สตรีข้ามเพศ ทักพวกผม
“หวัดดีครับพี่ มเหศักดิ์” ไอ้นะจอมกวนตีนทักตอบ  มเหศักดิ์เป็นชื่อจริงของเจ๊แกครับ แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าเรียกหรอกเพราะแกจะโกรธมากแต่ยกเว้น พวกผมนะ คนหล่อ ย่อมมีอภิสิทธ์
“หยาบคายมาก เดี๋ยวแม่ก็ตบคว่ำซะหรอก แต่หล่อเปลี่ยนเป็นหอมแก้มดีกว่า” 
“อย่าเข้ามานะพี่ พวกผมมีพระ” ยังเป็นไอ้นะเจ้าเก่าที่ก่อกวนเจ๊แก
“ต๊ายยยยกระเทยนะยะ ไม่ใช่ผี เชอะ ไอ้เรารึอยากจะมา เล่าเรื่องน้องเป้ให้ฟังซะหน่อยไปดีกว่า”
“เดี๋ยวพี่” ผมร้องห้าม ก่อนจะฉุดให้เจ๊แกนั่งลงข้างๆ ถ้าป็นเรื่องของน้องเอ๋อไม่ควรปล่อยผ่านยิ่งช่วงนี้ยิ่งไม่ควร
“ไอ้เป้ทำไมเหรอ”
“อย่าหาว่าเจ๊ ปากมากเลยนะ คือเจ๊ถามจริงๆนะ น้องเป้เป็นเก้งหรือเปล่า”
“ทำไมเจ๊พูดแบบนั้นอ่ะ” ผมถามกลับ
“ก็เจ๊เห็นมีผู้ชาย มารับมาส่งน้องเป้ทุกวันเลยนะคะ”
ผมไม่รู้หรอว่าเจ๊พิมมี่พูดต่อว่ายังไงแค่ได้ยินว่า มีผู้ชายมารับมาส่งมันผมก็โกรธจนแทบจะฆ่าคนได้อยู่แล้ว ไอ้น้องเอ๋อ บังอาจมาก มาทำให้พี่ทัพรักแล้วจะชิ่งเหรอ ไม่มีทางหรอกเว้ย  งานนี้ต้องมีเคลียร์ ผมลุกพรวดจากโต๊ะโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อนเพราะตอนนี้ คนเดียวที่ผมอยากเจอคือไอ้เป้ ไม่ว่ามันอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ผมก็จะตามมันมาคุยกันให้ได้ เหมือนสรรค์เป็นใจนะครับ จู่รถคันนึงก็ขับผ่านหน้าผมไปจะไม่มีอะไรเลยถ้าไอ้น้องเอ๋อ มันไม่ได้นั่งอยู่ในรถคันนั้น
ผมขับรถตามมันไปเรื่อยๆ อยากรู้เหมือนกันว่าจะไปที่ไหน ตามมาได้สักพักผมก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ไอ้รถคันนั้นมันเลี้ยวเข้าโรงแรม ครับ
“เชี่ย” ผมสบถ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี ใจจริงอยากจะเข้าไปลากกมันออกมาแล้วถามให้รู้เรื่องด้วยซ้ำว่ามันทำแบบนี้กับผมได้ยังไง มันบอกว่ารักผมแล้วมันเข้าโรงแรมกับคนอื่นเนี่ยนะ เหอะ หัวเราะเยาะให้กับตัวเอง ก่อนจะรู้สึกถึงสายตาที่พร่าเลือน นี่ผมร้องไห้เหรอ ผมเนี่ยนะร้องไห้
“เชี่ยเฮ้ย กูแมร่งมาทำบ้าอะไรที่นี่ว่ะ” ผมบ่นเบาๆก่อนจะขับรถกลับไปที่คอนโด
…………………………………………………………………………………………………………………………
วันนี้วันที่เท่าไหร่แล้วนะ นี่ผมนอนจมกองขวดเหล้ามากี่วันแล้ว เหอะ คิดไปก็ตลก นายจอมทัพ เพลย์บอย อันดับหนึ่ง กำลังอกหักเพราะรักเพื่อนสนิทตัวเอง มันน่าสมเพชชะมัด
“ไอ้น้องเอ๋อ น้องเอ๋อจะมาทำให้พี่ทัพรักทำไมว่ะ โถ่เว้ย” ผมสบถ ก่อนจะกระดกของเหลวดีกรีแรงในแก้วจนหมด
ลาก่อน ไอ้เป้ ลาก่อน  ความรัก
“ใจคอมึงจะกินให้ตายเลยรึไง เชี่ยทัพ” เสียงคุ้นหูดังขึ้นก่อนที่แก้วในมือจะถูกดึงออกไป
“เชี่ยเป้ ฮ่าๆๆ แหม สงสัยกูจะเมามากจริง ฝันว่ามึงมาหากูด้วย เอิ๊กๆๆ”  ผมบอกเสียอ้อแอ้ ก่อนที่สติที่มีอยู่ค่อยๆดับวูดไป

“อือ” ผมรู้สึกตัวขึ้นมาก่อนจะรู้สึกถึงความหนักอึ้งบนตัว
“เฮ้ย” ผมอุทานเบาๆเพราะกลัวอีกคนตื่น เสี้ยวหน้าหล่อเหลา และขาที่เกยอยู่บนตัวผมเป็นเครื่องยืนยันว่า สิ่งที่ผมเห็นก่อนจะหลับไปไม่ใช่ฝัน ไอ้เป้มาที่นี่จริงๆ  ผมเผลอยิ้มอย่างยินดี แต่ก็ต้องหุบแทบไม่ทันหลังจากที่คิดถึงเหตุการณ์วันนั้น
“เฮ้ยเป้ๆ เชี่ยเป้ตื่น” ผมตะโกน พลางเขย่าคนขี้เซา
“อือ เชี่ยทัพปลุกกูทำไมเนี่ย” คนเพิ่งตื่นหันมาว๊ากผม น่ากลัวตายล่ะ
“มึงมาที่นี่ทำไม” ผมถามด้วยน้ำเสียงเย็นขา มันเย็นชาซะจนผมเองยังตกใจ
“กู มาเก็บศพมึงไง ไม่เห็นไปเรียนหลายวันกูนึกว่าตายไปแล้ว”
“เห็นแล้วก็กลับสิ อยู่ทำไม”
“เชี่ยทัพ มึงเป็นอะไรว่ะ ทำไมมึงต้องกินเหล้ามากมายขนาดนี้” จะให้กูตอบมึงยังไงเป้ ตอบว่ากูอกหักจากมึงเหรอ มึงจะได้หัวเราะเยาะกูนะสิ
“อย่ามายุ่งกับกู!!” ผมตวาด ก่อนจะผลักมันจนตกเตียง
 “เออ กูไม่ยุ่งกับมึงก็ได้ คิดว่ายุ่งหรือไง กูน่าจะปล่อยให้มึงตายไปเลย”
อูยยยยยยยยย มันอุทานก่อนจะคลำหัวตัวเองป้อยๆ
“เป้มึงเป็นไร เจ็บมากไหม ไหนกูดูดิ” ผมรีบวิ่งไปดูมัน ทันที
“อย่ามายุ่งกับกู” มันมองผมตาขวาง ก่อนจะผลักผมออกให้พ้นตัว
“อย่าดื้อน่าให้กูดูหน่อย” ผมเอ็ดก่อนจะก้มจับที่หัวมันเบา สงสัยจะหัวโน นะเนี่ย
“โอ้ย เบาๆดิกูเจ็บ”
“เจ็บเหรอ กูขอโทษนะ” ผมบอกแต่เหมือนมันจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
“ปล่อย กูจะกลับบ้าน แล้วจะไม่มาที่นี่อีก” มันบอก เอ่อ ถ้าผมจะเดาว่ามันกำลัง งอนผมอยู่มันจะได้ไหมครับ คือแบบว่า มันรักอ่ะ
“เดี๋ยว กูมีเรื่องจะคุยกะมึง” หลังจากที่ผม คิดดูแล้วเมื่อกี้ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมานั่งกินเหล้าไปวันๆสู้ถามมันไปตรงๆให้จบไปดีกว่า จะได้เจ็บทีเดียว
“เรื่องอะไร”
“ผู้ชายคนที่เข้าโรงแรมกับมึงเป็นใคร”
“หือ กูเนี่ยนะเข้าโรงแรมกับผู้ชาย  มึกเมายาธาตุเหรอ” มันบอก
“อย่ามาปฏิเสธวันนั้นกูเห็นกับตาว่ามึงเข้าโรงแรมไปด้วยกัน” ผมคาดคั้น แค่อยากจะรู้ว่ามันจะโกหกผมไปถึงเมื่อไหร่ มันไม่รู้หรือไงว่าผมเจ็บจะตายอยู่แล้ว
“อ้อ มึงหมายถึงคนนี้เหรอ” ไอ้เป้เหมือนจะคิดออกก่อนจะยื่นรูปที่มันพกในกระเป๋าตังมาให้ผมดู  ผมเหลือบมองก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทาง ถึงขนาดพกรูปกันขนาดนี้ ผมจะไปสู้อะไรได้
“เอ๋า เงียบไมอ่ะ กูถามว่าคนนี้เหรอ”
“อือ” ผมตอบแบบส่งๆ
“ฮ่าๆ อย่าว่าแต่โรงแรมเลยกับคนนี้อ่ะ ห้องเขากูก็เข้ามาแล้ว” มันบอกอย่างอารมณ์ดี ผิดกับผมที่แทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว
“มึงรักมันมากเลยเหรอ” ผมถามเสียงแผ่ว
“อืม มากที่สุดในโลกเลยล่ะ”
“……………….”
“มึงว่าอะไรนะทัพกูไม่ได้ยิน”
“กูถามว่า…………แล้วมึงรักมัน มากว่ากูหรือเปล่า” ผมกลั้นใจถามออกไปถึงจะรู้อยู่แล้วว่าแพ้แน่ๆแต่ผมก็ยังอยากฟังจากปากมัน
“ทัพ มึง มึงรู้”
“ใช่กูรู้ วันนั้นกูไม่ได้หลับหรอกนะเป้ กูได้ยินทุกอย่าง ทุกอย่างที่มึงพูด”  ผมเน้นคำว่าทุกอย่างเพราะอยากให้มันรู้ว่า ผมได้ยินคำที่มันบอกว่ารักผม
“กะ กูไม่มีอะไรจะพูด กูกลับแล้วนะ” มันลนลาน ก่อนจะรีบหันหลังออกจากห้องแต่ช้ากว่าผมที่รวบเอวมันไว้ได้
“กูไม่ให้มึงไปไหนทั้งนั้นวันนี้เราต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง มึงบอกกูมานะเป้ ว่ามึงรักกูใช่ไหม” ผมคาดคั้น และยิ่งเพิ่มแรงรัดขึ้นเมื่ออีกคนยังยืนนิ่ง
“เป้ บอกกูมา”
“ใช่!! มึงได้ยินไม่ผิดหรอก กูรักมึง รักมาตั้งนานแล้วรักมึงมาตลอด” ผมยิ้มกว้างหลังจากที่ฟังไอ้เป้จบ ในที่สุดมันก็บอกรักผมซะที
“แล้วทำไมมึงไม่เคยบอกกู”
“เหอะ มึงจะให้กูทำไง เดินเข้าไปแล้วบอกว่า ทัพกูรักมึงอย่างนี้เหรอ มึงได้หัวเราะเยาะกูนะสิ แล้วที่สำคัญมึงรักไอ้นะ ………..ไม่ได้รักกูสักนิด” เอ๋า น้องเอ๋อเฮ้ย ต้นประโยคพูดซะเสียงดังแต่ทำไมท้ายประโยคมันแผ่วซะขนาดนั้นล่ะคร้าบ
“มึงเนี่ยน๊า ชอบคิดแทนคนอื่นอยู่เรื่อย ”
“ฟังดีๆนะเว้ย กูพูดแค่รอบเดียว ……………..กูก็รักมึงนะเป้”
“ทัพ” คนที่ฟังตัวแข็งทื่ออย่างกับถูกสาปมันคงไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ยินล่ะสิ แต่ทำไงได้ไอ้น้องเอ๋อมันความรู้สึกช้าจะตาย ถ้าไม่บอกตรงๆอีก20ปีมันก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ
“ตะ แต่ ว่า มึงรักไอ้นะนิ”
“ไอ้น้องเอ๋อที่รักครับ มึงเข้าใจคำว่าประชดไหม”
“ประชด”
“ก็มึงอ่ะ บอกรักกูแต่ก็ทำไม่สนใจกู กุก็ต้องทำให้มึงหึงสิ แต่มึงแมร่งดันคิดตัดใจไปคบคนอื่นซะได้ กูน้อยใจนะเว้ย” ผมบอกก่อนจะใส่มารยาเต็มที่ ฮ่าๆ อย่างน้องเอ๋อไม่มีทันพี่ทัพหรอก อิอิ
“ไอ้บ้าทัพ น้อยใจเชี่ยไร ผู้ชายคนนั้นมันพี่ชายกูนะเว้ย มึงหึงแม้กระทั่งพี่กูเลยเหรอ” มันบอกพลางก้มหน้าซ่อนแก้มแดงๆเอาไว้ ว๊ากกกกกก ไอ้น้องเอ๋อ น่ารักอีกแล้ว ผมค่อยดึงอีกคนให้หันมาเผชิญหน้ากัน ก่อนจะหอมแก้มมันด้วยความหมั่นเขี้ยว ฮ่า แมร่งน่ารักเกินไปแระ
“หึงสิ ทัพหึงทุกคนที่เข้าใจเป้ เข้าใจไหมต่อไปนี้ ห้ามไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ทัพ อ้อ ผู้หญิงก็ห้ามนะ” ทำไมล่ะก็ผมหวงของผมนิ
“รวมทั้ง ไอ้นะ กับไอ้ตาร์ด้วยเหรอ”
“อ่ะ ยกเว้นไว้ก็ได้”
“อือ” คนตัวบางกว่าพูดพลางก้มหน้างุดๆ จนแทบจะจมไปในอกผมอยู่แล้วไม่รู้จะอายอะไรนักหนาทีเมื่อก่อน ด่ากันปาวๆไม่เห็นจะอายนะน้องเอ๋อ
“เป้เป็นแฟนทัพแล้วนะ ทัพรักเป้นะครับ”
“อือ”
“อือ อะไรไม่เห็นเข้าใจเลย”
“เป้ ก็รักทัพนะ”
ฮ่าๆๆ ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะรวบน้องเอ๋อที่รักมากอด ใครมันจะไปเชื่อว่าคนที่เอาแต่ทะเลาะกันมาเป็นปีจะลงเอยกันแบบนี้ เฮ้อ นี่ถ้าไอ้สองคนนั่นรู้มีหวังมันหัวเราะไม่หยุดสามวันสามคืนแน่เลยครับ แต่ผมก็รักไอ้น้องเป้เอ๋อไปแล้วนิ จะทำไงได้ จริงไหม
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย ตอนพิเศษ ทัพเป้ 28/02/12
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 28-02-2012 20:29:50
เพิ่งเห็นอ่ะครับ ว่าคนแต่งคือคุณพิต  แบบว่าไม่ได้เข้าเล้าเป็นเดือน
รีบอ่าน สนุกมว๊าาาากกกก ชอบคู่เป้กะทัพ  น่ารักมากมาย
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย ตอนพิเศษ ทัพเป้ 28/02/12
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 29-02-2012 03:04:49
เพิ่งเห็นอ่ะครับ ว่าคนแต่งคือคุณพิต  แบบว่าไม่ได้เข้าเล้าเป็นเดือน
รีบอ่าน สนุกมว๊าาาากกกก ชอบคู่เป้กะทัพ  น่ารักมากมาย

ฮ่าๆๆ จากใจ พิตก็ชอบ ทัพเป้เหมือนกัน มันน่ารักดี ฮ่าๆ ยังไงก็ขอบคุณนะคะ
ที่ติดตามกันตลอด ขอบคุณจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย ตอนพิเศษ ทัพเป้ 28/02/12
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 29-02-2012 03:06:50
ตอน 4

ปึกๆๆๆๆ โป๊กๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆ  อย่าเพิ่งคิดว่าแถวนี้สร้างตึกนะครับคือ จริงๆมันเป็นเสียงทำกับข้าวของผมเองบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นอะไร รู้แค่โมโห ไอ้คนที่อยู่บนห้องก็เท่านั้น
“ย๊าก ตายซะเถอะแก” ผมตะโกนก่อนจะลงมือสับหมูอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เฮ้ยพี่ ใจคอจะสับจนเขียงเละไปกับหมูเลยไง”
เสียงไม่พึงประสงค์ดังขึ้น ผมเหลือบมองมันนิดหน่อย ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาสับหมูต่อ ยิ่งเห็นยิ่งโมโห
“เออ ผมจะมาบอกว่าอีกสิบนาทีกีตาร์จะมาถึงแล้วนะ” ไอ้เด็กเกรียนบอกก่อนจะไปนั่งรอพี่ชายที่โซฟา
จะไปตายที่ไหนก็ไปเลยไอ้เด็กเวร ดีซะอีกจะได้ไม่อยู่รบกวน 
“นี่พี่ ใจคอจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ” คนที่นั่งทำหน้านิ่ง อยู่ตะโกนถาม
เหอะ จ้างให้ก็ไม่พูดหรอกเว้ย
ปริ้นๆๆๆ เสียงแตรรถดังข้นที่หน้าบ้าน สงสัยไอ้ตาร์มารับน้องมันแล้วมั้ง เชอะ ไปซะได้ก็ดี เกะกะ ลูกตา
“ผมไปแล้วนะพี่ อ้อ ก่อนนอนอย่าลืมเปิดคอมนะ” เสียงคนอาศัยตะโกนบอกก่อนจะเดินออกจากบ้านไป
ผมมองตามร่างสูงเดินขึ้นรถจนลับสายตา ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าอาการ  ใจหายที่มันเกิดขึ้นคืออะไร
“บ้าน่า กูคงไม่ได้ชอบไอ้เด็กเวรนี่หรอกนะ ” ผมบ่นกับตัวเอง เสียงดัง เหอะๆ คงไม่ใช่หรอก จะชอบได้ยังไงเจอกันวันเดียวเอง เหอๆ ฟุ้งซ่านแระไอ้นะเอ้ย

หลังจากที่ไอ้เด็กเกรียนกลับไป บ้านก็กลับมาเงียบสงบเหมือนเดิม แต่ทำไมมันดูเงียบจนวังเวง อยู่ดีๆก็รู้สึกเหงาขึ้นมาซะอย่างนั้น  ผมสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระออกจากสมอง ไม่อยากจะคิดอะไรมันทั้งนั้นแหละ 
ผมอาบน้ำ เตรียมเข้านอนตามปกติแต่ตาเจ้ากรรมดั๊น เหลือบไปเห็นคอมจนได้ เหมือนจะได้ยินแว่วๆว่าไอ้เด็กเกรียนนั่นให้เปิดคอม ดูอะไรสักอย่าง  ผมชั่งใจอยู่นานว่าจะเดินไปเปิดดีไหม แต่ความอยากรู้มันมีมากกว่า แหะๆ รู้ตัวอีกทีขามันก็พามาที่โต๊ะคอมรีบร้อยแล้ว ก่อนจะลงมือเปิดคอมทันที   
ผมลองคลิกเข้าไปใน  folder แปลกๆที่ผมไม่น่าจะเป็นคนทำแน่นอน ก่อนจะเจอคลิป วีดีโอ เข้า
“หนังโป๊ รึเปล่าว่ะ” ผมบ่น ก่อนจะกลั้นใจคลิกเล่น ก็มันอยากรู้อ่ะ ไอ้เด็กเกรียนนั่น คงไม่บ้าขนาดเอาหนังโป๊ให้ผมดูหรอกมั้ง
ภาพของไอ้เด็กเกรียน ในวีดีโอทำเอาผมแทบตกเก้าอี้ มันจะเล่นอะไรของมันอีกว่ะ
“พี่นะ” คนในวีดีโอเรียก
“อย่าทำหน้ายุ่งสิพี่ ทำไมชอบทำหน้ายุ่งจังห่ะ”
“ยุ่งไรด้วยว่ะ” ผมตอบ เอ้า ท่าจะบ้าแล้วไอ้นะคุยกะวีดีโอได้ด้วย
“คือว่า เบส เอ่อ เบส มีเพลงให้พี่นะฟัง ต้องฟังให้จบนะห้ามปิดเด็ดขาดเข้าใจไหม ”
“เป็นพ่อเหรอถึงมาสั่ง ไอ้เด็กบ้าเอ้ย”
ผมค้อนให้คนในวีดีโอ
แอบมองเธอยิ้มใจมันก็สั่นไหว

อุณหภูมิหัวใจเย็นลงเหมือนติดลบ

ยังกับยืนกลางฝนตก หิมะโปรยลงที่ใจของฉัน


* อยากบอกว่ารักเธอ ใจมันหมดเรี่ยวแรง

ปากมันก็แข็ง ยังไงก็ไม่ยอม . . ไม่พูดไป


** ใจเย็นจนเริ่มจะชา ดา ดา ดี๊ด่าด้า

ใจเย็นก็กลัวว่าหมา อา อา จะคาบไป

ใจเย็นจนเริ่มจะชา ดา ดา ก็หวั่นไหว . .

ไม่รู้จะพูดยังไง ว่าคน ๆ นี้นั้นมันแอบ รักเธอ . .


