พิมพ์หน้านี้ - • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: :mdred ที่ 13-08-2016 00:55:08

หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 13-08-2016 00:55:08
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


• แฟนวิศวะ •


เขาว่ากันว่าเป็นแฟนวิศวะมันยาก
เป็นแฟนวิศวะเราต้องใจกว้าง
ผู้ชายวิศวะ ติดเพื่อนมากกว่าติดแฟน
ผู้ชายวิศวะ มักเล่นแรงจนสลบ
ผู้ชายวิศวะ จะพร้อมรบทุกวินาที
และผู้ชายวิศวะ ไม่ปราณีใครหน้าไหนที่มาวุ่นวายกับ  ‘เมีย’

แท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ on twitter


นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาและ
พฤติกรรมบางประการที่ไม่เหมาะสม
ควรอ่านอย่างมีวิจารณญาณ
บุคคล สถานที่ภายในเรื่องไม่มีอยู่จริง



trigger warning *IMPORTANT*
โปรดอ่าน


1.นิยายเรื่องนี้มีฉาก rape (ข่มขืน), การทำร้ายร่างกาย, การใช้ความรุนแรง
2.ตัวละครในเรื่องนี้มีบางส่วนที่ไม่เหมาะสม หรือกระทำความผิดตามกฎหมาย แต่ไม่ได้นำไปสู่กระบวนทางกฎหมายตามหลักความเป็นจริง
3.ตัวละครในเรื่องอาจมีตรรกะหรือเหตุผลที่ไม่ตรงตามหลักความเป็นจริง
4.เนื้อหาในนิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี


ควรใช้วิจารณญาณอย่างมากในการอ่าน เนื้อหาผิดที่คุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรมหรือผิดกฎหมายทั้งหมดในเรื่องนี้ ไม่ควรทำตามในชีวิตจริงโดยเด็ดขาด



สารบัญ
00 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3446660#msg3446660) • 01 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3447688#msg3447688) • 02 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3455078#msg3455078) • 03 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3486826#msg3486826) • 04(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3488657#msg3488657) • 04(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3490579#msg3490579) | 05(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3491761#msg3491761) • 05(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3492759#msg3492759) • 06 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3559103#msg3559103) | 07 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3559115#msg3559115) • 08 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3559117#msg3559117) • 09 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3563421#msg3563421)
10(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3564681#msg3564681) • 10(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3596972#msg3596972) • 11(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3596973#msg3596973) | 11(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3598130#msg3598130) • 12(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3599729#msg3599729) • 12(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3602202#msg3602202) | 13(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3603842#msg3603842) • 13(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3609522#msg3609522) • 13(3) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3610027#msg3610027)
14(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3611447#msg3611447) • 14(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3614135#msg3614135) • 15(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3615308#msg3615308) | 15(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3615988#msg3615988) • 15(3) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3616472#msg3616472) • 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3619980#msg3619980) | 17(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3620940#msg3620940) • 17(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3622991#msg3622991) • 17(3) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3623590#msg3623590)
18(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3624084#msg3624084) • 18(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3624594#msg3624594) • 19(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3626417#msg3626417) | 19(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3647604#msg3647604) • 20(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3677151#msg3677151) • 20(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3679014#msg3679014) | 21(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3680026#msg3680026) • 21(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3681212#msg3681212) • 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3683125#msg3683125)
23(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3684128#msg3684128) • 23(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3690527#msg3690527) •
Special : ตอนน้องยังเด็ก เรื่องที่ 1 : ความบ้าคลั่งรองเท้าของเล (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3691376#msg3691376)
24(1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3697566#msg3697566) + 24(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3698511#msg3698511) + 24(3) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3698958#msg3698958) + 24(4) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3702020#msg3702020) | 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3747124#msg3747124) |
special : วันพ่อแห่งชาติ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3748796#msg3748796)
Special : ตอนน้องยังเด็กเรื่องที่ 2 : อนุบาลวันแรก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55197.msg3749364#msg3749364)



หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 13-08-2016 01:01:15
#0


   นัยน์ตาคมเฉี่ยวไล่มองหมากรุกบนกระดานสีขาวดำก่อนจะขมวดคิ้ว ตัวบิชอปในมือหนาที่กำลังถูกเลื่อนไปมาแต่ไม่วางลงกระดานเสียทีบ่งบอกว่าคนเล่นกำลังลังเล ทว่าสุดท้ายแล้วมันก็ถูกวาง


   กึก!


   “ใจเด็ดดีนี่” ฝ่ายตรงข้ามชมก่อนจะใช้แค่ตัวเบี้ยเลื่อนไปกินบิชอปของอีกฝ่าย “ยอมแลกบิชอปกับเบี้ยเลยเหรอ”


   “บางทีเบี้ยมันก็มีประโยชน์” เขาตอบแต่นัยน์ตายังคงจับจ้องที่กระดาน รวมทั้งสมาธิก็ยังคงจดจ่ออยู่กับเกมตรงหน้า พร้อมกับเดินหมากตัวต่อไป


   “อืม ยากแล้วแฮะ”


   “เลือกเดินได้แล้ว” เขาเร่งเมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่เดินหมากเสียที


   “ใจเย็นหน่อย” เสียงทุ้มว่าก่อนจะเลือกหยิบเรือเลื่อนไปทางซ้ายหนึ่งช่อง “ได้ข่าวว่าช่วงนี้ภายในแก๊งกำลังวุ่นวาย”


   “อืม”


   “ทำไม”


   “น้องชายของบอสกำลังจะเข้ามหา’ลัยแล้ว”


   “บอสมีน้องชายตัวเหรอ ?”


   “มี”


   “ทำไมกูไม่รู้”


   “…”


   “ไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบ” คนฟังถึงกับแสยะยิ้มเล็กน้อย “งั้นก็แสดงว่าคงเป็นงานใหญ่ แล้วคราวนี้มึงไม่มีงานทำหรือ ? ถึงได้ว่างมาเล่นกับกูเนี่ย”


   ครืด


   โทรศัพท์เครื่องหรูภายใต้กางเกงสแลคสีดำสนิทสั่นทันทีที่เสียงทุ้มกล่าวจบ จนเจ้าของมือถือที่กำลังจะวางตัวต่อไปลงบนกระดานถึงกับถอนหายใจพร้อมล้วงมือเข้าไปหยิบมันแล้วชูขึ้นมา


   “นี่ไงงาน” แล้วลุกขึ้น


   “จะไปแล้วเหรอ”


   “เออ ฝากเดินตัวที่กูจับไปเมื่อกี้ไปทางขวาอีกสองช่องด้วยนะ”


   “หือ ?”


   “ไปละ” ว่าจบร่างสูงก็เดินออกไป ทิ้งให้คนที่ยังนั่งอยู่ทางด้านหลังยังคงงงกับประโยคคำสั่งเมื่อสักครู่ จากนั้นเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มจึงค่อย ๆ ก้มลงมองกระดาน มือหนาจับตัวหมากเดินตามคำสั่งของคนที่พึ่งเดินออกไปพร้อมกับหัวเราะร้ายในลำคอ เมื่อตัวที่เขาพึ่งจับเลื่อนไปทางขวาอีกสองช่องนั่นมัน…



   “Checkmate”







หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 13-08-2016 01:05:22
เข้ามาติดตามค่าาาา  o18
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: choinudee ที่ 13-08-2016 01:15:12
เกริ่นแค่นี้ก็รู้สึกได้เลยว่าเรื่องนี้
เนื้อเรื่องต้อง เท่!! มากๆ

รอจ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 13-08-2016 01:25:20
มาปักธงรอ





                                                                           :a12:







หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: beedy ที่ 13-08-2016 07:45:51
ปูเสื่อรอด้วคนจ้า
 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-08-2016 07:55:12
แล้วเมียวิศวะนี่นิยามเป็นอย่างไรน้อ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-08-2016 08:11:10
ติดตาม ชอบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 13-08-2016 08:36:43
รักเด็กวิศวะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 13-08-2016 09:36:29
มารอดูน้องชายบอส
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: ::ppppop:: ที่ 13-08-2016 10:12:21
เท่จัง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 13-08-2016 11:16:30
รอออออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 13-08-2016 17:41:53
ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 13-08-2016 19:08:01
งง  มาสั้นๆๆๆ  มากเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: penneeamoon ที่ 13-08-2016 19:13:24
ลงชื่อ รอติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 13-08-2016 20:38:26
รออย่างตื่นเต้น
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 13-08-2016 23:41:27
เข้าแถวรอแล้วค่า  :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 14-08-2016 12:22:46
เอาอีกกกกกกกก~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 14-08-2016 12:56:13
 :ling2: ก๊อกๆ เคาะตูบ้านคนแต่ง ขอตอนที่1  อยากอ่านแล้ววว :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: lahlunla ที่ 14-08-2016 13:56:42
มารออ่านตอนต่อไปค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 14-08-2016 14:29:12
มาต่อคิวรอคะ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: GGamy ที่ 14-08-2016 14:42:19
มาต่อค่ะๆๆๆ :sad4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: BaGgYsOdA ที่ 14-08-2016 15:21:09
รอๆๆๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130816#0 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 14-08-2016 18:55:06
#1
   



“เจ็บ”


“อยู่นิ่ง ๆ สิ”


“เจ็บ เลเจ็บ”


“อย่าดิ้นสิวะ”


“เจ็บ! เอาออกไปเลย! เลเจ็บ!”



ผัวะ!

“ก็กูบอกว่าอย่าดิ้น!” ด้วยความหมั่นไส้ คนที่กำลังยืนค้ำหัวผมอยู่จึงฟาดมือตบลงกะบาลทีหนึ่ง แรงตบทำให้ยางที่ใกล้หลุดเต็มทีบนหัวของผมหลุดออก ผมสั้น ๆ แต่ยาวพอที่จะทำให้รู้สึกหงุดหงิดด้านหน้าเนื่องจากโดนยางตรึงจนรู้สึกเจ็บจึงคลายลงไปด้วย “เหี้ย! ยางหลุดแล้วเห็นไหม”


ร่างสูงผู้ทำหน้าที่เป็นช่างผมจำเป็นบ่นพร้อมกับทำท่าจะเข้ามามัดใหม่ แต่ผมเบี่ยงตัวหลบ แหกปากร้องโวยวาย


“ไม่เอาแล้ว! เจ็บ!”


“อะไรของมึงวะ เมื่อกี้ยังบอกให้กูมัดให้อยู่เลย”


“ก็พี่วินทำเจ็บ เลไม่มัดแล้ว!”


“ผมสั้นฉิบหายแต่เสือกอยากจะมัดอย่างมึง ใครมัดแล้วมันไม่เจ็บบ้าง เรื่องมาก!”


“ไม่ได้เรื่องมาก!”


“เรื่องมากชัด ๆ!”


“แต่พ่อทำไม่เจ็บ! พ่อทำให้เลแล้วมันไม่เจ็บเหมือนพี่วิน!”


“ปากวอนโดนตีนนะมึงเนี่ย!” ผมเบิกตากว้างรีบกระโดดไปหลบอยู่หลังโซฟาเมื่ออีกฝ่ายยกมือขึ้นมาทำท่าว่าจะเข้ามาต่อย คนอะไรเถื่อนชะมัด! ผมยอมโผล่หน้าจากหลังโซฟามามองเขาอีกครั้งเมื่อร่างหนาทิ้งมือที่เคยกำหมัดลงข้างลำตัว แม้สายตาคมยังคงมองผมแบบจะกินเลือดกินเนื้ออยู่ “กูอุตส่าห์ยอมลดตัวไปทำให้ยังไม่สำนึกบุญคุณอีก”

ผมเบ้ปาก เผลอพูดสิ่งที่มันส่งผลเสียต่อตัวเองออกไปทันที “สำนึกตายแหละ!!”


“เล!!”


“เลขอโทษ!!” เห็นท่าไม่ดีผมเลยรีบบอกแต่เมื่อดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลผมจึงวิ่งหนีแทน


“มึงมานี่เลย!”


“เลขอโทษ! เลพูดผิดเลสำนึกบุญคุณแล้ว!”


“กูไม่รับ! มึงมานี่!”


“พี่วินอย่าเข้ามา!”


“มึงจะหนีไปไหน!”


ขวับ


“ม่ายยยยยยยยย!!” ผมกรีดร้องเหมือนโดนของร้อนราดตัว ทันทีที่คนที่วิ่งไล่ผมอยู่เอื้อมมือมารวบเอวของผมจนได้ แต่ร้องได้ไม่นานก็ต้องเงียบลงราวกับโดนของเย็นราดทับอีกครั้งเมื่อเสียงทุ้มของใครบางคนออกคำสั่งให้


“หุบปาก!” ผมน่ะเงียบแต่พี่วิน…


“เสือก”


คนมาใหม่ทำหน้าคล้ายไม่ยี่หระกับคำครหา ร่างสูงเดินผ่านพวกผมไปยังห้องครัวก่อนจะหันมามองหน้า “ปล่อยมันได้แล้ววิน เลมึงรีบมากินข้าวกูต้องไปส่งมึงที่มหา’ลัย”


นั่นยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่แค้นผมอยู่แล้วได้ว่าผมต่อ


“มึงนี่ตัวภาระจริง ๆ”


“พี่วิน!!”


“ทำไม หรือมันไม่จริง”


“ถ้าพ่ออยู่พี่วินก็คงไม่พูดแบบนี้..” ผมหมายถึงพ่อ พ่อที่ตอนนี้คงกำลังนั่งอยู่บนเครื่องบินเพื่อกลับมาที่ไทย เนื่องจากอาทิตย์ก่อนเขาบินไปอังกฤษเพื่อดูงาน แต่ถึงกำลังบินกลับมา มันก็ไม่ทันไปส่งผมที่มหา’ลัยได้อยู่ดี ทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก


“แล้วพ่อมึงอยู่ไหมล่ะฮึ ? —ตุบ!


“โอ๊ย!” ผมร้องเมื่อโดนมือหนาฟาดแรง ๆ ที่ก้นก่อนจะหันไปมองหน้าคนตี “พี่วิน!”


“ไปกินข้าว” เขาไม่โต้ตอบ พี่วินปล่อยมือที่โอบรอบเอวผมอยู่ออกแล้วดันตัวให้ผมเดินไปข้างหน้าแทน ผมขี้เกียจเถียงเลยเดินไปห้องครัวแบบง่าย ๆ บนโต๊ะอาหารมีถ้วยใส่โจ๊กส่งกลิ่นหอมวางอยู่ สงสัยพี่ไทด์คนที่สั่งให้ผมมากินข้าวเตรียมไว้ให้ ผมเลยรีบเดินไปนั่งบนโต๊ะก่อนจะลงมือรับประทานอาหาร แต่กินได้ไปสักพักผมก็เริ่มรำคาญผมด้านหน้าของตัวเองที่ยังไม่ได้มัด ถามว่าทำไมไม่มัดเองคำตอบคือผมมัดไม่เป็น มัดเองแล้วมันจะยุ่งทันทีที่เพราะปกติมีคนมัดให้ตลอด แต่รำคาญได้ไม่นานช่างผมจำเป็นตั้งแต่คราวก่อนก็มารวบขึ้นให้พร้อมกับมัดและติดกิ๊บดำอย่างรวดเร็ว คราวนี้ผมไม่เจ็บด้วยเลยไม่พูดอะไร อีกอย่าง…มัดผมขึ้นแล้วรู้สึกโล่งขึ้นเยอะเลย


ผมนั่งกินโจ๊กเงียบ ๆ กินโจ๊กเสร็จก็ดื่มนมตาม หลังจากนั้นจึงเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาพาดบ่า เช็กของในกระเป๋าอีกทีพอคิดว่าไม่มีอะไรตกหล่นแล้วผมจึงเดินไปหาพี่ไทด์ซึ่งกำลังสวมเนคไทแบบลวก ๆ วันนี้เป็นวันที่ผมเปิดเทอมวันแรก ดังนั้นพวกพี่แกก็ต้องเปิดเทอมวันนี้เหมือนกันเพราะเราอยู่มหา’ลัยเดียวกัน เพียงแต่ผมพึ่งขึ้นปีหนึ่งส่วนพี่ไทด์และพี่วินขึ้นปีสี่แล้ว


“มึงจะออกไปพร้อมกับกูเลยไหม” ผมขมวดคิ้วทันทีที่พี่ไทด์ถามแต่พอหันหลังไปมองจึงได้รู้ว่าเขาไม่ได้ถามผมแต่ถามพี่วินที่กำลังเดินลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้าน ร่างสูงอยู่ในชุดของนักศึกษาเรียบร้อยแล้ว


“ไม่ กูมีธุระต้องไปทำก่อน”


“แล้วพวกนั้นล่ะ” พี่วินมองขึ้นด้านบนแล้วตอบสั้น ๆ


“ยังไม่ตื่น”


พวกนั้นที่พี่ไทด์ว่าคือผู้อยู่อาศัยอีกสามคน ภายในบ้านแห่งนี้มีผู้อาศัยทั้งหมดเจ็ดคนได้แก่พ่อ พี่ไทด์ พี่วิน พี่ ๆ ที่ยังไม่ตื่นอีกสามรวมผมอีกหนึ่งคนเป็นเจ็ดคน เราไม่ได้เกิดมาจากพ่อแม่เชื้อสายเดียวกัน แต่มาอยู่บ้านเดียวกันตั้งแต่สี่ปีก่อน เพราะว่าบ้านหลังนี้ใกล้มหา’ลัยดี ข้าง ๆ มีแมคโดนัลกับเซเว่นอีเลฟเว่นที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นแหล่งอาหาร ถัดไปอีกก็มีตลาดและสวนสาธารณะที่อยู่ไม่ไกลมาก ใกล้มหา’ลัยอีก พวกพี่ ๆ เลยมาอยู่ด้วยกัน ส่วนผมเกาะพ่อมาเพราะตอนนั้นผมยังพึ่งย้ายจากอังกฤษมาเรียนมอสี่ที่ไทย ผมเชื้อสายไทยแท้นะแค่เกิดที่อังกฤษ


“เลเอาของหมดยัง” ผมสะดุ้งตอนที่พี่ไทด์หันมาถามผมบ้าง


“หมดแล้ว”


“โทรศัพท์ล่ะ”


จริงด้วยสิ… “ลืม”


โป๊ก!


“โอ๊ย! ตีเลทำไม” เปล่าเลยพี่ไทด์ไม่ได้ตี พี่วินต่างหากที่ตี เขกที่หัวเลยด้วย “เลเจ็บนะ!”


“เพราะมึงเป็นแบบนี้ไงเลยต้องตี” ปากก็ว่าแต่ยื่นโทรศัพท์ของผมที่ไม่รู้ไปหยิบจากไหนมาให้ จากนั้นจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เอ๋อ ๆ แบบมึงจะรอดไหมเล วัยมหา’ลัยมันไม่ได้เหมือนมัธยมของมึงนะ จะทำอะไรก็ให้มีสติ พวกกูเข้าไปช่วยมึงไม่ได้ตลอดหรอกนะ”


พี่วินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง นัยน์ตาคมไม่มีแววล้อเล่นเลยแม้แต่น้อยจนผมรู้สึกแปลกใจ


“ห่วงเลเหรอ”


“เออห่วง”


“…” เกือบจะรู้สึกดีล่ะถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดถัดมา


“เพราะถ้ามึงซวย พ่อมึงก็เอากูซวย”


ง่ะ!



มหาวิทยาลัย K


ผมมาถึงแล้ว…


ถึงมหา’ลัยที่ตัวเองมุ่งมั่นอ่านหนังสือกว่าจะสอบเข้ามาเรียนที่นี่ได้ อีกอย่างคือ Mercedes benz e500 สีขาวเคลื่อนที่เข้ามาจอดหน้าตึกขนาดใหญ่นานเกือบห้านาทีแล้วเหมือนกันทว่า…ผมไม่กล้าลงไป


“พี่ไทด์” ผมกลั้นใจถามก่อนจะได้รับคำตอบมาเป็นพยางค์สั้น ๆ


“อะไร”


“เลกลัว”


“เรื่องของมึง”


ง่ะ…ใจร้าย!


“เดินไปส่งเลหน่อย” ผมเขย่าแขนอีกฝ่ายแต่ก็ถูกปัดออก


“กูไม่ว่าง”


“แต่พ่อบอกให้พี่ไทด์มาส่ง”


“กูก็ส่งมึงแล้วไง หน้าตึกคณะมึงไหมล่ะหนิ”


ผมไม่มีอะไรจะเถียงแล้ว


อันที่จริงผมไม่เคยเครียดเรื่องเปิดเทอมใหม่เลยนะ ตอนอยู่บ้านผมก็ยังชิว ๆ อยู่เลย แต่ไม่รู้ทำไมพอรถจอดที่หน้าตึกของคณะปุ๊บผมถึงได้รู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้ หัวใจของผมเต้นอย่างบ้าระห่ำราวกับว่าจะหลุดออกมา รู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างกำลังสั่นไหวด้วยแรงเต้นของหัวใจ คล้ายเลือดกำลังสูบฉีดด้วยความเร็วสูงยิ่งกว่าสิบมัดหรืออะไรประมาณนั้น ปกติแล้วผมไม่เป็นแบบนี้ ไม่เลย… หรือบางทีนี่อาจจะเป็นเพราะว่าพ่อไม่อยู่


ฮือ…พ่อจ๋าเลกลัว ToT
   

ครืด


เสียงโทรศัพท์ที่สั่นของสารถีจำเป็นทำให้ผมพอได้หายใจอยู่บนรถต่อชั่วครู่ แต่หลังจากที่พี่ไทด์คุยกับคนในสายเสร็จร่างสูงก็หันมาเร่งผมทันที



“ลงเร็ว ๆ เล กูมีงานต้องไปทำต่อ”


“พี่ไทด์…”


“ลงไป”


“ก…ก็ได้” ผมต้องตอบรับอย่างจำใจก่อนจะมองหน้าขอความเห็นใจจากคนข้างกายเป็นครั้งสุดท้าย ทว่าเมื่อมองไม่เห็นถึงความเห็นใจที่ว่าในนัยน์ตาคม ผมจึงได้แต่ถอนหายใจข่มความกังวลของตัวเองแล้วค่อย ๆ เปิดประตูลงจากรถ

จะลงแล้วนะ


พรึบ!


ลงแล้ว! ผมลงมาแล้ว!


“พี่ทะ—”

   
บรืน

   
ไปเลยเหรอ!!   
   
   
ผมได้แต่อ้าปากค้าง ยืนมองด้านหลังของ Mercedes benz e500 สีขาวที่ขับออกไปทันทีที่ผมลงจากรถชนิดที่ว่าไม่เหลียวแลกันเลยแม้แต่นิดเดียว หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ หันหน้ากลับมาที่เดิมแล้วมองตึกสีขาวทรงโมเดิร์ลสมัยใหม่ขนาดใหญ่ที่มีป้ายเขียนเอาไว้อันเบอเร่อว่า


‘วิศวกรรมศาตร์’

นี่แหละ…คณะของผม




กลิ่นบุหรี่ที่คลุ้งไปทั่วอากาศลอยมาจากร่างสูงที่กำลังยืนสูบอยู่ในซอกระหว่างตึกเงียบ ๆ หากสายตากำลังจดจ้องไปยังร่างเล็กที่ลงมาจากรถคันหรูกว่าสิบล้านบาท เจ้าของใบหน้าที่สะกดสายตาทุกคนตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินลงมา หากเจ้าตัวยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเด่นขนาดไหน


ร่างเล็กสูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร ถ้าเป็นผู้หญิงก็ถือว่าหุ่นดีมาก ผิวขาวราวกับว่าอาบน้ำแร่แช่น้ำนมมาทั้งชีวิต เสียดายที่หน้าอกเล็กไปหน่อยแต่ข้อเสียนั่นจะดูด้อยทันที เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าสวยสง่าที่มีความน่ารัก น่าฟัด น่ากอด น่าขย้ำรวมอยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะนัยน์ตากลมโตสีอ่อน จมูกรั้นน่าบีบรับกับริมฝีปากสีชมพูอ่อนธรรมชาติกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้ม ความเหมาะสมและลงตัวรวมอยู่บนใบหน้าเดียวกันจนหลายคนไม่อาจตกลงปลงใจเชื่อในทันทีว่านี่น่ะคือ…ผู้ชาย


อืม…ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีก


คนมองคิดขณะดับบุหรี่ในมือลง เมื่องานของเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว



‘สวยว่ะ’
‘อื้อหือ อย่างกับนางฟ้า’
‘ผิวขาวฉิบหาย’



ซุบซิบ ซุบซิบ


หันซ้าย (‘ ‘ )


“น้องเขาหันมาทางนี้แล้วว่ะ ขวับ!”


หันขวา ( ‘ ‘)


“แกเขาหันมา ขวับ!”


อะไรอะ ?


มองผมแล้วหันไปซุบซิบกันนี่มันคืออะไร ?


ฮือ…น่ากลัว


ผมเม้มปากแน่นพอรู้สึกว่าโดนมองมาก ๆ เข้า ผมจึงก้มหน้าลงแล้วเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นกว่าเดิมแต่เพราะแบบนั้นทำให้ตามองเห็นแต่พื้น ไม่เห็นทางด้านหน้าเป็นผลให้ผมเดินชนกับใครบางคนเข้าอย่างจัง


“กรี๊ดดดด” เสียงกรีดร้องดังขึ้นในขณะที่ตัวผมเองก็กำลังล้มลงกับพื้นเนื่องจากแรงกระแทก แต่แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคนที่ผมเดินชนเป็นผู้หญิง


“โอ๊ย!” ผมและอีกฝ่ายล้มลงกับพื้นเต็มแรง ผิวหนังบางส่วนถลอกปอกเปิกเนื่องจากถูไถไปกับพื้นซีเมนต์เป็นผลให้เกิดอาการแสบยิบ ๆ ขึ้นมาตามผิวหนัง ผมนิ่วหน้าเจ็บ รู้สึกอยากตีตัวเองสักสิบทีที่ไม่มองทาง แต่เหมือนความซวยมันยังไม่จบสิ้นเพียงเท่านี้ เมื่อแก้วน้ำที่อีกฝ่ายถือหลุดมือลอยขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะตกลงมาเป็นกราฟพาราโบลาเนื่องจากแรงโน้มถ่วงโดยมีทิศทางเข้าสู่ศูนย์กลางของโลก ซึ่งศูนย์กลางของโลกที่ว่านั่นมันดันอยู่ตรงหัวของผมพอดี!


ซ่า!


อื้อหือ…อย่างเย็น



“เดินยังไงของแกกันย่ะ!” ผมยกมือไปหยิบแก้วน้ำพลาสติกบนหัวออกก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายแล้วบอก


“เลขอโทษ”


กึก!


เธอเหมือนอึ้งไปชั่ววูบ แต่แค่ชั่ววูบเท่านั้น “ขอโทษแล้วมันหายไหม!!”


แล้วจะให้ผมทำยังไงอะฮือ ToT


“เลขอโทษ”


“น่ารำคาญ!”


“ขอโทษ”


“หุบปาก!”


“…” ผมเม้มปากแน่น ส่วนตัวก็โกรธอยู่ลึก ๆ พูดเบา ๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องตะคอกเลย


“แล้วจะนั่งกับพื้นทำไม! ลุกขึ้นสิยะอย่าโง่!”


โดนว่าอีกแล้ว ผมเม้มปากแน่นแล้วลุกขึ้นยืนตามที่เธอบอก พอได้สบตากับอีกฝ่ายถึงรู้ว่าเป็นคนที่เรียกได้ว่าสวยจัดเลยทีเดียว

 
“มองหน้าทำไม หาเรื่องเหรอ”


“เลเปล่า” ผมรีบปฏิเสธแต่เหมือนคำปฏิเสธมันจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของอีกฝ่าย เมื่อมือบางยื่นมาผลักผมเต็มแรงจนแทบจะทำให้ล้มลงไปกับพื้นอีกรอบ


ผลัก!


“ก็เห็น ๆ อยู่ว่ามอง ทำไม! อยากมีเรื่องเหรอ”


“มีเรื่องอะไรเหมียว” ผู้หญิงอีกสองคนเดินเข้ามาหาพวกเรา คงจะเป็นเพื่อนของคนตรงหน้าผม


“มันมาเดินชนกูแล้วก็มองหน้า”


“เลเปล่านะ เลไม่ได้มอง” ผมรีบปฏิเสธ เดินชนผมไม่เถียงแต่มองหน้าไม่ใช่แน่ ๆ แต่เพื่อนกลุ่มเดียวกันย่อมมีนิสัยคล้ายกัน เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเหมือนกันเปี๊ยบ


“อะไร หาเรื่องเพื่อนกูเหรอ”


“เลเปล่า” ผมพูดเสียงเบาเพราะรู้สึกเหมือนว่าจะพูดให้ดังยังไงมันก็คงไม่เข้าหูพวกเธอ


“เปล่าอะไรก็เห็น ๆ กันอยู่!”


“เล…เปล่านะ!”


“ยังจะมาเถียง!”


เพี๊ยะ!


เสียงฝ่ามือกระทบกับผิวแก้มดังขึ้น เมื่อมือบางของใครบางคนฟาดลงมาที่แก้มผมแบบเต็มกำลัง มันแรงพอที่จะทำให้หน้าของผมสะบัดไปตามแรงตบพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดที่ไหลซิบบริเวณมุมปาก ผมเบิกตากว้างขณะหันหน้ากลับมามองผู้กระทำด้วยความตกใจ


วินาทีนี้ทุกอย่างเหมือนถูกดูดเข้าไปในสุญญากาศ รอบตัวผมเงียบไปหมด ไม่มีเสียงอะไรสักอย่าง ไม่มีเสียงลม ไม่มีเสียงคุย แม้กระทั่งเสียงของลมหายใจ เหมือนตัวเองลืมวิธีหายใจไปโดยอัตโนมัติก่อนจะมารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อมือคู่นั้นตั้งท่าว่าจะฟาดเข้ามาเป็นครั้งที่สอง ผมหลับตาแน่นเมื่ออีกฝ่ายฟาดมือผ่านอากาศและเตรียมตะปบลงมาที่แก้มของผมอีกครั้ง แต่ก่อนที่มือบางจะมาถึง เสียงบางอย่างก็ดังลั่นขึ้นมาเสียก่อน


ปรี๊ดดดดดด


“เฮ้ยๆ! ทำอะไรกัน” เสียงนกหวีดปลุกสติให้กับคนรอบตัวผมที่เงียบเปลี่ยนมาเป็นเสียงเซ่งแซ่แทน


“มึงไปก่อนเหอะพวกพี่สตาร์ฟปีสามมาว่ะ” เพื่อนข้างกายอีกฝ่ายบอกท่ามกลางความชุลมุนของกลุ่มคนที่กำลังจะเข้ามาห้ามพวกเราออกจากกัน เธอมองหน้าผมสลับกับกลุ่มรุ่นพี่ที่กำลังวิ่งเข้ามา ก่อนจะกัดฟันแล้ววิ่งออกไปจากที่เกิดเหตุ ทิ้งให้ผมที่เป็นผู้กระทำได้แต่ยืนงงไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อ


“น้อง ๆ” ไหล่ถูกมือจับหันไปทางด้านหลังก่อนจะสบตากับใครสักคนที่รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาชอบกลและเหมือนอีกฝ่ายจะคิดเช่นเดียวกันกับผม ทว่าผมนึกชื่อของคนตรงหน้าไม่ออก “น้องเล!”


แต่พอได้ยินเสียงผมถึงนึกชื่อของเขาออก


“พี่ตี๋!!”





พี่ตี๋คือลูกเจ้าของร้านโจ๊กชายสี่ตรงหัวมุมในตลาด เป็นร้านประจำของผม (โจ๊กวันนี้ของร้านของพี่ตี๋) เพราะกินมาตั้งแต่มอสามยันปีหนึ่งเลยได้ซี้กับตระกูลนี้เป็นอย่างดี เริ่มจากรู้จักเฮียขาวเจ้าของร้านลามไปถึงครอบครัว พี่ตี๋คือพี่ใหญ่สุดในบ้าน มีน้องอีกสามคนชื่อ ตั๋ง ต้า และเต้


“เลเจ็บไหม” เสียงทุ้มถามหลังจากพาตัวผมมาที่ห้อง ๆ หนึ่งในตึกคณะวิศวะ “แก้มแดงมากเลยนะ”


“เจ็บตอนโดนตบแต่ตอนนี้ปวด ๆ มากกว่า”


“เอาน้ำแข็งประคบไหม เหมือนมันจะบวม ๆ ด้วยนะ”


“ไม่เอาดีกว่า เลไม่ชอบของเย็น ๆ”


“ไม่เอาจริงเหรอ”


ผมส่ายหน้า พี่ตี๋ไม่ว่าอะไรแต่เดินไปเปิดตู้ในห้อง เขาค้นอะไรบางอย่างก่อนจะยื่นมันมาให้


“อ่ะ”


“อะไรเหรอ”


“เสื้อผ้า เลเอาไปเปลี่ยน เปียกหมดแล้วนะเรา”


“พี่ตี๋ใจดีจัง” เขาถอนหายใจพลางมองหน้าผม


“ดูสภาพตัวเองก่อนแล้วค่อยมาพูด”


ทำไมอะ ? สภาพผมมันเป็นยังไง ?


ผมไม่ได้ถามเพราะพี่ตี๋พูดขึ้นมาก่อน


“พี่ไม่เห็นรู้ว่าเลเลือกเรียนวิศวะ”


“เลเรียนตามพ่อ” ร่างสูงเหมือนสะดุ้งไปนิด ผมสังเกตเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ซีดเซียวลงกว่าเดิม พี่ตี๋หันซ้ายหันขวาเหมือนสำรวจว่ามีคนอยู่หรือเปล่าก่อนจะหันมาถามผมเสียงเบา


“แล้วพ่อเราล่ะ เลไม่ได้มากับพ่อเหรอ”


“พ่ออยู่บนเครื่องกำลังกลับมาจากอังกฤษ ประมาณบ่ายโมงคงจะถึง” ผมตอบก่อนจะก้มลงสำรวจเสื้อผ้าในมือ มันเป็นชุดเดียวกันกับตัวที่ผมกำลังใส่เปี๊ยบเลย


“อ๋อ”


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


เกิดเสียงเคาะประตูห้อง พี่ตี๋เดินไปเปิดประตูก่อนผู้ชายตัวผอม ๆ จะเดินเข้ามาพร้อมกับโยนอะไรบางอย่างไปให้พี่ตี๋


“ป้ายชื่อของคนที่มึงบอกให้กูไปลงทะเบียนให้ อ้อ! ไอ้พลเรียกให้ไปช่วยยกของด้วย” พี่ตี๋รับไปดูแล้วยื่นมาให้ผม


“นี่ป้ายชื่อของเล เปลี่ยนชุด เอาไปใส่แล้วรักษาให้ดี ๆ ด้วยรู้ไหม” ผมรับป้ายสีฟ้ามาพร้อมกับพยักหน้าสองสามทีแล้วยิ้มจนตาหยี่พลางบอก


“รับทราบ”


“เชี่ย…น่ารักฉิบหาย”


อะไร น่ารัก ๆ นะ เมื่อกี้ไม่ค่อยได้ยิน ?


“สัสบอม มึงออกไปเลยไป” พี่ตี๋ไล่เพื่อนตัวผอมทว่าอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่ง นัยน์ตาคมภายในกรอบแว่นทรงสี่เหลี่ยมมองมาที่ผม


“มึงนั่นแหละที่สัส! มีของดีไม่แบ่งให้เพื่อนชมบ้าง”


“ไอ้เชี่ย ระวังปากมึงหน่อย” พี่ตี๋พูดเสียงเบาเหมือนไม่อยากให้ใครได้ยินก่อนจะพยายามดันตัวเพื่อนออกจากห้อง “ไป ๆ มึงออกไปพร้อมกับกูเลยก็ได้”


“รีบอะไรนักหนาวะ อยู่ต่ออีกนิดก็ได้”


“ไหนมึงบอกไอ้พลเรียกให้ไปช่วยยกของไม่ใช่เหรอ ออกไปเลยมึง! ตอนนี้เลย! เลครับพี่ต้องไปแล้ว ห้องน้ำอยู่ทางทิศตะวันตกเดินตรง ๆ ไปเดี๋ยวก็เห็น อ้อ! แต่เป็นห้องน้ำเก่านะระวังประตูล็อคด้วย เอาไปเปลี่ยนเองได้ใช่ไหม”


“ไอ้ตี๋มึงอย่าดัน! น้องเลพี่ขอบะ—”
พี่บอมกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่โดนพี่ตี๋ปิดปากเอาไว้ก่อน ผมมองผู้ชายสองคนที่กำลังดันตัวกันไปมาจากนั้นจึงพยักหน้า


“เลไปได้”


“งั้นพี่ไปแล้วนะ รีบเปลี่ยนแล้วเดินไปรวมตัวที่ห้องโถงใหญ่นะ”


“อื้อ! บ๊ายบาย”


ปัง!





“ไอ้สัส!”
คนโดนด่ามองหน้าคนด่า หลังจากที่ตี๋ลากเพื่อนออกมานอกรัศมีของห้องนอกเลเป็นที่เรียบร้อยแล้วหรืออย่างน้อยน้องเลก็ไม่น่าจะได้ยินประโยคที่พวกเขาจะคุยกันแล้ว “มึงจะลากกูออกมาทำส้นตีนอะไร มึงก็รู้ว่าสเปคกูเป็นยังไง”


ไอ้บอมเป็นเพื่อนของเขา ภายนอกมันเหมือนคนจีบคนอื่นไม่เป็นเพราะบุคลิกมันเป็นคนผอม ๆ แต่แท้จริงแล้วคนที่มีหญิงและชายเยอะที่สุดในกลุ่มก็คือมันนี่แหละ


“คนนี้ไม่ได้ มึงห้ามเลย”


“ทำไมวะหรือมึงจองแล้ว ?”


“เปล่ากูไม่ได้จอง”


“แล้วจะห้ามกูทำไม คนสวยแต่ไม่มีใครชมมันเสียของ”


“กูบอกว่าห้ามก็ห้ามสิวะ! มึงอยากม่อใครก็ช่างแต่คนนี้อย่าเลยดีกว่า”


“กูขอเหตุผล”


“หน้าอย่างมึงน้องเลไม่แลหรอก”


“กวนกูละ บอกมาว่าทำไม”


ตี๋ถอนหายใจขณะมองหน้าที่เพื่อนที่คาดว่าจะไม่หยุดจนกว่าจะรู้เหตุผลที่แท้จริง ดังนั้นเขาเลยต้องจำใจบอกไป


“เพราะพ่อของเล…”




ผมไม่ค่อยชอบการเข้าห้องน้ำสาธารณะอยู่อย่างหนึ่ง


ไม่ใช่เพราะการอนามัยจนไม่กล้าใช้ห้องน้ำร่วมกับคนอื่น แต่เป็นเพราะว่า…


“เหี้ย!” ผู้ชายคนหนึ่งถึงกับสบถออกมาทันทีที่เห็นผมเดินเข้ามาในห้องน้ำชาย ก่อนจะลุกลี้ลุกลนเก็บหนอนให้ระเห็ดเข้าเป้ากางเกง นั่นคือปฏิกิริยาของผู้ชายคนแรก แต่คนที่สอง สาม สี่ก็มีท่าทีคล้าย ๆ กัน ผมโดนแบบนี้บ่อยมากไม่รู้ทำไมทั้ง ๆ ที่หนอนผมก็มี พอไปถามพ่อ พ่อไม่ตอบแต่บอกว่าเวลาจะชิ้งฉ่องให้เข้าไปในห้องแทนอย่ามาปล่อยด้านนอกให้คนอื่นเห็นเด็ดขาด


ผมเลยเดินเข้าไปในห้องก่อนจะค่อย ๆ ถอดชุดเปียก ๆ


ปัง!


แกร๊ก


หือ…เสียงอะไรอะ ?


ผมข่มความสงสัยเอาไว้แล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเป็นชุดใหม่ที่พี่ตี๋ให้แทน โอโห้ อย่างกับรู้ไซต์ผม พอดีเป๊ะ! เลย ผมหยิบเสื้อและกางเกงเปียก ๆ ของตัวเองมาพับให้เรียบร้อย ค่อย ๆ เปิดประตูห้องน้ำออกไป


สิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกกับผู้ชายอีกสี่คนกำลังยืนพิงผนังอยู่คนละมุม และประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท


ผมขมวดคิ้วกำลังสงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่ออกไปกัน แต่พอเดินไปบิดลูกบิดของประตูห้องน้ำผมถึงได้รู้คำตอบ เมื่อประตูมัน…



“เปิดไม่ออก”








*หนึ่งตอนผ่านไปพระเอกของเราก็ไม่แม้แต่จะโผล่ชื่อมาให้ได้อ่าน
ใบ้ให้ไหม ? ใครเคยอ่านเมียหมอพระเอกคือเพื่อนของพี่เสือที่หล่อ ๆ และรวย ๆ หน่อย
จะสังเกตว่าทั้งเรื่องคนที่ลึกลับและเกี่ยวพันกับเลมากที่สุดคือพ่อของน้องเล
เราเลือกลงวันที่ 13 สิงหาก็เพราะแบบนั้นแหละ จริง ๆ จะลงวันที่ 12 สิงหาเพราะเป็นวันแม่แต่ลงไม่ทัน
สำหรับตอนต่อไปก็ได้แต่เฝ้ารอให้พ่อยอมออกมา...
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 14-08-2016 19:50:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: That XN ที่ 14-08-2016 20:21:44
ชอบๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-08-2016 20:36:08
ยัยเหมียว เป็นบ้าอะไร ใหญ่มาจากไหนเหรอ
ทั้งผลักล้ม ทั้งตบ อะไรขนาดนั้น
เขาล้มมีแผลถลอก ยังตบ และจะซ้ำอีก?
เพราะเล น่ารัก สวยกว่า? งงงงงง
แต่เล อ่อนด๋อยจัง ไม่มั่นใจในตัวเอง
แค่เดินเข้าไปในคณะก็กลัวและ
แถมเป็นคณะที่เถื่อน โหด จะเรียนยังไง?
เล จะสู้คน จะเอาคืนยัยเหมียวได้ป่ะ?
แล้วคนที่ดูแลเล หายไปไหน :katai1: :katai1: :katai1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 14-08-2016 20:54:21
อ้างถึง
ยัยเหมียว เป็นบ้าอะไร ใหญ่มาจากไหนเหรอ
ทั้งผลักล้ม ทั้งตบ อะไรขนาดนั้น
เขาล้มมีแผลถลอก ยังตบ และจะซ้ำอีก?
เพราะเล น่ารัก สวยกว่า? งงงงงง
แต่เล อ่อนด๋อยจัง ไม่มั่นใจในตัวเอง
แค่เดินเข้าไปในคณะก็กลัวและ
แถมเป็นคณะที่เถื่อน โหด จะเรียนยังไง?
เล จะสู้คน จเอาคืนยัยเหมียวได้ป่ะ?
แล้วคนที่ดูแลเล หายไปไหน :katai1: :katai1: :katai1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


อยากตอบทุกคำถามเลยแต่กลัวมันจะเป็นการสปอย
เอาเป็นว่านี่พึ่งตอนแรกค่ะ อ่านไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็รู้เองเนาะ 
:katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: we.jinkyu ที่ 14-08-2016 20:54:34
ชอบ ชอบ ~~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 14-08-2016 21:30:42
ใครน้า แล้วพ่อน้องเลคืออะไรยังไงอะ  :ruready :hao4:






   
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 14-08-2016 22:02:45
รอตอนต่อไปจร้า ^^
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 14-08-2016 22:39:47
น้องเลน่ารักจัง
ว่าแต่จะเอาตัวรอดได้ไหมหนอ
รอติดตามนะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: BaGgYsOdA ที่ 14-08-2016 22:57:18
รอๆ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 14-08-2016 23:20:27
มาตอนแรกน้องเลก็โดนตบละ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 15-08-2016 01:10:08
พ่อเล...รอเลยจ้า รอพ่อเลเลยจ้า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140816#1 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: ::ppppop:: ที่ 15-08-2016 08:57:58
เอ็นดูว :-[
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 24-08-2016 21:23:18
#2

10.20 นาที

สองชั่วโมงกว่าแล้ว…

สองชั่วโมงกว่าที่ผมควรจะได้ไปทำกิจกรรมร่วมกับปีหนึ่งคนอื่น

ทว่าตอนนี้มันกลับ ‘ไม่ใช่’
   
“ปัง! ปัง! ช่วยด้วยใครก็ได้!”
   
“หยุดแหกปากซะทีเล”
   
“เอาลูกอมไหมมึง”

“ไม่”

“…”   

เพราะสองชั่วโมงกว่าที่ผมควรจะได้เจอกับเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ หรืออะไรที่มันใหม่ ๆ กลับต้องมาติดแหงกอยู่ในห้องน้ำที่เปิดไม่ได้กับผู้ชาย

อีกสี่คน…

   
ปัง! ปัง! ปัง!
   
“ช่วยด้วย! เราติดอยู่ในห้องน้ำ!”
   
ปัง! ปัง!
   
“ใครก็ได้ช่วยที!”
   
ปัง!
   
“ช่วย! แค่ก ๆ” ผมเผลอไอค่อกแค่กออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เนื่องจากใช้เสียงมากเกินเหตุ จนตอนนี้ก็เริ่มจะเจ็บคอแล้วด้วย แต่ไม่เจ็บคอน่ะสิแปลก เพราะผมตะโกนขอความช่วยเหลือมาได้สองชั่วโมงกว่าแล้ว นั่นหมายความว่าเราติดอยู่ในห้องน้ำนี่มาได้สองชั่วโมงกว่าเช่นเดียวกัน ผมฟุบหน้าลงกับประตูห้องน้ำที่เปิดไม่ออก ก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อนใหม่ในห้องน้ำ เริ่มจากคนที่หนึ่ง “เกี๊ยก…เลตะโกนต่อไปไม่ไหวแล้ว ฮือ เค้าเจ็บคอ แค่ก ๆ”
   
เพื่อนใหม่หันมามองหน้าผมนิ่ง ๆ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างไร้มนุษยสัมพันธ์
   
“เรื่องของมึง”
   
ง่ะ!

“เกี๊ยก…ใจร้าย” ผมเม้มปากขณะแนบแก้มเข้ากับประตูห้องน้ำแล้วถูไถไปมา

“ก็กูบอกให้มึงหยุดแหกปากตั้งนานแล้ว”

"แต่เกี๊ยก ๆ ถ้าเราไม่ตะโกนแล้วมีคนเดินผ่านมา ใครจะรู้ล่ะว่าพวกเราติดอยู่ในห้องน้ำ” ผมเถียงด้วยเหตุผลแต่ประโยคที่อีกฝ่ายตอบกลับมาก็ทำเอาหน้าชาเหมือนกัน

“แล้วมึงคิดว่าจะมีคนเดินผ่านมาเหรอ ?”


“เกี๊ยก…” อย่าพูดเหมือนว่าความพยายามของผมมันจะเปล่าประโยชน์สิ!

“กูบอกแล้วไงว่าตะโกนไปก็ไม่มีประโยชน์ ห้องน้ำนี่มันอยู่ไกลจากห้องเชียร์ ใครจะมาเดินเผ่นผ่านเวลานี้”

มันก็จริงของเขา เวลานี้ทุกคนในคณะไปรวมตัวที่ห้องเชียร์กันหมด คงไม่มีใครมาเดินเผ่นผ่านอย่างที่เขาบอก แต่ถ้างั้นก็หมายความว่าความพยายามของผมมัน ปะ…เปล่าประโยชน์จริง ๆ น่ะสิ! ฮือ คนเค้าอุตส่าห์ตะโกนตั้งนาน!

แล้ววันนี้มันเป็นความโชคร้ายของผมหรืออะไรก็ไม่รู้ เมื่อวันนี้อุปกรณ์ติดต่อสื่อสารที่สำคัญของทุกคนอย่างโทรศัพท์ ดันใช้การไม่ได้กันหมด เดี๋ยวก็แบตหมดบ้าง เดี๋ยวก็โทรออกไม่ได้บ้าง เดี๋ยวก็ไม่พกบ้าง ส่วนของผมนั้น พึ่งนึกได้ว่าตั้งแต่ลงมาจากรถพี่ไทด์ผมก็ไม่ได้เอาอะไรลงมาด้วยเลยแม้แต่อย่างเดียว (ตอนนี้เงินติดตัวบาทเดียวผมยังไม่มีด้วยซ้ำ!)

คิดได้ดังนั้นผมจึงเดินคอตกด้วยความห่อเหี่ยวใจไปนั่งลงข้าง ๆ เพื่อนใหม่คนที่สอง

“ไซยาไนด์”

“กูบอกว่ากูชื่อพิษ”

“ไซยาไนด์ก็พิษ”

“คนละพิษแล้วไอ้น้อง” อีกฝ่ายว่าด้วยท่าทีไม่ถือโทษโกรธเคือง พิษคือเพื่อนคนที่สองในห้องน้ำของผม ผมว่าเขาใจดีที่สุดในห้องน้ำนี้ อย่างน้อยก็ดีกว่าเกี๊ยกแน่ ๆ (เกี๊ยกใจร้าย!)

“เลอยากเรียกแบบนี้”

“เออ แล้วแต่มึงเลย”

“พิษใจดีจัง”

“มึงชมใครง่าย ๆ แบบนี้ตลอดหรือเปล่า”

“อื้อ พ่อสอนให้เป็นคนปากตรงกับใจ”

“อยากเห็นหน้าพ่อมึงว่ะ” ผมยิ้มไม่ได้ตอบกลับอะไรขณะลงพิงคนข้าง ๆ แต่หลังจากนั้นไม่นานผมก็ได้เขยิบไปทางเพื่อนใหม่คนที่สามเมื่ออีกฝ่ายมีอะไรน่าสนใจอยู่ในมือ

“อยากเล่น” ผมพูดเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าร่างสูงที่กำลังจะขยับมือบิดรูบิคให้สีเดียวกันมาอยู่ด้านเดียวกัน มองผมเล็กน้อยจากนั้นก็ยื่นให้แบบง่าย ๆ อืม…ถ้าจำไม่ผิดตอนที่แนะนำตัวกันเหมือนเขาจะชื่อเอ็กซ์ ?

“ขอบคุณนะ” ผมรับเอาไว้ก่อนจะเอนตัวพิงอีกฝ่ายแล้วหมุนรูบิคในมือไปมา แต่สิบนาทีผ่านไปลูกบาศก์ทรงสี่เหลี่ยมนี่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าสีเดียวกันมันจะกลับมาอยู่ด้านเดียวกัน “ยากจัง”

“…”

“ไม่เล่นแล้ว!” ผมส่งกลับคืนมือหนา ทว่าอีกฝ่ายไม่รับแต่เอื้อมมือทั้งสองข้างมาจับมือผมแล้วพาเล่นแทน

ครืด ครืด ครืด

เสียงรูบิคที่กำลังเคลื่อนที่ไปมากลับกลายมาเป็นเสียงก้องทันทีเมื่อไม่มีบทสนทนาในห้องน้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แห่งนี้ มือหนากุมมือผมให้บิดรูบิคไปในทิศทางที่ต้องการอย่างชำนาญและสักพักมันก็เกิดเสียง…

แกร๊ก!

สีเดียวกันกลับมาอยู่ด้านเดียวกันเป็นที่เรียบร้อย

หากว่าผมกลับไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับผลลัพธ์ตรงหน้า
   
เพราะตอนนี้ผมกลับรู้สึกง่วง ง่วงมาก ง่วงจริง ๆ …
   
Zzzzzzz




2 ชั่วโมงต่อมา

กลิ่นฉุนจมูกจากอะไรบางอย่างทำให้ผมต้องเบิกตาโพล่ง และทันทีที่ตื่นอาการไอและจามก็ตามมาทันที

“แค่ก ๆ ฮัดชิ้ว! แค่ก ๆ”

“ตื่นแล้วเหรอ—”

ผมไม่สนคำทักทายของพิษแต่รีบลุกจากที่นั่งแล้วตรงดิ่งไปยังอ่างล่างหน้าพร้อมกับเปิดก๊อกแล้วกวักน้ำขึ้นล้างหน้าจนชุ่มไปหมด ทว่าอาการไอก็ยังไม่หายไป

“แค่ก ๆ ๆ” ผมจึงรีบยกมือขึ้นปิดจมูกต่อ อาการผิดปกติของผมทำให้เกี๊ยกลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนจะเดินมาหาแต่ทันทีที่มือหนาแตะที่บ่าผมก็ปัดมือของเขาออ ก่อนจะรีบวิ่งหนีไปที่อื่นแทน

“มึงเป็นอะไร” อีกฝ่ายถามอย่างไม่เข้าใจ ในขณะเดียวกันผมก็เกิดอาการไอจนตอบไม่ได้เลยได้แต่ชี้ไปที่มือของเขารัว ๆ เกี๊ยกขมวดคิ้วก่อนจะยกมือขึ้น จากนั้นจึงเบิกตากว้างแล้วรีบดับสิ่งที่อยู่ในมือ เสียงทุ้มสบถออกมา “เวรเอ้ย! มึงแพ้กลิ่นบุหรี่เหรอ”

ผมส่ายหน้า คิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นหนักถึงขนาดนั้นที่ต้องเรียกว่าแพ้

สิ่งที่อยู่ในมือของเขาคือบุหรี่ และมันยังเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจเรียกได้ว่าเกลียดอย่างเต็มปาก (แต่ไม่ชอบแน่ ๆ) เพราะพ่อหรือแม้แต่พี่ ๆ ที่บ้านนี่ก็เป็นสิงห์อมควันกันทั้งนั้น ผมไม่ได้แพ้กลิ่นบุหรี่ ไม่ได้เป็นหนักถึงขนาดที่ว่าแค่ได้กลิ่นก็รู้สึกแสบจมูก แสบตา น้ำตาจะไหลขนาดนั้น แต่เวลาผมได้กลิ่นแล้วจะรู้สึกอยากไอหรือไม่ก็จาม แล้วก็ต้องเป็นควันในปริมาณมากพอสมควรด้วย (ประมาณว่าถ้าสูบแค่คนเดียวผมจะไม่ไอหรือถ้าไอก็แสดงว่าเขาสูบมานานมากแล้ว)

และในตอนนี้ ผู้ชายสามคนกำลังรีบดับบุหรี่ในมือพร้อมกับปัดมือเพื่อไล่ควันออกจากห้องให้ผม แต่เพราะมันเป็นแค่ห้องน้ำขนาดกลาง ๆ และเก่า พัดลมดูดอากาศก็ไม่มี มีแต่หน้าต่างบานเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านบนทำให้ผมต้องไอค่อกแค่กอยู่เกือบสิบนาที จนควันเริ่มหายไปอาการไอจึงเริ่มดีขึ้นบ้าง

“เป็นยังไง ดีขึ้นบ้างไหม” เกี๊ยกจะเดินเข้ามาผมอีกครั้ง

“อย่าพึ่งเข้ามา แค่ก! ตัวนายยังมีกลิ่น” และคราวนี้ผมก็ถอยออกห่างเขาอีกครั้งจนบังเอิญไปชนกับใครบางคนที่นั่งอยู่ “อ๊ะ! ขอโทษ”

ผมรีบบอกขณะก้มหน้าลงมองก่อนจะบังเอิญสบสายตากับอีกฝ่ายพอดี พอได้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มผมถึงพึ่งนึกได้

ให้ตายสิ…

ผมลืมเพื่อนคนที่สี่ไปซะสนิทเลย

ผมจำชื่อของเขาได้เพราะผมชอบชื่อของเขา มันเพราะดี

บดินทร์ ที่แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ ทว่าคนกลับดูเหมือนไม่ยิ่งใหญ่เหมือนชื่อ เพราะถ้าไม่รู้จักว่าเขาชื่อบดินทร์ ผมคงจะเรียกอีกฝ่ายว่า…

“แว่น” ใครมาอ่านความคิดเล! “มึงมีหน้ากากอนามัยอีกไหม”

ไซยาไนด์เป็นคนถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายใส่อยู่เหมือนกัน ดังนั้นเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่สวยแต่ถูกบดบังด้วยแว่นทรงกลมกรอบหน้าเตอะกับหน้ากากอนามัยที่ปิดหน้าเกินครึ่งจึงได้แต่พยักหน้าเบาสองสามที พร้อมทั้งล้วงมือเขากระเป๋าแล้วหยิบหน้ากากอนามัยออกมาให้ผม

“ขอบคุณนะ” ผมบอกขอบคุณอีกครั้ง ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ดินเพราะไม่รู้ว่าจะนั่งข้างใครดี ก็ในเมื่อสามคนที่เหลือสูบบุหรี่กันหมดกลิ่นยังติดอยู่ ผมเลยยังไม่อยากเข้าใกล้

พอได้หน้ากากอนามัยอาการไอของผมก็อันตรธานหายไปทิ้งไว้แต่กลิ่นเหม็นจากควันบุหรี่ที่ติดอยู่ตามตัว

“เหม็น” ผมบอกพลางเบ้ปาก “เหม็นจะตายสูบกันลงไปได้ยังไง”

“มึงต้องเหม็นอยู่แล้ว มึงไม่เคยสูบเลยไม่ชินกลิ่น”

“ไม่นี่! บุหรี่ที่พ่อเลสูบไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย!” คือมันก็ต้องเหม็นบ้าง แต่ไม่ขนาดนี้ ผมอธิบายไม่ถูกแต่มันเป็นกลิ่นเหม็นที่มีกลิ่นหอมอยู่ด้วย ว่าแต่พวกเขาสูบยี่ห้อไหนผมจะไม่ให้พ่อซื้อ!

เหมือนเกี๊ยกจะทำหน้าคล้ายแปลกใจเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดเรื่องบุหรี่ต่อ เขาถามคำถามใหม่แทน

“หายดีแล้วเหรอ”

“เลดีขึ้นแล้ว”

“ทำไมมึงไม่บอกว่ามึงแพ้กลิ่นบุหรี่”

“ไม่ได้แพ้!” ผมเถียงก่อนจะตอบคำถาม “ก็ไม่คิดว่าจะสูบกันนี่”

“งั้นทีหลังก็บอกก่อน…”

ทีหลัง ? งั้นก็ต้องมีคราวหน้า…

แสดงว่า!

“แสดงว่าเราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันแล้วใช่ไหม” ผมถามอย่างมีความหวัง ก่อนจะได้รับคำตอบ

“มึงติดอยู่ในห้องน้ำกับกูสี่ชั่วโมงคงไม่เป็นมั้ง เฮ้ย! อะไรของมึง” เสียงทุ้มตวาดอย่างตกใจเมื่อผมกระโดดเข้าไปกอด ผมเขย่าตัวเขาแรง ๆ แล้วบอกด้วยความดีใจ

“เกี๊ยก เลฝากตัวด้วย” ถัดจากเกี๊ยกก็ไปกอดไซยาไนด์

“ฝากตัวด้วย”

“เออ เหมือนกัน”

“เอ็กซ์ ฝากตัวด้วยนะ”

“…”

“แว่น เอ้ย! บดินทร์ฝากตัวด้วย”

“ครับ”

ผมรู้สึกเหมือนจะได้ขึ้นสวรรค์เมื่อได้ยินคำตอบรับจากทั้งสี่คน และทันทีที่ผมจับมือเพื่อนในกลุ่มคนสุดท้ายเสร็จ ราวกับว่าสวรรค์เปิดทาง สี่ชั่วโมงที่พวกผมติดแหงกอยู่ในห้องน้ำนี่เหมือนจะสิ้นสุดลงเนื่องจากได้ยินเสียงคนดังมาจากอีกด้านของประตู

“ปวดฉี่ว่ะขอเข้าห้องน้ำก่อน…”
“เออ เร็ว ๆ เดี๋ยวไปไม่ทันแจกข้าวให้น้อง”


ผมมองหน้าเกี๊ยก เกี๊ยกมองหน้าผม พวกเราห้าคนมองหน้ากันต่อเป็นทอด ๆ ก่อนจะตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน

“ช่วยด้วย! เราติดอยู่ในห้องน้ำ!!!”






ผมออกมาจากห้องน้ำได้แล้ว…

“ติดอยู่ในนั้นสี่ชั่วโมงเลยเหรอ”
“ครับ”
“พวกน้องแม่งดวงซวยว่ะ”


บังเอิญมีรุ่นพี่สองคนมาพบพวกเราเข้า เราเลยได้ออกมา และตอนนี้พวกผมก็กำลังจะเดินไปที่ห้องโถงใหญ่ซึ่งเป็นห้องประชุมเชียร์เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเหมือนกับคนอื่น ๆ โดยมีพี่สตาร์ฟเดินนำหน้า

“เกี๊ยก” ผมหันไปกระซิบคนที่กำลังเดินอยู่ข้าง ๆ “เลตื่นเต้น”

ความรู้สึกเหมือนตอนเช้ากำลังกลับมา เวลาที่ติดอยู่ในห้องน้ำมันนานไปหน่อยทำให้ความตื่นเต้นของผมลดลงจนแทบจะเหลือศูนย์แต่ตอนนี้มันกำลังกลับมาอีกครั้ง

“มันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นหรอก”

“น่าตื่นเต้นจะตาย”

“ไปเจอจริง ๆ เดี๋ยวมึงก็รู้”

“พูดเหมือนรู้มาก่อน”

เขาถอนหายใจระอา แล้วตอบคำถามด้วยคำตอบที่ทำให้ผมตะลึงค้าง

“ก็กูซิ่วมาเรียนปีหนึ่งใหม่”

ซิ่วมาเรียนปีหนึ่งใหม่  งั้นก็!!!

“งั้นเกี๊ยกก็เป็นพี่เล!!!”

“เปล่า”

“อ้าว ทำไมล่ะ” ซิ่วมาเรียนใหม่ก็ต้องเป็นพี่สิ! แล้วผมพูดผิดตรงไหน

“ครั้งก่อนกูเข้าก่อนอายุ แต่ไม่ค่อยถูกกับพวกอายุมากกว่าเลยซิ่วมาเรียนปีหนึ่งใหม่ที่นี่”

“อ๋อ” ผมส่งเสียงในลำคอก่อนความสนใจจะถูกเบี่ยงไปยังสถานที่ขนาดใหญ่ที่มีนักศึกษาคนอื่น ๆ ใส่ชุดเหมือนผม มีป้ายชื่อเหมือนผม กำลังนั่งเรียงตัวกันเป็นแถวจำนวนหลายร้อนคน ฮือ ถึงแล้ว ถึงจริง ๆ ด้วย ในที่สุดผมก็จะได้ทำในสิ่งที่คนอื่นทำเหมือนชาวบ้านชาวช่องเสียที!

“…”

แต่เอ๋…

นี่มันเงียบไปหรือเปล่า ?

แต่แล้วผมก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เพราะทันใดนั้นน้ำเสียงตะโกนก้องห้องเชียร์ก็ดังขึ้นมา


“ผมถามแล้วทำไมพวกคุณไม่ตอบ!!”
“ข้าวเที่ยงน่ะ ไม่อยากกินใช่ไหม!!”
!!!!!!!!!



นี่มันอะไรกันเนี่ย…



ผมไม่เคยคิดฝันว่ามันจะเป็นแบบนี้…

ผมนึกว่าทุกคนที่มาในวันนี้จะมีความสุขเสียอีก ทว่าถ้ามองจากสีหน้าของแต่ละคนแล้ว น่าจะห่างจากคำว่า ‘ความสุข’ และแทนที่ด้วย ‘ความทุกข์’ มากกว่า

บรรยากาศภายในห้องเชียร์ตอนนี้ มันอึมครึมเสียจนผมคลื้นไส้อยากจะอาเจียนออกมา ทว่าก็ต้องอดกลั้นมันเอาไว้ เมื่อกลุ่มบุคคลที่น่าจะเป็นต้นเหตุของความทุกข์ตวัดไปหน้ามองมาทางพวกผมที่พึ่งจะเดินเข้ามา ก่อนจะตะโกนถามด้วยน้ำเสียงดังลั่นจนทำให้คนอื่น ๆ หันมามองตามด้วยคนสนใจ

“เฮ้ย! ห้าคนนั้นน่ะทำไมพึ่งเข้ามา”

โชคดีพี่ที่พาพวกเราเดินเข้ามาออกหน้ารับแทนให้

“น้องเขาโดนขังอยู่ในห้องน้ำเก่า ประตูห้องน้ำมันล็อค”

“เหรอ งั้นก็ไปนั่งต่อแถวกับเพื่อนเลย” ผมถอนหายใจโล่ง ถึงพวกพี่เขาจะดุแต่ก็ยังมีเหตุผลละนะ

พวกเราไม่ได้ตอบแต่พยักหน้าสองสามที ก่อนเกี๊ยกจะดึงมือผมให้เดินตามเขา ผมรู้สึกประหม่าเมื่อเห็นสายตาของทุกคนที่กำลังมองมาอย่างสนอกสนใจ เลยเดินอยู่ข้างหลังแผ่นหลังกว้างพยายามทำตัวเป็นคนไร้ตัวตนให้ได้มากที่สุด แต่ยิ่งพยายามก็ยิ่งรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเด่นกว่าเดิมขึ้นเรื่อย ๆ

“เกี๊ยก” ผมกระซิบเรียกคนตรงหน้า “เลรู้สึกไม่ดีเลย”

นัยน์ตาคมหันมามองแต่ขายาวยังไม่หยุดเดิน “เป็นอะไร”

“เหมือนคนอื่นเขามองเลแปลก ๆ”

“เออ”

จะ…จบแล้วเหรอ!

แต่พอเกี๊ยกว่าดังนั้นผมก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อ เลยได้แต่เดินตามอีกฝ่ายไปแบบเงียบ ๆ จนกระทั่งถึงปลายแถว ในจังหวะที่กำลังจะนั่งลงสายตาของผมก็บังเอิญไปประสานกับใครสักคนเสียก่อน

เจ้าของนัยน์ตากลมโตรับกับใบหน้าสะสวยที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ รอบตัวร้ายล้อมไปด้วยพี่ว้ากที่กำลังทำหน้าดุ

ผมจำได้เธอชื่อเหมียว แถมยังเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับที่ผมพึ่งมีเรื่องด้วยเมื่อเช้า!

“เล นั่งลงได้แล้ว” พิษเอ่ยเสียงเรียบพลางดึงมือผมเบา ๆ เพราะตอนนี้คนอื่น ๆ นั่งลงกันหมดแล้ว ผมพยักหน้าตอบรับเป็นจังหวะเดียวกันที่พี่เหมียว (สังเกตจากรูปการเธอน่าจะเป็นรุ่นพี่ของผม) หันไปกระซิบกระซาบบางอย่างกับผู้ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “เลนั่งได้แล้ว”

“อือ” ผมเลิกสนใจอีกฝ่ายขณะกำลังนั่งลงตามที่พิษบอก แต่แล้ว…

“เดี๋ยว” เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกอย่างกะทันหันทำให้ก้นที่กำลังจะแตะลงพื้นต้องชะงักกลางอากาศ “อย่าพึ่งนั่ง”

ผมเงยหน้ามองคนพูดเขาคือผู้ชายคนเดียวกันกับที่พี่เหมียวพึ่งหันไปกระซิบกระซาบ

“มีอะไรวะซัน” หนึ่งในกลุ่มพี่ว้ากถามขึ้น เจ้าของชื่อซันมองมาที่ผมแล้วเอ่ยเสียงเรียบ

“ติดอยู่ในห้องน้ำกันตั้งห้าคน แต่ไม่มีโทรศัพท์กันเลยสักคนอย่างงั้นเหรอ ? แน่ใจนะครับว่าพวกคุณไม่ได้ตั้งใจจะโดด”

เพื่อนสี่คนที่พึ่งนั่งลงไปต้องกลับมายืนเคียงข้างผมอีกครั้ง แถมคราวนี้พวกเรายังเป็นที่น่าสนใจมากกว่าเดิมอีก

“โทรศัพท์น่ะครับ มีแต่มันใช้ไม่ได้ ถ้าไม่เชื่อก็มาค้นตัวดู” พิษตะโกนบอกขณะดึงตัวผมให้ไปหลบอยู่ด้านหลังของเขา พี่ซันหรี่สายตามองก่อนจะปรายตาให้เพื่อนเป็นนัยน์ ๆ ว่าให้มาค้นตัวพวกผม

พี่ว้ากคนอื่น ๆ ทำท่าไม่เหมือนด้วยนิดหน่อยแต่เหตุผลที่อีกฝ่ายว่ามามันก็มีเหตุผลพอ ติดอยู่ในห้องน้ำตั้งห้าคนแต่โทรศัพท์ใช้ไม่ได้สักคน มันก็น่าสงสัยจริง ๆ

ผมยืนมองเพื่อนใหม่สี่คนที่กำลังยืนอ้าแขนออกให้กลุ่มรุ่นพี่ตรวจได้อย่างง่าย ๆ จนกระทั่งถึงตาผมบ้าง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะอ้าแขนออกให้รุ่นพี่ตรวจ ดินก็เอาตัวเข้ามาบังผมไว้ ก่อนเอ่ยเสียงเรียบกับร่างสูงตรงหน้าที่เดินมาหา

“เลไม่ได้เอาโทรศัพท์มา” เพื่อไม่ให้รุ่นพี่รู้สึกตะขิดตะควงผมจึงรีบควักกระเป๋ากางเกงออกมาให้ดูว่ามันไม่มีอะไรอยู่จริง ๆ

จากนั้นพี่ว้ากที่ชื่อเอก (ผมรู้จากป้ายชื่อ) จึงได้ประกาศความบริสุทธิ์ให้พวกเรา…

“ไอ้ซันโทรศัพท์พวกน้องใช้ไม่ได้จริง ๆ” พี่เอกตะโกนไปหาพี่ซันที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม นัยน์ตาคมมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า พอพี่ซันไม่ได้พูดอะไรพี่เอกซึ่งเป็นฝ่ายพูดแทน “งั้นน้องนั่งลงเลย”

เกี๊ยกรีบจับมือผมให้นั่งลงตามเขาทันทีที่พี่เอกบอกแต่ในระหว่างที่กำลังนั่งลง ลมจากที่ไหนไม่รู้อยู่ ๆ ก็พัดเอาฝุ่นมาเข้าตาผม แสบเสียจนจนต้องเผลอปล่อยมือเกี๊ยกมาขยี้ แต่พอปล่อยปุ๊บตัวผมก็ดันเซไปให้คนที่อยู่ไม่ไกลรับตัวแทน

กึก!

ผมรับรู้ถึงสัมผัสที่ไหล่จึงรีบปล่อยมือออกจากตา ก่อนจะพบว่าพี่ว้ากที่ตั้งท่าจะหาเรื่องตั้งแต่โดนพี่เหมียวกระซิบอะไรบางอย่างกำลังยืนอยู่ทางด้านหลัง แถมยังใกล้มากพอที่จะ…

“กลิ่นบุรี่”

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

แย่แล้ว

บรรยากาศภายในห้องเชียร์จากเงียบเปลี่ยนมาเป็นเสียงเซ็งแซ่ทันทีที่อีกฝ่ายพูดแบบนั้น ผมรีบละตัวออกขณะหมุนตัวไปจ้องหน้ากับคนที่กำลังแสยะยิ้มอยู่ทางด้านหลัง บอกกฎของมหา’ลัยที่ผมพึ่งจะนึกออก

“น้องไม่รู้เหรอครับว่าเขาห้ามสูบบุหรี่ที่มอ”

ผมไม่ได้สูบ…

“เลไม่ได้สูบ” เสียงเกี๊ยกดังมาจากด้านหลัง “พวกกูสูบเอง เลไม่ได้สูบ”

คนฟังสวนกลับทันที “เหรอ งั้นมีหลักฐานไหม ?”

“…”

 “ไม่มีสินะ”

ของแบบนั้นจะไปมีได้ยังไง…

ผมไม่มี ไม่มี ไม่มีอะไรจะแก้ตัวได้เลย ในขณะที่กลิ่นบุหรี่ที่ติดตัวอยู่กลับเป็นหลักฐานมัดตัวพวกเราแน่น

“งั้นพวกคุณต้องได้รับโทษรู้ไหม” ผมเงยหน้าขึ้นจากพื้นเมื่อเสียงทุ้มพูดประโยคถัดมา

“ไปวิ่งรอบสนาม”

“…”

“สิบรอบ”

 


แอ๊ด

ประตูห้องถูกเปิดออกแล้วปิด ร่างสูงที่เดินเข้ามาดึงดูดความสนใจของคนภายในได้เป็นอย่างดี

 “เป็นไงไอ้ตี๋ เหนื่อยไหมล่ะมึง” คนแรกที่ทักคือคนที่เขาอยากจะเอาตีนยันหน้า

“ไอ้สัสบอม แม่งหนี” หลังจากที่เขาลากไอ้บอมให้ออกห่างจากน้องเลโดนการไปช่วยพลเพื่อนร่วมคณะที่ขอแรงไปยกของ ปรากฏว่าพอไปถึงไอ้บอมทำงานแค่ยี่สิบนาทีก่อนมันก็ชิ่งหนีแล้วทิ้งเขาเอาไว้คนเดียว “ไอ้เพื่อนเวร!”

“โหใจเย็น ๆ เพื่อน อ๊ะน้ำ!” ตี๋ขี้เกียจทะเลาะกับมัน จึงทำใจให้ปลงก่อนจะรับขวดน้ำที่โยนมาแล้วเปิดกรอกเข้าปาก “กูหนีจากมึงได้ไม่นานก็ถูกพวกเชี่ยนี่เรียกให้ไปยกข้าวกล่องเหมือนกันน่ะแหละมึงไม่ต้องโมโห”

บอมบอกขณะเบนสายตาไปหากลุ่มผู้ชายอีกสี่ห้าคนที่อยู่ในห้อง

“แล้วเป็นไง ข้าวกล่องเสร็จทันใช่ไหม”

“ทัน ๆ ตอนนี้น่าจะกำลังแจก”

“เออดี ๆ” เขาพยักหน้ารับก่อนจะถอนหายใจโล่งอย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องข้าวของรุ่นน้อง และหวังว่าเลจะกินได้น้องยิ่งกินยากอยู่ด้วย ขนาดแค่โจ๊กยังต้องไม่ใส่ขิง ไม่ใส่ตับ ไม่ใส่ไส้อ่อนเลย และพอได้คิดถึงเรื่องของเล เมื่อมาคิด ๆ ดูแล้ว ตี๋รู้สึกว่าเขาไม่ควรถามคำถามนี้ออกไป

‘แล้วพ่อเราล่ะ เลไม่ได้มากับพ่อเหรอ’

เพราะการที่น้องโดนตบมันก็มีคำตอบในตัวให้อยู่แล้ว เพราะเขามั่นใจ…

ว่าถ้าคนที่เลเรียกว่าพ่อมาจริง ๆ แล้วล่ะก็ เลจะไม่มีทางที่จะโดนทำร้าย


ไม่มีทาง



แกร๊ก

ประตูห้องถูกเปิดออก คนที่เดินเข้ามาคือเพื่อนในกลุ่มของเขาชื่อริว

“แจกข้าวเสร็จแล้วเหรอทำไมเร็วจัง” บอมเป็นคนถามอย่างประหลาดใจเพราะจำได้ว่าริวบอกจะไปแจกข้าวให้น้อง ๆ กับเพื่อนในกลุ่มอีกคน มันน่าจะใช้เวลานานกว่านี้ ทว่าคนถูกถามกลับส่ายหน้า

“ยังไม่ได้แจกเลยว่ะ”

“ห้ะ!! มึงว่าอะไรนะ”

“ยังไม่ได้แจกเลยวะ มันมีน้องสี่คนติดอยู่ในห้องน้ำตั้งแต่เช้าเกือบสี่ชั่วโมงจนกูไปเจอเข้า พวกน้องเขาเลยได้เข้าสาย แล้วเกิดเรื่องอะไรกันก็ไม่รู้ อยู่ดี ๆ ไอ้ซันมันก็สั่งลงโทษ น้องคนอื่น ๆ เลยต้องรอให้ทำโทษเสร็จก่อนถึงจะได้กินข้าว”

“บทลงโทษคือไรวะ”

“ให้วิ่งรอบสนามฟุตบอลสิบรอบ”

“ผิดขนาดไหนถึงต้องให้วิ่งรอบสนามสิบรอบกลางแดดจ้าแบบนี้วะ ส้นตีน” เขาอดพูดขึ้นมาไม่ได้ เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกถูกชะตากับคนที่กล่าวถึงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ตี๋ไม่ชอบมัน เออ ไม่ชอบเมียมันอีกคนด้วย จำได้ว่าผู้หญิงคนที่มีเรื่องกับน้องเลเมื่อเช้านั่นแหละเมียไอ้ซัน สันดานเหมือนกันไม่มีผิด มิน่าถึงคบกันรอด

“เออมึง แต่ในเด็กปีหนึ่งที่ถูกทำโทษอะ มีคนหนึ่งน่ารักฉิบหายเลยนะเว้ย กูโคตรสงสารแต่จะไปต่อปากต่อคำกับพวกพี่ว้ากก็ไม่ได้”

ประโยคของริวทำให้ชายหนุ่มต้องชะงัก ใบหน้าคมตวัดกลับมามองคนพูดพร้อมกับนึกในใจ

เดี๋ยวนะ…น่ารักเหรอ ? ทำไมมันคุ้นแบบนี้

นี่อย่าบอกนะว่า!!

“เฮ้ย! ริวมึง—”

ปัง!!

“มึง!! ๆ แย่แล้ว” เสียงของเขาถูกขัดด้วยเสียงตะโกนจากเพื่อนร่วมคณะที่เปิดประตูพรวดเข้ามา ตี๋หันไปมอง  ข้างในอกสั่นระรัวเหมือนเป็นลางบอกอะไรสักอย่าง และยิ่งสั่นกว่าเดิมเมื่อเพื่อนร่วมรุ่นพูดประโยคถัดมา

“รุ่นพี่ปีสี่มากันว่ะ!”

“ฉิบหาย มาทำไมวะ” บอมสบถเพราะทุกคนต่างรู้กันดี กิจกรรมรับน้องอยู่ในความดูแลของปีหนึ่งถึงปีสาม การที่ปีสี่มาแสดงว่ามันต้องเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง

ต้องใช่… ใช่อย่างที่เขาคิดแน่ ๆ

ปัง!!

“เฮ้ยตี๋! มึงจะไปไหนว่ะ” เสียงทุ้มตะโกนตามหลังเมื่อร่างสูงออกตัววิ่งไปยังห้องโถงใหญ่ เขาหอบหายใจพร่าเมื่อมาถึง จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาจึงเงยขึ้นก่อนเบิกตากว้าง ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของพวกปีหนึ่ง ขณะที่ทุกสายตาจดจ้องไปที่สนามขนาดใหญ่ที่มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกำลังวิ่งอยู่

สิ่งแรกที่น่าตกใจคือความคิดของเขานั้นถูกต้อง ร่างหนึ่งในสี่คนที่ถูกบทลงโทษให้วิ่งรอบสนามสิบรอบหนึ่งในนั้นมีน้องเล! เขาไม่รู้ว่าน้องวิ่งกี่รอบแล้วแต่ตอนนี้ร่างเล็กกำลังวิ่งกลางแดดจ้าด้วยใบหน้าซีดเซียวพร้อมกับเพื่อนอีกสี่คน นั่นยิ่งทำให้ตี๋รู้สึกว่าเข่าเขาจะทรุด

ถ้าพ่อเลรู้…ถ้ารู้ล่ะก็

ใบหน้าหล่อหันไปทางร่างสูงที่กำลังยืนพิงกำแพงพร้อมกับมองคนที่ตัวเองสั่งลงโทษให้ไปวิ่งรอบสนามกลางแดดจ้าด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง เขากำหมัดแน่นกำลังจะก้าวเท้าไปหามันถ้าไม่ติดว่ามีเสียงอะไรบางอย่างพลันให้ต้องหยุดชะงักเสียก่อน

เอี๊ยดดดดดด

เสียงเบรกของรถสปอร์ตสี่คันที่แล่นเข้ามาจอดกลางสนามดึงความสนใจจากทุกสายตา เป็นจังหวะเดียวกันที่ปีหนึ่งทั้งห้าในสนามถูกบังคับให้หยุดวิ่ง เนื่องจากอยู่ดี ๆ ก็มีกลุ่มคนมายืนเรียงกันเป็นกำแพงกั้นไม่ให้ได้วิ่งต่อไป

นั่นคืออย่างที่สองที่น่าตกใจ เพราะกลุ่มคนพวกนั้นคือปีสี่แทบจะทั้งหมด!!

และอย่างสุดท้ายสิ่งที่น่าตกใจมากที่สุด…

คือร่างสูงที่เดินลงมาจากรถสปอร์ตคันสุดท้าย เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาและรูปร่างไร้ที่ติยิ่งกว่าจิตกรฝีมือดีสรรสร้าง ทุก ๆ สิ่งที่รวมอยู่บนเรือนร่างของคน ๆ นี้มันดึงดูด ดึงดูดทุกสรรพสิ่งให้ตกเข้าไปอยู่ในโมห์หรือความลุ่มหลง ชนิดที่ว่าจุดสนใจถูกเบี่ยงเบนมาที่ผู้ชายคนนี้ภายในพริบตาเดียว ร่างสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรเดินออกมาด้านหน้าก่อนจะรับน้องเลเอาไว้ในอ้อมกอด เขาเห็นโทสะที่กำลังปะทุราวกับภูเขาไฟระเบิดภายใต้ใบหน้าที่สงบนิ่ง บรรยากาศรอบข้างเงียบงันหากรู้สึกเย็นยะเยือกก่อนจะเปลี่ยนจากเย็นยะเยือกมาเป็นร้อนระอุ เมื่อพบว่าเลสลบคาท่อนแขนแกร่ง

นัยน์ตาคมตวัดมองพวกพี่ว้ากที่เริ่มพากันรู้สึกตัวว่าทำอะไรผิดลงไป ในขณะที่เขาได้แต่กลืนน้ำลายอึก ความรู้สึกผิดเข้าท่วมท้นทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นคนทำรวมถึงมีหนึ่งคำที่อยากจะบอกพวกนั้นว่า


นั่น…








พ่อมันมาแล้วไง





(100%)

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-08-2016 21:44:01
เหมือนอ่านเท่าไรก็ไม่พอ อ่ะ  :ling1: :ling1: :ling1:
เล มีกลุ่มเพื่อนแล้ว ตั้ง 4 คน
เกี๊ยก ไซยาไนซ์ เอ็กซ์ แว่น
กลุ่มนี้น่าจะช่วยเลได้นะ
พี่ตี๋ รู้ความน่ากลัวของพ่อเล สินะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: pui_pui_puly ที่ 24-08-2016 21:56:43
 :mew2: :mew2: มาต่อเร็วๆๆนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 24-08-2016 23:00:05
น้องเลมีองครักษ์พิทักษ์ตั้งสี่คนแหนะ อิอิ
รอพระเอกโผล่มา  :impress2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ::ppppop:: ที่ 24-08-2016 23:54:06
 :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Fasai25448 ที่ 25-08-2016 00:28:54
พระเอกเป็นเพื่อนพี่เสือหรอฮืออออยากให้เป็นเฮียฮิมจังเลยยยเค้าปลื้มเฮียเป็นการส่วนตัว55555แต่ใครเป็นพระเอกก็รอติดตามนะคะจู้ๆ :mew1:
ปล.น้องเลกินได้ไหมน่าร๊ากกกเกินไปแล้วววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Kawin_KW ที่ 25-08-2016 12:13:57
มาต่อเร็วๆนะเค้ารออยู่   :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 25-08-2016 22:42:23
รอน้องเลอยู่จ้า  :mew2: :hao3: :hao4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: 0909985781 ที่ 26-08-2016 11:55:51
รอ่านนะครับ :katai4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Yysll ที่ 26-08-2016 13:21:11
รอพ่อของเลอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 27-08-2016 00:33:48
 :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 03-09-2016 14:15:02
รอนะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 240816#1½ p.2
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 08-09-2016 18:59:25


/ แก้ไข 30 OCT 19
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 08-09-2016 19:10:33
รอ ใครกันพระเอก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 08-09-2016 19:29:19
เล คือนายเอกป่ะ
?   คือพระเอก

มาต่อเร็วๆนะ อย่าหายไปนาน จะลืมตอนเดิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 08-09-2016 20:06:43
งง ค่ะ  หายไปนายมาๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 08-09-2016 20:18:49
งงค่ะ 555

มีลิงค์เรื่องก่อนหน้านี้ไหมอะค่ะ?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: GGamy ที่ 08-09-2016 20:23:19
พ่อนี่ยังไงอ่ะ พ่อทูลหัว?
โอ้ยยย มาต่อเถอะค่ะ ค้างใจจะขาดดดดดด  :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 08-09-2016 20:25:22
งองูล้านตัว มันไม่กระจ่างอ่ะ อ่านแล้วงง เหมือนจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ  :o10: :o10: :o10: :o10: :o10:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 08-09-2016 20:29:52
ง่ะ สั้นอ่ะ รอนะคะ ค้างคา  :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 08-09-2016 21:23:41
ใครกันพ่อน้องเล แล้วคนที่เรียกว่าพ่อนี่ใช่พระเอกรึป่าวหรือใครกัน

ปล.เราชอบเพื่อนๆของเลจัง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: That XN ที่ 08-09-2016 21:35:55
พ่อเลคือใคร???  พี่ชายหรือ คนรัก หรือะไร?? :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-09-2016 21:42:34
ค้างงงงงงง อย่างมากกกกกกก โมโหแทนเล
พี่ว้าก ไม่ฟังความเลย จะเอาแต่หลักฐาน
ทำโทษน้องเกินเหตุไปไหม
เจอเข้าอย่างนี้ น่าอยู่รับน้องตายละ
รับน้องหรือ เรียกใหม่ได้แล้ว
รับพี่ รับการลงทัณฑ์จากรุ่นพี่
คนอยากเรียน เสียกำลังใจหมด
อุตส่าห์สอบเข้าได้ แต่เจอรุ่นพี่ไม่มีสมอง หูเบา
ฟังแต่ชะนีเหมียว ที่อิจฉา กัดแต่รุ่นน้องที่น่ารัก
หน้าตาสะสวยกว่าตัวเองมั้ง
อยากให้พ่อเล เอาเรื่องพี่ว้าก เอาให้เต็มที่
ชะนีเหมียว ก็อย่าให้รอด ที่ตบ ทำร้ายเล :z6: :z6: :z6: :z6:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 08-09-2016 21:55:22
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 08-09-2016 22:12:45
เข้ามางงด้วยคน ถึงจะงงๆก็จะตามต่อไป

ว่าแต่คนเขียนบอกว่าพระเอกเป็นเพื่อนกับพี่เสือในเมียหมอ เราก็อ่านแต่เรานึกไม่ออกจำฮิมได้คนเดียว แต่จำไม่ได้ว่าฮิมเรียนวิศวะหรือเปล่า สงสัยต้องกลับไปอ่านเรื่องนั้นอีกรอบ 55555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ::ppppop:: ที่ 08-09-2016 22:28:50
ทุกคนล้วนปกป้องเล ทำไม งงมาก :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 08-09-2016 23:52:24
เดี๋ยว...ทำไมพ่อมาแค่นี้  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 09-09-2016 00:12:18
คืองงอ่ะ พ่อน้องเลนี่หมายถึงพ่อทูนหัวใช่ไหมอ่ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: LiPzTicK* ที่ 09-09-2016 00:17:46
ค้างมากกกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว
มีความลุ้นนน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: เปลว แว๊บแว๊บ ที่ 09-09-2016 03:12:14
รอตอนต่อไปปปปป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 09-09-2016 03:58:26
รอตอนต่อไปค่าาาาาาาาา  พ่อไหนนิ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-09-2016 06:10:08
อะไร ยังไง เกิดอะไรขึ้นกับน้องเล แล้วคุณพ่อมาแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเนี่ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-09-2016 10:09:49
ลุ้นๆๆๆๆ พ่อเล นี่พ่อทูลหัวหรือเปล่า
ถ้าใช่พ่อทูลหัวนี่อยากบอกว่าเท่มากๆๆๆๆๆๆ
ว่าแต่ก่อนอื่นขอฟ้องคุณพ่อหน่อยว่าน้องเล
นอกจากวิ่งจนสลบแล้วน้องเลยังโดนตบ ติดอยู่ในห้องน้ำก็ตั้งนานด้วย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 09-09-2016 11:10:12
พระเอกยังไม่ออกแน่ๆ

แล้วพ่อเลคือใครร
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 09-09-2016 16:34:45
คงต้องอ่านใหม่อีกรอบเพราะงง อ่านพี่เสืออยู่นะแต่จำไม่ได้แหะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 10-09-2016 21:27:33
มารอนะ........ :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: manneewan ที่ 18-09-2016 15:55:06
รอจ้า สู้ๆเน้อสนุกมากก #มันค้างเกลือเกิน555 :jul1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 18-09-2016 16:23:49
มาติดตามตอนต่อไปปปปป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 18-09-2016 16:25:10
ตามติด ติดตามม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 18-09-2016 17:32:25
เมื่อไหร่จะมาต่อ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 19-09-2016 16:53:13
 :impress2: สนุก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 19-09-2016 16:56:11
หายยยยยย   ยาวเลยค่ะะะะะะะะะะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 19-09-2016 20:50:51
พึ่งเข้ามาอ่าน  อยากอ่านต่ออย่างมาก  เลและผองเพื่อนน่ารักมาก ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 19-09-2016 22:38:16
มานั่งรอน้องเลค่ะ
คิดถึงน้องเลจังเลย :hao7:

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nung ที่ 21-09-2016 14:06:43
เข้ามารอ  :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 21-09-2016 14:42:25
อยากรู้แล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: hamony ที่ 21-09-2016 15:46:04
มาต่อนะรออยู่น่าติดตาม   
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 21-09-2016 16:48:44
 :hao3: รอดูคนสั่งโดนลงโทษ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: loveBoyoll ที่ 21-09-2016 17:59:24
ตอนไหนจะมาต่อ แต่ก๊รออออ~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin_23 ที่ 21-09-2016 18:07:24
อยากอ่านอีกมาต่อเร็วๆนะคะ สนุกมากกลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 21-09-2016 18:12:39
ค้างงง!~ รีบมาด่วนๆ พ่อนี่ไม่ใช่พ่อจริงๆใช่ป่ะ สงสัยมาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 21-09-2016 18:43:35
คือเข้าใจ   ค่าตัวพ่อฮิมแพง  คนเขียนเลยมาช้า  แต่ได้โปรดเถิด  อิชั่นคิดถึง นู๋เล จะลงแดงแล้ว  มาต่อเต้อะ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nung ที่ 23-09-2016 16:11:37
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 01-10-2016 14:22:44
รอตอนต่อไป  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 01-10-2016 17:29:08
คิดถึงจริงๆ นะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-10-2016 18:03:14
รอพ่อเล   :mew2: :mew2: :mew2:
                      พ่อเอ๊ย.................เมื่อไรพ่อจะมา 
นี่มันจะหมดเดือนแล้วนา.................พ่อจะมาเมื่อไร  :katai1: :katai1: :katai1:
คนอ่านเขาคอย  :เฮ้อ:  คอยจนอ่อนใจ.........(ซ้ำ)
พ่อมาเมื่อไร ความสุขใจก็จะมี :mew1: :mew1: :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Iam_Frong ที่ 01-10-2016 18:41:43
ชอบแนวแบบนี้เคะหวานๆ เมะดิบๆ มาต่อด่วน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 02-10-2016 16:17:46
พ่อ มา ยั้ง มา รอ พ่อ น้อง เลย์ ดัน ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 06-10-2016 21:17:48
#3



จำได้ว่าความรู้สึกครั้งล่าสุดของผมมันมึน ๆ เบลอ ๆ แล้วสติก็ดับวูบ โลกมืดจนกลายเป็นสีดำแต่พอสว่างก็พบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่สนามอีกต่อไป ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนผมถึงได้กลับมานอนที่ห้องและกำลังนั่งมองหน้าพี่วินอยู่ตอนนี้

อันที่จริงผมพึ่งตื่นเมื่อสองนาทีที่แล้ว

ตื่นมาแบบงง ๆ ยิ่งเห็นที่คนนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงก็ยิ่งงงเข้าไปกันใหญ่

เกิดอะไรขึ้น ?

“มึงสลบ” เสียงทุ้มจากคนที่นั่งเอาขาไขว่กันอยู่ข้างเตียงไขข้อสงสัยให้โดยที่ผมยังไม่ได้ถาม ร่างสูงเอามือกอดอกก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหลุบสายตามองลงมาด้วยความเรียบนิ่ง ผมจ้องเข้าไปในนัยน์ตาคมดูแล้วไม่มีวี่แววว่าพี่วินจะโกรธ เออใช่ พี่วินจะโกรธผมทำไมในเมื่อผมไม่มีทำอะไรผิด

แต่แล้วคนที่ผมพึ่งบอกว่าไม่โกรธกลับขมวดคิ้วและเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็วทันทีที่พี่วินเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดแปลกไปจากใบหน้าของผม ร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้ก่อนใช้มือหนาบีบคางขึ้นจนผมร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับบังคับให้หันไปมาซ้ายขวาแล้วละมือออก เสียงทุ้มถามผมด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิดเล็กน้อย

“ทำไมแก้มมึงถึงได้บวม” บวมเหรอ ? ถึงว่าทำไมตอนพี่วินบีบมันถึงได้เจ็บ ผมยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองป้อย ๆ ตอบตามความจริงว่า

“เลโดนตบ”

“มึงว่าไงนะ!”

“อือ! โดนตบ แก้มสะบัดเลย” ผมสะบัดหน้าตัวเองไปมาเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นภาพ เสริมอีกครั้งว่า “เจ็บมาก!”

พี่วินหันมามองหน้าผมตาเขียวปั๊ดหลังจากได้ยิน ท่าทางเหมือนโกรธมากในขณะที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะโกรธผมทำไม! ในเมื่อผมเป็นคนโดนตบนะ! ร่างสูงเดินมานั่งบนเตียงตรงหน้า ถามผมเสียงเข้ม

“ทำไมเขาตบมึง”

ผมเอียงคอขณะเหลือบตามองขึ้นข้างบนแล้วส่ายหน้า “เลไม่รู้”

“ไม่รู้แต่ให้เขาตบเนี่ยนะ ?!”

จะ…จริงด้วย ผมให้เขาตบทำไมกันหว่า ?

“ก็…เลไม่รู้อยู่ดี ๆ ก็โดน—”

“มึงนี่มัน!!” ประโยคผมพูดขัดด้วยน้ำเสียงตะคอก ผมเบิกตากว้างมองกำปั้นที่พี่วินยกขึ้นด้วยความอกสั่นขวัญหายก่อนจะรีบยกมือบังหน้ากลัวว่าจะมีอะไรบางอย่างมากระแทก

“…”

“…”

แต่แล้วก็ไม่มี…

สิ่งที่มีคือสัมผัสบางเบาที่หัว แต่พอผมเอามือออกจากหน้าสัมผัสบางเบาที่ว่าก็หายไปแล้ว หายไปพร้อม ๆ กับเสียงประตูที่ถูกเปิดออก

แอด

ผมรีบหันไปมองตามเสียงบุคคลที่เข้ามาคือคนที่ผมอยากเห็นหน้ามากที่สุด

“พ่อ!” คนโดนเรียกไม่ได้สนใจ เจ้าของร่างสูงใหญ่หันไปพูดกับพี่วินแทน

“วินมึงออกไปก่อน”

“เออ” พี่วินตอบเสียงเรียบ ใบหน้าคมมองผมอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้อง ทันทีที่ประตูปิดสนิทอีกครั้งร่างสูงที่พึ่งเข้ามาจึงเดินมาหาผมที่เตียง ผมรีบอ้าแขนออกแล้วกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่นขณะซุกใบหน้าเข้าหน้าท้องแกร่งที่แนบแก้มลงทีไรไม่เคยสัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่ม แต่สัมผัสได้ถึงท่อนเนื้อแน่นที่เรียงกันเป็นแพคแทน ตอนนี้มันอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวติดกระดุมของมหา’ลัยเดียวกันกับผม

ผมเงยหน้าขึ้นเป็นเวลาเดียวกันที่มือหนาโอบเข้ารอบคอพร้อมกับลูบหัวเบา ๆ

“สร้างเรื่องตั้งแต่วันแรกเลยนะคนดี” เสียงทุ้มปนแหบพร่าเอ่ยทักทายด้วยประโยคที่ไม่น่าอภิรมย์สำหรับผมนัก

“เลไม่ได้เป็นคนเริ่มนะ เชื่อเลสิ!”

“หืม เชื่อดีไหม เราดื้อจะตาย”

“พ่อ!!” ผมลืมตัวเผลอตะคอกเสียงดังจนคนฟังต้องทำเสียงดุ

“ชู่ คนดีไม่ตะคอกสิครับมันไม่น่ารักเลย” นิ้วเรียวเลื่อนมาแตะริมฝีปากเหมือนเป็นนัยน์ ๆ ว่าให้ผมหยุดการกระทำอย่างเมื่อกี้ลง ผมหลุบตาลงมองก่อนงับนิ้วของอีกฝ่ายเล่นแล้วหัวเราะคิกคักเบา ๆ นัยน์ตาคมจากร่างสูงมองลงมาแต่ไม่ว่าอะไร อีกฝ่ายขยับตัวห่างจากผมเล็กน้อย จากนั้นจึงโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงจูบที่หน้าผากแล้วเลื่อนริมฝีปากลงที่แก้มก่อนจะละออก ผมปล่อยนิ้วเรียวที่ตัวเองกำลังงับอยู่ก่อนสวมเข้ากอดร่างสูงอีกครั้ง เอ่ยคำต้อนรับกลับประเทศไทยที่ยังไม่ได้พูด

“ยินดีต้อนรับกลับครับพ่อ”

ผมได้หัวเราะในใจเมื่อคนฟังทำหน้าแปลก ๆ มือหนายื่นมาบีบจมูกผมเบา ๆ ออกเสียงทุ้มเป็นคำสั่ง “เอาใหม่สิ”

เขาไม่ชอบให้ผมเรียกว่าพ่อ มันคงแปลกไปสำหรับอีกฝ่ายที่อายุจริง ๆ ห่างจากผมแค่สามปี

งั้นเอาใหม่ก็ได้…





“ยินดีต้อนรับกลับครับ… พี่ฮิม





ฮิมเป็นคนเลี้ยงผมมา

เลี้ยงมาตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็กแต่ไม่เด็กถึงขนาดที่ว่าเป็นทารกนะ ประมาณสามสี่ขวบ เขาเลี้ยงผมตอนที่อายุสามหรือสี่ขวบทั้ง ๆ ที่เขาพึ่งอายุยังไม่ถึงเจ็ดขวบ ฮิมเอาผมมาเลี้ยงท่ามกลางการคัดค้านของคุณลุง (พ่อของฮิม) โชคดีที่เรายังมีคุณป้า (คุณแม่ของฮิม) เป็นคนให้ท้าย แต่สุดท้ายคนที่คุมการเงินทั้งหมดของบ้านก็คือคุณลุง และแน่นอนคุณลุงคัดค้านดังนั้นฮิมที่เป็นคนเอาตัวผมมาจึงไม่ได้เงินสักบาทเป็นค่าเลี้ยงดู อืม…แต่จะว่าไม่ได้เลยสักบาทคงจะไม่ถูกนะ เพราะท้ายที่สุดเขาเลยต้องเลี้ยงผมจากเงินของตัวเองทั้งหมด และเงินของตัวเองที่ว่ามันก็คือเงินที่คุณลุงให้เวลามีงานใหญ่ ๆ เหมือนเดิม (บ้านของเขารวยมากชนิดที่ว่าให้เงินลูกทีหนึ่งอยู่ได้ทั้งปี เขาเอาเงินนั่นแหละมาเลี้ยงผม) ทั้งหมดนั่นทำให้ผมเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ แต่ผมก็มีพ่อและแม่แท้ ๆ น่ะเพียงแต่…

“เล” น้ำเสียงทุ้มปลุกให้ตื่นจากความคิด ผมเงยหน้ามองคนที่ผมนอนอยู่บนตักแล้วครางรับในลำคอ “หิวข้าวไหม”

หลังจากที่ฮิมมาหา เราคุยกันนิดหน่อยผมก็หลับไปและพึ่งตื่นเมื่อยี่สิบนาทีก่อน แต่ตอนหลับน่าจะนานพอสมควร เพราะสังเกตจากสีของท้องฟ้าด้านนอกที่เริ่มครึม ตอนนี้น่าจะหกโมงกว่า ๆ แล้ว

“ฮิม…ช็อกโกแลตของเลล่ะ” ผมไม่ตอบคำถามแต่ถามคนถามแทน ช็อกโกแลตที่ว่าคือของฝากทุกครั้งที่ฮิมไปอังกฤษ มันไม่ใช่ช็อกโกแลตธรรมดาแต่เป็นช็อกโกแลตที่อร่อยจนลืมโลก เขาเคยซื้อมาให้ผมกินครั้งหนึ่งตอนที่กลับมาจากอังกฤษ หลังจากนั้นผมก็ติดใจในรสชาติมันเข้าอย่างจัง จนเป็นอันว่าถ้าเขาไปอังกฤษและกลับมาเมื่อไหร่ไม่ต้องซื้ออะไรมาให้ ผมเอาแค่ช็อกโกแลตก็พอ

“อยู่ในห้องครัว”

“อื้อ ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยเสียงแผ่วเบาก่อนจะยันตัวขึ้นจากเตียง แล้วโถมกายเข้ากอดคนที่ยอมนั่งนิ่ง ๆ เป็นหมอนให้นอนตักมาหลายชั่วโมง ผมแนบริมฝีปากที่แก้มสาก เลื่อนไปกระซิบที่ข้างหู “คิดถึงจังเลย”

“…”

“พ่อคิดถึงเลไหม”

คำตอบที่ได้รับคือการแนบริมฝีปากลงที่แก้มของผมแทนคำพูด ผมยิ้มร่าโอบแขนกอดลำคอแกร่งให้แน่นกว่าเดิม

“หิวไหม”

พอส่ายหน้า เขาเลยถามย้ำอีกครั้ง “ไม่หิวจริง ๆ เหรอ ?”

“เลไม่หิว เลไม่อยากกิน…เนื้อย่าง”

“สรุปว่าอยากไม่อยาก”

“อยากก็ได้!” ผมเด้งตัวขึ้นจากเตียงทันทีที่พูดจบ พร้อมกับวิ่งเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความไวแสงจนในชุดเสื้อกล้ามสีขาวแบบมีฮู้ดกับกางเกงสามส่วนสีเดียวกันกับเสื้อ และพอออกมาจากห้องน้ำปรากฏว่าคนที่อยู่ด้านนอกก็แต่งตัวเสร็จแล้วเหมือนกัน ฮิมไม่ได้แต่งอะไรมากเขาเปลี่ยนแค่จากเสื้อสีขาวมาเป็นเสื้อแขนยาวคอวีสีน้ำเงิน

“เสร็จแล้วเหรอ” นัยน์ตาคมหันมามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

“เสร็จแล้วไปกันเถอะ!”

ครืด

เสียงโทรศัพท์ของฮิมสั่น ผมมองตามแต่ไม่ทันเห็นว่าใครโทรมาเสียงทุ้มก็ออกคำสั่ง

“ออกไปก่อนเดี๋ยวตามไป” ผมพยักหน้าหงึก ๆ แล้วรีบวิ่งออกจากห้องลงบันไดชั้นสองไปใส่รองเท้า เนื้อย่างจ๋า…รอเลก่อนนะจะไปหาแล้ว!

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

ผมไม่ได้ไปกินเนื้อย่าง…

 

‘เมียใหม่มันโคตรสวย’

‘คนเก่าล่ะวะ’

‘เลิกไปแล้ว’

‘พอ ๆ เลิกเสือกเรื่องคนอื่นแดกเหล้าโว้ย’

‘เอ้า! ชน’

 

น้ำเสียงสนุกสนานยิ่งทำให้ผมต้องกำหมัดแน่น เนื้อย่างที่ผมควรจะได้กินตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงก่อนกลับไม่ได้กินเพราะ…เพราะ…

 

“เลมันงอนอะไรวะ”

ผมเงยหน้าขึ้นลงทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มแหบพร่าของใครสักคนดังขึ้น ก่อนหันหลังกลับไปมองเหล่าชายหนุ่มหน้าตาดีกลุ่มหนึ่งที่กำลังนั่งกกเหล้าแถมยังพร้อมใจกันเปลือยท่อนบนโชว์ซิกแพคและรอยสักตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย  ทว่าเด่นชัดสุดคงจะเป็นร่างสูงในสภาพเปลือยท่อนบนเผยรอยสักรูปมังกรตรงช่วงต้นแขนซ้ายลามไปถึงบ่า ท่อนล่างใส่กางเกงยีนส์ในระดับสะโพกที่ใกล้จะหลุดลงอย่างหมิ่นเหม่ มือหนาคีบบุหรี่ที่ปากออก นัยน์ตาคมเฉี่ยวมองผมแล้วพ่นควันพิษออกมา เจ้าของใบหน้าหล่อเหลา ผิวขาวซีด นัยน์ตาสีดำและเส้นผมสีหม่น บุหรี่ที่สูบอยู่นั้นไม่ได้ทำให้เขาดูเท่หรอกนะ ทว่ามันกลับยิ่งช่วยเสริมให้ Sex appeal ของเจ้าของใบหน้าหล่อร้ายคนนี้สูงขึ้นไปเป็นเท่าตัว

ผมเผลอจ้องริมฝีปากที่เริ่มออกสีคล้ำนิดหน่อยตัดกับผิวขาวซีดเพราะนิสัยสูบบุหรี่จัดของเขาอย่างไม่รู้ตัว แล้วสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากบางยิ้มแสยะราวรู้ทันความคิด ฮิมกระดิกเรียกผมให้เข้าไปหาแต่ผมส่ายหน้า เพราะมั่นใจเกินร้อยว่าไอ้คนงอนที่ว่านั่นคือตัวเองแน่นอน และยังไม่ทันที่จะได้ตอบกลับไป พี่วินเจ้าของคำถามที่ทำให้ผมไม่ได้ไปกินเนื้อย่างก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง

“มึงงอนอะไรฮึ ดูทำหน้า”

งอนพี่วินนั่นแหละ! ทำให้ผมไม่ได้ไปกินเนื้อย่าง

ผมคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป ย้อนกลับไปเมื่อชั่วโมงก่อนในขณะที่ผมใส่รองเท้ารอเพื่อที่จะไปกินเนื้อย่าง แต่พอฮิมลงมาเขาก็บอกว่าไม่ต้องไปแล้ว หลังจากนั้นไม่ถึงสามวินาทีประตูบ้านก็ถูกเปิดพรวดเข้ามาพร้อมกับบุรุษสามคน พี่วินเดินนำหน้า พี่ไทด์เดินมาตามหลัง หลังพี่ไทด์คือสมาชิกคนที่ห้าของบ้าน พี่รพที่มีสีผมแดงสะดุดตาตั้งแต่หน้าประตู นิสัยคนเหมือนความหมายของชื่อ ในบรรดาพี่ ๆ ที่ผมรู้จัก เขาเที่ยวบ่อยสุด ประมาณว่ามีงานสังสรรค์ที่ไหนไปที่นั้นแต่พี่รพไม่ได้อัธยาศัยดีอย่างที่คิด เขาเที่ยวบ่อยเพราะมีคนรู้จักเขาเยอะเลยมีคนชวนไปงานเลี้ยงเยอะ ส่วนเขารู้จักใครบ้างนั่นมันอีกเรื่อง แต่ผมคิดว่านิสัยของพี่รพ เท่าที่อยู่บ้านหลังนี้ด้วยกันมา ผมว่าพี่รพนี่ดุพอ ๆ กับพี่วินเลย แถมเผลอ ๆ อาจจะมากกว่าแต่ยังดีที่ไม่ได้บ้าและป่าเถื่อนเหมือนพี่วิน

แต่ประเด็นมันอยู่ที่ชายสามคนถือลังเหล้าพร้อมถุงกับข้าวมาเต็มไม้เต็มมือ ดูแค่นี้ก็รู้…

มาสังสรรค์กันอีกแล้วแน่ ๆ

แน่นอนว่าฮิมไม่ได้เลือกเนื้อย่างของผม เขาเลือกเพื่อนของเขาแทน อันที่จริงเขามักจะตามใจผมทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้ เพื่อนกับผม ผมมั่นใจว่าในตอนนี้ฮิมอาจจะตอบว่าเพื่อน เพราะนี่มันเข้าข่ายที่คนอื่นบอกว่า วิศวะติดเพื่อนมากกว่าติดแฟน

เพียงแต่ผมไม่ใช่แฟน ดังนั้นยิ่งไม่มีอะไรให้ติด

โอ๊ย! แต่คิดแล้วมันหงุดหงิดในหัวใจยังไงชอบกล

“ถามแล้วก็ไม่ตอบ ฮิมสรุปมันงอนอะไร” พี่วินที่ไม่ได้คำตอบจากผมจึงหันไปถามคนข้าง ๆ แทน ทว่าเจ้าตัวไม่ตอบ มือหนายกขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าออกแล้วกระดิกนิ้วเรียกผมเข้าไปหาอีกครั้ง พอผมส่ายหน้าเขาก็เรียกเสียงขู่

“เลมานี่”

“…”

“มาเร็ว ๆ”

“…”

“คนดี” ผมเม้มปากแล้วลุกออกจากที่นั่ง ตัดสินใจเดินเข้าไปตามที่อีกฝ่ายเรียก ฮิมดับบุหรี่ที่สูบอยู่ลงทันที จากนั้นมือหนาจึงดึงตัวผมลงให้นั่งบนตัก แขนแกร่งรวบเอวผมเอาไว้

“อย่าทำหน้าบึ้ง” เขาบอกเสียงทุ้มแต่ไม่ได้จริงจัง

ผมมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ตรงหน้าก่อนยกมือขึ้นไปลูบไล้เบา ๆ แล้วทุบแรง ๆ ที่บ่าแกร่งจนมือหนาต้องเลื่อนมาคว้ามือของผมเอาไว้ “เลงอนพ่อ”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปกิน” ฮิมว่า

“จริงเหรอ ไม่โกหกนะ”

“เคยโกหกหรอ ?”

           
มันก็จริงอย่างที่ว่าเขาไม่เคยโกหกผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว คิดได้อย่างนั้นผมเลยเงียบลงบ้าง ก่อนจะพยักหน้ารัวๆ เป็นอันตกลง พออารมณ์ดีขึ้น ผมจึงลุกขึ้นจากตักแกร่งก่อนจะวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโซฟาแล้วเดินกลับมานั่งตักของฮิมเหมือนเดิม ผมนั่งหันหน้าเข้าหาเขา เอาขาเกี่ยวไปทางด้านหลังแล้วตวัดรอบสะโพกสอบขณะเดียวกันก็เอามือโอบรอบคอขาว วางคางบนไหล่ของอีกฝ่ายแล้วเล่นโทรศัพท์จากทางด้านหลังของแผ่นหลังกว้างโดยมีมือหนาเข้ามาโอบเอวผมเอาไว้แบบหลวมๆ กั้นไม่ให้หงายหลัง

แต่พอเล่นโทรศัพท์ไปนานๆ หนังตาก็เริ่มกระตุก พอดีกับที่พี่ๆ ที่นั่งดื่มกันอยู่เริ่มเบาเสียงลง ผมรู้สึกง่วงจึงวางโทรศัพท์เอาไว้ที่พื้น แล้วซุกใบหน้าเข้ากับลำคอขาวจนได้สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมแบบเย็นๆ ของโคโลนผสมกับกลิ่นเหงื่อ และเหมือนร่างสูงจะรู้ว่าผมง่วง มือหนาจึงยกขึ้นมาลูบศีรษะผมเบาๆ แบบที่ทำอยู่เป็นประจำ

แต่สัมผัสแผ่วเบาที่ศีรษะทำให้ผมต้องเอียงคอ ฝืนลืมตาขึ้นมองทั้ง ๆ หนังตาหย่อนจนเหมือนมีแรงดึงดูดให้มันติดกัน กลิ่นกายของเขายิ่งทำให้ง่วงเข้าไปใหญ่ เหมือนเป็นยาอะไรสักอย่างที่ทำให้ผมผ่อนคลายจนรู้สึกง่วง แต่สำหรับคนอื่นอาจจะให้ผลอย่างอื่นแทน ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมคิดแบบนั้นแต่กลิ่นของฮิม วูบหนึ่งมันทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายแต่ความผ่อนคลายที่ว่ามันมีความรู้สึกอะไรบางอย่างแฝงเข้ามาด้วย


เหมือนเขาจะรู้ว่าผมมองอยู่ มือหนาที่กำลังลูบศีรษะเลยหยุดลง ก่อนเลื่อนมือลงมาปิดเปลือกตาของผมแทน  ความมืดที่เข้ามาเยือนทำให้ผมเคลิ้มจนใกล้จะหลับ แทบไม่ได้สติด้วยซ้ำตอนที่ถูกอุ้มขึ้น รู้สึกแต่ว่าตัวมันเบาโหวง ๆ เหมือนกำลังลอยอยู่ในอากาศจากนั้นจึงตกลงสู่พื้นนุ่มคือฟูกนิ่ม ๆ บนเตียงนอน

แล้วก็หลับไป…

 

นัยน์ตาคมมองร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียงเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อแน่ใจว่าหลับสนิทแล้วเจ้าของร่างหนาจึงปิดไฟทั้งหมดในห้องนอนก่อนเดินลงจากชั้นสองมาห้องนั่งเล่น ขายาวก้าวผ่านเพื่อนแต่ละคนที่กำลังยกเบียร์ขึ้นจิบเงียบ ๆ

“วันนี้ใครอยู่ที่นี่” ฮิมถามขึ้นขณะไล่สายตามองหน้าแต่ละคน จนในที่สุดเจ้าของเรือนผมสีแดงก็ยกมือขึ้น

“กู” รพตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบเป็นเวลาเดียวกันที่พวกเขาเริ่มขยับกายมาใส่เสื้อตามเดิม ยกเว้นซะแต่…


“กูนึกว่าวันนี้มึงจะไม่ไป” วินถาม คนเดียวในห้องที่ยังนั่งนิ่งอยู่เหมือนเดิม “พึ่งนั่งเครื่องกลับมาจากอังกฤษไม่เหนื่อยเหรอวะ—”

           
“ไทด์คนที่มึงส่งไปเฝ้าเลน่ะ ไปเรียกพวกมันมาให้หมด”

           
“กวนตีน” เจ้าของรอยสักรูปแมงป่องพึมพำเสียงเบาเมื่อคนที่เขาถามไม่ได้ให้คำตอบ ซ้ำยังไร้มารยาทโดยการไปถามคนอื่นต่ออีก

           
“พวกมันไปรอที่โกดังแล้ว” เจ้าของใบหน้าตายด้านตอบ ขณะสวมเสื้อแจ็กเกตสีดำสนิทพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋า แล้วเสริมว่า “พร้อมกับพวกพี่ว้าก”

           
วินขมวดคิ้ว เอ่ยเสียงเรียบ “พวกที่สั่งให้เลวิ่งน่ะเหรอ”

           
“เออ”

           
กรอด

         
เสียงกำหมัดแน่นจนคนได้ยินต้องหันไปมอง ร่างสูงในชุดสีดำสนิทกำลังแผ่รังสีอันตรายอย่างน่ากลัวทันทีที่ได้ยินชื่อของพวกนั้น วินเม้มปากแน่น ร่างสูงทิ้งกระป๋องเบียร์ในมือก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบเสื้อที่ตกอยู่บนพื้นไม่ไกลนักมาใส่แบบลวก ๆ แล้วหันไปพูดกับบุคคลที่ตายด้านสุดในกลุ่ม ยามที่พ่อไม่แท้ของเลหยิบกุญแจรถสปอร์ตคันหรูแล้วเดินนำหน้าออกไปก่อนแล้ว

           
“ไทด์” เขาเรียกชื่อเพื่อนเสียงเรียบ

           
“มีอะไร”

           
“มึงเรียกไอ้หมอมาเลยก็ได้ กูว่าวันนี้แม่งหนัก”


นึกแล้วก็สงสารรุ่นน้องพวกนั้นอยู่ในใจ แต่จะโทษใครก็ไม่ได้ พวกมันโชคร้ายที่มายุ่งกับคนของคนที่ไม่น่ายุ่งมากที่สุดเอง

 

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#2 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 06-10-2016 21:21:11
วันต่อมา

หลังจากเกิดเรื่องเมื่อวาน ผมตัดสินใจว่าจะไปร่วมกิจกรรมเหมือนเดิม แต่ตื่นสายนิดหน่อยเพราะก่อนนอนไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ (น้ำก็ไม่ได้อาบหลับไปตอนไหนยังไม่รู้เลย) แม้จะไม่ได้สายมากเลยจากเวลาตื่นนอนปกติประมาณยี่สิบนาที แต่ก็ทำให้ผมต้องลดเวลาอาบน้ำกับแต่งตัวลงจะได้ทันกินข้าวเช้า

ผมมองตัวเองในกระชกเพื่อเช็คความเรียบร้อยหลังจากแต่งตัวเสร็จ จากนั้นก็…

หมับ!

สวมเข้ากอดฮิมที่กำลังใส่เสื้อจากทางด้านหน้า (อย่างงว่าทำไมเขามาแต่งตัวที่ห้องผม เรานอนห้องเดียวกัน) ขณะเงยหน้าขึ้นส่งสายตากระพริบให้จนคนมองต้องเป็นฝ่ายถามออกมาก่อน

“จะขออะไร”

“ทำผมให้เลหน่อยสิ” ฮิมพยักหน้าทันที เขาบอกให้ผมลงไปทานอาหารรอด้านล่างระหว่างที่อีกฝ่ายแต่งตัว ผมรีบทำตามคำสั่ง หยิบกระเป๋าสะพายแล้วเดินลงมาด้านล่างเพื่อทานข้าวผัดอเมริกันที่วันนี้เชฟของบ้านอย่างพี่รพอุตส่าห์ตื่นนอนมาทำให้ รู้สึกปลื้มปริ่มจนน้ำตาจะไหลเพราะผมไม่ได้ทานอาหารเช้าฝีมือพี่เขามานานมากแล้ว

ฮิมเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมพี่วินหลังจากที่ผมพึ่งทานไปได้ไม่นาน ร่างสูงเดินอ้อมมาทางด้านหลังเก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่ มือหนาถือหวีกับยางมาด้วย

“ถักเปียเหรอ” เสียงทุ้มถามขณะกำลังหวีผมด้านหน้าของผมให้เรียบ

“แล้วแต่ฮิม” ผมตอบเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าอยากทำอะไร ปกติก็ถักเปียตลอด ฮิมลงมือทำทันทีฝีมือต่างจากคนเมื่อวานลิบลับ ซึ่งคนเมื่อวานที่ว่าตอนนี้ก็กำลังนั่งเอามือเท้าคางมองผมอยู่ ผมเลยเงยหน้าขึ้นจากข้าวผัดหยิบน้ำส้มที่พี่รพพึ่งเทให้มาดื่มแล้วมองเขากลับ

“มองเหี้ยไร” เขาถาม

“มองพี่วินไม่ได้มองเหี้ย”

“กวนตีน”

“พี่วินนั่นแหละมองเลทำไม เลเห็นนะ”

“…” พี่วินไม่ตอบแต่สายตายังจ้องผมอยู่ มองกันไปมองกันมาอยู่สักพักผมถึงได้รู้ว่าเขาไม่ได้มองผม แต่มองมือหนาที่กำลังถักเปียให้ผมอยู่ต่างหาก! แต่พอผมรู้ตัวฮิมก็ทำเสร็จ พี่วินที่เคยมองอยู่จึงเบี่ยงสายตาไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว

“เลทานข้าวให้หมดสิ”

“เลอิ่มแล้ว” ผมตอบคนด้านหลัง เลิกสนใจเรื่องพี่วินแล้วบ่นหาอีกคนแทน “ทำไมพี่ไทด์ไม่ลงมาสักที”

“ทำไมไอ้ไทด์ต้องลงมา”

“อ้าว พี่ไทด์ไม่ได้ไปส่งเลเหรอ” ผมพูดพลางสบตากับร่างสูงพลันเห็นอะไรบางอย่างในแววตาคู่นั้น “พ่อจะไปส่งเลเหรอ”

“อืม”

“จริงเหรอ!”

“จริง”

 

ณ มหา’ลัย K

           
เวลาแปดโมงตรง

 

           
“เกี๊ยก!” ผมเรียกชื่อเพื่อนขณะวิ่งลงจากรถแล้วตรงดิ่งไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่บนม้าหินอ่อน ผมโบกมือรัว ๆ พลางเอื้อนริมฝีปากจะเอ่ยทัก แต่พอใบหน้าคมหันมาสบตากับผม รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าก็ต้องหุบลงจากคำทักทายกลับกลายมาเป็นเสียงโวยวาย “เกี๊ยก! หน้าไปโดนอะไรมา”

           
“มึงจะโวยวายทำไม”

           
“ก็ดูหน้าเกี๊ยกดิ” มีแผลฟกช้ำทั่วใบหน้าทั้งตา คิ้ว ปาก แบบนี้จะไม่ให้ผมตกใจได้ยังไง “ไปทำไรมา”

           
 “รถมอไซค์ล้ม”

           
“รถล้ม ?” ผมทวนคำพลางขมวดคิ้ว แต่ว่า… “รถมอไซค์ล้มมันก็ต้องเป็นแผลถลอกสิ!”

           
 “…”

           
 “อย่ามาโกหกเลนะ! ไปมีเรื่องกับใครมา” ผมทำแผลให้พี่วินบ่อยจะตาย ทำไมผมจะไม่รู้ว่ารอยฟกช้ำจากการถูกต่อยมันเป็นยังไง ทำบ่อยแทบจะจำได้แล้วด้วยซ้ำว่ารอยแบบไหนเกิดจากอะไร เพราะรายนั้นนอกจากจะป่าเถื่อนแล้วยังบ้าดีเดือดอีกด้วย

           
“…” ผมได้โวยวายอีกครั้งเมื่อเขาไม่ตอบ

           
“เกี๊ยก!”

           
“อ้าว เลมาตั้งแต่เมื่อไหร่” แต่แล้วน้ำเสียงทุ้มก็ทำให้ผมต้องหยุดความสนใจเรื่องรอยฟกช้ำของเกี๊ยกไปชั่วขณะ เมื่อพิษเดินมาจากทางด้านหลังพร้อมกับดินและเอ็กซ์ ผมโบกมือทักทายทั้งสามขณะสำรวจใบหน้าของแต่ละคน ว่ามีรอยฟกช้ำเหมือนเกี๊ยกหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าไม่มี “กินข้าวยัง”

           
“เลกินแล้ว” ผมตอบแต่เดี๋ยวนะ! “พิษ…มือไปโดนอะไรมา”

           
 “นี่นะเหรอ” มือหนาที่ถูกพันผ้าสีขาวรอบมือเอาไว้ยกขึ้น “เป็นแผลนิดหน่อย”

           
“แผลนิดหน่อยมันต้องพันขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถามด้วยความสงสัย

           
 “ก็กูทำแผลไม่เป็นนี่หว่า มันก็เลยได้ออกมาแบบนี้แหละ”

           
“เลเชื่อได้ไหม”

           
“คิดว่าไง”

           
“อืม…”

           
 “…” ผมขมวดคิ้วก่อนจะกระโดดเข้าใส่อีกฝ่าย

           
“เชื่อ!!”

           
 “หึ แค่นี้ก็จบ” ไซยาไนด์ลูบหัวผมไปมาเด็ก ๆ ก่อนผมจะถูกใครสักคนดึงให้ห่างจากมือหนาพอหันไปมองก็พบว่าเป็นดิน ซึ่งวันนี้เขาก็ยังใส่หน้ากากอนามัยกับแว่นตาหนาเตอะอยู่เหมือนเดิม

           
“มีอะไรเหรอ” ผมถาม

           
“วันนี้ใครมารับ” เดี๋ยว ๆ ปกติตอนเช้าแบบนี้เขาต้องถามว่าใครมาส่งไม่ใช่เหรอ ผมสงสัยแต่ก็ตอบ

           
“พ่อมารับ” ฮิมบอกแล้วว่าถ้าเลิกแล้วให้โทรหา เดี๋ยวเขาจะมารับเพราะมีสัญญาติดค้างกับผมจากเมื่อวาน วันนี้เราจะไปกินเนื้อย่าง

           
“อืม” ร่างสูงตอบแค่นั้นก่อนจะปล่อยมือออกจากแขน ทิ้งให้ผมยืนงงกับคำถามแปลก ๆ ของอีกฝ่ายอยู่เพียงคนเดียว แต่งงได้ไม่นานหรอก เพราะหลังจากนั้นไม่กี่นาทีพวกเราก็โดนรุ่นพี่เรียกให้เข้าห้องเชียร์เพื่อทำกิจกรรมของวันนี้ ซึ่งขอบอกตามตรงว่าต่างจากเมื่อวานลิบลับ ทั้งกิจกรรมทั้งบรรยากาศ กิจกรรมของวันนี้คือสานสัมพันธ์น้องพี่ หลัก ๆ ก็ประมาณว่าให้พี่มาเล่นกิจกรรมกับน้อง แต่มันน่าแปลกใจนิด ๆ ที่ทุกคนไม่พูดถึงเรื่องเมื่อวานแม้แต่คนเดียว แถมกลุ่มพี่ว้ากยังหายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมกับพี่เหมียว วันนี้ปีหนึ่งทุกคนเลยอารมณ์ดีเมื่อกิจกรรมดีและมีพี่สันทนาการเข้ามาแทน

           
พอรู้สึกสนุกเวลาก็เหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว มารู้ตัวอีกทีก็พบว่าตอนนี้มันบ่ายสามครึ่งใกล้ได้เวลาเลิกของพวกเราเหลือแค่กิจกรรมสุดท้าย แต่ยังไม่ทันที่พี่สิน (พี่ที่เป็นหัวหน้าสันทนาการ) จะประกาศว่าเป็นกิจกรรมอะไร จู่ ๆ ก็มีพี่คนหนึ่งวิ่งมากระซิบหู เขาคุยอะไรกันสักอย่างจากนั้นพี่สินจึงประกาศด้วยสีหน้ากึ่งเครียดนิด ๆ

           
“น้อง ๆ ครับกิจกรรมสุดท้ายของเราคงต้องหยุดเอาไว้ก่อน”

           
“…” ทุกคนเงียบไม่กล้าส่งเสียงอะไร เพราะดูจากสีหน้าพี่สินเหมือนจะมีเรื่องอะไรบางอย่าง

           
“เพราะว่า…” 

           
แอด   

           
ยังไม่ทันให้พี่สินได้พูดจบ ร่างสูงในชุดเสื้อช็อปสีแดงของใครหลายคนก็เดินเข้ามาในห้อง ผมขมวดคิ้วก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อสามในเจ็ดของคนที่เดินนำหน้าคือคนที่ผมรู้จักเกือบทั้งหมด มีพี่วิน พี่รพ และพี่ไทด์ จริงด้วยสิ! ผมลืมไปเลยว่าพวกเขาก็อยู่วิศวะ! เลยพยายามมองหาคนสุดท้ายที่น่าจะมาด้วยอีกคนแต่ปรากฏว่าฮิมไม่มา แถมคนที่ไม่น่าจะมากลับมา

         
ผมอ้าปากค้างมองร่างสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร เจ้าของใบหน้าหล่อเหลากับผิวขาวจัดที่เดินรั้งท้ายขบวน

           
พี่ผา!!

สมาชิกคนที่หกของบ้านซึ่งผมไม่ได้เจอหน้าพี่แกมาเดือนกว่า พี่ผาไม่ค่อยกลับบ้านเพราะตั้งแต่มีแฟนก็ไปค้างที่คอนโดแฟนตลอด

 

         
 ‘พี่หัวแดง ๆ ชื่อไรว่ะมึง’

         
‘มึงดู! พี่วิน โคตรหล่อ’

         
‘พี่ที่หน้านิ่ง ๆ ก็หล่อน่ะมึง ถ้าไม่เอากูขอ’

         
‘กูจองหมด!’


 

           
ผมได้แต่เอียงหูฟัง เคยรู้มาก่อนว่าพวกพี่ ๆ ฮอตกันพอสมควร แน่ล่ะ…แต่ละคนหล่อน้อยไปเสียเมื่อไหร่

         
เจ็ดคนที่เดินนำมายืนอยู่ด้านหน้าส่วนคนอื่น ๆ เดินมาล้อมพวกเราไว้เป็นวงกลม เมื่อทุกอย่างอยู่ในความเงียบ  สงบ คนที่ผมนึกไม่ถึงอย่างพี่วินก็เดินออกมาข้างหน้าแล้วกล่าวถ้อยคำสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า

           
“สวัสดี…”

 

ร้านเนื้อย่าง

           
18.56 นาที

 

           
“พ่อ”

           
 “ว่า”

           
“เราตกลงกันว่าจะมากินเนื้อย่างกันสองคนใช่ไหม”

           
“อือฮึ”

           
“แล้วทำไม” ผมกำหมัดแน่น “คนมันถึงได้เต็มโต๊ะขนาดนี้ล่ะ!!”

           
ผมกัดปากแน่นพลางมองหน้าเหล่าชายหนุ่มในชุดเสื้อช็อปสีแดงที่นั่งถือตะเกียบอยู่ฝ่ายตรงข้ามด้วยความหงุดหงิด หลังจากที่พวกพี่ปีสี่เข้ามาได้ไม่นานเราก็ถูกปล่อย (ผมล่ะเสียดายกิจกรรมสุดท้ายที่ต้องถูกยกเลิกเพียงเพราะรุ่นพี่ปีสี่จะเข้ามาทักทายรุ่นน้องกับพูดข่มปีสองและสามนิด ๆ) หลังจากปล่อยแล้วฮิมก็มารับแล้วพาผมมาที่ร้านเนื้อย่างตามที่ได้ให้สัญญาไว้เมื่อวาน แต่พอผมเข้าร้านและนั่งลงบนเก้าอี้เท่านั้นแหละ พวกพี่ ๆ ที่ตามมาจากไหนไม่รู้ก็เข้ามานั่งด้วยเฉย จากสองที่มันก็เลยกลายเป็นสี่ จากสี่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นห้า ทั้งบ้านมาเกือบครบขาดแค่สอง!

           
ส่วนฮิมรายนั้นไม่รู้สึกอะไรหรอก เพื่อนมาก็กินด้วยกัน มีแต่ผมคนเดียวนี่แหละที่รู้สึกเฟลอย่างแรง

           
“ก็มาเลี้ยงไอ้ผาที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานหนึ่งเดือนไง” พี่วินเป็นคนตอบ มาเลี้ยงพี่ผาแต่พี่ผายังไม่มาเลยด้วยซ้ำ!

           
“แล้วทำไมต้องมาร้านนี้ด้วย”

           
“มึงนี่ก็ถามแปลก ก็ฮิมมันจะมาร้านนี้ จะให้พวกกูไปร้านไหน” อันนี้พี่ไทด์เป็นคนพูด

           
“ร้านไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ร้านที่มีพ่อกับเล” ผมบอก

           
“ทำไมหรือมึงอยากแดกกันแค่สองคน”

           
“ใช่!!” ผมตอบรับพลางหันตัวเข้าไปกอดที่คนกำลังเอามือพาดบ่าผมอยู่ “เลไม่ได้อยู่กับพ่อมานานแล้วนะ”

           
“มึงก็อยู่ด้วยกันไหมล่ะหนิ”

           
“แค่สองคน” ผมเสริม

           
“มึงก็จะติดไอ้ฮิมอะไรนักหนา ห้องนอนก็ยังไม่ยอมแยกนี่มึงจะไม่ให้มันมีเมียบ้างเลยหรือไง”

           
ผมเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินคำว่าเมีย รีบถามคนข้างกาย “พ่อมีแล้วเหรอ”

           
“หือ ?” คนโดนถามทำหน้างง ๆ เหมือนไม่ได้ฟัง

           
“เลถามว่าพ่อมี…มีแฟนแล้วเหรอ”

           
 “ตัวติดมึงเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงแบบนี้จะให้เอาเวลาไหนไปหาล่ะ” พี่ไทด์เค้นเสียงประชด แต่เป็นเสียงประชดที่ทำให้ผมดีใจแบบแปลก ๆ

           
“พ่อยังไม่มีใช่ไหม ดี! เลไม่อยากได้แม่” ผมบอกด้วยความสัตย์จริง แต่พี่วินก็…

           
“แต่อยากเป็นแม่เอง ?”

           
“หยาบคาย!!”

           
“เงียบได้แล้ว” เจ้าของเรือนผมสีแดงที่คอยฟังอยู่นานเอ่ยขึ้น พอพี่รพหันมามองผมแบบดุ ๆ ผมก็แทบอยากจะมุดเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะแล้ว ไม่ใช่เพราะอายนะ กลัวต่างหาก “แดกที่นี่แหละ พวกมึงเลิกเถียงกันซะที”

           
 เงียบ…เงียบกันทั้งโต๊ะ

           
ผมได้แต่ข่มความไม่พอใจเอาไว้ภายใน ขณะคีบหมูที่ฮิมย่างมาให้เข้าปาก หลังจากได้กินเราก็กินต่อไปเรื่อย ๆ สงครามน้ำลายเป็นอันว่าจบลงเพราะพี่รพ จนกระทั่งกินกันไปได้เกินครึ่งคนที่โดนบอกว่ามาเลี้ยงฉลองก็พึ่งมา

           
“ช้าฉิบหาย” พี่ไทด์พูดใส่ร่างสูงที่พึ่งจะเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ

           
“กูขอโทษ พึ่งไปรับแฟนมา” ผมบอกหรือยังว่าพี่ผารักแฟนมาก “น้องเลครับ พี่มีของขวัญมาให้ด้วยนะ”

           
“จริงเหรอ” ผมเบิกตากว้างรีบหันไปทางร่างสูงทันที กล่องของขวัญถูกยื่นมาให้ ผมไม่รอช้ารีบแกะออกและแทบจะกรีดร้องเมื่อเห็นของด้านใน

           
 มันไม่ใช่ของราคาแพงแต่เป็นสิ่งที่ผมอยากได้มาก

           
แผ่นเกม sailor xyz รุ่น limited edition ตั้งแต่ยุค 90s ของที่ผมอยากได้มานานแต่หาซื้อไม่ได้สักที!!

           
“จำได้ว่าเราบ่นว่าอยากเล่น”

           
“พี่ผาได้มาจากไหน” ผมถามด้วยความตื่นเต้นจนตัวสั่นไปหมด “เลหาตั้งนานไม่เห็นเจอ”

           
“เพื่อนพี่มันมี แต่มันยังไม่เคยเล่น เลยขอซื้อต่อจากมัน”

           
“ฮือ เลรักพี่ผา” ผมบอกอย่างที่เคยคิด เพราะถ้าเทียบกับทุกคนพี่ผาจะเป็นคนที่ใจดีที่สุดในบ้าน ผมรักสุดในบรรดาพี่ ๆ (ฮิมไม่นับนะ) ปกติเวลาโดนด่าก็มีแต่พี่ผาที่อยู่ข้างผมตลอด แต่น่าเสียดายที่ตั้งแต่พี่ผามีแฟนก็ไม่ค่อยกลับบ้าน “ขอบคุณครับ”

           
“ถือว่าแทนคำขอโทษที่พี่ยังไม่ได้ให้ของขวัญที่น้องเลสอบเข้ามหา’ลัยได้ก็แล้วกัน” แต่พูดถึงตรงนี้ผมก็ต้องหุบยิ้มลง อาการตื่นเต้นหายวับเหลือเพียงอารมณ์หม่น ๆ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

           
“ยินดีด้วยครับ พี่ผาเป็นคนแรกที่ให้ของขวัญที่เลสอบเข้ามหา’ลัยได้”

           
“อ้าว… ฮิมไม่ได้ให้…” ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วขณะมองผมสลับกับคนข้าง ๆ ไปมาแล้วไม่ถามอะไรต่อ

           
บรรยากาศกลับเข้าสู่โหมดเงียบ ผมวางตะเกียบลงเนื่องจากกินไม่ลงก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นรอ แต่พอพูดไปแล้วก็อยากจะร้องไห้ ผมอุตส่าห์ตั้งใจอ่านหนังสือจนสอบเข้ามหา’ลัยได้แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครให้อะไรผมเลย ดอกไม้สักช่อยังไม่มี คำยินดีก็ไม่ได้

           
ใจร้ายที่สุด…

 


           
บ้าน

           
 21.03 นาที

 

           
“เล”

           
“…”

           
“ตื่นได้แล้ว ถึงบ้านแล้ว” เสียงทุ้มปลุกร่างเล็กที่นอนหลับสนิทอยู่เบาะข้างคนขับ มือหนาเขย่าตัวบางเล็กน้อยก่อนเจ้าตัวจะลืมตาขึ้นมาด้วยความงัวเงีย ใบหน้าเรียวหันไปมองนอกกระจกรถพอรู้ตัวว่าอยู่ไหนจึงยันตัวขึ้นจากเบาะแล้วเปิดประตูลงจากรถไปโดยไม่พูดอะไร

           
เจ้าของร่างสูงรีบเอื้อมมือไปหยิบกล่องอะไรบางอย่างก่อนจะลงจากรถแล้วเดินตามกายบางที่กำลังเข้าบ้าน ผ่านห้องครัว จากนั้นเดินขึ้นบันไดชั้นสองก่อนเข้าห้องไปแบบเงียบ ๆ

           
ความเงียบที่ผิดปกติจนทำให้คนมองต้องถอนหายใจ

           
ร่างหนายืนอยู่หน้าประตูก่อนจะตัดสินใจไม่เข้าไป ขายาวก้าวถอยหลังแล้วเดินลงไปห้องนั่งเล่นด้านล่างที่มีพวกเพื่อนเขากำลังนั่งเงียบ ๆ กันอยู่ แต่ละคนถือกล่องของขวัญคนละกล่อง สภาพเหมือนผ่านสงครามโลกครั้งที่สองมาแล้ว บ่งบอกว่าห่อมานานแต่ไม่ได้ให้หรือไม่ก็…

…ไม่กล้าให้

“รู้งี้กูน่าจะฝากไอ้ผาให้ด้วยก็ดี” วินว่าพลางเอามือขยุ้มผมแบบคนคิดหนัก

“มึงไม่ให้ไปเลยวะ” ไทด์บอกแต่สายตายังคงจับจ้องกล่องของขวัญในมือด้วยเอง “ด่าเขาเอาไว้เยอะเลยไม่กล้าให้สินะมึง”

“มึงก็ไม่ต่างจากกูหรอก”

“กูไม่มีโอกาส” เจ้าของเสียงเฉื่อยตอบกลับ

“เจ็ดเดือนที่ผ่านมาพวกมึงไม่มีโอกาสเลยหรือไง”

“เสือกว่ะไอ้รพ มึงก็เหมือนกันนั่นแหละ ว่าแต่พวกกู”

นัยน์ตาคมมองจากนั้นจึงแสยะยิ้ม อันที่จริงแล้วพวกนี้มันก็มีของขวัญให้เลเกือบทุกคนนั่นแหละ เพียงแต่ไม่กล้าให้ก็เท่านั้นเอง ขายาวก้าวผ่านกลางห้องไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาก่อนจุดบุหรี่ขึ้น

“เออฮิม มึงยังไม่ได้ให้เหรอวะ” เจ้าของเรือนผมสีแดงถามขึ้น

“ยัง” คนโดนถามตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบขณะปล่อยควันสีเทาออกมาอย่างช้า ๆ

“พ่อมันยังไม่ให้ งั้นกูยังไม่ให้”

“ทำไมมึงถึงยังไม่ให้วะ” ไทด์ถามอย่างสงสัยขณะหรี่ตาลงมองเพื่อนสนิท ที่จริงแล้วมันน่าจะให้ตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าน้องเลสอบเข้ามหา’ลัยได้ด้วยซ้ำ

มือหนายกกล่องที่หยิบลงมาจากรถขึ้นแทนคำตอบ กล่องหนังสีดำสนิทดูเรียบ ๆ แต่ติดสัญลักษณ์ของอะไรบางอย่างที่ทำให้คนมองต้องเบิกตากว้าง นิ้วเรียวคีบบุหรี่ที่อยู่บนริมฝีปากออกขณะยกกล่องสีดำขึ้นพลางพึมพำเบา ๆ

“ของขวัญมันพึ่งเสร็จวันนี้”

 

แอด

ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกแล้วปิด ภายในห้องที่มืดสนิทและเย็นฉ่ำไปด้วยแอร์ เสียงหายใจเป็นจังหวะดังลอดเข้ามาให้ได้ยินบ่งบอกว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงหลับสนิทแล้ว ร่างหนาเดินผ่านความมืดก่อนนั่งลงที่เตียงนอนขนาดใหญ่พลางหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกล่องที่ถือติดมือมาด้วย นัยน์ตาคมจ้องใบหน้าหวานขณะยืดตัวคร่อมจากขวาไปซ้ายเพื่อจับมือข้างที่ไม่ถนัดของอีกฝ่ายมาใส่อะไรบางอย่างให้ที่ข้อแขน

กริ๊ก

ทันทีที่เสียงลงล็อคของโลหะดังขึ้น ร่างสูงที่คร่อมตัวอยู่จึงละออกก่อนก้มลงจูบที่หน้าผากขาวช้า ๆ แล้วลากริมฝีปากเลื่อนลงมากคลอเคลียที่ลำคอระหงก่อนเลื่อนขึ้นกกหู เจ้าของใบหน้าหล่อเหลากระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแม้จะรู้ว่าคนที่กำลังหลับสนิทจะไม่ได้ยิน

“พี่ขอโทษที่ให้ของขวัญเราช้าคนดี” ว่าจบก็ลุกออกจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตู เจ้าของนัยน์ตาคมเหลียวหลังมองคนบนเตียงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกจากห้อง

ท่ามกลางความมืดมิดโลหะสีทองอ่อน ๆ สะท้อนความหรูหราออกมา เสียงของเข็มยาวภายในหน้าปัดสีใสเคลื่อนไปยังที่ใหม่เมื่อถึงเวลาที่มันกำหนด ด้านบนสุดของหลังหน้าปัดมีสัญลักษณ์ของอะไรบางอย่างติดอยู่ เป็นแบรนด์ของนาฬิกาที่มีราคาแพงจนคนซื้อต้องคิดแล้วคิดอีก หากเรือนที่กำลังสวมอยู่บนข้อมือขาวนี้กลับถูกสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษให้เหมาะสมกับคนใส่ คือนาฬิกาที่มีลวดลายเรียบ ๆ แต่ดูหรูหราสมกับราคาของมัน

 

Rolex special edition (made for LAY)

$34,428











100%

หยุดค่ะ! อย่าพึ่งตบ เรารู้ว่าเราหายไปนาน นานจนแบบถ้าเขียนเอาอรรถรสนักอ่านก็คงจะบอกว่า

'กูขี้เกียจรอมึงแล้วววว!! (&*(&(^%***(*)#&%#%'

หายไปเกือบเดือนเพราะไปทำอะไรบางอย่างมา ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจให้แก่พ่อแม่

ซึ่งอะไรบางอย่างที่ว่ามันยังสำคัญเป็นอันดับหนึ่งสำหรับชีวิตเรามาก เราผิดเองที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ

แต่สำหรับตอนนี้การแต่งนิยายมันยังสำคัญเป็นอันดับสองของชีวิตเรา พูดไปเดี๋ยวหาว่าแก้ตัวสุดท้าย

เราผิดเองค่ะที่ไม่ได้อัพและปล่อยให้ทุกคนรอนาน จะตบตียังไงก็ได้ เชิญค่ะ T_T



ปล.ตอนนี้แต่งยากแบบ ชห 90% ที่ไม่มาสักทีเพราะแก้เกือบสิบรอบค่ะ

คนที่ยังรอเราก็ขอบคุณมาก ๆๆ

รัก



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ on twitter
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-10-2016 21:28:32
อยากอ่านต่ออยากรู้ว่าพ่อฮิมจะทำอะไรกับพวกพี่ว๊ากบ้าง ว่าแต่อย่าลืมคิดบัญชีกับชะนีที่ตบเลด้วยนะ คุณพ่อ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-10-2016 22:02:02
อร๊ายยยย ชอบเรื่องนี้จังค่ะ

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 06-10-2016 22:27:04
ฮิมนี่พระเอกใช่ไหม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090916#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 06-10-2016 22:42:38
หนูเลอยู่ท่ามกลางหนุ่มหล่อ โอ้ยยยยอิจฉา

ปล.ฮิมคือพระเอก?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 06-10-2016 23:12:19
คนเขียนสู้ๆนะคะ น้องเลย์อย่างอแงมากนะลูก เดี๋ยวพี่ฮิมหนีไปมีเมีย  :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: GGamy ที่ 06-10-2016 23:14:04
รักไรท์เหมือนกันค่ะ  :-[
ทุกคนนี่ก็ปากอย่างใจอย่างจริงๆ
นี่ถ้าไรท์มาต่อแบบนิดเดียวนี่จะตบแล้วนะ  o18
 ดีที่มาเยอะหน่อยในพอชื่นใจ  :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-10-2016 00:00:59
ดีจายยยยยย มาต่อ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ความลับเยอะะะะ มาก แต่ก็สนุกมาก
คนที่ดูแลเล ถูกลงโทษกันหมดเลย
อยากรู้ นังมารร้ายเหมียว(ที่น่าจะเลวตั้งแต่กำเนิด)
โดนอะไรบ้างมั้ย ? :katai1: :katai1: :katai1:
รอตอนต่อไป อย่างใจจดใจจ่อ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 07-10-2016 00:40:49
ดูลึกลับกันทุกคนเลย แล้วทำไมเลมาอยู่กับฮิมได้ ฮิมเอ็นดู? ตกหลุมรักเล?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 07-10-2016 07:15:11
อิจๆๆๆๆๆๆๆนู๋เล

ต้องทำบุญด้วยอะไรถึงจะได้อยู่ท่ามกลางผู้ชายแซ่บๆขนาดนี้

ฮิม...คือพระเอก ชัวร์ๆ เชียร์ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ::ppppop:: ที่ 07-10-2016 09:28:38
โอย ผู้ชายเยอะจัง เลือกไม่ถูกเลย...
พี่ฮิมเปิดตัวได้หล่อมากกกกกก :impress2:
รอนะรอนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-10-2016 09:39:58
รู้สึกอิจเล็กๆ ทำบุญมาด้วยอะไรค่ะน้องเลถึงได้อยู่ท่ามกลางคนหล่อๆ แบบนี้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 07-10-2016 10:42:55
ขี้อ้อนนน เอ้ยยย ตัวเล็กๆแต่เค้ากลัวกันหมดเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 07-10-2016 11:02:19
อยากเปนแม่หรอ เล 5555555555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 07-10-2016 15:27:33
รอค่าาาาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 07-10-2016 17:42:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 07-10-2016 18:48:24
ดีใจจังน้องเลมาแล้ว
 :katai2-1: :katai2-1:
น้องเลตื่นขึ้นมาจะว่ายังไงน้า เมื่อเห็นนาฬิกาบนข้อมือ อิอิ  :L2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 07-10-2016 21:33:38
อ้ากกกกกกก หลงแล้วววววววว >< ชอบมากค่ะ น้องเลน่ารัก พี่ฮิมก็สุดๆอ่ะะะ ติดตามค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 07-10-2016 22:15:32
น้องเลน่ารักอ่ะะะ องครักษ์เยอะจังเลยย
ชอบฮิม แบดๆ ปากแข็งแต่เน้นการกระทำ แอร๊ยยยย
อยากให้เป็นแฟนกันแล้วง่าา ชัดเจนขนาดนี้  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

รอได้ค่า สู้ๆน้าา ชอบเรื่องนี้มากเลยย  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 08-10-2016 07:52:56
หลงเข้ามาแล้วออกไม่ได้อะ ติดนิยายเรื่องนี้ซะงั้น
น้องเลหน้ารักจัง คุณพี่สึดหล่อก็ได้ใจอิฉันสุดๆ
สรุปเลยละกัน ชอบมากกกกกก มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 08-10-2016 15:52:02
ชอบๆ
มาต่อบ่อยๆนาจา เป็นกำลังใจไห้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: loveBoyoll ที่ 09-10-2016 08:43:05
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 09-10-2016 10:14:00
ชอบค่ะ มาต่อบ่อยๆ เยอะๆ นะคะ รอจร้าาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Fasai25448 ที่ 09-10-2016 10:31:00
อ๊ากกก เฮียฮิม จริงๆด้วย
ดีต่อใจจจจจจจจจจจจจจจจจ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 09-10-2016 13:59:42
           
#4
 

         
ซ่า ซ่า

           
เสียงไข่ในที่กำลังทอดในกระทะเทฟล่อนชั้นดีทำให้หนุ่มผมแดงที่ตาแทบจะปิดเข้าหากันอยู่แล้วต้องลืมตาขึ้น มือหนาข้างที่ถือตะหลิวอยู่รีบตักไข่ดาวสีสวยขึ้นใส่จานก่อนที่มันจะไหม้ และเมื่อทอดไข่ดาวเสร็จแล้วเขาจึงหันไปทำอย่างอื่นที่มันยังไม่เสร็จแทน

           
รพหยิบมีดที่อยู่ไม่ไกลตัวขึ้นมาสับกระเทียมบนเขียงหนึ่งในส่วนผสมของเมนูที่จะทำในวันนี้อย่างคล่องแคล่ว ขณะหาวนอนรอบที่สี่ตั้งแต่ที่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้ ไม่รู้ทำไมคนที่หลังจากออกไปงานปาร์ตี้ตามที่มีคนชวนและพึ่งกลับมาถึงบ้านตอนตีสามอย่างเขาถึงต้องตื่นมาตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อทำอาหารให้คนที่ทำอาหารเก่งระดับเชฟห้าดาวอย่างน้องเล มันคงเป็นกรรมของเขาเองที่บังเอิญทุกคนในตระกูลดันทำอาชีพเป็นเชฟให้กับภัตตาคารหรูมากกว่าห้าดาว ส่วนเขาแม้จะแหวกฝูงมาเรียนวิศวะแต่ทักษะการทำอาหารที่ถูกฝึกมาตั้งแต่เด็กก็ทำให้ตนเองมีฝีมือการทำอาหารไม่ด้อยไปกว่าใคร

           
ส่วนสาเหตุที่ต้องตื่นมาทำตั้งแต่หกโมงเช้าทั้ง ๆ ที่พึ่งได้นอนตอนตีสามแบบนี้ก็คงเป็นเพราะ…

           
ร่างสูงที่กำลังนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสืออยู่ไม่ไกลนัก บอสใหญ่ของกลุ่มที่ไม่ได้สถาปนาตัวเองขึ้นแต่รู้ ๆ กันอยู่โดยที่ไม่ต้องพูด พ่อไม่แท้ของเลที่แค่สั่งทุกคนก็ต้องทำตาม ส่วนเขาก็คือคนที่ถูกสั่ง

           
แปะ

           
กระเทียมที่กำลังจะนำไปใส่กระทะบังเอิญหล่นใส่กลางไข่ดาวน่าทาน รพส่ายหน้าให้กับตัวเองเล็กน้อยก่อนวางกระเทียมที่ยังไม่ได้ใส่ในกระทะวางไว้ที่เดิมแล้วหันไปจับตะเกียบเพื่อหยิบกระเทียมบนไข่แดงของไข่ดาวออก ทว่าขณะนั้นเอง…

           
“อ้ากกกกกกกก!!”

           
จึก!

           
เสียงตะโกนร้องของใครบางคนจากชั้นสองทำให้ตะเกียบเผลอจิ้มลงไปในไข่แดงไม่สุดจนมันไหลเยิ้มออกมา ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววหงุดหงิดขณะเงยหน้าขึ้นมองไปยังด้านบน ตามมาด้วยเสียงเปิดประตูดังปังกับเสียงเท้าที่กำลังวิ่งลงมาจากบันได ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีเจ้าของต้นเสียงโวยวายก็โผล่หน้ามาให้เห็น

           
“พ่อ!!” เลตะโกนเรียกร่างอยู่ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ไม่ไกลเขานัก ก่อนเจ้าตัวจะวิ่งเข้ามากอดฮิมที่ยังคงนั่งอยู่นิ่ง ๆ “นาฬิกานี้พ่อให้เลใช่ไหม ฮือ…เลรักพ่อ รัก ๆ ๆ ๆ ๆ รักที่สุดในโลกเลย”

           
ตามมาด้วยการหอมแก้มฟอดใหญ่ที่ทำให้รพต้องเบี่ยงหน้าหนี เขาไม่รู้หรอกว่าหลังจากนี้ด้านหลังของคนที่กำลังทำอาหารอยู่งก ๆ จะเข้าสู่โหมดมุ้งมิ้งขนาดไหน แต่ที่แน่ ๆ คือนาฬิกาโรเล็กซ์บนข้อมือของเลมันเด่นมาก ทีเมื่อวานยังทำหน้าเศร้าเพราะไม่ได้ของขวัญอยู่เลย ถัดมาอีกวันยิ้มได้ขนาดนี้แล้วเห็นทีของขวัญที่เขาจะให้มันคงไม่จำเป็นแล้วล่ะมั้ง

           
แต่จะห้ามไม่ให้ดีใจเลยก็คงยาก คนพ่อเล่นให้ Rolex สั่งทำขึ้นพิเศษราคาเกินล้านเป็นของขวัญเสียขนาดนั้น เขารู้จักกับเลมาห้าปีกว่า ตั้งแต่ตอนมอหกมาจนถึงตอนนี้ ขอบอกด้วยความรู้สึกที่แท้จริงว่าถ้าเขามีน้องแบบนี้คงจะจับมันมาตีให้ก้นลาย คนอะไรเอาแต่ใจตัวเองได้ขนาดนี้ (ยังไม่ได้เจอฤทธิ์ความเอาแต่ใจของเลใช่ไหม เดี๋ยวก็ได้เห็น) แต่ลองมามองอีกทีจะไม่ให้เอาแต่ใจได้ยังไง ในเมื่อพ่อมันทุ่มให้ขนาดนี้ ขออันนั้นก็ให้ อันนี้ก็ให้

           
แต่แล้วเจ้าของเรือนผมสีแดงก็ต้องเร่งมือทำกับข้าวให้เร็วขึ้นเนื่องจากเสียงตะโกนลั่นบ้านของเลทำให้พวกที่กว่าจะตื่นพระอาทิตย์ก็แทบจะเลยกลางหัวไปแล้วต้องตื่นขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด ไอ้ไทด์กับไอ้วินเดินลงมาจากบ้านด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความรำคาญเกินลิมิต

           
“ตะโกนหาพ่อมึงเหรอ” คำทักทายแรกจากเจ้าของรอยสักลายแมงป่อง คนที่กำลังนั่งบนตักแกร่งอย่างออดอ้อนจึงตอบด้วยความอารมณ์ดี

           
“ใช่ เลตะโกนหาพ่อ”

           
“กูอยากฆ่ามึงจริง ๆ” ไทด์กัดฟันกรอดขณะเดินมาเปิดตู้เย็นแล้วเปิดขวดน้ำกรอกเข้าปาก

           
กำลังคิดอยู่ใช่ไหมว่าไอ้ผาหายไปไหน ? หลังจากจบที่ร้านเนื้อย่างเมื่อคืนมันก็กลับไปนอนคอนโดกับแฟนต่อ บ้านอันแสนวุ่นวายแห่งนี้เลยยังมีแค่พวกเขาหกคนที่อาศัยอยู่เหมือนเดิม ส่วนอีกคนตอนนี้คงยังหลับอยู่ ไม่ว่าจะมีเสียงปลุกหรือเสียงอะไรเช้าขนาดนี้มันก็ไม่ตื่นหรอก มันทำงานตอนกลางคืน เมื่อคืนก็กลับมาถึงบ้านพร้อมเขาและได้เจอกันในรอบห้าวันที่ผ่านมา เป็นคนที่กลับมานอนบ้านแต่ทุกวันแต่ไม่ได้เจอหน้ากันทุกวัน แปลกยิ่งกว่าไอ้ผาที่มีบ้านแต่ไม่ยอมกลับบ้านเสียอีก

           
“เลขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วเดี๋ยวสาย” ได้เสียงแว่ว ๆ มาจากคนพ่อ ไม่มีเสียงตอบรับแต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็ได้ยินเสียงของคนรีบวิ่งขึ้นบันไดไป…

 



 

           
วันนี้เป็นวันดีที่สุดในรอบหนึ่งเดือนของผม

           
ไม่ดีได้ยังไง พอตื่นมาปุ๊บก็เจอ Rolex บนข้อมือ อารมณ์ตื้นตันมันพุ่งขึ้นอกจนต้องระบายออกมาด้วยการตะโกนลั่นบ้านอย่างที่ทำไปแล้วเมื่อเช้า คือมันดี มันดีมาก รู้สึกดียิ่งกว่าตอนที่บารัก โอบามาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเสียอีก เหมือนคลื่นทะเลซัดอารมณ์หม่นของผมออกซะเกลี้ยง และไม่จำเป็นต้องทายว่าใครให้ คนที่กล้าให้ของแพงสำหรับผมขนาดนี้มีแค่คนเดียว พ่อไง!!

           
“เลรักพ่อ”

           
“ไปเรียนได้แล้ว”

           
“เลรักพ่อ”

           
“รักก็ไปเรียนสิ”

           
“เลขี้เกียจ” ผมบอกตามตรง

           
“อย่าดื้อสิ” ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่ผมกำลังกอดอยู่ สลับกับมองไปนอกรถที่นักศึกษาเดินขวักไขว่เพราะเรามาถึงกันเกือบสิบนาทีแล้วแต่ผมยังไม่ยอมลงจากรถสักที และถ้าผมไม่ยอมลงจากรถฮิมก็จะไม่ได้ไปเรียนเพราะว่าเขาเรียนคนละตึกกับผม (ผมยังไม่ได้เรียนด้วยซ้ำเพราะวันนี้ยังทำกิจกรรมเหมือนเดิม) หลังจากกรีดร้องเพราะนาฬิกาในตอนเช้า พอโดนฮิมไล่ให้ไปอาบน้ำผมก็ไปอาบอย่างที่เขาบอก ขัดสีฉวีวรรณอย่างดี อาบเสร็จก็ลงมาทานข้าวพร้อมกับชายหนุ่มหน้าบึ้งเพราะโดนเสียงของผมปลุกให้ตื่นอีกสองคนคือพี่วินกับพี่ไทด์ ส่วนพี่รพรายนั้นไปนอนต่อเพราะพึ่งได้นอนตอนตีสามสงสัยจะไม่ไหวจริง ๆ

           
หลังจากกินเสร็จพ่อก็มาส่งผมที่มหา’ลัย เพียงแต่พอถึงมหา’ลัยแล้วผมไม่ยอมลง…

           
“วันนี้ไม่ใส่น้ำหอมเหรอ” คำถามจากคนข้างกายทำให้ผมต้องละสายตาต้องด้านนอกคนมามองคนด้านในรถแล้วพยักหน้า

           
“เลไม่ได้ใส่ มันหมด” วันนี้ถ้าจะเสียดายก็เสียดายอยู่อย่างเดียวคือไม่ได้ใส่น้ำหอม เพราะหลังไปขัดสีฉวีวรรณในห้องน้ำแล้ว ตอนออกมาปรากฏว่าน้ำหอมเกลี้ยงขวด ผมเลยตัดสินใจไม่ใส่ จริง ๆ แล้วถ้าจะใส่ใส่น้ำหอมของฮิมก็ได้ (เราใช้น้ำหอมแยกกัน) แต่กลิ่นของฮิมมันเป็นกลิ่นที่ผมอยากได้เขามีคนเดียว ไม่อยากให้คนอื่นใช้แม้แต่ตัวผมเอง “แปลกเหรอ”

           
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาส่ายหน้า นั่นทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว

           
ปกติผมก็ใส่น้ำหอมไม่เยอะหนิ คือซื้อมาทีหนึ่งใช้ได้หลายเดือนมาก เวลาฉีดมันเลยไม่ค่อยต่างจากไม่ฉีดสักเท่าไหร่ แต่ฮิมสามารถแยกออกว่าผมใส่หรือไม่ใส่ จมูกดีอะไรปานนั้น ขนาดผมกอดเขาปานนี้ผมยังได้แค่กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ เลย เพราะเราสองคนติดนิสัยเดียวกันคือฉีดแต่ฉีดไม่เยอะ ฉีดเยอะกลิ่นมันฟุ้ง แทนที่จะหอมดมแล้วกลับเวียนหัวแทน ผมคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่สูงกว่าเพราะผมเอนตัวจากเบาะข้างคนขับมากอดเขาอยู่

           
“พี่ฮิมฟิล์มรถเราทึบมากไหม”

           
“หือ ?” ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นผมถามแปลก ๆ ผมเลยคิดประโยคใหม่

           
“ถ้ามองจากด้านนอกคนอื่นเห็นเราที่อยู่ด้านในรถไหม” ผมว่าฟิล์มรถของฮิมมันมืดอยู่พอตัว คิดว่าถ้ามองจากด้านนอกคงมองคนในรถไม่เห็น แต่เพื่อความปลอดภัยถามเจ้าของรถเขาก่อนดีกว่า

           
คำตอบที่ได้คือการส่ายหน้า ผมเลียริมฝีปากจับมือหนาที่กำลังลูบศีรษะอยู่ออกแล้วยันตัวขึ้นก่อนจะปีนข้ามฝั่งไปนั่งคร่อมบนตักคนขับแล้วปรับเบาะให้เอนลงเล็กน้อย จนในที่สุดหัวของผมก็อยู่สูงกว่าเขา

           
เจ้าของตักที่ผมถือวิสาสะข้ามมานั่งทับไม่ได้พูดอะไรนอกจากถามว่า “คิดจะทำอะไร หืม?”

           
แถมมือหนายังให้ความร่วมมืออย่างดีโดยการเลื่อนมาโอบที่เอวผมแบบหลวม ๆ



ผมถึงต้องถามฮิมก่อนไงว่าฟิล์มรถมันทึบไหม เพราะถ้าคนด้านนอกมองเข้ามาแล้วเห็นพวกเราในสภาพนี้ เขาคงคิดว่าเป็นคู่รักที่กำลังจะเล่นพิเรนทร์บนรถยนต์แน่ๆ แม้ในความจริงแล้วผมแค่ก้มหน้าเข้ากับกลุ่มผมสีดำสนิท สูดกลิ่นแชมพูสไตล์ผู้ชายโดยแท้ แล้วเลื่อนใบหน้าลงไปชิดกับลำคอขาว กลิ่นน้ำหอมของฮิมลอยมาแตะจมูก



กลิ่นบางเบาจนแทบจะโดนกลิ่นโคโลนปกปิด แต่ถ้าได้กลิ่นมันจะรู้สึกติดยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น หอมเย็น ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายแต่แฝงอะไรเอาไว้บางอย่าง ความรู้สึกลึกล้ำที่ผมยังไม่อาจเข้าถึง แต่แค่นี้ก็ติดจนจะแย่ ถ้าเข้าถึงเมื่อไหร่ ผมกลัวว่าจากติด มันจะกลายเป็น ‘เสพติด’ แทน

 
 
 


(30%)
 
 
 
 
 
ถ้าสังเกตเวลาอัพ เราจะอัพที่ Thaiboyslove ช้ากว่าที่อื่นไม่ใช่ว่าอยากอัพช้า
แต่เราเป็นพวกอัพทีละนิด ทีละหน่อย ซึ่งการอัพทีละนิดทีละหน่อย ในเล้าเรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก
(ไม่ใช่รำคาญเว็บนะรำคาญตัวเองแบบลงทีเดียวเลยไม่ได้เหรอ ? แต่เป็นแค่ในเล้านะที่อื่นไม่เป็น 555)
เวลาลงในเล้าเลยอยากจะลงแบบเต็มตอนเลยทีเดียว
แต่ถ้าลงเต็มตอน มันก็จะต้องรอช้ากว่าลงที่เว็บอื่น ๆ ไม่ลงก็กลัวคนอ่านในเล้าน้อยใจ
ยังไงก็ตามจะตอนต่อไปจะพยายามลงให้เต็มตอนค่ะ
 :katai1: :katai1:  :hao5:
 
 
 

 
#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ on twitter

ไปคุยกับป้าได้ที่ @_mdreds on twitter เช่นเดียวกัน
เลิฟ ๆ
 
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 061016#3 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 09-10-2016 14:00:04
อยากอ่านต่อเเล้ววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Kkyy0627 ที่ 09-10-2016 14:12:04
เป็นนิยายที่อัพมาแค่ สี่ตอนแต่รู้เลยว่าต้องติดเรื่องนี้แน่ๆ
ชอบมากกกกกกกกกกกก สนุกมากเลยค่ะ  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-10-2016 14:44:34
อืมม......อัพยาวๆ ก็ชอบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อ่านแล้วได้อารมณ์ ลื่นไหล
แล้วแต่ ไร้ท สะดวกละกัน :mew1: :mew1: :mew1:
จริงๆแล้วเล เสพติดกลิ่นตัวหรือกลิ่นน้ำหอมฮิมกันแน่
วิน สังเกตการผูกผม เพื่อไว้ทำให้เล ใช่ไหม
วิน คิดอะไรกับเล บ้างไหมนะ
ทั้งที่ปากก็ดุด่าเล ตลอด
เล จะรู้จักเสือ ตี้ มั้ยนะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-10-2016 17:53:27
รู้สึกว่าเสพติดนิยายเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกก      :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-10-2016 21:08:39
อยากเอาหน้าไปแนบกระจกรถมองพ่อฮิมกับลูกเลเขานั่งตักกันบนรถ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 09-10-2016 22:11:16
น้องเลน่ารัก
อยากเห็นตอนเอาแต่ใจเยอะๆ จัง :katai4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 09-10-2016 22:16:05
 o13 o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-10-2016 22:36:39
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 09-10-2016 23:11:52
 o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 10-10-2016 00:39:52
น่าย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Abbeynggn ที่ 10-10-2016 10:54:13
ค้างแรงมากกกกก :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 10-10-2016 11:35:13
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 10-10-2016 11:38:32
ืค้างไปอี๊กกกกกก~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: manneewan ที่ 11-10-2016 21:41:32
 o22งื้อออค้างอ่ะรอคนเขียนค่ะสู้ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 12-10-2016 00:39:16
           



         
‘กิจกรรมที่จะให้น้องทำในวันนี้ก็คือการล่าลายเซ็นรุ่นพี่ครับ เดี๋ยว ๆ น้องอย่าพึ่งถอนหายใจกันดิ…’
               
ย่อง ย่อง ย่อง

               
พรึบ!

               
ฟู่วว รอด!

               
“ทำไมมาช้า” เกี๊ยกกระซิบถามผมเสียงเบาหลังจากที่ผมย่องมานั่งที่ตัวเองโดยไม่ให้รุ่นพี่เห็นเนื่องจากเข้าเลทเกือบสิบนาที

               
“นั่งอยู่บนรถกับพ่อน่ะ”

               
“แค่นั้น ?” เกี๊ยกถามเหมือนไม่เชื่อ

               
“อือแค่นั้นแหละ” นั่งคร่อมกับซุกคอนี่คงไม่นับเนาะ “ฟู่ว เหนื่อยจังอุตส่าห์วิ่งมา”

           
‘น้องเลอย่าพึ่งถอนหายใจครับ พี่เห็นนะว่าน้องมาช้า!’

               
ผมยู่ปากใส่พี่สินที่ประกาศชื่อผมออกไมค์จนคนอื่นหันมามองกันหมด “สิบนาทีเอง อนุโลมให้เลหน่อยสิ”

           
‘เห็นว่าน่ารักจะอนุโลมให้แต่ถ้าครั้งหน้ามีเอง น้องเลต้องโดนลงโทษนะครับ เอาล่ะ! มาฟังกันต่อ…’

               
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งเมื่อพี่สินไม่ถือสา อันที่จริงคือผมก็นั่งอยู่บนตักฮิมเฉย ๆ นั่นแหละ ทว่าพอมารู้ตัวอีกทีก็เลทไปแล้วสิบนาที พ่อก็ไม่ยอมมาส่ง (ผมจำเป็นต้องพึ่งบารมีพี่ฮิมที่อยู่ปีสี่เพื่อที่จะไม่โดนลงโทษ) แต่อีกฝ่ายไม่ยอม เสียงทุ้มบอกว่าโตแล้วต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเอง มีปัญหาก็ต้องแก้เอง ผมเลยต้องวิ่งมาแล้วก็ย่องเข้ามานั่งรวมกับเพื่อน โชคดีที่ไม่โดนลงโทษแม้จะโดนพี่สินเห็นก็ตาม

               
“เลนี่สมุดพี่เขาแจกมาให้...” เพื่อนร่วมคณะที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ส่งสมุดอะไรบางอย่างมาให้ ผมพยักหน้า รับมาเปิดพลิกไปมาก่อนจะตั้งใจฟังคำสั่งของพี่สิน

           
‘...สมุดที่ทุกคนได้จะเป็นสมุดเก็บลายเซ็นของรุ่นพี่นะครับ เอาล่ะ! เราจะมาทวนคำสั่งกันใหม่เผื่อคนที่มาไม่ทัน’

               
แหม่...ผมรู้สึกเหมือนถูกแดกดันยังไงชอบกล

           
‘น้อง ๆ ต้องไปล่าลายเซ็นรุ่นพี่นะครับ เอาแค่สามสิบลายเซ็นก็พอ แต่ทั้งสามสิบลายเซ็นต้องมีลายเซ็นของรุ่นพี่ปีสอง ปีสามแล้วก็ปีสี่อย่างละสิบลายเซ็นนะ ห้ามปลอมลายเซ็นมาเด็ดขาด! ย้ำเลย เด็ดขาด! พี่จะให้เวลาน้องแค่ตอนเช้าถึงบ่ายโมงตรง พอบ่ายโมงให้น้อง ๆ มารวมกันที่นี่ แล้วเราจะทำกิจกรรมต่อไป อ้อ! ไม่ต้องกลัวว่าจะหารุ่นพี่ไม่เจอ วันนี้รุ่นพี่วิศวะทุกคนนัดกันใส่เสื้อช็อปครับ’

               
ถึงว่าทำไมวันนี้มันแปลก ๆ ที่แท้พี่ ๆ ก็นัดกันใส่เสื้อช็อปนี่เอง จะว่าไปแล้วขนาดฮิมยังใส่เลย

           
‘ข้าวเที่ยงยังมีให้กินเหมือนเดิมนะครับ หิวเมื่อไหร่ก็ไปเอาได้เลย’
           
‘ถ้าเข้าใจแล้วแยกย้ายได้ครับ’


               
พรึบ!

               
ทันทีที่พี่สินพูดจบ เหล่านักศึกษาปีหนึ่งก็แตกไปคนละทิศคนละทางราวกับผึ้งแตกรัง ในขณะที่ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิมมองหน้าเกี๊ยกและพิษแค่สองคน เดี๋ยวนะ! สองคน

               
“เอ็กซ์กับดินไปไหน” ผมถาม

               
 “ไม่รู้ไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว” ว่าจบพิษก็ลุกขึ้น ร่างสูงดึงผมให้ลุกขึ้นตาม “แล้วเอาไง ตัวใครตัวมันหรือจะไปด้วยกัน”

               
“แยกเหอะ ไปด้วยกันไม่น่าจะเวิร์ค” ผมพยักหน้าเห็นด้วย ของแบบนี้ตัวใครตัวมันดีกว่า

               
“งั้นเลไปนะ”

               
“เดี๋ยว!” เกี๊ยกหยุดผมเอาไว้ “มึงดูแลตัวเองได้นะ”

               
“ได้”

               
“อือ นาฬิกามึงเด่นดีนะ” ผมยกแขนขึ้นโชว์ Rolex ด้วยความภาคภูมิใจ

               
“พ่อซื้อไหมแหละ สวยใช่ไหม”

               
“เออสวย”

               
“…”

               
“…”

               
“งั้นไปนะ” ผมบอกก่อนอีกฝ่ายจะพยักหน้า จากนั้นผมรีบจึงเดินออกมาจากเพื่อนแล้วกวาดสายตามองเป้าหมาย แต่ไม่ว่ารุ่นพี่คนไหนก็โดนปีหนึ่งอย่างพวกผมโดนรุมขอลายเซ็นราวกับเป็นดารากันหมด ผมไม่ชอบคนเยอะเลยรีบถอยหลังแล้วเปลี่ยนทิศทางการเดินไปหาทางอื่นแทน

               
ขอกับใครดีน้า ? อ๊ะ!

               
“พี่ตี๋!” ผมรีบเรียกชื่อพี่ตี๋ทันทีที่เห็นเจ้าของใบหน้าขาว ๆ เดินมา พออีกฝ่ายโบกมือให้ผม ผมจึงรีบวิ่งไปหาก่อนจะโดนถามอย่างรู้ใจ

               
“จะขอลายเซ็นใช่ไหม”

               
“อื้อ!” ผมรีบพยักหน้ารัว ๆ แล้วหันไปมองรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ข้างพี่ชายร้านขายโจ๊กของผม “เลขอลายเซ็นพี่บอมด้วยนะ”

               
“น้องเลจำชื่อพี่ได้ด้วยเหรอครับ โห ดีใจ”

               
“ให้พี่หาเพื่อนให้ไหมเล พี่มีเพื่อนเยอะนะ” พี่ตี๋เสนอความคิดแต่ผมส่ายหน้า

               
“เลอยากหาเองมากกว่า”

               
“เอางั้นเหรอ ก็แล้วแต่เรานะ” เสียงทุ้มว่าก่อนจะยื่นสมุดให้ร่างสูงที่ยื่นอยู่ข้างกายเซ็น ไม่นานนักก็เสร็จ สมุดเล่มเล็กถูกส่งกลับคืนผม

               
“ขอบคุณครับ”

               
“โชคดีนะน้องเล”

               
“บ๊ายบายครับ” ผมโบกมือลาก่อนจะเดินออกมาหารุ่นพี่คนต่อไป

 

               
สองชั่วโมงต่อมา

               

               
“ขอลายเซ็นหน่อยครับ”       

           
‘ขอแค่ลายเซ็นเหรอ ? ทำไงดีพี่อยากให้ใจไปด้วย’

‘ไม่ต้องขอก็ให้ พี่ให้ทั้งใจพี่เลยคนสวย’

‘เอาเบอร์มาเดี๋ยวพี่เซ็นให้’

‘น้องเลเอาไลน์มาแลกสิครับ’

‘น้องเล…’

‘เล…’

‘เล…’

‘น้อง…’


 

           
“พี่ครับขอลายเซ็นหน่อยครับ” ผมปาดเหงื่อที่กำลังไหลเยิ้มอยู่บนหน้าผากออกขณะส่งยิ้มให้กับรุ่นพี่ผู้ชายห้าคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้

               
“น้องเล” หนึ่งในนั้นเรียกชื่อผม เสียงวีดวิ้วดังมาตามหลัง “อยากได้ลายเซ็นพี่เหรอครับ”

               
ผมพยักหน้า

               
“เอาเบอร์น้องมาสิ” ผมยิ้มแหย่ก่อนจะรับโทรศัพท์ที่อีกฝ่ายส่งมาให้ กดเบอร์ให้กับผู้ชายคนที่สิบห้าที่ขอเบอร์ผมในวันนี้แบบไม่คิดอะไรมาก โชคดีที่พวกพี่ ๆ เขาทำอย่างที่พูด เพราะในขณะที่ผมกดเบอร์ สมุดเล่มเล็กก็ถูกนำไปเซ็นจนครบทั้งห้าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้  ผมยื่นโทรศัพท์กลับเมื่อกดเบอร์ของตัวเองเสร็จ มือหนารับไปก่อนจะส่งสายตาวาบวับมาให้ “เดี๋ยวคืนนี้พี่โทรไปหานะครับคนสวย”

               
ผมยิ้มรับไม่ได้ตอบกลับก่อนจะเดินออกมา โทรมาเถอะเบอร์ที่ว่านะ เพราะโทรยังไงก็ไม่ได้คุยกับผมหรอก แถมโทรไปอาจจะได้รับเสียงโวยวายมาแทน

               
ก็เบอร์นั่น...มันไม่ใช่ของผมสักหน่อย

               
ใครจะโง่ให้เบอร์จริงของตัวเองไปละจริงไหม :)

               
ส่วนเจ้าของเบอร์ที่ผมให้ไป ถ้าเขาโกรธเอาไว้ค่อยไปง้อทีหลังก็ได้ เพราะตอนนี้ผมกำลังมีปัญหาหนัก ล่าลายเซ็นมาสองชั่วโมง ผมได้แค่ยี่สิบลายเซ็นทั้งที่ความจริงแล้วแค่ให้รุ่นพี่เซ็น ๆ ไปมันไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ แถมรุ่นพี่ยังเดินวนไปวนมาให้เห็นเกลื่อนไปทั่วแทบไม่ต้องใช้ความพยายามในการหา ดูเหมือนง่ายนะแต่พอมาทำจริง ๆ นี่ไม่ง่ายเลย เพราะก่อนจะได้ลายเซ็นพวกเราต้องแลกหรือไม่ก็ทำอะไรสักอย่างให้ดูก่อน ในกรณีของผมไม่ให้เบอร์ก็ให้ไลน์ ยกเว้นรุ่นพี่ผู้หญิงจะขอถ่ายรูปซะส่วนใหญ่ และพอมาอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้ผมถึงได้รู้ว่าคนอื่นรู้จักผมกันเยอะมาก ยังไม่ได้แนะนำตัวเขาก็เรียกน้องเลไปแล้ว

               
ตอนนี้ผมได้ลายเซ็นของรุ่นพี่ปีสองและปีสามครบแล้วเหลือแต่รุ่นพี่ปีสี่…

               
โทรหาฮิมเลยดีไหมนะ ? ฮิมก็อยู่ปีสี่ แต่ว่าแบบนั้นมันก็เหมือนโกงเพื่อนสิ ไม่เอา...หาด้วยตัวเองดีกว่า

               
ผมตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ในมือลงก่อนจะกวาดสายตามองรอบตัว เมื่อสังเกตุดี ๆ ถึงได้รู้ว่าตั้งแต่ล่าลายเซ็นมานี่ผมยังไม่เจอรุ่นพี่ปีสี่เลยสักคน รู้ได้ยังไง ? หนึ่งเวลารุ่นพี่เซ็นเขาจะเขียนปีให้ด้วย สองสังเกตจากรูปร่างหน้าตาไม่ก็ใช้เซ้น ปีสองก็จะดูเป็นรุ่นพี่หน่อย ปีสามจะแบบน่าเคารพ ส่วนปีสี่นี่จะน่าเกรงขาม

               
ว่าแต่รุ่นพี่ปีสี่หายไปไหนกันหมด แวร์อาร์ยู ?

               
ผมเลยได้แต่เดินวนรอบ ๆ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขาว หันหน้า หันหลังจนกระทั่งเดินมาถึงหน้าตึกขนาดใหญ่ที่ดูยังไงก็หรูหราเกินกว่าจะเป็นตึกเรียน จากนั้นผมก็ต้องมายืนเกาหัวงง ๆ ผมว่าผมเดินมาไกลแล้วนะ แต่ก็หาไม่เจออยู่ดี จนรอบตัวผมตอนนี้ไม่มีรุ่นพี่ใส่เสื้อช็อปสีแดงมาเดินเผ่นผ่านให้เห็นอีกแล้ว อย่าว่าแต่รุ่นพี่เลยรุ่นเพื่อนสักคนยังไม่เห็นจะมี!  หรือว่านี่มันจะเป็นเกม ? ให้ตามล่าหาลายเซ็นปีสี่ที่หายตัวไปอะไรประมาณนี้ แต่ก็ไม่น่าใช่ โอ๊ะ ยิ่งคิดก็ยิ่งงง

               
ทันใดนั้นเองบุรุษร่างสูงในชุดเสื้อช็อปสีแดงที่เปล่งรัศมีความน่าจะเป็นรุ่นพี่ปีสี่ก็เดินวูบผ่านหน้าผมไป ไวเท่าความคิดผมรีบคว้ามือของอีกฝ่ายเอาไว้แม้ไม่แน่ใจว่าจะใช่อย่างที่ตนคิดหรือเปล่า

               
“ขอโทษนะครับคือ…” ยังพูดไม่จบประโยคมันก็หยุดชะงักเพราะทันทีที่เงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนาที่ตัวสูงกว่าอยู่มากโข ที่สะดุดก็ไม่มีอะไรแค่อีกฝ่าย...

               
...เป็นพี่ว้ากที่หายตัวไปเมื่อวาน

               
เขาคือพี่ซัน เฮดว้ากที่สั่งให้พวกผมวิ่งรอบสนามก่อนจะหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อวานจนมาเจออีกครั้งในวันนี้ หน้าตาก็ยังดูปกติดีเหมือนเมื่อวันก่อนก่อน แค่มีแผลที่หางคิ้วเพิ่มมานิดหน่อย

               
ให้ตายเถอะ! ผมอยากถามจังเลยว่าเมื่อวานพี่เขาไปไหนมา แต่ถ้าจะถามความรู้สึกผมหลังจากที่เห็นพี่แกล่ะก็ ขอตอบเลยว่าเฉย ๆ ตอนแรกมันก็โกรธอยู่นะแต่ถ้าเทียบกับพวกที่อยู่บ้าน บางทีพี่ซันอาจจะดีกว่า บางทีนะบางที

               
นัยน์ตาคมตวัดมามองผมที่ยื่นนิ่งเสียงทุ้มเอ่ยถามแบบห้วน ๆ “มีไร”

               
“เปล่า...ไม่มีครับ” ผมส่งยิ้มแหะ ๆ ให้กับพี่ซันที่ยังคงทำหน้าไร้อารมณ์ใส่ผม เม้มปากแล้วก้มหน้าลง บรรยากาศกลืนไม่เข้าคายไม่ออกดำเนินต่อไปเมื่อร่างสูงใหญ่ไม่ไปสักที ผ่านไปสามนาทีเราก็ยังยืนอยู่ที่เดิม จนกระทั่ง…

               
“ปล่อย”

               
“ครับ ?” ผมทำหน้างง

               
“ปล่อยมือกู” สรรพนามที่พี่เขาใช้ทำให้ผมตกใจนิด ๆ เพราะตอนที่เป็นพี่ว้าก พี่ซันจะแทนตัวเองว่าผมและเรียกผมว่าคุณ แต่หลังจากนั้นผมก็ทำหน้าเหวอ รีบปล่อยมือเมื่อรู้สาเหตุว่าทำไมเขาถึงไม่เดินไปสักที ทว่าพอปล่อยมือปุ๊บ ผมก็ไปคว้ามือของเขามาอีกครั้งเมื่อนึกอะไรออก

               
นัยน์ตาคมหันกลับมามองผมด้วยสีหน้าราบเรียบเช่นเคย “มีอะไรอีก”

               
“ตะ...ตึกของรุ่นพี่ปีสี่ไปทางไหนหรือครับ”

               
“ตึกนี่ไง”

               
“หา ?”

               
“ตึกที่อยู่ตรงหน้ามึงเนี่ย”

               
อย่าบอกนะว่า...ตึกหรู ๆ นี่นะเป็นของปีสี่!!

               
ผมอ้าปากค้างทำไมมันแตกต่างกับปีสองหนึ่งสามได้ขนาดนี้ คิดสภาพตามนะครับ มันเป็นตึกขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มีกำแพงด้านหน้าเป็นปูนแต่เป็นกระจกแบบโปร่งแสง ตึกไม่ได้เป็นทรงสี่เหลี่ยมอย่างเดียวเหมือนกับตึกอื่น ตึกนี้ด้านหน้าจะเป็นทรงกลมแล้วค่อยมีส่วนที่ขยายออกไป ในความรู้สึกเหมือนห้างขนาดย่อม ๆ ดูน่าเข้าแต่ผมกลับไม่กล้าเข้าไป ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่ตึกนี้มันดูน่ากลัวแปลก ๆ เหมือนรังสีอำมหิตจะแผ่ซ่านออกมาตั้งแต่ยังไม่ได้เดินเข้าไปเลย

               
“กูไปได้ยัง”

               
“ยัง!” ผมร้องคราวนี้ไม่จับแค่มือแต่โผล่เข้าไปกอดแขนพี่ซันเอาไว้แน่น วูบหนึ่งเหมือนอีกฝ่ายทำหน้าเจ็บแต่แล้วก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมรีบบอก “พาเลเข้าไปหน่อยสิ”

               
“ไม่” เจ้าของร่างสูงปฏิเสธคำขอทันทีที่ได้ฟัง เพราะรู้ว่าคนขอมันจะเอาเขาไปทำอะไร จะให้เรียกว่าอะไรดี เกราะกันบัง ? ใจของเขาคัดค้านอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้เกลียดแต่ทางที่ดีไม่ขอเข้าใกล้อีกดีกว่า แต่ดูจากท่าทางที่กล้าเข้ามาหาแล้ว สงสัยอีกฝ่ายคงยังไม่รู้ว่าพ่อมันทำอะไรกับเขาเอาไว้บ้าง…

 

 

               
อีกด้านหนึ่งในห้องขนาดใหญ่บนตึกหรูของคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สี่ สายตานับสิบคู่ที่กระจายกันอยู่แต่ละจุดของห้องกำลังจ้องผ่านกระจกโปร่งแสงลงไปยังด้านล่าง เพื่อมองรุ่นน้องปีหนึ่งที่มีกิตติศัพท์ด้านหน้าตาเข้าหูตั้งแต่วันแรกของการเปิดเทอม

               
“ลูกแกะหลงทางมาจากไหนล่ะนั่น” ชายคนหนึ่งพูดแบบไม่จริงจัง “แต่เห็นหน้าแล้วอยากเป็นหมาป่าเลยว่ะ”

               
“ให้มันน้อย ๆ หน่อยหน้าอย่างมึงน้องเลคงไม่เอา”

               
“หรือไม่พี่ของน้องเค้าก็ไม่ให้มึงเอา” รพที่อยู่ในห้องด้วยเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า นัยน์ตาคมหันไปมองเพื่อนร่วมห้องที่ยังไม่รู้ชะตากรรม เขาจึงใจบุญชี้ทางสว่างให้ก่อนที่พวกมันจะได้ไปลงนรกเพราะปากของตัวเอง “เลเป็นน้องของฮิม”

               
“...”

               
เกิดเดดแอร์ขึ้นทันทีที่พูดจบ

               
จากนั้นคนที่เหมือนจะเริ่มรู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด จึงรีบหันหน้าไปหาร่างสูงที่กำลังนั่งกอดอกอยู่ตรงมุมห้อง ก่อนจะรีบพูดขอโทษด้วยความละล่ำละลัก หากอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะรับคำขอโทษ ใบหน้าหล่อเหลายังเรียบนิ่งจนไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นัยน์ตาคมจ้องไปยังร่างเล็กที่กำลังกอดแขนเฮดว้ากปีสอง

               
เฮดว้ากที่พวกเขาเคยมีเรื่องด้วยจนมันต้องเข้าโรงพยาบาล

               
สงสัย…

           
มันคงอยากเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ

 


               
(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 091016#4(30%) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 12-10-2016 00:40:32
(ต่อ)

“ทำไมใจร้ายจัง” ผมพึมพำเมื่อพี่ซันแกะมือของผมที่กอดแขนเขาอยู่ออก ก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่ใยดี ทิ้งให้ผมต้องยืนเครียดอยู่หน้าตึกของปีสี่คนเดียว แต่เอ๋...มันแปลก ๆ นะ ตึกนี่เป็นตึกของปีสี่แล้วทำไมไม่มีปีหนึ่งอย่างผมมาเดินเพ่นพ่านเลยล่ะ หรือว่าคนอื่นเขาได้ลายเซ็นต์ของปีสี่กันหมดแล้ว ช่างเหอะ...สงสัยไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี

ผมถอนหายใจก่อนจะกลืนน้ำลายอึกลงคอ พลางเงยหน้ามองตึกหรูตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง

               
เอาล่ะ…

               
จะเข้าไปแล้วนะ

               
“มึงมาทำอะไรที่นี่”

           
ขวับ

               
“พี่วิน!” ผมร้องเสียงหลงยามที่หันไปมองด้านข้างแล้วเห็นพี่วินกำลังทำหน้าสงสัยยืนอยู่ “มาก็ดีแล้วเซ็นสมุดให้เลหน่อย”

               
แต่พอพูดถึงเรื่องลายเซ็นปุ๊บจากใบหน้าสงสัยก็กลายเป็นเดือดดาล ขายาวรีบก้าวเข้ามาประชิดตัวผม เอ่ยด้วยเสียงครึม

               
“มึงทำอะไรกับเบอร์กู”

               
เฮือก! ลืมไปเลยว่าเอาเบอร์พี่วินไปแจก

               
ผมก้าวถอยหลังขณะเอ่ยเสียงสั่น “เลแค่…”

               
“พูด” พี่วินเดินตาม ผมเลยหลับตาปี๋รีบสารภาพไปตามตรง

               
“ก็ถ้าไม่ให้เบอร์รุ่นพี่เขาก็จะไม่ให้ลายเซ็น เลก็เลย…” ผมก้มหน้าลงแล้วพี่วินก็ต่อประโยคที่ผมต้องการจะพูดเอง

               
“แล้วมึงก็เลยให้เบอร์กู ?”

               
“อื้อ” ผมพยักหน้ารับ “อย่าโกรธเลนะ ห้ามโกรธ”

               
“มึงมีสิทธิห้ามกูด้วยเหรอ”

               
“อันที่จริงก็ไม่มีอ่ะ”

               
“กวนตีน เบอร์พ่อมึงก็มีทำไมไม่ให้”

               
“เดี๋ยวพ่อโกรธ” ฮิมโกรธแล้วง้อยากจะตายเพราะปกติเขาไม่ค่อยโกรธผมนี่ “พี่วินเลขอโทษ”

               
“กูไม่รับ”

               
“ฮืออ ไม่รับก็ได้แต่เซ็นให้หน่อย” ยื่นสมุดกับปากกาให้อีกฝ่าย นัยน์ตาคมหลุบลงมองแล้วเงยขึ้นมองหน้าผม ทีแรกเหมือนจะไม่รับแต่สุดท้ายก็ยอมรับสมุดกับปากกาไปเซ็นตามที่ขอ แต่เหมือนความโกรธพี่วินยังไม่มอดเพราะลายเซ็นเดียวแต่เล่นใหญ่เอามันทั้งหน้า ผมได้แต่ยิ้มแหย่ไม่ถือสาเพราะตัวเองก็มีความผิดเหมือนกัน “ขอบคุณครับ งั้นเลไปก่อนนะ”

               
ผมรับสมุดกลับมา เบี่ยงตัวหนีทำท่าว่าจะเดินเข้าไปแต่แล้วก็โดนพี่วินจับมือเอาไว้

               
“มึงจะไปไหน”

               
“ไปขอลายเซ็น”

               
“ที่นี่” ชี้ไปที่ตึกตรงหน้า

               
“ใช่” พี่วินถอยหายใจมือหนาจับร่างผมหมุนให้หันหลังกลับ แล้วชี้ไปยังจุด ๆ หนึ่งที่กำลังมีคนมุงกันเยอะ ๆ

               
“ปีสี่เขาแจกลายเซ็นกันอยู่โน้น” ผมขมวดคิ้วแล้วหรี่ตามอง เห็นเสื้อช็อปแวบ ๆ สงสัยแจกลายเซ็นกันจริง ๆ แต่...มันไกลอะ ขี้เกียจเดิน

               
“เลเอาอยู่นี่ไม่ได้เหรอ ขี้เกียจเดิน” คนเยอะด้วย ผมไม่ชอบ

               
“ไม่” พี่วินปฏิเสธแต่ผมก็ปฏิเสธกลับเหมือนกัน

               
“ไม่ เลจะเอาที่นี่แหละ” ผมว่าอย่างเอาแต่ใจก่อนจะหันหลังแล้วเดินตรงไปข้างหน้า แต่แล้วมือหนาก็มาแย่งสมุดกับปากกาในมือผมไป “พี่วิน!!”

               
“มึงหนิเคยทำตามที่กูบอกสักครั้งไหม” ใบหน้าหล่อเหลาว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “อยู่นี่แหละเดี๋ยวไปเอามาให้”

               
“จริงเหรอ!”

               
“เออ” ดีจังไม่ต้องไปเอาเอง “แต่มึงห้ามขึ้นไปเด็ดขาด”

               
เอ๋ ? ทำไมอะ

               
“ทำไมถึงขึ้นไปไม่ได้” ผมเอียงคองง

               
“ทำตามที่กูบอกก็พอ เข้าใจไหม”

               
“อื้อ ๆ” พอผมพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายพี่วินก็เดินเข้าไปในตึกทันที ในขณะนั้นเองความสงสัยที่ยังไม่กระจ่างมันก็เข้ามาครอบงำ ผมหรี่ตาลงมองแผ่นหลังกว้างที่เดินเข้าไปในตึกอย่างรีบเร่ง ทีแรกผมก็กลัวที่จะเข้าไปแต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ตอนนี้กำลังใช้สมองคิดว่าทำไมเขาต้องห้ามผมขึ้นไปด้วย ?

               
ทำไม ทำไม ?

               
เห้อ...คิดไปก็ไร้ประโยชน์

           
ผมแอบขึ้นไปเลยดีกว่าง่ายดี :P

 


               
ซันรับรู้ได้ว่ามีคนกำลังมองเขา มองน่ะไม่เท่าไหร่แต่เสียงซุบซิบนินทาที่ดังเข้าหูทำให้ร่างหนาต้องรีบเดินให้เร็วกว่าเดิม เปล่า เขาไม่ได้หนีและเขาก็ไม่ได้อาย ก็แค่รำคาญ ไม่เคยนึกเลยว่าถ้าตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเมื่อไหร่มันจะน่ารำคาญขนาดนี้ แต่ก็รู้สึกดีนิด ๆ ที่เลือกมาเรียนวิศวะตามที่แม่บอก ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะเลือกคณะที่ต้องเข้าแวดวงสังคมอย่างนิเทศศาสตร์

               
ขายาวเดินผ่านกลุ่มรุ่นน้องที่กำลังวุ่นกับการขอลายเซ็นรุ่นพี่มาอย่างง่ายดาย หลังจากเกิดเรื่องเมื่อวันก่อนก่อนแล้วใครมันจะยังอยากมายุ่งกับเขาอีกล่ะ ถ้ามีเรื่องกับพี่ฮิมที่อยู่ปีสี่เมื่อไหร่คน ๆ นั้นมักอยู่ในมหา’ลัยต่อไปไม่ได้ เรื่องนี้ใคร ๆ ก็รู้แม้แต่เด็กปีหนึ่งที่พึ่งเข้ามาใหม่ยังรู้ ส่วนคนที่เหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยกลับเป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวเจ้าของชื่อที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดเสียเอง

               
มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วเดินผ่านกลุ่มคนด้วยใบหน้าเรียบเฉย เลี้ยวเข้าตึก ๆ หนึ่งขึ้นไปยังชั้นสองแล้วเปิดเข้าไปในห้องเงียบ ๆ แต่มีใครคนหนึ่งนั่งรออยู่

               
คือไอ้เอกอดีตพี่ว้ากเหมือนกับเขา ที่เป็นอดีตเพราะว่าหลังจากวันนั้นระบบ Sotus ของคณะวิศวกรรมศาสตร์สำหรับปีนี้ก็ถูกยกเลิกจากคำสั่งของอธิการบดีที่ตลอดสามปีที่ผ่านมาไม่เคยยุ่งกับเรื่องของนักศึกษาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซันเสียดายนิดหน่อยที่อุตส่าห์ลงทุนดื่มน้ำมะนาวไปซ้อมเป็นพี่ว้ากแต่สุดท้ายก็สิ่งที่ซ้อมมากลับไม่ได้ใช้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนก่อน  เขาก็มีส่วนผิดอยู่จริง ไม่สิ! ต้องบอกว่าเขาผิดแต่ผิดไม่หมด สิ่งที่ถูกก็คือในรุ่นน้องสี่คนน่ะมีคนสูบบุหรี่อยู่จริง ส่วนสิ่งที่ผิดคือ หนึ่งเขาอาจจะลงโทษหนักเกินไป สองคือหลงเชื่อคำพูดของนางพญาจิ้งจอกอย่างเหมียวที่มีสถานะเป็นแฟนของตัวเองในขณะนั้น อีกฝ่ายให้เขาจัดการกับเลที่เธอหมั่นไส้เป็นพิเศษ ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่ได้บอกเลิกแต่ถ้าเจอก็คงต่อไม่ติด อีกอย่างเขาก็ไม่รู้ด้วยว่ายัยนั่นหายไปไหน รู้แค่ว่าเธอเองก็คงจะโดนอะไรบางอย่างไม่มากก็น้อย แต่ก็โทษใครไม่ได้หรอกต้องโทษตัวเองนี่แหละที่โง่หลงไปทำตามที่อีกฝ่ายขอเอง เขาเมินคำปฏิเสธของเลที่ถูกกล่าวหาว่าสูบบุหรี่ในห้องน้ำ แถมยังสั่งให้น้องไปวิ่งรอบสนามสิบรอบกับเพื่อน ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ผิด

               
ส่วนหลักฐานการแพ้บุหรี่ของเลมันพึ่งตอกหน้าใส่เขาตอนตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล หลังจากโดนจับไปซัดเป็นเวลาสองชั่วโมงโทษฐานที่ไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่ง เป็นกระดาษแผ่นหนึ่ง วางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอามาวางไว้ให้ แต่แผ่นกระดาษที่ว่ามันเป็นใบประวัติส่วนตัวของเลที่น้องทุกคนต้องเขียนก่อนเข้าร่วมกิจกรรม หัวข้อที่ถามว่า ‘สิ่งที่แพ้ (อาทิ แพ้ถั่ว , แพ้เกสรดอกไม้ เป็นต้น)’ กระดาษใบเดียวทำให้เขาในตอนนั้นที่ยังคิดว่าตัวเองไม่ผิดถึงกับพูดไม่ออก

เพราะมันถูกเขียนตอบด้วยลายมือบรรจง

 

               
สิ่งที่แพ้ (อาทิ แพ้ถั่ว , แพ้เกสรดอกไม้ เป็นต้น) :
           
แพ้สถานที่ที่มีควันบุหรี่เยอะ ๆ

 

               
“หายแล้วเหรอมึง” เอกทักขณะจ้องหน้าเพื่อนสนิทที่กำลังเดินเข้ามา

               
“ก็ดีขึ้น แล้วมึงล่ะ” ซันถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง รู้สึกผิดกับมันตั้งแต่สองวันก่อนเพราะมันอยู่ในเหตุการณ์ที่เขาสั่งให้เลไปวิ่งรอบสนามสิบรอบด้วย มันถึงโดนซ้อมพร้อมกับเขาและเพื่อนอีกสองคนทั้งที่ไม่ผิด ยังดีที่เขาโดนหนักสุดจึงรู้สึกผิดน้อยลงหน่อย

               
“ยังไม่ตาย”

               
“กวนตีนกูละไอ้เหี้ย”

               
“กูพูดความจริง แล้วมึงละ หายแล้วเหรอทำไมท่าทางมึงชิวจัง”

               
นั่นเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เขาได้ยินหลังจากกลับมาที่มหา’ลัยแห่งนี้ เนื่องจากคนที่น่าจะโดนซัดจนอ่วมเพราะไม่ยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งกลับมาเดินสบายใจเฉิบที่มหา’ลัยหลังจากหายหน้าไปแค่หนึ่งวัน อันที่จริงซัดจนอ่วมน่ะเขาก็โดน (โดนสองคนรุมชก อ่วมไหมก็คิดดูเอา) แต่คนทำมันฉลาด เหมือนโดนฝึกมาโดยเฉพาะ มันเลี่ยงจุดที่สำคัญ เหมือนแค่ชกสั่งสอนไม่ชกให้ตายแต่ชกให้จำ แถมจะชกทั้งทียังคิดก่อน ซันโดนเข้าเกือบทุกที่ หน้าท้อง ต้นขา โดนหนักสุดคือหน้าท้องแต่ที่ ๆ เขาไม่โดนชกเลยคือที่หน้า

               
รู้ไหมทำไมต้องไม่ชกโดนหน้า ?

               
อาจจะเป็นเพราะมันเป็นส่วนที่สังเกตถึงความผิดปกติได้ดีที่สุด

               
ในตอนนั้นก่อนที่เขาจะหมดสติ ซันจำได้ประโยคสุดท้ายที่ถูกสั่ง ‘มึงต้องไปกลับมหา’ลัยภายในสองวัน’ จนกระทั่งเขาหมดสติไปและพอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกราวกับว่าถูกประชด เพราะเขากำลังนอนอยู่ในห้องวีไอพีของโรงพยาบาลเอกชนสุดหรู ถามหมอที่เข้ามาตรวจก็พบว่ามีคนเอาเขามาส่งให้รักษาด้วยวงเงินไม่จำกัดแต่ทำยังไงก็ได้ให้หายภายในหนึ่งวัน

                   
คำขอนั้นดูออกจะเว่อร์เกินไป หลังจากนอนอยู่โรงพยาบาลหนึ่งวันแม้สุดท้ายเขาจะไม่หายสนิท แต่ซันก็สามารถเดินได้ภายในหนึ่งวันหลังจากที่โดนซัดจนอ่วม ยิ่งพอใส่เสื้อเข้าไปรอยฟกช้ำจำนวนมากที่ยังไม่หายดีด้านในก็ถูกปิดมิดชิด มองภายนอกจึงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมีก็แต่รอยแตกที่หางคิ้วเพราะพวกมันดันซัดเขาพลาดไปครั้งหนึ่ง

               
ทีแรกซันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้ แต่พอได้รู้ความสัมพันธ์ของพี่ฮิมกับเลเมื่อวันก่อนก่อน และเห็นท่าทีของเลที่เหมือนไม่รู้อะไรเลยมันทำให้เขาเริ่มกระจ่างขึ้นมาหน่อย ไม่ใช่ว่าไม่รู้...

               
แต่เหมือนคนทำจงใจปิดเอาไว้ไม่ให้รู้ต่างหาก



               
น่าสงสาร… ลูกแกะสีขาวขนปุยตัวนั้นไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกเลี้ยงโดยซาตานภายใต้หน้ากากของเทพเจ้าเข้าให้แล้ว









(100%)






ยาวหน่อย อยากให้อ่านนะแต่ไม่อ่านก็ไม่เป็นไรค่ะ
บางคนถามว่าบรรยากาศฉากนั่งตักกันบนรถออกจะเป็นใจ ทำไมเขาไม่สกินชิพกันเลยคะ ?  ทางนี้ก็สงสัยมานานละ นักอ่านรู้ยังว่าตอนนี้เขายังไม่ได้รักกันนะแก๊ (เสียงสูง) จะว่าไม่รักก็ไม่ได้ประมาณว่ายังไม่รู้ใจตัวเอง นี่ไงเหตุผลที่เขาทำมากสุดก็แค่ไซร้คอ ไม่มีจูบ มากสุดคือกอด เพราะสถานะตอนนี้เขายังเป็นแค่ พ่อแอนด์ลูกกันจ้า

อ่านตอนนี้อาจงง ถ้างงให้คิดว่าตัวเองเป็นนานะซะ เพราะเรากำลังมองในมุมของเลไม่ได้มองในมุมของฮิมจ้า พี่ฮิมนี่ความลับเยอะนะมันเลยเกี่ยวพันไปถึงคนที่นั่งเล่นหมากรุกตอนแรกด้วยไง อีกอย่างจะเห็นได้ว่าคนคุมกันเลเยอะ แต่เรื่องนี้คงไม่ถึงกับขนาดเป็นมาเฟียมหา'ลัยที่จะแย่งนายเอกกัน แต่งบู้ไม่ออก เป็นแนวแบบใสใสผสมอิโรติก ดราม่าน่ะมีแน่ ๆ คนละแนวกับเมียหมอ แต่ก็เจ็บไม่ต่างกัน


#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ on twitter
ไปคุยกับป้าได้ที่ @_mdreds on twitter เช่นเดียวกัน
เลิฟ ๆ

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 12-10-2016 00:53:45
น้องเลผู้ใสซื่อออ รีบรักกันไวๆเน้ออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-10-2016 02:34:49
 o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-10-2016 05:21:27
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-10-2016 06:20:52
อ่านเท่าไร ก็ไม่พอ จบและ
อยากอ่านอีกกกกก :mew1: :mew1: :mew1:
ขนาดฮิม ยังไม่รู้ใจตัวเอง
ยังตามใจ หวงเล ซะขนาดนี้
นี่ถ้ารู้ใจจริงๆแล้ว  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เล ใสซื่อซะ แต่ไม่บื้อนะ
แลกเบอร์โทร.พี่วิน กับลายเซนต์รุ่นพี่   :katai5: :mew3:
กลัวพ่อฮิมโกรธ มากกว่าพี่วินโกรธ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ชอบบบ ซันเรียกนังมารเหมียว ว่านางพญาจิ้งจอก
แต่เหมียวน่ะ มีสถานะเป็นแฟนของซัน นะ
อูยย....ซันสงสารเล ขนาดเปรียบเล เป็นลูกแกะสีขาวขนปุย
และเปรียบฮิม เป็นซาตานภายใต้หน้ากากของเทพเจ้า
อะจ๊ากกกก....ถ้าฮิม รู้ที่ซันคิด ซันจะเป็นจั๋งใด
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-10-2016 08:43:45
เพราะอยู่ด้วยกันมาตลอดเลยไม่รู้ว่าความหวงความห่วงนั้นเป็นเพราะรักเลแบบคนรักหรือรักแบบพี่น้อง
ไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่จะทำให้พี่ฮิมรู้ว่ารักน้องเลแบบไหนกันแน่ :hao4: :hao4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 12-10-2016 10:11:20
 :katai5: รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 12-10-2016 14:09:57
รักเสือตี้มากๆๆๆๆ คาดว่าคงจะหลงรักฮิมเลไม่น้อยกว่ากัน ติดตามและเป็นกำลังใจอยู่นะคะ^^ขอบคุณมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 12-10-2016 14:26:42
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 12-10-2016 14:47:44
ชอบๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 12-10-2016 16:33:08
ความลับของฮิมอย่างนั้นหรอ?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 12-10-2016 16:43:35
ขออีกเยอะๆ จร้า ^^
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 12-10-2016 19:31:38
พี่ฮิมนี่แหละที่เดาทางยาก  :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 12-10-2016 20:05:18
พอบอกจะมีมาม่าด้วย...ไม่กินได้ม๊ายยยยยยยยยย~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 12-10-2016 20:39:30
จะผิดมั้ยถ้าเราจะบอกว่าพี่ฮิมน่าค้นหาจัง ดูลึกลับแต่น่าเข้าใกล้จริงๆ 55555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 12-10-2016 21:00:24
ชอบค่ะ ปักธงน้องเลหน้ามนคนสวย
พ่อคือหวง คือรักมาก แต่ไม่รู้ตัวทั้งคู่เลยอะ
แบบนี้ดราม่าตอนมีตัวกระตุ้นแน่ๆ

ขอบคุณค่า  :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: kamontipsaii ที่ 12-10-2016 22:03:17
ดูท่าพี่ฮิมนี่จะซึน พวกที่ชอบบอกตัวเองว่ารักแบบพี่น้อง
รู้ใจตัวเองเมื่อไหร่ เราคงงง  :hao6: 555555
เรื่องนี้อ่านเท่าไหร่ก็ไม่พออ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 12-10-2016 23:29:18
อยากให้รักกันแล้ววว ยังไม่รักกันยังขนาดนี้ งือๆๆ
น้องเลคนฮอตต  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 13-10-2016 07:57:01
รู้สึกสงสารซัน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Abbeynggn ที่ 13-10-2016 09:16:18
อยากอ่านต่อแล้วววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#4 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 13-10-2016 13:57:38
#5

 

               
ผมว่าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สี่ด้านนอกมันหรูแล้วนะ พอ (แอบ) เข้ามาด้านในตึกถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่แค่หรูแต่มันเป็นโคตรหรูเลยต่างหาก! ไม่ถึงขั้นขนาดฝังเพชรหรือพื้นปูพรมแดงตลอดทางเดิน แค่มันดูดี มีระดับ เห็นแล้วน่าเรียน ดูไซโฮแบบเรียบ ๆ มีสไตล์ไม่ได้ถึงขั้นเว่อร์วัง แต่เทียบกับปีหนึ่งสองสามแล้วต้องถอนหายใจ มันอนาถชนิดที่ว่าตะไคร่น้ำใกล้จะขึ้นตึกอยู่แล้ว

               
พอผมเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นสองของตึก ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าพี่วินจะห้ามทำไมในเมื่อตึกก็ออกจะเงียบ รุ่นพี่ปีสี่หลายคนเขาก็คงออกไปแจกลายเซ็นเหมือนกัน แถมเดินอยู่นี้ก็เย็นสบายเพราะทางเดินตึกนี้ติดแอร์ (จะหรูไปไหน) แต่เอาเถอะพี่เขาปีสุดท้ายแล้วให้ได้อยู่แบบสบายบ้างก็ดี

               
ทันใดนั้นเอง…

           
‘แจกลายเซ็นเสร็จแล้วเหรอวะ’


           
ขวับ

               
หลบ!

               
ผมเบี่ยงตัวเข้าห้อง ๆ หนึ่งที่เปิดประตูทิ้งไว้ทันทีที่ได้ยินเสียง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลบทำไม ก่อนจะเอาหูแนบกำแพงฟังเสียงคนที่อยู่ด้านนอก

               
‘ยังว่ะ หลบมาพักก่อนเดี๋ยวค่อยลงไปอีก’

‘น้องมาขออเยอะไหม’

‘โคตร ๆ รุมกูเป็นฝูงเลยด้านล่าง หายใจจนจะไม่ออก’


               
บทสนทนาที่ทำให้ผมต้องถอนหายใจ ความรู้สึกผิดปรี่เข้าท่วมจิตใจ คนอื่นเข้าแย่งกันขอลายเซ็นแต่ผมนี่สิสบาย ไม่ต้องทำอะไรแค่ยืนรอให้พี่วินไปเอาลายเซ็นมาให้ก็เสร็จ บอกตรง ๆ ว่า

               
โคตรโกง!

               
 “...” พอเสียงเงียบลงผมจึงเอาหูที่กำลังแนบอยู่กับประตูออก ทันใดนั้นเองอะไรบางอย่างก็โอบเข้ามาล้อมผมจากทางด้านหลัง ลมหายใจร้อนชวนขนลุกซู่มันคลอเคลียอยู่ที่ใบหู สัมผัสอันตรายจากสิ่งที่อยู่ด้านหลังทำให้ผมตัวแข็งทื่อไม่กล้าแม้แต้จะส่งเสียงออกมา จนกระทั่ง...

               
“มึงทำอะไรอยู่น่ะ”

               
!!!!!!!!!!!

               
พูดได้! งั้นก็คนเหรอ ?

               
ผมเม้มปากแน่นก่อนจะตัดสินใจหมุนตัวไปมองหน้าคนที่ทางด้านหลัง ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ใกล้แค่คืบ เจ้าของดวงตาคมเฉี่ยวที่คุ้นตาแต่ยังสามารถทำให้ขาของผมผมแทบทรุดลงไปกองอยู่กับพื้น สมาชิกคนสุดท้ายของบ้าน บุคลอันตรายอันดับหนึ่งที่ผมไม่อยากจะเข้าใกล้ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ

               
“พี่...เกียร์

               
ผมเรียกชื่อคนตรงหน้าออกมาอย่างแผ่วเบา หัวใจเต้นตุบตับราวกับจะระเบิดออกมาให้ได้ ผมกลัวพี่เขาจริง ๆ นะ ไม่เหมือนกับที่กลัวพี่รพ พี่รพผมกลัวเพราะพี่รพชอบดุ แต่พี่เกียร์ผมกลัว กลัวแบบกลัวฆาตรกรจะมาฆ่าหั่นศพผมยังไงยังไง เจอหน้าทีผมนี่แทบจะร้องไห้ บรรยากาศรอบตัวพี่เขามันอันตรายแปลก ๆ

               
ยังดีที่พี่เกียร์ทำงานตอนกลางคืนเพราะอย่างนั้นตอนเช้าพี่เกียร์เลยไม่ค่อยตื่น ซึ่งหลังจากที่พี่เกียร์ตื่นผมก็ออกจากบ้านเรียบร้อยแล้ว พอผมกลับถึงบ้านพี่เกียร์ก็ออกจากบ้าน ดังนั้นแม้จะอยู่บ้านเดียวกันผมก็แทบไม่ได้เจอพี่เกียร์เลย

               
“มึงยังไม่หายกลัวกูอีกเหรอ” และเหมือนเจ้าตัวก็รู้ด้วยว่าผมกลัวพี่เขาขนาดไหน

               
เสียงทุ้มว่าขณะยกมือขึ้นมาลูบหัวผมเบา ๆ อันที่จริงพี่เกียร์ก็ใจดีกับผมในระดับหนึ่ง เขาไม่เคยทำให้ผมกลัวหรอก  มีแต่ผมนี่แหละไปกลัวเขาเอง ถ้าตัดบรรยากาศชวนน่าอึดอัดออกไปพี่เกียร์ถือว่าเป็นคนใจดีอันดับสองรองจากพี่ผา เพราะเขาไม่เคยขู่ ไม่เคยตะคอกผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว

               
“ทีพ่อตัวเองทำไมไม่กลัว”

               
“ฮ...ฮิมไม่เหมือนพี่เกียร์นี่” ผมเถียงด้วยเสียงสั่น ๆ “บรรยากาศมันไม่เหมือน”

               
“มึงยังไม่ได้...ช่างเถอะ” ร่างสูงละออกห่างจากตัวผม “แล้วเข้ามาทำอะไรในห้องน้ำ”

               
ห้องน้ำเหรอ ? ผมเอียงคอมองไปยังด้านหลังที่พี่เกียร์ยืนอยู่เป็นห้องน้ำจริง ๆ ด้วย

               
“เปล่า เลเข้ามาเฉย ๆ”

               
“เหรอ” พี่เกียร์ลากเสียงยาวเหมือนไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ถามต่อ เขาล้วงมือเข้าไปหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นมาให้ผม “อ๊ะ กูให้”

               
สิ่งที่ถูกยื่นมาคือลูกอมสามเม็ด

               
“...”

               
“ของขวัญที่สอบเข้ามหา’ลัยได้ รับ ๆ ไปเหอะแดกแล้วไม่ตายหรอก”

               
พูดอย่างนี้ยิ่งไม่กล้ากิน ผมจำใจยื่นมือไปรับ เก็บไว้ในกระเป๋าก่อนจะเบี่ยงตัวหลีกทางให้พี่เกียร์เมื่อนึกได้ว่าตัวเองกำลังยืนขวางประตูทางออก

               
“อย่าพึ่งไปไหนล่ะ กูจะไปบอกฮิมว่ามึงอยู่ที่นี่”

               
ว่าจบร่างสูงก็เดินผ่านผมไปทว่าก่อนจะออกจากห้องน้ำ ขายาวกลับชะงักใบหน้าหล่อเหลามามองผมแล้วเอ่ยประโยคสุดท้าย

               
“เล...ถ้ามึงไม่กลัวพ่อมึง มึงก็ไม่ควรกลัวกูนะ”

 


               
เพราะพี่เกียร์บอกให้ผมอยู่ที่นี่ผมเลยต้องอยู่ ในห้องน้ำนี่แหละ แต่อย่านึกภาพห้องน้ำเก่า ๆ นะ ห้องน้ำในตึกสี่นี่ก็สะอ๊าดสะอาด ขนาดก๊อกล้างมือยังเป็นตัวจับเซนเซอร์แล้วจะมีน้ำไหลออกมาเองเลย กลิ่นก็หอม กระจกส่องแล้วก็หล่อ ผมเดินวนอยู่ในนี้มาสามรอบแล้วเพราะไม่รู้จะทำอะไรดี พี่เกียร์บอกให้รอก็ต้องรอ หวังว่าพี่วินจะยังไม่กลับไปหาผมตรงที่เดิมนะ

               
“เห้อ” ผมถอนหายใจเมื่อไม่มีอะไรทำ ขณะเอนตัวพิงอ่างล้างมือพลันส่ายตาเหลือบไปเห็นโถปัสสาวะสำหรับผู้ชาย ความคิดแปลก ๆ มันก็แล่นเข้ามาในหัว

               
จำได้ใช่ไหมที่ผมเคยบอกว่า เวลาจะชิ้งฉ่องพ่อบอกให้เข้าไปในห้องแทนอย่ามาปล่อยด้านนอกให้คนอื่นเห็น ทีนี้ผมก็เป็นเด็กดีไง เลยทำตามที่ฮิมบอกทุกประการ แต่เพราะการเป็นเด็กดีที่ว่านี่แหละมันทำให้ผมเคยใช้โถปัสสาวะแค่หกถึงเจ็ดครั้งเอง น้อยนะน้อยมาก! นับตั้งแต่หนึ่งขวบจนถึงเจ็ดสิบย่างสิบแปดในตอนนี้ยิ่งถือว่าโคตรน้อย

               
ตอนนี้ก็เลย...ปวดฉี่จังเลยทำไงดี

               
หึหึหึ

               
ผมหรี่ตาลงขณะมองไปทางประตูที่ไม่น่าจะมีใครเปิดเข้ามา แล้วเดินตรงดิ่งไปที่โถ

               
คนก็ไม่มี โอกาสดี ทางสะดวก เอานะ…

               
เสียงหัวใจมันเต้นตุบตับ ตุบตับ โธ่เอ้ย! แค่ฉี่เฉย ๆ ผมจะตื่นเต้นทำไมกันเนี่ย

               
อาจเป็นเพราะพอเริ่มโตขึ้นผมก็ไม่เคยเปิดให้ใครดูอีกเลย เคยใช้โถนี่ครั้งล่าสุดตอนอายุสิบสาม ตอนนี้มันเลยตื่นเต้นสุด ๆ ที่จะได้ใช้อีก อีกอย่างคือพอผมอายุสิบสี่ขึ้นไปแล้ว หนอนของผมน่ะนอกจากฮิมก็ไม่เคยเปิดให้ใครดูหรอกนะ ของสงวนสุด ๆ

           
รูดซิบ เอาออก

               
จะชิ้งฉ่องแล้วนะ…

               
ฉี่แล้ว!

               
หมับ

               
“เหี้ย!!”

               
“อย่าพูดคำหยาบ” เสียงทุ้มว่า กลิ่นหอมที่ผมคุ้นเคยทำให้ผมรู้ว่าเขาเป็นใคร

               
“ฮิม” ผมเรียกชื่อเขาเสียงสั่น ขณะหันหน้าขึ้นไปสบตากับนัยน์ตาคมที่หลุบลงมอง เจ้าของอ้อมกอดที่เข้ามากอดผมแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง

               
“เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าจะฉี่ให้ไปฉี่ในห้อง”

               
“ฮือ...บอกแล้ว” ผมสะอึก “แต่--”

               
“แล้วเราก็ดื้อเหรอ” ในเลพูดหน่อย!

               
“พ่อ”

               
“...” ในที่สุดเขาก็เงียบ

               
“เลยังฉี่ไม่เสร็จ”

               
นี่แหละ… ที่ผมอยากจะบอก

           
โฮกกกกกกกกกกกกกก T_T





(30%)





จะสงสารพี่เกียร์หรือจะฮาเลดี หรือจะสงสารเล เลือกเอาเองแล้วกัน
ที่แน่ ๆ เลกลัวพี่เกียร์มาก ๆ พี่เกียร์เราอาจบรรยายไม่ละเอียดเพราะไม่ได้ใช้บุรุษที่ 3
แต่ใช้ในมุมมองของเลแต่ง เพราะอย่างที่ว่าแม้เลจะโดนพวกพี่ว่าหรือด่ายังไง
ก็ยังไม่เคยเจอบรรยากาศอันตรายแบบเกียร์ ทั้ง ๆ ที่คนอยู่ใกล้ตัวเขาอย่างฮิมนั่นแหละที่มีมากที่สุด
ประโยคที่พี่เกียร์ค้างเอาไว้ให้ไปทายกันเอาเองว่าจะพูดอะไร



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ on twitter
ไปคุยกับป้าได้ที่ @_mdreds on twitter เช่นเดียวกัน
เลิฟ ๆ






หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 13-10-2016 14:08:13
รอ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-10-2016 14:57:57
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 13-10-2016 15:07:38
 :jul3: :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: kamontipsaii ที่ 13-10-2016 15:25:49
 :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 13-10-2016 15:35:47
นายเอกของเราดูเด็กน้อยมาก ตื่นเต้นกับเรื่องธรรมดาทั่วไปแต่คงถูกห้ามทำจากฮิมพอแฮกกฎหน่อยเลยตื่นเต้น
น่ารักดี แต่นึกไม่ออกว่าบอบบางแบบนี้จะทนดราม่าที่จะตามมาในอนาคตได้มั้ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 13-10-2016 17:28:51
น้องเล แลดูซนๆ แค่ไม่เคยได้เจออะไรร้ายแรงเลย
กลัวมีดราม่าแล้วน้องรับบ่ได้ ขอให้พี่ฮิมอยู่กะน้อง เอ็นดูน้องเลคนดีนะค้า  :mew2:

ขอบคุณค่าา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 13-10-2016 17:51:41
รอน้องเลฉี่ อิอิ
คนเขียนจ๋า น้องเลจะฉี่เสร็จวันนี้มั้ยเอ่ย  :z2: :z2:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 13-10-2016 18:38:40
ทำไมเราชอบหนุ่มๆที่อยู่บ้านเดียวกันกับน้องเลนะ
มีเสน่ห์กันคนละแบบ
วิศวะมันดีอย่างนี้นี่เอง555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-10-2016 21:51:34
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 13-10-2016 22:17:41
พี่ฮิม เดี๋ยวน้องก็ฉี่ไม่ออกหรอก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-10-2016 23:00:32
 :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Sorth ที่ 14-10-2016 00:15:05
 :-[พี่เกียร์นี่จะเป็นคู่รองรึป่าวนะ..โอ๊ยย อยากให้เป็นจังอ่ะ หาคู่ๆ พี่เกียร์หาคู่นร้าาาา :hao3: :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 14-10-2016 13:51:50
 :mew3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 14-10-2016 15:05:00
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 14-10-2016 15:21:58
ฮาดีค่ะ ตอนนี้ เลยังฮาได้อีกนะคะ 55555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Midorima ที่ 14-10-2016 17:15:19
เราขอพี่เกียร์แทนได้ไหม (โดนกระทืบ)  :z6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-10-2016 17:27:31
หนุ่มๆ บ้านน้องเล ดูหล่อล่ำ ท่าทางแซ่บมาก :mew1: :mew1: :mew1:
อยากรู้คู่ของคนยังไม่มีคู่  ใครจะคู่ใคร
ใครจะคู่วิน คู่ไทด์ คู่รพ คู่เกียร์   :ling1:
เพราะเล น่ารักไช่ไหม ฮิม เลยให้ไปฉี่ในห้องน้ำ :katai1: :katai1: :katai1:
กลัวใครๆเห็นเลน้อย ที่น่ารัก ใช่ปะ :hao3:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 131016#5(1) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 16-10-2016 00:16:57

            เงียบ…เงียบไปเลย

            ผมเม้มปากขณะก้มลงมองหนอนของตัวเอง ฉี่เสร็จแล้วก็หด หดกลับเข้ามาเร็ว ๆ ลูก

            เอาเข้า รูดซิบ

          กดน้ำ กลับหลังหัน

            “…” ไม่กล้ามองหน้าฮิมเลยอ่ะ เปล่าไม่ได้อาย อายทำไมเห็นบ่อยจนเบื่อแล้วมั้งนั่น ที่ไม่กล้ามองหน้าเพราะกลัวฮิมโกรธมากกว่า ยิ่งเวลาเขาโกรธเขาโหดสุด ๆ ไปเลยนะจะบอกให้ ในขณะที่ผมใจหวั่น ๆ อยู่นั้นเอง ประโยคแรกของฮิมหลังจากที่เงียบอยู่สักพักกลับเป็น…

            “ยังเท่าเดิมเลยนะ”

            ปึก!

            “พ่ออ่ะ!” ผมใช้มือทุบเข้าที่อกของอีกฝ่าย คนตัวสูงหัวเราะ รวบมือทั้งสองข้างของผมเอาไว้เหนือหัว

            “ก็บอกแล้วว่าให้ดื่มนม”

            “ก็เลไม่ชอบ” ผมไม่ชอบดื่มนม ฮิมก็เลยพาออกกำลังกายตลอด สูงได้หนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองสำหรับผมนี่ก็ถือว่าเป็นบุญมากแล้ว

            “ไม่ชอบก็ต้องดื่ม”

            “ฮิมก็พูดได้สิ ฮิมไม่เคยดื่มนมบูดแบบเลหนิ” มีอยู่ครั้งหนึ่งเผลอไปดื่มนมบูด จากนั้นก็ท้องเสียหนักมากจนต้องโดนหามส่งโรงพยาบาล แต่พอหายเรื่องราวมันก็ฝังใจและหลังจากนั้นมาผมก็ไม่ชอบดื่มนมอีกเลย

            “แล้วเมื่อไหร่จะโต”

            “พ่ออยากให้เลโตเหรอ” ผมถามกลับ “ถึงเลโตเลก็จะเกาะพ่อกิน”

            “เหรอ…”

            เหรอนี่มันยังไงหว่า ?

            “หรือฮิมเบื่อเลแล้ว ?” ไม่นะ! ไม่มีเขาผมอยู่ไม่ได้

            “เบื่อได้ด้วยเหรอ”

            “ไม่! ห้ามเบื่อเล” ผมบอกพลางซุกใบหน้าเข้าแผ่นอกกว้าง ว่าเสียงเบา “ห้ามเบื่อ เลไม่ให้เบื่อ”

            “…”

          เงียบ

          ทำไมเงียบ ? ผมคิด เงยหน้าขึ้นก่อนจะสะดุ้ง ให้ตายเหอะ! ใบหน้าอีกฝ่ายอยู่ใกล้ผมแค่คืบเดียว…

          …ละ…หล่อจังเลย   

          ว่าแต่…

            “ฮิมจะทำอะไร” ผมถามเมื่อใบหน้าหล่อเหลาเริ่มเข้ามาใกล้ ขามันก็ถอยห่างโดยสัญชาตญาณ ถ้าไม่ติดที่ว่ามือหนากอดรั้งเอวผมเอาไว้ทำให้ขยับไปไหนไม่ได้ “พ่อ…”

            “หลับตาลง”

            “?”

            “หลับตาลงสิ” น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างหู ผมไม่เข้าใจแต่ก็หลับตาลงอย่างที่เขาบอก มองไม่เห็นแต่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เข้ามาใกล้ ใกล้จนสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากลมหายใจ มือที่ถูกรวบเอาไว้ถูกชักจูงให้นำมาโอบรอบคอเขาเอาไว้แบบหลวม ๆ ผมมองไม่เห็น มันอึดอัด อยากลืมตาใจจะขาดโดยเฉพาะอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ แบบที่…

          อยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกเหมือนขาจะทรุด…

            ผมใจเต้นตอนที่มีอะไรบางอย่างมาคลอเคลียร์ที่จมูก รู้สึกถึงมือหนาที่ลากผ่านเอวขึ้นมาแตะเบา ๆ ที่ริมฝีปาก ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อสิ่งนั้นมันเลื่อนลงมาที่…

            ปัง!!

            “เลอยู่ไหน!”

            “อื้อ”

 



            หอมเหมือนเด็ก

            เจ้าของนัยน์ตาคมออกความเห็นในใจขณะลากริมฝีปากบางเฉียบคลอเคลียอยู่ที่ปลายจมูกทรงหยดน้ำธรรมชาติ คนตัวสูงแอบขำเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายหลับตาลงอย่างที่เขาบอกจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบ เลไม่ชอบความมืด เกลียดสุด ๆ เวลาฟ้าร้อง ยิ่งวันไหนเป็นตอนกลางคืน มีฝนตกและฟ้าร้องวันนั้นคนทั้งบ้านแทบจะไม่ได้นอน เพราะทั้งคืนจะได้ยินแต่เสียงเลร้องไห้ตลอดจนกว่าฟ้าจะเลิกร้องไปเอง ฤดูฝนจึงกลายเป็นฤดูที่ทุกคนในบ้านขยาดมากที่สุด

            ไม่…ที่เขาจะสื่อก็คือเด็กคนนี้บอกอะไรก็ทำไปหมดทุกอย่าง ดื้อไปบ้างแต่สุดท้ายแล้วก็เชื่อฟังเขาอยู่ดี แต่การที่เชื่อฟังนี่แหละที่มัน…

            มือหนาจงใจลากผ่านเอวคอดอย่างช้า ๆ มาจนถึงริมฝีปาก สัมผัสเบา ๆ แล้วละมือออก สรุปเป็นข้อความสั้น ๆ ในใจ แดงชะมัด บางทีเลอาจจะติดเรียกเขาว่าพ่อมากเกินไปจนลืมไปว่าพ่อที่ตัวเองเรียกอยู่ทุกวันนั้นอายุมากกว่าแค่สามปี เป็นพี่แท้ ๆ ก็ไม่ใช่เป็นพ่อแท้ ๆ ยิ่งแล้วใหญ่ ใครมันจะมีลูกได้ตั้งแต่ตัวเองอายุสามขวบ

            นัยน์ตามองคนตรงหน้า ลอบพิจารณาในใจ

            ถ้าตามเกณฑ์ของเขาตอนนี้ เลโตขึ้นกว่าเดิมแต่ยังโตไม่เต็มที่ แต่แค่นี้ก็สวยมากแล้ว สวยเหมือนแม่ ไม่เห็นมีส่วนไหนเหมือนพ่อเลย

            ชายหนุ่มยกยิ้มขณะที่ริมฝีปากยังคลอเคลียตรงปลายจมูกของอีกฝ่ายไม่ห่าง ก่อนจะละออกแล้ววกกลับเข้าไปแนบริมฝีปากลงที่แก้มเป็นเวลาเดียวกันที่ประตูถูกเปิดออก

            ปัง!!

            “เลอยู่ไหน!”

            “อื้อ” เสียงร้องอื้ออึงดังมาจากลำคอระหงทันทีที่เขาแนบริมฝีปากลงไป เจ้าของนัยน์ตากลมลืมตาขึ้นแบบงง ๆ สักพักก็เผยรอยยิ้มกว้าง แขนเรียวที่อยู่จัดวางให้โอบอยู่ที่คอขยับเข้าหากันแน่นกว่าเดิม ปลายเท้าเขย่งขึ้นแล้วหอมที่แก้มสากทั้งสองข้างตอบกลับแบบไม่คิดอะไร แขนแกร่งโอบเอวบางเอาไว้ ขนาดร่างกายที่แตกต่างทำให้ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กกว่าแทบจะหายเข้าไปในอ้อมกอด ฮิมกดศีรษะให้อีกฝ่ายค้างจูบเอาไว้ที่แก้มเป็นเวลาเดียวกันที่ตัวเองหันไปมองวินที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่หน้าประตู

            แววตาที่ทำให้คนถูกมองรู้สึกสะท้าน บรรยากาศอันตรายแผ่ซ่าน ที่ไม่ได้ให้รู้สึกว่าเป็นศัตรูแต่ให้ความรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคามโดยอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น รู้สึกอึดอัดจนเผลอถอยห่างออกไปสองก้าว แต่พอเลเริ่มดิ้นแววตาที่มองมาจึงละสายตาไปจากเขา ความรู้สึกคุกคามค่อย ๆ จางหายไป จุดสนใจถูกเปลี่ยนไปที่เจ้าของใบหน้าหวานที่ยังคงยิ้มร่า

            “จะหอมก็ไม่บอก หอมเลยก็ได้หนิ ไม่เห็นต้องให้เลหลับตา อ๊ะ! พี่วิน”

            เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกเมื่อโดนเรียก วินถอนหายใจแล้วตอบกลับไป “เออกูเอง”

            “พ่อช่วยเลด้วย” คนที่รู้ตัวว่าทำผิดจึงรีบหลบหลังร่างสูง

            “มึงน่ะมานี่”

            “ไม่!”

            “งั้นไม่เอานี่ใช่ไหม” มือหนายกสมุดเล็กเล่มให้มือขึ้นแล้วสะบัดไปมา เป็นผลให้คนที่กำลังหลบหันร่างสูงต้องจำใจเดินมาหาแต่โดยดี วินลอบมองหน้าเล็กก่อนจะเขกหน้าผากมันไปทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้ที่ขัดคำสั่งเขา

            โป๊ก!

            “โอ๊ย! พี่วินเลเจ็บนะ”

            “ก็กูทำให้มึงเจ็บ กูบอกแล้วไงว่าให้รอด้านล่างอย่าขึ้นมา”

            “ขึ้นมาก็ไม่เห็นมีอะไรเลย!”

            “ดวงดีน่ะสิ ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่โดนฉุดไปปล้ำ”

            “ใครเขาจะบ้ามาฉุดเล พี่วินอย่ามั่ว!” วินเงียบรู้สึกเถียงไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา แต่คำพูดของคนตรงหน้านี่กำลังทำให้เขารู้สึกหมั่นไส้ คันไม้คันมืออยากเขกหัวมันเป็นครั้งที่สองถ้าไม่ติดว่ามีพ่อทูนหัวจ้องตาเขม็งอยู่ทางด้านหลัง เลมันไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าหน้าตาของตัวเองมันน่าโดนฉุดไปปล้ำขนาดไหน โดยเฉพาะกับวิศวะมหา’ลัยเขาที่มีชื่อเสียงด้านแย่ดังฉาวโฉดพอ ๆ กับด้านดี พวกนี้ถ้าอยากฉุดมันไม่พูดกันหรอกมันฉุดเอาเลย

            เลน่ะแค่มามหา’ลัยวันแรกกิตติศัพท์ทางด้านหน้าตาก็แพร่ไปทั่วมหา’ลัย ฮิมก็ไม่ได้บอกใครด้วยว่าเลเป็นน้อง มันคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าเลเกี่ยวข้องกับมันยังไง แม้เรื่องที่พวกเขาไปปรากฏตัวในงานรับน้องวันแรกแบบขนปีสี่ไปเกือบทั้งหมดมันจะทำให้ทุกคนระแคะระคายความสัมพันธ์อยู่บ้าง แต่ใครจะกล้าถามล่ะ ?

            เลไม่รู้ ไม่รู้ว่าพ่อมันใหญ่ขนาดไหนที่นี่ ไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ นอกจากไม่รู้แล้วยังไม่สงสัย ไม่ระแคะระคาย ไม่อะไรทั้งนั้น ยังอยู่ในโลกสดใสที่มีพ่ออย่างฮิมเป็นใหญ่ โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรของพ่อตัวเองเลย

            แต่ยังดีที่เลได้พ่อมันมาเยอะ ราวกับว่าพ่อเป็นยังไง ลูกก็เป็นยังงั้น

            ฮิมสอนให้น้องเป็นคนซื่อ แต่ไม่ได้สอนให้เป็นคนอ่อนแอ เห็นหน้าใส ๆ แบบนี้เลเก่งกว่าที่ใครหลายคนคิด

            แต่ถึงจะเก่งยังไงก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี…

            “ทำตามที่วินบอกดีแล้ว” นัยน์ตาคมมองเพื่อนที่ยืนนิ่งเงียบอยู่นาน มือหนายกขึ้นขยี้ศีรษะคนตัวเล็กเบา ๆ “อย่าขึ้นมาดีกว่า”

            “ถ้าเลอยากมาหาพ่อล่ะ” สองคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เลเชื่อฟังแต่ไม่ยังไม่เข้าใจ

            “โทรมาก่อนเดี๋ยวพี่ลงไปรับ”

            คนฟังคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจ “ก็ได้!”

            “…”

            “เลมีกิจกรรมต่อ งั้นเลไปแล้วนะ”

            “เดี๋ยวพี่ลงไปส่ง” ฮิมโอบเอวบางเอาไว้หลวม ๆ ก่อนจะดันตัวอีกฝ่ายให้เดินไปด้านหน้า ชายหนุ่มปรายตามองเพื่อนที่ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป

            เขาพาเลเดินลงมาด้านล่าง ส่งแค่หน้าตึกจากนั้นน้องก็เดินไปเอง คนตัวสูงยืนกอดอกพิงเสาขนาดใหญ่ มองคนที่ค่อย ๆ เดินห่างออกไปจนกระทั่งลับสายตา

            คนไปแล้วแต่กลิ่นยังอยู่…

            เลเคยบอกว่ากลิ่นของเขามันติดจมูก พูดโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากลิ่นของตัวเองก็ติดจมูกเหมือนกัน กลิ่นหอมเหมือนเด็ก เจือจางแต่อบอวล ให้ทั้งกลิ่นและความรู้สึก บางทีกลิ่นหายแต่ความรู้สึกนุ่มละมุนยังอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่ใช่กลิ่นที่ได้จากน้ำหอมแต่เป็นกลิ่นที่มาจากเนื้อแท้ของเล

            เขาไม่ชอบให้เลใส่น้ำหอมแต่ถ้าน้องอยากใส่ ฮิมก็ไม่อยากขัด

            ร่างหนาไม่ได้เดินกลับเข้าไปในตึก ฮิมเดินออกมาที่ลานจอดรถ มือหนากดรีโมทเปิดประตูรถคันหรูแล้วก้าวเข้าไปด้านใน เครื่องยนต์ถูกกดสตาร์ทและหลังจากนั้นไม่นานรถสปอร์ตสีดำสนิทก็แล่นออกสู่ถนนใหญ่ มุ่งไปในทิศทางที่มีเพียงคนขับเท่านั้นที่รู้

 




            เงียบ…เงียบไปหมด

            ผมกวาดสายตา มองห้องเชียร์ที่ควรจะมีเพื่อนร่วมคณะมาเดินเผ่นผ่านบ้างทว่าตอนนี้กลับเงียบงัน ภายในห้องขนาดใหญ่มีแค่ผมที่กำลังยืนถือข้าวกล่องซึ่งเป็นอาหารเที่ยงอยู่เพียงคนเดียว และในขณะที่กำลังสงสัยอยู่นั้น เสียงตบมือแปะ ๆ ก็ดังมาจากหน้าประตู หันหน้าไปมองก็เจอกับพี่สินหัวหน้าสันทนาการยืนอยู่

            “ยินดีด้วย! น้องเป็นคนแรกที่กลับมาห้องนี้” เขาว่า

            จริงดิ! ผมเป็นคนแรกจริงเหรอ!

            พี่สินเดินมาหาผมแล้วสั่ง “นั่งลง ๆ ถือข้าวกล่องแสดงว่ายังไม่ได้กินใช่ไหม”

            ผมนั่งลง เปิดข้าวกล่องมองกะเพราในมือแล้วตักเข้าปากด้วยความหิว พี่สินตามมานั่งลงข้าง ๆ แล้วว่าต่อ “ขอพี่ตรวจสมุดลายเซ็นหน่อยครับ”

            ผมกลืนกะเพราลงคอ รีบควักสมุดขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้หัวหน้าสันทนาการ “นี่ครับ”

            กินต่อ… อีกฝ่ายรับไปเปิดดูแบบผ่าน ๆ จากนั้นก็เขียนอะไรบางอย่างให้ผมที่หน้าสมุด

            “อะไรอ่ะ!” ผมรีบถามเดี๋ยวเกิดโดนแกล้งขึ้นมาอีกก็ซวยน่ะสิ!

            “หือ... หมายถึงที่พี่เขียนเหรอ ?” พี่สินยกสมุดผมขึ้นพอมองดูดี ๆ ถึงได้เห็นว่าเขาเขียนคำว่า No.1 ที่หน้าสมุด “น้องเป็นคนแรกที่ได้ลายเซ็นครบนะ รู้ตัวไหมเนี่ย”

            ผมส่ายหน้า “เลไม่รู้”

            “อือ สงสัยตอนประกาศพี่ไม่ได้บอก แต่ใครที่ได้ลายเซ็นครบแล้วกลับมาห้องนี้เป็นคนแรกจะได้รางวัลนะ”

            “รางวัลอะไรครับ”

            “เราอยากได้อะไรล่ะ”

            “…”

            “ถ้าไม่อยากได้เป็นสิ่งของ ขอเป็นสิทธิพิเศษก็ได้นะ”

            ผมเม้มปาก คิดสักพักก่อนจะส่ายหน้า “เลไม่เอา”

            “หือ…ไม่เอาจริงเหรอ ?” พี่สินทำหน้าตกใจ ผมเลยพยักหน้าแล้วย้ำอีกครั้ง

            “เลไม่เอา” จะเอาได้ยังไง ลายเซ็นปีสี่ผมไม่ได้หามาเองสักหน่อย พี่วินไปขอมาให้ต่างหาก ถ้าเอารางวัลแล้วเกิดถูกจับได้ว่าโกงขึ้นมาเลก็ซวยสิ! เสียดายนิดหน่อยแต่รางวัลที่ได้จากการทุจริตคนอื่นอย่าเอาเลยจะดีกว่า

            “น้องเลไม่เอาจริงเหรอครับ ถ้าเลไม่เอา งั้นรางวัลมันจะตกไปเป็นสิทธิของคนที่ได้ที่—”

            ปัง!!

            พี่สินยังพูดไม่จบประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดเข้ามาด้วยความรุนแรง ข้าวในปากผมแทบพุ่งเมื่อได้ยินเสียงดังสนั่นห้องเชียร์ สายตาของเราจับจ้องไปที่ยังผู้ใหม่ ร่างเล็กที่กำลังก้มหน้าหอบหายใจอยู่ตรงประตู พี่สินเป็นคนแรกที่ทัก

            “อ้าวน้องอิน—”

            “ไม่ทันเหรอ!” เสียงหวานแทรก เจ้าของชื่ออินเงยหน้าขึ้นมองผม จากนั้นก็เบ้หน้า น้ำตาคลอเบ้า ผมได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ ในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องของผม ผมจึงหันมาสนใจกะเพราในมือต่อ แต่หูก็ฟังไปด้วย “พี่สินอินมาไม่ทันคนแรกเหรอครับ”

            “จะว่าไม่ทันมันก็ใช่—”

            “หมดกัน!” แทรกอีกแล้ว

            “น้องอินคือว่า—”

            “ฮือ…” ร้องไปแล้ว

            ผมถอนหายใจ ปิดกล่องกะเพราในมือเพราะไม่มีอารมณ์จะกินแล้วลุกขึ้นตั้งใจว่าจะเอาไปทิ้ง แต่ในจังหวะที่ยืนอยู่ดี ๆ ก็มีมือมาจับเสื้อของผมเอาไว้ หันกลับไปก็เจออิน (เรียกแบบนี้เลยแล้วกันเพราะปีหนึ่งเหมือนกัน) ที่กำลังนั่งน้ำตานองหน้าอยู่

            “นาย…ชื่อเลใช่ไหม อึก! ขอ…ฮือ…อะไรเหรอ”

            ผมขมวดคิ้วสงสัย “ขออะไรอ่ะ”

            “ก็คนแรกจะได้ อึก! รางวัล”

            “อ๋อ ไม่ได้เอา”

            “หือ” ใบหน้าหวานเงยขึ้น ผมจ้องเข้าไปในดวงตากลมแล้วตอบ

            “เราสละสิทธิ” พอพูดจบพี่สินก็รีบเสริม

            “น้องเลสละสิทธิครับ อินมาที่สองดังนั้นตอนนี้รางวัลเป็นของอิน”

            “จริงเหรอ” อินว่าเสียงเบามือที่จับชายเสื้อของผมอยู่ปล่อยออก จังหวะนั้นผมจึงรีบเดินไปที่ถังขยะเพื่อที่จะทิ้งสิ่งที่อยู่ในมือ บทสนทนาของทั้งสองดังแว่วมาตามหลัง

          ‘จริงสิ พี่จะโกหกไปทำไม’

          ‘ถ้าอินไม่เอาสิ่งของ ขอเป็นสิทธิพิเศษได้ใช่ไหมครับ’

          ‘ได้ ๆ น้องจะขออะไรล่ะ’


          ผมเดินมาถึงถังขยะ เปิดฝากำลังจะทิ้ง

          “อินขอพี่รหัสที่มีสายรหัสเป็นพี่ฮิมครับ”

          ตุบ!

            จู่ ๆ ร่างกายผมก็หยุดชะงัก รู้สึกมือไม้อ่อนแรง จนข้าวกล่องที่ถืออยู่ในมือร่วงลงไปในถังขยะที่เปิดฝารอแล้วโดยอัตโนมัติ

            เมื่อกี้รู้สึกเหมือนได้ยินชื่อคุ้น ๆ ประโยคต่อมาของพี่สินยิ่งยืนยันความคุ้นของผมได้ดี

            “น้องอินหมายถึงพี่ฮิมที่อยู่ปีสี่เหรอครับ”

            “ครับ! คนนั้นแหละ”

            ผมเบิกตากว้าง ปิดฝาถังขยะแล้วหมุนตัวกลับทันที




          เมื่อกี้ว่ายังไงนะ!!









(70%)





ดัก  *พี่วินไม่ได้ชอบเล

      *ไม่ได้มีหลาย P อะไรทั้งสิ้นมีพระเอกคนเดียวคือฮิมค่ะ



เอื่อยมาได้ห้าตอนแล้ว หลังจากนี้จะเข้าสู่โหมดจริงจังของแท้แล้ว
หลายคนถามถึงเอ็นซี ตอบเลยตอนนี้ยังไม่มี แต่ถ้ามีแล้วอย่าเอียนแล้วกัน
(เพราะมันอาจจะเยอะมาก555) อีกอย่างมีคนบอกเลอ่อนแอจัง ดูบอบบาง นี่บอกเลยว่าเลได้พ่อค่ะ
ส่วนได้พ่อยังไงเดี๋ยว อ่าน ๆ ไปก็รู้เอง55555


#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ on twitter
ไปคุยกับป้าได้ที่ @_mdreds on twitter เช่นเดียวกัน
เลิฟ ๆ






หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-10-2016 00:33:25
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 16-10-2016 00:33:31
อินนี่จะมาแบบดีหรือร้ายเนี่ย แค่แบบปลื้มฮิมเฉยๆหรือป่าว  :ling3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: lllittled ที่ 16-10-2016 01:07:32
มากระปิดกระปอยไปนะ
อย่างห้าสิบเปอร์ยังโอเคหรือถ้ายังไม่พร้อมรอครบก่อนก็ได้นะคะ
สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 16-10-2016 03:00:35
นู๋เลอย่าหึงพ่อสิลูก 5555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: __mxsae ที่ 16-10-2016 03:58:49
เอาแล้วไงๆน้องเลจะสู้มั้ยลูก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 16-10-2016 06:15:52
ยังไงๆ คู่แข่งมาแล้ว
มาต่อเลยยยย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 16-10-2016 07:27:35
ตัวกระตุ้นมาแล้ววว  :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 16-10-2016 08:05:09
มาแล่ว :hao6:

หวังว่าจะใจตรงกันเร็วๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 16-10-2016 09:56:06
อิน .... ชอบฮิมสินะ

ศัตรูหัวใจน้องเลออกตัวแล้ว

ชอบพี่ๆในบ้านน้องเลค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 16-10-2016 10:29:44
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 16-10-2016 11:20:46
ฮิมเริ่มคิดอะไรกับน้องมากกว่าพี่น้องแล้วใช่มั้ย รอๆ ให้เริ่มรักกัน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 16-10-2016 13:52:24
มีคู่แข่งแล้วสิ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-10-2016 14:18:09
โอ้ สิทธิพิเศษที่เลไม่ขอ
แล้วสิทธินี้ยอมให้ใช้ได้ด้วยเหรอ
น่าที่ฮิม จะยกเลิกกรณีสายรห้สไปแล้ว
ถ้าไม่ยกเลิกจะมีผลยังไงกับเล นะ
อินออกตัวว่าชอบพี่ฮิม เต็มๆ เลย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-10-2016 16:31:21
มองเห็นความยุ่งเหยิงรออยู่ไม่ไกล  :mew5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 16-10-2016 16:46:06
ติดจอ รอดู
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 16-10-2016 16:51:17
 o18
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 16-10-2016 16:52:09
อร้าคคค
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 16-10-2016 20:24:01
ตามทันแล้ว

เท่าที่รู้ฮิมรู้จักพ่อแม่ที่แท้จริงของเล

ถามหน่อยน้องกอดนั่งตัก...พี่ฮิมไม่มีอารมณ์เลยเหรอ

แล้วนายอินนี่ไม่กลัวพี่ฮิมเหรอ

จะมาดีมาร้ายหละ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 16-10-2016 22:37:47
คู่แข่งเลมาแล้ว

ปล.มีคนคิดเหมือนเรามั้ยไม่รู้แต่อยากให้อัพแบบเต็มตอน 50:50 ก็ยังดีนะคะ คนเขียนจะอัพที่อื่นแบบแบ่งก็ได้พออัพครบตอนแล้วค่อยมาอัพที่นี่ตอนนึงเลยดีกว่า คหสตนะคะ ขออภัยถ้าใครไม่คิดแบบเรา -/\-
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 16-10-2016 22:46:29
อยากให้ถึงวันฟ้าร้องเร็วๆ
อยากเห้นน้องเลงอเเง :z6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Abbeynggn ที่ 16-10-2016 22:50:18
คู่แข่งมาแล้วจ้าา ไม่น่าจะมาดีน๊า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Midorima ที่ 16-10-2016 23:38:21
อย่าเชียวนะอิน เราไม่ยอม  :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: nuchhxk ที่ 16-10-2016 23:50:48
ซึนอ่ะ ซึนทั้งคู่ เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองกัน ได้แต่บอกน้องเลพลาดแล้ววว ผมสละสิทธิ์อ่ะ ได้รู้ใจตัวเองก็เพราะอินแหละดูท่าแล้ว 5555555555555555 งานนี้มีหึง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-10-2016 15:26:29
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-10-2016 17:31:05
ตามอ่านดู
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 18-10-2016 13:10:32
เอาแล้วไง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Banarot ที่ 18-10-2016 15:00:28
ก็แค่สายรหัสเอง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-10-2016 20:26:10
ตัวกระตุ้นมาแล้ว  :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 19-10-2016 16:39:04
อยากอ่านแล้ว โวยวาย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 22-10-2016 18:47:29
อ่านแล้วติด อ่านแล้วหลงเลยย คนเขียนมาต่อเร็วๆน้าา  :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: winning ที่ 22-10-2016 20:45:11
อินมาดีมาร้ายเนี่ยค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 27-10-2016 01:46:16
อย่าไปยอมนะเล!! พ่อเรา เราห้ามให้ยอม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: หมูหยังสือ ที่ 31-10-2016 21:05:28
อย่าไปยอมนะลูก :z6: นางอินนางมาดีรึป่าวเนี่ย :katai1: รีบมาต่นะค่ะ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 04-11-2016 14:51:45
รอ

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: wasin82 ที่ 11-11-2016 12:09:49
หายไปเป็นเดือนแว้ววววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 22-11-2016 18:03:47
ตอนแรกเดาว่าใครพระเอก ตอนแรกนึกว่าคนเล่นหมากรุก หรือพี่คนไหน แต่ปรากฏพี่ฮิม ชอบนะอ่านแล้วน่าตามต่อ^^
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 22-11-2016 20:38:01
รอแต่คงไม่ดราม่ามากใช่ไหม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 22-11-2016 21:21:21
คงไม่ดราม่านะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 22-11-2016 22:44:50
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ตัดจบงี้เลยหรอ
เจ็บปวดอ่ะ

 :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 23-11-2016 02:32:36
 :hao6: ทำไมเราพึ่งได้มาอ่านเนี่ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: iaum ที่ 23-11-2016 13:48:37
ได้โปรดอย่าทำร้ายกันเลยยยยยยย :z3: :katai1: :ling1: รีบมาต่อนะคะ เราจะขาดใจแล้วววว  :o12:
อย่าแย่งคนของเล....ถึงเป็นผู้หญิงเลก็ไม่ยอมมม//อินจัด55 :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#6 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 16-01-2017 23:39:45
ตั้งแต่ฮิมกลับมาจากอังกฤษคราวนี้มีอยู่สิ่งหนึ่งที่พวกเราไม่ได้ทำในตอนเช้าเหมือนทุก ๆ วัน แถมสิ่งที่ไม่ได้ทำนั้นมีโน้มน้าวว่าจะกลับมาทำอีกครั้งโดยเริ่มจากเช้าวันเสาร์ที่แสนสุขสบายเพราะไม่ต้องตื่นไปเรียน… ผับผ่าสิ! วันนี้ผมตื่นเร็วกว่าทุก ๆ วันอีก

พ่อปลุกผมตั้งแต่ตีห้าเกือบหกโมงเช้า เป็นเวลาที่ท้องฟ้าเริ่มสว่างพอดี ปลุกเสร็จก็ให้ผมไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ไม่ต้องอาบน้ำ แค่เปลี่ยนจากชุดนอนเป็นชุดอื่นที่มันกระชับกว่าเดิม แล้วบังคับให้ลงไปใส่รองเท้าผ้าใบด้านล่าง พอทุกอย่างเสร็จเขาก็พาผมเดินออกจากบ้านในขณะที่คนอื่น ๆ ยังนอนไม่ตื่นกันเลยด้วยซ้ำ

“เลง่วง”

“อย่างอแง”

“แต่…”

“ไม่แต่ ผ่อนให้เรามาสี่วันแล้ว” ผมเบ้ปากในขณะที่พ่อหันหน้ามามอง “รู้นะว่าไม่อยากออกกำลังกาย”

นี่ไงประเด็น จำได้ไหมที่ผมเคยบอกว่าไม่ดื่มนมแต่สูงได้หนึ่งร้อยเจ็ดสิบกว่าเพราะออกกำลังกาย ไอ้สิ่งที่ยังไม่ได้ทำตั้งแต่ที่พ่อกลับมาจากอังกฤษก็คือการออกกำลังกายนี่แหละ ปกติเขาจะพาผมออกกำลังกายทุกเช้าที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน วันไหนฝนตกก็ถึงไม่ได้ออก ยกเว้นว่าจะไปฟิตเนสแทน

“ก็เลขี้เกียจ”

“พี่ก็ขี้เกียจซื้อรองเท้าให้เราเหมือนกัน”

ผมกอดหมับเข้าที่เอวหนาทันที “เลไม่ขี้เกียจแล้วก็ได้”

“วิ่งให้เหงื่อออก”

“พ่ออย่าโหดกับเลนักสิ” ผมบ่นทันที เพราะผมเป็นคนที่เหงื่อออกย๊ากยาก ฮิมไม่ตอบ ร่างสูงเริ่มวิ่งทันทีที่เดินมาถึง ผมแอบเบะปากก่อนจะหยิบหูฟังเชื่อมไอพอดที่หยิบออกมาจากบ้านด้วยเอาใส่หูแล้วค่อย ๆ วิ่งไป วิ่งตามคนอื่นบ้าง แซงคนอื่นบ้าง เพราะสวนสาธารณะที่ผมมามีคนมาออกกำลังกายตอนเช้าเยอะพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นวัยผู้ใหญ่ มีวัยรุ่นให้เห็นประปรายในแต่ละพื้นที่

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เหงื่อผมออกแค่ซึม ๆ แต่คนหอบจะตายอยู่แล้ว ผมเลยวิ่งวนกลับไปที่เดิม เห็นฮิมกำลังนั่งกินน้ำรออยู่ นัยน์ตาคมมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ในขณะที่เหงื่อผมซึม ๆ เหงื่อฮิมไหลอย่างกับสายน้ำ นี่ก็เว่อร์ไป เอาเป็นว่ามันเยอะในระดับหนึ่ง

“เหงื่อไม่ออก” ผมคิดว่ามันเป็นประโยคคำถาม

“เลวิ่งแล้วนะ แต่เหงื่อไม่ออก”

“ไปวิ่งอีกรอบ”

“ฮืออ เลเหนื่อยไม่ไหวแล้ว” ผมแสร้งล้มตัวนั่งลงบนตักแกร่ง แต่ผิดคาดเขาผลักผม ผมเบิกตากว้างมองอีกฝ่ายอย่างอึ้ง ๆ “พ่อใจร้าย”

“วันนี้งดรองเท้า”

“ไม่นะ”

“งั้นไปวิ่งอีกรอบให้เหงื่อออก”

“เลเหนื่อย”

“รองเท้า”

“ฮือออ” เพราะอยากได้ ผมเลยต้องจำใจวิ่งไปตามเส้นทางอีกครั้ง แต่วิ่งอยู่คนเดียวได้ไม่นานก็สัมผัสได้ถึงคนที่วิ่งมาขนาบข้าง หันไปมองถึงได้เข้าใจว่าฮิมวิ่งตามผมมาตั้งแต่ต้น

ก็ไม่รู้ทำไมจากฝืนใจวิ่งมันกลายเป็นเต็มใจไปซะงั้น

 

เราออกจากบ้านตอนหกโมงและกลับเข้าบ้านตอนแปดโมง พี่ ๆ ทุกคนตื่นพอดี (ยกเว้นพี่เกียร์) ในเช้าวันเสาร์แบบนี้การที่ทุกคนตื่นตอนแปดโมงเช้าถือเป็นอะไรที่เร็วมาก หลังกลับมาถึงบ้านเขาก็ไล่ให้ผมไปอาบน้ำ อาบเสร็จผมก็เดินลงมาด้านล่าง เห็นพี่ ๆ ยังนั่งอยู่กับที่ก็เกิดประหลาดใจ น่าแปลกที่วันนี้พวกเขาไม่ได้ออกไปไหน ทุกคนยกเว้นพี่เกียร์นั่งสุมหัวกันที่ห้องนั่งเล่น เปิดแอร์เย็น ๆ ดูไททานิครอบที่สี่สิบแปดพร้อมกับจิบเบียร์เพลิน ๆ ไปด้วยเป็นการคลายเครียด ส่วนผมนั้นออกไปเพิ่มความเครียดให้ตัวเองโดยการ…

“เซียร์หยุด! บอกให้หยุดวิ่งไง!”

วิ่งไล่จับแมว

ลืมบอกไปเลย ในบ้านหลังนี้นอกจากจะมีมนุษย์แล้วก็ยังมีอมนุษย์อยู่อีกหนึ่งตัว ผมไม่ได้แนะนำเพราะไม่นับมันเป็นสมาชิกของบ้าน แม้มันจะอยู่ที่บ้านนี้เป็นเวลานานเท่า ๆ กับผมเลยก็เถอะ อมนุษย์ตัวแรกและตัวสุดท้าย แมวผีที่ฮิมรักนักรักหนาเพราะเขาเป็นคนซื้อมันมาเลี้ยงด้วยตัวเอง

ฮิมรัก แต่ผมเกลียดมันเข้าไส้

และมันก็เหมือนจะเกลียดผมเข้าไส้เหมือนกัน เพราะในบ้านหลังนี้มันเชื่องกับทุกคนยกเว้นผมคนเดียว

“เลบอกให้หยุดวิ่งไง!” ผมตะโกนลั่น ส่งสายตามองเจ้าแมวก้นกลมๆ ตัวอ้วนๆ อย่างนึกแค้นใจหลังจากวิ่งไล่มันมาเกือบยี่สิบนาที วันนี้ผมกับฮิมจะไปดูหนังแต่เป็นหนังรอบบ่ายสอง เวลามีเหลืออยู่เยอะผมเลยหวังจะจับมันมาอาบน้ำเพราะไม่ได้อาบมานานมาก ในบ้านหลังนี้ทุกคนมีหน้าที่ (แต่ไม่ทำ) ซึ่งหน้าที่ที่ผมต้องรับผิดชอบจริงๆ นั่นก็คือการดูแลสัตว์ในบ้าน แถมยังเป็นสัตว์ที่เชื่องกับทุกคนยกเว้นผมอีกต่างหาก!

ถ้าพ่อไม่ขอ ผมไม่มีทางทำแน่ ๆ

 

“ย๊าส์!! โกรธแล้วนะ”

“เซียร์ หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้!”

“เซียร์! ไปอาบน้ำ”

“เซียร์!!”

 

“ทำอะไรอยู่น่ะเล” ผมหันไปมองเจ้าของเสียง ฮิมกำลังเดินลงบันได แขนแกร่งเอื้อมมือโอบเอวผมเอาไว้เมื่อลงมาถึง กลิ่นหอมและเย็นบ่งบอกว่าพ่อพึ่งอาบน้ำเสร็จ

ผมไม่ได้ตอบคำถามเพราะสายตากำลังจับจ้องที่แมวผีตัวเดิมไม่เปลี่ยน

และตอนนี้มันกำลังจะหนีไปอีกแล้ว…

“อย่าหนีนะ!!” ผมร้องลั่น หวังแยกตัวออกจากร่างสูง ทว่าไปไหนไม่ได้เพราะมือหนาเกาะเอวผมเอาไว้ไม่ปล่อย ผมเงยหน้ามองฮิมซึ่งเจ้าตัวดูเหมือนจะรู้แล้วว่าผมกำลังทำอะไร นัยน์ตาคมสีดำสนิทก้มลงมองผมครู่หนึ่ง มือหนายังรวบเอวเอาไว้เหมือนเดิม หลังจากนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็หันไปมองเจ้าแมวก้นกลมที่กำลังสะบัดตูดเดินออกไป ฮิมยกมือขึ้นบีบจมูกผมเบาๆ พร้อมๆ กับเรียกชื่อมัน

“เปอร์เซียร์”

ทันใดนั้นแมวตัวหนาที่ตั้งชื่อตามสายพันธุ์ก็หยุดเดิน ใบหน้าอวบๆ หันมามองอย่างหยิ่งทะนงแต่พอเห็นว่าใครเรียกความหยิ่งทะนงนั้นก็หายไป มันเดินต้วมเตี้ยมมาเกาะแข็งเกาะขาฮิมทันที

น่าหมั่นไส้! ทีกับพ่อทำไมเชื่องจังเลย ผมเบ้ปากมองเจ้าแมวที่หาความเป็นมิตรไม่เจอจนกระทั่งเสียงทุ้มเรียกสติ

“หิวข้าวหรือยัง” พอฮิมถามผมถึงนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังไม่ได้กินข้าวเช้า และในขณะที่เขากำลังเอามือเกลี่ยปรอยผมออกจากใบหน้า ฉับพลัน ผมนึกวิธีแก้เผ็ดอิแมวผีตัวนี้ขึ้นมาได้

ผมเกลียดมันแต่ต้องยอมรับอยู่อย่างว่าแมวผีตัวนี้มันนิสัยเหมือนผมมาก โดยเฉพาะเรื่องหวงเจ้านาย

ผมโปรยยิ้มหวานใส่ ก่อนจะยกมือขึ้นรอบคอขาวพร้อมกับเอนตัวพิงบ่าแกร่งโดยมีมือหนามาจับเอวผมหลวมๆ อย่างที่เขาทำประจำ แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือการใช้เท้าเขี่ยอิแมวบ้านี่ให้ออกห่างจากฮิมต่างหาก

ผมเป็นคนหวงพ่อ โดยเฉพาะกับแมวตัวนี้ ยิ่งเวลามันไปคลอเคลียฮิมแล้วผมรู้สึกยิ่งหวงเขาจนจะบ้าตาย ผมอาจจะเป็นโรคประสาทก็ได้แต่รู้สึกสะใจตอนเปอร์เซียร์มันแยกเขี้ยวใส่เหมือนโกรธ อารมณ์แบบกูชนะ ว่ะฮ่าๆๆ มึงเห็นข้อดีของการเป็นมนุษย์หรือยังอิแมวผี! อะไรประมาณนั้น

“เลหิวข้าวหรือยัง” เขาถามทวนอีกครั้ง

“ยังไม่หิว เลอยากอาบน้ำให้มันแต่มันไม่ยอมให้จับ” ผมบุ้ยหน้าไปทางแมวก้นเด้ง ในขณะที่ฮิมละตัวออกจากผมแล้วไปอุ้มมันขึ้นมาอย่างง่ายดาย

“เมี้ยว~”

เมี้ยวพ่องแกสิ! นี่มันพ่อเล

“งั้นพรุ่งนี้ค่อยอาบ” ฮิมว่าขณะเกาคางเปอร์เซียร์ที่กำลังทำหน้าทำตามีความสุข แต่สักพักก็วางมันลงกับพื้นแล้วเจ้าแมวก้นกลมก็สะบัดตูดเดินเตาะแตะไปทางอื่น

“ทำไมล่ะ เหลือเวลาอีกตั้งเยอะ” ตอนนี้เก้าโมงเหลือเวลาอีกเกือบห้าชั่วโมงกว่าจะได้ไปดูหนัง

ฮิมไม่ได้อธิบายเขาหยิบกุญแจรถขึ้นมาโชว์ให้ผมดู “มีรถเข้ามาใหม่ อยากไปดูไหมล่ะ”

เท่านั้นแหละ ใจก็เต้นแรงราวกับว่าจะหลุดออกมา ผมเบิกตากว้างรีบพยักหน้าด้วยความยินดี

 

 

ใจที่ว่าสั่นแล้วยิ่งสั่นอีก ยามรถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนเข้ามาในเขตพื้นที่ของบริษัทใหญ่ยักษ์ที่กวาดพื้นที่ไปกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบไร่แถวชานเมือง ตึกขนาดใหญ่สไตล์โมเดิร์นสมัยใหม่ สูงตระง่าน สวยสะดุดตา แสดงความโอ่อ่าและหรูหราอย่างมีระดับ

ผมแทบจะวิ่งลงจากรถทันทีที่ฮิมจอด ผมไม่ได้มาที่นี่เกือบเดือน ถือว่านานมากทั้ง ๆ ที่มันเป็นสถานที่ที่ผมโปรดปรานมากที่สุด แต่ฮิมดันไม่ให้ผมมานอกจากว่าเขาจะอนุญาตนี่สิ สงสัยกลัวว่าถ้าผมมาแล้วธุรกิจหมื่นล้านของตัวเองจะล้มจม เพราะถ้าผมมาที่นี่เมื่อไหร่ ผมเล่นไม่เคยเหลือ

ผมกระโดดลงจากรถเมื่อมันจอด แล้ววิ่งเข้าสู่ตึกสูงระฟ้ากว่า 70 ชั้นด้วยความเร็วแรงชนิดที่ว่า รปภ เปิดประตูให้ไม่ทัน แอร์เย็นกระแทกหน้าถัดมาคือเสียงทักทายจากพี่พนักงานที่จำหน้าผมได้หลายต่อหลายคน

 

‘สวัสดีค่ะน้องเล’

‘น้องเลมาตั้งแต่เมื่อไหร่’

‘ไม่เจอกันนานนะคะ’

‘น้องเล…’

 

ผมอยากตอบแต่เหมือนขามันไม่คิดอย่างนั้น เพราะมันยังคงวิ่งต่อไป แถมไม่สนใจสายตาของใครหลาย ๆ คนที่มองมาด้วยแววตาตำหนิ ประหนึ่งมีเด็กกะโปโลมาวิ่งเล่นในบริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ สนซะที่ไหน ที่นี่ผมใหญ่น้อยไปเสียเมื่อไหร่ล่ะ

“เลอย่าวิ่ง” เสียงฮิมดังมาตามหลัง ในขณะที่ผมวิ่งนำหน้า พ่อก็วิ่งมาตามหลังเหมือนกัน

เขาจับตัวผมได้ตอนที่ผมวิ่งมาถึงจุดหมาย มันอยู่หลังตึกหรู เป็นอู่ซ่อมรถขนาดใหญ่ที่ไฮโซ ดูดี มีระดับที่สุดในประเทศไทย ทีนี้เริ่มเดาได้แล้วใช่ไหมว่าฮิมพาผมมาที่ไหน

และใช่… บริษัทของเขาเอง

ฮิมเป็นประธานบริษัทนำเข้าและส่งออกรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกหนึ่งสาขาจากทั้งหมดแปดสิบห้าสาขาในเครือแฮมินตัน บริษัทนำเข้า ส่งออกและผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สาขาที่ไทยซึ่งฮิมเป็นประธานอยู่นั้นยังเรียกได้ว่าเป็นสาขาย่อย ส่วนสาขาใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ (เพราะแบบนี้เขาถึงต้องบินไปประชุมที่อังกฤษบ่อย ๆ) มีคนคุมบังเหียนของเครือแฮมินตันทั้งแปดสิบสี่สาขาจริง ๆ คือคุณพ่อของฮิม คุณลุงผู้ไม่ประสบอารมณ์ทุกครั้งที่เจอหน้าผม แต่แค่ที่ไทยแฮมินตันก็สามารถกวาดรายได้กว่าหมื่นล้านบาทและอีกหลายพันล้านต่อปี ผมไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้ารวมเงินทั้งหมดจากแปดสิบสี่สาขาเข้ากันเมื่อไหร่ยอดมันจะพุ่งไปถึงเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้นธุรกิจในเครือของแฮมินตันที่ว่านี่ก็ไม่ได้มีแค่นำเข้า ส่งออกและผลิตรถยนต์ ธุรกิจหลักอีกสามอย่างคือค้าน้ำมัน ผลิตเครื่องบิน เรือ และอย่างสุดท้าย เป็นบริษัทใหญ่ในการผลิตและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยิบย่อยอีกเยอะแยะ

รวม ๆ แล้ว ธุรกิจหลักของแฮมันตันมีสี่อย่าง แต่อันดับหนึ่งก็ยังเป็นนำเข้า ส่งออกและผลิตรถยนต์อยู่ดี ฮิมเรียนวิศวกรรมยานยนต์ก็เพราะแบบนี้ แน่นอนว่าทั้งหมดมันจะถูกส่งต่อให้ฮิมซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของประธานใหญ่แฮมินตัน

เห็นได้ชัดว่าถึงผมจะเกาะเขากินไปจนตายยังไงเขาก็ไม่มีทางอดตาย แต่ก็ไม่รู้ว่าฮิมจะยอมให้ผมเกาะหรือเปล่านี่สิ ในตอนนี้ที่แน่ ๆ คือเขายอมรับความยุ่งยากโดยการเป็นประธานบริษัทในเครือแฮมินตันสาขาที่ไทยตั้งแต่อายุสิบเจ็ดเพื่อที่จะเอาเงินมาเลี้ยงดูผม ดูเป็นเด็กเสี่ยยังไงชอบกล ถ้าไม่ติดที่เสี่ยที่ว่าเลี้ยงผมมาตั้งแต่สามขวบอ่ะนะ

ฮิมเป็นเจ้าของบริษัทแฮมินตันสาขาที่ไทย (กับอีกแปดสิบสี่สาขาในวันข้างหน้า) ดังนั้นในฐานะที่ผมเป็นลูก (ไม่แท้) ผมถึงบอกไงว่าที่นี่ผมใหญ่น้อยไปเสียเมื่อไหร่ แต่ในกรณีนี้มันใช้ไม่ได้กับฮิมที่ใหญ่กว่า…

“คนดีอย่าวิ่งสิ” น้ำเสียงออกตำหนิ คิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันราวกับว่าไม่พอใจบ่งบอกว่าพ่อกำลังจะโกรธจริง ๆ ผมรีบเขย่งปลายเท้าแล้วหอมแก้มสากก่อนที่เขาจะระเบิดอารมณ์ไปมากกว่านี้ ขืนโกรธขึ้นมาแล้วผมถูกลากกลับก็แย่สิอุตส่าห์ได้มาทั้งที

“เลขอโทษ”

“คราวหน้าไม่วิ่งนะ”

“อือ”

“ตอบดีๆ”

“ครับๆ”

“อ้าว น้องเลไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เสียงของผู้ใหม่ทำให้บรรยากาศอันตรายที่อยู่รอบตัวผมสลายลง เราเบนสายตาให้ไปความสนใจกับ ‘พี่ฮอว์ก’ ช่างใหญ่ประจำบริษัทที่มีตายิ้มเป็นจุดเด่น อายุยังไม่ถึงสามสิบแต่ฝีมือดีสุด ๆ ไม่ว่าจะรถเสีย รถพัง แม้กระทั่งรถที่เละจนแทบจะใช้งานไม่ได้พี่แกยังสามารถเนรมิตมันขึ้นมาให้ใหม่ได้เหมือนเดิม “คราวนี้มาทำไมล่ะ”

พี่ฮอว์กส่งตายิ้มมาให้อย่างที่ชอบทำ ผมรู้ว่าเขารู้ว่าผมมาทำไม

“พี่ฮอว์กอย่าแกล้ง” ผมส่งเสียงขู่อยากเห็นรถใหม่ที่พ่อว่าจนใจจะขาดแต่เขากลับไม่เอาออกมาให้ดู ผมชะเง้อคอมองไปทางด้านหลัง มันต้องซ่อนอยู่ภายใต้ประตูเหล็กบานใหญ่นั่นแน่ ๆ

“พี่แกล้งซะที่ไหน ต้องรอให้พ่อเลอนุญาติก่อนถึงจะเอาออกมาได้”

ผมรีบหันไปอ้อนคนข้างกายที่ยังปั้นหน้าขรึมอยู่ทันที “พ่ออนุญาตนะ ๆ”

“…”

“นะครับนะ น้า” ฮิมถอนหายใจ เขาหันมาบีบจมูกผมก่อนจะพยักหน้าให้พี่ฮอว์ก และพอช่างใหญ่ได้รับคำสั่ง มือหนาก็ล้วงมือเข้าไปหยิบกุญแจในกระเป๋า จากนั้นก็กดปุ่มอะไรบางอย่างทำให้ประตูเหล็กบานใหญ่ค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปจนเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน

เห็นครั้งแรกผมแทบจะกรี๊ก แต่กรี๊ดไม่ได้เป็นผู้ชายงั้นอ้ากแทน

“อ้ากกกกกกกกกกกกก!!!” เหมือนคนบ้า ผมวิ่งตรงดิ่งไปหารถด้านใน มองแล้วมองอีก ตะลึงแล้วตะลึงอีก

ฮิมไปหามาได้ยังไง…

“มะ…มันพึ่งเปิดตัวนี่” พูดติดอ่าง “แล้ว…”

“พ่อเราทุ่มไปเยอะเลยนะ” พี่ฮอว์กเฉลยความสงสัยด้วยตายิ้มดังเดิม ผมรีบหันหลังกลับ มองไปยังร่างสูงที่กำลังยืนกอดอกยกยิ้มที่มุมปากอยู่ “ไม่ไปขอบคุณหน่อยเหรอ”

“เดี๋ยวเลซื้อพวงมาลัยไปกราบเลย” ผมพูดด้วยใจจริง ตอนนี้ถ้ามีพวงมาลัยผมจะวิ่งไปกราบที่เท้าของเขาเลย

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของผมคือรถ Bugatti Chiron 2017 พึ่งเปิดตัวเมื่อไม่นาน มี 500 ร้อยคันบนโลก ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.4 ล้านยูโร มันมีกำลังสูงถึง 1,500 แรงม้าและสำหรับพวกบ้ารถที่เร็ว ๆ อย่างผมมันเป็นอะไรที่โคตรอยากลองขับ

ฮือ เลรักพ่อออ

“เลอยากขับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นรัวในขณะที่พี่ฮอว์กยื่นกุญแจมาให้ พูดทิ้งท้ายขำ ๆ

“อย่าเผลอเหยียบมิดล่ะ”

 

 

เหมือนได้ไปสวรรค์ ความเร็วของมันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

Bugatti Chiron 2017 คันนี้กำลังแล่นอยู่บนสนามแข่งรถขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของบริษัทนำเข้าและส่งออกรถยนต์ ในขณะที่หัวใจของคนขับเต้นถี่ เหมือนเลือดสูบฉีดดีจนเกินเหตุ อะดรีนาลีนกับเอ็นโดรฟินหลั่งไหลลงมายิ่งกว่าเขื่อนแตก ผมแทบจะสำลักความสุขตายไปเลยด้วยซ้ำ

น้อยคนที่จะรู้… ผมรักความเร็ว

แถมสวรรค์ยังส่งเสริมความชอบของผมโดยการให้ฝีมือด้านการขับรถมันพุ่งพรวดขึ้นแบบไม่ต้องพยายามหรือที่เรียกกันว่าพรสวรรค์ ตั้งแต่เกิดมาไม่ว่ารถมันจะเร็วสักแค่ไหน ผมยังไม่เคยขับพลาดไปชนอะไรเลยสักครั้ง อาจจะเป็นเพราะมันอยู่ในการควบคุมของฮิมด้วย เขาเป็นคนแรกที่พาผมมาสัมผัสกับความเร็วแบบนี้ ฮิมขับรถเก่งมากโดยเฉพาะรถแข่ง เขาเก่งชนิดที่ว่าไปแข่งกับมืออาชีพได้ด้วยซ้ำแค่เลือกที่จะไม่ทำ

ตอนนี้ผมเลือกกำลังคิดว่าจะทำแทน เพราะแบบนี้เลยเลือกเรียนวิศวะแต่ไม่ใช่แค่เหตุผลเดียวนะ หนึ่งผมชอบความเร็วและชอบรถมาก ๆ สองเพราะครอบครัวของผมทำธุรกิจที่มันเกี่ยวข้องกับคณะนี้ก็เลยเรียนวิศวะ แม้วิชาคณิตศาสตร์กับฟิสิกของผมตั้งแต่มัธยมปลายขึ้นมาจะไม่เคยได้เกรดเกินสามจุดห้าก็ตาม

แต่ก็นั่นแหละ…

ผมชอบความเร็วเอามาก ๆ ยิ่งเร็วได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี โดยเฉพาะตอนนี้เข็มหน้าปัดที่บอกถึงความแรงและเร็วของรถกำลังจะสุดแต่ไม่สุด ผมไม่สามารถเหยียบให้มันสุดได้แม้คำที่พี่ฮอว์กพูดจะพูดเล่น ๆ ก็ตาม สนามแข่งที่ผมกำลังแล่นอยู่นี้ถือว่าดีแต่ดีไม่พอสำหรับมัน ความแรงที่ทะลุถึง 1,500 แรงม้า มีเพียงถนนไม่กี่สายบนโลกเท่านั้นที่สามารถรองรับความเร็วสูงสุดของรถระดับนี้ได้ ขืนผมเหยียบมิดแม้แต่พรสวรรค์เองก็ไม่อาจช่วยให้ผมไม่ได้ไปสวรรค์จริง ๆ

เอี๊ยดดด

เสียงล้อรถบดกับพื้นกับเบรกโดยการดริฟต์อย่างสวยงาม พอเปิดประตูลงมาขาก็แทบทรุดลงไปกับพื้น โชคดีฮิมมารับตัวเอาไว้เสียก่อน

“สนุกไหม” เขากระซิบถามที่ข้างหูในขณะที่ผมพยักหน้ารัว ๆ

“น้องเลทำลายสถิติของอันก่อนอีกแล้ว” พี่ฮอว์กเดินมาตามหลัง ในมือหน้าถือนาฬิกาจับเวลาอยู่ เขาบันทึกสถิติของผมเอาไว้ทุกครั้งที่ผมมาเล่นรถของที่นี่ “เก่งมากจริง ๆ นะ”

“ก็เลลูกพ่อ” ผมพูดขำ ๆ พลางกดใบหน้าเข้าอ้อมกอดอุ่น เรื่องที่ฮิมขับรถเก่งขนาดไหนพี่ฮอว์กรู้ดี

“ขับแล้วเป็นยังไงล่ะ”

“มันส์ดี”

“เทียบกับคันก่อน” คันก่อนคือ Bugatti Veyron

“คันนี้แรงกว่า เลชอบ”

“เห็นคันไหนแรงกว่าเราก็ชอบหมดแหละ” พี่ฮอว์กพูดติดตลกเป็นเวลาเดียวกันที่ผมหน้ามุ่ยให้ร่างสูงที่กอดผมอยู่

“แต่ม่ว่าจะชอบคันไหนก็ไม่เห็นฮิมให้สักคัน” รถของเขามีเป็นสิบ ๆ ผมก็ใช่ว่าจะขับรถไม่เก่งก็ไม่รู้ทำไมฮิมถึงไม่ยอมให้สักที “แต่วันนี้เลสัญญาแล้วว่าจะไม่งอแง”

ได้ลอง Chiron แล้วไม่ว่าจะทำอะไรผมก็สุขล่ะครับตอนนี้

ฮิมยิ้ม ๆ เขาก้มลงจุ๊บเหม่งผมทีหนึ่งแล้วละออกไปคุยกับพี่ฮอว์ก ทิ้งให้ผมไปขัด ๆ ถู ๆ Chiron ด้วยความปลาบปลื้มปิติต่อ แต่หลังจากนั้นสามสิบนาทีเราก็บอกล่าพี่ฮอว์กเพื่อที่จะไปดูหนังอย่างที่ตั้งใจ

ฮิมพามาที่ห้างประจำ พอมาถึงผมไปจองบัตร แต่หลังจองบัตรเราก็ยังพอมีเวลาอีกสี่สิบกว่านาทีเพราะตอนนี้มันพึ่งบ่ายโมงสิบนาทีกว่า ๆ เอง ทางออกของผมกับพ่อก็คือไปกินข้าว กินข้าวเสร็จก็เดินเข้าโรง หนังที่จะดูในวันนี้เป็นหนังผีของค่ายดัง ผีหลัก ๆ เป็นผีแม่ชี คนกรี๊ดลั่นโรงตอนมันออก ส่วนผมแทบจะมุดเข้าไปสิงอยู่ในร่างของฮิมอยู่แล้ว เคยเป็นกันไหมครับ กลัวแต่อยากดู

ดูหนังเสร็จความสุขผมหายจนมิด พอได้มีความสุขต่อตอนที่พ่อพาเข้าไปซื้อรองเท้า…

 

19.37 นาที

“กลับมาแล้ว!” ผมตะโกนบอกพลางถีบประตูบ้านดังปึง!

“เสียงดังหาพ่อมึงเหรอ” เสียงใครสักคนก่นด่าแต่ผมไม่สนใจ รีบวิ่งไปตามทิศทางของเสียงก่อนจะพบกับพี่ๆ ในบ้านทุกคนที่กำลังนั่งรวมกันอย่างพร้อมหน้าจนน่าแปลกใจ ขนาดพี่ผากับพี่เกียร์ยังมาเลยแถมวันนี้ไม่มีเหล้าด้วยนะ มีแต่…

“แค่กกๆๆ”

…บุหรี่…

พี่วินทำหน้าซังกะตายก่อนจะยอมดับบุหรี่ลงเหมือนคนอื่นเมื่อเห็นผมมา “มึงขึ้นห้องไป”

“ไม่เอา! ทำไมวันนี้พร้อมหน้ากันจัง” ผมรีบวิ่งไปนั่งข้างๆ พี่ผาก่อนที่พี่วินจะไล่ผมขึ้นห้องอีกรอบ

“ขึ้นห้องไปผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน”

“แก่กว่าแค่สามปีเอง”

“เลพูดดีๆ” พี่รพส่งเสียงข่มจนผมต้องเบ้หน้าแล้วรีบปิดปากตัวเอง ผมกลัวพี่รพจะตาย “แล้ววันนี้ไปไหนมา”         

“ไปเที่ยวกับพ่อ…ครับ”

“เหรอ”

“ถามทำไม”

“ถามเฉยๆ” เจ้าของเรือนผมสีแดงหันหน้ามาสบตากับผมแล้วเทศนาอีกรอบ “พูดกับพวกกูน่ะพูดดี ๆ”

“ครับ” ผมตอบรับอย่างว่าง่าย จนทุกคนบอกหันมามองเหมือนประหลาดใจ พี่วินแสยะยิ้มเอ่ยอย่างรู้ทัน

“วันนี้พ่อตามใจสินะ” ก็ไม่แปลกที่พี่วินจะรู้ ผมว่าง่ายนั้นหมายถึงผมอารมณ์ดี ขนาดผมเองยังคิดว่าตัวเองเป็นคนดื้อรั้นอยู่พอสมควร “เล อ๊ะนี่”

กล่องยับ ๆ ใบหนึ่งถูกโยนมาให้และพอพี่วินโยนมา พี่ไทด์ที่กำลังนอนอยู่บนโซฟาก็โยนตาม กลายเป็นกล่องยับ ๆ สองใบ มันถูกโยนมาแต่ผมรับไม่ทันเลยกลิ้งตกลงกับพื้น

“อะไรอ่ะ” ผมถามอย่างแปลกใจพลางก้มตัวลงไปเก็บมันขึ้นมาสำรวจดู

“มึงคิดว่ามันเป็นอะไรล่ะ”

“กล่องยับ ๆ สองใบ” พี่วินหุบยิ้มลงทันที

“งั้นมึงก็เอาแค่กล่องยับ ๆ สองใบไป”

“เอ้าก็เลไม่รู้นี่ งั้นของขวัญเหรอ”

“เออ”

“จริงดิ!”

“เออ”

“เฮ้ย!” ผมร้อง รีบฉีกกระชากกล่องเอาสิ่งของด้านในออกมาดู ของพี่วินมันคือกำไลสีเงิน ไม่ได้แพงแบบล้านอัพเหมือนพ่อแต่แพงกว่าของที่พี่เกียร์ให้สัก 10,000 เท่า แต่ที่สำคัญคือ… “รุ่นนี่มันเลิกผลิตนานแล้วนี่พี่วินไปหามาจากไหน”

ผมรู้เพราะมีช่วงหนึ่งที่ผมอยากได้ แต่หาซื้อไม่ได้ พี่วินยักไหล่ตอบสั้น ๆ ว่า

“ทุ่มเงิน”

“ฮือออ เลรักพี่วิน” ผมโผล่เข้ากอดคนที่นั่งอยู่ด้านล่างแต่ยังไม่ทันถึงตัวก็โดนเขาผลักออกไปทันที ผมล้มเลิกความพยายามไม่ได้กอดก็ไม่เป็นไร หันมามองของในกล่องพี่ไทด์เป็นสร้อยข้อเท้าสีเงิน เข้ากับกำไลที่พี่วินให้ ผมไม่ได้บอกขอบคุณเพราะพี่ไทด์หลับไปแล้ว

“เลไปอาบน้ำได้แล้วนะ” เสียงฮิมตะโกนมาจากหน้าประตู ผมได้ยินแต่ไม่ได้ใส่ใจนักเลยหันไปถามพี่วินต่อ

“ว่าแต่ให้ในโอกาสอะไรอ่ะ”

“ที่มึงสอบเข้ามหา’ลัยได้ไง”

“อ๋อ” ผมลากเสียงยาวขณะสวมกำไลข้อมือกับสร้อยข้อเท้าให้ตัวเอง

“ของกูอยู่โน้น” พี่รพว่าพลางชี้นิ้วไปทางหน้าโทรศัพท์

ผมหันไปตามทิศทางที่พี่รพชี้ แล้วอ้าปากค้างมองลังขนาดใหญ่ที่วางอยู่ไม่ไกลนัก “อะไรเนี่ย”

“เปิดดูเอาเองสิ” ตั้งใจจะวิ่งไปหากล่องใหญ่ถ้าไม่ติดที่ว่ามีมือหนามาคล้องเอวแล้วลากให้ผมไปแนบชิดตัว เจ้าของมือหนาคือพ่อ ฮิมส่งสายตาดุมาให้ “ไปอาบน้ำ”

เขาบอกผมเป็นครั้งที่สอง ปกติถ้าผมไม่ทำตามฮิมจะพูดประโยคเดิมแค่สามครั้ง ถึงครั้งที่สามเมื่อไหร่เตรียมระวังมหาภัยได้เลย ผมมองลังของขวัญของพี่รพตาละห้อย อยากเปิดแต่ก็ไม่อยากขัดใจพ่อ วันนี้เขาตามใจผมเยอะแล้ว ผมควรตามใจเขาบ้าง

ฮิมจูงมือผมเดินขึ้นห้อง ร่างสูงเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาให้แล้วดันหลังผมเดินเข้าไปในห้องน้ำ ถึงหน้าประตูฮิมก็หยุดเดินตาม ทิ้งผมให้เดินเข้ามาในห้องน้ำคนเดียว

ประตูปิด…ความเงียบเข้าครอบงำ

หนังผีที่พึ่งดูไปเมื่อตอนบ่ายมันวกกลับเข้ามาเล่นงาน

ผีแม่ชี…

ปัง!

“พ่อ!” ผมเปิดประตูออก มองเจ้าของนัยน์ตาคมที่กำลังถอดเสื้อออกจากตัว งั้นยิ่งดีเลย…

“ทำไมยังไม่อาบ”

“เลกลัวผี” ผมบอกเสียงสั่น ดังนั้น…

“อาบน้ำกับเลหน่อย”






แท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#7 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 16-01-2017 23:44:55


จุ๋ม

เสียงน้ำในอ่างดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ผมหลับตาลง แช่น้ำอุ่น ๆ นี่มันรู้สึกดีจริง ๆ มันจะดีกว่านี้ถ้าไม่ติดที่ว่า…

“ฮิมจะไม่อาบน้ำกับเลจริง ๆ เหรอ”

…ไม่มีสายตาของพ่อมองอยู่อะนะ…

ฮิมยืนอยู่ในห้องน้ำกับผม แต่เขาไม่ได้กำลังเปลือยลงอ่างแบบผม ร่างสูงกำลังยืนมองผมแช่น้ำต่างหาก เขายอมมายืนมองผมเพราะผมกลัวผีไม่กล้าอาบคนเดียว แต่ฮิมไม่ยอมอาบน้ำด้วยไม่รู้ทำไม แปลกมาก และถ้าจะบอกว่าอายก็คงไม่ใช่ เพราะอาบน้ำกับฮิมครั้งสุดท้ายคือเมื่อเก้าเดือนก่อน อีกอย่างตอนเด็ก ๆ ผมกับฮิมก็อาบน้ำด้วยกันเป็นประจำ โตมาด้วยกันก็เลยอาบด้วยกันบ่อย แม้พอเข้าสู่ช่วงมัธยมจากอาบด้วยกันบ่อยมันก็ค่อย ๆ ลดลง อาจจะเป็นเพราะเข้าสู่วัยที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย จากเกือบทุกสัปดาห์กลายเป็นสองสัปดาห์ สาม สี่ เดือน แต่ยังไม่เคยถึงปีสักที เพราะทุกปีมีหนังผีเข้า และผมชอบไปดู กลัวแต่อยากดู ดูเสร็จก็กลัว พอกลัวก็เลยเรียกฮิมเข้ามาอาบน้ำด้วยประจำ การอาบน้ำด้วยกันระหว่างผมกับเขามันเลยไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่ครั้งนี้เขากลับไม่ยอมอาบกับผมอะ

“ฮิมมาเร็วเดี๋ยวเลถูหลังให้”

“รีบ ๆ อาบให้เสร็จคนดี” ร่างสูงยังคงยืนยิ่งอยู่กับที่

“แต่…”

“เดี๋ยวนี้เลย”

“ก็ได้” ผมยอมลุกขึ้นจากอ่างแล้วเดินไปอาบผักบัวเพื่อย่นเวลาให้มันเร็วขึ้น ผมไม่ได้หยิบฝักบัวลงแต่ปล่อยให้มันไหลราดไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า

ผมอาบน้ำเงียบ ๆ หันไปมองด้านหลัง พ่อก็กำลังยืนกอดอกมองผมอาบน้ำเงียบ ๆ เช่นเดียวกัน

ทำยังไงดี ผมอยากให้ฮิมมาอาบน้ำด้วยกันอะ มายืนมองหนอนของผมคนเดียวแบบนี้มันไม่แฟร์

“ฮิม… ถูหลังให้เลหน่อยสิ” คนได้ยินนิ่งงัน แต่หลังจากนั้นเขาก็ยอมเดินมาคว้าสบู่เหลวบีบใส่มือแล้วถูเบา ๆ ที่แผ่นหลังของผม จังหวะนี้แหละ…

พรึบ!

ผมหันหลังกลับพลางยกแขนขึ้นโอบรอบลำคอขาว จากนั้นก็เดินถอยหลังสามเก้าดึงให้เจ้าของร่างสูงมายืนแทนที่เก่าของผม ส่วนผมหลบมาจนแผ่นหลังชิดกับกำแพง มาอยู่บริเวณใต้ฝักบัวผมเลยไม่เปียก ส่วนคนที่เปียกกลายเป็นฮิมแทน

ซ่า

“สนุกมากไหมคนดี” เสียงทุ้มเค้นถามขณะยกมือขึ้นปาดน้ำที่ไหลลงตามใบหน้าออก แต่ก็ได้แค่นั้นแหละเพราะสุดท้ายน้ำจากฝักบัวก็ไหลมาใส่เขาใหม่อยู่ดี ผมอ้าปากค้าง



โอ้โห... ความเซ็กซี่ระดับแม็กนี้



ผมเผลอไล่มือจากต้นคอลงไปลูบก้อนเนื้อแข็งภายใต้เสื้อเชิ้ตที่กำลังแนบกับหน้าท้องหนาอย่างหลงใหล ในขณะที่อีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้เพื่อเอื้อมมือไปปิดก๊อกให้น้ำหยุดไหลลงมา

 ยัง... ผมยังลูบหน้าท้องเล่นอยู่ รู้สึกอิจฉาแต่พื้นฐานทางสรีระมันต่างกัน ของผมทำยังไงก็ไม่ขึ้นแถมสิ่งที่ได้คือเอวคอดกับหน้าท้องแบนราบ พ่อมีเชื้อสายยุโรปอยู่ในตัวด้วย เขาเป็นลูกเสี่ยวมากกว่าสองเชื้อชาติ ผมจำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้างแต่ที่แน่ ๆ คืออังกฤษ ส่วนผมก็เป็นลูกเกือบครึ่งอังกฤษ คุณพ่อเป็นไทย-อังกฤษ แม่เป็นไทย แต่ผมได้แม่มาเกือบทุกส่วน หมอยังบอกเลยว่าผมมีฮอร์โมนเพศหญิงเยอะเกินไปหน่อย สิ่งที่ได้จากการมีสายเชื้ออังกฤษคือมีผิวที่ขาวจนเกินชาวเอเชีย คือตากแดดยังไงก็ไม่ดำ ไม่หมอง ไม่คล้ำ ประมาณว่าแทบจะสว่างจ้าสู้แสงแดด

 “ฮิมเปียกแล้ว” ผมบอก “อาบน้ำกับเลเลยไหม”

เขาถอนหายใจ พลางจับตัวผมออกจากกำแพงแล้วแทรกมือเข้าไปถูเบา ๆ ที่แผ่นหลังดังเดิม สภาพตอนนี้เลยเหมือนผมกำลังถูกกอดแต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ พ่อกำลังถูหลังให้ผมจากทางด้านหน้าต่างหาก

“รีบ ๆ อาบให้มันเสร็จเดี๋ยวเป็นหวัด”

“พ่ออาบกับเลสิ”

“คนดีอย่าดื้อ” เสียงทุ้มติดดุเล็กน้อย ร่างสูงเอื้อมมือไปเปิดก๊อกน้ำอีกครั้งและตั้งใจจะละออกจากตัวผม แต่ผมไม่ยอม ผมกอดเอวหนาเอาไว้จนฮิมถอนหายใจเฮือก “พี่ขอ”

“ทำไมล่ะ”

“ขอครับ”

“…”

“…”

“ก็ได้” ผมกลั้นใจแล้วปล่อยมือที่กอดเอวเขาอยู่ออก หลังจากนั้นฮิมจึงเอาน้ำราดตัวผมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ ผมยื่นมือไปรับแบบเซ็ง ๆ ขณะเช็ดไปตามร่างกายของตัวเองโดยมีนัยน์ตาคมมองตาม วันเกิดปีนี้ผมขอของขวัญเป็นอาบน้ำกับฮิมดีกว่า นาฬิกาก็ได้แล้ว รถที่อยากได้ก็ดูท่าว่าจะขอยังไงก็คงไม่ได้ ขออาบน้ำด้วยคงเป็นตัวเลือกที่ง่ายสุด

พอเช็ดตัวเสร็จก็เดินไปเปิดประตู ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้คนที่ยังอยู่ในห้องน้ำ แต่อีกฝ่ายรับไปแล้วปิดประตูใส่หน้าผมแทน

นี่อย่าบอกนะว่าจะอาบน้ำ ?

ผมเบ้ปาก กำลังคิดว่าวันนี้จะไม่อารมณ์เสียแล้วเชียว

ก็แค่อาบน้ำกับผมเอง มันยากตรงไหนกัน!

 

20 นาทีต่อมา

ผมเดินลงมาเล่นด้านล่างเพราะยังไม่ง่วง ไม่เห็นพี่ไทด์แล้วสงสัยขึ้นไปนอนแต่เห็นพี่วินกับพี่ๆ คนอื่นๆ ยังนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่เดิม นัยน์ตาคมหันมามองผมแล้วจิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนจะดับบุหรี่ที่กำลังสูบในมือลงอีกครั้ง

“ลงมาอีกทำไม” พี่วินถามด้วยน้ำเสียงกึ่งรำคาญนิดๆ

“มาแกะของขวัญ” ผมบอกพลางชี้ไปที่ลังของขวัญของพี่รพที่ยังไม่ได้เปิด “พี่รพให้อะไรเล”

“รีบๆ แกะดูแล้วขึ้นไปนอน” พี่รพสั่ง

“อื้อ” ผมขานรับแล้วเดินไปหยิบคัตเตอร์ที่อยู่ในลิ้นชักใต้โต๊ะก่อนจะเดินไปหาลังของขวัญอันใหญ่ แล้วค่อยๆ ลงมีดกรีดมันทีละนิด ทีละนิด

 ผมอยากรู้จริงๆ ว่าด้านในนี้จะมีอะไรกันแน่

แควก

เปิดแล้ว!

          ฝาลังเปิดออก แต่พอเห็นของด้านในแล้วก็ต้องแปลกใจ

          “อะไรอ่ะ ?” ผมขมวดคิ้ว หยิบมันออกมาอันหนึ่งเขย่าแล้วโชว์ให้ทุกคนดู “พี่รพไอ้นี่มันคืออะไร”

          สิ่งที่อยู่ด้านในคือกล่องขนาดกลางหลากสีวางทับกันจนเต็มลังไปหมด แต่ละกล่องมีระบุด้วยว่ากลิ่นอะไรบ้าง เช่น สตอเบอร์รี่ ส้ม กล้วย เชอร์รี่ แกะกล่องเข้าไปก็เจอกับถุงเล็ก ๆ ทรงสี่เหลี่ยม เหมือนหมากฝรั่ง มีกลิ่นผลไม้ด้วย

          “…” พี่รพไม่ตอบ

          “พี่วิน—”

          “ไม่ต้องมาถามกู”

          “พี่เกียร์”

          “ไปถามพ่อมึงเอา” เลงอนพ่ออยู่! คนสุดท้ายแล้ว…

          “พี่ผาตอบเลหน่อยนะ”

          “น้องเลไม่รู้เหรอ”

          “รู้อะไร ?”

          “…” ผมเดินไปหาพี่ผาอย่างมีความหวังแต่แล้วความหวังก็ต้องดับมอดลงเมื่อใบหน้าหลอเหล่าส่ายหน้าเบาๆ “น้องเลไปถามพ่อจะดีกว่านะ”

          ผมเบ้ปากก่อนจะล้มตัวลงนั่งบนตักแกร่ง กระซิบเสียงเบาให้พี่ผาได้ยินคนเดียว

          “เลงอนพ่ออยู่”

          “เล” พูดถึงพ่อ พ่อก็มา ร่างสูงกำลังยืนเอามือเท้ากับประตูอยู่ ผมมองชุดที่ถูกเปลี่ยนใหม่ ฮิมอาบน้ำจริงๆ ด้วย! ฮิมเดินผ่านทุกคนไปนั่งบนโซฟาตรงที่พี่ไทด์เคยนอนอยู่ก่อนจะกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา “คนดีมานี่”

          “ไม่เอาเลจะนั่งกับพี่ผา” ผมว่าพลางกอดพี่ผาเอาไว้แน่น

          “มานี่” พ่อเรียกครั้งที่สอง พี่ผาจึงรีบสะกิดผมให้ไปก่อนที่จะเกิดศึกครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น ทุกคนในบ้านนี้รู้ว่าฮิมจะเรียกผมอย่างใจเย็นแค่สามครั้งเท่านั้น ผมจำใจเดินไปนั่งข้างกายร่างหนา พอผมนั่งลงเดดแอร์ก็เกิดขึ้นเมื่อทุกคนไม่พูดอะไร

          “…” นั่งข้างขนาดนี้ถามพ่อเลยดีไหมว่าของขวัญที่พี่รพให้มันคืออะไร ผมคิดในใจแล้วตัดสินใจถาม พอเงยหน้าขึ้นก็พบว่าฮิมกำลังมองผมอยู่พอดี “ฮิม”

          “หืม”

          “เลถามหน่อย” เขาพยักหน้าผมเลยชูกล่องที่ถือติดมือมาให้เขาดู “พี่รพให้เป็นของขวัญแต่เลไม่รู้ว่ามันคืออะไร”

          “…” ฮิมรับไปดูก่อนเขาจะถอนหายใจ มือหนาที่ไม่รู้มาคล้องบ่าผมตั้งแต่เมื่อไหร่อยู่ดีๆ ก็ถูกยกขึ้นมาปิดตาผมจนมืดติ๊ดตื๊ด ได้ยินแต่เสียง…

        ผัวะ!

          เสียงอะไรอะ!!

          “ฮิมนั่นเสียงอะไร!”

          “…” 

          “พี่ฮิมตอบเลหน่อยสิ” ผมเร่งคำตอบเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเอามือออกจากตาผม “ฮิมจ๋า”

          เขาเอามือออกจากตาผมแล้ว แต่เดี๋ยว…

          “อ้าว พี่รพหายไปไหนแล้ว” ผมโดนปิดตาแปปเดียวจู่ๆ พี่รพก็หายไปเลย “เอ๋ ของขวัญเลมันไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง”

          ผมวิ่งจากโซฟาไปหยิบของขวัญที่วางอยู่บนพื้นขึ้นอย่างงงๆ ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม ในจังหวะนั้นเองสายตาก็บังเอิญเหลือบมองไปเห็นข้อความข้างๆ กล่อง

 

          Condom (extra safe)

        Please read the leaflet inside this pack carefully.

        Use a condom only once.

 

          ผมเงยหน้าขึ้น มองพ่อที่กำลังมองมาแล้วกะพริบตาปริบๆ ชูกล่องในมือแล้วถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

          “พี่รพให้ถุงยางกับเลเหรอ”

          “กูไม่ให้ใช้” เปล๊า พ่อไม่ได้พูด ฮิมยังนิ่งงันอยู่กับที่ คนที่พูดคือพี่วินต่างหาก “เอามาไว้กับกู”

          “ได้ยังไงของขวัญเลนะ” แม้มันจะเป็นถุงยางก็เถอะ “เลจะเก็บเอาไว้เอง”

          “มึงรู้เหรอว่าใช้ทำอะไร”

          “รู้!” ใครจะไม่รู้ ถามเด็กปอสามเดี๋ยวนี้ยังรู้เลย กระทรวงสาธารณสุขงี้เขาก็ออกรณรงค์เรื่องนี้กันเยอะแยะ

          “แล้วรู้เหรอว่าใช้ยังไง”

  “ก็แค่เอาใส่เอง…ไม่ใช่เหรอ ?” ผมตอบด้วยความไม่มั่นใจขณะหลบสายตาของพี่วิน จนกระทั่งได้เจอคำถามสุดท้าย

 “แล้วมึงทำเป็นเหรอ ?”

“ถามอะไรเนี่ย!!”

“เหอะ ก็ถึงบอกให้เก็บเอาไว้ที่กูก่อน” เขาเค้นยิ้มกึ่งแดกดันผมนิดๆ มันก็จริงอย่างที่พี่วินพูดแหละแต่ว่า…

“แต่นี่มันของขวัญเลนะ”

“ไอ้รพมันซื้อไม่ดูคนใช้ อยู่กับมึงไปก็ไร้ประโยชน์”

 “มันไม่ใช่ความผิดเลสักหน่อย!” ผมตะเบ็งเสียงใส่ “ก็ฮิมไม่…”

“น้องเล!!” …เคยสอน

คำพูดชะงักกลางอากาศ เมื่อจู่ๆ พี่ผาก็ตะโกนชื่อผมขึ้นมาแบบหาสาเหตุไม่ได้ พอหันไปมองก็เจอสายตาดุจ้องอยู่ “น้องเลอย่าใช้อารมณ์สิ ไม่น่ารักเลยครับ”

“ก็พี่วิน!—”

“เล” เสียงฮิมเรียก ผมรีบหันไปมอง “ไปนอนได้แล้วนะ”

“แต่เลยังไม่ง่วงเลย” ตอนนี้พึ่งจะสองทุ่มครึ่งเอง หรือว่า “ฮิมง่วงเหรอ ?”

“พี่เหนื่อย” เสียงทุ้มว่าขณะลุกขึ้นจากโซฟาเข้ามาโอบเอวผม “ไปนอนกันครับ”

“งั้นก็ได้ เอ๊ะ! เดี๋ยว แล้วของขวัญเลล่ะ”

“ฝากวินเอาไว้” ผมร้องฮือพลางจ้องเข้าไปในตาสีดำสนิท พ่อจึงถามต่อ “เราใช้เป็นเหรอ”

“ฮิมสอนเลสิ” ฮิมไม่ตอบแต่ก้มลงมาจูบที่หน้าผากผมเบาๆ แล้วดันตัวผมให้เดินไปข้างหน้า ผมมองตามของขวัญตาละห้อยเพราะเป็นอันว่าของขวัญที่พี่รพให้ก็ต้องฝากพี่วินเอาไว้ ระหว่างที่กำลังจะเดินขึ้นบันได คนที่หายไปก็ออกมาปรากฏอยู่ในรัศมีสายตาผมพอดี

“พี่รพไป— อ้าว! หน้าไปโดนไรมา” จุดสนใจจากคนถูกเปลี่ยนไปเป็นแผลบนใบหน้า เจ้าของเรือนผมสีแดงมีรอยช้ำตรงแก้มกับเลือดบริเวณมุมปาก คล้ายๆ กับว่าพึ่งโดนอะไรตบหรือต่อยมา เจ้าของบาดแผลบนใบหน้าเงยขึ้นมามองผมแล้วทำหน้าเหวี่ยงใส่ เสียงทุ้มตอบสั้นห้วน

“เพราะมึงนั่นแหละ”

เอ้า! ผมไปทำอะไรให้ตอนไหนล่ะเนี่ย!

 

รพกำลังหงุดหงิด

“แม่งเอ๊ย!” นัยน์ตาคมหันมองร่างเล็กที่พึ่งเดินขึ้นบันไดไปแล้วสบถ ขณะยกมือขึ้นจับแผลที่มุมปากพลางเดินไปยังห้องนั่งเล่น ไอ้ผาหันมามองเป็นคนแรก มันแสยะยิ้มแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ บุคลิกแตกต่างจากตอนที่อยู่กับเลเยอะ

“สมน้ำหน้า เกือบตายแล้วไหมล่ะมึง” ผานึกขำแต่ขำไม่ออก ถ้าน้องเลไม่อยู่ในห้องเขาว่ามันอาจจะได้ตายจริงๆ ขนาดอยู่พ่อทูนหัวของน้องยังเล่นซะปากแตก และทันทีที่พูดจบ นิ้วกลางจากเพื่อนรักก็ถูกส่งมาให้บ่งบอกว่าคนโดนไม่สบอารมณ์เข้าขั้นรุนแรง “มึงให้ไม่คิด มึงก็รู้ว่าฮิมเลี้ยงน้องเลมายังไง”

“เหอะ” ริมฝีปากบางเฉียบเค้นยิ้ม บัดนั้นผาจึงหุบยิ้มลงบ้าง ที่ว่าขำแต่ขำไม่ออกน่ะเขาพูดจริง น้องเลคงไม่รู้ตอนที่ตัวเองเกือบพูดออกมาว่า พ่อไม่เคยสอน นั้น คนด้านหลังกำลังทำหน้าสยองขนาดไหน รังสีทะมึนที่แผ่ซ่านออกมาถ้าเขาไม่หยุดคำพูดของเลเอาไว้ก่อน ไอ้รพมีโอกาสตายจริงๆ แน่

 ฮิมปกติมันก็เป็นคนจริงจังอยู่แล้ว แต่มันจะจริงจังสุดๆ ถ้าเป็นเรื่องของน้องเล





ยกเว้นเรื่องนี้… เพศศึกษา







ตั้งแต่ที่อยู่ด้วยกันมาเขายังไม่เห็นเลยว่ามันจะพูดเรื่องเกี่ยวกับเพศศึกษาให้น้องฟัง แม้แต่เกริ่นเอาไว้บ้างยังไม่มี สกินชิพมากสุดที่เขาเคยเห็นคือจุ๊บก่อนนอน ทั้งๆ ที่คนพ่อเองก็เชี่ยวเรื่องนี้น้อยไปเสียเมื่อไหร่ จำนวนผู้หญิงและชายที่เข้าหาฮิมในแต่ละวันมันเยอะชนิดที่ว่าขนาดผาเองที่มีคนเข้าหาเยอะอยู่พอสมควรรู้ครั้งแรกยังตกใจ ดังนั้นถ้าจะสอนน้องเรื่องนี้ สำหรับฮิมน่ะมันไม่ยากหรอก นอกเสียจากจะไม่สอน



 อย่าว่าแต่สอนเลย เคยคิดจะสอนหรือเปล่าเขาก็ยังไม่แน่ใจ

   

น้องเลที่ไม่เคยรู้อะไร แล้วรพก็มาข้ามขั้นเรื่องทางเพศสำหรับลูกชายสุดที่รักของมันไปซะได้ ไม่น่าแปลกที่คนพ่อจะองค์ลง

“โกรธว่ะ” รพพูดขึ้นมาอีก สงสัยจะหงุดหงิดจริงจัง

“พ่อหรือลูก”

 “ทั้งสอง”

“แล้วยังไง” โกรธคนพ่อเขาบอกเลยว่าทำอะไรไม่ได้นอกจากไปเตะกระสอบทรายระบายความเครียด ส่วนคนลูกนอกจากไอ้วินที่ใจกล้า กล้าตีน้องเลแล้วล่ะก็ สำหรับคนอื่นอย่างมากสุดก็ทำได้แค่

“พรุ่งนี้กูจะไม่ทำอาหารเช้าให้”

ก็นั่นแหละครับ… คำตอบ

         

“พี่รพไปทำอะไรมานะ” ผมพึมพำด้วยความข้องใจ เขาไปฟัดกับอะไรมาทำไมถึงได้ปากแตกแก้มช้ำแบบนั้น “พ่อจ๋า อ้าวพ่อหายไปไหน”

ผมหันหลังตั้งใจจะถามฮิม แต่คนที่ผมคิดว่าเดินตามผมมาตลอดกลับไม่อยู่ แล้วไหนใครบอกว่าเหนื่อย อุตส่าห์จะนอนเร็วเพราะฮิมชวนนอนเลยนะ ปกตินอนด้วยกันก็จริงแต่ฮิมชอบให้ผมนอนก่อนตลอด นอนพร้อมๆ กันเลยไม่ค่อยมี ว่าแต่เขาหายไปไหน

“อยู่นี่ครับ” เสียงมาคนก็กำลังเดินขึ้นบันได ในมือถือแก้วใส่น้ำอะไรบางอย่างอยู่ ผมยิ้มร่า รีบเก็บอารมณ์ที่กำลังจะงอนแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังเดินขึ้นมาไปเอาอะไรสักอย่างมาให้ผมก่อนนอน มือหนายื่นมันมาให้ ในแก้วเหมือนเป็นน้ำธรรมดาแต่กลิ่นหอมกว่าปกติ แน่นอนว่าไม่ใช่นมเพราะผมไม่ชอบดื่มนม “น้ำผึ้ง”

เสียงทุ้มตอบข้อสงสัยในใจผม แขนแกร่งยื่นมาโอบไหล่แล้วพาผมเข้าเดินเข้าห้องนอน ในขณะเดียวกันที่ผมยกแก้วใส่น้ำผสมน้ำผึ้งดื่มอึกๆ จนหมดแก้ว ฮิมหยิบแก้วในมือของผมออกเมื่อผมดื่มหมด เขาเดินไปปิดไฟในห้องจนเหลือเพียงไฟจากโคมไฟที่หัวเตียง ส่วนผมกระโดดขึ้นเตียงไปแล้ว เตียงขนาดคิงไซต์ด้วย กว้างพอให้คนสองคนสามารถเกลือกกลิ้งไปมาบนเตียงได้ แน่นอนว่าพ่อไม่ทำหรอกมีแต่ผมนี่แหละที่ทำ

 “Goodnight” ฮิมว่าหลังจากเดินมาถึงเตียง ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาจูบที่หน้าผากและจุ๊บเบาๆ ที่ริมฝีปากของผมก่อนถอนออกไปกระซิบที่ข้างหู “ฝันดีครับคนเก่ง”

“Goodnight ครับ” ผมตอบกลับเป็นจังหวะเดียวกันที่มือหนาปิดโคมไฟจนทั้งหมดมืดสนิท แล้วล้มตัวนอนลงบนเตียงพร้อมๆ กับอีกฝ่าย ก่อนพยายามเบียดเข้าไปใกล้อกแกร่งจนฮิมหัวเราะ เขายอมเอามือขึ้นมารองหัวผมแทนหมอนพร้อมกับลูบศีรษะเบาๆ มืออีกข้างเลื่อนมากอดเอวผมเอาไว้แบบหลวมๆ แต่อบอุ่นกว่าผ้านวมผืนหนานี่ซะอีก

อุ่นกายเหรอ ? เปล่า…


ผมอุ่นใจต่างหาก





 22.40 น.

เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเลหลับสนิทแล้ว กลับกัน… เจ้าของประโยคที่บอกว่าเหนื่อยกลับยังลืมตานิ่งขณะลูบศีรษะคนที่หลับสนิทเบาๆ

เขาไม่ได้เหนื่อยอย่างที่บอก ฮิมแค่อยากให้น้องนอนเร็วกว่าปกติ

นัยน์ตาคมหลุบลงมองคนใต้ร่างท่ามกลางความมืด กลิ่นแป้งเด็กลอยขึ้นมาตีจมูกชวนให้ฝ่ามือหนาไล่ขึ้นผ่านเนินอกแล้ววกลงไปจนถึงเอวคอดที่เล็กกิ่วเสียจนแค่สัมผัสดูก็รู้ว่ากายบางขนาดไหน มองภายนอกเลยังเหมือนเด็กมัธยมปลาย แต่พอได้มองภายในในวันนี้…

“…” เขาคิดในใจไม่ได้พูดออกมา

พรึบ

ร่างหนาพลิกขึ้นมาอยู่ด้านบน คร่อมคนที่ยังคงอยู่ในห้วงนิทราแล้วใช้ปลายนิ้วแตะที่ริมฝีปากเล็กสีอมชมพูก่อนมองมันด้วยความนิ่งงัน ไร้คำพูด ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ ก้มลงต่ำแต่เป็นจังหวะเดียวกันที่คนใต้ร่างพลิกตัวไปด้านข้างจนริมฝีปากบางเลื่อนห่างจากจุดหมายไปคืบนึง

จากที่เงียบ… ยิ่งเงียบไปกันใหญ่

มือหนากำหมัดแน่นพลางละใบหน้าออกจากแก้มขาว เขาตั้งใจจะเลื่อนขึ้นไปจูบเบาๆ ที่หน้าผากแทนแต่เลร้องอื้ออึงในลำคอเหมือนจะตื่น สุดท้ายก็เลยทำได้แค่ห่มผ้าแล้วเดินลงมาจากเตียงอย่างช้าๆ

ฮิมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า จัดการเปลี่ยนชุดตัวเองออกแล้วพรมน้ำหอมใหม่ กระทั่งนาฬิกาเรือนละหลายล้านถูกใส่เข้าที่ข้อมือหนา คนตัวสูงจึงเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่โต๊ะใกล้หัวเตียง แต่พอมองเห็นคนที่กำลังนอนหลับสนิท ใจมันก็ทนไม่ไหวจนต้องเข้าไปจุ๊บเบาๆ ที่หน้าผากขาว เจ้าของขายาวรีบเดินออกจากห้องทันทีที่ทำแบบนั้น…

เขาเดินลงมาด้านล่างแล้วกวาดสายตามองหน้าเพื่อนแต่ละคนที่ดูเหมือนจะพร้อมกันตั้งนานแล้ว รพยังทำหน้าเหมือนไม่พอใจ ฮิมไม่ได้ถือสาถ้ามันจะยังโกรธ อีกอย่างคือถึงมันจะโกรธเขาก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ คนที่เขาจะใส่ใจมีคนเดียวคือเล

“วันนี้ใครอยู่ที่นี่” ถามเหมือนเคย

“กูอยู่” เกียร์ตอบ

“ให้ผากับไทด์อยู่แทน มึงไปคุมสนาม”

“สัส! วันพักกู” เฝ้าเลอยู่ที่บ้านคืองานที่สบายที่สุดที่ทุกคนได้ทำ

“กูให้สองหมื่น”

“ไปก็ได้” คนที่พึ่งบ่นไปหมาดๆ ตอบรับอย่างรวดเร็วขณะลุกขึ้นมาใส่เสื้อที่วางอยู่บนพื้น เกียร์ว่า “กูนึกว่าวันนี้มึงจะเข้าสนาม”

“เปลี่ยนใจ” เขาบอกตามตรง

“แล้วมึงจะไปไหน” นัยน์ตาคมหันไปมองลังถุงยางอนามัยทันทีที่ได้ยินคำถาม แค่นั้นทุกคนก็เดาออกว่าเขาจะไปที่ไหน สถานที่ที่ทำให้คนที่โดนเขาตบเพราะให้ของขวัญพิศดาลกับเลถึงกับร้องเหอะขึ้นมาในลำคอ

 

23.30 น.

คลับ แหล่งอกุศลที่ใครหลายคนชอบ เช่นเดียวกันกับที่ใครหลายคนไม่ชอบ ร่างหนาเดินผ่านประตูวีไอพีโดยที่ไม่จำเป็นต้องยื่นบัตรประชาชนให้การ์ดด้านหน้า แค่เดินเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงเสียงดนตรีกับกลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้งกันไปทั่วในอากาศ เกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่อันตรายและเสี่ยงต่อการทำมิดีมิร้ายหรือโดนล่อลวง สมกับคำว่าสถานที่อโคจรอย่างเต็มรูปแบบ

เจ้าของใบหน้าหล่ออย่างร้ายกาจไม่สนใจสายตาที่ลอบมองมาด้วยความยั่วยวน ฮิมไม่สนใจคนพวกนี้ คนที่เขาเล่นด้วยไม่เคยมีใครมีฐานะทางสังคมตกต่ำไปกว่าคำว่าลูกมหาเศรษฐีเลยสักคน หรือไม่ก็เป็นลูกคนมีหน้ามีตาในสังคม อีกอย่างวันนี้เขาก็มีคนที่นัดเอาไว้แล้วด้วย

ชายหนุ่มไม่สนใจเพื่อนที่ยังเดินตามอยู่ทางด้านหลัง ขายาวก้าวขึ้นชั้นสองสู่โซนของห้องวีไอพีที่ต้องใช้เงินสูงลิ่วกว่าห้าหลักถึงจะสามารถจองมันเอาไว้ได้

แอด

มือหนาเปิดประตูเข้าไป มองไปรอบๆ เห็นสิ่งของด้านในจากการจ่ายเงินกว่าห้าหลักแลกกับสวัสดิการขั้น VIP ทั้งเครื่องดื่ม สถานที่ บุหรี่ นอกจากนี้ในนั้นยังมีผู้หญิงที่นั่งรออยู่ด้วยกันถึงสามคน

“ออกไป” เสียงทุ้มออกคำสั่งทิ้งให้หญิงสาวทั้งสามต้องทำหน้างง ชายหนุ่มไม่พูดซ้ำเขาจับแขนสาวสวยคนหนึ่งแล้วเหวี่ยงออกไปจากห้องจนอีกสองสาวต้องวิ่งออกตาม ร่างหนาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หรูชั้นดีแล้วยกแก้วใส่แอลกอฮอล์สีอำพันซึ่งถูกเตรียมเอาไว้ก่อนแล้วจิบรอเวลา ไม่นานนัก…

ประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง เจ้าของนัยน์ตาคมไม่ได้ละสายตาไปจากแอลกอฮอล์ตรงหน้าจนกระทั่งคนเข้ามาใหม่เดินมานั่งลงข้างๆ กลิ่นน้ำหอมบางอย่างตีตื้นขึ้นจมูกจนต้องหันไปมอง

เสียงหวานกระซิบ “ส่งน้องเข้านอนเสร็จแล้วเหรอคะ”

ดวงตาคมเฉียบเบี่ยงมองด้านข้าง คนโดนถามไม่ได้ตอบอะไรนอกจากประทับริมฝีปากตัวเองบนปากของอีกฝ่าย…

 

รพกำลังจะระเบิด

ไอ้ที่ว่าหงุดหงิดแล้วยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม

ตั้งแต่เข้าคลับมา เจ้าของเรือนผมสีแดงกลั้นใจเดินตามคนด้านหน้าที่ไปแบบเงียบๆ แม้มันจะทำให้เขาแทบจะปะทุเป็นภูเขาไฟตั้งแต่มาคลับนี่แล้ว แมกมาเริ่มปริออกจากปล่องเมื่อมันเข้าห้องวีไอพีที่ใครๆ ก็รู้กันดีว่านอกจากดื่มเหล้า สูบบุหรี่แล้วมันเอาไว้ใช้ทำอะไร

 มันตบเขาด้วยกล่องถุงยางอนามัยเพราะให้เล แต่คนพ่อกลับเอามันมาใช้เอง

ย้อนแย้งชิบหาย!!

เขาไม่เข้าใจว่าฮิมกำลังคิดอะไร เขาไม่เข้าใจ ชายหนุ่มรู้ว่าอีกฝ่ายเลี้ยงเลมายังไง จะให้เรียกว่าอะไร ? ประคบประงมมากจนเกินไปหรือไข่ในหินเสริมเหล็กเททับด้วยปูน แต่เขาไม่คิดว่ามันจะหวงเลถึงขนาดเอาของขวัญที่เขาให้ตบหน้าตัวเขาเอง

นั่นแหละที่ทำให้รพระเบิดจนต้องโวยวายทั้งๆ ที่ปกติชายหนุ่มเป็นคนเงียบๆ เขาโกรธจนแทบจะบ้าแต่ไอ้วินที่ทะเลาะกับน้องเลเกือบทุกวันกลับนั่งเงียบจนน่าแปลกใจ

“มึงคิดอะไรอยู่” รพถามแต่ไอ้วินกลับทำนิสัยเสียโดยการเดินหนีซึ่งๆ หน้า นั่นยิ่งทำให้คนที่ใกล้ระเบิดเต็มทนถึงกับลาวาพุ่ง ร่างสูงกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก ก่อนจะคว้าสาวสวยคนหนึ่งขึ้นห้องตามเพื่อนไปอีกคน

 

3.45 น.

เสียงหอบหายใจพร่าพึ่งสลายไปเมื่อสิบนาทีก่อน หญิงสาวนอนสลบเหมือดอยู่บนเตียงจากบทรักที่กินเวลาไปกว่าสี่ชั่วโมง ทว่าชายหนุ่มเหมือนจะยังมีแรงเหลือเฟือสำหรับลุกขึ้นนั่งสูบบุหรี่

“ฮิมคะ”

“อย่าใส่น้ำหอมมาอีก” เขาออกคำสั่ง นัยน์ตาคมหลุบลงมองอีกฝ่ายที่กำลังทำหน้างง เขาไม่ได้อธิบายต่อปล่อยให้เธอคิดเอาเอง

“อย่าใส่น้ำหอม ? ทำไมคะ”

“เลไม่ชอบ” ฮิมจำได้ตอนที่น้องโวยวายเพราะได้กินน้ำหอมของอีกฝ่าย ตอนนั้นเขาไปซื้อน้ำหอมจริงๆ แต่ก่อนที่จะไป…

“ก็ได้ค่ะ ไม่ใส่ก็ไม่ใส่” คนฟังไม่มีสิทธิปฏิเสธได้แต่พยักหน้าแล้วยิ้มขมขื่น เธอปั้นสีหน้ายิ้ม “ฮิมนี่รักน้องเลจริงๆ เลยนะ”

“…”

“จนบางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าตอนที่เรามีอะไรกัน ฮิมคิดถึงหน้าน้องเลแทนหน้าปริมหรือเปล่า ฮ่าๆ” หญิงสาวพูดติดตลกแต่กลับทำให้คนฟังต้องชะงัก หลังจากนั้นเสียงในห้องก็เงียบลง ฮิมหลุบตาลงมองเห็นเจ้าของใบหน้าสวยสง่าหลับสนิทไปแล้ว มือหนาจึงขยี้บุหรี่ทิ้ง  ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงหยิบถุงยางอนามัยชิ้นล่าสุดออกจากตัวแล้วขว้างใส่ถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนเดินเข้าห้องน้ำ ชำระร่างกายแล้วออกมาใส่เสื้อผ้า นาฬิกาเรือนหรูถูกนำมาสวมที่ข้อมือเป็นอย่างสุดท้ายเช่นเคย

ก่อนออกจากห้อง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองหญิงสาวที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียง เขาอยากรู้

ถ้าบอกไปว่าตอนที่กำลังมีอะไรกันอยู่ เขาคิดถึงหน้าเลจริงๆ อีกฝ่ายจะหัวเราะได้อย่างตอนที่พูดหรือเปล่า…

 

4.57 น.

รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาในเขตบริเวณบ้าน  เจ้าของขายาวก้าวลงจากรถ นัยน์ตาคมมองไฟในบ้านที่ถูกปิดสนิทบ่งบอกว่าทุกคนคงหลับกันหมดแล้ว ร่างหนาไขกุญแจเข้าไปด้านในแล้วรีบเดินขึ้นไปยังชั้นสอง

แอด

ประตูห้องถูกเปิดให้มีเสียงน้อยที่สุด แอร์เย็นเฉียบกับความเงียบเข้ามาทักทายเมื่อเขาเดินเข้าไปด้านใน ฮิมจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าตนเองก่อนจะก้าวขึ้นเตียงอีกครั้ง กลิ่นแป้งเด็กแตะจมูกอย่างรวดเร็ว หอมจนต้องคว้าน้องเข้ามากอดจนอีกฝ่ายร้องฮึมฮัมเหมือนไม่พอใจแต่ยังไม่ตื่น เลหลับง่ายตื่นยาก ยากชนิดที่ว่า…

กึก

ฮิมชะงัก เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังจะซุกซอกคอขาวต้องรั้งตัวเองแล้วละออกมาทำได้แค่นอนกอดอีกครั้ง

ไม่ได้ตอนนี้ยังไม่ได้

ฮิมถอนหายใจ นัยน์ตาสีดำที่เคยเฉือยชาไปชั่วขณะเปลี่ยนมาเป็นเหมือนเดิม เขาไม่ได้เป็นพี่ชายแสนดีขนาดที่ใครหลายคนคิด ถ้าเลรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาคิดอะไรอยู่ อีกฝ่ายต้องร้องไห้ออกมากแน่ๆ

สงสารเหรอ ? ไม่ใช่

กลัวต่างหาก…

 

"ทำไมมันหายไปกล่องนึง!!" เสียงนึงปลุกเขาให้ตื่น พอหันไปมองข้างกายก็พบว่าเลหายไปแล้ว มือหนายันกายขึ้นจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวสักหน่อยก่อนจะเดินลงไปด้านล่าง

ปั๊กๆ!!