อากาศเริ่มหนาวเวลาได้ใกล้เธอ

ป่วยจนเป็นไข้ใจ ตอนเราได้เจอะเจอ

ยังกับโดนน้ำแข็งสาด ไปยืนอยู่กลางขั้วโลกเหนือ


( Rap )

หน้าชา ปากชา ขาชา ไอนั่นก็ชา แม้แต่ปรอทก็วัดไม่ได้ ตั้งแต่มีเธอนั้นเดินเข้ามา

อยู่ ๆ หัวใจหยุดเต้น มัน Thinaken จนเกินเยียวยา

ก็เธอนั้นน่ารักที่สุด น่ารักเป็นหนึ่งในพสุธา

แค่เธอขวาซ้ายขวา แค่เธอเดินมาแทบลืมหายใจ

แค่อยากจะทักแต่ก็ต้องทุกข์ ก็เพราะไม่รู้ต้องเริ่มไง

น้ำแข็งเกาะทีละนิด ความเย็นออกฤทธิ์ภายในหัวใจ

ชามันไปทุกส่วน ทุกอวัยวะในร่างกาย

หลังจากที่ฟังจบ บอกตามตรงก็ได้ว่าตอนนี้ใจผมเต้นแรงมาก มากซะจนผมกลัวว่ามันจะทะลุออกมาหรือเปล่า นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้ ถึงเพลงของไอ้เด็กนั่นมันจะออกบ้าๆบอๆไปบ้างก็เถอะ
“พี่นะ เบสขอโทษนะ ขอโทษที่ปากไม่ดี พี่นะยกโทษให้เบสนะ นะครับ ” สายตาอ้อน ที่ผมเพิ่งเคยได้เห็นทำให้หัวใจผมเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม เอ้า เอาเข้าไป ไอ้หัวใจบ้าเนี่ย ใจคอแกจะเต้นทั้งคืนเลยหรือไงเนี่ย
“กริ๊งๆๆๆๆๆ”
“ว่าไงเชี่ยตาร์ โทรมาทำไมว่ะ”
“พี่นะนี่เบสนะ”
“เฮ้ย!!” ผมตะโกนอย่างลืมตัว อะ อะ ไอ้เบส มันจะโทรมาทำไมว้า
“พี่นะ ฟังอยู่ป่ะเนี่ย”
“ฟะ ฟัง” เอ๋า แล้วจะเสียงสั่นทำม้ายยยยยยยย
“คือพี่นะดูวีดีโอแล้วใช่ไหม”
“อะ อือ”
“คือเบสขอโทษนะ ”
“อือ”
“อือ นี่มันหมายถึงอะไรว่ะพี่”
“กะ ก็ อือ ไงเล่า” เอ๊ะ ไอ้นี่นิ จะถามให้มันได้อะไรขึ้นมาว่ะ
“แล้วมันหมายความว่าไงล่ะ” ไอ้เด็กเกรียนยังเซ้าซี้ไม่เลิก
“เออ ยกโทษให้ก็ได้แต่อย่ามีคราวหน้านะเว้ย โดนตีนแน่”
“คร้าบๆๆ รับรองด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่เลย ว่าไม่มีอีกแน่นอนครับ”
“เออ งั้นแค่นี้นะจะนอนแล้ว” ผมบอกใจจริงคือไม่อยากคุยนานกลัวตัวเองจะหัวใจวายตายซะก่อน เพราะใจขยันเต้นเหลือเกิ๊นนนน
“ยังนอนไม่ได้ ลงมาข้างล่างก่อน”
“ลงไปไม จะนอนแล้ว”
“ถ้าพี่ไม่ลงมาผมจะเข้าบ้านยังไง”
“ห๊า แกว่าไงนะ”
ผมรีบแหวกม่านดู ไอ้เด็กเกรียนยืนโบกมืออยู่หน้าบ้านข้างๆมีเชี่ยตาร์ ยืนทำหน้ายักษ์อยู่ด้วย
“กว่าจะลงมาได้นะพี่” ไอ้เด็กเกรียนทัก ทันทีที่ผมไปเปิดประตู
“แล้วนี่กลับมาทำไม ลืมของเหรอ”
“ลืมดิ ก็ลืมหัวใจไว้ที่นี่อ่ะ” ไอ้เด็กเกรียนตอบหน้าตาเฉย
“อะ อะ ไอ้เด็กบ้า พูดอะไรของแกว่ะ”
“ก็พูดความจริงไงครับ” เบสตอบก่อนจะยิ้มกวนตีนให้ผม
“พอๆเลย พวกมึงสองคนอ่ะเลิกเถียงกันต่อหน้ากูได้แล้วเรื่องผัวเมีย กูไม่อยากยุ่ง” ไอ้ตาร์ที่ยืนสงบปากมานานแสนนานจนผมลืมไปแล้วว่ามันอยู่ด้วยพูดขึ้น
“เชี่ยตาร์ ปากเหรอที่พูดใครผัวน้องมึง” ผมด่ากลับ มันกวนตีนทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ
“กูพูดตอนไหนว่ามึงเป็นผัวน้องกู อ่ะ โด่ ร้อนตัวว่ะ มึงคิดอะไรกะไอ้เบสมันใช่ไหม”
“กะ กู คิดอะไร” แล้วทำไมผมต้องตอบไม่เต็มเสียงด้วยอ่ะ
“เหอะ ปากแข็งนะมึง แล้วที่สำคัญเตี้ยๆ ผอมๆอย่างมึงจะเป็นผัวใครได้ มึงเป็นเมียได้อย่างเดียวเว้ย”
“เชี่ยตาร์ นี่มึงวอนเหรอ” ผมตะโกน แหมถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อน ผมถีบยอดหน้ามันไปแล้วนะครับ
“จับเมียมึงไว้ดิไอ้เบส” ไอ้ตาร์หันไปบอกน้องมัน ไอ้นี่ก็เชื่อฟังเกินดันกอดผมไว้ซะแน่น กูหายใจไม่ออกครับ
“กีตาร์พี่ก็เลิกว่าพี่นะ ซะทีสิ ยั่วโมโหพี่นะอยู่ได้”
“เหอะหมั่นไส้ ทีหลังจะโกรธกันทะเลาะกันไม่ต้องโทรเรียกกูเลยนะ เสียเวลา เวลากูมีเพื่อสาวๆเท่านั้น เข้าใจไหม”  ไอ้ตาร์บอกก่อนก่อนจะขับรถออกไป
“ป่ะ เข้าบ้าน” ไอ้คนที่กอดไม่ยอมปล่อยบอก เนียนเชียวนะ ไอ้เด็เวร
“ปะ ปล่อยก่อน” เอ่อ ทำไมเสียงผมมัน ตุ๊ดแบบนั้นอ่ะครับ ไม่นะ ผมไม่ได้เขินนะเว้ย
“โทษครับ ผมลืม” ไอ้เด็กเกรียนบอกก่อนจะคายกอดแต่ เปลี่ยนไปจูงมือผมเข้าบ้านแทน
“พี่นะ”
“อือ”
“เป็นแฟนกันไหม”
O_o คะใครก็ได้โทรเรียกรถพยาบาลมาที ผมจะเป็นลม เอ่อ คือ อะไรยังไง คือ สรุปคือ กูงง อ่ะครับ
“พี่นะ ฟังอยู่หรือเปล่า”
“ฟะ ฟัง แกล้อพี่เล่นใช่ไหมว่ะ”
“หือ ใครบอกเล่า ผมขอพี่เป็นแฟนจริงๆนะ ผมชอบพี่” ไอ้เด็กเกรียนบอกด้วยเสียงจริงจัง
“ตะ แต่ เราเพิ่งรู้จักกันสองวันนะ” ผมบอก เอ่อ ยอมรับก็ไดว่าใจสั่นนิดๆ ตอนเจอมันที่สนามบิน แล้วก็มีแอบน้อยใจมันบ้าง แต่ผมไม่ได้ใจง่ายขนาดจะตกลงเป็นแฟนกับคนที่เจอกันแค่ไม่ถึงสองวันนะครับ
“8ปีตะหาก”
“อือ”  - -?
“พี่จำผมไม่ได้เหรอ” จำได้อะไร ยังไง ทำไม อีกล่ะครับเนี่ย คุยกะไอ้นี่มี ง งู เต็มหัวไปหมด
“จำอะไร เราสองคนเคยเจอกันด้วยเหรอ”
“น้อยใจนะเนี่ย คนเรารึอุส่าห์รอตั้ง8ปี”
“เล่ามาเลยดีกว่า พี่ งง ว่ะ”
“พี่จำได้ไหมตอน ม1 พี่เคยไปบ้านผมอ่ะ”
ม1 เหรอ อืม ก็จำได้ลางๆนะครับว่าเคยไปบ้านเชี่ยตาร์มัน คือผมกับเชี่ยตาร์คบกันมาตั้งแต่ ม ต้น แล้วตอน ม ต้น ผมก็ไปเที่ยวบ้านมันบ้างเพราะมันชอบอวดว่าบ้านมันสวย แต่พอขึ้นม ปลาย ก็ไม่เคยไปอีกเลย จะว่าไปตอนที่ไปเที่ยวบ้านไอ้ตาร์ผมไปเจอเด็กคนนึงด้วยนะครับ เจอครั้งแรกก็เรียกผมว่าพี่สาว เล่นเอาไอ้ตาร์ฮาจนน้ำตาเล็ด ส่วนผมหน้างอเป็นม้าหมากรุก  อยากจะตะโกนใส่หน้าว่ามึงไม่เห็นเหรอว่ากุใส่กางเกงหลังจากนั้นมันก็ตามแกล้งผมตลอด แต่จู่ๆ วันที่ผมจะกลับมันดันเอาดอกกุหลาบมาให้ผมแล้วสารภาพรักซะงั้น เล่นเอาผมทำอะไรไม่ถูกเลยไม่รู้ว่าจะอึ้งหรือจะขำก่อนดี   คิดๆไป ป่านนี้ไอ้เด็กนั้นจะโตแค่ไหนแล้วนะ
“จำได้หรือยังครับ” 
“เฮ้ย อย่าบอกนะว่า แก แก คือ”
“ครับ ผมก็คือเด็กที่บอกรักพี่วันนั้นไง” ไอ้เบสบอกก่อนจะยิ้มหวานให้ผม
“อะ เอ่อ ”
“คิดถึงจังเลยครับ พี่นะคิดถึงเบสไหม”
“เอ่อ คือ คือว่า” ผมอ้ำอึ้ง จริงๆคือยังช๊อคไม่หายอ่ะครับ
“ว้า น้อยใจนะเนี่ยไม่คิดถึงกันสักนิดเลยเหรอ แต่เอาเหอะเรื่องนั้นช่างมัน แต่พี่จะตอบผมได้ยังว่าตกลงจะคบกับผมไหม ”
“คือพี่ว่านะ พี่ว่ามันเร็วไปน่ะพี่ตั้งตัวไม่ทัน”
“ไม่เป็นไรๆ ผมให้เวลาพี่คิดคืนนึงแล้วพรุ่งนี้ผมจะมาเอาคำตอบนะ”
ไอ้เด็กเกรียนบอกก่อนจะเดินเข้าบ้านหน้าตาเฉย ไอ้เด็กเวรรรรรรรร แกคิดจะโยนภาระเหรอว่ะ ไอ้เด็กบ้าเอ้ย

หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน 4 29/02/12 (พิเศษ ทัพเป้) P4
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 29-02-2012 11:58:34
อั๊ยยะ น้องเบสรุกเร็วจริง อะไรจริง ระวังคนแก่(กว่า)หัวใจวายนะน้องเอ๊ย 555
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน 4 29/02/12 (พิเศษ ทัพเป้) P4
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 01-03-2012 03:21:55
ตอนพิเศษโคตร ผู้กองที่รัก หน้า 12-13 นะคะ จิ้มโลด

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28796.360
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน 4 29/02/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รัก1/03/12) P
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-03-2012 08:08:36
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน 4 29/02/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รัก1/03/12) P
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 01-03-2012 14:00:49
เบสรุกเร็วมากไปมั้ย
เดี๋ยวพี่นะหัวใจวาย
แล้วจะอดได้ภรรยานะจ๊ะ :m20:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน 5 03/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รัก2/03/12) P
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 03-03-2012 04:35:21
ตอน5

“พี่นะ ง่วงแระไปนอนเถอะพี่” คนที่นั่งหาวหวอดๆ บนโซฟา หันมาบอก

“ง่วงก็นอนสิ มาบอกทำไม”

“อ้าว ก็ผมอยากเข้านอนพร้อมพี่นิ ป่ะไปนอนกันเถอะ”

“หยุดนะเว้ย!!” ผมเบรกอีกคนทันที ดูจากสายตาแล้วมันไม่น่าไว้ใจน่ะครับ

“เอ๋า ทำไมอ่ะพี่เมื่อคืนยังนอนด้วยกันได้เลย”

“แต่วันนี้ไม่ได้เว้ย แกไปนอนโซฟาเลยไป๊”

“โด่พี่ กลัวไรอ่ะ ผมก็เป็นเกย์พี่ก็เปนเกย์ ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย” นั่นล่ะโว้ย ที่กลัวน่ะ

“ไม่ได้จะนอนไม่นอน ถ้าไม่นอนกลับไปนอนคนโดพี่ชายแกเลย” ผมยื่นคำขาด  เอาดิให้มันรู้ไปว่ามันจะกล้า

“ก็ได้ครับ นี่ถ้าไม่รักไม่ยอมทำตามนะเนี่ย”

เบสบอกก่อนก่อนจะล้มตัวลงนอน

“นี่ไปหยิบผ้าห่มกับหมอนเอาเองนะในตู้หน้าห้องแม่อ่ะ ”

“ฮั่นแน่ เป็นห่วงเค้าอ่ะดิ กลัวเค้าหนาวชิมิล่ะ เอางี้ดิตะเองก็ให้เค้าไปนอนกอดดิรับรองเค้าไม่หนาวหรอก”

“นอนไปเลยนะ ไอ้เด็กเวร”

ผมด่าก่อนจะวิ่งขึ้นห้องทันที ทำไมอยู่ใกล้ไอ้เด็กนี่แล้วใจมันสั่นแบบนี้เนี่ย นานมากแล้วนะที่ใจผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้ เฮ้อ


……………………………………………………………………………….


ก๊อกๆๆๆ

“พี่นะตื่นๆๆๆๆ”

“พี่นะตื่นได้แล้ว” เสียงดังโวยวายดังที่หน้าห้องทำให้ผมต้องจำใจตื่นด้วยความหงุดหงิด การนอนอันแสนสุขของผมทำไมต้องโดนขัดด้วยมารเกรียนด้วยเนี่ย

“อะไรของแกไอ้เบส จะนอนโว้ย” ผมเดินมาเปิดประตูเพราะทนเสียงเคาะไม่ไหว

“พี่จะนอนไม่ได้ พี่ต้องไปส่งผมที่โรงเรียนนะ”

“ทำไมต้องไปด้วย ไปบอกไอ้ตาร์ดิ ไปชิ่วๆ คนจะหลับจะนอน”

“ไม่อ่ะ ก็ผมอยากให้พี่ไปอ่ะ”

มันบอกก่อนจะทำหน้างอ น่ารักตายละแกน่ะ นีดี่นะที่มันยังไม่ลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้นน่ะ ไอ้เด็กโข่งเฮ้ย

“ไม่” คำเดียวสั้นๆ ได้ใจความที่สุด

“ไม่ได้ พี่ต้องไปลุกเลยเร็วๆ ผมให้เวลาพี่ 10นาที ถ้าเลยอย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ” ผมบอกก่อนจะทำตาเจ้าเล่ห์ เอ่อ ตกลงใครพี่ใครน้องเนี่ย สั่งยิ่งกว่าพ่ออีก

ฟอดดดดดดดด เฮ้ย อะ ไอ้เด็กบ้านั่น มันหะ หอม แก้มผม

“แก้มพี่นะ หอมเนาะ ฮ่าๆๆ แหมชักไม่อยากไปโรงเรียนแล้วสิ”  ง่า ไอ้เด็กนี่มันอายุ 16 จริงๆใช่ไหม ทำไมแค่มันมองเฉยผมต้องหน้าร้อนขนาดนี้ด้วยเนี่ย

“พอเลย อีก10นาที เดี๋ยวไปส่ง”  ผมบอกก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำทันที  แต่ก็ต้องตกใจตอนที่เห็นหน้าตัวเองในกระจก อ๊ากก ทำไมมันแดงแบบเน้ ไม่นะไม่ ผมจะเขินไอ้เด็กนั่นทำไมเนี่ย


…………………………………………………………………………………….

ผมอยากจะบ้าตาย ไอ้นะมันบังคับให้ผมมาเป็นผู้ปกครองมันครับ  มันเห็นผมแก่ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย

“แน่ะ หน้างออีกแล้ว เป็นไรอีกอ่ะ” ไอ้เด็กเกรียนหันมาถามผม หลังจากที่ผมต้องทนนั่งฟัง ผอ หัวพระอาทิตย์ของโรงเรียนพล่ามมาสอง
ชั่วโมง น่าเบื่อโคตร แต่ไปไหนไม่ได้เพราะไอ้เด็กนี่ ขู่ไว้ว่า “ลุกหนึ่งครั้งหอมแก้มหนึ่งที” ใครมันจะกล้าลุก ผมยังไม่อยากโดนนินทาว่ากินเด็กนะ

“เปล่า”

“อ้าว งอนเหรอเนี่ย พี่งอนไรผมอ่ะ”

“ก็บอกว่าเปล่าไงว่ะ” เริ่มจะโมโหแล้ว เซ้าซี้อะไรเนี่ย

“ผมขอโทษแล้วกันที่ทำให้พี่ลำบากใจอ่ะ” พูดเฉยๆก็ได้ม้าง ทำไมต้องทำหน้ายังกะหมาโดนทิ้งแบบนั้นด้วยเนี่ย อย่านะไอ้นะ อย่า
ใจอ่อนเด็ดขาดนะ

“เออๆ พี่ไม่ได้โกรธแกหรอก พี่แค่เบื่อน่ะ” ยังไม่ทันขาดคำ เฮ้อ ใจอ่อนอีกแล้ว

“จริงเหรอ” ไอ้เด็กเกรียนเงยหน้ายิ้มแฉ่ง ง่า ไอ้เด็ก มารยา เอ้ย

“ไปเถอะ หิวแล้ว วันนี้ไม่มีเรียน ผมเลี้ยงพี่เอง” พูดเอง เออเอง แล้วก็ลากผมไปเองโดยไม่รอจังหวะให้ผมตอบสักนิด

“นี่เบส พี่ถามจริงๆนะ ทำไมต้องให้พี่ไปด้วยอ่ะวันนี้ พี่ไม่ใช่ผู้ปกครองแกซะหน่อย”

“ใครบอกว่าพี่ไม่ใช่ พี่น่ะ เป็นผู้ปกครองผมทั้งตัวและหัวใจเลย รู้ไหม” ไอ้เด็กเกรียนตอบหน้าตาเฉย
ส่วนผมก็ได้แต่ก้มหน้า จนแทบจะสิงโต๊ะอยู่แล้ว จะบอกยังไงว่ามันเขินอ่ะ


………………………………………………………………………………………………………….

 “พี่นะ ตื่นได้แล้ว” เสียงปลุกที่ผมได้ยินตลอดสองอาทิตย์ ดังขึ้น ตอน7โมงเช้าของทุกวัน ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมไม่รู้สึกรำคาญเสียงนี้ ทั้งๆที่บางวันผมไม่มีเรียนแต่ก็ตื่นทุกครั้งที่ไอ้เด็กเกรียนมาปลุก ดูไปดูมาเหมือนผมมีลูกเนาะ ต้องตื่นไปทำข้างเช้า(ที่ปกติไม่เคยกิน) สไปส่งมันที่โรงเรียน ตอนเย็นไปรับเป็นแบบนี้มาสองอาทิตย์แล้วครับ การอยู่กับไอ้เด็กเกรียนนี่มันก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่อย่างน้อยที่สุด เวลาที่พ่อกับแม่ผมไม่อยู่ ผมก็ไม่จำเป็นต้องกินข้าวคนเดียวอีก บ้านที่เคยเงียบก็มักจะมีเสียงไอ้เด็กเกรียนแหกปากโวยวายทุกครั้งที่ ผมทำเมินหรือไม่สนใจมัน บางทีชีวิตที่มีมันก็สนุกไปอีกแบบนะ

“พี่นะเป็นบ้าเหรอ เดินยิ้มมาคนเดียวน่ะ”

“ปากแบบนี้ เอาตะหลิวตบปากสักทีดีไหมว่ะ”

“อย่าน๊า เค้ากลัวแล้วอ่ะตะเอง”  ไอ้เด็กเกรียนทำท่ากลัวได้น่าถีบมาก

ผมลงมือทำข้างเช้าง่ายๆทันที ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ข้ามต้มหมูธรรมดาๆ เนี่ยแระ ง่ายดี

“นี่พี่นะ เราสองคนเหมือนคนเพิ่งแงงานเลยเนาะ” ไอ้เด็กเกรียนพูดขึ้น เล่นเอามันตกใจจนเกือบหัวทิ่มหม้อเลยล่ะ

“อะ ไอ้เด็กบ้า พูดไรเพ้อเจ้อ”  ใจเย็นไอ้นะ ใจเย็นท่องไว้ๆ อย่าเชื่อๆ

“เขินอ่ะดิ๊ อิอิ รู้ทันหรอก”

“กินเข้าไปแล้ว หุบปากซะ” ผมบอกก่อนจะวางชามข้าวต้มลง พลางตั้งหน้าตั้งตาซัดส่วนของตัวเองอย่าเอาเป็นเอาตาย

“เออพี่ ป้านีโทรมาบอกว่าจะอยู่เที่ยวต่ออีกสองอาทิตย์นะ”

“อืม” ผมพยักหน้ารับรู้ ชินซะแล้วล่ะครับ สองคนนี้เป็นแบบนี้ประจำชอบหายตัวไปเที่ยวทีนึงเป็นเดือนๆ กลับมาค่อยมาเปิดร้าน คิดไปคิดมาเหมือนแกจะขายข้าวมันไก่เป็นงานอดิเรกซะมากกว่านะครับ ส่วนเรื่องทำไมแม่ผมบอกไอ้เบสนะเหรอ อันนี้ก้ชินอีกเหมือนกัน แม่ผมน่ะหลงไอ้เบสขนาดหนักนี่ขนาดยังไม่เจอหน้านะ ลูกเบสยังนั้นลูกเบสอย่างนี้ ส่วนลูกจริงๆนะเหรอ ตอกระป๋องไปตามระเบียบ เชอะ ได้ไหมแล้วลืมเก่า

“เอ่อ พี่นะเย็นนี้ว่างไหม”

“ทำไม”

“ตอบมาแค่ว่างหรือไม่ว่างได้ไหมเล่า” สั่งจริง ตกลงมันยังเห็นผมเป็นพี่ไหมเนี่ย

“ว่าง ทำไมมีอะไรครับน้อง”

“คือไปดูหนังเป็นเพื่อนหน่อยดิ”

“หือ”

“ตามนั้นนะ ผมไปล่ะไม่ต้องไปส่งนะ ผมจะไปกับเพื่อน” นั่นเอง พูดเอง เออเอง ตอบเอง ตกลงเอง เสร็จแล้วจะถามเพื่อ

…………………………………………………………………….

ตกเย็นผมก็โดนไอ้เด็กเกรียนลากมาที่โรงหนังท่ามกลางสายตาล้อๆของ ไอ้เพื่อทั้งสามตัวที่พร้อมใจกันไม่ว่างซะอย่างงั้น โคตรจะรักผมเลย ปล่อยผมมากับไอ้เด็กเจ้าเล่ห์นี่ตามลำพังได้ยังไง

“พี่ดูเรื่องไรอ่ะ”

“แกเลี้ยงนิ ดูอะไรก็เลือกมาสักเรื่องเหอะ” จริงๆคือถึงเลือกไปมันก็เลือกเองอยู่ดี

“งั้นพี่รอตรงนี้นะ เดี๋ยวผมไปซื้อตั๋วแปป”

ผมได้แต่นั่งเซ็งที่หน้าโรงหนัง เฮ้อ คนจะเยอะไปไหนเนี่ย วันๆไม่มีอะไรทำกันรึไง ถึงมาดูหนังกันเยอะขนาดนี้

“นะ” เสียงหนึ่งเรียก ก่อนที่ใครบางคนจะมายืนตรงหน้าผม

“ต้น”  ผมพูดเสียงเบาจนแทบจะเรียกว่าครางมากกว่า  ผมได้ยินเสียงหัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ แรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว
ความรู้สึกที่ผมเคยคิดว่าผมลืมมันไปแล้วทำไมมันกลับชัดเจนขึ้นมาได้นะ

“นะมาดูหนังเหรอ” ต้นถามผม

“อืม”

“อะไรเนี่ยไม่เจอกันแค่สองปี นะกลายเป็นคนพูดน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่” ต้นพูดล้อๆ ก่อนจะยิ้มให้ผม รอยยิ้มที่ผมไม่คิดว่าชาตินี้ผมจะได้เห็น
มันอีก รอยยิ้มของเขา คนที่ทำให้ผมรู้จักคำว่า “รัก” จากความใกล้ชิด แล้วก็ “ความเจ็บปวด” จากการจากลา ใช่ครับ ต้นเป็นแฟนเก่าของผม จะเรียกว่าเป็นแฟนคนแรกก็คงไม่ผิดเราสองคน คบกันตอนที่เราอยู่ ม4 จนจบ ม6 ต้นต้องไปเรียนต่อเมืองนอก เพราะความห่างทำให้เราไม่ได้เจอกันและผม ก็เคยคาดคิดว่าเราจะได้เจอกัน

“พี่นะได้ตั๋วแล้วนะพี่” ไอ้เด็กเกรียนเดินมาบอกก่อนจะมองต้นไม่วางตา

“ใครเหรอนะหรือว่า..”

“ไม่ใช่อย่างที่ต้นคิดหรอก นี่น้องไอ้ตาร์มัน” ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ผมตอบออกไปแบบนั้น แต่จิตใต้สำนึกผมสั่งให้พูดออกไป

“นะ ต้นขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม” ต้นหันมาบอกผม

“อืม”

ผมตอบก่อนจะเดินตามต้นออกไป


หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน 5 03/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รัก2/03/12) P
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 03-03-2012 10:41:48
ค้างดีนะ
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน 5 03/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รัก2/03/12) P
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 04-03-2012 22:21:06

ตอน6
ผมกลับมาหลังจากที่คุยกับต้นเสร็จไม่มีกะจิตกะใจจะไปนั่งดูหนังหรอกครับ ป่านนี้ไอ้เด็กเกรียนนั่นคงจะดูหนังอยู่ละมั้งเพราะกว่าผมกับต้นจะคุยกันเสร็จหนังก็ฉายไปเกือบ15นาทีแล้ว
คลิ๊ก  เสียงเปิดประตูหน้าบ้าน บ่งบอกว่าผู้ร่วมบ้านอีกคนกลับมาแล้ว
“ไง หนังสนุกไหม” ผมทัก
“ไม่รู้สิ ไม่ได้ดู” ไอ้เบสตอบ แต่ผมว่าเสียงมันดูเหมือนหงุดหงิดอยู่นะ
“อ้าวทำไม่ดูล่ะ ไหนบอกอยากดูนักอยากดูหนาไง”
“ไม่มีอารมณ์” บอกเสร็จก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟาทันที เป็นอะไรของเค้าอีกเนี่ย เฮ้อ


ตอนเช้าผมงัวเงียตื่นขึ้นมาโดยที่ไม่มีเสียงปลุก เหลือบดูนาฬิกาก็ปาไป 9โมงกว่าแล้ว ตายหอง แล้วไอ้เด็กนั่นมันตื่นยังว่ะเนี่ย ผมรีบวิ่งลงไปชั้นล่างทันทีเผื่อว่าไอ้เด็กเกรียนจะยังไม่ตื่น แต่ผมก็เจอแค่โน้ตที่แปะอยู่หน้าจอทีวี บอกว่าจะโรงเรียนเอง เป็นไรของเค้าเนี่ย ช่างเถอะ ไหนๆวันนี้ก็ไม่มีเรียน นอนดีกว่า
ปริ๊นๆ  เสียงแตรรถที่ดังขึ้นหน้าบ้านทำให้ผมรีบวิ่งออกไปดูทันที ก่อนที่ ร่างสูงของใครบางคนจะเดินลงมา
“อ้าวต้น มาแต่เช้าเลยนะ”
“อ้าว ทำไมอ่ะเดี๋ยวนี้ต้นมาหานะแต่เช้าไม่ได้เหรอ” อีกคนถามเสียงนี่จะน้อยใจไปไหน
“เปล่าคร้าบ สำหรับต้นมาหาตอนไหนก็ได้ ว่าแต่วันนี้มีอะไรหรือเปล่า”
“จะมาชวนนะไปเที่ยวน่ะ ไปด้วยกันนะ”
“อืม ได้ดิ วันนี้ไม่มีเรียน รอแปปนะแต่งตัวก่อน”
“รับทราบครับ” ต้นตอบก่อนจะยิ้มจนตาหยี ซึ่งมันน่ารักมาก ฮ่าๆๆ คนหล่อมาทำอะไรแบบนี้มันก็น่ารักดีนะครับ

(ภาคเบส)
ผมยืนมองคนสองคนที่ยืนหัวร่อต่อกระซิกกันที่หน้าบ้านพลางกำมือแน่น ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมโกรธจนแทบจะเดินเข้าไปต่อยหน้าไอ้นั่นแล้ว ดีที่เพื่อนผมช่วยลากผมออกมาได้ทัน
“ปล่อยกูดิพี่ มึงจับกูทำไมว่ะ”
“เชี่ยเบส มึงจะบ้าเหรอ  มึงจะทำอะไรว่ะ”
“กูจะไปต่อยมัน”
“ต่อยเหรอ เชี่ย มึงนี่หล่อแต่โง่จริงๆเลยเว้ย มึงไปต่อยเขาแล้วมึงิดว่าพี่นะจะเข้าข้างมึงเหรอ ฟายเอ้ย ทำอะไรหัดใช้สมองซะบ้าง” ไอ้พีเตือน แต่จริงเหมือนโดนด่าว่าโง่มากกว่านะ
“แมร่งเอ้ย” ผมสบถ ก่อนจะเตะกำแพงระบายอารมณ์
“เอาน่าใจเย็น มึงเคยได้ยินไหม รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งน่ะ”
“ไม่ต้องเก๊ก มีแผนอะไรว่ามา” ผมบอกก่อนจะ ตบเกรียนมันด้วยความรัก
“เชี่ยนิ แผนเหรอตอนนี้กูยังคิดไม่ออกลองโทรถามพี่ชายจอมกระล่อนของมึงดิ รายนั้นแผนเยอะนิ” ไอ้พีแนะนำ อืม ใช่นี่ผมลืมกีตาร์พี่ชายสุดที่รักของผมได้ไงเนี่ย  ว่าแล้วก็โทรหาเลยดีกว่า
“ฮัลโหล กีตาร์อยู่ไหนอ่ะ” 
“คอนโด มีไร ทะเลาะกะเมียมาอีกอะดิ ถ้าจะให้ไปช่วยง้ออีกไม่ยุ่งแล้วนะเว้ย” แหม รักน้องมากไอ้พี่เวรเนี่ย
“เออน่า เดี๋ยวไปหา ไปถึงแล้วจะเล่าให้ฟัง” ผมบอกก่อนจะวางสายทันที

……………………………………………………………………………….
“ว่าไงนะ ไอ้นะมีชู้” กีตาร์ตะโกน ก่อนจะทำหน้าไม่เชื่อสุดๆ
“ก็เออดิ ไม่งั้นจะมานั่งกลุ้มอยู่แบบนี้เหรอ”
“ปัญหาในครอบครัวพี่ไม่อยากยุ่งว่ะไอ้น้อง” กีตาร์บอก
“โถ่เอ้ย คนเห็นแก่ตัว” เสียงที่สาม พูดขึ้นลอยๆเป็นใครไม่ได้นอกจากไอ้พี
“อ้าว ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับน้องพี” กีตาร์หันไปยิ้มหวายให้ไอ้พี ผมบอกยังว่ากีตาร์มันตามจีบไอ้พีอยู่ ฮ่าๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะครับ
“อย่ามายิ้ม ขนลุก ไปไกลๆเลยไป” ไอ้นี่ก็ห้าวเกินตัวอย่างกะลูกหมาถ้ากีตาร์คิดจะปล้ำจริงๆ ไม่รอดหรอกครับ
“เฮ้ยจะจีบกันอีกนานไหม คนยิ่งกลุ้มๆอยู่”
“เออโทษทีว่ะไอ้น้องรัก พอดีว่า ความรักมันบังตาน่ะ”
“แหว่ะ” ไอ้พีทำหน้าคลื่นไส้ทันที อันที่จริงมันก็ไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ ไม่น่าเชื่อว่ากีตาร์จะเสี่ยวแดกได้ขนาดนี้
“พอๆๆ เออ กีตาร์พี่พอจะรู้จักไอ้คนที่ชื่อ ต้น อะไรนั่นไหม”
“อือ ต้นเหรอ ใช่ไอ้คนที่ตัวสูงๆ ผิวเข้มๆ หน้าหล่อๆใช่ไหม”
“อืม” ผมพยักหน้า
“ซวยแล้วล่ะไอ้เบส น้องรัก”
“ทำไมต้องซวย” ไม่เข้าใจ ไอ้คนที่ชื่อต้นมันเป็นใครกันแน่ว่ะเนี่ย
“ก็ไอ้ต้นน่ะมันเป็นแฟนไอ้นะ น่ะสิ”
“แฟน /แฟน” ผมกับไอ้พี ตะโกนแทบจะพร้อมกันไหนกีตาร์บอกว่าพี่นะโสดไง
“คืองี้นะน้องรัก อ้อ ที่รักด้วยนะครับ ไอ้ต้นน่ะมันคบกับไอ้นะ ตอนม 4 แต่พอ ม6 มันต้องไปเรียนต่อเมืองนอกแล้วก็ไม่เคยติดต่อมาหาไอ้นะอีกเลย ไอ้นะมันก็เลยคิดว่าไอ้ต้นน่ะมีแฟนใหม่แล้ว แต่จริงๆจะว่าไปมันสองคนก็ยังไม่ได้เลิกกันนะ แค่ห่างกันเฉย”
“แมร่ง” ผมกำหมัดแน่น เห็นพี่นะเป็นตัวอะไรว่ะ คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไปงั้นเหรอ เชี่ยเอ้ย แต่ที่ผมโกรธคือโกรธพี่นะมากกว่าทั้งๆที่รู้ว่าไอ้ต้นมันทิ้งไปตั้งสองปีแล้วยังจะกลับไปคืนดีกับมันอีก
“ตัดใจซะเถอะไอ้น้อง ไอ้นะน่ะมันรักไอ้ต้นมากเลยนะ”
……………………………………………………………………………………………………..
“ขอบคุณนะต้นที่มาส่ง” ผมบอกลาอีกคนก่อนจะเข้าบ้านไป
“ทำไมบ้านมันมืดจังเนี่ย ไอ้เด็กเกรียนนั่นมันไปไหนว่ะ”  ผมบ่นไปตามเรื่อง
“กลับมาแล้วเหรอ” ไอ้เด็กเกรียนทักขึ้น
“เฮ้ย ทำไมไม่เปิดไฟว่ะ”
“ไม่อยากเปิด จะทำไม”  ดูคำตอบมัน เกรียนได้อีก เฮ้อ ไปนอนดีกว่า เหนื่อย
ผมเดินเลี่ยงเพื่อจะเดินไปอาบน้ำ แต่ถูกอีกคนฉุดมือไว้ก่อน
“เดี๋ยว ” คำเดียวสั้น ก่อนจะลากผมไปนั่งที่โซฟา ใจคอมันจะไม่พูดอะไรเลยเหรอว่ะเนี่ย มาถึงก็ลากๆๆๆ โด่ คนนะเว้ย ในขณะที่ผมกำลังด่ามันในใจ เสียงกีตาร์แผ่วๆก็ดังขึ้น เอ่อ มันไปเอามาตอนไหนว่ะ
ที่คบกันตลอดมา ไม่รู้เลย ฉันคิดไปเองไหม
ไม่เห็นเธอเคยบอกฉัน สักครั้งเลย
ว่าคิดกันแบบไหน

เธอว่าฉันไม่ค่อยใส่ใจ
พอฉันแคร์ เธอก็บอกว่าอย่ามากไป

บอกกันทีว่าคนคนนี้ ควรอยู่ตรงไหน
ในหัวใจเธอ หรือแค่เพื่อนกัน
บอกตามตรงยังคงสับสน ระหว่างเรานั้น
เป็นได้แค่ไหนกัน ให้รู้เลยได้ไหม
จะให้ยืนข้างเธอแบบคนรัก
หรือมีค่าแค่คนทั่วไป   บอกฉันให้มันชัดที

ไม่รักก็แค่บอกมา ให้รู้ตัว เดี๋ยวฉันมัวแต่ฝัน
หลายเรื่องที่ทำด้วยกัน ฉันคิดไกล
รู้ไหมมันสับสน

เธอว่าฉันสำคัญกว่าใคร
แต่เอาจริงจริง เธอก็ไม่เคยใส่ใจ

บอกกันทีว่าคนคนนี้ ควรอยู่ตรงไหน
ในหัวใจเธอ หรือแค่เพื่อนกัน
บอกตามตรงยังคงสับสน ระหว่างเรานั้น
เป็นได้แค่ไหนกัน ให้รู้เลยได้ไหม
จะให้ยืนข้างเธอแบบคนรัก
หรือมีค่าแค่คนทั่วไป   บอกฉันให้มันชัดที

“พี่นะ ผมรู้ว่าพี่รู้ว่าผมรู้สึกยังไง แต่ที่ผมไม่รู้คือพี่รู้สึกยังไงกันแน่” คำถามที่ส่งมาพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน ทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก ผมไม่รู่ว่าจะต้องพูดอะไร เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนว่าที่เป็นอยู่มันคืออะไร
“พี่ พี่ไม่รู้” ผมตอบ อาจจะดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่ผมไม่รู้จริงๆ ทุกอย่างมันเร็วเกินไป เร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน
“ช่างเถอะ ผมจะย้ายกลับไปอยู่กับกีตาร์นะ” ไอ้เด็กเกรียนบอก เอ๊ะหรือมันจะแกล้งอีกหว่า
“พี่ ….ขอโทษ”
“แต่ผมจะตัดใจหรอกนะ สำหรับผม พี่สำคัญเสมอ ผมรอพี่ได้ ต่อให้นานแค่ไหนผมก็จะรอ” ไอ้เด็กเกรียนบอกก่อนจะเดินออกจากบ้านไป 





หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน 6 4/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รัก2/03/12) P4
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 04-03-2012 23:07:06
สมัยโบราณเค้าจะเรียกว่านางวันทองสองใจนะ นะ!
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน 6 4/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รัก2/03/12) P4
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 04-03-2012 23:31:15
ใช้ไม่ได้นะแบบนี้
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน 6 4/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รัก2/03/12) P4
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 05-03-2012 00:19:37
นี่ นะ อย่ามากเรื่องดิ มีเด็กมากให้กินถึงที่ดีสุด ๆ แล้วนะ 5555
หัวข้อ: Re: (รวมเรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอน 6 4/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รักอัพสดๆ5/03/
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 06-03-2012 02:52:12
ตอน จบ
“นะเป็นอะไรหรือเปล่าทำไม ทำหน้างั้นน่ะ” ต้นถามผม เอ๊ะ สงสัยผมจะแสดงออกทางสีหน้ามากไปหน่อย จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกือบอาทิตย์แล้วที่ไอ้เด็กเกรียนมันกลับไปอยู่คอนโดไอ้ตาร์
“เปล่าหรอกต้น ”
“นะ อย่าโกหกเลย ต้นดูออกนะว่านะมีเรื่องไม่สบายใจ” ต้นบอกก่อนจะยิ้มให้ผม รอยยิ้มที่มีให้ผมเสมอตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
“เรา เอ่อ เรา สับสนน่ะ”
“สับสนเรื่องอะไนเหรอ”
“อย่าบอกนะว่าเรื่องเด็กคนนั้นน่ะ”
“อืม”
“เฮ้อ นะทำอะไรตามใจตัวเองบ้างเถอะ” ต้นหันมาพูดกับผมด้วยท่าทางหน่ายๆ
“ตะ แต่ว่า ต้นก็รู้ว่านะไม่ชอบเด็ก”
“ในฐานะเพื่อนต้นอยากให้นะ ยอมรับหัวใจตัวเองสักทีนะ ถ้าขืนนะยังเป็นแบบนี้ต้นก็ไม่วางใจหรอกนะ ต้นเป็นห่วงนะมากนะ”
ใช่แล้วล่ะครับ ตอนนี้ผมกับต้นเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ทุกอย่างมันจบลงด้วยดีแล้ว ผมกับตันถึงจะเคยรักกันมากแต่มันก็เป็นความรักแบบเด็กๆ หลังจากที่เราห่างกันเราถึงรู้ว่า เราสองคนคงเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น
“แต่ตอนนี้ไอ้เด้กนั่นมันโกรธเราอยู่น่ะสิ”
“โกรธก็ง้อสิม่เห็นยากเลย น้อองเบสน่ะ ดูท่าทางเขาจะรักนะมากเลยนะ เชื่อสิว่าเขาโกรธนะได้ไม่นานหรอก”
เฮ้อ ก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างที่ต้นบอกนะครับ อืมตอนนี้ผมต้องคิดแผนง้อไอ้เด็กเกรียนนั่นใช่ไหมเนี่ย
ต้องทำไงหว่า ใช้หมอง นั่งมาธิแบบอิ๊กคิวซังได้ไหม อ่ะ  คิดสิคิด ไอ้นะ คิด
ใช่แล้ว!!!! ฮ่าๆๆ ทำไมผมลืม เพื่อนรักจอมกระล่อนของผมอีกคนได้ยังไงเนี่ย เชี่ยทัพมันต้องมีวิธีแน่นอน
“ต้นๆๆ ”
“มีอะไรเหรอ”
“ไปส่งเราที่คอนโดเพื่อนเราหน่อยได้ไหม”
“ครับ”
ผมให้ต้นขับรถมาส่งที่คอนโดไอ้ตาร์ ก่อนจะไล่กลับ ฮ่าๆๆ ผมถือคติ “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” น่ะครับ
ออดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมกดออดหน้าห้องไอ้ทัพเป็นจังหวะ ชะ ชะ ช่า  แต่แมร่ง นานแล้วนะ อย่าบอกนะว่ามัน มี “แขก”เนี่ย
“เออ มาแล้วๆ ใครว่ะกดออดโคตรกวนตีนเลย” เสียงบ่นดังแว่วๆออกมาจากในห้อง
“ทัพเพื่อนร๊ากกกกกกกกกก”
“อะ ไอ้นะ!!!”  เอ๋าเชี่ยทัพ เห็นหน้าผมหรือเห็นผีว่ะทำไมต้องตกใจขนาดน้าน
“หือ กูเองทำไมว่ะ ตกใจไร”
“ปะ เปล่า” ติดอ่างซะงั้น ไอ้นี่มันต้องมีเรื่องปิดบังแน่ๆ  ต่อมอยากรู้ทำงานอีกแล้ว ผมรีบวิ่งเข้าไปดูในห้องนอนมันทันที หึหึ กูต้องรู้ให้ได้ว่ามึงซ่อนใครไว้ไอ้เชี่ยทัพ
“เฮ้ย เชี่ยนะ มึงจะไปไหน”
“ไหนกูดูสิ มึงซ่อนสาวที่ไหนไว้” ผมบอกก่อนจะกระชากประตูห้องนอนทันที
เฮ้ย!!!! โอ้มายบุดด้า!!!! O_o บอกผมทีว่าไอ้คนที่นอนอยู่บนเตียงไอ้ทัพไม่ใช่ไอ้เป้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรว่ะ
“เชี่ยทัพ พวกมึง” ผมหันไปถามอีกคนที่ยืนหน้าซีดที่หน้าห้อง
“อือ ใครมาเหรอทัพ” คนที่นอนอยู่บนเตียง งัวเงียลุกขึ้น จนผ้าห่มร่นไปอยู่ที่เอว รอยแดงๆที่เห็นตามตัวไอ้เป้ทำหน้าผมร้อนวูบ ไม่อยากจะคิดว่าเมื่อคืนพวกมันทำอะไรกัน
“เฮ้ย!! ไอ้นะ” ไอ้น้องเปียกตะโกนก่อนจะมุดลงไปในผ้าห่มอยากจะบอกว่าไม่ทันแล้วโว้ย กูเห็นหมดแล้ว
“ไอ้ทัพ ไอ้เป้ กูให้เวลา 5 นาทีออกไปเจอกูข้างนอก” ผมบอกก่อนจะไปรอพวกมันที่ห้องนั่งเล่น ไม่ได้โกรธที่พวกมันรักกันเองหรอกนะครับ แค่เคืองๆที่พวกมันปิดบังผมตะหาก
“เอ่อ ไอ้นะ” ไอ้ทัพบอกเสียงสั่นก่อนจะนั่งลงตรงข้ามผม
“มึงอย่าไปว่าไอ้เป้มันเลยนะกูผิดเองแหล่ะ กูขอโทษแต่พวกกูรักกันจริงๆนะ” ผมกลั้นขำแทบตาย แหม เชี่ยทัพพระเอกเชียว
“ไอ้นะ มึงโกรธพวกกูเหรอ” ไอ้เป้ที่เงียบมานานถามขึ้น
“พวกมึงคิดว่ากูควรโกรธไหม มึงเห็นกูเป็นอะไร นี่พวกมึงไม่ไว้ใจกูเลยเหรอ”
“ก็ กู กูเอ่อ”
“เป็นไรว่ะเชี่ยเป้ ติดอ่างตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมตะคอก
ไอ้ทัพโอบไอ้เป้เบาๆ เหมือนให้กำลังใจ เห็นแล้วมันหมั่นไส้ชะมัด เมื่อก่อนกัดกันจะเป็นจะตาย ทีตอนนี้ ซบกันยังกะจะรวมร่าง
“ไอ้นะ มึงก็อย่าขู่มันสิ” น่านไง ไอ้พระเอก สงสัยกลัวผมฆ่าเมียมันมั้ง
“ว่าไงไอ้เป้ มึงมีอะไรจะบอกก็บอกมาเร็วๆ”
“คือที่กูไม่บอกพวกมึงเพราะว่า กู เอ่อ กู อายน่ะ” ไอ้เป้ตอบพลางก้มหน้างุดๆลงกับอกไอ้ทัพ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ไม่ไหวแล้วครับ ขอบอกว่า ณ จุดนี้ มันฮามาก
“ไอ้นะ นี่มึงแกล้งพวกกูเหรอ” ไอ้ทัพถามผม
“ก็เออสิว่ะ ฮ่าๆๆ พวกมึงคิดว่ากูจะโกรธจริงๆเหรอ พวกมึงสองคนเป็นเพื่อนกูนะเว้ย กูก็แค่ งอนนิดๆที่พวกมึงปิดบังเท่านั้นแหล่ะ”
“กูขอบใจนะที่มึงไม่โกรธ” ไอ้เป้บอกผมเบาๆ แหม เวลามันอาย มันก้น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย มิน่าไอ้เชี่ยทัพ จอมกระล่อนถึงไปไหนไม่รอด
“ว่าแต่พวกมึงจะเลิกกอดกันได้ยัง กูหมั่นไส้ กูจะได้พูดธุระกูสักที”   เกือบลืมแล้วไหมล่ะ มาผมมาที่นี่ทำไม
“อืม มึงว่ามาสิจะให้พวกกูช่วยอะไร” ไอ้ทัพบอก
“คือว่า มึงช่วยกูง้อเด็กหน่อยสิ”
“เด็ก เด็กไหนว่ะ หรือว่า..” ไอ้เป้ หันมาถาม
“อืม ก็ไอ้เบสน้องเชี่ยตาร์นะแหล่ะ”
“ก๊าก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” แล้วพวกมัน สองผัวเมีย ก็ร่วมด้วยช่วยกันหัวเราะซะผม หมั่นไส้ แหม ได้ทีเอาใหญ่นะพวกมึง
“เฮ้ย พอได้ยังว่ะ”
“ไอ้นะ เอ้ย ไหนบอกว่าไม่ชอบเด็กไงว่ะ ไหงกลืนน้ำลายตัวเองล่ะ” ไอ้เป้ล้อ
“ตกลงพวกมึงจะช่วยไม่ช่วย ไม่ช่วยกุกลับนะ”
งอนแล้วนะเว้ย ที่มาเนี่ยมาขอความช่วยเหลือ ไม่ได้มาให้ล้อนะ
“เอ๋า เชี่ยนะ งอนเหรอมึง เดี๋ยวกูช่วยเอง รับรอง งานนี้มึงมีผัวเด็กแน่นอน”