"มึงจะตีกูทำไม!" ด้านล่างนั้น เลกำลังตีวินที่เหมือนใกล้หมดความอดทนเต็มที "เล!”

"ก็เลฝากลังของขวัญไว้กับพี่วิน แต่มันหายไปตั้งกล่องนึงอะ" น้องบอกเหตุผลด้วยสีหน้าบึ้งตึ้ง

"กูไม่ได้เอาไป"

"แล้วใครเอา!" ประโยคนั้นทำให้คนฟังต้องชะงัก วินหันหน้ามามองเขาแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาลืมไปเลหวงของมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ใบหน้าหล่อเหลาเบนไปทางโต๊ะอาหารที่ว่างสนิท ก่อนจะเดินไปทางด้านหลังร่างเล็ก เข้าสวมกอดจากทางด้านหลังจนอีกฝ่ายสะดุ้ง "อ๊ะ! ฮิม"

"ตื่นเช้า"  ฮิมว่าขณะก้มจูบที่กระหม่อมบาง เลหันหน้ามามอง สบตากันทีหนึ่งแล้วจุ๊บที่ปาก "มอนิ่งคิสครับ"

"ฮิมจ๋า ของขวัญเลหายไปกล่องนึงอ้า"

"หืม พี่หิวจัง" เขาเมินคำพูดแต่น้องทำตาโต

"พี่รพไม่ได้ทำอาหารเช้าไว้เหรอ" เลหันไปมองเห็นโต๊ะที่ว่างเปล่าก็ทำหน้ายุ่ง เรื่องที่เคยมีปัญหากับวินเมื่อสักครู่นี้เหมือนจะลืมไปหมดแล้ว

"ทำอะไรให้พี่กินหน่อย" เขาเคยบอกหรือยังว่าเลทำอาหารอร่อยมาก พอเลพยักหน้าเขาจึงโอบไหล่บางไปทางห้องครัวขณะก้มลงจูบกลุ่มผมดำสนิทสองสามที

เลก็ยังเป็นเด็กดีของเขาเหมือนเคย...



หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 16-01-2017 23:48:27

#8

 

บางทีนะ บางทีผมควรไปหาหมอ รู้สึกช่วงนี้ผมอารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงมีประจำเดือน เมื่อวานพ่อผู้แสนจะใจดีพึ่งทำให้ผมมีความสุขราวกับได้ขึ้นสวรรค์ แต่พอวันถัดมาผมก็ต้องรู้สึกอารมณ์เสียอีก ไม่หรอก ตอนเช้ามันก็ยังดีๆ อยู่ และวันนี้ผมตื่นก่อนพ่อ สงสัยเมื่อวานที่บอกว่าเหนื่อยจะเป็นเรื่องจริง แต่พออาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาด้านล่างปุ๊บเท่านั้นแหละ…

อารมณ์มันก็กลับมาเสียอีกแล้ว

“พี่วิน!!” ผมกรีดร้องลั่นบ้าน น่าแปลกที่เจ้าของชื่อกำลังนั่งเล่นอยู่กับเจ้าเปอร์เซียไม่ไกลจากผมนัก ใบหน้าคมหันมามองผม เขาตอบกลับ

“อะไรของมึงอีก”

“ของขวัญเลหายไปไหน!”

“ลังที่อยู่ตรงหน้ามึงมันไม่ใช่ของขวัญของมึงหรือไง” พี่วินตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเต็มทน  มันก็ใช่แต่ว่า…


           
"ทำไมมันหายไปกล่องนึง!!" กล่องถุงยางผมวันก่อนมันยังเรียงกันเป็นช่องจนเต็มลัง แต่พอมาวันนี้ผมโบ๋ไปอันหนึ่ง ผมพึ่งฝากพี่วินเอาไว้เมื่อคืนเพราะพ่อขอเลยนะ แต่พี่วินกลับทำมันหายไปแล้ว! “ถุงยางเลหายไปไหน!”

           
“…”

           
“ตอบเลสิ!”

           
“กูไม่รู้”

           
“ก็พี่วินเป็นคนเก็บ”


           
“…”

           
“พี่วินอ่ะ!!” ผมตะโกนอย่างเหลืออดแต่อีกฝ่ายยังเงียบ

           
เงียบ…

           
 เงียบ…

           
 เงียบ…

           
ด้ายยยยย จะเงียบใช่ไหม!!

           
ปั๊กๆ!!

           
ผมฟาดมือเข้าไปตรงช่วงลำตัวกว้าง


"มึงจะตีกูทำไม!" พี่วินร้องลั่นใบหน้าหล่อเหลาทะมึนเหมือนคนใกล้หมดความอดทนเต็มที "เล!”

"ก็เลฝากลังของขวัญไว้กับพี่วิน แต่มันหายไปตั้งกล่องนึงอะ" ผมบอกเหตุผล หน้าบึ้งมาก็หน้าบึ้งกลับ

"กูไม่ได้เอาไป" พี่วินปฏิเสธผมยิ่งรู้สึกโมโห

"แล้วใครเอา!"

“…” เงียบ…อีกแล้ว ผมกำลังจะตวาดกลับถ้าไม่รู้สึกเหมือนมีอะไรมากอดจากทางด้านหลัง เป็นสัมผัสอุ่นๆ ที่คุ้นเคย พอหันไปมองก็พบว่า "อ๊ะ! ฮิม"

"ตื่นเช้า” พ่อบอกจูบเบาๆ ที่กระหม่อมผมตามด้วยที่ปาก "มอนิ่งคิสครับ"

"ฮิมจ๋า ของขวัญเลหายไปกล่องนึงอ้า" ผมชี้นิ้วไปทางพี่วินที่ยังทำหน้านิ่งแต่เหมือนฮิมจะเข้าถึงประโยคผมไม่ได้ อีกฝ่ายตอบกลับด้วยประโยคใหม่

"หืม พี่หิวจัง" ผมทำตาโต

"พี่รพไม่ได้ทำอาหารเช้าไว้เหรอ” แล้วรีบมองไปทางโต๊ะอาหารที่ว่างเปล่า แปลกจังปกติพี่รพจะตื่นมาทำให้ทุกเช้าเลย

"ทำอะไรให้พี่กินหน่อย" ผมยู่ปาก เลิกคิดเรื่องของขวัญที่หายไป(กล่องหนึ่ง)ของตัวเองแล้วพยักหน้าสองสามที หลังจากนั้นฮิมจึงโอบไหล่ผมเดินไปทางห้องครัว ผมเปิดตู้เย็นกวาดสายตามองหาวัตถุดิบต่างๆ แล้วหันไปถามคนข้างกาย

“ฮิมจะกินไรอะ”

“เราอยากกินอะไรล่ะ”

“ให้เลคิดอีกแล้ว คิดเมนูมันยากกว่าการทำอาหารอีกนะ” ผมบ่นเพราะเวลาฮิมบอกให้ทำอาหารให้กินทีไร เขาไม่เคยระบุเมนูอย่างชัดเจนเลยสักครั้งเดียว ผมเลยไม่แน่ใจว่าพ่อชอบทานอะไรกันแน่ เหมือนเขากินได้ทุกอย่างคือไม่เรื่องมากเรื่องการกินเหมือนอย่างผม แต่พอรู้บ้างว่าฮิมชอบอาหารที่มีรสชาติแบบพอดีๆ คือไม่เค็มเกินไป ไม่หวานและไม่เปรี้ยวจนเกินไป เรียกอีกอย่างก็รสชาติกลมกล่อม

“เราทำอะไรก็อร่อยไม่ใช่เหรอ”

“ไม่ต้องมาชมเลย” ผมว่ายื่นมือเข้าไปในหยิบเนื้อสัตว์กับไข่ออกมา “งั้นเลทำข้าวผัดอเมริกันนะ”

ผมตัดสินใจทำเมนูง่ายๆ ซึ่งฮิมก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากพยักหน้า ร่างหนาเดินกลับขึ้นไปด้านบน ผมทายว่าเขาขึ้นไปอาบน้ำแน่ๆ

“พี่วินกินด้วยไหม” ผมตัดสินใจถามคนที่ตัวเองยังไม่หายงอน แต่เห็นว่าวันนี้พี่รพไม่ทำอาหารหรอกเลยจะทำให้ทานด้วย (ถ้าพี่วินหิวนะ) เพราะปกติเชฟใหญ่ของบ้านก็คือพี่รพ ถ้าพี่รพไม่อยู่ผมถึงทำ เห็นแบบนี้ข้อดีอย่างหนึ่งของผมคือทำอาหารนะ ผมทำอาหารอร่อยมากไม่อยากจะโม้

“เออ” พี่วินตอบเสียงเรียบ ผมพยักหน้าไม่พูดอะไรต่อเพราะกำลังเบนความสนใจไปที่การหั่นผักในมือ

ยี่สิบนาทีต่อมา คำทำนายของผมเป็นจริงเมื่อฮิมเดินลงมาในชุดเสื้อยืดสีขาวและกางเกงสามส่วนธรรมดากับกลิ่นหอมฟุ้งที่เป็นเอกลักษณ์ เส้นผมดูชื้นหน่อยๆ สงสัยจะสระผมด้วย ในตอนนี้ผมก็ถอดไข่เสร็จพอดีและกำลังเอามันออกจากกระทะไปวางไว้ในจานที่มีข้าวผัด แฮม ไส้กรอก ผักนั่นนู้นนี่ที่วางเอาไว้ก่อนแล้ว

“หอม” ฮิมว่า เขาเดินอ้อมมาทางด้านหลังผมแล้วชะโงกหน้ามองก่อนจะหันไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำผลไม้ออกมาเทใส่แก้ว แล้วบังคับให้ผมดื่ม “ตอนเช้าไม่ได้ออกกำลังกาย ตอนเย็นเลต้องไปยิมกับพี่นะ”

ผมแทบจะเจาะไข่ดาวแตก “ฮือ ไม่อยากไป”

“ไม่ได้” ฮิมปฏิเสธเสียงเรียบ

“แต่พ่อตื่นสายเองนี่” ปกติถ้าเขาจะพาผมออก เขาต้องตื่นก่อนผมสิ

“โทษพี่งั้นไปอังกฤษคราวหน้างดของฝาก”

“ไม่นะ!” ผมโวยวาย “ไปยิมกับฮิมก็ได้แต่อย่างดของฝากเลนะ”

ฮิมไม่ตอบ เขายิ้มแล้วเอื้อมมือมาบีบจมูกผมอย่างหมั่นเขี้ยว ร่างหนานั่งลงบนโต๊ะรับประทานอาหารเป็นเวลาเดียวกันที่ผมเดินไปหยิบช้อนส้อมใส่จานแล้วถือข้าวผัดอเมริกันไปเสิร์ฟอีกฝ่ายบนโต๊ะ ผมนั่งกินข้างๆ ร่างสูง ส่วนพี่วินถือจานไปกินอยู่หน้าทีวีนู้น

ผมลืมอะไรไปหรือเปล่านะ ?

รู้สึกเหมือนตัวเองลืมอะไรไป ?

เมี้ยว

อ๋อ รู้แล้วลืมให้อาหารเปอร์เซียร์

“หิวเหรอ” คนข้างกายถามแต่เขาไม่ได้ถามผม ฮิมวางช้อนลงบนจานแล้วหันไปสนใจเจ้าแมวก้นกลมที่เดินมาเลียแข้งเลียขาอย่างน่าหมั่นไส้ “เซียร์หิวเหรอ”

           
ผมเบ้ปากทันทีที่ฮิมถามเจ้าแมวก้นกลมก่อนเขาจะอุ้มมันขึ้นมานั่งบนตัก ยอมแม้กระทั่งให้แฮมบนจานข้าวผัดที่ผมทำ

           
“คนดียังไม่ได้เอาอาหารให้เซียร์เหรอ”

           
“ลูกรักฮิม ฮิมก็ให้เองสิ”

           
ขวับ

         
“ก็เลยังไม่ได้ให้ ทะ…ทำไมฮิมต้องมองหน้าเลแบบนั้นด้วยเล่า!”

           
“เลไม่น่ารักเลยนะเมื่อกี้” จ้า ลืมไปมันเป็นลูกรัก แตะต้องอะไรไม่ได้เลย และพอพูดจบฮิมก็จัดการไปเอาอาหารให้เจ้าแมวตัวอ้วนด้วยตัวเอง ก่อนจะกลับมานั่งทานข้าวผัดของผมต่อ ผมเบนหน้าหนีรู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ จนกระทั่งใครบางคนเดินลงมาจากบ้าน คนที่ผมคิดว่าเขากลับไปนอนคอนโด

           
พี่ผาพูดทันทีที่เดินลงมาแล้วเห็นหน้าผม “น้องเลหน้าบึ้งแต่เช้าเลยนะ”

           
ให้ตายเหอะ! ผมว่าผมควรไปหาหมอจริงๆ แล้ว

 

           
ตอนบ่าย ผมต้องข่มใจอาบน้ำให้เปอร์เซียร์อย่างที่ได้พูดไว้เมื่อวาน กับซักผ้า ถูบ้าน ทำความสะอาดห้อง ที่นี่ไม่ได้จ้างแม่บ้าน พี่ๆ ทุกคนรักความเป็นส่วนตัวมากกว่าที่จะจ้างให้คนอื่นมาดูแลสถานที่หลับนอนของตัวเอง ดังนั้นเรื่องทำความสะอาดเลยต้องแบ่งๆ กันทำ ส่วนฮิมรายนั้นตั้งแต่กินข้าวเช้าเสร็จก็ออกไปไหนไม่รู้ แต่กลับมาตอนที่ผมทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพอดี

           
“ฮิมจ๋า” ผมโผล่เข้ากอดพ่อ โดนหอมแก้มสองทีพร้อมกับจูบที่หน้าผาก “ไปไหนมา”

           
“ทำงานสิ” พอได้เหตุผลผมก็ไม่ซักต่อ “คนดีไปนอนกับพี่หน่อย”

           
 “อุ้มเล” ผมยกมือขึ้นเมื่อฮิมว่าแบบนั้น เขาก็ไม่คัดค้าน แขนแกร่งอุ้มผมขึ้นพาดบ่าแล้วพาเดินขึ้นบันไดไปจนถึงห้อง จากนั้นก็ปล่อยผมลงเตียงแล้วนอนทาบร่างผมลงมา ใบหน้าหล่อเหลาซุกเข้าที่ซอกคอผม “หนักนะ”

           
ผมพึมพำกับตัวเอง ก็พ่อน้ำหนักน้อยซะที่ไหน หลังจากนั้นฮิมก็นิ่งไปสงสัยจะหลับไปแล้ว ผมได้ยินแค่เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอกับสัมผัสร้อนๆ บริเวณต้นคอ ผมนอนนิ่งๆ เหมือนหุ่นยนต์อยู่เกือบสามสิบนาทีก่อนจะหลับตามอีกฝ่ายไป

 

           
ปัง!

           
ผมสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเหมือนใครบางคนถีบประตูเข้ามา พอเปิดเปลือกตาขึ้นก็เห็นพี่ไทด์ยืนกอดอกพิงประตูอยู่

           
“กินข้าว” อีกฝ่ายพูดสั้นๆ ก่อนปิดประตูห้องพร้อมกับเดินออกไป ผมสะบัดใบหน้าไล่ความง่วงออกก่อนจะค่อยๆ แกะแขนแกร่งที่กำลังกอดผมอยู่แล้วลุกจากเตียงเพื่อเดินเข้าห้องน้ำ พอเดินออกมาก็พบว่าฮิมตื่นแล้ว ร่างหนากำลังนั่งพิงหัวเตียง นัยน์ตาคมหันมาประสานกับผมแล้วกวักมือเรียกเข้าไปหา

           
“พี่ไทด์เรียกให้ไปกินข้าวครับ” ผมบอกขณะถูกคนตัวสูงรอบเอวเข้าไปกอด ฮิมพยักหน้าเบาๆ แล้วลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะโอบรอบเอวผมเดินลงไปข้างล่าง ชั้นหนึ่งของบ้านกำลังวุ่นวายกับการเตรียมจานใส่นั่นนู้นนี่ เราเดินไปที่ห้องนั่งเล่นเพราะปกติถ้ากินพร้อมกันหลายๆ คนจะไม่นิยมนั่งกินที่ห้องครัว พื้นที่ไม่พอ ชอบนั่งกินที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับดูหนังไปด้วยมากกว่า

           
แต่ข้าวที่พี่ไทด์ว่านั่นถึงกับทำเอาคนข้างกายผมถอนหายใจ ข้าวของเขาคือ ไก่เคเอฟซีสี่ชุดใหญ่วางเรียงรายกันเป็นแถบ พร้อมด้วยพิซซ่าและเจลลาโต้ Junk food ที่ฮิมไม่ค่อยชอบให้ผมทานจนร่างสูงต้องเดินไปหยิบกุญแจรถมาจับมือผมเตรียมเดินออกจากบ้าน

           
ถ้าผมไม่บังเอิญเห็นอะไรในห้องนั่งเล่นเสียก่อน…

           
“ถุงยาง!!” ผมตะโกนขึ้นมาขณะชี้นิ้วไปยังกล่องถุงยางที่เคยหายไปเมื่อช่วงเช้า ตอนนี้มันกลับมาอยู่ที่เดิมแล้ว! “ใครแกล้งเล เมื่อเช้าเลยังหาไม่เจอเลย”

           
ผมมองมันด้วยความงุนงงก่อนจะเดินไปหยิบกล่องนั่นขึ้นมา มันถูกแกะออกแล้วถุงยางในกล่องหายไปอันหนึ่งแต่แค่อันเดียวเอง ผมจะพยายามมองข้ามไป

           
“ใครมันจะเอาของมึงไป” พี่วินที่โดนผมวีนใส่เมื่อเช้าตอบเสียงทุ้ม เขาหันมาทำหน้าดุใส่ผมจนรู้สึกผิด

           
“เลขอโทษ ก็เลไม่รู้นี่”

           
“โทษแต่กูแหละมึงน่ะ”

           
“พี่วินอย่างอนสิ แล้วสรุปใครเอาของเลไป”


           
“…” เงียบกันอีกแล้ว ไม่มีใครตอบทุกคนหยิบไก่ในถังเคเอฟซีกินกันไปแบบเงียบๆ ผมแอบเบ้ปากก่อนจะหันไปหาพ่อแล้วขอทานที่นี่ผมจะง้อพี่วินเพราะอีกฝ่ายเหมือนจะยังงอนผมอยู่ ฮิมอนุญาตให้อยู่แต่ไม่อนุญาตให้กิน พอผมไม่ไป ฮิมเลยขับรถออกไปซื้อข้าวเย็นมาให้ผมคนเดียว ส่วนผมรีบมานั่งง้อพี่วินต่อ

           
“พี่วินเลขอโทษ”

           
 “…”

           
“พี่วินอย่าเงียบสิ อ๊ะ” ผมร้องเมื่อโดนอีกฝ่ายเอาไก่ยัดปาก พอรู้สึกตัวจึงรีบเอามันออกมา “ฮิมไม่ให้กินอะ”

           
“ทีพ่อมึงนี่เชื่อฟังจังเลยเนาะ”

           
“ก็ฮิมเลี้ยงเลมานี่” ผมให้เหตุผล ไม่ให้เชื่อฟังคนเลี้ยงผมมาแล้วจะให้ผมเชื่อฟังใครล่ะ “พี่วินก็พูดแปลกๆ”

           
พี่วินหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง “ลองดื้อกับพ่อมึงสักครั้งให้กูดูหน่อย”

           
“หา ?” พี่วินไม่ได้ตอบ เขาปล่อยให้ผมงงต่อไปจนกระทั่งฮิมกลับมาที่บ้านพร้อมกับข้าวเย็นของผม ข้าวเย็นวันนี้คืออาหารญี่ปุ่น จากร้านที่เราชอบไปทานบ่อยๆ อาหารว่างคือสลัดส่วนของหวานเป็นพายแอปเปิ้ล หรือจะกินเจลลาโต้ที่พี่ๆ ซื้อมาก็ได้ฮิมไม่ห้าม

           
ผมนั่งกินเงียบๆ ในขณะที่ทุกคนกินเสร็จและกำลังจะลุกขึ้นเก็บของ ตอนนั้นเองผมถึงนึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้ยังไม่ได้ไปยิมทั้งๆ ที่คุยกับฮิมว่าจะไปเมื่อตอนเช้า พอมองซ้ายขวาพ่อหายไปไหนไม่รู้ ดังนั้นผมเลยทำเนียนลืมๆ เรื่องยิมไปแล้วกินข้าวต่อ

เสียงโทรศัพท์ของพี่รพดังขึ้น ร่างสูงเดินออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอกพอกลับเข้ามามือหนาก็คว้ากล่องถุงยางที่ผมพึ่งจะได้คืน บอกสั้นๆ ว่า “ขอ”

           
“ไม่เอา!” อาการหวงของมันกำเริบทันที ใบหน้าหล่อเหลาหันมาทำหน้าเหนื่อยหน่ายใส่ผมแล้วบอก

           
“มึงไม่ได้ใช้หนิ”

           
 “ก็เลยังไม่ได้ใช้เฉยๆ”

           
 “กว่ามึงจะได้ใช้มันก็หมดอายุพอดี ให้คนอื่นใช้บ้าง ทิ้งไว้เฉยๆ มันเปลืองของ”

           
 “แต่…”

           
“กูซื้อให้ตั้งเยอะ อีกอย่างใช้เป็นแล้วเหรอถึงกล้าพูดว่ายังไม่ได้ใช้เฉยๆ”

           
“…” ผมเถียงไม่ออก ได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่รู้จะตอบกลับว่ายังไง เจ้าของเรือนผมสีแดงหัวเราะในลำคอเล็กน้อยหลังจากนั้นก็เดินถือกล่องถุงยางกล่องนั้นของผมไป

           
ไม่ได้การแล้ว… ขืนผมยังไม่รู้วิธีใช้ถุงยางที่พี่รพให้ ผมว่ามันได้หมดก่อนที่ผมจะได้ใช้แน่ๆ!!



(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 161016#5(2) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 16-01-2017 23:49:26


ครืด

            ประตูบานเลื่อนถูกเปิดออก วินเดินออกมาสูบบุหรี่ด้านนอกเพราะเลนั่งกินข้าวอยู่ด้านใน นัยน์ตาคมมองเหตุการณ์ระหว่างรพกับเลครู่หนึ่งแล้วหันมาให้ความสนใจกับบุหรี่ในมือแทน มือหนาล้วงเข้ากระเป๋าหยิบไฟแช็กออกมาแต่ปรากฏว่าจุดยังไงไฟก็ไม่ติด ร่างสูงเลยหมุนตัวเพื่อที่จะไปหยิบอันใหม่ในบ้าน แต่จู่ๆ ไฟแช็กที่ว่าก็ถูกโยนลงตรงโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลจากเขานัก

            หันไปด้านข้างจึงพบว่าบริเวณนี้มีคนมายืนสูบอยู่ก่อนแล้ว

            ร่างสูงที่กำลังยืนพิงกำแพงเงียบๆ มันปล่อยควันคลุ้งแต่เขาไม่ได้กลิ่น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ บุหรี่นั่นถูกสั่งทำขึ้นโดยเฉพาะ คนลูกแพ้กลิ่นบุหรี่คนพ่อเลยจัดการสั่งทำใหม่แบบพิเศษ แทนที่จะได้กลิ่นเหม็นกลับกลายมาเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ หรือแทบไม่มีกลิ่นแทน ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ แล้ว…

มันใส่ใจเลจริงๆ นั่นแหละ

แต่พอนึกไปถึงกล่องถุงยางที่เคยหายไปอยู่ดีๆ ก็กลับมามันทำให้วินอดถามไม่ได้ “มึงไม่ได้ใส่เหรอ”

“เปล่า” คนตัวสูงตอบขณะปล่อยควันคลุ้งลอยไปตามอากาศ

“ไปซื้อให้เลใหม่” เขาเสี่ยงถามคำถามที่ไม่น่าจะใช่ เพราะไอ้รพมันสั่งพิเศษ ซึ่งคำตอบก็เป็นไปอย่างที่คาด

“ไม่”

“หมายความว่าไง”

“ผิดไซต์” เขาลืมคิดถึงเรื่องนี้ตอนหยิบมันไป รพซื้อมาให้เลดังนั้นขนาดถุงยางมันก็ต้องเป็นไซต์ของเล (มันเลือกไซต์เล็กสุดของขนาดถุงยางมา) แน่นอนว่าของเลกับของเขาขนาดมันต่างกันลิบลับ

คนฟังคำตอบได้แต่นิ่งก่อนคีบบุหรี่ขึ้นสูบ…

 

อีกด้านหนึ่ง…

รถสปอร์ตคันหรูแล่นออกจากมาจากบริเวณบ้านสองชั้นขนาดใหญ่ด้วยความเร็วสูง ไม่ได้แล่นตัวความฉุนเฉียว ชายหนุ่มเจ้าของรถอยู่ในโหมดตรงข้ามกับคำว่าฉุนเฉียวลิบลับ รพกำลังอารมณ์ดี ดีมากๆ ด้วย

            ปึก!

            กล่องถุงยางที่ถือติดมือมาด้วยถูกโยนเข้าไปด้านหลัง เขาใช้ได้ซะที่ไหนขนาดของมันเล็กกว่าไซต์เขาลิบลับ เชื่อว่าตอนที่ฮิมหยิบไปมันคงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ สุดท้ายก็เอากลับมาคืนน้องเหมือนเคยแล้วเขาก็เอามันมาจากเลอีก ปฏิกิริยาตอบรับคืออารมณ์หงุดหงิด มีวีนบ้างตามประสาเด็กหวงของ แต่นั่นแหละที่ทำให้เขาอารมณ์ดี

            เลหวงของจะตาย ดังนั้นต้องเริ่มคิดแน่ๆ ว่าถ้ายังไม่รีบใช้แล้วล่ะก็มันจะเกิดอะไรขึ้น…

            แถมใช้ไม่เป็นพ่อมันก็คงไม่ยอมสอน ตามนิสัยของเด็กดื้อ ถ้าไม่มีใครสอนแล้วจะทำยังไง

            คำตอบง่ายๆ ก็ต้องหาวิธีใช้เอง

            “หึ หึ หึ” รพเผลอแสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ ท้ายที่สุดจบด้วยการหัวเราะลั่น

เขาจะทำให้พ่อมันอยากกระอักเลือดตาย โทษฐานที่ถือวิสาสะตบหน้าเขาให้วันนั้น

 

22.10 น.

แอด

เสียงเปิดประตูทำให้ผมที่กำลังติดกระดุมต้องชะงักแล้วหันหลังไปมอง

“ยังไม่นอนอีกเหรอ” ฮิมถาม เขาเดินมากอดผมจากทางด้านหลัง มือหนายื่นมาติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวให้ ติดเสร็จอีกฝ่ายก็จับผมหมุนตัว ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาจูบที่หน้าผาก จากนั้นก็ขว้างผมขึ้นเตียงทับด้วยผ้าห่มผืนหนาเชิงบังคับให้นอน ผมนอนนิ่งมองร่างสูงที่กำลังถอดเสื้ออยู่ปลายเตียงจนกระทั่งนัยน์ตาสีดำสนิทหันกลับมาสบตาผมอีกครั้ง “เล”

เตือนครั้งที่สอง… ผมรีบหลับตาลง

พอได้ยินเสียงฮิมเดินเข้าห้องน้ำไปผมจึงลืมตาขึ้น แล้วทำท่าหลับอีกครั้งเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำหลังอาบน้ำเสร็จ ผมแกล้งหลับจนกระทั่งได้ยินเสียงปิดโคมไฟที่หัวเตียงพร้อมๆ กับการยุบของฟูก กับกลิ่นหอมๆ จากคนที่พึ่งอาบน้ำเสร็จ ตอนนั้นแหละที่ผมได้รู้ว่าการแกล้งหลับของผมมันไม่ได้เรื่อง

“ทำไมยังไม่นอน” อีกฝ่ายนอนตะแคงพลางเอื้อมมือมากอดเอวผมเอาไว้แบบหลวมๆ ผมตัดสินใจลืมตาขึ้นเมื่อถูกจับได้

“เลมีเรื่องจะตอบ” ผมเอียงข้าง สบตากับอีกฝ่ายอย่างแน่วแน่จนกระทั่งฮิมเลิกคิ้ว “พ่อ สอนเลใช้ถุงยางหน่อยสิ”

“…” เขาเงียบไปนาน “พี่ง่วงแล้ว”

“วันอื่นก็ได้”

“คนดีอยากใช้ ?”

“เดี๋ยวมันหมดอายุก่อน” …ไม่ก็ถูกเอาไปใช้จนหมดก่อน

            ฮิมเหมือนจะขำ เขาจับตัวผมเข้าไปกอดแล้วกดริมฝีปากลงที่ขับ “มันไม่หมดอายุเร็วขนาดนั้น”

            “ก็เลอยากใช้”

            “…”

            “นะ”

            “รอเราอายุสิบแปด”

            “นั่นมันอีกตั้งสามเดือน”

            “อือหึ”

            “พี่ฮิม…” ผมส่งเสียงอ้อน “สอนพรุ่งนี้เลยไม่ได้เหรอ”

            “นอนได้แล้ว” อีกฝ่ายตอบเสียงพร่า หลังจากนั้นพอผมถามอะไรไปเขาก็ไม่ตอบอีก ผมถอนหายใจ หลับตาลงบ้างแต่สมองยังครุ่นคิด

 

วันต่อมา

“วันนี้เอ็กซ์กับดินก็ไม่มาเหรอ” ผมถามด้วยความสงสัย ผมไม่ได้เจอหน้าพวกเขามาสามวันแล้ว ตั้งแต่วันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ อีกอย่างวันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มเรียนหลังจากอาทิตย์ก่อนตะลุยทำกิจกรรมกันทั้งอาทิตย์ “หายไปไหนของเขา”

แต่ที่เจอตลอดคือพิษกับเกี๊ยกยกเว้น เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมานะ ผมรู้สึกเป็นห่วงสองคนที่หายหน้าหายตาไปนาน จะโทรไปก็ไม่มีเบอร์เพราะผมไม่ได้ขอเอาไว้ อันที่จริงแล้วผมก็แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเพื่อนใหม่เลย ส่วนเพื่อนเก่าของผมไม่ได้เรียนคณะเดียวกัน บ้างก็ต่างคณะแต่มหา’ลัยเดียวกัน บ้างก็เรียนต่างมหา’ลัย บางคนก็ไปเรียนต่อไกลถึงอเมริกานู้นเลย ตั้งแต่จบมอหกผมเลยไม่ค่อยได้เจอเพื่อนเก่าแต่พวกเราก็ยังติดต่อกันนะ

“เสาร์ อาทิตย์ทำไร”

“ดูหนังกับเล่น ไซยาไนด์ล่ะ”

“ไล่เตะหนู”

“หา ?”

“หมายถึงไปออกกำลังกายมา” เขาตอบพร้อมกับหันหน้ามายิ้มๆ ให้กับผม

อ้าวเหรอ… “เกี๊ยกล่ะ”

“ไปดูหนัง ซื้อรองเท้า”

“เหมือนเลเลย”

ครืด

เราหยุดคุยกัน เมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้อง วันนี้เป็นคาบแรกของผม ต้องตั้งใจเรียนให้มาก แต่ก่อนจะเริ่มเรียนผมรีบเอียงตัวไปกระซิบคนข้างกายให้ได้ยินกันแค่สองคน

“เกี๊ยก ตอนเลิกคลาสขอคุยด้วยหน่อยนะ”

ผมตัดสินใจแล้ว

‘ลองดื้อกับพ่อมึงสักครั้งให้กูดูหน่อย’

เป็นคำพูดของพี่วิน… ที่ผมกำลังจะลองทำดู

 

เลิกคลาส

             วันแรกเรียนถึงเที่ยง พอเรียนพิษก็ไปที่อื่นเขาให้เหตุผลกับผมว่าต้องไปธุระ แต่โชคดี ผมกักตัวเกี๊ยกที่ทำท่าว่าจะหนีไปอีกคนได้ทัน เหมือนอีกฝ่ายไม่ค่อยอยากให้ความร่วมมือกับผมเท่าไหร่นัก แถมพี่รหัสยังเป็นใจทำให้ความปรารถนาของอีกฝ่ายเป็นจริง

            เพราะผมจับเกี๊ยกได้ทันแต่ยังไม่ทันได้ถาม แก็งโรซารี่พี่รหัสก็มาจับกึ่งลากผมไปเลี้ยงข้าวต่อ

            “ดูทำหน้า ไม่อร่อยเหรอน้องเล”  พี่รหัสผมก็เปย์อย่างที่เขียนในคำใบ้จริง ๆ พี่นนท์นี่แอนด์เดอะแก็งได้แก่ พี่ไก่และพี่เชอร์รี่พาผมมาเลี้ยงที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยเฉพาะราคาถ้าสำหรับคนธรรมดาก็ถือว่าแพงพอสมควร “งั้นเปลี่ยนร้านไหม”

            ผมส่ายหน้า

            “งั้นน้องเลอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า สั่งได้เลยคะพวกพี่อุตส่าห์อดข้าวอดน้ำเก็บเงินมาเลี้ยงโดยเฉพาะ”

            ผมกะพริบตาปริบ ๆ เลิกสนใจสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดแล้วหันมามองกลุ่มหญิงสาวสองตรงหน้า ผมบอกไปตามตรง

            “พี่นนท์นี่พามาเลี้ยงที่แพงจัง ปกติพักเที่ยงกินเลแต่ข้าวมันไก่”

            “หนูอยากกินข้าวมันไก่เหรอ ?”

            “อื้อ” ผมพยักหน้าแล้วก้มลงมองซูซิตรงหน้า จิ้มมันเข้าปากเสียงหวีดร้องจากเชอร์รี่หนึ่งในแก๊งโรซารี่ดังตามมา

 

          “กูบอกมึงแล้ว! ว่าให้ถามน้องก่อน ข้าวมันไก่ โอ๊ยยย แล้วกูอดข้าวอดน้ำมาสามวันเพื่อมาร้านนี้ทำไมเนี่ย”

          “เพราะมึงคนเดียวเลยอีนภดล เอาค่าข้าวสามวันกูคืนมา!!”

          “กูชื่อนนท์นี่ไม่ใช่นภดลค่ะ อดข้าวอดน้ำพวกมึงเต็มใจเองไหมม”

          “ก็มึงเอาพี่ฮิมมาอ้าง พวกกูก็กลัวป่ะ”

           

            “งั้นให้เลจ่ายให้ไหม” ผมเสนอความคิดเห็นหลังจากที่นั่งฟังพวกพี่ ๆ ทะเลาะกันเรื่องเงินมาได้สักระยะหนึ่ง จากที่ฟัง ๆ มา เหมือนพวกพี่ ๆ จะตั้งใจอดข้าวอดน้ำเอาเงินมาเลี้ยงผมเพราะกลัวพ่อผมนะ “เดี๋ยวมื้อนี้เลเลี้ยงก็ได้”

            พี่นนท์นี่หันมาถามผมด้วยแววตาเป็นกังวล “จะดีเหรอเล”

            “ดีค่ะน้อง”

            “อีไก่!” พี่แกหวีดคนข้างกาย

            “เอ้า! ก็กูจนนี่”

            “เดี๋ยวเลเลี้ยงก็ได้ จะกินอะไรอีกไหมครับ สั่งเลยนะ”

            “พวกพี่คงไม่กล้าสั่งแล้วอะ เกรงใจ๊เกรงใจ”

            “งั้นเลสั่งเองไหน ๆ ก็มาแล้ว” ผมกวักมือเรียกพนักงานแล้วไล่รายการอาหารยาวเหยียดที่ตัวเองอยากกิน เอาไว้กลับบ้านค่อยไปกินข้าวมันไก่ก็ได้ “…แค่นี้แหละครับ”

            “รอสักครู่นะคะ” พอสั่งเสร็จบริกรสาวก็เดินถือลิสต์และรายการอาหารออกไป ในระหว่างนั้นผมก็นั่งกินซูซิที่สั่งมาก่อนหน้ารอ

            “น้องเลสั่งเยอะขนาดนั้นมันแพงนะ พี่ฮิมจะไม่ว่าเอาเหรอ” พี่รหัสถามด้วยสีหน้ากังวลอีกครั้ง

            ว่าเหรอ ? “ฮิมไม่ว่าถ้าเป็นเรื่องอาหาร”

            จะกินเท่าไหร่ก็ได้ ถ้าเป็นเรื่องนี้เขาจะไม่ดุแม้ว่าผมจะใช้เงินไปเท่าไหร่ ว่าแต่ทำไมพวกพี่ ๆ เขาดูเกรงใจพ่อของผมจัง ตั้งแต่วันรู้พี่รหัสแล้ว พี่ไก่เคยบอกว่ากลัว แต่ผมไม่เห็นว่าฮิมจะน่ากลัวตรงไหน ภายนอกอาจจะดูขรึม ๆ ไปบ้าง (ถ้าไม่สนิทจริง ๆ ฮิมจะเป็นคนเข้าถึงตัวได้ยากมาก) แต่ลึก ๆ แล้วพ่ออบอุ่นจะตาย ถ้าได้มารู้จักจริง ๆ จะรู้ว่าฮิมใจดีขนาดไหน อย่างผมไงขออะไรเขาก็ให้ ให้แล้วให้อีก

            “พี่ฮิมของน้องเลนี่ใจดีน่าปล้ำจังเลยนะคะ” พี่เชอร์รี่ว่าด้วยท่าทางติดตลก

            “ฮ่าๆ”

            “น้องรหัสกูเลี้ยงทั้งทีพวกมึงต้องตอบแทนนะ”

            “แล้วมึงล่ะอีนพ”

            “นพพ่อง กูบอกแล้วว่าชื่อนนท์นี่ กูเป็นพี่ น้องรหัสเลี้ยงมันเป็นเรื่องปกติใช่ไหมเล”

            ผมพยักหน้าพร้อมกับหัวเราะ

            “เออ ๆ คืนเงินค่าข้าวสามวันกูมาก่อนค่อยว่ากัน ส่วนเลคนสวยหนูมีเรื่องอะไรอยากถามหรือมีปัญหาอะไรมาถามพี่ได้เลยนะคะ เดี๋ยวพี่ลุยเอง” พี่ไก่บอก ผมสะดุดที่ประโยคแรก

            “เลถามได้เหรอ”

            “ได้สิ”

            “งั้นไอ้นี่” หยิบถุงยางออกมาจากกระเป๋ายืนไปให้สามสาวตรงหน้าดู “มันใช้ยังไงเหรอครับ”

            เคร้ง!

            อีกฝ่ายทำหน้าอึ้ง พี่ไก่หนึ่งในนั้นถึงกับทำช้อนตก

            ผมถามอะไรผิดไปเหรอ ?

            พี่นนท์นี่เป็นคนแก้สถานการณ์ “ต๊ายแล้ว หนูมาถามอะไรแบบนี้ไม่ดีเลย”

            “ก็พี่ไก่บอกให้ถามได้”

            “โถ่คุณลูกขา ของพวกนี้พวกพี่ไม่ได้ใช้หรอกค่ะ มีแต่โดนใช้” พี่เชอร์รี่บอก ผมทำหน้างงอีก “เอาเป็นว่าพวกพี่ก็ใช้ไม่เป็น น้องเลไม่ไปถามคุณพี่ล่ะคะ”

            “ฮิมไม่ตอบเลถามยังไงก็ไม่ตอบ แต่เลอยากรู้คำตอบมาก ๆ เลยนะ”

            “ทำไมล่ะคะ”

          “เลอยากใช้”

            “แค่ก ๆ ๆ” พี่นนท์นี่ที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นจิบถึงกับสำลัก ผมรีบคว้าทิชชู่ที่อยู่ใกล้ตัวไปให้เพราะรุ่นพี่อีกสองคนกำลังนิ่งงันกับปฏิกิริยาของเพื่อนร่วมกลุ่ม ไม่สิ! ไม่ใช่นิ่งงัน พี่เชอร์รี่เบิกตากว้างส่วนพี่ไก่มองหน้าผมแล้วทำท่าทางผวาหนัก

            นี่ผมพูดอะไรผิดอีกแล้วเหรอ ? ก็พี่รพซื้อมาให้ตั้งลังหนึ่ง ไม่ใช้ก็เสียดายแย่สิ

            “น้องเลทำไมเป็นคนแบบนี้” พี่ไก่พึมพำก่อนจะโดนเพื่อนตบปากทีหนึ่ง

            “อย่าไปฟังอีไก่มันนะเล” พี่นนท์นี่บอกผมก็ได้แต่พยักหน้ารับตามสเต็ป “พี่คงให้คำตอบเราไม่ได้หรอก”

            “ครับ ไม่เป็นไร”

            “เรื่องแบบนี้ไปถามพวกผู้ชายในคณะเอาก็ได้ แต่เลือกถามคนที่เลไว้ใจนะ มันไม่ตอบก็บอกไปว่าจะฟ้องพี่ฮิม เดี๋ยวหนูก็ได้คำตอบแน่นอน”

            ผมรีบเมมคำพูดของพี่นนท์นี่ใส่สมอง ล็อคเอาไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดที่คิดว่าไม่มีทางลืม

            หลังจากนั้นเราก็รับประทานอาหารกันต่อเกือบสามสิบนาที ผมถึงลุกจากที่นั่งไปจ่ายตังค์ ขณะเดียวกันนั้นเองสามสาวที่ยังนั่งอยู่กับที่ก็กำลังกระซิบกระซาบกันอยู่เมามันส์

 

            ‘นนท์ทำไมมึงไม่บอกน้องวะว่าใช้ยังไง’

          ‘มึงไม่คิดว่าบ้านนี้เลี้ยงลูกแปลก ๆ เหรอไง’

          ‘ยังไง’

          ‘คนพี่ฟัดเพื่อนชะนีกูมาแล้วเกือบสิบ คนน้องไม่รู้กระทั่งวิธีใช้ถุงยาง ถามพี่ตัวเองยังไม่ได้คำตอบแล้วจะให้กูบอกเนี่ยนะ อีห่า ดูก็รู้ว่าพี่ฮิมหวงน้อง’

          ‘มึง แต่ถ้าเกิดน้องเลไม่รู้วิธีใช้ถุงยางแล้วติดเอดส์ขึ้นมา มันจะไม่ยิ่งแย่กันไปใหญ่เหรอ’

          ‘มึงดูหน้าเลนะ อย่าว่าแต่วิธีใช้เลย มันใช้ทำอะไรเลจะรู้จริงไหมกูยังไม่แน่ใจเลย’

 

“เสร็จแล้วครับ” เสียงตะโกนทำให้เหล่าโรซารี่ที่กำลังสุมหัวกันอยู่รีบละออก

“จ้าๆ” นนท์นี่เป็นคนรับคำ พร้อมทั้งจ้องหน้าเพื่อนสาวแต่ละคนเป็นเชิงให้ลบบทสนทนาเมื่อสักครู่ออกโดยเร็ว

 

มหา’ลัย

“น้องเลให้พี่รอเป็นเพื่อนใหม่” พี่นนท์นี่ถามหลังจากมาส่งผมที่มหา’ลัยเหมือนเดิม ยังไม่มีใครมารับเพราะผมยังไม่ได้โทรบอก

“ไม่ต้องก็ได้ครับ”

“หนูแน่ใจ ?”

“อื้อ” ผมพยักหน้ารัวๆ พี่รหัสของผมถึงวางใจแล้วขับรถออกไปจากคณะ หลังจากนั้นผมจึงล้วงมือเข้ากระเป๋าหยิบโทรศัพท์แล้วกดเบอร์โทรหาใครสักคน

(เลิกแล้ว ?)

“เลเลิกแล้วครับ”

(ห้านาที)

ว่าจบฮิมก็ตัดสาย ผมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าดังเดิม ขณะหมุนตัวว่าจะไปหาที่นั่งรอ สายตาก็บังเอิญไปเห็นใครคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้าไปในตึก เพื่อนของพี่ตี๋ ร่างสูงออกผอมนิดๆ สวมแว่นทรงสี่เหลี่ยมผมจำได้ว่าเขาคือพี่บอม เป็นเวลาเดียวกันที่คำพูดของพี่นนท์นี่พุ่งขึ้นมาในสมอง

…ถุงยาง

‘เรื่องแบบนี้ไปถามพวกผู้ชายในคณะเอาก็ได้ แต่เลือกถามคนที่เลไว้ใจนะ มันไม่ตอบก็บอกไปว่าจะฟ้องพี่ฮิม เดี๋ยวหนูก็ได้คำตอบแน่นอน’

ใจผมเต้นตึกตักๆ ตอนที่กำลังลังเลพี่บอมก็เริ่มออกจากเขตรัศมีสายตา ท้ายที่สุดผมเลยรีบดูนาฬิกา แล้วบอกกับตัวเองว่าแค่ห้านาที

ทัน!

 

บอม คือชื่อของเจ้าของร่างสูงเหยียดหนึ่งร้อยแปดสิบสามเซน สวมแว่นทรงสี่เหลี่ยมหน้าตาธรรมดาทว่ามีผู้หญิงและชายเข้าหาเยอะระดับหนึ่งเพราะคารม ชีวิตก็ดีแม้บ้านจะไม่ได้รวยมากมายแต่ก็ถือว่ามีระดับ ในระดับที่ว่าสามารถซื้อรถราคาแปดแสนขึ้นไปแล้วขนหน้าแข้งไม่ร่วง มีเพื่อนสนิทที่สุดชื่อไอ้ตี๋กับไอ้ริว คบหากันมาตั้งแต่สมัยมัธยมจนกระทั่งขึ้นมหา’ลัย โดยรวมแล้วชีวิตก็ดีมาตลอด จนกระทั่งถึงวันรับน้อง ทันทีที่เขาได้เห็นน้องเล เขารู้สึกเหมือนหัวใจมันจะขาดพอๆ กับชะตาเกือบขาดถ้าไม่ได้ตี๋ห้ามไม่ให้จีบเพราะมันรู้ว่าพ่อของน้องเลคือใคร

มาถึงวันนี้ตั้งแต่เช้า ตุ๊กแกก็ร้องทักก่อนออกจากบ้านเหมือนเป็นลางบ่งบอกว่าสิ่งไม่ดีมันกำลังจะเกิดขึ้น จนถึงตอนนี้…

“พี่บอม” ร่างสูงหันไปถามเสียงเรียก หัวใจแทบจะกระโดดออกมาข้างนอกเมื่อเห็นว่าคนเรียกคือใคร ของสูงวิศวะปีนี้จะเป็นใครไปได้นอกจากน้องเล “เลขอคุยด้วยหน่อย”

“จะสารภาพรักกับพี่เหรอครับ” เขาตอบตามนิสัย แม้จะรู้สึกเสียวสันหลังอยู่บ้างเมื่อน้องเลมาทัก อีกฝ่ายก้มหน้าก้มตาไม่ว่าอะไรต่อแต่เดินนำหน้าเขาไปในที่ลับตาคน จบที่บอมถูกพาเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง มือบางเปิดประตูให้เขาเข้าไปก่อน ทว่าพอเดินเข้ามาในห้องมืดปุ๊บเสียงล็อกกลอนก็ดังกึก จนเจ้าของใบหน้าธรรมดาต้องรีบหันกลับไปมองด้วยอาการใจสั่น “น้องเลจะทำอะไรครับ”

นี่อย่าบอกนะว่าอีกฝ่ายจะสารภาพรักกับเขาจริงๆ ?!

เลเงยหน้าที่กำลังแดงฉ่าขึ้น มือหนึ่งล้วงเข้าไปในกางเกงแล้วหยิบบางอย่างขึ้นมา สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มต้องตะโกนกู่ก้องร้องในใจว่า…

โอ้ มายก็อดเนสสสสสสส

น้องเลหยิบถุงยางขึ้นมาแบบนี้แสดงว่า…

“สอนเลใช้ถุงยางหน่อย”

ให้ตายเถอะพระเจ้า

ชาตินี้นายบอม บวรชัย พิษสมัยโสพิณคงตายตาหลับแล้ว

“ได้ไหมครับ” เขาได้สติเมื่อน้องถามอีกรอบ สติ…สติ…สติมาปัญญาเกิด คำเตือนของเพื่อนสนิทที่บอกว่าพี่ฮิมเป็นพี่ชายของน้องเลก็ลอยวิ้วเข้ามาในหัว บวกลบคูณหารดูแล้วแม้ตอนนี้กำไรจะเยอะเท่าไหร่แต่ภายภาคหน้าคำว่าขาดทุนก็ฟาดเต็มหน้าอยู่ดี เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็รู้ว่าพี่ฮิมคนนั้นหวงน้องมากขนาดไหน สอนเลใช้ถุงยางน่ะได้กำไร แต่ถ้าแลกกับความตายของเขายังไงมันก็ขาดทุนชัดๆ!

“น้องเลคือพี่…”

“ไม่ได้เหรอ”

“เรื่องแบบนี้น้องเลไปถามพี่ชายไม่ดีกว่าเหรอครับ” เขาแนะนำทว่าอีกฝ่ายกลับเม้มปากแน่นพร้อมกับทำหน้าเครียดแทน บอมเข้าใจท่าทีนั่นเมื่อเลเฉลย

“ฮิมไม่ยอมสอน”

“งั้นพี่ก็คงไม่—”

เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!!

เสียงตบหน้าสามฉาดใหญ่ดังขึ้น เขาเบิกตากว้างมองคนตรงหน้าด้วยท่าทีตะลึง มือบางที่อยู่ดีๆ ก็ยกขึ้นมาตบหน้าตัวเองสามทีจนเป็นรอยแดงที่แก้ม ยิ่งน้องผิวขาวรอยแดงที่ว่ามันก็ยิ่งชัด อาการตะลึงของเขาถูกเปลี่ยนไปเป็นอึ้งและกลัวหลังจากสามวินาทีต่อมา

“ถ้าพี่บอมไม่ยอมสอน เลจะบอกพ่อว่าพี่บอมเป็นคนตบเล”

ให้ตายเถอะพระเจ้า

ถ้าเขาขอเปลี่ยนประโยคที่พึ่งพูดไปเมื่อสักครู่ว่า ชาตินี้คงตายตาหลับแล้ว ตอนนี้จะทันไหม

 

“ไปทำอะไรมา” ฮิมถามขณะที่ผมกำลังเปิดประตูขึ้นรถ สงสัยเห็นว่าผมช้าเพราะกว่าผมจะเคลียร์กับพี่บอมเสร็จก็กินเวลาไปเกือบสิบนาที ห้านาทีที่คิดว่าจะทันกลับไม่ทันจริงๆ ด้วย แต่ยังไงซะผมก็เตรียมหาข้ออ้างเอาไว้แล้ว…

“เลไปเข้าห้องน้ำ” ผมพยายามหันหน้าหนีไปทางอื่นไม่ให้ฮิมเห็นรอยแดงบนแก้มจากการตบหน้าตัวเองของผมที่ยังคงเหลืออยู่แม้จะเริ่มจางลงบ้างแล้ว แต่ผมเป็นคนผิวขาวมันแม้จะจางลงแต่มันก็ยังชัด เพราะตอนนั้นผมก็ฟาดเต็มแรงเพื่อขู่พี่บอม เป็นไปตามที่พี่นนท์นี่ว่าพอผมบอกว่าจะฟ้องพ่อ พี่เขาก็ยอมจริงๆ ด้วย

“คนดีหิวข้าวไหม”

“อันที่จริงเลเลิกนานแล้ว พึ่งไปกินกับพี่รหัสมา” ผมตอบตามตรงก่อนถอดกระเป๋าแล้ววางลงใต้เท้า แล้วหันหน้าไปตั้งใจจะหอมแก้มฮิมอย่างที่ชอบทำ แต่แล้วก็ต้องชะงักค้างเมื่อนึกได้ว่าผมต้องหันหน้าหนีไม่ให้พ่อเห็น แต่นึกได้เมื่อสายเกินไปเพราะทันทีที่ผมชะงักเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็หันมามองพอดี

รถที่กำลังจะเคลื่อนถึงกับเบรกเอี๊ยด

ร่างสูงหันมาทางผมพร้อมกับจับใบหน้าขึ้น เสียงเข้มถามเหมือนกำลังโกรธ “ใครทำ”

“ไม่มี!”

“อย่าโกหกพี่” ฮิมข่มเสียงขู่ ตอนนั้นผมเลยทำใจดีสู้เสือ

“จริงๆ มันมียุ่งมากัดที่แก้มเลเลยตบ”

“สองข้าง ?”

“ก็มียุ่งหลายตัวไง”

“อย่าโกหกพี่” น้ำเสียงของอีกฝ่ายอ่อนลง ผมเลยรีบใช้จังหวะนี้สวมกอดร่างสูงเอาไว้แล้วกระซิบบอก

“ไม่มีจริงๆ” มันจะมีคนทำร้ายได้ยังไงในเมื่อผมตบตัวเอง “ไปกินข้าวกัน”

ผมรีบเปลี่ยนเรื่องแต่โดนจับไต๋ “ไหนบอกว่าพึ่งกิน”

“ก็เลหิวอีกไง” ฮิมถอนหายใจมือหนายื่นมาลูบแก้มผมเบาๆ แล้วก้มลงหอมทั้งสองข้าง เขาไม่ถามอะไรต่อก่อนจะเคลื่อนตัวรถออกจากมหา’ลัยไป

 

17.26 น.

ผมกลับมาถึงบ้านสิ่งแรกที่ทำคือวิ่งขึ้นห้อง โทรศัพท์สั่นตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงที่แล้วขณะที่ผมกำลังนั่งทานเป็ดเอ็มเคกับฮิม อยากเปิดดูใจจะขาด แต่จะเปิดตรงนั้นก็ไม่ได้เพราะตอนที่ตกลงกับพี่บอม ผมได้ให้สัญญาเอาไว้ว่าจะไม่เปิดต่อหน้าพ่อหรือตอนที่พ่ออยู่ในรัศมีต่ำกว่าสามเมตรเด็ดขาด

 

you have 5 new messages.

 

กดเข้าไปอ่านด้วยความเร็วเสียง

 

พี่บอม : อย่าเปิดต่อหน้าพี่ฮิม เราสัญญากันแล้วนะ

            พี่ไม่เข้าใจคำว่าสอนของน้องเล ถ้าสอนวิธีใช้ถุงยางก็อันนี้ (แนบลิงก์)

 

ผมกดเข้าไปอ่าน ให้ตายเหอะ! เว็บเดี๋ยวกับที่ผมไม่เข้าใจเลย อันที่จริงผมเคยลองหาวิธีใช้จากในเน็ตดูแล้ว แต่เหมือนมันพูดกำกวมเรื่องบางอย่างอยู่ จะเข้าใจก็เหมือนไม่เข้าใจยังไงยังงั้น เช่น…

‘วิธีใช้ถุงยางอนามัยอย่างปลอดภัย ให้เพลงรักของคุณบรรเลงได้ด้วยความมั่นใจ ไร้เอดส์’

…หรืออะไรประมาณนี้

เว็บที่พี่บอมส่งมาให้ก็ดันเป็นเว็บเดียวกันเสียด้วย

 

            เล : พี่บอม ให้เพลงรักของคุณบรรเลงได้ด้วยความมั่นใจ หมายความว่ายังไง

 

สองวิอ่าน

 

พี่บอม : พี่ว่าเลไม่ได้มีปัญหาที่การใช้ถุงยางหรอก

            เลไม่รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง   

เล : ทำอะไร ?

พี่บอม : ให้พี่พูดตรงๆ เหรอ

 

ใจผมสั่น ยิ่งสั่นเข้าไปกันใหญ่เมื่ออีกฝ่ายส่งข้อความถัดมาให้

 

‘sex’

 



 

เล : เพศเหรอ ?

พี่บอม : เกือบถูก เพศสัมพันธ์น้องเลรู้จักหรือเปล่า

เล : ไม่

พี่บอม : พี่อธิบายไม่ถูกน้องเลต้องศึกษาด้วยตัวเอง

เล : ยังไง

พี่บอม : ทำตามที่พี่บอกนะ

            เดินปิดประตู ล็อกกลอนด้วย หรือไม่ก็เข้าห้องน้ำไปเลย

            ปิดเสียงให้หมดแต่ถ้าอยากฟังให้น้องเลใส่หูฟังนะ

 

ผมเลือกที่จะไปหยิบหูฟังแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ไม่ลืมล็อกกลอนอย่างที่พี่บอมบอก

 

ตื๊อดึง!

 

พี่บอม : สุดท้ายเข้าเว็บนี้ (แนบลิงก์)

 

ผมกดทันที

 

‘www.zzzz.com’

 

เสร็จผมล่ะ!











(100%)





มีคนทายไว้ว่าเลต้องดิ้นรนหาทางรู้เอง ซึ่งมันก็ใช่จริง ตอนนี้ 11 หน้าค่ะที่รัก เยอะไหมถามใจเธอดู เราว่าเราเป็นคนหนึ่งที่แต่งแต่ละตอนได้ยาวมากเลยนะ อัพน้อยแต่ปริมาณเยอะนะจ๊ะ อิอิ หลายคนงงสินะ นักแต่งไหนบอกหื่นตอนนี้ฟาดมาแปดตอนแล้วไม่เห็นมี NC เพราะพี่เสือนี่ NC ทุกตอน 5555 ไม่ต้องห่วงสิ่งที่ท่านรอคอยมันอาจจะมาตอนหน้าก็ได้ ตอนหน้าเราจะประกาศข่าวใหญ่ด้วย

ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน จะดองแค่ไหนก็ยังมีคนมาอ่าน ฮือๆ



แท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-01-2017 09:46:43
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 17-01-2017 10:32:24
ฮิมสอนน้องมันหน่อย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 17-01-2017 11:18:12
หายไปนานมาก นึกว่าจะไม่มาต่อแล้ว ถ้าไม่มาคงเสียดายแย่เลยค่ะ เป็นนิยายที่สนุกมากๆ ค่ะ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 17-01-2017 11:41:45
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 17-01-2017 12:39:30
สงสารบอม 55555 รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 17-01-2017 14:35:38
มาแล้วววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-01-2017 16:34:38
คนให้ถุงยางเล ให้ตามขนาดน้องเลยเน้าะ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เล น่ารัก หวงของทุกอย่างหายไปกล่องนึงยังรู้
แต่ละคนที่หยิบถุงยางเลไป ใช้ไม่ได้เลยซักคน
ฮาบอม อุตส่าห์ดีใจน้องเลเรียก
"ชาตินี้คงตายตาหลับแล้ว"
แถมพาเข้าห้องล็อกกลอน
ใจเต้นคิดไปด้าย ว่าน้องเลจะสารภาพรัก  :ling1: :ling1: :ling1:
แล้วก็ "ให้ตายเถอะพระเจ้า" ตามมาติดๆ กร๊ากกกกก
อีตอนเลใช้ ตามที่บอมบอก สงสัยฮิมต้องเจอแน่ๆ  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 17-01-2017 17:13:37
พ่อฮิมจัดเต็มหน่อยค่ะ เด็กเลเรียกร้อง

ปล.สงสารอิพี่บอม 5555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 17-01-2017 17:59:12
 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 17-01-2017 18:20:44
ตายๆๆๆๆๆๆๆๆ พี่ฮิมรู้โดนกันหมดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: sodamint.11 ที่ 17-01-2017 19:34:01
นึกภาพไม่ออกถ้าฮิมรู้......ศพไม่สวยแน่นอน
เด็กน้อยจะใจแตกแล้ว...... :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 17-01-2017 20:53:27
พี่ฮิม แกรอสอนอีก 3  เดือนข้างหน้าอะป่าว
รอน้องเล  ครบ 18  พอดีไง!! :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-01-2017 21:41:00
ตายๆๆๆๆๆๆๆ บอมแกไม่รอดแน่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 17-01-2017 22:31:48
ตอนยาวจุใจมาด o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 17-01-2017 23:07:54
ให้อ่านจุใจสมใจที่รอมานานจิมๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 18-01-2017 01:28:59
ดีใจจนน้ำตาแทบไหลที่มาต่ออ่ะ แล้วมันค้างอ่ะ รอๆๆๆๆๆ นะ รอเสมอชอบเรื่องนี้ นี่อดทนอ่านถึงตีหนึ่งครึ่งเลยทั้งที่จะนอนแล้ว555+
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 18-01-2017 09:28:55
ค้างกว่าเดิม :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 18-01-2017 14:36:46
ดูเสร็จโปรดลบข้อความด้วยนะคะน้องเล ไม่งั้นความซวยจะมาถึงพี่บอมนะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 21-01-2017 22:56:24
อ่านนิยายเรื่องนี้ ต้องใจเย็นๆ เรื่องไปเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 23-01-2017 01:32:07
#9

   “เลไปไหน” ร่างสูงเอ่ยถามทันทีที่เดินเข้ามาในบ้าน นัยน์ตาคมกวาดสายตามองรอบกาย คนที่น่าจะอยู่ด้านในกลับไร้วี่แวว เลวิ่งมาก่อนแล้ว ฮิมมองไปยังร่างสูงด้านข้างที่เปลือยท่อนบน บ่าแกร่งมีเสื้อยืดสีดำพาดตัวอยู่ มือหนากำลังทาแยมใส่ขนมปัง

   “วิ่งขึ้นห้องไปแล้ว” ไทด์ตอบเสียงเอื่อยพร้อมๆ กับหยิบขนมปังทาแยมเข้าปาก “เรียกมันลงทำมาอาหารหน่อย กูหิว”

   ฮิมไม่ตอบ เจ้าของขายาวตัดสินใจเดินขึ้นไปบนห้อง มือหนาบิดกล็อนประตูก่อนจะพบกับความว้างเปล่าภายใน

   หรือจะอยู่ในห้องน้ำ ?

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   “เล”

   “…”

   “คนดี” 

   “…”

   “เลครับ” เขาเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น คนด้านในจึงเริ่มมีการโต้ตอบ

   “ฮิม…มีไร”

   “เราทำอะไรอยู่”

   “เล…เปล่า” เสียงนั้นเงียบไปสักครู่ “เลท้องเสีย”

   อีกฝ่ายว่ามาแบบนั้น เขาตัดสินใจเชื่อแม้จะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่มาทำให้รู้สึกตะขิดตะควงใจแปลกๆ ร่างหนาเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชายหนุ่มเหลียวหลังมองไปยังประตูห้องน้ำอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงปิดประตูห้องแล้วเดินลงไปด้านล่าง



   เสียงนั้นมันก้องอยู่ในหู

   เสียงร้องของผู้หญิง…เสียง…เสียง…คราง

   เสียงที่ทำให้คนฟังถึงกับเสียงสั่น ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างคล้ายตกตะลึง ใจเขาเต้นระรัว รู้สึกทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว ยิ่งตอนที่สิ่งนั้นถูกสอดเข้าไปยังด้านในของหญิงสาวที่อยู่ในคลิป คนดูถึงกับต้องนิ่วหน้าเพราะคาดว่าคงจะเจ็บน่าดู พร้อมๆ กับที่เสียงร้องเหมือนใจจะขาดดังเข้าหู ฟังจากเสียงนั้นดูทรมานทว่าใบหน้าของหญิงสาวกลับอิ่มเอมอย่างน่าประหลาดต่างจากสิ่งที่ได้ยิน
เลไม่เข้าใจ ยิ่งดูก็ยิ่งไม่เข้าใจ การกระทำของชายและหญิงในคลิปเขารู้สึกว่ามันจะไม่ได้อะไรนอกจากความเจ็บปวด

   ถึงอย่างนั้นก็ยัง…

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เฮือก!

   เสียงเคาะประตูทำให้คนที่กำลังนั่งจ้องจอโทรศัพท์ถึงกับสะดุ้ง มือบางกดปิดคลิปแล้วรีบถอดหูฟังออกเมื่อได้ยินเสียงของคนภายนอกดังเข้ามา

   “เล”

   “…” เจ้าของชื่อเบิกตากว้าง แค่ฟังเสียงก็รู้แล้วว่าเป็นของใคร

   “คนดี”  …พี่ฮิม

   “…”

   “เลครับ” เสียงนั้นดังขึ้น จนคนต้องตั้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับตอบกลับ

   “ฮิม…มีไร” เขาตอบได้แค่นั้น เสียงมันเหมือนจมหายเข้าไปในลำคอ ร่างบางที่กำลังสั่นรู้สึกเหมือนไม่มีแรงแม้แต่จะเปล่งเสียงออกมา

   “เราทำอะไรอยู่”

   “เล…เปล่า” ประโยคแปลกๆ ที่คนพูดเองยังรู้สึกได้ เขารีบแก้ใหม่ “เลท้องเสีย”

   หวังว่าพ่อจะเชื่อ และเหมือนมันจะได้ผลเมื่อคนถามเงียบไป เขารอจนกระทั่งได้ยินเสียงปิดประตูห้อง มือบางจึงจับหูฟังใส่หูอีกครั้งแล้วกดเปิดคลิป

   เสียงร้องเหมือนคนทนทุกข์ทรมาณก็ยังดังก้องอยู่ในหัวเหมือนเคย รวมถึงการกระทำ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิงที่ทำให้คนมองต้องนิ่วหน้า ความรู้สึกที่เขาไม่อาจสัมผัสถึงอะไรได้อีกนอกจากความเจ็บปวดช่างขัดแย้งกับปฏิกิริยาของหญิงสาวที่เว้าวอนให้อีกฝ่ายทำมันต่อไป เลไม่เข้าใจแต่ถึงอย่างนั้นก็ยัง…

   รู้สึกเหมือนจะหยุดดูมันไม่ได้เลย


   
   ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำต่ออีกสามสิบนาที แต่พอออกมาแล้วจิตใจมันว้าวุ่นก็เลยเล่นเกมต่ออีกเกือบสี่ชั่วโมงจนกระทั่งมีคนเรียกไปทานข้าวเย็น ผมตัดสินใจอาบน้ำก่อนแล้วค่อยเดินลงไปด้านล่าง เสียงครึกครื้นบ่งบอกว่าวันนี้พวกพี่ๆ คงมีแอลกอฮอล์เข้ามาเป็นส่วนประกอบในการกินอีก ผมเดินลงมาก่อนจะหยุดที่หน้าบันได พอหันขวาก็พบกับพี่รพที่กำลังถือข้าวผัดจานใหญ่คาดว่ากำลังจะเดินไปที่ห้องนั่งเล่น อีกฝ่ายทำหน้าเหมือนอยากให้ผมเดินตามไป ทว่าพอผมเดินตามเจ้าของแผ่นหลังแกร่งมาจึงพบว่าพวกพี่ๆ ไม่ได้สังสรรค์ในห้องนั่งเล่น แต่ออกมากินลมชมวิวที่สนามด้านหลังบ้านแทน

   บ้านหลังนี้มีสนามอยู่ด้านหลัง เป็นสนามหญ้าธรรมดา ใกล้ๆ กันมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ มันจึงเป็นสถานที่เหมาะเจาะสำหรับงานปาร์ตี้ โชคดีที่พวกเขาไม่ค่อยเชิญใครมาปาร์ตี้ที่บ้าน นอกเสียจากเพื่อนสนิทของตัวเอง

   ขาผมหยุดชะงักเมื่อเดินมาถึง ขณะไล่สายตามองแต่ละคนที่กำลังเปลือยท่อนวนเดินไปมา ตั้งแต่พี่รพพี่พึ่งเดินเข้าไป พี่ไทด์ที่กำลังนอนเอื่อยอยู่กับที่ พี่วิน…พี่เกียร์ จบด้วยคนสุดท้ายคือฮิมที่กำลังกวักมือเรียกผมอยู่

   ผมสงสัยจัง… พวกพี่เขาเคยทำแบบนั้นกันหรือยัง  พี่บอมเรียกมันว่าอะไรนะ 

Sex ?

   “น้องเล”

   เฮือก

   ผมสะดุ้งเมื่อมีคนสะกิดจากทางด้านหลัง พอหันหน้ากลับไปก็ถึงเห็นพี่ผากำลังยิ้มร่าให้อยู่ ผมถอนหายใจโล่งพลางเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงอ่อน “พี่ผา”

   “ยืนเหม่ออะไรอยู่ พ่อเราน่ะกวักมือเรียกเลหลายครั้งแล้วนะ”

   ผมรีบหันกลับไปโฟกัสที่พ่อด้วยความไวเสียง แต่ไม่ทันการเพราะร่างสูงเดินมาทางนี้แล้ว

   ฮิมไม่ได้พูดอะไรแต่เดินมาโอบไหล่ผมก่อนจะพาเดินไปหาพี่วินที่กำลังย่างกุ้งอยู่ อันที่จริงตอนที่ฮิมยกมือขึ้นมาโอบไหล่ผมสะดุ้งเล็กน้อยแต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้สังเกตซึ่งมันก็ดี

   “อ๊ะ!” พอเดินไปถึงพี่วินก็ยกจานกุ้งที่ย่างจนสุกเรียบร้อยมาให้ผม ใจดีจนน่าสงสัย ผมหรี่ตามอง ไม่ยืนมือไปรับสักทีจนคนที่ส่งจานมาให้ต้องเงยหน้าขึ้นจากเตามามองหน้าผมแทน เหมือนพี่วินจะเดาใจผมออก “เอาไปแดก คนอื่นเขากินกันหมดแล้ว”

   เกือบจะเชื่อถ้าไม่ใช่เพราะพี่ไทด์ที่กำลังนอนอยู่ถึงกับต้องลุกมาหาพี่วิน อีกฝ่ายถามด้วยสีหน้าหงุดหงิด “เมื่อไหร่กูจะได้แดก”

   นั่นไง!

   ผมหุบมือเข้ามาแทบไม่ทันเมื่อพี่ไทด์ถามแบบนั้น เจ้าของรอยสักรูปแมงป่องกรอกตามองบนเมื่อเห็นท่าทีของผม เขาบอกเหตุผลใหม่

   “มึงรีบๆ เอาไปกินให้เสร็จแล้วไปนอน” ผมยังยืนอยู่เฉยๆ

   “มึงไม่เอาเหรอ ถ้าไม่เอากูขอก่อน โคตรหิวเลยว่ะ” จบประโยคนั้นพ่อที่ยืนเงียบอยู่นานก็รับจานใส่กุ้งย่างตัวโตๆ มาจากมือพี่วิน ฮิมพาผมมานั่งที่โต๊ะขนาดใหญ่ บนโต๊ะวางอาหารที่เหมือนพี่รพจะทำเอาไว้ก่อนหน้า (ผมเดานะเพราะเห็นมีข้าวผัดที่อีกฝ่ายถือออกมาวางอยู่ด้วย)

   “รีบกินแล้วไปนอน” เสียงทุ้มว่า ร่างหนานั่งลงด้านข้างพร้อมๆ กับหยิบกุ้งไปแกะให้ผม

   ผมตักข้าวผัดที่อยู่ตรงหน้ามากินพร้อมกับถามฮิมไปด้วย “วันนี้ทำไมได้ฉลอง”

   “ไทด์มันอยากกินก็เลยซื้อมาทำเฉยๆ” พ่อตอบ มือหนาใส่กุ้งตัวโตเข้าปากผมเมื่อพูดจบ “คนดีทำอะไรอยู่บนห้องตั้งนาน”

   “เลเล่นเกม” ตัวที่สองตามมาติดๆ ผมรีบเคี้ยวให้หมดเพราะฮิมสั่งให้กินข้าวผัดตามไปด้วย พวกผมกินเงียบๆ ใช้เวลาประมาณสามสิบนาทีจนกระทั่งอิ่ม ผมรออาหารย่อยต่อเกือบสองชั่วโมง ไปเล่นกับพี่พู่กันแฟนพี่ผาที่มาวันนี้ด้วย เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แก้มแดง หน้าตาน่ารักพอสมควร ส่วนพี่ๆ คนอื่นหลังจากกินข้าวเสร็จก็ไปนั่งดื่มกันต่อ

   ฮิมรีบไล่ผมขึ้นไปบนห้องเมื่อเหมือนจะเกิดปรากฏการณ์รวมสิงห์อมควันเกิดขึ้น แต่อันที่จริงมันก็ไม่ถึงกับขนาดนั้นหรอก พวกพี่เขาไม่ได้สูบเยอะขนาดนั้นถ้าแทบกับคนที่เป็นสิงห์อมควันจริง   ๆ นะ

   “เลไปนอนได้แล้ว” นิ้วเรียวสะกิดมาที่บ่าขณะที่ผมกำลังเล่นกับพี่พู่ ผมบอกลาอีกฝ่ายก่อนจะเดินตามฮิมขึ้นไปบนห้องอย่างง่ายดาย ร่างสูงสั่งให้ผมไปแปรงฝันก่อนนอน หลังจากนั้นก็จูบหน้าผากพร้อมกับจุ๊บที่ริมฝีปากของผมก่อนจะส่งเข้านอนเหมือนอย่างเคย แต่ผมกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันแปลกไปจากที่เคย

   “ฮิมจะไม่นอนกับเลเหรอ” ผมเอ่ยถามทันทีที่เห็นว่าฮิมกำลังจะหมุนตัวกลับไปยังประตู หลังจากที่เขาให้ผมนอนลงที่เตียงและปิดไฟจนเกือบหมดทุกดวงแล้ว เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหันมาถามกลับ

   “อยากให้พี่นอนด้วยเหรอ” อยากที่ว่าคือนอนกับผมตอนนี้ เวลานี้ ผมส่ายหน้าเมื่อคิดได้ว่าพ่อคงอยากจะไปสังสรรค์กับเพื่อน แต่แล้วฮิมก็เดินกลับมาหาผมที่เตียงอีกครั้ง เขาคร่อมผมเอาไว้ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนแก้มของผมเนิ่นนานกว่าจะละออกไป “ฝันดีครับ”

   “ฝันดีครับ” ผมว่าเสียงแผ่ว ตาเริ่มจะปิดเข้าหากันจนกระทั่งร่างสูงละออกไป ปิดไฟทุกดวงแล้วเดินออกจากห้องไป



   ความเงียบในห้องอยู่ได้ไม่ถึงห้านาที ร่างเล็กที่น่าจะหลับก็ยื่นมือไปคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ใกล้ตัวพร้อมๆ กับหูฟังขึ้นมาใส่ โทรศัพท์ถูกเปิดขึ้นเผยแสงสว่างจ้าให้ตาที่ยังไม่ทันปรับแสงต้องหรี่ลง หลังจากนั้นจึงเข้ารหัสโทรศัพท์ นิ้วเรียวจิ้มเข้า Google พิมพ์ชื่อเว็บที่พี่บอมเคยให้โดยที่ไม่ต้องเปิดดูเพราะตอนนี้จำขึ้นใจ ก่อนจะกดดูคลิปใหม่

   อีกครั้ง…และอีกครั้ง


   วันต่อมา หลังจากไปออกกำลังกาย อาบน้ำ แต่งตัว ผมก็มาเรียนตามปกติโดยวันนี้พี่วินเป็นคนมาส่ง อีกทั้งสองคนที่หายหน้าหายตาไปหลายวันก็กลับมาเรียนแล้วด้วย

   “เอ็กซ์!” ผมตะโกนร้องเสียงสูง เมื่อเห็นร่างสูงเดินเข้ามาในห้อง อีกฝ่ายหันหน้ามาสบตากับผมที่กำลังกวักมือเรียกเขามานั่งด้วยกัน “หายไปไหนมาหลายวัน”

   “เป็นไข้” เสียงทุ้มที่ตอบกลับทำเอาผมแทบจะน้ำตาไหล ผมคิดถึงเสียงเขาชะมัด

   “หายหรือยัง” เอ็กซ์จับมือผมไปแนบที่หน้าผากแทนคำตอบ อุณหภูมิปกติไม่ร้อนไม่เย็นบ่งบอกว่าเขาคงจะหายเป็นไข้แล้ว ร่างสูงนั่งลงข้างพิษห่างจากผมไปโต๊ะหนึ่งเพราะขนาบข้างผมตอนนี้มีเกี๊ยกกับพิษคุมสองด้าน หลังจากเริ่มคาบได้ไม่นานดินก็เดินเข้ามาในคลาส เขาโดนอาจารย์เอ็ดอยู่พักหนึ่งก่อนจะปล่อยให้มานั่งเรียนตามปกติ ผมไม่ได้คุยกับเขาเพราะเรียนอยู่จนกระทั่งพักเที่ยง เรามีเรียนต่อตอนบ่าย พิษจึงพาผมไปกินข้าวที่โรงอาหาร ตอนนั้นถึงมีโอกาสถาม แต่พอผมถามว่าทำไมถึงหายหน้าไปหลายวัน อีกฝ่ายก็ตอบกลับด้วยเหตุผลเดียวกันกับเอ็กซ์เป๊ะ

   “เป็นไข้”

   “ช่วงนี้ไข้หวัดมันระบาดเหรอ”

   “?” ดินทำหน้าสงสัยผมเลยรีบอธิบาย

   “เอ็กซ์ก็พึ่งเป็นแต่หายแล้ว” เจ้าของชื่อกับคนสงสัยมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่พวกเขาไม่พูดอะไร มองเสร็จก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ ทั้งโต๊ะเลยเต็มไปด้วยความเงียบเมื่อไม่มีใครพูดอะไร

   จะว่าไปแล้วพวกเขาก็ไม่ค่อยคุยกันเลยแฮะ ส่วนใหญ่แล้วจะคุยกับผมมากกว่า ไม่ใช่คุยอะไรหรอก ผมแค่ถามเยอะส่วนพวกเขาก็เป็นคนตอบ ที่เงียบๆ กันอยู่สงสัยยังไม่สนิทกันเท่าไหร่มั้ง เพราะอันที่จริงเราก็พึ่งมาอยู่เป็นกลุ่มได้แค่สัปดาห์กว่าๆ เอง

   หลังจากทานข้าวเสร็จ เข้าตอนบ่ายผมเรียนแคลคูลัสด้วยความเข้าใจปนงงๆ คาดว่ากลับบ้านคงต้องให้ฮิมอธิบายให้ฟังใหม่ เพราะผมมันหัวช้านิดหน่อยเรื่องเลขสำหรับวิศวะนะ นอกเสียจากจะเทียบกับคณะอื่นที่ไม่ค่อยใช้เลข ผมจึงจะเทพพอสมควร

   ก่อนกลับบ้านผมขอเบอร์เพื่อนในกลุ่มทุกคนเอาไว้เผื่อได้ติดต่อ หลังจากนั้นพ่อก็มารับกลับ ระหว่างขึ้นรถผมเผลอแชทกับพี่บอมนานจนอีกฝ่ายถาม

   “ทำอะไรอยู่” ผมเกือบสะดุ้งแต่แล้วก็ต้องทนเก็บอาการสั่นๆ พร้อมทั้งรีบกดเปลี่ยนหน้าโปรแกรมแชทเป็นเกมแทน

   “เลเล่นเกม” ว่าพลางโชว์โทรศัพท์ให้ฮิมดู เขาปรายตามองมาทีนึงแล้วไม่ได้ว่าอะไรต่อ โชคดีที่ปิดทั้งเสียงทั้งการสั่น ขืนถ้ามันขึ้นมาว่า ตื๊อดึง! ผมอ้างว่ากำลังเล่นเกมไม่ได้แน่ๆ ผมมองพ่อต่ออีกนิดหน่อยจนกระทั่งแน่ใจว่าพี่ฮิมเลิกสนใจผมแล้วจริงๆ จึงหันมาแชทกับพี่บอมต่อ


พี่บอม : เมื่อวานน้องเลดูไปกี่คลิป
   เราคุยกันถึงตอนที่ผมบอกว่าผมเข้าใจแล้วว่า sex อย่างที่พี่บอมว่านั่นมันหมายถึงอะไร

   เล : สามมั้ง
   พี่บอม : เลอย่าหมกมุ่นนะ
   เล : เลเปล่า
   พี่บอม : โอ๊ย พี่รู้สึกผิดจัง
   เล : เกือบตายแล้ว เมื่อกี้ฮิมหันมา
   พี่บอม : งั้นเลิกคุย ลบแชทด้วยครับ

   
   พี่บอมย้ำเหมือนทุกครั้งที่คุย เหมือนเขาจะกลัวฮิมมาอ่านมันมากจริงๆ นะ ผมยอมทำตามคนขอด้วยการกดลบบทสนทนาออกจนหมดเกลี้ยงไม่เหมือนเอาไว้แม้กระทั่งประวัติการสนบทนา ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วยืดตัวไปหอมแก้มคนตัวสูงเพราะนึกได้ว่าวันนี้ยังไม่ได้ทำ ฮิมตอบรับด้วยการยกมือขึ้นมาขยี้ศีรษะผมเบาๆ ผมเลยถือโอกาสเอียงหัวซบลงตรงบ่าแกร่งทันที จากนั้นเราก็เงียบ… เงียบจนกระทั่งถึงบ้าน…


   19.20 น.

   “พี่ฮิมอธิบายตรงนี้ให้เลฟังหน่อยสิ” หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ ผมเดินถือชีทมาให้ร่างสูงที่กำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่เงียบๆ บริเวณริมสระน้ำ ฮิมพยักหน้า มือหนาชูขึ้นก่อนจะดึงตัวผมที่กำลังยืนค้ำหัวเขาอยู่ลงมานั่งตักแกร่ง เขาใช้มือโอบเอวผมเอาไว้แบบหลวมๆ ขณะเดียวกันที่ใบหน้าหล่อเหลาวางคางลงบนไหล่บาง เพื่อมองดูชีทในมือไปพร้อมๆ กับผม ฮิมปรายสายตาอ่านรวดเดียวจากนั้นเขาก็แย่งปากกาที่ผมกำลังควงเล่นในมือแล้วถามเสียงทุ้ม

   “คนดีไม่เข้าใจตรงไหน” ผมเอนหลังพิงอกแกร่งแล้วชี้นิ้วไปตรงที่ที่ผมวงกลมเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว กลิ่นเบียร์อ่อนๆ ลอยเข้าจมูก

   “ตรงนี้” พอบอกสาเหตุปุ๊บ ฮิมก็ร่ายคำอธิบายกรอกเข้าหูผมอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นานก็เข้าใจ ต้องยอมรับว่าพ่อเป็นคนที่ติวเก่งจริงๆ หรือไม่ก็เขาติวให้ผมมากจนชำนาญ (เขาเป็นคนสอนการบ้านให้ผมตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนชั้นปอหนึ่ง) เพราะฮิมเรียนเก่งมาก เรื่องไหนที่ผมไม่เข้าใจพอเอาไปถามเขาทีไรก็จะได้คำตอบที่ถูกต้องอยู่เสมอ อีกฝ่ายคิดโจทย์ขึ้นมาใหม่ที่คล้ายๆ กับโจทย์ปัญหาที่ผมนำมาถามแล้วให้ผมลองแก้ พอได้คำตอบที่ถูกต้องซึ่งบ่งบอกว่าผมเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วจริงๆ พ่อถึงยอมปล่อยให้ผมพัก

   เราย้ายสถานที่ติว เพราะด้านนอกร้อนมาก ผมน่ะไม่ร้อนหรอกแต่ฮิมสิเหลือไหลโชก เขาตัดสินใจว่าจะสอนบทเรียนต่อไปให้ผมล่วงหน้าก่อน ดังนั้นเราจึงย้ายสถานที่จากริมสระน้ำมาเป็นบนห้อง เปิดแอร์ฉ่ำๆ แล้วนอนติวกันบนเตียง แต่ก่อนจะเริ่มบทเรียนล่วงหน้า เขาสั่งให้ผมไปอาบน้ำให้เรียบร้อย ส่วนอีกฝ่ายเปิดประตูห้องเข้ามาหลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ ในมือหนาถือชีทปึกใหญ่มาด้วย

   “อะไรอ่า” ผมถามพลางชะโงกหน้าเข้าไปดูด้วยความสนใจ

“ชีทตอนปีหนึ่ง” ฮิมว่าขณะชีทมากมายถูกรื้อลงบนเตียง นัยน์ตาสีดำสนิทไล่มองผ่านชีทแต่ละแผ่น จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจหยิบชีทแผ่นหนึ่งขึ้นมา ส่วนที่เหลือกวาดมันลงพื้นจนเกลี้ยง ฮิมเอามันให้ผมแล้วออกคำสั่ง “อ่านรอพี่”

“อือ” ผมพยักหน้ารับพร้อมกับมองตามร่างสูงที่เดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องน้ำไป ส่วนผมกระโดดขึ้นเตียง นอนราบลงแล้วยกชีทขึ้นอ่าน แต่อ่านได้แต่สิบวิก็ต้องวางมันลง ให้ตายเหอะไม่เข้าใจเลย “ยาก”

ผมบ่นก่อนจะนอนตะแคงข้างสายตาบังเอิญไปเห็นโทรศัพท์ อะไรบางอย่างทำให้ผมอหยิบมันขึ้นมาแล้วกดเข้าเว็บที่พี่บอมให้เมื่อวาน

   เลอย่าหมกมุ่นนะ

   นิดเดียวเอง คงไม่หรอกมั้ง…


(มีต่อ)
   
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160117#8 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 23-01-2017 01:34:45
ซ่า ซ่า

   ร่างสูงยืนนิ่งอยู่ใต้ฝักบัว ฮิมปล่อยให้น้ำสีใสล้างคราบสบู่ออกไปจากเรือนกายแกร่งจนหมด จากนั้นมือหนาจึงเอื้อมไปปิดก๊อกก่อนหยิบผ้าขนหนูเช็ดไปตามลำตัว ตามด้วยชุดคลุมที่ทำจากผ้าลินินสีดำสนิทแล้วเดินไปเปิดประตูห้อง

   พรึบ!

   คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน นัยน์ตาคมมองปฏิกิริยาแปลกๆ ของเล หลังจากเห็นเขาเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำเจ้าตัวก็รีบมุดเข้าผ้านวมคลุมโปงตัวเองเอาไว้สักพักก็โผล่เฉพาะใบหน้าขาวเนียนที่ขึ้นสีชมพูอ่อนๆ ออกมาให้เห็น

   “ทำอะไรอยู่ครับ”

   “เลเปล่า” น้องว่าก่อนจะมุดเข้าใส่ผ้านวมผืนหนาอีกครั้ง ร่างเล็กเกลือกกลิ้งไปมาบนเตียงจนกระทั่งเขาแต่งตัวเสร็จแล้วเดินไปเปิดกระชากผ้านวมผืนนั้นออก คนที่กำลังนอนอยู่ด้านใต้ถึงกลับทำหน้าผวาใส่

   “เป็นอะไร”

   “เลเปล่า”

   “แล้วสั่นทำไม”

   “…”

   “ตอบครับ”

   “เมื่อกี้ดูหนังผีแล้วกลัว” คนฟังเชื่อกึ่งไม่เชื่อกึ่ง ฮิมเสยผมที่เปียกจากการอาบน้ำไปด้านหลัง ก่อนขึ้นไปนั่งลงบนเตียง มือหนาจับคนที่ยังสั่นอยู่เหมือนเดิมขึ้นนั่งตักพร้อมๆ กับหยิบชีทที่ถูกวางทิ้งและคาดว่าเลคงยังไม่ได้อ่านขึ้นมา เขาจูบขมับน้องทีหนึ่งก่อนจะบังคับให้อีกฝ่ายเอนตัวพิงหลังกับอกแกร่ง ใบหน้าหล่อเหลาวางคางที่ไหล่บางเหมือนเคย กลิ่นหอมจากคนที่พึ่งอาบน้ำเสร็จทำให้อดไม่ได้ที่จะขยับใบหน้าเข้าไปหอมแก้มขาวนั่นแรงๆ “ฮือ”

   เลแสดงปฏิกิริยาด้วยการถอนหายใจเล็กน้อย เขาละริมฝีปากออกจากแก้มแล้วเริ่มบทเรียนจริงจัง แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่คนบนตักก็เริ่มอยู่ไม่นิ่งเท่านั้น ร่างเล็กขยับไปมาจนเขาที่เปรียบเสมือนเบาะรองรับเริ่มจะไม่นิ่งตาม ฮิมหยุดการอธิบายเอาไว้ เขาถามเลด้วยน้ำเสียงจริงจัง

   “คนดีไม่มีสมาธิเลย เป็นอะไรไปครับ” เขาจ้องเข้าไปในนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน กระทั่งเลหลบสายตา ใบหน้าขาวขึ้นสีชมพูอ่อนระเรื่อผิดสังเกต แต่ยังไม่ทันได้ถามต่อ คนถูกถามก็คลานลงจากตักแล้วมุดตัวเข้าผ้านวมอีกครั้ง

   “เลง่วงนอนแล้ว”

   “งั้นก็นอน” เสียงทุ้มว่าขณะวางชีทลงบนโต๊ะข้างเตียง ร่างสูงเดินไปปิดไฟทุกดวงก่อนจะเอนกายนอนลงบนเตียงขนาดใหญ่ ท่ามกลางความมืดมือหนาตั้งใจจะคว้าเอวเล็กมากอดด้วยความเคยชินทว่าทันทีที่แขนแตะที่ลำตัวบาง เลก็กลิ้งหนีไปจนเจ้าของแขนที่คว้าได้แค่อากาศต้องขมวดคิ้วเพราะรู้สึกได้ถึงความผิดปรกของอีกฝ่าย

   ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว…

   “อย่ากอดเล” เสียงหวานให้เหตุผลกับการกระทำดังกล่าว “เลอึดอัด”

   “งั้นพี่จะไปนอนห้องรับแขก”

   “อย่า!!” มือบางยื่นมาจับมือของเขาเอาไว้ ทว่าเจ้าของมือกลับยังไม่ยอมโผล่หน้าออกมาจากผ้านวมผืนหนา “นอน ฮิมนอนกับเล…เลไม่ได้อึดอัด…แค่ร้อน”

   “…”

   “แค่นอนกับเล แต่อย่ากอดเล” คนที่กำลังจะลุกออกจากเตียงตัดสินใจเอนกายนอนลงที่เดิมอีกครั้ง ร่างสูงนอนตะแคงข้าง นัยน์ตาสีดำรัตติกาลมองไปยังมือบางที่ยังจับมือของเขาเอาไว้แน่น จากนั้นจึงเลื่อนสายตาไปที่ผ้านวมสีขาวสะอาด เขาจ้องมันเข้าไปราวกับว่าจะมองทะลุเข้าไปยังด้านใน

สิบนาทีต่อมาเสียงในห้องเงียบไป แต่ร่างสูงบนเตียงขนาดใหญ่ไม่ได้หลับอย่างที่ควรจะเป็น…

   เขารอจนกระทั่งได้ยินเสียงลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอจากคนข้างกาย กระทั่งเลหลับสนิท ฮิมลุกขึ้นนั่งพิงแผ่นหลังกับหัวเตียง มือหนาลูบศีรษะของคนที่กำลังหลับสนิทเบาๆ ขณะที่มืออีกข้างเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ของน้องขึ้นมากดดู

   หน้าจอไอโฟนรุ่นล่าสุดสว่างวาบ นิ้วเรียวกดเข้ารหัสที่เขารู้อยู่แล้วก่อนจะเข้าเช็คทุกแอพพลิเคชั่นที่เลเล่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกมกับข้อความจากเพื่อนตั้งแต่สมัยที่เรียนอยู่มัธยม

   ไม่มีอะไรผิดสังเกตแม้แต่อย่างเดียว

   ฮิมกดปิดหน้าจอก่อนจะวางโทรศัพท์ลงที่เดิม ร่างหนาล้มตัวลงนอนพร้อมกับตัวน้องเข้ามากอดแบบหลวมๆ เลไม่ได้กลิ้งหนีเหมือนคราวก่อนเพราะอีกฝ่ายหลับไปแล้ว ปฏิกิริยาแปลกๆ นั่นแหละที่ทำให้เขาสงสัย แต่เมื่อเช็คดูแล้วมันไม่มีอะไร ดังนั้นก็ไม่น่าจะมีอะไร…

   ร่างสูงพยายามเลิกคิดก่อนหลับตาลง แม้ความสงสัยในใจจะยังมีอยู่นับไม่ถ้วน



   2 วันต่อมา

   เล : พี่บอมเลแย่แล้ว

   ข้อความรับอรุณวันใหม่จากน้องเลถึงนายบวรชัย ทำให้วันนี้ทั้งวันแทบจะเต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดผวา อันที่จริงแล้วตั้งแต่ที่เขาได้เป็นเจ้าของหลักสูตร how to use a condom (ฉบับสอนน้องเล) อาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ มันก็ประดังเข้าใส่ จน ณ ปัจจุบันขอบตาแทบจะดำเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้ว กระทั่งเพื่อนที่ไม่เคยรู้สึกรู้สาอะไรกับเขายังถึงกับต้องแสดงความห่วงใยด้วยการถามไถ่ว่าไปทำอะไรมา คิดดูแล้วกันว่ามันหนักขนาดไหน

   ถึงแม้ตั้งแต่ที่เขาตอบรับคำบังคับของปีศาจภายใต้คราบนางฟ้าตัวน้อยอย่างน้องเลว่าจะสอนวิธีการใช้ถุงยางที่อยู่ๆ หลังจากที่ได้คุยกับเลไปมันก็เปลี่ยนเป้าหมายเป็นวิธีการ ‘ทำ’ เรื่องอย่างว่าแทน ตั้งแต่วันนั้นจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีคนของพี่ฮิมปีสี่มาป้วนเปี้ยนเลยแม้แต่คนเดียว

   มันก็ยังรู้สึกผวาแปลกๆ เหมือนเขาเป็นนักโทษที่กำลังรอการตัดสินวันประหารชีวิตอะไรประมาณนั้น

   ใช่ว่าเขาจะไม่ไว้ใจน้องเลเรื่องที่สัญญากันว่าจะไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับพี่ฮิม เขาเชื่อใจ แต่การที่เลเป็นน้องของพี่ฮิมนี่แหละที่มันน่ากลัว

   เลจะส่งข้อความมาทุกวัน วันละนิดวันละหน่อย ส่วนใหญ่เจ้าตัวจะรายงานว่าวันนี้ทำอะไรมากกว่าซึ่งมันก็เหมือนๆ กันทุกวันคือดูคลิป เหมือนเลจะสนใจเรื่องนี้พอสมควร และการเป็นอาจารย์มันก็ทำให้เขาได้รู้อยู่อย่างหนึ่งว่าลูกศิษย์คนนี้… ไม่ใช่เล่น จากที่น้องรายงานวันหนึ่งเลดูไม่ต่ำกว่าสามรอบ ไม่รู้ว่าไปเก็บกดมาจากไหนหรือไม่ก็คงเป็นเพราะการเปิดโลกใหม่ครั้งแรกมันเลยอาจจะทำให้น้องเอ่อ…คึกไปบ้าง เขาพยายามบอกแล้วว่าอย่าหมกมุ่นแต่เหมือนจะไม่เป็นผล อีกอย่าง…บอมไม่รู้ด้วยว่าตอนดูน้องทำกับตัวเองไปด้วยหรือเปล่า แต่คงจะไม่ เหตุผลก็เพราะข้อความรับวันใหม่ที่ถูกส่งมานี่แหละ

   มันถูกส่งมาขณะที่เขากำลังทานข้าวเช้าก่อนที่เขาจะเข้าค่ายสำหรับปีสองของมหา’ลัย พอโทรศัพท์สั่นคนที่กำลังตักโจ๊กเข้าปากก็ถึงกับทำโจ๊กพุ่ง

   เล : พี่บอมเลแย่แล้ว

   คนที่กำลังกินข้าวเช้าต้องรีบวางมือมาพิมพ์ตอบ

   บอม : เป็นอะไรครับ
   เล : ไม่รู้ แต่เลไม่เหมือนเดิม ตอนดูคลิปช่วงแรกมันเฉยๆ แต่ช่วงนี้มันแปลกๆ
   บอม : ยังไง


   คนอ่านได้แต่ขมวดคิ้วงง จนอีกคนตอบกลับ ข้อความที่กำลังให้บอมถึงกับเบิกตากว้างทันทีที่ได้อ่านข้อความ มือหนาสั่นไหวชนิดที่ปล่อยว่าโทรศัพท์หล่นลงสู่ถ้วยใส่โจ๊กเบื้องล่าง

   “ฉิบหาย!” ทันที่ทีมันจมดิ่ง บอมก็รีบดึงมันขึ้นมาทว่าไม่ทัน มือถือที่ใกล้พังดับสนิท เปิดไม่ติดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่นั่นไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือข้อความที่น้องเลส่งมาให้เมื่อสักครู่แล้วเขายังไม่ได้ตอบ มันสำคัญชนิดที่ว่าต้องตอบให้ได้ แต่มือถือที่เป็นหนทางเดียวที่เขาใช้สื่อสารกับน้องเล กลับเสียไปซะแล้ว บอมจำเบอร์เลไม่ได้ จะเอาไปซ่อมก็คงไม่ทัน อีกอย่างจะไปหาน้องที่คณะก็ไม่ได้เพราะวันนี้เขาจะไปเข้าค่าย แถมยังเป็นค่ายพักแรมสามวันสองคืน

   ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยวะ!!

   ร่างหนาถึงกับเสียวสันหลังวาบ เขาภาวนาให้เลพบทางออกโดยที่ไม่ต้องไปถามใคร มันเป็นสัญชาติญาณของผู้ชายยังไงก็ต้องรู้บ้างแหละน่า แต่แค่หนังโป๊น้องเลยังไม่เคยดูเลยนี่หว่า

   โอ๊ยย ชีวิตเขาได้บรรลัยจริงๆ ก็คราวนี้แหละ!




   ทำไมพี่บอมไม่ตอบ

   ผมเม้มปากเป็นเส้นตรงด้วยความกังวลก่อนจะรีบวางโทรศัพท์ลงเมื่อเห็นพี่ฮิมเดินลงมาจากชั้นสอง ร่างหนาเดินอ้อมมาทางด้านหลังก่อนก้มลงหอมที่กอดผมฟอดใหญ่แล้วถามเสียงทุ้ม

   “ทำไมวันนี้ตื่นเช้า”

   วันนี้ผมตื่นเป็นคนแรกของบ้าน หลังจากอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ พอเดินลงมาก็พบว่าพี่รพกำลังทำอาหารเช้าให้พอดี อ้อ! พี่รพกลับมาทำอาหารเช้าให้ผมแล้วหลังจากที่ไม่ทำอยู่หลายวัน ข้าวเช้าของวันนี้คือไข่กระทะ เคยกินกันไหมครับเป็นไข่ทรงเครื่อง ใส่หมู กุ้งนั่นนู้นนี่เข้าไป ไม่! ประเด็นอยู่ที่วันนี้ผมตื่นเช้า ผมไม่ได้ตื่นเช้าหรอก ผมยังไม่ได้นอนต่างหาก!

   ผมว่าผมเริ่มหมกมุ่นกับเรื่องนั่นอย่างที่พี่บอมได้เตือนไปแล้วจริงๆ ทีแรกก็กะจะดูเฉยๆ เอาไปเอามาเป็นว่ามันเริ่มจะไม่เฉยแล้วน่ะสิ ยิ่งดูร่างกายผมมันก็ยิ่งแปลกๆ ผมบอกไม่ถูกแต่มันร้อนๆ ร้อนมาจากข้างใน อาการแบบนี้มันเริ่มขึ้นตั้งแต่สองวันที่แล้ว ทว่าไม่ได้รุนแรงอะไรมากจนกระทั่งเมื่อวาน… พอกดเข้าไปดูอาการมันก็แสดงขึ้นมาอีก ร้อนจนทำเอาผมกระสับกระส่ายไปทั้งคืน ทำเอาหลับๆ ตื่นๆ ที่ว่าตื่นเช้าก็เพราะแบบนี้แหละ ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนตีห้า อาการร้อนรุ่มภายในหายไปแล้วแต่ข่มตาหลับต่อไม่ลง สุดท้ายผมเลยตัดสินใจลุกขึ้นมาอาบน้ำ แล้วทักแชทไปถามสาเหตุจากพี่บอมแต่พี่บอมยังไม่ได้ตอบ

   ให้ตายเถอะ! ผมกังวลจริงๆ นะเพราะเมื่อวานนอกจากจะร้อนแล้วตรงนั้นของผมยัง…

   “เล”

   “เอ๊ะ!”

   “ทำไมทำหน้าเครียด” พ่อถามขณะถือจานใส่อาหารเช้าแบบเดียวกันมานั่งลงข้างๆ ผม

   “เลไม่มีอะไร” ผมเลี่ยงที่จะตอบไปตามตรง โชคดีที่ฮิมไม่ถามต่อเพราะทันทีที่ผมพูดจบ เสียงเจื้อยแจ้วจากพี่ๆ ที่พึ่งพากันเดินลงมาก็สร้างบทสนทนาใหม่ขึ้นมาแทน ส่วนใหญ่แล้วจะถามว่าทำไมผมถึงตื่นเช้า ผมได้แต่ยิ้มๆ ตอบไปในที่สุด…



   วันนี้แปลก เพราะพี่เกียร์ที่ไม่เคยตื่นขึ้นมาให้เห็นหน้าในตอนเช้าเป็นคนมาส่งและมารับผมด้วยตัวเอง เลิกเรียนตอนบ่ายสามกว่าๆ พี่เกียร์พาผมกลับบ้าน บนรถเต็มไปด้วยความเงียบงันเพราะผมยังกลัวพี่เขาเหมือนเคย พี่เกียร์น่ากลัว น่ากลัวมาก… อีกฝ่ายถามผมสองสามประโยคผมก็ตอบสองสามประโยคไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

   เรามาถึงบ้านตอนบ่ายสามเกือบสี่ เรื่องแปลกเรื่องที่สองคือพี่ๆ ทุกคนกลับมาจากมหา’ลัยหมดแล้ว และกำลังเล่นเกมแข่งรถกันอย่างเมามันส์ ผมขึ้นไปเปลี่ยนชุดและเดินลงมาด้านล่างกะว่าจะให้ฮิมสอนอีกครั้งเพราะวันนี้ทั้งวันเรียนไม่รู้เรื่องเลย มัวแต่กังวลว่าเมื่อไหร่พี่บอมจะตอบซึ่งอีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบคำถามของผมแม้จะขึ้นว่าอ่านแล้วก็ตาม

   “พ่อสอนเลหน่อย” ผมเดินไปหาร่างสูงท่ามกลางพี่แต่ละคนที่กำลังซัดเบียร์กับเล่นเกมกันอยู่ฮิมพยักหน้า ร่างสูงลุกขึ้นก่อนย้ายที่ไปอยู่ตรงมุมที่ห่างจากทุกคนออกมาอีกนิดหน่อย เขาจับผมนั่งตักพร้อมกับกลิ่นเบียร์อ่อนๆ ลอยเข้าจมูกเหมือนเคย แต่คราวนี้มันมีอะไรที่แตกต่างกันออกไป

   ฮิมไม่ได้ใส่เสื้อ เขาเปลือยท่อนบนโชว์รอยสักรูปมังกรตรงช่วงต้นแขนซ้ายลามไปถึงบ่าแกร่ง ท่อนล่างใส่แค่กางเกงยีนส์ขาดๆ ธรรมดาเหมือนพวกพี่เขาจะไปไหนกันมาก่อนที่จะเข้าบ้าน ในขณะที่แขนแกร่งโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆ ผิวหนังของอีกฝ่ายมันเสียดสีกับผมทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยเป็น ใจเต้นระส่ำ อาการเหมือนไฟฟ้ากำลังไหลผ่านไปทั่วร่าง แต่ไม่ได้รุนแรงมากพอที่จะทำให้ผมทำตัวผิดสังเกต

   ผมเอนหลังพิงกับอกแกร่ง นั่งฟังเสียงแหบพร่าอธิบายอยู่ข้างๆ หู มือหนาเขียนจุดที่น่าสนใจและทริคเล็กๆ เอาไว้ใส่กระดาษให้ผมได้อ่านทบทวนทีหลัง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่แบบไม่อายคนติวเมื่อเนื้อหามันเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ พ่อไม่ได้ว่าอะไรฮิมหัวเราะเล็กน้อยก่อนเลื่อนมือขึ้นมาดันศีรษะของผมเข้าไปใกล้แล้วหอมแรงๆ ตรงขมับ

   “ต่อไหมครับ” ฮิมหยุดการอธิบายแล้วถามความคิดผม

   “อือ” ผมครางรับพร้อมกับเอนศีรษะพิงบ่ากว้าง แวบเดียวที่ผมละความสนใจจากคำอธิบาย สายตาก็ดันไปเห็นลำคอขาวที่อยู่ไม่ไกล ผมเห็นในระยะนี้บ่อยเพราะผมนั่งตักเขาบ่อยแต่ไม่ได้สนใจ

   แต่ตอนนี้มัน…

   อะไรบางอย่างทำให้กระแสไฟฟ้าในร่างกายที่กำลังไหลพล่านมันมากกว่าเดิม กลิ่นเบียร์อ่อนๆ ปนกลิ่นน้ำหอมของฮิมที่ผมเคยบอกว่าเป็นความรู้สึกลึกล้ำที่ผมเข้าไม่ถึง ตอนนี้มัน …ดึงดูด แขนแกร่ง อ้อมกอด การเสียดสี ทุกสิ่งที่กล่าวมานี้ไม่รู้เพราะสาเหตุไหนที่ทำให้ผมหอบหายใจพร่าได้ขนาดนี้

   ไม่…ไม่เคยเป็น ความรู้สึกแบบนี้ผมไม่เคยสัมผัส นอกจากนั้นอะไรบางอย่างมันยังผุดขึ้นมาในสมอง

   คอ…

   ผมเคยดูในคลิป ผู้ชายในนั้นเขาจะทำกับคอของผู้หญิงแบบนี้…

   งับ


   
   ฮิมสังเกตถึงความผิดปรกติของน้องได้หลังจากติวผ่านไปเกือบสิบนาที จู่ๆ เสียงหอบหายใจพร่าก็ดังเข้ามาในหู เป็นผลให้คนที่กำลังอธิบายต้องหยุดลงแบบกะทันหัน ทว่าคนฟังกลับไม่ได้ทักท้วงอย่างที่ควรจะเป็น เขามองไม่เห็นหน้าเล ไม่รู้ว่าน้องกำลังจะทำอะไร สิ่งเดียวที่สัมผัสได้คือร่างบางที่กำลังเบียดเข้ามากับเสียงหอบพร่าอย่างที่เลไม่เคยทำ

   จนกระทั่ง… รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาคลอเคลียบริเวณลำคอ ต่อด้วยสัมผัสเปียกชื้นที่ถึงกับทำให้ร่างสูงต้องเบิกตากว้าง

   เล…

   บางอย่างมันปลุกสัญชาติญาณให้เขากอดเอวบางแน่นขึ้น ในขณะที่อีกฝ่ายเปลี่ยนท่านั่งโดยการหมุนตัวเข้ามาประจันหน้าทว่าริมฝีปากยังไม่ละออกจากลำคอ แขนเรียวเอื้อมมือทั้งสองข้างมาประสานกันด้านหลังคอของเขาเอาไว้ สิ่งที่น่าแปลกใจคือเลทำไปเหมือนคนไม่ได้สติ

   ริมฝีปากเล็กกำลังดูดดันเนื้อบริเวณนั้นขึ้นก่อนจะใช้ลิ้นร้อนเลียเบาๆ ทำซ้ำๆ ที่จุดเดิม ฮิมปล่อยให้น้องทำแม้จะรู้ว่าหลังจากนั้นมันจะขึ้นเสมือนรอยจูบก็ตาม กายหนาเอนหลังพิงกับกำแพง ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงสูดกลิ่นหอมแชมพูที่กลุ่มผมสีดำสนิท นัยน์ตาคมหลุบลงมองคนในอ้อมกอดก่อนจะเงยหน้าขึ้น ประสานสายตากับเพื่อนแต่ละคนที่กำลังมองมาอยู่

   ในห้องเงียบมาได้เกือบสามนาที… แล้ววินก็เป็นคนทำลายความเงียบนั้น




   “เล มึงทำอะไรน่ะ”




100%

 

ยังไม่ได้ตรวจคำผิด ยังไม่ได้แก้ ยังไม่ได้อ่าน แต่งเสร็จลงเลย
ทีแรกจะลงตั้งแต่ศุกร์แล้ว แต่ไปอ่านอันเก่าแล้วรู้สึกไม่โอเคเลยปั่นใหม่
ปั่นเสร็จลงเลยเพราะสัญญากับเพื่อนเอาไว้ว่าจะอัพตั้งแต่ศุกร์ ตอนนี้จันทร์แล้วกลัวโดนถีบหัวแตกตาย5555
ฉากอิอิต้องเลื่อนเพราะหน้าครบโควตาต่อบทแล้ว สำหรับน้องเลบทนี้ขอบอกว่าเลอย่าหมกมุ่นนนน!!

 

แท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 23-01-2017 07:13:59
ความจะแตกเร็วๆนี้ล่ะ 5555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 23-01-2017 07:28:30
เลเอ้ย......พ่อแกก็อดทนมานานเหมือนกันแหละ

จัดไปหน่อยพ่อฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-01-2017 07:31:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: loveyou15379 ที่ 23-01-2017 11:55:17
อิบอมตายแน่ ตายแน่อิบอมมม โอยตายๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 23-01-2017 12:02:08
หรือชีวิตพี่บอมจะถึงกาลอวสาน 55555555555555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-01-2017 12:33:56
ค้างมากกกกกกกกกกกกก
และสงสารบอมมากกกกกกกกกกกกก
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 23-01-2017 13:05:20
รู้สึกสงสารฮิมนิดๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 23-01-2017 13:36:58
กลัวชีวิตพี่บอมจะหาไม่จริงๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 23-01-2017 14:14:13
บอมเอ๋ย บอม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 23-01-2017 14:44:56
น้องเล หนูทำอะไรลงไปคะลูก  อ๊ายยยยย......... พี่ฟิน :ling1: :ling1: :ling2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-01-2017 17:04:09
เอ่อ......น้องเล ทุกคนเห็นกันหมดเลย  :ling1: :ling1: :ling1:
วิน คิดไรกับเลปะ เลือกย่างกุ้งตัวใหญ่ให้เลก่อนด้วย
ความผิดใครนะ ที่ทำให้เลเปลี่ยนไป
ต้นคิดเลย พี่รพ ให้ถุงยางเล ตามมาฮิม ไม่ยอมบอก
พี่วิน จะให้เล ลองขัดใจฮิมสักครั้ง
พี่บอม ปลายเหตุน้อยสุด ถูกเล ขู่ซะด้วย
ใครผิดก็ช่าง แต่คนอ่านชอบบบบบ  :ling1: :ling1: :ling1:
เพื่อนเล ที่ไม่สบายหยุดพร้อมกัน น่าสงสัยนะ  :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 23-01-2017 19:37:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 23-01-2017 19:50:53
RIP พี่บอม  น้องหมกมุ่นจนงานงอกแล้วไหมล่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 23-01-2017 20:36:00
ตายๆๆๆ จายหยั่งเขียด 555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-01-2017 20:57:58
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 23-01-2017 22:14:36
มาต่อนะ บอมโดนตื้บไหม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 24-01-2017 10:42:25
นึกถึงสภาพบอมไม่ออกจริงๆ จัดไปยาวๆ น้องเล เอาพ่อฮิมให้อยู่หมัด !!!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 24-01-2017 11:53:07
ตายๆๆๆ อิพี่บอมตายแน่ 5555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 24-01-2017 14:39:39
โอยยย ตายอิพี่บอม
เดี๋ยวจองวัดให้นะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 24-01-2017 15:01:19
เพิ่งได้มาอ่าน สนุกดีๆ ^^ น่าติดตาม ลุ้นๆ คุณพี่บอมโดนแน่ๆ 5555555

รอตอนต่อไปน้าาา อยากรู้แล้วจะเป็นไงต่อ :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 24-01-2017 20:37:52
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 25-01-2017 01:18:15
“เล มึงทำอะไรน่ะ” เสียงทุ้มดึงสติให้คนที่กำลังนั่งอยู่บนตักแกร่ง เลสะดุ้งเฮือก มือบางผลักเขาออกอัตโนมัติทว่าแผ่นหลังกว้างที่แนบติดกับกำแพงอยู่แล้ว ทำให้คนดันกลายคนที่ถูกดันออกจากตักเสียเอง ร่างเล็กหล่นลงกับพื้น นัยน์ตากลมโตเบิกตากว้าง ทว่าพอเงยหน้าขึ้นมอง สิ่งที่เห็นทำให้ตาที่เบิกกว้างต้องหรี่ลง น้ำสีใสเอ่อขึ้นคลอเบ้า เลตัวสั่น ผิวขาวสะท้านขณะยกมือขึ้นป้องปากแล้วมองไปยังลำคอขาวที่บัดนี้ขึ้นอีกแดงอ่อนๆ จากการกระทำของตัวเอง

   
เมื่อกี้… เขาทำอะไรลงไป

   
ร่างเล็กตั้งคำถามกับตัวเอง ริมฝีปากบางเม้มเป็นตรงเส้น ก่อนจะสบตากับคนที่อยู่ตรงข้าม ฮิมไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรมากไปกว่าการเงียบนิ่ง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลานิ่งเสียจนเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่
   
อารมณ์บางอย่างมันตื้นขึ้นมาบนอก ดวงตากลมปล่อยน้ำสีใสไหลร่วงโผละลงพื้น
   
“เลขอโทษ…เมื้อกี้…เล...”
   
“มึงเป็นอะ—”
   
เพี๊ยะ!
   
วินที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกถูกปัดมือที่กำลังจะแตะผิวขาวทิ้งอย่างไม่ใยดี เลลุกขึ้น ใบหน้าสวยก้มลงจนแทบมองไม่เห็น เสียงเล็กเอื้อนแผ่วเบาว่า ขออยู่คนเดียว ก่อนจะวิ่งขึ้นห้องไป
   
นัยน์ตาสีดำสนิทมองตามแผ่นหลังเล็ก มือหนายกเบียร์ข้างกายที่ยังไม่หมดขึ้นมาดื่มรวดเดียว ขายาวข้างหนึ่งชันหนึ่ง ฮิมถอนหายใจก่อนจะหลับตาลงอย่างใช้ความคิด…

   

ทำอะไร…เมื่อกี้…ทำไม…อะไร
   
หลายคำถามวิ่งวนอยู่ในหัว เยอะเสียจนคนตัวเล็กแทบจะรับไม่ไหว เจ้าของกายที่พึ่งวิ่งขึ้นมาบนห้องกำลังนั่งซบใบหน้ากับเข่าทั้งสองข้างที่ถูกชันขึ้นบนเตียงขนาดใหญ่ท่ามกลางห้องมืดปราศจากแสงไฟ น้ำตาสีใสไหลหยดลงผ้านวมจนเป็นวงกว้าง ทว่ายังไม่ได้คำตอบของคำถาม ผิวขาวก็สั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้งยามนึกถึงการกระทำของตัวเองเมื่อครู่
   
เขา…เขาดูด…ที่คอ…
   
เลปล่อยโฮ ยิ่งนึกถึงใบหน้าราบนิ่งของพี่ฮิมเขาก็ยิ่งร้องนักมากกว่าเดิม
   
ฮิมต้องโกรธแน่เลย
   
คนตัวเล็กกำลังมือแน่น ทว่าพอได้นึกถึงการกระทำของตัวเอง อาการร้อนเหมือนเมื่อวานที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเพียงแค่หาอะไรมาหยุดเอาไว้ก่อนก็แตกกระจาย ยิ่งคราวนี้มันซัดเข้าใส่ทีเดียวราวกับคลื่นทะเลยักษ์ทำเอาคนรองรับคลื่นทั้งหมดนั่นต้องหอบหายใจพร่าหนัก ใบหน้าหวานแดงซ่าน อาการเหมือนเมื่อวานแล่นไปทั่วตัว เพียงแต่ครั้งนี้มันรุนแรงกว่ามาก ความรู้สึกร้อนด้านในทำเอาลมหายใจสั่นไหว น้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วต้องกลับมาไหลใหม่อีกครั้งเมื่อเจ้าตัวไม่รู้ว่าจะจัดการกับสิ่งที่เป็นอย่างไร
   
เลรู้แค่ว่าตัวเองร้อน ไม่ใช่ร้อนแบบทั่วไป แต่เป็นร่างกายเขาเองที่ร้อนผ่าวไปทั่วกาย ยิ่งร่างกายเสียดสีกันมากเท่าไหร่ อารมณ์บางอย่างมันก็พุ่งพล่านออกมามากเท่านั้น ชั่ววูบความรู้สึกเหมือนขึ้นสู่ที่สูงก่อนจะตกลงมาเมื่อเขาไม่รู้ว่าจะระงับมันยังไง
ทรมานจะตายอยู่แล้ว
   
ร่างเล็กล้มตัวลงนอน ใบหน้าหวานซุกเข้ากับหมอนขณะมือบางกำผ้าห่มแน่น หางตายังมีน้ำสีใสไหลไม่หยุด เลพยายามข่มตาลง เขาตั้งใจว่าจะหลับแต่มันหลับไม่ลง ทั้งๆ ที่เรี่ยวแรงเหมือนถูกสูบออกจนเกือบหมดแล้ว กายบางสั่นใหญ่พอๆ กับใจที่กำลังสั่นระรัว นิ้วเรียวจิกเล็บเข้าไปที่เนื้อ ริมฝีปากถูกขบแน่นจนแทบห่อเลือด 
   
เขาจะทนไม่ไหวแล้ว…


   
   
เบียร์กระป๋องที่สี่ถูกยกขึ้นติดริมฝีปาก ร่างสูงดื่มมันลงคอจนหมดก่อนจะทิ้งมันเอาไว้ที่พื้น ฮิมยืนขึ้นก่อนจะสะบัดศีรษะเล็กน้อย เบียร์สี่กระป๋องที่ฤทธิ์แค่ทำให้คนคอแข็งเกิดอาการมึนๆ นัยน์ตาคมมองนาฬิกาบนกำแพง เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เพียงพอแล้วที่เขาจะได้ขึ้นไปหาน้องสักที
   
ร่างหนาเดินผ่านเพื่อนที่จะเริ่มจะหยิบเหล้ามาดื่มแล้วเมาเละ ขายาวเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอน ก่อนจะบิดลูกกลอนเข้าไปแบบไม่เคาะประตู น่าแปลกที่เลไม่ได้นอนอยู่บนเตียงอย่างที่เขาคิด แต่เสียงน้ำไหลที่ดังมาจากภายในประตูห้องน้ำสีขาวบานใหญ่ที่ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าคนที่ควรจะอยู่บนเตียงหายไปอยู่ที่ไหน เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อสีขาวมาสวมเข้าแบบลวกๆ แล้วไปนั่งรอที่เตียงจนกว่าเลจะออกมา ทว่าจนแล้วจนรอดคนที่ฮิมรอก็ไม่ยอมโผล่หน้า เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำเสียที
   
นาน…จนผิดปกติแม้แต่เสียงน้ำไหลก็ยังได้ยินอยู่เหมือนเดิม
   
ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้ว คนตัวสูงตัดสินใจเดินตรงไปที่ห้องน้ำ มือหนาเสี่ยงบิดลูกกลอนก่อนจะพบว่ามันไม่ได้ล็อก
   
แกร๊ก
   
ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมๆ กับน้ำที่ทะลักออกมาจากด้านใน ใบหน้าหล่อเหลาเงยมองรอบห้อง ก่อนจะสะดุดกับร่างเล็กที่กำลังแช่ตัวอยู่ในอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ เลซบหน้าลงกับเข่าที่ชันขึ้น มีเสียงสะเอื้อนเบาๆ ออกมาให้ได้ยิน น้ำมากมายที่ไหลท่วมห้องเป็นผลมาจากการที่เจ้าตัวเปิดน้ำใส่อ่างแล้วไม่ปิด เลเปิดมันไว้ทั้งอย่างนั้น มวลน้ำที่เต็มอ่างขนาดใหญ่แล้วค่อยๆ ไหลจากบนลงสู่พื้นด้านล่างทีละนิด ท่วมพื้นได้ขนาดนี้แสดงว่าเลอยู่ในห้องน้ำมานานแล้วเช่นกัน
   
ร่างสูงเดินไปหาคนที่นั่งซบเข่าตัวเอง นัยน์ตาคมมองร่างขาวเนียนไร้เสื้อผ้าปกปิดภายใต้มวลน้ำสีใสในอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ มือหนาเอื้อมไปปิดก๊อกที่อยู่ด้านหลังของแผ่นหลังบางแล้วเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ
   
“เล” เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกราวกับไม่รู้ถึงการมาของเขา ดวงตากลมที่บัดนี้แดงฉ่ำจากการร้องไห้มาเป็นเวลานานเงยขึ้น แล้วส่งเสียงแหบพร่าว่า
   
“พี่…ฮิม”
   
“คนดี”
   
“ออกไป!!” เลตวาด มือบางกวักน้ำใส่คนที่ยืนอยู่ข้างอ่าง
   
“…”
   

“ออกไป! ฮิมออกไป ฮืออ” เขาไม่คิดจะฟังคำสั่งของน้อง มือหนาจับใบหน้าหวานขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะลงไปซบกับเข่าอีกรอบ ฮิมกวักน้ำขึ้นลูบใบหน้าเนียนเพื่อชะล้างคราบน้ำตาออกแต่หลังจากที่ทำให้ไม่กี่วิก็โดนปัดมือทิ้ง เลตัวสั่น “อย่า… อย่าโดนตัวเล ฮือ ฮิมออกไป”

เสียงน้องสั่นไหว ตอนที่วินโดนปัดมือทิ้งเขาคิดว่าเลอาจจะกำลังตกใจอยู่ แต่นี่มันผิดปรกติแล้ว

“คนดีเป็นอะไร”

“ออกไป”

“ตอบพี่”

“ออกไป! ฮิมออกไป! ได้โปรด”

“เล…”

“ออกไป!!”

“เล!!”

เฮือก

ดวงตากลมเบิกกว้าง มองคนที่ไม่เคยตวาดใส่ตัวเองเลยแม้แต่ครั้งเดียวและนี่… เป็นครั้งแรก ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน ความรู้สึกเจ็บที่ใจมันท่วมท้นและไม่นานนักน้ำตาก็ร่วงโผละลงมาเป็นสาย ร่างเล็กปล่อยโฮขณะถูกรวบเข้าไปกอด ใบหน้าหวานซุกเข้าที่หน้าท้องแกร่งโดยมีมือหนาลูบศีรษะปลอบ

เขาไม่อยากตวาดใส่น้อง แต่นี่จำเป็น…

ฮิมรอจนกระทั่งเสียงร้องเงียบไปสักพัก หลังจากนั้นอีกฝ่ายจึงเป็นคนเอ่ยขึ้นมาเอง

“เลร้อนพี่ฮิม” น้ำเสียงแหบพร่าอุดอู้อยู่ในลำคอจนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง “เลร้อน”

“…”

“เลไม่รู้เลเป็นอะไรแต่เลร้อน”

“…”

“ยิ่งฮิมจับ เลก็ยิ่งร้อน” ใบหน้าหวานผละออกจากหน้าท้องแกร่ง “ฮิมออกไปเถอะนะ”

ขวับ

ทันทีที่พูดจบร่างสูงก็หันหลังเดินกลับไป จนเจ้าของคำพูดต้องเม้มปากแน่น ไม่รู้ทำไมพอพี่ฮิมออกไปจริงๆ แล้วเขาต้องรู้สึก
โหวงๆ ใจแปลกๆ ร่างเล็กร้องไห้ออกมาอีกครั้ง อาการร้อนภายในตัวมันยังไม่หายไปไหน ขาทั้งสองชันขึ้นอีกรอบใบหน้าหวานเตรียมซบลงกับที่ ถ้าไม่ติดที่ว่าใครบางคนเดินกลับมาพร้อมกับเข้ามาในอ่าง อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่มีเนื้อที่พอให้สองคนอาบด้วยกันได้สบาย เขาโดนมือหนาจับขึ้นมานั่งตัก เจ้าของมือคือคนที่ควรจะเดินออกจากห้องไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

“ฮิมจะ— อ๊ะ” ทำอะไร ประโยคนั้นถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อมือใหญ่พยายามจับขาเรียวกางออกจนเจ้าของต้องยื้อเอาไว้สุดแรง “อ…อย่า”

อาการสั่นของเลเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะตอนที่ขาเรียวถูกแยกออกจากกัน ฮิมใช้เข่าตัวเองกั้นเอาไว้เพื่อไม่ให้น้องหุบมันกลับเข้ามา นัยน์ตาคมก้มลงมองเบื้องล่าง จุดศูนย์กลางของเด็กที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่สี่ขวบ ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงเลียกกหูของคนที่นั่งอยู่บนตัก เสียงทุ้มกระซิบน้ำเสียงแหบพร่าขณะถอดเสื้อสีขาวของตัวเองออก แล้วใช้มันให้เป็นประโยชน์โดยการจับมือที่กำลังดิ้นพล่านทั้งสองข้างของเลขึ้นโอบรอบคอแกร่งแล้วทั้งผูกมันเอาไว้เข้าด้วยกันจากทางด้านหลัง ฮิมออกคำสั่ง

“อยู่นิ่งๆ”


“ฮิมจะทำอะไรเล” เสียงหวานสั่น ไม่ใช่แค่เสียง เลสั่นไปหมดทั้งร่าง เสียงหอบหายใจสะท้านมันดังอยู่ข้างหู ในขณะมือหนาสัมผัสไปทั่วร่าง ลูบไล้ผิวขาวกายนุ่มหอมเป็นเวลาเดียวกันที่ริมฝีปากคลอเคลียบริเวณคอ ก่อนจะดูดดันบริเวณนั้นอย่างที่เลเคยทำให้เขา “ฮิมอย่า…เลร้อน…ร้อนกว่าเดิม”

“ร้อนให้ถึงที่สุด” เขากระซิบตอบก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปกดจูบหนักๆ ตรงขมับชื้นเหงื่อ “แล้วคนดีจะหายร้อน”

“ไม่เอา มันแปลก ฮิมยะ…อย่า” นิ้วเรียวเลื่อนมาหมุนวนรอบๆ ยอดดอกสีชมพูอ่อนทั้งสองข้าง น้องขาวไปหมด ไม่มีส่วนไหนที่จะไม่ขาว เขากดใบหน้าลงที่ต้นคอระหงสูดกลิ่นหอมฟุ้งของอีกฝ่ายพร้อมๆ กับฟังเสียงร้องอื้ออึงในลำคอที่แปรเปลี่ยนไปเป็นเสียงร้องอย่างอื่นเมื่อเขาเลื่อนมือลงสู่กลางลำตัวของเล “ฮิม อ๊ะ! จะทำอะไรเล ยะ…อ๊า!”

นิ้วเรียวข้างหนึ่งเปลี่ยนเป้าหมาย จากยอดดอกสีชมพูอ่อน มาเป็นปลายยอดของแท่งเนื้อสีอ่อนแทน คนตัวสูงใช้นิ้วเรียวหมุนวนและกดตรงปลายยอดจากนั้นต่อด้วยการรูดขึ้นลงอย่างชำนาญ เกิดเป็นน้ำใสๆ ไหลออกมาจากรูเล็กๆ ตรงส่วนปลายอย่างรวดเร็ว
“พี่ฮิมอ๊ะ! อ๊า!...อย่า” มือหนาที่กำลังทำอะไรบางอย่างกับส่วนกลางของร่างกายทำให้เขาแทบอยู่ไม่เป็นสุข ทุกๆ ครั้งที่มันถูกรูดขึ้นลง เสมือนเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกร้อนมากขึ้นกว่าเดิม มันแผ่ซ่านไปทั่วแตกแขนงไปทุกสัดส่วน  มากเสียจนเขาเกือบ
จะทนไม่ไหว ฮิมทำให้เขาร้อน เป็นความทรมานที่แตกต่างจากความรู้สึกเมื่อก่อนคือร้อนแต่รู้สึกดี


ดี…ดีมาก…ดีเสียจน


“อ๊ะ! อ๊า! ฮิม…อย่า อ๊ะ!” การเพิ่มจังหวะที่เร็วขึ้นอย่างฉับพลันทำให้คนรับอารมณ์ถึงกับอยู่ไม่สุข แผ่นอกขาวเผลอแอ่นขึ้นอัตโนมัติ เลทำได้แค่ดิ้นไปมาด้วยความกระสั่นเมื่อสองมือถูกมัด ขาทั้งสองข้างก็ถูกกั้นเอาไว้ไม่ให้หุบเข้าหากัน เสียงครางดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

คนที่เป็นเบาะรองอยู่ด้านหลังได้แค่หลุบตามอง มือหนาข้างหนึ่งกำลังที่ชักให้น้อง เสียงครางตามสัญชาติญาณกำลังทำให้ฮิมหยุดสัญชาติญาณตัวเองไม่ไหว คนตัวสูงเผลอปล่อยสันดานดิบของตัวเองออกมาโดยการใช้มือข้างที่เหลือบิดขยี้ยอดดอกสีชมพูอ่อนบนแผ่นอกแรงราวกับจะทำให้มันแหลกละเอียด เขาเร่งจังหวะให้เร็วกว่าเดิมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนคนบนตักจะกระตุกเฮือก เสียงครางดังลั่นห้อง ก่อนแผ่นหลังเล็กจะเอนพิงไหล่ของคนด้านหลังพร้อมๆ กับน้ำสีใสที่ถูกปล่อยออกไปจากปลายรูเล็ก
ใบหน้าสวยแดงฉ่า อาการร้อนหายไปเป็นปลิดทิ้งเหลือไว้แต่ความเหน็ดเหนื่อยกับเรี่ยวแรงที่แทบจะไม่มี…

ดวงตากลมปรือขึ้น เลเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลุบตามอง ไม่รู้เพราะเหตุผลอะไร แต่จู่ๆ เขาก็ใช้แขนที่ยังถูกมัดรวบอยู่ดันศีรษะของพี่ชายลงแล้วประกบริมฝีปากเข้าหากัน

นี่ไม่ใช่จุ๊บก่อนนอน… มันคือจูบ


ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาก่อนจะพัวพันกันอย่างรวดเร็ว รสเบียร์ยังติดที่ปลายลิ้นของอีกฝ่าย เลสัมผัสได้แค่นั้นก่อนจะหมดสติไป
คนที่ยังมีสติต้องทำหน้าที่ต่อ เข่ายาวที่เป็นพันธนาการพร้อมๆ กับเสื้อที่มัดรวบข้อมือน้องอยู่ถูกปลดออก ร่างหนาประคองให้เลนอนในอ่าง ส่วนตัวเองเดินออกมาด้านนอก ฮิมถอดเสื้อผ้าที่เปียกชื้นออกก่อนจะอุ้มน้องที่หมดสติไปนอนที่เตียง


(50%)

นักอ่านหลายคนนี่พอบอกว่าฉากอิอิคิดไปถึงโน้นแล้ว ยังๆ มันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะได้กัน

แล้วอย่าคิดว่าพี่ฮิมมีแค่นี่ ต้องรอสันดานดิบพี่แกออกแบบจริงๆ จังๆ

ฝันดีค่ะ

แท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 25-01-2017 01:50:08
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: saruwatari_guy ที่ 25-01-2017 06:50:29
RIP บอม นะ ตายแหง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 25-01-2017 07:52:28
รอสันดานดิบพี่ฮิมค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 25-01-2017 07:58:37
อื้อหือ  :o8:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 25-01-2017 09:22:07
เล...โตขึ้นไปอีก สงสัยต่อไปคงปล่อยฟิโรโมนกระจาย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 25-01-2017 09:25:47
รอสันดานดิบพี่ฮิมแทบไม่ไหวแล้ววววววววววววววววววววววววววววว

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-01-2017 10:04:16
อั่ยย๊ะ......เลร้อน  ฮิมถอยไปก่อน....
ฮิม ช่วยทำให้เลหายร้อนได้และ
เล จูบฮิม  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
คนอ่าน รอสันดานดิบฮิม ออกแบบจริงๆ จังๆ นะ  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-01-2017 11:07:56
ตายแน่บอม ถ้าฮิมสืบสาวราวเรื่องว่าน้องเลทำไมถึงเกิดอาการขึ้นได้แบบนี้
RIP บอม ให้ก่อนเลยแล้วกัน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 25-01-2017 18:01:52
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 25-01-2017 18:32:33
เราต้องมีของสมน้ำหน้าคุณให้พี่บอมค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 25-01-2017 19:05:35
กรี๊ดดดดด หนูเลโตแล้วลูกกกก
บอมเอ๊ย ขอให้โชคดีนะ กลับแทนเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-01-2017 19:07:03
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: sanzon ที่ 25-01-2017 19:26:09
กรี๊ดดดดดดดดดด....  :hao6: :hao6: :hao6:

เมื่อไหร่น้องเลจะโดนกิน รอเกาะขอบเตียง  :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 25-01-2017 19:41:13
บอมเอ้ยเตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย  :m29: :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 25-01-2017 19:59:29
ค้างงงง :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 25-01-2017 21:05:06
น้องใสมากอ่ะ
แต่ที่แน่ๆ RIP แด่คุณพี่บอม งานนี้เสร็จแน่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 25-01-2017 21:35:46
RIPพี่บอมล่วงหน้าค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-01-2017 21:45:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 26-01-2017 07:27:42
R.I.P แด่พี่บอมผู้น่าสงสารล่วงหน้าเลยค่ะ โถ่เอ๋ย....
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 26-01-2017 09:11:41
สงสารบอมมากบอกเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 26-01-2017 12:41:29
 :impress2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: popeyez ที่ 27-01-2017 14:21:53
 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 27-01-2017 14:35:06
คิดถึงพี่ฮิมจังเลย

เค้าอยากอ่านต่อแว้ววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 27-01-2017 15:34:06
ชอบเรื่องนี้มาก  :mew1: ฮิมให้ความรู้สึกของการ์ตูนดี มีความมาเฟียสูง แต่ไม่อยากให้มีดราม่าเหมือน เมียหมอ อันนั้นดูเว่อร์  :katai3: เป็นกำลังใจให้คนเขียนมากค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 27-01-2017 21:01:36
เมื่อไหร่เขาจะได้กัน :haun4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 28-01-2017 13:38:45
เกิดความคิดร้องเพลง ไอ้บอมตายแน่ ตานแน่!! ไอ้บอม 555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 28-01-2017 22:26:21
เมื่อไหร่ เขาจะเปิดเผยความในใจกัน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 29-01-2017 01:31:05
คุณพ่อค่ะรีบ ๆ กินน้องสักทีเดี๋ยวน้องเอาไปใช้กับคนอื่นแล้วคุณพ่อจะของขึ้นได้นะคะหึหึ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: M_mA ที่ 03-02-2017 12:32:09
รอให้เขาได้กันนนนนนนนน!! :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 03-02-2017 15:58:13
โหยยยยย เสียดาย นึกว่าเขาจะได้กัน   :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 04-02-2017 15:38:08
บางทีก็รู้สึกว่า เล ไร้เดียงสาเว่อไป เรียนมหาลัยแล้วนะจ๊ะ ไอ้ความรู้สึกเรื่องทางเพศก็น่าจะพอเข้าใจบ้าง  :mew5: 
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 04-02-2017 16:05:14
ขอให้บอมไปสู่ที่ชอบที่ชอบนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: hikkie ที่ 04-02-2017 18:20:57
เดี่ญวได้รู้กันแน่ถ้าพ่อเค้ารู้ว่าต้นเรื่องคือใคร บอมเอ้ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 06-02-2017 05:00:35
แวะมาส่อง :bye2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 01-03-2017 14:25:08
มันก็นานแล้วนะจ๊ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ปิกาจู1234 ที่ 04-03-2017 10:05:41
 o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 04-03-2017 21:57:03
ณ ตอนนี้มีสิ่งเดียวที่น่าสงสารที่สุด นั้นก็คือ บอมบอม ของเรา ที่มาทำให้น้องเลเป็นถึงขนาดนี้ทั้งๆที่พ่อเขาหวงสุดชีวิต สู้อุส่าห์เก็บความรู้เรื่องนี้ไว้สอนน้องทีหลังก็ดันมาทำให้น้องมาเป็นแบบนี้ซะได้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 07-03-2017 17:47:11
อ๊ากกกกกกก น้องเลใสซื่อเกินไปแล้ววววว เห็นแวว่าน้องต้องโป๊ะแตกในหลายๆเรื่องแน่ๆ ถึงจะตามพ่อฮิมทัน อิอิ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: mamacub ที่ 07-03-2017 21:39:06
พออ่านถึงตอนล่าสุดปั๊บ คนเขียนไม่มาต่อเลย  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 14-03-2017 00:32:20
#10 (100%)


ฮิมสวมชุดนอนให้น้องใหม่ และปล่อยเลหลับไปส่วนเขาไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำต่อ…

ภายหลังจากที่เดินออกมา คนตัวสูงสวมเสื้อผ้าแล้วคลานขึ้นมานั่งบนเตียง ในห้องมืดสนิท เงียบจนได้ยินเสียงแต่ของแอร์และเสียงขยับตัวของร่างสูงที่ยังไม่นอนแต่นั่งพิงแผ่นหลังกับหัวเตียง มือหนาข้างหนึ่งกำลังลูบศีรษะของคนที่กำลังหลับใหล นัยน์ตาคมหลุบลงจ้องเจ้าของศีรษะกลมที่กำลังลูบอยู่

เขาไม่โกรธที่เลมีอารมณ์ทางเพศ ยังไงน้องก็เป็นผู้ชายแม้จะได้ฮอร์โมนทางเพศแม่มามากเกินไปหน่อยแต่สุดท้ายก็ยังเป็นผู้ชายอยู่วันยังค่ำ พอโตขึ้นก็ต้องเริ่มมีความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาบ้าง แต่ก่อนที่จะรู้สึกมันต้องมีสาเหตุ

จริงอยู่ที่อารมณ์ทางเพศมันเกิดได้จากสองสาเหตุคือฮอร์โมนกับสิ่งเร้า แต่เขาสังเกตเลตลอด แม้เจ้าตัวจะไม่รู้ก็ตาม อยู่บ้านด้วยกัน เห็นหน้ากันทุกวัน นอนก็ยังนอนด้วยกัน ถ้าเกิดจากฮอร์โมนเขาต้องสังเกตถึงความผิดปกติได้แน่ๆ แต่นี่ไม่มี ดังนั้นจึงเหลือสาเหตุเดียวที่พอเป็นไปได้สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็คืออย่างที่สอง… สิ่งเร้า

ภาพที่อีกฝ่ายแนบริมฝีปากลงบนต้นคอฉายชัดในมโนภาพ ยิ่งตอกย้ำถึงสาเหตุอย่างหลังเพราะการกระทำแบบนี้ถ้าไม่เคยเห็นหรือเคยดูมาก่อนคงทำไม่เป็นแน่ๆ นั่นยิ่งน่าแปลกใจเข้าไปใหญ่เพราะเขาไม่เคยสอนน้องเรื่องแบบนี้เลย

นั่นหมายความว่า…

พรึบ!

ไวเท่าความคิด มือหนายื่นไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียงของเลขึ้นมาดูอีกครั้ง ลางสังหรณ์มันบอกให้เขากดเข้าไปในแชท ก่อนจะเจอกับอะไรบางอย่างที่ทำให้คนอ่านถึงกับแผ่รังสีอำมหิตออกมามากกว่าเดิม

         

          เล : พี่บอมเลแย่แล้ว

          พี่บอม : เป็นอะไรครับ

          เล : ไม่รู้ แต่เลไม่เหมือนเดิม ตอนดูคลิปช่วงแรกมันเฉยๆ แต่ช่วงนี้มันแปลกๆ

          พี่บอม : ยังไง

          เล : ตอนดูหนังหนอนของเลมันตั้งอะ

 

ปัง!

ทันทีที่อ่านข้อความสุดท้ายจบ โทรศัพท์เครื่องหรูก็ถูกโยนเข้ากำแพงจนแตกละเอียด มือหนาที่กำลังลูบศีรษะกลมอยู่เผลอสอดมือเข้าไปขย้ำกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มแรงจนเจ้าของที่กำลังนอนร้องอื้ออึงในลำคอ เขาปล่อยมือออกจากกลุ่มผมเมื่อได้ยินน้องร้องเจ็บ ฮิมเลียริมฝีปาก ร่างสูงถอนหายใจแล้วยื่นมือไปดีดหน้าผากกลมแรงๆ สองที เป็นผลให้คนที่ยังหลับขมวดคิ้วสองมือยกขึ้นมาปัดป่ายมือของเขาออกแล้วพลิกตัวหนี

ร่างสูงกำลังจะก้มตัวลงนอนตามแต่แล้วก็ต้องชะงัก ฮิมยันตัวขึ้นหยิบกล่องบุหรี่พร้อมไฟแช็กและโทรศัพท์ก่อนจะเดินออกไปนอกระเบียง บุหรี่ม้วนหนึ่งถูกหยิบขึ้นมาจุดสูบ ร่างหนายืนพิงระเบียงแล้วคิดทบทวนในใจ

เขาประมาทไป…

ตลอดเวลาฮิมคิดว่าจะควบคุมเลเอาไว้ได้ เพราะถึงเลจะดื้อแต่ก็ดื้ออยู่ในขอบเขตหรือก็คือดื้อในแบบของเล แบบที่ไม่เคยทำให้เขาต้องลำบากใจสักเท่าไหร่ เช่นดื้อไม่ยอมนอน ดื้ออยากได้รองเท้าหรืออยากได้นั้น นู้น นี่ นึกไม่ถึงว่าวันหนึ่งความดื้อที่ไม่เคยทำให้เขาต้องลำบากใจมันจะกลับมาทำให้ตัวเองลำบากใจแบบสุดๆ

การที่เขาไม่สอนเรื่องแบบนั้นให้เล มันก็มีเหตุผลอยู่ แม้จะเป็นเหตุผลที่ฟังดูแล้วอาจจะดูเห็นแก่ตัวก็เถอะ

ครืด

โทรศัพท์เครื่องหรูแนบกับใบหูขาว คนถือกรอกเสียงสั่งเมื่อปลายทางรับสาย

(ครับบอส)

“รู้จักบอมหรือเปล่า”

(บอม ? ที่อยู่ปีสามเหรอครับ)

“อือ”

(รู้จักครับบอส)

“ปีสามกลับจากค่ายวันไหน”

(อีกสองวันครับ)

“งั้นอีกสองวัน”

(…) ม้วนบุหรี่ถูกทิ้งลงพื้น ร่างสูงใช้เท้าเหยียบซ้ำจนมันแหลกละเอียด

“ไปจับมันมา”

 

วันต่อมา

ฮิมตื่นนานแล้ว วันนี้เขาไม่ปลุกเลเหมือนเคย ร่างหนาปล่อยให้น้องนอนยาวไปจนกว่าจะตื่น แล้วสั่งให้วินไปลาอาจารย์ให้แทน เขาไม่อยากให้เลมีประวัติทางการเรียนไม่ดี แม้สมัยตอนมัธยมตัวเขาเองก็โดดเป็นว่าเล่น หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จจนหมด ร่างสูงก็กลับมาที่เตียงอีกครั้งหนึ่ง มือหนาจับคนที่ยังหลับไม่ตื่นขึ้นมากอดในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน แล้วนั่งเงียบๆ รอ กระทั่งเขาเริ่มสัมผัสได้ว่าเลเริ่มขยับกายไปมา ร่างหนาจึงปล่อยให้น้องหลุดออกจากอ้อมกอด ศีรษะกลมจึงไถลจากบ่าแกร่งลงสู่หมอนที่รองรับอยู่ด้านล่าง แรงกระเทือนทำให้คนที่หลับอยู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เลทำหน้ามึนงงพร้อมๆ กับยันตัวขึ้นจากเตียง โผล่เข้าโอบรอบคอเขาอย่างเคยชิน ร่างเล็กทำเสียงอู้อี้ในลำคอก่อนจะกระซิบที่ข้างหู

“วันนี้เลตื่นเช้า” อีกฝ่ายเข้าใจว่าอย่างนั้น ก็วันไหนที่เขาตื่นเช้าวันนั้นฮิมจะนอนอยู่ข้างกาย ซึ่งมันก็ไม่บ่อยเพราะปกติหลังจากที่ฮิมตื่นร่างสูงก็มักจะเดินลงไปนั่งดื่มกาแฟด้านล่างทันที

“เช้าที่ไหน” เขาออกเสียงขัด มือหนาจับเอวบางหันไปดูนาฬิกาที่แสดงเวลา...บ่ายสอง ฮิมร้องหึในลำคอ เขาก้มลงแนบริมปากที่แก้มใสก่อนจะเลื่อนไปกระซิบที่ข้างหู “ลืมเหรอ”

ลืม ? ลืมไรหว่า…

เห็นน้องทำหน้างง เขาจึงย้ำความทรงจำให้

มือหนาล้วงเข้าไปในใต้สาบเสื้อ ขย้ำยอดดอกสีชมพูอ่อนทั้งสองข้างจนคนโดนกระทำร้องโวยวาย ใบหน้าใสขึ้นสี ความรู้สึกวูบวาบโผล่ขึ้นมาพร้อมๆ กับความทรงจำที่เริ่มประดังเข้ามาในสมอง

เมื่อวาน…เขากับพี่ฮิม

!!!!!

“จำได้หรือยัง” คนด้านหลังถามซ้ำ มือหนาถอนออกมาจากด้านในเสื้อ ความรู้สึกวูบวาบเมื่อสักครู่ยังไม่เท่ากับความรู้สึกเสียวสันหลัง เสียงทุ้มดังข้างหู “อาบน้ำแล้วลงไปคุยกันด้านล่าง”

...ตายแน่

 

เหมือนอยู่ในลานประหาร เลรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะโดนเชือด โดยเฉพาะสายตาของคนตรงหน้าที่กำลังมองมา ฮิมไม่ได้ทำหน้าดุ ไม่ได้ทำหน้าโกรธ แต่แค่คนตรงข้ามทำหน้านิ่งๆ เขาก็สั่นไปทั้งตัวแล้ว

“มีอะไรจะพูดกับพี่ไหม”

เฮือก

ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่อยู่ตรงข้ามก่อนจะเม้มปากพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ ไม่ใช่มีอะไรจะพูดแต่ไม่รู้จะพูดยังไงให้พ่อไม่โกรธ ในเมื่อคิดหาวิธีไม่ได้สุดท้ายผมเลยเลือกที่เงียบแทน

“ไม่มี ?” ผมเม้มปากเมื่ออีกฝ่ายคาดคั้นมากกว่าเดิม “ไม่มีอะไรจะพูดกับพี่จริงๆ เหรอ”

“พ่ออย่าทำแบบนี้กับเล…ฮึก”

“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

“ฮือ…”

 

“ร้องไห้ทำไม” เขามองคนตรงหน้าอีกฝ่ายกำลังดิ้นพล่านเหมือนโดนของร้อน นัยน์ตากลมโตเรื่อไปด้วยน้ำตาที่พร้อมจะหยดลงมาทุกเมื่อถ้าเขาพูดอะไรออกไปอีก “อย่าร้อง”

แหมะ

…ว่าแล้วเชียว

“เลไม่ได้ร้อง ฮือ…มันไหลออกมาเอง” ใบหน้าหวานฉาบไปด้วยน้ำตา เลสะอื้นไปมาเหมือนเด็กแม้ปากจะปฏิเสธว่าไม่ได้ร้อง “เลไม่ได้ร้อง”

“…” ฮิมเงียบขณะจ้องหน้าคนที่กำลังร้องสะอึกสะอื้นด้วยความนิ่งงัน จนในที่สุดก็ทนไม่ไหวร่างสูงถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหาอีกฝ่าย มือหนาคว้าแขนบางเอาไว้ก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้าหาตัวเอง กดใบหน้าหวานที่กำลังร้องเข้ากับบ่า แขนแกร่งโอบเอวบางไว้ไม่ให้ดิ้น ส่วนมืออีกข้างใช้ลูบแผ่นหลังเล็กเป็นการปลอบประโลมเบาๆ “อย่าร้อง”

“ไม่ได้ร้อง…ฮึก! มันไหลออกมาเอง เลหยุด…ฮึก…ไม่ได้” เสียงเลทั้งสั่นและแผ่ว “ฮิมอย่าโกรธเลเลยนะ”

“แล้วดื้อทำไม”

“ฮือ…จะไม่ทำแล้ว ฮิม…ฮึก…อย่าโกรธเล”

ฮิมไม่ได้ตอบทันที แขนแกร่งอุ้มคนที่อยู่ตรงหน้าขึ้นแล้วเดินไปยังห้องรับแขก ก่อนจะทิ้งตัวเองนั่งลงบนโซฟาแล้วจัดท่าให้คนที่อุ้มติดมือมาด้วยนั่งอยู่บนตักในท่าหันหน้าเข้าหากัน เขาดันตัวเลที่กำลังฟุบใบหน้าลงที่บ่าออก ก่อนจะใช้นิ้วเรียวเกลี่ยน้ำตาของอีกฝ่ายที่ยังไหลออกมาอยู่เป็นระยะ

“เล่ามาทั้งหมดแล้วพี่จะไม่โกรธ”

คนตัวเล็กเงียบลงทันตาเห็น อีกฝ่ายพยักหน้าอย่างรวดเร็วๆ พอๆ กับเสียงใสที่เริ่มสารภาพออกมาทั้งหมด ฮิมนั่งฟังเงียบๆ เขาไม่ขัดคนพูดสักประโยคเดียวมีบางที่ครางรับเป็นระยะ กินเวลาไปเกือบสามสิบนาทีกว่าเลจะเล่าจบ แต่หลังจากนั้นคนตัวเล็กก็เงียบไป เลไม่ได้ร้องไห้แต่เม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าหวานซึมลงเหมือนรู้สึกผิด

“ไม่โกรธเลแล้วใช่ไหม” ประโยคแรกที่น้องยอมพูดหลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เลทำหน้าดีใจตอนที่เห็นเขาพยักหน้าแต่ไม่วายซึมลงอีกครั้งเมื่อเสียงทุ้มพูดประโยคต่อมา

“แต่ยังไม่ยกโทษให้”

“พ่อจ๋า” นิสัยเด็กดื้อเป็นยังไงก็ยังคงเป็นแบบนั้น พอมีอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจหน่อยๆ ก็จะเริ่มประท้วง แต่คราวนี้สงสัยจะประท้วงไม่ออก เพราะทันทีที่เอ่ยออกมา เลก็เม้มปากเหมือนตัดจบแล้วพยักหน้าซึมน้ำตารับคำไป

ฮิมถอนหายใจ อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้โกรธเลมากมายอะไรขนาดนั้น เพียงแต่…

 มือหนาจับใบหน้าเล็กให้หันมาสบตากันตรงๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มีอะไรทำไมไม่บอกพี่”

…นั่นแหละที่รู้สึกผิดหวัง

เขาเลี้ยงน้องมา คิดว่าตัวเองเป็นคนที่อีกฝ่ายพึ่งพาได้มากที่สุด แต่ในวันนี้เลกลับทำให้เขารู้สึกว่าความคิดของตัวเองนั้นมันผิด

“เลขอโทษ” ว่าแล้วก็ร้องไห้โฮอีกรอบ “เลแค่อยากรู้ เลแค่…ฮึก เลบอกฮิมแต่ฮิมไม่…ฮือ…ไม่ยอมบอกเล”

“พี่เคยบอกว่าอะไร เราอายุสิบแปดเมื่อไหร่พี่ถึงจะบอกใช่หรือเปล่า”

“ฮือ” น้องพยักหน้า

“ถ้าสมมติว่าเรื่องที่เราอยากรู้มันเป็นเรื่องอันตรายเลจะทำยังไง”

“ฮือ เลดื้อเอง เลขอโทษ” ฮิมเงียบไปสักพักแต่คนรอคำตอบไหวใจจนอยู่ไม่สุข มือเล็กแขนจับของอีกฝ่ายขึ้นแล้วบังคับให้ฝ่ามือหนาแนบลงที่แก้มของตัวเอง นัยน์ตากลมจ้องคนตรงหน้าแม้จะรู้สึกกลัวแค่ไหนก็ไม่หลบสายตา “อย่าโกรธเลเลยนะ”

“…”

“น้องขอโทษ”

…ให้ตายสิ

มือหนาที่แนบอยู่บนแก้มขาวถือโอกาสเกลี่ยน้ำตาที่ยังเหลืออยู่ให้อีกฝ่ายเบาๆ พอเขาพยักหน้ารอยยิ้มร่าจึงเริ่มปรากฏบนใบหน้าหวาน

“แต่ต่อไปมีอะไรต้องบอกพี่ โอเคไหม”

“โอเค” เลตอบ คนตรงหน้าถอนหายใจเฮือกใหญ่เสมือนเรื่องเลวร้ายมันหลุดออกจากตัว น้องเหมือนจะโผล่เข้ากอดแต่แล้วก็หยุดชะงักเมื่อสายตาบังเอิญหลุบลงไปเห็นอะไรบางอย่าง มือเรียวตามไปแตะก่อนจะเม้มปากทำสีหน้ารู้สึกผิดอีกครั้ง “เลขอโทษ”

นิ้วเลเกลี่ยวนบนต้นคอเขา บริเวณที่เกิดรอยคิสมาร์กจากเหตุการณ์เมื่อวานช่วงที่กำลังติวหนังสือให้น้องอยู่

“ไม่เป็นไร” ฮิมว่าอย่างไม่ถือสา แต่อีกฝ่ายก็ยังคงทำหน้ารู้สึกผิดไม่หาย จนสุดท้ายร่างสูงก็เลยตัดสินใจรั้งต้นคอขาวเข้ามาใกล้ ริมฝีปากบางประทับลงแล้วดูดเม้มแรงๆ ตรงบริเวณนั้นชนิดที่ว่าคนโดดไม่ทันตั้งตัว ค้างเอาไว้สักพักก่อนจะละออกมา

“ฮือ” พอเขาละออกมา เลก็ฟุบหน้าลงกับบ่าแกร่ง ร่างเล็กใช้แขนเรียวโอบรอบลำคอขาว มือหนาพยายามดึงให้ออกมามองหน้าเท่าไหร่ก็ไม่ยอม พอเขาจะดันตัวออกเลก็ยิ่งเบียดเข้ามาแทน “อย่า…”

“พี่อยากเห็นหน้า”

“เล…เลเขินนะ” คนฟังลอบยิ้มในใจ ร่างสูงล้มเลิกความคิดที่จะดึงเลออกมาจากตัว แขนแกร่งเลยใช้โอกาสนี้โอบเอวบางเอาไว้แทน หลังจากนั้นจึงชวนคุยไปเรื่อย รอจนน้องยอมเงยหน้าขึ้นจากบ่าแล้วมานั่งในท่าใหม่ เขากอดน้องจากทางด้านหลัง เลยังนั่งบนตักเหมือนเคยเพียงแต่เปลี่ยนจากหันหน้าเข้าหากันเป็นหันหน้าไปทางทีวีแทน คนตัวเล็กพิงหลังกับอกกว้างแล้วใช้บ่าแกร่งแทนหมอนหนุนศีรษะ นัยน์ตากลมจดจ้องไปที่จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่กำลังฉายซีรี่ส์ชื่อดังอย่าง Teen wolf

“ดื้อแล้วรู้สึกยังไง” ฮิมถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ เมื่อคนบนตักกำลังให้ความสนใจกับซีรี่ส์ตรงหน้ามากกว่าตนเอง

“ทั้งรู้สึกผิดทั้งรู้สึกดี” เขาแปลกใจกับประโยคนั้น ร่างสูงขมวดคิ้ว ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมองคนที่ยังไม่ละสายตาจากจอโทรทัศน์แต่ปากกลับตอบเขาได้ “รู้สึกผิดที่ดื้อกับฮิม”

“...” คนตัวสูงรอฟังเงียบๆ

“แต่เลรู้สึกดีตอนที่ฮิมทำให้นะ”

นัยน์ตาคมค่อยๆ ปิดลง มือหนายกขึ้นดันศีรษะของเลเข้าใกล้พร้อมกับประทับริมฝีปากที่ขมับ กดจูบแรงๆ จนคนโดนยอมละสายตาจากโทรทัศน์แล้วเขย่งตัวหอมแก้มของอีกฝ่ายบ้าง ฮิมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงแล้ววางคางที่ไหล่บาง เสียงทุ้มกระซิบดังข้างหู

“อย่าไปพูดแบบนี้กับใครอีก”

นับวัน...เลก็ยิ่งอันตราย

 

วันต่อมา

เมื่อวานหลังจากที่เคลียร์กับฮิมเสร็จ ผมก็เดินขึ้นห้องไปนอนต่อ ไม่รู้ว่าทำไมถึงง่วงได้ขนาดนี้แต่ตื่นมาอีกทีก็ตอนตีสี่ของวันใหม่เลย ตอนรับอรุณพร้อมกับท้องที่เรียกร้องหาอาหารเพราะเมื่อวานผมแทบไม่ได้ทานข้าวเลย (มัวแต่หลับ) เพราะผมตื่นฮิมเลยก็ตื่นตาม และเนื่องจากผมหิวมาก ร่างสูงเลยสั่งให้ผมล้างหน้าล้างตาก่อนจะพาเดินไปกินโจ๊กชายสี่ร้านของพี่ตี๋ที่เปิดตั้งแต่ฟ้ายังไม่แจ้ง

“อาหนูเลเอาเหมือนเดิมหรือเปล่า” เฮียขาวพ่อของพี่ตี๋เจ้าของร้านเป็นชายวัยเกือบหกสิบรูปร่างท้วมแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรี่ยวแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว “โจ๊กไม่ใส่ขิง ไม่ใส่ตับ ไม่ใส่ไส้อ่อน”

“ขอพิเศษกับใส่ไข่สองฟองด้วยครับ” ผมว่าต่อเพราะตอนนี้รู้สึกหิวมาก หิวจริงๆ นะ

“แล้วพ่อหนูเลล่ะ” ผมหันไปมองหน้าฮิมก่อนร่างสูงจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“เหมือนเดิมครับ” เหมือนเดิมของฮิม = ธรรมดา

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเฮียขาวถึงเรียกพี่ฮิมว่าพ่อของผม ผมบอกแล้วว่าเรากินโจ๊กที่ร้านชายสี่บ่อยและนานมาก ตระกูลนี้เลยถือเป็นคนนอกครอบครัวเพียงตระกูลเดียวที่รับรู้ถึงความสัมพันธ์อันแปลกๆ ของผมกับพี่ฮิมเลยก็ว่าได้

“เลหิวข้าว” ผมบอกคนตรงหน้าขณะเอามือกุมท้อง

“เดี๋ยวก็ได้กิน” พอพ่อพูดแบบนั้นผมเลยนั่งนิ่งๆ รอ พลางมองอีกฝ่ายกำลังเช็คข่าวสารบางอย่างในโทรศัพท์ พูดถึงโทรศัพท์แล้ว…

“ฮิมโทรศัพท์ของเลมันแตกได้ยังไงไม่รู้ ละเอียดเลย แต่เลมั่นใจว่าเลไม่ได้ทำนะ” มันแตกตั้งแต่ตอนไหนผมก็งงเหมือนกัน เพราะหลังจากหน้าล้างแปรงฟันเสร็จก็ว่าจะเอาโทรศัพท์ลงมาเล่นด้วยแต่ผมกลับหาไม่เจอ พอหาเจอก็พบว่ามันแตกละเอียดไปแล้วซะงั้น

ฮิมนิ่งไปสักพัก “เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่”

“ขอรุ่นใหม่นะ” โทรศัพท์ที่พึ่งแตกไปของผมมันเป็นรุ่นที่เก่ากว่าของแบรนด์ปัจจุบันอยู่ขั้นหนึ่ง คนฟังพยักหน้ารับก่อนจะยื่นโทรศัพท์ตัวเองมาให้ผมเล่นรอ

โจ๊กมาเสริมหลังจากที่ผมกดเริ่มเกมไปแค่หนึ่งนาที ผมไม่อยากแพ้แต่เพราะหิวมากก็เลยต้องยอมแพ้แล้วก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าตอนตีห้าเกือบหกโมง หลังจากทานเสร็จฮิมไม่ได้พาผมไปออกกำลังกายอย่างที่คิด เขาบอกว่าพึ่งกินเสร็จถ้าไปวิ่งเดี๋ยวจะอ้วก ท้ายที่สุดเราเลยต้องเดินกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วมานั่งเล่นดูหนังรอไปมหา’ลัยเพราะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยเวลาเช้ามาก ผมเลยทำทุกอย่างเสร็จตั้งแต่หกโมงกว่าๆ

พี่รพเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านตอนหกโมงสิบห้าเป็นเวลาเดียวกันที่ผมเดินเข้าไปกินน้ำในครัว เจ้าของเรือนผมสีแดงทำหน้าแปลกใจนิดหน่อยตอนที่เห็นผมอยู่ในสภาพเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ลงมาทำข้าวเช้าให้เลเหรอ งั้นไม่ต้องทำนะ เลกินเสร็จแล้ว” ผมว่า และทันทีที่อีกฝ่ายได้ยินดังนั้น ร่างสูงก็หมุนตัวเตรียมเดินกลับขึ้นไปด้านบน ถ้าสายตาคมไม่สังเกตเห็นอะไรเสียก่อน

พี่รพหันหน้าขวับกลับมามองผมอีกครั้ง ขายาวค่อยๆ ก้าวเข้ามาประชิดขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องเดินถอยไปชนซิงค์ที่อยู่ด้านหลัง “พี่รพ… มีอะไร”

เฮือก

ผมเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆ มือหนาก็ยกขึ้น ไม่รู้พี่รพตั้งใจจะทำอะไรผมเลยได้แต่หลับตาแน่นเพราะความรู้สึกกลัวจับใจ แม้ต่อมาสิ่งที่สัมผัสจะเป็นเพียงสัมผัสอุ่นๆ ของมือที่ยื่นมาแตะบริเวณลำคอ

“รอยนี้ฮิมทำเหรอ” ผมเบี่ยงสายตามองตามพี่รพ แม้ท้ายที่สุดแล้วผมจะไม่เห็นก็ตามเพราะมันอยู่ตรงคอพอดี (เดาจากที่พี่รพจับ) เลยได้แต่พยักหน้ารัวๆ รอย ? จำได้ว่าเมื่อวานฮิมทำรอยให้แต่ผมยังไม่ได้สังเกตเลยว่ามันเป็นยังไง “หึ”

พี่รพทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะเค้นเสียงหึในลำคอ หลังจากนั้นร่างสูงก็เดินหันหลังแล้วขึ้นห้องนอนไปทันที ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง จนได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินลงบันไดมา ชายที่เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านเป็นคนที่สองก็คือพี่ฮิม จริงๆ พ่อทำทุกอย่างเสร็จก่อนผมแล้ว แต่เหมือนเขาจะอยู่เคลียร์งานที่ด้านบน เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาทำงาน ผมเลยเดินลงมาเล่นด้านล่างก่อน เพราะเวลาทำงานฮิมจะจริงจังมากๆ

แต่ถึงผมจะพร้อม คนขับรถไปส่งที่มหา’ลัยก็พร้อม ทุกอย่างพร้อมแต่เราก็ยังเหลือเวลาอีกเกือบหนึ่งชั่วโมง ผมกับฮิมเลยนั่งดูซีรี่ย์รอ เพราะมันเป็นตอนต่อจากเมื่อวานพอดี ซีรี่ย์จบก็ครบหนึ่งชั่วโมง ในหนึ่งชั่วโมงที่ผมกับฮิมดูหนังไม่มีใครเดินลงมาจากบ้านอีก แอบสงสัยนิดๆ ว่าพวกพี่เขาไม่ไปเรียนกันหรือไงเพราะวันนี้พ่อก็ใส่ชุดมหา’ลัยปกติ ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ไปถามบนรถ และหลังจากขึ้นรถคำตอบที่ได้รับจากปากของพี่ฮิมก็คือ

“เรียนบ่าย”

“แล้วฮิมอาบน้ำเร็วทำไม”

“มาส่งเราไง”

“ฮือ” ผมน้ำตาจะไหล “ใจดีจัง”

“โทรศัพท์จะให้พี่ไปซื้อให้หรือเราจะไปซื้อกับพี่”

“ฮิมซื้อให้ก็ได้ เลขี้เกียจไป” เอาตรงๆ คือผมไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไรกับโทรศัพท์แล้ว เดี๋ยวนี้เหมือนแบรนด์ไหนๆ มันก็คล้ายๆ กันไปหมด “เลรักพ่อจัง”

“ทำตัวดีๆ”

“เลไม่ดีตรงไหน”

“พี่ยังไม่ได้ยกโทษให้เลนะ”

ลืมไปเลย ผมหน้าซีดลงกว่าเดิม “งั้นฮิมจะให้เลทำอะไร”

“พี่ยังไม่ได้คิด” เสียงทุ้มพูดจบตัวรถก็มาจอดหน้าคณะของผมพอดี ฮิมยื่นมือมาดันศีรษะผมเข้าไปจูบแรงๆ ที่ขมับก่อนจะเลื่อนลงมาที่แก้มปิดท้ายด้วยการกระซิบที่ข้างหู “ตั้งใจเรียนนะครับ”

“อือ” ผมตอบรับพร้อมกับเบี่ยงใบหน้าไปหอมแก้มของอีกฝ่ายกลับ หลังจากนั้นจึงหยิบกระเป๋าแล้วเดินลงจากรถ

 

15.49 น.

รถที่พึ่งกลับมาจากค่ายของปีสามเคลื่อนตัวเข้ามาในมหา’ลัย ขณะที่คนอื่นกำลังเดินลงจากรถ บอมกลับรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แปลกๆ เหมือนลางร้ายมันมาเยือน ตอนเช้าก่อนออกจากที่พักก็โดนจิ้งจกต่างถิ่นตกใส่หน้าด้วย

ร่างผอมถอนหายใจพลางบอกกับตัวเองว่าอย่าคิดมาก แม้เรื่องของน้องเลจะทำให้เขาอยู่ไม่สุขตลอดการเข้าค่ายก็ตาม ใจมันระแวงตลอดส่วนหัวก็คิดว่าน้องจะเป็นอะไรหรือเปล่า ยังไงซะภายในวันนี้เขาจะต้องหาทางติดต่อกับเลให้ได้

“พี่ปีสี่มายืนรอใครวะ”

“มีใครไปทำอะไรให้พวกพี่ปีสี่ไม่พอใจปะมึง”

“เชี่ย ทำท่าทางงเหมือนจะมาจับคนไปฆ่าเลย”

เสียงซุบซิบจากคนที่เดินออกจากรถทัวร์ไปแล้วเริ่มดังมาเข้าหู สมองเขาเริ่มประมวลผลอย่างรวดเร็ว บอมหยุดกายกะทันหันแต่ก็โดนที่อยู่ด้านหลังผลักให้เดินลงไปจนในที่สุดก็กระเด็นออกมานอกรถ และทันทีที่เงยหน้าขึ้น เขาพบว่าลางสังหรณ์ตั้งแต่แรกของเขานั้นมันเป็นจริง เมื่อรุ่นพี่ปีสี่ที่มายืนทำท่าทางเหมือนจะมาจับคนไปฆ่าอย่างที่เพื่อนร่วมคณะพูดเดินเข้ามาหาทันทีที่เขาลงจากรถ บอมโดนชายสี่คนประกบหน้าหลัง ไม่ได้คุกคามหรือทำร้ายร่างกายแต่ใช้น้ำเสียงข่มขู่ แถมหนึ่งในนั้นยังอ้างชื่อของคนที่เข้าไม่อยากจะเจอที่สุด

“หุบปากไว้แล้วไปกับพวกกู”

“…”

“พี่ฮิมมีเรื่องจะคุยด้วย”

ชิบ-หาย-แล้ว!!

หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 140317#11(0%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 14-03-2017 00:34:35
#11

16.30 เลิกคลาส

วันนี้เรียนหนักมาก นอกจากจะมีทั้งคาบเช้าแล้วก็คาบบ่ายแล้ว ผมยังมีเวลากินข้าวเที่ยงแค่สามสิบนาทีเอง อากาศก็อึมครึมทั้งวันทั้งยังร้อนอบอ้าวเหมือนฝนจะตก

ผมมองบรรยากาศด้านนอกด้วยความหนักใจก่อนจะรีบเก็บกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องเมื่ออาจารย์สั่งเลิกคลาส แต่แล้วก็ต้องวกกลับเข้ามาใหม่ เมื่อผมลืมไปว่าโทรศัพท์ตัวเองพังเพราะปกติผมจะโทรให้ฮิมมารับหลังจากเลิกเรียน เนื่องจากตารางเรียนในแต่ละวันมันไม่แน่นอน โชคดีที่คนยังออกจากห้องไม่มากและหนึ่งในนั้นก็มีคนที่ผมสนิทด้วย

“เกี๊ยก!!” ผมตะโกนเรียนร่างสูงที่หันมามองหน้าผมแบบงงๆ ก่อนจะเดินมาหาด้วยสีหน้าประมาณว่า ‘ออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่’ “เกี๊ยก เลขอยืมโทรศัพท์หน่อยสิ”

เขาไม่ได้ให้โทรศัพท์กับผม เสียงทุ้มว่า “พี่ฮิมให้กูไปส่งมึง”

“หา ?” ผมทำหน้างง เกี๊ยกจึงโชว์หน้าจอโทรศัพท์ มีเบอร์เข้าล่าสุดเม้มชื่อเอาไว้ว่า ‘พี่ฮิม’ “จริงเหรอ ไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่”

“นานแล้ว”

“แล้วทำไมเลไม่รู้”

“ก็ไม่ถาม” เกี๊ยกตัดบท ก่อนจะเดินนำผมไปที่ลานจอดรถ รถของเกี๊ยกไม่ใช่รถสปอร์ตหรูหราเหมือนของฮิม แต่เป็นบิ๊กไบค์สีแดงคันใหญ่ ผมเคยขับนะ แต่ขับไม่กี่ครั้งเพราะส่วนใหญ่ฮิมจะไว้ใจให้ผมขับรถยนต์มากกว่า แต่ขับที่ว่าคือขับแบบอยู่ในสายตาพ่อนะ เขาไม่เคยให้ผมขับเองคนเดียว

เกี๊ยกยื่นหมวกกันน็อคมาให้ผม เขาเป็นฝ่ายเสียสละไม่ใส่ ผมบอกไม่เอาเขาก็ไม่ยอม จนในที่สุดผมเลยต้องยอมใส่ตามที่อีกฝ่ายต้องการ หลังจากนั้นบิ๊กไบค์คันใหญ่จึงเคลื่อนตัวออกจากมหา’ลัย ผมฟุบหน้าซบลงแผ่นหลังกว้างก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงครืนๆ ของอะไรสักอย่างดังตามหลัง

เมื่อกี้… ฟ้าร้องเหรอ ?

“เป็นอะไรทำไมสะดุ้ง”

“เปล่า” ผมเม้มปาก “เกี๊ยกขับให้เร็วกว่านี้ได้ไหม”

“ทำไม”

“เลกลัวฝนตก” ผมบอกเขาตามตรง ก่อนคนขับจะเร่งความเร็วขึ้น ไม่นานนักเขาก็พาผมมาส่งถึงบ้านที่เงียบสนิท ผมไม่รู้ว่าพี่ๆ ไปไหนกันแต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ที่บ้าน ผมลงจากรถก่อนจะคืนหมวกกันน็อคให้เกี๊ยก

“เป็นอะไร”

“หือ ?”

“มึงทำหน้าเครียด”

“ไม่มีอะไร” ผมบอกปัดก่อนจะโบกมือไปมา “ช่างมันเถอะ”

“…”

“เข้าบ้านละ ขอบคุณที่มาส่ง” พอเกี๊ยกพยักหน้า ผมเลยเดินเข้ามาเขตตัวบ้านทว่าเดินเข้ามาได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ต้องหันกลับ “เกี๊ยก!!”

บรื๊น

…ไม่ทัน

ผมมองบิ๊กไบค์สีแดงคันใหญ่ที่ขับไกลออกไปด้วยสายตาละห้อย ให้ตายสิ ผมลืมไปเลยว่าจะยืมโทรศัพท์เกี๊ยกโทรหาฮิม เพราะโทรศัพท์ของผมมันพัง แต่กลับลืมซะได้ แล้วจะทำยังไงละทีนี้บ้านก็ไม่มีคนอยู่ โทรศัพท์บ้านก็ไม่มี ฟ้าก็ร้อง

ครืน

มือบางยกขึ้นปิดหู ผมเม้มปากก่อนจะรีบเดินเข้าบ้าน ปิดหน้าต่างของชั้นหนึ่งทุกบานแล้ววิ่งขึ้นห้องด้านบน ยิ่งฟ้าด้านนอกมันมืดขึ้นเท่าไหร่ใจก็ผมยิ่งหวั่นมากเท่านั้น

เมื่อไหร่พ่อจะกลับมา…

17.00 น.

คนที่ฝากเรื่องของเลให้กับเพื่อนสนิทของอีกฝ่ายดูแลกำลังสูบบุหรี่ที่ถูกสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษบน Bugatti Chiron คันหรูที่เขาพึ่งพาน้องไปลองขับเมื่อไม่นานมานี้ นัยน์ตาคมมองข้อความที่ถูกส่งมา เป็นรายงานจากเพื่อนสนิทของเลที่บอกว่าเจ้าตัวส่งน้องเขาถึงบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ครืด

ฉับพลันจากจอแอพพลิเคชันเปลี่ยนมาเป็นหน้าจอโชว์เบอร์โทรศัพท์พร้อมกับชื่อของคนที่โทรเข้ามา ฮิมเอนหลังพิงเบาะ นิ้วเรียวกดรับแล้วร้องในลำคอสั้นๆ ให้คนปลายสายได้ยิน

“อืม”

(ได้ตัวมาแล้วครับ)

ติ๊ด!

เขากดตัดสายทิ้งเมื่อได้ยินเจ้าของเบอร์บอก มือหนาขว้างโทรศัพท์เครื่องหรูไปบนเบาะที่นั่งข้างคนขับ ขณะเคลื่อนตัวรถออกจากสถานที่ปัจจุบัน บนพื้นที่ของตึกระฟ้าขนาดใหญ่อันเลื่องชื่อทั้งทางดีและทางตรงกันข้าม ‘โรงแรม’

Bugatti Chiron แล่นอยู่บนถนนใหญ่ เรียกความสนใจให้คนที่รู้เรื่องรถอยู่บ้างต้องมองตามตาค้างแทบจะควักโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเกือบไม่ทัน ขณะเดียวกันที่เจ้าของรถซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายใต้ฟิล์มมืดหน้าทึบก็กำลังขับออกไปอย่างไม่เร่งรีบ เขามีเวลาเหลือเฟือสำหรับวันนี้ แต่เพราะคิดแบบนั้นทำให้คนที่มักจะรอบครอบตลอดลืมดูสถานการณ์ไปซะสนิท

ฝนกำลังจะตก…

ครืน

เสียงเหมือนฟ้าจะผ่าทำให้คนที่กำลังซุกหน้ากับหมอน ซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มใจตกมากกว่าเดิม บรรยากาศมืดที่คืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งทำให้เขาอยากจะออกไปจากที่นี่ เลหวาดกลัว ร่างบางหวังให้พ่อกลับมากอดตัวเองเหมือนเคย แต่ยิ่งรอแล้วรอเล่าฮิมก็ยังไม่กลับ ไม่ใช่แค่ฮิม ทุกคนไม่รู้หายไปไหนกันหมด เขาโทรหาไม่ได้เพราะโทรศัพท์มันพัง

ตั้งแต่ที่กลับมาถึงบ้านเขารอให้พ่อกลับมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว

หรือฮิมจะลืมว่าเขากลัวเวลาฝนตก ? ไม่น่า… ฮิมเลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กนะ ให้ตายยังไงก็ไม่มีทาง แต่ทำไมอะไรๆ มันถึงดูเหมาะเจาะกันไปหมด โทรศัพท์พัง พี่ๆ ทุกคนไม่อยู่บ้าน แถมฝนกำลังจะตก… หรือว่า ?!

‘ทำตัวดีๆ’

‘เลไม่ดีตรงไหน’

พี่ยังไม่ได้ยกโทษให้เลนะ’

‘งั้นฮิมจะให้เลทำอะไร’

เป็นบทลงโทษเหรอ ไม่จริงน่า

แต่ถ้ามันเป็นความจริง เขาจะถือว่าพี่ฮิมใจร้ายเกินไปแล้ว…

17.30 น.

บอมอยากจะร้องไห้ หลังจากโดนบังคับให้ขึ้นรถสปอร์ตอย่าง Lamborghini คันหรู นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกไม่อยากจะขึ้นทั้งๆ ที่ใฝ่ฝันมาโดยตลอดโดยเฉพาะ Lamborghini สีควันบุหรี่อย่างหรูคันนี้ แต่ถึงไม่อยากจะขึ้นขนาดไหนก็โดนบังคับให้ขึ้นอยู่ดี ซึ่งมันจะดียิ่งกว่านี้ถ้าไม่มีร่างสูงใหญ่ของรุ่นพี่ปีสี่สองคนนั่งประกอบสองข้างซ้ายขวา กับที่นั่งด้านหน้าอีกสองรวมเป็นสี่ เขาไม่ได้ถูกมัดมือหรือปิดตาอย่างที่คิดแค่โดนบังคับให้ขึ้นรถจากนั้นรุ่นพี่ทั้งสี่คนก็ไม่ได้ข่มขู่หรือว่าอะไรอีก ถ้าไม่นับที่ว่านั่งประกบข้างล่ะนะ

“ไปทำอะไรมาล่ะ” พี่ที่เป็นคนขับชวนคุย

“ครับ ?”

“ถามว่าไปมาอะไรมา ทำไมบอสถึงให้พวกกูมาจับมึงได้”

“บอส ?”

“พี่ฮิมที่มึงรู้จักนั่นแหละ” อีกฝ่ายอธิบายเป็นความรู้ใหม่ให้กับเขา “บอสไม่สั่งให้จับคนมั่วนะ พวกเราไม่ได้ว่างขนาดนั้น”

“…”

“แล้วไปทำอะไรมาละ”                 

“เอ่อ…น้องเล—”

เขายังพูดไม่จบอีกฝ่ายก็ว่ามาก่อน “ก็ว่าแล้ว ส่วนใหญ่พวกที่จับมาก็หนีไม่พ้นเรื่องน้องเล”

“แต่สวยจริงๆ นะมึง”

“หุบปากของมึงไปเลย คิดอกุศลกับน้องเลเดี๋ยวมึงก็โดนคำสั่งจับแบบไอ้นี่หรอก” บอมอยากจะร้องไห้ บางทีข้อหาของเขามันอาจจะมากกว่าประโยคที่ว่า ‘คิดอกุศล’ เสียอีก

“เอ่อ ผมจะโดนทำอะไรไหมครับ” บอมเสี่ยงถามหลังจากเห็นว่าพี่ๆ บนรถก็ยังไม่ได้ร้ายอะไรกับเขามาก “เช่นต่อย”

“จะเหลือเหรอ ก่อนบอสจะมากูต้องต่อยมึงก่อนสักหมัดสองหมัด ให้ปากแตก”

“เชี่ย”

“ไม่ต้องเชี่ยแหละน้อง ไปยุ่งกับน้องเลก็แบบนี้แหละ”

พี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมาคุยกับเขาบ้าง “มึงไม่รู้เหรอว่าน้องเลน่ะยิ่งกว่าลูกรัก ส่วนคนพ่อก็ทั้งหวงและห่วงแบบชิบหายวายวอด ลูกน้องบางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้องเลเป็นน้องของฮิม จะรู้ก็แค่พวกที่มีฝีมือดีๆ หน่อย เพราะพวกมันโดนสั่งให้ไปติดตามน้องเลบ่อยๆ”

“แล้วพวกพี่รู้จักน้องเลได้ยังไงครับ”

“ก็โดนสั่งไปจับพวกแบบมึงนี่ไง ถึงได้รู้จัก”

“แบบพวกผม ?”

“ก็แอบชอบน้องเล ส่วนใหญ่ที่โดนจับมาเพราะบอสได้รับรายงานว่าขนาดมีพวกที่ติดตามไปเตือนก็ยังตื้อไม่เลิก”

“ผมเปล่า…ไม่สิ! ชอบก็เกือบจะจีบแต่ผมไม่ได้ตื๊อนะ” บอมรีบปฏิเสธ

“แล้วไปทำยังไง ? เล่ามาสิเผื่อกูไปบอกบอสให้ลดโทษมึงได้”

“คือ…” เขาเหมือนเห็นแสงสว่างแต่เมื่อเล่าจบแสงสว่างที่ว่าคล้ายจะดับลง บรรยากาศในรถเงียบสนิทจนได้ยินแต่เสียงแอร์ กระทั่งมีใครสักคนพูดขึ้น

“ว่าแล้วทำไมบอสถึงเรียกพี่ๆ ทุกคนมาหมด”

“ครับ ?”

“กูขอให้มึงโชคดีนะ ขอให้บอสไม่สั่งฆ่ามึง อย่างมากขอให้แค่แขนหัก กรามหลุด—”

“แต่ผมโดนน้องเลข่มขู่นี่” เขาอยากหาทางปฏิเสธข้อหาแต่แล้วก็ต้องกลืนคำที่คิดทั้งหมดลงคอ

“มึงลูกรักพี่ฮิมไหมละ แล้วเข้าใจคำว่าลูกรักไหม ? เข้าใจไหมว่าลูกรักไม่มีทางผิดถึงอาจจะผิดจริงๆ ก็เถอะ ยังไงซะกูขอให้มึงโชคดี ถ้ากูถูกสั่งให้ต่อยมึงจนตายมึงก็อย่าตามมาหลอกหลอนกูก็แล้วกัน”   

“ตะ…ตายเลยเหรอพี่”

“อืม จะว่าไปส่วนใหญ่ก็ไม่ให้เล่นถึงตาย อย่างมากก็แค่เกือบตายแล้วให้พวกกูหามส่งโรงพยาบาล เอาเถอะ ขอให้มึงโชคดีนะกัน กูจะพยายามยั้งตีนตอนเตะให้ เอาล่ะ! ถึงแล้ว”

“ที่นี่เหรอ” บอมถามด้วยความแปลกใจ นึกว่าสถานที่ที่ถูกพาไปมันจะพิศดาลกว่านี้ ที่นี่มันออกจะดีมากๆ เลยด้วยซ้ำ เขามองออกไปข้างนอก Lamborghini สีควันบุหรี่จอดตรงหน้าสถานที่ที่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่เด็กมหา’ลัย คลับชื่อดังที่น้อยคนนักจะเข้าได้เพราะราคาค่าเปิดขวดมันสูงลิ่วเสียจนใครบางคนอาจจะต้องขายบ้าน ขายที่ดินเพื่อที่จะมากินที่นี่ จากที่บอมได้ยินมาส่วนใหญ่แล้วจะมีแต่พวกลูกคุณหนูเรียนอินเตอร์มาเที่ยวที่นี่ซะมากกว่า เพราะราคาแพงลิบแลกด้วยสวัสดิการและความปลอดภัยชั้นเลิศ แน่นอนว่าคนอย่างเขาได้แค่มองข้างนอกแต่ไม่เคยเข้ามา

“ที่นี่แหละ” อีกฝ่ายตอบส่วนเขาเริ่มมองสถานที่ตรงหน้าด้วยสายตาหวาดๆ

ตอนมาก็คุยด้วยกันดีๆแต่พอลงจากรถปุ๊บเหมือนความดีของพวกพี่ๆ เหมือนจะถูกแผ่นดินสูบไป บอมโดนหมัดหนักๆ ต่อยเข้าที่หน้าอย่างที่อีกฝ่ายเคยบอกไว้ รวมสี่หมัดจนได้เลือดที่ริมฝีปากสภาพหน้าเริ่มเยิ่นพอสมควร เขาถูกคุมตัวไปที่ด้านหลังของคลับ ขอเปลี่ยนคำพูดที่ว่า ‘ที่นี่มันออกจะดีมากๆ’ เปล่าเลย มันออกจะเหมือนอย่างที่เขาจินตนาการไว้ แค่ไม่สยดสยองอย่างที่คิด ไม่ได้มีเลือดหรือโซ่ให้เห็น ด้านหลังของคลับมีโกดังขนาดใหญ่ตั้งเด่นตระหง่าอยู่ เขาสังเกตเห็นว่ามันคือที่เก็บแอลกอฮอล์ทุกชนิด ตั้งแต่แบรนด์ราคาถูกไปจนถึงแพงมหาศาล แต่พี่ๆ อธิบายเพิ่มเติมอีกว่าในขณะเดียวกันมันก็ใช้เป็นโรงเชือดคน

บอมอยู่จับมามัดแขนกับเก้าอี้พร้อมกับโดนสั่งให้นั่งนิ่งๆ สภาพตอนนี้ทุลักทุเลพอสมควร ไม่ได้น่ากลัวมากแค่ปากแตกกับหน้าบวมนิดๆ ไปจีบหญิงด้วยสภาพนี้รับรองไม่ติด บรรยากาศภายนอกเหมือนเป็นใจ มันมืดครึมเข้ากับสถานการณ์ สายลมที่พัดมาบ่งบอกว่าฝนใกล้จะตก เมฆสีทะมึนเคลื่อนตัวลงต่ำ ประกายสายฟ้ามาพร้อมกับเสียงครืนๆ เหมือนฟ้าใกล้จะผ่าลงมาเต็มที

สติของเขาถูกดึงกลับมาอยู่กับปัจจุบันอีกครั้งเมื่อเสียงรถยนต์หลายคันแล่นเข้ามาจอดตรงหน้าโกดังเก็บแอลกอฮอล์ เจ้าของเรือนผมสีแดงลงมาเป็นคนแรก นัยน์ตาคมมองเขานิ่งๆ ขณะคีบบุหรี่เข้าปากแล้วเดินเข้ามาด้านใน

“สวัสดีครับเฮียรพ”

“เออ” ประโยคต่อมาเหมือนอีกฝ่ายจะหันมาพูดกับเขา “ดวงซวยนะมึง”

“นี่เรียกกูมาดูคนต่อยกันเหรอ” ผู้ชายคนที่สองเดินเข้ามา บอมรู้จักอีกฝ่าย เขาคือพี่เกียร์ “ทำเหมือนกูว่าง”

“มึงก็หัดว่างบ้าง ทำงานเหี้ยไรนักหนา”

“ใครมันจะรวยเหมือนพวกมึง” รุ่นพี่หลายคนทยอยเดินเข้ามาด้านใน แต่น่าแปลกที่ไม่มีใครเข้ามาทำร้ายเขาอย่างที่คิด ทุกคนเอาแต่คุยกัน เหมือนวันรวมญาติกลายเป็นเขาเองที่เป็นเหมือนตัวทำลายบรรยากาศ จนกระทั่ง…

เอี๊ยด

กระทั่ง Bugatti Chiron มาจอดอยู่ตรงหน้า ร่างสูงที่เดินลงมาเป็นตัวเปลี่ยนบรรยากาศอีกครั้ง มันเงียบลงจนน่ากลัว ทุกสายตามองไปยังเจ้าของขายาวที่กำลังออกลงจากรถ รัศมีอันตรายแผ่ออกมาจนเขาไม่กล้าที่จะมองหน้าอีกฝ่าย

“พี่ฮิม”

“บอสสวัสดีครับ”

 “…” ไม่มีเสียงตอบรับจากคนตรงหน้า มีแต่เสียงครืนๆ ของฟ้าที่ใกล้จะผ่าลงมาเต็มทีเป็นคนตอบรับ นิ้วเรียวคีบบุหรี่ที่กำลังสูบอยู่ในมือออกแล้วใช้มือขยี้ก่อนจะปล่อยลงสู่พื้นดิน นัยน์ตาคมมองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ร่างสูงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้า ก่อนจะ…

ผัวะ!

มือหนายกขึ้น ฮิมใช้ด้านข้างของมือตบหน้าอีกฝ่ายจนสะบัด อาการเจ็บชาลามไปทั่วใบหน้า แผลที่มุมปากถูกซ้ำจนได้เลือดอีกครั้ง บอมยังไม่ทันได้สติดีนักหมัดหนักๆ ก็ตามลงมาอีกสามครั้งติด ความเจ็บแล่นไปทั่วร่าง สัญชาติญาณบอกให้หนี เปลือกตาคล้ายหนักอึ้งลงเรื่อยๆ บอมพยายามลืมตาขึ้นก่อนจะหลับลงอีกครั้งเมื่อกำปั้นหนาถูกยกขึ้นเตรียมที่จะต่อยที่หน้าเขาเป็นครั้งที่สี่ ทว่า…

เปรี้ยง!!

ซ่า

ฝนห่าใหญ่เทลงมาทันทีที่เกิดฟ้าผ่า กำปั้นหนาที่กำลังจะต่อยคนตรงหน้าหยุดชะงักกลางอากาศ เพราะทันทีที่สายฟ้าฟาดลงมาพร้อมกับเสียงฟ้าร้องคนตัวสูงก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาลืมอะไรไป เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหันขวับไปยังทิศที่ตั้งของบ้าน ริมฝีปากบางเม้มแน่นขณะหัวใจเต้นระส่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“เล” ฮิมพูดกับตัวเองขณะวิ่งฝ่าฝนขึ้นรถ ร่างสูงรีบสตาร์ทก่อนจะเหยียบให้เร็วที่สุดเท่าจะที่เร็วได้

เขาลืม เขาลืมไปซะสนิท  ลืมในสิ่งที่ไม่น่าจะลืมว่า…

เลกลัวฟ้าร้องมาก

               

บ้าน

เลซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ร่างเล็กร้องไห้เหมือนใจจะขาดขณะปิดหูแน่น น้ำตาสีใสไหลเป็นทางอาบแก้มขาวที่บัดนี้แดงก่ำเนื่องจากการร้องไห้ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร

เขากลัวจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่ฮิมจะมาสักที

เปรี้ยง!

“โฮกกกก ฮือออ” เลสะดุ้งอีกครั้งเมื่อฟ้าร้อง กายบางสั่นไหว จมูกรั้นแดงก่ำพอๆ กับแก้ม ริมฝีปากบางเม้มและขบกันแน่น มือบางยกขึ้นปิดหูทั้งสองข้างขณะหลับตาแน่น เลลุกขึ้นมานั่งชันเข่าแล้วเอาใบหน้าซบที่ลงที่เข่าของตัวเอง เขาหยุดน้ำตาไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้มันไหลเงียบๆ ในระหว่างที่ฟ้าไม่ร้อง

เปรี้ยง!

“ฮืออออออ เลกลัว”

ปัง!

“เล” ประตูห้องนอนเปิดออก เสียงทุ้มจากผู้มาเยือนทำให้เจ้าของใบหน้าหวานเงยขึ้น คนตัวเล็กสะอื้น เสียงแหบพร่าจากการร้องไห้เรียกชื่อของอีกฝ่ายขณะวิ่งเข้าใส่คนตรงหน้าแล้วร้องไห้โฮ

“พี่…วิน”

(40%)

ถ้าเทียบกันจริงๆ แล้วพี่วินจะมีนิสัยเป็นผู้ใหญ่กว่า นี่แต่งให้พระเอกมีข้อเสียบ้าง เดี๋ยวจะเฟอร์เฟ็กต์เกินไป ยังไงซะทั้งฮิมและเลจะได้เรียนรู้จากสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ หนึ่งคือเลดื้อ สองคือฟ้าร้องมาเม้าท์มอยกันได้ที่ทวิตเตอร์

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์


twitter : @_mdreds
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: TORR ที่ 14-03-2017 00:59:30
มาจิ้มก่อนเลย อิอิ  :-[  :o8:

ในที่สุด น่ะ ในที่สุด ก็มาต่อแล้ววววว ฮืออออ กราบการด้วยความปลื้มปิติ รอบที่แล้วมันค้างเหลือเกิน รอบนี้ก็แอบอยากอ่านต่อบ้าง 55 มาต่อเร็วๆนะคะ นานแแค่ไหนก็รอมาต่อให้จบเถอะค่ะ  :sad4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 14-03-2017 01:56:26
เข้ามาแล้วเจอเรื่องนี้อัพแทบกรี๊ดเลยค่ะ รอมานานㅠㅠ
สงสารพี่บอมมาก พี่ฮิมหึงโหดมากกลัวแล้ว :hao5:
ตอน11 บวกหนึ่งแต้มให้พี่วินเลยค่ะ สงสารน้องอิพี่ฮิมมัวแต่จะไปกระทืบคนจนลืมน้อง :m31:

รอมาต่อนะคะแอบค้าง(ไม่)เบาๆ จะรอไรท์ที่ท่าน้ำ เอ้ย เล้าทุกวันเลยค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 14-03-2017 07:48:15
อธิบายไม่ถุกเลย บางทีฮิมก็ไร้เหตุผลเกินไป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-03-2017 08:54:03
พี่ฮิมมาเร็วๆเลยยยยยยยยยย
น้องเลกลัวจะแย่อยู่แล้วววว
  :katai1: :katai1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 14-03-2017 09:18:29
พี่วินได้ใจน้องเลไปเลย ส่วนพ่อฮิม สะบัดบ๊อบใส่เลยค่ะ ชิ !!!!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-03-2017 09:20:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 14-03-2017 09:56:31
บอม แกถือว่าโชคดีมากนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: เปลว แว๊บแว๊บ ที่ 14-03-2017 11:08:13
เข้าใจค่ะว่าคนมันหวงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Wdf_mikeii ที่ 14-03-2017 12:04:10
นึกว่าจะไม่มาต่อสะแล้วว  ดีใจจจ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 14-03-2017 12:28:22
หรือว่าเรื่องจะพลิก พี่วินเป็นพระเอก เผ่นน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-03-2017 12:38:52
พี่ฮิม....ลืมเล เลยหรอ  :ling1:
ว่าที่จริงบอมก็ถูกเล ข่มขู่นะเนี่ย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ไม่ว่าใครวุ่นวายกับเลแบบไหน ไม่ได้ทั้งนั้น
อื๋ยย.......พี่วิน มาปลอบเล
พี่วินนี่แอบชอบเล อีกคนนี่นะ
เอาละสิ พี่วินจะทำเกินเลยกับเลหรือเปล่า
เหมือนพี่รพ ก็คิดไรกับเลเหมือนกัน
ดูแล้วคนที่มาชอบเลนี่ไม่น้อยเลย
แล้วก็ถูกจัดการหมดจด
อยากอ่านต่ออีกและ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 14-03-2017 17:03:16
คิดถึง...หายไปนานเลย
ดีใจที่มาต่อ #รักเด็กวิศวะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-03-2017 17:31:48
สงสารบอมว่ะ เนื้อไม่กินหนังไม่รองยังจะเอากระดูกมาแขวนคอแบบนี้ นี่ดีนะที่ฝนตกไม่งั้นคงเจ็บหนักกว่านี้แน่ๆ
พี่ฮิมนี่ก็เหลือเกินไม่ถามซะคำ เล่นอัดอย่างเดียวเลย หวังว่าคงไม่เจ็บหนักนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 14-03-2017 19:05:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 14-03-2017 19:36:05
คือขอพูดได้มั้ย เนื้อเรื่อง มันยืดยาว เรื่อยเปื่อยไปหมด คือยังไม่เดินไปไหนเลย เหมือนบรรยายความเป็นอยู่ในแต่ละวัน ว่าเลยทำอะไร ฮิมทำอะไร ความสัมพันยังย่ำอยู่ที่เดิม คือยืดยาวมากกกกกกกก แต่ละตอนแต่เนื้อเรื่องไม่ไปไหนเลย จิงๆนะ หรืออาจจะเปน เพราะคนแต่งต้องการให้เนื้อเรื่องดำเนินไปช้า ค่อยเปนค่อยไป เราก้อขอโทษด้วย แต่นี่มัน สิบตอนแล้ว เราเลยว่ามันช้าไป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 14-03-2017 22:29:27
อันดับแรก กราบขอบคุณที่มาต่อ
อันดับสอง เฮียวินมาแทนเฮียฮิม แบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น น้องจะโกรธหรือป่าว
อันดับสาม จะมีใครช่วยบอมผู้บริสุทธิ์ของเราได้บ้าง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: tonnum18 ที่ 14-03-2017 23:23:03
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ  เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ   พระเอกของเรื่องไม่ค่อยจะเห่อหรือหวงน้องเลยเนอะ

แม้อะไรจะรักจะหลงน้องเลขนาดนั้น   เล่นมีองค์รักษ์คอยประกบดูแลเล  หวงซะไม่มี
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 14-03-2017 23:30:31
ในความพี่วินน้องเลนี้เอาใจไปเลย +1000000000 ชอบบบบ รักพี่วินมาก พี่วินหวงและห่วงน้องเลมากนะ ชอบในความพี่วินตรงนี้


ส่วนพี่ฮิมเราเท1ตอนถ้วน 55555555555555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 15-03-2017 00:33:52
พี่วินเป็นพระเอกหรือเปล่าคะ 5555555 เอาใจไปเลยยยยยยยยยย
ให้น้องเลงอนพ่อเลย ลืมน้องได้ไง
ขอบคุณค่า รอมานานม้ากกก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(40%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 16-03-2017 01:09:36
ตอนที่ 11 (100%)

“พี่…วิน”

วินกอดน้องเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลามีแววสงสัยว่าเลอยู่คนเดียวได้ยังไงแต่ไม่ได้ถาม มือหนากดใบหน้าสวยเข้ากับบ่า แขนแกร่งกอดเอวบางให้แน่นขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงอาการสั่นของอีกฝ่าย เลสั่นมาก สั่นจนรู้สึกได้เลยว่าน้องกลัวแค่ไหน

ฮิมปล่อยให้เลอยู่คนเดียวได้ยังไง ?

เขารู้ว่าวันนี้มันเรียกทุกคนไปรวมตัว ไม่รู้ทำไมแต่วินไม่ได้ไปเพราะติดธุระ จนกระทั่งทำธุระเสร็จเห็นฟ้าอึมครึมจึงนึกถึงเล เขานึกว่าฮิมจะอยู่กับน้อง เลยไปทำธุระที่เหลืออยู่นิดหน่อยให้เสร็จ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะปล่อยให้เลอยู่คนเดียว รู้อย่างนี้เขาน่าจะเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองตั้งแต่ทีแรก ร่างสูงดันตัวของอีกฝ่ายไปที่เตียงก่อนจะล้มตัวลงนั่งพร้อมๆ กับเล ร่างเล็กกอดเขาเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขาวางคางบนกลุ่มผมสีดำพลางก้มลงจูบขมับบางเบาๆ ขณะฝ่ามือหนาลูบแผ่นหลังเล็กเป็นการปลอบประโลม

ฝนตกทำให้การจราจรติดขัด ฮิมกลับมาถึงบ้านเมื่อฝนมันซาลงมากแล้ว ร่างสูงรีบจอดรถก่อนจะวิ่งขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน แต่ทันทีที่เปิดประตูห้องนอน ภาพที่เห็นทำให้หัวใจเขากระตุกเป็นจังหวะเดียวกันที่คนบนเตียงสองคนหันมามองทางประตู

“เล…” เขาสบตากับเจ้าของดวงตากลมโต แต่ไม่นานนักน้องก็เป็นฝ่ายละสายตาออกไปก่อน เลหันหลังให้เขาพร้อมกับเอื้อมมือไปกอดคอวินแน่นกว่าเดิม เหมือนร่างกายถูกสาป คนตัวสูงยืนนิ่งไม่กล้าแม้กระทั่งเดินเข้าไป

นัยน์ตาคมมองเพื่อนสนิท มันชูนิ้วกลางให้เขาทีนึงก่อนจะพยายามดึงเลที่กำลังกอดตัวเองอยู่ออกแต่อีกฝ่ายไม่ยอม ยิ่งดึงน้องก็ยิ่งซุกแน่นขึ้นจนในที่สุดเลก็ดันตัวเองขึ้นไปนั่งบนตัก ใบหน้าหวานพยายามซุกเข้าที่บ่าแกร่งจนสำเร็จ

“พ่อมึงมาแล้วนะ” วินมองคนที่ยังไม่ยอมห่างจากเขา ประโยคต่อมาจากอีกฝ่ายทำให้ร่างสูงที่ยังยืนอยู่ต้องกำหมัดแน่น นิ้วเรียวจิกปลายเล็บเข้าที่เนื้อของตัวเอง

“เลอยากอยู่กับพี่วิน” วินเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ราบเรียบเสียจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เขายักคิ้วให้มันข้างหนึ่งเป็นคำถามว่ายังไงทำยังไงต่อ

“ไม่เป็นไร” ประโยคต่อมาของอีกฝ่ายทำให้คนที่ยืนกรานว่าจะอยู่กับพี่วินถึงกับต้องกัดริมฝีปาก นัยน์ตากลมโตของคนที่กำลังซุกใบหน้าเข้าที่บ่าแกร่งสั่นระริก “กูออกไปเอง”

วินมองคนที่เดินออกไปอย่างที่ว่า และทันทีที่ประตูปิดลง คนบนตักเขาก็ร้องไห้โฮออกมาอีกครั้ง

“เป็นอะไร”

“ฮือออพี่วิน พ่อไม่รักเลแล้วแน่เลย ฮึก!”

“ทำไม”

“ก็พ่อไม่อยู่กับเล”

“มึงบอกว่าอยากอยู่กับกู” เขาตอบขณะยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนแก้มขาวออกแบบลวกๆ 

“เล ฮืออ เลไม่รู้แต่พ่อไม่รักเล…ฮึก…แล้ว”

“อย่าคิดไปเอง” เขาไม่ได้ปลอบแต่เตือนสติ สำหรับเลยิ่งปกป้องจะยิ่งได้ใจ “คิดอะไรเลต้องไปพูด ถ้าไม่พูดจะไม่มีคนรู้ว่าเลคิดยังไง”

“แต่ฮิมลืม…”

“ทีมึงเคยลืมวันเกิดมันตั้งสองครั้ง มันยังไม่งอนมึงเลย”

“พี่วินไม่เข้าใจ” เสียงนุ่มว่าขณะยันตัวเองออกจากตักแกร่ง ขาเรียวก้าวลงจากเตียงก่อนจะใช้มือปาดน้ำตาตัวเองแบบลวกๆ แล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้คนที่ยังนั่งงงอยู่บนเตียงงงต่อไป

เขาไม่เข้าใจอะไร ?





ฮิมลงมานั่งรอที่ห้องนั่งเล่น ร่างสูงลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก่อนจะเจอกับหน้าใสๆแต่ดวงตาแดงก่ำของเล แผ่นหลังกว้างยืดตัวขึ้นจากโซฟา มือหนาเอื้อมไปด้านหน้าเขาหวังจะจับคนตรงหน้าเข้ามากอดทว่า…

มือบางยกขึ้นสูงก่อนจะตวัดลงที่ใบหน้าของอีกฝ่าย คนโดนทำร้ายหน้าสะบัดไปตามแรงตบ

เพี๊ยะ!


“…”




เหมือนเวลาหยุดนิ่ง…

ไม่มีใครพูดอะไรนอกจากนั้น เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเบิกตากว้าง กลิ่นคาวเลือดบริเวณมุมปากตีตื้นขึ้นจมูก ฮิมตวัดใบหน้ากลับมามองเลที่กำลังเม้มปากแน่น เสียงสะอื้นแผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากลำคอ นัยน์ตากลมโตคลอไปด้วยน้ำสีใสเพียงแค่อีกฝ่ายกระพริบตามันก็หยดลงมาอาบแก้ม ขาเรียวสั่นระริกก่อนร่างเล็กจะทรุดลงกับพื้น ทันใดนั้นเองเสียงร้องโฮก็ถูกเปล่งออกมาจากลำคอขาว

“ฮือออ เลขอโทษ เลขอ…ฮือ…โทษ” ความรู้สึกผิดมันตีขึ้นใจ ร่างเล็กพนมมือเตรียมก้มกราบแทบเท้าถ้าไม่ถูกเขาจับเอาไว้ ฮิมยื้อร่างของอีกฝ่ายขึ้นก่อนจะดึงคนที่นั่งอยู่บนพื้นขึ้นมานั่งบนตักแทน น้องร้องไห้โฮขณะก้มกราบที่บ่าแกร่ง เสียงแหบแห้งพึมพำคำขอโทษไม่หยุด “เลขอโทษ ฮือ…เลขอโทษ พ่อเจ็บไหมเลขอโทษ”

เขายื้อร่างของน้องเอาไว้พลางแยกมือบางที่ประกบอยู่ให้ออกจากกัน เลตัวสั่น นัยน์ตากลมโตร้องไห้หนัก ริมฝีปากบางกล่าวคำขอโทษจนลำคอเริ่มแห้งผาก “ฮึก…เลขอโทษ”

“พอแล้วไม่ต้องขอโทษแล้ว” เสียงทุ้มว่า เขาใบหน้าของอีกฝ่ายมาสบตากันตรงๆ

“พ่อ ตะ…แต่พ่อเจ็บ ฮือ” มือหนาปาดน้ำตาสีใสทิ้ง เขาส่ายหน้าตอบ

“พี่ไม่เจ็บ”

“ฮิมโกหก…ฮึก!...เลือดมันไหล เลทำ” มือบางเอื้อมมาแตะเบาๆ บริเวณมุมปากที่ได้เลือด ก่อนเลจับเอื้อมมาจับมือเขาเข้าไปแนบที่ใบหน้า เสียงแหบพร่าออกคำสั่ง “ตบเล”

“คนดี…”

“ตบ! ตบเลเถอะนะ ทำ…ฮึก!...เหมือนที่เลทำ”

“ไม่” คำตอบกลับทำให้คนฟังน้ำตาร่วงโผละอีกครั้ง มือบางยื้อขึ้นเป็นครั้งที่สอง ฮิมรีบรวมมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายขึ้นเหนือศีรษะเมื่อรู้ว่าน้องกำลังจะทำอะไร “อย่า! ฮิมอย่าห้าม ฮือ”

“เลฟังพี่ พี่ไม่เจ็บ!”

“โฮกกก”

“ไม่เป็นไรคนดี” เขาจ้องเข้าไปในดวงตากลมที่สะท้อนภาพของตัวเองอยู่

“ฮืออ”

“ไม่เป็นไร…”

พรึบ!

ฮิมปล่อยมือทั้งสองข้างลง ทันใดนั้นร่างเล็กก็เอนตัวมาซบเหมือนหมดแรง แขนแกร่งรีบโอบกอดน้องเอาไว้ ริมฝีปากแนบที่ขมับบาง มือหนาลูบแผ่นหลังของคนที่ยังคงสั่นไม่ยอมหยุด ฮิมไม่เร่งให้น้องพูดเขารอจนกระทั่งอีกฝ่ายคลายความรู้สึกผิดในใจลงบ้าง นาน… กว่าเลจะยอมพูด

“เลขอโทษพี่ฮิม”

“พี่ไม่เป็นไร”

“อย่าโกหกน้อง” มือบางดันร่างตัวเองออก แล้วใช้นัยน์ตากลมสำรวจใบหน้าของคนตรงหน้า เลทำหน้ารู้สึกผิดอีกครั้งเมื่อมองเห็นแผลที่บริเวณมุมปาก ร่างเล็กตั้งใจจะเอื้อมมือเข้าไปแตะแต่โดนมือหนากั้นท่าเอาไว้เสียก่อน เขาจับมือน้องเอาไว้แล้วดันลงข้างลำตัวดังเดิม “เลขอโทษนะ”

ฮิมส่ายหน้าก่อนจะโน้มไปหอมแก้มที่ยังชื้นน้ำตาอยู่ เลเอื้อมมือกอดรอบลำคอเขากลับแล้วเอนตัวซบไหล่แกร่งอีกครั้ง

“เลโกรธ” น้องเริ่มพูด “เลโกรธฮิม ตอนนั้นที่ฮิมไม่อยู่…”

           

ตอนที่ฝนตก… “เลกลัว เลกลัวจริงๆ นะ เลกลัวมาก ฮิมก็รู้”

           

เขารีบพยักหน้าเมื่อเห็นท่าทางของเลที่เหมือนจะกลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ “พี่รู้”

           

“แต่ฮิมไม่มา…”

         

  “พี่ขอโทษ”

           

“อย่าขอโทษเล”

           

“…”

           

“เลแค่โกรธ เลงอน เลเสียใจและก็กลัว”

           

“…”

           

“เลกลัวพ่อไม่รักเลแล้ว” เขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบริเวณเสื้อ “สำหรับฮิม เลอาจจะเป็นแค่น้องชาย”

           

“…”

           

“แต่สำหรับเล…”

           

“…”

         

“ฮิมคือทุกสิ่งในชีวิตของเลนะ”

         

“….”

           

“เพราะถ้าไม่มีฮิม ฮึก! เลก็ไม่เหลือใครแล้วนะ”

“…” คนฟังนิ่งงัน แขนแกร่งออกแรงกอดเอวบางให้มากกว่าเดิม เลเงียบไปอีกครั้งก่อนจะดันร่างของเขาออกแล้วหันหน้ามามองตากันตรงๆ

“ฮิมปล่อยให้เลอยู่คนเดียว ฮิมจะลงโทษเลเหรอ”

“พี่ไม่—”

“อย่าเลยนะ” หยดน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง “จะลงโทษเลยังไงก็ได้ แต่อย่าให้เลอยู่คนเดียวแบบนั้นเลยนะ”

“…”

“เลกลัว เลกลัวมาก ฮือ”

“พอแล้วครับ” เสียงทุ้มว่า มือหนาเกลี่ยน้ำตาออกแล้วทำเสียงดุ เขาไม่ชอบให้น้องร้องไห้ “เลิกร้องไห้”

“ฮึก” คนฟังก็รับคำอย่างว่าง่าย เลเม้มปากแล้วรีบกลั้นน้ำตาเอาไว้ พอคนตัวเล็กสงบ เสียงทุ้มจึงออกปากบ้าง

“อย่าคิดแบบนั้นอีก” เขาว่า “ถ้าไม่รักพี่ไม่เลี้ยงมาจนถึงตอนนี้หรอก”

“ฮือ แต่พ่ออาจจะเลิกรักเลก็ได้”

“พี่จ้างทนายเอาไว้” เรื่องที่เลพูดเขาเคยคิดเอาไว้ก่อนแล้ว “ถ้าพี่ได้ตัดขาดกับเราจริงๆ”

“…”

“เลจะได้เงินพันล้าน”

“ฮือออ ไม่เอา! เลจะอยู่กับพ่อ” ฮิมส่ายหน้า เขามองคนที่ร้องไห้โฮอีกครั้งแล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น “ไม่เอานะ พันล้านก็ไม่เอา”

“จะเอาหมื่นเหรอ”

“พี่ฮิม!!”

“อนาคตไม่แน่นอนเล” เขาดันตัวเลออก แล้วยื่นมือไปลูบแก้มเนียนเบาๆ “บางทีอาจจะเป็นเลก็ได้ที่ไม่อยากอยู่กับพี่”

เขาดันศีรษะน้องเข้ามาใกล้จนหน้าผากติดกัน นัยน์ตาสองประสานกันอย่างไม่มีใครยอมถอย ก่อนเลจะเป็นฝ่ายละสายตาออกไปก่อน “ไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว”

น้องพลิกตัวมานอนพิงบ่า แผ่นหลังเล็กชิดติดกับอกกว้าง คนตัวเล็กหลับตาลงเหมือนเหนื่อยล้ามาเต็มทน เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหลับตาลงบ้างแต่ไม่นานนักก็ต้องลืมขึ้น เมื่อสัมผัสได้ถึงสัมผัสบริเวณมุมปาก พอลืมตาขึ้นก็พบว่าเลเอามือมาแตะตรงแผลที่อีกฝ่ายทำเอาไว้อีกครั้ง เขาจะจับมือน้องลงแต่เลหลบทัน

“เลิกแตะได้แล้ว”

“เลขอโทษจริงๆ นะ”

“พี่ไม่โกรธ”

“แต่เลรู้สึกผิด เลอยากให้ฮิมตบเล”

“ไม่ครับ”

“หรือทำยังไงก็ได้ให้เลมีแผล”

“ยังไงก็ได้” ฮิมถามย้ำก่อนน้องจะพยักหน้า “ถ้าพี่ทำเลจะโกรธพี่ไหม”

“ไม่—อื้อ!” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงก้มจูบที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว มือหนาประคองใบหน้าเนียนขึ้น คนโดนฉวยโอกาสเบิกตากว้างแต่ไม่ได้ขัดขืน ร่างเล็กปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจจนกระทั่งเคลิ้มตาม มือบางยกขึ้นโอบรอบคอแกร่ง เสียงร้องอื้ออึงในลำคอดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อปลายลิ้นร้อนไล่ต้อนไปทั่วโพรงปาก เสียงหอบหายใจเริ่มถี่กระชั้นไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้เมื่อใหญ่ที่ถูกผลักในนอนราบกับโซฟาขณะเดียวกันที่มือเรียวของคนที่ถูกดันให้นอนราบเลื่อนขึ้นไปที่ศีรษะ ก่อนเข้าขย้ำกลุ่มผมสีดำสนิทอย่างลืมตัว ร่างสูงมองคนใต้ร่างอย่างพอใจก่อนจะตัดสินใจทำอย่างที่คิดเอาไว้ตั้งแต่ทีแรก

กึก!

“โอ๊ย! เจ็บ” เขารีบถอนริมฝีปากออก ร่างสูงลุกขึ้นแล้วมองคนที่กำลังจับปากได้เลือดของตัวเอง “กัดเลทำไม”

“อยากได้แผลไม่ใช่เหรอ”

“เอ๊ะ!” คนพูดทำท่าทางเหมือนพึ่งนึกได้ก่อนจะโวยวาย “เลนึกว่าอยากจูบเลซะอีก!”

“…” ฮิมยิ้มรับไม่ได้ตอบอะไรไปมากกว่านั้น

“ไม่เห็นแฟร์เลย”

“ไม่แฟร์ตรงไหน”

“เลตบฮิม ฮิมเจ็บ แต่ฮิมจูบเล เจ็บแต่มันรู้สึกดีอะ” เจ้าของชื่อที่โดนกล่าวถึงถอนหายใจ เขาคงต้องถอนเลใหม่ว่าอย่าเป็นคนที่พูดอะไรตรงเกินไปบ้างแล้ว “จูบอีก”

“หือ”

“เอาอีก!”

“…”

“หลายๆ แผลไง”

“…”

“นะ”

พระเจ้า… ขออย่าให้พวกนั้นรีบกลับบ้านเลย





อีกด้านหนึ่ง

“เฮียครับจะเอายังไงกับมันดีครับ” รพเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์เมื่อได้ยินคำถาม

“มันไหน”

“คนที่บอสสั่งให้จับมาครับ บอสไม่ได้พูดอะไรไว้ พวกผมไม่กล้าทำอะไร” เจ้าของเรือนผมสีแดงหันไปมองคนที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ก่อนจะยักไหล่

“ถ้าไม่ได้สั่งอะไรไว้ ก็ปล่อยมันไปสิ”

“ไม่ทำอะไร ?”

“ถ้าไม่ได้สั่งก็ไม่ต้องทำ” เขาว่าก่อนจะเดินขึ้นรถไปเมื่อเห็นว่าฝนหยุดตกแล้ว

“ครับๆ” ร่างสูงรับคำ ก่อนจะหันหลังกลับไปแก้เชือกให้อีกฝ่าย กว่าฝนจะหยุดตก บอมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลับๆ ตื่นๆ ไปแล้วสองรอบ ส่วนแผลที่หน้าอาการบาดเจ็บก็ลดลงไปมากแล้ว “มึงโคตรโชคดี”

“ครับ ?”

“กูบอกว่ามึงโคตรโชคดี”

“ผมโดนซัดไปสามหมัด ตบอีกหนึ่งนี่โชคดีเหรอพี่”

“เออ ขอบคุณฟ้าซะที่ส่งฝนมาให้”

“แล้วพี่ฮิมเขาจะไม่สั่งให้คนมาจับผมอีกเหรอพี่” บอมถามด้วยอาการหวาดผวา ถ้าสั่งให้คนมาจับเขาจริงๆ จะได้หนีไปตั้งหลักก่อน แต่รุ่นพี่ตรงหน้ากลับส่ายหน้าไปมา

“บอสไม่สั่งให้จับคนเดียวมาเป็นรอบที่สองด้วยสาเหตุเดิมๆ กูถึงบอกว่ามึงโชคดีไง ทีกูโดนงี้แทบไม่รอด”

“พี่ก็เคย ?”

“พวกที่จับมึงมาก็เคยหมดแหละ แต่ไม่ใช่สาเหตุเหมือนมึงนะ”

“แต่พี่มาเป็นลูกน้องของคนที่ทำร้ายพี่นี่นะ”

“เออ ถ้าไม่ทำอะไรผิดบอสก็ทำอันตราย”

“งานสุจริตเหรอพี่”

“มีหลายงาน สุจริตกับตรงข้ามปะปนกันไป แต่เลือกได้ถ้ามึงมีฝีมือพอ โดยเฉพาะคนติดตามน้องเลอะ ค่าจ้างโคตรดี อย่างคุ้ม” คำว่าค่าจ้างโคตรดีทำให้เขาตาลุกวาว “ทำไม ? สนใจเหรอ นู้น ไปขอเฮียผานู้น ถ้าเฮียเขาอนุมัติมึงก็ได้อยู่”

รุ่นพี่ร่างยักษ์ชี้นิ้วไปทางคนตัวสูงที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนอยู่ บอมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ นึกถึง Lamborghini ที่พึ่งได้นั่งมาเป็นหลักฐานว่าค่าจ้างของที่นี่ดีพอสมควร

“เอาก็เอาว่ะ!”

สรุปแล้ววันนี้นอกจากนายบอม บวรชัย พิษสมัยโสพิณจะโชคดีโดนแค่สามหมัด หนึ่งตบแล้ว ยังได้เข้าร่วมแก็งที่ค่าจ้างดีจนลูกน้องสามารถนำเงินไปซื้อ Lamborghini มาขับได้อีกด้วย…





(100%)

ตอนเราแต่งพาร์ทน้องเล เราร้องไห้ค่ะ ทุกคนต้องเข้าใจว่าจริงๆ แล้วชีวิตเลมันรันทดมากเลยนะ เพราะเลมีฮิมคนเดียวแถมไม่ใช่สายเลือดตัวเอง เขาจะทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ ยิ่งพ่อของฮิมก็ไม่ชอบเลอยู่แล้วด้วย ดังนั้นถ้ามองกันจริงๆ จะเห็นได้เลยว่าชีวิตเลมันรันทดพอสมควร

ส่วนพี่บอมคงพูดได้แค่ว่าคนดีผีคุ้ม เราไม่ให้นางลำบากหรอก นางช่วยเลมาเยอะ55555

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์


twitter : @_mdreds
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-03-2017 01:34:36
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 16-03-2017 07:06:50
สู้ๆนะน้องเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 16-03-2017 07:23:52
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 16-03-2017 08:19:30
โถ่น้องเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 16-03-2017 08:43:31
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 16-03-2017 10:12:03
จะบอกว่าฟ้าฝนเป็นใจหรือว่าลูกเฮียเขาช่วยทางอ้อมหว่า พี่บอมของเราเลยรอดมาได้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 16-03-2017 10:16:20
สงสารน้องเล  :sad4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 16-03-2017 10:29:59
เลผู้อยู่โลกสวยงามกำลังน่าสงสารTT มาต่ออีกนะค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-03-2017 10:41:09
อย่าพาน้องเลกินมาม่านักเลยนะสงสารน้อง :hao5: :hao5: :hao5:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 16-03-2017 15:31:41
สงสารน้องเล กอดน้องแน่นๆนะพี่ฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-03-2017 15:53:51
เล งอนฮิมแล้ว ด้วยการกอดพี่วินไม่ยอมปล่อย
ฮิม คงเจ็บมาก ที่เลเมิน
แต่พอเล คิดได้จะไปง้อ กลับไปตบฮิมซะนี่
“ฮิมคือทุกสิ่งในชีวิตของเลนะ”
“เพราะถ้าไม่มีฮิม ฮึก! เลก็ไม่เหลือใครแล้วนะ”
โอย.....หวาน เล น่ารัก น่ากอด  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เลไม่อยากได้พันล้าน เพราะอยากได้หมื่นล้าน ไม่ช้าย
ไม่อยากไปจากฮิมต่างหาก เลแค่อยากอยู่กับฮิมเท่านั้น  :impress2:
สุดท้ายพายุฟ้าฝน ทำให้บอม โชคดี
ไม่ถูกลงโทษต่อ แล้วทำให้ได้งาน ที่เงินดีโคตร
งั้นเล ให้ทั้งโทษ ทั้งคุณ กับบอม สิ
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 16-03-2017 16:49:19
สงสารเลมากฮือ :o12:
อยากรู้ว่าพี่ฮิมจะเอายังไงกับน้องต่อ แต่ท่าทางจะรุกขึ้นเรื่อยๆแล้ว เพราะความซื่อของเลแท้ๆเลย :hao5:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-03-2017 19:07:00
ร้ายกลายเป็นดีเลยนะบอม  :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 16-03-2017 19:20:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 16-03-2017 22:07:54
สงสารน้องเลจัง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 16-03-2017 22:32:03
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-03-2017 17:29:47
ตามทันแล้ว~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: mamacub ที่ 17-03-2017 19:30:40
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 160317#11(100%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 19-03-2017 00:25:47


#12





2 เดือนต่อมา





กระทู้ยอดนิยม

‘เล นิพิฑ หลีดวิศวะคนใหม่ มอดัง’

‘น้องเล วิศวะ มอx คนนี้หรือที่เขาว่ากันว่าสวยกว่าผู้หญิง’

‘นิพิฑ ชีวานนท์ ของสูงวิศวะประจำปีการศึกษา xxx’


           



แฮชแท็ก #น้องเลเล่เล้เล๊เล๋

            @maidavican ตัวจริงคือเริ่ดมาก โคตรขาวอะ ขาวผู้ดี ขาวมาก กระทบแสงทีนี่ยิ่งกว่าแสงนีออน

          @Asdf เราว่าตัวจริงสวยกว่าในรูปมากๆ สวยมากจริงๆ เราเป็นพี่ที่คณะของน้องเลเลย เห็นครั้งแรกยังคิดในใจว่าทำไมสวยได้ขนาดนี้

          @nattygood เคยไปแอบส่องน้องเลตอนซ้อมหลีด แล้วเลใส่ขาสั้น มึ๊ง!! น้องเขาเป็นผู้ชายที่หุ่นและขาเพรียวเรียวกว่าผู้หญิงแท้ๆ อย่างกูอีกค่ะซิส

@youkonwn ใครมันตั้งชื่อแท็กอ่ะเด๋อมาก ลอลิงอักษรต่ำเดี่ยวผันวรรณยุกต์ได้แค่สามเสียงคือ สามัญ โท ตรี ค่ะซิสส (อิโมติคอนกรอกตามองบน)

          @Pliaaaa เพื่อนเราบอกว่าเลนิสัยไม่ดี

                   @skyjung  เพื่อนเธอเป็นแม่ชีเหรอ ?

                   @pin59 เลเป็นคนที่นิสัยดีสุดตั้งแต่ที่เราเคยเจอเลยค่ะมึง สุภาพมากอะคำหยาบเขายังไม่พูดเลย

          @numsai เจอครั้งแรกนึกว่าจะเป็นคนหยิ่งๆ แต่พอได้คุยถึงรู้ว่านิสัยดีมาก ดูซื่อแต่ไม่ปัญญาอ่อน แต่นิสัยอ่ะดีจริงๆ คอนเฟิร์ม!

         

ติ๊ด!

(วันนี้เลิกกี่โมง)

“เลเลิกเรียนบ่ายสามแต่ตอนหกโมงต้องกลับมาซ้อมหลีดต่อเลยว่าจะไปกินไอติมกับพี่รหัส” ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ขณะเก็บข้าวของเตรียมจะออกจากห้อง ทันทีที่เลิกเรียนฮิมก็โทรมาพอดี

(เราซ้อมเสร็จกี่โมง)

“ประมาณสามทุ่ม”

(…)

สองก็ได้” ผมว่าเสียงอ่อยก่อนจะโบกมือบ๊ายบายเกี๊ยก พิษ ดิน เอ็กซ์แล้วเดินออกมาจากห้อง มีรถพี่รหัสผมจอดอยู่ที่หน้าคณะเพราะเราเตี๊ยมกันเอาไว้แล้วว่าหลังจากผมเลิกเรียนเราจะกินไปบิงซูที่คาเฟ่เปิดใหม่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

(พี่ติดงาน) ฮิมพูดเอาไว้แค่นั้นก่อนจะหยุดชะงักไป (เกี๊ยกจะไปรับตอนเลิก)

“ฮิมใช้แต่เพื่อนเล สงสารเพื่อนเลหน่อยสิ” เดี๋ยวนี้ถ้าฮิมไม่ว่าง คนที่มารับผมกลับบ้านเริ่มไม่ใช่เหล่าพี่ๆ อีกต่อไป เพราะพวกพี่เขาอยู่พี่สี่ จะจบแล้ว ช่วงนี้เลยวุ่นหน่อย ไหนจะเรียน ไหนจะโปรเจคจบแล้วโปรเจคที่ว่ามันก็ไม่ใช่ง่ายๆ ชนิดที่ว่าทำให้ฮิมที่ดูเหมือนไม่เคยเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเริ่มเครียดขึ้นมาได้ ส่วนคนที่มีฝีมือช่วงนี้ก็เริ่มถูกบริษัทน้อยใหญ่มาทาบทามตัวแล้ว เชื่อไหมครับว่าพี่ๆ ทุกคนในบ้านของผมเห็นกินแต่เหล้ากันขนาดนั้น แต่ทุกคนมีบริษัทมาทาบทามแล้วคนละไม่ต่ำกว่าสองบริษัท ขนาดฮิมที่มีบริษัทเป็นของตัวเองแล้วยังมีคนส่งจดหมายมาทาบทามเลย อันที่จริงแล้วพวกเขาเก่งกันมากๆ (โดยเฉพาะพี่เกียร์ ไม่รู้ว่าตื่นนอนไปเรียนตอนไหนแต่ในบ้านพี่เขาเก่งเป็นอันดับที่สองรองจากฮิม) ถึงจะหมั่นไส้ในความฉลาดแค่ไหนแต่ผมคงต้องยอมรับในเรื่องนี้และเชื่อว่าพวกเขาจะได้เกียรตินิยมกันหมดทุกคน

แต่นั่นแหละเพราะทุกคนมั่วแต่ยุ่งๆ กันอยู่คนที่มารับผมจึงเป็นเกี๊ยกตลอด ผมแอบสงสารเพื่อนนิดๆ แต่เคยถามเกี๊ยกไปว่าหงุดหงิดไหมที่ถูกใช้บ่อยๆ เขาก็ตอบว่าไม่นะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เหมือนความสัมผัสระหว่างพี่ฮิมกับเกี๊ยกมันแปลกๆ ราวกับว่าเจ้านายกับลูกน้องอะไรประมาณนั้น แต่บางทีผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้

“พี่นนท์นี่วันนี้เลอยู่ได้ถึงสองทุ่มนะครับ” ผมเอ่ยปากบอกพี่รหัสทันทีที่ขึ้นรถ พร้อมกับยกมือไหว้พี่ๆ ในรถ เดี๋ยวนี้ผมสนิทกับพวกพี่ๆ เขามาก ทั้งพี่นนท์นี่ พี่ไก่ พี่เชอร์รี่ รวมถึงสมาชิกในแก็งโรซารี่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาไปเกือบทั่วมหา’ลัย เพราะพี่รหัสผมมีอำนาจในหมู่สาวประเภทสองมากจริงๆ

“Don’t worry ค่ะวันนี้ไม่เยอะซ้อมแปปเดียว”

“จริงจังไหม คราวก่อนก็หลอกเลว่าซ้อมแปปเดียวแล้วให้เลกลับก่อน ส่วนคนอื่นซ้อมต่อ”

“โอ๊ย! ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นก็ได้ค่ะหนู จริงๆ อีนพมันอยากจะบอกว่าแค่พี่ฮิมให้น้องเลมาเป็นหลีดก็บุญหัวมันแล้ว”

“หุบปากไปเลยอีไก่!” ผมยู่ปาก อิทธิของพี่ฮิมยังมีอำนาจอยู่เสมอแม้ว่าผมจะสนิทกับพวกพี่ๆ มากแค่ไหน เอาตรงๆ ผมก็ยังไม่เข้าใจนะว่าทำไมทุกๆ คนถึงได้ดูกลัวฮิมกันไปหมด แต่ไปถามใครเขาก็ไม่ยอมตอบผมอะ

“พี่นนท์นี่อ่า”

“มันก็บุญหัวพี่จริงๆ นั่นแหละเล แค่พี่ฮิมให้หนูมาเป็นหลีดให้ เบ้าหน้าหลีดคณะเราก็ชนะหลีดคณะอื่นเขาไปเกือบหกสิบเปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ!”

“กรี๊ดกร๊าด คือเลิศ”

“ปรบมือค่า!!”

แปะ แปะ แปะ แปะ

“แต่เลยังรู้สึกเหมือนเลเป็นตัวถ่วง”

“ไม่ถ่วงเลยค่ะลูก ที่หนูได้มาเป็นหลีดกับใส่ขาสั้นตอนซ้อมได้นี่พี่ยังอึ้งอยู่เลย” ผมก็อึ้งเหมือนกันนั่นแหละ สองเดือนก่อนมีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผม แต่พีคสุดก็คงจะเป็นการที่พี่ฮิมให้เป็นหลีดนี่แหละ เพราะหลังจากเหตุการณ์ที่ได้ทะเลาะกับพ่อขั้นรุนแรง (วันฝนตกแล้วฮิมไม่มาหาผมนั่นแหละ) หลังจากวันนั้นผมรู้สึกเหมือนเราจะเข้าใจกันมากขึ้น เขายอมผมมากขึ้นถึงขนาดให้เป็นหลีด เพราะพี่นนท์นี่คะยั้นคะยอผมมาแล้วผมก็ไปคะยั้นคะยอฮิมต่อ ทีแรกผมรู้สึกเหมือนว่าเขาจะไม่ให้ (ไม่รู้ทำไม แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ) แต่เอาเป็นว่าพ่อให้เป็นเฉย แต่ต้องอยู่ในกรอบบ้าง เพราะการที่ผมได้เป็นหลีดนั่นหมายความว่าผมต้องได้รับการฝึกซ้อม และการฝึกซ้อมที่ว่านั่นหมายถึงผมจะถูกปล่อยมากขึ้น เพราะปกติเลิกเรียนกลับบ้าน ถึงไปห้างก็ไปกับฮิมอะไรประมาณนั้น มาคิดดูดีๆ แล้วผมแทบจะตัวติดกับฮิมตลอดเวลา แต่เพราะเอาเวลาหลายชั่วโมงไปซ้อม ผมเลยต้องสนใจเรื่องการเรียนให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย ถ้าถามว่าอยากเป็นไหม ผมก็อยากเป็นนะ อยู่กับพี่ๆ แก็งโรซารี่แล้วมันก็สนุกดี

แต่ถึงจะบอกว่าปล่อยก็เถอะสองอาทิตย์แรกที่ผมไปซ้อมหลีด ฮิมลงทุนมานั่งเฝ้าเอง ถ้าเขาไม่มาพี่ในบ้านสักคนก็ต้องถูกส่งมา เป็นเรื่องให้คนทั้งบ้านบ่นอยู่พักใหญ่ๆ โดยเฉพาะพี่วิน รายนี้บ่นเยอะมากแต่สุดท้ายก็มานั่งเฝ้าผมอยู่ดี จำได้เลยว่าช่วงนั้นแก็งโรซารี่เงียบลงไปเยอะ เพื่อนหลีดของผมทุกคนเกร็งกันไปหมดจนกระทั่งอาทิตย์ต่อจากนั้นฮิมก็ไม่ส่งคนมาเฝ้าผมอีก บรรยากาศที่ชวนน่าสะพรึง (คนอื่นเขาบอกผมมางั้น) จึงจางลงไป แต่ถึงจะจางลงไปมากพวกพี่ๆ แก็งโรซารี่เขาก็ยังเกรงพ่อผมอยู่ดี ผมจึงไม่ค่อยถูกฝึกหนักเหมือนคนอื่น แต่ผมก็พยายามเต็มที่ในส่วนของผมนะ

“อีนนท์ ที่มึงบอกว่าจะพาไปกินนี่มึงรู้ทางใช่ปะ” เพราะร้านมันเปิดไหมพี่ไก่ก็เลยถาม

“คิดว่ารู้”

“แหม มึงอย่าพาพวกกูขับเข้าไปจนสุดซอยเหมือนครั้งก่อนนะอีดอก”

“ไม่หรอกย่ะ!”

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เรามาถึงร้านหลังจากสี่สิบนาทีให้หลังเพราะพี่นนท์นี่เลี้ยวผิดทาง





หกโมงเย็น

เราวกกลับเข้ามาที่มหา’ลัยอีกครั้งหลังจากกินบิงซูเสร็จ ก่อนซ้อมผมไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำจากชุดนักศึกษาเปลี่ยนมาเป็นกางเกงขาสั้นไม่สั้นมากแค่เหนือเข่านิดๆ กับเสื้อยืดสีฟ้าธรรมดา เลือกชุดที่มันถ่ายเทอากาศได้ดีเพราะถ้าซ้อมไปนานๆ แล้วมันจะร้อนมาก

“น้องเลน่ารักอีกแล้ว” พี่เชอร์รี่ชมหลังจากเห็นผมเดินออกมาจากห้องน้ำ “ทำไมหนูถึงสวยจัง ตอนเด็กแม่เอาอะไรให้ทาน”

ผมยิ้มแหย่ “แม่เลเสียตั้งแต่เลอายุสองขวบ”

“อุ๊ย! พี่ขอโทษ งั้นไม่ถามละ เลไปวอร์มร่างกายกับอีแมวไป” พี่เชอร์รี่โบกมือไล่ผมไปหาพี่แมว สาวประเภทสองอีกคนที่รับหน้าที่เป็นคนดูแลเรื่องการวอร์มอัพของผมก่อนที่จะซ้อม ผมถูกสั่งให้นั่งก้มศีรษะมือแตะปลายเท้าค้างเอาไว้ 30 วินาที ในขณะนั้นเองก็ได้ยินเสียงวี้ดว้ายของพี่ๆ ผมเงยหน้าขึ้นไม่ได้เพราะยังนับไม่ถึง 30 แต่หูได้ยินชัดเจน

“น้องอินมาแล้วเหรอลูก”

สิ่งที่น่าผิดหวังในการได้มาเป็นหลีด คือคนที่ผมไม่ถูกชะตาดันมาเป็นด้วย!

“พี่นนท์นี่เห็นนะครับว่าไปกินบิงซูกันมา ไม่ชวนอินเลย”

“ไว้คราวหน้าเนาะ นู้นๆ ไปวอร์มร่างกายกับเลก่อน แล้วค่อยคุยเรื่องบิงซู”

“ครับๆ” ผม… กรอกตามองบน แทบอยากจะย้ายที่นั่งแต่ไม่ทันการ อีกฝ่ายเดินมานั่งข้างๆ ผมแล้ว “หวัดดีเล”

“อือ หวัดดี” ผมตอบรับตามมารยาทก่อนจะหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย

อินคล้ายกับผม…

หลายๆ คนบอกมาแบบนั้น และผมเข้าใจคำว่าคล้ายที่ว่านั่นหมายถึงอะไร ลักษณะก็ใช่แต่ที่ชัดเจนที่สุดคงจะเป็นเรื่องรูปร่างหน้าตา ผมฟังคนชมตัวเองว่าสวยมาทั้งชีวิตแล้ว อินก็คงจะคล้ายๆ กันแต่เขาคงจะโดนชมว่าน่ารักเสียมากกว่า ผมไม่ได้อิจฉาหน้าตาหรืออะไรของอินแต่จะให้พูดยังไงดี เอาเถอะ! จะคิดยังไงก็ได้ จะคิดว่าผมอิจฉาหน้าตาของเขาก็ได้แต่ผมไม่ชอบเขาอะ!

อินไม่ได้ดูร้ายกาจ ไม่ได้ดูมีพิษภัย จะเป็นประเภทนางร้ายที่ต่อหน้าคนอื่นดีลับหลังเลวก็ยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่ เขาใจดีกับทุกคนรวมถึงผมด้วย จริงๆ แล้วอินแทบจะเอาขนมมาให้ผมทุกครั้งที่เขาไปไหนมาไหน (ไม่รู้คนอื่นได้หรือเปล่าแต่ผมได้นะ) หรือถ้าจะให้พูดกันตรงๆ ก็คือเขาไม่เคยร้ายกับผม ไม่มีท่าทีร้ายเลยด้วย ขนาดพี่นนท์นี่ที่มองคนออกยังบอกว่าอินใจดี นั่นแสดงว่านิสัยโดยกำเนิดของอีกฝ่ายเป็นอย่างนั้นจริงๆ

แต่ถึงจะดีแค่ไหนผมก็ไม่ชอบอะ เข้าใจไหม! ก็คนมันไม่ชอบอ่า!!

หรือไม่บางทีสาเหตุที่ผมไม่ชอบอิน… มันอาจจะเป็นเพราะฮิมก็ได้





บ้าน

ปัง!

“กลับมาแล้ว” ผมเดินกระฟัดกระเฟียดเข้าบ้านหลังจากบอกลาเกี๊ยกที่ขับรถมาส่งเสร็จ ไม่มีใครสนใจ พี่ๆ ทุกคนกำลังง่วนอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ และในเมื่อไม่มีใครสนใจ ผมเลยเลือกที่จะเดินขึ้นไประบายอารมณ์บนห้องแทน

ทำไมตั้งแต่เห็นหน้าอินอะไรมันก็ดูหงุดหงิดไปหมด

“อ้ากก—อ๊ะ!” ผมต้องหุบปิดปากเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วเจอฮิมที่กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง แผ่นหลังกว้างพิงกับหัวเตียง บนตักแกร่งมี Macbook ที่เขากำลังใช้พิมพ์งานอยู่ เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นก่อนจะกระดิกนิ้วให้ผมเข้าไปหาทว่าสายตายังคงจดจ้องที่หน้าจอเหมือนเดิม “เลกลับมาแล้ว”

ผมเดินเข้าไปที่เตียงแล้วกระโดดขึ้นไปนอนพิงไหลของคนที่กำลังทำงานอยู่ ฮิมหันหน้ามาจูบหน้าผากผมนิดหน่อยก่อนจะหันกลับไปสนใจที่หน้าจอต่อ เขากำลังพิมพ์ภาษาอังกฤษยาวเหยียดที่ขนาดผมแปลออกก็ไม่เข้าใจมันอยู่ดี

อะไรอ่ะงง ?

“พ่อกำลังทำอะไร”

“โปรเจค” ฮิมตอบสั้นๆ เหมือนเขาจะยุ่งมากแต่ก็ยังไม่ไล่ผมออกไป

“เลขึ้นปีสี่เลจะได้ทำไหม”

“ทำ”

“เลแย่แน่” ผมไม่เข้าใจเนื้อหามันเลยแม้แต่นิดเดียว

ปึก!

มือหนาปิดหน้าจอ macbook ลง เขาหันมามองผมก่อนจะเข้าจู่โจมที่ริมฝีปาก ไม่นาน… แค่จุ๊บๆ แล้วก็ละออกไป

“พี่จะไม่ได้นอนกับเล”

“ทำไมอะ!! ฮิมจะไปไหน”

“ทำงานด้านล่างครับ” ร่างสูงเดินลงจากเตียง ก่อนจะหยิบ macbook ไปพร้อมกับสายชาร์ต หลังจากนั้นก็เดินกลับมาหาผมอีกครั้งจูบที่หน้าผากแล้วออกคำสั่ง “ไปอาบน้ำ อ่านหนังสือก่อนแล้วค่อยนอน”

“เลอยากเล่นเกม” ผมบอกตามตรง “นะ”

“อาบน้ำแล้วอ่านหนังสือก่อน ส่วนเล่นเกม…” เสียงทุ้มเงียบไปครู่หนึ่ง “อย่าเกินห้าทุ่ม”

“โอเค” ฮิมเดินออกไปทันทีหลังจากบอกเสร็จ ส่วนผมก็วิ่งแจ้นเข้าไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จก็มาอ่านหนังสืออย่างที่พ่อบอก

 

23.25 น. 

ตู้เย็นสีดำถูกเปิดออก นัยน์ตาคมไล่มองสิ่งที่อยู่ในตู้เย็นไม่มีเบียร์อย่างที่เขาคิด สิ่งที่เต็มตู้ตอนนี้คือกระป๋องกาแฟยี่ห้อดังซื้อมาทุกรสชาติตั้งแต่แบล็ค โรบัสต้ายันลาเต้ เสริมพร้อมด้วยเครื่องดื่มชูกำลังหลากยี่ห้อ ไทด์ถอนหายใจ มือหนาเลือกหยิบกระป๋องกาแฟซึ่งนับเป็นอันที่สามของวันนี้ขึ้นมาเปิดแล้วกระดกเข้าปาก ใบหน้าคมคายสะบัดไล่ความง่วงที่คืบคลานเข้ามาทุกทีพร้อมกับโยนกระป๋องทิ้งลงถังขยะ 

“มีใครจะเอากาแฟไหม” เสียงเอื่อยตะโกนถามเพื่อนที่คงสภาพไม่ต่างกัน

“สามกระป๋อง” พวกมันตอบกลับ เขาเปิดตู้เย็นอีกครั้งหยิบกาแฟมาสามกระป๋องก่อนจะเดินไปที่ห้องนั่งเล่น สถานที่ที่บัดนี้เต็มไปด้วยโน้ตบุ๊ค กระดาษ ปากกา ดินสอและเหล่าคนขอบใต้ตาดำ เพราะมันเป็นโปรเจคจบเลยจะทำแบบแล้วๆ ไม่ได้ ทางเลือกสุดท้ายคือทุ่มสุดตัว แต่ไหนจะหาข้อมูล ทำนั่นทำนู่นทำนี่อีก มันเลยเยอะพอสมควร

“ใครเอายกมือ” เขาถามก่อนจะโยนกระป๋องกาแฟให้แต่ละคนที่ยก พวกมันรับไปเปิดกินก่อนจะหันหน้าหาหน้าจอต่อ แทบจะไม่มีเวลาคุยกัน โปรเจคยาก อาจารย์ก็โหดชิบหาย

“ง่วงโคตร”

“เปิดหนังดูดีไหม”

“ไม่ กูจะเสียสมาธิ”

“กูก็อยากดู”

“ดูตรงหน้ามึงไปก่อนจะเรียนไม่จบ”

…แล้วก็กลับมาเงียบเหมือนเดิม

ไทด์ถอนหายใจอีกครั้ง ร่างสูงก้าวเข้ามุมเดิมของตัวเองก่อนจะจมอยู่กับโปรเจคตรงหน้าต่อ เกือบสามสิบนาทีก่อนเขาจะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า แต่พอเห็นว่าใครมาก็หุบตาลงมามองสิ่งที่ตัวเองกำลังพิมพ์ตรงหน้าดังเดิม

“ฮิม” เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมาจาก Macbook เขาหันไปมองนาฬิกาที่ผนังกำแพงแล้วขมวดคิ้ว

“ทำไมยังไม่นอน”

“เลนอนไม่หลับ” ร่างเล็กในชุดนอนสีฟ้าเดินเข้าหาก่อนจะนั่งลงข้างๆ ใบหน้าสวยเอนลงแนบไหล่แกร่ง นั่นเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ…

“มีอะไรหรือเปล่า” ฮิมถามอีกครั้งเมื่อสัมผัสได้ว่าร่างกายถูกเบียดจนน่าผิดปกติ ซึ่งคำตอบที่ได้รับคือคำตอบเดิม

“เลนอนไม่หลับ” เพิ่มเติมคือ “ฮิมยังไม่ได้…”

พรึบ

สายตาทั้งสี่คู่เงยขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“มองเหี้ยไร” ก่อนจะหุบลงมองหน้าจอดังเดิม เขาหันมามองน้องที่ยังเม้มปากแน่น “พี่ทำแล้วไง”

“นั่นมันแค่… เหมือนแต่ก่อน” เสียงนุ่มชะงัก คนพูดหน้าแดงไปหมดแล้ว “แต่ตอนนี้ฮิมเปลี่ยนแล้วนี่”

“…”

“ไม่ใช่เหรอ ?” เลเม้มปากหลังจากพูดจบ นัยน์ตากลมหุบมองลงพื้นจนไม่ได้สังเกตเลยว่าคนข้างกายเขายืนขึ้น ฮิมก้มจับข้อมือเรียวก่อนจะดึงให้น้องลุกขึ้นตาม ร่างสูงพาอีกฝ่ายเดินไปทางระเบียงก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินออกไปด้านนอก ทิ้งให้คนที่มองตามหลังอย่างวินต้องถอนหายใจ





(40%)
ทุกคนคิดว่าเขาจะทำอะไรกันคะ ?

ส่วนใครถามเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเลกับวินแสดงว่าพวกเธอไม่อ่านทอร์คกันใช่ไหมมมมม ?


#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

​twitter @_mdreds
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Wdf_mikeii ที่ 19-03-2017 02:22:43
แค่มาต่อก็ดีใจ  ลุ้นหนักฮิมจะทำอะไรน้าาาา :mew3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: pearlypear ที่ 19-03-2017 02:53:57
สาเหตุที่ไม่ชอบอิน… มันอาจจะเป็นเพราะฮิม คือ????????? มันมีเงื่อนงำ! :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 19-03-2017 05:51:45
ทำอะไรยังไม่รู้
แต่ที่รู้ๆ เกลียดอิน!!!!!!!!!!!
แลดูร้ายลึก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 19-03-2017 08:22:42
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 19-03-2017 08:41:29
ทำไรกันอ่ะ
แอบปีนตามไปดู
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-03-2017 10:43:54
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 19-03-2017 10:50:02
กรี๊ด.คร้าบทำไร
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-03-2017 11:00:50
จะดราม่า ก็เพราะอินแน่เลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 19-03-2017 11:15:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 19-03-2017 11:46:46
คืออออออ เราจะรอช่วงหน้านะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 19-03-2017 12:17:54
หวังว่าอินจะไม่มาทำอะไรก็ตามให้น้องเลของเราร้องไห้นะ หรือไม่ก็มายุ่งกับพ่อของน้องนะ ไม่งั้นโดนแน่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 19-03-2017 13:17:29
น้องเลคือที่หนึ่งในใจพี่ฮิมอยู่แล้ว ใครก็ไม่มีทางสู้หรอก
ต้องจูบก่อนนอนใช่มั้ยน้องเลลูกก โตเป็นสาวแล้วว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: mamacub ที่ 19-03-2017 13:56:14
ไม่ชอบอินเหมือนกันนนนนนนนนนนนน
นางอยากได้พ่อฮิม  :z6: :z6: :z6:

ว่าแต่สองพ่อลูกทำไรกันก่อนนอนแจ๊ะ :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 19-03-2017 14:51:57
กลัวอินมาทำให้ม่าจังฮือ
พี่ฮิมลากน้องไปจูบแน่ๆ พัฒนากันมาถึงขั้นทำแบบนี้ทุกวันแล้วแม่ยกก็ชื่นใจ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: GGamy ที่ 19-03-2017 15:18:17
เมื่อไรบทของอินจะมาเยอะๆคะ?
นางจะได้จบๆไปซักที นี่ขนาดที่ผ่านๆมานางก็ดูดีนะ ยกเว้นแค่ตอนแรก
แต่แบบ ไปเหอะ ฉันไม่ชอบเธอ :katai4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-03-2017 19:30:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 19-03-2017 20:15:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 19-03-2017 22:38:16
อินยังไม่ออกลาย ทุกคนก็เกลียดนางแล้ว รวมเราด้วย555  :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-03-2017 23:18:18
เขาจะทำอะไรกัน!?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 20-03-2017 01:59:41
น้องเลอ้อนระดับล้าน ใครจะไปทานทน ยั่วให้ตบะแตกไปลยลูก
ดีพคิสก่อนนอนป่ะคะ เดา

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 20-03-2017 06:03:40
ค้างงงงคะ
มาปูเสื้อรอแล้วนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 21-03-2017 11:05:06
รอความเจ้มจ้น  :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(40%) p.12
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 22-03-2017 23:54:02
#12 (100%)



“อื้อ” เสียงหอบหายใจพร่าแผ่วเบาดังออกมาจากสองร่างที่กำลังยืนบดเบียดกันอยู่ ผมถูกดันจนแผ่นหลังแนบชิดติดกำแพง เป็นเวลาเดียวกันที่ริมฝีปากถูกครอบครอง คนตัวสูงเปรียบเสมือนศัตรู ฮิมกำลังใช้ลิ้นแทนอาวุธในการรุกล้ำ ใช้แขนแกร่งสร้างเป็นกำแพงกังขัง ส่วนกายหนาเปรียบดังไฟร้อน เมื่อบดเบียดเข้ามา เขาสามารถทำให้ร่างกายของผม ‘ร้อน’ ขึ้นตาม ทุกสิ่งทุกอย่างราวกำลังจะพรากชีวิตผมไป ดึงดูดเอาทั้งลมหายใจและเรี่ยวแรง

พรึบ!

ผมล้มลงทันทีที่ฮิมถอนริมฝีปากออก โชคดีที่มีแขนแกร่งรองรับเอวผมเอาไว้ ผมถึงไม่ได้ล้มฟุบลงไปนอนกับพื้นอย่างที่ควรจะเป็น “วันนี้ฮิมใจร้าย”

“ตรงไหนหืม ?”

“ไม่ให้เลพักเลย” วันนี้เขาไม่ยอมถอนออก ร่างสูงทำติดต่อกันไปเรื่อยๆ จนผมที่ไม่ชำนาญการจูบนักหายใจไม่ทัน เพราะทุกทีเขาจะละออกมาให้ผมได้หายใจบ้างแต่วันนี้ไม่ มีละบ้างพอให้สูดเอาลมหายใจเข้าปอด คล้ายคนจมน้ำได้โผล่หน้าขึ้นมาเหนือน้ำก่อนจะจมลงไปใหม่ ฮิมหัวเราะเขาจับผมยืนขึ้นดีๆ ก่อนจะเชยคางขึ้น นัยน์ตาคมสบประสานขณะถามเสียงกระเส่า

“แล้วไม่ชอบเหรอ ?”

“เปล่า…”

“…”

“เลชอบ” ผมยิ้มก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหาอีกฝ่ายอีกครั้งแต่โดนฮิมเอามือมากันเอาไว้

“ไปนอนได้แล้ว”

“อือ”

“…”

“แต่ขออีกรอบนึงก่อน”

“เล!!”

อุ๊ย… ฮิมดุแล้ว





ใกล้เทศกาลจะสอบ พี่รหัสของผมเริ่มนำชีทเก่าๆ มาให้ แม้จริงๆ แล้วผมจะได้จากฮิมมาเยอะแยะแล้วเหมือนกัน ไม่รู้ว่าตอนเขามีน้องรหัส พี่ฮิมได้ให้ชีทกับน้องรหัสหรือเปล่าแต่เขาให้ผมมาเยอะพอสมควร ในมหา’ลัยผมชีทของรุ่นพี่ถือเป็นสิ่งของมีค่าเพราะบางทีอาจารย์ก็เอาข้อสอบจากรุ่นเก่าๆ มาออกด้วย

ผมเริ่มอ่านหนังสือหนักขึ้นกว่าเดิมเพราะเป็นคนหัวช้าอยู่แล้ว (ที่สอบเขาวิศวะมาได้เพราะฮิมติวให้ล้วนๆ) แต่ช่วงนี้ฮิมดูเหมือนจะไม่ว่าง ผมเลยไม่อยากขอให้ฮิมติวให้นัก เขายุ่งกับโปรเจคอยู่จนปัญญาจริงๆ ผมถึงจะเดินลงไปถาม แต่พ่อก็ตอบนะ เขาไม่ได้แสดงท่าทีหงุดหงิด บางทีผมงงหนักมากๆ ฮิมก็ถึงกับเลิกทำโปรเจคแล้วมาติวให้ผมเลย จนในที่สุดเมื่อฮิมเห็นว่าผมจะไม่รอด เขาเลยตกลงกับผมว่าจะติวให้อาทิตย์ละสี่วัน วันละสองชั่วโมง นี่ถือว่าน้อยนะเพราะถ้าเป็นช่วงปกติ อย่างเช่นช่วงที่ผมจะสอบตอนมัธยมฮิมติวคณิตให้ผมทุกวัน เขาทำทุกวิธีทางให้ผมสอบผ่านด้วยตัวเองให้ได้ แตพ่อเป็นคนที่ติวเก่งมาก นอกจากจะติวเก่งแล้วยังเก็งข้อสอบเก่งอีก เหมือนรู้ล่วงหน้าว่ามันจะออกอะไรบ้าง มาคิดดูดีๆ แล้วพ่อตั้งใจเรียนจริงๆ ถ้าเทียบความตั้งใจของผมกับเขาแล้วบอกเลยว่าผมเทียบไม่ติด มีแต่คนบอกว่าฮิมเก่งๆ (แน่ละก็เขาเก่งจริงๆ) แต่รู้ไหมว่าสมัยมัธยมฮิมตื่นมาอ่านหนังสือทุกวัน ส่วนผมเหรอ ? เหอะๆ… นอน

วันนี้ไม่มีซ้อมหลีด เลิกเรียนเร็วด้วย จริงๆ ไม่ได้เรียนด้วยซ้ำเพราะอาจารย์ไม่เข้า วันนี้เลยเลิกเรียนตอนสิบโมงเช้า เพราะเลิกเร็ว ผมจึงขอให้เกี๊ยกมาติวหนังสือให้ที่ห้องสมุดของมหา’ลัย มีดินติดมาด้วย แต่รายนี้ไม่ได้มาติว เหมือนมาด้วยเฉยๆ เพราะทันทีที่ถึงโต๊ะเขาก็ถอนแว่นแล้วฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะเลย เหมือนเพื่อนผมจะดูง่วงๆ ตั้งแต่เช้าแล้วนะ อ้อ! นี่ผมพูดถึงวิวัฒนาการของดินหรือยัง เขายังไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยแล้วนะ แต่ยังใส่แว่นเหมือนเดิมแต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พอถอนหายกากออกปุ๊บ… หล่อมาก ยิ่งถ้าเขาถอนแว่นออกด้วยแล้วล่ะก็หล่อแบบดับเบิลไปเลย ตาของดินน่ะสวยมาก มันเป็นสีน้ำตาลเข้มแต่น่าเสียดายที่คนอื่นไม่ค่อยได้สังเกตเพราะแว่นเลนส์หน้าตึบของเขามันกลบเอาความสวยของตาไป

“ง่วงก็กลับบ้านไปนอนสิดิน” ผมบอกเพื่อนที่กำลังฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ทีแรกนึกว่าเขาหลับไปแล้วทว่าอีกฝ่ายกลับตอบกลับมา

“ขี้เกียจกลับบ้าน”

“เกี๊ยกหยุดติวก่อนได้ไหม เลหิวน้ำ” พวกเราติวมาสองชั่วโมงแล้ว ตอนนี้เที่ยงพอดี “เที่ยงแล้วนะไปหาอะไรกินกันดีไหม”

“เออ”

“แล้วแต่เล” ดินเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ นัยน์ตาคมสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นสบตากับผมโดยตรง ปราศจากแว่นทีนึงก่อนที่เขาจะหยิบมันขึ้นมาใส่ตามเดิม มือหนาเสยผมขึ้นแล้วขยี้แรงๆ เหมือนพยายามปลุกตัวเอง “เวร โคตรง่วง”

ให้ตายสิ ใครว่าดินเฉิ่มกันมาดูใหม่ได้ จริงๆ แล้วเขาโคตรแบดเลย

ในเมื่อทุกคนแล้วแต่ผม ผมจึงตัดสินใจมากินอาหารเที่ยงที่โรงอาหารของมหา’ลัยนี่แหละ เกี๊ยกสั่งผัดกะเพรามาให้ จะว่าไปแล้วเกี๊ยกก็ตามใจผมเหมือนกันนะ ไปรับไปส่ง ติวหนังสือให้ เหมือนเป็นพ่ออีกคนเลยอ่ะ

เรากินไปเงียบๆ ตอนกินอาหารปกติพวกผมไม่ค่อยคุยกัน มารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรู้สึกว่ามันออกจากเงียบกันเกินไป

ไม่… ไม่ใช่แค่พวกเราแล้ว แต่เป็นทั้งโรงเลยต่างหาก

ผมบอกซ้ายมองขวาเพื่อหาต้นเหตุของความเงียบงัน แต่ก็ยังไม่เจอจนกระทั่งมองขึ้นไปด้านบน

ชัดเจน… “ทำไมเลิกแล้วไม่โทรบอกพี่”

ฮิมมา

“มาได้ยังไง” ผมตกใจนิดหน่อยเพราะปกติไม่ค่อยเห็นพ่อที่โรงอาหารเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเขากินไปข้าวที่ไหน ฮิมนั่งลงข้างๆ ผม พอฮิมนั่งผมถึงได้รู้ว่าไม่ได้มีแค่พ่อที่มา พี่เกียร์กับพี่ไทด์ก็มาด้วย พี่ไทด์นั่งลงอีกข้างหนึ่งของผมที่ว่างอยู่ ส่วนพี่เกียร์เดินไปนั่งข้างๆ ดิน ผมมองหน้าเพื่อนทั้งสองคนที่ยังคงทำหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม เพื่อนๆ หลายคนในคณะของผมกลัวพ่อ แต่รู้สึกเหมือนดินกับเกี๊ยกจะไม่ ก็ดี เพราะผมไม่อยากให้เพื่อนสนิททั้งสองคนของผมเห็นฮิมเป็นเหมือนยักษ์เหมือนมารเหมือนกับคนอื่น เขาใจดีจะตาย “พ่อมาได้ยังไง”

“ขับรถมา” พี่ไทด์ตอบแทน

“พี่ไทด์อ่า!!”

เขาหันมามองหน้าผมด้วยสายตาเรียบนิ่ง แล้วตอบเสียงเอื่อยตามนิสัย “มึงจะให้พวกกูเหาะมาเหรอ”

“เลเปล่านะ” ผมปฏิเสธก่อนจะหันไปมองคนข้างกายอีกคน “พี่ฮิมมากินข้าวเหรอ”

“เปล่า”

“?” ผมเอียงคอสงสัย

“พี่มาหาเล” ผมยังงงแต่ฮิมเบี่ยงความสนใจไปที่จานข้าวที่ผมกินไม่หมดแทน “กินให้หมดสิ”

มือหนาหยิบช้อนขึ้นมาตักแล้วจ่อที่ปากของผม “เลอิ่มแล้ว”

“อีกสองคำครับ อ้ำ”

“…”

“เร็วสิ”

“ฮือ” ถึงจะขัดใจแต่สุดท้ายผมก็ยอมกิน ฮิมป้อนผมสองคำอย่างที่บอกหลังจากนั้นก็ถามคำถามที่ผมยังไม่ตอบซ้ำอีกรอบ

“เลิกแล้วทำไมไม่โทรหาพี่”

“เลเลิกตั้งแต่สิบโมงเช้า มันยังเช้าอยู่เลยขอให้เกี๊ยกติวให้”

“ไม่โทรหาพี่ พี่จะได้ติวให้”

“ฮิมว่างเหรอ” ที่ผมให้เกี๊ยกติวให้นี่ก็เพื่อฮิมเลยนะ ผมไม่อยากรบกวนพ่อมากก็รู้ว่าช่วงนี้ฮิมยุ่งๆ

“พี่ไม่ว่าง”

“อ้าว”

“แต่พี่ว่าง… สำหรับเล”

“…”

“…”

“ฮือ เลเขิน” ผมเอียงหน้าไปฟุบที่ไหล่พี่ไทด์ แต่อีกฝ่ายไม่ใจดีเหมือนเวลาซบไหล่พี่ฮิม ไม่มีโอบเข้ามากอด ลูบศีรษะหรืออะไรทั้งนั้น ตรงกันข้าม พี่ไทด์ให้ผมค้างศีรษะบนไหล่แกร่งแค่พักเดียวก่อนมือหนาจะผลักหัวผมออกอย่างไม่ปราณีไปหาทางฮิมเหมือนเดิม ผมเลยถือโอกาสซบตรงไหล่ฮิมไปเลย พ่อไม่ได้ผลักออกด้วยกลับกันเขาแทบจะกอดผมด้วยซ้ำ

ครืด

โทรศัพท์ผมดังขึ้นในตอนนั้น ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบมันออกมาดู พี่นนท์นี่เป็นคนโทรมาแต่ตอนนี้ผมกำลังจะกดรับ มือหนาก็แย่งมันไปคุยแทน

ติ๊ด!

(ลูกขา พี่มีเรื่องมาบอก วันมีเลี้ยงสายรหัสนะน้องเล จัดที่คลับ X น้องเลไปได้หรือเปล่า)

“พี่นนท์นี่ว่าอะไรอะ” ผมพูดกับฮิมเพราะได้ยินสิ่งที่พี่นนท์นี่พูดไม่ชัด เนื่องจากฮิมเป็นคนฟังตรงๆ นัยน์ตาคมหันมามองผม ฮิมบีบจมูกผมทีนึงก่อนจะกรอกเสียงตอบกลับไป

“ฮัลโหล”

(…)

“มีอะไร”

(พะ…พี่ฮิมเหรอคะ)

“…”

(ขะ ขอโทษค่ะ!)

ติ๊ด!

ฮิมยกโทรศัพท์ออก ส่วนผมมองหน้าเขางงๆ “เสร็จแล้วเหรอ”

มือหนาหันหน้าโทรศัพท์ที่แสดงว่าจบการสนทนาแล้วให้ดู “เร็วจัง พี่นนท์นี่ว่าอะไรบ้างครับ”

“…” เขาหันหน้ามามองผมเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง

“ฮิม?”

“เปล่า”

“หือ”

“ไม่ได้พูดอะไร”

“แต่เลได้นิดเสียง—”

“วันนี้พวกรุ่นน้องบอกว่ามีเลี้ยงสายรหัส มึงจะไปหรือเปล่า” ผมยังพูดไม่จบพี่เกียร์ก็พูดตัดขึ้นมาก่อน ทว่าบรรยากาศที่เงียบลงทำให้คนที่กำลังก้มหน้าอ่านข้อความในโทรศัพท์เงยหน้าขึ้น เกียร์หันไปมองเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาเหมือนระลึกได้ว่ากำลังทำผิดแต่ไม่รู้ว่าผิดอะไร “กูพูดผิดเหรอ”

“ไปไหนกันเลไปด้วย!” ผมรีบเสนอตัว “ฮิมไปไหน เลไปด้วยนะ”

ฮิมส่ายหน้า “พี่ไม่ไป”

“แต่เลอยากไป นะฮิมนะ ไปนะ เลไปด้วย”

“คนดีไม่ดื้อสิ”

“ไปนะ”

“…”

“นะพี่ฮิมนะ”

“…”

“เลอยากไปอ่า” ผมอยากไปจริงๆ นะ ตั้งแต่ขึ้นมหา’ลัยมาก็ไม่ได้ไปเที่ยวเลย “ฮิม”

ฮิมถอนหายใจ เขาหันมามองผมแล้วบอกเสียงทุ้ม “ถ้าพี่ให้ไปเลต้องไม่ดื้อนะ”

“ไม่!! ไม่ดื้อ! เลไม่ดื้อ”

“โอเค” ฮิมพยักหน้าร่างสูงหันไปหาพี่เกียร์ “กูไป”

“ฮือ ฮิมใจดีจัง”

“กลับบ้านกับพี่นะ”

“ตอนนี้เหรอ”

“อืม”

“กลับก็กลับ” ผมรีบดื่มน้ำให้เสร็จ บอกลาเกี๊ยกกับดินก่อนจะเดินตามพี่ฮิมไปที่รถ แต่พอใกล้จะถึงรถ พ่อกลับให้กุญแจผมแล้วบอกให้ขึ้นไปนั่งรอก่อน ส่วนเขาเดินหายไปไหนไม่รู้…



ฮิมเดินหลีกออกมาจากรถ ร่างสูงเดินไปหาเพื่อนสนิทที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ใต้ต้นไม้ มันยักคิ้วให้เขาทีนึงก่อนจะถามเสียงเข้ม

“มีไร”

“มันเลี้ยงกันที่ไหน”

“คลับ X” ฮิมถอนหายใจ “ทำไม”

“บอกพวกมันว่าเปลี่ยนสถานที่”

“ไปไหน” เกียร์ขมวดคิ้ว แต่ทันทีที่ได้ฟังคำตอบยิ่งทำให้ต้องขมวดคิ้วกว่าเดิม “ไหนมึงบอกไม่อยากให้เลรู้”

“ปลอดภัยกว่า”

“พวกมันจะมีตังค์จ่ายเหรอวะ”

“กูเลี้ยง”

“สัส โคตรทุ่ม” มือหนาคีบบุหรี่ที่ริมฝีปากออกก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหารุ่นน้องให้อีกคนยิน ฮิมยืนฟังจนแน่ใจว่าได้ตามที่เขาต้องการหลังจากนั้นร่างสูงจึงหันหลังกลับไปที่รถ





บ้าน

ไม่รู้ว่าฮิมพาผมรีบกลับบ้านทำไม ตอนแรกผมนึกว่าเขาจะไปเลี้ยงสายกันประมาณบ่ายๆ แต่เปล่าเลย พ่อมาบอกทีหลังหลังจากถึงบ้านว่าเลี้ยงตอนทุ่มกว่าๆ นู้น ซึ่งผมมีเวลาเหลืออีกประมาณแปดชั่วโมงกว่าๆ เลยใช้เวลาที่เหลือตอนเฉาอยู่บนเตียง ส่วนพ่อนั่งพิมพ์โปรเจคอยู่ข้างๆ

“เลเบื่ออ่า” ผมบอกเสียงเอื่อย ถ้ารู้ว่าเลี้ยงสายตอนหนึ่งทุ่มผมคงจะแวะที่ห้างก่อน อย่างน้อยมันก็เดินเล่นได้ แต่อยู่บ้านผมเบื่อเพราะมันไม่มีอะไรให้ทำเลยสักอย่าง ตอนแรกว่าจะอาบน้ำให้เปอร์เซียแต่ไม่รู้ว่ามันหายไปไหน สงสัยไปอ่อยแมวตัวผู้อยู่ตลาดนู้นแล้ว

ผมยันหัวขึ้นจากเตียงเปลี่ยนจากหมอนไปเป็นไหล่แกร่งที่ไม่มีความนุ่มแทน ฮิมหันมาจูบหน้าผากผมอย่างเคยชินแต่สายตายังจ้องหน้าจอ macbook อยู่

“เล่นเกมสิ” เขาเสนอแต่ผมส่ายหน้า

“ไม่มีเกมให้เลเล่นแล้ว” เกมที่พี่ผาให้ผมเล่นจนจบไปสี่รอบ เกมอื่นๆ เล่นซ้ำๆ มันก็น่าเบื่ออะ

ความเงียบเขาปกคลุมเมื่อไม่มีบทสนทนาต่อจากนี้ จนกระทั่งความคิดหนึ่งวูบขึ้นมาในสมอง

“พี่ฮิม”

“หืม?” เสียงทุ้มขานรับแต่สายตายังคงจับจ้องที่หน้าจอดังเดิม

“อีกสามอาทิตย์ จะถึงวันเกิดเลแล้วนะ”

กึก!

นิ้วเรียวที่กำลังพิมพ์ข้อความหยาวเหยียดเป็นภาษาอังกฤษหยุดชะงัก ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองผม ฮิมเลิกคิ้วขึ้น

“จะขออะไร” 

แหม… รู้ทัน

“ต้องถามว่าพ่อจะให้อะไรเลมากกว่า” ปีก่อนพ่อให้คอนโด เรื่องจริงนะ ฮิมบอกว่ายังไงผมก็ต้องย้ายไปอยู่หลังจากพี่ๆ ทุกคนจบมหา’ลัยซึ่งก็คือปีหน้า เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาต้องออกไปทำงานกันแล้ว คงไม่ได้อยู่รวมกันเหมือนเคย แต่ผมจะอยู่บ้านหลังนี้ต่อก็ได้ พี่วินที่เป็นเจ้าของบ้านอนุญาตแล้ว แต่ดูท่าแล้วคงจะเหงาเพราะต้องอยู่คนเดียว ถ้าพี่ๆ ทุกจบมหา’ลัยผมเลยเลือกที่จะเชื่อฮิมมากกกว่านั่นคือการไปอยู่คอนโด

“หวังอะไรไว้”

“ฮิมก็รู้อยู่แล้วนี่”

“รถ?”

“ได้ไหม!!” ผมอยากได้จริงๆ นะ ขอทีไรฮิมก็ไม่เคยให้เลย อันที่จริงความตั้งใจแรกนั้นผมตั้งใจจะขอของวันเกิดปีนี้เป็นอาบน้ำกับฮิม เพราะตอนนั้นรถที่อยากได้ก็ดูท่าว่าจะขอยังไงก็คงไม่ได้ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันพลิกผัน หนึ่งคือผมได้อาบน้ำกับฮิมไปแล้ว สองวี่แววรถที่ดูเหมือนจะขอไม่ได้เริ่มมีความหวังขึ้นมานิดๆ

พ่อเงียบไปจนผมเริ่มใจไม่ดี เสียงทุ้มตอบกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ผมยื่นหน้าเขาไปซบลงตรงอกแกร่ง

“ไปทำใบขับขี่ให้ผ่านแล้วพี่จะให้”

ผมเบิกตากว้าง รีบละออกมามองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อในหูของตัวเอง “จริงเหรอ!! ฮิมจะให้รถกับเลจริงๆ เหรอ”

“อืม”

“ฮิมไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”

“พี่เคยโกหกเหรอ”

“ฮืออออออ เลรักพ่ออ่ะ” ผมจับหน้าจอ macbook ปิดลงแล้วหยิบมันโยนออกจากตักฮิมแทนที่ด้วยตัวเอง แล้วนั่งลงบนตักแกร่ง ฮิมไม่ได้ว่าที่ผมทำกริยาเสียมารยาทด้วยการขัดขวางการทำโปรเจคของเขา มือหนายื่นมาโอบเอวผมเอาไว้หลวมๆ เหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็ดันศีรษะของผมเข้ามาซบตรงบ่า

“เป็นเด็กดีให้พี่”

“ทุกวันนี้เลดื้อเหรอ” ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตัวสูงก่อนฮิมจะหัวเราะหึออกมาเบาๆ

“เปล่า คนดีทำตัวดีขึ้นจนน่าตกใจ”

“แต่ก่อนเลก็ไม่ดื้อนะ”

“อย่าให้พูด”

“ง่ะ!” ผมมองค้อนอีกฝ่ายก่อนจะเหยียดขาออกแล้วเอนตัวนอนทับฮิม ใช้แขนโอบลำคอแกร่งเอาไว้ ซบบ่าแกร่งแล้วหลับตาลง กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของฮิม จำได้ไหมว่าผมเคยบอกว่ามันหอมแบบเย็น ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายแต่แฝงอะไรเอาไว้บางอย่าง บางอย่างที่ตอนนั้นผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร

แต่ตอนนี้เหมือนผมเริ่มที่จะเข้าใจ ‘อะไรบางอย่าง’ ที่ว่านั่นแล้ว…

หลับไปตอนไหนไม่รู้แต่ตื่นมาอีกทีก็หกโมงเย็นพอดี ฮิมเรียกผมให้ลงไปกินข้าวเย็น พอกินเสร็จผมจึงขึ้นมาอาบน้ำ ใส่ชุดและให้พ่อถักเปียให้ก่อนจะเดินลงไปเล่นรอที่ด้านล่าง

“น้องเล”

“อ้าว พี่ผา” ผมหันไปมองร่างสูงที่ไม่รู้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่ผาเดินมากอดผมแรงๆ แล้วปล่อย “พี่ผามาได้ยังไง”

“มาหาพวกนั้น จะไปเลี้ยงสายรหัสพร้อมกัน แล้วน้องเล ?” นัยน์ตาคมมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าท่าทางเหมือนสงสัย

“เลจะไปด้วย” ผมคลายความสงสัยให้แต่ทันทีที่ผมพูดจบพี่ผากลับทำหน้าเครียด

“พ่ออนุญาตเหรอ”

“อื้อ!”

“ผา” บทสนทนาของเราหยุดชะงักเอาไว้แค่นั้นเมื่อพี่วินเดินที่พึ่งเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นพร้อมกับพี่ๆ คนอื่นเอ่ยทัก แต่ทันทีที่พี่วินเห็นผมเขาก็ขมวดคิ้ว นัยน์ตาคมมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนพี่ผาเป๊ะพร้อมกับถามเสียงดุ “มึงจะไปไหน”

“เลจะไปด้วย”

“กูไม่ให้ไป”

“แต่พ่ออนุญาตแล้ว”

“มึงจะไปชุดนี้เหรอ” ประโยคนี้พี่ไทด์ที่ยืนอยู่ด้านหลังเป็นคนถาม

“ทำไมอ่ะ มันไม่ดีเหรอ” ผมก้มลงมองชุดตัวเอง วันนี้ผมใส่เสื้อยืดสีเหลืองกับเอี๊ยมขาสามส่วน ไม่เห็นแปลกตรงไหน ตอนพ่อถักเปียให้เขาก็ยังชมผมว่าน่ารักอยู่เลย อ้อ! ยางที่ใช้มัดก็เป็นสีเหลืองด้วยนะ ผมเอาให้เข้ากับเสื้อ แต่จะว่าไปพอเปรียบเทียบกับพี่ๆ ทุกคนแล้ว…

“ทำไมหล่อกันจังเลย” ผมขมวดคิ้ว พึ่งสังเกตว่าพวกเขาหล่อกันแบบผิดปกติ คือปกติพี่เขาก็หล่ออยู่แล้ว ผมไม่ได้อวยนะแต่ต้องยอมรับว่าพวกพี่เขาหล่อ แต่วันนี้มันหล่อผิดจากเดิมคือหล่อมากกว่าเดิม ชุดที่ทุกคนใส่วันนี้ก็เหมือนจะส่งเสริมให้ออร่าความหล่อมันออกยังไงก็ไม่รู้ แม้กระทั่งพี่วินที่ปกติไม่ค่อยแต่งตัวมากวันนี้ยังดูโดดเด่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ยิ่งไปกว่านั้นคือทุกคนมีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนกัน แต่พอพวกเขามาอยู่รวมกันแล้วเหมือนเป็นความแตกต่างที่ลงตัวยังไงยังงั้น

ผมกำลังสงสัยว่าฮิมจะแต่งตัวแบบไหน แต่พอหันหลังไปก็ได้คำตอบ

ร่างสูงกำลังเดินลงมาจากบันไดพอดี และภาพตรงหน้ากำลังทำให้ผมตาค้าง

Oh my goshhhhhhhhhh!

หล่อ-มาก!

ฮิมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุม 2 เม็ด พับตรงแขนเสื้อขึ้นนิดหน่อยและมันบางพอที่จะเห็นรอยสักรูปมังกรตรงช่วงต้นแขนซ้ายลามไปถึงบ่า ฮิมไม่ได้เซ็ตผมแต่เขาแค่เสยผมขึ้นนั่นมันก็หล่อแล้ว ยิ่งตอนที่ได้กลิ่นน้ำหอมอีก… แต่เอ๊ะ!

ผมดึงสติกลับมาเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมที่แรงกว่าปกติ (ปกติที่ว่าคือใส่แบบอ่อนๆ แต่ที่ได้กลิ่นตอนนี้คือใส่แบบที่คนทั่วไปฉีดกัน)

“ทำไมฉีดน้ำหอมเยอะจัง” มันก็ไม่ได้เยอะมากมายอะไรขนาดนั้นหรอก แค่ผมไม่ชิน กลิ่นมันแรงไป

ฮิมเดินเข้ามากอดผมแรงๆ จุ๊บที่หน้าผากทีนึงก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อน “ไปกันได้แล้ว”

“มึงจะเอามันไปด้วย” คำถามจากพี่วินทำให้ผมต้องชักสีหน้า

“เลไปด้วยแล้วทำไม!!”

“คนดีไม่ตะคอกนะ” พ่อว่า ผมขัดใจแต่ก็ต้องเงียบลง หลังจากนั้นฮิมจึงตอบพี่วิน “เออ”

พี่วินเงียบไป เขามองหน้าผมนิ่งก่อนจะเดินออกจากบ้านไปคนแรก ตามด้วยพี่ผา พี่รพ พี่เกียร์ สุดท้ายคือพี่ไทด์แต่ก่อนออกไปเขากันมาถามผมอีกรอบหนึ่ง

“มึงจะไปชุดนี้จริงเหรอ”

“อย่ามายุ่งกับชุดเล” คำตอบจากผมทำให้พี่ไทด์ยักไหล่ ทุกคนเดินออกไปจากบ้านหมดแล้วเหลือแต่ผมกับฮิม ผมหันหน้าไปมองร่างสูงที่วันนี้หล่อโคตรจะเกินปกติแล้วเปรียบเทียบกับตัวเอง “ฮิมว่าเลต้องไปเปลี่ยนชุดไหม”

ฮิมหัวเราะ มือหนาบีบจมูกผมทีนึงก่อนจะยื่นเข้ามาโอบเอวผมแล้วเดินออกจากบ้าน

“เราจะไปที่ไหน” ผมถามขณะที่นั่งอยู่บนรถที่กำลังเคลื่อนอยู่บนถนนใหญ่

“ไปถึงเดี๋ยวเลก็รู้”

ฮิมไม่ได้ให้คำตอบ เขาให้ผมรอเพื่อหาคำตอบด้วยตัวเอง

(100%)

ฮิมใจดีขึ้นใช่ไหมละ นี่แหละเขากำลังทำคะแนนอยู่คะซิส



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

twitter @_mdreds
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 23-03-2017 00:39:15
พี่ฮิม :)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 23-03-2017 00:46:45
รอคอยวันเกิดน้องเล  :mew2: :mew2: :mew4: :mew3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhankn ที่ 23-03-2017 01:21:47
หลงฮิมมากก ทำไงดี :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 23-03-2017 07:53:35
น้องเล หนูแต่งตัวได้น่ารักมากลูก
ว่าแต่เลี้ยงกันที่ไหนน้า จะตามไปสังเกตการณ์  :hao6:

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-03-2017 08:16:20
พี่วิน ไม่อยากให้คนอื่นเห็นลุคน่ารักๆมากๆของเลใช่มั้ย
พี่ๆทุกคนแต่งหล่อกันหมด
ตายๆ.....ต้องมีคนมาจีบพี่ๆนะสิ
เล ทนได้มั้ยถ้าเห็นคนมาจีบฮิม สีฮิม  :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 23-03-2017 08:36:32
น้องเลชักจะเสพติด"จูบ"พี่ฮิมมากขึ้นทุกที
ปล.ลืมเปลี่ยนวันที่ ตรงหัวข้อเรื่องนะค๊าาา :)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 23-03-2017 11:32:26
น้องเลลูก โอ้ย ใจสั่นแทนคุณน้องเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 23-03-2017 11:34:45
น้องจะเปิดหู เปิดตาครั้งแรกแล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-03-2017 12:45:50
น้องเลน่ารักกกกกกก

 :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 23-03-2017 13:11:54
เปิดตอนมานี่อีโรติกมากเลยค่ะ ชอบ 55555
เลจะเป็นหนูน้อยน่ารักกลางดงคนหล่อ 55
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 23-03-2017 13:42:15
 :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 23-03-2017 15:48:43
จูบกันรุนแรงดีจริมๆ :jul1:
พี่ฮิมทำแต้มแรงมาก คิดว่าเลต้องไปเจออะไรที่คลับแน่เลย ใจไม่ดี55555

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-03-2017 16:03:41
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 23-03-2017 16:19:31
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: kiiro ที่ 23-03-2017 16:50:40
วินคิดอะไรกะฮิมรึป่าวน๊าาาา ถ้าไม่ได้คิดกับน้อง

ส่วนอิน ทำดีกะเลเอาคะแนน ชิมิ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 23-03-2017 19:22:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 23-03-2017 19:30:13
เป็นตอนต่อไปที่นยาวนานมาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 23-03-2017 19:47:08
เกลียดเด็กนิสัยอย่างเลหาเรื่องให้คนอื่น ส่วนฮิมไร้เหตุผล อ่านละหงุดหงิด
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-03-2017 21:31:47
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 23-03-2017 22:13:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 23-03-2017 23:13:49
น่ารักจู่๋จี๋สุดดดด ตอนเรียกคนดีๆ แบบ กรี๊ดดด ชุดเที่ยวน้องเลน่าเอ็นดูนะคะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 24-03-2017 00:37:21
น้องเลแต่งชุดเป็นมินเนี่ยนไปผับหรอเนี่ย อิพ่อก็พอใจอ่ะดิที่น้องแต่งแบบนี้น่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 25-03-2017 10:36:40
 :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 25-03-2017 12:29:20
 :o8:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230317#12(100%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 25-03-2017 18:17:38


 *อ่านช้าๆ

อ่านทอร์คด้วยเด้อ





            ผมเข้าใจที่พี่ไทด์ถามย้ำๆ แล้วว่าจะใส่ชุดนี้ไปจริงๆ เหรอ

            ก็ว่าอยู่ว่ามันแปลกๆ แต่ทำไมไม่มีใครบอกเล… ว่าจะมาคลับ!!

            “ฮิมอ้า!” ผมงอแงใส่พ่อทันทีที่รถมาถึงจุดหมาย สถานที่คือคลับชื่อดังที่ผมรู้จักเพราะพี่นนท์นี่เคยเล่าให้ฟัง และถึงแม้ผมจะไม่เคยเข้าคลับเลยก็เถอะ แต่ถ้ารู้ว่ามาคลับผมจะไม่ใส่เอี๊ยมมาแน่ๆ!! ก็นึกว่าจะไปเลี้ยงกันที่ร้านอาหารอะไรแบบนี้อ่ะ! “ทำไมพ่อไม่บอกเลก่อนว่าจะมาคลับ”

            “พี่บอกแล้วเลจะทำยังไง”

            “เลจะได้ไม่ใส่เอี๊ยมมา!!”

            “แต่พี่ชอบแบบนี้” มือหนาเอื้อมมาลูบไล้ใบหน้าผมเบาๆ “น่ารัก”

            “ฮิมชอบเหรอ” ผมเอียงคอถามอีกฝ่าย คำตอบที่ได้คือการพยักหน้าเบาๆ “งั้นเลใส่ก็ได้”

            เสียงทุ้มหัวเราะก่อนเราสองคนจะเดินลงจากรถ ผมมองสถานที่ตรงหน้าด้วยสายตาหวาดๆ ก่อนจะวิ่งไปเกาะแขนฮิมเอาไว้ ผมไม่เคยมาคลับ ไม่รู้ด้วยว่าข้างในเป็นยังไงเคยแต่ได้ยินมา ว่าแต่…

            “ฮิม เลยังไม่สิบแปดเลย เลจะเข้าได้เหรอ”

            “ได้ ถ้าพี่พาเข้า แต่เลมาคนเดียวเลห้ามเข้านะ”

            “เลไม่เข้า” ผมส่ายหน้าเป็นการยืนยันคำตอบ ก่อนจะโดนฮิมดึงเข้าไปกอดแรงๆ ทีนึง เขาย้ำอีกครั้งว่าห้ามดื้อนะก่อนจะพาผมเดินไปที่ประตูทางเข้า ที่นั่นมีพี่บริการ์ดใส่ชุดกับแว่นดำหน้าโหดเหมือนในหนังเฝ้าอยู่ แต่ทันทีที่ฮิมเดินไปถึงหน้าประตูพี่แกก็เดินหลีกทางให้โดยที่ไม่แม้แต่จะขอดูบัตรประชาชนผมที่เดินมากับฮิมด้วยซ้ำ

            โอโห้มารยาทดีด้วย พี่เขาโค้งหัวให้พวกผมด้วยอ่ะ

            ผมกำลังจะยกมือไหว้กลับแต่โดยฮิมดึงเอวไปก่อน เสียงดนตรีเล่นบีทหนักๆ เริ่มดังขึ้นมาให้ได้ยินเมื่อผมเดินเข้าไปด้านใน และทันที่ทีเดินเข้ามาถึง… สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำเอาผมตะลึงอยู่ไม่น้อย แสงหลากสีกระจายไปทั่วพื้นที่ ชายหญิงหน้าตาสะสวยกำลังนัวเนียกันอยู่ไม่ใกล้ รวมถึงกลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์ที่ตีฟุ้งกันไปมาบนอากาศจนผมต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูกและปากเมื่อรู้สึกอยากจะจาม แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น… คือฮิม

            ทั้งหญิงและชาย ทุกสายตาล้วนเบี่ยงเบนมาที่เขากันหมด และมันไม่ใช่สายตาเหมือนที่เรามองคนอื่นทั่วไป แต่เป็นสายตาที่ให้ความรู้สึกบางอย่าง เหมือนยั่วยวน อยากได้ อยากครอบครองหรืออะไรสักอย่าง แต่ที่แน่ๆ คือผมรู้สึกไม่ดีเลย หลายคนแทบจะเดินเบียดกันเข้ามาหาฮิมถ้าไม่ติดที่ว่าร่างหนารีบโอบเอวผมแล้วพากันมาที่ชั้นสองของคลับเสียก่อน ฮิมพาผมเดินไปมุมๆ หนึ่ง มีสองโต๊ะ ใหญ่พอสมควร โต๊ะแรกพวกพี่ในบ้านผมนั่ง ส่วนโต๊ะที่สองเป็นพวกพี่นนท์นี่ ผมไม่รู้ว่าพี่นนท์นี่มาได้ยังไงผมไม่ได้สนใจ ที่สนใจตอนนี้คือฮิมต่างหาก!

            ผมชักสีหน้าใส่ฮิมทันทีที่เขาหันหน้ามามอง “คนดีเป็นอะ—”

            มือหนาที่กำลังจะลูบใบหน้าถูกผมปัดมันออก ผมเดินกระแทกไหล่ใส่ฮิมแรงๆ ก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆ พี่นนท์นี่ที่ทำท่าทางเหมือนดีใจที่เห็นผมยืนอยู่ตรงนี้

            “น้องเลมาได้ยังไง” พี่นนท์นี่ถามเสียงดังเพราะเพลงในคลับมันดังพอสมควร

            “เลตามฮิมมา แล้วพี่นนท์นี่ล่ะ”

            “มางานเลี้ยงสายไง พี่โทรไปบอกน้องเลแต่พี่ฮิมรับ เรื่องงานเลี้ยงสายรหัส พี่ฮิมไม่ได้บอกเหรอ”

            ผมเม้มปากก่อนจะส่ายหน้า ความรู้สึกโกรธพ่อเพิ่มขึ้นมาอีก “ฮิมไม่ได้บอกแต่พี่ๆ เขาจะมาเลี้ยงสายเลเลยขอมาด้วย”

            “ช่างเถอะ ดีแล้วที่หนูมาได้ มานี่พี่จะแนะนำให้รู้จักลุงรหัส” ผมพึ่งสังเกตว่ารอบๆ โต๊ะที่ผมนั่งอยู่ไม่ได้พี่แก็งโรซารี่อย่างที่คิด แต่เป็นคนอื่นๆ ที่ผมไม่รู้จัก ที่รู้จักในโต๊ะนี้มีแต่พี่นนท์นี่คนเดียวจริงๆ ผมกำลังจะยกมือไหว้ แต่พี่ๆ ทุกคนบนโต๊ะกลับทำมือส่ายไปมาเหมือนไม่เป็นไร มือที่กำลังจะไหว้เลยได้แต่ลดระดับลงแทน “นี่พี่เหยี่ยวนะสายรหัสของเรา เป็นพี่รหัสของพี่ ลุงรหัสของน้องเล”

            “สวัสดีครับ” ผมหันไปไหว้พี่เหยี่ยว เจ้าตัวรับไหว้แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก มองภายนอกผมว่าพี่เขาท่าทางใจดีนะ “แล้วพวกโต๊ะนั้นล่ะครับ”

            ผมไม่อยากใช้คำว่า ‘โต๊ะพี่ๆ’ เลยเปลี่ยนเป็นคำว่า ‘โต๊ะนั้น’ แล้วหันหน้าไปทางโต๊ะของพวกพี่วินแทน

            “พวกพี่เขาเป็นสายรหัสเหมือนกันเป็นลุงรหัสพี่ แต่เป็นปู่รหัสของเล”

            “ใครครับ ?” ผมหมายความว่าใครเป็นปู่รหัสผม

            “คิดว่าใครล่ะ”

            “พี่นนท์นี่อ่า เฉลยทีสิครับ”

            “ยังเฉลยไม่ได้ เดี๋ยวดึกว่านี้จะมีเกมให้เล่นทายสายรหัส น้องเลต้องรอก่อนตอนนี้คนยังมาไม่ครบ”

            “อ้าว นี่ยังมาไม่ครบเหรอครับ” ผมถามขณะมองไปรอบๆ ถ้านับสองโต๊ะของพวกพี่ๆ กับโต๊ะที่ผมนั่งอยู่คนก็ประมาณสิบกว่าคน นับว่าเยอะพอสมควรแล้วนะ นี่ยังไม่ครบอีกเหรอ

            “ยังจ๊ะ ก็นอกจากจะมีน้องรหัส ก็มีพี่รหัส ลุงรหัส ปู่รหัสเป็นสายของแต่ละคนอีกนี่ยังไม่ถึงครึ่งเลยนะ ไม่งั้นพ่อน้องเลคงไม่เหมาทั้งชั้นสองเพื่อเลี้ยงหรอก”

            “พ่อ… เลี้ยง?” ผมทวนคำ

            “เลี้ยงสิเล ให้มาเองพี่คงไม่มาคลับนี่อ่ะโคตรแพงแค่เปิดเหล้าก็ปาไปห้าพันแล้วมั้ง ยิ่งโซน VIP ที่เรานั่งอยู่ตอนนี้” ประโยคท้ายๆ ที่นนท์นี่หันมากระซิบข้างหูกับผม “แค่จองที่ก็เกือบหมื่นแล้วอะ”

            ผมนั่งฟังด้วยความนิ่งงัน ไม่ใช่เพราะที่พี่นนท์นี่เล่าว่าที่นี่แค่จองที่ก็ราคาเกือบหมื่น แต่เป็นเพราะเรื่องที่พ่อเลี้ยงแต่ผมไม่รู้ต่างหาก บางทีนะ บางที ผมก็รู้สึกเหมือนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฮิมเลยทั้งๆ ที่ถ้านับเวลาอยู่ด้วยกันมา ฮิมอยู่ในชีวิตผมมากกว่าครึ่งชีวิตตั้งแต่ที่ผมเกิดมาด้วยซ้ำ

            ผมยื่นมือไปรับเครื่องดื่มที่พี่เหยี่ยวเสิร์ฟให้ เป็นน้ำอัดลมธรรมดา เหมือนพี่เขาจะรู้ว่าผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์

            ไม่สิ… ไม่ใช่ผมไม่ดื่ม ผมไม่เคยลองต่างหาก

            มือบางหมุนแก้วใส่น้ำอัดลมสีทมิฬหมุนเล่นไปมาก่อนจะหยิบมันขึ้นจรดริมฝีปาก เป็นจังหวะเดียวกันที่สายตาเงยขึ้นประสานกับอีกคนที่นั่งอยู่คนละโต๊ะ ฮิมกำลังมองมา เขากำลังจรดแก้วใส่แอลกอฮอล์สีใสใส่ที่ปากเช่นเดียวกันกับผมแค่เครื่องดื่มมันคนละอย่างกัน

            ผมเป็นฝ่ายละสายตาออกก่อนทันทีที่เห็นอีกฝ่ายกวักนิ้วเรียกให้เข้าไปหา ฝันเถอะ! ผมงอนพ่ออยู่นะ ทั้งเรื่องที่ฮิมไม่บอกเรื่องที่พี่นนท์นี่โทรมาบอกผมว่ามีงานเลี้ยงสายรหัส ไม่บอกเรื่องสถานที่แล้วปล่อยให้ผมใส่เอี๊ยมมา ไม่บอกแม้กระทั่งเรื่องที่เขาเลี้ยงในวันนี้ ดูเหมือนพี่นนท์นี่จะรู้เรื่องของฮิมมากกว่าผมที่ตัวติดอยู่กับเขาเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงเสียอีก แล้วก็เรื่อง…

“เล”

พวกผู้หญิงเมื่อกี้

            เพราะจมอยู่ในความคิดตัวเองนานเกินไป ผมจึงไม่ได้สังเกตว่าทั้งโต๊ะเงียบลงเนื่องจากมีคนเดินมายืนอยู่ข้างๆ พลันได้สติอีกครั้งตอนที่เสียงทุ้มเรียกชื่อ พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาฮิมที่กำลังก้มลงมองผมแล้ว ฮิมนั่งยองๆ ลงข้างๆ ผม (ผมนั่งอยู่สุดโซฟา) มือหนาเอื้อมมาจับมือผมเอาไว้ เขาถามเสียงทุ้มแต่ได้ยินกันแค่สองคนเพราะเสียงเพลงในคลับมันดังมาก

            “งอนอะไร”

            “เลเปล่า” ผมปฏิเสธ

            “น้องโกหก”

            “…”

            “หันหน้ามาคุยกันดีๆ ครับ” ผมถอนหายใจ ก่อนจะแกะมือที่กำลังจับมือของตัวเองออกแต่ฮิมไม่ยอม เขาดึงตัวผมขึ้นแล้วบังคับให้เดินตามร่างสูงไป ฮิมพามาที่ห้องๆ หนึ่ง มือหนาเปิดประตูก่อนจะดันตัวผมเข้าไปข้างใน เสียงเงียบลงทันทีเนื่องจากมันเป็นห้องเก็บเสียง

            “เลไม่คุย”

          กริ๊ก

          เสียงล็อคประตูดังขึ้นทันทีที่ผมพูดแบบนั้น

            “พี่ไม่ให้ออก”

            “พี่ฮิม!!”

            “จนกว่าเราจะคุยกันเสร็จ”

            “เลไม่มีอะไรต้องคุย”

            “ไม่มี ?” ฮิมทวนคำ เขาก้าวเข้ามาหาผมเรื่อยๆ จนเป็นผมเองที่ต้องเดินถอยหลังไปแทน “แน่ใจ ?”

            “ฮิมนั่นแหละที่ต้องพูด” ผมตวาดออกไปบ้าง “พ่อโกหกเล”

            “พี่ไม่เคยโกหกเล”

            “แต่ฮิมไม่ได้บอก!!”

            “…”

            “ฮิมไม่ได้บอกเรื่องเลี้ยงสายรหัส! ไม่ได้บอกว่ามาที่คลับ! ไม่ได้บอกแม้กระทั่งเรื่องที่ฮิมเลี้ยง! แล้วก็ผู้หญิง อุ๊ป!” ผมรีบยกมือขึ้นปิดปากเหมือนหลุดพูดอะไรบางอย่างออกไป ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงนิ่งงัน แต่หลังจากนั้นฮิมก็เงยหน้าขึ้น มือหนายื่นมาแตะที่ใบหน้าผมเบาๆ

            “ไม่ได้บอกเรื่องเลี้ยงสายรหัส ไม่ได้บอกว่ามาที่คลับ ไม่ได้บอกเรื่องที่พี่เป็นคนเลี้ยง แล้วก็ผู้หญิง…”

            แขนแกร่งรั้งเอวผมเอาไว้ เขาไม่ปล่อยผมไปแม้ว่าผมจะออกแรงดิ้นแค่ไหนก็ตาม ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลงมากระซิบเสียงพร่าที่ข้างหู “คนดีงอนเรื่องไหน พี่จะได้ง้อถูก”

            “เลไม่ได้งอน”

            “เหรอ”

 







(30%)

บอกแล้วให้อ่านช้า ๆ เอาจริงๆ ฉันชอบคำว่าเหรอของพี่ฮิมมาก มันดูคูลๆ

มีเหตุผลที่อัพน้อย เพราะจริงๆ เราตั้งใจว่าจะไม่อัพเลยค่ะท่านผู้ชม ช่วงนี้เราไม่ว่างนี่จะมาบอกข่าวร้าย

ข่าวร้ายคือฉันจะไม่ได้อัพเกือบหนึ่งอาทิตย์กว่าๆ นะจ๊ะ ติดธุระ ติดงาน ไม่รู้จะอะไรนักหนา

แต่หลังจากหนึ่งสัปดาห์อันเลวร้ายนี้ผ่านไป ฉันจะว่างมาก อาจจะอัพทุกวันเลยก็ได้55555

อาทิตย์หน้ากว่าๆ เจอกันจ๊ะ หลังว่ายูจะไม่ทิ้งไอไปก่อนนะ กระซิกๆ





#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 25-03-2017 18:24:45
แงงงงงงงงงงงงง ตัดฉับได้น่ากลัวมาก

เค้าจะรอน้าาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 25-03-2017 18:43:47
โอเคจ้าาาา รอจัดเต็มทุกวันเลย อิๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 25-03-2017 18:51:34
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 25-03-2017 18:57:26
รอต่อไป อิอิ

เลงอนหลายเรื่อง ฮิมจะง้อถูกมั้ยน้ออออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 25-03-2017 19:05:49
จินตนาการเสียงน้องเลเวลาพูดว่า
"เลไม่ได้งอน!!"
อื้ม นี่มันคือการงอนชัดๆ เลยค่ะน้องเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Mylovelysunshine ที่ 25-03-2017 19:09:23
 :กอด1: :L2: :mew1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 25-03-2017 19:30:30
เมื่ออ่านทอร์คจบ อาทิตย์นึง อาทิตย์นึ๊งงง  :mew2: :sad4: o22 :a5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 25-03-2017 19:34:24
รอพี่ฮิมง้อน้องเล  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 25-03-2017 20:19:19
หวังได้อย่างเดียวว่าขอให้ธุระและวานที่ว่าจะเสร็จเร็วๆและมาอัพบ้างสักตอนสองตอน^^
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-03-2017 20:46:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 25-03-2017 22:06:46
รอเสมอจ้าา :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 25-03-2017 22:21:16
เมื่อไหร่จะเปิดใจกันอ่า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: tonnum18 ที่ 25-03-2017 23:26:18
คนอ่านอ่ะ อ่านไปก็อิจฉาน้องเล  อยากได้พ่อแบบพี่ฮิมบ้างจัง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-03-2017 23:59:37
จะรอน้า~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 26-03-2017 09:19:31
โอ้ย.   ชอบบย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-03-2017 12:18:09
ชอบแนวนี้มากเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 26-03-2017 21:29:06
ไม่ทิ้งเด็ดๆจ้า ยังรอคอยอยู่เสมอ :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-03-2017 22:08:15
ไรท์ ไม่เท คนอ่านไม่ทิ้ง
ชอบเรื่องนี้มาก  :mew1: :mew1: :mew1:
อ่านไป ก็กลัวดราม่า
ตอนนี้เล โกรธฮิม
ไม่บอกก็คือโกหกใช่มั้ย
ที่แน่ๆ เลหึงหวงฮิม ที่ผู้หญิงจ้องมองฮิม
อยากครอบครองฮิม นี่แหละ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 26-03-2017 23:49:26
ชอบน้องเลมากๆเลย
รอน้าาาาาา
งอนพี่เค้าเลยลูกกกก สวยๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 27-03-2017 22:40:12
อ่่านรวดเดียวเลย น้องน่ารัก โอยยยย
ขอบคุณมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 28-03-2017 09:44:19
น้องเลหึงใช่มั้ยลูก :hao7:

จะมารอไรท์ที่ท่าน้ำทุกวันเลยจ้า5555555
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 02-04-2017 23:59:31
มาช้าๆนิ่มๆเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 03-04-2017 11:12:46
รอๆค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250317#13(30%) p.13
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 04-04-2017 00:10:42
"เลไม่ได้งอน"

"เหรอ" ริมฝีปากร้อนไล่ไปตามโหนกแก้มก่อนมันจะเลื่อนต่ำลงไปที่ลำคอ ผมถูกผลักให้ลงไปนั่งบนโซฟาโดยมีร่างสูงตามมาทาบ ฮิมไม่ยอมละริมฝีปากออกจากผมจนต้องใช้มือทุบๆ ที่บ่าแกร่งเบาๆ เขาถึงยอมละออกไป แต่ละออกจากคอมาทาบริมฝีปากแทน ผมต้องหันหน้าหลบแล้วรีบยกมือขึ้นมาบังเอาไว้ ฮิมถึงหยุดแล้วนั่งลงข้างผมดีๆ เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หายงอนพี่นะ ”

“เลไม่ได้งอน”

นัยน์ตาคมมองผมก่อนฮิมจะยิ้มแล้วพยักหน้าเหมือนยอมแพ้ “งั้นโกรธพี่เหรอ”

“…”

“ขอโทษ”

ตุบ!

“ฮิมบ้า!!” ผมตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายพร้อมกับใช้มือทุบไปบริเวณอก ไหล่ จนมือหนาต้องมารวบข้อมือของผมเอาไว้แน่น

“เจ็บ”

“เลตีให้เจ็บ”

“โกรธพี่เรื่องอะไร”

“ทุกเรื่อง!!” ผมไม่ได้งอน ผมเลยไม่ได้ตอบ แต่ผมโกรธน่ะคือเรื่องจริง “โดยเฉพาะผู้หญิง!!”

 !!!!!!!!!!

อ้า! หลุดอีกแล้ว!

“ผู้หญิง ?” เขาทวนคำ “ทำไม”

“ก็เขามองพี่ฮิม!!”

“แต่พี่ไม่ได้มองเขา”

“ไม่รู้!! ก็เลเห็นแล้ว เลไม่ชอบอะ”

“…”

“ฮิมยิ้มทำไม” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ เมื่อเห็นคนตรงหน้ายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

“เลหวง”

“ใช่! เลหวงฮิม หวงแม้กระทั่งรอยยิ้มฮิมนั่นแหละ อย่ายิ้ม! เลไม่ให้ยิ้ม!”

“แต่พี่ยิ้มให้เล”

ผมเงียบลง พลางมองหน้าอีกฝ่ายตรงๆ ก่อนจะพักหน้า “งั้นก็ได้ แต่ออกไปห้ามยิ้มนะ”

“อือ” ฮิมครางรับก่อนจะปล่อยมือผมลง เป็นจังหวะเดียวกันที่มีคนเคาะประตู

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

พี่เกียร์ยืนอยู่หน้าห้อง ฮิมละตัวออกจากผมก่อนจะเดินไปเปิด อีกฝ่ายว่าเสียงเรียบ

“มากันครบแล้ว” ว่าจบพี่เกียร์ก็เดินจากไปทันที พ่อเดินมาจับตัวผมให้ลุกขึ้น มือหนาเลื่อนมาโอบที่ไหล่ก่อนจะพาเดินออกไปจากห้อง ผมแอบสังเกตใบหน้าหล่อเหลา ฮิมไม่ยิ้มอย่างที่ผมบอกจริงๆ ด้วย ไม่ได้หน้าบึ้งนะแค่ทำหน้าธรรมดาเฉยๆ  พอใกล้เดินถึงโต๊ะใบหน้าหล่อเหลาก็โน้มลงมากระซิบข้างหูผม

“ไปนั่งกับพี่นะ” ผมพยักหน้า แล้วฮิมก็พาผมเดินผ่านโต๊ะที่เคยนั่ง ผมส่งสายตาไปขอโทษพี่รหัส แต่พี่นนท์นี่ก็ส่ายหน้าประมาณว่าไม่เป็นไรพร้อมกับปัดมือเหมือนไล่ให้ผมไปนั่งกับฮิมแทน ร่างสูงให้ผมนั่งข้างๆ เขา โดยที่ทั้งโต๊ะมีแต่พี่ๆ ในบ้าน ส่วนรอบๆ นั้นเป็นโต๊ะอื่นๆ ที่มีใครไม่รู้มากหน้าหลากตามานั่งกันจนเต็ม นี่ผมไปคุยกับฮิมในห้องแปปเดียวเองออกมาอีกทีเต็มทุกเกือบหมดทุกโต๊ะแล้ว

ผมก้มหน้าเข้ากับอกฮิม ถึงจะมีอยู่หลายโต๊ะแต่ยังรู้สึกว่าโต๊ะพวกผมน่ะเด่นมากๆ สังเกตจากสายตาคนอื่นนะ แต่จะเด่นก็ไม่แปลก อาจจะเป็นเพราะพวกพี่ๆ เขาเป็นสายรหัสที่อาวุโสสุดในนี่ด้วยล่ะมั้ง

“เล น้ำ” ผมรับแก้วน้ำอัดลมจากพี่ไทด์มาดื่ม หลังจากนั้นก็เอนศีรษะซบฮิมรอ ประมาณสิบห้านาทีผ่านไปขณะที่ทุกคนเริ่มที่จะมึนๆ กับแอลกอฮอล์บ้างแล้ว จู่ๆ พี่คนหนึ่งที่นั่งห่างจากโต๊ะพวกผมไม่ไกลก็ยืนขึ้นแล้วผันตัวเป็นพิธีกรประจำวันนี้ไป

“ทุกคนครับถึงเวลาเล่นเกมกันแล้ว ก่อนอื่นพี่ชื่อแก้วนะ ชื่อเหมือนผู้หญิงแต่จริงๆ เป็นผู้ชายนะครับ!!”

“โห่!!!!” เสียงโห่ดังรอบทิศ แม้กระทั่งพวกพี่ๆ ในบ้านยังทำ สงสัยพวกเขาจะสนิทกันพอสมควร ผมหัวเราะนิดหน่อยกับท่าทีที่มีอารมณ์ขันนิดๆ ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง บังเอิญตอนนี้เสียงเพลงในคลับลดลงไปมากด้วย คนที่เคยเต้นอยู่ด้านล่างก็กลับที่นั่งไปดื่มแทน พี่แก้วเลยไม่ได้ใช้เสียงมาก ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเล่นเกมอย่างที่พี่นนท์นี่เคยบอก

“ไหนใครอยู่ปีหนึ่งยกมือขึ้นครับ”

พรึบ*!*

มีคนยกเกือบสิบคนได้ หนึ่งในนั้นมีผมด้วย ผมกวาดสายตามองคนที่ยกมือไม่มีอิน เหมือนอินจะไม่มา ดีแล้ว!!

พรึบ!

“ผมมาทันไหมครับ” แต่ในจังหวะนั้นเอง คนที่ทำให้ผมอารมณ์ดีเพราะไม่มาก็ปรากฏด้วยขึ้นด้วยท่าทีติดหอบนิดๆ ผมเบ้ปากพลางมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า “อินมาทันไหม”

จะมาทำไม!!

“ทันครับน้องอิน โห ชุดที่น้องใส่นี่เหมือนเปลี่ยนแนวตัวเองเลยนะครับ” พี่แก้วพูด จุดรวมสายตาตอนนี้เปลี่ยนไปอยู่ที่อินแล้ว อีกฝ่ายปรากฏตัวด้วยชุดที่เหมือนจะเปลี่ยนแนวแบบที่พี่แก้วว่า ปกติอินจะอยู่ในลุคน่ารักแต่วันนี้เหมือนจะไม่ ร่างเล็กใส่เสื้อที่บริเวณไหล่มันกว้าง ทำให้เห็นไหล่เล็กขาวเนียนที่บริเวณคอเสื้อมันร่นลงไปต่ำจนเกือบจะเห็นอก เสริมด้วยสร้อยสีเงินทำให้บริเวณนั้นมันดูน่ามองขึ้นไปอีก กางเกงสกินนี่แนบรัดรูปไปกับขาเรียวยิ่งเสริมให้ดูน่าค้นหา ทุกสิ่งทุกอย่างที่อินใส่มาวันนี้มันเหมือนจะออกไปทางเซ็กซี่มากกว่า ก็เหมือนเปลี่ยนลุคอย่างที่พี่แก้วว่าจริงๆ

ผมมองเสื้อผ้าก่อนจะหันหน้ามาหาฮิมแล้วแอบเบ้ปาก เหมือนพ่อจะรู้ใจ แขนแกร่งที่โอบเอวผมอยู่จู่ๆ ก็แน่นขึ้นกว่าเดิม อารมณ์เลยดีขึ้นมาหน่อยแต่ก็วูบลงเหมือนเดิมเมื่ออินเดินมาที่โต๊ะที่ผมและพี่ๆ นั่งอยู่

“สวัสดีครับพี่ๆ” ผมปรายตามองอีกฝ่ายที่กำลังยกมือไหว้พวกพี่ๆ ในโต๊ะ “สวัสดีครับพี่ฮิม”

ทำไมต้องเจาะจงฮิมด้วย! ผมถอนหายใจเฮือกก่อนจะปรายตามองอินที่กำลังไหว้พี่ฮิม เป็นจังหวะเดียวกันที่อินมองมาหาผมพอดี อีกฝ่ายทำท่าเหมือนแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นผม แต่ก็เอ่ยปากทักทาย “หวัดดีเล มาด้วยเหรอ”

“อือ” ผมครางรับก่อนจะหันไปซุกหน้ากับฮิมต่อ

รีบๆ ไปซะที!

คำอธิฐานของผมเป็นจริงเมื่ออินโดนพี่รหัสตัวเองเรียกไปนั่งด้วย

“มาต่อกันเถอะ ปีหนึ่งทุกคนที่มาวันนี้ต้องเล่นเกมทายสายรหัสของตัวเองนะครับ โดยพวกพี่จะมีคำใบ้มาให้หนึ่งคำใบ้ ไม่จำกัดจำนวนที่ทาย ทายได้จนกว่าจะถูก” ผมพยักหน้ารับดูแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรยาก ทว่า… “แต่ถ้าทายผิดหนึ่งครั้ง น้องต้องดื่มหนึ่งช็อตนะครับ น้องเลพี่ก็ไม่เว้นนะ!”

เหมือนพี่แก้วจะรู้ว่าผมมีพ่อคุ้มกะลาหัวอยู่ใครก็ทำอะไรไม่ได้จึงบอกเอาไว้ก่อน ผมหันไปถามฮิม

“เลดื่มได้ไหม” ร่างสูงที่กำลังจรดแก้วใส่น้ำสีอำพันธ์จ่อที่ริมฝีปากพยักหน้า เป็นอันว่ายินยอมเห็นดังนั้นพี่แก้วจึงแจกกระดาษคำใบ้ให้แต่ละคน ยกเว้นอิน อินได้พี่ฮิมเป็นสายรหัสอย่างที่เคยขอพี่สินจริงๆ ด้วย ผมเปิดคำใบ้อ่านก่อนจะเม้มปากเพราะมันแทบไม่บอกอะไรเลย

‘สายรหัสเป็นพี่ๆ ที่อยู่บ้านเดียวกันกับน้องเล’

ตัดฮิมออก ก็เหลือทั้งพี่วิน พี่ผา พี่เกียร์ พี่รพ พี่ไทด์ ตั้งห้าคน!!

“น้องเลเริ่มก่อนครับ”

“พี่ผา” ผมสุ่มไปมั่วๆ ก่อนจะรับมาหนึ่งช็อตเป็นอันว่าผิด! ผมยกขึ้นดื่มลงไปครั้งเดียวหมด รสชาติมันแปลกๆ จนต้องคว้าน้ำอัดลมขึ้นมาดื่มตาม อาการมึนๆ แปลกๆ เข้ามาครอบงำจนผมต้องส่ายหน้าแรงๆ สองที ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่เหมือนได้ยินเสียงฮิมร้องหึหึในลำคอ พอผมทายผิด พี่แก้วก็เปลี่ยนคนไปเรื่อยๆ จนมาถึงผมอีกครั้งหนึ่ง

“ทายใหม่ครับน้อง”

“พี่ไทด์”

“ผิด!”

ดื่ม

“พี่รพ”

“ผิด!”

ดื่ม

“พี่เกียร์”

“ผิด!”

“ฮืออ เลดื่มไม่ไหวแล้วอะ” ผมซบอกแกร่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นขอร้องร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ “ฮิมจ๋า ดื่มแทนเลหน่อยนะ”

“เลต้องให้รางวัลพี่นะ” ผมพยักหน้า จะเอาอะไรก็เอาไปเถอะตอนนี้มึนมากๆ เลย พ่อรับเหล้าเพียวๆ ซึ่งถ้าผมดื่มมันจะเป็นช็อตที่สี่ขึ้นไปดื่ม ดื่มเสร็จร่างสูงก็ยังเหมือนเดิมไม่มีท่าทีมึนเมาอะไรทั้งนั้น

“ครั้งที่ห้าแล้วน้องเลทายให้ถูกนะครับ”

“พี่วิน”

“ถูกต้อง!!” แหม… ก็เหลือคนเดียวอะ สติผมหยุดอยู่ตรงนั้น เพราะหลังจากทายพี่รหัสเสร็จผมก็ฟุบหลับคาอกแกร่งทันที



23.22 น.

ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเพลงในคลับมันดังขึ้นอีกครั้ง แต่คนที่นั่งข้างๆ หายไปในก็ไม่รู้

“ฮิมไปไหน” ผมหันหน้าไปถามพี่วินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ไปสูบบุหรี่” พอได้คำตอบก็พยักหน้าก่อนจะยืนขึ้น “มึงจะไปไหน”

“เลจะไปเข้าห้องน้ำ” ผมยืนโงนเงนอยู่กับที่สักพักเพราะรู้สึกเหมือนโลกมันเอียง

“ให้ไอ้เกียร์พาไป”

“ไม่ต้องก็ได้”

ผมปฏิเสธ ยอมรับว่ายังกลัวพี่เกียร์อยู่ เลยรีบเดินออกมา แต่เดินออกมาไม่นานจู่ๆ ผมก็โดนใครบางจับเข้ามาจับแขน หันกลับไปมองก็เจอผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง

“คนสวยพึ่งมาคลับครั้งแรกเหรอ ทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย”

“ปล่อยเลนะ”

“แทนตัวว่าเลด้วย ชื่อเลเหรอ น่ารักจังนะเรา แต่งตัวก็น่ารักเหมือน… เด็ก”

“ปล่อยนะ”

“พี่ชอบกินเด็กนะรู้ไหม”

“ปล่อย!!!”

“เฮ้ย!! ทำไรวะ อัก!!” พอผมตะโกนใครสักคนก็มาจับคนตรงหน้าทุ่มลงพื้น กดร่างสูงเอาไว้แล้วล็อกกุญแจมือใส่ทางด้านหลัง “จับกูหาพ่อมึงสิ ไอ้สัส!!”

จบประโยคนั้นอีกฝ่ายก็โดนลากออกไปจากพื้นที่ ในขณะที่ผมยังยืนงง เลยหันไปขอบคุณคนที่เข้ามาช่วยทุ่มคนตรงหน้าลงพื้นแทน “ขอบคุณนะครับ”

“ไม่เป็นไรครับน้องบอส” หือ ? เรียกแปลกๆ “จะไปไหนครับ”

“เลจะไปเข้าห้องน้ำ”

“เดี๋ยวไปส่งครับ” นี่ก็อีกคนที่อาสา เพราะไม่ได้สนิทมากผมเลยพยักหน้าไปงั้นๆ ก่อนอีกฝ่ายจะพาไปส่งที่ห้องน้ำจริงๆ ผมใช้เวลาไม่นานกระทั่งออกมาจากห้องน้ำกำลังจะกลับโต๊ะ สายตามันก็พลันไปเห็นสองร่างที่กำลังยืนสูบบุหรี่ห่างจากผมไม่ไกลนัก

ผมเปลี่ยนทิศ แล้วเดินตรงดิ่งไปยังสองคนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่สุดทางเดิน มือเริ่มกำหมัดโดยที่ไม่รู้ตัว เกือบจะไม่สนใจแล้วเชียว ถ้าสองคนที่ว่านั่นมันไม่ใช่พี่ฮิมกับอิน!!

“พี่ฮิม!!” ผมตะโกนเรียกร่างสูงก่อนจะเดินเข้าไปกอด ฮิมคีบเอาบุหรี่ออกก่อนจะดับแล้วทิ้งลงไปในที่เขี่ยบุหรี่ใกล้ๆ แขนแกร่งกอดผมกลับแล้วถามเสียงเข้ม

“มาคนเดียว ?”

“พี่คนนั้นมาส่ง” ผมหันหน้าไปทางพี่คนที่ว่าแต่กลับไร้วี่แวว “สงสัยจะไปแล้ว ฮิมทำอะไร”

“สูบบุหรี่” ผมส่งเสียงร้องอือในลำคอก่อนจะหันหน้าไปทางอินที่กำลังยืนพิงกำแพง อีกฝ่ายส่งรอยยิ้มมาให้ แต่ผมหน้าบึ้งกลับ “อยากกลับบ้านหรือยัง”

“เลมึนหัว” ผมตอบเลี่ยงๆ แต่เป็นอันเข้าใจว่าอยากกลับแล้ว ฮิมไม่ได้พูดอะไรต่อเขาโอบเอวผมเดินกลับทันที แต่ในจังหวะที่เดินนั่นเองที่ผมพึ่งนึกอะไรออก เมื่อกี้ตอนที่อินกำลังยืนพิงกำแพง…

ขวับ!

ผมหันหน้าไปมองด้านหลัง ร่างเล็กยังยืนอยู่ที่เดิม มือบางโบกมือมาให้ทันทีที่ผมหันหน้าไปมอง แต่ที่สำคัญคือในมือนั้นคีบบุหรี่ หมายความอินสูบบุหรี่เหรอ ?

ไม่เห็นเข้าเลย…



(70%)
ขอโทษที่อัพช้าเน้อออ

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 04-04-2017 00:42:37
มาต่ออย่างใจจดใจจ่อ ' '-
นุ้งอินแลดูมีความลับ ฮือออออ
ทำไมพี่ฮิมถึงปล่อยน้องเมาแอ๋โดยที่ไม่อยู่ดูแล พี่ๆก็ปล่อยน้องไปฉี่คนเดียวด้วย
ฮืออออ ถ้าโดนรังแกขึ้นมาจะทำยังงายยยยยย
รอครบ 100% นะคะ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 04-04-2017 00:43:56
อินนี่ตัวสร้างความร้าวฉานแน่ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-04-2017 01:05:38
หาสามีให้น้องอินเถอะค่ะ
จะได้ไม่มาสร้างความวุ่นวาย
ให้น้องเล  :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 04-04-2017 06:38:29
มั่นไส้อินมากอ่ะ
นางดูมีลับลมคมใน

ฮิมก็ปล่อยน้องเลได้ไง
มันน่านัก  :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 04-04-2017 07:37:07
หาคนที่ตกหลุมรักเล ที่มีอำนาจเท่ากับฮิม หรือ มากกว่า
มาให้หน่อยจร้า...อยากให้ฮิมร้อนรนบ้าง  :angry2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-04-2017 08:06:32
ตามต่อ แบบใจจดจ่อมาก
ดีนะมีคนช่วยเล ทัน
แต่เลก็มั่นใจตัวเองอะไรปานนั้น
พี่เขาจะไปเป็นเพื่อน ก็ไม่ยอม
เจอแล้ว จะรู้คิดมั้ยนะ
อิน คงจ้องเข้าหาฮิมตลอด
ก็ใจอิน สนแต่ฮิม อย่างที่เลคิดจริงๆ
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: 
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-04-2017 09:12:41
อินน่าสงสัย!?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-04-2017 09:24:20
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 04-04-2017 09:40:13
น้องเล อินเค้าไม่ได้เรียบร้อยขนาดนั้นนะลูก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 04-04-2017 09:58:04
อินต้องมาเป็นอะไรสักอย่างที่พีคมากแน่ๆดูจากท่าทางแล้ว น้องเลหึงน่ารัก พี่ฮิมก็ง้อน่านักฮือ :heaven

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 04-04-2017 11:46:17
มาต่ออีกนะครับ รออยู่ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 04-04-2017 19:00:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 04-04-2017 19:06:06
อยากให้ฮิมมีคู่แข่งที่น่ากลัวบ้าง อยากเห็นฮิมหึง นี่มีแต่เลที่ร้อนรนหึงอยู่คนเดียว(ถึงไม่รู้ตัวก็เถอะ)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 04-04-2017 19:15:35
อินเขาไม่เหมือนหนูหรอก แต่ถ้าหนูอยากรู้อะไรเพิ่มเติมมากกว่านี้ แนะนำถามพ่อฮิมเลยให้พ่อเขาสอนน่ะดีต่อสุขภาพร่างกายคนอื่นเขานะลูก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: pearlypear ที่ 05-04-2017 00:42:37
อิน นี่เป็นคนยังไงกันแน่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13(70%) p.14
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 05-04-2017 03:23:47
เช้า


ผม-ตื่น-สาย!

“ทำไมพี่ฮิมไม่ปลุกเล” ผมถามร่างสูงขณะเร่งแต่งตัว ตามองเวลาก่อนจะรับรู้ได้ว่าเข้าคลาสเลทแน่ๆ “ฮิมใจร้ายอ่า”

 เมื่อวานหลังจากกลับบ้านถึงบ้าน ผมต้องกินยากันเอาไว้เพราะรู้ปวดหัวเผื่อเป็นไข้ แต่พอกินยาเสร็จก็นอนสลบคาเตียงตื่นมาอีกทีตอนแปดโมง แล้ววันนี้อาจารย์นัดเรียนตอนแปดโมงครึ่ง! ฮิมไม่ยอมปลุกเขาอ้างว่า…

“เลดื่ม เลก็ต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเอง” ในขณะที่คนพูดก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว

“พ่ออ่ะ!” ผมยื่นมาไปตีอีกฝ่ายเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะวิ่งไปคว้ากระเป๋าสะพายของตัวเอง “วันนี้ใครไปส่งเล”

“พี่” ฮิมว่าพร้อมกับเดินไปหยิบกุญแจรถก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมกับผม ถึงเขาจะไม่ปลุกแต่อย่างน้อยพ่อก็ยอมขับรถเพื่อที่จะให้ผมสายได้น้อยที่สุด “วันนี้ติวนะครับ”

“อือหึ” ผมครางรับเมื่อฮิมเตือน จำได้ไหมที่พ่อบอกว่าจะติวให้อาทิตย์ละสี่วัน วันละสองชั่วโมง เพื่อให้ผมมีชีวิตรอดจากการสอบที่จะถึงนี้

เราใช้เวลาจากบ้านมาถึงมหา’ลัยภายในยี่สิบนาที

“เลไปแล้วนะ” ผมบอกก่อนที่รถจะจอดพร้อมกับรีบเบี่ยงตัวไปหอมแก้มคนขับ แล้วออกตัววิ่งออกจากรถทันทีที่เมื่อรถหยุดเคลื่อนที่ ได้ยินเสียงดังแว่วตามหลัง

“เรียนเสร็จโทรหาพี่ด้วยนะ”

เลิกเรียน

“เลเสร็จแล้ว” ผมโทรหาฮิมหลังจากเรียนและบอกลาหนุ่มทั้งสี่เสร็จเรียบร้อย ช่วงนี้เราไม่ค่อยอยู่ด้วยกัน ส่วนใหญ่คุยกันทางแชทมากกว่า เพราะผมไปจิกทั้งเบอร์และทุกช่องทางการติดต่อของเกี๊ยก พิษ ดิน เอ็กซ์มาไว้เรียบร้อยแล้ว

(พี่รออยู่ที่หน้าคณะ) ผมชะเงยหน้าไปมอง ก่อนจะเห็นรถสปอร์ตสีดำของฮิมที่เด่นมาแต่ไกล ผมวิ่งไปขึ้นแล้วโผล่เข้าหอมแก้มคนมารับอย่างที่เคยทำ

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ปกติผมต้องโทรบอกก่อนฮิมถึงจะมา แต่นี่เขามารอเลย

“สิบนาทีก่อน”

“ทำไมรู้ว่าเลเลิกเวลานี้”

มือหนาเอื้อมไปเร่งแอร์ก่อนจะตอบสั้นๆ “เกี๊ยก”

เกี๊ยก ? อีกแล้ว*!*

ผมทำหน้าขรึมลงก่อนจะถามฮิมด้วยน้ำเสียงคาดคั้น “ทำไมต้องเกี๊ยก”

“หือ ?” พ่อหันมามองผมนิดหน่อย เหมือนเขาจะไม่เข้าใจว่าผมต้องการที่จะสื่ออะไร

“เกี๊ยกอีกแล้ว! ตอนนั้นก็เกี๊ยก ตอนนี้ก็เกี๊ยก ทำไมต้องเกี๊ยกด้วย ไปสนิทกันตอนไหน” ผมออกโรงโวยทันที ก็ตั้งแต่ที่เป็นเพื่อนกับเกี๊ยกมา เคยเห็นเกี๊ยกกับฮิมเจอหนากันก็แค่ไม่กี่ครั้งเอง เขาไปสนิทกันตอนไหน “ตอบเลนะ”

“ไม่ได้สนิท พี่แค่รู้จัก”

“แค่รู้จักทำไมต้องถามเกี๊ยก ทำไมพ่อไม่ทักมาถามเล”

“…” ฮิมเงียบไป หลังจากนั้นเขาก็หันมามองผมด้วยแววตาเย็นยะเยือก “คนดีแอบเล่นโทรศัพท์ในห้องเหรอ ?”

ซวยแล้ว…

“เลเปล่านะ” ผมปฏิเสธแต่ไขว่นิ้วกันไว้ด้านหลัง เพราะจริงๆ แล้วก็มีแอบเล่นบ้าง ผมไม่ใช่เด็กเรียนขนาดนั้น มันก็มีบางช่วงที่เกเร แต่สำหรับเรื่องเรียนพ่อจะเคร่งนิดหน่อย ถ้ามองในมุมของฮิมที่เลี้ยงผมมา เขาคงเป็นห่วงอนาคตผมมากๆ ผมหัวช้านิดหน่อยเลยต้องขยันกว่าคนอื่นด้วย

“อย่าให้พี่จับได้” อาจจะหมายความปลายๆ ว่ารู้อยู่แล้ว ผมเงียบลงทันที ไม่ถามเรื่องเกี๊ยกต่อ จะไปสนิทกันตอนไหนก็ช่างพวกเขาแล้วกันตอนนี้ขอเอาตัวเองให้รอดก่อน ฮิมจริงจังเกี่ยวกับเรื่องเรียนของผม ในขณะที่ผมอยากบอกกับเขาว่าผมมีแววที่จะเกาะเขากินไปอีกนาน

เราได้คุยกันอีกครั้งเมื่อรถมาถึงคาเฟ่แห่งหนึ่ง ผมงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อคนประเภทฮิมที่ไม่น่าจะกินของหวานขับรถเข้ามาจอดบริเวณนั้น

“พ่อจอดรถทำไม”

“ติว”

“เลนึกว่าติวอยู่ที่บ้าน” ผมว่าขณะปลดสายเบลล์ออกพร้อมกับเดินลงจากรถ มือหนากวักเรียกผมให้เดินเข้าไปหาก่อนฮิมจะโอบไหล่แล้วพาผมเดินเข้าไปด้านในร้าน เป็นร้านคาเฟ่ขนาดใหญ่ที่ผมเคยมากินแต่ไม่บ่อย เพราะตัวร้านมันอยู่ห่างจากมหา’ลัยประมาณหนึ่ง ปกติถ้าไม่ไปกินกับพวกพี่นนท์นี่ และนึกอยากกินของหวานผมจะขอให้แก็งชายสี่ (เกี๊ยก พิษ เอ็กซ์ ดิน) หนึ่งในสี่คนนั้นพาไปกินคาเฟ่ที่อยู่ใกล้มหา’ลัยแบบเดินไปได้ไม่ต้องใช้รถ

กรุ๊งกริ๊ง

เสียงกระดิ่งดังเมื่อเราเปิดประตูเข้าไปในร้าน บรรยายกาศดูเหมาะกับการติวมากๆ มันเงียบสงบ คนไม่ค่อยเยอะด้วย

“จองไว้แล้วใช่ไหมคะ เชิญทางนี้ค่ะ” พนักงานผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาทางเราก่อนจะเป็นคนนำทางไปยังโต๊ะ อีกฝ่ายพาพวกผมขึ้นไปยังชั้นสองของร้าน ในขณะที่ผมหันไปกระซิบถามฮิม

“พ่อมาจองไว้ตั้งแต่ตอนไหน”

“ตอนที่เลเข้าเรียน” ผมพยักหน้าเป็นอันเข้าใจพร้อมกับกวาดสายตามองดูรอบร้าน เป็นสถานที่ที่น่ามาถ่ายรูปมา ร้านคุมโทนน้ำตาล มีไล่สีตั้งแต่อ่อนไปเข้ม เสริมพรอพด้วยพวกต้นไม้ทำบรรยากาศจึงดูสงบไปอีก ผมสั่งเค้กมาสองสามชิ้นกับไวท์ช็อกโกแลตเช็กเมื่อนั่งโต๊ะเสร็จ ส่วนพ่อสั่งกาแฟดำเย็น ก็ดูเข้ากับฮิมดี

ฮิมทำตัวเป็นติวเตอร์ทันทีที่นั่งลง มือหนาวางชีทปึกหนึ่งลงตรงหน้าผมจนบรรยากาศสบายๆ แทบจะกลายเป็นเครียดแทน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถือมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่

“ชีทเยอะจัง”

“พี่จะเร่งให้เร็วกว่าเดิม” เสียงทุ้มว่าขณะหยิบดินสอและปากกาอย่างละแท่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “พี่ไม่ว่างสอนเลเหมือนแต่ก่อน คนดีต้องอ่านให้เยอะขึ้นกว่าเดิมนะครับ”

เสียงทุ้มว่าแต่เขาไม่ได้มองผม มือหนากำลังเขียนบางอย่างลงไปในชีทอยู่

“อือ” ผมตอบรับเป็นเวลาเดียวกันที่พนักงานนำเค้กพร้อมกับน้ำมาเสิร์ฟ และหลังจากนั้นฮิมก็เริ่มที่จะติวทันทีถ้าไม่ติดที่ว่า…

“สวัสดีเล” เสียงแบบนี้นี่มัน

ขวับ*!*

ผมหันหน้าไปมองผู้มาใหม่ พร้อมกับชักสีหน้าใส่ อินอีกแล้ว! คนๆ นี้นี่จะดวงสมพงษ์กับผมอะไรขนาดนั้น

“มาทำไม” ผมถามอย่างไม่ไว้หน้า

“มาหาเลไง ขอนั่งด้วยนะ”

ปึก!     

ผมหยิบชีทปึกใหญ่ที่ฮิมพึ่งวางลงบนโต๊ะมาทับที่นั่งข้างผมที่มันยังว่างอย่างไม่ไว้หน้าคนที่ขอนั่งด้วย อินทำสีหน้าราบเรียบก่อนจะเดินไปนั่งข้างฮิมแทน

“นี่!!” ผมลุกขึ้นตบโต๊ะ แสดงออกถึงขนาดนี้ว่าไม่อยากให้นั่งด้วยก็ยังจะนั่งอีก

หน้าด้าน!!

“ขอเค้กช็อกโกแลตกับดาร์กช็อกโกแลตเชคครับ” ผมกำมือแน่นขณะฟังอีกฝ่ายสั่งเมนูกับพนักงาน รอจนกระทั่งสั่งเสร็จ อินถึงหันหน้ามาทางผมแล้วบอกข้อมูลใหม่ที่ผมไม่เคยรู้ “พี่ฮิมไม่ได้บอกเหรอว่าเราจะมาติวด้วย”

ผมหันไปทางพ่อ เขายังทำสีหน้าราบเรียบก่อนจะพยักหน้าว่าสิ่งที่อินพูดเป็นความจริง ความจริงที่ทำให้ผมถึงกับต้องร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ

“ฮิม!!!!”

“เราไม่กวนเลมากหรอก”

“ไม่มีชีทให้นาย” ผมบอก

“ไม่เป็นไร” เสียงนุ่มว่าขณะหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพายของตัวเอง “เราเตรียมมาแล้ว”

“แต่—”

“ถ้าเป็นเรื่องที่ชินกับการติวสองคนกับพี่ฮิมน่ะไม่ต้องห่วง เราไม่พูดแทรกหรอกแค่จะมานั่งฟังด้วยเฉยๆ”

ผมเม้มปาก กำหมัดแน่นแต่ไม่ได้พูดอะไรอีก อาการบางอย่างมันตื้ออยู่ในใจ ยิ่งมองสองคนที่นั่งข้างกันตอนนี้อาการนั้นมันก็ยิ่งอัดแน่นเสียจนผมจะทนไม่ไหว ผมหันหน้าไปหาฮิมจ้องเข้าไปในนัยน์ตาสีดำสนิท แต่ไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จะคิดอะไรก็ช่างแต่ตอนนี้ผมไม่ชอบมากๆ ไม่ชอบ

“มาเริ่มเถอะ”

เสียงนั้นเป็นคำตัดสิน ว่ายอมให้อินนั่งอยู่ข้างพี่ฮิมได้



บ้าน

“เล” เสียงทุ้มเรียกชื่อคนที่กำลังวิ่งเข้าไปตัวบ้าน ฮิมวิ่งตามทว่าเมื่อมาถึงห้องเขากลับคว้าแขนบางเอาไว้ไม่ทัน เลวิ่งเข้าไปในห้องก่อนจะปิดประตูเสียงดังแล้วลงกลอนทันที

ปัง!

เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาถอนหายใจ มือหนาเสยผมขึ้นก่อนจะเคาะประตู

ก๊อก ก๊อก

“คนดีเปิดให้พี่หน่อยครับ”

“…”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เล”

“มีเรื่องอะไรอีก” วินเดินตามขึ้นมาด้านบน ในขณะที่เกียร์เดินออกจากห้องด้วยอาการหัวเสียเพราะเสียงปิดประตูเมื่อกี้ทำให้มันตื่น

“งอนทีไรเดือดร้อนชาวบ้านทุกทีเลยแม่ง” เสียงทุ้มสบถก่อนจะเดินลงไปด้านล่าง ฮิมถอนหายใจก่อนจะรับกุญแจห้องที่วินโยนมาให้แล้วไขเข้าไปด้านใน

ฮือ… ฮึก! ฮือ

เป็นอย่างที่เขาคาดเสียงแรกที่ได้คือเสียงที่เขาไม่อยากได้ยินที่สุด มือหนาเอื้อมไปเปิดไฟ ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนที่กำลังซบหน้าลงกับหมอน มีเสียงสะอื้นหลุดรอดออกมาให้ได้ยิน ร่างสูงนั่งลงที่เตียงนอนก่อนจะเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่บางทว่าถูกปัดออก

“ออกไป!”

“เล”

“เลบอกให้ไป! ฮิมใจร้าย! ฮิมไปเลย! ไปไกลๆ ฮือ”

“มาคุยกันดีๆ มา”

“ฮือ”

“เลครับ”

“ฮึก!”

“เฮ้อ คนดี” ฮิมถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจออกแรงนิดหน่อยพอที่ให้เลพลิกตัวแล้วหันหน้ามาทางเขา แต่ทันทีที่ทำ ร่างเล็กก็ลุกขึ้นจากเตียงเป็นฝ่ายโผล่เข้ากอดเขาก่อนทันที เสียงฮือดังตาม ใบหน้าหวานซบลงที่บ่าก่อนจะพรั่งพรูความในใจออกมาจนหมด

“เลไม่ชอบ! เลไม่ชอบเขา ทำไมฮิมต้องเอาเขามาติวด้วย ฮือ เลไม่ชอบ”

มือหนาดันตัวน้องออกก่อนจะปัดเส้นผมที่ปรกหน้าผากมนขึ้น นิ้วเรียวพยายามเกลี่ยน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มออกจากใบหน้า “ทำไมล่ะครับ”

“ฮึก…” น้องสงบลง “เขาเหมือนจะแย่งฮิมไปจากเล”

“…”

“เลไม่ชอบ ฮิมเป็นของเล เลไม่อยากให้เขาเอาพ่อไป ฮือ” นัยน์ตากลมโตเงยขึ้นประสานกับคนที่ยังคงนิ่ง ก่อนบรรยากาศจะเงียบลง เงียบจนได้ยินเสียงสวบสาบของเสื้อผ้า ยามเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้คนตรงหน้าแล้วประทับริมฝีปากเข้าหาอีกฝ่าย ร่างสูงนิ่งงันก่อนจะค่อยๆ ตอบรับคนที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน มือหนาเลื่อนจากใบหน้าขาวไปด้านหลังแล้วบังคับท้ายทอยของน้องเอาไว้ เขาจัดการรุกล้ำจนคนที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อนเสียเองที่ส่งเสียงอื้ออึงออกมา ร่างบางถูกดันตัวลงเตียงนอน สัมผัสอ่อนโยนถูกเปลี่ยนเป็นเร้าร้อนขึ้นตามบรรยากาศ คนโดนรุกล้ำแทบไม่ได้สติ แขนบางยกขึ้นโอบรอบคอแกร่งตามสัญชาติญาณพลางแทรกนิ้วเรียวเข้าไปในกลุ่มผมสีดำสนิท ขณะเดียวกันที่ฝ่ามือหนาลากผ่านเอวคอด ปัดป่ายไปตามกายขาว เขาได้สติอีกครั้งตอนที่น้องออกแรงขย้ำกลุ่มผมสีดำยามที่มือหนาล้วงเข้าไปในเสื้อเชิ้ตสีขาวของมหา’ลัย คนตัวสูงรีบถอนริมฝีปากออก นัยน์ตาคมมองหน้าขาวที่บัดนี้แดงซ่าน เสียงหวานว่า “ฮิมเป็นของเล”

เขาจับมือบางแนบที่แก้มก่อนจะพยักหน้าแล้วย้ำให้อีกฝ่ายมั่นใจ

“พี่เป็นของเล” รอยยิ้มหลังน้ำตาปรากฏ ก่อนคนตัวเล็กจะสลบเหมือด ฮิมลุกขึ้นจากเตียงนอน ร่างสูงเดินไปปิดไฟทั่วห้องแล้วออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง เจ้าของนัยน์ตาสีดำสนิทคิดถึงประโยคก่อนหน้าอย่างอารมณ์ดี เลหวงเขามาก เขารู้ แต่ในเมื่อพูดออกมาแล้ว

ร่างสูงสูบเข้าก่อนจะพ่นออก ควันบุหรี่สีดำลอยคลุ้งไปในอากาศ  เป็นควันพิษที่คนสูบยินดีที่จะสูบมัน

‘พี่เป็นของเล’



ดังนั้นเล… ก็เป็นของพี่






(100%)





ไอทายว่ามันจะมีดราม่าแบบทำไมฮิมถึงทำแบบนี้ ทำไม!! ถ้ารู้เหตุผลแล้วยูจะอึ้ง อย่าลืมว่าฮิมเจ้าเล่ห์ แบบล้านเล่มเกวียนด้วยนะ ยูอย่าโดน Look คลูๆของเฮียแกหลอกนะ แล้วจะถามใช่ไหมว่าทำไมเฮียยยยยย เลชัดเจนขนาดนี้ทำไมไม่จัดด จัดเหอะ อยากอ่านฉากนั้นแล้ว55555 เพราะน้องเลยังไม่ได้พูดประโยคหนึ่งค พี่ฮิมต้องรอให้น้องพูด ถ้าเลไม่พูดฮิมก็จะไม่ทำ

ปล.นี่แปลกใจมากที่ทุกคนทายอินไม่ออก นางออกจะแสดงแบบชัดเจนอะ

ปล2. ขอบคุณมากๆ ที่มีคนบอกว่าฮิมล็อกกลอนแล้วทำไมเกียร์เปิดเข้ามาได้ เราแก้จุดนั้นแล้วนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

twitter @_mdreds
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 05-04-2017 06:05:59
แอร๊ยยยยย ฮิมอ่ะ ไม่ทำต่อ 55555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: seii ที่ 05-04-2017 06:48:38
เอาจริงๆนะ ทั้งเรื่องชอบวินที่สุด เป็นคาเเรคเตอร์ที่สมจริง
เลนางงุ้งงิ้งมุ้งมิ้งจนบางทีก็รำคาญนาง
ส่วนฮิมก็เก๊กเหลือเกินพ่อคุณเอ้ยยยย
อินจริงๆ เเล้วชอบเลใช่มะ? งั้นก็เป็นลูกน้องฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-04-2017 07:43:06
พี่ฮิมเดี๋ยวเลไปชอบคนอื่นแล้วนายจะหนาว
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-04-2017 08:51:04
ฮิมเจ้าเล่ห์...
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: @milan ที่ 05-04-2017 08:55:56
 :hao4: :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-04-2017 09:39:59
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 05-04-2017 09:41:47
ชอบเหล่าพี่ๆมากกว่าพระเอกละ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-04-2017 09:46:01
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 05-04-2017 10:58:05
ชอบพี่วินมากกกกกกกกกก :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 05-04-2017 10:58:35
พระเอกเรื่องนี้ดูอะไรก็ได้ดั่งใจ ปั่นหัวนายเอกอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งๆ ที่ นายเอกก็อายุอ่อนกว่า ประสบการณ์ไรก็ไม่มี
อยากให้มีจุดที่ทำให้พระเอก รู้ตัวบ้าง ว่าขาดเลไป ฮิมก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน อยากให้พระเอกร้อนรน มีความรู้สึกว่าคุมอะไรไม่ได้บ้าง ถ้ายังดำเนินเรื่องแบบนี้ คนอ่านจะยิ่งรู้สึกว่า เลเป็นของตาย เลยอมฮิมอยู่ฝ่ายเดียว ฮิมจะทำอะไร เลก็ต้องยอม แบบนี้สงสารเลฝุดๆ และ จะหมั่นไส้ฮิมมากกว่านี้อีก ฮาาาาาา

*** ความเห็นส่วนตัวจร้า แต่หากคนแต่งจะแต่งยังไง ก็รออ่านจร้า ชอบๆ เรื่องนี้ค่ะ แค่เราโรคจิต อยากแกล้งพระเอกบ้าง ^^
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-04-2017 12:17:59
เมื่อไรน๊า ...
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 05-04-2017 15:38:10
พี่ฮิมร้ายมากโอ๊ย :z3:
หลังจากนี้เลต้องโดนหนักๆ ได้เป็นเจ้าของฮิมโดยสมบูรณ์แน่ๆ หึหึ :hao7:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-04-2017 17:09:46
ฮิมมันร้ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 05-04-2017 17:43:25
 อยากรู้ว่า..พี่ฮิม รอคำว่าอะไรจากน้องเล??
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 05-04-2017 17:53:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Ditweu ที่ 05-04-2017 19:44:11
นี่ว่าอินดูชอบเล แล้วก็ดูไม่ได้จะแย่งฮิมจากเล
แต่ที่ไม่รู้คือฮิมจะทำอะไร
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 05-04-2017 22:23:39
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 06-04-2017 07:29:03
คนเขียนแก้ตอนที่ประตูล็อคแต่พี่เกียร์เปิดเข้ามาได้ เฉพาะเว็บอื่นหรือเปล่าคะ ในเล้ายังเห็นเป็นเหมือนเดิมอยู่เลยนะคะ

สู้ๆๆเป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 06-04-2017 09:10:40
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 06-04-2017 11:56:31
อาจจะเกลียดอิมถ้าไม่อ่านข้างล่างก่อน พออ่านนี่คิดว่าอิมน่าจะเป็นลูกน้องมั๊ย(?)
แล้วประโยคนั้นเมื่อไรน้องเลจะพูดน้อ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 06-04-2017 13:04:02
อินคงไม่ได้ชอบเลนะ5555555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 06-04-2017 14:52:56
TT_TT ไหนคือพ้นวิกฤตละจะว่าง จะอัพบ่อยๆ อัพทุกวันคะซิส นีรีเฟรชรอทุกชั่วโมงอ่ะ โหยหามาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: KLiar ที่ 07-04-2017 14:03:52
รอจ้าา  สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 07-04-2017 14:33:54
ตามมาตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ เราก็ยังคงไม่ชอบเลอยู่ดี ในความคิดเราเลคือ อะไรที่งี่เง่าเอาแต่ใจ ง๊องแง็งปัญญาอ่อน ตั้งแต่วิ่งเล่นในบริษัทของฮิมแล้ว หัวช้าก็เข้าใจนะ คนเราเลือกเกิดมาฉลาดมากน้อยไม่เท่ากัน แต่เหมือนเลจะไม่มีความคิดที่ว่า ตัวเองก็แค่เด็กที่ฮิมสงสารแล้วเมตตาเก็บมาเลี้ยง(ถึงจะมีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง) ก็ควรเจียมตัวไม่มากก็น้อย แต่นี่อะไรก็ไม่รู้ ใครพูดอะไรไม่ได้ กริยาก็ไม่เห็นว่าจะน่ารักตรงไหน (โอเคสำหรับเลพอแค่นี้ดีกว่า)
แต่สำหรับอิน เราชอบตั้งแต่ตอนก่อนแล้ว ลุคอินดู นิ่งๆคูลๆ เหมาะเจาะกับบุคลิกของฮิมมาก ดูเคมีเข้ากันดี
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 040417#13 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 07-04-2017 16:02:04
#14 (30%)



“ทำไมอินได้มาติวกับเล”

“เขาขอมาเอง”

“แล้วฮิมก็ให้” หลังจากหลับไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อาบน้ำ ผมเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการไปออกกำลังกายกับพ่อ และถามเรื่องราวของอินหลังจากอาบน้ำเสร็จ ขณะกำลังนั่งกินข้าวเช้า

นัยน์ตาคมละจากหนังสือธุรกิจตรงหน้า ฮิมตอบ “เพราะเป็นสายรหัส”

“ทำไมพ่อต้องมาใจดีตอนนี้ด้วย” ผมบ่นพึมพำเบาๆ คนเดียวก่อนจะตั้งใจหั่นสเต็กตรงหน้าแรงๆ แล้วจิ้มเข้าปากเป็นการประชด ฮิมไม่ได้ใจร้ายหรอก แค่ผมไม่เคยเห็นเขาให้ใครเข้าใกล้ขนาดนี้นอกเสียจากพี่ๆ และ…อิน

เคร้ง!

“เลอิ่มแล้ว” ผมปล่อยมีดและส้อมในมือลง ในขณะที่สเต็กยังพร่องไม่ได้ถึงครึ่งจนพี่รพที่กำลังย่างให้คนอื่นอยู่ต้องชะโงกหน้าเข้ามามอง ร่างสูงออกจากห้องครัวเดินมาหาผมพร้อมกับบ่นพึมพำ

“ฝีมือกูตกเหรอ” พี่รพถาม ปกติผมกินข้าวเช้าหมดเกือบทุกครั้งที่เขาทำ มือหนาจับส้อมที่ผมวางลงแล้วจิ้มเนื้อวัวชั้นดีชิ้นเล็กๆ ที่หั่นเอาไว้แล้วเข้าปาก เคี้ยวหมับๆ พร้อมกันหันมามองหน้าผม เขาออกคำสั่ง “กินให้หมด”

“แต่เลอิ่มแล้ว”

“กูบอกให้กินให้หมด!”

“ฮือ ก็ได้” ผมจำใจรับส้อมจากพี่รพก่อนจะจิ้มเนื้อวัวเข้าปากอีกครั้ง คิดว่าช่วงนี้พี่รพใจดีขึ้นแต่สงสัยจะได้แค่คิด ผมกินอาหารเช้าด้วยอารมณ์บูดบึ้ง พ่อก็ไม่ช่วย ร่างสูงยังนั่งนิ่งอ่านหนังสือธุรกิจเหมือนเคย

“อีกห้าวันพี่จะได้ไปอังกฤษ” ฮิมเปรย ในขณะที่ผมชะงักแล้วห่อไหล่ลงพร้อมกับพูดเสียงอ่อนกว่าเดิม

“อีกแล้วเหรอ” ผมเบ้ปาก “ทำไมช่วงนี้คุณลุงเรียกให้ฮิมไปอังกฤษถี่จัง”

ปกติเขาก็เทียวไปอังกฤษอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้รู้สึกจะถี่ขึ้น เพราะหนึ่งเดือนก่อนพ่อก็พึ่งไปมา

“พี่จะจบแล้วนะเล” ผมชะงักรอบสอง แล้วหันมามองหน้าเขาตรงๆ

“คุณลุงจะลงจากตำแหน่งแล้วเหรอ” คุณลุงคือคุณพ่อของพี่ฮิมที่ยังคงทำหน้าที่คุมบังเหียนของแฮมินตันคอเปอร์เรชันทั้งหมดอยู่ ถ้าพี่ฮิมใกล้จะเรียนจบ นั่นหมายความว่าคุณลุงอาจจะลงจากตำแหน่งประธานแล้วส่งมันต่อให้ลูกชาย ซึ่งมีอยู่คนเดียวนั่นก็คือพี่ฮิม แต่ผมคิดว่ามันยังเร็วไป

“ยัง” ความคิดผมเป็นอันถูกต้อง “แต่มีหลายเรื่องที่พี่ต้องทำ”

“หือ ?” ผมสงสัยแต่ไม่ได้ถามออกไป หลายเรื่องของฮิมคงจะไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจยิบย่อยซึ่งผมรู้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์ ไม่รู้นี่แหละอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ

“เล”

“จ๋า”

“วันนี้ติวนะ”

 “ฮือ”

           

13.04 น.

“ถ้าคนดีแทนตัวนี้ลงไป มันจะใช้สูตรนี้ไม่ได้…”

“…”

“เลฟังพี่อยู่หรือเปล่า”

ไม่

ผมกำลังใจจดใจจ่อกับคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพวกเรา วันนี้ผมมานั่งกับฮิมแล้วให้อินนั่งคนเดียว แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยี่หระกับการจัดที่นั่งของผมด้วยซ้ำ เพราะอินแทบไม่ได้สนใจการติว คนตรงข้ามเอาแต่ขมวดคิ้วมองดูโทรศัพท์อย่างเดียว

“เล” เสียงฮิมกระตุ้นในผมต้องเลิกสนใจอิน แล้วหันมาสนใจเขาแทน “น้องอย่าเหม่อสิ”

“เลเหนื่อย” ผมโกหกออกไป

“งั้นพักก่อน”

ขวับ

ทันที่ฮิมบอกแบบนั้น อินก็ลุกขึ้นจากที่นั่งทันที ผมมองแผ่นหลังบางก่อนจะลุกขึ้นตาม “เลไปเข้าห้องน้ำนะ”

พ่อไม่ตอบ แต่ผมถือว่าเขาอนุญาตแล้ว

ผมเดินตามอินมาเรื่อยๆ จนถึงห้องน้ำ และในตอนนี้อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะยังไม่รู้ว่าผมเดินตามมา เขายังก้มหน้าก้มตามองโทรศัพท์จนกระทั่งผมกอดอกยืนพิงขอบประตูมองคนที่ยืนอยู่หน้ากระจก เป็นจังหวะเดียวกันที่ใบหน้าหวานเงยขึ้นจากหน้าจอ อินเหมือนจะตกใจนิดหน่อยที่เห็นผม เขาเลิกคิ้วขึ้น

“เลมีอะไรหรือเปล่า”

“มาทำไม”

“หือ ?”

“มาแล้วเล่นแต่โทรศัพท์จะมาทำไม”

“ก็เราไม่อยากกวน”

“ไม่ใช่” ผมส่ายหน้า “ไม่กวนคือแบบเมื่อวาน อยู่เฉยๆ แต่วันนี้ไม่…”

คนตรงข้ามชะงักกับคำพูดของผม แต่จู่ๆ รอยยิ้มก็เกิดขึ้นที่มุมปาก มือบางหยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะชูมือที่ว่างเปล่าทั้งสองข้างให้ผมดู “เราไม่เล่นแล้ว”

ผมยักไหล่ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ รับรู้ได้เลยว่าอินเดินมาตามหลังและทันทีที่นั่งลง เสียงหวานก็ถามขึ้น

“เลเป็นห่วงเราเหรอ” เหมือนอินจะคิดไปเอง “กลัวเราไม่เข้าใจใช่ไหมละ ดีใจจัง”

ผมไม่ตอบและบอกให้พี่ฮิมรีบสอนต่อ ว่าแต่… มือหนาเอื้อมมาโอบไหล่ผมตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ?

           

หลายวันต่อมา

ช่วงนี้ผมเรียน ติวสลับกับไปซ้อมหลีด ตารางชีวิตมักจะเป็น เรียน ติว ซ้อมหลีด ไม่ก็ เรียน ซ้อมหลีด และไปติว แต่ส่วนมากจะเป็นอย่างแรกมากกว่าอย่างหลัง เพราะพี่นนท์นี่มักนัดซ้อมหลีดตอนค่ำๆ แน่นอนว่าช่วงนี้ผมเริ่มไปไหนมาไหนกับอินกว่าแต่ก่อน คณะก็คณะเดียวกัน มาติวก็ที่เดียวกัน เป็นหลีดก็เป็นหลีดเหมือนกัน ถ้าจะให้ลดโลกร้อนหน่อยนี่ผมสามารถไปไหนมาไหนกับอินได้เลย แต่ดูเหมือนว่าช่วงนี้ฮิมก็ขยันรับส่งผิดปกติ แต่ก็ดีแล้วถึงแม้ว่าผมไปกับอินบ่อยขึ้น เพราะจะมีบ้างบางครั้งที่ฮิมไปส่งไม่ได้ แต่ใช่ว่าผมจะชอบเขามากขึ้น ผมยังรู้สึกเหมือนๆ เดิม คือหมั่นไส้ ไม่ค่อยชอบ เห็นหน้าแล้วยังรู้สึกหงุดหงิด

วันนี้พ่อขึ้นเครื่องไปอังกฤษตั้งแต่เช้า คาดว่าจะกลับมาอาทิตย์หน้า ในระหว่างนั้นผู้ปกครองระยะสั้นของผมจึงกลายเป็นพี่วิน

“เสร็จกี่โมง”

“สามทุ่ม”

“ช้า กูให้มึงได้แค่สองทุ่ม”

 “พี่วินอ่า” ผมงอแงใส่ ยิ่งวันนี้พี่นนท์นี่บอกว่าจะมีรุ่นพี่ปีสี่ที่เคยเป็นหลีดมาแนะนำด้วย

“เลอย่าโกหก กูรู้ว่าตอนพ่อมึงมารับ มึงก็เลิกสองทุ่มนั่นแหละ”

“ก็ได้” ผมเบ้ปาก ก่อนจะหันหน้าหนีคนขับแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง

“อย่างอน” เสียงทุ้มว่า “กูไม่ง้อ”

“เออ ไม่ต้องง้อ—”

โป๊ก!

“โอ๊ย!” ยังไม่ทันขาดคำ กำปั้นใหญ่ๆ ก็เขกลงมาที่หัวของผมทันที “เลเจ็บ”

“อย่าประชด”

“พี่วินให้เลทำอะไรได้บ้างล่ะ!”

“กูให้มึงไปซ้อมหลีดถึงสองทุ่มแค่นั่นแหละ ถึงแล้ว” ผมเบ้ปากมองสถานที่นอกหน้าต่างรถ

“ให้แค่สองทุ่มจริงเหรอ”

“ลงไป”

ก็ได้!!

ปัง!

ผมเดินลงจากรถพร้อมทั้งตั้งใจปิดประตูแรงๆ จนคนแถวนั้นมอง พอรู้สึกว่าเสียงดังเกินไปผมเลยรีบวิ่งไปหาพี่นนท์นี่ที่กวักมือเรียกอยู่ใต้ตึก

“หน้างอเชียวลูก เป็นอะไรฮึ ?”

“พี่นนท์นี่ เลซ้อมได้ถึงสองทุ่มนะ”

“ไม่เป็นไร พี่ไม่ซีเรียส”

“เลอยากซ้อมถึงสามทุ่มแต่พี่วินไม่ยอม” ผมถอนหายใจ แล้วพึ่งสังเกต “คนอื่นหายไปไหนหมดครับ”

ผมไม่ได้มาช้า แต่ปกติจะมีพวกพี่ๆ มาเตรียมการก่อนแต่วันนี้ไม่เห็น

“ตากแอร์อยู่ในห้องเรียนนู้น พวกพี่พึ่งขออาจารย์เปิดห้อง วันนี้เราจะมาทวนเรื่องทั้งหมดก่อนแล้วค่อยซ้อม พี่มารอเล น้องเลไม่รับโทรศัพท์พี่เลย”

ผมเบิกตากว้างก่อนจะรีบคว้าโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดู พบว่าไม่ได้รับเสียพี่นนท์นี่เกือบสิบสาย “เลขอโทษ”

“ไม่เป็นไรเล ไม่ต้องจริงจัง ขึ้นไปนั่งกับเพื่อนดีกว่าอยู่นี่มันร้อน” ผมพยักหน้าแล้วเดินตามพี่นนท์นี่ขึ้นไปยังชั้นสองของตึก สู่ห้องๆ หนึ่งที่ผมไม่เคยมานั่งเรียน ภายในห้องมีเพื่อนๆ ที่เป็นหลีดเหมือนกันเยอะอยู่พอสมควร ผมเดินไปนั่งกับพวกเพื่อนๆ คุยกันสัพเพเหระจนกระทั่งพี่นนท์นี่เดินมาตรงใจกลางห้อง เสียงคุยจึงได้เงียบลงอัตโนมัติ

“วันนี้พี่บอกแล้วใช่ไหมคะว่าจะมีรุ่นพี่ที่เคยมาหลีดมาให้คำแนะนำกับพวกเรา ดังนั้นตอนนี้ขอเชิญพบกับ พี่ปริม อดีตหัวหน้าคณะเชียร์หลีดเดอร์ ปีสี่วิศวะค่า”







(30%)

อัพช้าแล้วยังอัพไม่เต็มอี นังเฬววววววว5555555 อยากด่าฉันสินะฉันรู้ใจเธอดี~

จำปริมได้ไหมจ๊ะ ? น้องปริมปีสี่จะมาแล่วเด้

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
twitter @_mdreds


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-04-2017 16:14:52
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 07-04-2017 16:18:44
เราชอบวินอ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 07-04-2017 16:46:58
แอบชอบวินมากกว่าฮิมแล้วง่ะ พระเอกทำคะแนนด่วนๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 07-04-2017 17:19:12
ปริม คู่ขา อิฮิม ซิน่ะ หวังว่าคงไม่แกล้งนู๋เลหรอกน่ะ  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-04-2017 17:27:03
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: PloySupawadee ที่ 07-04-2017 18:00:20
แอบลืมว่าปริมคือใคร อยากได้พี่รพ ผู้ชายทำอาหาร 5555 แต่อยากได้ฮิมมากกว่า งุ้ยยย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 07-04-2017 18:03:06
อินนี่น่าจะคิดอะไรกับเลมั้ย หรือจะกวนฮิมเฉยๆ
ชอบนิสัยวินมาก ดูไม่สปอยเล ไม่อะไรทั้งสิ้น
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-04-2017 18:56:45
 :m28: ปริม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 07-04-2017 19:07:04
 :mew5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-04-2017 19:09:33
ชักได้กลิ่นน้ำเน่าลอยมา
พี่ปริม นี่เคยเป็นคู่นอนฮิมปะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 07-04-2017 19:16:46
ฮิมคะ ดูแลเลให้ได้ตลอดด้วยนะคะ
หวังว่าปริมอะไรนี่จะไม่ใช่คู่ควงอีกรายนะ
เลเอ้ยย บอกรักพี่ฮิมไปเถอะหนูไปไหนไม่รอดแล้วลูกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 07-04-2017 19:23:09
งงเด้ งงเด้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 07-04-2017 19:37:27
พี่วินนนนนนนนนนน  :mew1:  :mew1: :mew1:

เอาปริมไปเก็บเถอะ :ling1: :ling1: :ling1:

รออยู่นะคะ :katai5: :katai5: :katai5:

ชอบ #ความพี่วินน้องเล น่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 07-04-2017 20:01:33
ใครคือปริม 555
ชอบพี่วินอ่ะ
หรืออินจะชอบน้องเล ตีฉิ่งกันเหรอ ไม่นะ 55555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 07-04-2017 21:25:32
มายกมือว่าเป็นแฟนคลับพี่วินด้วยคนค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 07-04-2017 23:58:25
ดูเหมือน'อิน'จะชอบ'เล'นะ...
ปล.มาสมัครเป็น FC  พี่วินด้วยคนค่ะ แอบหมั่นพี่ฮิมเล็กๆ :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 08-04-2017 20:08:02
อินเป็นหมากของฮิมกระตุ้นเลป่าววหว่า อิอิ แต่ปริมนี่สิน่ากลัวแน่ๆๆๆๆ พ่อไม่อยู่ด้วย กลัวใจเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070417#14(30%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 08-04-2017 21:49:01
ชื่อพี่ปริมเน้นซะตัวหนาเชียวววว ต้องมีอะไรเกิดขึ้นอีกแน่ๆ

ว่าแต่อินชอบเลป่าวหว่าาาา?
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 11-04-2017 17:14:49
“วันนี้พี่บอกแล้วใช่ไหมคะว่าจะมีรุ่นพี่ที่เคยมาหลีดมาให้คำแนะนำกับพวกเรา ดังนั้นตอนนี้ขอเชิญพบกับ พี่ปริม อดีตหัวหน้าคณะเชียร์หลีดเดอร์ ปีสี่วิศวะค่า”

แปะ แปะ แปะ

เสียงปรบมือดังสนั่น ก่อนที่จุดรวมสายตาของทุกคนจะไปกองอยู่ที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินมาหยุดอยู่ใจกลางห้อง

ผมมองหญิงสาวตรงหน้า เรียกได้ว่าเป็นคนสวยแบบไร้ที่ติจริงๆ บวกกับหุ่นที่สมส่วนทุกอวัยวะนับตั้งแต่ศีรษะลงมาจนถึงปลายเท้า ขนาดแต่งตัวเหมือนนักศึกษาทั่วไปยังดึงดูดสายตาให้คนมองได้ขนาดนี้

สวยมาก

เทียบเท่าพี่ลินิน (รุ่นพี่มหา’ลัยอื่นที่ผมรู้จักแบบห่างๆ) นางฟ้าที่เป็นที่กล่าวขานแทบทุกมหา’ลัยได้เลย แค่คนละสไตล์ พี่ลินินจะคมเฉียบ ตัดทุกอย่างขาด แต่พี่ปริมจะออกแนวหวานๆ หากสะกดใจคนอื่นได้เหมือนกัน

“สวัสดีน้องๆ” เสียงหวานว่า “พี่ชื่อปริมนะ เคยเป็นหัวหน้าเชียร์หลีดเดอร์เมื่อปีก่อน วันนี้พี่จะมาให้คำปรึกษาพร้อมทั้งดูความเรียบร้อยทั้งหมด ดังนั้นมีปัญหาอะไรมาถามพี่ได้นะไม่ต้องกลัว”

“ครับ/ค่ะ”

“ก่อนอื่นใครเป็นหลีดปีนี้บ้าง ยืนขึ้นให้พี่ดูหน่อย” พี่ปริมออกคำสั่ง เมื่อภายในห้องไม่ได้มีแค่พวกหลีดอย่างเดียว แต่มีพี่ๆ สตาร์ฟนั่งรวมอยู่ด้วยหลายคน แถมพวกผมก็ไม่ได้นั่งเป็นกลุ่มแต่นั่งกระจักกระจายกันไปแต่ละโต๊ะ ส่วนผมนั่งอยู่ด้านหลังๆ และพอพี่ปริมสั่งทุกคนจึงลุกขึ้นยืนรวมถึงผมด้วย

ตุบ!

ทว่าทันทีที่ยืนขึ้น จู่ๆ กระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะมันก็ตกลงพื้น ผมเลยต้องก้มเก็บเป็นจังหวะเดียวกันที่เสียงหวานพูดขึ้นมาว่า

“หลีดคณะเราปีนี้หน้าตาดีเยอะนะ อ๊ะ—” พอยืนขึ้นมาอีกครั้ง สายตาของผมก็ประสานเข้ากับพี่ปริมพอดี อีกฝ่ายเหมือนจะชะงักค้าง แค่ครู่เดียวก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา “มิน่านนท์นี่ถึงบอกว่ามีโอกาสชนะสูง ที่แท้ก็มีน้องเลเป็นหน้าเป็นตาให้ด้วยนี่เอง”

ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจในคำพูดของอีกฝ่าย และยิ่งไม่เข้าใจไปกันใจเมื่อพี่ปริมพูดประโยคถัดไปออกมา “ว่าแต่ขอพี่ฮิมแล้วเหรอน้องเล พี่เราน่ะดุนะ—”

“ยุ่งจัง”

“…”

“เลบอกว่ายุงเยอะจัง” ผมแก้คำพูดใหม่ เห็นแก่ใบหน้าอึ้งกิมกี่ของทุกคน ทว่า…

“โห เมื่อกี้พี่นึกว่าน้องเลกำลังด่าพี่ปริมว่าเสือกแล้วนะเนี่ย”

“อีไก่หุบปาก!!” ผมลอบขำให้กับความตรงไปตรงมาของพี่ไก่เล็กน้อย ก่อนอีกฝ่ายจะโดนพี่เชอร์รี่สั่งให้เงียบ แล้วห้องก็เงียบตาม พี่นนท์นี่จึงสั่งให้หลีดทุกคนมานั่งรวมกันเพราะจะเข้าสู่เนื้อหาหลักของวันนี้แล้วจริงๆ

เพราะค่อยๆ เดินจากด้านหลังขึ้นมานั่งด้านหน้าช้าๆ ผมจึงรับรู้ได้ว่าพี่ปริมมองผมอยู่ตลอด ไม่รู้ทำไมผมถึงได้พูดไปอย่างนั้น ดูท่าทางพี่ปริมก็น่ารัก หวานแหววดูไม่มีพิษภัยเหมือนอิน

แต่เพราะเหมือนอินนี่แหละ เซ้นต์ของผมมันถึงส่งสัญญาณเตือนมาว่าผู้หญิงคนนี้… ไม่ธรรมดาแน่ๆ

 

20.03 น.

“หนึ่ง! สอง! สาม! สี่! ห้า! หก! เจ็ด! แปด! สอง! สอง! สาม! สี่! ห้า! หก! เจ็ด! แปด! สาม! สาม! สาม! สี่! ห้า! หก! เจ็ด! แปด!  หนึ่ง! สอง! สาม! สี่! ห้า! หก! เจ็ด! แปด! เก้า! สิบ! เชียร์!!”

“พักสิบห้านาที”

“เฮ้อ…” ผมทรุดลงกับพื้นทันทีที่ได้ยินพี่สตาร์ฟพูดแบบนั้น ขณะยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อบนหน้าผากของตัวเองออก บอกเลยว่าเหนื่อย

“เลเอาน้ำไหม” เจ้าของเสียงคือร่างเล็กของอินที่กำลงยืนค่อมหัวผมอยู่ อีกฝ่ายยื่นขวดน้ำเปล่ามาให้ ผมเลยรับมาดื่มอึกๆ จนหมดก่อนจะได้เสียงวี้ดว้ายของแก็งโรซารี่

“กรี๊ดดดด พี่วินมา”

“มารับน้องเลเหรอค่า”

ผมมองตามเสียงก่อนจะเห็นร่างสูงของพี่วินที่กำลังมองมา แล้วรีบลุกขึ้นยืนไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเอง ผมบอกลาพี่ๆ ทุกคนก่อนจะวิ่งไปหาคนที่กำลังยืนรออยู่

“ซ้อมเสร็จแล้วเหรอ” เสียงทุ้มถาม สงสัยเขาเห็นผมพัก

“ยังไม่เสร็จ นี่พึ่งพักครึ่งแรกเอง” ผมว่าเสียงหงอยพร้อมกับทำหน้าเศร้า แต่ประโยคต่อมาของอีกฝ่ายกลับทำให้ผมต้องเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว

“งั้นซ้อมให้เสร็จ”

“พี่วินว่าไงนะ!!” ผมเบิกตากว้าง พร้อมกับถามพี่วินย้ำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “ให้เลซ้อมต่อได้เหรอ”

“เออ”

“พี่วินจะรอเหรอ ?”

“กูจะนั่งรอ กูคงไม่โง่ยืนรอหรอก” ว่าจบมือหนาก็ดึงกระเป๋าสะพายผมออกจากบ่าแล้วเดินไปนั่งที่ม้านั่งไม่ไกลนัก ทิ้งให้ผมยังยืนค้างอยู่ที่เดิม และพอรวบรวมสติได้ผมก็หันไปดีใจกับพี่นนท์นี่ต่อ

“พี่นนท์นี่!! เลซ้อมต่อได้”

“กรี๊ดดดดด จริงเหรอลูก เริ่ดมากกกกก”

ผมหมุนตัวไปมาก่อนจะวิ่งไปหาพี่วินแล้วกอดอีกฝ่ายแรงๆ “พี่วินใจดีอ่ะ!”

โป้ก!

พูดยังไม่ทันขาดคำ กำปั้นหนาก็จู่โจมเข้ามาเขกหน้าผากผมอย่างที่เขาชอบทำ “รีบๆ ไปซ้อมจะได้รีบกลับ”

“งั้นซ้อมเลย น้องเลอุตส่าห์ได้ซ้อมต่อ ทุกคนลุก!” พอพี่วินพูดอย่างนั้น พี่นนท์นี่จึงออกคำสั่ง ส่วนผมนั้นรีบหมุนตัวแล้ววิ่งไปซ้อมกับทุกคนต่อ

 

22.05 น.

บ้าน

ตุบ!

“เหนื่อยจังเลย” ผมเอนตัวลงนอนบนเตียง อาการเหนื่อยทำให้อยากหลับไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่หยาดเหงื่อที่มันเหนียวหนุบหนิบรัดพันอยู่ตามตัวทำให้ผมยอมลุกขึ้นไปอาบน้ำให้เสร็จก่อน แล้วจึงกลับมานอนอีกครั้ง

วันนี้เป็นวันที่ซ้อมหนักที่สุดตั้งแต่ที่ผมเคยเจอมา แต่คนอื่นบอกว่าธรรมดาเพราะพวกเขาก็ซ้อมแบบนี้กันเกือบทุกวัน แต่วันนี้หนักกว่านิดหน่อย เพราะพี่วินยอมให้ผมซ้อมต่อ พี่นนท์นี่เลยจัดหนักแบบไม่ต้องพัก ซ้อมต่อยาวเหยียดจนเลยเวลาไปถึงสามทุ่มครึ่งถึงได้เลิกซ้อม โชคดีที่พี่วินไม่ได้ว่าอะไรผมเลย อีกฝ่ายนั่งรอเงียบๆ คนเดียวของเขาไป

ช่างเถอะ… นอนเล นอนๆ

“...”

พรึบ!

นอนไม่หลับ!

ผมลุกขึ้นจากเตียงเมื่อพยายามข่มตาให้ปิดดังเดิมทว่ามันไม่ยอมปิดสนิท ผมนั่งห่อเหี่ยวใจด้วยความคิดถึงฮิมอยู่เกือบสามสิบนาที ท้ายที่สุดจึงต้องหอบผ้าหนีออกจากห้องไปเคาะห้องพีวินแทน

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

แกรก

“มีอะไร” คนตัวสูงเปิดประตูออกมาด้วยสภาพเปลือยทนบน แถมท่อนล่างก็มีแต่ผ้าเช็ดตัวทีาพันรอบสะโพกหนาไว้ อีกทั้งรอบตัวมีหยดน้ำใสๆ ติดอยู่ เห็นได้ชัดว่าพี่วินพึ่งอาบน้ำเสร็จ เขากวาดสายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

“เลนอนด้วยนะ” ผมกระพริบตาปริบๆ ให้คนตรงหน้าเผื่อเขาจะเห็นใจและใจดีเหมือนตอนที่ยอมรอผมซ้อมหลีดตั้งชั่วโมงกว่าๆ ได้ ซึ่งสุดท้ายพี่วินก็ถอนหายใจ ก่อนจะยอมหลีกทางให้ผมเดินเข้าไปภายในห้องของเขาได้

“เข้ามา”

“เย้!!” ผมรีบเดินเข้าไปอย่างที่อีกฝ่ายว่า ก่อนจะโยนผ้าห่มและหมอนลงที่เตียงพร้อมกับกระโดดขึ้นจนมันเด้งดึงตาม ผมล้มตัวนอนซุกหมอน ในขณะที่พี่วินเดินไปใส่เสื้อผ้าของตัวเอง จังหวะนั้นผมถึงมีโอกาสกวาดสายตามองรอบห้องของเขา

ผมเข้าห้องพวกพี่ๆ ไม่บ่อย น้อยครั้งมากๆ ทั้งๆ ที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน บอกเลยว่าพวกเขารักความเป็นส่วนตัวกันสุดๆ ห้องพี่วินก็คล้ายๆ ห้องผมนี่แหละเพียงแค่รกกว่านิดหน่อย แต่โทนสีมืดๆ นี่เหมือนกันเป๊ะ!

“นอนได้แล้วนะ” อีกฝ่ายบอกหลังจากแต่งตัวเสร็จ

“อือ” พี่วินเดินไปปิดสวิตซ์ไฟ และทันทีที่ห้องมืดสนิท สติผมก็หลุดลอยเข้าไปในห้วงของความฝันทันที


เช้า

9.10 น.

“ไซยาไนด์วันนี้เอ็กซ์ไม่มาเหรอ” ผมหันไปกระซิบพิษหรือไซยาไนด์นั่นแหละ เขานั่งอยู่ข้างๆ พอดี เจ้าของใบหน้าดูดีหันมาก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น

“สงสัยขี้เกียจเลยไม่อยากเรียน”

“ไม่ต้องสนมันให้มาก มึงสนเนื้อหาตรงหน้ามึงก่อนเล” เกี๊ยกออกเสียงเตือนให้ผมกลับไปสนใจที่อาจารย์สอน จนท้ายที่สุดผมก็ต้องยอมทิ้งเรื่องคาใจเกี่ยวกับเอ็กซ์เอาไว้ ก่อนที่เกรดจะตกไปมากกว่านี้

วันนี้หลังจากตื่นนอน ไปออกกำลังกายและทำทุกอย่างเสร็จ พี่วินก็มาส่งผมเหมือนเดิมเสร็จแล้วก็บอกว่าจะมารับตอนที่ผมซ้อมหลีดเสร็จเลย เพราะตั้งแต่บ่ายถึงหกโมงพี่วินไม่ว่างมารับ ซึ่งผมก็โอเค แต่หลังจากเลิกเรียน ผมมีเวลาว่างอีกเยอะกว่าจะซ้อมหลีด กำลังคิดอยู่ว่าจะไปทำอะไรรอดี

แอด

เสียงประตูเปิดทำให้ทุกคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเรียนต้องหยุดชะงัก กระทั่งอาจารย์ที่กำลังสอน ผมหันไปมองตามเสียงเห็นเอ็กซ์ยืนอยู่ตรงนั้น

“ขอโทษที่มาสายครับ”

“อย่าทำอีก”

“ครับ” ผมโบกมือเรียกเพื่อนทันทีที่เขาเดินหาที่นั่ง เอ็กซ์มองผมทีนึงแต่เขาไม่ได้มานั่งกับผม อีกฝ่ายนั่งลงตรงที่นั่งริมสุดทางเดิน ปฏิกริยาแปลกประหลาดจนผมต้องหันไปถามพิษอีกครั้ง

“เอ็กซ์โกรธอะไรเราหรือเปล่า”

คราวนี้ดินถึงกับต้องพูดเอง “ตั้งใจเรียนเถอะเล”

จ้าๆ ยอมแล้ว



ผมไม่รู้ว่าทำไมเอ็กซ์ถึงมาสาย หลังจากเลิกคลาส ผมรีบวิ่งไปหาเขาแต่ก็ไม่ได้ถาม ได้คุยแค่ประโยคเดียวคือสวัสดี หลังจากนั้นเขาก็สิ่งหายลับไปเลย ทิ้งผมให้ยืนงงอยู่คนเดียวด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเขาแปลกๆ เหมือนครั้งก่อนตอนที่เขาหายไปหลายๆ วันพร้อมกับดิน แม้ตอนนั้นเอ็กซ์จะให้เหตุผลว่าเป็นไข้ก็เถอะ

ผมไม่ได้ตามเอ็กซ์ไป ไม่รู้ด้วยว่าเขาไปไหน แถมยังโดนชายสามคนลากมาหาอะไรกินต่อ หลังจากกินเสร็จกว่าจะซ้อมหลีดก็เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมง ดินเลยชวนผมไปเล่นที่คอนโดเขาระหว่างที่รอ พิษกับเกี๊ยกก็มาด้วยนะ

“โอ้โหหรูจัง” ผมอดที่จะตะลึงไม่ได้เมื่อเข้ามาด้านในคอนโดดิน คอนโดที่ดินอยู่เป็นคอนโดที่มีชื่อเสียงพอสมควร มีชื่อด้านราคาน่ะนะ แพงมาก ผมรู้เพราะตอนที่ฮิมจะซื้อคอนโดให้เป็นของขวัญวันเกิด ครั้งแรกเขาตั้งใจจะซื้อคอนนี้ที่นี่ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจไปเอาอีกบริษัทแทน “ไม่เห็นบอกเลว่าดินรวย”

“กูทำงานเล” ดินว่าขณะเดินนำพวกเราไปที่ห้องนั่งเล่น “ไม่ค่อยมีใครโชคดีเกิดมาแล้วมีฐานะดีเหมือนมึงหรอกนะ”

“เลไม่ได้ฐานะดีสักหน่อย ฮิมต่างหาก” ผมยู่ปาก “ดินทำงานอะไรเหรอ ทำไมเงินดีจัง”

งานอะไรที่จะทำให้เด็กมหา’ลัยสามารถซื้อคอนโดแพงๆ ได้ เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มร้องหึในลำคอทีนึง ก่อนจะหันมามองผมแล้วตอบเสียงเรียบ

“ฆ่าคน”

!!!!!!

“...”

“ล้อเล่น”

“ตลกกกก” ผมทุ่มเสียงประชด

“ก็แค่ทำงาน รับจ็อบทั่วไป กูทำมาตั้งแต่สมัยมัธยมเงินสะสมเลยเยอะ แล้วก็เปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ ส่วนคอนโดก็มีเงินจากทางบ้านช่วยด้วยไม่ได้ซื้อเองทั้งหมด”

“อ๋อ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะหันไปสนใจเกมที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่นแทน “เล่นกันไหม”

ผมหันไปถามความสมัครจากเพื่อนอีกสามคนที่กำลังเดินตามเข้ามาในห้อง ก่อนที่เกี๊ยกจะเป็นฝ่ายตอบ

“เล่นก็เล่น”

17.44 น.

“ขอบคุณที่มาส่งนะดิน”

“เออ ซ้อมดีๆ”       

“อื้อ! บาย” ผมโบกมือลาดินก่อนที่เขาจะขับรถห่างออกไป หลังจากเล่นเกมมาราธอนติดต่อกันบนคอนโดดินเกือบสามชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงเวลาที่พี่นนท์นี่นัดผมมาซ้อมหลีด ดินจึงอาสามาส่งเพราะผมไม่มีรถ ส่วนเกี๊ยกกับพิษนั้นพากันเล่นเกมที่ห้องของดินต่อ ผมหมุนตัวกลับเมื่อรถของดินหลุดจากสายตาไปแล้ว ทว่าทันทีที่หมุน จู่ๆ เท้าของผมมันก็ไปสะดุดก้อนหินจนหน้าเกือบจะคว่ำลงกับพื้น ถ้าไม่มีใครสักคนมาคว้าเอวผมเอาไว้เสียก่อน

คนที่ช่วยผมไว้คือรุ่นพี่คนหนึ่ง ผมบอกขอบคุณก่อนเขาจะตอบกลับด้วยประโยคแปลกๆ

“ไม่เป็นไรครับน้องบอส”

หือ ? น้องบอสเหรอ

คุ้นๆ นะว่าไหม ?



บ้าน

22.30 น.

“พี่วิน วันนี้มีคนเรียกเลว่าน้องบอสด้วย” ผมเล่าเรื่องนี้ให้พี่วินฟังขณะที่อีกฝ่ายกำลังเช็ดผมหลังจากอาบน้ำเสร็จอยู่ ส่วนผมนั่งอยู่บนเตียงในสภาพพร้อมนอนแล้ว และถ้าไม่ได้คิดไปเองผมว่าเจ้าของแผ่นหลังกว้างเหมือนจะชะงักไปนิดหน่อย

“หูฝาดหรือเปล่า”

“ไม่นะ เขาเรียกเลว่าแบบนั้นจริงๆ” เหมือนผมเคยโดนเรียกแบบนี้แต่จำไม่ได้แล้วว่าตอนไหน “เลสงสัย”

“เขาอาจจะจำคนผิด” ผมคิดตาม มันก็อาจจะเป็นไปได้

ครืด

จู่ๆ โทรศัพท์ของผมก็แผดเสียงขึ้น และพอเห็นว่าใครโทรมาผมก็กดรับทันที

“พ่อจ๋า!!”

(ยังไม่นอนเหรอ ที่ไทยจะห้าทุ่มแล้วนะ)

“เลกำลังจะนอน ฮิมทำอะไรอยู่”

(ไม่ทำอะไร พี่พึ่งได้พัก)

“งานหนักไหม”

(บอกว่าหนักแล้วน้องจะบินมาช่วยเหรอ)

“ไม่อะ เลทำไม่เป็น ทำเป็นแต่ผลาญเงินฮิม”

(งั้นก็ทำตัวดีๆ)

“เลเป็นเด็กดีนะ” ผมว่า

(&*%^%#) บทสนทนาแปลกๆ ที่ไม่ควรเข้ามาอยู่ในสายทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว ก่อนจะกระจ่างเมื่อฮิมเฉลย (พี่ต้องไปทำงานต่อแล้ว)

“เลคิดถึงพ่อจัง”

(คิดถึงเหมือนกันครับ)

“ใกล้จะถึงวันเกิดเลแล้วนะ” เหลืออีกไม่กี่วัน ผมก็จะอายุครบสิบแปดแล้ว  “ฮิมจะกลับมาทันไหม เลอยากอยู่กับพี่”

(พี่กลับไปถึงวันก่อนวันเกิดเลพอดี)

“ดีจัง”

กุ๊กกั๊ก กุ๊กกั๊ก

(ทำอะไรอยู่ครับ)

“เลไม่ได้ทำพี่วินทำ” พี่วินกำลังค้นกระเป๋าตัวเองเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างอยู่ “เลมานอนห้องพี่วิน”

(...)

“ทำไมฮิมเงียบ”

(พี่รักเล)

!!!!!!!

“บอกรักเลทำไม” ผมเม้มปาก รู้สึกหน้าแดงขึ้นมาเฉยๆ “เลก็รักพ่อนะ”

(...)

“ทำไมฮิมเงียบอีกแล้ว”

(พี่ต้องไปจริงๆ แล้ว คนดีนอนได้แล้วนะ)

“อะ...อื้อ! เลจะนอนแล้ว”

(Good night ครับ)

“อื้อ”

ติ๊ด!

ผมวางโทรศัพท์ลงที่เดิม แล้วล้มตัวลงนอนทันทีที่ฮิมตัดสายไป สำหรับคืนนี้...

ขอให้ฝันดี



อังกฤษ

ติ๊ด!

ฮิมกดตัดสายก่อนจะวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะ มือหนายกขึ้นก่ายหน้าผากเป็นจังหวะเดียวกันที่คนของพ่อมาตามรอบที่สอง

“นายท่าน…”

“รู้แล้ว เดี๋ยวจะไป” ร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิทถอนหายใจ ยิ่งคิดไปถึงเลเขาก็ยิ่งต้องถอนหายใจ

...รักพ่อเหรอ ?

“เฮ้อ...”





2 วันต่อมา

สวัสดีนี่บอมเอง

หลังจากหายหน้าไปนานในที่สุดเขาก็กลับมามีบทอีกครั้ง

‘หนึ่ง! สอง! หนึ่ง! สอง! สาม! สาม! สอง! สาม! สอง! หนึ่ง!....’

เสียงซ้อมหลีดวิศวะดังมาแต่ไกล น่านับถือเหมือนกันที่หลีดหลายคนยอมสละเวลาของทุกวันมาซ้อมเพื่อคณะ แตกต่างจากเขาที่ยังไม่ได้ทำคุณประโยชน์อะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ตอนนี้บอมกำลังปั่นงานส่งอาจารย์อยู่ไม่ไกลจากตึกวิศวะนัก ถือเป็นคุณประโยชน์ได้ไหม ? ไม่ได้หรอก ถึงจะบอกว่าปั่นงานก็จริงแต่ก็ทำเพื่อตัวเองคนเดียว

“มึงกูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เสียงทุ้มบอกเพื่อนๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินไปหาห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงแว่วๆ จากคนคุมหลีดบอกว่าให้พักได้ เหมือนจังหวะมันจะเหมาะเจาะให้เขาได้พบกับคนที่ไม่เจอหน้ากันนาน

...น้องเล

“พี่บอม” น้องเลยังสวยเหมือนเดิม เผลอๆ มากกว่าเดิม ยิ่งถ้ามาเห็นตอนใส่ขาสั้นแบบนี้รับประกันว่าขนาดผู้แท้ๆ ยังต้องกลืนน้ำลายลงคอ “ไม่เจอกันตั้งนาน”

แต่ถึงแม้จะสวยแค่ไหนบอมก็อยากบอกด้วยใจจริงว่า ...พี่ไม่อยากเจอน้องเลยครับ

ได้แค่คิดในใจเท่านั้นแหละ ขืนพูดไปมีหวังโดนรุ่นพี่ในแก๊งเขกกะบาลเอาแน่ๆ หลังจากเหตุการณ์อันน่าสยดสยองในครั้งนั้นซึ่งสาเหตุมันก็เกิดจากน้องเล แต่กลับพลิกพกผันทำให้เขาได้เข้ามาในแก๊งแบบงงๆ เงินเดือนดีเหมือนที่พี่คนนั้นเคยบอก แม้เขาจะไม่ได้มาคอยคุ้มครองน้องเลก็เถอะ แต่เงินก็ยังดีเหมือนเดิม แลกกับการทนเห็นภาพสยดสยองในแต่ละวัน ตบ ตี ต่อย เตะถือเป็นเรื่องธรรมดา บอมถูกส่งไปอยู่กับฝ่ายๆ หนึ่งในแก๊งทำให้เขาได้รู้เบื้องลึกหนาบางของพี่ฮิมไม่น้อย ยิ่งได้รู้จากที่กลัวอยู่แล้วยิ่งกลัวเขาไปอีก จนไม่น่าเชื่อว่าคนที่อันตรายขนาดนั้นจะเลี้ยงเลมาได้ใสขนาดนี้

คนพ่ออย่างกับมัจจุราช แม้จะไม่เคยฆ่าใคร เพราะตอนใกล้จะตายก็ใจดีหามส่งโรงพยาบาลให้ห้องพักวีไอพีแล้วมาคิดเงินอีกทีหลัง

“น้องเลสวยขึ้นนะ” บอมรีบเปลี่ยนเรื่อง มันเป็นกลยุทธ์ที่เขาได้เรียนรู้จากในแก๊ง น้องหน้าแดงนิดหน่อยก่อนจะเดินนำเขาเข้าไปในห้องน้ำ ทว่า… “เฮ้ย!”

พรึบ!

“อื้อ!” จู่ๆ คนที่เดินนำหน้าก็เผลอลื่นจนล้มคะมำไปข้างหน้า หัวเกือบจะฟาดพื้นถ้าเขาไม่รั้งเอวบางเอาไว้เสียก่อน เลตกใจนิดหน่อยก่อนจะหันหน้ามาบอกเขาแล้วกะพริบตาปริบๆ “ขอบคุณครับ”

“ไม่เป็นไรครับน้องบอส” บอมว่า ก่อนเขาจะเบิกตากว้างเมื่อคิดได้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป

ฉิบหาย!!

เผลอพูดสรรพนามที่พวกในแก๊งชอบใช้เรียกน้องเล

“น้องบอส?” บอมอยากกัดลิ้นตัวเองตายเมื่อเลทวนคำ “มันคืออะไรพี่บอม”

“ไม่มี”

“มี! ต้องมีสิ”

น้องเลแม่งใจร้าย!

แต่ไม่เป็นไร เขาถูกรุ่นพี่เตี๊ยมคำถามเอาไว้แล้วเพื่อโดนถาม แต่ไม่โดนจะดีกว่า

“คือน้องเลเป็นน้องพี่ฮิมใช่ไหม แล้วพี่ฮิมเหมือนเป็นหัวหน้าวิศวะปีสี่ทุกคนเลยพาเรียกกันว่าบอส น้องเลก็เลยเป็นน้องบอสไง”

“เพราะฮิมเป็นหัวหน้าเลยเกี่ยวกับที่หลายๆ คนกลัวพี่ฮิมหรือเปล่า”

“อาจจะเกี่ยว” ...มั้งนะ

“อ้อ” เจ้าของใบหน้าสวยพยักหน้าไปมา เหมือนกับความสงสัยได้กระจ่าง “มิน่าล่ะ เลถึงโดนเรียกแบบนี้มาสามครั้งแล้ว”

สะ… สามครั้ง ?!

บอมเบิกตากว้าง เขามองแผ่นหลังเล็กที่เดินเข้าไปทำธุระหลังจากพูดเสร็จ

ร่างผอมกลืนน้ำลายอึก! เขาคงต้องบอกเรื่องนี้กับคนอื่นว่าให้ระวังหน่อยถ้าได้พูดกับน้องเล จำนวนสามครั้งสำหรับเขาถือว่ามันมากพอที่ทำให้คนสักคนเริ่มระแคะระคายกับสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ แถมน้องเลยิ่งดื้อๆ อยู่ด้วย น้องคงไม่รู้ว่ากฏหลักข้อสำคัญสุดๆ ของแก๊งในตอนนี้

คืออยากให้น้องเลรู้ว่าพี่ฮิมที่อีกฝ่ายเคารพนับถือ… ทำอะไร



หลังจากวันที่ได้คุยกับพี่บอม ผมคลายความสงสัยเรื่องที่ทุกคนกลัวพี่ฮิมไปนิดหน่อย แต่สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือเรียนและซ้อม ผมอ่านหนังสือหนักพอๆ กับซ้อมหนัก อาจารย์ก็เร่งสอบเข้ามาเรื่อยๆ พอๆ กับที่พี่นนท์นี่นัดซ้อมมาราธอน เพราะหลังจากสอบเสร็จมันจะเริ่มเข้าสู่ช่วงกีฬาสี แม้ว่าก่อนกีฬาสีปีหนึ่งอย่างพวกผมต้องไปเข้าค่ายเสียก่อน (รุ่นพี่บอกมาแบบนี้นะ) แถมช่วงนี้พี่วินก็ทำตัวดีกับผมขึ้นมากชนิดที่ผมนึกว่าเขาหวังผลอะไรเอาไว้หรือเปล่า ไม่ใช่ว่าดีตอนนี้แล้วหาเรื่องทวงบุญคุณทีหลังนะ! แต่ในขณะที่พ่อยังอยู่ที่อังกฤษระหว่างที่ซ้อมหลีด พี่วินมารอก่อนที่ผมจะเลิกประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ตลอด เขามารอเฉยๆ ด้วยไม่ได้มาสั่งให้ผมเลิกซ้อมทั้งๆ ที่จะทำก็ได้ จนผมต้องไปบอกว่าไม่ต้องมารอก็ได้แต่คำตอบที่ได้คือ…

“เรื่องของกู” ประโยคที่สามหลังจากที่ผมบอกพี่วินมาไม่ต้องมารอ “เซ้าซี้นะมึง”

“ก็กลัวพี่วินจะเบื่อ” ในระหว่างที่ผมซ้อม พี่วินก็นั่งรอเฉยๆ จริงๆ ไม่ทำอะไรเลยนอกจากนั่ง อ้อ! แต่พักหลังเขาซื้อขนมมาให้ผมกินด้วยนะ “วันนี้มีขนมให้เลไหม”

“ไม่มี”

“เลหิว”

“ยุ่งยาก” ถึงพี่วินจะบ่นแต่เขาก็ยอมเอาขนมที่ซ่อนอยู่ด้านหลังออกมายื่นให้ผม “ไปนั่งกินกับเพื่อนดีๆ”

เพราะพี่วินซื้อมาเยอะพอสมควร ผมจึงเดินถือถุงขนมไปแบ่งเพื่อนที่เป็นหลีด

“พี่ไก่ พี่เชอร์รี่ พี่นนท์นี่เอาด้วยไหมครับ”

“พี่พึ่งไปกินข้าวมา อิ่มแล้ว”

“ขนมนี่พี่วินซื้อมาให้นะ”

“เอา!!” ผมหัวเราะกับปฏิกริยาเกินคนธรรมดาก่อนจะนั่งลงข้างๆ พี่ๆ เขา

“น้องเลพี่มีเรื่องจะถาม” พี่เชอร์รี่เป็นคนพูดขึ้นมาก่อนแต่พี่ไก่เป็นคนถาม

“คือน้องเลกับพี่ฮิมนี่ไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆ ใช่ไหม”

ผมกะพริบตาปริบๆ “ครับ ? ไม่ได้เป็น ไม่รู้กันเหรอ”

“คนส่วนใหญ่เขาก็คิดว่าพี่ฮิมกับน้องเลเป็นพี่น้องกันจริงๆ พี่ก็เคยคิดเหมือนกัน ก็เลเหมือนติดพี่มากๆ” พี่ไก่พูด

“เลไม่เห็นจะเหมือนฮิมตรงไหน” ผมว่า

“หน้าตาน่ะไม่ค่อยเหมือนหรอก แต่หน้าตาดีน่ะเหมือนกันเปี๊ยบ!”

“แล้วทำไมถึงถามเลล่ะ” ผมหมายความว่าก็รู้จักกันจนถึงขั้นสนิทกับพี่ๆ พอสมควร ทำไมถึงเลือกที่จะถามตอนนี้

“เพราะพี่วิน” คำตอบของพี่นนท์นี่ทำให้ผมต้องแปลกใจเล็กน้อย “ไม่ใช่เพราะพี่วินมาเฝ้าเลนะ นั่นก็มีส่วนอยู่ แต่จุดที่เปลี่ยนความคิดพี่ก็เพราะว่าเวลาเลอยู่กับพี่วินกับเวลาเลอยู่กับพี่ฮิม บรรยากาศมันต่างกัน”

“ยังไงครับ”

“พี่บอกไม่ถูก แต่เวลาเลอยู่กับพี่วินมันให้บรรยากาศที่ทำให้รู้สึกว่าพี่วินเป็นพี่ของเลมากกว่าพี่ฮิมเสียอีก”

“แล้วเวลาเลอยู่กับฮิมมันเป็นยังไงเหรอครับ?”





               
(100%)

ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติมฉันว่าเอ็นซีต้องไม่เกินตอนหน้าแน่ มีคนถามว่าเลจะรู้ถึงความเลวของพ่อตัวเองไหม

คำตอบคือรู้คะ5555 ฉันก็เลวอะอยากให้ฮิมเป็นฝ่ายร้อนรนบ้าง



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

twitter @_mdreds
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 11-04-2017 17:27:47
พี่วินคนดีของเรา

หลงพี่วินอ่ะ :)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-04-2017 17:39:08
 :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4:

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 11-04-2017 17:46:51
เวลาอยู่กับฮิมก็เหมือนแฟนไงค่ะเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 11-04-2017 18:15:10
จะปิดเลไปได้อีกนานมั้ยน้อออ เลก็ทั้งดื้อทั้งซน อยากรู้ไปหมด แต่จริงๆก็แอบหวังให้ฮิมบอกเลด้วยตัวเองนะ ให้เลเข้าใจรับรู้จะได้พยายามเปลี่ยนตัวเองในบางเรื่อง อย่างน้อยก้ต้องทันคนอื่น ปกป้องตัวเองได้บ้าง
แต่อีกใจก็อยากให้เลบริสุทธ์แบบนี้เหมือนกัน  หลายใจเนอะ
 :serius2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: monnam0309 ที่ 11-04-2017 18:20:00
ชอบพี่วิน อยากให้เป็นคู่แข่งฮิมจัง ^^
รอวันที่ฮิมร้อนรนอย่างใจจดใจจ่อ  :laugh:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-04-2017 18:41:42
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 11-04-2017 18:57:59
จริงๆ ชอบพี่วินอ่ะะะ ดูแลน้องได้ดี
ฮิมอยากให้น้องเลบอกรักพี่ฮิมแน่ๆ แบบไม่ใช่พ่อ งือออ
รอน้าาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: Timber Huang ที่ 11-04-2017 20:00:57
เปลี่ยนพระเอกเป็นวินได้ไหมอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-04-2017 20:12:18
อย่าหาว่าหื่นนะ รอNC ตอนหน้าจ้าาา อิอิ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 11-04-2017 20:21:24
พี่วินได้ค่าจ้างเท่าไรเนี่ย ที่มาคอยดูแลน้องแบบนี้ ค่าจ้างคงงามมากๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-04-2017 20:29:15
ตอนเลบอกฮิมว่า "เลก็รักพ่อ"
ฮิมคงคิดอยู่ว่า เลรักฮิมแบบพ่อ หรือเปล่า
ถ้าเลบอก "เลก็รักพี่" อาจให้ความหมายว่าเลรักฮิมแบบคนรัก
น้องบอส อ่านแล้ว งง นิดๆ
ที่แท้เพราะฮิม เป็นบอส
เล เป็นน้องฮิม เลยเรียก น้องบอส  :ling1:
สายตาคนรอบข้าง มองเห็นชัดสินะ
เล อยู่กับวิน ให้บรรยากาศ  เหมือนเป็นพี่จริงๆ
แสดงว่าอยู่กับฮิม ให้บรรยากาศ เหมือนเป็นคนรัก สินะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 11-04-2017 21:31:10
กลัวความลับแตกจัง
ว่าแต่พี่วินก็ใจดีผิดปกติจริงๆ
น่าสงสัย :katai5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 11-04-2017 22:40:28
พี่วินขาาาาาาาาาา สงสัยทำไมพี่วินใจดีกับน้อง
ปกติไม่เค๊ยยยไม่เคยยย

รักพี่วินขาาาาา  :mew1: :mew1:

รอนะคะ สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110417#14(100%) p.16
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 12-04-2017 10:56:15
พี่วินน่ารักมากเลยข่า คิดว่าเป็นห่วงน้องเพราะเห็นฮิมไม่อยู่เลยมาเฝ้ามาดูแลรัวๆ ถ้าไม่ติดว่าพี่วินไม่ไดเชอบเลนี่จะเชียร์พี่วินแล้วนะ :hao7:
ตอนนี้คำว่ารักของฮิมกับของเลนี่คนละความหมายสินะ #ทีมอยากเห็นฮิมร้อนใจบ้าง
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ :ped149:
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 13-04-2017 20:26:58


#15 (30%)



“แล้วเวลาเลอยู่กับฮิมมันเป็นยังไงเหรอครับ?”

“...”

“ฮึ ?”

“พวกพี่ก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน” เห็นพี่เชอร์รี่ทำหน้าเหมือนไม่อยากตอบ ดังนั้นผมจึงไม่ถามต่อ ก่อนจะขอตัวไปนั่งกับเพื่อนๆ ที่เป็นหลีดคนหนึ่งแทน เธอเป็นผู้หญิงชื่อปิ่นดาว หน้าตาน่ารัก นิสัยดี อยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกคบได้

“ดาว เรานั่งด้วยนะ”

“อื้อ นั่งเลย” ดาวขยับพื้นที่ให้ผมทันที เราคุยกันนิดหน่อยจนกระทั่งความสนใจถูกดึงไปที่พี่ปริม ร่างบางกำลังควงคฑาให้เหล่าคฑากรดูอยู่ (ที่ซ้อมหลีดกับซ้อมคฑากรมันอยู่ใกล้ๆ กัน) พี่ปริมโยนไม้คฑาให้ได้สูงมากแต่รับมันได้อย่างสวยงามแถมยังควงต่อทันทีที่รับ “เก่งเนาะ”

ปิ่นดาวชมส่วนผมตอบรับแบบอืมๆ ไป จนคนหน้าใสต้องหันมามองพร้อมกับหรี่ตาลง “เลไม่ชอบพี่ปริมเหรอ”

“ทำไมคิดอย่างนั้น”

“ก็ตั้งแต่วันแรก… ไม่รู้สิเซ้นเรามันบอกอะ”

“อืม เราไม่ค่อยชอบ” ผมยอมรับไปตรงๆ โกหกไปก็ไม่ได้ประโยชน์ การแสดงออกของผมต่อพี่ปริมตั้งแต่วันที่อีกฝ่ายเข้ามาคอยคุมหลีดให้มันชัดเจนเสียจนคิดว่าทุกคนน่าจะดูออกแต่ยังไม่กล้าถามผมตรงๆ แบบปิ่นดาว แม้พี่ปริมจะไม่เคยทำอะไรให้ผมไม่พอใจเลยก็เถอะ เทียบกับอิน อินยังน่าหงุดหงิดมากกว่าแต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้มากๆ “อย่าถามเหตุผลนะ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“ว้า งั้นพี่ปริมก็แย่สิ” ประโยคของดาวทำให้ผมต้องหันไปสนใจ

“ยังไง ?”

“ก็พี่ปริมน่ะเป็นตัวเต็งของคนที่จะเป็นพี่สะใภ้ของเลในอนาคตเลยนะ!”

!!!!!!!!!!!!!!!

“ดะ… ดาวหมายความว่ายังไง”

“ลูกๆ ทุกคนค่ะซ้อมต่อได้แล้วค่ะ”

“พี่เขาเรียกแล้วอะ ไปซ้อมกันต่อเถอะ” ดาวไม่ได้ฟังที่ผมถาม อีกฝ่ายลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปรวมตัวกับคนอื่นที่กำลังทยอยเดินไปเหมือนกัน แต่ผมนั้นนั่งนิ่งอาการกระวนกระวายใจหลังจากที่ได้ยินมันทำพิษจนไม่มีสติที่จะทำอย่างอื่น นอกจากหาคำตอบประโยคที่ดาวพูด ว่ามันหมายความว่ายังไง…



บ้าน

ปัง!

“มึงเป็นอะไร” วินถามคนที่ทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ตั้งแต่อยู่บนรถ แถมยังกดโทรศัพท์ไม่ปล่อยอีก

“พี่ฮิมไม่รับโทรศัพท์เล”

“มันทำงานอยู่หรือเปล่า อย่าพึ่งไปกะ—”

“แต่เลอยากคุยตอนนี้!!” อีกฝ่ายตะวาดลั่นเป็นจังหวะเดียวกันที่คนทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ ร้องออกมาจริงๆ เลไม่ได้ปล่อยโฮแต่ปล่อยให้น้ำตามันไหลลงมาเงียบๆ มีเสียงสะอื้นนิดๆ ดังออกจากลำคอขาวบ่งบอกว่าคนร้องไห้กำลังรู้สึกอัดอั้นแค่ไหน เขาไม่รู้ว่าเลไปเจออะไรมาเลยทำได้แค่คว้าเอวบางเข้ามากอด ก่อนน้องจะร้องไห้โฮออกมาจริงๆ “เลอยากคุยกับฮิมพี่วิน แต่พ่อ ฮึก! ไม่รับโทรศัพท์เล”

“มันติดงานหนักมันบอกกูอยู่” วินละตัวออก นิ้วเรียวยื่นไปเช็ดน้ำตาให้น้องก่อนขยี้เส้นผมนุ่มเบาๆ “เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อมึงก็จะกลับมาแล้ว”

“แต่เล—”

“ไม่งั้นก็ไปจองตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษ”

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างขัดใจก่อนอีกฝ่ายจะยอมพยักหน้าลง “เลรอก็ได้”

“อืม” วินขานรับ “รีบไปอาบน้ำแล้วมานอนห้องพี่”

“ครับ” เสียงตอบรับเบาสนิท นัยน์ตาคมมองร่างเล็กที่กำลังเดินขึ้นห้องไป รู้สึกว่าวันนี้แผ่นหลังบางนั่นห่อเหี่ยวกว่าปกติจนมองต้องถอนหายใจหนัก

เขาอยากรู้จริงๆ ว่าอีกฝ่ายไปเจอกับอะไรมา

ผมนอนไม่หลับทั้งคืน ตื่นเช้าจนมาเลยงัวเงียเรียนไม่รู้เรื่อง สภาพเหมือนซอมบี้ใกล้ตายจนพิษต้องถามถึงสาเหตุ แต่ผมไม่รู้จะตอบว่าอะไร เพราะขนาดผมเองยังไม่รู้ตัวเองเลย รู้แค่ว่ามันรู้สึกกระวนกระวายใจไปพร้อมๆ กับการหนักใจเหมือนมีหินหนักๆ มาทับเอาไว้ สิ่งที่รู้อย่างเดียวในตอนนี้คือผมอยากคุยกับพี่ฮิมมากๆ เพียงแต่ว่าเขายังไม่รับโทรศัพท์ผมเลยตั้งแต่เมื่อคืนถึงตอนเช้าก็ยังไม่ได้รับ ทั้งๆ ที่โทรไปเกือบยี่สิบสายได้แล้ว

เพราะอาการอยู่ไม่เป็นสุข หลังจากเรียนเสร็จผมจึงขอให้พี่วินมารับกลับบ้านทันที ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอม ผมมานั่งกดโทรศัพท์อยู่บ้านเกือบสี่ชั่วโมงก่อนพี่วินจะไปส่งผมที่มหา’ลัยอีกครั้งเพื่อซ้อมหลีด และเหมือนสภาพใกล้ตายของผมมันจะชัดเจนมาก ถึงมีแต่คนมาคอยถามว่าไปทำอะไรมา โดยเฉพาะพี่รหัส

“ตายแล้ว! น้องเล ลูกไปทำอะไรมา”

“เลนอนดึกครับ” ผมโกหกออกไป “พี่นนท์นี่ดาวมาหรือยัง ?”

ผมต้องถามเรื่องที่ดาวพูดเมื่อวานให้ได้

“ปิ่นดาวนะเหรอจ๊ะ ? เอ… พี่ว่ายังไม่นะ เฮ้ย! พวกมึงน้องดาวมายัง”

“กูยังไม่เห็นนะ”

“กูก็ยังไม่เห็นค่ะกะเทย”

“งั้นไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าเห็นดาวบอกให้เลหน่อยนะว่าเลมีเรื่องจะคุยด้วย”

“มีอะไรหรือเปล่าน้องเล หน้าตาหนูดูเคร่งเครียดมากเลยอะ”

“เปล่าครับ แค่จะคุยเรื่องทั่วไป” ผมโกหก ก่อนจะเดินออกห่างจากพี่นนท์นี่ไปวอร์มอัพร่างกายรอ กระทั่งใครมีสักคนเดินเข้ามาหา ทีแรกผมนึกว่าเป็นปิ่นดาวแต่กลับไม่ใช่ “พี่ปริม”

ผมเรียกชื่อผู้หญิงตรงหน้า ในขณะที่เธอกำลังส่งรอยยิ้มมาให้ “น้องเลจ๊ะ มากับพี่หน่อยได้ไหม พี่มีเรื่องจะคุยกับน้องเล”

“เรื่องพี่ฮิมนะ”

พรึบ!

ผมลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติ พี่ปริมเหมือนจะอึ้งไปนิดทันทีที่เห็นปฏิกริยาของผม อีกฝ่ายหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะเดินนำผมไปบริเวณห้องน้ำที่ไม่ค่อยมีใครมาเพ่นพ่าน

“มีอะไร… ครับ”

“พี่ไม่ได้มีอะไร พี่แค่อยากถามว่าฮิมไปไหน ไม่เห็นมาหลายวันแล้ว”

“พี่ฮิมไปอังกฤษ” ผมตอบแบบไม่มีหางเสียง แล้วเธอจะอยากรู้ไปทำไมไม่ทราบ!

“อ๋อ ไปอังกฤษอีกแล้วเหรอ ช่วงนี้ไปบ่อยจังนะ”

“จะถามแค่นี้เหรอครับ”

“เปล่าจ๊ะ” คนตรงหน้าหลุบตาลงเล็กน้อย “คือพี่อยากได้เบอร์ฮิมน่ะ”

!!!!!!!

“มะ—”

“พี่เคยมี แต่เหมือนฮิมจะเปลี่ยนเบอร์นะ” ผมกำหมัดแน่น ถูกต้อง… พ่อเปลี่ยนเบอร์ เขาพึ่งเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้ว เพราะว่าโทรศัพท์เครื่องเก่าโดนผมทำตกน้ำไป “ช่วงนี้ติดต่อไม่ได้เลย”

“พี่ฮิม… ไม่ให้เบอร์กับคนที่ไม่สนิท”

“สนิทเหรอ ? อ๋อเรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เราสนิทกันมากจ๊ะ

!!!!!!!

“สนิทยัง… ไง” ผมหายใจไม่ออก รู้สึกเหมือนอาการหนักที่ใจมันจะมากกว่าเดิมขึ้นเรื่อยๆ จนต้องถอนห่างออกมาจากผู้หญิงตรงหน้า พี่ปริมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบ

“ก็หลังจากน้องเลหลับ ฮิมก็มาหาพี่บ่อยๆ นะ”

!!!!!!!

“...”

“พี่ต้องอธิบายอีกไหมว่าฮิมมาทำไม”

“พี่ฮิมไปทำไม” ผมถามเสียงสั่น ในขณะเดียวกันที่ขอบตาร้อนผ่าว เพราะเหมือนผมพอจะเดาได้ว่าเขาไปทำไม “หมายความว่ามี… อะไร”

ประโยคท้ายมันกลืนเสียงผมไปจนพูดได้ไม่จบ ถึงอย่างนั้นพี่ปริมก็เหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ผมจะสื่อ ร่างบางพยักหน้า และคำพูดต่อมาของเธอพรากเอาเรี่ยวแรงรวมถึงลมหายใจของผมไปอย่างสิ้นเชิง

“จ้ะ”

“แต่…” เหมือนเสียงผมจุกอยู่ในอก ผมพยายามพูดแม้มันจะสั่นเพียงใด “ฮิมเป็นของเล”

พี่ปริมยิ้มแล้วตอบ “แต่พี่ก็เป็นของฮิมนะ”

!!!!!!!

“ละ… เลไม่เชื่อ พี่ปริมไม่มีหลักฐาน”

“หลักฐานเหรอ พี่ไม่มีหรอก”

“...”

“แต่ถ้าน้องเลอยากได้มันจริงๆ พี่ว่าให้ไปถามฮิม”

“...”

“พี่เชื่อว่าฮิมจะไม่โกหกน้องเล”



เลวิ่งออกมา วิ่งออกห่างจากหญิงสาวมาบริเวณหลังตึกก่อนจะหยุดอยู่ตรงนั้น ปลายดวงตากลมโตมีหยดน้ำไหลรินลงมาอาบแก้มเงียบๆ คนร้องไห้คล้ายยังตะลึงค้างกับสิ่งใหม่ที่ได้รู้ ร่างบางสั่นไหวขณะเรียบเรียงเรื่องทั้งหมดเอาไว้ในหัว

‘ก็พี่ปริมน่ะเป็นตัวเต็งของคนที่จะเป็นพี่สะใภ้ของเลในอนาคตเลยนะ!’

‘ก็หลังจากน้องเลหลับ ฮิมก็มาหาพี่บ่อยๆ นะ’

‘หมายความว่ามี… อะไร’

‘จ้ะ’

‘ฮิมเป็นของเล’

‘แต่พี่ก็เป็นของฮิมนะ’


เขาไม่ต้องการฟังคำพูดของคนเหล่านี้ สิ่งที่เขาต้องการ… มีแค่คำยืนยันจากปากของพี่ฮิม

ครืน

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เลเม้มปากก่อนจะปาดน้ำตาแล้วนิ่งเงียบสักพักเมื่อพบว่าปลายสายเป็นใคร

...พี่ฮิม…

ติ๊ด!

(คนดีมีอะไรหรือเปล่า พี่อยู่ดูไบกำลังจะต่อเครื่องไปกรุงทะ—)

“ฮิม”

ปลายสายเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เสียงทุ้มดูร้อนรนขึ้นมาทันที (คนดีเป็นอะไร)

“ตอบเลตรงๆ นะ” เจ้าของใบหน้าสวยพยายามไม่ให้เสียงสั่น พร้อมทั้งสูดลมหายใจก่อนจะถามออกไปตรงๆ “ฮิมเคยมีอะไรกับพี่ปริมเหรอ”

(...)

“ตอบเลสิ”

(เลรู้จักปริมได้ยังไง)

“เลบอกให้ตอบ!!”

(...)

“...”

(ใช่)

เพล้ง!

เหมือนทั้งร่างอ่อนแรงลง มือบางปล่อยโทรศัพท์เครื่องหรูตกลงพื้นจนหน้าจอมันแตกละเอียดพร้อมๆ กับร่างทั้งร่างที่ทรุดลงไปกับพื้น

นัยน์ตากลมโตเบิกตากว้าง คนตัวเล็กนิ่งค้างเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก เหมือนสมองเขาหยุดการทำงาน ประสาทสัมผัสไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า ลืมการพูดหรือแม้กระทั่ง… การหายใจ

“เล!!” ทุกสิ่งกลับมาอีกครั้งหลังจากได้ยินเสียงนุ่ม หันตากลมโตหันไปมองคนที่กำลังเขย่าตัวเขาอยู่ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทันทีที่เขารู้ว่าอีกฝ่ายมา ทั้งตัวก็ถูกดึงกลับสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง

ความจริงที่มาพร้อมกับความเจ็บปวด ภาพ เสียง สัมผัส รวมถึงถ้อยคำทุกอย่างตอกย้ำให้อาการหนักใจเหมือนมีหินใหญ่ๆ มาทับหัวใจเอาไว้ มันก่อร่างสูงขึ้น ส่งแรงกดที่มีมวลมหาศาลเกินกว่าหัวใจที่เป็นฐานจะรับไหว ท้ายที่สุดมันก็แตกกระจาย ถูกบดขยี้จนพุ่งกระเดนไปคนละทิศทางทิศทาง เหลือแค่เศษซากไร้วิญญาณกับความเจ็บปวด

“เล!! เป็นอะไรเล”

อินเหรอ?

“ฮึก… ฮึก! ฮือ”

“เป็นอะไร เลเป็นอะไร”

“ฮือ”

“เล!!”

“โฮฮฮฮ”

เขาไม่ได้เป็นอะไร แค่รู้สึกเหมือนหัวใจ… แหลกละเอียด





หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: Timber Huang ที่ 13-04-2017 20:34:31
 :sad4: :sad4: :sad4: อยากให้พี่วินเป็นพระเอก พี่วินน่าจะเป็นคนที่มาช่วยน้อง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 13-04-2017 20:47:24
สงสารน้องเล
จะร้องให้ตามน้องแล้ว แง้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-04-2017 20:55:32
สงสารน้องเลมาก  :monkeysad:
งานนี้เหมือนฮิมจะมีงานเข้านะแก
เหมือนงานนี้จะไม่ทำดาเลย ซวย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-04-2017 21:06:10
นี่สินะที่เขาบอกว่าความลับไม่มีในโลก
สงสารเลน้อย แต่นี่คือความจริง ไปซบอกพี่วินกัน ^^
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 13-04-2017 21:10:29
ขอพี่วินเถอะค่ะ พระเอก 5555555


ฮิม เรารอคำอธิบายของนาย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-04-2017 21:22:39
 :z3: :z3: :z3: เข้าใจอารมณ์เล  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
จะพูดว่าเรื่องพี่ฮิม ไปยุ่งกับปริมไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูก
ปริม เป็นคนที่พี่ฮิม มีไว้ระบายความใคร่ ไม่ได้รัก
ฮิม คงพูดเรื่องนี้กับปริม ว่าไม่มีอะไรเกินเลยจากนี้
แต่ปริมน่ะรักฮิมเต็มๆ ย่อมอยากครอบครองฮิม
เป็นธรรมชาติอารมณ์ของผู้ชายที่โตเต็มวัยทุกคน
ที่ต้องระบายอารมณ์ใคร่ออกมา เมื่อมีคนยอมให้ระบาย
แต่เมื่อรู้ถึงหูเล มันเป็นอีกเรื่อง เลรับไม่ได้
เพราะเล คิดว่าฮิมเป็นของเล ฮิมไม่ใช่แค่พ่อ พี่ชาย
ฮิม เป็นทุกอย่างของเล เป็นผู้ชายของเล  :mew2: :mew2: :mew2:
เล ถึงรู้สึกว่าหัวใจแหลกสลาย หัวใจแหลกละเอียด
เล จะไม่เป็นเลคนเดิมอีกแล้ว
กลัวอารมณ์ของเล มันจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 13-04-2017 21:29:36
ฮิม ต้องเคลียกันตรงๆแล้วนะ คิดอะไร รูู้สึกยังไง
เลไม่ไหวหรอกถ้าต่อไปจะต้องเจอใครต่อใครที่เคยไปกับฮิม
น้องมีฮิมคนเดียวนะ ปล่อยให้พี่วินปลอบน้องตลอดเลย
เดี๋ยวก็เชียร์พี่วินแทนซะนี่
ปล.อินนี่มาแรงแซงโค้งมาก
ปล.1 ค้างงงง
:z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 13-04-2017 21:43:11
อ่านตอนนี้ไปโคตรสะเทือนอารมณ์อ่ะ
น้ำตาจะไหล
เหมือนมีอะไรมาจุกอก

คนๆหนึ่ง ที่จู่ๆมารับรู้เรื่องแบบนี้
จากปากคนอื่น ที่ไม่ใช่จากคนที่รัก
มันรู้สึกเจ็บที่ใจมากเลยนะ

หนีเลยน้องเล. หนีไปไหนไกล
เจ้สนับสนุน

ฮิม ถึงเวลาที่เฮียจะร้อนรนบ้างล่ะ
คนเขียนเอาให้หนักนะคะ

นังปริม แกโดนเฮียฮิมกับพวกฆ่าแน่ๆ
 :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-04-2017 21:48:24
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 13-04-2017 21:49:27
ฮิมหวังผลอะไรจากการที่น้องเลรู้เรื่องนี้รึเปล่า
คนอย่างฮิมน่าจะจัดการผู้หญิงที่ตัวเองเคยมีอะไรได้ดีกว่านี้
แต่ไม่ว่ายังไงก็ทำน้องเลช้ำใจไปแล้ว สงสารน้องมาก ฮิมงานเข้าหนักแน่ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: pearlypear ที่ 13-04-2017 21:55:31
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: หัวใจที่แหลกละเอียด.....
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 13-04-2017 22:00:12
ตัดจบแบบนี้ทรมานกันชัดๆ :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 13-04-2017 22:02:17
งานเข้าซะบ้างก็ดีค่ะ... คงคิดมาตลอดว่าน้องเป็นของตาย  :m16:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: wasu ที่ 13-04-2017 23:02:22
ทำร้านจิตใจเลไม่พอ ทำร้ายจิตใจคนอ่านอีก กระวนกระวายใจเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 13-04-2017 23:05:25
 :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 13-04-2017 23:29:08
นังปริมมม หล่อนมันก็แค่ตัวสนองนีดยังจะมาอวดอีก :m31:

สงสารน้องเลอะ เหมือนโลกของน้องมีแค่ฮิมไงพอต้องมารับรู้ว่าอีกคนไปเป็นของคนอื่นมันยิ่งเจ็บฮือ ยังดีที่อินมาเจอ ปลอบเพื่อนเร็วลูกกก :sad4:

แต่ยังแอบสงสัยอยู่ว่าอินชอบเลมั้ย

ค้างมาก อินหลอสุดๆ ;-; รอมาต่อนะคะ :z3:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 13-04-2017 23:39:13
คนที่งานเข้า...มันคนอ่านต่างหากเล่า ฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-04-2017 00:23:05
สงสารน้อง ร้องไห้ตามน้องเลยอ่ะ รีบมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 14-04-2017 01:09:15
กลัววันนั้นจะมาถึง วันที่น้องเปลี่ยนไป นับวันน้องเลยิ่งอันตราย

สู้ๆนะลูก ไม่ร้องนะคนดี พวกเรารักหนูนะคะ  :mew6: :mew6:

เทฮิมได้ไหม  :fire:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 14-04-2017 02:03:28
Please...มาต่อด่วยค่ะ.....จะขาดใจตายแล้วววว :ling1:  :m16:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 14-04-2017 02:27:14
รู้งี้เเล้วก็รีบๆ โตซะนะเล ตอนนี้ไม่มีอีฮิมเธอก็อยู่ไม่ได้
ทั้งด้านอารมณ์เเละการดำรงชีวิต เพราะค่าใช้จ่ายมันก็ออกให้เธอ
กะอีเเค่ ผช สำส่อนเน่าๆ เสียๆ ไม่รู้ติดโรคอะไรมาด้วยไหม
เธอยังสดยังซิง ใช้ชีวิตวัยเรียนให้คุ้ม
ส่วนฮิมก็นะ...
จะหาที่ระบายก็เลือกเเต่ตัวเเรดๆ ตัวที่เกาะไม่ปล่อย
ฉลาดนะ เเต่มีความโง่เเบบพระเอกไทย ไม่หากินไกลๆ ตัว
เเต่โง่เอากับคนที่เรียนมหาลัยเดียวกันกับคนที่ตัวเอง"ปกป้อง"

ไม่เชียร์ให้เลหนี เเต่เชียร์นางให้พัฒนาตัวเองซะบ้าง
ใส่ใจการเรียน เปิดหูเปิดตา เพราะโลกของนางมันโคตรเเคบเลย
เชียร์ให้นางเเหกหน้าอีฮิม อยากให้นางยืนด้วยสองขาตัวเอง
รู้ว่าปากอีฮิมเคยไปอยู่ที่เน่าๆที่ ไหนมา หวังว่าจะไม่ยอมให้มันจูบง่ายๆ นะ
หาคุณค่าใส่ตัวเองซะบ้าง ไม่งั้นก็อยู่เป็นของตายมันตลอด
นิยายสนุกค่ะ เเต่หวังว่าจะมีการพัฒนาของตัวละครนะ
โดยเฉพราะเล

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 14-04-2017 05:18:41
จุดเปลี่ยนของเลมาถึงแล้วใช่ไหมค่ะ สงสารเลมาก แต่...หวังว่าเลจะเปลี่ยนแปลงไม่เป็นของตายให้ฮิมอีก

เอาจริงๆ ไม่เคยเกลียดพระเอกเรื่องไหนอะ...แต่เรื่องนี้ อยากเปลี่ยนพระเอกมาก ทำลับหลังน้อง สร้างภาพ แต่มั่วหญิง แล้วยังปล่อยให้มาระรานน้องอีก อยากให้พระเอกเป็นวินอ่ะ ส่วนอิฮิมก็ไปได้กับคู่ขาแกไป เข้ากันได้ดีนิเรื่องบนเตียง เกลียดแกว่ะฮิม  :z6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 14-04-2017 05:26:13
เป็นใคร ใครจะรับได้ว่ะ สงสารน้องเลเลยแต่ว่าพี่ปริมโดนหนักแน่.
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 14-04-2017 08:05:19
อยากเห็นการพัฒนาการของตัวละคร จุง แต่เล คงค่อยๆปรับเนอะ
จริงๆอินนี่ ชอบเลป่ะ 5555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: naezapril ที่ 14-04-2017 11:15:56
มาต่อที่เหลือเถ่อะนะ สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 14-04-2017 13:25:23
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-04-2017 14:09:23
อะไรกันเนี่ย!?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 14-04-2017 15:02:05
ขอร้องละมาต่อเร็วๆนะจะรออ่านไม่ไหวแล้ว :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: wildride ที่ 14-04-2017 19:01:00
 :katai1: อะไรยังงไง
แอบคิดดังๆว่า ..ไม่อยากให้น้อง หายใจเข้าออก ก็เฮ้อ ฮิม!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 14-04-2017 20:55:23
งื้ออออ...สงสารเล     ขอนิวเล  น้องเลคนใหม่เอาแบบไฉไลกว่าเดิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130417#15(30%) p.17
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 14-04-2017 23:37:59
“เลอยากให้เราไปส่งไหนหรือเปล่า”

“ฮึก! ฮือ”

“เลตอบเราหน่อยสิ เล”

“ฮือ”

“เฮ้อ งั้นไปคอนโดเรานะ” ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบ อินจึงหักพวงมาลัยแล้วเลี้ยวเข้าไปในซอยที่มีคอนโดขนาดใหญ่ของตัวเองตั้งอยู่ เขาตัดสินใจพาเลโดดซ้อม เพราะทันทีที่เห็นอีกฝ่ายร้องไห้เหมือนจะเป็นจะตายเขาก็จูงมือเลมาที่รถของตัวเองแล้วขับออกจากมหา’ลัยทันที ไม่ได้บอกแม้กระทั่งพี่นนท์นี่หรือใครสักคน

อินไม่รู้สาเหตุที่อีกฝ่ายร้องไห้และไม่กล้าถาม กลัวว่าจะทำอีกคนร้องมากกว่าเดิม

เบนซ์คันหรูเคลื่อนที่เขาจอดภายในบริเวณของคอนโด เจ้าของใบหน้าหวานดับรถแล้วรีบเดินอ้อมไปเปิดประตูให้คนที่นั่งฝั่งข้างคนขับ เลลงมาด้วยสภาพไร้วิญญาณก่อนจะเดินร้องไห้ตามเขามาเงียบๆ จนถึงห้อง

“หิวไหม”

“ฮือ”

“อยากกินอะไรหรือเปล่า”

“ฮึก!”

อินถอนหายใจ เขาหันไปมองอีกฝ่ายแล้วพูดไปตรงๆ “ไม่รู้ว่าร้องเพราะเรื่องอะไร แต่ร้องไห้ไปมันไม่มีประโยชน์หรอกนะ”

กึก!

คนร้องชะงักไปนิดหน่อย นัยน์ตากลมโตที่เริ่มแดงเพราะผ่านการร้องมาอย่างหนักหน่วงฉายแววหม่นลง เสียงแหบพร่าเกินกว่าปกติเอ่ย “ขอเราอยู่คนเดียว”

“...” คนฟังนิ่งเงียบก่อนจะยอมทำตามคำขอของอีกฝ่ายโดยการจูงมือบางเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ก่อนเจ้าของห้องจะเป็นฝ่ายเดินออกมาออก “ถ้ามีอะไรเรียกเรานะ”

นัยน์ตากลมโตมองคนที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปิดประตูให้อีกฝ่ายได้อยู่คนเดียวตามคำขอ



3 ชั่วโมงต่อมา

อีกด้านหนึ่ง

“เลอยู่ไหน” วินคาดคั้นเอาคำตอบจากคนตรงหน้า หลายชั่วโมงก่อนเมื่อเขามาส่งเลเพื่อให้อีกฝ่ายได้ซ้อมหลีด ทว่าพอกลับมารอเลเหมือนทุกครั้ง เขากลับหาน้องไม่เจอ โทรไปก็ไม่รับสาย “ตอบ”

อีกฝ่ายตัวสั่นอย่างชัดเจน เขาจำได้ว่าคนนี้เป็นพี่รหัสของเลแต่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร

“มะ… ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่เหมือนจะออกไปกับน้องอินนะคะ เพราะน้องอินก็หายไปอีกคน แต่โทรไปหาทั้งสองคนแล้วไม่มีใครรับเลย” ร่างสูงกลับหลังหันแล้วเดินไปที่รถทันทีที่ได้คำตอบ มือหนาขว้างถุงขนมที่อุตส่าห์ซื้อมาให้เลกินทิ้งถังขยะ ก่อนจะล้วงเข้ากระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับโทรหาใครสักคน เสียงทุ้มออกคำสั่งเมื่อทางนั้นกดรับ “ตามหาเลเดี๋ยวนี้!”

‘ฮิมเป็นของเล’

‘พี่เป็นของเล’

‘...เป็นของเล’

พรึบ!

นัยน์ตาลืมขึ้นท่ามกลางความมืด คนที่ไม่รู้ตัวว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ยันกายขึ้นมาจากเตียง แล้วนิ่งเงียบ เขาคงร้องไห้จนหลับแต่พอตื่นความทรงจำมันก็ประดังเข้ามาเป็นฉากๆ พอๆ กับอาการเจ็บที่ลามไปถึงหัวใจ

แต่ไม่มีแรงที่จะร้องไห้อีกแล้ว

เลนั่งซึมเงียบๆ อยู่บนเตียง นัยน์ตากลมมองสำรวจรอบห้องก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกไปข้างนอก มีโพสอิทสีเหลืองแปะเอาไว้ตรงโต๊ะใกล้หน้าห้องนอน ขาเรียวเดินตรงไปก่อนจะหยิบมันขึ้นมาอ่าน

‘เราออกไปซื้อข้าวนะ ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วรอหน่อย’

มือบางแปะมันลงที่เดิมทันทีที่อ่านจบ เขาไม่มีอะไรจะทำด้านนอก เลจึงเดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งก่อนจะสะดุดสายตาเข้าที่ตู้เสื้อผ้า ร่างบางเดินไปหามันก่อนจะเปิดออก นัยน์ตากลมกวาดมองเสื้อผ้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นโทนสีสดใสในตู้ ก่อนจะสะดุดสายตาอีกครั้งเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่มันไม่เข้าพวก

เสื้อสีดำที่บริเวณไหล่มันกว้างหน่อย

เขาจำได้… มันคือเสื้อที่อินใส่ไปคลับ

มือบางหยิบมันขึ้นมาทาบตัว ไม่รู้นึกอะไรถึงถอดเสื้อตัวเองออกก่อนจะสวมเสื้อตัวนั้นแทน ตามด้วยสกินนี่อย่างที่อินเคยใส่ ตบท้ายด้วยสร้อยสีเงินเสริมให้ลำคอขาวเด่นน่ามองมากกว่าเดิม

นัยน์ตากลมมองตัวเองในกระจกก่อนจะถอนหายใจ เขาตั้งใจจะถอดชุดออกทว่าความคิดบางอย่างมันก็แทรกเข้ามา ส่งผลให้มือที่กำลังเลิกเสื้อขึ้นไปถึงเนินอกขาวต้องวางลงดังเดิม เลเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์ของตัวเอง ก่อนร่างเพรียวที่น่าดูไปทุกสัดส่วนจะเดินออกจากห้องไป

เขาลงลิฟต์มาด้านล่าง ก่อนจะขอให้โอเปอร์เรเตอร์โทรเรียกรถแท็กซี่ให้เพราะโทรศัพท์ใช้การไม่ได้ ยืนรอไม่นานนักรถแท็กซี่ก็มา ร่างผอมบางก้าวเข้าไปนั่งบนรถ เสียงแหบพร่าบอกปลายทางที่ต้องการ

“ไปคลับ XXX”

เขามาทำไม ?

เขามาที่นี่ทำไม ?

เลตั้งคำถามในใจขณะมองคลับขนาดใหญ่ตรงหน้า มันเป็นคลับเดียวกันที่ฮิมเคยพามาตอนงานเลี้ยงสายรหัสและเป็นที่เดียวที่อีกฝ่ายบอกว่าอย่าเข้าไปถ้าพี่ฮิมไม่ได้มาด้วย ความทรงจำสะท้อนขึ้นมาเป็นฉากๆ

‘ฮิม เลยังไม่สิบแปดเลย เลจะเข้าได้เหรอ’

‘ได้ ถ้าพี่พาเข้า แต่เลมาคนเดียวเลห้ามเข้านะ’

‘เลไม่เข้า’

เขากำลังจะผิดคำพูด…

ร่างเพรียวเดินไปต่อแถวกับคนอื่นที่กำลังรอตรวจบัตรประชาชนตรงทางเข้าคลับ แต่เมื่อถึงคราวตัวเองคนตัวเล็กกลับไม่ได้ยื่นบัตรให้ เพราะรู้ว่ายื่นไปก็ไม่ผ่าน เขายังอายุไม่ถึงสิบแปดแต่จะอายุถึงสิบแปดปีหลังจากผ่านพ้นวันนี้ไป ดวงตากลมโตมองการ์ดที่ยื่นมือมาขอบัตร พอเขาไม่ให้อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมองแล้วชะงักไปทีนึง ก่อนชายชุดดำคนนั้นจะโค้งพร้อมกับหลีกทางให้เขาเดินเข้าไปอย่างง่ายดาย คนตัวเล็กไม่สนใจว่าทำไมเขาถึงเข้ามาได้ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับการตรวจบัตร ร่างเพรียวเดินลิ่วเข้ามาด้านในก่อนจะเป็นที่สนใจอย่างรวดเร็ว

เสื้อสีดำแหวกกว้างบริเวณไหล่ เผยให้เห็นเนินอกเนียนสีขาวชวนให้คนมองอยากหลุบตามองต่ำลงไปด้านใน สกินนี่สีดำที่รัดทุกสัดส่วนด้านล่างมันแนบชิดไปกับต้นขาเรียวยาว สะโพก รวมถึงบั้นท้ายดึงดูดให้คนเห็นต้องเลียริมฝีปาก ร่างบางเดินผ่านใครคนนั้นต้องหันหลังไปมองตามด้วยความสนใจ เลไม่ได้สนใจใคร เจ้าของใบหน้าสวยจำได้ว่าตรงชั้นแรกของคลับมีบาร์ให้นั่งอยู่ นัยน์ตากลมโตกวาดมองรอบด้าน พอเห็นจุดหมายก็รีบเดินตรงดิ่งไปที่นั่นทิ้งให้ผู้ชายด้านหลังที่อยากทำความรู้สึกต้องชะงักมือ

ร่างสูงที่ทำหน้าที่เป็นบาเทนเดอร์มองผู้มาเยือนคนใหม่ที่เข้ามานั่งเก้าอี้ เสียงทุ้มถามด้วยความสุภาพกับแขกของคลับ

“รับอะไรดีครับ”

“อะไรก็ได้” เสียงนั่นแหบพร่า ดวงตากลมเริ่มแดงอีกครั้ง เดาได้ไม่ยากว่าไปเจอะเจอกับเหตุการณ์อะไรมา “ขอแรงๆ”

“รอสักครู่ครับ” บอกตามตรงว่าเขาอยากเอานมให้อีกฝ่ายมากกว่า แต่เขาไม่สามารถทำตามใจตนเอง กฏของคลับคือแขกต้องการอะไรก็ต้องให้อย่างนั้น ทำให้แขกแต่ละคนพึ่งพอใจมากที่สุดแลกกับจำนวนเงินที่ต้องเสียมหาศาลให้กับที่นี่ ร่างสูงจัดการผสมเครื่องดื่มที่แรงในระดับหนึ่งก่อนจะยื่นมันส่งไปให้คนตรงหน้า “ดื่มช้าๆ—”

พรวด!

เขาเตือนไม่ทันจบ คนตรงหน้าก็จับแก้วที่พึ่งส่งไปให้กรอกเข้ามาทีเดียวหมด ร่างเล็กทำสีหน้าเหยเกทีหนึ่งก่อนจะเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ มือบางวางแก้วลงแล้วสั่งอีกครั้งหนึ่ง

“เอา… อีก” มีคนเคยบอกว่าแอลกอฮอล์ช่วยให้ลืมระยะสั้นนั่นคงจะเป็นเรื่องจริง เพราะทันทีที่น้ำสีทะมึนในแก้วนั่นไหลผ่านลงลำคอ มันส่งสัมผัสแสบร้อนทิ้งท้าย ก่อนจะออกฤทธิ์กับระบบประสาททำให้คนที่ดื่มมันเข้าไปเริ่มไม่ได้สติ เขาเริ่มลืมเรื่องของวันนี้ทีละนิด คนตัวเล็กรับมาอีกแก้วก่อนจะกรอกเข้าปากอีกครั้งจนหมดในคราวเดียว เสียงทุ่มสั่งเป็นครั้งที่สาม “เอา… อีกแก้ว”

ครืน

แก้วใส่เครื่องดื่มสีฟ้าอันใหม่ถูกเคลื่อนมาให้จากทางด้านข้าง เลหันไปมอง ก่อนจะบอกเสียงนุ่มกับเจ้าของแก้วตัวจริง “ไม่ได้สั่ง”

“ผมสั่งให้เองครับคนสวย” ดวงตากลมโตประสานเข้ากับร่างสูงด้านหน้า เจ้าของใบหน้าหล่อเหลากับร่างสูงโพร่งสมส่วน “ลองชิมดูสิ”

คนตัวเล็กลังเลอยู่สักครู่ก่อนจะหยิบแก้วใส่น้ำสีฟ้าขึ้นมาจิบรสชาติ ก่อนนัยน์ตากลมโตจะเบิกกว้างแล้วดื่มมันทีเดียวหมดแก้ว “อร่อย”

“ดีใจที่ชอบ”

“อืม”

“พี่ชื่อฟาร์ ยินดีที่ได้รู้จัก”

“เล” เสียงหวานบอกชื่อตัวเองขณะหลุบตาลงมองมือหนาที่ยื่นมาทักทาย คนตัวเล็กนิ่งไปสักพักก่อนจะยื่นมือไปจับกับอีกฝ่าย “ยินดีที่ได้รู้จัก”



3 ชั่วโมงต่อมา

สวยเป็นบ้า

ฟาร์มองร่างเล็กข้างกายที่เริ่มไม่ได้สติ ร่างสูงเลียริมฝีปากขณะไล่มองร่างสมสัดส่วนตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งหน้า หุ่น ผิวหรือแม้กระทั่งนิสัยล้วนไร้ที่ติ ทีแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายจะหยิ่งนิดๆแต่พอได้คุยถึงรู้ว่าไม่ น้องออกจะว่าง่าย คิดถูกจริงๆ ที่มาทัก แต่ถึงจะคิดถูกหรือไม่ถูกที่แน่ๆ พวกผู้ชายในคลับต่างมองเขาสายตาร้อนผ่าวๆ ด้วยความอิจฉา

“เลเมาแล้วนะ” ฝ่ามือสากจับลงตรงไหล่บางก่อนจะจงใจลากไล่ขึ้นไปถึงลำคอขาวของคนที่กำลังฟุบหน้ากับบาร์เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ เป็นจังหวะเดียวกันที่นัยน์ตาคมบังเอิญไปเห็นเสื้อคอกว้างที่ห้อยลง เผยให้เห็นผิวขาวเนียนและในส่วนที่ลึกลงไปกว่าเนินอก คนมองกลืนน้ำลายก่อนจะเลียริมฝีปากอีกครั้ง ยิ่งเห็นอารมณ์ดิบของผู้ชายมันก็ยิ่งออก แก่นกายที่ปวดหนึบของเขาต้องได้รับการปลดปล่อย “ไปกับพี่ดีกว่า”

ตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงก่อนตอนที่เขายังอยู่กับเล ชายหนุ่มแอบกระซิบให้บาเทนเดอร์ไปจองห้องนอนของคลับเอาไว้ให้

ชายหนุ่มพยุงคนตัวเล็กให้ลุกขึ้น แขนแกร่งโอบรอบเอวบางก่อนจะบังคับให้คนเมาไปในทิศทางที่เขาต้องการ

“จะไปไหน…” เลที่แทบไม่มีสติหลงเหลืออยู่ถาม เขารู้แค่ว่าตัวเองกำลังจะถูกพาไปที่ไหนสักแห่ง

“เดี๋ยวก็ถึงห้องแล้วรออีกหน่อย” คนตัวเล็กไม่เข้าใจความหมาย เลขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อถูกแขนแกร่งโอบรัดที่เอวแน่นจนรู้สึกอึดอัด มือบางพยายามแกะออกก่อนจะเผลอร้องครางในลำคอเบาๆ

“อื้อ!”

กึก!

เสียงครางทำให้ชายหนุ่มที่กำลังแนบติดกับอีกฝ่ายนิ่งไป ภายใต้ความนิ่งนั่นมันกำลังปะทุเดือดด้วยกามอารมณ์ จนในที่สุดคนทนก็ทนไม่ไหว ร่างเล็กถูกผลักแนบเข้ากับกำแพงทาบด้วยเรือนกายใหญ่ของชายหนุ่ม ฟาร์มองคนตรงหน้าด้วยสายวาววับ ขณะลากมือหน้าไปตามใบหน้าสวย เสียงทุ้มแหบพร่าว่าด้วยความกำหนัด

“เลทำให้พี่ทนไม่ไหว” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงไปซบกับลำคอขาว ไล่จมูกสูดกลิ่นหอมจากเรือนกายอีกฝ่าย “ขอออเดิร์ฟก่อนก็แล้วกัน”

มือหนาลูบไปตามเอวคอด ขณะแทรกเข่าเข้ากลางลำตัวของร่างเล็กจนคนโดนร้องอื้ออึง

สัมผัสแปลกใหม่ทำให้เลต้องครางในลำคอ มันวูบวาบในท้องน้อยแปลกประหลาดแต่ไม่ได้รู้สึกแย่ อารมณ์ร้อนลามไปทั่วตัว ลมหายใจคนตัวเล็กเริ่มถี่กระชั้นขึ้นยามมือหนาลากผ่านบริเวณแผ่นอกบางเบา คนตัวเล็กเผลอกัดปากขณะส่งสีหน้าให้คนเห็นทนไม่ไหวเป็นครั้งที่สอง

ชายหนุ่มเลียริมฝีปากพลางเลื่อนมือลงต่ำ นิ้วเรียวเกี่ยวขอบสกินนี่ก่อนจะตั้งใจล้วงลงไป ทว่า…

พรึบ!

ผัวะ!

“ไอ้สัส!!” เสียงคำรามดังข้างหูก่อนร่างหนาจะโดนใครสักคนดึงตัวจากทางด้านหลัง ตามด้วยหมัดหนักๆ กระแทกเข้าที่เบ้าหน้าจนฟาร์เซล้มลงกับพื้น เป็นจังหวะเดียวกันที่ร่างบางไถลตัวลงไปกับกำแพง เลเกือบจะล้มลงกับพื้นถ้าไม่มีใครสักคนมาพยุงเอาไว้เสียก่อน “ลากตัวมันออกไป”

เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้คนที่แทบจะไม่มีสติลืมตาขึ้น

“เล” แขนเรียวเอื้อมไปโอบรอบลำคอของคนตรงหน้าเพื่อเป็นที่ยึดเกาะโดยอัตโมัติ ดวงตากลมโตลืมขึ้นมอง เลหรี่ตามองคนตรงหน้าก่อนจะพูดชื่ออีกฝ่ายออกมาอย่างแผ่วเบา

"พี่ฮิม” คนที่ยังโดนฤทธิ์แอลกฮอล์ครอบงำสติพึมพำขณะเบียดตัวเข้าใส่คนตรงหน้าด้วยความคิดถึง กลิ่นแอลกอฮอล์ตีขึ้นจมูกคนที่กำลังกอด เลเผลอลืมเรื่องของวันนี้ไปชั่วขณะ “คิดถึงจัง กลับมาแล้วเหรอ”

“ทำไมเป็นแบบนี้” พ่อพูดอะไรเลไม่เข้าใจ

เจ้าของใบหน้าหวานขมวดคิ้ว ก่อนจะรู้สึกเหมือนว่าตัวเองลอยอยู่ในอากาศเมื่อฮิมอุ้มเอวบางขึ้น ร่างสูงพาคนเมาเข้าห้องนอนของคลับที่อยู่ใกล้ที่สุด พร้อมกับวางอีกฝ่ายไว้ที่เตียง ทว่าจังหวะที่เขาวางน้องลง เลกลับเล่นซนโดยการดึงคอเขาลงมา เป็นผลให้ร่างทั้งร่างเกือบทับคนตัวบางถ้าเขาไม่ใช้มือค้ำเตียงพยุงกายเอาไว้

“ฮิม… พ่อจ๋า คิดถึง” ร่างหนาเผยรอยยิ้มก่อนจะตอบรับ

“พี่ก็คิดถึงเล” เขาไม่ชอบให้เลเมา และแทบบ้าตอนที่ลงจากเครื่องบินแล้วรู้ว่าเลหายไปแถมยังหาไม่เจอ พวกที่บ้านมันหากันตั้งนาน ไม่มีใครนึกถึงว่าเลจะใจเด็ดถึงขนาดมาที่คลับคนเดียว แถมยังแต่งตัวแบบนี้…

นัยน์ตาคมหลุบมองพร้อมกับเลียริมฝีปาก ก่อนจะชะงักพร้อมกับแผ่รังสีอันตรายออกรอบด้านเมื่อคิดได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาคนอื่นเห็นเลไปถึงไหนต่อไหน

แต่ในสถานการณ์แบบนี้น้องเมาก็ดี ไม่รู้ว่าถ้าหายเมาแล้วจะยิ้มแบบนี้ได้อีกหรือเปล่า

“คิดถึงเลเหรอ?” เสียงหวานพึมพำ คนขาดสติร้องอื้ออึงในลำคอก่อนจะพยายามหรี่ตามองเขาอีกครั้ง เลเงียบไปก่อนคนตัวเล็กจะเริ่มร้องไห้เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ “ฮิมเหรอ… ฮิม ฮิมใจร้ายนี่ ฮืออ”

“อย่าร้อง คนดีพี่ขอโทษ”

“ฮือ… ฮิมทำเลเจ็บ ฮึก! ที่ใจ”

“ขอโทษครับ”

“ออกไป! ฮิมไม่ใช่ของเล!”

“พี่เป็นของเล”

“ไม่ใช่! ฮิมเป็นของพี่ปริม ฮิมไม่ใช่ของเล!! ฮือ”

“พี่เป็นของเล!!” เสียงทุ้มตวาดจนคนฟังต้องเงียบลง เลเบ้ปากเพราะตกใจขณะพยายามถามเสียงสั่น

“แต่ฮิมมีอะไรกับพี่ปริม ฮิมไม่ใช่ของเล”

“เขาไม่ได้อะไรจากพี่”

“เขาได้ตัวพี่ฮิม”

“ตัวพี่อยู่ตรงนี้กับเล” ฮิมจับมือบางแนบเข้าที่อกข้างซ้าย นัยน์ตาคมประสานกับอีกฝ่าย **“**แต่เลเอาตรงนี้ของพี่ไป และมันให้น้องได้แค่คนเดียว”

คนเมาที่เริ่มจะได้สติแล้วหายร้องไห้ ขณะพยายามยันตัวเองขึ้นจากเตียงแล้วถามร่างสูงเสียงแผ่ว “ฮิมรักเลไหม”

“พี่เคยบอกแล้ว”

“พูดอีก”

“พี่รักเล” แขนแกร่งโอบเข้ากอด ใบหน้าคมฝังเข้ากับไหล่บางพร้อมกับพูดเสียงเข้ม “เลิกโกรธพี่นะ”

“...”

“คนดี”

“ทำไม่ได้” ฮิมเงียบ “เลโกรธฮิมมากๆ ฮิมโกหกเล ไม่สิ… ฮิมไม่ได้บอกเล และเลหวงพี่ขนาดไหน ฮิมก็รู้”

“...”

“แต่ฮิมมีอะไรกับเขา เลเลยหายโกรธฮิมไม่ได้” ร่างสูงไม่มีคำปฏิเสธถึงมีเขาก็ไม่พูด ฮิมไม่อยากโกหกน้อง เพราะมันเป็นความจริง

“พี่ต้องทำยังไง”

“ทำให้เลรู้สึกเท่าเทียม” คนฟังขมวดคิ้ว ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเข้าใจถึงความหมายโดยนัยที่อีกฝ่ายต้องการที่จะสื่อ เป็นจังหวะเดียวกันที่ร่างเล็กขยับตัวเข้ามาใกล้ กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ลอยฟุ้งออกมาจากร่างบางคล้ายกำลังหลอกล่อให้สัญชาติญาณของเขาออกมา “พี่ปริมได้ยังไง เลต้องได้อย่างนั้น”

“คนดีกำลังเมา” มือหนาพยายามจับคนที่กำลังจะขึ้นมานั่งบนตักของเขาออก แม้ใจอยากจะทำในสิ่งที่มันตรงกันข้ามก็ตาม

ออกไป… ก่อนที่พี่จะทนไม่ไหว

คนถูกกล่าวหาไม่ได้ว่าอะไร มือบางปัดแขนแกร่งที่พยายามจับตัวเขาออก ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นมานั่งบนตักแข็งได้สำเร็จ แขนเรียวเข้าโอบรอบลำคอแกร่ง เจ้าของใบหน้าสวยแนบริมฝีปากทาบกับคนตรงหน้าขณะเอ่ยเสียงแหบพร่า “เลรักพี่ฮิม”



(70%)



จริงๆ ต่อจากนี้มันเป็นฉาก CUT แต่ญาติมาบ้านแล้วปั่นไม่ทัน ไปถามนักอ่านเขาบอกอัพเลย งั้นโอเค อัพก็อัพค่ะ อย่าพึ่งตัดสินว่าเลหายงอนเร็วจัง คือเลหายโกรธแต่ไม่ได้หมายความว่ายอมยกโทษให้นะจ๊ะ​
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 14-04-2017 23:42:56
ทันนนนน  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 14-04-2017 23:49:46
คีย์เวิร์ดที่พี่ฮิมรอมาแล้ว "เลรักพี่ฮิม" จากนี้คงไม่ปล่อยน้องไว้เฉยๆแล้วล่ะ :hao6:

เลดูหึงแรง ถึงแม้น้องจะไม่รู้ตัวว่ามันคือการหึงก็เถอะ ชอบความที่น้องเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆจากตอนแรก

จริงๆอยากให้ฮิมร้อนใจมากกว่านี้ หมั่นไส้555555555

รอฉากคัทนะคะ ไม่ได้หื่นแค่อยากรู้ลีลาพี่ฮิมเฉ้ยเฉย :hao7:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 15-04-2017 00:07:40
รอฉากต่อไปไหวววววว
กรี๊ดดดดดด
 :m25: :m25: :m25:


เลอย่าไปยกโทษให้ง่ายๆนะ
เดี๋ยวฮิมได้ใจ
ลองร้อนรนดูบ้างนะฮิม
ชั้นหมั่นไส้แกมากอ่ะ      :angry2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 15-04-2017 00:08:05
โอ้ยยยย หัวใจจิวายยย
ถ้าพี่ฮิมมาช้าอีกนิดนึงนะ บรึ้ยย ไม่อยากคิด
ฮิม ทำให้ทุกอย่างชัดที่สุดเถอะนะ ไม่งั้นเลไม่หายโกรธแน่ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-04-2017 00:12:55
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 15-04-2017 00:21:36
กรี๊ดดดดดดดดดดด น้องเลพูดออกมาแล้ววว
รอฉากนั้นค่ะ อยากเห็นลีลาพี่ฮิมด้วยย  :hao6: :hao6: :hao6:
พี่ฮิมรีบๆทำตัวให้สมกับเป็นพระเอกนะ เดี๋ยวเปลี่ยนทีไปทีมพี่วิน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 15-04-2017 00:21:52
อย่ายกโทษนะคนดี หนูต้องลุกขึ้นอย่างสง่างามนะลูก สงสารน้องเลคนดี

หนูไม่น่ามาเจออะไรอย่างนี้เลย

เกลียดปริม หวังว่านางคงไม่ตายดี  ฮิมก็เช่นกัน(?)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-04-2017 00:37:56
ฮิมคงตบะแตก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 15-04-2017 02:24:34
กลับมาต่อก่อนนนนนนค่ะ....อย่าตัดอย่างนี้ :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 15-04-2017 06:18:02
น้องเล แน่ใจนะว่าถ้าเกิดอะไรๆ ขึ้นแล้วหนูจะไม่เสียใจน่ะ :hao7:

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 15-04-2017 06:23:11
นิวเล  ได้ใจมาก 555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 15-04-2017 06:25:07
ก่อนอื่นขอตีน้องเลแรงๆทีนึงนะ ทำอย่างนี้ได้ยังไงถ้ฮิมมาไม่ทัน ไม่อยากจะคิด
"ปริมได้ยังไง เลต้องได้อย่างนั้น"  ชอบบบบบบบอกเลย  o13 พี่ฮิมอย่าให้เลน้อยหน้าปริมนะ น้องขอมา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-04-2017 07:41:43
ก่อนอื่นขอตีน้องเลแรงๆทีนึงนะ ทำอย่างนี้ได้ยังไงถ้ฮิมมาไม่ทัน ไม่อยากจะคิด
"ปริมได้ยังไง เลต้องได้อย่างนั้น"  ชอบบบบบบบอกเลย  o13 พี่ฮิมอย่าให้เลน้อยหน้าปริมนะ น้องขอมา

ถถถถถถ ถูกต้อง
ฮิม บอกว่าเล อยู่ในใจของฮิม ตัวฮิม ก็อยู่กับเล / ดึมากกกกกก
"พี่ รักเล"
"เล ก็รักพี่"
  ชัดเจนกว่า "เล รักพ่อ" นะ
แสดงออกให้ชัดเจนกว่านี้ อีกสิ
แบบ ให้ตัวฮิมอยู่ในตัวเล
อ๊ากกกกกกก ฟินนนน คนอ่านไฟเขียวเต็มที่  :ling1: :ling1: :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-04-2017 08:11:40
 :z1: :z1:
 :hao7: :hao7:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 15-04-2017 08:38:18
ฮิมตบะนายได้แตกก็คราวนี้แหล่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 15-04-2017 09:24:47
น้องเลลูกกกกกก
แซ่บมากกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 15-04-2017 14:04:27
อยากให้ฮิมทุรนทุรายมากกว่านี้ เอาให้สมกับที่ทำให้น้องเสียใจและไม่เคยพูดอะไรที่มันมากกว่านี้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 15-04-2017 15:36:03
มาต่ออีกเร็ววววววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 15-04-2017 21:50:54
“คนดีกำลังเมา” มือหนาพยายามจับคนที่กำลังจะขึ้นมานั่งบนตักของเขาออก แม้ใจอยากจะทำในสิ่งที่มันตรงกันข้ามก็ตาม

ออกไป… ก่อนที่พี่จะทนไม่ไหว

คนถูกกล่าวหาไม่ได้ว่าอะไร มือบางปัดแขนแกร่งที่พยายามจับตัวเขาออก ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นมานั่งบนตักแข็งได้สำเร็จ แขนเรียวเข้าโอบรอบลำคอแกร่ง เจ้าของใบหน้าสวยแนบริมฝีปากทาบกับคนตรงหน้าขณะเอ่ยเสียงแหบพร่า “เลรักพี่ฮิม”



จูบครั้งแรกมันเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต รุนแรงจนต้องถอนออกไปก่อน

จูบครั้งที่สองรู้สึกวาบหวาม

และครั้งที่สามเร้าร้อน เมื่อคนตัวสูงตอบรับและขึ้นไปเป็นฝ่ายนำ แขนแกร่งโอบเอวบางแน่น บดเบียดและรุกไล่จนเลต้องหอบหายใจพร่า เช่นเดียวกับนัยน์ตากลมโตที่กำลังเปิดบรือขึ้นเล็กน้อยเสมือนไม่ได้สติ เขารู้สึกดีเกินไปจนเหมือนอยู่ในฝัน

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ร่างบางถูกผลักให้นอนนอนราบลงกับเตียง ฮิมลืมตาขึ้น มือหนากำหมัดแน่นก่อนจะเป็นฝ่ายละออก

“พี่ให้โอกาส”

คนได้รับโอกาสไม่ได้ตอบรับ เลยันตัวขึ้นจากเตียงก่อนจะรั้งลำคอแกร่งเข้ามาจูบอีกครั้งแทนคำตอบ

...ไม่

นัยน์ตาคมวาบวับในความมืด สัญชาติญาณดิบของเขาถูกเลปลุกให้ตื่นจนข่มเอาไว้แทบไม่อยู่แล้ว มือหนาโอบไปที่ด้านหลัง ไล่ไปตามสันกระดูกก่อนจะหยุดที่เอวคอด เขาเลิกเสื้อขึ้นไปจนถึงเนินอกบาง เป็นจังหวะเดียวกันที่ริมฝีปากละออก ปล่อยให้น้ำลายสีใสไหลยืดลงไปยามทิ้งตัวนอน

ฮิมหลุบตามอง สภาพของน้องในตอนนี้มันทำให้อารมณ์ของเขาถูกกระตุ้นยิ่งกว่าเดิมจนต้อง… เลียริมฝีปาก

เสื้อที่ถูกเลิกขึ้นเผยให้เห็นยอดดอกสีชมพูอ่อน เหมาะเจาะกับใบหน้าแดงระเรื่อของคนที่กำลังหอบหายใจพร่าอยู่ใต้ร่าง

...เอ็กซ์เป็นบ้า

ข้อมือบางถูกยกขึ้น เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาใช้ริมฝีปากร้อนไล่จูบตั้งแต่ปลายนิ้วเรียวขึ้นไปจนถึงหัวไหล่ แผ่นอกเล็ก ลำคอขาว ไปจนถึงติ่งหู เขาขบเม้มเบาๆ ขณะเลื่อนมือขึ้นมาหมุนรอบยอดดอกก่อนจะบดขยี้มันพร้อมๆ กับกระซิบเสียงพร่าให้คนที่กำลังส่งเสียงครางอื้ออึงในลำคอได้ยิน

“เลหยุดพี่ไม่ได้แล้ว”

อารมณ์ดิบของเขา มันพุ่งขึ้นจนฉุดเอาไว้ไม่อยู่แล้ว…

แควก!

เสื้อสีดำสนิทถูกกระชากออกจากแขนเรียว แรงจนเกิดรอยแดง คนโดนถึงกับสะดุ้งเมื่อร่างสูงใช้มันขึ้นมาปิดตาของเขาเอาไว้ แต่ยังไม่ทันได้ถามริมฝีปากก็ถูกครอบครองอีกครั้ง ฮิมดูดดัน ใช้ลิ้นร้อนไล่ไปทั่วโพรงปากจนอารมณ์ใคร่มันพุ่งทะยานขึ้นสูง จนคนโดนต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อมือหนาล้วงเข้าไปในสกินนี่พร้อมกับจัดการทึ้งมันออกจากปลายขาเรียวอย่างรวดเร็ว

ฮิมถอนจูบออก นัยน์ตาคมหลุบลงมองคนที่อยู่ใต้ร่าง

“พี่จ๋ามันมืด” มือบางเอื้อมขึ้นหวังจับผ้าที่ปิดตาตัวเองอยู่ออก ร่างสูงจึงจัดการรวบข้อมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายเอาไว้เหนือศีรษะ เขาไม่ได้จงใจจะแกล้ง แค่ไม่อยากให้เลเห็นสีหน้าและอารมณ์ของตัวเขาเองในตอนนี้

ภายในห้องเงียบงัน คนที่โดนปิดตาอายเกินกว่าจะกล้าแสดงความคิดเห็น ขณะเดียวกันที่ใบหน้าหล่อเหลาไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรนอกจากความเฉยเมย หากแต่ในความเฉยเมยมันมีความดุดันซ่อนอยู่ภายในดวงตาสีดำสนิท มือหนาเอื้อมจับอันเดอร์แวร์ที่เป็นสิ่งสุดท้ายบนกายบาง เลรู้สึกเหมือนหัวใจเขาถูกดึงฉุดลงเมื่อรับรู้ได้ว่ามันถูกดึงออกไปจากร่างกายแล้ว

อันเดอร์แวร์ตัวเล็กถูกโยนทิ้งลงข้างเตียง ก่อนคนถอดจะหันกลับมามองผลงานตัวเองแล้วเลียริมฝีปากอีกครั้ง

สมกับที่เขาฟูมฟักมา ขาวไปทั้งตัวแถมขนสักเส้นยังไม่มี

...ไร้ที่ติจริงๆ…

“เลหนาว” มันเย็นวูบไปทั้งกายเมื่อไม่มีอะไรปกปิด คนตัวเล็กได้แต่ตัวสั่นท่ามกลางความมืดเมื่อตาถูกปิด หัวใจสั่นระทึกคล้ายกลองที่ถูกตีร่วน

“เดี๋ยวคนดีก็ร้อน” เสียงทุ้มบอกแผ่ว ขณะเลื่อนมือข้างหนึ่งไปจับสองขาหวังให้มันแยกออกจากกัน แต่ทันทีที่จับคนตัวเล็กก็ออกปฏิกิริยาต่อต้านโดยการเกร็งทันที ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้ว ฮิมส่งเสียงดุ “อย่าดื้อกับพี่”

คนโดนดุถึงกับตัวสั่น ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายจับเรียวขาของตัวเองแยกกว้าง ร่างสูงแทรกตัวเองเข้าไปตรงกลาง กั้นไม่ให้อีกฝ่ายหุบขาเข้ามาได้ดังเดิม มือหนาลงจับส่วนไวต่อสัมผัส แท่งเนื้อน่ารักที่มีปฏิกิริยาตอบรับกับมือของเขาเป็นอย่างดีพอๆ กับเสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากเล็ก

“ฮิม… อ๊ะ! อ๊า พี่ฮิม” ฮิมไม่สนเสียงคราง มือหนาเร่งจังหวะในการสร้างกามอารมณ์ให้เร็วถี่ขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คนรับการกระทำได้แต่ร้องครางและแด้ดิ้นเหมือนโดนไฟลน มันร้อนอย่างที่ฮิมว่าแต่ความร้อนมันมากับความรู้สึกบางอย่างที่หมุนวนอยู่บริเวณท้องน้อย และส่งต่อไปยังจุดกึ่งกลางลำตัว ก่อนจะค่อยๆ รวมกันเป็นมวลความรู้สึกขนาดใหญ่จนเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป “เล...จะ...แตก”

“ปล่อยออกมา” เสียงทุ้มสั่ง

“อ๊ะ!! อ๊ะๆๆ อ๊า!!” ใบหน้าหวานแสดงความบิดเบี้ยวเมื่อถึงจุดสูงสุด แผ่นอกเล็กเผลอดันขึ้นอย่างลืมตัวก่อนน้ำขุ่นจะฉีดพุ่งออกจากแก่นกลาง

พรึบ!

คนปลดปล่อยล้มตัวลงตามแรงโน้มถ่วงพร้อมกับหายใจหอบพร่า นัยน์ตาคมมองน้ำกามที่เปื้อนอยู่ที่มือ มือหนายกขึ้นก่อนจะใช้ลิ้นเลียแล้วกลืนกินมันจนหมด ฮิมปล่อยมือที่รวบแขนน้องอยู่ ก่อนจะพลิกตัวอีกฝ่ายให้นอนคว่ำ มือหนาจับขาเรียวให้ตั้งเข่าขึ้นก่อนลอบมองช่องทางสีสวย

“พี่จ๋าจะ—อ๊ะ!” เพราะเสื้อที่ปิดตาหลุดออกน้องจึงตั้งใจจะหันมามองด้านหลัง มือหนาเลยจัดการจับศีรษะของอีกฝ่ายกดลงที่หมอนโดยไม่เปิดโอกาสให้เลหันหน้ามามอง คนโดนกดศีรษะเอาไว้พยายามดิ้นไปมาแต่เขาสู้แรงฮิมไม่ได้ ราวกับว่าทั้งตัวโดนอีกฝ่ายบังคับเอาไว้จนหมดแม้กระทั่งหัวใจ การไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปมันส่งผลให้หัวใจเต้นถี่รัวมากกว่าเดิม

มือหนาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกหากสายตาคมกริบหลุบลงมองช่องทางสีสวยไม่วางตา เสื้อเชิ้ตสีดำถูกเขวี้ยงออกนอกเตียง นิ้วเรียวเลื่อนลงปลดกระดุมกางเกงของตัวเองออกตามด้วยซิป ทุกกิริยาเนิบนาบและได้ยินเสียงการกระทำอย่างชัดเจน ใบหน้าหวานที่โดนบังคับให้กดกับหมอนร้อนฉ่า ยามรับรู้ได้ว่ามือหนากำลังรูดซิปกางเกงของตัวเองลง

ร่างสูงไม่ได้ถอดจนหมด ฮิมค้างเอาไว้แค่นั้นก่อนจะทาบอกแกร่งลงแผ่นหลังเนียน เบียดกายใส่คนใต้ร่างเป็นจังหวะเดียวกันที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาซุกเข้ากับลำคอขาว ริมฝีปากร้อนขบเม้มเบาๆ จนเลร้องอื้ออึง ก่อนที่ฮิมจะปล่อยมือที่กดศีรษะน้องออกแทนที่ด้วยการยกลำคอขาวแล้วใช้ปลายนิ้วในการดันคางมนให้เงยขึ้น มือข้างที่เหลือเอื้อมไปด้านหน้า

“เลียให้พี่หน่อยสิคนดี” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยให้คนที่ยังมีแอลกอฮอล์ในร่างกายทำตาม ก่อนจะค่อยๆ ส่งนิ้วเข้าไปในริมฝีปากเล็กทีละนิ้ว

จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม จากสามเป็นสี่

นิ้วเรียวเข้าไปพัวพันกับลิ้นด้านในจนเต็มปากเล็ก น้ำลายสีใสเริ่มไหลลงตามลำคอขาวเมื่ออีกฝ่ายไม่เปิดโอกาสให้ร่างเล็กได้ปิดริมฝีปาก ขณะเดียวกันที่คนตัวสูงกำลังสนุกกับการสอดลิ้นเข้าไปในแอ่งหูตื้น ฮิมใช้ลิ้นร้อนเล่นกับบริเวณนั้นจนเปียกชื้นไปทั้งแถบ คนชำนาญกว่ากะว่าได้ที่แล้วจึงถอนนิ้วออก มือหนาที่ดันคางน้องขึ้นเลื่อนมาเสยผมที่ปิดหน้าผากขาวออกก่อนจะฝังรอยจูบลงไปที่หน้าผาก เลได้รับแค่สัมผัสความอบอุ่นจากอีกฝ่ายไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้

นิ้วเรียวชุ่มน้ำลายเอื้อมไปทางด้านหลังขณะเดียวกันที่มืออีกข้างเลื่อนลงผิดปากเล็กเพื่อไม่ให้มีเสียงเล็ดรอด “เจ็บหน่อยนะคนดี”

เจ็บอะไร ?

คนฟังสงสัยแต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเลก็ได้เข้าใจ บางอย่างมันแทรกเข้ามาจากทางด้านหลัง แหวกช่องทางที่ไม่เคยผ่านมือใครเข้ามา ความเจ็บปวดแทรกไปทุกอนูของผิวจนต้องหลั่งน้ำตา เสียงหวานพยายามร้องประท้วงทว่ามือหนาที่ปิดอยู่ทำให้ได้ยินเป็นแค่เสียงร้องอื้ออึง

“อ๊ะ!! อื้อ!! เอเอ็บ!! ฮืออ” นิ้วเรียวหมุนวนอยู่ด้านใน กวาดต้อนและครูดไปกับผนังร้อน ก่อนคนตัวสูงจะใจแข็งแล้วเพิ่มนิ้วที่สามเข้ามา อาการเจ็บแผ่กระจายมากกว่าเดิมอยู่ครู่หนึ่งก่อนความรู้สึกวูบวาบบางอย่างจะเริ่มเข้าผสมปนเปไปพร้อมกับความเจ็บปวด  “อื้อ...อ๊ะ! อ๊า! อืม”

นัยน์ตามองคนที่เริ่มได้ที่ก่อนจะถอนนิ้วออก อารมณ์ที่กำลังแล่นขึ้นหยุดชะงัก ใบหน้าหวานหันมามองอีกฝ่ายด้วยน้ำตาคลออีกครั้ง ฮิมเอามือที่ปิดปากน้องอยู่ออกแล้วแทนที่ด้วยริมฝีปากของตนเอง มือหนาข้างหนึ่งไล่ลงสู่ยอดดอกพร้อมทั้งบิดขยี้มันแรงๆ จนคนตัวเล็กส่งเสียงคราง นิ้วเรียวหมุนวนอยู่ตรงนั้นก่อนจะเอื้อมไปลดอันเดอร์แวร์ของตัวเองลงแบบลวกๆ เป็นเวลาเดียวกันที่นัยน์ตากลมเผลอหันไปมองก่อนจะเบิกตากว้าง

แท่งเอ็นร้อนของพี่ชายปรากฏอยู่ตรงหน้า มันใหญ่กว่าตอนที่เห็นครั้งล่าสุดเสียอีก

คนตัวสูงรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังตื่นตระหนก ฮิมถอนริมฝีปากพร้อมทั้งปาดน้ำลายที่ติดอยู่บนแก้มสีแดงระเรื่อออก มือหนาเอื้อมไปจับมืออีกฝ่ายเอาไว้ก่อนจะชักนำไปสู่แท่งเอ็นร้อน แต่ทันทีที่สัมผัสเลรีบผละมือออกเหมือนกับเจอของร้อนแต่ไม่นานก็โดนมือหนาจับมาวางให้สัมผัสดังเดิม

“เล่นกับมันหน่อยสิเล” ร่างสูงพึมพำที่ข้างหู ชักนำให้อีกฝ่ายลุ่มหลงขณะจับมือบางรูดขึ้นลงเบาๆ ที่แก่นกลางของตนเอง คนตัวเล็กหน้าร้อนฉ่าขณะทำมือตามการบังคับของอีกคน ฮิมกัดปากแน่นขณะซุกใบหน้าเข้ากับอกบางก่อนใช้ฟันคมกัดตรงยอดดอกสีชมพูอ่อนจนน้องร้องตาม

“อ๊า… พี่ฮิม”

“เลคนดี คน...อืม...เก่ง” ร่างสูงขบกรามกับความต้องการแน่น ก่อนจะกลั้นใจจับมือน้องออกเมื่อน้ำสีขุ่นเริ่มปริออกจากลำแท่ง ขาเรียวถูกจับแยกกว้างออกจากกันอีกครั้ง เสื้อสีดำที่ฉีกขาดถูกนำมาปิดตาร่างเล็กดังเดิม สองแขนถูกรวบขึ้นตึงอยู่เหนือศีรษะ ขณะริมฝีปากเล็กถูกรุกรานด้วยลิ้นจนไม่มีแม้แต่จังหวะที่จะพูด

มือหนาข้างที่เหลือจับแก่นกลางของตัวเองจ่อที่ช่องทาง ก่อนจะดันมันเข้าไปครั้งเดียวจนสุดลำแท่ง

ท้องน้อยของอีกฝ่ายถูกดันขึ้นเล็กน้อยเพราะความยาวจากแก่นกายที่อยู่ด้านใน คนตัวเล็กถึงกับชะงักค้าง นัยน์ตากลมโตเบิกกว้างภายใต้ความมืด น้ำใสที่ตาไหลรินก่อนจะกรีดร้องออกมาทันที

“เลเจ็บ!!!” มันเจ็บยิ่งกว่าครั้งก่อนหลายสิบเท่า เจ็บราวกับเนื้อกำลังถูกมีดคมกริบกรีดจนฉีกขาด “เอามันออกไป!! เลเจ็บ!! เจ็บ พี่จ๋าเอาออกไป ฮือออ”

“อา…” ร่างสูงไม่ได้สนใจที่อีกฝ่ายคร่ำครวญ ฮิมเลียริมฝีปากเขาตกอยู่ในผะวงแห่งความกระหายอยากที่จะกินคนใต้ร่างเข้าไป นัยน์ตาคมประกายวาบวับ เสียงครางทุ้มที่ออกมาจากร่างหนาบ่งบอกถึงความพึงพอใจ

มันทั้งคับแน่นและบีบรัดราวกับว่าจะทำให้แท่งเนื้อขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านในแหลกละเอียด ผนังร้อนนุ่มไปทุกที่ที่สัมผัสทั้งยังตอดรัดและขมิบรัวอย่างเชิญชวน

ร่างสูงออกแรงขยับกายทันทีโดยที่ไม่รับให้อีกฝ่ายได้ปรับสภาพ อารมณ์ดิบและความกำหนัดครอบงำเขาเสียจนลืมความเจ็บปวดของน้องไปสนิท สะโพกหนากระแทกกระถั้นเข้าถ้ำที่ยังไม่เคยมีใครได้เข้าไปสำรวจ ยิ่งถี่รัวเท่าไหร่คนที่เสือกกายอยู่ภายในยิ่งเป็นสุข ต่างจากคนรองรับที่เป็นทุกข์ทุกครั้งที่ร่างสูงกระชั้นเข้ามา ไม่นานนักเลือดสีเข้มก็ไหลหยดไปตามเรียวขา นัยน์ตาคมหลุบลงมองแท่งเนื้อร้อนที่มีเลือดติดอยู่ มือหนาเอื้อมไปเล่นกับแก่นกายอีกฝ่าย แล้วตั้งใจกระแทกหาจุดกระสันของคนใต้ร่างจนเจอ เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจึงเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด ร่างสูงมอมเมาเขาด้วยความกำหนัด แก่นกายที่เสือกไสอยู่ภายในครูดไปตามผนังจนรู้สึกเสียวซ่าน เข้าลึกและถี่กระชั้น ริมฝีปากบดเบียดกับตุ่มไตจนเปียกแฉะและเริ่มบวมเปล่ง แท่งเนื้อของเลไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่นิ่งๆ มันถูกมือหนาชักนำจนมีน้ำปริออกมา

“ฮึก! ฮือ อ๊ะ! อ๊ะ!” เสียงร้องไห้สลับกับเสียงครางไปมา ความเจ็บปวดจากการเสือกไสจนช่องทางได้เลือดมันยังไม่หายไปไหน เลเจ็บ ทั้งเจ็บทั้งทรมาณ แต่เป็นความทรมาณที่บอกไม่ถูก ปวดหนึบที่แก่นกลาง เสียวซ่านที่ยอดดอก แม้กระทั่งช่องทางที่มีเลือดไหลนอกจากความเจ็บปวดเขายังรู้สึกได้ถึงความใคร่ของตัวเอง

“อ๊ะ! อ๊า! อ๊ะๆๆ อ๊ะ! อ๊า” เสียงครางของคนใต้ร่างมันปลุกอารมณ์ ฮิมปล่อยข้อมือบางที่ตัวเองรวบเอาไว้ออก ก่อนจะเลื่อนมาจับเอวคอดแล้วเพิ่มความเร็วถี่กระชั้นจนเกิดเสียงหยาบโลนยามกระแทกเข้าไปในช่องทางคับแคบและเหมือนร่างบางจะตอบรับกันเป็นอย่างดี เลตอดรัดโดยไม่รู้ตัวจนแท่งเนื้อเริ่มขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สองมือบางเลื่อนมาขย้ำกลุ่มผมสีดำของคนที่กำลังเลียรอบๆ ยอดอกของตนเอง

เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมองคนที่กำลังกัดริมฝีปาก ใบหน้าสวยเผลอแสดงอาการเสียวซ่านจากความใคร่อย่างไม่รู้ตัว มือบางเลื่อนจากกลุ่มผมไปที่แผ่นหลัง นิ้วเรียวกรีดกรายแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายจนเป็นรอย มันไม่ได้เจ็บแต่เพิ่มความกำหนัดให้ทั้งสองพุ่งพรวด

เสียงเฉอะแฉะบริเวณช่องทางดังอย่างหยาบโลน เสื้อสีดำที่ปิดตาอยู่ถูกดึงออก นัยน์ตาคมจ้องเข้ากับคนใต้ร่างก่อนอีกฝ่ายจะเป็นคนละออกไปก่อน มือหนาเลื่อนไปจับใบหน้าสวยแล้วบังคับให้ดวงตากลมโตมองเขาเหมือนเคยก่อนโน้มกายทาบริมฝีปากกับคนตรงหน้าอีกครั้ง ลิ้นร้อนตวัดพันกันไปมาพอๆ กับจังหวะกระชั้นพร้อมกับมือหนาที่กำลังจับแก่นกายเล็กเร็วระรัวขึ้นกว่าเดิมราวกับเครื่องจักร ฮิมคำรามในลำคอทีหนึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่หยาดเหงื่อบนหน้าผากหล่นลงใส่คนที่อยู่ใต้ร่าง ความร้อนแผดเผาสองร่างบนเตียงราวกับอยู่กลางทะเลทราย

“อ๊ะๆๆๆ” ตัวเลสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกแม้กระทั่งเสียงคราง มันสั่นไหวระรัวยามร่างสูงกระแทกกายเข้ามาเร็วเกินกว่าจะนับจังหวะได้ แผ่นอกเล็กเผลอยกขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ มือเรียวเกี่ยวแผ่นหลังกว้างเอาไว้เป็นที่ยึดเกาะ ร่างบางเกร็งแน่น ทุกส่วนตึงแข็ง คนตัวสูงครางทุ้มอย่างพึ่งพอใจก่อนจะจับขาเรียวแยกออกจากกันให้ได้มากที่สุดแล้วเร่งจังหวะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะน้ำสีขุ่นจากสองแก่นกายจะพุ่งทะยานออกมาพร้อมๆ กัน “ไม่… ไหวแล้ว พี่จ๋า อ๊า!!”

พรึบ!

เลทิ้งตัวลงบนเตียงทันทีที่ปลดปล่อย เสียงหอบพร่าสะท้านอยู่ในลำคอ พอๆ กับหัวใจที่ยังคงเต้นระรัวไม่หยุด

“อะ…อา” ร่างสูงเปล่งเสียงครางผ่านลำคอ ใบหน้าหล่อเหลาชื้นไปด้วยเหงื่อขณะฉีดน้ำสีขุ่นจำนวนมหาศาลใส่เข้าไปในช่องทางคับแคบ ฮิมหอบหายใจ นัยน์ตาคมหลุบลงมองขาเรียวที่ยังสั่นระริก ช่องทางสีอ่อนขนาดเล็กราวกับรูเข็มนั่นมีน้ำกามของเขาไหลปนเลือดออกมาอย่างหยาบโลน เสียงสะอื้นดังมาจากคนตัวเล็ก เจ้าของใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยน้ำตาขณะพยายามฟุบหน้าลงกับหมอน  ความอายมันตอกหน้า เลไม่มีแรง แม้กระทั่งขา… เขายังไม่มีแรงที่จะหุบมันเข้ามาดังเดิม

“อย่าร้องสิคนดี” เสียงแหบพร่าปลอบประโลมคนที่กำลังร้องไห้หากนัยน์ตาคมกลับไม่สื่อความหมายเหมือนคำพูด มันส่องประกายวาววับ บ่งบอกว่าแค่ครั้งเดียวยังไม่เต็มอิ่ม มือหนาเอื้อมไปปาดน้ำตาที่กำลังไหลขณะเดียวกันก็แทรกแก่นกายเข้าไปเป็นครั้งที่สอง คนที่รับรู้ได้ถึงเนื้อร้อนถึงกับสะดุ้งตัว ร่างเล็กพยายามดันตัวออกเพราะความเหนื่อยหล้า ทว่ามือหนาก็มาจับแขนทั้งสองข้างเอาไว้พร้อมกับออกแรงดึงคนที่คิดจะหนีเข้าหาตัว เป็นผลให้ช่วงล่างกระแทกเข้าหากันโดยอัตโนมัติ อาการเสียวจากช่วงล่างส่งผลให้เลกัดปาก คนสวยเผลอแสดงสีหน้าที่ทำให้คนเห็นใคร่ปรารถนายิ่งกว่าเดิม “ครางให้พี่ฟังดีกว่า”

“เหนื่อย อ๊ะ! อ๊าๆ ไม่วะ… ไหว” ขาเรียวข้างหนึ่งถูกยกขึ้นพาดบ่าแกร่ง สะโพกหนาถือจังหวะกระชั้นกายเข้าไปอย่างรวดเร็ว อาศัยน้ำกามในครั้งก่อนเป็นน้ำหล่อลื่นชั้นดี มือหนาเลื่อนลงส่วนที่ไวต่อสัมผัสของอีกคน แค่จับมันเบาๆ น้ำสีขุ่นก็ปริออกมาแล้ว “ฮิมจ๋า”

“หืม” เสียงทุ้มขานรับ ขณะชักนำแก่นกลางขนาดเล็กขึ้นลงเร็วรี่ น้องปลดปล่อยใส่มือเขาอย่างรวดเร็ว ฮิมกอบกุมน้ำกามของคนตัวเล็กเอาไว้แล้วใช้มันชะโลมแท่งเนื้อที่ให้น้ำนั่นมาจนชุ่ม ส่วนที่เหลือถูมันไปตามลำตัวนุ่ม ร่างสูงนอนตัวลงนอนตะแคงข้างอีกฝ่ายแต่ยังไม่ยอมถอนแก่นกายออก มือหนายกขาเรียวขึ้นแทนการพาดบ่าก่อนจะเสือกไสกายเข้ามาจากทางด้านข้างแทน

“อ๊ะ! เล...ฮึก! เลเสียว อื้อ!” มือหนาข้างที่เหลือจับใบหน้าสวยเข้ามาประกบจูบ ร่างสูงดูดดันและตวัดเลียลิ้นของอีกฝ่ายไปมาก่อนจะถอนออกแล้วจับร่างผอมขึ้นนั่งหันหลังให้เขาด้านบน ฮิมคอยกระแทกอีกฝ่ายจากทางด้านล่างจนน้องตัวโยนไปมา กระทั่งอารมณ์ใกล้ถึงขีดสุด มือหนาจึงรวบแขนเรียวมาดึงลงมาด้านหลัง กระแทกกระทั้นกระชั้นถี่เสมือนเครื่องจักรจนแผ่นอกบางยกขึ้น ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเพราะความใคร่ ยามลำแท่งใหญ่กระแทกใส่จุดกระสัน ขาเรียวแยกออกเองโดยอัตโนมัติเพื่อให้เนื้อร้อนแทรกเข้าไปได้สะดวกขึ้น ร่างบางตึงเกร็งอีกครั้งหนึ่งเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย นัยน์ตากลมโตมองส่วนไวต่อสัมผัสของตัวเองที่ตั้งตระหง่านเพราะความใคร่ ท้ายที่สุดมันก็พุ่งน้ำสีขุ่นอีกครั้งหนึ่ง

เลเสร็จ… อีกแต่คนไม่

ร่างเล็กที่ถึงจุดหมายถูกกระตุ้นอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้งเมื่อแรงกระชั้นถี่ยังไม่ยอมหยุด นัยน์ตาโตปล่อยให้น้ำตาไหลรินใส่คนด้านล่างที่ยังไม่ยอมหยุดการกระแทกจนกระทั่งเลแตกเป็นครั้งที่สาม

คนตัวเล็กล้มตัวลงเตียงแล้วหลับตาเตรียมสลบทันทีที่จบศึก ถ้าไม่ใช่ว่าคนข้างกายสอดใส่เข้ามาอีกครั้ง… อีกครั้ง และอีกครั้ง กินเวลายาวนานจนคนรองรับหมดสติไปเอง






(100%)

ไม่ได้แต่งฉากเอ็นซีมานานมาก ดีไม่ดียังไงขอโทษด้วยค่ะ รื้อฟื้นไม่ทัน5555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-04-2017 22:01:20
น้องเลตายคาเตียงแน่ๆเลยลูก หุหุ
เค้าได้กันแล้วแก
พี่ฮิมเค้าฟาดน้องแล้ว
 :impress2: :hao7: :hao6:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-04-2017 22:07:42
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 15-04-2017 22:17:43
จัดแบบอัดอั้น5555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 15-04-2017 22:24:51
 :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 15-04-2017 22:32:45
พี่ฮิมไม่ถนอมน้องเลยอะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 15-04-2017 22:56:06
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 15-04-2017 22:56:23
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 15-04-2017 23:04:46
พี่ฮิมรุนแรงมาก พอน้องยอมแล้วเล่นน้องซะหนักเลย เก็บกดมานานสินะ :m10: :m10: :m10:

 :pig4: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-04-2017 23:11:39
น้องเลโดนกินแบบ :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: พี่ฮิมน้องมันจะลุกไหวไหมน่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Timber Huang ที่ 15-04-2017 23:18:33
ครั้งแรกก็จัดหนักจัดเต็มเลยเหรออออออ อิพี่ฮิม!!!! :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-04-2017 23:44:48
ตายๆๆๆๆ น้องเลตายคาเตียง
พี่ฮิมก็นะ จัดน้องหนักไปหน่อยไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 15-04-2017 23:50:29
 :pighaun:
ได้น้องเเล้วก็จัดการเคลียทุกสิ่งเนอะพี่ฮิม
เดี๋ยวน้องเข้าใจผิดอีก
 :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-04-2017 00:15:33
เลสลบไปเลย...
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 16-04-2017 00:39:33
 :z1: รอตอนต่อไปค่ะ....ขอหวานๆ+ :jul1: จะดีมาก....ให้สมกับที่รอมานาน :z1: ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 16-04-2017 00:46:44
พี่ฮิมรุนแรงมากกก โอ้ย หลังจากนี้ดูแลน้องดีๆด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 16-04-2017 00:53:30
ครั้งแรกก็จัดหนักไปไหม ฮืออออ พี่ฮิมสงสารน้องบ้างสิ  :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: wasu ที่ 16-04-2017 01:28:34
โอ้ววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 16-04-2017 03:01:16
หลังจากนี้กลัวน้องจะตายคาอกฮิมแน่ๆ เพราะถ้าทางของฮิมแล้ว ในเมื่อมันเกิดครั้งที่1 มันจะมีต่อเลื่อยๆแบบคนไม่รู้จักอิ่ม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 16-04-2017 06:20:07
จบศึกครั้งนี้ระหว่างพี่ฮิมกับน้องเลจะเปลี่ยนมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 16-04-2017 06:29:52
บอกได้แค่ว่าเลบอบช้ำมากค่ะ พี่ฮิมสายเอสใช่มั้ย  :pighaun:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 16-04-2017 06:38:32
เลตายแน่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 16-04-2017 07:46:54
ค่อยๆอ่านทีตะตัวช้าๆ 555กลัวพลาดช๊อตเด่น แต่เด็ดทุกช๊อต จริงๆ
แต่ฮิมครั้งแรกของน้องเลไม่มีเบรคกันเลย จัดหนักจัดเต็มมากมาย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 16-04-2017 08:34:27
สมใจน้องเล แล้วก็..............สมใจคนอ่าน 555+++  :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 16-04-2017 10:41:50
ฮิมได้กินน้องทีนี่ เอาซะเต็มที่เลย

น้องเดี้ยงแน่เลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 16-04-2017 12:05:59
อยากอ่านต่อ อิอิ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 16-04-2017 14:09:08
 :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 16-04-2017 15:55:37
พี่ฮิมรุนแรงและร้อนแรงมากค่าาาาาาา ดูแลน้องด้วยนะไม่งั้นยกให้พี่วิน  :m25:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-04-2017 17:29:39
 :m25:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 16-04-2017 19:30:19
ถนอมซะอย่างดี
ถึงทีหน้ามืด ไม่มีถนอมกันเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: wildride ที่ 16-04-2017 19:56:21
O M G !!
สำหรับความประทับใจ(ในครั้ง)แรกนั้น ... เอ้อ  :ling3: .. ขอข้ามไป ละไว้ในฐานะที่เข้าใจ (ได้มั่ง ไม่ได้มั่ง)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 16-04-2017 21:14:59
เก็บกดสินะคะพี่ฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 16-04-2017 22:40:12
พี่ฮิมอย่าลืมเคลียร์เรื่องคาใจกับน้องนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 17-04-2017 00:05:33
พี่ฮิมเล่นซะน้องสลบเลย อดทนมานานพอถึงเวลาจัดหนัก จัดเต็ม :-[ แล้วเคลียร์กับน้องเรื่องนังปริมด้วยนะ จัดการนางด้วย ทำน้องเจ็บ :angry2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 17-04-2017 17:32:56
 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 17-04-2017 19:13:20
พี่ฮิมไม่เบากับน้องเล้ยยยยย
น้องช้ำหมดแล้วมั้งงง ตื่นมาไม่สบายแน่ๆ เจอพี่ฮิมจัดหนักเข้าไป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 17-04-2017 21:22:38
 :jul1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-04-2017 22:16:06
 :m25:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 17-04-2017 22:55:02
ตื่นเต้นๆ รอตอนต่อไป จะเกิดอะไรขึ้นบ้างงงง รอน้าาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 20-04-2017 13:04:34
สุดๆจร้งๆ แบบทำต่อไแปเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(100%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 20-04-2017 13:57:10
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 20-04-2017 23:36:00


#16

มันเหมือนความฝัน ถ้าไม่ใช่ว่าภาพจากเหตุการณ์เมื่อวานมันฝังอยู่ในหัว เขากรีดร้อง ครวญครางอยู่ใต้ร่างสูงขณะที่อีกฝ่ายกระแทกกระทั้นกายเข้ามาด้านใน

เลตื่นขึ้นตอนบ่ายกว่าๆ ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดร้าวไปทั้งตัว ก่อนจะพบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล เขาถูกปลุกเนื่องจากเสียงรบกวนภายในห้อง ความหวังแรกคือตื่นขึ้นมาแล้วเห็นคนที่เป็นสาเหตุของอาการปวดร้าวไปทั้งตัว แต่แล้วมันก็เป็นได้แค่ความหวัง เพราะทันทีที่เขาตื่นสิ่งแรกที่เห็นคือพี่วินที่กำลังทำหน้าแบบที่เดาความรู้สึกไม่ออก เหมือนอึดอัดก็ไม่ใช่ โกรธก็ไม่เชิง เหมือนความรู้สึกไม่ดีทั้งหมดทั้งมวลมารวมกันแต่ยังไม่ถึงขั้นเกลียด อีกฝ่ายเบิกตากว้างเมื่อเห็นเขาลืมตา ก่อนจะเรียกคุณหมอและพยาบาลให้ปรี่เข้ามารุมตรวจร่างกาย

จับใจความจากที่หมอพูดได้คร่าวๆ ว่าช่องทางของเขามันฉีกออก ต้องกินยาและทาตรงบริเวณนั้นถึงจะหาย ร่างเล็กนั่งฟังเงียบๆ มีมือหนาวางทาบลงบนศีรษะคอยลูบกลุ่มผมสีดำสนิทเบาๆ เป็นการปลอบประโลม

“ฮิมอยู่ไหนเหรอ” เลถามหลังจากที่คุณหมอและพยาบาลเดินออกจากห้องไป วินหันหน้ามามองอีกฝ่าย ไม่รู้จะตอบยังไงดี ว่ากันตามตรง วินไม่รู้ว่าคนที่น้องเรียกหาตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน ตั้งแต่เมื่อคืนที่จู่ๆ มันโทรเรียกเขามาที่โรงพยาบาลด้วยน้ำเสียงร้อนรนแบบที่ไม่เคยเป็น ทว่าพอเขามาถึงเจ้าตัวก็ไม่อยู่แล้ว และทันทีที่เห็นสภาพเลเมื่อคืน เขาก็ถึงกับลืมอีกฝ่ายไปเลยเหมือนกัน

ร่างกายขาวเต็มไปด้วยรอยจูบ เลือดที่ไหลออกมาจากช่องทางที่ฉีกขาดยังติดเป็นคราบอยู่ตามขาเรียว มันเละเสียจนคนเป็นหมอยังต้องถามย้ำให้แน่ใจว่าเลไม่ได้โดนผู้ชายข่มขืนมา

วินตอบว่าไม่ แต่จะข่มขืนจริงไหมเขาไม่รู้

“เต็มใจหรือเปล่า” เจ้าของเสียงทุ้มถามจริงจัง แต่เหมือนคนฟังจะไม่เข้าใจคำถาม “มันไม่ได้ข่มขืนเลใช่ไหม”

ร่างบางเงียบไปก่อนจะส่ายหน้า “เลเสนอตัวให้เอง”

“ทำไมเป็นคนแบบนี้” วินอดตำหนิไม่ได้ เขารู้อยู่บ้างว่าสองคนนี้ต้องมีอะไรบางอย่างต่อกัน แต่ไม่คิดว่ามันจะมาอยู่ในรูปแบบนี้

คนโดนดุถึงกับเงียบ ก่อนจะตอบเสียงแผ่ว “เลกลัวฮิมจะเป็นของคนอื่น”

“มันบอกเหรอว่ามันเป็นของคนอื่น”

“ไม่รู้” เลตอบเสียงเรียบ นัยน์ตากลมโตปิดลงคล้ายคนเหนื่อยล้า “แต่เลหวงพี่ฮิม  เลแค่รู้สึกเหมือนคนๆ นั้นจะเอาฮิมไปจากเล เลไม่ยอม”

ร่างสูงเม้มริมฝีปากตรงแน่น เสียงทุ้มพูดทิ้งท้าย “พี่หวังว่าเลจะไม่เสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้”

ถ้าให้เขาทายตัวตนที่แท้จริงของฮิม เมื่อคืนมันยังแสดงออกได้ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ วินกลัวว่าน้องจะเสียใจที่ตัดสินใจผิดพลาด พอๆ กับที่ใครสักคนกลัวว่าเลจะรับตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไม่ได้นั่นแหละ





เรื่องของเลตอนนี้พี่ๆ ทุกคนในบ้านรู้แล้ว แต่พอรู้แล้วก็ปิดปากเงียบกันโดยอัตโนมัติ เพราะไม่เคยคิดฝันว่าสองคนนี้จะข้ามขั้นจากพี่น้องมาเป็นอย่างอื่น

“...” คนที่เงียบที่สุดคือรพ อีกฝ่ายเริ่มเข้าใจทันทีว่าทำไมตอนที่เขาให้ถุงยางอนามัยกับเล ฮิมถึงได้รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนั้น ที่แท้ก็เพราะแบบนี้ พวกเขาไม่ได้อยู่กับเลและฮิมนานเหมือนอย่างวิน ดังนั้นเวลาฮิมสั่งให้คนไปตามเลเป็นโขยงก็นึกว่าเป็นเพราะห่วงน้องแบบธรรมดา ไม่นึกว่ามันจะกลายมาเป็นแบบนี้

“แล้วตอนนี้น้องเลอยู่ไหน” ผาที่รีบมารวมตัวกับเพื่อนถามวินที่โทรมาบอกเรื่องนี้ทางโทรศัพท์ก่อนจะได้รับคำตอบ “อยู่โรงพยาบาลเหรอ แล้วพวกกูต้อง… ไม่ต้องไป?... เออๆ แค่นี้แหละ”

ติ๊ด!

“วินมันว่ายังไง” เจ้าของเรือนผมสีแดงหันไปถามเพื่อน

“น้องเลอยู่โรงพยาบาล ไม่ต้องไปเยี่ยม เดี๋ยวก็กลับแล้ว” เกิดความเงียบชั่วขณะ ก่อนเจ้าของเรือนผมสีแดงจะหันไปถามคนที่ยังทำหน้าตาเรียบนิ่งไม่เหมือนคนอื่น

“เกียร์มึงรู้เรื่องนี้อยู่แล้วหรือเปล่า” เกียร์ไม่ได้สนิทกับเล แต่มันเป็นคนที่เหมือนฮิมมากที่สุด แถมความสัมพันธ์ระหว่างฮิมกับเกียร์ก็แตกต่างจากพวกเขาเล็กน้อย เพราะฐานะทางครอบครัวของอีกฝ่ายมันไม่เหมือนกับพวกเขา ดังนั้นสิ่งที่เกียร์ต้องทำหนักกว่าคนอื่นก็คืองาน ที่กลับบ้านตอนตีสองตีสามก็เพราะสาเหตุนี้ และงานที่ว่าก็หนีไม่พ้นงานของฮิม ความสัมพันธ์ของสองคนนี้ก็เลยกลายเป็นเจ้านายกับลูกน้องเต็มขั้น แต่อารมณ์เหมือนลูกน้องคนสนิทพ่วงตำแหน่งเพื่อนไปด้วย

“กูรู้” อีกฝ่ายตอบ

“แล้วทำไมมึงไม่บอก”

“บอกพวกมึงแล้วได้อะไร” นัยน์ตาคมหรี่ลง “มันไม่ได้อะไรเลย”

“...”

“พวกมึงไม่ต้องยุ่งหรอก คนตัดสินใจคือสองคนนั้น แล้วก็อย่าทำเรื่องให้มันยุ่งยากอย่างคิดหาทางออกให้คนอื่น”





“พี่วิน ฮิมอยู่ไหน” เสียงเล็กถามอีกครั้งขณะที่ร่างสูงกำลังเก็บของเพื่อพาเจ้าตัวกลับบ้าน แต่ถามสามรอบแล้วพี่วินก็ไม่ยอมตอบ อีกฝ่ายบ่ายเบี่ยงไปหาเรื่องอื่นตลอดจนเลต้องกดเสียงต่ำแสดงอาการไม่พอใจ “ตอบ”

แอด

ประตูเปิดออกมาพร้อมกับคนที่ถูกถามหา นัยน์ตากลมกวาดมองร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาก่อนจะโดนคว้าตัวเข้าไปกอด ใบหน้าหล่อเหลาแนบริมฝีปากเข้าที่หน้าผาก “พี่ขอโทษ”

“...”

“พี่ทำให้เจ็บใช่ไหมคนดี”

“หายไปไหนมา” เสียงหวานเมินทุกประโยคที่ฮิมว่า นัยน์ตากลมโตหรี่ลงเหมือนรอคอยคำตอบ เขาตื่นมาพร้อมกับความเจ็บปวด เจ็บใจยังไม่หายต้องมาเจ็บกายอีก ทีแรกอารมณ์มันเศร้าไปหมด แต่หลายชั่วโมงผ่านไปตัวต้นเหตุยังไม่โผล่หัวมาให้เห็นจากเศร้ามันก็อัดอั้นกลายเป็นโกรธแทน

“...” ฮิมไม่ตอบนั่นทำให้คนที่รอคำตอบอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้น

“ถามว่าหายไปไหนมา!!”

“...” ร่างสูงนิ่งเงียบ เขามีคำตอบแต่มันเปิดเผยกับเลไม่ได้

“อ๋อ… ไม่ตอบ ได้ฮิมได้”

แควก

มือบางกระชากเข็มต่อสายน้ำเกลือที่ฝั่งอยู่ในด้านบนของมือ ตามมาด้วยเลือดที่ไหลลงเตียงท่ามกลางความตกใจของอีกสองคนฝ่ายในห้อง

“เล!!” นัยน์ตาคมเบิกกว้าง มือหนาเอื้อมไปคว้าข้อมือของอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติแต่ก็โดนสะบัดออก “คนดี…”

“พี่วินเสร็จหรือยัง” เจ้าของใบหน้าสวยหันไปถามอีกคน นัยน์ตากลมเห็นว่าพี่วินเก็บทุกอย่างครบหมดแล้วจึงค่อยก้าวขาลงจากเตียง แต่ทันทีที่ยืนได้ด้วยตัวเองอาการเจ็บบริเวณช่องทางมันก็รุมเร้าจนเข่าแทบทรุด

อาการที่แสดงออกทางสีหน้าทำให้คนเห็นรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเจ็บ วินรีบบอก “รอนี่แหละเดี๋ยวไปเอาวีลแชร์มาให้”

“ไม่เอา!! เลจะเดินเอง”

“ไม่ไหวหรอก”

“ไหว!!” เลปฏิเสธ ว่ากันตามจริงคือไม่อยากอยู่ในห้องกับพี่ฮิมสองต่อสอง ร่างเล็กทนต่อความเจ็บปวดด้วยการกัดริมฝีปากขณะเดินไปหาพี่วินแล้วดึงให้ร่างสูงเป็นคนพาเดินออกจากห้อง ฮิมมองตามหลังนัยน์ตาคมกริบหันไปมองหยดเลือดที่เปื้อนอยู่บนเตียงก่อนจะเลียริมฝีปากพร้อมกับเดินตามหลังอีกฝ่ายไปแบบเงียบๆ

ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าสวยถึงกับชื้นเหงื่อเมื่ออาการเจ็บบริเวณช่องทางด้านหลังมันเล่นงาน จนในที่สุดความอดทนมันก็ถึงขีดจำกัด เลหยุดเดิน ร่างเล็กแทบจะทรุดลงไปกับพื้นถ้าไม่โดนคนที่เดินตามมาอุ้มขึ้นเสียก่อน ฮิมหลุบตามองคนที่กำลังซบศีรษะเข้ากับบ่าเขาทันทีที่โดนอุ้ม เลหน้าซีด ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันบ่งบอกว่าร่างบางเจ็บขนาดไหน ฮิมตัดสินใจไม่พูดอะไรก่อนจะอุ้มคนที่ไม่มีแม้แต่แรงโต้แย้งเดินตามหลังเพื่อนสนิทไปจนถึงที่รถ



บ้าน

ผมนั่งรถกับพี่วินจนกระทั่งมาถึงบ้าน ส่วนพี่ฮิมหลังจากที่อุ้มผมมารถพี่วิน เขาก็เดินไปที่รถตัวเองแล้วขับตามมา

“จะให้อุ้มหรือเดินเอง” พี่วินถามหลังจากจอดรถเสร็จ เหตุการณ์ที่โรงพยาบาลทำให้ผมสยองจนต้องตอบเป็นนัยๆ ให้พี่วินรู้

“เลเจ็บ” ตอนอยู่โรงพยาบาลผมกัดฟันเดินเอง แต่สุดท้ายก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหว มันเจ็บมาก ยิ่งเดินก็ยิ่งเจ็บ พอโดนฮิมอุ้มไปที่รถผมเลยไม่บอกให้เขาวางลง

พี่วินพยักหน้าก่อนจะเดินลงจากรถ ในขณะที่ผมนั่งรอจนกระทั่งประตูรถถูกเปิดออก ทว่าคนเปิดกลับไม่ใช่พี่วินแต่เป็นพี่ฮิมแทน นัยน์ตากลมหลุบลงมองก่อนจะช้อนตัวผมขึ้นโดยไม่เปิดโอกาสให้ผมได้พูดอะไร ผมหันไปมองด้านหลังเห็นพี่วินเดินถือของมาเงียบๆ รู้เลยว่าพวกเขาคงเตี๊ยมกันมา

บ้านเงียบแปลกๆ ฮิมอุ้มผมขึ้นชั้นสองจนกระทั่งถึงห้องนอน มือหนากำลังจะเปิดประตูออกผมก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

“ใครบอกว่าเลจะนอนห้องนี้”

พี่ฮิมหันหน้ามามองผมแบบงงๆ เสียงทุ้มว่า

“นี่ห้องของคนดีกับ...พี่” คำสุดท้ายเบามากจนแทบไม่ได้ยินแต่ผมอ่านปากเขาออก

“เลไม่นอนห้องนี้”

“น้อง…” ฮิมทำหน้าหนักใจทันที

"เลจะอยู่กับพี่วิน ส่วนฮิม..."                 

"..."                   

“จะไปไหนก็ไป"

"...”

“ไปส่งเลที่ห้องพี่วินสิ” ฮิมไม่ยอมเดินผมเลยส่งสายตาคาดคั้นไปให้ จนในที่สุดเจ้าตัวเลยจำใจยอมเดินผ่านห้องนอนของตัวเองไปยังอีกห้องแทน พี่วินที่เดินมาตามหลังถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นฮิมอุ้มผมยืนรอที่หน้าประตูห้องนอนของเจ้าตัว ร่างสูงเดินมาเปิดก่อนพี่ฮิมจะเดินเข้าไปวางผมไว้บนเตียง

แต่วางเสร็จเขาก็ไม่ยอมไปไหน…

“ออกไปสิ” ผมออกปากไล่แต่ร่างสูงกลับทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำพูดของผม ฮิมนั่งลงบนเตียง ส่วนพี่วินพอเห็นปุ๊บก็จรลีออกจากห้องไปแทน “เลบอกให้ออกไป!!”

“โกรธพี่เหรอ”

“ใช่”

“เรื่องไหน”

“หมายความว่ามีหลายเรื่องใช่ไหม” ผมคาดคั้นก่อนจะเลือกถามเรื่องที่ตัวเองกำลังโมโหอยู่ “ฮิมหายไปไหนมา”

“...”

“ตอบ!”

“มันไม่พอ” ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจในคำตอบจนกระทั่งอีกฝ่ายอธิบายต่อ “เลสลบแต่สำหรับพี่มันไม่พอ”

!!!!!!!!!!!!!!!!

ผมถึงกับอ้าปากค้างในขณะที่ถูกคนตัวสูงรวบตัวเข้าไปกอดแล้วซุกใบหน้าเข้ากับบ่า “ไม่จริงน่า…”

“ถ้ายังอยู่ใกล้ พี่หยุดตัวเองไม่ได้แน่”

“แล้วฮิมไปอยู่ไหนมา”

“หืม?”

“คงไม่ได้ไปหาพี่ปริมอีกใช่ไหม!!”

กึก!

เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังซบอยู่ถึงกับชะงัก นัยน์ตาคมหันไปมองต้นคอขาวก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจูบเบาๆ แล้วละออก

เลเซ้นต์แรงจริงๆ

“เปล่าครับ” มือหนากำหมัดแน่น “พี่ไปหาที่อยู่คนเดียว”

...เขาโกหก…

เขาไปหาปริม แต่ไม่ได้ไปหาด้วยจุดประสงค์อย่างที่เลคิด เขาไปเพราะมีเหตุผลอื่น ซึ่งเหตุผลอื่นที่ว่านั้น… มันจะต้องไม่ให้เลรู้



4 ชั่วโมงก่อน

“ปริมวันนี้จะไปดูน้องๆ ซ้อมหลีดไหม”

“ปะ—”

ครืด

โทรศัพท์ที่สั่นขึ้นอย่างกะทันหันทำให้มือเรียวต้องหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นเบอร์แปลกแล้วกดรับสาย

“ใครคะ”

(อยู่ไหน) น้ำเสียงจากปลายสายทำให้เธอเข้าทันทีที่ว่าใครเป็นโทรมา หญิงสาวยิ้มร่าขณะหันไปหาเพื่อนพร้อมกับส่งสายตาอย่างที่รู้ๆ กัน ว่าวันนี้คงไปดูน้องซ้อมหลีดไม่ได้แล้ว (ถามว่าอยู่ไหน)

“ปริมกำลังจะเข้าเรียนค่ะ ฮิมกลับมาถึงไทยแล้วเหรอคะ”

(มาเจอกันที่คลับ)

“คะ ?”

ติ๊ด!

อีกคนกดตัดสายในขณะที่ปริมยังงงงวยกับคำสั่งแปลกๆ แต่ก็ยอมหมุนตัวเดินกลับไปที่รถ

“อ้าว ไม่เรียนแล้วเหรอ” เสียงแซวดังจากเพื่อนดังตามหลัง ร่างบางหัวเราะไม่ได้ตอบอะไรกลับ



คลับ

ที่นี่ไม่เปิดตอนเช้าแต่สำหรับคนที่มาบ่อยๆ จะรู้ดีว่าสามารถเข้าคลับแห่งนี้ตอนเช้าได้ทางด้านหลัง หญิงสาวจอดรถก่อนจะเดินอ้อมไปยังด้านหลังของคลับ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้เดินเข้าไปในคลับ มือของใครสักคนก็มาดึงเอวบางเอาไว้ พอหันกลับไปเห็นว่าใครดึง สาวเจ้าถึงกับชักสีหน้าใส่

“มีอะไร”

“บอสไม่ได้ให้เธอเข้าไปด้านใน” บอสคำเรียกของลูกน้องของฮิม ปริมพอรู้มาบ้างหลังจากที่ได้มีความสัมพันธ์กับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา นอกจากนี้คลับที่เธอกำลังจะเข้าไปฮิมก็เป็นเจ้าของ แต่น้อยคนนักที่จะรู้

“ฮิมเรียกฉันมาที่คลับ”

“เรียกมาที่คลับแต่ไม่ได้ให้เข้าไปในคลับ”

“หมายความว่าไง” ปริมเริ่มเอะใจก่อนจะยอมเดินตามอีกฝ่ายไป แล้วเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนเดินนำหน้าพาเธอมาที่ไหน

จะพูดว่าเธอยังไงก็ได้ แต่ปริมมั่นใจว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ฮิมยอมมีความสัมพันธ์ด้วยนานที่สุด หนึ่งเพราะเจ้าตัวไม่ได้มั่วและไม่เล่นกับผู้หญิงที่ไม่คู่ควรกับตน และสองอาจจะเป็นเพราะเธอวางตัวดีมาตลอด

แต่เพราะเป็นคนที่อยู่กับฮิมนานที่สุดถึงได้รู้ในหลายๆ เรื่อง… และรู้ด้วยว่าโกดังที่อยู่หลังคลับดังมันเป็นสถานที่ที่เอาไว้ใช้ทำอะไร

แต่ตอนนี้ผู้ชายที่เดินนำหน้าพาเธอมาที่นี่นั่นหมายความว่า…

“สันดานผู้หญิงอย่างเธอ”

“อ๊ะ!!” ผมยาวสลวยถูกกระชากจากอย่างด้านหลัง รุนแรงจนคนโดนน้ำตาเล็ด นัยน์ตากลมหันไปมองเจ้าของมือที่จิกอยู่บนหนังศีรษะพร้อมกับพึมพำชื่อของอีกฝ่ายออกมาอย่างตกใจ “ฮิม”

ผลัก!!

ปริมถูกผลักจนร่างไถลลงไปกับพื้น หญิงสาวน้ำตาซึมขณะก้มลงมองบาดแผลตามตัว เสียงหวานถามอย่างไม่เข้าใจ “ทำไม”

ร่างสูงนั่งยองๆ ลง ปริมมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่มีสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะส่งรอยยิ้มเย็นยะเยือกกลับมา ทว่าหลังจากนั้น…

เพี๊ยะ!


ฝ่ามือหนาฝาดลงบนแก้มขาวเป็นผลให้ใบหน้าสวยสะบัดไปตามแรงตบ รุนแรงจนสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดในปาก น้ำในตาไหลลงมาทันที ทว่าหลังจากนั้น ผมยาวสวยก็ถูกกระชากเพื่อบังคับให้หญิงสาวลุกขึ้น ปริมยืนทั้งน้ำตา ร่างบางสั่นไหวไม่กล้าแม้แต่สบตากับคนตรงหน้า

“บอกเกือบทุกครั้งที่เจอหน้า” เสียงทุ้มกดต่ำลงบีบหัวใจให้คนฟังสั่นสะท้าน “ว่าอย่ายุ่งกับเล!!”

“ฮึก… ปริมไม่ได้ยุ่ง— อ๊ะ เจ็บ! ปริมเจ็บ” เสียงหวานปฏิเสธขณะที่มือหนาจิกเข้าหนังศีรษะของอีกฝ่ายให้แรงกว่าเดิม ฮิมกลั้วหัวเราะก่อนร่างสูงจะหันมาตะคอกใส่อีกฝ่าย

“ไม่ได้ยุ่ง ? แล้วเสนอหน้าไปหาน้องทำไม!!”

“ฮึก… เจ็บ! ปริมเจ็บ”

เพี๊ยะ

ฮิมยอมปล่อยมือที่กำลังกระชากเส้นผมนุ่มออก แต่ปล่อยมือแล้วตบหน้าหญิงสาวเป็นครั้งที่สอง แรงตบทำเอาร่างบางล้มไถลตัวลงไปกับพื้นทั้งน้ำตา จนใบหน้าสวยเริ่มขึ้นสีและบวมเปล่ง

“อย่ายุ่งกับเลอีก” ฮิมกล่าวเสียงเรียบก่อนจะส่งสายตาให้คนอื่นมาจัดการต่อ

“ปริมทำอะไรผิด” ถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ความผิดของตัวเอง “ปริมแค่ไปขอเบอร์ฮิมกับน้องละ—”

“ปากน่ะอย่าพล่อย”  นัยน์ตาคมหลุบลงมองหญิงสาวด้วยสายตาเรียบนิ่ง คนที่นั่งอยู่บนพื้นเม้มปาก พยายามคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

เธอแค่บอกน้องเลว่าเธอสนิทกับพี่ชายของอีกฝ่ายขนาดไหน… แล้วน้องเลก็มีปฏิกิริยาแปลกๆ หรือว่า ?!

!!!!!!!!!!!!!!!!

“วิปริต” เสียงหวานพึมพำ ขณะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือหนาที่ตบใบหน้าสวยจนสะบัด “พวกวิปริตคิดอะไรกับน้องตัวเอง!!”

“เลไม่ใช่น้องแท้ๆ” ฮิมแก้ให้ “แต่ถึงเป็นน้องจริงๆ จะคิดไม่คิดก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ ดังนั้นเตือนอีกครั้ง...”

“โอ๊ย!!” เส้นผมสวยถูกกระชากขึ้นไปครั้งที่สาม ปริมถูกบีบคางเป็นการบังคับให้สบตากับคนตรงหน้า เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ส่งสายตาเรียบนิ่ง รังสีอันตรายแผ่ออกมาจนคนสัมผัสถึงมันต้องตัวสั่น ร่างสูงยกยิ้มเย็นขึ้นแล้วเอ่ยเสียงเรียบกึ่งข่มขู่ว่า

“อย่า-ยุ่ง-กับ-เล!”



ผ่านไปสี่วัน ฮิมลาหยุดให้น้องหนึ่งสัปดาห์ รวมถึงส่งคนไปคุยเรื่องซ้อมหลีดกับพี่รหัสของอีกฝ่ายว่าเลไปซ้อมไม่ได้ เพราะตอนนี้แค่ยืนน้องก็ทำหน้าเหมือนจะร้าวไปทั้งตัว ทุกคนในมหา’ลัยรู้แค่ว่าเลลาป่วย แต่ไม่มีใครรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงมันคืออะไร

ขนาดฮิมยังไม่รู้เลยว่าน้องกำลังเป็นอะไร…

เช่นกัน… ผ่านไปสี่วันที่คนตัวสูงต้องนอนอยู่ในห้องคนเดียวด้วยความรู้สึกเหมือนใจจะขาด แถมคนแก้อาการยังนอนอยู่ในห้องที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงยี่สิบก้าว เลยังอยู่ในห้องของวินและไม่มีทีท่าว่าจะยอมย้าย แม้เขาจะออกปากเรื่องนี้ไปมากเท่าไหร่แต่คนตัวเล็กก็สามารถบ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่นได้ตลอด ที่สำคัญคือเลไม่มีทีท่าว่าจะโกรธเขาแล้ว กอดได้ หอมได้ แต่จูบไม่ได้และไม่ยอมย้ายห้อง ฮิมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องเป็นอะไร แต่ที่รู้ๆ คือใจเขามันกำลังจะขาดอยู่รอนๆ

หนึ่งอาทิตย์ที่ไปอังกฤษ กลับมาได้กินแต่หลังจากนั้นก็ไม่ยอมนอนห้องเดียวกัน อารมณ์เหมือนมีอาหารโปรดอยู่ตรงหน้า ลิ้มลองรสชาติไปแล้วแต่กลืนไม่ได้ มันแย่ยิ่งกว่าไม่ได้ลองเสียอีก เพราะได้ลองไปแล้วจึงลืมไม่ลง

ตอนนี้เลกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนตัก หลังจากกินข้าวเที่ยงและกินยาเสร็จ สงสัยเพราะฤทธิ์ยาน้องจึงหลับไป คนตัวสูงตัดสินใจอุ้มอีกฝ่ายขึ้นไปนอนในห้องดีๆ แต่ทันทีที่วางร่างบางลงบนเตียง เลก็ลืมตาขึ้น ยิ่งเห็นว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ห้องไหนเจ้าของใบหน้าสวยถึงกับลุกขึ้นเองทันที

“ง่วงไม่ใช่เหรอ” เสียงทุ้มถามขณะลูบกลุ่มผมสีดำสนิทเบาๆ เลพยักหน้าขณะยกมือขึ้นขยี้ตา

“จะไปนอนห้องพี่วิน” เลพูดเสียงแผ่วก่อนจะลงจากเตียง สามวันมานี้เริ่มเดินได้แล้วแต่เจ้าตัวบอกว่ายังมีอาการเจ็บๆ อยู่บ้างแต่ไม่มากเท่าวันแรก นัยน์ตาคมมองคนที่กำลังเดินไปทางประตูห้องก่อนจะถอยหายใจ ร่างสูงเดินตาม มือหนาจงใจปิดประตูที่ถูกเปิดเข้าที่ดังเดิมพร้อมกับดันร่างเล็กแนบเข้ากับประตูเอาไว้ แผ่นหลังบางแนบเข้ากับอกแกร่งของคนที่อยู่ด้านหลัง มือหนาอีกข้างโอบรอบเอวคอดก่อนจะพลิกให้น้องหันหน้ามาสบตากันตรงๆ

“ยังโกรธพี่อยู่อีกเหรอ” เขารู้ว่าเลหายโกรธแล้ว แต่คิดเหตุผลอื่นนอกจากเห็นอันนี้ไม่ออกแล้วจริงๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ เลส่ายหน้า เสียงหวานเอ่ยย้ำ

“เลไม่ได้โกรธแล้ว”

“แล้วทำไม ?”

“ไม่ได้หมายความเลยอมยกโทษให้พี่ฮิม”

กึก

นัยน์ตาคมเบิกกว้างก่อนจะอ่อนลงพร้อมกับซบเข้าที่กลุ่มผมสีดำของอีกฝ่าย “พี่ขอโทษ”

...เขาผิดจริงๆ นั่นแหละ…

ฮิมไม่สอนเรื่องเพศ และให้น้องรอจนถึงสิบแปด แต่เวลาเลหลับตัวเองกลับไปมีอะไรกับคนอื่น กลับกันถ้าเขาเป็นเลคงรู้สึกอยากฆ่าตัวเองให้ตาย ยิ่งในตอนที่สถานะระหว่างเขากับเลมันชัดเจนขึ้นกว่าการเป็นพี่น้อง ก็ไม่แปลกที่น้องจะยังไม่ยอมยกโทษให้

มือหนาปล่อยคนที่ตัวเองกำลังกอดออก เลไม่แม้แต่จะมอง พอถูกปล่อยตัวร่างบางก็เดินออกจากห้องไปทันที



21.44 น.

ผมใช้ชีวิตแบบกินข้าว กินยา นอน กินข้าว กินยา นอน แบบนี้วนไปวนมาได้สี่วันแล้ว อาการเจ็บเริ่มดีขึ้นตามลำดับ จะยากหน่อยตรงที่ต้องมาทางยาที่ก้น ผมหลอนทุกครั้งที่ต้องทาเพราะเจ็บเวลาต้องเอามือไปโดนแผลตัวเอง แน่นอนหนึ่งอาทิตย์กับอีกสี่วันผมก็ยังนอนที่ห้องพี่วินชนิดที่ไม่มีความเกรงใจเจ้าของห้อง จนร่างสูงเสียเองที่ต้องออกปากพูด

“มึงจะนอนห้องกูอีกนานเท่าไหร่”

“พี่วินรำคาญเลเหรอ” ผมถามขณะที่ตากำลังจะปิด ส่วนพี่วินกำลังแต่งตัว แผ่นหลังกว้างอันนั้นดึงดูดความสนใจของผมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว “ถ้าพี่วินรำคาญงั้นพรุ่งนี้เลจะย้ายไปนอนที่ห้องนั่งเล่น”

ผมว่าเสียงงัวเงียเพราะง่วงมากจริงๆ ซึ่งถ้าพี่วินรำคาญจริงๆ ผมก็คงต้องทำ ถ้าจะไปอยู่กับพี่คนอื่นผมไม่ค่อยกล้า เอาตรงๆ ก็สนิทกับพี่ๆ ทุกคนแต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะด้านไปขอนอนด้วยแบบพี่วิน

“กูไม่ได้รำคาญ” พี่วินว่า “แต่มันอึดอัด”

“ยังไง”

“ตรงที่มึงไม่คืนดีกับพ่อมึงสักทีไง”

พรึบ!

ตาผมสว่างทันที ผมพลิกตัวไปอีกด้านไม่ให้พี่วินเห็นหน้าพร้อมกับถามเสียงอู้อี้ “เรื่องของเลพี่วินมาอึดอัดด้วยทำไม”

“ไม่ใช่แค่กู แต่เป็นทุกคนเลยต่างหาก บรรยากาศในบ้านมันอึดอัดเพราะพวกมึงสองคน”

“แล้วมาอึดอัดกันทำไมเล่า”

“เล มึงน่ะแต่ก่อนก็เอาแต่อ้อนพี่ฮิมนั้นบ้าง พี่ฮิมนี่บ้าง แล้วดูตอนนี้… แตกต่างไหมละ พวกกูไม่ชินมันเลยรู้สึกอึดอัดตาม”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับห้องพี่วิน”

“มึงนอนห้องกู มึงจะเอาเวลาไหนไปดีกัน” ผมเบ้ปากลับหลัง

“เลไม่ยอมยกโทษให้ฮิมง่ายๆ หรอก”

“ทำไม”

“ทำไมต้องทำไม ก็ฮิมโกหกเล”

“มันโกหกตอนไหน”

“ก็… ตอนเลหลับพี่ฮิมแอบไปมีอะไร—”

“แล้วตอนนั้นมึงเป็นอะไรกับฮิม”

กึก!

ผมเม้มปากเพราะพอมาคิดดูดีๆ แล้ว “น้อง… เป็นน้อง”

“แล้วตอนนี้เป็นอะไร”

“เลไม่รู้!!” ผมตะโกนก่อนจะยกผ้าห่มคุมโปงตัวเอง ถึงอย่างนั้นเสียงของพี่วินก็ยังดังเข้าหู

“เพราะไม่ไปคุยกันดีๆ กูไม่ได้อยากจะเข้าข้างเพื่อนแต่เล... ตอนนี้มีเหตุผลเดียวที่มึงจะโกรธหรืองอนพ่อมึงได้ก็คือฮิมไม่ยอมสอนเรื่องเพศแต่ตัวเองดันไปมีอะไรกับคนอื่น แต่ถ้าพูดตรงกันๆ มึงจะโกรธก็ไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะมันเลยสิบแปดไปแล้วด้วย แถมตอนนั้นมึงกับมันก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน จะบอกว่าตอนนั้นคิดอะไรกันอยู่กูไม่สนเพราะมึงไม่ได้เป็นอะไรกัน ว่ากันตามตรงมึงงอนพ่อตัวเองไม่ได้และฮิมมันก็ไม่มีโทษอะไรที่มึงต้องมาถือสิทธิ์ว่าจะยกโทษหรือไม่ยอมยกโทษเป็นเรื่องของมึง!!”

“แต่ฮิมก็รู้ว่าเลหวงพ่อขนาดไหนแล้วเขายังทำ!!”

“จะหวงยังไงกูไม่สน เลมึงเข้าใจคำว่าไม่ได้เป็นอะไรกันไหม ต่อให้มันมีอะไรกับผู้หญิงสิบคนมันก็ไม่ผิดเพราะมึงไม่ได้เป็นอะไรกัน จะบอกว่าเลเสียตัวให้แล้วฮิมก็ต้องรับผิดชอบเหรอ ? หรืองอนตอนที่ตื่นมาแล้วไม่เจอหน้ามัน เล!! มึงบอกกับกูเองว่าเลเสนอตัวให้เอง ดังนั้นมึงก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธมันอีกเพราะมึงเสนอตัวให้เอง!! ก็ง่ายกับเขาเอง!!”

“ก็ฮิมเคยบอกว่ารักเล!!”

“มันรักแบบไหนเคยถามมันหรือยัง!!”

“พี่วิน…”

“มึงก็รู้ว่าฮิมตามใจมึงขนาดไหน ตั้งแต่ตอนมึงยังเด็กจนถึงตอนนี้ ถึงขนาดยอมรับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ผิด กูไม่รู้ว่าระหว่างพวกมึงจะมีอะไรอีกไหม แต่ในสายตากู ถ้ายังไม่ได้เป็นอะไรกันจะให้มองยังไงฮิมก็แทบจะไม่ได้ผิดอะไรเลย อีกอย่างคือขนาดไม่ได้เป็นอะไรมันยังยอมขนาดนี้ เพราะมันยอมให้มึง ดังนั้นมึงอย่ามาทำตัวเป็นนางเอกที่จะใช้โหมดร้องไห้ขออะไรก็ได้ต่อพระเอกของมึง ฮิมมันยอมรับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ผิดขนาดนี้แล้ว กรุณาให้ความเป็นธรรมกลับกับพระเอกของมึงด้วย!!”

“ฮึก…”

“ไม่ต้องมาร้อง! กูไม่สงสาร ออกจะรำคาญนางเอกแบบพวกมึงมาก ทำไมคิดว่าคนอื่นผิดอยู่เรื่อย ชอบยัดเยียดความผิดให้คนอื่น ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงมึงนั่นแหละที่เป็นคนผิด!!”

“ฮือออ”

“จำเอาไว้เล มึงจะไม่มีสิทธิ์อะไรเลยถ้ามึงกับฮิมไม่ได้เป็นอะไรกัน จนถึงตอนนี้คำว่าแฟนมันหยุดออกมาจากปากฮิมหรือยังละ กูทายว่าไม่ ทำไมเหรอ ? ก็มัวคิดว่าตัวเองจะงอนถึงเมื่อไหร่ก็ได้ สุดท้ายก็ไม่ไปปรับความเข้าใจกันสักที”

“พี่วินใจร้าย ฮือ”

“กูพูดเพื่อให้มึงไปปรับความเข้าใจ ก่อนที่มึงจะไม่ได้อะไรเลย ยอมเสียตัวไปแล้วควรได้อะไรกลับมาบ้างนะ”

...ไม่ไหวแล้ว...

“ฮึก… ฮือ” ผมลุกออกจากเตียงก่อนจะเดินทั้งน้ำตาไปที่ห้องฮิม พอกระชากประตูออกก็เห็นร่างสูงกำลังกึ่งนอนกึ่งนอนสูบบุหรี่อยู่บนเตียง นัยน์ตาคมเบิกกว้างที่เห็นผมก่อนจะรีบดับบุหรี่ลงเป็นเวลาเดียวกันที่ผมวิ่งสู้อ้อมกอดของอีกฝ่าย “พี่ฮิม… เลขอโทษ”

“ขอโทษอะไร”

“ฮือ…”

“วินมันว่าอะไรเล” เขาได้ยินเสียงตะคอกดังออกมาจากห้องของวิน ได้ยินแต่จับใจความไม่ได้ “ชู่ ร้องทำไมคนดีไม่ร้อง”

“ฮึก… ฮือ ขอโทษ เล ฮึก!”

“ไม่ร้องสิ คนดี” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาแนบริมฝีปากเข้าที่ขมับ ขณะที่ปลอบคนที่กำลังร้องไห้เพราะไม่รู้ว่าไปโดนวินพูดอะไรใส่

ผมซุกใบหน้าลงที่บ่าแกร่ง ขณะสะอื้นโดยมีมือหนาลูบที่แผ่นหลังเบาๆ เป็นการปลอบประโลม

“เลขอโทษนะ” หลังจากฟังที่พี่วินพูดผมปฏิเสธไม่ได้ พูดอะไรไม่ออก มันเหมือนอีกฝ่ายงี้ถูกจุดแม้กระทั่งเรื่องของฮิม

“ไม่ร้องนะครับ” ผมเงยหน้าขึ้นยิ่งเขาปลอบผมก็ยิ่งร้องไห้ ฮิมยอมผมจริงๆ ขนาดเขาไม่ผิด เขายังยอมทำให้ตัวเองผิดเลย…


(100%)


ก่อนอื่นขอโทษสตรีทุกคนสำหรับฉากปริม เราไม่ส่งเสริมความรุนแรงต่อสตรีนะคะ แต่เราอยากให้เห็นว่าฮิมไม่สนหัวใครนอกจากเลจริงๆ สำหรับบทนี้มันเป็นบทปรับความเข้าใจมันถึงสั้น แล้วตอนอ่านคอมเม้นท์ที่แต่คนบอกฮิมมาเคลียร์เรื่องปริมเลยนะ ทำน้องเอาไว้เยอะ สงสารเล จริงๆ แล้วอย่างที่พี่วินพูดค่ะ... อย่าสงสารแต่เลเลย สงสารฮิมบ้าง อย่างที่บอกฮิมมีความลับกับเลเยอะ แต่ส่วนใหญ่เขาฮิมไม่ค่อยโกหกเล

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอเท่านั้นน้าาา)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 20-04-2017 23:49:19
พี่วินพูดถูกนะน้องเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-04-2017 23:53:43
ชอบฮิมอ่ะเด็ดขาดดี คุยกันให้เข้าใจสักทีเถอะ จะคบกันแบบไหนอะไรยังไงก็เคลียร์ๆไปเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 20-04-2017 23:55:56
เข้าใจในเหตุผลของผู้แต่งในเรื่องของปริมค่ะ...และขอขอบคุณที่มาอธิบายผู้อ่านให้เข้าใจ.
ตอนนี้เลยอยากอ่านต่อเร็วๆในตอนที่ฮิมกับเลเข้าใจกัย...มาต่อเร็วๆนะค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: Timber Huang ที่ 21-04-2017 00:18:48
พี่ฮิมชอบรุนแรงเหรอ เห็นเลือดแล้วเลียปากอ่ะ :ling3:
ปล.อยากรู้ว่าพี่วินจะได้ใครเป็นแฟน  :mew3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 21-04-2017 00:42:53
ดองไว้นานมาก คือ ระแวง กลัวดราม่า 5555


ชอบวินอะ ชอบคำพูดวิน คือที่ผ่านมาเลเป็นไรกับฮิมคะ ตอบ แฟนไม่ใช่ จริงที่วินพูดเลยคะ ถูกใจ ชอบแรง


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 21-04-2017 00:47:05
กรีดดดดดมาต่ออีกนะ :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-04-2017 00:50:54
ชอบพี่วิน ชี้แจงแถลงไขได้ดีมาก เทศน์น้องเลซะกระจุย ชอบๆๆๆๆ
ปล. ให้พี่วินเป็นพระเอกแทนได้ไหม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 21-04-2017 01:06:50
ชอบในความรักน้องของพี่วิน 5555 น้องเลทำพี่วินหัวร้อนเลย

สงสารพี่ฮิมนะ บรรทัดสุดท้ายทำให้รู้ว่าพี่ฮิมไม่ยอมทุกอย่างเลย ยกเว้นน้องเลที่พี่ฮิมจะยอมให้

ต่อไปพี่ฮิมก็ชัดเจนกับน้องให้มากๆนะ เป็นเราก็คิดนะว่าจะอยู่ในสถานะไหน

พี่ฮิมเดี๋ยวนี้โกหกน้องเริ่มบ่อยแล้วนะ

เราเชื่อว่าสักวันน้องต้องรู้จักตัวตนจริงๆของพี่ฮิม แต่หวังว่าทุกอย่างคงไม่รุนแรงนะ(มั้ง)

ส่วนปริมให้มากกว่านี้ก็ยอมค่ะ

ปล.อยากรู้ว่าในการเลี้ยงน้องของพี่ฮิมในตอนเด็กๆ อยากรู้ว่าเลี้ยงน้องมาได้ยังไง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 21-04-2017 02:05:37
ตอนนี้พี่วินโหดถึงใจมาก เหมือนลากเลไปตบกลางสี่แยกไฟแดง คนอ่านหน้าชาแทนเลย :sad3:

พอมาถึงตอนนี้รู้สึกผิดเบาๆที่เชียร์ให้พี่ฮิมโดนแรงๆบ้าง :a6: เป็นคนเลวที่ความลับเยอะก็งี้แหละสู้ต่อไปนะพี่นะ

เลเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆเลย ถึงจะดูไม่มีเหตุผลในบางที แต่เข้าใจว่าเลถูกเลี้ยงมาแบบนี้ แถมตอนนี้ดูร้ายมากด้วย แซ่บขึ้นๆขึ้นตลอดเลยอิหนูลูก

 :ped149: :pig4: :ped149:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-04-2017 05:51:13
แซ่บๆๆๆๆ   :pighaun: :haun4: :m25:
พี่ฮิม เล  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ฮิม ยอมเลทุกอย่างจริงๆ
แต่ฮิม หื่น พลังความต้องการเกินร้อย แบบปรอทแตกแน่ๆ
ให้สงสัยกับปริม ถึงจุดเท่าเล หรือมากกว่า
คิดว่ากับปริมก็คงไม่ถึงที่สุดของฮิม
เล ต้องฝึกร่างกาย ออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรงเต็มที่สุดๆ
ไม่งั้นสลบ แล้วไม่เต็มอิ่มของฮิม อีกแน่ๆ
อยากเห็นเล แข็งแกร่ง คู่ฮิม อย่างเหมาะสมทุกด้าน
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 21-04-2017 06:32:45
ชอบพี่วินค่ะ

แต่ว่าแหละฮิมเป็นพระเอก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 21-04-2017 07:04:22
บทพี่วินมันพระรองในซีรีย์ชัดๆ555. "ยอมเสียตัวแล้วต้องได้อะไรมาบ้าง"วลีเด็ดดวงมากพี่วิน  o13 ชอบ และเห็นผลชัดเลยสงสัยน้องวิ่งกลับน้องเพราะน้ำนี้แหละ รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-04-2017 08:08:52
ทีมพี่วินนะ หาคู่ให้นางที 55555555555
ปริมก็สมควรโดนนะ นางดูร้ายใช่ย่อย
ตอนนี้สงสารฮิมเบาๆ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 21-04-2017 08:20:08
ก้อเลโกรธอ่ะ แต่ฮิมก้อยอมเสมอ น่ารักผุดๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 21-04-2017 08:21:08
ฮิมมันยอมเพราะรัก
เลก็สมยอมเพราะรัก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 21-04-2017 08:56:14
เล..อย่างอแงมากนะลูก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 21-04-2017 10:44:11
รีบๆปรับความเข้าใจกันซะ รอบทสวีทอยู่  :katai3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 21-04-2017 11:16:16
พี่วินสุดยอดเลยอะ 5555   
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 21-04-2017 11:43:56
ถูกใจวินมาก  :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-04-2017 12:52:52
วินพูดทีเจ็บเลยมะน้องเลรีบวิ่งไปหาพี่ฮิมเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 21-04-2017 13:47:20
เข้าใจพี่ฮิมนะ
แต่ก็ปรับความใจกับน้องซะนะ
พูดกันตรงๆ ไม่ต้องปปิดไรน้องหรอก สอนให้น้องได้รู้จักมากขึ้น
เล่นเอาน้องสลบเลย
ละดูที่พี่วินพูด พี่ฮิมยังแปลงร่างได้ไม่ถึงครึ่ง โอ้โหววววพ่อจะโหดร้ายไปนะอ่ะ

นั่นน้องเลเองงงงงง

 :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 21-04-2017 13:56:20
เป็นแฟนกันไปซะจะได้มีสิทธิ์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 21-04-2017 14:29:15
พี่วินตรงใจเรามากง่ะ ชอบบบบบบ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 21-04-2017 15:32:52
ตอนนี้ฮิมนี่แลหงอกับเลไปเลย หมดมาดบอสโหดเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 21-04-2017 16:05:50
เล เหมือนเด็ก ออทิสติกอะ แถวบ้านก้อมีคนนึง นิสัยประมานเนี่ย ไม่รู้อะไรเลย ไม่ใช่คนซื่อนะ คนซื่อต้องรู้บ้าง แต่นี้ เหมือน สมองไม่ดี ดูช้า ดูไม่รู้เรื่องอะไรสักอยาางเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 21-04-2017 18:38:56
ชอบวินจัง มีเหตุมีผลตลอด  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 21-04-2017 22:14:34
ตอนนี้เอาใจไปเลยค่า #เฮียวินชนะเลิศ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 22-04-2017 11:59:23
วินพูดได้ตรงใจมาก ชอบๆ

ชัดเจนสักทีเถอะนะะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 22-04-2017 14:51:12
พี่ฮิมนี่ขาโหดของแท้
ส่วนพี่วินดีแล้วที่พูด ที่พูดออกมาคือใช่ทุกอย่างเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 22-04-2017 15:57:46
เออ....นี่ป้าขำตัวเองเว้ยเห้ย555
ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉากรุนแรงกับปริมเลยนอกจากสะใจ
คือเลิกแยกเพศมนุษย์บนโลกมานานแล้ว น่าจะตั้งแต่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นสายวาย
สิ่งที่เชื่อและยึดถือคือ ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ทุกๆการกระทำมีผลที่ตามมาเสมอ(ที่คุณต้องรับมันให้ได้ด้วย)
 ชอบnc ที่คุณแต่งนะ แต่ตอนที่แล้วก็สงสารเลจริงๆ
ถึงขั้นด่าฮิมในใจเลยนะว่า
แม่มเอ้ย...ไหนเก่งนักเก่งหนา ทำน้องฟินแบบไม่เจ็บแทบตายไม่เยินปานถูกรุมโทรมก็ไม่ได้
แต่ก็นะ ฮิมหล่อพอให้อภัย รอฟินnc ถัดๆไปก็แล้วกันเนอะ
ขอบคุณค่ะ สำหรับความสนุก ความฟิน ความมีเหตุผลรองรับ
และทุกๆความที่ผ่านไปรวมถึงที่กำลังจะเข้ามา :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 200417#16 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 22-04-2017 16:09:21
#17 (30%)



แขนแกร่งโอบร่างเพรียวเอาไว้ ขณะอุ้มน้องนั่งตักแล้วนั่งฟังเลสาธยายสิ่งที่วินว่าให้เลเงียบๆ

อันที่จริงสิ่งที่วินว่ามันก็ไม่ถูกไปซะทั้งหมดหรอก… จริงอยู่ถ้าเอาเรื่องสถานะมาเป็นตัวตัดสิน เลอาจจะผิด แต่ถ้ามองในมุมของเขา ร่างสูงไม่เคยปล่อยให้ผู้ชายคนไหนมาถูกตัวหรือทำความรู้จักกับน้องด้วยซ้ำ ดังนั้นโอกาสที่เลจะได้สร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นจึงเป็นศูนย์ น้องจึงยึดติดกับเขามาก ยิ่งตอนนั้นมันไม่ใช่แค่สถานะพี่ แต่พ่วงสถานะอื่นแม้จะยังไม่ชัดเจน แต่มันก็ไม่แปลกที่คนๆ หนึ่งจะเสียใจถ้ารู้ว่าคนที่ตัวเองยึดติดไปมีอะไรกับคนอื่น ถึงสถานะในตอนนั้นมันจะยังก่ำๆ กึ่งๆ อยู่ก็ตาม

วินมองว่าเลผิดเรื่องสถานะที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ไม่มีสิทธิ์ในบางการกระทำ แต่ถ้ามองไปที่ต้นเหตุของเรื่องนี้จริงๆ… เขานี่แหละที่ผิดเต็มๆ

นัยน์ตาคมหลุบลงมากลุ่มผมสีน้ำตาลเข้ม เขากอดน้องจากทางด้านหลัง พร้อมกับวางคางบนศีรษะของอีกฝ่าย มือหนากอดเอวคอดแล้วประสานกันเอาไว้อย่างหลวมๆ จนกระทั่งเสียงนุ่มเงียบไปเหลือเพียงเสียงสะอื้น เขาจึงเปลี่ยนท่านั่งโดยการจับเลหันหน้ามาหาแล้วเช็ดน้ำตาที่เปียกไปทั้งวงหน้าสวยเบาๆ

“เลขอโทษนะ” น้องบอกเสียงแผ่ว นัยน์ตากลมโตดูเศร้าจนคนมองใจห่อเหี่ยวตาม ทว่าจู่ๆ มือหนาที่กำลังปาดน้ำตาอยู่ก็ถูกจับเอาไว้ เลจับมันแนบแก้มขณะเอียงใบหน้าเข้ามาถูไถกับฝ่ามือหนา “พี่จ๋า…”

“...”

“สรุปเราเป็นอะไรกันเหรอ”

“ยังไม่รู้อีกเหรอ ?” ฮิมแกล้งถาม แต่คนโดนแกล้งกลับทำตาโตไม่รู้เรื่อง

“เราเป็นแฟนกันแล้วเหรอ ?”

“เลจะเอาแค่แฟนเหรอ”

“เอาอย่างอื่นได้ด้วยเหรอ ?”

“ได้” คนตัวสูงยกยิ้มที่มุมปากขึ้น ทว่าประโยคต่อมาของเลทำให้เขาต้องหุบรอยยิ้มลง

“งั้นเลจะเป็นแม่!!”

“...”

“ไม่ได้เหรอ”

“...” ฮิมยังไม่เข้าใจความคิดน้อง ร่างสูงนิ่งเงียบเหมือนคนโดนแช่แข็ง ก่อนน้ำแข็งมันจะหลอมละลายเมื่อเสียงหวานพูดต่อท้ายอย่างแผ่วเบาว่า

“แต่ให้ฮิมเป็นพ่อนะ”

ขวับ!

มือหนาคว้าคนที่นั่งอยู่บนตักเข้ามากอดแน่นกว่าเดิม เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาซุกเข้าซอกคอขาวแล้วกล่าวเสียงทุ้ม

“ครับ”

“...”

“ตกลง”



03.44 น.

เป็นแฟนกันแล้ว…

ไม่สิ! ไม่ใช่แฟน พี่ฮิมเป็นพ่อ ส่วนเขาเป็นแม่ต่างหาก

นัยน์ตากลมโตลืมขึ้นท่ามกลางความมืด จู่ๆ เขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเอง แถมพอจะหลับก็หลับต่อไม่ลง เลเลยตัดสินใจนอนลืมตาไปแบบเงียบๆ เพราะคนข้างกายเขากำลังหลับสนิท

เลพลิกตัวตะแคงข้างไปหาคนที่กำลังนอนหันหน้ามาทางเดียวกัน ดวงตาโตที่ปรับแสงในความมืดได้หรี่ลงมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาข้างกาย มือบางยกขึ้นแล้วไล่ไปตามโครงหน้าคมตั้งแต่สันกรามขึ้นถึงคิ้ว ก่อนลากนิ้วไปตามสันจมูกจรดลงตรงริมฝีปาก

พี่ฮิมเป็นคนที่หล่อจัด เขาหล่อมาก กึ่งพิมพ์นิยมแต่มีความเป็นเอกลักษณ์ภายในตัว ไม่น่าเชื่อว่าใครคนหนึ่งจะหล่อได้ขนาดนี้ ถ้าเทียบกันกับพี่ๆ ในบ้าน ทุกคนก็หน้าตาดีกันไปละคนแบบ แต่คนที่มีเสน่ห์ และน่าค้นหามากที่สุด เขาเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยต้องตอบว่าพี่ฮิม

รู้สึกโชคดีจัง…

“อืม” เสียงครางแผ่วในลำคอทำให้คนที่ลืมตาอยู่ต้องแกล้งปิดลง สักพักก็สัมผัสได้ถึงแขนแกร่งที่โอบเข้ามากอดพร้อมกับดึงตัวเขาเข้าไปใกล้มากขึ้น ใบหน้าสวยถูกกดเข้าที่อก หน้าผากมนรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นเมื่อคนตัวสูงทาบริมฝีปากลงมาจูบเบาๆ จนเลรู้สึกง่วงอีกครั้ง

น้องยกยิ้มก่อนจะจูบแผ่นอกแกร่งตอบกลับแล้วหลับไป



1 วันต่อมา

แต่ก่อนไม่เห็นจะรู้สึกอะไร แต่พอมีสถานะขึ้นมาหน่อยแค่นั่งกินโจ๊กด้วยกันผมยังเขินเลย!

“ฮืออ”

“เลเป็นอะไร”

“เลเขินพี่ฮิม” ผมฟุ๊บหน้าลงกับโต๊ะ ท่ามกลางสายตางงๆ ของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เราพึ่งไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะเสร็จ (ผมไม่เจ็บแผลแล้วแค่ยังรู้สึกระคายเคืองนิดๆ) วันนี้ผมเหงื่อออกเยอะมากเพราะเอาแค่วิ่งหนีพี่ฮิม อย่างเวลาที่พี่ฮิมวิ่งขึ้นมาให้ทันผม ผมก็พยายามวิ่งหนีนำหน้าเขาไปอีก แต่ด้วยความที่อีกฝ่ายสูงกว่าตั้งสิบห้าเซ็น (บวกลบไม่เกินสอง) ช่วงขาที่ยาวทำให้เขาตามผมได้ไม่ยาก กลายเป็นว่าวันนี้ผมแทบจะวิ่งออกกำลังกายแบบสุดชีวิต แค่เพราะไม่กล้าวิ่งคู่กับเขา

มันเขิน! มันเขินมาก แต่ไม่ได้รู้สึกแย่นะ มันรู้สึกดี เข้าใจแล้วว่าทำไมคนอื่นถึงอยากมีแฟนกันนักเพราะมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

ยิ่งตอนนี้แค่มองหน้าพี่ฮิมเฉยๆ ผมยังไม่กล้าเลยอะ!

“อาหนูเลทำไมหน้าแดงๆ” เฮียขาวถามขณะวางโจ๊กไม่ใส่ขิง ไม่ใส่ตับ ไม่ใส่ไส้อ่อน พิเศษใส่ไข่สองฟองลงตรงหน้าผมพร้อมกับโจ๊กธรรมดาลงตรงหน้าพี่ฮิม ผมเงยหน้าขึ้นแอบมองฮิมที่กำลังใช้ช้อนคนโจ๊กขณะยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ

“เลออกกำลังกายมา เลร้อน” มันก็ร้อนด้วยจริงๆ นั่นแหละเพราะตอนนี้เหงื่อท่วมตัวผมมาก โชคดีที่เฮียขาวไม่ถามอะไรต่อ พอผมตอบร่างท้วมก็เดินไปทำโจ๊กให้คนอื่นแทน

“ทำไมไม่บอกไปล่ะว่าเขินพี่”

“ฮิมอย่าพูดนะ!!” ผมเอ่ยเสียงขู่ใส่คนตรงข้าม แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะแล้วไม่ว่าอะไรต่อ ผมจึงนั่งกินไปเงียบๆ จนกระทั่ง…

“คนดีครับ โจ๊กเปื้อนแก้มนะ” ไม่พูดเปล่า มือหนายังยื่นเข้ามาเช็ดโจ๊กที่อยู่ตรงแก้มให้ ปฏิกิริยาตอบรับของผมคือตะลึงค้าง หน้าร้อนฉ่าก่อนจะรีบปัดมือของอีกฝ่ายออกแล้วว่า

“เลไม่กินแล้ว!!”



08.11 น.

ผมกำลังเจอปัญหา…

อันที่จริงมันก็ไม่เชิงปัญญาหรอกแต่ตอนอยู่กับพี่วิน ปกติผมจะทายาเองในห้องน้ำ แต่พอย้ายมาอยู่ห้องฮิมผมกลับลืมเอายาเข้าไป เลยคิดว่าออกจากห้องน้ำค่อยทา แต่พอออกปุ๊บก็ลืมสนิทจนกระทั่งแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วผมถึงนึกได้ว่ายังไม่ทันได้ทายาเลย

“เลยังไม่ได้ทาเหรอ” เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อร่างสูงเห็นผมยืนถือยาที่เอาไว้ทาอยู่ ผมเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายแล้วรีบหลุบตาลง เขินแล้วเขินอีก เขินจนหน้ามันไม่แดงแล้วเนี่ย “ให้พี่ทาให้ไหม”

“เลขี้เกียจถอนชุด”

“มานี่มา”  มือหนากวักเรียกผมไปที่เตียง เขานั่งลงก่อนจะดึงให้ผมนั่งคุกเข่าลงพร้อมกับยืดตัวขึ้นตรงหน้าเขาจนใบหน้าของอีกฝ่ายอยู่แค่ระดับอก ฮิมเอาหลอดยาในมือของผมไปเขาบีบยาทาใส่มือ

“เลไม่อยากให้ฮิมเห็น” ผมดัก

“เลกดหน้าพี่แนบอกน้องสิ” เพราะผมยืดตัวใบหน้าฮิมจึงอยู่แค่ระดับอก ผมกดหน้าเขาแนบอกอย่างที่ฮิมว่า ขณะที่มือหนาเลื่อนไปทางด้านหลังก่อนล้วงเข้าไปในกางเกงถึงชั้นใน ผมกัดปากเมื่อยาเย็นถูกทาลงรอบๆ ช่องทาง แต่ทาไม่นานมือหนาก็ละออกมา

“ขอบ… คุณ” ผมบอกก่อนจะพยายามดันตัวออกทว่ามันไม่เป็นผลเพราะพี่ฮิมกอดเอวผมเอาไว้แน่น  เขาเอนหลังลงเตียงตัวผมเลยเอนตามจนในที่สุดก็กลายเป็นว่าผมกำลังคร่อมพี่ฮิมอยู่ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของเขามันตีตื้นขึ้นจมูก มั่วเมาและดึงดูด พอมารู้ตัวอีกทีก็นอนทาบร่างหนาไปแล้ว

“พี่ยังไม่ทันได้ให้ของขวัญวันเกิดเลเลยนะ”

จริงด้วย… ของขวัญครบรอบสิบแปดปีฮิมยังไม่ได้ให้ผมเลย

ผมกลิ้งตัวมานอนข้างๆ แทนก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขา “พี่ฮิมจะให้อะไรเล”

“อยากได้อะไรล่ะ”

“ถ้าขอแล้วฮิมจะให้ไหม”

พี่ฮิมพยักหน้า ในขณะที่ผมเม้มปากแล้วลองขอดู “งั้นเลขอรถ”

“ได้”

“จริงเหรอ!!” ผมเบิกตากว้างพร้อมกับเด้งตัวขึ้นมาจากทางนอน แต่โดนมือหนาดึงตัวกลับมานอนตามเดิม “พ่อให้จะเลจริงเหรอ”

“เรียกพ่อไม่ให้”

“พี่ฮิมม”

ฮิมหัวเราะเล็กน้อย เขายื่นมือมาบีบจมูกผมแล้วตอบ “ตกลง”

“ฮือออ ทำไมพี่ฮิมใจดีจัง ขอรองเท้าสักสามคู่ด้วยได้ไหม”

“ได้”

“คอมเล่นเกมเครื่องใหม่ ขอสเปคแบบเทพๆ นะ”

“ได้”

“เอาโน๊ตบุ๊คด้วย”

“ตกลง”

“ฮือออออ ทำไมแต่ก่อนไม่เห็นใจดีแบบนี้”

“ตอนนั้นเป็นพ่อ” ฮิมว่า เขากดริมฝีปากลงข้างแก้มผมก่อนจะเลื่อนไปวางคางบนศีรษะแทน

“พี่กับพ่อก็คนเดียวกัน” ผมเถียงแต่เจ้าของใบหน้าคมคายส่ายหน้า

“พ่อตามใจเลมากไม่ได้หรอก เดี๋ยวคนดีดื้อ แต่แค่นี้ก็ดื้อแล้ว” ประโยคหลังๆ ผมไม่ค่อยได้ยินแต่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับผม แต่ช่างมันเถอะ!

“ไปดูรถตอนนี้เลยได้ไหม” ผมว่าเสียงอู้อี้ขณะโดนคนตัวสูงกดใบหน้าเข้าที่อกแกร่ง ฮิมนิ่งไปสักพักก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วยื่นมือมาทางผม อีกฝ่ายไม่ได้พูดแต่ผมรู้โดยสัญชาติญาณ พี่ฮิมกำลังแสดงการกระทำแทนคำพูดที่มันบ่งบอกถึงคำว่า ‘ตกลง’ เป็นครั้งที่สามของวันนี้



เสียงฝีเท้าที่กำลังเดินลงจากบันไดดึงความสนใจให้ร่างสูงที่กำลังเก็บชีทอยู่ในห้องนั่งเล่นหันไปมอง เกียร์สบตากับเพื่อนที่เดินมาเอากุญแจรถในห้อง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษา

“มึงไม่ไปเรียนเหรอ” เกียร์ถามด้วยความแปลกใจ แต่คำตอบที่ได้จากฮิมคือการส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “แล้วจะไปไหน”

“พาน้องไปเลือกรถ”

“ของขวัญวันเกิด ?” เสียงทุ้มถามแต่อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรกลับนอกจากการยกยิ้มที่มุมปาก ทว่าทันใดนั้นคนถามก็เข้าใจในพริบตาเดียว มันอารมณ์ดีแบบนี้สงสัยจะ… “มีบ้านให้บ้าน มีรถให้รถ”

ร่างสูงประชดแต่คนโดนประชดกลับยังอารมณ์ดี เกียร์เลยว่าต่อ “ถ้ามึงใจดีก็ให้เงินกูด้วย”

พวกเกิดมาบนกองเงินกองทอง คงไม่เข้าใจอารมณ์ของคนที่ต้องทำงานหนัก กลับบ้านตอนฟ้าเกือบสว่างแถมยังต้องไปเรียนเพื่อไม่ให้เกรดตกเพราะต้องรักษาทุนอย่างเขา

ฮิมไม่ได้ตอบกลับ ร่างสูงหัวเราะออกมาก่อนจะเดินไปหาคนที่กำลังยืนรอตรงหน้าประตู






******************
เป็นตอนที่ฟีลกู๊ดที่สุดที่เคยแต่งมาแล้วในเรื่องนี้
เดี๋ยวฉากน่ารักจะตามมา พ่วง step ความหื่นของเฮีย 555555
มีนักอ่านเขียนขอให้เขียนฉากนึงให้ นานแล้ว
แต่เราจะเขียนให้ค่ะเพราะมันเข้ากับฟีลของเรื่องตอนนี้มาก55555

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 22-04-2017 16:20:10
ชอบฮิมในความน่ารักแบบนี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 22-04-2017 16:47:52
ตอนเป็นน้องเป็นลูกกำราบยากทำอะไรต้องมีขอบ้ขต   พอเลื่อนตำแหน่งปุ๊ปพี่แกสปอยหนักมาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 22-04-2017 17:10:04
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhankn ที่ 22-04-2017 17:17:36
เรารักผู้ชายอย่างฮิมมากกกกก :ling1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-04-2017 17:37:28
ขอแบบพี่ฮิมคนนึงค่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-04-2017 17:59:32
ฮิมตามใจน้องสุดๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 22-04-2017 18:02:43
ป๋ามากค่ะ ได้เมียนี่ทุ่มมาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 22-04-2017 18:07:17
พี่ฮิมสายเปย์จริงๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 22-04-2017 18:15:09
ป๋าสายเป เปให้สุดๆ อย่างนี้เราของบ้างจะได้มั้ยนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 22-04-2017 18:16:13
พี่ฮิมสายเปย์ที่แท้ทรู

ตอนแรกฮิมจะบอกเมื่อก่อนเป็นพ่อ

แต่ตอนนี้เป็นผัวใช่ไหม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-04-2017 18:24:56
โอย......ชอบบบบบบ  :katai2-1:
พี่ฮิม ป๋ามากกกกก มีบ้านให้บ้าน มีรถให้รถ ป๋าโคตร
เล เขินฮิม มากมาย พอเปลี่ยนสถานะ
"เล จะเป็นแม่" ฮิม งง เลย /คนอ่านก็งง
“...”
“แต่ให้ฮิมเป็นพ่อนะ”
อยากอ่านต่ออีกและ  :z3: :z3: :z3:
      :L1: :L1: :L1:     
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 22-04-2017 18:31:36
พี่ฮิมสายเป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 22-04-2017 19:10:02
คนมีเงินทำไรไม่ผิด
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 22-04-2017 19:32:07
พี่ฮิมสายเปย์ แต่ระวังน้องจะได้ใจแล้วดื้อกว่าเดิมนะคะ อ๊ะๆ เราพอรู้แล้ว จะหลอกล่อน้องให้ดื้อแล้วมาลงโทษทีหลังบนเตียงเอาให้เชื่องเหมือนแมวน้อยๆ ใช่มั้ยค่ะพี่ฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-04-2017 19:57:06
 :mew1: :mew1: :pig4: :pig4: :pig4: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 22-04-2017 20:41:58
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

หวานๆกันหน่อย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 22-04-2017 20:42:59
เป็นลูกไม่ให้แต่พอเป็นแม่เปย์หมดหน้าตักจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 22-04-2017 20:46:22
ถ้าจะเปย์หนักขนาดนี้พี่ลาอยาเป็นเมียพี่ฮิมเลย 555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 22-04-2017 21:02:46
อยากรู้ว่า ฉากนั้นจะเป็นยังไงค่ะ...
ปล.พี่ฮิมเปย์แล้วก็มาเรียกเก็บคืนบนเตียงละสินะ..  :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-04-2017 21:18:09
เลจะขอรถทำไม ขอให้พี่ฮิมแกไม่ไปนอนกับคนอื่นเวลาฮึมน้อยอยากพ่นพิษมาจะดีกว่า


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 22-04-2017 21:31:38
"ตอนนั้นเป็นพ่อ" ส่วนตอนนี้เป็นผัวสินะคะ :laugh: :laugh: :laugh:
ตอนแรกว่าก็ดูตามใจมากแล้วนะ นี่ยิ่งเข้าไปใหญ่เลย หมั่นไส้ความป๋า ความรวยของพี่เค้ามาก555555

 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 22-04-2017 21:53:46
หนูเลนี่ดีจริงๆ มีสามีสายเปย์ หุหุ  :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 22-04-2017 22:10:37
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 23-04-2017 00:44:49
สปอยตัวพ่ออ่ะพี่ฮิม งื้ออ เลคือดีไปอี๊กกกก

อิฉันสงสารพี่เกียร์ 555555555555555555

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 23-04-2017 06:45:13
พี่ฮิม สายเปย์อย่างหนักเลยคนนี้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 23-04-2017 08:12:04
มีบ้านให้บ้าน มีรถให้รถ แต่ที่อยากให้สุดคือตัว555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 23-04-2017 12:55:15
พี่ฮิม ดุน้อง บ้างงไหมนี่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 25-04-2017 00:18:03
พี่ฮิม...ทุ่มมาก...ก้อเมียทั้งคน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-04-2017 07:18:06
ฮิมสูงกว่าเลตั้งห้าสิบเซนฯ โอ้!เลคงสูงประมาณเอวฮิมอ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Loveyoutoome ที่ 25-04-2017 11:25:45
มีคำถามค่ะ. อยากรู้ว่าที่เล่นหมากฮอตกันตอนแรกใครค่ะ หนูสงสัยอะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220417#17 (30%) p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Sallyfang ที่ 25-04-2017 11:54:05
รอค่ะ
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 25-04-2017 17:58:13
ตอนที่ 17 (70%)


เราเดินทางมาถึงตึกสูงระฟ้ากว่า 70 ชั้นอีกครั้งหลังจากที่ผมไม่ได้มานานเกือบสามเดือน เมื่อเดินเข้ามาด้านในพี่ๆ พนักงานก็ยังแสดงท่าทีต้อนรับเหมือนอย่างเคย แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนเพราะผมไม่ได้วิ่งอีกแล้ว ฮิมพาเดินไปหาพี่ฮอว์ก (ยังจำช่างใหญ่ประจำบริษัทที่มีตายิ้มเป็นจุดเด่นได้อยู่ไหม คนนั้นแหละ!) พี่ฮอว์กดูตะลึงนิดหน่อยตอนที่ฮิมบอกว่าให้พาผมไปที่โกดังเก็บรถ เหมือนมันจะเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะอีกฝ่ายถึงกับทำหน้าตะลึง ก่อนพี่ฮอว์กจะร้องอ๋อเมื่อผมบอกต่อว่ามันพิเศษกว่าครั้งอื่นเพราะนี่คือของขวัญวันเกิดอายุครบสิบแปด

“ถึงจะเป็นของขวัญ แต่พี่ก็ยังแปลกใจว่าทำไมพ่อเราถึงให้ มาครั้งก่อนดูฮิมก็เหมือนจะยังไม่ยอมให้รถกับเล”

ผมหัวเราะขณะที่เดินตามพี่ฮอว์ก “พ่อไม่ได้หรอก พี่ฮิมต่างหากที่ให้เล”

พี่ฮอว์กทำหน้างง แต่ก็ไม่ได้ถาม ร่างสูงพาผมมาขึ้นรถกอล์ฟเพื่อที่จะไปโกดังเก็บรถ อ้อ! พี่ฮิมไม่ได้มาด้วย หลังจากที่เขาส่งผมให้พี่ฮอว์กเสร็จ ร่างสูงก็ขอตัวขึ้นไปจัดการงานตามประสาประธานบริษัทก่อน ขึ้นรถกอล์ฟมาไม่นานเราก็มาถึงโกดังขนาดใหญ่ ขอย้ำว่ามันใหญ่มาก!

ประตูโกดังบานใหญ่ถูกเปิดออก เผยให้เห็นรถหลายร้อยคันมูลค่ามหาศาลที่จอดเรียงกันอยู่ด้านใน ใจผมเต้นระส่ำยิ่งได้ยินที่พี่ฮอว์กพูดมันก็ยิ่งเต้นระรัวขึ้นไปอีก

“เลือกได้ตามใจชอบ”

ผมเลียริมฝีปาก ความกระหายอยากได้สิ่งที่อยู่ด้านในทวีคูณขึ้น ก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านในโกดังด้วยตนเอง

แต่เข้าได้แค่สิบนาทีผมก็มีปัญหาซะแล้ว… เพราะเป็นคนชอบรถบวกบ้านิดๆ แถมรถคันนี้จะเป็นรถคันแรกของผม มันเลยเกิดอาการแบบรักพี่เสียดายน้อ อย่างคันนี้ก็ดี คันนู้นก็สวย แต่คันที่อยู่ตรงหน้านี่ผมก็ชอบเพราะเครื่องมันแรงดี

อันที่จริงก่อนจะมาเลือกผมก็มีเป้าหมายเอาไว้แล้วว่าจะเอา Bugatti Chiron (มันคือรถคันเดียวกันกับที่เคยลองขับเมื่อสามเดือนก่อน) แต่พอบอกพี่ฮิมขณะที่เรากำลังเดินทางมาที่นี่เขากลับบอกว่ามันไม่เหมาะกับผม บวกกับที่ประเทศไทยไม่ค่อยมีคนใช้รถรุ่นนี้เพราะราคามันแพงมาก จะทำให้เป็นเป้าเพ่งเล็งสำหรับคนอื่นได้ง่าย ที่ผมจะสื่อก็คือมันประมาณว่าคล้ายๆ กับใส่ทองเต็มคอมาล่อโจร อีกอย่างคือเครื่องมันแรงมากๆ ซึ่งขัดแย้งอย่างยิ่งกับการจราจรในประเทศไทยที่มีสถิติรถติดอันดับหนึ่งของโลก รถจะแรงแค่ไหนก็สู้วินมอเตอร์ไซต์ไม่ได้ สรุปก็คือนอกจากอยากขับคนอื่นอิจฉาเล่นๆ ก็ไม่มีเหตุผลอื่นที่จะเอารถรุ่นนี้มาขับที่ประเทศไทย (ถ้าดูที่เรื่องความแรงของรถน่ะนะ)

แต่พอเป้าหมายถูกล้มด้วยเหตุผลของพี่ฮิม ผมก็ไม่รู้จะเอาคันไหนต่อ ขนาดมีพี่ฮอว์กมาแนะนำยังรู้สึกเหมือนว่ามันยังไม่โดนเท่าที่ควร

หลังจากที่เดินไปเดินมาได้เกือบชั่วโมง ในที่สุดผมก็ต้องเดินคอตกออกมาจากโกดังรถเพราะเลือกไม่ได้ เลยตัดสินใจขึ้นไปหาพี่ฮิมที่น่าจะกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ที่ห้องทำงาน

ห้องทำงานของพี่ฮิมอยู่ที่ชั้น 69 ชั้นเกือบบนสุดของตึก (ชั้นบนสุดมันเป็นเหมือนคอนโด มีไว้นอนเผื่อทำงานจนดึกแล้วขี้เกียจกลับบ้าน) ผมขึ้นลิฟต์จนไปถึง แล้วค่อยๆ เดินไปเปิดประตูห้องทำงานของพี่ฮิม ไม่ได้มาที่ห้องนี้บ่อย เพราะปกติมาที่บริษัทฮิมผมก็ดูรถอย่างเดียวไม่ได้สนใจห้องทำงานของอีกฝ่ายเลยสักนิด

ร่างสูงกำลังยืนหันหลังให้ผมอยู่ด้านใน เขาไม่ได้สนใจผมที่เข้ามา พี่ฮิมกำลังจดจ้องกับอะไรสักอย่างที่ถืออยู่ในมือที่ผมเดาว่าน่าจะเป็นเอกสาร แต่เพราะไม่ได้สนใจ ผมจึงเดินให้เงียบที่สุดแล้วเข้าจู่โจมโดยการสวมกอดจากทางด้านหลัง ทว่ายังไม่ทันถึงตัวเขา จู่ๆ มือหนาก็ดึงผมที่กำลังโผล่เข้ากอดแล้วลากมาไว้ข้างตัวพี่ฮิมแทน เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหันมาจูบที่หน้าผากพร้อมกับวางแฟ้มลงบนโต๊ะก่อนจะถามเสียงเข้ม

“เลือกได้แล้วเหรอ”

“ไม่” ผมส่ายหน้า ขณะเข้ากอดร่างหนาแล้วบ่นเสียงอู้อี้ใส่ “พี่ฮิมคิดช่วยเลหน่อยสิ”

“รถเล น้องก็ต้องเลือกเองสิ”

“ก็เลเลือกไม่ได้!”

“คนดีไม่ตะคอกนะ”

“...”

“ไปนั่งดีกว่า” ฮิมโอบเอวผมมานั่งบนโซฟภายในห้อง ก่อนเขาจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นแล้วยื่นมาให้ผมดู พอชะเง้อหน้ามองก็เห็นหน้าจอโทรศัพท์แสดงรูปรถสปอร์ตสีเทาวาบวับคันหนึ่งที่บริษัทผลิตรถสปอร์ตสัญชาติอังกฤษอย่าง McLaren เป็นคนผลิตมันขึ้นมา ที่ฮิมให้ผมดูคือ McLaren รุ่น 650s ผมรู้จักรถรุ่นนี้ ยอมรับว่าไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่จนกระทั่งฮิมเอามาให้ดู “พี่ว่ามันเข้ากับเล”

ผมเอียงคอซบบ่าคนข้างๆ ขณะจ้อง McLaren ในโทรศัพท์ อืม… ดูไปดูมาก็เข้าท่าดี

“เอาแบบที่ฮิมว่านั่นแหละ” ผมขี้เกียจเลือกแล้ว อีกอย่างคือฮิมรู้เรื่องรถดีกว่าผม เชื่อพี่ฮิมนี่แหละดีแล้ว

“คนดีง่วงเหรอ”

ผมพยักหน้าพร้อมกับหลับตาลง แล้วจู่ๆ บ่าที่กำลังซบก็หายไปแทนที่ด้วยความรู้สึกเหมือนลอยอยู่กลางอากาศเมื่อถูกอุ้มขึ้นทั้งตัว “ไปไหน”

ไม่มีเสียงตอบรับ เขาอุ้มผมไปไหนไม่รู้จนกระทั่งสัมผัสได้ถึงความนุ่มของเตียงนอน พอลืมตาขึ้นถึงได้รู้ว่าฮิมพาผมมาที่ชั้นบนสุดของตึก ส่วนที่เปรียบเสมือนคอนโดเพราะมีทั้งห้องนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น คือมีทุกอย่างเหมือนที่คอนโดหนึ่งจะมีเลย

ผมดึงร่างสูงลงมานอนข้างๆ ขณะแนบหน้าเข้ากับอกแกร่งแล้วหลับตาลง มีมือหนาตบหลังเบาๆ จนกระทั่งผมหลับไปจริงๆ

นัยน์ตาคมมองคนที่กำลังหลับสนิท ร่างสูงค่อยๆ ย่องตัวออกจากเตียงแล้วลงไปจัดการเรื่องรถด้านล่างขณะปล่อยให้น้องหลับ จนกระทั่งจัดการทุกอย่างเสร็จ ฮิมจึงขึ้นไปยังชั้นบนสุดอีกครั้ง มือหนาหยิบโทรศัพท์แล้วโทรสั่งอาหารญี่ปุ่นเมื่อมองนาฬิกาแล้วพบว่ามันเลยเที่ยงมานิดๆ แล้ว และเมื่ออาหารเที่ยงมาส่งร่างสูงจึงเดินไปปลุกคนที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง

ฮิมเอนกายลงบนฟูกนุ่มคร่อมคนที่กำลังหลับตาพริมเอาไว้ขณะไซร้ใบหน้าเข้าลำคอขาว จูบเบาๆ ไปตามคอระหงก่อนเลื่อนขึ้นกระซิบที่ข้างหู “ตื่นได้แล้วครับ”

“ฮือ” ปฏิกิริยาตอบรับคืออาการงอแงของคนไม่อยากตื่น น้องส่ายไปมาทั้งๆ ที่ยังหลับตาเหมือนจะหนีให้พ้นคนตรงหน้า ถ้าไม่ติดที่มีแขนแกร่งกั้นเป็นกำแพงเอาไว้แล้วทั้งสองข้าง

“คนดีตื่นได้แล้วนะ”

“เลยังง่วง”

“ลุกขึ้นมากินข้าวเที่ยงก่อน ถ้าคนดียังง่วงเดี๋ยวพี่ให้นอนต่อ”

“ฮืออ” น้องไม่ยอมตื่น ในที่สุดคนพี่เลยต้องใช้มาตรการใหม่โดยการยอมขัดใจอีกฝ่ายแล้วจับกายบางดึงขึ้นจากที่นอนเพื่อไม่ให้เลนอนต่อ ใบหน้าสวยแสดงอาการไม่พอใจตามประสาเด็กดื้อ ก่อนจะยอมลุกขึ้นจากเตียงแม้จะยังหน้างออยู่ “พี่ฮิม…”

“ไม่งอแงนะ” เสียงทุ้มพูดดัก มือหนาจูงอีกฝ่ายเดินมายังโต๊ะที่มีอาหารวางเรียงรายเอาไว้ก่อนจะนั่งลง ทว่าคนหน้างอไม่ยอมนั่งตาม ฮิมจึงได้ลุกขึ้นอีกครั้ง แขนแกร่งเข้ากอดเอวคอดเอาไว้แล้วบอกอย่างไม่จริงจังนัก “คนดีไม่หน้างอสิครับ”

“เลง่วง”

“ง่วงก็ไม่ทำหน้างอใส่พี่สิ”

“ก็พี่ฮิมปลุกเลอ่า!!”

“ไม่ตะคอกครับ”

“ฮืออ”

“ไม่งอนแล้วคนเก่ง”

“...”

“Kiss me”

“อะไรเล่า”

“ทำแล้วพี่จะให้รองเท้าอีกคู่หนึ่ง”

จุ๊บ!

พอเอาของมาล่อปุ๊บ คนตรงหน้าก็ทำตามอย่างว่าง่าย ร่างสูงหัวเราะขณะแนบหน้าผากเข้ากับหน้าผากของอีกฝ่าย ค้างไว้สักพักแล้วเปลี่ยนจากแนบหน้าผากไปเป็นแนบริมฝีปากแทน เขาไม่ได้รุกล้ำแค่ทาบค้างเอาไว้ครู่หนึ่งก่อนจะผละออก พร้อมกับกดไหล่บางนั่งลงบนเก้าอี้แทน

นัยน์ตากลมโตกวาดมองอาหารตรงหน้า เลที่เริ่มรู้ว่าตอนนี้คนข้างกายใจดีผิดปกติเลยรีบใช้โอกาสนั้นให้เป็นประโยชน์

“เลไม่หิว”

“กินหมดพี่แถม Chiron ที่คนดีอยากได้ให้ไปขับอาทิตย์หนึ่ง”

“อย่าคืนคำนะ” ริมฝีปากบางลอบยิ้ม ขณะหยิบช้อนขึ้นมาตักอาหารตรงหน้ากินอย่างไว



14.44 น.

Mercedes benz e500 สีขาว ขับเข้ามาในตัวบ้าน ไทด์ที่เป็นคนขับถึงกับชะงักเมื่อที่จอดรถที่ปกติก็เต็มอยู่แล้วแต่วันนี้เหมือนจะเต็มผิดปกติ ร่างสูงหาที่จอดก่อนจะลงจากรถ นัยน์ตาคมมองรถสปอร์ตคันใหม่ของใครสักคนพร้อมกับนึกสงสัย

“ของใครวะ” เพื่อนเขาก็มีรถยนต์ครบทุกคน ยกเว้นเกียร์ที่มีมอเตอร์ไซต์ แต่เกียร์มันก็ไม่น่าจะเอาเงินที่อุตส่าห์เก็บมาตลอดไปทุ่มซื้อรถสปอร์ตที่มีราคาแพงขนาดนี้ แถมกฏอีกข้อหนึ่งของบ้านคือทุกคนมีสิทธิจอดรถได้แค่คันเดียวเนื่องจากพื้นที่มันจะไม่พอ ฉะนั้นคนที่น่าจะเป็นไปได้สำหรับรถคันนี้ก็เหลือแค่… “ของเล ?”

ไทด์ได้แต่สงสัย ร่างสูงจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนจะเจอะกับสองพี่น้องที่กำลังกอดกันกลมดิกในห้องนั่งเล่นในขณะที่คนน้องกำลังนั่งบนตักแกร่ง สงสัยจะดีกันแล้ว

“รถใหม่ของใคร” เขาส่งเสียงถาม มือบางจึงยกขึ้นบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของรถตัวจริง

“รถเล” คนฟังนิ่งเงียบ นัยน์ตาคมหันไปมองเจ้าของตักแกร่งก่อนจะพูดแบบไม่มีเสียงว่า ‘มึงให้รถกับมันเหรอ’ ผลลัพธ์ที่ได้คือฮิมพยักหน้า ขณะหัวเราะในลำคอพร้อมกับแนบริมฝีปากจูบที่ขมับบางทีนึง “สวยกว่าเบนซ์ของพี่ไทด์ล่ะสิ”

ไทด์ไม่โต้ตอบ แต่ถามกลับ “มึงมีใบขับขี่แล้วเหรอ”

“หือ… ใบขับขี่ ? จริงด้วย! ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้ทำ”

คนฟังอดที่จะเบะปากประชดไม่ได้ ไม่มีใบขับขี่แต่เสือกได้รถ… จ้าาา

“ไปทำสิพรุ่งนี้เลก็ว่างหนิ”

“ใครจะพาเลไป”

“ไปเองครับ”

“พี่ฮิมอ่าาา”

“เลสิบแปดแล้วนะ เป็นผู้ใหญ่แล้ว ลองทำอะไรเองได้แล้วนะ” ไทด์ละสายตาหนีจากภาพพ่อสอนลูกตรงหน้า ร่างสูงเตรียมเดินขึ้นห้องนอนแต่แล้วก็ต้องวกหมุนตัวกลับเมื่อคิดอะไรได้ “เออ… พวกนั้นมันบอกว่าจะจัดงานวันเกิดมึงย้อนหลังนะ”

“หมายถึงวันเกิดเลเหรอ ?”

“อือ มันถามว่าจะให้จัดที่ไหน”

“พี่ฮิมว่าเลจัดที่ไหนดี” ร่างเล็กหันไปถามเจ้าของตักที่กำลังนั่งหันหน้าเข้าหากันอยู่ ฮิมจุ๊บน้องทีนึงก่อนจะตอบเสียงเข้ม

“บ้าน”

“งั้นก็บ้าน”

“จะให้สั่งอาหารหรือยังไง”

“เดี๋ยวเลทำเอง” เจ้าของวันเกิดตอบ “พี่จ๋าพาไปตลาดหน่อยได้ไหมจะไปซื้อของ”

“ครับ”

ชายหนุ่มที่ถูกตัดออกจากบทสนทนาได้แต่กรอกตามองบน ร่างสูงเร่งเดินออกจากห้องนั่งเล่นก่อนที่เขาจะโดนบรรยากาศความหวานระดับมดขึ้นครอบงำ



19.30 น.

ผมพึ่งไปตลาดกับพี่ฮิมเพื่อหาซื้อของทำอาหารจัดงานเลี้ยงวันเกิดย้อนหลังให้ตัวเอง ทีแรกตอนที่พี่ไทด์ถามผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าสั่งหรือจะทำเองดี สุดท้ายเลยเลือกอย่างหลัง ผมทำเองดีกว่าเพราะวันนี้อารมณ์ดี ถือเป็นการฉลองงานวันเกิดตัวเองแล้วก็ได้ทำอาหารให้พี่ฮิมกินด้วย เพราะวันนี้เขาให้ผมมาเยอะมากแล้ว เลยจะตอบแทนด้วยการทำอาหารให้กิน นี่ไม่อยากชมตัวเองเลยจริงๆ แต่ผมเป็นคนที่ทำอาหารได้อร่อยมาก ทั้งๆ ที่ไม่เคยเรียนการทำอาหารแบบจริงจังเลยแม้แต่ครั้งเดียว ขนาดพี่รพที่ทำอาหารเก่งพอสมควร แถมยังเกิดในตระกูลของเชฟที่ทำงานให้ภัตตาคารหรูมากกว่าห้าดาว เขายังยอมรับเลยว่าผมทำอาหารเก่งมาก

วันนี้ผมเลือกทำอาหารทะเล เลือกทำเมนูง่ายๆ ผัด ต้ม ทอดแค่สามอย่าง เพราะหลักๆ ของพวกพี่ๆ คือแอลกอฮอล์กับกุ้งหมึกย่างที่พี่รพอาสาจะย่างให้เอง

ตอนนี้ทุกคนไปรวมตัวกันที่สวนหลังบ้านหมดแล้ว เหลือแค่ผม เจ้าของวันเกิดซะเองที่ยังคงทำต้มยำทะเลคนเดียวในห้องครัว แต่เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว เหลือแค่รอให้ทุกอย่างในหม้อสุกก็เสร็จ

“คนดียังไม่เสร็จเหรอ” หันไปมองเจ้าของเสียง พี่ฮิมกำลังเดินเปลือยท่อนบนโชว์ก้อนทั้งหกที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามบนหน้าท้อง ท่อนล่างมีแค่กางเกงยีนส์ที่ร่อนลงไปถึงสะโพกอย่างหมิ่นเหม่ แต่ที่แน่ๆ คือกลิ่นแอลกอฮอล์ลอยหึ่งมาแล้ว “ไม่ต้องทำแล้วก็ได้”

“เหลืออีกนิดเดียว เลจะทำเสร็จแล้ว—อ๊ะ!







(70%)

******************




อ๊ะ! ไรจ๊ะะะะะะะะะ55555
​ตอนหน้าอัพพรุ่งนี้จ้า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-04-2017 18:11:27
ตัดได้ค้างงงงงงงงงงมากกกกกกกกกกกเลยค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 25-04-2017 18:17:26
นั่นนสิ อ๊ะ อะไร สงสัยมากมาย ฮิมสายเปย์มากกกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 25-04-2017 18:18:59
อะไรอ่า อยากรู้จัง :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 25-04-2017 19:03:18
อ๊ะ อารายยยยยยยยยย

นี่คิดไม่ดีละนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 25-04-2017 19:03:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 25-04-2017 19:05:54
ชอบจังงง น้องเลน่ารัก รักน้องงง
อ๊ะอะไร ความอยากรู้เข้าครอบงำ พี่ฮิมลวนลามน้องป้ะะ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 25-04-2017 19:21:25
 :katai1: :katai1: :katai1:
กดลบเป็นดีมั๊ยยยย ตัดจบซะ!!! ฮึ่มๆๆ   :serius2: :serius2: :serius2:

รอ....จ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 25-04-2017 19:23:30
อ๊ะ อ๊ะ!!!
อะไร   :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-04-2017 19:23:47
 แบบว่ามันค้างอ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 25-04-2017 20:16:47
พูดเลยตอนสุดท้ายฮิมไม่น่าจะเมาได้นะ นอกจากอยากอ้อนน้องบ้างก็เท่านั้น
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-04-2017 20:55:47
 :hao7: :hao7:
 :mew1: :mew1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 25-04-2017 21:07:00
อ๊ะ อาราย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 25-04-2017 21:14:24
พี่ฮิม..ระวังต้มยำหกนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 25-04-2017 21:25:08
จะเมากันทีไรบ้านนี้เค้าจะใส่แค่กางเกงยีนส์กันตลอด #แอบดู :hao6: #พี่ฮิมสายเปย์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 25-04-2017 21:28:53
เฮ้ยยยย เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆนะพี่ฮิม
ปล.รู้สึกสงสารพี่ไทด์ 55555

 :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 25-04-2017 23:02:42
หมั่นไส้ความสายเปย์ของพี่ฮิมมากมาย :katai5:

ใจเย็นๆค่ะพี่ กินข้าวก่อนค่อยกินน้องก็ได้แหมมมม :hao7:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 25-04-2017 23:44:20
ค้างอย่างมาก.... :ling1:
อยากให้ฮิมหวานกับเลตลอดไป.... :hao6: ขอแบบ :jul1: และ  :hao3: นะค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-04-2017 23:49:10
อ๊ะ อะไรรรรรรรรรรรรรรรรรร
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Timber Huang ที่ 26-04-2017 00:06:46
 o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250417#17 (70%) p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 26-04-2017 08:56:28
ตัดบทค้างไปเลยอ่า
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 26-04-2017 15:42:15
#17 (100%)


“เหลืออีกนิดเดียว เลจะทำเสร็จแล้ว—อ๊ะ!

ผมร้องเสียงหลงเมื่อโดนโอบกอดจากทางด้านหลัง พี่ฮิมวางคางที่บ่าขณะแนบหน้าท้องเข้ากับแผ่นหลังของผม ชนิดที่ว่าสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆ รินรดต้นคอ ก่อนจะสะดุ้งเป็นครั้งที่สามเมื่อสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะบริเวณลำคอ

“พะ… พี่ฮิม”

“...”

“ฮิมจ๋า”

“...”

“กำลังจะทำอะไร”

“หืม ? ถามพี่เหรอ” เขาขยับเข้ามาใกล้ ใกล้จนผมลืมต้มยำตรงหน้าไปจนสนิทเสียงแหบพร่าเอ่ยสั้นๆ “หิว”

“ไปกินข้าว”

“ไม่ได้อยากกินข้าว” มือหนาลากลงต่ำจนผมรู้สึกเสียววาบ “อยากกินเล”

“มะ...ไม่ได้นะ!” ผมร้องห้าม รีบปิดเตาแก๊สแล้วหันกลับไปแต่ก็โดนอีกฝ่ายแนบริมฝีปากทาบ ร่างสูงแทรกลิ้นเข้ามาขณะมือหนาเอื้อมไปบังคับศีรษะผมไม่ให้หันหนีไปไหน กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งไปทั่ว พี่ฮิมไวมาก เขาชำนาญกว่าที่ผมคิดเพราะทันทีที่อีกฝ่ายถอนริมฝีปากออก เสื้อของผมก็ถูกปลดกระดุมออกไปด้วย “เลยังไม่หาย…”

“พี่จะไม่ใส่เข้าไป”

“แต่ตรงนี้มัน…” ห้องครัว ยิ่งไปกว่านั้นผมกำลังหันหน้าให้กับทางเดิน ถ้ามีคนเดินมา ไม่ใช่แค่คนๆ นั้นจะรู้แต่จะเห็นแบบจะๆ เลยว่าผมกับพี่ฮิมกำลังทำอะไรกัน

ฮิมหยุดคำพูดของผมด้วยริมฝีปาก เขาทาบลงมาอีกครั้งพร้อมกับกระซิบเสียงพร่า “พวกนั้นกินอยู่ มันไม่เข้ามาหรอก”

“แต่… อ๊ะ ฮิมอย่า อย่า”

“พี่ชอบจัง” นิ้วเรียวสะกิดยอดบนอกบนเบาๆ แต่ความรู้สึกเสียววาบมันแล่นพร่าไปทั่วร่าง มือบางกำหมัดแน่น ร่างเพรียวจิกเล็บเข้าเนื้อเพื่อทนต่อการกระตุ้นขณะเม้มปากสกัดกั้นเสียงร้อง “พี่ชอบตรงนี้… ของเล”

“ฮิมยะ...อย่าเลียนะ!”

เฮือก!

อาการร้อนวูบวาบแทรกไปทุกอนูขุมขน ผมหอบหายใจพร่าเมื่อใบหน้าคมคายก้มลงมาครอบครองบริเวณยอดดอก ลิ้นร้อนตวัดเลียส่วนปลายขณะที่มันอยู่ในโพรงปากไปมา มือหนาเลื่อนลงต่ำถึงสะโพก เขาปลดกระดุมกางเกงของผมออกแล้วล้วงมือเข้าไปยังด้านใน

“พี่ฮิม อ๊ะ! อ๊า! ไม่นะ ฮืออ” ฝ่ามือหยาบสัมผัสกับเนื้อร้อน เขาลูบวนส่วนปลายของผมไปมาช้าๆ จนรู้สึกเหมือนจะขาดใจ แล้วเพิ่มจังหวะเร็วขึ้นตามระดับจนในที่สุดผมก็ทนยืนต่อไปไม่ไหว ฮิมจึงปล่อยปากจากอกแล้วผลักให้ผมนอนราบลงไปกับโต๊ะที่อยู่ไม่ไกล แขนแกร่งยกขาทั้งสองของผมขึ้นแล้วแหวกกว้างให้กางออก หลังจากนั้นใบหน้าหล่อเหลาจึงก้มลงมองส่วนกึ่งกลาง และกว่าที่ผมจะรู้ว่าฮิมตั้งใจทำอะไร ไม่ทันได้ห้าม ร่างสูงก็จัดการดูดกลืนแท่งเนื้อของผมเข้าไปในโพรงปาก

“พี่ฮิม… สกปรก” มือบางพยายามจับศีรษะของอีกฝ่ายออกแต่แล้วความพยายามนั่นก็เป็นอันหยุดลงเมื่อลิ้นร้อนลากเลียไล้ตั้งแต่ล่างขึ้นด้านบน พร้อมตวัดผ่านส่วนปลายลำแท่งไปมาจนคนบนโต๊ะเริ่มกัดปากแน่น ลมหายใจหอบถี่ นัยน์ตาปรือ เสียงร้องห้ามกลับกลายเป็นเสียงครางหวานแทน “อา… พี่ฮิม”

มันดีเกินไป… รู้สึกดีจนบอกไม่ถูก ดีจนกายบางเริ่มบิดเร้า มือบางเลื่อนไปขยุ้มกลุ่มผมสีดำสนิทพร้อมๆ กับทึ้งเส้นผมของคนที่กำลังครอบครองแท่งเนื้อร้อน ขาเรียวเลื่อนไปเกี่ยวรอบลำคอของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว  เสียงหวานครางถี่กระชั้นขึ้น แผ่นอกบางยกขึ้นเมื่อใกล้ถึงจุดปลดปล่อย นัยน์ตาคมเงยมองคนที่กำลังจะถึงฝั่งฝา ฮิมเร่งจังหวะจนในที่สุดน้ำสีขาวขุ่นก็กระฉุดพุ่งเข้าเต็มปาก

“อะ… อ๊า” นัยน์ตากลมปรือขึ้นกระทั่งได้สติ ผมจึงเด้งพรวดขึ้นจากโต๊ะก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อนึกได้ว่าสิ่งที่ตนเองพึ่งฉีดออกไปเมื่อสักครู่ พี่ฮิมรับเอาไว้หมดเลย “อย่ากลืนนะ”

ร่างสูงสบตากับผม สักพักเขาก็เลียริมฝีปากเก็บหยาดน้ำสีขุ่นที่ยังเปรอะอยู่บริเวณนั้นเข้าไปจนหมด

“พี่ฮิมคายออกมา!!”

เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาส่ายหน้า “อร่อย”

“บ้าเหรอ! มันสกปรก”

“หืม หวานจะตาย” พี่ฮิมไม่ตอบโต้ กายหนาขยับเข้ามาใกล้ก่อนเขาจะเชยคางผมขึ้น ผมประสานกับนัยน์ตาคมเป็นจังหวะเดียวกันที่เสียงทุ้มเอ่ยพร่า “ลองชิมดูไหมล่ะ”

ริมฝีปากทาบแน่น ลิ้นร้อนสอดเข้ามาด้านใน  ผมยกมือขึ้นโอบรอบลำคอของฮิมในขณะที่แขนแกร่งเอื้อมมากอดเอวคอดเอาไว้ กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วปากสิ่งที่หวานคือความรู้สึก

น้ำลายไหลเป็นทางเมื่อเราถอนริมฝีปากออกจากกัน ฮิมเอื้อมมือมาเช็ดให้ผมทีนึงก่อนจะจูบเบาๆ ที่จมูก

“เลรักพี่ฮิม” ผมว่าขณะที่ร่างสูงพยักหน้าเช่นเดียวกัน ตัวถูกดึงเข้าไปกอด จังหวะนั้นจึงได้สังเกตเห็นบางสิ่งที่โป่งพองภายใต้กางเกงยีนส์ของพี่ฮิม ผมเลื่อนมือลงไปหวังจะช่วย แต่แล้วมือหนาก็เข้ามาจับมือผมเอาไว้เสียก่อน “ให้เลช่วยก็ได้”

ฮิมส่ายหน้าเขาก้มลงมากระซิบที่ข้างหูผม “เดี๋ยวคนดีจะไม่ได้ฉลองงานวันเกิด”

“แต่…” ตรงนั้นมันน่าอึดอัด

“ไม่เป็นไร” เสียงทุ้มว่า ก่อนมือหนาจะหยิบเสื้อเชิ้ตที่หล่นอยู่บนพื้นมาใส่ให้ผมใหม่ ผมเขย่งตัวจุ๊บอีกฝ่ายทีนึงแล้วเดินไปตักต้มยำทะเลใส่ถ้วยหลังจากนั้นจึงเดินออกไปด้านนอก

พี่ๆ ทุกคนกำลังนั่งเดิมอยู่บริเวณสระน้ำ แน่นอนว่าทุกคนเปลือยท่อนบนสงสัยจะร้อน ร้อนแค่ไหนก็ไปถามพี่ไทด์กับพี่เกียร์ที่กำลังนั่งห่วงยางเป็ดลอยอยู่ในสระก็แล้วกัน

“ทำไมช้าจังวะ” พี่วินเป็นคนแรกที่ถาม ร่างสูงเดินมาฉกถ้วยใส่ต้มยำทะเลในมือผมไปวางไว้ที่โต๊ะที่มีอาหารเรียงราย “กุ้งกับหมึกอยู่โน้น หมดนั่นย่างให้มึงเพราะทุกคนกินแล้ว”

“ขอบคุณครับ” ผมหันไปมองจานขนาดใหญ่ที่มีกุ้งกับหมึกย่างวางเรียงรายอยู่ เท่านั่นยังไม่พอ กุ้งยังแกะเปลือกแล้วด้วยนะ ทุกคนรอเจ้าของวันเกิดของผมกินอาหารที่อยู่พักนึงจนกระทั่งอิ่ม พี่ฮิมจึงไปถือเค้กวันเกิดที่มีสองชั้นเดินออกมา พอแสงไฟในบริเวณถูกหรี่ลงเสียงทุกคนร้องเพลงวันเกิดก็ดังขึ้น



Happy birthday to you, Happy birthday to you

Happy birthday Happy birthday

Happy birthday to you.

Happy birthday to you, Happy birthday to you

Happy birthday Happy birthday

Happy birthday to you.



ผมหลับตาอธิฐานเมื่อเพลงจบ ก่อนจะเป่าเทียนทั้งหลายที่ถูกปักรอบเค้กดับได้ภายในครั้งเดียว ผมตัดแบ่งเค้กแล้วเดินเอาเค้กไปให้ทีละคนพร้อมรับคำอวยพร คนแรกคือพี่ผา

“ขอให้น้องเลมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อยากได้อะไรขอให้ได้อย่างที่หวังนะครับ” เสียงทุ้มว่าก่อนจะยื่นกล่องของขวัญกล่องใหญ่ออกมาให้ผม

คนที่สอง สาม สี่ คือ พี่เกียร์ พี่รพ พี่ไทด์ คำอวยพรกับของขวัญแตกต่างกันไปตามตัวบุคคล ส่วนคำอวยพรก็...

“ขอให้โชคดีมีชัย รวยๆ รวยแล้วรวยอีก” พี่เกียร์

“ขอให้มึงมีชีวิตราบรื่น ไม่มีอุปสรรค” พี่รพ

“ขอให้มึงเสนอโปรเจ็กต์กับอาจารย์ผ่านตั้งแต่โปรเจ็กต์แรก” พี่ไทด์

มาถึงพี่วินอีกฝ่ายมองหน้าผมนิ่งๆ แล้วบอก

“ขอให้มึงไม่ดื้อกับกู” มือหนาลากไปตามใบหน้าของผมก่อนจะพูดต่อ “สิบแปดแล้วสินะ”

ผมพยักหน้าก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อโดนพี่วินดึงตัวเข้าไปจูบที่หน้าผากทีนึง จากนั้นร่างสูงก็ยื่นของขวัญที่หน้าตาประหลาดกว่าชาวบ้านมาให้ มันเป็นซองเอกสารสีน้ำตาลเรียบๆ ซองนึงแต่ไม่รู้ว่าข้างในใส่อะไร แตกต่างจากพี่ๆ คนอื่นที่ส่วนใหญ่จะให้เป็นกล่องของขวัญกับผมเสียมากกว่า

ผมไม่ได้เปิดดูแต่เอาซองไปวางรวมกับกล่องของขวัญ ก่อนจะเดินถือเค้กไปหาคนสุดท้าย… พี่ฮิม

ร่างสูงกำลังนั่งสูบบุหรี่เงียบๆ แต่เขาดับบุหรี่ลงทันทีที่เห็นผมเดินมา

“เค้ก” ผมยื่นเค้กให้อีกฝ่าย เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหัวเราะก่อนจะดึงผมนั่งตักแล้วบอก

“ขอบคุณครับ”

ผมเอนตัวซบบ่าของอีกฝ่าย “อวยพรให้เลหน่อยสิ”

“ขอให้เลเป็นเด็กดีของพี่” ผมยิ้มรับขณะหมุนตัวกอดเอวหนา

“ขอบคุณนะ”

“หืม ?”

“ขอบคุณที่เลี้ยงเลมา” ฮิมเลี้ยงผมมา ตั้งแต่ยังเด็ก แม้ตอนเด็กจะมีเมดคอยช่วยป้อนข้าว ป้อนนมผมอยู่บ้าง แต่คนที่รับผิดชอบผมจริงๆ ก็คือพี่ฮิม และพอโตขึ้นฮิมก็ยอมรับความยุ่งยากโดยการขึ้นเป็นประธานบริษัทตั้งแต่มัธยมปลายเมื่อเพื่อผมอีก ถึงพี่ฮิมจะไม่อยากโดนผมเรียกว่าพ่อ แต่ผมก็รู้สึกว่าเขาเป็นพ่อผมจริงๆ นะ ผิดกับพ่อแท้ๆ ของผม ทั้งๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ผมกลับไม่ได้เห็นหน้าท่านเกือบสิบห้าปีแล้ว ก็ตั้งแต่ที่ฮิมเอาผมมาเลี้ยง ผมก็ไม่ได้พบหน้าพ่อแท้ๆ ของตัวเองอีกเลย ไม่ใช่ว่าพี่ฮิมไม่ยอมให้ผมเจอ ผมไม่ไปหาเอง เช่นเดียวกับทางนั้น ถ้าอยากเจอผมก็คงมาหาตั้งนานแล้วแหละ

บรรยากาศซาบซึ้งบุญคุณถูกฉุดกระชากลงเมื่อพี่ฮิมว่า “เลี้ยงมาเองแล้วก็จับกินเองน่ะเหรอ”

“พี่ฮิมอ่า!!”

“คนนี้ไม่ต้องซาบซึ้งขนาดนั้นก็ได้ เลี้ยงเรามันก็ไม่ได้ลำบากขนาดนั้นหรอก ตอนเด็กก็มีเมดช่วยเลี้ยงแถมคุณแม่พี่ก็คอยดูแลให้ด้วยอีกคน” เรื่องจริง พ่อพี่ฮิมไม่ชอบผม ใช่ว่าคุณแม่ของพี่ฮิมจะไม่ชอบผมตามนะครับ ท่านใจดีมากแล้วก็คอยดูแลผมอย่างที่พี่ฮิมว่าจริงๆ ดูแลจนผมเรียกท่านว่าแม่เลย

“แต่ฮิมก็เป็นคนออกค่าเล่าเรียนเลหนิ ค่านั้น ค่านู้น ค่านี่อีก”

“ค่าเทอมกับค่านั้นนู้นนี่ที่เลว่า คุณพ่อให้เงินตอนเทศกาลทีนึงจ่ายให้เลพี่ยังเหลือเงินเลยครับ” ผมยู่ปากเพราะไม่มีอะไรจะเถียง พ่อคนรวย พ่อลูกคนเดียว พี่ฮิมเป็นลูกคนเดียวด้วยดังนั้นตอนเทศกาลไม่ใช่แค่คุณพ่อของพี่ฮิมที่ให้ แต่มีปู่ ย่า ตา ยายเสริมมาอีกบัญชีธนาคารของพี่ฮิมจึงจะมีเงินเต็มมากช่วงเทศกาล “พี่ไม่อยากให้เลซาบซึ้งขนาดนั้น เลี้ยงเรามันไม่ยากมากหรอก”

“ฮิมบอกว่าเลดื้อนะ”

“เลดื้อแต่เลฟังพี่นะ”

“แต่…”

“ไม่มีแต่แล้ว” ผมถูกหยุดด้วยริมฝีปาก แต่ไม่นานเขาก็ถอนออกไป “ถ้าเลอยากให้พี่เป็นพ่อ มีแค่พ่อเดียวที่พี่จะเป็น…”

“หือ ?”

“พ่อทูนหัว”

คนบ้า!!!



ตีหนึ่ง

งานฉลองวันเกิดผมเสร็จแล้ว ตอนนี้พึ่งอาบน้ำเสร็จและกำลังจะนอนแต่รอพี่ฮิมที่กำลังอาบน้ำอยู่ ผมจึงใช้เวลาที่รอให้เป็นประโยชน์โดยการแกะของขวัญ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่แต่อย่างน้อยก็โชคดีที่ทุกคนไม่ซื้อตุ๊กตาให้ผม (ของขวัญที่ผมไม่อยากมากที่สุดก็คือตุ๊กตาเพราะผมไม่ค่อยอยากกอดตุ๊กตา คือให้มาก็ทิ้งไว้รกบ้าน) กล่องอันใหญ่ของพี่ผาอัดแน่นไปด้วยเกมหลากหลายชนิดที่ว่าได้เล่นจนตาแฉะ พี่รพไม่ได้ให้ถุงยางหรือสิ่งแปลกประหลาดเหมือนเคย เขาให้สร้อยไม่ใช่สร้อยธรรมดานะ สร้อยทองฝังเพชร พี่ไทด์ให้เช็คเงินสดที่มีจำนวนเลขศูนย์มากถึงหกตัว ส่วนพี่เกียร์รายนี้ให้ลูกอมเหมือนเดิมแต่ไม่ใช่ลูกอมสามลูกแล้ว เขาซื้อมาเป็นแพ็คคือให้ลูกอมร้อยเม็ด มาถึงพี่วิน…

ผมเกาศีรษะพร้อมมองซองกระดาษสีน้ำตาลเหมือนเป็นเอกสารราชการ นี่ยังเดาไม่ถูกว่าพี่วินจะให้อะไร แต่ทันทีที่เปิดออก สิ่งแรกที่ผมเห็นคือตราครุฑที่อยู่ด้านบนของกระดาษ และพอหยิบกระดาษแผ่นนั่นออกมาก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่ออ่านรายละเอียดแล้วพบว่าของขวัญที่พี่วินให้มันคือ…



โฉนดที่ดินของบ้านหลังนี้






****************
ไม่เคยแต่งอธิบายความรวยของพี่วิน แต่บอกก่อนว่าพี่วินนี่ก็ไม่ธรรมดานะจ๊ะ555555

แท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ ในทวิตเตอร์ (ใช้สระแอเท่านั้นนะคะ และอย่าไปใช้แท็ก #แฟนวิศวะ เลยค่ะ แท็กนั้นมันไม่ใช่แท็กนิยายเรา)
ทวิตนักเขียน @_mdreds (https://twitter.com/_mdreds)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-04-2017 15:51:59
ความรวยของพี่วินนี้
พี่มาเป็นแฟนเค้ามา
 :pig4: :pig4:
มาต่อบ่อยๆนะคะแอด
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 26-04-2017 15:53:18
ปลื้มปริ่มกับของขวัญพี่วินมาก
คุณพี่ฮิมขา ไม่ยับยั้งชั่งใจเลยนะตั้งแต่น้องเลสิบแปด
นั่นมันห้องครัวนะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 26-04-2017 15:56:30
 :hao5:
มีรถ ฮิมให้รถ มีบ้านวินให้บ้าน
น้องเลเอ้ยยยยย
อย่าดื้อกับพี่วินนะลูกก อย่าดื้อกับพี่ฮิมด้วย
รู้เลยว่าคนบ้านนี้ก็ทั้งรักเเละเป็นห่วงเลทุกคน
นิยายอะไรยิ่งอ่านยิ่งติด
สู้ต่อไปเพื่อคนอ่านได้ฟินเรื่อยๆนะค้าบ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 26-04-2017 16:16:49
พี่วิน แสนดี ร๊ากกกกก พี่วิน อะ อยากรู้จัง ความในใจพี่วิน คิดยังไงกับเลกันแน่ ถ้านักเขียนไม่เกริ่นว่าวินไม่ได้รักแบบชู้สาวมาก่อน เราคงเดาว่าวินเป็นคนหนึ่งที่รักเลนะ ^^
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-04-2017 16:27:25
พี่วินโครตป๋าอ่ะให้บ้านด้วย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-04-2017 17:18:33
พี่วิน....ป๋ามาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 26-04-2017 17:20:28
อูยยย. พี่วินนี่ ใจปล้ำแท้ คิดไรกับน้องป่ะเนี่ยย โห่ๆ 555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 26-04-2017 17:29:16
บวกเป็นให้ความรวย แต่ใจดีของพี่วิน >////<   :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-04-2017 17:45:15
พี่ๆทุกคน  ทั้ง ดี หล่อ รวย น่ารัก  :mew1: :mew1: :mew1:
ฮิม มีเล คนเดียว พอนะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 26-04-2017 18:09:35
พี่วินป๋ามากกกกกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 26-04-2017 18:23:30
ยิ่งอ่านยิ่งชอบพี่วิน  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 26-04-2017 18:44:09
ตอนที่บอกว่าพี่วินให้ซองสีน้ำตาลก็เดาเล่นๆว่าคงฉโนดที่ดิน
พี่วินก็ป๋าไม่เบานะจ๊ะ โอปป้าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 26-04-2017 18:53:06
บ้านนี้มีแต่สายเปย์ อิจฉาเลย์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 26-04-2017 19:09:32
พี่วิน หล่อ และ รวย มาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 26-04-2017 19:24:05
ตอนนี้อิจฉามากกกกกกกกก อยากเป็นเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 26-04-2017 19:41:36
ที่เลเอาแต่ใจก็เพราะพี่ฮิมคนสปอยนี่เอง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 26-04-2017 19:50:05
โอ้โห ของขวัญแต่ละคนทำเอาตั้งตัวได้เลย แต่เลชอบอะไรมากสุดยกเว้นของขวัญของฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 26-04-2017 20:32:27
ชอบพี่วินอ่าาาาาาาาาา จิ้นกับน้องเลได้มะ ดูอบอุ่นตอนอยู่กับน้อง เขินนน
อิอิ จะไม่โดนพี่ฮิมตบใช่มะ
ป๋ามากค่าาาา

พี่ฮิมแอบหื่นขึ้นนน  :impress2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-04-2017 20:56:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-04-2017 22:19:38
เกิดเป็นเลโคตรสบายยยยยยย ของขวัญวันเกิดนี่อลังการมากกกกกกกกกกก
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 26-04-2017 22:29:46
ตอนแรกคิดว่าพี่วินจะให้โฉนดที่ดิน
แต่ไม่คิดว่าจะเป็นบ้านหลังนี้ ใจป้ำมาก
รักน้องแต่ก็ชอบแหย่น้องสินะพี่วิน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-04-2017 22:33:05
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 26-04-2017 23:10:05
เลี้ยงแล้วจับกินเอง กินให้คุ้มกับที่เลี้ยงมาเลยนะคะพี่ฮิม :hao7: :hao7: :hao7:

พี่วินนี่ไม่ธรรมดานะแหม ยังไม่มีคู่ใช่มั้ยคะ งั้นขอ /เสนอตัว


 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260417#17 p.23
เริ่มหัวข้อโดย: Timber Huang ที่ 27-04-2017 00:37:54
พี่วินมาเป็นแฟนเราเถอะ  :กอด1: :-[
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 27-04-2017 07:49:24


#18 (10% อัพน้อยเว่อวัง ไม่อยากค้างอย่าอ่านเลยค่ะ55555)


ผมไม่รู้ว่าพี่วินคิดอะไร พอตื่นเช้าขึ้นมาจึงเดินไปถามอีกฝ่ายพร้อมกับโฉนดแต่เขาตอบว่ามันก็เป็นของขวัญวันเกิดผมนั่นแหละ คิดอะไรมากมาย ขนาดพี่ฮิมยังให้รถทำไมพี่วินจะให้บ้านไม่ได้อะไรประมาณนี้ ผมไม่กล้าที่จะรับแต่ไม่ได้พูดออกไปและเหมือนพี่วินจะล่วงรู้ความคิด อีกฝ่ายเลยพูดดักเอาไว้ว่า

‘ไม่เอาก็เรื่องของมึง งั้นก็ทิ้งมันไว้อย่างนี้แหละ’

และสุดท้ายผมก็ต้องรับมาอยู่ดี

จบเรื่องของขวัญไป หนึ่งวันที่เหลือนั้นผมเอาไปทำเรื่องสอบใบขับขี่ แต่กว่าจะได้ก็ใช้เวลาถึงสามวัน สองสามวันมานี้หลังจากลาหยุดครบหนึ่งอาทิตย์ ผมถึงเทียวไปเทียวมาระหว่างไปสอบใบขับขี่กับมาเรียนที่มหา’ลัย โชคดีหนึ่งอาทิตย์ที่ผมลาหยุดไปเกี๊ยกได้ทำชีทสรุปสิ่งที่อาจารย์พูดเอาไว้ให้ รู้สึกทรงคุณค่ามาก เพราะหยุดเรียนตั้งหนึ่งอาทิตย์มันส่งผลกับผมอย่างมหาศาลไม่ใช่แค่เรียนไม่ทัน แต่สอบเก็บคะแนนบางบทที่เพื่อนพากันสอบไปแล้ว ผมก็ต้องไปขออาจารย์สอบทีหลังด้วย สงสัยพี่ฮิมต้องมาติวให้ผมอย่างหนัก แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นในหนึ่งสัปดาห์ที่ผมหยุดพัก เรื่องที่น่าตกใจที่สุดก็คือ…

“พี่ปริมลาออก ?” ผมทวนคำเมื่อได้ยินพี่รหัสพูด พี่นนท์นี่จึงพยักหน้าช้าๆ “ทำไมล่ะครับ”

“นั่นสิพี่ก็งงเหมือนกัน เกรดก็ดี ผลการเรียนก็ดี แถมจะจบแล้วด้วย ไม่รู้นึกอะไรจู่ๆ ก็ลาออก”

“เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ!” ผมขมวดคิ้ว ผมไม่ชอบพี่ปริมถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชอบ แต่ไม่ได้ไม่ชอบถึงขนาดอยากให้พี่ปริมลาออกกลางคันอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ใกล้จะจบแล้วด้วย แต่พอนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นแล้วก็บังเอิญนึกขึ้นได้ว่า…

“อ้อ! พี่นนท์นี่เลขอโทษนะที่ตอนนั้นเลออกไปเลยไม่ได้บอกพี่นนท์นี่ก่อน” ตอนที่ผมรู้เรื่องฮิม พอร้องไห้หนักก็โดนอินลากไปเลย ไม่ได้บอกใครสักคน

“หือ ? อ้อ! ตอนสัปดาห์ก่อนน่ะเหรอ ไม่เป็นไรน้องเลป่วยนี่เนาะ พี่ก็ไม่นึกว่าหนูจะป่วยหนัก แต่ก่อนเห็นยังดีๆ อยู่เลย ไปๆ มาๆ กลับต้องลาหยุดตั้งหนึ่งสัปดาห์กว่าจะหาย ได้ข่าวว่าน้องเลนอนโรงพยาบาลด้วยหนิ พี่ขอโทษไม่ได้ไปเยี่ยมหนูเลย”

เดี๋ยวนะ ? ป่วยเหรอ

ผมทำหน้างงกับสิ่งที่พี่นนท์นี่พูดก่อนจะร้องอ๋อในใจ สงสัยเรื่องใบที่ขอลาหยุดกับทางมหา’ลัย พี่ฮิมคงให้เหตุผลว่าผมป่วยหนัก แต่ตอนนั้นผมก็ป่วยจริงๆ นะ! ป่วยกายกับป่วยใจไง เรื่องที่ผมคบกับพี่ฮิมเราไม่ได้ประกาศ เพราะยังมีหลายคนที่ยังคิดว่าเราเป็นพี่น้องแท้ๆ กันอยู่ แต่ถ้ามีคนมาถามว่าเป็นอะไรกันผมก็ตั้งใจจะตอบว่าเป็นแฟนกันนะ คือไม่ปิดแค่ไม่ได้ประกาศ คิดว่าเดี๋ยวคนอื่นก็คงสังเกตถึงความสัมพันธ์นี้ได้เอง

“เรื่องไม่ได้ไปเยี่ยมไม่เป็นไรครับ”

“อ้อ! แต่คราวหน้าจะไปไหนบอกพี่หน่อยนะ ตอนนั้นพี่วินมาถามหาน้องเลกับพี่ พี่ฉี่แทบราด ฮืออ เคยเห็นคนหล่อน่ากลัวก็วันนั้นแหละ”

พี่นนท์นี่ เลขอโทษ

ผมได้แต่ร้องขอโทษในใจ สงสัยวันที่เกิดเรื่องผมจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนกันเยอะจริงๆ แม้แต่อินที่ไม่ค่อยชอบวันนั้นอีกฝ่ายก็อุตส่าห์พาผมหนีจากมหา’ลัยไปคอนโด จะว่าไปแล้วผมก็ยังไม่ได้ขอบคุณด้วยซ้ำ (แต่ใช่ว่าผมจะชอบอินนะ เคยรู้สึกกับอีกฝ่ายยังไงตอนนี้ก็รู้สึกอย่างนั้นแหละ)

ผมนั่งคุยกับพี่นนท์นี่สักพัก จังหวะนั้นเองที่สายตาดันไปเห็นเอ็กซ์ที่กำลังจะขับรถไปไหนสักที่ (วันนี้เรียนเสร็จแล้ว) เลยขออนุญาตพี่รหัสแล้วตั้งใจจะวิ่งมาหาเพื่อนแม้อีกฝ่ายจะยังไม่ทันสังเกตเห็นผมก็ตาม

หลังจากผ่านความวุ่นวายเรื่องของพี่ฮิมเสร็จ รอบตัวผมมันก็กลับวุ่นวายแปลกๆ แทน เอ็กซ์คือประเด็นแรก ผมไม่รู้ว่าตัวเองไปทำให้เพื่อนไม่พอใจตอนไหนหรือเปล่า แต่ช่วงนี้เอ็กซ์เหมือนพยายามอยู่ให้ห่างจากผม ไม่มานั่งเรียนด้วย เวลารวมกลุ่มก็ไปอยู่กลุ่มอื่น กระทั่งคุยเขายังไม่ยอมคุยกับผมเลย อีกอย่างช่วงนี้เอ็กซ์เข้าเรียนสายตลอด ผมเลยเป็นห่วงเขา เพราะนอกจากกลุ่มผม ผมก็ไม่เห็นเอ็กซ์จะไปสนิทกับกลุ่มอื่นเพิ่ม

...แต่เขากลับไม่ยอมคุยกับผมเนี่ยสิ…

แต่นอกจากเรื่องแปลกๆ ของเอ็กซ์แล้ว อีกคนก็คือ…

“เล!!”

“ฮือออ” ผมสะดุ้งตัวเมื่อเดินอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีคนมาจับที่แขน แต่พอหันไปมองเจ้าของมือที่กำลังจับแขนผมอยู่ก็พบว่าคนๆ นั้นคือดิน “มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

เรื่องแปลกๆ เรื่องที่สองรอบตัวผมก็เกี่ยวพันกับเพื่อนๆ อีกครั้ง ช่วงนี้ทั้งเกี๊ยก พิษ ดิน ต่างก็ทำชอบทำตัวผลุบๆ โผล่ๆ เหมือนผี หมายถึงพวกเขาชอบเข้ามาจับหรือเรียกในตอนที่ผมไม่ได้สังเกตว่าพวกเขาก็อยู่ในบริเวณนั้น ไม่รู้ด้วยว่ามาจากทางไหน คือแต่ก่อนผมเองก็รู้สึกว่าพวกเขาชอบมาแบบเงียบๆ กันอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวนี้มันยิ่งกว่าเพราะมาทีทำให้ผมหัวใจจะวายเหมือนผีเอง

ดินจ้องผม เขาไม่ตอบแถมยังเปลี่ยนคำถาม “จะไปไหนเหรอ”

“จะไปหาเอ็กซ์—อ้าว!” ทันทีที่บอกเสียงสตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ก็ดังขึ้น เอ็กซ์ขับออกไปแล้ว “ไม่ทันอีกแล้ว”

ผมยู่ปาก จะไปหาเขาทีไรก็ไม่ทันตลอด แถมมาคิดๆ ดูแล้วก็พบว่าพวกเพื่อนๆ นี่แหละที่มาขวาง… เอ่อ เออ! ขวางนั่นแหละถูกแล้ว พวกเขาผลุบๆ โผล่ๆ มาขวางผมตลอดเลยเวลาผมจะเข้าไปเอ็กซ์ พอถามถึงเรื่องเอ็กซ์ทีไรทุกคนก็บอกไม่ต้องไปสนใจมาก เล่นมุกสงสัยเมนส์มาเอ็กซ์ถึงไม่มาร่วมกลุ่มกับผม

มันน่าสงสัยนะรู้ไหม

“เล…” ดินเรียกผม นัยน์ตาสวยสีน้ำตาลเข้มจ้องเข้ามาราวกับว่าจะสะกดจิตใจผมให้อยู่นิ่ง

“หือ ?”

“เรื่องเอ็กซ์นะ ...มึงอย่าเข้าไปยุ่งกับมันมากเลย”



(10%)



สำหรับตอนนี้... 555555


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 27-04-2017 07:56:40
 :hao7: :hao7: :hao7: ค้างงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 27-04-2017 07:58:42
เอกซ์เป็นอะไร
ครุ่นคิด  :hao4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-04-2017 08:06:52
ค้างงงงง
 :ling1: :ling1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-04-2017 08:27:20
รวยเว่อร์วัง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 27-04-2017 09:21:41
เลดื้อ เลโดนสปอยล์ แต่ก็น่ารัก แต่พอเจอเลตอนที่ 11 แล้ว อืม
ทำไมรู้สึกว่าเลดูเป็นเด็ก 3 ขวบไปเลย เข้าใจว่าพี่ฮิมคือทุกอย่างแต่อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ 555+
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 27-04-2017 09:57:41
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 27-04-2017 11:41:35
รอออออ :katai5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 27-04-2017 11:43:50
รู้สึกเหมือนพี่วินชอบน้องเลเลย มีจูบหน้าผากเลด้วย ถึงพี่วินไม่รวยเราก็รักนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 27-04-2017 11:52:22
อะไรเนี่ย.

เอ็กซ์ทำอะไรไม่ดี หริอมีความลับ?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 27-04-2017 12:23:11
จะมากี่%ก็อ่านหมด พี่ฮิมความลับเยอะ ระวังถ้าน้องรู้จะโกรธเอานา อิอ  เ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 27-04-2017 12:24:16
ชอบพี่วินตอนด่าเลจริง ๆ มันใช่เลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-04-2017 13:12:21
มันก็น่าสงสัย อย่างที่เล คิดจริงๆ
เอ็กซ์ แปลกๆ หลบๆเลจริงๆสินะ
แต่ทำไมต้องหลบ   :z3: :z3: :z3:
หรือมีใคร ดูออกหรือว่าเอ็กซ์ คิดไรๆกับเล  :katai1:
ปริม คงย้ายมหาลัยสินะ สาเหตุก็มาจากฮิม แหละ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 27-04-2017 13:33:44
เอ็กซ์ชอบเลใช่ไหม
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 27-04-2017 15:44:26
ให้อัพน้อยๆได้ แต่อัพบ่อยๆ นะจ๊ะ รอความเถื่อนของฮิมต่อไป :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 27-04-2017 16:58:07
ไหนบอกมาต่อให้ทุกคนไม่ค้าง แม้จะน้อยก้ต้องขอบคุณที่มา :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 27-04-2017 16:59:12
คนรอบๆ เล นี่ลึกลับกันจริงๆ
พี่วินปากร้ายแต่ใจดีใช่ไหม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-04-2017 17:32:54
ความลับเยอะ...
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 27-04-2017 17:49:00
หูย...กำลังสนุก
รอติดตามอยู่นะ ><
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 27-04-2017 20:19:04
เพราะอะไรน้ออออออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: น้องพลับ ที่ 27-04-2017 21:20:56
ค้างจริงด้วย 55555 แต่รอค่า :impress2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 27-04-2017 22:45:38
ค้างมากก ทุกอย่างดูเป็นปริศนา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 27-04-2017 23:01:52
 :mew5: ค้าง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 270417#18(10%) p.23
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 28-04-2017 00:33:50
“เรื่องเอ็กซ์นะ ...มึงอย่าเข้าไปยุ่งกับมันมากเลย”



“...”

“...”

“ทำไมล่ะ— ครืด — โอ๊ะ! ฮิมโทรมา” ผมกดรับ “พี่ฮิม”

(เรียนเสร็จหรือยังครับ)

“เสร็จแล้วแต่เลกำลังจะซ้อมหลีดต่อ” วันนี้พี่นนท์นี่นัดทันทีที่เรียนเสร็จ พี่รหัสเรียกให้ผมมาซ้อมก่อนคนอื่นเพราะผมไม่ได้ซ้อมตั้งอาทิตย์หนึ่ง “มีอะไรหรือเปล่า”

(เสร็จกี่โมง)

“น่าจะค่ำๆ ทำไมเหรอ ?”

(วันนี้พวกมันจะไปคลับ พี่ไม่อยากให้เลอยู่บ้านคนเดียว)

“จะให้เลไปด้วยเหรอ ?”

(อืม เดี๋ยวพี่ไปรับ) วันนี้ผมยังไม่ได้ขับรถมาเอง

ผมขมวดคิ้วแล้วกะเวลาที่จะซ้อมเสร็จ “สักสามทุ่ม”

(โอเค)

ติ๊ด!

ผมกดวางสายก่อนจะหมุนตัวไปหาดินที่น่าจะยืนรออยู่ทางด้านหลังแต่กลับ… หาย

เขาหายไปไหนอีกแล้ว!!

หกโมงเย็น

ผมตวัดมือกลางอากาศไปมานับสิบท่าที่พี่นนท์นี่สอนเพิ่มเติมวันนี้ โดยมีพี่เชอร์รี่กับพี่ไก่เป็นคนดู จนกระทั่งจบท่า พี่ๆ ทั้งสองจึงพยักหน้าบ่งบอกว่าผมผ่าน

“น้องเลเก่งนะเนี่ย แปปเดียวก็จำได้แถมทำท่าถูกอีก งั้นพักได้แล้วค่ะลูก”

“โหยเลเหนื่อย” ผมบ่นพร้อมกับทรุดลงกับพื้นทันที เพราะถูกพี่นนท์นี่นัดซ้อมตัวต่อตัวตั้งแต่เรียนเสร็จ นี่ผมพึ่งได้พักหลังจากยืนตวัดแขนไปมากลางอากาศคนเดียวเกือบสี่ชั่วโมงอยู่ใต้ตึก แถมอากาศยังร้อนอีก “เลอยากกินบิงซูอ่าา”

“เออพี่ก็อยาก ไว้วันพรุ่งนี้เดี๋ยวเราค่อยไปกิน” พี่ไก่สมทบ เราแปะมือกันนิดหน่อยเป็นคำสัญญาก่อนอีกฝ่ายจะดึงตัวผมขึ้นจากพื้นแล้วพาไปกินขนมที่พี่รหัสผมสั่งคนอื่นให้ไปซื้อมาให้ โชคดีมีไอติมแก้ร้อนแต่เพราะอากาศมันร้อนมากผมเลยเดินไปขอยางจากพี่ผู้หญิงที่ยังนั่งอยู่ใต้ตึกมามัดผมด้านหน้าขึ้น

แชะ!

“ถ่ายอะไรครับ” ผมถามพี่ไก่ที่กำลังยกโทรศัพท์มาทางนี้ เสียงแชะเมื่อกี้พี่ไก่ถ่ายผมชัวร์

“น้องเล๊ เซ็กซี่มาก!! ช็อตเลียไอติมเมื่อกี้ ถ้าพี่เอารูปนี้ไปขาย ขายได้หลายหมื่นแน่เลย”

“เว่อร์แล้ว”

“ไม่เว่อร์หรอกหนู รู้ไหมว่าคนอื่นเขามีประมูลเบอร์น้องเลนะ ให้ตัวละพันเลยอะ”

“หืม”

“อิจฉาาาาา” พี่ไก่ลากเสียงยาวก่อนจะโชว์รูปที่ถ่ายผมเมื่อกี้ให้ดู ไม่เห็นจะเซ็กซี่ตรงหน้า กำลังเลียไอติมแถมมีผมมัดจุกบนหัวนี่เด๋อมาก

ผมนั่งกินเงียบๆ คนเดียวจนหายเหนื่อย พอๆ กับหลีดคนอื่นที่เริ่มทะยอยมาบ้างแล้ว ผมต้องซ้อมรวมกับคนอื่นอีกหลังจากที่ได้ซ้อมคนเดียวหลายชั่วโมง มีเพื่อนหลายคนที่เข้ามาถามสารทุกข์สุขดิบและทุกคนเหมือนจะเข้าใจไปในทางเดียวกันหมดก็คือผมป่วยหนักมาก กระทั่งอินมาถึง อีกฝ่ายเหมือนจะตกใจนิดๆ ที่เห็นผมมาซ้อมได้แล้วแต่กลับไม่ได้เข้ามาทักอย่างเคย ในขณะที่ผมรู้สึกว่าวันนี้ต้องคุยกับอินให้ได้ ทั้งขอบคุณในวันนั้นแล้วก็เรื่องพี่ฮิม…

เพราะถ้าอินชอบพี่ฮิมจริงๆ ผมจะบอกให้เขาตัดใจซะ…

แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้… ผมรอจนกระทั่งฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ ในที่สุดมันก็กลายเป็นสีดำสนิท การซ้อมมาราธอนทำเอาผมเหนื่อยมากกว่าคนอื่นโชคดีที่พี่รหัสยังเห็นใจ วันนี้ซ้อมมากกว่าเพื่อนแต่ผมได้พักบ่อยกว่าเพื่อนเช่นเดียวกัน ท้ายที่สุดตอนเกือบสามทุ่มผมถึงเดินหาอินที่กำลังตวัดมือไปมาบนอากาศ วันนี้อินไม่พูดกับผมเลย นัยน์ตากลมหันมามองผมและเหมือนเจ้าตัวจะรับรู้ได้ทันทีว่าผมต้องการคุยด้วย ร่างเล็กถึงเดินมาจับมือแล้วจูงผมไปที่อื่นทันทีในขณะที่ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย

อินพาผมเดินมาถึงหลังตึก ตรงนี้ไม่มีคนเพราะมืดแล้ว มีแค่แสงไฟสลัวๆ จากที่อื่นสาดมาให้เห็นหน้ากันลางๆ คนตรงหน้าผมเริ่มพูดด้วยประโยคที่ผมไม่คาดคิด

“เราโกรธเล” อึ้งนิดหน่อย ไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่อินพูด แต่มันก็ไขความสงสัยได้อย่างนึงคือที่วันนี้อินไม่พูดกับผมคงจะมีสาเหตุมาจากนี่… ซึ่งก็ยังไม่รู้อีกว่าโกรธทำไม

“ทำไมล่ะ”

เท่านั้นแหละ ใบหน้าสวยก็ดูหัวฟัดหัวเหวี่ยงขึ้นมาทันที เสียงนุ่มตะคอก “กลับก่อนทำไม!!”

“กลับอะไร ?”

“ก็วันนั้นเลหลับอยู่เราเลยลงไปซื้อข้าวมาให้ แปะโพสอิทบอกให้รอแต่พอขึ้นห้องมาแล้วคนหายแถมยังติดต่อไม่ได้นี่ต้องรู้สึกยังไงอะ”

“แล้วต้องรู้สึกยังไงเหรอ...” อินคงหมายถึงวันที่เขาพาผมไปคอนโด แล้วผมหลับไป พอตื่นผมเห็นโพสอิทที่อินเขียนบอกเอาไว้แต่ก็ใส่ชุดแล้วหนีอีกฝ่ายไปผับ

ใบหน้าหวานถอนหายใจ อีกฝ่ายคล้ายจะร้องไห้ “ก็เป็นห่วง”

“...”

“เราเป็นห่วงเล/ชอบพี่ฮิมเหรอ!” เราพูดขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนจะทำหน้าเหวอกับประโยคของกันและกัน “อะไรนะ/พูดอะไรน่ะ”

“...”

“เลก่อน/อินก่อน”

“...” ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คนตรงหน้าก็เหมือนกัน ก่อนผมจะพยักหน้าให้อินพูดก่อน

“เราน่ะเป็นหวงเล แต่เลพูดอะไร”

“นายชอบพี่ฮิมเหรอ”

“หา ? ชอบอะไรไม่ได้ชอบ”

ไม่ได้ชอบ ผมอ้าปากค้าง คำแก้ตัวของเขามันฟังไม่ขึ้นเลยนะ! “คนไม่ชอบที่ไหนขอเป็นสายรหัสพี่ฮิม แถมตอนติวหนังสือก็ยังมาขอติวด้วยอีก นี่เรียกว่าไม่ชอบเหรอ!!”

“ก็ใช่! เราไม่ได้ชอบพี่ฮิม! ไม่ได้ชอบเลยด้วย”

“แล้วทำทั้งหมดไปเพื่ออะไร!!”

“ก็เราชอบเลไง!!!!”

“...”

“เราชอบเล ไม่เข้าใจเหรอ”

“อะ… อะไรนะ?!”

“เราชอบเล” ไม่จริงน่า… “เราขอเป็นสายรหัสพี่ฮิมเพราะมันเป็นพี่ชายเล!! ที่ขอติวด้วยก็เหมือนกัน!! ที่มาเป็นหลีดนี่ก็ด้วย!!”

ผมเบิกกว้าง อึ้งกับสิ่งที่ได้รู้แต่ยังไม่เชื่อสนิทใจ

“แต่เราชอบพี่ฮิมนะ” คราวนี้เป็นอินที่เบิกตากว้างแทน เสียงหวานพูดระรัว

“แต่นั่นมันพี่ชายเลนะ!!”

“ฮิมไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ” คนตรงหน้าผมทำหน้าอึ้งเหมือนเขาจะพึ่งรู้ว่าพี่ฮิมไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ของผม ไม่ใช่แค่อินหรอก ผมบอกแล้วว่ายังมีอีกหลายคนในมหา’ลัยที่คิดว่าผมกับพี่ฮิมเป็นพี่น้องแท้ๆ “คนละพ่อคนละแม่ แค่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ”

“โกหกน่า…”

“อินนั่นแหละโกหก” ผมไม่เชื่อว่าเขาจะชอบผม อีกอย่าง… “แค่จะเข้าใกล้เราไม่เห็นจำเป็นต้องทำมากถึงขนาดขอพี่ฮิมเป็นสายรหัสนี่ ชอบพี่ฮิมก็พูดมาตรงๆ เถอะ!!”

ใบหน้าหวานแสดงอาการอึดอัดก่อนที่อินจะระเบิดความอึดอัดนั่นออกมาผ่านคำพูด

“เลคิดว่าคนอื่นเข้าใกล้เลได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ!!”

ผมขมวดคิ้ว “มะ… หมายความว่ายังไง”

“นี่ไม่รู้เลยว่ามันส่งคนตามเล ไล่ทุกคนที่จะเข้าหาเลออกไปหมด แม้กระทั่งเพื่อนเลเองก็ยังเป็นคนของมัน!! ถ้าเราไม่ทำถึงขนาดนั้นเราจะเข้าใกล้เลได้ยังไง!!”

“โกหก…” อินเอามือเท้าสะโพกก่อนจะถอนหายใจออกมา

“คิดดูดีๆ เราว่าเลยังไม่เคยมีแฟน แม้แต่คนมาจีบก็ไม่” ผมเม้มปากก่อนจะพยักหน้าเมื่อสิ่งที่อินพูดมามันเป็นความจริง “แล้วไม่คิดเลยเหรอว่าตัวเองสวยขนาดนี้ทำไมถึงไม่มีคนมาจีบเลยสักคน ?”

“ก็เราไม่สนใจคนอื่น…” ผมมองแต่ฮิม มองแต่เขาจริงๆ แต่อินกลับทำลายความมั่นใจของผมขาดสะบั้นลง

“ไม่ใช่!!!”

“...”

“เลไม่ได้สนใจแค่มันหรอก มันต่างหากที่ไม่ให้เลไปสนใจคนอื่น!!”

“...”

“มันไม่ได้ห้ามเล แต่ห้ามไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้เล ขู่ทุกคนที่จะเข้าใกล้เล และคนที่เข้าใกล้เลได้ก็เป็นคนของมันทั้งนั้น!! แม้แต่เพื่อนเลเองก็เหมือนกัน... ” อินหอบหายใจพร่าในขณะที่ผมยังหลงอยู่ในภวังค์ของความคิด “ไม่นึกเลยเหรอว่าทำไมคนอื่นเขาถึงกลัวมัน ถ้ามันไม่ได้มีอำนาจมากพอ และมากพอที่จะทำให้คนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้เล เพื่อนมันก็พอๆ กันนั่นแหละ ทีนี้พอเข้าใจเหตุผลที่เราต้องทำถึงขนาดนั้นแล้วหรือยัง…”

ไม่รู้… ไม่เคยรู้มาก่อนเลย

แต่ผมจะยังไม่เชื่อจนสุดใจถ้าคำยืนยันมันไม่ได้ออกมาจากปากของพี่ฮิมเอง

“น้องเล!!! อยู่ไหนลูก พี่ฮิมมารับแล้วนะ” เสียงพี่รหัสดังมาแต่ไกล ผมไม่ได้มองอินว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้าแบบไหน แต่เดินแยกออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงพี่นนท์นี่ “โอ๊ะ! อยู่นี่เอง เฮ้อ! พี่บอกแล้วนะว่าจะไปไหนบอกพี่ก่อน เมื่อกี้พี่ฮิมมาถามพี่ว่าเราอยู่ไหน พี่หัวใจจะวาย”

“...”

“น้องเล…”

“...”

“ใครทำอะไรเล ทำไมหนูทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เลย”

“เปล่าครับ” ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับส่ายหน้าก่อนจะเดินตามพี่นนท์นี่ไปหาพี่ฮิมที่กำลังยืนรออยู่ ร่างสูงเด่นมาแต่ไกล เจ้าของใบหน้าหล่อเหลากับร่างกายสมบูรณ์แบบ ฮิมเดินตรงมาหาผมทันทีที่เห็นผมส่วนพี่รหัสก็ปลีกตัวออกไปทันทีที่พี่ฮิมมา ผมมองคนตรงหน้าพร้อมกับคิดตามคำพูดของอิน

‘ไม่นึกเลยเหรอว่าทำไมคนอื่นเขาถึงกลัวมัน ถ้ามันไม่ได้มีอำนาจมากพอ และมากพอที่จะทำให้คนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้เล เพื่อนมันก็พอๆ กันนั่นแหละ’

ปฏิกิริยาของพี่ๆ ที่กลัวพี่ฮิมทั้งแก็งโรซารี่และคนอื่นๆ มันเสริมให้คำพูดของอินน่าเชื่อถือขึ้นไปอีก และถ้าพี่ฮิมทำแบบนั้นจริงๆ ละก็… ผมคงเสียใจมากๆ

“ทำไมคนดีทำหน้าแบบนั้น หืม” เขาก้มลงมาจุ๊บปากผมทีนึงแล้วละออก แขนแกร่งเลื่อนมาโอบเอวคอดอัตโนมัติก่อนจะพาผมเดินไปที่รถ กระทั่งเดินเข้ามาถึงรถผมก็ยังไม่พูดอะไร ความเงียบทำให้พี่ฮิมจับสังเกตได้ เขาเอื้อมมือมาอังหน้าผากผมแล้วถามเสียงทุ้ม “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

“เลเปล่า”

“...” พี่ฮิมไม่พูดอะไรต่อ แวบนึงรู้สึกว่าเขาหันมามองผมก่อนตัวรถจะเคลื่อนออกจากมหา’ลัยไป ฮิมพาผมมาที่คลับเดิม เขาเอาชุดมาให้ผมเปลี่ยนก่อนเข้าคลับด้วย เนื่องจากชุดที่ผมใส่ตอนนี้ยังเป็นชุดมหา’ลัย เกรงว่าใส่เข้าผับจะไม่เหมาะสม ชุดไม่ได้พิเศษอะไรมาก แค่เสื้อคอวีสีดำกับกางเกงยีนส์ธรรมดา เพิ่มรองเท้ารัดส้น ผมถอดยางที่มัดเป็นจุกอยู่บนหัวออกแล้วขยี้ให้มันเข้ากับศีรษะหลังจากนั้นจึงเดินไปหาพี่ฮิมที่ยืนรอหน้าห้องน้ำ นัยน์ตาคมไล่มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาพึมพำ

“ไม่น่าหยิบเสื้อคอวีมาเลย”

“อย่างน้อยมันก็ดีกว่าชุดเอี้ยมที่เลใส่มาครั้งแรก”

“ดีกว่าชุดที่เลใส่มาครั้งก่อนด้วย” ผมนึกถึงชุดที่ใส่มาครั้งก่อนแล้วหน้าร้อนขึ้นทันที ฮิมเหมือนจะรู้ทัน เขายิ้มที่มุมปากแล้วก้มลงมากระซิบที่ข้างหูผม พร้อมคลอเคลียใบหน้าบริเวณลำคอขาวเบาๆ “พี่ไม่ให้ใส่แล้วนะ อยากใส่ไปใส่อยู่บ้านให้พี่เห็นคนเดียว”

“ไม่ต้องเลย” ผมตีบ่าแกร่งแรงๆ ก่อนจะโดนพี่ฮิมประกบปาก ร่างสูงดูดปากผมแรงๆ ทีนึงแล้วจึงผละออก หลังจากนั้นพี่ฮิมจึงพาผมเดินเข้าคลับทางประตูด้านหลัง (เพราะฮิมพาผมมาเปลี่ยนชุดก่อนที่ห้องน้ำด้านหลัง) แต่ถึงจะเป็นประตูหลังก็ยังมีการ์ดเฝ้า ผมทำหน้าสงสัยเมื่อตอนที่เดินเข้าไปแล้วการ์ดก็โค้งให้เหมือนเคย ตอนที่มาครั้งแรกก็นึกว่าเขาโค้งให้ทุกคนแต่ตอนมาครั้งที่สองระหว่างต่อแถวตอนจะเข้าคลับ ถ้าไม่คิดไปเองผมว่าการ์ดโค้งหัวให้ผมคนเดียวแถมตอนนั้นผมไม่โดนตรวจบัตรด้วย

มันแปลกๆ…

มีไม่กี่เหตุผลที่คนๆ นึงจะยอมโค้งศีรษะให้ใครสักคนเพื่อบ่งบอกว่าคนๆ นั้นพิเศษ แต่จะพิเศษในทางไหน… และพิเศษแค่ไหนถึงยอมโค้งศีรษะให้กับผมที่เป็นแค่น้องไม่แท้ด้วย

ผมเงยหน้าขึ้นจ้องพี่ฮิม แต่ร่างสูงไม่รู้สึกตัวเพราะทันทีที่เข้ามาที่นี่ ทุกสายตาก็ล้วนจับจ้องไปที่ผู้ชายที่กำลังโอบเอวผมกันทั้งนั้น ฮิมพาผมเดินมาที่ชั้นสองของคลับเหมือนทุกครั้ง แต่ไม่ได้นั่งดื่มกันด้านนอกเหมือนเมื่อก่อน เขาพาผมเดินไปที่ห้องๆ หนึ่ง จำได้ว่าเคยเข้า มันเป็นห้องสังสรรค์ เหมาะสำหรับคนที่อยากดื่มฉลองกับเพื่อนๆ ของตัวเองเท่านั้น แต่เมื่อถึงหน้าห้อง ตอนที่พี่ฮิมกำลังจะเปิดประตูเข้าไป จู่ๆ พนักงานที่อยู่ด้านในก็เดินออกมา และพอเห็นพนักงานคนนั้นเห็นหน้าพี่ฮิมอีกฝ่ายก็โค้งหัวให้ก่อนที่จะเดินออกไป ผมมองและสังเกตการกระทำนั้นเงียบๆ ก่อนที่พี่ฮิมจะบิดลูกบิดประตูเข้าไปด้านใน

ในห้องมีพี่ๆ ทุกคนรออยู่ ที่แน่ๆ คือตอนนี้แต่ละคนเริ่มเมากันแล้ว ฮิมเดินนำหน้าแต่พอผมเดินเข้าไปตาม จู่ๆ ผมก็จามออกมาทันที พอปิดจมูกแล้วหันเข้าไปมองในห้องก็พบว่าพี่ๆ ส่วนใหญ่เขากำลังสูบบุหรี่กันอยู่ ทุกคนทำหน้าเหมือนเบื่อโลกที่เห็นผมก่อนจะรีบดับบุหรี่ลง ส่วนผมออกไปยืนรอหน้าห้องให้กลิ่นบุหรี่จางไปก่อนประมาณสองนาทีหลังจากนั้นจึงโดนพี่ฮิมเรียกให้เข้าไปอีกครั้ง

ผมเดินเข้าไปนั่งข้างฮิมแล้วฟังพี่ๆ เขาคุยกันเรื่อยเปื่อย จริงๆ วันนี้มันก็ไม่ได้มีโอกาสพิเศษอะไรมากมาย ก็แค่โอกาสอยากกินแอลกอฮอล์ของพวกพี่แกมันรุ่มเร้า พวกเขาก็เลยมาคลับเท่านั้นเอง ทุกคนคอแข็งมากดื่มแค่ไหนก็เมาได้แค่กริ่มๆ และส่วนใหญ่ก็คุยกันเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ นินทาอาจารย์บ้าง (ขอโทษอาจารย์ด้วยครับ) ผมที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยได้แต่นั่งฟังพร้อมทั้งนั่งหาวหวอดๆ กว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นจึงขอพี่ฮิมไปเข้าห้องน้ำคนเดียว

ทีแรกพี่ฮิมไม่ยอมให้ผมมาคนเดียว กระทั่งผมลงทุนโดยการเป็นฝ่ายจูบอีกฝ่ายก่อนร่างสูงจึงยอมให้ผมมาห้องน้ำคนเดียว ไม่ใช่อะไร… ผมอยากมาห้องน้ำคนเดียวเผื่อจะได้เจอพนักงานคนที่โค้งให้พี่ฮิมตอนที่อยู่หน้าห้องคนนั้น แค่อยากจะถามบางอย่างกับเขาและเหมือนพระเจ้าจะเข้าข้างผม เมื่อระหว่างทางผมก็ได้เจอกับพนักงานคนนั้นจริงๆ

พอถามเหตุผลที่อีกฝ่ายโค้งให้พี่ฮิม คำตอบของเขามันก็ทำให้ผมถึงกับนิ่งไป…

ยิ่งเมื่อเทียบกับสิ่งที่อินพูด คำพูดของอินมันก็ความเป็นไปได้มันก็มากเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์



ผมเดินกลับไปที่ห้อง พอเปิดประตูเข้าไปสิ่งแรกที่ได้ยินคือเสียงของพี่ไทด์ที่เริ่มเมาหนักกำลังร้องเพลงคาราโอเกะเสียงเพี้ยนขั้นรุนแรงแบบขำๆ กันอยู่

“แต่แล้วเธอกลับมีเขาคนนั้น ไม่เกรงใจกันไม่แคร์คนนี้

ไม่รู้ทำอย่างงั้นด้วยกันมากี่ที เธอทำได้ไงไม่รู้...ดู๊ดู
— สัส! หล่อแบบนี้ใครทิ้งกูแม่งโง่อ่ะ”

“โอ๊ยย!! ไอ้ห่า”

ผมหัวเราะตอนที่พี่ๆ แต่ละคนรุมด่าพี่ไทด์ ขณะเดินไปนั่งข้างฮิม

“ทำไมไปนานจังหืม คนดีเป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าครับ เลมึนหัวนิดหน่อยเลยได้อ้วก”

“อยากกลับไหม”

“ไม่เป็นไร” ผมส่ายหน้า ขณะเอนตัวพิงไหล่พี่ฮิมพร้อมมองเสี้ยวหน้าเพราะนอนพิงไหล่มันเลยเห็นได้แค่นั้น “ฮิมเลมีคำถามด้วยนะ”

“ครับ…” แอลกอฮอล์ถูกกรอกเข้าปาก เห็นได้ชัดว่าพี่ฮิมในตอนนี้กำลังอารมณ์ดีพอสมควร “ว่ายังไงคนดี”

“เด็กพี่มีชู้ มีใครอยู่แต่เธอไม่บอก หลอกกันมาตั้งนมตั้งนาน

ไม่ทันเกมส์อย่างเรา เกือบมีเขาข้างข้างกกหู~~”
พี่ไทด์ยังร้องไปเรื่อย

“จำพนักงานที่โค้งให้ฮิมก่อนที่เราจะเข้าห้องได้ไหม เลสงสัย ตอนไปห้องน้ำบังเอิญเจอพอดี เขาบอกว่าฮิมเป็นเจ้าของคลับนี้อะ”

กึก!

“เด็กพี่มีชู้ เจ็บจนพูดอะไรไม่ถูก จุกจนบ่นอะไรไม่ออก

โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ยตาย โตเป็นควายยังโดนเขา
— เหี้ยอะไรของมึงไอ้รพจะกระตุกเสื้อกูทำไมนักหนา”

“หุบปากไปก่อน”

ผมเหล่ตามองพี่รพกับพี่ไทด์ที่กำลังเถียงกันแล้วหันหน้ามาทางฮิมต่อ ร่างสูงเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างถ้าผมไม่ยกนิ้วชี้ขึ้นปิดปากฮิมเสียก่อน

“ยัง… เลยังพูดไม่จบ” ผมพูดกับพี่ฮิมคนเดียว แต่คนทั้งห้องกลับเงียบหมด ตอนนี้มีแค่เสียงคาราโอเกะที่ไม่มีคนร้องยังดังเป็นจังหวะอยู่เท่านั้น เพลงมันส์แต่บรรยากาศกลับนิ่งขรึมลงเรื่อยๆ กระทั่งผมถามคำถามนี้ออก “ฮิมให้คนมาตามเลเหรอ”

ผมเชื่อว่าพี่ฮิมทำได้ ยิ่งพนักงานคนนั้นยืนยันผมก็ยิ่งมั่นใจเข้าไปใหญ่ว่าถ้าจะเขาจะสั่งให้คนมาตามผมจริงๆ ฮิมสามารถทำได้ เพราะบางทีอำนาจที่อินว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับการที่พี่ฮิมเป็นเจ้าของคลับก็ได้

“...”

“ฮิมขู่คนที่จะเข้าหาเลเหรอ”

“...”

“เพื่อนของเลก็เป็นคนของฮิมเหรอ”

“...”

ไม่รู้ว่าใครกดหยุดเพลง แต่ตอนนี้ทั้งห้องเงียบ… เงียบมากจริงๆ ดังนั้นคนตรงหน้ายิ่งได้ยินคำถามของผมอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ตอบมาสิครับพี่ฮิม”







(100%)

ซีนที่ชอบที่สุดของบทนี้คือฉากอินกับเล เนี่ยยย ตอนเขียนสองคนนี้ปุ๊บคิดเลยว่าสักวันฉันจะแต่ง เคะ x เคะ ส่วนสาเหตุของอินก็นั่นแหละค่ะ เพราะพี่เขาไม่ยอมคนอื่นมาใกล้น้อง อินเลยต้องยอมหน้าด้าน (คือฉันรักนางมากๆ อะไม่รู้ทำไม5555) ส่วนพี่ฮิมกับน้องเลพอหวานปุ๊บดราม่าก็ตามมาติดๆ อยากบอกว่าปมพี่ฮิมนี่ยังไม่หมดนะ ถ้าปมพี่ฮิมแค่นี้รู้สึกมันด๊อกด๋อยมาก เอาจริงๆ นะยังยี่สิบตอนแล้ว พี่ฮิมยังไม่ปล่อยความเถื่อนถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ตอนนี้มันแค่สี่สิบเองนะ55555 ไอ้คนเล่นหมากรุกตอนบทนำก็ยังไม่ค่อยมีบทบาทเลยแต่จริงๆ นางเคยโผล่มาแล้วนะ ไหนจะเรื่องของเอ็กซ์อีก บอกเลยปมมันเยอะมากขนาดคนแต่งบางทีแต่งเองยังงง

หน้าตอนที่แต่งปมปวดหัวระดับนี้...
(https://m.popkey.co/83820f/JaZX9.gif)


#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (สระแอเท่านั้นน้าาา อย่าใช้แท็ก #แฟนวิศวะ เลยมันไม่ใช่แท็กนิยายเรา)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 28-04-2017 00:49:14
กรีดดดดด....จบแบบอย่ากจะกรีดดดด55555มาตาออีกนะค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 28-04-2017 01:32:57
เฮ้ยยย เลมัดผมเองเป็นแล้วหรอ!! อึ้งนะเนี่ย55555

ว่าละว่าอินต้องชอบเล

อินพูดแทนพี่ฮิมว้า "มัน" คือต้องมีอะไรมากกว่านั้น

สุดท้ายนี้จะตอบคำถามน้องยังไงล่ะพี่ฮิม พี่ๆในบ้านด้วย

เป็นเราเราก็เสียใจนะ เหมือนเลไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นอ่ะ เหมือนเลเป็นตัวละครที่พี่ฮิมอยากให้เป็นยังไงก็จะต้องเป็นแบบนั้น

อนาคตน้องควรจะมีชีวิตที่เป็นของน้องนะพี่ฮิม เรารู้ว่าพี่ฮิมรักน้องมาก แต่ทำแบบนี้มันจะดีหรอ...


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 28-04-2017 01:36:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 28-04-2017 01:44:05
คนเล่นหมากรุกตอนแรกโผล่มาตอนไหนอีกเนี่ย ลืมจริงๆ

อินเธอทำให้เราอึ้งในสิ่งที่เธอทำอ่ะ

พี่ฮิมความลับเยอะจริง

แต่ยังชอบพี่วินนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 28-04-2017 06:23:03
ความลับไม่มีในโลกจริงๆ
ถ้านี่เป็นแค่บางส่วน
แต่ดูเหมือนน้องเลจะเสียใจมากอยู่ดี
อยากให้น้องเลได้ใช้ชีวิตของน้อง
ได้ทำ ได้เป็นในทุกสิ่งที่ต้องการ
ดีบ้างแย่บ้างก็ไม่เห็นเป็นไรนะพี่ฮิม
ก็เพราะเราเป็นแค่คนๆ หนึ่งเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 28-04-2017 06:38:58
 :hao3: :hao3: :hao3: หุหุ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 28-04-2017 06:47:22
พี่ฮิมสู้สู้ ... พูดความจริงไปเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 28-04-2017 07:02:23
ความลับเยอะดีนัก เป็นไงล่ะ จะบอกเรื่องไหนก่อนดี
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 28-04-2017 07:27:18
เอาละไงทีนี้..ปล่อยให้น้องรู้อะไรๆจากปากคนอื่น
พี่ฮิมคิดว่าควบคุมใครต่อใครได้  แต่ว่าลมปากคนอะนะ..บังคับยาก
เราว่านะ  ในเมื่อเลื่อนสถานะจาก'ลูก' มาเป็น'แม่'(คุณ) ก็ควรจะเริ่มบอกความจริงบ้าง
ให้เลค่อยๆซึมซับและยอมรับเบื้องลึกเบื้องหลัง  เพราะยังไงๆเลก็บอกว่าฮิมคือชีวิตของเลอยู่ดี
และถ้าเป็นคนที่คิดจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต  มันปกปิดตัวตนที่แท้จริงไม่ได้ตลอดไปหรอก ....อินเนอะเรา!!  :hao4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 28-04-2017 08:02:08
อุต๊ะ ความลับส่วนหนึ่งกำลังจะเปิดเผยแล้วววววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-04-2017 09:26:48
ผิดคาด เรื่องอิน คิดว่าอิน เข้าหาฮิม เพราะชอบฮิม
ที่แท้เพราะอิน ชอบเล อินดูคล้ายเล ซึ่งน่าจะเป็นเคะ
ดูท่าทางอิน เกลียดฮิม และแค้นฮิม
ไม่ใช่แค่ที่ฮิม ให้คนตามดูแลเล เท่านั้น  :katai1: :katai1: :katai1:

ทุกอย่างที่ฮิม ทำ คือหวงเล
ปกป้องเล ให้เล ปลอดภัย จากคนที่เข้าหาเล
-เพราะเล ซื่อๆ ทั้งน่ารัก ทั้งสวยมาก
-เพราะหวังมีเซ็กส์กับเล
-เพราะเลเป็นน้องฮิม หวังผลประโยชน์ของฮิม
-เพราะต้องการทำร้ายเล จากคนที่เคยถูกฮิมทำร้าย แล้วมาเอาคืนฮิม
แต่เลยกลายเป็นเล ไม่รู้เรื่อง ไม่ทันโลกอยู่คนเดียว

แล้วนี่คำถามของเล เลยทำให้ทุกคนนิ่งกันหมด
ฮิม ตอบเลไปเลย ที่ทำไปเพราะรักเล หวงเลใช่มั้ย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 28-04-2017 09:45:13
พี่ฮิมพาน้องเลเข้าไปในโลกอีกใบได้แล้วมั้ง ไม่งั้นปัญหาจะตามมาอีกเพียบเหมือนตอนที่เลสงสัยเรื่องการใช้ถุงยาง 555+
ดูแล้วน่าจะมีมาม่า หน่วง อีกหลายช็อต หลายตอน ฮึ้ม ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 28-04-2017 09:59:17
จริงๆน้องเลไม่ได้ไม่เข้าใจอะไรนะ
แค่อธิบายน้องบอกน้องไปอ่ะพี่ฮิม
อย่าปิดน้องให้น้องไปรู้จากคนอื่นเลย 
น้องจะได้เข้าใจโลกมากขึ้น
เข้าใจพี่ฮิมไง

ให้น้องออกไปเจอโลกบ้าง น้องจะได้แกร่ง
มีแต่คนโอ๋น้อง ปกป้องน้อง แล้วถ้าพลาดไรมาล๊าาาา

อินนี่ไม่ผิดจากที่คาดเท่าไหร่
แต่แบบไม่ไว้ใจอยู่ดี
ดูจากการพูดกับเลแล้วแบบ
ฮื่อออ กลัวแบบแค้นพี่ฮิมละมาลงเลงี้อ่ะ


อยากอ่านทุกวันเลยอ้ะ
สนุกดี
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-04-2017 10:02:39
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-04-2017 10:15:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 28-04-2017 11:22:59
พี่ฮิมหวงน้องรักน้องมากใช่มั้ยเลยทำงี้
อยากให้บอกน้องตรงๆ เดี๋ยวน้องโกรธ
พวกพี่ๆเงียบกันไปเลย น้องเลก็ดูมีอิทธิพลนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: wildride ที่ 28-04-2017 11:40:43
 :ling2:   
   ใดๆล้วนแล้วสารพันปัญหา
  มากมายกว่าแขนขายุ่งเหยิง
 เรื่องราวร้อนระอุเปรียบเปลวเพลิง
แลเหลิงลมหลงละเลิงด้วยเชิงชาย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 28-04-2017 14:56:22
โป๊ะจะแตกมั้ยพี่ฮิมมมมมมมม ความลับไม่มีในโลกนะคะ บอกความจริงกับเลไปก่อน ก่อนที่น้องจะสืบจนรู้เอง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 28-04-2017 19:20:36
ผิดคาดมากกกกกเรื่องอินชอบน้องเล เคะตัวแม่  :a5: 
หวานแป๊บๆอย่าดราม่าหนักเลยนะ สงสารวิน ไม่ได้พิมพ์ผิดนะ สงสารวินจริงๆๆ เพราะนางคือพระรองเกาหลีที่ที่นายเอกโกรธพระเอก พี่วินจะเข้ามาอธิบายเหตุผลให้พี่ฮิมแก่น้องเลฟัง. อิอิ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 28-04-2017 20:32:05
องค์แม่ประทับสินะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 28-04-2017 21:25:08
บอกๆ ไปให้หมดเหอะ มาถึงขั้นนี้แล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 28-04-2017 22:25:31
อ่านรวดเดียวถึงตอนปัจจุบัน
สนุกมากค่ะ
แนะนำพี่ฮิมบอกความจริงให้น้องรู้ทุกอย่างเลย
จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-04-2017 23:18:26
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 28-04-2017 23:28:02
พี่ฮิมงานเข้า เคลียร์ให้หมดนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280417#18 p.24
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 29-04-2017 16:22:52
เอาล่ะ พ่อทูนหัวล่ะว่าไง
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 01-05-2017 01:04:32
#19



อึดอัด…

ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดขนาดนี้ ฮิมหอบหายใจหนักขณะนัยน์ตาสีดำสนิทยังประสานกับอีกฝ่ายนิ่ง เลนิ่ง นิ่งจนน่ากลัว การกระทำของน้องพานให้ทั้งห้องเงียบไปด้วย ริมฝีปากหยักเม้มลง นัยน์ตาคมผละออกแล้วแสร้งมองไปทางอื่นก่อนจะถอนหายใจ ฮิมไม่อยากโกหก เขาจะตอบความจริงแต่อยากอธิบายให้อีกฝ่ายฟังก่อน

“คือ—”

“ไม่ต้องพูดมากตอนนี้ตอบเลแค่ว่าใช่หรือไม่ใช่ก็พอ” ใบหน้าคมแสดงความกังวลออกมาแบบปิดไม่มิด เป็นครั้งแรกที่ฮิมรู้สึกหนักใจราวกับกำลังเดินเข้าถ้ำเสือ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วคนตรงหน้าเขาเป็นแค่แมวเท่านั้นเอง “พูดสิ”

เสียงหวานเร่งพลันให้คนฟังหนักใจ ฮิมไม่อยากโกหกท้ายที่สุดเลยต้องกลั้นใจบอกความจริงไป

“ใช่”

เพี๊ยะ!