(ภาคเบส)
“ไอ้เบส นั่งหงอยเป็นหมาโดนทิ้งเลยนะมึง” ไอ้พีเดินเข้ามาทัก
“อย่ามายุ่งน่า”
“เอ๋าเชี่ย มึงเป็นเพื่อนกูนะ ไม่ให้สนใจมึงจะให้กูไปสนใจหมาที่ไหน” กูควรจะดีใจใช่ไหม ที่มึงเปรียบเทียบกูกับหมาเนี่ย
“คงม่ใช่แค่กูเป็นเพื่อนมึงอย่างเดียวมั้ง คงเพราะกูเป็นน้องของแฟนมึงด้วยหรือเปล่า” ผมล้อมัน ฮ่าๆๆ ไอ้พี่หน้างอไปเรียบร้อย
“เชี่ย อย่ามาพูดหมาๆนะเว้ย กูกับพี่มึงไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“อ๋อเหรอ” ใครเชื่อก็บ้าแล้ว คนรู้จักบ้าอะไร เช้าถึงเย็นถึงขนาดนี้ขนาดผมเป็นน้องกีตาร์มันยังไม่ดูแลดีขนาดนี้เลยนะจะบอกให้
“พอเลยมึงเรื่องของกูเอาไว้ก่อน เรื่องของมึงอ่ะจะเอาไง”
“ไม่รู้สิ ถ้าพี่นะเขาคิดจะเลือกไอ้บ้านั่นก็เรื่องของเขา กูจะทำอะไรได้ว่ะ”
“แหม พ่อพระเอก กูนึกว่าคนโง่อย่างมึงจะตายไปหมดแล้วนะเว้ย” ไอ้พี ประชด
“กูไม่อยากให้พี่นะ ลำบากใจ” จริงๆนะครับ ผมคงทนไม่ได้หรอกที่จะเห็นพี่นะลำบากใจ มันอาจจะดูโง่ๆไปสักหน่อยแต่เชื่อเถอะ ถ้าคุณรักใครสักคน คุณก็ต้องทำแบบผม
“ตามใจมึงแล้วกัน กูไปดีกว่า”

ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ
‘ไอ้เบส ไอ้นะไม่สบายไปดูใจมันหน่อยไหม’ ข้อความที่กีตาร์ส่งมาทำให้ผมใจหล่นวูบ จนต้องรีบไปที่บ้านพี่นะทันที

ตอนนี้ผมนอนง่อยเป็นผักอยู่บนเตียงที่บ้านครับ พร้อมกับกองใบแก้วที่ไอ้ทัพเอามาให้ผมเคี้ยว แมร่งวิธีโบราณได้อีกอ่ะ
วิธีง้อเด็กของไอ้ทัพคือ แกล้งป่วยครับ ซึ่งผมคิดว่ามันโคตรจะปัญญาอ่อนเลย
“เชี่ยนะ กูให้มึงแกล้งเป็นไข้ ไม่ใช่ท้องผูกทำหน้าให้มันดีๆหน่อย” ไอ้ทัพบ่น มึงไม่มาเป็นกูมึงไม่รู้หรอกเว้ย ใบแก้วมันไม่ได้อร่อยเลยนะ
“มึงว่ามันจะได้ผลเหรอว่ะ” ชักจะไม่แน่ใจในแผนการซะแล้ว ไม่น่าจะมีใครตกหลุมพรางตื้นๆแบบนี้นะ ถึงตอนเด็กๆจะใช้หลอกแม่ได้ผลก็เถอะ
“ไอ้นะ มึงไม่รู้อะไร ว่าการป่วยของคนที่เรารักอ่ะมันเป็นเรื่องใหญ่มากนะเว้ย สำหรับกูแค่ไอ้เป้มันไอ ใจกูก็แทบจะขาดแล้ว” อ่า ไอ้พระเอก แมร่งเลี่ยนชิบ ส่วนไอ้เป้ นั่งบิดจนจะตกเก้าอี้แล้วมั้งนั่น
“เฮ้ย พวกมึงไอ้เบสมาแล้วนะ” ไอ้ตาร์วิ่งเข้ามาบอก
ผมก็เลยต้องทำตามแผนซะหน่อย ก็แกล้งหลับไงครับ เหอๆ
“พี่นะ!!” ไอ้เด็กเกรียนมาถึงก็เสียงดังเลยเว้ย
“เงียบๆหน่อยเบส ไอ้นะมันหลับอยู่” ผมได้ยินไอ้ตาร์เอ็ดน้องมันเบาๆ
“พวกพี่ฝากเบสดูแล ไอ้นะมันด้วยนะ” อันนี้น่าจะเป็นเสียงไอ้ทัพ 
ผมได้ยินเสียงปิดประตูก่อนจะรู้สึก เอ่อ สัมผัส แผ่วเบาที่หน้าผาก อย่าบอกนะว่าไอ้เด็กนั่น มัน มัน จะ จูบ หน้าผาก ผมอ่ะ
“อือ” ผมส่งเสียงเบาๆก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น แหม การแสดงยอดเยี่ยม น่าจะได้ออสการ์
“พี่นะเป็นไงบ้าง” ไอ้เบสถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง เอ่อ ชักจะรู้สึกผิดนิดๆแล้วดิเนี่ย
“ก็ปวดหัวนิดหน่อยน่ะ”
“เหรอ งั้นกินข้าวนะจะได้กินยา  ผมซื้อข้าวมาแล้ว”
เอ่อ เอไงดีล่ะไอ้นะ ทีแรกกะจะแกล้งป่วยให้ได้คุยกันซะหน่อยจะได้ไม่เสียหน้า แหะๆ แต่พอมาเจอแบบนี้แล้ว มันพูดไม่ออกอ่ะครับ ไม่นึกว่าไอ้เด็กเกรียนมันจะเป็นห่วงผมขนาดนี้
“เบสคือ เรื่องต้นน่ะ คือว่า เอ่อ”
“ช่างเถอะพี่ ถ้าพี่เลือกแล้วผมก็ไม่ได้ว่าอะไร” เอ่อ เกิดอยากจะเป็นพระเอกอะไรตอนเน้ ห่ะ
“เออตามใจ แค่จะบอกว่าพรุ่งนี้ต้นจะกลับอังกฤษแล้วกะจะฝากของขวัญไปแสดง ความยินดีที่จะหมั้นซะหน่อย”  ผมทำท่าไม่สน ก่อนจะเหล่มอง อีกคนที่ยังเก๊กหน้าเศร้าอยู่
“ได้ครับ   เอ๊ะ พี่ว่าไงนะ ” อืม กว่าจะรู้สึกตัวเนาะไม่รู้สึกตัวพรุ่งนี้เลยล่ะ
“ก็ได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอ”
“พี่นะ!!” ไอ้เบส ดึงผมเข้ามากอดซะแน่น เฮ้ย หายใจไม่ออกเว้ย
“ปล่อยดิหายใจไม่ออก”
“ก็ผมดีใจนิ ที่พี่เลือกผม”
“เฮ้ยๆ บอกตอนไหนว่ะ ว่าพี่เลือกแก” เท่าที่จำได้ยังไม่เคยบอกนะเว้ย ถึงจะอยากบอกก็เถอะ
“อ้าว ไหงงั้นอ่ะ ไม่รู้ล่ะ ผมจะถือว่าพี่เลือกผมแล้ว ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปพี่เป็นแฟนผมแล้วนะ”
“เฮ้ย ไอ้เด็กบ้า อย่ามาตีมึนนะเว้ย”
“พี่นะ  ผมรักพี่นะ”
จู่ๆไอ้เด็กบ้านั่นก็บอกรักซะไม่มีปี่มีขลุ่ย เล่นเอาผมหน้าร้อนวูบอย่างกะเป็นไข้ 
“อืม”
“อืมอะไร พี่ ใจคอจะปล่อยให้ผมบอกฝ่ายเดียวเหรอ รอมาตั้ง 8ปีแล้วนะ จะไม่บอกรักให้ชื่นใจหน่อยเหรอ”
เง้อ  ทำไมไอ้เด็กนี่ มันขยันทำให้ผมใจเต้นจังเนี่ย
“เร็วดิพี่ อุส่าห์แกล้งป่วนอ้อนผมขนาดนี้ อ้อนให้มันเต็มที่หน่อย”
“เฮ้ย แกรู้”  ไหนไอ้ทัพ บอกแผนเด็ดไงว่ะ ทำไมไอ้เด็กนี่มันรู้อ่ะ คราวหลังจะไม่เชื่อมันแล้ว
“ผมไม่ได้อายุ สามขวบนะพี่ เอาน่าอ้อนแฟนอ่ะไม่เป็นไรหรอก เร็วดิ”
อย่าเพิ่งเซ้าซี้ได้ม้ายยยยยยยยยยย มันเขินเว้ย  ผมเงยหน้ามองอีกคนที่จ้องผมอยู่ อยากจะบอกว่ามันยังกอดไม่ยอมปล่อยเลยครับ
“เอ่อ อืม พี่ก็รักเบสนะครับ” อ๊ากกกกกกกกก พูดเองก็เขินเอง
“น่ารักจัง แฟนเบสเนี่ย ”
…………………………………ปัจจุบัน……………………………..
“คิดอะไรอยู่ หืม”  ไอ้เด็ก ไม่สิ ตอนนี้ไม่ใช่เด็กแล้วสิ นะ เบสเดินมากอดผมจากข้างหลัง
“คิดอะไรเพลินๆนะ แล้วนี่เลิกเรียนแล้วเหรอ หิวไหม”
“หิวครับ”
“อิม กินไรอ่ะเดี๋ยวพี่ทำให้”
“อยากกินพี่นะ” เอ่อ ทำไมเสียงมันแหบๆพร่าๆ แบบนั้นอ่ะ ก่อนที่ผมจะคิดอะไร ริมฝีปากก็ถูกปิดด้วยปากของอีคนไปเรียบร้อยแล้วครับ เฮ้อ ทำไมพระเอกของยัยพิตมันหื่นทุกคนเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอนจบ 6/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รักอัพสดๆ5/03/12)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-03-2012 08:03:36
 :กอด1:ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆอยากกินมั้ง



หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอนจบ 6/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รักอัพสดๆ5/03/12)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-03-2012 14:10:00
หื่นจริงๆเลย :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอนจบ 6/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รักอัพสดๆ5/03/12)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 08-03-2012 17:12:46
แหม.. คนรักกันมันก็ต้องมีหื่นมาก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอนจบ 6/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รักอัพสดๆ5/03/12)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 08-03-2012 20:46:54
ในที่สุดน้องเบสก็ชนะใจที่นะซะที  ขอพิเศษหวานๆบ้างนะคะ

ทุกคู่เลยน้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอนจบ 6/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รักอัพสดๆ5/03/12)
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 09-03-2012 01:11:29
แล้วคู่กีต้าร์ล่ะ
สมหวังอะป่าว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอนจบ 6/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รักอัพสดๆ5/03/12)
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 09-03-2012 06:54:24
น่ารักอ่ะ รอคู่ต่อปายอย่างใจจดใจจ่อฮับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอนจบ 6/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รักอัพสดๆ5/03/12)
เริ่มหัวข้อโดย: nutsumi ที่ 09-03-2012 15:54:13
อยากอ่านคู่พีกะต้าร์อ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลยตอนจบ 6/03/12 (พิเศษโคตรผู้กองที่รักอัพสดๆ5/03/12)
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 12-03-2012 22:36:09
ตอนพิเศษ กีตาร์ พี

สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อตาร์ครับ จริงๆก็ไม่ได้ตาร์คำเดียวหรอกชื่อเล่นของผมคือกีตาร์

 แต่ขอบอกไว้ก่อนถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวหรือแม่ของลูกผมอย่าริมาเรียกนะครับ
 
เดี่ยวจะจอดไม่มีแจวจะหาว่าคนหล่อไม่เตือน เอาล่ะเข้าเรื่องๆ

หลังจากที่รู้จักผมกันพอสมควรแบบพลุบๆโผล่จากสองเรื่องที่แล้ว

ทีนี้ก็ถึงคิวผมจัดเต็มสักทีนะครับ

 เรื่องรักๆใคร่ของผมมันก็ไม่มีอะไรมากหรอกอย่างที่รู้กันว่าผมกับเชี่ยทัพ

 สันดา..น ก็ไม่ได้ต่างกันมาก เอาเป็นว่า ชั่วพอๆกันน่ะครับ

 แต่ตอนนี้ไอ้ทัพก็ลด ละ เลิก ไปเยอะ ตั้งแต่ได้ไอ้เป้เป็นเมียเนี่ย รู้สึก ลายจะหาย

 สงสัยจะเกลียมัว ฮ่าๆๆ  ส่วนคู่ไอ้เบส กับไอ้นะ ไม่ต้องพูดถึง

 ตอนนี้ไอ้เบสกลายเป็นลูกเขยบ้านนั้นไปเรียบร้อยแล้วครับ เพราะหลังจาก ป๊า ม๊า

ไอ้นะกลับมาไอ้น้องชายสุดเกรียนมันก็ปฏิบัติการสู่ขอทันที เอากะมันสิ

เอ้ย ว่าแต่ผมจะพล่ามเรื่องคนอื่นทำไมเนี่ย เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของผมนะ

เพี๊ย!! แรงตบ(ซึ่งผมคิดว่าถ้าจะตบแรงขนาดนี้มึงถีบกูเถอะ ) แบบเน้นๆตบเข้าที่หัวผมเต็มๆ

“เฮ้ย ใครว่ะ” ใครทีมันบังอาจทำร้ายท่านตาร์ผู้หล่อโคตรว่ะ

“กูเอง” เสียงติดจะแหลมนิดๆเอ่ย ง่ะ มีคนเดียว ไอ้นะ น้องสะใภ้ที่เคารพรักของพี่ตาร์นั่นเอง ผมคงไม่ต้องบอกนะว่าเกรงใจไอ้นะเพราะ
อะไร ฮ่าๆๆ ระดับไอ้นะมีคนเดียวที่ เอาอยู่คือไอ้เบสน้องผม คนอื่นอย่าริไปขัดใจมัน

“คร้าบ น้องสะใภ้”

“เชี่ยนิอย่ากวนได้ไหม กูยิ่งอารมณ์เสียอยู่” ไอ้นะ ตะคอก อีแบบนี้ทะเลาะกันมาชัวร์ไม่เข้าใจพวกมันเล๊ย ทะเลาะกันทีไรเดือดร้อนผม
ทุกที ไม่ใช่แค่ไอ้นะ กะไอ้เบส ไอ้คู่รักคู่แค้นอีกคู่ก็ด้วย

“ทะเลาะกะไอ้เบสมาอีกอ่ะดิมึง” ผมถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว

“ก็น้องมึงอ่ะ มันอ่อยสาว แมร่งเอ้ย ถ้ากูเห็นอีกนะ กูจะฆ่ามันให้ตายคาตีนเลยคอยดู” เพื่อนครับมึงเห็นคอนโดกูเป็นอารั๊ย ทะเลาะกันทีไรหนีมานี่ตลอด เชื่อเลยอีกไม่เกินสิบนาที น้องผมต้องมาถึงแน่ๆ


“พี่นะ อยู่ที่นี่จริงๆด้วย” นั่นไงว่าไม่ทันขาดคำ มันมาแล้ว ผมได้แต่มองพวกมันสองคนตาปริบๆ พวกมึ้งงงงงงงงง ช่วยออกไปจากชีวิตกูที
เถอะ กูรำคาญจะแย่ เนี่ย จะไปหาหญิงบ้างก็ไม่ได้ไอ้นะโทรจิกยิ่งกว่าผัวมัน ต้องคอยตามดูพวกมันทะเลาะกันโกรธกันทีไรมันก็อาศัยห้องผม ง้อ กันตลอด คงไม่ต้องบอกนะว่าง้อยังไง เซ็งเป็ด
ผมปล่อยให้ไอ้สองผัวเมียนั่นมันง้อกันไปเรื่อยๆ ก่อนโทรศัพท์จะดังขึ้น


‘เชี่ยทัพ’ โทรมาทำไมอีกว่ะเนี่ย ชีวิตจะหาความสงบสุขไม่ได้เลยหรือ

“มีอะไรเชี่ยทัพ”

“ไอ้ตาร์ มึงมาดูไอ้น้องเอ๋อของมึงเลยนะ แมร่ง วันนี้มันไปหม้อน้องกวาง ดาวนิเทศอีกแล้ว กุแมร่งจะคลั่งตายอยู่แล้วเนี่ย กูอุส่าห์เลิกแล้วนะ ทำไมมันชอบทำให้กูหึงจังเลยว่ะ บลาๆๆๆๆ”

แล้วมันก็พล่ามต่อไป โว้ย ชีวิตทำไมไอ้สองคู่นี้มันไม่ไปจัดการกันเองบ้างว่ะ กูเบื่อ ครับพวกมึงได้ยินไหม

ผมตัดสินใจตัดสายไอ้ทัพทิ้งก่อนจะปิดโทรศัพท์ทันที เหอะ มึงแก้ปัญหาครอบครัวเองบ้างเถอะ ส่วนไอ้คู่เมื่อกี้ สงสัยไปง้อกันอีกตามเคย

ผมได้แต่ส่ายหน้าระอา เฮ้อ นี่แหล่ะที่ทำให้ผมไม่อยากมีใครจริงๆจัง ก็ดูปัญหาสิครับ อยู่คนเดียวลอยไปลอยมาแบบนี้ดีกว่า

ผมออกมาเดินเล่นแถว มหาลัยไปเรื่อยเปื่อย จริงๆเย็นๆแบบนี้ มาเดินจับมือซื้อของกับแฟนก็น่าจะดีเหมือนกันนะครับ แต่ติดตรงที่ ตั้งแต่
เกิดมาผมยังไม่เคยคิดที่จะหยุดที่ใครสักคน

ผมเดินเล่นบ้าง กินบ้างไปเรื่อยๆ จนสายตาไปสะดุดกับใครคนนึงเข้า ใบหน้าหวานที่มีเค้าความสวยมากว่าหล่อ กำลังเดินอย่างอารมณ์ดี

ในสวนของมหาลัย ไอ้เด็กคนนี้มันชื่อ พีครับ เป็นเพื่อนไอ้เบส เคยเจอกันบ้างบางครั้ง และก็เคยหยอดมันไปบ่อยแต่จะประมาณหมา

หยอกไก่มากกว่า เพราะไอ้เด็กพีเห็นสวยๆแบบนี้ โหดใช่เล่น แบบเดียวกับไอ้นะเป๊ะ

“หวัดดีครับที่รัก มาเดินคนเดียวไม่เหงาเหรอ” ผมทัก ไอ้เด็กนั่นมองด้วนสายตาเบื่อๆก่อนจะชักสีหน้าใส่ แล้วเดินหนีโดยไม่ตอบสักคำ
อ้าว กล้าปฏิเสธท่านตาร์ ไม่รอดแน่ไอ้หนู ระดับท่านตาร์ผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้าเรื่องจีบไม่ว่าจะหญฺงหรือชายไม่มีใครรอดหรอกจะบอกให้ หึหึ

“เดี๋ยวสิครับ ใจคอจะไม่ทักกันเลยเหรอ” ผมอ้อน ผู้หญิงเจอคารมนี้ตายทุกราย

“ไปไกลๆเลยไป ก่อนที่ผมจะโมโห”