ฝ่ามือบางตวัดตบใบหน้าหล่อเหลาจนสะบัด แรงจนเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งในโพรงปาก และทันทีที่โดนทำร้ายสัญชาตญาณนักล่ามันก็เผยออกมาทันที นัยน์ตาคมฉายแววไม่พอใจ ฮิมใช้ลิ้นกระทุ้งแก้มแล้วเลียเลือดที่มุมปาก จากนั้นจึงหันไปมองทางคนตบอย่างเอาเรื่องทว่าทันทีที่เห็นหน้าใสๆ คล้ายกำลังจะร้องไห้ ความโกรธของเขามันก็มลายหายไปทันที

“คนเห็นแก่ตัว!” น้องพูดเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะคว้ากุญแจรถที่ใครสักคนที่วางอยู่บนโต๊ะแล้ววิ่งออกไปจากห้อง ทิ้งให้คนตัวสูงยังคงตะลึงค้าง สักพักจึงยกมือขึ้นขยี้กลุ่มผมสีดำสนิทแรงๆ นัยน์ตาคมแข็งกร้าว บรรยากาศรอบตัวคล้ายอุณหภูมิลดต่ำลงกว่าเดิม ภายในห้องถึงได้เย็นยะเยือกและรู้สึกหนาวไปถึงไขสันหลังได้ขนาดนี้ มือหนายกแก้วแอลกอฮอล์ขึ้นดื่มก่อนจะขว้างแก้วไปโดนกำแพงจนแตกเพล้งเพื่อระบายความอัดอั้นในใจ

ทุกๆ อย่าง มันเกือบจะดีแล้วแท้ๆ

ร่างสูงลุกขึ้นยืนเต็มตัว แล้วเดินออกจากห้องพร้อมกับปิดประตูปัง! ออกไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว





บ้าน

‘มันไม่ได้ห้ามเล แต่ห้ามไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้เล ขู่ทุกคนที่จะเข้าใกล้เล และคนที่เข้าใกล้เลได้ก็เป็นคนของมันทั้งนั้น!! แม้แต่เพื่อนเลเองก็เหมือนกัน...’

‘แม้แต่เพื่อนเลเองก็เหมือนกัน…’

‘แม้แต่เพื่อน…’

ปัง! ปัง! ปัง!

“เลเปิดประตูให้พี่หน่อยสิครับ คนดี”

“เลออกมาคุยกับพี่ก่อน”

...ปวดหัว…

ผมยันตัวขึ้นจากเตียง ก่อนจะยกมือกุมขมับรู้สึกอาการมึนหัวจากที่คลับมันจะกลายมาเป็นปวดหัวที่บ้านได้ ผมออกจากคลับด้วยรถของพี่รพ (พึ่งสังเกตหลังจากหยิบกุญแจรถแล้ววิ่งออกมาเลย) ไม่ได้ประชดโดยการขับรถไปที่อื่นแต่ผมกลับมาบ้านโดยตรง แล้วเข้าไปเก็บกุญแจสำรองทั้งหมดของบ้านที่อยู่ในห้องพี่วินมาไว้จากนั้นจึงล็อกห้องนอนเพื่อไม่ให้ใครเข้ามา

เช่นกัน… คนด้านนอกนั่นก็ทุบประตูได้เกือบสิบห้านาทีแล้ว

พอจะล้มตัวนอนเพราะปวดหัวก็ทนฟังเสียงทุบประตูไม่ไหว ท้ายที่สุดผมเลยต้องจำใจเดินไปเปิดแต่เอามือขวางเอาไว้ไม่ให้พี่ฮิมเข้ามา

“เลปวดหัว จะนอน อย่าทุบ” ผมย้ำทีละประโยคแต่หลุบตาลงพื้นไม่มองคนฟัง

“คนดีเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”

“ปวดหัว” ผมบอกเสียงเรียบเป็นนัยว่าไม่อยากคุยตอนนี้

“งั้นให้พี่เข้าไป”

“ไม่”

“นี่ก็ห้องพี่นะ”

ผมยกมือกุมขมับ ยิ่งพูดอาการปวดหัวก็ยิ่งแล่นตุบๆ ในสมอง “ไปนอนห้องรับแขกสิ”

“เลครับ…”

“ไม่งั้นก็ไปจองโรงแรมนอน แต่ถ้าไม่มีปัญญาหาที่นอนจริงๆ ก็นอนมันหน้าห้องนี่แหละ!”

ปัง!

ผมปิดประตูใส่หน้าอีกฝ่ายแล้วล็อกกลอน ก่อนจะเดินมาล้มตัวลงบนที่นอนดังเดิม ฝ่ายนั้นเองก็ไม่ได้ทุบประตูอีกอย่างที่ผมออก แต่จู่ๆ อาการปวดหัวก็พลันแล่นขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องถอนหายใจ แถมห้องนี้ก็ไม่มียาและผมก็ขี้เกียจที่จะเดินออกไปเอา เพราะรู้ว่าถ้าเปิดประตูออกไปยังไงก็ได้เจอกับพี่ฮิมแน่ๆ

ผมยังไม่พร้อมจะคุยกับเขาตอนนี้ จะเรื่องอะไรก็ตามผมไม่พร้อมรับอะไรหลายๆ อย่างมาคิด ยิ่งเป็นตอนที่ตัวเองกำลังปวดหัวตุบตับเหมือนมันกำลังจะระเบิด ยิ่งไม่พร้อมเข้าไปใหญ่

“เฮ้อ…” ว่าแล้วก็ต้องถอนหายใจ ปวดหัว แต่เพราะอาการปวดหัวนี่แหละมันทำให้ผมลืมความเศร้าไปเลย ขี้เกียจออกไปกินยา งั้นก็นอนไปทั้งๆ อย่างนี้แหละ…





ตีสอง

แอด

คนตัวสูงแอบย่องเข้าห้องเงียบๆ ดวงตาสีดำสนิทกวาดมองรอบห้องที่แม้แต่ไฟก็ยังไม่ได้ปิด น้องนอนหลับอยู่บนเตียงในชุดเดิมในท่าทางเอามือกุมขมับเป็นการยืนยันที่เจ้าตัวบอกว่าปวดหัวนั่นเป็นเรื่องจริง มือหนาจับคนตัวเล็กนอนหงายก่อนจะเลื่อนมือไปทาบหน้าผาก มันร้อนจัดจนคนสัมผัสต้องตกใจ

อันที่จริงฮิมมีกุญแจ (นอกจากกุญแจสำรองของวินเจ้าของบ้าน เขาก็มีกุญแจสำรองของห้องตัวเองอีกอันหนึ่ง) เพียงแต่เขายังไม่อยากใช้มัน ที่ทุบประตูในตอนนั้นก็เพราะอยากให้เลมาเปิดให้ด้วยตัวเองมากกว่า แต่พอน้องบอกว่าปวดหัวฮิมจึงไม่ยุ่งกับประตูอีก แล้วแอบย่องเข้ามาช่วงที่คิดว่าเลน่าจะหลับไปแล้ว

คนตัวสูงเดินออกจากห้องเมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนในกายของอีกฝ่าย เขาคิดว่าน้องน่าจะยังไม่ได้ทานยา จึงเดินไปหยิบยาพร้อมขวดน้ำแล้วกลับขึ้นมาด้านบนอีกครั้ง มือหนาเทยาออกมาใส่มือเม็ดนึงก่อนจะเอาเข้าปากแล้วกรอกน้ำตาม จากนั้นจึงก้มใบหน้าลงไปแนบชิดกับริมฝีปากของอีกฝ่ายแล้วจัดการป้อนยาผ่านทางริมฝีปาก เลส่งเสียงอื้ออึงพักนึงแต่ไม่ตื่น ฮิมจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำต่อ ร่างสูงจัดการหาถังเล็กๆ มาใส่น้ำแล้วถือมันมาวางไว้ที่ข้างเตียง ก่อนจะหาผ้าสีขาวผืนบางมาชุบน้ำ บิดหมาดๆ เพื่อเช็ดตัวให้อีกฝ่าย

มือหนาจัดการถอนทุกอย่างบนกายบางออก ทันใดนั้นร่างขาวก็ปรากฏ คนตัวสูงถึงกับต้องเลียริมฝีปากขณะลากผ้าผืนบางผ่านแผ่นอกขาว นัยน์ตาคมหลุบลงยอดดอกสีชมพู แค่นึกไปถึงวันที่เคยได้ละเลงลิ้นบนนั้นแก่นกายของเขามันก็ปวดหนึบขึ้นมาทันที มือหนาเผลอปล่อยผ้าที่กำลังเช็ดตัวให้กับอีกฝ่าย เขาเคลื่อนมันมาที่แผ่นอกขาวอย่างห้ามใจไม่อยู่ ร่างสูงกัดปากก่อนจะสะกิดเบาๆ ที่ยอดอกจนคนโดนส่งเสียงร้องอื้ออึงในลำคอ

เสียงร้องครางทำให้ฮิมเหมือนโดนมนตร์สะกด ที่มารู้ตัวอีกทีตอนที่ตัวเองขึ้นคร่อม ใบหน้าหล่อเหลากำลังซุกไซร้เข้าซอกคอขาว เช่นเดียวกับที่มือหนาลากผ่านเอวคอดไปจับขาอ่อนแยกออกจากกันแล้ว เขารีบผละออกก่อนจะเสยผมบนใบหน้าแล้วขยี้แรงๆ ให้ตัวเองได้สติพร้อมทั้งรีบจัดการเช็ดตัวให้อีกฝ่ายรวดเร็วขึ้น ฮิมสวมชุดเดิมให้น้อง เพราะถ้าเลตื่นนอนแล้วจับได้ว่าเขาแอบเข้ามาในห้อง น้องได้หาสาเหตุโกรธเขาเพิ่มแน่นอน

ฮิมจัดการเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างให้เข้าที่ ก่อนจะเดินไปจูบเบาๆ ที่ปากบางแล้วเดินออกจากห้องไปแบบเงียบๆ





เช้า

ผมตื่นนอนตอนตีห้า ไม่รู้ทำไมถึงตื่น แต่พอตื่นขึ้นถึงได้รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไป ไฟยังเปิดแถมผมยังอยู่ในชุดเดิมของเมื่อวาน แต่อาการปวดหัวหายเป็นปริทิ้งแล้ว ผมเดินเข้าห้องน้ำจัดการอาบน้ำตั้งแต่ตีห้าทั้งๆ ที่วันนี้มีเรียนตอนเก้าโมงเช้า ผมตัดสินใจว่าจะออกก่อน ว่าจะหาที่อยู่สักทีเพราะตอนนี้ไม่อยากเจอหน้าพี่ฮิม ไม่ใช่แค่พี่ฮิม พี่ๆ ทุกคนก็ด้วย เพื่อนก็ยังไม่อยากเจอ แถมตอนนี้รถก็มี ใบขับขี่ก็มีแล้วเลยว่าจะไปหาที่อยู่ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปอยู่ที่ไหนดี เพราะตอนนี้ห้างก็ยังไม่เปิด

ผมจัดการทุกอย่างเสร็จตอนตีห้าเกือบหกโมง พอคิดว่าไม่มีอะไรอีกแล้วที่ต้องย้อนกลับมาเอาที่บ้าน เลยไปหยิบกุญแจรถแล้วเปิดประตูห้อง แต่ทันทีที่เปิดออกมาผมก็ต้องผงะเมื่อเห็นว่าใครสักคนกำลังนั่งพิงหลังกับกำแพงข้างประตูในท่าทางเหมือนกำลังหลับอยู่

พี่ฮิม… นอนรอหน้าประตูจริงๆ ด้วย

ผมมองเขาด้วยความนิ่งงัน ไม่มีความรู้สึกสงสารอะไรทั้งนั้น ผมค่อยๆ ปิดประตูเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายตื่น ไม่อยากคุยด้วยตอนนี้ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปเงียบๆ เพราะในตอนนี้ทั้งบ้านเหมือนจะยังไม่มีใครตื่นเลยสักคน

McLaren 650S สีเทาคันหรูค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากบ้านสองชั้นขนาดใหญ่สู่ถนนใหญ่ หวาดเสียวนิดหน่อยเพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ขับรถของตัวเองจริงๆ ผมขับวนไปมาที่เส้นเดิมอยู่สามรอบเพราะไม่รู้ว่าจะไปในดีจังหวะนั้นเองโทรศัพท์ก็ดังขึ้นบ่งบอกว่ามีคนโทรเข้ามา แต่พอเห็นชื่อคนโทรเข้าแทนที่จะรับ ผมจึงกดตัดสายแล้วปิดโทรศัพท์หนี ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าปั้มใกล้ๆ เดินเข้าเซเว่นแล้วซื้อขนมปังกับนมมากินรองท้องเป็นข้าวเช้าไปก่อน

พอกัดขนมปังไปคำนึง ฮึก… สู้ข้าวเช้าฝีมือพี่รพไม่ได้เลย

เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่ามีพี่รพที่ฝีมือทำอาหารระดับเชฟห้าดาวมาทำข้าวเช้าให้ทุกวันเป็นลาปอันประเสริฐ

อยากกินสเต็กอีกอ่า…

ผมขว้างขนมปังรสชาติไม่ได้เรื่องทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะดื่มน้ำเปล่าตาม แล้วเดินไปขึ้นรถอีกครั้งจากนั้นจึงขับออกจากปั้มแล้ววนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นคอนโดนึงที่มันคุ้นตาแปลกๆ

...คอนโดอิน...

ผมไม่รู้อะไรดลใจให้ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดทันที แต่จำไม่ได้ว่าอินอยู่ห้องไหน อาศัยความหน้าตาดีถามโอเปอร์เรเตอร์ที่ผมเคยให้เขาเรียกแท็กซี่ให้ตอนมาคอนโดอินครั้งก่อน และเหมือนอีกฝ่ายจะจำหน้าผมได้เธอเลยบอกห้องของอินแบบที่ผมไม่ต้องยืนยันตัวตนอะไร

ห้องของอินอยู่ที่ชั้น 49 ชั้นเกือบบนสุดของคอนโดนี้ สังเกตมานานแล้วอินเองก็ดูเหมือนจะมีฐานะพอสมควร เพราะคอนโดยิ่งชั้นสูงเท่าไหร่มันก็ยิ่งจะแพงขึ้นไปเท่านั้น แถมรถที่อีกฝ่ายขับก็หรูไม่ใช่เล่นๆ ด้วย ผมขึ้นลิฟต์จนเดินมาถึงหน้าห้องก่อนจะกดกริ๊งสองสามทีแต่ไม่มีคนเปิดประตูให้ คราวนี้เลยกดแบบซ้ำๆ จนกระทั่งเจ้าของห้องเปิดประตูผ่างออกมาพร้อมชุดนอนและสภาพเหมือนคนพึ่งตื่น เสียงหวานว่า

“จะกดอะไรหนักหนา แล้วมาทำอะไรไม่ทราบ!!” อินพูดในขณะที่ตายังปิดสนิท ผมถอนหายใจก่อนจะยกขึ้นเกาศีรษะอันที่จริงผมมาทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน “ตอบสิ!!”

“เอ่อ… ขอโทษ” จะว่าไปผมก็คงติดสนิทเอาแต่ใจตัวเองไปหน่อยถึงได้กดกริ๊งซ้ำๆ แบบนั้น แถมตอนนี้มันยังถือว่าเช้าถ้าเทียบกับเวลาที่เราต้องไปเข้าเรียนในวันนี้ มาทำไมอะไรที่นี่ผมก็ไม่รู้อีก เอาง่ายๆ ตอนนี้ผมกำลังรบกวนคนตรงหน้าแบบสุดๆ

อินลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงผม จากนั้นร่างบางก็ทำตาเบิกกว้างเหมือนเห็นผีก่อนจะปิดประตูปังใส่จนผมต้องชักสีหน้านิดๆ เหมือนอีกฝ่ายจะเข้าไปทำอะไรสักอย่างก่อนจะกลับมาอีกครั้งหลังจากผ่านไปแล้วประมาณสามนาทีด้วยสภาพที่ดีกว่าเดิม

“เลมาได้ยังไงอะ” อินโผล่แค่หน้ามาให้เห็นแต่ซ่อนร่างกายตัวเองเอาไว้หลังประตู

ผมตอบตามตรง “ไม่มีที่ไป ขอเข้าไปได้ไหม”

“จะ... จะเข้ามาเหรอ”

“อือ”

อินเบิกตากว้างอีกครั้ง ก่อนจะรีบพยักหน้า “ได้ๆ แต่เราเข้าไปหนึ่งนาทีแล้วเลค่อยตามเข้ามาได้ไหม”

“เข้าไปตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ”

“เรายังไม่ได้อาบน้ำ”

“เราไม่ถือ”

“ไม่ได้!!” อินตวาดจนผมสะดุ้ง “ขอโทษแต่เราให้เลเห็นเราตอนนี้ไม่ได้ ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนแอบชอบเหรอ  แค่เลเห็นหน้าเราตอนตื่นนอนเราก็อยากมุดหน้าลงดินแล้วอะ”

“แต่นายอยู่ที่ชั้น 49 นะ” ผมขมวดคิ้ว

“มุดลงผนังก็ได้!! มุดอะไรก็ได้ แต่เราเข้าไปหนึ่งนาทีแล้วเลค่อยตามเข้ามานะ เราจะอาบน้ำ เลนั่งรอก่อนก็ได้ โอเคไหม”

“อือๆ” ผมพยักหน้าแบบส่งๆ ไป จนอินย้ำอีกครั้ง

“หนึ่งนาทีค่อยตามมานะ เราไปแล้ว ปัง!”

ประตูถูกปิดใส่หน้าผมอีกครั้ง ผมยืนดูนาฬิกาจับเวลารอ พอครบหนึ่งนาทีจึงเปิดประตูเดินเข้าไปด้านในแล้วทำการสำรวจห้องเงียบๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นแล้วถือวิสาสะเปิดทีวีดูหนังรอ เพราะถ้าผมเปิดโทรศัพท์ตอนนี้รับรองว่าต้องมีคนโทรเข้ามาแน่ๆ

สิบห้านาทีต่อมาอินก็ออกมาจากห้องนอนในชุดนักศึกษาเหมือนผมแล้ว อีกฝ่ายถามว่าผมทานข้าวเช้ามาหรือยังพอผมส่ายหน้า เจ้าตัวก็วิ่งแจ้นเข้าไปในห้องครัวแบบไม่บอกไม่กล่าวทันที ผมนั่งดูหนังรออินอีกห้านาทีจนกระทั่งทนนั่งไม่ไหวจึงเดินเข้าไปในห้องครัวตาม กลิ่นหอมๆ ลอยเข้าจมูกทันที กลิ่นแบบนี้สงสัยอินกำลังทำข้าวต้มอยู่ ผมเดินไปอยู่ด้านหลังคนที่กำลังคนข้าวในหม้อแล้วชะโงกหน้าเข้าไปดู เป็นจังหวะเดียวกันที่อินหันกลับมาพอดี ก่อนจะทำท่าทางเหมือนเห็นผีอีกครั้งเมื่อนัยน์ตากลมโตเห็นหน้าผม

“ทำไมมาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง” มือบางทาบอก ทำท่าทางคล้ายหัวใจจะวาย

“ทำข้าวต้มอยู่เหรอ”

“อื้อ ชิมไหม” มือบางหยิบช้อนแล้วตักขึ้นมานิดหน่อยก่อนจะจ่อเข้าปาก ผมเบาให้มันเย็นกว่าเดิมก่อนจะชิมแล้วพยักหน้าเล็กน้อย

“ก็อร่อยดี”

“ดีจัง แสดงว่าถ้าเป็นแฟนกันเราทำอาหารเช้าให้เลกินได้นะ”

ผมหัวเราะหึในลำคอ ก่อนจะผลักคนตรงหน้าให้พ้นจากหม้อข้าวต้ม ไอ้ที่ชิมเมื่อกี้มันก็ไม่ได้แย่นะแต่…

ขวับ! ขวับ! ขวับ!

ผมหยิบนั่นผสมนี่ใส่เข้าไปในหม้อก่อนจะคนๆ แล้วตักให้อีกคนชิม อินรับแล้วแล้วเบิกตากว้างเป็นครั้งที่สามของวันนี้

“อร่อยจัง เลเคยเรียนทำอาหารเหรอ”

“เปล่า ไม่เคยเรียน แต่ตอนเด็กๆ ชอบทำอาหารให้พี่ฮิมกินบ่อยๆ”

กึก!

ผมหยุดชะงักเมื่อพูด ก่อนจะส่ายหน้าเมื่อสมองมันนึกไปถึงตอนเด็กๆ ตอนที่ผมชอบทำอาหารให้พี่ฮิมกิน ตอนนั้นคือหนทางสู่การทำอาหารได้เก่งจนพี่รพชมของผม มีอันที่แย่กับอันที่ดีตามประสาเด็กทำ แต่จำได้ว่าในตอนนั้นถึงมันจะแย่ขนาดไหนฮิมก็ชมว่าผมทำอร่อย…

“เล! อยู่หน้าไฟนะอย่าเหม่อสิ”

“อือๆ” ผมตั้งสติก่อนจะปิดเตาแก๊สแล้วยกหน้าที่ต่อไปให้อินทำ อีกฝ่ายตักข้าวต้มให้ผมก่อนเราจะมานั่งกินที่โต๊ะ คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเป็นฝ่ายเริ่มคำถาม

“เลมาหาเราทำไมเหรอ”

“บอกตรงๆ นะ เราไม่มีที่ไป”

“เมื่อวานหลังจากที่เราบอกเรื่องนั้น…”

“ทะเลาะกับพี่ฮิม” จะเรียกว่าทะเลาะได้หรือเปล่า บางทีอาจจะยังเรียกว่าทะเลาะไม่ได้ ผมเสียใจกับคำตอบของอีกฝ่ายแต่เรายังไม่ได้พูดคุยกัน ผมไม่อยากพูดด้วยแหละ เพราะรู้ว่าหนีความจริงไปไม่ได้ เลยอยากขอเวลาทำใจก่อนที่จะรับรู้มัน

“เราขอโทษนะ”

“ช่างเถอะ เราได้รู้ก็ดีแล้ว”

“...”

“ว่าแต่เรื่องเมื่อวานน่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยังไม่กล้าสบตา “พูดจริงหรอ”

“เลหมายถึงเรื่องไหนอ่ะ”

ผมไม่อ้อมค้อม “เรื่องที่ชอบเรา”

“...”

“...”

“อื้อ” อินพยักหน้า “เราชอบเลจริงๆ”

“...”

“แปลกใช่ไหม”

“อือ”

“เราไม่เคยคิดว่าเราจะชอบเล เพราะแฟนคนก่อนของเราก็ยังหล่อมากๆ อยู่เลย” อินวางมือที่กำลังตักข้าวต้มลง เสียงหวานพูดจริงจัง “แต่ก็ได้เลิกกัน มันนานแล้วแหละ แต่พอได้เลิกกับแฟนก็มีคนเข้ามาจีบเราเยอะมากจนรู้สึกรำคาญ เลยอยากรู้ว่าคนที่เหมือนๆ เราเขาจะคิดรำคาญแบบเดียวกันกับเราไหม จนได้มารู้จักเลอะ”

“รู้จักเราได้ยังไง”

“ในโซเชียล เลดังมากเลยนะ รู้ตัวไหม” ผมส่ายหน้าผมไม่ค่อยเล่นโซเชียล คือเล่นบ้างแต่ไม่บ่อยแบบไม่อัพรูปตัวเอง ไม่ค่อยเช็กข่าวสารดาราหรืออะไรเทือกๆ นี้ “เห็นรูปเลครั้งแรก เราว่าเลสวยมากเลยนะ ไม่คิดว่าจะมีผู้ชายที่สวยได้ขนาดนี้”

“อือ”

“แล้วเราก็ติดตามข่าวเลไปเรื่อยๆ เลไม่ค่อยมีข่าวหรอก ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนแอบถ่ายรูปเลเวลาไปไหนมาไหนกับพี่ฮิมลงอะ ดูไปดูมาแล้วเราก็ชอบเลไปเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม” ผมมองคนที่กำลังหน้าแดงไปหมดแล้ว “มารู้ตัวอีกทีมันก็ชอบไปแล้ว”

“...”

“จะไม่ถามอะไรหน่อยเหรอ”

“ไม่” ผมว่า “บอกตามตรงเราคงเป็นแฟนนายไม่ได้หรอก”

“...”

“แต่เราเป็นเพื่อนกันได้นะ”

อินหน้านิ่งลงแล้วส่ายหน้า “เราไม่อยากได้เพื่อนเพิ่มอ่ะ”

“...”

“ไม่เป็นไร เราไม่อยากเป็นเพื่อนกับเล เราอยากเป็นแฟนเล เราชอบเลเอง เลไม่ต้องแคร์เราก็ได้แต่เราจะจีบเลเอง”

“แต่เราอึดอัดไม่อยากให้ความหวังกับคนที่ไม่ได้ชอบ…”

“เลเคยให้ความหวังกับเราด้วยเหรอ ขนาดขนมที่เราให้เลยังไม่อยากได้เลย”

“...”

“ทำตัวเหมือนเดิมเถอะ” ผมนิ่งไป ก่อนจะพยักหน้ารับคำ

หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ผมนั่งเล่นในคอนโดของอินนิดหน่อยเมื่อใกล้ที่จะถึงเวลาเรียนแล้วถึงขับรถไปมหา’ลัย ผมตั้งใจที่จะเข้าเรียนสายเพราะไม่อยากเจอหน้าลูกน้องของพี่ฮิมเร็วๆ

ท้ายที่สุดก็ได้สายสมใจ ผมเข้าคลาสสายไปเกือบสิบนาที ทั้งเกี๊ยก พิษ ดิน เอ็กซ์ เข้ามาเรียนกันแล้วแต่พวกเขาสามคนนั่งแยกกับเอ็กซ์เหมือนอย่างเคย ผมไม่สนใจทั้งสี่แต่หาที่นั่งเรียนแยกออกมาจากพวกเขาแทนแล้วสนใจแต่เนื้อหาอย่างเดียว จนเหมือนการเรียนของวันนี้มันสั้น ในขณะที่ผมกำลังเตรียมของจะออกจากห้อง เป็นอย่างที่คาดเพื่อนที่เป็นลูกน้องของพี่ฮิมก็มาดักผมเอาไว้ทันที

ผมมองหน้าเกี๊ยก พิษ ดินทั้งสามคนก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น ถามเสียงแข็ง “มีอะไร”

“พี่ฮิมบอกให้เลไปหา”

“ถ้าไม่ไปจะทำไม” ผมเอียงคอรอคำตอบแต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่มี “แล้วเอ็กซ์ล่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอจะได้ครบทีมไง”

“หมอนั่นไม่ใช่…” พิษว่าก่อนจะหยุดชะงักไปในขณะที่ผมขมวดคิ้ว ไม่ใช่ ? ไม่ใช่อะไร หรือว่าจะ…

ไม่ใช่คนที่พี่ฮิมส่งมาเหรอ ?

ผมเบิกตากว้างก่อนจะรีบสะพายกระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้อง ถ้าไม่ติดที่ว่าทั้งสามคนมากันเอาไว้

“จะไปไหน”

“ถอย”

“แต่ว่า…”

“บอก!-ให้!-ถอย!” ผมย้ำทุกคำจนคนที่มายืนขวางอยู่ยอมถอยไปแต่โดยดี จากนั้นจึงวิ่งไปที่รถ แล้วเปิดโทรศัพท์ที่ขึ้นหลายมิสคอลพร้อมทั้งข้อความจำนวนมหาศาลที่ถูกส่งเข้ามา ผมไม่ได้สนใจที่จะอ่านแต่กดเข้าไปในรายชื่อผู้ติดต่อ พิมพ์หาชื่อเอ็กซ์ก่อนจะกดโทรออก แต่อีกฝ่ายกลับไม่รับโทรศัพท์ ผมจึงกวาดสายตามองรอบด้าน นี่มันพึ่งเลิกเรียนเอ็กซ์คงไปไหนได้ไม่ไกล แต่ที่แน่ๆ ผมต้องหาเขาให้เจอ

ผมต้องหาคนที่เป็นเพื่อนจริงๆ เพียงคนเดียวของผมให้เจอ




(50%)
******************************


พอจะเข้าใจอารมณ์ของเลกันปะ เราไม่ได้เน้นเรื่องที่ฮิมให้คนติดตามเลขู่คนอื่นสักเท่าไหร่ แต่เน้นไปที่เรื่องเพื่อน คืออารมณ์น้องเลก็ประมาณว่ารู้แหละว่าตอนนี้ตัวเองอะรักพี่ฮิม แต่พี่ฮิมก็แบบเพื่อน... เพื่อน... แค่เพื่อนนะเฮ้ย! ยังจะไม่ให้มีเลยเหรอ ฟีลตอนไปหาอินก็ประมาณไม่รู้จะไปหาใครดีพี่ๆ แต่ละคนก็อยู่ข้างฮิม ขนาดเพื่อนก็เป็นลูกน้องของพี่ฮิม ตอนนี้เลจึงใฝ่หาเพื่อนจริงๆ เพื่อนที่ไม่ใช่ถูกพี่ตัวเองยัดเยียดให้เขามาเป็นเพื่อนเล สรุปถ้านึกอารมณ์เลไม่ออกก็คิดกว่า ถ้าวันนี้เพื่อนเรามาบอกว่า 'เฮ้ย! กูถูกจ้างให้มาเป็นเพื่อนมึงอะ' จะรู้สึกยังไง

ปล. อิพี่ฮิมก็เริ่มเผยความชั่วร้ายออกมาแล้วนะ มีช่วงแรกเห็นไหมที่นางไม่พอใจที่โดนน้องเลตบและคิดจะเอาคืน หึหึหึหึ


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 01-05-2017 01:21:33
เอ็กซ์โดนพี่ฮิมขู่ห้ามเข้าใกล้เลป่ะ

ถึงได้หลบหน้าตลอด

พี่ฮิมนี่จริงๆเลยน้า~~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 01-05-2017 01:23:09
เข้าใจอารมณ์เลเลยอ่ะ แต่ก็อยากให้คุยกันดีๆด้วย
พี่ก็ทั้งหวงทั้งห่วง กลัวอันตรายอีก
เลเอ้ยยย เมื่อไหร่ชีวิตจะสงบสุขซักที
ว่าแต่เอ็กซ์เนี่ยต้องการเป็นเพื่อนจริงๆไม่มีไรแอบแฝงใช่มั้ย
ขอเถอะนะ ให้เลมีคนที่อยากเข้ามาเป็นเพื่อนด้วยความสนิทใจสักคน
แค่นี้น้องก็เขวมากแล้ว พี่ฮิมก็อยากเคลียให้จบๆ หนูเลก็ไม่ฟังเลย

หลายตอนมานี้ยิ่งอ่านยิ่งค้างยิ่งอยากรู้ต่อเดาทางไม่ออกเลยง่ะ
สู้ต่อไปฮัฟฟฟ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 01-05-2017 01:25:19
อารมย์ประมาณว่าต่างคนต่างความคิด อยู่ที่ว่าฝ่ายไหนจะยอมปรับตัวเข้าหาอีกคนก่อน เมื่อนั้นคงเข้าใจอะไรๆได้ง่ายขึ้น ว่าเพราะอะไรถึงได้ทำแบบนี้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 01-05-2017 02:05:20
พี่ฮิมกับน้องเลเหมือนอยู่โลกคู่ขนานกันเลย...ทุกอย่างดูตรงข้ามไปหม

สงสารน้องเล แต่ก็เข้าใจพี่ฮิมนะ


 :pig4:  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-05-2017 05:11:35
  :katai1: :katai1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-05-2017 06:05:18
เล ไม่พอใจ โกรธ ที่ฮิมทำแบบนี้
แต่เล น่าจะอยากรู้เหตุผล
ว่าทำไมฮิมถึงทำแบบนี้
เล เอาแต่อารมณ์ไปหรือเปล่า
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 01-05-2017 08:16:02
ดูสิ พี่ฮิม จะกล้ากับน้องมั้ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-05-2017 08:57:40
เพื่อนจริงๆยังไม่มีเลยเนาะเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 01-05-2017 09:03:56
เข้าใจว่าฮิมหวงน้อง อยากให้น้องอยู่แต่ในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ แต่นี่เพื่อนเลยนะ ใครๆก็อยากมีเพื่อนที่เป็นเพื่อนจริงๆมั้ย :katai1:
หวังว่าจะเคลียร์กันได้ไวๆแล้วเปิดใจให้เลรู้อะไรบ้าง

ปล.แอบสงสารอินเบาๆ :mew2:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 01-05-2017 10:26:08
 :katai1: :katai1: :katai1:
ให้กำลังใจทั้งคู่
เข้าใจทั้งคู่อ่ะ

พี่ฮิมจะหลุดตัวเองตอนไหนเนี่ย
จะคุมตัวเองได้ขนาดไหนอ่ะ
 :hao7:
ร้ายให้สุดพี่ฮิม  :katai3:

น้องเล จะว่าเอาแต่ใจก็ไม่เชิง
แต่คือแบบเพื่อนนะ จะไม่ให้น้องมีเลยเหรอ
ให้น้องมีสังคมบ้างเด้อ
โลกมันไม่ได้ขาวสะอาดไปหมดหรอกพี่ฮิม

สู้ๆทั้งสองคนเลย
คนเขียนด้วยนะคะ สู้ๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 01-05-2017 11:16:22
พี่ฮิมพ่อบ้านใจกล้า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 01-05-2017 11:31:04
ในความเข้าใจคือเพื่อนพวกนี้คือเลได้มาเองก่อน ค่อยกลายเป็นลูกน้องฮิมทีหลังรึป่าว  เหมือนดรณีพี่คนที่สอนเรื่องเพศให้น้องเลอะ  ขอมีความหวังสักนิดแล้วกันนะว่าน้องก็ยังมีเพื่อนแท้อยู่บ้าง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-05-2017 12:06:48
 :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-05-2017 12:06:55
รอตอนต่อไป พี่ฮิมจะทำไง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 01-05-2017 13:00:49
ไม่ชอบเวลาที่น้องเลตบพี่ฮิมเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 01-05-2017 13:31:32
เลมีอะไรดีหรอ?  หรือฮิมแค่อยากเลี้ยงไว้เป็นทาสเซ็กส์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 01-05-2017 14:46:46
ดีออกมีคนหวงมีแต่คนดูแล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 01-05-2017 21:53:03
ตอบยากนะ เราว่าก็เข้าใจฮิมนะคือแบบเลน่ารักอะถ้าไม่มีฮิมคอยดูแลอาจจะไม่รอดมาถึงป่านนี้ คือถ้าบอกความจริงเล. เลต่อต้านแน่อะ (แบบว่าfcฮิมจ้า)55555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: pannuna ที่ 02-05-2017 23:34:44
พี่ฮิมโคตรหวงเลยอะแต่ก็ไม่แปลกใจเลอะ
แต่สงสารเลนะ ไม่รู้เรื่องไรเลย
เราแอบอยากอ่านตอนที่มีคนอื่นมาจีบแบบจริงจังบ้าง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: Timber Huang ที่ 02-05-2017 23:50:28
พี่ฮิมแอบน่ากลัวดูลึกลับซับซ้อน จะจับน้องเลไปขังแล้วทรมาณป่าวเนี่ย  :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 03-05-2017 08:08:36
เลดูอ่อนนะ เราว่าเลควรถามฮิมว่าเพราะอะไรถึงให้คนตามตลอด แทนที่จะตบแล้วหนี คือความที่เป็นเล ก็น่าจะง๊องแง๊งไม่เข้าใจว่าทำไมฮิมทำงี้ไง ไม่ค่อยเข้าใจความเล  :ruready
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 08-05-2017 14:10:06
ใช้คำว่า ถอน หรอคะ ไม่ได้ใช้คำว่า ถอด หรอ... แบบถอดเสื้อ ถอดกางเกงงี้

สู้นะคะ รออยู่เสมอ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 17-05-2017 15:13:04
เลแม่งเยอะไม่รู้จักโต เข้าใจนะว่าถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ แต่ลืมหรือเปล่าว่าตัวเองเป็นผู้อาศัย ก็พูดอยู่บ่อยๆนิว่าฮิมมีบุญคุณ นี่เหมือนพอได้ของที่ฮิมเปย์ให้ แล้วจะปีกกล้าขาแข็งยังไงก็ได้ ต้องปล่อยให้ลำบากให้เข็ด ไม่ชอบนิสัยเลเลย เหมือนคนไม่เต็มแบบมีความบกพร่องทางอารมอ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 17-05-2017 15:52:36
 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 22-05-2017 09:47:37
พี่ฮิมจะทำไงต่อไปล่ะทีนี้  :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: DaowyLovers ที่ 23-05-2017 15:57:08
OMG~ เรื่องชักยุ่งละสิ
ยังไงต่อทั้งสองคน คงต้องรอลุ้นต่อไป
เอาใจช่วยผู้แต่งงับ มาต่อไวๆเน้ออออ
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: tistaek ที่ 25-05-2017 11:45:56
 o18 ชอบ
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 010517#19(50%) p.25
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 05-06-2017 09:50:41

สามชั่วโมงต่อมา

ไม่เจอ… ผมหาเอ็กซ์ไม่เจอ เพราะไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน สุดท้ายก็เลยต้องจำใจกลับบ้านทั้งๆ ที่ยังไม่อยากกลับ เพราะแน่นอนว่าที่บ้านย่อมมีพี่ฮิม

จะหาว่าผมงี่เง่าก็ได้ แต่ผมไม่อยากคุยกับเขา!!

“เล” เหมือนฮิมกลัวว่าผมจะหนีร่างสูงเลยเดินมาหาทันทีที่ผมลงจากรถ เขาเดินกันผมเอาไว้ไม่ให้ไปไหนก่อนจะยื่นมือมาจูงผมเข้าบ้าน แต่ผมสะบัดมือนั้นออก “คนดี”

ฮิมรวบตัวผมเข้าไปกอด ผมดิ้นหนีแต่ติดที่สู้แรงของอีกฝ่ายไม่ได้ เสียงทุ้มกระซิบข้างหู “คุยกับพี่ก่อนนะครับ”

“ถ้าเลบอกว่าไม่คุย…”

“ขอร้อง” เสียงนั่นแหบแห้ง ผมหลุบตาลงล่าง นิ่งไปสักพักแล้วพยักหน้า

พี่ฮิมพาผมมาที่ห้องนอน ก่อนจะจัดให้ผมนั่งบนเตียงแล้วเขานั่งข้างๆ ผมเริ่มคำถาม “พี่ฮิมจะพูดอะไร”

“ขอโทษ” ผมปรายตามองอีกฝ่าย “พี่ขอโทษคนดี”

“เหตุผลล่ะ”

“พี่แค่ห่วงเล… มากเกินไป”

“มันไม่ใช่ห่วงพี่ฮิมมันไม่ใช่” จบประโยคนั้นผมก็ตวาดออกมาทันที “เขาเรียกว่าเห็นแก่ตัว ฮิมเห็นแก่ตัว”

“...”

“ครั้งก่อนตอนที่เราทะเลาะกัน ที่พี่วินพูดให้เลฟัง เลไม่มีสิทธิ์เราไม่เคยพูดว่าเป็นแฟนกัน ตอนนั้นเลยอมรับว่าเลผิด แต่มันไม่ใช่!!” คำพูดของพี่วินผมยังจำได้ดี… ผมเสนอตัวให้พี่ฮิมพอตื่นขึ้นมาไม่เจอหน้าฮิมแล้วจะมางอนอีกฝ่ายไม่ได้นั่นถูกต้อง ผมยอมรับ แต่สำหรับเรื่องอื่นมันไม่ใช่เลย “เพราะเลคิดว่าเลมองฮิมมาตลอด มองแค่ฮิม! และมีแค่ฮิมมาตั้งแต่เล็กยันโต!”

ผมยืนขึ้น พยายามกลั้นน้ำตาที่มันกำลังจะหยดแต่ท้ายที่สุดก็กลั้นเอาไว้ไม่ได้ “แต่มันไม่ใช่…”

“...”

“เลไม่ได้มองแค่พี่ฮิม ฮิมต่างหากที่ไม่ให้เลมองใคร” ผมสูดลมหายใจ ยกมือปาดน้ำตาที่มันไหลแล้วพูดอีกครั้ง “พี่ฮิมให้คนติดตามเล ขู่คนที่จะเข้ามาหาเลแทบทุกคน และกั้นทุกคนไม่ให้เข้าหาเลถึงแม้คนๆ นั้นเขาอาจจะอยากเป็นแค่เพื่อนของเลก็ได้ แค่เพื่อนพี่ฮิมยังไม่ให้เลมี!!”

“นั่นเพราะพี่ห่วงเล พี่เลือกไม่ได้ว่าใครอยากเป็นแค่เพื่อนหรือเป็นมากกว่าอย่างอื่น”

“เหอะ… ห่วงเหรอพี่ฮิม ไม่… ไม่เลย ฮิมแค่เห็นแก่ตัว” ผมเค้นเสียงหัวเราะ ขณะยกมือขึ้นแล้วไล้ไปตามโครงหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังยืนขึ้นเพราะฤทธิ์อารมณ์เหมือนกัน “เพราะถ้าฮิมไม่เห็นแก่ตัว ฮิมคงไม่ไปมีอะไรกับพี่ปริม!!”

“แต่พี่รู้ว่าพี่รักเล!”

“แล้วถ้าฮิมเปลี่ยนใจไปรักเขาล่ะ!” เขารู้ว่ารักผม แต่แล้วยังไง “ถ้าฮิมรักเขา แล้วเลที่พี่ฮิมไม่ให้ใครเข้ามาหาน้องเลย เลจะเป็นยังไง! หรือถ้าพี่รักเขาแล้วพี่ก็ปล่อยให้คนอื่นเข้าหาเลเหรอ ? แล้วเวลาที่เลเสียไปล่ะ! ฮิมจะชดใช้ให้เลยังไงคิดถึงใจเลหน่อยสิ!”

“พี่ไม่มีวันเปลี่ยนใจ” มือหนาเอื้อมมาทาบมือผมที่กำลังจับใบหน้าเขาเอาไว้ “ไม่มีวัน”

“ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกฮิม”

“...”

“จะว่าเลมองแค่ด้านเดียวก็ได้ แต่จะให้เลมองยังไงฮิมก็เห็นแก่ตัวอยู่ดี” แขนแกร่งรวบตัวผมเข้าไปกอด ร่างสูงพยักหน้ารับคำกล่าวโทษของผมก่อนที่พี่ฮิมจะซบหน้าเข้าที่บ่าของผมช้าๆ เหมือนคนเหนื่อยล้า เป็นผมซะเองที่ต้องปาดน้ำตาทิ้งอีกครั้งแล้วว่าเสียงแผ่ว “แต่เลรักฮิม รักไปแล้ว มันรักไปแล้ว”

ผมรักพี่ฮิม ที่เคยพูดมันไม่ใช่แค่เรื่องล้อเล่น

“ทำยังไง พี่ต้องทำยังไงคนดีถึงจะยกโทษให้” เสียงทุ้มตอบกลับ มันแผ่วและเบาเหมือนฮิมก็เหนื่อยกับเรื่องนี้เต็มทน

“แค่เพื่อน” ผมดึงให้คนตัวสูงหน้ามาคุยกับผมตรงๆ “เลขอแค่เพื่อน ให้เลมีเพื่อน ได้ไหม”

“ได้” เสียงทุ้มตอบกลับ แขนแกร่งโอบเอวผมแน่นขึ้นขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาแนบหน้าผากกับผม “พี่ตกลง”

ผมยิ้มรับก่อนจะพยักหน้าแล้วหลับตาลงยามใบหน้าหล่อเหลาเข้าใกล้จนปลายจมูกชนกัน สักพักฮิมก็ผละออกไป

“...” ผมเงียบ

“...” ฮิมไม่พูด

“...” ผมก็ไม่มีอะไรจะพูด

“...” เราสองคนจึงเอาแต่มองตากันเงียบๆ ต่อไป ท้ายที่สุดฮิมก็เป็นฝ่ายพูดก่อน

“คนดี”

“หืม” ผมครางรับขณะที่มือหนาข้างหนึ่งยื่นมาบีบจมูกผมเล่น

“เราอย่าหาเรื่องทะเลาะกันบ่อยๆ เลยนะ”

“ทำไม” ผมแสร้งถามในขณะที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลามีสีหน้าราวกับกำลังทุกข์ใจ

“พี่ใจจะขาด” จบคำเขาก็ลากริมฝีปากไซร้คอผมทันที แขนแกร่งที่โอบเอวมันแน่นขึ้นขณะที่ร่างสูงเองก็ดันให้ผมเดินถอยหลังไปที่เตียงจนกระทั่งจนล้มตัวนอนราบลง คนชำนาญประสบการณ์ที่กำลังคร่อมตัวผมอยู่ไวมาก เพราะทันทีที่หลังแนบเตียงมือหนาก็เลื้อยไปมาทันที

“พี่ฮิมอย่า” ผมรีบจับเขาเข้าไปก่อนที่มันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ “เลไม่ยอมนะ”

“คนดี” เสียงทุ้มหวานปกติ เห็นได้ชัดว่าฮิมกำลังอ้อน

“ไม่เอา พึ่งดีกันไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว เลไม่ยอม เดี๋ยวว่าเลง่าย”

เสียงทุ้มว่าทันที “ไม่ง่าย พี่รอมาสิบกว่าปีแล้ว โคตรนาน”

“จริงเหรอ” ความรู้ใหม่ทำให้ผมตกตะลึง เพราะถ้ารอมาตั้งแต่สิบปีลบกับอายุของฮิมตอนนี้ ฮิมตอนนั้นก็น่าจะประมาณสิบถึงสิบสองปี ส่วนผม… หกถึงเจ็ดขวบ “ฮิม… หื่นแต่เด็ก”

“อืม” เขายอมรับง่ายๆ แต่หน้ายังไม่ยอมห่างจากซอกคอผม

“จะว่าไปพี่ฮิมเอาเลมาเลี้ยงทำไม”

“ไม่มีเหตุผล”

“อ้าว…”

“คนดีตอนนั้นพี่เองก็พึ่งได้เลิกนอนกลางวันเองนะ” พี่ฮิมพูดให้เห็นภาพ ส่วนผมได้แต่พยักหน้าหงึกๆ รับไป

“แล้วชอบเลตอนไหน”

“อืม ตอนเริ่มโต”

“ทำไม”

“ช่วงนั้นพี่เลี้ยงจับเลใส่ชุดน่ารักๆ” ผมคิดตามเพราะจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่แต่เคยดูแกลอรี่ตัวเองตอนเด็ก มีหลายรูปเหมือนกันที่ผมโดนจับใส่ชุดของผู้หญิง “ชุดแมว... พี่ชอบ”

“หืม ? เอ๊ะ! ปลดกระดุมตั้งแต่เมื่อไหร่!”

“เล...”

“อย่า... พี่ฮิมอย่า…”

“คนดีหอมจัง”

“บอกให้ปล่อย!”

ตุ้บ!

“เจ็บครับ” ผมผลักอีกฝ่ายจนตกเตียง ฮิมไม่ได้ว่าอะไร เขาลุกคนขึ้นมากระโดดขึ้นคร่อมผมอีกครั้ง

“ไม่! พี่ฮิมไม่!”

ฮือ คนบ้า!!!!

 

โชคดีรอด ปลอดภัยมาจนถึงตอนเช้า เมื่อคืนหลังจากสู้กันไปมาบนเตียง(อยากบอกว่าไม่ใช่แค่รอบเดียว ประมาณสามสี่รอบแต่ไม่ต่อเนื่องคือหยุดแล้วก็มาสู้กันใหม่) ท้ายที่สุดพี่ฮิมก็ไม่ได้ทำอะไรผม แต่ต้องแลกกับที่อีกฝ่ายปากแตก ส่วนผมได้เลือดตรงแขนเพราะโดนโต๊ะขูด สภาพแต่ละคนสะบักสะบอม และเหมือนพี่ๆ คนอื่นจะคิดไปไกลมากกว่านั้น เพราะทันทีที่ผมเดินลงมากินข้าวเช้าก็เห็นพี่รพแสยะยิ้มใส่ พี่ไทด์กรอกตา พี่วินทำหน้านิ่ง แม้กระทั่งพี่เกียร์ก็มานั่งหน้าคล้ำขอบตาดำบนโต๊ะกินข้าว

“เป็นอะไรกัน?” ผมถามด้วยความสงสัยพลางเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง เป็นจังหวะเดียวกันที่พี่รพยกอาหารมาเสิร์ฟ ผมตาลุกวาวเมื่อเห็นข้าวเช้าอย่างหรู เทียบกับขนมปังที่ผมเคยกิน ตรงหน้านี่ดูเป็นอาหารชั้นเลิศไปเลย “ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”

ไม่เชิงหน้าหรอกแต่ผมสังเกตได้ว่าแต่ละคนอารมณ์ไม่ปกติ พี่รพเป็นคนพูดก่อน

“พอดีกันแล้วแม่งรบกวนคนอื่น” พี่เกียร์ว่าต่อ

“พวกมึงไปอยู่คอนโดเถอะ”

“หือ”

“หัดใช้เงินให้เป็นประโยชน์ ถ้าไม่มีก็ไปซื้อคอนโดแล้วอยู่ หรือไม่ก็จ้างช่างมาทำห้องเก็บเสียง อย่ามารังแกคนที่ต้องการนอนแบบกูเลย”

“หมายความว่าไง”

พี่เกียร์เงียบไปเพราะพี่ฮิมเดินลงมาพอดี ร่างสูงกดจูบที่ขมับก่อนนั่งลงข้างๆ ผม นัยน์ตาคมเงยหน้ามองเพื่อนแต่ไม่ได้พูดอะไร ส่วนผมสงสัยแต่ไม่ได้ถามต่อ ต้องรีบกินข้าวแล้วไปมหา’ลัย ว่าจะไปขอโทษพี่นนท์นี่เพราะเมื่อวานผมโดดซ้อม

พอกินข้าวเสร็จ ผมก็ขับรถมามหา’ลัยเองทันที โชคดีอีกครั้งที่พี่นนท์นี่ไม่ได้ว่าอะไร เหมือนอีกฝ่ายจะเข้าใจว่าชีวิตผมช่วงนี้มันอลเวงแปลกๆ ส่วนเกี๊ยก พิษ ดิน ฮิมขอให้เขาตามผมเหมือนเคย ให้พวกเขาเฝ้าดูผมเฉยๆ แต่ไม่กันคนอื่นให้ออกห่างผมแล้ว ผมเริ่มทำใจกับสามคนนี้ ตอนเรียนจึงไปนั่งด้วยเหมือนเดิม คิดซะว่าถึงพี่ฮิมจะส่งมาให้เป็นเพื่อนแต่ยังไงเขาก็เป็นเพื่อนผมจริงๆ นั่นแหละ ไม่อย่างนั้นนอกจากเฝ้าทั้งสามคงไม่สละเวลาให้ผมบ่อยๆ อย่างติวหนังสือให้ หรือตอนที่ผมชวนไปคาเฟ่พวกเขาก็ไป เรื่องนี้มันคลายความสงสัยของผมไปได้หลายอย่างด้วย เช่น ทำไมเกี๊ยกถึงได้มารับผมบ่อยๆ ทำไมพวกเขาถึงชอบผลุบๆ โผล่ๆ มาแบบไม่ให้ผมรู้ตัว หรือแม้กระทั่งงานพิเศษของดิน ทุกอย่างเพราะเป็นลูกน้องพี่ฮิม แต่ผมขี้เกียจสงสัยลึกไปกว่านั้นว่ามาเป็นลูกน้องได้ยังไง หรือได้รายได้เท่าได้ แต่พอนึกถึงคอนโดดินแล้วมันคงจะเยอะน่าดู

และวันนี้ผมต้องคุยกับเอ็กซ์ให้ได้ ตามเคย แถมวันนี้เรียนหนักกว่าวันอื่น อาจารย์เลทไปตั้งหนึ่งชั่วโมง จนผมต้องเบี่ยงความสนใจไปที่เนื้อหาจนหมดเนื่องจากอาจารย์บอกว่าอีกสองวันข้างหน้าเราจะมีสอบ ทว่าพอเรียนเสร็จเอ็กซ์ก็หายตัวไป ถามเพื่อนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เอ็กซ์ฝ่ายนั้นบอกว่าเอ็กซ์ออกไปตั้งแต่ที่อาจารย์เริ่มสอนเกินเวลาแล้ว ผมไม่รู้ว่าเขาไปไหน โทรไปก็ไม่รับ พอจะออกไปหา โชคชะตาก็ส่งคนมารอผมที่หน้าตึกเหมือนไม่อยากให้ผมไปหาเอ็กซ์ยังไงยังงั้น

ยิ่งไปกว่านั้น คนๆ นั้นคือ พี่ฮิม

ร่างสูงใส่เสื้อช็อปสีแดงกับกางเกงสีดำสนิทซึ่งเข้ากันอย่างลงตัว เจ้าของใบหน้าหล่อเหลานั่งรอผมแบบจริงจัง เพราะทันทีที่พี่ฮิมเห็นผมเดินลงมาจากตึก มือหนาก็กวักนิ้วเรียกผมเข้าไปหาทันที

“ฮิมมาทำไม” ผมหลุบตาลงเขาเพราะตอนนี้ผมกำลังยืนตรงกันข้ามกับพี่ฮิมที่กำลังนั่ง แต่พอเขายืนปุ๊บเราก็สลับกัน ด้วยความสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบห้าทำให้ผมต้องเป็นฝ่ายเงยหน้ามองฮิมส่วนพี่ฮิมหลุบตาลงมองผมแทน ฝ่ามืออุ่นยื่นมาแตะหน้าผมเบาๆ ก่อนตอบ

“มาหาแฟนครับ” ฮิมไม่ได้ทำน้ำเสียงหวาน เขาตอบเสียงทุ้มเรียบตามสไตล์ แต่เป็นเสียงทุ้มเรียบที่ทำให้ผมรู้สึกเขินมาก แขนแกร่งเอื้อมมาโอบรอบเอว ผมเดินตามแรงผลักไปยังรถของพี่ฮิมที่จอดอยู่ไม่ไกล “พี่จะพาไปกินข้าว คนดียังไม่ได้กินใช่ไหม”

“อื้อ” ผมพยักหน้า ตอนนี้เที่ยงเกือบบ่าย “แล้วรถเลล่ะ”

“เดี๋ยวพี่มาส่งน้องทีหลัง วันนี้เลมีซ้อมหลีดใช่ไหม”

“อืม”

“อยากกินอะไรไหม”

“เลแล้วแต่พี่ฮิม”

นัยน์ตาคมหันมามองผม เขาไม่ว่าอะไรขณะเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับให้ผมเข้าไปนั่ง หลังจากนั้นจึงเดินอ้อมไปนั่งที่คนขับแทน ในเมื่อผมเป็นคนให้เขาตัดสินใจเองว่าจะพาผมไปกินที่ไหน หลังจากขึ้นรถปุ๊บผมเลยก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจทิศทาง กระทั่งพี่ฮิมบอกว่าถึงจุดหมายแล้วผมจึงเงยหน้าขึ้น พอเห็นสถานที่แล้วถึงกับต้องทำหน้าจุดจุดจุด (หมายถึงหน้าไร้อารมณ์) กันเลยทีเดียว

“พี่ฮิมแกล้งเลเหรอ” ผมหันไปมองร่างสูงที่พึ่งปลดเบลล์ออก เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหันมามองก่อนจะส่ายหน้าไปมา “ไหนบอกจะพาเลไปกินข้าว แล้วพาเลมาคอนโดทำไม”

สถานที่ที่พี่ฮิมพาผมมาคือคอนโดมิเนียมหรู เป็นคอนโดที่เขาซื้อให้ผมเป็นของขวัญวันเกิด

“เลบอกว่าตามใจพี่”

“คอนโดมันมีข้าวที่ไหน”

“แล้วใครบอกว่าไม่มี” ผมทำหน้างง “ลงมาก่อนครับ”

รู้สึกขัดใจแต่ก็ยอมเดินลงจากรถ หลังจากนั้นเราก็เดินเข้าคอนโดแล้วขิ้นลิฟต์ไปที่ห้อง ระหว่างที่อยู่ในลิฟต์ผมขู่พี่ฮิมเอาไว้ “เลหิว เลจะโวยวายถ้าพี่ฮิมไม่มีข้าวให้เลกิน”

“ครับๆ” เสียงทุ้มตอบรับโดยง่าย แต่พอมาถึงห้องก็เป็นอย่างที่ผมคาด… ไม่มีข้าว

จะไปมีได้ยังไงเล่า! ก็คอนโดนี้เราไม่ได้อยู่ด้วยซ้ำ ที่นี่มีแค่เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าของผมกับพี่ฮิมสามสี่ตัวเท่านั้น เพราะเรายังไม่ได้อยู่ คือเหมือนซื้อเอาไว้เฉยๆ แล้วจ้างแม่บ้านมาดูแลทุกอาทิตย์เพื่อไม่ให้ห้องสกปรก

“เลหิวข้าว” ผมย้ำขณะทำหน้าบึ้งใส่พี่ฮิม

“ไปรอพี่ในห้อง”

“แต่เลหิวแล้ว!”

“คนดีหลับตาแล้วนับหนึ่งถึงหกสิบซิ”

“ทำไม” ผมถามแต่ไม่ได้คำตอบ เลยต้องข่มอารมณ์เมื่อพี่ฮิมเริ่มทำหน้าดุใส่ เปลือกตาสีไข่เลยต้องปิดลง ผมยืนรอนิ่งๆ แล้วเริ่มนับหนึ่งถึงหกสิบในใจ แต่นับได้แค่สามวิเสียงออดประตูก็ดังขึ้น เสียงออดดึงความสนใจให้ผมลืมตาขึ้น ก่อนมองไปยังพี่ฮิมที่กำลังเปิดประตูให้ใครสักคนเข้ามา มือหนาเปิดประตูออกแล้วมองมาทางผมก่อนจะส่ายหน้า

“คนดีหลับตาลง”

“ใครมา ?”

“อาหาร” เขาตอบเสียงเรียบ แล้วหลังจากนั้นเหล่าผู้ชายในชุดบริกรมากหน้าหลากตาก็เดินถือถาดเข้ามา บนถาดมีจานอาหารแบบมีฝาปิดวางอยู่ พี่ฮิมให้พวกเขาเอาไปวางบนโต๊ะกินข้าว เป็นเวลาเดียวกันที่ผมเดินไปเปิดฝาของแต่ละจานเล่นเพื่อดูว่ามีอะไรกินบ้าง จนในที่สุดอาหารนับสิบอย่างก็ถูกวางลงบนโต๊ะ และพออาหารครบ พี่ๆ ชุดบริกรก็หายวับออกไปทันที

ผมหลุบตามองลงอาหารก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้ตัวเอง พอนั่งลงปุ๊บผมก็จัดการกินแบบไม่สนและไม่รอคนที่พามาที่นี่ พี่ฮิมไม่ว่าอะไร เขาเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างผมแล้วปล่อยให้ผมกินเงียบๆ จะมีก็แต่ลำแขนยาวที่เอื้อมมาโอบไหล่ก่อนปลายนิ้วเรียวจะเลื่อนขึ้นไปม้วนเส้นผมสีน้ำตาลเข้มเล่น

“พี่ฮิมเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมหมายถึงเรื่องอาหาร ถ้าเขาสั่งทำหลังจากที่พวกเราพึ่งมาถึงคอนโด ผมไม่ได้กินข้าวเร็วขนาดนี้แน่

“ก่อนไปหาเล”

“แล้วทำไมถึงถามเลว่าอยากกินอะไรไหม”

“ก็เผื่อน้องอยากกินอย่างอื่น”

“ถ้าเลอยากกินอย่างอื่น ?”

“ก็ไปกินไงครับ”

“แล้วอาหารที่ฮิมสั่งเอาไว้ล่ะ ?”

“ทิ้ง” คำตอบจากคนข้างกายทำให้ผมต้องเบ้ปากนิดหน่อย ตอบมาแบบไม่อายชาวนาเลยสักนิด

“แล้วฮิมไม่กินเหรอ” ผมหันไปสบตากับอีกฝ่าย คำตอบที่ได้คือการยิ้มนิดๆ กับจูบสัมผัสที่หน้าผากจากพี่ฮิม “ไม่หิวเหรอ”

“หิว แต่ไม่ได้อยากกินข้าว”

“หือ ?”

“กินไปเถอะครับ” นัยน์ตากลมหรี่มองคนที่ใช้คำพูดชวนน่าสงสัย ขณะตักข้าวเข้าปากเงียบๆ อีกครั้ง สักพักฮิมก็ยืนขึ้นแล้วเดินไปไหนก็ไม่รู้ พอผมกินเสร็จแล้วเลยเดินตามหาคนตัวสูงไปทั่วห้อง ก่อนพี่ฮิมจะทำให้ผมตกใจด้วยการลอบเข้ามากอดจากทางด้านหลัง “อ๊ะ!”

“อิ่มแล้วเหรอ”

“เลอิ่มแล้ว” มือหนาล้วงเข้าไปในเสื้อนักศึกษา เขาลูบท้องผมที่นูนออกมาเล็กน้อยเพราะอิ่ม “เลว่าช่วงนี้เลน้ำหนักขึ้น”

“พอดีแล้ว”

“แต่เลอยากลด” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ก้มลงเกยที่คางผมหันหน้ามามองก่อนจะตอบเสียงเรียบ

“งั้นลดตอนนี้เลย”

“ยังไง เอ๊ะ!” ผมสะดุ้ง เมื่อจู่ๆ มือหนาที่กำลังลูบอยู่ที่ท้องก็ล้วงลงไปในกางเกงชั้นใน ผมไม่รู้ว่ากางเกงตัวเองถูกถอดออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้ตัวอีกทีตอนที่มันไปกองอยู่ตรงปลายเท้าแล้ว “ฮิม… พี่ฮิม”

มือหนากอบกุมส่วนของผมไปจนหมด มืออีกข้างเขากอดเอวผมเอาไว้หลวมๆ ขณะไซร้ริมฝีปากไปตามลำคอ อาการร้อนเพิ่มขึ้นตามระดับ ผมหอบหายใจพร่าและแทบจะแด้ดิ้นเมื่อร่างหนาออกแรงรูดไปมาตรงส่วนนั้น

“พี่ฮิม… อย่าทำแบบ… นี้” ผมพยายามดิ้นให้หยุดออก แต่ก็โดนแขนแกร่งที่ล็อกเอวเอาไว้บังคับให้ยืนอยู่ที่เดิม ในขณะที่ฝ่ามือร้อนสากยังไล่วนกับส่วนนั้นของผม อารมณ์วาบหวิวพุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ เม็ดเหงื่อบนใบหน้าแตกพล่านและในที่สุดน้ำสีขุ่นก็พุ่งออกทันที ผมแทบจะทรุดลงไปกับพื้นถ้าแขนแกร่งไม่ยึดเอวผมเอาไว้ ร่างสูงอุ้มผมขึ้นก่อนจะพาไปที่โซฟาใกล้ๆ เขาวางผมให้นั่งบนตักและใช้จังหวะนั้นถอดชั้นในของผมออก ขณะยกมือที่เปื้อนไปด้วยน้ำกามขึ้น ฮิมไม่เช็ดมันออกแต่ป้ายมันไปตามเรือนร่างของผมแทน ร่างกายร้อนขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมือหนาสะกิดและหมุนวนที่ยอดอกโดยมีแค่เสื้อเชิ้ตนักศึกษาบางๆ กั้นอยู่ ท้ายที่สุดบริเวณนั้นจึงเริ่มชื้นแฉะไปด้วยน้ำกามของผมเอง

ผมเม้มปากขณะเดียวกันที่ได้ยินเสียงพร่าจากเจ้าของตัก

“พี่จะพาเลออกกำลังกาย” แล้วทุกอย่างก็เหมือนจะหยุดลง มือที่เคยไล่ไปตามอกของผมหยุดชะงักมีเพียงนัยน์ตาคมที่มองผมเงียบๆ แต่ในขณะที่กำลังหายใจหอบ ร่างสูงก็จัดการทำบางอย่างที่ทำให้ความคิดที่ว่าทุกอย่างกำลังจะหยุดลงต้องเปลี่ยนไป

พี่ฮิมเลื่อนมือลงต่ำสู่จุดกึ่งลางของตัวเอง เสียงรูดซิบกางเกงทำให้คนฟังเสียวหน้าท้องวาบ ผมเม้มปากได้ยินแค่เสียงแต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะทำอะไร เนื่องจากโดนนัยน์ตาคมสีดำสนิทประสานเอาไว้ไม่ให้หันไปมองอย่างอื่น จนในที่สุดอะไรบางอย่างก็ดีดขึ้นและตีกับส่วนนั้นของผมเบาๆ สัมผัสอุ่นร้อนทำให้สามารถรับรู้ได้เลยทันทีว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร

ผมหน้าขึ้นสี ในขณะที่คนตัวสูงขยับปากหากไร้เสียง แต่มันกลับมีอนุภาพที่ทำให้คนอ่านปากใจสั่นได้อย่างง่ายดาย   

‘ขยับสิครับ’

มันสัมผัสกันแม้ยังไม่ได้ขยับ แค่การเสียดสีเพียงนิดเดียวก็ทำให้เกิดกระแสวูบวาบไปทั่วตัว ผมหลบสายตาแต่ก็โดนมือหนาจับคางแล้วบังคับให้หันไปมองเขาเหมือนเดิม ฮิมพูดเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน “เร็วสิครับ”

ผมอายจนอยากจะเอาหน้าหมุนลงพื้นถ้าไม่มีมือสากมาจับคางแล้วบังคับให้มองเขาอยู่ ผ่านไปไม่กี่นาทีเมื่อร่างสูงเห็นว่าผมไม่ยอมขยับเอวจริงๆ เขาจึงปล่อยมือที่จับคางผมออก เลื่อนลงด้านล่าง แล้วล่อลวงโดยการสัมผัสส่วนนั้น จับมันแนบชิดกับลูกรักของพี่ฮิมแล้วใช้มือชักทั้งสองแท่งเนื้อนั่นให้ถูกัน แล้วเพิ่มความเร็วขึ้นตามจังหวะอารมณ์ แต่ก่อนที่จะถึงจุดหมายเขาก็หยุด อารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นจึงกลายเป็นกราฟที่กำลังอยู่ในช่วงดิ่งลง กลายเป็นผมเองที่ต้องขยับเอวเพราะถูกชักนำโดยแรงอารมณ์เพื่อให้กราฟที่กำลังจะลงพุ่งสูงดังเดิม

เหมือนได้ยินพี่ฮิมหัวเราะเบาๆ และเขารวบแขนทั้งสองข้างของผมแนบลำตัวให้ทั้งการทรงตัวและขยับเอวบนตักมันยากขึ้นไปอีก หยาดเหงื่อผมแตกพล่านมันไหลลงไปเรื่อยๆ จนเสื้อเปียกชุ่มไปหมด

ทั้งห้องได้ยินแค่เสียงหอบหายใจกับเสียงของคนตัวสูงครางทุ้มเบาๆ ในลำคอ ที่สามารถเร้าอารมณ์ผมได้อย่างน่าประหลาด ส่งผลให้เอวที่กำลังขยับอย่างยากลำบากบนตักหนาเริ่มเร่งจังหวะมากกว่าเดิม เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาซุกเข้าอก เขาปล่อยมือที่รวบแขนผมแนบลำตัวออกแล้วเลื่อนไปที่บั้นท้าย ขย้ำและแหวกช่องทางออกแม้จะไม่ได้สอดใส่ ลิ้นสากลากไปตามตุ่มไตบนอก ดูดดันและตวัดเลียคล้ายตั้งใจจะหลอมละลายมันในปาก

ผมขย้ำกลุ่มผมสีดำสนิทแน่น ขณะขยับเอวให้ท่อนล่างเสียดสีเร็วกว่าเดิมกระทั่งร่างกายเกร็งไปทุกสัดส่วนจนชาไปตามปลายนิ้ว ก่อนน้ำสีขุ่นจะพุ่งออก ผมหอบหายใจเฮือก และเป็นเจ้าของตักเสียเองที่ยังไม่เสร็จ ฮิมพลิกตัวแล้วดันผมให้นอนลงบนโซฟา เสียงทุ้มคำรามในลำคอขณะจับปลายขาผมแยกออก มือหนาจับแท่งเนื้อของผมถูเข้ากับของเขาอีกครั้งจนกระทั่งผมปล่อยเป็นครั้งที่สาม จังหวะเดียวกันที่คนบนร่างฉีดน้ำกามรดตัวผมไปหมด

กลิ่นคาวตีตื้นขึ้นจมูก ผมมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลานิ่งๆ แล้วจู่ๆ ก็โดนดึงเอวขึ้นก่อนริมฝีปากนุ่มจะทาบลงมา ฮิมไม่ได้สอดลิ้นแค่ดูดริมฝีปากผมนิดหน่อยแล้วกดใบหน้าผมแนบอกเขา ร่างสูงก้มลงมาหอมฟอดใหญ่ที่ขมับบ่งบอกว่าพึงพอใจแค่ไหน ผมได้นั่งนิ่งบนตักพี่ฮิมอีกครั้ง ประโยคสุดท้ายที่ได้ยินก่อนหนังตาจะปิดคือ

“พี่รักเล”

 

“น้องเลเป็นเหนื่อยๆ นะ พักก่อนไหม”

“เลไม่เป็นไร” ผมส่ายหน้าปฏิเสธความหวังดีจากพี่ๆ ที่เดินเข้ามาหา ก่อนจะซ้อมท่าต่อ แต่ไม่รู้หน้าผมมันดูอิดโรยเกินไปหรือยังไง ผมถึงสัมผัสได้ว่าคนมองกำลังทำสีหน้าหวาดๆ เอาตรงๆ ผมก็เหนื่อยนะ หลังจากเอ่อ… ออกกำลังกายแล้วหลับไป พอสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็พบว่าใกล้ถึงเวลาซ้อมแล้ว ทีแรกฮิมจะไม่ยอมให้ผมมาแต่ผมให้สาเหตุว่าเมื่อวานก็ได้โดดซ้อมเพราะเขา ร่างสูงก็เลยจำใจยอมให้ผมมาซ้อม แต่เป็นคนเดินมาส่งที่ใต้ตึกด้วยตัวเองพร้อมกับสีหน้ากดดันทุกคน อาจจะเป็นเพราะแบบนั้นวันนี้ทุกคนถึงได้ดูห่วงผมผิดปกติ

“เล พี่ใจไม่ดีเลย หนูพักก่อนไหม” คราวนี้พี่ไก่ถึงกับต้องเดินมาหาผมเอง

“เลไม่เป็นไร”

“แต่หนูหน้าซีด เอางี้พวกพี่อยากกินชูซิ น้องเลไปกับปิ่นดาวไปซื้อมาให้พวกพี่หน่อย ร้านอยู่ไม่ไกลขับรถไปแปปเดียวถึง”

“หือ ?” ผมทำหน้างงเมื่อได้รับคำสั่งมาแบบงงๆ พี่ไก่ทำหน้าลำบากใจก่อนจะยื่นหน้าเข้ามากระซิบ

“เพราะพี่ฮิมมาส่งน้องเลทุกคนเลยเครียดกันมากกว่าปกติ เลถือว่าช่วยพี่แล้วกัน เลิกซ้อมแล้วขับรถ ตากแอร์เย็นๆ ไปซื้อซูซิให้พี่หน่อย ถ้าหนูซ้อมต่อพวกพี่คงได้เครียดตาย”

“แต่เลไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ นะ”

“ลูกขา ยังไงวันนี้หน้าเลก็ดูซีดๆ นะ ช่วยพี่เถอะ ไม่ได้เป็นอะไรก็ดีแต่ตอนนี้อย่าพึ่งซ้อมเลย”

ผมเม้มปากแล้วพยักหน้า พี่ไก่เห็นถึงกับถอนหายใจโล่งทันที คนตรงหน้าผมหันไปเรียกปิ่นดาว ก่อนจะยัดเงินซื้อซูซิใส่มือเธอ แล้วให้ปิ่นดาวเป็นคนไปกับผม ยังจำปิ่นดาวได้ไหม ปิ่นดาวคือเพื่อนหลีดของผม ที่เปรียบเสมือนคนชี้ทางให้ผมตาสว่างระหว่างความสัมผัสของพี่ปริมกับพี่ฮิม

“เลรู้จักร้านไหม ดาวไม่รู้จักอ่ะ”

“รู้” ผมตอบสั้นๆ เพราะคุ้นๆ ว่าเคยมากินกับแก๊งโรซารี่นั่นแหละ จากมหา’ลัยไปถึงร้านชูซิใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที ผมให้ดาวลงไปสั่งก่อนขณะวนหาที่จอดรถ กระทั่งมาเจอที่จอดรถที่มีรถมอเตอร์ไซต์คุ้นตาอยู่ใกล้ๆ ผมขมวดคิ้วก่อนจะรีบจอดแล้วเดินลงจากรถ เมื่อเห็นป้ายทะเบียนก็พบว่ามันเป็นรถของเอ็กซ์จริงๆ

ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!

เสียงเหมือนคนกำลังรุมประทืบอะไรสักอย่างทำให้ผมสะดุ้ง พอหันหน้ามองหาต้นเสียงก็พบว่าต้นเสียงอยู่ในซอกหลืบมืดๆ ไม่ไกล พร้อมกับคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ก่อนจะพบว่าพวกเขากำลังทำร้ายคนๆ หนึ่งอยู่ ผมเบิกตากว้าง เมื่อเพ่งสายตามองไปยังคนๆ นั้นแล้วพบว่าคนที่เป็นจุดรองรับการกระทืบอยู่นั้น…

คือเอ็กซ์





(100%)

Everyone I miss you so muchhhh and I hope you miss me too. lol

คิดถึงชิบหายเลยค่าาาา (ขอหยาบเพื่อความอรรถรส)

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-06-2017 10:07:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
พี่ฮิมขี้หื่น
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 05-06-2017 11:02:02
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:

เอ็กซ์เป็นใครกันแน่?
ฉันเดาเรื่องนี้ไม่ถูกเลยยยย จะเป็นยังไงก็สู้ๆนะ

อย่าหายไปนานอีกเลย ขอร้อง... :ling1: :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 05-06-2017 11:13:58
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 05-06-2017 14:29:32
พี่ฮิมหื่นเกิ้นนนนนน
 :hao6:
ดีกันแล้วก็นะ
จับน้องกินแบบนี้ไม่ได้


ฮื่ออออ
คิดถึงคนเขียน หายไปนาน
กลับมาแล้วดีใจ :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 05-06-2017 14:34:22
miss u 2 คร่า :man1:
พี่ฮิมใจดีกับน้องจังเลยตอนนี้
อยากให้ใจดีแบบ(หื่นๆอย่าง)นี้ไปนานๆ
แต่ก็รออ่านช่วงมาม่าอยู่เหมียนกัล
ขอบคุณมากจ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 05-06-2017 23:29:47
ในที่สุดก็กลับมา ความเปลี่ยนแปลงเลยคือฮิม หื่นแบบเปิดเผยไม่มีกั๊ก แล้วเพื่อนคนเดียวที่เลจะมีจะเป็นยังไงต่อนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-06-2017 23:51:48
พี่ๆในบ้านเข้าใจว่าฮิม เล ฟัดๆกันหลายๆรอบ
ทั้งที่ทั้งคู่ แค่ต่อสู้กัน

ที่จริงๆพี่ๆก็ชำนาญเรื่องอย่างว่านะ ทำไมมองเลไม่ออก
ว่าผ่านศึกหลายรอบจริงหรือเปล่า ท่าเดินเลก็ปกตินะ

คงเพราะเสียงต่อสู้ดังโครมครามเลยนอนกันไม่ได้กัน

ว่าแต่เอ็กซ์ ถูกใครซ้อม  :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 06-06-2017 00:57:57
เอ็กซ์เป็นอะไรอีก!!!!!!!!!!!!!

พี่ฮิมจอมหื่นจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-06-2017 00:59:24
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 06-06-2017 09:03:37
อ้ายยยย

ทำไมฮิมหื่นนน

น้องสลบไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-06-2017 20:54:07
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 06-06-2017 21:32:31
พี่ฮิมดูเป็นตาลุงโรคจิตมากค่ะ กามแต่เด็ก555555
ตอนนี้มาคุ้มมาก คุ้มค่ารอเลย กามเน้นๆฮือ :jul1:
เราเข้าใจมุมมองของเลนะ เหมือนน้องรู้สึกว่าตัวเองโดนบังคับมากเกินไป เลยรับไม่ได้เลยแอบรู้สึกต่อต้าน ตอนแรกคิดว่าเลดูไร้เหตุผล​เกินไป แต่นี่เริ่มเข้าใจน้องไปทีละนิด เหมือนเลโตไปพร้อมกับเนื้อเรื่องและเราได้ติดตามความเปลี่ยนแปลงของเล #อินหลอมาก  :katai4:

คิดว่าที่กระทืบเอ็กซ์อาจมีฮิมยืนมองหรือกระทืบเองอยู่ กลัวม่าอีกจังค่ะโอ๊ย :ling3:

ปล.เอ็นดูพี่เกียร์มากตอนบอกให้สงสารคนที่ไม่ได้นอน5555555555
จะรอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ​ค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 07-06-2017 20:36:22
เอ้าโดนซ้อสเฉยเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_BLove ที่ 07-06-2017 22:38:29
แงงง
เอ็กซ์เป็นอะไรรร
ทำไมหน่วงจัง  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 15-06-2017 07:16:56
หวังว่าจะไม่ใช่พี่ฮิมที่รุมกระทืบเอ็กซ์นะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 20-06-2017 00:45:45
มาต่ออีกนะคะชอบมากกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 27-06-2017 15:57:42
รออ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 30-06-2017 17:37:07
FC พี่ฮิม
 :hao7:
น้องเลน่ารัก
 :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 30-06-2017 19:32:07
หูยยยย คือน้องเลซื่อจนคิดว่าไม่ใช่คนปกตินะ คิดว่าน้องน่าจะเป็นออทิสติกได้เลย แต่ฮิมเลี้ยงมาให้เป็นแบบนี้นี่เอง คือวิธีแบบนี้มันทำให้น้องโง่อะ จะใช้ชีวิตอยู่รอดในสังคมได้ยังไงถ้าไม่มีคนของตัวเองดูแล ฮิมเห็นแก่ตัวจริงๆอะ โคตรเกลียดเลย อ่านไปก็สงสัยในตรรกะของตัวเอกไป จนน้องโดนพี่วินด่า โอ๊ย ยังกะเป็นตัวแทนคนอ่าน 5555  พี่วินสมควรเป็นพ่อให้น้องแทนนะจะได้โตเป็นคนดีของสังคมได้
เห็นน้องค่อย ๆ เปลี่ยนไปเพราะค้นพบความจริงทำให้สะใจแปลก ๆ สมน้ำหน้าพระเอก ง้อให้ตายไปเลย
อ่านเรื่องนี้เพราะพี่บอมเลยนะ เราเป็นแฟนพี่บอม ประทับใจอะ บอกให้สอน ก็สอนจริงๆ แบบ นี่มันครูมอต้นสอนเพศศึกษา ประทับใจจจจจจ น้องโชคดีจรองๆที่มาเจอพี่บอม แต่พี่บอมนี่ดวงซวย 5555 คือจะบอกว่ารีเควสบทพี่บอมอีกได้มั้ยคะ จ๊อบม๊ากกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 07-07-2017 15:18:24
รอน้องเลครับ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050617#19 p.26
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 23-07-2017 18:35:05


#20



“ช่วยด้วยครับ! มีคนโดนรุมกระทืบอยู่ตรงนี้” ผมตะโกนบอกให้คนช่วยจนพวกที่กำลังกระทืบเอ็กซ์อยู่ต้องหันหน้ามามองอย่างไม่พอใจ หนึ่งในฝ่ายนั้นหันขวับมามองผมพร้อมกับทำท่าว่าจะเดินเข้ามาหาอย่างเอาเรื่องแต่กลับมีใครสักคนขวางมือเอาไว้เสียก่อน พวกนั้นคุยอะไรกันอีกนิดหน่อย ก่อนจะออกมาจากหลืบมืดๆ แล้วเดินผ่านตัวผมไปทันที

ผมยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะมองตามกลุ่มคนที่เดินออกไปไกลจนแทบจะลับสายตา จากนั้นจึงรีบวิ่งไปหาเอ็กซ์ เพื่อนผมกำลังนอนนิ่งอยู่บนพื้น ตามตัวเขามีแต่รอยซ้ำจากการถูกทำร้าย ผมเขย่าตัวเพื่อนที่นอนนิ่งไม่ได้สติอยู่บนพื้นหลายๆ ที สักพักนัยน์ตาคมจึงค่อยๆ ลืมขึ้น ร่างสูงยันตัวเองขึ้นจากพื้นก่อนจะแสดงสีหน้าที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวด

“เอ็กซ์ไปโรงพยาบาลไหม”

“ไม่” เขาปฏิเสธก่อนจะหันมามองผม “มาทำไม”

“เราพาเพื่อนมาซื้อซูซิที่ร้านข้างๆ”

“อือ” เขาตอบแค่นั้นก่อนจะทำท่าทางไม่สนใจพร้อมกับเดินผ่านผมไป

“เดี๋ยว! เอ็กซ์จะไปไหน เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะ”

คนตัวสูงหยุดเดินเมื่อได้ยินที่ผมพูด “มีอะไรต้องคุย”

“แล้วทำไมต้องหลบหน้าด้วยล่ะ” อย่าบอกนะว่าเขาไม่ได้หลบหน้าผม ทั้งๆ ที่ตอนแรกก็เหมือนจะอยู่กลุ่มเดียวกันแต่สักพักกลับทำตัวห่างออกไป “หรือว่าเพราะพี่ฮิมเหรอ”

เพราะเอ็กซ์ไม่ได้เป็นเหมือนสามคนที่เหลือนั่น บางทีเขาอาจจะได้รับคำขู่หรืออะไรสักเหมือนคนอื่นๆ ที่คิดจะเข้าหาผมอย่างแต่ก่อน

“...” เจ้าของใบหน้าบอบซ้ำจากการถูกเตะไม่ตอบ ผมยืนนิ่งรอฟังแต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ตอบ นานกระทั่งได้ยินเสียงตะโกนเรียกปิ่นดาวที่น่าจะซื้อซูซิเสร็จแล้ว

ผมอยากคุยกับเอ็กซ์ให้เสร็จแต่เพราะติดดาวที่มาด้วย เลยต้องจำใจยอมถอยห่างออกจากอีกฝ่าย

“เราไม่รู้ว่าเอ็กซ์เป็นอะไร แต่ถ้ามีอะไรให้เราช่วยก็โทรมาหาเรานะ”



1 ชั่วโมงต่อมา

บ้าน

บุหรี่ม้วนที่สามที่ใกล้จะหมดถูกบดขยี้ลงบนพื้น ปริมาณที่มากเกินกว่าปกติไม่ได้หมายความว่าคนสูบกำลังอารมณ์เสีย ตรงกันข้าม เขากลับอารมณ์ดีสุดๆ มือหนาปล่อยแมวเปอร์เซียสีขาวที่กำลังนอนเล่นอยู่บนตักออกจากตัว เป็นจังหวะเดียวกันที่ได้ยินเสียงของใครบางคนดังขึ้น

“กลับมาแล้วครับ” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองตามเสียง ก่อนจะกวักนิ้วเรียกคนที่ยืนอยู่หน้าตรงประตูห้องนั่งเล่นให้เดินเข้ามาใกล้ๆ เลนั่งแหมะลงข้างๆ ใบหน้าสวยหันเข้าซบกับบ่าแกร่งเงียบๆ จนเจ้าของบ่าสังเกตถึงความผิดปกติ

“คนดีเป็นอะไร” นัยน์ตากลมเงยขึ้นจ้องเขาแวบนึง ก่อนจะกลับไปซบหน้าเข้ากับบ่าตามเดิม

“เลง่วง” แขนเรียวโอบพันรอบลำคอแกร่ง เสียงนุ่มออดอ้อน “พาเลขึ้นไปนอนหน่อย”

ฮิมโอบแขนตอบรับเอวคอด ขณะจ้องคนตัวเล็กพร้อมโน้มใบหน้าลงไปทาบริมฝีปากจังหวะเดียวกันกับที่เจ้าของนัยน์ตากลมค่อยๆ ปิดลงอย่างเป็นใจ มือเรียวเลื่อนขึ้นไปขยุ้มกลุ่มผมสีดำสนิทเมื่อร่างเพรียวเริ่มเบียดชิดเข้าหากันมากขึ้น

ครืน

เสียงหอบหายใจดังพร่าเมื่อร่างสูงถอนริมฝีปากออก เจ้าของนัยน์ตากลมรีบซบเข้าบ่าแกร่งดังเดิม ในขณะที่ฮิมริมฝีปากแล้วล้วงมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์ที่กำลังสั่นในกระเป๋าขึ้นมารับอย่างอารมณ์ดี แต่ทันทีที่เห็นชื่อของคนที่โทรเข้ามา ใบหน้าที่กำลังยิ้มนิดๆ ก็กลับมาเรียบนิ่ง นัยน์ตาคมหลุบลงมองเลที่กำลังซบใบหน้าเข้ากับบ่า ก่อนจะกดรับสายพร้อมกับเอ่ยเสียงเรียบ

“มีอะไร” แผ่นหลังกว้างเอนพิงโซฟาขณะยื่นมือข้างไปที่เหลือไปลูบศีรษะของคนข้างกาย ทว่าเมื่อได้ฟังคำพูดจากปลายสายอารมณ์ผ่อนคลายก็ค่อยๆ กลับมาขุ่นมัว มือที่กำลังลูบศีรษะเริ่มขยุ้มเข้ากลุ่มผมนุ่มแล้วกำแน่นจนสั่น ฮิมได้สติก็ตอนที่เขาเผลอกระชากเส้นผมสีน้ำตาลเข้มแล้วน้องรอเจ็บ

“โอ๊ย! พี่ฮิมเลเจ็บ! กำผมเลทำไม” มือหนากดตัดสายเป็นจังหวะเดียวกันที่เขาคลายเส้นผมนุ่มที่ขยุ้มเต็มมือ เลรีบผละออก ใบหน้าสวยแสดงอารมณ์บูดบึ้ง ไม่พอใจ ก่อนเอ่ยย้ำ “เลเจ็บนะ!”

ว่าพลางยกมือขึ้นลูบศีรษะบริเวณที่พึ่งโดนกระชากไปเมื่อครู่ คนโดนว่ามองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ฮิมคว้าเอวคอดเข้ามากอดพร้อมกับเอ่ยเสียงเรียบ “พี่ขอโทษ”

“ทำไมต้องทำเล เลเจ็บ” ร่างสูงเงยหน้ามองนัยน์ตากลมและจมูกที่เริ่มแดงนิดๆ บ่งบอกถึงอาการของคนที่กำลังจะร้องไห้เป็นการยืนยันว่าเลเจ็บจริงๆ เสียงทุ้มไม่ได้ตอบกลับและตั้งถามคำถามใหม่แทน

“ไหนบอกว่าง่วง” ร่างบางถูกดึงขึ้นมานั่งตักแกร่ง มือหนาเอื้อมไปลูบศีรษะบริเวณเดียวกันกับที่เขาพึ่งขยุ้มไปเต็มมืออยู่เมื่อครู่แทนการปลอบประโลม “พี่พาไปนอนดีกว่า”

ร่างสูงยืนขึ้นพร้อมทั้งอุ้มคนที่อยู่บนตักขึ้นตาม ขายาวเดินออกจากห้องนั่งเล่นมุ่งสู่ห้องนอน ก่อนจะวางคนที่ยังหน้าบึ้งไม่หายลงบนเตียงขนาดใหญ่เมื่อมาถึงห้อง ฮิมขึ้นคร่อมตาม มือหนาบังคับคางของคนที่หันหน้าหนีให้เลหันมามองแต่น้องก็ยังทำหน้าบึ้งแล้วปรายตาไปทางแทนอื่น คนมีความผิดมองปฏิกิริยาจากอีกฝ่ายแล้วถามเสียงเข้ม

“งอนพี่เหรอ”

“เลไม่ได้งอน เลแค่โกรธ ฮิมเป็นบ้าเหรออยู่ดีๆ มาขยุ้มผมเลน่ะ! มันเจ็บนะ!”

“ขอโทษครับ” ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงแนบที่เนินอกขาวก่อนหลับตานิ่ง

“แต่เลเจ็บ” เลว่าเสียงอู้อี้เหมือนไม่ยอม ดังนั้นคนที่กำลังหลับตาอยู่จึงเอื้อมไปกุมมือบางทั้งสองข้างขึ้นมาใส่ศีรษะของตน ฮิมว่าเสียงเรียบ

“งั้นทำพี่คืน” มือบางจัดการขยุ้มกลุ่มผมหนาสีดำสนิทของคนบนร่างเต็มแรงทันทีที่ได้รับอนุญาต ทว่าคนโดนกลับไม่ร้องสักแอะ ตรงกันข้ามทันทีที่เลเริ่มเบนไปให้ความสนใจกับการเอาคืน ร่างสูงก็เริ่มเลื่อนใบหน้าไปที่ซอกคอขาว ไล่ริมฝีปากร้อนขบเม้มตามลำคอเบาๆ จนมือบางที่กำลังขยุ้มกลุ่มผมหนาอยู่นั้นผ่อนแรงลงเรื่อยๆ

พออารมณ์เริ่มกลับมาสงบเหมือนเดิม ฮิมจึงทิ้งตัวลงนอนตะแคงแล้วโอบกอดคนข้างกายเอาไว้เบาๆ

เลไม่ได้หลับอย่างที่บอก น้องลืมตาแต่ไม่พูดอะไร บรรยากาศมันแปลกอย่างเห็นได้ชัด เลไม่พูดเขาก็ไม่พูด เหมือนเราสองคนจะคิดเหมือนกัน

ไม่อยากทะเลาะ…



เซ้นต์ของเขาเกี่ยวกับเลมักจะถูกเสมอ หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะอยู่กับน้องมานานถึงได้รู้ว่าตอนไหนที่อีกฝ่ายเป็นปกติหรือผิดปกติ ฮิมสังเกตได้ตั้งแต่ที่ร่างเล็กเดินเข้ามานั่งข้างๆ แล้วซบบ่า นั่นไม่แปลก แต่ที่แปลกคือเงียบผิดปกติ เพราะนิสัยเลเป็นคนเงียบๆ ซะที่ไหน ยิ่งตอนที่มีสายโทรเข้ามาเป็นการยืนยันว่าความคิดของเขาถูก แล้วดันไปโกรธน้องทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์โกรธ ตอนนั้นเองที่นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเอง… พลาดแล้ว

พลาดที่ไปสัญญาว่าให้เลมีเพื่อนได้ แต่ตอนที่สัญญากลับลืมนึกไปว่าเพื่อนของเลยังไงก็ต้องมีมันอยู่ด้วย

แล้วไอ้เวรนั่นก็…

เคร้ง!

กระป๋องเบียร์ขวดที่สี่ถูกขว้างใส่เข้ากำแพงเพื่อระบายความหงุดหงิด ร่างสูงนั่งอยู่ในมุมมืดนอกบ้าน มีเพียงแสงจันทร์สลัวที่ลอยเด่นอยู่บนหัวคอยให้แสงสว่าง บ่งบอกว่าตอนนี้มันดึกขนาดไหน แน่นอนว่าฮิมต้องส่งน้องเข้านอนก่อนที่จะย่องลงมาระบายความเครียดของตัวเองเงียบๆ ที่ชั้นล่างของบ้าน ส่วนพวกนั้นยังไม่กลับ คงไปที่สนาม เพราะใกล้ถึงวันงานที่จัดขึ้นทุกปี ที่จริงเขาก็ต้องไป แต่เพราะเลรู้เรื่องคลับแล้วเลยยังไม่อยากไปให้น้องสงสัยอีก นอกจากคลับ มันยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เขายังไม่บอก

“ฮิมจ๋า อยู่ไหน” เสียงเรียกทำให้คนที่กำลังจะจุดบุหรี่สูบต้องหยุดมือลง นัยน์ตาคมหันไปมองตามเสียงแล้วตอบกลับ

“พี่อยู่นี่ครับ” ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ความเงียบเข้าปกคลุมไปสักพักก่อนร่างบางใส่ชุดนอนในสภาพงัวเงียจะปรากฏตัวให้เห็น เลเอามือขยี้ตาเป็นจังหวะเดียวกันที่เขาดึงเอวบางลงมานั่งตัก ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงแนบเข้ากับบ่าเล็ก

“กลิ่นเบียร์…”

“อือหึ”

“เยอะด้วย”

“สี่กระป๋อง”

“เลถือว่าเยอะ”

“ไม่ง่วงเหรอ” ฮิมถาม

“เลง่วง แต่ตื่นมาแล้วฮิมหายไป” คนตัวสูงตั้งใจหายใจรดต้นคอ ขณะล้วงมือเข้าไปสัมผัสผิวขาวบริเวณหน้าท้องแบนราบ “กลัวว่าจะไปไหนไม่บอกเลอีก อย่าเลื่อนมือลงนะ”

ฮิมละสัมผัสออก เข้าใจแล้วว่าทำไมน้องถึงเดินลงมาหา คงกลัวว่าเขาจะไปไหน กลัวที่สุดคงจะเป็นกลัวเขาไปหาคนที่เลพึ่งเจอเมื่อตอนค่ำ ฮิมว่าน้องคิดว่าคนที่ไปกระทืบไอ้หมอนั่นคือคนของเขา และมันก็ใช่จริงๆ แต่เขาไม่ได้สั่ง พวกนั้นแค่ทำตามหน้าที่ของมันตามปกติเวลาที่มีคนค้างคาอะไรเอาไว้แล้วไม่จ่าย ที่จริงเขาอยากอธิบาย แต่เลเหมือนไม่อยากพูด เขาก็ไม่อยากพูด บรรยากาศที่ดีเลยผสมปนเปไปกับความอึดอัด

ฮิมไม่อยากทะเลาะ ส่วนน้องก็คงระแวงกลัวเขาสั่งให้คนไปเล่นงานมันอีก

เขาถึงบอกว่าเขาพลาดที่สัญญากับเลไปแล้วลืมยกเว้นไอนั่นไปจริงๆ แถมพอจะอธิบายก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง พึ่งสัญญาไปด้วย ฮิมไม่รู้ว่าน้องจะฟังไหม ยิ่งคนดีมีนิสัยดื้ออยู่ด้วยแล้วยิ่งยาก

วงหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นจากบ่าของคนบนตักก่อนจะอุ้มร่างเล็กขึ้นแล้วพาเดินเข้าไปบนห้องนอนดังเดิม มือหนาวางอีกฝ่ายลงบนเตียง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์แล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อกดโทรหาใครสักคน

 (ครับบอส)

“คนที่มึงไปกระทืบเมื่อตอนค่ำ มันค้างอยู่เท่าไหร่” ปลายสายตอบกลับเป็นจำนวนตัวเลขที่มากเกินความจำเป็น สำหรับคนทั่วไป แต่ไม่มากถึงขนาดที่เขาต้องมาเสียดายถ้าหากจะทิ้งมันไป “ปล่อยมันไป อย่าให้มันยุ่งกับเลอีก”

เรื่องคลับเขาบอกเลไปแล้ว แต่ที่จริงมันยังไม่ทั้งหมด…

เลพร้อมที่จะรู้ เป็นเขาต่างหากที่ยังไม่พร้อมจะบอก



เช้า

ผมเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านพร้อมพี่ฮิม ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อบ้านเงียบผิดปกติ พอเดินไปห้องครัวก็เจอโน้ตลายมือพี่รพที่บอกว่า

‘กลับตีสี่ คิดว่าตื่นมาทำข้าวเช้าให้มึงไม่ทัน หาไรกินเองนะ เดี๋ยวตอนเย็นกูทำอาหารที่มึงชอบให้กิน’

“กลับช้าจัง ไปไหนกันมา” ผมพึมพำคนเดียวก่อนจะขย้ำโน้ตทิ้งลงถังขยะ โชคดีวันนี้ตื่นเช้า ผมเลยมีเวลาทำอาหารเช้าให้ตัวเองกิน “ฮิมอยากกินอะไรไหม”

ผมถามร่างสูงที่กำลังนั่งเกาคางแมวเปอร์เซียร์อยู่ เดี๋ยวนี้ผมไม่เขม่นมันมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะยังไงฮิมก็เป็นของผมอยู่ดี

“แล้วแต่เล”

“งั้นเลทำแซนวิชแฮมชีสไข่ดาว พี่ฮิมจะเอาชีสด้วยไหม” ผมหยิบอุปกรณ์ออกมาขณะถามไปด้วย ทำแซนวิชนี่แหละง่ายดี ไม่มีคำตอบของคำถาม ผมมัวแต่ยุ่งกับการเตรียมอุปกรณ์อยู่เลยไม่ได้สนใจร่างสูง แต่สัมผัสได้ว่าฮิมกำลังเดินมาเปิดตู้เย็นและพอผมหันไปเห็นว่าเขาหยิบอะไรออกมา ตัวเองก็แทบจะวิ่งเข้าไปแย่งมันออกจากมือหนาไม่ทัน “นี่มันพึ่งเช้า เลไม่ให้ดื่มเบียร์”

ผมทำเสียงดุก่อนจะวางกระป๋องเบียร์ใส่ตู้เย็นดังเดิม พี่ฮิมหัวเราะร่างสูงตามมาคลอเคลียในขณะที่ผมวางขนมปังใส่เต้าพร้อมกับตอกไข่ลงไป

“กลัวแล้ว”

“เลว่าอีกหน่อยพี่ๆ ในบ้านจะเป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่ม” ผมจับแขนที่เข้ามาโอบเอวตัวเองออกพร้อมกับหมุนตัวไปประจันหน้ากับอีกฝ่าย “รวมถึงฮิมด้วย”

ก็ดูปริมาณที่พวกเขาดื่มสิมันน้อยซะที่ไหน แถมยังดื่มถี่ๆ ต่อกันวันต่อวันแบบนี้ เหล้าบ้างเบียร์บ้างแต่สุดท้ายมันก็แอลกอฮอล์เหมือนกันนั่นแหละ ผมสบตาเข้ากับนัยน์ตาคมสีดำสนิท ก่อนเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาจะยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาหอมแก้มและจูบที่ปาก ฟันคมขบเม้มเบาๆ จากนั้นจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะกินอาหารเหมือนเดิม

พอฮิมไม่กวน ผมก็กลับมาทำอาหารเช้าเสร็จพร้อมกับถือมันไปวางที่โต๊ะ ตอนที่กำลังนั่งกินอยู่นั่นเองทำให้นึกบางอย่างขึ้นมาได้…

เรื่องของเอ็กซ์

ผมไม่อยากถามว่าคนที่ไปทำร้ายเอ็กซ์เมื่อวานใช่คนของพี่ฮิมไหม เพราะคิดว่าถ้าใช่ก็ทะเลาะ แต่ถ้าไม่ใช่ความรู้สึกมันก็เหมือนไปปรักปรำอีกฝ่าย สุดท้ายเราก็ทะเลาะกันเหมือนเดิม

ไม่รู้ทำไม ทั้งๆ ที่ฮิมเป็นคนที่เลี้ยงผมมา ผมอยู่กับเขามานาน แต่ความรู้สึกเหมือนเข้าไม่ถึงอีกฝ่ายมันพึ่งจะมาเริ่มตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าพี่ฮิมคิดอะไรไม่เหมือนกับที่ฮิมมักจะรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่…



จดบันทึกพิเศษ : เอ็กซ์

เสียงรุมกระทืบดังอยู่ข้างตึก ร่างสูงในชุดนักศึกษาที่รองรับเท้าของแต่ละคนได้แต่กดฟันทนให้พวกมันกระทืบต่อจนเสร็จ

“ถ้าพรุ่งนี้กูมาแล้วมึงไม่มี มึงตายแน่” เขาแสยะยิ้มที่มุมปากขณะถ่มน้ำตาลผสมเลือดลงบนพื้นเลยได้มาอีกเตะหนึ่งก่อนที่พวกนั้นจะจากไป แต่แล้วไม่ถึงสามนาทีพวกใหม่ก็มาแทน

“กูยังไม่มี  ถ้ามีกูจะเอาไปให้ที่คลับเอง” เขาบอกเสียงเรียบเหมือนเดิม ขณะมองหน้าของแต่ละคน กลุ่มเดียวที่เตะเขาเมื่อตอนเย็นแล้วเลบังเอิญมาเห็นพอดี

“เหอะ สภาพหมาอย่างมึงดูก็รู้แล้วว่าไม่มี ติดเงินชาวบ้านเขาไปทั่ว” ไอ้คนที่พูดคือหัวหน้าของกลุ่มนี้ เขาจำไม่ได้ว่ามันชื่ออะไร แต่จำได้ว่ามันดังในด้านการต่อสู้พอสมควร

“แล้วมึงมาทำไม ไม่ได้มากระทืบกูต่อเหรอ” เขาชินชากับการโดนทำร้ายแม้มันจะแย่ต่อร่างกายก็เถอะ

“วันนี้กูจะเป็นเทพแห่งโชคลาภ”

“พูดเหี้ยอะไร”

“ระวังปาก ทางที่ดีไปกราบตีนบอสกูด้วย” กระดาษม้วนๆ แผ่นนึงกับปากกาถูกโยนมาให้ มันชี้หน้าแล้วบอกเสียงเรียบว่า “เซ็นต์”

เอ็กซ์มองสิ่งของที่อยู่ในมือ เขาเปิดอ่านก่อนจะขมวดคิ้ว กระดาษแผ่นที่มันโยนมาคือสัญญากู้ยืมที่บ่งบอกว่า หนี้ของเขาจากเลขเฉียดเจ็ดหลักตอนนี้กลายเป็น… ศูนย์

“หมายความว่าไง”

“ตามนั้น”

“ข้อตกลง” จากหนี้เกือบล้านสิ้นสุดภายในวันเดียว มันคงต้องแลกด้วยอะไรสักอย่าง หลังจากที่คนพวกนี้มาทวงเงินและกระทืบเขาได้เป็นเดือนๆ  เอ็กซ์ไม่คิดว่าบอสของพวกมันจะใจดีถึงขนาดยกหนี้มูลค่าสูงทิ้งฟรีๆ ขนาดนั้น

“แหกตาแล้วอ่านสัญญาให้จบ” ประโยคที่ทำให้เขาต้องวกสายตากลับมาอ่านที่สัญญาอีกครั้ง มีข้อตกลงเขียนเอาไว้อย่างที่พวกมันบอก แถมยังปัญญาอ่อนจนต้องร้องหึขึ้นมาในลำคอ

“เลมายุ่งกับกูเองต่างหาก” เสียงทุ้มพึมพำก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นจากพื้น จังหวะนั้นเองที่บางอย่างตกจากกระเป๋ากางเกงสู่พื้น มือหนารีบเก็บมันเข้ากระเป๋าแต่ของที่ตกไปเมื่อกี้คงหนีไม่พ้นสายตาพวกมัน

“ไม่ต้องซ่อน กูรู้ว่ามึงเล่นยา”

“เสือกว่ะ”

“จะเล่นไม่เล่นนั่นมันชีวิตมึง” มันปรายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า “แต่ติดหนี้เขาไปทั่ว  ผลของมันทำให้มึงเริ่มล่มจมแค่ไหน มึงก็น่าจะเห็นแล้วนะ…”

“...”

มันเอื้อมมือไปหยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกง เป็นแผ่นกระดาษที่ถูกพับหลายทบจนเล็ก พอกางออกจนคืนรูปร่างเดิม มันถึงส่งมาให้

“อะไร”

“แหล่งหาเงินที่เร็วที่สุด ถ้ามึงมีฝีมือพอนะ” มันว่าต่อ “อีกสามวันจะมีงานแข่งรถ ผิดกฏหมายแต่เงินรางวัลโคตรสูง ขนาดที่สามยังได้ตั้งเจ็ดแสน”

“บอกกูทำไม”

“ของขวัญ ถือว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายหลังจากกระทืบมึงมาได้เป็นเดือน” ว่าจบก็หันหลัง เอ็กซ์มองตามแผ่นหลังกว้างที่กำลังเดินออกไปแต่จู่ๆ ก็หยุดชะงัก มันหันหน้ากลับมาพูด “กูย้ำอีกครั้ง อย่ายุ่งกับน้องเล”



“นักศึกษาทุกคนโปรดอย่าลืมว่าพรุ่งนี้มีสอบ” คำพูดของอาจารย์ทำเอารอยยิ้มเหล่านักศึกษาที่กำลังดีใจเนื่องจากเรียนเสร็จต้องดับมอดลง บางคนถึงขนาดโอดครวญไม่เว้นแม้แต่ผมเอง

“จะเอาความรู้ที่ไหนไปสอบ” ผมบ่นให้คนข้างๆ ฟัง แต่บังเอิญที่ไม่ว่าจะเป็นคนข้างซ้าย ข้างขวาหรือแม้แต่ข้างหลังผมก็ตาม สามคนนี้สอบทีไรได้คะแนนมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ตลอด

“ให้ติวให้ไหม” ดินเสนอขณะเก็บของเข้ากระเป๋า ผมเม้มปากแล้วตัดสินใจพยักหน้า ก่อนจะโทรไปขอพี่นนท์นี่ไม่ซ้อมวันนึงซึ่งก็ได้รับการอนุญาตแต่โดยดี เราไปติวกันที่คอนโดของดิน ผมไม่ได้โทรไปบอกพี่ฮิมเพราะคิดว่าไม่ดิน เกี๊ยกหรือพิษ หนึ่งในสามคนนี้คงรายงานไปแล้ว เลยให้ความสนใจกับการติว ยาวเยียดกินเวลากว่าห้าชั่วโมงจนถึงทุ่มกว่าๆ

เป็นอย่างที่ผมคาดการณ์ พี่ฮิมคงรู้แล้วเขาจึงไม่ได้โทรมา แต่คนที่โทรตามผมหยิกๆ กลับเป็นพี่รพ

(มึงอยู่ไหน) น้ำเสียงจากปลายสายคล้ายหงุดหงิด ผมหันไปมองนาฬิกาแล้วตอบกลับ

“เลติวกับเพื่อนอยู่”

(ยังไม่เสร็จอีกเหรอ) พี่รพว่าเพราะเขาเคยโทรมาหาผมแล้วเมื่อช่วงห้าและหกโมงเย็น

“ใกล้แล้ว”

(รีบกลับ!) พอว่าจบก็กดตัดสายไป ผมเลยให้เกี๊ยกตรงที่ยังไม่เข้าใจอีกนิดหน่อย พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบขับรถออกมาจากคอนโดของดิน จังหวะที่กำลังขับมาจากซอยเปลี่ยว สายตาของผมก็บังเอิญเห็นใครบางคนที่เหมือนกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่

บังเอิญ… ที่คนนั้นเป็นเอ็กซ์

เอี๊ยด

การกระทำของผมไวกว่าความคิด เพราะรู้ตัวอีกทีตัวเองก็จอดรถแล้วเปิดกระจกถามคนที่ยืนอยู่ข้างทางแล้ว

“เอ็กซ์รถเสียเหรอ” ท่าทางแบบนั้นสงสัยรถคงเสีย ผมเดาเอา อีกฝ่ายหันหน้ามาแต่ไม่ได้พูดอะไร “ให้ไปส่งไหม”

“ไม่เป็นไร”

“แน่ใจเหรอ”

“...”

“เอ็กซ์” ผมเรียกชื่อเขาแล้วกระพริบตาปริบๆ ท้ายที่สุดอีกฝ่ายก็ถอนหายใจแล้วเดินขึ้นมาบนรถ ผมยิ้มร่า “บ้านเอ็กซ์อยู่ไหนเหรอ”

“อยู่หอ”

“อ้าวเหรอ แล้วหอเอ็กซ์อยู่ไหนอะ” จะว่าไปแล้ว ผมก็ไม่เคยรู้เลยว่าเอ็กซ์พักอยู่ที่ไหน เจ้าตัวบอกสถานที่ที่อยู่ไกลจากที่นี่ระดับนึง จากนั้นเราก็เงียบ มีแต่เอ็กซ์ที่บอกทางเป็นระยะส่วนผมก็ขานตอบรับเป็นระยะ แต่แล้วในช่วงที่ถนนเป็นทางโค้ง จู่ๆ โทรศัพท์ของผมก็แผดเสียงขึ้น พอละสายตาจากถนนไปมองว่าใครโทรมา ครู่เดียวก็มีรถที่ไม่รู้ว่าไปรีบมาจากไหนแซงซ้ายขึ้นมาแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แถมยังเบียดเข้ามาจนแทบจะชนเป็นผลให้ผมต้องดริฟจนเกิดเสียงดังเพื่อไม่ให้รถตกขอบถนน เสียงเอี๊ยดดังลั่นและหยุดลงพร้อมกับรถ ส่วนรถคันที่เบียดมานั้นกลับขับหนีหายไปแล้ว

“ขับรถยังไงเนี่ย!” ผมเม้มปากข่มอารมณ์หงุดหงิด จังหวะนั้นเองที่ไม่ได้สังเกตเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ฝั่งข้างคนขับกำลังมองผมตาไม่กะพริบ

เสียงโทรศัพท์ดับไปแล้ว…



เค้าลางความวุ่นวายมาเยือนตั้งแต่ที่ขับรถเข้าบ้าน ผมเห็นพี่ฮิมกำลังยืนพิงเสาสูบบุหรี่รออยู่ ผมเดินลงจากรถไปประจันหน้ากับเขา ร่างสูงทำนิสัยไม่ดีโดยการพ่นควันพิษใส่จนผมสำลัก

“แค่กๆ” ก่อนตลบหลังด้วยการยื่นมือมาลูบแผ่นหลังผมเบาๆ เขาขยี้บุหรี่ในมือทิ้งลงพื้นก่อนจะโอบเอวผมเดินเข้าบ้าน

“คนดีช้าจัง รถติดเหรอครับ” วงหน้าคมยื่นเข้ามาหอดที่แก้มดังฟอด ผมไม่ตอบเพราะไม่อยากโกหกว่าไปไหนมา คิดว่าฮิมรู้แล้วซะอีก “หรือไปไหนมา…”

ขาที่เดินอยู่หยุดนิ่ง ผมกะพริบตาปริบๆ แล้วสบเข้ากับอีกฝ่าย ก่อนเขย่งปลายเท้าจูบเบาๆ ที่ปลายคางเป็นการเลี่ยงการตอบ พี่ฮิมโน้มใบหน้าลงมาจุ๊บเบาๆ กลับ แขนแกร่งใช้โอกาสนี้กอดเอวผมเบาไว้แน่น เสียงทุ่มพร่าว่า “ถ้าไปไหนคนดีบอกพี่ด้วย เป็นห่วงนะครับ”

ผมรู้สึกผิดช่วงขณะนึง ก่อนมันจะสลายหายไปเพราะเสียงของพี่รพที่ดึงความสนใจไปจนหมด

“กว่าจะมาได้!” ร่างสูงชี้หน้าผม แล้วเดินหายไปไหนสักที่

“วันนี้ที่บ้านมีอะไรทำไมพี่รพโทรตามเลจัง” ผมถามฮิมที่ยืนอยู่ข้างๆ

“เลจำโน้ตตอนเช้าที่มันให้ไม่ได้เหรอ” พอฮิมเตือนความจำ ข้อความที่ได้อ่านเมื่อเช้าก็แล่นเข้าสมอง

‘กลับตีสี่ คิดว่าตื่นมาทำข้าวเช้าให้มึงไม่ทัน หาไรกินเองนะ เดี๋ยวตอนเย็นกูทำอาหารที่มึงชอบให้กิน’

‘เดี๋ยวตอนเย็นกูทำอาหารที่มึงชอบให้กิน’

‘ตอนเย็นกูทำอาหารที่มึงชอบให้กิน’

ผมถึงกับร้องอ้อในใจ ปริศนาที่สงสัยคลายไปจนหมด เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่รพโทรตาม ถ้าเป็นเรื่องอาหารถึงปากบอกว่าไม่อยากเป็นเซฟแต่ถ้าได้ทำก็จะตั้งใจทำและอยากเห็นผลลัพธ์เวลาเห็นคนกินมัน และต้องเข้าใจด้วยว่าถ้าพี่รพออกปากเองว่าจะทำอาหารที่ชอบให้กินมันจะเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ แต่ผมดันหักหน้าเขาด้วยการเข้าบ้านช้าซะงั้น

คงโดนโมโหไม่น้อย...

“ฮิมจ๋า” ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงหวาน ร่างสูงหันหน้ามามองก่อนเลิกคิ้วขึ้น “ง้อพี่รพให้เลหน่อย”

เหมือนรู้ตัวว่าต้องโดนโกรธ แต่ผมยังเกรงพี่รพอยู่ แม้ความกลัวจากแต่ก่อนมันจะลดลงมาบ้างแล้ว

“พี่จะได้อะไร” เสียงทุ้มถามแต่มือกลับเลื่อนมาแตะที่สะโพกก่อนที่ผมจะตอบ

“Kiss?”

“แค่นี้เหรอ”

“เลให้ได้แค่นี้”

“เลครับ” ผมเดินหนีอีกฝ่ายก่อนที่เขาจะขอมากกว่าเดิม แถมได้ยินเสียงหัวเราะเล็กน้อยดังตามจากด้านหลัง เดินคนเดียวไม่นานร่างสูงก็วิ่งเข้ามาประชิดตัวแล้วโอบเอวผมดังเดิม พี่ฮิมพาผมเดินไปที่หลังบ้าน ทันทีที่เห็นอาหารมากมายผมถึงกับต้องขมวดคิ้วสงสัย

“เนื่องในวันอะไรด้วยหรือเปล่า” ถึงพี่รพบอกว่าจะทำของที่ชอบให้กินแต่มันไม่น่าจะเยอะได้ขนาดนี้ ไม่น่าที่จะเต็มโต๊ะใหญ่ได้ขนาดนี้…

“ใช่” แขนแกร่งโอบจากทางด้านหลัง เสียงทุ้มพูดข้างหูพร้อมกับไล่จมูกไปตามแก้มผมเบาๆ “วันอยากกินครับ”

“เลมานี่” พี่วินกวักมือรีบ ผมละตัวจากฮิมเดินไปหาพี่วิน ร่างสูงยื่นจานใส่ปลาหมึกย่างมาแล้วสั่งให้ผมนำมันไปวางบนโต๊ะ ผมหยิบกินนิดหน่อยแต่กินไปกินมากลับอร่อยจนถอนตัวไปขึ้น ท้ายที่สุดผมเลยนั่งกินปลาหมึกย่างข้างพี่เกียร์ที่กำลังดื่มเบียร์อยู่ข้างๆ

ปึก!!

จานข้าวผัดถูกกระแทกลงบนโต๊ะ ผมค่อยเงยหน้ามองคนวาง พอเห็นว่าเป็นพี่รพแล้วถึงรีบหันหน้าไปหาพี่ฮิมว่าเขาจะรับข้อเสนอของผมไหม ฮิมที่กำลังคุยอยู่กับพี่วินบังเอิญหันมามองพอดี ร่างสูงนิ่งไปครู่นึงก่อนจะยอมเดินมานั่งข้างๆ พร้อมกับโอบมือมาดันศีรษะผมลงแนบบ่าคล้ายจะปกป้อง แค่นั้นแหละ พี่รพที่เหมือนกำลังคิดหาคำมาว่าผมก็ร้องหึในลำคอก่อนจะเดินจากไปแบบง่ายๆ

โอโห้… ความแตกต่างทางชนชั้นวรรณะในบ้านหลังนี้ นี่ถึงสถานะผมกับฮิมมันจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ผมก็เคยเป็นถึงลูกรักของพี่ฮิมนะ ชนชั้นในบ้านของผมมันควรเป็นที่สองสิ ไม่ใช่ที่สุดท้าย!

ถัดจากนั้น พี่ๆ แต่ละคนถึงทยอยมานั่งกินเล่นกันไปเรื่อยๆ บริเวณสระน้ำ แต่คนที่กินจริงจังบนโต๊ะน่ะคือผม เพราะพี่ฮิมบอกว่าก่อนที่ผมจะกลับมาคนอื่นเขากินกันเสร็จแล้ว ในขณะที่กำลังหยิบขาไก่ใส่ปาก หูก็พลันได้ยินเรื่องอะไรสักอย่างที่ไม่คุ้น

“วันงานฮิมก็ต้องไป จะปล่อยน้องมันอยู่คนเดียวเหรอ”

“งาน?” ผมกลับหลังหันไปมองพี่ๆ ที่กำลังนั่งอยู่บริเวณสระน้ำ “งานอะไรเหรอครับ?”





“งานอะไรเหรอครับ?” คำถามที่ทำให้ร่างสูงที่พึ่งเดินออกมาจากบ้านได้ยินอย่างพอดิบพอดี นัยน์ตาคมมองไปทางพวกเพื่อนสนิทจนคนถูกมองรู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อคิดได้ว่าหลุดพูดอะไรออกไปแล้ว ฮิมวกสายตามามองน้องที่กำลังทำหน้าสงสัย แต่ปากก็ยังไม่หยุดกินไก่ในมือ

“กินไก่เป็นเถอะมึงอ่ะ” ไทด์เป็นคนแก้สถานการณ์หลังจากที่เห็นหน้าคนที่พึ่งเดินออกมาจากบ้าน สายตาที่มันมองพวกเขาเมื่อกี้คงจะบ่งบอกถึงอารมณ์ฉุนไม่น้อย

“แล้วงานอะไรเล่า! เลได้ยินนะเมื่อกี้ พี่ไทด์กับพี่เกียร์คุยกันว่างานแข่งอะไรสักอย่าง” เลว่า “ฮิมจ๋าจะมีงานอะไรเหรอ”

“พวกกูหมายถึงงานที่คลับ งานแข่งอะไร กูหมายถึงแบ่งงานกันต่างหาก” ไทด์ว่า หลังจากเห็นหน้าคนพ่อแล้วรู้สึกว่าถ้าไม่รีบพูดแก้อะไรสักอย่าง ความวินาศสันตะโรจะมาลงที่พวกเขาเร็วๆ นี้

“อ้าวเหรอ” เลพยักหน้า น้องทำหน้าเหมือนสงสัยนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆ คล้ายกำลังยืนยันคำตอบแล้วหันหลังกลับไปกินไก่ต่อ ฮิมปรายตามองพวกเพื่อนที่กำลังนั่งริมสระแล้วเดินมานั่งข้างๆ คนที่ยังกินไม่หยุด ใบหน้าคมวกเข้าไปหอมแก้มนิ่มเบาๆ แล้วปล่อยให้เลกินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งอีกฝ่ายวางขาไก่ชิ้นที่สี่ที่เหลือแต่กระดูกแล้วใช้มือลูบท้องเบาๆ “อิ่มจัง!”

“ง่วงหรือยัง”

“กินแล้วจะให้เลนอนเลยเหรอ อ้วนตาย”

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่พาคนดีออกกำลังกายก่อนเข้านอน”



(90%)



ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ อะแถม #mdredคนดอง2017 5555555555

เอาตรงๆ ปะ ตั้งแต่ที่ไม่ได้อัพ ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้เข้ามานิยายเรื่องอื่นเลย

เพราะถ้าอ่านแล้วจะรู้สึกผิดมักๆ ; w ;

นี้มาแล้วเด้ออออออ ถ้านักอ่านหายไปนี่ไม่ว่าละ ดองเองก็ต้องโทษตัวเอง

ใครไม่ทิ้งก็ขอบคุณน้าาา ต่อจากนี้มันจะลุกดั่งไฟเยอรรรรรรรร์แล้ว

ส่วนฮิมช่วงนี้ก็จะเห็นคนโหดโหมดหวานสักหน่อยยย55555



           
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 23-07-2017 19:12:49
มาต่อแล้วววว รอนานมาก เกือบลืมน้องเลพี่ฮิมไปแล้วนะเนี่ย
สรุปคือเอ็กซ์ไม่ดีสินะ หรือยังไง
ลุ้นต่อไปเอาใจช่วยพี่ฮิมค่อยๆบอกความลับกับน้องไปทีละนิด
น้องคงไม่โกรธหรอกเนอะ ดีกว่าให้น้องต้องมารู้จากคนอื่นหรือจากความไม่ได้ตั้งใจ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 23-07-2017 23:02:21
เล่นยานี่เองฮิมเลยไม่อยากให้มาใกล้น้อง งืมๆ
จะกินน้องอีกเหรอพี่ฮิมมม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhankn ที่ 23-07-2017 23:19:24
เรารอได้แต่มาบ่อยๆก็ดีน้าาา    รอจ้า  :really2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-07-2017 23:34:48
ดีใจ ไรท์มาต่อ  :mew1: :mew1: :mew1:

เล รักเพื่อน
เอ็กซ์ หายไป เพราะยา  เลิกยาไม่ได้หรอเอ็กซ์
เอ็กซ์ ทำตัวห่างๆเล เพราะคำสั่งห้ามเข้าใกล้เล สินะ

งานจะเข้ามั้ยนะ งานที่พี่ๆเผลอหลุดให้เลได้ยิน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-07-2017 01:05:40
 :pig4: :pig4: :3123: :3123: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 24-07-2017 06:50:12
แล้วพี่ฮิมจะบอกน้องยังไงล่ะว่าไม่ให้คบเพราะเอ็กซ์มันเล่นยากลัวน้องจะเสียไปด้วยเนี่ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 24-07-2017 08:02:56
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-07-2017 09:11:57
รออยู่น้า~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 24-07-2017 11:11:15
ทุกอย่างมันจะเริ่มเปิดเผย....

ปล. เรารอพระรองอยู่นะ ㅠ ㅠ

สู้ๆเด้อ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 24-07-2017 14:22:03
Welcome back jaaaaa
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 25-07-2017 23:49:56
ความสัมพันธ์มันก็ยังคง งง งง อยู่เหมือนเดิม งง เอง มึน เอง รอแบบ nonstop
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 26-07-2017 08:17:44
โอ๊ยคิดถึงเรื่องนี้มากๆ คนอ่านก็จะเป็น #คนลงแดง2017 เหมือนกัน :ling1:

ฮิมควรบอกเรื่องเอ็กซ์ให้น้องรู้อะ คิดว่าต่อไปต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับน้องแน่ๆ มาหวานแบบนี้รับรองต่อไปต้องมาชดเชยแน่ๆ เตรียมใจและเตรียมหม้อต้มเลยฮือ55555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 26-07-2017 22:37:04
#20 (100%)


“งานอะไรเหรอครับ?” คำถามที่ทำให้ร่างสูงที่พึ่งเดินออกมาจากบ้านได้ยินอย่างพอดิบพอดี นัยน์ตาคมมองไปทางพวกเพื่อนสนิทจนคนถูกมองรู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อคิดได้ว่าหลุดพูดอะไรออกไปแล้ว ฮิมวกสายตามามองน้องที่กำลังทำหน้าสงสัย แต่ปากก็ยังไม่หยุดกินไก่ในมือ

“กินไก่เป็นเถอะมึงอ่ะ” ไทด์เป็นคนแก้สถานการณ์หลังจากที่เห็นหน้าคนที่พึ่งเดินออกมาจากบ้าน สายตาที่มันมองพวกเขาเมื่อกี้คงจะบ่งบอกถึงอารมณ์ฉุนไม่น้อย

“แล้วงานอะไรเล่า! เลได้ยินนะเมื่อกี้ พี่ไทด์กับพี่เกียร์คุยกันว่างานแข่งอะไรสักอย่าง” เลว่า “ฮิมจ๋าจะมีงานอะไรเหรอ”

“พวกกูหมายถึงงานที่คลับ งานแข่งอะไร กูหมายถึงแบ่งงานกันต่างหาก” ไทด์ว่า หลังจากเห็นหน้าคนพ่อแล้วรู้สึกว่าถ้าไม่รีบพูดแก้อะไรสักอย่าง ความวินาศสันตะโรจะมาลงที่พวกเขาเร็วๆ นี้

“อ้าวเหรอ” เลพยักหน้า น้องทำหน้าเหมือนสงสัยนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆ คล้ายกำลังยืนยันคำตอบแล้วหันหลังกลับไปกินไก่ต่อ ฮิมปรายตามองพวกเพื่อนที่กำลังนั่งริมสระแล้วเดินมานั่งข้างๆ คนที่ยังกินไม่หยุด ใบหน้าคมวกเข้าไปหอมแก้มนิ่มเบาๆ แล้วปล่อยให้เลกินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งอีกฝ่ายวางขาไก่ชิ้นที่สี่ที่เหลือแต่กระดูกแล้วใช้มือลูบท้องเบาๆ “อิ่มจัง!”

“ง่วงหรือยัง”

“กินแล้วจะให้เลนอนเลยเหรอ อ้วนตาย”

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่พาคนดีออกกำลังกายก่อนเข้านอน”

เลไม่ได้ว่าอะไร ฮิมปล่อยให้น้องนั่งเล่นโทรศัพท์เพื่อย่อยอาหารอีกสักพักก่อนจะจูงมือบางขึ้นไปบนห้อง นัยน์ตาคมมองเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่เดินเข้าห้องไปก่อน หลังจากนั้นร่างสูงจะเดินตามเข้าไปพร้อมกับเอื้อมมือไปกดล็อกกลอนประตูไว้ดัง… แกร๊ก

เขารอจนกระทั่งเลและตัวเองอาบน้ำเสร็จ ร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่ผูกผ้าขนหนูสีขาวปิดช่วงล่างเพียงอย่างเดียว ฮิมมองคนใส่ชุดนอนที่กำลังนอนตีขาเล่นโทรศัพท์บนเตียง เขาชั่งใจครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปใส่เสื้อผ้าจนเสร็จ แล้วเดินปิดไฟรอบห้องก่อนกลับมาที่เตียงนอน

ฟูกหนายุบลงเมื่อคนตัวสูงทิ้งกายลงข้างอีกฝ่าย เขาแย่งโทรศัพท์มือถือที่ยังส่องแสงสว่างจ้าในความมืดออกจากมือของน้องพร้อมปิดมันลงแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็ว

เขาไม่เปิดโอกาสให้เลได้พูด คนมากประสบการณ์ใช้ริมฝีปากบางทาบเข้ากับฝ่ายใต้ร่างอย่างรวดเร็ว มันน่าแปลกที่น้องไม่ขัดขืนแถมยังตอบรับกลับมา แต่ทันทีที่ผละออกให้ได้หายใจพอจะวกกลับเข้าไปจูบใหม่ คนมือไวก็ยกขึ้นมาปิดปากตัวเองหมับพร้อมกับส่ายหน้าไปมา

“ไม่ยอมให้พี่หน่อยเหรอ”

“เมื่อกี้เลก็ยอมแล้วไง”

“แค่นั้น?”

“ก็บอกแล้วว่าให้แค่จูบ”

“คนดีใจร้ายมาก” เสียงทุ้มกระซิบขณะคลอเคลียบริเวณแก้มนุ่มไปมา แล้วทิ้งตัวลงนอนข้างอีกฝ่าย “พี่รอให้เลพร้อมกว่านี้ก็ได้”

“อืม” คนฟังครางรับในลำคอ

“หวังว่ามันจะไม่นาน”

“หมกมุ่น!” คนโดนว่ายกยิ้ม เขาดึงเจ้าของเอวผอมเข้ามากอดก่อนจะกล่อมน้องเข้าสู่ความสงบ



จดบันทึกพิเศษเอ็กซ์

เช้า

เขาลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมืด มือหนายันตัวขึ้นจากเตียงแล้วเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมฟุ้ง

เขาใช้เวลาใส่เสื้อผ้าไม่นาน จากนั้นจึงหยิบกุญแจแล้วเดินลงไปด้านล่างของหาเพื่อหาอะไรกิน เอ็กซ์ถอนหายใจเมื่อเดินลงไปแล้วพบว่ามีคนถึงสองกลุ่มที่มารอทักทายเขาแต่เช้า ร่างสูงไม่มีอารมณ์ให้พวกทวงหนี้มาแตะและต่อยตั้งแต่เช้าจึงเดินหลีกไปทางด้านหลัง ก่อนเรียกแท็กซี่แล้วบอกจุดหมายที่ต้องไป

จำไม่ได้แล้วว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ชีวิตเริ่มเหลวแหลก ทั้งๆ ที่ก่อนเข้ามหา’ลัยเขาก็เป็นแค่วัยรุ่นธรรมดาที่มีครอบครัวฐานะปานกลาง บ้านอยู่ต่างจังหวัด แต่สอบเข้ามหา’ลัยในเมืองได้ก็เลยเข้ามาเรียนคนเดียว แต่เพราะอยู่ห่างจากสายตาของพ่อแม่นี่แหละที่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ชีวิตที่เคยมีความสุขเริ่มดำดิ่งสู่ความทุกข์ เพราะความสุขจอมปลอมอย่างการเล่นยา เขาได้นำความวิบัติเข้าชีวิตเพราะบังเอิญไปสนิทกับพวกเพื่อนเหี้ยๆ ลามไปจนถึงติดหนี้ชาวบ้านเขาไปทั่ว และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้บอกเรื่องพวกนี้กับพ่อแม่ของตัวเอง คิดว่าหาทางออกได้เองเมื่อไหร่แล้วถึงจะไปขอขมาพวกท่าน

ปลายทางที่เอ็กซ์จะไปคือที่ๆ เลเจอเขา บังเอิญรถมันเสียแล้วเลขับมาเจอพอดี จริงๆ เขาอยากปฏิเสธความหวังดีของอีกฝ่ายเพราะตัดสินใจเซ้นต์สัญญาไปแล้วว่าจะไม่ยุ่งกับเล แต่คิดไปคิดมาแค่ให้ไปส่งคงไม่มีอะไร อีกอย่างคือเงินที่ติดตัวเขาตอนนั้นมีค่าเท่ากับศูนย์ แต่ไม่นึกว่าการที่ให้ไปส่งเฉยๆ จะได้เห็นอะไรดีๆ

ทุกคนรู้ว่าพี่ฮิมทำธุรกิจขนส่งรถนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก็ไม่น่าจะแปลกถ้าเลอาจจะขับรถเก่ง ก็ในเมื่อมีแบคดีถึงขนาดนั้น เพราะว่าดริฟในตอนนั้น… ไม่ธรรมดาเลย

มือหนาหยิบแผ่นกระดาษที่ได้มาจากพวกของพี่ฮิมเมื่อวันก่อน นัยน์ตาคมมองรายละเอียดแล้วถอนหายใจก่อนจะพับมันเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงอีกครั้ง เป็นอย่างที่มันบอก การแข่งนี้อำนวยความสะดวกถึงขนาดที่ว่าไม่ต้องเตรียมรถที่ใช้ในการแข่งเพราะทางผู้จัดจะเป็นคนจัดมาให้ แค่ต้องมีความสามารถกับมีของพนันที่ต้องมีมูลค่าสูงพอสมควรเอาไว้กันแพ้

เอ็กซ์ถอนหายใจก่อนจะพับกระดาษลงกระเป๋า ตัวเขาไม่เก่งพอที่จะไปลงแข่งและถึงจะลงแข่งได้ เขาก็ไม่มีของพนันที่มีมูลค่ามากพอจะไปลงพนันกันแพ้เหมือนเดิม

แท็กซี่สีชมพูส่งถึงปลายทาง ร่างหนาจ่ายตังค์ก่อนจะเดินไปหารถมอเตอร์ไซต์ที่ยังจอดอยู่ที่เดิม เขาลองสตาร์ทสองสามครั้งพอพบว่ามันยังดับสนิทจึงตัดสินใจจูงรถเดินไปหาอู่ที่อยู่ใกล้ๆ

เอ็กซ์ฝากรถเอาไว้ให้ช่างซ่อมก่อนจะเดินออกมาหาอะไรกินตอนเช้า แล้วจู่ๆ โทรศัพท์ก็แผดเสียงขึ้น นัยน์ตาคมมองชื่อคนโทรเข้า มือหนาเลื่อนไปที่ปุ่มตัดสายแต่แล้วก็เปลี่ยนใจกดรับ

“มีอะไร”

(ไม่ได้คุยกันนาน มึงว่างตอนไหน)

“ทำไม”

(ไม่เข้ามาหากูหน่อยเหรอ ของใหม่เข้าแล้วนะเว้ย)

“กูจะเลิกแล้ว”

(เหรอวะ มึงแน่ใจเหรอ)

“...” มือหนากำหมัดแน่น เล็บคมจิกลงนิ้วเพื่อเตือนสติตัว

(กูอุตส่าห์ลัดคิวให้มึงเลยนะเว้ย ของใหม่ด้วย)

“...”

(กูลองก่อนแล้วแม่งโคตรดี ดีกว่าของเขา แต่ติดยากกว่าด้วย)

“...” ร่างสูงตกอยู่ในผะวงของคำเชิญชวน หมัดแน่นคลายออก นัยน์ตาคมตกอยู่ในอารมณ์เหม่อลอย ร่างกายของเขามันคิดถึงความรู้สึกที่ได้เล่นยาไปเองโดยอัตโนมัติ มีความสุขยามที่ได้รับเช่นเดียวกันตอนที่ขาดมันก็เหมือนตกนรก

(รับรองดีกว่าของเดิมสองเท่า)

ท้ายที่สุดความตั้งใจที่จะเลิกก็ถูกทิ้งไป เอ็กซ์รู้ว่าตัวเองกำลังหมกมุ่นในสิ่งที่ผิดแต่กลับหยุดตัวเองไม่ได้ “เท่าไหร่”

เพราะอย่างนั้นมันถึงถูกเรียกว่า… ยาเสพติด

(200,000 ครั้งนี้แพงหน่อยว่ะ)

“กูไม่มีเงิน” อย่าว่าแต่มีเงินตอนนี้แค่หาเงินมาจ่ายหนี้เขายังจะไม่มี แต่ว่า… “กูเอาของก่อนไม่ได้เหรอว่ะ”

(ไม่ได้ว่ะ เฮียกูเอาตายแน่ ของดีมึงก็ต้องยอมจ่ายหน่อยดิว่ะ)

“...”

(อยากได้ตอนไหนก็เข้ามาหากูก็แล้วกัน)

ติ๊ด!

ปลายสายถูกตัดทิ้งให้คนฟังได้แต่หลับตานิ่ง เอ็กซ์กำหมัดแน่นจนสั่น เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้นขณะเดียวกันที่นึกถึงคำพูดของใครบางขึ้นมา

‘อีกสามวันจะมีงานแข่งรถ ผิดกฏหมายแต่เงินรางวัลโคตรสูง ขนาดที่สามยังได้ตั้งเจ็ดแสน’

...เจ็ดแสน…

มากพอที่จะจ่ายหนี้ที่เหลือของเขาจนหมด เผลอๆ เหลือด้วยซ้ำ และมากพอที่จะทำให้ชีวิตของเขามันกลับตาลปัตรได้พลิกจากหลังกลับมาเป็นหน้าอีกครั้ง แค่ต้องลองเสี่ยง…

ร่างสูงสับสนกับความคิดของตัวเองอยู่นานกระทั่งตัดสินใจได้ มือหนายกโทรศัพท์ขึ้นพร้อมกับเลื่อนหาเบอร์ของใครบางคนช้าๆ แล้วกลั้นใจกดโทรออก

(ฮัลโหล) ปลายสายรับเร็วกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก ทำเอาเจ้าของโทรศัพท์ถึงกับเกิดอาการลนขึ้นมา ริมฝีปากเขาแห้งผาก กว่าจะเปล่งเสียงออกมาเป็นคำพูดได้ รู้สึกว่าครั้งนี้จะเป็นการพูดที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตตั้งแต่ที่เคยได้พูดมา (ฮัลโหลๆ ทำไมไม่พูดล่ะ)

“เลเหรอ”

(อือ มีไรเหรอ)

“เล… ช่วยอะไรเราหน่อยสิ”

เอ็กซ์ยอมเสี่ยงกับการเสี่ยงที่แค่พลาดไปเพียงนิดเดียวก็อาจมีคนมาเอาชีวิตของเขาไปได้เลย







(100%)





ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ อะแถม #mdredคนดอง2017 5555555555

บอกว่าจะลุกดั่งไฟเยอร์ ตอนลง 90% มีคนทายถูกด้วยว่าเอ็กซ์จะทำอะไร

นี่แหละเป็นไง เริ่มเห็นหนทางร้อนแรงดุจดั่งไฟเยอร์แล้วหรือยังงงง

 (มีคนบอกว่าอยากรู้ประวัติของเอ็กซ์ เลยใส่มาให้นิดหน่อยจริงๆ คือไม่เชิงประวัติ เอ็กซ์เป็นตัวละครที่เรา อยากสื่อให้เห็นว่าเป็นคนที่เหี้ยแต่ยังไม่เหี้ยมาก จะเห็นได้ว่ายังอยากขอขมาพ่อแม่อยู่  แต่ไอ้ที่ยอมเสี่ยงเนี่ยมันเริ่มเป็นเหตุผลที่เข้าข้างตัวเอง คือถ้าดึงน้องเลที่เซ็นต์สัญญาแล้วว่าจะไม่ยุ่งเข้าไปเกี่ยวข้องเนี่ย จากเหี้ยเฉยๆ เริ่มจะกลายมาเป็นเหี้ยชิ-หายแล้วจ้าาาาา55555)


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260717#20 p.27
เริ่มหัวข้อโดย: Altasia ที่ 26-07-2017 23:17:17
เอ็กซ์ ถ้าทำให้เลเดือดร้อน พี่ฮิมตามไปกรทืบแน่! ระวังไว้เถอะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260717#20 p.27
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-07-2017 23:51:16
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260717#20 p.27
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 27-07-2017 00:16:52
ก็เซ็นต์สัญญาไปแล้วว่าจะเลิกยุ่งกับน้องอ่ะ
น่าจะเลิกยาให้ได้นะเอ็กซ์ เสียอนาคตอ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260717#20 p.27
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhankn ที่ 27-07-2017 00:33:49
ตอนนี้ฝากความหวังไว้ที่เล ว่าจะฉุกใจคิดซักนิดก่อนทำอะไร
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260717#20 p.27
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-07-2017 08:53:16
เอกซ์จะทำอะไร!?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260717#20 p.27
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 27-07-2017 11:18:51
เอ็กซ์จะทำเรื่องกะน้องเลแล้ว
ไม่เอาน้องไปเป็นของเดิมพันแข่งรถเน้อ
พี่ฮิมฆ่าแน่
 :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260717#20 p.27
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 27-07-2017 18:23:22
เกือบดีแล้วเอ็กซ์ กลับไปเล่นทำไมโว้ยยยยย :z3:
สงสารเลอะ เห็นเอ็กซ์เป็นเพื่อนนะ แต่ดูที่มันจะทำกับน้องสิ พี่ฮิมเคลียร์ด่วนค่ะ เคลียร์กับน้องก่อนจะเกิดอะไรแย่ๆเนี่ย ฮรึก :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260717#20 p.27
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 27-07-2017 19:04:27
เอิ่มมมมมม จะดีหรือเอ็กซ์

เฮ้ออออออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260717#20 p.27
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 28-07-2017 08:51:06
เอ็กซ์ให้เลไปแข่งรถแทนแน่ๆ
งานนี้มีแต่พังกับพัง!!ความลับไม่มีในโลก
พี่ฮิมและผองเพื่อนตายแน่ๆ
ส่วนเลมีพัฒนาการดีขึ้น แต่น่าจะเข้าใจฮิมนะว่าเป็นคนมีความต้องการสูง
เล่นตัว ไม่ยอม งอแงมากๆ...ไม่ดีเท่าไร
อยากให้เลเป็นนางแมวบ้าง...แอบรอนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260717#20 p.27
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 28-07-2017 09:27:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 260717#20 p.27
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 28-07-2017 22:14:34


#21 (45%)



“เอาไว้เดี๋ยวสอบเสร็จค่อยคุยกันนะ” ผมกดตัดสายหลังจากพูดจบก่อนจะรีบลบเบอร์คนโทรเข้า เป็นจังหวะเดียวกันที่พี่ฮิมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพหอมฟุ้ง เมื่อกี้เอ็กซ์โทรมาผมดีใจและตกใจแทบตายเมื่อรู้ว่าคนที่ไม่ค่อยชอบเพื่อนผมเท่าไหร่ใกล้จะอาบน้ำเสร็จ จับใจความได้แค่นิดเดียวคือเอ็กซ์อยากให้ช่วยอะไรสักอย่าง หลังจากนั้นผมก็รีบตัดบทไปเลย

ร่างสูงที่กำลังยกมือขยี้เส้นผมเปียกๆ เดินเข้ามาใกล้และมองผมเหมือนฮิมจะจับได้ว่าปิดบังอะไรอยู่ แต่เหมือนผมจะคิดไปเองเพราะฮิมแค่เดินผ่านไปเฉยๆ เป็นผมซะเองที่มองตามจนอีกฝ่ายสงสัยแล้วหันหน้ามาถาม

“มีอะไรครับ”

“เปล่า… เลไม่มี” พี่ฮิมหรี่ตาสงสัยผมจึงรีบแก้ไขสถานการณ์ด้วยการแสดงอาการลนนิดหน่อย “ฮืออออ ฮิมจ๋าเลจะสอบแล้วขอสมองหน่อย”

มือหนาโยนผ้าหนูที่ใช้เช็ดผมไปที่เตียง ฮิมว่า “มาสิ”

มันเป็นวิธีที่ใช้เป็นหลักพักพิงทางจิตใจ ผมชอบใช้บ่อยๆ ตอนอยู่มัธยมทว่าตั้งแต่ที่ขึ้นมหา’ลัยมาก็ยังไม่ได้ใช้มันอีกเลย วิธีคือเดินเข้าไปใกล้กันมากพอจนอีกฝ่ายสามาารถโน้มหน้าผากลงมาแนบกับหน้าผากของผม มือหนายกขึ้นมาจับศีรษะของผมล็อคไว้แล้วส่ายหัวเบาๆ ให้หน้าผากมันขยี้กันก่อนที่พี่ฮิมจะแนบริมฝีปากที่ขมับ เสียงทุ้มพร่าว่า

“ขอให้สอบได้ครับ”

“อือ” ผมขานรับไม่เต็มเสียงนัก ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี “งั้นเลไปนะ”

ผมว่าพลางเดินไปหยิบกุญแจรถและกระเป๋าเตรียมจะเดินลงไปด้านล่าง แต่ก่อนที่จะเดินออกจากประตูห้อง มือหนาก็ยื่นมาจับแขนผมเอาไว้ พี่ฮิมออกแรงดึงผมเข้าหาตัวก่อนจะหอมแก้มผมทีนึงแล้วค่อยปล่อยมือออก การมีรถเป็นของตัวเองมันก็ดีแต่สำหรับแล้วผมก็มีข้อเสียเหมือนกัน อย่างเวลาสอบแบบนี้ผมรู้สึกว่าตอนที่มีฮิมไปส่งมันอุ่นใจกว่า

ผมเดินลงมาด้านล่าง ผ่านห้องครัวที่เงียบสงบ เพราะวันนี้เรากินอาหารเช้าก่อนไปอาบน้ำ พวกพี่ๆ กินข้าวเสร็จก็ชอบไปนอนต่อ ผมว่าในหมู่พี่ๆ ฮิมเป็นคนที่ขยันที่สุดแล้ว หรือไม่ก็คงต้องทำเป็นแบบอย่างให้ผมดูก่อน เพราะถ้าเขากลับไปนอนต่อ ผมก็คงขอนอนต่อด้วยอะไรประมาณนั้น

McLaren 650S สีเทามาถึงมหา’ลัยตอนเก้าโมงครึ่ง ผมหาที่จอด (ซึ่งยากเย็นซะเหลือเกิน) ก่อนจะเดินขึ้นตึก จังหวะนั้นเองที่โทรศัพท์สั่นขึ้น ผมเห็นชื่อของคนโทรเข้าถึงนึกได้ว่ามีเอ็กซ์มีเรื่องจะคุยด้วย แต่พอจะกดรับปลายสายกลับตัดไปซะก่อน อีกฝ่ายส่งข้อความเข้ามาแทน

‘สอบเสร็จแล้วมาเจอกันที่หลังตึกหน่อยนะ’

ผมเม้มปาก เข้าใจว่าทำไมเอ็กซ์ต้องนัดอยู่หลังตึก เขาคงไม่อยากให้คนของพี่ฮิมเห็นว่าเขามาอยู่กับผม ผมเองก็ยังไม่ได้คุยกับพี่ฮิมเรื่องของเอ็กซ์ แต่คิดว่าสักคนคงต้องคุยเรื่องเพื่อนคนนี้แล้ว มือเรียวกดลบข้อความก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าดังเดิม สำหรับตอนนี้ผมขอแค่ให้ผ่านการสอบครั้งนี้ไปได้ก่อนละกัน!!

สอบเสร็จ

โล่ง… โล่งมาก… โล่งจังเลย ไม่ได้หมายถึงโล่งอก หมายถึงหัวผมเนี่ยที่โล่ง!!

“ฮือออ เกี๊ยกทำไมมันยากจัง” ผมโอดครวญกับเกี๊ยกทันทีที่สอบเสร็จ ยากอะ! ยากมาก! ยากจริงๆ แค่เห็นข้อสอบผมก็แทนจะร้องไห้แล้ว “คะแนนเลแย่แน่เลย”

“ไม่หรอก อาจจะดีก็ได้” ดินว่าพลางตบบ่าผมเล็กน้อย ผมเบ้ปากมองสามคนที่ยังทำท่าทางชิวๆ หลังจากสอบเสร็จ ในขณะที่ผมรวมทั้งเพื่อนคนอื่นโอดครวญกันแทบตาย

“ทำไมเก่งกันจัง” ผมอดที่จะบ่นไม่ได้ผสมความรู้สึกน้อยใจไม่ได้ แบบเหมือนเมื่อในกลุ่มมีเราคนเดียวที่โง่นั่นแหละครับ ความรู้สึกนั่นเลย ทั้งสามหันมามองผม เกี๊ยกเป็นคนตอบกลับคนแรก

“ไม่งั้นกูจะมาเป็นเพื่อนมึงได้เหรอ”

“แล้วเป็นเพื่อนกันจำเป็นต้องฉลาดด้วยเหรอไงเล่า!”

“ก็มึงเคยบอกเองว่าพี่ฮิมให้กูมาเป็นเพื่อนกับมึง” ผมชะงัก “ก็เพราะพี่ฮิมเป็นคนเลือกไง กูถึงบอกว่าถ้าไม่เก่งจะได้มาเป็นเพื่อนมึงเหรอ”

“หมายความว่ายังไง”

“ก็ตอนที่บอสกันคนอื่นออกไปไม่ให้ยุ่งกับเล นั่นหมายความว่าบอสต้องเป็นคนเลือกเพื่อนให้เล แน่นอนว่าพี่ฮิมไม่มีทางเลือกเพื่อนเหี้ยๆ ให้เลหรอก” ดินว่า

“การเป็นเพื่อนมึงน่ะไม่ใช่แค่ว่า เป็นลูกน้องของพี่ฮิมแล้วจะเป็นได้นะ” พิษเสริม

“ต้องเก่ง”

“ต้องฉลาด”

“และที่สำคัญ ต้องหน้าตาดี” จบประโยคนี้ปุ๊บ สามคนนี้ก็เก็กท่าทางราวกับนายแบบ ผมหมั่นไส้ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะพวกเขาหน้าตาดีจริง เก่งก็เก่งแถมยังฉลาดด้วย แต่ว่า…

“แล้วเอ็กซ์ไม่ดีตรงไหน!”

“...” บรรยากาศเงียบลงไปทันทีที่ผมพูดชื่อเพื่อนอีกคนขึ้นมา แค่มองก็สังเกตได้ว่าอารมณ์ของสามคนตรงหน้ากำลังดำดิ่งลงเรื่อยๆ

“ทำไมต้องกีดกันเอ็กซ์ด้วยล่ะ” ผมอยากรู้เหตุผลแ ต่ยังไม่ถามฮิมตรงๆ ถึงได้คิดเอาไว้ว่าสักวันคงต้องคุยเรื่องเพื่อนคนนี้ แต่ในตอนนี้ พอจะคุยเรื่องเอ็กซ์ทีไรเราก็ทะเลาะกันทุกที และผมไม่อยากทะเลาะ

“พูดไปตอนนี้มึงก็ไม่เชื่อ กูรู้ ใจมึงยังอคติกับพวกกูอยู่” พิษว่าเสียงเรียบ

“แล้วถ้าไม่พูดเลจะรู้เหรอไง”

“ถ้าบอกว่าเอ็กซ์มันเล่นยาล่ะ เลจะเชื่อไหม”

“หะ ?” ผมอึ้งค้างกับสิ่งที่ได้ยิน เสียงของดินที่บอกว่าเอ็กซ์เล่นยาตีวนเวียนอยู่ในสมองจนต้องนิ่งไปสักพัก ถึงจะตกใจที่ดินพูดออกมาอย่างนั้น และมันอาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือไม่เป็นก็ได้ ผมกัดปากแน่นพลางก้มหน้าลง... “เลยังไม่เชื่อใครทั้งนั้น ถ้ายังไม่มีหลักฐาน”

“ไว้เดี๋ยวกูไปหามาให้!” เกี๊ยกเสนอ

“พอแล้ว! ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว” ผมว่าจะไปเจอเอ็กซ์หลังจากสอบเสร็จนะ แล้วถ้าสมองยังมีคำว่าเขาเล่นยาอยู่ในหัวแบบนี้ ผมจะมองหน้าเอ็กซ์ยังไง “เลจะไปหาอะไรกิน”

“งั้นให้พวกกูไปด้วย”

“ไม่! ไม่ต้องตามมาเลย ขอเวลาให้คิดอะไรหน่อย” ประโยคหลังผมพูดเบาจนเรียกว่าได้กระซิบ ด้วยอารมณ์ที่กำลังสบสันอยู่ตอนนี้ไม่รู้ว่าทำหน้าออกไปแบบไหน แต่เป็นแบบที่ทั้งสามยอมไม่ตามผมมาแต่โดยดี ซึ่งก็นับเป็นโชคดีไป

ผมหันหลังให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินห่างออกไปเรื่อยๆ



ลับหลัง คนมองได้แต่ถอนหายใจขณะที่ยืนมองแผ่นหลังบางที่กำลังเดินห่างออกไปแล้วรู้สึกตะงิดใจแปลกๆ ทว่าพอนึกถึงใบหน้าที่เลแสดงออกมาแล้วกลับก้าวเท้าเดินตามไปไม่ลงเหมือนกัน

เลสับสน เศร้า เป็นสีหน้าที่ชวนอึดอัดเหมือนความรู้สึกแย่ๆ มาอัดและเบียดกันในขวดรอวันระเบิด และตอนนี้พิษคิดว่าขวดที่รวมความรู้สึกเหล่านั้นมันเริ่มปริออก

“เฮ้อ” เขาได้ยินเสียงเพื่อนถอนหายใจ พอหันหน้าไปมองก็พบว่าเป็นเสียงของคนที่ซิ่วจากปีสองมาปีหนึ่งใหม่

“มีปัญหาชีวิตเหรอ” ดินถาม

“ปัญญาเมียบอสกับบอสของกูกับพวกมึงนี่แหละ”

“ทำไมวะ เรื่องนี้มันพานเอาชีวิตมึงรู้สึกหนักไปด้วยเหรอ” ถึงจะถามไปแบบนั้น แต่พิษก็รู้ว่าอีกสองคนคงรู้สึกไม่ต่างกัน หรือถ้าจะให้เปรียบเทียบล่ะก็พวกเขาก็คงเป็นคนกลาง รับคำสั่งจากคนพี่ แล้วมาดูแลคนน้อง เลยได้รับรู้ความรู้สึกจากทั้งสองฝ่าย แต่เพราะยิ่งเป็นคนกลางยิ่งรู้สึกหนักอกหนักใจยิ่งกว่าใครทั้งหมด

“พยายามทุ่มหาสิ่งที่ดีที่สุดให้คนๆ หนึ่งแต่เพราะวิธีการหาและให้มันอาจกระด้างและดูเหมือนจะเป็นการยัดเยียดไปสักหน่อยจนคนรับไม่พอใจ แต่เพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการจะให้ อารมณ์เหมือนพ่อลูกจริงๆ เลยวะ ถ้าต้องการให้ลูกได้ดีแต่ลูกไม่ฟังงี้ เป็นกูคงอกแตกตาย” เกี๊ยกว่าและนี่ยิ่งกว่า… เพราะป็นทั้งลูกทั้งคนรัก เขาไม่รู้ว่าระหว่างสองคนนี้ยังมีเรื่องอะไรอีกไหมที่เขายังไม่รู้ แต่ถ้ามีข้อมูลแค่นี้แล้วให้เขาตัดสินใจว่าจะเลือกสงสารใครระหว่างสองคนนี้ เขาคงต้องเข้าข้างบอสของตัวเอง “กูสงสารพี่ฮิม”

เหมือนกับการที่ตั้งใจทำของขวัญให้คนๆ นึงมากๆ แต่พอให้เขากลับไม่อยากได้ ในฐานะคนทำนั้นจะรู้สึกยังไงกันนะ

“แต่กูสงสารเล” พิษแย้ง เช่นกันในทางตรงข้าม คนที่เป็นคนรับ รู้ว่าเขาตั้งใจทำแต่ไม่อยากที่จะรับมามันก็น่าอึดอัดใจไม่แพ้กัน…



ร่างสูงยืนพิงกำแพงรอคนที่ตนเองนัดมาพบ เสียงหอบหายใจแฮกทำให้เอ็กซ์รู้ว่าเลมาถึง นัยน์ตาคมมองไปทางเจ้าของใบหน้าสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อก่อนถามเสียงเข้ม

“เลเป็นอะไร”

“หลบคนของพี่ฮิมไง” ร่างเล็กหอบหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะปาดเหงื่อที่หน้าตาออก นัยน์ตาคมโตเงยหน้ามองเขา “ว่าแต่มีอะไรจะให้เราช่วยเหรอ”

เอ็กซ์ไม่ตอบ เขามองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา น้องรักพี่ฮิม ทั้งรักทั้งหวง ถ้าจะสวยขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่จะหวงเป็นพิเศษ แต่ยิ่งพิเศษมากเท่าไหร่นั่นหมายความว่าเขากำลังพาตัวเองเสี่ยงตายมากเท่านั้น

“ว่าไงล่ะ มีอะไรจะให้เราช่วย” เสียงนุ่มย้ำอีกครั้ง ขณะที่เขากลืนน้ำลายอึกแล้วบอกประโยคที่พาเขาเข้าสู้สนามรบที่แท้จริง

“ช่วยไปลงแข่งรถให้เราที”



ฮิมอาจจะมองว่าผมเข้าข้างเอ็กซ์เป็นพิเศษ มันก็อาจจะใช่ ผมเข้าข้างเขาเป็นพิเศษเพราะเอ็กซ์เป็นเพื่อนคนแรกในมหา’ลัยที่ไม่ได้เข้าหาผมเพราะพี่ฮิมบอก อาจจะเพราะบังเอิญหรืออะไรก็ตามแต่ ผมสนแค่ว่าเอ็กซ์เป็นคนแรก สำหรับคนอื่นแค่เพื่อนคนแรกในมหา’ลัยมันคงไม่สำคัญ แต่สำหรับผมที่มารู้ทีหลังว่าสามคนนั้น เกี๊ยก ดิน พิษ เป็นคนที่พี่ฮิมส่งมาให้เป็นเพื่อนกับผม อารมณ์เหมือนถูกจ้างมาเป็นเพื่อน  แต่ไม่ได้หมายความว่าอีกสามคน เกี๊ยก ดิน พิษเป็นคนไม่ดี และถึงแม้ตอนนี้เราจะสนิทกันจริงๆ แล้ว แต่สำหรับความประทับใจแรกขอบอกเลยว่าติดลบ ดังนั้นเพื่อนคนแรกสำหรับผม เลยรู้สึกว่าสำคัญมากๆ และบังเอิญที่เอ็กซ์เป็นคนนั้น

ตอนที่เขาโทรมาบอกว่ามีเรื่องจะขอให้ช่วย ผมคิดว่าผมพร้อมที่จะช่วยเพื่อน แต่มีข้อจำกัดอยู่ที่ความสามารถและความเหมาะสม และคำขอของเขามันทำให้ผมต้องคิดหนัก

ยิ่งฟังรายละเอียดที่อีกฝ่ายว่ามา ผมก็ยิ่งคิดหนักกว่าเดิม

“ไม่ได้เหรอ” เสียงทุ้มถามในขณะที่ผมเม้มปากแน่น ฟังจากคำขอของเขา เอ็กซ์อยากให้ผมไปแข่งรถให้ อีกฝ่ายให้เหตุผลว่าของแม่ของตัวเองป่วยเลยต้องไปกู้คนอื่นมาแล้วตอนนี้หนี้มันเยอะเสียจนใช้ไม่ไหว และไม่รู้ว่าไปรู้มาจากไหนว่าผมขับรถเก่ง แต่ถึงจะบอกว่าเก่ง ขนาดผมเองยังไม่มั่นใจในตัวเองเลย ผมไม่เคยลงสนามจริง และไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะได้ไปแข่งรถจริงๆ แม้พี่ฮิมเองก็เคยพูดเอาไว้ว่าถ้าผมชอบในด้านนี้จริงๆ เขาก็จะไม่ขัดในสิ่งที่ผมอยากทำ แค่ขอให้ผมรอให้ตัวเองโตกว่านี้ก่อน

แต่สิ่งที่เอ็กซ์ขอคือขอให้ผมไปลงแข่งรถ ซึ่งมันอาจจะเป็นการแข่งครั้งแรกในชีวิต ซ้ำยังเป็นสนามเถื่อน และแข่งขันในวันพรุ่งนี้ มัน… กะทันหันเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นคือพี่ฮิมไม่มีทางที่จะยอมให้ผมทำแน่ๆ

คำขอของเอ็กซ์มันมากเกินไป… เกินกว่าที่ผมจะทำได้ ที่สำคัญผมไม่รู้ว่าควรจะเชื่อเขาดีไหม เพราะถึงจะบอกว่าเป็นเพื่อนคนแรกแต่ผมก็ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของเอ็กซ์มากมายขนาดนั้น

“เอ็กซ์คือถ้ามีปัญญาเรื่องเงิน ยืมเราก่อนก็ได้นะ”

“ไม่ได้!!”

!!!!!!!!!!

เสียงทุ้มตะโกนจนผมสะดุ้ง ผมมองร่างสูงที่กำลังแสดงสีหน้าโกรธจนน่ากลัว ทันใดนั้นเองที่คำพูดของดินลอยเข้ามาในหัว

‘ถ้าบอกว่าเอ็กซ์มันเล่นยาล่ะ เลจะเชื่อไหม’

ผมไม่อยากเชื่อแต่ท่าทางของเขาประกอบกับคำพูดของดินมันทำให้ผมเริ่มเชื่อ แต่แล้วคนตรงหน้าของผมก็หลับตาลงเขาหันกลับให้ผม ก่อนจะหันหน้ากลับมาให้ด้วยอารมณ์ที่เหมือนจะสงบกว่าเดิม

“หนี้ที่เราก่อไว้มันเยอะน่ะ ยืมเลไม่ได้หรอก อีกอย่างพี่ของเลไม่ชอบเรา”

“แล้วเอ็กซ์จะทำยังไงล่ะ”

“ก็คงต้องให้พวกมาทวงหนี้รุมเตะต่อไปล่ะมั้ง”

ผมเบิกกว้าง ขณะยกมือขึ้นปิดปาก ภาพที่ร่างสูงโดนรุมกระทืบยังจำติดตาผมอยู่เลย อีกทั้งรอยแผลที่เขาได้รับมาก็ดูเหมือนว่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม “เอ็กซ์ยืมเงินเราก่อนก็ได้นะ! เดี๋ยวเราพูดกับพี่ฮิมให้”

“ไม่ได้หรอก” เขาปฏิเสธ “เราเสียใจที่เลปฏิเสธ”

“ขอโทษนะ” ผมว่าเสียงเบา

“ช่างเถอะ ถ้าเมื่อไหร่เปลี่ยนใจก็โทรมาหาเราก็แล้วกัน”

ผมหลุบตาลง ตัวเองได้แต่พยักหน้าตอบรับเมื่อเพื่อนว่ามาแบบนั้น ผมอยากช่วยเขา แต่สิ่งที่เขาขอมันเสี่ยงมากเกินไปและผมไม่อยากขัดใจกับพี่ฮิม



สัมผัสแผ่วเบาบริเวณหน้าผากทำหน้าผมตื่น ทันทีที่ลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือพี่ฮิมที่กำลังนั่งลูบหัวผมอยู่ข้างๆ มือหนาเลื่อนต่ำลงมาบริเวณคาง นิ้วเรียวเกาเบาๆ เกิดความรู้สึกดีจนต้องครางรับ

“คนดีโดดซ้อมหลีด” พี่ฮิมเริ่มต้นด้วยประโยคบอกเล่า มันควรจะเป็นประโยคตำหนิความไร้การรับผิดชอบต่อหน้าที่ของผม แต่น้ำเสียงคนพูดกลับดูไม่ได้ตั้งใจจะสื่อแบบนั้น เหมือนแค่พูดให้ฟังมากกว่า

ผมยันตัวขึ้นจากเตียงพร้อมกับถามเวลา “ตอนนี้กี่โมง”

“หนึ่งทุ่ม” นั่นหมายความว่าผมหลับยาวพอสมควร เพราะหลังจากที่คุยกับเอ็กซ์เสร็จ ผมก็ตรงดิ่งกลับบ้านทันทีไม่ได้แวะที่ไหนต่อ ก่อนจะขึ้นมาบนห้อง เปิดแอร์เย็นๆ แล้วนอนคิดนั่นนู้นนี่บนเตียง จบด้วยการหลับสนิทชนิดที่ผมก็ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าหลับไปตั้งแต่ตอนไหน “ทำข้อสอบได้ไหม”

“เลเหนื่อย” ผมเลี่ยงการตอบคำถามด้วยการพุ่งเข้าไปกอดร่างหนาเอาไว้พร้อมกับซุกหน้าลงบ่าแกร่ง สูดกลิ่นหอมอันตรายจากคนตรงหน้าแล้วเลื่อนมือขึ้นมาโอบรอบลำคอขาวแทน “เลเหนื่อยมากๆ”

วันนี้มันเหนื่อยไปหมด เหนื่อยทั้งกาย ใจแล้วก็สมอง

และเหมือนผมจะดูถูกสัญชาตญาณของฮิมเกินไป ทั้งๆ ที่พูดแค่คำว่าเหนื่อยแต่อีกฝ่ายก็จับสังเกตได้อย่างรวดเร็ว “เป็นอะไร”

น้ำเสียงเข้มทำเอาคนฟังต้องเสียวสันหลังวาบ ผมรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะโดนซุกไซร้ไปมากกว่านี้ “หิวข้าว”

“งั้นลงไปกิน รพมันทำอาหารเย็นเอาไว้ให้แล้ว”

“เลขี้เกียจ” ผมว่าเสียงอ่อน ตอนนี้มันเหมือนเหนื่อยจนพาลขี้เกียจไปหมดทุกอย่างแล้วจริงๆ ผมเลื่อนใบหน้าเข้ามาซบที่อกแกร่งแทน ขณะซ้อนสายตามองร่างสูงที่หลุบตาลงมาประสานพอดี “ยกข้าวขึ้นมากินบนห้องให้เลหน่อยได้ไหม”

สบตากันไปมาเกือบหนึ่งนาทีในที่สุดอีกฝ่ายก็ยอมแพ้ เขายกตัวผมออกจากตักไปนอนบนเตียงดีๆ ก่อนจะเดินไปที่ประตู ในขณะที่ผมกำลังลุ้นว่าพี่ฮิมจะยอมไหม แล้วจู่ๆ เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็หันมาเอ่ยเสียงทุ้ม “เห็นว่าเลเหนื่อย พี่ยอมครั้งนี้ครั้งเดียวนะ”

เย้!



(45%)

ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอเท่านั้นนะ!)

อะไรมันก็พลิกผักันได้จริงไหม อีกอย่างคือเลเนี่ย เป็นคนที่โคตรจะมีของดีอยู่กับตัวแต่ใช้ไม่เป็น

น่าเสียดายแทน... จริงๆ แค่ชายตามองแล้วก็อ้อนๆ เนี่ยเฮียเขาก็ตามใจแล้วหนูจ๋า

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280717#21(45%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-07-2017 22:52:56
เลทำไมแลงี่เง่า
พี่ฮิมเค้าเลือกสิ่งดีที่ที่สุดให้เลเสมอ
ถ้าเค้าไม่รักเลจะเลี้ยงเลมาทำไม
ทำไมแค่นี้เลคิดไม่ได้
แลน่านามคานมากเลยลูก
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280717#21(45%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 28-07-2017 23:17:59
ยังดีที่เลยังเลือกปฏิเสธเอ็กซ์ แต่กลัวใจว่าน้องจะกลับไปช่วยมากๆ เพื่อนคนแรกก็งี้เห้อออ อยากให้เชื่อที่พวกพิษเตือน  :katai5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280717#21(45%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Altasia ที่ 28-07-2017 23:30:58
เพื่อนคนแรกใช่ว่าจะดีเสมอไป ใช้สมองคิดหน่อยเล รอบข้างก็มีแต่คนฉลาด มีไหวพริบ ไมไม่ซึมซับมาบ้าง ตอนนี้ดีที่ปฏิเสธไป แต่กลัวจะเปลี่ยนใจจัง ตอนหลังถ้ากลับไปช่วยแล้วเกิดอะไรขึ้น จะสมน้ำหน้าให้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280717#21(45%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Dangdang ที่ 30-07-2017 04:46:51
เบื่อเลว๊ะ.....งี้เง่ามากอย่างงี้ต้องได้บทเรียนเจ็บๆสักที่
ให้พี่ฮิมโกรธไปเลยนานๆจะได้รู้ว่าคนเขาหวีงดีเท่าไร
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280717#21(45%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 30-07-2017 05:21:50
บอกไม่ถูก...เริ่มจากเลจบมัธยมมาได้ยังไง???ไม่รู้เรื่องเพศศึกษาเท่าไร ช่วยตัวเองไม่เป็น??ไม่รู้วิธีช่วยตัวเอง??ถึงฮิมจะดูแลดีแค่ไหน มันก้อต้องมีเวลาส่วนตัวที่อยากรู้อยากเห็นเองบ้าง ไม่ใช่อ่อนใสเสียจนขัดความรู้สึก จนสงสัยว่าเลมีอีคิวที่ต่ำติดดินขนาดนั้นหรือ???(ยังไม่นับผลการเรียนที่น่าจะคาบลูกคาบดอก)...จากนั้นมีพฤติกรรมที่งอแง งี่เง่าอีกหลายอย่าง...แอบผิดหวังที่ยังไม่เห็นการพัฒนาของเลเท่าที่ควร...รักฮิมเหลือเกิ้นนนน..กลัวชะนีจะแย่ง แต่ไม่ยอมให้ปั้วมีอะไรด้วย..แค่ตอนที่ได้กันครั้งแรก ที่ฮิมบอกว่าเอาเลเสร็จ แล้วต้องไปหาชะนี..น่าจะคิดได้นะว่าควรทำยังไงให้มัดใจอิพี่ฮิม ไม่ใช่มัวแต่งอแงอยู่นั่นแหล่ะ
ส่วนอีพี่ฮิม...เรื่องชะนีพอเข้าใจให้ผ่านๆไป แต่เลี้ยงเลแบบโลกนี้สีขาว ถามว่ามันจะไปรอดไหม???อะไรที่ปิดๆควรจะเปิดเผยได้แล้ว ไม่ใช่เลี้ยงเมียแบบเด็กสามขวบ ให้เกีรยติเลบ้าง ทำให้เลเรียนรู้โลกของผู้ใหญ่ที่มีทั้งขาว-ดำ...กำลังรอดูว่าที่ปิดๆอยู่มันจะแตกเมื่อไร???ภูมิต้านทานต่ำแบบเลจะรับได้ไหม??
รอสมน้ำหน้าคุณพี่ฮิม!!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280717#21(45%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-07-2017 08:18:21
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280717#21(45%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: mamacub ที่ 30-07-2017 15:14:10
เพราะเป็นเพื่อนคนแรกตรรกะบ้าบออะไรของเธอเล  :m28: :m28:
ของที่มีอยู่ก็ดีอยู่แล้ว แต่ไปไขว่คว้าหาอะไรอีกกกกกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280717#21(45%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: guguyz ที่ 30-07-2017 15:28:27
ถึงกับต้องสมัครยูสมาตอบ....

จริงๆผมว่าจะอ่านแค่ตอนสองตอน ตอนเข้าห้องน้ำแล้วค่อยทำโปรเจคต่อ
รู้ตัวอีกที อ่าว 17 ตอนเฉยเลย :z3:

ไหนๆก็สมัครมาแล้วอยากบอกวินว่า "ถ้าวินยังไม่มีใครเราว่างนะ เอาเราไปคู่วินก็ได้เราไม่คิดค่าตัว"  :o8: :-[
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280717#21(45%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 30-07-2017 23:57:48


#21 (100%)



“เลขี้เกียจ” ผมว่าเสียงอ่อน ตอนนี้มันเหมือนเหนื่อยจนพาลขี้เกียจไปหมดทุกอย่างแล้วจริงๆ ผมเลื่อนใบหน้าเข้ามาซบที่อกแกร่งแทน ขณะซ้อนสายตามองร่างสูงที่หลุบตาลงมาประสานพอดี “ยกข้าวขึ้นมากินบนห้องให้เลหน่อยได้ไหม”

สบตากันไปมาเกือบหนึ่งนาทีในที่สุดอีกฝ่ายก็ยอมแพ้ เขายกตัวผมออกจากตักไปนอนบนเตียงดีๆ ก่อนจะเดินไปที่ประตู ในขณะที่ผมกำลังลุ้นว่าพี่ฮิมจะยอมไหม แล้วจู่ๆ เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็หันมาเอ่ยเสียงทุ้ม “เห็นว่าเลเหนื่อย พี่ยอมครั้งนี้ครั้งเดียวนะ”

เย้!

ว่าจบพี่ฮิมก็เดินออกไป ส่วนผมนั้นนอนกลิ้งรอบนเตียงนานพอสมควร กระทั่งคนตัวสูงเปิดประตูเข้ามาอีกครั้ง ในมือถือถาดอาหารอยู่ ผมลุกขึ้นมานั่งดีๆ ก่อนจะชะเง้อหน้ามองว่าข้าวเย็นวันนี้เป็นอะไร และคำตอบที่ได้คือแกงจืด ผัดคะน้า ข้าวสวยแล้วก็ไข่ตุ๋น ดูยังใหม่เกินกว่าจะทำค้างไว้นาน พี่ฮิมเลยเฉลยให้ว่าพี่รพเอาไปอุ่นให้ผมใหม่หมดเลย

ผมนั่งกินข้าวบนเตียงขณะเดียวกันก็เปิดหนังดูเงียบๆ ส่วนพี่ฮิมนั้นเดินออกไปสูบบุหรี่คนเดียวที่ระเบียง พอกินเสร็จผมเลยเดินถือถาดอาหารลงไปล้างจานที่ห้องครัวด้านล่าง ก่อนจะเดินกลับขึ้นมาอาบน้ำทันที ทว่าตั้งแต่อาบจนกระทั่งใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วคนที่ออกไปสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับเข้ามา ผมกลัวเขาจะสำลักควันที่ตัวเองจนสูบจนตายไปเสียก่อนเลยยอมเดินไปดูพี่ฮิมสักหน่อย

ร่างสูงยังนั่งสูบอยู่ที่เก้าอี้ บนพื้นมีเศษม้วนบุหรี่อยู่นับสามม้วนได้ ผมเม้มปากไม่พอใจ ก่อนจะเดินเข้าไปแย่งม้วนที่สี่ออกมาจากมือหนาโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันรู้ตัวเพราะกำลังให้ความสนใจกับโทรศัพท์ในมืออยู่ นัยน์ตาคมตวัดมามองทันทีเมื่อผมแย่งบุหรี่ออกมาจากมือเขา ผมกำมันแน่นก่อนจะขยี้ให้บุหรี่ดับลงเป็นจังหวะเดียวกันที่มือหนาเอื้อมมาโอบเอวแล้วดึงตัวผมมานั่งบนตัก ฮิมกอดผมเอาไว้หลวมๆ ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนเข้ามาวางที่บ่าผมเบาๆ พร้อมกับไซร้ปลายจมูกโด่งไปตามซอกคอ

“ตัวหอม”

“แต่ฮิมเหม็น” ผมว่าแล้วบ่นต่อ “สูบเยอะเกินไปแล้ว”

ฮิมไม่ได้ตอบอะไรกลับ แต่ผมสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังเลื่อนริมฝีปากไปตามหลังคอของผมอยู่

“พี่อารมณ์ดี” เขาว่ามาแบบนั้น “แต่เห็นเลแล้วอารมณ์เสีย”

“ทำไม!”

“เลครับ” น้ำเสียงเข้มดูจริงจังขึ้นจนผมอดหวั่นใจไม่ได้ “เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม”

“ถะ… ถามทำไม”

“ตอบพี่ก่อน”

“ใช่”

“นั่นสิ” พี่ฮิมย้ำคำตอบของผม มือหนาเอื้อมมาประสานมือของผมเอาไว้ “แล้วทำไมน้องถึงยังไม่ยอมนะ”

กึก!

บรรยากาศเงียบลงจนน่าอึดอัด ผมเม้มปากแน่นก่อนจะหันไปถามคนที่กอดจากทางด้านหลัง

“อยากได้เลมากเลยเหรอ”

“ใจจะขาดแล้วครับ” ประโยคย้ำถึงความต้องการยิ่งทำให้ผมต้องคิดหนัก และในจังหวะนั้นเองที่ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป

“แล้วถ้าเลยอมล่ะ พี่ฮิมจะว่ายังไง”


“อื้อ” ร่างหนาคร่อมทับ เอนแผ่นหลังบางนอนแนบลงกับเตียงขณะที่ริมฝีปากสัมผัสกันไม่ห่าง คนตัวสูงจูบซับน้ำลายที่ไหลไปตามคางเบาๆ ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากร้อนขึ้นมาทาบอีกครั้ง มือหนาทำหน้าที่ของมันเป็นอย่างดี ใช้นิ้วเรียวไล่ปลดกระดุมชุดนอนของอีกฝ่ายออกจนหมดรวมทั้งกางเกง กระทั่งร่างขาวหมดจดปรากฏอยู่ตรงหน้า

ฮิมเลียริมฝีปาก นัยน์ตาคมหลุบลงมองกายบางที่ไม่ว่าจะมองทีไรก็อดที่จะเกิดอารมณ์ไม่ได้ แก่นกายเขาปวดหนึบเมื่อร่างกายขาวเนียนของคนตรงหน้ามีผลแทบจะเทียบเท่ายาปลุก

เขาถอดชุดของตัวเองออกจนหมด ก่อนจะหันมาจัดการกับคนที่ยังคงซุกใบหน้าเข้ากับหมอนต่อ มือหนาไล้ไปตามกายร้อนแล้วเลื่อนขึ้นไปสะกิดที่ยอดดอกจนเจ้าของร้องเสียงคราง คนตัวสูงจับขาเรียวกางออกพร้อมกับแทรกกายเข้าไปตรงกึ่งกลาง มือหนากอบกุมส่วนกลางของอีกฝ่ายเอาไว้พร้อมกับไซร้ใบหน้าหล่อเหลาไปตามซอกคอขาวก่อนจะเลื่อนลงมาดูดเบาๆ ที่แผ่นอก เสียงหวานครางมาให้ได้ยินเป็นระยะและหอบพร่ามากขึ้นยามมือหนารูดเป็นจังหวะที่แก่นกายเล็ก คนตัวขาวสะดุ้งเฮือกเมื่อเขาแกล้งจิกนิ้วลงไปที่ส่วนกลางของแท่งเนื้อร้อน

“ฮิม อย่า… ทำแบบนั้น”

“ไม่ชอบเหรอ” มือหนาไม่ยอมผละออก ฝ่ามือร้อนเร่งรูดรั้งแท่งเนื้อร้อนเร็วกว่าเดิม จนคนตัวเล็กกระตุกสองทีก่อนจะปล่อยน้ำสีขุ่นออกมาเต็มมือสาก ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนขึ้นจูบที่หน้าผากชื้นไล่ตามขมับลงมาที่แก้ม หอมฟอดใหญ่หนึ่งทีก่อนจะผละตัวออก นัยน์ตาคมหลุบลงมองน้ำกามในมือ เขาใช้มันชะโลมแก่นกายตัวเองแล้วใช้ลิ้นร้อนเลียส่วนที่เหลือบนมือออกจนหมด

“อย่า…” เสียงหวานร้องห้ามทันทีที่เห็น มือบางเอื้อมมาดึงมือที่เขากำลังเลียน้ำกามของเจ้าตัวออก นัยน์ตาคมหลุบลงมองก่อนจะจัดการรวบมือน้องแล้วดึงมาวางที่ลำแท่งร้อนของตัวเอง เลชักมือออกเหมือนเจอของร้อนทันที ใบหน้าสวยขึ้นสีเมื่อโดนมือหนาดึงเอาไว้ไม่ให้ผละออก “พี่จ๋า”

“ช่วยพี่หน่อยครับ” ฟันคมขบกรามแน่น เขาย้ำอีกครั้งเมื่อน้องไม่ยอมทำตาม “นะครับคนดี”

มือบางยังคงนิ่งงัน ก่อนจะค่อยๆ ขยับช้าๆ เจ้าของมือร้อนแผ่วเม้มปากแน่น ดวงตากลมเบี่ยงไปทางอื่นเพราะไม่กล้ามอง แค่สัมผัส… เลก็รับรู้ได้แล้วว่ามันใหญ่แค่ไหน และยิ่งรูดรั้งมากเท่าไหร่ ส่วนนั้นของพี่ฮิมก็ดูท่าว่าจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ร่างสูงหลับตานิ่ง ฮิมกำลังอดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ทำอะไรรุนแรงเกินไปแต่มือบางที่กำลังเล่นกับน้องชายเพราะคำสั่งของเขามันกำลังทำให้ตัวเขาเองสติหลุด มือหนาจับเรียวขาขาวกางออก เขาส่งนิ้วร้อนเข้าริมฝีปากเล็กพัวพันกับลิ้นเล็กจนเจ้าของริมฝีปากส่งเสียงครางอื้ออึงจนนิ้วชุ่มได้ที่แล้วจึงถอนออก และใส่เข้าไปใหม่ในรูที่เล็กกว่าเดิมหลายเท่า

“เลเจ็บ… เจ็บ” น้องร้องทันทีเมื่อร่างสูงใส่นิ้วเรียวแทรกเข้าไปในช่องทางเล็ก ฮิมไม่ฟังเสียงร้องเขาสอดนิ้วที่สองเข้าไปติดๆ กันจนเจ้าของร่างสะดุ้งเฮือก “เจ็บ”

เสียงแผ่วว่าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเงียบไป ในขณะเดียวกันที่ฮิมไม่ได้สังเกตใบหน้าของอีกฝ่าย นัยน์ตาคมจดจ้องอยู่ที่ช่องทางเพียงอย่างเดียว เขามองนิ้วที่สามของตนแทรกเข้าไป กวาดต้อนและครูดไปตามผนังภายในเข้าและออก ช่องทางสีสวยบีบรัดและคับแน่น จนอดจินตนาการตอนที่ตัวเองสอดน้องชายเข้าไปไม่ได้ว่าจะรู้สึกดีขนาดไหน ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนขึ้นไปเลียที่แผ่นอก หากสายตายังคงจ้องอยู่ที่ช่องทางเล็ก มือหนาอีกข้างเลื่อนไปกอบกุมแก่นกายเล็กอีกครั้ง พร้อมรูดรั้งจนน้ำกามเริ่มปริออก ก่อนนิ้วเรียวสามนิ้วที่แทรกอยู่ในรูเล็กจะถอนตัวออกมา แล้วจ่อแทนด้วยแท่งเนื้อที่ใหญ่กว่าหลายเท่า ริมฝีปากร้อนผละออกจากแผ่นอกเพื่อส่งแรงดันแก่นกายเข้าไป ตอนนั้นเขาถึงได้สังเกตใบหน้าของคนใต้ร่าง

“ฮึก…” คนตัวเล็กกำลังกลับไปซุกหน้าเข้ากับหมอนอีกครั้ง ไม่ได้ทำเพื่อกลั้นเสียงครางอย่างที่ฮิมเข้าใจ แต่ดูเหมือนจะกลั้นเสียงอะไรสักอย่างที่มันน่าอดสูกว่า “ฮือ”

เสียงร้องไห้… เล… ร้องไห้

แท่งเนื้อใหญ่ที่แทรกเข้าไปได้แค่ส่วนหัวโดนช่องทางคับแคบบีบรัดจนรู้สึกดีอย่างที่เขาคิดต้องหยุดชะงัก มือหนาเอื้อมไปดึงหมอนที่บังหน้าคนใต้ร่างออก เขาหลุบมองวงหน้าของอีกฝ่ายที่หันมาสบตากันพอดี นัยน์ตากลมโตกำลังแดงฉ่ำไปด้วยน้ำตา หมอนอีกใบที่รองรับศีรษะของเลเอาไว้เปียกแฉะไปหมดบ่งบอกว่าเจ้าตัวร้องไห้มาได้สักพักแล้ว

คนตัวสูงไม่ได้พูดอะไร แต่ตัดสินใจถอดแก่นกายออกก่อนจับคนใต้ร่างหมุนตัวขึ้นมานอนบนกายเขาแทน มือหนาจับวงหน้าสวยพิงอกแทนหมอน ขณะเลื่อนผ้านวมขึ้นมาคลุมตัวที่เปล่าเปลือย

การกระทำที่ทำให้เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมามองเหมือนสงสัย เขาจึงก้มหน้าจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากนุ่มแล้วตอบตามความจริง

“พี่อยากจนข่มขืนเลได้เลยตอนนี้” อารมณ์เขายังพุ่งพล่าน แก่นกายก็ยังปวดหนึบไปหมดเพราะยังไม่ได้ปลดปล่อย   

“แล้วทำไม” มือหนาจับคางเรียวเชยขึ้นก่อนจะปาดน้ำตาที่ยังไหลออกมาจากดวงตากลมไม่หยุดแทนคำตอบ “เลไม่เป็นไร พี่ฮิมทำต่อ…”

“พอแล้วครับ”

“แต่…”

“ไม่เป็นไร” ริมฝีปากร้อนจูบเข้าที่ขมับ ขณะแขนแกร่งโอบกอดเอวบางเอาไว้ พร้อมกับประสานนิ้วทั้งห้าเข้าด้วยกันแบบหลวมๆ เสียงสั่นว่า

“เลขอโทษ”

“ไม่เป็นไร พี่รอให้คนดีพร้อมกว่านี้ก็ได้” เขาว่า ในขณะที่น้องยังคงหลบหน้าด้วยการเอนใบหน้าสวยซุกเข้าอกของเขาแน่น สัมผัสเปียกแซะบริเวณอกมาพร้อมกับเสียงแผ่วที่ตอบกลับมาด้วยประโยคเดิม

“เลขอโทษ”



กินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าน้องจะหยุดร้องไห้ ร่างสูงทำได้แค่ปลอบประโลมด้วยการจูบที่ขมับพร้อมกับลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ เสียงแอร์ดังชัดอยู่เกือบสามสิบนาทีเพราะทั้งห้องเงียบสนิท รวมทั้งสองร่างก็ยังคงเปลือยกายอยู่ใต้ผ้าห่ม ในขณะที่วงหน้าสวยกำลังแนบเข้ากับอกกว้าง เจ้าของอกเองก็กำลังกัดปากแน่นเพื่อข่มอารมณ์ดิบของตัวเองไว้จนริมฝีปากแทบห่อเลือด ไม่งั้นล่ะก็เขาได้พลิกคว่ำร่างของอีกฝ่ายแล้วขย้ำน้องจนเละแน่

ฮิมรู้ตัวว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ดีมาก แต่สำหรับเล เขาพยายามเป็นคนที่ดีที่สุดมากเท่าที่จะทำได้

อันที่จริงตอนที่เลบอกว่ายอม เขาตั้งใจจะบอกน้องเรื่องงานของวันพรุ่งนี้รวมถึงเรื่องทั้งหมดหลังจากจับอีกฝ่ายกินเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ไม่ว่านักวิทยาศาสตร์หรือใครจะว่ายังไงก็ตาม เขาไม่ปฏิเสธว่าบางทีเซ็กส์มันก็ช่วยในหลายๆ เรื่อง รวมทั้งเรื่องอารมณ์ แต่ถ้าเลเป็นอย่างนี้ก็คงต้องละออกไปก่อน

เพราะนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เป็นแฟนกันแล้วน้องยอม เขาจึงพยายามอดกลั้นให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายกลัวการมีเพศสัมพันธ์ ก่อนจะบอกทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวเองให้ฟัง เพราะครั้งต่อๆ ไป ฮิมคิดว่าเขาคงกลั้นอารมณ์ของตัวเองต่อไปไม่ไหวแน่ๆ

และยิ่งเป็นเล ความรู้สึกมันยิ่งรุนแรงเป็นพิเศษ

ถ้าบอกไปว่าจริงๆ แล้วเขาอยากขย้ำน้องจนเละ อยากกระแทกจนช่องทางเล็กหละหลวม อยากสร้างรอยคิสมาร์กให้ต้นคอขาวนั้นแดงเทือก เมื่อดูจากสภาพจิตใจของเลตอนนี้ ถ้าบอกแบบนั้นไปจริงๆ น้องคงได้กลัวจนต่อไปไม่ต้องทำอะไรกันพอดี

แต่ยังไงเขาก็คงต้องบอกอะไรเอาไว้ก่อน เพราะว่าพรุ่งนี้…

“พรุ่งนี้เลอยู่คนเดียวได้ไหม” เสียงทุ้มพร่าเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ คนฟังขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถาม ดวงตากลมมีประกายความสงสัย

“ทำไมล่ะ”

“พี่มีงาน”

น้องเอียงคอ “หมายถึงทุกคน?”

“ใช่”

คนตัวเล็กเบิกตากว้าง เลรีบซ่อนใบหน้าโดยการซุกเข้าที่แผ่นอกกว้างดังเดิม งานของเอ็กซ์ก็พรุ่งนี้เหมือนกัน

…อะไรจะเหมาะเจาะขนาดนี้…

ร่างเล็กตกอยู่ในผะวงของความคิด เสียงหวานไม่ได้ตอบอะไรกลับนอกจาก “ครับ”



ดึกสะงัด ร่างขาวค่อยๆ แกะมือหนาที่โอบเอวเขาอยู่ออก นัยน์ตากลมหลุบมองคนตัวสูงที่หลับสนิทก่อนจะค่อยๆ พาร่างเปลือยของตัวเองลุกขึ้นจากเตียง มือบางเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์แล้วเดินเข้าห้องน้ำ นิ้วเรียวไล่หาเบอร์คนที่ต้องการโทรออกและภาวนาว่าขอให้อีกฝ่ายอย่าพึ่งหลับ และเหมือนโชคจะเข้าข้างเขา ไม่ถึงหนึ่งนาทีอีกฝ่ายก็กดรับ

(ว่าไง)

“เอ็กซ์เรื่องที่ให้ช่วยน่ะ”

(...)

“เราตกลง”



เช้า

ตื๊อดึง! ตื๊อดึง! ตื๊อดึงๆๆๆๆ!

“จะกดอะไรหนักหนา” ไม่ว่าจะมาทีไร เสียงโวยวายก็ดังมาก่อนคนเหมือนเดิม ผมยืนกอดอกรอหน้าห้องกระทั่งประตูเปิดออก เจ้าของห้องที่ยังอยู่ในสภาพใส่ชุดนอนเบิกตากว้างทันทีที่เห็นผมทันที “เล ปัง!”

“ปิดทำไม” ผมตะโกนถามเมื่ออีกฝ่ายเสียมารยาทโดยการปิดประตูใส่หน้าแขก

“จะมาทีไรไม่เคยบอกเลย!” อินตะโกนตอบกลับ ใช่แล้ว ตอนนี้ผมอยู่ที่คอนโดอิน มาเพราะมีเหตุผลพิเศษ “รอหนึ่งนาทีแล้วค่อยเข้ามานะ”

ผมพยักหน้าก่อนจะยืนรอหน้าห้องเงียบๆ ประมาณหนึ่งนาทีอย่างที่อินบอก จกานั้นจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป แล้วนั่งรออินในนั่งห้องเล่นเหมือนเคย ส่วนเจ้าตัวดูเหมือนจะเข้าไปอาบน้ำ และไม่ถึงสามสิบนาที อินก็เดินออกมาในสภาพที่ดีกว่าเดิม ร่างบางนั่งหน้าบึ้งลงโซฟาตรงข้ามผม ขณะที่มือยังคงใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมเปียกๆ อยู่

“มาทีไรไม่เคยบอก จะมาก็บอกก่อนสิ ไม่มีเบอร์เราเหรอ”

“ขอโทษ”

“แล้วเลมีอะไรเหรอ”

“จะมานอนด้วย”

“อะไรนะ!”

“จะมานอนด้วย เนี่ย! เอาเสื้อผ้ามาแล้ว” ผมยกกระเป๋าที่ถือติดตัวมาด้วยให้อินดู พออีกฝ่ายเห็นก็อ้าปากค้างตามสเต็ป ใช่ เหตุผลที่ผมมาที่คอนโดอินก็เพราะมาขอนอนด้วยนั่นเป็นเรื่องจริง หลังจากให้เหตุผลพี่ฮิมว่าไม่อยากนอนคนเดียว ทีแรกร่างสูงก็แย้ง แต่พอผมบอกว่างั้นก็คงต้องไปนอนกับดิน พิษ หรือไม่ก็เกี๊ยก ท้ายที่สุดพี่ฮิมก็ยอม

“จะ...จริงเหรอ”

“อือ”

“ฮือ ดีจัง”

“แต่นอนแยกห้องนะ”

“อ้าว…” ใบหน้าหวานหุบรอยยิ้มลงทันทีที่ได้ยิน อินเบ้ปาก “นอนห้องเดียวกันไม่ได้เหรอ”

“ไม่ได้หรอก” วันนี้ผมจะได้นอนไหมก็ยังไม่รู้เลย “แล้วก็มีเรื่องให้ช่วย”

“เรื่องอะไร” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน ผมมองคนตรงหน้า ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดออกไป เจ้าของใบหน้าหวานนิ่งนั่งเมื่อได้ฟัง นัยน์ตากลมโตกะพริบไปมาก่อนจะหลุบตาลง

“ถ้าเราทำ เราจะได้อะไรจากเล”

ผมกัดริมฝีปากแน่น ว่าแล้วว่าอินต้องขออะไรสักอย่าง เขาคงไม่ยอมทำฟรีๆ “ให้หอมแก้มทีนึง”

“โถ่ เราให้ทั้งคอนโด เป็นทั้งสารถีเลยนะ”

“งั้นหอมแก้มสองที”

“แถมจูบหนึ่งที”

“ไม่!” ผมส่ายหน้าปฏิเสธชัดเจน จนคนฟังเบ้หน้าลงเล็กน้อย “จุ๊บก็ได้แต่ไม่จูบ”

“โอเค! ตกลง!”



วันนี้ทุกอย่างเหมือนเป็นใจ ไม่ว่าจะเป็นวันนี้พี่ๆ ทุกคนไม่อยู่บ้าน ผมมีเรียนถึงแค่ห้าโมงเช้าเท่านั้น แม้กระทั่งสามหนุ่มที่ปกติจะตามติดตลอดวันนี้ก็เหมือนจะรีบๆ ไปไหนกันสักที่

“จะรีบไปไหนกัน” ผมถาม เมื่อเห็นท่าทีของทั้งสามที่กำลังเก็บของเข้ากระเป๋าราวจรวด นี่พึ่งเรียนเสร็จ แต่ทั้งดิน พิษ เกี๊ยกรีบเหมือนว่าอีกสองนาทีสึนามิจะถล่มมหา’ลัย

“พวกกูมีงาน”

“งานอะไร” ผมอดสงสัยไม่ได้ “งานเดียวกันกับพี่ฮิมไหม?”

กึก!

เหมือนร่างสูงชะงัก พอสามหนุ่มหันหน้ามามองผมจึงว่าต่อ “ก็ที่คลับมีงานไม่ใช่เหรอ”

“เออใช่ๆ ที่คลับนั่นแหละ” พิษย้ำส่วนเกี๊ยกหันมาถามผม

“แล้วมึงจะไปไหนต่อ”

“ไปคอนโดอิน วันนี้นอนกับอิน”

“ดีแล้ว คืนนี้อย่าหนีออกมาเล่นข้างนอกล่ะ”

กึก!

เป็นคราวผมที่ต้องชะงักบ้าง และเหมือนจะแสดงท่าทางพิรุจออกไปจนทำให้เกี๊ยกสงสัย

“ทำไมทำหน้าแบบนั้น อย่าบอกนะว่าจะหนีออกมาจริงๆ”

“จะบ้าเหรอ” ผมมุ้ยหน้าใส่เขาก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้นจากที่นั่ง “เลไปล่ะ แล้วเจอกัน”

“เออ เจอกันพรุ่งนี้” ผมเม้มปาก ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกว่าพรุ่งนี้ ผมจะไม่ได้เจอพวกเขา…

ผมขับรถกลับมาที่คอนโดอินอีกครั้งหลังจากเรียนเสร็จ พี่ฮิมโทรมาถามทีนึงว่ากินข้าวเที่ยงหรือยังรวมทั้งออกคำสั่งให้ผมกินข้าวเย็น เพราะดูท่าว่าผมจะไม่กลับไปที่บ้านอีก เนื่องจากเสื้อผ้าที่จะใส่นอนก็เอามาแล้ว ทันทีที่ใช้คีการ์ดที่อินให้มาเปิดประตูคอนโดออก ภายในห้องเหมือนจะมีสองร่างกำลังเถียงกันอยู่ ทั้งสองคนหันมามองผม อินเป็นคนแรกที่ขยับโดยการวิ่งมาเกาะแขนพร้อมทั้งบ่น

“เราไม่ชอบเพื่อนเล เรายอมโดดเรียนไปรับมันมาเพราะเลเลยนะ” ผมหันหน้าไปมอง ‘เอ็กซ์’ ที่ยังคงไม่แสดงอาการอะไรนอกจากความนิ่งงัน สิ่งที่ขอให้อินทำมีสามอย่างคือหนึ่ง ช่วงเช้าโดดเรียนเพื่อไปรับเอ็กซ์มาที่คอนโด ผมไม่อยากให้อีกฝ่ายไปที่มหา’ลัยเพราะลูกน้องพี่ฮิมมันเยอะมากๆ สอง ผมขอยืมคอนโดของอีกฝ่ายเป็นแหล่งกบดาน (อารมณ์ประมาณนั้น) และสาม ปิดปากเงียบอย่าให้ใครรู้เรื่องที่ผมกับเอ็กซ์กำลังจะทำ

“ขอบคุณนะ” ผมหันไปบอกอิน ก่อนจะพาสองคนที่ใกล้จะกัดกันอีกครั้งไปที่ห้องนั่งเล่น ตอนบ่ายเกือบทั้งหมด ผมใช้เวลานั้นถามรายละเอียดที่ตัวเองอยากรู้กับเอ็กซ์ ทั้งเรื่องรถที่ใช้แข่ง ทั้งอุปกรณ์นั้นนู้นนี่รวมถึงสนามแข่ง น่าแปลกที่เป็นการแข่งแบบผิดกฏหมายแท้ๆ แต่ทุกอย่างกลับดูครบไปหมด เหมือนผู้จัดทำอาชีพเกี่ยวกับรถอยู่แล้วยังไงยังงั้น อีกอย่างคงต้องมีอิทธิพลมากพอสมควรถึงได้จัดการแข่งขันแบบผิดกฏหมายได้

สนามแข่งมีสองส่วน ส่วนแรกคือจุดสตาร์ทตรงนั้นเป็นสนามแข่งรถจริงๆ ฟังจากข้อมูลที่เอ็กซ์บอกแล้วมันคงจะใหญ่พอสมควร เพราะถึงขนาดมีอัฒจันทร์ให้ผู้ชมนั่งดู การพนันว่าใครจะชนะแพร่สะพัดอยู่ตรงนั้น ทว่าส่วนที่สองกลับเป็นถนนที่เชื่อมจากสนามต่อไปจนถึงถนนสายหลักที่รถปกติใช้สัญจร แต่เหมือนทางผู้จัดจะทำการปิดถนนเอาไว้ เพราะแบบนี้มันถึงผิดกฏหมาย ทั้งสองส่วนจะเชื่อมต่อกัน จุดสตาร์ทกับเส้นชัยจะเป็นที่เดียวกัน กติกาก็ง่ายๆ ถ้าใครขับรถจากจุดสตาร์ทวนมาถึงที่เดิมเป็นคนแรกก็ถือว่าชนะ

และเพราะมันเป็นการแข่งแบบผิดกฏหมาย ผมจึงบอกเอ็กซ์เอาไว้ว่าผมอาจจะไม่ชนะ หรือถ้ามีกรณีที่ว่าเส้นชัยอยู่ตรงหน้าแต่ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูง ผมจะเลือกทางที่ผมจะปลอดภัยมากที่สุด แน่นอนว่าการแข่งรถแม้แต่งานใหญ่ๆ อย่างเป็นทางการก็มีคนตายเกือบทุกปี แล้วนี่ยิ่งเป็นสนามเถื่อน หรือจะให้พูดง่ายๆ ก็คือถ้าให้เลือกระหว่างชนะกับเลือกให้ผมปลอดภัย สิ่งที่ผมจะเลือกก็คืออย่างที่สอง และสิ่งที่สุดท้ายที่ผมบอกกับอีกฝ่าย คือผมยอมช่วยแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ครั้งหน้าไม่ว่าเขาจะติดหนี้ร้อยล้านก็ตามผมจะไม่ช่วยอีก

“เอ็กซ์แล้วของพนันเอาไว้กันแพ้นี่ยังไงเหรอ” ระหว่างที่อ่านรายละเอียดผมดันสะดุดตากับประโยคนี้เข้า ผู้จัดบอกแค่ว่าต้องมีของพนันกันแพ้เอาไว้ ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นเงินอย่างเดียว จะเป็นอะไรก็ได้แต่ต้องมีมูลค่าสูง ซึ่งถ้าจะจ่ายเป็นเงิน มันก็มีมูลค่าสูงเป็นจำนวนเลขถึงหกหลัก และต้องติดหนึ่งในสามเท่านั้นถึงจะได้ไม่ต้องเสียของพนันหรือก็คือได้ของพนันคืน

ผมหันไปมองหน้าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยความสงสัย เขาเอาอะไรเป็นของพนัน เพราะถึงจะบอกว่าติดหนึ่งในสามถึงจะได้ของพนันคืนก็เถอะ แต่ถ้าไม่มีของพนันมันก็แข่งไม่ได้เหมือนเดิม

“ไม่เป็นไร เราเตรียมเอาไว้แล้ว” ผมเลิกคิ้วขึ้นอยากรู้ว่าเอ็กซ์เตรียมอะไรแต่ไม่ได้เซ้าซี้ต่อ เพราะเป็นจังหวะเดียวกันที่อินเข้าดึงแขนผมให้ลุกไปช่วยทำอาหารเย็นพอดี



นัยน์ตาคมจดจ้องอยู่ที่โทรศัพท์ เสียงแชทเตือนบ่งบอกว่าทางนั้นตอบกลับมา

‘กูต้องการหลักฐานยืนยันมากกว่านี้ อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่แค่รูป’

เอ็กซ์ก้มลงอ่านข้อความในมือ ก่อนจะหันหน้าไปมองสองร่างเล็กที่กำลังส่งเสียงเจื้อยแจ้วจากการทำอาหารในห้องครัว มือหนายกโทรศัทพ์ขึ้น นิ้วเรียวกดบันทึกวิดิโอพร้อมทั้งซูมเข้าไปหาคนที่กำลังผัดอะไรสักอย่างในกระทะอยู่

“เอ๊ะ! เล ต้องใส่ผักก่อนแล้วค่อยผัดรวมกันไม่ใช่เหรอ”

“แบบนี้อร่อยกว่า แล้วค่อยเอาผักใส่ทีหลังก็ได้”

“อ้อ! โอเคๆ”

ติ๊ด!

มือหนากดหยุดวิดิโอเมื่อถ่ายได้ราวๆ สามสิบวินาที เอ็กซ์จัดการส่งวิดิโอไปให้คนในแชท ทันทีที่ขึ้นว่าอ่านทางนั้นก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว

ของพนัน

ประเภท : บุคคล

อนุมัติ



หนึ่งทุ่ม

หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ ผมจึงรีบมาอาบน้ำในห้องนอนของอิน และเลือกชุดที่ใส่เป็นสีดำเพราะไม่อยากเป็นจุดเด่น

“เรารู้สึกไม่ดีเลย” คนที่กำลังนั่งมองผมอยู่บนเตียงพูดขึ้น “เลไม่ไปไม่ได้เหรอ”

“ได้ไง เตรียมการมาซะขนาดนี้แล้ว”

“ไม่รู้สิ แต่บอกตามตรงเราไม่ถูกชะตากับเพื่อนของเลมากๆ”

“หมายถึงเอ็กซ์น่ะเหรอ”

“อือ” ผมเอียงคอไปมองคนที่ทำสีหน้าเหมือนรู้สึกไม่ดีอย่างที่บอกจริงๆ “คืนนี้ นอนอยู่คอนโดเราเถอะนะ ยิ่งเป็นสนามแข่งเถื่อน...”

“ไม่ได้หรอก” ผมปฏิเสธ “แล้วไม่รู้หรือไงว่าเราขับรถเก่ง”

“ไม่รู้ ดีใจที่ได้รู้ แต่ตอนนี้เสียใจแล้ว เลไม่ไปไม่ได้เหรอ ให้หมอนั่นมายืมเงินเราก่อนก็ได้”

“เดือนร้อนอินเปล่าๆ”

“แต่นี่มันก็เดือนร้อนเล”

กึก!

ผมเม้มปาก พร้อมกับถอนหายใจก่อนจะหันหลังไปมองคนที่อยู่บนเตียง “แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ”

“ทำไมต้องยอมขนาดนั้นด้วย” อินถามเสียงแผ่ว ในขณะที่ผมต้องหยุดชะงักเพื่อคิดหาคำตอบ

“เพราะเอ็กซ์… ทำให้เรารู้สึกว่าเราได้ออกจากกรอบของพี่ฮิม”

“เราเข้าใจเลนะ ถ้าถูกใครสักคนตีกรอบเอาไว้ ทั้งเรื่องที่กั้นเพื่อนคนอื่นไม่ให้เข้าใกล้เลหรืออะไรก็แล้วแต่ เป็นเรา เราก็ไม่ชอบ แล้วเราก็ไม่ได้ชอบพี่ฮิมมากหรอก” อินเงียบไปสักนิดก่อนจะว่าต่อ “แต่บางที กรอบของพี่ฮิมมันอาจจะดีสำหรับเลก็ได้”

“...”

“...”

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“เลเสร็จหรือยัง”

“นี่ก็รีบจริง” อินบ่นทันทีเมื่อคนที่อยู่ด้านนอกเคาะประตู ผมตะโกนตอบกลับว่าขอเวลาอีกแปปเดียว ในขณะที่ร่างเพรียวบนเตียงลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า อินกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง พอเจอมันมือบางก็ยื่นมันมาให้ผม “ให้”

“คืออะไร”

“เครื่องรางป้องกันภัย” ผมเอื้อมมือไปหยิบเครื่องรางอันเล็กๆ ขึ้นมาดูก่อนจะตัดสินใจเก็บใส่กระเป๋ากางเกง “ขอให้โชคดีแล้วก็ปลอดภัยกลับมา”

“อื้อ”

“อือ”

“จริงๆ แล้วอินเป็นเพื่อนที่ดีนะ”

“ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนอะ อยากเป็นแแฟน”

“บ้า!”



ร่างสูงในชุดสีดำสนิทเอนหลังพิง Bugatti Chiron คันหรู ปลายนิ้วเรียวข้างหนึ่งคีบบุหรี่จ่อริมฝีปากขณะใช้มืออีกข้างกดโทรศัพท์เพื่อโทรหาใครบางคน

ติ๊ด!

(พี่ฮิม)

“นอนหรือยังครับ”

(เล… กำลังจะนอน)

“กินข้าวเย็นหรือเปล่า”

(เลกินแล้ว) ควันพิษถูกบ่นออกจากปาก คนตัวสูงรู้สึกวางใจลงเมื่อได้ฟังอย่างนั้น (พี่ฮิมล่ะ)

“พี่ไม่หิว” เขายังไม่ได้กิน

(ทำไมไม่กินเล่า! ไปหาอะไรกินเลยนะ!)

“ดุจัง”

(อย่ามาพูดเล่นนะ หาอะไรกินด้วย)

“ครับๆ” เสียงทุ้มรับคำ ควันพิษถูกอัดเข้าปอดอีกครั้งหนึ่ง “คนดีรีบๆ นอนนะ อย่านอนดึก”

(...)

“เลฟังพี่อยู่ไหม”

(อะ… อื้อเลจะนอนแล้ว พี่ฮิมก็อย่ากลับบ้านดึกนะ)

“ครับ”

(เล… จะนอนแล้ว)

“ฝันดีครับคนดี”

(อื้อ)

ติ๊ด!

ปลายสายตัดไป จากนั้นฮิมจึงขยี้บุหรี่ในมือจนดับก่อนจะทิ้งมันลงพื้น มือหนาอีกข้างเก็บโทรศัพท์เอาไว้ที่กระเป๋ากางเกงเป็นจังหวะเดียวกันที่เพื่อนสนิทที่เขากำลังรออยู่เดินออกมาจากบ้านพอดี

วินถาม “มึงจะขับหรือมึงจะให้กูขับ” 

มือหนาโยนกุญแจ Chiron คันหรูให้อีกฝ่ายแทนคำตอบ ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปนั่งที่นั่งข้างคนขับทันที

“แวะปั้มให้กูด้วย” เสียงทุ้มว่าในขณะที่คนฟังขมวดคิ้วสงสัย

“มึงจะทำอะไร”

ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้น เขานึกถึงประโยคที่น้องว่าให้ก่อนจะตอบกลับอย่างอารมณ์ดี “หาอะไรกิน”



ติ๊ด!

ผมกดตัดสายพร้อมกับมองโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกหวิวๆ ผมกำลังทำผิดต่อพี่ฮิม แถมยังร้ายแรงมากๆ

“เลจะไปได้หรือยัง” เอ็กซ์ที่ขี่มอเตอร์ไซค์มารออยู่ก่อนแล้วถาม เขายื่นหมวกกันน็อคมาให้ ในขณะที่ผมรีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงแล้วรับเอาหมวกกันน็อคมาใส่ ก่อนจะขึ้นซ้อนท้ายอีกคน อันที่จริงอินบอกว่าให้ยืมรถตัวเองไปก็ได้แต่เอ็กซ์บอกว่าขับมอเตอร์ไซค์มันสะดวกกว่า ผมเลยต้องเอาตามนั้น

“ไปกันเถอะ” เสียงนุ่มพูดทิ้งท้ายก่อนตัวรถจะเคลื่อนที่ออกไปจากคอนโด



ตัวรถของทั้งสองฝ่ายเคลื่อนที่ออกจากจุดหมายที่ต่าง แต่ปลายทางเดียวกัน…



(100%)

ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอเท่านั้นนะ!)

ยินดีต้อนรับสู่ช่วง before Hook wars ดื่มด่ำไปกับความหวานปนขม

ก่อนจะเจอะกับความวินาศสันตะโรและเพลิงบรรลัยกัปล์ดุจดั่งไฟเยอร์ที่จะเข้ามาเยือนในตอนหน้า


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 31-07-2017 06:37:21
เมื่อไหร่จะยอมพี่เขาสักทีล่ะลูกกกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhankn ที่ 31-07-2017 07:00:57
เล... คิดดีเเล้วเนาะ หวังว่าจไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 31-07-2017 07:45:22
พูดได้คำเดียวจริงๆ เล สมควรโดน อะไรจะดื้อได้ขนาดนั้น โกรธคงยังไม่พอกับสิ่งที่ทำ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Altasia ที่ 31-07-2017 07:47:44
เดี๋ยวพอฮิมโกรธจนใช้กำลังกับเล เลก็โกรธอีกล่ะ กลายเป็นว่าฮิมต้องง้อเลอีก ทั้งที่คนผิดคือเลแท้ๆ อยากให้ฮิมทำเป็นเมินเลมากกว่า ให้เลรู้สึกตัวซะบ้างถึงความงี่เง่าของตัวเอง

เราชอบเรื่องนี้ ชอบฮิมมาก สารภาพเลยว่าตั้งแต่อ่านมาไม่เคยเข้าข้างเลเลย 555 อยากให้เลมีการพัฒนาทางด้านอารมณ์บ้าง เพิ่มไหวพริบให้เลหน่อยก็ดีนะคนเขียน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-07-2017 08:40:56
เลทำตัวเองล้วนๆนะ
หาเมียใหม่ให้ฮิมเลยเถอะ
เบื่อเล งี่เง่า ดื้อด้าน น่ามคานสุด
ระหว่างฮิมกับคนแบบนั้นดันเลือกคนแบบนั้น
ก็แล้วแต่จ้า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 31-07-2017 09:49:57
เหมือนเลจะโง่นิดๆ   :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: mamacub ที่ 31-07-2017 10:24:35
แลดูเหมือนเลจะทำให้เพื่อนและฮิมเดือนร้อนนะ เด็กบ้าอะไรดื้อด้าน!!
เป็นไงหล่ะโดนเพื่อนคนแรกหลอกไปเป็นของพนัน ซึ้งใจมั้ยล่ะเพื่อนคนแรก!! อยากออกนอกกรอบ!!

ปล.โกรธเลมากก็คือการกระทำที่ไม่แคร์ความรู้สึกของคนที่รักเล โดนเอาใจขนาดนั้นยังต้องการอะไรอีก  :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 31-07-2017 10:25:01
เบื่อเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 31-07-2017 10:30:04
งานนี้มีคนเจ็บแน่ๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: jakkee ที่ 31-07-2017 12:22:39
งานนี้มีเจ็บตัวแน่เลเอ้ยย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 02-08-2017 15:28:41
ขอให้เล ไม่โดนเป็นของพนันเถอะ พี่ฮิมรีบมาหิ้วนอกกลับบ้านอบรมด่วนเลย
เอ๊กซ์ นายเจอพระบาทาแน่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 02-08-2017 20:12:26
บางครั้งเลก็งี่เง่า   แค่อยากออกนอกกรอบถึงกลับยอมเอาตัวเองไปเสี่ยง ไม่ห่วงตัวเองก็น่าจะคิดถึงคนที่เขาเป็นห่วงตัวเองบ้าง   ถ้าเราเป็นพี่ฮิมเราคงได้แต่ปล่อยให้เลได้อยู่นอกกรอบในแบบที่เลต้องการโดยที่ไม่ต้องมีฮิมดุบ้าง ในเมื่อต้องการแบบนั้นเองอะนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 02-08-2017 21:39:41
บอกได้คำเดียวชิบหายแน่เลเอ๋ย..
เพื่อนทุกคนก็เตือนนะนะ ทำไมไม่ฟังกันเลย ขอให้รอบนี้ได้บทเรียนอย่างสาสมเลย
เอ็กซ์นี่ก็เลวมากจริงๆ อยากให้พี่ฮิมจับกระทืบให้ตายคาตีน #อินแรงมาก
เตรียมมาม่าและผ้าเช็ดหน้าพร้อม :katai1:

ปล.เอ็นดูอินจัจัง น่ารัก55555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 02-08-2017 22:31:51
ถ้าจะเกิดอะไรหลังจากนี้บอกได้คำเดียวว่า สมน้ำหน้าจ้าาเลลลลจ๋าาา ตอนแรกก็ชอบนางอยู่นะ หลังๆเริ่มเยอะ ทั้งๆที่เรียนมหาลัยแล้วแท้ๆ สงสัยเลคงจะโง่แบบที่ด่าตัว้องเอาไว้จริงๆ เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-08-2017 08:31:04
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 03-08-2017 11:17:54
รอดูความพินาศกันเลยทีเดียว เห็นแต่ความวิบัติที่ใกล้จะบังเกิด
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 03-08-2017 17:34:19


#22



ระยะทางจากบ้านถึงสถานที่อโคจรที่ตั้งอยู่นอกเมืองใช้เวลาขับรถนานถึงสามสิบนาที ทันทีที่รถสปอร์ตสุดหรูสามคันแล่นเข้าสู่ลานจอด เสียงโหร้องกึกก้องไปทั่วบริเวณคือสิ่งแรกที่ได้ยินโดยที่ไม่ต้องสังเกต ร่างหนาเดินลงมาจากรถด้วยท่าทีไม่เร่งรีบ คนตัวสูงมีเวลาเหลือเฟือแม้กระทั่งหยุดเดินเพื่อจุดบุหรี่สูบแล้วปล่อยเพื่อนที่เดินตามหลังนำหน้าไปก่อน ฮิมสูบมันเข้าปอด ลิ้มรสความขมปร่าของบุหรี่ม้วนที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันนี้ เขาสูบเพราะรู้สึกผ่อนคลายเนื่องจากฤทธิ์ของมัน มือหนาเสยผมที่ปรกหน้าขึ้น นิ้วเรียวคีบบุหรี่ที่ติดอยู่ริมฝีปากออกก่อนจะเดินตามหลังเพื่อนไป

…ผ่านประตูบานใหญ่ที่มีชายถึงห้าคนคอยเฝ้า เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่ๆ ทุกคนจะเข้ามาได้ง่ายๆ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ที่สำหรับเลคนหนึ่ง ฮิมไม่คิดที่จะพาน้องมาที่นี่แม้เขาจะมาอยู่เป็นประจำตั้งแต่ช่วงที่เลยังเป็นแค่น้อง แม้ในช่วงหลังๆ มานี้จะไม่ค่อยได้มา และคนที่มาบ่อยที่สุดน่าจะเป็นเกียร์ ถึงเขาไม่คิดที่จะพาเลมาก็จริงแต่คิดไว้แล้วว่ายังไงสักวันเลก็คงได้มา

เสียงโหร้องยังได้ยินเหมือนเดิมหลังจากเดินผ่านประตูบานใหญ่ มือหนาขยี้บุหรี่ในมือลงแล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋าด้วยท่าทางสบายๆ แต่คนมองกลับเบิกตากว้างเหมือนเห็นปีศาจ ชายหนุ่มสามคนที่กำลังตกลงเรื่องหนี้สินกันอยู่ถึงกับตะลึงค้าง ใบหน้าผันไปตามทิศทางที่เหล่าเจ้าของร่างหนากำลังเดินไป

จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง ก็ในเมื่อเจ้าของสนามเดินทางมาถึงแล้ว…



ผ่านไปกว่าสามสิบนาที ในที่สุดเราก็มาถึง ผมมองสถานที่ตรงหน้า มันใหญ่… ใหญ่มากและใหญ่กว่าที่ผมคิดเอาไว้ซะอีก ทั้งๆ ที่เป็นแค่การแข่งขันเถื่อนแต่เป็นการแข่งรถเถื่อนที่มีระดับกว่าที่ผมคิดเอาไว้จนน่าตกใจ

เอ็กซ์พาผมเข้าทางด้านหลัง เขาบอกว่าประตูหลังคนไม่เยอะและคนเฝ้าประตูก็น้อย แถมก่อนจะเข้างาน ร่างสูงเดินเข้าไปคุยอะไรกับคนเฝ้าประตูด้วยเรื่องอะไรสักอย่างก่อนจะหยิบเงินให้ ในขณะที่ผมมองด้วยความสงสัย แต่พอเอ็กซ์บอกว่ามันเป็นค่าเข้างาน ผมก็ทิ้งความสงสัยนี้ไป แม้จะยังงงๆ อยู่ว่าแค่เข้างานมันต้องหยิบแบงค์สีน้ำตาลจ่ายถึงสามแบงค์เชียวเหรอ ทำอย่างกับว่าเรามางานแข่งรถผิดกฏหมายแต่จะเข้างานผิดกฏหมายก็ยังต้องทำผิดกฏอีก หลังจากเดินเข้ามาได้แล้ว เขายังบอกกับผมอีกว่า

“นิว”

“อะไรนิวเหรอ”

“ชื่อนาย” ร่างสูงหันมาสบมองก่อนผมจะพยักหน้ารับ ไม่รู้เหตุผลอะไรเอ็กซ์ถึงให้ใช้ชื่อปลอมแต่ผมคิดว่ามันดีสำหรับตัวเองเลยยอมตกลง จวนจะถึงด้านในของงานผมหยิบแมสปิดปากสีดำมาใส่หน้าพร้อมกับดึงฮูดขึ้นครอบหัวเพราะคนเยอะพอสมควร เอ็กซ์พาผมมาที่จุดลงทะเบียนนักแข่ง และสมกับเป็นงานเถื่อนจริงๆ ขนาดใส่ทั้งแมสใส่ทั้งฮูดขนาดนี้คนรับลงทะเบียนยังไม่ถามหาอะไรมายืนยันตัวตนผมเลยสักคำ แค่เอ็กซ์เข้าไปถามหาเอกสารอะไรสักอย่าง หลังจากนั้นเขาก็ยื่นมันมาให้ผมเซ็นต์ก็เป็นที่เรียบร้อย แต่ในจังหวะที่กำลังลงทะเบียนนักแข่งอยู่นั่นแหละ สายตาผมจึงบังเอิญไปเห็นอะไรเข้า

รถ… เป็นรถที่ใช้แข่งในสนามนี้ แถมยังเป็นรถหรูกว่าที่คิดจนผมตกใจ แต่ละคันมีหมายเลขติดเอาไว้ตั้งแต่หนึ่งจนถึงหลักยี่สิบกว่าๆ จะว่าสนามเถื่อนก็สนามเถื่อนเถอะ แต่ดูจากรถแล้วผู้จัดจะได้กำไรหรือขาดทุนกันแน่ล่ะเนี่ย

“อีกสี่สิบนาทีกว่าจะแข่ง นิวจะไปหาอะไรกินก่อนไหม”

“หิวน้ำ” ผมว่า เพราะมัวแต่ปิดหน้าปิดตาแบบนี้มันเลยรู้สึกร้อนจนหิวน้ำแปลกๆ

“พวกของกินอยู่ด้านโน้น” เขาชี้ไปตรงที่มีคนเยอะๆ “ไปหาอะไรกินก่อนก็ได้แล้วยี่สิบนาทีไปเจอกันที่ห้องน้ำตรงโน้นนะ นิวต้องไปเปลี่ยนชุดก่อนลงแข่งด้วย”

ผมพยักหน้าเข้าใจ หลังจากนั้นจึงแยกตัวออกมาจากเอ็กซ์เพื่อหาอะไรดื่ม ทว่ายิ่งเข้ามาในงานลึกมากเท่าไหร่ คนก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น แต่คนเยอะจากที่คิดว่ามันจะเป็นผลเสีย ในทางตรงกันข้ามมันกลับเป็นผลดีกับผมแทน เพราะว่าคนมันเยอะ เลยไม่มีใครสนใจผมเลยสักคน ผมหาน้ำดื่มพร้อมกับสงบจิตสงบใจตัวเองก่อนจะแข่งอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งคิดว่าใกล้ถึงเวลาที่เอ็กซ์บอกผมจึงเดินไปที่ห้องน้ำซึ่งเป็นจุดนัดพบ



ฮิมเดินเข้ามาในส่วนลึกของงานหลังจากเดินไปคุยงานกับพวกลูกน้องเสร็จ เขาเดินขึ้นบันไดทางด้านหลังอัฒจันทร์เข้าสู่โซนวีไอพีที่มีพวกนั้นเดินเข้ามาก่อนแล้ว โซนวีไอพีเป็นจุดกึ่งกลางของอัฆจันทร์ขนาดใหญ่ซึ่งเว้นพื้นที่เอาไว้มากกว่าที่อื่น นอกจากนี้ยังถือเป็นจุดที่ดูการแข่งขันได้ดีที่สุด นัยน์ตาคมจดจ้องไปที่หญิงสาวนับห้ารายที่ไม่ถูกพวกนั้นจ้างมา ก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่พวกนั้นเชิญมา ทุกสายตาจดจ้องไปยังร่างสูง ยิ่งขายาวก้าวเข้ามาโซนด้านในมากเท่าไหร่เหล่าเจ้าของรูปร่างสะโอดสะองค์ก็ยิ่งเดินเบียดกันไปแนบชิดร่างหนามากขึ้นเท่านั้น ทว่าหญิงสาวทั้งหลายที่น่าจะโดนตอบรับทันทีถ้าพิจารณาจากรูปร่างหน้าตากลับถูกกระทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามนั่นคือการผลักไส มือหนาจัดการผลักผู้หญิงคนแรกที่มาเกาะแกะอยู่ข้างกายจนอีกฝ่ายเซล้มลงไปกับพื้น เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาแสดงสีหน้าราบเรียบอย่างไม่รู้สึกผิดขณะก้าวข้ามพวกเธอไปแบบไม่แล

“เสียของไอ้สัส” ไทด์ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่า ตั้งแต่ที่เดินเข้ามามันโดนผู้หญิงเข้าหามากที่สุดแต่ดันไม่แลเลยสักคน “สู้น้องรักของมึงไม่ได้เหรอ”

คนฟังยื่นนิ้วกลางส่งไปให้ขณะนั่งลงบนโซฟา ฮิมยื่นมือไปรับแก้วน้ำสีอำพันที่รพส่งมาให้เข้ามาดื่ม ก่อนแอลกอฮอล์จำนวนหนึ่งจะถูกดื่มลงร่างกาย ร่างสูงชะงัก นัยน์ตาคมมองแก้วในมือก่อนจะสั่งให้คนไปเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าแทน เจ้าของเรือนผมสีแดงที่สังเกตเห็นพอดีและเข้าใจคำสั่งว่าทำให้ถึงให้เปลี่ยนจากเหล้าเป็นน้ำเปล่าถึงกับผิวปาก

“มึงว่าวันนี้ใครจะได้ที่สองว่ะ”

ไทด์ไม่ได้ฟัง กายหนาที่มีผู้หญิงประกบซ้ายขวายังคงประชดประชันต่อว่า “หรืออยู่ในช่วงจำศีล”

“หุบปาก” เสียงทุ้มตอบกลับ

“คราวหลังก็บอกน้องมึงด้วยสิ ว่าคนพี่เคยพาผู้หญิงสี่คนเข้าห้องพร้อมกันในคืนเดียวก็ทำมาแล้ว”

ขวับ!


นัยน์ตาสีดำสนิทตวัดไปมองทางคนพูด บรรยากาศอึมครึมลงทันทีเมื่อร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาแสดงท่าทางไม่พอใจ วินเป็นคนแก้ไขสถานการณ์ทั้งหมด

“ไทด์มึงอย่าหาเรื่อง แล้วผากับเกียร์ไปไหน”

“ผามันไม่มีมาหรอก นอนกอดเมียอยู่คอนโดนู้น ส่วนเกียร์เมื่อกี้กูยังเห็นมันเดินวนไปวนมาแถวนี้อยู่เลยไม่รู้ไปหายไปไหนแล้ว” รพตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ขณะเดียวกันที่ฮิมลุกขึ้นจนคนอื่นมองตาม

“มึงจะไปไหน”

เขาตอบกลับเสียงเรียบ “ห้องน้ำ”



สิบนาทีผ่านไป

เสียงสัญญาณเตือนให้นักแข่งเข้ามาประจำที่ตัวเองดังว่อน เหล่าร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาของโซนวีไอพีเลิกคิ้วขึ้น

“ทำไมมันไปห้องน้ำนานจังวะ ฮิมมันจะลงสนามไหม” วินพูดขึ้น “ไทด์กับเกียร์มึงไปตามดิ”

“เออ” เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกรับคำอย่างว่าง่าย ขณะปล่อยมือออกจากเอวบางของสาวตรงหน้าแล้วเดินตรงดิ่งไปที่ทางออก กระทั่งเดินมาถึงบริเวณห้องน้ำ เกียร์กวาดสายตามองคนที่กำลังตามตัวแล้วจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงจากคนข้างตัวดัง

ปึก!

ทุกสายตามองตามร่างเล็กที่เป็นคนวิ่งมาไทด์ แต่เป็นอีกฝ่ายซะเองที่เกือบจะล้ม เจ้าตัวรีบขอโทษก่อนจะวิ่งผ่านไป ไทด์สบถ “ใครพาลูกมางานกูว่ะ”

นัยน์ตาคมมองตามแผ่นหลังเล็กที่รู้สึกคุ้นตาอย่างน่าประหลาด ร่างบางในชุดสีดำสนิทกำลังวิ่งไปที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่เข้ากับขนาดของร่างกาย และเหมือนว่าจุดหมายของอีกฝ่ายจะเป็น… ทางเข้าสนามแข่ง? ไทด์หรี่ตามองขายาวกำลังจะก้าวตามโดยอัตโนมัติถ้าไม่ใช่เพราะเกียร์พูดชื่อของคนที่พวกเขากำลังตามหาออกมาเสียก่อน จุดสนใจเลยถูกเพ่งไปที่มันแทน

“ฮิม” เจ้าของชื่อกำลังเอนหลังพิงกำแพงของห้องน้ำ นัยน์ตาคมเงยขึ้นมองตอนที่ถูกเรียกขณะกำลังให้ความสนใจกับโทรศัพท์ในมืออยู่

“มีอะไร”

“มึงจะลงสนามไหม” ไทด์ถาม ส่วนตัวเจ้ากำลังเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วพยักหน้ารับ

“ลง”



ผมสายแล้ว…

“หายไปไหนมา” เอ็กซ์ส่งเสียงดุเล็กน้อยหลังจากที่เขาเห็นสภาพผม ผมหอบหายใจแล้วทำหน้าบึ้งใส่ทันที

“ก็ไหนบอกว่านัดที่ห้องน้ำ! เลรอตั้งสิบนาทีไม่เห็นจะมา” ผมไปยืนรอเขาอยู่หลังห้องน้ำตั้งนาน ทีแรกว่าจะโทรหาแล้ว แต่เสียงประกาศเตือนดังขึ้นก่อนผมที่สติหลุดเป็นที่รีบร้อยแล้วเลยรีบวิ่งมาที่บริเวณสนาม รีบมาจนเมื่อกี้วิ่งชนใครสักคนด้วย แล้วก็ดันเจอเอ็กซ์พอดี

“นิว” เสียงทุ้มย้ำอีกครั้งเมื่อเขาเห็นว่าผมพูดชื่อใหม่ของตัวเองผิด “เราก็รออยู่ห้องน้ำ”

“ตรงไหน”

“ด้านหน้า”

“เรารออยู่ด้านหลัง” ผมเม้มปาก

เอ็กซ์ถอนหายใจทันที “ช่างเถอะ รีบไปเปลี่ยนชุด”

มือหนายื่นชุดให้พร้อมกับดันตัวผมเข้าห้องๆ หนึ่งที่ว่าง ผมรีบใส่ชุดนักแข่งสีขาวหลังจากสำรวจตัวเองเสร็จก็รีบวิ่งออกไปจากห้อง

“เอ็กซ์ เราเสร็จแล้ว” ผมเรียกชื่ออีกฝ่ายแต่สายตามันบังเอิญไปจ้องกับอีกคนที่ยืนอยู่ห่างออกไปในระยะหนึ่งแต่มองได้แต่แปปเดียว ศีรษะของผมก็ถูกครอบด้วยหมวกกันน็อคสีขาวเข้ากับชุดเพราะฝีมือของเอ็กซ์ทันที

เมื่อกี้นี้มัน…

“ไปกันเถอะ” เสียงทุ้มว่าก่อนจะจูงมือผมเดินไปที่สนาม ผมได้แต่เดินตามอีกฝ่าย แต่พอหันหลังกลับไปมองใครคนนั้นก็ดูเหมือนว่าจะยังจ้องผมอยู่เหมือนเดิม คนที่คุ้นหน้าคุ้นตามากจนเกินไป ผมไม่รู้ว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แต่การที่อีกฝ่ายเห็นผมมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ผมกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเม้มปาก

คิดว่า… เมื่อกี้ได้สบตากับเกี๊ยกเข้าให้แล้ว

นักแข่งทุกท่านโปรดลงสนามด่วนค่ะ

ทันทีเสียงประกาศเตือนเป็นครั้งที่สามดังขึ้น มันดึงเรื่องเกี๊ยกออกจากหัวผมทั้งหมดแทนที่ด้วยความกังวล และเป็นจังหวะเดียวกันที่เราเดินมาถึงประตูทางเข้าสนามที่มีแต่นักแข่งเท่านั้นถึงจะเข้าไปได้ เอ็กซ์บอกว่ารถของผมคือหมายเลขเจ็ด เขาให้กุญแจรถมาพร้อมกับพูดให้กำลังใจผมทีนึง หลังจากนั้นมันเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องเดินลงสนามเอง

สนามแรก… แถมยังเป็นสถานเถื่อน

ผมสูดลมหายใจเข้าอกขณะปล่อยมือหนาที่จับมาตลอดทางแล้วเดินเข้าไปด้านใน ผมพยายามทำตัวให้ด้อยมากที่สุด ขนาดนั้นตอนที่เดินอยู่เฉยๆ ก็ยังถูกนักแข่งคนอื่นที่บังเอิญมองมาทางผมประชดเข้าให้

“เด็กแถวไหนมาเดินเล่นอยู่แถวนี้เนี่ย หนูจ๋ามันไม่ใช่ที่เด็กๆ จะมาหัดขับรถนะ”

ไม่รู้ทำไม ทันทีที่ถูกว่าให้ความกังวลที่อัดอั้นอยู่ในอกมันก็มลายหายไปทันที ถึงจะเป็นสนามแข่งแรกก็เถอะแต่เอาตรงๆ ผมมั่นใจในพรสวรรค์ของตัวเองมากพอสมควร ไม่งั้นคงไม่ยอมรับคำขอของเอ็กซ์หรอก เป็นตอนนั้นเองจากที่ตั้งใจจะทำตัวให้เด่นน้อยที่สุดกลับกลายเป็นทำตัวน่าหมั่นไส้เข้าให้ ด้วยการพูดอะไรออกไปแบบไม่รู้ตัว

“เหอะ ก็ไม่แน่”



วินมองนักแข่งที่ทยอยลงสนามบนโซนวีไอพี มือหนายกแก้วใส่น้ำสีอำพันจรดริมฝีปากแล้วชะงักก่อนจะดื่มมันลงไป เมื่อหนึ่งในนักแข่งคือใครบางคนในชุดนักแข่งสีขาวที่แม้จะมีหมวกกันน็อคสวมครอบหัวอยู่แต่รูปร่างที่มันคุ้นตานั่นทำให้หัวใจคนมองกระตุก

อีกฝ่ายตัวบางถ้าเทียบกับคนอื่น และทันทีที่เจ้าตัวเดินไปที่รถ สายตาของผู้ชมบนอัฒจันทร์ก็จับจ้องไปที่คนตัวบาง เกิดเสียงกระซิบกระซาบไปทั่วทั้งสนาม



‘กูคิดไปเองไหมว่านักแข่งเบอร์ 7 หุ่นเอ็กซ์ชิบหาย’

‘อยากเห็นหน้าว่ะ’

‘ทำไมกูมีเซ้นว่าถ้าถอดหมวกกันน็อคออกมาปุ๊บจะโคตรสวยวะ’



วินคิดเหมือนกันกับสิ่งที่หลายคนพูด และทุกอย่างที่ว่ามานั่นทำให้ยิ่งเหมือนกันกับ…

“เล” เสียงของไทด์ดังขึ้นแทนคำตอบในใจเขา “แม่ง! ทำไมเหมือนเลจังวะ”

“มึงโทรเช็กดิว่าเลทำอะไรอยู่ ทำไมกูเห็นไอ้เบอร์ 7 แล้วใจกูมันกระตุกแปลกๆ” รพว่าต่อ

วินค้าน “ฮิมบอกว่าน้องนอนแล้ว”

ขอให้เลนอน ขอให้อีกฝ่ายอย่าได้มาที่นี่เลย

“ฮิมลงสนามแล้ว” เกียร์เป็นคนเปลี่ยนเรื่อง เสียงเฮลั่นตามมาทันทีที่เสียงทุ้มพูดจบ ความสนใจถูกเปลี่ยน เมื่อร่างสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรปลายๆ ในชุดนักแข่งสีดำสนิทกำลังเดินเข้าไปในสนาม มือหนาข้างหนึ่งถือหมวกกันน็อคสีดำสนิทเข้ากับชุดขณะที่มืออีกข้างยังจับบุหรี่สูบเหมือนไม่รีบร้อน เจ้าของใบหน้าหล่อหลาเงยหน้าขึ้นไปมองบนอัฒจันทร์ การพนันแพร่สะบัดเมื่อผู้ชมกำลังรีบเร่งลงพนันว่าใครจะเป็นผู้ชนะในคืนนี้ ฮิมขยี้บุหรี่ทิ้งก่อนจะสวมหมวกกันน็อคให้ตัวเองแล้วเดินขึ้นรถหมายเลขสาม

เสียงผู้ชมยังคงเฮลั่นรุนแรงจนร่างเล็กที่นั่งประจำที่คนขับบนรถหมายเลขเจ็ดเป็นที่เรียบร้อยแล้วต้องมองตาม เขาไม่ทันสังเกตตอนที่ร่างสูงเดินลงมา นัยน์ตากลมโตเห็นแวบเดียวคือตอนที่อีกฝ่ายใส่หมวกกันน็อคเสร็จและขึ้นรถพอดี ทว่าเป็นการมองเพียงแวบเดียวที่ทำให้หัวใจเขากระตุก ก่อนมันจะสั่นไหวรุนแรงจนกลายมาเป็นความกังวลอีกครั้ง เมื่อแผ่นหลังกว้างนั่น ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน

20

19

.

เสียงนับถอยหลังทำให้คนที่ยังต้องอยู่ในผะวงต้องสะดุ้งเฮือก เลรีบสตาร์ทรถและคาดเข็มขัดเมื่อเสียงนับถอยหลังลดลงเรื่อยๆ เขาลองหมุนพวงมาลัยเล่นดูคร่าวๆ ก่อนจะพยายามทำจิตใจให้สงบแม้ในความเป็นจริงแล้วมันกำลังเต้นด้วยความถี่รุนแรงอยู่ในอกราวกับกำลังบ้าคลั่ง

.

12

11

.

วินยังคงมองที่รถหมายเลข 7 คันเดิมไม่วางตา เขาหันไปสั่งกับลูกน้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆ “ไปเอาข้อมูลคนขับเบอร์ 7 มา”

.

10

9

8

.

ร่างสูงสตาร์ทรถขณะเคาะพวงมาลัยเป็นจังหวะ ฮิมหลับตาลงเข้าสู่ความเงียบ เขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อนึกถึงใครสักคน ก่อนจะลืมตาขึ้นด้วยอารมณ์ที่สงบกว่าเดิมหลายเท่า

.

7

6

.

หัวใจเลเต้นระทึก ถ้าเทียบกับการสูบฉีดเลือดล่ะก็นี่ก็คงเป็นการสูบฉีดเลือดที่เร็วที่สุดตั้งแต่ที่เขาเกิดมา ทันใดนั้นเอง จู่ๆ ความทรงจำสมัยเด็กย้อนเข้ามาในหัว

‘ฮิมจ๋า พ่อว่าแข่งรถตอนไหนสำคัญสุด’

‘นั่นสิ ตอนออกรถครั้งแรกมั้ง’ คนตัวสูงจับน้องนอนหนุนตัก ขณะนั่งดูคลิปการแข่งขัน formula1 ย้อนหลังในทีวี

‘ทำไมล่ะ’

‘ตอนที่เวลานับถอยหลัง ทุกคนจะตื่นเต้น แล้วหัวใจเลก็จะเต้นแรงมาก’ มือหนาทาบลงไปที่แผ่นอกบาง สัมผัสเสียงหัวใจที่ยังคงเต้นแบบปกติ ‘มันจะเต้นถี่กว่าตอนนี้หลายเท่า’

‘แล้วยังไงอ่า’

‘นักแข่งหลายคนเสียสมาธิตรงนั้น บางคนก็คุมสติไม่ได้แล้วก็ออกรถพลาด’

‘แล้วเลต้องทำยังไง’

‘ไม่รู้สิครับ วิธีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน’

‘แล้วถ้าเป็นฮิม ฮิมจะทำยังไง’

.

5

4

3

2

.

เลลืมตาขึ้น เขาจำประโยคของพี่ฮิมในตอนนั้นได้ขึ้นใจ

.

1

.

‘พี่จะคิดถึงเล’



START!!

บรื๊นนนนนนนนนนน

ขาเรียวเหยียบคันเร่งจนสุดขณะพุ่งตัวแซงซ้ายขวาจนทยานไล่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆ จาก 7 เป็น …6…5…4… กระทั่งตีคู่กับรถหมายเลข 2 ที่ตกมาอยู่อันดับที่ 3 จนคนที่นั่งดูถึงกับชะงักค้าง เกียร์เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับออกปากชมอย่างจริงใจ

“เก่ง”

“ฮิมมีคู่แข่งแล้ว” รพเสริมในขณะที่ไทด์และวินยังคงมองด้วยสีหน้าเป็นกังวล ตัวเล็ก ขับรถก็เก่ง แต่นี่ยิ่งไม่เหมือนเลเข้าไปกันใหญ่เหรอ เจ้าของรอยสักรูปแมงป่องเม้มปากแน่น ยิ่งนึกถึงคำพูดของเพื่อนยิ่งทำให้ใจเขาเต้นกระหน่ำอยู่ในอก ฮิมบอกว่าเลขับรถเก่ง และถ้ามันยอมรับว่าใครเก่ง แสดงว่าคนนั้นต้องไม่ธรรมดา

ขณะเดียวกัน คนที่ถูกเข้าใจว่านอนหลับไปแล้วก็กำลังทุ่มสมาธิทั้งหมดให้กับเส้นทาง รถและถนนตรงหน้า ความเร็วที่ไม่ได้สัมผัสมานานทำให้เลถึงกับเผยรอยยิ้ม เข้าสู่ช่วงโค้งตรงหน้า มือบางหมุนพวงมาลัยอย่างเชี่ยวชาญกระทั่งเบียดรถอันดับที่สามให้ตกลงไปอยู่อันดับที่สี่แทนที่ตัวเอง

หลังจากที่ออกมาจากสนามเข้าสู่ส่วนที่สองซึ่งเป็นถนนสายหลัก  ขาเรียวเหยียบความเร็วเต็มลิมิต รถหรูหลายคันยังคงแล่นเรียงกันเป็นแถวอย่างไม่มีใครแซงใครได้ในทางตรง

เจ้าของนัยน์ตาคมที่รั้งอันดับหนึ่งอยู่เหลือบมองกระจกรถ ภาพรถหมายเลขเจ็ดที่ตีคู่มากับรถหมายเลขหนึ่งแถมดูท่าทางแล้วแซงได้แน่ๆ มันทำให้ฮิมรู้สึกตะหงิดหัวใจแปลกๆ บางอย่าง… ความรู้สึกบางอย่างมันทำให้หัวใจเขาสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็น บางอย่างที่ไม่ใช่ความตื่นเต้นแต่เป็นเพราะเหตุผลอื่น ร่างสูงเหลือบมองเป็นครั้งที่สองก่อนจะเร่งความเร็วจนทิ้งระยะห่างออกไปมากกว่าเดิม

รถสองคันยังแล่นตีคู่กันในทางตรงก่อนเขาจะถูกเบียดลงที่สามเหมือนเดิมในทางโค้ง ทางโค้งถือเป็นด้านที่ยากอีกด้านหนึ่งสำหรับนักแข่งเพราะนั่นหมายความว่าคนขับต้องลดความเร็วลงเพื่อบังคับไม่ให้รถเหวี่ยงจนอาจจะออกนอกสนาม ดังนั้นทางโค้งสำหรับนักแข่งแล้ว ใครควบคุมรถโดยลดความเร็วได้น้อยที่สุดคนนั้นถือเป็นผู้ชนะ ทว่าเมื่อกี้ความเร็วเท่ากันแต่เขากลับโดนอีกฝ่ายเบียดออกด้านนอก ด้วยวงโค้งที่น้อยกว่าทำให้รถหมายเลขหนึ่งขึ้นแซงนำหน้าไปอีกครั้ง

เลเม้มปากแน่น นัยน์ตากลมโตฉายแววไม่พอใจขณะแล่นอีกฝ่ายตามไปติดๆ

ร่างสูงที่ยังครองอันดับหนึ่งอยู่เฝ้าสังเกตรถคันด้านหลัง การขับหลายๆ อย่างมันคุ้นตาจนทำให้ชื่อของคนที่ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ผุดขึ้นมาในสมอง

น้องนอนไปแล้ว

ฮิมย้ำเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ตรงกันข้ามกับอารมณ์ที่ร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาเร่งความเร็วพุ่งทะยานจนทิ้งห่างออกไปมากกว่าเดิม หลังจากนั้นจึงเฝ้าจับตามองรถสองคันที่อยู่ด้านหลังซึ่งกำลังผลัดขึ้นนำ

หลายชีวิตบนอัฒจันทร์ได้แต่ส่งเสียงพูดคุยว่าใครจะเป็นผู้ชนะ เพราะหลังจากที่รถทั้งหมดได้ขับในส่วนของสนามเสร็จและแล่นออกไปบนถนนสายหลัก สิ่งที่พวกเขาทำได้มีอย่างเดียวก็คือนั่งทายว่าใครจะกลับเข้ามาก่อนคนแรก ไทด์เอามือเท้าคางเข้ากับโซฟา ร่างสูงไล่ผู้หญิงออกไปจนหมดตั้งแต่ที่เห็นคนลักษณะเหมือนๆ กับเล ในใจของเขาร้อนรุ่มจนกระวนกระวายไปหมด ทั้งๆ ที่คนๆ นั้นอาจจะไม่ใช่เลก็ได้ แต่ดูเหมือนเพื่อนคนอื่นก็เริ่มมีอาการเช่นเดียวกัน นัยน์ตาคมมองตามลูกน้องคนหนึ่งที่ถือแฟ้มบางอย่างมาให้วิน มันรับไปก่อนจะเปิดอ่านด้วยความรีบเร่งจนคนมองเกิดอาการสงสัย

“อะไรว่ะ” ร่างสูงลุกขึ้นจากโซฟา ขายาวเดินเข้าไปใกล้เพื่อนแล้วชะโงกหน้าอ่านตาม


(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310717#21(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 03-08-2017 17:37:21
ลูปเดิมกำลังจะวนกลับมาอีกครั้ง

เลคิดในใจ ขณะตั้งสมาธิเรียกสติให้กับภาพตรงหน้า ตอนนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็วสูงในทางตรงและเขาก็กำลังแล่นตีคู่กับรถอีกคัน ด้านหน้าเป็นจะทางโค้งและเป็นเขาเองที่กำลังจะได้อยู่โค้งนอกอีกครั้งหนึ่ง ร่างเล็กแทบไม่ได้สนใจเบอร์สามที่แล่นอยู่เป็นอันดับหนึ่ง สำหรับเขาที่สองมีความเป็นได้มากกว่า เพราะระยะห่างที่มากถึงขนาดนี้เลคิดว่าตามมันไม่ทัน นอกจากทางนั้นจะเหยียบคันเร่งพลาดจนความรถลดลง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แค่มันเป็นไปได้ยาก

แต่ตอนนี้เขาคงต้องเอาที่สองมาให้ได้ก่อน…

ใบหน้าสวยภายใต้หมวกกันน็อคสีขาวกำลังนิ่งงันอย่างใช้ความคิด อีกสองร้อยเมตรจะถึงทางโค้งและยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะแซงรถคันด้านข้างเพื่อเข้าโค้งด้านในไปได้ เหมือนความทรงจำพุ่งเข้ามาในสมองอีกครั้งหนึ่ง

‘คนดี พี่จะสอนอะไรให้’

แต่อันที่จริงแล้วมันก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี…

ก่อนเข้าโค้งเลลดความเร็วลงให้น้อยที่สุดเท่าที่เขาจะควบคุมรถไม่ให้มันไถลไปทางอื่นได้ มือบางตัดสินใจหักพวงมาลัยเบียดจนแทบจะชนเป็นผลให้ฝ่ายตรงข้ามต้องลดความเร็วลงโดยอัตโนมัติ จังหวะนั้นเขาถึงเร่งเครื่องแล้วขึ้นแซงมาอยู่อันดับที่สองพร้อมกับทิ้งช่วงออกห่างทันที ริมฝีปากบางเผยรอยยิ้ม โดยไม่รู้ตัวเลยว่าฉากเบียดเมื่อกี้มันทำให้นัยน์ตาคมที่เฝ้ามองดูอยู่จับสังเกตุได้ทันที

มือหนากำพวงมาลัยแน่น บรรยากาศรอบตัวดูอึมครึมกว่าเดิมหลายเท่าตัว ท่าเมื่อกี้ ฉากเมื่อกี้ ฮิมจำได้ขึ้นใจ มันไม่ใช่แค่คุ้น แต่เหมือน เหมือนมากจนเกินไป

คนดี... เล

ร่างสูงแทบระงับความโกรธไม่อยู่ พื้นที่กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ในใจเอนเอียงไปทันทีว่าคนขับต้องใช่คนที่เขาคิด เหลือทางเดียวที่เขาจะพิสูจน์ และถ้าไม่ใช่เล นี่ก็จะเป็นทางเดียวที่น้องจะไม่ถูกเขาโกรธ

อีกไม่กี่กิโลเมตรจะเป็นทางโค้งก่อนเข้าสู่สนามเพื่อเข้าเส้นชัย ทว่าขายาวกลับตั้งใจผ่อนความเร็วลง จนคนที่กำลังตามหลังถึงกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย เมื่ออยู่ๆ รถของตนก็พุ่งขึ้นมาแทบจะตีคู่กับของอีกฝ่าย

“นี่อย่าบอกนะว่าเหยียบคันเร่งพลาดจริงๆ” เสียงนุ่มพึมพำก่อนจะเผยรอยยิ้มร่าอีกครั้ง ความคาดหวังอันดับหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นทันที เลเบียดเข้ามาอยู่ด้านในโค้งในได้อย่างง่ายดาย จนลืมคิดว่าไปมัน...ง่ายดายเกินไป

เข้าถึงช่วงโค้งร่างสูงตั้งใจให้อีกฝ่ายเบียดเข้ามาอยู่โค้งด้านใน ก่อนจะโดนแซงขึ้นไปอย่างที่คาด ฮิมไม่ได้สนใจอันดับ ร่างสูงยอมตกลงมาเป็นอันดับที่สองเพราะยามที่เขาถูกแซงขึ้นไป นัยน์ตาคมจะได้มองเห็นคนที่ขับอยู่ด้านใน

วูบ

อะไรน่ะ

เลรู้สึกขนลุกวูบไปทีนึง ไม่รู้เขาคิดไปเองหรือเปล่าว่าเมื่อกี้เหมือนมีใครสักคนจ้องเข้ามา

เพียงแค่เสี้ยววินาที แม้ภาพมันจะเลือนลางซ้ำยังเห็นไม่ชัดเพราะทั้งฟิลม์ทั้งหมวกกันน็อคที่ใส่ป้องกันเอาไว้ แต่เหมือนเส้นความไว้ใจที่เขาให้น้องเอาไว้มันถูกตัดจนขาดกระจุย

ทำไมฮิมจะจำคนที่เลี้ยงมากับมือเองไม่ได้

ร่างสูงโกรธจนตัวสั่น นัยน์ตาคมแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็น ขณะเหยียบคันเร่งเต็มลิมิตเพื่อตามคนโกหกไปติดๆ

เสียงเฮลั่นดังขึ้นเมื่อตัวรถเข้าสู่เขตของสนามอีกครั้ง ทว่าร่างสูงสองคนที่กำลังอ่านแฟ้มอยู่ยังด้วยความนิ่งงัน วินหันไปมองก่อนเจ้าตัวเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าใครขับเข้ามาเป็นคนแรก ร่างสูงสบถลั่นพร้อมกับโยนแฟ้มทิ้งก่อนจะวิ่งลงไปโดยมีไทด์ตามไปติดๆ

“มีอะไรวะ” รพถามในขณะที่เกียร์ก้าวเข้ามาหยิบแฟ้มที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมาอ่าน มือหนาสบถลั่นเป็นคนที่ถามก่อนจะโยนแฟ้มให้เพื่อนที่ยังนั่งอยู่บนโซฟาแล้ววิ่งลงไปตาม

เจ้าของเรือนผมสีแดงหยิบแฟ้มขึ้นมาไล่อ่านทุกบรรทัด รพหาความผิดปกติของรายงานนักแข่งไม่เจอกระทั่งบรรทัดทุกท้าย

ของพนัน

มันเป็นรูปของคนที่ตอนนี้น่าจะนอนอยู่คอนโดเพื่อน แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงมาปรากฏเป็นรูปของพนันของเบอร์เจ็ดได้… เลสมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว รพเบิกกว้าง เขาเข้าใจเหตุผลว่าทำไมเพื่อนถึงรีบวิ่งออกไปก่อนจะสบถตามเป็นครั้งที่สาม

“ชิบหายแล้ว”



การได้บางสิ่งมามันยาก แต่การรักษานั้นยากกว่า เลเข้าใจเมื่อตอนที่ตัวเองขึ้นมาเป็นที่หนึ่ง ใบหน้าสวยผุดพรายไปด้วยเหงื่อเมื่อต้องมาผะวงว่ารถคันด้านหลังจะแซงขึ้นมาเมื่อไหร่ เขาต้องคอยหมุนพวงมาลัยซ้ายทีขวาทีเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสแซงขึ้นมา

ขับเก่งเป็นบ้าเลย!

ร่างบางขับมาถึงโค้งสุดท้ายก่อนจะเข้าเส้นชัย ริมฝีปากเล็กเผยรอยยิ้มอีกครั้งเมื่อเข้ามาอยู่ในโค้งในได้ ทว่าในจังหวะที่กำลังเลี้ยว อยู่ดีๆ เขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาเบียดด้านข้าง ก่อนจะมารู้ทีหลังว่าตัวเองตกมาเป็นที่สองหลังจากที่รถหมายเลขสามขับเข้าเส้นชัยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กไม่ได้รู้สึกเสียใจ เลกำลังตกใจ โค้งสุดท้ายเขาแทบไม่ได้ผ่อนความเร็วลงแล้วอีกฝ่ายแซงขึ้นไปได้ยังไง

อะไรน่ะ เมื่อกี้มันอะไร

เอี๊ยดดดดดดดดดด!!

เสียงล้อเสียดสีกับพื้นเกิดขึ้นทันทีเมื่อจู่ๆ รถคันด้านหน้าก็หักพวงมาลัยมาขวางเขาเอาไว้ ใบหน้าสวยภายใต้หมวกกันน็อคแทบจะพุ่งกระแทกกับพวงมาลัยรถเนื่องจากการเหยียบเบรกกะทันหัน เลจิปากไม่พอใจหลังจากได้สติ เขาชักสีหน้าใส่อย่างเอาเรื่อง กระทั่งคนขับเปิดประตูเดินลงมา

ในตอนนั้น เลพึ่งตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายคือเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่ตัวเองรู้สึกคุ้นเคยตั้งแต่ที่เห็นในตอนแรก ร่างสูงในชุดสีดำสนิทปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ขายาวที่กำลังก้าวเข้ามาหา ช่างเหมือนกับใครบางคนที่เขาพึ่งโกหกว่ากำลังจะนอนก่อนจะมาที่นี่

เลสั่นไปทั่งตัว ความรู้สึกที่แล่นอยู่ในอกเหมือนเป็นสัญญาณเตือนอะไรบางอย่าง

เหมือน… ทำไมถึงเหมือนได้ขนาดนี้…

ร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ตัวรถยกมือขึ้นถอดหมวกกันน็อคพร้อมกับทุ่มมันลงกับพื้นจนเกิดเสียงดังปึก! เจ้าของนัยน์ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นหน้าของอีกฝ่าย สิ่งที่เห็นยิ่งเป็นการย้ำเตือนให้ตัวเองได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันไม่ใช่แค่เหมือนแต่เป็นใช่

ทั้งสนามเงียบลงเมื่อรับรู้ได้ถึงเหตุการณ์บางอย่าง จุดสนใจที่ควรจะเป็นเส้นชัยถูกเบี่ยงมาบริเวณที่มีรถสองคันจอดขวางกัน ขณะที่วินและไทด์วิ่งลงมาถึงบริเวณสนาม มันเป็นเวลาเดียวกันที่เสียงทุ้มตะโกนออกมาอย่างเดือดดาลและเป็นเสียงที่ดึงสติของคนบนรถให้กลับมาพบกับความจริงที่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือ… พี่ฮิม



“ลงมา!! ลงมาเดี๋ยวนี้!!!!”











(100%)

ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

เอาตรงๆ มีฮิมเนี่ยแค่ตะคอกใส่เลยังน้อยครั้งมากๆ ไปคิดเองเอาก็แล้วกันว่าเฮียจะโกรธแค่ไหน

แล้วก็เม้นท์เถอะค่ะ อยากอ่าน55555

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 03-08-2017 18:32:02
ฮิมโกรธน้องมากสุดๆๆเลยยยยย
ขออย่างเดียวอย่าปล้ำน้องนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-08-2017 18:51:41
เลคงสนุกและมีความสุขเวลาอยู่ยนอกกรอบ  เพราะงั้นพี่ฮิมก็อย่าขังน้องเลย ปล่อยมันไปเถอะ แต่บอกมันบ้างว่านอกกรอบที่ฮิมขีดไว้มีอะไรซ่อนอยู่ เปิดตาเลให้กว้างๆแล้วปล่อยมือบ้างเถอะฮิม   ชิ!!! เบื่อเลงี่เง่า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 03-08-2017 19:09:06
โอ้ว สมควรโกรธ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 03-08-2017 19:16:26
อูยยยยย มันมาก อ่านแล้วลุ้นตาม นี้น้องจะรอดมั้ย ไม่อยากนึก  :ling3: ตกลงของพนันคือตัวเลเหรอ เรานึกว่าอินซะอีก พี่ฮิมอย่าลงโทษน้องรุนแรงนะ ขอบคุณมากค่ะ  :z2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 03-08-2017 19:52:44
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 03-08-2017 20:15:31
โกรธมากๆเลยนะฮิม แล้วเมินเลไปเลย อยากได้อิสระนักก็ให้ไป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 03-08-2017 20:22:48
น้องเลนี่น่าจะจับตีก้นแรงๆ เอาให้เข็ดไปเลยยิ่งดี แต่เราว่าพี่ฮิมคงจะมีบทลงโทษที่สาสมรอเลไว้อยู่แน่ๆ ส่วนเอ็กซ์นี่ต้องเอาให้หนักเลอุตส่าห์ช่วยแต่ยังจะเอาเลมาเป็นของพนันอีกเราว่าคราวนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแล้วล่ะชั่วจริงๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 03-08-2017 21:29:15
เอาละสิ เราว่าเอ็กซ์โดนเล่นหนักแน่ ส่วนเลก็จะได้รู้จักกับความรู้สึกของการโดน (เพื่อน) หักหลัง และผลของการหักหลังความไว้วางใจ (ของฮิม) คนอื่นไม่รู้ว่าฮิมจะทำใจได้แค่ไหน แต่ก็ดี เลจะได้โตขึ้นอีกนิด รักกันก็ต้องเรียนรู้กันไป เพราะหน้ากากจะเริ่มกระเทาะออกไปจนเห็นตัวจริงของกันและกัน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 03-08-2017 21:41:28
เลโดนหนักแน่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: mamacub ที่ 03-08-2017 22:28:13
มีความเล ของให้โดนเทจะได้สำนึก :o10: :o10:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhankn ที่ 03-08-2017 22:33:58
ลองปล่อยเลไปบ้าง ให้ลองได้ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้นเลก็อาจจะรู้ได้ด้วยตัวเอง ว่าการอยู่นอกกรอบของฮิม มันเป็นแบบไหน โลกที่ไม่มีฮิมคอยปกป้องมันโหดร้ายแค่ไหน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 03-08-2017 22:35:42
ฆ่าเลทิ้งเลยพี่ฮิม .. :ling2: :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-08-2017 23:12:17
พี่ฮิมจัดหนักๆ
ลงโทษเลให้สาสม เพราะ เลน่ามคาน
55555555
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 03-08-2017 23:24:56
น่ารำคาญนายเอก ปล่อยไปเหอะ ดูว่าจะไปได้ซักกี่น้ำ เฮ้ออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 03-08-2017 23:34:10
 :katai1: :katai1: :katai1:
พี่ฮิมคงโกรธหนักมาก

น้องเลก็ดื้อ แต่ให้ได้เรียนรู้บ้างก็ดี
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 04-08-2017 00:14:27
เห้อ! หวังว่าครั้งนี้จะเป็นบทเรียนนะเล 
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 04-08-2017 09:51:18
งงอยู่ว่าทำไมเอ็กทำแบบนี้ มีประโยชน์อะไรอะ แล้วคนได้ของพนันก็ที่1ใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 04-08-2017 10:08:08
ชอบฮิมตรงมีลักษณะอัลฟ่าเมลขั้นเทพ
คนแบบนี้มีความเป็นคิงโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ
ทุกคนที่ได้รู้จัก ได้เจอฮิมก็แทบถวายหัวรับใช้สุดลิ่มโดยไม่รู้ตัว
คริม่าสูงมากกกกกกกกกกก

ถ้าเป็นพ่อฮิม ก็คงไม่ชอบเลอยู่เหมือนกัน
เพราะเลทำให้ฮิมหยุดอยู่แค่นี้
ทั้งที่เวิลด์คลาสก็เปิดอ้ารอรับ แต่พี่ฮิมกลับไม่
เสมือนโลกของฮิมหมุนเพื่อเลคนเดียว
ซึ่งคนที่เห็นศักยภาพในตัวฮิม อย่างพ่อ หรือครอบครัวฮิมคงไม่ชอบใจนัก

แล้วถามว่าในเรื่องชอบใครที่สุด
ต้องเป็น พี่รพพพพพพพพพพพพพพพพ
ความแม่มาเต็ม
กล้ายกบ้านพร้อมที่ดินให้เป็นของขวัญ นี่มัน...รักและสายเปย์ค่อดๆ อ่ะ
รพเป็นแม่เลได้เบย
 :impress2:

ในตอนนี้ พี่รพก็เป็นคนเช็คของพนันเอ็กซ์ด้วย
คงตะหงิดๆ ตั้งแต่แวบแรกแต่ไม่ชัวร์
FC รพ!!!
 :o8:


แอบคิด...ถ้าปูเรื่องว่าลึกๆ พี่รพแอบรักฮิมนี่จะไม่แปลกใจเลย
ถวายใจให้ฮิมแล้วส่งมาถึงเลด้วย
น่ายกย่องสุดๆ สุดยอดความรักในอุดมคติสุโค่ย

นี่ลุ้นว่ารพจะลงไปช่วยห้ามฮิมไม่ให้เปิดหน้าน้องทันมั้ย
เพราะถ้าเลถอดหมวก
ฝูงไฮยีน่าในสนามแข่งได้ก่อวอร์แย่งชิงน้องเลคนสวยแน่นวน
ตูล่ะปวดหัวมาเลย
 :z6:

ดูแล้ว คนแอบชอบฮิมมาตลอดน่าจะพี่วินรึเปล่า
วินอาจยื่นข้อเสนอซัมติงกับเอ็กซ์ แล้วใช้เอ็กว์มาจัดการเลอีกที
ไม่งั้นเอ็กซ์จะจับจุดจนสามารถเข้าถึงเลได้ง่ายและเนียบเนียนขนาดนี้ได้ไง
 :mew2:

อ่านตอนนี้แล้วขึ้นเลย
เงื่อนไขของพนันนี่มันยังไงฟะ!!!!!!
อยากให้เลโดนซะบ้าง
เป็นลูกแกะเพิ่งโผล่ออกมาจากกระดอง ก็ควรเกาะเจ้าของไว้หน่อย
นี่ซ่าจนลืมทุกอย่าง

เกี๊ยกเตือนว่าเอ็กซ์เล่นยาก็แล้ว พูดเปรยๆ คนทำให้แทบตาย อีกคนกลับไม่เห็นค่าก็แล้ว
เลยังผ่านหูซ้ายทะลุหูขวา

พ่อฮิมจับน้องเลตีก้นทีครับ
 :hao7:
ตีบนเตียงนะ
 :hao6:
รออยู่
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: loginmymind ที่ 04-08-2017 10:57:53
อยากอ่านต่อแล้ว มาต่อเร็ววววววววว :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 04-08-2017 15:21:14
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-08-2017 17:10:41
เลโดนหนักแน่!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 04-08-2017 20:10:43
ค้างไปเลยยยย :z3:
เกลียดเอ็กซ์ ขอให้ฮิมจัดการ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 04-08-2017 20:59:14
 ตาย ตายแน่ๆ  :z3: :z3: :z3:
ไม่รู้ว่าฮิมจะจัดการยังไง แต่ท่าคงจะหนักอยู่ ripเลล่วงหน้าเลยแล้วกัน ดื้อด้านดีนัก รอบนี้ทีมพี่ฮิม เชิญคุณลงทัณฑ์​บัญชา o1
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 04-08-2017 21:33:54
 คิดว่ากรอบที่ฮิมกรองและสร้างให้ ทั้งเพื่อนที่เลคิดว่าถูกจ้างเขาหวังดีขนาดไหน แถมอินที่รักตัวเองก็เตือน ยังไม่ฟัง ก็ไม่รู้ว่าจะดื้อไปถึงไหน ก็เด็กมันอยากลองของ ก็เอาซะหน่อย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-08-2017 22:39:07
ตื่นเต้น ลุ้นนนนนนนนนนน
เล น่าโมโหมาก
ออกนอกกรอบฮิม อะไร
ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย
คิดน้อยเรื่องเอ็กซ์ซะถูกเอาไปเป็นของพนัน ก็ไม่รู้  :m16: :m16: :m16:

สมละถ้าจะถูกฮิมโกรธ
ลุกไม่ขึ้นแน่  เอ้อ.....เดินไม่ได้ด้วย  :z3: :z3: :z3:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 05-08-2017 00:23:34
องค์ลงแล้ว :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Mitaro ที่ 05-08-2017 09:05:54
สามคำให้เลเลย สม!! น้ำ!! หน้า!! อยากเรียนรู้โลกภายนอกมันต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป ค่อยๆเจออันตราย แต่นี่มาถึงพุ่งไปร้อยเลย
แล้วจะไปทันใครเค้าได้ไง โดนฮิมเลี้ยงมายิ่งกว่าเด็กประถมซะอีก จัดหนักไปเลยฮิมให้มันรู้ไปเลยว่าเพื่อนที่มันอยากได้นักหนาเอามันมาเป็นของพนัน  :m16:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 05-08-2017 09:15:10
น้องเลไม่น่าทำอย่างนี้เลย     :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ฮิมท่าจะโมโหน่าดู   อย่าใจร้ายกับน้องมากนะ    :serius2: :serius2: :serius2:

เอ็กซ์  นายท่าจะไม่รอดแล้วงานนี้    :sad3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-08-2017 10:59:40
เลเอ้ยเล ท่าทางจะไม่รอด
ปล. อิเอ็กซ์เลวมาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 05-08-2017 16:00:54
ฮืออออ ค้างงงงง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 05-08-2017 16:26:37


 

#23 (30%)

 

ประตูรถถูกกระชากออก ฮิมดึงคนที่นั่งอยู่ด้านในลากออกมาด้านนอกแล้วจับหมวกกันน็อคสีขาวถอดออกก่อนจะขว้างมันทิ้ง นัยน์ตาคมหันกลับมามองฝ่ายตรงข้าม มองเจ้าของใบหน้าสวยที่กำลังแสดงอาการสั่นไหวยามที่ได้เห็นเขา

“มาได้ยังไง” มือหนาเอื้อมไปบีบแขนเรียวทั้งสองข้าง ฮิมเขย่าตัวน้องไปมาอย่างคาดคั้นคำตอบเมื่อเห็นคนถูกถามเม้มปากแน่น “มาได้ยังไง!! พี่ถามว่ามาได้ยังไง!!!”

“พี่ฮิม…”  เลนิ่วหน้าเมื่อมือหนาบีบแขนเขาแรงจนเกินไป “เลเจ็บ”

“ตอบ!” ร่างสูงไม่ผ่อนแรงลง เสียงทุ้มยังคงคาดคั้นคำตอบกับคนที่กำลังนิ่วหน้าเจ็บ น้องตัวสั่นพร่า ริมฝีปากบางเม้มแน่นเมื่อความกลัวกลายเป็นน้ำแข็งเกาะขึ้นจิตใจก่อนมันจะถูกละลายอย่างรวดเร็ว

“แล้วฮิมมาได้ยังไง!” เสียงนุ่มตะวาดกลับจนคนถูกถามสะอึกไปพักหนึ่ง เลหลุบตาลงไม่สบตามองกับอีกฝ่าย “พี่ฮิมโกหกเล”

“เลก็โกหกพี่” ร่างสูงกัดฟันกรอด “จะตอบคำถามดีๆ หรือจะให้พี่หาคำตอบเอง”

“...”

“ได้” ฮิมผลักคนด้านหน้าออกจนน้องแทบล้มถ้าไม่มีมือหนาเอื้อมมาคว้าข้อมือบางเอาไว้อีกครั้ง เสียงหวานร้องเจ็บเมื่อฝ่ามือร้อนนั่นกำแน่นคล้ายจะบีบกระดูกของเขาให้หัก ในขณะที่คนข้างกายดึงเขาไปประจันหน้าให้ทุกคนเห็นก่อนจะคาดคั้นเอาคำตอบกับใครสักคน

“ใครมันให้เลเข้ามา!!” ประโยคแปลกๆ ที่ถูกถามออกไปทำให้ร่างเล็กหันไปมองอีกฝ่ายทันที

“พี่ฮิมหมายความว่ายังไง” แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ฟังเขา ฝ่ามือร้อนบีบข้อมือบางแน่นขึ้นกว่าเดิมเมื่อยังไม่ได้คำตอบ “เลเจ็บ!”

“กูถามว่าใครให้เลเข้ามา!!”

ผลัก!!

สิ้นสุดเสียงทุ้ม คนสามคนก็ถูกผลักออกมาด้านหน้าในสภาพสะบักสะบอม นัยน์ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อพบว่าคนที่ผลักทั้งสามออกมานั้นเป็นเกี๊ยก และหนึ่งในสามคนที่ถูกผลักออกมานั้นมี…

“เอ็กซ์” เสียงนุ่มเผลอเรียกชื่อของหนึ่งในนั้นออกมาอย่างแผ่วเบา แต่ก็ดังพอที่จะทำให้คนข้างกายได้ยิน ร่างสูงรู้สึกเหมือนโดนค้อนขนาดใหญ่ทุบใส่ที่หัว ความโกรธที่แล่นพล่านอยู่ในใจยิ่งปะทุขึ้นมาเป็นลูกใหญ่คล้ายลาวาพุ่ง ฤทธิ์โทสะทำให้มือหนาที่โอบรอบข้อมือบางอยู่กำแรงขึ้นกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว เสียงทุ้มกัดฟันกรอดในขณะที่น้องร้องเจ็บ

“มึงอีกแล้วเหรอ” เขาสะบัดแขนเลทิ้ง ร่างสูงมุ่งตรงดิ่งไปหาคนที่กำลังนั่งนิ่งอยู่บนพื้น มือหนากำหมัดแน่น คนด้านหลังที่สังเกตเห็นจึงร้องห้ามทันที

“พี่ฮิมอย่า!!”

ผลัวะ!

“ไม่!!” เสียงร้องห้ามไม่สามารถหยุดอารมณ์ของอีกฝ่าย นัยน์ตากลมแต่ได้มองภาพตอนที่เพื่อนโดนหมัดหนักชกเข้าที่ปลายคางจนหน้าหัน ริมฝีปากบางสั่นสักพักน้ำสีใสก็ไหลตามมา ขาเรียวรีบวิ่งเข้าไปกอดเอวหนาเอาไว้ ร่างเล็กพยายามดึงตัวฮิมออกมาก่อนที่มือหนาจะปล่อยหมัดเป็นครั้งที่สอง “พี่ฮิมอย่า!! อย่าทำ”

ผลัก!!

ร่างสูงไม่สนใจ มือหนาผลักเลออกจนน้องล้มลงไปไถลกับพื้น ฮิมหันไปกระทืบคนตรงหน้าต่อก่อนจะหยุดชะงักเมื่อรู้สึกได้ว่าขาทั้งสองข้างถูกกอดเอาไว้ คนตัวสูงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะออกคำสั่ง “มาเอาเลออกไป”

“ไม่!! พี่ฮิมอย่า!! อย่าทำ” คำขอร้องทำให้ฮิมยอมดึงตัวน้องขึ้นจากพื้น นัยน์ตาคมจ้องใบหน้าคนที่กำลังร้องไห้ออกมา นิ้วเรียวปาดน้ำตาบนใบหน้าสวยออก ขณะที่แขนเรียวโอบเข้ากอดร่างสูงเอาไว้เพื่อให้อีกฝ่ายใจเย็นลง เลว่าต่อ “เลขอร้อง!! อย่าทำเอ็กซ์นะ ฮือ”

“ได้” เสียงทุ้มตอบรับอย่างว่าง่าย ในขณะที่แขนแกร่งกอดเอวบางตอบกลับแล้วรัดเอาไว้แน่น ฮิมสบตากับลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ไกลก่อนจะออกคำสั่ง “เอาพวกมันให้ตาย”

คนที่ถูกกอดอยู่หันหน้ากลับมามอง เลเบิกตากว้างเมื่อเห็นชายฉกรรจ์นับห้าคนกำลังเดินมาหาเอ็กซ์ เสียงหวานร้องพร้อมทั้งออกแรงดิ้นทันที “ไม่!!!”

แขนแกร่งที่รัดเอวเล็กเอาไว้แน่นทำให้คนดิ้นได้แต่ดิ้นไปมาในอ้อมกอด ร่างสูงไม่ได้สนใจเสียงร้องเหมือนใจจะขาดของเล นัยน์ตาคมมองไปยังร่างสะบักสะบอมที่กำลังถูกรุมกระทืบด้วยความนิ่งงัน แล้วพลันได้สติอีกครั้งเมื่อถูกมือบางฟาดเข้าที่แก้ม

เพี๊ยะ!

ตบแรกทำให้ฮิมได้สติ เขาหันมาสนใจเลที่ยังคงดิ้นอยู่ในอ้อมแขน เสียงทุ้มกดต่ำลง เมื่อความโกรธเกรี้ยวภายในอกเหมือนถูกเติมฟืนให้มันเพิ่มมากขึ้น “เล…”

“ปล่อย! พี่ฮิมปล่อยเล”

“อยู่นิ่งๆ”

“ปล่อยเล!!!”

เพี๊ยะ!


ตบสองทำให้ฮิมได้ตระหนัก ว่าเขาเลี้ยงน้องมาและบ่มเพาะนิสัยให้อีกฝ่ายได้แย่แค่ไหน การตามใจทำให้เลดื้อ และจากที่คิดว่าความดื้อของเลมันควบคุมได้ ทว่าตอนนี้มันมากเกินไปแล้ว นัยน์ตาคมแข็งกร้าวขึ้น ฮิมหันมามองคนในอ้อมกอดอย่างเอาเรื่อง ร่างสูงเอาคืนด้วยการกอดเอวบางแน่นจนน้องร้องไห้มากกว่าเดิม แม้จะรู้สึกเจ็บ ถึงกระนั้นคนตัวเล็กก็ยังคงร้องและดิ้นไปมาในอ้อมแขน เขากัดริมฝีปากจนแทบห่อเลือดเพื่อเตือนตัวเองเมื่อรับรู้ได้ว่าความอดทนกำลังจะสิ้นสุดลง เสียงทุ้มเตือนน้องเป็นครั้งสุดท้าย

“เลอย่าดื้อได้—”

เพี๊ยะ!

ใบหน้าหล่อเหลาสะบัดไปตามแรง ฮิมเลียเลือดที่มุมปาก ตบที่สามทำให้ความอดทนของเขาต่อเลที่มากกว่าคนอื่นหลายเท่าตัวขาดสะบั้นลง ร่างสูงหันกลับมามองคนที่ยังร้องโวยวายด้วยความนิ่งงัน นัยน์ตาคมคู่นั้นไม่เหลือเค้าลางความอบอุ่นอย่างที่เคยมี ฮิมแสยะยิ้มมอง ลิ้นร้อนเลียเลือดที่มุมปากจากการถูกตบถึงสามครั้ง วินที่ยืนมองอยู่เบิกตากว้าง เมื่อเขาเห็นเพื่อนคลายมือหนาข้างหนึ่งออกจากอ้อมกอดออกก่อนจะยกขึ้นสูง และทันทีที่เจ้าของใบหน้าสวยหันมา ฝ่ามือที่ค้างอยู่กลางอากาสก็ตวัดตบเข้าที่แก้มขวาจนใบหน้าสวยสะบัดไปตามแรงเป็นจังหวะเดียวกันที่เสียงร้องดังขึ้น

“มึงอย่า!!”

เพี๊ยะ!


เหมือนเวลาถูกกดหยุดเอาไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างคล้ายถูกแช่แข็งถ้าความเจ็บแสบที่ใบหน้าไม่ย้ำเตือนว่าตอนนี้เลกำลังเผชิญหน้ากับความจริง ร่างเล็กหยุดดิ้นเป็นเวลาเดียวกันที่เสียงร้องไห้หายไป เลไม่ได้หยุดร้องไห้ น้ำตาสีใสยังคงไหลรินอย่างต่อเนื่องแต่เสียงมันไม่ออก คล้ายถูกอะไรบางอย่างสะกัดเอาไว้ไม่ให้ผ่านลำคอออกมา มือบางค่อยๆ เอื้อมไปจับที่แก้มขวา จนสัมผัสได้ถึงเลือดที่กำลังไหลผ่านมุมปากย้อยลงไปตามคางก่อนจะหันหน้ากลับมามองคนที่ยังกอดเขาเอาไว้อยู่ นัยน์ตาคมสีดำสนิทที่ได้มองคล้ายไม่ใช่ของพี่ฮิมอีกต่อไป ประโยคต่อมาที่เสียงทุ้มว่ายิ่งตอกย้ำว่าคนๆ นี้ไม่ใช่…

“หุบปากซะที”

 

“ฮิมมึงใจเย็นๆ ก่อน” ไทด์กับวินวิ่งตามคนที่กำลังดึงข้อมือบางให้เดินตามไปที่รถ วินถือจังหวะนั้นคว้ามืออีกข้างของเลไว้เวลาเดียวกันที่น้องเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาคมมองรอยเลือดที่ยังเปื้อนอยู่ตรงมุมปากบริเวณคาง เลยังคงร้องไห้อยู่แค่ไม่มีเสียงออกมา นัยน์ตากลมโตนั่นบวมฉ่ำไปหมด วินยื้อเอาไว้ในขณะที่ฮิมกำลังดึงไปด้านหน้า เมื่อพบว่าคนตัวเล็กไม่เดินตาม เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงคุกครุ่นไปด้วยโทสะก็หันหน้ามาอีกครั้ง ฮิมหลุบตาลงมองมืออีกข้างของเลที่ถูกเพื่อนเขาจับเอาไว้ ร่างสูงมองข้ามเมื่อเห็นข้อมือบางนั้นแดงเถือกจากการถูกบีบแน่น เสียงทุ้มหันไปออกคำสั่งกับเพื่อน

“ปล่อย”

“มึงนั่นแหละที่ต้องปล่อย” วินสวนกลับ เขากำแขนเลแน่นอีกครั้งเมื่อฝ่ายทางนั้นออกแรงดึงจนคนที่ถูกยื้อเอาไว้ทั้งสองข้างแทบจะล้มลงไปกับพื้น สองร่างสูงพลัดกันดึงแขนเรียวไปมาจนคนที่ถูกแย่งเริ่มส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้งเนื่องจากทนความเจ็บไม่ไหว ในที่สุดคนที่ออกแรงดึงเพื่อให้เลเดินตามตัวเองไปก็เป็นฝ่ายสะบัดแขนเล็กทิ้งแล้วเดินตรงดิ่งไปหาเพื่อน มือหนาผลักเจ้าของรอยสักรูปแมงป่องให้ปล่อยมือที่กำลังกำแขนบางออก ก่อนจะกำหมัดแน่นขึ้นแล้วชกใส่ที่หน้าของอีกฝ่ายจนคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวล้มลงไปกับพื้น

“เชี่ย…” ไทด์สบถ ร่างหนารีบวิ่งไปพยุงคนที่นั่งอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้นมา ในขณะที่ฮิมกำลังบังคับให้เลเข้าไปนั่งในรถ มือหนาปิดประตูเสียงดังปังแล้วจัดการล็อคเอาไว้ก่อนจะเดินไปทางฝั่งคนขับ “ฮิมมึงจะทำอะไร”

เสียงทุ้มตะโกนถามจนร่างสูงที่กำลังเปิดประตูฝั่งคนขับหันมามอง ก่อนพูดประโยคที่ทำให้คนฟังเสียวสันหลังวาบ

“อย่าเสือก”





(30%)

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

ตอนที่สปอยในทวิตว่า เพี๊ยะ! 'หุบปากสักที' มีแต่คนบอกว่าพี่ฮิมตบเอ็กซ์ไม่ใช่เล เปล่าจ้า! ตบเลนี่แหละจ้า

ตบจนเลือดไหลออกมาเองเลยอะ แรงแค่ไหนไปคิดดู ที่ตบเพราะฮิมก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน

แบบกำลังโกรธจนแทบจะฉุดตัวเองไม่อยู่แล้ว ยังต้องมาโดนตบสามที ใครทนได้ก็แล้วไปแต่ฮิมทนไม่ได้5555

เพราะเคยเขียนไปแล้วว่าฮิมรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนดี แค่พยายามเป็นคนดีที่สุดสำหรับเล

แต่น้องเล่นทำร้ายร่างกายก่อนงี้คนพี่ก็ไม่ทนล่ะเนาะ ส่วนพี่วิน แค่น้องที่รักที่สุดตอนนี้ยังเอาไม่อยู่

นี่เป็นแค่เพื่อนจะเหลือเหรอจ้ะ5555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030817#22(100%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 05-08-2017 16:32:42
เอาจริงๆฮิมก็ผิดที่เลี้ยวเลแบบนี้  ส่วนเลน่าตะเป็นผู้เป็นคนบ้างหลังจากนี้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-08-2017 16:44:58
ตบกันไปตบกันมา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 05-08-2017 17:15:12
เออโดนสักที!
อยากรู้ว่าจะได้รู้ความจริงไหมว่าตัวเองเป็นของพนัน

คนเรานะน้องเล ดื้อได้ แต่ต้องไม่โง่
ถ้าโง่แล้วยังดื้อด้านแบบนี้ก็โดนกันบ้าง

ขอโทษน้องเลแต่พี่ไม่สงสารเลยว่ะ
ใจจริงอยากให้ฮิมปล่อยเลไปเลยด้วยซ้ำ
คนที่ยืนข้างฮิมควรมีสมองมากกว่านี้
อย่างน้อยก็ต้องไม่ทำให้เหนื่อยใจซ้ำซาก

คราวนี้จะยังไงล่ะ
จะจบความสัมพันธ์กับพี่ฮิมเลยไหม
ถ้าจบแล้วจะอยู่รอดจากมือคนชั่วรึป่าว

ส่วนเอ็กซ์ หายไปจากชีวิตสักที รำคาญ

ขอโทษที่จัดเต็มนะคะ แต่โมโหแทนฮิมมาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 05-08-2017 17:26:28
สงสารเล แต่เลก็สมควรได้รับบทลงโทษ
แต่อย่าทำรุนแรงกับน้องมากแล้วกัน
จากเลที่รักพี่ฮิม จะกลายเป็นหวาดกลัวแทน

ส่วนเอ็กซ์ ที่จับเลเป็นของพนันน่าจะโดนย่ำเละแน่
ก็มันสมควรมั้ยล่ะ ทำกับเพื่อนเหมือนเป็นสิ่งของ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 05-08-2017 17:28:09
ฮิมผิดที่เลี้ยงเลแบบตามใจมากไป  แต่เลก็สมควรโดนตบ  เรียกว่าพ่อว่าพี่ เลี้ยงมาจนโตไม่สำนึก    บุญคุณ  ควรตัดหางปล่อยวัด
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 05-08-2017 17:29:40
จะเป็นยังไงต่อไป
ไม่ง่ายแล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 05-08-2017 17:47:04
ก็ตามใจจนนิสัยเป็นอย่างนี้อ่ะนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 05-08-2017 18:13:43
ขอพูดตรงๆ ถ้าจบด้วยการลากไปข่มขืน จะเป็นอะไรที่ซ้ำซากมากๆ เพราะเราอ่านมาหลายเรื่องมักเป็นอย่างนี้ สุดท้ายพระเอกก็ยอม อยากเห็นสักเรื่องที่ลากไปทิ้ง ให้ลองใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ จะได้รู้ว่าไม่มีทุ่งลาเวนเดอร์ให้วิ่งโง่ๆ ดื้อได้แต่ไม่ใช่มากเกินจนน่ากระทืบดิ //อินจัด ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-08-2017 18:19:31
สุดท้ายที่ลืมไม่ได้คือต้องให้เลได้รู้ความเลวชาติของเอ็กซ์ด้วยว่ามันเอาตัวเลมาเป็นของพนัน
และต้องทำให้เลรู้ว่าการเป็นของพนันนั้นมันแย่แค่ไหน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 05-08-2017 18:32:34
สมควร นางกล้าดียังไงมาตบพี่ฮิมยะ!! แต่ตอนต่อไปไม่เอาแบบลากไปข่มขืนแล้วง้องอนนะ มันเดิมๆ นักเขียนช่วยครีเอทอะไรที่แปลกใหม่เร้าใจให้เราหน่อยเถอะนะ พลีส
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 05-08-2017 18:34:30
เอากาวต่อ เอาตะกั่วมาบัดกรีได้ไหม เส้นความไว้ใจที่ขาดไป เรากำลังจะน้ำตาร่วงต่อไปใช่ไหม ToT
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 05-08-2017 19:30:11
 o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: guguyz ที่ 05-08-2017 19:36:17
ตอนแรกผมก็สงสารเลนะ แต่ก็สมควรละ
ใช้ไม้แข็งบ้างก็ดี บางทีไม้อ่อนก็ทำเลเสียคน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-08-2017 19:44:00
เล ยังไมรู้ตัวว่าผิด  :katai1: :katai1: :katai1:
เล เข้าใจว่าตัวเองโกหก แต่ฮิม ก็โกหกเหมือนกัน
ซึ่งสิ่งที่โกหก มันตามมาต่างกัน เหมือนฟ้ากับเหว

แล้วพอฮิมรู้ตัวว่า เอ็กซ์พาเลเข้ามา
สั่งลงโทษเอ็กซ์ถึงตาย
เล ล้ำอีกแล้วห้ามฮิม
แถมยังตบหน้าฮิม ไม่ใช่ครั้งเดียว สามครั้ง !!!!!
นี่ถ้าเป็นคนอื่น ตามคามือคาตีนฮิมไปแล้ว

เล จะสำนึกตอนไหนนะว่าตัวเองทำอะไรไป และดื้อจนไม่น่ารักแล้ว
ฮิม ผิดที่เลี้ยงมาแบบตามใจเลมากไป แต่เล ผิดมากกว่านักนะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 05-08-2017 20:50:20
สงสารน้องเล แต่น้องก็เอาแต่ใจเกินไปจริงๆนั่นแหละ ต้องรู้บ้างว่าโลกนี้มันโหดร้ายนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-08-2017 21:35:48
เลผิดนะ ก็สมควรโดนอ่ะ
งี่เง่า น่ามคาน สร้างแต่ปัญหา
ฮิมก็เลี้ยงมาแบบนี้จะให้ทำไง
เออ ปล่อยมือกันไม่ได้นะ
ควรคุยกันดีๆ เปิดใจคุยกันไปเลย
เลสมองมีก็ใช้บ้างนะ เรียนจนป.ตรีละ
ไม่ควรโง่กับบางเรื่องนะ เครียดแทนนน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 05-08-2017 21:43:29
ปล่อยให้เลมีชีวิตเป็นของตัวเอง ต่างคนต่างไปเถอะค่ะ ก็ผิดทั้งคู่ ไม่เข้าข้างใครทั้งนั้น เลจะได้โตขึ้น ส่วนฮิมก็จะได้ไม่ต้องมีเลเป็นภาระ แยกย้ายๆ อีก 10 ปี ข้างหน้าค่อยมาเจอกันใหม่ ต่างขาดกันไป จะได้รู้ว่าอยู่ได้ไหม (มโนชนะเลิศค่ะ !!!)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 05-08-2017 21:46:22
แรกๆเหนใจเลนะ หลังๆรำคาญนิสัย นอกจากหน้าตาแล้วเหมือนเลจะไม่ค่อยมีไรดีเลย ดื้อด้าน โง่ น่ารำคาญญญ อย่างแรง ถ้านางอยากออกนอกกรอบควรให้นางออกไปใช้ชีวิตเอง ชีวิตที่ไม่มีใครปกป้องอะไรแบบนั้น จะได้สมใจ!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 05-08-2017 21:58:22
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 05-08-2017 22:17:08
 :เฮ้อ: บางครั้งดูเหมือนเลจะใสซื่อเรื่องเพื่อน แต่ในบางครั้งก็ดูเหมือนจะรู้ทันจนดื้อแพ่ง โดนกำราบสักทีน่าจะพอรู้ตัวอาจจะไม่หายดื้อแต่ก็ดื้อน้อยลง 
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: Mitaro ที่ 06-08-2017 00:19:28
อวดเก่ง ไม่ได้สำเหนียกตัวเองเลยว่าโง่ขนาดไหน เลวมากที่ตบหน้าฮิม  :angry2: เรียกพ่อๆๆๆๆ แต่เวลาเอาแต่ใจนี่ไม่สำนึกบุญคุณคนที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กเลย มีดีแค่หน้าตาจริงๆ อย่างอื่นห่วยหมด ชักจะเกลียดเลนิดๆและ ส่วนตอนเลโดนฮิมตบบอกเลยว่าสมควร (อินอย่างแรงงงงง 55)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 06-08-2017 01:38:08
โอ้ยยยปวดหัวกับเลเด้อ :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 06-08-2017 02:37:01
เอาจริงๆเลควรจะโดนหนักกว่านี้อีก รำคาญเล ยังโตไม่พอที่จะออกสู่โลกกว้างหรอก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 06-08-2017 08:59:20
สมควรโดน...เลดื้อแบบไม่ยอมรับความจริงอะไรจนคุมยากถ้าพี่ฮิมไม่ใช้ไม้แข็งต้องคุมไม่ได้แน่ๆในอนาคต  เพราะงั้นตอนนี้ขออย่างเดียวอย่าใช้วิธีทารุรทสงเพศแต่ให้ทารุรทางจิตใจเอาให้หนัก  ตัดหางปล่อยวัดกันไปเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: hamony ที่ 06-08-2017 10:09:45
น่าให้ฮิมเล่นสงครามเย็นบาง ทำเป็นไม่ต้องสนใจบ้าง น่าจะดี เพราะที่ทำมาสนใจมากเกินไป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: jakkee ที่ 06-08-2017 12:03:11
ตอนต่อไปอยากให้ เลนางกลายเป็นคนละคน แบบไม่สนใครไม่สนโลก ไม่ช่างพูดถามคำตอบคำ เหมือนคนเก็บกด
อยากจะรู้ว่าพวกพี่ๆจะทำยังไงกับเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 06-08-2017 13:40:52
มันต้องมีสักคนที่เปลี่ยนไปอะหลังจากนี้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: AI1597 ที่ 06-08-2017 17:54:41
บางที่เลสมควรโดนแล่ว งี่เง่าเกินไป  :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 09-08-2017 14:55:56
ไม่รู้จะสงสารเลยังไง ไม่สงสารล่ะกัน จากนี้ถึงพี่ฮิมจะร้ายยังไงก็จะไม่ว่าเลย เต็มที่ได้เลย  :z6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 10-08-2017 12:35:03
เลเจอฮิมในร่างนี้บ้างกก็ดี จะได้ลดความไม่ฟังใครของตัวเองลงบ้าง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 050817#23(30%) p.29
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 14-08-2017 16:42:26
ชะตากรรมน้องเลจะเป็นยังไงหนอ พี่ฮิม ทำใจเย็นๆตัดสินด้วยสตินะ อย่าตัดสินจากอารมณ์ ถึงน้องจะไม่ฟังแต่ช่วยถนอมน้องหน่อยนะ น้องไม่เคยต้องมาเจอกับการถูกลงโทษแบบนี้ ยังไงก็เอาใจช่วยพี่ฮิมนะ เพราะครั้งนี้เลผิดจริงๆ
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.30
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 17-08-2017 23:49:14
คอนโด

ผลัก!!

ร่างเล็กถูกเหวี่ยงเข้าคอนโดแรงจนคนถูกเหวี่ยงล้มลงไปนั่งกับพื้น ฮิมเดินตาม มือหนาปิดประตูห้องเสียงดังปังก่อนจะกระชากเส้นผมของคนตรงหน้าให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมา จนเจ้าของกลุ่มผมสีดำสนิทต้องเดินตามพร้อมกับร้องเจ็บ

เลถูกเหวี่ยงเข้าห้องนอนเป็นครั้งที่สอง มือหนาปล่อยเส้นผมนุ่มที่ขยุ้มอยู่ออกแล้วผลักเจ้าของเส้นผมนั่นล้มลงบนเตียงนอนแทน 

“เลเจ็บ ฮือ เจ็บ”

คนถูกกระทำได้แต่ร้องไห้ นัยน์ตาคมสั่นระริกมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังคร่อมทับ เวลานั้นเองที่ได้สังเกตใบหน้าของอีกฝ่าย มันแดงนิดหน่อยบวกกับคาบเลือดที่มุมปากซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากตบทั้งสามครั้งของเขาเอง

“กูตามใจมึงเกินไปเหรอ” เสียงทุ้มเหมือนพึมพำกับตัวเอง แต่คนใต้ร่างกลับได้ยิน สรรพนามที่อีกฝ่ายไม่เคยใช้พูดกับเขาทำให้คนฟังเบิกตากว้าง ในขณะที่ฮิมกัดฟันกรอด มือหนาเอื้อมมาบีบที่ต้นแขนทั้งสองข้างแน่นก่อนจะเขย่าเลพร้อมทั้งตะคอกใส่แรงๆ “ทำไมมึงถึงได้ดื้อขนาดนี้!!”

“ฮึก ฮือ” ร่างบางได้แต่ร้องไห้มากกว่าเดิม ขณะที่มือหนาปล่อยต้นแขนที่เริ่มแดงของเขาออก ฝ่ามือร้อนข้างหนึ่งเอื้อมมาลูบไล้ใบหน้าสวยเอาไว้ เลเกือบคิดว่ามันคือความอ่อนโยนถ้าจังหวะต่อมาพี่ฮิมไม่ได้ใช้นิ้วโป้งกดลงไปที่แผลตรงมุมปากจนความเจ็บแล่นปลาบขึ้นสมอง “เลเจ็บ พี่จ๋า เลเจ็บ”

“เจ็บเหรอ” อีกคนทวนคำ หนำซ้ำยังออกแรงกดมากกว่าเดิม “งั้นตอนตบกูไปตั้งสามทีคิดบ้างหรือเปล่าว่ามันจะเจ็บไหม”

“ฮือ”

“ตอบ!!”

“เลขอโทษ” น้องว่าเสียงแผ่ว จังหวะเดียวกันที่น้ำตาสีใสไหลกระทบมือหนา “เลเจ็บ”

ฮิมยอมปล่อยนิ้วที่กดอยู่ออกอย่างช้าๆ นัยน์ตาคมมองคนใต้ร่างนิ่งๆ จังหวะที่น้ำตาของเลโดนมือเมื่อสักครู่เหมือนทำให้คนที่กำลังหลงอยู่ในโทสะได้สติขึ้นมาสักหน่อย ทว่าความโกรธเกรี้ยวก็ยังไม่ได้หายไป มือหนากำหมัดแน่นอีกครั้ง เล็บแหลมจิกลงเนื้อตัวเองเพื่อระงับอารมณ์ นัยน์ตาคมปิดแน่นขณะพูดกับคนใต้ร่างไปว่า

“ขอโทษ” ฮิมย้ำอีกครั้ง “ขอโทษกับทุกสิ่งที่เลทำในวันนี้ แล้วเลจะไม่เป็นอะไร”

นัยน์ตากลมโตหันกลับมามองใบหน้าของอีกฝ่ายแม้มันจะพร่ามัวไปด้วยน้ำตา น้องเงียบไปสักพักเหมือนกำลังให้เวลากับตัวเอง

“เลขอโทษ” ในที่สุดก็ยอมพูดออกมา ร่างสูงกัดริมฝีปากจนแทบห่อเลือดก่อนจะลุกออกจากกายเล็กไป ถ้าอีกฝ่ายไม่พูดขึ้นมาต่อว่า “เลขอโทษที่เลตบพี่ฮิม แต่เลไม่ขอโทษที่เลไปแข่งรถให้เพื่อน”

ฮิมให้ข้อเสนอที่แสนวิเศษที่แค่พูดคำเดียวออกมาทุกๆ อย่างก็จะได้รับการให้อภัยแต่เหมือนจะไม่เป็นที่สนใจสำหรับคนฟัง

เพราะคำสั่งของพี่ฮิมที่สั่งให้คนกระทืบเพื่อนของเขามันยังติดอยู่ในหัว ความเจ็บแสบบริเวณแก้มมันก็ยังอยู่ คาบเลือดที่เป็นผลพ่วงจากการกระทำของอีกฝ่ายก็ยังคงติดอยู่ที่มุมปาก และทันทีที่เสียงทุ้มบอกว่าให้ขอโทษกับสิ่งที่เขาทำ ถ้าไม่นับที่เขาพลาดพลั้งตบอีกฝ่ายไป คำถามหนึ่งที่เข้ามาในหัวทันทีก็คือ ‘เขาผิดตรงไหน ?’

เลแค่อยากช่วยเพื่อน หรือเรื่องนี้ทำให้เขาเป็นคนผิด ถ้างั้นพี่ฮิมที่ทั้งโกหก ปกปิดและทำร้ายเพื่อนเขาจะไม่เป็นคนผิดมากกว่าหรือไง คนตัวเล็กเม้มปากแน่น เลเสียใจที่ร่างสูงโกหกทั้งๆ เรื่องคลับก็ทีหนึ่งแล้ว และฮิมตกลงว่ามีอะไรก็จะบอก ดังนั้นถ้าจะให้เขาพูดขอโทษ เลอยากให้อีกฝ่ายเป็นคนขอโทษเขาก่อน “เลแค่อยากให้ฮิมขะ--”

ประโยคที่ต้องการจะพูดมันก็ถูกสะกัดเอาไว้ในลำคอเมื่อเห็นนัยน์ตาคมสีดำสนิทแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างน่ากลัว มันไม่ใช่แค่น่ากลัวมันเหมือนดูดวิญญาณคนมอง ยิ่งพี่ฮิมหลุบตามองต่ำ ยิ่งทำให้คนที่สบประสานนั้นรู้สึกว่าตัวเองโดนเยาะเย้ยผ่านทางสายตา ริมฝีปากบางแสยะยิ้มเสียงทุ้มประนามให้กับเขา

“โง่” ในตอนนั้นเอง เลถึงได้รู้สึกว่าคนตรงหน้าไม่ใช่พี่ฮิมที่เขารู้จักจริงๆ แล้ว



triger warning :
เนื้อหาต่อไปนี้มี rape (การข่มขืน) และมีการใช้ความรุนแรง
ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านเป็นอย่างสูง หรือแนะนำให้ข้ามค่ะ[/color]


บรรยากาศผิดปกติที่แผ่ออกมาจากอีกฝ่ายทำให้ร่างเล็กรีบขยับกายหนีตามสัญชาติญาณโดยอัตโนมัติ ปฏิกิริยาที่ทำให้คนที่มองต้องหัวเราะในลำคอ พี่ฮิมแค่เอื้อมมือมาดึงข้อมือบางทั้งสองข้างโดยที่เจ้าตัวไม่ทันระวังเพียงเท่านั้นร่างบางก็ล้มตัวลงนอนราบดังเดิม กายหนาคร่อมทับ ฝ่ามือร้อนทั้งสองข้างลูบไล้ไปตามเอวบางก่อนจะจัดการรวบมือเรียวทั้งสองข้างขึ้น ร่างสูงมองรอบกายเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรที่ยาวประมาณหนึ่งและบางพอจะใช้มัดได้ นัยน์ตาคมจึงเหล่มองไปที่โคมไฟแล้วใช้มือหนาข้างที่เหลือไปตวัดโคมไฟที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงจนมันตกแตกลงพื้น ฮิมกระชากข้อมือบางที่รวบอยู่เป็นผลให้คนต้องลุกขึ้นตาม ร่างสูงเดินไปทางเศษซากของโคมไปที่แตกละเอียด จุดมุ่งหมายของร่างสูงของสายปลั๊กของมัน ฮิมใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบซากเศษของโคมที่ยังติดกับสายปลั๊กเอาไว้ก่อนจะออกแรงดึงจนมันแยกออกจากกัน มือหนาหยิบสายปลั๊กส่วนนั้นขึ้นมามัดข้อมือบางทั้งสองข้างรวบเข้าด้วยกันก่อนจะผลักให้อีกฝ่ายล้มตัวนอนลงบนเตียงดังเดิม

นัยน์ตาคมสบตากับคนที่กำลังมองเขาอย่างหวาดๆ ก่อนจะเค้นหัวเราะ

“กลัวพี่เหรอ” เขาดึงเอวบางเข้ามาใกล้ เลื่อนมือไปลูบไล้ใบหน้าสวยอย่างช้าๆ  “ไม่ต้องกลัวนะ”

“ฮือ” คำปลอบไม่ได้ผลเมื่อเสียงสะอื้นเริ่มดังขึ้นอีกครั้งน  ปกติแล้วน้ำตาของเลคือสิ่งที่ฮิมไม่ชอบเพียงแต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกชอบมันแปลกๆ  คนตัวสูงยกยิ้มขณะเกลี่ยน้ำตาอุ่นออกจากใบหน้าสวยอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่คนร้องเหมือนปลาใกล้ตายเนื่องจากขาดน้ำ เลรู้สึกเหมือนใจจะขาด ยิ่งตอนที่คนตรงหน้าหุบรอยยิ้มลงแล้วบอก

“ตบไปตั้งสามครั้งยังต้องกลัวอะไรอีก”

พรึบ!

“อ๊ะ!” ร่างเล็กถึงกับสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ก็โดนพลิกคว่ำ สัมผัสบางอย่างบริเวณด้านหลังทำให้เลขนลุกวาบ ดวงตากลมโตพยายามหันไปมองแต่แล้วมือหนาก็เอื้อมเข้ามากดคอเขาลงกับหมอนไปก่อนที่จะหัน เสียงรูดซิบชุดนักแข่งที่อยู่ด้านหลังออกทำให้คนได้ยินเบิกตากว้าง เลพยายามหันไปมองแต่ด้วยแรงกดที่คอจนแล้วจนรอดเขาก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเข้ากับหมอน เสียงนุ่มเลือกที่จะตะโกนลั่น “พี่ฮิมจะทำอะไร!!”

“…” ร่างสูงไม่ตอบกระทั่งซิบถูกรูดจนสุด ฮิมเลิกกดแรงเข้าที่คอแต่เลือกที่จะดึงมันขึ้น เป็นผลให้แผ่นหลังบางแนบเข้ากับอกกว้าง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาใช้มือข้างหนึ่งล็อคคอน้องเอาไว้ ขณะอีกข้างเอื้อมไปกระชากชุดออก ทันใดนั้นคนที่ยังหวาดหวั่นกับการกระทำของอีกฝ่ายจึงได้เข้าใจสถานการณ์

“พี่ฮิมอย่า!!”

เลช้าเกินไป เสียงหวานปฏิเสธก็ตอนที่ส่วนบนถูกถอดออกจนหมด ยอดดอกสีสวยปรากฏต่อสายตาคนมอง ฮิมดันร่างเล็กให้นอนแนบศีรษะเข้าที่หมอนอีกครั้ง ในขณะที่บั้นท้ายถูกยกขึ้นเพื่อให้คนที่ซ้อนอยู่ทางด้านหลังดึงชุดในส่วนที่เหลือจนมันหลุดออกทั้งหมด “อย่า! อย่า!”

กายขาวถูกพลิกคว่ำอีกครั้ง เลกลับไปนอนราบอยู่ใต้ร่างแกร่ง ในขณะที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายอมผละออกแล้วใช้เวลาไม่ถึงนาทีในการถอดชุดของตัวเองออกจนร่างกายเปล่าเปลือย จังหวะนั้นเองที่คนร้องไห้รีบขยับกายออกห่าง จนแผ่นหลังบางแนบติดที่หัวเตียงอีกครั้ง เลประสานสายตาเข้ากับร่างสูงที่ยืนอยู่ปลายเตียง นัยน์ตาคมสีดำสนิทที่จ้องกลับมาทำให้ตัวของเขาสั่นไปหมด ความกลัวครอบครองทุกพื้นที่ของหัวใจ เมื่อภาพพี่ชายแสนดีที่เคยมีในตอนนี้แหลกละเอียด ทุกการกระทำของอีกฝ่ายในวันนี้ฝังติดอยู่ในหัว แม้กระทั่งนัยน์ตาคมที่มองเขาอยู่ตอนนี้ในตอนนี้ก็เปรียบเสมือนเข็มขนาดเล็ก ทุกที่ที่พี่ฮิมจ้องมองราวกับว่ามีเข็มพุ่งเข้ามาแทงเขาที่ส่วนนั้น

มันเหมือนกับคนตรงหน้าไม่ใช่พี่ฮิมที่เขารู้จัก คำพูดของพี่เกียร์พุ่งเข้ามาในหัว

‘ถ้ามึงไม่กลัวพ่อมึง มึงก็ไม่ควรกลัวกูนะ’

สิ่งที่พี่เกียร์พูดมันเป็นความจริง แย่กว่าตรงที่เลรู้สึกว่าในตอนนี้ พี่เกียร์ที่เขากลัวหนักหนายังน่ากลัวน้อยกว่าผู้ชายที่เลี้ยงดูเขามาสิบเท่า ทั้งความดิบเถื่อน ความดุดัน แม้กระทั่งบรรยากาศมันต่างกันลิบลับ ขณะที่พี่เกียร์ให้ความรู้สึกน่ากลัวแบบเปิดเผยออกมา คนตรงหน้าเขากลับไม่ได้มีบรรยากาศแบบนั้น ทว่าบางอย่างที่อยู่ภายในมันบอกว่าผู้ชายคนนี้อันตรายไม่ควรเข้าใกล้

บางอย่างที่ทำให้รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ว่ามันกำลังทิ่มแทงตัวเขาตลอดเวลา ราวกับ… นักฆ่า

ทุกย่างก้าวที่เจ้าของขายาวเดินเข้ามาหายิ่งทำให้คนตัวเล็กแสดงท่าทางต่อต้านด้วยการเตะขาไปมาเนื่องจากมือทั้งสองข้างถูกมัด เสียงหวานกรีดร้องมากกว่าเดิมยามที่ร่างสูงค่อยๆ เดินมาข้างเตียง “อย่า! อย่า! ยะ--”

หมับ!!

มือหนาเอื้อมไปดึงกลุ่มผมนุ่มอย่างแรงจนเจ้าของร้องเจ็บ

“โอ๊ย!! เลเจ็บ ฮือเลเจ็บ”

“เจ็บแล้วดื้อทำไม” ฮิมแสร้งถามแต่มือหนากลับออกแรงขยุ้มกลุ่มผมดำมากกว่าเดิม คนฟังได้แต่สะอื้นตอบ

“เลแค่อยากช่วยเพื่อน”

“ใจดีจังนะ ช่วยพี่บ้างสิ” คำตอบที่ทำให้คนฟังแสยะยิ้ม ร่างสูงก้าวขึ้นเตียง มือหนาข้างที่เหลือเอื้อมไปเชยคางเรียวขึ้นแล้วบังคับให้นัยน์ตากลมมองมาที่ตนเอง ทีแรกเลนึกว่าอีกฝ่ายใจอ่อนเมื่อใบหน้าหล่อเหลานั่นมีประกายความอบอุ่นเผยออกมา ทว่าไม่ถึงนาทีมันก็ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเฉียบนิ่งซึ่งมาพร้อมความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณคางและศีรษะ เมื่อมือหนาที่เชยคางเลอยู่ จู่ๆ ก็ออกแรงบีบให้อ้าปาก มือที่อยู่ด้านหลังกดศีรษะให้เข้ามาใกล้บริเวณสะโพกหนาก่อนบางอย่างจะถูกยัดเข้าไปในโพรงปากเล็ก ขนาดของมันยาวจนลึกลงไปในลำคอ เลเงยหน้ามองเจ้าของดวงตาคมอีกครั้ง ทันใดนั้นน้ำตาสีใสไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตกเป็นเวลาเดียวกันที่เสียงทุ้มออกคำสั่ง “อม”

เลพูดไม่ได้เมื่อแท่งเนื้อที่คับแน่นอยู่ในปากลึกลงไปถึงลำคอ ร่างเล็กเลยได้แต่น้ำตาไหลเงียบๆ  และเมื่อเขาไม่ยอมขยับ พี่ฮิมที่ยังคงขย้ำเส้นผมอยู่จึงออกแรงดึงศีรษะบางเข้าออกแทน ทุกจังหวะตรึงไปด้วยความอึดอัด ร่างเล็กได้ยินเสียงครางทุ้มๆ จากคนที่บังคับศีรษะ ในขณะที่คนรองรับแทบจะหายใจไม่ออกเมื่อแท่งเนื้อร้อนภายในมีท่าทีว่าจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หัวของเลสั่นคลอนไปมาเมื่อร่างหนาเริ่มเร่งจังหวะ เสียงครางทุ้มเริ่มดังติดต่อกันพอๆ กับน้ำตาที่ไหลถี่ออกมาเรื่อยๆ ในที่สุดคนตัวสูงก็ยอมถอนมันออกไป เลไอแค่กๆ ร่างเล็กทำได้แค่สูดลมหายใจเข้าเพียงครู่เดียวเท่านั้นร่างกายก็ถูกผลักให้นอนราบลงกับเตียง ต่อด้วยขาเรียวที่ถูกจับแยกออกจากกันอย่างรวดเรียว ฮิมไม่ให้โอกาสให้อีกฝ่ายได้พัก ร่างหนาจับลำคอจ่อเข้ากับช่องทางสีสวยที่ยังไม่ได้เบิกก่อนจะดันลำตัวเข้าไป ทันทีที่ส่วนปลายแทรกเข้ามาด้านในอาการเจ็บแสบที่ช่องทางก็ประดังเข้าใส่คนรองรับจนเกิดปฏิกิริยาต่อต้านรุนแรง

“ยะ--! อื้อ! ฮืออ” เลร้องไห้จนสั่น และก่อนที่เสียงหวานนั้นจะโวยวาย ร่างหนาก็ใช้นิ้วเรียวล้วงเข้าไปในโพรงปากเล็ก ฮิมปล่อยให้ฟันคมกัดลงที่นิ้วของตนเองในตอนที่กำลังแสรกกายเข้าไปในช่องทางที่ฝืดเคืองและขยายกว้างขึ้นเพื่อรองรับแท่งเนื้อขนาดใหญ่จนมันฉีกขาด หยาดเลือดสีแดงสดหยดลงบนเตียงทันทีที่กายหนาฟันกระแทกเข้าไปในทีเดียว ช่องทางคับแคบและบีบรัดเกินกว่าที่จินตนาการทำให้ฮิมเลียริมฝีปาก ส่วนล่างที่ถูกบีบแน่นทำให้ร่างสูงเกิดอารมณ์ใคร่ในกามมากขึ้นกว่าเดิม นัยน์ตาคมหลุบมองคนใต้ร่าง เขาไม่สนน้ำตาของอีกฝ่าย มือหนาอีกฝ่ายเอื้อมไปปาดน้ำตาให้เลแบบลวกๆ ก่อนจะเริ่มจังหวะด้วยความเฝือดเคือง สะโพกหนาค่อยๆ กระแทกเข้าไปในช่องทางเล็กทีละนิด ทีละนิด และยิ่งเร่งจังหวะมากเท่าไหร่ความใคร่ก็ยิ่งมากขึ้นเท่าขึ้น ช่องทางเล็กตอบรับด้วยการตอดรัดรุนแรงและบีบแน่นจนคนที่กำลังกระแทกกายเข้าไปต้องยิ้มออกมาอย่างพึ่งพอใจ  ความใคร่ทำให้ร่างสูงไม่สนใจว่าคนรองรับจะเป็นยังไง และเมื่อไร้ซึ่งน้ำหล่อลื่น สิ่งที่ออกมาจากรูเล็กก็คือเลือดสีแดงฉาดที่เกิดจากการฉีกขาดของช่องทาง ในขณะที่ฮิมเสียวกระสันเลกลับรู้สึกในทางตรงกันข้าม ทุกแรงกระแทกกระทั้นเต็มไปด้วยความเจ็บแสบ ครั้นจะต่อต้านมือทั้งสองข้างก็ถูกมัดรวบ ขาก็ถูกดันให้แยกออก แม้กระทั่งริมฝีปากก็มีมือหนาล้วงเข้ามากดลิ้นเขาเอาไว้ สิ่งที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้นมันเอาไว้ดูเหมือนจะมีแค่น้ำตาที่ไหลถี่ออกมาด้วยความเจ็บปวด

ในขณะคนหนึ่งสุขแทบลืมหายใจ อีกคนก็เจ็บจนใจจะขาด

ทว่าอารมณ์เสียวซ่านพุ่งทะยานเกินกว่าจะหยุด เมื่อจังหวะถูกเร่งขึ้นขาเรียวก็ถูกจับแยกออกจากกันมากกว่าเดิม คนตัวสูงเริ่มโน้มตัวลงมาดูดดันที่หน้าอก  ฟันคมกัดลงบนยอดดอกจนความรู้สึกเสียววาบแล่นผ่านร่าง ในขณะเดียวกันที่มือหนาข้างที่เหลือเอื้อมไปกอบกุมส่วนกลางของคนใต้ร่างเอาไว้ ฮิมรูดรั้งมันเป็นจังหวะเดียวกันที่สะโพกหนากระแทกเข้าใส่ในรูเล็ก ร่างสูงเร่งจังหวะ สะโพกหนากระแทกกระทั้นถี่รัวมากกว่าเดิมเป็นผลให้เสียงครางแผ่วเบาดังขึ้นพร้อมกับน้ำสีขุ่นที่เริ่มออกมาจากปลายแท่งเนื้อน้อย คนตัวสูงหอบหายใจพร่า ฮิมหลับตาแน่น สะโพกแกร่งกระทุ้งเข้าจุดกระสั่นของอีกฝ่ายหลายๆ ที แล้วจึงปล่อยน้ำกามใส่เข้าไปในกายเล็ก เป็นจังหวะเดียวกันที่เลกระตุกก่อนน้ำสีขุ่นจะพุ่งออกมาเช่นกัน

นิ้วเรียวถอนออกมาจากปากเล็ก ไล่ลงสู่คาง ลำคอ มาจนถึงคอดเอวกิ่ว ฮิมก้มลงมองคนที่ยังคงร้องไห้อยู่ ร่างสูงก้มลงไปเลียน้ำตาพร้อมกับเริ่มจังหวะกระแทกเข้าออกอีกครั้งหนึ่ง

“พอ! ไม่! อย่า--”

พรึบ!

มือหนาเอื้อมไปปิดปากเล็กอีกครั้งยามได้ยินเสียงร้องห้าม ริมฝีปากร้อนเลื่อนลงมาครอบครองที่ยอดดอก ฟันคมกัดมันแรงๆ จนเจ้าของหน้าอกขาวเกิดความกระสั่นไปทั้งร่าง เลเจ็บไปพร้อมๆ กับเสียวสะท้าน ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเจ็บ นัยน์ตากลมโตจึงยังคงมีน้ำตาออกมาให้เห็น แต่ดูเหมือนพี่ฮิมจะไม่เห็นใจความเจ็บของเขา ร่างสูงเริ่มจังหวะใหม่ด้วยการตะบี้ตะบันกระแทกกระทั้นรุนแรงแบบไม่ปราณี ช่องทางที่ฉีกขาดเมื่อได้รับแรงกระทำทำให้มันยิ่งแย่ไปกว่าเดิม

กายขาวถูกจับพลิกคว่ำ ในขณะที่คนด้านหลังยังคงกระทุ้งกายเข้ามาเหมือนหมาติดสัตว์ ตัวเลถูกยกขึ้น มือหนารั้งใบหน้าสวยที่ยังคงถูกปิดปากเข้าแนบที่ไหล่ ร่างสูงใช้มืออีกข้างก่อกวนส่วนกลางของอีกฝ่ายในขณะที่ยังคงขยับสะโพกรัวใส่ช่องทางเล็ก ความกระสั่นแล่นไปทั่วร่าง กายขาวเกร็งไปทั้งร่างเมื่อแท่งเนื้อร้อนขนาดใหญ่ครูดไปตามผนังด้านใน ยิ่งทำให้ช่องทางสีสวยบีบรัดมันมากขึ้น

“ชอบเหรอ” เสียงทุ้มแสร้งถาม ฮิมสัมผัสได้ถึงอีกฝ่ายที่กำลังบีบรัดมากกว่าเดิม คนตัวสูงเร่งจังหวะ เสียงหอบหายใจพร่าดังไปทั่วห้อง มือหนาปล่อยออกจากริมฝีปากบางมาจับเข้าที่แนวบางทั้งสองด้านแทน สะโพกแน่นกระแทกเข้าไปจนกายเล็กสั่น ริมฝีปากแน่นรีบเม้มเข้าหากัน นัยน์ตากลมโตก้มลงมองแก่นกลางของตัวเองที่ตั้งขึ้นอย่างหยาบโลน ปลายแท่งที่คล้ายจะมีบางสิ่งพุ่งออกมาอีกครั้งทำให้หน้าร้อนฉ่า เลหน้าร้อนมากกว่าเดิมเมื่อคนด้านหลังใส่เข้ามาไม่ยั้งจนเกิดเสียงน่าอาย ความเจ็บแสบปะปนไปกับความเสียวซ่าน ก่อนกายบางจะสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ข้อพับทั้งสองข้างของเขาก็ถูกยกขึ้นจนตัวลอยบนกลางอากาศ หากส่วนที่เชื่อมระหว่างเขากับพี่ฮิมยังคงเชื่อมติดกันไม่หลุด เช่นเดียวกันที่ร่างสูงยังคงกระทุ้งแก่นกายเข้ามาด้านในจนสุดความยาวเหมือนเดิม สิ่งที่เปลี่ยนคือความใคร่ในกามที่พุ่งทะยานสูงเสียจนกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ไหว

“อื้อ อ๊ะ! อ๊า” เหมือนทั้งร่างถูกมัวเมาไปด้วยกามอารมณ์ จนความเจ็บแสบที่ช่องทางคล้ายถูกลบเลือนไปจากสติเลชั่วครู่ ร่างเล็กเหมือนเปล่งได้แต่เสียงคราง เสียงร้องห้ามที่ตนเคยอยากทำคล้ายตอนนี้มันไปซ่อนอยู่ที่ไหนสักซึ่งไม่หลุดออกมา ใบหน้าหล่อเหลาหลุบลงมาสองส่วนที่เชื่อมกัน ร่างสูงกระแทกกระทั้นให้เร็วมากกว่าเดิม เสียงครางและกลิ่นกายของอีกฝ่ายเหมือนฟืนที่ถูกโยนเข้าใส่เปลวเพลิงให้ยิ่งลุกไหม้ และท้ายที่สุดมันก็มอดดับลงไปอีกครั้งหลังจากหลั่งน้ำพุ่งเข้าไปในกายเล็ก ฮิมกระตุกหนึ่งครั้งก่อนจะถอนแก่นกายออก ทันใดนั้นน้ำสีขุ่นจำนวนหนึ่งก็ไหลออกจากช่องทางตกลงสู่เตียงนอนที่อยู่เบื้องล่าง มือหนาวางข้อพับข้างหนึ่งลงก่อนส่งนิ้วเรียวเข้าไปคว้านเอาน้ำกามที่อยู่ด้านในออกมา เป็นจังหวะเดียวกันที่ใบหน้าสวยขยับมาพิงไหล่ ฮิมมองคนที่ทำท่าเหนื่อยอ่อนก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากเบาๆ แล้วจับให้อีกฝ่ายลงนอนราบส่วนเขาขึ้นคร่อมพร้อมกับแทรกแก่นกายเข้าไปอีกครั้ง

“อย่า! พี่ฮิม เลขอร้อง! พอ-- อื้อ!” เสียงแหบสั่นถูกกลบทาบด้วยเสียงสะโพกกระทบกัน ทันทีที่ร่างสูงโน้มตัวลงทาบริมฝีปากบางเอาไว้ไม่ให้พูดออกมา มือหนาจับขาเรียวโอบรอบสะโพก น้ำตาสีใสไหลออกมาอีกครั้งจากคนตัวเล็กเมื่อร่างสูงยังคงแนบแก่นกายใส่เขา อีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง





ตีสามครึ่ง

“อ๊ะ! อ๊า! อ๊า!” เสียงครางแหบแห้งดังติดต่อกันนับตั้งแต่ที่พวกเขามาถึงคอนโด นับห้าชั่วโมงที่ร่างเล็กยังคงอยู่ใต้ร่างเจ้าของรอยสักรูปมังกร เลในตอนนี้ถูกพลิกคว่ำ ใบหน้าที่แนบอยู่บนหมอนดูอิดโรยเนื่องจากถูกคนด้านหลังแทรกแก่นกายเข้ามาภายในร่างจนนับไม่ถ้วน และแม้ว่าจะพยายามตะเกียกตะกายหนีมากเท่าไหร่ มือหนาคู่นั้นก็จะเอื้อมมาจับสะโพกเขาแล้วยัดแก่นกายร้อนเข้าได้ทุกครั้ง จนช่องทางเล็กไม่เจ็บยามถูกสอดใส่ ยอดดอกทั้งสองข้างบวมเปล่งจากการถูกบีบขยี้และดูดดึงอย่างรุนแรง รวมทั้งแก่นกายของเขาก็แทบจะมีแต่น้ำใสๆ เท่านั้นที่หลั่งออกยามถึงจุดสุดยอด เลคิดว่าตัวเองพูดคำว่าพอนับร้อยครั้งได้ ทว่าไม่มีครั้งไหนที่มันได้ผลเลยสักครั้ง ในเมื่อพี่ฮิมยังคงตะบี้ตะบั้นกระแทกช่องทางของเขาอยู่แบบนี้ กายขาวเกร็งขึ้นอีกครั้งเมื่อใกล้ถึงฝั่ง ทว่าบางอย่างที่มันต่างออกไปทำให้เลขนลุกซู่ ใบหน้าสวยหันไปสบตากับคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังทันที

“มีอะไร” ฮิมถามเสียงเรียบ ร่างสูงจับได้ถึงความผิดปกติทันทีจากสีหน้าของอีกฝ่าย

“เล…อยาก…เข้า…ห้องน้ำ” เสียงทุ้มไม่ได้ตอบกลับ ครั้นเขาออกแรงดิ้นมือหนาก็เอื้อมมือยึดสะโพกเช่นทุกครั้ง เหมือนมันเป็นกาวติดแน่น ดิ้นเท่าไหร่ก็ดิ้นไม่หลุด “เลขอร้อง”

คนตัวสูงเลียริมฝีปาก มือหนายกร่างขาวที่เต็มไปด้วยรอยจูบขึ้นนั่งตักแล้วหันหน้าออกนอกเตียง คนตัวเล็กไม่เข้าใจความคิดของอีกฝ่าย จะให้เขาไปห้องน้ำยังไงในเมื่อทั้งสองส่วนยังเชื่อมกันอยู่แบบนี้ ทว่าทันทีที่ฮิมเอื้อมลงไปแตะที่แก่นกลางพร้อมทั้งรูดรั้งมันอย่างรวดเร็วเหมือนเร่งให้สิ่งนั้นมันออกมา ทำให้คนที่ยังงงอยู่สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว นัยน์ตาคมโตที่บวมเปล่งจากการร้องไห้เคล้าน้ำตาขึ้นมาอีกครั้ง เสียงแหบพร่าร้องห้ามในขณะที่คนด้านหลังเร่งจังหวะและกระทุ้งแก่นกายเข้าตรงจุดกระสั่นของเขามากกว่าเดิม

“อย่า! เลขอร้อง!”

“ปล่อยออกมาสิ”

“พี่ฮิม! ไม่เอา! เลขอล่ะ ฮือ อย่า!”

“ปวดไม่ใช่เหรอ ปล่อยออกมาสิ”

“ฮิม ฮึก! ฮืออออ อย่า!! อย่าทำแบบนั้น!! ไม่! ม่ายยยยยยยยยยย!!” น้ำกามสีใสพุ่งออกมาพร้อมกับปัสสาวะทันทีที่ถึงจุดสุดยอด นัยน์ตาคมเบิกกว้าง ร่างเล็กสั่นสะท้านในขณะที่ใบหน้าสวยแดงฉ่าไปด้วยความอับอายยามมองน้ำปัสสาวะจำนวนมากที่พุ่งออกจากส่วนปลายไหลลงสู่พื้นห้อง ร่างเล็กปล่อยโฮเป็นจังหวะเดียวกันถูกรวบตัวกลับไปนอนราบบนเตียงอีกครั้ง ขาเรียวถูกแยกออกพร้อมกับแท่งเนื้อร้อนที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยก็แทรกกลับเข้ามาใส่รูเดิม ดวงตากลมที่ฉาบไปด้วยน้ำตาเงยหน้ามองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา ไล่ลงไปที่ลำคอ บ่าไหล่ ลามไปจนถึงรอยสักรูปมังกรบริเวณต้นแขนด้านซ้าย มือบางที่ถูกปลดปล่อยเป็นอิสระเมื่อสองชั่วโมงก่อนยกขึ้นลูบไล้แผ่นอกกว้าง แล้วเลื่อนขึ้นไปตรงลำคอ เลใช้เล็บแหลมครูดที่ส่วนนั้นจนมันเป็นรอยแดงอย่างรวดเร็วหลังจากนั้นจึงวางลงที่บ่า เขารองรับแรงกระแทกที่เร็วรี่ขึ้นอีกครั้งกระทั่งอีกฝ่ายหลั่งน้ำกามเข้ามาด้านใน มือบางที่วางอยู่บนบ่าก็เอื้อมขึ้นมาแล้วใช้แรงที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดฟาดเข้าที่แก้มด้านขวาของอีกฝ่าย

มันไม่แรงพอที่จะให้ฮิมโกรธ แรงตบที่ไม่ควรจะเรียกว่าตบเหมือนเลแค่เอามือมาแตะที่ใบหน้าของเขา ประโยคต่อมาต่างหากที่ทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนใครเอาดาบมาฟันเข้าที่ร่างกาย คมเสียจนตัดขั้วหัวใจออกไปด้วย

“เลเกลียดพี่ฮิม”

...ในตอนนี้

คนถูกเกลียดไม่ได้ตอบกลับ ร่างสูงถอดถอนแก่นกายออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป…





‘เล! ไอ้สัสเอ้ย!’

‘เล!! เล!’

‘เรียกรถพยาบาลดิว่ะ’

‘เล!! เล!! มึงอย่าเป็นไรนะ’

‘เล!’

‘เล!!’


.

.