“อะโหๆๆ มีขู่นะมีขู่ พี่ต้องกลัวใช่ไหมครับ”

ไอ้น้องพี ถลึงตาใส่ผมซะยกใหญ่ ฮ่าๆๆ แหมแกล้งเด็กนี่มันก็สนุกดีนะ ครับ

“ให้พี่เดินเป็นเพื่อนไหมครับ เดินฟรีไม่คิดตังค์หรอก”

“พี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ ผมบอกว่าอย่ามายุ่ง เข้าใจไหม” ไอ้น้องพีหันมาตะหวาด แหม เป็นเด็กเป็นเล็ก พูดกับผู้ใหญ่อย่างนี้ได้ไง

“เข้าใจครับ แต่ไม่ทำ”

“เหอะ ให้ตายสิ” คนอายุน้อยกว่าสบถเบาๆ ก่อนจะเดินลิ่วๆโดยไม่รอผม

“พี!!” เสียงเรียงดังขึ้นข้างหลังเราก่อนที่ เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนึงจะเดินมาเกาะแขนไอ้น้องพี

“พีรอฟ้าด้วยสิ” เด็กผู้หญิงที่ชื่อ ฟ้า บอกก่อนจะทำหน้างอ อืม ดูไปดูมาเหมือน งอนแฟนอยู่ลยเนาะ

“เอ๊ะ พี่ตาร์” น้องฟ้า เรียกชื่อผมซะเสียงดัง เหอะ พี่รู้จักชื่อตัวเองหรอกน้องไม่ต้องเรียกดังขนาดนั้นก็ได้  ผมว่าวันนี้ผมแปลกๆนะครับ
ไหงเจอเด็กหน้าตาน่ารักแล้วมันหงุดหงิดแบบนี้ล่ะครับปกติผมน่าจะดี๊ด๊า นะ

“เอ่อครับ รู้จักพี่ด้วยเหรอ” ผมใส่หน้ากากเทพบุตรทันที อันนี้เป็นเปลือกที่ผมสร้างให้ทุกคนเห็นเท่านั้นแหล่ะครับ เทพบุตรตาร์ หล่อ รวย
เรียนเก่ง แสนดี เทคนิคนี้เวิร์คนะครับ สาวๆชอบ

“ค่ะ พี่ตาร์ดังจะตาย ที่โรงเรียนฟ้ายังมีแฟนคลับของพี่ตาร์เลยนะคะ” น้องฟ้าบอก ก่อนจะส่งยิ้มเขินๆให้ผม

“จะคุยกันอีกนานไหม จะได้ไป” เสียงบุคคลที่สามที่เงียบไปนานดังขึ้น

“แหมพี หึงเหรอ จะหึงทำไมเนี่ยฟ้าไม่ได้คิดอะไรกับพี่ตาร์ซะหน่อย ฟ้ารักพีคนเดียวนะ” น้องฟ้าง้อไอ้พี แต่ทำไมผมรู้สึกหงุดหงิดเนี่ย
สงสัยจะหิวข้าวแน่ๆเลย

“ไปได้หรือยัง” น้ำเสียงเย็นชาที่ส่งมา ก่อนจะเดินโดยไม่ฟังเสียงใคร ผมได้ยืนมองแผ่นหลังของไอ้น้องพีกับน้องฟ้าที่เดินเคียงข้างกันไป
เรื่อย ทำไมมันรู้สึกโหวงๆพิกลว่ะ เป็นไรเนี่ย ตาร์เอ้ย

………………………………………………………………………………


“ปล่อยพี ได้แล้วนะฟ้า” ผมบอกอีกคนที่ยังเกาะไม่เลิก

“ไม่!! พีเป็นแฟนฟ้านะทำไมฟ้าจะกอดไม่ได้” ฟ้าโวยวายลั่น ผมได้แต่เดินหนีออกมา
เพราะไม่อยากขายหน้าไปมากกว่านี้ อย่างที่ได้ยินผมกับฟ้าเคยเป็นแฟนกันมาก่อนแต่มันก็ตั้งแต่ม.ต้น
 และฟ้าเองก็เป็นบอกเลิกผมเพราะ ผมสวยกว่า เหตุผลนั้นจริงๆครับ เธอบอกว่าทนไม่ได้ที่ต้องอยู่กับผู้ชายที่สวยกว่าเธอ
 นี่ผมผิดเหรอที่เกิดมาหน้าตาแบบนี้ ผมไม่ใช่เกย์ถึงจะมีหลายคนคิดแบบนั้นแต่ผมยืนยันได้ว่าผมไม่ใช่
 เอ่อ ถึงตอนนี้ผมก็ชักไม่มั่นใจแล้วเหมือนกันว่าผมยังแมน 100 % หรือเปล่า
 เพราะตั้งวันที่ผมได้รู้จักไอ้ผู้ชายจอมกะล่อนคนนึง ผู้ชายที่ทำให้ผมใจสั่นตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
 ผมก็ไม่อยากจะเชื่อหรอกว่าตัวเองจะเป็นแบบนั้น ยอมรับว่าไอ้พี่ตาร์มันหล่อ
 แต่มันก็ไม่น่าจะทำให้ผู้ชายอย่างผมใจสั่นได้นิครับ อาจจะเป็นเพราะเจอกันทุกครั้งมันจะชอบหยอดผมไปเรื่อยๆ
 ถึงผมจะทำท่าทางไม่สนใจไปบ้างแต่ยอมรับตามตรงก็ได้ว่าผมฟังแล้วก็จำทุกคำที่มันพูดน่ะแหล่ะ
 แต่ผมก็ดูออกสันดา…นอย่างไอ้พี่ตาร์มันก็แค่พูดไปแบบนั้นเอง
 ผมถึงได้เตือนตัวเองตลอดว่าทุกอย่างที่มันพูดมันพูดเล่นและมันก็ไม่เคยจริงจังกับคำพูดของตัวเองหรอก
ผมถึงพยายามเลี่ยงที่จะไม่เจอมันแบบตรงๆ เพราะไม่อยากหวั่นไหวไปมากกว่านี้
โดยเฉพาะหวั่นไหวไปกับไอ้พ่อปลาไหลอย่างไอ้พี่ตาร์ นั่น
แต่ก็เหมือนสรรค์กลั่นแกล้งวันนี้ผมกะจะมาเดินเล่นซะหน่อยดั๊นเจอมันจนได้สิน่า
 อะไรมันซวยขนาดนี้ก็ไม่รู้ แต่ก็เหมือนจะโชคดีที่เจอฟ้า
 ถึงฟ้าจะชอบเกาะแกะไปบ้างแต่อย่างน้อยก็กันผมออกมาจากไอ้กะล่อนนั่นได้เหมือน
 แหม วิธีการผมทำไมเลวงี้ว่ะ

“เดี๋ยวสิครับที่รัก” เสียงทุ้มที่คุ้นหูดังขึ้นถึงจะได้ยินไม่ค่อยบ่อยแต่ทำไมจำได้ก็ไม่รู้

“อย่าเรียกผมแบบนั้นอีก พี่ก็เห็นว่าผมมีแฟนแล้ว”

“พี่พอใจจะเรียกใครจะทำไม” ไอ้พี่ตาร์ตอบเสียงแข็ง

“ไม่มีใครหรอก แต่ผมนี่แหล่ะจะทำ ผมเป็นผู้ชายนะ จะให้ผู้ชายด้วยกันมาเรียกที่รักงั้นเหรอ” ผมพยายามอธิบายถึงเหตุผลมันจะข้างๆคูๆ
ไปบ้างก็เถอะ

“ทำไม จะสงวนไว้ให้น้องฟ้าเรียกล่ะสิ” ไอ้พี่ตาร์ตะคอก อ้าว ผมทำผิดอะไรเนี่ย

“จะให้ใครเรียกมันก็เป็นสิทธิ์ของผมพี่ไม่มีสิทธิ์ห้าม” เอาสิ แรงมาก็แรงไป

“อย่ามาขึ้นเสียงนะพี”

“ทำไมผมจะขึ้นไม่ได้ว่ะ”

“เด็กปากเสีย ต้องโดนสั่งสอน”

“จะทำอะ  อุ๊บ ” ผมเพิกตาโพลงเพราะไอ้พี่ตาร์มันเอาปากประกบปากผมอยู่ก่อนจะกัดเข้าที่ริมฝีปากล่างของผม

“โอ้ย อุ๊บ” ผมกะจะตะโกนด่าแต่ช้ากว่า ลิ้นของไอ้พี่บ้านี่ที่มันเข้าไปในปากผมเรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่อยู่ในหัวตอนนี้คือ ไอ้พี่นี่มันจูบเก่งชะมัด เรียวลิ้นที่แสนชำนาญเคลื่อนไหวในปากผมเหมือนจะดูดวิญญาณญาณ
 รสจูบที่อ่อนโยนแต่ร้อนแรงทำเอาผมยืนแทบไม่อยู่ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยจูบแต่จูบนี้มันต่างจากจูบเด็กๆที่ผมเคยเจอ
 มันอ่อนหวาน เร่งเร้า แต่ก็ชวนให้หลงใยอยู่ในที ผมประท้วงอีกคนด้วยการทุบไปที่หน้าอกเพราะตอนนี้ผมกำลังจะขาดใจตาย
 ไอ้พี่ตาร์ถอนจูบอย่างอ้อยอิ่งแต่ยังไม่ยอมคลายอ้อมกอด

“ไอ้บ้า มึงทำอะไรกู อย่าอยู่เลยมึง” ผมประเคนหมัดเข้าที่ปากไอ้พี่บ้ากามเต็มก่อนจะหนีออกมาทันที
 น้ำตาที่ไม่รู้มาจากไหนไหลออกมาเป็นสาย ผมแพ้แล้วผมแพ้มันแล้วจริงๆ ทำไมผมถึงหวั่นไหวไปกับจูบของคนแบบนั้นได้นะ
ท่องไว้สิไอ้พีว่าไอ้พี่ตาร์มันแค่แกล้งแกเท่านั้น มันไม่ได้คิดอะไรกับแกเลยสักนิดมันแค่เล่นๆเท่านั้น
 แต่ไอ้พี่ตาร์มันคงไม่รู้แล้วก็ต้องไม่มีวันรู้เด็ดขาดว่าผม “ชอบมัน”แล้วจริงๆ

..........................................
จัดพีตาร์ไปตามคำขอ รู้สึกมันจะเป็นเรื่องสั้นซ้อนเรื่องสั้นะเนี่ย
อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน1 12/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: nutsumi ที่ 12-03-2012 22:49:54
ไม่เปนไรค่ะจะซ้อนกี่เรื่องก็อ่านค่ะ


ดราม่านิดๆนะคู่นี้

แต่เชียร์พี-ต้าร์ต่อไปค่ะ>_<
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน1 12/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 13-03-2012 00:32:26
เรื่องจะซ้อนอีกหลายๆชั้นก็ได้ เเต่ช่วยมาลงต่อให้เคลียร์เลยได้มั๊ยอ่ะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน1 12/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-03-2012 12:59:10
ช่วยต่อให้จบด้วยจร้า :L2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน1 12/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 13-03-2012 14:42:44
 :impress2:

รอพีตาร์
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน1 12/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 13-03-2012 15:10:15
อ้าวๆๆ
นึกว่าตาร์จะเป็นเคะซะอีก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน2 17/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 17-03-2012 23:52:20
ตอน 2

“อูย หมัดหนักชะมัด” ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะลูบปากป้อยๆ เมื่อกี้ผมจูบกับไอ้น้องพีจูบจริงๆ ด้วย
 ผมยกมือขึ้นลูบริมฝีปากที่ยังคงมีความหวานนิดๆติดที่ปลายลิ้น ไม่น่าเชื่อว่าจูบของไอ้น้องพีจะหวานขนาดนี้นะเนี่ย
 แต่ ผมว่าผมลืมอะไรไปสักอย่างนะ ไอ้น้องพีมันเป็นผู้ชายและผมก็เป็นผู้ชาย

“เฮ้ย ชิบหายแล้วไหมล่ะ”
ผมสบถก่อนจะควักโทรศัพท์โทรหาไอ้ทัพเพื่อนรักทันที เอ่อ คือสำหรับผมน่ะ ไม่ถือหรอกไอ้เรื่องเพศเนี่ย
 เพราะผมก็ลองมาจะหมดอยู่แล้ว (เอ๋าเริ่มเลว) แต่ผมต้องมั่นใจซะก่อนว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงกันแน่

“โทรมาทำไมว่ะ เชี่ยตาร์ไอ้มารความสุข” ไอ้ทัพตะโกน สงสัยผมไปขัดเวลาแห่งความสุขมันกับไอ้เป้ชัวร์ๆ

“กูจะรู้ไหมว่ามึงทำอะไรกันอยู่ เชี่ยนิยังหัวค่ำอยู่เลยนะเว้ย”

“มึงไม่ต้องมาเล่นลิ้น โทรมาทำไม”

“กูจะถามมึงว่า ตอนที่มึงจูบไอ้เป้ครั้งแรกน่ะรู้สึกไงว่ะ”

“เฮ้ย อย่าบอกนะว่ามึงจะลดโลกร้อนกับพวกกูน่ะ” ไอ้ทัพถามอย่างตื่นเต้น เสียงมึงดีใจไปนะเพื่อน

“ตอบกูมาเถอะน่า”

“อืม ครั้งแรกเหรอ รู้สึกดีมั้ง ดีมากๆอ่ะ กูจูบกับผู้หญิงมาเยอะนะเว้ย แต่กูรู้สึกว่าจูบของไอ้เป้มันดีที่สุดกูรู้แค่ว่าอยากจูบมันเรื่อยๆ
 เท่าไหร่มันก็ไม่พอว่ะ”

“เออ ขอบใจมากเว้ย เชิญมึงไปทำกิจกรรมเข้าจังหวะต่อเถอะ กูไม่กวนแล้ว ”
จากฟังที่ไอ้ทัพบอก ตอนนั้นผมรู้สึกประมาณนั้นแหล่ะครับ รู้ว่าอยากจูบมันอีกจูบมันไปเรื่อยๆ
ไม่อยากให้มันใกล้ใคร ไม่อยากให้มันไปเป็นของคนอื่น และผมก็ต้องได้มันด้วย ผมยอมรับว่าเลวนะครับ
 แล้วก็พร้อมที่จะเลวด้วยถ้ามันทำให้ไอ้น้องพีมาเป็นของผม

…………………………………………………………………………………………………

 ผมนายตาร์ ตอนนี้ยืนหล่อที่หน้าโรงเรียนไอ้เบส อย่าๆๆ อย่าคิดว่าผมมารับไอ้เบส เมียมันก็มีเรื่องอะไรผมต้องมา
 ผมมารับที่รักผมตะหากหลังจากกลับไปคิดทบทวนดูแล้วเห็นว่า สมควรจะจีบไอ้เด็กนั่นดีกว่า หุหุ
 แล้วผมก็เชื่อว่าด้วยเสน่ห์อันมากมายของผมจะทำให้ไอ้น้องพีมาอยู่ชมรมอนุรักษ์ไม้ป่าเดียวกันอย่างแน่นอน ฮ่าๆๆ

“หวัดดีครับ ที่รัก” ผมทักทันที ไอ้น้องพีมองผมตาแทบถลน ฮ่าๆ น่ารักอ่ะ นี่ผมมองไอ้เด็กเกรียนนี่น่ารักตั้งแต่เมื่อไหรเนี่ย

“มารับไอ้เบสเหรอ เมื่อกี้มันเพิ่งกลับบ้านกับพี่นะครับ”

“เปล่าเรื่องนั้นพี่รู้แล้ว พี่มารับพีน่ะแหล่ะ” หยอดไปหนึ่งดอก ไอ้น้องพีดูจะอึ้งกว่าเดิม นี่ถ้าผมบอกว่าชอบไม่ช๊อคเลยเหรอครับ

“ว่าไงล่ะพี”

“พี รอฟ้าด้วยสิ” เสียงแหลมเรียก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงชอบฟังแต่ทำไมตอนนี้มันรำคาญจังว่ะ

“อ้าวพี่ตาร์เจอกันอีกแล้วนะคะ” ยัยน้องฟ้าหันมาทักผม

“ครับ” ผมตอบไปตามมารยาท ครั้งแรกนะครับที่ผมพูดกับสาวๆได้สั้นห้วน ขนาดนี้

“มารับเบสเหรอคะ เบสกลับไปแล้วนะคะ”

“เปล่าครับพี่มารับพี มีธุระนิดหน่อยน่ะครับ” ผมบอกตรงๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าชาตินี้ต้องมาแย่งผู้ชายกับผู้หญิงสวยๆแบบนี้เลยนะครับ
   น้องฟ้าดูจะอึ้งนิดๆกับคำตอบของผมแต่ยังทำตีมึนเกาะไอ้น้องพีไม่ยอมห่าง แหมเข้าใจอะไรอยากจริงเนาะ

“พี่ขอตัวนะครับน้องฟ้าพอดีว่าธุระสำคัญม๊ากกกกกกก” ผมบอกก่อนจะกระชากไอ้น้องพีออกมาแล้วรับยัดขึ้นรถทันที อาศัยจังหวะที่ยัง งงๆ กันอยู่ลักพาตัวซะเลย แหม เลวได้อีกตู




“พี่จะพาผมไปไหน” คนที่นั่งเงียบมานานเอ่ยถาม

“เอ๋าพูดได้ด้วยเหรอ นึกว่าเป็นใบ้ซะอีก”

“ตอบผมมาว่าพี่จะพาผมไปไหน ผมจะกลับบ้านถ้าไม่พากลับก็จอดผมจะลง”
 น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยบอก เอ่อ มันทำให้เจ็บแปล๊บๆในใจยังไงบอกไม่ถูกนะครับ

“โอเคๆๆ พีไปดูหนังกับพี่นะ พอดีพี่อยากดูอ่ะแต่ไม่มีเพื่อนไปนะครับ”
 ผมอ้อน เฮ้ยๆๆ แอบเห็นนะว่าคนนั่งข้างๆแอบเขินด้วย หุหุ แปลว่าได้ผลชัวร์ 
 น้องไม่ตอบผมจะถือว่าอาการเงียบคือการตกลงนะครับ แหมวันนี้มันเป็นวันดีของผมจริงจริ๊ง

…………………………………………………………

ผมยืนเซ็งที่หน้าโรงหนัง จะอะไรซะอีกล่ะ ไอ้พี่ตาร์มันบอกว่าพาผมมาดูหนังแต่
 ดันมายืนม่อสาวที่หน้าโรงหนังอยู่ได้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย

“ตาร์ไม่ยอมโทรหากิ๊บเลย”
เสียงหวานยังออดอ้อน เหอะ ผมได้แต่แค่นยิ้มจะไปก็ไปไม่ได้ ไอ้พี่ตาร์เล่นจับซะแน่นขนาดนี้
แล้วจะให้ผมอยู่ทำช้อนส้อมอะไรครับ ถ้าคุณ(มึง)สองคนจะสวีทกันเนี่ย

“เอ่อ กิ๊บครับช่วงนี้ตาร์ไม่ว่างนะครับ คือเรื่องเรียนมันยุ่งๆน่ะครับ”
 ไอ้พี่ตาร์ตอบ เหอะ เสียงอ่อนเสียงหวานเชียวนะเว้ย แล้วผมหงุดหงิดทำไมเนี่ย

“เอ๊ะ แล้วนี่ใครเหรอคะ” ยัยกิ๊บเกิ๊บอะไรนั่นหันมาถาม

“อ้อ นี่เพื่อนไอ้เบสมันน่ะ พอดีน้องเค้าอยากดูหนังตาร์ก็เลยพามา”
อะไรนะผมเนี่ยนะอยากดูหนัง  ผมมองอีกคนด้วยสายตาระอา ตัวเองเป้นคนชวนแท้ๆยังโกหกออกไปแบบนั้นอีก
 ไอ้ปลาไหลเอ้ย ผมด่าไอ้พี่ตาร์ในใจก่อนจะสะบัดมืดออกจนหลุดแล้วเดินออกมาทันที
 แมร่งเอ้ย ทำไมผมต้องยอมมากับมันด้วยว่ะ ไอ้พีเอ้ย บอกกี่ครั้งแล้วว่าไอ้นี่มันไม่เคยรักใครจริงหรอก มึงอย่าโง่ไปหน่อยเลย
ผมรีบเรียกแท็กซี่กลับบ้านทันที ไม่อยากอยู่ไม่ยากรับรู้ว่ามันจะพาผู้หญิงของมันไปไหนบาง แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เจ็บจะตาอยู่แล้ว 

“ถ้าคนอย่างฉันตายจากไปเธอเศร้าใจหรือเปล่า”

ริงโทนที่แผดเสียงลั่นตั้งแต่ผมวิ่งออกมายังดังอยู่อย่างต่อเนื่องแต่ผมไม่คิดจะรับไม่อยากคุยกับใครหน้าไหนทั้งนั้น
 ไม่อยากรับรู้อะไรสักอย่าง
…………………………………………………………………………………………………………


หลังจากที่ไอ้น้องพีมันเดินออกไป ผมทำอะไรไม่ได้มากเพราะดันบอกน้องกิ๊บไปว่าไอ้น้องพีเป็นแค่เพื่อนไอ้เบส
 แถมน้องกิ๊บยังชวนผมดูหนังซะอีก แต่ผมก็ไม่ตกลงหรอกครับ มันกังวลๆยังไงก็ไม่รู้
จนต้องกดโทรศัพท์โทรหาคนที่เดินหนีไปจนได้ แต่โทรเป็นสิบๆรอบแล้วปลายสายก็ยังไม่รับสักที
 ผมเลยต้องตัดสินใจโทรหาไอ้น้องตัวแสบให้มันช่วยซะหน่อย

“ว่าไงกีตาร์” แหมรับซะกวนเลยเมิง

“ไอ้เบส แกรู้ไหมบ้านพีอยู่ที่ไหน”

“ถามทำไมเนี่ย” ไอ้น้องชายผมยังกวนตีนต่อ

“บอกมาเถอะน่า อย่าถามมากได้ไหม”
 ผมบอกเสียงเครียด อันที่จริงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเครียดทำไม
รู้แค่เป็นห่วง กลัวว่าน้องมันจะเป็นอะไรไปน่ะครับ

“อืม แถว…. น่ะ แล้วพี่ทำอะไรไอ้พีหรือเปล่าเนี่ย ”

“เปล่าเว้ย พี่จะทำอะไรว่ะ แค่จะชวนไปหาไรกิน แค่นี้นะพี่รีบ” ผมตัดสายทันที กลัวโดนซักไปมากกว่านี้ 


2 ชั่วโมงแล้วนะครับ ที่ผมนั่งรอไอ้น้องพีที่หน้าบ้านเนี่ย มันไปไหนของมันว่ะ รู้ไหมว่าคนอื่นเค้าเป็นห่วงเนี่ย

“เว้ย เมื่อไหร่จะกลับว่ะ” ผมสบถอย่างหัวเสีย เพราะโทรไปก็ไม่รับ
 ส่งเมสเซสไปขู่ก็ไม่โทรกลับทำทุกวิถีทางจนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วก็ติดต่อไอ้เด็กเวรนั่นไม่ได้ซะที
 แต่ก่อนที่ผมจะคลั่งตายไปมากกว่านี้ รถยุโรปคันใหญ่ก็จอดที่หน้าบ้านไอ้น้องพี
ก่อนที่คนที่ผมตามหามาร่วม 3 ชั่วโมงจะเดินยิ้มลงมาพร้อมๆกับไอ้ตี๋หน้าจืดที่ไหนก็ไม่รู้

“แมร่งมันเป็นใครว่ะ” ผมกำหมัดแน่น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าโกรธอะไรแค่รู้สึกว่าอยากซัดหน้าไอ้ตี๋นั่นที่บังอาจมายุ่งกับคนของผม

 “พีเข้าบ้านแล้วนะพี่ใหญ่ ”

“อืม เข้าบ้านดีๆล่ะ อย่าไปซนที่ไหนอีกรู้ไหม”

“ครับ”

ผมมองไอ้น้องพีกับไอ้ตี๋หน้าจืดนั่นหัวร่อต่อกระซิก แล้วมันยิ่งโกรธ หลอกให้ผมตามหาซะทั่วเป็นห่วงแทบตาย
แต่สุดท้ายก็หายไปกลับไอ้นี่มานิเอง โถ่เว้ย คิดว่าคนอย่างกีตาร์ ต้องง้อเหรอ หึ ไม่มีทาง
 เพลย์บอยระดับตำนานอย่างท่านตาร์มีหญิงอีกเพียบเว้ย

……………………………………………………………………………………

“รถคันนั้นไปแล้วใช่ไหมพี่ใหญ่” ผมถามอีกคน

“ไปแล้วล่ะ แล้วเราเป็นอะไรเนี่ยเหอะ ทำไมต้องทำเหมือนไม่อยากเจอเขาด้วย” พี่ใหญ่หันมาถามผม
 ก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยน พี่ใหญ่จะเป็นอย่างนี้กับผมเสมอตั้งแต่เด็กจนโต ถึงจะไม่ได้เป็นพี่ชายแท้
ๆแต่พี่ใหญ่ก็ดูแลผมอย่างดีมาตลอด

“พี เอ่อ พี”

“ลำบากใจก็ไม่ต้องตอบหรอกพี พี่รู้ว่าน้องชายพี่มีเหตุผลเสมอ แต่ถ้ามีปัญหาโทรหาพี่ได้นะ พี่พร้อมจะรับฟังเสมอ”
 มือใหญ่ลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน ก่อนจะขับรถออกไป

ผมเดินเข้าบ้านด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ผมทำถูกแล้วใช่ไหม ที่ให้มันเป็นแบบนี้ ผมไม่อยากเสียใจไม่อยากเจ็บปวด
 แค่เรื่องที่เจอวันนี้มันก็หนักหนามากพออยู่แล้ว ผมไม่อยากไปสู้รบปรบมือกับใครเพื่อผู้ชายคนเดียวหรอกนะครับ






2สัปดาห์ผ่านไปชีวิตผมยังเป็นเหมือนเดิม ไปโรงเรียน เที่ยวกับเพื่อนบ้าง เฮฮาตามประสาวัยรุ่นบ้าง
 สรุปคือก็มีความสุขดีนะแหล่ะ แต่ทำไมเวลาอยู่คนเดียวผมต้องคิดถึง คนๆนั้นด้วยก็ไม่รู้ ดีแล้วนิไอ้พี
ทุกอย่างเป็นอย่างที่แกต้องการแล้วไม่ใช่เหรอทำไมไม่ดีใจเลยล่ะ ต้องดีใจสิ ต้องดีใจมากๆ

“ถ้าคนอย่างฉันตายจากไปเธอเศร้าใจหรือเปล่า” เสียงริงโทนดึงผมออกจากความคิดของตัวเอง

“ว่าไงเบส”

“ไอ้เชี่ยพี กูโทรหามึงเป็นรอบที่สามร้อยแล้วนะเว้ยทำไมไม่รับโทรศัพท์กู”

“โทษทีว่ะ กูตั้งสั่นไว้น่ะ” นี่ผมมัวคิดอะไรบ้าๆแบบนั้น จนไม่ได้ยินเสียงโทรศัทพ์เลยเหรอ

“คราวหลังอย่าทำอีกนะมึง รู้ไหมว่ากูเป็นห่วง” ไอ้เบสบอกเสียงเครียด

“ห่วงเชี่ยไร กูไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย ”

“พี ถึงกูกับมึงจะเป็นเพื่อนกันได้ไม่นานแต่มึงก็เป็นเพื่อนรักกูนะเว้ย มีอะไรปรึกษากูได้นะ กูอยู่ข้างมึงเสมอ”
 ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างแรง ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำยังไง รู้ว่าไอ้เบสมันเป็นห่วงแต่อีกคนก็พี่ชายมัน
ผมไม่อยากดึงมันเข้ามา ปวดหัวกับเรื่องของผม

“คิดมากน่า ไม่มีอะไรหรอกแค่นี้นะกูง่วง”



ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ

“ลงมาหาพี่ที่หน้าบ้านเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ลงมาพี่จะขึ้นไปหาเอง”
ข้อความจากไอ้พี่ตาร์ ทำให้ผมโกรธจนตัวสั่นมีสิทธิ์อะไรมาสั่งผมกัน

ติ๊ดๆๆ

“อีกสองนาทีถ้าไม่ลงมาพี่บุกถึงห้องแน่ อย่าคิดนะว่าคนอย่างพี่จะไม่กล้า”

โถ่เว้ย ผมตัดสินใจเดินลงไปหาไอ้พี่ตาร์ที่หน้าบ้านทันที เพราะผมรู้ว่าไอ้พี่ตาร์มันกล้าแน่นอนครับ

“มีอะไร”

“ทำไมพี่มาหาไม่ได้หรือไง หรือต้องเป็นไอ้ตี๋หน้าจืดนั่นถึงจะมาหาได้” อีกคนรวน ไม่น่าลงมาให้เสียเวลาเลย

“ถ้าจะมาไร้สาระ กลับไปเถอะ ผมจะพักผ่อน”

“หึ จะไปนอนฝันถึงไอ้ตี๋หน้าจืดนั่นรึไง”

“แล้วมันธุระกงการอะไรของคุณไม่ทราบครับคุณ ฤชานนท์ ”
 ผมบอก ถ้าจะมารวนกันแบบนี้มันก็ไม่ไหวนะครับความอดทนผมมีจำกัด

“ ขึ้นรถ!!!” ไอ้พี่ตาร์ ตะคอกก่อนจะลากผมขึ้นรถทันที เฮ้ย ไม่ใช่ โสรยานะเว้ย

“พี่จะพาผมไปไหน”

“………”

“จะเงียบอีกนานไหมว่ะ” ผมตะโกน เพราะทนความอึดอัดไม่ไหวถามอะไรก็ไม่ตอบ
บอกระไรก็ไม่บอกต้องให้เดาไปถึงเมื่อไหร่ ไม่นานรถคันหรูก็แล่นเข้าไปในบ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังหนึ่ง
แล้วนี่มันบ้านใครล่ะครับ แล้วไอ้พี่ตาร์พาผมมาทำไม

“ลงมา” แรงกระชากจากคนหน้านิ่ง ทำให้ผมต้องลงมาจากรถโดยดี
ก่อนจะมองบรรยากาศแปลกๆรอบบ้าน ถึงบ้านหลังนี้จะดูดีมากๆแต่ว่าทำไมมันเปลี่ยวขนาดนี้เนี่ย

“พี่พาผมมาที่นี่ทำไม”
อีกคนไม่ยอมตอบแต่กลับลากผมเข้าบ้านแทน ถ้าจะบอกว่าไม่กลัวมันก็จะเกินไปหน่อย
เอาตรงๆคือกลัวว่าไอ้พี่ตารืมันจะทำอะไรบ้าๆมากกว่า ถึงจะยอมรับว่าผมชอบหรืออาจจะถึงขั้นรักมันไปแล้ว
 แต่จะให้ยอมทุกอย่างมันก็ไม่ไหวนะครับ แล้วที่สำคัญผมไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่มันต้องการเอาชนะหรือรักผมจริงๆกันแน่

“ ผมจะกลับบ้าน” 

“พี พี่ขอร้องล่ะ ช่วยอยู่กับพี่ที่นี่สักสามวันได้ไหม” ไอ้ตาร์บอกก่อนจะดึงผมไปกอดซะแน่น

“ไม่ ทำไมผมต้องอยู่ด้วย” ผมถามพลางขัดขืนอ้อมกอดเต็มที่

“พี่กำลังจะหมั้น” เหมือนจะตอบไม่ตรงคำถาม แต่มันก็ทำให้ผมชะงักได้เหมือนกัน อะไรนะกำลังจะหมั้น หมั้นเนี่ยนะ

“นะพี พี่รู้ว่าพีไม่ได้รักพี่หรอก แต่พี่แค่อยากอยู่พี ขอให้พี่ได้เก็บช่วงเวลานี้ไว้บ้างได้ไหม นะครับ แล้วต่อไปพี่จะไม่มากวนใจพีอีกเลย” อ้อมกอดที่รัดแน่นทำให้ผมนิ่งค้าง อยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร รู้แค่เศร้า เศร้าซะจนผมทำอะไรไม่ถูก



.....................................................
ขอโทษคร่า พิตแอบแว๊บไปเที่ยวเมืองกาญมา
ฮ่าๆๆ หนุกหนานๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน2 17/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: nutsumi ที่ 18-03-2012 09:17:54
ฮะ กีต้าร์กำลังจะหมั้น แล้วพีล่ะ TT มีแววจะมาม่า
แต่หวังว่าคงเปนเพียงแผนการของกีต้าร์ไม่ใช่เรื่องจริงน้าา Tt
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน2 17/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-03-2012 09:47:15
ตามลุ้นให้กำลังใจน้องพี

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน2 17/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 18-03-2012 10:27:47
 :เฮ้อ:เหนื่อย

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3 19/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 19-03-2012 01:00:40
ตอน 3
.................................................
..............................
...................

ผมกอดไอ้น้องพีแน่นขึ้นหลังจากที่รู้ว่ามันสงบลง  หลังจากวันที่ผมเห็นพีอยู่กับไอ้ตี๋หน้าจืดนั่น
ผมก็บอกตัวเองว่าจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ตลอดสองอาทิตย์ ผมเปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้า
ทำทุกอย่างเพื่อจะได้ลืมไอ้เด็กหน้าใส ปากแดงนั่น แต่ผมก็ลืมไม่ลง ผมไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าผมหลงรักพีตอนไหน
 รู้แค่ว่าตั้งวันที่ผมจูบพีไปวันนั้นผมก็ไม่สามารถหยุดคิดถึงพีได้เลย บอกตรงๆว่าตั้งแต่เกิดมาพีเป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้
 ผมอยากบอกพีให้รู้ แม้ว่าพีจะไม่รักแต่ผมก็ยังอยากบอก ถ้าไม่บังเอิญเกิดเรื่องซะก่อน



1 สัปดาห์ก่อน


ติ้งต่องๆๆๆ

“มาหาใครครับ”

“ตาร์ คิดถึงจังเลย” เสียงใสบอกก่อนที่ร่างเล็กนุ่มนิ่มของผู้หญิงคนนึงจะโผเข้ามากอดผม

“ฝ้าย มาได้ไงเนี่ย” เธอคนนี้ชื่อฝ้ายครับ ฝ้ายเคยเป็นคู่ควงของผมเมื่อสักสามสี่เดือนก่อน
แต่ผมกับฝ้ายก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้วนะครับ ทำไมถึงมาหาผมได้

“ฝ้ายมาไม่ได้เหรอ” เธอถามด้วยเสียงตัดพ้อ

“เปล่าครับแต่ ผมว่ามันไม่เหมาะนะครับ”

“ทำอย่างกับคนอื่นไปได้ ฝ้ายเคยมาที่นี่ออกบ่อย” ฝ้ายบอกก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟา

“ฝ้ายมาหาผม ทำไมครับ”

“ฝ้าย คือ ฝ้ายท้อง!!”

“ท้อง!!!” ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อรู้แค่ช็อค ช็อดมากๆกับสิ่งที่ได้ยิน

“ใช่ฝ้ายท้องกับตาร์นะ” ฝ้ายบอกผมทั้งน้ำตาก่อนจะซบอกผม นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

“แล้วฝ้ายมั่นใจได้ยังไงว่าเป็นผม”

“ทำไมตาร์พูดแบบนี้ ตาร์จะไม่รับผิดชอบฝ้ายเหรอ ตาร์หาว่าฝ้ายโกหกเหรอ”

ผมได้แต่กอดปลอบฝ้ายไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำยังไง มันมืดแปดด้านไปหมด
ผมยอมรับว่าผมกับฝ้ายเคยมีอะไรกันมาก่อนแต่ผมก็ป้องกันทุกครั้ง
 ผมไม่ใช่ไก่อ่อนที่จะปล่อยให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้นะครับ
 แต่ฝ้ายก็เป็นผู้หญิงผมคงปล่อยให้ฝ้ายเผชิญปัญหาคนเดียวไม่ได้หรอกครับ

“ฝ้ายท้องได้กี่เดือนแล้วครับ”

“สามค่ะ”

“แล้วทำไมฝ้ายถึงพึ่งมาบอกล่ะ”

“ฝ้ายเพิ่งรู้ว่าตัวเองท้องเมื่อสองอาทิตย์เองค่ะ ตาร์ต้องรับผิดชอบฝ้ายนะ ฝ้ายรักตาร์นะคะ” ฝ้ายบอกก่อนจะกอดผมแน่นขึ้น




“จ๊ะเอ๋ ลูกรัก!!!” เสียงเปิดประตูพร้อมกับผู้หญิงวัยกลางคน คนนึงเดินเข้ามาในห้อง

“แม่!!”

 นี่มันวันบ้าอะไรของผมครับเนี่ย




“กีตาร์ บอกแม่มาเดี๋ยวนี้ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน” แม่ถามผมหลังจากที่นั่งสงบสติอารมณ์มาพักใหญ่

“คุณแม่อย่าเพิ่งโกรธเราสองคนเลยนะคะ เราขอโทษจริงๆค่ะ”

“ฉันถามเธอตอนไหนยะ ฉันถามลูกชายฉัน” แม่บอกก่อนจะส่งสายตาคาดโทษมาให้ผม
 ผมรู้ว่าแม่ไม่ค่อยชอบผู้หญิงของสักเท่าไหร่เพราะพวกเธอห่างไกลคำว่ากุลสตรีเยอะ(อันนี้แม่บอกนะครับ)

“คือแม่ครับ คือว่า”

“ฝ้ายท้องค่ะ” ฝ้ายโผล่งออกมา

“นะ นี่ หมายความว่าอะไรกีตาร์”

“ครับแม่ ฝ้ายท้องครับ” ผมตอบก่อนจะหลบสายตาแม่ ผมรู้ว่าแม่ผิดหวังในตัวผมมากแต่ผมก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง
จะปฏิเสธเต็มเสียงก็ไม่ได้เพราะผมเคยมีอะไรกับฝ้ายมาก่อนจริงๆ

“แล้วเธอจะเอายังไง” แม่ปรายตามองฝ้าย ก่อนจะยิ้มเหยียด

“ตาร์ต้องรับผิดชอบฝ้ายค่ะ”

“ได้ แต่ฉันต้องแน่ใจก่อนว่าเด็กนั่นเป็นหลานฉันจริงๆ”

“ในฐานะที่ฉันเป็นผู้หญิงเหมือนเธอมันคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าจะให้เธอแบกหน้าอุ้มท้องคนเดียวถึงฉันจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ว่าเด็กนั่นเป็นหลานฉัน แต่จนกว่าเธอจะคลอดฉันจะให้เธอไปอยู่ด้วยแล้วกัน” แม่สรุป

“ไม่ได้ค่ะ ฝ้ายต้องการให้ตาร์แต่งงานกับฝ้าย”

“ฉันคงให้กีตาร์แต่งกับเธอไม่ได้หรอกนะ ฉันก็บอกเธอไปแล้วนิว่าฉันไม่แน่ใจว่าลูกในท้องเธอเป็นหลานฉันหรือเปล่า”

“คุณแม่คะ!!”

“ใครเป็นแม่เธอ”
อย่าเพิ่งถามนะครับว่าทำไมผมเอาแต่นั่งเงียบ ผมก็อยากจะพูดอยู่เหมือนกันแต่เหมือนน้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ได้มาก
เพราะผมก็เคยมีอะไรกับฝ้าย ดังนั้นมันก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่เด็กในท้องจะเป็นลูกผม

“คุณป้าจะทำกับฝ้ายแบบนี้ไม่ได้นะคะ ฝ้ายมีพ่อมีแม่นะ” ฝ้ายโวยวายดูเหมือนจะไม่พอใจมากกับคำตอบของแม่

“หึ รู้ตัวด้วยเหรอว่ามีพ่อมีแม่น่ะ”

“แม่พอเถอะครับ ฝ้ายด้วย”

“เอาอย่างนี้แล้วกันผมจะรับผิดชอบฝ้ายด้วยการหมั้นไว้ก่อนได้ไหมแล้วถ้าเกิดเด็กในท้องเป็นลูกของผมจริงๆผมจะแต่งงานกับฝ้ายทันที”

“ดีค่ะ ฝ้ายรักตาร์ที่สุดเลย”



......................................................



“พี จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ” ผมถามหลังจากที่เล่าเรื่องทั้งหมดให้พีฟัง

“จะให้ผมพูดอะไร”

“นั่นสินะ ก็พีไม่ได้รักพี่สักนิดเป็นพี่เองที่บังคับพีมาตลอด พี่ขอโทษนะแต่พี่แค่อยากอยู่กับพีเท่านั้นเอง พี่ขอได้ไหมสามวันที่เหลือ พีช่วยแกล้งว่ารักพี่ได้ ช่วยทำให้พี่มีความสุขสักนิดก็ยังดี”

..............................................
มาต่อแล้วนะคะ อย่าเพิ่งเหนื่อย
มาม่า ยังไม่หมด กิกิ เขียนไปเขียนมาทำไมมันเน่าขึ้น
เรื่อยๆก็ไม่รู้เนาะ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3 19/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: nutsumi ที่ 19-03-2012 06:43:24
TT สงสารพีอ่า
ต้าร์บอกให้ช่วยทำเป็นรักเพื่อให้ต้าร์มีความสุขสัก 3วัน แต่ต้าร์ไม่คิดว่าเมื่อพ้นจาก 3 วันพีจะรู้สึกยังไงTT
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3 19/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 19-03-2012 06:51:10
ผลัก คุณฝ้ายให้ตกบันได ซิครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3 19/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-03-2012 07:46:19
คิดแต่ให้น้องช่วยพี่


แล้วที่น้องเจ็บอยู่ละใครจะช่วย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3 19/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 19-03-2012 14:11:35
ยัยฝ้ายหาใคร
ไม่ได้แล้วใช่มั้ย
ถึงต้องบากหน้ามาหา
ตาร์เนี่ย :m16:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3.1 20/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 20-03-2012 12:33:28
ตอนที่ 3.1



“นั่นสินะ ก็พีไม่ได้รักพี่สักนิดเป็นพี่เองที่บังคับพีมาตลอด พี่ขอโทษนะแต่พี่แค่อยากอยู่กับพีเท่านั้นเอง พี่ขอได้ไหมสามวันที่เหลือ พีช่วยแกล้งว่ารักพี่ได้ ช่วยทำให้พี่มีความสุขสักนิดก็ยังดี”
คำขอที่ออกมาจากปากคนตัวโตทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก แกล้งรักเหรอ
 ให้ผมแกล้งรักเนี่ยนะ ผมจะทำได้ยังไง ในเมื่อ ผมรักพี่ตาร์ไปแล้วจริงๆ 
 เรื่องมันตลกดีนะครับไอ้พี่ตาร์สารภาพรักกับผมในวันที่ตัวเองต้องหมั้นเนี่ยนะ
จะพูดเพื่ออะไร จะพูดเพื่อให้ผมเจ็บเหรอ ไอ้คนเห็นตัวเอ้ย!! ทั้งๆที่ผมอยากบอกว่ารัก
 แต่ก้ทำไม่ได้ จะให้ผมพูดทำไมในเมื่อ มีแค่ความเจ็บปวด

“พีครับ ตกลงนะ” คนตัวโตถามย้ำ

“ผมมีทางเลือกอื่นไหม”

“ไม่ครับ พี่ขอร้องล่ะอย่าปฏิเสธเลยนะ”
 คำอ้อนวอนที่มาพร้อมแรงกอดรัด สัมผัสอบอุ่นที่แฝงไปด้วยความเศร้า นั้นทำให้ผมต้องกลืนคำปฏิเสธทันที

“ได้ครับ แค่สามวันเท่านั้นนะ”

“ขอบคุณนะขอบคุณมากจริงๆ”



………………………………………………………………….