“เลจะเป็นอะไรไหมครับ”

“ร่างกายอ่อนเพลีย มีแผลแต่ไม่ถึงขั้นอันตราย ส่วนที่มีแผลหมอก็ทำแผลให้เสร็จแล้ว เหลือก็แต่จิตใจที่น่าเป็นห่วง ยังไงถ้าคนไข้ตื่นคงต้องมาดูกันอีกที”

บทสนทนาดังขึ้นมาให้ได้ยิน บรรยากาศเงียบสงบและพอลืมตาขึ้นมาก็เห็นเพดานสีขาวที่อยู่ด้านบนทำให้คนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงรู้ทันทีเลยว่าตนเองกำลังอยู่ที่ไหน เลหันหน้ามองไปรอบตัว เขาเห็นพี่วินกำลังยืนคุยกับคุณหมออยู่จึงแสร้งหลับต่อ คนบนเตียงนอนรอให้แน่ใจว่าหมอเดินออกไปแล้วจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง เสียวแหบพร่าเอ่ยเรียกคนที่กำลังนั่งกุมขมับอยู่บนโซฟา

“พี่… วิน” ร่างสูงสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียง ขายาวรีบเดินมาข้างเตียงก่อนจะพยุงคนที่พยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งจนสำเร็จ “อยาก...กินน้ำ”

วินพยักหน้าก่อนจะวิ่งไปเปิดขวดน้ำมาเทใส่แก้วให้อีกฝ่าย น้องรับไปดื่มจากนั้นก็ไม่ว่าอะไร นัยน์ตากลมโตที่เคยสดใสนั่นเหม่อลอยจนคนมองรู้สึกใจหาย ร่างหนาเอื้อมไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้ เขาดันให้ใบหน้าเรียวที่ตอนนี้ตาบวมเปล่งแนบเข้าอกพร้อมทั้งลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ

ลับหลังนั่น… มือหนากำหมัดแน่นจนตัวสั่น นัยน์ตาคมบ่งบอกถึงความชิงชังต่อคนที่หายหน้าไป





1 อาทิตย์ต่อมา

เหมือนวนลูปเดิมเพียงแต่เวลานานกว่า ผมออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่สี่วันก่อนส่วนพี่ฮิมนั้นไร้วี่แววมาจนถึงตอนนี้  ผมยังไม่ได้ไปมหา’ลัย เลยไม่รู้ว่าพี่ฮิมไปเรียนไหม แต่ผมกลับไปที่คอนโด ร่างสูงก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นเช่นกัน แถมพี่ๆ ทุกคนในบ้านไม่มีใครพูดถึงเขาให้ผมได้ยินสักคน แม้กระทั่งชื่อก็ไม่ เหมือนไม่มีคนที่ชื่อว่า ‘ฮิม’ อยู่ในสารบบของบ้านหลังนี้ แม้แต่ห้องนอนเองผมก็ถูกพี่วินลากให้ไปนอนด้วยทุกคืน แต่การที่ทุกคนไม่พูด ใช่ว่ามันจะดี เพราะท้ายที่สุดผมก็ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่ฮิมอยู่ดี คิดว่าคงต้องถามสักวันและเหมือนสักวันที่ว่ามันถูกบีบให้มาเป็นช่วงบ่ายของวันที่สี่หลังจากออกมาจากโรงพยาบาล ผมกำลังอาบน้ำให้เปอร์เซียร์ เจ้าแมวที่มีชื่อเล่นเหมือนชื่อสายพันธุ์ ช่วงนี้มันว่าง่ายแปลกๆ คงเป็นสิ่งเดียวเกี่ยวกับพี่ฮิมที่พี่ๆ ทุกคนไม่ได้ปิดกั้นมันจากผม คืออย่างน้อยก็ไม่ได้โยนเจ้าแมวตัวนี้ออกจากบ้าน ขณะนั้นเองที่จู่ๆ ประตูบ้านก็มีเสียงกดออดดังขึ้น ออดที่ไม่เคยมีใครกดมานานทำให้ผมต้องเลิกคิ้วแล้วรีบล้างตัวให้กับเจ้าแมวตัวอ้วนตรงหน้า หลังจากนั้นจึงวิ่งไปที่หน้าประตูบ้านเพราะในตอนนี้ทั้งบ้านมีแค่ผมคนเดียวที่อยู่

นอกบ้านมีผู้ชายวัยกลางคนใส่สูทยืนรออยู่ เขายิ้มทันทีที่เห็นผมก่อนจะเอ่ยถาม

“ใช่คุณนิพิฑหรือเปล่าครับ ?”

“ใช่ครับ” ผมตอบรับ “มีอะไรหรือเปล่า”

อีกฝ่ายยิ้มให้ผมเหมือนเดิมก่อนจะตอบกลับ “ผมเป็นทนายของคุณเฮดินครับ ชื่อกฤศครับ”

Haydin ชื่อจริงของพี่ฮิม

ผมเม้มปาก ชื่อจริงที่ไม่ได้ยินมานานของคนที่หายตัวไปแล้ว 7 วันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ และก่อนที่จะได้ถามอะไรออกไป คุณทนายตรงหน้าก็บอกข่าวที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโลกถล่ม

“ผมมาเพราะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณเฮดินกับคุณนิพิฑน่ะครับ”

ไม่ต้องพูดอะไรไปมากกว่านั้น ผมเข้าใจได้เองทันทีเมื่อคำพูดที่พี่ฮิมเคยพูดเอาไว้แล่นเข้าใส่หัวผมเป็นฉากๆ





‘พี่จ้างทนายเอาไว้’

‘ถ้าพี่ได้ตัดขาดกับเราจริงๆ’



‘เลจะได้เงินพันล้าน’











(100%)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 18-08-2017 00:15:05
ปกติเราเป็นคนที่ไม่อ่านหากตอนจบดราม่านะ
และถ้าไม่ว่าจะเจอดราม่าแค่ไหน เราก็ยังภาวนาให้สมหวัง เหมือนอย่างตอนพี่เสือ

แต่เรื่องนี้ บอกเลยว่าเรารำคาญตัวเอกแบบน้องเลมาก คือมันก็น่ารักน่าเอ็นดูแหละ แต่มันไร้เดียงสาจนกลายเป็นไม่ฉลาดเลย

ไม่สิ ต้องบอกว่าฉลาดในเรื่องที่ไม่ควร ซึ่งอ่านแล้วหงุดหงิดสุด นี่ทีมพี่ฮิมแบบสมบูรณ์แบบไปเฉยเลย

เรารู้สึกว่า เลเหมือนปิดหูปิดตา ไม่สัมผัสถึงความรักของพี่ฮิม จริงอยู่ที่มันอาจจะเป็นความรักในรูปแบบที่ไม่ค่อยจะเหมือนคนอื่น แต่ถ้าเปิดใจ...เลจะได้รู้ว่าตัวเองกำลังถูกรักด้วยความรักมากมายขนาดไหน

บอกตรงๆเราไม่เดาตอนจบเลยค่ะ คนเขียนอยากเสนออะไรก็ว่ามา แต่ถ้าพี่ฮิมรัก เราก็อยากให้พี่ฮิมสมหวัง แม้เราจะไม่ค่อยชอบคนแบบน้องเลก็ตาม :)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhankn ที่ 18-08-2017 00:27:20
เอาจริงๆเราอ่านตอนนี้ไม่ได้มีความสงสารเลเลย เลดื้อมาก ตอนฮิมให้ขอโทษเลยังดึงดันที่จะทำแบบนั้น
เราไม่ใช่ว่าจะเข้าใจสิ่งที่ฮิมทำทั้งหมดหรอกนะ แต่บางที เลอาจจะคิดด้านเดียวมากเกินไป ตอนต่อไปจะได้รู้เรื่องฮิมมากขึ้น และเราหวังว่าเลก็จะได้รับรู้เรื่องของเอ็กซ์ด้วยเช่นกัน และเราก็หวังว่าตอนหน้า เลจะได้ลองใช้ชีวิตได้แบบอิสะหลังจากได้คุยกับทนายเเล้ว ชีวิตที่ไม่มีฮิม หวังว่าเลจะมีความสุขกับมันนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 18-08-2017 00:52:08
เลก็ยังคงดื้อด้าน คิดว่าตัวเองถูก
ก็ดีต่อไปนี้จะได้รู้ว่าชีวิตที่ไม่มีฮิมจะเป็นยังไง
ปล. ก็ยังอยากให้พี่ฮิมรักน้องอยู่นะ 5555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 18-08-2017 00:54:54
บอกตรงๆ รำคาญน้องมากแต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นเพราะพี่ฮิมเลี้ยงดูแบบตามใจและตีกรอบไว้ให้ น้องจึงเป็นแบบนี้แต่ถ้าเลจะหยุดเอาแต่ใจและหัดฉลาดที่จะคิดถึงความรู้สึกของพี่ฮิมบ้างไม่ใช่สนแต่เพื่อนที่ใครๆ ก็เตือนว่าไม่ให้เข้าใกล้เรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้ หัดสนใจเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เขาหวังดีเตือนบ้าง ไม่ใช่ดื้อแพร่งเอาแต่ใจแบบนี้ สมควรแล้วที่ฮิมจะโกรธหนักซะขนาดนี้ คิดดูถ้านี่ไม่ใช่งานที่พี่ฮิมจัดแล้วเลเกิดแพ้ขึ้นมามันจะเกิดอะไรขึ้น และคิดหรือว่าไอ้เอ็กซ์มันจะช่วย อีกเรื่องเลจะได้รู้ไหมว่าเพื่อนที่ตัวเองอยากจะช่วยนะมันเอาตัวเลเองมาเป็นของเดิมพันอยากรู้ว่าถ้ารู้แล้วยังคิดจะเป็นเพื่อนอยู่อีกไหม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 18-08-2017 03:11:21
ฮิมต้องทำเพื่อความแน่ใจว่า เลรักฮิมที่เป็นฮิม ไม่ใช่เพราะเลี้ยงมาแต่เล็ก
ถ้าเล ยังลังเลในเรื่องนี้ก็รับเงินแล้วเดินจากฮิม ถ้าเลไม่รับเงินก็ควรปรับปรุงตัวเองว่าที่ฮิมไม่บอกเรื่องทั้งหมดเพราะอยากจะถนอมตัวเองไว้  แต่อย่างว่า ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ..เลก็ได้รู้สิ่งที่อยากรู้ แล้วเสียในสิ่งที่ไม่ต้องการเสีย ไปแล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 18-08-2017 06:28:46
คราวนี้ให้แยกกันสักห้าปีดีไหม ฮิมไปเมืองนอกหรือไม่ก็ไม่ยอมให้เลเจอเลย ทิ้งให้หมดทั้งเล ทั้งเพื่อน คล้ายๆ สำนึกผิด แต่ไม่หรอก พี่ฮิมสตรองกว่านั้น เราทีมฮิม--ร้ายก็รัก ฮิ้ววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: jakkee ที่ 18-08-2017 06:35:07
อยากจะให้เลเป็นบ้าไปสัก4-5ปี ไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: nutipkra ที่ 18-08-2017 06:39:12
เลนี้แปลกนะ. พร้อมที่จะช่วยคนอื่นแต่ไม่ดูคนใกล้ตัว. เข้าใจว่าอยากมีเพื่อน แต่แบบนี้ไม่ไหว. น่ารักแต่งี้เง่า เข้าขั้นโง่ อย่างว่าแหละพี่ฮิมแกเลี้ยงมาดีเกินไปเลี้ยงดี เกินปกติทำให้เลเป็นแบบนี้ ถ้าตัดขาดกันจริงๆๆเลจะโตขึ้นเป็นคนแบบไหนนะ รอตอนต่อไปคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 18-08-2017 07:08:47
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 18-08-2017 07:09:37
เลิกกันเลย แยกย้ายไม่ต้ิองมาเจอกัน อยู่ด้วยกันแล้วทำร้ายกันเองก็ไม่ต้องอยู่มันซะ

พี่ฮิมเลี้ยงมาขนาดนี้ยังทำร้ายกันได้

ทั้งสองควรจะมีทางเป็นของตัวเอง ไม่ต้องยึดติดกันหรอก มันยุ่งยาก รีบๆตัดขาดกันนะ เรารออยู่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 18-08-2017 07:50:56
ห่างกันสักพักก็ดีนะ จะได้เรียนรู้ทั่งสองคน เลจะได้โตขึ้น
ส่วนฮิมจะได้เลิกคิดซะทีว่าทำอะไรกับเลก็ได้ เพราะเลี้ยงมา มีบุญคุณเยอะ ถึงเลจะดื้อ แต่เพราะฮิมเลี้ยงมาแบบนี้ ปิดหู ปิดตา เวลาฮิมโกรธ แทนที่จะอธิบาย บอกสาเหตุว่าทำไม ก็ข่มขืนจนเลเข้าโรงพยาบาล ไม่มาดูแล ไม่รับผิดชอบในสิ่งที่ทำ สุดท้ายอาจคิดว่าให้เพื่อน (ลูกน้อง) มาดูแล แต่คนมีเงินทุกคนทำแบบนี้ได้เหมือนกันนะ ไม่ต้องรักก็ทำได้ สุดท้ายจะตัดขาดน้อง เอาเงินฟาดหัว พระเอกเรื่องนี้ ชีวิตดี๊ ดี เลดื้อ เลไร้เดียงสา เพราะไม่เคยรู้ถึงอันตรายของโลกภายนอก เพราะฮิมทำให้น้องเป็นแบบนี้ อาจจะดูโง่ แต่เพราะเลไม่รู้ถึงอันตราย เลก็ไม่ผิดนะ ถ้ารู้ถึงอันตรายแล้วยังทำ นั้นก็อีกอย่าง ฮิมโกรธที่น้องโกหก ฮิมก็ไม่โกหกอะไรน้องเลยเนอะ แต่ละก็ดี๊ ดี ทั้งนั้น

เลไม่รับเงิน แล้วออกมาก็ดีนะ เรียนรู้ด้วยตัวเอง จะหกล้ม จะเจ็บปวด แต่ทำตัวเอง ก็ต้องรับผลเอง ดีกว่าอยู่เป็นที่รองรับอารมณ์ของคนโมโหร้าย คนโดนข่มขืน แผลใจที่เกิด จะรักษาง่ายๆ ขนาดนั้นหรอ? ออกมา สวยๆ เริ่ดๆ ให้ฮิมเสียดายเล่นดีกว่าไหม แต่ฮิม คนหล่อ รวย คงไม่แคร์มั้ง สาวๆ เรียงคิวรอขนาดนั้น ถ้าฮิมไม่ปรับตัว ก็ต่างคน ต่างไป ดีกว่า ค่ะ ตอนนี้ทีมเลค่ะ  อินจัดเลยเม้นยาวไปหน่อย  :laugh:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: Altasia ที่ 18-08-2017 07:57:30
อ่านเม้นแล้วไม่มีใครเข้าข้างเลเลย
ไม่ต้องห่วงนะเล...

...เพราะเราก็ไม่เข้าข้างเลเหมือนกัน!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 18-08-2017 08:04:49
ร้ายมาแรงกลับทั้งคู่ พี่​ร่างนี้น่ากลัวมากจริงๆ :z3: :z3: :z3:
รอดูว่าเลจะทำยังไงต่อ แต่แอบสงสารพี่ฮิมนะเลดื้อเกินไปจนบังคับให้ฮิมกลายเป็นแบบนี้อะ :ling2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 18-08-2017 08:12:27
ไม่สงสารเลเลย 
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 18-08-2017 09:21:04
อยู่ #ทีมพี่ฮิม แร่ะเทอ..  :katai5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 18-08-2017 09:42:56
พี่ฮิมก็ใจร้ายกับน้องเกินไป มีวิธีอื่นที่ดีกว่าข่มขืนกันแบบนี้ตั้งเยอะ ถึงเลจะดื้อ แต่น้องดื้อเพราะอะไรล่ะ เพราะการเลี้ยงดูไม่ใช่หรอ ใครๆก็ตามใจ สอน และวางกรอบไว้ให้น้อง วันๆให้วิ่งเล่นแต่ในทุ่งดอกไม้ พอวันนึง น้องหลุดกรอบ ได้เห็นโลกภายนอก ไม่แปลกที่น้องจะเป็นแบบนี้ เพราะน้องไม่เคยมีเพื่อน มีแต่พี่ มีแต่พ่อ

เอาล่ะ บ่นพี่ฮิมมาเยอะแล้ว พี่ฮิมเอาเงินมาฟาดหัวเราได้เลยค่ะ เรารออยู่  :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 18-08-2017 10:39:18
ยังไงก็ไม่ชอบความคิดของนายเอกครับ ถ้ายังไม่สำนึกก็ไม่ควรให้พระเอกมาเป็นฝ่ายยอม ถึงเราจะไม่ค่อยโอเคกับบทข่มขื่นเพราะมันเดิมๆ แต่ถ้าคนเขียนไม่ให้ลงเอยแบบ เลหนีไปอยู่กับเพื่อนชั่ว พอจวนตัวฮิมก็มาช่วยได้สำนึกและคืนดี ไม่มีแบบนี้ก็ดีแล้ว เห็นไหมว่าเราเดาได้เป็นฉากๆ เพราะมันมีแบบนึ้เยอะจริงๆ 55555 เอาเป็นว่าเรามารอดูชีวิตที่ไม่มีฮิมของเลดีกว่า ว่าจะสวยงามแค่ไหน หึหึ ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 18-08-2017 12:10:25
อยากอ่านตอนเลรู้ความจริงเรื่องเอ็กซ์ละ เผื่อนางจะฉลาดขึ้นมาบ้าง เข้าใจว่านางใส นางซื่อ แต่นางก็ไม่ควรโง่มั้ยอ่ะ!! เกลียดความอยากมีเพื่อนจนตัวสั่น... คือลูกเพื่อนๆพี่ๆเค้าก็เตือนกันนะ เรื่องเอ็กซ์ติดยาอะไรเลก็พอจะรู้ แล้วทำไมไม่คิดบ้างว่าที่มันให้มาแข่งรถแทนมันอาจจะหาเงินไปจ่ายค่ายา หื้ออออ อีหนู!! ใสได้ซื้อได้แต่อย่าโง่นะลูกนะ!! ไงละ ลองอยู่โดยไม่มีฮิมคุ้มกะลาหัวดูบ้าง จะได้สำนึก! อินจัด 555555  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: micmicky ที่ 18-08-2017 13:23:10
ตัดขาดในสถานะผู้ปกครองก็ดีนะ 

ถ้ารักกันจริงๆค่อยเริ่มสถานะคนรัก

รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: philosopher ที่ 18-08-2017 13:54:30
หน่วงไปอีกจ้า
อ่านมารวดเดียวถึงตอนล่าสุด ทำให้รู้ว่าเลดื้อมาก
เราเข้าใจนะว่าถูกตีกรอบมากๆก็อยากทำอะไรเอง
แต่ดื้อจนไม่ฟังใครเลยมันก็เกินไป
สงสารพี่ฮิมจริงๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 18-08-2017 17:21:38
หายใจไม่ทั่วท้องเลยตอนอ่าน ทรมานแทนจริงๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: Minoru88 ที่ 18-08-2017 21:03:48
เข้าใจทั้งสองฝั่งนะ
แต่ก็แอบเข้าข้างพี่ฮิม เราเลี้ยงมา ให้สิ่งคิดว่าดีที่สุด
แต่น้องที่ถูกตีกรอบ ก็อึดอัดเป็นธรรมดา

มันน่าจะพบกันครึ่งทาง ซึ่งจิงๆ มันยากมาก
ขอให้เป็นบทเรียนนะน้องเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-08-2017 21:56:46
บอกตรงๆ รำคาญน้องมากแต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นเพราะพี่ฮิมเลี้ยงดูแบบตามใจและตีกรอบไว้ให้ น้องจึงเป็นแบบนี้แต่ถ้าเลจะหยุดเอาแต่ใจและหัดฉลาดที่จะคิดถึงความรู้สึกของพี่ฮิมบ้างไม่ใช่สนแต่เพื่อนที่ใครๆ ก็เตือนว่าไม่ให้เข้าใกล้เรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้ หัดสนใจเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เขาหวังดีเตือนบ้าง ไม่ใช่ดื้อแพร่งเอาแต่ใจแบบนี้ สมควรแล้วที่ฮิมจะโกรธหนักซะขนาดนี้ คิดดูถ้านี่ไม่ใช่งานที่พี่ฮิมจัดแล้วเลเกิดแพ้ขึ้นมามันจะเกิดอะไรขึ้น และคิดหรือว่าไอ้เอ็กซ์มันจะช่วย อีกเรื่องเลจะได้รู้ไหมว่าเพื่อนที่ตัวเองอยากจะช่วยนะมันเอาตัวเลเองมาเป็นของเดิมพันอยากรู้ว่าถ้ารู้แล้วยังคิดจะเป็นเพื่อนอยู่อีกไหม

คราวนี้ให้แยกกันสักห้าปีดีไหม ฮิมไปเมืองนอกหรือไม่ก็ไม่ยอมให้เลเจอเลย ทิ้งให้หมดทั้งเล ทั้งเพื่อน คล้ายๆ สำนึกผิด แต่ไม่หรอก พี่ฮิมสตรองกว่านั้น เราทีมฮิม--ร้ายก็รัก ฮิ้ววว

ตรงกับใจ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: mamacub ที่ 18-08-2017 21:59:25
เขาคงไม่รักหรอกมั่ง อุตส่าเลี้ยงมาแต่เด็ก ถ้าตัดขาดกันก็ให้เงินไปตั้งตัว เขาคิดให้ขนาดนี้แล้วนะเล
บางทีเลควรจะตั้งสติแล้วคิดถึงคนที่รักเราสักนิด ไม่ใช้แค่พี่ฮิมหรอก พวกพี่ๆในบ้าน เพื่อนๆ ไม่ใช่คิดถึงเขาแค่เวลาลำบาก :เฮ้อ:

แล้วที่เลโกรธฮิมเพราะเขาไม่บอกโกหกเรา แต่ที่เขาไม่บอกเพราะยังไม่ถึงเวลา ยังไงเขาก็ต้องบอก
เลเป็นเด็กที่เวลาผู้ใหญ่เตือนอะไรก็ไม่เคยจะฟัง จะเอาแต่ใจตัว คร่าวนี้หวังว่าเลจะใช้สติ และสมองตรองดูนะว่าจะเอายังไง
ขอร้องช่วยใช้สมองด้วย  :m5: :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-08-2017 22:57:34
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 18-08-2017 23:48:00
บอกตรงๆว่าอ่านข้ามๆ ในตอนนี้  คือแบบเบื่อเล  พี่ฮิมอุตส่าห์ให้โอกาสเพราะพี่แกก็คงข่มใจเต็มที่แล้ว  แต่แทนที่เลจะถามพี่ฮิมว่าเรื่องของเรื่องมันตืออะไร แต่กลับมีแต่อ้างว่าตัวเองไม่ผิดแล้วยกความผิดของตัวเองมาข่มความผิดตน เพราะงั้นการที่พี่ฮิมเกิดบันดาลโทสะเราก็คิดละว่าสมควร และสมควรยิ่งขึ้นไปอี๊กกับการตัดขาดจากเล หนึ่งละคงรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ สองคงรู้แน่ๆว่ายิ่งฝืดอยู่ด้วยกันเลก็คงมีแต่ดื้อดิ้นรนหาวิธีหลุดจากกรอบที่พี่ฮิมก็คงรู้ตัวว่าไม่สามารถปล่อยเลได้ สามคงเจ็บใจน่าดูที่เลี้ยงเลมากับมือแต่เลี้ยงได้แค่ตัวแต่ใจเลยังเห็นคนอื่นเชื่อคนอื่นมากกว่าตน  งานี้สงสารพี่ฮิมสุด เลจะได้เงินพันล้าน แถมยังมีพี่ๆเพื่อนๆคนอื่นอยู่เคียงข้าง ในขณะที่พี่ฮิมถ้าปล่อยมือจากเลความสุขของพี่แกคงหายไปหมด
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 18-08-2017 23:54:02
ทำไมเรารู้สึกว่าไม่ควรเข้าข้างใครเลยทั้งเลที่ดื้อและนี่ก็คิดว่าฮิมข่มขืนขนาดนี้มันก็ทำเกินไปอีก ห่างกันไปเลยก็ดี ได้เรียนรู้ทั้งคู่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-08-2017 00:14:39
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 19-08-2017 08:56:26
อ่าาา  :mew5: เรารับไม่ได้ที่ฮิมใช้มึงกูกับเล จริง  :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.31
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 19-08-2017 19:56:50


Special : ตอนน้องยังเด็ก

(ฉลองแฟนวิศวะครบรอบ 1 ปี)




เรื่องที่ 1 : ความบ้าคลั่งรองเท้าของเล


ตอนอายุ 7 ขวบ พี่ฮิมที่ติดการ์ตูนฮีโร่อยากได้อุตตราแมนราคาตัวละห้าพัน หลังจากได้รับการอนุมัติจากคุณพ่อ วันต่อมาพี่เลี้ยงก็พาคุณชายของบ้านมาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของเล่นที่เด็กผู้ชายวัยเจ็ดขวบหลายคนอยากได้

และแน่นอนว่า… ฮิมอยู่ไหน เลอยู่นั้น

ร่างเล็กวัยสามย่างสี่ขวบในชุดสีฟ้าอ่อนกำลังเดินต้วมเตี้ยมตามพี่ชายที่จูงมือตนเองอยู่ ศีรษะบางมีถักเปียแบบแปลกๆ ที่คนตัวเล็กอ้อนให้เด็กวัยเจ็ดขวบทำให้ มือหนึ่งกอดน้องเน่า(ตุ๊กตาไดโนเสาร์)ตัวหนึ่งเอาไว้ ขณะที่สายตามองซ้ายขวาไปมาด้วยความตื่นเต้นเรียกรอยยิ้มสดใสจากคนที่ได้เห็น

ในขณะที่กำลังเดินผ่านมุมเด็กอ่อนเข้าสู่เด็กวัยกลาง จู่ๆ ฮิมที่กำลังเดินไปข้างหน้าก็ต้องหยุดชะงักและเหลียวหลังแทบไม่ทัน เมื่อพบว่าคนที่ตัวเองกำลังจูงมืออยู่ไม่ได้เดินตามหลังแต่ดึงมือเขาเดินไปหาอะไรบางอย่างที่ตัวเองสนใจแทน

ร่างเล็กเดินมาหยุดบริเวณมุมรองเท้าเด็ก ใบหน้าเล็กเงยขึ้นมองรองเท้าผ้าใบสีขาวสลับฟ้าที่อยู่ชั้นบนสุดสูงเกินกว่าเด็กวัยสามย่างสี่ขวบคนนึงจะเอื้อมถึงได้ ฮิมเห็นน้องทำมือเหมือนคว้าๆ เล็กน้อยก่อนนัยน์ตากลมโตนั่นจะหันมาจ้องเขาพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ หลายๆ ที

คนเป็นพี่นิ่งงันเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบรองเท้าที่อยู่ชั้นบนสุดมาให้น้องลอง แต่ปัญหาก็คือเลใส่แล้ว… ไม่ยอมถอด พอจะบังคับตากลมๆ นั้นก็จะเริ่มแดงขึ้น ริมฝีปากเล็กจะเบ้ออกเตรียมร้องไห้ตลอดเวลาจนผู้ปกครองวัยเจ็ดขวบเริ่มหนักใจ

“เลอยากได้เหรอ” เขาถามและคำตอบที่ได้รับคือการพยักหน้าหงึกๆ หลายๆ ที ดวงตาโตสีดำหันมองราคาทันที

4,999

ฮิมเม้มปากแน่น น้องอยากได้รองเท้าแต่เขาก็ยังอยากได้ของเล่น ฮิมโลเล “เล...”

“ฮิมจ๋า” น้องเรียกพร้อมกับยิ้มร่าก่อนจะหมุนตัวไปมา แล้วอยู่ๆ ฮิมก็รู้สึกว่ารองเท้าที่น้องใส่อยู่มันดูเข้ากับเลได้อย่างน่าประหลาด หลังจากนั้นร่างสูง(กว่า)ก็เผลอจับมือคนที่กำลังหมุนตัวไปมาเดินไปจ่ายตังค์โดยไม่รู้ตัว…



หลังจากกลับถึงบ้าน ทันทีที่พ่อเขาเห็นรองเท้าที่เลใส่วิ่งไปมาในบ้านแทนที่จะเห็นอุตตราแมนที่ลูกชายอยากได้ ฮิมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเห็นร่างสูงใหญ่แสยะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นในสัปดาห์ต่อมา นายใหญ่ของบ้านก็ให้พี่เลี้ยงพาลูกชายไปซื้อของเล่นที่ตัวเองอยากได้อีกครั้งโดยที่ให้ตังค์ไปมากกว่าเดิมถึงสองเท่า ผลในครั้งนั้นคือฮิมได้อุตราแมนตัวละห้าพันสมใจ ส่วนเลได้รองเท้าคู่ใหม่อีกหนึ่งคู่





(30%)

มาเติมน้ำตาลให้ก่อนที่จะเจอกับน้ำตา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 19-08-2017 20:33:13
คุณพระ รองเท้าคู่นั้นคงเป็นอาดิดาส รุ่นลิมิเต็ดสินะคะ...สงพี่ฮิมแรง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 19-08-2017 22:06:18
จะมีผู้ชายสักกี่คนที่ยอมคนที่้เรารักได้มาดขนาดนี้

สู้ๆนะทั้งสองคนเลย

#เร็วมากกก1ปีแล้วววว
แต่งนิยายสนุกๆแบบนี้ต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 19-08-2017 22:10:18
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกชอบพี่ฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-08-2017 22:26:57
ให้สงสัย ฮิมรักเลมาก
ขนาดมีเงินไปซื้อของเล่นที่ตัวเองอยากได้
แต่พอเล อยากได้ ฮิมตัดใจไม่ซ้อของเล่น แต่กลับซื้อรองเท้าให้เลแทน

พ่อให้เงินมากกว่าเก่าเท่านึง คราวนี้ฮิมได้ของเล่น
แต่เล ก็ได้รองเท้าใหม่อีกคู่หนึ่ง  :z3: :z3: :z3:

ฮิมรักเล ตามใจเลขนาดนี้
เลล่ะ ซาบซึ้งความรักของฮิมได้เท่าไรกัน
หนึ่งส่วนสิบ หรือไม่รับรู้เลย ก็ฮิมซื้อให้เองนี่
ยังไงก็ได้เรื่อยๆอยู่แล้ว รับอย่างเดียว ไม่เคยให้นี่
แถมคราวนี้บอกไปเลยชัดๆเลยว่า  เล....เกลียดฮิม
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 19-08-2017 23:01:49
มีความรักน้องยอมน้องแต่เด็ก เห็นแบบนี้แล้วยิ่งสงสารพี่เค้าเข้าไปใหญ่ฮือ :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhankn ที่ 20-08-2017 00:25:10
ไม่ใช่ว่าฮิมไม่รักเล แต่ตอนนี้คงเดินด้วยกันไปไม่ไหว เลเคยพูดว่าฮิมคือผู้ให้ชีวิตเเต่สิ่งที่เลทำคือการบอกคนๆนั้นว่าเกลียดเขา  ฮิมให้เลได้ทุกอย่างไม่ว่าเลอยากได้อะไร ตั้งเเต่เด็กมา ฮิมให้อะไรเลไปบ้าง เเค่เลร้องขอฮิมก็จะทำให้ จะหามาให้ทุกอย่าง ลองมองกลับกันนะ เเล้วสิ่งที่ฮิมร้องขอ เลเคยทำให้ฮิมได้สักกี่อย่างกัน 
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 20-08-2017 01:16:20
เกลียดตรงบอกจะเจอกับน้ำตา ฮือ :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 20-08-2017 02:14:12
ที่จริงเติมน้ำตาแล้วค่อยเติมน้ำตาลจะดีกว่าหรือเปล่า นี่คงเป็นคนเดียวมั้ยอ่ะที่อยากนั่งซับน้ำตาก่อน :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 20-08-2017 06:26:49
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: jaejae ที่ 20-08-2017 07:08:41
เข้าข้างฮิมอ่ะ..............ตอนนี้รุ้สึกเกลียดเลอ่ะ.....

แยกกันไปเลยเหอะ....

เห็นเพื่อนดีกว่า  ก้อเชิญเลย


เลน่ารำคาญ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 20-08-2017 10:02:17
ผู้ปกครองวัยเจ็ดขวบ !! ตอนนี้คนพี่...โอ้ยยย น่ารัก  :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 20-08-2017 10:25:07
ฮิมรักน้องเลมาก   
แต่เลไม่เคยนึกถึงใจของฮิมเลยอ่ะ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: Jeyibee ที่ 20-08-2017 13:24:05
มองว่าผิดทั้งคู่ ตอนแรกนี่เลผิดเต็มๆ งี่เง่า ดื้อรั้น ไม่ฟังคนอื่น อาจเพราะการเลี้ยงดูด้วย ตอนต้นๆจะเห็นได้ว่าเลติดฮิมมาก เหมือนแบบฮิมเป็นทุกอย่างของน้อง แต่ทำไมหลังๆเราสัมผัสถึงความเคารพความรักของเลที่มีต่อฮิมแบบตอนต้นๆไม่ได้เลย เลกลายเป็นเด็กดื้อมีดีแค่ความน่ารักอย่างเดียวได้ยังไง ดังนั้นตอนแรกเราเลยมองว่าเลผิดเต็มๆ ที่ยอมแลกความรักของตัวเองคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กกับเพื่อนที่เพิ่งเจอตอนมหาลัย สนิทรึก็เปล่า ก็สมควรแล้วที่ฮิมจะโกรธ เค้าเตือนก็ไม่ฟังโดนเอาไปเป็นของพนันยังไม่รู้อีก แต่ๆๆ ถึงโกรธขนาดไหนก็ไม่ควรข่มขืน ยิ่งกับเด็กที่ตัวเองเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก เลี้ยงให้โตมาใสขนาดนี้ทำลงไปได้ยังไง ตอนที่ข่มขืนนั่นหมายถึงฮิมไม่ได้มองอีกฝ่ายเป็นคนรักแล้ว แต่มองเป็นวัตถุทางเพศไว้สำเร็จความใคร่เฉยๆ ยิ่งรุนแรงจนเลต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอ่ะ มันเกินไป ทำเหมือนอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่ตัวเองรักเลยสักนิด จากที่เข้าข้างฮิมเราเลยถอยละ ผิดกันทั้งสองคน แทนที่ฮิมจะเป็นต่อควบคุมน้องได้ กลายเป็นว่าเกมพลิกตัวเองทำเรื่องเลวร้ายต่อเลไปเหมือนกัน ไม่รู้หรอกนะว่าฮิมจะทำอะไรต่อ
 แต่เรื่องนี้เป็นบทเรียนให้ทั้งคู่ได้จำไปชั่วชีวิตแน่ๆ เลควรได้รับผลของการกระทำของตัวเองสักที และฮิมเองก็เหมือนกัน...ละนี่ทำไมต้องอินขนาดนี้ :z6:  ปล.ยังไงก่อนคืนดีขอให้เลสำนึกได้บ้างนะคะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: ฟาง ฟ่างง ฟ๊างง ที่ 20-08-2017 13:52:54
ดูอินกันเยอะมาก ใจเย็นๆนะทุกคน เราเฝ้ารอความเป็นไปของเรื่องมากกว่า อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป ไม่ blame ตัวละครนะ สงสารอ่ะ  :mew2:  :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-08-2017 18:18:23
รอๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 20-08-2017 18:38:12
มันจะหน่วงไปอีกระดับ ชิมิ.. :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: micmicky ที่ 20-08-2017 18:41:16
มารอค่ะ :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190817#special episode 30% p.32
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 31-08-2017 23:31:33


#24 (40%)



บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเงียบลงไปถนัดตา วินที่กลับมาบ้านได้จังหวะเหมาะเจาะกำลังนั่งอ่านสัญญาในมือ ข้างกายของเขามีคนบางคนกำลังซบหน้าลงบนบ่าของเขาอยู่ เลซบอยู่แบบนี้มาเกือบสิบห้านาทีจะได้แล้ว

ร่างสูงถอนหายใจเมื่ออ่านสัญญาเป็นรอบที่สามอย่างถี่ถ้วนทุกตัวอักษรจบ มือหนายื่นมันส่งไปคืนให้กับคนที่กำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับพวกเขา ทนายของฮิมที่บอกว่าตัวเองชื่อกฤศ

“ต้องเซ็นวันนี้เลยหรือเปล่าครับ” ทันทีที่ออกคำถาม มือบางที่กำชายเสื้อนักศึกษาอยู่ก็เหมือนว่าจะกำแน่นขึ้นกว่าเดิม วินเหล่ตามองเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงทุ้มที่ตอบกลับมาอย่างสุภาพว่า

“จริงๆ แล้วคุณเฮดินก็ไม่ได้ระบุวันเซ็นสัญญาหรอกครับ แค่บอกมาว่าถ้าคุณนิพิฑอยากเซ็นตอนไหนก็ให้เซ็นตอนนั้น ผมเลยเอาเรื่องนี้มาบอกก่อน”

“หมายความว่าเลื่อนวันเซ็นสัญญาออกไปได้”

“ได้ครับ”

“แล้วถ้าไม่เซ็นเลยล่ะ ?”

อีกฝ่ายยิ้มรับ “ถ้าจะไม่เซ็นเลย เรื่องนี้คงต้องไปคุยกับคุณเฮดินก่อนนะครับ เพราะสัญญานี้บ่งบอกว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่เกี่ยวพันกันอีกต่อไปไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน”

วินหันหน้าไปมองคนที่ยังซบบ่าเขาไม่ห่าง จากนั้นจึงดึงตัวน้องมานั่งหันหน้าคุยกันดีๆ จังหวะนั้นเองที่เขาได้เห็นสีหน้าของเล นัยน์ตาคมหลุบลงมองนิ่งๆ เป็นเวลาเดียวกันที่อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา

“พี่วิน…”

เขาตัดสินใจพูด “เซ็นสิ”

!!!!!!!!!!

“พี่วิน… พูดอะไร” เลเบิกตากว้างเหมือนไม่เข้าใจ วินเลยย้ำเป็นครั้งที่สอง

“กูบอกให้มึงเซ็นสัญญา” ทันใดนั้นเองคนรับฟังก็เริ่มเบ้ปาก น้ำตาสีใสเริ่มคลอเบ้าก่อนจะไหลลงอาบแก้มขาวทันที วินมองด้วยสายตานิ่งเฉย เสียงทุ้มตะคอกย้ำเป็นครั้งที่สอง “กูบอกให้มึงเซ็น!!”

“ฮือ พี่วิน”

“มึงจะรออะไร มันทำมึงแล้วหายหัวไป เหตุผลแค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ”

“แต่… แต่… ฮือ”

“แต่อะไร”

“ฮือ เลไม่รู้!” น้องตะโกนลั่นพร้อมกับหันมาซบบ่าเขาอีกครั้งก่อนจะร้องไห้เสียงดัง วินพูดต่อ

“จะยื้อให้นานไปทำไม คิดว่ามันจะกลับมาง้อมึงเหมือนเดิมไหม ส่งทนายมาขนาดนี้มึงก็น่าจะคิดได้แล้วนะเล” เขาหลุบตาลงมองพร้อมกับยกมือขึ้นลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ

“เลไม่รู้ แต่ ฮือ พี่วินจ๋า ฮือ”

วินมองคนข้างกายแล้วถอนหายใจ จากนั้นจึงหันไปบอกกับทนายตรงหน้า “ขอเวลาให้ผมหน่อย”

“ครับ นี่นามบัตรของผม ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็โทรเรียกผมได้ตลอด” มือหนายื่นมือไปรับนามบัตรที่อีกฝ่ายส่งมาให้ แล้วถือวิสาสะเสียมารยาทไม่เดินไปส่งแขก นัยน์ตาคมมองทนายที่กำลังเดินออกไป จากนั้นจึงหันมามองคนที่ยังร้องไห้ไม่หยุดอีกครั้งหนึ่ง แขนแกร่งข้างที่เหลือเอื้อมไปกอดเอวบางเอาไส้ ในขณะที่คนถูกกอดก็เบียดตัวเข้าใส่แต่โดยดี วินกัดฟันกรอด

“กูอยากให้มึงเซ็น” นัยน์ตาคมนั่นแข็งกร้าวขึ้น ยามนึกถึงสภาพคนแรกของเลที่อยู่โรงพยาบาล “กูอยากให้มึงเซ็นมากๆ เลยเล”





20 นาทีต่อมา

“สรุปจะเอายังไง”

คนที่เลิกร้องไห้ตอบกลับ “เลไม่รู้ พี่วินอย่าเร่ง”

“มึงมีเวลาตัดสินใจมา 7 วันแล้วเล” ใบหน้าสวยดูเศร้าลงทันทีที่ได้ยินดังนั้น วินมองอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนจะถามเสียงเบา “รักมันใช่ไหม”

คนฟังเงยหน้าขึ้นทันที วินขยายความต่อ “กูหมายถึงฮิม”

เลเม้มปากแน่นเหมือนไม่อยากพูด แต่ท้ายที่สุดก็พยักหน้าเบาๆ

“เลไม่อยากเซ็น แต่เลก็รู้สึกเหมือนจะมองหน้าพี่ฮิมไม่ได้เหมือนเดิม” น้องเงียบไปสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นถาม “เรื่องที่สนาม เลผิดตรงไหนเหรอพี่วิน”

“…”

“เลแค่อยากช่วยเพื่อน เลดื้อเหรอ”

“…”

“แล้วเลผิดตรงไหน”

“มึงผิด ผิดที่ไม่รู้ แค่นั้นแหละ” วินหลับตาลง มือหนาเอื้อมไปโอบกระหม่อมบางเข้ามาซบที่บ่าอีกครั้งแล้วเอ่ยเสียงทุ้ม

“เลต้องรู้อะไร”

วินถอนหายใจ “เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง”

ผมนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาคนเดียวครู่หนึ่ง ส่วนพี่วินนั้นเดินไปไหนไม่รู้ แต่สักครู่ร่างสูงก็เดินกลับมานั่งข้างผมเหมือนเดิมพร้อมกับถือซองใส่เอกสารสีน้ำตาลมากถึงสี่ห้าซอง ผมเลิกคิ้วฉงน แต่ก่อนจะได้พูดอะไรเสียงทุ้มก็ถามกลับมาเสียก่อน

“จะเอาเรื่องไหนก่อน”

“เรื่องของพี่ฮิม” ผมมองซองเอกสารสีน้ำตาลตรงหน้า ก่อนจะเอนตัวไปซบบ่าแกร่งดังเดิมเป็นจังหวะเดียวกันที่พี่วินเริ่มพูด

“ฮิมมันเป็นต้นคิดสร้างสนามและคลับ และพอมันเริ่มลงทุน พวกกูที่คิดว่าน่าจะสนุกก็เลยมาเป็นหุ้นส่วน” คนข้างกายผมว่า “แต่พอทำแล้วมันไม่จบอยู่แค่สนามกับคลับ เห็นแล้วใช่ไหมว่ามันมีลูกน้องและคนกลัวมันเยอะ เพราะแหล่งอโคจรอย่างนี้ทำให้ธุรกิจเริ่มพวงไปอีกหลายๆ เรื่อง ที่มันอันตรายกว่าเดิม”

“เช่นอะไร”

“เปิดให้กู้นอกระบบ” ผมเม้มปากกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อพี่วินพูดประโยคต่อมา “เหมือนที่เพื่อนมึงยืมไง”

ดวงตากลมเบิกกว้าง รู้สึกเหมือนตัวเองต้องเค้นเสียงถามอย่างยากลำบาก “มะ… หมายถึงเอ็กซ์เหรอ”

พี่วินพยักหน้าและคำตอบที่ได้มาทำให้ผมแทบหยุดหายใจ มือหนาเปิดเอกสารซองแรกออกมาให้ดู มันเป็นสัญญาการกู้ยืมเงินจำนวนมากพอสมควร ลงลายมือชื่อของเอ็กซ์ มีแม้กระทั่งรูปตอนที่เอ็กซ์กำลังเซ็นต์สัญญา ขณะที่ผมกำลังเอื้อมมือมันไปหยิบขึ้นมาอ่านช้าๆ พี่วินก็ว่าต่อ

“แล้วฮิมมันก็พึ่งยกเลิกหนี้ทั้งหมดของมันให้กลายเป็นศูนย์ มีข้อตกลงเพียงอย่างเดียวก็คืออย่ายุ่งกับมึง” ซองเอกสารฉบับที่สองถูกเปิดออกพร้อมๆ กับสัญญาฉบับที่สองซึ่งบ่งบอกว่าหนี้ของเอ็กซ์จะกลายเป็นศูนย์ แค่ไม่ยุ่งกับผมจริงๆ ผมขมวดคิ้ว ยังไม่ทันได้ถามหาเหตุผลพี่วินก็ค้นซองเอกสารฉบับที่สามแล้วดึงผลตรวจอะไรสักอย่างของใครสักคนออกมา “ฮิมไม่อยากให้มันยุ่งกับมึง เพราะไอ้เหี้ยนี่มันเล่นยา”

มันเป็นผลตรวจเลือดของเอ็กซ์ จากโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่ผมรู้จัก มีลายเซ็นของคุณหมอเป็นการกำกับ นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่พี่วินดึงออกมาอีก เป็นรูปถ่ายของเอ็กซ์

ผมมองรูปพวกนั้นแล้วกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกร้อนแผ่วบริเวณเบ้าตา เมื่อรับรู้ได้ว่าความปรารถนาดีของอีกฝ่ายมันไม่เคยส่งมาถึงจิตใจของผมเลย

“ที่แย่ไปกว่านั้น” มือหนาเอื้อมมาลูบศีรษะผมเบาๆ ก่อนที่จะว่าต่อ “งานแข่งรถที่พึ่งผ่านไป มันพึ่งเอามึงไปเป็นของพนัน”

!!!!!!!!!!!!!!!!





“ฮิมมันไม่ค่อยเปิดเผยว่ามึงเป็นน้อง เพราะกลัวว่ามึงจะได้รับอันตรายจากพวกลูกหนี้ ลูกน้องบางส่วนที่ไม่ได้อยู่ในมหา’ลัย จึงแทบไม่ได้รู้เลยว่ามึงเป็นน้องมัน แล้วไอ้คนที่ตรวจของพนันกันแพ้ในงานก็ดันเป็นส่วนนั้นพอดี อีกอย่างในรายละเอียดมันไม่ได้ระบุว่าของพนันต้องเป็นเงิน เพื่อนมึงเลยหัวหมอเอามึงมาเป็นของพนันเพราะหน้าตามึงก็…” วินชะงักค้างยามที่หันหน้าไปมองคนที่นิ่งเงียบ ในมือที่ถือเอกสารยืนยันว่าเลถูกไอ้เหี้ยนั่นหลอกเอา วินรีบยัดมันเข้าซองดังเดิม เขาหยุดพูดทันทีที่ได้มองหน้าอีกฝ่าย

“…” เลนิ่งมาก นิ่งจนวินรู้สึกว่ามันแปลกเกินไป แต่สักพักคนที่กำลังก้มหน้านิ่งก็เงยขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้มจนถึงคาง

แปะ แปะ

จากนั้นก็ไหลถี่พร่าลงมาเป็นสาย ริมฝีปากบางที่กำลังเม้มแน่นกั้นเสียงสะอื้นเอาไว้เริ่มเบ้ออก เสียงร้องโฮดังตามมาทันที

“พี่วิน… ฮือ”

“เฮ้อ” วินมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ ท้ายที่สุดเขาก็ถอนหายใจก่อนจะเอื้อมมือไปโอบอีกฝ่ายเข้ามากอดเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง เสียงทุ้มแสร้งถาม “มึงจะร้องทำไม”

“เสียใจ” เลตอบกลับ “เลแค่อยากช่วยเพื่อน ฮึก! แต่ทำไมเพื่อนถึงทำกับเลแบบนี้ล่ะ ฮือ”

“เพราะมันอาจไม่ได้คิดว่ามึงเป็นเพื่อนตั้งแต่แรกไง”

“ฮือ พี่วิน”

"กูรู้ว่ามึงยึดติดกับมันเพราะมันบังเอิญไม่ใช่ลูกน้องของฮิม ใช่ไหมล่ะ” วินถามแต่เลไม่ได้ให้คำตอบอะไรกลับมา เขาพูดต่อ “บางทีมันก็อาจจะแค่บังเอิญ แค่นั้นแหละเล”

“แต่เอ็กซ์ดีกับเลมาตลอด”

“ดีมาตลอดแล้วมันจะเหี้ยไม่ได้หรือไง กูเอาหลักฐานมาให้มึงดูขนาดนี้มังยังจะคิดว่ามันดีอยู่ไหมล่ะ”

“ฮือ ก็แต่ก่อนเลไม่รู้”

“แล้วเพราะอะไรล่ะ” มือหนาบีบคางเรียวให้เงยหน้าขึ้น แล้วจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้ม นิ้วเรียวค่อยๆ ปาดน้ำตาที่ติดอยู่บนแก้มออก น้องค่อยๆ ตอบกลับมา

“เลไม่ได้คุยกับพี่ฮิม” เสียงแผ่วว่า “พอจะพูดเรื่องเอ็กซ์ทีไรเป็นต้องทะเลาะตลอด เราไม่อยากทะเลาะ สุดท้ายก็ไม่ได้คุยกัน”

“นั่นก็ความผิดมันส่วนหนึ่ง จริงๆ แล้วฮิมมันจะเอาหลักฐานมาให้มึงก็ดูได้แต่มันก็ยังไม่ทำ แล้วเรื่องของไอ้เหี้ยนั่นมันก็ดันเกิดตอนที่มึงยังไม่รู้ความจริง เวลาแม่งเหมาะเกินไปหน่อย” วินเสริม “เรื่องนี้มึงไม่ได้ผิดคนเดียว”

“แล้วนอกจากเรื่องของเอ็กซ์เลผิดอะไร” คราวนี้เป็นวินเองที่ถูกคนข้างกายจับใบหน้าให้หันมามองเจ้าของตาแดงๆ ดังเดิม “เลผิดเรื่องของเอ็กซ์…”

“…” วินนั่งนิ่งฟังอีกฝ่าย

“แต่พี่ฮิมก็โกหกเล ฮิมสัญญาว่าจะบอกเลทุกเรื่อง แต่มันไม่ใช่… พี่ฮิมบอกเรื่องคลับแต่ไม่ได้บอกเรื่องที่สนาม” คนฟังเริ่มหลับตาลงเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นอีกครั้ง “โกหกเล… อีกแล้ว”

“…”

“หรือเรื่องนี้เลก็เป็นคนผิด พี่วินจ๋า เลผิดเหรอ”

“…”

“เลผิดอะไร” วินลืมตาขึ้น นัยน์ตาคมมองคนที่กำลังแสดงสีหน้าเศร้าจนเขาต้องถอนหายใจก่อนจะยกมือขึ้นไปเสยผมแรงๆ น้องที่เห็นท่าทางแบบนั้นถึงกับเบิกตากว้างแล้วถามเสียงตะกุกตะกัก “ละ… หรือที่เลตบพี่ฮิม”

“มันทำอะไรมึงจนต้องเข้าโรงพยาบาล เรื่องนั้นก็เจ๊ากันไปแล้วไง”

คนฟังกลับมาทำหน้าเศร้าอีกครั้งหนึ่ง “แล้วเลผิดอะไร” 

ร่างสูงเอียงคอมองอีกฝ่ายนิ่งๆ แล้วเริ่มต้นประโยคด้วยคำถาม

“รู้หรือเปล่าว่าทำไมฮิมมันถึงเริ่มทำคลับและสนามแข่ง”

“…” เลส่ายหน้าช้าๆ นั่นทำให้วินต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาจริงๆ จังๆ จากนั้นจึงเฉลยคำตอบของคำถาม

“เพราะมึงไงเล”

“…”



“เพราะมึง”



(40%)

ต่อวันพรุ่งนี้จ้า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhankn ที่ 01-09-2017 00:14:26
“รู้หรือเปล่าว่าทำไมฮิมมันถึงเริ่มทำคลับและสนามแข่ง”

“…” เลส่ายหน้าช้าๆ นั่นทำให้วินต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาจริงๆ จังๆ จากนั้นจึงเฉลยคำตอบของคำถาม

“เพราะมึงไงเล”

“…”



“เพราะมึง”

จุกไหมเล คราวนี้จะเลิกดื้อเเล้วยัง เพราะเลไง ที่ฮิมทำทั้งหมดก็เพราะเลนั่นเเหละ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 01-09-2017 00:15:14
เลไม่ผิดหรอกจ้า. แต่เลไม่น่าเกิดมาเลย. อิผีบ้าาาา




(โทษทีค่ะอินไปหน่อย)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: ReWill ที่ 01-09-2017 00:46:27
พี่ฮิมผิดที่ปากแข็งไม่ยอมพูดไม่ยอมบอกอะไรซักที ส่วนเลเป็นเด็กผีที่น่าตบมากก :katai1: (อินจัดอ่ะ 55)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 01-09-2017 02:29:49
ทำคลับกับสนามเถื่อนมันเงินดีไง เลยมีเงินมาเปย์น้องได้สมกับที่เลอยากได้ของแพงๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 01-09-2017 03:32:45
ส่งทนายความมาขนาดนี้ มึงคิดว่ามันจะมาง้ออีกหรอ
โอ้ย...พี่วิน ได้ใจมากอ่ะ นี่ถ้านักเขียนไม่ดักทางไว้ก่อนจะขอเปลี่ยนพระเอกเป็นวินแล้วนะ
เซ็นเลยจ้ะเล อยุ่ก็ทำความลำบากให้ฮิม ออกมาสวยและรวยมาก (อาจจะซื่อจนโง่ไปบ้าง แต่ก็นะ) ฮิมจะได้มีชีวิตเป็นของตัวเองซะที ฮิม หล่อ รวย เลือกได้ขนาดนี้ แค่แฟนสวยๆ คงหาได้อีกเยอะ เลแค่หน้าตาดี แต่ดื้อ ซื่อจนโง่ ไม่เหมาะกับพระเอกที่แสนดีแบบฮิมหรอก ฮาาาาา

อยากอ่านมุมของฮิมบ้าง เผื่อมีหักมุม (ตอนนี้ก้ยังรักเล เซ็งฮิม)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 01-09-2017 06:43:04
พี่วินคนจริง2017 ต้องใจแข็งขนาดไหน 55555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 01-09-2017 07:49:33
เอางัยละเล? จะทำไงต่อ  :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-09-2017 08:04:39
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-09-2017 08:54:18
ยังไงล่ะ?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 01-09-2017 09:05:08
 :katai1: จุดหมายที่ทำเพราะต้องเลี้ยงเล ด้วยตัวฮิมเอง ...โอ๊ยยยยย  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 01-09-2017 10:17:52
ฮิมทำทุกอย่างเพื่อเลมาตลอด แต่ฮิมไม่ได้บอกให้เลรู้ไง ถึงจะเพื่อปกป้อง แต่พอไม่รู้อะไรเลยแบบนี้เด็กมันเลยยิ่งดื้อและต่อต้าน ไม่รู้ฮิมจะเอาไงต่อไปน้อ :z3:

ปล.ตอนนี้พี่วินหล่อมากค่ะ รักและอยากเป็นนางเอกให้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 01-09-2017 10:50:42

ทั้งอยากให้เซ็นและไม่ให้เซ็น
เซ็นแล้วทำตามข้อตกลงได้จริงหรือ
หรือจนกว่าเลจะโตขึ้นกว่านี้

ถอนหายใจ

#พวกพี่ฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 01-09-2017 16:22:53
เซ็นๆไปเห๊อะ ปล่อยพี่ฮิมไปนะเล  :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 01-09-2017 19:16:42
จะเป็นยังไงต่อะ ฮือออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 01-09-2017 23:10:54
ไม่ผิดอะไรเลยเลมึงใสซื่อมาก และสวยได้อีก  :ling2: //อินไปหน่อยอย่าว่ากันน๊า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: Mitaro ที่ 02-09-2017 03:20:29
เลผิดอะไร โถๆๆๆๆๆ กระบือน้อยนี่ไม่รู้จริงดิ :เฮ้อ: ตอนเกาะหลังวินแล้วไม่ตัดสินใจเองเนี่ย หมั่นไส้มาก ตัดกันไปเลยดีกว่าชีวิตฮิมน่าจะเจริญขึ้น ไม่อยากให้กลับมาดีกันเลยถ้าเลยังเป็นแบบนี้อยู่ เสียดายของ(ฮิม)จริงๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (40%) p.32
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 03-09-2017 00:01:48


#24 (70%)



“รู้หรือเปล่าว่าทำไมฮิมมันถึงเริ่มทำคลับและสนามแข่ง”

“…” เลส่ายหน้าช้าๆ นั่นทำให้วินต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาจริงๆ จังๆ จากนั้นจึงเฉลยคำตอบของคำถาม

“เพราะมึงไงเล”

“…”



“เพราะมึง”



“…”

“มันไม่ได้อยากทำเพราะได้อยากชื่อเสียง หรืออยากได้เงิน แต่ต้องทำเพราะมึง”

เลเงียบไปสักพัก ก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “มะ… หมายความว่ายังไง”

“แต่ก่อนมันเคยหอมแก้มมึงหรือเปล่า”

“คะ… เคย”

“เคยถักเปียให้มึงหรือเปล่า”

“เคย”

“เคยลูบหัวมึงหรือเปล่า”

“ก็เคย”

“เคยยิ้มให้มึงหรือเปล่า”

“เคย”

“…”

“ละ เลยังไม่เข้าใจ”

“ทุกสิ่งที่มึงเคยได้ มึงเป็นแค่คนเดียวที่ได้” วินพูดต่อ “มันไม่เคยถักเปียให้ใคร ไม่เคยลูบหัวให้ใคร กระทั่งยิ้มให้คนอื่นยังน้อยมาก”

“ทำไม”

“เพราะมันไม่ใช่นิสัยของมัน” น้องเม้มปากแน่น “มึงเคยคิดหรือเปล่าว่าทำไมคนอื่นถึงกลัวมันนักหนา ไม่ใช่แค่เพราะมันมีลูกน้อง แต่เพราะสิ่งที่มันทำกับคนอื่นด้วย”

“พี่ฮิมทำอะไร”

“เหมือนกับตอนที่สั่งให้ลูกน้องทำกับเพื่อนมึงไง”

!!!!!!!!!!!!!!!!!

วินเห็นอีกฝ่ายแสดงสีหน้าตะลึงอยู่พักนึง เขาพูดต่อทันที “สิ่งที่มันทำกับมึง มันไม่เคยทำกับใคร และสิ่งที่มันทำกับใคร มันก็ไม่เคยเอามาทำมึง แต่สิ่งที่ฮิมเคยทำกับมึง มันไม่ใช่นิสัยของมัน”

“…” เขาเอื้อมมือไปจับแขนทั้งสองข้างของอีกฝ่าย และทันทีที่สัมผัสผิวขาวใส เจ้าของกายก็สะดุ้งเฮือกทันที

“เคยรู้หรือเปล่าว่าตอนที่ฮิมมองมึง มันคิดอะไรอยู่”

ผลัก!

“พี่วิน!” คนที่จู่ๆ ก็ถูกผลักตะโกนลั่น เมื่อแรงผลักทำให้ต้องล้มลงไปนอนหงายบนโซฟา เลเบิกตากว้าง ยิ่งเห็นร่างสูงทาบกายคร่อมลงมา มือบางก็ยกขึ้นพร้อมตวัดตบใบหน้าของอีกฝ่าย ถ้าไม่ติดว่าวินเอื้อมมือไปรวบข้อมือของน้องเอาไว้เสียก่อน จากนั้นจึงกดข้อมือทั้งสองข้างของเลเอาไว้เหนือหัว ส่วนมือหนาอีกข้างเลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อของคนใต้ร่างออก นั่นทำให้เลร้องลั่น “พี่วินจะทำอะไร พี่วินอย่า!”

กระดุมสุดท้ายถูกปลดออกจังหวะเดียวกันที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงไปไซร้ซอกคอของอีกฝ่ายเบาๆ วินใช้แรงกดขาทั้งสองข้างที่เริ่มเตะไปมา มือข้างที่เหลือไล้ตามเอวคอด ริมฝีปากร้อนลากไปตามลำคอขาว เขาไม่สนใจคนที่กำลังร้องตะโกนห้าม ร่างสูงเปลี่ยนจากลากริมฝีปากไปเป็นขบเม้มตรงเนินอกเบาๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงเจ้าตัวร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เขาจึงละตัวออก พร้อมกับจ้องหน้าคนร้องแล้วเอ่ยเสียงเรียบ

“มันเคยบอกกับกูว่าอยากจะแบบนี้กับมึง นานแล้ว” วินปล่อยข้อมือและขาทั้งสองข้างที่เขากดทับอยู่ออก ทันทีที่ร่างกายเป็นอิสระ คนที่เคยนอนราบอยู่บนโซฟาก็รีบลุกขึ้นมาใส่กระดุมเสื้อผ้าแล้วถอยตัวออกไปนั่งจนติดชิดขอบโซฟาทันที นัยน์ตาคมมองการกระนั้นเงียบๆ เขาพูดต่อ “แต่เพราะรู้ว่าทำแล้วมึงจะเป็นแบบนี้”

“ฮือ”

“ก็เลยต้องเป็นพี่ชายที่แสนดีของมึงต่อไป” วินตบท้าย “โดยที่ไม่ใช่นิสัยของมัน พี่ฮิมของมึงกับพี่ฮิมของคนอื่นมันเลยต่างกัน”

“ฮึก!”

“นานๆ เข้าก็…”

“เก็บกด ฮึก เหรอ”

คนฟังถึงกับต้องกลั้นหัวเราะ เก็บกด เลใช้คำที่ดูไม่เข้ากับมันเลยจริงๆ วินพยักหน้า “ก็ประมาณนั้น มันเลยต้องหาทางระบาย แล้วคลับกับสนามก็เลยถูกสร้างขึ้นเป็นที่ระบายอารมณ์ของมันที่เก็บกดมาจากมึง”

“ทำไมต้องสร้าง” คนที่ร้องไห้เหมือนจะยังไม่เข้าใจ “ทั้งๆ ที่ผู้หญิง…”

วินเข้าใจได้ทันที

“มันไม่ได้มั่วขนาดนั้น” ถ้าไม่นับที่พาผู้หญิงสี่คนเข้าห้องในคืนเดียว “อีกอย่างเรื่องแบบนี้มันเสี่ยงด้วย เกิดเขาท้องขึ้นมาก็แย่อีก”

“แล้วผู้ชายล่ะ” นัยน์ตาคมมอง คนถามเองที่กำลังทำหน้าเศร้าเอง “แบบนี้ก็ไม่มีปัญหาใช่ไหมล่ะ”

แต่นั่นทำให้วินเลิกคิ้วขึ้นคล้ายแปลกใจ “ฮิมไม่เคยบอกมึงเหรอ”

“เรื่องอะไร”

“มันไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น”

!!!!!!!!!!!!!!!!!

“จริง ? จริงเหรอ” คนฟังเบิกตากว้างทันที “พี่วินพูดจริงเหรอ!”

“ก็ตั้งแต่ที่กูสังเกตมาก็ไม่มี”

“ทำไมล่ะ!”

คนถูกถามถอนหายใจ วินกรอกตามองขึ้นไปแล้วตอบ

“มันบอกว่าเก็บไว้ให้มึง”

เลเริ่มเบะปากทันทีที่ได้ยิน จากนั้นเสียงนุ่มก็ร้องไห้โฮออกมาติดๆ “ดีใจจัง”

“เออ” ยินดีด้วย

ประโยคหลังเขาไม่ได้พูดออกไป นัยน์ตาคมเท้าคางมองคนที่กำลังทำหน้าดีใจเงียบๆ





“พี่วิน”

“มีอะไรอีก” วินตอบกลับหลังจากที่ภายในห้องนั่งเล่นเงียบอยู่นาน เพราะน้องก็เลิกร้องไห้ไปหลายนาทีแล้ว ตอนนี้จึงมีแต่เสียงหงอยๆ แทน

“เพราะเล พี่ฮิมเลยต้องเป็นแบบนั้นใช่ไหม”

“หมายถึงอะไร”

“ก็ฮิม…”

“กูว่ามึงต้องเข้าใจอะไรผิด” วินมองหน้าคนถาม “ถ้าหมายถึงนิสัยมันล่ะก็ ฮิมก็เป็นแบบนั้นของมันมาตั้งนาน ไม่ใช่มึงทำให้นิสัยมันเป็นแบบนั้น”

ร่างสูงถอนหายใจแล้วว่าต่อ “จริงๆ แล้วจะว่าเป็นเพราะมึงก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอก  มันเลือกที่จะเหี้ยกับคนอื่นแล้วดีกับมึงคนเดียวก็เรื่องของมัน แต่การดีกับมึงแล้วทำให้มันต้องหาที่ระบาย ก็เป็นเรื่องของมันอีก”

“แต่ยังไงก็เป็นเพราะเลใช่ไหมล่ะ”

“อาจจะใช่บางส่วน แต่มึงไม่ได้บังคับให้มันทำหนิ เต็มใจทำเองก็ทำไป”

“แล้วเลควรทำยังไง” วินถอนหายใจ

“กูบอกแล้วว่าอยากให้มึงเซ็นต์สัญญา” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเริ่มจริงจังขึ้นมา “เพราะกูรู้ว่ามันเป็นยังไง แต่กูไม่รู้ว่าถ้ามันใช้นิสัยนั่นกับมึงจริงๆ มันจะเป็นยังไง”

“แล้วเลจะรู้ได้ยังไง”

“…”

“…”

“เฮ้อ! เหี้ยไรวะเนี่ย” คนที่รับหน้าที่แก้ปัญหามาโดยตลอดถึงกับต้องสบถ มือหนายกขึ้นกุมขมับพร้อมทั้งขยี้ผมแรงๆ วินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วว่าต่อ “กูว่ามึงรู้อยู่แล้วว่าต้องทำยังไง”

“…” น้องเม้มปากแน่น ดวงตากลมก้มลงมองแต่มือของตัวเองที่ประสานกันเอาไว้

“แต่กูอยู่ข้างมึงมาตลอด ตอนนี้กูอยากให้มึงเซ็นต์สัญญา เพราะฉะนั้นมึงต้องฟังกูด้วย”

“…”

“มันส่งทนายมาขนาดนี้ มึงคงต้องไปหามันเองแล้วพิสูจน์เรื่องที่อยากรู้”

“…”

“รับได้ก็ดีกันไป รับไม่ได้ก็ลาขาด”

“…”

“แต่กูให้เวลามึงแค่สามวัน”

“…”

“แค่สามวัน จะไปไหนก็ไป”

พรึบ!

คนที่นั่งเงียบไม่ตอบลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินดังนั้น วินมองแผ่นหลังบางที่เดินออกจากห้องนั่งเล่นไปตามด้วยเสียงคนเดินขึ้นบันได แต่หลังจากนั้นไม่ถึงห้านาทีเขาก็ได้ยินเสียงคนเดินลงบันได และถัดไปประมาณสองนาทีเสียงสตาร์ทรถก็ดังขึ้นจนคนที่ยังคงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นต้องแสยะยิ้มที่มุมปากพร้อมทั้งยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ร่างสูงเอนตัวลงนอนราบบนโซฟาก่อนจะเงยหน้ามองเพดานแล้วพึมพำ

“กูอยากให้มึงเซ็นต์สัญญาจริงๆ นะเล”

วินหลับตาลง พูดไปตอนนี้เขาก็คงห้ามคนที่พึ่งขับรถออกไปไม่ได้แล้ว









(70%)

ตอนที่ให้พี่ฮิมไปมีอะไรกับคนอื่น มีนักอ่านหลายคนบอกว่าพระเอกเนี่ยไม่ชอบเก็บจิ้นเอาไว้ให้นายเอกเนาะ แล้วนี่ตั้งใจเอาไว้อยู่แล้วว่าจะให้พี่ฮิมไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย เพราะนางคาดคะเนเอาไว้แล้วว่าเลต้องงอน555555

ส่วนน้องเลสตรองนะลูกแม่ ส่วนพี่วินจริงๆ นางก็มีเหตุผลของนางนะๆๆ



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์


ปล. ไรท์คะ ระหว่างพี่ฮิมกับเลคิดว่าใครผิดคะ ?
เรื่องนี้ยาวจ้า ขก ตอบเดี๋ยวนักอ่านทะเลาะกันอีก อยากรู้ DM มาเด้อ55555
twitter @_mdreds
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 310817#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 03-09-2017 00:53:30

ตกใจ นึกว่าพี่วินจะทำกับน้องแบบนั้นจริงๆ
พี่วินรักเล คือเหตุผลหรือเปล่าคะ
ถ้าเซ็นต์แล้วจะยังไง
โอ๊ย เดาทางยาก
ถ้าใช้นิสัยอย่างนั้นกับเลจริงๆ มันจะยังไง

ยาว เรื่องนี้ยาว ต้องใจเย็นๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 03-09-2017 00:56:32
โอ้ยย ใจจะวายตอนพี่วินทำ  :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-09-2017 06:02:50
ให้สงสัยใจจริงของวิน
ว่ารู้สึกอย่างไรแน่กับเล
เริ่มแรกถักเปียให้เลงเพราฮิมไมอยู่
ก็ถักจนเลร้อง เพราะเจ็บหนังหัว
พอฮิมถักให้เล วินก็มองตามศึกษาว่าถักอย่างไร  :hao3:

พอวินอยากให้เล เซนต์
เพราะอะไร เพื่อเลจะได้ขาดจากฮิมจริงๆสินะ
ไม่ใช่เพราะสงสารเล
แต่เป็นเพราะจะได้เป็นโอกาสของวินที่จะเข้าหาเล ใกล้ชิดเล ใช่มั้ย  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 03-09-2017 06:43:23
มาแบบสั้นๆ ขออีกเยอะๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 03-09-2017 09:00:39
 :hao5: วินโคตรรักน้องเลย แต่รักในแบบฉบับของวิน เหมือนถ้าน้องพลาดวินจะรับน้องต่อ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 03-09-2017 09:19:28
คนเขียนเคยบอกว่าพี่วินไม่ได้คิดอะไรกับน้องแบบนั้น เราจำได้ เราจำ!

ขอโคนั้นสัก10คนพอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 03-09-2017 10:40:21
คิดว่าพี่วินมองเลเหมือนเป็นน้องแท้ๆเลยเป็นห่วงขนาดนี้
รอลุ้นสภาพพี่ฮิมตอนเลไปหาเลยค่ะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-09-2017 11:59:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-09-2017 13:36:05
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: Thanaphon ที่ 03-09-2017 17:09:16
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:  มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 03-09-2017 17:18:00
ตื่นเต้นๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 03-09-2017 18:21:13
เซ็นๆ ไปเหอะเล ดูๆแล้วก็ไม่ได้รักฮิมเท่าไหร่นี่ ถ้ารักจะไม่ลังเลอะไรเลย หึ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: Kmiew ที่ 03-09-2017 19:22:57
นี่มองเรื่องที่พระเอกนอนกับคนอื่น ทำไมพระเอกนิยายต้องเงี่ยนอะไรเบอร์นั้นเป็นเกือบทุกเรื่องคือต้องมีที่ระบายนอนกับคนนู้นนู้นนี่เพราะไม่อยากทำร้ายนายเอก เหตุผลโคตรจะเห็นแก่ตัว ลองนายเอกไปนอนกับคนอื่นแก้เบื่อดูจะเป็นอะไรที่รับไม่ได้กัน พอพระเอกทำกลับเป็นเรื่องธรรมดา wtf หึหึ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (70%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 03-09-2017 22:24:46


#24 (80%)

บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเงียบลงไปถนัดตา วินที่กลับมาบ้านได้จังหวะเหมาะเจาะกำลังนั่งอ่านสัญญาในมือ ข้างกายของเขามีคนบางคนกำลังซบหน้าลงบนบ่าของเขาอยู่ เลซบอยู่แบบนี้มาเกือบสิบห้านาทีจะได้แล้ว

ร่างสูงถอนหายใจเมื่ออ่านสัญญาเป็นรอบที่สามอย่างถี่ถ้วนทุกตัวอักษรจบ มือหนายื่นมันส่งไปคืนให้กับคนที่กำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับพวกเขา ทนายของฮิมที่บอกว่าตัวเองชื่อกฤศ

“ต้องเซ็นวันนี้เลยหรือเปล่าครับ” ทันทีที่ออกคำถาม มือบางที่กำชายเสื้อนักศึกษาอยู่ก็เหมือนว่าจะกำแน่นขึ้นกว่าเดิม วินเหล่ตามองเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงทุ้มที่ตอบกลับมาอย่างสุภาพว่า

“จริงๆ แล้วคุณเฮดินก็ไม่ได้ระบุวันเซ็นสัญญาหรอกครับ แค่บอกมาว่าถ้าคุณนิพิฑอยากเซ็นตอนไหนก็ให้เซ็นตอนนั้น ผมเลยเอาเรื่องนี้มาบอกก่อน”

“หมายความว่าเลื่อนวันเซ็นสัญญาออกไปได้”

“ได้ครับ”

“แล้วถ้าไม่เซ็นเลยล่ะ ?”

อีกฝ่ายยิ้มรับ “ถ้าจะไม่เซ็นเลย เรื่องนี้คงต้องไปคุยกับคุณเฮดินก่อนนะครับ เพราะสัญญานี้บ่งบอกว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่เกี่ยวพันกันอีกต่อไปไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน”

วินหันหน้าไปมองคนที่ยังซบบ่าเขาไม่ห่าง จากนั้นจึงดึงตัวน้องมานั่งหันหน้าคุยกันดีๆ จังหวะนั้นเองที่เขาได้เห็นสีหน้าของเล นัยน์ตาคมหลุบลงมองนิ่งๆ เป็นเวลาเดียวกันที่อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา

“พี่วิน…”

เขาตัดสินใจพูด “เซ็นสิ”

!!!!!!!!!!

“พี่วิน… พูดอะไร” เลเบิกตากว้างเหมือนไม่เข้าใจ วินเลยย้ำเป็นครั้งที่สอง

“กูบอกให้มึงเซ็นสัญญา” ทันใดนั้นเองคนรับฟังก็เริ่มเบ้ปาก น้ำตาสีใสเริ่มคลอเบ้าก่อนจะไหลลงอาบแก้มขาวทันที วินมองด้วยสายตานิ่งเฉย เสียงทุ้มตะคอกย้ำเป็นครั้งที่สอง “กูบอกให้มึงเซ็น!!”

“ฮือ พี่วิน”

“มึงจะรออะไร มันทำมึงแล้วหายหัวไป เหตุผลแค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ”

“แต่… แต่… ฮือ”

“แต่อะไร”

“ฮือ เลไม่รู้!” น้องตะโกนลั่นพร้อมกับหันมาซบบ่าเขาอีกครั้งก่อนจะร้องไห้เสียงดัง วินพูดต่อ

“จะยื้อให้นานไปทำไม คิดว่ามันจะกลับมาง้อมึงเหมือนเดิมไหม ส่งทนายมาขนาดนี้มึงก็น่าจะคิดได้แล้วนะเล” เขาหลุบตาลงมองพร้อมกับยกมือขึ้นลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ

“เลไม่รู้ แต่ ฮือ พี่วินจ๋า ฮือ”

วินมองคนข้างกายแล้วถอนหายใจ จากนั้นจึงหันไปบอกกับทนายตรงหน้า “ขอเวลาให้ผมหน่อย”

“ครับ นี่นามบัตรของผม ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็โทรเรียกผมได้ตลอด” มือหนายื่นมือไปรับนามบัตรที่อีกฝ่ายส่งมาให้ แล้วถือวิสาสะเสียมารยาทไม่เดินไปส่งแขก นัยน์ตาคมมองทนายที่กำลังเดินออกไป จากนั้นจึงหันมามองคนที่ยังร้องไห้ไม่หยุดอีกครั้งหนึ่ง แขนแกร่งข้างที่เหลือเอื้อมไปกอดเอวบางเอาไส้ ในขณะที่คนถูกกอดก็เบียดตัวเข้าใส่แต่โดยดี วินกัดฟันกรอด

“กูอยากให้มึงเซ็น” นัยน์ตาคมนั่นแข็งกร้าวขึ้น ยามนึกถึงสภาพคนแรกของเลที่อยู่โรงพยาบาล “กูอยากให้มึงเซ็นมากๆ เลยเล”





20 นาทีต่อมา

“สรุปจะเอายังไง”

คนที่เลิกร้องไห้ตอบกลับ “เลไม่รู้ พี่วินอย่าเร่ง”

“มึงมีเวลาตัดสินใจมา 7 วันแล้วเล” ใบหน้าสวยดูเศร้าลงทันทีที่ได้ยินดังนั้น วินมองอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนจะถามเสียงเบา “รักมันใช่ไหม”

คนฟังเงยหน้าขึ้นทันที วินขยายความต่อ “กูหมายถึงฮิม”

เลเม้มปากแน่นเหมือนไม่อยากพูด แต่ท้ายที่สุดก็พยักหน้าเบาๆ

“เลไม่อยากเซ็น แต่เลก็รู้สึกเหมือนจะมองหน้าพี่ฮิมไม่ได้เหมือนเดิม” น้องเงียบไปสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นถาม “เรื่องที่สนาม เลผิดตรงไหนเหรอพี่วิน”

“…”

“เลแค่อยากช่วยเพื่อน เลดื้อเหรอ”

“…”

“แล้วเลผิดตรงไหน”

“มึงผิด ผิดที่ไม่รู้ แค่นั้นแหละ” วินหลับตาลง มือหนาเอื้อมไปโอบกระหม่อมบางเข้ามาซบที่บ่าอีกครั้งแล้วเอ่ยเสียงทุ้ม

“เลต้องรู้อะไร”

วินถอนหายใจ “เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง”

ผมนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาคนเดียวครู่หนึ่ง ส่วนพี่วินนั้นเดินไปไหนไม่รู้ แต่สักครู่ร่างสูงก็เดินกลับมานั่งข้างผมเหมือนเดิมพร้อมกับถือซองใส่เอกสารสีน้ำตาลมากถึงสี่ห้าซอง ผมเลิกคิ้วฉงน แต่ก่อนจะได้พูดอะไรเสียงทุ้มก็ถามกลับมาเสียก่อน

“จะเอาเรื่องไหนก่อน”

“เรื่องของพี่ฮิม” ผมมองซองเอกสารสีน้ำตาลตรงหน้า ก่อนจะเอนตัวไปซบบ่าแกร่งดังเดิมเป็นจังหวะเดียวกันที่พี่วินเริ่มพูด

“ฮิมมันเป็นต้นคิดสร้างสนามและคลับ และพอมันเริ่มลงทุน พวกกูที่คิดว่าน่าจะสนุกก็เลยมาเป็นหุ้นส่วน” คนข้างกายผมว่า “แต่พอทำแล้วมันไม่จบอยู่แค่สนามกับคลับ เห็นแล้วใช่ไหมว่ามันมีลูกน้องและคนกลัวมันเยอะ เพราะแหล่งอโคจรอย่างนี้ทำให้ธุรกิจเริ่มพวงไปอีกหลายๆ เรื่อง ที่มันอันตรายกว่าเดิม”

“เช่นอะไร”

“เปิดให้กู้นอกระบบ” ผมเม้มปากกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อพี่วินพูดประโยคต่อมา “เหมือนที่เพื่อนมึงยืมไง”

ดวงตากลมเบิกกว้าง รู้สึกเหมือนตัวเองต้องเค้นเสียงถามอย่างยากลำบาก “มะ… หมายถึงเอ็กซ์เหรอ”

พี่วินพยักหน้าและคำตอบที่ได้มาทำให้ผมแทบหยุดหายใจ มือหนาเปิดเอกสารซองแรกออกมาให้ดู มันเป็นสัญญาการกู้ยืมเงินจำนวนมากพอสมควร ลงลายมือชื่อของเอ็กซ์ มีแม้กระทั่งรูปตอนที่เอ็กซ์กำลังเซ็นต์สัญญา ขณะที่ผมกำลังเอื้อมมือมันไปหยิบขึ้นมาอ่านช้าๆ พี่วินก็ว่าต่อ

“แล้วฮิมมันก็พึ่งยกเลิกหนี้ทั้งหมดของมันให้กลายเป็นศูนย์ มีข้อตกลงเพียงอย่างเดียวก็คืออย่ายุ่งกับมึง” ซองเอกสารฉบับที่สองถูกเปิดออกพร้อมๆ กับสัญญาฉบับที่สองซึ่งบ่งบอกว่าหนี้ของเอ็กซ์จะกลายเป็นศูนย์ แค่ไม่ยุ่งกับผมจริงๆ ผมขมวดคิ้ว ยังไม่ทันได้ถามหาเหตุผลพี่วินก็ค้นซองเอกสารฉบับที่สามแล้วดึงผลตรวจอะไรสักอย่างของใครสักคนออกมา “ฮิมไม่อยากให้มันยุ่งกับมึง เพราะไอ้เหี้ยนี่มันเล่นยา”

มันเป็นผลตรวจเลือดของเอ็กซ์ จากโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่ผมรู้จัก มีลายเซ็นของคุณหมอเป็นการกำกับ นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่พี่วินดึงออกมาอีก เป็นรูปถ่ายของเอ็กซ์

ผมมองรูปพวกนั้นแล้วกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกร้อนแผ่วบริเวณเบ้าตา เมื่อรับรู้ได้ว่าความปรารถนาดีของอีกฝ่ายมันไม่เคยส่งมาถึงจิตใจของผมเลย

“ที่แย่ไปกว่านั้น” มือหนาเอื้อมมาลูบศีรษะผมเบาๆ ก่อนที่จะว่าต่อ “งานแข่งรถที่พึ่งผ่านไป มันพึ่งเอามึงไปเป็นของพนัน”

!!!!!!!!!!!!!!!!





“ฮิมมันไม่ค่อยเปิดเผยว่ามึงเป็นน้อง เพราะกลัวว่ามึงจะได้รับอันตรายจากพวกลูกหนี้ ลูกน้องบางส่วนที่ไม่ได้อยู่ในมหา’ลัย จึงแทบไม่ได้รู้เลยว่ามึงเป็นน้องมัน แล้วไอ้คนที่ตรวจของพนันกันแพ้ในงานก็ดันเป็นส่วนนั้นพอดี อีกอย่างในรายละเอียดมันไม่ได้ระบุว่าของพนันต้องเป็นเงิน เพื่อนมึงเลยหัวหมอเอามึงมาเป็นของพนันเพราะหน้าตามึงก็…” วินชะงักค้างยามที่หันหน้าไปมองคนที่นิ่งเงียบ ในมือที่ถือเอกสารยืนยันว่าเลถูกไอ้เหี้ยนั่นหลอกเอา วินรีบยัดมันเข้าซองดังเดิม เขาหยุดพูดทันทีที่ได้มองหน้าอีกฝ่าย

“…” เลนิ่งมาก นิ่งจนวินรู้สึกว่ามันแปลกเกินไป แต่สักพักคนที่กำลังก้มหน้านิ่งก็เงยขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้มจนถึงคาง

แปะ แปะ

จากนั้นก็ไหลถี่พร่าลงมาเป็นสาย ริมฝีปากบางที่กำลังเม้มแน่นกั้นเสียงสะอื้นเอาไว้เริ่มเบ้ออก เสียงร้องโฮดังตามมาทันที

“พี่วิน… ฮือ”

“เฮ้อ” วินมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ ท้ายที่สุดเขาก็ถอนหายใจก่อนจะเอื้อมมือไปโอบอีกฝ่ายเข้ามากอดเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง เสียงทุ้มแสร้งถาม “มึงจะร้องทำไม”

“เสียใจ” เลตอบกลับ “เลแค่อยากช่วยเพื่อน ฮึก! แต่ทำไมเพื่อนถึงทำกับเลแบบนี้ล่ะ ฮือ”

“เพราะมันอาจไม่ได้คิดว่ามึงเป็นเพื่อนตั้งแต่แรกไง”

“ฮือ พี่วิน”

"กูรู้ว่ามึงยึดติดกับมันเพราะมันบังเอิญไม่ใช่ลูกน้องของฮิม ใช่ไหมล่ะ” วินถามแต่เลไม่ได้ให้คำตอบอะไรกลับมา เขาพูดต่อ “บางทีมันก็อาจจะแค่บังเอิญ แค่นั้นแหละเล”

“แต่เอ็กซ์ดีกับเลมาตลอด”

“ดีมาตลอดแล้วมันจะเหี้ยไม่ได้หรือไง กูเอาหลักฐานมาให้มึงดูขนาดนี้มังยังจะคิดว่ามันดีอยู่ไหมล่ะ”

“ฮือ ก็แต่ก่อนเลไม่รู้”

“แล้วเพราะอะไรล่ะ” มือหนาบีบคางเรียวให้เงยหน้าขึ้น แล้วจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้ม นิ้วเรียวค่อยๆ ปาดน้ำตาที่ติดอยู่บนแก้มออก น้องค่อยๆ ตอบกลับมา

“เลไม่ได้คุยกับพี่ฮิม” เสียงแผ่วว่า “พอจะพูดเรื่องเอ็กซ์ทีไรเป็นต้องทะเลาะตลอด เราไม่อยากทะเลาะ สุดท้ายก็ไม่ได้คุยกัน”

“นั่นก็ความผิดมันส่วนหนึ่ง จริงๆ แล้วฮิมมันจะเอาหลักฐานมาให้มึงก็ดูได้แต่มันก็ยังไม่ทำ แล้วเรื่องของไอ้เหี้ยนั่นมันก็ดันเกิดตอนที่มึงยังไม่รู้ความจริง เวลาแม่งเหมาะเกินไปหน่อย” วินเสริม “เรื่องนี้มึงไม่ได้ผิดคนเดียว”

“แล้วนอกจากเรื่องของเอ็กซ์เลผิดอะไร” คราวนี้เป็นวินเองที่ถูกคนข้างกายจับใบหน้าให้หันมามองเจ้าของตาแดงๆ ดังเดิม “เลผิดเรื่องของเอ็กซ์…”

“…” วินนั่งนิ่งฟังอีกฝ่าย

“แต่พี่ฮิมก็โกหกเล ฮิมสัญญาว่าจะบอกเลทุกเรื่อง แต่มันไม่ใช่… พี่ฮิมบอกเรื่องคลับแต่ไม่ได้บอกเรื่องที่สนาม” คนฟังเริ่มหลับตาลงเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นอีกครั้ง “โกหกเล… อีกแล้ว”

“…”

“หรือเรื่องนี้เลก็เป็นคนผิด พี่วินจ๋า เลผิดเหรอ”

“…”

“เลผิดอะไร” วินลืมตาขึ้น นัยน์ตาคมมองคนที่กำลังแสดงสีหน้าเศร้าจนเขาต้องถอนหายใจก่อนจะยกมือขึ้นไปเสยผมแรงๆ น้องที่เห็นท่าทางแบบนั้นถึงกับเบิกตากว้างแล้วถามเสียงตะกุกตะกัก “ละ… หรือที่เลตบพี่ฮิม”

“มันทำอะไรมึงจนต้องเข้าโรงพยาบาล เรื่องนั้นก็เจ๊ากันไปแล้วไง”

คนฟังกลับมาทำหน้าเศร้าอีกครั้งหนึ่ง “แล้วเลผิดอะไร” 

ร่างสูงเอียงคอมองอีกฝ่ายนิ่งๆ แล้วเริ่มต้นประโยคด้วยคำถาม

“รู้หรือเปล่าว่าทำไมฮิมมันถึงเริ่มทำคลับและสนามแข่ง”

“…” เลส่ายหน้าช้าๆ นั่นทำให้วินต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาจริงๆ จังๆ จากนั้นจึงเฉลยคำตอบของคำถาม

“เพราะมึงไงเล”

“…”



“เพราะมึง”



“…”

“มันไม่ได้อยากทำเพราะได้อยากชื่อเสียง หรืออยากได้เงิน แต่ต้องทำเพราะมึง”

เลเงียบไปสักพัก ก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “มะ… หมายความว่ายังไง”

“แต่ก่อนมันเคยหอมแก้มมึงหรือเปล่า”

“คะ… เคย”

“เคยถักเปียให้มึงหรือเปล่า”

“เคย”

“เคยลูบหัวมึงหรือเปล่า”

“ก็เคย”

“เคยยิ้มให้มึงหรือเปล่า”

“เคย”

“…”

“ละ เลยังไม่เข้าใจ”

“ทุกสิ่งที่มึงเคยได้ มึงเป็นแค่คนเดียวที่ได้” วินพูดต่อ “มันไม่เคยถักเปียให้ใคร ไม่เคยลูบหัวให้ใคร กระทั่งยิ้มให้คนอื่นยังน้อยมาก”

“ทำไม”

“เพราะมันไม่ใช่นิสัยของมัน” น้องเม้มปากแน่น “มึงเคยคิดหรือเปล่าว่าทำไมคนอื่นถึงกลัวมันนักหนา ไม่ใช่แค่เพราะมันมีลูกน้อง แต่เพราะสิ่งที่มันทำกับคนอื่นด้วย”

“พี่ฮิมทำอะไร”

“เหมือนกับตอนที่สั่งให้ลูกน้องทำกับเพื่อนมึงไง”

!!!!!!!!!!!!!!!!!

วินเห็นอีกฝ่ายแสดงสีหน้าตะลึงอยู่พักนึง เขาพูดต่อทันที “สิ่งที่มันทำกับมึง มันไม่เคยทำกับใคร และสิ่งที่มันทำกับใคร มันก็ไม่เคยเอามาทำมึง แต่สิ่งที่ฮิมเคยทำกับมึง มันไม่ใช่นิสัยของมัน”

“…” เขาเอื้อมมือไปจับแขนทั้งสองข้างของอีกฝ่าย และทันทีที่สัมผัสผิวขาวใส เจ้าของกายก็สะดุ้งเฮือกทันที

“เคยรู้หรือเปล่าว่าตอนที่ฮิมมองมึง มันคิดอะไรอยู่”

ผลัก!

“พี่วิน!” คนที่จู่ๆ ก็ถูกผลักตะโกนลั่น เมื่อแรงผลักทำให้ต้องล้มลงไปนอนหงายบนโซฟา เลเบิกตากว้าง ยิ่งเห็นร่างสูงทาบกายคร่อมลงมา มือบางก็ยกขึ้นพร้อมตวัดตบใบหน้าของอีกฝ่าย ถ้าไม่ติดว่าวินเอื้อมมือไปรวบข้อมือของน้องเอาไว้เสียก่อน จากนั้นจึงกดข้อมือทั้งสองข้างของเลเอาไว้เหนือหัว ส่วนมือหนาอีกข้างเลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อของคนใต้ร่างออก นั่นทำให้เลร้องลั่น “พี่วินจะทำอะไร พี่วินอย่า!”

กระดุมสุดท้ายถูกปลดออกจังหวะเดียวกันที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงไปไซร้ซอกคอของอีกฝ่ายเบาๆ วินใช้แรงกดขาทั้งสองข้างที่เริ่มเตะไปมา มือข้างที่เหลือไล้ตามเอวคอด ริมฝีปากร้อนลากไปตามลำคอขาว เขาไม่สนใจคนที่กำลังร้องตะโกนห้าม ร่างสูงเปลี่ยนจากลากริมฝีปากไปเป็นขบเม้มตรงเนินอกเบาๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงเจ้าตัวร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เขาจึงละตัวออก พร้อมกับจ้องหน้าคนร้องแล้วเอ่ยเสียงเรียบ

“มันเคยบอกกับกูว่าอยากจะแบบนี้กับมึง นานแล้ว” วินปล่อยข้อมือและขาทั้งสองข้างที่เขากดทับอยู่ออก ทันทีที่ร่างกายเป็นอิสระ คนที่เคยนอนราบอยู่บนโซฟาก็รีบลุกขึ้นมาใส่กระดุมเสื้อผ้าแล้วถอยตัวออกไปนั่งจนติดชิดขอบโซฟาทันที นัยน์ตาคมมองการกระนั้นเงียบๆ เขาพูดต่อ “แต่เพราะรู้ว่าทำแล้วมึงจะเป็นแบบนี้”

“ฮือ”

“ก็เลยต้องเป็นพี่ชายที่แสนดีของมึงต่อไป” วินตบท้าย “โดยที่ไม่ใช่นิสัยของมัน พี่ฮิมของมึงกับพี่ฮิมของคนอื่นมันเลยต่างกัน”

“ฮึก!”

“นานๆ เข้าก็…”

“เก็บกด ฮึก เหรอ”

คนฟังถึงกับต้องกลั้นหัวเราะ เก็บกด เลใช้คำที่ดูไม่เข้ากับมันเลยจริงๆ วินพยักหน้า “ก็ประมาณนั้น มันเลยต้องหาทางระบาย แล้วคลับกับสนามก็เลยถูกสร้างขึ้นเป็นที่ระบายอารมณ์ของมันที่เก็บกดมาจากมึง”

“ทำไมต้องสร้าง” คนที่ร้องไห้เหมือนจะยังไม่เข้าใจ “ทั้งๆ ที่ผู้หญิง…”

วินเข้าใจได้ทันที

“มันไม่ได้มั่วขนาดนั้น” ถ้าไม่นับที่พาผู้หญิงสี่คนเข้าห้องในคืนเดียว “อีกอย่างเรื่องแบบนี้มันเสี่ยงด้วย เกิดเขาท้องขึ้นมาก็แย่อีก”

“แล้วผู้ชายล่ะ” นัยน์ตาคมมอง คนถามเองที่กำลังทำหน้าเศร้าเอง “แบบนี้ก็ไม่มีปัญหาใช่ไหมล่ะ”

แต่นั่นทำให้วินเลิกคิ้วขึ้นคล้ายแปลกใจ “ฮิมไม่เคยบอกมึงเหรอ”

“เรื่องอะไร”

“มันไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น”

!!!!!!!!!!!!!!!!!

“จริง ? จริงเหรอ” คนฟังเบิกตากว้างทันที “พี่วินพูดจริงเหรอ!”

“ก็ตั้งแต่ที่กูสังเกตมาก็ไม่มี”

“ทำไมล่ะ!”

คนถูกถามถอนหายใจ วินกรอกตามองขึ้นไปแล้วตอบ

“มันบอกว่าเก็บไว้ให้มึง”

เลเริ่มเบะปากทันทีที่ได้ยิน จากนั้นเสียงนุ่มก็ร้องไห้โฮออกมาติดๆ “ดีใจจัง”

“เออ” ยินดีด้วย

ประโยคหลังเขาไม่ได้พูดออกไป นัยน์ตาคมเท้าคางมองคนที่กำลังทำหน้าดีใจเงียบๆ





“พี่วิน”

“มีอะไรอีก” วินตอบกลับหลังจากที่ภายในห้องนั่งเล่นเงียบอยู่นาน เพราะน้องก็เลิกร้องไห้ไปหลายนาทีแล้ว ตอนนี้จึงมีแต่เสียงหงอยๆ แทน

“เพราะเล พี่ฮิมเลยต้องเป็นแบบนั้นใช่ไหม”

“หมายถึงอะไร”

“ก็ฮิม…”

“กูว่ามึงต้องเข้าใจอะไรผิด” วินมองหน้าคนถาม “ถ้าหมายถึงนิสัยมันล่ะก็ ฮิมก็เป็นแบบนั้นของมันมาตั้งนาน ไม่ใช่มึงทำให้นิสัยมันเป็นแบบนั้น”

ร่างสูงถอนหายใจแล้วว่าต่อ “จริงๆ แล้วจะว่าเป็นเพราะมึงก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอก  มันเลือกที่จะเหี้ยกับคนอื่นแล้วดีกับมึงคนเดียวก็เรื่องของมัน แต่การดีกับมึงแล้วทำให้มันต้องหาที่ระบาย ก็เป็นเรื่องของมันอีก”

“แต่ยังไงก็เป็นเพราะเลใช่ไหมล่ะ”

“อาจจะใช่บางส่วน แต่มึงไม่ได้บังคับให้มันทำหนิ เต็มใจทำเองก็ทำไป”

“แล้วเลควรทำยังไง” วินถอนหายใจ

“กูบอกแล้วว่าอยากให้มึงเซ็นต์สัญญา” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเริ่มจริงจังขึ้นมา “เพราะกูรู้ว่ามันเป็นยังไง แต่กูไม่รู้ว่าถ้ามันใช้นิสัยนั่นกับมึงจริงๆ มันจะเป็นยังไง”

“แล้วเลจะรู้ได้ยังไง”

“…”

“…”

“เฮ้อ! เหี้ยไรวะเนี่ย” คนที่รับหน้าที่แก้ปัญหามาโดยตลอดถึงกับต้องสบถ มือหนายกขึ้นกุมขมับพร้อมทั้งขยี้ผมแรงๆ วินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วว่าต่อ “กูว่ามึงรู้อยู่แล้วว่าต้องทำยังไง”

“…” น้องเม้มปากแน่น ดวงตากลมก้มลงมองแต่มือของตัวเองที่ประสานกันเอาไว้

“แต่กูอยู่ข้างมึงมาตลอด ตอนนี้กูอยากให้มึงเซ็นต์สัญญา เพราะฉะนั้นมึงต้องฟังกูด้วย”

“…”

“มันส่งทนายมาขนาดนี้ มึงคงต้องไปหามันเองแล้วพิสูจน์เรื่องที่อยากรู้”

“…”

“รับได้ก็ดีกันไป รับไม่ได้ก็ลาขาด”

“…”

“แต่กูให้เวลามึงแค่สามวัน”

“…”

“แค่สามวัน จะไปไหนก็ไป”

พรึบ!

คนที่นั่งเงียบไม่ตอบลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินดังนั้น วินมองแผ่นหลังบางที่เดินออกจากห้องนั่งเล่นไปตามด้วยเสียงคนเดินขึ้นบันได แต่หลังจากนั้นไม่ถึงห้านาทีเขาก็ได้ยินเสียงคนเดินลงบันได และถัดไปประมาณสองนาทีเสียงสตาร์ทรถก็ดังขึ้นจนคนที่ยังคงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นต้องแสยะยิ้มที่มุมปากพร้อมทั้งยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ร่างสูงเอนตัวลงนอนราบบนโซฟาก่อนจะเงยหน้ามองเพดานแล้วพึมพำ

“กูอยากให้มึงเซ็นต์สัญญาจริงๆ นะเล”

วินหลับตาลง พูดไปตอนนี้เขาก็คงห้ามคนที่พึ่งขับรถออกไปไม่ได้แล้ว



McLaren 650S สัญชาติอังกฤษค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาในบริเวณของบริษัทนำเข้า-ออกรถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผมมองตึก 70 ชั้นตรงหน้า คิดไม่ออกแล้วจริงๆ ว่าพี่ฮิมจะไปอยู่ที่ไหนนอกจากที่นี่ เพราะไปหาที่คอนโดก็ไม่มี และผมไม่คิดว่าพี่ฮิมจะนอนโรงแรม อันที่จริงพี่ฮิมมีบ้านที่ไทยอยู่ แต่เขาก็ไม่น่าจะกลับไปที่นั่น เพราะมันไม่มีใครอยู่ คุณพ่อและคุณแม่ของพี่ฮิมก็ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษถาวรแล้ว ดังนั้นที่ๆ เขาน่าจะอยู่มากที่สุด ผมคาดว่าเป็นที่นี่…

ผมเดินลงจากรถ หวาดระแวง รปภ นิดหน่อยว่าพี่แกจะเข้ามาจับผมไหม เผื่อพี่ฮิมออกคำสั่งไม่ให้ผมมาที่นี่ แต่แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นผมจึงเดินเข้าไปในบริษัท ภายในยังคงแอร์เย็นเฉียบความยิ่งใหญ่เอาไว้เหมือนเดิม

‘สวัสดีค่ะน้องเล’

‘ไม่เจอกันนานนะคะ’

‘สวัสดีค่ะ’

ผมยิ้มทักทายแล้วก็โค้งหัวให้แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก พอเห็นพนักงานที่นี่ทักเยอะๆ เข้าก็เลยรีบเดินไปที่โอเปอร์เรเตอร์เพื่อถามในสิ่งที่อยากรู้

“พี่… ท่านประธานอยู่ไหมครับ” พี่พนักงานที่นั่งอยู่เงยขึ้นมามองหน้าผมก่อนจะพยักหน้า

“อยู่ค่ะ” อยู่จริงๆ ด้วย แต่ว่า… “แต่ท่านประธานพักผ่อนอยู่ ท่านบอกว่าไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว”

“แม้แต่เลเหรอ ?” คนฟังทำสีหน้าเจื่อนลง ตอนนั้นผมถึงคิดได้ว่าไม่ควรถาม “งั้นเลขึ้นไปได้ไหม”

“คือว่า…”

“ไม่เป็นไร เลจะบอกเองว่าเลดึงดันขึ้นไป” ผมไม่รอให้คนฟังปฏิเสธ เพราะทันทีที่พูดจบผมก็วิ่งขึ้นลิฟต์ผู้บริหารเลยทันที ลิฟต์ทั่วไปกับลิฟต์ผู้บริหารต่างกันนิดหน่อย ตรงที่ลิฟต์ทั่วไปกดได้ถึงแค่ชั้น 69 แค่ลิฟต์ผู้บริหารกดได้ถึงชั้น 70 เพียงแต่ต้องใส่รหัสก่อนถึงจะขึ้นไปได้ แน่นอนว่าผมรู้รหัส ตอนนี้แค่ภาวนาขอให้พี่ฮิมอย่าเปลี่ยนรหัส

ติ๊ง!

เสียงสัญญาณตอบรับว่าได้ดังขึ้น ก่อนลิฟต์จะมุ่งตัวพุ่งขึ้นสู่ชั้นสูงสุดของบริษัท ผมเม้มปากข่มความรู้สึกตื่นเต้นที่พุ่งทะยานขึ้นสูงจนแทบจะไม่กล้าเดินออกจากลิฟต์เมื่อมาถึง ยิ่งเห็นประตูห้องที่ปิดอยู่ตรงหน้าก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปกันใหญ่ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องข่มใจเดินออกไปเมื่อลิฟต์ทำท่าว่าจะปิดจะร่อมรอ

หน้าประตูบานใหญ่มีกริ่งให้กด แต่หัวใจมันยังไม่สงบ เห็นแค่หน้าประตูห้องจากที่คิดว่าพร้อมก็กลายเป็นไม่พร้อมทันที ท้ายที่สุดผมก็เลยต้องเดินไปเดินมาอยู่หน้าประตูนั่นเกือบ 10 นาทีและมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือเอื้อมไปกดกริ่งจนเกิดเสียงดังกริ๊งไปทั้งชั้น

ผมเบิกตากว้าง อาการลุกลี้ลุกลนเข้ามาเยือนแต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ท้ายที่สุดก็เลยสูดลมหายใจแล้วยืนรออยู่หน้าประตูห้อง ทว่าผ่านไปห้านาที ประตูบานนี้ก็ยังไม่เปิดออก ความตื่นเต้นจึงเริ่มมลายหายไปเมื่ออาการปวดขาเข้ามาแทนที่

ผมเท้าสะเอว ขมวดคิ้วแล้วเอียงคอไปมา เมื่อคิดว่ามันนานเกินกว่าสิบนาทีหลังจากที่กดกริ่งไปแล้วจึงตัดสินใจกดอีกรอบ ทว่าคราวนี้ทันทีที่กดปุ๊บประตูก็เปิดออกปั๊บ ร่างสูงที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ออกมายืนอยู่ตรงหน้า พี่ฮิมอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแปลกตา ปลดกระดุมสองเม็ดด้านบน แล้วตอนนี้ก็กำลังยืนมองผมอยู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

ฮิมดู… ผอมลงกว่าเดิมนิดหน่อย

พรึบ!

“พี่ฮิมเดี๋ยว… โอ๊ย!”

จังหวะที่เขาเปิดประตูออกมา เวลาเหมือนจะนานแต่ก็ไม่ เพราะผมได้สติอีกครั้งตอนเห็นร่างสูงกำลังทำท่าว่าจะปิดประตูกลับเข้าไป สัญชาตญาณทำให้ต้องรีบเอามือไปดันขวางประตูเอาไว้ไม่ให้ผิด แต่เป็นอันว่าอีกฝ่ายปิดประตูได้จังหวะนั้นพอดี ประตูบานหนาจึงหนีบเข้าที่นิ้วของผมแรงจนน้ำตาเล็ด พอผมชักมือออก คนด้านในก็ปิดประตูปังใส่หน้าผมทันที

ผมเม้มปากแน่น ความเจ็บที่ได้รับทำเอาต้องร้องไห้ออกมาเงียบๆ แต่พอก้มลงมองนิ้วของตัวเองที่มีเลือดไหลซิบเสียงสะอื้นมันก็ตามมาทันที ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองประตูห้องที่ถูกปิดใส่ แล้วจู่ๆ น้ำตามันก็ไหลพรากออกมามากกว่าเดิม ผมทิ้งมือลง ปล่อยให้เลือดที่ไหลออกมาจากนิ้วมันหยดลงพื้นไปแบบไม่สนใจ ขณะที่ตัดสินใจปาดน้ำตาทิ้งแล้วหันหลังว่าจะเดินกลับไปที่ลิฟต์

พรึบ!

แต่แล้ว… จู่ๆ ก็มีมือจากไหนไม่รู้มาโอบเอวผมเอาไว้ คนโอบออกแรงดึงตัวผมตามเข้าไปในห้อง ตามมาด้วยการปิดประตูเสียงดังปังอีกครั้งหนึ่ง











(80%)

ทำไมอัพน้อยจัง มันคือการอัพย้อมใจค่ะ อย่างน้อยเขาก็เจอกันแล้ว อิพี่ฮิมทำเมินได้ไม่นาน​
​สุดท้ายก็ต้องลากน้องเข้าห้องเหมือนเดิม5555






#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์



ปล. ไรท์คะ ระหว่างพี่ฮิมกับเลคิดว่าใครผิดคะ ?

เรื่องนี้ยาวจ้า ขก ตอบเดี๋ยวนักอ่านทะเลาะกันอีก อยากรู้ DM มาเด้อ55555

twitter @_mdreds

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: Naam3 ที่ 03-09-2017 22:53:09
 :mew2: :katai5: :ling1: :hao7: :mew2: :heaven :katai1: :z3:
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆน่าาาาาามาต่ออๆๆๆๆน้องเลๆๆๆๆๆ :L2: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 03-09-2017 22:54:52
ถึงจะโกรธแค่ไหนก็ยังแพ้น้ำตาน้องอยู่ดีสินะ :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 03-09-2017 23:20:33
เคลียร์กันเลย

สงสารนุ้งเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: Minoru88 ที่ 04-09-2017 00:05:18
ฮิมก็ใจอ่อนกับน้องตลอดแหละ
ถ้าถามใครผิด ก็ผิดกันทั้งคู่นั่นแหละ

แต่ทำไมเราสงสารฮิมก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 04-09-2017 00:24:45
เลน่าจะสตรองขึ้น
ไม่ว่าจะยังอยู่ กับบทบาทแฟนวิศวะ? (อืมม)
หรือจบๆ กันไป (ยังไงก้อต้องกลับมาเจอกันอีก หรือแค่วนเวียนอยู่แถวนั้นรอบๆ ตัวน้องแหละ)

มันลุ้น เพราะไม้รู้ว่าจะมาไม้ไหน
พี่ฮิมดีๆ นะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 04-09-2017 01:38:39
รอนะคะ ฮืออออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 04-09-2017 06:29:10
  พี่ฮิมนี่ทำเกินไปนะ มีอะไรไม่พูดไม่บอก แล้วน้องเลจะรู้อะไรมั๊ยละ...
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 04-09-2017 08:58:52
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 04-09-2017 10:52:25
อยากโบกหัวเลสักที  เมื่อไรมึงจะฉลาด
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-09-2017 13:52:16
อยากให้เขาเข้าใจกันนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 04-09-2017 17:51:12
 :impress2: :impress2:

หักมุมเฉยเลย

ไม่คิดว่าพี่ฮิมจะออกมากอดน้อง ในหัวนี่คิดว่าพี่ฮิมต้องเมินเฉยแน่เลย

ส่วนเลก็ไม่คิดจะบุกน้ำลุยไฟขนาดนี้

สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: Thanaphon ที่ 09-09-2017 15:19:53
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 09-09-2017 19:55:19
เอาน่า อย่าแง่งอนกันไปเลย
ปรับความเข้าใจ และคืนดีกันเถอะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-09-2017 22:14:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030917#24 (80%) p.33
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 09-09-2017 23:09:16
100% ตอนที่24


McLaren 650S สัญชาติอังกฤษค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาในบริเวณของบริษัทนำเข้า-ออกรถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผมมองตึก 70 ชั้นตรงหน้า คิดไม่ออกแล้วจริงๆ ว่าพี่ฮิมจะไปอยู่ที่ไหนนอกจากที่นี่ เพราะไปหาที่คอนโดก็ไม่มี และผมไม่คิดว่าพี่ฮิมจะนอนโรงแรม อันที่จริงพี่ฮิมมีบ้านที่ไทยอยู่ แต่เขาก็ไม่น่าจะกลับไปที่นั่น เพราะมันไม่มีใครอยู่ คุณพ่อและคุณแม่ของพี่ฮิมก็ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษถาวรแล้ว ดังนั้นที่ๆ เขาน่าจะอยู่มากที่สุด ผมคาดว่าเป็นที่นี่…

ผมเดินลงจากรถ หวาดระแวง รปภ นิดหน่อยว่าพี่แกจะเข้ามาจับผมไหม เผื่อพี่ฮิมออกคำสั่งไม่ให้ผมมาที่นี่ แต่แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นผมจึงเดินเข้าไปในบริษัท ภายในยังคงแอร์เย็นเฉียบความยิ่งใหญ่เอาไว้เหมือนเดิม

‘สวัสดีค่ะน้องเล’

‘ไม่เจอกันนานนะคะ’

‘สวัสดีค่ะ’


ผมยิ้มทักทายแล้วก็โค้งหัวให้แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก พอเห็นพนักงานที่นี่ทักเยอะๆ เข้าก็เลยรีบเดินไปที่โอเปอร์เรเตอร์เพื่อถามในสิ่งที่อยากรู้

“พี่… ท่านประธานอยู่ไหมครับ” พี่พนักงานที่นั่งอยู่เงยขึ้นมามองหน้าผมก่อนจะพยักหน้า

“อยู่ค่ะ” อยู่จริงๆ ด้วย แต่ว่า… “แต่ท่านประธานพักผ่อนอยู่ ท่านบอกว่าไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว”

“แม้แต่เลเหรอ ?” คนฟังทำสีหน้าเจื่อนลง ตอนนั้นผมถึงคิดได้ว่าไม่ควรถาม “งั้นเลขึ้นไปได้ไหม”

“คือว่า…”

“ไม่เป็นไร เลจะบอกเองว่าเลดึงดันขึ้นไป” ผมไม่รอให้คนฟังปฏิเสธ เพราะทันทีที่พูดจบผมก็วิ่งขึ้นลิฟต์ผู้บริหารเลยทันที ลิฟต์ทั่วไปกับลิฟต์ผู้บริหารต่างกันนิดหน่อย ตรงที่ลิฟต์ทั่วไปกดได้ถึงแค่ชั้น 69 แค่ลิฟต์ผู้บริหารกดได้ถึงชั้น 70 เพียงแต่ต้องใส่รหัสก่อนถึงจะขึ้นไปได้ แน่นอนว่าผมรู้รหัส ตอนนี้แค่ภาวนาขอให้พี่ฮิมอย่าเปลี่ยนรหัส

ติ๊ง!

เสียงสัญญาณตอบรับว่าได้ดังขึ้น ก่อนลิฟต์จะมุ่งตัวพุ่งขึ้นสู่ชั้นสูงสุดของบริษัท ผมเม้มปากข่มความรู้สึกตื่นเต้นที่พุ่งทะยานขึ้นสูงจนแทบจะไม่กล้าเดินออกจากลิฟต์เมื่อมาถึง ยิ่งเห็นประตูห้องที่ปิดอยู่ตรงหน้าก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปกันใหญ่ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องข่มใจเดินออกไปเมื่อลิฟต์ทำท่าว่าจะปิดจะร่อมรอ

หน้าประตูบานใหญ่มีกริ่งให้กด แต่หัวใจมันยังไม่สงบ เห็นแค่หน้าประตูห้องจากที่คิดว่าพร้อมก็กลายเป็นไม่พร้อมทันที ท้ายที่สุดผมก็เลยต้องเดินไปเดินมาอยู่หน้าประตูนั่นเกือบ 10 นาทีและมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือเอื้อมไปกดกริ่งจนเกิดเสียงดังกริ๊งไปทั้งชั้น

ผมเบิกตากว้าง อาการลุกลี้ลุกลนเข้ามาเยือนแต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ท้ายที่สุดก็เลยสูดลมหายใจแล้วยืนรออยู่หน้าประตูห้อง ทว่าผ่านไปห้านาที ประตูบานนี้ก็ยังไม่เปิดออก ความตื่นเต้นจึงเริ่มมลายหายไปเมื่ออาการปวดขาเข้ามาแทนที่

ผมเท้าสะเอว ขมวดคิ้วแล้วเอียงคอไปมา เมื่อคิดว่ามันนานเกินกว่าสิบนาทีหลังจากที่กดกริ่งไปแล้วจึงตัดสินใจกดอีกรอบ ทว่าคราวนี้ทันทีที่กดปุ๊บประตูก็เปิดออกปั๊บ ร่างสูงที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ออกมายืนอยู่ตรงหน้า พี่ฮิมอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแปลกตา ปลดกระดุมสองเม็ดด้านบน แล้วตอนนี้ก็กำลังยืนมองผมอยู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

ฮิมดู… ผอมลงกว่าเดิมนิดหน่อย

พรึบ!

“พี่ฮิมเดี๋ยว… โอ๊ย!”


จังหวะที่เขาเปิดประตูออกมา เวลาเหมือนจะนานแต่ก็ไม่ เพราะผมได้สติอีกครั้งตอนเห็นร่างสูงกำลังทำท่าว่าจะปิดประตูกลับเข้าไป สัญชาตญาณทำให้ต้องรีบเอามือไปดันขวางประตูเอาไว้ไม่ให้ผิด แต่เป็นอันว่าอีกฝ่ายปิดประตูได้จังหวะนั้นพอดี ประตูบานหนาจึงหนีบเข้าที่นิ้วของผมแรงจนน้ำตาเล็ด พอผมชักมือออก คนด้านในก็ปิดประตูปังใส่หน้าผมทันที

ผมเม้มปากแน่น ความเจ็บที่ได้รับทำเอาต้องร้องไห้ออกมาเงียบๆ แต่พอก้มลงมองนิ้วของตัวเองที่เริ่มม่วงและบวมเปล่งเสียงสะอื้นมันก็ตามมาทันที ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองประตูห้องที่ถูกปิดใส่ แล้วจู่ๆ น้ำตามันก็ไหลพรากออกมามากกว่าเดิม ผมทิ้งมือลง ไม่สนความรู้สึกเจ็บที่ยังคงอยู่ ขณะที่ตัดสินใจปาดน้ำตาทิ้งแล้วหันหลังว่าจะเดินกลับไปที่ลิฟต์

พรึบ!

แต่แล้ว… จู่ๆ ก็มีมือจากไหนไม่รู้มาโอบเอวผมเอาไว้ คนโอบออกแรงดึงตัวผมตามเข้าไปในห้อง ตามมาด้วยการปิดประตูเสียงดังปังอีกครั้งหนึ่ง…

ผมถูกลากตัวเข้ามาในห้องก่อนจะถูกจับหันให้มายืนประจันหน้ากับร่างสูง ผมไม่กล้ามองหน้าเขาแถมตอนนี้น้ำตามันก็บังทัศนียภาพไปหมด ท้ายที่สุดก็ได้แต่หลุบตาลงมองต่ำ สัมผัสได้แค่มือหนาที่เอื้อมมาจับมือข้างที่นิ้วถูกประตูหนีบยกขึ้น และถ้าไม่คิดไปเอง ผมว่าตัวเองได้ยินพี่ฮิมทำเสียงเหมือนไม่พอใจ ก่อนเขาจะดึงมือผมให้เดินตามไปที่ห้องนั่งเล่น

พี่ฮิมกดตัวผมนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะเดินหายไปไหนสักที แล้วกลับมาพร้อมกับ cold pack ขนาดเล็กในมือ ร่างสูงนำมันมาประคบนิ้วของผมที่เริ่มบวมช้ำและออกเป็นสีม่วงๆ มากกว่าเดิม หนักสุดคือนิ้วกลาง และนิ้วนางรองลงมา ผมน้ำตาไหลมากกว่าเดิมหลายเท่าตอนที่เขาเริ่มประคบ น้ำตาหยดแปะๆ ลงบนมือหนาหลายหยดจนคนโดนเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาคมมองผมนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไร

และพอพี่ฮิมเป็นฝ่ายละสายตาออกไปก่อน ผมจึงรีบเรียกร้องความสนใจด้วยการ…

“เจ็บ”

“…”

“เลเจ็บ”

“…”

“ฮือ เจ็บจัง”

คนตรงข้ามเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมอีกครั้ง  ฮิมถอนหายใจ ก่อนจะทำในสิ่งที่ผมไม่ได้คาดการณ์เอาไว้นั่นคือการเอื้อมมือมาโอบไหล่พร้อมกับดันตัวผมเข้าไปใกล้ จนตอนนี้รู้สึกเหมือนถูกกอดอยู่กลายๆ เมื่อพี่ฮิมไม่ได้เอามือที่โอบผมอยู่กลับไปเหมือนเดิม เขาใช้มือข้างนั้นมาจับมือผมเอาไว้ ขณะเดียวกันอีกข้างก็ทำการประคบต่อไป ผมเอนตัวเอาหัวนอนพิงไหล่อีกฝ่ายซึ่งร่างสูงก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ไม่รู้ทำถึงได้รู้สึกว่าแบบนี้ มันทำให้เจ็บกว่าเดิม

ไม่ใช่ที่นิ้ว ผมเจ็บที่ใจ

“เลเจ็บ”

ถึงพูดไปพี่ฮิมก็คงไม่เข้าใจหรอกมั้ง



เขานั่งประคบนิ้วให้ผมอยู่เกือบสิบห้านาที อาการเจ็บมันก็ยังเจ็บเหมือนเดิมนั่นแหละ เพียงแต่ลดลงนิดหน่อย รู้แต่ว่าตอนนี้ผมเจ็บจนนิ้วชา แค่กระดิกนิ้วก็เจ็บแล้ว

“ต้องไปหาหมอไหมเนี่ย” ผมถามคนข้างกาย แต่ไม่ได้รับคำตอบ ร่างสูงยังไม่ยอมพูดอะไรเลยตั้งแต่ที่ผมเข้าห้องมา มือหนากำลังเก็บอุปกรณ์ แถมเมื่อกี้บทจะปลดอ้อมกอดเขาก็ปล่อยแบบดื้อๆ ไม่พูดหรือส่งสัญญาณบอกเลยสักคำ “เลรู้แล้วนะ”

ผมเริ่มพูด ไม่รู้จะเริ่มด้วยอะไรเลยยกเรื่องพวกนี้ขึ้นมา “เรื่องของเอ็กซ์ เรื่องทั้งคลับ สนามแล้วก็เรื่องของพี่ฮิมด้วย”

พี่ฮิมไม่ได้ตอบอะไร เขาก้มหน้าเก็บอุปกรณ์ต่อไปแต่ผมรู้สึกว่าร่างสูงเริ่มจะเก็บช้ากว่าปกติ เลยรีบว่าต่อ “ฮิม”

“…”

“ที่ส่งทนายมา เพราะไม่อยากให้เลอยู่ด้วย… ระ… เหรอ”

พรึบ!

นัยน์ตาคมเงยหน้ามองผมรวดเดียว แถมยังแข็งกร้าวขึ้นอย่างน่ากลัว ผมเดาคำตอบในสายตาของเขาไม่ออก เลยรีบเปลี่ยนคำถามใหม่ก่อนที่บรรยากาศมันจะแย่ไปกว่านี้

“งะ… งั้น อึดอัดมากไหมเวลาอยู่กับเล” อย่างที่พี่วินพูด ถ้าใครสักคนต้องอยู่กับคนๆ นึง แบบที่เป็นตัวของตัวเองไม่ได้ เป็นผมคงต้องรู้สึกอึดอัดตาย แต่ ไม่รู้ว่าพี่ฮิมทนเป็นได้ยังไงตั้งสิบๆ ปี “มันก็ต้องอึดอัดสิเนาะ”

ผมพูดเองเออเอง ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมตอบอะไร จนกระทั่ง…

“ถ้าอย่างนั้นลองทำกับเล แบบที่ฮิมเป็นฮิมดูไหมล่ะ”

!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ผมจับสังเกตได้ว่ามือหนาที่กำลังเก็บอุปกรณ์อยู่นั่นหยุดชะงักไปชั่วครู่ ครู่เดียวจริงๆ ฮิมยังไม่พูดอะไร ซ้ำยังลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อเดินไปเก็บอุปกรณ์ทำแผลให้ผม ผมตะโกนตามหลังเขา

“จะไม่พูดกับเลจริงๆ เหรอ พี่วินให้เวลาเลแค่สามวันเองนะ”

“…”

“หรืออยากตัดขาดกับเลจริงๆ เหรอ” ผมพูดเสียงแผ่ว แถมยิ่งพูดน้ำตาก็เหมือนจะเริ่มไหลออกมา และทันทีที่เห็นร่างสูงเดินเข้าห้องนอนไปอย่างไม่สนใจ น้ำตาของผมมันก็ไหลออกมาจริงๆ

แอด

เสียงประตูทำให้น้ำตาที่กำลังไหลออกมาต้องหยุดไปชั่วครู่ หลังจากเดินเข้าไปได้ไม่นาน ผมก็เห็นพี่ฮิมเดินออกมาจากห้องพร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ ที่ดูแล้วน่าจะเป็น… กระดาษ ?!

เขายื่นมันมาให้ผม ก่อนจะเดินอ้อมไปด้านหลัง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเส้นผมด้านหน้ามันถูกดึงไปด้านหลังก่อนจะโดนมัดรวบด้วยยางหนาๆ เส้นนึง ผมหยุดร้องไห้ไปเองเพราะยังงงๆ กับการกระทำของอีกฝ่ายอยู่ และพอพี่ฮิมมัดผมเสร็จเขาก็เดินไปไหนไม่รู้แล้วกลับมานั่งบนโซฟาข้างผมอีกครั้งพร้อมกับกระป๋องเบียร์ ผมได้แต่เกาศีรษะของตัวเองไปมา พอเห็นกระดาษที่พี่ฮิมให้ในมือจึงกวาดสายตาอ่าน

ผมซ่อนรอยยิ้มไม่อยู่ตอนที่อ่านมันจบ เพราะข้อความในนั้นมันคือคำตอบของคำพูดที่ผมพึ่งบอกกับเขาไป

‘ถ้าอย่างนั้นลองทำกับเล แบบที่ฮิมเป็นฮิมดูไหมล่ะ’

         

Okay

         

 ตกลง

         

           

พี่ฮิมตกลง!










(100%)


บทจะง่ายก็ง่ายแบบนี้เลยเหรอ มันก็ไม่ง่ายนะ ห่างกัน 7 วัน

อีกอย่างทั้งสองใจลึกๆ มันก็ไม่อยากห่างกันไง ดังนั้นพอเถอะดราม่า

คนอ่านเหนื่อย คนแต่งก็เหนื่อยจ้า5555

ปล.มีแก้ตรงนิ้วเลือดออกด้วยเนาะ บก มาบอกว่าถ้าประตูหนีบมันจะช้ำๆ เลยเปลี่ยนมาเป็นช้ำม่วงแต่ไม่ถึงกับเลือดออก






#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์



ปล. ไรท์คะ ระหว่างพี่ฮิมกับเลคิดว่าใครผิดคะ ?

เรื่องนี้ยาวจ้า ขก ตอบเดี๋ยวนักอ่านทะเลาะกันอีก อยากรู้ DM มาเด้อ55555

twitter @_mdreds

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 09-09-2017 23:50:44
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 10-09-2017 00:07:27
รอดูพี่ฮิม'ทำ'เลแบบที่ฮิมเป็นฮิม  :katai5: :katai5: :katai5:
หวังว่าต่อไปเลจะไม่ดื้อด้านแบบนี้แล้วนะ ต้องเข้าใจเหตุผลของพี่เค้าแล้วนะลูก
ดีใจที่ดีกัน คนอ่านเห็นทะเลาะกันแล้วจะขาดใจเลือกฝั่งไม่ถูกเลยทีเดียว :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 10-09-2017 00:12:34

ลุ้นต่อ
แล้วเลจะแกร่งขึ้น 555
ฮิมเองก้อต้องปรับความดิบของตังเองลงบ้างนะ

แล้วทำไมฮิมไม่พูดสักคำ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: Minoru88 ที่ 10-09-2017 00:15:44
พี่ฮิม บทจะง่าย ก็ง่ายจิงๆ

น้องก็มีบทเรียนแล้วเนอะ ต่อไปก็เชื่อฟังพี่เค้านะลูก
ปรับตัวเข้าหากันเนอะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 10-09-2017 00:39:04
 :monkeysad:  สาสน์ท้าประลองจากเล  เอาซี่ ...  :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 10-09-2017 06:51:31
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 10-09-2017 20:45:17
รอนะคะ ไรท์...   :katai4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 10-09-2017 21:28:49
รอค่ะรอ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: mamacub ที่ 10-09-2017 21:49:58
ตดยังไม่ทันหายเหม็นเลย สั้นไปอีกกกกกกกก  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-09-2017 21:56:56
ต่างฝ่ายต่างเจ็บ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ดูเหมือนฮิม เจ็บเพราะรักมากกกก
แต่เล ไม่ฟัง ดื้อสุดๆ เพราะฮิมตามใจมาตลอด
ความจิตใจดีของเลกับเพื่อน มันเกินพอดี

เล เจ็บเพราะฮิม มันมาจากการที่เลไม่รู้ความจริง
ตอนนี้รู้แล้ว เลคงต้องเจ็บกาย เอ่อ.....ตรงนั้นสุดๆ
แต่เลต้องทนให้ได้ อะจ๊ากกกก  :z3: :z3: :z3:
อยากรับรู้ตัวตนของฮิม ที่เลต้องรับจากฮิม  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-09-2017 00:48:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 11-09-2017 03:45:00
ต่อๆ  :hao6: :hao6: :hao6:
แบบที่ฮิมเป็นฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-09-2017 08:40:56
ดราม่าหมดไปซะที~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 11-09-2017 21:20:27
ลองเป็นตัวของตัวเองดู สู้ๆ นะพี่ฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 12-09-2017 19:51:52
รอนะคะะ  :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: Be mine ที่ 17-09-2017 02:32:11
มาเถอะนะ พลีสสสสส ใจจะขาดแล้ว :ling1: :z3: :sad4: :serius2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 24-09-2017 16:56:06
กลับมาเถอะคนเขียนคนอ่านให้อภัยแล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 30-09-2017 21:17:35
ตกลงแบบนี้ตอนหน้าเตรียมเลือดเลยเถอะตรู
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: micmicky ที่ 01-10-2017 17:00:28
มารอค่ะ :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 02-10-2017 11:41:22
 :เฮ้อ: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 27-10-2017 23:36:48
ตามอ่านตั้งแต่เมียหมอ จะว่าพระเอกก็โหด ซาดิส  แบบนี้ป้าชอบบบ
เข้าเรื่อง... เลเป็นเหมือนคนที่อ่อนแอ แต่บทจะเข้มแข็งนางก็ทำได้นะ ส่วนพี่ฮิมของป้า เอาเป็นว่า ใจดีกับน้องเกิน จนรำคาญ เป็นพี่ฮิมแบบนี้แหละ โอเคคคคค
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 03-12-2017 09:01:22


#25



1 ชั่วโมงต่อมา

ถามว่าพี่ฮิมคนเก่ากับคนใหม่ต่างกันไหม  ผมก็ว่าไม่นะ ไม่… ไม่รู้! เพราะจู่ๆ ก็โดนพี่วินโทรตามกลับบ้าน!!

ปัง*!!*

ประตูบ้านถูกปิดด้วยความเร่งรีบ ผมก้าวขายาวๆ เดินตรงดิ่งมาที่ห้องที่มีร่างสูงสองคนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ พอเห็นว่าหนึ่งในสองคนนั้นมีคนที่ผมตามหา ตัวเองจึงหอบหายใจพร่าแล้วปาดเหงื่อบนหน้าผากออก จังหวะเดียวกันที่พี่รพหันมามองแล้วถามเสียงทุ้ม

“มึงเป็นอะไรเล”

“พี่วินโทรตามเลทำไม!!” ผมเมินคำถามของพี่รพแล้วหันไปถามคนที่ยังนั่งนิ่ง ผมอยู่กับพี่ฮิมคนใหม่ได้ไม่ถึงสามสิบนาทีด้วยซ้ำ จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นเบอร์พี่วิน พอกดรับเขาก็บอกว่ามีเรื่องสำคัญมากให้ผมรีบกลับบ้านมาเดี๋ยวนี้ พอผมบอกว่าไม่กลับ อีกฝ่ายก็ตื้อให้กลับจนผมต้องปลีกตัวออกมาจากพี่ฮิมแล้วบึ่งรถกลับบ้าน “พี่วินอย่าเมินเลนะ”

ผมย้ำเมื่ออีกฝ่ายนั่งนิ่งไม่ตอบอะไร แต่พอพี่วินตอบ คำตอบของเขากลับทำให้ผมโกรธมากกว่าจะโล่งเมื่อได้รู้

“กูหิวข้าว ไปทำอะไรให้กินหน่อย”

“นี่เรียกเลกลับมาเพราะหิวข้าวเหรอ!!”

“เออ”

“พี่วิน!!” ผมกำหมัดแน่น โกรธจนต้องกระทืบเท้าย้ำกับพื้น ถ้าเขาจะเรียกผมมาให้ทำกับข้าวให้ แล้วคนที่นั่งอยู่ข้างเขาอย่างพี่รพนั่นไม่ใช่เซฟประจำบ้านหรือไง! “เป็นง่อยเหรอถึงหาอะไรกินเองไม่เป็นนะ!”

ว่าจบผมก็หมุนตัวเตรียมจะเดินกลับไปที่รถ ถ้าไม่ติดว่าเสียงพี่วินดังเป็นมารขวางทางของผมอีกครั้งหนึ่ง “วันนี้มึงหมดโควต้าออกจากบ้านแล้ว เอากุญแจมา”

“อะไรนะ?!” ผมถามเขาเสียงหลง

“กูบอกว่าให้เอากุญแจรถมา”

“พี่วิน!!”

“เอามา” ร่างสูงลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมทั้งเดินมาหาผม มือหนาแบออกเพื่อรอรับบางสิ่งจากผม “เร็วๆ”

“แล้วเลจะไปหาพี่ฮิมให้ยังไง”

“มึงก็ไปพรุ่งนี้”

“แต่พี่วินให้เวลาเลแค่สามวัน” ถ้าหักวันนี้ไปผมก็จะเหลือเวลาอีกแค่สองวัน แถมวันนี้ก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยด้วย พี่วินไม่ได้ตอบอะไรกลับ อีกฝ่ายทำหน้านิ่งก่อนจะฉวยโอกาสในตอนที่ผมเผลอมาแย่งกุญแจรถในมือผมไป “อ๊ะ! พี่วินเอาคืนมานะ”

“ขึ้นห้องไป”

“พี่วิน” เขาเดินหนี “พี่วิน!!”


วันต่อมา

ผมตื่นมาอาบน้ำตั้งแต่ตีสี่ก่อนจะรีบวิ่งลงไปห้องครัวตอนตีห้า เพราะวันนี้กะว่าจะทำอาหารเช้าไปเผื่อพี่ฮิมด้วย พิถีพิถันทำอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ กระทั่งพี่รพเดินลงมาตอนหกโมงเช้า เจ้าของเรือนผมสีแดงไม่ได้ถามอะไรมาก ทันทีที่เขาเห็นผมกำลังทำอยู่ อีกฝ่ายก็หมุนตัวเดินกลับขึ้นไปบนบ้านทันที

ผมจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยตอนเจ็ดโมงเช้า หลังจากนั้นจึงวิ่งขึ้นชั้นสอง ไปเคาะประตูปลุกพี่วินพร้อมทั้งขอกุญแจรถที่อีกฝ่ายยังคงยึดเอาไว้กับตัว นัยน์ตาคมมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าหลังจากที่ผมปลุกเขาให้ตื่น พี่วินถอนหายใจหนึ่งรอบก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง จากนั้นก็โยนกุญแจรถออกมาให้ผมตบท้ายด้วยการปิดประตูห้องใส่หน้า ผมเบ้ปากให้กับอีกฝ่ายเงียบๆ แล้วจึงเดินลงมาด้านล่างอีกครั้ง พร้อมกับหยิบถุงขนาดใหญ่ที่ด้านในมีกล่องใส่อาหารเช้าเอาไว้ ก่อนจะเดินไปขึ้นรถ

ใช้เวลาไม่นานในการขับรถก็ถึงบริษัทใหญ่ยักษ์ใหญ่ของพี่ฮิม ตอนนี้ยังเช้าพอสมควรคนก็เลยไม่ค่อยมา จะเห็นก็แต่พนักงานเป็นส่วนใหญ่ ผมขับรถเข้าไปจอดรถด้านหลังบริษัทซึ่งเป็นที่จอดสำหรับท่านประธานบริษัทโดยเฉพาะ ที่จอดของพี่ฮิมมีทั้งหมดห้าที่ ไม่รู้สร้างเอาไว้เยอะทำไม ทั้งๆ ที่เวลาเขามาบริษัทเขาก็ใช้ที่จอดแค่ที่เดียว ส่วนผมใช้อภิสิทธิ์พิเศษเพราะมาทีไรก็มาแต่กับพี่ฮิม รปภ ที่ทำหน้าที่เฝ้าที่จอดรถจำหน้าได้ พอผมเปิดกระจกแล้วชะโงกหน้าออกไปให้เห็น ลุงแกก็รีบไปเปิดรั้วกั้นออกให้อย่างรวดเร็ว  ผมเดินลงจากรถพร้อมกับบอกขอบคุณ แล้วเดินไปหยิบถุงใส่ข้าวกล่องที่ทำมาจากบ้าน จากนั้นจึงเดินเข้าไปในบริษัท ขึ้นลิฟต์ผู้บริหารจบด้วยการไปกดกริ๊งหน้าห้อง

วันนี้ไม่ค่อยตื่นเต้นมากเหมือนวันก่อน อย่างน้อยตอนกดกริ๊งหน้าห้องผมก็ไม่กระสับกระส่ายอะไรมาก แต่เหมือนลูปเดิมมันวนกลับมาอีกครั้ง เมื่อห้านาทีผ่านไปพี่ฮิมก็ยังไม่เปิดประตูให้ ท้ายที่สุดผมก็เลยลองบิดประตูเข้าไป แล้วทำหน้าเหวอไปสักพักนึงเมื่อพบว่าประตูไม่ได้ล็อคอย่างที่คิด อีกทั้งคนที่ผมรอให้มาเปิดประตูอยู่เกือบห้านาที ตอนนี้ก็กำลังยืนอยู่ตรงบาร์บริเวณหน้าห้องครัว มือหนาถือแก้วใส่เครื่องดื่มอะไรสักอย่างอยู่ เขายกมันขึ้นดื่มในขณะเดียวกันก็หันมามองผม

ส่วนผมน่ะเหรอ แน่นอนว่าหน้าหงิก ให้ยืนรออยู่ด้านนอกตั้งห้านาที ถ้าไม่มาก็เปิดให้ก็ไม่ตะโกนบอกหน่อยล่ะว่าไม่ได้ล็อคประตูน่ะ!

“ทำไมไม่บอกเลหน่อยล่ะว่าประตูไม่ได้ล็อค ยืนรอตั้งนาน ของก็เยอะ” ประโยคท้ายๆ ผมพึมพำคนเดียว แต่ไม่รู้เพราะพี่ฮิมได้ยินหรือเปล่าเขาถึงยกยิ้มที่มุมปากขึ้นเล็กน้อย ไม่ นอกจากจะไม่บอกแล้วยังไม่ช่วยอีกต่างหาก อาหารเช้าที่ผมทำมาทำให้ของมันดูพะรุงพะรังไปหมด จริงๆ ระยะห่างระหว่างหน้าบาร์กับประตูมันก็ไม่ได้มากนะ แต่คนตัวสูงที่ยืนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยามเช้าอยู่ก็ไม่คิดจะมาช่วยผมถือเลยสักนิด เขายืนนิ่งจนกระทั่งผมหอบของทั้งหมดไปวางอยู่ที่บาร์ตรงหน้าพี่ฮิม “เลทำข้าวเช้ามาให้”

“อืม” พี่ฮิมขานรับ หลังจากนั้นก็เดินเอื้อมไปที่ด้านหลังของบาร์ เขาก้มลงหยิบขวดอะไรสักอย่างในตู้ข้างๆ บาร์ขึ้นมาสองสามขวด แล้วก็เทผสมกันใส่ในแก้วอะไรสักอย่าง จากนั้นก็เอาแก้วนั้นมาปิดฝาเขย่าๆ ขั้นตอนสุดท้ายคือการรินใส่แก้วไวท์แล้วยื่นมันมาให้ผม ก่อนพี่ฮิมจะเดินออกไป ทิ้งให้ผมยื่นงงกับแก้วไวท์ใส่น้ำสีสวยตรงหน้า คืออะไรอ่ะ เขาทำให้ผมดื่มเหรอ สิ้นสุดความคิด ผมเลยยกแก้วไวท์นั่นขึ้นมาดื่มและทันทีที่น้ำนั่นไหลลงคอ รสชาติหวานอมเปรี้ยวรวมๆ แล้วคืออร่อยล้ำทำให้ผมตาลุกวาว

ฮือ อร่อยจัง!

แต่สุดท้าย เขาก็ไม่ได้กินข้าวเช้าที่ผมอุตส่าห์ตื่นมาทำให้ตั้งแต่หกโมง เพราะหลังจากที่พี่ฮิมผสมเครื่องดื่มอะไรสักอย่างให้ดื่ม เขาก็เดินเข้าห้องๆ หนึ่งไป และพอผมเดินตามไปแงมๆ ประตูห้องดู ปรากฏว่าร่างสูงกำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่บนโต๊ะ (เดาว่าทำงานเพราะบนโต๊ะมันมีเอกสารกองอยู่เป็นตั้งๆ) ผมก็เลยไม่เข้าไปกวน แล้วใช้เวลาที่ฮิมไม่ว่าง มาลองผสมเครื่องดื่มเล่นตรงบาร์ ตรงตู้ข้างบาร์เป็นตู้ที่เอาไว้ใช้สำหรับเก็บเครื่องดื่มหลากประเภท ซึ่งมันมีหลายชนิดมาก ผมก็เลยลองเอามาผสมกันแล้วเขย่าๆ พร้อมกับรินใส่แก้ว ผสมเองชิมเอง ซึ่งบางแก้วก็อร่อย แต่บางแก้วก็…

“แหวะ!” โดยเฉพาะแก้วที่สิบสี่ คือแก้วที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่ที่ทำมา

สามชั่วโมงผ่านไปใกล้เที่ยง ผมเลยล้มเลิกการทำเครื่องดื่มแล้วหันมาอุ่นอาหารเช้าที่ถูกนำมาเป็นอาหารเที่ยงแทน พี่ฮิมเดินออกมาจากห้องทำงานตอนห้าโมงเกือบเที่ยงเป็นเวลาเดียวกันที่ผมกำลังชะโงกหน้ามองต้มยำที่กำลังเดือดผุดๆ อยู่ในหม้อ

“โอ๊ะ! ฮือ” และไม่รู้เพราะหนูวิ่งผ่านหรืออย่างไร จู่ๆ ตอนที่หมุนตัวไปหยิบผักที่หั่นเอาไว้ว่าจะใส่เพิ่ม จังหวะที่หมุนตัวกลับมาผมก็เกิดสะดุดจนหน้าเกือบลงไปจุ่มในต้มยำที่กำลังเดือด ถ้าไม่มีมือหนาเอื้อมมาดึงคอเสื้อแล้วยกมันขึ้นสูงเสียก่อน ผมปล่อยผักในมือลงหม้อต้มยำในท่าที่ค้างอยู่แบบนั้น เป็นจังหวะเดียวกันที่พี่ฮิมลากตัวผมถอยไปด้านหลัง จากนั้นจึงปล่อยคอเสื้อที่ดึงอยู่ลง พี่ฮิมทำหน้าดุใส่ เขาเอื้อมมือมาปิดแก๊สพร้อมกับดันตัวผมให้เดินออกห่างจากบริเวณนี้ ร่างสูงหยิบหม้อต้มยำมาเทใส่ถ้วยที่ผมเตรียมรอเอาไว้ เขายกมันแล้วเดินไปวางที่โต๊ะกินข้าว ผมเห็นดังนั้นจึงรีบยกอาหารอย่างอื่นที่อุ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว วิ่งตามไป

และนี่… คงเป็นการกินข้าวเที่ยงที่เงียบที่สุดตั้งแต่ที่ผมเคยเจอมา

พี่ฮิมยังไม่ยอมพูดกับผม ดังนั้นตอนนี้เสียงที่ได้ยินจึงมีแต่เสียงช้อนส้อมกระทบจาน ปกติแล้วเวลากินข้าว เขาจะเป็นคนมองผมกินมากกว่า แต่ตอนนี้มันกลับกัน เป็นผมต่างหากที่ต้องมองพี่ฮิมทานข้าว เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้สนใจคนตรงข้ามเลย

เขายังโกรธผมอยู่หรือเปล่านะ ?

“ทำไมไม่กิน”

ตึง!

เหมือนมีเสียงสวรรค์ดังขึ้นมาในหัว ผมเบิกตาโพล่งก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงข้าม เห็นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลากำลังนั่งมองผมนิ่งๆ ผมจ้องเขากลับ รู้สึกว่าเราสบตากันนานมาก จนกระทั่งพี่ฮิมหรี่ตาลงเหมือนผิดสังเกต

“ร้องไห้ทำไม” เสียงทุ้มพูดขึ้น เป็นเวลาเดียวกันที่ผมสัมผัสได้ถึงน้ำตาชื้นๆ ที่ไหลลงผ่านแก้มตัวเอง ในตอนนั้นเองถึงได้รู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้อยู่ ผมเม้มปากแน่นแล้วหลุบตาลงมองจานข้าว กระทั่งสัมผัสได้ถึงมือหนาที่เอื้อมมากดศีรษะของผมเข้ากับหน้าท้องแกร่ง ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเดินมาหาตั้งแต่เมื่อไหร่ เลยได้แต่ก้มหน้าแนบเข้ากับอีกฝ่าย และนี่คงเป็นระยะห่างที่ใกล้ที่สุดตั้งแต่ที่ผมได้เจอกับเขา ถึงจะใกล้แต่ถ้ายังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

ไม่ดีเลย





ถึงผมจะบอกให้ฮิมทำตัวเป็นพี่ฮิม และอีกฝ่ายก็ตอบตกลง แต่มันยังเหมือนมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ แถมผมยังไม่รู้ด้วยว่าเส้นนั้นมันคืออะไร ให้พูดถึงวิธีที่จะหาทางตัดมันออกเหรอ อย่าหวัง

ความรู้สึกเหมือนคนทะเลาะกัน แล้วบอกว่ากลับมาดีกันนะ ปากตอบตกลงแต่สภาพจิตใจมันไม่ใช่ ผลสุดท้ายเลยต้องมาอึดอัดทั้งสองฝ่าย ซึ่งการที่เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมนั้น ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าต้องใช้ทำยังไง

ถ้าจะให้เปรียบอีกแบบก็คงเป็นล็อคกับกุญแจ พี่ฮิมมีล็อค ส่วนผมมีกุญแจ แล้วตอนทะเลาะกันนั้นเหมือนผมโยนกุญแจทิ้งไป พอจะกลับมาดีกันก็ดันหากุญแจที่โยนทิ้งไปไม่ได้ แน่นอนว่าผลกระทบน่ะมันมีแน่ๆ อธิบายให้ง่ายกว่านี้ ก็เหมือนกับหากุญแจปลดล็อคกลอนเข้าไปในบ้านไม่ได้ แล้วการไม่มีกุญแจนี่แหละที่เป็นปัญหา ก็เพราะทิ้งมันไปแล้ว คนส่วนใหญ่ใครเขาทิ้งแล้วจะเดินไปเก็บคืนบ้าง นอกจากจะทิ้งแบบไม่คิด (เหมือนผมน่ะนะ) สุดท้ายก็เลยต้องมานั่งปวดหัวเพื่อคิดว่ากุญแจที่หายไปมันอยู่ที่ไหน

 “เฮ้อ” ผมถอนหายใจคนเดียว ขณะล้างจานอยู่ในซิงค์ ส่วนพี่ฮิมเดินไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เมื่อกี้เขายืนให้ผมซบอยู่เกือบสิบห้านาทีกว่าผมจะหายร้องไห้ ทั้งๆ ที่ต้นเหตุของบรรยากาศอึดอัดที่ทำให้ผมร้องไห้ก็คือเขานั่นแหละ

แบบนี้มันเหนื่อย และถ้ายังหากุญแจที่ว่าไม่เจอก็คงต้องเหนื่อยยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ

จานสุดท้ายถูกล้างจนสะอาด ผมเก็บของบริเวณห้องครัวให้เสร็จ จากนั้นจึงเดินหาพี่ฮิม แต่หาที่ห้องนั่งเล่นก็ไม่เจอ หาที่ห้องน้ำงานก็ไม่เจอกันกระทั่ง…

“หือ” มีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น ยิ่งผมเดินไปตามเสียง มันยิ่งดังชัดขึ้นเรื่อยๆ ต้นเสียงอยู่ที่ห้องๆ หนึ่ง และทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ผมก็เห็นเจ้าของแผ่นหลังกว้างในเชิ้ตสีขาวกำลังนั่งเล่นแกรนด์เปียโนขนาดใหญ่อยู่ใจกลางห้อง พี่ฮิมไม่ได้ปิดผ้าม่าน และผนังห้องด้านหนึ่งมันก็เป็นกระจกใส แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านเข้ามายิ่งทำให้ตอนนี้อีกฝ่ายเหมือนเจ้าชายที่กำลังนั่งเล่นแกรนด์เปียโนอยู่ตรงหน้า

ถ้าเป็นวัยเด็ก เมื่อไหร่ที่ผมเห็นพี่ฮิมกำลังนั่งเล่นเปียโน ผมจะวิ่งเข้าไปกอดอีกฝ่ายจากทางด้านหลัง หรือไม่ก็นั่งข้างๆ คอยจิ้มเปียโนแกล้งให้เขาเล่นพลาด แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะทำได้เหมือนเดิมอีกหรือเปล่า

ผมตัดสินใจยืนพิงประตูแล้วฟัง และเขาทำให้ผมแทบร้องไห้เป็นครั้งที่สอง เมื่อเพลงที่อีกฝ่ายกำลังเล่นมันเป็นเพลงสมัยเด็กที่ผมชอบให้พี่ฮิมเล่นให้ฟัง

Nocturne Op. 9 No. 2

คือชื่อของเพลง ท้วงทำนองอ่อนหวานเคล้าบรรยากาศเศร้า เหมือนกับความรู้สึกของพวกเราในตอนนี้เลย





“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจหนักขณะนั่งกอดเข่ามองท้องฟ้าที่เริ่มอึมครึมผิดปกติทั้งๆ ที่ตอนนี้มันพึ่งจะบ่ายสามกว่าๆ ผ่านกำแพงที่เป็นกระจกใสในห้องนั่งเล่น พี่ฮิมเขาเป็นเล่นเปียโนอยู่ในห้องนั่นเกือบหนึ่งชั่วโมงจะได้ หลังจากนั้นเขาก็กลับเข้าไปทำงาน จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ออกมา ส่วนผมที่ต้องมานั่งมองท้องฟ้าเล่นเพราะว่าไม่มีอะไรทำ ทำเครื่องดื่มก็แล้ว ทำอาหารก็แล้ว ดูหนังก็แล้ว ตอนนี้เลยไม่มีอะไรทำแล้ว แถมความสัมพันธ์ในวันนี้ก็ยังไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่อีก “เฮ้อ!”

ครืน

เฮือก!

เสียงท้องฟ้าทำให้ผมขนลุกวาบ ยิ่งได้เห็นภาพของกลุ่มเมฆทะมึนที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามารวมกันเป็นเมฆก้อนยักษ์จนแสงสว่างที่มีไม่มากบนท้องฟ้าเหือดหาย กลายเป็นความมืดเข้าครอบคลุมแทน

ฝนกำลังจะตก

ขวับ!

เพราะรู้สึกใจไม่ได้ขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยหันหลังให้กระจกใส แล้วหันไปมองโทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ที่ยังเปิดซีรีส์ฟอร์มยักษ์ค้างเอาไว้แทน แต่ถึงแม้กว่าจะนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพรมพร้อมกับดูโทรทัศน์ ท้องฟ้าสีดำอันขมุกขมัวนี่ก็ไม่ทำให้ผมหายใจสั่น สุดท้ายก็เลยตัดสินใจเดินไปปิดผ้าม่านกั้นภาพท้องฟ้าเอาไว้ จากนั้นผมก็เดินต่อไปที่ห้องครัวเพราะรู้สึกหิวน้ำ

ทันทีที่เปิดตู้เย็น สิ่งแรกที่เป็นความเหมือนระหว่างพี่ฮิมคนใหม่และพี่ฮิมคนก่อนนั่นก็คือเบียร์ มีกระป๋องเบียร์วางอยู่เต็มตู้ไปหมด น้ำเปล่ามีแค่ขวดเดียว และกระป๋องโค้กอีกสองสามกระป๋อง ผมยืนค้างอยู่หน้าตู้เย็น กำลังตัดสินใจว่าจะดื่มอะไรดี สุดท้ายก็เอื้อมมือไปหยิบกระป๋องโค้กมา แต่แล้วจู่ๆอาการมือไม้อ่อนแรงก็มาจากไหนไม่รู้ เป็นผลให้กระป๋องโค้กที่พึ่งหยิบออกมาตกลงพื้น ผมก้มลงไปเก็บ ปิดตู้เย็นแล้วเปิดทันที จนลืมไปว่าถ้ากระป๋องโค้กตกพื้นแล้วไปเปิดทันทีมันจะ…

ซ่า!

เปียก และไม่ใช่แค่เปียกธรรมดาแต่เป็นการเปียกไปทั้งตัว ตั้งแต่ใบหน้าลามลงมาจนถึงด้านในเพราะน้ำมันไหลเข้าไปในเสื้อ ผมยืนอึ้งอยู่เกือบนาทีหลังจากนั้นจึงโยนกระป๋องโค้กทิ้งลงถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ แล้วเดินตัวเปียกโชกเดินไปหน้าห้องทำงานของพี่ฮิม กำลังจะผลักประตูเข้าไปคนด้านในก็เปิดออกมาเสียก่อน

ร่างสูงกว่าผมราวๆ สิบห้าเซ็นใช้สายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ฮิมจ้องหน้าผมพร้อมกับตาหรี่ลงเหมือนมีคำถามว่าไปทำอะไรมาถึงได้เป็นแบบนี้

“เปิดโค้กแล้วมันกระเด็นใส่เล” ผมบอกโดยที่เขาไม่ได้ถาม “เลยืมชุดพี่ฮิมได้ไหม เลอยากอาบน้ำ”

พี่ฮิมไม่ตอบ เขาไล่สายตามองผมนิ่งๆ จนรู้สึกหวิวๆ ช่วงหน้าท้อง ก่อนจะเดินนำหน้าผมเข้าไปในห้องนอน เปิดตู้เสื้อผ้าพร้อมกับหยิบเสื้อเชิ้ตตัวที่น่าจะเล็กที่สุดสำหรับพี่ฮิม แต่มันก็ยังใหญ่สำหรับผมอยู่ดี ผสมรวมกับกางเกงบอลสีดำ ที่ถ้าใส่เข้าไปแล้วมันคงตลกน่าดูแต่อย่างน้อยก็คงจะดีกว่าไม่มีให้ใส่ ผมบอกขอบคุณ แล้วหยิบเสื้อผ้าพร้อมกับผ้าขนหนูที่พี่ฮิมส่งมาให้เข้าห้องน้ำ ก่อนจะพบกับอุปสรรคที่สอง เมื่อพบว่าผนังห้องน้ำด้านหนึ่งเป็นกระจกใสเพื่อเอาไว้ใช้ดูวิวตอนอาบน้ำ (ผมเดา เพราะใกล้กระจกใสมีอ่างกุชชี่ตั้งอยู่) ซึ่งปกติแล้ววิวมันก็คงจะสวยถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ท้องฟ้ากลายเป็นสีทะมึนเรียบร้อยแล้ว

ผมใจไม่ดีกว่าเดิมเมื่อห้องน้ำมันไม่มีผ้าม่านกั้นฉากสยดสยองของฝนฟ้าคะนองที่ผมไม่เคยชอบ เลยหันหลังให้มันแล้วรีบถอดเสื้อผ้าออกจนหมดเพื่อที่จะได้อาบน้ำไวๆ แต่พอหันหลังปุ๊บเสียงฝนตกก็ตั้งขึ้นทันที ผมหลับตาแน่น สองขารู้สึกสั่นระริกมากกว่าเดิมเมื่อความหวาดกลัวเข้าเล่นงานอยู่ทางด้านหลัง

ผมไม่ชอบฝน เข้าขั้นเกลียดมันเลยล่ะ

ซ่า!

น้ำที่ฝักบัวถูกเปิดออกเพื่อชำระล้างคาบเหนียวเหนอะบนตัวผม ในขณะที่ถูสบู่ใจก็ตุ๊มๆต้อมๆ แสงแวบๆ ที่ส่องเข้ามายิ่งทำให้หัวใจแทบตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม

ผมไม่ชอบฝน เพราะถ้ามันมาทีไรสิ่งที่มักจะตามมาอยู่บ่อยๆ ก็คือ

เปรี้ยง!





เสียงฟ้าคำรามลั่น เป็นผลให้คนที่กำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่ในห้องนั่งเล่นต้องหันไปมองทางห้องนอนเล็กน้อย ฮิมไม่ได้ความจำสั้น เขาจำได้ชัดว่าเลกลัวเสียงฟ้าร้องมาก โดยเฉพาะเสียงฟ้าลั่นที่พึ่งผ่านไปเมื่อครู่ ร่างสูงเดาว่าอีกฝ่ายน่าจะร้องไห้ไปแล้ว

ตึกๆๆ

เสียงฝีเท้าดังขึ้นเรื่อยๆ ร่างบางปรากฏตัวในชุดคลุมสีดำสนิทผ้ามัน บ่งบอกว่าเจ้าตัวรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำ แถมดวงตากลมเปื้อนน้ำตาหลักฐานเด่นชัดว่าพึ่งร้องไห้มาหยกๆ เสียงร้องฮือดังขึ้นเมื่อฟ้าผ่าดังเป็นครั้งที่สอง

“ฮิม เลกลัว” เขารู้ แต่ก็ยังนั่งนิ่ง นัยน์ตาคมไล่มองคนที่ยังยืนน้ำตาไหลอยู่หน้าประตู ฮิมมองข้ามวงหน้าสวยเปื้อนน้ำตาแล้วเลื่อนลงมาที่กายขาว เลคงจะรีบจริงๆ ถึงไม่ได้สังเกตเลยว่าชุดคลุมตัวนี้มันบางกว่าปกติ จนทะลุไปเห็นผิวขาวด้านในได้เป็นวับๆ แวมๆ สีดำของชุดไม่ได้ช่วงปกปิดอะไรมาก เหมือนยิ่งเน้นให้ดูเซ็กซี่มากขึ้นเท่านั้น มือหนายกเบียร์ขึ้นดื่มทีนึงจากนั้นจึงกระดิกนิ้วเรียกพร้อมทั้งพูดเสียงแผ่ว

“มานี่”

คนยืนรอคำสั่งวิ่งเข้ากอดทันที ฮิมใช้แขนโอบเอวของคนที่วิ่งมานั่งตักเอาไว้หลวมๆ แต่ยิ่งทำแบบนั้นคนกอดก็ยิ่งเบียดตัวเข้าใส่เพื่อที่จะได้รู้สึกปลอดภัยมากที่สุด เสียงร้องไห้ดังข้างหู มือหนายกขึ้นลูบกลุ่มผมเปียกชื้นจากการอาบน้ำเบาๆ ขณะดื่มเบียร์เข้าปากอีกครั้ง

เปรี้ยง!!

“ฮืออออออออ ฮิมจ๋า ฮิมๆ” อีกฝ่ายกระโดดเด้งไปมาอยู่บนตักด้วยความกลัว แรงขย่มทำให้คนรองรับเริ่มเลียริมฝีปาก จากนั้นมือหนาก็เริ่มอยู่ไม่นิ่ง เริ่มจากการค่อยๆ ลูบไล้ไปทั่วตัวกระทั่งชุดคลุมบนตัวมันค่อยๆ หลุดออกไปทีละนิดชนิดที่ว่าคนที่ยังมัวแต่ผะวงกับเรื่องฟ้าร้องอยู่ไม่ทันสังเกตเห็น

และท้ายที่สุด ปมเชือกที่ผูกคาดอยู่ที่เอวก็ถูกดึงออกอย่างช้าๆ


(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090917#24 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 03-12-2017 09:04:10
“กลัวเหรอ” ฮิมแสร้งถามและคนได้ฟังก็รีบพยักหน้าทันที นัยน์ตาคมหันไปมองกระป๋องเบียร์อันใหม่ที่ยังไม่ได้เปิด ก่อนเจ้าของมือหนาจะตัดสินใจทำบางอย่างด้วยการเปิดเบียร์อันนั้นแล้วเทใส่แก้วที่อยู่ใกล้ๆ จนหมดกระป๋อง เขาจับคนที่กำลังซุกใบหน้าเข้ากับบ่าของเขาออกมาหันหน้าเข้าหากัน จากนั้นก็ยกแก้วที่เต็มไปด้วยเบียร์ขึ้นมา เชยคางของเลขึ้นแล้วจับมันเทใส่ปาก

คนถูกจับเบียร์กรอกปากเบิกตากว้างเล็กน้อย ปริมาณเบียร์จำนวนหนึ่งที่กลืนไม่ทันเริ่มไหลย้อยลงมาตามคางเรียวโดยมีนิ้วเรียวของคนที่จับกรอกคอยเช็ดให้ ฮิมยกออกเล็กน้อยให้น้องได้พักหายใจ แต่ไม่ทันไรก็จับเบียร์กรอกปากเข้าไปอีกจนหมดแก้ว

เลรู้สึกมึนๆ เล็กน้อย เสียงฟ้าร้องครั้งที่สามยังทำให้เจ้าตัวสะดุ้งและร้องไห้เหมือนเดิม ถึงอย่างนั้นก็ยังหันไปถามคนที่พึ่งจับเบียร์กรอกปากเขาไปเมื่อสักครู่  ซึ่งเจ้าตัวพึ่งเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นและกลับมาพร้อมกับขวดอะไรสักอย่าง “พี่ฮิมทำอะไร”

“จะทำให้เลหายกลัว”

จบคำร่างสูงก็จับขวดที่อยู่ในมือนั่นดื่มลงคอจำนวนหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงจับคนในชุดคลุมสีดำที่แทบจะหลุดออกจากร่างเข้ามาทาบริมฝีปาก แอลกอฮอล์จำนวนหนึ่งถูกถ่ายทอดผ่านทางปาก ดีกรีสูงมากพอที่จะทำให้คนตัวบางเกิดอาการหน้าแดงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และมันไม่หยุดอยู่แค่หนึ่งครั้ง เหล้าดีกรีสูงถูกส่งให้ดื่มเข้าไปในลำคอครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งเลเอนตัวนอนราบลงไปกับพื้นพรมเพราะรู้สึกมึนหัวอย่างหนัก ถึงอย่างนั้นเสียงฟ้าผ่าครั้งที่สี่ คนที่เมาเพราะถูกมอมก็ยังตัวสั่นอยู่เหมือนเดิม

ฮิมคร่อมทับ เขาจับแขนเรียวขึ้นมาโอบรอบคอตนเองแล้วประสานสายตากับคนที่ยังมีน้ำตาซึมอยู่นิดๆ ก่อนจะโอบคนตัวเล็กทั้งร่าง ยกขึ้นแล้วพาเดินไปที่ห้องนอน

ตุบ!

ร่างขาวถูกโยนลงเตียงด้วยท่าทีไม่อ่อนโยนนัก หากเพราะเตียงนอนขนาดคิงไซต์ราคาแพงมีฟูกที่หนาและนุ่มทำให้คนถูกโยนไม่รู้สึกเจ็บ ขณะที่เดียวกันที่เจ้าของห้องกำลังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกพร้อมกับทิ้งมันลงที่พื้นแบบลวกๆ ต่อด้วยการเดินขึ้นเตียง ฮิมคร่อมทับ แล้วเริ่มจากการจูบเบาๆ ที่แผ่นอกลามไปยังยอดอกสีระเรื่อ แล้วกวาดไล่เลียมันพร้อมทั้งบดขยี้จนเริ่มบวมเปล่ง

“อื้อ ฮิม พี่ฮิม” มือร้อนค่อยๆ ลากลงต่ำกว่าเดิม ผ่านหน้าท้องแบนราบอย่างช้าๆ จนเจ้าตัวรู้สึกวูบไปทั้งร่าง เวลาต่อมาต้นขาเรียวขาก็ถูกจับแยก ของเหลวลื่นบางอย่างถูกเทราดลงตรงจุดกึ่งกลางของร่างกาย ฮิมไล่สายตามองคนตรงหน้า ร่างสูงก้มลงจูบที่หน้าผากขาวเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมือไปจับจุดไวต่อสัมผัสของอีกฝ่าย

เขาเล่นกับมันด้วยการจับรูดอย่างรวดเร็ว มือสากที่เป็นส่วนสัมผัสยิ่งช่วยเพิ่มความกระสันให้กับเจ้าของแก่นกายเล็ก เลบิดเร้าทันทีเมื่อได้รับการเล้าโลม ร่างเพรียวบิดเร้าไปมาขณะที่มือทั้งสองข้างเอื้อมขึ้นโอบลำคอหนา ฮิมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อนิ้วเรียวของอีกฝ่ายเผลอจิกครูดไปตามหลังต้นคอของตนเอง เขาหลุบตาลงมองสีหน้าแดงระเรื่อของคนที่มีความต้องการพุ่งสูงใต้ร่าง แล้วค่อยๆ ครูดเล็บลงไปตามแท่งเนื้อบางอย่างตั้งใจ

“อึก! อื้อ อ๊า!” เลเบิกตากว้างแล้วปล่อยน้ำกามออกมาทันที เป็นจังหวะเดียวกันที่มือหนาเลื่อนลงมาตรงช่องทางสีสวย ฮิมรวบรวมของเหลวที่ถูกเทใส่ก่อนหน้ามาเป็นน้ำหล่อลื่นแล้วสอดนิ้วใส่ช่องทางเล็กทันที ทว่าคนถูกกระทำกลับแสดงอาการต่อต้านด้วยการเกร็งตัวแน่น น้องพึมพำเบาๆ ว่าเจ็บ ดังนั้นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาจึงต้องโน้มลงไปแนบจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากเล็กเพื่อให้อีกฝ่ายคลายอาการเกร็งลง

ปลายลิ้นทั้งสองประสานกัน คนตัวสูงตวัดรุกไล่ในขณะที่เลจูบตอบกลับไปด้วยสติมึนงง จังหวะเดียวกันที่น้องลดอาการเกร็งนิ้วเรียวสองนิ้วก็ค่อยๆ สอดแทรกเข้าไปเพื่อขยายช่องทางให้ง่ายต่อการรองรับ นิ้วเรียวชักเข้าออกเพื่อควานหาจุดกระสัน ขณะเดียวกันที่แท่งเนื้อร้อนขนาดใหญ่ค่อยๆ ถูไถกับของฝ่ายตรงข้าม

ขนาดเลคลายอาการเกร็งแล้ว แต่ช่องทางด้านใต้ก็ยังคงบีบอัด รัดแน่นจนเหมือนจะทำให้นิ้วเขามันแหลก

ฮิมถอนนิ้วออก มือหนาจับขาเรียวให้อ้ากว้างมากกว่าเดิม เจ้าตัวกวาดสายตามองคนใต้ร่างจากมุมนี้ ภาพที่เห็นทำให้เขาอยากยัดเยียดลูกชายตัวเองเข้าไปให้เร็วกว่าเดิม

เจ้าตัวกำลังอ้าขาให้เขา บริเวณช่องทางเปียกไปด้วยน้ำหล่อลื่น แก่นกายของอีกฝ่ายก็ค่อยๆ เริ่มตั้งชันขึ้นมาอีกครั้งจากการปลุกเร้า ขณะเดียวกันที่น้ำกามที่ปล่อยไปในครั้งก่อนก็ยังเลอะไปตามกายบาง อีกทั้งเจ้าของใบหน้าหวานก็ขึ้นสีระเรื่อเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์

เล… เอ็กซ์แตก

คนตัวสูงหอบหายใจพร่า มือหนาไล่ไปตามแผ่นอกบางพร้อมทั้งหมุนยอดอกเล่นไปมา หลังจากนั้นจึงจับแก่นกายหนาค่อยๆ แทรกเข้าช่องทางกระทั่งมิดด้าม แล้วต่อด้วยการกระแทกกระทั้นจนเกิดเสียง

พั่บ! พั่บๆ! พั่บๆๆ! พั่บๆ!

“อึก! อ๊ะๆ! อ๊า! อะๆ! อึกฮิม! จะ…จ๋า!” คำใต้ร่างครางไม่เป็นศัพท์ เสียงหวานดังแหบพร่าอยู่ข้างหูยิ่งช่วยกระตุ้นให้คนด้านบนสวนเอวเข้าและออกถี่กว่าเดิม ความกระสันเหมือนกระแสไฟฟ้าลามไปทั่วตัว ครู่เดียวมันก็ทำให้ร่างกายชาไปทั้งร่าง ยกเว้นจุดกึ่งกลางที่กำลังประสานกันอยู่ ส่วนนั้นเสียวซ่านไปหมด ส่งผลให้ร่างกายที่ยังคงชาหนึบต้องบิดตัวเร้าโดยอัตโนมัติ ฮิมทำให้คนด้านใต้แทบคลั่ง เสียงฟ้าร้องดังในตอนนี้แทบจะไม่มีผลอะไรกับคนที่ส่งเสียงครางอยู่ใต้ร่างของเขา

มือหนาสอดนิ้วเข้าไปในปากเล็ก พัวพันลิ้นร้อนก่อนจะถอนออกมาบีบคั้นยอดอกสีอ่อนแทน

“อื้อ! อ๊ะ! อ๊าๆ” คนร้องจิกเล็บแน่น ใบหน้าสวยเผลอกัดปากอย่างไม่รู้ตัวยามแท่งเอ็นขนาดใหญ่ครูดไปตามผนังด้านในที่กำลังรัดแน่น แรงกระแทกหนักทำให้ความอยากถาโถมเสียจนหยุดไม่อยู่ ยิ่งมือหนาเอื้อมมาจับกึ่งกลางเล็กของคนใต้ร่างพร้อมทั้งชักนำไปตามจังหวะ เลรู้สึกเหมือนอยู่กึ่งกลางระหว่างนรกและสวรรค์ ความร้อนของมันคลายกำลังแผดเผาเขาไปหมด ขณะเดียวกันความกระสันอยากก็ชักนำไปจนหยุดไม่อยู่ สองส่วนคล้ายต้านกันไปมา ทว่ากลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

พรึบ!

เลถูกพลิกคว่ำ ส่วนสะโพกบางถูกยกขึ้นเพื่อรองรับความหนักหน่วงจากทางด้านหลังต่อ ใบหน้าสวยแนบเข้าหมอนนุ่ม มือบางกำผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อคลายความรู้สึกจากส่วนที่เชื่อมต่อกัน ขณะเดียวกันที่มือหนาลากผ่านแผ่นหลังเล็กลงมาบีบคั้นสะโพกบาง รวมทั้งบีบขย้ำก้นกลมกึงจนเกิดรอยแดง ร่างสูงโน้มตัวลงจูบเบาๆ ที่ไหล่บาง มือหนาข้างหนึ่งเอื้อมไปหมุนวนตุ่มไตเบาๆ ให้คนใต้ร่างร้องครางมากกว่าเดิม

“อื้อ! อ๊ะๆๆ อ๊า!” มือหนาดึงตัวของอีกฝ่ายขึ้น เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาแนบริมฝีปากเข้าที่ลำคอขาว แล้วขบเม้มแรงๆ จนขึ้นรอยแดงตาม แผ่นอกซุ่มเงื่อกว้างบดขยี้กับแผ่นหลังของอีกฝ่าย กลิ่นเหงื่อรอบกายขาวคล้ายฟีโรโมนของสัตว์ตัวเมียที่กระตุ้นตัวผู้ให้เข้ามาผสมพันธุ์

“เล…คนดี…น้อง” เสียงทุ้มปนเสียงหอบหายใจพร่าดังข้างหู ร่างสูงแนบริมฝีปากเลียบริเวณนั้นเบาๆ “เล”

ฮิมเผลอเรียกชื่ออีกฝ่ายไปโดยไม่รู้ตัว ร่างสูงตกอยู่ในห้วงกระสันหนัก ความรู้สึกอยากกระแทกกระทั้นถี่เคลิบคลานเข้าใกล้จนเผลอทำออกไปโดยไม่รู้ตัว ช่องทางฉ่ำน้ำถูกสอดแทรกอย่างหนัก เกิดเสียงน้ำหล่อลื่นเฉอะแฉะเมื่อแท่งเอ็นร้อนถูกสอดลึกไปจนถึงด้านใน มือหนาทั้งสองข้างไม่อยู่นิ่ง สองส่วนแบ่งแยกไปรูดรั้งแก่นกายบางและบีบดึงตุ่มไตสีแดงช้ำ เป็นการเล้าโลมที่ทำให้นัยน์ตากลมเบิกกว้าง ริมฝีปากบางเผลอขึ้นจนน้ำลายสีใสไหลลงมาถึงคอ ความกระสันพุ่งทะยานถึงจุดสูงสุดจนน้ำสีขุ่นถูกปล่อยออกมา เลรู้สึกเหมือนเรี่ยวแรงถูกสูบออกไปหมด ทว่าการเล้าโลมก็ยังไม่หยุด ร่างบางทิ้งตัวพิงแผ่นอกกว้างในท่าคุกเข่า ปล่อยให้คนที่สอดใส่ทางด้านหลังทำตามใจ

การรุกรานราวสัตว์ป่าดำเนินต่อเนื่องอีกกว่าสิบห้านาที  เสียงครางหอบพร่าดังลั่น ทั่วห้องอบอวลไปด้วยบรรยากาศร้อนระอุ ร่างบางปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง ก่อนคนด้านหลังจะกระแทกหนักๆ ใส่สามครั้ง กระตุกแล้วปล่อยน้ำกามเต็มช่องทางเล็ก เสียงที่เกิดจากการสอดใส่หยุดไปแทนที่ด้วยเสียงหอบหายใจพร่าหนัก ร่างสูงด้านหลังไม่ยอมถอดแท่งเนื้อร้อนออกไป มือหนาจับใบหน้าสวยที่พิงอยู่บนไหล่ขึ้น ประกบจูบแล้วสอดลิ้นร้อนเข้าไปพัวพันจนน้ำลายไหลย้อยไปตามคาง

เซ็กส์ครั้งเดียวไม่พอสำหรับพี่ฮิม ร่างสูงปล่อยให้เขาพักครู่เดียวเท่านั้น เสียงครางก็ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อคนด้านหลังค่อยๆ ขยับกายเข้าออก





นับหลายชั่วโมง ร่างบางถูกขย้ำจนช้ำไปทั้งร่าง กายขาวเต็มไปด้วยรอยแดงจากมือและจูบ แม้ว่ายอดอกและช่องทางจะเริ่มแดงช้ำไปหมดแต่การรุกรานก็ยังคงอยู่ ไม่รู้ว่าเขาถูกพามาห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ เลเริ่มได้สติอีกครั้งก็ตอนที่ตัวเองถูกโยนลงอ่างกุชชี่ที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ และหลังจากนั้นไม่นานเซ็กส์ในน้ำก็เริ่มขึ้น

“อื้อ! อ๊า! อืม… พี่ฮิม” เขานั่งอยู่บนตักแกร่ง ตอนนี้ส่วนกลางถูกสอดแทรกอยู่ภายใต้ฟองสบู่ แขนเรียวเกาะอยู่บนบ่าแกร่ง เลต้องรับบนเป็นคนขยับ การร่วมรักในครั้งนี้จึงค่อยๆ เป็นไป ส่วนเจ้าของตักแกร่งกำลังนั่งเอนพิงอ่าง ลำแขนกว้างข้างที่รอยสักรูปมังกรเท้าเข้ากับขอบอ่าง มือหนาข้างนั้นถือแก้วไวท์ดื่มให้ความรู้สึกราวกับพระราชา

“เลเหนื่อย… อ๊ะ! อ๊า! พี่ฮิม”

“เหรอครับ” เสียงทุ้มตอบรับแล้วกระแทกกายขึ้นช่วยเล็กน้อย นัยน์ตาคมจดจ้องอยู่กับคนที่กำลังขยับสะโพกตรงหน้า มือหนาข้างที่เหลือเอื้อมไปกอบกุมแก่นกายเล็กเพื่อกระตุ้นให้คนขยับมีอารมณ์มากกว่าเดิม ใบหน้าสวยแสดงปฏิกริยาขึ้นทันที นัยน์ตากลมปรือขึ้น ริมฝีปากเผลอ คนตรงหน้าฮิมกำลังจะสติหลุด

เขากำลังมอมเล แต่ไม่ได้มอมด้วยเหล้า เขามอมด้วยเซ็กส์

ถ้าเลวกว่านี้นิดนึงคงจะถ่ายรูปคนที่กำลังนั่งขย่มกายเขาอยู่ตอนนี้ไปขาย รับรองว่าประมูลได้หลายแสน

“หึ” เขาครางในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะดื่มไวท์ในมือจนหมด วางแก้วมันไว้ที่ข้างอ่าง แล้วสลับตำแหน่งโดยการโอบคนที่กำลังขย่มอยู่บนตักพลิกมานอนราบแนบศีรษะบนขอบอ่างส่วนฮิมเป็นจัดการต่อเอง

นัยน์ตากลมเหลือบมองผ่านกระจกใส ฝนยังคงตก ฟ้าผ่าเสียจนท้องฟ้าสว่างวาบ เสียงฟ้าร้องก็ดังมาถึงด้านใน แต่ว่า…

“เล” เสียงเรียกทำให้เลหันกลับไปมอง ก่อนจะเจอกับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังจ้องอยู่ สองฝ่ายสบตากัน ก่อนมือบางจะเอื้อมไปรั้งต้นคอแกร่งลงมาแล้วประทับริมฝีปากเข้าหากันแผ่วเบา สะโพกหนาขยับตามจังหวะ

เลตระหนัก ในอ้อมกอดของพี่ฮิม ไม่มีอะไรสามารถทำให้เขากลัวได้อีกต่อไป





ผมตื่นมาอีกครั้งตอนบ่ายโมงของอีกวัน ข้างกายว่างเปล่า บนเตียงมีแค่ผมคนเดียว จำได้ลางๆ ว่าหลังจากเสร็จในห้องนอน พี่ฮิมก็อุ้มผมมาที่เตียงและหลังจากนั้นก็ไม่รู้เรื่องต่อแล้ว ผมยันตัวขึ้นเพราะรู้สึกเหนียวตัวอย่างหนัก ลอบมองตัวเองก็พบว่าไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลยแม้แต่นิดเดียว ผมเดินลงจากเตียงตรงดิ่งไปที่ห้องนอน ยังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าไป ประตูมันก็ถูกเปิดออกมาจากด้านในเสียก่อน

พี่ฮิมที่หายไปยืนอยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมและหยดน้ำที่คงเกาะตามร่างกายชี้ว่าอีกฝ่ายพึ่งอาบน้ำเสร็จ  เขามองผมนิ่งๆ ก่อนจะเดินผ่านไป ส่วนผมเป็นฝ่ายเดินเข้าห้องน้ำ หลังจากสำรวจตัวเองและอาบน้ำจนเสร็จ พอเดินกลับออกมาก็พบว่ามีชุดขนาดพอดีตัวสำหรับผมเตรียมเอาไว้ให้บนเตียงแล้ว

ผมหยิบมาใส่ก่อนจะเดินออกจากห้อง  สถานที่ที่ไปคือห้องครัว เดินไปถึงก็พบว่ามีอาหารหลากหลายชนิดเตรียมเอาไว้ให้แล้วเหมือนกัน ทันทีที่นั่งลงบนโต๊ะ ผมตักข้าวกินแบบไม่รอเพราะคิดว่าคนที่ผมมองหาตัวเขาอยู่ไม่สนใจ  แต่แล้วจู่ๆ พี่ฮิมก็ปรากฏตัวออกมาจากทางด้านหลัง มือหนายกขึ้นแนบหน้าผากขาวพร้อมกับวางแก้วเล็กๆ ที่มียาเม็ดนึงอยู่ด้านในลงบนโต๊ะ

“ตัวอุ่นๆ” เสียงทุ่มพึมพำคล้ายพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับผม ถึงอย่างนั้นพี่ฮิมก็เลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆ แล้วใช้มือโอบไหล่ผมแบบหลวมๆ เป็นจังหวะเดียวกันที่โทรศัพท์ของอีกฝ่ายดังขึ้น  เขาหยิบมันขึ้นมาดูแล้วยื่นมันมาให้ผมแทนที่จะกดรับสาย

พอเห็นว่าคนที่โทรมาเป็นใคร ผมก็ถึงกับกินข้าวต่อไม่ลง

‘วิน’

แย่แล้ว!

ผมรีบจับโทรศัพท์ของพี่ฮิมขึ้น แล้วกดรับ “ฮัลโหล”

(ปิดโทรศัพท์ทำไมไอ้เวร! เลอยู่กับมึงหรือเปล่า กูโทรหามันไม่ติด โทรหามึงก็พึ่งติด)

“นี่เลพูด”

พี่วินเงียบไป เงียบจนผมเริ่มใจหาย ก่อนอีกฝ่ายจะบอกด้วยข้อความสั้นๆ (กูให้เวลามึง 1 ชั่วโมง กลับบ้านเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นกูจะไปลากคอมึงกลับมาเอง)

ติ๊ด!

พอพี่วินกดตัดสาย ผมจึงวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะดังเดิม พร้อมกับหันไปบอกคนข้างๆ “เลต้องกลับบ้าน”

มือหนาเคลื่อนแก้วใส่ยาอันเล็กๆ มาทางผม ส่งสายตาเป็นเชิงบังคับว่าให้กิน พร้อมกับพูดประโยคสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“เดี๋ยวไปส่ง”

บรรยากาศภายในรถเงียบสนิท ไม่รู้ว่าทำไมพี่ฮิมถึงเลือกที่จะมาส่ง ทั้งๆ ที่รถของผมก็ยังจอดอยู่ที่บริษัท  ผมนั่งนิ่งๆ จนกระทั่งมาถึงประตูบ้าน แต่ความรู้สึกมันทำให้ไม่อยากลง

นี่เราจะแยกกันแค่นี้จริงๆ เหรอ

เมื่อวานก็ไม่มีการคืบหน้า วันนี้ก็เสียเวลาไปครึ่งวันกับการนอนเพราะหมดพลังงานที่โดนอีกฝ่ายสูบไปตั้งแต่เมื่อคืน แม้มันจะรู้สึกดีตอนที่ได้ทำ แต่การมีเซ็กส์ครั้งนี้ไม่ได้ช่วยให้ผมและพี่ฮิมหายจากความรู้สึกแปลกๆ นั่นหมายความว่าเพศสัมพันธ์ไม่ใช่กุญแจที่ผมตามหา

แต่ว่ามันคืออะไรล่ะ

แปะ

พรึบ!

ผมได้สติเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสแผ่วเบาบริเวณแก้ม พอหันไปมองก็พบว่ามือหนากำลังลูบแก้มของผมอยู่ นัยน์ตาสีดำสนิทมองผมนิ่ง

“ถึงแล้วนะ” ฮิมว่าเสียงเรียบแต่ก็ยังไม่ยอมผละมือออกไป ผมใช้จังหวะนั้นทาบมือแนบกับอีกฝ่าย แล้วเอียงใบหน้าใส่ฝ่ามือหนาอุ่น พี่ฮิมไม่ได้ชักมือออก เขายังลูบแก้มผมเหมือนเคยมีแต่นิ้วแม่มือที่เลื่อนเข้ามาใกล้ริมฝีปาก สัมผัสเบาๆ หากไม่ได้ทำอะไร

“พรุ่งนี้ มาหาเลได้ไหม” ผมพูดออกไปตามตรง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่าย ในขณะที่ร่างสูงยังคงมองผมนิ่งๆ แล้วพูดประโยคหนึ่งที่ทำให้ใจของผมมันสั่น

“พี่รักเล”

ผมเบิกตากว้างพลางจ้องเจ้าของประโยคบอกรักตรงหน้า ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าดวงตาคมเฉี่ยวที่เคยแข็งกระด้างคู่นั้นอ่อนลง “เล… เลระ—”

ก๊อกๆๆ

กระจกรถถูกเคาะดังขึ้นขัดจังหวะที่ผมจะบอกรักพี่ฮิมกลับ คนเคาะคือพี่วินที่กำลังเดินอ้อมมาเปิดประตูทางผม มือหนาดึงตัวของผมลงจากรถทันที จังหวะที่ผมโดนดึงตัวลงไปนั้นเอง เป็นเวลาเดียวกันที่ผมได้เห็นสีหน้าของพี่ฮิม ใบหน้าหล่อเหลาเบิกตากว้างเล็กน้อย มือหนาชะงักค้างอยู่กลางอากาศ กำลังทำท่าเหมือนจะคว้าผมเอาไว้แต่ร่างผมมันปลิวไปกับพี่วินเสียก่อน แถมพี่วินก็ไม่ให้โอกาสได้ร่ำลาอะไรอีก เพราะทันทีที่ดึงผมลงมาจากรถ ร่างสูงก็ลากผมเข้าบ้านชนิดที่ว่าไม่สามารถมีปากเสียงอะไรกับอีกฝ่ายตอนนี้ได้ ผมเลยได้แต่มองรถของพี่ฮิมตาปริบๆ ได้แต่คาดหวังว่าพรุ่งนี้เขาจะมา

ไม่สิ… ฮิมต้องมา





วันต่อมา

บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง วินมองร่างบางที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ด้วยความนิ่งงัน เลน้ำตาไหลเงียบๆ ขณะมองเอกสารใบเซ็นรับเงินจำนวนสูงถึงหนึ่งพันล้านบาทวางค้ำคออยู่ตรงหน้า พร้อมกับความจริงที่ต้องรับรู้ว่า

คนที่เลรอ… เขาไม่มา






(100%)

มีนักอ่านรีเควสมาว่าขออย่าให้มีอะไรกันแล้วก็ดีกันเลยได้ไหม ได้ค่ะ! เอาไปเลย555555

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-12-2017 09:33:32
 สงสารเลนะ แต่เชื่อเถอะเดี๋ยวฮิมก็มา รอไปก่อนนะเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: สาว801 ที่ 03-12-2017 10:31:18
หน่วงอยู่แต่เลต้องโตและเข้มแข็ง ให้เวลาฮิมคิดถี่ถ้วนกว่านี้ ถ้าฮิมยังไม่รู้ใจตัวเองก็ปล่อยฮิมไปข้างหน้าเถอะ  :mew5:
ป.ล. ไรท์จะหายไปนานๆอีกมั้ย :call:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-12-2017 10:34:14
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-12-2017 13:37:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 03-12-2017 15:09:32
ลองแยกกันบ้างก็ดีนะคะ จะได้รู้ใจ ว่าขาดคนใด คนหนึ่งไป จะทนได้ไหม ลองไปมีชีวิตของตัวเองดูบ้าง
ฮิมอาจจะแค่ผูกพัน เลี้ยงน้องมาตลอด อาจจะไม่ใช่ความรักแบบคู่รักก็ได้

ส่วนเลก็จะได้มีระยะเวลาในการเติบโต อาจจะล้มลุกคลุกคลานบ้าง แต่ถ้ายืนได้ด้วยตัวเอง เข้มแข็งแล้ว
เมื่อหันกลับมามองที่ความรู้สึก จะได้มั่นใจว่ารักฮิมแบบคู่รัก ไม่ใช่รักเพราะผูกพันแบบครอบครัว
ทั้งฮิม และคนรอบข้างจะได้มีความมั่นใจในความรักของเล ว่าเลรักฮิมแบบคู่รักจริงๆ

หรือหากต้องแยกกันไปจริงๆ เงินตั้งเยอะขนาดนี้ หนุ่มน้อยน่ารักแถมรวยแบบนี้ เลก็สวยเลือกได้ไปค่ะ 5555

นักเขียนหายไปนาน นึกว่าจะไม่มาต่อแล้ว ดีใจที่มาต่อนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 03-12-2017 16:31:26
เกลียดความไม่รู้ว่าฮิมรู้สึกกับเลอย่างไร แต่กับใช้ร่างกายผูกมัดเลไว้ก่อน  :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 03-12-2017 17:47:24
เซ็น ไม่เซ็น ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-12-2017 19:09:09
ฮิม ก็รักเล  :man1:
แล้วทำไมไม่มาหาเลล่ะ   :z3: :z3: :z3:

วิน ทำเพื่อเล หรือทำเพื่อตัวเอง  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-12-2017 19:14:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: ฟาง ฟ่างง ฟ๊างง ที่ 03-12-2017 19:20:24
หือออออออ เผ็ชมาก! เอาอีกกกกกกก คนเขียนหายไปนาน เรายังไม่อิ่มค่ะ555555 คิดถึงมากมาย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 03-12-2017 21:52:33
สงสารเลอะ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 04-12-2017 15:57:00
ฮืออออออออ ห้ามเซ็นนะ ฉีกทิ้งไป๊
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 04-12-2017 18:12:05
พึ่งได้ตามอ่านเรื่องนี้ค่ะ อ่านลืมทำงานเลยทีเดียว เราว่าตัวละครเรื่องนี้ก็สมเหตุสมปลของเค้าอยู่นะคะ ฮิมรักและทะนุถนอมมาตั้งแต่เล็กและชัดเจนในความรู้สึกตั้งแต่10ขวบ (หื่นกะน้องตั้งนานแล้ว ชัดเจนมาก) เพราะชัดเจนในตัวเองถึงเลี้ยงน้องมาในกรง กรงที่ทั้งรักทั้งหวง ทำให้น้องโตมาอย่างซื่อบริสุทธิ์และเอาแต่ใจเพราะถูกสปอยมาตลอด ยิ่งคนพี่มีมุมดาร์กมาเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องปิดน้องที่ใสขนาดนี้ไปใหญ่ ชอบบทพี่ฮิมมากค่ะ รัก หวงชัดเจน แต่คิดว่าพี่ฮิมไม่น่าจะยอมแยกกันแบบเฉยๆ คนฉลาดและขี้หวงแบบพี่ฮิทต้องไม่ปล่อยของๆตัวเองหลุดมือแน่นอน น้องมารู้ความจริงของพี่ในคราวเดียว มันก็เลยหนักหน่อย แต่ก็ถือว่ารับได้ค่อนข้างเร็ว เพราะน้องชัดเจนในตัวเองเช่นกันว่าน้องรักพี่ฮิม แต่ติดอยู่อย่างนึง น้องทำไมไม่ได้เรียนเพศศึกษาตอนมัธยม

สรุป รอค่ะรอ จะยังไงต่อค่าาาาาาา ลุ้นค่า~~~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 05-12-2017 10:00:18
 :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 05-12-2017 10:52:53
เลหนูต้องโตนะลูกกก

โถถถถถ สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 031217#25 p.34
เริ่มหัวข้อโดย: mirage ที่ 05-12-2017 11:08:39
เริ่มงงกับฮิมละ สรุปคนที่เปิดมาตอนแรกคือวินกับใครสักคนหรือเปล่า ดูมีอะไรสักอย่าง

 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 051217#วันพ่อ p.35
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 05-12-2017 22:49:40


วันพ่อแห่งชาติ



5 ธันวาปีก่อน

ผมไม่เคยไหว้พ่อ  ทั้งพ่อแท้ๆ แล้วก็คนที่ถูกเรียกว่าพ่ออย่างพี่ฮิมที่เลี้ยงผมมา

ที่ไม่ได้ไหว้นั่นเพราะ คุณพ่อแท้ๆ นั่นเพราะผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้ท่านอยู่ไหน เราเหมือนตัดขาดกันตั้งแต่ที่ฮิมรับผมมา

ส่วนพ่อไม่แท้อย่างพี่ฮิมนั่น เขากลับไม่ให้ผมไหว้แทน

เคยพยายามอยู่หลายครั้งแล้ว แต่ภายในวันพ่อ ทุกครั้งที่พี่ฮิมเห็นผมถือพวงมาลัยเข้าใกล้ ร่างสูงก็จะเดินหนีผมไปทันที เรื่องนี้ขนาดพี่วินที่เคยบ่น พี่รพที่เคยว่า ยังออกปากเห็นด้วยแล้วพากันใจกล้าไปด่าพี่ฮิมว่าให้ผมไหว้หน่อยเถอะ ยังไงก็เป็นคนออกเงินเลี้ยงผมมาอยู่แล้ว แต่จนตอนนี้ร่างสูงก็ยังไม่ยอม

มันเลยกลายเป็นว่าทุกครั้งภายในวันพ่อ ผมจึงพยายามเป็นเด็กดีแทน เอาตั้งแต่ตื่นเช้า อาบน้ำ แต่งตัว แล้วก็ลงไปทำอาหารเช้าแทนพี่รพ แม้กระทั่งเปอร์เซียร์แมวผีที่เกลียด ผมยังจำใจไปให้อาหารมันโดยที่พี่ฮิมไม่ต้องบอก

คนทั้งบ้านลงความเห็นว่าผมเป็นเด็กดีที่สุดก็วันพ่อเนี่ยแหละ

ปีนี้ก็เช่นกัน แต่ปีนี้ผมมีแผน…



Welcome to the Hotel California

Such a lovely place (Such a lovely place)

Such a lovely face

Plenty of room at the Hotel California

Any time of year (Any time of year)

You can find it here


ผมกำลังนั่งนิ่งๆฟังเพลง Hotel California ตามที่สถานีเปิดบนรถ  เรากำลังจะกลับบ้าน พี่ฮิมพึ่งไปรับผมจากโรงเรียน

“เหนื่อยไหมครับ” เสียงทุ้มถามอย่างเคย

“นิดหน่อย แล้วฮิมล่ะ”

รถติดไฟแดง ร่างสูงเลยก้มลงมาหอมแก้มผม “พี่ไม่เหนื่อย”

“...” ไม่รู้จะพูดอะไรดี

“วันนี้น้องไม่หิวเหรอ” ปกติเวลาพี่ฮิมมารับกลับ ผมมักจะชวนเขาไปกินอะไรสักอย่างก่อนเข้าบ้านบ่อยๆ ไม่ข้าวก็ขนม

“เลไม่ค่อยหิว” อันที่จริงคือ ผมอุตส่าห์โดดคาบสุดท้ายเพื่อลงมาหาอะไรกินที่หน้าโรงเรียนก่อนที่พี่ฮิมจะมารับ

หลังจากตอบไปแบบนั้น อีกฝ่ายก็ไม่ได้คาดคั้นอะไรต่อ ภายในรถเงียบ จนกระทั่งมาถึงบ้าน พี่ฮิมหยิบกระเป๋าของผมไปถือแล้วเดินลงจากรถก่อน จากนั้นผมจึงเดินลงมาตามแบบเงียบๆ เพราะกำลังคิดอะไรอยู่

อันที่จริงแผนที่ว่า มันก็แทบจะไม่มีอะไรเลยแหละ ผมแค่ต้องหาโอกาสไปนอนตักพี่ฮิม จากนั้นก็หาทางกราบตักของอีกฝ่ายแบบเนียนๆ เพราะดูท่าแล้วกราบเท้าพี่ฮิมคงจะไม่ให้แน่ๆ

ก็คิดเอาไว้ประมาณนี้แต่จะทำได้ไหมนั้น ไม่รู้

ผมเดินตามพี่ฮิมเข้าบ้านแล้วก็เจอเข้ากับพี่ๆ ที่กำลังนั่งกินไก่อยู่ในห้องครัวพอดี

“กลับมาแล้วเหรอ” พี่รพทัก “มาแดกไก่”

“ทำไมซื้อมาเยอะจัง” ผมถามเพราะมีวางตั้งเป็นถังๆ เลย

“โปรโมชั่นสุขสันต์วันพ่อ”

“เออ ปีนี้มึงไม่หาทางไหว้พ่อมึงแล้วเหรอ” ผมหน้าชา จะตอบว่าก็กำลังจะหาทางอยู่ก็ไม่ได้ เพราะพี่ฮิมยืนอยู่ข้างๆ ผมเนี่ย! พี่ไทด์กำลังจะทำให้แผนของผมมันเสีย

“เรื่องของเล!”

“อ้าว! ไอ้ไทด์ เลมันหมายความว่ามึงเสือกอะ”

“สัส! กูก็แค่พูดเล่น ทำไม่ทำก็เรื่องของมึงดิ”

“เออ อย่ามายุ่งกับพ่อเลนะ!” ผมว่า

“อย่ามายุ่งกับพ่อเลนะ!” พี่วินเลียนเสียง ผมเลยได้ทำหน้าใส่ ช่วงนั้นเองที่ไม่ได้สนใจว่าพี่ฮิมเดินขึ้นห้องไปก่อนแล้ว





2 ชั่วโมงต่อมา

แผนผมยังไม่ได้เริ่ม เพราะทันทีที่ขึ้นมาบนห้องผมก็ถูกเกมล่อลวงเสียก่อน ส่วนพี่ฮิมหลังจากที่ขึ้นมาเปลี่ยนชุดเสร็จเขาก็เดินลงไปด้านล่างเลย ผมวางจอยส์ในมือแล้วเดินลงไปด้านล่างเพื่อเริ่มแผน พี่ๆ ทุกคนกำลังนั่งเล่นไพ่กันที่ห้องนั่งเล่น แต่พอผมเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ผมกลับไม่เจอพี่ฮิม

“พี่ฮิมอยู่ไหนอ่ะ”

“พึ่งเดินออกไปด้านนอก” พี่เกียร์ตอบ

“นอกไหน”

“สระน้ำ” พี่วินว่า

“เมาด้วย” พี่ไท์เสริม

“เมา ?” ผมทวนคำที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ เพราะพี่ฮิมคอแข็งมาก

“ไปดูเองอยู่สระน้ำนู้น” มือหนาชี้ไปด้านนอก ท้ายที่สุดผมเลยต้องเดินออกไปดู ก่อนจะพบว่าพี่ฮิมกำลังนั่งอยู่ด้านนอกจริงๆ ด้วย ร่างสูงนั่งบริเวณขอบสระ ผมเห็นดังนั้นจึงเดินไปนั่งข้างๆ และดูเหมือนพี่ฮิมจะเมาจริงๆ หลักฐานคือกลิ่นเหล้าหึ่งที่ออกมาจากตัวอีกฝ่าย

แปลกจังแฮะ

ฮิมไม่ค่อยกลิ่นเหล้าจนเมาขนาดนี้ 

นัยน์ตาคมหันมามองผมที่นั่งข้างๆ เขาจ้องจนผมต้องถาม “พี่ฮิมมีอะไรหรือเปล่า”

“วันนี้วันพ่อ” เสียงทุ้มเกริ่น “น้องจะทำอะไรไหม”

ประโยคที่ถามออกมาตรงๆ ทำให้ผมเบิกตากว้าง นี่คือ พี่ฮิมเปิดทางให้ใช่ไหม!

“ละ… เลขอนอนตักฮิมได้ไหม”

ฮิมก้มลงมองตักตัวเองที่มีแก้วเหล้าวางอยู่ใกล้ๆ มือหนาจับมันออกห่างกว่าเดิมแล้วตบตักแปะๆ เป็นอันว่าให้ผมนอนลงมาได้

ตักของพี่ฮิมไม่ได้นุ่มหรอก มันจะออกจะแข็ง แต่เป็นการแข็งที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจ ยิ่งมือหนาเลื่อนมือลูบศีรษะผม ยิ่งราวกับว่ากระแสไออุ่นพุ่งวาบเข้าหัวใจเลย

แบบนี้ดีจัง

ผมเงยหน้าขึ้น สบตากับคนด้านบน จังหวะเดียวกันที่ฮิมเลื่อนมือมาเกาคางผมจนรู้สึกจั๊กจี้ “เลไม่ใช่เปอร์เซียร์ของพี่ฮิมนะ!”

“เลไม่ใช่” เสียงทุ้มว่าตามใจผม “แล้วก็ ใช่”

“ใช่อะไร ?” ผมงง

“ประโยคหลัง” ประโยคหลังอะไร ที่ผมพูดมันก็มีแค่ประโยคเดียวไม่ใช่หรือไง ว่า ‘เลไม่ใช่เปอร์เซียร์ของพี่ฮิมนะ!’ น่ะ

ผมจับมือหนาแนบเข้ากับแก้มของตัวเอง มันอุ่น

“พี่ฮิม”

“หืม”

“เลกราบตักพ่อได้ไหม”

“...”

พรึบ!

ไม่ต้องรอให้ตอบ ผมรีบพลิกตัวเล็กน้อยแล้วกราบลงไปที่ตักของอีกฝ่าย จากนั้นจึงพลิกกลับมานอนตักตามเดิม ร่างสูงนิ่งมาก นิ่งจนผมไม่รู้ว่าพี่ฮิมกำลังคิดอะไร

กระทั่งเจ้าของตักถอนหายใจ เขาพึมพำเบาจนผมไม่ได้ยิน “ไม่ชอบเลย”

“ฮิมพูดอะไรอ่า!”

“เปล่า” เขาโกหก

“พี่ฮิมโกหก” ผมออกอาการดิ้นต่อต้าน แต่เหมือนคนโดนทำใส่ไม่โกรธ ร่างสูงโน้มหน้าลงมาใกล้ในระยะประชิดเสียจนผมใจเต้น

“ทำไมครับ” เสียงแผ่วว่า ตอนที่ปลายจมูกของราชนกัน “เลจะโกรธพี่เหรอ”

“ก็เปล่า” ผมตอบตอนที่ริมฝีปากหยักแนบจูบลงที่หน้าผาก “พี่ฮิมขอบคุณนะ”

ร่างสูงไม่ได้ตอบ แต่ผมคิดว่าเขาเข้าใจว่าผมต้องการจะสื่ออะไร

“พี่รักเล” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาวกเข้ามาคลอเคลียตรงปลายจมูกของผมอีกครั้ง

“อือๆ เลก็รักพ่อ”

กึก!

ร่างสูงชะงัก เป้าหมายจากที่เป็นริมฝีปากถูกเปลี่ยนมาเป็นแก้มของอีกฝ่ายแทน





5 ธันวาปีนี้

“ครับพ่อ”

“หึ คิกๆ”

“ต้องดูก่อนว่าสัปดาห์หน้าจะได้ไปไหม บางทีผมอาจจะไม่ไปสัปดาห์หน้า แล้วไปสัปดาห์ก่อนวันคริสมาสต์”

“พี่ฮิมจ๋า อย่ากะ… แกล้ง! คิกๆ” ผมกำลังต่อสู้กับมือหนาที่เข้ามาจั๊กจี้คางผมเล่น! “นี่แหน่ะ!”

จับเอาไว้เลย!

“ครับ ถ้าไปสัปดาห์ก่อนวันคริสมาสต์ ผมจะเอาเลไปด้วย”

“กลับอังกฤษเหรอ!” ผมถามออกไปเสียงดัง และคำตอบที่ได้รับคือการพยักหน้าจากพี่ฮิม “ไปๆ! เลไปด้วย เลคิดถึงคุณแม่ แต่ไม่คิดถึงคุณลุงนะ!”

ผมตะโกนเข้าไปในสายเสียงดัง จนเจ้าของใบหน้าหล่อเหลายกโทรศัพท์ออกห่าง ทำหน้าดุพร้อมทั้งส่ายหน้าเบาๆ

“ครับ… ครับ”

“...” เงียบก็ได้

“ครับ แล้วเจอกันครับ”

ติ๊ด!

พี่ฮิมกดตัดสาย เขาหันมามองผม “อะไรเล่า!”

“เปล่า”

“แล้วๆ สรุปว่ายังไง” ผมลุกขึ้นนั่งหลังจากพึ่งนอนตักพี่ฮิมไปเมื่อสักครู่ “ฮิมจะไม่กลับอังกฤษสัปดาห์หน้าใช่ไหม”

อันที่จริง ผมตื้อให้พี่ฮิมโทรไปหาคุณลุงสักหน่อย เพราะวันนี้เป็นวันพ่อ แต่ดูเหมือนได้วกเข้าเรื่องวันคริสมาสต์ด้วย แล้วถ้าพี่ฮิมไม่กลับอังกฤษสัปดาห์หน้า นั่นหมายความว่าสัปดาห์ก่อนวันคริสมาสต์ผมจะได้กลับอังกฤษพร้อมเขา

และ… คำตอบที่ได้รับคือการพยักหน้า

“ฮืออออ ดีจัง” ผมพึมพำแล้วก็กลับไปนอนตักพี่ฮิมเหมือนเดิม

“น้องไม่ได้กลับอังกฤษนานเท่าไหร่แล้ว”

“ตั้งแต่ปิดเทอมครั้งก่อน… มั้ง” ผมพึมพำ “โอ๊ะ! พวกลูกๆ ของเลมันต้องคิดถึงเลแน่เลย”

ผมพูดถึงลูกหมาของผมสามตัว เลี้ยงพวกมันอยู่ที่อังกฤษ

“ตัวใหญ่จะเท่าเลแล้ว” พี่ฮิมว่า เพราะเขาไปกลับอังกฤษบ่อยมาก

“คิดถึงจัง” ผมพึมพำแล้วเหม่อมองดวงจันทร์ แต่สักพักก็ต้องอมยิ้มเมื่อร่างสูงบดบังแสงจันทร์โดยการโน้มใบหน้าลงมาคลอเคลียปลายจมูกกับผม “จะหอมแก้มเลอีกเหรอ”

จะว่าไปแล้วปีนี้ก็คล้ายๆ ปีก่อน ตรงที่วันนี้วันพ่อ แล้วเราก็มานั่งริมสระกันอยู่สองคน แล้วผมก็นอนตักพี่ฮิมแบบนี้

แต่พอพี่ฮิมไม่ตอบบรรยากาศมันก็เลยเงียบลง

เขาแนบหน้าผากเข้ากับผม “พี่รักเล”

วันพ่อแบบนี้ ถ้าผมและพี่ฮิมยังเป็นเหมือนปีก่อนอยู่ ผมตอบว่ารักพ่อไปแล้ว แต่ว่าปีนี้…

“เลก็รักพี่ฮิม”





มันก็เหมือนเดิม…

สถานที่ก็เหมือนเดิม…

สถานการณ์ก็เหมือนเดิม…

คำบอกรักยังคล้ายๆ อันเดิม...





แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือความรู้สึกบางอย่าง

กับริมฝีปากของเราสองคนที่ทาบกันสนิท ❤





(100%)



จริงๆ แล้วพี่ฮิมไม่ชอบคำว่าพ่อรุนแรงถึงขั้นเกลียดเลย เพราะนางไม่ได้อยากเป็นพ่อนี่เนาะ

นางอยากเป็นผ...



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (อย่าใช้สระเอสองตัวนะจ๊ะ!)



หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 051217#วันพ่อ p.35
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-12-2017 23:29:56
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 051217#วันพ่อ p.35
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-12-2017 23:37:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 051217#วันพ่อ p.35
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 06-12-2017 00:28:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 051217#วันพ่อ p.35
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-12-2017 06:43:16
มีพิเศษวันพ่อมาให้อ่านด้วย
เข้าใจฮิมนะ ก็ไม่อยากเป็นพ่อเลนี่นะ

ฮิม ที่เลรอคอยให้มาหา
มีเหตุจำเป็นที่ใหญ่มากกกกกกสินะ ถึงมาหาเลไม่ได้
แต่คิดว่าฮิมต้องพยายามมาหาเล
แม้จะดึกขนาดไหนก็ตาม
ก็หัวใจของฮิม อยู่ที่เลนี่
ฮิม เล  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 051217#วันพ่อ p.35
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 06-12-2017 06:53:30
ฮิมไม่อยากเป็นพ่อ แต่อยากเป็น ผ  :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 051217#วันพ่อ p.35
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 06-12-2017 15:46:43
 พ่อทูลหัวไงพี่ฮิม 555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 051217#วันพ่อ p.35
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 07-12-2017 00:01:09


Special : ตอนน้องยังเด็ก

(ฉลองแฟนวิศวะครบรอบ 1 ปี)



เรื่องที่ 2 : อนุบาลวันแรก



เช้าวันหนึ่ง เลถูกปลุกให้ตื่นเช้าขึ้น

มาอาบน้ำเร็วผิดปกติ แม้ตอนแรกจะงอแง แต่พอคนพี่เป็นคนอาบให้ก็เงียบเสียงลง ต่อด้วยการถูกจับมาใส่ชุดแปลกๆ น้องสงสัย เลยได้แต่มองรอบตัวเองแล้วหมุนตัวไปมา แต่เพราะว่าฮิมเป็นคนใส่ให้ เลก็ไม่ได้ถามอะไรอีกเช่นเคย

คนเป็นพี่จัดการเส้นผมที่ยุ่งเหยิงของอีกฝ่ายด้วยการจับให้มามัดเป็นจุกไม่ให้ปรกหน้าผากด้วยยางเส้นสีเหลืองมีลูกเป็ดที่น้องออกจะชอบเป็นพิเศษ ปิดท้ายด้วยการพาเลเดินลงมาด้านล่าง ทุกอย่างรวดเร็วและไม่มีเสียงโวยวายขนาดที่ว่าพี่เลี้ยงเองยังอดทึ่งไม่ได้

น้องเลปกติจะดื้อมาก แค่ปลุกขึ้นมาได้โดยที่ไม่ร้องไห้ลั่นบ้านนี่ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว

พี่ฮิมพาน้องมาทานอาหารเช้า กระทั่งทานเสร็จคนพี่จึงเดินไปรับกระเป๋าจากพี่เลี้ยง ดวงตากลมที่ยังยุ่งกับขนมปังในมืออยู่เห็นดังนั้นก็เตรียมจะโบกมือลา ในวันปกติถึงเลจะตื่นไม่ทันตอนที่พี่ฮิมอาบน้ำ แต่งตัว ทานข้าว แต่ถึงอย่างนั้นคนน้องก็ยังอุตส่าห์ตื่นขึ้นมาโบกมือลาพี่ชายไปโรงเรียนได้ทันทุกครั้ง

“ฮิมจ๋า บ๊ะบาย” มือเล็กโบกไปมาพร้อมทั้งส่งจุ๊บให้ทั้งๆ ที่ขนมฟปังยังอยู่ในปาก ฮิมมองน้อง เจ้าตัวรู้ดีว่าจะทำยังไงให้เลขึ้นรถไปด้วย

“เลไปโรงเรียนกับพี่ไหม” เขาเอ่ยชวน แต่เลทำหน้างง ฮิมเลยย่อประโยคให้มันสั้นลง “ไปกับพี่ฮิมไหม”

มือขาวยื่นไปหาน้องก่อนจะได้รับการตอบกลับอย่างรวดเร็วๆ

“ไปๆ! เลไปด้วยนะ” ขาสั้นๆ รีบกระโดดลงจากเก้าอี้แล้ววิ่งเข้าไปเกาะพี่ชายเอาไว้ ไม่รู้ทำไมวันนี้พี่ฮิมถึงใจดีให้ไปด้วย ทั้งๆ ที่ปกติร้องไห้ขอเท่าไหร่ก็ไม่เคยพาไป จนน้องรู้สึกปลงๆ ไม่ขออีกเพราะรู้ว่าขอยังไงก็ไปไม่ได้

“พี่ฮิมกินข้าวเสร็จแล้วเหรอคะ” คุณหญิงของบ้านลงมาสำรวจความเรียบร้อย เจ้าของใบหน้าสวยอมยิ้มให้กับภาพตรงหน้า ภาพที่น้องเลกำลังกอดพี่ฮิมเอาไว้อยู่ “น้องเล ดีใจไหมคะที่จะได้ไปโรงเรียนกับพี่ฮิม”

“เลดีใจจ้ะ”

“พี่ฮิมว่าไง อยากให้คุณแม่หรือคุณพ่อไปส่งไหมคะ” เธอถามเพราะวันนี้ยังไงซะน้องเลก็เข้าโรงเรียนวันแรก คงต้องไปดูแลเองสักหน่อย เพราะพี่ฮิมก็ต้องแยกตัวออกไปเรียน “อืม แต่คุณแม่ไม่ว่างน่ะสิตะ เดี๋ยวคุณแม่บอกคุณพ่อให้ดีกว่า”

“ไม่ต้องครับ” เสียงเล็กปฏิเสธ ฮิมว่าต่อ “ให้พี่เลี้ยงไปส่งก็พอ”

“จะดีเหรอพี่ฮิม เดี๋ยวน้องงอแง”

“เลไม่งอแง” ฮิมว่า นัยน์ตากลมหันไปถามคนข้างกาย “เลจะไม่งอแงใช่ไหม”

“อือๆ” ริมฝีปากเล็กขานรับ เลกำลังอารมณ์ดี

“งั้นก็เอาตามที่พี่ฮิมว่า” คุณหญิงของบ้านตามใจลูกชายก่อนจะโน้มตัวลงหอมแก้มของอีกฝ่าย เพราะจูบหน้าผากน้องเลไปทีนึง “ไปดีมาดีนะครับ ถ้ามีอะไรโทรหาแม่นะ”

“ครับ”

สองร่างเล็กถูกพาเดินออกไปขึ้นรถ ในตอนนั้นเองที่นายใหญ่ของบ้านพึ่งเดินลงมาถึงห้องอาหาร

“ตื่นสายกว่าลูกอีกนะคะ” เสียงหวานทัก “ทำงานหนักเหรอคะ”

“อืม ผลการประชุมไม่ดีเท่าไหร่”

“งั้นฉันจะให้พัก” มือหนาที่พึ่งรินน้ำขึ้นดื่มชะงักทันที ยิ่งตอนที่เจ้าของใบหน้าสวยหันมายิ้มให้แล้วพูดว่า “ตามน้องเลกับพี่ฮิมไปโรงเรียนให้ทีค่ะ”





เลขึ้นรถ นั่งไปโรงเรียนกับพี่ฮิม มีความสุขๆ

นัยน์ตากลมหันซ้ายขวามองไปตามเส้นทาง สองมือขวาจับกันเอาไว้แน่น ขณะที่คนน้องกำลังมีความสุข คนพี่กลับกำลังทุกข์สุดๆ

จะทำยังไงให้น้องไม่ร้องตอนที่แยกตัวออกมา

mercedes benz คันหรูมาจอดอยู่ที่หน้าโรงเรียน พี่ฮิมสะพายกระเป๋าให้น้องก่อน จากนั้นถึงสะพายกระเป๋าให้ตัวเอง หลังจากนั้นก็จูงมือเล็กเดินเข้าโรงเรียน

ภาพพี่ชายจูงมือคนน้องเข้าโรงเรียนได้รับความสนใจจากผู้ปกครองคนอื่นเป็นอย่างมาก แต่เหมือนจะมากเกินไปหน่อย เพราะเลทำหน้าหวาดๆ แถมเจ้าตัวยังเอาแต่เดินตามหลังเขาอย่างเดียว

“กลัวไหม” ฮิมถามน้อง และคำตอบที่ได้รับการพยักหน้า คนตัวสูงกว่าจะก้มลงไปจุ๊บที่หน้าผากของอีกฝ่ายทีนึง “พี่อยู่นี่”

เลยิ้ม เหมือนโลกสว่างขึ้นมาทันที

ร่างเล็กกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม จนกระทั่งถึงห้องที่น้องต้องเขาไปเรียน

พี่ฮิมพาเลเข้าไปดูก่อน แล้วหลอกล่อน้องด้วยของเล่นในห้อง จากนั้นก็จัดการฝากเลไว้กลับคุณครูแล้วรีบเดินออกมา แต่เขาประมาทเลเกินไป เพราะในจังหวะที่คนพี่เดินออกมา ร่างบางก็วิ่งออกมาด้วย ซ้ำยังรวดเร็วเสียจนคุณครูก็จับเอาไว้ไม่ทัน

ร่างเล็กเดินเต๊าะแต๊ะมากอดพี่ชาย ดวงตากลมมีประกายความสุข

“เลไม่เดินตามพี่นะ” ฮิมว่าก่อนจะพาน้องกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง ก่อนตัวเองจะเดินออกมาใหม่ ทว่าสุดท้ายเลก็เดินออกมาตาม เป็นแบบนี้อยู่สามรอบ จนเจ้าของใบหน้าน่ารักเริ่มแสดงอาการงงๆ ว่าคนพี่กำลังจะทำอะไร

จนกระทั่งรอบที่สี่ เลเริ่มเหนื่อยจากการวิ่งตาม ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมห่างออกจากพี่ชาย จนฮิมต้องเอ่ยปากพูด

“เลห้ามตามพี่มานะ!” พูดไปเดินถอยหลังไป

“ฮิมๆ” น้องยังเดินตาม

“น้องต้องกลับเข้าไปในห้อง” ฮิมชี้ไปยังห้องที่มีคุณครูยืนรอรับอยู่หน้าประตู

“เอ๊ะ!” น้องชะงักค้าง มองตามแล้วเอียงคอ

“กลับเข้าไปหาคุณครูเร็ว” เลคิดว่ามันเป็นคำสั่ง เจ้าตัวรีบวิ่งแจ้นไปหาคุณครู พอคนตัวสูงกว่าเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจโล่ง คิดว่าคงจะแยกกับน้องได้แล้ว แต่พอตัวเองเริ่มเดินออกห่างเสียงหวานก็ดังตามหลัง

“ฮิมจ๋า ฮิมๆ” เขาหันไปมองแล้วเห็นเลกำลังวิ่งมาตามหลัง ตอนนั้นเองที่เผลอตวาดออกไป

“เลเดินตามพี่ไม่ได้นะ!”

กึก!

คนที่วิ่งอยู่หยุดชะงัก

“พี่ฮิม”

“กลับเข้าห้องไปเร็ว”

“ฮิมมา มานี่” ขาเล็กกำลังจะก้าวไปหา ทว่าถูกหยุดเอาไว้ด้วยประโยคต่อมาของพี่ชาย

“ไม่ได้! ห้ามตามพี่ฮิมมานะ”

“...” น้องนิ่งไป ใบหน้าน่ารักเริ่มเม้มปากแน่น และทันทีที่เห็นพี่ฮิมเห็นออกห่างไป ร่างเล็กก็แผดเสียงจ้าทันที “แงงงงงงงงง ฮืออ ฮิมจ๋าๆ พี่ฮิม ฮิม”

น้องถูกคุณครูที่มองเหตุการณ์อยู่นานจับตัวเอาไว้ ร่างบางได้แต่มองพี่ชายที่เดินออกห่างไปเรื่อยๆ พร้อมกับกรีดเสียงร้อง

“แงงงงงงงง ฮิมๆ พี่ฮิมมมมมมมม”

เสียงร้องดั่งลั่น ขณะเดียวกันที่คนพี่ได้แต่ใจแข็งไม่มองกลับไป





เลิกเรียน

คนตัวโตรีบวิ่งไปยังห้องของเด็กอนุบาล แต่เขากลับไม่เห็นเล คุณครูบอกว่าคุณพ่อของเขามารับกลับไปก่อนแล้ว ซึ่งนั่นออกจะน่าเหลือเชื่อนิดๆ แต่พอเขาโทรไปถามคุณแม่ คุณแม่กลับบอกว่านั่นเป็นความจริง น้องเลกลับไปที่บ้านก่อนแล้ว

พี่ฮิมรีบกลับมาที่บ้านตามหลัง ก่อนจะเจอกับเรื่องมหัศจรรย์ น้องเลกำลังหลับอยู่บนตักของคุณพ่อในห้องนั่งเล่น ร่างเล็กกอดเอาไว้แน่นถึงขนาดตอนหลับก็ไม่ยอมปล่อย ดังนั้นคุณพ่อของเขาเลยได้แต่นอนนิ่งๆ ไปก่อน

ฮิมเอาเรื่องนี้ไปถามคุณแม่ก่อนจะได้รับคำตอบ



‘แม่คิดว่าน้องเลจะร้องไห้หนักมากแน่ๆ เลยแอบให้คุณพ่อไปดูน้องเลเองค่ะ’

‘ตอนฮิมเดินออกมาน่ะน้องร้องไม่หยุดเลยรู้ไหม ร้องนานจนคุณครูกังวล คุณพ่อก็เลยไปรับออกมา ถึงขนาดนั้นก็ยังร้องอยู่’

‘แต่ไม่รู้ว่าไปใช้วิธีไหนเหมือนกันถึงทำให้น้องหายร้อง แล้วนอนเกาะติดไม่ยอมปล่อยถึงขนาดนั้น’




เรื่องนี้พี่ฮิมก็ได้แต่สงสัยและยังสงสัยมาถึงทุกวันนี้ โดยที่ไม่รู้เลยว่าบทสนทนาในตอนนั้น คนที่พึ่งละตัวออกมาจากน้องเลได้ บังเอิญเดินมาได้ยินพอดี

มันก็ดีอยู่หรอกที่ทำให้เลหยุดร้องได้ แต่กว่าจะทำให้หยุดร้องได้นี่สิ

ไม่มีอะไรผิดสังเกตเพราะของทุกอย่างยังอยู่บนรถ

นายใหญ่ของบ้านได้แต่ร้องแหะๆ กับตัวเอง เพราะวันนี้...



เสียไปตั้ง 1,000 กว่าปอนด์









(60%)

ฮือออ วงวาร ขุ่นพ่อออออ

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 07-12-2017 00:33:19
น่าร้าก มาตีอ รกนะครับ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: ฟาง ฟ่างง ฟ๊างง ที่ 07-12-2017 01:17:18
คิดถึงงง เอาอีกกกกก คนเขียนสู้ๆค่า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 07-12-2017 07:51:10
อื้อหื้อน้ำตาหลักหมื่นกันเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-12-2017 08:26:25
โอ๊ะ.........เล ชอบเงินตั้งแต่ชั้นอนุบาลเลยเหรอ  o22 o22 o22
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 07-12-2017 08:38:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-12-2017 08:48:09
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-12-2017 09:06:40
:)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 07-12-2017 09:30:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 07-12-2017 10:50:24
น้ำตาน้องเลมีค่ามาก 1000 ปอนด์ โอ้ววววว
อ่านเรื่องสมัยเด็ก แล้วน่ารักจังเลยค่ะ ทั้งพี่ฮิมและน้องเล อยู่ด้วยกันมาขนาดนี้ ความผูกพันเกินร้อย
มาต่ออีกเยอะๆ นะคะ รอจร้าาาาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 07-12-2017 13:49:31
นี่พี่ฮิมหลงเด็กตั้งแต่เล็กๆเลยใช่ไหมคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 07-12-2017 18:14:19
น่ารักจังน้องเลลูกกกก ถูกเปย์มาแต่เด็ก 555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 07-12-2017 19:12:28
น่ารักจังน้องเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-12-2017 21:59:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-12-2017 02:24:35
มันคืออะไร ที่มีค่าพันกว่าปอนด์ มันต้องอยู่บนรถแน่ ๆ คืออะไรนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 08-12-2017 07:35:35
 :L2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: สาว801 ที่ 08-12-2017 13:27:15
ค่าอะไรหนอพันปอนด์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 08-12-2017 19:02:24
เอิ่มม น้องเลล แต่เด็กเลยนะลูก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 08-12-2017 20:00:45
โถ่ ลูกกกก ใช้เงินเก่งแต่เด็ก 5555555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 09-12-2017 02:36:49
คุณพ่อพี่ฮิมนี่คือเป็นบุคคลที่สปอยน้องเลที่สุดในบ้านแล้วหรือเปล่า 5555555

เขาก็รักของเขา

พี่ฮิมได้สายเปย์มาจากใครไม่ต้องเดาละ ฮ่าๆๆ

หมดไปเท่าไหร่แล้วคะเผื่อน้องจะโตได้ขนาดนี้

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 071217#อนุบาลวันแรก p.35
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 10-12-2017 22:13:48
#26 (50%)



3 วันต่อมา

19.34 น.

เจ้าของเรือนผมสีแดงนอนเล่นอยู่บนโซฟา มือหนายกกระป๋องเบียร์ดื่มรวดเดียวหมดก่อนจะโยนกระป๋องใส่หัวเพื่อนสนิทที่นอนอยู่บนพื้นห้องจนเกิดเสียงดัง

เพล้ง!

“โยนมาทำเหี้ยอะไรของมึง!” ไทด์ลุกขึ้นนั่งก่อนจะยกมือเสยผมขึ้นด้วยอารมณ์หงุดหงิด ขณะเดียวกันที่คนทำยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร ซ้ำยังหันไปสั่งร่างสูงที่กำลังนั่งเงียบๆ อยู่มุมห้องแทน

“เฮ้ย! วิน มึงไปดูเลหน่อยดิ” หลังจากวันเซ็นสัญญา เลก็ไม่ยอมออกจากห้อง ข้าวปลาก็ไม่ยอมลงมากิน ขนาดยกไปให้ถึงห้อง ข้าวก็ยังพร่องไปไม่ถึงครึ่ง “อยู่แต่ในห้องมาสามวัน แห้งตายไปแล้วมั้ง”

คนถูกใช้ไม่พูดอะไร วินลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบกุญแจสำรองของทุกห้องมาไว้ในมือ เขาคาดว่าเลจะล็อกห้องและมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

ร่างสูงไม่เสียเวลาเคาะ ทันทีที่รู้ว่าประตูล็อค มือหนาก็ไขกุญแจแล้วเปิดเข้าไป

แกร๊ก!

คนที่เขาตามหากำลังไม่ได้นอนอยู่บนเตียงอย่างที่คิด มีเสียงน้ำไหลจากในห้องน้ำ แต่มันกลับทำให้คนฟังรู้สึกไม่ดี วินรีบเดินไปบิดประตูห้องน้ำ พอพบว่าคนด้านในไม่ได้ล็อกกลอน เขาจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไป

เลกำลังนอนหลับอยู่ในอ่าง ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แต่คงนานพอที่จะทำให้ปริมาณน้ำที่ล้นออกมาจากอ่าง ท้วมพื้นที่ไปกว่าครึ่งห้อง เนื่องจากคนที่นอนหลับสนิทไม่ปิดก๊อกน้ำ

ร่างสูงเดินไปปิดก๊อกน้ำพร้อมทั้งตักน้ำลูบใบหน้าของคนที่นอนหลับเบาๆ นัยน์ตาคมหลุบลงมองร่างเปลือยเปล่าในอ่างแล้วจัดการอุ้มเจ้าตัวออกจากห้องน้ำไปว่างไว้ที่เตียงนอน

วินสวมเสื้อผ้าให้กับอีกฝ่ายแล้วคลุมผ้านวมทาบไม่ให้คนนอนหลับหนาว จากนั้นก็จัดการห้องที่เริ่มรกระหว่างที่เจ้าของห้องตัวจริงหลับ สิ้นสุดทุกอย่างแล้วร่างสูงจึงมายืนที่ข้างเตียง นัยน์ตาคมสำรวจใบหน้าสวยที่ผอมลงกว่าปกติ เขานั่งลงข้างคนที่หลับสนิท มือหนาเอื้อมไปลูบศีรษะของอีกฝ่าย ความอุ่นจากฝ่ามือที่ได้รับทำให้คนหลับหันกายเข้าหาโดยอัตโนมัติ วินชะงัก เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาถอนหายใจก่อนจะก้มลงไปจูบที่หน้าผากขาวเบาๆ

“เลิกเศร้าได้แล้ว” เสียงทุ้มว่าเอาไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป โดยที่ไม่รู้ว่าคนบนเตียงนอนได้ตื่นขึ้นมาแล้ว





“ทำไมนานจังวะ” รพถามหลังจากที่เห็นเขากลับมาที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง วินถอนหายใจก่อนจะตอบเสียงเรียบ

“มันหลับอยู่ในห้องน้ำ” เสียงทุ้มตอบสั้นๆ ฉากที่เหลือว่าทำไมถึงไปนานให้พวกมันคิดต่อเอาเอง “หิวว่ะ”

“กูทำเอาไว้แล้ว อยู่ในครัวนู้น ไปอุ่นแดกเอาเอง” เจ้าของผมสีแดงว่า วินพยักหน้ารับ ร่างสูงหมุนตัวเตรียมจะเดินออกไปจากห้องครัวถ้าไม่ติดที่ว่ามีมือหนามาผลักให้เดินถอยหลังกลับซะก่อน

วินหงุดหงิด ร่างสูงมีความรู้สึกอยากจะซัดถ้าไม่เห็นหน้าคนผลักเสียก่อน “เกียร์”

“เออ กูเอง” มันเดินผ่านเขาไปนั่งบนโซฟา จากนั้นก็เหยียดขายาวๆ เต็มพื้นที่ พร้อมทั้งบิดบี้เกียจ “ไอ้เหี้ย! โคตรเหนื่อย”

“มึงไปไหนมาตั้งหลายวัน” ตั้งแต่วันเซ็นสัญญาเกียร์ก็หายหน้าไปพร้อมกับฮิม ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันไปไหน

“ทำงานสิไอ้สัส สามวันมานี้ฮิมแม่งใช้งานกูเยี่ยงทาส ถ้าไม่ติดว่าให้เงินเยอะกูลาออกไปแล้ว”

“มันให้มึงทำอะไร” ไทด์ถาม

“ดูแลส่วนของมันแทนมันทั้งหมด”

“แล้วมันไปไหน” มันไม่กลับบ้านและคิดว่าคงจะไม่กลับมาที่นี่อีก เพราะตั้งแต่วันที่เขาให้โฉนดที่ดินบ้านหลังนี้กับเลในวันเกิด บ้านหลังนี้ก็กลายเป็นของเลโดยสมบูรณ์

เกียร์เลียริมฝีปากก่อนจะตอบคำถามสั้นๆ “เที่ยว”

เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!

ทุกสายตาหันขึ้นไปมองด้านบน ไทด์เป็นคนที่ได้สติคนแรก ร่างสูงรีบลุกจากพื้นพรมวิ่งขึ้นบันไดไปด้านบนเป็นคนแรก จากนั้นคนที่เหลือจึงวิ่งตาม ไทด์มาถึงประตู ทว่ามันล็อคและเปิดไม่ออก

“ไอ้วิน! กุญแจล่ะ!”

คนถูกถามชะงัก วินเบิกตากว้าง “มันอยู่ในห้องเล”

“พังประตู” เกียร์สรุป ก่อนเจ้าตัวจะบอกให้เพื่อนถอยหลังจากนั้นออกแรงถีบไปยังตำแหน่งข้างๆตัวล็อกหลายๆ ที จนในที่สุดประตูเปิดออก

รพแทรกตัวเข้าไป นัยน์ตาคมมองสภาพห้องแล้ววิ่งเข้ากอดคนที่กำลังปาแจกกันมาทางเขาพอดี เจ้าของผมสีแดงเอียงตัวหลบแจกันได้ แต่คนที่เข้ามาคนที่สองอย่างไทด์ไม่

เพล้ง!

“โอ๊ย! ไอ้เหี้ย!” แจกันสีขาวกระทบใส่ศีรษะของอีกฝ่ายแรงจนแตกเพล้งแล้วหล่นลงพื้น เป็นผลให้เลือดสีแดงสดไหลหยดลงตามมาด้วยอาการปวดหัวตุบๆ มือหนากุบขมับ ร่างสูงล้มตัวลงนั่งบนพื้น

“เวร! เห้ยเกียร์! มึงพาไทด์ไปโรงพยาบาลดิ กุญแจรถห้อยอยู่ด้านล่าง อยากขับคันไหนก็หยิบเอา” วินออกคำสั่ง จากนั้นจึงหันไปมองสภาพของตัวตนเหตุ

ทั้งใบหน้าของเลเคล้าไปด้วยน้ำตา สภาพห้องที่เขาพึ่งขึ้นมาจัดให้ในตอนนี้กลับไปรกแบบไม่เหลือซากความสะอาดอย่างเดิม  ร่างผอมถูกรพกอดรวบเอาไว้ไม่ให้แผลงฤทธิ์ได้อีก วินโกรธจัด

“มึงเป็นอะไร! ห้ะ! มึงเป็นอะไรของมึง”

“ฮืออออ”

“เศร้าก็ไม่ยอมกินข้าว! ไม่พอใจก็ทำลายข้าวของ! ถ้าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ขนาดนี้ไปอยู่โรงบาลบ้าไหมเดี๋ยวกูไปส่ง!”

“เฮ้ย! ไอ้วินมึงใจเย็น” รพปราม ร่างสูงรีบดิ่งตัวเลออกห่างเพื่อนสนิทก่อนมันจะกลายเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เสียเอง “มึงก็เข้าใจเลหน่อย”

ถึงรพจะเคยว่าเลมันดื้อยังไง แต่มาถึงเรื่องนี้ก็พอจะเข้าใจหัวอกน้องอยู่

สามวันก่อนเลพึ่งจะเซ็นสัญญาที่บ่งบอกว่าน้องกับฮิมจะไม่เกี่ยวพันกันอีกต่อไปไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน อีกทั้งนี้ยังเป็นการเซ็นสัญญาหลังจากที่ทั้งสองได้พูดคุยกันแล้ว รพไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด รู้แต่ว่าวินให้เวลาเลสามวันไปคุยกับฮิม ซึ่งการคุยกันที่ว่าก็เหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี เพราะในวันสุดท้ายก่อนเซ็นสัญญามันยังอารมณ์ดี มาให้เขาเลือกชุดสำหรับใส่ไปในวันเซ็นสัญญาอยู่เลย

แต่พอถึงวันรุ่งขึ้น วันนั้นทุกคนในบ้านไปยังสถานที่ที่นัดหมาย ยกเว้นก็แต่คนที่สำคัญที่สุดอย่างฮิม

มันไม่มา

น้องรออยู่เกือบสิบชั่วโมง นั่งร้องไห้จนแทบจะเป็นลม ข้าวหรือแม้กระทั่งน้ำสักแก้วก็ยังไม่ยอมดื่ม เอาแต่โทรหาคนที่ปิดเครื่องหนีเกือบห้าร้อยสายและสุดท้ายก็โทรไม่ติด

ทั้งๆ ที่วันก่อนจะเซ็นก็เหมือนไปปรับความเข้าใจกันแล้ว แต่เรื่องสำคัญอย่างการเซ็นสัญญาที่ไม่ต่างอะไรกับการบังคับให้ทั้งสองแยกออกจากกัน มันกลับไม่ยอมมา แบบนี้จะให้คิดอะไรได้อีกนอกจากฮิมต้องการที่จะแยกกับน้องจริงๆ

ท้ายที่สุดตอนหกโมงเย็นของวันนั้น รพจำได้ว่าตอนนั้นบรรยากาศในห้องเงียบกริบ ทุกคนแทบจะกลั้นหายใจตอนที่คนร้องไห้จนไม่มีเสียงสะอื้น ก้มหน้าลงแล้วยกมือสั่นๆ ของตัวเองหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อของตัวเองลงในเอกสาร

เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ทนายที่นั่งรออยู่นานก็เก็บเอกสารใบนั้นเข้ากระเป๋า พร้อมทั้งหยิบบัญชีธนาคาร บัตรเดรดิส โฉนดที่ดิน บ้าน รถและคอนโดจำนวนหนึ่งวางลงตรงหน้า ประโยคต่อมาของอีกฝ่ายรพเชื่อว่าเลจำได้ขึ้นใจ

‘ทุกอย่างนี้กลายเป็นของคุณโดยสมบูรณ์ เงินจำนวนหนึ่งพันล้านบาทถูกโอนเข้าบัญชีในชื่อของ คุณนิพิฑ ชีวานนท์ เรียบร้อยแล้วครับ’

และหลังจากวันนั้นฮิมมันก็ไม่กลับมาที่บ้านอีก ส่วนเลก็กลายมาเป็นอย่างที่เห็น

เขาเองยังตกใจที่สองคนนี้แยกจากกัน เพราะตั้งแต่ที่มาอยู่ในบ้านหลังนี้ เคยคิดเล่นๆ ว่าสองคนนี้จะได้แยกจากกันไหมแต่สุดท้ายรพก็คิดภาพนั้นไม่ออก

ฮิมมันดีกับเลมากๆ ถ้าเทียบที่มันทำกับคนอื่น มันไม่ค่อยยิ้มให้ใคร ไม่เคยถักเปียให้ใคร ไม่เคยบอกรักใครนอกเสียจากเล ในขณะที่คนน้องก็ดื้อกับทุกคนยกเว้นพี่ ถึงมันจะไม่ได้ทำให้ฮิมเป็นคนพิเศษมากในด้านการกระทำ แต่เลแสดงให้เห็นว่าฮิมเป็นคนที่พิเศษมากสำหรับมันในด้านของความรู้สึก โดยเฉพาะช่วงหลังๆ ที่สองคนนี้เปิดเผยว่าเป็นแฟนกัน นี่มันยิ่งไม่ใช่ควบทุกตำแหน่งของกันและกันเลยอย่างนั้นเหรอ

คนหนึ่งเสมือนเป็นทั้งพ่อที่คอยเลี้ยงดู เป็นพี่ด้วยวัยที่ห่างกันไม่มาก แล้วก็เป็นคนรัก

ส่วนอีกคนก็เป็นเหมือนลูกเพราะถูกเลี้ยงดู เป็นน้อง พ่วงตำแหน่งคนรักไปด้วย

สองคนที่เป็นทุกอย่างของกันและกัน แต่จู่ๆ ก็ต้องมาแยกจากกัน รพคิดว่าความรู้สึกนี้อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าการที่เด็กบางคนได้เห็นพ่อกับแม่ของตนเองแยกทางกันเสียอีก

“เลอยู่ไม่ได้” น้องพึมพำออกมาเสียงเบา “เลอยู่ไม่ได้! เลอยู่โดยไม่มีพี่ฮิมไม่ได้!”

“งั้นโดดตึกตายไปเลยไหม!”

“เฮ้ย! ไอ้วินมึงจะมากไปแล้วนะ”

“ฮืออออออออ”

“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง! หรือมึงจะเป็นแบบนี้ต่อไป ?” วินเม้มปาก มือหนากำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์ตนเอง เขาไม่ชอบให้น้องเป็นแบบนี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าต้องทำยังไง “อย่าเป็นแบบนี้สิเล”

“ฮือออ แต่เลลืมพี่ฮิมไม่ได้”

“…”

“เลอยู่ที่นี่ไม่ได้”

“ไม่อยากอยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องอยู่ แต่มึงจะไปอยู่ที่ไหน” วินถามและท้ายที่สุดร่างสูงก็ถอนหายใจ “บอกมา เดี๋ยวกูไปส่ง”





บนรถ

“ไอ้เหี้ย! โคตรเจ็บ” ไทด์พึมพำ ร่างสูงโอดครวญด้วยความเจ็บ “มันก็โยนมาได้ เดี๋ยวกูฟ้องศาลเอาเงินแม่งข้อหาทำร้ายร่างกายโดยเจตนา”

“เลได้เท่าไหร่นะ”

“พันล้าน”

“เซ็นเอกสารใบเดียวได้พันล้าน กูทำงานทั้งปีได้ล้านนึง” เกียร์ประชด “แล้วเป็นไง เจ็บมากไหมมึง”

“เจ็บดิไอ้สัส! มึงลองหัวแตกดูไหมละ”

“ทนอีกนิด เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” บรรยากาศในรถเงียบลง จนกระทั่งไทด์พูดขึ้น

“เลเป็นถึงขนาดนี้ แต่ฮิมมันยังมีอารมณ์เที่ยวอีกเหรอวะ”

เกียร์แสยะยิ้ม “สภาพมันก็ไม่ได้เหมือนคนมีความสุขเท่าไหร่หรอก”





เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!


“บอสครับ”

“ไปเอามาอีก” กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วห้อง บอมบังเอิญหลงเดินเข้ามาในห้อง ร่างผอมกวาดสายตามองเศษแก้วที่แตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่บนพื้นด้วยสายตาหวาดๆ เขาถูกรุ่นพี่สั่งให้รีบเก็บกวาดเศษพวกนั้นทิ้งทันที นัยน์ตาคมแอบเงยขึ้นมองสภาพเจ้านายสูงสุดของตนเอง บอสในตอนนี้แทบไม่เหลือสภาพเดิม ร่างสูงเมาจนแทบไม่เหลือสติแล้ว

“บอสดื่มเยอะไปแล้วนะครับ”

“กูสั่งให้ไปเอามาอีก”

“แต่ว่า…”

เพล้ง!

“อย่าเสือก” แก้วใบที่สี่ถูกโยนใส่หน้าคนหวังดีจนแตกเป็นเสี่ยงๆ เจ้าตัวล้มลงไปนอนกับพื้น จากนั้นคนอื่นจึงรีบวิ่งมารับตัวออกไปจากห้องก่อนจะโดนเล่นงานหนักมากกว่านี้ เหล้าราคาแพงหลายยี่ห้อถูกนำมาเสิร์ฟอย่างที่คนสั่งต้องการ ฮิมไล่ให้ทุกคนออกจากห้อง ก่อนที่ร่างสูงจะเหยียดตัวนอนลงบนโซฟา มือหนายกขึ้นก่ายหน้าผากเมื่ออาการปวดหัวรุมเร้า

ทุกชั้นบรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์  เขาดื่มเพื่อให้ลืมคนๆ นึง น่าแปลก ทั้งๆที่เมาขนาดนี้ แถมสติยังร่อยหรอเต็มทน

ทว่าทั้งสมองทั้งหัวใจกลับตัดภาพของเลออกไปไม่ได้เลย




(50%)


 ไหนใครอยากให้เขาแยกจากกัน ใครว่าน้องเลงี่เง่า ใครบอกให้พี่ฮิมไปหาเมียใหม่น่ะ เชิญเฮได้เลยยยย
เดี๋ยวเราจะเศร้าเอง ฮืออ เจ็บปวดดดดดดด ToT
ปล.ให้คิดเล่นๆ ว่าเลจะไปอยู่ไหน

ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอเท่านั้นไม่ใช้สระเอสองตัวนะคะ)
twitter : @_mdreds



หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 10-12-2017 22:27:49
แง่ะ...แยกกันแล้ว ทำไมเป็นเงี๊ยยย  :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: ฟาง ฟ่างง ฟ๊างง ที่ 10-12-2017 22:28:45
คืนดีกันเร็ววววววว พี่ฮิม น้องเลลลลลล ขอ100%ได้มั้ยคะ55555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-12-2017 22:40:38
ฮิมคิดอะไรเนี่ย  :confuse:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: taku_kimu ที่ 10-12-2017 23:08:01
แยกกันแล้ว ๆๆ  :katai2-1: แต่ๆๆ..ยังไม่มีเมียใหม่ ยังไม่ครบนะไรท์ฯ  :z13:

หลบไปอย่างเงียบๆ  :katai5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 10-12-2017 23:31:26
จะด่าเรามั้ยถ้าเราจะบอกว่าขอหน่วงๆกว่านี้เอาให้โหดกว่านี้  อย่าด่าเรานะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 10-12-2017 23:44:10
 :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 11-12-2017 00:22:00
ไม่เอาแบบนี้ ไม่แยก ไม่จาก
ไม่เอาไม่มีกันและกัน
เลจะไปไหน ไปหาฮิม หรือไปไหน
นี่ก้อไม่เข้าใจว่าทำไม อะไร ยังไง
ฮิมคิดอะไร ... ทำร้ายตัวเองทั้งคู่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 11-12-2017 01:19:11
กำลังทำอะไรกันอยู่อะ ฮือออออออออ :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 11-12-2017 07:20:12
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 11-12-2017 11:28:46
ฮิมคิดอะไรอยู่นะ​ แยกกันก็มีแต่พาลจะทำให้เจ็บทั้งสองฝ่าย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 11-12-2017 12:22:28
แยกกันอยู่ก็ดี เผื่ออะไรจะดีขึ้น

เลจะไปอยู่กับอินใช่ปะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-12-2017 13:54:51
เฮ้อ~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-12-2017 18:57:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 11-12-2017 21:56:55
เลจ๋า หายไปเลย หายแบบใครก็ตามหาไม่เจอ อยาหให้แยกกันหนัก หนูหายไปให้คนมันอกแตกตายไปเลยนะ โกรธพี่วินด้วย บังคับน้อง สัญญาไม่มีระยะเวลาเซ็นซะหน่อย มาบังคับทำไม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-12-2017 23:49:32
ฮิม ก็เกือบหลุดบอกรักเลแล้วนี่นา
โทษวินเลย
เร่งเลทำไม ให้ลงจากรถเร็วๆ เร่งเอาๆ  :fire: :fire: :fire:
หวงเลผิดเวลาด้วย  :z6: :z6: :z6:
ฮิม เล  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

แล้วฮิม ก็บ้าบอ รักเลแท้ แล้วทำไมไม่มาหาเล  :fire: :fire: :fire:
โกรธฮิมแล้ว  :angry2: :angry2: :angry2:
สงสารเล  :mew2:
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 101217#26(50%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 12-12-2017 20:07:04
engineer #26 (80%)


20.26 น.

“ฮ่าๆ กลับเมืองไทยเมื่อไหร่เดี๋ยวพาไปกินซีฟู้ดที่ทะเล” ร่างบางยกโทรศัพท์แนบเข้าที่หู นัยน์ตากลมจดจ้องไปในหม้อที่กำลังเดือดปุดๆ “ต้มยำกำลังได้ที่แล้ว”

(อิน! อย่ามาพูดให้หิวสิ คิดถึงอาหารเมืองไทยจะแย่แล้ว)

“อยู่เมกามันก็มีร้านอาหารไทยไม่ใช่หรือไง”

(รสชาติมันจะสู้ที่ประเทศต้นฉบับได้ที่ไหนกันเล่า) มือบางปิดเตาแก๊ส ร่างเพรียวเดินไปหยิบก่อนที่ตักก่อนจะตักต้มยำในหม้อใส่ถ้วยที่เตรียมเอาไว้โดยเฉพาะ (เล่าเรื่องความรักให้ฟังบ้างสิ)

“แห้ว” อินตอบสั้นๆ

(จริงจัง? คนอย่างนายเนี่ยนะจะแห้ว ผู้ชายคนนั้นหล่อขนาดไหนถึงไม่สนใจนายได้)

“เขาไม่หล่อหรอก เขาสวยกว่าเราด้วยซ้ำ”

(หา?)

ติ๊งหน่อง!

เสียงกดอ๊อดทำให้เจ้าของใบหน้าหวานเงยขึ้น เสียงนุ่มพูดกับคนในสาย “โทษทียูริ ขอวางสายก่อนนะ เหมือนเราจะมีแขก”

(อืมๆ จ้ะ) อินวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะ จากนั้นจึงเดินไปที่ประตู พอส่องที่ตาแมวแล้วเห็นว่าใครมา มือบางก็เปิดประตูทัออกนที

นัยน์ตากลมเบิกกว้างพร้อมไล่มองสภาพของคนตรงหน้า “เล”

คนตรงหน้าของเขาคือเล บุคคลที่พึ่งจะถูกกล่าวถึงโดยที่ไม่ได้ระบุชื่อไปเมื่อสักครู่ ในสภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพราะตั้งแต่ที่เลมาที่คอนโดของเขาพร้อมเอ็กซ์และออกไปในวันเดียวกัน หลังจากวันนั้นอินก็ไม่ได้เห็นอีกฝ่ายอีกเลย อันที่จริงเขางอลเลนิดหน่อย ใช้ได้ที่ไหนมายืมคอนโดแล้วก็ออกไปสถานที่อันตราย จากนั้นก็ไม่ติดต่อมาแล้ว เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ พยายามหาข่าวของเลแล้ว แต่คนในมหา’ลัยก็ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องนี้เหมือนกัน

สรุปก็คือทำอะไรไม่ได้นอกจากรอไปวันๆ ในวันนี้ คนที่อินตามหาจู่ๆ ก็มายืนอยู่หน้าห้องพร้อมกระเป๋าใบใหญ่ กับใครคนหนึ่งที่เขาออกจะคุ้นหน้า

“วิน?”

“กูพี่มึง”

“พี่วิน” อินว่า “มีอะไรหรือเปล่า”

เลถูกดันไปตอบด้าน นัยน์ตากลมมองตาม ท่าทางแบบนี้ทำเอาใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ชอบกล ยิ่งตอนที่ริมฝีปากบางพูดขึ้น หัวใจของเขาแทบหลุด

“ขออยู่ด้วยหน่อย”





(In’s talk)

“งั้นเลไปอยู่ห้องนั้นนะ” ผมชี้ไปทางห้องที่ว่างอยู่ จริงๆ อยากให้มานอนด้วยกันแต่ก็เกรงใจเล “อยู่ได้ไหม”

คนสวยไม่ตอบแต่พยักหน้าให้ เจ้าของดวงตากลมโตมองผมแวบหนึ่งก่อนจะเดินถือกระเป๋าเข้าห้องไป

ฮือ ทำไมต้องสวยอะไรขนาดนี้ เห็นแล้วใจไม่ดีเลย ถ้าผมห้ามใจตัวเองไม่ได้แล้วแอบย่องเข้าห้องตอนกลางคืนจะทำยังไง!

“นี่” เสียงเรียกทำให้ผมชะงัก ลืมไปเลยว่านอกจากเลแล้วก็ยังมีอีกคนที่ตามมาด้วย “คอนโดมึงปลอดภัยแน่นะ”

“อยู่มาเกือบสามปีแล้วก็ยังไม่เคยเจอโจรปล้นห้องนะ”

“กวนตีน” พี่วินว่า “แต่กูรู้สึกว่าเลจะไม่ปลอดภัย”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีโจร—”

“กูหมายถึงมึง สายตาตอนมึงมองเลน่ะ” เขาจ้องหน้าผม “ให้มันน้อยๆ หน่อย”

พี่วินว่า เขาแสยะยิ้มก่อนจะเดินชนไหล่ผมตามเลเข้าไปในห้อง

อื้อหือ เสียวสันหลังวาบเลย

ผมเอียงคอมองตามหลัง ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กับประโยคเมื่อครู่

‘ให้มันน้อยๆ หน่อย’

โดนมองออกขนาดนี้เลย…

ต่อไปคนที่น่าจะไม่ปลอดภัย มันน่าจะเป็นผมมากกว่าล่ะมั้ง!





10 นาทีต่อมา

“ถ้ามีอะไรโทรหาพี่เข้าใจไหม”

“…”

“เลอย่าเงียบสิ”

“เลเข้าใจ”

“อย่าคิดสั้นนะ แล้วที่กูบอกให้ไปโดดตึกกูก็พูดเกินไป”

“…”

“พี่ขอโทษ”

เสียงเงียบไป ผมเลยแอบมองผ่านบานประตูที่ปิดไม่สนิท ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นทั้งสองร่างกำลังกอดๆ กันอยู่

นี่อย่าบอกนะว่าพี่วินก็ชอบเลน่ะ!

แอด

คนในห้องเดินออกมา แต่ในจังหวะที่ผมจะเดินเข้าไปหาเลบ้าง มือหนากลับกระชากตัวผมให้ออกห่างแล้วลากให้เดินตามมาจนถึงหน้าห้อง ผมไม่โวยวายก็เพราะมีเรื่องจะถามอยู่เหมือนกัน

“อย่าพยายามให้เลอยู่คนเดียว” ผมขมวดคิ้วคำสั่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกันหรือเปล่ากับ…

“ทำไมต้องโดดตึก?”

“โดดตึกอะไรของมึง”

“เอ้า! ก็เหมือนได้ยินโดดตึกอะไรสักอย่าง”

“…”

“บอกอะไรหน่อยสิ มาสั่งๆๆ แต่ไม่บอกข้อมูลอะไรให้รู้แบบนี้แล้วจะเข้าใจประเด็นได้ยังไง”

“ไปถามเลเอาสิ” วินถอนหายใจ “ถ้ามันอยากเล่ามันคงจะเล่าให้มึงฟังเอง”

“แหม นี่มีตานะครับ ไม่ได้โง่ ตาแดงแบบนั้นแสดงว่าร้องไห้หนักมากๆ แล้วคนเสียใจที่ไหนเขาอยากเล่าเรื่องที่ตัวเองเสียใจให้คนอื่นฟัง”

“มันเสียใจมากมึงรู้แค่นั้นก็พอ” ผมขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม เลเสียใจแต่ว่าเรื่องอะไรล่ะ ใครมันจะไปตรัสรู้เองได้

ร่างสูงตรงหน้าหมุนตัวแล้วเดินออกแต่จังหวะที่เปิดประตูจู่ๆ แผ่นหลังกว้างก็ชะงักแล้วหันกลับมาพูดกับผม “ถ้าทำให้เลมันกลับมายิ้มได้อย่างเคย กูจะขอบคุณมาก”



ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“เล! เราขอเข้าไปนะ” ผมเคาะประตูห้องของคนที่พึ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ หลังจากถือวิสาสะเปิดเข้าไปก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังจัดเสื้อผ้าใส่ตู้อยู่

“อยู่นานใช่ไหมเนี้ย” ผมถาม เพราะดูจากเสื้อผ้าที่เลเอามามันเยอะพอสมควร

“ก็นาน” ร่างผอมชะงัก เขาหันมามองผม สีหน้ารู้สึกผิด “โทษที่รบกวนนะ”

“ไม่เป็นไร เต็มใจ” สุดๆ “เลกินข้าวมาแล้วหรือยัง”

“ยัง”

“เราทำต้มยำเอาไว้นะ กินไหมล่ะ” ผมยืนพิงประตูก่อนจะกวาดสายตาสำรวจห้องว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องไหม

“ไม่หิว”

“ไม่หิวก็ไปกินหน่อยเถอะ” ผมคาดคั้น ทีแรกเหมือนเลจะปฏิเสธแต่สุดท้ายก็พยักหน้า

“แต่เราขอจัดเสื้อผ้าก่อนนะ”

“เดี๋ยวช่วย” ผมว่า ก่อนจะเดินไปช่วยหยิบเสื้อผ้าแขวนเข้าตู้ในเสร็จเร็วนั้น หลังจากนั้นผมจึงพาเลเดินไปที่ห้องอาหาร เสิร์ฟต้มยำที่พึ่งทำเสร็จกับข้าวสวยให้ เลนั่งกินเงียบๆ คนสวยไม่พูดอะไรเลย

“เงียบเนาะ” ผมทัก เจ้าของดวงตากลมโตนั่นก็เงยขึ้นมอง “เงียบแปลกๆ”

“อืม ขอโทษนะ”

“ขอโทษทำไม”

“ขอโทษที่เงียบ” เลว่า

“…” ผมเงียบ

“…” เขาเงียบ

ท้ายที่สุดก็เป็นผมเองที่ต้องขมวดคิ้วแล้วพึมพำเบาๆ “แบบนี้ไม่ใช่เลเลย”

ประโยคเมื่อกี้ไม่รู้ว่าเลจะได้ยินหรือเปล่า แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากนั่งกินข้าวเงียบๆ ต่อไป ในขณะเดียวกันผมก็ได้แต่นั่งมองคนตรงหน้าแล้วเม้มปากแน่น

เลที่เป็นแบบนี้ ผมไม่ชอบเลย เลคนเดิมที่ผมรู้จัก แม้ไม่ได้พูดมากแต่ก็ไม่ได้เงียบขนาดนี้แน่ๆ

ขนาดพี่วินเองยังบอกเลยว่า จะขอบคุณมากถ้าทำให้เลกลับมายิ้มได้อย่างเคย แสดงว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่มาก ถึงผมจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าเศร้าล่ะก็ หนทางที่จะทำให้หายเศร้ามันก็มีแค่ไม่กี่วิธีหรอก หนึ่งในนั้นคือวิธีที่ผมจะนำเสนอ

“ไปกินเหล้ากันไหม”

กึก!

เลชะงัก เจ้าตัวถึงกับวางช้อนส้อมในมือลงแล้วค่อยตอบ

“เราไม่อยาก แต่ถ้าอินอยาก—”

“ไม่ๆ เราก็ไม่ได้อยากดื่ม” ผมว่า “ก็เศร้ามาใช่ไหมล่ะ ไม่รู้หรอกนะว่าเศร้าเรื่องอะไร”

เลเงียบไป อีกฝ่ายก้มหน้าลง “พี่วินไม่ได้เล่าเรื่องของเราให้ฟังเหรอ”

“ไม่อะ” ผมส่ายหน้า ก่อนจะยืนขึ้นหยิบจานของอีกฝ่ายที่กินหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วไปล้าง “แต่ถ้าอยากลืมเรื่องที่เศร้าไวๆ วิธีนี้มันก็ง่ายดี แต่ก็แค่ชั่วคราวนะ หายเมาเมื่อไหร่ก็จำได้เหมือนเดิมแหละ แต่มันก็ยังดีกว่ามานั่งทุกข์เฉยๆ นะเราว่า”

“…” เนื่องจากกำลังล้างจาน ผมเลยไม่รู้ว่าเลกำลังทำสีหน้ายังไง

“ก็เสนอไปงั้นแหละ ถ้าไม่สนก็ไม่เป็นไร—”

หมับ!


ผมชะงัก ถึงกับต้องหันไปมองคนที่กำลังจับชายเสื้อของผมเอาไว้ เลเงยหน้าขึ้นสบตา สีหน้าจริงจังมาก

“ไป” อีกฝ่ายว่า “เราอยากไป พาไปหน่อย”

หืออออออออออ





(80%)


อยากให้มองอินคือผู้ชายคนหนึ่ง จริงๆ แล้วอินชอบเลมาก ถ้านางไม่น่ารักเหมือนเลหลายคนคงมองอินเป็นพระรองแล้ว

ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอเท่านั้นไม่ใช้สระเอสองตัวนะคะ)

twitter : @_mdreds

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 12-12-2017 21:05:07
ดีมาก ออกไปพบโลกกว้าง ไปเลยเล ไม่งั้นก็เคะเคะกันไปเลย ฟิน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 12-12-2017 21:41:10
เฮ้ยยยยยยยย หน่วง (room39)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 12-12-2017 21:50:21
ไปเที่ยว กินเหล้า เกิดอะไรขึ้น อินจะช่วยได้หรือ
ต้องมีคนคอยตามไหม ตามคุ้มครอง
เฮ้อ ห่างกันสักพัก!!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: mamacub ที่ 12-12-2017 22:03:35
คือเราเข้าใจว่าที่ฮิมให้ทนายไปหาเล เพราะว่าให้เลเลือกว่าจะอยู่กับฮิมหรือจะไปหลังจากรู้ความจริง
เลยอมเซนต์ก็หมายความว่าเลต้องการตัดขาดจากฮิม แล้วจะมาเสียใจทำไม?? ฮิมซิต้องเจ็บหนัก
ถ้าไม่อยากแยกกันก็แค่ไม่เซนต์ไม่ใช่หรอ  :katai5: :katai5: :katai5:
หรือว่าเราเข้าใจผิด :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-12-2017 22:04:59
เล มาหาอิน มาพักอยู่กับอิน
อิน คลั่งเล อยู่แล้ว ชอบเลยสิ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-12-2017 22:09:34
 :pig4: :pig4:

 :เฮ้อ: :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-12-2017 22:16:28
อยู่แบบโสด  ๆ ไปเลยหลานเล ปล่อยทุกอย่างจากในหัวออกไปให้หมด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-12-2017 23:56:40
ยังไงต่อไป?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 13-12-2017 00:47:02
ลุ้นแงะะะะะะะ ตามต่อค่าาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 13-12-2017 10:43:41
อินดูเป็นที่พึ่งยามไม่เหลือใครจริงๆ​ ตั้วแต่รอบก่อนแล้ว​ แอบสงสารนะ​ อยู่ในสายตาเค้าแค่ตอนเค้าไม่มีใครอะ :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 14-12-2017 00:11:36
เลน่ารักอ่ะ อินด้วย ถ้าชอบก็คงเคะเคะ
ปรับความเข้าใจกันสักที ฮือ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 17-12-2017 13:47:30
ไปแดกเหล้ากัน 55555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 121217#26(80%) p.36
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 02-01-2018 23:16:25
engineer #26 (100%)

1 อาทิตย์ต่อมา

แฮชแท็ก #น้องเลเล่เล้เล๊เล๋



@sora พี่ฮิมกับน้องเลทะเลาะกันหรือเปล่า

                @hny201x ไม่รู้ว่าทะเลาะไหม แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นไปไหนมาไหนด้วยกัน

               @Maya10 คิดถึงโม้เม้นพี่ฮิมน้องเล ฮื่อๆๆ



@polanewclear เลเดี๋ยวนี้เข้าร้านเหล้าบ่อยมากอะ 2 วันก่อนเราเห็นที่ Q-club

              @Nutt เมื่อวานเห็นที่ K club ครับ เลกำลังเดินเข้าไป เห็นครั้งแรกจำได้เลยเพราะว่าสวยมาก มากับน้องอิน ผู้ชายมองตามเป็นกะพรวนแต่มีไม่กี่คนที่เดิมตามเข้าไป เพราะคลับนี้แม่งแพงมาก

            @Fhaone ใช่ๆ ช่วงนี้เลเข้าถี่มากอะ เราก็เห็นเพราะปกติไปดื่มบ่อย ต่างกันที่แต่ละคลับที่เลเข้าแพง ชห ทุกที่ อยากตามเข้าไปดูคนสวยตอนเมาแต่เงินในกระเป๋าไม่พอ ;-;



“เย็น” อะไรบางอย่างถูกแปะที่ตรงแก้ม ผมพูดทั้งๆ ที่ยังฟุบหน้าหลับตาซบกับโต๊ะ อันที่จริงผมพึ่งตื่นหลังจากที่อาจารย์บอกจบคลาสเมื่อกี้

“ตื่น” เสียงเข้มๆ ของใครสักคนพูด ผมทายว่าเป็นเกี๊ยกและพอลืมตาขึ้นมาก็เป็นเกี๊ยกจริงๆ ด้วย กระป๋องเอสถูกเปิดฝาขวดให้ ผมรับมันมาดื่ม เกี๊ยกส่งมันมาพร้อมกับชีทปึกนึง “เอาไปอ่านด้วย มึงมีสอบย้อนหลังพรุ่งนี้ อย่าลืม”

“อืม รู้แล้ว” ผมว่าพร้อมกับเปิดดูเนื้อหาด้านใน มันเป็นช้อตโน้ตที่สามหนุ่มจดเอาไว้ให้แถมอธิบายอย่างดี “แล้วอีกสองคนล่ะ”

ผมหมายถึงพิษกับดิน

“มีงาน” เกี๊ยกตอบสั้นๆ “มึงจะไปไหนต่อ”

“ไปซื้อรถ” ผมลุกขึ้นจากที่นั่ง เก็บหนังสือ ปากกา แล้วกดปิด MP3 ที่อัดเสียงอาจารย์เอาไว้ ก่อนจะหยิบทุกอย่างลงใส่ในกระเป๋าสะพายข้าง “ไปกับเลไหม”

“ไม่” ผมยักไหล่

“งั้นเลไปนะ”

“เดี๋ยว” ผมหันหน้าไปมองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเชิงคำถาม “ช่วงนี้ มึงเที่ยวบ่อยเกินไปแล้วนะ”

“ทำไม ถูกสั่งให้มาคุมเลอีกเหรอ”

“เปล่าพี่ฮิมไม่ได้สั่งหรอก”

“...”

“แต่กูเป็นห่วงมึง”

ผมเม้มปาก “คนที่ไปเที่ยวด้วยเป็นกลุ่มเพื่อนของอิน ไว้ใจได้น่า”

“เหรอ” เหมือนถูกประชดยังไงไม่รู้ ยู่ปากก่อนจะโบกมือให้เกี๊ยกแล้วออกมายืนรอใครบางคนที่หน้าตึก

ผมกลับมาเรียนต่อทันทีที่ไปอยู่กับอิน แน่นอนว่าทั้งงานทั้งแล็บทั้งสอบก็ท่วมยังหัวผมอีกตามเคย โชคดีที่มีคนช่วยผมเยอะหน่อย เรื่องเนื้อหาหนึ่งสัปดาห์มานี้อินทำตัวใจร้ายโดยการปลุกผมขึ้นมาตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อสอนเนื้อหาที่ผมเรียนไม่ทันเกือบทุกวัน สามสหายเกี๊ยก พิษและดินไม่ว่างมาสอนก็ยังอุตส่าห์ตั้งใจเรียนในห้องเพื่อที่จะทำช็อตโน้ตให้ผม อีกอย่างสามคนนี้ยังช่วยผมเรื่องงานอีกด้วย งานไหนเป็นกลุ่ม พวกเขาจับผมเข้ากลุ่มด้วยทุกงาน ใส่ชื่อให้และก็ทำงานเสร็จแล้วเรียบร้อยโดยที่ผมไม่ต้องทำอะไรเลย (ถ้ามีรางวัลเพื่อนดีเด่นผมก็อยากจะให้ทั้งสามคนนี้นี่แหละ)

เรื่องหลีดผมต้องกลับไปซ้อมหนักกว่าคนอื่นหลายเท่า ตอนนี้พี่นนท์นี่เรียกผมซ้อมก่อนคนอื่นนานถึงสองชั่วโมง เพื่อเร่งเอาท่าให้ได้เท่าเพื่อน ดังนั้นซ้อมเสร็จแต่ละวันร่างกายของผมแทบพัง ส่วนพี่ๆ ที่บ้าน ผมไม่ได้ติดต่อกับทางนั้นอีกเลย ยกเว้นพี่วิน รายนั้นยังคงโทรมาบ่นและก็สั่งให้ทำนั่นทำนี่ทุกวันตามเคย เผลอๆ บางวันก็เอาอาหารเช้าของพี่รพมาส่งถึงคอนโดอิน และก็ยังมีอีกเรื่องนึง…

บรืน

BMW คันหรูขับมาจอดอยู่ตรงหน้า เสียงซุบซิบแว่วมาให้ผมได้ยิน



‘คันนี้มารับน้องเลอีกแล้ว เมื่อวานก็มา ใครอะ’

‘เดือนบริหาร รองมหา’ลัยปีก่อน เจ้าของรางวัลป๊อปปูลาร์’

‘ได้ข่าวมาว่าสองคนนี้ควงกันอยู่’




“รอนานไหม ขอโทษนะครับพี่พึ่งเรียนเสร็จ” ผมส่งยิ้มให้คนขับทันทีที่อีกฝ่ายลดกระจกลง

“สวัสดีครับพี่กรีน”



พี่กรีน คือหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของอิน รู้จักกันหลังจากที่ผมเริ่มไปดื่มบ่อยขึ้น ช่วงหลังๆ อินติดงานแต่ไม่กล้าปล่อยผมไปคนเดียว เขาเลยส่งผมไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนของตัวเองแทน ผมได้คุยกับพี่กรีนในตอนนั้นแล้วบังเอิญอีกฝ่ายชอบเรื่องรถเหมือนกัน ก็เลยคุยกันถูกคอ มารู้ตัวอีกทีก็สนิทกันไปแล้ว และเมื่อวานตอนกำลังดื่มกันอยู่ผมก็บังเอิญคิดเรื่องรถขึ้นมาได้ ผมไม่ได้เอาอะไรมาจากบ้านนอกซะจากเสื้อผ้า ช่วงนี้ก็ใช้รถของอิน คิดจะไปซื้อรถเองก็เลยชวนพี่กรีนแล้วอีกฝ่ายก็ตกลง เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมารับผมในวันนี้

“แล้วน้องเลจะเอารถรุ่นอะไรครับ” เสียงทุ้มถามหลังจาก BMW เคลื่อนตัวออกมาจากมหา’ลัย ผมเท้าศอกเข้ากับประตูพร้อมกับเอามือยันศีรษะอย่างใช้ความคิด

“พี่กรีนว่า benz ดีไหม”

“นี่อย่าบอกนะว่าจะซื้อรถแต่ยังไม่ได้คิดเลยว่าจะซื้อรุ่นอะไร”

“อันที่จริงเลก็ยังไม่ได้คิด”

“โถ่ รวยซะจนน่าอิจฉาเลย” เหอะ ก็ได้มาตั้งพันล้าน พร้อมบ้าน พร้อมที่ดิน และคอนโด “พี่ว่าก็ดีนะ 250c สีเงินสวยดี”

“อืม เอา benz นั่นแหละ” ผมสรุปก่อนจะหันไปมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา “รู้ไหมว่าพี่กรีนมีข่าวว่ากำลังควงกับเลน่ะ”

ผมรู้ว่าตัวเองกำลังมีข่าวคั่วกับพี่กรีน อย่าลืมสิว่าพี่รหัสของผมเป็นเจ้าแม่สายข่าวอันดับหนึ่งในมหา’ลัย

“รู้สิ ดังจะตาย ข่าวที่มีน้องเลน่ะ มักจะออกเพจมหา’ลัยบ่อยๆ”

“ไม่โกรธเหรอ”

“มีข่าวควงคนสวยใครไม่ชอบบ้าง”

“เปล่า หมายถึงแฟนพี่กรีน” นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมอยู่กับพี่กรีนแล้วสบายใจ ถึงพี่กรีนจะเป็นเดือนบริหาร รองมหา’ลัยปีก่อน เจ้าของรางวัลป๊อปปูลาร์แต่พี่เขาแอบบอกผมเองว่าตัวเองชอบถูกกอดมากกว่าเป็นฝ่ายกอด แล้วพี่กรีนเองก็มีแฟนแล้วด้วย

“จะเหลือเหรอครับ” เสียงทุ้มว่าติดหัวเราะ “มันแทบจะฆ่าพี่ตายแหนะ”

“เลจะโดนลูกหลงไหมเนี่ย”

“โถ่ มันลูกน้องพี่ฮิมครับน้องเล ถ้ามันมาทำร้ายน้องเล มันนั่นแหละที่จะตายก่อน”

“...”

“อ้าวเงียบ พี่พูดอะไรผิดไปหรือเปล่าเนี่ย”

ผมเม้มปาก “เปล่าครับ”

“ว่าแต่มีผู้ชายเข้าหาก็เยอะ แต่ไม่เห็นเลสนใจผู้ชายเลยสักคน จริงๆ แล้วชอบผู้หญิงเหรอ”

“ไม่รู้สิ ไม่ได้สนใจเพศไหนเลย”

“หือ จริงเหรอ พี่ว่าถ้าไม่ได้สนใจทั้งชายและหญิงนี่เริ่มจะอยู่ยากแล้วนะครับ”

“ก็แต่ก่อนเลสนใจแต่พี่…” ฮิม อีกแล้ว

ผมเงียบ

มาคิดดูดีๆ แล้ว ผมสนใจแต่เขา จนตอนนี้ผมเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยนี่หน่าว่าชอบผู้ชายหรือผู้หญิง ผมรู้สึกเฉยๆ กับผู้หญิง ส่วนผู้ชายขนาดอยู่กับพี่ๆ ในบ้านแต่ก็ไม่ได้รู้สึกชอบอะไรมากมายเป็นพิเศษ ยกเว้นเพียงคนเดียวนั่นแหละ… พี่ฮิม

“เอ้า! น้องเลเงียบอีกแล้ว”

พี่ฮิม ถึงขนาดที่ว่าเซ็นสัญญากันขนาดนี้แต่สุดท้ายเขาก็ยังคงมีผลต่อผมอยู่ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

สาเหตุที่ทำให้ช่วงนี้ผมต้องไปดื่มแทบทุกวัน ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองเหนื่อยแล้วหลับไปแบบที่ไม่ต้องคิดอะไร เพราะผมลืมไม่ได้หรอก ลืมไม่ได้ ทำยังไงก็ลืมไม่ได้

ลืมคนใจร้ายที่ทิ้งกันไปแบบนั้นไม่ได้

ผมสั่งสมองให้ลืมเขาได้ แต่ผมสั่งใจตัวเองไม่ได้

มันไม่ยอมลืม



ผมกลับมหา’ลัยเพื่อไปซ้อมหลีดพร้อมกับ Mercedes-Benz C250 Coupe สีเงินอย่างที่พี่กรีนบอก พี่นนท์นี่แทบกรีดร้องเมื่อเห็นรถใหม่ผมเป็นรุ่นที่ตัวเองอยากได้

“โอ๊ย! พี่อยากเกิดมารวย ชาติก่อนน้องทำบุญด้วยอะไรคะ ไหนตอบ!”

“เอาไปลองขับได้นะพี่นนท์นี่” ผมยื่นกุญแจไปให้พี่นนท์นี่ทำท่าจะตะครุบแต่แล้วก็ชะงักมือ

“ถ้าพี่ลองขับพี่ก็ไม่ได้สอนท่าหนูสิ อย่าเอารถมาล่อพี่ค่ะ!”

“ลองแค่ 1 ชั่วโมงก็ได้หนิ”

“พี่ว่านานไป”

“45 นาที” พี่นนท์นี่ทำท่าทางลำบากใจ “วันก่อนพี่นนท์นี่สอนเกินเวลา เพราะงั้นวันนี้เรียนแค่ชั่วโมงครึ่งพอ”

“โอเคค่ะ! ฮืออ น้องเลพี่จะไม่ลืมบุญคุณ อีเชอร์รี่ อีไก่ ไปขับรถเล่นกับกูไหม”

“ไปค่ะ ไปๆๆ จะได้เป็นบุญก้น” ผมหัวเราะพร้อมกับยื่นกุญแจรถไปให้พี่รหัส แล้วบอกว่าระหว่างนั้นผมจะนั่งเล่นรออยู่แถวนี้ ผลสุดท้ายหวยมาตกอยู่ที่ร้านน้ำที่มีตราสัญลักษณ์เป็นรูปนางเงือกสองหาง ผมสั่งวานิลลาครีมกับเค้กมานั่งกินรอพร้อมๆ กับเล่นโทรศัพท์ไปด้วย

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรช่วงนี้ถึงได้ยินแค่คนพูดเรื่องของตัวเอง ที่นี่ก็เหมือนกัน เสียงมาจากด้านหลัง คาดว่าคนพูดคงไม่ได้สังเกตุว่าคนที่ตัวเองพูดถึงนั้น นั่งอยู่ตรงโต๊ะถัดมา



‘วันนี้มีข่าวว่ารองเดือนมหา’ลัยปีก่อนมารับน้องเลไปอะมึง’

‘เขาคบกันเหรอ แล้วแบบนี้พี่ฮิมไม่ว่าเหรอ’

‘พี่ฮิมก็พี่ปะมึง น้องจะคบใครมันก็เรื่องของน้องปะ’

‘สรุปคือเขาเป็นพี่น้องกันจริงๆ เหรอวะ กูนึกว่าเป็นแฟนกัน’

‘กูก็นึกว่าเป็นแฟนกัน คือแบบไปดูภาพจากเพจแฟนคลับฮิมเลบ่อยๆ ภาพมันฟ้องอะว่ามันไม่ใช่แค่พี่น้อง’

‘แต่พี่กรีนก็เป็นคนแรกเลยป่ะเนี่ยที่มีข่าวกับเล’

‘ไม่รู้เห็นภาพน้องเลเดินควงพี่ฮิมบ่อยจนชินไปแล้วหรือเปล่า แต่มาเห็นรูปน้องเดินควงคนอื่นแบบนี้ไม่ชอบเลย’

‘โธ่มึ้ง คนพี่ก็ควงจ้า พึ่งมีสายบอกมา กับเดวา นิเทศปีหนึ่ง’

‘เดวาไหน’

‘พี่ฮิมไม่เคยควงผู้ชาย’



เคร้ง!

ส้อมที่อยู่ในมือผมหล่นลงพื้น จังหวะที่ก้มตัวลงไปเก็บจึงบังเอิญหันไปสบตากับคนด้านหลังพอดี พวกเธอทำท่าช็อคนิดหน่อยที่เห็นผมนั่งอยู่ในระยะเผาขนขนาดนี้

ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินออกจากร้าน แล้วเดินกลับเข้าไปในมหา’ลัย มันเป็นความบังเอิญที่ผมต้องเดินผ่านตึกคณะนิเทศ บังเอิญยิ่งกว่าคือเห็นรถคุ้นตาจอดอยู่ตรงหน้าตึกคณะนิเทศ กับร่างขาวของใครคนหนึ่งกำลังเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างคนขับ

ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึงสองนาทีก่อนรถคันนั้นจะเคลื่อนตัวผ่านผมออกไปทางประตู


‘โธ่มึ้ง คนพี่ก็ควงจ้า พึ่งมีสายบอกมา กับเดวา นิเทศปีหนึ่ง’

‘เดวาไหน’

​'พี่ฮิมไม่เคยควงผู้ชาย'



คนเมื่อกี้น่ะเหรอ เดวา

"เฮ้ยน้องเล! มายืนร้องไห้อะไรตรงนี้เนี่ย"



เจ็บชิบหาย...






(100%)

แต่งนิยายให้ทุกคนได้ฝึกความแข็งแกร่งของจิตใจ ถ้าเธอทนดราม่าของฉันได้ จิตใจเธอก็แกร่งดุจดั่งหินผาแล้ว​


ปล.มีคนบอกมาเม้นท์ในธัญวลัยว่าอัพช้าขนาดนี้ตายแล้วเหรอคะ R.I.P แหมมม ถ้าดั๋มตายจริงๆ อาจจะเป็นนักอ่านที่ต้องเสียใจเพราะนิยายค้างนะ 55555 เรื่องนี้มีแพลนรวมเล่มค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอัพช้ายังไงก็มั่นใจได้เลยว่ามันจะจบเด้อ



ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอเท่านั้นไม่ใช้สระเอสองตัวนะคะ)

twitter : @_mdreds

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 02-01-2018 23:46:05
ทำไมรู้สึกเกลียดฮิมมมมมมม

มาทำกับน้องเลแบบนี้ได้ไงงงงงง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 03-01-2018 00:06:27
เมื่อไหร่จะคืนดีกันนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-01-2018 00:48:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 03-01-2018 01:11:03
อยากกอดน้องเลเหลือเกินไม่เป็นไรนะคะคุณแม่จะหาแฟนใหม่ให้แซบๆกว่าพี่ฮิมให้ได้ ไรท์ค่ะช่วยลูกเราทีเอาให้พี่ฮิมกระอักเลือดตายเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-01-2018 01:46:11
อยู่คนเดียวดีกว่านะหลานเล สบายใจดี  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 03-01-2018 05:32:08
รู้สึกดีที้ไม่คืนดีกันเร็วไป แต่ขอแบบ 100% ติดกันสักสองตอนได้ไหม ถือเป็นโบนัสปีใหม่ ที่เราสติลรออยู่อย่างอดทน555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 03-01-2018 12:45:32
เจ็บ รู้สึกเจ็บไปด้วย
เจ็บตรงพี่ฮิมไม่เคยควงผู้ชายนี่แหละ!!!
มันจะยังไงต่อไปล่ะ
เหมือนเลอยู่คนเดียวเลย เลจะเก่งขึ้นใช่ไหม

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 03-01-2018 13:33:18
หน่วงเสียให้พอ ปีใหม่แล้ว ขอยาใจหน่อยจ้าาาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-01-2018 14:09:17
Happy New Year 2018
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑  ขอให้ไรท์สุขสันต์ มีความสุขมากๆ

ฮิม ใจร้ายยยยยยย  :z3: :z3: :z3:
ควงเดวา ทั้งที่ไม่เคยควงผู้ชาย ยังไงๆ

เล เข้มแข็งนะ อย่าอ่อนแอ  :mew2:
ต้องอยู่ตัวคนเดียวให้ได้
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 03-01-2018 14:49:02
ยิ่งอ่าน ยิ่งเกลียดพระเอก 5555 อาจจะเพราะไม่ใช่สายดราม่า เป็นคนโลกสวย ชอบพระเอกดีๆ
มาเจอพระเอกเชี้ยๆ (ถึงจะทำให้น้องรู้ตัวก็เหอะ) ทำให้นายเอกเสียน้ำตาบ่อยๆ ก็อดเกลียดไม่ได้

เข็มแข็งนะน้องเล สวย รวย ซะอย่าง เชิดๆ เริ่ดๆ ไปเลย กะอีแค่ผู้ชายคนเดียว หาใหม่ เอาให้ดีกว่าเดิม
อยากเห็นคนบางคนที่มั่นหน้า กระอักเลือดตายไปเลย เลจะได้มีปั๋วใหม่ 5555

แต่ยังไงก็รอตอนต่อไปอยู่ดีจร้า ถึงจะอ่านไป ด่าพระเอกไปก็เหอะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-01-2018 14:55:11
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 03-01-2018 15:13:35
น่าสงสารอะไรกันนี่ พี่ฮิมตกลงจะไม่กลับมาคบน้องแล้ว?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 04-01-2018 11:03:01
น้องเลเป็นคนเลือกที่จะปล่อยมือจากพี่ฮิมไปจับปากกาเซ็นต์เอกสารเองนะลูก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: Thanaphon ที่ 04-01-2018 17:17:51
น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: hikkie ที่ 04-01-2018 17:39:42
พูดว่ารอได้เต็มปาก อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะ
ปล.ความในใจฝากถึงฮิม จากเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-01-2018 18:24:06
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 04-01-2018 23:03:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: amisezmin ที่ 04-01-2018 23:13:08
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 05-01-2018 15:11:46
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 020118#26 p.37
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 07-01-2018 14:18:26


#27 (70%)



รถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง วินเดินลงมาจากรถ  เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหงุดหงิดนิดหน่อย ร่างสูงมาที่นี่เพราะถูกโทรเรียก จู่ๆ พี่รหัสของเล สายรหัสของเขาก็โทรมาบอกว่าตัวเองยืมรถของเลไปขับเล่น แต่พอกลับมาที่มหา’ลัยอีกทีน้องก็ไม่อยู่แล้ว ติดต่อก็ไม่ได้ แถมยังมีข่าวแว่วๆ มาว่าเลร้องไห้ ตนร้อนใจจึงโทรมาถามว่ารู้ไหมว่าน้องเลอยู่ที่ไหน วินหงุดหงิดทันทีที่ได้ยิน โชคดีที่หลังจากตัดสายของนนท์นี่ไปได้ไม่นาน รุ่นน้องที่เขารู้จักก็ไลน์มาหาและบอกว่าเห็นเลนั่งดื่มอยู่ที่ร้านนี้

นั่นแหละ สาเหตุที่ทำให้เขาต้องมาที่นี่

ร่างสูงเดินเข้าไปในร้าน เจ้าตัวบังเอิญสบตากับคนๆ นึงที่นั่งดื่มอยู่กับกลุ่มเพื่อน ไอ้ซัน อดีตพี่ว้ากที่เคยสั่งให้เลวิ่งรอบสนามสิบรอบจนน้องเป็นลม มันยกมือไหว้เขาเล็กน้อย วินพยักหน้ารับ พร้อมกับปรายตามองพวกเพื่อนที่กำลังนั่งดื่มด้วยกัน  พวกนั้นหันมามอง พอเห็นว่าเขาที่เป็นรุ่นพี่ก็ยกมือขึ้นไหว้ เด็กวิศวะทั้งนั้น คณะเขาก็เป็นอย่างนี้ ชอบดื่มตั้งแต่ตะวันยังไม่ตกดิน

วินเลิกสนใจรุ่นน้อง เขากวาดสายตาหาตัวปัญหาแทน ใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็พบ เลเด่นเป็นทุนเดิม ยิ่งอยู่ในชุดนักศึกษาสีขาวก็ยิ่งเด่น วินเดินเข้าไปใกล้ ใช้มือแย่งแก้วเหล้าที่เจ้าตัวกำลังจะกรอกเข้าปากมา วงหน้าขาวเริ่มขึ้นสี เลเมาได้ที่แล้ว

“เอามานะ!”

“เอามานะ” วินเลียนเสียง

“อย่ามายุ่ง!”

“คิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่” เขาพึมพำ พยายามกันมือบางที่กำลังปัดป่ายไปทั่วเพื่อแย่งแก้วที่อยู่ในมือของเขากลับคืนไป “เล มีสติหน่อย”

“เอามา! คืนมา!” วินเม้มปาก เขาหงุดหงิดเป็นทุนเดิม พอเจอฤทธิ์คนเมาอาละวาดแบบนี้เข้าก็เลยเผลอตะวาดกดกลับไป

“พอซะที!”

เพล้ง!

แก้วในมือถูกขว้างลงพื้นจนแตก เสียงเอ๊ะอ๊ะโวยวายทำให้บรรยากาศในร้านเงียบลงไปถนัดตา เช่นเดียวกัน เลเงียบกริบ และเพราะเสียงที่เงียบสนิททำให้วินพึ่งได้ยินเสียงสะอื้นของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า เลก้มหน้าลง เขาถือวิสาสะจับใบหน้าสวยขึ้นมอง

ผิวเนียนชื้นเปียกเพราะน้ำตาที่ไหลออกมาเงียบๆ น้องร้องไห้ไม่มีเสียง หากภายในดวงตากลมโตสะท้อนความเจ็บปวดออกมาได้มากกว่าทุกครั้ง

“เลไม่อยากเป็นแบบนี้” เสียงอู้อี้ว่า “เลเจ็บ”

วินมองคนพูดด้วยความนิ่งงัน เขาเอื้อมไปจับมือของอีกฝ่ายแล้วกำแน่น

“กลับบ้านกัน”

น้องส่ายหน้า “เลไม่อยากไปบ้านหลังนั้น”

“ก็ไม่ใช่บ้านหลังนั้น” คนเมาเงยหน้าขึ้นมอง “ไปบ้านกู”





บ้านวิน

“ฮือออ” เลกอดเอวหนาไว้แน่น รู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังหมุนเคว้งไปมา จนคนที่คอยพยุงอยู่ทนไม่ไหว วินอุ้มร่างเพรียวขึ้นพาดบ่า แล้วเดินขึ้นบันไดพาไปที่ห้อง  ร่างสูงวางอีกฝ่ายลงบนเตียง แต่จู่ๆ เจ้าตัวก็สะดุ้งแล้วลุกขึ้นมาโวยวาย

“เหล้าเลล่ะ! เอามาให้เลนะ!”

“มึงนี่นะ” วินส่ายหน้า “รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวกูลงไปเอามาให้”

เสียงทุ้มว่า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างของบ้าน หยิบขวดแอลกอฮอล์ โซดา ถังน้ำแข็งและแก้วอย่างที่เลต้องการ แล้วเดินกลับขึ้นไปหาคนที่ยังนั่งเฉยๆ อยู่บนเตียง

มือบางแบและยื่นออกมาด้านหน้าเป็นการขอ วินเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจ ร่างสูงจัดการเสิร์ฟ ก่อนจะยื่นมันส่งไปให้คนที่แบมือรอรับ เลรับไปพร้อมทั้งกรอกเหล้าเข้าปากทันที

วินไม่ชอบให้น้องดื่ม แต่เขาก็ไม่ชอบตอนที่เลร้องไห้เหมือนกัน ถ้าให้เลือกระหว่างสองอย่างนี้ วินเลือกที่จะให้น้องดื่มแล้วลืมๆ ความเจ็บปวดไป อย่างน้อยก็ดีกว่าเห็นอีกฝ่ายร้องไห้แน่ๆ

ยิ่งตอนที่น้องร้องในร้าน เขาเห็นแล้วใจกระตุก เลร้องไห้แบบโวยวายยังดีกว่าร้องไห้เงียบๆ แบบนั้น

“ขี้เมา” เขาว่า ซึ่งคนถูกว่าก็ได้แต่ทำหน้างงๆ ร่างสูงปล่อยให้คนอยากดื่ม ดื่มต่อไป วินถอดเสื้อตัวเองออก เผยให้เห็นรอยสักรูปแมงป่องบริเวณเอว ขายาวเดินไปทางตู้เสื้อผ้าเพื่อที่จะเปลี่ยนชุด แต่เสียงร้องไห้แบบงอแงจากคนด้านหลังทำให้วินต้องหันไปมอง “มึงร้องทำไมอีก”

“สักลายทำไม!”

“กูทำอะไรผิด”

“เห็นแล้วนึกถึงพี่ฮิม เจ็บอ่ะ” วินแสยะยิ้ม มือหนาหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวมาใส่ ต่อด้วยการเปลี่ยนกางเกงจากนั้นจึงเดินไปหาคนที่ยังคงร้องฮือๆ เขาเดินไปนั่งบนเตียง จ้องหน้าเลแบบเงียบๆ มองคนร้องที่สะอื้นจนจมูกแดงไปหมดแล้ว มือหนายกขึ้นบีบจมูกแดงๆ นั้นอย่างหมั่นเขี้ยว เลปัดออก “ฮือออ”

“จะร้องอะไรหนักหนา”

“ก็มันเศร้า เลเศร้า”

“กอดกูไหม” วินอ้าแขนออก ซึ่งปกติเลต้องปฏิเสธแล้วทำหน้าเบ้ใส่แต่คราวนี้ไม่รู้ว่าเทพเจ้าแอลกอฮอล์สถิตหรืออะไรถึงได้…

หมับ!

น้องกอดตอบ วินอึ้งนิดหน่อยเมื่ออีกฝ่ายเบียดตัวเข้าหา มือหนายกขึ้นลูบหัวเป็นเวลาเดียวกันที่เลซบใบหน้าลงบนบ่า สะอื้นเสียงเบา

“เลเจ็บ เลทำอะไรผิดอีกเหรอ” วินเม้มปาก เขาฟังแล้วหดหู่ในอก ชีวิตเลเหมือนจะดีทุกอย่าง มีในสิ่งที่หลายคนอยากจะมี แต่สิ่งที่เลไม่มีมันกลับหาไม่ได้เหมือนคนอื่น

ครอบครัว

แม่ของเลเสียไปแล้ว เหลือแค่พ่อ แต่คนที่เลี้ยงเลกลับเป็นฮิม ทั้งๆ ที่พ่อแท้ๆ ของเลก็ยังมีชีวิตอยู่  วินรู้ว่าเลอยู่กับฮิมตั้งแต่อายุสามย่างสี่ขวบ แล้วตอนนั้นน้องจะยังเด็กมาก ไม่รู้เรื่องราวอะไรทั้งนั้น คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมพ่อแท้ๆ ของตัวเองถึงไม่ยอมเลี้ยงลูกของตัวเอง

ลมหายใจวินสะดุดกึก… รู้สึกเหมือนเดจาวู

“...”

“พี่ฮิมทิ้งเลเหมือนตอนที่พ่อทิ้งเลเลย”

มาถึงคราวของไอ้ฮิม น้องก็ไม่รู้เหตุผลอีกว่าทำไมในวันเซ็นสัญญามันถึงไม่ยอมมา อย่าว่าเลเลย เขาเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน

“...”

“ไม่เหลือใครแล้วนะ”

เลไม่ค่อยพูดถึงเรื่องครอบครัว แต่เขาก็รู้สึกว่าน้องเองก็คงจะเจ็บอยู่ลึกๆ พ่อไม่ได้เสียแต่พ่อไม่เลี้ยง แล้วก็เรื่องของฮิมอีก โดนคนที่ตัวเองรักทิ้งถึงสองรอบ แถมยังไม่รู้เหตุผลทั้งสองรอบ โดนซ้ำหนักขนาดนี้มันจะเจ็บขนาดไหนนะ

ที่ว่าเลเจ็บ เจ็บ นั่นคงไม่ได้เป็นการพูดเล่นๆ แน่

วินถอนหายใจ ก่อนจะดันร่างกายของคนที่กอดเขาเอาไว้แน่นล้มตัวลงนอน มือหนาลูบกลุ่มผมนุ่มเบาๆ เขาเลื่อนริมฝีปากไปกระซิบข้างหูของคนที่เริ่มนิ่ง

“มึงไม่ได้ไม่เหลือใคร”

อย่างน้อย… มึงก็เหลือกูคนนึง





ติ๊ง!

ฮิมเดินออกจากลิฟต์ หยิบคีการ์ดออกมาเปิดประตูคอนโดแล้วเดินนำเข้าไปในห้องโดยมีร่างบางเดินตามหลัง เขาหันไปมอง ลืมไปเลยว่าอีกฝ่ายก็มาด้วย

“คอนโดพี่ฮิมสวยจังนะครับ”

เสียงทุ้มไม่ได้ตอบรับ เขาเดินนำไปนั่งที่โซฟา แน่นอนว่าอีกฝ่ายก็เดินตามมาด้วย เจ้าตัวหยุดเดินเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นกล่องอะไรบางอย่าง มือบางถือวิสาสะเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมาแล้วถาม

“พี่ฮิม อันนี้อะไรเหรอครับ”

“เปิดดูสิ”

“นาฬิกา” เสียงหวานว่า “สวยจัง”

“อยากได้ก็เอาไป” ฮิมพูดเสียงเรียบ เขาไม่ใช่คนหวงของ อีกอย่างนาฬิกานั่นก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรมาก แค่มีคนให้มา

“แต่นี่มันโรเล็กซ์ คือมันแพง…” เสียงหวานเงียบ หลังจากหันไปประสานสายตากับคนที่กำลังจ้องมาทางนี้แบบบังเอิญ พี่ฮิมอยู่ในชุดเสื้อช็อปสีแดง ร่างสูงกำลังยกแขนเท้ากับขอบโซฟา มือหนายันขมับของตัวเอง นัยน์ตาคมสีดำสนิทคู่นั้นมองมาทางเขา

ใบหน้าขาวรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นทันที

หล่อ หล่อเกินไปจริงๆ

เขา… เคยอิจฉาคนๆ นั้นมาตลอด เลที่ถูกเรียกมาของสูงวิศวะ สวยจนใครก็เทียบไม่ติด ภาพที่ใครหลายๆ คนแอบถ่ายมาแสดงให้เห็นว่าพี่ฮิมที่เข้าถึงได้ยาก ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่อยู่กับคนๆ นั้นตลอด ทุกการกระทำในรูปที่เขาเคยเห็น มันบอกว่าเลเป็นคนพิเศษสำหรับพี่ฮิม แม้จะมีหลายคนพูดว่าเลเป็นน้องชายของพี่ฮิมก็เถอะ แต่เขาก็ยังอิจฉา สองคนนี้ดูเข้ากันมาก มากกว่าที่จะเป็นแค่พี่น้อง 

จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อน จู่ๆ คนที่เขาเคยคิดในฝันมาตลอดก็เดินเข้ามาถามชื่อแบบกะทันหัน ถึงจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรก็เถอะ

ชื่อของเขาคือ ‘เดวา’  แปลว่าพระเจ้า เพราะคุณแม่อยากให้เป็นบุตรของพระเจ้า

ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนได้รับพร และถ้าพรนี้มันยั่งยืนตลอดไปก็คงจะดี…

“งั้นขอบคุณนะครับ” สำหรับนาฬิกาเรือนนี้ในมือ “พี่ฮิมอยากกินอะไรไหม เดี๋ยววาทำให้แต่วาทำไม่ค่อยเก่งนะ”

จริงๆ แล้วก่อนจะมาที่คอนโด เขาชวนพี่ฮิมไปเดินเล่นที่ห้าง ได้เสื้อผ้ามาสองสามตัว ซึ่งทุกตัวล้วนมาจากแบรนด์ดัง ส่วนค่าใช้จ่ายร่างสูงเป็นคนออกให้หมด ตอนกลับพี่ฮิมไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าบ้านอยู่ไหน และเดวาเองก็ไม่ได้บอกไปด้วยเช่นกัน เขาพึ่งรู้ว่าอีกฝ่ายจะพามาคอนโดก็ตอนที่มาถึงนี่แหละ

ใจสั่นนิดหน่อย คิดเอาไว้แล้วว่าคงต้องเตรียมใจ เดวารู้ว่าอีกฝ่ายนั้นมีชื่อเรื่องการเป็นเสือขนาดไหน

อันที่จริงเขาไม่เคยเรื่องอย่างว่า ถึงจะมีข่าวว่าพี่ฮิมควงเขาแต่ความสัมพันธ์หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไม่มีชื่อเรียก อีกฝ่ายอยากมาก็มาอยากไปก็ไป ไม่ตอบแชทที่ส่งไป ถ้าจะมาหาถึงส่งไลน์มาบอกเอง

“อะไรก็ได้” ร่างสูงตอบเสียงเรียบพร้อมทั้งถอดเสื้อช็อปสีแดงออก เดวาพยักหน้า เขาเดินไปยังส่วนที่เป็นห้องครัว ค้นตู้เย็นดูแล้วไม่ค่อยมีอะไร เลยเปิดตู้ที่อยู่ใกล้ๆ พอเห็นเส้นสปาเกตตีเขาเลยตัดสินใจทำสปาเกตตี เขาต้มเส้นและในระหว่างที่รอเส้นให้สุก ร่างบางจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ตั้งใจว่าจะถ่ายนาฬิกาที่พึ่งได้ แต่ในขณะที่กำลังถ่ายจู่ๆ พี่ฮิมก็เดินเข้ามา ร่างสูงถามเสียงเรียบ “ทำอะไร”

“เอ่อ สปาเกตตีครับ” ใบหน้าหวานชะเง้อไปมองเส้นในหม้อ พอเห็นว่ามันเริ่มสุก เขาจึงตั้งโทรศัพท์พิงเอาไว้กับของบนโต๊ะที่อยู่ใกล้ตัว จากนั้นจึงหันไปคนเส้นสปาเกตตีในหม้อ “เอ๊ะ!”

กายแกร่งทาบอยู่ด้านหลัง ชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่กำลังไล่อยู่บนต้นคอ มือหนาเอื้อมไปกดปิดเตาแก๊ส เขาเริ่มไล่ปลายจมูกไปบนต้นคอขาวจนอีกฝ่ายสั่นไปทั้งตัว ฮิมจับคนตัวเล็กกว่าหันหน้าเข้าหาตัว  ไล่ฝ่ามือข้างหนึ่งไปตามโครงหน้าหวานขณะที่มืออีกข้างวนเวียนอยู่บริเวณเอวคอด นัยน์ตาคมหลุบลงมองใบหน้าเดวา

หน้าคล้ายเล

ผิวคล้ายเล

ส่วนสูงคล้ายเล

มือบางยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง ขณะเดียวกันที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงต่ำเข้าใกล้ริมฝีปากบาง ห่างกันไม่กี่คืบ แต่ก่อนที่ริมฝีปากจะได้ทาบกันสนิท คนตัวสูงก็หยุดชะงัก ฮิมเจอสิ่งที่ไม่เหมือน

กลิ่นไม่เหมือนเล

และที่สำคัญที่สุดคือคนนี้… ไม่ใช่เล

ผลัก!

“เสร็จเมื่อไหร่บอก” ร่างสูงผละตัวออก เขาเดินออกมาจากห้องครัวทิ้งให้คนที่มองตามหลังได้แต่ยืนงง

เดวาเกาศีรษะ เมื่อกี้นี้พี่ฮิมเกือบทำให้หัวใจของเขาหลุดออกมาจากอก ร่างเล็กยิ้มกับตัวเองก่อนจะส่ายหน้าให้เลิกฟุ้งซ่าน จังหวะนั้นเองที่สายตาเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ที่อยู่วางอยู่ใกล้ๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน มือบางยื่นไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วพึมพำ

“อ้าว กดถ่ายวิดิโอเอาไว้เหรอเนี่ย”





ฮิมเดินมานั่งที่โซฟาอีกครั้ง เขาเปิดทีวี ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ร่างสูงนั่งมองโทรทัศน์อยู่ครู่หนึ่งแล้วเม้มปาก พยายามไม่ให้ตัวเองกดเข้าไปในรูปภาพแต่ทำไม่ได้ เพราะในนั้นแต่มีรูปของคนที่เขาคิดถึงเต็มไปหมด

“น้อง…” เสียงทุ้มพึมพำ ดวงตาคมคู่นั้นอ่อนลงเมื่อเห็นรูปของใครบางคนที่กำลังยิ้มร่าในมือถือ “เล”

เขาคิดถึง

คิดถึงจนจะบ้าตายอยู่แล้ว





วันต่อมา

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

“ตื่นๆ ตื่นได้แล้ว”

“โอ๊ย! พี่วิน” ผมสะดุ้งขึ้นมาจากเตียง มองหน้าคนที่กำลังถือหม้อกับตะหลิวในมือ “ทำไรเนี่ย!”

“ปลุกมึงไง ไปอาบน้ำ วันนี้กูจะไปส่งมึงที่มหา’ลัย ชุดซักรีดเอาไว้ให้แล้ว ผ้าขนหนูก็อยู่บนเตียง แปรงสีฟันอันใหม่อยู่ตรงตู้ในห้องน้ำ แกะๆ ใช้เลย” พี่วินออกคำสั่ง “อย่ามาทำหน้าบึ้ง รีบไปอาบจะได้ไปกินข้าว”

“เลไม่ไป! เลง่วงอ่า อยากนอน”

“ไม่ไปไม่ได้วันนี้มีประชุม”

“ประชุมอะไร”

“ไปค่าย”

“ไม่รู้เรื่อง!”

“เดี๋ยวมึงก็รู้ รีบไปอาบก่อน ถ้าจะนอนต่อดูด้วยว่านี้บ้านใคร” ประโยคนี้ทำให้ผมต้องหันไปมองรอบตัว แล้วพบว่าที่นี่มันไม่ใช่บ้านที่ผมเคยอยู่ คงเป็นบ้านของพี่วินจริงๆ “รีบๆ ไปอาบน้ำ”

“รู้แล้ว!”





“พี่วินอยู่ไหนอะ!” ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เพราะพี่วินไม่ได้รออยู่ในห้อง ผมก็เลยออกจากห้องเดินตามหาอีกฝ่าย ผมไม่เคยมาบ้านพี่วิน แล้วตอนมาเมื่อวานก็เมา ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ครั้งนี้เลยได้สังเกตบ้านของพี่วินแบบจริงๆ จังๆ บ้านหลังนี้ใหญ่พอสมควร แต่ไม่ได้ใหญ่เว่อร์วังอลังการ เพราะพี่วินเคยบอกว่าพี่วินอยู่กับคุณพ่อแค่สองคน มีแม่บ้านอีกคนหนึ่ง เลยไม่สร้างให้มันใหญ่อะไรมาก ทั้งบ้านเป็นโทนดำ เทา ขาว เน้นสไตล์โมเดิร์น ผมเดินลงบันไดพร้อมกับดูโคมไฟบนเพดานระยิบระยับ แต่พอหันไปมองด้านหน้าเห็นขายาวๆ ของใครบางคนเลยตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ ผมเดินให้เงียบลงสายตาจดจ้องไปยังร่างสูงที่หันหลังให้อยู่ จากนั้นจึงวิ่งไปหาพออีกฝ่ายหันกลับมาก็ “จ๊ะเอ๋!!”

“...”

“...” ผมหน้าเจื่อนลง

เมื่อพบว่าคนตรงหน้า… ไม่ใช่พี่วิน

“เลมึงทำอะไร” คนที่ผมตั้งใจจะเซอร์ไพรส์เดินมาทางด้านหลังของผม พี่วินคงเห็นที่ผมทำเมื่อกี้ ใบหน้าหล่อเหลาจึงขมวดคิ้วแน่น “นั่นพ่อกูนะ”

ฮื่อ ช่วยด้วย!





“ขอโทษครับ นึกว่าเป็นพี่วิน”

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น” ผมต้องมานั่งกินข้าวกับคุณพ่อของพี่วินที่ตัวเองพึ่งจะจ๊ะเอ๋ไปหมาดๆ บรรยากาศยามเช้าในวันนี้เลยกระอักกระอวนสุดๆ “ปกติก็ชอบมีคนคิดว่าพ่อกับวินเป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว”

พี่วินเลื่อนจานที่มีไข่ดาวมาให้ผม อาหารเช้าของเราวันนี้เป็นข้าวผัดอเมริกัน เขามองหน้าพ่อตัวอย่างนิ่งๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร

“ก็คุณลุง เอ๊ะ! คุณ…”

“เรียกพ่อก็ได้”

“ก็คุณพ่อหน้ายังเด็กอยู่เลย” ผมไม่ได้ยอนะ แต่คุณพ่อพี่วินก็หน้าเด็กจริงๆ นั่นแหละ ก็หล่อเหมือนพี่วินเลย แต่เสน่ห์คนละแบบ คุณพ่อจะเป็นเสน่ห์ในแบบผู้ใหญ่ ให้อารมณ์พี่ชายสายโรแมนติกแสนดี

“อืม พ่อทำแม่วินท้องเร็วไปหน่อย ตอนนั้นประมาณปีสองเองมั้ง” อายุปีสองก็ประมาณ 19-20 เอา 20 บวกอายุปีสี่ของพี่วินที่ 22-23 งั้นก็ “ตอนนี้ลูกโตเป็นหนุ่มแล้วตัวเองยังแค่สี่สิบต้นๆ อยู่เลย”

“คุณพ่อก็ยังดูหนุ่มอยู่ดี” ถ้าพี่วินไม่ได้พูดว่าคนนี้คือพ่อของตัวเอง ผมคงนึกว่าคุณพ่อเป็นพี่ของพี่วิน ถ้าดูจากหน้าแล้วเหมือนคนสามสิบกลางๆ เอง

“ปากหวานนะเราเนี่ย”

“ทีพูดกับกูนะ” พี่วินพึมพำแต่ผมได้ยิน

“อะไรเล่า! อย่ามาปรักปรำเลนะ”

“เล เป็นลูกของซาร่าใช่ไหม”

“โอ๊ะ!” ผมกะพริบตาปริบๆ แล้วรีบหันไปมองคุณพ่อ “รู้จักแม่ของเลด้วยเหรอ?”

คุณพ่อพี่วินยิ้ม “อันที่จริงพ่อเป็นเพื่อนสนิทแม่ของเลนะ”

“จริงเหรอ!”

“รู้ไหม หนูหน้าเหมือนแม่มากเลยล่ะ เหมือนกันมากเห็นทีแรกยังตกใจเลย”

“เลถามได้ไหมว่าตอนแม่อายุเท่าเล คุณแม่เป็นยังไง”

นัยน์ตาคมมองหน้าผมแล้วตอบ “ตอนซาร่าอายุเท่าเลเขาก็สวยแบบนี้ มั่นใจ กล้าได้กล้าเสีย แต่ชอบใจอ่อน ทำเพื่อคนอื่นมากกว่าตัวเอง เป็นคนดีแล้วก็เป็นเพื่อนที่ดีมากคนนึง”

“ดีจัง”

“แล้วเลล่ะเป็นยังไงบ้าง คุณแม่เสียตั้งแต่เด็กๆ แบบนี้คงลำบากน่าดู”

ผมยิ้มเจื่อน “เลถูกรับไปเลี้ยง แต่คุณพ่อของคนที่เลี้ยงเลเขาก็ไม่ค่อยชอบเลเท่าไหร่”

“ไม่ชอบเหรอ?”

“อื้อๆ”

“ทำไมล่ะ”

“ไม่รู้สิครับ” คุณพ่อพี่วินขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อไปกว่านั้น ท่านปล่อยให้ผมกินข้าวไป มีเถียงกับพี่วินบ้างบางระยะ หลังจากกินข้าวเสร็จพี่วินก็ถูกใช้ให้ไปเก็บจาน จังหวะนั้นคุณพ่อเลยแอบพูดเบาๆ ให้ผมฟัง

“วินเขาก็เสียแม่ไปตั้งแต่เด็กๆ เหมือนกัน”

“เหรอครับ” ผมเบิกตากว้าง อึ้งกับความรู้ใหม่ พึ่งรู้ว่าแม่ของพี่วินเองก็เสียไปแล้วเหมือนกัน เรื่องนี้ผมไม่รู้มาก่อน พี่วินไม่ค่อยเล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวให้ฟัง “พี่วินชอบว่าเล ชอบตีเล ดุเลด้วย”

ผมฟ้อง

“วินก็เป็นแบบนี้ ชอบไปยุ่งกับคนที่ตัวเองชอบ แต่ถ้าไม่ชอบมันจะไม่ยุ่งกับคนนั้นเลย”

“หมายความว่าพี่วินชอบเลเหรอ” ผมขมวดคิ้วงงๆ แปลคำพูดของคุณพ่อแล้วมันได้คำตอบออกมาแบบนี้อะ

“พ่อ ผมได้ยินนะ” คนถูกนินทาเดินกลับมาที่โต๊ะกินข้าว พี่วินชี้หน้าผม “รีบไปขึ้นรถไป สายแล้ว มึงเรียนเช้าวันนี้กูจำได้”

ผมหรี่ตามองอีกฝ่าย อมยิ้มแล้วลุกขึ้นพูด “ชอบเลล่ะสิ”

“พูดอะไรของมึง” พี่วินขมวดคิ้ว สีหน้างงๆ นิดหน่อย

“ชอบเล! พี่วินชอบเลใช่ไหม”

“มโนอยู่เหรอ”

“ชอบเลแน่ๆ”

“มึงจะตีความการกระทำของกูว่าชอบมึงก็แล้วแต่มึงสิ”

“ฮั่นแน่ๆ ชอบเลแน่เลย”

“ไปขึ้นรถ!”

“ทำมาเปลี่ยนเรื่อง!”

“กู-บอก-ให้-ไป-ขึ้น-รถ”

“อะเคๆ ไปก็ได้” ท่าทางที่เริ่มเหมือนยักษ์เหมือนมารของพี่วินทำให้ผมต้องรีบหันไปบอกลาคุณพ่อ “ไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ”

“อืม ว่างๆ ก็แวะมาเล่นที่นี่อีกนะ” ผมยกมือไหว้คุณพ่อสุดหล่อของพี่วินก่อนจะรีบเดินไปที่รถ





นัยน์ตาคมมองตามแผ่นหลังเล็กที่กำลังเดินออก ร่างสูงยกยิ้มมุมปาก “ให้ตายเหมือนแม่มากจริงๆ”

มือหนายกแก้วกาแฟขึ้นจิบ จังหวะนั้นเองที่เห็นลูกชายกำลังจ้องมาที่ตัวเองตาเขม็ง

“อะไรกันวิน” เขาถาม น้ำเสียงติดหัวเราะเล็กน้อย

“พ่ออย่าจุ้นดิ”

“พ่อบอกว่าชอบ แต่ไม่ได้บอกซะหน่อยว่าชอบแบบไหน”

“เลมันแปลคำว่าชอบได้แบบเดียว”

“ก็ปฏิเสธไป”

“...”

“ปฏิเสธไม่ได้ก็แปลว่าชอบ” เขาเห็นลูกชายถอนหายใจ จนอดไม่ได้ที่จะท้วง “ปากแข็งได้ใครกันนะ”

“ไปแล้วนะครับ สวัสดีครับ”

“โชคดี” เขาอวยพรพร้อมกับมองลูกชายเดินออกจากบ้านไปกระทั่งลับสายตา ร่างสูงยืนขึ้น เดินไปที่ห้องทำงานจังหวะนั้นเองที่สายตาบังเอิญไปเห็นกรอบรูปที่ตั้งอยู่ มันเป็นรูปของกลุ่มเพื่อนสนิทของซาร่า เขาไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นหรอก เขาสนิทกับแม่ของเลแค่คนเดียว แต่ตอนถ่ายรูปโดนอีกฝ่ายลากเข้าไปถ่ายด้วยเฉยๆ คนในรูปนั้นมีไม่มีกี่คน หนึ่งในนั้นมีเขา ซาร่าแล้วก็พ่อของคนที่เลี้ยงเลมา…

ออกจะแปลกใจนิดหน่อยที่ได้ยินเลบอกว่ามันไม่ชอบเล แต่มาคิดๆ ดูอีกทีมันอาจจะไม่แปลกก็ได้

ถ้าลูกชายของแฟนเก่าจะหน้าตาเหมือนแฟนเก่าขนาดนั้น

ร่างสูงยืนนิ่ง นัยน์ตาคมก้มมองหญิงสาวที่กำลังยิ้มในรูป

“ไหนเธอบอกว่าจบสวยไง”




(70%)




ตอนนี้คือหลากอารมณ์มากเว่อร์ ปรับอารมณ์ไม่ทันกันเลยทีเดียว
เศร้าน้องเล ตะหงิดๆพี่วิน โกรธเดวา งงพี่ฮิม สุดท้ายก็มาตะหงิดคุณพ่อ
ฮืออออ พูดถึงน้องเลหน่อย จริงๆ แล้วเลชีวิตเลเหมือนจะดีแต่จริงๆ แล้วเศร้านะ
ขอบคุณพี่ฮิมเถอะที่อย่างน้อยเขาเลี้ยงเลให้เติบโตขึ้นมาได้อย่างสดใส 55555 :hao7:


ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอกันนะคะที่รักกก)

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 07-01-2018 14:38:36
อื้อหือ...โยงกันไปโยงกันมา
เมื่อไรจะกลับมาดีกันนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-01-2018 14:49:19
ทำไมปมมันแลวุ่นวายจังงงง
สงสารเลที่สุดแล้ว
เอาพี่วินเป็นพระเอกเลยจ้า
เดี๋ยวจะลงเรือคู่นี้แล้ว วินเล
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 07-01-2018 16:05:25
พี่วินเป็นพระเอกคงดี 5555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: ฟาง ฟ่างง ฟ๊างง ที่ 07-01-2018 16:18:22
อยากให้คลี่คลายเร็วๆจังค่ะ อึดอัดมากเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 07-01-2018 17:55:53
อยากให้เป็นนิยายที่พีคมากที่สุดของปี 2018 คงเป็นการเอาพี่วินเป็นพระเอก

ฉันทีมนี้มานานนนนน
เขาน่ารักกันมากกกกกกก

ละมุนมากอะ โอ๊ยยยเขิน เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ พี่วินน้องเลมันเข้ากันสุดๆไปเลยจ้าาา

 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 07-01-2018 18:43:39

ทำไมเดวาต้องถ่ายวีดีโอไว้ สบายเลยดิ
เฮ้อ!!!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 07-01-2018 19:01:16
 :m28: :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 07-01-2018 19:10:49
ไปๆมาๆ อยากให้Bad end เลฆ่าตัวตายแม่มเลย ชีวิตแมันเศร้าเกินไป เอาให้คนที่เหลืออยู่ขาดใจตายไปเลย พี่ฮิมก็ไม่ซื่อสัตย์กับใจตัวเอง ยังจะหาคนมาแทนที่เลอีก พี่วินนี้ก็บังคับน้องเซ็นสัญญา ใันอะไรกันนักหนา ทุกคนคิดไปเองว่าทำเพื่อน้อง เคยถามน้องบ้างไหม นึ้อิน นี้โกรธมาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-01-2018 19:43:19
อยากจะเสนอให้เลหนีหายไปเลย ไปอยู่คนเดียวก็ได้ แต่มานึก ๆ อีกที อีน้องคงอยู่ไม่ได้หรอก เพราะตั้งแต่เด็กๆ ก็พึ่งพาคนอื่นเสมอ ไม่เคยพึ่งตัวเองเลย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-01-2018 19:55:02
ปมชีวิตเล  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ที่แท้พ่อฮิม เคยเป็นแฟนกับแม่เล  :hao3:
พี่วิน ชอบเล แต่ชอบแบบไหน   :hao4:

 :angry2: :angry2: :angry2:  ไม่เข้าใจฮิม
ก็รักเล คิดถึงเล แล้วทำไมทำกับเลแบบนี้ ฮึ่ยยยย  :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 07-01-2018 20:39:28
อีพี่ฮิมคิดถึงน้องแล้วดึงคนอื่นเข้ามาทำไมมม :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 07-01-2018 20:53:06
เชียร์วินเลนะ ทำไมมันดราม่าจัง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 07-01-2018 21:47:49
ถึงพี่ฮิมจะเป็นพระเอก  แต่เราละชิปพี่วินอะ ทำไม!!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 07-01-2018 22:00:05
มาต่ออีกนะคะชอบมากๆๆ# :mew3:วันเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 07-01-2018 23:55:20
อ่านแล้วอึดอัดมากๆเลย ฮืออ ทำไมอะ โยงใยกันไปมาาา คือแบบ พี่ฮิมอะะะ โอ้ยยยย
ปล. นุรักพี่วินน ให้เลไปหาพี่ฮิมเลย พี่วินนุเอาเองงง  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 08-01-2018 04:06:02
พี่ฮิมไปง้อน้องเลเดียวนี้เลยยยยยยมำไมต้องทำให้น้องเสียน้ำตาด้วยถ้าไม่มีพี่วินน้องจะเป็นยังไงเคยคิดบ้างมั้ยเราโกรธแล้วนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-01-2018 08:11:13
เมื่อไหร่เขาจะเข้าใจกัน?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 08-01-2018 10:41:06
จะเกลียดพี่ฮิมก็เกลียดไม่สุด เพราะยังไม่ค่อยเข้าใจในการกระทำเท่าไหร่ ดูเหมือนกำลังทำอะไรอยู่ และก็ดูเหมือนไม่ได้จะทำอะไร เอาเป็นว่า กำลังงงๆกับพี่ฮิม
ส่วนน้องเล เราเข้าใจเลนะ ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบหรือเกลียด ออกแนวสงสารน้อง เหมือนน้องโดนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ไร้ที่พึ่ง

แต่ตอนนี้รู้กสึได้อย่างคือ เดวา แกกำลังจะเป็นตัวร้ายกาจใช่มั้ย พี่วินก็จะเข้าไปกำจัดตัวร้ายออก แล้วก็จะได้กันใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 10-01-2018 14:21:00
จบสวย แง่มๆ ไงต่ออะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 070118#27 (70%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 10-01-2018 23:02:53
แฟนวิศวะ #27 (100%)




12.20 น.

ถูกเรียกประชุมจริงๆ ด้วย

“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจรู้สึกเหนื่อยๆ เพราะพึ่งไปสอบย้อนหลังมา แล้วเมื่อวานเกี๊ยกอุตส่าห์เอาช้อตโน้ตมาให้แต่ก็ไม่ได้อ่าน สรุปวันนี้ไปสอบย้อนหลังชนิดที่ว่าแทบจะไม่มีความรู้ในสมอง แล้วจะมีประชุมต่ออีก ยังดีที่วันนี้ไม่มีซ้อมหลีด

พี่นนท์นี่งดซ้อมหลีดหนึ่งวัน เพราะวันนี้ทุกคนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ถูกเรียกประชุมเพื่อที่จะไปเข้าค่ายตอนบ่ายสาม และเหมือนทุกคนจะรู้เรื่องนี้หมด ยกเว้นผม แม้กระทั่งอิน ร่างขาวที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ตรงข้ามผมก็ยังรู้เรื่อง

“เป็นอะไร”

“งอน”

“งอนอะไร”

“ไปไหนทำไมไม่บอก เป็นห่วง” ผมถามตรงๆ อินก็ตอบตรงๆ “ยังดีที่มันโทรมาบอกว่าเลอยู่บ้านมันนะ ไม่งั้นเราโวยวายกว่านี้แน่”

“มันไหนอะ?” อินมองหน้าผม เม้มปากนิดๆ เหมือนไม่อยากจะพูด ผมเลยเข้าใจได้ทันที “อ๋อ พี่วินสินะ”

“อือ” แล้วก็เงียบ อินกลับไปสนใจโทรศัพท์ในมือ ส่วนผมนั้นไม่มีอะไรจะทำ

ตอนนี้เราอยู่ที่โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์ กำลังนั่งรอแก็งโรซารี่มากินข้าวด้วยกันเพราะพี่นนท์นี่จะเอากุญแจรถมาคืนผมด้วย เหมือนพี่รหัสผมจะโกรธนิดหน่อยที่ผมไปไหนแล้วไม่บอก ส่วนเรื่องค่าย อันที่จริงพี่นนท์นี่ก็เคยพูดเอาไว้นานมากแล้ว เรามีค่ายต้องไปทำอะไรสักอย่างให้โรงเรียนในชนบท เป็นค่ายจิตอาสาแต่ดันบังคับให้ปีหนึ่งทุกคนไป รุ่นพี่ที่ดูแลหลักๆ เลยคือปีสี่ และดูเหมือนว่าพี่วินจะได้เป็นหัวหน้าในการดูแลรุ่นน้องที่จะไปค่ายครั้งนี้ด้วย

เรื่องนี้เหมือนจะทำให้หลีดวิศวะพากันหนักใจนิดหน่อย การไปค่ายจะทำให้เราซ้อมไม่ทัน เพราะหลังจากนั้นไม่นานคืองานใหญ่สำหรับเราชาววิศวะ

‘วิศวะสัมพันธ์’

หรือที่บางคนเรียกมันว่า 'เกียร์เกม' เป็นการแข่งขันกีฬากับมหา’ลัยพันธมิตรทั้งสี่ทิศกับอีกหนึ่งกลางสำหรับคณะวิศวะกรรมศาสตร์โดยเฉพาะ หลีดวิศวะเลยยิ่งใหญ่ทุกปี เพราะนี่ไม่ใช่กีฬาสีที่แข่งเฉพาะภายในมหา’ลัย แต่เราแข่งกับต่างมหา’ลัย ยิ่งแสดงลีดเป็นการแข่งขันที่หลายคนให้ความสนใจ ดังนั้นก็เลยเหมือนเราต้องแบกชื่อมหา’ลัยเอาไว้บ่า โดยเฉพาะหลีดมหา’ลัยผมน่ะ ครองตำแหน่งอันดับ1 มาแล้วสามปีช้อน แถมปีนี้เราได้เป็นเจ้าภาพ ความกดดันยิ่งสูงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

พี่นนท์นี่ที่เป็นหัวหน้าหลีดน่ะ บอกเลยว่าเครียดแทบตาย

“น้องเล!!” เสียงหวีดร้องมาแต่ไกล ผมลุกขึ้นรีบวิ่งไปหลบหลังอิน “ทำไมเป็นคนแบบนี้”

“น้องเลแย่มั่กๆ!”

“หนูทำให้พี่หัวใจจะวาย” พูดถึงพี่นนท์นี่ พี่นนท์นี่ก็มาพร้อมพี่ไก่และพี่เชอร์รี่ คำพูดเหมือนจะว่าผม แต่น้ำเสียงที่อีกฝ่ายใช้ทำให้คนฟังรู้สึกว่าเหมือนเป็นการดุกันเล่นๆ มากกว่า สามสาวก้าวเข้ามานั่งตรงข้ามอิน ผมยกมือไหว้ทันที

“เลขอโทษน้าา”

“อย่าทำแบบนี้กับพี่อีกเลยพี่จะเป็นลมตาย” พี่นนท์นี่ว่า “ลูกโทรบอกพี่หน่อย หนูหายไปแบบนี้พี่ก็นึกว่าน้องเลโดนฉุด” อีกฝ่ายพูดพร้อมกับคืนกุญแจรถให้ผม

“เลขอโทษๆ”

“ไปๆ เลิกพูดเรื่องนี้ค่ะ กินข้าวกันเถอะพี่หิว”

“เดี๋ยวเลเลี้ยงเอง” ผมออกปาก

“อุ๊ย! ดีเว่อร์ ดีเลยค่ะลูกเพราะว่าช่วงนี้พี่ไม่มีตังค์” พี่ไก่ว่า

“อยากกินอะไรเดี๋ยวเลไปซื้อให้” ถือว่าไถโทษเรื่องเมื่อวานก็แล้วกันนะ

“พี่เอาก๋วยเตี๋ยวหมู ส่วนพวกนี้ก็…”

“ก๋วยเตี๋ยวหมู 3 ค่ะน้องเล”

“โอเคๆ” ผมขานรับ

“เดี๋ยวพี่ไปช่วยน้องเลถือดีกว่า” ผมยิ้มรับเพราะสุดท้ายแล้วทั้งสามสาวก็ยืนขึ้นแล้วเดินไปซื้ออาหารกับผม จนกระทั่งผมซื้อเสร็จ ในจังหวะที่ผมกำลังยืนรอพี่เชอร์รี่ที่พึ่งจะสั่ง จู่ๆ เสียงฮือฮาก็เกิดขึ้น ผมยืนกอดอกพร้อมกับหันไปมองตามเสียง พอเห็นว่ากลุ่มของใครคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในโรงอาหารวิศวะ แถมยังเป็นคนที่ผมเกิดความรู้สึกไม่ชอบสุดๆ เลยเผลอถอนหายใจเหนื่อยออกมา

เดวากับเพื่อนๆ อีกสี่ถึงห้าคนกำลังเดินเข้ามาในโรงอาหาร ก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะ… เวร

นั่นมันโต๊ะข้างผมเลย!

อินที่ยังคงนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ไม่ได้สนใจ อีกอย่างเจ้าตัวกำลังหันหลังให้กับอีกฝ่ายเลยไม่ได้สังเกตว่าใครมานั่งข้างๆ โต๊ะพวกผม

พี่เชอร์รี่ซื้อเสร็จแล้ว แต่ผมต้องรอพี่ไก่ที่แว๊บไปซื้อของหวานเพิ่มอีก แล้วร้านนั้นดันมีคนต่อแถวยาวมาก กว่าจะซื้อเสร็จ กลุ่มนิเทศก็ซื้ออาหารจนเสร็จแล้วเหมือนกัน

“ได้แล้ว”

“ชักช้า!”

“ขอโทษจ้า ไปๆ รีบไปนั่ง กูหิว!” จบประโยคนั้นผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพราะยังไงเดินไปก็คงต้องผ่านกลุ่มเดวา จากนั้นจึงเดินตามหลังพี่นนท์นี่กับพี่ไก่ตามเป็นคนที่สามไป ใกล้จะเดินผ่าน เสียงของใครสักคนในกลุ่มนั้นก็แว่วมาให้ได้ยิน

“วาเมื่อวานไปคอนโดของพี่ฮิมมาใช่ไหม เล่า!”

“เมื่อวานที่ลงรูปนาฬิกาในไอจีน่ะ เห็นนะ!”

“โรเล็กซ์จ้า กูค้นดูราคาแล้ว สี่แสนจ้าา”

“รู้เลยว่าใครให้”

“พี่ฮิมนี่ดีนะ คบกันไม่ถึงอาทิตย์ให้โรเล็กซ์”

“มีผัวรวยก็ดีอย่างนี้แหละจ้าาา”

“ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้หรอก โดนทิ้งแล้วถึงมากินข้าวโรงอาหาร สงสัยตังค์หมด”


กึก!

ผมเม้มปากได้แต่กรอกตามองบนแสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผย ถึงอย่างนั้นก็ยังสู้พี่นนท์นี่กับพี่ไก่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าไม่ได้ สองคนนี้หยุดเดินทันทีที่ได้ยินประโยคเมื่อกี้

ใครบางคนที่เกี่ยวข้องกับพี่ฮิมจะเป็นใครไปได้ นอกจากผม

“กูว่าจะไม่ขึ้นแล้วเชียว” เหมือนได้ยินเสียงพี่เชอร์รี่พึมพำ เจ้าตัวพูดเสร็จก็เลี้ยวตัวเข้าไปนั่งโต๊ะเดียวกันกับกลุ่มเดวาทันที พี่นนท์นี่กับพี่ไก่ที่ยืนอยู่หน้าผมก็เดินตาม มันเป็นโต๊ะยาวจึงนั่งได้หลายคน

ปัง! ปัง! ปัง!

ถ้วยก๋วยเตี๋ยวสามถ้วยถูกกระแทกลงโต๊ะเสียงดังจนคนอื่นหันมามอง

“น้องๆ ขาพวกพี่ขอนั่งด้วยนะคะ อ้าว! น้องเลไปยืนอยู่ทำไมตรงนั้น มานั่งสิคะ หนูบอกว่าหิวไม่ใช่เหรอ” ผมยักไหล่ก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆ พี่เชอร์รี่ ทว่ายังไม่ทันได้นั่งลงเสียงของเพื่อนคนใดคนหนึ่งในกลุ่มนั้นก็พูดขึ้้น

“ใครอนุญาตอะ มาขอแต่พวกเรายังไม่ได้บอกเลยนะว่านั่งได้ แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะมึง ไร้มารยาทใช่ปะ”

พี่นนท์นี่สวนกลับทันที “กะเทย คณะนิเทศเขาไม่มีโรงอาหารเหรอมึง”

“ก็มีนะมึง” พี่ไก่ตอบ ผมถึงกับต้องกลั้นหัวเราะ เจ้าตัวใช้เสียงสี่ที่เป็นเสียงแหลมๆ ในการพูด

“เอ้า! คณะตัวเองก็มีโรงอาหาร แล้วทำไมพวกนี้มาเสล่อหน้าอยู่ที่นี่อะ แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ?”

“สาระแน!!”

“ก็พี่ฮิมบอกให้มารอที่นี่น่ะค่ะ เขาจะมารับเดวาไปดูหนัง”

“ใครถามค่ะน้อง” พี่ไก่สวน คนพูดถึงกับหน้าเจื่อนไปนิด

“ก็อยากบอกค่ะ เนี่ยเพื่อนก็พึ่งได้นาฬิกาไป ไม่แพงหรอกค่ะ แค่สี่แสน คนบางคนแถวนี้จะมีเงินซื้อหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย”

ผมกรอกตามองบน รู้สึกว่าเมื่อวานผมเศร้าไปแล้ว วันนี้เลยังต้องมาหงุดหงิดเพราะคนๆ เดิมอีกอย่างนั้นเหรอ! ความรู้สึกคลายอาการหัวร้อนเกิดขึ้น และมารู้ตัวอีกทีก็พูดออกไปแล้ว

“ได้แค่สี่แสนเองเหรอ” ประโยคนี้ทำให้โรงอาหารเงียบกริบ คนอื่นๆ เริ่มหันมาสนใจพวกเราตั้งแต่ที่กลุ่มเพื่อนเดวาปะทะแก็งโรซารี่แล้ว ผมลุกขึ้นยื่นพร้อมกับแกะนาฬิกาบนข้อมือออก ก่อนจะเดินไปหาเดวาที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ปรายตามองนาฬิกาโรเล็กซ์เรือนใหม่ที่อีกฝ่ายพึ่งได้จากนั้นผมจึงกระแทกนาฬิกาโรเล็กซ์ของตัวเองลงบนโต๊ะแรงๆ 

ปัง!

“เรือนนี้พี่ฮิมก็ให้เรามาเหมือนกัน” มันเป็นสิ่งเดียวที่พี่ฮิมให้แล้วผมยังเก็บเอาไว้อยู่ ผมให้ปลายนิ้วลูบโรเล็กซ์ตรงส่วนกรอบที่ทำมาจากทองคำ ก่อนจะพลิกกลับให้เห็นถึงด้านหลังนาฬิกาที่มีอักษรบางอย่างสลักเอาไว้อยู่ “แต่ไม่ได้ซื้อให้นะ สั่งทำให้อ่ะ”

อักษรที่สลักลงบนตัวเรือนนาฬิกาคือคำว่า Rolex special edition (made for LAY) โดยเฉพาะ

ผมพูดต่อ “ราคาไม่แพงหรอก ล้านกว่ามั้ง จำไม่ได้อะ เรือนนี้ไม่ใช่เรือนแรกด้วยที่ให้”

แค่เป็นเรือนแรกที่สั่งทำให้

“...” ทุกคนเงียบกริบ

“จริงๆ พี่ฮิมก็ซื้อเคยซื้อรถให้ mclaren 650s สีเทาให้นะ แต่ขับไปขับมาแล้วไม่ชอบ เมื่อวานเราก็เลยไปซื้อ benz มารุ่น C250 แต่ก็อย่างว่าแหละ ไม่ได้อยู่กับพี่ฮิมแล้วก็เลยเลือกที่แพงไม่ได้ค่อยได้ ต้องประหยัดหน่อย benz เมื่อวานก็แค่ 4 ล้านเอง สู้รถที่พี่ฮิมให้ไม่ได้หรอกตั้ง 30 ล้านน่ะ”

“...”