“พีครับ ทานข้าวได้แล้ว” เสียงคนเรียกจากห้องครัวทำให้ผมต้องรีบเดินไปหาทันที

“วันนี้มีอะไรกินบ้างอ่ะกีตาร์”  ครับ กีตาร์ให้ผมเรียกเขาแบบนี้เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน 

“แกงจืด ไข่เจียวหมูสับ แล้วก็ปลาราดพริก พีจะเอาอะไรอีกไหมเดี๋ยวพี่ทำให้”

“ไม่เอาหรอก แค่นี้ก็เยอะแล้ว” ผมยิ้มให้อีกคนก่อนจะนั่งลง

“ทานเยอะๆนะครับ”

“ต้องเยอะสิ กีตาร์ทำกับข้าวอร่อยจะตาย”
 ผมยอก่อนจะลงมือตักแกงจืดเข้าปาก อร่อยที่ซู้ดดดดดดดดด
ผมอยู่กับกีตาร์ได้สามวันแล้วครับเป็นสามวันที่ผมได้เห็นกีตาร์ในมุมมองใหม่
 มุมมองที่ผมไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นใครจะไปรู้ว่าเพลย์บอลตัวพ่ออย่างกีตาร์ชอบ เคโรโระ จนเข้าขั้นบ้า
 ทำกับข้าวเก่งจนผู้หญิงบางคนอาย ที่สำคัญติงต๊องมากๆๆ

ฟอด

“เฮ้ยทำไรอ่ะ” ผมโวยวายเพราะจู่ๆก็โดนขโมยหอมแก้ม

“ก็พีน่ารัก มันอดใจไม่อยู่” คนฉวยโอกาสบอก เล่นเอาผมไปไม่เป็นเลยทีเดียว มิน่าล่ะ สาวๆถึงได้ติดเยอะ

“คิดอะไรอยู่ครับ คิ้วขมวดเชียว”

“เปล่าหรอกกินดิ ถ้าหมดช่วยไม่ได้นะ”

“ฮ่าๆๆ ครับๆ”

เราสองคนกินไปแกล้งกันไป อย่างสนุก เคยเป็นไหมครับ บางครั้งเราก็อยากลืมโลก
อยากลืมความจริงอยากลืมว่าโลกนี้ยังมีใครอีกหลายคน อยากให้โลกที่เราอยู่มีแค่เราสองคนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ไม่อยากให้อะไรต้องพรากเราจากกัน


“คืนนี้พี่ขอนอนห้องพีได้ไหม” คนตัวโตถาม

“ถ้าจะนอนก็นอนเถอะ เพราะถึงพีปฏิเสธพี่ก็นอนอยู่ดีใช่ไหมครับ”

“แหม รู้ใจจัง แบบนี้รักตายเลย ”

คนตัวโตบอกก่อนจะแนบริมฝีปากลงมา ผมรับสัมผัสนั้นไว้ด้วยความเต็มใจเวลาของเราสองคนเหลือไม่มากแล้ว
อีกไม่กี่ชั่วโมงเราสองคนต้องกลับสู่โลกแห่งความจริงโลกที่เรา ไม่อาจจะทำแบบนี้ได้
 จูบอ่อนโยนที่เจือไปด้วยความเศร้าของเราสองคน มันอบอุ่นอ่อนหวานแต่ก็ทรมานซะจนไม่อยากหายใจ
กีตาร์ค่อยๆถอนจูบอย่างช้าๆแต่ก็ยังกอดผมไว้แน่น

“ขอบคุณนะพี สามวันที่ผ่านมาพี่มีความสุขมาก ขอบคุณที่อุส่าห์ฝืนใจนะครับ”
  ผมกอดตอบอีกคนแน่นอยากบอกเหลือเกินว่าผมไม่เคยฝืนใจเลยสักนิด ผมรักกีตาร์ รักมาก รักจนสุดหัวใจ


…………………………………………………………………………



ผมมองเด็กผู้ชายในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนในกระจกอย่างเศร้าๆ
 เมื่อวานนี้ผมยังอยู่ในอ้อมกอดของกีตาร์ แต่วันนี้กำลังจะไปงานหมั้นของกีตาร์กับผู้หญิงคนนั้น
 นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันครับ ผมควรจะทำยังไงดี

ก๊อกๆๆ

“พี เบสมารอแล้วนะลูกไปได้แล้วนะ”

“ครับแม่”

ผมตอบก่อนจะลงไปข้างล่างที่ไอ้เบสนั่งรออยู่

“ไงมึง ไหวแน่นะ” เบสถามผม มันรู้ทุกเรื่องนั่นแหล่ะครับถึงผมจะไม่เคยบอกผมว่าไอ้เบสมันน่าจะดูออก

“ไหวสิ กูต้องไปแสดงความยินดีที่เพื่อนรักกูจะมีหลานซะที”

“ตามใจมึงแล้วกัน” ไอ้เบสบอกก่อนจะประจำที่ตำแหน่งคนขับ


งานหมั้นของกีตาร์เป็นงานที่จัดเรียบง่ายเชิญเฉพาะแขกที่สนิทเท่านั้น
 เพราะนายแม่ของกีตาร์ไม่อยากให้มันเอิกเกริกอาจเพราะกีตาร์ยังเรียนอยู่ก็ได้มั้งครับ

“อ้าว เบสกับพี มาแล้วเหรอลูก มาๆ ใกล้เวลาแล้วเร็วๆ”
นายแม่ของไอ้เบสบอก ก่อนจะพาพวกผมเข้าไปนั่งในบ้าน
 ผมมองกีตาร์ในสูทสีขาวที่วันนี้ดูดีกว่าทุกวันที่นั่งคู่กับผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนั้น
ดูแล้วเหมาะกันอย่างกับกิ่งทองใบหยกเลยนะครับ   

“กูขอตัวเข้าห้องน้ำนะเบส”
 ผมบอกไอ้เบส ทั้งๆที่เตรียมใจมาแล้วแต่พอเอาเข้าจริงผมก็ทนไม่ได้ที่เห็นกีตาร์สวมแหวนหมั้นให้พี่ฝ้าย
ทำไมผมถึงอ่อนแออย่างนี้

“ฮัลโหลเบส กูขอตัวกลับเลยนะ ปวดหัวว่ะ”
ผมโทรเข้าไปบอกไอ้เบส ก่อนจะเดินออกมาทันที หัวใจผมอ่อนล้าจนทนไม่ไหว
ผมไม่อยากเจอหน้าใครทั้งนั้น ผมจะทำยังไงดี ผมอยากหนีไปให้ไกลเหลือเกิน
ผมไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้วที่นี่มันมีความทรงจำของผมกับเขามากเกินไป




 o22 สั้นเนาะ  :m31:
เอาไปเท่านี้ก่อนนะเจ้าคะ แล้ว 24 จะมาลงให้ใหม่
ขอไปทำธุระ ก่อนน้อ  ช่วงนี้ยุ่งๆเรื่องฝึกงาน :เฮ้อ:
อาจจะช้าหน่อยนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3.1 20/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: nutsumi ที่ 20-03-2012 15:10:33
เศร้าอ่ะT__T

สงสารพี ขออย่าให้มีมาม่ามากกว่านี้เรยนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3.1 20/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 20-03-2012 15:47:44
 :sad4:

กินมาม่าก็อร่อยดีแต่อย่านานเพราะมันจะอืด  ฮุๆๆ

 :กอด1: รอค่ะ

บวกเป็ดสองตัว

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3.1 20/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 20-03-2012 16:03:53
มาม่าอีกกี่สิบตอนมันจะไม่อืดเลยล่ะครับ ถ้ามาลงต่อเนื่อง
แต่ถ้าทิ้งไปนานๆเป็นเดือน มาม่าแค่บรรทัดเดียวมันก็อืดได้นะ
.
ยังยืนยัน ผลักคุณฝ้ายให้ตกบันไดสูงๆซิครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3.1 20/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: ิิำืben ที่ 20-03-2012 18:33:53
ยัยฝ้ายต้องโกหกแน่เรยมาแนวนี้ :m16:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3.1 20/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-03-2012 18:44:31
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3.1 20/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 21-03-2012 02:05:14
.
ยังยืนยัน ผลักคุณฝ้ายให้ตกบันไดสูงๆซิครับ

ชอบอ่ะ บวกเป็ดไปเลย จร้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3.1 20/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-03-2012 11:54:10
 :z3: :กอด1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน3.1 20/03/12 P5
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 23-03-2012 18:16:22
ตอน 4


5 ผ่านไป

ผมเดินตามทางเดินในสนามบิน 5 ปีแล้วสินะที่ผมไม่ได้กลับเมืองไทยเลย 5ปีที่ผมไปเรียนต่อ 5 ปีที่ผมห่างจากครอบครัว
 ห่างจากเพื่อน หรือแม้แต่เขาคนนั้น เป็น 5ปีที่ผมคิดว่าตัวเองจะลืมอดีตได้เอาเข้าจริงทันทีที่ผมเหยียบผืนดินประเทศแม่ความทรงจำมากมายมันกลับทยอยผ่านเข้ามาในสมองซะจนผมรับแทบไม่ทัน

“ไอ้พี เว้ย ทางนี้” เสียงเรียกคุ้นหูพร้อมกับไอ้เบสที่โบกมือหยอยๆ

“ ไปอยู่เมืองนอกมา5 ปีนึกว่าจะโตขึ้นไหงตัวเล็กผอมกระหร่องเหมือนเดิมว่ะ”  ไอ้เบสแซว

“ใครจะยิ่งโตยิ่งถึกเหมือนมึงว่ะ ไอ้เบส”

“แล้วนี่มึงบอกใครไหมว่ากูกลับมา”

“ใครที่มึงถาม หมายถึง “ใคร”ล่ะ ” มันถามกลับด้วยสีหน้ากวนๆ กูรู้ว่ามึงรู้อย่ามาทำตีมึนนะเว้ย

“ไอ้เบส อย่ากวน”

“ไม่ได้บอกหรอก รายนั้นยุ่งเรื่องงานที่แล้วก็น้องไลน์เบล ไม่มีเวลาสนใจใครหรอก ว่าแต่มึงเถอะมาเหนื่อยๆไปกลับบ้านกัน”
ไอ้เบสบอก นั่นสินะคนที่เขามีครอบครัวอบอุ่นมีลูกน่ารักๆแบบนั้นคงไม่มีเวลามาสนใจคนนอกอย่างผมหรอก
 ผมไม่น่าคิดเข้าข้างตัวเองเลย คิดเอง เจ็บเอง พอซะทีเถอะไอ้พี

“อืม มึงมาคราวนี้จะอยู่กี่วันว่ะ”

“ตลอดชีวิตมั้ง” ผมตอบ ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว อืม ออกจะเร็วไปสักหน่อย จริงๆต้องขอบคุณเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนะครับเพราะมันทำให้ผมตั้งใจเรียนขึ้นเยอะ เลยสอบเทียบ ม 6 ได้ตั้งแต่อยู่ ม 4 เลยจบเร็วกว่าชาวบ้านเขาหลายปี

“เฮ้ย จิงดิ กูดีใจมากนะเว้ย มึงไม่ได้หลอกกูนะ”

“กูหลอกมึงแล้วกูได้ตังไหม”

“เฮ้ย อย่างนี้ต้องฉลองเว้ย” ไอ้เบสบอกก่อนจะลากผมออกจากสนามบิน  ไม่เจอกัน 5 ปี มันก็ยังเกรียนเหมือนเดิม เล๊ย






วันนี้ผมมาเดินเล่นแถวสวนสาธารณะใกล้ๆโรงเรียนที่ผมเคยเรียนอยู่ ครับ บรรยากาศที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเลย ก็5 ปีแล้วนินะ
อะไรหลายๆอย่างมันก็คงต้องเปลี่ยนไป แม้แต่ใจคน

“พี่สาวๆๆ” เด็กผู้ชายอายุ สัก 4 ขวบ เดินเข้ามาสะกิดผม ใบหน้าน่ารักแต่ดูมอมแมมเหมือนเด็กซน ตากลมโตฉายแววฉลาด
 เห็นแล้วหมั่นเขี้ยวชะมัด

“อะไรครับ”

“พี่สาวมาเดินคนเดียวเหรอครับ”  เอ่อ ไอ้เด็กนี่ชักจะไม่น่ารักแล้ว เห็นชัดๆว่า ผมใส่กางเกง เรียกพี่สาวตั้งเมื่อเมื่อกี้แระนะ

“ไม่ใช่ครับ พี่เป็นผู้ชายต้องเรียก พี่ชายไม่ใช่พี่สาวนะครับ” ผมบอกอย่างเอ็นดู

“เอ๋ แต่พ่อจ๋าบอกว่า คนสวยๆต้องเป็นพี่สาวนิครับ” เด็กน้อยยังถามเสียงใส ผมเจอเจ้าหนูจำไมหรือเปล่าครับเนี่ย
 ว่าแต่พ่อกับแม่เด็กไปไหนซะล่ะ ทำไมปล่อยให้เด็กตัวเล็กๆมาเดินคนเดียว

“ว่าแต่พ่อกับแม่ไปไหนครับทำไมหนูมาเดินคนเดียว”

“ไลน์เบล!!”

เสียงเรียกดังขึ้นก่อนที่ผู้ชายคนนึงจะวิ่งเข้ามากอดเด็กชายเอาไว้แน่น

“หายไปไหนมาลูกพ่อตามหาซะทั่วเลยรู้ไหมครับ” ผู้ชายคนนั้นบอกพลางลูบผมเด็กชายอย่างเอ็นดู

“ไลน์เบลมาวิ่งเล่นครับ อ้อ พ่อจ๋าครับไลน์เบลเจอพี่สาวใจดีด้วย” เด็กชายบอกก่อนจะยิ้มให้ผม

“เหรอลูก” คุณพ่อของเด็กชาย ถามก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม สงสัยเพิ่งสังเกตน่ะครับว่าผมยืนอยู่ตรงนี้

“ขอบคุณมากนะครับ ……………………พี!!!!”

“กีตาร์!!!”

ทำไมล่ะ ทำไมผมต้องเจอกีตาร์ด้วย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันครับ ผมหนีคนๆนี้ไป 5 ปี หนีจนคิดว่าตัวเองหนีพ้นแล้ว
ทำไม ทำไม ผมต้องกลับมาเจอเขาด้วย เพราะอะไรกัน หรือโชคชะตาต้องการให้ผมขาดใจตายตรงนี้ให้ได้หรือยังไง

“พ่อจ๋ารู้จักกับพี่สาวด้วยเหรอครับ” ไลน์เบลถามทำลายความเงียบที่น่าอึดอัด

“ รู้จัก / ไม่รู้จัก ” 

“ตกลงยังไงครับเด็ก งง” เด็กชายยังซักต่อ ทำไมผมต้องเข้ามาอยู่ในบรรยากาศครอบครัวแบบนี้ด้วยครับ 
ถึงสีหน้าผมจะเย็นชาเหมือนเดิมแต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้ในใจผมมันเจ็บปวดแค่ไหน

“ถ้าไม่มีอะไร ขอตัวนะครับ”

“เดี๋ยวสิพี ใจคอจะไม่ทักพี่เลยเหรอ”  คนตัวโตทัก

“สบายดีไหมครับพี่ตาร์”

“สบายกายน่ะ แต่ไม่ค่อยสบายใจ แล้วพีล่ะเป็นไงบ้างไม่เจอกันตั้ง 5 ปี ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ” คนตัวโตถามก่อนจะอุ้มไลน์เบลขึ้น

“สวัสดี คุณอาพีหน่อยสิครับ อาพีเป็นเพื่อนอาเบสครับ”

เด็กน้อยยิ้มแฉ่งอวดฟันหลอก่อนจะยกมือไหว้ผม ทันทีที่พ่อพูดจบ

“สวัสดีครับอาพี” ไลน์เบลพูดอย่างน่ารัก จนผมอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ เด็กคนนี้คงเป็นแก้วตาดวงใจของเขาสินะ
เขาที่มีครอบครับที่อบอุ่นมีลูกชายที่น่ารัก เขาที่ตอนนี้เป็นได้แค่ “พี่ชายของเพื่อนสนิท” ผมเท่านั้น

“สวัสดีครับ พอดีอาพีมีธุระอาพีต้องไปแล้วนะครับ” ผมบอกลาเด็กชายก่อนจะเดินออกมาทันที ขอบตาร้อนผ่าวพร้อมๆกับน้ำใสที่ไหลลงมาจากตาเป็นเครื่องบอกได้ดีว่า 5 ปีที่ผ่านมาผมหลอกตัวเองมาตลอด ทั้งๆที่ความจริงผมยังรักกีตาร์หมดหัวใจ


ผมยืนมองร่างบางที่ดูสวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากค่อยๆเดินห่างออกไป ทั้งๆที่ในใจอยากดึงเข้ามากอดให้หายคิดถึง
 ดึงเข้ามากอดแล้วถามว่า 5 ปีที่ไม่ได้เจอกันเขาไปทำอะไรมา สบายดีไหม แล้วคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า
 แต่มันก็คงเป็นไม่ได้ สำหรับพีผมก็เป็นแค่ พี่ชายของเพื่อนสนิท เป็นแค่คนๆนึงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาเท่านั้น
 ไม่ได้มีความสำคัญไปมากกว่าคนคนทั่วไป

“พ่อจ๋าครับ ไลน์เบล หิวแล้วครับ” เสียงเล็กๆปลุกผมออกจากภวังค์ นี่สินะ คือความจริง คนที่อยู่ตรงหน้าผมตะหากคือคนที่ผมต้องดูแล  ไลน์เบล เป็นครอบครัวที่ผมเหลืออยู่ ตั้งแต่วันที่ฝ้ายทิ้งผมไปกับสามีใหม่ จริงๆจะโทษฝ้ายก็ไม่ถูกทุกอย่างมันผิดที่ผมเอง เป็นใครก็คงทนไม่ได้ที่จะอยู่กับร่างที่ไร้หัวใจแบบผม ตั้งแต่วันที่ผมรู้ว่าพีไปเรียนต่อ ผมก็เหมือนคนที่ถูกกระชากวิญญาณออกจากร่าง ทำทุกอย่างเหมือนปกติแต่กลับไร้วิญญาณ ฝ้ายเองก็คงจะทนไม่ไหวและตัดสินใจจากไปตอนที่เจ้าหนูอายุแค่6เดือน  ผมไม่โกรธฝ้ายที่ทิ้งลูกให้ผมเลี้ยงเพราะอย่างน้อยที่สุดในเวลาที่ผมไม่มีใครเจ้าหนูน้อยก็ยังเป็นที่ยึดให้ผมกลับมาต่อสู้กับปัญหาได้อีกครั้ง

“อยากกินอะไรครับ เดี๋ยวพ่อพาไป”

“ไม่เอา ไลน์เบลอยากให้พ่อจ๋าทำให้กินพ่อจ๋าทำกับข้าวอร่อยที่ซู๊ดดดดดดด”

เด็กน้อยบอกอย่างร่าเริง มันช่างเหมือนกับที่ใครบางทำเมื่อ 5 ปีก่อนเหลือเกิน



....................................................................
กลับมาแล้วค่า บังเอิญว่ากลับก่อนกำหนดเลยอัพก่อนกำหนด
ฮ่าๆๆ ผ่านไป 5ปีซะแล้วไงเหมือนนิยาย
จริงๆ เห็นหลายๆคนถอนหายใจกะเรื่อง อดทนอีกนิดนะคะ
ทุกอย่างใกล้จะกระจ่างแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน4 23/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 23-03-2012 18:43:09
 :กอด1:

มาม่าใกล้หมดแล้วสิ  งานนี้จะได้แฮปปี้กันทุกฝ่าย

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน4 23/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 23-03-2012 19:08:51
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน4 23/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 24-03-2012 10:47:11
รอความจริงเปิดเผย :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอน4 23/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: nutsumi ที่ 24-03-2012 19:12:14
เย้ๆมาม่ากำลังจะหมดถ้วยแล้ว แต่เล่นซะอิ่มเลยอ่ะ

รอติดตามต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 26-03-2012 00:58:30
ตอนจบ


“พี่นะ เบสกลุ้มอ่ะ” ผมบอกกับคนที่ตัวเองหนุนตักอยู่

“กลุ้มเรื่องอะไรล่ะ หืม”

“ก็เรื่อง กีตาร์กับไอ้พีไง เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองกันก็ไม่รู้ 5ปีแล้วนะ”

พี่นะยิ้มก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ อ๊า สบาย จัง ผมชอบให้พี่นะลูบหัวที่สุดเลยล่ะครับ

“เฮ้อ ก็มันเล่นปากแข็งด้วยกันทั้งคู่แบบนี้อีก 10 ปีจะรู้ไหม ว่ารักกันน่ะ”

“แล้วเราต้องทำยังไงถึงจะช่วยได้ล่ะครับ”

ที่รักผมทำหน้าคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะอมยิ้มมุมปาก

“ง่ายนิดเดียว เรามีกามเทพตัวน้อยอยู่แล้วนะ ใช้ให้เป็นประโยชน์สิ”

“กามเทพตัวน้อย…..อืม  ไลน์เบลนะเหรอพี่”

“ใช่แล้ว ไลน์เบลต้องช่วยให้ไอ้สองคนปากแข็งนั่นยอมเอ่ยปากแน่นอน”

แหม ที่รักใครน๊า ฉลาดจังเลย ผมนี่โชคดีจังนะครับที่ได้พี่นะเป็นแฟน
 จะมีใครโชคดีเท่านายเบสไหมเนี่ยที่มีแฟนทั้งน่ารักทั้งฉลาด เสียอย่างเดียวหมัดหนักไปหน่อย

“พอดีกว่าครับที่รักเลิกคิดเรื่องไอ้พวกปากแข็งนั่นดีกว่า เรามีเรื่อง ของเรา ให้พูดกันอีกั้งเยอะนะครับ”

“เรื่องของเราอะไรเหรอ”

อ๊ากกกกก ที่รักอย่าทำหน้าตาแบบนั้นสิ เบสจะทนไม่ไหวแล้วนะครับ
คุณผู้อ่านช่วยเพลนกล้องไปที่อื่นได้ไหมขอเวลาชื่นใจสักนิดนะ









รุ่งขึ้นผมกับพี่นะ รวมถึงพี่เป้กับพี่ทัพก็ปฏิบัติการ กามเทพน้อยทันที

“ฮัลโหล ไอ้พีเหรอ มึงว่างเปล่า ออกมากินข้าวเป็นเพื่อนกูหน่อยสิ”

“อืม ได้เจอกันที่…นะ” เป้าหมายตอบรับ หวานหมู อิอิ

โอเค สำเร็จครับ แผนแรกแผน ล่อปลาออกจากถ้ำ หึหึ
ทีนี้ก็เหลือแค่ล่อพี่ชายปากแข็งของผมออกมาเจอกันโดยมีสปายตัวน้อยร่วมด้วย

“ฮัลโหลๆๆ ไลน์เบลครับ”
 ผมโทรหาเจ้าหลานตัวแสบเพื่อเริ่มแผนทันที อย่าว่าไลน์เบลยังเด็กจะไม่รู้เรื่องอะไรนะครับ
ไอ้เด็กนี่แสบกว่าที่คุณๆคิดหลายเท่า เรียกว่า โคลนนิสัยพี่ชายผมมาเต็มๆ
 ทั้งความกะล่อน เจ้าเล่ห์ จอมวางแผน และอีกสารพัด ก็อย่างว่าเขามันพ่อลูกกัน
 ถึงกีตาร์จะไม่ดั้งใจให้ไอ้เด็กแสบเกิดแต่ก็ใช่ว่าจะใจไม้ไส้ระกำ ทิ้งลูกตัวเองได้ลงคอ หรอกนะครับ
จริงๆครอบครัวผมก็อึ้งเหมือนกันที่ไลน์เบลดันเป็นลูกชายกีตาร์จริงๆ แต่ในเมื่อมันเป็นความจริงก็จำต้องยอมรับ
 ถึงจะไม่มีแม่แต่ไอ้เด็กแสบหลานผมก็ใช่จะขาดความอบอุ่นนะครับ จริงๆมันอุ่นซะจนร้อนด้วยซ้ำ
เพราะเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลพ่อกับนายแม่ โอ๋กันใหญ่ ไม่มีใครห้ามได้นอกจากพ่อจ๋าของเขาเท่านั้น
 นิสัยหัวดื้อ เชื่อมั่นในตัวเองเหมือนไอ้พีไม่มีผิด เหอะ หรือว่าไอ้พี มีดวงจะกลายเป็นแม่ไลน์เบลกันหว่า

“ฮัลโหล อาเบส โทรมาทำไมไม่พูดครับ” เจ้าเด็กแสบเรียก

“โทษทีๆๆ เอาเป็นว่าทางนี้เรียบร้อยแล้ว ไลน์เบลทำตามแผนที่อาบอกเลยนะ”

“ครับผม แต่ทำแล้วไลน์เบลจะมีแม่จริงๆนะ ” เด็กขี้สงสัยถาม

“มีแน่ครับ ไลน์เบลไม่เชื่ออาเบสเหรอ”

“เย้ๆๆ ไลน์เบลจะมีแม่แล้ว แค่นี้นะอาเบส ไลน์เบลไปทำภารกิจก่อน”
 ผมอมยิ้มกับความซนของหลาน เอาน่ะ ถึงไอ้พีมันจะเป็นผู้ชาย
แต่มองเผินๆมันก็เหมือนผู้หญิงซะจนแยกไม่ออกอยู่ดี หวังว่าไลน์เบลจะรับได้นะ




…………………………………………………………………

“พ่อจ๋าๆๆ” ไลน์เบลวิ่งเข้ามาหาผมในห้องทำงาน

“อะไรครับ”

“ไลน์เบลหิวแล้ว พาไปกินข้าวหน่อย”

“งั้นรอเดี๋ยวนะพ่อไปทำอะไรให้กิน”

“ไม่เอา” เด็กจอมซนบอกพลางทำหน้างอ

“แล้วจะให้พ่อทำไงครับ” ง้อเขาหน่อย นานๆไลน์เบลรูปหล่อจะทำหน้างอสักที

“พาไลน์เบลไปที่…นะครับ”

“โอเคครับไปกันเล๊ย”

เด็กชายหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ราวกับมีความสุขซะเต็มประดา วันนี้ลูกผมเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ยดูอารมณ์ดีผิดปกตินะครับ





ผมพาไลน์เบลมาที่ร้านอาหารที่เขาบอกแปลกใจเหมือนกันว่าเด็กอายุ 4 ขวบรู้จักร้านอาหารได้ยังไง
แต่ไลน์เบลอาจจะเคยเห็นในทีวีก็ได้เพราะร้านนี้ดังพอสมควร

“สวัสดีครับกี่ที่ครับ”  คนที่ทักผมเป็นผู้ชายที่สวยมาก สวยจริงๆนะครับ ดูผ่านๆนี่ผู้หญิงชัดๆ

“คุณป้า สวยจังเลยครับ” ไลน์เบลทัก ผมตาแทบจะถลนออกจากเบ้า ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ ขอโทษเขาไป

“ไม่ใช่ลูก คนนี้ผู้ชายครับต้องเรียกคุณลุง”

“เหมือนพี่คนสวยเลย วันก่อนที่เราไปเจอพ่อจ๋าจำได้ไหม พี่คนสวยก็เป็นผู้ชายแต่สวยเหมือนคุณป้าเลย”
ไลน์เบลบอกเสียงใส แต่ทำให้ผมต้องกลับไปคิดถึงหน้าใสๆของใครคนนั้นอีกจนได้เฮ้อ ไลน์เบลเอ้ย
ลูกกำลังทำให้พ่อหายใจไม่ออกนะเนี่ย

“ผมขอโทษแทนลูกด้วยนะครับคุณ..เอ่อ”

“ผมนัทครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณ..”

“ตาร์ครับ ส่วนตัวแสบนั่นไลน์เบลครับ” ผมแนะนำตัวเสร็จ เลยต้องขอตัวออกไปตามหาไอ้ตัวแสบที่ไม่รู้หายไปไหน

“พ่อจ๋าๆๆ ทางนี้ๆๆ” ไลน์เบลเรียกก่อนจะวิ่งมาจูงมือผมไปหา “พี่สาวคนสวย” ของแก

“พี เอ่อ ขอโทษนะที่ไลน์เบลมากวน เดี๋ยวพี่จะพาแกไปเล่นที่อื่นนะ” ผมบอกก่อนจะอุ้มไลน์เบลขึ้น

“ไม่เอาๆๆ ไลน์เบลจะอยู่กับพี่คนสวย พ่อจ๋าปล่อยนะ”
ไลน์เบลดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดพลางตะเกียดตะกายจะลงไปให้ได้ น้ำตาใสร่วงแหมะ
จากตากลมโต จนผมใจอ่อนยวบ แต่ก็กลัวว่าถ้าผมกับลูกอยู่จะทำให้อีกคนไม่สบายใจ

“ปล่อยแกเถอะครับ ทานด้วยกันเนี่ยแหล่ะ” เสียงที่ผมอยากได้ยินที่สุดบอก
ผมกับไลน์เบลเลยจัดการนั่งลงบนเกาอี้ฝั่งตรงข้ามทันที 
ได้พบกับคนๆนี้ทำให้หัวใจที่เคยแห้งเหี่ยวของผมเหมือนมีชีวิตอีกครั้ง
ผมคิดถึง คิดถึงพีมากจริงๆ คิดถึงทุกอย่างที่เป็นของคนๆนี้

“พี่คิดถึงพีมากนะ” ปากไวเท่าใจคิด ดันเผลอพูดอะไรออกไปจนได้ ถ้าพีโกรธจะทำยังไง

“ใช่ครับๆ ไลน์เบลก็คิดถึงพี่คนสวย”

“พี พี่ขอโทษนะที่พูดอะไรไม่เข้าหู” ผมบอกกลัวเหลือเกินว่าคนตรงหน้าจะโกรธ

“ผมขอตัวเข้าห้องน้ำนะครับ” คนที่นิ่งมานานบอกก่อนจะเดินออกจากโต๊ะไป

“พ่อจ๋า ตามไปสิ นั่งบื้ออยู่ได้” ไลน์เบลสะกิดยิกๆ

“ไปสิ ไลน์เบลอยู่ได้ มัวแต่ชักช้าเดี๋ยวไลน์เบลก็อดมีแม่กันพอดี” 

เอ่อ งงหนักเลยผม ผมว่าไลน์เบสชักจะแก่แดดไปแล้วนะครับ  แต่ ลูกชายไฟเขียวขนาดนี้มันก็น่าลองจริงไหม



ผมเดินตามพี่คนสวยของไลน์เบลเข้าไปในห้องน้ำ ร่างบางที่ผมคิดถึงมา 5 ปี ยืนหันหลังอยู่
คิดถึงชะมัดเลยเว้ย มือไวกว่าสมองของผมดันคว้าหมับเข้าที่เอวทันที เฮ้ย ไอ้มือบ้า ไปเองไม่รอสั่งเลยนะเว้ย

“เฮ้ย!!”  คนตัวบางดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดผม

“พี พี่เอง”

“พี่ตาร์ ปล่อยผมนะ”

“ไม่ปล่อย รู้ไหมว่า 5 ปีมาเนี่ย คิดถึงแค่ไหน”

“ปล่อยสิ เดี๋ยวใครมาเห็น” แหม ที่แท้ก็อาย อิอิ น่ารักเนาะ

“ปล่อยผมเถอะครับ พี่จะทรมานผมไปถึงไหน ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ ฮึกๆๆ”
 คนในอ้อมกอดบอกก่อนที่ผมจะรับรู้ถึงอาการสั่นน้อยๆ

“พี ร้องไห้ทำไมครับโกรธเหรอ พี่ขอโทษ พี่ขอโทษที่กอดพี”
ผมบอกก่อนจะปล่อยพีเป็นอิสระถ้าจะรังเกียจมากขนาดนี้เป็นใครก็ไม่กล้าหน้าด้านกอดหรอกครับ

“เมื่อไหร่พี่จะเลิกตามใจตัวเองสักที คิดจะทำอะไรก็ทำ คิดจะพูดอะไรก็พูด พี่เคยถามพี บ้างไหมว่าพีรู้สึกยังไง”

ร่างบางของพีสั่นน้อยๆเพราะแรงสะอื้น น้ำตาใสไหลออกมาจากตากลมโตสายตาตัดพ้อ
ที่มองมาทำให้ผมปวดใจจนไม่รู้จะทำยังไง นี่ผมทำร้ายพีมากขนาดนี้เลยเหรอครับ

“พี่ขอโทษ”

“เก็บคำขอโทษของพี่ไว้เถอะ ผมไม่อยากฟัง พี่เองก็มีครอบครัวแล้ว เลิกทำแบบนี้กับผมสักที”

“พี่กับฝ้ายเลิกกันแล้วนะ” ผมตัดสินใจบอก พีจะได้เลิกคิดสักทีว่าตัวเองเป็นมือที่สามของใคร

“นั่นมันก็เรื่องของพี่ไม่เกี่ยวอะไรกับผม”

“เกี่ยวสิ ทำไมจะไม่เกี่ยวเพราะว่าพี่รักพี พีคนเดียวที่พี่รักได้ยินไหมครับ”

“พี่ขอโทษที่เห็นแก่ตัว ทำอะไรไม่เคยนึกถึงจิตใจพีเลย แต่ตลอด 5 ปี พี่ไม่เคยมีความสุขจริงๆเลย พี่คิดถึงพี แต่พี่ไม่กล้าไปหา พี่กลัว กลัวว่าพีจะเกลียดพี่ เพราะพี่รู้ว่าพีไม่ได้รักพี่”
ผมสารภาพออกไปแม้วันนี้พีจะไม่รัก แต่อย่างน้อยผมก็ได้พูดในสิ่งที่ใจคิดมาตลอด

“ไอ้พี่ตาร์ซื่อบื้อ ฉลาดนักนิทำไมแค่นี้ถึงดูไม่ออก” คนตัวบางผลักอกผมก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป
ประโยคเมื่อกี้มันหมายความว่ายังไง เอ๊ะ หรือว่า..

“พีรอพี่ด้วย” ผมวิ่งตามคนตัวบางที่เดินลิ่วออกจากร้านไป อยากจะเขกหัวตัวเองสักพันครั้งที่เพิ่งจะคิดได้
ถ้าพีไม่รักก็คงไม่ยอมให้จูบ ถ้าพีไม่รักก็คงไม่ยอมไปอยู่กับผมตามคำขอ
 ถ้าพีไม่รักก็คงไม่ไปเมืองนอกเพียงเพราะไม่อยากทำลายครอบผม ไอ้ตาร์หนอไอ้ตาร์ ทำไมทีอย่างงี้คิดไม่ได้ว่ะ โง่มาได้ตั้ง 5 ปี

“พีรอด้วย” ผมรั้งแขนเล็กเอาไว้ได้ทันก่อนที่คนตัวบางจะขึ้นรถ หึหึ คราวนี้ต่อให้ตายก็ไม่มีวันปล่อยไปเด็ดขาด

“ตามมาทำไม”

“ก็ตามมาหารักไงครับ” ฮิ้ววววววว ไม่เคยคิดเล๊ยว่าคนอย่างท่านตาร์ต้องมาทำอะไรเสี่ยวๆแบบนี้

“เสี่ยว” คนตัวบางบอกหน้าตาแต่แอบเห็นนะว่าเขินน่ะ

“พี เราสองคนเจ็บปวดมานานแล้วนะ อย่ามัวเล่นแง่กันอยู่เลย ชีวิตคนเรามันสั้นนะจะตายวันตายพุ…..”
ยังไม่ทันพูดจบมือเรียวก็มาปิดปากผมไว้ซะก่อน

“ไม่เอา ห้ามพูดเรื่องตายนะ”

“ครับๆๆ ไม่ตายก็ไม่ตาย แต่พียอมเป็นแม่ ไลน์เบลแล้วใช่ไหม” ผมตู่ ฮ่าๆ ปากแข็งหนักมันจ้องมัดมือชกอย่างเดียว

“ใครบอกกัน” คนสวยเหวใส่

“แม่คร้าบ” ไอ้เด็กจอมซนออกมาได้จังหวะเป๊ะ กระโดดกอดขา อ้อนพีไปเรียบร้อยแล้ว แหม มีลูกนี่มันก็ดีไปอีกแบบนะ

“ไลน์เบล อาไม่ใช่แม่ไลน์เบลนะครับ”

“ฮึกๆๆ แม่ครับ ไลน์เบลอยากมีแม่ แม่เป็นแม่ให้ไลน์เบลนะครับ” เด็กน้อยร้องไห้อย่างน่าสงสารพลางกอดพีซะแน่น
แต่พ่อจ๋าดั๊นแอบเห็นว่าเด็กแสบยิ้มอยู่ เจ้าเด็กแสบนี่เจ้าเล่ห์ นิหว่า

“แต่อาเป็นผู้ชาย”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ลุงนะก็เป็นผู้ชายยังเป็นแฟนกับอาเบสได้เลยไหนจะลุงทัพกับลุงเป้อีก”
ง่า ลูกผมชักจะรู้มากเกินไปแล้วไม่น่าปล่อยให้ไอ้พวกนั้นเลี้ยงเลยจริงๆ

“นะครับ น๊า” เด็กแสบอ้อน

“พี พี่ขอโทษนะถ้าไลน์เบลทำให้ลำบากใจ พี่รู้ว่าพีไม่ได้รักพี่” ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จซะหน่อย
เผื่อจะเห็นใจ พ่อหม้ายลูกติดตาดำๆอย่างผม

“ไอ้พี่ตาร์บ้า นี่จะบังคับให้พูดให้ได้ใช่ไหมว่ะ”

“ง่า ไม่ใช่นะครับพี่ไม่ได้บังคับพีเลยนะ”

“เฮ้อ นี่ผมหนีไม่พ้นจริงๆใช่ไหมเนี่ย” พีถอดหายใจก่อนจะส่ายหน้าปลงๆ

“ไลน์เบล หอมแก้มแม่จ๋าสิลูก” พ่อจะได้หอมบ้าง ประโยคหลังแอบบอกในใจ ก่อนจะอุ้มลูกชายขึ้นหอมแก้มคนตัวบาง

ฟอด

“ชื่นใจ”

“ไอ้พี่ตาร์ ไหนบอกว่าให้ลูกหอมไง”

“ก็พ่ออยากบ้างไม่ได้เหรอ”

ได้ยินเสียง จิ๊ ปากขัดใจ ก่อนคนตัวบางจะแย่งไลน์เบลไปอุ้มแล้วเดินไปที่รถ ผมเดินตามอย่างอารมณ์ดีที่สุดในรอบ5 ปีแหม ใครเป็นผมก็ต้องดีใจทั้งนั้นแระ จริงไหมครับ
                                                 

…………………………………………………………………..


“ลูกหลับแล้วเหรอพี”

“ครับ…..เฮ้ย กอดทำไม” คนตัวบางดิ้น ขลุกขลักหลังจากที่โดนผมกอด

“นี่ใจคอจะไม่บอกรักให้พี่ชื่นใจหน่อยเหรอ” ผมบอก ก็อยู่ด้วยกันมาเป็นเดือนแล้ว
พียังไม่เคยบอกรักผมเลยมีแค่ผมที่บอกแทบจะทุกชั่วโมง ก็รู้ว่าแหล่ะว่ารักแต่บางทีมันก็อยากได้ยินบ้าง

“ถามอะไรนักหนา ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ยังไม่รู้อีกเหรอ”

“ก็พี่อยากได้ยินอ่ะ”

“อย่ามาทำหน้างอนะ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว ทำอะไรเป็นเด็กๆ”
 ผมค้อนให้คนตัวบางก่อนจะนั่งลงบนโซฟา บ่งบอกชัดเจนว่า งอนแล้วนะ

“เฮ้อ นี่พีมีลูก สองคนใช่ไหมเนี่ย”

“กีตาร์ หันมาเถอะน่า”

“ไม่”

“ได้ ถ้าไม่หันก็ไม่ต้องฟัง” เสียงหวานขู่ ตายอนาถ นี่ผมแพ้ทางคนๆนี้จริงๆเหรอเนี๊ย

“ฟังดีๆนะ พูดรอบเดียวด้วย”

“พีรักพี่ตาร์นะครับ”

“ขอบคุณนะพี พี่ก็รักพีนะรักมากที่สุดเลย” ผมกอดพีแน่น ก่อนจะแอบเห็นว่าไอ้เจ้าตัวแสบแอบหรี่ตามอง

 ก่อนจะเนียนทำเป็นหลับ แหมไอ้ลูกคนนี้ มันเจ้าเล่ห์เหมือนใครหว่า ^^


.....................................................

ในที่สุดก็จบ สักที ใครที่ตามลุ้นอยู่ก็โล่งอกกันได้เลยนะคะ
รู้สึกโล่งมากกกกกก ที่เข็นเรื่องนี้จบจนได้
ท่ามกลางถ้วยมาม่า อืด อิอิ ^^

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-03-2012 08:11:16
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 26-03-2012 11:47:03
 :pig4: :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 26-03-2012 12:13:26
บทสรุปที่ลงตัว  :man1:

บวกเป็ด

ขอของหวานล้างปากมั่งจิ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 27-03-2012 14:59:02
แง้วๆๆ

นึกว่าจะได้ลุ้นมากกว่านี้


มีแต่คู่หวานๆๆเนอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 01-04-2012 19:14:43
แง้วๆๆ

นึกว่าจะได้ลุ้นมากกว่านี้


มีแต่คู่หวานๆๆเนอะ


เอาอีกเหรอ พิต มันพวกยุขึ้น ซะด้วยจิ
เข็นมาม่า อีกจั๊กซอง น่าจะดี ว่าป่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: tookta ที่ 09-06-2012 23:09:24
ขอบคุณมากๆ จ้า
อ่านทั้งสามคู่แล้ว ความรู้สึกครบรสมากๆ
หวาน เศร้า สุข ฯลฯ ผู้เขียนเก่งมากๆ จ๊ะ ^^
ชอบคำที่บอกว่า "ถ้าเจอคนที่ใช่จะเพศอะไรก็รักไปเถอะ" ที่สุด....
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 11-06-2012 09:46:02
โว้ว ได้อ่านตั้ง4คู่แนะ เต็มอิ่มจุใจมากกก
เข้าใจนะค่ะว่าเป็นเรื่องสั้นเลยรักกันเร็วมาก
จริงๆอยากให้มีเรื่องราวในความรักเยอะกว่านี้อีกนิดส์นึง
แต่ไม่เป็นไรเนอะ ก็เรื่องสั้นนิน่า เล่าแค่เรื่องราวสั้นๆก็พอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 13-06-2012 23:52:46
อ่านรวดเดียวจบเลย
คนแต่งสุดยอดดดดดดดดดดดดดดดด
 o13
 o13
สนุกมากเลยค่ะ
แต่น้องเบสที่สุดยอดเลยนะ
แอบรักมาตั้งแต่เด็กๆ
ยังรอมาตลอดเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 15-06-2012 00:39:07
เขียนดีมากค่า สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 16-06-2012 22:40:21
กดบวกให้หนูไลน์เบล  ทำได้ดีมาก   :กอด1:    :กอด1:   :กอด1:

โตขึ้นนิสัยคงถอดแบบกีต้าร์มาแป๊ะแน่  หึหึ  :z1:   :z1:

แววเจ้าเลห์และฉาดตั่งแต่เด็กเลยอ่ะ   o13   o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-11-2012 12:38:31
น่ารัก โดยเฉพาะน้องไลน์เบล ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: culom ที่ 06-11-2012 17:09:45
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 20-01-2013 19:30:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 20-01-2013 23:30:04
เรื่องนี้ จบน่ารักดีอ่ะ ลุ้นอยู่ 55555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 23-01-2013 16:17:02
 :z3: :z3: :z3:   เลือกไม่ถูก ชอบทุกคู่เลย

 o13 o13 o13

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 23-01-2013 20:26:23
เนื้อเรื่องน่ารักดีครับ....ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 18-04-2013 16:43:37
แต่งได้น่ารักมากเลย ชอบคะ สนุกมาก  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 29-07-2013 07:02:29
สนุกมากค่ะ ชอบทุกคู่เลย ^o^
ถ้าว่างๆก็จัดตอนพิเศษมาได้อีกนะคะ
ขอบคุณคร่าาาาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: jj-pits ที่ 12-08-2013 10:55:15
อ่านแล้วชอบมากเลยคับ

เรื่องสั้นต่อกันเป็นซีรีย์ดี บอกเล่าเรื่องราวของตัวประกอบไปเรื่อยๆ

#สรุปสุดท้าย ผู้ชายหน้าตาดีก็หันไปกินกันเองหมดเบยยยย 555
#แต่เรื่องสุดท้ายเจ็บไปนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-03-2015 19:08:59
สนุกจ้า.สามคู่ชูชื่น.อร๊ายยย~  :-[ พี่ตาร์นี่เรื่องคนอื่นรู้หมด.แต่เรื่องตัวเองจัดการไม่ได้ซะงั้น. :เฮ้อ: ถ้าไม่ได้น้องไลน์เบลคงอดอีกแหงมๆ. :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 05-03-2015 14:38:51
น่ารักทุกคู่เลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 06-03-2015 00:25:18
 o13 สามคู่ความรักสามสไตล์เลย ได้อารมณ์คนละแบบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 30-04-2015 12:12:20
สนุกมากครับ น่ารักทั้ง 3 คู่ แต่ชอบคู่ นะ กับ เบส มากที่สุด

ขอบคุณครับ