“แล้วนี่ได้อะไรแล้วบางอย่าง หรือว่าพึ่งได้แค่นาฬิกา”

“...” ผมทำหน้าตกใจ

“แค่สี่แสนเองเหรอ ได้แค่นี้ไม่ต้องอวดก็ได้นะ เปลือง”

“นี่!!” เดวานั่งเงียบๆ ส่วนคนที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนกลับเป็นเพื่อนของอีกฝ่าย ผมเลยหยิบนาฬิกาของตัวเองขึ้นมา ชูมันขึ้นเพื่อแล้วยื่นไปตรงหน้าเพื่อนคนนั้น ผมปรายตามอง ใต้นาฬิกาผมมีถ้วยก๋วยเตี๋ยวอยู่

“คนบางคนแถวนี้ที่ไม่มีเงินซื้อนี่ใครอะ บอกตัวเองเหรอ อ่ะเราให้” ผมปล่อยมือที่จับสายนาฬิกาอยู่ ทำให้มันร่วงลงพื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลก แล้วตกใส่ถ้วยก๋วยเตี๋ยวของอีกฝ่ายดังจ๋อม

“เชี่ย”

“ตายแล้ว!”

“ของล้านกว่า”

“น้องเลลลลลล”


อีกฝ่ายทำให้อึ้งและพอได้สติก็รีบลุกขึ้นมาโวยวายทันที “เฮ้ย! นี่มันมากไปป่ะ”

“มึง! หยุดเถอะ” คนที่พูดคือเดวา เจ้าตัวกำลังห้ามเพื่อนอยู่ “มึงพอเถอะนะ”

“วามึงยอมได้เหรอ! ไอ้นี่มันพูดแดกดันมึงอยู่นะ!”

“อ้าวๆ ชะนีค่ะ! อย่ามาพูดหมาๆ คนที่แดกดันก่อนคือฝ่ายนั้นปะ” พี่ไก่ตะโกนขึ้น สถานการณ์เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ “คือไรอะ มาทำตัวเป็นนางเอก มึงนั่นแหละตัวร้าย!”

“ทำไมอะ พวกมึงอยากมีเรื่องเหรอ”

“ก็เอาดิ! คิดว่าไม่กล้าเหรอคะ! นี่ไม่อยากตบชะนีนะ แต่คันตีนตั้งแต่ที่มึงว่าน้องกูก่อนละ” พี่นนท์นี่ลุกขึ้นยืนทันที

“ประสาทปะ กูไม่ได้ด่ามึงสักหน่อย มาร้อนตัวแทนทำไม”

“เออ ที่พูดๆ มาเนี่ย เดวาเพื่อนมึงก็ยังนั่งอยู่เฉยๆ นะ มึงนั่นแหละที่เดือดร้อนแทนเพื่อน อีประสาท!”

“อีเหี้ย!!”

“มึงหยุดเถอะ! พอเถอะนะ”

ผมยืนนิ่ง มองเพื่อนเดวากับแก็งโรซารี่ที่เริ่มจะตีกันจริงๆ ทว่ายังไม่ได้ทันได้ลงมือทุกอย่างก็ต้องชะงักลง เพราะเสียงของใครสักคนในโรงอาหารดังขึ้นก่อน

“เฮ้ย! พี่ฮิมมาว่ะ”

ผมหันหน้าไปมองแล้วเม้มปาก

พี่ฮิม… กำลังเดินมาทางนี้ นัยน์ตาคมคล้ายแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นผมยืนอยู่ตรงหน้าเดวาที่กำลังนั่งอยู่ ดูจากมุมนั้นมันเลยเหมือนว่าผมกำลังรังแกเดวาอยู่

ขายาวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะ เขายืนข้างๆ ผม ใกล้ในระดับที่ว่าน้ำหอมกลิ่นเดิมของอีกฝ่ายลอยมาเข้าจมูก นัยน์ตาคมกริบไล่มองเพื่อนเดวา แก็งโรซารี่ เดวาแล้วหันมามองผมเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะหลุบตาลง พี่ฮิมชะงักเมื่อเห็นนาฬิกาที่เขาให้ผม ครึ่งหนึ่งของมันจมอยู่ในถ้วยก๋วยเตี๋ยว

เหมือนบรรยากาศเย็นยะเยือกลง

ไม่มีใครฟ้องอะไร ภาพตรงหน้ามันชี้ทุกอย่าง แต่มันก็ยังไม่ชัดเจนพอที่จะชี้ได้ว่าฝ่ายไหนถูกและฝ่ายไหนที่ผิด ถึงอย่างนั้น…

“อย่ายุ่งกับเล” เสียงทุ้มว่า และคล้ายมีใครเอาเตาผิงมาใกล้ผม ท่ามกลางความตึงเครียด ประโยคนี้ทำให้รู้สึกอุ่นวาบไปทั้งกายและใจ

ร่างสูงหันหลังกลับ พี่ฮิมไม่พูดอะไรต่อ ขายาวเดินออกไปทันที

“อ๊ะ! รอด้วยครับ” เดวาพูดขึ้นก่อนจะลุกแล้ววิ่งตาม จังหวะนั้นพวกเพื่อนของเดวาจึงพากันสลายตัวไปด้วย ส่วนผมได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างของคนตัวสูงกับอีกหนึ่งร่างบางที่วิ่งตามพี่ฮิมออกไป จนกระทั่งพี่เชอร์รี่เรียกผมให้กลับไปนั่งอีกครั้ง

“น้องเลลล”

“เมื่อกี้นี้”

“เริ่ดเว่อร์” ทั้งสามพูดพร้อมกัน ทุกคนยกนิ้วโป้งให้ด้วย ส่วนอินที่พึ่งจะมีบทบาทก็หน้าบูดเข้ามานั่งข้างผมอีกครั้งหนึ่ง

“งี่เง่า” ผมทำตาโต มองอีกฝ่าย “ไม่ได้ด่าเล”

แล้วไป

“ฉากน้องเลปล่อยนาฬิกา พี่ใจหายวาบเลยลูก รู้หรอกนะว่าหนูรวย แต่มันก็ตั้งหนึ่งล้านนะ!”

ผมเอามือเท้าค้าง แล้วหันไปมองนาฬิกาเรือนละล้านกว่าที่ยังจมอยู่ในถ้วยก๋วยเตี๋ยว “เลว่ามันกันน้ำนะ”

“กรี๊ดด เดี๋ยวพี่จะเอาไปล้างให้” พี่ไก่ว่า ก่อนจะรีบหยิบนาฬิกาผมแล้ววิ่งไปซื้อน้ำเปล่า

“เดวาพี่ก็เคยชอบนะ แต่เห็นแบบนี้ กะเทยขอบายค่ะ” พี่นนท์นี่ส่ายหัวพร้อมกับโบกมือไปมา

“เลไม่ค่อยมีอะไรกับเขานะ ที่มีก็น่าจะเป็นกับเพื่อนเขามากกว่า” ผมไม่ชอบเขาน่ะใช่ แต่ไม่ถึงขั้นเกลียดหรอก เมื่อกี้ก็เห็นว่าตัวเดวาเองก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร เป็นกลุ่มเพื่อนมากกว่าที่เป็นฝ่ายออกหน้าให้ เจ้าตัวขอร้องให้เพื่อนหยุดด้วยซ้ำ บางที… เขาอาจจะดีกว่าผมก็ได้

“น้องเล อย่าทำหน้าหงอแบบนั้นสิค่ะ ไม่สวยเลย ไม่ๆ! ก็ยังสวยอยู่ แต่สวยลดลงนิดนึง”

“ลูกขา พี่ว่าระวังตัวเอาไว้หน่อยก็ดี ถึงวันนี้นางจะดูคนดี๊คนดีแต่มีเพื่อนเป็นแบบนี้…”

“น้องเลอาจจะไม่รู้ แต่ประโยคที่ว่าคนประเภทเดียวกันน่ะถึงจะคบกันได้มันจริงสุดๆ ไปเลยนะ”

“แล้วพวกเงียบๆ เนี่ย ถ้าแค้นแล้วแค้นแรงมาก”

ผมพยักหน้ารับ ไม่ได้ตอบอะไร เหนื่อยเกินกว่าจะตอบแล้ว

วันนี้รู้สึกเหมือนได้ใช้พลังไปเย๊อะเยอะ

อยากนอน



(100%)

มีคนบอกน้องยังไม่โต เนี่ยยย เลเริ่มโตแล้วนะ แค่ยังอ่อนไหวกับเรื่องของพี่ฮิมเท่านั้นเอง
แล้วตอนหน้าเนี่ยจะมีพาร์ทของพี่ฮิม แบบที่พี่ฮิมคิด ใครอยากอ่านความคิดของพี่ฮิมก็จะได้อ่านแล้วจ้า (น้ามตาจะไหล ;w;)

สปอยตอนหน้า
ไม่เคยมองเลเป็นลูก
แต่ในฐานะคนที่เลี้ยงเลมา ยังไงก็อยากเห็นน้องประสบความสำเร็จ
มีเพื่อนที่ดี มีชีวิตที่ดี
ยกเว้นเจอคนที่ดี... กว่าผม — ฮิม


ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอกันนะคะที่รักกก)
twitter ; @_mdreds

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 10-01-2018 23:29:08
เก่งมากค่ะลูกกกกกกกกกก

ฮือออออในที่สุดหนูก็ชนะ เหมือนไม่ได้ทำอะไรเลย

ปล.ขัดใจพี่ฮิมจังเลย พี่ฮิมจัดการอะไรสักอย่างกับเดวาก่อนได้ปะ
สักวันคนที่พี่ฮิมรักจะต้องมาเจ็บตัวเพราะเดวาแน่ เตือนเฉยๆ

สู้ๆค่าาา

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 10-01-2018 23:29:30
  :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: nutipkra ที่ 10-01-2018 23:36:50
 :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-01-2018 23:50:17
อีพี่ฮิมโผล่หัวมาทำไมฟ่ะ อ่านแล้วมันน่า........  :angry2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-01-2018 00:12:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 11-01-2018 00:20:47
อยากให้ถึงตอนพี่ฮิมเร็วๆ ไม่ไหวอะ อ่านแล้วหายใจไม่ออก อึดอัดแทน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 11-01-2018 00:50:03
น้องเลลลลลลลมาให้คุณแม่กอดทีเยี่ยมมากค่ะลูกอย่ายอมพวกมันค่ะจัดไปเต็มสตรีมเลยคร้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 11-01-2018 07:16:23
 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 11-01-2018 08:36:50
น้องเลสู้ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 11-01-2018 11:22:53
มาซะที พาสพี่ฮิม รีบๆมาอธิบายตัวเองเลยนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 11-01-2018 11:49:22
โอ้โหหหหห ฉากที่น้องเลปะทะกับเหล่าเดอะแก๊งค์เดวา ทำให้เรานึกถึงเรื่องเมียหลวง ตอนพี่ป๊อกตอกกลับพี่อั้มมากเลย
ปะทะแบบนิ่งๆ เย็นๆ แต่ราชินีมาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 11-01-2018 14:10:24
รอชมความฝั่งพี่ฮิมค่ะ  จะจัดการยังไงไหนว่ามา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-01-2018 19:14:09
เล มีรุ่นพี่ น่ารัก  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 11-01-2018 20:11:48
น้องเลเก่งมาก ต้องเชิดเข้าไว้อย่าไปยอม เราสวยกว่าอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 11-01-2018 21:11:47
ค้างๆคาๆ

พี่ฮิมเมื่อไหร่จะดีกะน้อง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 11-01-2018 22:09:51
มันจบตั้งแต่เลเซ็นต์สัญญาแล้วงะ
แต่ก็เชียร์เลฮิมเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือ ขอคู่ให้วินสักคน
ชอบวินมากกกกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: bearjunjun ที่ 12-01-2018 00:44:56
ยิ่งกว่าถ้วยก๋วยเตี๋ยวสาดใส่หน้าาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 13-01-2018 11:28:49
ขอบคุณ นาฬิกา กันน้ำได้  :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 100118#27 (100%) p.38
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 13-01-2018 23:07:37


#28 (30%)



“ย้ำอีกทีอีกสองวัน เราจะไปค่ายวัน 3 วัน 2 คืนนะครับน้อง วันมะรืนเจอกันที่หน้าตึกนี้ เวลา 7 โมงตรง อย่าสายจะดีมาก! มาถึงแล้วต้องมาเช็คชื่อกับพี่ๆ ก่อนถึงจะขึ้นรถได้ น้องคนนี้ที่ติดธุระ ไปไม่ได้จริงๆ ให้มาคุยกับพี่หลังจากเสร็จการประชุมนี้ แต่ถ้าไม่ได้ไปยังไงน้องก็ต้องได้ซ่อมนะครับ ยกเว้นกรณีที่น้องต้องเข้าโรงพยาบาลถึงจะไม่ได้ซ่อม ใครมีคำถามยกมือขึ้นได้ครับ”

“...” จะหลับแล้ว

“ไม่มีนะครับ งั้นแยกย้ายได้ครับ”

ในที่สุด! ผมลุกขึ้นยืนก่อนใครเพื่อน ก่อนจะรีบดึงอินให้ลุกขึ้นตามไวๆ แล้วเดินไปที่หน้าตึก “อิน เลง่วง เลง่วงมากๆ เลย”

“รีบกลับคอนโด”

“เลต้องไปนอนก่อน ไม่งั้นได้หลับในแน่เลย”

“เว่อร์” อินว่า “แต่ทำไงดี เราไปส่งเลไม่ได้ด้วย มีงานต่อ”

“งานๆๆ จะทำงานอะไรนักหนาเนี่ย” ผมบ่น “ไหนบอกว่าชอบเลไง แค่นี้ก็ไม่ส่งไม่ได้”

ผลัก!

“โอ๊ย! ผลักหัวเลทำไม”

“ถ้าไม่คิดจะจริงจังก็อย่ามาให้ความหวัง” อินถอนหายใจ เขาว่าผมไปงั้นแหละ เพราะสุดท้ายแล้วอินก็หาทางออกให้ผม “เดี๋ยวเราโทรบอกเพื่อนให้มารับเล เอาไหม”

“ฮืออ เพื่อนคนไหนอะ ไม่เอานะ”

“อ้าว งั้นก็ไม่มีใครไปส่งแล้ว”

ผมเบ้ปาก “เดี๋ยวเลขับกลับคอนโดเองก็ได้”

“แน่ใจนะ” อินทำหน้ากังวลนิดหน่อย “เลดูง่วงมาก”

“อือๆ ไหวอยู่หรอก” หวังว่าจะเป็นอย่างนั้้นนะ

ผมแยกกับอิน แล้วเดินไปที่รถด้วยสภาพง่วงๆ ประตูรถเปิดออก ผมก้าวเข้าไปนั่งด้านใน ก่อนจะสะบัดหน้าไล่ความง่วงออกไป ให้ตาย ทำไมถึงได้ง่วงขนาดนี้

หวังว่าจะขับรอดไปถึงคอนโดนะ



ปี๊ดดดดดดดด!

เอี๊ยด!

ปัง!

เฮือก!


ผมสะดุ้งแล้วลืมตาขึ้น ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด สิ่งที่สัมผัสได้มีแต่แอร์เย็นๆ และห้องมืดที่มีแสงรำไรจากด้านนอกสาดส่องเข้ามา

นี่ฝันเหรอ?

ผมบิดขี้เกียจ ก่อนจะลุกออกจากเตียง แต่พอออกจากห้องแล้วถึงกับต้องชะงัก เพราะสายตาบังเอิญหันไปเจอนาฬิกาแล้วพบว่านี่มันหกโมง… เช้า

“...”

OMG!

จะหลับยาวอะไรขนาดนั้น!

ถึงจะฝันว่ารถชนก็เถอะ แต่เมื่อวานผมก็คุ้นๆ ว่าขับรถมาถึงคอนโด จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนแล้วหลับเลย นึกไม่ถึงว่าจะหลับไม่ตื่นนานจนถึงวันใหม่ แล้วตอนนี้ตัวผมก็ยังใส่ชุดนักศึกษาตัวเมื่อวานอยู่เลย

ทำไมเลเป็นคนแบบนี้ล่ะ

ผมเบ้ปาก แล้วรีบไปอาบน้ำกำจัดความซกมก กระทั่งกลายร่างออกมาจากห้องด้วยสภาพหอมฟุ้งแทน ผมเดินไปที่ห้องครัว จัดการทำอาหารง่ายๆ เป็นอาหารเช้า ทำเสร็จอินก็เดินออกมาจากห้องด้วยสภาพพร้อมไปเรียน เขาหรี่ตามองเหมือนประหลาดใจ

“วันนี้ไม่ปลุกติวอะ” ผมทัก เพื่อพยุงการเรียนของผมก่อนที่มันจะตกต่ำไปมากกว่านี้ ปกติแล้วอินจะปลุกผมลุกขึ้นมาติวทุกเช้า แต่วันนี้ไม่

“เข้าไปแล้ว แต่เห็นใส่ชุดเดิมนอนทั้งอย่างนั้นเลยคิดว่าเลคงจะเหนื่อยมาก ก็เลยไม่ปลุก”

“เราง่วง” ผมวางไข่กระทะที่ทำเสร็จมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว ก่อนจะกวักมือเรียกอิน “มากินเร็ว”

ร่างบางเดินมานั่งที่เก้าอี้ อินพูดกับผมขณะราดซอสลงบนไข่กระทะ “เลดูเหนื่อยๆ นะ”

“เหนื่อยทุกวันนั้นแหละ”

อินไม่ได้ว่าอะไรต่อ เรารีบกินข้าวก่อนจะขับรถคนละคันออกไปเรียน เรื่องแปลกเรื่องที่หนึ่งคือวันนี้ผมเรียนพอรู้เรื่องกับเขาบ้าง เรื่องแปลกเรื่องที่สองคือวันนี้สามสหายนั้นไม่ได้มาเรียน ผมเก็บความสงสัยเอาไว้คิดว่าเจอกันเมื่อไหร่ค่อยถาม เพราะพรุ่งนี้ยังไงเราก็จะได้ไปค่ายด้วยกันอยู่แล้ว

เรียนเสร็จ อินขอตัวไปทำงาน ส่วนผมไปหาอะไรทำกับพี่กรีนเนื่องจากถูกอีกฝ่ายชวน ผลสรุปของเราคือเกมเซ็นเตอร์ เล่นจนเหนื่อยแล้วพี่กรีนถึงพาผมมานั่งกินไอติม

“แฟนพี่กรีนไม่ว่างเหรอ ถึงได้มาชวนเลเนี่ย” ผมแซว

“แหม แฟนพี่มันก็ไม่ว่างตลอดนั่นแหละครับ คนอื่นเขาถึงคิดว่าพี่ไม่มีแฟนไง เห็นมันบอกว่าวันนี้มีงานใหญ่ที่คลับพี่ฮิม”

“อ๋อ” ผมครางรับไม่ได้ถามอะไรต่อ จนกระทั่ง...

“น้องเลดูเหนื่อยๆ นะ” เสียงทุ้มทัก ช่างคลายกับประโยคที่อินพูดกับผมในตอนเช้าจนนึกสงสัย

“เลแปลกไปเหรอ”

“น้องเลไม่ได้แปลก แค่ดูเพลียๆ”

ผมรับไอศกรีมรสสตอเบอร์รี่เข้าปาก “ก็ดูแต่ละเรื่องที่เข้ามาในชีวิตเลสิ”

“อ่า ฮ่าๆ นั่นสินะ เมื่อวานคนอื่นเขาพูดกันสนั่นเลยว่าน้องเลมีเรื่องกับเดวานิเทศ”

“เขาพูดกันต่อไหมว่าเพราะอะไร”

“เหมือนเขาจะพูดกันว่าเพราะเลหวงพี่ฮิม”

“...”

“ก็แต่ก่อนตัวติดกันตลอด แต่ช่วงนี้ดันไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย คนอื่นเขาเลยสงสัยว่าพี่น้องมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”   

“อ่า” ผมพยักหน้ารับ ส่วนใหญ่คนอื่นยังคิดว่าผมกับพี่ฮิมเป็นพี่น้องกัน มีแค่ไม่กี่คนที่รู้ว่ามันไม่ใช่ อย่างช่วงที่เคยคบกัน เราไม่ได้ป่าวประกาศ แต่ผมว่าช่วงนั้นแก็งโรซารี่เริ่มรู้แล้วว่าผมกับพี่ฮิมไม่ใช่พี่น้องกัน เราอยู่ด้วยกันนานเกินกว่าที่คนเป็นแฟนกันควรจะเป็น และความสัมพันธ์ของเรามันมีหลายสถานะ แต่ไม่รู้ว่ามันมาสิ้นสุดอยู่ที่สถานะ ‘ห้ามรู้จักกัน’ ได้ยังไง

ผมเรียกแบบนั้น เพราะในใบสัญญามันระบุว่าเราจะตัดขาดต่อกันถาวร ผมแปลได้ว่ามันคือการห้ามรู้จักกันในทุกสถานะ

“น้องเล” พี่กรีนเรียกอีกฝ่ายเขย่าตัวผมแรงๆ “ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ได้”

“...”

“พี่ไม่ชอบให้น้องเลเหม่อเลย”

“เลบังคับตัวเองไม่ได้” ผมถอนหายใจ “เลอยู่นิ่งเลก็เหม่อ อยู่ไม่นิ่งเลก็เหนื่อยนี่”

“ผ่อนคลายหน่อยไหม”

“ยังไงครับ” ผมเท้าคางมองด้วยความสงสัย

“วันนี้มีงาน” พี่กรีนว่า “งานใหญ่ด้วย งานวันเกิดไอ้ซี เพื่อนเรียนบริหารของพี่เอง ไม่รู้ว่าน้องเลจะรู้จักหรือเปล่า”

“อืม ไม่แน่ใจแฮะ”

“มันจัดงานเลี้ยงวันเกิด สถานที่พี่ยังไม่แน่ใจ แต่งานน่ะใหญ่แน่ เพราะบ้านมันรวย” ผมมองหน้าพี่กรีน “ถ้าน้องเลอยากไปเดี๋ยวพี่จะไปรับที่คอนโดน้องอิน”

“เลไปได้เหรอ”

“พี่ว่าไอ้ซีมันยิ่งกว่าเต็มใจเลยล่ะ” พี่กรีนหัวเราะก่อนจะโน้มใบหน้ามากระซิบที่ข้างหูผม “มันชอบน้องเล”

ผมกระตุกยิ้มที่มุมปากแล้วลองถามดู “รวยแค่ไหนเหรอครับ”

“พูดแบบนี้แสดงว่าสนใจใช่ไหมเนี่ย”

“ไม่รู้สิ”

“ไม่เท่าไหร่ แค่ลูกเจ้าของสายการบิน”



20.49 น.

สุดท้ายไปจนได้

“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจ หันซ้ายหันขวาแล้วมองตัวเองในกระจก

ผมอยู่ในชุดเสื้อสีดำตัวใหญ่ ผ้าลื่น ข้างหนึ่งปาดไหล่ลงมานิดหน่อยจนเผยให้เห็นไหล่ขาวๆ ของผม กางเกงเป็นกางเกงขายาวสีดำตามปกติ ไม่ได้รัดอะไรมาก ผมใส่โชคเกอร์สีดำตรงคอ มันมีกระดิ่งห้อยเอาไว้ด้วย ตอนเดินเลยได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งเล็กน้อย มีกำไลข้อมือสีเงินและต่างหูรูปกากบาทเป็นพร็อพเสริมอีกนิดหน่อย ทรงผมไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากติดกิ๊ฟที่เป็นรูปเครื่องหมายกากบาทเข้ากันกับต่างหู

“โอเคไหมเนี่ย” ผมพูดกับตัวเอง ยิ่งถูกพี่กรีนขอร้องว่าขอให้แต่งตัวดูดีอยู่ด้วย คือตอนที่ผมบอกว่าจะไปด้วย เราสองคนก็เลยไปซื้อของขวัญกัน ผมเลือกเข็มขัดแบรนด์ดังเป็นของขวัญ แต่พี่กรีนไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรให้เพื่อนตัวเอง สุดท้ายเจ้าตัวก็เลยหันมามองผมแล้วขอร้องให้ผมเป็นของขวัญที่พี่กรีนจะให้เพื่อนแทน

หยุด! ของขวัญที่ว่าไม่ใช่การที่ผมถูกส่งไปเป็นคู่นอนหรืออะไรแบบนั้นหรอกนะ ไหนๆ ผมก็จะไปอยู่แล้ว พี่กรีนเลยขอให้ผมแต่งตัวให้ดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เจ้าตัวบอกว่าอย่างให้พี่ซีตะลึงตอนเห็นผม เพราะพี่เขายังไม่รู้ว่าผมจะไปงานวันเกิดเขา ส่วนของขวัญของพี่กรีนก็คือการที่อีกฝ่ายพาผมไปงานวันเกิดพี่ซีได้นั่นแหละ

“โอเคแล้วแหละ” ผมพูดให้กำลังใจตัวเองเป็นจังหวะเดียวกันที่โทรศัพท์สั่น พี่กรีนไลน์มาบอกว่าจอดอยู่หน้าคอนโดแล้ว ผมรีบเก็บโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ กล่องของขวัญพี่ซีหรือพวกของจำเป็นใส่ในกระเป๋า ก่อนจะเขียนโพสอิสบอกอินว่าจะไปงานวันเกิดพี่ซีกับพี่กรีน อันที่จริงผมไลน์ไปบอกอินแล้วล่ะว่าจะไป เจ้าตัวบ่นนิดหน่อยเพราะพรุ่งนี้เราจะต้องไปค่ายกันแต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร ส่วนเรื่องค่าย ผมจัดกระเป๋าเอาไว้เรียบร้อย แล้วก็พยายามย้ำกับตัวเองด้วยว่าวันนี้อย่าดื่มเยอะ

ผมสะพายกระเป๋า ปิดห้องแล้วลงลิฟต์มาขึ้นรถที่หน้าคอนโด พี่กรีนชะงักตอนเห็นผม นัยน์ตาคมไล่มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะนิ่งไป ผมเสียความมั่นใจนิดหน่อย

“มันไม่โอเคเหรอ” หรือผมแต่งน้อยเกินไป ?

“อ่า ไม่ๆ น้องเล” พี่กรีนนิ่งค้างไปอีกครั้ง “ให้ตาย! ขนาดพี่เองก็เป็นรับนะแต่…”

“หือ” ผมเอียงคอมอง พี่กรีนพูดอะไรเลไม่เข้าใจ

“พี่ว่าวันนี้เลอย่าอยู่ห่างพี่จะดีกว่านะ”

“โอเคๆ” ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นรอ แต่ไม่ถึง 20 นาทีเท่านั้น รถก็จอดสนิท

“ถึงแล้วครับ” พี่กรีนว่า ผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วลงจากรถ พอเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นสถานที่แล้วถึงกับต้องสบถในใจ

เวร

ทำไมผมถึงไม่รู้จักการเชื่อมโยงบ้างเลยนะ สามสหายที่ไม่มาเรียน แฟนพี่กรีนที่บอกว่าวันนี้มีงานใหญ่ และงานฉลองวันเกิดของพี่ซีที่ต้องจัดใหญ่แน่ๆ เพราะเป็นถึงลูกเจ้าของสายการบิน สามอย่างนี้ถ้าเอามารวมกันแล้วสามารถบอกสถานที่อย่างเด่นชัดได้เลยทีเดียว

คลับพี่ฮิม

คลับแรกที่ผมได้เข้าและยังเป็นคลับแรกที่ผมคิดว่าจะไม่เข้าไปอีก

“น้องเล ทำไมนิ่งไปเป็นอะไรหรือเปล่า” พี่กรีนถาม “พี่ก็พึ่งมารู้มามันจัดที่คลับของพี่ฮิม ถ้าน้องเลไม่โอเค ไม่ต้องเข้าก็ได้นะ ถ้าอยากกลับเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

กับพี่กรีน ถึงเราจะสนิทกันในระดับนึง แต่อีกฝ่ายคงจะยังไม่รู้เรื่องราวระหว่างผมกับพี่ฮิมมากนัก ถ้ารู้ ผมมั่นใจว่าร่างสูงจะไม่พาผมมาแน่ๆ

ผมไม่ได้โกรธพี่กรีน

“ไม่เป็นไรครับ มาแล้วก็เข้าไปเถอะ” ผมว่า

ในสัญญามันบอกว่าให้ผมตัดขาดจากพี่ฮิม แต่มันไม่ได้บอกซะหน่อยว่าผมจะเข้าคลับของเขาไม่ได้

พี่กรีนจูงมือผมเดินเข้าไปด้านใน แต่ก่อนจะเข้าพี่กรีนโดนตรวจบัตร ทว่าผมไม่ พนักงานตรวจบัตรก่อนเข้าคลับยังเป็นคนเดิม เขาดูแปลกใจที่เห็นผม ร่างสุงในชุดสูทสีดำยังคงโค้งให้ผมเหมือนครั้งก่อน แต่ว่าคราวนี้หลังจากโค้งปุ๊บเจ้าตัวก็หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาพูดปั๊บ นั่นทำให้ผมแปลกใจเล็กน้อย

พี่กรีนพาผมเดินเข้ามาด้านใน เพลงมันส์ถูกเปิดดังลั่นคลับ สิ่งแรกที่ผมทำคือมองไปรอบตัวแล้วภาวนา

หวังว่าวันนี้ผมจะผ่อนคลาย ไม่ใช่เครียดหนักกว่าเดิม





(30%)

น้องเลเริ่มปลงจริงๆ แล้ว ระดับลูกเจ้าของสายการบินนี่ก็ไม่ธรรมดาน้าาาาา

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ไม่ใช่สระเอสองตัวนะ)

twitter ; @_mdreds

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 13-01-2018 23:51:34
เลสู้ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-01-2018 23:55:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-01-2018 00:02:25
อยากอ่านต่อ รอลุ้นไปกับเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-01-2018 00:12:33
ชักเป็นห่วงสุขภาพเลแล้วละ น้องจะเป็นโรคอะไรหรือเปล่านะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 14-01-2018 00:24:58
อยากอ่านต่อมากมายมาต่อเร็วนะคะเป็นกำลังใจให้น้องเลและคนเขียนสู้ๆนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 14-01-2018 03:06:34
จัดให้เต็มที่นะคะน้องเลคุณแม่เอาใจช่วย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 14-01-2018 07:21:11
เมื่อไหร่จะเปิดอกคุยกัน  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-01-2018 08:09:55
รอๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 14-01-2018 08:12:10
น้องเลยังอาการแบบนี้  แล้วพี่ฮิมจะขนาดไหน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 14-01-2018 08:44:19
เชียร์พี่ซีนี่ได้มั้ย ไม่พี่วินก็พี่ซีเถอะ แต่เกลียดพี่ฮิมละ ยังใช่พระเอกอยู่ป่ะ
ขอให้น้องเลมีความสุขซะที สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 14-01-2018 09:13:09
ไม่เท่าไหร่เลย แค่ล๊กชายเจ้าของสายการบิน
ขุ่นพระ!!! / เอามือทาบอกตาถลน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 14-01-2018 17:16:49
สุดดยอด นี่รออยู่นะเนี้ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 14-01-2018 17:52:14
ลูกเจ้าของสายการบิน อิย่ะ ขอให้เป็นคนดี รักน้องเลจริงๆ เต๊อะ เลจะได้เลิกเศร้าซะที  :laugh:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-01-2018 18:24:08
หูยยยยยย.......  :laugh:
นี่ขนาดพี่กรีนเป้นรับ นะเนี่ย
พอเห็นเล ยังออกอาการตะลึง  o18
แสดงว่าเล น่ารัก สวยโคตรๆ
แล้วซี กับคนในคลับ รวมทั้งพี่ฮิมจะไม่ออกอการกันรึ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 14-01-2018 20:56:32
น้องเลสู้ๆ เราสวยอยู่แล้วต้องสตรองไว้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 14-01-2018 22:42:16
มาต่อที่เหลืออีกเปล่า กำลังมันเลย รออออออ :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 19-01-2018 21:54:41
สงสารเลอยากให้เลหนีหายไม่ก็แล้งทำว่าคบคนอื่นประชดไปเลยมาง้อก็ง้อยาก ๆ เอาให้พี่มันเจ็บที่สุดไปเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 130118#27 (30%) p.39
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 21-01-2018 14:56:29
ตอนที่ 28 (100%)






“น้องเลอย่างสวยเลยว่ะ”
“ทำไมน่ารักจังวะ”
“ผิวแม่ง…”
“หุ่นโคตรล่อ”


ผมพยายามเมินเสียงที่ได้ยินแล้วรีบเดินตามพี่กรีนขึ้นชั้นสอง ก่อนจะพบว่ามีโซนๆ หนึ่งถูกจัดเป็นโซนวันเกิดโดยเฉพาะ คนเยอะพอสมควร พอเห็นร่างสูงที่ดูมีท่าทีคุ้นๆ ว่าจะเป็นเจ้าภาพกำลังชนแก้วกับคนอื่นอยู่ ผมเลยเปิดกระเป๋าสะพายแล้วหยิบกล่องของขวัญของพี่ซีออกมา แต่ในจังหวะนั้นเองจู่ๆ คนกลุ่มหนึ่งก็เดินผ่านพวกเรา ตัวผมโดนเบียดไปมาจนเผลอทำของขวัญที่จะให้พี่ซีหลุดมือ

มันไปตกอยู่หน้าโต๊ะๆ หนึ่ง ผมถอนหายใจ สะกิดบอกพี่กรีนให้รอหน่อยแล้วเดินไปเก็บกล่องของขวัญชิ้นนั้นขึ้นมา แสงไฟในคลับไม่ได้สว่าง มันออกจะมืดทำให้ผมต้องเพ่งสายตามองไปที่กล่องของขวัญ แต่เพราะมัวแต่เพ่งสายตามากเกินไป ทำให้ผมลืมมองผู้คนและวัตถุรอบกายไปเสียสนิท

กระทั่งเก็บของขวัญขึ้นจากพื้นสำเร็จ ผมถึงได้สังเกตว่าโต๊ะที่กล่องของขวัญมาตกอยู่นี่มัน…

“เล”

เป็นโต๊ะของพี่ๆ ในบ้านผมเอง

ผมหันไปสบตากับพี่ๆ ทีละคน จนกระทั่งพี่ฮิมเป็นคนสุดท้ายเพราะเจ้าตัวนั่งอยู่ขอบสุด ร่างสูงกำลังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มพร้อมกับเงยหน้ามองผมนิ่งๆ ใบหน้าหล่อเหลาไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ ผมก็เหมือนกัน ภายนอกผมดูนิ่งไม่รู้สึกอะไร แต่ภายในแทบจะทนไม่ไหว

หัวใจเต้นแรงจนคล้ายว่ามันจะระเบิดออกมา

ผมหมุนตัวเดินกลับไปหาพี่กรีนที่ยืนรออยู่ ก่อนพี่กรีนจะพาผมเดินเข้าไปหาพี่ซี เจ้าของงานวันเกิดที่แสดงสีหน้าอึ้งตอนที่เห็นผมเดินเข้าไปหา แล้วหลังจากนั้นความสนใจของผมเลยตกไปอยู่กับพี่ซีจนหมด

จนไม่รู้เลยว่า… มีนัยน์ตาคมมองตามหลังผมอยู่ไม่ขาด



“น้องเลดื่มอะไรดีครับ” ผมถูกจัดให้นั่งข้างพี่ซี ส่วนพี่กรีนก็นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “สนเหล้าหรือไวท์ไหมครับ”

ผมยิ้ม “ขอไม่เยอะแล้วกัน พรุ่งนี้เลต้องไปค่าย”

พี่ซียิ้ม จากนั้นก็หันไปบอกคนชง ไม่นานนักแก้วใส่แอลกอฮอล์ก็ถูกเสิร์ฟมาให้ผม

“พี่ดีใจที่น้องเลมา แล้วก็ขอบคุณสำหรับของขวัญนะครับ”

“พี่กรีนชวนเลมา” ผมตอบตามความจริง “ของขวัญพี่กรีนก็ช่วยเลือก ไม่รู้จะถูกใจพี่ซีไหม”

“น้องเลให้อะไรพี่ก็ชอบทั้งนั้นแหละ”

“เหรอ” ผมใช้มือยันศีรษะ ขณะสบตากับอีกฝ่ายตรงๆ ผมกำลังพิจารณาอีกฝ่าย

พี่ซีมีโครงหน้าคมเป็นทุนเดิม ดวงตาคมเฉี่ยว โดยรวมแล้วถือเป็นคนที่หน้าตาดีจัดคนหนึ่ง ท่าทางก็ดี ฐานะทางบ้านก็ดี

ผมลอบยิ้ม พี่ซีนิ่งไปเมื่อเห็นผมมองอีกฝ่ายแบบนี้ เจ้าตัวยกมือเกาศีรษะก่อนจะเป็นฝ่ายหลบสายตาไปก่อน

“อย่ามองพี่แบบนั้นสิครับ” ไม่มองก็ไม่มอง ผมหันหน้าหาพี่กรีนพี่เดิม รุ่นพี่คนสนิทของผมกำลังคุยอยู่กับเพื่อนฝูงอยู่ “โคตรน่ารักเลย”

“หือ พี่ซีว่าอะไรนะ”

“เปล่าครับ” เสียงทุ้มปฏิเสธ “เดี๋ยวต่อจากนี้จะมีเกมให้เล่น น้องเลอยากเล่นด้วยไหม”

“เกมอะไร”

“อืม ดื่มเอาเงินน่ะครับ” ให้ตาย เล่นเกมสมกับเป็นลูกเจ้าของสายการบินจริงๆ

ผมส่ายหน้า “งั้นไม่ดีกว่า เลบอกแล้วว่าพรุ่งนี้เลมีค่าย”

“เสียดายจัง” พี่ซีพูด เขาไม่ได้คะยั้นคะยอให้ผมเล่นให้ได้ เราคุยกันอีกนิดหน่อย ก่อนที่ผมจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

“น้องเลให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม” พี่กรีนวางแก้วเหล้าในมือ เตรียมตัวจะลุกขึ้นแต่ดันถูกเพื่อนข้างๆ ฉุดให้นั่งลงอย่างเดิม “ทำเหี้ยไรของมึง”

“มึงจะไปทำไมวะ ไอ้ซี! เลเป็นแขกมึงนะ มึงก็พาก็น้องไปดิ”
“เออ เป็นเจ้าภาพก็ดูแลแขกหน่อยสิวะ”
“ไปๆ มึงพาน้องเลไปเลย”

“ไอ้พวกเหี้ย!” พี่ซีด่าเพื่อนแต่ท้ายที่สุดเขาก็ยืนขึ้นก่อนจะหันหน้ามาพูดกับผม “เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อนนะครับ”

“ตามใจครับ” ผมว่า ก่อนจะเดินนำหน้าพี่ซีและเหมือนลูบเดิมจะวนกลับมา คนแน่นจนผมต้องเบียดกับคนอื่นเพื่อเดินออกไป แต่แล้ว จู่ๆ ร่างสูงที่เดินตามหลังก็เดินขึ้นมาขนาบข้าง แขนแกร่งเข้ามาโอบเอวเอาไว้จนผมสะดุ้ง พี่ซีดึงผมเข้ามาใกล้ ก่อนจะได้รู้เหตุผลว่าที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อใช้ร่างกายที่ใหญ่และสูงกว่า กันคนอื่นทำให้ผมไม่ต้องโดนเบียด จนกระทั่งพ้นเขตคนแน่นขนัดผมจึงถอนหายใจ แล้วหันมาพูดกับร่างสูง

“ซี ขอบคุณนะ” ผมเงยหน้าขึ้นบอกขอบคุณ สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มที่มุมปาก กับมือหนาที่ยกขึ้นมาบีบจมูกผมหนึ่งที

ผมยิ้มรับแล้วเป็นฝ่ายจูงมือพี่ซีเดินต่อ ทันใดนั้นเอง

เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!

จู่ๆ ทุกอย่างบนโต๊ะก็ถูกขายาวของใครบางคนที่ผมคุ้นหน้าดีลากแล้วกวาดพวกมันตกพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆ พี่ซีรีบโอบเอวผมเดินถอยหลังทันทีก่อนที่จะโดนพวกเศษแก้วกระเดนเข้ามาบาด ท่ามกลางเสียงร้องของพี่ๆ ร่วมโต๊ะ

“ไอ้เหี้ย!! ทำอะไรของมึง”
“เวร ของเข้าเหรอไอ้สัส”
“มึงเป็นเหี้ยไรอีก”


ผมได้แต่ยืนนิ่ง มองเศษซากของทุกอย่างที่ถูกกวาดลงพื้น มันกลายเป็นสิ่งกีดขวางทำให้ยังไม่สามารถเดินต่อไปได้อย่างกะทันหัน ผมเงยหน้าขึ้นมองคนทำ พี่ฮิม… เขาไม่ได้มองผม นัยน์ตาคมเข้มมองพี่ซีที่ยืนอยู่ด้านหลัง แล้วหลุบสายตามองมือหนาที่ยังคงโอบรอบเอวผมแน่น

พี่ฮิมแสยะยิ้ม

“ตีนมันว่าง แม่งอยากเตะคน”



ฮิมมองมือที่โอบเอวน้องแน่น อารมณ์คุกกรุ่นคลั่งอยู่ในใจ

กล้าดียังไง มึงกล้าดียังไง

เลมองเขานิ่งๆ ก่อนที่น้องจะจูงมือมันเดินข้ามเศษซากทุกอย่างที่ตกอยู่บนพื้นออกไป จนกระทั่งเลลับสายตา มือหนาจึงยกขึ้นเสยผมด้วยอารมณ์หงุดหงิด เศษแก้วทุกอย่างที่ตกอยู่บนพื้นถูกพนักงานวิ่งเข้ามาทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว

“ไปเอามาอีก” ฮิมสั่ง

“ทำตัวปัญญาอ่อน ไอ้เหี้ย” เกียร์ด่าคนตรงหน้า ร่างสูงลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

ฮิมไม่ได้สนใจมัน ร่างสูงรับแก้วเหล้าที่ถูกเสิร์ฟใหม่ขึ้นมาดื่ม เสียงทุ้มถามเด็กเสิร์ฟข้างกาย

“งานใคร” เขาหมายถึงโซนที่ถูกจองเอาไว้

“งานคุณซีครับ แจ้งว่าเลี้ยงวันเกิด”

“ปีไหน คณะไหน มหา’ลัยไหน”

“ปีสอง คณะบริหาร มหา’ลัยเดียวกันกับบอสครับ”

“บ้านมันทำอะไร” ประโยคนี้ไอ้ไทด์ถาม

“เอ่อ… เห็นว่าเป็นลูกเจ้าของสายการบินครับ”

“เหอะ” ฮิมแสยะยิ้ม มือหนายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเพื่อสงบจิตสงบใจอีกครั้งหนึ่ง จังหวะนั้นเองที่นัยน์ตาคมเฉี่ยวบังเอิญหันไปประสานกับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอโบกมือให้ก่อนจะเดินมาหาอย่างรวดเร็ว เจ้าของหุ่นสะโอดสะองนั่งลงข้างกายแกร่ง หน้าอกงามเบียดชิดแขนซ้ายจนร่างสูงต้องมองตาม “ออกไป”

“ใจดีหน่อยสิคะ” คำสั่งไม่เป็นผล ซ้ำแขนเรียวยังถูกยกขึ้นโอบรอบลำคอ ฮิมส่งสายตารำคาญไปให้แต่ไม่เป็นผล สาวเจ้าหน้าด้านหน้าทนอยู่ต่อเสียจนคนที่พึ่งไปห้องน้ำเดินกลับมาทางเดิม

ฮิมสบตากับน้อง สายตาไม่พอใจถูกส่งมาให้ในเวลาถัดมา



ผมใช้เวลาในการเข้าห้องน้ำไม่นาน รู้สึกแปลกๆ ตอนที่ออกมาจากห้องน้ำแล้วบังเอิญเห็นพี่ซัน อดีตที่ว้ากที่เคยสั่งให้ผมวิ่งวนรอบสนามนั่นแหละ พี่แกกำลังยืนสูบบุหรี่เงียบๆ อยู่คนเดียว

แต่พอเดินกลับมายังที่นั่งความรู้สึกแปลกๆ ที่ว่ามันก็กลายเป็นความรู้สึกบางอย่างแทน

ผมรู้สึกแย่

ภาพที่บังเอิญเห็นตรงหน้าทำให้รู้สึกแย่มาก!

ดีจริง ดีจริงๆ เลยพี่ฮิม กลางวันควงเดวา กลางคืนควงใครก็ไม่รู้!

ภาพผู้หญิงที่แทบจะนั่งอยู่บนตักของแฟนเก่าทำให้ผมรู้สึกแย่จนอยากจะอาเจียรออกมา มันแย่มาก

“น้องเลเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมทำหน้าแบบนั้น”

เป็น เลจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วด้วย!

ผมกำมือแน่นแม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไร เพราะความรู้สึกมันยังคงตลบอลอวนอยู่ในอก ถ้าอยากให้หายเดี๋ยวนี้ผมคงต้องแหวกหัวใจของตัวเองออกมา

“น้องเล” พี่ซีเอ่ยเสียงเบา เขาคงรู้สึกได้ว่าผมเปลี่ยนไป “เดี๋ยวเกมจะเริ่มแล้ว น้องเลเล่นเกมไหม เอ๊ะ-- ไม่ได้สิ พรุ่งนี้เลมีค่าย”

“เลจะเล่น” ผมว่า พี่กรีนทำตาโตแล้วพูด

“น้องเลพี่ว่าอย่าดีกว่านะ เหล้าที่ใช้ในเกมก็แรงพอสมควร”

“เลจะเล่น” ย้ำอีกครั้ง พี่กรีนทำหน้าหนักใจ พี่ซีไม่ว่าอะไร ส่วนผมเม้มปากเงียบ แล้วพยายามมองไปทางอื่น โชคร้ายที่ที่นั่งของพี่ฮิมมันอยู่ขอบชิดติดทางเดินเหมือนผม แถมเรายังหันหน้าเข้าหากัน ดังนั้นถึงแม้จะอยู่ไกลผมก็ยังสังเกตเห็นได้ลางๆ

ภาพที่ไม่อยากเห็น

ตอนนี้ ถ้าให้อยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ผมต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ



(Him’s Talk)

1 ชั่วโมงต่อมา

นอนไม่หลับมาหายวันแล้ว

ตั้งแต่ปล่อยน้องไป เหมือนชีวิตพบกับคำว่าความสุขน้อยลงจนแทบติดลบ ตอนเย็นกลับคอนโดก็อยู่คนเดียว นั่งกินข้าวคนเดียว ทำอะไรคนเดียว แต่ที่อ้างว้างที่สุดคือนอนคนเดียว

แม่ง… โคตรไม่ชอบ

ผมไม่ชอบการนอนคนเดียว เพราะตั้งแต่เล็กจนโตก็มีคนนอนด้วยมาตลอด คนที่ตอนเด็กผิวนุ่มยังไงตอนโตก็ยังผิวนุ่มอย่างนั้น คงไม่ต้องให้บอกหรอกนะว่าใครเพราะมีอยู่คนเดียว…

“มึงดื่มมากเกินไป” ไทด์ว่า มันยังคงกอดอกแล้วจ้องหน้าผม ในขณะที่เพื่อนคนอื่นหายหัวกันไปหมดแล้ว “มึงเมาแล้วฮิม”

“เหรอวะ” ผมว่า ไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบรับ แต่ถ้าเมาจริง ทำไมผมยังมีสติพอที่จะรับรู้ได้ว่าเลยังคงนั่งอยู่กับมัน

เล

เล เล เล เล เล เล เล เล

ตอนผมยังเด็ก คุณแม่ของผมเคยบอกว่าชื่อของน้องมันไม่มีความหมาย เลก็คือเล แต่สำหรับผมแล้ว ‘เล’ หมายถึงผู้ให้แสงสว่าง ผู้ให้ความงดงามกับโลกใบนี้ หรือไม่ก็ผู้ที่ทำให้เกือบทุกการกระทำของผมมันมีเหตุผลเพราะว่าแทบทุกอย่างที่ผมทำมันเกี่ยวกับเล

ชีวิตคนอื่นหมุนตามโลก แต่ชีวิตผมหมุนตามเล

ที่มาเรียนที่ไทยเพื่อจะได้เป็นประธานบริษัทของพ่อสาขาประเทศไทยก็เพราะเล

เก็บกดจนต้องสร้างสนามแข่งรถและคลับก็เพราะเล

ความเศร้า ความเหนื่อย ความเครียด ความสุข ความรัก แทบทุกอารมณ์ของผมคนที่มีอิทธิพลต่อมันมากที่สุดก็คือเล แต่ทุกอย่างที่ผมทำ น้องไม่ได้เป็นคนบังคับ ผมเต็มใจทำเองทั้งนั้น

จริงๆ แล้วผมไม่รู้ว่าตัวเองเริ่มต้นชอบเลไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มารู้ตัวว่าคิดกับเลมากกว่าพี่น้องก็ตอนอายุประมาณสิบถึงสิบสองปี สัมผัสเซ็กส์ตอนอายุสิบสามปี หลังจากนั้นในหัวของผมก็คิดแต่เรื่องอกุศลกับเล ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นน้องเองก็พึ่งจะอายุประมาณสิบขวบ

ฮิม… มึงนี่คนบาปจริงๆ

ก็ได้แต่คิด ผมทำอะไรน้องไม่ได้ ทนนานๆ ทับถมความรู้สึกไปเรื่อยๆ มันเลยกลายเป็นว่าเก็บกด

ก็เก็บกดจริงๆ

ในจินตนาการ เลเป็นเมียผมมาแล้วเป็นแสนเป็นล้านครั้ง

แต่ในความเป็นจริง หึ! 3 ครั้ง

ผมหวังจะมีอะไรกับเล แต่ผมก็รักเล

แต่แล้วตอนนี้คนที่ผมรักกำลังนั่งอยู่กับเหี้ยตัวหนึ่ง ทั้งๆ ที่น้องอยู่ห่างจากผมไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตรด้วยซ้ำ

น้องนั่งกับมัน น้องยิ้มให้มัน น้องหน้าแดง น้องดูเซๆ น้อง น้อง… เมาแล้ว

สาเหตุน่าจะมาจากครึ่งชั่วโมงก่อน เหมือนเลเล่นเกมอะไรสักอย่างที่ต้องดื่มแอลกอฮอล์ น้องดื่มไปเยอะมาก ผลก็คือต้องมานั่งหน้าแดง ตัวโงนเงนอยู่ตอนนี้

ผมอยากฆ่าไอ้เหี้ยสักตัวที่พาเลมา

คนดีของผมควรจะนอนตั้งแต่ห้าทุ่ม แต่นี่เที่ยงคืนแล้วยังมานั่งหน้าแดงอยู่ในคลับให้ไอ้เวรหลายคนมองเล่น แล้วดูชุดที่เลใส่ ผมเห็นแล้วแม่งหงุดหงิด

คนดี พี่ให้เลไปตั้งพันล้าน แต่เห็นเสื้อปาดไหล่ที่เหมือนว่าตอนตัดมีผ้าไม่พอแล้วผมล่ะอยากโอนเงินเข้าบัญชีน้องเพิ่มให้อีกสักล้านนึง

มันโชว์ไหล่ โชว์ผิวขาวๆ โชว์ไปหมด แล้วยังมีกระดิ่งตรงคอ… ที่เวลาเลขยับแล้วเหมือนมันจะส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งไปมา ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าน้องอยู่บนเตียง ไอ้กระดิ่งที่ออกจะน่ารำคาญนี่มันจะเร้าอารมณ์ขนาดไหน

ยิ่งถ้ามีหูแมวมาใส่และถ้าน้องใส่ทั้งกระดิ่งและหูแมวเดินไปไหนมาไหนคนเดียวในคลับนี้ ผมเชื่อว่าเลต้องโดนฉุดภายใน 1 นาที

เวร… ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด รู้สึกตีนแม่งว่างจนอยากเตะคนเล่นจริงๆ

“กูเตือน มึงอย่าลืมว่าพรุ่งนี้ต้องไปค่าย” กูไม่อยากฟัง “เพราะมึงเมาไม่บ่อย แต่พอมึงเมาแล้วชอบไม่รู้ว่าตัวเองเมา ไอ้เหี้ย”

“...” รำคาญ

“เดือดร้อนพวกกูตลอด”

“มึงไปบอกรุ่นน้องมึงเถอะ” ผมตัดบท รุ่นน้องในประโยคทำให้ไอ้ไทด์หันไปมองเล

“เกียร์สั่งลูกน้องทั้งคลับให้เฝ้ามันแล้ว” ผมยังไม่พอใจ

“ทำไมมึงไม่พากลับ” ถ้ามันขี้เกียจ มันจะใช้คนอื่นให้ไปส่งเลก็ยังได้ แต่พวกมันกลับไม่ยอมทำอะไรเลย

“ปล่อยเด็กเข้าสังคม มึงอยากให้เลกลับมึงก็พากลับเองสิ”

“กูไม่มีสิทธิ” ผมว่า เจ็บปวดในหัวใจจนต้องยกแก้วขึ้นดื่ม

เลเคยบอกว่าผมเป็นทุกอย่างของน้อง แต่เลก็ไม่รู้ตัวเลยว่าน้องเองก็เป็นทุกอย่างของผม ผมเป็นคนเลี้ยงน้องมา ถึงจะมีคนช่วยเลี้ยงแต่ก็ถือว่าตัวเองเป็นคนที่ใกล้ชิดกับน้องมากที่สุด

ไม่เคยมองเลเป็นลูก แต่ในฐานะคนที่เลี้ยงเลมา ยังไงก็อยากเห็นน้องประสบความสำเร็จ มีเพื่อนที่ดี มีชีวิตที่ดี ยกเว้นเจอคนที่ดี... กว่าผม

อาจจะฟังดูเห็นแก่ตัว แล้วก็เห็นแก่ตัวจริงๆ

ผมรักน้องเกินกว่าที่จะปล่อย เคยคิดแบบนั้นจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้น วันที่เลโกหกผมไปที่สนามเพื่อช่วยไอ้เอ็กซ์ สัตว์นรกเวรตะไลนั่น ผมลงโทษน้อง ผมข่มขืนน้อง และเป็นผมเองที่ทำให้น้องต้องพูดประโยคนั่นออกมา

ประโยคสั้นๆ ที่เอามีดมาแทง เอาปืนมายิงผมซะยังจะทรมานน้อยกว่าได้ยินคำว่า

‘เลเกลียดพี่ฮิม’



ไทด์ได้แต่มองเพื่อนนิ่งๆ แล้วถอนหายใจ

มันเมาแล้ว ฮิมเมาจริงๆ มันเมาเมื่อไหร่ดูได้ไม่ยาก ถ้าเหล้าแล้วปากแล้วเริ่มพูดมากกว่าปกติเมื่อไหร่ล่ะก็เมื่อนั้นแหละเมา ซึ่งปกติยิ่งมันเมาความเหี้ยจะคูณสิบ ไอ้นี่เมาแล้วทำอะไรไม่คิดสักอย่าง ผลงานของการเมาครั้งก่อน ก็ตอนที่พาผู้หญิงเข้าห้องพร้อมกันสี่คน ดังนั้นเขาเลยต้องมานั่งคุมมันหน่อย

น่าแปลก จากที่ฮิมเมาแล้วไม่คิดอะไร ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าคิด คิดเยอะซะด้วย

ซึ่งต้นเหตุก็น่าจะเป็นเพราะเด็กหน้าแดงที่ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปจำนวนมาก แต่ไม่เจียมสังขารว่าตัวเองคออ่อน

นอกจากวินแล้ว ไม่มีใครได้ติดต่อกับเลอีกเลยตั้งแต่วันที่เลออกจากบ้าน ไม่ใช่ว่าไม่อยากแต่โดนไอ้วินสั่งห้าม มันบอกว่าการเลออกจากบ้านก็เพื่อที่จะทิ้งบรรยากาศเดิมๆ ไป และถ้าพวกเขายังเข้าไปหาเลเหมือนเดิม น้องก็จะรู้สึกถึงบรรยากาศเดิมๆ เหมือนตอนที่อยู่ในบ้าน สุดท้ายผลลัพธ์มันก็ยังแย่เหมือนเดิม ทางที่ดีในความคิดไอ้วินก็เลยเป็นการตัดความสัมพันธ์กันไปในระยะเวลาหนึ่ง รอให้เลมีสภาพจิตใจที่ดีกว่านี้ก่อน

เขาและคนอื่นๆ เลยได้แต่ตามเลเงียบๆ ยกเว้นเกียร์ที่ตามไม่เงียบเท่าไหร่ มันสั่งให้ลูกน้อง (ซึ่งก็เป็นลูกน้องฮิม) เฝ้าดูเลตั้งแต่วันที่น้องออกจากบ้าน ไม่ถึงขนาดคอยเฝ้าติดตามเกือบ 24 ชั่วโมงเหมือนที่ฮิมเคยทำ แต่เป็นอันว่าถ้าใครบังเอิญเห็นเลก็ฝากดูเลในสถานที่นั้นให้ด้วย

“ฮืออออ” แล้ว จู่ๆ คนที่เขากำลังคิดก็เดินเซๆ ผ่านไปแบบงงๆ

ไทด์มองตามหลังเล เขาขมวดคิ้วเพราะเห็นว่าไม่มีคนมาด้วยกันกับน้อง เลยหันหลังไปมองกลุ่มคนที่เลนั่งดื่มด้วย พวกมันมัวแต่สนใจเกมในวงเหล้าอยู่ คงไม่มีใครสังเกตว่าเลเดินออกมา

ร่างสูงตัดสินใจจะลุกขึ้นแล้วเดินตาม ถ้าไม่คิดที่ว่ามีคนตัดหน้าเขาซะก่อน

ฮิมไม่พูดอะไร มันลุกขึ้นแล้วเดินตามเลไปแบบเซนิดหน่อยเหมือนกัน ภาพที่เห็นทำให้คนมองถึงกับต้องหัวเราะออกมาเสียงดัง

เขาบังเอิญนึกถึงคำพูดของมันเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา

‘กูไม่มีสิทธิ’

โถ่… ไอ้ควาย

มึงทำเกินสิทธิไปหลายเรื่องแล้วไอ้เหี้ย



ผมเดินตามเล ขามันขยับมาเองตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงน้องร้องฮือๆ

คนตัวบางไม่รู้ว่าถูกตาม ไม่ได้สนใจใครเอาแต่เดินๆ จนมาถึงที่หมายคือห้องน้ำ ผมไม่อยากให้ใครเห็นน้อง จึงส่งสายตาให้ลูกคนหนึ่ง มันวิ่งเข้ามาหาก่อนที่จะถูกผมสั่งให้มันไล่ผู้ชายทุกคนที่อยู่ในห้องน้ำออกไป แน่นอนว่าคนที่ถูกไล่แม่งบ่น แต่แล้วยังไง คลับกู กูจะทำยังไงก็ได้

ทุกคนยกเว้นเลถูกไล่ออกไปจนหมดภายใน 1 นาที พอน้องทำธุระเสร็จภายในห้องน้ำจึงไม่เหลือใครแล้ว นอกจากผม

เลเดินออกมาด้วยท่าทางเซๆ เหมือนเดิม ตากลมคล้ายจะปิดอยู่ร่อมร่อ ผมลองยืนขวางทางเดินของน้องไว้ปรากฏว่า

ปึก!

“โอ๊ยย! ฮืออ โทษน้าา” เลชนผม ไม่แรงแต่น้องเซ ผมเลยจับเอวอีกฝ่ายเอาไว้ แล้วกอด คนถูกกอดดูงงๆ ก่อนจะรีบหาทางออก มือบางตบแปะๆ ที่แขนผมเป็นการบอกให้ปล่อย “ปล่อยน้า!”

แม่ง… น่ารักชิบหาย

ผมไม่ปล่อย นานๆ เข้าเจ้าตัวเลยเริ่มหงุดหงิด

“เหี้ย!” คำหยาบทำให้ผมต้องหุบยิ้มลง ใครสอนเลพูดคำหยาบวะ แม่งอยากต่อยปากมันว่ะ ไอ้เวร “ปล่อยเลนะ!”

“ใจเย็นๆ” ผมเกาคางเล เจ้าตัวอารมณ์ดีขึ้นทันที “ทำไมไม่ไปนอน”

“อึก! ทำไมต้องนอน”

“ดึกแล้ว เที่ยงคืน”

“เหรอ เที่ยงคืนเหรอ” เลนิ่ง ก่อนจะพึมพำเหมือนพึ่งนึกขึ้นได้ “ต้องนอน อึก!”

น้องว่าแล้วมองไปรอบๆ ตัว “ไม่มีที่นอน”

“ไปนอนกันไหม”

“นอน?”

“ไปนอนกับพี่ไหม”

“ที่หนายย” เลขมวดคิ้ว

“ที่ห้อง”

“ไปไหม”

“ไป”

ผมยกยิ้มขณะก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูอีกฝ่าย “ยกมือโอบรอบคอพี่นะ”

“จ้ะ”

อ่า my pretty baby น้องจะทำให้พี่คลั่งตาย

เลทำอย่างที่ผมบอก แต่แล้วในจังหวะที่ผมกำลังจะยกตัวน้องขึ้นอุ้ม จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนเข้ามา

“เฮ้ย! มึงจะทำอะไรน้องเลน่ะ ไอ้เวร!” ผมหันไปมองตามเสียง แสยะยิ้มทันทีที่ได้เห็นหน้ามัน

ไอ้ซี ลูกชายเจ้าของสายการบิน มันพยายามจะเข้ามาในห้องน้ำ เลยโดนลูกน้องของผมกั้นเอาไว้ เพราะผมสั่งห้ามใครเข้ามาที่นี่

สารภาพ… กูไม่ชอบหน้ามึง

ผมไม่อยากให้เลเจอคนที่ดีกว่าผม เพราะผมไม่อยากให้น้องไปจากผม แต่ถ้าในกรณีที่เลไปจากผมแล้วเหมือนในตอนนี้ (พูดไปเจ็บไป) ผมก็อยากให้เลเจอคนที่ดีกว่าผม เพราะอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าคนนั้นมันจะไม่ทำให้น้องลำบาก

แต่สำหรับไอ้ซี บ้านมันเป็นเจ้าของสายการบิน บังเอิญชิบหาย บ้านผมสร้างเครื่องบิน

ธุรกิจหลักในเครือแฮมินตันคือบริษัทนำเข้า ส่งออกและผลิตรถยนต์ ซึ่งมีมากถึงแปดสิบสี่สาขา แต่นอกจากนี้แล้วเรายัง ค้าน้ำมัน ผลิตเครื่องบิน เรือ อย่างสุดท้ายคือผลิตและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

มันก็รวยนะแต่เสียใจด้วยว่ะ ผมรวยกว่า

ดีแต่ดีไม่พอ และถ้ามันดีน้อยกว่าผม ผมจะไม่ยอมให้น้องไปกับมัน

“ไอ้เชี่ย! มึงจะอุ้มเลไปไหน” มันถามหลังจากที่ผมอุ้มเลขึ้น “ปล่อยลงนะ ไอ้สัส!”

“หนวกหูว่ะ! พวกมึงลากมันออกไป” ผมสั่งลูกน้อง ซึ่งพวกมันก็ยอมทำตามอย่างดี ร่างของไอ้ซีถูกลากไปที่อื่นเพื่อเปิดทางให้ผมเดินออกจากห้องน้ำ เสียงโวยวายดังมาตามหลัง ผมเลยรีบอุ้มเลเดินออกไปจนกระทั่งถึงห้อง เป็นห้องนอนในคลับ ถูกสร้างขึ้นเป็นห้องของผมโดยเฉพาะ

ประตูถูกเปิดออกและถูกปิดโดยการใช้เท้าถีบมันแบบลวกๆ ผมเดินไปวางน้องบนเตียง แล้วก้มหน้าลงมองอีกฝ่าย ดวงตากลมโตใสแจ๋วยังเปิดกว้าง บางทีเลอาจจะเมาแต่ไม่ได้ง่วง

“ปิดตา” ผมสั่ง  “น้องเลปิดตา”

“นอนม่ายด้าย!” เสียงเล็กโวยวาย

“ทำไม”

“ต้อง Kiss ก่อนนอน”





(100%)



เรียกฉันว่า ทากจัง 555555555 ช้าเว่อร์วังมากจะเปลี่ยนนามปากกาเป็น(หอย)ทากจังแล้ว

ตอนนี้แต่งโคตรยากกกกกกกกกกก มันเป็นพาร์ทของพี่ฮิม ซึ่งพี่ฮิมเมา และเราต้องแต่งให้พี่ฮิมดูแบดแต่ก็ต้องดูอ่อนหวานกับน้อง โดยเฉพาะอิพี่เนี่ยมันต้องคิดว่าน้องน่ารักๆๆ คนดีน่ารักๆ จังเลย คือแก้แล้วแก้อีก จนมันได้ออกมาอย่างนี้ละค่ะท่านผู้ชมมมม

อ๋อ! จริงๆ แล้วพี่ซีคือตัวหลอก พระรองตัวอย่างมันต้องเทียบระดับพี่ฮิมได้อย่างที่นางว่า5555555



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ไม่ใช่สระเอสองตัวนะ)

twitter ; @_mdreds

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 21-01-2018 15:47:23
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 21-01-2018 16:05:44
อยากให้เค้าเข้าใจกันสักที
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 21-01-2018 16:13:30
"มันก็รวยนะแต่เสียใจด้วยว่ะ ผมรวยกว่า ดีแต่ดีไม่พอ และถ้ามันดีน้อยกว่าผม ผมจะไม่ยอมให้น้องไปกับมัน"
โอ้ยยยย อิพี่ จะหาใครเทียบแกได้ย่ะ หล่อ รวย ซะเว่อร์วังขนาดนี้ ชาตินี้จะมีใครดีกว่าแกอีกย่ะ ที่จะมาดูแลเลได้
แต่นักเขียนบอกว่า พี่ซี ตัวหลอก แปลว่า พระรองตัวจริง กำลังมา และ เทียบเท่าอิพี่ฮิมหรอ ว๊ายยยย รอเลยจร้าาาา

มันก็หมั่นไส้และเกลียดอิพี่นะ แต่ในใจอยากให้คืนดี และ หวานกันแล้วอ่ะ ดราม่านานๆ ไม่ค่อยดีกับใจเท่าไร ฮาาาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 21-01-2018 17:07:34
เออคือ kissก่อนนอน ฟิน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-01-2018 17:09:09
เมื่อไรจะดีกัน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 21-01-2018 17:30:26
เมาทั้งคู่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 21-01-2018 17:52:10
เอาใจช่วยพี่ฮิม ดีกันสักทีเถอะนะ
ขอให้ได้เปิดใจคุยกันจริงๆ สักที
จะไปค่ายด้วยกันนิ ...
พระรองระดับเทียบเท่าพี่ฮิมไม่มีหรอก
แค่คนเข้ามาเฉยๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 21-01-2018 18:05:26
 :m31:อิพีฮิมมมม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 21-01-2018 18:12:21
มีเด็ดกว่าพี่ซีอีกหรอออ  :hao4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 21-01-2018 18:19:03
พี่ฮิมทำดีกับเลได้แล้วสงสารน้องTT :katai4:มาต่ออีกนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 21-01-2018 18:47:51
สร่างเมา น้องเล ร้อวไห้อีกแน่ๆ สงสารจัง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 21-01-2018 19:07:45
เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: bearjunjun ที่ 21-01-2018 20:25:34
โอ้ยยยยยย คิสกันจ้าาา คิสแล้วทำไรต่อน้าาา คุยกับน้องได้แล้วพี่ฮิ๊มมมม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 21-01-2018 20:59:01
กรีดร้องงงงงขอบคุณมากๆค่ะคิดถึงสามีและน้องเลมากกกกก :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 21-01-2018 21:06:35
ดีกว่าพี่ฮิมนี่ต้องยังงายยยยย
ก็พี่ฮิมจะมีธุรกิจครอบเยอะขนาดนี้แล้วอ่ะ
ยังงั้นพี่ฮิมต้องดูแลน้องต่อไปและ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-01-2018 22:32:59
ชวนไปนอนเพราะต่างคนต่างเมา แล้วถ้าหายเมาต่างคนจะว่าอย่างไรเนี่ย อยากรู้จริง ๆ เลยอ่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: tistaek ที่ 22-01-2018 02:05:49
 :mew1: ชอบตอนนี้จังเลยพี่ฮิมมุ้งมิ้งจัง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210118#28 p.39
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 22-01-2018 07:23:13
คือยังไงพี่ฮิม เมาแล้วเข้าหาน้องหรอ ส่างแล้วจะทำไงต่อหึ?
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 220118#29(30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 22-01-2018 18:54:52


#29 (30%)



ร่างสูงโน้มใบหน้าลงทาบริมฝีปากแน่นสนิทตามคำสั่ง เริ่มจากแผ่วเบาแล้วดุดันขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแทรกลิ้นเข้าไป เขาฉีกกระชากเสื้อของน้องออกพร้อมทั้งไล้ริมฝีปากลากไปจูบกลางแผ่นอกขาว ยอดดอกสีชมพูสวยปรากฏตรงหน้า ฮิมตั้งใจจะเคลื่อนเข้าไปหา ทว่าจู่ๆ มือบางก็ยกขึ้นมาโอบคอเขาเอาไว้ เลกดให้ใบหน้าของเขานอนทาบเข้าที่กลางอก

“Kiss แล้วนอนนะ!” เลพึมพำ จากนั้นก็หลับตาแล้วเงียบไป

เป็นฮิมที่ขมวดคิ้ว เขา ‘ตื่น’ ขนาดนี้จะให้นอนได้ยังไง

“พี่นอนไม่หลับ” ลองถามดูแต่ปรากฏว่าเลลืมตาขึ้นอีกครั้ง น้องทำหน้ายุ่งเหมือนรู้สึกรำคาญ แต่ก็ยังทำตัวน่ารักโดยการเอื้อมมือมาลูบหัวเขาเบาๆ เหมือนกำลังกล่อม

สัมผัสละมุนทำให้ฮิมยอมปิดตา มือหนากอดคนตัวบางเอาไว้ พร้อมทั้งแนบศีรษะลงบนกลางอกขาว

“นอนๆ นะ” เสียงนุ่มว่า เขากอดเลแน่นขึ้น และหลังจากนั้นไม่นอนโลกทั้งใบก็กลายเป็นสีดำมิด

ฮิมหลับสนิทตลอดคืน



เช้า

ครืด ครืด

โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงปลุกให้คนที่ยังอยู่ในภวังค์ลืมตาขึ้น ฮิมลุกขึ้นจากเตียง มือหนาเสยผมปรกใบหน้าก่อนจะกุมขยับคล้ายอาการทั้งปวดหัวและเวียนหัวรุมเร้า แล้วหันไปมองรอบกาย

เขาอยู่ที่ไหน ?

ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์ดึงความสนใจไปจนหมด นัยน์ตามองโทรศัพท์ที่ตกอยู่ขางเตียงก่อนจะก้มลงไปหยิบมัน ทว่ายังไม่ทันได้รับปลายสายก็ตัดไปซะก่อน

‘45 สายไม่ได้รับ’

จำนวนตรงหน้าทำให้คนมองถึงกับต้องขมวดคิ้ว เป็นจังหวะเดียวกันที่โทรศัพท์แผดเสียงอีกครั้ง ฮิมกดรับ

ติ๊ด!

(มึงอยู่ไหน) เบอร์เกียร์แต่เสียงคนพูดกลับเป็นไทด์ (มึงยังอยู่ในคลับหรือเปล่า)

คำว่าคลับทำให้ฮิมมองไปรอบๆ อีกครั้ง และดูท่าว่าจะใช้ “เออ”

(ลืมไปแล้วเหรอว่าวันนี้มีค่าย รีบมา! ขนาดเลมันแฮ้งแทบตายมันยังแบกสังขารมาได้)

เลเหรอ น้องเล… เล

!!!!

“เลอยู่ไหน” ฮิมจำได้ลางๆ เมื่อคืนเขาเป็นคนอุ้มเลมาที่ห้องจากนั้น… จากนั้นอะไรต่อวะ “กูถามว่าเลอยู่ไหน!”

(มึงจะขึ้นเสียงใส่กูทำไมไอ้เวร เลมันก็ต้องอยู่บนรถดิ พึ่งให้รถทัวร์คันสุดท้ายกับเพื่อนไป รถออกไปประมาณ 30 นาทีแล้ว)

“แล้วน้อง…”

(แฮ้งเหล้า อ้วกแตก สภาพแย่แต่ก็ยังไม่ตาย ฝากพวกเด็กบนรถดูแลแล้วคงไม่เป็นไร)

ฮิมขมวดคิ้วอาการของเลมันยังไม่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เขาคิด เหมือนน้องแค่เมาเหล้าธรรมดาหรือว่า… ดวงตาคมเฉี่ยวก้มลงมองชุดตัวเองที่ยังอยู่ในสภาพเดิมตั้งแต่เมื่อวาน ไม่มีท่าทางว่ามันเคยถูกถอดออก

เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วมากกว่าเดิม

เขาเมา เขาอุ้มเลพามาถึงห้องแต่ไม่ได้ทำอะไรน้องเลย

เป็นไปได้เหรอวะ?

(มึงรีบๆ ขับรถตามมาก็แล้วกัน อย่าช้านะมึง)

“เออ” มือหนาตัดสาย ฮิมหันไปมองเตียงนอนอีกทีก็พบว่ามันไม่ได้ยับยู่ยี่มากเท่าไหร่

เอาจริงดิ

ร่างสูงคิดหนัก แต่พอคิดหนักเข้าหน่อย ก็รู้สึกปวดแปล๊บๆ ขึ้นมาทันที

“แม่ง…” ฮิมสบถแล้วเลิกคิ้ว มือเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตพร้อมทั้งกางเกง ถอดมันออก ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปทันที



อีกด้านหนึ่ง

“อ้วก! อุแหวะ! แอะ!”

เฮือก!

ผมเงยหน้าขึ้นมาจากถุงอ้วก อาการเวียนหัวรุ้มเร้าจนต้องพึ่งยาดม ท่ามกลางสายตาของเพื่อนคนอื่นที่มองมาอย่างเห็นใจ

“น้องเลไหวไหมคะ” พี่ปีสี่ที่เป็นคนดูแลถาม

“ฮือ เลเวียนหัว” ผมตอบตามความจริงพร้อมกับสูดยาดม

“ลองเปลี่ยนที่นั่งไหมคะ เอางี้เดี๋ยวน้องเลไปนอนตรงเบาะหลังสุดเลยดีกว่าจะได้สบาย เดี๋ยวพี่ไปไล่พวกที่นั่งอยู่ให้แปปนึง” เลไม่มีสิทธิปฏิเสธ เพราะหลังจากพูดจบพี่คนนั้นก็เดินไปข้างหลัง มีเสียงโวยวายเกิดขึ้นและเงียบลงก่อนที่ผมจะถูกเชิญให้ย้ายที่ไปนอนอยู่ตรงด้านหลังสุดของรถทัวร์ เบาะด้านหลังมันจะต่อกันทำให้นอนเหยียดขาได้เต็มที่

พี่ที่ดูแลเอายาแก้เวียนหัวมาให้กินและเอาหมอนกับผ้าห่มมาให้ผมคลุมนอน เสียงในรถก็ต้องเงียบลงเพราะทุกคนกลัวว่าผมจะนอนไม่หลับ

ฮือ ต่อไปเลจะไม่กินเหล้าอีกแล้ว!

ผมตื่นขึ้นมาตอนหกโมงเพราะรู้สึกเวียนหัวอยากจะอ้วกอย่างหนัก รวมทั้งตกใจมากที่เห็นพี่ฮิมกำลังนอนอยู่บนอก ไม่รู้ว่ามาอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าไปอยู่ในห้องนั้นได้ยังไง แต่ดูเหมือนพี่ฮิมจะไม่ได้ทำอะไรผม เพราะนอกจากเสื้อที่ถูกกระชากจนขาดแล้ว ของทุกอย่างบนตัวก็ยังอยู่เกือบครบ แถมร่างกายผมก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บหรือปวด เสื้อผ้าบนตัวของฮิมก็ยังอยู่ครบ

เลนอนต่อไม่ลง จำได้ลางๆ ว่ามีค่าย ถึงจะรู้สึกไม่ดีแค่ไหนก็คงต้องไปอีกอย่างอาการแฮ้งเหล้านี่มันก็เพราะทำตัวเองด้วย ผมเลยยืมโทรศัพท์พี่ฮิมโทรหาพี่วิน ผมโดนพี่วินบ่นใส่ยาวเหยียดแต่ร่างสูงก็ยอมมารับและพาผมกลับบ้านหลังเดิมที่เคยอยู่ ไปอาบน้ำและเตรียมเสื้อผ้า ช้าไปมากแต่ยังดีที่ทันรถทัวร์คันสุดท้าย แต่เพราะมันเป็นคันสุดท้ายทำให้ผมไม่ได้นั่งรถกับเพื่อนที่เรียนอยู่สาขาเดียวกัน ทั้งอิน เกี๊ยก พิษ ดินก็ไปนั่งคันอื่นกันหมด

พี่วินก็ไม่ยอมให้ไปด้วย พี่วินบอกว่าทำตัวเองก็ต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเอง

ใจร้ายมาก! เพราะที่รถคันนี้เลไม่รู้จักใครเลยสักคน ;w;

จากนั้นก็หลับลึก ตื่นมาอีกทีเพราะรู้สึกอยากอ้วกรุนแรง โชคดีทีตอนนี้รถจอดอยู่ปั้ม ทุกคนหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เลยหยิบขวดน้ำ เดินลงจากรถแล้ววิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที



10 นาทีต่อมา

“คนครบหรือยังคะ” ร่างเพรียวกวาดสายตามองรุ่นน้อง เธอรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยเพราะการเป็นพี่ปีสี่ที่ต้องคอยดูแลรุ่นน้อง “เพื่อนที่นั่งข้างตัวเองมาครบแล้วหรือยัง”

“มาแล้วคร้าบบ”

“มาแล้วค่ะ”

“ครบค่าา”

“น้องเลล่ะ” เสียงหวานว่า “น้องเลได้ลงไปไหนหรือเปล่า ปีสามๆ ที่อยู่ใกล้ด้านหลัง มองให้พี่หน่อยค่ะ”

คนถูกใช้กำลังเล่นเกมอยู่ เจ้าตัวแค่หันหน้าไปมองตรงช่องทางเดินไม่ได้ลุกยืนขึ้นมองอย่างจริงจัง อีกฝ่ายเห็นผ้าห่มที่เลใช้ห่มมันยังพองๆ อยู่เหมือนเดิม เสียงทุ้มตอบกลับไป

“ยังหลับอยู่เหมือนเดิมครับ”

“โอเค ครบแล้วนะคะ ออกรถได้เลยค่ะ!”



“อุแหวะ!”

แทบทุกอย่างที่กินเข้าไปถูกขย้อนออกมาจนหมด ผมล้มลงนั่งยองๆ เมื่อกี้ตอนวิ่งมาอากาศมันร้อนด้วยเลยทำให้ผมรู้สึกแย่มากกว่าเดิม ฮือ เลจะเป็นลม

กว่าอาการเวียนหัวจะดีขึ้น ผมต้องนั่งอยู่ในห้องน้ำเกือบ 20 นาที หมกอยู่ในนั้นจนเหงื่อแตก พออาการเริ่มดีขึ้น ผมจึงใช้น้ำในขวดน้ำที่ถือมาด้วยป้วนปากก่อนจะเปิดประตูเดินออกไป ทว่าทันทีที่เดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว อาการหน้ามืดก็เข้ารุมเร้าซะจนผม..

พรึบ!

“น้อง!”

สลบไป



2 ชั่วโมงต่อมา

วินขับรถมาถึงค่ายเป็นจังหวะเดียวกันที่รถทัวร์คันสุดท้ายเคลื่อนเข้ามาจอด ร่างสูงลงจากรถแล้วยืนรอให้เลเดินลงมาพร้อมกับคนอื่น แต่รอจนกระทั่งไม่มีคนลงมาจากรถทัวร์อีกพักใหญ่เขาก็ยังไม่เห็นว่าน้องจะเดินลงมา

ร่างสูงเดินไปสมทบกับไทด์และเกียร์ที่มาถึงก่อน เขาถามพวกมันเสียงเข้ม

“พวกมึง เลอยู่ไหนวะ”

“ยังไม่เห็น” เกียร์หันไปมองรถทัวร์คันเดียวกันกับที่เขายืนรอน้อง “นั่นไม่ใช่คันที่เลนั่งมาเหรอ”

“กูก็คิดว่าใช่แต่ยืนรอมันตั้งนานไม่เห็นเดินลงมา”

“กูว่านี่มันรถทัวร์คันสุดท้ายแล้วนะ เดี๋ยวถามให้” ไทด์ว่า มือหนากวักเรียกรุ่นน้องคนหนึ่งที่คุ้นๆ หน้าว่าจะนั่งรถทัวร์คันที่ว่าเข้ามาถาม “รถทัวร์ที่มึงนั่งใช่คันเดียวกันกับที่น้องเล ปีหนึ่งนั่งไหมวะ”

“ใช่ครับๆ”

“แล้วเลอยู่ไหน”

“อ้าว ยังไม่ลงมาเหรอครับ” มันทำหน้างงๆ “หรือว่ายังหลับอยู่”

“หลับอยู่อะไร” เกียร์ถามเสียงเข้ม

“คือน้องเลดูท่าไม่สบาย พี่ปีสี่ก็เลยให้น้องไปนอนด้านหลัง และสั่งทุกคนว่าอย่าไปกวนครับ แล้วเลก็นอนมาตลอดเกือบตลอดทาง”

วินสังหรใจไม่ดี ร่างสูงรีบวิ่งขึ้นรถทัวร์คันสุดท้าย ก่อนกวาดสายตามองทุกที่นั่ง ขายาวเดินไปดูที่นั่งด้านหลังสุด เขาเห็นหมอนกับผ้าห่ม เห็นวี่แววของการนอนแต่ไม่เห็นเลที่น่าจะยังนอนหลับอยู่ที่นี่ เลยสรุปได้อย่างเดียว

น้องตกรถ

วินกำหมัด ใบหน้าหล่อเหลาแสดงอาการโกรธอย่างไม่ปิดบัง ร่างสูงเดินลงจากแล้วตะโกนเสียงดังจนหลายคนหันมามอง

“พี่ปีสี่ที่ดูแลน้องของรถทัวร์คันนี้คือใคร!!”

เฮือก!

ปีสี่แทบทุกคนเผลอสะดุ้ง คนเป็นถึงหัวหน้าพี่ว้ากและหัวหน้างานในครั้งนี้ตะคอกใครจะไม่กลัวบ้าง หลายสายตามองหาคนที่ถูกถามถึงก่อนที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะเดินออกไปแสดงตัว

“ระ… เราเอง”

วินมองหน้า “เลอยู่ไหน”

“นะ… น้องยังไม่ได้ลงมาเหรอ”

“ลงมาอะไร มันไม่มีใครอยู่บนรถแล้ว!”

อีกฝ่ายเบิกตากว้างเหมือนไม่เชื่อ “ไม่จริง! ก็ตอนแวะปั๊มครั้งล่าสุดก่อนรถจะออก เราให้เด็กปีสามดูว่าน้องเลอยู่ไหม น้องเขาก็บอกว่าน้องเลยังหลับอยู่”

“ใคร ใครเป็นคนดู มึงออกมา!”

“ผะ ผมเองครับ” ไอ้เด็กที่แสดงตัว มันเป็นคนเดียวกันกับที่ไทด์เรียกมาถาม วินเดินไปยืนหน้าอีกฝ่าย สายตาคมที่แสดงออกถึงความไม่เป็นมิตรถูกส่งให้เจ้าตัว

“มึงดูยังไง”

“ผมดูว่าน้องเลยังนอน--”

“มึงเห็นหน้าเลไหม! มึงเห็นตัวเลไหม!”

“ไอ้วิน มึงใจเย็นๆ” เกียร์รีบไปยืนกั้น เขาดูท่าแล้วว่าวินมันจะตั้นหน้าน้องทันทีถ้าอีกฝ่ายตอบคำถามได้ไม่ถูกใจ

“มึงตอบกูสิ”

“ผมไม่เห็นหน้าเลครับ คือหันไปแล้วเห็นว่าผ้าห่มมันยังพองๆ อยู่ก็เลย… ขอโทษครับ!”

“ปั๊มล่าสุดที่แวะผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว” ไทด์หันไปถามกับปีสี่ที่เป็นคนดูแลรุ่นน้อง และทันทีที่ได้รับคำตอบ หลายคนรอบข้างที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ถึงกับสบถออกมา

“2 ชั่วโมงค่ะ”

“เวร” ไทด์สบถ

“แม่ง” วินว่าต่อ “น้องยิ่งอาการไม่ดีอยู่”

“เราขอโทษนะ ฮือ เราผิดเองที่ไม่ได้ไปดูน้องเลให้เห็นกับตา” รุ่นพี่ที่เป็นคนคุมน้องเอ่ยปากพร้อมกับโค้งหัวลง วินไม่รับ ร่างสูงเดินหนีในขณะที่เกียร์หันไปหาไทด์แล้วสั่งอีกฝ่าย

“โทรหาฮิม”



(30%)


ตอนนี้คือดูพี่วินเกรี้ยวกราดดดดดดดดด

สปอยตอนหน้า

"พี่เป็นเด็กปั้ม"


ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอนะคะ โปรดอย่าใช้สระเอสองตัว)
Twitter @_mdreds
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 22-01-2018 19:47:30
น้องเลเจอผู้ใหม่เหรอออออออ แงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 22-01-2018 19:47:54
พระรองจะออกมาแล้วใช่ม่ายยยยยยยย  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 22-01-2018 19:58:44
ไม่เอาผู้คนอื่นแล้วนะ
ไม่อยากได้
ไม่อยากให้อะไรมันยากขึ้นอีก
#ฮิมonly
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 22-01-2018 20:00:08
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
พระรองงงงงงงงงงง รออยู่นะคะ รักๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ส่วนพี่วินนั้นเรากลัววววว ฮือออ พี่วินใจเย็นก่อนนะ น้องปลอดภัยจ๊ะ เพราะน้องไปเจอผู้ใหม่แล้ว 555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 22-01-2018 20:00:37
ค้างมาก ฮืออออออ :ling1:
ขอบคุณมากค่ะ มาต่อที่เหลือเร็วๆนะคะ
อีพี่เดือดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 22-01-2018 20:32:31
Oh! My HIM! No one can beat you jaaaa.xoxo!!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 22-01-2018 21:10:21
 :katai1: ให้เขาได้เข้าใจกันเถ๊อะ อย่าเอาคนอื่นเข้ามาอีกเลยยยยยย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 22-01-2018 21:51:40
เอาแล้วๆๆ น้องเลจะเจอผู้ใหม่อะเปล่าเนี้ยยย
อิพี่ รีบเลยนะ รีบมาหาน้องด่วนๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 22-01-2018 22:03:55
พี่ฮิมมาตามหาเลเร็ว รีบ ๆ ปรับความเข้าใจกันด้วย

คนอ่านใจจะขาดแล้ววววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 22-01-2018 22:11:31
อยากเจอ เด็กปั๊ม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: bearjunjun ที่ 22-01-2018 23:05:49
คุณพระรองโผล่มาแน่เลยใช่มั้ยคะ :mew3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-01-2018 23:20:08
็ ห่วงเล   :mew2: :mew2: :mew2:

ฮิม เก็บเด็กปั๊มติดรถมาด้วยนะ  o18
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-01-2018 23:27:52
น้องเลเป็นอะไรมากไหมเนี่ย ต้องส่งโรงบาลไหม  :o
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 23-01-2018 00:14:18
มาเร็วทันใจมาก...น้องเลจะเป็นไงบ้างเนียพี่ฮิมไปรับเร็วๆนะ :hao4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 23-01-2018 00:56:35
อยากเจอเด็กปั้มค่ะเอาให้แซบพอๆกับพี่ฮิมนะคะ :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-01-2018 14:41:48
รอๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-01-2018 19:26:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 24-01-2018 18:13:40
ใครเป็นคนมารับน้องเลไว้นะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 24-01-2018 18:55:00
 :hao4: ตามหาน้องด่วนเลยก่อนใครจะคว้าไป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220118#29 (30%) p.40
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 27-01-2018 09:03:08
คนที่หล่อรวยโผล่มาแล้วแน่ๆ พี่ฮิมไปไหนก็ไปไป๊ น้ามคานนน
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 28-01-2018 15:42:32
แฟนวิศวะ #29 (90%)


“อึก! อือ” สัมผัสเย็นๆ บนที่กำลังไล้ไปตามตัวทำให้ผมรู้สึกตัว อื้อ สบายจัง

“...”

เดี๋ยวนะ! สบายเหรอ

เฮือก!

ผมลืมตาตื่น หันหน้าขวาซ้ายก่อนจะเห็นผู้ชายคนข้างๆ ที่กำลังจับมือผมไปเช็ดด้วยผ้าเย็นอยู่ เขาคงไม่รู้ว่าผมตื่นแล้ว มือหนาที่จับมือผมอยู่จึงยังไม่ปล่อยออก คนข้างกายผมกำลังก้มตาก้มตาบรรจงเช็ดทีละนิ้วเหมือนกำลังเช็ดเพชรแท้ มันจั๊กจี้ ผมเลยชักมือออกตอนนั้นเองที่อีกฝ่ายได้รู้ว่าผมตื่นแล้ว

เขาเงยหน้าขึ้น ส่วนผมมอง

เราสบตากันเงียบๆ จนกระทั่งผมพูดขึ้นมาก่อน

“ใครอะ แค่กๆ” เสียงแหบพร่าซะจนเลตกใจ ทำไมมันแหบแบบนี้ล่ะ

“ดื่มน้ำ” เขาคนนั้นยื่นขวดน้ำมาให้ ผมรับมา ยังไม่ไว้ใจ แต่ยอมดื่มน้ำลงไปเพื่อให้คอได้ชุ่มชื้นขึ้น “ดีขึ้นไหม”

“ฮือ เลอยู่ไหน” ผมเบ้ปาก ไม่ดีเลย ตอนนี้น่ะ ไม่ดีเลย

“อยู่ปั้ม”

“ปั้มไหน”

“ปั้มที่น้องสลบ พี่เห็นเลยอุ้มน้องมานอนในรถก่อน” ผมมองรอบตัว ตอนนี้ตัวเองกำลังนั่งอยู่ในรถจริงๆ

“เลสลบเหรอ” ทำหน้างง ตอนนอนผมนึกว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนรถทัวร์ คำตอบคือการพยักหน้าจากอีกฝ่าย “เลสลบไปนานเท่าไหร่”

“2 ชั่วโมงครับ”

“2 ชั่วโมง! แล้วรถทัวร์ล่ะ!” ไม่ได้การ ผมเปิดประตูลงจากรถแล้วกวาดสายตามองไปทั่ว ไม่มี! รถทัวร์หายไปแล้ว

“ตอนพี่มามันก็ไม่อยู่แล้วนะ” ร่างสูงที่เดินลงจากรถตามหลังผมเป็นคนบอก

“ฮือ แล้วเลจะไปค่ายยังไง”

“ใช้โทรศัพท์พี่โทรหาใครก่อนไหม” ผมมองโทรศัพท์ที่ถูกยื่นมาให้ เม้มปากแล้วรับมากดโทรหาพี่วิน รอไม่ถึงสิบวินาที พี่วินก็รับสาย

(ใคร)

“พี่วิน ฮืออออ เลนะ” ผมร้องไห้ ร้องไห้ออกมาแบบน้ำตาไหลพรากๆ เลย “ช่วยเลด้วย!”

(เล! อยู่ไหน! น้องอยู่ไหน ทำไมพึ่งโทรมา!)

คำถามถูกรัวมาเป็นชุด ผมสะอื้นแล้วใช้มือปาดน้ำตาออกแบบลวกๆ

“เลเวียนหัว เลอ้วก เลเป็นไข้! อึก! เลสลบไปตั้ง 2 ชั่วโมง! เลจะตายแล้ว ไม่อยากไปค่ายแล้ว อยากกลับบ้าน! ฮืออออออ แค่กๆ”

“ใจเย็นๆ” เขาลูบหลังผมทันทีที่เห็นว่าผมพูดรัวจนหายใจไม่ทัน

(สลบ! อยู่ไหน อยู่กับใคร!)

“ไม่รู้! สมองเบลอแล้ว”

(ครับๆ งั้นตอบก่อนว่าอยู่กับใคร)

อยู่กับใครเหรอ ผมหันไปมองหน้าอีกฝ่ายแล้วถาม “พี่เป็นใครอะ”

“พี่เป็นเด็กปั้มครับ” พี่เด็กปั้มตอบ ผมรีบบอกพี่วิน

“เลอยู่กับพี่เด็กปั้มอ่ะ เขาช่วยเลไว้”

(แล้วอยู่ไหน ยังอยู่ปั้มเดิมไหม)

“ปั้มเดิม ปั้มไหนอะ เลไม่รู้เรื่อง ฮือออออ”

“ปั้มแถว xxx ครับ” เสียงทุ้มว่า ผมเลยหันไปหาอีกฝ่าย สะอื้นแล้วยื่นโทรศัพท์ให้

“คุยกับพี่วินให้หน่อย”



ร่างสูงยื่นมองโทรศัพท์ตัวเองที่ถูกยื่นมาให้แบบงงๆ เขายอมรับมันมาแนบใส่หู กรอกเสียงตามลงไป

“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไป แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงตอบกลับมา

(มึงเป็นใคร)

“เป็นเด็กปั้ม”

(ปั้มไหน)

“แถว xxx”

(เลเป็นยังไง)

“แย่นิดหน่อย” เขากะจากสายตาตัวเองแล้วหันไปมองคนที่ร้องไห้น้ำตานองหน้า ปากแดงที่กำลังเบ้ออกดูน่ารักมากกว่าน่าชัง

(กูฝากดู)

“เออ” เขารับปาก ถึงไม่ได้รับแต่ก็ดูมาแล้วตั้ง 2 ชั่วโมง จนกระทั่ง...

(อย่าทำไรน้องกู ไม่งั้นกูเอามึงตาย)

นั่นปากมึงเหรอ

ใบหน้าหล่อเหลานิ่งขรึม ร่างสูงเงียบไป เขาไม่ชอบให้คนมาสั่ง กับคนที่ไม่รู้จักยิ่งไม่ชอบ

นัยน์ตาคมหันไปมองคนปากแดงข้างกาย เลียริมฝีปากแล้วนึกในใจ ความประทับใจแรก ดังนั้นครั้งนี้เขาจะยอมให้

แต่ถ้ามีครั้งที่สองอีก

มึงเสร็จตีนกูแน่

“เออ” จำใจพูด

(อีกประมาณยี่สิบนาทีจะมีคนไปรับ ฝากบอกเลด้วย) มือหนากดตัดสาย หันไปพูดกับอีกคน

“อีก 40 นาทีถึงจะมีคนมารับนะครับ”

คนฟังมีปฏิกิริยากับคำว่า 40 นาทีอย่างเห็นได้ชัด ปากแดงเริ่มเบ้ออกมากกว่าเดิม เลโวยวาย “ทำไมนาน” 

ร่างสูงมีแผน

“เขาบอกว่าค่ายมันอยู่ไกลจากที่นี่”

“แต่เลไม่อยากรอแล้ว!” ถึงจะเจอกันแค่ 2 ชั่วโมงและพึ่งได้คุยกันแค่ 5 นาที แต่ดูจากนิสัยของอีกฝ่ายเขาคิดเอาไว้แล้วว่าคนฟังต้องโวยวาย “เลเหนื่อยแล้วเลก็ปวดหัว”

ดังนั้น...

“ให้พี่ไปส่งที่บ้านไหม”

แต่การเจอกันแค่ 2 ชั่วโมงมันคงจะน้อยเกินไป ฟังจากประโยคที่เลพูด ร่างสูงคิดว่าน้องเป็นคนซื่อ แต่นึกไม่ถึงว่าจะซื่อขนาดนี้

“พี่ไม่ต้องทำงานเหรอ”

“...”

“ตอบเลนะ!”

“พี่เลิกงานแล้วครับ” เขายิ้ม “บ้านน้อง…”

“ชื่อเลนะ” อีกฝ่ายแนะนำตัวขณะยกมือเช็ดตาแบบลวกๆ

“บ้านน้องเลอยู่ไหนครับ”

“เลอยู่คอนโดกับเพื่อน ใกล้มหา’ลัย K” คนฟังชะงักไป เขารู้จักคอนโดนั้น คงมีเพื่อนฐานะดีพอสมควร แต่จากที่เขามองน้อง ทั้งรองเท้าทั้งนาฬิกาที่ใส่ เจ้าตัวก็น่าจะฐานะดีมากเช่นกัน

“พี่ไปส่งได้นะ”

“บ้านพี่เด็กปั้มอยู่ในกรุงเทพฯ เหรอ” ที่ปั้มนี้ มันอยู่ไกลจากกรุงเทพฯ พอสมควร คนฟังไม่รู้ควรจะตอบว่ายังไง เลยพยักหน้า “ทำไมพี่มาทำงานไกลจัง”

“วันนี้พี่ทำงานเป็นวันสุดท้าย” เขาไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่าตัวเองเป็นเด็กปั้ม แต่ถ้าจะให้บอกว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาที่บังเอิญผ่านมาเจอน้องสลบ แทนที่จะส่งโรงพยาบาล แต่ตัวเองกลับอุ้มขึ้นรถแล้วยังให้เลนอนต่อไปโดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ มันก็ดูออกจะแปลกไปสักหน่อย

อันที่จริงร่างสูงก็เป็นเด็กปั้ม แค่ความหมายของคำว่า ‘เด็กปั้ม’ ของเขามันไม่เหมือนกับคนอื่น

เลคิดอยู่นาน แต่สุดท้ายน้องก็ทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้แล้วส่ายหน้า “เลต้องไปค่าย”

“สำคัญมากเหรอ” ดูน้องไม่อยากไป แต่ก็ต้องจำใจไป

“อื้อ เลเป็นหลีดวิศวะ ถ้าไม่ไปค่ายก็ต้องซ่อม เลไม่อยากซ่อม”

“เลเรียนคณะวิศวะ” เขาเลิกคิ้วขึ้น อีกฝ่ายดูไปสายนิเทศน่าจะรุ่งกว่า “มหา’ลัยไหนครับ”

“มหา’ลัย K” ชื่อมหา’ลัยทำให้เจ้าของเสียงทุ้มเงียบไป “ทำไมพี่เด็กปั้มเงียบ”

“เปล่าครับ”

“อีกตั้ง 40 นาที” น้องบ่น “เลจะไปนั่งรอ แต่ร้อนจังฮือ ยุ่งยาก!”

“เดี๋ยวพี่นั่งรอเป็นเพื่อน อยากกินอะไรไหม” ใบหน้าสวนหันไปมองเซเว่นทันตาเห็น

“เลไม่มีเงิน”

“เดี๋ยวพี่เลี้ยง”

“พี่เด็กปั้มใจดีจัง”

“เรียกชื่อพี่เถอะ”

“พี่ชื่ออะไร”

“ดีน พี่ชื่อดีน ไหนเรียกซิ”

“พี่ดีน” แม่ง… โดนดาเมจ น้องยิ้มใส่ และพูดจากใจ

ดูเหมือนว่าเขาจะชอบคนตรงหน้าเข้าให้แล้ว



“พี่ดีนดูไม่เหมือนเด็กปั้มเลย”

“น้องเลก็ดูไม่เหมือนคนเรียนวิศวะ” เรานั่งอยู่หน้าเซเว่น รอบกายผมเต็มไปด้วยของกินและขนมหลากหลายชนิด ทั้งหมดนี่พี่ดีนเป็นคนซื้อให้ เขาใจดี หล่อแล้วก็ยังใจดีอีก

ผมกัดแซนด์วิชเข้าปากในขณะที่เจ้าของมือหนาขยี้หัวผมทีนึง “อย่าทำผมเลเสียทรงนะ!”

“อร่อยไหม”

“อร่อย”

“ไม่แบ่งพี่บ้างเหรอ”

“นี่ของเลนะ!”

“ขอคำนึง” ผมมองตาโต รีบดึงแซนด์วิชเข้าหาตัว “ใจร้ายนะเนี่ย”

“เอาไว้เดี๋ยวเลเลี้ยงตอบแทนทีหลังนะ”

“โอเค” พี่ดีนตอบ ส่วนผมหันไปมองรถหลายคันที่กำลังวิ่งเข้าออกภายในปั้มแทน ทันใดนั้นเอง

เอี๊ยด!

Bugatti chiron รถสปอร์ตคันหรูคุ้นตาแล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถอย่างรวดเร็ว หัวใจผมเต้นตึกตัก คิดว่าคงจะไม่ใช่ เพราะพี่ดีนบอกว่าต้องรอตั้ง 40 นาที นี่มันพึ่ง 20 นาทีกว่าเอง จนกระทั่ง…

“พี่ฮิม” ผมเผลอพูดชื่อเขาออกมา ตอนที่ร่างสูงก้าวเท้าลงจากรถแล้วตรงดิ่งมาหาใครสักคนที่น่าจะเป็น… ผม

ขายาวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า เขามาหาผมจริงๆ

“พี่มารับ”



มือหนายกขึ้นอังหน้าของอีกฝ่าย ตัวเลร้อนนิดหน่อย จากนั้นจึงไล่ไปตามใบหน้า ตั้งแต่หน้าผาก ลากผ่านจมูก สิ้นสุดที่แก้มนิ่ม เสียงทุ้มถาม “เวียนหัวเหรอ”

ตอนที่วินโทรมาบอกว่าเลตกรถกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว ให้ไปดูที่ปั้มแถว xxx ให้หน่อยเผื่อน้องยังอยู่

เขาโกรธมาก

ตอนนั้นฮิมขับรถเลยไปไกลพอสมควร ก็เลยขับรถวกกลับมาใหม่ ส่วนครั้งที่ 2 วินโทรมายืนยันว่าเลยังอยู่ปั้มเดิม น้องสลบไปยังดีที่มีเด็กปั้มช่วยเลเอาไว้ และบอกเพิ่มเติมว่าเลเวียนหัว จะอ้วก แล้วก็มีไข้ ฮิมฟังอาการแล้วเร่งขับให้เร็วกว่าเดิม

ยังดีที่เขามาถึงแล้วเลยังอยู่ที่ปั้มนี้ เพราะถ้าเขาหาเลไม่เจอ…

มันต้องมีคนรับผิดชอบ

“ฮึก! ฮือ ปวดหัว เลตัวร้อนด้วย” คนดีของเขาบ่อน้ำตาแตกทันที เลมีไข้ และถ้าน้องเป็นไข้จะงอแงผิดปกติ “เลสลบไปตั้ง 2 ชั่วโมง ถ้าพี่ดีนไม่ช่วยเลต้องตายแน่!”

นิ้วเรียวที่กำลังเกลี่ยน้ำตาให้อีกฝ่ายต้องชะงัก รอยยิ้มที่มุมปากหุบลงทันทีที่ชื่อของใครสักคนหลุดออกมาจากปากเล็ก

เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองร่างสูงที่กำลังนั่งอยู่ข้างเล อันที่จริงฮิมสังเกตเห็นมันตั้งแต่ตอนที่เขาเดินลงมาจากรถแล้ว เขาแค่เลี่ยงที่จะไม่พูดถึง เพราะว่ามองสถานการณ์ก็พอจะเดาออกว่ามันคงช่วยเลเอาไว้ ก่อนจะชะงัก ช่วยเหรอ วินบอกว่าเด็กปั้มช่วยเลเอาไว้

เด็กปั้มเหรอ

“เหอะ” เขาแสยะยิ้มให้กับอีกฝ่าย จากนั้นจึงหันไปสนใจน้องแทน “เลตัวร้อน เข้าไปซื้อเจลลดไข้ก่อนแล้วค่อยกลับ”

มือหนาหยิบแบงค์พันยื่นให้แต่คนรับทำหน้าไม่พอใจ “ทำไมต้องใช้เล! ทำไมฮิมไม่เข้าไปซื้อให้เล”

“เดี๋ยวพี่ตามเข้าไป” ฮิมถอนหายใจ

“...”

“นะครับ”

“ก็ได้” คนงอแงยอมรับแบงค์พันก่อนจะเดินเข้าเซเว่นไปอีกครั้ง ฮิมมองตามจนน้องเดินเข้าเซเว่น ร่างสูงจึงหยิบแบงค์พันออกมาอีกสามใบยื่นให้คนที่ยังนั่งอยู่ตรงหน้า

“ค่าดูแล”

มันปรายตามองเงินที่เขายื่นให้แล้วตอบเสียงเรียบ “กูไม่เอา”

ฮิมไม่พูดอะไร  เขาให้มันแต่ถ้ามันไม่เอา เขาก็ไม่เอาคืนเหมือนกัน แบงค์พันสามใบจึงถูกโยนลงถังขยะที่อยู่ใกล้ตัวทันที

“ใช้เงินทิ้งๆ ขว้างๆ ว่ะ”

“กูรวย”

อันที่จริงถึงเลจะไม่บอกว่ามันชื่อดีน เขาก็รู้จักมันอยู่ก่อนแล้ว

รู้จักดีเลยล่ะ

“หึ!” มันลุกขึ้นไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะเดินเข้าไปเซเว่นตามเลไป ฮิมเดินตาม แต่เขาช้าไป เพราะตอนที่เขาหาตัวเลในเซเว่นเจอก็เป็นจังหวะเดียวกันที่มันเดินออกจากน้อง ในมือถือโทรศัพท์แล้วยังมีหน้ายกขึ้นโชว์ให้เขาดูก่อนที่มันจะเดินออกจากเซเว่นไป

มือหนากำหมัดแน่น

แม่ง มันได้เบอร์น้องไป

นัยน์ตาคมหันไปถอนหายใจให้กับคนที่ถูกจีบแต่ยังไม่รู้ด้วย ทำไมเลไม่เอะใจบ้างเลยนะว่า ตัวเองสลบ แทนที่จะถูกส่งไปโรงพยาบาล แต่กลับมีคนมานั่งเฝ้าตัวเองที่ไม่รู้จะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่แทน

ฮิมได้แต่ทำใจ ขายาวเดินไปโซนเครื่องดื่มแล้วหยิบเครื่องดื่มแก้แฮ้งให้น้องก่อนจะเดินไปจ่ายตังค์พร้อมกัน หลังจากนั้นเขาจึงจูงมือเลไปที่รถ ทันใดนั้นเอง Reventon คันหรูก็ขับผ่านหน้าแล้วออกจากปั้มไป เลมองตามตาปริบๆ เจ้าตัวเริ่มคิดขึ้นได้

ถึงเขาจะไม่ฉลาดมากแต่เรื่องเรียน แต่เรื่องรถนี่ไม่เป็นสองรองใคร พอจะเห็นแวบๆ ว่ารถที่ตัวเองนอนสลบอยู่กว่าสองชั่วโมงเป็นรถสปอร์ตก็ตอนที่วิ่งลงมาจากรถเพื่อมองหารถทัวร์ ทว่าตอนตื่นมาเมื่อกี้ยังเบลอๆ อยู่เลยไม่ได้ให้ความสนใจ เลพึ่งได้สังเกตเต็มตาว่ามันรุ่นอะไรก็ตอนที่รถสปอร์ตคันหรูสีดำขับผ่านไปเมื่อสักครู่ งดงามเสียจนคนที่พึ่งรู้ตัวว่าได้นั่งรถหรูสุดยอดต้องอ้าปากค้าง

เลรู้จักรถรุ่นนี้ดี Lamborghini Reventon ถึงมันจะยังแพงสู้ Bugatti Chiron ของพี่ฮิมไม่ได้ แต่มันมีความพิเศษมากๆ อยู่อย่างหนึ่ง...

พี่ดีนบอกว่าตัวเองเป็นเด็กปั้ม

แต่เด็กปั้มที่ไหนเขาจะขับ Reventon ที่มีแค่ 20 คันในโลกกันเล่า!



ดีนหงุดหงิด ขายาวเหยียบคันเร่งให้รถเร็วขึ้นแต่ยิ่งเร็วเขาก็ยิ่งหงุดหงิด

ร่างสูงถอนหายใจ ใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองโทรศัพท์กดรายชื่อที่มีอยู่ พอเห็นชื่อเลก็พอทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

ครืด

ทว่าชื่อของคนโทรเข้าที่เด่นหราขึ้นทำให้ดีนต้องหุบยิ้มลง เขากดรับ

“มีไร”

(นี่มึงขับรถเลยไปถึงขอนแก่นแล้วเหรอวะ กูนั่งรอมึงมาสามชั่วโมงแล้วนะเว้ย!)

ดีนถอนหายใจ “กูพึ่งออกจากปั้ม”

(ปั้มไหน ปั้มที่มึงโทรคุยกับกูตอนสองชั่วโมงก่อนน่ะนะ)

“เออ”

(โอ้ย! ไอ้เหี้ย กูไม่รอมึงแล้ว กูจะกลับคอนโด)

“แล้วแต่มึง”

(แม่ง ไม่ได้อีก กูโง่ว่ะ ทำไม่เป็น รอมึงต่อก็ได้)

“เออ”

(ทำไมมึงต้องอยู่ปั้มนานถึง 2 ชั่วโมง เกิดไรขึ้น)

“ช่วยเด็ก เด็กสลบกูเลยให้นอนในรถ” ดีนตอบเสียงเรียบ

(ส่งโรงพยาบาลไม่เป็นเหรอวะ) เขาเงียบ (กูมีเซ้น เด็กมึงต้องเด็ดแน่เลย)

“เสือกว่ะฟา”

(มึงยอมให้นอนบนรถสุดรักสุดหวงของมึงได้เนี่ย มันต้องไม่ธรรมดาแล้ว)

“หุบปากมึงไป”

(อ่ะๆ โอเค แต่โทษฐานที่มึงต้องทำให้กูรอต่อไป อย่างน้อยขอชื่อเด็กหน่อย)

ดีนเงียบ เขากำลังคิด ฟามันเป็นคนขว้างกว้าง รู้จักคนเยอะโดยเฉพาะคนที่หน้าตาดีๆ มันเร่งเมื่อเห็นเขาเงียบ (เร็วๆ ดิวะดีน อย่างกไอ้เหี้ยแค่ชื่อ!)

ดีนถอนหายใจ “ชื่อเล”

เป็นทางนั้นที่เงียบแทน ดีนขมวดคิ้ว “มึงเงียบทำไม งั้นกูจะวางสาย”

(ดีน น้องเลมึงนี่ คงไม่ใช่หลีดวิศวะ มอ K หรอกใช่ไหม)

“ใช่” เขาขมวดคิ้ว “ทำไมวะ”

(เวร มึงจำตอนที่กูโดนซ้อมปางตายแต่กูไม่เอาเรื่องพวกที่ซ้อมกูได้ไหม)

“จำได้” ไอ้ฟาเคยโดนซ้อม สภาพอย่างเละ แต่มันกลับไม่เอาเรื่อง พวกเพื่อนคนอื่นๆ เลยหัวร้อนแทนเพราะมันโดนหนักพอสมควร ทั้งๆ ที่ปกติแค่ปากแตกนิดหน่อย พวกเขาก็สั่งลูกน้องให้เล่นงานกลับไปแล้ว

(อันที่จริงแล้วมันเพราะกูไปยุ่งกับน้องเลนั่นแหละ)

“มึงหมายความว่าไง” เขาขมวดคิ้ว

(เรื่องแม่งยาว คือกูก็เหี้ยเห็นน้องเมาก็เลยอยากหลอกกินเด็ก แต่เลดันเป็นน้องไอ้ฮิม อิทธิพลมันครองส่วนกลางเลยนะเว้ย ลูกน้องโคตรเยอะ กูเลยไม่อยากมีเรื่อง เดี๋ยวมันจะใหญ่)

ดีนสะดุดคำว่า ‘น้อง’ เขาดูวี่แววแล้วเลไม่น่าจะเป็นน้องมันได้เลย บอกว่าเป็นเด็กไอ้ฮิมยังดูน่าเชื่อถือว่า ส่งสายตาอ่อนโยนให้กันขนาดนั้น

แม่ง คิดแล้วหงุดหงิด ร่างสูงดันกระพุ้งแก้ม ชื่อของมันทำให้เขาไม่สบอารมณ์ ดีนไม่ได้บอกว่าตัวเองเจอคนที่เพื่อนกำลังพูดถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  “แล้วไง”

(แล้วไงของมึงคืออะไรวะ อยากตอแหลนะว่ามึงไม่รู้จักมัน บ้านมึงยังทำธุรกิจร่วมกันกับมันอยู่เลย)

เพราะบ้านเขาทำธุรกิจร่วมกับมันนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าฮิมเป็นลูกคนเดียวเหมือนเขา โอกาสที่มันจะมีน้องชายแท้ๆ แล้วอายุเท่าเลน่ะเป็น 0

“กูไปถามเลแล้วน้องบอกโสด” ถึงเลจะทำหน้าเศร้าๆ นิดหน่อยตอนที่บอกว่าตัวเองโสด ดีนก็ไม่รู้ว่าทำไมน้องพูดแบบนั้น เพราะเปอร์เซ็นที่น้องจะเป็นเด็กไอ้ฮิมมันมีสูงมาก แต่จะมีปัญหาอะไรกันเขาไม่สนหรอก โสดก็คือโสดดิวะ ร่างสูงเลยขอเบอร์อีกฝ่ายอ้างว่าจะได้ติดต่อให้มาเลี้ยงตอบแทนทีหลัง แล้วน้องก็ให้ ว่าง่าย น่ารักจริงๆ

(น้องเลร้ายว่ะ) เขารู้ว่าเพื่อนประชด ดีนแสยะยิ้ม คิดในใจ

ร้ายเหี้ยไรล่ะ โคตรซื่อ

(น้องเขาไม่สงสัยเหรอวะว่าทำไมคนแปลกหน้าอย่างมึงยอมนั่งเฝ้า)

“กูบอกเลไปว่ากูเป็นเด็กปั้ม”

(มึงเนี่ยนะเด็กปั้ม! โถ่ ไอ้ควาย มึงอ้างได้เหี้ยมาก เด็กปั้มที่ไหนขับ Reventon วะ ที่บ้านค้าน้ำมันล่ะสิไม่ว่า เลเชื่อเหรอวะ)

“ไม่รู้ ก็เห็นเออออตามแล้วก็ทำหน้างงๆ นะ” ดีนยิ้ม เขานึกถึงใบหน้าของอีกฝ่าย แม่ง น่ารักอีกล่ะ

(ดูเหมือนมึงจะชอบมากๆ เลยนะ น้องเลน่ะ)

“เออกูชอบ” ไม่ใช่แค่ชอบ ชอบมาก แม่งอยากได้เป็นเมีย

(สรุปคือมึงจะจีบ)

“อาจจะ…”

(มึงจะจีบน้องยังไง มหา’ลัยก็ใช่ว่าจะใกล้กันมาก)

“เบอร์ก็ได้มาแล้ว วิศวะสัมพันธ์ก็ใกล้จะถึง” เขาไม่ได้บอกเลว่าตัวเองก็เรียนอยู่วิศวะ และโชคดีอะไรขนาดนี้ที่เลเป็นหลีดวิศวะ

ฟาเงียบไปทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น เสียงทุ้มเลยเป็นฝ่ายถามก่อน

“มึงว่ากูจะสู้มันได้ไหม”

(สู้ใคร)

“ไอ้ฮิม”

(เห้ย! สู้ทำไมวะ มึงต้องไปขอไอ้ฮิมดิ มันเป็นพี่น้องเลนะ)

“เผื่อมันไม่ให้”

(นี่มึงจริงจังเหรอ)

“เออ”

(แม่ง ถามยากว่ะ บ้านฮิมทำไรวะ ค้ารถ บ้านมึงค้าน้ำมัน แต่บ้านมันก็ค้าน้ำมันธุรกิจร่วมกันกับมึง แต่บ้านมึงนอกจากค้าน้ำมันแล้วก็ยังขุดทอง ขุดเพชร แล้วก็ลงทุนด้านอิเล็กทรอนิกส์ด้วยนี่หว่า เชี่ยยากว่ะ เอาเป็นว่าฐานะทางบ้านก็เท่าๆ กัน อิทธิพลมึงก็ใหญ่ ฮิมมันก็ใหญ่ ก็ใหญ่เท่าๆ กันอีกไหมวะ)

“สรุปยังไง”

(กูว่าจะสู้ได้ คงต้องดูใจน้องเลว่าเอนเอียงไปทางไหน แต่กูว่าเลเลือกพี่ก่อนว่ะ)

ดีนเงียบ เพื่อนเขายังเข้าใจว่าเลเป็นน้องไอ้ฮิม แต่ถึงจะเข้าใจอย่างนั้น เขาก็คิดว่าฟาพูดถูก ยังไงน้องก็ต้องเอนไปทางไอ้ฮิมอยู่แล้ว มันอ่อนโยนกับเลถึงขนาดนั้น (แล้วมึงจะทำยังไง)

“ก็พิสูจน์ว่ากูดูแลน้องเขาได้ดีไม่ต่างจากครอบครัวเขา” พิสูจน์ว่าเขาดูแลเลได้ดีไม่ต่างไปจากมัน หรืออาจจะดีกว่ามัน

(แล้วถ้ามึงพิสูจน์ตัวเองแล้วพี่ชายเลยังไม่โอเคล่ะวะ)

“ก็ถ้าเลชอบกู...” ดีนไม่ต่อประโยคให้จบ เขารู้ว่าเพื่อนสามารถรู้คำตอบได้ด้วยตัวเอง ความคิดเขาถูกต้องเมื่อฟาพึมพำผ่านโทรศัพท์เสียงเบา



(เชี่ย วิศวะสัมพันธ์ปีนี้กูว่าต้องมีคนตายแน่เลยว่ะ)







(90%)

ไปค่ะ ไปลงเรือพี่ดีน พระรองฉันมาแล้วว ส่วนฟา ถ้าจำได้นางเป็นคนที่ทำให้น้องเลต้องเสียตัวให้พี่ฮิมจ้า55555555



สปอยอีก 10% ที่เหลือ

"จะไปนอนแล้ว!"

"น้องเล"

"อะไร!"

"จะไม่ Kiss ก่อนนอนอีกหน่อยเหรอ :)"



สปอยดูย้อนแย้งกับการเปิดตัวพระรองจังเลยฮือออ5555555555555555





ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอนะคะ โปรดอย่าใช้สระเอสองตัว)

Twitter @_mdreds


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 28-01-2018 16:04:37
แอบลงเรือพี่ดีน จะผิดมะ?  เริ่มรำอิพี่ฮิมนิดๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 28-01-2018 16:25:06
 :pig4 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 28-01-2018 16:31:24
ถ้าเป็นพี่ดีนก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 28-01-2018 16:50:15
พระรองอย่างแซ่บ !!! น้องเลสวยไปอี๊กกกก
ศึกชิงนายที่โครตสูสี แต่สุดท้ายอิพี่ฮิมก็ชนะเพราะสกิลพระเอก แอบเสียดายพระรอง  :o8:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 28-01-2018 17:09:59
ดูแลได้ คงดูแลได้แน่ๆ และถ้าน้องชอบ
เอา เอา น้องจะคู่กับพระรองก็ตามใจ

#พี่ฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-01-2018 18:16:07
โห พี่ดีน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-01-2018 18:33:18
อูยยยยย.......มาแล้ว เอาล่ะสิ........ :z3: :z3: :z3:
ดีน เด็กปั๊ม หล่อ รวย สูสีฮิม เลย
แถมติดใจเลอีก
ฮิม รีบสานสัมพันธภาพกับเลไวๆเลย
มีแววแล้วคู่แข่งลอยมาตัวเป็นๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 28-01-2018 18:50:51
นั้น ขอลงเรือดีนได้ป่ะน่าจะดีกว่าของเฮียฮิม

ที่ยอมปล่อยน้องง่าย ๆ ไม่สมควรดูแลต่อถ้ายังทำตัวแบบนี้

ปล่อยให้อิพี่ดีนดูแลแทนซะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 28-01-2018 19:07:20
โอ้ยยย

พี่ฮิมรีบทำคะแนนนะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 28-01-2018 19:11:00
พีแฮิมมมรีบง้อน้องขอคืนดีให้ไว ก่อนถึงงานแล้วจะมีนองเลือด เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 28-01-2018 19:14:24
เชียร์พระรอง เบื่อพระเอกแล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-01-2018 19:24:10
ดีน เด็กปั้ม พระรองคนใหม่ แซ่บหลาย ๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-01-2018 19:35:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 28-01-2018 20:38:02
อยากให้ถึงตอนวิศวะสัมพันธ์แล้วอะ :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 28-01-2018 20:49:17
โปรไฟล์เริดมากกกกกกกกก ทำยังไงดีๆๆๆๆอยากเป็นเมียพี่ดีนแล้วค่ะ พี่ฮิมเราจะนอกใจพี่ฮิมนะเราขอโทษ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 28-01-2018 21:59:04
สงสัยศึกครั้งหน้าจะใหญ่หลวงนัก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 28-01-2018 23:01:00
ขอเปลี่ยนทีม เป็น #ทีมพระรอง แล้วจ้าาา
พี่ฮิมชักช้าอ่ะ ให้คนดีๆดูแลน้องแทนเถอะะ อินนน
เชียร์พี่ดีนนนนนนนนนน งานดี
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 30-01-2018 11:23:56
 :mew5: อีกล่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 09-02-2018 19:31:22
พระรองแบบบบ โซแดมฮอตเว่อออออ หมั่นไส้พี่ฮิมเลยย แต่อย่าร้ายนะคะพี่ดีนน นุกราบบบบ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 10-02-2018 07:46:18
เฝ้ารอ อีก 110%  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 16-02-2018 12:18:44
รอคอยยยยยยยยจ :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 16-02-2018 22:54:21
พี่ดีนโผล่มารู้สึกแซ่บละ ตอนนี้ใครก็ได้ค้า 55555
รอนะค้าคนแต่ง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 22-02-2018 23:49:14
 :mew6:  รออยู่น้าาาา ไม่หายไม่หนีจะรอออออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 27-02-2018 01:52:38
รอนะค้า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: SKYสดใส ที่ 07-03-2018 20:11:31
รออออออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 11-03-2018 13:59:41
หูยยยยยย ผู้ชายแต่ละคนในชีวิตเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 12-03-2018 05:52:31
รออออคอยยยยย
หัวข้อ: : • แฟนวิศวะ • 090418#29 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 09-04-2018 01:37:06



4 ชั่วโมงต่อมา



“อิ่มแล้วเหรอ”

“หะ… หือ” เสียงเรียกทำให้สิ่งที่อยู่ในหัวของมลายหายไป ผมเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่นั่งอยู่ด้านตรงข้าม ส่ายหน้าก่อนจะหั่นสเต็กซ์ในจานกินต่อ

เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงก็ไม่รู้

ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนเย็น หลังจากพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องนอนบนคอนโดมิเนียมสุดหรูราคาสูงถึงเก้าหลัก

ผมอยู่คอนโดพี่ฮิม หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือผมถูกพามาที่คอนโดใหม่ของพี่ฮิม

ฮิมไม่ได้พาผมกลับไปที่ค่าย เขาพาผมมาที่คอนโดของตัวเอง และตอนนี้เรากำลังนั่งกินข้าวเย็นกันอยู่ที่ห้องครัว

ร่างสูงสั่งสเต็กซ์มา อร่อยนะแต่ผมว่าเพราะบรรยากาศกระอักกระอวนหน่อยๆ ทำให้มันอร่อยน้อยลง หลังจากกินเสร็จพี่ฮิมก็เลยอธิบายสั้นๆ แต่ได้ใจความ สรุปคือ ค่ายน่ะผมไม่ต้องไปแล้ว และวันนี้ผมก็ต้องนอนที่นี่ เขาปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวไม่ได้ ในฐานะรุ่นพี่ร่างสูงต้องดูแลผมไปจนกว่าไข้จะหาย อีกอย่างทั้งกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ กุญแจรถ หรือกระทั่งกุญแจคอนโด ทั้งหมดนี่อยู่บนรถทัวร์หมดเลย ดังนั้นในตอนนี้การที่ให้ผมอยู่กับพี่ฮิมมันจึงเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว

...เหรอ

ไม่! ไม่ดีเลย!

“น้องเล ย่อยแล้วไปอาบน้ำนะ” ร่างสูงเดินมาบอกผมที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น น้ำเสียงธรรมดา ท่าทีธรรมดา ทุกอย่างธรรมดาเกือบหมด ยกเว้นสรรพนาม

น้องเล! น้องเลคืออะไร!

พี่ฮิมไม่เรียกผมว่าน้องเล ตลอดระยะเวลากว่าสิบห้าปีที่ผ่านมา มีสรรพนามที่เขาใช้เรียกผมเยอะมาก ตั้งแต่ เล น้อง คนดี เด็กดี เด็กดื้อ คนเก่ง นิพิฑ honey นม และอื่นๆ แต่พี่ฮิมไม่ได้เรียกผมว่าน้องเลแน่ๆ

มันจะเป็นแค่สรรพนาม ถ้าเราไม่ได้อยู่ในโหมดไม่ควรรู้จักกันและกัน ในสถานการณ์แบบนี้ 

ผมถือว่าการที่สรรพนามของผมถูกเปลี่ยนคือหลักฐานแสดงความต้องการห่างเหินจากอีกฝ่าย

พี่ฮิมทำไมใจร้ายอย่างนี้

ฮึก! พูดแล้วก็จะร้อง



ผมไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำอยู่นานสองนาน กว่าจะอาบเสร็จก็กินเวลาไปเกือบสามสิบนาที หลังจากแต่งตัวโดยใส่เสื้อผ้าของพี่ฮิมเสร็จแล้ว ผมจึงเดินกลับมาดูหนังที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง ส่วนพี่ฮิมสลับกัน เขาเดินเข้าไปอาบน้ำโดยที่วางโทรศัพท์ที่เอาไว้ที่โซฟา

เลไม่มีโทรศัพท์ เลอยากเล่นเกม

หมับ!

ผมคว้าโทรศัพท์สีดำสนิทมาไว้ในมือ แต่พอกดเปิดปุ๊บก็พบว่ามันติดรหัส 6 หลัก

สุ่มวันเกิดพี่ฮิม ไม่ถูก

สุ่มวันเกิดผม ไม่ถูก

สุ่มจนเครื่องล็อกไปแล้ว 2 รอบผมเลยตัดใจก่อนจะโยนโทรศัพท์ทิ้ง แล้วหันมาสนใจหนังตรงหน้าแทน และหลังจากนั้นไม่นานพี่ฮิมก็เดินมานั่งข้างๆ ผม เขาอาบน้ำเสร็จแล้ว กลิ่นหอมฟุ้งเลย หล่อด้วย

มือหนาหยิบโทรศัพท์ที่ผมพึ่งโยนมันทิ้งไปขึ้นมา ผมชะเง้อคอมองรหัสผ่านแต่เหมือนพี่ฮิมจะรู้ทันเขาเลยหันมามอง จังหวะมันพร้อมกันเกินไปหน่อยก็เลย…

กึก!

ผมชะงักในขณะที่ริมฝีปากของเราห่างกันไม่ถึงมิล ใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ เราค้างอยู่พักหนึ่งจนกระทั่งพี่ฮิมทำท่าว่าจะละออกไป ผมที่ไม่รู้ไปเอาความกล้ามาจากไหน จู่ๆ ก็เอามือไปขยุ้มศีรษะของอีกฝ่ายแล้วรั้งให้ใบหน้าหล่อเหลาต่ำลงมาจนริมฝีปากสัมผัสกัน

ผมเริ่มก่อน แต่หลังจากนั้นเป็นพี่ฮิมต่อทั้งหมด

มือหนาเอื้อมมาประคองใบหน้าผมและหลังจากที่เป็นการจูบกันแบบธรรมดา ลิ้นร้อนก็ค่อยๆ สอดแทรกเข้ามา ร่างหนาดันตัวผมให้นอนราบไปกับโซฟาก่อนจะขึ้นคร่อม

อุณหภูมิร่างกายคล้ายสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฝ่ามือสากเริ่มลูบไปตามร่างกายผม ในขณะเดียวกันที่ปลายลิ้นยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างดี เขาไล่ต้อนผมจนหายใจไม่ทัน ผลคือน้ำลายสีใสเริ่มไหลออกมาจากมุมปาก เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ถูกเจ้าของที่แท้จริงของมันเลิกขึ้นไปจนถึงคอผม นิ้วเรียวเอื้อมมาสะกิดที่ยอดอกจนผมขนลุกไปทั่วร่าง ทว่าก่อนที่เราจะก้าวไปยังขั้นต่อไป จู่ๆ ร่างกายของผมก็ตกจากโซฟาลงสู่พื้นดัง

ตุบ!

“โอ๊ย!” ตอนแรกก็ตกใจที่ตัวเองหล่นลงมา แต่หลังจากตกใจเสร็จ สิ่งต่อมาคือความเงียบ

เพราะถ้าเมื่อกี้ผมไม่ได้ตกลงมา ไม่แน่ว่าอาจจะไปต่อ…

ผมไม่กล้ามองหน้าพี่ฮิมด้วยซ้ำ จนกระทั่งถูกมือหนาดึงตัวขึ้นไปนั่งโซฟาอีกครั้ง นิ้วเรียวยกขึ้นเช็ดน้ำลายที่มุมปากผมเป็นการย้ำเตือนว่าเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นไปเมื่อสักครู่นี้เป็นเรื่องจริง

ผมหน้าแดง ก่อนจะรีบผลักร่างสูงออกห่างจากตัวเอง “จะไปนอนแล้ว!”

“น้องเล”

“อะไร!”

“จะไม่ Kiss ก่อนนอนอีกหน่อยเหรอ :)”

พี่ฮิมบ้า!



วันต่อมา

“เลเบื่อ” ผมตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์สดชื่นหลังจากที่พี่ฮิมอาบน้ำเสร็จ  และหลังจัดการทำธุระส่วนตัวเสร็จหมดทุกอย่างแล้วรวมถึงทานข้าวเช้า ผมจึงเดินมาหาร่างสูงที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้องนั่งเล่น พี่ฮิมเห็น แต่เขาไม่ได้พูด ไม่ได้สั่งให้ทำอะไร และยังไม่ได้ว่าอะไรต่ออีกนาน สุดท้ายผมเลยต้องพูดประโยคข้างต้นออกไป

ผมต้องอยู่คอนโดพี่ฮิมไปจนกว่าทุกคนในค่ายจะกลับมา แต่ถ้าจะให้มานั่งอยู่เฉยๆ อย่างนี้ เลทำไม่ได้หรอกนะ!

“น้องเลอยากทำอะไร”

“อยากเล่นโทรศัพท์” เลไม่มีอะไรสักอย่าง ทุกอย่างอยู่บนรถทัวร์หมดเลย พี่ฮิมมองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนเขาจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองยื่นมาให้ “รหัส 695299 ครับ”

ก็ว่าทำไมสุ่มอะไรก็ไม่ได้สักที เลขอะไรก็ไม่รู้ไม่คุ้นเลยสักนิดเดียว

ผมเบะปากขณะรับโทรศัพท์มากรอกรหัสใส่เข้าไป

695299

69..5...2....9…..9

ผมเงยหน้าขึ้น สบตากับคนที่มองอยู่ก่อน เราสบตากันนิ่งๆ พี่ฮิมเป็นคนอมยิ้มให้เห็นก่อน ต่อจากนั้นจึงเป็นผมที่ค่อยๆ ฉีกยิ้มกว้าง ใบหน้าเห่อแดงยิ่งกว่าสีผิวของดาวอังคาร

ไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ

695299 คือตัวเลขที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวันอะไรทั้งนั้น

มันจะมีความหมายก็ต่อเมื่อเทียบตัวอักษรภาษาอังกฤษที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับเลขตัวนั้น และถ้าเทียบไม่ผิด…

6 9 5 2 9 9

M Y L A Y Y

mylayy





(100%)



ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอนะคะ โปรดอย่าใช้สระเอสองตัว)

Twitter @_mdreds

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 09-04-2018 01:42:56
#30





แค่รู้ความหมายแฝงของรหัสผ่านโทรศัพท์ก็ทำให้ระยะห่างของเราลดลงอยู่มากโข อย่างน้อยตอนนี้พี่ฮิมก็กลับมาเรียกผมว่าเลเหมือนเดิม

บางทีก็อาจจะดีกว่าเดิม

“พี่ฮิมว่าตัวนี้สวยไหม”

“จะใส่ตัวนั้นเหรอ” เสียงทุ้มว่า คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน “มันไม่เหมาะกับน้อง”

เราอยู่ที่ห้างเพราะพี่ฮิมบ่นว่าเบื่อ สลับตำแหน่งกัน ตอนเช้าผมบ่นว่าเบื่อ และตอนบ่ายพี่ฮิมก็มาบ่นว่าเบื่อ แตกต่างกันตรงที่พอพี่ฮิมบ่นว่าเบื่อเขาก็พาผมมาที่ห้าง และทันทีที่มาถึงสิ่งแรกที่ผมทำคือเดินเข้าร้านเสื้อผ้า เพราะตอนนี้เสื้อผ้าที่ผมใส่อยู่มันคือของพี่ฮิม ดูใหญ่แปลกๆ

ตอนนี้เราก็เลยกำลังอยู่ในร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังจากสัญชาติอิตาลี

ร่างสูงเดินไปทางชุดเอี๊ยม “เลไม่ใส่เอี๊ยม”

ผมพูดดัก มือหนาที่กำลังจะหยิบเอี๊ยมเลยเลื่อนไปนิดอีกชุดที่อยู่ข้างๆ กันแทน เป็นเสื้อตัวใหญ่มีฮู้ดสีน้ำเงินเข้ม ถึงจะไม่ค่อยเข้ากับสภาพอากาศในกรุงเทพฯ เท่าไหร่แต่ผมว่ามันสวยดีเลยพยักหน้าให้พี่ฮิม

“เลชอบนะ ต่อไปกางเกงๆ เอาๆ ตัวนี้!” ผมชูกางเกงขายาวสีเทา ทรงรัดรูปนิดหน่อยแต่ไม่มากให้พี่ฮิมดู เขาพยักหน้าจากนั้นก็หยิบทั้งสองชุดไปจ่ายตังค์ให้ผม แน่นอน จะให้เลจ่ายเองได้ยังไงในตอนนี้ผมไม่มีเงินสักบาท เพราะกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ ทุกอย่างยังอยู่บนรถทัวร์ที่ผมนั่งไปค่าย

ผมเอาชุดไปเปลี่ยนจากนั้นเราก็เดินหาซื้อสิ่งสำคัญอันต่อไปของผมนั่นคือ รองเท้า

ห้างนี้ไม่ใช่ห้างประจำ กว่าจะหาโซนขายรองเท้าที่ผมอยากได้เจอก็เล่นเอาปวดขาไม่น้อย และสำหรับการปวดขาในครั้งนี้ ผมเลยได้รองเท้า NB สีแดงมาคู่นึง ส่วนพี่ฮิมนอกจากการเสียตังค์นับหมื่นบาทให้ผมเขาก็ไม่ได้อะไรเลย

“พี่ฮิมอยากทำอะไรต่อ” ผมถามอีกฝ่ายขณะที่เรากำลังเดินออกมาจากโซนขายรองเท้า นัยน์ตาคมหันไปมองผมไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะอมยิ้ม “ยิ้มทำไม”

ร่างสูงไม่ตอบ พี่ฮิมเบี่ยงเบนความสนใจ “ดูหนังกันไหมครับ”

“ดูก็ได้” ผมพยักหน้าจากนั้นเราสองคนเลยเดินขึ้นไปยังชั้นโรงหนัง เพราะไม่รู้ว่าจะดูเรื่องอะไร สุดท้ายเราเลยตัดสินใจให้พนักงานเลือกให้ และในตอนที่ซื้อตั๋วหนังอยู่นั่นแหละผมถึงได้สังเกตมือตัวเอง

ไปจับมือกับพี่ฮิมตั้งแต่เมื่อไหร่

มองมือตัวเองแล้วมองแผ่นหลังกว้างที่กำลังคุยกับพนักงานเรื่องตั๋วหนังอยู่ เหมือนพี่ฮิมจะรู้ตัวก่อนแล้วว่าเรากำลังจับมือกัน หรือว่าที่ยิ้มตอนนั้นจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ด้วย

แต่แล้วพี่ฮิมก็เป็นฝ่ายปล่อยมือผมออกก่อนเพราะต้องหยิบกระเป๋าตังค์จ่ายเงินค่าตั๋วหนัง ถึงจะรู้เหตุผลแต่ก็รู้สึกโหวงๆ ในอกแปลกๆ ตอนที่ฝ่ามือหนาปล่อยออก พอรู้ตัวแล้วผมคงไม่ไปเผลอจับมือพี่ฮิมได้อีก แต่แบบนี้แหละที่มันน่าหงุดหงิด

รู้เลยว่าตัวเองกำลังหน้าบึ้ง ผมเลยเดินหนีออกมาซื้อปอปคอร์นเพราะรู้ว่ายังไงคนตัวสูงก็ต้องเป็นฝ่ายเดินตามมาจ่ายตังค์ให้

“ไม่รอพี่เลย” พี่ฮิมว่า “เลสั่งอะไรครับ”

“มีตาก็ดูเอาสิ” เลหงุดหงิดแล้ว

“เล” เสียงดุแล้ว ผมเม้มปาก หันไปทำตาปริบๆ ใส่พี่ฮิมเป็นเชิงขอโทษ

แล้วเราก็เงียบ… จนกระทั่งเดินถือป๊อปคอร์นเข้าโรงหนังกันสองคนก็ยังเงียบ ขนาดได้รู้ว่าพี่ฮิมเลือกซื้อที่นั่งที่แบบเป็นคู่ซึ่งเหมาะสำหรับคนมีคู่ แทนที่จะซื้อที่นั่งเดี่ยวแต่เอาแบบติดกัน ผมก็ยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่เหมือนเดิม

“เป็นอะไร” พี่ฮิมหันมากระซิบข้างหู เขาขยับใบหน้าเข้ามาใกล้เพราะเราพูดดังกันไม่ได้เนื่องจากอยู่ในโรงแล้ว

“เลหงุดหงิด”

“หงุดหงิดอะไรครับ” ผมหันหน้าไปมองพี่ฮิม อีกฝ่ายเองก็กำลังมองผมเหมือนกัน เราจ้องตากันเงียบๆ “เลไม่บอกพี่ไม่รู้นะ”

“ไม่รู้จริงเหรอ”

“...”  พี่ฮิมผละตัวออกไป ส่วนผมก็หันหน้าไปอีกด้านเพื่อปรับอารมณ์ตัวเอง จนกระทั่ง… ฝ่ามืออุ่นขยับเข้ามาทาบอยู่บนหลังมือผม นิ้วเรียวสอดแทรกเข้ามาในร่องนิ้วแบบหลวมๆ ผมหันหน้าไปมองเจ้าของมือหนาที่ยังคงจดจ่ออยู่กับโฆษณาก่อนหนังเริ่ม ก้มลงมองมือตัวเองแล้วปรับองศาให้ประสานเข้าหากันได้พอดี

ตั้งแต่หนังเริ่มจนกระทั่งหนังจบ พี่ฮิมไม่ยอมปล่อยมือผมอีกเลย

ต่อจากหนัง เราไปทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารซึ่งตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของของโรงแรมระดับห้าดาวสุดหรู บรรยากาศดีมาก อาหารก็ดี เพลงคลอก็ดี แสงสีก็ดี คนข้างกายก็ดี ทุกอย่างดีไปหมด

มีความสุขจนแทบจะสำลักตาย

อยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไปเลย



แฮชแท็ก #น้องเลเล่เล้เล๊เล๋

@saifha ไหนใครบอกว่าพี่ฮิมกับน้องเลทะเลาะกัน วันนี้เห็นเดินจับมือกันที่ห้าง E แล้ว ฉันงงค่ะพี่บัวลอย (แนบรูป)

        @cbex เขาคืนดีกันแล้วใช่ไหมบอกฉันที

       @maya10 กรี๊ดดดด คิดถึงโมเม้นท์แบบนี้


@lilly2468 เห็นไปกินข้าวด้วยกันที่ภัตตาคาร x ด้วยอะ

       @gigih เรื่องจริงไหมคะ

      @lilly2468 จริงคะ (แนบรูป)

      @yumei มีจับมือ พิงไหล่กันด้วย แม่เจ้า


@redbanana มีคนบอกว่าวันนี้ฮิมเลไปกินข้าวที่ภัตตาคาร x ด้วย ราคาไม่ใช่ถูกๆ เลยนะจ้ะ

         @wowwow เราเคยไปกินครั้งนึง หมดตัวเลยค่ะ แพงชิบหายย


@littlepink ไหนใครบอกน่ะว่า ดว จะมาแทนที่น้องเล หลบไปเถอะค่ะ ตัวจริงมาแล้ว

        @Fcdewa เสือกค่ะ

       @littlepink สาระแนไรอีดอก


@eateveryday ติดตามมาแบบเงียบๆ สรุปเขาเป็นพี่น้องกันหรือเป็นแฟนกัน งง

      @ponyjung พี่น้องกันค่ะ แต่เหมาะสมกันมาก คนเลยคิดว่าเป็นแฟนกัน

     @quinnn เป็นแฟนกัน

     @tigerkung เป็นพี่น้องกันครับ เพราะพี่ฮิมเป็นแฟนกับน้องเดวา

     @momo พี่ฮิมกับเลเป็นแฟนกันค่ะ เป็นพี่น้องกันแต่ไม่แท้ ส่วนที่มีข่าวกับเดวาอันนี้ไม่อยากด่วนสรุป แต่ช่วงนั้นพี่ฮิมกับน้องเลทะเลาะกัน

      @fiffy48 เป็นอดีตแฟน ตอนนี้พี่ฮิมกำลังคบกับ ดว

      @bobbom (แนบ 2 รูป) ไม่อยากพูดอะไรมากค่ะ ให้รูปมันเล่า น้องเลตัวจริงแน่นอน

      @eateveryday ขอโทษแต่งงกว่าเดิมอีก


@Cherisak สงสารเดวา

       @fhasia มาสงสารไรในแท็กน้องเล งงใจ



วันต่อมา

เมื่อวานมีความสุข วันนี้ทุกข์ ผมเริ่มต้นวันนี้ด้วยอารมณ์มึนๆ ช่วงเช้ายังดีอยู่ แต่ช่วงบ่ายทันทีที่พี่วินโทรมาบอกพี่ฮิมว่าหลังจากถึงมหา’ลัยแล้วเจ้าตัวจะมารับผมกลับทันที เท่านั้นแหละจิตใจผมก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

เพราะทุกอย่างมันดีขึ้น ผมไม่อยากให้มันกลับไปเป็นแบบเดิม

โชคก็ไม่เข้าข้างอีกเพราะวันนี้ทั้งวันพี่ฮิมยุ่งมากจนไม่มีเวลามากอดอกคุยกับผมแบบจริงๆ จังๆ ช่วงเช้าพี่ฮิมยังออกมานั่งเล่นกับผมอยู่ แต่ช่วงบ่ายร่างสูงปลีกตัวเข้าห้องทำงานทันที ร่างสูงถึงขนาดออกไปซื้อไอแพดมาให้ผมเล่น เขากลัวว่าผมจะเบื่อ เนื่องจากโทรศัพท์ของพี่ฮิมที่ผมใช้เล่นมาตลอดถูกเจ้าของที่แท้จริงยึดไปโทรคุยงาน เสียงโทรคุยงานหลากภาษาที่ดังออกมาจากห้องทำงานบ่งบอกว่าผมไม่ควรเข้าไปกวน ดังนั้นเลเลยต้องเป็นเด็กดีโดยการนั่งเล่นคนเดียวอยู่ด้านนอก แต่นั่นมันก็ทำให้เราไม่ได้คุยกัน

พี่ฮิมออกมาจากห้องทำงานอีกครั้งตอนหนึ่งทุ่ม ร่างสูงเดินมาหาผมแล้วพูดประโยคที่ผมไม่อยากได้ยินมากที่สุด

“วินมารับแล้ว มันรออยู่ด้านล่าง”

“...” ทำอะไรได้ นอกจากลุกขึ้นยืน ไม่ต้องเตรียมอะไร เพราะก่อนมาที่นี่ผมก็ไม่มีอะไร

“เดี๋ยวพี่ลงไปส่ง” ผมเดินออกจากห้องไปลงลิฟต์ บรรยากาศภายในลิฟต์เงียบมาก ผมหันไปจ้องหน้าคนข้างกาย

“จะไม่ยื้อเลหน่อยเหรอ” ผมสบตากับพี่ฮิม เอื้อมมือไปจับมือเขาเอาไว้ ทันใดนั้นเองคนตัวสูงก็ผลักผมแนบเข้ากับกำแพง ริมฝีปากนุ่มประกบทาบแนบแน่น กายแกร่งเบียดเข้าใส่แล้วใช้มือหนาดันคางผมเอาไว้รับสัมผัส ลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาดูดดันจนรู้สึกร้อนวาบไปทั้งตัว ผมไล่มือไปตามใบหน้าหล่อเหลา ตระกองกอดรอบลำคอของอีกฝ่ายเอาไว้แล้วลากมือขึ้นไปขยุ้มกลุ่มผมสีดำสนิทเล่น

ติ๊ง!

พรึบ!


มือหนาข้างหนึ่งเอื้อมไปกดปิดประตูลิฟต์เอาไว้เมื่อมันส่งเสียงเตือนว่ามาถึงชั้นที่ต้องการ พี่ฮิมค่อยๆ ผละกายที่เบียดผมจนแน่น ลิ้นร้อนที่ตวัดไล่อยู่ในโพร่งปากผละออกเป็นอย่างสุดท้าย ทิ้งน้ำลายสีใสไหลยืดไปตามทาง ผมมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาคมสีดำสนิท ประกายรอยยิ้มในดวงตาสีมืดชวนให้คนมองยิ้มตาม พี่ฮิมโน้มใบหน้าลงกัดริมฝีปากผมเบาๆ ทีนึง ต่อด้วยการกระซิบที่ข้างหูแล้วลากต่ำไปซุกไซร้ที่ลำคอ

“เดี๋ยวพี่โทรหา”

“อย่าลืมนะ” ผมกัดริมฝีปากให้พี่ฮิม เบียดกายเข้าหาอกแกร่งเมื่อร่างสูงกำลังจะปล่อยผมออกจากอ้อมกอด

“ไม่ลืม” ร่างสูงสำรวจความเรียบร้อย ก่อนจะปล่อยปุ่มที่กดปิดลิฟต์เอาไว้ แต่ผมยังไม่พอใจเลยเป็นฝ่ายเขย่งตัวจูบพี่ฮิมอีกครั้งที่ปลายคาง แขนแกร่งต้องโอบรับน้ำหนักของผมเอาไว้อีกครั้ง ความเอาแต่ใจของผมทำให้ตอนที่ลิฟต์มันเปิดเราจึงผละออกจากกันไม่ทัน โชคดีที่มีคนยืนอยู่หน้าลิฟต์แค่คนเดียว แต่โชคร้ายคือคนนั้นดันเป็น…

“พี่วิน” ผมทักทายร่างสูงที่กำลังแสดงสีหน้าราบเรียบ “มาตามเลเหรอ”

ผมนึกว่าพี่วินจะดุหรือว่าอะไร แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ทำอย่างที่ผมคิด เขาแค่ถาม

“ไข้หายหรือยัง ดีขึ้นไหม”

“เลหายแล้ว”

“งั้นก็กลับ” พี่วินว่าก่อนจะเข้ามาจูงมือผมเดินออกไป ผมหันไปมองพี่ฮิมในขณะที่เดินตามหลังพี่วินอยู่ พี่ฮิมกำลังยืนโบกมือลา เห็นดังนั้นผมก็เลยโบกมือกลับ แล้วทำท่าเป็นรูปโทรศัพท์เป็นการย้ำว่าอย่าลืมโทรมา แล้วจู่ๆ คนข้างกายที่เดินขรึมนำหน้าได้นานสองนานก็หันมาตบหัวผมดังโป๊ะ!

“น้องเจ็บ!” ผมโวย “มาตีหัวเลทำไม”

“สัปดาห์ก่อนมึงยังร้องไห้เพราะมัน มาอยู่กับไอ้ฮิมแค่ 2 วันนิสัยเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่สงสารน้ำตาตัวเองที่ไหลออกไปบ้างเหรอ”

“เปลี่ยน?” ผมทำหน้างง “เปลี่ยนตรงไหน? เปลี่ยนยังไง!”

“ระริกระรี้!” 



พี่วินไม่ได้พาผมไปส่งที่คอนโดอิน เขาพาผมกลับบ้าน ให้เหตุผลว่าถ้าไม่อยากโดนซ่อมค่ายก็ทำตามที่พี่วิน ผมก็เลยต้องทำตาม สิ่งแรกที่ผมทำหลังจากกลับมาถึงบ้านคืออาบน้ำ อาบเสร็จก็ไปนอนกลิ้งเล่นอยู่บนเตียง และว่าจะเล่นโทรศัพท์…

โทรศัพท์ โทรศัพท์เล!

ตึกๆๆ

ปัง!

“พี่วิน!” ผมวิ่งไปห้องพี่วิน รีบเปิดประตูโดยไม่ขอเจ้าของห้อง ผลคือเห็นพี่วินกำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง เขาเงยหน้าขึ้นมองผมแล้วเลิกคิ้วขึ้น “โทรศัพท์เลล่ะ เอ๊ะ!”

ผมหรี่ตามองโทรศัพท์ในมือพี่วิน เคสคุ้นๆ นะ “นั่นโทรศัพท์เลไหมอะ”

“เออ โทรศัพท์มึงนั่นแหละ” มือหนากดล็อคหน้าจอก่อนจะโยนมันลงบนเตียงมาทางผม

“พี่วินทำอะไรกับโทรศัพท์เล” ผมถามด้วยน้ำเสียงไม่ไว้วางใจ

พี่วินทำหน้าเหนื่อยหน่ายใจแถมยังไม่ตอบอะไร ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงเดินไปทางห้องน้ำ ในขณะที่ผมรีบหยิบโทรศัพท์มาไว้กับตัว ก่อนจะเดินออกทางประตู ทว่า

“วันนี้มานอนห้องกู”

ง่ะ

ผมหยุดชะงัก รีบหันไปมองพี่วินแล้วส่ายหน้า “ไม่ได้นะ”

“ไม่ได้ก็ซ่อมค่าย”

“พี่วินอ่าา” พี่วินไม่สนใจ พี่ิวินเดินเข้าห้องน้ำ “พี่วิน!”

“ไปหอบหมอนกับผ้าห่มมึงมาเลย” เสียงนั้นตะโกนออกมาจากห้องน้ำ ผมคอตก

มานอนกับพี่วินแล้วผมจะคุยกับพี่ฮิมยังไงกันเล่า!



สรุปคือไม่ได้คุย

ผมงอนพี่วิน เขายึดโทรศัพท์ ปิดเสียงแต่ดันไม่ปิดการสั่นให้ พอพี่ฮิมโทรมาตอนที่พี่วินปิดไฟทั้งห้องเพื่อบังคับให้ผมนอน โทรศัพท์มันเลยสว่างจ้าแถมได้ยินเสียงสั่นอย่างชัดเจน ผมได้แต่มองตาปริบๆ จะลุกขึ้นไปหยิบมารับก็ไม่ได้เพราะคนที่นอนอยู่ข้างกายเอาขาก่ายเอวผมพร้อมล็อคไม่ให้ดิ้นหนี พี่ฮิมโทรมาตั้งเจ็ดครั้งแหน่ะ แทบร้องไห้

ตอนเช้า ผมรีบโทรหาพี่ฮิมกลับ (จริงๆ แทบไม่ได้นอน) แต่อีกฝ่ายก็ไม่รับเหมือนกัน

วันนี้เลยต้องขับรถมาเรียนด้วยสภาพหงุดหงิด และยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิมเมื่อเดินเข้าคลาสแล้วพบว่า

ลืมเอาโทรศัพท์มา!

“หาอะไรเล” เกี๊ยกหันมาถามเมื่อเห็นผมทำท่าทางส่ายไปส่ายมาเพราะกำลังหาโทรศัพท์อยู่

“เลลืมเอาโทรศัพท์มา”

“ยืมของกูก่อนไหมล่ะ” ดินเสนอพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ของตัวเองมาให้ ผมส่ายหน้า ถ้าจะคุยก็อยากใช้โทรศัพท์ของตัวเองมากกว่า “แล้วหงุดหงิดทำไม”

“อย่าถาม!” ผมเผลอตะคอก แต่พวกเขาฟังแล้วเงียบแถมยังไม่ตอบกลับ จนผมรู้สึกผิด “ขอโทษ เลหงุดหงิด เล… ฮือ ขอโทษนะ”

“อือ ช่างเถอะ” พิษหันมายิ้มๆ ให้ผม ส่วนเกี๊ยกกับดินพยักหน้ารับรู้ธรรมดา

เรียนเสร็จตอนบ่ายสามเกือบสี่โมง พี่ๆ งดซ้อมหลีดเพราะเหนื่อยกับการไปค่ายจิตอาสา อินเองวันนี้ก็โดดเรียนนอนพักที่คอนโด

วันนี้พี่วินบังคับให้ไปนอนที่บ้านเหมือนเดิม ผมเลยยังไม่อยากกลับบ้าน รู้สึกว่าถ้าเห็นหน้าพี่วินแล้วต้องหงุดหงิดกว่าเดิมแน่ เลยตัดสินใจมาเดินเล่นที่ห้าง แล้วบังเอิญเจอกับ…



“น้องเล” เสียงทุ้มเอ่ยทักคนที่กำลังจะเดินผ่านหน้าเขาไป พออีกฝ่ายได้ยินเสียงเรียกก็หันมามอง ตาดวงโตนั่นเบิกกว้างนิดหน่อย

“พี่ดีน” เลพูดไปยิ้มไป คนสวยมองเขาแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองร้านที่เขาพึ่งเดินออกมา Diesel พร้อมถุงในมืออีกสามถุง แล้วกะพริบตาปริบๆ ไม่ถามอะไร แต่ดูเหมือนน้องจะเริ่มรู้แล้วว่าเขาไม่ได้มีฐานะยากจนสักเท่าไหร่ “มาซื้อของเหรอ”

“มาซื้อให้เพื่อนครับ งานวันเกิดมัน” ดีนตอบแล้วมอง

แปลก

เขาขอเบอร์เล แล้วก็เอาเบอร์น้องไปหาไลน์ หาเจอ ทักไปแล้ว แต่ที่ประโยคที่ตอบในไลน์ส่วนใหญ่กับคำพูดและท่าทางที่ส่อไปถึงนิสัยของคนตรงหน้า มันไม่ค่อยจะสัมพันธ์กันเท่าไหร่

“ทำไมมองเลแบบนั้น” เขามองจนน้องสงสัย ดีนหลุบตาลง เปลี่ยนเรื่อง

“พี่หิวข้าว”

“เอ๊ะ!” ตาโตเบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง “เกือบลืมเลย เลบอกว่าจะเลี้ยงพี่ดีนตอบแทนหนิ กำลังหิวเหมือนกัน อยากกินอะไรครับ”

อยากกินน้อง

อันนี้ไม่ได้พูดออกไปหรอก แค่ยิ้มๆ แล้วตอบ “ตามใจเล”

“อย่าตอบใจเลสิ เลต้องเลี้ยงพี่ดีน ไม่ต้องเกรงใจนะ อยากกินอะไรก็บอกเลเลย”

“งั้นสเต็ก โอเคไหม” เสียงทุ้มว่า เขาตั้งใจเลือกอาหารที่ต้องรอหน่อย จะได้อยู่กับอีกฝ่ายนานกว่าเดิม

“โอเค บังเอิญจัง ห้างนี้มีร้านสเต็กที่อร่อยด้วย เดี๋ยวเลพาไป” มือบางเอื้อมมาจับมือเขาแล้วจูงให้เดินตาม ดีนก้มลงมองมือที่ถูกจับอยู่แล้วยิ้ม

มือนุ่ม



“เอา อันนี้ อันนี้ น้ำเอาเป็นชามะนาว พี่ดีนจะเอาอะไรเหรอ”

“พี่เอาแบบเล”

“เอางั้นเหรอ งั้นเอาแบบเดียวกันหมด 2 ชุดครับ”

“ได้ค่ะ สเต็กรอประมาณ 20 นาทีนะคะ” พนักงานว่าแล้วเดินออกไป ลับหลังคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาจึงพูดขึ้นมา

“20 นาทีเลยเหรอ น่าเบื่อเลย”

“ทำไมครับ ไม่อยากอยู่กับพี่นานๆ เหรอ”

“เลเปล่า” คนสวยส่ายหัวแล้วทำหน้าเศร้า “เลลืมเอาโทรศัพท์มา เมื่อคืนก็โดนยึดไม่ให้ใช้โทรศัพท์ เซ็งเลย”

ดีนฟังแล้วเงียบ เขาเสนอ “เล่นของพี่รอไหมล่ะ”

น้องส่ายหน้าแต่คราวนี้กลับทำตาลุกแววแปลกๆ เจ้าตัวเม้มปาก ทำท่าทางเหมือนอยากจะขออะไรสักอย่างจากเขา “พี่ดีน…”

“หืม”

“Reventon สีดำคันนั้นน่ะ ของพี่ดีนเหรอ”

“ครับ ของพี่”

“ฮืออออ” เลทำหน้าละห้อย สีหน้าเหมือนกำลังคาดหวังอะไรสักอย่าง

“อยากนั่งเหรอ”

“เลอยากขับ” น้องเอามือขึ้นมาประสานกันแบบหลวมๆ แล้วพูดกับเขา “ให้เลลองขับหน่อยได้ไหมอ่า”

“...” ดีนเงียบ

“นะ พี่ดีน”

“...”

“นะ น้า” แล้วก็เผยรอยยิ้ม

โคตรน่ารักเลยว่ะ

“โอเค” เขาตอบตกลง “วันนี้เลยไหม”

“วันนี้เลยก็ได้เหรอ ฮือ ดีใจจัง ขอบคุณนะครับ ขอบคุณมากๆ”

“ไม่เป็นไร เลชอบรถเหรอ?”

“เลชอบรถ ชอบขับรถ ชอบดูการแข่งรถด้วย” ดีนฟังแล้วพยักหน้ารับรู้ ชอบรถ ชอบขับรถ เข้าทางบ้านฮิมสุดๆ

เขาหวังว่าน้องจะชอบเพชรชอบพลอยด้วยเช่นกัน

“พี่ดีนได้คันนี้มายังไงเหรอ มันมีแค่ 20 คันเอง”

“คนรู้จักพี่ให้มา เขาบอกว่าพี่เหมาะกับรถรุ่นนี้”

เลคิดตาม สุดท้ายแล้วก็พยักหน้าเหมือนเห็นด้วย “อื้อๆ ก็เหมือนนะ”

“ยังไงครับ”

“ดูดี เท่ มีเสน่ หาได้ยาก” ดีนยิ้ม ไม่รู้ว่าน้องกำลังบรรยายรถหรือบรรยายเขากันแน่

“เทียบ Bugatti Chiron ได้หรือเปล่านะ” เขาแฝงความหมายซ้อนในประโยคและคำตอบแรกของเลก็ทำให้ลมหายใจคนฟังถึงกับหยุดชะงัก

“เทียบไม่ได้หรอก” แพ้เหรอวะ? “รถคนล่ะรุ่นกัน จะเอามาเทียบกันได้ยังไงเล่า เลว่าดีคนละแบบนะ”

เขาแทบถอนหายใจเฮือก

“เลชอบคันไหนมากกว่ากัน”

“เลชอบ…”

“อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ”

คนรอฟังถึงกับชักสีหน้าใส่พนักงาน เมื่อเลหันไปสนใจสเต็กจานยักษ์ที่ถูกวางลงตรงหน้าแทน เรื่องกินถูกนำมาแทนเรื่องรถทันที

“กินให้หมดนะพี่ดีน”

“ครับ” ดีนรับคำ ใบหน้าหล่อเหล่าหันไปทางอื่นเพื่อระบายอารมณ์ขุ่นมัว จังหวะเดียวกันที่โทรศัพท์เขาสั่น พอหยิบมันออกมาดูก็พบว่าเป็นไลน์ของคนที่กำลังนั่งหั่นสเต็กอยู่ตรงข้ามเขาส่งข้อความมา

กูว่าแล้ว

ก่อนมาที่ร้าน เลบอกว่าตัวเองยังไม่ได้ใช้โทรศัพท์น่ะเขายังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่พอมาถึงตอนนี้เขาถึงเชื่อหมดใจ เลนั่งกินสเต็กอยู่ข้างหน้าเขาขนาดนี้ โทรศัพท์ก็ยังไม่เคยหยิบออกมาให้เห็นเพราะน้องบอกว่าลืมเอามา แล้วจะพิมพ์ไลน์ส่งมาหาเขาตอนนี้ได้ยังไง

มีเหตุผลเดียวเท่านั้นแหละ… มีคนเล่นโทรศัพท์เล

อันที่จริงดีนคิดตั้งแต่ที่ข้อความที่ตอบกลับมามันแปลกๆ คนเล่นโทรศัพท์เลน่ะสวมรอยเป็นเล แค่เป็นเลในแบบที่เลไม่น่าจะเป็น อย่างตอนนี้…

Lay ไม่ชอบ ไสหัวไปสักที รำคาญว่ะ

เขาหุบยิ้มลง แต่ก่อนที่ยังคิดว่าน้องพิมพ์แค่นึกภาพหน้าแล้วก็ยังเห็นความน่ารักอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่ใช่…

มือหนาพิมพ์ตอบกลับไป

deen มึงแดกเอฟในการปลอมเป็นเลไปเลยไอ้สัส เลอยู่กับกูแต่มึงเสือกส่งข้อความมา โคตรโง่

Lay อยู่กับมึง?

deen ส่งรูป

Lay อย่าทำอะไรน้องกู

deen ยอมรับแล้วเหรอว่าเป็นพี่ของเล จะกันกูไม่ให้ยุ่งกับน้องมึงก็กล้าๆ หน่อย ใช้ไลน์เลบอกให้กูเลิกยุ่งกับเลนี่กระจอกว่ะ

Lay เสือก

deen เอาไลน์มึงมา

deen อย่าให้กูต้องหาเอง กูหาได้ตั้งแต่บ้านเลขที่ยันประวัติรากเหง้ามึง




“พี่รำคาญผมเลจัง” ดีนว่า ก่อนคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตากินไอศกรีมอยู่จะเงยหน้าขึ้นมาทำตาโตใส่ทันที เขาชวนน้องมากินของหวานหลังเสร็จจากของคาว และตอนนี้ร่างสูงก็กำลังหงุดหงิดผมที่เลคอยปัดมันออกจากหน้าผาก “มันยาวจนปรกหน้า เลไม่รำคาญเหรอ”

“นิดหน่อย”

“มียางมัดผมไหม” เสียงทุ้มว่า ดีนแสดงสีหน้าจริงจัง “พี่จะมัดผมให้”

“เลว่าเลมีนะ” น้องทำท่าคิดขณะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายของตัวเองแล้วหยิบยางออกมาประมาณสี่ห้าเส้น ร่างสูงเปลี่ยนฝั่งการนั่งทันทีที่เห็นยาง มือหนารวบผมที่ปรกหน้าผากขาวขึ้นทั้งหมด ก่อนที่น้องจะเงยหน้าขึ้นมองมาแล้วยิ้มให้ “เย็นจัง”

“ดีแล้ว” เสียงทุ้มว่า เขาเอื้อมมือไปหยิบยางขึ้นมาจะมัด

“พี่ดีนเป็นคนที่สามที่มัดผมให้เล”

“อีกสองคนคือ?”

“พี่ฮิมกับพี่วิน พี่ฮิมชอบถักเปียให้ ส่วนพี่วินทำเป็นอย่างเดียวคือมัดรวบ แถมยังเจ็บอีก”

คนฟังนิ่งเงียบ จากที่ว่าจะมัดรวบให้เฉยๆ เลยต้องเปลี่ยนความคิด มือหนาค่อยๆ บรรจง ประดิษฐ์ประดอยถักเปียอย่างที่ใจต้องการจนเวลาล่วงเลยไปกว่าสิบนาที คนที่มัวแต่สนใจไอศกรีมและกินหมดทั้งถ้วยหมดพอดีถึงได้รู้สึกตัวว่าเขายังคงยุ่งกับผมของเจ้าตัวอยู่

มือบางยกขึ้นมาแตะๆ บนหัวของตัวเอง “พี่ดีนนน จะทำงานศิลปะบนหัวน้องเหรอ”

“จะเสร็จแล้ว” เขาว่า รีบหยิบยางขึ้นมามัดผมเป็นขั้นตอนสุดท้าย “เสร็จแล้วครับ”

“เลอยากเห็น พี่ดีนใช้โทรศัพท์ถ่ายให้เลดูหน่อย” ดีนหยักหน้า เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายผลงานตัวเองแล้วส่งให้เจ้าของผมดู “โอโห้ สวยจัง”

ของมันแน่

“พี่ดีนเก่งจัง มีพี่น้องเป็นผู้หญิงเหรอ” น้องถาม

“พี่เป็นลูกคนเดียว”

“ทำให้หญิงบ่อยล่ะสิ”

“แม่เลี้ยงสอนให้พี่ทำตอนเด็กๆ” ดีนเริ่มเล่า “ทั้งชีวิตพี่เคยถักให้แค่คนสองคน หนึ่งคือแม่เลี้ยงพี่ คนที่สองคือน้องเล”

ตอนเด็กๆ ดีนถูกบังคับให้ทำเพราะแม่เลี้ยงบอกเขาว่า ถ้าโตขึ้นมาผู้ชายที่ถักเปียเป็นผู้ชายนุ่มนวล ผู้หญิงจะชอบได้ง่าย ทว่าตั้งแต่ที่โตขึ้นมา เขาก็ไม่เคยได้ถักเปียให้ใครเพราะส่วนใหญ่ หญิงและชายบางกลุ่มก็เข้าหาเขาแม้ยังไม่ได้ทำอะไร จนบางทีก็เยอะเกินไป ด้วยรูปร่างและฐานะ เขาเล่นกับหัวใจคนอื่นได้ง่ายๆ ไม่สนใจ ไม่แยแส เพราะขาดคนนี้ไป คนอื่นก็เข้ามา ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะว่าชอบจริงๆ

เขามันเลวในระดับหนึ่งเลยล่ะ

“เลเหรอ?” คนฟังทำท่าทางตกใจ “จริงจังไหมเนี่ย พี่ดีนถักสวยขนาดนี้แต่เคยถักให้แค่ 2คน”

“พี่ตั้งปนิธานว่าจะถักให้แม่เลี้ยงคนเดียว”

นิสัยไม่สนใจไม่แยแสคนที่ตัวเองไม่ได้ชอบจริงๆ ทำให้เขาไม่เคยถักเปียให้คนอื่น จนปนิธานในใจว่าชาตินี้จะถักให้แม่เลี้ยงคนเดียว แต่แล้วก็เพิ่มมาอีกคนจนได้…

เลเป็นคนแรกที่ทำให้เขาลืมเรื่องปนิธานถักเปียไปซะสนิท ทั้งๆ ที่ผ่านมาเขาก็เคยมีคนที่ชอบอยู่บ้าง

“อ้าว แล้วทำไมมาถักให้เลเล่า!” เสียงใสว่า ตาโตเริ่มแดงคล้ายจะร้องไห้ เลรู้สึกเหมือนตัวเองไปพังความตั้งใจของใครสักคนเข้า ร่างสูงยิ้ม มือหนายื่นเข้าลูบศีรษะทุยเบาๆ ที่ถักให้เลน่ะแค่เบาะๆ สมัยเด็กน่ะดีนถักเปียได้สารพัดแบบทั้งรูปหัวใจ รูปดาว ถักเป็นเกลียวคลื่น สารพัดเปียจนพ่อบอกว่าไปเปิดร้านทำผมได้เลย

แต่ที่เขาถักให้เล ส่วนหนึ่งของเพราะอยากชนะอีกสองคนที่เคยถักให้น้อง อีกส่วนหนึ่งเพราะ

“เลน่ะ… คล้ายกับแม่เลี้ยงของพี่มากเลย”



“ตื่นเต้นจัง” สิ้นสุดของหวานและของคาว ร่างสูงจึงพาอีกฝ่ายลงลิฟต์มายังชั้นใต้ดินเพื่อเดินไปที่รถ เลมีปฏิกิริยากับคำว่ารถอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางตื่นเต้นนั่น สงสัยจะชอบมากจริงๆ

ติ๊ง!

ลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นจุดหมาย และคนที่อยู่หน้าลิฟต์ก็ทำให้สองร่างที่อยู่ในลิฟต์ต้องชะงัก

“พี่ฮิม” เสียงนุ่มเอ่ยชื่อของคนที่กำลังมองพวกเขาด้วยความนิ่งงัน มันเงียบ ถอยหลัง แล้วเดินกลับหลังหัน คนข้างกายของเขาตั้งท่าจะวิ่งตามถ้าดีนไม่จับแขนเอาไว้ก่อน “พี่ฮิม! พี่ฮิม! ฮือ พี่ดีนปล่อยเลก่อน”

“ไม่อยากขับ Raventon แล้วเหรอครับ”

“เอา! เอาวันหลังได้ไหมอ่า วันนี้เลรีบ”

“พี่ต้องส่งรถไปเช็คสภาพวันพรุ่งนี้ แล้วที่ไทยไม่มีบริษัทที่รับดูรถรุ่นนี้ มันอาจจะใช้เวลานานกว่าจะส่งกลับมาที่ไทยอีกครั้ง อย่างต่ำคงสักสองเดือน”

เขาโกหก

คนฟังมีท่าทีลังเลให้เห็น แต่สุดท้าย “งั้นไม่เป็นไร เลรีบ ขอบคุณมากครับ ไว้เจอกันใหม่นะพี่ดีน”

ก่อนมือเล็กจะดึงมือที่เขาจับแขนของอีกฝ่ายอยู่ออก นัยน์ตาคมมองแผ่นหลังบางที่กำลังวิ่งตามร่างสูงของฮิมด้วยอารมณ์ที่ยากจะอธิบาย แต่ที่แน่ๆ คือคำถามที่ดีนถามน้องว่า

‘เลชอบคันไหนมากกว่ากัน’

เขาได้คำตอบชัดแล้ว





มีต่อ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280118#29 (90%) p.41
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 09-04-2018 01:46:05
ต่อ


ผมวิ่งตามพี่ฮิม

ตกใจมากที่เห็นพี่ฮิมยื่นอยู่ด้านหน้าตอนลิฟต์เปิดออก เจ้าตัวก็เหมือนจะตกใจเช่นเดียวกันที่เห็นผม พี่ฮิมมองเลแล้วก็หันไปมองพี่ดีน จากนั้นก็ทำหน้านิ่ง ถอยหลัง กลับหลังหัน แล้วเดินออกไปเลย แต่เดินเร็วมากอีกทั้งยังขายาว ผมในตอนนี้เลยต้องวิ่งตาม

“รอเลหน่อย!” ผมตะโกนให้อีกฝ่ายเห็นใจ แต่เหมือนจะไม่ ร่างสูงหยิบกุญแจออกมากดเปิดรถ เห็นดังนั้นผมจึงใช้แรงเฮือกสุดท้ายวิ่งให้เร็วที่สุดเข้าไปเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแล้วกระโดดขึ้นไปนั่ง ถึงขนาดนั้นพี่ฮิมก็ยังสตาร์ทแล้วออกรถโดยที่ประตูฝั่งผมมันยังไม่ทันได้ปิดเลยสนิทด้วยซ้ำ

รถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนที่ออกจากลานจอดรถชั้นใต้ดินในห้างเร็วมาก แต่สุดท้ายก็ต้องมาติดแหง็กกับจราจรของกรุงเทพฯ เหมือนเดิม ในขณะที่ตัวรถไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้เพราะรถติด บรรยากาศในรถก็เงียบมาก เงียบจนผมไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอะไร

ท่าทางของพี่ฮิมหลังจากที่เห็นผมอยู่กับพี่ดีนแล้วเขาเหมือนโกรธผมอะ เห็นแล้วมันรู้สึกไม่ดีก็เลยว่ิงตามมา แต่ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อ

“พี่ฮิมไปทำอะไรที่ห้างเหรอ” ผมชวนคุย

“...”

“ตอบน้องหน่อย”

“...” เขาไม่ตอบ ร่างสูงเอามือเท้าขมับ ใช้ศอกค้ำกับขอบประตู นัยน์ตาคมมองออกนอกหน้าต่าง เขาไม่สนใจผม

“พี่ฮิมโกรธเลเหรอ”

“...” โกรธแน่เลย

“โกรธอะไรเลเหรอ”

“...”

“ฮิม”

“เงียบ!” เสียงทุ้มตะวาดจนผมสะดุ้ง ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับมามองผม ทันทีที่ได้ประสานสายตาคม ผมถึงได้รู้ว่าตอนนี้พี่ฮิมคนที่น่ากลัวได้กลับมาอีกครั้งแล้ว

“...” ก็เลยเงียบอย่างที่เขาอยากให้เป็น ผมเงียบอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งไปถึงคอนโดพี่ฮิม ได้แต่เดินตามแผ่นหลังกว้างไปแบบไม่รู้ชะตากรรม เหมือนพี่ฮิมจะโกรธมาก ยังดีที่ตอนจะเข้าห้องร่างสูงไม่ได้ปิดประตูคอนโดใส่หน้าผม

เจ้าของแผ่นหลังกว้างเดินไปที่ห้องนอนของตัวเอง ผมนึกว่าเขาจะไปนั่งที่เตียง แต่จู่ๆ ร่างสูงก็หมุนตัวกลับมาประจันหน้ากับผม เสียงทุ้มว่า

“ไม่รับสายพี่ ไม่โทรหาพี่ อยู่กับมัน”



..

.

อะไรอะ ?

อะไรคือไม่รับสาย ไม่โทรหา แล้วอยู่กับมันนี่คืออยู่กับพี่ดีนเหรอ? ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เหมือนพี่ฮิมต้องการคำอธิบาย

“เมื่อวานพี่วินบอกให้เลไปนอนด้วย ไม่งั้นเลต้องซ่อมค่าย แล้วพี่วินก็ยึดโทรศัพท์เล น้องโทรหาฮิมแล้วตอบเช้า แต่พี่ฮิมไม่รับ พอไปเรียน ลืมเอาโทรศัพท์ไปด้วย ก็เลยไม่ได้โทรหาพี่ฮิมอีก”

“...”

“เลไม่อยากกลับบ้านเร็วเลยไปเดินห้าง พี่ดีนแค่บังเอิญเจอกัน”

“...” คนตัวสูงมีท่าทีที่สงบขึ้นมากกว่าเดิม ผมเลยเสี่ยงถามอีกครั้ง

“แล้วโกรธอะไรเลเหรอ”

“ไม่ได้โกรธ”

เอ้า! ไม่ได้โกรธแล้วเป็นอะไร?

ฮิมตอบแล้วก็เดินออกจากห้องนอน ทิ้งให้ผมต้องมองตามพร้อมกับความงงที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้กระจ่าง ถ้าไม่โกรธแล้วเป็นอะไร?

หรือว่า?

ผมเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าร่างสูงที่กำลังนั่งทำหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์อยู่บนโซฟา

“ฮิม… หึงเหรอ”

“...” ใช่แน่ๆ!

“หึงน้อง!” กลั้นสีหน้าดีใจไว้ไม่อยู่ ผมกระโดดเข้าไปนั่งตักพี่ฮิม

“เล!”  เจ้าของตักไม่ทันตั้งแต่ตัวรับจึงมีเสียงดุนิดหน่อย เลโดนพี่ฮิมทำหน้าดุใส่ถึงอย่างนั้นมือหนาก็โอบเข้าล้อมเอวผมไว้กันตก “ไม่ระวัง!”

“พี่ฮิมหึงเล!” คนฟังกลับมาตีหน้านิ่ง ไม่ปฏิเสธ ไม่ตอบรับ และหันหน้าไปทางอื่นจนผมต้องเอื้อมมือไปจับใบหน้าหล่อนั่นให้หันมามอง เขาจ้องหน้าผม “หึงน้องเหรอ”

“ไม่ต้องมาพูด” เจ้าของตักที่ผมนั่งอยู่พูด พี่ฮิมทำท่าทางผลักตัวผมออกห่าง แต่มือที่โอบรอบเอวผมอยู่กลับรัดไม่ปล่อย

“เลง้อ” ผมยืดตัวขึ้นให้สูงกว่าพี่ฮิม แล้ววางคางที่กลุ่มผมสีดำสนิท กดใบหน้าหล่อเหลาแนบเข้าซอกคอ โอ๋ คนตัวโตที่หึงจนหน้าบึ้ง

พี่ฮิมกอดเอวของผมแน่นกว่าเดิม เขาวางศีรษะหนุนตรงไหล่ผม “ทำไมไปอยู่กับมัน”

“พี่ดีนเหรอ แค่บังเอิญเจอกัน”

“แค่คงลิฟต์มาด้วยกัน?”

“เปล่า ก่อนหน้าไปกินสเต็กกับของหวาน…” ผมหยุดพูดเมื่อสีหน้าที่เริ่มจะดีขึ้นของพี่ฮิมมันกลับมาขรึมดังเดิม พี่ฮิมผลักตัวผมออก คราวนี้ผลักออกจริงๆ

“นัดก็บอกว่านัด”

“ไม่ได้นัด เลไม่มีโทรศัพท์”

“ถ้ามีก็จะทำ”

“ฮิมอย่าปรักปรำเล”

“...” เสียงเงียบไป บรรยากาศแย่ลงกว่าเดิม จนผมถอนหายใจยอมเป็นฝ่ายอ่อนให้ก่อน

“บอกเล เลต้องทำยังไง”

“ทำให้พี่มั่นใจ”

ครืด

ผมยังไม่ทันได้ถามต่อโทรศัพท์พี่ฮิมก็สั่นขึ้นมาก่อน พอชะเง้อหน้าไปมองว่าใครโทรมาก็เห็นชื่อของคนที่ผมทำให้ต้องขนลุกกร้าวขึ้นทันที

คุณพ่อพี่ฮิม

พี่ฮิมลุกออกไปคุยโทรศัพท์นานพอสมควร พอร่างสูงเดินกลับมาอีกครั้งผมจึงวิ่งเข้าไปกอดเขา

“ดีกันนะ” คนฟังเงียบ มือหนายื่นมาลูบหน้าผมเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ก่อนจะพยักหน้า จากนั้นร่างสูงก็อุ้มผมขึ้นจากพื้น พาเดินไปที่ห้องนอนก่อนจะวางลงบนเตียง พี่ฮิมห่มผ้าห่มให้ก่อน จากนั้นจึงแทรกกายเข้ามาใต้ผ้าห่มนอนลงข้างๆ เขากอดผมเอาไว้หลวมๆ “ฮิมง่วงเหรอ”

“แค่อยากกอด”

พี่ฮิมว่า เขานอนแนบหน้าเข้ากับอกเล ผมกอดตอบ บรรยากาศในห้องเงียบลง แสงไฟก็ไม่ได้สว่างมาก แอร์เย็น จนมารู้ตัวอีกที… หลับ

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็กลายเป็นตอนเช้าพอดี พี่ฮิมขับรถพาผมมาส่งที่บ้าน

และทันทีที่ถึงบ้าน

เพี๊ยะ!

“เห้ยวิน!”

“ไอ้วิน!”

“มึงใจเย็นๆ ก่อน”


ผมถูกตบเข้าที่หน้า และคนตบ

คือพี่วิน

ไม่มีคำพูดหลังจากนั้น ผมรู้แค่ว่าตัวเองโกรธมาก ได้แต่จ้องหน้าพี่วินด้วยความไม่เข้าใจ แล้วรีบเดินขึ้นห้องไปหยิบโทรศัพท์ จากนั้นก็เดินออกจากบ้าน เรียกแท็กซี่ไปที่คอนโดอิน

ผมไม่เข้าใจพี่วิน ไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เลยสักนิดเดียว



ในวันเดียวกัน ช่วงบ่ายของวันก็มีข่าวใหญ่

“กูได้ยินมาว่าเมื่อคืนแก็งของพี่ฮิมกับแก็งของพี่ดีนเกือบจะตีกันว่ะ”

“กูเห็นเลยล่ะมึง แก็งพี่ฮิมเริ่ม ยกพวกมาหาฝั่งพี่ดีนเป็นฝูงเลย โคตรน่ากลัว”

“ตีกันเรื่องอะไรวะ”

“คนอื่นบอกว่ามีปัญหากันเรื่องเด็ก”

“แต่คราวนี้มันแปลกๆ นะ”

“แปลกยังไง”

“ปกติเวลาจะสู้ถ้าเป็นเรื่องของพี่ฮิม พี่เขาก็นำเองตลอดแต่คราวนี้มันไม่ใช่”

“แล้วใครนำ?”

“พี่วิน”






(100%)

ฉันมีปัญหากับ word ของ macbook มาก กว่าจะอัพได้ต้องเปลี่ยนไปใช้คอมเครื่องเก่าที่ช๊าช้า

ตอนนี้มีหลายเรื่องเหมือนเดิม พี่ฮิมหึงค่าาา ร้อยวันพันปีไม่หึง พอมาเจอคู่แข่งที่สูสีกับตัวเองหน่อยนางก็จะกลายเป็นแบบนั้นแหละนา

ส่วนคนที่เชียร์ที่ดีนกับพี่วิน ยินดีด้วยค่ะ เขาเจอกันแล้ว ถึงจะไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ก็เถอะ55555



Q : เมื่อไหร่จะหวานกันจริงๆ สักที

A : เคลียร์เรื่องพี่ฮิมกับน้องเลตอนหน้า ดราม่าพี่ฮิมจบแล้วแน่ๆ ต่อจากนั้นก็ fifty shades of him เลยคับบบบ



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์



ขอโทษที่ช้าด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 09-04-2018 02:14:42
ฮูวววววววว รอคุู่วินดีนเลยค่ะดูทรงว่าจะเผ็ดร้อน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-04-2018 04:29:25
ถ้าเลเป็นกระท้อนคงหวานไปนานแล้ว เด๋ว ๆ ก็พี่ฮิม เด๋ซ ๆ ก็พี่วิน สงสารน้องหน่อย  :angry2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 09-04-2018 07:58:03
หรือวินมันแอบรักเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-04-2018 09:43:25
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 09-04-2018 10:39:23
 :hao6: นอกจากจะรอ fifty shades of Him แล้ววว  ก็รอ #วินดีน นี่ละ..เอ๊ะ!รึ #ดีนวิน อ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 09-04-2018 13:17:38
ยาวสมกับการรอคอย  รอตอนหน้าค๊า o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 09-04-2018 14:42:46
สมกับการรอคอย คิดถึงน้องเลจังงงงงงง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 09-04-2018 16:06:09
รออออออิ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-04-2018 17:07:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 09-04-2018 18:26:52
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 09-04-2018 18:33:13
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 09-04-2018 19:54:36
เหมือนจะดีกัน แต่ก็ยังห่างๆ รอตอนต่อไปจ้ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: hikkie ที่ 09-04-2018 20:13:03
เหมือนจะคืนดีกันแล้ว รอคนหึงโหดหรือรอฉากหวานดีนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 09-04-2018 21:25:45
อ้าวสรุปดีนวินนี่คูกันหรอ55555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 09-04-2018 22:22:15
รอดราม่าพี่ฮิมหมดไป ...

ให้ดีนคู่กับวินคือดีแล้ว
นี่วินคงยั๊วะดีนมาก ถึงขั้นนำทัพเอง 555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: bearjunjun ที่ 10-04-2018 00:58:25
มาอัพแล้วววววว แง้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 10-04-2018 02:04:08
โอโห้ ดีนวิน หรือ วินดีน อะ ฮืออ นุเดาไม่ออกเลยยยยย
เค้าต้องรักกันแบบฮาร์ดคอร์แน่ๆ เลือดตกยางออกแซบลืม!
คิดถึงน้องเลมากๆเลยยย หายไปนานเลยย น้องมาแล้วสดชื่นนน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 11-04-2018 02:09:04


#31



วินมันเป็นห่วงเล อย่าโกรธมันเลย

ยกโทษให้มันเถอะ

มันก็ไม่ได้รู้สึกดีหรอกที่ตบมึงไป




ผมนั่งอ่านข้อความ ตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วหันไปให้ความสนใจกับการวอร์มร่างกาย เพราะใกล้ถึงเวลาที่พี่นนท์นี่จะเรียกมาซ้อมรวมแล้ว

เลโกรธพี่วิน หลังจากที่โดนทั้งพี่ไทด์ พี่เกียร์ พี่รพ รัวแชทมาบอกถึงสาเหตุ ผมก็ได้เข้าใจว่าพี่วินเป็นห่วง และโกรธที่ผมไม่บอกว่าไปไหนมาไหน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องถึงขั้นตบหน้า เลเป็นคนนะ เจ็บเป็น มีหัวใจ

ก่อนมาเรียนผมจึงต้องหาแมสมาใส่ เพราะผิวขาว ดังนั้นรอยตบที่ประทับอยู่บนแก้มซึ่งเริ่มจะบวมนิดหน่อยจึงเห็นชัดมาก ผมบอกทุกคนโดยเฉพาะพี่นนท์นี่ว่าเป็นหวัดเลยต้องใส่แมส เพราะคาดว่าถ้าอีกฝ่ายเห็นแก้มผมตอนนี้คงได้กรีดร้อง เนื่องจากงานวิศวะสัมพันธ์ที่ใกล้จะถึง หลีดต้องเป็นหน้าเป็นตา พี่คุมหลีดบอกกับทุกคนเลยว่าช่วงนี้หน้าตาและการจำท่าสำคัญเท่าชีวิต (แม้การสอบมิดเทอมจะใกล้เข้ามาเหมือนกันก็เถอะ)

เราซ้อมยาว หลังจากรันเสร็จไปสิบกว่ารอบใกล้เวลาเลิกแล้วผมจึงเก็บของรออิน เพราะหลังจากนี้ว่าจะให้อินพาไปเอารถที่ยังจอดอยู่ที่ห้าง ทว่า…

เอี๊ยด!

จู่ๆ รถหรูสัญชาติฝรั่งเศสก็แล่นเข้ามาจอดใกล้ๆ ตึกวิศวะที่หลีดใช้เป็นที่ซ้อม ผมมองตาม แค่รถก็รู้แล้วว่าใครมา

“พี่ฮิมมา”

“สูงเว่อร์เลย”

“โอ๊ยหล่ออ วันนี้ใส่เสื้อชอร์ปด้วย”

“พี่ฮิม สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”


ผมใส่แมสปิดหน้า แต่เหมือนมันจะไม่เป็นอุปสรรคในการหาตัวผมสำหรับพี่ฮิม ร่างสูงพยักหน้ารับไหว้รุ่นน้องแต่ละคนขณะเดินมาหาผม จากนั้นมองตั้งแต่หน้าลงไปถึงขา แล้วก็หยุดอยู่ที่ขา…

ผมรู้สึกหนาวขาขึ้นมานิดหน่อย เมื่อนัยน์ตาคมจ้องอยู่ที่ส่วนนั้นไม่ยอมมองที่อื่นสักที ส่วนสาเหตุที่ทำให้พี่ฮิมต้องมองนั่นเพราะ

“ทำไมใส่ขาสั้น”

ว่าแล้ว

ตอนซ้อมหลีด ผมมักจะใส่กางเกงขาสั้น (เอาชุดมาเปลี่ยนก่อนซ้อม) ตอนแรกๆ โดนรุ่นพี่เตี๊ยมให้ใส่ มีเขินๆ บ้าง ไม่กล้าใส่สั้นมาก แต่ใส่ไปหลายๆ ครั้งถึงได้รู้ว่าที่พี่หลายคนบอกให้ใส่เพราะมันสะดวกสบาย เวลาเหงื่อออกก็ไม่ค่อยร้อน แถมพอนานๆ เข้ามันก็เริ่มไม่อายที่จะใส่และชินไปเอง…

และวันนี้ ผมใส่เสื้อกีฬาสีขาวกับกางเกงขาสั้นทรงสปอร์ตสีแดงมันก็เลยดูสั้นกว่าปกตินิดหน่อย

“มันใส่สบาย ไม่ร้อน” ผมให้เหตุผล

“ต้องสั้นขนาดนี้เลย?”

“กรี๊ดดด พี่หวงน้อง”

“น่ารักๆๆๆ”

“ถ่ายคลิปไว้ดิมึง”


“ก็วันนี้สั้นกว่าปกตินิดหน่อย… เอง พี่ฮิม!” ผมร้องเสียงหลงนิดหน่อยตอนท้าย เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโยนเสื้อช็อปสีแดงมาคลุมขาเล พี่ฮิมนั่งลงข้างๆ ใบหน้าหล่อเหลาแสดงอาการไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ผมยิ้ม หันไปคุยกับเขา “ไม่รู้เหรอว่าปกติเลใส่ขาสั้นเวลาซ้อม”

“รู้” ไม่รู้สิแปลก ให้คนตามผมซะขนาดนั้น “แต่ไม่คิดว่ามันจะสั้นขนาดนี้”

“พี่ฮิมมาหาเลทำไม”

“ไปกินข้าวกับพี่นะ” มือหนายื่นมารวบเส้นผมที่ปรกหน้าผากผมอยู่ขึ้นแล้วมัดรวบให้ “นะครับ”

ไม่มีอารมณ์เลย

หลังจากโดนพี่วินตบแล้วผมก็อยู่ในโหมดที่ไม่ค่อยอยากออกไปไหนเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นผมก็พยักหน้าให้พี่ฮิม แต่เดี๋ยวจะไลน์ไปบอกพี่วินก่อนก็แล้วกัน เพราะถ้าโดนตบอีกเป็นครั้งที่สอง หน้าผมคงหายไปไม่ทันงานวิศวะสัมพันธ์แน่ๆ



‘เลไปกินข้าวกับพี่ฮิม จะกลับบ้าน ประมาณสี่ทุ่ม’

ติ๊ง!

ผมกดส่งให้พี่วิน ฝั่งนั้นขึ้นว่าอ่านอย่างรวดเร็ว แต่เห็นไม่ได้ตอบอะไรกลับผมจึงเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า

“คนดีเป็นไข้?” คนข้างกายผมถามขณะที่รถกำลังติดไฟแดง เราออกมาจากมหา’ลัยแล้ว กำลังมุ่งไปที่ที่พี่ฮิมจะพาผมไป ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าที่ไหน “น้องตัวไม่ร้อน”

“เลไม่ได้เป็นไข้” ผมวางมือทับมือหนาที่กำลังทาบอยู่บนหน้าผากอยู่ มาคิดได้ทีหลังว่าคิดผิดถนัดที่ตอบแบบนั้นไป

“แล้วทำไมใส่แมส”

“...”

“เปิด”

“พี่ฮิม” ผมเรียกชื่อเขาเสียงอ่อน รู้สึกว่าถ้าพี่ฮิมเห็นว่าหน้าผมมีรอยแดงอยู่ อีกฝ่ายต้องโมโหแน่ๆ

พรึบ!

แต่ผิดคาด ร่างสูงไม่รอให้ผมจำยอม มือหนาเอื้อมมากระชากแมสที่อยู่บนหน้าผมออก นัยน์ตาคมหันมามอง จากนั้นพี่ฮิมก็หักพวงมาลัยเอี้ยวรถเข้าไปยังปั้มที่อยู่ใกล้ๆ ทันที

พอรถจอดนิ่ง คนตัวสูงก็หันมาจับหน้าผมไปสำรวจดูแล้วถามเสียงเข้ม

“ใครทำ”

“พี่ฮิม”

“พี่ถามว่าใครทำ”

“...”

“เล”

“ไม่มี​--”

“นิพิฑ”

“ฮืออ” กลัวแล้ว… น้องกลัวแล้ว

“อย่าคิดนาน”

“ฮิมกดดันเล”

“แค่บอกพี่มาว่าใครทำ” มือหนาไล่ไปตามใบหน้าผม “ใครทำน้อง”

“เลไม่เป็นไร” ถ้าบอกไป ผมรู้สึกว่ามีโอกาสที่จะทำให้พี่วินกับพี่ฮิมทะเลาะกัน “เลโอเค”

พี่ฮิมเงียบ นัยน์ตาคมจ้องผมอยู่นาน ก่อนจะส่ายหน้า

“พี่ไม่โอเค”

ว่าจบร่างสูงก็คว้าโทรศัพท์แล้วลงจากรถ ส่วนผมได้แต่นั่งถอนหายใจแล้วมองตาม แค่ฟังน้ำเสียงในคำพูดเมื่อกี้นี้ก็รู้แล้วว่าพี่ฮิมโกรธพอสมควร

ทว่าใช้เวลาไม่นานฮิมก็เดินกลับเข้ามาในรถ คนข้างกายผมไม่พูดอะไรนอกจากออกรถกลับแล้วขับกลับไปยังทางเดิมที่เราเคยผ่าน จุดหมายปลายทางเปลี่ยน

“พี่ฮิมจะพาน้องไปไหน”

“ไปหาไอ้วิน”

รู้แล้วเหรอ??

“พี่ฮิมมมมม อย่าไปเลยนะ” ผมลากเสียงยาว

“...”

“น้องหิวข้าว” เอามือลูบท้อง

“...” ใช้มุขนี้ไม่ได้เหรอ

“แต่ฮิมก็ยังเคยตบเลเลยนะ”

กึก

คราวนี้ก็ได้ผลเกินคาด เพราะพี่ฮิมถึงกับหยุดรถกะทันหันกลางถนนชนิดที่ว่ารถด้านหลังที่กำลังวิ่งตามถึงกับบีบแตรไล่ ผมเห็นแล้วอ้าปากค้าง รีบส่งเสียงบอกคนตัวสูงที่เหมือนกำลังหลุดเข้าไปอยู่ในโหมดแข็งเป็นหินฉับพลัน

“ฮิม! พี่ฮิม!” เขย่าร่างสูงที่ยังนั่งนิ่งไม่ไหวติง แม้ท้ายที่สุดพี่ฮิมจะหันมามองผมด้วยสีหน้าเศร้าๆ แล้วเร่งรถแล่นไปตามถนนเร็วกว่าปกติ เพราะการหยุดอย่างกะทันหันของเขาเมื่อสักครู่มันทำให้รถที่ตามหลังอยู่ติดยาว

ในรถเงียบสะงัด แถมผมยังเดาบรรยากาศไม่ถูกว่ามันดีหรือมันแย่ยังไง รู้แค่ว่าเงียบ ฮิมเปลี่ยนเส้นทางอีกแล้ว ไม่รู้ว่าจะยังไปหาพี่วินอยู่ไหมหรือจะไปไหน

สุดท้ายแล้วรถก็มาจอดที่โรงแรมหรูระดับห้าดาว ซึ่งชั้นดาดฟ้าของโรงแรมเป็นภัตตาคารที่ผมเคยมาทานกับพี่ฮิม คนข้างกายผมยังไม่ปริปากพูดอะไรเลยตั้งแต่ที่ผมพูดออกไปว่าพี่ฮิมก็เคยตบเลเหมือนกัน จังหวะที่เขากำลังจะเปิดประตูลงจากรถ ผมจึงเอื้อมมือไปจับมือหนาเอาไว้

นัยน์ตาคมหันมามองมือตัวเองที่ถูกจับ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมามองผม

ใบหน้าหล่อเหลาดูนิ่งงัน แต่ผมสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังเศร้า

“เอ่อ…” แต่ถึงจะรู้สึกได้เลก็ไม่รู้ว่าต้องพูดยังไง จะขอโทษก็ไม่ใช่ ผมเป็นคนโดนตบแต่คนตบดันเศร้า ตอนนี้ควรจะพูดยังไงให้เขาหายซึมล่ะ

ให้กำลังใจ?!

“เลไม่เป็นอะไรนะ”

โคตรห่วย!

พี่ฮิมเงียบ เงียบจนต้องกลั้นหายใจ และในวินาทีที่กำลังจะขาดใจตายมือหนาก็ยกขึ้นมาลูบแก้มผม ร่างสูงชิดตัวเข้ามาใกล้

“เจ็บไหมครับ”

คำถามที่ทำให้หัวใจคนฟังรู้สึกสะเทือนวาบ เจ็บจนหายแล้ว แต่พอโดนถามว่าเจ็บไหมผมกลับรู้สึกว่ามันเจ็บขึ้นมาอีกครั้งจนรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่พอมองหน้าพี่ฮิมแล้วผมถึงกับต้องรีบกะพริบตาถี่ๆ ให้น้ำตาหาย รู้สึกว่าถ้าร้องไห้ออกมาคนตัวโตคงเศร้ามากกว่าเดิม

พี่ฮิมตอนโกรธเป็นคนตบเล แต่พี่ฮิมตอนปกติน่ะแม้แต่ตีแรงๆ เลก็ยังไม่เคยโดน

“เลไม่เจ็บ”

“น้องเจ็บ”

“...”

“วันนั้นปากน้องแตก” มือหนาเลื่อนมาสัมผัสที่ริมฝีปาก พี่ฮิมใช้นิ้วโป้งกดลงเบาๆ ที่มุมปากข้างขวาที่เคยแตกเพราะถูกเขาตบมาแล้วครั้งหนึ่ง “พี่จำได้”

“ฮิม”

“ขอโทษนะครับ”

“...”

“พี่ขอโทษ”

“โอ๋ ไม่ร้องน้าาา” ผมแกล้งแหย่ ขณะโน้มตัวไปกอดคนตัวโตที่เข้าสู่โหมดซึมเต็มพิกัด เขากอดตอบผม แต่ยังไม่รับมุข “มันไม่เจ็บแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว”

“...”

“ไม่เชื่อเหรอ” จากนั้นก็เลยให้ฮิมพิสูจน์โดยการโน้มหน้าเข้าไปใกล้ ผมทาบริมฝีปากเข้ากับอีกฝ่ายอย่างเบาแผ่วก่อนจะถอยออกมามองหน้าเจ้าตัวอีกครั้ง ทว่ายังไม่ทันเห็นหน้าพี่ฮิมด้วยซ้ำ มือหนาก็เลื่อนขึ้นบังคับศีรษะผมวกกลับเข้าไปใหม่ คราวนี้มันไม่ใช่แค่แตะริมฝีปากเหมือนครั้งก่อน เขาส่งลิ้นร้อนเข้ามาแตะที่ริมฝีปาก ฟันคมตามมาขบเบาๆ ก่อนที่ร่างสูงจะส่งลิ้นเข้ามาด้านใน

พี่ฮิมดันตัวผมหลังแนบเบาะรถ ศีรษะผมถูกปล่อยให้เอียงไปตามองศา มือหนาที่ว่างอยู่จึงเริ่มไล่ไปตามตัวผม ลูบไล้ตั้งแต่ใบหน้า ผ่านหน้าอก ลงมาถึงต้นขา และวกกลับไปที่อกอีก จน…

“อ๊า! ฮิม” ผมหันหน้าหนีจูบของอีกฝ่าย อยากเอาตัวหนีด้วยถ้าไม่ติดที่ว่าไม่มีทางให้หนีแล้ว “ยะ… อย่าทำน้อง”

“พี่ทำอะไร” พี่ฮิมคนซึมเศร้าของเลหายไปทันตาเห็น

“มือ” ผมหุบตาลงมือทั้งข้างหนึ่งของพี่ฮิมที่แทรกสอดเข้ามาในเสื้อ นิ้วเรียวกำลังวนไล่ยอดอก ส่วนอีกข้างก็กำลังลูบต้นขาผมอยู่ และมันก็… “ฮืออ พี่ฮิม”

ร่างสูงยอมเอามือที่อยู่ในเสื้อผมออก แต่มือที่กำลังลูบต้นขากลับไม่ยอมเอาออก มันไล้ไปช้าๆ ลากกางเกงผมขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ จนจะเห็นชั้นในอยู่แล้ว และเลรู้สึกนะ

ถ้ามากกว่านี้มันจะทนไม่ไหว

“พี่ไม่ชอบให้น้องใส่ขาสั้น” จู่ๆ พี่ฮิมก็ยกเรื่องที่เคยพูดไปแล้วกลับเข้ามาพูดอีกครั้งหนึ่ง ผมไม่เข้าใจ

“ทำไม”

“มันเห็น…” นิ้วเรียวเลิกกางเกงขึ้นจนเห็นต้นขาด้านในของผม ผมจะยื่นมือไปปิดแต่ก็โดนมืออีกข้างของพี่ฮิมจับเอาไว้ซะก่อน “ต้นขาน้อง”

“อึก!” ผมถูกเขวี้ยงตัวให้หันหลังทาบกับประตู ขาเรียวถูกจึงจับให้หันมาทางพี่ฮิม มือหนาจับขาข้างหนึ่งของผมขึ้นพาดบ่า นัยน์ตาคมจ้องไปยังจุดเดียวกันกับที่เจ้าตัวกำลังลูบมันไม่หยุด… ต้นขาด้านในของผม

ผมเบิกตากว้าง รู้สึกใจสั่นเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลงมาอยู่ในระดับเดียวกันกับต้นขา มันใกล้กับส่วนที่ไวต่อสัมผัส ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นของอีกฝ่าย และแทบร้องไห้เมื่อตอนที่พี่ฮิมโน้มหน้าเข้าไปทำอะไรบางอย่างกับต้นขาของผม

“ตรงนี้… ของพี่”

เล… ทนไม่ไหวแล้ว











(40%)

เคยบอกแล้วว่าส่วนที่ชอบที่สุดของน้องเลสำหรับพี่ฮิมคือต้นขาด้านใน (บอกในจอยลดาค่ะ เป็นตอนพิเศษสั้นๆ แยกใครยังไม่เคยอ่านไปหาอ่านได้)

และชุดที่น้องใส่ในวันนี้คือชุดนี้งับบบบ

กดๆๆๆ เข้าไปดูได้
 (http://i66.tinypic.com/2aioqrn.jpg)​


เห็นแล้วโปรดเข้าใจว่าทำไมพี่ฮิมถึงขึ้น555555






ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-04-2018 02:50:29
โอม..... 60% จงมาไว ๆๆๆๆๆ   :amen:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 11-04-2018 04:26:16
งืออออออขอบคุณค่าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-04-2018 06:19:56
พี่วินห่วงเล  :mew2:
แต่ไม่ถามที่มาที่ไป  เหตุผลเลย  :เฮ้อ:
แล้วจริงๆพี่วินคิดกับเลแค่น้องจริงหรือ   อยากรู้  :ling1: :ling1: :ling1:

ที่แน่ๆ ฮิม หึงเล   :z3: :z3: :z3:
แล้วพี่วินนำทีมไฟวท์กับที่ดีน   :m16:
ฮิม  เล   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 11-04-2018 07:49:01
พี่ฮิมมมม :haun4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 11-04-2018 09:39:44
ขอบคุณค่า รอที่เหลือ โปรดจงมาเร็วๆ  :oo1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 11-04-2018 10:49:45
เล...ทนไม่ไหวแล้ว
ชวนคิดนะคะ ขำขำคือถีบ!! แต่ไม่น่า!!

อีก 60% รีบมาเลยนะคะ ค้าง!!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 11-04-2018 11:49:18
ดีกับใจมาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 11-04-2018 12:09:46
 :o8: :-[ :impress2: :z1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-04-2018 14:06:02
โอ้ว~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-04-2018 14:31:52
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 11-04-2018 17:02:03
ตายยย ฮือออ เป็นพี่ฮิมน้องก็ขึ้นค่ะะะะะ แงงง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 11-04-2018 18:33:19
กางเกงก็สั้นไป๊ สั้นกว่าที่เราคิดไว้อีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 11-04-2018 19:48:39
ที่เหลือจงมาเร็วพลัน  :amen: :amen: :amen:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 18-04-2018 14:44:00
อ่านแล้วใจจะขาด OMG
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: SinSopor ที่ 18-04-2018 20:42:58
อยากอ่าน วินดีม ท่าจะมันส์เลือดสาด  :pighaun:  :haun4:
เมื่อไหร่ฮิมจะเคลียปมกับน้องเล อยากให้ดีกันไวๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110418#31(40%) p.42
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 21-04-2018 17:21:40


#31 (100%)




ตีสอง

บ้าน

รถสีดำคันงามแล่นเข้ามาจอดในตัวบ้าน ผมเดินลงจากรถ แต่พี่ฮิมไม่ลงตาม เขายืนยันว่าจะยังไม่นอนที่นี่ ส่วนหนึ่งเพราะพี่วินด้วยแหละ ดังนั้นมันจึงค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตา

ผมกลับหลังหัน ก้มลงมองนาฬิกาก็พบว่ามันไม่ได้อยู่บนข้อมือ ค้นในกระเป๋าหาแล้วไม่เจอจึงถอนหายใจแล้วเดินไปเปิดประตูบ้าน

ทั้งบ้านมืดสนิท ผมรีบเดินขึ้นห้องเพราะรู้สึกง่วง

ประตูห้องเปิดออก ผมเดินไปเปิดไฟและในตอนที่ไฟสว่างพรึบขึ้นมา ใครสักคนก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้า

“ไหนบอกกลับสี่ทุ่ม”

พี่วิน

“นี่ห้องเลนะ” เขาไม่ควรเข้ามาก้าวก่ายห้องผมสิ

“ตอบ”

“...”

“น้องเลตอบ”

“จะตบเลอีกเหรอ”

เงียบ…

ผมจัดการกับความเงียบด้วยการไปหยิบผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนแล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำ แต่อาบเสร็จแล้วเดินออกมาพี่วินก็ยังนั่งอยู่บนเตียงเหมือนเดิม เขาเรียกผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“มาคุยกันหน่อยสิ”

“ไม่มีอะไรจะคุย” ไม่อยากคุยกับคนชอบใช้กำลังอะ

“กูมี”

“แต่เลไม่มี!” ผมตะคอกเสียงใส่พี่วิน แล้วจู่ๆ น้ำที่ถ่อมาจากไหนไม่รู้ก็มาคลอที่เบ้าตา ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่พอพี่วินเห็นผมเป็นแบบนี้แล้วเขาก็อ่อนเสียงลง

“มานี่มา” มือหนากวักมือเรียกผมเข้าไปกอด

“ไม่ไป!”

“มาก่อน”

“ไม่เอา!”

พี่วินถอนหายใจ ท้ายที่สุด… “ขอโทษ”

“ไม่ต้องมาง้อ!” และผมก็ร้องไห้ออกมา พี่วินไม่รอแล้ว เขาเดินเข้ามาดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่นจนหน้าผมแนบอก ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอกตั้งหลายชั่วโมงมันเอ่อล้นออกมา “มาตบเลทำไมอะ เลเจ็บ เลมีหัวใจนะ!”

ผมเฟล

พอโดนมือพี่วินฟาดเข้าหน้าตั้งแต่ที่เปิดประตูเข้ามาในบ้านเมื่อวันก่อน ผมเลือกที่จะเดินขึ้นห้องแทนการโวยวายเพราะตอนนั้นมันทั้งเฟลทั้งรู้สึกแย่มากจนพูดอะไรไม่ออก

แย่ยิ่งกว่าตอนโดนพี่ฮิมตบสักที…

“พี่ขอโทษ”

“ขอโทษแล้วยังไง! หน้าเลบวมด้วยอะ ฮือ”

“เดี๋ยวพาไปหาหมอ”

“ไม่ไป! ไม่ชอบหมอ”

“แล้วเลจะเอายังไง ตบพี่คืนดีไหม”

“ฮึก!” ไม่มีอะไรจะพูดเลยจ้องหน้าพี่วินตรงๆ “เลเสียใจ”

ไม่เคยคิดว่าพี่วินจะทำร้ายเล พี่วินดุเล พี่วินด่าเล พี่วินว่าเลตั้งหลายครั้งจนบ้างครั้งผมก็ต่อต้านด้วย แต่ทุกครั้งก็รับรู้ว่ามันคือความหวังดี มันเป็นความหวังดีแต่แตกต่างจากความหวังดีของพี่ฮิม ผมได้รับรู้ความต่างก็ตอนที่ความรู้สึกมันพรั่งพรูออกมาหลังจากโดนตบ

ความหวังดีของพี่ฮิมเป็นแบบคนรัก มันคือความหวังดีและอาจจะมีหวังผลอยู่บ้าง ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าพี่ฮิมหวังอะไรบางอย่างในตัวผม และผมก็หวังอะไรบางอย่างในตัวเขา อย่างหวังให้เขารัก หวังให้พี่ฮิมเป็นของเล

แต่ความหวังดีของพี่วินเป็นแบบพี่ชาย เลคิดอย่างนั้น เขาแค่หวังดีกับผม ไม่จำเป็นต้องมีอะไรตอบแทน เพราะถ้าจะเอาอะไรตอบแทนก็คงเลิกดุ ด่า ว่าเล ตั้งแต่ที่โดนผมโวยวายใส่หลายต่อหลายครั้ง

คนที่หวังดีกับเรา แค่อยากให้เราได้ดีโดยที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเลยน่ะ

มันหายากมากเลยนะ

“พี่วินทำเลเสียใจ” รู้แบบนั้น ผมเลยรู้สึกแย่ยิ่งกว่าแย่ น้ำตาที่ไหลออกมาเปียกเสื้อพี่วินไปหมดแล้ว

“หยุดร้อง”

“ก็เสียใจ!”

“ขอโทษนะ”

“...”

“คราวหน้าจะไปไหนมาไหนก็บอกพี่ก่อนสิ”

“แค่เลไม่บอก ถึงขั้นต้องตบเลเลยเหรอ!” ผมเถียง!

“โอเค พี่ผิดเองครับ ขอโทษครับ”

“...”

“พี่เป็นห่วงเลนะ”

“อือๆ” ผมครางรับ ก่อนจะโดนพี่วินลากตัวมานอนลงบนเตียง เขายังไม่ยอมปล่อยอ้อมกอดออก

“ง่วงหรืิอยัง” เสียงทุ้มกระซิบถาม

“ง่วง”

“ง่วงก็นอน”

ผมพยักหน้า แล้วมองพี่วินที่นอนกอดอยู่ข้างกาย พูดเป็นครั้งสุดท้าย “พี่วินตบน้องอะ นิสัยไม่ดี”

“ครับ รู้แล้ว”



“หลับแล้วเหรอ” วินกระซิบถามคนที่แน่นิ่งมาเกือบสิบนาที เสียงแผ่วเบาตอบกลับมา

“หลับแล้ว” คนตอบคล้ายสติหลุดไปกว่า 90% เขาใช้จังหวะนี้ลอบถาม

“น้องเลจะคบกับฮิมจริงๆ ใช่ไหม”

“วันนี้ฮิมแย่ ไม่อ่อนโยน แกล้งน้อง” คนฟังจบถึงกับหน้าตาเคร่งขรึมขึ้นกว่าเดิม

มึงทำอะไรน้องกู

“แล้วชอบมันหรือเปล่า”

“เลรักพี่ฮิม ​Zz” เสียงลมหายใจปิดท้ายก่อนเลจะนิ่งไปบ่งบอกว่าเจ้าตัวหลับแล้ว วินคลายอ้อมกอด หันไปห่มผ้าให้คนนอนข้างกายดีๆ แล้วเอนหลังมองเพดาน มือหนายกขึ้นก่ายหน้าผาก

วินเชื่อว่ามันรักเลจริง และเลี้ยงน้องได้แน่ๆ มันทำดีกับเลทุกอย่าง แต่สิ่งที่ไม่ชอบก็ยังมี…

เขาหวังแค่ว่าจะไม่เกิดอันตรายอะไรขึ้นกับน้องด้วยสาเหตุเพราะฮิม



วันต่อมา



#เลเล่เล้เล๊เล๋



@weewoo เมื่อวานน้องแต่งชุดน่ารักมากอะ ขาโคตรขาววว อย่างเรียวเลย

@machita เมื่อวานฉันเห็นเขาสองคนเดินเข้าโรงแรม

@namwn คือรถพี่ฮิมจอดอยู่นานมาก แต่คนไม่ลงมาสักที ฟิล์มทึบมาก มืดด้วยส่องไม่ได้

@queenperipee สรุปคือกลับมาดีกันแล้วจริงๆ ใช่ไหม เดี๋ยวนี้ไม่เห็นข่าวพี่ฮิมกับเดวาเลยละ เห็นแต่ของน้องเล

@rednpink นี่ว่าพี่ฮิมร้าย เอาจริงก็สงสารเดวานะ สงสารสุดคือตัวเอง เสือกไรที่เป็นข้อมูลจริงไม่ได้เลย จะเดินไปถามพี่ฮิมก็กลัวโดนถีบ ไม่สวยคือไม่กล้าเข้าใกล้อะ

           @yumei จริงนะ คนอยู่ใกล้พี่ฮิมคือหน้าตาดีหมดเลย คือยังไม่เคยเห็นใครขี้เหร่แล้วได้อยู่ใกล้อะ

       @littlepink เหมือนน้องเลไม่ถูกกับเดวา ถ้ากลับมาดีกันจริงๆ ก็ขอให้อิพี่ไปเคลียร์ฝั่งนู้นให้จบๆ ด้วยเถอะนะคะ สาธุ





ติ๊ด!

(ครับ)

“พี่ฮิม พี่ฮิมเห็นนาฬิกาเลไหม” ผมหาในตอนเช้าแล้วก็ยังไม่เจอ

(อยู่ที่คอนโดพี่)

“เอามาให้น้องหน่อย” ไม่ได้ใส่แล้วมันโหวงๆ แขนอะ วันนี้เป็นมันเสาร์ ถึงจะไม่ได้ไปไหนก็เถอะ มีแค่ซ้อมหลีดตอนเย็นๆ เหมือนเดิม

(นาฬิกาตัวเองก็มาเอาเองสิ)

“เลขี้เกียจ”

(รหัสเข้าคอนโด 695299)

“สรุปจะให้เลไป?”

(คิดถึง)

แล้วพี่ฮิมก็ตัดไปสาย ผมถอนหายใจแต่ก็ยอมเก็บกระเป๋า ไปหยิบกุญแจรถ แล้วเดินลงไปยังชั้นหนึ่ง พี่วินเหมือนจะนั่งเล่นกับแมวอยู่ริมสระ ผมตะโกนบอก

“พี่วิน! เลออกไปข้างนอกนะ”

“จะกลับกี่โมง”

“เย็นเลย เลมีซ้อมหลีดต่อ”

“อือๆ”



คอนโด

มาคอนโดใหม่พี่ฮิมก็สามสี่ครั้งจะได้ แต่ไม่ค่อยสังเกตุเท่าไหร่ พอมาเองผมถึงรู้สึกได้ว่ามันใหญ่จริงๆ คอนโดที่พี่ฮิมซื้อใหม่เป็นคอนโดขนาดยักษ์ใหญ่ในประเทศไทย ชนิดที่ว่าถ้าพูดชื่อออกไปคนไทยส่วนใหญ่ก็ต้องรู้จัก เพราะแค่ราคาเริ่มต้นของมันก็ประมาณสามสิบล้านบาทแล้ว

ถึงห้องของพี่ฮิม ผมเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปสำรวจ ร่างสูงในชุดคุลมที่ปิดแหล่ไม่ปิดแหลากำลังผสมเครื่องดื่ม  เส้นผมเปียก สงสัยพึ่งอาบน้ำเสร็จ

มือหนากำลังรินเครื่องดื่มให้ตัวเอง เขาส่งสายตามาถามประมาณว่าเอาด้วยไหมแต่เลส่ายหน้า พี่ฮิมจึงจัดการดื่มมันจนหมดแล้วเดินเข้ามากอดจากทางด้านหลัง

“ตัวหอม” ใบหน้าหล่อเหลาคลอเคลียที่บ่าขณะดันตัวผมให้เดินไปที่โซฟา มือหนาพยายามล้วงเข้ามาในเสื้อ ผมจับไว้ได้มือนึง แต่อีกมือจับไม่ทัน “น่ารักจังนะ”

“อย่าแกล้งเล”

“ไม่ได้แกล้ง”

“เลเหนื่อยนะ! เมื่อวานยังไม่พอใจเหรอ” รู้ไหมว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น ผมทนไม่ไหว ก็เลยปล่อยไปตามความรู้สึก แต่พอปล่อยเสร็จนั้นก็ต้องมาอายทีหลัง ทว่าในขณะที่ผมอาย คนที่ทำให้เลควบคุมตัวเองไม่ไหวกลับเอาแต่หัวเราะหึหึ แถมยังรังแกเลต่อรอบสอง คราวนี้ผมไม่เป็นหนักเหมือนครั้งก่อน แค่ส่วนที่โดนแกล้งน่ะหนัก ต้นขา… ส่วนนั้นมีสารพัดรอยจากฮิม

เขาพาผมมาเปลี่ยนชุดที่คอนโดและเลก็หลับไประยะหนึ่ง แต่พอตื่นขึ้นมาร่างสูงก็พาผมกลับไปกินข้าวที่โรงแรมเดิม มันถึงได้ช้ากว่าจะเสร็จก็ตีสอง

“เหนื่อยง่าย พี่ยังไม่ได้ทำไรเลย” พี่ฮิมหัวเราะและผละตัวออกจากผม  เมื่อวานเขาแค่แกล้ง ไม่ได้ตั้งใจทำอะไรผมจริงๆ แม้ว่าจะหวุดหวิดอยู่นานครั้งก็เถอะ

เลถูกจูงมือไปนั่งบนโซฟา ร่างหนาล้มตัวลงนอนตัก

“ผมหอมจัง”

“พึ่งสระ” ผมดึงกลุ่มผมหนาเล่น เคล้าคลึงเบาๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันที่นัยน์ตาคมมองผมจนรู้สึกเขิน

“ไม่ไปแต่งตัว?”

“เย็นดี” มือหนายกขึ้นลูบใบหน้าเลก่อนจะลามไปถึงศีรษะ คนหนุนตักผมค่อยๆ ออกแรงกดให้ใบหน้าผมโน้มต่ำจนประกบริมฝีปากทาบเข้ากับพี่ฮิม

มันเริ่มด้วยจูบที่นุ่มนวล แล้วค่อยไล่ระดับขึ้น จนในที่สุดร่างสูงก็ลุกขึ้นนั่ง เขาถอนริมฝีปากออกแล้วจ้องตาผม

“พี่ร้อนแล้ว”

“...”

“คนดีพี่ร้อน”

“ไม่ต้องเลย!” ผมมองค้อน แต่ปล่อยให้คนร้อนไซร้คอเล่น “ไปแต่งตัวได้แล้ว”

“จะเที่ยงแล้ว หิวไหม” พี่ฮิมลุกขึ้นยืน มือหนาก้มลงผูกเชือกชุดคลุมใหม่ขณะถามผม “ไปหาอะไรกิน?”

“สั่งมากินที่นี่”

“ตามใจเล” เสียงทุ้มว่า ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาจุ๊บผมสองทีที่ปากและหน้าผาก มือหนาตามมาขยี้หัวก่อนที่ร่างสูงจะเดินหายเข้าไปในห้อง ผมไม่อยากนั่งว่างเลยคิดจะสั่งอาหาร แต่ขี้เกียจเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า เห็นโทรศัพท์พี่ฮิมว่างอยู่ใกล้ๆ พอดีเลยหยิบมาใช้

ทว่าก่อนจะเข้าเน็ต สายตามันก็เหลือบไปเห็นแอพไลน์ที่อยู่ข้างๆ ข้อความที่ไม่ได้อ่านกว่า 999+ ทำให้ผมสงสัยเลยตัดสินใจกดเข้าไปดู

และ…



pimp ไม่ตอบเลย

yoko. คิดถึงนะคะ

cherry เหงาก็มาหาน้องได้นะ

rilyn กลับมาคุยเหมือนเดิมได้ไหม เราไม่ต้องเป็นอะไรกันก็ได้ แค่คุย

Meji เมยังดีไม่พอเหรอ ทำไมพี่ฮิมถึงต้องทิ้งเม

.

.

.

 dewa ส่งคลิป



ร่างหนาเดินออกมาจากห้องนอนเมื่อแต่งตัวเสร็จ นัยน์ตาคมกวาดสายตามองหาคนที่น่าจะกำลังนั่งเล่นอยู่บนโซฟาทว่าไม่เจอ

เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!

จังหวะนั้นเองที่เสียงกรีดร้องและเสียงเหมือนของตกหล่นดังขึ้น ฮิมหาทิศของเสียงแล้ววิ่งไปยังห้องหนึ่ง แต่มันล็อค

เขาใจไม่ดีเลย

“เล! คนดี! ล็อคห้องทำไม!”

เพล้ง! เพล้ง!

คนตัวสูงรีบวิ่งไปหากุญแจสำรองแล้วเปิดประตูเข้าไป สิ่งแรกที่เห็นคือเศษผ้าที่ปลิววุ่น ข้าวของแตกกระจาย และคนที่เขาตามหาก็กำลังนั่งกุมขมับร้องไห้อยู่ข้างเตียง

น้องร้องไห้ ร้องเหมือนคนใจจะขาด แบบที่คนฟังแล้วรู้สึกสะเทือนอก ผสมกับกรีดร้องสลับกันไปมา จนเจ้าตัวเริ่มปรับเปลี่ยนอารมณ์ของตัวเองไม่ทัน แล้วหันไปเลือกวิธีระบายด้วยการจิกเล็บเข้ากับผิวของตัวเอง

“เลอยากทำแบบนั้น น้องอย่าทำ มันเจ็บ” ผิวขาวถูกเกาและจิกอย่างรุนแรงจนมีรอยแดง ฮิมเบิกตากว้าง เขารีบเดินไปจับมือบางเอาไว้ “อย่าทำตัวเอง เลโมโหอะไร ทำพี่ก็ได้แต่อย่าทำตัวเอง”

“อย่ามาแตะ!” มือของเขาถูกสะบัดออก เป็นจังหวัดเดียวกันที่บางอย่างในมือเลบังเอิญหลุดตาม มันหล่นมาอยู่ตรงหน้าเขา โทรศัพท์ที่หน้าจอแตกเป็นที่เรียบร้อย “ออกไปไกลๆ เล!”

“ทำไม”

“ออกไป”

“พี่ไม่เข้าใจ”

“ออกไป!” เสียงเล็กตะวาดใส่เขาอีกครั้ง ฮิมเม้มปาก ไม่เข้าใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมน้องถึงเป็นแบบนี้

ร่างสูงนิ่งเงียบ นัยน์ตาคมมองคนตรงหน้าที่กำลังหอบหายใจพร่า ก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้ม “คนดีอธิบายให้พี่ฟังก่อนได้ไหม”

เลสะอื้นไม่หยุดและไม่พูดอะไรนอกจากเหล่สายตาไปมองโทรศัพท์ ฮิมมองตาม มือหนาหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้าตัวเองขึ้นมา แค่กดเปิดเข้าก็พบกับสาเหตุที่ทำให้เลเป็นแบบนี้

คลิปของเขากับเดวา

ตัวคลิปถ่ายจากด้านข้าง จึงเห็นอย่างชัดเจนว่าคนในคลิปคือเขากับอีกคน กับการกระทำที่ออกจะส่อไปในทางเล้าโลมซึ่งอาจจะนำไปสู่เรื่องอย่างว่า แถมคลิปมันยังหยุดก่อนตอนที่ฮิมจะละตัวออก น้องต้องคิดแน่ว่าต่อจากนั้นเขากับเดวามีอะไรกัน

แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นจริง…

มือหนาวางโทรศัพท์ลงแล้วจ้องหน้าคนที่กำลังร้องไห้หนัก

“เลเหนื่อยแล้ว” ประโยคสั้นๆ ที่ทำให้หัวใจคนฟังยิ่งกว่าถูกกระชากลงสู่หุบเหว

“น้อง หมายความว่ายังไง” เสียงคล้ายเหือดแห้ง ฮิมแทบไม่มีแรงจะเปล่งมันออกมา

“เลพอแล้ว กับพี่ฮิมน่ะ” มือบางปาดน้ำตาออกแล้วลุกขึ้นยืน เขายืนตาม “พอจริงๆ”

น้องทำท่าว่าจะเดินออกไป เขาร้อนรน มือหนายื่นไปหวังจะได้จับแต่โดนอีกฝ่ายหลีกตัวหลบ

เลจะไปจากเขา

“อย่ามาโดนตัวเล!”

“คนดีให้พี่อธิบายก่อน”

อย่า… อย่าไป

“เลไม่มีอะไรจะคุยแล้ว เลพอแล้ว!” จบประโยคนั้นร่างกายเขาแข็งทื่อ คนตัวสูงได้แต่มองน้องเดินผ่าน สติกลับมาทำงานอีกครั้งก็ตอนที่เลปิดประตูห้องใส่ ฮิมรีบกลับหลังหัน เขาเปิดประตูออกแล้ววิ่งไปกอดน้องที่กำลังจะเดินถึงหน้าประตูคอนโด “อย่า! อย่ามาโดนตัวเล!”

“ฟังพี่! ฟังพี่ก่อน”

“ไม่! อย่าจับเล พี่ฮิมปล่อย!”

“ขอร้องครับ ฟังพี่!”

“ไม่! ปล่อย!”

“พี่อยากอธิบาย!”

“ปล่อย!!”

“ขอร้อง”

เลดิ้น ดิ้นเพราะอยากไปจากเขา น้องขัดขืนสุดแรง ขาเรียวสะเปะสะปะไปทั่วเพื่อที่จะได้หลุดออกจากวงแขนแกร่ง จนในที่สุดเมื่อพูดกันแล้วมันไม่รู้เรื่อง มือบางก็คว้าแจกันที่อยู่ใกล้มือทุบใส่หัวอีกคนจนแตกละเอียด

เพล้ง!

ร่างสูงถึงกับทรุดลงไปนั่งอยู่ที่พื้น เลือดสีสดไหลอาบหน้า ถึงอย่างนั้นมือหนาก็ยังไม่ยอมปล่อย แขนแกร่งกอดขาเรียวเอาไว้ วิงวอนขอให้คนที่บัดนี้ยืนนิ่งเห็นใจ

“ได้โปรด ฟังก่อนเถอะนะ”

อยู่กับพี่ อย่าไปจากพี่เถอะได้โปรด



กลับมาที่ห้องนั่งเล่น ผมกำลังทำแผลให้พี่ฮิม เขาหัวแตก แผลไม่ใหญ่มากแต่เลือดออกเยอะจนผมบอกว่าเรียกหมอเถอะแต่อีกฝ่ายไม่ยอม ทีแรกร่างสูงจะคุยกับผมก่อนให้ได้ แต่หน้าอาบเลือดขนาดนั้น เรียกหมอก็ไม่เอา สุดท้ายผมเลยตัดสินใจเป็นคนทำแผลให้พี่ฮิม ทั้งๆ ที่เป็นคนทำเอง

ผมรู้สึกผิด เพราะแผลถึงไม่ได้ใหญ่มากแต่มันก็ไม่ได้เล็กเช่นเดียวกัน ทว่าทั้งๆ ที่น่าจะเจ็บ แต่พี่ฮิมกลับนั่งเงียบมาตลอด เขาเอาแต่มองผมทำแผลให้เงียบๆ จนกระทั่งเสร็จ ซึ่งที่ผมทำได้ก็มีแค่หาผ้าสะอาดปิดบริเวณแผลเพื่อให้เลือดหยุด

ผมเก็บอุปกรณ์ทำแผลเบื้องต้นจากนั้นก็หันมามองคนที่บอกว่าอยากจะอธิบาย

“พี่ไม่ได้มีอะไรกับเขา” ฟังแล้วก็เงียบ “คนดี”

“...”

“เชื่อเถอะนะ”

“คิดว่าเป็นเพราะเรื่องนี้เหรอ” ผมถามและเป็นครั้งแรกที่เห็นพี่ฮิมทำหน้าตาตื่น “ก็อาจจะใช่ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด”

ผมเจ็บ ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเจ็บตอนที่เห็นคลิปนั่นน่ะ ที่ร้องไห้หนักในตอนแรกเพราะเห็นคลิปนั่นแหละ แต่เหตุผลจริงๆ มันมีเรื่องอื่นด้วย

เฉลยให้ “พี่ฮิมยังไม่ได้เคลียร์กับเขาเลย”

“...”

“พี่ฮิมอยากมีเล แต่พี่ฮิมไม่ได้เคลียร์อะไร”

“พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับเขา”

“แล้วพี่ฮิมเป็นอะไรกับเล” ไม่ใช่แค่เรื่องที่ว่าไม่เคลียร์นะ แต่กับผมมันก็ยังครุมเครือ แบบเรื่อยๆ แต่ไม่ได้เฉพาะแล้วว่าเราเป็นอะไรกัน “ทำไมไม่ชัดเจน”

ร่างสูงเงียบ เขามองหน้าผม จ้องตากันสักพักก่อนฝ่ายนั้นจะหันหน้าหนีก่อน กายหนาหมุนตัวแล้วหันหลังให้ผม จากนั้นก็เงียบไปนาน

ผมนั่งมอง ไม่เข้าใจว่าพี่ฮิมหันหลังให้ผมทำไม เลยเดินอ้อมไปดูด้านหน้าก่อนจะถูกอีกฝ่ายรวบตัวกอด พี่ฮิมว่าตรงๆ

“น้องบอกว่าพี่ยังไม่เคลียร์ พี่ขอโทษ แต่พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับเขา”

“...”

“ถ้าเลอยากให้เคลียร์ พี่ก็จะเคลียร์ให้”

“...”

“แต่เลบอกว่าพี่ไม่ชัดเจน”

“...”

“แล้วน้องเคยชัดเจนกับพี่บ้างไหม”

ผมขมวดคิ้ว พี่ฮิมหมายความว่าไง “หมายความว่ายังไง”

“เลเคยบอกว่าเกลียดพี่ตอนเรามีปัญหากัน”

“...” เลไม่เข้าใจและคำใบ้ที่ได้ก็มีเพียงน้อยนิด พี่ฮิมละอ้อมกอดออกแล้วกล่าวทิ้งท้าย

“เลต่างหากที่ไม่เคยชัดเจนกับพี่เลย”








(100%)

3 วันดี 4 วันไข้จริงๆ คู่นี้ เราว่าจะเคลียร์ภายในตอนนี้แต่มันไม่ไหวค่ะ ใส่เข้าตอนเดี๋ยวกันไม่ได้ ยาวเกินไป

ตอนต่อไปรอไม่นานหรอก สัญญาๆ

ในจอยลดาชื่อเรื่องคือ  ; แฟนวิศวะ (Yaoi) ค่ะ ปกจะเป็นสีดำ




ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210418#31 p.43
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-04-2018 17:49:19
เอ้า...คู่นี้ผลัดกันน้อยใจ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210418#31 p.43
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 21-04-2018 18:45:05
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210418#31 p.43
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 21-04-2018 19:46:16
เอาดีนวินมาเยียวยาใจหน่อยคะ ก๊าก555 จะมีคู่นี้มั้ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210418#31 p.43
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 21-04-2018 19:58:59
ดีกันได้ไม่นานเลย :mew5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210418#31 p.43
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 21-04-2018 20:21:08
คุยกันดีๆนะคะ :mew6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210418#31 p.43
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-04-2018 21:28:11
โอ้โห้  พูดมาได้นะเฮีย ใครฟ่ะที่บังคับน้องเสมอๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210418#31 p.43
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 21-04-2018 22:26:56
โอ๊ยยยย รีบๆ เคลียร์เถอะนะ
ประเด็นมันคืออะไร!!!
รีบเข้าใจกันเถอะ ต่างรักกันปานนี้

รีบมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210418#31 p.43
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-04-2018 22:45:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210418#31 p.43
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 21-04-2018 23:34:36
ใจหายเลย เพิ่งดีๆกันเอง ฮืออ น้องเลย์ต้องใจเย็นๆนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210418#31 p.43
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 22-04-2018 01:17:11
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 210418#31 p.43
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 22-04-2018 01:30:18
ทีมพี่วิน ยังยึดมั่นแบบนี้

ขอเป็นเรื่องพีค 2018 เถอะค่ะ

สาทุ!!!
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 22-04-2018 10:17:18


#32 (50%)



เงียบ เงียบไปหมด

ร่างเล็กตกอยู่ในผะวงความคิดของตัวเองนานนับสิบนาที แต่เขาก็ยังคิดไม่ออก ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ พี่ฮิมหมายความว่ายังไง เลไม่เข้าใจอะไรเลย

ทำไมกลายเป็นเขาที่ไม่ชัดเจนล่ะ?

‘เลเคยบอกว่าเกลียดพี่ตอนเรามีปัญหากัน’

เกลียดพี่ฮิม?

‘เลเกลียดพี่ฮิม’

“ฮึ!” เลสะดุ้งเล็กเมื่อนึกประโยคนั้นอยู่ดีๆ แล้วจู่ๆ สถานการณ์ที่เคยพูดออกไปว่าเลเกลียดพี่ฮิมมันก็ประดังเข้ามาในหัว เขามองหน้าพี่ฮิมที่กำลังนั่งอยู่คนละฝากของโซฟา นัยน์ตาคมที่มองมาคล้ายมีคำถามว่าเมื่อกี้เขาเป็นอะไร คนตัวเล็กกำลังจะยิ้มบอกแต่สายตาดันเหลือบไปเห็นตรงผ้าปิดแผลซึ่งกำลังชุ่มไปด้วยเลือด เขาอยากให้พี่ฮิมไปหาหมอ แต่ดูท่าแล้วอีกฝ่ายก็คงไม่ยอมไปถ้าไม่จบเรื่องของวันนี้ก่อน

พอคิดถึงประโยคนั้นเขาก็เลยเข้าใจขึ้นมาอีกนิดหน่อย มันเหมือนช่วงก่อนจะเซ็นสัญญา ตอนที่เขาไปหาพี่ฮิมเพื่อที่จะยกเลิกสัญญาตัดขาด ตอนนั้นก็โอเคหมดทุกอย่าง ทว่าในวันเซ็นสัญญาพี่ฮิมกลับไม่ยอมมา แต่เพราะอะไร ทำไมพี่ฮิมถึงไม่ยอมมา

“เอ๊ะ!” เลสะดุ้งอีกครั้ง เขานึกอะไรออก เจ้าตัวเลียริมฝีปากขณะเดียวกันที่สายตาเหลือบไปเห็นพี่ฮิมที่กำลังมองมาทางนี้อีกครั้ง สีหน้าของเจ้าตัวบ่งบอกว่าอยากถามคำถามเดิมคือเขาเป็นอะไร “ละ… เล”

ประโยคถูกกลืนหายไปในลำคอ ร่างเล็กหันมาตั้งสมาธิอีกครั้งหนึ่ง

กุญแจ

สิ่งที่เขายังหามันไม่เจอในตอนนั้น คือกุญแจ

เลหาสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะปลดล็อกเพื่อเข้าสู่อีกฝ่ายไม่เจอ

ตึก!

จู่ๆ ร่างสูงก็ลุกขึ้นยืน เลหันไปมองตาม เจ้าของใบหน้าสวยแทบอ้าปากค้างเมื่อพบว่าเลือดที่ชุ่มผ้าปิดแผลของอีกฝ่ายมันไหลย้อยออกมาด้านนอก พี่ฮิมจึงเดินไปหยิบทิชชูมาซับเลือดตัวเองแบบลวกๆ ไม่มีเวลามาหาว่ากุญแจคืออะไร เขาอยากพาไปพี่ฮิมไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย แต่จะไปได้ก็คงต้องคุยก่อน

“พี่ฮิม! ฮิมมาคุยกันเถอะ” ร่างสูงที่หยิบกล่องทิชชูแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม ร่างบางสั่น เขาแค่อยากพาอีกฝ่ายไปโรงพยาบาล สิ่งที่จะพูดจึงยังไม่ได้คิดด้วยซ้ำ ในตอนนี้เขาแค่จะพูดสิ่งที่มันอยู่ในใจ “คือเลไม่ฉลาดเลย เลโง่นะ”

“...”

“เลไม่รู้อะไรเลย ที่พี่ฮิมพูดมาเลก็ไม่ค่อยเข้าใจ”

“...” อันที่จริงน้องไม่เข้าใจที่พี่ฮิมบอกว่าเขาไม่ชัดเจน และเขาก็รู้สึกว่าพี่ฮิมไม่ชัดเจนเหมือนกัน เราสองคนไม่เข้าใจกันและกัน แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตามตอนนี้ตีพี่ฮิมหัวแตกไปแล้วควรจะรีบไปโรงพยาบาลก่อน ต้องรีบพูด

“เลไม่รู้ความคิดของพี่ฮิมหรอกนะ  ถ้าไม่ชัดเจนของเลนั่นเพราะเลไม่ค่อยพูดวะ… หวานๆ กับพี่ฮิม คือน้องไม่ถนัด” การกระทำกับคนรักอย่างหอม กอด คนตัวเล็กอยากจะทำ แต่ทำไม่ค่อยได้ มันเขิน “แต่พี่ฮิมคงรู้ความรู้สึกน้อง… ใช่ไหม?”

“...” นัยน์ตาคมมองเขาแทบไม่กะพริบ เลสั่น ทั้งร่างกายและหัวใจ

“เลรักพี่ฮิมนะ”

“...” พูดออกไปแล้ว

พี่ฮิมยังคงนั่งนิ่ง คนตัวสูงไม่มีปฏิกิริยากับคำว่ารักที่ผมอุตส่าห์รวบรวมพละกำลังก่อนจะพูดออกไป ยังไงก็ตามร่างสูงยังคงนิ่ง ผมหน้าถอดสีรีบพูดย้ำๆ ว่ารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

“ละ… เลรักพี่ฮิมมากๆ เลย จริงๆ นะ” พูดแล้วรีบก้มตามองพื้นพรม ขอให้พี่ฮิมพูดอะไรตอบกลับมาบ้างเถอะ เพราะถัดจากนี้ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้วนะ ฉากบอกรักมันควรเป็นฉากจบได้แล้วสิ!

น่าเสียดายที่ห้องยังคงเงียบ ไม่มีการตอบรับจากพี่ฮิม ผมเม้มปากแล้วตัดสินใจเงยหน้าขึ้น ถึงว่ายังไงมันก็เป็นแค่คำบอกรักปากเปล่า ไม่มีอะไรรับประกันว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริง และพี่ฮิมคง… คง…

“ฮิม” ผมมองหน้าเขาแล้วนิ่งไปพักหนึ่ง

“...”

“ร้องไห้เหรอ?”

ไม่ผิด ไม่ผิดแน่ พี่ฮิมกำลังร้องไห้ ร่างสูงพยายามหันหน้าหนีแต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่ากำลังร้องไห้อยู่ เลสั่น ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด เพราะตลอดระยะเวลาที่อยู่กับฮิมมาเกือบยี่สิบปี ผมไม่เคยเห็นพี่ฮิมร้องไห้เลย ไม่เคย…

“ร้องทำไม ฮึก! เจ็บแผลเหรอ เลขอโทษ ไปหาหมอกันเถอะนะ ฮือ” ผมร้องไห้ตาม ขณะคลานเข้าไปดูผ้าปิดแผลที่กำลังชุ่มไปด้วยเลือด พอเข้าไปใกล้เขาก็ถูกรวบตัวกอด เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาซุกลงที่ไหล่ผม เสียงทุ้มพูดประโยคแรกหลังจากเงียบอยู่นาน

“กอดพี่ กอดพี่หน่อยครับ”

“ฮืออ กอดแล้วต้องไปหาหมอนะ” ผมโน้มตัวกอดเขาแน่นที่สุดเท่าที่จะแน่นได้ พี่ฮิมก็เช่นกัน กอดกันสักพักใบหน้าหล่อเหลาที่ซุกอยู่ที่ไหล่ก็ไล่ขึ้น เสียงทุ้มกระซิบข้างหู

“พี่รักเล รักน้องนะ รัก รัก รักมาก”

“เลก็รักพี่ฮิมนะ” ผมผละตัวออกแล้วเอื้อมมือไปปาดน้ำตาให้อีกฝ่าย พี่ฮิมเลยใช้จังหวะนั้นจับมือผมแนบแก้มตัวเองแล้วถูไถไปมา “เจ็บไหมอ่า”

หมายถึงแผลที่ถูกผมทุบแจกันใส่ นึกแล้วสยองตัวเอง ทำไปได้ยังไง

“ไม่เจ็บเท่าเลพูดว่าเกลียดพี่หรอก”

“เว่อร์”

พี่ฮิมเอาหัวหนุนไหล่ผมแล้วเงียบไปสักพัก แต่จู่ๆ ร่างสูงก็พูดขึ้นมาว่า “พี่เจ็บ”

“ฮืออ เลบอกแล้วว่าต้องไปหาหมอ!”

“รัก… พี่หน่อย”

“เลทำไม่เป็น เลไม่ใช่หมอ!”

“แค่รักพี่” พี่ฮิมผละออกแล้วจ้องหน้าผม ร่างหนาเอนตัวพิงโซฟา “เป็นแฟนพี่แล้วพี่จะโทรเรียกหมอ”

“โอ ฮึ-- เดี๋ยว!” ผมเบรกตัวเองเอาไว้ได้ทัน “แต่พี่ฮิมยังไม่ได้เคลียร์เรื่องคนอื่นให้เลเลยนะ”

โทรศัพท์ของพี่ฮิมถูกวางใส่มือผม มือหนากุมทับอีกทีเพื่อให้เลกำมันเอาไว้ “มันเป็นของน้อง”

“หมายความว่ายังไง”

“เลจะทำอะไรในโทรศัพท์พี่ก็ได้”

นี่หมายความว่าให้ผมเคลียร์เองอย่างนั้นใช่ไหม? ผมถอนหายใจ ปัญหาของตัวเองโดยตรงก็ไม่ใช่ แต่เอาเถอะถือว่าการใช้กำลังของเลจนทำให้พี่ฮิมบาดเจ็บมันไม่สมควร ผมจะยอมให้กับเรื่องนี้

“โอเค” ผมว่า “เป็นแฟนกันแล้วนะ”

นัยน์ตาสีดำสนิทมอง เขากอดผมแน่นขึ้น แล้วพยักหน้าเบาๆ เลยิ้ม โน้มใบหน้าลงไปทาบหน้าผาก ชนปลายจมูกกันเบาๆ ก่อนจะผละออก บังเอิญนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

“พี่ฮิมแล้วเงินพันล้านที่พี่ฮิมให้ล่ะ เลต้องทำยังไง”

“พี่ไม่เอาคืน” พี่ฮิมดัก

“ไม่แฟร์เลย เดี๋ยวฮิมก็ต้องให้เงินน้องอยู่ดี”

“ไม่ดีเหรอครับ” คนฟังพูดพลางหัวเราะ

“เอางี้ พี่ฮิมเรียกคุณทนายมาให้เลหน่อยสิ”

บรรยากาศที่เคยบ่อยคลายอึมครึมลงกะทันหัน เสียงเข้มว่าทันที “เรียกมาทำไม”

“เก๊าะ! เรียกมาให้ทำสัญญาไง” ผมเสนอ “ใครขอเลิกได้เงินพันล้าน”

“ขอเลิกได้เงิน? พี่เป็นฝ่ายเสียเปรียบสิครับ”

“เปย์เลให้มากกว่าพันล้านสิ” ผมหัวเราะพร้อมพูดทิ้งท้ายพี่ฮิม ร่างสูงฟังแล้วหัวเราะตาม ทั้งๆ ที่ขอเสนอของผมทำให้ฝ่ายนั้นเสียเปรียบแบบสุดๆ แต่พี่ฮิมก็ดูเหมือนไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลอะไร

“งั้นพี่ก็จะทำสัญญาเหมือนกัน”

“สัญญาอะไร!” ผมตาโต

“ห้ามเลเลิกกับพี่จนกว่าจะใช้เงินพี่หมด”

โอ๊ยตาย! จะใช้เงินพี่ฮิมให้หมด สงสัยว่าชาตินี้ผมคงไม่ต้องทำอะไรนอกจากใช้เงิน!





10 ชั่วโมงต่อมา

‘เลเกลียดพี่ฮิม’

ประโยคนี้มันฝังใจเขา ฮิมจำ และมั่นใจว่าตัวเองจำมันได้ตลอดชีวิต ประโยคที่เลพูดออกมามันมีคำที่เป็นขั้วตรงข้ามกับความรู้สึกของเขาอยู่

เกลียด

หลังจากวันนั้นฮิมตัดสินใจเรียกทนายทันที ทั้งวันทั้งคืนมีแต่ประโยคแบบนี้อยู่่ในหัว

น้องเกลียดมึง น้องเกลียดมึง น้องเกลียดมึง

เลอาจจะไม่รู้ว่าประโยคที่ตัวเองพูดออกมาก่อนหน้าว่าเกลียดเขานั้นมันมีอานุภาพมหาศาลขนาดไหน

ฮิมรักน้องมาเกือบทั้งชีวิต ไม่ใช่แค่รักในแบบเดียว เขารักเลในหลายฐานะ พอเจอคำว่าเกลียดเข้าไปมันก็เลยฝังหนัก ลงรากลึกเข้าไปในขั้วหัวใจ

หลายวันก่อนเซ็นสัญญา เลเป็นฝ่ายมาหาเขาเองแล้วบอกว่าทำกับเลแบบที่ฮิมเป็นฮิมดู นั่นน่ะเขาดีใจมาก แทบจะบินได้อยู่แล้ว มันไปได้ด้วยดี เขารู้สึกดีขึ้น ทว่าคำที่จะมาล้างคำว่าเกลียดที่ฝังอยู่ในใจนั้นกลับไม่มี

เขาเลยตัดสินใจไม่ไป

อันที่จริงในวันนั้นเขาบอกกับทนายเอาไว้ถ้าน้องพูดออกมาว่ารักเขาล่ะก็ฉีกสัญญาไปได้เลยแต่ก็ไม่ ผลเลยเป็นไปตามนั้น

มันอาจจะเป็นเหตุผลที่ฟังแล้วดูงี่เง่าสักหน่อย แต่เขาขอเพียงอย่างเดียว

รัก ช่วยบอกเพื่อยืนยันว่าเลไม่ได้เกลียดพี่

บอกรัก… บอกรักพี่ที

แล้วหลังจากนั้นน้องจะทำอะไรพี่ก็ยอม



“แค่นั้นจริงๆ เหรอ” ผมเอ่ยแทรกพี่ฮิมที่กำลังเล่าความรู้สึกของตัวเองให้ฟัง หลังจากเรียกหมอมาทำแผลให้พี่ฮิม คุณหมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่ควรจะไปสแกนสมองที่โรงพยาบาลเผื่อเอาไว้ ผมก็เลยคะยั้นคะยอให้พี่ฮิมไป พอทำทุกอย่างเสร็จ เลก็เลยไปซ้อมหลีด ซ้อมหลีดเสร็จก็โทรขอพี่วินมาอยู่กับพี่ฮิม ผมเล่าเหตุการณ์ให้อีกฝ่ายฟัง ทางนั้นจึงยอมให้มา และตอนนี้เราก็กำลังนอนกอดกันอยู่บนเตียง เปิดใจเล่าความรู้สึกของกันและกันอยู่

หลังจากที่ฟังพี่ฮิมพูดแล้วผมถึงได้รู้ว่ากุญแจที่ผมหาอยู่มันช่างแสนง่ายดาย

รัก พี่ฮิมต้องการแค่คำว่ารัก

ฉะนั้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเราเลยคืนดีกันได้ง่าย เพราะพี่ฮิมเป็นฝ่ายอ่อนลงให้เนื่องจากผมบอกรักอีกฝ่ายออกไป แต่เมื่อกี้พี่ฮิมบอกว่าเพื่อยืนยันว่าผมไม่ได้เกลียดฮิม แต่เลคิดว่านั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด

“ก็น้องไม่ชัดเจน”

“ไม่ชัดเจนยังไง” เอาจริงนะ! ตอนนี้เลก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าตัวเองไม่ชัดเจนตรงไหน!

พี่ฮิมถอนหายใจ ร่างสูงถึงกับผลละอ้อมกอดออกแล้วก็พรั่งพรูคำพูดออกมาเหมือนเป็นช่วงเวลาปลดปล่อยความทุกข์

“คำว่าเกลียดของเลทำให้พี่ไม่มั่นใจ การกระทำน้องมันชัดแต่พี่ไม่มั่นใจอะไรสักอย่าง”

“ยังไง”

“พี่จะมั่นใจได้ยังไงว่าเลไม่ได้แค่อยากเก็บพี่เอาไว้ หวงเอาไว้ แต่ไม่ได้รัก”

“ตอนนั้นเลก็รักพี่ฮิมนะ เลแค่อยากให้พี่ฮิมชัดเจนกับเลก่อน”

“พี่ชัดเจนกับเลมากกว่าที่เลชัดเจนกับพี่แน่ๆ” ร่างสูงว่า ไม่ได้อธิบายอะไรต่อแต่ผมมาคิดตามเอง พี่ฮิมบอกคิดถึงผมทุกวัน หอมทุกวัน ชวนไปไหนมาไหน แต่ก่อนตอนที่ยังเป็นแค่พี่น้องก็มีแต่ไม่ได้บ่อยขนาดนี้ ผมคงเป็นฝ่ายไม่ชัดเจนเองจริงๆ นั่นแหละ รู้สึกผิดจัง

“พี่ฮิม”

“หืม”

“นี่ฮิมคิดว่าน้องคบกับฮิมเพราะเงินอยู่หรือเปล่า” แต่ก่อนไม่เคยคิดเรื่องนี้แต่ตอนนี้คิดหน่อยๆ แล้ว เพราะเลน่ะไม่มีอะไรเลย แต่อีกคนมีทุกอย่าง

“เมื่อก่อนไม่ แต่พอน้องบอกว่าเกลียดแล้วเรากลับมาดีกัน พี่ก็คิด”

“ฮิม” ผมพูดเสียงอ่อน

“แต่พี่ไม่สนใจ ถึงเลจะคบพี่เพราะเงินก็ไม่เป็นไร แต่พี่เลี้ยงเลมา รู้ว่าเลเป็นยังไง พี่รับได้ทุกอย่างที่เลเป็น”

โชคดี

โชคดีจังน่ะผมเนี่ย พ่อแม่ไม่มี ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น แถมบางครั้งก็เอาแต่ใจตัวเอง แต่ยังมีคนที่ยอมรับเราได้ขนาดนี้ แถมคนนั้นยังเป็นคนที่มีทุกอย่างพร้อม ชาติก่อนเนี่ยผมทำบุญด้วยอะไรกันนะ

“ขอบคุณนะพี่ฮิม” ผมเงยหน้าขึ้น จ้องเขาแม้จะอยู่ในความมืด “ขอบคุณที่รักเล”

“ขอบคุณเหมือนกันครับ”

ประโยคจากอีกฝ่ายทำให้ผมยิ้มรับ ทนไม่ไหวเลยเอียงหน้าจูบคนข้างกาย ผมกัดริมฝีปากพี่ฮิมส่งท้ายก่อนจะผละออก

“เลรักพี่ฮิม ถึงเลจะยังไม่รู้ตัวตนของพี่ฮิมทั้งหมด”  พี่ฮิมค่อยๆ เปิดเผยตัวตนกับผมแต่ไม่ได้เปิดออกหมดทีเดียว “แต่ยังไงเลก็รักพี่ฮิมนะ”

“อืม ง่วงหรือยัง”

“อือ” นอนกอดกันใต้ผ้านวมในห้องแอร์ เตียงนุ่ม ห้องมืดซะขนาดนี้มันก็ต้องมีง่วงกันบ้าง

“งั้นนอน” พี่ฮิมจูบหน้าผากให้หนึ่งทีเป็นการส่งเข้านอน จากนั้นบรรยากาศในห้องจึงเงียบ ได้ยินเพียงเสียงขยับตัวไปมาภายใต้ผ้านวมผืนหนา

พี่ฮิมกอดผมแน่นตลอดทั้งคืน เขาไม่ยอมปล่อยผมออกจากอ้อมกอดไม่ว่าจะพลิกตัวไปทางไหน

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 22-04-2018 10:36:50
ขออีกเยอะๆ ^^
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 22-04-2018 10:44:04
งือออออเค้าดีกันแล้วค่ะกรีดร้องงงงงงงง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 22-04-2018 10:48:52
คำว่ารัก VS คำว่าเกลียด
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 22-04-2018 10:51:18
ถ้าเลกลัวใช้เงินของพี่ฮิมไม่ไหวก็โอนมาให้เราได้นะ... ช่วงนี้กรอบแกรบมาก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 22-04-2018 11:54:56
พอดีกันก็หวานกันเชียว  :L1: :L1: :L3:
เงินอ่ะถ้ายังไงบัญชีเราว่างโอนมาได้นะ :monkeysad: :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 22-04-2018 12:34:18
เบิกบานแล้วล่ะซิฮิมอ่ะ น้องบอกรักแล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 22-04-2018 13:47:45
ถึงเวลาหวานแล้วใช่เปล่า  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 22-04-2018 14:15:10
ดีกับฝั่งนี้แล้ว ว่าแต่พี่วินล่ะ น้องบอกจะกลับแล้วไม่กลับ จะมีเรื่องกับพี่วินอีกมั๊ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-04-2018 14:15:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-04-2018 16:11:10
เฮ้อ~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-04-2018 16:32:04
ตกลงดีกัน เป็นแฟนกันแล้วนะ เหลือแค่พี่วิน

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-04-2018 19:07:25
เข้าใจกัน ดีกันแล้ว   :ling1: :ling1: :ling1:
ผู้หญิงของฮิมมีมากมาย ก็ใครก็อยากมีอะไรกับฮิม   o18

ฮิม รู้แล้วว่าเล ไม่ได้เกลียดฮิม อย่างปากว่า
ฮิม อยากฟังว่าเลรักฮิม เล พูดแล้ว   :o8: :-[ :impress2:
ฮิม เล   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 22-04-2018 19:54:46
เขารักกันค่ะ..  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-04-2018 20:17:17
แล้วตัวต้นเหตุที่ชื่อเดวา เคลียร์กับฮิมหรือยัง เล  :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: TM_DuckCe ที่ 22-04-2018 21:51:42
 :ling1: พอไม่มาม่า ก็หวานชะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: bearjunjun ที่ 22-04-2018 22:05:45
พี่ฮิมเด็กโน้ยมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 22-04-2018 22:33:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-04-2018 00:09:41
เข้าใจกันแล้วเนอะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 25-04-2018 14:12:25


#32 (100%)




ตีสี่

ผมลืมตาตื่นเงียบๆ ไม่รู้ทำไมถึงได้ตื่นขึ้นมาตอนนี้ ครั้นจะขยับตัวก็ยังโดนพี่ฮิมกอดเอวเอาไว้อยู่ เลเลยพลิกตัวกลับเข้าหาอีกคน ก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายก็ตื่นแล้วเหมือนกัน

เราจ้องตากันในความมืด ผมพูดขึ้นก่อน

“ทำไมตื่นเร็วจัง”

“พี่นอนไม่หลับ” ฟังแล้วต้องขมวดคิ้ว ผมจับแขนเขาออกจากเอว ยืดตัวไปเปิดโคมไฟข้างเตียงแล้วลุกขึ้นนั่ง

“เจ็บแผลเหรอ ให้เลดูหน่อยนะ” เคลื่อนตัวไปดูแผล แต่มันไม่ถนัด เลยถือวิสาสะยกตัวขึ้นนั่งทับสะโพกของคนที่ยังคงนอนราบอยู่ พี่ฮิมหัวเราะ มือหนากอดเข้าที่เอวผมแบบหลวมๆ ตามเดิม ร่างสูงยืดตัวขึ้นพิงศีรษะเข้ากับหัวเตียงเล็กน้อยเพื่อให้ผมถนัด “พี่ฮิมปวดหรือยังไง”

“เปล่า พี่ไม่ได้นอนไม่หลับเพราะแผล”

“อ้าว” ผมร้อง “แล้วเพราะอะไร”

นัยน์ตาคมจ้องลึกเข้ามาในดวงตาผมแทนคำตอบ พี่ฮิมยกยิ้มมุมปาก มือหนาเอื้อมมากดศีรษะเลให้ก้มต่ำลงจนอยู่ในระดับที่อีกฝ่ายกระซิบเสียงทุ้มใส่หูผมได้

“เพราะเล”

ประโยคนั้นตามมาด้วยแรงกดบริเวณสะโพก เลขยับไม่ได้ ครั้นขัดขืนถึงได้รู้สึกถึงบางอย่างที่ตัวเองกำลังนั่งทับอยู่

ผมค่อยๆ ผละตัวออกพร้อมกับมองหน้าพี่ฮิม อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรแต่คิดว่าฮิมรู้ รู้แน่ๆ จะไม่รู้ได้ไงในเมื่อมัน… ดันก้นเลอยู่ขนาดนี้

จะขยับก็ทำไม่ได้ จะดิ้นมันก็โดน

พี่ฮิมตั้งใจ



เลสั่น

ร่างหนาที่กำลังนอนรองรับสัมผัสได้ น้องคงเริ่มรู้แล้วว่าเขาคิดจะทำอะไร ใบหน้าสวยถึงได้มีอาการวิตก มือหนาข้างหนึ่งค่อยๆ ยกลูบไล้ไปตามต้นขาเรียว ลากขึ้นมาถึงเอวคอด นัยน์ตาคมสีดำสนิทจ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตา

ฮิมฝัน เขาฝันว่าจะได้กอดอีกฝ่ายมานานกว่าสิบปี พอมันเป็นจริงขึ้นมา คนในฝันมานอนกอดกันอยู่ข้างกายขนาดนี้ใครมันจะไปหลับลง

“น้องสวย” ฝ่ามือหนาเคลื่อนขึ้นมาถึงหน้าท้อง ใช้นิ้วโป้งลากเสื้อขึ้นสูงไปจนถึงหน้าอก “สวยมากเลยครับ”

จากนั้นก็ลูบวนบริเวณยอดอกเป็นผลให้คนที่นั่งอยู่บนร่างหนาสะดุ้งเฮือก

“พะ… พี่ฮิม”

“ค้ำหัวเตียงเอาไว้ครับ” ฮิมสั่ง

“หือ?”

“ทำเร็ว” เสียงทุ้มเร่ง เลทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจแต่ก็ยอมทำตามคำสั่งโดยการโน้มตัวลงแล้วใช้มือค้ำกับหัวเตียงเอาไว้ เป็นผลให้หน้าอกของอีกฝ่ายลดต่ำลงมาอยู่่ตรงหน้าเขา ฮิมจึงจัดการมันโดยการ…

“อื้อ อ๊า! พี่ฮิม” ร่างสูงกัด กัดเข้าที่ยอดอกแล้วเลียทับหลายๆ ที มือหนาสองข้างล้วงเข้าไปในกางเกงทั้งขย้ำทั้งกดก้นกลมเอาไว้ไม่ให้ขยับหนี คนที่นั่งอยู่บนตักจึงได้แต่ส่ายเอวไปมาส่งผลให้กายแกร่งที่นอนรองรับเอวบางเกิดอารมณ์มากกว่าเดิม เพราะยามเลขยับเมื่อไหร่แท่งเนื้อร้อนของคนด้านใต้จึงคล้ายได้รับการนวดไปด้วยเมื่อนั้น

ตุ่มไตเล็กแข็งชันขึ้นเมื่อถูกลิ้นร้อนดูดดึงจนเปียกชุ่ม ส่วนกลางลำตัวแข็งขึงไปตามอารมณ์ ก้นกลมขึ้นสีผลจากการถูกขย้ำ

“อื้อ พี่ฮิม” เลเรียกเสียงเบา ร่างบางหยุดต่อต้านและปล่อยให้เขาทำตามใจ ฝ่ามือหนาที่กำลังบีบคั้นบั้นท้ายกลมกลึงสวยเริ่มขยับเข้าใกล้ช่องทาง ฮิมปล่อยริมฝีปากออกจากยอดอกสีสด แล้วยกตัวจูบร่างเล็กก่อนจะลุกขึ้นนั่ง เขารวบตัวน้องเอาไว้บนตักตวัดแขนเกี่ยวเอวคอดไม่ได้ดิ้นหนี ขณะที่แทรกลิ้นร้อนเข้าไปในริมฝีปากเล็ก จูบเร้าอารมณ์ให้คนบนตักอ่อนระทวยลง ก่อนจะวางมือลงบนบั้นท้ายงาม ขย้ำเล่นสักพักจึงใช้นิ้วชี้ถูไถไปตามร่องก้นสวย นัยน์ตาคมมองคนที่กำลังถูกชักนำไปตามจังหวะ ร่างหนาตัดสินใจกดนิ้วเข้าไปในช่องทางเล็ก “อื้อ! อึก!”

เลดิ้นอย่างที่คิด ฮิมถอนนิ้วและคลายริมฝีปากออก ก่อนจะผลักให้อีกฝ่ายนอนหงายไปทางด้านหลัง กางเกงขายาวบนกายขาวถูกดึงออกไปคาอยู่บนปลายขาเรียวข้างหนึ่งอย่างรวดเร็ว เสื้อที่เลสวมอยู่ถูกเลิกขึ้นจนพ้นอก ในตอนนี้คนตัวเล็กไม่มีอะไรมาปกปิดแล้ว

น้องเปลือยอยู่ตรงหน้าจากฝีมือของเขาเอง

ฮิมกำลังจะโน้มตัวลงจูบแต่จู่ๆ มือบางก็ยกขึ้นมาคั่นอกเขาเอาไว้ซะก่อน

“พี่ฮิม” เสียงเล็กเรียกแผ่วเบา ฮิมมองตาอีกฝ่าย ร่างสูงก้มลงกระซิบขอที่ข้างหู

“ให้นะ”

“เล…” เหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแล้วก็นิ่ง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้น มองตาคมเฉี่ยวแล้วพูดใหม่ “เบาหน่อยนะครับ”

อา คนดี คนดีของพี่ จะทำพี่คลั่งตายอยู่แล้ว

“ครับ”​ ฮิมยิ้มรับ ใบหน้าหล่อเหลาเข้าไซร้ตามลำคอระหง ขบเม้มแรงๆ จนขึ้นรอยก่อนจะผละออก มือหนายกขาเรียวขึ้นจูบกลางฝ่าเท้า ลิ้นร้อนไล้เลียตั้งปลายจนถึงต้นขา จากนั้นจึงหันมาสนใจส่วนกลางลำตัว ร่างสูงจับแท่งเนื้อขนาดน่ารักของอีกฝ่ายรูดรั้งขึ้นลง พอได้ยินเลครางจึงหยุด

เจลหล่อลื่นถูกนำมาออกใช้ มือหนาแยกขาเรียวออก นัยน์ตาคมหลุบลงมองพร้อมกับเลียริมฝีปาก

ขาวจริงๆ

ขาวหมดจดตั้งแต่หัวจรดเท้า ส่วนที่ลับขึ้นสีชมพูอ่อนไม่มีคล้ำ ผิวเนียนไปหมด ขนสักเส้นก็ยังไม่มี

เจลหล่อลื่นจำนวนมากถูกเทลงบนมือหนา ก่อนที่ฝ่ามือสากจะลากไปทั่วบริเวณจุดกึ่งกลางลำตัวของอีกฝ่าย แล้วมาหยุดที่จุดสุดท้ายคือช่องทางสีสวย ฮิมหลุบตามองน้องที่ยังคงจ้องเขาอยู่ กายหนาโน้มลงจูบที่ขมับเป็นการปลอบประโลมขณะสอดนิ้วเรียวเข้าไปด้านในรูเล็ก

“อึก! เจ็บ”

“อย่าเกร็ง”

“ฮืออ ก็น้องเจ็บ”

“กอดพี่ไว้” ฮิมสั่ง หลังจากนั้นมือบางจึงค่อยๆ เลื่อนขึ้นโอบรอบลำคอ พอเลผ่อนคลายลงเขาจึงเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสอง นิ้วเรียวดึงเข้าออกและครูดไปตามผนังด้านในสลับกันไปมา ขณะที่ริมฝีปากร้อนดูดเลียอยู่ที่ตุ่มไตสีสวย เร้าอารมณ์เลเพื่อให้ความกระสันแทนความเจ็บปวดก่อนจะเพิ่มนิ้วที่สามเข้าไป

“ฮึก! อ๊า! ฮิมจ๋า น้องๆ” คนสวยเริ่มครางไม่เป็นศัพท์มากกว่าเดิม ฮิมหลุบตาลงมองช่องทาง นิ้วที่สามของเขาทำให้มันถูกขยายกว้างพอตัว แต่ ไม่… ยังกว้างไม่พอสำหรับฮิม จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ได้รู้ว่าถ้าเขาใส่เข้าไปตอนนี้เลได้เลือดเหมือนครั้งก่อนๆ แน่

คนตัวสูงตัดสินใจหลอกล่อน้องด้วยการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังทำตาโตแล้วหน้าแดงด้วยความอายนิ้วที่สี่จึงถูกสอดเข้าไปในรูเล็ก ทั้งสี่นิ้วหมุนวนอยู่ด้านใน ขยับออกแล้วกระแทกเข้าไปพร้อมๆ กัน จนช่องทางเล็กเริ่มขยายกว้างขึ้นกว่าเดิม นิ้วเรียวสี่นิ้วถูกถอนออกเมื่อเขาตัดสินใจว่าเลพร้อม

เจลหล่อลื่นถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งโดยการเทราดลงบนแท่งเนื้อขนาดใหญ่ ไม่จำเป็นต้องเล้าโลมมาก มันแข็งชันเต็มที่ตั้งแต่ตอนที่เลส่ายสะโพกอยู่บนตักของเขาแล้ว มือหนาจับน้องชายจ่อเข้าที่ช่องทางแล้วก้มลงมอง เลกำลังทำหน้าตื่นๆ

“กลัวเหรอ” เสียงทุ้มถาม มือหนาเข้าลูบตามโครงหน้าสวย

“ของพี่ฮิมมัน… ใหญ่” ว่าแล้วก็เม้มปาก น้องค่อยๆ เงยหน้าขึ้นทำตาโตกะพริบถี่คล้ายอ้อนวอน “เบาให้เลนะ”

มันใหญ่ ใหญ่ ใหญ่มาก ถ้าโดนใส่เข้ามาทีเดียวเลตายแน่ๆ

ร่างสูงไม่ตอบแต่โน้มตัวลงไปประกบจูบเป็นการปลอบประโลมแทน ช่องทางสีสวยถูกดึงให้ชิดเข้ากับสะโพกหนามากขึ้น สองมือประสานไว้ซึ่งกันและกัน ฮิมถอนจูบออก กายหนาเคลื่อนตัวขึ้นไปหอมหน้าผากขาว พร้อมกับหลุบตามองต่ำลงมาถึงจุดที่กำลังจะเชื่อมเข้าหากัน ไม่มีสัญญาณให้คนตัวเล็ก ทันทีที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มที่มุมปาก แท่งเนื้อขนาดใหญ่ก็ถูกแทรกเข้าไปในโพรงนุ่ม มิดด้ามภายในครั้งเดียวจนเกิดเสียงดังปัก!

“อั๊ก!” คนรองรับสะดุ้งเฮือก หน้าอกขาวแอ่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ปากเล็กอ้าสั่น เลเบิกตากว้าง รับรู้ได้ถึงแท่งเนื้อร้อนที่ถูกแทรกเข้ามาเป็นที่เรียบร้อยแต่ยังไม่มีสติพอที่จะโต้ตอบ ครั้นความเจ็บปวดเริ่มดึงสติที่ลอยละลิวไปกลับมา คนตัวสูงที่ยัดเยียดแก่นกายตัวเองเข้าไปในรูเล็กครั้งเดียวรวด เมื่อมองสำรวจดูแล้วพบว่าไม่มีเลือดออก สะโพกหนาก็เริ่มกระหน่ำการกระแทกเข้าและออกทันที แขนแกร่งโอบรับแผ่นอกบางที่แอ่นขึ้น ใบหน้าคมซุกเข้าที่ตุ่มไตชูชัน ใช้ลิ้นร้อนตวัดเลียและกัดสลับกันไปมาจนคนใต้ร่างยังไม่ทันได้ด่าหรือร้องไห้เพราะเจ็บ เลได้ครางแทนเมื่อความเจ็บปวดถูกเปลี่ยนมาเป็นความเสียวซ่านอย่างรวดเร็ว “อ๊ะๆ! อ๊าๆ! อื้อ! ฮิม”

“หืม” ฮิมขานรับเสียงหอบ ช่องทางอุ่นจัดคล้ายจะหลอมความเป็นชายของเขาให้แหลกละเอียด ทั้งร้อน แน่น คับแคบไปหมด แก่นกายยักษ์ขยายใหญ่ขึ้นอีกตามกามอารมณ์แต่เหมือนโพร่งอุ่นนี่คล้ายไม่ขยายตาม ผนังร้อนบีบแน่น ตอดรัดจนร่างสูงแทบจะทนไม่ไหว

“นะ ไหนบอก อ๊า! จะบะ อ๊ะ! อ๊าๆ! เบา อึก! ให้เล” การพูดให้จบหนึ่งประโยคแสนลำบากเมื่อช่องทางด้านหลังถูกรุกรานและกระแทกใส่อย่างไม่ปราณี แท่งเนื้อร้อนมันครูดไปตามผนัง อีกทั้งยังกระแทกเข้าออกถูกจุดกระสันจนทำให้เจ้าของใบหน้าสวยครางไม่เป็นภาษา เลเจ็บแต่ความเสียวซ่านมันมากกว่าความเจ็บปวด เขาอยากร้องไห้ทว่าสมองคล้ายไม่ทำงาน มันเบลอไปหมด สิ่งที่รับรู้ได้มีเพียงความเสียวกระสันจนแก่นกายเล็กตั้งชันขึ้นแม้ไม่ได้ลงมือสัมผัสมัน

“พี่ไม่ได้พูด” ฮิมปฏิเสธ เขากัดตุ่มไตสีสดแรงๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยวหนึ่งที แล้วปล่อยมือที่โอบแผ่นหลังน้องขึ้น ทิ้งให้ตัวเลลงนอนแนบติดไปกับเตียง ขาเรียวถูกแยกออกกว้างมากกว่าเดิม ก่อนสะโพกสอบจะโหมกระหน่ำกระแทกเข้าไปจนเกิดเสียง

พั่บ! พั่บๆ! พั่บๆๆ! พั่บๆ!

“อ๊า! ฮิม ฮือ อ๊ะๆๆ! อ๊า!” จุดกระสันภายในถูกกระแทกซ้ำๆ เสียวซ่านจนแท่งเนื้อเล็กกระตุก เผลอปล่อยเอาของเหลวสีขุ่นออกมาราดบนหน้าท้องตัวเอง ฮิมมองภาพนั้นอย่างพอใจ มือหนาลูบน้ำกามของอีกฝ่ายไปทั่วกายขาว ก่อนจะวกกลับมารูดรั้งส่วนไวต่อสัมผัสของน้องให้กลับมาแข็งขึงขึ้นอีก ร่างสูงโน้มตัวประกบจูบอีกฝ่าย แลกลิ้นพัวพันจนของเหลวไม่มีสีไหลเปื้อนไปทั่ว เสียงครางผสมเสียงหอบพร่าปนเปกันก่อนที่กายแกร่งจะยันตัวขึ้น เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเลียริมฝีปากขณะก้มลงมองความเป็นชายที่กำลังกระแทกเข้าออกด้วยแววตากระหาย อารมณ์ใคร่พุ่งสูง กระสันอยากจนสะโพกสอบเร่งจังหวะถี่รัว

ร่างเล็กที่ปลดปล่อยไปแล้วครั้งหนึ่งถูกกระตุ้นอารมณ์ขึ้นอีก ยอดอกเล็กที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายชูชัน นิ้วเรียวจำต้องจิกลงบนเตียงนอนเพื่อระบายความเสียวซ่านซึ่งเล่นงานไปทั่วทุกส่วน  เลได้แต่ร้องอะๆ ในลำคอเมื่อจังหวะรักเร็วรัวหนักจนเสียงครางเปล่งออกมาไม่ทัน เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่พรมจูบลำคอขาวอยู่ยันตัวขึ้น มือหนาจับเอวคอดเอาไว้ให้มั่น แล้วกระแทกความเป็นชายอัดใส่เข้าไปแรงๆ หลายๆ ครั้ง จนกามอารมณ์จะทะยานขึ้นสูงลิ่ว เสียงคำรามหนักเป็นเสียงสุดท้ายที่เลได้ยินก่อนที่น้ำรักของทั้งสองจะพุ่งออก เพราะร่างกายรับความกระสันซ่านต่อไปอีกไม่ไหว

“อะ อา” เสียงครางทุ้มของพี่ฮิมดังอยู่ข้างหู แท่งเอ็นร้อนปลดปล่อยน้ำกามเต็มช่องทางจนล้น กายหนาโน้มลงไปยันมือกับเตียงนอนคล้ายหมดแรง ฮิมขยับสะโพกอีกสองสามทีก่อนที่จะก้มลงมองคนใต้ร่าง เจ้าของใบหน้าหวานกำลังเผยอปากอ้าค้าง ดวงตากลมโตปรือขึ้นเหมือนยังตกอยู่ในผะวง

พี่ฮิมยิ้ม ยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้มที่มุมปากให้กับเล โน้มใบหน้าลงไซร้ลำคอระหงด้วยความรักใคร่

“เล คนดี ที่รัก” ริมฝีปากเล็กถูกรุกล้ำอีกครั้ง ถูกร่างสูงมอบจูบอ่อนหวานให้จนมือบางยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งโดยอัตโนมัติ แต่ไม่นานนักจังหวะรุกล้ำมันก็เปลี่ยนเป็นหนักขึ้น เลถูกจับขึ้นนั่งตัก สะโพกบางยกขึ้น และทันทีที่นั่งลงอีกครั้ง แท่งเอ็นยักษ์ก็สอดเข้ามาในช่องทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

น้องสะดุ้ง เลพยายามผลักอีกฝ่ายออกแต่ไม่ทัน เพราะหลังจากที่สลัดหลุดเจ้าของสะโพกสอบก็เริ่มขยับขึ้นลง จนแก่นกายเล็กตั้งชันขึ้นมาอีกครั้ง น้ำกามจากครั้งก่อนกลายเป็นน้ำหล่อลื่นชั้นดี มันทำให้การสอดใส่และกระแทกไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไป ความรู้สึกที่ได้รับจึงมีแต่ความเสียวซ่านชนิดที่ว่าขนลุกซู่ไปทั่วร่าง แอร์เย็นจัดในห้องไม่ช่วยทำให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลงแม้แต่นิดเดียว

“อ๊ะๆ! ฮิม!” เลร้องเสียงหลงเมื่อข้อพับที่เข่าทั้งสองข้างถูกยกขึ้นเหนือตัก มือบางยันไหล่แกร่งเอาไว้เป็นที่พึ่งกันตก แต่ไม่นานนักความรู้สึกกลัวก็ถูกทำให้มลายหายไป ภายหลังที่โดนแท่งเนื้อกระแทกใส่รูเล็กที่ค้างอยู่กลางอากาศ เสียวจนครางไม่เป็นภาษา ปลายเท้าชาดิก ความกระสันครอบงำสติจนลืมทุกอย่างไปชั่วขณะ สะโพกเล็กเริ่มส่ายไปมารับจังหวะของคนที่กำลังกระหน่ำความเป็นชายเข้าใส่มาอย่างลืมอาย

อารมณ์รักพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ฮิมสอบสะโพกหนัก ไม่ใช่แค่เลที่เสียวซ่าน น้องชายของเขาถูกตอบรับโดยการตอดรัดแน่น ทันทีที่เอาถอนกายออก รูเล็กๆ นี่ก็เหมือนจะดูดแท่งเนื้อร้อนของเขาเข้าไปตลอดเวลา รู้สึกดีมากจนแทบจะบ้าคลั่งตาย

“อ๊า! อึก!ๆ อื้อ”

“เล คนดี เมีย” เสียงทุ้มพึมพำกับตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลาชื้นเหงื่อ นัยน์ตาคมมองแก่นกายเล็กที่กระเด้งกระโดนไปมาตรงหน้า ยิ่งเห็นฮิมก็ยิ่งเกิดอารมณ์หนัก ร่างสูงจัดการอุ้มน้องกระแทกหลายๆ ที ก่อนจะปล่อยมือออกจากข้อพับทั้งสองข้างกะทันหัน ทิ้งตัวเลกลางอากาศลงสู่แท่งเอ็นยักษ์ที่ตั้งแข็งชันเป็นที่รองรับด้านล่าง

ปัก!

“อ๊าา!!!” ​ช่องทางสีสวยร่วงหล่นลงมารับกับแท่งร้อนผ่าวจนมิดด้าม กระแทกจุดกระสันพอดิบพอดี เลปลดปล่อยออก ส่วนเจ้าของตักแกร่งนั้นกระแทกเอวใส่รูเล็กอีกสามสี่ทีถึงได้ปลดปล่อยตาม

ร่างเล็กทิ้งตัวลงนอนราบเนื่องจากหมดแรงทันที อกบางหอบถี่ เปลือกตาสีไข่ปิดสนิทใกล้จะหลับ แต่ดันหลับไม่ได้เมื่อมีผู้ก่อกวนกำลังวนเวียนอยู่ที่ต้นขา เลนิ่วหน้า น้องเหนื่อย

“ฮิม อื้อ!” ยังไม่ทันพูดจบประโยคเพราะถูกช่วงชิงริมฝีปากไป คนตัวเล็กตอบรับจูบที่ดูดดื่มยิ่งกว่าครั้งไหนๆ มือบางเคลื่อนๆ เลื่อนขึ้นไปขย้ำกลุ่มผมสีดำสนิทเล่น ร่างกายแนบสนิท จุดกึ่งกลางบดเบียดแนบแน่น อารมณ์อยากรังสรรค์ขึ้นตามธรรมชาติเป็นผลให้จังหวะรักครั้งที่สามเริ่มบรรเลง

พรึบ!

ฮิมพลิกคว่ำ สลับที่โดยการพาตัวเองนอนราบอยู่บนเตียงแล้วให้เจ้าของเอวคอดที่กำลังนอนกอดก่ายเป็นฝ่ายอยู่ด้านบน

คนถูกสลับตำแหน่งทำหน้างงๆเลสงสัยว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรจนกระทั่งก้นกลมกลึงเริ่มถูกนวดคลึง มือหนาเข้าตะปบ บีบและขย้ำบั้นท้ายอวบแรงๆ ให้ช่องทางรักแบะออกจากกัน ร่องก้นขาวถูกความเป็นชายถูไถไปมา และไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นกายกลางขนาดใหญ่ของอีกฝ่ายก็สอดเข้ามาอยู่ในโพรงอุ่นจัดแทน

คนด้านใต้เริ่มต้นจังหวะเนิบนาบ สะโพกสอบกระแทกเข้าออกช้าๆ ทว่าถูกจุด ปลุกให้คนที่พึ่งหมดแรงไปเมื่อสักครู่ตื่นขึ้นเต็มตา เลลุกขึ้นจากอกแกร่ง มือบางค้ำยันเตียงนอน ยอดอกชูชันถูกดูดดันอีกครั้งหนึ่ง

“อ๊ะ! อ๊า!” เพลงรักเร่งจังหวะขึ้น ก้นอวบถูกสะโพกหนาระแทกเข้าใส่ถี่ยิบจนเกิดเสียงน่าอาย น้ำกามบางส่วนที่ยังคั่งค้างอยู่ด้านในยามถูกกระทั้นหนักส่งเสียงดังเฉอะแฉะฟังหยาบโลน

เซ็กส์ทำให้เลไม่มีสติ แก่นกายเล็กแข็งขึงเพราะถูกกระตุ้น ช่องทางรักขมิบถี่และตอดรัว สะโพกขาวอวบอิ่มเริ่มขยับขึ้นลงสวนรับอย่างลืมตัว

“อา น้อง… เล” ร่างสูงครางทุ้มในลำคอ ลูบไล้คนตัวขาวด้วยความหลงใหล จากนั้นฝ่ามือหนาจึงวกกลับไปตะปบเข้าที่ก้นกลม ขย้ำนวด บังคับบั้นท้ายอวบขึ้นลง จนช่องทางชื้นแฉะตอบรับแรงกระแทกเป็นจังหวะเร็วและรวดมากกว่าเดิม

ท่อนร้อนขยายใหญ่ในโพรงอุ่น ส่วนปลายกระทุ้งจุดกระสันและครูดไปตามผนังด้านใน ทำให้เสียวจนเบลอ ร่างเล็กคล้ายสติหลุด เลลุกขึ้นนั่งบนท่อนเนื้อร้อนเต็มตัว สะโพกอวบส่ายโยกรับแรงกระทั้น ชนิดที่ว่าคนเห็นภาพถึงกับตะลึงค้าง

น้องออนท็อป

“แม่ง” ฮิมสบถ นัยน์ตาคมมองใบหน้าสวยเหยเกเพราะความกระสั่น ภาพตรงหน้าทำให้คนดูแทบคลั่งตาย

ร่างสูงยันตัวเองขึ้นพิงหลังกับตัวเตียง สะโพกสอบเร่งจังหวะ มือหนาเอื้อมไปชักรูดส่วนไวต่อสัมผัสให้คนที่กำลังนั่งอ้ารับเอาแท่งร้อนเข้าไปทั้งลำ แค่จับเลก็ครางเสียงหลง

“อ๊า! พี่ฮิม! อ๊ะๆ! ฮืออ อ๊าๆๆ!” เสียงเฉอะแฉะดังหยาบโลน นิ้วเรียวเอื้อมไปบดขยี้ยอดอกเล็กของอีกฝ่าย บีบคั้นอย่างไม่ปรานี ท่อนเอ็นถูกกระแทกถี่เร็ว ขณะเดียวกันที่ช่องทางสวาทขมิบรับตอดรัว หยาดเหงื่อไหลชุ่มเปียกไปทั้งตัว ริมฝีปากทั้งคู่ประกบ จูบแลกลิ้นพัวพันอย่างไม่มีใครยอมใคร ความเสียวซ่านพุ่งมาถึงขีดสุด น้ำสีขุ่นของทั้งคู่จึงถูกปล่อยออกมาพร้อมๆ กัน “อ้า! พี่ฮิม”

อสุจินับล้านถูกฉีดเข้าช่องทางนุ่ม เอ่อล้นจนไหลหยดตามต้นขาเรียว น้องส่งเสียงหอบ หลังจากนั้นแผ่นหลังเล็กก็ล้มตัวลงนอนไปทางด้านหลังอย่างหมดแรง มือบางยกขึ้นไขว่คว้าหาลำคอแกร่ง พอจับได้ก็โอบรอบแล้วดึงต้นคอให้อีกฝ่ายโน้มลงมาประกบจูบแผ่วเบา

“รักนะ” น้องว่าเสียงอู้อี้

“รักเหมือนกันครับ”





(มีต่อ)







หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 220418#32(50%) p.43
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 25-04-2018 14:14:44
ฮิมผละออก นัยน์ตาคมมองคนใต้ร่าง มือหนาปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากของตัวเองแบบลวกๆ  เขาคิดว่าจะพอเพราะเลคงไม่ไหว แต่ทันทีที่ถอดแก่นกายออกจากช่องทางเล็ก ระหว่างที่ความเป็นชายหลุดออกมา น้ำกามจำนวนมากที่คับคั่งอยู่ด้านในก็ไหลออกตาม จังหวะนั้นเองที่คนตัวสูงรู้สึกว่ายังไม่พอ

ขาเรียวค่อยๆ ถูกจับแยกออก มือหนาลงไปหยอกล่อกับรอยจีบสีสดโดยการกดนิ้วเข้าไปครูดกับผนังด้านในแล้วกวาดน้ำกามออกมา ดวงตาคมเฉี่ยวก้มลงมอง แล้วโน้มใบหน้าต่ำลง เลียช่องทางสีสดของคนนอนนิ่ง สอดปลายลิ้นเข้าไปด้านใน กวาดกลืนของอีกฝ่ายอย่างไม่รังเกียจ กายกลางเล็กถูกริมฝีปากครอบครอง ลิ้นร้อนตวัดเลียส่วนปลายลากไล้ลงตามแท่ง ก้อนกลมเล็กสองลูกถูกนวดคลึงไปมา จุดไวต่อสัมผัสถูกเล่นหนักขึ้น ปลุกให้คนหลับลืมตาตื่นอีกครั้ง

“อ๊า! อ๊า! อื้อ!” ความเสียวซ่านเข้าเล่นงานคนตื่นนอน เลตื่นเต็มตัวทั้งร่างกายและแก่นกลาง เสียงครางทำให้ฮิมผละตัวลุกขึ้นมอง ทันทีที่ได้เห็นภาพตรงหน้า ความคิดที่ว่าจะให้น้องพักมันก็มลายหายไป

เลกำลังแยกขาออกกว้าง แก่นกลางตั้งแข็งชัน ตัวขาวเต็มพร่างไปกับสารพัดรอย แค่เห็นความเป็นชายก็แข็งขึงขึ้นมากอีกครั้ง ร่างสูงกัดริมฝีปากมอง มือหนาไล้สัมผัสบางเบาไปตามเนินอกขาวแล้วสะกิดเบาๆ ที่ยอดอกบวมฉ่ำ พอจินตนาการว่าอยากทำอะไรกับมันอีก จากนั้นเขาก็สติหลุด โดนอีกคนครอบงำซึ่งก็คือตัวเอง

ฮิมของน้องเลกับฮิมที่เป็นตัวเองมันมีความขัดแย้งกันเล็กน้อย ตัวแปรสำคัญก็คือเล หนึ่งความรู้สึกอยากถนอมอีกหนึ่งคืออยากขย้ำ เขาอยากถนอมน้อง เซ็กส์ที่ผ่านมามันจึงร้อนแรงแต่ไม่รุนแรง แต่ ณ ตอนนี้สิ่งที่ฮิมอยากจะทำคือนำสองอย่างนั้นมารวมกัน

เขาอยากขย้ำเล

“คนดี คนดีพี่ขอโทษนะ” เสียงทุ้มสั่น ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงจูบเบาๆ ที่แก้มนุ่มเป็นการปลอบประโลม ขณะที่มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมาหมุนตุ่มไตสีชมพูเล่น เริ่มจากสะกิด… “ที่รัก”

“อื้อ! อ๊า!” ไปหมุนคลึง กรีดกรายวนรอบยอดอกแล้วต่อด้วยการบีบ “อ๊ะ! อื้อ นมน้อง”

“น่ารัก ทำไมต้องน่ารัก เมีย”

จากบีบเปลี่ยนมาเป็นขยี้ 

“อ๊า! อย่าทำแบบนั้น”

“เมีย เมียพี่”

“ฮึก! อื้อ!”

จากขยี้กลายเป็น… บิด

“เมียกู”

“อ๊า! เจ็บ! เลเจ็บ! พี่ฮิมอย่าทำน้อง!” เสียงร้องเจ็บคล้ายไม่เข้าหูคนฟัง ยอดอกสีสวยจึงถูกบิดไปมาจนบวมช้ำกว่าเก่า เลเบะปากจะร้องไห้ก่อนจะสะดุ้งเมื่อสัมผัสได้ถึงท่อนร้อนที่กำลังถูไถบริเวณรอยจีบ ขาเรียวข้างหนึ่งถูกยกขึ้นพาดบ่า หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมาแท่งร้อนก็บดขยี้เข้าใส่ช่องทางรักมิดด้าม ลึกจนใบหน้าสวยเชิดคราง เลรู้สึกเหมือนว่าท้องน้อยเขากำลังป่องเพราะขนาดและความยาวของมัน

ฮิมไม่เปิดโอกาสให้หายใจได้นาน แก่นกายหนาออกเกือบสุดและกระแทกเข้าเต็มลำซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง สะโพกสอบซอยถี่รับกับช่องทางรักสั่นระริก ขมิบรัวตอบรับตามสัญชาติญาณ

“แน่นชิบหาย”

“อ๊ะ! อ๊าๆ! อ๊ะๆ! อ๊า!” แรงกระแทกโหมหนัก เลรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะปลิวถ้าไม่ติดที่ว่าพี่ฮิมจับขาข้างที่บาดกับบ่าเอาไว้ ใบหน้าสวยเผยอปากค้าง ความกระสันเสียวเป็นผลให้น้ำลายสีใสไหลหยดย้อยไปตามคาง ดวงตากลมโตปรือขึ้น สมองเหมือนไม่รับรู้ความรู้สึกอื่นนอกจากความเสียวซ่านที่กองสุมอยู่ที่ส่วนกลางของร่างกาย “อ๊าๆๆ! ดีจัง! อ๊ะๆ! อื้อ!”

พรึบ!

ขาเรียวบนบ่าแกร่งอยู่ทิ้งลง จู่ๆ แท่งเอ็นร้อนก็ถอดออกไป อารมณ์ค้างคาเข้าโหมใส่จนเลกรีดร้อง สะโพกขาวส่ายไปมาโดยไม่รู้ตัวเพราะต้องการบางอย่างมาเติมเต็ม ฮิมมองแล้วยิ้มที่มุมปาก กายแกร่งพลิกอีกฝ่ายคว่ำหน้าลงบนเตียง จับเจ้าของก้นกลมกลึงตั้งเข่าขึ้นแล้วกระแทกความเป็นชายอัดเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า

โพรงอุ่นบีบรัดแท่งเนื้อร้อนไว้แน่น เป็นการตอบรับที่ดีเสียจนคนตัวสูงต้องสบถออกมา

“Fuck! อา ทำไมดีแบบนี้ล่ะคนดี”

“อ๊ะๆๆๆ!! อ๊าๆๆ!! อ๊าง!” ความกระสั่นทำเอาเจ้าของกายแกร่งแข็งชัน ฮิมเกร็งตัวขึ้น มือหนาเลื่อนไปขย้ำกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มของอีกฝ่าย เผลอไผลไปตามความเสียวซ่าน กระสันอยากจนเผลอออกแรงกระชากผมน้องแล้วดึงเข้าหาตัวจนแผ่นหลังบางโค้งงอไปตามแรง “อ๊ะๆ! เจ็บ เลเจ็บ!”

ยิ่งเลร้องเจ็บ รูเล็กร้อนๆ นี่ก็ยิ่งตอดหนัก ทั้งยังบีบแน่นเหมือนจะเอาสิ่งแปลกปลอมที่กำลังขยับเข้าออกอยู่ในร่างกายออกไปให้ได้ จนมันเริ่มแน่นเกินไป

“เมียกู แม่ง! ผ่อนคลายหน่อย” คำบอกไม่ได้ผล เมื่อโพรงอุ่นแน่นจนเจ้าของแท่งใหญ่ยักษ์เริ่มรู้สึกเจ็บเพราะถูกบีบอัดสลับกับเสียวกระสั่น ฮิมตัดสินใจกัดปากตัวเองเอาไว้แล้วหยุดขยับสะโพก เขาทิ้งช่วงให้ช่องทางเล็กคลายการตอดรัด จากนั้นก็โหมกระหน่ำเข้าใส่อีกครั้งหนึ่ง

“ฮืออ อย่า! ดะ ดึง! ผมน้อง!”

ร่างสูงไม่สนคำร้อง สติจดจ่อกับการขยับแท่งเอ็นเข้าและออกเพื่อเร่งปลดปล่อยความสุขสมที่มากจนเกินควร เสียงกระแทกพั่บๆ ดังต่อเนื่องยาวนานไปอีกกว่าห้านาที ก่อนที่น้ำสีขุ่นจะพุ่งตัวออก

ฮิมกระตุกกาย ปล่อยอสุจิจำนวนมากฉีดเข้าไปในโพร่งอุ่นที่กำลังสั่นระริก กลุ่มผมที่มือหนากระชากดึงมาทางด้านหลังถูกปล่อยเป็นอิสระ เลล้มตัวคว่ำหน้าใส่หมอนลงตามโน้มแรงถ่วงทันที

พรึบ!

คนรองรับได้พักหายไปแค่หนึ่งนาที ก่อนที่ข้อมือทั้งสองข้างจะถูกคนด้านหลังดึงขึ้น เป็นผลให้ทั้งตัวกลับมาตั้งตรง กลายเป็นว่าเขากำลังอยู่ในท่านั่งคุกเข่าบนเตียง โดยมีร่างกายสูงซ้อนกายแนบจากทางด้านหลัง ฮิมพรมจูบไปตามลำคออีกครั้ง มือหนาทั้งสองข้างตะปบเข้าที่เนินอกขาว บิดขยี้ตุ่มไตบวมเปล่งจนน้องร้องเจ็บเบาๆ สนามรบบนเตียงเริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อแท่งเนื้อร้อนภายในช่องทางสวาทซึ่งไม่ได้ถูกเอาออกเหมือนครั้งก่อนๆ เริ่มขยับเข้าออกเบาๆ

“ฮึก! เจ็บ! พอแล้ว!” เลเหนื่อย เหนื่อยแต่ก็ยังโดนปลุกเร้า “ไม่เอา! อย่าทำน้อง!”

“เหรอ” ฮิมขานรับ ใบหน้าหล่อเหลายังคงขบเม้มที่ลำคอขาว นัยน์ตาคมหลุบลงมองด้านล่าง มือหนาเคลื่อนลงแล้วเข้ารูดรั้งส่วนไวต่อสัมผัสของอีกฝ่ายแรงๆ

“อ๊ะๆ! อ๊า! พี่ฮิม!” คนตัวสูงจิกเล็บลงบนส่วนหัวแก่นกายของอีกฝ่าย ทันใดนั้นเองเลก็ถึงกับกระตุก น้ำสีขุ่นพุ่งออกจากแก่นกาย “อ๊า!”

สะโพกหนารีบกระแทกเข้าใส่แรงๆ มือหนาบดขยี้ยอดอกบวมเปล่ง กระตุ้นให้คนที่พึ่งปลดปล่อยกลับมามีอารมณ์อย่างง่ายดาย

ฮิมมองแล้วยกยิ้มที่มุมปาก เขาสังเกตมาสักพักแล้ว

น้องจะมีอารมณ์มากกว่าปกติ ถ้าเขาทำอะไรรุนแรง

“ชอบให้ทำแรงๆ เหรอน้องเล”

“อ๊ะๆ! อ๊า! อย่ามาเรียก อึก! อ๊า! น้องเล!”

ผลัก!

ร่างเล็กถูกผลักลงนอนคว่ำดังเดิม มีแต่ส่วนท้ายที่ขยับ มือหนาตะปบก้นกลมกลึง ทั้งตบทั้งนวดมันด้วยความหมั่นเขี้ยว เขาแหวกรอยจีบออกมากกว่าเดิม มองส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างกัน ขณะโหมกระแทกใส่โพรงอุ่นที่ไม่ว่าจะใส่เข้าไปสักกี่ครั้งก็บีบรัดแน่นเสียจนแทบทนไม่ไหว

พรึบ!

ร่างเล็กถูกพลิกคว่ำให้นอนราบ ข้างเรียวทั้งสองข้างถูกยกขึ้นแล้วโน้มไปทางศีรษะจนบั้นท้ายขาวโดดเด้งขึ้น ฮิมลุกขึ้นยืน จับท่อนร้อนของตัวเองจ่ออยู่ที่ทางเข้าแล้วกระแทกมันลงมาในทิศดิ่ง ส่วนหัวกระทุ้งเข้าจุดกระสันถี่ๆ เสียวซ่านจนเสียงหวานครางลั่นห้อง

“อ๊า! อ๊าๆๆๆ! ไม่ไหว! ไม่! ไม่! อ๊ะ! อ๊าาาา!” ร่างสูงกระหน่ำซอยถี่หลายๆ ที ไม่นานนักน้ำคาวของเลก็พุ่งแตก ร่างสูงเหงื่อตก เขาก็กำลังจะทนไม่ไหว ร่างหนาตัดสินใจถอนท่อนเอ็นออกจากช่องทางคับแคบ มือหนารูดรั้งความเป็นชายสองสามทีแล้วปล่อยน้ำเชื้อราดใส่ใบหน้าและลำตัวของอีกคน

ขาเรียวที่เคยอยู่เหนือศีรษะทิ้งดิ่งลงมาอย่างหมดแรง เลอยากจะร้องและก็ได้ร้องไห้จริงๆ เมื่อพี่ฮิมจับเรียวขาของเขาแยกออกจากกันอีก มือสากเข้ารูดรั้งแก่นกายเล็ก นัยน์ตาคมจดจ้องไปที่รอยจีบซึ่งเริ่มปิดสนิทอีกครั้ง

“ตั้งหลายทีแล้ว ทำไมตรงนี้มันถึงยังเล็กอยู่ล่ะหืม” เสียงนั้นกระซิบที่ข้างหู ทุ้มและแหบพร่า ขณะเดียวกันที่มือหนาลดต่ำลงไปวนเวียนอยู่ที่ช่องทางสีสวย ไม่นานนักแท่งเนื้อร้อนก็ถูกสอดเข้าไปในโพรงอุ่นอีกครั้ง

“พี่ฮิมอย่าทำนะ!” เลร้อง

“พี่จะทำให้มันขยาย ครั้งต่อไปเลจะได้ไม่เจ็บ”

“ไม่! ไม่! อ๊า! ม่ายยยยยยยยย!”

เสียงร้องผสมเสียงครางของเลไม่มีความหมาย กว่าเซ็กส์ครั้งนี้จะจบลงได้พระอาทิตย์ก็ขึ้นจนสว่างจ้าเป็นที่เรียบร้อย





15.20 น.

ร่างสูงในชุดคลุมเดินกลับมาที่เตียง ฮิมมองน้องที่ใบหน้าข้างหนึ่งกำลังแนบอยู่กับหมอนใบใหญ่ เลยังคงหลับสนิท กายหนาล้มตัวลงนอนตะแคงแล้วเข้าตระคองกอดเจ้าของแผ่นหลังขาว เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายืดตัวขึ้นจูบบางเบาที่หัวไหล่ เป็นจังหวะเดียวกันที่เลพลิกตัวมาหา ดวงตากลมโตกะพริบถี่แล้วค่อยๆ เปิดขึ้น เลตื่นแล้ว

“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มทักทาย คนที่พึ่งตื่นฟังแล้วพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้ แต่พอตื่นเต็มตารอยยิ้มนั้นมันก็หายไป เลมองเขานิ่ง มองไปมองมาใบหน้าหวานก็เริ่มเบะออก แล้วน้องก็ร้องไห้

“ฮึก! ฮือ!”

“อย่าร้อง”

“พี่ฮิมทำน้อง! เลบอกให้หยุดก็ไม่หยุด! เลเหนื่อย!” เขาปล่อยให้อีกคนโวยวาย ไม่คิดจะหาข้อแก้ตัวเพราะไม่มี

“ขอโทษครับ”

“พี่ฮิมใจร้าย! พี่ฮิมไม่อ่อนโยน!”

“ขอโทษครับ” เขาปาดน้ำตาที่กำลังไหลอาบน้ำแก้ม จับหน้าน้องแนบเข้ากับอกแล้วก้มจูบเบาๆ ที่ขมับ

“ฮิมไม่ฟังเลเลย” คนสวยกล่าวเสียงเศร้า

“พี่ไม่ฟังเหรอ?”

“ปกติพี่ฮิมฟัง แต่เรื่องเซ็กส์ไม่ฟัง” ร่างสูงถึงกับเผลอหัวเราะออกมา แต่นั่นยิ่งทำให้คนดีของเขาหน้างอเข้าไปใหญ่ “อย่ามาตลก”

“ครับ”

“ทีแรกเลบอกให้พี่ฮิมเบาๆ แต่พี่ฮิมก็ยัด… ฮือออ มาทำน้อง! เลก็เจ็บ!”

“ไม่ดีเหรอเจ็บครั้งเดียว” ฮิมไม่ได้ทำตามใจ เขาดูแล้วว่าถ้าค่อยๆ ใส่เข้าใปน้องร้องไห้แน่ เลเป็นคนประเภทที่ยิ่งทำให้เขาอ่อนแอเขาก็ยิ่งจะรู้สึกอ่อนแอ และก่อนที่ฮิมจะตัดสินใจยัดมันเข้าไป เขาขยายช่องทางน้องถึงสี่นิ้ว ดูแล้วว่าถ้าใส่เข้าไปทีเดียวไม่น่าจะทำให้เกิดแผลด้านในและก็ไม่เป็นอะไรจริงๆ

“ก็ไม่ ไม่รู้” เลน้องพูดเสียงเบา แล้วเงยหน้าขึ้นจ้องเขาแทน ปากเล็กยังเบะอยู่บ่งบอกว่ายังเคืองไม่หาย คนมองมองแล้วหัวเราะในลำคอ เสียงทุ้มเริ่มต้นพูดให้บรรยากาศดีขึ้น

“งั้นวันนี้พี่จะตามใจเลทั้งวันเลยดีไหม”

“ไม่หาย”

“ยอมเป็นทาสรับใช้เลเลย”

“เลอยากได้เพชร”

“ไม่มีปัญหา”

“คอนโดพี่ฮิมอันนี้ด้วย โอนมาเป็นชื่อน้อง”

“โอเค” เลฟังแล้วเงียบ ดวงตาโตมองเขา แล้วออกคำสั่งใหม่

“บอกรักเลหน่อย”

“พี่รักเล” ฮิมพยักหน้ายืนยัน หลังจากนั้นเขาก็ถูกมือบางรั้งต้นคอเข้าไปประกบจูบแผ่วเบา เนิบนาบหากลึกซึ้ง

“อาบน้ำไหม?” ฮิมถามเสียงทุ้มเมื่อริมฝีปากผละออกจากกัน

“อาบแต่เดี๋ยวเลอาบเอง”

“โอเคครับ”

ร่างสูงลุกขึ้นไปหยิบชุดคลุมกับผ้าเช็ดตัวมาให้คนที่กำลังลุกออกจากเตียง เลใส่ชุดคลุมแล้วลุกขึ้นยืน น้องเซๆ นิดหน่อย เหมือนไม่เป็นอะไร แต่เซ้นต์ของเขามันบอกให้เดินตาม และหลังจากที่เลเดินต่อไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆ น้องก็เข่าอ่อนวูบลงกับพื้น ฮิมคว้าเอวคอดเอาไว้ได้ เขารีบจับศีรษะของอีกฝ่ายแนบกับอกเป็นการปลอบประโลม แต่ไม่ทัน น้องร้องไห้ก่อน ดวงตากลมโตเงยขึ้นมอง ยิ่งพอเห็นว่าคนตัวสูงกำลังทำสีหน้ายังไงเสียงหวานก็โวยวายทันที

“ไม่ต้องมายิ้มเลย!”







(100%)



หวานกันแล้วก็จะเป็นอย่างนี้

ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: Bluedock ที่ 25-04-2018 15:47:10
 :pighaun: พี่ฮิมทำไมไม่อ่อนโยน  :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 25-04-2018 16:34:08
เป็น NC ที่รุนแรง เร่าร้อน แต่ไม่ได้เลือด
ฮืออออออ อิจฉาน้องเล มี Mr.Grey เป็นของตัวเองอะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 25-04-2018 16:40:48
 :pighaun: พี่ฮิมมมม ไม่อ่อนโยนกับนุ้งเลเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 25-04-2018 18:03:41
พี่ฮิมไม่อ่อนโยน แต่ร้อนแรงโฮกกกกก
อยากเห็นตอนอ่อนโยนกับน้องบ้าง
หวาน ขออีกๆค่ะ :o8: :jul1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 25-04-2018 20:03:56
พี่ฮิมมมมมมมมทำไมฮอตอย่างนี้ :z3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 25-04-2018 20:08:55
ไม่ถนอมน้องเลยพี่ฮิม  :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 25-04-2018 20:12:51
พี่ฮิมคือแบบพอเครื่องร้อนแล้วไม่มีคำว่าผ่อนแรง  ส่วนน้องคือแบบปากห้ามแต่ร่างนางอ่อนตาม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 25-04-2018 20:14:25
อ่อนโยน..น่าจะไม่ใช่แนวพี่ฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-04-2018 20:22:07
ฮิม  คนหื่นกาม 2561  :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 25-04-2018 20:28:44
พี่ฮิมไม่อ่อนโยนกับน้องเลย ร้อนแรงเกินนนนนนนนนนนน
แต่ดีใจที่อย่างน้อยๆน้องเลก็ไม่กลัวพี่ฮิมแล้ว ขนาดพี่เค้ารุนแรงกับน้องขนาดนี้
ตอนบอกรักนี่ตกใจนึกว่าจะเลิกแล้ว ก็คิดอยู่ คนอย่างพี่ฮิมเหรอจะทำแค่นี้
และก็จริงๆ พี่เค้ามาเปงชุดดด ไม่หวาดไม่ไหวววว สงสารน้องง
555555555555555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-04-2018 21:05:53
พี่ฮิม คนหื่น  2018  :z3: :z3: :z3:

เล  เหมือนอ่อนแอ
แต่เนื้อแท้ชอบความรุนแรงแบบไม่รู้ตัวสินะ
เมีย......เมียกู  อร๊างงงงงงงง
ว่าแต่เล มีสติได้ยินไหมนะ   :z3: :z3: :z3:
........
ถ้าพี่ฮิม รุนแรงเร่าร้อน เลต้องรับให้ได้
พี่ฮิมต้องพาเลออกกำลังเป็นประจำ เข้าฟิตเนส
เตรียมร่างกายเลให้แข็งแรงแล้วละ

ทรัพย์สินเลเพื่มอีกสินะ เพชรคอนโด   :ling1:
เพราะฮิม ไม่อ่อนโยน ไม่เชื่อฟังเล  :laugh:

ฮิม   เล  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 25-04-2018 21:28:33
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

ดุมากค่ะคุณพี่ ใจน้องบ่ดีเลย
แงงงงง ไม่อ่อนโยนกับน้องงงง

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: ก้มหน้าก้มตา ที่ 25-04-2018 22:09:08
 :z3:
น้องเล ลูกเรียกอีกพันล้านเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 25-04-2018 23:25:49
พี่ฮิมดุมากกกกกกกกกกก :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-04-2018 01:23:58
เลือดหมดตัว!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 26-04-2018 06:42:39
พีฺ้ืมโหดมากกกเวลาอยู่บนเตียง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 26-04-2018 07:11:33
...ดุ แค่กๆ นึกถึงฉากมังงะเรื่องนึง  :m25: :m25: ชุ้นกำลังจะตายด้วยอาการขาดเลือด
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: Jang Wachira ที่ 26-04-2018 07:43:33
พี่ฮิมเยดุ :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 26-04-2018 10:09:23
ร้อนแรงกว่านี้ คนอ่านคงได้ตายเต็มเล้าเป็ดแน่ๆ :oo1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 26-04-2018 10:31:29
พี่ฮิมทำไมดุกับน้องเลมากเลย :pighaun: :jul1: :haun4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 26-04-2018 12:47:12
 :haun4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250418#32 p.44
เริ่มหัวข้อโดย: TM_DuckCe ที่ 26-04-2018 15:07:37
 :hao5: ฟินนนน
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 010518#33(60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 01-05-2018 00:05:53


#33



ผมมองตัวเองในกระจก ถอนหายใจ แล้วหมุนตัวไปมา พอดีว่าค้างที่นี่แต่ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาด้วย ผลคือผมต้องใส่เสื้อผ้าของพี่ฮิม และเสื้อผ้าพี่ฮิมก็ดันไม่มีเสื้อที่ใส่แล้วจะปิดรอยที่คอหมด มันเยอะมาก

แอด

ประตูเปิดออก พี่ฮิมเดินเข้ามาพร้อมกับมองกองเสื้อผ้าบนเตียงที่ผมเป็นคนทำไว้เนื่องจากไม่กี่นาทีก่อนเลือกไม่ได้ว่าจะใส่ตัวไหน ซึ่งตอนนี้เลือกได้แล้ว ผมใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าปนขาวของพี่ฮิม ส่วนเชิ้ตปกปิดรอยที่คอได้จำนวนหนึ่ง กับกางเกงตัวเดิมของเมื่อวาน เป็นขายาวสีดำแนบติดสัดส่วนนิดหน่อย เอาทั้งสองมารวมกันก็ออกมาดูใช้ได้

“พูดจริง?” เสียงทุ้มถามเหมือนไม่แน่ใจ ขณะเดินมากอดเอวผมเอาไว้จากทางด้านหลัง “เลจะไปซ้อมจริงๆ เหรอ”

“ไปสิ ใกล้ถึงวันงานแล้ว” ที่ต้องมานั่งกังวลเรื่องรอยที่คอก็เพราะผมต้องไปซ้อมหลีด ช่วงนี้พี่คุมหลีดเคร่งกว่าเดิมหลายเท่า บอกแล้วว่าหลีดวิศวะน่ะเป็นหน้าเป็นตาให้กับมหา’ลัยผม ยิ่งคราวนี้แข่งกับมหา’ลัยอื่นยิ่งต้องทำมันให้ดี โชคดีที่เมื่อคืนพี่ฮิมป้อนยาให้กินตอนที่ผมกำลังหลับ (เขาบอกงั้นนะ) ตื่นขึ้นเลยไม่เป็นอะไรมาก ไม่มีไข้ มีปวดสะโพกกับเดินขัดๆ แต่เลดูสภาพตัวเองแล้วคิดว่าไหว ก็เลยจะไปซ้อม แต่ติดที่… “ฮิมทำรอยบนคอน้อง เยอะด้วย”

“พี่หวง” ฮิมตอบสั้นๆ และนั้นทำให้ผมต้องหันหน้ากลับมามองตัวเองในกระจกอีกครั้งแล้วถอนหายใจ ไม่มีอะไรรับประกันว่ารอยที่คอของผมจะหายทันวันงาน

“พี่นนท์นี่ต้องดุเล”

“ไม่มีใครกล้าดุคนดีหรอก” ถูกพี่ฮิมจูบที่ขมับ เขาจูงมือผมมาที่ห้องครัว บนโต๊ะกินข้าวมีอาหารหลายอย่างวางไว้แล้ว “กินข้าวก่อนครับ”

“อืม” ผมเดินลงมานั่งที่เก้าอี้ มีพี่ฮิมยืนค้ำหัว มือหนาจับผมเลเล่นไปมาแล้วบอก

“พี่มัดผมให้นะ”

“โอเค” บอกตอบตกลงพี่ฮิมก็เดินหายเข้าไปในห้องคาดว่าไปเอายาง ส่วนผมรีบนั่งตักอาหารกินก่อนเลย เลหิว!

ร่างสูงเดินกลับมาพร้อมหวีและยางตามคาด เขาลงมือจัดการกับผมของเลทันที

“พี่ฮิมกินยัง” ผมถาม ไม่ได้ถามว่าฮิมกำลังจะทำทรงอะไรให้ แต่มันคงไม่ใช่ถักเปีย

“กินน้อง”

“ดีๆ”

“ยังไม่ได้กินครับ” ฟังผมหยักหน้า จากนั้นจึงตักข้าวพอประมาณ ยกขึ้นสูงให้พี่ฮิม “กินเร็ว”

เขายอมกินข้าวที่ผมป้อน ป้อนไปกินไปจนอิ่มทั้งสองคน เหลือเวลาอีกนิดหน่อยเลเลยนั่งเล่นโทรศัพท์รอ พอใกล้ถึงเวลาที่จะไป จู่ๆ พี่ฮิมก็เดินเข้าห้องแล้วออกมาพร้อมกับกระเป๋าสตางค์และกุญแจรถ

“ฮิมจะไปไหน”

“ไปเฝ้าเล” ผมทำตาโต

“จริงเหรอ”

“จริง”

“นานนะ”

“พี่ไม่อยากให้เลไป แต่ถ้าน้องจะไป พี่ก็จะไปด้วย”

“เลไหว พี่ฮิมไม่ต้องไปก็ได้ มันนาน” ผมเดินไปกอดพี่ฮิม “ไม่อยากให้รอ”

ซ้อมไม่ใช่แค่หนึ่งสองชั่วโมง บอกไปแล้วแต่พี่ฮิมส่ายหน้า

“พี่ไม่ไว้ใจ”

“ไม่ไว้ใจเล?”

“ไม่ไว้ใจคนอื่น” พี่ฮิมกอดตอบ “มีเมียสวยก็ต้องดูแลหน่อย”

“...” เงียบ เงียบเลย

ก็พึ่งดีกัน เป็นแฟนกันยังไม่ทัน 24 ชั่วโมง พอโดนพี่ฮิมเรียกเลว่าเมียมันก็… ไม่ทันตั้งตัว

“เขินเหรอครับน้องเล”

“ไปได้แล้ว” ผมผละกอดจากพี่ฮิมแล้วเดินนำออกจากห้อง ได้ยินเสียงฮิมหัวเราะตามหลัง “คนบ้า”





รถคันหรูขับมาจอดที่หน้าตึกวิศวะ ใต้ตึกเป็นที่ซ้อมหลีด ฮิมกำลังจะดับรถแต่หันไปมองคนข้างกายแล้วพบว่าเลหลับอยู่

ระยะทางจากคอนโดมามหา’ลัยไม่ได้ไกล แต่เลหลับแล้ว

เหนื่อยขนาดนี้แล้วยังมา

เหมือนจะเป็นอย่างที่สองที่เลทุ่มเทนอกจากเรื่องรถ เอาเถอะ ถ้าน้องชอบเขาไม่ว่าหรอก

มือหนาเอื้อมไปบีบจมูกเชิดรั้นเบาๆ ขณะโน้มใบหน้าลงหอมแก้มนุ่มแล้วกระซิบข้างหู

“ถึงแล้วนะครับคนดี”

“อื้อ” น้องขานรับ ปรือตาขึ้นมาแล้วเบะหน้าต่อ “เลง่วงอะ”

“กลับไหม”

“ฮื่อ ขี้เกียจจัง” เลว่า งอแงอีกพักสักก่อนจะลืมตาตื่นจริงๆ คนตัวบางบิดขี้เกียจก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ ฮิมดับเครื่องแล้วลงตาม เขาเดินไปโอบไหล่อีกฝ่าย เลเอียงศีรษะเข้าหาทันทีเหมือนว่าจะยังเหนื่อยอยู่ พอเดินมาถึงใต้ตึกวิศวะ น้องถึงผละออกจากเขา เดินขึ้นหน้าแต่มือยังจับกันเอาไว้อยู่

ดวงตาคมเฉี่ยวสำรวจรอบบริเวณ ร่างสูงเดินตามคนจูงมือแบบเงียบๆ และบรรยากาศก็เงียบลงไปอีกเมื่อพวกเขาถึงจุดหมาย

“สวัสดีครับ” เลกล่าวทักทาย หลีดทุกคนหยุดการทำทุกสิ่งอย่างพร้อมทั้งหันมามองเลแต่ไม่พูดอะไร เงียบจนผิดวินัย เลเห็นทุกคนมองมาน้องจึงหันหน้ามาหาเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง “วันนี้พี่ฮิมมาเฝ้าเลด้วย”

คนตัวเล็กคิดว่าทุกคนเงียบเพราะฮิมมา ก็เลยกดดัน แต่เปล่า ไม่ใช่! วันอื่นอาจจะใช่แต่วันนี้ไม่

ที่เงียบก็เพราะ… เล

ร่างสูงขยับตัวเข้าไปชิดคนด้านหน้ามากกว่าเดิม โน้มหน้าเข้าใส่จนแทบจะจูบที่ขมับกรายๆ นัยน์ตาคมมองเรียงคน จบท้ายด้วยการยกยิ้มที่มุมปากใส่เพราะคิดว่าคงไปคิดกันเองได้

น้องมีบางอย่างเปลี่ยนไป ที่คนอื่นสัมผัสได้ แต่ตัวเองไม่รู้ คล้ายฟีโรโมน อารมณ์ ความรู้สึก บรรยากาศ ก่อนและหลังจาก Make love มันเปลี่ยนไปมาก เหมือนที่คนอื่นบอกว่าหลังจากผ่านศึกบนเตียงมาแล้วคนนั้นจะดูสวยขึ้น คนอื่นคิดยังไงไม่รู้ แต่ฮิมคิดว่าบรรยากาศรอบตัวเลคล้ายยังคงกลิ่นไอรักที่เขากระหน่ำเข้าใส่ จนในสายตารู้สึกว่าน้องดูเย้ายวน เซ็กซี่ไปหมด เขาคิดอย่างนั้น แต่สิ่งที่ฮิมมั่นใจว่าถ้าใครรู้จักน้องมาก่อนต้องรู้สึกได้ก็คือ เลดูสงบขึ้น อาจจะเพราะยังเหนื่อยอยู่ อาการดื้อเลยไม่ออก และนั่นแหละที่ทำให้เลคนนี้แตกต่างจากเลคนก่อนอย่างเห็นได้ชัด

และเขาก็ใบ้สิ่งที่ทำให้เลดูสงบด้วยรอยจูบที่คอ เสื้อเชิ้ตมันปิดไม่ได้หมดหรอก ฮิมยังตั้งใจมัดรวบผมเลขึ้นสูง โชว์ลำคอระหงที่พร่างไปด้วยสารพัดรอย โดยเฉพาะส่วนหลังคอที่น้องมองไม่เห็น เยอะจนจะปิดยังไงคนอื่นก็เห็น นอกจากจะใส่เสื้อที่คอเสื้อปิดทั้งลำคอ สิ้นสุดด้วยการที่เขาตามมาเฝ้า

เห็นอย่างนี้แล้วก็น่าจะคิดกันได้เอง อันที่จริงถ้าไม่ใสจริงๆ แค่รอยจูบที่คอ เยอะขนาดนั้นมองปุ๊บก็น่าจะรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฮิมยืนยันซ้ำด้วยการตามมาเฝ้าและเขายอมให้น้องมาซ้อมทั้งๆ ที่พึ่งออกจากสนามมารบก็เพื่อให้คนที่รู้จักเลเห็นว่าน้องดูแตกต่างจากครั้งก่อน

จนคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย

ที่เงียบกัน ก็เป็นการบอกให้ฮิมได้รู้ชัดว่าสิ่งที่เขาคิดมันไม่ผิด คนนอกเริ่มรู้แล้วว่าความสัมพันธ์ของเขากับเลมันเป็นยังไง

ร่างสูงไม่ถนัดวิธีป่าวประกาศว่าน้องเป็นแฟน อันที่จริงฮิมไม่อยากบอกออกไปตรงๆ ว่าเลเป็นแฟน เขาศัตรูเยอะ ทั้งจากตำแหน่งที่มีอิทธิพลบ้าง ทั้งจากการทำตัวเองบ้าง อย่างเรื่องผู้หญิง การอยู่กับเขาทำให้น้องเคยได้รับการทำร้ายหลายครั้ง เช่นเรื่องผู้หญิงบ้าง ร้ายแรงสุดก็ครั้งล่าสุดที่ทำให้เขากับเลมีปัญหากันถึงขั้นแยกขาด ทั้งหมดที่พูดมานั่นยังเป็นสถานะน้องชาย แล้วถ้าพูดกับคนอื่นไปเลยว่าเลเป็นแฟนเขา…

ฮิมกลัว เขากลัวว่าน้องจะโดนหลอกใช้หรือโดนทำร้ายที่มันร้ายแรงกว่าเดิม และสาเหตุก็เป็นเพราะเขา แต่จะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้ ย้อนแย้งในตัวเอง เขาไม่อยากบอกคนอื่นว่าเลเป็นแฟนเขา แต่ร่างสูงก็ทนไม่ได้ถ้าไม่แสดงความเป็นเจ้าของ ฮิมอยากให้คนอื่นรู้ว่าน้องเป็นของเขาและเขาเป็นของเล แค่นั้นก็พอ

สิ่งที่ทำได้จึงมีแค่การกระทำที่แสดงให้เห็น นอกจากนั้นก็ไปคิดต่อกันเอาเอง

“อ้อ น้องเล” ใครคนหนึ่งที่น่าจะเป็นคนคุมหลีดพูดขึ้นภายในที่เงียบกันนาน “ทำเหมือนเดิมเลย ไปวอร์มร่างกายก่อนเลยเนาะ”

“โอเค” เลหันมาหาเขา “เลจะไปวอร์มร่างกายแล้ว ฮิมนั่งรอตรงไหนดี”

เขามองรอบตัว แล้วจูงมือเลไปยังโต๊ะหินอ่อนที่อยู่ใกล้ๆ

“ไหวแน่นะ” ฮิมยอมให้น้องมาซ้อมเพราะเลอยากมาบวกกับเหตุผลของตัวเอง แต่ก็อดห่วงไม่ได้ ฮิมกลัวว่าน้องจะเป็นลม เมื่อคืนก็ไม่ใช่น้อยๆ แม้จะเขาป้อนยาให้แต่มันก็ไม่ได้ช่วยทั้งหมด เลเหนื่อยแต่ก็ยังมา แล้วมาซ้อมอะไรที่มันหนักอีก “อย่าฝืนนะครับรู้ไหม”

“รู้แล้ววว”

“พี่เป็นห่วง” เขาจับมือน้อง จรดริมฝีปากเข้ากับหลังมือขาว

“อื้อ!” เลยิ้มรับ

“ห้ามยิ้ม”

“ฮึ?”

“ห้ามยิ้ม” ฮิมย้ำ “ยิ้มแล้วน่ารัก คนอื่นจะหลง”

“บ้าแล้ว”

“จริงจัง”

“โอเค ไม่ยิ้ม” เลเม้มปากแทน “พี่ฮิมซ้อมเสร็จแล้วพากลับบ้านได้ไหม”

“ที่ไหนครับ”

“บ้านที่ไม่ใช่คอนโด” เลว่า “เลอยากให้พี่ฮิมกับพี่วินคุยกัน ได้ไหม”

“เลไม่ชอบคอนโด?” ฮิมถาม และคำถามนั้นทำให้น้องถึงกับต้องนั่งลงข้างกาย

“เลชอบ แต่เลอยากอยู่บ้าน บ้านที่มีพี่ๆ อยู่ด้วยกันอีก”

“...” ฮิมเงียบ

“นะพี่ฮิม”

“...”

“นะๆ”

“พี่ว่า…” ใบหน้าคมหันไปมองข้างกาย “เราต้องจ้างคนมาทำห้องเก็บเสียงแล้วล่ะ”

“ทำ ทำไม?” เลถาม เขาก็เลยใบ้คำตอบด้วยการลูบต้นขาเรียว คนสวยก้มลงมองแล้วคิดตามว่าเขาลูบขาของอีกฝ่ายทำไม จากนั้นใบหน้าหวานจึงเริ่มขึ้นสี คนตัวเล็กโวยวายต่อทันที “พี่ฮิมบ้า!!”





สัปดาห์ต่อมา

กระทู้ยอดนิยม

‘รอยที่คอของของสูงวิศวะ ใครทำ?’

‘ฉาว! คลิปหลุดพี่ฮอกับน้องดอวอ’

‘รวมภาพ! พี่น้องกันเขาไม่ทำกันแบบนี้นะคะ #ฮิมเล’

‘5 วันเที่ยว 5 ที่ พี่ฮิมน้องเลเป็นพี่น้องกันจริงเหรอ?’

‘คลิปหลุดดอวอ ในสัปดาห์ที่พี่ฮอเปิดตัวน้องลอ’

‘งงมาก! สรุปความสัมพันธ์พี่ฮิม เลและเดวาเป็นยังไง?’
[/i]


แฮชแท็ก #น้องเลเล่เล้เล๊เล๋

@bowvy76 สัปดาห์นี้วุ่นวายมาก สรุปให้ที

@asdf สรุปนะสัปดาห์นี้ 1.มีคลิปหลุดพี่ฮิมกับนั่นแหละ ที่มันออกแนวเล้าโลมนิดหน่อย แค่เล้าไม่ได้เย 2.มีรูปน้องเล แต่ประเด็นอยู่คือรอยที่คอเลจ้าาา ชัดมากกกกก แบบรอยจูบเลยอะ 3.รอยจูบที่คอเลเขาสงสัยกันว่าพี่ฮิมเป็นคนทำ 4.มีคนบอกว่าเลกับพี่ฮิมไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆ 5.ดราม่าว่าสรุปใครตัวจริงพี่ฮิมกันแน่

@lolihon คือดูภาพพี่ฮิมน้องเลในสัปดาห์นี้แล้วแบบกูไม่ต้องชิปอะไรแล้วอะ (แนบรูป)

@jellyellow 5 วัน เดท 5 ที่ จันทร์ภัตตาคาร อังคารอาหารญี่ปุ่น พุธดูหนัง พฤหัสเอเชียทีค ศุกร์ล่องเรือดินเนอร์ คือแต่ก่อนพี่ฮิมกับน้องเลก็ไปด้วยกันอย่างนี้แหละ แต่คราวนี้รูปที่ออกมามันเหมือนพาแฟนมาเดทอะไม่ใช่พาน้องมาเที่ยวอีกต่อไป

@pokemong ถึงจะติดตามได้ไม่นาน แต่ก็รู้นะว่าพี่ฮิมหวงน้องมาก เลอยู่กับพี่ฮิมด้วย คือยังไงคนพี่ก็ต้องเห็น แต่เห็นแล้วยังอารมณ์ดี มีอารมณ์พาน้องไปเที่ยว 5 วัน 5 ได้ขนาดนั้น แล้วใครจะเป็นคนทำถ้าไม่ใช่พี่ฮิมทำเองอะ

                    @__loading554477 จริงงงง คิดไม่ออกจริงๆ ว่าใครจะรอยบนคอน้องเลได้นอกจากพี่ฮิม



@lovelaymak อย่าว่าเข้าข้างน้องเล ซึ่งกูก็เข้าข้างน้องเล แต่แค่รูปรอยที่คอบวกกับรูปที่เขาถ่ายมาในสัปดาห์นี้ของพี่ฮิมกับน้องเล นี่ก็เชื่อไป 99.90% แล้วว่ารอยนั่นพี่ฮิมทำแน่นอน (แนบรูป)

                 @luvlaymakmak แบบมันใช่อะ จูบมือเอย นั่งตักกันเอย หอมแก้มกันเอย มองตากันเอย เอาผมทัดหูให้กันเอย แบบนี้พี่น้องกันเขาไม่ทำกันจ้า



@wendyeiei มันต้องร้อนแรงขนาดไหนถึงจะได้รอยเยอะขนาดนั้นอะ

@iuwethey คลิปหลุดฟังตอนแรกคือตกใจมาก นึกว่าเห็นฉากจุดจุดโจ่งแจ้งอะ แต่ดูคลิปละก็อืมม จะว่าเล้าโลมก็ยังไงดี เหมือนพี่ฮิมแค่มาลูบๆ อะ ยังไม่ทันจูบเลยคลิปก็ตัด จูบจริงหรือเปล่ายังไม่รู้

                 @Popo จริงง แล้วคลิปสั้นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ถอนหายใจทีนึงคือมึงจบแล้วอะ

             @iuwethey ฉันยังคิดอยู่เลยว่านี่หลุดแล้วเหรอ ดูครั้งแรกรู้สึกเหมือนพี่ฮิมมาขอหวยอะมึง ลูบๆ ขัดๆ

             @Popo มีคลิปออกมาแบบนี้คนเสียหายสุดคือเดวานะ ทุกคนน่าจะรู้ว่าพี่ฮิมเป็นยังไง



@korbua ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าแต่ช่วงนี้น้องเลสวยขึ้น เซ็กซี่ขึ้นเป็นกองเลย ดูมีเสน่ห์ ดูมีออร่า แบบภาพเดิน หยิบจับอะไรมันก็ดูดีไปหมด

           @hengheng จริง รู้สึกว่าโตขึ้น แบบน้องแมวกลายพันธ์ไปเป็นลูกเสือเลยอะ

           @fcphim วิศวะสัมพันธ์ เลเป็นหลีดด้วย น้องต้องสวยมากแน่ๆ



@sauri ควรด่าพี่ฮิมอะเอาจริง ร้ายสุด เอาทุกคนแต่ไม่ชัดเจนกับใครสักคน

@jellyyellow พี่ฮิมน่ะเสือมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่คือถ้าไม่เล่นด้วยมีเหรอที่จะโดน เพราะตั้งแต่ที่ติดตามมาไม่เคยได้ยินว่าพี่ฮิมขืนใจใคร ตื๊อใครหรือง้อใครมานอนด้วยเลยสักคน

@blackcherry ข้อค้านที่ว่าพี่ฮิมไม่ชัดเจนนะ เพราะถ้าตอนนี้พี่ฮิมเป็นแฟนกับน้องเล งั้นพี่แกก็โคตรชัดเจนอะ ชัดเจนมาตั้งแต่ต้นเลย เพราะทุกคนรู้เหมือนกันว่าน้องเลเป็นคนพิเศษสำหรับพี่ฮิมตั้งแต่ไหนแต่ไร

         @sauri ถ้าเป็นคนพิเศษมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทำไมถึงมีข่าวพี่ฮิมควงผู้หญิงอื่นตลอด คนล่าสุดก็เดวา ถ้าคบกับเลแล้วยังไปเอากับคนอื่นแบบนี้ก็เหี้ยแล้วดิ

         @blackcherry เขาอาจจะพึ่งคบกันจริงจังก็ได้ ถ้าช่วงก่อนหน้านั้นเป็นแฟนกันมาตลอด แล้วเลกับพี่ฮิมอยู่ด้วยกันขนาดนั้น มีบ้านแตกอะ พี่ไปฟัดคนอื่นแล้วน้องจะไม่รู้เลยเหรอ คนที่พี่ฮิมควงก่อนหน้าก็ไม่ได้น้อยเลยนะ

       @santaaa__ น้องเลอยู่แก็งโรซารี่ พี่รหัสเลเป็นหัวหน้าแก็งโรซารี่ หน่วยข่าวใหญ่ของมหา’ลัย คือรู้ทุกเรื่องเลยอะ ถ้ามีข่าวของพี่ฮิมควงผู้หญิงเราว่าเลต้องรู้ นี่ก็คิดว่าเขาอาจจะพึ่งมาคบกันจริงจัง



@littlepink เบื่อมากกับการที่แฟนคลับน้องดอวอมาดิ้นแด่วๆ ในแท็กนี้ แหกตามึงดูบ้างว่านี่แท็กใคร อ่านหนังสือไม่ออกเหรอ แล้วคลิปหลุดเนี่ยฟังตอนแรกคือเฉยมากอะ พอกดเข้าไปดูคลิปนี่คือขำก้ากเลย มึงกล้าเรียกตัวเองว่าคลิปหลุดได้ยังไง ถ้าจะมีแค่คลิปเหมือนคนยืนกอดกันประมาณยี่สิบวิอะ

      @littlepink แล้วคลิปเนี่ย ถ่ายวันไหน เดือนไหน เวลาไหนคะ เพราะนอกจากน้องเลก็ยังไม่เคยเห็นพี่ฮิมควงใครเกิน 1 อาทิตย์เลย เอาคลิปมาปล่อยหลังจากที่โดนเทไปแล้ว คนเสียหายมากสุดไม่ใช่พี่ฮิมแต่เป็นเดวานะ เพราะหลายคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าพี่ฮิมเป็นยังไง

    @littlepink จะไม่พูดดราม่าความสัมพันธ์ เพราะทั้งสามคนนี้ไม่เคยออกมาพูดอะไรเลยมีแต่พวกเราที่ไปติดตามเขากันเอง เชื่อมโยงเรื่องกันเอง ถูกผิดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย เรื่องมันอาจจะซับซ้อนมากกว่าที่คิดก็ได้

      @littlepink แต่ที่แน่ๆ คือตอนนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ ภาพของพี่ฮิมกับน้องเลที่ออกมามันชัดเจน โคตรชัดเจนชัดเจนที่สุดตั้งแต่เราติดตามคู่นี้มา คิดหลายตลบใส่เหตุผลเข้าไปยังไง สุดท้ายก็ได้คำตอบออกมาแบบเดิม

       @dewdewa ตรรกะมาก ก็บอกเองว่ายังไม่มีใครออกมาพูดว่าเป็นแฟนกัน แล้วมันจะชัดเจนได้ยังไง สรุปก็คือคุณจะให้เดวาผิดฝ่ายเดียว ก็แค่อคติอะ

     @littlepink ไม่เคยพูดว่าใครผิดใครถูก เราบอกว่าเดวาจะเป็นฝ่ายเสียหายมากกว่า และที่ว่าชัดเจนก็เพราะรู้ว่าพี่ฮิมหวงน้องมาก แล้วน้องมีรอยที่คอโจ่งแจ้งขนาดนั้น แต่พี่ยังยิ้มได้แล้วจะให้ตีความว่าไงอะ พี่ฮิมดีใจที่น้องเลมีจะผัวงี้เหรอ ไม่ใช่มั้ง



@supporthimlay เราว่ามันชัดเจนตั้งแต่ที่เลมีรอยจูบแต่พี่ฮิมยังอารมณ์ดี ดีมากกว่าปกติด้วยซ้ำ (5 วัน 5 ที่) จนแบบพูดได้เลยว่าใครที่ตามคู่นี้มาก่อนแล้วยังมองไม่ออกก็ควรรู้ตัวได้แล้วนะว่าตอนนี้บนหัวของคุณน่ะมีเขางอกแล้ว





(มีต่อ)
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 010518#33(60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 01-05-2018 00:07:55
“ฮิมอยู่ไหน” ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ขณะเก็บของใส่กระเป๋า พึ่งซ้อมหลีดเสร็จ

(เล…) เสียงขาดหายไป แล้วก็กลับมาดังใหม่ (ซ้อมเสร็จแล้วเหรอ)

“พี่ฮิมอยู่ไหน” ถามย้ำ

(อยู่คลับครับ) ฟังแล้วขมวดคิ้ว พี่ฮิมไปคลับสามวันติดแล้ว เขาบอกแต่ผมไม่ได้ไปตามเพราะเหนื่อย หลายวันมานี้หลังจากซ้อมหลีดเสร็จพี่ฮิมก็พาไปเที่ยว เที่ยวเสร็จส่งผมถึงบ้าน ต่อจากนั้นเจ้าตัวถึงไปที่คลับ แล้วก็กลับเข้าบ้านมานอนประมาณตีสองตีสาม (วันนี้พี่อาจจะกลับดึกอีก แล้ววันนี้ทุกคนก็มา...)

“ทุกคน?” ผมทวนคำ “พวกพี่ๆ ไปหมดเลยเหรอ”

(ใช่ วันนี้เลอยู่บ้านคนเดียวได้ไหม)

“เลไปหาพี่ฮิมได้ไหม”  ครั้งก่อนถึงพี่ฮิมจะไปคลับแต่ก็มีพี่ๆ อยู่บ้านกับเลบ้าง แต่ครั้งนี้ไปหมดอะ ผมไม่อยากอยู่คนเดียว

(จะมาคลับ?)

“อือฮึ”

(โอเค เจอกันครับ)

“เจอกัน” ฝั่งนั้นตัดสาย ผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า ทีแรกว่าจะเปลี่ยนชุดกลับแต่ดูไปดูมาขี้เกียจก็เลยไม่เปลี่ยน ตัดสินใจสะพายกระเป๋าบาดบ่า ผมหันไปบอกลาพี่ๆ ทุกคนก่อนจะเดินไปที่รถ ถ้าไม่ติดที่อินมาขวางเอาไว้ซะก่อน เขาคว้ามือผมแล้วจูงให้เดินไปหลังตึก ที่ที่ไม่มีคนมาเห็น

จากนั้นก็มองมาด้วยสายตาตัดพ้อ “ดีกันแล้วเราก็กลายเป็นหมา”

“ขอโทษนะ” ผมสะอึก ไม่มีอะไรจะแก้ตัวเลย ผมไปนอนคอนโดอินตอนที่ทะเลาะกับพี่ฮิม แต่หลังจากดีกับพี่ฮิมแล้วก็ไม่ได้เข้าไปอีกเลย “ขอโทษจริงๆ”

“ของๆ เลน่ะ ไปเก็บออกมาให้หมดเลยนะ อย่าให้เหลือแม้แต่อย่างเดียว”

“อือ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราเข้าไปนะ”

“...”

“...”

“มันโคตรเจ็บเลยนะ”

“ขอโทษ”

“นิสัยไม่ดี ชอบให้ความหวังคนอื่น”

“อือ แต่เราเป็นเพื่อนกันได้นะ”

“ใครมันจะอยากเป็นเพื่อนกับคนที่ตัวเองชอบ?”

“...” ผมเงียบ

“เราไม่ดีเหรอ? เราดูแลเลไม่ได้?”

“อินไม่ได้ไม่ดี เราแค่ชอบพี่ฮิม”

“...” ฝ่ายนั้นเงียบ แล้วบรรยากาศมันก็แย่ลง เลไม่มีอะไรจะแก้ตัวเลย เรื่องนี้ผมผิดเต็มๆ

“งั้นเราไปก่อนนะ” ผมตัดสินใจถอยออกก่อน แต่ในจังหวะที่กำลังหมุนตัวกลับจู่ๆ อินก็ดึงแขนผมเอาไว้ เขาผลักเลเข้ากำแพง แนบกายเข้ามาก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วหยุด หยุดในจังหวะที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายห่างจากผมไม่ถึงคืบ ผมเม้มปากเอาไว้พร้อมทั้งกลั้นหายใจ พออินถอยตัวออกไปถึงได้รู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะหยุด แต่มีคนทำให้หยุด

พี่ซัน

พี่ว้ากที่เคยสั่งให้ผมวิ่งรอบสนาม 10 รอบกำลังดึงคอเสื้ออินเอาไว้จนร่างเล็กร่นถอยออกไป

มาตั้งแต่เมื่อไหร่?!

“อย่าบังคับกันสิ” เสียงทุ้มว่าขณะที่อินสะบัดตัวออก

“มายุ่งไรด้วย”

“กูไม่ได้อย่ายุ่ง กูยืนสูบบุหรี่อยู่ดีๆ แล้วพวกมึงก็มากัน” ร่างสูงหันมามองผม เขาว่า “ไปสิ”

ผมพยักหน้ารับ แล้วหันไปมองอินที่ถูกจับเอาไว้ “ถ้ามีอะไรโทรหาเลได้ตลอดนะ”

“ไม่โทร” อีกคนว่า ผมหน้าเจื่อนลง

“แล้วแต่อิน” พูดจบก็เดินออกมา แต่ยังมีหันหลังไปมอง เห็นสองคนนั้นกำลังเถียงกันอยู่ ผมมองอินแล้วถัดไปมองพี่ซัน ผมอยากเป็นเพื่อนกับอินแต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะอยากเป็นเพื่อนกับผมไหม ส่วนพี่ซัน...

รู้สึกว่าช่วงนี้จะเจอพี่แกบ่อยขึ้นหรือเปล่านะ?





คลับ

มาถึงคลับ พอลงจากรถก็มีคนมายืนรอแล้ว อีกฝ่ายบอกว่าถูกพี่ฮิมสั่งให้มานำผมไปที่ห้อง จากนั้นสิ่งที่เลทำก็แค่เดินตาม เรามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆ หนึ่ง อยู่ในโซนห้องบนชั้นสอง สำหรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัวแทนการดื่มด่ำฟังเพลงและเต้นร่วมกับนักราตรีคนอื่นด้านนอก ผมไม่จำเป็นต้องเปิดประตูเองเพราะมีคนเปิดให้ พอเดินเข้าไปก็เห็นพี่ๆ กำลังนั่งพร้อมหน้า ทุกคนจริงๆ แม้กระทั่งพี่ผาก็มา

ทุกคนหันหน้ามามองผม รวมถึงพี่ฮิมด้วย ร่างสูงกระดิกนิ้วเรียกให้ไปหา หลังจากนั้นเลจึงวิ่งไปนั่งคั่นกลางระหว่างพี่ฮิมกับพี่วิน

“ทำไมไม่เปลี่ยนชุด” พี่ฮิมรวบเอวผมเอาไว้ ก้มหน้าลงมาหอมแก้มแต่สายตาบอกว่าไม่พอใจ ผมไม่ได้เปลี่ยนชุด วันนี้ก็ใส่ขาสั้นแหละ แต่มันไม่ได้ใส่มากขนาดนั้น สั้นเกือบๆ สามส่วน

“เลขี้เกียจ” ตอบตามตรง พี่ฮิมถอนหายใจ ถามคำถามใหม่

“ซ้อมเป็นไง เหนื่อยไหม”

“เหนื่อยมาก วันนี้แทบไม่ได้พักเลย” ผมถอนหายใจแล้วก้มลงนอนตักพี่ฮิม เอาขาก่ายไปทางพี่วินแบบไม่ขออนุญาตก่อนจึงโดนอีกฝ่ายมองแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

พี่ฮิมลูบหัวผมเบาๆ เขาถามต่อ “หิวไหมครับ”

“หิว”

“อยากกินอะไร” ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ฮิมจากมุมต่ำแล้วเบะปาก แล้วนอนตะแคงข้างหันไปหาพี่รพที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“พี่รพสั่งให้น้องหน่อย”

“สั่งเองไม่เป็นเหรอ”

“เลเหนื่อยแล้วก็ขี้เกียจ” ผมตอบ “สั่งให้เลหน่อย อะไรอร่อยเอามาให้หมด”

“งอแง” คนผมแดงว่า ดุไปงั้นแหละแต่ก็ยอมกวักมือเรียกพี่คนหนึ่งมาสั่งอาหารให้ ผมยิ้มออกก่อนจะหลับตาลงนอนรออาหารพร้อมกับรับสัมผัสมือหนาที่กำลังลูบหัวเลอยู่ พวกพี่ๆ ก็คุยกันไป คุยอะไรกันไม่รู้ไม่ได้ฟังมากแต่จับใจความได้นิดนึงคือมันเกี่ยวกับวิศวะสัมพันธ์ คงคุยงานกันอยู่มั้ง

เลชอบนะ ดีจังบรรยากาศแบบนี้

แบบที่ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากัน อาทิตย์ก่อนพี่ฮิมยอมทำตามขอของผมก็คือกลับมาอยู่ที่บ้าน และทันทีที่ถึงบ้าน ร่างสูงก็ถูกพี่วินลากออกไปคุยอะไรสักอย่าง พอกลับเข้ามาก็บอกว่าโอเคกันแล้ว แต่ทั้งสองกลับไม่ยอมบอกว่าคุยเรื่องอะไร

พี่ๆ คนอื่นๆ แม้ไม่ได้พูดอะไรแต่ก็เหมือนจะเข้าใจ บรรยากาศในบ้านจึงเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง แตกต่างนิดหน่อยคือตอนนี้ผมกับพี่ฮิมเป็นแฟนกันแล้ว

เรื่องพี่ฮิมเองก็ได้เคลียร์นะ  เมื่อไม่กี่วันก่อนตอนพี่ๆ ทุกคนกำลังนั่งเล่นกันอยู่ผมจึงใช้โอกาสนั้นถาม สั่งให้บอกทุกอย่างที่ทุกคนทำรวมถึงเรื่องของพี่ฮิม อันที่จริงเรื่องพวกนี้พี่วินเคยพูดให้ผมฟังคร่าวๆ แล้วครั้งหนึ่งและครั้งนี้เป็นแจกแจกให้ละเอียดกว่าเดิม ทุกคนบอกเกือบทุกอย่างให้ผมได้รู้ พวกเขาบอกทุกหัวข้อสำคัญ เจาะลึกลงบางเรื่อง แต่ในบางเรื่องพี่ๆ ก็ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ใช้ความรุนแรง

คลับ สนามรถ อำนาจ แก็ง อิทธิพล เงินกู้ และอีกหลายๆ อย่าง ยังดีที่เรื่องยาเสพติดพี่ๆ ไม่เข้าไปยุ่ง

แค่หัวข้อสำคัญ แต่ในตอนนั้นพอผมรู้ก็ถึงกับต้องหันไปมองพี่ฮิมอย่างหวาดๆ เข้าใจขึ้นมาทันทีที่ว่าทำไมพี่รหัสและแก็งโรซารี่ที่ผมสนิทถึงบอกว่ากลัวพี่ฮิม

ไม่ใช่แค่เรื่องที่ทำ แต่รวมถึงเรื่องนิสัย ตัวตนของพี่ฮิมไม่ใช่คนอ่อนโยน นุ่มนวล และเขาทำให้เลรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนพิเศษ

พิเศษตรงที่ว่าเขาอ่อนโยนและดีกับผมแค่คนเดียว

เลรับฟัง และทำความเข้าใจ การออกจากบ้าน ไปอยู่ในโลกที่ต้องพึ่งตัวเองกับอินทำให้ผมเข้าใจอะไรได้ง่ายขึ้น อย่างน้อยการเข้าผับอย่างบ้าระห่ำเพราะเสียใจในครั้งนั้น ก็ทำให้ผมรับรู้แล้วว่าโลกนี้มันเป็นสีเทา มีอะไรหลายๆ อย่างรวมทั้ง ธุรกิจมืดแทรกซึมอยู่ทุกหย่อมเย้า ไม่ได้บอกว่ามันดี มันถูกหรือผิด แค่สิ่งนั้นมันทำให้ผมเข้าใจและยอมรับเรื่องของฮิมได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นแต่ก่อนก็อาจจะสติแตก

สิ่งที่น่าตกใจมากที่สุดคือพี่ฮิมออกมาคุมเรื่องพวกนี้ก็ตอนที่ผมกำลงหลับ พึ่งรู้ว่าตัวเองเป็นพวกหลับลึกขนานหนักด้วย

ส่วนเรื่องผู้หญิง นี่เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวมากที่สุด ถึงฮิมจะบอกให้ผมเป็นคนจัดการแต่ร่างสูงก็ช่วยอยู่บ้าง ช่วยส่งข้อความบอกสาวที่เคยควงประมาณว่ามีคนที่รักแล้ว จะไม่คุยแล้ว ลาก่อนและขอโทษ แต่ไม่บอกว่าคนที่รักคือผม และเลี่ยงใช้คำว่ามีแฟน เพราะฮิมบอกกับผมว่าไม่อยากให้หลายคนรู้ว่าผมเป็นแฟน เพราะมันอันตราย เลเข้าใจ แต่ที่พี่ฮิมบอกแบบนั้นไม่ได้หมายความว่าถ้ามีคนถามว่าผมเป็นแฟนพี่ฮิมไหมอีกฝ่ายจะปฏิเสธ เราจะบอกว่าเป็นแฟนกันก็ต่อเมื่อโดนถามเท่านั้น แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีใครใจกล้าเข้ามาถามขนาดนั้นหรอก

น่าแปลก ผู้หญิงที่ฮิมเคยควงส่วนใหญ่ไม่ได้เรียกร้องว่าเสียหายแต่เรียกร้องให้ฮิมกลับไปหา

ซึ่งผมเห็นแล้วก็ได้แต่… เฮ้อ ถอนหายใจแล้วก็พาลไม่ชอบ

เปล่า เลไม่ได้ไม่ชอบผู้หญิงทั้งโลก เลแค่ไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้ เพราะผู้หญิงดีๆ ก็มีเยอะ แต่ว่าก็ว่าเถอะพี่ฮิมเองก็มีส่วนผิดมากพอสมควร การเคลียร์ไม่ได้เรียกว่าจบแบบหมดสิ้น อย่างน้อยก็มีคนหนึ่งที่อ่านแล้วไม่ได้ตอบกลับมา

เดวา อ่านแล้วเงียบไปเลย

ผมหวังว่าอีกฝ่ายจะได้เจอกับคนที่ดี ถึงจะเคยไม่ชอบและมีปัญหากัน แต่การที่ฮิมไปเล่นกับหัวใจคนอื่นนั่นมันก็ไม่ถูกต้องเหมือน

ลืมตาขึ้นเมื่อได้กลิ่นหอมของอาหาร ตอนนั้นเองที่ได้รู้ว่าภายในห้องนี้ไม่ได้มีแค่ผมและพี่ๆ อีกต่อไป

ผู้หญิง

มีผู้หญิงสองคนเข้ามาเพิ่ม คนหนึ่งนั่งอยู่บนตักพี่รพ ส่วนอีกคนนั่งอยู่ข้างๆ พี่ไทด์ แต่สายตาของทั้งสองไม่ได้จ้องคนข้างกาย ดวงตาคมเฉี่ยวด้วยอายไลเนอร์ทั้งสองคู่นั้นมองมายังเจ้าของตักที่เลหนุนทับอยู่ ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ฮิม ร่างสูงไม่ได้ให้ความสนใจกลับ ตาคมจ้องโทรศัพท์ในมือและพอเห็นผมกำลังมองเขาอยู่ ฮิมจึงวางโทรลงมองหน้าเลแทน

“อาหารมาแล้วนะ” ผมฟังแล้วพยักหน้าให้ แต่ยังไม่ยอมลุกขึ้นแถมยังพลิกตัวกลับไปนอนตะแคงดังเดิม พี่ฮิมไม่ได้ว่าอะไรจากการที่ผมไม่ยอมลุกกินข้าวทั้งๆ ที่บ่นว่าหิว มือหนายังคงลูบศีรษะสลับกับเกาคางผมไปมา

ส่วนเลกำลังเฝ้าสังเกต สังเกตว่าเมื่อไหร่ผู้หญิงสองคนตรงหน้าจะเลิกจ้องหน้าพี่ฮิมสักที และเหมือนสวรรค์เป็นใจเมื่อผู้หญิงที่นั่งตักของพี่รพเริ่มรู้สึกได้ว่าถูกผมมอง เธอถึงหันมาจ้องผมแทน

“ออกไป” ห้องเงียบลงอย่างเหมาะเจาะ สิ่งที่เลพูดออกไปน่าจะได้ยินกันชัด ดูจากการที่ทุกคนในห้องหันมาจ้องผม ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าอึ้ง หลังอึ้งก็กลายเป็นโกรธ “บอกให้ออกไป”

พอย้ำอีกครั้งหญิงสาวก็เริ่มส่งสายตาให้พี่รพช่วย น่าเสียดายที่พี่รพไม่แม้แต่จะมอง พอไม่มีคนช่วย ทั้งห้องเงียบแถมถูกกดดันขนาดนี้ สาวเจ้าก็เลยต้องจำยอมสะบัดตัวเดินออกจากห้องไป พ้นสายตาผมเลยหันไปจ้องหน้ากับเจ้าของร่างสะโอดสะองอีกคนพร้อมกับพูดประโยคที่เหลือต่อท้าย

“...ทั้งสองคน” เธออึ้ง แล้วก็เข้าอีหรอบเดิม จากอึ้งไปโกรธ โดนกดดัน ไม่มีใครสนใจหรือคัดค้าน สุดท้ายก็ต้องเดินออกไปตามที่เลสั่ง

เสร็จจากนั้นผมถึงลุกขึ้นมานั่งดีๆ พี่ๆ คุยกันต่อตามปกติ ไม่มีใครถามเหตุผลที่ผมไล่ผู้หญิงสองคนนั้นออกไปจากห้องด้วยซ้ำซึ่งมันก็ดี

ผมนั่งกินข้าวคนเดียวจนอิ่มเพราะทั้งโต๊ะพี่ๆ ก็กินแต่เหล้ากับเบียร์ อิ่มแล้วก็กลับไปหนุนตักฮิมนอนเล่นโทรศัพท์รอ แต่วันนี้เหนื่อยมากอย่างที่ว่าเพราะขณะเล่นโทรศัพท์จู่ๆ ผมก็หลับไปโดยที่ไม่รู้ตัว





(60%)


ดูจากน้องเลและพี่ฮิมแล้วอนาคตรู้เลยว่าใครจะเป็นใหญ่55555555

แฮชแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ ในทวิตเตอร์นะคะ


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-05-2018 02:46:30
ปัวข้า ใครอย่าแตะ อย่าชะม้อยชะม้ายชายตาแลเด็ดขาด  :o211:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 01-05-2018 06:43:07
ฮิมใหญ่แค่ไหน ก็ไม่พ้นน้องเลนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 01-05-2018 08:29:48
ต้องอย่างนี้แหละน้องเล ถึงจะคุมพี่ฮิมอยู่ ชอบมากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-05-2018 08:48:07
เหมือนเดวาจะไม่ยอมง่ายๆนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 01-05-2018 09:37:08
ชอบเลแบบนี้ เข้าใจอะไรมากขึ้น
สุดท้าย แบบนางพญามาก
ไม่ชอบให้ใครมามองฮิม เหมือนหวงพี่ๆ ด้วย ...

ชอบฮิมแบบนี้ รักน้อง เป็นห่วงน้อง
โอนอ่อนผ่อนตาม (ยอม) ก้อเมียนี่เนอะ ...

เข้าใจที่โปรยไว้แต่ตอนแรกแล้ว ...
"เขาว่ากันว่าเป็นแฟนวิศวะมันยาก
เป็นแฟนวิศวะเราต้องใจกว้าง
ผู้ชายวิศวะ ติดเพื่อนมากกว่าติดแฟน
ผู้ชายวิศวะ มักเล่นแรงจนสลบ
ผู้ชายวิศวะ จะพร้อมรบทุกวินาที
และผู้ชายวิศวะ ไม่ปราณีใครหน้าไหนที่มาวุ่นวายกับ  ‘เมีย’ "...
วิศวะสัมพันธ์นี่ต้องมีอะไรมันๆ

ไม่ชอบอิน ไม่เคยชอบเลย
ส่วนพี่ซันถูกส่งมาเฝ้าเล?

ตอนนี้สนุกมากกกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 01-05-2018 10:12:28
เยี่ยมมากค่ะน้องเล หนูต้องคุมให้อยู่ค่ะ 555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 01-05-2018 11:18:16
ดีมากเล หนูทำดีมาก  คนเขียนทำดีมากค่ะ ปรบมือรัวๆ o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-05-2018 12:07:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 01-05-2018 12:16:30
 :mc4:  ตกลงเป็นแฟนกันแล้วจริงๆ นะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 01-05-2018 12:47:07
ทำดีลูก เคะราชชินี
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 01-05-2018 13:01:52
น้องเลเก่งมาก จัดการขั้นเด็ดขาดไปเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-05-2018 13:57:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 01-05-2018 13:57:56
โอ้ยยยยยหัวใจเค้าดีกันแล้วค่ะ :katai2-1: :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 01-05-2018 14:21:27
 o13 o13 จัดการให้เรียบน้องเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 01-05-2018 16:38:17
ที่แน่ๆต้องเอาเรื่องเดวาให้หมดไปน้าา ฮืออ หมั่นไส้ทีมเดวา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 01-05-2018 18:53:47
 o13 มันต้องยังงี้! ให้รู้ซะบ้างว่าใครใหญ่ หึ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010518#33 (60%) p.45
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 01-05-2018 19:18:02
โคตรเด็ด!!!!
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 03-05-2018 14:48:07
แฟนวิศวะ // ตอนที่ 33 (100%)



เลสะดุ้งตื่น เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้นมอง เขายังอยู่ที่ห้องเดิม แตกต่างแค่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้อง นอกจากเขาและพี่ฮิมที่ยังคงเอาตักตัวเองเป็นหมอนยอมให้หนุน มือหนาที่ลูบศีรษะก็ยังคงลูบอยู่อย่างนั้น เลตั้งใจจะลุก ถ้าไม่มีบุคคลปริศนาเป็นชายสามสี่คนเดินเข้ามาในห้องซะก่อน ดวงตากลมมองคนมาใหม่เงียบๆ พี่ฮิมยังไม่รู้ว่าเขาตื่นแล้ว

“มีอะไร” เจ้าของตักที่เขาใช้หนุนแทนหมอนว่า มือที่ลูบศีรษะหยุดแล้วเปลี่ยนมาเป็นการเกาคางแทน

“บอส ไอ้นี่มีเรื่องจะมาสารภาพครับ”

“อะไร” เลมองร่างสูงโปร่งที่ถูกคนอื่นผลักออกมาด้านหน้า มองไปมองมาก็ดูหน้าคุ้นๆ นะ “รีบพูด เมียกูจะตื่น”

ตื่นแล้วครับ

“บอสคือ…”

“กูให้เวลามึงสิบวิ” เลกำลังคิด

“คือผมซุ่มซ่าม!”

“...” ทำไมคุ้นจังอะ คุ้นมากเลย

“เผลอทำไวท์ที่พึ่งสั่งเข้ามาใหม่แตกไปสองลังครับ!”

“...” คิดออกแล้ว! พี่บอม!

ในจังหวะที่คิดออก พี่บอมเองก็บังเอิญหันมาสบตากับเขา อีกฝ่ายกะพริบตาเหมือนกำลังจะขออะไรสักอย่างที่เลไม่เข้าใจ

อะไร? ให้ช่วย?

“เสียหายเท่าไหร่” พี่ฮิมถามเสียงเรียบ ฟังดูจากน้ำเสียงแล้วไม่น่าจะอารมณ์ดีนัก

“สามแสนครับบอส”

เงียบกันไปทั้งห้อง

ถ้าเทียบกับธุรกิจหมื่นล้านของพี่ฮิม แค่สามแสนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในเมื่อมันคือธุรกิจ เงินหนึ่งบาทก็เป็นเงินเหมือนกัน ไม่มีนักธุรกิจคนไหนอยากสูญเสียเงินตัวเองไปโดยเปล่าประโยชน์หรอก

เลยังเงียบ ส่วนพี่บอมหน้าซีดไปแล้ว

“ตั้งแต่ที่มึงมาอยู่คลับกูนี่มึงมีประโยชน์อะไรบ้าง” เจ็บแทน

“บอส...”

“แล้วมึงสอนอะไรเลไว้ เรื่องนั้นกูก็ไม่ได้ลืม” คราวนี้คนแกล้งหลับได้ทำหน้าตื่นๆ บ้าง เหมือนพี่ฮิมจะยังไม่ลืมเรื่องที่พี่บอมเป็นคนสอนเขาให้รู้เรื่องเพศสัมพันธ์ จนเริ่มออกนอกลู่นอกทางเป็นครั้งแรก “เสนอหน้าเข้ามาสอนเมียกู”

“จะให้ทำยังไงกับมันครับบอส”

ไม่ได้ ทำพี่บอมไม่ได้นะ นั่นครูคนแรกของเลเลยนะ!

“อื้อ พี่ฮิม” ฮิมยังไม่ทันตอบทางนั้น ผมจึงใช้จังหวะนั้นขยับศีรษะไปมาให้เจ้าของตักรับรู้ว่าเลตื่นแล้ว มันได้ผล เพราะพี่ฮิมหันมาสนใจผมทันควัน

“ตื่นแล้วเหรอ” ผมยันตัวขึ้น เลื่อนจากหนุนตักไปซบไหล่แกร่งแแล้วหันไปมองสามร่างที่ยังยืนอยู่ ทำทีว่าไม่ได้สนใจขณะที่ฮิมเลื่อนมือมาโอบไหล่พร้อมจูบที่หน้าผาก “ยังง่วงไหมครับ นอนต่อไหม”

“อืม เลอยากกลับแล้ว” ผมโอบเข้ากอดพี่ฮิม เงยหน้าขึ้นจ้องเขา “กลับบ้านไปนอนกอดกัน”

จากนั้นก็คลอเคลียที่ปลายคาง ครั้นตั้งใจจะเลื่อนริมฝีปากขึ้นไป จังหวะนั้นเองที่พี่ฮิมทำสัญญาณบางอย่างให้กับคนที่ยืนมองอยู่ด้านหลัง ก่อนที่พวกเขาจะเดินออกไปแบบเงียบๆ โดยที่พี่ฮิมยังไม่ได้สั่งให้คนอื่นทำอะไรพี่บอม พ้นเสียงประตูปิดผมจึงทิ้งหัวซบไหล่ฮิมตามเดิม

มือหนาลูบแผ่นหลังผมเบาๆ ฮิมถาม “จะกลับเลยไหม”

“อื้อ” ผมตอบก่อนจะยืนขึ้น ฮิมลุกขึ้นตาม จากนั้นก็โอบไหล่บางเดินออกจากห้องไป





บ้าน

ผมเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องโดยมีพี่ฮิมต่อท้ายพร้อมกับเสียงล็อกประตูตามหลัง หันไปไม่ทันมองไม่ทันก็โดนร่างสูงโอบเข้ากอดด้านหลัง ใบหน้าหล่อเหลาไซร้ไปตามคอ ไล้จูบเบาๆ จนรู้สึกจั๊กจี้

“อื้อ พี่ฮิมอย่าทำรอยนะ” ผมเตือน เพราะถ้าฮิมทำแล้วล่ะก็มันหายไม่ทันวิศวะสัมพันธ์แน่นอน

“คนดี”

“หืม” เสียงทุ้มกระซิบอยู่ข้างหูแต่พอขานรับก็กลับไม่ตอบ

คนตัวสูงเลิกไซร้คอพร้อมกับผลักเลนอนราบลงบนเตียง ฮิมคร่อมทับ มือหนาเลิกเสื้อขึ้นมาเกินอกแล้วไล้จูบที่จุดไวต่อสัมผัส พอพี่ฮิมเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งและกำลังจะโน้มลงมาจูบ ผมเลยยกมือขึ้นปิดปากเขาเอาไว้ซะก่อน

มองตาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร

“น้องยังไม่ได้อาบน้ำ” คนฟังนิ่ง แต่หลังจากนั้นนิ้วที่ผมยื่นไปปิดก็ถูกงับเข้าปาก ถูกลิ้นร้อนเลียจนมันชุ่มฉ่ำ จากนั้นจึงค่อยๆ เลียลากขึ้นตั้งแต่ปลายนิ้วจนถึงต้นแขน ลำคอ ก่อนจะมาถึงริมฝีปากภายในที่สุด

การกระทำของอีกฝ่ายตอบคำถามผมว่าไม่เป็นไร

และใช่ เลตกเป็นของพี่ฮิมอีกครั้ง





ตีสาม

ศึกรักพึ่งจบลง ทิ้งกลิ่นกามอบอวลเอาไว้ทั่วห้อง เลนอนหอบหายใจนิ่ง ขณะเดียวกันที่ร่างสูงกำลังเกยคางวางบนไหล่บาง มือหนาลูบแผ่นหลังเนียนขาวด้วยความใคร่รัก

“น้องเล” ฮิมเรียก เหมือนเขาจะเริ่มติดสรรพนามนี้ไปแล้ว

“อืม” คนกึ่งหลับกึ่งตื่นขานรับ

“พี่มีเรื่องจะบอก” เหตุผลที่ทำให้ฮิมต้องไปคลับถึงสามวัน ไม่ได้ไปดูแลแต่ไปคุยเรื่องวิศวะสัมพันธ์กับพวกนั้น งานที่ใกล้จะถึงนี้มีเรื่องน่าหงุดหงิดเกิดขึ้นสำหรับฮิม

“ไว้พรุ่งนี้น้า” ว่าจบเลก็เงียบไป ฮิมผละออกจากไหล่เนียน แล้วล้มตัวลงนอนตะแคงมองหน้าคนที่เงียบไปก่อนจะพบว่าน้องหลับไปแล้ว เขายื่นมือไปบีบแก้มนุ่มเล่น ก่อนจะลามไปลูบตามเนื้อตัวเปลือยเปล่าจนถึงเอว เขาดึงเลเข้ามากอด ใบหน้าหล่อเหลาแนบเข้ากับกลุ่มผมหอมก่อนจะหลับตาลงบ้าง

ครืด ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์ทำให้เปลือกตาที่พึ่งจะปิดต้องเปิดขึ้น ร่างสูงสบถในใจ ใครมันกล้าโทรมาตอนตีสาม ฮิมตั้งใจจะปล่อยให้มันดังต่อไป จนกระทั่งคนที่เขากอดอยู่เริ่มทำท่าว่าจะตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ ร่างสูงจึงยอมผละอ้อมกอดแล้วลุกออกจากเตียงเดินไปหยิบโทรศัพท์ตั้งใจว่าจะกดตัดสายแล้วปิดเครื่องทิ้ง แต่พอเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามาแล้ว สิ่งที่อยากทำดันทำไม่ได้ ฮิมขมวดคิ้ว ขายาวเดินไปหยิบชุดคลุมในตู้เสื้อผ้ามาใส่ หยิบบุหรี่เพราะคุยกับคนนี้ทีไรได้เครียดทุกที จากนั้นจึงเดินไปที่ระเบียง

สายมันตัดไปแล้ว เขาจึงโทรกลับไปใหม่ ปลายทางรับภายในไม่กี่วินาที

(ทำอะไรอยู่)

ฮิมจุดไฟแช็กเข้ากับบุหรี่แล้วคีบมันเข้าปาก พ่นควันพิษออกมาเมื่อได้ยินคำถาม “พ่อ ตอนนี้ตีสาม”

(แต่อังกฤษพึ่งสามทุ่ม ทำไมรับช้า)

“เลหลับอยู่ก็เลยเดินออกมาคุยด้านนอก”

พ่อเขาเงียบไปสักพัก ก่อนจะตอบกลับมาพร้อมประโยคที่ทำให้ฮิมชะงัก (ยังนอนอยู่ด้วยกันอยู่เหรอ)

เขายังไม่ได้บอกพ่อกับแม่ เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเล

“ครับ”

(ตัวติดกันขนาดนี้ ตอนฮิมเรียนจบแล้วกลับมาอังกฤษ แต่น้องเลนั่นต้องเรียนต่อที่ไทยอีกสามปี จะไม่มีปัญหาหรือไง)

“ฮิมคิดว่าจะอยู่ที่ไทยจนน้องเรียนจบ”

(เราล้อเล่นใช่ไหม ฮิมจะไม่มาต่อโทบริหารที่อังกฤษหรือไง แล้วยังต้องมาเรียนรู้ระบบการทำงานของบริษัทใหญ่อีก ถ้าอยู่ไทยต่ออีกสามปีมันเปลืองเวลานะ จำได้ใช่ไหมว่าพ่อจะวางมือยกบริษัททั้งหมดให้ตอนที่ฮิมอายุ 30 เพราะแค่นี้คุณนายของบ้านก็เริ่มบ่นแล้วว่าอยากเที่ยวรอบโลก)

“จำได้ครับ” ควันพิษถูกพ่นออกอีกครั้ง คุยกับพ่อทีไรเครียดจริงๆ “เอาไว้ถึงเวลานั้นฮิมจะคิดดูอีกที”

(หัดแยกกันได้แล้ว) พ่ออ้างอิงไปถึงอีกคน ไม่ใช่น้องหรอกที่แยกไม่ได้ เลทำให้เห็นชัดแล้วว่าหลังจากเซ็นสัญญาตัดขาดกันเต็มตัว น้องยังพออยู่ได้ เป็นเขาต่างหากที่รู้สึกจะตายๆๆ ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน

“ครับ”

(อืม มาอังกฤษรอบหน้าจองตั๋วเครื่องบินหรือยังล่ะ)

“จองทำไมบินเครื่องบินส่วนตัว” ฮิมนั่งเก้าอี้ มือหนากุมขมับ ได้ยินเสียงหัวเราะจากปลายสาย

(พ่อลืม แล้วจะมาวันไหน)

“อีกสองวันครับ” เรื่องที่จะบอกเลก็คือเรื่องนี้…

วิศวะสัมพันธ์ที่ฮิมควรจะได้เฝ้าน้อง ดันต้องกลับอังกฤษเพราะพ่อเรียกให้กลับ

(ยังช้า)

“เร็วสุดเท่าที่ฮิมให้ได้ ต้องไปจริงๆ เหรอ พ่อไม่ยอมบอกว่ามีเรื่องอะไรเอาแต่บังคับให้ไป”

(เรื่องใหญ่) ทางนั้นว่า (ไม่ใหญ่พ่อไม่เรียกหรอก จากไทยมาอังกฤษก็ตั้งหลายชั่วโมง ให้ไปกลับบ่อยๆ เหนื่อยแย่)

“ครับ” ได้แต่ตอบเสียงเบา

(คราวนี้อิดออดนะ ดูไม่อยากมา)

“อืม”

(ทำไม)

“เปล่าครับ” ฮิมปฏิเสธ จะบอกว่าแค่เป็นห่วงน้องเฉยๆ เหตุผลมันก็ดูจะเทียบกับบริษัทที่ทำเงินกว่าหมื่นล้านยูโรไม่ได้ ยิ่งพ่อบอกว่าครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยแล้ว… พ่อเขาไม่พูดเล่น

(หึ) เงียบไปอีกครั้งหนึ่ง (มีอะไรจะเล่าไหมล่ะ)

“ให้เล่าอะไร”

(เรื่องราวชีวิต เป็นพ่อต้องรับฟังลูก)

“ตอนนี้ตีสาม” ฮิมย้ำอีกครั้ง “ถ้าพ่อไม่มีอะไรฮิมจะวางสายแล้วไปนอน” กอดเล

(เอาจริงๆ ก็มี แต่ไม่รู้ว่าจะพูดดีไหม)

“พูดมาเถอะครับ เรื่องอะไร”

(เรื่องของเรานั่นแหละ)

“...” บรรยากาศเงียบลง เขารู้สึกใจหวิวแบบแปลกๆ และทันทีที่ทางนั้นพูดขึ้นมาจากหวิวมันก็กลายเป็นนิ่ง

(พ่อคงจะไม่ได้หลานแล้วใช่ไหม)

!!!!!!!!!!!

ม้วนบุหรี่ในมือหล่นตกพื้น คนฟังเงียบไปนานจนทางนั้นพูดก่อน

(เงียบเลย อึ้งอยู่สิ)

“พ่อ…” ฮิมขมวดคิ้ว เขามั่นใจครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “รู้เหรอ?”

(อืม)

“ตั้งแต่เมื่อไหร่” คนฟังตาสว่าง เขาตื่นเต็มตัวจริงๆ

(ถ้าเป็นเรื่องของเรากับเลรู้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว)

“...”

(แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นก็รู้ตั้งแต่ที่ฮิมเริ่มทำ)

“เรื่องอื่น? หมายความว่ายังไงครับ”

(ก็รู้หมดทุกอย่างว่าเราทำอะไร ทั้งคลับทั้งสนาม เรื่องที่ฮิมบอกแต่ไม่ได้บอกจนหมดก็รู้) ฮิมเงียบไป

เขาเคยบอกพ่อว่าที่ไทยตัวเองได้ทำอะไรบ้าง แต่ก็บอกไม่หมดอย่างที่ว่า โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องใช้ความรุนแรง แล้วพ่อดันบอกว่ารู้ แต่เจ้าตัวไม่ได้อยู่ที่ไทย คิดได้อย่างเดียวคือ

“พ่อจ้างคนตามผม?”

(ก็ใช่ พ่อมีลูกคนเดียวนะฮิม แล้วลูกอยู่ไกลซะขนาดนั้นมันก็ต้องให้มีคนตามบ้าง เผื่อเกิดปัญหาอะไร)

“พ่อรู้แต่ไม่ห้าม?” ธุรกิจหลักของบ้านเขามันถูกกฏหมาย แต่ธุรกิจลับของฮิมมันออกจะไม่ถูกสักเท่าไหร่ อยู่ตรงกลาง ถูกก็มีแต่ผิดก็มีเช่นกัน

(ฮิมเป็นลูกคนเดียว พอฮิมเกิดมา ไม่รู้ว่าลูกชอบไม่ชอบ แต่ฮิมก็เลือกอาชีพอื่นไม่ได้เพราะต้องรับบริษัทของพ่อต่อไป พ่อเลยตามใจ ให้ทำถ้ามันเป็นสิ่งที่ฮิมคิดว่าสนุก เพราะถ้าไม่ชอบหลังจากที่เรารับช่วงต่อมันอาจจะไม่สนุกอีก)

“ฮิมโอเค” เขารู้จักตัวเอง ถ้ารู้สึกว่าไม่โอเค ต่อให้ยัดเยียดสิ่งนั้นมาให้ยังไงเขาก็ไม่เอา

(นั่นก็ดี โชคดีที่ลูกชอบนะ)

“แต่มันมีผิดกฏหมาย” ถึงจะบอกว่าตามใจ แต่การที่มันผิดกฏหมายก็ยังเป็นปัญหาใหญ่ พ่อยอมรับได้ยังไง

(อืม ธุรกิจของเรามันก็ไม่ได้ถูกกฏหมายทั้งหมดหรอก)

“...”

(นั่นแหละ…)

“พ่อหมายความว่ายังไง”

(ก็ถึงบอกว่าเรียนจบแล้วให้กลับอังกฤษ อยู่ไทยมันเปลืองเวลา มีหลายอย่างที่ฮิมต้องรู้อีกเยอะ)

“...”

(ไม่ต้องห่วง ไอ้ที่ไม่ดีน่ะส่วนใหญ่เราทำเพื่อป้องกันบริษัท ไม่ได้ไปทำให้คนอื่นตายเล่นหรอกนะ)

“...”

(นี่เราไม่เคยรู้เลยจริงเหรอ ดูเอกสารพ่อออกจะบ่อย)

“เปล่าครับ พอรู้บ้าง” เขาเคยคิดเอาไว้ บริษัทใหญ่ขนาดนี้ยังไงก็ต้องมีเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง คู่แข่งเราเยอะ ศัตรูเลยพลอยเยอะไปด้วย “ฮิมเรียนจบจะเลิกทำ”

(ไม่ต้องเลิกก็ได้ เก็บเป็นที่ระลึกเอาไว้ว่าตอนสมัยมหา’ลัยตัวเองเคยทำอะไร แค่จ้างคนเก่งทำแทนแล้วกินกำไรพอ) ให้ตาย พ่อเขาหัวนักธุรกิจจริงๆ

“แล้วพ่อรู้เรื่องของเลได้ยังไง” บุหรี่ม้วนที่สองถูกจุดขึ้นสูบ

(ตะหงิดใจมานานแล้ว แต่แม่ที่น่าจะรู้ทุกเรื่องดันไม่พูดอะไรก็เลยคิดว่าไม่มีอะไร พึ่งมาถามจริงจังก็ตอนสองปีก่อน คุณนายก็เลยเอาอะไรมาให้ดู)

“อะไรครับ”

(อัลบั้ม)

“อัลบั้ม?”

(อัลบั้มลับของใครก็ไม่รู้ที่แอบถ่ายแต่ใต้กระโปรงน้องเลในชุดคอสเพลย์)

“พ่อ!!!!” ร่างสูงถึงกับต้องลุกขึ้นยืน บุหรี่หล่นตกพื้นเป็นครั้งที่สอง

(ร้ายมากลูกชาย! ถ่ายแต่ช่วงต้นขาซะด้วย มีทุกชุดที่เลใส่ ไปได้ใครมา แอบถ่ายใต้กระโปรงลูกชาวบ้านเนี่ยพ่อไม่เคยทำนะโว้ย)

“หามันเจอได้ยังไง ก็เก็บ…” ดีแล้ว

อัลบั้มลับของน้องเลสมัยยังเด็กฮิมเก็บมันเอาไว้ในที่ที่คิดว่าคนอื่นจะหามันไม่เจอ

(คิดว่าจะรอดพ้นมือคุณนายของบ้านหรือไง มีอะไรบ้างที่แม่เราหาไม่เจอ นี่ยังไม่ได้พูดถึงไดอารี่เลยนะ) อย่า… อย่าเป็นไดอารี่อย่างที่คิดนะ (ปกแข็ง เล่มแดง ผ้ากำมะหยี่ เขียนบรรยายเอาไว้ซะอย่างดีว่ารักยังไง คิดยังไง อยากทำอะไรด้วย)

“...”

หมด หมด ไปหมดแล้วความลับของเขา

(ไม่ต้องอายหรอกน่า แม่เราน่ะรู้มานานแล้ว น่าจะแอบอ่านตั้งแต่ที่ฮิมเริ่มเขียน)

“...” ไม่มีอะไรจะพูด

(เงียบเลย ก็มีแค่นี้แหละที่จะพูด หมดแล้วครับ ไปนอนได้แล้ว)

“เดี๋ยวพ่อ…”

(หือ อะไรอีก)

“พ่อกับแม่… โอเคใช่ไหมครับ” ฮิมเป็นลูกคนเดียว และถ้าเลเป็นคนรักแล้วล่ะก็นั่นหมายความว่า พ่อกับแม่จะไม่มีหลาน

(โอเคไม่โอเคก็ทำใจได้สองปีแล้วที่จะไม่มีหลาน แต่น่าจะรู้เร็วกว่านี้จะได้มีน้องให้ฮิม)

“สู้ๆ นะพ่อ” ถึงจะเป็นน้องหลงก็มาเถอะ ฮิมรู้ว่าพ่อแม่ยอมรับแต่ทั้งสองก็คงอดเสียใจไม่ได้หรอกที่จะไม่มีหลานน่ะ

(พยายามอยู่แต่คุณนายเขาไม่ค่อยให้ความร่วมน่ะสิ มีอะไรอีกไหม)

“เลบอกว่าพ่อเกลียดน้อง จริงหรือเปล่า”

(หือ? ว่าอะไรนะ)

“เลบอกว่าพ่อเกลียดเล” น้องชอบพูดว่าพ่อเขาเกลียด แต่ฝ่ายนั้นก็ไม่ได้บอกเหตุผลเช่นกันว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น

(จะกลียดไปทำไม)

“แต่เลบอกแบบนั้น”

(คิดไปเอง)

“เหรอครับ” ฮิมคิด แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับอีก ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมเลถึงคิดแบบนั้น แต่เรื่องที่เลกับพ่อเขาชอบทะเลาะกันน่ะเป็นเรื่องจริง แต่มันก็ไม่เชิงทะเลาะหรอกก็แค่แบบ… กัดกัน?

(ไม่มีอะไรแล้วก็ไปนอน)

“ขอบคุณนะครับ ฝากบอกแม่ด้วย” ฮิมดีใจ ปฏิเสธไม่ได้ว่าดีใจ ถึงเรื่องเพศจะเปิดกว้าง แต่มันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่ครอบครัวจะยอมรับ เขาเคยคิดหลายครั้งว่าถ้าพ่อกับแม่ไม่ยอมรับเรื่องนี้แล้วจะทำยังไงต่อไป แต่ก็ยังคิดไม่ออกจริงๆ

(ทำซึ้งน้ำตาจะไหล เอาเถอะ ขอแค่อย่าทำบริษัทของพ่อล่มจมก็แล้วกัน)

“ครับ”

(ไปนอนไป)

“Dad…”

(What?)

“Please tell mother that I love her and I love you, too”

ติ๊ด!

เขาไม่ได้ยินพ่อว่าอะไรต่อจากนั้นเพราะกดตัดสาย ร่างสูงเดินกลับเข้าห้อง ถอดชุดคลุมออกเปลือยตัวไปนอนกอดน้องอีกครั้ง

“ฮิมไปไหนมา” เสียงอู้อี้ถาม ร่างบางขยับตัวเข้ามากอด น้องถูไถใบหน้าเข้ากับอกเขาหลายๆ ที ขณะที่ร่างสูงแนบริมฝีปากเข้าข้างหู กระซิบใส่เสียงเบา

“ไปคุยเรื่องของเราครับ”





วันต่อมา

เคร้ง!

ช้อนในมือหล่นกระทบจาน ผมทำหน้าอึ้ง ตาเบิกกว้างขั้นสุดพร้อมกับหันไปมองพี่วินในเชิงคำถามว่าจริงจังไหม? และพี่วินพยักหน้า

“พี่ฮิมจะไม่ได้อยู่งานวิศวะสัมพันธ์? พี่ฮิมจะไปไหน” ผมขึ้นเสียงสูงใส่พี่ฮิมที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างๆ มือหนาหันมาจับช้อนที่หล่นหยิบใส่มือเลเป็นการบอกใบ้ให้ผมกินต่อ

“พี่ต้องกลับอังกฤษครับ ถูกเรียกประชุม” ฮิมว่า

“ไปเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้” ผมเบะปาก รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำหน้าเบะเพราะรู้สึกอยากร้องไห้

“กลับมาทันดูน้องไหม” เหลืออีกสามวันจะถึงวิศวะสัมพันธ์ ระยะเวลางานคือสองวัน และผมแข่งหลีดในวันที่ 2 ตอนเย็นเกือบค่ำ แทบจะเป็นรายการสุดท้ายเลยมั้ง

พี่ฮิมส่ายหน้า“น้องซ้อมมาเกือบหนึ่งเทอมเลยนะ ไม่ไปไม่ได้เหรอ”

ร่างสูงทำหน้าหนักใจ แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าอีก

“ไม่ได้ครับ พี่ขอโทษนะ”

“แต่น้องอยากให้พี่ฮิมดู พี่ฮิมไม่อยู่แล้วใครจะดูเลล่ะ!”

“นั่งหัวโด่อยู่นี่ แต่ไม่เห็นหัวกูเลยครับ”

“เฮ้ยไทด์ เราออกจากบ้านกันไหมมึง”

“เอาดิ ปะ! เก็บเสื้อผ้า”

“พวกกูก็อยู่” วินพูดจริงจังพร้อมกับมองผม

“แต่ไม่อยู่ตอนเลแสดง!”

“หลีดแสดงข้างสนามบอล นี่มึงรู้หรือเปล่าว่าพวกกูลงแข่งฟุตบอล”

“หือ จริงเหรอ” ผมทำตาโต ได้ข่าวจากพี่นนท์นี่อยู่ว่าจะมีแข่งกีฬา แต่ไม่รู้ว่าพวกพี่ๆ ก็เป็นนักกีฬาด้วย พึ่งรู้เลยนะเนี่ย “ทุกคนเลยเหรอ?”

ผมมองไปรอบๆ วันนี้ทุกคนในบ้านตื่นขึ้นมากินข้าวเช้าพร้อมหน้ากันหมด

“เออ”

“ฮื่อออ เลจะเชียร์ๆ ชนะให้ได้นะ ห้ามแพ้!”

“ใครจะแพ้อีกวะ” พี่รพว่า “ปีก่อนไปแข่งในถิ่นไอ้ใหญ่มันเฉยๆ โกงชิบหาย”

“เออ ไอ้เหี้ยขออย่าให้กูเจอพวกมันอีก ให้แข่งกับพวกไอ้ดีนยังดีกว่ามันอะ อย่างน้อยก็สู้ซึ่งๆ หน้าไม่ใช่หมาลอบกัด”

“ไอ้ดีนก็ใช่ย่อย แต่มันเป็นพวกอย่าให้กัดเพราะกัดแล้วแม่งจะกัดไม่ปล่อย”

“มึงพึ่งไปมีเรื่องกับมันมาหนิวิน”

“เออ” พี่วินขานรับหน้าเซ็งๆ

“มึงกัดมันหรือมึงถูกกัด”

“กูไม่ใช่หมา”

“งั้นมึงก็ถูกกัด”

“กัดพ่อมึงสิไอ้เหี้ยรพ” ผมฟังแล้วทำหน้างง พวกพี่เขาคุยอะไรกันก็ไม่รู้ เลฟังไม่รู้เรื่องอะ พี่ฮิมลุกออกจากโต๊ะไปคนแรก ผมรีบกินให้อิ่มจากนั้นจึงเดินขึ้นห้องตาม



เปิดประตูห้องออก ร่างสูงที่กำลังใส่นาฬิกาข้อมืออยู่หันมามอง ผมเดินไปกอดกายหนา แนบหน้าเข้ากับอกแกร่ง

“อ้อนจัง” เสียงทุ้มว่า กอดตอบแล้วหอมผมเลเล่น

“ก็ไม่อยากให้ไป เลอยากให้พี่ฮิมดูเลตอนเป็นหลีด”

“ขอโทษนะครับ” มือหนาลูบหน้าเบาๆ เรามองตากันแล้วเงียบ แต่หลังจากนั้นไม่รู้พายุอะไรโหมเข้าใส่เพราะจู่ๆ ทั้งผมกับพี่ฮิมก็ฟาดเข้าหากันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย ริมฝีปากเราแนบเข้าด้วยกัน ลิ้นร้อนตวัดไล่ไปมาในโพรงปาก ผมเขย่งตัวขึ้น มือโอบรอบลำคอหนา ขณะเดียวกันที่อีกฝ่ายเริ่มล้วงมือสากเข้ามาในเสื้อเชิ้ต หมุนวนและบดขยี้ตุ่มไวต่อสัมผัสทั้งเบาสลับแรง

ผลัก!

ร่างกายถูกผลักให้นอนราบลงบนเตียงแล้ว แต่หลังจากนั้นพี่ฮิมก็หยุด

ค้างมาก!

“ฮิม”

“คนดีอย่ามองพี่แบบนั้นสิ”

“ฮื่อออ”

“เดี๋ยวได้มีลายเต็มตัวนะ” พี่ฮิมผละตัวขึ้น ร่างสูงเดินไปเดินมาในห้องขณะเดียวกันผมก็นอนทำใจให้สงบพร้อมกับบ่นอยู่บนเตียง

“ครั้งนี้สำคัญมากเลยเหรอ”

“คุณพ่อว่าสำคัญครับ”

“สำหรับคุณลุงก็สำคัญทุกงานนั่นแหละ! ใช้งานพี่ฮิมหนัก ใจร้าย!”

“พูดเข้า นั่นพ่อแฟนเลนะ” พี่ฮิมหัวเราะ ร่างสูงเดินมาดึงผมลุกขึ้นนั่ง “วันนี้น้องมีเรียน ไม่รีบไปครับ?”

“หมดอารมณ์จะเรียน” ผมตอบ กอดสะโพกพี่ฮิมเอาไว้แน่น “อยากให้ฮิมได้ดูน้องจริงๆ นะ”

คนตัวสูงเงียบไป ก่อนที่เขาจะเชยคางผมขึ้น จ้องเข้ากับนัยน์ตาคมที่มองนิ่ง

“อันที่จริงพี่ดีใจนิดหน่อย ที่จะไม่ได้เห็นเลในวันนั้น” มือหนาไล้ไปตามโครงหน้า ลูบวนเบาๆ ตรงแก้มนุ่ม“น้องต้องสวย… มากแน่ๆ”

ผมยิ้มรับ “ไม่ดีเหรอ”

“ไม่ครับ” เขาโน้มกายลงคร่อมทับให้ผมนอนราบลงเตียงอีกครั้ง ใบหน้าเข้าไซร้ที่ลำคอแรงๆ จนรู้สึกจั๊กจี้ “พี่ก็จะคลั่งไง”

“ฮ่าๆ พี่ฮิม”

“ถ้าเลสวยกว่านี้ พี่ต้องจับน้องขังเอาไว้ไม่ให้ใครได้เห็น”

“ฮิมพอก่อนน” เขาหยุด ฮิมจ้องหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเบา

“เพราะแค่นี้พี่ก็หลงน้องจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ”

“เหรอ” ผมลากเสียงยาวจนพี่ฮิมหัวเราะ เขาก้มลงจุ๊บปากเลเบาๆ ก่อนเราจะเงียบอีกครั้ง ผมเลื่อนมือขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง แทรกไปตามเส้นผมแล้วนวดคลึงกลุ่มผมสีดำสนิทจากทางด้านหลังให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลาย “พี่ฮิมของน้อง”

“อืม”

“เสียดายจังเนาะคราวนี้” ว่าอย่างปลงตก “เลซ้อมหนักเพราะอยากให้ฮิมเห็น แต่พี่ฮิมไม่อยู่ดูอย่างนี้ก็แย่เลยสิ”

“ค่อยมาโชว์ให้พี่ดูคนเดียวก็ได้”

“แสดงหลีดมันต้องทำเป็นทีมมันถึงจะสวย”

“บนเตียง” ผมชะงัก ดูจากรูปประโยคแล้วเนี่ยเหมือนพี่ฮิมจะพูดคนละโชว์กับเลนะ “นั่งอยู่บนตักพี่ แล้วก็ขยับสะโพกเล”

นัยน์ตาคมไล่มองจนผมต้องกัดปาก เขามองเหมือนเลกำลังเปลือยทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงเสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบ และแค่ใช้สายตา ผมก็รู้สึก… ร้อนแล้ว

“ได้” เผลอตอบรับไปโดยไม่รู้ตัว

ฮิมบอกว่าหลงผมแต่ไม่รู้เลยว่าผมก็หลงเขาเหมือนกัน

พี่ฮิมเหมือนสารเสพติด พอได้เสพก็เริ่มที่จะขาดไม่ได้ ขาดแล้วต้องลงแดงจะเป็นจะตาย

ริมฝีปากบางกำลังขบยอดอกผ่านเนื้อผ้า ผมกัดริมฝีปาก เผลอขย้ำกลุ่มผมนุ่มด้วยความไม่รู้ตัว

“ต่ำกว่านี้อีกเลว่าดีไหม” เสียงแหบพร่าถาม ริมฝีปากค่อยๆเคลื่อนตัวลงต่ำไปถึงช่วงหน้าท้อง

“อื้อดี ดีจัง”

แต่หลังจากนั้นก็…

พรึบ!

“งั้นเอาไว้พี่กลับมาจากอังกฤษก่อน” และพี่ฮิมก็ผละไปแบบเฉยๆ เป็นครั้งที่สอง ส่วนผมดิ้นพล่าน ตีมือลงบนแขนแกร่งสะเปะสะปะ รู้สึกจะลงแดงตายแล้วจริงๆ

“พี่ฮิมบ้า!” มาทำให้อยากแล้วก็เอาไว้ให้ค้างน่ะ โรคจิต!

“หึ” เขาหัวเราะในลำคอ ร่างสูงนั่งลงบนเตียง ก่อนเริ่มพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “คนดี วิศวะสัมพันธ์พี่จะให้คนคอยดูน้องนะครับ”

ผมเลิกดิ้น แม้จะยังนอนหอบหายใจพร่าอยู่ที่เดิม ฮิมว่าต่อ “มันอาจจะอึดอัด แต่เข้าใจพี่หน่อยนะครับ พี่ไม่ได้อยู่ด้วย...”

“...”

“เป็นห่วงนะ”

เลเม้มปาก ยันตัวขึ้นมานั่งดีๆ แล้วพยักหน้าตอบรับ เรื่องนี้แค่ฟังเสียงก็รู้แล้วว่าพี่ฮิมจริงจัง

คนตัวสูงยังทำหน้าเหมือนเป็นห่วงอยู่ พี่ฮิมเข้ามากอดผมเอาไว้แน่น เสียงหัวใจฮิมเต้นแรงจนสัมผัสได้เลย

“อือ เลจะพยายามอยู่ใกล้ๆ พวกพี่ๆ นะ”

“ดีแล้ว” ทางนั้นถอนหายใจ จากนั้นเราก็มองหน้ากัน ผมเป็นฝ่ายขยับเข้าให้ก่อน แนบริมฝีปากบางเบาเข้ากับของอีกคน แค่ทาบพร้อมกับดูดดันเป็นการส่งผ่านความรู้สึกแล้วถอยออก ก่อนจะยิ้มให้ มือหนาขยี้ศีรษะผมเบาๆ “วันนี้เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“ไม่เอา ฮิมจะไปไหนก็ไป”ปฏิเสธพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าที่ต้องเอาไปมหา’ลัยด้วย วันนี้มีเรียนแค่ 2 ชั่วโมง แต่ซ้อมน่ะเกือบทั้งวัน

“ไล่เลย”

“ก็ทำน้องอะ” ค้างตั้ง 2 รอบ

“ไม่ต้องห่วง  รอพี่กลับจากอังกฤษ”

“เหรอ”

“ทบต้นทบดอกเลยดีไหม”

“จ้ะๆ” เลพยักหน้ารับ แต่เหมือนพีฮิมจะไม่ยอมเพราะในขณะที่ผมจะเดินออกไป ร่างสูงก็ตามเข้ามากอดจากทางด้านหลัง

“อย่าแสดงให้คนอื่นจนแรงหมดนะครับ เพราะถ้าพี่กลับมาเมื่อไหร่น้องคงจะไม่ได้นอน”

“พี่ฮิม” ผมหันหน้าไปมองอีกฝ่ายอย่างหวาดๆ ก่อนจะรีบวิ่งลงบันไดมาถึงอย่างนั้นก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะตามหลัง จนพี่รพ พี่ไทด์ พี่วินที่ดูจะยังกินข้าวไม่เสร็จถึงกับหันมาถาม

“เล่นอะไรกัน”

“ไม่รู้!”

ไม่คุยด้วยแล้ว!!





หลังจากนั้นผมก็ขับรถไปมหา’ลัย เรียนแค่สองชั่วโมง ต่อจากนั้นทั้งหมดคือซ้อมหลีด ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม

วันต่อมาพี่ฮิมก็ขึ้นเครื่องไปอังกฤษ เลไม่ได้ไปส่งที่สนามบินเพราะยุ่ง ร่างสูงดูเหมือนจะเป็นกังวล เขากำชับให้ผมถือโทรศัพท์และพยายามรับสายของอีกฝ่าย

คณะวิศวกรรมศาสตร์ของเราดูเหมือนจะเริ่มคึกคักขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่อาทิตย์ก่อน เพราะตอนค่ำไม่ได้มีแค่หลีดที่อยู่ซ้อมใต้ตึกอีกต่อไป ยังมีพี่ๆ คนอื่นมานั่งทำงานกันอยู่เต็มไปหมด ส่วนใหญ่ทำพวกอุปกรณ์ที่เอาไว้เดินขบวนพาเหรดและอื่นๆ นักกีฬาก็ซ้อมกันจนถึงดึกดื่น ถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง ยามไล่ มหา’ลัยปิดแต่คนที่ยังไม่กลับก็มี ผมเห็นพี่และเพื่อนบางคนนอนที่ใต้ตึกวิศวะเลยด้วยซ้ำ ทำงานหนักข้ามวันข้ามคืนกันจริงๆ

ส่วนผู้นำเชียร์เราไม่จำเป็นต้องช่วยอะไรในส่วนนั้น พี่นนท์นี่บอกว่าการเป็นหลีดมันเป็นงานใหญ่และหนักอยู่แล้ว อีกทั้งทุกคนก็เข้าใจ ผมจึงไม่ได้ไปมีส่วนร่วมในการทำอย่างทำอื่นนอกจากซ้อมและซ้อม แต่ถึงอยากไปช่วยคนอื่นทำอย่างอื่นก็หาเวลาปลีกตัวไม่ได้อยู่ดี เราซ้อมหนักกว่าเดิมมาก พี่คุมผู้นำเชียร์รวมถึงพี่รหัสของผมเข้าสู่โหมดโหดอย่างจริงจัง ชนิดที่ว่าใครทำท่าผิด ก็ให้เริ่มใหม่หมด

อ้อ! คณะอื่นก็มาช่วยทำนะครับ ถึงจะบอกว่าเป็นงานของวิศวะเท่านั้น แต่งานนี้ก็ถือว่าเป็นงานใหญ่ซึ่งสามารถเป็นหน้าเป็นตาให้กับมหา’ลัย ดังนั้นเราจะด้อยกว่ามหา’ลัยอื่นไม่ได้ จึงมีคนจากคณะอื่นเข้ามาช่วยบ้าง เลได้รู้จักคนอื่นเยอะขึ้น มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปเยอะขึ้นด้วย พี่ๆ ในบ้านที่ช่วงนี้เริ่มมาซ้อมบอลทุกวันเหมือนจะรู้ ก็เลยเรียกสามสหาย เกี๊ยก ดิน พิษ มาคอยดูผมตั้งแต่วันนั้นเลย

รู้สึกเหมือนแต่ละวันผ่านไปเร็วมาก ยิ่งใกล้ถึงวันก็ยิ่งตื่นเต้น ผมนอนแทบไม่หลับ ไปนอนกับพี่วินก็ไม่หลับ ต้องให้พี่ฮิมโทรคุยกล่อมถึงจะหลับลง กลางวันผ่านกลางคืนพ้นไป จากเหลือสามวัน ลดไปเป็นสอง จนเหลือแค่หนึ่ง และในที่สุด วันที่ผมรู้สึกตื่นเต้นที่สุดในชีวิตก็มาถึง



วิศวะสัมพันธ์
เริ่มต้นขึ้นแล้ว!



(100%)


เปิดศักราชใหม่สักที เรารอคอยวันนี้มานานมากค่ะ 555555555
 :hao5: :hao5:



ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ ในทวิตเตอร์

คอมเม้นท์หรือบวกเป็ดให้จะขอบคุณมากค่ะ



หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 03-05-2018 15:26:37
ฮิมต้องกลับมาดิ ต้องกลับมาแน่ๆ
ห่วงออกปานนี้ ...
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-05-2018 16:32:01
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 03-05-2018 17:20:55
เสียดายแทนพี่ฮิม ถ้าจะมาไม่ทันดูน้องเลแสดง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-05-2018 19:57:24
พ่อพี่ฮิมสุดยอด น่ารักเวอร์  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 03-05-2018 21:40:42
ครอบครัวยอมรับ...ก็เบาใจได้แล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-05-2018 01:19:55
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-05-2018 02:40:31
พ่อฮิม กับ เล พูดกันคนละภาษาหรือเปล่านะ งงฮิ  :ruready
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 04-05-2018 03:05:59
ฮิม .. ห่างไปไกล
"เด็กปั๊ม" เข้ามาใกล้
เรื่องจะวนเวียนไปเหมือนช่วง "อิน" เข้ามามั้ยน้อ?

เดี๋ยวเขียนจบแล้ว ค่อยกลับมาอ่านนะคะ
อ่าน ๆ หยุด ๆ แล้วกลับมาอ่านต่อ ... 3 รอบแล้วค่ะ
เหมือนเรื่องราวไม่เคลื่อนที่เท่าไหร่
แค่ "ฮิม-เล" "พูดกันชัดเจน" ขึ้นเท่านั้น นอกนั้นเหมือนวน ๆ เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 04-05-2018 08:41:36
ขอบคุณค่ะ คนเขียนน่ารักจังมาต่อให้อย่างเร็ว +1 ซะเลย o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: LAFIA ที่ 04-05-2018 12:30:57
เมียสวยต้องทำใจนะเฮีย ยิ่งแต่งหลีดครบชุดหน้าพร้อม เสือนอกกรงเตรียมขย้ำแน่นอน
ตอนนี้ ตอนวิศวะสัมพันธ์ก็อยากอ่านนะ แต่อยากอ่านเฮียกลับจากอังกฤษมาทบต้นทบดอกน้องมากกว่า ทำค้างดีนัก อยากเห็นน้องควบ หึหึ :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 04-05-2018 15:51:45
เสียดายยย พี่ฮิมอดดูน้องงง แงงง พี่เค้าต้องคลั่งแน่ๆถ้าเห็นน้อง น้องต้องสวยมากจริงๆแน่ๆ  :ling3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-05-2018 08:40:56
จะมีอะไรเซอไพรส์มั๊ยน้า   :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 05-05-2018 12:11:13
ดีนวินมีมั้ย555555  //กราบ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 05-05-2018 15:25:19
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 05-05-2018 23:14:04
อยากให้ฮิมกลับมาทันจัง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 06-05-2018 19:49:09
ชอบเรื่องนี้มากกกกกเลย..พี่ฮิมนาจะได้ดูน้องแสดงแต่ถ้าพี่ฮิมกลับมาเลไม่ได้นอนแน่ๆ5555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 07-05-2018 03:02:10
งือ ๆรู้สึก เดียวมีเรื่องแน่เลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030518#33 p.45
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 10-05-2018 11:07:40
  สนุกมากกกกก...กค่ะ อ่านรวดเดียวยาวเลยชอบมากๆค่ะ อยากอธิบายความรู้สึก
แต่อธิบายไม่เก่งกลัวคนเขียนอ่านแล้วงง สรุปง่ายๆคือชอบมากๆๆ...ๆค่ะ ขอบคุณสำหรับ
นิยายสนุกๆนะคะ  :mew1: :mew1: :mew1:
  **รอตอนต่อไปค่ะ**
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 11-05-2018 13:46:12


#34 (30%)





วันที่ 1

ตื่นเต้นมาแทบตาย แต่พอวันงานจริงๆ ผมกลับต้องมานั่งแกว่งเท้าเล่นอยู่ใต้ตึกคณะขนาบข้างสามหนุ่มอย่างเกี๊ยก ดิน พิษที่ตามติดประหนึ่งเรามีเชือกมาผูกติดกันเอาไว้ตั้งแต่เช้า น่าเบื่อ น่าเบื่อจริงๆ

“ทำไมมันน่าเบื่ออย่างนี้ล่ะ” ผมหันไปถามดิน ซึ่งเจ้าตัวเองก็กำลังทำหน้าไร้อารมณ์อยู่เหมือนกัน

วิศวะสัมพันธ์ที่ผมคิดเอาไว้ในตอนแรกคือมันต้องแบบว้าว ว้าวเลย แต่นี่วันแรกกลับเงียบเหงามาก มากแบบมากกกกก มีคนจากมหา’ลัยอื่นเข้ามาเพิ่ม แต่ส่วนใหญ่จะเป็นนักกีฬา แต่มันก็ยังไม่ได้คึกคักอย่างที่เลคิดอะ ก็คาดหวังเอาไว้สูง แต่พอพบว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็เลยเฟลหน่อยๆ

“วันแรกก็แบบนี้แหละ” เกี๊ยกตอบคำถามผม “วันแรกแข่งกีฬาอย่างเดียว พาเหรดไม่มี หลีดไม่มี แข่งกีฬาก็ไม่ใช่รอบชิงชนะเลิศคนก็เลยไม่ค่อยให้ความสนใจ”

เป็นอย่างที่เกี๊ยกว่าสาเหตุที่ทำให้ผมต้องมานั่งแกว่งขาเล่นก็เพราะวันนี้มันมีแต่แข่งกีฬาอย่างเดียวนี่แหละ ทั้งแสดงผู้นำเชียร์ ทั้งกีฬารอบชิงชนะเลิศ รวมถึงพิธีเปิดจริงๆ ก็เอาไปอยู่ในวันที่สองจนหมด คือกีฬาน่ะเริ่มแข่งแล้วนะ (ยกเว้นฟุตบอลที่เป็นกีฬายอดนิยม จะแข่งทั้งหมดในวันที่สอง) แต่พิธีเปิดอยู่ในวันสุดท้าย เห็นคนอื่นบอกว่าเขาอยากให้เปิดกับปิดอยู่ในวันเดียวกันวันแรกก็เลยยังไม่มีอะไรที่น่าสนใจ

ขนาดพี่ๆ ในบ้านยังไม่มาเลยอะ มีแค่พี่วินที่มาเพราะพี่ปู่รหัส (ลืมยังว่าพี่วินเป็นสายรหัสเล) เป็นประธานหรือหัวหน้า เรียกว่าอะไรสักอย่างแต่เอาเป็นว่าพี่วินใหญ่สุด สามารถออกคำสั่งได้

“พรุ่งนี้นู้น พวกใหญ่ๆ ถึงจะมา”

“อ๋อ” ผมขานรับแล้วถอนหายใจ วันนี้อากาศร้อนมาก ร้อนจนผมเริ่มรู้สึกแสบผิว อันที่จริงผมโดนพี่คุมซ้อมบอกเลยว่าวันแรกให้เก็บตัวพักผ่อนอยู่ที่บ้าน อย่าพยายามออกแดดเดี๋ยวผิวเสีย ไม่ออกเลยยิ่งดี “ร้อนจัง”

“ไปคอนโดกูไหม” ดินเสนอซึ่งคนอื่นล้วนพยักหน้าเห็นด้วย แต่ผมเม้มปากแล้วส่ายหน้า เห็นดังนั้นพวกที่เหลือจึงได้แต่ถอนหายใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

เลไม่อยากไปนั่งหรือนอนอยู่เฉยๆ อะ!

“ไปดูกีฬากันอีกดีไหม” ตอนเช้าก็ไปดูมานะ แต่ก็ไปแปปเดียวแวบเข้าดูนั่นนี่แล้วก็เดินออกมา มันร้อนอะ

“เที่ยงแล้ว น่าจะหยุดแข่งพอดี อยากดูอีกคงต้องรอตอนบ่าย” ผมถอนหายใจ ความอยากอยู่ต่อเริ่มใกล้จะหมด จนกระทั่งบังเอิญเห็นร่างของใครบางคนในชุดเสื้อช็อปสีแดงยืนอยู่ไกลออกไป ผมตัดสินใจวิ่งไปหาเขาทันที

“พี่วิน!!!” ตะโกนด้วยวิ่งด้วยโบกมือไปด้วย จนเจ้าของชื่อที่กำลังยืนคุยกับใครสักคนอยู่หันมามองแล้วขมวดคิ้ว ผมถูกมือหนายกขึ้นห้ามตอนกำลังจะเข้ากอด หลังจากที่พี่วินคุยงานกับคนข้างๆ และอีกฝ่ายเดินจากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วร่างหนาจึงหันมาดุผม

“อย่าพึ่งกวน พี่ทำงานอยู่”

ฟังแล้วก็ต้องทำหน้าหงอยลง “เลไม่มีที่ไปแล้ว”

“กลับบ้าน”

“ไม่อยากกลับ พี่วินจะไปไหนต่อ”

“ไปเช็คงานที่ตึกปีสี่” ผมทำตาโตใส่ทันที “จะไป?”

“อื้อ!” เขาทำหน้าเหมือนไม่ไว้วางใจที่จะให้เลไปด้วย แต่สุดท้ายก็ยอม

“ตามมาดีๆ”

“โอเค” จากนั้นผมก็เดินตามหลังพี่วินไปติดๆ (โดยมีพิษ ดิน เกี๊ยกตามหลังผมมาอีกที) เขาพาผมไปที่ตึกของปีสี่ที่ยังสวยและดูอลังการเหมือนเดิม เดินเข้าตึกแล้วก็ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสาม พี่วินจูงมือผมมาหน้าห้องๆ หนึ่ง เปิดประตูเข้าไปปุ๊บแอร์เย็นฉ่ำก็กระแทกใส่หน้า สิ่งต่อมาที่เห็นคือคนที่อยู่ด้านใน

“โอ้ยยย น้องเลมา”

“น้องเลน่ารักจังเลยครับบบบบบ”

ผมยิ้มรับเสียงเรียกที่ตะโกนมาพร้อมกับขยับไปอยู่ด้านหลังพี่วินเล็กน้อย เพราะทั้งห้องเต็มไปด้วยรุ่นพี่ รุ่นพี่และรุ่นพี่นับร้อยกว่าคนจะได้ ทุกคนกำลังนั่งทำงานกันทั้งนั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเดินพาเหรดในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเห็นแล้วก็ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอีก

พี่วินจัดให้ผมนั่งเก้าอี้ตรงใกล้ๆ ประตูทางออก ส่วนเขาก็เดินตระเวนดูและถ่ายไปทั่ว ผมได้นั่งอยู่เฉยๆ เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือมีแอร์เย็นฉ่ำ สามหนุมข้างกายก็คล้ายว่าหงุดหงิดน้อยลงกว่าเดิม

“น้องเลคะ พี่ขอถ่ายรูปได้ไหม”

“หือ เล เลดูไม่พร้อมเลยนะ” ผมอยู่ในชุดเสื้อยืดทำขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ สีชมพูอ่อน สกรีนคำว่า ‘วิศวะสัมพันธ์ 20xx’ กับกางเกงขายาวสีเทาและรองเท้าผ้าใบธรรมดา ผมก็มัดจุกเฉียงไปข้างๆ ไม่ให้ปรกหน้าผากแบบลวกๆ

“น้องเลหน้าตาดีอยู่แล้วค่ะ” พี่เขาว่าก่อนจะยืนขนาบข้าง ยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดถ่ายแซะ! จากนั้นก็หันมาขอบคุณผมแล้วก็เดินจากไป

ผมนั่งอยู่เฉยๆ ต่อไปอีกประมาณสิบนาที ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืนเป็นเวลาเดียวกันกับที่ประตูห้องเปิดออก และคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่ช่วงนี้เริ่มจะเจอบ่อยๆ ก็เดินเข้ามา แหน่ะ เจอพี่ซันอีกแล้ว

ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องก่อนที่เลจะเดินต่อท้าย ผมไม่ได้เดินตามหลัง แค่จุดหมายที่เราจะไปหาในห้องนี่น่ะมันอยู่ใกล้ๆ กัน

“พี่ตี๋!!” ผมเรียกชื่ออีกฝ่าย จำพี่ตี๋ได้ไหม ลูกชายเฮียขาว เจ้าของร้านโจ๊กชายสี่ตรงหัวมุมตลาด ไม่ได้กินโจ๊กมาหลายเดือนเลย คิดถึง “พี่ตี๋ๆๆ”

“อ้าว น้องเล” ใบหน้าขาวเงยขึ้นมองแล้วทำเบิกตากว้าง “มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

“เข้ามาตั้งนานแล้วไม่เห็นเลเหรอ” ผมหันหน้าไปมองคนข้างๆ พี่ตี๋ “พี่บอมเป็นไงบ้าง”

“...” พี่บอมมอง

“พี่บอมทำไมไม่ตอบ”

“...”

“พี่บอม” อีกฝ่ายทำหน้าหนักใจก่อนจะยอมคายคำพูดออกมาเสียงเบา

“บอสสั่งไม่ให้พี่พูดกับน้องเล”

“หา?” ผมขานรับ ว่าจบพี่บอมก็เงียบเหมือนจะไม่อยากพูดออกมาอีก ผมไม่บังคับให้พี่บอมพูดต่อ ได้แต่มองรอบกายของพี่ๆ ทั้งสองที่เต็มไปด้วยสิ่งของมากมายก่อนจะถาม “ทำอะไรกันอยู่ให้เลช่วยไหม”

“ตัดฟิวเจอร์บอร์ดเป็นรูปหัวใจครับ ได้เลช่วยทำก็ดี มันเยอะมากเลย” พี่ตี๋ว่าพร้อมกับส่งอุปกรณ์มาให้ ผมพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะลงมือวาดรูปหัวใจแล้วใช้กรรไกรตัดตามรอยพร้อมกับเกณฑ์สามสหายมาทำด้วย ทำหัวใจได้แค่ห้าดวงความสนใจของผมก็เปลี่ยนอยู่กับกลุ่มของพี่ซันที่นั่งอยู่ไม่ไกลกันนัก

เขากำลังเล่นเกมอะไรกันก็ไม่รู้ในไอแพด ผมชะโงกหน้าเข้าไปมองทีละนิด มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่ซันหน้ามามองผมเพราะว่าผมขยับเข้ามาใกล้เขาจนกับจะติดกัน

“มึงมีอะไร” เขาถาม

“อเลยากดู” ผมบอก ก่อนที่อีกฝ่ายจะหันหน้าไปให้ความสนใจกับเกมตรงหน้าดังเดิม

หมากรุก

พี่ซันกำลังเล่นเกมหมากรุกในไอแพด เหมือนจะเล่นกับผู้เล่นคนอื่นอยู่ รอบแรกเขาชนะ รอบสองผ่านไปก็ชนะ รอบสามเปลี่ยนไปเป็นกับเอไอ (ประมาณว่าเล่นแข่งกับระบบ) ใช้เวลานานนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ขึ้น

WIN!

ผมอ้าปากค้าง ชนะระบบได้เลยนะนั่น!

“พี่ซันเล่นหมากรุกเก่งจัง”

“มันเล่นมาตั้งแต่เด็กๆ ละ” ผมเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่นั่งตัดอะไรสักอย่างอยู่ หน้าเขาคุ้นๆ จำได้ว่าเป็นพี่ว้าก แต่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร “พี่ชื่อเอกครับ”

“อ้ออ พี่เอก” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น รายชื่อคนโทรเข้าทำเอาเสียวสันหลังวาบ ผมผละตัวจากพี่ซันและพี่เอกก่อนหลังจากนั้นจึงกดรับ

“พี่นนท์นี่…”

(น้องเลทำไมหนูไม่อยู่บ้านล่ะค่ะลูกกก พี่บอกแล้วยังไงคะว่า...) พี่รหัสผมสาธยายอีกยาวเหยียด จนคนฟังได้แต่ทำหน้าแหย่พร้อมกับถามกลับ

“รู้ได้ยังไงว่าเลออกมาด้านนอก”

(มีคนขอถ่ายรูปหนูแล้วอัพขึ้นไอจีเมื่อกี้นี้เองค่าา) ผมถอนหายใจ ไม่ต้องเดาเลยว่าใคร ก็น่าจะเป็นพี่ผู้หญิงที่ขอถ่ายรูปกับผมเมื่อไม่นานมานี้ (รีบกลับบ้านนะ ยิ่งทำตัวให้ลึกลับยิ่งมีแต่คนอยากมาดูเรามากขึ้นนะคะ)

“ทราบแล้วครับ” ผมว่าเสียงอ่อน

(น้องเลกลับบ้านไปนอนตอนนี้เลย พรุ่งนี้ต้องตื่นมาแต่งหน้าตอนตีสามนะคะลูก เดี๋ยวง่วงนะ)

“โอเค เลจะกลับแล้ว”  ผมฟังพี่นนท์นี่พูดอะไรอีกนิดหน่อยก่อนจะกดตัดสาย จากนั้นจึงส่งสายตาไปให้สายสหายในเชิงว่าต้องไปแล้ว พวกเขาลุกขึ้น เลลุกตาม แต่ในจังหวะที่ลุกบังเอิญไปเห็นหัวใจที่ตัวเองตัดเสร็จเลยหยิบขึ้นมาอันหนึ่ง ล้วงโทรศัพท์กดเข้าไอจีที่ไม่ได้เข้ามานานแสนนานแล้วถ่ายรูปหัวใจลง Story ใส่แคปชั่นว่า‘luv luv’



แฮชแท็ก #เลเล่เล้เล๊เล๋

@ggin คนสวยอัพไอจี ฮืออออออออออ ; – ;

@capcher จาดู จาดู จาปายยยยยยยยดู

@jaysonkung อัพเดทตารางเลนะ ครั้งแรกเดินขบวน (เปิดงานประมาณ 8-9 โมง) ครั้งที่สองโชว์หลีด (จัดเต็มชุดใหญ่ไฟกะพริบ) ยังไม่รู้เวลาที่แน่ชัดรู้แต่ช่วงเย็นๆ

@manguy เข้ากรุงเทพมาดูน้องเลเลยครับ จะเจอให้ได้

@3ee468 ใจเต้นตุ๊บๆ เลย เลจะสวย สวย สวยมากแน่ๆ

@restna รู้สึกจะเห็นความวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ กลัวคนทำเลเจ็บ ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดี อย่ารุมน้อง อย่าถึงตัวน้องเลยนะคะ



บ้าน

17.30 น.

ครืด ครืด

ผมที่พึ่งเดินออกมาจากห้องหยิบโทรศัพท์ยกดู พอเห็นว่าใครโทรมาก็ยิ้มพร้อมกับยกแนบติดหู

(เป็นไงบ้างครับ)

“พี่ฮิม” ผมพูดชื่อปลายสายค้างเอาไว้ ขณะล้มตัวลงนอนบนเตียง “มีอะไรเหรอ”

(คิดถึง) ฟังต่อไป (ทำอะไรอยู่)

“กำลังจะนอน”

(หือ ทำไมวันนี้นอนเร็วจัง)

“พรุ่งนี้ต้องตื่นไปแต่งหน้าตอนตีสาม นอนเผื่อ”

(เหรอครับ)

“พอดีเลย กล่อมเลหน่อยสิ” ผมแนบใบหน้าข้างหนึ่งเข้ากับหมอน ซุกตัวอุ่นอยู่บนที่นอน แล้วหลับตาคอย

(อยากฟังอะไร)

“อะไรก็ได้”

(พี่ร้องเพลงกล่องดีไหม)

“หือ” ผมลืมตาขึ้น “เหมือนตอนเด็กนะเหรอ”

(เอาเพลงอะไรดีครับ)

ผมเม้มปาก ตอนเด็กน่ะพี่ฮิมก็เคยร้องเพลงเด็กกล่อม เพลงโปรดผมคือ twinkle twinkle little star แต่ถ้าจะให้พี่ฮิมร้องเพลงนี้ให้ฟัง คิดภาพตามแล้วมัน

“คิ!” ขำอะ!

(เล? ขำเหรอ)

“ฮือ คิดภาพพี่ฮิมร้องเพลงกล่อมเด็กแล้วมันตลกอะ ขอเพลงธรรมดาได้ไหม” พี่ฮิมเงียบไป แต่หลังจากนั้นเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นเป็นทำนองอย่างที่ผมขอ



The other night dear, as I lay sleeping

I dreamed I held you in my arms



You are my sunshine ของ Johnny Cash ฉบับพี่ฮิมเริ่มต้นด้วยจังหวะช้า เสียงของฮิมทุ้ม ฟังสบายและเพราะ ผมหยิบโทรศัพท์มาตั้งนาฬิกาปลุกตอนตีหนึ่งครึ่งเพราะมีแววว่าจะเผลอหลับ จากนั้นจึงหลับตาซึมซับเสียงกล่อมที่ดังคลออยู่ในหู



But when I awoke, dear, I was mistaken

So I hung my head and I cried



You are my sunshine, my only sunshine

You make me happy when skies are gray

You'll never know dear, how much I love you

Please don't take my sunshine away



You told me once, dear, you really loved me

And no one else could come between

But now you've left me and love another

You have shattered all of my dreams



You are my sunshine, my only sunshine

You make me happy when skies are gray

You'll never know dear, how much I love you

Please don't take my sunshine away



In all my dreams, dear, you seem to leave me

When I awake my poor heart pains

So when you come back and make me happy

I'll forgive you dear, I'll take all the blame



You are my sunshine, my only sunshine

You make me happy when skies are gray

You'll never know dear, how much I love you

Please don't take my sunshine away

.

Please don't take my sunshine away



(คนดี)

“...”

(หลับแล้วเหรอ)

“...”

(ฝันดีครับ)






(30%)





เราชอบแต่ง mood แบบนี้มากเลย ละมุ่นดี

ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์





ลงเพลงในธัญวลัยไม่เป็น  ไปฟังตามชื่อคลิปได้ค่ะ

You Are My Sunshine (Lullaby Version) - The Hound + The Fox



หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 11-05-2018 14:16:41
พี่ฮิม ไม่กลับมาจริงเหรอ
ขออย่ามีอะไรรุนแรงกับน้อง
พี่ๆ เอาให้อยู่นะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 11-05-2018 14:31:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 11-05-2018 16:11:17
วันที่2คงมีคลื่นมหาชน

แพ้คำว่าพี่ของพี่วิน เขินนนนนน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-05-2018 16:16:14
รอดูเลเป็นลีด  :ped149:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 11-05-2018 16:29:20
งื้ออออ  น้องเลน่ารัก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: meeouan ที่ 11-05-2018 17:32:03
 :-[อยากให้พี่คิมมาดูน้องจังเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 11-05-2018 20:06:12
รอๆๆ อยากรู้จะมีอะไรตื่นเต้นไหมลุ้นๆ รึอิพี่จะกลับมาเซอร์ไพรส์
 :mew1: :mew1: :mew1:
**รอส่วนที่เหลือค่ะ**
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-05-2018 23:01:11
พี่จะกลับมาเซอไพรส์น้อง หรือจะมีคนไลท์สดน้องให้พี่ลงแดง  คริ คริ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 12-05-2018 00:10:55
มาแล้วดีใจจังเลยมาต่ออีกเร็วๆนะคะรอๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-05-2018 08:22:19
ละมุน~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 12-05-2018 11:17:19
งื้อออพี่วินน เขินจังง ดาเมจรุนแรง
พี่ฮิมละมุนจริงๆ อบอุ่นอ่อนโยนนน คิดถึงน้องมั้ยย อิอิ
ขออย่าดราม่าอีกเลยนะะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 13-05-2018 07:19:47
งืออออ รักในการร้องเพลงของคนพี่อ่าา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 23-05-2018 09:26:19
คนดี ใจละลาย คนดีๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 23-05-2018 10:43:03
อ่านรวดเดียวเลยอะ สนุกมากกกกกกก มาต่อเร็วๆนะคะ มีความแพ้พี่ฮิมแบบรุนแรง  :katai1:

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 23-05-2018 23:25:00
มาติดตามน้องเลลลลล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110518#34(30%) p.46
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 03-06-2018 15:27:33


#34 (100%)



วันต่อมา

8.00 น.

ร่างสูงสวมเสื้อช็อปสีดำเดินลงจากรถ ดีนมีแววหงุดหงิดเพราะพึ่งได้ที่จอดรถหลังจากวนหาอยู่เกือบสามสิบนาที นัยน์ตาคมหันไปมองเพื่อนที่เดินตามหลัง ฟาร์กำลังคุยโทรศัพท์อยู่

“พวกกูมาถึงแล้ว มาถึงตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง วนหาที่จอดอยู่ไอ้สัส มึงอยู่ไหน? สนาม โอเคเจอกัน”  เจ้าตัวกดตัดสายแล้วหันมาบอกเขา “พวกมันรออยู่สนาม”

“เออ” ดีนขานรับก่อนจะออกเดิน เขามองไปรอบๆ เสื้อช็อปหลากสีจากหลายสถาบันปะปนกันเดินว่อนไปหมด

ร่างสูงเดินมาถึงจุดหมายเป็นเวลาเดียวกันที่พิธีเปิดเริ่มพอดี

“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานกีฬา วิศวะสัมพันธ์ปี 20xx ครั้งที่ 29 จัดให้เพื่อมีเป้าหมายสร้างความสมานฉันท์ความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกันของชาววิศวะค่ะ เข้าร่วมทั้งหมดห้าสถาบันด้วยกัน จากทางทิศออกตกเหนือใต้และกลางซึ่งเป็นได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานวิศวะสัมพันธ์ครั้งที่ 29 ในปีนี้ค่ะ”

“ครับ จะเห็นได้ว่าเสื้อช็อปซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของวิศวะในวันนี้มีหลากสีปะปนกันเลยนะครับ แดง ดำ เขียว น้ำตาล และน้ำเงิน สีไม่ซ้ำกันเลย เพื่อเรียกให้ง่ายขึ้นดังนั้นเราจะใช้สีเสื้อแทนการเรียกชื่อมหา’ลัยนะครับ สำหรับกีฬาสุดฮอตอย่างฟุตบอล ในวันนี้ก็คงต้องมาลุ้นกันแล้วนะครับว่าสีไหน มหา’ลัยไหนจะได้เป็นที่หนึ่ง ซึ่งแชมป์ของปีก่อนได้แก่สีเขียวครับ”

“ค่ะ ภายหลังพิธีเปิดเสร็จสิ้นสนามนี้ก็จะกลายเป็นสนามแข่งเลยนะคะ จากการจับฉลาก คู่แรกสีดำแข่งกับสีน้ำตาล คู่สองสีแดงแข่งสีน้ำเงิน สีเขียวเป็นแชมป์ปีก่อนได้สิทธิ์รอบแรกไม่ต้องลงแข่ง เหลือสามทีมสุดท้ายจะเป็นการแข่งกันทั้งสามทีมสลับกันจำนวน 3 คู่เพื่อเก็บคะแนน ทีมไหนได้คะแนนมากกว่าก็เป็นผู้ชนะไปค่ะ ดังนั้นการแข่งขันฟุตบอลในวันนี้นะคะจึงจะมีทั้งหมด 5 คู่ด้วยกัน”

“ระยะเวลาการแข่งขันเพื่อความรวดเร็วนะครับ จะใช้เวลา 60 นาทีต่อหนึ่งคู่ ครึ่งละ 30 นาที พักครึ่ง 15 นาที ในการพักครึ่งรอบบ่ายช่วงเย็นๆ เห็นว่าอาจจะมีการแข่งขันผู้นำเชียร์ด้วยใช่ไหมครับ”

“ใช่แล้วค่ะ การแข่งขันผู้นำเชียร์นะคะ ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ชาววิศวะเราเท่านั้นที่สนใจ แต่นักศึกษาคณะอื่นหรือแม้แต่คนภายนอกเองก็ยังให้ความสนใจ ซึ่งถ้าอ้างอิงจากสถิตินะคะ การแข่งขันผู้นำเชียร์ สีแดงชนะมาแล้ว 3 ปีซ้อน ครั้งนี้ก็คงต้องมาลุ้นกันว่าจะชนะอีกหรือเปล่า หรือสีอื่นจะขึ้นมาแทนที่ค่ะ”

“ดูภาพจากบรรยากาศรอบด้าน แต่ละสีก็เริ่มจะเอาคนขึ้นแสตนด์เชียร์แล้วนะครับ ในตอนนี้เรากำลังรอขบวนพาเหรดซึ่งใกล้จะเดินทางมาถึงสนามกีฬาแห่งนี้”

“เฮ้ยดีน! มึงดูนั่นดิ” ดีนหันหน้าไปมองสิ่งที่คนข้างกายชี้ พอเห็นว่าเพื่อนชี้อะไรร่างสูงก็แสยะยิ้มมุมปากทันที “อริมึงไง”

ไอ้วิน

ใส่เสื้อช็อปสีแดง มันกำลังคุมงานอยู่ และยังทำหน้าเหมือนจะเครียดตลอดเวลาเหมือนเดิม ที่เขาเห็นแล้วออกจะรำคาญ ยิ่งเจอกันครั้งก่อนโดนมันท้าทายโดยการขนลูกน้องมากร่างใส่เขาถึงที่ แต่ตอนนั้นดีนวิเคราะห์เหตุผลที่มันยกพวกมากร่างแล้วพยายามเย็นใส่ เรื่องมันถึงจบไปแต่โดยดี ไม่อย่างนั้นล่ะก็ไอ้วินที่ทำตัวเหมือนอยากโดนตีนรุมขนาดนี้มันไม่ตายดีแน่

“ถามเหตุผลว่าทำไมมึงถึงไม่เล่นกลับมึงก็ไม่ยอมบอก งั้นกูถามใหม่ ตอนนั้นมันยกพวกมาหามึงเพราะอะไรวะ”

คนฟังทำหน้าไร้อารมณ์ก่อนจะตอบเสียงเรียบ “กูไม่ตอบไลน์มัน”

“...”

"..."

“จริงจังไหมมึง”

“เออ” วันนั้นพอส่งภาพตอนที่เขาอยู่กับเลไปให้แล้วดีนก็ไม่ได้ตอบอะไรอีกเพราะคิดว่ามันต้องโวยวาย แต่ดูเหมือนว่าหลังจากนั้นวินจะติดต่อกับน้องเลไม่ได้ มันถึงไม่รู้ว่าน้องแยกจากเขาไปกับฮิม เลคงไปไหนสักที่กับไอ้ฮิมโดยที่ไม่บอกวิน มันเลยขนลูกน้องมากร่างใส่เขาถึงที่เพราะคิดว่าน้องเลยังอยู่กับเขา แถมพอมาเปิดแชทดูทีหลังถึงได้รู้ว่ามันใช้ไลน์น้องเลรัวข้อความมาถามว่าเลอยู่กับเขาหรือเปล่าเกือบห้าสิบข้อความ และนั่นแหละ ถ้าเขาตอบไลน์ไอ้วินไปสักนิดว่าเลไม่ได้อยู่กับตัวเองบางทีเรื่องมันก็อาจจะไม่เกิดขึ้น

ในวันนั้นสำหรับคนในแก็งเขาแล้วทุกคนรู้สึกเหมือนถูกมันมาหยามถึงที่

เพื่อนเขาไม่พอใจ ลูกน้องเขาไม่พอใจ แก็งเขาไม่มีใครพอใจที่ดีนปล่อยมันไปโดนที่ไม่ทำอะไรเลย แต่ดีนมีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่เล่นมันกลับ

วินเป็นห่วงน้องเล ห่วงมาก ก็ถึงขนาดที่ไม่กลัวตีนแล้วมาโวยถึงถิ่นคนอื่น น่าแปลกที่ดีนก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน เขาชอบเลมากและเป็นห่วงมากเช่นกัน มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาเองโดยฉับพลันแบบที่เขาอธิบายไม่ได้ และแค่เหตุผลของมันดันมาตรงกับความคิดของเขา เขาก็เลยยอมปล่อยมันไป ถือซะว่าอย่างน้อยมันก็ทำเพื่อเล

จะเรียกได้ว่าไอ้วินไม่โดนตีนรุมเพราะน้องเลยังได้

“ขบวนมาแล้ว” เสียงของฟาทำให้เขาหันไปมองตามอีกครั้ง เมื่อขบวนพาเหรดเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาในสนามเสียงเฮก็ดังลั่น ดีนมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาเฉยชา ขบวนแล้วขบวนเล่าผ่านไปจนกระทั่ง…

ตึก! ตึก! ตึก!

“เขาวิ่งกันทำไมวะ” ใครบางคนถามขึ้นเมื่อจู่ๆ ฝูงชนจำนวนหนึ่งวิ่งขึ้นหน้าขบวน พวกเสื้อช็อปสีแดงเองก็เริ่มเดินเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ตรงหน้า ไม่ได้มาเป็นกันเป็นกลุ่ม มันยืนเว้นระยะห่างกันแต่ยังเรียงเป็นวงล้อม ตั้งท่าเหมือนกำลังปกป้องใครอยู่

ใคร?

ความสงสัยของดีนคลี่คลายก็ตอนที่ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อและเห็นภาพนั้นกับตา

น้องเล…

“อื้อหือ ใครวะนั่น โคตรสวยเลย”

“มึงๆ ดู คนชุดขาวตรงกลางอะ สวยชิบหายเลยมึง”

“คนนั้นใคร สวยมาก สวยจัง ทำไมสวยขนาดนี้”

“มองกล้องนี้หน่อยครับ”

“โอ๊ยย สวยอะ สวยชิบหายเลยเว้ย”

“ผิวใสมากเลยอะ ฮืออออ”

“เลยิ้มหน่อยครับ น้องเล เลครับ”


ร่างบางอยู่ในชุดสีขาวติดแซมไปด้วยผีเสื้อสีอ่อนอย่างชมพูและฟ้า บริเวณไหล่ทั้งสองข้างมีผ้าลากยาวลงไปถึงพื้น ส่วนหลังเสื้อเว้าโค้งจนเผยให้เห็นแผ่นหลังขาว ศีรษะติดดาวเป็นประกายแวววาวประดับเพียงเล็กน้อย ลำคอระหงใส่โชคเกอร์ที่เป็นผ้าบางๆ สีขาวติดผีเสื้อหนึ่งตัวตรงแถบข้าง มือบางถือสิ่งที่คล้ายจะแก้ว เมื่อออกเดินก็จะโรยผงบางอย่างในแก้วนั้นลงพื้นตาม มันส่องแสงระยิบระยับเมื่อต้องแสงอาทิตย์ เหมือนเป็นการเปิดทางให้กับคนด้านหลัง ใบหน้าสวยถูกแต่งเติมให้สวยขึ้นไปอีก ตากลมโตดูเฉี่ยวขึ้น ริมฝีปากเคลือบสีชมพูอ่อนรับผิวขาวสะอาดเนียนไปทั้งตัว

สวย สวยมาก สวยมากจริงๆ

“นั่นน้องเลใช่ไหม” ฟาร์ว่า ร่างสูงตะลึงค้าง “ไม่เห็นนาน สวยขึ้นเยอะมากเลย”

“...”

“ดีน” ฟาร์หันมามองเมื่อคนข้างกายไม่ตอบรับ เพื่อนสนิทเขายังมองไปที่น้องเลอยู่ “เฮ้ยดีน!”

“...”

“เฮลโหลวว” ดีนมันทำหน้า เหมือนกำลังประทับใจสุดๆ “ดีนมึงไหวไหมเนี่ย”

“ฟาร์” ในที่สุดมันก็หันมามองหน้าเขา

“มีอะไร”

“กล้อง”

“กล้องอะไร?”

“กล้อง กล้องๆ กูต้องการกล้อง!”





พิธีเปิดเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมกำลังเดินออกจากสนามพร้อมกับหลีดคนอื่นๆ เรามาช่วยเดินขบวนเฉยๆ ชุดที่ใส่อยู่นี่ไม่ใช่ชุดที่เราจะใส่แสดง ก่อนที่จะแสดงผมต้องไปแต่งหน้าเพิ่มด้วยครับเพราะตอนเช้ากับตอนเย็นชุดที่ใส่มันคนละแนวเลย ตอนเช้าใส่ชุดขาว แต่ตอนเย็นใส่ชุดดำผสมเกล็ดทองที่พอต้องแสงแล้วจะระยิบระยับแวววาวมาก คอนเซปการแสดงผู้นำเชียร์ของเราปีนี้คืออียิปต์

ผมกำลังเดินไปเปลี่ยนชุดพร้อมๆ คนอื่นแต่บังเอิญเห็นพี่วินพร้อมพี่ๆ ในบ้านกำลังยืนคุยอยู่กับกลุ่มรุ่นพี่ปีสี่ก็เลยเดินเข้าไปหา

“พี่วิน!” พี่วินหันหน้ามามองเมื่อได้ยินเสียงเรียก ผมเดินเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าเขา “เป็นไง”

“...”

“อึ้งเลย” อีกฝ่ายเอาแต่มองผมนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไร “เลดูดีล่ะสิ”

“เออ วันนี้มึงสวย” มือหนายกขึ้นลูบหน้าเลเบาๆ “สวยมากด้วย”

“ถ่ายรูปกัน” ผมชวน ก่อนที่พี่วินจะควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ยกขึ้นถ่ายกล้องหน้ากันแค่สองคน ได้แค่สองรูปเพราะรูปที่สามอยู่ๆ พี่ไทด์ก็ยื่นหน้าเข้ามาบังมิด

“อะไรเนี่ย”

“ถ่ายด้วยหน่อย” ​เสียงทุ้มว่า ผมเลยเรียกพี่ๆ ทุกคนในบ้านมาถ่ายพร้อมกันด้วยเลย

“น้องเลน่ารักมากเลยครับวันนี้”​ พี่ผาบอก

“ขอบคุณน้า”

“เฮ้ยฟ้า! มึงมากดถ่ายรูปให้กูหน่อย” คนเยอะเกินจะเซลฟี่คงได้ไม่ครบ พี่รพเลยเรียกเพื่อนมาช่วยถ่ายให้ เราจัดท่ากัน ให้ผมยืนอยู่ตรงกลาง พี่ๆ ในบ้านยืนล้อมรอบ มีพื้นหลังเป็นรุ่นพี่ปีสี่ที่อยากมีส่วนรูปอยู่ในรูปนิดหน่อย พี่ฟ้าที่รับหน้าที่เป็นคนถ่ายเดินไปยืนอยู่ด้านหน้า มือหนายกโทรศัพท์ขึ้นเหมือนกำลังจะกดถ่ายแต่ผมยิ้มจนฟันแห้งก็ยังไม่ได้ยินเสียงแซะ

“ไอ้ฟ้ามึงกดถ่ายยัง” พี่รพตะโกนถาม

“หือ เอ่อ น้องเลสวยมากเลยครับ”

“กูถามว่ามึงกดถ่ายหรือยัง!”

“อ้อ ยังๆ เอ้า! 1 2 3”

แซะ แซะ แซะ แซะ แซะ

“อีกรูปนะ”

แซะ แซะ

“จะไปเปลี่ยนชุดเหรอ” พี่วินถามหลังจากถ่ายเสร็จ ผมพยักหน้าขอโทรศัพท์พี่วินมาดูรูปแล้วยิ้มกับสิ่งที่เห็น ก่อนจะหุบยิ้มลงเมื่อผมนึกขึ้นมาได้ว่าคนไม่ครบ ขาดพี่ฮิม

“ไอ้ดีนมันมองมาทางนี้นานแล้วนะ” ได้ยินเสียงพี่เกียร์ที่กำลังพูดกับพี่ๆ ทุกคน ผมหันไปมองพี่ๆ จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปหาคนที่พี่ๆ กำลังมองซึ่งก็คือพี่ดีน ร่างสูงยืนพิงต้นไม้อยู่ไม่ไกลจากจุดที่ผมอยู่ พี่ดีนยิ้มพร้อมกับโบกมือให้ ผมเลยตัดสินใจวิ่งไปหา

“เลจะไปไหน!” เสียงพี่วินตะโกนถามตามหลัง

“ไปหาพี่ดีน!”



“ดีน กล้องที่มึงอยากได้” ฟาร์ยื่นกล้องไปให้คนข้างกาย เพื่อนสนิทเขาเอาแต่มองไปที่น้องเลจนไม่สนเลยว่ากลุ่มที่เลกำลังยืนอยู่นะอริมึงทั้งนั้น ดีนยังเงียบเขาเลยตบบ่ามันแรงๆ “มึงจะเอาไหมกล้อง”

ไม่เอา แม่งจะซัดหมัดใส่ เขาอุตส่าห์วิ่งไปหากล้องให้มันจนเหงื่อออก

“อยากถ่ายรูปกับเล” เสียงทุ้มว่า ดีนมองคนที่ยืนอยู่ตรงกลาง ยิ้มได้น่ารักจังเลย

“มึงขอเหมือนมึงไม่ได้เป็นหัวหน้าแก็ง ลองเดินเข้าไปดิ พวกนั้นคงได้รุมมึงอะ”

“ฟาร์ น้องกำลังวิ่ง”

คนฟังได้แต่ขมวดคิ้วถาม “ไปไหน?”

“เหมือนจะ… มาหากู”

“พี่ดีน!” จบคำน้องเลก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ร่างเพรียวจับมือดีนไปเขย่าๆ แล้วบอก “ไม่เจอกันนานเลย รถของพี่ดีนตรวจเสร็จหรือยัง เลยังอยากขับอยู่นะ”

“เอาเลยไหมครับ พี่ให้”

“หือ?” ฟาร์ที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ ได้ยินปุ๊บถึงกับยิ้มแห้ง ดีนที่เป็นหัวหน้าแก็งเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ เชื่อแล้วว่าชอบเลอย่างที่ปากว่าจริงๆ มันกำลังหลงน้อง ใจบางไปหมดแล้วล่ะมั้งนั่น “หมายความว่าให้เลขับเหรอ งงจัง?”

“ถ่ายรูปคู่กันไหมมีกล้องพอดี” ฟาร์แทรกขึ้น สองคนนั้นหันมามองก่อนจะพยักหน้า จากนั้นเขาจึงเปิดกล้องพร้อมกับรับหน้าที่เป็นคนถ่ายให้ “เอาละนะ 1 2 3”

แซะ แซะ

“ขอดูรูปหน่อย” น้องเลว่าพร้อมกับยื่นมือมาขอกล้อง “พี่ดีนหล่อจัง หล่อมากเลย”

“จีบเลยครับ พี่โสด”

“เลมีแฟนแล้ว” สิ้นเสียงนั้น ฟาร์เห็นร่างสูงหุบยิ้มลงฉับพลัน น้องเลไม่ทันสังเกตเห็นเพราะติดดูรูปอยู่

“แฟนเล? ฮิมเหรอ” เลไม่ตอบว่าใคร และดีนก็ไม่ซักไซ้ต่อ เขาหยิบเศษอะไรบางอย่างที่ติดอยู่บนผมเลออก ถามคำถามใหม่ “ดูแลน้องดีหรือเปล่า” 

“ดีมาก เลคืนครับ” เลส่งกล้องคืนแล้วขยับออกห่างเล็กน้อย

“มีความสุขไหม”

“เลมีความสุขนะ”

“งั้นก็ดีแล้ว” ดีนยิ้มรับ เขาคุยกับเลอีกนิดหน่อยก่อนที่เจ้าตัวจะขอไปเปลี่ยนชุด “ถ้ายังอยากขับ เดี๋ยวพี่ไลน์ไปหานะ”

“อยากสิ! โอเค อย่าลืมมาดูเลตอนเย็นด้วยนะ น้องเป็นหลีด”

“ได้ครับ แล้วเจอกัน” ร่างสูงโบกมือลาก่อนที่ฝ่ายนั้นจะเดินออกห่างแล้วมีคนมายืนล้อมรอบ ดีนคิดว่าสามคนที่ล้อมรอบเลนั่นคงเป็นคนคุมกัน ใบหน้าคมนิ่งงันขึ้น “มันอยู่ไหน”

“ใคร”

“ไอ้ฮิม”

ฟาร์ตอบเสียงเรียบ “คนของเราบอกว่ายังไม่เห็นมัน แต่เลเป็นหลีด กูเลยคิดว่ามันอาจจะไม่อยู่ เพราะตอนนี้เหมือนไอ้เกียร์จะคุมแก็งแทน”

“แล้วไอ้วิน?”

“เป็นประธานคุมคณะ มันไม่ว่าง”

ดีนเงียบเมื่อได้ฟัง ร่างสูงทำหน้าเป็นกังวล ก่อนจะตัดสินใจสั่งอะไรบางอย่าง

“ส่งคนของเราไปดูเล” นิ้วเรียวหยิบบุหรี่ออกจากเสื้อชอป ก่อนจะปล่อยมันทิ้งลงพื้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าที่นี่คือมหา’ลัย “แบบห่างๆ”

“ทำไมวะ”

“กูไม่วางใจ เพราะไอ้ฮิมไม่อยู่”

“...”

“ฟาร์ มึงได้ยินที่กูบอกหรือเปล่า”

“เออ”

“อืม”

“...”

“ทำไมมองกูอย่างนั้น” ดีนถามเมื่อเห็นคนข้างกายมองเขาแปลกๆ มองเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่างอยู่ ฟาร์ว่า

“ดีนมึงรู้ตัวหรือเปล่า ว่ามึงทำหน้าโกรธนิดหน่อยตอนที่รู้ว่าน้องเลมีแฟน แต่มึงกลับทำหน้าเป็นเป็นกังวลมากตอนที่รู้ว่าไอ้ฮิมไม่อยู่ แถมไอ้นั้นมันเป็นศัตรูมึง นั่นหมายความว่าถ้ามันอยู่มึงก็จะยอมให้มันดูแลน้องเล”

“มึงอยากพูดอะไร”

“มึงบอกว่ามึงชอบเลมาก แต่มึงกลับไม่เหมือนคนอยากได้น้องเลเป็นเมีย กูว่ามึงอยากเป็นพ่อน้องแทนต่างหาก”

“กูไม่ได้ยอมไอ้ฮิมขนาดนั้น” มือหนาล้วงเข้ากระเป๋า “กูชอบเล ชอบชิบหาย กูอยากได้น้องเป็นเมีย แต่ตอนนี้กูพอใจให้เลเป็นแฟนไอ้ฮิมเพราะดูน้องจะมีความสุข”

“...”

“แต่ถ้ากูไม่พอใจเมื่อไหร่ กูก็แย่งได้เหมือนกัน”

ดีนเดินออกไปทิ้งให้คนฟังต้องแสยะยิ้มมุมปากมองตามแผ่นหลังกว้าง มันจะรู้ไหมเนี่ยว่าที่ตัวเองพูดน่ะ

“นั่นแหละ โคตรพ่อเลยมึงเอ้ย”

ปากบอกว่าแย่งได้ แต่มีใครบ้างที่จะยอมให้คนอื่นได้ดูแลคนที่เราชอบข้ามหน้าข้ามตาตัวเองทั้งๆ ที่มั่นใจว่าแย่งได้ขนาดนั้นวะ

ระหว่างดีนกับเลตอนนี้มันเหมือนพ่อกับลูก อารมณ์เหมือนเห็นลูกดูมีความสุขเลยให้คบต่อ ยอมให้คนอื่นได้ดูแลน้อง แต่ถ้าคนพ่อไม่สบอารมณ์ซึ่งเหตุผลก็น่าจะเป็นเพราะน้องเลดูไม่มีความสุขก็จะแย่งลูกกลับมาดูแลเอง

พ่อชิบหาย…

ฟาร์ไม่ได้เดินตามเพื่อน เขาหันไปมองพวกช็อปสีแดงที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากจุดที่เขายืนอยู่ พวกมันมองมาคงจะไม่ไว้ใจที่น้องเลเข้ามาใกล้พวกเขา และคนที่ทำหน้าหน้ากลัวที่สุดในกลุ่มนั้นก็คือไอ้วิน

ฟาร์ไม่รู้เรื่องอะไรมาก แต่วันที่มันบุกมาหาเขาถึงถิ่นขนาดนั้นทั้งๆ ที่ไม่ค่อยมีปัญญาหากันมาก่อน เขาเดาว่าสาเหตุก็น่าจะมาจากเลเหมือนกัน

น้องเลคนน่ารักบอกออกมาอย่างชัดเจนว่ามีแฟนแล้วซึ่งก็น่าจะเป็นฮิมเพราะนอกจากนั้นเขาก็คิดไม่ออกจริงๆ จะเป็นใคร ดังนั้นการที่วินทำท่าเหมือนหวงน้องเลได้ขนาดนั้นอารมณ์มันก็คงจะเหมือนดีนที่ออกแนวอยากเป็นพ่อ…

พ่อกับพ่อเหรอวะ?

“เชี่ย” ฟาร์สบถ ใบหน้าคมเผยรอยยิ้ม เขาเปลี่ยนความคิด

จากที่คิดว่างานนี้จะมีคนตายเพราะแย่งเลคงเปลี่ยน น้องเลไม่ใช่ตัวแปรต้นแต่เป็นตัวแปรหลัก สองคนที่ดูอยากจะเป็นพ่อของน้องเลต่างหากที่เป็นตัวแปรต้น สองคนที่ทำท่าเหมือนจะไม่ถูกกันแต่ดันหวังดีกับเลเหมือนกัน

คงต้องมาดูว่าเพื่อเลแล้ว พวกมันจะยอมเป็นพ่อร่วมกันหรือตีกันเพื่อแย่งกันเป็นพ่อ

“น่าสนุกชิบหาย”



“ขอถ่ายรูปหน่อยค่ะ”

“น้องเลถ่ายรูปกับผมหน่อย”

“พี่เลสวยมากเลยค่ะ”

“สวยอะสวย สวยชิบหาย”

“ฮืออ ตกหลุมรักขึ้นไม่ไหว”


“ขอบคุณครับ ดีใจที่มานะ ตอนเย็นอย่าลืมมาดูโชว์หลีดด้วยนะครับ” ผมพูดคำนี้เป็นสิบๆ รอบให้กับคนที่เข้ามาขอถ่ายรูป ระหว่างทางที่จะไปเปลี่ยนชุดอยู่ๆ ก็มีคนเข้ามาขอถ่ายรูป พอมีคนแรกคนคนสามสองก็ตามมา แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ที่จากสองสามคนมันกลายมาเป็นฝูงชนรุมล้อมตัวเลขนาดนี้

ดินกระซิบบอกมาว่าเริ่มไม่โอเค ซึ่งการที่เขาบอกว่าไม่โอเคคงจะเป็นเพราะสาเหตุอะไรบางอย่าง ผมพยักหน้าเข้าใจ เริ่มบอกปฏิเสธที่จะไม่ถ่ายแต่เราก็ยังออกจากฝูงชนไม่ได้

“ขอทางหน่อยครับ”

“น้องเล น้องเล น้องเลลลล”

“คนสวยยยยยยยย”


ปรี๊ดดดดด ปรี๊ดดดดด ปรี๊ดดดดด

จู่ๆ เสียงเป่านกหวีดก็ดังขึ้นติดต่อกันหลายๆ ครั้ง ในจังหวะที่คนอื่นหันไปให้ความสนใจเสียงนกหวีด เกี๊ยกก็อุ้มตัวผมขึ้นแล้วพาวิ่งทันที เลได้แต่เกาะคอของอีกฝ่ายเอาไว้และเพราะถูกอุ้มอยู่ ผมเลยมองเห็นในมุมสูงกว่าเดิมได้ว่าใครเป็นคนเป่านกหวีด

พี่ซัน

ทุกคนถอนหายใจกันเมื่อเรามาถึงหน้าห้องที่ถูกใช้เป็นสถานที่แต่งตัว (มันคือห้องเดิมที่เลมาตัดฟิวเจอร์บอร์ดเมื่อวาน) ผมเปิดประตูเข้าห้อง ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อบังเอิญจ๊ะเอ๋กับใครบางคนที่ไม่ได้พบกันนานตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน

เดวา

ฝ่ายนั้นอยู่กับกลุ่มเพื่อน คณะนิเทศมาช่วยเรื่องขบวนพาเหรด เดวาก็คงมาอยู่ที่นี่เพราะเหตุผลอะไรสักอย่าง เขาหันมามองผมเหมือนกัน แต่มองไม่นานก็หันกลับไปคุยกับเพื่อนดังเดิม ท่าทางเหมือนไม่อยากมาตอแยอะไรกับผมแล้วซึ่งนั่นมันก็ดี เลตัดสินใจมองข้ามการมีตัวตนของอีกฝ่ายไป ผมรีบไปเปลี่ยนชุดเดินขบวนไปเป็นชุดธรรมดา อยากไปดูบอลอะ

ตอนนี้พี่นนท์นี่อนุญาตให้เราออกไปทำอะไรก็ได้ แต่พอบ่ายโมงปุ๊บต้องมาห้องนี้เหมือนเดิม เพื่อแต่งตัวสำหรับแสดงผู้นำเชียร์ หน้าก็ต้องเพิ่มเครื่องสำอางด้วยเพราะลุคตอนเช้ากับตอนเย็นมันออกจะต่างกัน

เปลี่ยนชุดเสร็จผมก็มานั่งให้พี่ที่แต่งหน้าถอดดอกไม้บนหัวให้ ซึ่งมันใกล้กับกลุ่มเดวาสุดๆ เพื่อนทางนั้นหันมามองผมด้วยสายตาที่แบบว่าถ้าอีกฝ่ายเป็นไก่เลก็พรุนเป็นที่เรียบร้อย และพอนึกถึงไก่ปุ๊บ จู่ๆ พี่ไก่ก็เดินเข้ามาถาม ฝ่ายนั้นมีกระดาษจดอะไรสักอย่างในมือ

“ข้าวเย็น น้องเลอยากกินอะไรคะ”

“หือ​?” เลทำหน้างง

“ข้าวเย็นน่ะค่ะ ข้าวเย็น”

“เอ่อ อะไรก็ได้ ข้าวผัดก็ได้”

พี่ไก่ทำหน้าเหมือนโลกจะแตก “ข้าวผัดมันพื้นไปน้องเล สั่งมาเลยอะไรก็ได้ หลังจากแสดงหลีดเสร็จเราจะไม่ได้ฉลองเพราะน่าจะเหนื่อย พวกพี่ก็เลยจะไปซื้อข้าวเย็นมาให้เป็นการฉลองแบบกินคนเดียวแทน หนูอยากกินอะไรหนูบอกได้เลย”

“อะไรก็ได้เหรอครับ?”

“จ้ะ ดูรายการที่คนอื่นสั่งก็ได้” พี่ไก่ยื่นกระดาษในมือมาให้ เลอ่านเสร็จก็ได้แต่ยิ้มๆ สั่งได้ทุกอย่างจริงๆ ด้วย กุ้งล็อบเตอร์ยังมี

“งั้นเลเอาชุดข้าวปลาแซลม่อนย่างซีอิ๋ว ภัตตาคาร X ครับ” ผมสั่งเมนูภัตตาคารบนโรงแรมที่พี่ฮิมพาไปกินบ่อยๆ

“โอเคจ้า ได้เลย”

ดอกไม้บนหัวถูกเอาออกจนเสร็จ ผมเดินหาพี่ซัน เห็นแวบๆ ว่าเดินเข้ามาในห้องนี้ตอนที่เลกำลังจะไปเปลี่ยนชุด และหาไม่นานก็เจอ พี่ซันกำลังเล่นหมากรุกกับพี่เอกอยู่ ผมบอกขอบคุณแม้จะไม่รู้ว่าเขาตั้งใจจะช่วยผมหรือมีอารมณ์อยากเป่านกหวีดเล่นก็ตาม ฝ่ายนั้นไม่ได้ตอบอะไรมาก แค่พยักหน้าเออๆ ออๆ กลับมา ซึ่งนั่นมันทำให้ผมเริ่มมองเขาใหม่

ถึงพี่ซันจะเคยสั่งให้วิ่งรอบสนามจนเลเป็นลมไปก็เถอะ ทว่าตัวจริงพี่ซันก็ไม่ได้โหดขนาดนั้นนะ แค่หน้าดุนิดหน่อย ตอนนั้นเขาคงอยู่ในจุดที่เป็นพี่ว้ากหรืออะไรยังไงสักอย่างถึงได้สั่งแบบนั้นไป มันมีผิดพลาดกันได้ มองปัจจุบันดีกว่าและตอนนี้ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าแต่อีกฝ่ายมักจะมาถูกที่ถูกเวลาสำหรับเล

พี่ซันไม่ได้ตามผมตลอดเวลาเหมือนพิษ ดินหรือเกี๊ยก น่าแปลกที่เขาโผล่มาช่วยถูกเวลาตลอดโดยเฉพาะตอนที่ผมหาทางออกไม่เจอ อย่างเช่นเรื่องของอินหรือเหตุการณ์ล่าสุด ที่ผมไม่รู้จะออกจากฝูงชนยังไง

ถ้าไม่ติดที่ว่ามีดิน พิษ เกี๊ยกล้อมรอบตัวอยู่ เลจะคิดว่าพี่ซันเป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกส่งมาดูแลผมเลย

เสร็จจากนั้นเลก็ออกมาถ่ายรูปกับหลายคนที่เข้ามาขอถ่ายต่อ ไม่รู้ว่าพวกเขารู้จักผมได้ยังไง ยิ่งช่วงนี้แทบไม่ได้เล่นโซเชียลมีเดีย แทบจะไม่ได้อัพรูปของตัวเองด้วย กว่าจะถ่ายรูปคู่คนอื่นเสร็จ การแข่งขันคู่แรกก็จบลง ผมรีบให้เกี๊ยกพามาที่สนามเพื่อดูการแข่งฟุตบอลคู่ที่สองเพราะครั้งนี้พี่ๆ ในบ้านลงแข่ง สามสหายพาผมมาฝากไว้บริเวณหน้าอัฒจรรรย์คณะตัวเองซึ่งเป็นจุดพักของนักกีฬาและล้อมรอบไปด้วยบุคคลสวมเสื้อช็อปสีแดง

“พี่ๆ สู้ๆ นะ” ผมบอกพี่ๆ ที่ตอนนี้อยู่ในชุดนักกีฬาเป็นที่เรียบร้อย

นักกีฬาถูกเรียกลงสนาม ทันทีที่เสียงกรี๊ดกระหน่ำผมถึงได้รู้ว่าพี่ๆ ในบ้านก็ฮอตพอสมควรเหมือนกัน

ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย

ครึ่งแรกผ่านไปด้วยความเรียบง่าย ยังไม่มีใครทำประตูได้ ครึ่งสองผมเห็นพี่ไทด์ที่ออกจะเฉื่อยชาวันนี้มีแววหงุดหงุดนิดหน่อย และด้วยความหงุดหงิดนั่นเองร่างสูงก็เตะลูกฟุตบอลเข้าประตูจนนำไป 1-0

ผมตะโกนลั่น ได้แต่กระโดดโหยงเหยงไปมาด้วยความดีใจ จนในที่สุดพอหมดเวลาเราก็ชนะด้วยสกอร์ 1-0 ที่พี่ไทด์เป็นคนทำ

และหลังจากนั้นผมก็ได้หายเข้าไปอยู่ในห้องเก็บตัวของผู้นำเชียร์ และไม่สามารถออกไปไหนได้จนกว่าจะใกล้เวลาที่จะได้แสดง



#Laynipit is trending 1st Thailand on Twitter

#Laynipit is trending 9th Worldwide on Twitter



13.45 น.

ประตูห้องเปิดออก เกียร์มองคนที่เดินเข้ามาในห้อง ร่างสูงถอดเสื้อกีฬาออกเพื่อคลายความร้อนขณะถามเสียงทุ้ม

“มารายงานเหรอ”

“ครับ” ดินตอบ ร่างสูงมองไปรอบๆ ห้องนี้นอกจากพวกเฮียที่คุ้มแก็งรองจากบอสแล้วก็ไม่มีคนอื่นอีก

“ตอนเช้าเท่าไหร่ล่ะ”

“30 คนครับ”

“เลฮอตขนาดนั้นเลยเหรอวะ” รพเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยิน 30 คนที่ว่า คือจำนวนคนที่อยากเข้าใกล้เลเกินเหตุด้วยจุดประสงค์อะไรบางอย่างซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นภัยจนต้องกำจัด ในขณะเดียวกันต้นเหตุอย่างเลกลับยังไม่รู้อะไรสักอย่าง

“ตามึงบอดเหรอไอ้รพ” เกียร์เถียง

“ขนาดกูไม่เล่นโซเชียลมาก แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะเปิดแอพไหนก็เห็นแต่รูปน้องเล” ผาบอก มือหนายกโทรศัพท์ที่เปิดแอพอินสตาร์แกรมอยู่และไม่ว่าจะเลื่อนขึ้นเลื่อนลงยังไงก็เห็นแต่รูปเลเดินขบวนตอนเช้า

“ถึงจะดูเอ๋อๆ ตามคนไม่ทันหน่อย แต่ก็สวยจริงๆ นั่นแหละ” ไทด์ว่า “ถ้าฉลาดกว่านี้ กูว่ามันจะตั้งลัทธิเลยังได้เลย”

“ใน 30 คนมีกลุ่มไหนบ้าง” วินเข้าเรื่อง ร่างสูงทำหน้าเคร่งเครียด

“ส่วนใหญ่สีเขียว สีน้ำเงิน แล้วก็คนนอกครับ”

“แปลก แล้วพวกสีดำล่ะ?” เกียร์ขมวดคิ้ว

ดินเม้มปาก “ไม่ได้เข้าหาเลแต่อยู่รอบๆ ตัวเลตลอด หลายคนด้วยครับ”

“มึงหมายความว่าไง”

“เหมือนพวกมันกำลังคุมกันต่อจากเราครับ”

“...”  ทุกคนเงียบ ก่อนที่เกียร์จะพึมพำขึ้นมาเสียงเบา

“ฮิมต้องไม่โอเคแน่”

“เฮียจะให้พวกผมทำยังไง” ดินถาม

“เพิ่มคน” วินสั่ง “แค่ดูรอบๆ กันเลจากพวกมันอีกที”

“...”

“กูไม่ไว้ใจ”

“ครับ” ดินพยักหน้ารับคำสั่ง แล้วเดินออกจากห้อง ปล่อยให้คนในห้องได้คุยกันต่อ เรื่องของเลไม่ได้เป็นแค่เรื่องเดียวที่เป็นปัญหา ยังมีปัญหาอื่นๆ อีกที่พวกเขาต้องแก้และออกคำสั่ง



14.15 น.

การแข่งขันระหว่างสีดำกับสีเขียวจบลง สีดำคะแนนนำด้วยสกอร์ 1-0

14.30 น.

เริ่มการแข่งขันคู่ที่สองระหว่างสีแดงกับสีเขียว

15.45 น.

การแข่งขันระหว่างสีแดงกับสีเขียวจบลง สีแดงคะแนนนำด้วยสกอร์ 2-1

16.00 น.

เริ่มการแข่งขันคู่สุดท้ายระหว่างสีดำกับสีแดง

ผู้นำเชียร์ทยอยเข้าแสตนด์







100%


เราช้าอีกแล้วเห้อ ขอโทษมากค่ะ ไม่ได้อยากให้ช้านะ ช่วงนี้เราแทบจะหอบโน้ตบุ้กไปแต่งนิยายด้วยทุกวันแล้วค่าา ;w;



ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-06-2018 15:32:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 03-06-2018 15:52:07
ให้พ่อกับพ่อคู่กันไปเลย #ดีนวิน

ส่วนพี่ฮิมจะไม่มาจริงเหรอ ต้องมานะต้องมา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 03-06-2018 16:05:59
ดีน วิน ชิมิ๊ ชอบๆ รอลุ้นคู่นี้ค๊าาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 03-06-2018 16:40:49
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-06-2018 17:20:58
ชอบบบบบบบบบบ   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

พี่ดีน ออกฉากมาก  :hao3:
แต่พี่ฮิมหายไปเลย ไปช่วยงานพ่อที่อังกฤษสินะ
ให้อารมณ์  ดีน วิน - วิน ดีน อ่ะ   :กอด1:
จะมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นแน่เลย
ฮิม  เล   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: phongphaew ที่ 03-06-2018 18:12:38
 :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 03-06-2018 18:37:17
พี่ฮิมค่าตัวแพงหรอคะ :katai1:


หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 03-06-2018 19:53:44
รอมานานนนนน มากกกก ขอบคุณมากที่มาอัพให้อ่านค่ะ รอๆๆๆๆ ตอนสำคัญนะ
อยากให้มีคู่ ดีนวิน ภาคต่อไปนะ รอๆ เป็นกำลังใจให้ผู้แต่ง สู้ๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 03-06-2018 20:21:38
เข้ามาเกือบทุกวันเลยชอบมากๆๆๆๆมาต่ิอีกนะคะเป็นกำลังใจให้นะ :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-06-2018 20:26:13
รอดูพ่อกับพ่อชนกัน  :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 03-06-2018 20:57:50
จับคู่พ่อกับพ่อ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-06-2018 21:34:34
ชอบพ่อปะทะกัน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 04-06-2018 00:32:12
ฮอตอะไรขนาดนี้ อิจฉา มาต่ออีกนะครับ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 04-06-2018 04:46:50
 :call: จุดธูปเรียกพี่ฮิม  :call:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-06-2018 07:45:25
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-06-2018 09:50:05
เลต้องสวยมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 04-06-2018 10:55:19
 :z1: เห็นแววคู่รองลางๆ(คงไมีได้คิดไปเองนะ) พ่อxพ่อ (ดีนx วิน)
หวังว่าแก้งเดวาไม่ทำอะไรเลนะมีตบฮ่าๆๆ
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 04-06-2018 13:55:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 04-06-2018 15:58:45
ชอบพ่อกับพ่อมากก น้องเลน่ารักและสวยมากกก ทุกคนหลงน้องงง
พี่ฮิมไม่มาจริงๆใช่มั้ย เสียดายจุงง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 04-06-2018 19:39:54
น้องเลทำเพ้อทั้งมหาลัยขนาดนี้ พี่ฮิมจะไม่มาเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ เหรอ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 04-06-2018 22:57:54
น้องเลย์ติดเทรนด์ทวิตเลยนะคะ ที่1ไทย ที่9โลกเลย 555555555555555
พี่ฮิมต้องหวงน้องมากแน่ๆๆๆๆ พี่ดีนอยากเป็นพ่อเหรอออ พ่อชนพ่อเลย อิอิอิ
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 050618#35(40%) p.47
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 05-06-2018 13:05:46


#35 (40%)



“เริ่มมากันแล้ว” รพว่าขณะพยักเพยิดหน้าไปทางกลุ่มผู้นำเชียร์แต่ละสีที่เริ่มเดินไปที่แสตนด์ของตัวเอง เนื่องจากใกล้ถึงเวลาที่จะแข่งหลีด “แต่เลยังไม่มาว่ะ”

วินสังเกตุได้ถึงความวุ่นวายที่ใกล้ปะทุ พอผู้นำเชียร์มา ทั้งคนในผสมคนนอกที่สนใจหลีดเป็นพิเศษก็พากันเดินตามไปถ่ายรูป จนมันเริ่มกลายเป็นการมุงที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

“วินอย่าเหม่อ!” ร่างสูงกลับมาสนใจการแข่งขันต่อเมื่อได้ยินเสียงตะโกนเรียก แต่ทุ่มความสนใจให้กับเกมตรงหน้าได้ไม่ถึงสิบนาที สติเขาก็หลุดอีกครั้งเนื่องจากเสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังขึ้นอีก และคราวนี้...

“โอ้! Fuck”

“ไอ้เหี้ย สวย”

“อื้อหือ ใครวะ”

“สวยมาก”


วินเงยหน้าขึ้น เขาเห็นกลุ่มคนใส่ชุดสีดำแซมเกล็ดสีแดงอมทองส่องระยิบระยับกำลังเดินเด่นมาแต่ไกล เป็นผู้นำเชียร์สีแดงไม่ผิดแน่ วินมั่นใจหลังจากคนที่เขามองหาโผล่หน้าออกมาให้เห็น

ทันทีที่ได้เห็น บรรยากาศโดยรอบคล้ายเงียบลงไม่ก็อาจจะเป็นเขาเองที่ไม่ได้ยินเสียงอย่างอื่น สติเหมือนหลุดเข้าไปสู่อีกห้วงมิติหนึ่ง

เลในตอนนี้เหมือนไม่ใช่เลที่เขารู้จัก น้องแตกต่างจากตอนเมื่อเช้ามาก ร่างบางไม่ได้ถูกแต่งหน้าให้ดูหวานเหมือนเมื่อเช้าแต่ถูกแต่งให้ดูสวยสง่า โดยเฉพาะดวงตากลมที่ดูคมเฉี่ยวขึ้นอย่างชัดเจน กับปากเล็กที่เคยเถียงเขาไม่เว้นวันตอนนี้มันถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีสด บวกชุดสีดำมีประกายแดงผสมทองนั่นอีก เลเหมือนถูกเนรมิตรใหม่ด้วยเครื่องแต่งหน้า ปกติน้องก็สวยอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้มันฉีกแนวแบบที่เลเป็นไปไกลลิบ

สวย สวย สวยมาก สวยจนไม่รู้จะพูดยังไง

ร่างเล็กเดินเด่นอยู่ในกลุ่มซึ่งเคลื่อนตัวมาถึงหน้าแสตนด์ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย รั้วเหล็กถูกนำออกมากั้นบริเวณหน้าแสตนด์ ทันเวลาก่อนที่เสียงกรี๊ดลั่นของใครคนหนึ่งจะปลุกวินให้สะดุ้งตัวขึ้นพร้อมกับกระตุ้นคลื่นฝูงชนที่รอคอยการปะทุเหมือนภูเขาไฟได้แตกตื่น

ไม่กี่วินาทีหลังจากที่ผู้นำเชียร์สีแดงเข้าแสตนด์ สถานการณ์ก็ลุกเป็นไฟ เริ่มจากการที่ฝูงผู้คนจำนวนไม่น้อยวิ่งเข้าหาหลีด การแข่งขันกีฬาถูกหยุดลงกะทันหัน เมื่อหลายคนจากอีกฝากฝั่งตรงข้ามของแสตนด์เชียร์สีแดงพากันวิ่งทลักทลายลัดสนามไปยังอีกฝากหนึ่ง แบบที่ไม่สนใจว่าการแข่งขันยังดำเนินอยู่ สนามบอลถูกคนนอกเข้าครองเกินกว่าครึ่ง สถานการณ์วุ่นวายจนสตาร์ฟคุมงานต้องเป่านกหวีดไล่คนออกจากพื้นที่ เป็นการยืนยันได้อย่างดีว่าการแข่งขันผู้นำเชียร์นั้นได้รับความนิยมมากขนาดไหน

“กรี๊ดดดดดดดดดด”

“น้องเลสวยมากก”

“สวยยย สวยยอะสวยๆๆๆๆ”

“ยอมตายถ้าได้ถ่ายรูปคู่เลชุดนี้”

“ชอบมาก! ชอบ”

“ขอความกรุณาให้ทุกท่านออกจากสนามด้วยครับ การแข่งขันยังดำเนินอยู่ ขอความกรุณาทุกท่านออกจากสนามด้วยครับ”
เสียงเตือนถูกประกาศหากความวุ่นวายก็ดูคล้ายจะไม่สงบลงง่ายๆ เวลาการแข่งขันกดหยุด นักกีฬาต้องพักเนื่องจากความวุ่นวายตรงหน้า ซ้ำยังดูท่าว่าต้องใช้เวลาอีกหลายนาทีกว่าที่จะได้กลับเข้าไปแข่งอีก

วินเดินออกจากสนามเป็นคนแรก ร่างสูงเดินฝ่ากลุ่มคนที่มุงกันเต็มอยู่ในหน้าแสตนด์เชียร์เข้าไปพักตรงพื้นที่ของนักกีฬาของมหา’ลัยตัวเอง นัยน์ตาคมมองดูรอบๆ ยังดีที่คนอื่นเอารั้วมากั้นรอบพื้นที่ได้ทัน ถ้าไม่งั้นไม่แน่ว่าเลอาจจะถูกคนมุงจนแทบไม่มีพื้นที่ได้หายใจ

สวย สวยมาก แค่มองเขาก็รู้สึกเหมือนว่าสติจะถูกความสวยหลอมละลายหายไปแล้ว เห็นเป็นต้องเหลียวหลัง แทบจะหยุดมองไม่ได้เลย

“สวยมากจริงๆ” ไม่ใช่แค่วินที่คิดเดียว สติเขาคล้ายจะถูกหลอมละลายอย่างที่ว่า มันพึ่งลอยกลับมาหลังจากได้ยินเสียงรพ “ฮิมมันคิดถูกหรือผิดที่ให้เมียเป็นหลีด”

“ผิดมหันต์” ไทด์ตอบ สายตาของทุกคนจ้องไปที่คนเดียวกันคือน้องเล

คนอื่นเงียบ ในขณะที่ไทด์ว่าต่อ “เหมือนให้เลสวยที่สุดตั้งแต่เกิดมา แต่ดันไม่มาคุมซะด้วย ปล่อยเหยื่อล่อเสือชัดๆ”

วินพยักหน้ารับ ก็ถูกอย่างที่เพื่อนเขาว่า วันนี้อาจจะไม่ใช่วันที่เลสวยที่สุดในชีวิต แต่มันสวยที่สุดตั้งแต่ที่เขาเคยเจอ

“กูรู้สึกว่าเราต้องเพิ่มคน”

“เกียร์กำลังจัดการ” ผาตอบ วินหันไปมองคนที่กำลังยืนคุมโทรศัพท์ ก็สมกับที่เป็นคนคุมแก็งต่อจากฮิมได้ เกียร์มันรู้งานดีจริงๆ เหตุผลก็เพราะทำมาแล้วแทบทุกงาน “น้องเลทำเอากูใจสั่นเลยเนี่ย”

“อย่าคิดเชียวมึง” รพเตือน เป็นจังหวะเดียวกันที่คนซึ่งทุกคนกำลังพูดถึงหันหน้ามาเห็น เลโบกมือหย่อยๆ แล้ววิ่งมาหาแต่วิ่งยังไม่ถึงที่หมายก็ทำท่าจะสะดุ้งล้ม โชคดีที่พยุงตัวเองขึ้นไม่ได้ล้มได้ และอย่างน้อยหน้าตื่นๆ นั่นก็ย้ำทุกคนได้ดีว่าไม่ว่าน้องจะสวยในแบบไหนแต่เลก็ยังเป็นเลอยู่ดี

“เกือบล้ม พื้นทรยศ” มาถึงก็ฟ้องก่อนเป็นอันดับแรก ทุกคนถอนหายใจ ความเป็นเลทำให้หลุดพ้นจากบ่วงความสวยที่แค่มองก็แทบจะหลอมละลายสติพร้อมทั้งแยกย้ายไปทำอย่างอื่น เหลือแค่วินที่นั่งนิ่ง “พี่วิน!”

“อะไร”

“ถ่ายรูปกัน ถ่ายรูป” วินพยักหน้าเออออ กวักมือเรียกเพื่อนคนหนึ่งมาถ่ายรูปคู่เขากับเลเสร็จสรรพ น้องมานั่งดูรูปข้างๆ คุยสัพเพเหระไปพลาง ก่อนจะเขาจะถูกเรียกตัวลงสนามเนื่องจากสตาร์ฟเคลียร์พื้นที่แล้วเรียบร้อย เลว่า “ห้ามแพ้นะพี่วิน แพ้เลโกรธ”

วินส่ายหน้า “ไม่แพ้หรอก”





ไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าพี่วินเล่นบอลเก่ง

ผมตั้งสติให้กับการแข่งขันตรงหน้า ถึงขนาดที่ว่ามีคนขอให้มองกล้องแล้วทำเมิน ยืนลุ้นแทบตายและดีใจลั่นตอนที่พี่เกียร์และพี่วินยิงลูกเข้าประตูได้แต้มติดๆ กัน ผมละอยากจะวิ่งเข้าไปกอดฉลองด้วยเลย แต่ติดที่ว่าตอนนี้แค่จะเดินออกจากรั้วกั้นยังทำไม่ได้ คนมากันเยอะมากจริงๆ ไม่นึกมาก่อนเลยว่าจะมีคนรู้จักตัวเองมากขนาดนี้

บางคนก็ไม่ได้มาตัวเปล่า ผมเห็นแวบๆ ว่ามีคนถือพัดรูปหน้าเลมา กับเห็นป้ายไฟเป็นชื่อตัวเองอีก

การแข่งขันสุดสิ้นลง เราชนะ! ส่งผลให้วิศวะสัมพันธ์เราได้ถ้วยชนะเลิศด้วยเนื่องจากคะแนนรวมของเรามากที่สุด แตไปดีใจกับพวกพี่ๆ ได้แค่ไม่ถึงสิบนาที พี่นนท์นี่ก็มาสะกิดบอกให้ไปเตรียมตัวเพราะเราจะได้แสดงแล้ว จังหวะนั้นแหละจากที่ดีใจอยู่ผมก็กลับมาหน้าซีดแทน เอาแต่ตื่นเต้นไปกับการแข่งขันของพี่ๆ จนลืมไปว่าการแข่งของผมเองก็จะเริ่มขึ้นทันทีหลังจากที่ฟุตบอลได้จบลง

ยังดีที่แสดงเป็นทีมที่สอง มีทีมหนึ่งก่อนหน้าเราพอให้ผมได้หายใจต่อไปอีกประมาณยี่สิบนาที แต่เป็นยี่สิบนาทีที่เลรู้สึกว่าเร็วที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มายืนจัดแถวเตรียมจะแสดงแล้ว

ใจสั่นมากเลย

เหมือนมันจะเด้งทะลุออกมาข้างนอก ราวกับว่ามีคนมาตีกลองในอกใส่จังหวะระห่ำหนัก จนส่งผลให้ส่วนอื่นของร่างกายได้สั่นไหวตาม

เลสั่นไปทั้งตัว มือบางเย็นเฉียบ เห็นคนมองเต็มไปหมด ทั้งคนบ้าง กล้องบ้าง เสียงแฟลชบ้าง ทุกอย่างมันรวมกันจนทำให้ผมเริ่มสติแตก

สั่น… สั่นไปหมดเลย

“เลใจเย็นๆ” อาการของผมคงจะชัดมากเกินไป อินที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจึงได้หันมาพูด “ไม่ต้องกังวลอะไร ทำให้เต็มที่ก็พอ”

ใจชื้นขึ้นมาได้ไม่ถึงสามวิ จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีคนเสกทรายเข้าหัวใจ ดูดซึมน้ำด้านในของผมไปจนหมดทันทีที่เสียงนับถอยหลังดังขึ้น

20

19

18

และก่อนที่จะสติแตกไปมากกว่านี้...

“เล!” จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งเรียกชื่อผมขึ้น รู้สึกคุ้นจนต้องหันไปมอง เป็นพี่วินล้อมรอบด้วยพี่ๆ ในบ้าน ทุกคนชูนิ้วโป้งแทนคำว่าสู้ๆ ยกเว้นร่างสูงที่ไม่เหมือนคนอื่น เขาคงสัมผัสได้ว่าผมกำลังรู้สึกไม่ดี เพราะทำหน้าเป็นกังวลจนผิดสังเกตุ โดยเฉพาะคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนจะกลายเป็นโบว์อยู่แล้ว ผมชูสองนิ้วให้พี่วิน ความตื่นเต้นและกังวลดลงเพราะรู้สึกว่ามีคนกังวลแทนแล้ว

14

13


หันไปอีกทาง เจอกับใครคนหนึ่งที่ทำให้ผมยิ้มกว้าง มาดูเลจริงๆ ด้วย พี่ดีนขนาบข้างด้วยพี่ฟาร์กำลังยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนซึ่งแน่นขนัด แต่ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ทำให้ไม่มีใครกล้าเบียด ร่างสูงโบกมือให้เมื่อเห็นผมหันไปมอง เขาชูกระดาษใบหนึ่งซึ่งมีข้อความที่พอผมได้อ่านแล้วถึงกับขำสลับดีใจจนลืมความตื่นเต้นไปชั่วขณะ

raventon รอน้องอยู่

ผมทำท่าโอเคให้พี่ดีน แล้วหันไปมองพี่วินพร้อมทุกคนในบ้านสลับกับพี่ดีนอย่างมีความสุข นึกว่าแข่งบอลเสร็จทุกคนก็จะไปกันเลย พวกเขาไม่ชอบความวุ่นวายและรักความเป็นส่วนตัว แต่ตอนนี้พวกพี่ๆ ที่รวยจนเอาเงินไปทิ้งได้แต่ไม่ยอมจ้างคนมาทำความสะอาดที่บ้านให้เพราะไม่อยากให้คนอื่นเข้ามาวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัว กำลังยืนร่วมกับฝูงชนซึ่งแน่นขนัด ความเป็นส่วนตัวของพวกเขาหายวาบไปเนื่องจากมีคนถ่ายแอบรูปเยอะมาก พี่ในบ้านผมน่ะหล่อทุกคน

ถึงจะโดนทั้งความวุ่นวายและลิดรอนความเป็นส่วนตัวแต่ก็ยังยอมอยู่ดูเล ทั้งๆ ที่ปกติแต่มีอะไรมากวนใจนิดหน่อยก็หงุดหงิดกันแล้ว มีพี่ดีนอีก ถึงผมยังไม่ได้สนิทกับพี่ดีนเท่ากับทุกคนในบ้าน แต่เลก็ดีใจ

10

9


เหลือสิบวิ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ  หลับตาลงเมื่อเลขนับถอยหลังถึงแปด

8

อันที่จริงผมอยากให้พี่ฮิมอยู่ดูเลในตอนนี้มากๆ เขาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมตั้งใจฝึก เพราะอยากให้ฮิมได้เห็นผมแสดงในวันนี้

7

6

5

เสียใจมากที่วันนี้พี่ฮิมมาดูไม่ได้ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่เป็นไร

4

วันนี้ไม่มีพี่ฮิมแต่เลก็ยังมีพี่ๆ  พี่วิน พี่รพ พี่ผา พี่เกียร์ พี่ไทด์ พี่ดีน

3

ทุกคนเลย

2

ดีใจ

1

ดีใจจังที่ทุกคนมา

0



พรึบ!

ลืมตาขึ้นพร้อมกับเสียงกลองที่รัวกระหน่ำนำจังหวะหัวใจ ร่างกายคล้ายตอบสนองต่อจังหวะทำนองโดยอัตโนมัติ เพราะการซ้อมหนักเกือบหนึ่งเทอมทำให้สามารถเคลื่อนไหวตามท่วงท่าที่ถูกกำหนดไว้ได้โดยที่ไม่ทันยังนึก หนึ่งท่าแช่ไว้ไม่ถึงสามวินาทีก็ถูกเปลี่ยนใหม่อย่างรวดเร็ว มันไหลไปตามความเคยชินของร่างกายที่ถูกฝึกโดยการทำซ้ำๆ จนกล้ามเนื้อคล้ายจะจดจำแทนสมอง ทุกเสียงร้อง ทุกท่วงท่า ทุกจังหวะ ทุกทำนอง ใส่พลังทั้งหมดเท่าที่มีลงไปในการแสดงครั้งนี้

ว่ากันว่าถ้าเราสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่จะรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเร็ว คงจะใช่ เพราะเลรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็ว เร็วมาก เร็วกว่าที่คิด โดยเฉพาะตอนที่นึกได้นั้นเป็นเวลาเดียวกันกับที่ร่างเพรียวกำลังต่อท่าสุดท้ายเป็นฉากจบ ทุกคนโน้มตัวลง พูดคำว่า cheer! เป็นครั้งสุดท้ายอย่างที่ซ้อมก่อนที่ทั้งสนามจะมือปรบสนั่นพร้อมทั้งเฮลั่น เลฉีกยิ้มเมื่อถูกแสงแฟลชฉาดใส่เพื่อถ่ายภาพจบ เขาดีใจที่ทำสำเร็จขณะเดียวกันก็รู้สึกใจหายวาบ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ซ้อมมาเกือบหนึ่งเทอม เสร็จสิ้นลงภายในระยะเวลาสิบห้านาที

.

.

#Laynipit is trending 1st Worldwide on Twitter



คอนเซ็ปอียิปต์ และน้องเลของฉันคือคลีโอพัตรา (แนบรูป)
เลสวยมาก สวยชิบหาย ตัวจริงสวยกว่าในรูปเยอะมาก (แนบรูป)
ตอนเช้าพาไปสวรรค์ ตอนเย็นถึงเป็นนรกพี่ก็จะตามน้องไป (แนบรูป)
เลกับอินคือสวยมากจริงๆ ทำไมผู้ชายสองคนต้องสวยขนาดนี้ (แนบรูป)
พี่ๆ น้องเลก็งานดี๊ดี ฮือออ ขอสักคนค่ะ (แนบรูป)
กราบหลีด หลีดดีงามมาก การแสดงตอนดูคืออึ้งเลย จำท่าเยอะขนาดนั้นได้ยังไงวะ บราโว่สัสๆ ได้แชมป์อีกสมัยแน่นอน (แนบคลิป)
ดีขนาดนี้ แชมป์คงต้องลงแล้วครับ (แนบคลิป)
ตอนแรกคิดว่าเข้าหลีดได้เพราะสวยอย่างเดียว แต่ดูคลิปแล้วเกินคาด ผู้นำเชียร์ทุกคนพร้อมเพรียงมาก ท่าเยอะและยากแต่ไม่พลาดกันเลย คงซ้อมกันมาดีจริงๆ ชื่นชมค่ะ








(40%)




ในความคิดนี่คือน้องเลแบบสวย สวยมากเลยอะ สวยจนแบบไม่ใช่ผู้ชาย อาจจะดูเว่อร์เกิน แต่นิยายเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้นแหละค่ะ 5555555
ส่วนน้องเล หลายคนน่าจะจำได้ว่าเลเป็นคนที่เซ้นซิทีฟเรื่องครอบครัวมากๆ เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีใครนอกจากพี่ฮิม แต่ตอนนี้ ไม่มีพี่ฮิมแต่มีพี่ๆ หลายคนมาดูแล้วก็เลยดีใจ


ปล. คิดว่าพี่ฮิมได้มาดูน้องไหม?

ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 05-06-2018 13:17:22
พี่ฮิมต้องมานะ รอ...
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: LomaPakpao ที่ 05-06-2018 18:48:31
มา.. ดูทางไกล.. แอบมอง.. ซ้อนตัว.. ผ่านคลิป.. ไลฟ์สด..
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: LomaPakpao ที่ 05-06-2018 18:48:47
มา.. ดูทางไกล.. แอบมอง.. ซ้อนตัว.. ผ่านคลิป.. ไลฟ์สด..
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: LomaPakpao ที่ 05-06-2018 18:49:14
มา.. ดูทางไกล.. แอบมอง.. ซ้อนตัว.. ผ่านคลิป.. ไลฟ์สด..
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: karuwarn ที่ 05-06-2018 22:09:36
ฮิมคงมาแหละ ฮิมคงไม่พลาดหรอก 5555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 06-06-2018 00:11:48
เมื่อไหร่ฮิมจะมา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 06-06-2018 01:07:57
มาเร็วทันใจมากคะ5555มาต่ออีกนะ :mc4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 06-06-2018 02:06:30
ฮิมน่าจะมาแหละ มีเหรอที่จะพลาด  แต่อาจจะอยุ่ดูห่างๆเพื่อให้เลเผชิญกับปสกที่นางอาจจะต้องเจอโดยไม่มีฮิม  รักน้องก็ต้องปล่อยให้น้องโตด้วย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 06-06-2018 09:57:38
พี่ฮิมมาหาน้องเลเร็วเข้าค่ะ :)

ดีนวินน่าจะได้อยู่นะ อิอิ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 06-06-2018 22:50:47
มารอ อยากอ่านแล้ว
ลุ้นฮิม มานะ ต้องมา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 07-06-2018 08:34:50
ไม่ออกมาจริงๆ  ฮิมค่าตัวแพงแท้  :mew3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 07-06-2018 12:49:54
งืออออน้องเลของคุณแม่เก่งมากๆเลยค่ะ o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 07-06-2018 23:20:29
พี่ฮิมต้องดูและเห็นแน่ๆ ทางไหนก็ทางหนึ่ง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 030618#34 p.47
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 08-06-2018 22:18:50
ติดแทก ที่1 พี่ฮิมไม่เห็นก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
เผลอๆ นั่งที่แสตนด์อ่ะ
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 11-06-2018 13:50:34


#35 (100%)



เลไม่ได้อยู่ที่แสตนด์เชียร์ต่อ โดนพี่รพและพี่ไทด์โอบไหล่พากลับไปที่ตึกวิศวะของปีสี่ทันทีที่โชว์หลีดเสร็จ ผมไม่ได้ถ่ายรูปกับหลายคนที่เข้ามาขอเลย ได้แต่ถ่ายรูปรวมผู้นำเชียร์เพียงอย่างเดียว เสียดายนะ แต่เพราะพี่ๆ ทุกคนดูจะไม่โอเคกับการที่ผมจะอยู่ถ่ายรูปกับคนอื่นก็เลยยอม

ยังใจเต้นอยู่เลย มือของเลสั่นไม่หยุด ความรู้สึกตอนที่แสดงมันดีมาก ยิ่งตอนจบที่ทุกคนปรบมือสั่นผมก็ยิ่งรู้สึกดีใจที่ทุกคนชอบ แต่เป็นดีใจปนใจหาย นี่คือการเป็นหลีดครั้งแรกของเล และก็ยังไม่รู้ว่าจะได้เป็นอีกไหม ขึ้นปีสองภาระหน้าที่คงหนักกว่าเดิมเยอะ ขนาดปีหนึ่งมีพี่ฮิมคอยติวให้ผมยังแทบไม่รอด พอฮิมจบไปเขาคงไม่ว่างมาสอนผมบ่อยเหมือนแต่ก่อน คราวนี้เลจะไม่ตายเลยเหรอ แย่จัง

“จะกลับเลยไหม” พี่ไทด์หันมาถามหลังจากเราเข้ามาในห้องๆ หนึ่ง ขนาดกลางไม่เล็กไม่ใหญ่และไม่มีใครอยู่ในห้องนี้

“ต้องกลับเลยเหรอ” ผมถาม

“จะกลับก็ได้ แต่อยู่ต่อก็คงออกไปไหนไม่ได้” พี่รพว่า “เหลือแค่แข่งหลีดเสร็จ พิธีมอบรางวัล พิธีปิด ไม่มีอะไรน่าสนใจ”

“เลได้ยินมาว่าหลังจากจบงานจะมีปล่อยผี” งานวิศวะสัมพันธ์นี้จัดขึ้นให้นักศึกษา แต่ก็ยังมีพิธีการ มีผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้อง ดังนั้นงานปล่อยผีจึงเหมือนงานอำลา ที่หลายคนจะมาสนุกกัน มันส์กันได้เต็มที่เพราะผู้ใหญ่เขาไม่ค่อยยุ่งกับเรื่องนี้ และส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา

พี่รพถึงขึ้นปรายตามอง “อย่าคิดแม้แต่จะคิด”

“อันตรายเกิน” พี่ไทด์สมทบ

ผมรู้สึกขัดใจ วันนี้ทั้งวันเหมือนจะโดนคนอื่นพูดแต่คำว่าอันตรายอยู่รอบตัวเล ในขณะที่ผมเองยังไม่เห็นเลยว่าจะอันตรายตรงไหน คนไม่รู้จักที่เข้ามาใกล้ชิดหน่อยก็มีแค่คนที่ขอถ่ายรูป อันตรายสุดตอนนี้น่าจะเป็นเกี๊ยก ดิน พิษล่ะมั้ง ถ้าพวกเขาอยากทำอะไรผมก็คงทำได้เลย เพราะว่าตามเลทุกที่ที่ไป

ถ้าไม่ติดว่าพี่ฮิมกำชับผมเรื่องนี้เอาไว้ด้วยแล้วล่ะก็ เลคงวีนหน่อยๆ แล้ว ผมถอนหายใจเหนื่อย ทำอะไรไม่ได้แล้วจะอยู่ต่อทำไมอะ

“งั้นเลจะกลับบ้าน”

พี่รพพยักหน้า “สามคนนั้นจะไปส่งมึง”

“ไม่ใช่พี่รพหรือพี่ไทด์เหรอ”

“พวกกูมีงาน”

“เหงาเลย” บ่นแต่ไม่ได้ถามอะไรต่อ ว่าจบทั้งสองคนก็เดินออกจากห้องและไม่กลับเข้ามาอีก

ผมตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนกลับบ้าน ก็เลยวานให้หนึ่งในสามไปเอาชุดมาให้เปลี่ยน เกี๊ยกอาสา ผมเลยไปรอที่ห้องน้ำพร้อมกับดินและพิษ

สองคนนั้นรอด้านนอกประตูใหญ่ ปล่อยให้เลจัดการตัวเองอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ ชุดน่ะเปลี่ยนไม่ยากหรอก ที่ยากคืออุปกรณ์ตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ บนหัวเลต่างหาก ที่ติดอยู่บนหัวคือพวกคริสตัลเม็ดเล็กๆ สีแดง กิ๊ฟแล้วก็อื่นๆ มีไม่เยอะนะ พยายามแกะออกแล้วแต่มันไม่ง่ายเลยอะ

เลหยุดการทึ้งผมตัวเองที่พันกันยุ่งเหยิงไปหมด แล้วตัดสินใจเดินไปเข้าเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ เปลี่ยนเสร็จก็เปิดประตูจะเดินออกมาจากห้อง ทว่าทันทีที่ประตูเปิดออก จู่ๆ ใครบางคนก็เข้ามายืนขวางประตู ใครบางคนที่ทำให้ผมสงสัยว่ามายืนขวางเลทำไม และใครบางคนที่ทำลายความสงสัยเพียงแค่ผมได้เห็นหน้า… พี่ฮิม

“คิดถึงพี่ไหม”



หมับ!

เขาถูกน้องกระโดดเข้ากอด ฮิมตอบรับอ้อมกอดนั้นเอาไว้โดยการกอดตอบแน่น ไซร้จมูกเข้าหอมขมับขาวติดกลิ่นเครื่องสำอางที่ดูแปลกไปสักนิดแล้วผละออกมามองหน้า

“เลของพี่” มือหนาไล่ไปตามโครงหน้า ใช้นัยน์ตาคมสำรวจไปทั่วทุกจุดที่สามารถมองเห็น

คนดีของเขาสวย สวยมาก สวยที่สุด สวยมากกว่าที่ฮิมคิดเอาไว้ซะอีก

เขาไม่นึกว่าเลจะถูกแต่งออกมาในแนวนี้ แบบที่คร่าลมหายใจคนมองได้ง่ายๆ

มันแปลกไปจากตัวตนของเล เหมือนเปลี่ยนแมวเลี้ยงกลายไปเป็นแมวป่า ยังเป็นแมวเหมือนกัน ต่างกันที่สัญชาตญาณ ยังไงแมวป่ามันก็ต้องดูดุกว่าอยู่แล้ว

เลถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแมวป่าจากภายนอก ตั้งแต่ดวงตากลมที่ถูกประทินโฉมให้ดูโฉบเฉี่ยว ริมฝีปากเรียวเคลือบลิปสติกสีสด เปลี่ยนลักษณะภายนอกของเลไปโดยสิ้นเชิง อีกทั้งมันยังไม่ได้ดูแย่ มันดูดี ดีจนเกินไปจนฮิมนึกเกลียด

เขาไม่ชอบให้เลสวยต่อหน้าใครนอกจากเขา

“พี่ฮิมมาได้ยังไง” ร่างสูงไม่ได้ฟัง มือหนาเอื้อมไปถูไถลิปสติกที่เคลือบปากน้องอยู่หวังให้มันจางลง ทว่าไม่ได้ผล เครื่องสำอางสมัยนี้ทนกว่าที่เขาคิด จนเสียงเล็กเริ่มร้องโวยว่าเจ็บเมื่อฮิมเพิ่มแรงขยี้ “เลเจ็บนะ!”

“ขอโทษครับ”​ มือหนายอมปล่อยแม้จะยังไม่พอใจอยู่ลึกๆ และน้องเหมือนจะรู้ว่าเขาไม่พอใจ เจ้าตัวถึงได้ขยับเข้ามากอดพร้อมคลอเคลียปลายจมูกอยู่แถวลำคอจนร่างสูงยิ้มออก เขากอดตอบ ใบหน้าคมก้มลงหอมแก้มนุ่มซ้ำๆ

“แล้วพี่ฮิมมาได้ยังไง”

“ขับรถมา”

“ตลกแล้ว สรุปว่ามาทันได้ยังไง”

ฮิมจับมือนุ่มขึ้นมาเล่น เสียงทุ้มว่า “พี่ไม่ได้ไปอังกฤษ”

เขาเปลี่ยนใจวินาทีสุดท้ายตอนที่ขาแตะพื้นสนามบินสุวรรณภูมิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การประชุมที่อังกฤษครั้งนี้สำคัญมากแต่เลก็สำคัญเหมือนกัน พูดกันตามตรง เขายกให้น้องเลสำคัญกว่าธุรกิจหมื่นล้าน แต่ยังไงก็ตาม ความเอาแต่ใจของฮิมที่มีมูลค่าในครั้งนี้จึงต้องมีของแลกเปลี่ยน แลกกับการที่เขาต้องต่อโทบริหารอย่างที่คุณพ่อต้องการโดยไม่มีเงื่อนไข

“แล้วทำไมไม่กลับมาอยู่บ้านกับน้อง”

“กลัวว่าเห็นหน้าเลแล้วพี่จะไม่ได้ทำงาน” เขาเลือกที่จะไปอยู่บริษัทแทนการกลับบ้าน “ถึงพี่จะไม่ได้ไปอังกฤษแต่พี่ก็ต้องเข้าประชุมเหมือนเดิมนะครับ”

“เข้าประชุมยังไง ก็พี่ฮิมไม่ได้ไปอังกฤษ”

“โลกนี้มันมีอะไรที่เรียกว่า Video Conference อยู่นะน้องเล”

“แล้วทำไมไม่ใช้ตั้งแต่แรก จะเทียวไปอังกฤษทำไม” น้องบ่น

“ไปสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริหารคนอื่น” คุณพ่อเขาให้เหตุผลแบบนั้น ท่านว่าถ้าไม่ทำอย่างนั้น เวลาที่เขาได้เป็นประธานบริษัทเต็มตัวแล้วล่ะก็ มันจะควบคุมยาก

น้องเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ยังดูไม่สบอารมณ์มากเท่าไหร่ เลทำหน้าบึ้งอยู่สักพักก่อนจะถอนหายใจปลง “ทำงานหนักไหม พี่ฮิมเหนื่อยไหมครับ”

“เห็นหน้าเลก็หายเหนื่อย”

“ไม่ค่อยได้เห็นพี่ฮิมใส่สูท ผูกเนคไทเต็มยศแบบนี้” ฮิมอยู่ในชุดแบบที่น้องว่า เพราะทำงานเสร็จเขาก็รีบบึ่งรถมาทันที ยังไม่ทันได้เปลี่ยนชุดเลยด้วยซ้ำ ปล่อยให้มือบางดึงเนคไทเล่นไปพลาง “หล่อจัง”

เนคไทสีดำถูกดึงลงต่ำ เป็นผลให้ใบหน้าหล่อเหลาต้องโน้มต่ำลงตาม มือบางเลื่อนขึ้นโอบรอบลำคอ เลขยับริมฝีปากเข้ามาทาบไม่จริงจัง พอเขาจูบตอบน้องก็ผละออก ฮิมจึงไซร้จมูกเข้าลำคอขาวแทน

“พี่ฮิมได้เห็นน้องแสดงหรือเปล่า”

“เห็น” เลยิ้มกว้างทันที “เก่งที่สุดเลยครับคนดี”

บางครั้งฮิมก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อเลจริงๆ เขารู้สึกภูมิใจมากตอนที่เห็นน้องแสดง และยังเป็นการแสดงที่เรียกได้ว่า Perfect หลายๆ อย่างมันดีกว่าที่เขาคิด เลทำให้เขาอึ้งระหว่างที่ได้ดูการแสดงของน้องอยู่ ที่แน่ๆ คือ

“ไม่เห็นบอกว่าน้องฉีกขาได้” เขากระซิบเสียงใส่หู ก่อนจะผละออกมามองหน้าเล

เรื่องที่ทำให้เขาอึ้งที่สุดก็คือเรื่องนี้ น้องฉีกขาในระหว่างทำการแสดง ฮิมอึ้งเมื่อได้เห็นและภายหลังจากอึ้ง สมองมันก็คิดแต่เรื่องอกุศลอย่างรวดเร็ว

“ถูกพี่ที่ฝึกดัดตัว กว่าจะทำได้ ทรมานมาก”

“เหรอครับ” ฮิมขานรับแต่ไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่น้องพูด นัยน์ตาคมจดจ่ออยู่กับสะโพกมน ฝ่ามือสากลากผ่านเอวคอดลงไปถึงจุดหมายที่เป็นสะโพก แล้วขย้ำ

“อืม แรกๆ เลตัวแข็งด้วย นี่น่าจะทุ่มเทที่สุดในชีวิตแล้ว 555 อ่ะ!” เลเงียบไปทันควัน ดวงตาโตเงยขึ้นมองเขาเหมือนแมวตื่น

เขาไม่ยอมปล่อยมือออกจากสะโพก กระซิบเสียงทุ้มขณะดันตัวอีกคนเข้าไปในห้องน้ำ

“ทำให้พี่ดูอีกหน่อยได้ไหมครับ”





ผมถูกผลักเข้ามาในห้อง ตามด้วยเสียงล็อกกลอนดังแกรก ในห้องมันไม่ได้กว้าง ยิ่งพี่ฮิมเข้ามาเบียดอยู่กับผม ยิ่งทำให้ห้องมันดูแคบลงไปเท่าตัว แต่ดูเหมือนพี่ฮิมจะไม่สน เขาปิดฝาชักโครกลง อุ้มผมขึ้นนั่งบนส่วนหัวชักโครก ก่อนจะประกบริมฝีปากแนบตาม

“อื้อ เดี๋ยวมีคนเข้ามา”

“ไม่มีหรอก” พี่ฮิมตัดบท ร่างสูงถอดสูททิ้งพร้อมทั้งขว้างมันออกไปด้านนอก จากนั้นจึงก้มมาจูบเลต่อ แต่ผมเม้มปากแน่นเพราะยังกังวล “เชื่อใจพี่”

เสียงแหบพร่าว่า แค่ประโยคเดียวทำเอาอุ่นวาบไปทั้งใจ มือหนาเอื้อมมาประสานผมเอาไว้ ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะโน้มลงมาประกบริมฝีปากอีกครั้งหนึ่งและคราวนี้ผมตอบรับ

แรกเริ่มมันนุ่มนวล และร้อนแรงเพิ่มขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งสูง เราผละออกจากกันเมื่อทนเล้าโลมไม่ไหวอีกต่อไป พี่ฮิมกระชากเสื้อผ้าผมจนขาด เขาจับผมกางขาออกเกือบสุด หลุบตามองแต่ยังไม่ยอมทำอะไร เอาแต่ลูบต้นขาเลเล่นไปมา

“วิวดีจริงๆ”

“เลอายนะ!”

“อายทำไม ให้พี่เห็นมาทั้งตัวตั้งหลายครั้ง”

“ก็เลอาย”

“คนดี” พี่ฮิมไม่ฟังเลแล้ว เขาก้มลงมาดูดหน้าอกเลแทน มันมีความรู้สึกเสียววาบทุกๆ ครั้งที่ฮิมเลียหรือกัดจนทั้งสองข้างแฉะไปหมด ผมหอบหายใจพร่า ผมอยากได้เขาแล้ว

“ฮิม น้องไม่ไหวแล้วนะ” พี่ฮิมเงยหน้าขึ้นมองผมก่อนจะถอดเข็มขัด รูปซิปกางเกงพร้อมทั้งดึงบ็อกเซอร์ลงแบบลวกๆ จนแท่งเนื้อขนาดใหญ่โผล่ออกมานอกกางเกง แค่มองผมก็หน้าร้อนผ่าว

มันใหญ่มากจริงๆ

“อื้อ” สติมลายหายเมื่อนิ้วเรียวชุ่มน้ำลายแทรกเข้ามาด้านใน ตัวหล่อลื่นที่ใช้แค่น้ำลายทำได้ไม่ดีเท่ากับเจลทำให้ผมรู้สึกเจ็บเพราะช่องทางด้านหลังฝืดเคืองไปหมด พี่ฮิมแก้ปัญหาโดยการใช้มือมาเล่นกับส่วนหน้า เขาปลุกปั่นอารมณ์ผมจนหลงลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ มารู้เจ็บอีกทีก็ตอนที่แท่งเนื้อร้อนถูกสอดเข้ามาด้านใน

“คนดี” พี่ฮิมปาดเหงื่อบนใบหน้าผมออก เหมือนเขารู้ว่าผมเจ็บ ร่างสูงจึงไม่ได้โจนจ้วงเหมือนครั้งก่อนๆ กายแกร่งแช่ค้างเอาไว้ด้านในนานจนกระทั่งผมเริ่มปรัับสภาพแล้วจึงขยับเข้าออก

“อื้อ! อ๊า! พี่ฮิม” ผมเอื้อมมือเกาะบ่าหนา ในขณะที่พี่ฮิมยึดต้นขาเลไว้เป็นหลัก ร่างสูงเริ่มกระทั้นสะโพกรัวเร็วขึ้นจนเริ่มกลั้นเสียงเอาไว้ไม่อยู่ ผมตัดสินใจดึงเนคไทพี่ฮิมลงต่ำ แล้วประจบปากจูบกับอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้ตัวเองได้ส่งเสียงดัง “อื้อๆ อึก!”

พี่ฮิมเร่งจังหวะขึ้น มือหนาเอื้อมมาชักรูดกับส่วนหน้าของเลให้ ผมทนไม่ไหวเผลอปล่อยน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเปื้อนตัวไปหมด มันไปติดอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่าย ร่างสูงยกยิ้ม กวาดลิ้นเลียน้ำกามที่เปื้อนอยู่ตรงมุมปากเข้าชิม

“เด็กอ่อนหัด” พี่ฮิมประฌามอย่างไม่จริงจัง เขาอุ้มผมขึ้นเพื่อเปลี่ยนสถานที่จากบนชักโครกป็นผนังห้อง ขาเลไม่แตะพื้น สิ่งที่ค้ำยันไม่ให้ผมตกและลอยอยู่กลางอากาศก็คือแขนของพี่ฮิม เขาอุ้มผมไว้ในขณะหยัดแก่นกายเข้าใส่รูเล็ก

ร่างสูงยังไม่ได้ปลดปล่อย ท่าทีเป็นจริงเป็นจังกระทั้นเข้าใส่ทำให้ผมหลุดขำ เผลอดึงเนคไทพี่ฮิมล้อ

“บอสครับ” คนถูกล้อเงยหน้าขึ้นมอง พี่ฮิมเล่นบทต่อผมทันที

“มีอะไรคุณเลขา”

“ปะ เปล่า อ๊า” พี่ฮิมเร่งความเร็ว และจังหวะเมื่อกี้ก็ถูกจุดกระสันผมพอดี มันเสียววาบไปทั่วร่าง ส่วนหน้าเลแข็งขึงขึ้นมาอย่างน่าอาย “อ๊าๆ! อ๊ะ! พี่ฮิม”

“ครางแต่ไม่พูดแบบนี้ผมจะรู้ไหมว่าคุณต้องการอะไร”

“บะ… บะ” อยากจะบอกว่าเบาลงหน่อยแต่พูดไม่ออก ผมถูกอุ้มอยู่กลางอากาศ จะขยับก็ไม่ได้จะดิ้นก็จะตก สิ่งที่ทำได้มีแค่อยู่เฉยๆ ให้ร่างสูงขยับสะโพกสอบเข้าใส่เพียงอย่างเดียว สิ่งที่ได้รับในตอนนี้จึงมีแต่ความกระสันอยาก ความเสียวซ่านที่มากเกินพอดี จะหนีก็หนีไม่ได้

“อยากได้โบนัสหรือไง ไม่ต้องห่วง ถ้าครั้งนี้คุณไม่ปล่อยก่อนผม ผมขึ้นเงินเดือนให้คุณเลย”

“อ๊ะๆ! อ๊าๆ! ฮิม” จบประโยคนั้นตามมาด้วยการเร่งจังหวะเข้าใส่ พี่ฮิมไม่อ่อนข้อให้ได้พักหายใจ ทันทีที่ร่างสูงรู้ว่าจุดไหนที่จะทำให้ผมรู้สึกดีได้ เขาก็กระแทกย้ำใส่เข้าไปทันที มันเสียวซ่านจนชาไปหมด ร่างกายเลบิดเร้า รู้สึกเหมือนถูกนรกดึงลงใกล้จะตายอยู่ร่อมร่อ

พี่ฮิมไม่ให้จังหวะได้พักหายใจกันบ้างเลย!

ผมต้านทานความรู้สึกเสียวซ่านไม่ได้ มันมากเกินไป จนในครั้งที่สองผมก็ปล่อยก่อนพี่ฮิมอีกครั้งหนึ่ง ร่างสูงหยัดสะโพกใส่ช่องทางเลอีกสองสามครั้ง จากนั้นจึงปล่อยน้ำกามสีขุ่นพุ่งเข้าไปด้านใน มันจะไหลย้อยผ่านเรียวขาออกมาด้านนอก ส่วนหนึ่งไหลหยดลงบนพื้น

ฮิมซบใบหน้าเข้าลำคอขาว ปลดเสียงหอบหายใจพร่าดังถี่อยู่ที่ข้างหู ใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้ามากัดปากเลทีหนึ่งก่อนที่มือหนาวางตัวผมลง เลนึกว่าพี่ฮิมจะพอ แต่มันไม่ใช่ เพราะทันทีที่เท้าแตะพื้น ร่างสูงก็พลิกตัวผมหันหน้าเข้าหากำแพง ขาเรียวขาหนึ่งถูกยกขึ้นสูงและแท่งร้อนก็สอดเข้ามาดังเดิม

เลจะไม่ไหวแล้วนะ!



“พี่ฮิม” ฮิมได้ยินเสียงเรียก แต่ร่างสูงไม่สน เจ้าของกายหนาเข้ากอดจากทางด้านหลัง เขาฝังจมูกบนลงต้นคอ ไล้สูดกลิ่นเหงื่อที่ตอนนี้กลายเป็นฟีโรโมนชั้นดี พาลให้อารมณ์มันมีแต่จะพุ่งขึ้นสูงไม่ยอมลง

เขาคิดถึงเล คิดถึงมากจนใจจะขาดตายอยู่แล้ว

“คนดี น่ารักที่สุดเลย”

“อ๊ะๆ! พี่ฮิม!” เสียงครางเป็นผลให้สะโพกสอบเผลอเร่งจังหวะโดยอัตโนมัติ มือสากข้างหนึ่งเอื้อมไปขยี้ยอดอกเล่น อีกข้างลูบไปทั้งลำตัวขาวเป็นพัลวัน ฟันคมกัดเข้าที่ลำคอขาวทีหลายๆ กระตุ้นให้คนถูกเล้าโลมมีอารมณ์ร่วมมากกว่าเดิม

ห้องแคบและอากาสร้อนทำเอาทั้งเหงื่อและน้ำกามผสมกันดังเฉอะแฉะไปหมด เลลืมไปแล้วว่าเขากับพี่ฮิมกำลังมีอะไรกันอยู่ในห้องน้ำ ร่างเล็กสติหลุด ปล่อยให้คนตัวสูงที่ซ้อนทับอยู่ด้านหลังนำพาตนไปยังที่ๆ อีกฝ่ายต้องการ

แรงกระแทกหนักหน่วงทำเอาผนังห้องสั่นไหวเล็กน้อย ขาเรียวถูกยกขึ้นสูงกว่าเดิม เลครางหนักเมื่อจังหวะรักเร็วขึ้น กระตุ้นให้ใกล้จะถึงฝั่งจากนั้นจึงแกล้งถอนตัวออก ฮิมทิ้งตัวนั่งบนชักโครก มือหนาดึงเจ้าของสะโพกมนมานั่งทาบหันหน้าเข้าหากัน เป็นอย่างที่เขาต้องการ เลออกแรงขย่มเต็มที่ทันทีเนื่องจากอารมณ์คั่งค้าง แท่งเนื้อเล็กด้านหลังแข็งชัน ใบหน้าสวยเหยเกและร้องครางอย่างไม่นึกอาย

“เมียกู” ฮิมไม่ค่อยอยากพูดคำหยาบกับน้อง เขาจะพูดก็ต่อเมื่อตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเผยออก ซึ่งมันมีแค่สองสาเหตุเท่านั้นที่จะทำให้ตัวตนอันร้ายกาจของเขาหลุดออกมาเมื่ออยู่กับน้องเล หนึ่งคือโกรธมาก สองคือพึงพอใจมาก และกับเลมันมักจะเป็นอย่างหลัง

มือหนาไล้ไปตามโครงหน้ามน นิ้วเรียวสองนิ้วแทรกเข้าไปในปากเพื่อพัวพันกับลิ้นและน้ำลายของอีกคนอย่างไม่รังเกียจ ดวงตาสีดำสนิทมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาของอีกคน ดูล้าทว่ามีความสุข เลเหนื่อยแล้ว อ่อนหัดจริงๆ เลยคนดี

ฮิมหัวเราะในลำคอขณะใช้ริมฝีปากครอบครองตุ่มไตสีชมพูอ่อน เขาตัดสินใจขยับสะโพกช่วยการกระแทกเมื่อน้องผ่อนแรงลงเพื่อไม่ให้อารมณ์หล่นฮวบ เจ้าของตัวขาวเหงื่อแตกพล่านจนเปียกไปหมด ร่างสูงมองแล้วประเมินสถานการณ์ อากาศร้อนขึ้น เขากลัวว่าเลจะเป็นลมไปซะก่อน

คนชำนาญกว่าเปลี่ยนท่าอีกครั้งหนึ่ง ฮิมลุกขึ้นยืนแล้วให้น้องเป็นฝ่ายกึ่งนั่งกึ่งนอนอบยู่บนชักโครก มือหนาจับขาขาวแยกกว้างออกจากกัน เสือกไสแท่งเนื้อร้อนเข้าไปแล้วใส่จังหวะกระชั้นถี่ตามมาติดๆ

“อ๊ะๆๆ! อ๊าๆๆ! พี่ฮิม ดีจัง” เลครางไม่เป็นภาษา น้องดึงเนคไทของเขาเอาไว้ไม่ปล่อย มือเล็กข้างหนึ่งเอื้อมไปข่วนลำคอระหงจนขึ้นรอยแดง กายบางบิดเร้าและสิ้นสุดลงเมื่อเลถอนหายใจเฮือกภายหลังที่น้ำกามพุ่งทะยานออกจากส่วนปลายของลำแท่ง หยาดอารมณ์จากคนตัวสูงถูกปล่อยตามมาติดๆ มือเรียวกดสะโพกหนาแช่ค้างเอาไว้ แล้วขยับเนื้อร้อนกวาดน้ำอสุจิสีขุ่นด้านในไหลเยิ้มออกมาด้านนอก ฮิมถอนแก่นกายออก ร่างสูงหลุบตาลงมองภาพตรงหน้า ภาพที่เลกำลังอ้าขากว้าง ช่องทางเล็กไหลหยาดไปด้วยน้ำกามของเขา

ฮิมเลียริมฝีปากว่า “วิวดีจริงๆ ด้วย”





มือหนาไล้ติดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้ผมที่กำลังนั่งนิ่ง เลเงยหน้าขึ้น เราสบตากันสักพักหนึ่งก่อนที่พี่ฮิมจะยิ้ม เขาเลื่อนมือขึ้นมาลูบแก้มผมเบาๆ

“ยิ้มให้พี่หน่อย”

“ยิ้มไม่ออก” โกรธ ไม่ได้โกรธเรื่องที่เรามีอะไรกันในห้องน้ำ แต่โกรธหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำต่างหาก อุปกรณ์อาบน้ำ ทั้งแชมพู ทั้งสบู่ ทั้งครีมล้างเครื่องสำอาง รวมทั้งเสื้อผ้าต่างๆ ทุกอย่างมีไว้ให้แล้วเรียบร้อยจนผมเห็นแล้วถึงกับหน้าเสีย รู้ได้ทันทีว่าพี่ฮิมเตรียมการเรื่องนี้เอาไว้ตั้งแต่ทีแรก และสามคนด้านนอกประตูใหญ่ที่ทำหน้าเฝ้าเอาไว้ให้ พวกเขาก็คงรู้เหมือนกันว่าฮิมจะทำอะไรผม

โกรธอะ

ไม่ได้อยากให้คนอื่นมารู้ว่าตัวเองมีอะไรกับแฟนตอนไหนสักหน่อย

ร่างสูงให้ผมไปอาบน้ำ ซึ่งห้องอาบน้ำก็อยู่ในห้องน้ำนี่แหละ (คือห้องน้ำที่เราอยู่เป็นห้องน้ำใหญ่ ในห้องน้ำก็จะมีห้องส้วมกับห้องอาบน้ำอีกทีหนึ่ง) เขาคงรู้ว่าผมโกรธ เพราะอาบเสร็จพี่ฮิมเลยเอาใจผมโดยการแต่งตัวให้เสร็จสรรพ

“ทำยังไงน้องถึงจะหายโกรธ” ฮิมถาม ผมมองคนตรงหน้านิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ โกรธไปก็คงไม่ได้อะไรสินะ

“หิวข้าว” เลบอกความต้องการ ผมหิวมาก ท้องร้องโครกคราก ขาแทบจะไม่มีแรงเดิน มันสั่นไหวไปหมด “อยากกินแซลม่อน”

“งั้นเดี๋ยวพี่พาไปกินข้าว”

“ไม่เอา อยากกลับบ้าน กินที่บ้าน”

“โอเค โทรสั่งไปกินที่บ้านก็ได้ครับ” พี่ฮิมว่าง่าย ส่วนผมยิ้มออกเมื่อได้รับการตามใจ “อยากได้อะไรอีกไหมหืม”

“อุ้มเล” ผมอ้าแขนออก ในขณะที่ร่างสูงเดินเข้ามาอุ้มตัวผมขึ้นตามที่เลต้องการ เขาอุ้มผมจากทางด้านหน้า แขนเรียวโอบรอบลำคอหนาเอาไว้กันไม่ให้ตก “พาเลไปคืนชุดหลีดก่อนนะ”

“ครับๆ” พี่ฮิมออกเดิน ผมซุกหน้าเข้ากับบ่าหนาเอาไว้เมื่อฮิมเปิดประตูแล้วเดินออกไปด้านนอก สามคนนั้นยังทำหน้าที่เฝ้าอยู่หน้าประตู พวกเขาไม่แม้แต่จะมอง ทุกคนก้มหน้าลงมองพื้นในขณะที่พี่ฮิมอุ้มผมเดินผ่าน ไม่ ไม่ใช่แค่สามคนนี้ แต่เป็นแทบกับทุกคน ทันทีที่พี่ฮิมเดินผ่าน พวกเขาจะก้มหน้าลงมองพื้นแทน แต่เลไม่สงสัยอะไรมาก คิดว่าฮิมคงไปสั่งอะไรเอาไว้ตามเคย ทุกคนถึงได้ทำเป็นว่าไม่เห็นผมซึ่งถูกอุ้มอยู่ทนโท่ขนาดนี้

เราไปคืนชุดหลีดที่ใต้ตึก ผมบอกขอโทษพี่นนท์นี่ด้วยเพราะไม่ได้อยู่ถ่ายรูปกับคนอื่นหลังจากแสดงเสร็จ ดีที่พี่นนท์นี่เข้าใจ เลคิดว่าพี่รหัสตัวเองมองออกว่าผมไปทำอะไรมามา อีกฝ่ายถึงได้ส่งรอยยิ้มเห็นใจมาให้ด้วย

ทีแรกคิดว่าอยู่ใต้ตึกไม่นาน แต่ปรากฏว่าพี่ฮิมคนงานเยอะได้คุยงานกับคนอื่นต่อ ผมไม่พอใจ แต่คิดภาพพี่วินที่เดินไปมา ทำงานจนหัวหมุนอยู่คนเดียวก็เลยยอมนั่งหิวรอเงียบๆ ข้างกายมีเกี๊ยกนั่งเป็นเพื่อน

“เกี๊ยกเลหิวอะ”

“เรียกบอสสิ” หันไปมองพี่ฮิมซึ่งยืนคุยงานอยู่ไม่ไกล ก่อนจะส่ายหน้า

“ไม่เอา เดี๋ยวพี่วินได้ทำงานหนักจนไม่ได้พัก” แต่หิวข้าว ท้องร้องโครกครากเข้าขั้นรุนแรงแล้วอะ ฮือ และในจังหวะนั้นเอง รุ่นพี่ที่ผมรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาคนหนึ่งก็เดินผ่านเป็นนางฟ้ามาโปรดด้วยคำพูดที่ว่า

“น้องเลคะ ข้าวเย็นที่น้องเลสั่งอยู่ตรงโน้นนะคะ”

สวรรค์! มีข้าว!



ควันพิษกระจายฟุ้งในอากาศ ต้นกำเนิดมาจากบุหรี่บนมือหนา ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าก่อนจะถอนหายใจ น่าเบื่อจริงๆ

ซันดับบุหรี่แล้วขยี้มันทิ้ง เขาเดินล้วงมือเข้ากระเป๋าไปยังห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ขณะเดียวกันก็เห็นใครบางคนพึ่งออกจากห้องน้ำแล้วเดินผ่านตัวเองไป หน้าตาและผิวพรรณโดดเด่ดจนต้องเหลียวหลังกลับไปมอง

หน้าคุ้นๆ นะ เดล? เด เดเล ไม่ใช่! เดวา

รู้สึกว่าช่วงนี้มาตึกวิศวะบ่อยจังนะ

ซันรู้แค่ชื่อของอีกฝ่าย กับรู้ปัญหาระหว่างเลกับเดวา เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน แค่ข่าวมันดังมาก คนพูดกันทั่วมหา’ลัย กระทั่งกลุ่มพวกผู้ชายที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องซุบซิบยังพูดถึง และเขาก็แค่ได้ยินมาอีกที

นัยน์ตาคมมองแผ่นหลังบางที่เดินออกห่างจนลับสายตา จากนั้นจึงส่ายหน้าเลิกสนใจ ขายาวเดินเข้าห้องน้ำซึ่งเป็นจุดหมายตั้งแต่แรก ไม่รู้ทำไมสายตาถึงได้มองถังขยะซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลโดยอัตโนมัติ

ว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่

ซันรู้สึกว่าตัวเองคงว่างมากเกินไปถึงได้เดินสำรวจถังขยะในห้องน้ำแต่ละห้อง แม้สุดท้ายแล้วจะไม่เจออะไรเลย ร่างสูงยืนนิ่งอยู่สักพัก จากนั้นจึงถอนหายใจ บางทีเขาอาจจะฟังเรื่องซุบซิบมามากเกินไป ถึงได้คิดไปเองว่าอีกฝ่ายอาจจะกำลังทำเรื่องไม่ดี เช่นการวางยา ซึ่งเป็นการฆาตกรรมที่บุคคลไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็สามารถทำได้ และคนร้ายมักจะทิ้งหลักฐานอยู่ในห้องน้ำ

“...” คิดมาถึงตรงนี้แล้ว ซันได้แต่นิ่ง

เขาคง… ว่างมากจริงๆ สินะ

ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะเดินกลับหลังหัน จังหวะนั้นเองที่ซันรับรู้ได้ว่าใต้รองเท้าของตัวเองมีอะไรติดอยู่ เพราะทันทีที่เดิน บางอย่างด้านล่างมันก็ส่งเสียงดังครืด

ขายาวชะงัก นัยน์ตาคมก้มลงมองพื้นห้องก่อนจะพบกับเศษแก้วเล็กๆ ซันก้มลงไปหยิบมันขึ้นมา จังหวะที่นิ้วเรียวสัมผัสสิ่งแปลกปลอมนั้นเป็นเวลาเดียวกันที่ร่างสูงออกตัววิ่ง แม้จะยังไม่ชัวร์ แต่กันไว้ยังไงก็ดีกว่าแก้

ตึก! ตึก! ตึก!

วิ่งด้วยแรงทั้งหมดที่มี ดวงตากวาดมองหาไปทั่ว แต่ไม่เจอ อยู่ไหน! อยู่ที่ไหน!

“น้องเลโคตรน่ารักสัสๆ”

“กูว่าสวยเกินไปอะเอาจริง”

“สวยจริงมึง เมื่อกี้กูพึ่งเห็นอยู่ใต้ตึก”

ใต้ตึก…

ซันเบิกตากว้าง ทางที่เขามาตามหาเลตอนนี้มันคือคนละฝากกับใต้ตึกเลยด้วยซ้ำ!

ร่างสูงรีบหมุนตัวเปลี่ยนทิศ เขาวิ่งสุดแรงเกิดจนคนอื่นหันมามอง ตอนที่ใกล้จะถึงใต้ตึกที่ว่า สายตาเขาก็หาเลเจอแล้ว อีกฝ่ายหาไม่ได้ยาก ร่างบางยืนเด่นอยู่ก่อนแล้ว มันจะดีกว่านี้ถ้าในมือของอีกฝ่ายไม่ได้กำลังถือกล่องข้าว ใกล้จะกินอยู่พอดี

ไม่ ไม่ทัน! เขาวิ่งไปไม่ทันแน่ๆ

ซันเลือกที่จะตะโกนสุดเสียง

“เลอย่ากิน!”

พรึบ!

ไม่ทัน เขาช้า ยังช้าเกินไป เพราะจังหวะที่เสียงทุ้มตะโกนลั่น เป็นเวลาเดียวกันที่เลล้มพรึบลงไปต่อหน้า ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องดังโกลาหลไปทั่ว

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด”

ฮิมชะงัก ร่างสูงกลับหลังหันไปมองความวุ่นวายทางด้านหลัง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรักนอนนิ่งอยู่บนพื้น

“เล!!!!”



เพล้ง!

โทรศัพท์เครื่องหรูหล่นตกพื้นฉับพลัน วินก้มลงไปหยิบมันขึ้นมา นัยน์ตาคมมองหน้าจอที่แตกไปครึ่งแทบด้วยความหงุดหงิด มือหนากดเปิดเครื่อง ทันใดนั้นเองภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาความหงุดหงิดแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกหวิวใจแทน นิ้วเรียวแตะตรงส่วนที่แตก วอลเปเปอร์หน้าจอของเขาคือรูปคู่ที่ถ่ายกับเลเมื่อเช้า และไม่รู้ว่านี่คือความบังเอิญ เป็นลางบอกเหตุหรืออะไร แต่ครึ่งแทบที่แตกไปนั้นเป็นฝั่งของ…

“เล”








(100%)


พี่ฮิมมีสกิลพระเอก และ Think positive เอาไว้นะคะทุกคน อีกอย่างคือปมเฉลยแน่ๆ ในตอนหน้าจ้าาาาาา


ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 11-06-2018 14:07:42
โอ๊ยยยยยย ถ้าเลเป็นอะไรไปนะแกเดวาไม่น่าจะตายดีแน่ๆ ขอบอกเพราะพี่ฮิมเราโหดมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 11-06-2018 14:17:10
มาต่ออีกนะครับ ของมันต้องจัด หนักๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: bearjunjun ที่ 11-06-2018 14:21:41
เดวา นี่มันเหล้าขาววววว
เธอทำไรน้องงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 11-06-2018 14:41:45
เดวานึกว่านางจะหงิมๆ ร้ายไม่ใช่เล่น แต่เล่นกับใครไม่เล่น มาทำแบบนี้กับน้องเลไม่ตายดีแน่ๆ งานนี้ :z6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 11-06-2018 14:46:18
สงสารน้องเลจัง..โดนทำร้ายเพราะพี่ฮิมอีกแล้ววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 11-06-2018 15:04:12
เล !!!! อย่าเป็นอะไรเน้อ  :sad4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-06-2018 15:55:06
เมียกู ใครอย่าแตะ
เดวา โดนแน่ บังอาจยุ่งกับเล  :z6: :z6: :z6:
ฮิม ลงโทษให้หนักๆเลย  :z3: :z3: :z3:

ฮิม  เล  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 11-06-2018 17:43:51
เลโดนอะไร เดวาทำจริงหรา ถ้าจริง..คงไม่รอดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-06-2018 17:45:58
เลโดนอะไร คนแก่งงดิ งงดิ  :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 11-06-2018 18:57:23
รอตอนหน้า เฉลยปม
หวังว่าเลจะแค่ปวดท้องมากๆ จนเป็นลมไป
ไม่ได้โดนยา #PositiveThinking
แต่ถ้าไม่ใช่ คนทำจะได้รู้จักคำว่า "เมียกู" แน่ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-06-2018 19:49:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 11-06-2018 20:01:03
หาศพไม่เจอแน่เดว งานนี้อาจไม่ต้องถึงมือพี่ฮิม แค่พี่วินก็เอาตายแล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 11-06-2018 20:34:43
ถ้าทำจริงคิดว่าไม่น่าจะได้ตายดี :m16:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 11-06-2018 20:58:10
ที่อยากรู้ตอนนี้คือพี่ซันคือคนที่เล่นหมากรุกใช่ม่ะ

หูยยยย ร้ายกาจ!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 11-06-2018 21:11:47
มีเหตุจนได้ :mew6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 11-06-2018 21:21:41
พี่ฮิม.. ต้องจัดการเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-06-2018 21:43:53
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 12-06-2018 00:48:19
เดวาเธอเป็นคนไม่ดีใช่มั้ยถ้าน้องเลเป็นอะไรไปเธอต่องแย่มากๆแน่พี่ฮิมไม่ได้ใจดีขนาดนั้น :fire:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 12-06-2018 08:56:57
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 12-06-2018 08:59:49
เกี๊ยกหายไปไหนนนนนนนนน เห็นนั่งอยู่ด้วยกัน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 12-06-2018 12:51:43
อูยยยยยยย .. พี่ ๆ อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 12-06-2018 15:43:09
พี่ฮิมต้องจัดการขั้นเด็ดขาดไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 12-06-2018 18:19:17
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-06-2018 00:00:06
เกิดอะไรขึ้น!?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 13-06-2018 09:38:38
ทำอะไรน้องเลลล
พี่ฮิมเอาให้ตายย บังอาจมาก
น้องเลอย่าเป็นไรไปนะข
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 110618#35 p.48
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 17-06-2018 11:56:09


#36 (40%)



ซันมองเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้าด้วยความหัวเสีย ทุกอย่างเร็วมาก เขาเห็นพี่ฮิมอุ้มน้องเลวิ่งขึ้นรถสปอร์ตคันหรูของใครสักคนที่บังเอิญขับมาจอดจากนั้นก็แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงเสียงเซ็งแซ่ของคนที่ยังคงตื่นตระหนกกับเหตุการณ์

ร่างสูงยกมือขึ้นกุบขมับ ถอนหายใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนเบอร์โทรแล้วกดหารายชื่อที่ขึ้นว่า ‘บอส’ จากนั้นจึงกดโทรออก…



ครืด ครืด

นิ้วเรียวที่ลูบรอยแตกของหน้าจอโทรศัพท์อยู่ชะงัก วินมองชื่อของคนที่โทรเข้ามา เขากดรับ

“มีอะไรซัน” เขารอฟังมันพูดขณะคุยงานกับเพื่อนอีกคน “พิธีจะจบแล้ว ปล่อยผี พวกมึงจะไปเล่นที่ไหนไหนก็ไป แต่เตือนคนอื่นๆ ด้วย อย่าหาเรื่องให้แก็ง กูไม่มีอารมณ์ต่อยคน”

(บอส)

“เฮีย!” วินชะงักอีกครั้ง ร่างสูงหันไปมองลูกน้องคนหนึ่งที่วิ่งหน้าตาตื่นมาหา มันหอบหายใจ จากนั้นก็ตะโกนบอกประโยคที่ทำให้วินรู้สึกเหมือนโลกของเขาแตกสลาย เป็นเวลาเดียวกันที่ปลายสายพูดกับเขาพอดี

(เลโดนวางยา!) / “น้องเลโดนวางยา!”



บรรยากาศหน้าห้องฉุกเฉินตึงเครียด ร่างสูงหกคนที่กำลังยืนพิงกำแพงอยู่ไม่มีใครยิ้มออกแม้กระทั่งผาที่เป็นคนอารมณ์ดีอยู่ตลอด

รพเงยหน้ามองเพื่อนสนิท ฮิมยืนกอดอกนิ่งเงียบ แต่เขารู้ว่ามันโกรธมาก ดูจากที่มันซัดคนติดตามทั้งสามของเล เล่นหนักจนต้องแบกพวกมันเข้าห้องฉุกเฉินตามน้องเลไปอีกสามราย ขนาดมีคนตามน้องอยู่ตลอด ก็ยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อีก แล้วถ้าเลเป็นอะไรขึ้นมา รพคิดว่าคงไม่มีใครสามารถเอาฮิมอยู่ มันกลายเป็นปีศาจเต็มตัวแน่ๆ

ส่วนเกียร์ ฝ่ายนั้นกำลังยุ่งกับการสั่งให้พวกลูกน้องเอาอาหารที่เลกินไปตรวจว่าในนั้นมีอะไร ฮิมมันต้องการรู้ว่าเลกินอะไรเข้าไปและต้องการรู้ว่าใครเป็นทำ พวกมันต้องหาให้ได้ภายในสี่สิบห้านาที

“พอจะรู้หรือเปล่าว่าใครทำ” รพหันไปมองดีน มันเป็นคนที่ขับรถพาน้องเลมาส่งที่โรงพยาบาลเพราะบังเอิญขับผ่านใต้ตึกในเวลานั้นพอดี เป็นครั้งแรกที่ฮิมยอมอุ้มน้องเลขึ้นรถของคนที่เรียกได้ว่าก่ำกึ่งศัตรู ครั้งแรกและอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย

ฮิมไม่ได้ตอบ มันยังยืนกอดอกนิ่ง จนดีนซ้ำอีกครั้ง “ถ้าเลเป็นอะไรไป จำไว้ว่านั่นก็เพราะมึง”

“มึงคิดว่ากูอยากให้เลเป็นอะไรหรือไง!” เสียงทุ้มยอมตอบ นัยน์ตาคมแข็งกร้าว แดงก่ำจนน่ากลัว “ถ้าเมียกูเป็นอะไรขึ้นมา ไอ้เหี้ยไหนที่ทำ…”

“...”

“มันไม่ตายดีแน่”

รพฟังก่อนจะหลับตานิ่ง ประโยคนี้ของฮิม เขารู้สึกว่ามันไม่ได้ล้อเล่นแม้แต่นิดเดียว



เฟอร์รารี่คันหรูแล่นทะยานบนท้องถนนด้วยความเร็วสูงเท่าที่จะทำได้ วินมาถึงโรงพยาบาล ร่างสูงลงจากรถแล้วเดินไปทางห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาคมกวาดสายตามองหาคนที่ต้องการจะพบ เขาหามันเจอภายในไม่กี่นาที

ไอ้ฮิม…

มือหนากำหมัดแน่น ขายาวเร่งความเร็วขึ้นจนกลายเป็นวิ่ง ทันทีที่วิ่งมาถึงตัว วินจับอีกฝ่ายกระชากไหล่ให้หันมามองก่อนจะซัดหมัดเข้าที่หน้า

ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!

“เฮ้ย! ไอ้วิน”

“วิน! มึงใจเย็นๆ”

“มีไรคุยกันก่อนดิ่วะ!”


วินสะบัดพวกเพื่อนที่วิ่งเข้ามาจับตัวเขาออก ร่างสูงมองคนที่ล้มอยู่บนพื้น ฮิมหันหน้ามามองอย่างเอาเรื่อง กายหนายันตัวลุกขึ้นยืนแล้วยกมือเช็ดเลือดที่มุมปาก นัยน์ตาคมแสดงถึงความโกรธจัด ฮิมกำจัดความโกรธด้วยการพุ่งหมัดซัดใส่หน้าเพื่อนกลับ วินตั้งรับ แต่ละคนผลัดกันต่อยอย่างไม่มีใครยอมใครจนได้เลือดกันไปคนละข้าง ทั้งสองถูกแยกออกจากกันก็ตอนที่รพ ไทด์ เกียร์ ผา หาจังหวะดึงตัวแต่ละคนออกมาได้

“มึงสัญญากับกูว่ายังไง!” วินชี้นิ้วใส่หน้าอีกฝ่าย เสียงทุ้มตะโกนพูดไปด้วยความเดือดดาล “มึงบอกว่าเลจะไม่เป็นอะไรถ้าได้คบกับมึง!”

“มึงคิดว่ากูอยากให้เมียกูเป็นอะไร?” ฮิมตอบกลับ

“แต่มึงปกป้องมันไม่ได้!” เขาอยากพุ่งไปกระแทกหมัดใส่หน้ามันอีก ติดอยู่ที่ว่ารพกับผาไม่ยอมปล่อย

“เฮ้ย!  ฮิมมันก็อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอก”

“มึงต้องใจเย็นๆ ก่อน”


“พวกมึงหุบปาก! อย่าเสือก!”

“แล้วมึงเสือกเหี้ยไรนักหนากับชีวิตเล” ฮิมหมดความอดทน ร่างสูงเดือดดาลไม่แพ้กัน “ตั้งแต่มึงรู้จักเล มึงก็คอยเข้ามายุ่งเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่ตลอด มึงคิดว่ากูไม่รู้หรือไงไอ้วิน ว่าลับหลังมึงแอบให้คนอื่นที่ไม่ใช่คนของกูตามเล!”

ฮิมรู้ เขาพึ่งรู้ได้ไม่นานว่าเพื่อนสนิทแอบสั่งให้คนอื่นติดตามเลโดยที่มันไม่ได้บอกเขาเอาไว้ และมันตั้งใจไม่บอก ฮิมรู้ว่าอีกฝ่ายหวังดีกับเล แต่สำหรับเขาแล้วการที่มันทำแบบนี้ ไม่เป็นผลดีต่อความคิดของเขานัก

ฮิมไม่ปฏิเสธว่าเลให้ความสำคัญกับเพื่อนคนนี้ของเขามากขนาดไหน เขามองออกว่าเลรักมันเหมือนพี่ชาย วินเป็นแค่ไม่กี่คนที่เลสนิทและให้ความไว้วางใจมากที่สุด เพราะถึงแม้จะอยู่บ้านเดียวกันกับคนอื่น แต่อย่างไทด์ รพ เกียร์​ น้องก็ยังไม่ได้ให้ความสนิทสนมถึงขั้นที่ว่าไปนอนห้องเดียวกันได้ขนาดนั้น แน่นอนว่าเขาหวง แต่ก็ทำใจยอมรับ เพราะเลชอบคิดว่าตัวเองไม่มีใคร ฮิมจึงยอมให้น้องมีคนสำคัญเพิ่มขึ้นมาอีกนอกจากเขา และหลังจากนั้นวินมันจึงกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีอิทธิพลกับเล เขาไม่ชอบแต่ก็พยายามทำใจให้รู้สึกโอเค

แต่การที่มันใช้อิทธิพลกับเลในทางที่อยากให้น้องไปจากเขานั่นแหละที่มันไม่โอเค

มันหวังดีกับเลมาก แต่มันเข้ามายุ่งในเรื่องของเขากับเลมากเกินไป เพราะสิ่งที่วินคิดว่าดีกับเลก็คือการให้น้องไปจากเขา

เสือกชิบหายไอ้สัส!

“เออ! กูสั่งให้ไอ้ซันมันตาม เพราะกูไม่วางใจคนของมึงว่ามันจะดูน้องกูได้ดีแค่ไหน แล้วเป็นไงขนาด ตามเดินติดหลังเลขนาดนั้น น้องมันยังโดนวางยา!” วินยอมรับ เหตุผลที่ทำให้คนฟังต้องร้องเหอะออกมาพร้อมกับแสยะยิ้มที่มุมปาก

“มึงจะไม่ได้รู้จักกับเล ถ้ามึงไม่รู้จักกู”

“กูรู้จักเลก่อนรู้จักมึง” เขาเค้นเสียงว่า ฮิมขมวดคิ้ว กลั้นใจถามบางอย่างออกมา

“มึงชอบเล?”

“กูรักเล” วินเห็นอีกฝ่ายทุ่มเพื่อนที่จับตัวเองอยู่ลงพื้นทันที มันตรงมาที่เขา กระชากคอเสื้อแล้วยกหมัดขึ้น “เพราะเลเป็นน้องของกู”

“แต่นั่นเมียกู!”

น้องแท้ๆ” หมัดหนักชะงักค้างอยู่กลางอากาศ วินมองใบหน้าอึ้งของเพื่อนตรงหน้าพร้อมกับกัดฟันกรอด เขาว่าต่อ “ทีนี้กูมีสิทธิ์เสือกพอหรือยัง”



เสียงเงียบลงไปถนัดตา ไม่มีใครพูดอะไร สิ่งที่ได้รู้จากปากของวินเมื่อสักครู่ทำให้ทุกคนนิ่งอึ้ง

เป็นไปได้ยังไง

“ได้ยังไง” ฮิมพูดขึ้นมาเป็นคนแรก เขาทิ้งหมัดลง พร้อมกับปล่อยมือที่คอเสื้อของอีกฝ่ายออก

“มึงไม่ได้รู้ทุกอย่าง” วินตอบ “มึงไม่รู้ด้วยว่าเลเป็นน้องกู”

“มึงไม่เคยบอก”

“กูไม่เคยบอกใคร แม้แต่เลกูก็ยังไม่ได้บอก แต่เพราะไม่ได้บอกกูถึงได้รู้ว่าน้องกูโดนอะไรบ้าง!” หลายๆ เหตุการณ์ฉายซ้ำเข้ามาในสมอง ทั้งภาพและเสียง ทุกอย่างที่เขาได้เห็นและได้ยิน มันตอกย้ำความรู้สึกด้านลบต่อคนตรงหน้าทวีพูลขึ้นเท่าตัว “มันเจ็บตัวเพราะมึงอยู่หลายครั้ง และบางครั้งก็เป็นมึงที่ทำน้องกูเอง กูเคยเห็นมึงตบเล กูเคยเห็นสภาพน้องหลังจากที่มึงข่มขืนเล! แล้วถ้ามึงเป็นพี่เลอย่างกู มึงคิดว่ากูควรจะรู้สึกยังไง ไอ้ฮิม!”

“...”

“กูรู้ว่าใครทำน้องกู แต่กูก็ทำอะไรมันไม่ได้ จนบางครั้งกูอยากฆ่ามึงให้ตาย แต่กูทำไม่ได้ มึงรู้ไหมว่าทำไม”

“...” วินหอบหายใจพร่า ทุกประโยคที่พูดออกมาอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกคับแค้นใจอยู่ในอก

“เพราะเลรักมึง”

ผัวะ!

สิ้นสุดประโยค ร่างสูงก็วิ่งแล้วกระแทกหมัดใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างจัง ฮิมได้เลือดที่มุมปาก เขาไม่ได้ตอบโต้กลับในขณะที่วินยื่นมือมากระชากคอเสื้อของเขาเอาไว้แน่น ฮิมจ้องตาแดงก่ำของอีกฝ่าย มันบ่งบอกว่าคนตรงหน้ากำลังคับแค้นใจและโกรธเกรี้ยวแค่ไหน

“กูทำอะไรมึงไม่ได้เพราะเลรักมึง!”

ผัวะ! ผัวะ!

“ตอนที่พวกมึงทะเลาะกัน กูขัดขวาง ไม่อยากให้พวกมึงกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง กูดีใจชิบหายตอนที่มึงจะเซ็นสัญญาตัดขาดกับเล แต่หลังจากนั้นสภาพเลก็แย่ลง มันแย่ เพราะมันรักมึง ทุกลมหายใจเข้าออกก็มีแต่มึง มีมึงมาทั้งชีวิต!”

เขาทุ่มมันลงพื้น วินขึ้นควบ ซัดหมัดหนักใส่คนที่นอนราบอยู่บนพื้นหลายครั้งติดต่อกัน

ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!

“กูไม่อยากให้เลกลับมาคบกับมึง! กูรู้ว่ามึงรักเลจริง แต่หลายๆ ของมึงมันจะทำให้น้องกูได้รับอันตราย!”

เขาโกรธมาก มากจนบรรยายความรู้สึกออกมาได้ไม่หมด

ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!

“ก่อนจะกลับมาคบกันอีก มึงเคยให้สัญญากับกูว่าเลจะไม่เป็นอะไรไปเพราะมึงอีก! แล้วเป็นไง เลถูกวางยา จากใคร? ถ้าให้กูเดามันคงไม่พ้นเป็นเด็กเก่าๆ ของมึงเอง!”

มันคงคิดไม่ออก ว่าวินาทีที่วินรู้ว่าน้องโดนวางยานั่นเขารู้สึกยังไง

ยิ่งกว่าโลกถล่ม

ให้เขาตายซะยังจะดีกว่าได้รับรู้ว่าเลโดนเล่นงานอีก

“น้องกู…” วินหยุดต่อย เขากระชากคอเสื้อมันขึ้นแล้วเลื่อนมือไปขย้ำลำคอของอีกฝ่าย เขย่าและกำแน่น กายหนาสั่น เขาโกรธจนตัวสั่นพร่า ยิ่งคิดว่าเลจะเป็นยังไงในห้องฉุกเฉินนั่น วินก็ยิ่งรู้สึกโกรธจนอยากฆ่าให้ตาย “มึงรู้ไหมว่ากูมีน้องคนเดียว”

น้ำสีใสหยดลงใส่ใบหน้าของคนที่อยู่ด้านใต้ วินร้องไห้ เขาไม่ได้เสียใจ แต่โกรธจนไม่รู้จะระบายความรู้สึกนี้ออกมาได้ยังไง

“มึงสัญญากับกูไว้” วินทวนสิ่งที่ตัวเองจำได้ไม่ลืม “มึงบอกว่าถ้าเลกลับไปคบกับมึงน้องจะไม่เป็นอะไร แล้วตอนนี้...”

พรึบ!

เขากระชากมันขึ้นจากพื้น ผลักเข้ากำแพงแล้วตามไประดมต่อยซ้ำ

ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!

“เลถูกวางยา น้องกูถูกวางยา แล้วถ้าเลตายขึ้นมา มึงจะรับผิดชอบน้องที่กูมีแค่คนเดียวในโลกได้ยังไงไอ้ฮิม!”

ผัวะ!

หมัดสุดท้ายกระแทกเข้าที่ใบหน้าของฮิมก่อนที่วินจะถูกดีนกับรพดึงตัวออกไป คนถูกต่อยจนเลือดอาบหน้าไปหมดรู้สึกเจ็บ แต่ที่ยิ่งกว่าเจ็บคือความรู้สึกตกใจ

วินเป็น… พี่ชายแท้ๆ ของเล

ทว่าความรู้สึกตกใจในครั้งนั้นยังไม่เท่ากับความรู้สึกตกใจภายหลังจากไม่กี่วินาทีต่อมา วินาทีที่ทุกคนเงียบ เงียบจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจหอบพร่าของคนที่กระหน่ำหมัดใส่เขาแบบที่อยากฆ่าให้ตาย วินาทีนั้นเองที่เสียงใสของคนๆ หนึ่งดังขึ้น เสียงที่เรียกให้ทุกคนต้องหันไปมอง

“พี่วิน”

วินเบิกตากว้าง เขาเห็นเลยืนอยู่ตรงนั้น น้องยืนร้องไห้อยู่ที่หน้าประตูห้องฉุกเฉินโดยที่ไม่มีใครได้ทันสังเกต

ร่างสูงรู้สึกลำคอแห้งผาก ยามที่ต้องเค้นเสียงเรียกชื่อของคนตรงหน้าออกไป

“เล”







(40%)











แก้ไปแล้ว 2 ปม

คนที่เล่นหมากรุกตอนบทนำคือใคร ตอบ พี่ซัน

พี่วินเป็นอะไรกับน้องเล เป็นพี่ชาย แท้ๆ เลยค่ะ

คือหลายคนก็เดาถูกแหละว่าพี่วินเป็นพี่ชายน้อง แค่ยังไม่มั่นใจกัน พี่ซันก็เหมือนกัน แล้วเป็นพี่ซันได้ยังไง อันนี้เราจะอธิบายเพิ่มอีกใน % ที่เหลือ มาพูดถึงเรื่องความโกรธของพี่วินกันดีกว่า คือพี่วินในบทนี้คือโกรธมาก ก็อย่างที่บอกเลย พี่แกรู้ พี่แกเห็นว่าน้องโดนทำอะไรบ้าง แต่ทำอะไรไม่ได้ ทำไมไม่ทำอะไรล่ะ? เพราะน้องรักฮิมค่ะ พี่วินพยายามช่วยแล้วแต่คือพี่วินก็รู้ว่าเลรักฮิมมาก คือวินรู้ว่าถึงบางครั้งเลมีโกรธฮิมแต่น้องก็รัก การที่ทำร้ายฮิมก็มีแต่จะทำให้เลแย่ลงไปด้วย สรุปวินเลยทำอะไรฮิมไม่ได้เลย นางเลยจะอัดอั้นมากๆ(นึกอารมณ์ออกไหม แบบไอ้นี่มันทำน้องกูเจ็บ แต่คนเป็นพี่ไปเอาคืนอะไรไม่ได้เลย) ส่วนพาร์ทที่ว่าเขาไปสัญญากันตอนไหน มีช่วงหนึ่งเป็นแค่ช่วงสั้นๆ ตอนที่เลพาฮิมกลับบ้านหลังจากนั้นเลบรรยายว่าพี่วินกับพี่ฮิมออกไปคุยกันสองคน ตอนนั้นแหละจ้ะที่เขาไปสัญญา แต่ฮิมรักษาสัญญาเอาไว้ไม่ได้ไง ความโกรธเกรี้ยวบวกอัดอั้นเลยx2 เข้าไปอีก

ปล. ทำไมพี่วินไม่บอกเลว่าตัวเองเป็นพี่ จะมีบอกใน % ที่เหลือค่ะ และพี่วินมาเป็นพี่เลได้ยังไง อันนี้เป็นอีกปม จะเฉลยในตอนต่อๆ ไป

ปล2. เราร้องไห้ตอนแต่งบทนี้เลยค่ะ เศร้าหนัก55555555







#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

เราอยากอ่านคอมเม้นท์ตอนนี้ คอมเม้นท์ให้จะกราบขอบพระคุณมากค่ะ

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 17-06-2018 13:24:08
ภาพเหตุการณ์ต่างๆย้อนกลับมาเลย คือตั้งแต่ที่น้องเป็นของพี่ฮิม พี่วินคอยดูแลพาไปส่งโรงพยาบาลตลอด ตอนน้องเจ็บช้ำจากพี่ฮิมแล้วนอนที่อ่างอาบน้ำพี่วินก็เป็นคนอุ้มขึ้นมา แถวทะเลาะดันอีกช่วงนั้น ยอมรับว่าเลือดความเป็นพี่สูงมาก ก็น้องทั้งน่ารักและสวยขนาดนี้ 5555

น้องเลรู้ความจริงแล้วก็รักพี่วินให้มากๆนะ กอดพี่ชายคนนี้ไว้ :)

ขอบคุณอละสู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 17-06-2018 13:24:38
พี่วินเป็นพี่น้องเหรอเนี่ยยยยยยยยย ไม่รู้เลยยยย
ถึงว่าดูรักดูเป็นห่วงน้องมาก
อยากรู้ปมที่เหลือ
ว่าแต่น้องเลหายเร็วจัง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 17-06-2018 13:32:39
เป็นพี่น้องกัน !!!!!!!
พี่วินโคตรอดทนอ่ะ เข้าใจความรู้สึกของพี่นะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 17-06-2018 13:36:38
น้องเลลลล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 17-06-2018 13:42:30
สะเทือนใจ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 17-06-2018 13:44:49
คุณผู้แต่ง รู้ไหมคะ เรื่องนี้ทำให้เราตั้งใจสมัครสมาชิก เพื่ออยากติดตาม อยากคอมเม้นท์ให้กำลังใจคุณมากๆ ชอบมากถึงมากที่สุดเลย ส่องทุกวัน อยากอ่านตลอดๆ อยากให้น้องมีความสุขกับคนรัก อยากอ่าน ความรักของ วินดีน ขอบคุณอีกครั้งที่เขียนนิยายดีๆ ให้ได้อ่านได้ติดตาม ใจอยากให้มีคนนำไปทำซีรีย์นะคะ แต่คิดว่าน่าจะยากเพราะใช้ นสด เยอะ ใช้รถหรูก็เยอะ โดยส่วนตัวชอบหมด ยกเว้นเรื่องของขัวญวันเกิดจากพี่รพ ถ้ามีการรีไรท์ อยากให้ปรับปรุงค่ะ นอกนั้นถูกใจที่สุด ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 17-06-2018 13:52:13
เข้าใจได้ว่าวินรักน้องมาก
น้องคนเดียว เป็นห่วงมากจากบทบาทที่ผ่านมา
แต่ฮิมก็เลี้ยงน้องมา เลี้ยงมานานมาก
และรักน้องมากๆ ไม่น้อยกว่าวิน แม้จะคนละรูปแบบ
แต่ทำไมวินต้องปิดบัง มิน่าถึงยกบ้านให้น้อง
รอ % ที่เหลือมาเปิดเผย ...

ต่อให้ฮิมรับปาก
ฮิมก็ไม่ใช่ผู้วิเศษที่ควบคุมทุกอย่างได้
วินเองบอกว่าคนที่ฮิมให้ตามน้องยังช่วยอะไรไม่ได้
คนที่วินให้ตามอย่างซัน ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ไม่ทัน เหมือนกัน
ว่าแต่ซันตอนสั่งซ่อมน้องให้ไปวิ่ง ยังไม่รู้ใช่ไหมว่าเลเป็นน้องวิน พูดถึงแต่น้องชายบอสตั้งแต่ต้น บอสของซันคือวิน ...

วินเล่นฮิมซะเละเลย หมดหล่อกัน

เล แค่ปวดท้องมากจนเป็นลมหรือเปล่า
ถึงมายืนฟังได้ ...

รีบมาต่อนะคะ อยากเข้าใจส่วนที่เหลือ
 :L2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 17-06-2018 13:56:21
โอ้ยยย ดีใจ พี่วินเป็นพี่ชายแท้ๆ ของเล เคยคิดเยอะมากๆ แอบคิดตลอด พี่วินรักเลแบบแฟนม๊ายย ทำไมรัก และ ดูแลเลดีจัง แต่นักเขียนก็เคยบอก ว่าไม่ได้รักแบบนั้น เรานักอ่านก็คิดมากไปสิ แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วววว พี่วินเป็นลาสบอสชิมิ๊คะ รอเฉลยปมจ้าาา

ปล.แบบนี้ วินดีน ต้องมานะคะ พี่ดีนไม่ได้น้อง ก็ได้พี่ชาย
โอ้ยยย รอคู่เน้ค๊าาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 17-06-2018 14:07:44
ฮรือออ รักพี่วินเพิ่มขึ้นอีก 150% เลยอ่ะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-06-2018 14:22:14
วิน พี่ชายแห่งชาติ  o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 17-06-2018 14:25:44
 :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 17-06-2018 16:47:35
คือยอมรับแหละว่าทุกการกระทำที่วินทำให้น้องนี่คือสิ่งที่พี่คนหนึ่งทำให้เพราะหวังดี ทำเพราะอยากทำ แต่นึกไม่ถึงอะ ว่าจะเป็นพี่แท้ๆ
โห คิดถึงสิ่งที่น้องโดนนี่ แล้วพี่ทำอะไรไม่ได้
กดดันอ่ะ
แต่ก็รู้แล้วเนอะน้องก็รู้แล้วด้วย
น้องคงสับสนน่าดู ทั้งเรื่องพี่วิน ไหนจะเรื่องพี่ซันอีก
เฮ้ออออ เกิดเป็นเลไม่ง่ายจริงๆ
รอเปอร์เซ็นต์ที่เหลือเนอะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 17-06-2018 18:09:42
มีแฟนคือฮิม  มีวินเป็นพี่ชาย  มีดีนอารมณ์อยากเป็นพ่อ  นุ๋งเลนี่น่าอิจฉา  :mew4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: ก้มหน้าก้มตา ที่ 17-06-2018 18:35:59
โอ๊ยยยยยยยยยยยพี่วิน
เราเดาไม่ได้
เรานึกว่านางแอบรัก


แม้จะอ่านไปแล้วก็งงๆหน่อยว่าทำไม เลดูให้ความสนใจพี่วิน พี่ซันมาก
ดูสนิทใจที่จะอยากเข้าหากว่าคนอื่น
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 17-06-2018 20:47:27
ทุกคนห่วงเล คงต้อวรอปมทั้งหลายคลายแล้วเรื่องมาบรรจบกัน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 17-06-2018 22:19:41
บือ ปมค่อยๆคายแล้ว ฮิมเลือดเต็มปากละมั้ง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: taku_kimu ที่ 17-06-2018 23:45:54
เป็นเล ต้องสตรองแล้วจุดนี้

วันดีคืนดี ดันมีพี่แท้ๆ ซะงั้น แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร ที่แล้วมามันคืออารายยย ทำไมปล่อยให้น้องโดดเดี่ยวเหงาใจอยู่ตั้งนาน งานนี้ต้องมีเคลียร์เด้อพี่วิน

อีกเรื่อง ใครบังอาจลอบทำร้ายกันถึงขนาดนี้ ต้องส่งคนไปล่าหาตัวมา ตบสั่งสอนต่อหน้าพี่ฮิม จะได้รู้ว่าไผเป็นไผ  :m31:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 17-06-2018 23:51:05
สงสารพี่วิน เปนเราก้อโกรธมาก หายกันกะที่ ฮิมเคยทำร้ายเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 18-06-2018 00:26:24
จริงๆก็หลงรักความพี่ชายของพี่วินมาสักพักละ แต่ดันหลงความหลัวของพี่ฮิมมากกว่า55555

รีบมาต่อนะคะะ :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-06-2018 09:19:42
รอๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 18-06-2018 09:35:27
รอนะค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 18-06-2018 10:31:09
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 18-06-2018 14:58:48
เห็นใจทั้งสองคนเลย แต่ก็รักเลมากทั้งคู่นะ เพราะงั้นหันหน้ามาคุยกันดีๆเถอะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-06-2018 15:19:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 18-06-2018 17:08:12
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-06-2018 18:33:12
วิน เป็นพี่ชายเล แหม่งๆ ความสัมพันธ์พี่วิน น้องเล
แถมผู้หญิงที่พ่อวินมีสัมพันธ์หน้าตาเหมือนเล
ตอนวินให้ของขวัญเล ก็ให้ซะเลมากมายล้ำค่า

รอฮิม วิน  จัดการคนวางยาเล   :z6: :z6: :z6:
ให้อยากตายก็ตายไม่ได้  :fire: :fire: :fire:
ฮิม  เล   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 19-06-2018 01:05:53
อะไรอย่าไงคะเนียกรีดดดดดมาต่ออีกนะคะ :ling3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 19-06-2018 08:24:48
 :mew2:

ที่เคยรู้สึกแปร่ง ๆ แปลก ๆ กับความรักของวิน ที่มีให้เล
คราวนี้ ถึงกาลคลี่คลาย
ก็ว่าอยู่ว่า ทำไมถึงขั้นให้บ้านเป็นของขวัญ
แอบคิดว่า เป็นญาติกันป่ะว้าาาาาา แต่ก็ .. ไม่กล้าฟันธง

ดีนะ ชอบ ... ความลับนี้แค่ข้อเดียว ทำให้ที่เป็นปม ๆ หายหมด

รออ่านต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 19-06-2018 12:41:50
 :katai1: :katai1:
รอนะคะ..
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 01-07-2018 22:04:11
#แฟนวิศวะ ตอนที่ 36 (100%)





เลไม่ได้เป็นอะไรมาก

เขาไม่ได้กินยาพิษหรืออะไรเข้าไปทั้งนั้น ร่างบางแค่เป็นลม วูบไปเพราะวันนี้ร่างกายใช้พลังงานเยอะ แล้วยังมาโดนพี่ฮิมสูบพลังงานที่เหลือเพียงน้อยนิดของตัวเองไปอีก ตอนนั้นกำลังจะกินข้าว แต่ยังไม่ทันได้กินสติก็พังครืดเพราะความเหนื่อยอ่อนไปซะก่อน หมอกับพยาบาลทำหน้างงๆ ตอนที่เลตื่นขึ้นมาในห้องฉุกเฉินระหว่างที่ทุกคนกำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ล้างท้อง เนื่องจากมีคนบอกว่าเลกินยาพิษเข้าไป เขาต้องปฏิเสธไปว่าไม่ได้กินอะไรเข้าไป แค่เป็นลมเพราะเหนื่อย ถึงอย่างนั้นก็ยังโดนคุณหมอตรวจเช็คอย่างละเอียด พอพบว่าไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆ ก็ถึงได้รับคำแนะนำพร้อมกับบอกให้กลับบ้านได้

วินาทีที่เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน…

เลได้ยินเสียงอึกกะทึกของใครสักคน เขาเห็นพี่วินกับพี่ฮิมกำลังสู้กัน ร่างเล็กจะเข้าไปห้าม ถ้าไม่ได้ยินประโยคที่ทำให้ร่างกายแข็งพลัน ขยับไปไหนไม่ได้

“กูรักเล เพราะเลเป็นน้องกู”

“แต่นั่นเมียกู!”

“น้องแท้ๆ”


หัวใจเหมือนจะหยุดเต้น วินาทีนั้นคล้ายวิญญาณได้ลอยออกจากร่าง ราวกับว่าได้ตายไปแล้วจริงๆ



“จริงเหรอ” กลับมาที่บ้าน วินไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเลยังไง จากน้องที่เคยคิดว่าชอบหลีกหนีปัญหา ตอนนี้กำลังยืนประจันหน้า คาดคั้นความจริง ซ้ำยังเป็นตัวเขาเองที่ไม่พร้อมจะบอก “พี่วินเป็นพี่ชายของเลเหรอ จริงเหรอ”

“...”

“พี่วินตอบสิ พี่วิน!”

“...”

“พี่วิน” วินเงยหน้าขึ้น ทันทีที่เห็นเลเขาก็ขอยอมแพ้

“จริง”



วินเคยเห็นหน้าแม่ตัวเองไม่กี่ครั้ง เขาเห็นรูปแม่บ่อย แต่เจอหน้ากันจริงๆ น่ะไม่กี่ครั้ง แต่ทุกครั้งที่เจอก็ยังคิดอยู่เสมอว่าแม่ตัวเองนั้นสวยมาก ทั้งสวยและมีเสน่ห์ ถึงขนาดที่ว่าตั้งแต่เล็กจนโตเขาเจอผู้หญิงสวยมามาก แต่ยังไม่เคยเจอผู้หญิงสวยที่มีเสน่ห์ได้เทียบเท่าแม่ของตัวเองแบบจริงๆ จังๆ สักราย

เขาอยู่กับพ่อ ถูกพ่อเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ สไตล์พ่อเลี้ยงเดี่ยว ห่ามๆ บ้าง ไม่ค่อยมานั่งอธิบายแบบอ่อนหวานเหมือนผู้หญิง เพราะอย่างนั้นล่ะมั้งนิสัยเขาถึงเป็นพวกปากร้ายหน่อยๆ ทำอะไรอ่อนโยนไม่ค่อยจะเป็น พ่อไม่ค่อยโกหก ฝ่ายนั้นเปิดเผยทุกอย่าง และเล่าให้ฟังทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่ง… เรื่องที่พ่อกับแม่เขาไม่ได้รักกันแบบคนรัก

ทางนั้นบอกว่า ตัวเองกับแม่เป็นเพื่อนสนิท ที่สนิทมากๆ รักกันแบบเพื่อน ไม่เคยคิดเกินเลย แล้วจู่ๆ วันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลให้วินได้ลืมตาดูโลกขึ้นมา

พ่อว่าเขาไม่ใช่ความผิดพลาด มันเป็นความบังเอิญที่วินดันอยากเกิดพอดี

เป็นประโยคที่ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยลงหน่อย แต่เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้รับรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก ยังไงซะ วินคิดว่ามันดีกว่าการที่ปล่อยให้เขามารู้หลังจากเป็นผู้ใหญ่ ความรู้สึกมันคงจะเจ็บกว่าตอนเป็นเด็กอยู่มากโข เพราะนอกจากเรื่องที่พ่อแม่ไม่ได้รักกันแล้ว ก็ยังมีเรื่องอื่นอีก…

ปกติแม่อยู่ที่อังกฤษ แต่ตอนท้อง แม่ท้องเขาอยู่ที่ประเทศไทยเพราะเจ้าตัวบินมาหาเพื่อนซึ่งก็คือพ่อของเขาที่ไทย หลังจากคลอดก็อยู่เลี้ยงวินต่ออีกแค่หนึ่งปี แล้วบินกลับประเทศอังกฤษไปโดยที่ไม่ได้บอกทางบ้านด้วยว่าสองปีที่อยู่เมืองไทยน่ะตัวเองตั้งครรภ์

เขาเป็นลูกลับ เพราะแม่ไม่ได้บอกกับทางบ้านว่าตัวเองท้องตอนมาอยู่ไทย ดังนั้นวินจึงไม่มีตากับยาย และญาติฝ่ายแม่ทั้งหลายก็ไม่มีใครด้วยรู้ว่าครึ่งหนึ่งของเขามีสายเลือดของตระกูลนั้นอยู่

เจ็บดีไหมล่ะ

หลังจากที่แม่บินกลับอังกฤษไป พ่อก็ทำหน้าที่เลี้ยงวินต่อ แต่ฝ่ายพ่อเองก็ไม่มีญาติ อีกทั้งคุณปู่คุณย่าของเขาก็เสียชีวิตไปตั้งแต่ที่พ่อของวินอายุสิบเจ็ดกว่าๆ สมบัติและบริษัทมูลค่ามหาศาลที่ถูกทิ้งเอาไว้ทำให้พ่อเขาไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน แต่ก็ต้องใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวมาตลอด

พวกเขาไม่มีญาติแม้แต่คนเดียว

ถ้าครอบครัวที่สมบูรณ์อย่างที่คนอื่นว่าคือมีพ่อ แม่ ลูก งั้นครอบครัวเขาก็คงไม่สมบูรณ์ บ้านขาดแม่แต่วินกลับไม่ค่อยรู้สึกว่าตัวเองขาดอะไร จะรู้สึกหน่อยก็ช่วงวันแม่เท่านั้นแหละ นอกจากนั้นก็มีพร้อมทุกอย่าง อีกอย่างคือถึงแม่กับพ่อจะไม่ได้รักกันในเชิงคนรัก แต่วินกลับรู้สึกได้ว่าแม่กับพ่อรักเขา ถึงแม่จะให้เขาเป็นแค่ลูกลับๆ ก็เถอะ

วินห่างหายกับแม่ เขาใช้ชีวิตที่ส่วนใหญ่มีแค่พ่อมาตลอด ส่วนแม่นานๆ ครั้งจะมาเยี่ยมสักครั้ง จนกระทั่งได้ข่าวว่าแม่เสีย วินเศร้าแต่ไม่ถึงขัั้นร้องไห้ เขาไม่ได้ผูกผันธ์กับแม่มากขนาดนั้น อาจจะเพราะตอนนั้นยังเด็กมากด้วย เศร้าไปสักประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็หาย เป็นพ่อต่างหากที่เศร้าไปเป็นเดือนๆ

ครอบครัวเขาเหลือแค่พ่อ

คิดแบบนั้นจนกระทั่งเขาอายุได้ 9 ขวบ

วันเกิดปีนั้นพ่อไม่ได้ให้ของขวัญอย่างเก่า แต่บอกความจริงอย่างหนึ่งที่ทำให้คนฟังต้องตกตะลึง คำพูดที่พ่อบอกในวันนั้นยังคงฝังรากลึกลงในสมองยากที่จะลืืม

เขาจำมันได้ดี ตอนที่ญาติสายเลือดเดียวกันคนแรกของเขาปรากฏตัว

‘วินมีน้องชาย’

น้องชายที่ไม่เหมือนน้องชาย สิ่งที่ยืนยันตัวตนการมีอยู่ของน้องชายเขาในตอนนั้นมีแค่รูป ซึ่งพอมองจากรูปแล้ว วินในตอนนั้นหาความเป็นน้องชายไม่ออก เขาเห็นภาพของเด็กคนหนึ่งที่หน้าตาดูเอนเอียงไปทางสตรีมากกว่าจะเป็นบุรุษ

‘น้องชื่อเล’ พ่ออธิบายเสริม ‘เป็นน้องวิน’

‘ได้ยังไง?’

‘คนละพ่อ แต่ก็ยังเป็นน้องวิน’ รูปถ่ายใบที่สองถูกส่งมาให้

‘เหมือนแม่’ วินว่า จ้องรูปภาพไม่วางตา

‘มากเลยล่ะครับ’ พ่อเสริม ‘น้องเป็นผู้ชายนะ แต่เหมือนแม่มาก’

‘สวย’ เขาชม เป็นคำชมที่ทำให้ผู้เป็นพ่อหัวเราะ

‘ปกติเราไม่ชมผู้ชายว่าสวย แต่ก็ใช่ น้องเลสวยจริงๆ นั่นแหละ’

‘น้องอยู่ไหน’

‘ตอนนี้น้องไปอยู่กับเพื่อนสนิทอีกคนของแม่ครับ’

‘ทำไมน้องไม่มาอยู่กับเรา’
พ่อของเขาเงียบไป

‘พ่อรู้เรื่องช้าเกินไป’

ตอนนั้นวินยังไม่เข้าใจคำว่าช้าเกินไป เขาเข้าใจว่าน้องคงติดอะไรสักอย่างทำให้มาไม่ได้ ร่างสูงได้รู้สาเหตุแท้จริงที่ทำให้เลต้องไปอยู่กับฮิมก็ตอนที่เขาโตขึ้น

ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองมีน้อง วินก็แอบติดตามชีวิตของอีกฝ่ายมาโดยตลอด เขายังไม่เคยเห็นหน้าน้อง ด้วยระยะทางห่างกันไกลลิป เลอยู่อังกฤษ ส่วนเขาอยู่ที่ประเทศไทย วินยังไม่มีโอกาสเข้าไปหาน้องแบบจริงๆ จังๆ จึงได้แต่ดูภาพของอีกฝ่ายผ่านรูปถ่ายที่พ่อจ้างคนอื่นไปสอดส่องชีวิตเลไปก่อน

น่ารักที่สุด

น้องชายของเขาน่ารักมาก ยิ่งโตยิ่งน่ารัก สายตาของไอ้คนที่มักจะอยู่ข้างกายเลตลอดเวลาก็เช่นเดียว นับวันมันยิ่งดูอันตรายมากขึ้นเท่านั้น ท่าทางที่มองเลแค่ดูในรูปยังมองออกว่ามันคิดไม่ซื่อ

วินเริ่มหาข้อมูลของอีกฝ่าย และนั่นทำให้ได้รู้ความจริงของเหตุผลที่ว่าทำไมน้องถึงไม่ได้มาอยู่กับเขา

สิ่งที่ได้รู้เปลี่ยนความคิดของตัวเองหลายอย่าง

ตอนที่รู้ว่ามีน้อง วินยอมรับว่าเลเป็นน้องชายได้เร็วมาก เขารู้สึกรักน้องตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าด้วยซ้ำ ถึงอย่างนั้นก็ยังอดปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งก็แอบอิจฉาน้องนิดหน่อย เลเปิดเผยตัวเองได้ว่าเป็นลูกของแม่ เลมีทั้งพ่อและแม่อยู่พร้อมหน้า มีญาติจากทั้งสองฝ่าย มีครอบครัวที่อบอุ่น

แต่ทุกอย่างที่คิดนั้น สิ่งที่ถูกต้องมีเพียงอย่างเดียวคือเลเปิดเผยตัวได้ว่าเป็นลูกของแม่

นอกนั้นไม่ ไม่เลย น้องไม่มีคุณพ่อคุณแม่พร้อมหน้า ไม่มีญาติจากทั้งสองฝ่าย และไม่ได้มีครอบครัวอบอุ่นที่ว่า เพราะคงไม่มีครอบครัวอบอุ่นที่ไหน ทิ้งเด็กสามสี่ขวบที่เป็นลูกหลานของตัวเองไปอย่างไม่ใยดี

แต่ก่อนเขาไม่เข้าใจว่าทำไมน้องต้องไปอยู่กับเพื่อนสนิทแม่แทนที่จะอยู่กับญาติหรือพ่อแท้ๆ พอได้รู้ความจริงแล้ว ส่วนหนึ่งก็เป็นอย่างที่พ่อวินว่า พ่อเขารู้เรื่องช้าเกินไป… เรื่องที่ไม่มีผู้ใหญ่ร่วมสายเลือดของน้องเลคนไหนยอมรับน้องไปเลี้ยงเลยสักคน

วินเข้าไปถามพ่อของตัวเองเมื่อได้รู้ความจริง ฝ่ายนั้นเล่าว่าหลังจากที่แม่เสีย พ่อของเขาก็ไม่ได้ติดตามข่าวสารของทางนั้นอีก ทำให้ไม่ได้รับรู้เรื่องราวทางฝ่ายพ่อน้องเลหลังจากนั้น ไม่คิดด้วยว่าทางพ่อของน้องเลจะไม่ยอมรับเลี้ยง และปล่อยให้ลูกของตัวเองไปอยู่บ้านของคนอื่นแทน

มีพ่อแต่พ่อไม่เอา แค่คิดก็เจ็บแทน แม้เลในตอนนั้นจะยังเด็กแต่น้องก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างแหละ คล้ายกันกับเขา แต่ในตอนนั้นวินยังมีพ่อ ทว่าน้องเลคนนี้ไม่มีใคร คุณแม่ก็เสียไปแล้ว ผู้ใหญ่ร่วมสายเลือดที่เด็กอายุไม่ถึงห้าขวบอยากจะพึ่งพาในตอนนั้น ไม่มีเลยสักคน

มันจะน่าหดหู่ขนาดไหน

ฝ่ายปู่ย่าตายายของเลหายหัวไปไหนกันหมดก็ไม่รู้ พ่อเขาไม่ได้ลงรายละเอียดลึกขนาดนั้น ในตอนนั้นคนที่เลพอจะพึ่งพาได้อีกก็คือพวกเขา ทว่ากว่าจะรู้มันก็ช้าเกินไป เลไปอยู่กับคนอื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วินหงุดหงิดมากตอนที่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมด ยิ่งรู้ว่าน้องต้องเจอกับอะไรบ้างเขาก็ยิ่งอยากให้น้องชายคนเดียวของตัวเองมาอยู่ที่ไทยด้วยกันใจจะขาด จนพาลไปโทษพ่อที่รู้ก่อนแต่ไม่ยอมไปเอาตัวเลมาทั้งๆ ที่เงินทองก็ไม่ได้มีปัญหา แต่หลังจากฟังเหตุผล วินก็ได้เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงไม่ไปเอาตัวน้องเลมาอยู่ด้วยกัน

เลยังเด็กมาก น้องถูกทิ้งตอนยังอายุไม่ถึง 5 ขวบด้วยซ้ำ ประมาณ 3-4 ขวบ พ่อของเขารู้เรื่องที่เลไปอยู่กับคนอื่นซึ่งไม่ใช่ญาติตัวเองตอนน้องอายุ 6 ขวบแล้ว แต่นั่นก็ยังเด็กอยู่ดี อีกอย่างคือเลอยู่อังกฤษมาโดยตลอด น้องเป็นคนไทยแต่ไม่ค่อยมาที่ไทย ไม่มีบ้านอยู่ที่ประเทศไทยด้วยซ้ำ มีหลายอย่างที่อังกฤษกับไทยต่างกัน ดังนั้นถ้าให้จะเลมาอยู่กับพวกเขาที่ไทยก็คงต้องปรับตัวกันพักใหญ่ แต่ในสถานการณ์ละเอียดอ่อนแบบนั้น พ่อไม่อยากให้น้องเลต้องมารู้สึกว่าตัวเองได้เริ่มต้นใหม่อะไรอีก มันเหนื่อยเกินไปสำหรับเด็ก 6 ขวบ พ่อจึงตัดสินใจให้น้องยังอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม ที่อังกฤษเลไปเคารพศพคุณแม่บ่อยมาก และอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญก็คือครอบครัวที่เลไปอยู่ด้วย น้องสนิทกับทางนั้นมาตั้งแต่เด็กๆ คาดว่าจะสนิทมาก แต่ถ้าไม่มากอย่างที่คิดก็สนิทกว่าพี่ชายที่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่ามีอย่างวินแน่นอน เรื่องเงินทองบ้านนั้นไม่มีปัญหาแน่ๆ การเลี้ยงดูก็น่าจะดี เพราะแอบส่งคนไปถ่ายรูปทีไรน้องก็ยิ้มบ่อยขึ้นทุกครั้ง

เป็นอย่างนั้น วินแอบติดตามเลไปอย่างนั้นจนกระทั่งเขาอายุได้ 15 โดยมีพ่อคอยถามตลอดว่าจะไปหาน้องแล้วบอกว่าตัวเองเป็นพี่ไหม เพราะเลไม่เคยเจอเขาและเขาก็ไม่เคยเจอเล ตอนนั้นวินตัดสินใจว่าจะไปอังกฤษแล้ว เขาเลื่อนเวลาเฉลยตัวว่าเป็นพี่ของเลมาตั้ง 6 ปี น้องคงโตพอที่จะเข้าใจอะไรได้ง่ายขึ้นและถ้าเลโอเค เขาก็อยากให้น้องย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ไทยเลย จนจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้การตัดสินใจของเขาเปลี่ยนแปลงไปอีีก





(มีต่อ)
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 01-07-2018 22:06:37
(ต่อ)


วินเจอน้องแบบไม่ทันตั้งตัวที่ไทย เป็นวันแรกของการเปิดเรียนขึ้นมัธยมปลาย จู่ๆ คนที่เขากำลังจะบินไปหาก็มายืนอยู่หน้าห้องเรียนของเขา

วินาทีแรกที่เห็น วินรู้สึกเหมือนร่างกายเป็นอัมพาต เขาขยับไม่ได้ พูดไม่ได้ สิ่งที่ทำได้มีเพียงยืนจ้องน้องชายที่กำลังยืนยิ้มคุยกับใครบางคนอยู่

น้องเลสวย สวยมาก สวยกว่าในรูปหลายเท่า สวยเหมือนแม่ และสวยเหมือนไม่ใช่ผู้ชาย

เลเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เขาใจเต้น

วินรู้สึกตกหลุมรักน้องชายตัวเอง แต่เป็นความรักแบบพี่น้อง ยังไงก็ตามน้องเลสวยมาก จนเขาอดคิดไม่ได้ว่าถ้าไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพี่ชายของเลมาก่อนหลายปี ตกหลุมรักในวันนั้น มันก็อาจจะไม่ใช่ความรักแบบพี่น้อง

ครั้งนั้นคงจะยืนมองนานเกินไปหน่อย เลถึงได้รู้สึกตัวว่าถูกมองแล้วหันมายิ้มให้ จากนั้นจึงกลับไปสนใจคนที่อีกฝ่ายกำลังคุยต่อ

วันแรกที่เจอ วินได้แค่รอยยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้เขาได้รู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อม

ไม่พร้อมที่บอกเลว่าตัวเองเป็นพี่

ทว่าเขาไม่เห็นเลอีกหลังจากวันนั้น ตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษถูกยกเลิก วินไม่พร้อม เขาได้รู้สาเหตุที่จู่ๆ น้องก็มาปรากฏตัวที่ไทยภายในวันเดียวกัน

มันเป็นความบังเอิญที่ไอ้คนซึ่งติดอยู่ในรูปของน้องเลโดยตลอดย้ายมาเรียนที่ไทย

วินรู้ว่าอีกฝ่ายชื่อฮิม หน้าตาดีจนไม่อยากจะยอมรับ โคตรพ่อโคตรแม่ของความหล่อ ยิ่งนึกภาพมันยืนข้างกันกับเล ยิ่งรู้สึกว่าเหมาะสมกับอย่างน่าประหลาด ตลกร้าย มันนั่งข้างเขา จะไม่คุยกันก็ยังไงอยู่

เขาสนิทกับฮิมไปโดยปริยาย มันเป็นคนเข้าถึงได้ยาก ถ้าไทป์ไม่ตรงกัน ความชอบไม่เหมือนกัน ถ้าไม่มีอะไรที่ไม่ใกล้เคียงกับมันเลยล่ะก็ฝันไปเถอะว่าจะได้เข้าใกล้ และบังเอิญนิสัยเขาเข้ากับมันได้ ตรงที่ไม่สนหัวใครเหมือนกัน

พวกเขาไม่แคร์ว่าคนอื่นจะคิดยังไง ไม่เก็บมานั่งคิดมากให้เปลืองสมอง

ฮิมเป็นเพื่อนที่ดี แต่เป็นเพื่อนประเภทที่เพื่อนด้วยกันยังต้องกลัว เคารพอยู่บ้าง ไม่ใช่เพื่อนแบบที่ตบหัวกันเล่นได้ เขาถึงบอกว่ามันเป็นคนเข้าถึงยาก ต้องมีอะไรเข้ากันได้เท่านั้นถึงจะเข้าหามันได้ อีกอย่างคือคนแบบที่เข้ากับฮิมได้ ก็ไม่ใช่พวกที่ชอบเล่นตบหัวเป็นส่วนใหญ่ เขาก็เช่นเดียวกัน

ฮิมไม่ใช่เพื่อนประเภทที่คุยกันได้ทุกเรื่อง ยกเว้นมันบอกเอง ถ้าเรื่องไหนไม่ได้บอกนั่นหมายความว่ามันไม่อยากพูด อย่าถาม อย่าเสือก นอกจากจะมั่นใจว่าตัวเองสนิทกับฮิมมากจริงๆ

เชื่อเถอะมีคนสนิทกับมันจริงๆ ไม่กี่คน อย่างน้อยคนที่มันพูดกับอีกฝ่ายได้ทุกเรื่องเห็นจะแค่คนเดียวคือเสือ เพื่อนอีกกลุ่ม รายนั้นเข้ากันได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นนิสัย หน้าตาหรือฐานะที่ใกล้เคียง ขนาดวินที่อยู่ห้องเดียวกัน นั่งข้างกันก็ยังไม่สู้

เขาสนิทกับมันมากในระดับหนึ่ง ระดับที่เกินทุกคนไปไกลลิบ ถึงขนาดนั้นก็ยังไม่สนิทเท่าเสือ ที่เป็นอย่างนั้น คิดว่าฮิมคงจะสัมผัสอะไรบางอย่างได้

เพราะวินไม่ได้เปิดเผยตัวตนทั้งหมด

เขามีอะไรปิดบัง ไม่ได้ให้มันรู้ทุกอย่างเต็ม 100 ดังนั้นมันเลยไม่เปิดใจกับเขาเต็ม 100 เช่นเดียวกัน

จำเป็นต้องปิดก็เพราะเรื่องนั้นมันเป็นเรื่องของน้องเล

เพื่อนหลายรู้ว่าฮิมมีน้องเพราะเห็นเลในวันแรก แต่มันไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเพื่อน เป็นหนึ่ง TOPIC ในวงสนทนาที่ห้ามเสือกโดยเด็ดขาด เพราะทุกคนรู้ดีว่ามันหวงน้องชาย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเป็นน้องไม่แท้ ฮิมมักจะเดินออกไปโทรศัพท์และน้ำเสียงที่มันใช้บ่งบอกได้ว่าคนที่โทรคุยอยู่นั้นสำคัญขนาดไหน

เปลี่ยนบุคลิกไปโดยสิ้นเชิง ไม่พูดคำหยาบ ไม่ตะคอก ไม่ใช้น้ำเสียงแข็งกร้าว ทุกคำที่พูดเหมือนกลั่นกรองมาแล้วเป็นอย่างดี มันเป็นแบบนี้กับเล ทั้งๆ ที่ปกติแล้วไม่สนหัวใคร ทุกคนรู้แค่ว่ามันหวงและรักน้องมาก มีวินคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าฮิมรักน้องเขาแบบไหน

คนที่ไม่สนใครทั้งนั้น คนที่หลายคนมักจะก้มหัวให้โดยที่ไม่ต้องพูด กลับยอมคนๆ หนึ่งแบบที่เรียกได้ว่าหมอบแนบพื้นสนิทถ้ามุดลงดินได้ก็คงมุดลงไปแล้ว มันทำแบบนั้นกับเลแค่คนเดียว ใช้น้ำเสียงแบบนั้นคุยกับเลแค่คนเดียว ใช้สายตาแบบนั้นมองเลแค่คนเดียว คนแข็งกร้าวที่อ่อนโยนกับน้องแค่คนเดียว

แบบนี้น่ะเหรอรักแบบพี่น้อง ไม่ใช่หรอก มันรักน้องเขาแบบคนรัก

วินไม่รู้ว่าเลรักตอบไหม เขารู้แค่ว่าฮิมสนิทกับน้องมาก มากถึงขนาดที่ว่าคุยกันได้ทุกเรื่อง นั่นทำให้เขายิ่งไม่พร้อมไปกันใหญ่ เขาอยากให้น้องคุยกับเขาได้ทุกเรื่องเหมือนที่คุยกับมัน

วินได้เจอน้องชายอีกหลายครั้ง เลมักมาหาฮิมที่ไทยในวันสำคัญ นั่นทำให้เพื่อนอย่างเขาได้เจอน้องเลไปด้วย ครั้งแรกที่ได้คุยกับเลคือตอนที่เห็นน้องกำลังยืนงมหน้าอยู่ใกล้หม้อทำอาหาร วินอยากจะบอกน้องว่าอย่าเอาหน้าเข้าไปใกล้หม้อให้มาก  แต่จากที่คิดว่าจะพูดดีๆ ดันติดนิสัยเดิม คำพูดก็เลยกลายเป็นเชิงดุหน่อยๆ

‘อย่าโง่เอาหน้าลงไปจุ่มในหม้อ’

โคตรอยากตบปากตัวเองในตอนนั้น น้องคงไม่ค่อยโดนใครพูดแบบนี้ด้วยบ่อยๆ เจ้าตัวถึงได้เงยหน้าขึ้นมามองแบบตื่นๆ จากนั้นจึงเบะปากแล้วก็เถียง

‘เลไม่ได้โง่เอาหน้าไปจุ่มในหม้อนะ!’

ดื้อไม่ใช่เล่น…

วินสนิทกับน้องเร็วขึ้นมากหลังจากนั้น ฮิมเองก็ลดการเพ่งเล็งลงแม้ว่าเขาจะสนิทกับเลนำหน้าเพื่อนฝูงไปมากโข ด้วยนิสัยการพูดเหมือนหลอกด่า มันคงไม่คิดว่าเขาจะพูดกับคนที่ตัวเองชอบแบบนี้ หรือก็คือมันคิดว่าเขาไม่ได้ชอบเลถึงได้ระแวงน้อยลง อีกอย่างคือเลเจอหน้าเขาทีไรน้องเป็นต้องได้ทะเลาะกับวินอยู่ทุกครั้งไป

ยิ่งทะเลาะก็ยิ่งสนิท เขาได้รู้จักน้องชายของตัวเองมากขึ้นทุกช่วงเวลาสั้นๆ ที่เลมาหาฮิมในวันสำคัญ วินได้รู้หลายเรื่อง และบางเรื่องก็ชวนปวดหัว

น้องเป็นคนที่ดื้อ เอาแต่ใจ นิสัยเหมือนไม่ใช่เด็กถูกทิ้ง แต่เป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบลูกคุณหนูโดยแท้ แบบที่มักจะได้ทุกอย่างที่ใจต้องการ แต่เมื่อรู้จักขึ้นเรื่อยๆ ถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เห็น ต้องยอมรับว่าฮิมมันเลี้ยงน้องเขาได้ดีมาก เลไม่ได้เป็นเด็กมีปัญหา แต่ลึกๆ ในใจแล้วน้องก็ยังต้องการความอบอุ่นแบบครอบครัว

เขาตั้งใจจะบอกว่าเป็นพี่ชายตอนที่ตัวเองขึ้นปีหนึ่ง แต่ปัญหาใหม่ก็เกิดขึ้นอีก เมื่อฮิมบอกเขาว่าน้องจะย้ายมาเรียนที่ไทย ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เลจะย้ายมาอยู่ไทยแต่ปัญหามันอยู่ที่ฮิมต่างหาก

แต่ก่อนเขาก็อยากให้น้องมาอยู่ที่ไทย แต่หลังจากได้รู้จักกับฮิม วินก็ต้องทวนความคิดใหม่

มันเหี้ย

มันไม่ได้เหี้ยกับเล มันรักน้องเขามาก แต่มันเหี้ยกับคนอื่น และการที่มันเหี้ยกับคนอื่นนั่นแหละที่ทำให้เขากลัว

วินกลัวว่าคนที่มันทำไม่ดีด้วยจะกลับมาทำร้ายน้อง ยิ่งมันเริ่มต้นสร้างทั้งสนามแข่งรถและคลับ วงอโคจรที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อระบายอารมณ์โดยเฉพาะทำให้เขายิ่งกลัว ฮิมสร้างศัตรูเอาไว้เยอะเพราะมันไม่ได้เป็นคนดีแบบที่อยู่กับเล ลับหลังมีทั้งผู้หญิง เหล้า จับกลุ่มต่อยตี เงินกู้นอกระบบ  สิ่งผิดกฏหมายแทบทุกชนิดยกเว้นยาเสพติด ไอ้ฮิมครองแทบทั้งหมด

มันไม่ใช่คนดี แต่จะไม่เหี้ยขนาดนี้ถ้าไม่มีสิ่งกระตุ้นซึ่งก็คือน้องเล เลไม่ได้ผิด แต่น้องทำให้ฮิมเก็บกด มันเป็นคนละคนเมื่ออยู่กับเล คนที่ไม่ใช่ฮิมที่แท้จริง นานวันเข้าก็เริ่มที่จะทนไม่ไหวจนต้องหาทางระบายออกไปสักทางหนึ่ง แต่จะให้ระบายด้วยการดูหนัง ร้องคาราโอเกะ ก็คงไม่ได้ นั่นไม่ใช่สไตล์ สิ่งที่ว่ามาข้างต้นจึงถูกสร้างขึ้น

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฮิมสร้างขึ้นมาก็เพราะเล แต่เลไม่ได้ผิด และเขาคิดว่าฮิมก็ไม่ได้คิดว่าเลเป็นคนผิด ฮิมก็ไม่ได้ผิด อาจจะผิดที่ความรัก

รักมากเกินไป รักจนไม่ลืมหูลืมตา รักจนกลัวว่าเลจะรับในสิ่งที่มันเป็นไม่ได้

ความกลัวของวินเพิ่มขึ้นเมื่อเลย้ายมาอยู่ที่ไทยจริงๆ ช่วงแรกเขาแทบจะนอนไม่หลับ วันหนึ่งเอาแต่คิดว่าน้องจะโดนอะไรบ้างไหม แต่ก็ไม่ ยังดีที่ฮิมก็คิดเรื่องนี้ มันส่งคนตามเลตั้งแต่วันแรกที่น้องเข้าโรงเรียนอินเตอร์ นอกจากนั้นหลังจากพวกเขาเข้ามหา’ลัย ฮิมก็ไม่บอกหรือแสดงท่าทีให้ใครรู้ด้วยว่าตัวเองมีน้อง มันเป็นห่วงเลเหมือนกับเขา ยังไงก็ตาม นั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

เขาอยากเอาเลออกมาจากชีิวิตฮิม แต่ดูหนทางแล้วมันยากไปหมด เพราะตอนที่น้องไม่เหลือใคร ฮิมเป็นเพียงคนเดียวที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเลเอาไว้ตอนนั้น แล้วจู่ๆ วินซึ่งสำหรับเลแล้ว เขาอาจจะเป็นแค่คนที่น้องรู้จักได้ไม่กี่ปี กลับอยากดึงเลออกมาจากคนที่ช่วยน้องเอาไว้

ล้านเปอร์เซ็นเลไม่มีทางยอมมาแน่นอน น้องอาจจะยอมฟังหน่อยถ้าเขายอมบอกว่าตัวเองเป็นพี่ชายแม่เดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นเปอร์เซ็นที่เลจะยอมออกมาจากชีวิตไอ้ฮิมก็ดูเหมือนจะกระเตื้องขึ้นแค่นิดเดียว เพราะน้องถูกเลี้ยงมาพร้อมกับฮิม นอนด้วยกัน กินด้วยกัน สำหรับเลแล้ว ฮิมแทบไม่มีข้อเสียอะไรเลยที่ทำให้น้องจำเป็นต้องออกจากชีวิตของอีกฝ่าย เพราะเมื่ออยู่กับเล ฮิมมันดีกับน้องทุกอย่าง ทุกอย่างเลยจริงๆ

เลรักมัน แม้เขาในตอนนั้นจะยังมองไม่ออกว่ารักแบบไหนแต่ก็คือรัก

แม้เขาจะมีฐานะพี่ชายแม่เดียวกันเป็นไพ่ใบสุดท้าย แต่ผลลัพธ์ที่ได้หากตัดสินใจเปิดประเด็นเรื่องนี้ ดูเหมือนว่ามันจะส่งผลเสียให้เขามากกว่าผลดี

เลไม่มีเหตุผลที่จะออกจากชีวิตฮิม น้องคงไม่ยอมทำอย่างที่วินอยากให้เป็น ส่วนเขากับฮิมเองก็คงจะมองหน้ากันไม่ติดแน่นอน ก็อยากให้คนที่มันรักออกไปจากชีวิตมันขนาดนั้น และที่สำคัญคือวินเองก็อาจจะได้ทะเลาะกับน้องด้วยเช่นกัน

ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เขาแคร์เลมาก มากกว่าที่ตัวเองคิด

หลังจากที่รู้ว่ามีน้อง วินถึงรู้สึกได้ว่าลึกๆ แล้วตัวเองก็อยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น และเลเหมือนแม่มาก เขาไม่ได้เห็นเลเป็นแม่ แต่เพราะน้องเหมือนแม่ เจ้าตัวถึงได้ยอมรับเรื่องน้องต่างพ่อได้เร็วขึ้น จากทีแรกเฉยชา แต่พอน้องเข้ามา เขาเปลี่ยน ยิ่งได้อยู่บ้านเดียวกัน ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยน เวลาเห็นเลดีใจตอนที่ทำคะแนนสอบได้ดี เขาก็พาลรู้สึกดีใจไปด้วย

ตั้งแต่มีเล วินรู้สึกถึงคำว่าครอบครัวได้มากขึ้น

วินอยากให้อีกฝ่ายยอมรับว่าตัวเองเป็นพี่ชายแบบเต็มใจ ไม่ใช่จนใจ เมื่อไหร่ที่เลคิดว่าเขาเป็นครอบครัวอีกคน เมื่อนั้นเขาถึงอยากจะบอกน้องไปว่าเขาเป็นพี่ชาย ดังนั้นไพ่ใบสุดท้ายที่มี วินจึงไม่อยากใช้เพื่อที่จะให้น้องออกจากชีวิตฮิม

เขาอยากใช้เมื่อตอนที่เลยอมรับ อยากเห็นอีกฝ่ายทำหน้าดีใจแล้วกระโดดเข้ากอดตอนที่บอกไปว่า ‘พี่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเล’ ไม่ใช่บอกแล้วต่อด้วยคำว่า ‘ออกไปจากชีวิตฮิมกับพี่’ เพราะถ้าเป็นอย่างหลัง จากหน้าดีใจมันคงกลายเป็นหน้าเบะร้องไห้แล้ววิ่งหนี

แต่ขณะเดียวกันวินก็เป็นห่วง เขาไม่อยากให้เลโดนอันตรายจากไอ้ฮิม หรือก็คือเขาอยากให้เลยอมรับว่าตัวเองเป็นพี่ชายแบบเต็มใจ และยอมออกมาจากชีวิตฮิมแบบเต็มใจด้วยเช่นกัน แต่ด้วยองค์ประกอบหลายๆ อย่าง มันยาก…

วินเหมือนถูกบังคับให้เลือกอยู่สองทาง หนึ่งคือบอกว่าตัวเองเป็นพี่ แล้วบังคับให้เลหนีจากชีวิตฮิม น้องจะปลอดภัยจากอิทธิพลของฮิม แต่เขาอาจจะถูกเกลียด และสองคือยังไม่บอก เก็บเรื่องพี่ชายไว้เป็นไพ่ตาย และปล่อยให้เลอยู่กับฮิมต่อไป แต่นั่นทำให้วินต้องทนทุกข์กับการระแวงว่าน้องตัวเองจะโดนอะไรหรือเปล่าต่อไป

ใจแข็งไม่พอ วินเลือกไม่ได้ เรื่องนี้มันก็เลยยืดเยื้อต่อไป

มีอีกทางที่จะทำให้เขาสบายใจขึ้นก็คือ ให้น้องรู้ว่าตัวเองรักฮิมแบบไหน พอทั้งสองรักกันแล้วนั่นอาจจะทำให้มันเลิกทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อเล แต่ฮิมกลับไม่เร่ง มันปล่อยให้น้องรู้สึกได้เอง อีกอย่างวินคิดว่าทางนั้นก็คงจะกลัวคำตอบ มันรักเลมาก ถ้าความรู้สึกน้องไม่ใช่อย่างที่ฮิมหวัง เขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ทุกสถานการณ์กักทางเอาไว้จนทำอะไรไม่ได้สักอย่าง

เขาได้แต่ปล่อยให้มันเรื่องยืด จนกระทั่งเลเข้ามหา’ลัย น้องเลือกคณะวิศวะ คณะที่ได้ชื่อว่ารับน้องโหดสุดในมหา’ลัย ฮิมแทบจะสั่งให้ลูกน้องทุกคนจับตาดูเล ขนาดนั้นแล้ววินไม่วางใจ เขาไม่อยากให้เลไปงานรับน้องด้วยซ้ำ หนทางที่จะทำให้งานรับน้องปีนี้ถูกยกเลิกจึงเริ่มขึ้น

ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเล ฮิมต้องเอาเรื่องแน่นอน วินมีเส้นสายกับพวกพี่ว้าก เขาออกคำสั่ง  ทำยังไงก็ได้หาวิธีลงโทษเลให้หนัก เป็นอย่างที่เขาต้องการเมื่อน้องเลถูกสั่งให้วิ่งรอบสนาม 10 รอบ ฮิมก็ใช้เส้นสายยกเลิกงานรับน้องแบบเดิมรวมทั้งระบบพี่ว้ากทันที คนที่เขานึกเห็นใจหน่อยก็คือซัน มันโดนไอ้ฮิมเล่นงานจนเละเพราะทำงานที่เขาสั่ง และใช่อีกฝ่ายเป็นลูกน้องของวิน

นับตั้งแต่เริ่มแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วินไม่ได้นิ่งนอนใจ นอกจากเขาจะมีอำนาจในแก็งที่มีฮิมเป็นหัวหน้า พวกมันไม่รู้หรอกว่าเขาก็มีแก็งของตัวเอง วินต้องการคนที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับฮิม แต่ขึ้นตรงกับเขา เพราะแบบนี้ไงถึงจะอยู่มหา’ลัยเดียวกัน บ้านเดียวกัน โรงเรียนสมัยมัธยมก็ที่เดียวกัน แต่เขาก็ยังสนิทกับมันได้ไม่เท่าเสือ ถึงจะเปิดใจแต่ก็ปิดในหลายๆ เรื่องจริงๆ

ลูกน้องเขามีไม่มาก แต่เก่งทุกคน โดยเฉพาะไอ้ซัน มันเก่งมาก วิสัยทัศน์กว้าง ความคิดดีและนิสัยคล้ายๆ กับเขา วินสั่งให้อีกฝ่ายตามน้องเลแบบห่างๆ ไม่ต้องเข้าไปยุ่งมากเพราะยังไงไอ้สามตัวที่ฮิมสั่งให้พวกมันไปตามเลแบบประชิดคงจะมีฝีมือพอสมควร แค่ตามดูห่างๆ ถ้าน้องถึงจุดที่ลำบากค่อยเข้าไปช่วย นอกจากนั้นก็รายงานเรื่องน้องเลและดูการเคลื่อนไหวของฮิม

ในแก็งฮิม ทุกคนรู้ว่าน้องเลถูกส่งคนคุ้มกัน แต่รายละเอียดยิบย่อยที่ฮิมสั่งกับสามคนซึ่งดูแลระยะประชิดของเลนั้นไม่มีใครรู้ พวกมันขึ้นตรงกับฮิมเพียงคนเดียว

ไอ้ซันทำงานได้ดีไม่แย่ แต่ถึงอย่างนั้น ขนาดเลมีคนคุ้มกันแทบจะทั่วทุกสารทิศแล้วมันก็ยังไม่พอ

สิ่งที่วินกลัวมันเกิดขึ้น… เริ่มจากเรื่องผู้หญิงของฮิม เหตุการณ์นั่นส่งผลให้น้องเขาตกเป็นมันโดยสมบูรณ์ แต่สองคนนั้นได้เปิดใจกัน ผลลัพธ์มันก็เลยดูเหมือนจะไม่แย่ แต่สำหรับวินแล้ว วินาทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปเห็นผิวน้องเขียวช้ำไปหมด คิดว่าเขาควรจะรู้สึกยังไง

วินโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ น้องบอกเองว่าเต็มใจ

หลังจากนั้นสถานการณ์เหมือนจะดี แต่กลับไม่ใช่ ไอ้เอ็กซ์โผล่มาสร้างความวุ่นวายบวกกับที่ฮิมยังไม่พร้อมที่จะบอกเรื่องราวทุกอย่างให้เลฟัง เพราะมันปิด พอน้องมารู้เองเหตุการณ์มันถึงย่ำแย่ถึงขีดสุด

วินตกใจมากตอนที่เห็นเลไปปรากฏตัวในสนามแข่ง วันนั้นไอ้ฮิมโกรธมาก แต่ถึงจะโกรธแค่ไหน วินาทีที่เห็นมันตบหน้าน้องเขานั้นทำให้วินถึงกับเบิกตากว้าง

มึงกล้าดียังไง

ตอนนั้นเขาวิ่งตามเลซึ่งโดนฮิมฉุดกระชากไปที่รถ วินคว้ามือน้องเอาไว้ กำข้อมือบางแน่นแต่ทางนั้นเองก็ไม่ยอมปล่อย เขากับมันดึงแขนน้องคนละข้าง ต่างออกแรงดึงให้เลหลุดออกจากอีกฝ่ายจนน้องร้องไห้ เลเจ็บ วินเห็นดังนั้นจึงยอมปล่อย แต่นั้นเป็นความคิดที่ผิด ร่างสูงได้รู้ว่าตัวเองปล่อยมือเพราะกลัวน้องเจ็บเพื่อให้เลมาเจอกับอะไรที่เจ็บยิ่งกว่าก็ตอนที่พังประตูเข้าไปเห็นสภาพของน้องกำลังนอนสลบอยู่บนเตียง

เลโดนข่มขืน

ทุกคนอึ้ง สภาพห้องตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงห้องนอนเละจนไม่อยากจะบรรยาย รวมทั้งร่างของคนที่นอนสลบไสลอยู่บนเตียงด้วยเช่นกัน มันแย่มาก

เลในตอนนั้นไข้ขึ้นสูงจนไม่ได้สติ เนื้อตัวขาวช้ำและขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด ทุกส่วนตั้งแต่ใบหน้ามาจนถึงปลายเท้าถูกราดรดไปด้วยน้ำกามสีขุ่นปะปนเลือดในบางจุดซึ่งทำให้วินรู้สึกโกรธจนอยากจะฆ่าคน เขาสั่น โกรธจนอยากจะร้องไห้ในตอนที่ต้องอุ้มน้องพันผ้าห่มแบบลวกๆ แล้วนำตัวส่งโรงพยาบาล

มันเป็นความรู้สึกที่แย่มาก เขาพูดได้เต็มปากในตอนนั้นว่าเกลียดไอ้ฮิม รวมทั้งเกลียดตัวเอง วินรู้ว่าสักวันเรื่องแบบนี้มันอาจจะเกิดขึ้นแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ที่แย่กว่าคือในตอนนั้นเขาอยู่ตรงหน้าเลแท้ๆ แต่ก็ยังช่วยอะไรไม่ได้

ถ้าใจแข็ง เลือกที่จะบอกว่าตัวเองเป็นพี่แล้วบังคับให้น้องออกจากชีวิตฮิม เลอาจจะไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่วินย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้ น้องโดนทำร้าย โดนข่มขืนไปแล้ว จนกระทั่งวันที่ทนายของฮิมมาที่บ้าน พูดเรื่องการตัดขาด วันนั้นวินรู้สึกราวกับว่าสวรรค์เห็นใจ เขาได้แต่กลั้นยิ้มทำหน้านิ่งขณะนั่งฟังทนายของฮิมพูดเรื่องสัญญา ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วแทบอยากจะระบายความสุขออกมาด้วยการตะโกนลั่นบ้าน

ไม่เคยมีความสุขเท่านี้มาก่อน

สุขได้ไม่นาน วินก็ต้องทนทุกข์อีก เมื่อก่อนเซ็นสัญญาสองคนนี้มีแววว่าจะกลับมาดีกันอีกครั้ง ทว่าในวันเซ็นสัญญาสวรรค์ก็เข้าข้างเขาอีก

ฮิมไม่มา…

เพราะมันไม่มาส่งผลให้เลต้องยอมเซ็นสัญญา วินดีใจแต่ดีใจได้ไม่สุด

น้องร้องไห้

หนักมาก แทบไม่เป็นผู้เป็นคน ช่วงเวลาที่เลรอให้อีกฝ่ายปรากฏตัวตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นด้วยความหวัง เขาได้เห็นว่าน้องทรมานแค่ไหน และผลลัพธ์หลังจากที่เซ็นสัญญาตัดขาด มันก็ไม่ได้ดีอย่างที่วินคาดหวังเอาไว้ ครั้งนี้เขาไม่ได้กลัวว่าจะมีคนมาทำร้ายน้องอีก แต่มันแย่ยิ่งกว่านั้น วินกลัวว่าเลจะทำร้ายตัวเอง

และคราวนี้ฮิมไม่ได้ทำอะไร มันไม่ได้เข้ามายุ่งกับเล มันออกไปจากชีวิตเล แต่กลับทำให้เลทรมานได้ ไม่ได้ทำอะไร…

แค่เข้าควบคุมหัวใจโดยสมบูรณ์

เลอาการดีขึ้นเมื่อได้ไปอยู่กับอิน น้องไม่กลับบ้าน ไม่ยุ่งกับพี่ๆ ในบ้าน มีแค่เขาที่คอยโทรถามในบ้างครั้ง แต่การที่ยอมให้เลออกห่างจากสายตา มันส่งผลให้น้องได้เข้าไปพัวพันกับฮิมอีก แต่แค่ไม่กี่วัน แค่สองคนนั้นได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันไม่กี่วัน รอยยิ้มที่วินไม่ได้เจอมานานก็กลับมาอีกครั้ง เลยิ้มออกอย่างง่ายดาย รอยยิ้มที่ทำให้วินยอม...

ยอมแล้ว

เขายอมทรมาน ดีกว่าเห็นน้องทรมาน ยอมให้สองคนนั้นกลับไปคืนดีกันอีกครั้ง

วันแรกที่เลพาฮิมกลับมาที่บ้านหลังจากไม่ได้กลับมานาน วันนั้นเขาเรียกมันออกไปคุย อีกฝ่ายให้สัญญาว่าเลจะไม่เป็นอะไรถ้ากลับไปคบกับมัน

วินปักหลักเชื่อ แต่สุดท้าย สัญญาที่มันให้ไว้ก็ถูกทำลายจนย่อยยับไปพร้อมๆ กับความรู้สึก

เขาไม่ได้เตรียมพร้อมที่รับรู้ว่าเลถูกทำร้ายอีกครั้งหลังจากที่ฮิมให้สัญญา ดังนั้นความรู้สึกในครั้งนี้จึงรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ วินาทีที่ได้รู้ร่างสูงแทบล้ม หายใจไม่ออก โกรธเกรี้ยวจนต้องบัลดาลโทสะที่สะสมมานาน สัญญาที่มันให้เหมือนกับแก้วซึ่งกักเก็บความรู้สึกด้านลบที่เขามีเอาไว้ ยอมเพื่อความสุขของน้องชาย แต่เมื่อมันแตกออก ทุกภาพ ทุกเหตุการณ์ ทุกเรื่องแย่ๆ ที่วินเคยได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังจึงประดังเข้าใส่ ความเชื่อใจสุดท้ายของเขาถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย ที่มีให้เหลือเพียงความผิดหวังและชิงชัง ผสมปนเปไปพร้อมกับความกลัวถึงสุดขั้วหัวใจ

ถ้าเลตาย เขาจะทำยังไง

คิดเอาไว้ตั้งเยอะ ว่าหลังจากที่น้องรู้ว่าเขาเป็นพี่ชายแท้ๆ แล้วจะไปไหนกันบ้าง กินข้าว ดูหนัง ร้องคาราโอเกะ เที่ยวสวนสนุก เที่ยวต่างประเทศ ที่ไหนก็ได้ที่ทำให้มีความสุข

ทุกอย่างที่อยากทำพังทลายลงในเสี้ยววินาทีที่วินรู้ว่าเลโดนวางยา

แม้กระทั่งประโยคสั้นๆ ที่เขาอยากจะพูดมาตลอดว่า ‘พี่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเล’

น้องก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ฟัง









(100%)











0107 -- ทุกคนมันเป็นบทบรรยาย แก้หลายปมและ หลายขั้น ซับซ้อนมาก จะเห็นว่าพาร์ทหลังแทบไม่มีบทพูด เราเลยต้องใช้เวลาแต่งเยอะ หายไปสองอาทิตย์ ขอโทษด้วยนะคะ





#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

เราอยากอ่านคอมเม้นท์ตอนนี้ คอมเม้นท์ให้จะกราบขอบพระคุณมากค่ะ

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-07-2018 22:44:08
วิน เป็นพี่เล  :mew1:
มิน่า ตอนให้ของขวัญเล วินถึงให้เล มากสุดๆ
มันจะทำให้ความสัมพันธ์ ฮิม เล วิน  ดีขึ้นใช่ไหม

แล้วที่ซันเจอร่องรอยยา สารเสพติดล่ะ  :really2:
ฮิม เล   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170618#36(40%) p.49
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 01-07-2018 22:55:08
วินไม่มีใคร มีแต่คุณพ่อ พอรู้ว่ามีน้อง
ก็อยากได้น้องมาเป็นครอบครัว แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าบอก
พอเกิดเรื่อง คิดว่าน้องโดนวางยา
เลยทั้งโกรธทั้งกลัว
ถ้าน้องตาย ตัวเองจะไม่มีโอกาสบอกน้อง
เลยระเบิดใส่ฮิม เพราะฮิมไม่ทำตามรับปาก

เหมือนวินไม่ชอบฮิม ขณะเดียวกันก็อยากสนิท เพราะมีพูดถึงเสือ เหมือนเปรียบเทียบ แถมรู้ว่าต่างไม่เต็มร้อย แต่คนกั๊กน่ะวิน ไม่ใช่ฮิม ซ้อนแผนตลอด
ตลอดเวลาเหมือนอยากให้น้องเลิกกับฮิม เพราะฮิมไม่ดี จะให้น้องเลือก
ถ้าเป็นแบบนี้วินน่ะแหละ จะทำน้องลำบากใจ

แค่มาเติมเต็มความเป็นพี่น้องให้กันคือดีที่สุดแล้ว
ฮิมไม่ได้ผิด ที่สำคัญฮิมรักน้องมาก และน้องก็รักฮิม
ช่วยกันสิวิน เพื่อเล ... วินวินนะ
อย่าปล่อยความอิจฉาครอบงำ อย่าหวังจะเอาน้องไว้คนเดียว
ต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่าน้องมีฮิมมาก่อน

#ทีมฮิม

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 01-07-2018 23:25:34
คือมันยาวมาก ยาวมากจริงๆ
ปกตินี่ไม่ทนอ่านบทบรรยายอะไรยาวขนาดนี้55

แต่ก็โอเค
เป็นบทบรรยายที่อึดอัดใช้ได้เลย
เหมือนวินใส่เต็ม มาทั้งกระบอกสูบ
คือเหมือนรีบพูด เหมือนรีบเล่า
สัมผัสได้ขึ้นความอึดอัดตั้งแต่แรกจนจบ

เอาจริงๆเป็นไม่กี่นาทีที่รู้สึกเหนื่อย
คนเขียนแต่งได้ดีนะ เรารู้สึกอัดอั้นตามวินไปด้วย

แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเซ็งกับวิน
เหมือนสิ่งที่เคยคิดไว้กับตัววินมันไม่ใช่

เราว่าที่วินบอกว่ารักน้อง มันอาจจะแปลว่ารักตัวเองในวันที่มีน้องก็ได้นะ เรารู้สึกว่ามันคือความเห็นแก่ตัวของคนที่ชีวิตนี้ต้องโตมาอย่างโดดเดี่ยว โตมาอย่างที่ต้องเข้มแข็ง คือเรารู้ว่าวินรักน้องนะ แต่จากการที่อ่่่่่านตอนนี้เราว่าวินรักตัวเองมากกว่า และวินก็ไม่ได้รักฮิม ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาเหมือนฮิมไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นหมากตัวนึงที่วินเดิน โอเคอาจจะเป็นหมากที่ชอบเดินด้วยตัวเองแต่ก็ยังเป็นหมากอยู่ดี

ไม่รู้นะ เรื่องนี้เราทีมฮิมตั้งแต่ต้นและจนวันนี้เราก็ยังทีมฮิม เรารู้ว่าฮิมร้ายแต่มันก็มีหลายๆอย่างที่ไม่แฟร์กับฮิม และตัวฮิมเองถึงจะรู้อะไรมาก็ยังไว้หน้าเพื่อน

สำหรับน้องเลย์ เราก็เดาทางไม่ออกอ่ะนะ แต่คิดว่าก็คงดีใจที่มีวินแหละ และคงรู้สึกผิดหลายๆอย่าง จริงๆจิ้มเข้ามาเพราะคิดว่าจะได้ดูปฏิกิริยาเลย์สักที แต่ดันค้างเติ่งทิ้งเราไว้ขอบหน้าผาซะนี่

ไม่รู้นะ ตอนแรกเราค่อนข้างชอบวินเลยล่ะ แต่พอมาอ่านพาร์ทวินในวันนี้แล้วเราว่าเราถอยดีกว่า(><)

เราเป็นพวกเข็ดขยาดคนไม่ให้ใจ อย่างวินเนี่ยน่ากลัวและไม่น่าคบมากๆในความรู้สึกเรา วินจะเปลี่ยนตัวเองได้ไหมในวันที่ความจริงเปิดเผย เราไม่สนใจแล้วอ่ะ เพราะดั้งเดิมในตัววินก็คือเด็กบ้านรวยเอาแต่ใจความอบอุ่นขาดๆวิ่นๆที่ตามหาส่วนเติมเต็มโดยที่ทำเหมือนแคร์คนอื่นแต่จริงๆแล้วแคร์ตัวเอง...
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 02-07-2018 00:07:13

เลดีใจใช่ไหม มีพี่ชายแล้วนะ ไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว พี่วินเป็นห่วงเลมากนะ

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 02-07-2018 07:33:07
พี่วิน ซับซ้อนที่สุดในเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 02-07-2018 08:02:31
เรื่องมันจะค่อยๆ สดใสขึ้น
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-07-2018 09:45:01
พี่ชายที่แท้ทรู~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-07-2018 10:21:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 02-07-2018 10:50:00
อิพี่ก็เป็นห่วง อิผัวก็จะเป็นจะตาย  น้องไม่ได้เป็นไรเลยจ้า แค่สลบ แต่งานนี้ต้องโทษอิผัวคนเดียวทำให้น้องสลบ :z6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 02-07-2018 17:18:13
ก่อนหน้านี้คือกำลังลังเลว่าจะรักพี่วินหรือพี่ฮิมดี แต่วันนี้เราเลือกแล้ว เราเลือกพี่ฮิม ผู้ชายที่ชัดเจนมาโดยตลอดว่าไม่ว่าอะไรเลก็คืออันดับ1

พี่ฮิมยอมเลทุกอย่างยอมมาตั้งแต่เด็ก ถ้าวันนี้การที่พี่วินบอกความจริงว่าเป็นพี่ อันดับความสัมพันธ์ของพี่วินเราก็ยังถือว่าเป็นลองพี่ฮิม พี่วินคือพี่ในลำดับความสัมพันธ์ แต่พี่ฮิมเป็นทุกอย่างในชีวิตเล ตั้งแต่พ่อยันผั.. แค่กๆๆๆ

หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นนะ มาต่อเร็วๆนะคะ :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 02-07-2018 17:56:38
โถ่~ พี่วินคนดีของหนู

น้องงงงงงงงง ฉันบอกแล้วว่าน้องแค่เหนื่อย ว้อยยยยยปั่นมากกกก ปั่นหัวคนอ่านนี่แหละ 555555

ขอบคุณค่าา สู้ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 02-07-2018 18:54:09
โหคลายปมได้ชัดเจนสุด เห็นใจพี่วินนะเรื่องนี้ อดทนทำเพื่อน้องมาหลายปี
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 03-07-2018 09:23:42
รักพี่วิน  :L2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 03-07-2018 12:15:44
เห็นใจวินนะ รักน้องมากก็ต้องเป็นห่วงน้องเป็นธรรมดา :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 03-07-2018 12:56:57
ดีใจเรื่องราวคลี่คลาย ต่อไปก็ชิพเรือพี่วินกับพี่ดีนเต็มสูบ เย้ววววว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: ฟาง ฟ่างง ฟ๊างง ที่ 03-07-2018 14:32:21
น้องเลอ้อนพี่วินเยอะๆน้าาา พี่เค้ารักหนูมากเลยยยย โง้ยยยยยยย ส่งกำลังใจให้คนเขียนค่า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 03-07-2018 15:53:39
 :L2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 03-07-2018 18:05:30
อีกคนก็เป็นทั้งชีวิตอ่ะนะ
เชื่อได้เลยว่าต่อให้ฮิมเลวกว่านี้  น้องก็จะไม่พาตัวเองออกไปจากฮิม
เข้าใจวิน ไม่มีพี่คนไหนจะยอมได้ถ้าเห็นน้องโดนทำร้าย
สุดท้ายมันก็ต้องแล้วแต่น้อง

ชอบมากกก จะรอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-07-2018 23:26:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 04-07-2018 23:52:39
งือ เลจะเอาไงต่อละ ฮิมจะว่ายังไง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 010718#36(100%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 11-07-2018 03:12:50
พี่วินเก็บกดกว่าพี่ฮิมอีกนะเนี่ย  :ling3:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 14-07-2018 21:50:44


#37 (40%)



‘น้องแท้ๆ’

‘น้องแท้ๆ’

‘น้องแท้ๆ’


มันดังก้องอยู่ในหัว เลไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร ร่างขาวได้แต่ยืนนิ่งจมอยู่กับความคิด เขารู้สึกว่าพี่วินเป็นพี่ชายคนหนึ่งมาตลอด แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นพี่...ชาย...แท้ๆ

“รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

อีกฝ่ายเม้มปาก ก่อนจะตอบเสียงเบา “ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ”

คำตอบที่ทำเอาคนฟังตัวชาวูบ พี่วินรู้มานานขนาดนั้น “ทำไมไม่เคยบอกเลเลย”

“...”

“ไม่เคยบอกเลแม้แต่คำเดียว”

“...” เขารู้จักพี่วินมาเกือบ 7 ปี 7 ปีที่คนตรงหน้าปิดบังเรื่องที่ตัวเองเป็นพี่ชายแท้ๆ

“เงียบทำไม!”

“...”

“เรื่องแบบนี้มันควรจะบอกเลไหม”

“...”

“พี่วินอย่าเงียบ!”

“พี่ขอโทษ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างหนักใจ เขามีเหตุผลแต่เหตุผลของวิน น้องอาจจะไม่ยอมรับ เลเบะปาก เจ้าตัวทำหน้าเหมือนรับคำตอบเขาไม่ได้

“แย่ พี่วินแย่ แย่มากเลยนะ” น้องร้องไห้ขณะกล่าวเสียงสั่น “ไม่อาจได้เลเป็นน้องเหรอ ถึงไม่เคยบอกให้เลรู้”

เลคิดไม่ออก เขาหาเหตุผลอย่างอื่นมาอธิบายการกระทำของพี่วินไม่ได้เพราะเรื่องสำคัญแบบนี้ยังไงก็ต้องบอกกันก่อน

“ไม่ใช่! อย่าคิดแบบนั้น” พี่วินปฏิเสธ เจ้าตัวดูร้อนรน “พี่มีเหตุผล”

“เหตุผลอะไร สำคัญแค่ไหนถึงได้ปิดเรื่องที่ตัวเองเป็นพี่ชายของเลมาตั้ง 7 ปี”

“จะฟังไหม”

“ฟัง!”

“มานั่งดีๆ ก่อน” ร่างสูงนั่งลงบนเตียง มือหนาตบฟูกข้างๆ ให้อีกคนมานั่งด้วย เลช่างใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปนั่ง พี่วินเอื้อมมือมาถูน้ำตาบนใบหน้าของเขาก่อนจะเริ่มเล่า





เลเงียบหลังจากฟังพี่วินเล่าจนจบ เขารับรู้ถึงความอึดอัดและอดกลั้นผ่านน้ำเสียง ทุกคำฝังลึกลงไปในสมอง เหตุผลของพี่วินทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความห่วงใย มือบางเอื้อมไปจับมือของคนตรงหน้าเอาไว้ มันเย็นเฉียบ

“เลเข้าใจแล้ว” บอกให้อีกฝ่ายรู้ “แต่...”

เขาบีบมือพี่วินแน่นขึ้น จับเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อน สำหรับพี่วินที่พยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเองมาตั้ง 7 ปี เลคิดว่าฝ่ายนั้นก็คิดดีแล้วว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันถูกต้อง และถ้าเขาค้านขึ้นมาว่ามันไม่ถูก อีกฝ่ายคงคิดว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดนั้นศูนย์เปล่า ซึ่งก็ไม่ใช่ทั้งหมด

ต้องค่อยๆ พูด

“พี่วินรู้ไหมว่าถ้าพี่วินบอกเลตั้งแต่เจ็ดปีก่อน เราอาจจะไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกันเป็นสิบๆ รอบได้แล้วนะ”

“...”

“ไปดูหนังได้ร้อยเรื่อง”

“...”

“ไปทำเรื่องสนุกๆ ที่อยากทำเป็นร้อยๆ ครั้ง”

“แต่พี่ไม่ได้บอก” อีกฝ่ายค้าน คนฟังพยักหน้า

“เรื่องที่พี่วินเป็นพี่ชายแท้ๆ ของเล น้องคิดว่ายังไงพี่วินก็ควรจะบอก ส่วนเรื่องอื่น...” เลเงียบไปพักหนึ่ง เขาไม่อยากออกความคิดเห็น แต่มันจำเป็นต้องพูด “พี่วินคิดแทนเลมากเกินไป”

“...”

“พี่วินบอกว่าเลยอมฮิมเกือบทุกอย่าง นั่นก็อาจจะใช่เพราะเลรักพี่ฮิม เลคิดว่าพี่ฮิมเป็นคนสำคัญเพียงคนเดียวที่เลมีอยู่”

“...”

“แต่ถ้าเลรู้ว่าพี่วินเป็นพี่ชาย ถึงพี่ฮิมจะสำคัญมากขนาดไหน ยังไงเลก็ต้องฟังพี่วินด้วย เพราะคนสำคัญของเลเพิ่มขึ้นมาเป็นสองคน”

“...”

“แต่พี่วินไม่ได้คิดแบบนั้น พี่วินคิดว่าเลจะไม่ฟัง เลยต้องเก็บเรื่องที่เป็นพี่ชายเอาไว้ เป็นเหตุผลสุดท้ายให้เลฟังและยอมทำตาม”

“...”

“ถ้าพี่วินบอกเลก่อนว่าพี่วินเป็นพี่ชายของเล เลฟังพี่วินแน่ๆ ส่วนจะทำอย่างที่บอกไหมนั้น...” เลเม้มปาก ถอนหายใจแล้วพูดให้เป็นกลาง “เลอาจจะไม่ได้ทำตามทุกเรื่องอย่างที่พี่วินอยากให้เป็น แต่เลมั่นใจว่าเลจะทำในสิ่งที่ทำให้พี่วินได้สบายใจมากขึ้น เพราะงั้น...”

“ถ้าพี่บอกว่าเป็นพี่ชายแท้ๆ ของเลมาตั้งแต่ 7 ปีก่อน ทุกอย่างมันก็จะง่ายขึ้นสินะ”

“อาจจะไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ก็… ใช่” เขาจับมือพี่วินแน่นกว่าเดิม “มันจะง่ายขึ้น”

“...” คนฟังนิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อ

“แต่เราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้นี่เนาะ เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ” เลหาทางให้บรรยากาศดีขึ้น เขาอยากเปลี่ยนเรื่องแต่พี่วินกลับยังคงนิ่งเงียบ ดวงตาคมที่กำลังมองมาดูเศร้าจนเขาเผลอยื่นมือข้างหนึ่งเปลือกตาสีไข่ที่ปิดลงเบาๆ “สิ่งที่พี่วินทำมันไม่ได้ศูนย์เปล่า”

“...”

“อย่างน้อยตอนนี้เลก็ได้รู้แล้วว่าที่ผ่านมาพี่วินเป็นห่วงน้องมากแค่ไหน” ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา พี่วินคิดว่าพี่ฮิมจะทำให้เขาได้รับอันตราย จึงคอยดูแลในฐานะพี่ชายโดยที่ไม่ให้เพื่อนทุกคนรวมถึงเลที่เป็นน้องชายรู้ ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวมาตลอด

“...” มือบางไล่ไปตามโครงหน้าคม ก่อนจะหยุดแล้วแนบฝ่ามือเข้าที่แก้มของอีกฝ่าย

“เหนื่อยไหมครับ”

วินไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าน้อง แต่หลังจากได้ฟังประโยคนี้แล้วรู้สึกว่าจะตัวเองกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ มือหนาคว้าตัวอีกฝ่ายเข้ามากอด เขาแนบใบหน้าลงที่บ่าน้อง

“เหนื่อยสิ” ตอบตามความจริง “พี่เหนื่อย คนดีพี่เหนื่อย”

“อื้อ ต่อจากนี้ก็จะไม่เหนื่อยแล้วไง” เลว่า “หรือจะเหนื่อยกว่าเดิม?”

“...”

“พี่วิน?” เลชะงักเมื่อคนที่เขากำลังกอดอยู่ไม่ตอบ เขาไม่เห็นหน้าพี่วิน เลยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดหรือรู้สึกยังไง เจ้าตัวทำได้แค่กอดตอบพร้อมลูบหลังให้กำลังใจ ขณะเดียวกันที่เสียงทุ้มซึ่งเงียบไปสักพักดังขึ้น

“พี่รักเลมากเลยนะ” คนฟังตัวแข็งทื่อเป็นหิน เขาเจอประโยคบอกรักแบบไม่ทันตั้งตัวจากพี่วิน ถึงจะเป็นพี่ชายแท้ๆ ทว่าตลอด 7 ปีที่ผ่านมาแค่พี่วินพูดดีด้วยก็รู้สึกเป็นบุญแล้ว “ไม่ชอบเวลาที่เราโดนอันตราย”

ไม่ใช่แค่ไม่ชอบ เขาแทบจะเป็นบ้าทุกครั้งที่เลโดนทำร้ายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

“เดี๋ยวเลจะเป็นเด็กดีให้พี่วิน”

“ไม่ต้อง”

“เอ้า”

“เลไม่จำเป็นต้องทำกับพี่ดีขึ้นแค่เพราะได้รู้ว่าพี่เป็นพี่ชาย” วินอยากให้น้องเป็นเด็กดี แต่ยิ่งกว่านั้นคือเขาไม่ต้องการให้เลต้องฝืนตัวเวลาอยู่กับเขา ถ้าการเป็นเด็กดีมันไม่ใช่เล ให้น้องทำแบบเดิมอย่างที่เป็นจะดีกว่า “แค่ไม่ทำให้เป็นห่วงก็พอแล้ว”

เขาเหนื่อยอย่างที่ว่า คล้ายกับการวิ่งมาราธอน ร่างกายล้ามานานแล้วแต่ก็ยังหาทางหยุดไม่ได้ จนกระทั่งถึงวันนี้ คนที่ทำให้เขาออกวิ่งนั้นแหละที่เป็นคนทำให้วินต้องหยุดวิ่งเสียเอง

“อื้อๆ เข้าใจแล้ว” เลขานรับอย่างว่าง่าย

“...”

“...”

“ยิ้มให้หน่อย”

“หือ?”

“ยิ้ม” คนฟังทำหน้าเอ๋อๆ เลฉีกยิ้มพร้อมกับขมวดคิ้วงงๆ วินมอง ร่างสูงถอนหายใจต่อท้าย “เลิกเถอะ”

“ไม่เอาแล้วเหรอ”

“เออ เห็นมึงยิ้มแล้วกูเศร้าแทน” บรรยากาศดีๆ จางหายในพริบตาที่เขาเปลี่ยนสรรพนาม เลอ้าปากค้างแล้วโวย

“ทำไมกลับมาหยาบกับเลอะ เอาพี่วินคนเมื่อกี้ของเลคืนมา”

“กูก็วิน”

“พี่วินที่พูดเพราะๆ!”

“เรื่องมาก” เขาลุกขึ้นยืน ออกคำสั่งกับอีกฝ่าย “ไปอาบน้ำไป”

“อาบทำไม?”

“ไม่อาบไม่ให้นอนด้วย”

“เราจะนอนด้วยกันเหรอ?”

“...”

“โอ๊ะ นอนๆ แปปนึง เลไปอาบน้ำก่อน!” เจ้าของเสียงใสว่าจบก็วิ่งออกจากห้องไป วินมองตามหลังก่อนจะเดินไปปิดประตูห้อง รอยยิ้มกว้างเผยออกในเวลาที่น้องไม่มีโอกาสเห็น เลวิ่งกลับมาที่ห้องเขาอีกครั้งภายในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที กายบางหอบหมอนข้างกับผ้าห่มพร้อม “แล้วทำไมพี่วินยังไม่อาบ”

“ใครมันจะนอนตั้งแต่หนึ่งทุ่ม” วินที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงตอบ เป็นผลให้คนที่อุตส่าห์รีบวิ่งไปอาบน้ำเริ่มทำหน้าหงอ เจ้าของกายขาวโยนอุปกรณ์การนอนที่หอบมาด้วยลงบนเตียงอย่างขัดใจก่อนจะปีนขึ้นไปมุดแขนให้อีกฝ่ายกอด วินโอบศีรษะน้องนอนลงบนบ่าตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงหอมกลุ่มผมนุ่มเบาๆ ในขณะที่สายตายังจดจ่ออยู่กับเกม

“กล้าหลอกเล เอามาเล่นเลย” เลไม่ได้ขอ แต่แย่งมันไปจากมือเขาโดยตรง คนเป็นพี่ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากคอยชี้นำว่ามันเล่นอย่างนั้นอย่างนี้ วินจัดท่านั่งใหม่ในขณะที่คนเล่นกำลังจดจ่อสมาธิอยู่กับเกมตรงหน้า มือหนายกอีกฝ่ายขึ้นนั่งตัก กอดเอวบางไว้หลวมๆ พร้อมกับวางคางอยู่บนบ่าเล็กแทน

วินมองน้องเล่นเกมเงียบๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้พูดประโยคนึง ริมฝีปากเลื่อนไปกระซิบที่หูของอีกคนเบาๆ

“พี่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเล”

ในตอนนั้นเอง คนที่เล่นเกมอยู่ก็ชะงัก น้องปล่อยให้ตัวเอกในเกมตายขณะเงยหน้าขึ้นมามองเขา ทันใดนั้นภาพที่วินจินตนาการเอาไว้หลังจากที่พูดประโยคนั้นออกไป ในที่สุดเขาก็ได้เห็น…

คนบนตักยิ้มกว้าง เจ้าตัวโยนโทรศัพท์ทิ้งอย่างไม่ใยดีพร้อมกับหมุนตัวกอดเขาแทน เลว่า

“ดีใจจังเลย!”

ดีใจที่สุดเลยครับ





2 วันต่อมา

พรึบ!

ไฟในห้องนอนสว่างจ้า ฮิมกวาดสายตามองก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน เลไม่ได้อยู่ในห้องนี้อย่างที่เขาคิด ร่างสูงโยนโทรศัพท์ พร้อมกับกระเป๋าสตางค์และกุญแจรถลงบนเตียง มือหนาจัดการถอนชุดตัวเองออก หยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ

ซ่า ซ่า

มีคนกำลังใช้อยู่ก่อน เจอเลที่ไม่ได้อยู่ในห้องเพราะน้องกำลังอาบน้ำ เจ้าตัวไม่ชอบปิดประตูห้องน้ำมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะคนที่จะเข้าห้องน้ำในห้องนอนของพวกเขาได้ส่วนใหญ่ก็มีแค่ฮิมกับเล

ร่างสูงไม่ได้ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษโดยการเดินออกจากห้องน้ำไป ตรงกันข้าม มือหนาปลดผ้าขนหนูที่พันรอบเอวสอบจนมันหล่นร่วงลงไปกองอยู่บนพื้น เจ้าของขายาวเดินเข้าไปหาคนที่กำลังสระผมอยู่ใต้ฝักบัวแล้วเข้าสวมกอดจากทางด้านหลัง

เลสะดุ้ง ทว่ายังไม่ทันได้หันมาเสียงทุ้มก็เอ่ยขัด

“พี่อาบด้วยได้ไหม” น้ำเสียงคุ้นเคยทำให้ร่างขาวรู้ได้ทันทีว่าคนที่กำลังกอดเขาอยู่เป็นใคร น้องพยักหน้าแล้วกลับไปให้ความสนใจกับการล้างน้ำยาสระผมออกจนเสร็จ จากนั้นจึงหันหน้ามาหา

ฮิมจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตนิ่งๆ ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงกัดริมฝีปากของอีกฝ่ายเบาๆ แล้วผละออกพร้อมกับถามคำถาม

“แช่น้ำกันไหมครับ?”

อ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ที่ไม่ได้ใช้มาระยะหนึ่งถูกใช้อีกครั้ง เลมองร่างสูงใหญ่ของคนที่กำลังเข้ามานั่งแช่น้ำอยู่ในอ่างพร้อมกับเขา ฮิมนั่งลง จากนั้นก็ยื่นมือมาอุ้มเจ้าของตัวขาวเข้าไปนั่งตัก ปลายนิ้วข้างหนึ่งประสานกันเอาไว้หลวมๆ บรรยากาศผ่อนคลายถูกสร้างขึ้นด้วยกลิ่นกุหลาบ ลอยหอมอบอวลไปทั่วห้อง

เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาไล้ริมฝีปากไปตามลำคอระหง ขึ้นกกหูแล้วกระซิบเสียงแผ่ว “คิดถึง”

“คิดถึงเหมือนกัน” น้องว่า “ไม่อยู่กับน้องเลย ฮิมหายไปไหนมา”

ร่างสูงเลี่ยงไม่ตอบคำถาม เขาแสร้งกวักน้ำใส่หน้าของอีกคนเพื่อให้เลสนใจอย่างอื่น

2 วันมานี้ฮิมไม่ได้หายไปไหน เขากลับบ้านดึกหน่อยแต่เลไม่รู้เพราะน้องไปนอนกับวิน จะมีแค่ตอนกลางวันเท่านั้นที่ฮิมหายไปจริง มีหลายเรื่องที่เขาต้องทำ และบางเรื่องที่ทำมันก็เกี่ยวข้องกับเล

ฮิมยังไม่ได้คุยกับน้องหรือวินแบบจริงจังตั้งแต่วันที่มันต่อยเขาอยู่โรงพยาบาล แม้ว่ารอยช้ำบนใบหน้าจะเริ่มจางลงแล้ว

“พี่ฮิม”

“หืม”

“เงียบจัง เป็นอะไรหรือเปล่า”

“...” เขาไม่อยากโกหกเลด้วยการตอบว่าเปล่า

น้องหมุนตัวเข้าหาทันที มือบางยกขึ้นลูบใบหน้าเขาเบาๆ “เจ็บแผลเหรอ”

“ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะครับ”

“งั้นเป็นอะไร”

“...” ฮิมแสร้งยิ้ม

“พี่ฮิม” เลลากเสียงเหมือนรู้ทันว่าแสร้งทำ ฮิมหุบยิ้มลง นัยน์ตาคมมองนิ่ง เขาถอนหายใจพร้อมกับคว้าตัวคนตรงหน้าเข้ามากอด

“พี่ขอโทษ”

“เรื่องอะไร?”

“ทุกเรื่องเลยครับ” แต่ละเรื่องที่ทำ ร้ายแรงจนบางครั้งเขาอยากถามเลว่าอยากเลิกกับเขาไหม นั่นอาจจะทำให้น้องไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก มันเป็นจริงอย่างที่วินว่า อยู่กับเขาเลไม่ปลอดภัย น้องได้เจอเรื่องร้ายๆ ตลอดแม้ว่าเขาจะพยายามปกป้องขนาดไหน เพราะตัวปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่ใครแต่เป็นฮิม

เขาไม่สามารถเป็นคนตายด้านได้ถ้าเรื่องนั้นมันเกี่ยวข้องกับเล ฮิมเจ็บทุกครั้งที่รู้ว่าน้องเป็นอะไรไปเพราะเขา เจ็บยิ่งกว่าคือรู้ว่าตัวเองก็เคยทำให้เลเจ็บทั้งกายและใจ แม้จะสำนึกได้ทีหลังแต่ความเจ็บปวดที่เลเคยได้รับมันก็ไม่ได้หายไปไหน

ถ้าเลบอกเลิกเขาตอนนี้ ฮิมจะไม่ขัดอะไรทั้งนั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว แค่คำขอโทษกับทุกสิ่งที่อีกฝ่ายได้เจอ มันไม่พอ “พี่ขอโทษ”

มันไม่พอ

“เลให้อภัยนะ พี่ฮิมอย่าคิดมาก” มือบางแนบใบหน้าแล้วช้อนขึ้นสบตากัน “เลรักพี่ฮิม รักมาก อย่าเศร้าไปเลยนะ”

อย่าเศร้าไปเลยนะ

ฮิมหลับตาลง ทาบหลังมือที่กำลังแนบใบหน้าเขาแล้วหันไปจูบเบาๆ ที่กลางฝ่ามือ

“ขอบคุณที่รักพี่” พูดจากใจจริง

“ขอบคุณที่รักเลเหมือนกัน” ฮิมทาบริมฝีปากเข้าหาอีกคนหลังจากจบประโยคนั้น จูบแผ่วเบาเริ่มลึกซึ้งกันเมื่อแขนเรียวไล้ขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง เลเบียดตัวเข้าหา สอดปลายนิ้วเข้าไปนวดคลึงกลุ่มผมสีดำสนิท ขย้ำผมพี่ฮิมได้สักพักเจ้าตัวก็ถอนจูบออก ผละริมฝีปากออกไล้ปลายจมูกที่ลำคอแทน

“คืนนี้นอนกับพี่นะครับ” คนถามถามขณะที่เอนเจ้าของกายขาววางศีรษะลงบนขอบอ่างกุซซี่ เลไม่ได้ตอบอะไรนอกจากคว้าลำคอแกร่งโน้มลงมาประกบริมฝีปากอีกครั้ง

อย่าว่าแต่นอนในห้อง คืนนี้เขาจะได้ออกจากห้องน้ำไหมยังไม่รู้เลย



ความสุขผ่านไปได้แค่วันเดียว เพราะคืนต่อมาเลก็บังเอิญได้ยินเรื่องที่ฮิมไม่อยากให้น้องรู้ อาหาร ต้นตอที่ทุกคนเคยคิดว่ามันมียาพิษเลยทำให้น้องต้องเข้าโรงพยาบาล ในความเป็นจริงคือเลไม่ได้กิน น้องเลยก็เลยเป็นลมล้มพรึบก่อนจะได้กิน แต่สิ่งที่เลยังไม่ได้รู้แต่พวกเขารู้ก็คือในอาหารนั้นมียาพิษอยู่จริงๆ

ฮิมหายหน้าไปในช่วงเช้าก็เพราะเหตุนี้ เขาต้องไปจัดการต้นตอที่หลายคนก็พอจะนึกออกว่าใคร ‘เดวา’

‘พี่มาให้ความหวัง แล้วพี่ก็เขี่ยผมทิ้งไปโดนที่ไม่ได้พูดอะไร! ถ้าไม่ได้ชอบแล้วพี่มาเล่นกับหัวใจผมทำไม!’

อีกฝ่ายตะคอกใส่หน้าเขาขณะที่ถูกคุมตัว เป็นหนึ่งในไม่กี่คำพูดที่ทำให้ฮิมรู้สึกผิด เพราะที่เดวาทำไปก็ไม่ใช่เพราะใคร มันเป็นเพราะเขา

ยาพิษถูกใส่ในปริมาณน้อย แต่ประสิทธิภาพของมันไม่ได้น้อยเหมือนปริมาณที่ใส่ ซึ่งถ้าเลได้กินลงไป ฮิมไม่อยากจะคิดผลลัพธ์ที่ได้

เพราะเขา เลถึงเกือบตาย

เหตุการณ์ในครั้งนี้ดังไปถึงหูของคุณพ่อ ฮิมไม่ได้จัดการเดวาเอง คนที่พ่อส่งมาเป็นคนจัดการ ให้ซึ่งไม่รู้ว่าด้วยวิธีไหน

อย่างไรก็ตาม เลซึมลงทันทีที่ได้รู้ น้องเสียขวัญหนัก เนื่องจากเจอมาหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องล่าสุด เจ้าตัวได้เฉียดคำว่าเกือบตายแค่เพราะหมดสติก่อนที่จะได้กินอาหารปนยาพิษนั่นเข้าไป เลเกิดอาการสั่นและในบางครั้งก็ร้องไห้ หนักขึ้นจนฮิมทนไม่ไหว บ่ายวันนั้นเขาเดินเข้าห้องวิน มองคนที่กำลังร้องไห้ในอ้อมกอดของพี่ชาย แล้วเอ่ยถามจริงจัง

“คนดี กลับอังกฤษกับพี่ไหม”







(40%)



กลับไม่กลับ กลับไม่กลับ เราอ่านความเห็นจากนักอ่านหลายท่านเมื่อตอนก่อนแล้ว บางคนบอกว่ามันยืดไป ถ้ายังไงก็อาจจะได้รีไรท์ก่อนที่จะออกเล่มค่ะ

#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 14-07-2018 22:26:01
เชื่อว่าไม่กลับ
เจ้าตัวคง 50/50
แต่ที่แน่ๆ พี่วินคงไม่ให้กลับ คงต้องการดูแลน้องเอง และคงมีส่วนในการตัดสินใจครั้งนี้ของเล

แล้วจะยังไงต่อไป !!!
หรือหนนี้จะเป็นเลที่ขอเลิกกับพี่ฮิม
พี่ฮิมเองก็ดูไม่สบายใจมาก โทษตัวเองว่าคือปัญหาของเล
สงสารฮิม นางก็พยายามไม่อยากให้เลมีปัญหา

นึกไม่ออกจริงๆ ...
ขอให้เลเข้มแข็งกว่านี้ ไม่งั้นรักกันแค่ไหน ก็จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ต้องแยกกันอีกหรือ



หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 14-07-2018 22:31:39
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่าน ให้หายคิดถึงนะคะ อยากให้กลับอังกฤษ กันหมดเลยค่ะ พี่วิน เล ฮิม ให้น้องเรียนที่นั่นเลย พี่ฮิม วิน ทำงานไป ช่วยกันดูแลน้องเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 14-07-2018 22:33:08
ชอบโมเม้นท์พี่น้องมากเลย มันอบอุ่นหัวใจ
กลับไม่กลับนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 14-07-2018 23:15:00
เลไม่กลับได้มั้ยอยู่กับพี่วินเถอะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-07-2018 23:45:26
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 14-07-2018 23:55:31
จับมือเดินหน้าสู้กับปัญหาจะดีกว่าไหม
คนรักกันย่อมต้องการจะอยู่เคียงข้างกัน
ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย

ฮิมเล..เท่านั้น
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 14-07-2018 23:59:09
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-07-2018 00:05:22
ไม่กลับนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-07-2018 00:35:52
สงสารเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 15-07-2018 02:07:26
อยากให้เลอยู่กับพี่วินอะ ถึงแม้จะรักฮิมมากแต่ถ้ายังมีเรื่องกระทบกระเทือนใจ ยังไงก็ควรจะอยู่กับพี่ชายแท้ๆที่รักเลมากๆอะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 0140718#37(40%) p.50
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 15-07-2018 22:00:19
อยากให้น้องกลับไปเพื่อรักษาแผลใจกับคนพี่ซะก่อน  เพราะว่าครอบครัวคือยาที่รักษาได้ทุกความบอบช้ำ.


รอตอนต่อไปนะคะ


 :katai3:
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 17-07-2018 00:04:11


#37 (100%)




สนามบินสุวรรณภูมิ

“มีอะไรโทรหาพี่นะรู้ไหม อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว”

“อื้อ ถ้าเลโทรหาพี่วินตอนตีสามพี่วินจะรับไหมอะ”

“มึงก็อย่าโทรมาตอนตีสามสิวะ”

“เอ้า!” ฮิมมองสองพี่สองที่กำลังคุยกัน เขาเดินเข้าไปสะกิดน้องเล เป็นการบอกว่าถึงเวลาที่จะต้องไปแล้ว น้องหันมามองเขาก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปกอดวินแน่นๆ “เลจะโทรหาทุกวันรับสายเลด้วยนะ”

“อือ พี่เคลียร์งานที่นี้เสร็จแล้วจะรีบบินไปหา” เจ้าของใบหน้าคมก้มลงจูบหน้าผากขาวทีนึง “โชคดีครับ”

“รักพี่วินนะ”

“รักเหมือนกัน” เลโบกมือลา เจ้าตัวเดินออกห่าง แต่คนที่จะขึ้นเครื่องด้วยกลับไม่ยอมเดินตาม ฮิมยืนนิ่งจนเสียงนุ่มเอ่ยเรียก

“พี่ฮิม” เขาหันไปมองน้อง

“เลเดินเข้าเกตไปก่อนได้ไหมครับ พี่มีเรื่องจะคุยกับวิน” ประโยคดังกล่าวทำเอาคนฟังแสดงสีหน้าเป็นคนกังวลขึ้นมาอย่างชัดเจน เลรู้ว่าหลังจากวันนั้นทั้งสองยังไม่ได้หันหน้าคุยกันแบบจริงจัง และเพราะรู้ทั้งความคิดของพี่วินและพี่ฮิม นั่นทำให้เขาอดเป็นกังวลไม่ได้

แต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นกังวลก็ยังพยักหน้ายอมและไม่ลืมทิ้งท้าย

“อย่าต่อยกันในสนามบินนะ ไม่งั้นเลจะโกรธ”

ว่าจบน้องก็เดินออกไปก่อน ฮิมหลังมามองหน้าเพื่อนตรงหน้า มันนิ่งจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ วินเริ่มต้นพูด

“กูจะไม่ขอโทษที่กูต่อยมึง ยิ่งกูรู้ว่าในอาหารของเลมียาพิษ กูยิ่งรู้สึกว่ามึงสมควรโดน”

“กูไม่อยากได้คำขอโทษ กูรู้ตัวว่าเรื่องนี้กูสมควรโดนต่อย” เขาทำน้องชายแท้ๆ ของอีกฝ่ายเฉียดตาย เทียบกันแล้วฮิมควรจะโดนหนักกว่าต่อยด้วยซ้ำ

วินแสยะยิ้ม “งั้นมึงอยากพูดอะไร”

“ไปอังกฤษครั้งนี้ กูจะไม่สัญญาว่าเลจะไม่เป็นอะไร” เขาเคยสัญญาไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทำไม่ได้ ดังนั้นคราวนี้ฮิมจึงจะไม่ให้สัญญาอีก ที่อังกฤษไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องเป็นกังวล แต่เขาไม่สามารถรู้อนาคตล่วงหน้า ดังนั้นถ้าเกิดมีอะไรบังเอิญเกิดขึ้นมาจริงๆ ถึงฮิมจะไม่ให้สัญญา “แต่กูจะดูแลน้องมึงให้ได้ดีที่สุด”

“กูยอมให้เลไปอังกฤษ เพราะกูกลัวว่าน้องจะเป็นบ้าก่อนถ้ายังอยู่ที่ไทย กูยอมให้มึงดูแลเลอีก อังกฤษถิ่นมึง ดังนั้นไม่ว่าจะยังไงอย่าให้น้องกูตาย กูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเล”

“กูก็อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเล” ฮิมซ้ำ “เลจะไม่ตายถ้ากูยังไม่ได้ตายก่อน”

“งั้นก็ขอให้มึงไม่ตายไว” ร่างสูงยกยิ้ม ฮิมตั้งใจจะหมุนตัวกลับถ้าไม่โดนอีกฝ่ายเรียกเอาไว้เสียก่อน “ฮิม”

วินว่า “ถึงกูเข้าหามึงเพราะเล แต่กูก็เห็นมึงเป็นเพื่อนสนิท กูอาจจะไม่สนิทที่สุดสำหรับมึง แต่มึงเป็นเพื่อนสนิทที่สุดสำหรับกู”

พูดตรงๆ วินจมปลักกับอีกฝ่ายเพราะเรื่องของเลมานานหลายปี เขาไม่ค่อยมีเพื่อนคนอื่นเพราะมัวแต่สังเกตุการณ์ฮิม ถึงจะเข้าหาเพราะเลก็จริง ถึงจะยังโกรธมันด้วย แต่วินสามารถเรียกเต็มปากว่าคนตรงหน้าคือเพื่อนสนิทที่สุดของเขา

“มึงตัวติดกับกูมาเกือบ 7 ปี ถ้าไม่สนิทกูก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว” เป็นคำตอบที่ทำให้คนฟังแสยะยิ้ม วินมองนาฬิการ่างสูงตัดบทก่อนที่จะยืดเยื่อกว่าเดิม

“โชคดี”

“มึงด้วย”

“ฝันเถอะ กูโชคร้ายตั้งแต่ที่น้องกูรักมึง”

“มึงโชคร้าย แต่เลน่ะโชคดี ถ้ามึงจะให้พวกกูเลิกกัน มึงก็ไปหาคนที่ดีกว่ากูทุกอย่างในทุกด้านมาให้ได้แล้วกัน”

“อย่าให้กูหาเจอ”

“ก็ขอให้เจอ เพราะยังไงกูก็ดีที่สุดสำหรับเล”

“มั่นหน้า”

“น้องมึงพูดเอง”

ไม่มีใครพูดอะไรต่อหลังจากนั้น พวกเขาแสยะยิ้มให้กัน ก่อนจะเดินแยกกันออกไปคนละทาง



“คุยอะไรกับพี่วินเหรอ” ผมถามพี่ฮิมหลังจากที่เครื่องบินส่วนตัวทะยานขึ้นฟ้าเป็นที่เรียบร้อย ตอนที่พี่ฮิมขึ้นเครื่องอีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไร แต่หลังจากที่เครื่องบิน take-off เสร็จ ร่างสูงก็สั่งไวท์มาดื่ม ผมว่าพี่ฮิมอารมณ์ดีก็เลยอยากรู้ว่าคุยอะไรกัน “บอกเลหน่อย”

แก้วไวท์ถูกนำมาจ่อปากผม “ดื่มไหม”

“เปลี่ยนเรื่อง!”

“คุยทั่วไป”

“ไม่จริง ถ้างั้นจะให้เลเดินออกมาก่อนทำไม”

มือหนาวางแก้วไวท์ลง ก่อนจะยอมสารภาพ “คุยเรื่องน้องนั่นแหละ”

“แล้วยังไง พี่วินกีดกันเราเหรอ!”

“ก็คงอยากจะทำอยู่หรอก” ฮิมหัวเราะ “แต่เปล่าครับ ไม่ได้พูดเรื่องนั้นกัน”

“แล้วคุยอะไรกัน” อีกคนโน้มใบหน้าเข้าข้างหูเหมือนจะกระซิบ ทว่าไม่ได้พูดอะไร โดนพี่ฮิมฉกเข้าจูบที่แก้มแทน “พี่ฮิมอะ!”

“พี่ไม่ได้ทะเลาะกัน รู้แบบนี้โอเคไหมครับ” เลถอนหายใจ ยอมแล้ว ไม่บอกก็ไม่บอก

ผมคว้าแก้วไวท์ของพี่ฮิมมาดื่ม ร่างสูงเห็นดังนั้นจึงสั่งเปิดแชมเปญแทน ดื่มพอมึนแล้วพี่ฮิมถึงพาผมไปที่เตียงนอน เราเดินทางตอนกลางคืน ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาสำหรับการพักผ่อน แต่เหมือนเจ้าของเครื่องบินจะไม่อยากพักผ่อน เขาถึงได้เอาแต่ก่อกวนร่างกายผม กลิ่นอ่อนของแอลกอฮอล์ทำให้ติดอารมณ์ได้ง่าย และกว่าที่ฤทธิ์ของไวท์ผสมแชมเปญจะหมดลงก็กินเวลาไปกว่า 4 ชั่วโมง ทนแทนด้วยกลิ่นเหงื่อไคล

พี่ฮิมนอนคร่อมด้านบน ร่างสูงดูดยอดอกบวมช้ำเล่นก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆ แขนแกร่งกอดผมที่ใกล้จะสลบอยู่ร่อมร่อเข้าแนบอก ตามด้วยกระซิบเสียงทุ้มที่ข้างหู

“กลับบ้านเรากัน”

บ้านของเรา…



หลายชั่วโมงต่อมา

ตอนที่ขึ้นเครื่องบินเลยังไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ หรือจะเป็นตอนเดินลงจากเครื่องบิน สัมผัสอากาศหนาวจัดกว่าประเทศไทยอยู่มากโขผมก็ยังรู้สึกเฉยๆ กระทั่งเดินทางจากสนามบินฮีทโธรว์ใกล้ถึงคฤหาสน์ที่เคยอยู่มาตั้งแต่เด็กนั่นแหละถึงได้รู้สึกใจเต้นหน่อย ยิ่งพอเริ่มเห็นหลังคาของคฤหาสน์ ความรู้สึกจึงฉายชัดว่ามาถึงแล้วจริงๆ…

ประเทศอังกฤษ



วันต่อมา

“คนดี” เสียงทุ้มกระซิบ ฮิมยกมือทาบหน้าผากร้อนจัดของคนข้างกายแล้วถอนหายใจ

เลเป็นไข้

พวกเขามาถึงที่อังกฤษแล้ว ตอนนี้อุณหภูมิที่อังกฤษยังไม่ถึงขั้นที่เรียกได้ว่าหนาวที่สุด แต่สำหรับเลที่อยู่เมืองไทยซึ่งอุณหภูมิบางวันพุ่งขึ้นสูงถึงสี่สิบองศา แถมน้องพึ่งได้มาอังกฤษในรอบครึ่งปี อากาศที่ยังหนาวไม่สุดสำหรับคนที่อังกฤษก็เลยกลายเป็นหนาวสุดๆ สำหรับเล อีกทั้งยังโดนเขารังแกบนเครื่องบินมาก่อน ร่างกายที่อ่อนล้าแถมยังปรับสภาพไม่ทันอีก ส่งผลให้เลเป็นไข้สูง หมดสติตั้งแต่มาถึงคฤหาสน์และหลับยาวข้ามวันจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น

“พี่ฮิมไปกินข้าวกับคุณพ่อก่อนดีไหมคะ เดี๋ยวแม่เฝ้าน้องเลให้เอง” นัยน์ตาคมมองสุภาพสตรีที่เดินเข้ามาในห้อง ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงนอนแล้วเดินเข้าไปกอดทักทาย เป็นคุณแม่ของเขาเอง “เราสูงขึ้นอีกแล้วนะเนี่ย จะสูงกว่าพ่อแล้วหรือเปล่า”

“ไม่แน่ใจครับ”

“ยักษ์ทั้งคู่เลยจริงๆ” คุณหญิงของบ้านหัวเราะ ร่างเพรียวเดินมาหาคนที่กำลังนอนนิ่งอยู่บนเตียง “น้องเลของคุณแม่ก็สวยขึ้นอีกแล้ว”

เขายังไม่ยอมเดินออกจากห้อง “ฮิมเป็นห่วงน้อง”

“คุณหมอฉีดยาให้ก็คงไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ คุณพ่อมีเรื่องจะคุยกับพี่ฮิมด้วย บอกว่าเป็นเรื่องสำคัญนะคะ ไปหาพ่อเราหน่อยเดี๋ยวน้องเลจะโดนโวย” คนเป็นแม่รู้ดีว่าจะจัดการกับลูกชายของตัวเองยังไง จุดอ่อนที่สุดของฮิมก็คือเล น้องเลและนายใหญ่ของบ้านเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งถ้าลูกชายยังดึงดันที่จะอยู่กับคนป่วย คนที่จะโดนเจ้าของบ้านโวยไม่ใช่ใครนอกจากเล จะว่าฮิมก็ได้ แต่มีโอกาสมากกว่าที่คุณพ่อจะว่าใส่คู่กัดตัวเองซึ่งฮิมก็รับรู้ได้ ร่างสูงจึงถอนหายใจก่อนจะยอมเดินออกจากห้องไปแต่โดยดี

คุณหญิงหัวเราะเมื่อเห็นภาพบรรยากาศเก่าทับซ้อน ร่างบางนั่งลงบนเตียง มือเรียวทาบเข้าที่หน้าผากขาว อุณหภูมิร้อนจัดที่สัมผัสได้บ่งบอกว่าเรื่องที่เลมีไข้ไม่ใช่เรื่องโกหก นิ้วเรียวไล้ไปตามโครงหน้า จบด้วยการเกลี่ยปรอยผมทัดหูแล้วกวาดสายตามอง

“เลเหมือนเธอมากจริงๆ เลยนะ ซาร่า”



ราวกับว่าหลับนานเป็นชาติ ผมลืมตามองเพดานหรูด้านบนด้วยความรู้สึกมึนงงว่าตัวเองมาอยู่ที่ไหน ครั้นจะยันตัวขึ้นจากเตียงอาการโลกหมุนก็ถล่มเข้าใส่จนต้องล้มลงไปนอนดังเดิม

เวียนหัวจัง

“ตื่นแล้วเหรอคะน้องเล” เสียงอันคุ้นเคยของคนที่คุ้นเคยทำให้ผมเบิกตากว้าง ภาพของคนตรงหน้าเป็นการย้ำความทรงจำของผมที่ลืมไปชั่วขณะว่าเราพึ่งมาถึงอังกฤษกัน “เมื่อวานสลบอยู่หน้าบ้านเลย ทุกคนเป็นห่วงแทบแย่”

“คุณแม่” อีกฝ่ายเดินเข้ามาให้ผมกอด พร้อมทั้งลูบหัวผมเบาๆ “เลคิดถึงจัง”

คุณแม่ที่ผมเรียกก็คือคุณแม่ของพี่ฮิม จะมีแต่คุณลุงเท่านั้นแหละที่ผมไม่เรียกว่าคุณพ่อ เพราะดูเหมือนฝ่ายนั้นจะไม่อยากให้ผมเรียกแบบนั้น

“คิดถึงเหมือนกันค่ะ น้องเลยังรู้สึกไม่สบายตัวอยู่ไหมคะ”

“เลเวียนหัว” ผมตอบ “เลหลับไปนานหรือเปล่า?”

“1 วันค่ะ”

“อื้อ” ยังดีที่ไม่นานมาก “พี่ฮิมล่ะครับ”

“พึ่งเดินไปกินข้าวกับคุณพ่อ น้องเลหิวไหมคะ เดี๋ยวคุณแม่ให้คนยกอาหารมาให้กินที่นี่”

“เลออกไปกินกับพี่ฮิมก็ได้” ต้องไปไหว้คุณลุงด้วย ไม่ไหว้เดี๋ยวโดนบ่น ขี้เกียจเถียงกับคุณลุง

“งั้นไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน” ว่าจบผมก็ถูกประคองเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวอย่างว่าง่าย หลังจากนั้นถึงได้ออกจากห้อง ขณะเดินก็กวาดสายตาสำราจคฤหาสน์ที่ไม่ได้มาเกือบครึ่งปีไปพลาง

ที่นี่ใหญ่มาก ผมไม่สามารถบรรยายได้ว่ามันใหญ่ขนาดไหน เพราะแค่ที่ดินก็กว้างจนไม่รู้จะพูดยังไง

ตัวคฤหาสน์ออกเป็นสไตล์โมเดิร์นหน่อยๆ ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างที่หลายคนใฝ่ฝัน ห้องดูหนังขนาดใหญ่ ห้องดนตรี  ห้องคาราโอเกะ ห้องเล่นเกม ห้องสังสรรค์ มีส่วนที่เป็นบาร์ครบครั้นพร้อมกับแอลกอฮอล์ และห้องอื่นๆ อีกมากมายจนนับไม่หวาดไม่ไหว

มีแทบทุกอย่างที่ต้องการเลยจริงๆ

คุณแม่พาผมเดินมาที่ห้องรับประทานอาหาร ภาพแรกที่เห็นคือพี่ฮิมกำลังนั่งคุยเรื่องอะไรสักอย่างกับคุณลุง คุณลุงหรือคุณพ่อของพี่ฮิมเป็นคนสังเกตุเห็นเลก่อน บทสนทนาระหว่างอีกฝ่ายกับลูกชายจึงชะงัก คิ้วเข้มเลิกขึ้นคล้ายแปลกใจ เป็นผลให้พี่ฮิมที่นั่งหันหลังให้ผมอยู่ต้องหันมามอง

“ตื่นแล้วเหรอ” ผมเดินไปกอดพี่ฮิมจากทางด้านหลัง อีกฝ่ายยกมือทาบหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิ “ยังตัวร้อนอยู่เลย มากินข้าวเหรอครับ”

“อื้อ”

“กินข้าว กินยาแล้วไปนอนต่อนะ”

“พี่ฮิมไปนอนกับเลด้วยได้ไหม” ผมอ้อน และในจังหวะนั้นเองเสียงหนึ่งก็ดังขัดขึ้นมา

“นอนเองไม่เป็นเหรอ” เจ้าของเสียงคือคนที่ทำท่านั่งอ่านหนังสือพิมพ์เหมือนจะไม่สนใจแต่รู้นะว่าแอบฟังอยู่ตลอด...

คุณลุง

เจ้าของตำแหน่งพ่อของพี่ฮิม นายใหญ่ของบ้าน ประธานบริษัทแฮมินตันซึ่งนำเข้า ส่งออกและผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ยักษ์ผู้คุมบังเหียนกว่า 84 สาขาทั่วโลก ยังไม่รวมธุรกิจอื่นอีก แต่ละเดือนกอบโกยจำนวนเงินไปได้มหาศาล ตัวเลขในบัญชีและทรัพย์สินทั้งหมดของคนๆ นี้ เผลอๆ อาจจะมากกว่าเงินในกระทรวงการคลังของประเทศบางประเทศเสียอีก

“ไปทักทายคุณพ่อหน่อย คนดี” ฮิมกระซิบ มือหนาดันตัวเลไปทางคุณลุง ผมเลยต้องจำใจยอมเดินไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ อ้าแขนออกจะขยับเข้ากอด คนวางท่าปรายตามอง แต่สุดท้ายแล้วก็ยอมวางหนังสือพิมพ์ในมือลง ลุกขึ้นยืนเต็มตัวแล้วสวมเข้ากอดผม แถมหอมแก้มให้ด้วยข้างละหนึ่งที

“ยังเตี้ยเหมือนเดิมเลยนะ” ตามด้วยประโยคกัดเลน่ะนะ ผมตอกกลับ

“เลยังพัฒนาได้ แต่ดูจากอายุคุณลุงน่าจะหยุดพัฒนาแล้ว”

“ฉันพึ่งสี่สิบต้นๆ”

ผมยกยิ้มไม่ตอบอะไรขณะเดินมานั่งข้างๆ พี่ฮิม ทั้งคุณลุงทั้งคุณพ่อของพี่วิน ต่างมีลูกเร็วกันทั้งนั้นเลย 

สองพ่อลูกต่อบทสทนาเรื่องธุรกิจกันต่อขณะที่ผมนั่งกินข้าวเงียบๆ ในอิ่ม แล้วถึงมาสังเกตุการณ์

พี่ฮิมกับคุณลุงเหมือนกันมาก

ทั้งหน้าตา บุคลิก นิสัยใจคอ ถึงบางส่วนจะต่างกันบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็เหมือน โดยเฉพาะหน้าตาน่ะ…

คุณพ่อของพี่ฮิมในวัยสี่สิบต้นๆ ไม่ได้แก่อย่างที่ผมพูดกัดไปหรอก จะแก่ได้ยังไงก็ในเมื่อคุณแม่ยังสวยตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่เลย พูดกันตามตรงคือคุณลุงหล่อมาก หล่อแบบผู้ใหญ่ และกลิ่นอายของความเป็นผู้ใหญ่มันทำให้ความหล่อของอีกฝ่ายฮอตขึ้นไปอีกหลายขุม เทียบกับพี่ฮิมในตอนนี้ เสน่ห์ของผู้ใหญ่ทำให้ฮิมยังสู้ไม่ได้แต่ผมคิดว่าถ้าพี่ฮิมอายุเท่าคุณลุงเมื่อไหร่ล่ะก็ บางทีอาจจะยิ่งกว่า…

ความคิดผมหยุดชะงักเมื่อคนที่ตัวเองกำลังลอบสังเกตุหันมาสบตาแล้วทำหน้าราวกับว่ารู้นะว่ามองอยู่ อีกฝ่ายเอามือเท้าคางแล้วยกยิ้มที่มุมปากให้ผม ปฏิกิริยาแบบนั้นแหละที่ไม่ว่าคุณลุงจะหล่อขนาดไหนเลก็ไม่อยากจะชม

ชมไปแล้วเดี๋ยวจะเหลิง!

พี่ฮิมซึ่งทันเหตุการณ์ถอนหายใจ ร่างสูงเห็นผมอิ่มเลยคะยั้นคะยอให้เลไปกินยาแล้วเข้านอน

“พี่ฮิมไปนอนกับน้อง”

“เดี๋ยวฮิมเข้าบริษัทกับพ่อ”

“พี่ฮิม”

“ฮิม”

“เลือก!/เลือก!”

“เล่นอะไรกันเป็นเด็ก” คุณแม่เป็นคนเข้ามายุติเหตุการณ์ “ฮิมพึ่งมาถึงอังกฤษ ถ้าคุณพ่อจะพาเข้าบริษัทเลยฉันไม่โอเคนะคะ”

ผมยกยิ้ม เลื่อนมือขึ้นไปโอบรอบลำคอแกร่งแล้วเข้าซบเข้าที่บ่า ดูจากคำพูดของคุณแม่ก็รู้แล้วว่าใครจะชนะ

“วันนี้พี่ฮิมไปอยู่กับน้องเล พักให้หายเหนื่อยก่อนแล้วค่อยเข้าบริษัทกับคุณพ่อนะคะ”

“ครับ” พี่ฮิมขานรับ

“เลรักคุณแม่” ผมกระโดดเข้ากอดคุณแม่ทีนึงก่อนที่จะโดนร่างสูงโอบเอวพาเดินออกจากบริเวณนั้น เรากลับมาที่ห้อง ผมโดนบังคับให้กินยา จากนั้นล้มตัวนอนกอดกันบนเตียงแล้วจ้องตากันเงียบๆ “คิดถึงตอนเด็กจัง”

“หือ?”

“ตอนเด็กเราก็ชอบนอนจ้องตากันแบบนี้ แล้วฮิมก็ชอบเอามือมาปิดตาน้องแบบนี้”  ผมเอื้อมไปจับมือพี่ฮิมมาปิดตาตัวเอง พอเห็นแต่ความคิดภาพในวัยเด็กก็เริ่มฉายชัด เราอยู่ด้วยกันในห้องนี้ นอนบนเตียงหลังนี้มาเกือบสิบๆ ปี 

คิดถึงมากเลย

“ก็เลไม่นอน เป็นเด็กดื้อ” เสียงทั้มพูดถึงเรื่องเก่าๆ พี่ฮิมไม่ยอมแกะมือที่วางทาบดวงตาของผมออก “ตอนนี้ก็ด้วย”

“เลไม่ง่วง พึ่งตื่นเอง”

“แล้วไหนบอกอยากให้พี่นอนด้วย”

“ไม่อยากให้ฮิมไปกับคุณลุง” ผมสารภาพก่อนจะถูกพี่ฮิมรวบตัวเข้าไปกอด “ยังไม่ได้อาบน้ำเลย เหม็นนะ”

“ตอนเลยังไม่ตื่นพี่เช็ดตัวให้คนดีแล้ว”

“แอบแต๊ะอั๊งเลเปล่า” พี่ฮิมไม่ตอบแต่ขยับใบหน้าเข้ากับหอมแก้มผมแทน แล้วก็เงียบไปครู่หนึ่ง “ไม่น่าเชื่อเลยเนาะ”

“อะไรครับ”

“กลับอังกฤษคราวที่แล้ว เลยังไม่รู้เลยว่าพี่ฮิมรักเล” มือหนาที่ปิดตาผมอยู่ปิดแน่นยิ่งกว่าเดิม “แบบคนรัก”

“อืม”

“แล้วพอเลเข้ามหา’ลัยก็รู้เยอะขึ้นตั้งหลายเรื่องเลย”

“แบบปุ๊บปั๊บเลยน่ะสิ”

“พี่ฮิมว่าไม่ดีเหรอ” ผมจับมือที่ปิดตาตัวเองออก หันหน้าไปมองคนที่กำลังทำหน้าไม่สบอารมณ์นักด้วยท่าทีจริงจัง “เลว่าดีนะ”

“...”

“เพราะไม่อย่างนั้นกลับอังกฤษคราวนี้ พี่ฮิมก็คงยังไม่มีโอกาสที่จะหอมเลแบบนี้” ผมปีนขึ้นคร่อมร่างหนา จรดจมูกเข้ากับแก้มของอีกฝ่ายแล้วหอมฟอดใหญ่ “จูบเลแบบนี้”

ตามด้วยการทาบริมฝีปากเข้าด้วยกัน สอดปลายลิ้นแทรกเข้าไปในด้านใน พัวพันกับฝ่ายตรงข้ามแล้วถอนออกด้วยสัมผัสเนิบนาบ เกิดเส้นน้ำยืดตามระยะห่างก่อนจะขาดออกจากกัน

“แล้วก็แบบนี้…” ผมปลดกระดุมเสื้อออก ตั้งใจจะจับมือพี่ฮิมมาวางทาบที่หน้าอกแต่อีกฝ่ายกลับตึงมือตัวเองเอาไว้ นัยน์ตาคมวาบวับหากแฝงด้วย

“ทำแบบนี้เดี๋ยวไข้ไม่ลดนะ” ผมยิ้ม จับมือพี่ฮิมทาบที่อกก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบคนด้านใต้

“ลดวันหน้าก็ได้” คราวนี้พี่ฮิมไม่ถามความคิดผมอีก ร่างสูงพลิกตัวคร่อมทับ ไล้มือปลดทุกอย่างที่อยู่บนร่างกายออก ก่อนจะเริ่มการล่าบนเตียง

สถานที่อันคุ้นเคยทำให้ make love ในครั้งนี้ต่างออกไป ทุกครั้งที่พี่ฮิมสัมผัส ภาพในวัยเด็กจะฉายชัดเข้ามาในหัว เรื่องราวต่างๆ มากมายตั้งแต่เด็กไหลเข้าสู่สมองและจมลงในกองราคะ ก่อนจะมลายหายไปในยามที่หยาดอารมณ์ถูกปลดปล่อยออกพร้อมกับความคิด ราวกับว่าสมองขาวโพลน ผมลืมทุกสิ่ง คิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ สิ่งเดียวที่ตกค้างอยู่ในหัวคือคำว่า

“เลรักพี่ฮิม”



วันต่อมาไข้ลด (ลดเพราะพี่ฮิมป้อนยาและเช็ดตัวให้ตลอดทั้งคืน) เราจึงตกลงว่าจะไปเที่ยวกัน แต่เริ่มจากเข้าบริษัทของคุณลุงในตอนเช้า เลเคยมาไม่กี่ครั้ง มาครั้งนี้จึงแทบอ้าปากค้าง ผมที่คุ้นชินกับความรวยอยู่แล้วยังต้องตะลึงในความอลังการ เมื่อบริษัทหลักของแฮมินตันใหญ่กว่าบริษัทรองที่กรุงเทพสามเท่าจะได้  เริ่มคิดใหม่แล้วจริงๆ ว่าในอนาคตพี่ฮิมจะรวยขนาดไหนเมื่อดูจากบริษัทที่ออกจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้

พี่ฮิมไปดูงานกับคุณลุง ส่วนเลเสียเวลาตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายอยู่กับคลังรถของแฮมินตันที่ได้รับการขนานนามว่าใหญ่ที่สุดในโลก สวรรค์บนดินสำหรับผมและคนที่รักรถเป็นชีวิตจิตใจ

ช่วงบ่ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ผมกับพี่ฮิมเลือกที่จะขับรถชมเมือง ต่อด้วยการไปล่องเรือแม่น้ำเทมส์ลอดใต้สะพาน London Bridge จูบกันบนจุดสูงสุดของ London eye ไปกินข้าวเย็นที่ภัตตาคารสุดหรู แล้วปิดท้ายทริปด้วยการเลี้ยวรถเข้าโรงแรม ที่ไม่กลับบ้านเพราะกิจกรรมที่เราจะทำต่อไปนี้ ที่นี่มันสะดวกกว่า

กิจกรรมที่ว่านั้น เลไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากนอนจมอยู่ใต้ร่างหนา เสพสมกามอารมณ์และปล่อยให้คนด้านบนขึ้นควบครั้งแล้วครั้งเล่าไปค่อนคืน สิ้นสุดเมื่อฟ้าใกล้สว่าง ตอนที่น้ำรักของคนกำกับจังหวะบนเตียงอัดแน่นจนเอ่อล้นช่องทาง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก้มลงนอนแนบตรงหน้าอก ถูกกระซิบคำบอกรักจากนั้นก็หลับไปพร้อมกัน

มีความสุขที่สุดเลย










(100%)



น้องเลลืมพี่วินอีกแล้ว!



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 17-07-2018 00:21:34
ยังไง จะยังไงต่อไป
ไม่อยากให้วุ่นวายอีกแล้วอ่ะ
เดาทางไม่ถูกค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-07-2018 02:24:54
ไปอังกฤษครั้งนี้ จะมีอะไรให้ระทึกอีกบ้างไหมนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 17-07-2018 03:33:20
เอ่อ...พี่ฮิมคะน้องเพิ่งไข้ลด(ยังไม่หาย)
อย่าจัดหนักแบบนี้เซ่!
แล้วน้องเลไหนว่าจะโทรหาพี่วินคะ
หนูหยิบโทรศัพท์โทรหาพี่หรือยัง
รอคอยตอนต่อไปปปปป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-07-2018 09:11:05
 :3123: :3123: :3123:
แด่พี่วินคนที่น้องเลลืมไปแล้วว่าจะโทรหา

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 17-07-2018 10:18:33
น้องงงงงงงงงอย่าลืมพี่วินนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-07-2018 10:43:49
ไหนบอกจะโทรหาทุกวัน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 17-07-2018 12:19:56
น่าสงสารพี่วิน ถูกน้องเลลืมอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-07-2018 13:25:25
 :z1: :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 17-07-2018 14:38:03
 :L1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 18-07-2018 21:48:18
อยู่กับฮิมก็จะลืมพี่วินตลอดดด55555 พอแล้วนะไม่ทะเลาะกันแล้วนะฮิมเลไม่เหนื่อย แต่เราเหนื่อย ฮืออออออออ  :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: narongyut ที่ 18-07-2018 23:17:24
น้องขี้อ้อน​  ขอบคุณ​มากกครับ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170718#37 p.51
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-07-2018 00:28:17
 :pig4:
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 19-07-2018 17:28:56


#38 (30%)



เมื่อวานมีความสุขมากเกินไป เลลืมเรื่องทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นอยู่ที่ไทย ลืม ลืม ลืมแม้กระทั่งพี่วิน!

ผลเหรอ…

150 สายไม่ได้รับ

“ตายแน่”

“เป็นอะไรครับ” ผมหันไปทางต้นเสียง พี่ฮิมที่อยู่ในชุดคลุม อีกฝ่ายพึ่งอาบน้ำเสร็จ “คนดี”

“เลลืมโทรหาพี่วิน” ว่าพลางยกโทรศัพท์ที่ขึ้น 150 สายไม่ได้รับให้ดู

“โทรกลับสิครับ”

“ฮิมคุยกับพี่วินให้น้องก่อนได้ไหม” ผมอ้อนขณะเดินเข้าไปกอดเจ้าของกายหนาติดกลิ่นสดชื่นของสบู่ พี่ฮิมพยักหน้า อีกฝ่ายกอดผมเอาไว้ขณะกดโทรออก รอไม่ถึงสามวินาทีปลายสายก็รับ เสียงตะคอกของพี่วินดังออกมาให้ได้ยินแม้จะไม่ได้เปิดลำโพง

(เล!!)

ตายแน่ ตาย ตายๆๆ

“มีอะไร” พี่ฮิมกรอกเสียงตอบกลับไปในสาย “เลอยู่กับกู...ไปเที่ยวกัน...อย่าว่าน้อง”

ผมได้แต่ซุกอกพี่ฮิม จนกระทั่งโดนมือหนาสะกิดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ พี่ฮิมว่า “มันอยากคุยกับเล”

“พี่วินจะว่าเลไหม”

“ไม่ว่าหรอก” ได้รับกำลังใจเป็นจูบที่หน้าผากหนึ่งที ผมยื่นมือไปรับโทรศัพท์มาแนบหู

“ฮัลโหลพี่วิน”

(ไหนบอกว่าจะโทรหากูทุกวัน มึงหายไปสามวัน กูจะจองตั๋วไปอังกฤษแล้วนะเล)

“ขอโทษน้า สองวันแรกเลเป็นไข้ยังไม่ฟื้นเท่าไหร่ แล้ววันที่สามก็มาเที่ยว”

(ไข้หายแล้วเหรอ)

“ลดลงแล้วครับ” ผมคุยกับพี่วินต่ออีกยืดยาว โดนบ่นใส่ตั้งแต่ออกจากโรงแรมจนถึงบ้านนั่นแหละถึงได้วางสาย เข้ามาในบ้านก็ต้องเจอกับคุณลุงที่ทำหน้าบึ้งใส่ แม้จะไม่ได้ถามว่าไปไหนกันมาถึงไม่กลับบ้าน แต่ก็หาว่าผมแย่งเวลาลูกชายอย่างพี่ฮิมไปจากพ่อแม่ แต่ว่าจบปุ๊บคุณลุงก็โดนคุณแม่ดุให้ทีนึงทันที

เลรักคุณแม่จริงๆ!

“วันนี้ฮิมต้องเข้าบริษัทกับพ่อนะ” บรรยากาศจริงจังขึ้น คุณลุงพูดกับพี่ฮิมด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้มีวี่แววล้อเล่นเหมือนแต่ก่อน คนฟังเองก็พยักหน้ารับ ก่อนจะโอบเอวผมเดินไปนั่งกินข้าวเช้าที่โต๊ะทานอาหาร

“แล้วเลจะอยู่กับใครล่ะ” ผมกระซิบถามพี่ฮิม เพราะรู้ว่าครั้งนี้คุณลุงจริงจัง ก็เลยไม่พูดเสียงดังให้เจ้าของบ้านได้ยิน

“วันนี้เล่นกับลูกชายเลไปก่อน เดี๋ยวพี่จะพยายามโทรหาไม่ให้เลเหงา”

“ลูกชายอะไร?” เลท้องไม่ได้ จะไปมีลูกได้ยังไง!

พี่ฮิมถอนหายใจ “ก็ไม่ให้พี่เอาเปอร์เซียมาด้วยก็เพราะลูกของคนดีไม่ใช่เหรอ”

จริงด้วย!

เข้าใจขึ้นมาทันใด ผมรีบวางช้อนในมือลงแล้วถือวิสาสะวิ่งไปที่หลังบ้าน เจอกรงคุ้นตาและในนั้นก็มี…

โฮ่งๆๆๆๆ

“ลูกเล!” น้องหมา! Alaska Gaint ยักษ์ใหญ่ 3 ตัวที่ตอนนี้อ้วนจนพุงย้วยไปหมด พอเปิดกรงให้ปุ๊บเจ้าหมายักษ์ทั้งสามก็พุ่งเข้ามารุมเลียหน้า พร้อมกับใช้พุงย้วยๆ นั่นทับตัวผม พวกมันตัวใหญ่ ใหญ่มาก ขนเยอะแถมยังนุ่มอีกด้วย “คิดถึงจัง คิดถึงๆ”

“โฮ่งๆ”

“คิดถึงเลไหม”

“โฮ่ง!”

“คิดถึงเหมือนกัน แต่หนักอะ! ทำไมอ้วนขนาดนี้ ไม่ยอมออกกำลังกายกันใช่ไหม อีกนิดจะกลายเป็นหมีแทนหมาแล้วนะ” ผมบ่นให้ลูกชายทั้งสามตัวฟัง ซึ่งมันคงไม่เข้าใจเพราะเอาแต่วิ่งหมุนรอบตัวเองไปมาแล้วก็กลิ้งๆ ล้มๆ ไปทั้งอย่างนั้น เจ้าหมาโง่! อ้วนแล้วยังโง่อีก!

คนที่ดูแลเจ้าสามตัวนี้บอกว่าพวกมันกินเยอะมาก ปกติก็เปิดกรงให้ออกไปวิ่งเล่นแต่ก็ไม่ค่อยยอมวิ่งกันนัก ต้องมีคนมาเล่นด้วยถึงจะยอมขยับเขยื้อนตัว ซึ่งปกติไม่ค่อยจะมี ก็เลยอ้วนเป็นหมีกันแบบนี้ เลเลยตัดสินใจพาลูกชายทั้ง 3 ออกกำลังกายโดยการเล่นกันทั้งวันตั้งแต่เช้าถึงเย็น เหนื่อยหอบไปทั้งคนและหมา จนผมแทบจะแบกสังขารตัวเองลงมากินข้าวเย็นร่วมกับคนอื่นไม่ได้

“เลวันนี้ทำอะไรบ้าง” คุณลุงถามทันทีที่ผมนั่งลงข้างพี่ฮิม คนข้างกายขยับเข้ามาจูบหน้าผากนิดหน่อยก่อนที่เลจะตอบ

“เลเล่นกับหมา”

“น้องเล ถ้าว่างต้องเริ่มอ่านหนังสือจริงจังแล้วนะ” ผมแทบอยากจะวางช้อนในมือลงเมื่อคุณลุงเริ่มพูดอนาคตขึ้นมา “เกรดเทอมนี้คงไม่ต้องพูดถึงเลยใช่ไหมล่ะ”

ผมพยักหน้า ไม่ต้องพูดถึงของคุณลุงคือแย่แน่นอน ผมเรียนไม่รู้เรื่อง เวลาสอบเก็บคะแนนก็ทำแบบงงๆ ที่ได้สอบก่อนที่จะมาอังกฤษเนี่ยคงไม่ต้องพูดถึงว่าได้เตรียมตัวไหม

ไม่

เลไม่ได้ดรอป ช่วงนี้สำหรับมหา’ลัยเป็นช่วงใกล้จะสอบไฟนอลก่อนปิดเทอมเล็ก และผมขอสอบก่อน​ (ใช้อภิสิทธิ์นิดหน่อย) จึงได้หยุดก่อน แต่คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องคะแนน เกรด 2.5 จะถึงไหมยังไม่รู้เลย ต่างจากคนข้างกายลิบลับ พี่ฮิมของผม A ล้วนไม่เคยมีตัวอักษรอื่นมาแทรกแม้แต่นิดเดียว

ได้แต่นั่งเขี่ยอาหารเล่น พูดเรื่องนี้แล้วหมดอารมณ์จะกินเลยอะ

“ลุงไม่อยากกดดัน แต่น้องเลต้องเริ่มคิดแล้วนะว่าจะเอายังไง เพราะเราเรียนจบเมื่อไหร่ลุงจะยกธุรกิจของพ่อเราคืนให้”

“มีด้วยเหรอ”

“มี”

“น้ำมันไงครับ” พี่ฮิมว่า “ที่คุณพ่อเป็นเจ้าของอยู่ จริงๆ แล้วมันเป็นธุรกิจที่ซื้อมาจากพ่อของเลนะ”

“ซื้อมาแล้วทำไมต้องคืนให้เลอีกอะ”

“ไม่อยากได้เหรอ เอาไปเถอะแค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่” คุณลุงถาม ส่วนประโยคหลังพึมพำอะไรก็ไม่รู้เลฟังไม่ออก

“คุณพ่อตั้งใจจะยกให้น้องเลอยู่แล้วล่ะค่ะ” คุณแม่พูดขึ้นบ้าง “กำไรของธุรกิจน้ำมันทั้งหมด คุณพ่อเขาเอาใส่บัญชีในชื่อน้องเลตั้งแต่ที่เรายังเป็นเด็กแล้วนะคะ”

กำไรของธุรกิจน้ำมันทั้งหมด... ใส่ให้ตั้งแต่ที่เลเป็นเด็ก จนตอนนี้จำนวนเงินในบัญชีมันจะมีกี่บาท

ผมนิ่งไปสักพัก ขณะหันไปมองหน้าคุณลุงอย่างเหวอๆ ได้เหวอยิ่งกว่าเก่าเมื่อคุณแม่พูดต่อว่า “ตอนนี้ก็น่าจะมีเกือบหมื่นล้านได้แล้ว”

“หา!” ผมอ้าปากค้างกับจำนวนเงิน งั้นก็หมายความว่าตอนนี้เลมีเงินหมื่นล้านในธนาคารใช่ไหม ฮือ นึกว่าตัวเองจนมาตลอด

“รวยกว่าพี่แล้ว” คนข้างกายว่า พี่ฮิมยื่นมือมาขยี้ผมเลเบาๆ

“เหลือแค่น้องเลไปถอนออกมาใช้แค่นั้นแหละค่ะ”

“ฮือ” 

“ฮึ! ขอบใจฉันสิ” คุณลุงยกยิ้ม เป็นการยกยิ้มที่เลคิดว่ามันไม่ได้เป็นการประชดอีกต่อไป ผมลุกขึ้นยื่นแล้ววิ่งไปกอดคนที่นั่งหัวโต๊ะด้วยความดีใจ

“ขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆ เลรักคุณลุงก็ได้!”

“ดูก่อน เกรดไม่ถึง 2.5 ฉันยังไม่ให้บัญชีหรอกนะ การเรียนยังดูแลไม่ได้แล้วจะมาดูแลเงินหมื่นล้าน”

“เดี๋ยวน้องจะตั้งใจเรียน เลรักคุณลุง! รักคุณลุง! รักคุณลุง!”



“รักพี่บ้างสิ”

“หือ” ผมหมุนตัวไปมองคนที่เข้ามากอดจากทางด้านหลัง พี่ฮิมพึ่งอาบน้ำเสร็จ ร่างสูงอยู่ในชุดคลุมสีดำผ้าลินิน กลุ่มผมชื้นน้ำ ดูรวมๆ แล้วเซ็กซี่มากกว่าปกติ แต่คำพูดเมื่อกี้น่ะแปลกๆ “อะไรเหรอ”

“รักพี่ฮิมด้วย”

“รักอยู่แล้ว ทำไมคิดอย่างนั้น” มือบางวางโทรศัพท์ในมือลง พึ่งโทรคุยกับพี่วินเสร็จ

“น้องบอกรักคุณพ่อ กอดด้วย”

“แล้วยังไง?”

“...”

“อย่าบอกนะว่าพี่ฮิมหึงที่เลบอกรักแล้วก็กอดคุณลุงอะ” ฮิมทำหน้าเครียด เลถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายจริงจัง “พี่ฮิมของน้อง คิดอะไรกันเนี่ย”

ผมเข้ากอดร่างสูง แนบจมูกไซร้ลำคอขาวติดกลิ่นหอมของสบู่ พี่ฮิมว่า “คุณพ่อพึ่งจะสี่สิบต้นๆ”

“แล้วยังไง”

“เลเข้าใจว่าพี่จะสื่ออะไร” คุณพ่อพี่ฮิมยังหล่อ ไม่ใช่หล่อธรรมดา หล่อมากด้วยในวัยของผู้ใหญ่ แถมยังรวยมากด้วย ถ้าเจ้าชู้หน่อยก็หากินเด็กได้ไม่ยากเลย

“เลแค่ดีใจ ก็คุณลุงใจดี” ผมนึกว่าพ่อพี่ฮิมเกลียดเลมาโดยตลอด แต่พอรู้เรื่องที่ยกกำไรธุรกิจทั้งหมดเข้าบัญชีที่สร้างขึ้นให้ผมแล้วก็ลืมเรื่องเกลียดไปเลย “อย่าคิดมากครับ”

อีกฝ่ายยังไม่เลิกทำหน้าเครียด ผมเลยดันตัวพี่ฮิมเดินถอยหลังแล้วกดให้เจ้าของบ่าแกร่งนั่งลงบนเตียง เข้าคร่อมโดยการขึ้นไปนั่งบนตักหนา ยืดตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วกดใบหน้าหล่อแนบอก ผมขย้ำกลุ่มผมนุ่มเล่น นวดคลึงหนังศีรษะให้อีกฝ่ายก่อนจะลากนิ้วเลื่อนลงไป…

หมับ!

“น้องเล”

จุดอ่อนของพี่ฮิม

คนเสียงแข็งจับมือผมเอาไว้แน่น ต้องทำตาใสใส่ก่อนถึงยอมปล่อย

“แกล้งเหรอ?”

“เปล่า”

“...”

“หวงจังเลยต้นคอด้านหลังเนี่ย เลยังแตะไม่ได้ ใครจะแตะได้กัน” ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาพึ่งได้สังเกตุ ต้นคอด้านหลังของพี่ฮิมที่ผมเคยจับอยู่บ่อยๆ ไม่นึกว่ามันจะเป็นจุดอ่อน เพราะเผลอลูบตอนมีอะไรกันถึงได้รู้ ร่างสูงจะอ่อนลงทันทีแม้อีกฝ่ายจะกลับเกลื่อนอาการโดยการรีบเร่งจังหวะขึ้นหลังจากนั้น แต่ผมสังเกตุทันก่อน

“ชอบเหรอ”

“ชอบสิ ฮิมคนแกร่งของน้องอุตส่าห์มีจุดอ่อนให้เล่น-- อ๊ะ!”

“งั้นพี่เล่นตรงนี้ของเลด้วยดีไหม” มือหนาดึงกางเกงผมลงไปกองที่เข่า บีบสะโพกขาวแรงๆ ก่อนจะพลิกตัวคร่อม “แลกกัน”

แลกอะไรที่มันไม่คุ้มเลยน่ะสิ!



เช้า

ฮิมตื่นก่อน ร่างหนาลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือผิวขาวๆ เจ้าของอกที่เขากำลังซุกอยู่ น้องขยุ้มผมเขาเอาไว้แน่น ต้องค่อยๆ แกะมือบางแล้วผละตัวออกมาเบาๆ เพื่อไม่ให้คนที่กำลังหลับสนิทตื่น ฮิมห่มผ้านวมให้กับคนที่ยังนอนนิ่งเสร็จแล้วถึงลุกจากเตียง ร่างสูงเปล่าเปลือยก้มลงหยิบชุดคลุมสีดำสนิทที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมาใส่ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ

ฮิมออกจากห้องน้ำอีกครั้งในสภาพชื้นน้ำ เขาพึ่งอาบน้ำเสร็จเพราะวันนี้ต้องเข้าบริษัทกับพ่ออีก หนึ่งในธุรกิจของครอบครัวกำลังมีปัญหาใหญ่ที่ต้องหาทางแก้ไขโดยด่วน และปัญหาที่ว่าก็ทำเอาฮิมวุ่นมาตั้งแต่ก่อนงานวิศวะสัมพันธ์แล้ว

เขาต้องกลับอังกฤษก็เพราะเรื่องนี้ แต่กำหนดการณ์กลับที่แท้จริงคือหลังจากสอบไฟนอลพร้อมกับเพื่อนเสร็จ ที่เร่งการกลับเร็วกว่าปกติเพราะไม่อยากให้เลอยู่ไทยนานนัก

“พี่ฮิมจะไปไหน” เสียงงัวเงียดังมาจากคนที่กำลังขยี้ตาอยู่บนเตียง เลตื่นแล้ว มือหนาถือเนคไทที่ยังไม่ได้ใส่ไปเดินไปหาน้อง ก้มลงจุ๊บเจ้าของร่างขาวทีหนึ่งแล้วกลับมาจัดการกับเนคไทต่อ เขากำลังจะใส่แต่มันถูกคนที่อยู่บนเตียงแย่งไปซะก่อน “จะไปไหน”

เสียงนุ้มถามย้ำ

“พี่ต้องเข้าบริษัทกับคุณพ่อ”

“อยู่กับเลไม่ได้เหรอ” น้องโผล่เข้ากอดคอ ซบหน้าสวยลงบ่า “พี่ฮิมทำเลตัวแดงไปหมดแล้ว พี่ฮิมต้องอยู่กับเลสิ”

ฮิมมองตามกายขาว มีจุดที่แดงอยู่หลายจุดจริงๆ โดยเฉพาะตรงคอ ต้นขา สะโพก ก้นขาว แล้วก็…

“อื้อ ฮิม” มือหนาเข้าลูบช่องทางเล็กที่ขึ้นสีและกำลังบวมเปล่งอย่างเห็นได้ชัด นิ้วเรียวแทรกเข้าไปด้านใน กวาดต้อนเอาน้ำรักของตัวเองที่ยังคั่งค้างอยู่ในตัวของอีกฝ่ายออกมาไหลเยิ้มไปตามซอกขาเรียว “วันนี้อยู่กับเลนะ”

เลอ้อน คนดีมักจะอ้อนเพื่อให้ได้อยู่ด้วยกันทุกครั้งของวันใหม่หลังจากที่มีอะไรกันมาทั้งคืน จากนั้นก็ล่อด้วยกายขาว อย่างเช่นวันนี้ มือบางคว้าศีรษะของเขากดเข้าหาตัว ปล่อยให้จมูกโด่งไซร้ไปตามลำคอระหงแล้วค่อยๆ เอนตัวลงนอนบนเตียง ฮิมรีบผละออกก่อนจะตกหลุมพราง เขารู้ว่าเลทำไปเองอัตโนมัติไม่มีมารยา แต่ถึงมี ร่างสูงก็ยังชอบอยู่ดี ไม่ดีตรงที่เขาเริ่มจะติดกับ นานวันเข้ายิ่งอันตราย หลงหนักหาทางออกไม่ได้ ดังนั้นถ้ามีมารยาเพิ่มมาเมื่อไหร่ ต่อจากนี้ให้ทั้งบ้านทั้งรถก็คงยังไม่พอ

“ขอโทษนะครับ” นิ้วเรียวเกลี่ยจมูกรั้นของคนที่ราบอยู่บนเตียง เลทำหน้ายุ่ง คนตัวเล็กกว่าลุกออกจากเตียงโดยไร้เสื้อผ้าติดตัว เขย่งปลายเท้าผูกเนคไทให้เขา “เดี๋ยวพี่โทรหา รับสายพี่ด้วยนะครับ”

“แต่เลเหงา”

“ถ้าอยากออกไปไหน ไปเลือกรถในโกดังได้เลยครับ พี่คุยกับคุณพ่อให้แล้ว” ประโยคนี้ทำเอาน้องเลดูตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย เจ้าตัวถามย้ำ

“ได้ทุกคัน?”

“ทุกคัน”

“อื้อ โอเค”

“ยังง่วงไหม นอนต่อเถอะ” ฮิมอุ้มอีกฝ่ายไปวางไว้บนเตียง คนเก่งของเขาให้ moring kiss เป็นสิ่งตอบแทน

“ตั้งใจทำงานนะ”

“ครับ” เขาก้มลงหอมแก้มนุ่มสองฟอด ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์กับนาฬิกา นัยน์ตาคมหันไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียงอีกครั้งหนึ่งก่อนจะเดินออกจากห้องไป









(30%)



ทุกคนก็น่าจะพอรู้นะว่าพี่ฮิมเป็นคนยังไง ยิ่งกลับอังกฤษถิ่นตัวเอง ไม่มีใครมากวน ผลพวงคือเราก็ได้อรุ่มกันต่อไป 55555555

ปล. หลายคนท้วงให้เลมาอังกฤษ คือการโอ๋เลอีกแล้ว ไม่โตสักที ในกรณีของเลถ้าตัวเองไม่เป็นลมก่อนได้กินอาหารเข้าไปก็คือตายเลย อันนี้เราว่ามันไม่ใช่การโอ๋นะคะ ถ้าได้เจอแต่เรื่องแย่ๆ ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ คิดว่าหลายคนก็ต้องอยากจะออกไปที่อื่น และบังเอิญพี่ฮิมรวย ที่อื่นก็เลยอยู่ไกลถึงคนละทวีปแค่นั้นเอง





ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ ด้วยนะคะ

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 19-07-2018 18:48:20
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 19-07-2018 18:55:10
รู้สึกหลงรักพี่ฮิมจัง55555น้องเลน่ารัก :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-07-2018 19:05:18
ไปอังกฤษครั้งนี้ เลจะได้อ่านหนังสือไปกี่หน้ากันนะ   :hao6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 19-07-2018 19:57:53
น้องเลน่ารัก ขำพี่วินน โอ๋น้า อย่างอนน้อง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 19-07-2018 22:39:05
ยังรอคู่พี่ดีนพี่วินอยู่นะคะ
อร้ายยยยยยยย
เจ้ปลื้มสุดๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 19-07-2018 23:04:44
ช่วงนี้เป็นยุ่งๆ มาเห็นอีกทีน้องได้มาอังกฤษแล้วว แงงง คิดถึงน้องมากเลยค่ะ
น้องกับพี่ฮิมยังแซบเหมือเดิม เพิ่มเติมคือคิดถึงพี่วินด้วย อิอิอิอิอิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 20-07-2018 10:16:39
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 20-07-2018 11:04:22
ดีใจที่พี่ฮิมกับพี่วินปรับความอเข้าใจกันแล้ว  น้องจะได้สบายใจ แต่ยังกังวลและสงสัยว่าบริษัทคุณพ่อพี่ฮิมมีปัญหาอะไรกัน


รอตอนต่อไปนะคะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 01-08-2018 07:09:22
รอจร้าาาาาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: ปูนา555 ที่ 02-08-2018 22:26:57
 :mew1:ะ :mew1:รอคับ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 19-08-2018 14:30:27


#engineer 38 (100%)

(แล้วตอนนี้อยู่ไหน)

“Starbuck”  ผมตอบพี่วินขณะยกกาแฟในมือขึ้นดื่ม “เลมาอ่านหนังสือ”

(กูควรดีใจใช่ไหม น้องเริ่มอ่านหนังสือ)

“แต่ก่อนเลก็อ่านเถอะ”

(แล้วทำไมถึงได้อ่าน)

“ต้องมีทำไมด้วยเหรอ?”

(กูรู้ว่ามี) ผมบอกเรื่องที่คุณลุงให้บัญชีที่มีเงินกว่าหมื่นล้านถ้าเลได้เกรด 2.5 กับพี่วิน อีกฝ่ายร้องหึ! (หมื่นล้านแลกเกรด 2.5 เป็นกูต้องได้เท่าไหร่)

“แหม เก่งนักเหรอ”

(ก็ A ทุกวิชา) จ้ะ ไม่เถียงแล้ว (พี่พอรู้มาบ้างว่าพ่อเลค้าน้ำมัน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อฮิมถึงได้ดูแล)

“เลไม่รู้หรอก เรื่องผู้ใหญ่” ขนาดตัวเองมีเงินในบัญชีหมื่นล้านยังพึ่งรู้เมื่อวานเลย “แล้วพี่วินจะมาหาน้องได้เมื่อไหร่”

(พึ่งสอบเสร็จ 1 วิชา อย่างเร็ว 1 อาทิตย์ อย่างช้า 2 อาทิตย์)

“คิดถึงพี่วิน รีบมานะ”

(พี่ต้องซื้อบ้านกับคอนโดที่อังกฤษด้วย เลไปดูไว้หน่อยสิ อยากได้แบบไหน)

“อ้าว ไม่มาอยู่กับเลเหรอ”

(บ้านไอ้ฮิมน่ะเหรอ ไม่เอา)

“อือ งั้นเดี๋ยวเลลองหาดูให้” เอาจริงผมอยากหาทางที่จะทำให้พวกเราได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ดูหนทางแล้วมันก็ยาก พอโตขึ้นแต่ละคนก็ต้องไปใช้ชีวิตของตัวเอง “พี่วิน งั้นแค่นี้ก่อนนะ”

(อืม รักนะครับ)

“รักเหมือนกัน” ผมกดวางสายพร้อมกับเก็บหนังสือลงกระเป๋า เที่ยงพอดีเลยว่าจะไปหาอะไรกิน ขณะที่กำลังขับรถตะเวนหาของกินอยู่พี่ฮิมก็โทรมา

(คนดีไปกินข้าวกันไหม)

“เลกำลังหาอะไรกินอยู่เหมือนกัน พี่ฮิมอยู่ไหน”

(ร้านสเต็กซ์ แถว xxx ถนน xx มากินกับพี่หน่อย พอดีคุณพ่ออยากกิน เลยจองเอาไว้ทั้งร้านเลย)

“โอเคเลอยู่ใกล้พอดี เดี๋ยวก็ถึง” ผมเร่งเครื่อง ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็เถอะร้านที่พี่ฮิมว่า ทั้งร้านมีแค่มีคุณพ่อ พี่ฮิมและคุณแม่ที่บังเอิญมาซื้อของแถวนี้พอดีนั่งพร้อมหน้า เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ได้กินข้าวพร้อมหน้ากันช่วงเที่ยงเพราะหนึ่งอาทิตย์ต่อมาหลังจากนั้น ผมก็แทบจะไม่ได้นั่งกินข้าวพร้อมกับพี่ฮิมและคุณลุงอีกเลย…



หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

(เลเหงานะ) เสียงจากปลายสายว่ามา (เลรู้ว่าฮิมยุ่ง ไม่อยากกวนแต่น้องก็เหงา)

“ไม่เป็นไรครับ” ฮิมตอบกลับ สมาธิส่วนหนึ่งยังจดจ่อกับเอกสารตรงหน้า

(เลได้ยินเสียงกระดาษ ยังทำงานอยู่หรือเปล่า) คนฟังวางกระดาษในมือลงทันที

“เปล่า”

(โกหก) น้องว่า (ช่วงพักเที่ยงก็ยังต้องทำเหรอ พี่ฮิมกินข้าวหรือยัง)

นัยน์ตาคมหันไปมองข้าวกล่องอย่างดีที่มีคนเอามาให้ตั้งแต่สามสิบนาทีก่อน ทว่าจนตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้กิน ร่างสูงตัดสินใจโกหกออกไป “กินแล้วครับ”

(แน่นะ) น้องเงียบไปสักพัก (งั้นแค่นี้แหละ เลไม่กวนแล้ว อย่าหักโหมมากนะฮิม บอกคุณลุงด้วย)

“ไว้วันนี้พี่จะกลับไปทานข้าวเย็นด้วยนะ”

(อืม บาย รักนะ)

“รักคนดี” ปลายสายตัดไปจังหวะเดียวกันที่ประตูห้องเขาถูกเปิดออก ร่างสูงของผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาพร้อมกับปรายตามองข้าวกล่องที่ยังไม่ได้แตะ “เลฝากมาบอกคุณลุงว่าอยากหักโหม”

“บอกฮิมเถอะ” คุณพ่อว่า “ยังไม่กินข้าวอีกเหรอ ตอนบ่ายมีประชุมนะ ไม่กินตอนนี้จะได้กินอีกทีตอนเย็นเลยนะ”

“เอกสารนี่ยังไม่เสร็จ” เขายกเอกสารที่ยังไม่ได้อ่าน เหลืออีกแค่สองสามแผ่น

“มาพักก่อน” มือหนากวักเรียกเขาไปนั่งที่โซฟาด้วยกัน อีกฝ่ายคะยั้นคะยอให้ฮิมต้องกินข้าวจนต้องยอมกิน

“พ่อทำงานเสร็จแล้วเหรอ” เขาถามขณะกินปลาแซลม่อนตรงหน้า คนที่นั่งข้างกายตอบ

“ยังไม่เสร็จ เยอะเกิน เห็นแล้วปวดหัว กำไรก็ไม่ได้สักบาท” พ่อเขาบ่น “ฮิมต้องไปบอกน้องเล ควรขอบคุณคุณลุงคนนี้มากๆ ยอมทำให้ถึงขนาดนี้”

“ฮิมยังไม่ได้บอกเลเรื่องนี้ เดี๋ยวน้องกังวล” พ่อเขาแสยะยิ้ม

“เดี๋ยวน้องกังวล” อีกฝ่ายเลียนเสียง “มีดีอะไรถึงได้ทำให้ฮิมหลงรักหัวปักหัวปำได้”

“ก็มีดีพอให้คุณพ่อต้องมาทนนั่งอ่านเอกสารอยู่นี่ไง”

ธุรกิจที่มีปัญหาซึ่งพวกเขากำลังนั่งหัวหมุนหาทางแก้อยู่คือธุรกิจน้ำมันที่จะยกให้เล ทั้งที่จริงแล้วจะปล่อยเรื่องนี้ไปก็ได้ เพราะถ้าพูดในเรื่องของธุรกิจ พวกเขาไม่ได้อะไรเลยนอกจากความเหนื่อยเนื่องจากกำไรทั้งหมด ย้ายเข้าบัญชีแต่เพียงผู้เดียว เป็นพ่อเขาเองที่ไม่ยอมปล่อย เจ้าของบ้านที่น้องเลคิดว่าเกลียดตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ นั่นแหละที่ยอมลำบากทำงานหัวหมุนโดยที่ไม่ได้อะไรเลย ฮิมจำคำพูดของคุณพ่อได้ดี

พ่อไม่ยอมเสียมันให้ใคร ธุรกิจน้ำมันต้องเป็นของน้องเล

“พ่อไม่ให้ของหมั้นแล้วนะ เอาหมื่นล้านนี่ไปเป็นของหมั้นก็แล้วกัน” เจ้าของเสียงทุ้มยันศอกเข้ากับโซฟา มือหนาเท้าคางมองมาที่เขา

“ฮิมไม่หมั้น ฮิมจะแต่งเลย”

“ก็สมควร กินลูกชาวบ้านเขาไปตั้งหลายครั้งซะขนาดนั้น” มือหนาที่กำลังตักข้าวเข้าปากถึงกับชะงัก ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองพ่อของตนเอง “ถ้ายังไม่ให้แต่ง แม่เลที่อยู่บนฟ้าคงลงมาฆ่าพ่อน่ะสิ”

“พ่อรู้เหรอ” ต้นแบบนัยน์ตาคมสีดำสนิทมองนิ่งก่อนจะยกยิ้ม พูดขึ้นมาประโยคหนึ่งที่ทำให้ฮิมนิ่งไปเมื่อได้ฟัง

“เสียงดัง”

“...”

“ผนังบ้านเราไม่ได้เก็บเสียงนะฮิม”

“...”

“เอาเถอะ ว่าไม่ได้หรอกเพราะพ่อเองก็เร็วกว่าฮิมเยอะ ยังดีนะที่น้องเลท้องไม่ได้ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องท้องก่อนแต่ง” เขาพูดอะไรไม่ออก นอกจากตักข้าวเข้าปากแบบเงียบๆ ร่างสูงของผู้เป็นพ่อลุกขึ้นยืน หันมาสั่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้อง “กินให้อิ่ม แล้วก็อย่าลืมเข้าประชุมด้วย”

“ครับ” เขาตอบได้แค่นั้นจริงๆ



“พี่ฮิมจะกินข้าวหรือยังนะ” ผมพูดกับเจ้า Alaska gaint 1 ที่กำลังกอดอยู่ ช่วงนี้พี่ฮิมยุ่ง ยุ่งมากๆ เลย ถามว่าที่บริษัทมีอะไรทำไมยุ่งขนาดนี้ก็ไม่ยอมตอบ “ไจแอ้น1 เลเป็นห่วงฮิม”

“โฮ่งๆ”

“ห่วงคุณพ่ออีกคนไหม”

“โฮ่ง”

“ไม่รู้ว่ากินข้าวยังเนาะ” มันไม่ตอบละ เจ้าตัวอ้วนเลียหน้าผมแทน น่ารักจนต้องลงไปฟัดกับพุงย้วยๆ “มั่นเขี้ยว!”

“​คลาร์ก คอเปอร์เรชั่น บริษัทค้าน้ำมันยักษ์ใหญ่ที่ทำงานร่วมกับเรามานาน เกือบ 20 ปีก่อนเขาประสบปัญหาทางการเงิน ช่วงนั้นท่านประธานได้ตัดสินใจซื้อธุรกิจหมื่นล้านนี้มาจากเพื่อนสนิทพอดี แต่เราเองก็ยังใหม่ในเรื่องนี้มาก จึงมีการเจรจายื่นมือเข้าช่วยเหลือทางด้านการเงินกับบริษัท โดยที่ฝ่ายนั้นเองก็ต้องดูแลธุรกิจน้ำมันในด้านต่างๆ ของเราให้เช่นกัน”

“ผ่านมา 20 ปีทุกอย่างเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ทางเราเองเริ่มเรียนรู้ระบบต่างๆ จนสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้แล้ว ทางนั้นก็เช่นกัน ปัจจุบัน คลาร์ก คอเปอร์เรชั่น กลายเป็นบริษัทค้าน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเงินที่เขามีในตอนนี้ คาดว่าคงไม่ต้องพึ่งเราอีก แฮมินตันตัดสินใจว่าจะแยกตัวออกจากอีกฝ่าย แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นมาเสียก่อน”

“โปรเจ็กสุดท้ายที่ได้ทำร่วมกัน ทางนั้นเจอแหล่งน้ำมันขนาดยักษ์ที่เราเป็นคนให้เงินทุนในการดำเนินการ มูลค่าของมันถ้าเทียบเป็นเงินเผลอๆ อาจจะมากกว่ากำไรของแฮมินตันทั้ง 84 สาขามารวมกัน”

ร่างสูงเท้าคางมองเลขานุการคนสนิทของพ่อที่กำลังบรรยายปัญหาเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ด้านหน้า สิ้นประโยคสุดท้ายเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทันที

มูลค่าของมันถ้าเทียบเป็นเงินอาจจะมากกว่ากำไรของแฮมินตันทั้ง 84 สาขามารวมกัน

ฮิมบอกแล้วว่าน้องเลจะรวยกว่าเขาอยู่แล้ว

“ปัญหามันอยู่ที่ว่าทางนั้นไม่อยากจะยอมรับว่าเราให้เงินทุน อีกฝ่ายต้องการจะเอาแหล่งน้ำมันนั่นเป็นของตัวเองเพียงคนเดียว อาจจะต้องมีการต่อสู้กันในศาล” คุณพ่อที่เป็นประธานซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะสรุปเมื่อทุกคนเงียบลง “หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้มีการดำเนินการเรื่องนี้ในบางส่วนแล้ว สำหรับการประชุมในวันนี้ ผมจะสรุปแผนการทั้งหมด และอยากรู้ว่าคณะกรรมการแต่ละท่านคิดยังไง มีวิธีการแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ไหม”

“...”

“เท่านี้แหละครับ”



วันต่อมา

“วันนี้ไม่ต้องเข้าบริษัทเหรอ” ผมทักพี่ฮิมหลังจากที่ตื่นมาแล้วเห็นอีกฝ่ายนอนอยู่ข้างกายในรอบหนึ่งอาทิตย์ พี่ฮิมพยักหน้า เขาตอบ

“ไม่เข้า วันนี้จะอยู่กับเด็กขี้เหงา”

“ก็เหงาจริงๆ นี่” ผมไม่ปฏิเสธ “เล่นกับหมา อ่านหนังสือ ขับรถเล่น วนเวียนอยู่แค่นี้”

เคยชินกับการอยู่บ้านกับใครหลายๆ คน ตอนอยู่ไทยได้ยินเสียงโวยวายจากพี่ๆ ทุกวัน วันไหนไม่มีอะไรทำอย่างน้อยก็ได้นั่งดูหนังกับพวกพี่ๆ แต่อยู่เนี่ยคนเยอะก็จริง แต่ใครจะกล้ามานั่งดูหนังกับเลเล่า!

“อยากไปไหน”

“ที่ไหนก็ได้ อยู่บ้านเฉยๆ ก็ได้ แค่ได้อยู่กับฮิมก็พอ”

“อยู่แต่ในห้องกับพี่ก็ได้ใช่ไหม” ลุกหนีออกจากเตียง รู้เลยว่าเขาคิดจะทำอะไร

“เมื่อคืนก็… เยอะแล้วนะ” เจ้าของร่างหนายิ้มเมื่อเห็นผมหนีออกห่าง

“พี่ล้อเล่น” ไม่เชื่อว่าพี่ฮิมล้อเล่นอะ ถ้าผมตอบว่าได้ เขาก็คงเอาจริง “งั้นวันนี้อยู่บ้าน น้องอยากทำอะไร”

“อาบน้ำให้ไจแอ้น1 2 3” ไจแอ้น ชื่อหมาของเล

“ก็เอาสิ” พี่ฮิมลุกออกจากเตียง “ไปอาบน้ำ กินข้าว แล้วไปอาบน้ำให้ลูกชายคนดี”



“โฮ่งๆ”

“อย่าดิ้น!”

“โฮ่ง!”

“ไจแอ้น 3 อย่าดิ้น”

“โฮ่งๆ”

“หนักชิบหาย” พี่ฮิมถึงกับสบถคำหยาบ ร่างสูงมีหน้าที่จับสุนัขตัวยักษ์เอาไว้ให้มันอยู่นิ่งๆ เพื่อให้เลฉีดน้ำได้ แต่มันไม่ยอมนิ่งให้เลย จะวิ่งไปวิ่งมาอย่างเดียว “ไม่น่ารักเหมือนเปอร์เซีย”

“เปอร์เซียนั่นแหละที่ไม่น่ารัก!” ผมแว้ดใส่ “อย่าว่าลูกเลนะ”

“ครับ พี่ยอม”

“ฮิมจับนิ่งๆ อีกแปปนึงจะเสร็จแล้ว” พี่ฮิมกลั้นใจยึดตัวเจ้ายักษ์ตัวสุดท้ายเอาไว้ และในที่สุดเราก็อาบน้ำหมาจนเสร็จในสภาพทุลักทุเล “ฮึ!”

ผมหลุดขำพี่ฮิม ทั้งตัวของอีกฝ่ายเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้าแถมยังติดแชมพูหมาอีก “ขำอะไรครับ”

“ขำพี่ฮิมไง เปียกหมดแล้ว จบกันมาดท่านประธานในอนาคต”

“คนดีไม่เปียกเลย”

“ก็เลเป็นคนฉีดน้ำ”

“...”

“พี่ฮิมจะทำอะไร” ผมถามขณะเดินถอยหลังอย่างระแวงเมื่อร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้ พี่ฮิมไม่มีโอกาสให้ผมได้คิด ร่างสูงใช้เวลาไม่ถึงห้าวินาทีในการเดินเข้ามาอุ้มเลเดินไปยังสระน้ำที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็…

ตู้ม!

หยาดน้ำเล็กๆ สาดกระจายเมื่ออีกฝ่ายโยนเลหล่นลงกลางสระ ผมรีบว่ายขึ้นเหนือน้ำก่อนจะโวย “พี่ฮิม! มันหนาวนะ”

“หนาวเป็นเพื่อนพี่ไงครับ”

“เดี๋ยวน้องก็เป็นไข้อีก พี่ฮิมจะรับผิดชอบยังไง”

“โฮ่งๆ!” เสียงทุ้มยังไม่ตอบอะไร เจ้าหมาทั้งสามตัวที่แสนจะรักเลเสียเหลือเกินเมื่อพวกมันเห็นผมถูกโยนลงน้ำ ทั้งสามก็วิ่งลงน้ำตามอย่างง่ายดาย จนรู้สึกว่าที่ให้ฮิมออกแรงจับสามสหายไจแอ้นเอาไว้อยู่นานสองนานเพื่อฉีดน้ำให้พวกมันเมื่อสักครู่นี้แทบจะไร้ประโยชน์

“เอาน้องลงน้ำตั้งแต่แรกก็หมดเรื่องแล้ว”

“ฮิม น้องหนาว” ผมเริ่มสั่น อากาศในตอนนี้ไม่ได้อบอุ่นเหมือนอยู่ประเทศไทยหรอกนะ ร่างสูงเดินมายื่นมือให้จับเพื่อดึงผมขึ้น แต่แทนที่จะขึ้น ผมออกแรงดึงคนที่ยืนอยู่บนบกลงมาในน้ำแทน

ตู้ม!

“น้องเล”

“พี่ฮิมทำเลก่อนนี้!” ผมพยายามจะว่ายหนีขึ้นบก แต่ไม่ทันการ พี่ฮิมว่ายมาดึงขาเลเอาไว้ไม่ให้ขึ้น กักขังไม่ให้ได้ขยับด้วยการกอดจากกายหนาที่ข้างสระ “ทำแบบนี้อุ่นจัง”

ผมซบหน้าลงบ่าแกร่ง แล้วกอดตอบอีกฝ่าย พี่ฮิมย่อตัวลงไปกอดในน้ำ ยิ่งไม่เจออุณหภูมิด้านบนผมยิ่งรู้สึกอุ่นกว่าเดิม บรรยากาศเริ่มเป็นใจ แถมเจ้าสามตัวด้านข้างก็ไม่เห่ากันด้วย

สงบดีจัง

“น้องเล”

“หือ?” ผมครางรับ ยังซบหน้าอยู่ที่บ่าแกร่ง

“พี่อยากแต่งงานกับเล”

!!!!!!

เลเบิกตากว้าง รีบผละออกมาจ้องหน้าคนพูด ร่างสูงไม่มีวี่แววล้อเล่นแม้แต่น้อย ผมใจเต้น มันแทบจะพุ่งออกมาจากข้างใน “เราพึ่งเป็นแฟนกันได้ไม่กี่เดือนเองนะ”

“บอกเอาไว้ก่อน” พี่ฮิมว่า “จองเอาไว้ด้วย”

“ด้วยอะไร?”

“น้องอยากได้อะไรล่ะ”

“เดือนกับดาวได้ไหมอะ”

“สงสารพี่หน่อยสิคนดี”

“งั้นเอาพี่ฮิม ทุกอย่างของพี่ฮิมเลยได้ไหม” ฮิมเงียบ มือหนาเกลี่ยปลอยผมขึ้นทัดหูเลให้ก่อนจะตอบ

“ทุกอย่างของพี่น่ะ น้องได้มันไปตั้งนานแล้ว”

ดีจัง…

“ชอบจัง”

“อะไรหืม?”

“ชอบความรู้สึกแบบนี้ บรรยากาศแบบนี้ แล้วก็คนนี้” เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอขณะที่ผมจิ้มนิ้วจึกๆ ลงบนอกแกร่ง

ผมจ้องหน้าพี่ฮิมเงียบๆ เลื่อนมือไปโอบรอบลำคอแกร่งแล้วลากปลายนิ้ววนหมุนส่วนเป็นต้นคอด้านหลังเบาๆ ร่างสูงลงโทษเลโดยการทาบริมฝีปาก จูบเริ่มจากแผ่วเบาก่อนจะเปลี่ยนเป็นเร้าร้อนและดูดดื่มจนแทบจะหายใจไม่ทัน มือหนาลูบไล้ไปตามลำตัว น้ำทำให้ผ้าแนบชิดติดกายมากขึ้นก็เลยรับรู้ถึงสัมผัสได้มากขึ้น พี่ฮิมทำให้ผมสั่น สั่นโดยที่ไม่ด้วยรู้ว่าเป็นเพราะหนาวหรือเพราะอะไร

ตึก! ตึก!

กึก!

เลแตะบ่าแกร่งให้หยุดเมื่อเหลือบไปเห็นว่ามีใครบางคนมายืนรออยู่ข้างสระ ในตอนที่ศีรษะซึ่งถูกบังคับให้เอียงรับจูบดุดันอยู่นั้นถูกปล่อยออกนั่นแหละ พวกเราถึงได้หันไปมองว่าใครมา

หนึ่งคือคุณลุงที่กำลังมองมาด้วยสีหน้าราบเรียบ ส่วนบุคคลที่สองไม่ใช่คนในบ้านแต่เป็นคนที่ทำให้ผมต้องตะลึงค้าง

คนที่ผมเคยถามหาทุกวันตอนเด็ก คนสำคัญที่อยู่ในความทรงจำซึ่งเลือนลางจนแทบจะมองไม่ออก แต่ผมกลับนึกออกว่าเขาคือใครทันทีที่เห็นหน้าตกตะลึงไม่แพ้กันของอีกฝ่าย

ราวกับว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ในน้ำแต่เป็นทะเลทราย อากาศไม่ได้หนาวหากเป็นร้อนระอุ เพราะลำคอของผมแห้งผากยากที่จะเปล่งเสียงเรียกสรรพนามของคนตรงหน้าออกมาว่า

“คุณ...พ่อ…”






(100%)





สวัสดีค่ะคุณพ่อ





ติดแท็ก #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ ด้วยนะคะ





หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 19-08-2018 15:10:48
คุณพ่อน้องเลมาาา เจอฉากวาบหวิวซะงั้นนน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 19-08-2018 23:42:40
ฉากหวานละมุนถูกตัดฉับ o22
โถ่คุณลุงจะพาคุณพ่อมาทำไมตอนนี้!!!
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-08-2018 00:05:46
กำลังสนุกเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-08-2018 02:45:38
พ่อเลเป็นคนอย่างไงน่ะ อยากรู้ ๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 20-08-2018 03:24:22
โอย พีค หัวใจจะหยุดเต้น
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 20-08-2018 04:38:26
จะเกิดอะไรขึ้น คุณพ่อกับว่าที่ลูกเขยเจอกันแล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 20-08-2018 11:03:16
ลุ้นกว่าหวยก็คุณพ่อน้องเลนี่ล่ะไม่รูเจะออกมายังไง ขออย่าให้น้องเสียน้ำตาอีกเลย  สงสารอ่ะ

รอตอนต่อไปนะคะ

 :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 20-08-2018 11:06:16
ปมเยอะเกินไป
อ่านแล้วย้วยยืด เสียดายช่วงแรก ๆ

เอาว่า เรื่องนี้ของเราจบลงที่ วิน เป็นพี่ชายเลละกันเนอะ
ที่เหลือ … ยิ่งปมพ่อกลับมา ยิ่งผูกปมจนเละไปหมด
ขอผ่านเนอะ อ่านไม่สนุกแล้วค่ะ

เหนื่อยใจ ลากยาวเกินจนเป็นการ์ตูนแล้ว
เฮ้อออออออออ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 20-08-2018 21:41:18
เอาแล้วไงพี่ฮิม มาทำมิดีมิร้ายลูกต่อหน้าพ่อเค้าเลย จะเคลียร์​ยังไงล่ะทีนี้ 55
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 21-08-2018 01:34:52
ต่อหน้าต่อตาเลยนะคะพี่ฮิม 55555555555555555555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 21-08-2018 07:24:57
พ่อเลออกมาแล้ว ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 23-08-2018 12:06:11
หวังว่าคุณพ่อน้องเลจะไม่ใช่อุปสรรค์นะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 09-09-2018 06:46:41
 :hao5: รอคอย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: Kim0404 ที่ 10-10-2018 20:32:02
คิดถึงมากแล้วนะคะ รีบกลับมาน้าาาาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: Som-o ที่ 13-10-2018 01:19:28
คงไม่มาต่อแล้วซิน่ะ..ลบออกแล้วกัน :mew6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 15-10-2018 14:51:08
รอนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: ฟาง ฟ่างง ฟ๊างง ที่ 15-10-2018 14:54:01
อัพเถอะค่ะคนเขียน คิดถึงน้องเล อยากมห้น้องใช้ชีวิตแฮปปี้แล้ว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 15-10-2018 20:20:05
 :hao5:  รอค่ะ​
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190718#38(30%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: Subterra ที่ 19-10-2018 02:43:46
ตามมานานมาก จนเสียดายเวลาตามเลยอะ Say Bye นะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 190818#38(100%) p.51
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 05-11-2018 07:52:57
รอคอยยยยย ยังคงรอและรอ :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 14-11-2018 22:54:52


#39



เลไม่ค่อยมีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อของตัวเอง มีแต่น้อยมาก ตอนเด็กผมนึกไม่ออกเลยว่าความทรงจำดีๆ ที่เคยมีกับพ่อเป็นยังไง พอโตขึ้นถึงได้รู้ว่าที่นึกไม่ออกก็เพราะมันไม่มี ที่จำได้ดีมีเพียงอย่างเดียวก็คือถูกทิ้ง

วันนั้นทุกคนออกจากบ้านกันหมด แต่ไม่มีใครเอาเลไปด้วย ตกดึกฟ้าร้องหนักมาก และเด็กสามสี่ขวบคนหนึ่งต้องนอนร้องไห้อยู่ในห้องมืดๆ เพียงคนเดียว

ผมกลัวฟ้าร้องไปเลยหลังจากวันนั้น

วันต่อมาครอบครัวของพี่ฮิมถึงแวะมาที่บ้าน อีกฝ่ายเห็นเล และผมก็ได้เข้ามาอยู่กับครอบครัวนี้ตั้งแต่นั้นมา

ภาพพ่อในความทรงจำคือผู้ชายเจ้าสำอาง รูปร่างสูง เป็นคนดูดีในระดับหนึ่ง ทว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ต่างจากภาพของเมื่อวันวานลิบลับ

คุณพ่อยังหน้าเหมือนเดิม แต่ไม่ได้ดูดีอีกต่อไป ร่างสูงผอมจนเห็นได้ชัด ใบหน้าดูโทรมและผิวพรรณก็ไม่ได้เหมือนคนเจ้าสำอางอีกต่อไป

เปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“คุณพ่อ…”

“เลทำอะไร” คุณพ่อมองหน้าพี่ฮิมและผมสลับไปมา เสียงเรียกชื่อทำให้ผมรู้สึกสะอึก ไม่ได้ยินมานานมากแล้ว…

“เล…”

“เมื่อกี้แกทำอะไรกับมันฮะ?!” ผมสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงแหบพร่าตวาดใส่ คุณพ่อไล่สายตามองก่อนจะสะดุดอยู่ตรงที่คอเสื้อ “นี่แก…”

มันมีรอยที่พี่ฮิมทำเอาไว้

“แกมีอะไรกับมันอย่างงั้นเหรอ เล!” ผมสะดุ้งจนพี่ฮิมต้องรวบตัวเข้าไปกอด แต่ยิ่งพี่ฮิมกอดคุณพ่อก็ยิ่งถามเสียงดัง “ใช่ไหมเล!”

“...” ผมไม่รู้จะตอบอะไร ได้แต่เบือนสายตาหนี ร่างผอมก็เลยหันไปถามคุณลุงแทน

“เจเดน แกก็รู้เหรอว่าพวกมันมีอะไรกัน”

“รู้” ผมเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าคุณลุงจะรู้ แต่…

“ฮะ” คุณพ่อเค้นเสียงออกจากลำคอเหมือนตกตะลึง แล้วสักพักผู้ชายตรงหน้าก็หัวเราะดังลั่นออกมา เขาหัวเราะ หัวเราะราวกับคนบ้า เป็นเสียงหัวเราะที่ทำให้ผมขนลุกเกรี้ยว “กรรมของแม่แกตามสนองแกแล้วล่ะเล”

“...” เสียงหัวเราะเงียบลงไปพร้อมๆ กับบรรยากาศ ประโยคต่อมาจากผู้ชายตรงหน้าจึงแทรกลึกเข้าไปถึงสมอง ลงแรงถึงขั้วของหัวใจ







“พี่น้อง… เอากันเอง”



“มึงหมายความว่าไง” ร่างสูงกระชากอดีตเพื่อนสนิทมาถามให้รู้เรื่อง มันยังคงทำหน้าเหมือนพึ่งจะเจอเรื่องที่ตลกที่สุดในชีวิต แม้ว่าทุกคนในที่นี่จะไม่ตลกด้วยเลยก็ตาม “โนอา!”

คนตรงหน้าเข้ามาที่บ้านเขาเพื่อขอยืมเงิน เขาเคยให้จนตอนนี้ไม่อยากจะให้ สูญเสียเงินกว่าหนึ่งร้อยล้านปอนด์ไปคำว่าเพื่อนตรงหน้า ทุกครั้งที่มันมาเขาให้ยืม แลกกับคำขอเพียงอย่างเดียวที่เหมือนเดิมตลอดก็คือ ไปหาน้องเลหน่อยได้ไหม

มันไม่เคยทำให้เขา พอได้เงินเสร็จก็เดินจากไปไม่สนใจลูกของตัวเอง เขารู้ตลอดว่าพ่อของน้องเลอยู่ที่ไหนแต่ไม่ไว้วางใจที่จะให้เลไปอยู่มัน

คนที่ทิ้งลูกของตัวเองเอาไว้ในบ้านที่โดนยึด จะไม่มีใครกลับไปที่นั้นอีก ถ้าวันนั้นพวกเขาไม่บังเอิญขับรถเข้าไปดูล่ะก็น้องเลคงกลายเป็นเด็กกำพร้าหรือไม่ก็ตาย

ทิ้งลูกของตัวเอง ทำได้ยังไง

“มึงรู้แต่ปล่อยให้พวกมันเอากัน! พี่น้อง… เอากัน… ฮ่าๆ”

“เลไม่ใช่ลูกกู”

“แล้วแม่มันไม่ใช่แฟนเก่ามึงเหรอไง!”

“แฟนเก่ากูที่ว่าไม่ใช่เมียกูในปัจจุบัน!”

“กูเป็นหมัน!”

“...”

“กูเป็นหมัน รู้มาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งได้แต่งกับแม่ของเด็กนี่ แต่กูไม่ได้บอกว่ากูเป็นหมัน ดังนั้นวินาทีแรกที่มันบอกว่าท้องกับกู มึงรู้ไหมกูรู้สึกยังไง”

“...”

“สมเพช!”

“...”

“ทั้งตระกูลรู้หมดว่ากูเป็นหมัน แต่แม่มันดันท้องกับกูได้ ฮ่าๆ กูยังใจดี อุตส่าห์เล่นบทพ่อต่อจนมันคลอดเด็กนี่ออกมา แต่พอมันเริ่มโต กูเห็นหน้าแล้วกูเล่นบทต่อไม่ได้จริงๆ ก็มันไม่ใช่ลูกกูนี่หว่า!”

“น้องเล” เจ้าของชื่อขึ้นจากสระน้ำแล้ววิ่งออกไปทันที เขามองลูกชายที่วิ่งตามอีกคนไป จากนั้นจึงหันกลับมาคุยกับคนตรงหน้าต่อ

“มันไม่ใช่ลูกกู แล้วจะเป็นลูกใคร?”

“...”

“มึงไงเจเดน”

“เลไม่ใช่ลูกกู”

“เหรอ” โนอาแสยะยิ้มว่า ก่อนจะเอ่ยเหตุผลที่ทำให้คนฟังต้องเบิกตากว้าง…

ปัง! ปัง!

เลวิ่งหนี เขาไม่รู้ว่าควรจะหนีไปไหน สมองคิดอะไรไม่ออกพอรู้ตัวอีกทีขาก็พาวิ่งมาที่ห้อง มือบางหยิบโทรศัพท์พร้อมกับกุญแจรถที่อยู่ใกล้มือที่สุด ก่อนที่วิ่งออกจากห้องไปโดยที่ตัวยังเปียกน้ำ

“เล! น้องเล!” เขาได้ยินเสียงเรียกตามหลัง เสียงเรียกที่ทำให้ตัวเองเร่งความเร็วขึ้น เลกระโดดขึ้นรถ สตาร์ทและขับเคลื่อนออกไปด้วยความเร็วสูงเท่าที่จะสามารถทำได้ มือบางข้างหนึ่งกดโทรศัพท์หาพี่ชายที่อยู่อีกทวีปหนึ่ง ทางนั้นรับอย่างรวดเร็ว

(ฮัลโหล)

“พี่วิน! พี่วิน เลไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว! ฮืออ พี่วินมาหาน้อง มาหาน้องหน่อยได้ไหม ขอร้องมาหาเลหน่อย! รีบไปซื้อบ้านอยู่กันเถอะนะ!”

(เลเป็นอะไร!)

“พี่วิน! พี่วินช่วยเลด้วย! ช่วยเล! ฮือ พี่วิน!”

(เล!)

“พี่วิน น้องไม่ไหวแล้ว! เลไม่ไหว! ช่วยด้วยพี่วิน! ช่วย!”

(น้องเล!)

ปัง!

เสียงดังสนั่นมาพร้อมกับแรงกระแทกอย่างรุนแรง ศีรษะเลกระทบเข้ากับพวงมาลัยจนได้เลือด เป็นความเจ็บปวดที่ฉุดกระชากให้คนไม่มีสติ ได้สติไปชั่วขณะว่าตัวเองพึ่งขับรถชนคนอื่นไป เลนิ่งค้าง นัยน์ตาคมมองภาพตรงหน้าด้วยสายตานิ่งงันแต่หลังจากนั้นก็สติแตกมากกว่าเดิม

“พี่วิน! วิน! ฮือออ พี่วิน!”

(เลใจเย็นๆ ก่อนไอ้ฮิมอยู่ไหน!)

“ไม่เอา! พอแล้ว! ไม่เอาแล้ว! ไม่อยากฟัง!”

(คนดีอย่าเป็นพี่แบบนี้! พี่เป็นห่วง! ใจเย็นๆ นะ)

“เลจะบ้าตายอยู่แล้ว! จะตายอยู่แล้ว!” เสียงกรีดร้องดังไปทั่วรถ ใบหน้าเปื้อนน้ำตาซบเข้ากับพวงมาลัยก่อนที่จะได้ยินเสียงเคาะกระจก

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“เฮ้! คุณออกมาคุยกันหน่อยสิ!” เลเอียงคอไปมอง คู่กรณีของเขากำลังยืนรออยู่นอกรถ นัยน์ตาคมเบิกตากว้าง มือบางรีบเปิดประตูออก

“ขับรถเหี้ยอะ-- น้องเล!”

“พี่ดีน” เสียงแผ่วเรียกชื่อคนตรงหน้า

“เกิดอะไร… ขึ้น” เลโผล่เข้ากอดร่างสูง ซบหน้าเข้ากับบ่าแกร่งพร้อมทั้งร้องไห้โฮ

“ช่วยเลด้วย! ช่วยด้วย! พี่ดีน ฮือ เลไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว! ไม่เอาแล้ว!”

“เลใจเย็นๆ”

“ฮือ! ไม่เอาแล้ว! พอแล้ว! เลหนื่อยแล้ว! ฮือ พอ” จากนั้นร่างบางก็ทรุดลงกับพื้น เลหมดสติเสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงของพี่ดีนที่ตะเบ็งเสียงเรียกเขาอยู่

“น้องเล! เล! น้องเล!”



1 ชั่วโมงต่อมา

(เลอยู่กับกู) ใจแทบจะหยุดเต้น คนฟังเลี้ยวรถจอดข้างทางทันทีที่ได้ยิน เขาเป็นห่วงเลจนอยากจะบ้าตาย ฮิมต้องขับรถตามหาเพราะน้องขับหนีออกมา แต่หนึ่งชั่วโมงกว่าแล้วเขาก็ยังหาเลไม่เจอ กระทั่งดีนโทรมา ไม่รู้ว่ามันมีเบอร์เขาได้ยังไง แต่ในเวลาแบบนี้ถึงจะไม่ค่อยญาติดีกันเท่าไหร่ อีกฝ่ายกลับคาบข่าวที่เขาอยากฟังมากที่สุดในตอนนี้มาให้

น้องเลปลอดภัย

“ไปอยู่กับมึงได้ยังไง”

(พึ่งลงเครื่องเมื่อกี้ แล้วน้องเลก็ขับรถมาชน)

“เลเป็นอะไรหรือเปล่า” คำว่ารถชนทำให้ใจคนฟังตกฮวบ ดีขึ้นมาหน่อยเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับว่ามา

(หัวแตกนิดหน่อย แต่ไม่เป็นอะไรมาก)

“ดี ดีแล้วล่ะ” เขาถอนหายใจโล่ง ร่างสูงเอนหลังพิงเบาะเมื่อรู้สึกสบายใจขึ้น ทว่า...

(กูยังไม่คืนเลให้หรอกนะ) ฮิมชะงัก เขายอมฟังมันพูดต่อ (กูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สภาพเลตอนเจอกูน่ะมันแย่มาก น้องบอกกูว่าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว พอแล้ว ไม่เอา)

มือหนากำหมัดแน่น น้องเลของเขา

(ตอนนี้เลหลับอยู่ เอาไว้ต่ื่นเมื่อไหร่กูจะโทรบอกมึงอีกที)

“อืม ขอบใจ” เสียงทุ้มว่า “แล้วตอนนี้เลอยู่ไหน โรงพยาบาล?”

(เปล่า อยู่บ้านกู)

“...” ฮิมเงียบ

(ฮิม กูน่าจะแสดงชัดเจนแล้ว แต่กูจะบอกมึง ย้ำอีกทีว่ากูชอบเล)

“แล้วยังไง”

(มึงดูแลเลไม่ได้ ถ้าน้องไม่มีความสุขตอนที่อยู่กับมึงอีก)

“ทำไม? มึงจะแย่งเมียกูเหรอ”

(มึงรู้ว่ากูทำได้)

“...”

(กูจะรอให้น้องตื่น ถ้าเลดูพร้อมที่จะคุยกับมึง กูจะโทรหามึงเอง แต่ถ้าเลเอ่ยปากว่าไม่อยากคุยกับมึงอีกก็อย่าหวังว่ามึงจะได้เหยียบเข้ามาในบ้านกู ติ๊ด!)

ปลายสายตัดไปในขณะที่คนฟังยังนิ่งงัน มือหนาปล่อยมือถือหล่นลงตรงปลายเท้า ร่างสูงกระทืบเท้าใส่แรงๆ เพื่อระบายความเครียด แม้จะรู้ว่ายังไม่แรงพอที่จะทำให้หน้าจอแตก

ฮิมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ร่างสูงพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองก่อนจะทะยานรถเข้าสู่ถนนอีกครั้งหนึ่ง

เขารู้ว่าเลปลอดภัยแค่นี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว ต่อจากนี้ถึงจะได้มีอารมณ์ไปสะสางเรื่องราวทั้งหมด



ปัง!

ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างรุนแรงเป็นผลให้ร่างสูงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะใจกลางห้องต้องหมุนเก้าอี้กลับมามองก่อนจะถอนหายใจ

“ฮิม” เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อเรียกชื่อคนที่เข้ามาใหม่ แค่ปรายตามองก็รู้แล้วว่าลูกชายอยู่ในอารมณ์ไหน เพราะต้องทำตัวเป็นผู้นำเมื่ออยู่กับน้องเล อีกฝ่ายจึงเป็นคนมีเหตุผลมาตลอด ยกเว้นก็แต่ว่ามันระงับอารมณ์ไม่ไหวจริงๆ

“ฮิมต้องการคำอธิบาย”

“อธิบายอะไรครับ”

“ทุกอย่าง” ลูกชายที่เหมือนเขาราวกับแกะเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีจริงจัง “ทุกเรื่อง”

“มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่นะ”

“ฮิมว่าตัวเองควรรู้” เจ้าของคำพูดกำหมัดแน่น “ฮิมพาน้องกลับอังกฤษเพราะเกิดเรื่องวุ่นวายที่ไทย”

“...”

“พอมาอังกฤษ คิดว่าหนีเรื่องบ้าๆ พ้นแต่ก็ต้องเจออีก”

“ฮิม--”

“เลจะเป็นบ้า”

“...”

“พ่อรู้ไหมว่าน้องเป็นยังไง ไอ้วินมันโทรมาหาฮิม มันบอกว่าตอนที่เลขับรถออกไปแล้วน้องโทรหามัน เลบอกว่าไม่ไหว พอแล้ว! ไม่เอา! ไม่อยากฟัง! อย่างกับคนประสาท”

“...”

“ปัญหาที่พ่อบอกว่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่มันจะทำให้น้องเป็นบ้า เมียฮิมใกล้จะเป็นประสาทอยู่แล้ว!”

“ฮิม!” ผู้เป็นพ่อขึ้นเสียงเมื่อฝ่ายนั้นเริ่มจะสติแตก น้ำเสียงที่ลูกชายเปล่งออกมาเป็นคำพูดบ่งบอกว่าเจ้าตัวหมดความอดทนที่จะเยือกเย็นต่อไปไม่ไหว “ฟังพ่อก่อน”

“ฟังอยู่”

“มานั่งตรงนี้” ร่างสูงยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะยอมเดินมานั่งดีๆ เจ้าของต้นแบบนัยน์ตาสีดำสนิทจับจ้องไปที่กรอบรูปบนโต๊ะ มือหนาหยิบมันขึ้นมาแล้วยื่นให้ลูกชายตนเองดู “พวกเราเป็นเพื่อนกัน ซาร่า แม่ของน้องเล พ่อแล้วก็โนอา”

“...”

“อดีตพ่อของน้องเล”

“สนิทกันแค่ไหน”

“เพื่อนสนิท สนิทที่สุดในชีวิต รู้จักกันตั้งแต่เกิด เพราะพ่อแม่ของพ่อ ปู่กับย่าของฮิม เป็นเพื่อนสนิทกับอีกสองบ้านนี้ ทั้งสามทำธุรกิจร่วมกันบ่อน้ำมัน”

“แล้วยังไง ที่ลุงโนอาบอกว่าฮิมกับเลเป็นพี่น้องกันมันหมายความว่ายังไง”

คนถูกถามถอนหายใจ “ขึ้นเกรด 12 ตอนนั้นพ่อเคยคบกับซาร่าแม่ของน้องเล”

“...”

“แล้วก็เลิกกัน จากนั้นซาร่าก็หายตัวไปเกือบสองปี”

ไปท้องวิน

ฮิมคิดในใจ ไม่ได้พูดออกไป ไม่รู้ด้วยว่าพ่อของเขารู้เรื่องนี้หรือเปล่า ร่างสูงนั่งเงียบฟังพ่อเล่าต่อ

“พอซาร่ากลับมาที่อังกฤษ เธอก็ได้แต่งงานกับโนอา”

“ทำไม”

“ไม่แน่ใจ แต่คงเป็นเรื่องธุรกิจ ดูเหมือนว่าบ้านของซาร่ามีปัญหาภายในเรื่องเงินทอง เลยต้องยอมแต่งเพื่อเกื้อหนุนเรื่องนี้กัน”

“แล้วเล…”

“หลังจากแต่งงานซาร่าก็ท้องน้องเล พอเลเริ่มโต ซาร่าก็เสียชีวิต พอๆ กับที่โนอาดำเนินธุรกิจพลาด เจ้าตัวมีหุ้นของบ้านตัวเองบวกกับของตระกูลซาร่าอีกรวมกันแล้วสูงถึงถึง 70% พอพลาดมันก็เสียหายหนักจนแทบจะกู้กลับมาไม่ได้”

“พ่อเลยตัดสินใจซื้อธุรกิจมาทั้งหมดเพื่อช่วย?”

“ส่วนหนึ่งก็ช่วย อีกส่วนหนึ่งคือเราเองก็มีหุ้นอยู่ในธุรกิจนี้อยู่ก่อนแม้มันจะไม่มากก็เถอะ” ฮิมเงียบ “ส่วนตื้นลึกหนาบางอย่างอื่นพ่อไม่รู้หรอก”

“เพราะพ่อเคยเป็นแฟนเก่ากับแม่ของน้องเล ลุงโนอาเลยคิดว่าฮิมกับเลเป็นพี่น้องกันอย่างนั้นเหรอ”

“คงจะใช่”

แน่เหรอ

“...” ฮิมเงียบ เจ้าตัวมีจุดที่ไม่เข้าใจอยู่จุดหนึ่ง แค่เพราะเป็นอดีตพ่อของเลเป็นหมัน มีลูกไม่ได้ แล้วพ่อเขาก็เป็นแค่แฟนเก่าที่ห่างกับแม่ของน้องเลนานกว่าสองปี แล้วทำไมคนๆ นั้นถึงได้ดูมั่นใจขนาดนั้นว่าเขากับน้องเลเป็นพี่น้องกัน ทำไมถึงไม่คิดบ้างว่าอาจจะเป็นคนอื่นที่เป็นพ่อของเล

“...”

“เพราะอะไร ทำไมพ่อกับแม่ของเลถึงได้เลิกกัน”

“...”

“Dad” คนถูกถามถึงกับถอนหายใจเฮือก

“เฮ้อ จี้จังนะ”

“ฮิมไม่ขำ”

“ขำบ้างเถอะ”

“คุณ-พ่อ”

“รู้แล้วลูกจะสบายใจขึ้นเหรอ”

“ถ้าเหตุผลดี มันก็ควรจะเป็นยังนั้น”

“แล้วถ้ามันไม่ดีล่ะ”

“บอกมาเถอะ” เจ้าของห้องทำงานเงียบไป นัยน์ตาคมมองหน้าลูกชายที่เหมือนเขาราวกับแกะ ถอนหายใจแล้วกลั้นใจตอบ

“เพราะแม่เราท้อง”




เจ้าของขายาวเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องที่มืดสนิท ร่างสูงตั้งใจจะเดินให้เงียบเพื่อไม่ให้คนที่อยู่บนเตียงตื่น แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลเพราะคนที่เขาคิดว่ากำลังหลับใหลอยู่ได้ตื่นมาลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียงก่อนแล้ว

ดีนเปลี่ยนความตั้งใจเป็นการเดินไปไฟห้องนอน คนบนเตียงยังไม่ตอบสนองอะไรแม้ห้องจะเปลี่ยนจากมืดไปสว่างโดยฉับพลัน เลยังนิ่งเงียบ ไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งเขาเดินไปนั่งข้างๆ

“น้องเล” เขาเรียก คนฟังหันหน้ามามอง “เป็นไงบ้างครับ”

“เลอยู่ไหน” อีกฝ่ายถาม

“บ้านพี่เอง”

“ทำไมเลมาอยู่ที่นี้?”

“เลขับชนพี่แล้วน้องก็สลบ พี่ก็เลยพามาที่บ้าน เรียกหมอมาตรวจ” เขาตอบตามความจริง “เลหลับข้ามวัน ตอนนี้สองทุ่มแล้วครับ”

น้องเงียบไป ดีนหาเรื่องชวนคุย “หลับนาน หิวไหม พี่สั่งให้คนทำกับข้าวเอาไว้ให้ กินหน่อยดีไหมครับ”

“เล… ไม่หิว”

“...”

“พี่ดีน”

“ว่า?”

“เลขอนอนที่นี่ได้ไหม”

“จะนอนเป็นเดือนก็ได้ครับ” เขาพูดเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายต้องเกรงใจ อาจจะด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เลขอนอนที่นี่ และดูจากสภาพตอนที่น้องกรีดร้องเมื่อเช้าช่วงแล้ว เหตุผลที่ว่ามันคงจะหนักเอาการ ดีนอยากรู้เหตุผลที่ว่า แต่ตอนนี้คนตรงหน้าคงไม่อยากจะเล่าอะไรทั้งนั้น เขาเลยต้องเก็บความอยากของตัวเองไว้เพื่อที่จะไม่ทำให้น้องไม่สบายใจ “ไม่หิวแน่เหรอ เลยังไม่ได้กินอะไรเลย อย่างน้อยก็นมกับขนมปังหน่อยไหม”

“เลไม่ชอบนม”

“ขนมปังกับน้ำผลไม้?” คนตัวขาวเงียบไปก่อนจะพยักหน้า “ไปกินอะไรรองท้องแล้วค่อยขึ้นมานอน โอเคนะครับ”




2 วันต่อมา

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

ก๊อก! ก๊อก!

ปัง!

ดีนถือวาสาสะถีบประตูเข้าไปเมื่อเห็นว่าคนในห้องไม่ตอบ และภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้เขาต้องถอนหายใจเฮือก

“น้องเล” ภาพเจ้าของชื่อยังร้องไห้เหมือนเดิม เลร้องไห้อยู่แบบนี้ตลอดสองวัน ตื่นมาก็ร้อง ร้องจนหลับไป พอตื่นใหม่ก็ร้องอีก ถามอะไรน้องก็ไม่ยอมตอบ เจ้าตัวบอกว่าไม่อยากจะพูดอะไร ดีนเองก็เลยไม่กล้าที่จะถามมาก เขากลัวว่าถ้าถามไปแล้วมันจะสะเทือนใจเลหนักกว่าเก่า “โอ๋ๆ”

ร่างหนาเดินเข้าไปกอด จับศีรษะของอีกฝ่ายแนบเข้ากับอกซึ่งแทบจะกลายเป็นท่าประจำของสองวันที่ผ่านมา

“ดีน เลไม่ไหวแล้ว ฮือ เลเหนื่อย”

“เหนื่อยก็พัก” เขาลูบแผ่นหลังบางเบาๆ

“พักไม่ได้ มันอยู่ในหัวเลแม้แต่ตอนหลับ” น้องฝันร้าย ฝันร้ายทั้งสองคืน เจ้าตัวสะดุ้งตื่นอยู่บ่อยครั้งจากนั้นก็ร้องไห้ ดีนรู้เรื่องนี้เพราะเขาเป็นคนนอนกอดน้องเลอยู่ตลอดทั้งสองวัน

“ออกไปหาอะไรทำให้เลเลิกคิดดีไหม”

“มันไม่หาย!” ตลอดสองวันที่ผ่านมา เขาพยายามชวนอีกคนทำอะไรหลายอย่างตั้งแต่ดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง เล่นเทนนิส มันทำให้น้องดูดีขึ้นพักหนึ่งแต่พอตกเย็นปุ๊บ ได้เงียบเมื่อไหร่อีกฝ่ายก็เริ่มร้องไห้เหมือนเดิม

เขาอยากรู้ว่าเลไปเจอเรื่องอะไรมา เรื่องอะไรที่หนักหนาจนทำให้เป็นถึงขนาดนี้

“นอนไหม”

“นอนก็ฝัน เลเหนื่อยพี่ดีน เลเหนื่อย”

“โถ่ น้องเล” ร่างหนากอดอีกฝ่ายแน่นๆ ดีนกำลังคิดทำอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่เขาจะคิดเสร็จ คนในอ้อมกอดก็มีท่าทีดุ๊กดิ๊กๆ อยากจะออก ดีนปล่อยน้อง ก่อนที่คนถูกปล่อยจะเงยหน้าขึ้นมองเขาเงียบๆ “มองพี่ทำไมครับ?”

เจ้าของนัยน์ตาแดงหลุบลง “เลคิดถึงพี่ฮิม”

“คิดถึงก็โทรหา” เขาจะดีใจด้วยซ้ำ ถ้าการที่น้องโทรหาฮิมแล้วมันทำให้เลหายร้องไห้ ฝ่ายนั้นเองก็โทรมาถามสารทุกข์สุขดิบของเลบ่อยๆ เหมือนกัน ดีนยังไม่ยอมให้อีกฝ่ายมาที่บ้านจนกระทั่งได้ยินเลบอกว่าคิดถึงพี่ฮิมเมื่อกี้

“แต่เลไม่พร้อม”

“ให้พี่โทรให้ไหม” ข้อเสนอที่ทำให้เลเม้มปากแต่สุดท้ายแล้วน้องก็พยักหน้า มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์โทรของคนที่รู้จักกันมานานแต่พึ่งได้คุยกันบ่อยครั้งเมื่อสองวันที่ผ่านมา นิ้วเรียวแตะปุ่มโทรออก เปิดลำโพงให้น้องได้ยิน

มันรับภายในห้าวินาที

(มีอะไร) ดีนชำเลืองมอง ปฏิกิริยาที่ได้รับจากเลคือใบหน้าสวยที่ใกล้จะร้องไห้อีกครั้ง (กูถามว่ามีอะไร)

“เลอยากได้ยินเสียงมึง”

เพี๊ยะ!

ฝ่ามือขาวตบแรงๆ เข้าที่ตักเขา เลทำตาโตใส่เหมือนไม่อยากให้บอกว่าเจ้าตัวนั่งฟังอยู่ข้างๆ แต่คงไม่ทัน เพราะทันทีที่ปลายสายรับรู้ว่าน้องนั่งอยู่ข้างเขา จากเสียงแข็งก็เปลี่ยนโทนเสียงไปเป็นนุ่มนวลขึ้นฉับพลัน

(น้องเล)

“...”

(คนดีเป็นยังไงบ้าง กินข้าวหรือยังครับ)

หมับ

คนข้างกายขยับตัวเข้ามากอดเข้าเอาไว้ ร่างเล็กซุกเข้าร้องไห้กับบ่า

(กลับมาหาพี่ได้ไหม เรื่องของเราพี่มั่นใจว่าไม่ใช่…)

“แล้วถ้ามันใช่ล่ะ!” ดีนสะดุ้ง นัยน์ตาคมมองร่างเล็กที่เปิดปากพูดทั้งน้ำตา “ถ้ามันใช่! พี่ฮิมจะทำยังไง ฮื่อ”

(พี่รักเล)

“เลรับไม่ได้!” เสียงร้องไห้โฮดังขึ้น “เลรับไม่ได้”

(...)

“แต่เลอยากแต่งงานกับพี่ฮิม”

(พี่มั่นใจว่าเราไม่ใช่) ปลายสายว่า

“เลเชื่อพี่ฮิมได้แค่ไหน”

(ไม่ต้องเชื่อพี่ เชื่อพ่อพี่กับคุณแม่ของน้องเล)

“เลไม่รู้ น้องไม่อยากเชื่อใครแล้ว” น้องพึมพำ “แม้กระทั่งคุณแม่”

(น้องเล)

“เลไม่ชอบเลยพี่ฮิม! เลไม่ชอบ! ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย! เลไม่ได้สร้างปัญหาแต่ทำไมมันเกิดปัญหากับเลตลอด! เลไม่ไหวแล้วนะ!”

“น้องเลใจเย็นๆ ก่อน” คนตัวเล็กตะคอกสุดเสียงก่อนจะร้องไห้โฮออกมา ดีนทำได้แค่ลูบหลังปลอบ เขาจับประเด็นอะไรไม่ได้สักอย่าง จนกระทั่งฮิมพูดขึ้นมา

(พี่รักเล)

“ฮือ”

(รักมาก)

“เลก็รักพี่ฮิม แต่ถ้า…”

(ถ้าเราเป็นพี่น้องกัน)

!!!!!!!

ไม่จริงน่า


(แล้วยังไง?) ดีนเบิกตากว้าง ร่างหนาถึงกับนิ่งไปสักพักเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว เขาก้มลงมองคนในอ้อมกอดที่กำลังร้องไห้โฮ บ่งบอกว่าสิ่งที่เขาได้ยินไปเมื่อสักครู่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น (พี่ไม่สน)

“พี่ฮิม…”

(เลต้องได้แต่งกับพี่ เลต้องเป็นเมียพี่ คนเดียว...เท่านั้น...)

“ฮือ”

(แต่พี่มั่นใจว่าเราไม่ใช่) เลร้องไห้ใหญ่ ทางนั้นเองก็เงียบไปสักระยะหนึ่ง (น้องเลอยากตรวจ DNA ไหม)

“เลกลัว กลัวจนจะบ้าแล้ว!”

(พี่จะอยู่กับน้อง)

“เลกลัว”

(ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง สุดท้ายเลต้องได้แต่งงานกับพี่)

“...”

(พี่สัญญา)



01.50 น.

‘พี่น้องเอากันเอง’

‘เลไม่ใช่ลูกกู’

‘กูเป็นหมัน’

‘สมเพช!’

‘สมเพช!’

‘สมเพช!’

‘สมเพช!’


มันรบกวนจิตใจเขามาตั้งแต่สองวันก่อน แทรกซึมอยู่ในสมองสลัดยังไงก็หนีไม่พ้นแม้กระทั่งตอนหลับ

เลลืมตาขึ้น ร่างบางค่อยๆ ขยับกายออกจากคนที่กำลังกอดเขาเอาไว้ พี่ดีนกำลังหลับสนิทและเขาไม่อยากทำให้คนตรงหน้าตื่น เพราะตลอดสองวันที่ผ่านมา เลสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะฝันร้าย เขาร้องไห้เป็นผลให้อีกฝ่ายต้องคอยตื่นขึ้นมาปลอบตาม และคืนนี้เป็นคืนที่สาม เลจึงอยากให้คนตรงหน้าได้หลับสนิทจริงๆ สักคืน

พี่ดีนเป็นพี่ชายที่ดีมาก ทั้งๆ ที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ตลอดสองวันที่ผ่านมา ร่างสูงคอยดูแลเขาตลอด

ทั้งคอยปลอบตอนที่เขาร้องไห้ คอยชวนคุยตอนที่เขาเหม่อ คอยดูแล เอาใจ โดยที่ไม่ถามหาสาเหตุหรือพูดอะไรก็อย่างที่ทำให้เลหนักใจ ให้เขาอยู่ที่คฤหาสน์แถมเรื่องรถที่ชน เลก็ยังไม่มีโอกาสได้ขอโทษ

“ขอบคุณนะครับ” เลเอ่ยเสียงแผ่ว ตอนนี้เขาให้ได้แค่นี้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องได้รับการตอบแทนในภายหลัง

แอด

ร่างบางเปิดประตูเดินออกจากห้อง เลรู้สึกหิว หิวจนร้องไห้ไม่ออกเหมือนเคย ปกติหลังจากตื่นเพราะฝันร้าย พี่ดีนจะมีขนมคอยให้เขากินด้วยทุกครั้ง

คนตัวขาวเดินโซซัดโซเซลงจากชั้นสองของคฤหาสน์ พอได้เดินคนเดียวแล้วถึงรู้ว่าที่นี่ใหญ่มาก สองวันก่อนเลไม่ได้สังเกตุ จิตใจเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ มันหลุดลอยออกไปไกล

เขาแค่ไม่อยากคิด ไม่อยากรับรู้อะไร เพราะสิ่งที่ได้รู้มันทำร้าย รบกวนอยู่ในสมองตลอดทั้งกลางวันและคืน น่าแปลกที่เขาลืมง่าย แต่ประโยคที่พึ่งได้ฟังเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเมื่อสองวันก่อน เลกลับลืมไม่ลง

เลฝันร้าย เขาฝันแต่เหตุการณ์เดิม สถานการณ์ซึ่งคนที่เลคิดว่าเป็นพ่อมาตลอดบอกว่าตัวเองไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของเขารวมถึง...

‘พี่น้องกินกันเอง’

ทุกอย่างตามหลอกหลอนเขาอยู่ในความฝัน ภาพที่ตัวเองกำลังมีอะไรกับพี่ฮิมหลายครั้งทาบทับพร้อมกับประโยค ‘พี่น้องกินกันเอง’

เลไม่รู้ว่ามันจริงหรือเท็จ คิดไปไม่ถึงตรงจุดนั้นเพราะแค่นึกถึงประโยคดังกล่าว เขาก็แทบจะเป็นบ้า มันหลายเรื่องเกินไป ปัญหาใหญ่มันทับถมกันเป็นชั้นๆ แต่เลรู้ตัวดีว่ากำลังหนีปัญหา โดยเฉพาะปัญหาที่เขาไม่ได้ก่อ ไม่รู้จะหาทางแก้ยังไงในเมื่อตัวเองไม่ได้เป็นคนทำ

สิ่งที่ทำได้มีเพียงยอมรับมันและทำใจ แต่สำหรับตอนนี้เขายังทำใจไม่ไหว ยิ่งตอนที่ได้โทรคุยกับพี่ฮิมเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน

(กลับมาหาพี่นะ หรือเลอยากให้พี่ไปหา เราจะผ่านมันไปด้วยกันคนดี)

เลตอบได้แค่ว่า ‘ขอเวลาน้องอีกหน่อย’

พูดแบบนั้นออกไปจะว่าอ่อนแอยังไงก็ได้แต่เลยังไม่พร้อมที่จะยอมรับและทำใจจริงๆ ถ้ามีแค่เรื่องของคุณพ่อ เขาพร้อมที่จะอยู่กับพี่ฮิม ฝ่ายนั้นเป็นแค่หนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถเป็นกำลังใจในชีวิตของเลได้ แต่เพราะมันดันมีเรื่องระหว่างเขากับพี่ฮิมอีก ฮิมที่ควรจะเป็นคนให้กำลังใจของเขามากที่สุดในตอนนั้นถูกสถานการณ์กลับตาลปัตรกลายเป็นคนที่ทำให้รู้สึกทุกข์ใจแทน เขารับไม่ไหว จึงต้องหนีออกมาก่อน

ไม่เอา! ไม่เอาแล้ว! พอที!

คำพูดของอดีตคุณพ่ออาจจะไม่เป็นความจริง แต่เป็นเพราะหลังจากที่ได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ ของคนที่เขาคิดว่าเป็นพ่อมาตลอด นั่นทำเลก็ไม่อยากจะเชื่อผู้ใหญ่คนไหนอีก ยิ่งรู้ว่าแม่ท้องพี่วินอยู่ที่ไทยแต่ไม่ยอมบอกครอบครัวว่าท้อง ยิ่งทำให้เขาไม่กล้าคิดด้วยซ้ำว่าแม่ของตัวเองเป็นคนยังไง เพราะความคิดมันอาจจะไปในทางร้ายซะมากกว่า

พี่ฮิมไม่ได้ผิด เลคิดถึงพี่ฮิม แต่ปัญหาที่ผู้ใหญ่เป็นคนก่อมันทำให้เขายังไม่กล้าที่จะเจอหน้าพี่ฮิม เขารักฮิม รักมาก รักที่สุด แต่ถ้าเป็นพี่น้องกันจริงๆ เลยังไม่เด็ดขาดพอที่จะไม่สนทุกอย่างแบบที่ฝ่ายนั้นเคยว่าเอาไว้

‘พี่ไม่สน’

‘ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง สุดท้ายเลต้องได้แต่งงานกับพี่’

ร่างบางคิดเรื่อยเปื่อยรู้ตัวอีกทีก็เดินมาถึงห้องครัว บริเวณโดยรอบเงียบสงบ มือบางเปิดตู้เย็น ถือวิสาสะใช้ครัวทำอาการในยามดึก เลทอดไข่ดาว ฮ็อดด็อก ปิ้งขนมปัง ร่างเล็กตั้งสติอยู่กับการทำอาหารโดยที่ไม่ได้สนอย่างอื่น รู้ตัวอีกทีห้องครัวยามดึกแห่งนี้ก็ไม่ได้มีแค่เขาอีกต่อไป

“อ๊ะ! เอ่อ--” จังหวะที่หันมาวางไข่ดาวฟองที่สองบนจาน นัยน์ตากลมโตบังเอิญเหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ ร่างสูงสง่าที่มีลักษณะคล้ายพี่ดีนถึงสองในสามส่วนแต่ไม่ใช่ โตกว่า เป็นผู้ใหญ่กว่า ภูมิฐานกว่าและหล่อกว่า...

ในขณะเดียวกันผู้มาเยือนเบิกตากว้าง นัยน์ตาคมจดจ้องร่างขาวตรงหน้าที่เหมือนกับคนในความทรงจำของเขาราวกับว่าถอดออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน





“ซาร่า?”







(100%)

ตัวเอกมักมาในตอนสุดท้ายย


#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 14-11-2018 23:24:30
แงงงง อะไรๆๆๆ ใครอะะะ สงสารน้องเลลลลลลล ฮืออออ ใครรรร
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-11-2018 23:38:03
อ่าว....หวยออกที่พ่อพี่ดีน (รึป่าว)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-11-2018 00:29:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 15-11-2018 00:33:07
อย่าบอกนะว่า..พ่อพี่ดีน คือพ่อน้องเลอะ ..โอ๊ย ครอบครัวอลวนแท้ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 15-11-2018 00:46:24
มีแต่เรื่อง ปัญหาที่ผู้ใหญ่ก่อไว้ทั้งนั้น

แถมหวยตกที่ฮิมไม่รู้ตัว ... เพราะแม่เราท้อง ... ฮิมจะรู้สึกอย่างไร น่าสนใจ!!
ส่วนเล อย่างมากก็ได้ดีนเป็นพี่ชายคนละแม่มาอีกคน พี่วินนั่นคนละพ่อ โอ้ว!!

คุณแม่เลนี่จริงๆ เลย ซาร่า ยาชัดๆ!

ขอให้หมดปัญหาทีเถอะ เยอะจัง ขอให้เรื่องนี้เป็นอุปสรรคสุดท้าย ... #ฮิมเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: PsapBBBB ที่ 15-11-2018 00:58:32
เดา*ว่าพี่ดีนเป็นพี่ชายเลอีกคนแต่คนละแม่ และพ่อของพี่ดีนคือพ่อของเลที่แท้จริง เพราะน้องเลหน้าเหมือนแม่มากพ่อพี่ดีนเลยเข้าใจผิดหรืออาจไม่ใช่พ่อพี่ดีนแต่อาจเป็นลุงหรือญาติพี่ดีนกันนะสันนิฐานล้วนๆ :ruready
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 15-11-2018 07:06:22
หวยออกที่พี่ดีนชัวร์ สรุปเลย์คือน้องของดีน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-11-2018 07:35:01
โป๊ะจะแตกวันนี้มั๊ย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-11-2018 09:16:50
ซาร่านี่ ดังเนอะ มีขายที่ตปท. ด้วย  o18
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 16-11-2018 07:39:27
สรุปพ่อพี่ดีนคือตัวแปรหลักสินะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 16-11-2018 11:33:17
เรื่องมันซับซ้อนจริงๆ ร้องตามน้องเลไปแล้ว  :hao5: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 16-11-2018 13:39:44
ความวุ่นวายนี้
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 141118#39(100%) p.52
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 17-11-2018 00:02:39
น้องเลลล สงสารน้อง มรสุมจังง
ซับซ้อนจริงๆ
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 17-11-2018 00:22:07


#40 (50%)



“เอ่อ…” ควรจะพูดอะไร ผมอ้ำๆ อึ้งๆ เอาแต่จ้องหน้าคนที่เหมือนพี่ดีนแต่ไม่ใช่พี่ดีนมาเกือบสองนาที จนกระทั่งได้กลิ่นไหม้ของฮ็อดด็อกในกระทะนั่นแหละ ถึงได้กลับมาสนใจอาหารตรงหน้าต่อ จากนั้นผมทำทีเป็นไม่สนใจเพราะเสร็จจากฮ็อดด็อกก็หันไปจัดการกับขนมปังปิ้งซึ่งเสร็จพอดี ผมตั้งใจจะหยิบมันออกจากเตาแต่ดันใช้มือเปล่าจับขนมปังที่พึ่งปิ้งเสร็จใหม่ๆ เพราะลืมไปว่ายังร้อน ร่างกายรีบสั่งการให้ชักมือออก ด้วยความตกใจทำให้มืออีกข้างเผลอปล่อยจานที่ถืออยู่จนมันตกแตกใส่เท้า

เพล้ง!

“โอ๊ย! เจ็บๆ เจ็บ!” ผมน้ำตาเล็ด รีบก้มลงมองเท้าที่มีเลือดซึมแล้วอดที่จะร้องไม่ได้ “ฮือ”

“เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงทุ้มว่า คนตรงประตูเดินมาจับเอวเลยกขึ้นไปวางที่อื่น เขาสั่งให้ผมนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะหันไปจัดการกับเศษแก้วที่อยู่บนพื้น ผมปล่อยให้คนตรงหน้าจัดการกับเหตุการณ์ที่เหลือ ส่วนตัวเองนั่งมองเท้าที่มีเลือดซึมเงียบๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไป จู่ๆ จานอาหารที่ผมทำแต่ลืมไปชั่วขณะก็ถูกวางลงตรงหน้า

พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีทุกอย่างในห้องครัวก็ดูจะเรียบร้อยดีแล้ว

“ขอบคุณครับ” เลว่า “เลขอโทษที่ทำจานแตก แล้วก็แอบใช้ห้องครัว”

“ไม่เป็นไร” คนหน้าเหมือนพี่ดีนพูดพลางยิ้มนิดๆ ให้ผม จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องครัวแล้วกลับมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาล นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ ผม “ยกเท้าขึ้นมาสิ”

“หือ?”

“มีแผลไม่ใช่เหรอ” ผมได้แต่นั่งทำตาปริบๆ มองเท้าตัวเองสลับกับคนตรงหน้า แผลน่ะมีแต่ไม่กล้ายกเท้าตัวเองขึ้นอย่างที่อีกฝ่ายว่า

“เลเกรงใจ--เหวอ” เขาทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมาย โดยการจับขาผมขึ้นแบบไม่บอกกล่าว วางเอาไว้บนตักแกร่งของอีกฝ่ายแล้วเริ่มต้นทำความสะอาดก่อนเป็นอันดับแรก

“กินไปด้วยสิ” ผมจิ้มฮ็อดด็อกกินตามคำสั่ง ว่าจะถามแต่คนตรงหน้าก็ชิงถามขึ้นมาก่อน “เจ้าของเสียงร้องไห้ของสองวันที่ผ่านมาเหรอ”

ผมชะงัก มือไม้อ่อนจนต้องวางสิ่งที่กำลังจะป้อนเข้าปากลงที่เดิม “เล...”

“เป็นอะไรถึงได้เศร้าขนาดนั้น” ผมเงียบ เงียบจนอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมอง “ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร”

“เลรบกวนใช่ไหม ขอโทษนะครับ”

“ไม่ขนาดนั้นหรอก เอ้า! เสร็จแล้ว”

“ขอบคุณครับ”​ ผมเอาเท้าลง รีบถามในขณะที่ฝ่ายนั้นกำลังเก็บอุปกรณ์เข้าที่ “เอ่อคือ… คุณเป็นใครเหรอ?”

คนตรงหน้าชะงัก เจ้าของนัยน์ตาคมเงยหน้ามองหน้าผม

“ดีนไม่ได้บอกเหรอ” ผมส่ายหน้า พี่ดีนไม่ได้บอกอะไรและตลอดสองวันมานี้ส่วนใหญ่ผมก็ไม่ได้ออกไปไหนนอกจากร้องไห้อยู่ในห้อง มีหลายครั้งที่พี่ดีนพาออกไปหากิจกรรมอย่างอื่นทำแต่ผมไม่ได้ให้ความสนใจกับมันนัก “งั้นคิดว่าเป็นใครล่ะ”

“ไม่เดาไม่ได้เหรอ”

“ลองดูสิ”

“อืม พี่ชาย?” เขาหัวเราะ “ไม่ใช่เหรอ”

“เดาผิดแล้ว”

“งั้นก็คุณน้า?” คำตอบที่ได้รับคือการส่ายหน้า “คุณลุง?”

“เอาใหม่”

“ไม่อยากเดาแล้ว! เฉลยหน่อย” ร่างสูงยิ้มแต่ไม่ยอมพูดอะไร อีกฝ่ายเดินไปชงกาแฟให้ตัวเองจากนั้นก็มานั่งเก้าอี้ตรงข้ามผม

“ชื่อเลเหรอคะ?” ผมพยักหน้า “น้องเลเป็นอะไรกับซาร่า”

“รู้จักแม่เลด้วยเหรอ”

“เป็นลูกสินะ” พยักหน้าอีก แล้วเขาก็เงียบไป เงียบนานเสียจนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก

“เอ่อ… คุณ?”

“...”

“เลควรเรียกคุณว่าอะไรเหรอครับ”

“คุณพ่อ” นั่นไม่ใช่เสียงของคนตรงหน้า แต่เป็นเสียงอันคุ้นเคยของใครบางคนที่อยู่ด้านหลัง ผมหันกลับไปมอง เห็นพี่ดีนกำลังยืนหอบอยู่ที่หน้าประตู เจ้าตัวถอนหายใจเฮือกใหญ่ทันทีที่เจอผม “น้องเล หิวเหรอทำไมไม่ปลุกพี่ล่ะครับ”

คุณพ่อเหรอ

เลวกสายตากลับไปจ้องหน้าร่างสูงที่เหมือนพี่ดีนราวกับแกะ เจ้าของตำแหน่งคุณพ่อของพี่ดีนมองผมแล้วยกยิ้มขึ้นอีกครั้ง

พระเจ้า! นี่คุณพ่อเหรอ

สถานะที่เป็นได้แต่ผมไม่คิด คนตรงหน้าดูดีเกินไปจนไม่รู้สึกว่าจะมีลูกเป็นตัวเป็นตนแถมลูกที่ว่ายังเป็นพี่ดีน พี่ดีนอายุเท่าพี่ฮิมแล้วนะ! เทียบกับคุณลุงรายนั้นยังมีรัศมีการมีครอบครัว ไม่ใช่ว่าคุณลุงไม่หล่อ หล่อมากแต่คนตรงหน้าผมต่างหากที่ดูดีเกินไป

คุณพ่อของพี่ดีนแทบจะหล่อกว่าพี่ดีนด้วยซ้ำ

“ตกใจเหรอ” เสียงทุ้มว่า นัยน์ตาคมเฉียวจ้องผมนิ่ง เลพยักหน้ายอมรับ

“คุณพ่อหล่อจัง”

ขวับ

จู่ๆ พี่ีดีนก็เดินเข้าปิดตาผม เขาว่า “น้องเลอย่าจ้องนาน”

“อะ อะไรเหรอ”

“พ่อพี่เจ้าชู้”

“คิดอะไรอยู่น่ะดีน”

“ไม่รู้ ผมกันไว้ก่อน ไม่ให้พ่อจีบเลหรือไม่ให้น้องเลชอบพ่อ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง”

“พี่ดีนมืดจัง” ผมบอก ก่อนที่พี่ดีนจะยอมปล่อยมือออก “เลขอโทษที่ไม่ได้บอก เลเห็นพี่ดีนหลับสนิท กลัวเหนื่อยอีกก็เลยไม่ได้ปลุก”

“น้องเลห่วงพี่ด้วย น่ารักจัง” ร่างสูงกอดหมับแล้วเขย่าตัวผมไปมา “พ่อออกมาทำอะไรตอนดึกๆ”

“ออกมาเติมกาแฟ” มือหนายกแก้วกาแฟขึ้น “น้องเลอิ่มหรือยังคะ”

“เลอิ่มแล้ว” หลุบตาลงมองอาหารตรงหน้าที่พร่องไปพอสมควร

“นี่ก็ดึกแล้ว ถ้าน้องเลอิ่มแล้วก็กลับไปนอนเถอะนะ” คุณพ่อพี่ดีนออกความคิดเห็น ร่างสูงลุกขึ้นไปชงอะไรสักอย่าง จากนั้นก็ยื่นมันมาให้ผม “คาโมมายล์ ทำให้หลับสบายขึ้นค่ะ”

ผมรับมาดื่มอึกๆ ลงคอ จากนั้นก็บอกลาคุณพ่อขึ้นไปนอน

“เจอกันตอนเช้าครับ”



‘น้องเลไปตีกอล์ฟกับคุณพ่อไหม’

ผมถูกคุณพ่อของพี่ดีนชวนในระหว่างที่กำลังทานอาหารเช้า ตอนนี้ก็เลยได้มาตีกอล์ฟกับคุณพ่อของพี่ดีนอยู่ที่หน้าบ้าน

ใช่ ฟังไม่ผิดหรอกครับ… หน้าบ้าน

ตอนมาไม่ได้สติ ตอนอยู่สองวันก่อนก็ไม่ได้สนใจ พึ่งมาสังเกตุวันนี้ว่าบ้านของพี่ดีนใหญ่ขนาดไหน

ใหญ่… ใหญ่มาก

ใหญ่แค่ไหน ก็ชนิดที่ว่าล้อมรอบคฤหาสน์หลังยักษ์แห่งนี้ไม่ใช่รั้วแต่เป็นสนามกอล์ฟ สนามกอล์ฟที่เป็นสนามกอล์ฟจริงๆ ซึ่งกินพื้นที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา ซ้ำแล้วการเดินทางเข้ามาที่คฤหาสน์ยังต้องใช้เฮลิคอปเตอร์แทนรถ มันทำเอาผมที่เคยชินกับความยิ่งใหญ่ยังต้องอ้าปากค้าง เพราะถ้าเทียบพื้นที่กันแล้วคฤหาสน์มโหฬารของพี่ฮิมยังแพ้

“เคยเล่นหรือเปล่า” คุณพ่อถาม

“เลเคยเล่นตอนเด็กๆ แต่ตอนนี้แทบจะเล่นไม่เป็นแล้ว”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อสอน” ผมยิ้มแหย เกรงเล็กน้อยตอนที่จับไม้กอล์ฟ

วันนี้พี่ดีนไม่ได้อยู่ด้วย ไม่เหมือนฮิม พี่ดีนเป็นประธานบริษัทซึ่งทำธุกิจเพชรพลอยอะไรสักอย่างเต็มตัวแล้ว ในความเป็นจริงร่างสูงต้องเข้าบริษัทตั้งแต่สองวันก่อน แต่เพราะมีผมอยู่ด้วย พี่ดีนก็เลยทิ้งงานมาอยู่กับเลแทน วันนี้คุณพ่อของพี่ดีนก็เลยบังคับให้อีกฝ่ายเข้าบริษัท เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวกับคนที่ยังอายุสามสิบต้นๆ บอกว่าจะดูแลผมให้เอง

พี่ดีนจำใจยอมรับแม้ว่าจะไม่อยากนัก เขากำกับเลหลายครั้งว่า

อย่าชอบคุณพ่อ อย่าชอบคุณพ่อ คุณพ่อเจ้าชู้

ปัง!

ลูกกอล์ฟสีขาวถูกตีออกไปด้วยแรงและความเร็วสูง ไปไกลเกินกว่าที่รัศมีสายตาของผมจะมองเห็น

“คุณพ่อเก่งจัง”

“เล่นบ่อยค่ะ” ไม่แน่ใจว่าคำว่าชอบของพี่ดีนมันสื่อไปในทางไหน แต่คุณพ่อน่าจะเป็นคนที่ถูกชอบง่ายจริงๆ นั่นแหละ สาเหตุก็เพราะหล่อเหลือร้าย บวกคารมณ์ด้วยส่วนหนึ่ง “น้องเลมานี้”

มือหนากวักเรียก ผมเดินไปยืนอยู่ในตำแหน่งที่ต้องตีลูก จับไม้เอาไว้โดยที่มีร่างหนาคอยจัดท่าทางให้

“ผ่อนคลายน้องเล ยื่นหน้าอก ไหล่ตรง ก้มลงตัวไป” คุณพ่อพี่ดีนโอบอยู่ทางด้านหลัง จับมือผมถือไม้กอล์ฟให้ถูกวิธีจนได้ท่าที่โอเค ร่างสูงถึงเดินถอนห่างออกไป “รู้วิธีตีอยู่ใช่ไหม”

“เลพอจำได้”

“ลองดูซิ ไม่โอเคก็ไม่เป็นไร”

ปัง!

ผมตีออกไปสุดแรงเกิด ผลที่ได้ก็น่าพอใจนิดหน่อย มันลอยไปไกลพอสมควร

“ใช้ได้” เสียงทุ้มชม เราเดินไปขึ้นรถกอล์ฟ ระหว่างที่ขับไปหาลูกกอล์ฟคุณพ่อก็ชวนคุย “เลรู้จักกับดีนได้ยังไง”

“เลไปค่ายกับเพื่อน แต่อาการไม่ดีก็เลยสลบแล้วก็ตกรถอยู่ที่ปั้ม พี่ดีนมาช่วยไว้ก็เลยได้รู้จักกันครับ”

“ดีนดีกับน้องเลหรือเปล่า”

“ดีสิ พี่ดีนเป็นพี่ชายที่ดีมากเลย”

“งั้นก็ดีแล้ว” คุณพ่อหันไปตั้งหน้าตั้งตาในการขับรถ ในขณะที่ผมมีคำถาม

“คุณพ่อพี่ดีน… รู้จักกับแม่ของเลเหรอ” ซาร่า คำแรกที่อีกฝ่ายใช้ทักเล

“รู้จักค่ะ รู้จักดีเลย”

“เป็นเพื่อนกับแม่เลเหรอ”

ร่างสูงยิ้มแต่ไม่ได้ตอบคำถามผม “น้องเลเหมือนซาร่ามากเลยนะ”

“จริงเหรอ” ผมถามพลางก้มลงมองมือของตัวเอง “มีแต่คนว่าอย่างนั้น”

“ไม่รู้ตัวเหรอ เหมือนกันอย่างกับแกะเลยล่ะ”

“เลได้อยู่กับแม่แค่ไม่กี่ปีเอง แม่เลเสียตั้งแต่เลยังเด็กมากๆ”

“เหรอครับ แล้วพ่อดูแลน้องเลดีหรือเปล่า”

“เลไม่มีพ่อหรอก”

“...”

“อ๊ะ! ลูกกอล์ฟของเล” ผมลงจากรถเมื่อเห็นลูกกอล์ฟสีขาว คุณพ่อเดินตามหลังแล้วยื่นไม้ให้ ผมรับไม้พร้อมกับคำแนะนำนิดหน่อย จากนั้นก็ดีและผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังดีดังเดิม ลูกกอล์ฟสีขาวของเลขึ้นไปอยู่บนกรีน (พื้นที่ราบรอบหลุม) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เก่งนะเนี่ย เล่นไม่บ่อยจริงเหรอ”

“อือฮึ ปกติเลชอบแข่งรถมากกว่า”

“น้องเล… แข่งรถ?”

“เลอยากเป็นนักแข่งรถ”

“อืม มีเป้าหมายก็ดีแล้วล่ะ” ผมกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเดินตามคุณพ่อไปขึ้นรถกอล์ฟ “มองแบบนี้ สงสัยอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า แค่คุณพ่อไม่เหมือนคนอื่น ปกติถ้าเลพูดว่าอยากเป็นนักแข่งรถทีไรก็จะมีแต่คนบอกว่าไม่เข้ากับเลทุกทีเลย”

“ถ้าเราอยากจะทำมันไม่มีอะไรเข้าหรือไม่เข้ากับเราหรอก เรื่องของความชอบส่วนบุคคล ตัดสินจากบุคลิกของคนๆ นั้นไม่ได้” ผมยิ้มกว้างขณะพยักหน้าคล้อยตาม

“แล้วคุณพ่อชอบอะไรครับ”

“แหน่ะ ถามแบบนี้จะจีบเหรอคะ” ร่างสูงส่งสายตาแพรวพราวมาให้ มือหนายกขึ้นขยี้หัวผมเบาๆ “น้องเลอยากเดาอีกไหมล่ะว่าพ่อชอบอะไร”

“ผู้หญิงเหรอ?” ผมเผลอพูดออกไปอย่างที่คิด พอนึกถึงความเหมาะสมแล้วก็ต้องรีบยกมือปิดปาก ส่งสายตาเชิงขอโทษ ก้มหัวแรงๆ แต่เหมือนคนฟังจะไม่ติดใจอะไรมาก

“โธ่ เห็นเป็นคนยังไงเนี่ย”

“ก็พี่ดีนบอกว่าคุณพ่อเจ้าชู้ จริงหรือเปล่า”

“นั่นสินะ” เจ้าของเสียงทุ้มถอนหายใจ “พ่อเจอผู้หญิงมาเยอะ แต่น้องเลรู้ไหมในชีวิตพ่อตกหลุมรักผู้หญิงแค่สองคนเอง”

“ใครเหรอ?”

“ไม่รวมคุณย่าของดีน คนแรกก็คือแม่ของดีนนั่นแหละ”

“แล้วคนที่สองล่ะครับ” คุณพ่อไม่ตอบแต่ชี้มาทางผม

“เลเหรอ?”

“ยังไม่ถูก แต่น้องเลก็น่ารักจนอยากรักอยู่เหมือนกัน”

“รักเลไม่ได้นะ เลมีแฟนแล้ว”

“คนดีรักมันมีตั้งหลายแบบ  ไม่จำเป็นว่าเราต้องรักทุกคนแบบคนรักซะหน่อย”

“งั้นเลก็รักคุณพ่อได้เหรอ?” ผมว่า “เลรู้สึกว่าคุณพ่อเข้าใจเล ถ้าเลรักคุณพ่อพี่ดีนจะว่าเลไหม”

“ดีนไม่กล้าหรอก” มือหนาเลื่อนลงมาที่หน้า บีบแก้มผมเบาๆ

“งั้นได้สินะ ดีจัง”

“ทำตัวน่ารัก” รถกอล์ฟหยุดกะทันหันเพราะมือหนาอีกข้างที่จับพวงมาลัยอยู่เปลี่ยนมาจับแก้มผมแล้วขย้ำแทน สักพักก็อยู่รวมตัวเข้ากอด ปล่อยให้คนตรงหน้าบีบๆ ตัวเล่น “มันเขี้ยว!”





“คุณพ่อว่าคันนี้เป็นไง”

“ก็โอเคนะคะ แต่มันแรงน้อยไปหน่อยหรือเปล่า”

“แต่เลชอบนะ”

“อยากได้เหรอ”

“อยากก”

“เอาไหม เดี๋ยวพ่อซื้อให้”

“จริงเหรอ ฮือออ ขอบคุณครับ”


ดีนถอนหายใจขณะมองภาพตรงหน้า ร่างขาวของใครบางคนที่เคยร้องไห้ไม่หยุดเมื่อสองวันก่อนตอนนี้กลับยิ้มกว้างแถมยังนอนกอดเอวพ่อแท้ๆ ของเขาเอาไว้แน่น ปล่อยให้มือหนาลูบศีรษะ

น้องเลของเขาไม่รอดแล้ว

พ่อเขายังหน้าตาดี ซึ่งเป็นผลมาจากการมีลูกเร็วส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นเจ้าตัวหน้าตาดีเป็นทุนเดิม

หล่อแบบเหลือร้ายเลยล่ะ

การที่เขาได้เข้าบริษัทในวันนี้ เหตุผลหลักไม่ใช่เพราะบริษัทมีปัญหาหรอก มันยังราบรื่นดีแต่ต้องเข้าไปตรวจบ้างซึ่งเลื่อนวันออกไปได้ แต่สาเหตุที่ทำให้ดีนต้องออกจากบ้านแล้วปล่อยให้น้องเลอยู่กับพ่อเขาตามลำพังอย่างนี้ก็เพราะได้รับคำสั่งต่างหาก

‘เอาน้องเลไว้กับพ่อ ดีนคอยปลอบน้องเกือบตลอด 24 ชั่วโมงตั้งสองวันยังทำให้น้องเลหยุดร้องไห้ไม่ได้ อ่อนหัดจริงๆ เลยนะดีน’

ว่ามาแบบนี้…

พ่อเป็นคนเจ้าชู้ หน้าตา ฐานะ และนิสัยทำให้เข้าถึงทุกเพศทุกวัยได้อย่างง่ายดาย คารมณ์พ่อของเขาดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เป็นผู้ชายประเภทที่ใครอยู่ใกล้ก็มักจะตกหลุมรัก

ดีนไม่อยากให้น้องเลตกหลุมพราง แต่ดูจากสภาพก็คงไม่รอดแล้ว ไม่ใช่แค่เลหรอก พ่อเขาก็เหมือนกัน

ใครที่ไหนจะซื้อรถให้ทั้งที่พึ่งเจอหน้ากันได้ไม่ถึงวันกันเล่า!

ดีนดูออกว่าพ่อเขาออกจะปลื้มน้องเลเป็นพิเศษ ส่วนสาเหตุก็น่าจะเป็นเพราะส่วนหนึ่งเลน่ารัก อีกส่วนหนึ่งคือเลหน้าเหมือนอดีตแม่เลี้ยงของเขาราวกับแกะ

ผู้หญิงคนที่สองที่พ่อตกหลุมรักแต่ดันอกหักเพราะเธอไปแต่งงานกับคนอื่น อีกทั้งการอกหักครั้งนั้น มันยังส่งผลกระทบอยู่มากโข

ถึงตอนนั้นเขาจะยังเด็ก แต่มาคิดดูดีๆ แล้ว มีความเป็นไปได้สูงมากว่าน้องเลจะเป็นลูกของอดีตแม่เลี้ยงของเขา และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ดีนก็ได้แต่หวังว่าพ่อจะปลื้มน้องเลเพราะเลน่ารัก ไม่ใช่เห็นภาพของใครอีกคนทับซ้อน ถึงดีนจะไม่ได้เลมาเป็นแฟน เขาก็ยังอยากได้น้องมาเป็นน้อง ไม่ใช่มาเป็นแม่

ทำไมต้องกังวลขนาดนั้น? ถึงอายุระหว่างพ่อกับเลจะห่างกันเป็นสิบๆ ปีก็เถอะ ยังไงพ่อก็ยังดูไม่แก่เลยสักนิด ที่สำคัญไม่กี่สัปดาห์ก่อนเจ้าตัวก็ยังไปควงสาวบราซิลเลียนรุ่นราวคราวลูกอยู่เลย

“โอ๊ะ! พี่ดีนกลับมาแล้วเหรอ” เลเอ่ยทัก

“กลับมาแล้วครับ”

“บริษัทเป็นยังไงบ้างล่ะ” พ่อถาม คำถามที่ทำให้คนฟังต้องแสยะยิ้ม

“เรียบร้อย ราบรื่น ไม่มีปัญหา”

“ก็ดีแล้วนี่ น้องเลหิวข้าวหรือยังคะ”

“เริ่มหิวแล้วครับ”

“ให้แม่บ้านเตรียมอาหารให้ดีกว่า หรือเราจะทำกินกันดี น้องเลทำอาหารเป็นไหม”

“เป็นๆ เลทำเก่งด้วยนะ”

“จริงเหรอ” สองรุ่นต่างวัยเดินผ่านดีนไปแบบไม่แล ร่างสูงถอนหายใจ เขาตั้งใจว่าจะเดินตามถ้าเสียงโทรศัพท์ไม่ดังขึ้นมาซะก่อน มือหนาหยิบมันขึ้นมาดู พอเห็นรายชื่อของคนที่โทรมาแล้วเขาก็เปลี่ยนใจ แทนที่จะเดินตามน้องเลไป ดีนเลือกที่จะเดินออกห่างเพื่อมาคุยโทรศัพท์ด้านนอก



ช่วงเวลาของอาหารเย็น เรานั่งกินอยู่ที่ห้องอาหารพร้อมกับคุยเรื่องสัพเพเหระ คุณพ่อของพี่ดีนเป็นคนคุยสนุก รอบรู้หลายเรื่องจนผมอดทึ่งไม่ได้ ตั้งแต่รถ เรือไปจนถึงเครื่องบิน ร่างสูงรู้ข้อมูลแทบทั้งหมดแถมยังเป็นข้อมูลเชิงลึกบ่งบอกว่าไม่ได้รู้จักแค่ผิวเผิน

“คุณพ่อจบมหา’ลัยอะไรเหรอ” สงสัยจนอดถามไม่ได้

“วิศวะ MIT ค่ะ”

โอมายก็อดดดดดดดดดด!

ตกตะลึงจนเผลอทำซ้อนที่ถืออยู่หลุดมือ

MIT หรือ Massachusetts Institute of Technology ติดอันดับหนึ่งในสิบมหา’ลัยที่ดีที่สุดในโลก ถ้า Harvard โดดเด่นด้านบริหารและกฏหมาย Cambridge โดดเด่นด้านสังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ MIT ก็ถือว่าเป็นมหา’ลัยอันดับหนึ่งของโลกในด้านวิศวะหรือพวกเทคโนโลยีเลยแหละ

ห่างชั้น ห่างชั้นสุดๆ

“ถ้าน้องเลสนใจเรื่องนักแข่งรถจริงๆ พ่อมีเพื่อนในแวดวงนี้นะ ตั้งแต่การแข่งแบบไม่จริงจังจนถึงการแข่ง Formula 1” ผมตาเบิกกว้างการแข่ง Formula 1 ที่ดูแทบจะทุกวันกับพี่ฮิมในตอนเด็กฉายภาพซ้ำเข้ามาในหัว มันเป็นการแข่งรถระดับสูงสุด การจัดงานแข่งขัน Formula 1 แต่ละครั้งส่งผลด้านเศรษฐกิจ การเงินและการต่อสู้ทางการเมืองเป็นอย่างมาก ถือเป็นกีฬาที่แพงที่สุดในโลก ค่าใช้จ่ายในการแข่งขันแต่ละครั้ง หากแข่งแล้วได้ผลที่ไม่ดีนักสามารถทำให้บริษัทๆ หนึ่งล้มละลายได้เลย ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าเป็นความฝันสูงสุดของนักแข่งรถเกือบทุกคน “ตาโตเชียว”

พี่ฮิม คุณลุงรวมถึงคุณแม่ของพี่ฮิม ทุกคนในบ้านรู้ว่าผมสนใจในด้านนี้ คุณลุงและพี่ฮิมก็เคยเปรยๆ เอาไว้บ้างแต่เหมือนพวกเขาอยากให้ผมเรียบจบก่อน เลยังไม่เคยมีโค้ชมาสอนแบบจริงจัง มีแต่พี่ฮิมนั่นแหละที่เป็นคนสอนทุกอย่างให้เล ถึงยังไม่ใช่โคชที่มีประสบการณ์จริงแต่ก็เก่งมาก เคยได้ยินคุณลุงพูดครั้งหนึ่งว่ามีหลายบริษัทเข้ามาติดต่อพี่ฮิมให้ไปเป็นนักแข่ง Formula 1 แล้วแต่เจ้าตัวไม่สนใจ ฮิมสอนพื้นฐานให้กับเล ผมรู้ทุกเทคนิค ทุกวิธีการที่อีกฝ่ายมี แต่ในการแข่งขันครั้งก่อนผมกลับยังสู้พี่ฮิมไม่ได้ ประกบการณ์อาจเป็นส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งเลเชื่อว่าพี่ฮิมเก่งจริงๆ

เลว่าไม่ใช่เพราะพี่ฮิมไม่สนใจการเป็นนักแข่งรถอย่างที่คุณลุงพูดเอาไว้ พี่ฮิมสนใจ เพียงแต่เขาอยากให้ผมเป็นแทนมากกว่า อย่างไรก็ตามนี้เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดถึงแนวทางที่จะพาเลไปสู่จุดหมายที่ตัวเองฝันไว้แบบจริงๆ จังๆ มันก็เลยอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้

“ถ้าน้องเลสนใจ เอาไว้เราค่อยคุยกันเรื่องนี้หลังจากกินข้าวเสร็จ”

“โอเค”​ ผมพยักหน้าตกใจ รีบตักพายที่ตัวเองทำใส่เข้าปากอย่างมีความสุข

“น้องเล” พี่ดีนที่หายตัวไปเป็นระยะหนึ่งเดินเข้ามาในห้องกินข้าว ร่างสูงเหมือนจะซ้อนใครเอาไว้จากทางด้านหลัง “มีคนมาหาครับ”

และทันทีที่คนนั้นเดินออกมา “น้องเล”



“พี่...วิน…”







(50%)



ไม่กล้าอ่านคอมเม้นท์เลยจ้า หวานสุดตอนนี้คือคุณพ่อพี่ดีน ใครอยากรับสัมผัสความหวานอีกเชิญที่จอยลดาก่อนเลยนะคะ อันนั้นหวาน แต่หวานสุดคือสเปเชี่ยวในเล่ม 555555



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 17-11-2018 01:00:56
หูววว คุณพ่อเริ่ดอะ ตามใจน้องเลสุดๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: kanyakorn24 ที่ 17-11-2018 01:27:39
พ่อแท้ๆเลนี่พ่อพี่ดีนป่าวเนี่ยย :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 17-11-2018 01:38:02
อืมมม เดาไม่ถูกเลยว่าจะยังไง เรื่องเยอะ ปัญหาเยอะ
รู้สึกเป็นห่วงพี่ฮิม พี่ฮิมไม่มีใครจริงๆ สงสารอ่ะ
แอบเศร้าด้วย ... คงรอน้องเรียก ฮิมจ๋า :(
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: PsapBBBB ที่ 17-11-2018 02:48:51
คลายไป1ปม เพราะเป็นพ่อพี่ดีนตริงๆ และเดาว่าน่าจะเป็นพ่อเลด้วยเพราะแม่อาจท้องเลติดไปตอนเลิกกับพ่อดีนแต่ชอบที่คุณพ่อพูดขะขานี้แหละ งื้อออออเปฌนนี่ก็แพ้อ่ะ ชอบจังเลยยย ปล.รอน้องเลกับพี่ฮิมคินดีกันยุน่าาา :mew3: :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 17-11-2018 06:48:08
พี่วินมา น้องเลไม่เหงาแล้ว หรือจะตกหลุมรักพ่อพี่ดีนไปซะก่อนจะได้เจอพี่ฮิมอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-11-2018 08:53:59
อะไรกันเนี่ย?
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-11-2018 18:48:06
วินมาแล้ว ปลอบน้องด่วนเลยนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 17-11-2018 19:58:51
พี่วินมาหาพี่ดีนเหรอคะ :hao3: รวมตัวพี่ชายน้องเล คุณพ่อคือดีงามมาก  :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 18-11-2018 07:58:18
คุณพ่อดีน น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 18-11-2018 09:49:37
คุณพ่อน่ารักจังเลย เป็นพ่อน้องเลด้วยแน่ๆ แง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 19-11-2018 09:47:14
จะใช่พ่อแท้ๆของเลมั้ย  :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 22-11-2018 13:38:33
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 171118#40(50%) p.53
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 25-11-2018 22:34:21
แฟนวิศวะ ep40 (100%)




วินอารมณ์ไม่ดี เขาทั้งหงุดหงิด ตกใจ เป็นห่วง ความรู้สึกทุกอย่างมารวมกันในครั้งเดียวตอนที่ได้รับสายจากเล



‘พี่วิน! พี่วิน เลไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว! ฮืออ พี่วินมาหาน้อง มาหาน้องหน่อยได้ไหม ขอร้องมาหาเลหน่อย! รีบไปซื้อบ้านอยู่กันเถอะนะ!’

‘พี่วิน! พี่วินช่วยเลด้วย! ช่วยเล! ฮือ พี่วิน!’

‘พี่วิน น้องไม่ไหวแล้ว! เลไม่ไหว! ช่วยด้วยพี่วิน! ช่วย!’



ยังไม่ทันได้ตอบอะไร เสียงปังเหมือนรถชนกันก็เกิดขึ้นพร้อมกับสายที่ถูกตัด

เขาแทบจะเป็นบ้า

สิ่งที่รู้มีแค่น้องเลโทรมาขอความช่วยเหลือ และเสียงที่น้องใช้มันกรีดใจเขา เสียงของเลบ่งบอกว่าน้องทนไม่ไหวกับเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น รับไม่ได้ ไม่อยากอยู่อีกต่อไป วินกลัวว่าน้องจะฆ่าตัวตาย เขารีบจองไฟล์เครื่องบินไปอังกฤษรอบที่เร็วที่สุดภายในสิบนาทีหลังจากนั้น โชคร้ายรอบที่เร็วที่สุดที่วินหาได้ของวันนั้นคือรอบสี่ทุ่ม เขาต้องนั่งร้อนรน กังวลจนทำอะไรไม่ถูกอยู่หลายชั่วโมง

วินติดต่อเพื่อนอย่างฮิมที่รับปากว่าจะดูแลเลให้ดีที่สุด โทรไปถามมันว่าเกิดอะไรขึ้นและคำตอบที่ได้นั้นทำให้เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก

คนที่เลคิดว่าเป็นพ่อมาตลอดกลับไม่ใช่พ่อแท้ๆ ซ้ำร้ายฮิมกับเลอาจจะเป็นพี่น้องกัน

เข้าใจทันทีเลยว่าทำไมเลถึงสติแตกขนาดนั้น ถ้าเป็นเขาเองยังไม่รู้เลยว่าจะรับทั้งสองเรื่องพร้อมกันไหวไหม

ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นฮิมก็โทรมาบอกข่าวดีปนข่าวร้ายกับเขา ข่าวร้ายคือเลขับรถชน เป็นเรื่องที่ได้รู้แล้วทำวินหัวเสียกว่าเก่า เขาเกือบให้พ่อใช้เส้นสายเพื่อให้เครื่องบินออกจากไทยไปอังกฤษในวินาทีนั้น ยังดีที่มีข่าวดีซึ่งก็ไม่ได้ดีมากเท่าไหร่แต่ฟังแล้วก็พออุ่นใจตามหลัง คนที่เลขับรถชนคือไอ้ดีน น้องปลอดภัย ไม่ได้เป็นอะไรมาก และตอนนี้ก็ได้ไปอยู่ที่บ้านของมันก่อน

วินคิดว่ามันดีกว่าการที่จะให้เลไปอยู่คนเดียว เขากลัวน้องฆ่าตัวตาย กลัวมาก อยู่กับดีนถึงแม้จะไม่ไว้ใจมันมากแต่มันก็คงไม่ยอมปล่อยให้น้องเขาตาย อีกอย่างในสถานการณ์แบบนี้เลคงไม่ยอมกลับไปอยู่ที่คฤหาสน์ของฮิมง่ายๆ ระหว่างที่เขายังไม่ถึงอังกฤษ การให้เลไปอยู่ที่บ้านดีนน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

เขาต่อสายหาฮิมทันทีที่เท้าเหยียบสนามบินฮีทโธรว์ มันนัดเขาไปเจอกันที่ร้านๆ หนึ่งก่อนเพื่อวางแผน แผน… ที่อาจจะทำให้น้องเลต้องเสียน้ำตาอีกนิดหน่อย

“พี่วิน ฮือ พี่วิน!” เลวิ่งเข้ามากอดทั้งน้ำตา วินรวบคนตัวบางเอาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะจูบที่ขมับเบาๆ “เลคิดถึงพี่วิน คิดถึง อยากเจอ ฮือ ทำไมมาช้า”

“พี่ขอโทษ” เขาเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้านวลออก พยายามปลอบแม้ว่าจะทำให้น้องร้องไห้หนักกว่าเก่าและมันอาจจะมากกว่าเดิมเป็นสองเท่าเมื่อพวกเขาเริ่มทำตามแผน “พี่ขอโทษครับ”

เสียงทุ้มว่า ขอโทษครั้งที่สองไม่ได้หมายถึงเหตุการณ์ก่อนๆ แต่ขอโทษกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป

วินรวบตัวเลเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้น้องสลัดตัวหลุด โชคดีที่เลเป็นใจ และเมื่อคิดว่าแน่นพอแล้ว วินถึงส่งสายตาไปให้ดีนที่รอรับสัญญาณ มันกดเบอร์โทรไปหาคนๆ หนึ่ง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมๆ กับร่างสูงของใครบางคนเดินเข้ามา

เลหมุนตัวหันมามอง วินรีบกอดอีกฝ่ายแน่นกว่าเดิมเมื่อน้องพึมพำออกมาเสียงสั่น

“พี่ฮิม”

“คนดี”

“ไม่!!!” เลออกแรงดิ้นไปพร้อมกับกรีดร้อง ปฏิกิริยาที่ทำให้วินหลับตาขณะที่กอดอีกฝ่ายแน่น “พี่วิน! ปล่อยเล! ปล่อย!”

“น้องเลถ้ายังไม่รีบพูดกันดีๆ ปัญหามันก็ยังจะค้างคาต่อไปนะ” ดีนเอ่ยปาก

“ไม่! ม่าย! เลยังไม่อยากคุย!”

“เล…”

“ฮืออ คุณพ่อช่วยเลด้วย! ช่วยเล!” เจ้าของดวงตากลมหันไปอ้อนวอนกับร่างสูงที่ยังมึนงงกับสถานการณ์ตรงนี้ แต่ทันทีที่ได้ฟังคำขอร้อง เจ้าของคฤหาสน์ก็เอ่ยปาก

“ปล่อยน้อง”

“พ่ออย่าพึ่งยุ่ง ผมขอ”

“น้องเลคุยกับพี่เถอะนะ”

“เลยังไม่อยากคุย! เลไม่พร้อม! ไม่! พี่ฮิมไม่!” เลกรีดร้องเมื่ออีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ก่อนที่ฮิมจะดึงตัวเขาเข้าไปกอด กลิ่นคุ้นเคยทำให้จิตใจสงบลงหากร่างหายต่อต้าน “เลบอกว่าขอเวลา ฮือ”

“พี่ให้เวลากับเลมากพอแล้ว” ฮิมตอบ



ความเงียบให้แค่เวลาคิด ไม่ได้ให้คำตอบ

วินมองคนตรงหน้า ในห้องนี้มีแค่เขากับเล ทีแรกว่าจะให้ฮิมมาคุยกับน้องเล แต่ดูท่าแล้วน่าจะไม่รอด เขาก็เลยต้องเป็นฝ่ายคุยให้ก่อน

ร่างสูงก้าวเข้าไปหาคนที่นั่งร้องไห้มานานเกินพอ

“น้องเลเลิกร้อง” เขาเชยคางน้องขึ้น ใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาแก้มสั่ง “หยุดร้องครับ”

“ไม่ต้องมายุ่ง!” น้องชายต่อต้าน ริมฝีปากเบะออกไม่พอใจ “พี่วินรู้เรื่องที่ฮิมจะมาใช่ไหม”

“พี่รู้” เขาไม่ปฏิเสธ

“พี่วินใจร้าย ฮือ ทำไมใจร้าย”

“เลจะหนีอีกไปถึงเมื่อไหร่” เขาคิดก่อนที่ตกลงทำอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะเมื่อสิ่งนั้นมันเกี่ยวข้องกับเล

“เลขอแค่เวลา รอเลพร้อม”

“แล้วเมื่อไหร่จะพร้อม”

“ฮื่อ! ไม่รู้!”

“เลบอกเลไม่พร้อม ไม่พร้อมเรื่องอะไร”

“พี่วิน...”

“เรื่องพ่อหรือเรื่องไอ้ฮิม”

“ทำไมพี่วินต้องคาดคั้น!”

“ตอบพี่!”

“ฮึก!” เสียงตะคอกทำเอาคนร้องสะดุ้งก่อนจะยิ่งร้องเข้าไปใหญ่ วินถอนหายใจ เขาเดินเข้าไปกอดปลอบ “พี่วินใจร้ายกว่าเดิมอีก”

“พี่ใจร้ายเพราะไม่อยากให้เลเป็นแบบนี้” เสียงทุ้มว่า จับเอวเล็กผละออกมาจ้องหน้ากันจริงจัง “ยิ่งเลปล่อยให้มันยืดเยื้อมันยิ่งทำให้เลเจ็บ”

“แต่เลไม่ให้เป็นคนทำ เลไม่รู้จะแก้มันยังไง เลไม่ผิด!”

“แล้วฮิมมันผิดอะไร”

“...”

“ทั้งเรื่องพ่อทั้งเรื่องฮิม เรื่องของพ่อเลพี่ไม่รู้ แต่เรื่องฮิม มันยังไม่ชัดเจนเลยด้วยซ้ำว่าเลกับมันเป็นพี่น้องกัน แค่คำพูดของคนๆ เดียวที่แทบจะไม่มีมูล ทำไมน้องต้องเอามาคิดมากขนาดนั้น”

“เล…”

“พี่เข้าใจว่าหลายเรื่องมันทำให้เลสติแตก แต่น้องต้องรีบรวบรวมสติได้แล้วนะ” เขายกมือขึ้นลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้ม “เลไม่ผิด เลยิ่งไม่จำเป็นต้องหนี พี่ต้องพูดตามตรงว่าการที่น้องหนีมันทำให้ใครหลายคนเดือดร้อน แต่คนที่ร้อนที่สุดก็คือฮิม”

“ทำไม?”

“มันก็ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่กลับทุกข์ยิ่งกว่าคนทำ ไอ้ฮิมพยายามตามน้อง มันอยากมาเป็นคนอธิบายหรือพูดตรงนี้แทนพี่แต่มันทำไม่ได้เพราะเลหนีมัน ไม่ฟัง ไม่พร้อม ไม่เอา เลต่อต้านมันจากประโยคลอยๆ ของคนที่… ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของน้องด้วยซ้ำ”

“เล ก็เลกลัว” น้องว่า “ตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าจริงๆ แล้วพี่ฮิมเป็นคนทำยังไง ทำอะไรลับหลังเล แล้วก็มารู้ว่าพี่วินเป็นพี่ชายแท้ๆ ของเล ยิ่งรู้เรื่องที่เลไม่เคยรู้ ทั้งๆ ที่พี่ฮิมกับพี่วินเป็นคนใกล้ตัวเลที่สุด ยิ่งทำให้ลึกๆ เลกลัวว่ามีเรื่องอะไรที่เลไม่รู้อีกหรือเปล่า”

“...”

“สิ่งที่น้องกลัวมันเกิดขึ้นอีก คนที่เลคิดว่าเป็นพ่อมาตลอดกลับไม่ใช่พ่อ แล้วพอเขาคนนั้นบอกว่าเลกับพี่ฮิมเป็นพี่น้องกัน เลก็เลย…”

“เชื่อ” วินพูดแทน “พี่ถึงบอกว่าเข้าใจว่าทำไมเลเป็นแบบนี้ รู้ด้วยว่าเลต้องคิดได้ถ้ามีใครสักคนพูดเตือนสติ แต่เลไม่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟังเลยใช่ไหมล่ะ”

“อื้อ” เลครางรับ ร่างบางเลิกร้องไห้เปลี่ยนมาทำหน้าเศร้าแทน “พี่วินว่าฮิมจะโกรธเลไหม”

“พี่เข้าใจ มันก็ต้องเข้าใจ” ไม่ใช่แค่เข้าใจ ฝ่ายนั้นไม่ว่าจะเป็นพี่ชายน้องชายกันแท้ๆ ยังไง วินก็คิดว่าฮิมไม่มีวันปล่อยน้องเขาไป

“เลอยากคุยกับพี่ฮิม” เลบอก “แต่เลลบคำว่าเป็นพี่น้องกันออกจากสมองไม่ได้ เลมองหน้าฮิมไม่ติด”

“อยากตรวจ DNA ไหม” น้องทำตาโตก่อนจะเม้มปากแน่น เป็นปฏิกิริยาที่วินรู้ว่าเลกำลังรู้สึกยังไง “แค่ตรวจให้รู้ว่าไม่ได้เป็นพี่น้องกัน เลก็จะได้สบายใจขึ้น”

“แล้วถ้าผลมันออกมาตรงข้ามล่ะ”

วินเงียบ เขานิ่งไปสักพักก่อนที่เอ่ยประโยคที่ทำให้คนฟังต้องสะอึก

“เชื่อใจแม่”





โรงพยาบาล

ฮิมมองคนที่เกาะติดวินอย่างกับลูกลิง เลยอมมาตรวจ DNA แต่น้องยังไม่ยอมคุยกับเขา

ฮิมเข้าใจว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไง เพราะครั้งแรกที่ได้ยิน เขาก็ตกใจไม่แพ้กันแต่ก็กลับมาคิดทันว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ ทว่าหลังจากที่ได้คุยกับพ่อในวันนี้ เขาเองยังเริ่มสับสน

พ่อเลิกกับแม่ของน้องเลเพราะแม่ท้องเขา

ยิ่งรู้ว่าแม่แต่งงานตอนที่ท้องตัวเองอยู่ มันก็ยิ่งทำให้รู้สึกสับสนกว่าเดิม เพราะแม่ของน้องเลเป็นแฟนเก่าของพ่อที่อาจจะยังไม่ได้หมดรักกันด้วยซ้ำแต่ต้องเลิกกันซะก่อน

หลังจากที่ได้รู้เหตุผลในวันนั้น ฮิมไม่ฟังผู้เป็นพ่อพูดต่อ เขาเดินออกมาจากห้องพร้อมกับความรู้สึกผิดหวังทันที เพราะนั้นหมายความว่าโอกาสที่เลกับเขาจะเป็นพี่น้องกันจากศูนย์ มันเพิ่มขึ้นมาเป็นหนึ่ง หนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่ส่งผลในด้านความรุู้สึกอย่างมหาศาลแถมยังแก้ไขอะไรไม่ได้นอกจากเชื่อใจ

‘เชื่อใจพ่อ’

ฮิมหวังว่าความเชื่อใจของเขามันจะไม่ศูนย์เปล่า

“รอผล 3 วันนะคะ”

“นานจัง” เสียงน้องเลพึมพำ คนดีของเขาร้องไห้จนตาบวมไปหมดถึงขนาดนั้นก็ยังน่ารักอยู่วันยังค่ำ ดวงตากลมหันมาสบตากัน ไม่ถึงสามวินาทีเลก็หลบสายตาเขาพร้อมกับทำหน้ารู้สึกผิดก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดวิน

ฮิมถอนหายใจ เขาเดินเข้าไปหาเพื่อนเพื่อที่จะถามว่าจะเอายังไงต่อ

“วันนี้คงพอแค่นี้ก่อน”

“มึงจะไปอยู่ที่ไหน บ้านไอ้ดีนหรือโรงแรม”

“เพ้นเฮ้าส์ ซื้อเมื่อกี้” ฮิมพยักหน้า แค่เลมีที่อยู่เขาก็โอเค “อีกสามวันเจอกัน”

“เออ” เสียงทุ้มขานรับ จ้องคนที่อยู่ในอ้อมกอดของวิน “คนดี”

“...”

“กินข้าวด้วยนะครับ” เลไม่ตอบแต่พยักหน้าให้ ฮิมยิ้มบาง เขากลับหลังหันจะเดินไปที่รถแต่ก่อนที่จะได้ก้าวเท้าออกไป ใครบางคนก็ยื่นมือมาจับชายเสื้อของเขาเอาไว้เสียก่อน ครั้นหันกลับไปจู่ๆ คนที่ไม่คาดคิดก็กระโดดเข้ากอด “เล”

“คิดถึงฮิม คิดถึง” เสียงสั่นว่า เลเงยหน้าขึ้นมอง “เลขอโทษ ตอนนี้เลให้ได้แค่นี้”

“พี่เข้าใจ”

“รอเลหน่อยนะ!”

“ครับ”

“ถ้าได้ผลออกมายืนยันเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นพี่ฮิมอยากจะทำอะไร”

“...”



“เลยอมทุกอย่างเลยจริงๆ”









(100%)



 ครั้งนี้เลหนีปัญหาคือเรื่องจริง สุดท้ายพี่วินก็ต้องมาชี้แนะแนวทางสว่างอีกตามเคย เลอาจจะดูไม่โตแต่ดูปัญหาครั้งนี้มันใหญ่มากเลยนะ โดนหลายเรื่องในคราวเดียวกันคือทั้งพ่อไม่แท้ เป็นพี่น้องฮิม คนมันต้องไปตั้งหลักแต่วิธีหลีกมันตั้งหลักของเลมันดูวุ่นวายไปหน่อย

ยังไงก็ตามการหนีปัญหาครั้งนี้มันจะมีผลในภายภาคหน้าที่เลต้องแแก้ปัญหาเองโดยที่ไม่มีใครช่วยอีก (ไม่ใช่ปมนะคะ 5555555 เป็นปัญหาที่ออกจะหวาน)



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-11-2018 22:58:44
เอาใจช่วยหนูเลนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-11-2018 23:22:09
ขอให้น้องเลผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ด้วยความรักจากคนรอบๆ ตัวนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 26-11-2018 00:05:26
ตรวจ DNA ให้ครบทุกคนเลย
สามวันนานจัง พรุ่งนี้ครบสามวันแล้วได้ไหมคะ
ไม่เอาปมแล้ว เหนื่อย สงสารฮิม
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 26-11-2018 00:15:15
หมั่นไส้ความรวยของพี่ ๆ จริง ๆ เลยแหม :hao4: ซื้อเพนเฮาส์นะวินไม่ใช่โก๋แก่ในเซเว่น
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 26-11-2018 00:26:10
รอผลDNA
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 26-11-2018 01:12:12
เอาใจช่วยทั้งสาม- สี่ คนเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-11-2018 09:45:56
รอๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 26-11-2018 10:05:28
น้องเล  :ling2:
หวังว่าจะผ่านไปด้วยดีนะทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 29-11-2018 08:46:32
 :hao7: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: taku_kimu ที่ 29-11-2018 11:42:04
แล้วเมื่อไหร่ นายเอกของเราจะเติบโตสะทีอะ ..ไม่มีพัฒนาการอะไรใดๆ เลย  :t3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 29-11-2018 16:27:36
สู้ๆนะทุกคนน ;-;
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 04-12-2018 11:30:53
นุ้งเล อุปสรรค​ชีวิตเยอะจังเลยลู้กกกกกกกก สู้​ๆนะลูกสาว
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 04-12-2018 11:46:48
อุปสรรคหนูเยอะจังเลยลูก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 04-12-2018 15:49:45
สปอยไว้ล่วงหน้าตลอด ไม่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 06-12-2018 23:06:23
สู้ๆนะทุกคน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: nung ที่ 22-12-2018 20:02:18
เข้ามารอ  :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-01-2019 17:30:12
อ่านสองวันติดจ้า จนมาถึงตอนนี้

เข้าใจเลนะ น้องถูกเลี้ยงมาแบบฟูมฟักเลยแหละ
แต่น้องต้องรู้จักโลก และหนักแน่นกว่านี้
การที่รักกัน แล้วทำร้ายกันไปมา คนเจ็บคือตัวเอง
ที่ผ่านมา เลหนีตลอด พี่ฮิมผิดตลอด
ถ้าไม่ได้วินอยู่ด้วย วินไม่พูดไม่บอก คือเลมีเตลิดน่ะ

ฮิมน่าสงสารนะ ทุกอย่างถูกระบายออกไปให้ไกลจากเล
เพื่อให้เลได้อยู่จุดที่ดีที่สุด ฮิมทำให้แค่คนเดียว
ยอมทุกอย่าง ร้ายกับใครแต่ไม่เคยร้ายกับน้อง
ยกเว้นตอนนั้นที่โกรธมากจนพัง

วินคือพี่ชายที่แท้จริง บอก สอน ดูแล
แล้วยังจะตามมาอยู่ด้วยอีก ยกนิ้วให้เลย

ดีนคือรักน้องมากน่ะ ทั้งที่เป็นคนอื่น
คิดไปละว่าเลเป็นน้องดีนอีกคน

ลุ้นมากเลยค่ะ ตอนพีคด้วย รอนะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 09-01-2019 06:22:43
#41 (100%)



3 วันต่อมา

ซองใส่ผลตรวจของโรงพยาบาลวางอยู่ตรงหน้า เหลือแค่เปิดออกดู

วินถอนหายใจ ร่างสูงเริ่มขยับหลังจากนั่งนิ่งรอน้องทำใจอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมงและยังไม่มีวี่แววว่าจะยอมเอื้อมมือไปหยิบซองตรงหน้าขึ้นมาเปิดดูเสียที ขายาวลุกขึ้นเดิน ก้าวอาดๆ ไปยังโต๊ะ คว้าซองขึ้นมาเปิดแบบไม่ขอความเห็นใคร ตามมาด้วยการหยิบแผ่นกระดาษใบกี่ใบในนั้นออกมา กวาดสายตาหาผลสรุปขณะที่น้องประท้วงด้วยความตกใจ

“พี่วิน! เลไม่พร้อม”

ปัง!

แผ่นกระดาษถูกตบลงบนโต๊ะ วินคว้าศีรษะบางออกแรงบังคับให้น้องหันไปอ่าน



Probability 0.00000000%



“ชัดเจนพอหรือยัง”

น้องไม่หือ ไม่อือ ไม่ร้องไห้ ไม่แสดงอาการใดๆ ทั้งนั้นนอกจากจ้องผลตรงหน้าตาไม่กะพริบ สักพักถึงเงยหน้าขึ้นมอง ริมฝีปากบางเริ่มเผยรอยยิ้ม น้ำตาแห่งความโล่งใจไหลเอื่อย “ดีจัง”

วินยิ้มตอบ เขาขยับเข้าไปกอดให้กำลังใจ

“พี่บอกแล้วว่าเชื่อใจแม่” สองมือยกขึ้นลูบกระหม่อมบาง “ทำเลใจเสียหมดเลย ขวัญเอ้ยขวัญมา”

“อยาก… อยากเจอฮิม”

วินไม่ขัด “ไปสิ”

จบประโยคนั้น ร่างบางก็วิ่งหนีออกจากอ้อมกอดวินทันที เลกวาดสายตาหากุญแจรถแล้ววิ่งไปที่ประตูหน้าบ้าน ทันทีที่พ้นประตูออกได้แค่ไม่กี่ก้าว คนที่เขาอยากเจอก็มายืนอยู่ตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อย

ไม่ ไม่ใช่แค่พี่ฮิม ทั้งคุณแม่ของพี่ฮิมทั้งคุณลุง ต่างยืนรออยู่กันพร้อมหน้า

และรอยยิ้มของเลคือคำตอบ



“คนดี”

“หืม”

“น้องเล” ฮิมยิ้มรับคนที่กำลังคลอเคลียเขาไม่หยุด เลแทบจะปีนขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตักของเขาอยู่แล้วถ้าไม่ติดที่ว่าตอนนี้ยังอยู่บนรถในระหว่างที่กำลังขับกลับบ้าน “พี่ขับรถอยู่นะครับ”

คนฟังไม่สนใจ เลขยับเข้ามาใกล้ กดริมฝีปากลงบนต้นคอพร้อมกับขบเม้มเล็กน้อย ปฏิกิริยาที่ทำให้ฮิมแทบอยากจะเลี้ยวรถเข้าโรงแรมถ้าไม่ติดที่คุณพ่อกับคุณแม่บอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับน้องเล

“เลยังไม่อยากกลับบ้าน”

“แล้วน้องอยากทำอะไร”

“เลอยากอยู่กับพี่ฮิม”

“...” นิ้วเรียวลูบตามลำคอระหง หมุนนิ้ววนอยู่ตรงหลังต้นคอของอีกฝ่าย

“แค่สองคน”

ทนไม่ไหวแล้ว



ปัง!

ร่างสูงดันคนตัวเล็กกว่าเขาไปในห้อง ขณะที่คนถูกไซร้คอยังหัวเราะคิกคัก ปล่อยตัวปล่อยใจ แม้จะรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

ฮิมไม่ได้เลี้ยวรถเข้าโรงแรม แต่เลี้ยวรถเข้าเพ้นเฮ้าส์ที่เขาเคยซื้อเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลี้ยวรถเข้าที่ไหน เป้าหมายมันก็มีแค่อย่างเดียว

พรึบ!

แผ่นหลังบางนอนราบลงบนเตียง น้องกอดคอเขาเอาไว้ ขยับใบหน้าขึ้นมาจูบ ในขณะที่ฮิมให้ความสนใจแต่กับการถอดชุดของอีกฝ่ายออก มือหนาพัวพันไปตามลำตัวขาว ฉีกกระชากเสื้อและกางเกงบนร่างบางจนหลุดลุ่ย กระทั่งบนตัวเลเหลือเพียงชั้นในบางๆ เป็นป้อมปราการสุดท้าย

ต้นขาขาวด้านในถูกลูบไล้อย่างใคร่รักก่อนจะถูกจับกางออก สะโพกสอบแนบทาบ ขยับกายเสียดสีจนแท่งเนื้อเล็กภายใต้ชั้นในสีขาวเริ่มมีปฏิกิริยาตอบรับ ฮิมล้วงมือเข้าไปด้านใน จับส่วนไวต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายชักนำให้เกิดเสียงครางแผ่วเบา น่ารักจนทำให้เขาต้องทาบริมฝีปากเข้าหา

“อึก! ฮิม อื้อ! พี่ฮิม”

“ถอดเสื้อให้พี่หน่อยครับ” เขาจับมือน้องวางบนกระดุมเสื้อเชิ้ต นิ้วเรียวปลดออกตามคำสั่งได้แค่เม็ดเดียวเลก็เปลี่ยนเป็นกระชากจนกระดุมหลุดลุ่ยแทน มือบางลูบไปตามแพงอกแกร่ง นิ้วเรียวค่อยๆ กรีดกรายลงบนซิกแพกสวย ไล้วนแอ่งสะดือแล้วเคลื่อนลงสู่หน้าท้อง เลใช้นิ้วสะกิดกระดุมกางเกงของคนตัวสูงออก ใจกล้าล้วงมือจับแท่งเอ็นร้อนผ่าวผ่านชั้นใน Calvin Klein สีดำ

ฮิมถอนจูบออก ร่างสูงยกยิ้มเมื่อรับรู้ได้ถึงมือนุ่มที่กำลังวนเวียนอยู่ด้านนอก เขาจับมือน้องล้วงเข้าไปด้านใน สัมผัสน้องชายโดยตรงแล้วมองหน้าคนที่กำลังกัดริมฝีปากทำสายตาเยิ้มใต้ร่าง “เลอยากได้มันใช่ไหม”

“อื้อ อยาก”

แม่ง... น่ารักสัด

“ไม่มีเจล” ปากว่าหากกายเบียดเสียดสีกับของอีกฝ่ายไปมา

“อย่าแกล้งเล”

“พี่ไม่ได้แกล้ง พี่ไม่มีเจล”

“ฮิมไม่ได้เตรียมไว้จริงเหรอ” เปล่า เขาเตรียมเอาไว้ ตั้งแต่คบน้องก็พกติดรถมาตลอด แต่เห็นท่าทางคลอเคลียขนานหนักของเลแล้วก็เลยไม่ถือลงมาด้วย เพราะอยากเห็นว่าอาการของคนตรงหน้าจะเป็นยังไง

ฮิมไม่ตอบ ร่างหนาหยุดขยับกายเสียดสีจนเลทำหน้าหงุดหงิดเมื่อไม่ได้ดั่งใจ น้องหน้าบึ้งสายตาครุ่นคิด

“งั้นใช้น้ำพี่ฮิมแทน”

“น้ำพี่?”

พรึบ!

คนสวยลุกขึ้น ผลักเขาลงแล้วขึ้นคร่อมแบบไม่ได้ทันตั้งตัว ฮิมยกยิ้ม เจ้าของกายหนายันตัวขึ้นเอนหลังพิงหัวเตียง นั่งมองดูว่าคนบนตักตั้งใจจะทำอะไร

เลจับแท่งเนื้อแข็งขึงภายใต้ชั้นในสีดำออกมา นิ้วเรียวกรีดวนส่วนปลายอยู่สักพัก เงยหน้าขึ้นจ้องเขาจากนั้นก็ก้มหน้าลงครอบงำมันด้วยริมฝีปาก

โพรงปากอ่อนนุ่มนำความรู้สึกเสียวซ่านประดังเข้าใส่ ปลายลิ้นร้อนด้านในเลียตวัดส่วนบนไปมายิ่งทำให้ร่างหนาต้องถอนหายใจหอบ ฮิมปล่อยให้น้องทำตามใจอยู่ชั่วครู่ จากนั้นมือหนาจึงค่อยๆ เอื้อมไปกุมเส้นผมสีน้ำตาลเข้ม ขย้ำแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ รวบถึงควบคุมจังหวะของคนที่กำลังเลียน้องชายของเขาเหมือนไอศกรีม

ดีมาก…

ทำดี แทบจะไม่โดนฟันเลยด้วยซ้ำ

ปกติแล้วฮิมไม่ชอบปล่อยก่อนแต่น้องทำได้ดีจนเขาตั้งใจปล่อยให้อีกฝ่ายเล่นกับแท่งเนื้อร้อนต่อไป สีหน้าและท่าทาง ดึงดูดจนละสายตามองไม่ได้

ความปรารถนารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และก่อนที่น้ำพี่ฮิมที่คนดีต้องการจะพุ่งออกมาท้วมปากเล็ก มือหนากระชากกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มขึ้น เปลี่ยนสัญชาตญาณเป็นผู้ล่า พลิกตัวคร่อมทับ จับต้นขาขาวกางออกแล้วแทรกลำตัวเข้าไปยังกึ่งกลาง ทาบแท่งเอ็นถูไถกับช่องทางที่ยังไม่ได้รับการเล้าโลม

“ได้ไปฝึกที่ไหนมาหรือเปล่า” แทรกนิ้วเข้าไปในริมฝีปากเล็ก หยอกล้อลิ้นร้ายที่ทำได้ดีจนน่าสงสัย “ตอบ”

“ฝึก อ๊า!”

“ฝึกกับใคร!” ฮิมสอดส่วนหน้าของน้องชายเข้าไปด้านใน แรงตอดรุนแรงของคนที่กำลังทำหน้าเหยเกเพราะความเจ็บปวดจากการที่ไม่ได้เล้าโลมก่อนสอดเกือบทำให้เขาใจอ่อน

“ฝึกกับฮิม” เลเสียงสั่น ยกมือขึ้นลูบหน้าเขาก่อนจะโอบรอบคอ “ในจินตนาการ อื้อ”

“น่ารักว่ะ” แท่งเอ็นถูกถอดออกแทนที่ด้วยนิ้วเรียว บิดคว้านและกดจุดด้านในจนเลสั่นสะท้าน เสียงครางแผ่วดังข้างหูกระตุ้นอารมณ์คนฟังพุ่งสูงทะยานขึ้นกว่าเดิม เขาชอบให้น้องคราง ชอบใบหน้าสวยบิดเบี้ยวในตอนที่อยู่ใต้ร่าง และชอบที่เห็นว่าอีกฝ่ายต้องการเขามากแค่ไหน

“ฮิม อ้า! เลไม่ไหว”

ต้องการ…

“อยากได้อะไร”

ต้องการ… ต้องการพี่…

“ฮิม! จะเอาของฮิม”

ต้องการพี่ให้มากๆ

“คนดี” มืออีกข้างเข้ากอบกุมส่วนไวต่อสัมผัสของอีกฝ่าย คอยชักนำมันรวมทั้งกดคว้านช่องทางคับแคบด้านหลังในเวลาเดียวกันจนเลกรีดร้อง คนตัวขาวบิดตัวดิ้นหนักด้วยแรงอารมณ์ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถหยุดมือหนาที่กำลังจัดการสองส่วนของเขาได้ ฮิมโน้มตัวลงเพิ่มความกระสันให้เลด้วยการครอบครองยอดอกสีชมพูด้วยริมฝีปาก ลิ้นตวัดเลียสลับกับใช้ฟันคมกัดแรงๆ ติดต่อกันจนความต้องการของเลถึงขีดสุด น้องปลดปล่อยออกมาเป็นน้ำกามสีขุ่น

มือหนากอบโกยเอาไว้ จับสอดเข้าไปในช่องทางเล็กใช้แทนน้ำหล่อลื่นก่อนจะจับเอ็นร้อนของตัวเองแทรกเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว

ลึกสุดใจ

เลเบิกตากว้าง เขารับรู้ได้ว่าอะไรถูกสอดใส่เข้ามาและกำลังขยับเข้าออกโดยที่ไม่เว้นโอกาสให้หายใจ มือบางคว้ำลำคอแกร่งเป็นที่ยึดแล้วกรีดกรายนิ้วไปด้านหลัง จิกข่วนเล็บลงบนเนื้อหนังของคนที่กำลังกระแทกแท่งเนื้อใส่ตนเพื่อระบายอารมณ์ครั้งใหม่

มือหนาจับต้นขาขาวกางออกไม่ให้ขยับเข้าหากัน นัยน์ตาคมจดจ้องที่ช่องทางเล็กซึ่งกำลังถูกกระแทกกระทั้น มองมันแล้วแสยะยิ้มพอใจ ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงกัดเข้าที่ลำคอขาวแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

“อ้ะ! อ๊า! ฮิม! ลึกจัง ลึกๆ อึก! อ๊า” ฮิมผละตัวออก จับขาขาวข้างหนึ่งพาดขึ้นบ่าและเร่งจังหวะเกิดเป็นเสียงเฉอะแฉะดังหยาบโลนยามน้ำสีกามช่วยหล่อลื่นกระทบเข้าออกในรูเล็กครั้งแล้วครั้งเล่า

ฮิมหอบหายใจ เจ้าของร่างสูงหันหน้าเข้ากัดและดูดดันตามน่องขาขาวที่พาดอยู่บนบ่าตัวเองจนขึ้นรอยช้ำ หลับตาแล้วล้มตัวนอนตะแคงข้างเล ขยับสะโพกสอบกระแทกเข้าไปแรงๆ สองสามครั้งแล้วปล่อยน้ำสีขุ่นเข้าใส่ในช่องทางจังหวะเดียวกันที่ร่างบางกระตุกออก

เสียงหอบดังพร่า เขาปล่อยให้เลพักได้ไม่ถึงนาทีก็เริ่มต้นครั้งใหม่ด้วยการจับน้องนอนคว่ำหน้าลง ซุกไซร้ริมฝีปากเข้าที่ไหล่ขาว สองมือสากขย้ำสะโพกและบั้นท้ายกลมแรงๆ จนเลสะดุ้ง น้องหันหน้ามามองก่อนจะถูกเขาประกบจูบ ลิ้นร้อนไล่ต้อนอยู่ในโพรงปาก เช่นเดียวกันที่ด้านหลังก็มีบางสิ่งแข็งขึงเริ่มขยับเข้าออกอีกครั้งหนึ่ง

มือหนาช้อนสะโพกเขาขึ้น จับเข่าตั้งตรงเพื่อจัดทางให้สิ่งนั้นเข้ามา มันครูดไปตามผนังด้านใน ถูกจุดกระสันเสียวซ่านจนต้องจิกตัวเกร็งไปทั่วทุกส่วน เลสะบัดหน้าหนีริมฝีปากของอีกฝ่ายออกเพื่อหายใจ เจ้าของกายหนายืดตัวขึ้นยันมือเข้ากำหัวเตียงยามที่มือหนายึดสะโพกเขาไว้แน่นแล้วขยับสะโพกกระทบเข้าใส่เร็วรัว

เสียวไปหมดทุกส่วน ราวกับว่าร่างกายของเขาในตอนนั้นไม่มีจุดไหนที่ถูกจับแล้วจะไม่กระสันอยาก ตั้งแต่หัวจรดเท้า พี่ฮิมรู้จักมันดีกว่าเขาที่เป็นเจ้าของร่างกายเสียอีก

“อ๊ะๆๆ! อ้า! ฮิม บะ… เบาหน่อย อึก!” สิ่งที่เขาพูดกับสิ่งที่คนควบคุมจังหวะทำมันสวนทางกัน ฮิมเร่งตัวขึ้น เปลี่ยนทำนองเร็วขึ้นไปอีกขั้น จนคนรองรับแทบจะสำลักความเสียวซ่าน มันแพร่ผ่านไปทั่วร่างกาย ยิ่งเร็วแรงมากเท่าไหร่ยิ่งกระตุ้นให้ลำแท่งขาวจุดอ่อนไหวที่กำลังเด้งไปตามแรงกระแทกแข็งชันขึ้นอย่างน่าอายมากเท่านั้น เลหน้าร้อนผ่าวเมื่อเห็นมัน ขณะที่เจ้าของกายหนายื่นมือมากอบกุมมันอย่างใคร่รัก

“ชอบใช่ไหมน้องเล” เสียงทุ้มกระซิบ ริมฝีปากขบเม้มข้างหู ขณะที่เลสัมผัสได้ว่าท่อนเอ็นของพี่ฮิมที่อยู่ด้านในรูเล็กกำลังขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเขารู้สึกว่าช่องทางจะฉีก ความกลัวถูกลบออกจากสมองเมื่อฝ่ามือสากเริ่มหยอกล้อกับส่วนหน้าของเขา

ฮิมเร่งจังหวะมากกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ตอบ เขารู้ว่าเลกำลังจะไปเลยแกล้งใช้นิ้วปิดรูของแท่งเนื้อขาวไม่ให้น้ำกามด้านในพุ่งออกมา น้องทรมานอย่างเห็นได้ชัด คนสวยหันมามองทำตากะพริบใส่หน้าเห็นใจแต่ความอยากแกล้งมันมีมากกว่า

เขาต้องการคำตอบ

“ฮิมปะ… ปล่อยมือ”

“ชอบใช่ไหม” มืออีกข้างเลื่อนลงเล่นกับพวงเล็ก บีบขย้ำไปพร้อมๆกับกระแทกน้องชายตัวเองเข้าออกช่องทางสีสวย เลตัวสั่น น้องอยากปลดปล่อยแต่ยังไม่ยอมพูด ฮิมถอนกายออกส่งผลให้คนที่กำลังจะถึงฝั่งฝันถึงกับกรีดร้อง บั้นท้ายอวบขยับเข้าถูไถด้วยความต้องการ

“ฮิม! เอามา! ของพี่ฮิม”

“พี่ถามว่าชอบหรือเปล่า” เขาถูไถน้องชายเข้ากับร่องก้นสวย พาดผ่านรูเล็กแต่ยังไม่ยาวสอดมันเข้าไป

“ชอบอะไร”

“แบบนี้” ส่วนหัวสอดเข้าไปเพียงนิดเดียวก่อนจะผละออกมา “เวลามันเข้าไปอยู่ในตัวเล ชอบใช่ไหม”

“อื้อ เลชอบ เลชอบพี่ฮิม รักฮิม ให้น้องเถอะนะ! เดี๋ยวนี้!”

“ตอบดี” เขาเสือกไสมันกลับเข้าไปด้านในอีกครั้ง ปล่อยมือทั้งสองข้างเอื้อมมาดึงแขนเรียวของน้องไปทางด้านหลังก่อนจะกระแทกแรงๆ อย่างที่ใจต้องการ เลปล่อยน้ำกามออกและมีอารมณ์ต่อทันทีเมื่อเขาไม่ยอมหยุด รูเล็กคับแน่นและร้อนจัดทำเอาฮิมหน้ามืดหน้ามัวจนตัวตนอีกด้านอันกักขฬะเริ่มเผยออกมา

เขาอยากกิน อยากกินคนตรงหน้าไปทั้งตัว

“อ๊ะ! อ๊าๆๆๆๆ! อ้าๆๆ อ๊ะๆๆ” เร็ว เร็วเกินไป ร่างบางสั่นไปตามแรงกระแทก ความกระสันอยากครั้งใหม่เล่นงานจนเขาพูดไม่เป็นภาษา น้ำลายไหลย้อยลงไปตามคาง ความเสียวซ่านเข้าควบคุมไปทั้งร่างกายและสมอง นึกอะไรไม่ออกนอกจากเซ็กส์และความสุขตรงหน้า “อ๊า! ลึกๆๆ อื้อ ลึกดีจัง”

ความกำหนัดสร้างตัวตนใหม่ที่ไม่เหลือความอายและไม่รับรู้อะไรนอกจากความใคร่ในกาม และฮิมเป็นคนทำให้มันเป็นอย่างนั้น



พั่บๆๆๆๆๆ

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แต่คงนานพอที่จะทำให้เสียงครางเหือดหาย ลำคอแห้งผากยิ่งกว่าคนขาดน้ำและหอบหายใจพร่าอ่อนแรงราวกับขาดอ็อกซิเจน เลเหมือนคนกำลังจะตาย แต่เขาจะตายเพราะความสุข

ในขณะที่คนควบคุมจังหวะเนิ่นนานหลายชั่วโมงมีท่าทีเหน็ดเหนื่อยให้เห็นเพียงเล็กน้อย ทั้งที่อุ้มเขาเปลี่ยนท่ารวมถึงเปลี่ยนสถานที่ตั้งหลายต่อหลายครั้ง อย่างเช่นตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่บนเตียง แต่อยู่ที่ไหนสักที ห้องมืดเกินกว่าที่จะเห็นว่าอยู่จุดไหนแต่ที่เหตุผลหลักๆ คือเพราะเลสนใจแค่พี่ฮิม

“ฮึก! อื้อ อ๊ะๆๆ” มือบางโอบรอบลำคอของอีกฝ่ายแล้วยืดตัวขึ้นนั่งตักเมื่อความปรารถนาครั้งใหม่กำลังจะถึงจุดสิ้นสุด เลเอนหน้าซบบ่าแกร่งขณะที่ร่างกายกระเด้งไปตามแรงกระแทก และในที่สุดมันก็จบลง เสียงหอบหายใจดังถี่ที่ข้างหู รับรู้ได้ว่าตัวเองถูกยกลอยสูงขึ้น จากนั้นจึงถูกวางลงนอนราบบนเตียง ขณะที่คนอุ้มตามมาคร่อมทับอย่างรวดเร็ว

ริมฝีปากประกบจูบพัวพันลิ้นครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะผละออกอย่างอ้อยอิ่ง เราจ้องตากันภายใต้ความเงียบ ก่อนที่มือบางจะเลื่อนขึ้นขยุ้มกลุ่มผมสีดำสนิทเล่น พี่ฮิมจับมือข้างหนึ่งของเขาไปแล้วจูบลงตรงหลังนิ้วเบาๆ

เริ่มต้นบทสนทนาด้วยประโยคบอกเล่า

“เหนียวตัว”

“อาบน้ำไหมครับ” ฮิมเสนอ มือหนาเอื้อมไปเปิดโคมไฟข้างเตียงเผยให้เห็นสภาพห้องที่เละเหนือคำบรรยาย เลกวาดสายตามองก่อนตอบ

“อาบ”

“ไปแช่น้ำอุ่นแล้วมานอน”

“นอนได้เหรอ”

“ไม่ใช่ห้องนี้” เสียงทุ้มว่าก่อนจะอุ้มตัวขึ้นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำ วางลงในอ่างกุชชี่ก่อนจะเปิดน้ำใส่ พี่ฮิมก้าวลงมาแช่ตาม ร่างสูงอุ้มเขานั่งตักในอ่างพร้อมกับขัดตัวให้พลางๆ “พี่รักเล”

เสียงทุ้มกระซิบแผ่วหากดังก้องเข้าไปถึงหัวใจ

“เลก็รักพี่ฮิม” บอกกลับตามด้วยจูบที่ริมฝีปาก

พวกเขาไม่ได้แช่นาน ไม่ถึงสิบห้านาทีพี่ฮิมก็จับอุ้มตัวเขาไปนอนอีกห้องหนึ่ง ซึ่งนอนได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพลงรักครั้งใหม่ก็เริ่มขึ้นอีก และครั้งนี้เลไม่รู้ว่ามันจบลงเมื่อไหร่ เพราะเท่าที่จำได้มีแค่สลบคาอกกันไปเอง



(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 251118#40 p.53
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 09-01-2019 06:25:36
(ต่อ)



นึกว่าเรื่องทุกอย่างมันคือความฝัน ตอนที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าผมกำลังนอนอยู่ในห้องนอนที่คฤหาสน์ไม่ใช่เพ้นเฮ้าส์ในความทรงจำแถมฮิมยังไม่อยู่อีก มีเพียงความเจ็บปวดไปตามลำตัวโดยเฉพาะสะโพกที่เป็นสิ่งยืนยันว่าผมไม่ได้ฝันไป

และตอนนี้ ผมก็กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารที่ทั้งโต๊ะมีแค่ผม คุณลุงและคุณแม่ที่กำลังเดินไปมาคอยดูแลเรื่องนั้นนี้ อ้อ ยังมีเรื่องของพี่ฮิมผมก็ยังไม่ได้คำตอบว่าอีกฝ่ายหายไปไหน

“มองหาฮิมอยู่เหรอ” คุณลุงว่าพลางหยิบขนมปังเข้าปาก “ไม่อยู่หรอก”

“ไปไหนอ่า”

“ทำงาน” ผมถึงกับเบิกตากว้างใส่คุณลุง เกือบจะพูดต่อแล้วเชียวถ้าไม่ติดที่ว่า... “ล้อเล่น ฮิมออกไปซื้ออะไรไม่รู้ เดี๋ยวก็กลับมา วันนี้ให้พักแบบไม่ลดเงินเดือนด้วย ใจดีใช่ไหมล่ะ”

“ใจร้ายสิ! พี่ฮิมยังไม่จบมหา’ลัยเลยให้ทำงานหาเงินเองแล้ว”

“วัยรุ่นทั่วโลกเขาหาเงินเองได้ตั้งแต่อายุสิบแปดด้วยซ้ำ” ผมหยิบขนมปังยัดเข้าปากตาม ไม่อยากเถียง ไม่มีแรงพูดด้วย

“น้องเลตัวรุ่มๆ นะ” จู่ๆ คุณแม่ก็เอามือมาทาบหน้าผากผม เสียงนุ่มบอกด้วยความเป็นห่วง “มีหมอมาฉีดยาให้แล้ว มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ”

“หมอ? ฉีดยาให้เล?”

“ตอนน้องหลับ พี่ฮิมเขาเรียกมาตรวจอาการนิดหน่อยค่ะ” ผมเงียบไม่อยากพูดอะไร แต่ประเมินสถานการณ์และประสบการณ์ของผู้ใหญ่ทั้งสอง คิดว่าคุณลุงกับคุณแม่คงรู้เรื่องแล้วว่าผมกับพี่ฮิมไปทำอะไรกันมา ท่านถึงไม่ถามเรื่องที่หายไปเมื่อวานแล้วไม่บอก คุณแม่หอมแก้มเลทีนึงก่อนจะนั่งลงข้างผม “แม่ไปเที่ยว ไม่อยู่แค่ไม่กี่วันเกิดเรื่องขึ้นเยอะเชียว”

ผมกะพริบตาปริบๆ ฟังคุณแม่พูดต่อ “เลขวัญเสีย น้องเจอหลายเรื่อง ครั้งนี้คุณแม่เข้าใจ แต่คงต้องดุน้องด้วย เพราะการหนีปัญหาของเลมันไม่ได้ช่วยอะไร และบางทีมันก็ทำคนอื่นเขาเดือดร้อน”

“ครับ” ผมตอบรับไม่ปฏิเสธ สิ่งที่คุณแม่พูดมาใจความเดียวกันกับของพี่วินเปี๊ยบ ถึงจะเคยฟังมาแล้ว แต่มาฟังอีกครั้งมันก็รู้สึกหงอยเหมือนกันแฮะ

“ครั้งหน้าถ้าเกิดมีเรื่องอะไรอีก เลต้องตั้งสติหน่อยเข้าใจไหมคะ น้องไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว มีคนมากมายที่อยู่ข้างเล”

“ครับ” ผมว่าเสียงแผ่ว

“มีอะไรให้ถามหรือคุยกันก่อน น้องเลอยากถามอะไรไหมคะ”

ผมพยักหน้า “ทำไมพ่อ… เขาถึงคิดว่าผมกับพี่ฮิมเป็นพี่น้องกัน”

คุณแม่ถอนหายใจ ทำหน้ากึ่งลำบากใจแต่ก็ยอมพูดออกมาตรงๆ

“แม่น้องเลกับเคยเป็นแฟนกับคุณพ่อ” คุณพ่อที่ว่า… คุณลุงเหรอ! ผมหันไปหาคุณลุงบ้าง ฝ่ายนั้นก็พยักหน้าเงียบๆ “แต่เรื่องมันเป็นอดีตมาแล้ว และผลมันก็ออกมาชัดเจนว่าเลไม่ได้เป็นพี่น้องกับฮิม”

“แล้วพ่อของเลล่ะครับ”

“เรื่องนั้นแม่ก็ไม่รู้…” ผมพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็อดที่จะเศร้าไม่ได้ “แต่น้องเลเป็นสมาชิกครอบครัวเรา ลูกรู้ใช่ไหม แม่ไม่เคยคิดว่าเลคนอื่น คุณแม่คิดว่าน้องเลเป็นลูกของแม่มาโดยตลอด คุณพ่อก็เหมือนกัน…”

ผมถูกรวบเข้ากอด ขณะหันหน้าไปมองคุณลุงที่กำลังท่าทางชมนกชมไม้ไปเรื่อย

“เรารักน้องเลนะคะ มีคนรักน้องเลอีกมาก ดังนั้นอย่าคิดว่าตัวเองไม่มีใครนะ”

“อื้อ เลก็รักคุณแม่” ผมโผล่เข้ากอดผู้หญิงคนหน้า คนที่ช่วยเลี้ยงผมมาตั้งแต่ๆ เด็กๆ เป็นแม่คนสำคัญสำหรับเล

“เรื่องพ่อของเล กำลังให้คนสืบ” เสียงทุ้มว่าในขณะที่ผมฟังแล้วพยักหน้าแต่ไม่ได้ตอบกลับอะไร หลังจากนั้นคุณแม่ก็ปล่อยให้ผมนั่งกินข้าวต่อไป ทิ้งไว้ให้อยู่กับคุณลุงที่เงียบจนน่าสงสัยกระทั่ง… “น้องเล”

“หือ?”

“จะเรียกว่าพ่อก็ได้นะ” ผมเงยหน้าขึ้นจากขนมปัง มองคนพูดที่กำลังยกหนังสือพิมพ์ปิดหน้าตัวเอง

“เรียกใคร?”

“เลเรียกแฟนฉันว่าคุณแม่ น้องก็ควรเรียกฉันว่า--”

“คุณพ่อเหรอ” ผมพูดแทรก อมยิ้มอยู่ในใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนและวิ่งไปกอดคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะจากทางด้านหลัง ตบมือป้าบเข้าที่หัวใจ “หัวใจเต้นแรงมากเลยอะ!”

“มันก็ต้องแรงสิ! วิ่งมากอดขนาดนี้หัวใจจะวาย!”

“ทำเป็นพูด จริงๆ แล้วก็อยากให้เลเรียกคุณลุงว่าพ่อใช่ไหมล่ะ”

“ก็แค่บอกว่าถ้าจะเรียกก็เรียกได้”

“โธ่ อย่าเก๊กสิพ่อสอง!” คำต่อท้ายทำให้ต้นแบบโครงหน้าพี่ฮิมถึงกับวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วหันมามองผมที่ยังคงกอดคออีกฝ่ายอยู่ด้วยท่าทีจริงจัง

“พ่อสอง?”

“อื้อ!”

“ยังไง”

“เอ้า! ก็เลใช้คำว่าพ่อเรียกพ่ออีกคนไปแล้วนี้”

“ทีแฟนพ่อน้องเลยังไม่เรียกว่าคุณแม่สองเลย แบบนี้มันสองมาตฐาน!”

“ไม่ใช่! ก็คุณแม่เป็นแม่ที่มีอยู่คนเดียวของเลในตอนนี้ ไม่นับคุณแม่ซาร่าสิ”

“แสดงว่าไอ้พ่อหนึ่งนี้มันยังมีชีวิตอยู่สินะ เก็บไว้เรียกพ่อแท้ๆ ของตัวเองหรือไง”

“ไม่ใช่หรอก!”

“แล้วใคร?”



“คุณพ่ออออ”

หมับ!

ผมกระโดดกอดร่างสูงที่กำลังยืนจิบกาแฟอยู่ในสวนจากทางด้านหลัง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหันหน้ามามอง เผยรอยยิ้มแล้วโอบรัดเลตอบ “มาได้ไงคะ”

“เลมาเล่นด้วย… ได้ไหม? ได้ข่าวว่าคุณพ่อว่าง”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ เหงาอยู่พอดี” ร่างสูงพาผมไปนั่งโต๊ะ สั่งแม่บ้านนำโกโก้มาเสิร์ฟแทนที่จะเป็นชาอังกฤษ

“ทำไมรู้ว่าเลชอบโกโก้”

“ไม่ได้รู้ เดาจากบุคลิกเล ถูกต้องงั้นสิ”

“อื้อ เลไม่ค่อยกินชาหรอก” แม้ว่าบ้านนั้นจะกินทุกวันเลยก็เถอะ เช้า กลางวัน เย็น ทุกหลังอาหารแทบจะมีชาเข้ามาร่วมด้วย พี่ฮิมอยู่ไทยไม่ค่อยกินแต่กลับอังกฤษก็กินบ่อยอยู่เหมือนกัน สภาพแวดล้อมมันพาไป “เลขอโทษนะครับที่วันนั้นไปไม่ได้บอก ตอนมาไม่ได้บอกตอนไปยังไม่ได้บอกอีก”

ครั้งนั้นตอนเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นทีนี้ พอได้คุยกับพี่วินแล้ว พี่ชายของผมก็พาไปโรงพยาบาลเพื่อพาไปตรวจ DNA พึ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้บอกลาคุณพ่อเลยด้วยซ้ำหลังจากสามวันต่อมา

“ไม่เป็นไรคะ แล้วน้องเลเป็นไงบ้าง ดีขึ้น? สบายใจขึ้นบ้างหรือยัง”

“เลดีขึ้นมากแล้ว”

“แล้วเป็นไง ทำไมวันนี้ได้มาหาคุณพ่อล่ะค่ะ”

“ไม่มีใครอยู่กับเลเลย” คุณแม่ไปประมูลเพชร(อีกแล้ว) คุณพ่อสองกับพี่ฮิมกลับไปโหมงานต่อ พี่วินก็มีงานที่ดูไบ ขนาดพี่ดีนที่น่าจะว่างตอนผมโทรมาถามว่ามาเล่นที่บ้านได้ไหมก็ยังติดงานอยู่เหมือนกัน คนที่เหลือที่พอจะมาอยู่ด้วยได้ก็มีแต่คุณพ่อนี่แหละ ไม่เข้าใจคนรอบตัวเลยจริงๆ รวยกันจนจะซื้อประเทศๆ หนึ่งได้อยู่แล้วทำไมยังต้องทำงานกันหนักขนาดนี้ “เลเหงา คุณพ่อว่างไหม อยู่เล่นกับเลหน่อยสิ”

“ว่างสิคะ ว่างทั้งวัน น้องเลอยากเล่นอะไรตีกอล์ฟอีกไหม”

“เลเบื่อแล้ว”

“ดูหนัง?” ผมถอนหายใจ

“ไม่อยากอยู่ในห้อง อยากออกไปด้านนอก”

“งั้นเลอยากทำอะไร”

“เลสนใจการแข่งรถ ยังไม่ต้องถึงระดับ Formula1 แค่ขอระดับปานกลางถึงใหญ่” คนตัวสูงมองผมก่อนจะยกยิ้มขึ้น ร่างหนาเคาะนิ้วเรียงสามทีคล้ายกับกำลังตัดสินใจก่อนจะพยักหน้าแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋า

“พ่อจะติดต่อเพื่อนให้”

เยส!



21.00 น.

“คนดี คนดี” เลลืมตาขึ้น คนที่เขาเห็นทำให้ริมฝีปากเล็กเผยรอยยิ้มกว้าง “พี่ฮิม กลับมาแล้วเหรอ”

เจ้าของชื่อถูกคนงัวเงียลุกขึ้นกอด ฮิมถอนหายใจ “กลับอะไรกันล่ะ”

“น้องเลตื่นแล้วเหรอ” ผู้มาเยือนคนใหม่ทำให้คนพึ่งตื่นเริ่มงง แต่พอมองไปรอบๆ ห้องแล้วถึงได้เข้าใจสถานการณ์ “หลับสนิทเลย ไปเที่ยวกับคุณพ่อจนเหนื่อย”

“พี่ดีน?” เรียกชื่อคนตรงหน้าแล้วระลึกเหตุการณ์ในสมอง เริ่มจากที่คุณพ่อพี่ดีนพาเขาไปหาเพื่อนในแวดวงรถยนต์ ถูกทดสอบในสนามแข่งก่อนจะได้รับคำชมว่าฝีมือดี ไปสานสัมพันธ์กันต่อที่ภัตตาคาร กิน ดื่มและนั่งฟังผู้ใหญ่เขาคุยกันอยู่นานพอสมควร ต่อจากนั้นก็… เผลอหลับเหรอ?!

เลเบิกตากว้าง รู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าแตกเข้าอย่างจัง

“เลไม่รับสายพี่ พี่ก็เลยมารับ” ฮิมบอก ในขณะที่ร่างบางลุกขึ้นยืน ถามรัวๆ

“กลับก็ได้ แต่เลขอไปหาคุณพ่อก่อน พี่ดีนครับ คุณพ่ออยู่ไหนเหรอ” เขาต้องไปบอกขอบคุณแล้วก็ขอโทษด้วย

“อยู่ในห้องทำงานน่ะ” ว่าจบคนตัวขาวก็พุ่งออกไป ทิ้งสองหนุ่มเอาไว้ในห้องตามลำพัง

ฮิมทิ้งตัวนั่งที่โซฟา กระทั่งเลลับสายตาเขาถึงหันมาจ้องอีกคนแทน อีกฝ่ายเหมือนจะรู้ตัวว่าถูกจ้องถึงได้หันมามองหน้าเขาตรงๆ

“มึงมีอะไรอยากจะพูดกับกูหรือเปล่า” ดีนเริ่มต้นถาม

“มี”

“เรื่องอะไร” ฮิมต้องคิดก่อนว่าควรจะพูดออกไปดีหรือไม่ “เลเหรอ? หรือมึงกลัวว่ากูจะแย่งเมียมึงจริงๆ”

“ไม่ใช่” เขาส่ายหน้า ฮิมเชื่อใจน้องมากพอ ยิ่งความวุ่นวายครั้งล่าสุดยิ่งทำให้พวกเขารักกันมากยิ่งขึ้น แล้วเรื่องที่อยากจะถามน่ะ… “มึงรู้หรือเปล่าว่าเรากำลังเป็นศัตรูทางธุรกิจกัน”

นั่นแหละที่เป็นปัญหา เพราะเอาไปเอามา คลาร์ก คอเปอร์เรชั่น ที่กลายมาเป็นศัตรูแฮมินตันในตอนนี้ก็คือธุรกิจของบ้านไอ้คนตรงหน้านี่แหละ ทว่าดีนกลับทำหน้างง

“ศัตรูทางธุรกิจ? ธุรกิจอะไรวะ มึงจะเปิดเหมืองแข่งเรื่องเพชรกับกูเหรอ”

“เปล่า น้ำมัน”

“อ้อ น้ำมัน” คนฟังพยักหน้า “ไม่รู้เรื่องด้วยหรอก”

“ถ้ากูชนะ บ้านมึงจะเสียยิ่งกว่าล้านดอล”

ดีนล้วงมือเข้ากระเป๋า ดูท่าทางยังใจเย็นอยู่ “พ่อไม่ให้กูยุ่งกับน้ำมัน ไม่ใช่แค่ไม่ให้ยุ่งเรียกว่าห้ามเลยจะดีกว่า”

“...”

“อีกอย่างพ่อกูก็ปล่อยธุรกิจนี้ไปตั้งนานแล้วเป็นสิบๆ ปี”

“หมายความว่าไงที่ปล่อย”

“ให้คนอื่นดูแลแทน ถือหุ้นใหญ่แล้วเอาเงินเข้ากระเป๋า ไม่ได้สนใจว่ารุ่งหรือร่วง”

“หมายความว่าไม่สนถ้าธุรกิจมึงจะล้มละลาย”

“ก็ประมาณนั้น” ดีนยักไหล่

“ทำไม”

“พูดยากว่ะ ความคิดพ่อ ถ้ามึงอยากรู้มึงคงต้องไปถามพ่อกูแล้วล่ะ”

“ไม่จำเป็นขนาดนั้น มึงไม่สนก็ดี กูแค่กลัว”

“กลัวอะไร”

“บ้านมึงเป็นคู่แข่งกู แต่เมียกูดันเข้าออกบ้านมึงเป็นว่าเล่นขนาดนี้”

“อ้อ! กลัวถูกเล่นสปรกอย่างจับน้องเลเอาไว้สินะ” ฮิมพยักหน้าไม่ปฏิเสธ “ไม่ต้องห่วง อย่างที่บอกว่าพ่อกูปล่อยธุรกิจนี้ให้คนอื่นดูแลตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้นอกจากเอาเงินจากหุ้นในธุรกิจก็แทบจะไม่เกี่ยวข้องอะไรแล้วล่ะ”

“งั้นก็ดี”

“พี่ฮิมมม กลับกันเถอะ” เลกลับเข้ามาดึงให้ร่างสูงลุกขึ้น “พี่ดีนเลกลับแล้วนะ เดี๋ยววันหลังมาใหม่นะครับ”

“มาได้ตลอดครับ”

ฮิมโอบเอวบาง มองหน้าคู่สนทนาเมื่อสักครู่ก่อนจะเดินออกจากห้องไป



หลายวันต่อมา

(อีกแล้วเหรอ) เสียงจากปลายสายทำให้ผมต้องยกโทรศัพท์ออกห่างจากหู ฟังแล้วพี่ฮิมคงไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ผมมาหาคุณพ่อพี่ดีนติดต่อกันเป็นวันที่สาม (คนดีระวังรบกวนคนอื่นมากเกินไปนะ)

“ก็ที่บ้านไม่มีใครเลยนี้” เห็นได้ชัดว่าในตอนนี้คุณลุงและพี่ฮิมกำลังทำงานหัวหมุนกันขนานหนัก เมื่อวานพี่ฮิมกับคุณลุงไม่ได้กลับบ้านแต่นอนที่บริษัทเลยด้วยซ้ำ “แล้วก็เลงอนพี่ฮิมอยู่นะ”

ถามว่ายุ่งอยู่กับงานอะไรก็ไม่ยอมตอบ คุณแม่เองก็เหมือนจะรู้เรื่องนี้ท่านเลยไม่ได้พูดอะไร มีแค่เลคนเดียวที่ไม่รู้ ผมงอนพี่ฮิม เขาไม่ยอมบอกผม ที่หนักสุดคือสองวันก่อนผมแอบไปหาพี่ฮิมที่บริษัท แต่กลับถูกยามหน้าประตูกักตัวเอาไว้ไม่ให้เข้า ลุงยามบอกว่าท่านประธานสั่งเอาไว้ว่าไม่ให้ผมเข้าไป พอโทรไปหาพี่ฮิม ช่วงพักเที่ยงพอดี อีกฝ่ายเลยพาผมออกไปกินข้าวที่อื่น แต่หลังจากกินข้าวเสร็จพี่ฮิมก็ไม่ให้ผมกลับไปที่บริษัทเหมือนกัน

เอ้า! งง งง งง งง

รู้สึกเหมือนโดนกีดกันในเรื่องที่ไม่ควรจะกีดกันอะ ทำไมต้องห้ามเลเข้าบริษัท ในเมื่อเลแทบจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลายล้านล้านของแฮมินตันเลยด้วยซ้ำ

เอ๊ะ! หรือมี?

(ไม่งอนพี่สิ) เอ่ยเสียงแผ่ว (คิดถึงคนดี อยากเจอ อยากกอด)

“ให้เลไปหา”

(ท่านครับ...)

“เสียงใคร” ผมถามเมื่อได้ยินเสียงไม่คุ้นหูดังเข้ามาแทนเสียงพี่ฮิม

(เลขา น้องเลพี่มีประชุมต่อ)

“น้องไปนั่งเล่นรอก็ได้”

(อย่าเลย)

“ก็ไหนบอกอยากเจอ”

(ไม่ใช่ที่บริษัท) ผมกระทืบเท้าระบายอารมณ์จนคุณพ่อพี่ดีนที่ยืนดูรถอยู่ข้างๆ หันมามอง ผมส่งสายตาขอโทษไปให้ ร่างสูงก็สายหน้าไม่ถือสาก่อนจะวกกลับไปสนใจรถต่อ (วันนี้พี่จะกลับบ้าน)

“แล้วยังไง?”

(เลอยากทำอะไร พี่จะตามใจ ดีไหม)

“ก็… ดีขึ้นหน่อย” ผมยิ้มพอใจจังหวะเดียวกันที่ได้ยินเสียงไม่คุ้นดังเข้าใจอีก จับใจความได้ว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว “มีประชุมต่อใช่ไหม งั้นเลไปแล้วนะ”

(โอเค ตอนเย็นเจอกัน รักนะครับ)

“รักเหมือนกัน บาย” กดวางสายก่อนจะเดินไปกอดแขนคุณพ่อพี่ดีน ร่างสูงโอบไหล่ผมแล้วชี้รถสปอร์ตตรงหน้า

“พ่อว่าสวยดี น้องเลอยากได้ไหมคะ”

“ถ้าอยากได้จะซื้อให้เลเหรอ” ผมแซวในขณะที่คนข้างกายกวักมือเรียกพนักงาน ชี้ที่รถจากนั้นคุณเลขาของคุณพ่อที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็เดินเข้ามาจัดการให้ “เป็นคุณป๋าอีกแล้ว”

“ไม่ชอบเหรอคะ”

“ก็คนอื่นเขาคิดว่าเลเป็นเด็กคุณพ่อหมดแล้ว” หลายวันมานี้ผมอยู่อีกฝ่าย และเราสองคนก็ไม่ค่อยจะอยู่บ้านกันสักเท่าไหร่ คุณพ่อมักพาผมไปหาเพื่อนที่เกี่ยวข้องกับรถอย่างที่ผมต้องการ แต่บางวันก็พาออกงานอื่น เช่น งานแข่งม้า งานเปิดตัวธุรกิจใหม่หรืองานสังสรรค์อื่นๆ ของพวกผู้ใหญ่ในแวดวงธุรกิจ ผมติดสอยห้อยตามไป ส่วนใหญ่คุณพ่อจะแนะนำผมแบบติดตลกว่าเป็นลูกอีกคน (ถ้าบอกว่าเป็นเพื่อนลูกชายก็คงจะดูแปลกๆ) แต่ดูเหมือนคนฟังจะไม่ค่อยเชื่อนะ

เลได้รู้จักผู้ใหญ่คนสำคัญขึ้นเยอะมาก แทบจะเป็นการเปิดโลกใหม่ โลกของผู้ใหญ่โดยแท้

“ไม่ชอบเหรอ เป็นเด็กคุณพ่อ เลี้ยงดูอย่างดีเลยนะคะ”

“แฟนเลเริ่มจะหึงแล้วน่ะสิ” พี่ฮิมเริ่มไม่ค่อยจะพอใจ และผมไม่อยากจะเถียงว่าคนข้างกายร้ายอย่างที่พี่ดีนเคยเตือนเอาไว้จริงๆ

คุณพ่อเจ้าชู้

หลายวันที่ผ่านมา ผู้หญิงที่เข้าหาคุณพ่อแทบนับไม่หวาดไม่ไหว ตั้งแต่รุ่นลูกเท่าเลไปจนถึงรุ่นใหญ่ แต่ดูจากสายตาแพรวพราวแล้วทุกคนก็คงจะมีเป้าหมายเดียวกันคืออยากรู้จักผู้ชายคนนี้

“เปลี่ยนแฟนดีไหม มาคบกับดีนเป็นไง”

“พูดเล่นใช่ไหมเนี่ย” ผมเบิกตากว้าง จ้องหน้าอีกฝ่ายแล้วหัวเราะก่อนร่างหนาที่โอบไหล่ผมอยู่เริ่มพาเดินดูรอบๆ ตอนนี้เราอยู่ในโชว์รูมรถหายาก ไม่ได้มาซื้อรถหรอกเป้าหมายที่แท้จริงคือพาผมมาหาเจ้าของโชว์รูมต่างหาก เขาเป็นอดีตโค้ชของผู้ที่ชนะการแข่งขัน  Formula 1 เมื่อหลายปีที่ผ่านมา “คุณพ่อครับ”

“หือ?”

“มาอยู่กับเลแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอ ไม่ได้ไปทำงานเลย” คำพูดของพี่ฮิมแทรกเข้ามาในสมอง บางทีผมก็อาจจะกำลังรบกวนอีกฝ่ายมากเกินไป เพราะตั้งแต่ที่ผมมาอยู่ด้วยในตอนกลางวัน ยังไม่เคยเห็นคุณพ่อพี่ดีนเข้าบริษัทเลยด้วยซ้ำ ที่ดูเกี่ยวกับงานหน่อยก็มีแค่คุณเลขาที่เป็นอีกหนึ่งคนซึ่งคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา

เจ้าของใบหน้าคมส่ายหน้า “พ่อไม่ได้ทำงานแล้วล่ะค่ะ”

“อ้าว” เลงง “แล้วเอาเงินมาจากไหน”

“หุ้นในบริษัทไงคะ ปล่อยให้คนอื่นทำไปตัวเองคอยเอาเงิน”

“ไม่กลัวคนอื่นทำล้มละลายเหรอ อุตส่าห์พยายามสร้างมันขึ้นมา” สองวันก่อนคุณพ่อพี่ดีนพึ่งเล่าภูมิหลังให้ฟัง บ้านของพี่ดีนทำธุรกิจหลักคือน้ำมัน อีกฝ่ายจบ MIT มาก็จริงแต่ครอบครัวในทีแรกก็ไม่ได้ร่ำรวยมากหรอก ต้องใช้มันสมอง ความรู้ทุกอย่างถีบธุรกิจตัวเองจากไม่กี่ร้อยล้านให้พุ่งทะยานจนมีค่ามหาศาลในปัจจุบัน ยิ่งรู้ผมก็ยิ่งนับถือ แต่เมื่อกี้คุณพ่อพึ่งจะบอกว่าธุรกิจที่ตัวเองสร้างมาด้วยความยากลำบาก ในตอนนี้ท่านกลับยกให้คนอื่นดูแลแทน แถมยังดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ลูกชายอย่างพี่ดีนเสียด้วย เพราะพี่ดีนเคยบอกว่าตัวเองดูแลธุรกิจเพชรพลอยซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจสำคัญของครอบครัวในตอนนี้

“ก็คนที่ทำให้พ่อต้องพยายามจนประสบความสำเร็จขนาดนี้ เขาไม่อยู่บนโลกนี้แล้วนี่” เสียงเบามาก ผมไม่ได้ยินว่าอีกฝ่ายพูดอะไร แต่แล้วใบหน้าหล่อเหลาก็หันมายิ้มให้ก่อนจะพูดติดตลก “ล้มก็ล้มสิคะ ตอนนี้เบื่อมาก รวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรแล้ว ลองจนบ้างคงจะสนุกเหมือนกัน”

“น่าหมั่นไส้!” ผมหัวเราะ ขณะที่ยังมีคำถามใจ “พี่ดีนเคยบอกว่าตัวเองดูแลเรื่องเพชรเต็มตัว แล้วคุณพ่อให้ใครดูแลธุรกิจน้ำมันแทนเหรอ”

ร่างสูงหันหน้ามาถามผมแทน “คิดว่าใครล่ะ?”



“รายงานล่าสุดของเราบอกว่าปัจจุบันเจ้าของคลาร์ก คอเปอร์เรชันที่แท้จริงอย่าง แอรอน คลาร์ก ไม่ได้เป็นผู้คุมบังเหียน แอรอนวางมือกับธุรกิจน้ำมันตั้งแต่สิบปีก่อน แล้วปล่อยให้ญาติห่างๆ ของภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วอย่าง เฟรดดี้ เบลมอน เป็นคนดูแลแทน แม้คลาร์ก คอเปอร์เรชันจะยังขึ้นชื่อแอรอน คลาร์กเป็นประธานบริษัท แต่แทบจะพูดได้อย่างเต็มปากว่าเฟรดดี้ เบลมอนมีอิทธิพลในจัดการทุกอย่างของคลาร์ก คอเปอร์เรชันในตอนนี้”

บรรยากาศในที่ประชุมเคร่งเครียดขึ้นยิ่งกว่าเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ฮิมเท้าคางมองหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ที่กำลังฉายภาพข้อมูลของแอรอน คลาร์กและเฟรดดี้ เบลมอน สองชื่อที่พึ่งถูกกล่าวถึงกับสองประวัติที่แทบจะเรียกได้ว่าห่างไกลกันคนละโยชน์

แอรอน คลาร์ก จบปริญญาตรี วิศวะ MIT เกียรตินิยมอันดับ 1 ปริญญาโท MBA ฮาวาร์ด เพิ่มมูลค่าของธุรกิจจากหลักร้อยล้านมาเป็นล้านล้านภายในเวลาไม่กี่ปี แทบจะเรียกได้เต็มปากว่าผู้ชายคนนี้เป็นอัจฉริยะ ทว่าข้อมูลเฟรดดี้กลับพื้นฐานเกินกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้ จบบริหารของมหา’ลัยระดับกลาง เกียรตินิยมอันดับ 1 ก็จริง แต่พูดกันตามตรงฮิมคิดว่ายังมีคนที่เหมาะสมกว่านี้ สำหรับดูแลธุรกิจต่อจากแอรอน คลาร์ก

‘ให้คนอื่นดูแลแทน ถือหุ้นใหญ่แล้วเอาเงินเข้ากระเป๋า ไม่ได้สนใจว่ารุ่งหรือร่วง’

ประโยคของดีนดังเข้ามาในหัว มันยังเป็นคำถามในใจเขา

ไม่ได้สนใจว่ารุ่งหรือร่วง

จะมีเหตุผลไหนบ้างที่ทำให้คนๆ หนึ่งเพียรพยายามผลักดันและสร้างมันขึ้นมาด้วยความสามารถของตน พอประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ก็ทิ้งให้คนอื่นดูแลแบบไม่แยแส

“ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่แอรอนวางตัวเมื่อ 10 ปีก่อน การบริหารของเฟรดดี้ก็ไม่ได้ดีนัก ที่อยู่รอดก็เพราะบุญเก่ากับขึ้นชื่อแอรอน คลาร์กยังเป็นประธานบริษัท เขาเก่งมากจนต้องขอยอมรับ แค่ขึ้นชื่อเอาไว้แต่ถอนตัวออกไป นักลงทุนยังแห่กันมาสนับสนุน” เจ้าของแฮมินตันที่นั่งอยู่หัวโต๊ะว่าต่อ “และดูเหมือนว่าเหล่าคณะกรรมการในคลาร์ก คอเปอร์เรชันหลายคนก็ไม่ได้พอใจในการบริหารของเฟรดดี้สักเท่าไหร่”

“ได้ข่าวว่าเขายักยอกเงินด้วยนี่”

“หลายร้อยล้านเลยล่ะ” เสียงทุ้มว่า “ดูเหมือนแอรอนจะวางมือแล้วจริงๆ วงในรู้กันทั่วว่ามีการยักยอกเงินอย่างโจ่งแจ้ง แต่ประธานบริษัทตัวจริงกลับไม่ทำอะไร”

“คงจะใช่ เมื่อไม่กี่วันก่อนเห็นไปสนามแข่งรถ กับเด็กหน้าตาน่ารักคนหนึ่งซะด้วย”

“แอรอนหน้าตาดีจะตาย แต่ก่อนขึ้นที่หนึ่งของสิบอันดับนักธุรกิจหน้าตาดีในนิตยสารติดต่อกันตั้งหลายเดือน”

“จะกินเด็กก็ไม่แปลก” พวกคณะบริหารคุยกัน ในขณะที่ฮิมเงียบแต่หูผึ่ง คุ้นๆ เด็กหน้าตาน่ารักที่ว่าอาจจะเป็นแฟนตัวเอง เพราะน้องเลออกจะตัวติด ‘คุณพ่อพี่ดีน’ ไปซะทุกที่ขนาดนั้น

“ก็ดีแล้วที่วางมือ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเราก็อาจจะแพ้” เสียงทุ้มเข้มว่า บรรยากาศกลับมาตึงเครียดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่เลขาคนสนิทของประธานจะอธิบายสถานการณ์

“เราได้ทำการติดต่อคณะกรรมการบริหารที่ไม่พอใจการบริหารของเฟรดดี้ เบลมอนไป และหลายคนยินดีให้ความร่วมมือกับเรา โดยการบอกเรื่องการยักยอกเงินกับเหล่านักลงทุนและบริษัทย่อย”

“แค่นั้นเหรอ”

“แค่นั้น แต่ส่งผลกระทบมหาศาล นักลงทุนเริ่มถอนหุ้น บริษัทที่ทำร่วมกับคลาร์กเริ่มถอนตัว มาตรการนี้ ช่วยลดเงินทุนของคลาร์ก คอเปอร์เรชัยภายใต้การนำของเฟรดดี้ เบลมอนไปได้มากโข อีกอย่างคือนักลงทุนหลายราย และบริษัทหลายแห่งที่ถอนตัวออกมา เขาก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลกับเรา”

เจ้าของตำแหน่งเลขาสรุปเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง “พูดง่ายๆ คือเรากำลังหาแนวร่วมในการตัดช่องทางหาเงินทุนของคลาร์ก คอเปอร์เรชัน ไม่ให้มีบริษัทหรือนักลงทุนอื่นมาสนับสนุน ส่งหนอนบ่อยไส้เข้าไป พยายามทำให้ฝ่ายนั้นเริ่มกระสับกระส่ายและตกต่ำจนถึงขีดสุด ซึ่งจากความพยายามของพวกเราตั้งแต่หลายเดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าผลมันจะไปได้ด้วยดี เพราะข้อมูลล่าสุดที่ได้เราได้บ่งบอกว่าตอนนี้หุ้นของคลาร์ก คอเปอร์เรชัน…”

กราฟหุ้นดังกล่าวถูกฉายขึ้น ฮิมมองก่อนจะสรุป “ตกต่ำที่สุดในประวัติการ”

“ก็เหลือแต่สู้กันในชั้นศาล ถ้าฝ่ายนั้นยังอยากสู้อยู่ล่ะก็นะ” พ่อเขาว่าพร้อมกับเผยรอยยิ้ม

“โหดร้ายนะครับท่านประธาน แบบนี้ตั้งใจจะทำให้ฝ่ายนั้นล้มละลายเลยไม่ใช่เหรอ”

“ทางนั้นเล่นไม่ซื่อกับเราก่อนนี้ แทนที่จะแยกตัวกันดีๆ ดันทำตัวมีปัญหาซะได้” ร่างสูงลุกขึ้นยืน พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เรามั่นใจถึง 70% ว่าจะชนะในชั้นศาล ที่กลัวตอนนี้คือเฟรดดี้ เบลมอนอาจจะใช้วิธีสกปรกในการแก้สถานการณ์ จึงอยากขอให้ทุกคนและทุกฝ่ายระวังเอาไว้ ตรวจเช็คงานของตัวเองให้รอบคอบอย่าให้มีอะไรมาทำให้แฮมินตันเสียหาย”

“ครับ/ค่ะ”

“จบการประชุม”



“ให้คนขับรถไปส่งไหม”

“ไม่ต้อง เลกลับเองได้ครับ” เขามองเด็กหนุ่มรุ่นลูกก้าวขึ้นรถ น้องเลหันมาส่งยิ้มให้ทีหนึ่งก่อนจะปิดประตูลดหน้าต่างรถลงมา “เลกลับแล้วนะ”

“ขับรถดีๆ นะคะ”

“อื้อ บ้ายบาย”

“โชคดีค่ะ” ลัมโบกินี่คันหรูเคลื่อนตัวออก แอรอนมองตามจนมันลับสายตา ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนมานิ่งขรึม ขายาวเดินนำหน้าคนสนิทไปที่เฮลิคอปเตอร์ซึ่งจะบินไปส่งเขาที่คฤหาสน์ ชักจะเบื่อความรวยของตัวเองแล้วจริงๆ ไม่น่าสร้างสนามกอล์ฟเอาไว้รอบบ้าน ถ้ามันจะทำให้การเดินทางเข้าบ้านตัวเองต้องยากขนาดนี้

นัยน์ตาคมเหม่อมองลงมาด้านล่างเมื่อเฮลิคอปเตอร์บินขึ้น “ดูท่านจะชอบเด็กคนนี้มากเลยนะครับ”

“ใคร? หมายถึงเลน่ะเหรอ” เสียงทุ้มถามเลขาคนสนิท “ชอบสิ น่ารัก เอาใจเก่ง อยู่ด้วยแล้วมีความสุข”

“ท่านยิ้มบ่อยขึ้นมาก”​ แน่นอน น้องเลน่ะเหมือนเป็นเจ้าก้อนความสุข แค่มองก็ทำให้ยิ้มได้แล้ว

“ก็น่ารักเหมือนแม่เขาเลยนี่”

“ไม่ใช่ชอบเพราะเหมือนคุณซาร่าหรอกนะครับ” ชื่อที่ไม่ได้ยินมานานหากอยู่ในความทรงจำตลอดทำให้คนฟังต้องอมยิ้ม

“ปฏิเสธไม่ได้ ชอบและเลก็เหมือนซาร่ามากจริงๆ นี่” ถ้าด้านหน้าตาแทบจะเหมือนกันเกือบ 90% เลยด้วยซ้ำ

“ท่านคงไม่คิดจะให้คุณเลมาเป็นแม่ใหม่คุณดีนหรอกใช่ไหมครับ”

“แม่ใหม่ดีนเหรอ? คิดอะไรของนายอยู่ปีเตอร์ ชอบเหมือนลูกเหมือนหลาน” เขาว่า “ถึงจะหน้าเหมือนกันแต่นิสัยต่างอยู่บ้าง คนนี้ซนกว่า น่ารัก นั่นแหละข้อที่แตกต่างระหว่างซาร่ากับน้องเล”

“ดีแล้วครับที่ชอบ เพราะได้ข่าวว่าเจเดน ประธานแฮมินตันตั้งใจจะเอาธุรกิจน้ำมันของนายท่านไปเป็นของหมั้นคุณเลให้ลูกชายอยู่นะครับ” คนฟังเลิกคิ้วขึ้นสนใจ “บ่อน้ำมันใหม่ที่เจอซึ่งเป็นงานร่วมกันครั้งสุดท้ายก่อนจะแยกดูเหมือนจะมีปัญหา”

“ฝ่ายไหนล่ะที่มีปัญหา”

“พูดกันตามตรงคือฝ่ายเรา เฟรดดี้คิดไม่ซื่อ เขาอยากฮุบบ่อน้ำมันใหม่เพื่อทำเงินมหาศาลให้แค่ตัวเอง นี่เป็นการฉีกสัญญาธุรกิจร่วมกับแฮมินตันทิ้งแบบดื้อๆ”

“แถมยังโง่ด้วย” แอรอนเสริม เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายังดูสงบนิ่งจนเลขาคนสนิทถอนหายใจ

“ท่านยอมเขามากเกินไปหรือเปล่าครับ”

“ฉันไม่สนใจเรื่องนี้แล้ว ให้เฟรดดี้ทำไป จะรุ่งหรือร่วงก็แล้วแต่มัน” เสียงทุ้มกล่าว “อีกอย่างนายบอกว่าถ้าแฮมินตันชนะ ธุรกิจนี้จะกลายเป็นของหมั้นน้องเลใช่ไหม”

“ดูเหมือนจะใช่ครับ”

“ดี งั้นก็ให้แพ้ไปเถอะ” ริมฝีปากบางเผยรอยยิ้ม ตรงข้ามกับปีเตอร์ที่ทำหน้าเครียด ให้แพ้ไปนั่นหมายถึงการสูญเสียบริษัทที่มีมูลค่ากว่าล้านล้าน “ฉันพยายามทำมันให้ประสบความสำเร็จเพื่อคนแม่ตั้งแต่ต้น แต่ซาร่าเสียไปแล้ว งั้นก็เอาให้คนลูกอย่างเลนั่นแหละถูกต้องแล้ว”

เฮลิคอปเตอร์หยุดเครื่องเมื่อถึงจุดหมาย ร่างสูงปลดเข็มขัด เดินลงก่อนจะชะงัก เจ้าของใบหน้าคมหันไปสั่งกับคนที่เดินตามหลัง

“ปีเตอร์ ส่งคนไปสืบเรื่องน้องเลให้ฉันด้วย เอาหลังจากที่ซาร่าแต่งงาน ฉันอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

“ครับท่าน”

แอรอนพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าบ้าน สมองคิดไปถึงประโยคหนึ่งที่ติดหนึบแน่นตั้งแต่ที่ได้ยินร่างบางพูด

‘เลไม่มีพ่อ’





100%

มาต่อลมหายใจ55555555  :hao7: :hao7: :hao7:



หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 09-01-2019 07:45:14
ดีนจะมีสถานะเดียวกับวินชิมิ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 09-01-2019 08:01:18
 :pig4: o18ลุ้นๆ รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 09-01-2019 08:20:47
น้องเลหายไปนานมาก จนลืมเลย

ขอบคุณที่มาต่อ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 09-01-2019 09:14:31
ลุ้นมากก พี่ฮิมคนดุเหมือนเดิมมม

วันที่ต้องเป็น 2019 ปล่าวค้าาา อิอิ
มีคำผิดนิดนึงน้า

“ไม่เป็นไรคะ >> ค่ะ แล้วน้องเลเป็นไงบ้าง ดีขึ้น? สบายใจขึ้นบ้างหรือยัง”

“เลดีขึ้นมากแล้ว”

“แล้วเป็นไง ทำไมวันนี้ได้มาหาคุณพ่อล่ะค่ะ >> คะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 09-01-2019 10:04:57
ชัดเจนว่าพ่อพี่ดีนคือพ่อเลแน่ ๆ แต่ทำไมแม่ซาร่าถึงต้องแต่งงานกับคนอื่นด้วยล่ะ แต่งเพราะธุรกิจครอบครัวหรือ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-01-2019 10:38:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 09-01-2019 13:14:54
จะใช่พ่อน้องเลมั้ยนะ  :hao5:
ไปสัญญาอะไรไว้กับคนที่บริหารอยู่  :ruready
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 09-01-2019 13:46:59
คุณพ่อนี่หลงน้องเลหนักเลยนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 09-01-2019 17:24:30
คุณพ่ออออ :hao7: :hao7: รับลูกสะไภ้ให้พี่ดีนมั้ยคะ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-01-2019 18:03:44
ใช่ ใช่มะ หรือไม่ใช่  :hao4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 09-01-2019 20:52:40
ใช่ ใช่ม่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 09-01-2019 21:09:52
สนุกมากคัฟรอติดตามเสมอคัฟ :call:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 12-01-2019 12:27:51


#42 (40%)



แอด

“กลับมาแล้วเหรอ” ผมเอ่ยทักพี่ฮิมที่เดินเข้ามาในห้อง ร่างสูงเดินดุ่มๆ มาที่เตียงก่อนจะล้มตัวนอนทับผม “อื้อ หนักจัง! หือ ฮิมดื่มมาเหรอ”

ถามเพราะได้กลิ่นแอลกอฮอล์ พี่ฮิมพยักหน้า

“นิดหน่อยครับ” ผมขย้ำกลุ่มผมนุ่มเล่น คนที่นอนทับพุงเลอยู่ก็เลยเงยหน้าขึ้นแล้วพุ่งเข้ามาจูบริมฝีปาก มือหนาเลื่อนลงล่าง รูดซิบกางเกงของเลลง ผมรีบจับมือฮิมเอาไว้ก่อนที่มันจะเกินไปมากกว่านั้น

“พี่ฮิม น้องยังไม่ได้อาบน้ำ” คนติดกลิ่นแอลกอฮอล์ไซร้คอเลทีนึงก่อนจะผละออก ไปถอดเสื้อผ้าจนร่างกายเปล่าเปลือย ผมมองตามว่าฮิมจะทำอะไรจนกระทั่งเขาเดินเข้ามาอุ้มผมไปยังห้องน้ำ “ทำอะไรเหรอ”

“อาบน้ำ”​ ปากว่ามือถอดเสื้อผ้าของผมออกจนหมด น่าแปลกที่หลังจากนั้นฮิมไม่ได้พาไปที่อ่างแต่พาไปที่ฝักบัว เปิดก๊อกน้ำแล้วประกบริมฝีปากอีกครั้งหนึ่ง ผมถูกดันแผ่นหลังติดกำแพง ยกมือยึดบ่าหนาเป็นที่ค้ำ ขณะเดียวกันที่พี่ฮิมแทรกเข่าเข้ามาระหว่างขาทั้งสองข้าง ออกแรงยกขึ้นให้เท้าเลลอยเหนือพื้นจนเริ่มรู้สึกเสียวท้องน้อยวูบวาบ

จูบเร่าร้อนกินเวลานานกว่าสิบนาที จนตัวเลเปียกไปหมดเพราะน้ำจากฝักบัวที่เปิดให้มันไหลสาดลงมา เขาปล่อยริมฝีปากผม มือหนาปิดน้ำ จับหันหลังก่อนจะบีบสบู่เหลวล้นมือแล้วนำเอาลูบตัวเล เริ่มจากไหล่ หน้าอก หน้าท้อง เอว สะโพก ต้นขาและลึกเข้ามาถึงด้านใน

“อื้อ! พี่ฮิม” สองนิ้วเรียวกดเข้ามาคว้านลึกจนผมมีอารมณ์ตอบรับ อีกฝ่ายบังคับให้ขาเรียวอ้ากว้างในท่ายืนโดยการถูไถแก่นกายเข้ากับร่องสวยใต้รูเล็ก ทำให้อยากแทบทนไม่ไหว “อยากได้ฮิม”

ความปรารถนาของผมถูกเติมเต็มเมื่อแก่นกายร้อนผ่าวค่อยๆ แทรกเข้ามาด้านใน คนด้านหลังทิ้งตัวทาบแนบแผ่นหลังเลพร้อมกับจูบซบที่หัวไหล่ เริ่มต้นขยับสะโพกไปด้วยจังหวะเนิบนาบ

มือของผมถูกจับไขว้หลัง แผ่นอกขาวเปลี่ยนไปเป็นตัวค้ำ ยอดดอกเสียดสีไปตามผนังยามที่ร่างสูงกระทบสะโพกเข้าใส่แรงและเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ดีจนอยากจะบ้า

เราใช้เวลาในห้องน้ำไม่นาน เพราะหลังจากที่เสร็จเซ็กส์ครั้งแรกจบลง พี่ฮิมก็หันมาอาบน้ำให้ผมแบบจริงๆ จังๆ พร้อมกับเช็ดตัวให้เสร็จสรรพ

คิดว่ามันจบแล้วสินะ เปล่าหรอก

เพราะเราไปต่อกันบนเตียง



กิจกรรมบนเตียงนานกินเวลายาวนานเกือบสามชั่วโมง เลถูกแกล้งให้เป็นฝ่ายขึ้นตักนั่งขย่มอยู่นานหลายนาที และท้ายที่สุดมันก็จบลงตรงที่เจ้าของกายขาวแทบสลบ เลหายใจรวยริน ขณะซบหน้าลงตรงอกกว้างของคนที่นั่งพิงผนังหัวเตียงพลางกรีดนิ้วไล่แผ่นหลังขาวเล่น ปลายจมูกโด่งคลอเคลียอยู่ที่กลุ่มผมน้ำตาลเข้มและกระหม่อมบาง ริมฝีปากจูบซับเหงื่อไคลให้อย่างใคร่รัก

“พี่จะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีเล” ประโยคเปิดหัวข้อสนทนา เป็นผลให้คนที่ใกล้หลับแต่ยังไม่หลับต้องลืมตาขึ้น

แว่วเสียงทุ้มเจือความกังวลจนคนฟังจับสัมผัสได้ มือบางยกขึ้นลูบไล้ไปตามโครงหน้าคม เลยืดตัวขึ้นจูบเข้าที่ปากของอีกฝ่าย บอกให้รู้ว่าเขายังอยู่ที่นี่ ตรงนี้

สัมผัสบางเบาแต่ลึกซึ้งทำให้ร่างสูงยิ้มออก ฮิมจับมือที่ทาบแก้มตัวเองเอาไว้ ดึงมันมาแนบจูบลงไปที่หลังมือพร้อมทั้งใช้ลิ้นไล่เลียเบาๆ ไปตามร่องนิ้วจนชื้นแฉะ ขณะที่น้องถอนจูบออกก่อนจะวกลับไปซบหน้าลงกับอกแกร่งแล้วปิดตาแน่น

“เลอยู่กับพี่ฮิม” เสียงนุ่มพึมพำ ขยับเขยื้อนตัวนอนทาบบนกายหนาของอีกคนอย่างเต็มที่ “ฮิมต้องอยู่กับเลนะ”

“ตลอดไปเลยครับ” ฮิมว่า ขณะจัดท่าให้คนตัวบางนอนบนร่างกายตัวเองได้ง่ายขึ้น

“ดีจัง” เลตอบกลับก่อนจะเงียบไป เขารู้ว่าน้องใกล้หลับเต็มทนจึงไม่ถามอะไรต่อ ร่างสูงลูบแผ่นหลังเนียนเป็นการกล่อมอีกฝ่ายให้หลับแทน ใช้เวลาไม่นานสุดอย่างก็เงียบ

เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเลหลับไปแล้ว

คนตัวสูงยังไม่ยอมนอนตาม นัยน์ตาคมแอบสำรวจร่างเล็กอีกพักหนึ่ง แสงจากด้านนอกลอดผ่านเข้ามาพอให้เห็นเป็นรางๆ เลตัวแดงกว่าปกติซึ่งเป็นผลมาจากความเอาแต่ใจของเขา รุกไล่ บีบขย้ำและทำรอยใส่แทบทุกที่ที่ริมฝีปากเคลื่อนไปถึง

พรึบ!

ผ้านวมถูกตวัดออก ฮิมหลุบตาลงมองสภาพต้นขาเรียวที่เต็มพร่างไปด้วยรอยจูบด้วยความพึ่งพอใจ นัยน์ตาคมตวัดกลับมามองที่ใบหน้าสวย แอบแกล้งน้องโดยการเอื้อมมือมาบีบแก้มนิ่มเข้าหากันจนคนหลับทำปากจู่เหมือนปลาปักเป้าแต่ถึงอย่างนั้นเลก็ยังน่ารักที่สุดอยู่ดี ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ เลไม่เคยน่าเกลียดในสายตาเขา ไม่เคย

มีแต่น่ารัก น่ารัก น่ารักเต็มไปหมด

ฮิมก้มลงจูบปากจ่อก่อนจะปล่อยมือออก อิงแนบศีรษะเข้ากับกลุ่มผมนุ่ม ประสานมือกับน้องเอาไว้แบบหลวมๆ ชั่ววินาทีเดียวปลายนิ้วของเขาสัมผัสนิ้วนางข้างซ้ายของอีกฝ่าย นิ้วเรียวไล่วนตรงนิ้วนางของอีกคนอยู่อย่างนั้น ปกติฮิมไม่เคยมีปัญหากับการที่เลไม่ใส่เครื่องประดับ พึ่งจะมารู้สึกว่านิ้วสวยๆ ของน้องมันออกจะว่างเปล่าเกินไป

ว่างเปล่าเกินไปจนอยากหาอะไรมาใส่ให้นิ้วนี้อย่างเช่นแหวน

ฮิมเคยบอกเลเอาไว้ว่าเขาอยากแต่งงานกับน้องหลังเรียนจบ เรียนจบที่ว่าไม่แน่ว่ามันอาจจะไม่ใช่ของน้องเลแต่เป็นเขาเรียนจบ นั่นก็ว่าเร็วแล้ว ทว่าหลังจากที่มีเรื่องเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน ฮิมถึงได้รู้สึกว่ามันยังเร็วไม่พอ

หลักฐานทุกอย่างบนกายขาวชี้ชัด เจ้าตัวเป็นเมียทางพฤตินัยของเขามาหลายต่อหลายครั้งแล้ว

อย่าถามถึงเรื่องความรู้สึก เลได้มันไปแล้วตั้งแต่อีกฝ่ายยังเป็นแค่เด็กอายุไม่ถึงสิบขวบเลยด้วยซ้ำ ฮิมหลงรักคนตรงหน้า รักแรกที่ยาวนานที่สุดและมั่นใจว่ามันจะเป็นรักสุดท้าย

เจ้าของกายหนานิ่งอยู่นานเพราะต้องใจความคิด สติเขาหลุดก็ตอนที่เลครางพร้อมกับบิดตัวเมื่อยเนื่องจากอยู่ในท่ากึ่งนั่่งกึ่งนอนมาเกือบหนึ่งชั่วโมง น้องงัวเงียตื่นแต่ไม่ได้พูดอะไร ร่างบางขยับออกจากตักเขาไปนอนราบปล่อยให้ฮิมนั่งพิงหลังกับหัวเตียงต่อ เลเงียบไปอีกจนเขาคิดว่าน้องหลับไปแล้ว ทว่าจู่ๆ คนที่น่าจะหลับก็ยืดตัวขึ้น ยื่นมือมาโอบคอเขาแล้วดึงให้นอนราบลงข้างกาย เลจับใบหน้าหล่อเหลาแนบเข้าอก สอดมือคลึงกลุ่มผมหนาพร้อมกับเอ่ยราตรีสวัสดิ์

“Sleep tight, babe” สรรพนามที่ไม่ค่อยถูกใช้แทนตัวฮิมส่งผลให้คนฟังเผยรอยยิ้ม เขากอดเอวคอดเอาไว้ ขยับตัวขึ้นจัดท่าสลับตำแหน่งให้น้องมาซบอกเขาแทน นัยน์ตาคมมองหน้าคนรัก

“เมียพี่” เสียงทุ้มกระซิบใส่ข้างหูก่อนจะหลับตาลง ไม่คิดอะไร

ฮิมตัดสินใจแล้ว



หลายวันต่อมา

“หรือพี่ฮิมจะมีกิ๊ก” สิ้นเสียงของผม ปลายสายที่กำลังคุยอยู่ก็ถอนหายใจดังชนิดที่ว่าไม่เกรงใจกันเลยสักนิดเดียว “อะไรเล่า! พี่วินอะ”

(เลอย่าคิดมาก)

“อือ เลคิดมาก แต่เลไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ อะ”

(ทำไมถึงคิดอย่างนั้น) ผมขมมวดคิ้ว นึกไปถึงช่วงหลายวันก่อน

“ก็พี่ฮิมทำตัวแปลกๆ”

(มันแปลกยังไง)

“ยิ้มเยอะ ไม่เครียดเลย ดูมีความสุขมากสุดๆ”

(แปลกตรงไหนวะ)

“ก็ปกติฮิมไม่เป็นแบบนี้นี่!” มันดูมีความสุข มีความสุขมากเกินไป ผมเคยถามว่ามีอะไรดีๆ เกิดขึ้นเหรออีกฝ่ายก็ให้คอตอบกลับมาว่า “พี่ฮิมบอกว่าธุรกิจที่มีปัญหาเริ่มราบรื่น ก็เลยมีความสุข”

(มีเหตุผลดีนี่ เลรู้ไม่ใช่เหรอว่าแฮมินตันช่วงนี้ก็กำลังมีปัญหาขัดแข้งกับคลาร์ก พึ่งออกข่าวว่าจะขึ้นศาลกันไป)

“ก็รู้” ตอนผมรู้ข่าว นามสกุลคู่แข่งที่คุ้นแสนคุ้นทำเอาผมตกใจ รีบโทรไปหาคุณพ่อของพี่ดีนแล้วก็ได้รับคำตอบมาว่าไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะดีขึ้นโดยที่แฮมินตันจะไม่เสียอะไร “แต่มันก็ไม่น่าจะมีความสุขได้มากขนาดนั้นไหม”

ได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือก ดังมาก! (น้องเล เรื่องอื่นพี่อาจจะเห็นด้วยแต่ถ้าคนมีความสุขแล้วไปหาว่าเขามีกิ๊กนี่มันออกจะยังไงอยู่นะ)

“ก็พี่วินไม่เข้าใจน้องอะ!” ผมอยู่กับพี่ฮิมมานานกว่าครึ่งชีวิตของผมซะอีก เข้าใจไหมว่ามันสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายต้องมีอะไรปิดบัง แต่ดันไม่มีหลักฐานสักอย่างที่จะทำให้ผมรู้ว่าพี่ฮิมกำลังปิดอะไรอยู่ บอกไปใครจะเชื่อเล่า “พี่วินก็ไม่เชื่อเลเหรอ!”

(ก็ไม่เชื่อ?) เสียงทุ้มทวนคำพูด ตรงจุดจนทำให้ผมขนลุก (เอาเรื่องนี้ไปพูดกับใครมาก่อนใช่ไหม)

“นิดหน่อย”

(ใคร?) ผมหน้าส่าย ไม่อยากบอกอย่างรุนแรงแต่ก็ต้องจำใจ

“พี่ดีน”

(เล!) น้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจดังตามมา (ญาติก็ไม่ใช่ พี่ก็ไม่ใช่ ไปคุยกับมันทำไม)

“ก็เลโทรหาพี่วินก่อนแล้ว แต่พี่วินไม่รับสายน้องนี่”

(กูทำงานอยู่)

“อือ รู้ไงก็เลยโทรไปคุยกับพี่ดีนก่อน”

(แล้วคำตอบที่ได้?)

“เหมือนๆ กันอะ” ไม่ใช่แค่เหมือนหรอก แต่แทบจะตรงกันเป๊ะเลยต่างหาก ความคิดของพี่ดีนกับพี่วินมักจะคล้ายกัน ในบางเรื่องก็คล้ายกันจนน่ากลัวด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดที่ว่าสองคนนี้ชอบกัดกันบ่อยๆ ผมคงคิดว่าพวกเขาแอบไปอยู่ด้วยกันแน่ๆ เพราะตอนนี้ทั้งคู่อยู่ที่ดูไบ พี่วินมีงานก่อสร้างที่นั่น ส่วนพี่ดีนก็พึ่งบินไปจัดการเรื่องเพชรเมื่อสามวันก่อน

(กังวลเหรอ) คำถามเผยความในใจ ผมพยักหน้าแม้ว่าคนปลายสายจะไม่เห็น พี่วินเหมือนจะรู้ว่าเลคิดอะไรอยู่ คำพูดของอีกฝ่ายช่วยทำให้ผมคิดได้เสมอ (พี่อาจจะไม่ได้ชอบไอ้ฮิมจนเชื่อทุกคำพูดของมันแบบเลไปซะทุกเรื่อง แต่มีเรื่องหนึ่งที่พี่เชื่อมันมากคือมันรักเล)

“อือ เลรู้”

(งั้นก็เชื่อใจ) ผมพยักหน้า ขี้เกียจคิดแล้ว ฟังพี่วินแล้วเชื่อใจพี่ฮิมถึงจะรู้สึกว่ามีอะไรคาราคาซังบ้างก็เถอะ

โทรศัพท์ขึ้นว่ามีสายแทรก เป็นเบอร์ของคนที่เป็นตัวต้นบทสนทนา

“พี่วินเลมีสายแทรก”

(งั้นแค่นี้แหละ มีไรโทรหากูแล้วกัน)

“จ้ะ” ผมตัดสายพี่วินแล้วกดรับสายพี่ฮิม

(รับช้าจัง พึ่งตื่นเหรอครับ)

“ตื่นนานแล้ว เมื่อกี้เลคุยกับพี่วินอยู่” ผมบอกความจริง ขณะเอนตัวทิ้งลงบนเตียง เงยหน้ามองเพดาน “ฮิมมีไรเหรอ”

(มากินข้าวกับพี่หน่อย) ยกโทรศัพท์ออกจากหูแล้วดูเวลา ใกล้เที่ยงแล้ว (พี่ส่งคนไปรับเลแล้ว รถรออยู่ที่หน้าบ้าน)

ผมถึงกับขมวดเมื่อได้ยิน บริการดีแบบนี้แสดงว่าอยากให้ไปมาก สงสัยจนต้องเอ่ยปากถาม

“มีอะไรพิเศษหรือเปล่า”

(ฉลองเงินหมื่นล้านให้น้องเลก่อนล่ะมั้ง) เลร้องอ๋อในใจ วันนี้ปัญหาธุรกิจน้ำมันระกว่างแฮมินตันกับคลาร์กขึ้นศาลกันวันนี้ ถ้าแฮมินตันชนะ เงินจำนวนมหาศาลที่ทุกคนอดทนต่อสู้กันมาก็จะกลายเป็นของเล ผมแทบวิ่งไปกอดพี่ฮิมและคุณพ่อฮิมอยู่แล้วตอนที่ได้รู้ว่า หลายสัปดาห์ที่เห็นทั้งสองกลับบ้านดึกเพราะทำงานหนักนั่น ทุกอย่างทำเพื่อผม

“เลต้องแต่งตัวดีๆ ไหม” ถามเสียงเบาเพื่อความแน่ใจ

(ขอน่ารักๆ)

“โอเคแล้วเจอกัน” ผมกดวางสายพี่ฮิม รีบลุกขึ้นไปแต่งตัวจากนั้นจึงเดินลงไปขึ้นรถที่จอดรอด้านล่าง “โอ้โห้”

ผมอ้าปากค้าง มองรถสปอร์ตคันหรูและคนขับที่ใส่ชุดทักซิโด้ยืนรออยู่ เริ่มรู้สึกว่าจะเป็นงานสำคัญจนต้องก้มลงมองตัวเอง เสื้อฮู้ดสีเหลืองกับกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาลอ่อน

แบบนี้น่ารักไหมหว่า

ตอนที่กำลังคิดว่าควรจะเปลี่ยนชุดดีไหม คนขับรถก็เดินไปเปิดประตู ส่วนผมเดินเข้าไปนั่งอย่างว่าง่าย

ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นเราก็ออกเดินทาง ผมกดโทรหาพี่ฮิมเพื่อที่จะรายงานอีกฝ่ายว่าออกจากบ้านแล้ว และเมื่อปลายสายกดรับ

“พี่ฮิม เลออกมะ--ปัง!

สติของผมก็ดับวูบลงไปในทันที







(40%)

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ใจเย็น มันอาจจะไม่มีอะไรก็ด้ายย ตุ้งแช่งี้ แฮ่!


#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 12-01-2019 12:56:50
ว้าย เกิดอะไรขึ้น :serius2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 12-01-2019 15:44:51
 :a5:   :a5:   :a5:  หัวใจวายทันทีที่อ่านจบตอนนี้  o22 o22  o22 ถ้าไม่รีบมาต่ออีกที่เหลือ เราคง  :katai1:   :katai1:   :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-01-2019 16:24:39
กรี๊ดดด ตัดจบแบบนี้
เกิดอะไรขึ้นนน  :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 12-01-2019 19:52:43
อย่างค้างงง :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 12-01-2019 22:48:19
ม่ายยยยยยยยยยยยใครทำอะไรน้องอีกแล้ววววววววววววววว
คนร้ายเหรอออออออออ หนอนบ่อนไส้เหรออ
แง้สงสารน้องงง อย่าแกล้งน้องอีกเลยยยยย  :serius2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 12-01-2019 23:17:12
หื้มมมมมม​ น้องง :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: aiiya ที่ 26-01-2019 16:24:07
ไรท์มาต่ออีกน้า หายไปนานแล้วค่ะ คิดถึงน้องเล :mew6:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 21-02-2019 20:04:13
ตัดจบแบบ...ขัดใจจจจจ
คิดถึงแล้วนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 21-02-2019 23:10:15
ทำไมทำร้ายกันแบบนี้  รอตอนต่อไป  :pig4:
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 060318#42 p.55
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 06-03-2019 00:21:10


#42



แอด

“กลับมาแล้วเหรอ” ผมเอ่ยทักพี่ฮิมที่เดินเข้ามาในห้อง ร่างสูงเดินดุ่มๆ มาที่เตียงก่อนจะล้มตัวนอนทับผม “อื้อ หนักจัง! หือ ฮิมดื่มมาเหรอ”

ถามเพราะได้กลิ่นแอลกอฮอล์ พี่ฮิมพยักหน้า

“นิดหน่อยครับ” ผมขย้ำกลุ่มผมนุ่มเล่น คนที่นอนทับพุงเลอยู่ก็เลยเงยหน้าขึ้นแล้วพุ่งเข้ามาจูบริมฝีปาก มือหนาเลื่อนลงล่าง รูดซิบกางเกงของเลลง ผมรีบจับมือฮิมเอาไว้ก่อนที่มันจะเกินไปมากกว่านั้น

“พี่ฮิม น้องยังไม่ได้อาบน้ำ” คนติดกลิ่นแอลกอฮอล์ไซร้คอเลทีนึงก่อนจะผละออก ไปถอดเสื้อผ้าจนร่างกายเปล่าเปลือย ผมมองตามว่าฮิมจะทำอะไรจนกระทั่งเขาเดินเข้ามาอุ้มผมไปยังห้องน้ำ “ทำอะไรเหรอ”

“อาบน้ำ”​ ปากว่ามือถอดเสื้อผ้าของผมออกจนหมด น่าแปลกที่หลังจากนั้นฮิมไม่ได้พาไปที่อ่างแต่พาไปที่ฝักบัว เปิดก๊อกน้ำแล้วประกบริมฝีปากอีกครั้งหนึ่ง ผมถูกดันแผ่นหลังติดกำแพง ยกมือยึดบ่าหนาเป็นที่ค้ำ ขณะเดียวกันที่พี่ฮิมแทรกเข่าเข้ามาระหว่างขาทั้งสองข้าง ออกแรงยกขึ้นให้เท้าเลลอยเหนือพื้นจนเริ่มรู้สึกเสียวท้องน้อยวูบวาบ

จูบเร่าร้อนกินเวลานานกว่าสิบนาที จนตัวเลเปียกไปหมดเพราะน้ำจากฝักบัวที่เปิดให้มันไหลสาดลงมา เขาปล่อยริมฝีปากผม มือหนาปิดน้ำ จับหันหลังก่อนจะบีบสบู่เหลวล้นมือแล้วนำเอาลูบตัวเล เริ่มจากไหล่ หน้าอก หน้าท้อง เอว สะโพก ต้นขาและลึกเข้ามาถึงด้านใน

“อื้อ! พี่ฮิม” สองนิ้วเรียวกดเข้ามาคว้านลึกจนผมมีอารมณ์ตอบรับ อีกฝ่ายบังคับให้ขาเรียวอ้ากว้างในท่ายืนโดยการถูไถแก่นกายเข้ากับร่องสวยใต้รูเล็ก ทำให้อยากแทบทนไม่ไหว “อยากได้ฮิม”

ความปรารถนาของผมถูกเติมเต็มเมื่อแก่นกายร้อนผ่าวค่อยๆ แทรกเข้ามาด้านใน คนด้านหลังทิ้งตัวทาบแนบแผ่นหลังเลพร้อมกับจูบซบที่หัวไหล่ เริ่มต้นขยับสะโพกไปด้วยจังหวะเนิบนาบ

มือของผมถูกจับไขว้หลัง แผ่นอกขาวเปลี่ยนไปเป็นตัวค้ำ ยอดดอกเสียดสีไปตามผนังยามที่ร่างสูงกระทบสะโพกเข้าใส่แรงและเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ดีจนอยากจะบ้า

เราใช้เวลาในห้องน้ำไม่นาน เพราะหลังจากที่เสร็จเซ็กส์ครั้งแรกจบลง พี่ฮิมก็หันมาอาบน้ำให้ผมแบบจริงๆ จังๆ พร้อมกับเช็ดตัวให้เสร็จสรรพ

คิดว่ามันจบแล้วสินะ เปล่าหรอก

เพราะเราไปต่อกันบนเตียง



กิจกรรมบนเตียงนานกินเวลายาวนานเกือบสามชั่วโมง เลถูกแกล้งให้เป็นฝ่ายขึ้นตักนั่งขย่มอยู่นานหลายนาที และท้ายที่สุดมันก็จบลงตรงที่เจ้าของกายขาวแทบสลบ เลหายใจรวยริน ขณะซบหน้าลงตรงอกกว้างของคนที่นั่งพิงผนังหัวเตียงพลางกรีดนิ้วไล่แผ่นหลังขาวเล่น ปลายจมูกโด่งคลอเคลียอยู่ที่กลุ่มผมน้ำตาลเข้มและกระหม่อมบาง ริมฝีปากจูบซับเหงื่อไคลให้อย่างใคร่รัก

“พี่จะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีเล” ประโยคเปิดหัวข้อสนทนา เป็นผลให้คนที่ใกล้หลับแต่ยังไม่หลับต้องลืมตาขึ้น

แว่วเสียงทุ้มเจือความกังวลจนคนฟังจับสัมผัสได้ มือบางยกขึ้นลูบไล้ไปตามโครงหน้าคม เลยืดตัวขึ้นจูบเข้าที่ปากของอีกฝ่าย บอกให้รู้ว่าเขายังอยู่ที่นี่ ตรงนี้

สัมผัสบางเบาแต่ลึกซึ้งทำให้ร่างสูงยิ้มออก ฮิมจับมือที่ทาบแก้มตัวเองเอาไว้ ดึงมันมาแนบจูบลงไปที่หลังมือพร้อมทั้งใช้ลิ้นไล่เลียเบาๆ ไปตามร่องนิ้วจนชื้นแฉะ ขณะที่น้องถอนจูบออกก่อนจะวกลับไปซบหน้าลงกับอกแกร่งแล้วปิดตาแน่น

“เลอยู่กับพี่ฮิม” เสียงนุ่มพึมพำ ขยับเขยื้อนตัวนอนทาบบนกายหนาของอีกคนอย่างเต็มที่ “ฮิมต้องอยู่กับเลนะ”

“ตลอดไปเลยครับ” ฮิมว่า ขณะจัดท่าให้คนตัวบางนอนบนร่างกายตัวเองได้ง่ายขึ้น

“ดีจัง” เลตอบกลับก่อนจะเงียบไป เขารู้ว่าน้องใกล้หลับเต็มทนจึงไม่ถามอะไรต่อ ร่างสูงลูบแผ่นหลังเนียนเป็นการกล่อมอีกฝ่ายให้หลับแทน ใช้เวลาไม่นานสุดอย่างก็เงียบ

เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเลหลับไปแล้ว

คนตัวสูงยังไม่ยอมนอนตาม นัยน์ตาคมแอบสำรวจร่างเล็กอีกพักหนึ่ง แสงจากด้านนอกลอดผ่านเข้ามาพอให้เห็นเป็นรางๆ เลตัวแดงกว่าปกติซึ่งเป็นผลมาจากความเอาแต่ใจของเขา รุกไล่ บีบขย้ำและทำรอยใส่แทบทุกที่ที่ริมฝีปากเคลื่อนไปถึง

พรึบ!

ผ้านวมถูกตวัดออก ฮิมหลุบตาลงมองสภาพต้นขาเรียวที่เต็มพร่างไปด้วยรอยจูบด้วยความพึ่งพอใจ นัยน์ตาคมตวัดกลับมามองที่ใบหน้าสวย แอบแกล้งน้องโดยการเอื้อมมือมาบีบแก้มนิ่มเข้าหากันจนคนหลับทำปากจู่เหมือนปลาปักเป้าแต่ถึงอย่างนั้นเลก็ยังน่ารักที่สุดอยู่ดี ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ เลไม่เคยน่าเกลียดในสายตาเขา ไม่เคย

มีแต่น่ารัก น่ารัก น่ารักเต็มไปหมด

ฮิมก้มลงจูบปากจ่อก่อนจะปล่อยมือออก อิงแนบศีรษะเข้ากับกลุ่มผมนุ่ม ประสานมือกับน้องเอาไว้แบบหลวมๆ ชั่ววินาทีเดียวปลายนิ้วของเขาสัมผัสนิ้วนางข้างซ้ายของอีกฝ่าย นิ้วเรียวไล่วนตรงนิ้วนางของอีกคนอยู่อย่างนั้น ปกติฮิมไม่เคยมีปัญหากับการที่เลไม่ใส่เครื่องประดับ พึ่งจะมารู้สึกว่านิ้วสวยๆ ของน้องมันออกจะว่างเปล่าเกินไป

ว่างเปล่าเกินไปจนอยากหาอะไรมาใส่ให้นิ้วนี้อย่างเช่นแหวน

ฮิมเคยบอกเลเอาไว้ว่าเขาอยากแต่งงานกับน้องหลังเรียนจบ เรียนจบที่ว่าไม่แน่ว่ามันอาจจะไม่ใช่ของน้องเลแต่เป็นเขาเรียนจบ นั่นก็ว่าเร็วแล้ว ทว่าหลังจากที่มีเรื่องเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน ฮิมถึงได้รู้สึกว่ามันยังเร็วไม่พอ

หลักฐานทุกอย่างบนกายขาวชี้ชัด เจ้าตัวเป็นเมียทางพฤตินัยของเขามาหลายต่อหลายครั้งแล้ว

อย่าถามถึงเรื่องความรู้สึก เลได้มันไปแล้วตั้งแต่อีกฝ่ายยังเป็นแค่เด็กอายุไม่ถึงสิบขวบเลยด้วยซ้ำ ฮิมหลงรักคนตรงหน้า รักแรกที่ยาวนานที่สุดและมั่นใจว่ามันจะเป็นรักสุดท้าย

เจ้าของกายหนานิ่งอยู่นานเพราะต้องใจความคิด สติเขาหลุดก็ตอนที่เลครางพร้อมกับบิดตัวเมื่อยเนื่องจากอยู่ในท่ากึ่งนั่่งกึ่งนอนมาเกือบหนึ่งชั่วโมง น้องงัวเงียตื่นแต่ไม่ได้พูดอะไร ร่างบางขยับออกจากตักเขาไปนอนราบปล่อยให้ฮิมนั่งพิงหลังกับหัวเตียงต่อ เลเงียบไปอีกจนเขาคิดว่าน้องหลับไปแล้ว ทว่าจู่ๆ คนที่น่าจะหลับก็ยืดตัวขึ้น ยื่นมือมาโอบคอเขาแล้วดึงให้นอนราบลงข้างกาย เลจับใบหน้าหล่อเหลาแนบเข้าอก สอดมือคลึงกลุ่มผมหนาพร้อมกับเอ่ยราตรีสวัสดิ์

“Sleep tight, babe” สรรพนามที่ไม่ค่อยถูกใช้แทนตัวฮิมส่งผลให้คนฟังเผยรอยยิ้ม เขากอดเอวคอดเอาไว้ ขยับตัวขึ้นจัดท่าสลับตำแหน่งให้น้องมาซบอกเขาแทน นัยน์ตาคมมองหน้าคนรัก

“เมียพี่” เสียงทุ้มกระซิบใส่ข้างหูก่อนจะหลับตาลง ไม่คิดอะไร

ฮิมตัดสินใจแล้ว



หลายวันต่อมา

“หรือพี่ฮิมจะมีกิ๊ก” สิ้นเสียงของผม ปลายสายที่กำลังคุยอยู่ก็ถอนหายใจดังชนิดที่ว่าไม่เกรงใจกันเลยสักนิดเดียว “อะไรเล่า! พี่วินอะ”

(เลอย่าคิดมาก)

“อือ เลคิดมาก แต่เลไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ อะ”

(ทำไมถึงคิดอย่างนั้น) ผมขมมวดคิ้ว นึกไปถึงช่วงหลายวันก่อน

“ก็พี่ฮิมทำตัวแปลกๆ”

(มันแปลกยังไง)

“ยิ้มเยอะ ไม่เครียดเลย ดูมีความสุขมากสุดๆ”

(แปลกตรงไหนวะ)

“ก็ปกติฮิมไม่เป็นแบบนี้นี่!” มันดูมีความสุข มีความสุขมากเกินไป ผมเคยถามว่ามีอะไรดีๆ เกิดขึ้นเหรออีกฝ่ายก็ให้คอตอบกลับมาว่า “พี่ฮิมบอกว่าธุรกิจที่มีปัญหาเริ่มราบรื่น ก็เลยมีความสุข”

(มีเหตุผลดีนี่ เลรู้ไม่ใช่เหรอว่าแฮมินตันช่วงนี้ก็กำลังมีปัญหาขัดแข้งกับคลาร์ก พึ่งออกข่าวว่าจะขึ้นศาลกันไป)

“ก็รู้” ตอนผมรู้ข่าว นามสกุลคู่แข่งที่คุ้นแสนคุ้นทำเอาผมตกใจ รีบโทรไปหาคุณพ่อของพี่ดีนแล้วก็ได้รับคำตอบมาว่าไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะดีขึ้นโดยที่แฮมินตันจะไม่เสียอะไร “แต่มันก็ไม่น่าจะมีความสุขได้มากขนาดนั้นไหม”

ได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือก ดังมาก! (น้องเล เรื่องอื่นพี่อาจจะเห็นด้วยแต่ถ้าคนมีความสุขแล้วไปหาว่าเขามีกิ๊กนี่มันออกจะยังไงอยู่นะ)

“ก็พี่วินไม่เข้าใจน้องอะ!” ผมอยู่กับพี่ฮิมมานานกว่าครึ่งชีวิตของผมซะอีก เข้าใจไหมว่ามันสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายต้องมีอะไรปิดบัง แต่ดันไม่มีหลักฐานสักอย่างที่จะทำให้ผมรู้ว่าพี่ฮิมกำลังปิดอะไรอยู่ บอกไปใครจะเชื่อเล่า “พี่วินก็ไม่เชื่อเลเหรอ!”

(ก็ไม่เชื่อ?) เสียงทุ้มทวนคำพูด ตรงจุดจนทำให้ผมขนลุก (เอาเรื่องนี้ไปพูดกับใครมาก่อนใช่ไหม)

“นิดหน่อย”

(ใคร?) ผมหน้าส่าย ไม่อยากบอกอย่างรุนแรงแต่ก็ต้องจำใจ

“พี่ดีน”

(เล!) น้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจดังตามมา (ญาติก็ไม่ใช่ พี่ก็ไม่ใช่ ไปคุยกับมันทำไม)

“ก็เลโทรหาพี่วินก่อนแล้ว แต่พี่วินไม่รับสายน้องนี่”

(กูทำงานอยู่)

“อือ รู้ไงก็เลยโทรไปคุยกับพี่ดีนก่อน”

(แล้วคำตอบที่ได้?)

“เหมือนๆ กันอะ” ไม่ใช่แค่เหมือนหรอก แต่แทบจะตรงกันเป๊ะเลยต่างหาก ความคิดของพี่ดีนกับพี่วินมักจะคล้ายกัน ในบางเรื่องก็คล้ายกันจนน่ากลัวด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดที่ว่าสองคนนี้ชอบกัดกันบ่อยๆ ผมคงคิดว่าพวกเขาแอบไปอยู่ด้วยกันแน่ๆ เพราะตอนนี้ทั้งคู่อยู่ที่ดูไบ พี่วินมีงานก่อสร้างที่นั่น ส่วนพี่ดีนก็พึ่งบินไปจัดการเรื่องเพชรเมื่อสามวันก่อน

(กังวลเหรอ) คำถามเผยความในใจ ผมพยักหน้าแม้ว่าคนปลายสายจะไม่เห็น พี่วินเหมือนจะรู้ว่าเลคิดอะไรอยู่ คำพูดของอีกฝ่ายช่วยทำให้ผมคิดได้เสมอ (พี่อาจจะไม่ได้ชอบไอ้ฮิมจนเชื่อทุกคำพูดของมันแบบเลไปซะทุกเรื่อง แต่มีเรื่องหนึ่งที่พี่เชื่อมันมากคือมันรักเล)

“อือ เลรู้”

(งั้นก็เชื่อใจ) ผมพยักหน้า ขี้เกียจคิดแล้ว ฟังพี่วินแล้วเชื่อใจพี่ฮิมถึงจะรู้สึกว่ามีอะไรคาราคาซังบ้างก็เถอะ

โทรศัพท์ขึ้นว่ามีสายแทรก เป็นเบอร์ของคนที่เป็นตัวต้นบทสนทนา

“พี่วินเลมีสายแทรก”

(งั้นแค่นี้แหละ มีไรโทรหากูแล้วกัน)

“จ้ะ” ผมตัดสายพี่วินแล้วกดรับสายพี่ฮิม

(รับช้าจัง พึ่งตื่นเหรอครับ)

“ตื่นนานแล้ว เมื่อกี้เลคุยกับพี่วินอยู่” ผมบอกความจริง ขณะเอนตัวทิ้งลงบนเตียง เงยหน้ามองเพดาน “ฮิมมีไรเหรอ”

(มากินข้าวกับพี่หน่อย) ยกโทรศัพท์ออกจากหูแล้วดูเวลา ใกล้เที่ยงแล้ว (พี่ส่งคนไปรับเลแล้ว รถรออยู่ที่หน้าบ้าน)

ผมถึงกับขมวดเมื่อได้ยิน บริการดีแบบนี้แสดงว่าอยากให้ไปมาก สงสัยจนต้องเอ่ยปากถาม

“มีอะไรพิเศษหรือเปล่า”

(ฉลองเงินหมื่นล้านให้น้องเลก่อนล่ะมั้ง) เลร้องอ๋อในใจ วันนี้ปัญหาธุรกิจน้ำมันระกว่างแฮมินตันกับคลาร์กขึ้นศาลกันวันนี้ ถ้าแฮมินตันชนะ เงินจำนวนมหาศาลที่ทุกคนอดทนต่อสู้กันมาก็จะกลายเป็นของเล ผมแทบวิ่งไปกอดพี่ฮิมและคุณพ่อฮิมอยู่แล้วตอนที่ได้รู้ว่า หลายสัปดาห์ที่เห็นทั้งสองกลับบ้านดึกเพราะทำงานหนักนั่น ทุกอย่างทำเพื่อผม

“เลต้องแต่งตัวดีๆ ไหม” ถามเสียงเบาเพื่อความแน่ใจ

(ขอน่ารักๆ)

“โอเคแล้วเจอกัน” ผมกดวางสายพี่ฮิม รีบลุกขึ้นไปแต่งตัวจากนั้นจึงเดินลงไปขึ้นรถที่จอดรอด้านล่าง “โอ้โห้”

ผมอ้าปากค้าง มองรถสปอร์ตคันหรูและคนขับที่ใส่ชุดทักซิโด้ยืนรออยู่ เริ่มรู้สึกว่าจะเป็นงานสำคัญจนต้องก้มลงมองตัวเอง เสื้อฮู้ดสีเหลืองกับกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาลอ่อน

แบบนี้น่ารักไหมหว่า

ตอนที่กำลังคิดว่าควรจะเปลี่ยนชุดดีไหม คนขับรถก็เดินไปเปิดประตู ส่วนผมเดินเข้าไปนั่งอย่างว่าง่าย

ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นเราก็ออกเดินทาง ผมกดโทรหาพี่ฮิมเพื่อที่จะรายงานอีกฝ่ายว่าออกจากบ้านแล้ว และเมื่อปลายสายกดรับ

“พี่ฮิม เลออกมะ--ปัง!”

สติของผมก็ดับวูบลงไปในทันที



หลายนาทีก่อนหน้า

ฮิมชอบสีดำ แต่วันนี้เขาอยู่ในชุดสูทสีขาว ทุกอย่างขาวล้วนแม้กระทั่งเนคไท ไม่ใช่แค่ชุดแต่บรรยากาศโดยรอบก็เช่นกัน ร้านอาหารสุดหรูระดับห้าดาวถูกเหมายกร้าน ทั่วทุกบริเวณถูกตกแต่งใหม่ด้วยโทนขาวหรือสีจำพวกสว่างสดใส ทุกอย่างนี้จัดขึ้นวันธรรมดาที่เขาจะสร้างมันขึ้นมาให้กลายเป็นวันพิเศษเมื่อเลมาถึง

ร่างสูงยกโทรศัพท์แนบหู รอนานกว่าปกติก่อนที่ปลายสายจะรับ

“รับช้าจัง พึ่งตื่นเหรอครับ” เขาเดา เพราะวันนี้เลไม่น่าจะออกไปไหน ถึงอยากออกไปก็ไปไม่ได้ เขาเตรียมคนเจาะยางรถทุกคันในบ้านเอาไว้แล้วถ้าเกิดทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน

(ตื่นนานแล้ว เมื่อกี้เลคุยกับพี่วินอยู่) น้องว่า (ฮิมมีอะไรเหรอ)

“มากินข้าวกับพี่หน่อย” เขาเริ่มเรื่อง “พี่ส่งคนไปรับเลแล้ว รถรออยู่ที่หน้าบ้าน”

น้องเงียบไปสักพักแล้วถามกลับด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ

(มีอะไรพิเศษหรือเปล่า)

ฮิมหัวเราะในลำคอ หยิบกล่องสีดำกำมะหยี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกง ตอบคำถามของปลายสายด้วยน้ำเสียงติดตลก “ฉลองเงินหมื่นล้านให้น้องเลก่อนล่ะมั้ง”

กายหนาลุกขึ้นยืนพิงผนัง นิ้วเรียวดันให้กล่องเปิดออก บางอย่างด้านในสะท้อนแสงวิบวับกับผ้ากำมะหยี่สีดำอย่างเห็นได้ชัด

แหวนสีเงินสว่าง มีเพชรเปล่งประกายอยู่ใจกลาง ด้านในสลักชื่อของคนที่จะมาเป็นเจ้าของแหวนวงนี้

LAY

(เลต้องแต่งตัวดีๆ ไหม)

“ขอน่ารักๆ” เขาปิดฝากล่องลง เก็บมันเข้ากระเป๋ากางเกงดังเดิม

(โอเคแล้วเจอกัน) ทางนั้นว่าก่อนจะตัดสายไป ร่างสูงกวาดสายตาสำรวจทุกอย่างรอบกายก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ตอนนี้ทำได้แค่รอให้น้องมาถึง จากนั้นจึงจะเริ่มแผนการ

เขาจะขอเลแต่งงาน

คิดดีแล้ว ผู้ใหญ่รับรู้ รวมถึงพี่ชายสุดที่รักของน้องเลด้วยเช่นกัน วินอยู่ที่อังกฤษ มันคงยังไม่ได้บอกเลและปล่อยให้น้องเข้าใจอีกฝ่ายยังอยู่ที่ดูไบ น่าจะโผล่มาเซอร์ไพรส์หลังจากที่ฮิมขอเสร็จ ตอนนั้นแม่กับพ่อของเขาก็จะแวะมาฉลองด้วยพอดี เนื่องจากตอนนี้ท่านประธานแฮมินตันยังติดธุระอยู่ที่ศาลเรื่องน้ำมัน แต่ทางเรามีโอกาสชนะสูงมาก เขาจึงไม่กังวลอะไร

ที่กังวลก็จะมีแต่คำตอบของเล ฮิมมั่นใจพอสมควรว่าน้องจะตอบตกลง แต่ถ้าคำตอบไม่ใช่อย่างที่คิด บอกตามตรงถึงเป็นฮิมก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำตอบของเล

ครืด

โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นอีกครั้งหนึ่ง ฮิมกดรับอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าใครโทรมา

(พี่ฮิม เลออกมะ-- ปัง!)

เสียงดังปังก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงทำให้คนฟังรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลัง เขารู้สึกไม่ดี ไม่ดีเอามากๆ

“เลครับ”

(...)

“เล น้องเล” เสียงทุ้มสั่น ความกลัวแผ่ซ่านเข้าจิตใจเมื่อปลายสายไม่ตอบกลับ “ที่รัก”

(...)

“เลตอบพี่หน่อย!”

(มันสลบ เราชนแรงเกินไป เอาไงต่อดี…  มึงก็จับมันมัดดิวะ!)

“...”

(โคตรน่ารัก ถูกมัดแบบนี้อีก หุ่นด้วยแม่ง เฮ้ย! ขอมีอะไรกับมันก่อนได้ไหมวะ)

“...”

(ไม่ได้! เร็วหน่อย เกิดศาลตัดสินว่าให้คลาร์กแพ้ก่อนเราตายแน่)

คนฟังเสียงผ่านโทรศัพท์นิ่งเงียบ ฮิมรับรู้และประมวลเรื่องราวทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ร่างสูงยืนนิ่งขณะที่ภายในไม่นิ่งเหมือนที่แสดงออกให้เห็น มือหนายกโทรศัพท์ออกจากหู ใบหน้าหล่อเหลาถมึงทึงอย่างน่ากลัว นัยน์ตาคมแดงก่ำ ลมหายใจขาดเป็นช่วงๆ ขณะที่กายหนาสั่นเทาเพราะความโกรธครั้งรุนแรงที่สุดที่เคยมีตั้งแต่ที่เขามีชีวิตมา

“พวกมึงกล้าทำเมียกู”





เครื่องบินส่วนตัวลำใหญ่บินเข้าสู่สนามบินฮีทโธรว์ ดีนเปิดโทรศัพท์ และทันทีที่เท้าของเขาเหยียบพื้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังลั่น ชื่อของปลายสายทำให้ดีนขมวดคิ้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังกดรับ

“มีไรวะ”

(ไหนมึงบอกว่าคลาร์กไม่เล่นสปรก) ฮิมทักทายเขาด้วยประโยคคำถาม เป็นคำถามที่ทำเอาคนที่พึ่งเหยียบแผ่นดินอังกฤษถึงกับมึนหัว รีบถามย้ำด้วยความไม่แน่ใจ

“มึงว่าอะไรนะ”

(เลถูกจับตัวไป) ประโยคเข้าประเด็นทำให้คนฟังนิ่งค้าง (แฟนกู เมียกู ทั้งชีวิตของกู)

“...”

(มึงได้ยินไหมว่าเมียกูถูกพวกมึงจับไป!!!) ปลายสายตะคอกเข้าให้ ดีนขมวดคิ้วเครียด เขารับรู้ได้ว่าฮิมโมโหมาก เชื่อว่าเรื่องนี้มันไม่ได้พูดเล่น แต่เพราะมันบอกว่าคลาร์กจับตัวน้องเลไปนั่นแหละที่เป็นปัญหา พ่อเขาไม่ชอบเล่นสกปรก โดยเฉพาะกับน้องเลนั่นยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ (กูให้เวลามึง 30 นาที บอกคำตอบมาว่าเลอยู่ไหน ถ้าไม่อย่างนั้นนอกจากล้มน้ำมัน ธุรกิจเพชรกูก็จะตามล้มพวกมึงต่อ)

“มึงมัั่นใจว่าเป็นคลาร์ก?”

(ไม่ใช่คลาร์ก ก็คนของคลาร์ก)

ดีนเงียบ ร่างสูงตัดสินใจ “กูจะคุยกับพ่อให้”





วันนี้เงียบสงบ

แอรอนคิดอย่างนั้น ร่างสูงนั่งจิบชาอยู่ในสวนดอกไม้หลังบ้าน ที่เงียบมาหลายวันก็เพราะช่วงนี้น้องเลไม่ค่อยเข้ามาหา จนรู้สึกเหงานิดหน่อย การที่น้องเลมาเล่นด้วยระยะหนึ่งเริ่มทำให้ชิน พอเด็กมันไม่มาแล้วก็เลยอดที่จะเหงาไม่ได้ ยิ่งเป็นเด็กรุ่นลูกแบบที่แอรอนอยากจะได้เป็นลูกแท้ๆ แล้วด้วยล่ะก็…

ช่างพูด ออดอ้อนเป็น เอาใจเก่ง น่ารักน่าชัง แทบจะตรงข้ามทุกอย่างกับลูกชายที่แท้จริงอย่างดีน แต่เอาเถอะ ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกยังไงเขาก็รักอยู่ดี

“นายท่านครับ” เลขาคนสนิทเดินเข้ามาวางแฟ้มหนึ่งลงบนโต๊ะ ขณะที่คนซึ่งนั่งจิบชาอยู่ปลายตามองแล้วถาม

“อธิบาย”

“ประวัติของคุณเลที่ท่านอยากได้”

“งั้นเหรอ ช่วงนี้ทำงานช้านะ” จำได้ว่าสั่งไปตั้งหลายวัน ทั้งๆ ที่ปกติไม่ว่างานนั้นมันจะใหญ่แค่ไหน ปีเตอร์สามารถทำให้มันสร็จได้ภายในสามวัน

“ขอโทษครับท่าน เราต้องตามหาคน แล้วยังต้องหาข้อมูล ตรวจข้อมูลให้มั่นใจว่าทุกเรื่องเป็นความจริง”

“แสดงว่ามีเรื่องน่าสนใจในประวัติน้องเลสินะ” เลขาของเขาพยักหน้า “เล่ามาสิ”

“คุณซาร่า แม่ของคุณเลต้องแต่งงานกับนายโนอาเพราะปัญหาทางธุรกิจของบ้านตัวเอง ภายหลังจากแต่งงานไม่ถึงสองเดือนก็ท้องซึ่งก็คือคุณเล”

“เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว ยังไงต่อ”

“พอคุณเลอายุได้สองขวบ ซาร่าก็เสียชีวิต ต่อจากนั้นไม่นานตระกูลของโนอาก็ดำเนินธุรกิจพลาด ย่อยยับแทบจะล้มละลายถ้าไม่ใช่เพราะแฮมินตันยอมซื้อเอาไว้ ถึงอย่างนั้นเงินที่ได้จากการขายธุรกิจตัวเองก็ถูกใช้ไปกับการจ่ายหนี้”

“แทบไม่เหลืออะไรเลย” เสียงทุ้มว่า พยักหน้าให้คนพูดๆ ต่อ “แล้วเลล่ะ”

“คุณเลถูกแฮมินตันเลี้ยงมาครับ” ประเด็นน่าสนใจทำให้มือหนาที่กำลังยกชาขึ้นดื่มถึงกับชะงัก “พวกโนอาขายบ้านและกระจัดกระจายกันไปที่อื่น พวกเขาทิ้งคุณเลเอาไว้”

“ทิ้งเอาไว้?”

“ครับ ทิ้งเอาไว้ในบ้านที่ขาย ยังดีที่วันนี้แฮมินตันมาเจอ พวกเขารับคุณเลไปเลี้ยง มีสิทธิ์เป็นผู้ปกครองตามกฎหมายและเลี้ยงดูคุณเลเป็นอย่างดี”

“แล้วฝ่ายแม่ของเลไปไหนหมด” แอรอนไม่พอใจ อาการแสดงให้เห็นได้ชัดจากสีหน้า

“คุณซาร่าเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่เสียตอนที่คุณเลอายุได้ขวบเดียว และญาติที่เหลือก็เป็นแค่ญาติห่างๆ ไม่สนิท พวกเขาเองก็คงไม่คิดว่าฝ่ายพ่อจะไม่เลี้ยงคุณเล”

“งั้นทำไม” เสียงทุ้มถาม “ทำไมไอ้โนอามันถึงทิ้งลูก”

ปีเตอร์เงียบ ดวงตาคมภายใต้กรอบแว่นหน้าเหล่มองแฟ้มบนโต๊ะที่ยังไม่ถูกเปิดอ่าน เขาไม่รู้ว่าควรจะไปเรื่องนี้ดีหรือไม่ เงียบไปนานจนเจ้านายถามย้ำ

“ฉันถามว่าทำไม” ร่างสูงที่ยืนอยู่ตัดสินใจยื่นมือไปหยิบแฟ้ม เปิดมันออกพร้อมกับวางลงบนโต๊ะอีกทีหนึ่ง

“เพราะคุณเลไม่ใช่ลูกของโนอาครับ” คนฟังชะงักพร้อมกับเบิกตากว้าง แอรอนมองหน้าเลขาคนสนิทก่อนจะหันไปมองเอกสารสำคัญบนโต๊ะ “นั่นคือเอกสารรับแพทย์ นายโนอาเป็นหมั้นตั้งแต่เกิด เขามีลูกไม่ได้”

“เล… ไม่ใช่ลูก… ของโนอา งั้นแฮมินตันเหรอ” เสียงทุ้มแหบแห้ง

“เจเดน แฮมินตันถึงจะเคยเป็นแฟนเก่าของคุณซาร่าก็ไม่ใช่พ่อของคุณเล เรื่องนี้พึ่งเป็นประเด็นเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนตอนที่คุณดีนพาคุณเลมาอยู่ที่นี่ก็เพราะเรื่องนี้ แต่ได้รับการตรวจและยันยืนแล้วว่าไม่ใช่” ปีเตอร์เอื้อมมือไปเปิดเอกสารหน้าถัดไป ใบรับรองแพทย์ใบที่สองวางอยู่ “อีกคนที่น่าจะเป็นพ่อของคุณเลคือนายปีรักษ์ เพื่อนสนิทของคุณซาร่า มีลูกด้วยกันชื่อวิน ตอนนี้เป็นพี่ชายต่างพ่อของคุณเล แต่ผมตรวจสอบแล้ว คุณซาร่าไปหาวินที่ไทยหลายครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเจอกันลบกับตอนที่คุณซาร่ารู้ว่าท้อง ระยะห่างของวันมันนานเกินไปที่จะทำให้นายปีรักษ์เป็นพ่อของคุณเล”

“นายหมายความว่ายังไงปีเตอร์”

“นายท่าน…” เจ้าของเสียงทุ้มรู้ว่าผู้เป็นนายคิดยังไง “คุณซาร่าท้องหลังจากแต่งงานได้สองเดือน ใบเกิดของคุณเลบอกว่าคลอดก่อนกำหนดสองเดือน แต่หลังจากที่ตามเราสืบมา เด็กตอนเกิดมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง คุณเลไม่ได้ถูกคลอดก่อนกำหนด”

“...”

“เธอท้องก่อนแต่ง เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากหมอที่คุณซาร่าไปฝากครรภ์ด้วย”

“...”

“และผู้ชายที่เป็นแฟนคนสุดท้ายก่อนที่คุณซาร่าจะแต่งงาน”

“...”

“ก็คือนายท่าน”

“นายจะบอกว่าฉันเป็นพ่อของเลใช่ไหมปีเตอร์”

“การแต่งงานของระหว่างโนอากับคุณซ่ารากะทันหันมาก ผมจำได้ว่านายท่านเลิกกับคุณซาร่าแค่เดือนเดียวก่อนที่เธอจะแต่งด้วยซ้ำ คุณเลคลอดก่อนกำหนดสองเดือนซึ่งไม่เป็นความจริง แสดงว่าก่อนที่คุณซาร่าจะแต่งงาน ในตอนนั้น…”

“เธอท้องแล้ว” แอรอนสรุป

ปีเตอร์พยักหน้ารับ ขณะที่ร่างสูงยังนั่งนิ่ง กายหนาเย็นเฉียบ เป็นครั้งแรกที่คนจบ MIT เกียรตินิยมอันดับหนึ่งรู้สึกว่าประมวลข้อมูลในสมองเริ่มไม่ทัน เพราะจับใจความได้แต่คำตอบ

เลเป็นลูกเขา เลเป็นลูก เลเป็นลูก น้องเลเป็นลูก

 “นายท่านยังไงนี้ก็ยังเป็นแค่ข้อสันนิฐาน ควรตรวจ DNA นะครับ”

“เลเป็นลูก ลูก! ลูก! ลูกฉันน่ารักจังวะปีเตอร์! น้องเล เลของคุณพ่อ!”

คงไม่ต้องแล้วสินะ

ปีเตอร์คิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป เขาพยักหน้ารับให้เจ้านายด้วยความยินดี ขณะที่ร่างสูงถึงกับยืนขึ้น กระโดดโลดเต้นในรอบเกือบ 20 ปีด้วยความดีใจ เขาพลอยยินดีกับเจ้านายไปด้วย เพราะตลอดสิบปีมานี้นายท่านใช้ชีวิตเหมือนคนไม่มีความสุข ยิ่งถ้าไม่มีคุณดีนแล้วด้วยล่ะก็ มันคงจะแย่กว่านี้

“ฉันอยากเจอน้องของดีน”

“เดี๋ยวผมเตรียมรถให้ครับ”

“ช้า เอาเฮลิคอปเตอร์ไปเลย”

“ครับท่าน” เสียงทุ้มว่าก่อนจะเดินออกไปเตรียมการ เป็นเวลาเดียวกันที่แอรอนได้รับโทรศัพท์ ลูกชายคนแรกของเขาโทรมา ร่างหนากำลังจะบอกข่าวดีว่าดีนมีน้องให้ลูกชายได้ฟัง ติดที่ว่าทางนั้นเองกลับบอกข่าวร้ายที่สุดในชีวิตให้เขาฟังเสียก่อน

(พ่อ เลถูกจับตัวไป)






(100%)






 #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์



หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 06-03-2019 00:45:44


#43



ดีนไม่เคยเห็นพ่อโกรธขนาดนี้มาก่อน ร่างสูงกำลังยืนคุยโทรศัพท์กับใครสักคน แต่ดูจากสีหน้าแล้ว เนื้อหาที่คุยคงไม่น่าอภิรมณ์นัก จนกระทั่งได้ข้อสรุป

“บอกที่อยู่ของเลมา แล้วฉันจะเซ็นยกบริษัทให้เป็นของแก” คนฟังเบิกตากว้าง จังหวะเดียวกันที่เครื่องแฟกซ์ปริ้นอะไรบางอย่างออกมา พ่อเขาเดินไปหยิบมันมาวางลงบนโต๊ะ หยิบปากกาเซ็นก่อนจะส่งแฟกซ์กลับไป “ฉันเซ็นให้แกแล้ว บอกมาว่าที่ไหน”

มือหนาจดอะไรบางอย่างลงกระดาษก่อนจะยื่นมันมาให้เขา แต่หลังจากนั้นไม่นานคนคุยโทรศัพท์อยู่ก็ถึงกับสบถออกมาเป็นคำหยาบ พ่อกดวางสายแล้วเร่งเดินไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์

“มีอะไรเหรอครับ”

“มันบอกที่อยู่แต่มันไม่รับประกันความปลอดภัย ไอ้เฟรดดี้มันตั้งใจจะเอาทั้งของเราแล้วก็ทำให้แฮมินตันแพ้ในครั้งเดียว หัวใสขึ้นเยอะ จบงานนี้ได้เมื่อไหร่รับรองว่ามันจะไม่ได้เกิดอีกแน่”

“ก็พ่อปล่อยให้เขาบริหารตั้งสิบกว่าปี” ดีนอดแขวะไม่ได้

“ก็ตอนนั้นมันไม่มีค่าสำหรับพ่อ” ทั้งสองขึ้นประจำตำแหน่งบนเฮลิคอปเตอร์ ไม่นานนักตัวเครื่องก็ลอยทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ดีนพิมพ์โทรศัพท์ส่งข้อความบอกที่อยู่ให้คนซึ่งน่าจะโกรธจนแทบคลั่งแล้วเช่นเดียวกัน ไม่มีใครพอใจ ดีนดูเหมือนจะยังใจเย็น แต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้เขาก็ขึ้นแล้วเหมือนกัน “มีอีกเรื่องหนึ่งที่ดีนควรรู้เอาไว้”

“อะไร”

“เลเป็นน้องดีน” มือหนาที่กดโทรศัพท์อยู่ถึงกับชะงัก ใบหน้าหล่อเหลาเงยหน้ามองพ่อตัวเองด้วยสายตาตกตะลึง “น้องแท้ๆ”

“พ่อมั่นใจแค่ไหน”

“ตอนนี้ 98%”

“แล้วอีก 2% ล่ะ”

“เก็บไว้เผื่อตรวจ DNA”



lamborghini aventador สีแดงโฉบเฉี่ยวกำลังพุ่งทะยานอยู่ในท้องถนนด้วยความเร็วสูงสุด หลังจากได้ที่อยู่ของเลจากดีน ฮิมเหยียบคันเร่งชนิดที่ว่าไม่แตะเบรก  เขากลัวว่าน้องจะได้รับอันตรายมากกว่ากลัวว่าตัวเองจะตายหลายเท่า ยิ่งดีนโทรมาบอกเตือนว่ามันบอกที่อยู่ให้แต่มันยังไม่ได้รับประกันความปลอดภัย ฮิมก็ยิ่งสงบจิตใจไม่ลง

ร่างสูงโกรธชนิดที่ว่าชาตินี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะโกรธใครได้เท่านี้อีกไหม มันลักพาตัวเมียเขา ในวันที่เขาตั้งใจจะขอเลแต่งงาน ทำให้วันที่ฮิมตั้งใจจะทำให้มันเป็นวันที่ดีที่สุดกลายเป็นวันที่แย่ที่สุดแทน

ถ้าหากคนดีของเขาเป็นอะไรไปขึ้นมาล่ะก็ ฮิมมั่นใจว่าวันนี้อาจจะเป็นวันแรกที่เขาจะได้ฆ่าคน



เอี๊ยด!

รถคันหรูเริ่มชะลอเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย จอดรถห่างมาอีกหน่อยเพื่อไม่ให้พวกมันสังเกตุเห็น มือหนาหยิบปืนในจังหวะเดียวกันที่มีคนมาเคาะประตู ชายสองคนที่ไม่พูดอะไรนอกจากโค้งหัวเคารพ ฮิมไม่ถาม ด้วยท่าทีนั่นคงเป็นคนที่ทำงานกับด้านมืดของแฮมินตันอย่างที่พ่อเขาเคยพูดเอาไว้นานแล้ว ทั้งสองล้มหน้าล้อมหลัง และไม่พูดอะไรนอกจากพาเขาเดินไปอีกทาง ย่องเข้าทางด้านข้างของคฤหาสน์หลังใหญ่ แอบมองเข้าไปด้านในผ่านช่องว่างของผนังปูนที่ผุพัง

แล้วภาพที่เห็นก็ทำให้ฮิมสติแตก…

“อย่าพึ่งครับท่าน พวกมันมีปืน” ชายคนหนึ่งออกแรงรังเมื่อฮิมทำท่าว่าจะบุกเข้าไป

“ให้กูรอเมียกูตายก่อนเลยไหมถึงจะบุกน่ะ” ฮิมกัดฟันกรอด ภาพที่เห็นคือเลถูกปิดปาก ข้อมือทั้งสองข้างถูกจับมัด ห้อยกับแชนเดอร์เลียขนาดใหญ่ด้านบนโดยที่ขาของน้องลอยพื้น ข้อมือที่เป็นตัวตึงแรงทั้งหมดเริ่มช้ำและได้เลือด จนฮิมไม่อยากจะคิดเลยว่าเลจะเจ็บขนาดไหน

“เราล้อมไว้หมดแล้ว แต่พวกมันยังอยู่ใกล้คุณเลมากเกินไป ถ้าเราเริ่มยิงใครสักคนในนั้น กลัวว่าพวกมันที่เหลือจะยิงใส่คุณเลกลับ และหากเรายิงไม่โดน เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที”

ฮิมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ต้องทำยังไง”

“หนึ่งรอให้พวกมันออกห่าง และสองคือรอให้นายท่านเจรจา ฝ่ายนั้นบอกว่าแฮมินตันต้องแพ้ในศาล”

คนฟังถึงกับเม้มปาก เขาเชื่อว่าพ่อเห็นเลสำคัญ แต่ผลกระทบต่อธุรกิจหลังจากนั้นมันมากมายมหาศาล ร่างสูงกำหมัดแน่น ตั้งใจจะอดทนรอต่อถ้าไม่ใช่เพราะมองเข้าไปในโกดังอีกครั้งแล้วพบว่าเลตื่น…



เจ็บ

คำนี้ผุดขึ้นมาในสมอง ดวงตากลมค่อยๆ ลืมขึ้น ภาพที่เห็นทำให้เลตกใจหากทำอะไรไม่ได้นอกจากนิ่ง เพราะเมื่อขยับ อาการเจ็บจี๊ดก็พุ่งเข้าสู่ข้อมือ เลก้มลงมองพื้นจากนั้นเขาก็เข้าใจว่าความเจ็บปวดที่ข้อมือมันเกิดจากอะไร เมื่อพบว่าเท้าของตัวเองนั้นลอยพื้นอยู่

“แกตื่นแล้วงั้นเหรอ” เสียงแหบของใครสักคนว่า เจ้าของเสียงเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างไม่สูงไม่เตี้ย อีกฝ่ายไล่สายตายืนกอดอกมองเขาราวกับประเมิน “ฉันเสี่ยงจับตัวแกมา เพราะมีคนๆ หนึ่งมาบอกฉันว่าแกสำคัญกับแฮมินตัน ตั้งใจจะใช้แกต่อรองพวกมันให้แพ้ในศาล ไม่นึกว่าจะมีประโยชน์มากขนาดนี้”

เลตอบกลับไม่ได้ เขาถูกปิดปากด้วยผ้ากลิ่นฉุน ร่างเล็กได้กวาดสายตาสำรวจขณะที่ฟังอีกคนพูด “สำคัญต่อแฮมินตัน แล้วยังสำคัญถึงขนาดที่แอรอนเซ็นยกบริษัทให้ฉันแบบง่ายๆ เพื่อขอที่อยู่ของแก”

ร่างบางปวดศีรษะ หัวเขากระแทกกับประตูตอนที่รถคันหนึ่งพุ่งเข้ามาชนโดยไม่มีเหตุผล

แต่ในสถานการณ์นี้เลเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงถูกชน คงเพราะเพื่อจับเขาให้มาเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองอะไรสักอย่าง

 ดวงตากลมเริ่มต้นสำรวจโดยการมองไปรอบด้าน ยิ่งเห็นความรู้สึกกลัวก็ยิ่งซึมลึกเข้าถึงขั้วหัวใจ ผู้ชายห้าคนยืนถือปืนวนอยู่รอบตัวเขา ในห้องโถงขนาดใหญ่ชำรุดทรุดโทรมทว่าคุ้นตา

ที่นี่…

เขาหันไปสบตากับคนตรงหน้า ผู้ชายอังกฤษ ตาสีฟ้า ในชุดสูทสีน้ำเงิน เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าเลคิดอะไร เจ้าตัวถึงได้เป็นคนเฉลยให้

“ดูคุ้นหรือเปล่า ไอ้คนที่มาบอกฉันว่าแกสำคัญกับแฮมินตันขายที่นี่ให้ฉัน มันบอกว่าที่นี่เป็นบ้านเก่าของแก” เขานิ่งเงียบ รู้ได้ทันทีว่าคนที่อีกฝ่ายพูดถึงคือใคร

พ่อที่ไม่ใช่พ่อของเขาอีกต่อไปแล้ว

ถึงจะไม่ใช่พ่อที่แท้จริง ถึงจะไม่ได้ผูกพันธ์ แต่เลก็เคยคิดว่าคนๆ นั้นเป็นพ่อของตัวเองมาเกือบยี่สิบปี ความรู้สึกที่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นพ่อนั้นจึงยังหลงเหลืออยู่ แต่วันนี้มันจบแล้ว จบแล้วจริงๆ คนๆ นั้นไม่ใช่พ่อของเขา ไม่ใช่ตั้งแต่แรก

“มันรู้แล้วว่าแกอยู่ที่นี่ อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาช่วยแก”

เลไม่ได้ฟัง เขาก้มหน้าลงแต่ในจังหวะที่เงยขึ้น สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับดวงตาคมคู่หนึ่งผ่านช่องว่างเล็กๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเห็นเต็มตา เลก็จำได้ว่าเจ้าของดวงตานี่คือใคร

พี่ฮิม

ร่างบางอดที่จะแสดงอาการดีใจไม่ได้ แต่ดีใจได้ไม่นานความกลัวก็กลับมาครอบงำอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปลายกระบอกของปืนสีดำถูกจ่ออยู่กลางคอ

“แต่ถ้าแกยังเป็นตัวประกับให้ฉันแบบนี้ พวกมันคงไม่กล้าทำอะไร” เลสูดลมหายใจเฮือก หัวใจเขาเต้นระรัวตอนที่อีกฝ่ายอ้อมไปทางด้านหลัง ตะปบมือลงบนสะโพกแล้วลูบอยู่อย่างนั้น

เขาสบตากับพี่ฮิม นัยน์ตาคมคู่นั้นแววโรจน์ด้วยความโกรธอย่างเห็นได้ชัด เลพยักหน้าให้ พยายามบอกว่าไม่เป็นไร เข้าใจว่าฮิมมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ทำให้ต้องรอก่อน ไม่อยากนั้นอีกฝ่ายเองก็คงบุกเข้ามาช่วยเขาแล้ว

“ฉันเข้าใจว่าแกสำคัญกับแฮมินตันยังไง แต่แปลกใจที่แกดันสำคัญกับแอรอนด้วย หมอนั่นแทบไม่เคยมีจุดอ่อน แล้วอยู่ๆ แกก็ดันไปเป็นจุดอ่อนของมันซะได้” มันไล่มือขึ้นไปถึงเอว ล้วงเข้าไปในเสื้อฮู้ดแล้วไล่นิ้ววนตรงตุ่มไต ทว่าทันทีที่มืออีกข้างของมันเลื่อนลงด้านล่าง เสียงซิปกางเกงถูกรูดลงอย่างช้าๆ เวลานั้นเองที่เลกลั้นน้ำตาตัวเองเอาไว้ไม่อยู่

“อยากรู้จริงๆ ว่าทำไม”

ปัง!

“ปล่อยมือออกจากเมียกูเดี๋ยวนี้”



ฮิมทนไม่ไหว เขาทนแล้วแต่มันไม่ไหว

มันจับเมียเขามัดขึงจนเท้าลอยพื้นไม่พอ มันยังกล้าลวนลามน้องอีก

รู้ตัวอีกทีฮิมก็เดินไปที่หน้าประตู เปิดมันเข้ามาโดยที่มีปืนห้ากระบอกหันมาทางเขาพร้อมที่จะยิงเข้าใส่

เพราะคนสำคัญต่อแฮมินตันเผยตัว เหล่าบอร์ดี้การ์ดที่คอยคุมกันจึงต้องเผยตาม ไม่นานนักห้อโถงที่ว่าใหญ่ก็เล็กลงไปถนัดตาเมื่อคนจำนวนมากแห่เข้ามาด้านใน หันปืนใส่กันคอยแต่จะกดลั่นไกถ้าไม่ติดที่ว่าตัวประกันอย่างเลถูกจับมัดเอาไว้ ถูกปืนสีดำกระบอกหนึ่งจ่อแนบชิดติดลำคอ

“คิดเอาไว้แล้วว่าต้องมา แล้วยังไงดีล่ะ ถ้ายิงฉันเด็กนี่ก็ตายตามไปด้วย จะเอาแบบนั้นไหม”

หยดเลือดสีแดงไหลจากข้อมือหยดลงตามต้นแขนที่ถูกรวบตึงแน่น ฮิมกัดฟันกรอด เขามองน้องแล้วพยายามต่อรอง

“เอาเลลงมา”   

“ทำแบบนั้นแล้วฉันจะได้อะไร”

“อยากได้อะไร”

“สัก 10 ล้านเป็นไง ค่าเอาเด็กนี่ลงน่ะ”

“ได้ เงินสิบล้านดอลลาร์จะถูกโอนเข้าบัญชีของแก” ฮิมตกลงแบบไม่ต้องคิด ทว่า…

“อย่ามาตลก” มันเค้นเสียงหัวเราะใส่ “สกุลดอลลาร์ที่ไหน ยูโรต่างหาก”

10 ล้านยูโร แปลงเป็นสกุลเงินไทยเท่ากับ 400 ล้านบาท

“ได้” เขายอมจ่ายเพื่อไม่ให้เลเจ็บ ทุกอย่างถูกดำเนินการอย่างรวดเร็วตามคำสั่ง และทันทีที่มันได้สิ่งที่ต้องการ เลถูกปล่อยลง เท้าน้องแตะพื้นพอให้ฮิมได้หายใจคล่องขึ้นบ้าง นัยน์ตาคมมองไปยังข้อมือขาว ถ้าทำได้เขาอยากใช้เงินสั่งให้มันปลดเชือกที่รัดข้อมือเลจนเลือดออกนั่นอีก จะให้จ่ายเท่าไหร่ก็ยอม

“ได้เรื่องเล็กกันแล้วมาพูดเรื่องใหญ่กันดีกว่า รู้ใช่ไหมว่าถ้าจะเอาตัวเด็กนี่ไปต้องแลกด้วยอะไร”

ทุกอย่างกลับมาจริงจัง ฮิมพยักหน้ารับ “แฮมินตันต้องแพ้ในศาล”

“แล้วแพ้หรือยังล่ะ”



“แพ้แล้ว”









(40%)



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์



นักอ่าน : ไหนความหวาน ไหนๆ ความหวานของชั้นอยู่ไหน!

me : ท่านสามารถหาได้ในตอนพิเศษที่จะไม่มีลงในเว็บนะคะ-- ผัวะ! // โดนตบ

ล้อเล่นน้าา! ต่อจากตอนนี้มันก็หวาน หวานแล้ว หวานจริงๆ พอได้อิ่มใจ สาบาน! ไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดต้องซื้อเล่มอย่างเดียว แต่ถ้าหวานจนน่าหมั่นไส้จะอยู่ในตอนพิเศษที่จะไม่ได้ลงเว็บค่ะ (ให้ฉันมีอะไรได้ขายบ้าง เพราะตอนนี้ก็ลงให้อ่านแทบทุกอย่างแล้วค้าบบ ;--;)

 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 06-03-2019 01:08:22
อืมมม ต่อที่เหลือเลยดีไหมคะ
กำลังสนุก อย่างลุ้น
จะยังไง จะเสียทรัพย์เพราะเลกันทุกคนรึ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 06-03-2019 02:04:58
ลุ้นต่อไป :mew5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 06-03-2019 07:12:34
นี่มานอารายยยยยยยย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-03-2019 07:38:41
หายไปนานกลับมาก็ทำเราค้างนะไรท์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-03-2019 08:55:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 06-03-2019 09:07:47
อะไรกันเนี่ยยยย  :katai1: :katai1:
ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 06-03-2019 09:08:55
งงมากค่าาาาาา
กลายเป็นเรียกค่าไถ่สไตล์ขายของต่อของในตลาดสดไปเฉย ทุกอย่างมีราคาอะไรขนาดนี้

คือ400ล้านไปแล้ว แอรอนให้บริษัทไปอีก แล้วนี่พ่อพี่ฮิมมาบอกด้วยตัวเองรึป่าวว่าแพ้ คืออะไรมันจะผีขนาดนี้

ก็ถ้าเลได้กลับบ้านไปพร้อมสภาพที่ฝ่ายพี่ฮิมและแอรอนจ่ายหนักขนาดนี้โดยที่ไม่พลิกลอกฝ่ายคลากตายนี่ก็เฟลอ่ะ โมโห ฉลาดกันทุกคนแต่มาแพ้ให้พวกสวะ และก็นะถ้ายอมแบบนี้จริงๆเดี๋ยวคราวหน้าพวกนางก็มาจับเลอีก กลายเป็นจากนี้ไปไม่ต้องอยู่เป็นสุขต้องคอยระแวงไปตลอด....

เพราะงั้นพวกคลากต้องตายแล้วอ่ะ ไม่มีชอยส์อื่นให้พวกนางแล้วจริงๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 06-03-2019 10:48:22
น้องเลลลลลล แงงงค้างงงงงงงง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 06-03-2019 15:38:40
รอตอนหวานๆ หวานให้เบาหวานแดกไปเลยค่ะคนเขียน (อุ้ย!!! หลุด  ขอโทษที) :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 06-03-2019 16:15:26
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 06-03-2019 22:09:40
ทำไมหน่วงแบบนี่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-03-2019 22:35:28
ผู้ใดแพ้หว่า  :ruready
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-03-2019 00:31:33
ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 07-03-2019 07:58:33
ชิวืตน้องเลนี่ กราฟชีวิตขึ้น-ลงๆ ตลอดเลยเน๊อะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-03-2019 11:00:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 13-03-2019 19:33:51
ถล่มมันให้เละ

ฆ่ามันให้ตายอย่า ทรมาณ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 28-03-2019 10:10:25
แพ้เร็วเกิน
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (100%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 28-03-2019 23:13:12
นั่นไม่ใช่เสียงฮิม แต่เป็นเสียงของใครสักคนที่พึ่งเดินเข้ามา เลถึงกับเบิกตากว้าง ฮิมนิ่งค้างเมื่อเห็น “สู้ไม่ได้ก็จับคนมาต่อรอง วิถีแกเหรอเฟรดดี้”

“อย่างน้อยมันตอนนี้ก็ทำให้ฉันได้บริษัทของแกแล้วล่ะวะแอรอน”

เจ้าของชื่อนิ่งเงียบ ใบหน้าคมที่มักประดับด้วยรอยยิ้มบึ้งตึง “แฮมินตันแพ้แล้ว ปล่อยตัวเลมา”

“ฉันจะเชื่อคำพูดของแกได้ยังไง”

ครืด

แท็บเล็ตเครื่องใหญ่ถูกไถลไปให้ หน้าจอขึ้นข่าวว่าบริษัทยักษ์อย่างแฮมินตันแพ้ศาลความเสียหายและผลกระทบกินมูลค่าเกินกว่าที่จะประมาณได้ และไม่ใช่แค่ข่าวสำนักเดียว เรื่องนี้ออกข่าวทุกสำนัก

ฮิมเงียบเมื่อได้ยิน เขาเคารพการตัดสินใจของพ่อ วางใจได้ว่าเลจะปลอดภัย แม้รู้ว่าต่อจากนี้ไปคงได้หนักใจกับเรื่องอื่นแทน การแพ้ศาลในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย พวกเขามีเปอร์เซ็นต์ในการชนะสูงจนฮิมตั้งใจว่าจะขอเลแต่งงานในวันนี้ได้ และเมื่อแพ้ผลกระทบมันก็ย่อมใหญ่เช่นเดียวกัน บอร์ดบริหารต้องถามถึงเหตุผล และเหตุผลของการช่วยคนๆ หนึ่ง ในมุมของนักธุรกิจบางคน มันอาจจะไม่คุ้มกับการเสียบริษัทที่จะทำเงินมูลค่ามหาศาลได้ขนาดนั้น

“หึๆ ตัดสินใจได้ดีนี่”

“ได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็ส่งตัวเลมา” แอรอนย้ำ

“ใครบอกว่าทุกอย่างที่ต้องการ”

“ยังต้องการอะไรอีก”

“คิดว่าฉันจะโง่หรือไง พวกแกล้อมฉันไว้ขนาดนี้ ถ้าฉันส่งตัวเด็กนี่ไปให้ ใครจะยืนยันความปลอดภัยให้ฉันได้ล่ะ”

“จะหนี?”

“ได้ข่าวว่ามันขับรถเก่ง” มันที่ว่า คือน้องเลซึ่งถูกปืนจ่อขมับ “ฉันจะให้มันขับรถให้ เราจะไปที่ท่าเรือ พอเรือออกแล้วฉันจะโยนเด็กนี่ลงน้ำ  ไม่อยากให้ตายก็ตามไปช่วยก็แล้วกัน”



เลชอบขับรถ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะทำให้เขาขับรถแล้วหนักใจเท่านี้

lamborghini aventador สีแดงถูกเปลี่ยนคนขับ เจ้าของข้อมือแดงเถือกจากการถูกเชือกรัดกำลังควบคุมมันพุ่งทะยานไปบนท้องถนนด้วยความเร็วสูงโดยที่มีปืนจ่อขมับแนบติด พร้อมลั่นไกฆ่าเขาได้ทุกเมื่อถ้าเกิดคิดตุกติกขึ้นมา

“เก่งจริงนี่ เห็นอย่างนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะรถเก่ง” คนนั่งข้างชวนคุยแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่น่าคุย เลเงยหน้ามองกระจกหลัง มีรถอีกหลายคันขับตามอยู่ห่างๆ “หยิ่งจังนะแก”

อีกฝ่ายว่าเมื่อคนฟังไม่ยอมปริปาก

“ใครจะอยากคุยกับคนที่ลักพาตัวตัวเอง” เลพึมพำ

“ฉันได้ยินที่แกพูดนะ” เจ้าของปืนหัวเราะ “ก็เผื่ออยากต่อรอง”

“ให้ลงตรงนี้ได้ไหมละ”

“นั่นมากเกินไป เอาน่า! ถูกโยนลงน้ำยังไงก็ดีกว่าถูกโยนลงรถ” คนฟังเลือกที่จะเงียบต่อไป เลต่อรองไม่เก่ง และจากบทสนทนาเมื่อกี้เห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะคุยกับผู้ชายที่กำลังนั่งอยู่ข้างคนขับ

เลไม่อยากถูกโยนลงน้ำ ไม่อยากถูกโยนลงจากรถ แต่ที่สำคัญเลยคือเขาไม่อยากนั่งอยู่ในสถานการณ์ที่มีปืนจ่ออยู่ข้างหัว เขามองข้อมือของตัวเอง มันเป็นรอยเลือดและรอยถลอกอย่างเห็นได้ชัด ความเจ็บแสบจากการถูกตรึงก็ยังคงเหลืออยู่จนถึงตอนนี้

พี่ฮิมบอกอยู่เสมอว่าเขาเอาแต่ใจ เลเชื่อว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นเพราะรอยรัดที่ประทับอยู่บนข้อมือเขาตอนนี้ทำให้คนมองรู้สึกขัดใจ โดยเฉพาะยิ่งต้นเหตุมานั่งข้างๆ แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยแบบนี้ เลหงุดหงิดจนต้องกัดริมฝีปาก เพราะพี่ฮิมที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก ตอนอยู่ในโหมดโกรธขั้นสุดยังไม่ทำให้เลเจ็บตัวมากขนาดนี้

ร่างบางกลัวขณะเดียวกันก็แค้นอยู่ลึกๆ แต่การเฉียดตายมาหลายครั้งจะทำให้มีสติมากกว่าเดิม แถมคนลักพาตัวยังใจดีให้สิ่งที่เขาถนัดและสามารถใช้เป็นอาวุธได้อีก

รถ…

ทางนั้นคงตั้งใจเอาไว้ว่าจะให้เขาขับ เพราะเป็นการยืนยันได้ว่าจะไม่มีใครโจมตีรถคันนี้ แถมยังง่ายต่อการควบคุมเขาอีกด้วย ทว่ารู้ทั้งรู้ว่าเลขับรถเก่ง แต่กลับไม่คาดเซฟตี้เบล แถมยังชะล่าใจโดยการมองออกไปข้างนอกแล้วลดปืนลงเป็นบ้างครั้ง

เลเห็นโอกาสในการเอาตัวรอดด้วยวิธีของตัวเอง

กึก!

“แกเร่งความเร็วทำไม เฮ้ย!” เลตัดสินใจและทำในตอนนั้น ครั้งที่สามที่ร่างหนาข้างกายหันไปมองด้านนอก เขาก็เร่งความเร็วขึ้นให้พ้นรัศมีของรถที่ตามมาด้านหลัง จากนั้นจึงหักพวงมาลัยแล้วเหยียบคันเร่งอย่างแรงจนท้ายปัด ปล่อยตัวรถไถลไปตามถนนวนเป็นวงกลมทั้งหมดแปดครั้ง มากพอที่จะทำให้คนไม่คาดเข็มขัดตัวโงนเงนกระแทกทั้งกระจกและพื้นที่ด้านหน้าอย่างรุนแรง มือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายรีบยกขึ้นเกาะที่จับด้านบน ปืนถูกปล่อยตกลงใต้เบาะ เสียงล้อเสียดสีกับถนนดังเอี๊ยด เกิดควันสีขาวลอยคลุ้งพุ่งกลบทัศนียภาพรอบด้านจนมิด

เลปลดเซฟตี้เบลออก เขาเปิดประตูลงรถ วิ่งฝ่ากลุ่มควันออกไปด้านนอกจนเห็นร่างสูงที่ทำท่าจะวิ่งจะเข้ามาอยู่ก่อน เขารู้สึกจะร้องไห้ทันทีที่เห็น พี่ฮิมทำหน้าตกใจ อีกฝ่ายวิ่งเข้าหาพร้อมกับอ้าแขนรอรับ ปลายนิ้วพวกเขาแตะถึงกันในจังหวะเดียวกันที่เลได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง

“แสบนักนะแก!”

“อย่า!”



ปัง!



เสียงปืนดังในจังหวะเดียวกันที่เลโผล่เข้าสู่อ้อมกอดของอีกคน ร่างสูงพลิกตัวบังจังหวะที่น้องหลับตาแน่น ภายหลังจากที่กระสุนนัดแรกดังได้ไม่กี่วินาที รถยนต์สีดำสนิทกันกระสุนก็รีบแล่นเข้ามาจอดขวางกระสุนนัดที่สองเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย

ปัง! ปัง! ปัง!

มือหนายกขึ้นลูบหัวปลอบคนที่กำลังซุกหน้าเข้าที่อกท่ามกลางเสียงปืนรัวที่ใส่กันอย่างบ้าระห่ำ เลค่อยๆ ลืมตาขึ้น เงยมองคนที่จ้องอยู่ก่อน

“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ฮิมถามเสียงแผ่ว คนฟังลองขยับตัวก่อนจะส่ายหน้าเมื่อไม่รู้สึกเจ็บอะไร

“เลไม่เป็นไร”

“เก่งมาก” ฮิมกระซิบพร้อมกับเคลื่อนริมฝีปากจูบลงที่แก้ม “เก่งที่สุดเลย ที่รักของพี่”

คนฟังยิ้มรับ จดจ้องไปยังผู้ชายตรงหน้าที่ใส่ชุดสีแปลกตาแถมยังรู้สึกว่าวันนี้พี่ฮิมจะดูดีกว่าปกติ “ทำไมวันนี้ฮิมหล่อจังเลย”

“ชอบไหมล่ะ”

“ยังจะถาม” เลเข้ากอดเอวหนาแม้สถานการณ์ดูจะยังไม่อำนวย “เลชอบทุกอย่างที่เป็นฮิม”

“รักนะ”

“ท่านครับ กรุณาหลบไปกะ-- ท่านครับ!” หว่างคิ้วเข้าหากันเมื่อชายหนุ่มผู้มาเยือนมองพี่ฮิมแล้วทำหน้าตาตื่น เลเงยหน้ามองคนที่ตัวเองกอดอยู่ ฮิมยังคงยิ้มมุมปากให้ มือหนาลูบแก้มเขาไปพลางจนเลยิ้มรับ แต่ทันทีที่เจ้าตัวละอ้อมกอดออก รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายวับไปทันตา

มีบางสิ่งเปื้อนอยู่ที่มือเล ของเหลวชุ่มที่เปลี่ยนให้มือของเลกลายเป็นสีแดงเข้ม นัยน์ตากลมหลุบลงมองเสื้อผ้าขาวสะอาดของคนตรงหน้าที่ตอนนี้ถูกสีแดงซึ่งแผ่กระจายมาจากทางด้านหลังลามกินพื้นที่ไปมากกว่าครึ่ง

“ฮะ… ฮิม” เลถอยออกห่าง ตากลมมองเลือดที่มือสลับกับคนตรงหน้าอย่างมีคำถาม เขาไม่อยากหาคำตอบให้ตัวเองแม้จะรู้อยู่ในใจ พี่ฮิมยังคงยิ้ม ร่างสูงทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นิ้วเรียววนเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าของคนที่กำลังสะอื้นหนัก กายหนาตั้งใจจะเข้ากอดน้องเพื่อกระซิบปลอบทว่าบาดแผลด้านหลังกลับส่งผลร้ายแรงกว่าที่คิด ยามความเจ็บปวดแทรกซึมไปทั่วทุกอนูผิว เจ้าของขายาวทรุดลงกับพื้น แขนแกร่งซึ่งกอดเอวบางแน่นรั้งให้คนตัวเล็กทรุดลงตาม “พี่ฮิม! ฮิม”

“เรียกรถพยาบาลด่วน นายท่านถูกยิง ด่วน! ย้ำ! ด่วน!” ประโยคตรงหน้าตอกย้ำกว่าความคิดของเขาถูกต้อง

“ไม่เอา… ฮือ ไม่เอา! ไม่เอาแบบนี้!” เลสั่นใหญ่ น้ำตาสีใสเจิ่งนองทั่วม่านตา หยดลงมากระทบหน้าของคนที่ถูกจัดท่าให้นอนอยู่บนตัก

“ไม่ต้องร้อง” เสียงนั้นแผ่วจนน่าใจหาย “พี่ไม่เป็น...ไร”

“ฮือ เลือดออกเต็มเลย! เอาตัวมาบังแทนเลทำไม”

“อย่างน้อย...ก็ช่วยเลได้” ฮิมพูดติดตลก “ไอ้วิน...มันจะได้...ไม่ต้องด่าพี่”

“เลไม่โอเค!”

“เดี๋ยว…ไปโรง...พยาบาลก็หาย” ฮิมประสานมือน้องเอาไว้ แนบลงตรงอกหวังให้อีกฝ่ายเย็นลง “ใจเย็นๆ ครับ”

“น้องเย็นไม่ได้” เลปฏิเสธ กวาดสายตามองชุดสีขาวที่ร่างสูงตั้งใจใส่มาเพื่อวันที่ดีบัดนี้ฉาบไปด้วยเลือดข้น เปรอะเปื้อนไปแล้วกว่าหนึ่งในสามของพื้นที่ชุดแล้วร้องไห้หนักกว่าเก่า

เลรออีกฝ่ายพูดอะไรสักอย่าง ทว่าฮิมหลับตานิ่ง เขาเริ่มเขย่าคนบนตักแรงๆ ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะฮิมจะลืมตาขึ้นมา

“ไม่! ไม่! ไม่! ม่ายยยย! พี่ฮิม! ฮิมอย่าหลับแบบนี้!” การไม่มีเสียงตอบกลับนั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กเริ่มกรีดร้องจนแทบบ้าคลั่ง เลสติแตก ร่างเล็กร้องไห้โฮขณะกอดใบหน้าคมแนบอก “อย่าทำแบบนี้! ไม่เอาอย่างนี้!”

“รอรถพยาบาลไม่ได้แล้ว! ต้องนำส่งโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!” เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นจังหวะเดียวกันที่เฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ถือวิสาสะจอดลงกลางถนน

“ใช้เฮลิคอปเตอร์ได้เลย!” นำเสียงทุ้มของคนที่พึ่งกระโดดลงจากยานพาหนะทางอากาศว่า ดีนมองน้องถูกจับตัวแยกออกจากคนเจ็บ เจ้าตัวร้องเหมือนใจจะขาด เสียงร้องที่ทำให้คนฟังถึงกับปวดตามร้าว กล่องบางอย่างหล่นลงมาจากกระเป๋ากางเกงชุ่มเลือดของร่างสูงที่กำลังถูกนำตัวขึ้นยานพาหนะ ดีนสังเกตุเห็น เขาเดินไปหยิบมันขึ้นมาก่อนจะถือวิสาสะเปิดดู

สิ่งที่อยู่ด้านในทำให้คนมองสะอึก มือหนาปิดฝากล่องกำมะหยี่สีดำลง จากนั้นจึงเดินไปหาคนที่กำลังร้องไห้โฮจนพูดไม่เป็นภาษา ร่างเล็กรีบวิ่งมากอดเขาอย่างหาที่พึ่ง ดีนใช้จังหวะนั้นยัดของที่อยู่ในมือตนเองให้อีกฝ่าย กล่าวปิดท้ายว่า “ของฮิม”

เขากอดน้องแน่นกว่าเดิม คิดเอาไว้ว่าเลต้องร้องไห้หนักกว่าเก่า แต่ผิดคาด ทันทีที่เจ้าตัวเปิดกล่องแล้วเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในน้องกลับเงียบลง เสียงร้องลั่นกลายเป็นแค่เสียงสะอื้นกับปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ แทน เลละออกจากกอดของเขา วิ่งไปหาคนที่กำลังถูกหามขึ้นเฮลิคอปเตอร์



“เลไม่แต่ง!” เสียงแหบตะโกนลั่นใส่หน้าฮิมซึ่งสลบไม่ได้สติ “เลไม่แต่ง! ได้ยินไหมว่าน้องไม่แต่ง! ฟื้นเมื่อไหร่ค่อยมาขอแต่งใหม่ก็แล้วกัน!”





(100%)





#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

แบบวุ่นวายเหมือนการเมืองไทยในตอนนี้เลย55555​ ฝันดีค้าบบบ ตื่นขึ้นมาขอให้เป็นเช้าที่สดใสสำหรับทุกคนนน



หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 28-03-2019 23:24:45


#44 (50%)



1 วันต่อมา

วินมองคนซึ่งนอนอยู่บนเตียง เขาจับแขนเรียวที่มีผ้าพันแผลพันอยู่รอบข้อมือทั้งสองข้างหนึ่ง มองมันด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากคนหลับสนิท

ฮิมถูกส่งโรงพยาบาล ต่อจากนั้นไม่นานเลก็ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเหมือนกัน น้องเลอ่อนเพลียและหลับสนิทมาหนึ่งวันเต็ม

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้วินหัวเสีย ยิ่งเขารู้เรื่องก็ตอนที่ทุกอย่างจบลงแล้ววินก็ยิ่งหัวเสีย

แม้ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี แต่เขาไม่พอใจมากที่น้องตัวเองถูกจับไปเป็นตัวประกันแบบนั้น เพราะนั้นมันหมายความเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับฮิมส่งผลให้เลได้รับอันตรายอีกแล้ว

วินไม่เคยรู้สึกกังขาเรื่องความรู้สึกของมันที่มีให้เล ไม่อย่างนั้นตอนที่มันโทรมาบอกว่าจะขอเลแต่งงานเขาก็คงคัดค้านไปแล้ว เขาแค่ห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเล อะไรก็ตามที่ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาแต่เกิดจากอะไรบางอย่างที่ส่งผลกระทบมาถึงเลอย่างเช่นเหตุการณ์ในครั้งนี้

แต่เอาเถอะ เขาให้อภัยเพราะถือว่าอีกฝ่ายก็รักษาคำพูด มันปกป้องน้องเขาด้วยชีวิตจริงๆ

เลหนึ่งในไม่กี่คนที่เขาให้ความสำคัญ ถ้าเสียเลไปเขาคิดว่าคงต้องระเบิดสมองตัวเองตาย

คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ บางทีเขาอาจจะต้องทำใจกับเรื่องพวกนี้ เพราะอาชีพในอนาคตที่เลดูสนอกสนใจอยากจะเป็นอย่างเช่นนักแข่งรถนั้นเสี่ยงต่อชีวิตมากเหลือเกิน

“ยังไม่ตื่นเหรอ” อีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในห้องแต่นิ่งเงียบมานานถาม วินจ้องหน้ามัน

“มึงเห็นเลลืมตาไหมล่ะ”

“กูถามดีๆ” ดีนถอนหายใจ ลุกขึ้นก่อนจะเดินออกจากห้องไปเงียบๆ เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อวาน ทันทีที่วินรู้เรื่องที่ว่าอีกฝ่ายมีสถานะต่อน้องเลเทียบเท่าเขา

มือหนาลูบใบหน้าขาวเบาๆ แล้วก้มลงหอมแก้มนุ่มอีกครั้งหนึ่ง

“ตื่นได้แล้ว” ส่งเสียงกระซิบ

เขาอยากให้เลตื่น มีอีกหลายเรื่องที่น้องต้องรู้

ร่างสูงกลับไปนั่งลงโซฟา รอไปอย่างเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งคนที่ออกจากห้องไปนานเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง

“จะบ่ายแล้วมึงไปกินข้าวไป เดี๋ยวกูเฝ้าต่อเอง” วินหันไปมองเลบนเตียงแวบหนึ่งก่อนจะพยักหน้า เขาเดินออกจากห้อง ขับรถออกไปหาอะไรกิน และพอกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งก็พบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น

เลตื่นแล้ว



“เลจะไปหาพี่ฮิม!”

“น้องเลใจเย็นก่อน!”

“หาพี่ฮิม! จะไปหาฮิม! เอาฮิมมา!” วินรีบวิ่งเข้าไปหาคนที่กำลังโวยวายอย่างไร้สติ เลสวมกอดเขาแน่นแล้วร้องไห้โฮ ร่างสูงลูบกลุ่มผมนุ่ม คอยปลอบประโลมให้อีกฝ่ายใจเย็นลงก่อน “วิน น้องอยากไปหาฮิม พาเลไปหาฮิมนะ”

“ไอ้ฮิมปลอดภัยดี” วินพูดความจริง หมอยืนยันแล้วว่าพ้นขีดอันตรายแค่ยังไม่ฟื้น “เลใจเย็นก่อน นิ่งไว้”

“เลแค่อยากไปหาพี่ฮิม”

“ไปได้” วินว่า ดวงตาคมมองเพื่อนร่วมห้อง โดนใครบางคนส่งสายตามาให้อย่างสื่อความนัย “หลังจากคุยเสร็จแล้ว”

“คุยอะไร?” เลถาม ทั้งห้องเงียบลง วินคลายอ้อมกอดออก ทำท่าว่าจะเดินออกไป “พี่วินจะไปไหน ไม่ให้ไป!”

น้องดึงเขาเอาไว้ ขณะที่วินตั้งใจว่าจะเดินออกจากห้อง เขาไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เลจะได้รู้เท่าไหร่แต่เพราะโดนเลกอดแน่น ขยับเดินกอดตามไม่ยอมปล่อย ท้ายที่สุดแล้วเขาเลยต้องอยู่กับน้อง กลับไปนั่งเตียงให้คนในชุดโรงพยาบาลนั่งตักซบอก

ในห้องเหลือแค่ วิน เล ดีนและร่างสูงที่เป็นผู้ใหญ่สุด พ่อของดีน

วินประสานมือน้องเอาไว้ในตอนที่เสียงทุ้มของดีนว่า “น้องเลเป็นลูกของคุณพ่อ”



15 นาทีต่อมา

วินค่อยๆ ย่องออกจากห้อง ปล่อยให้สองร่าง หนึ่งน้องชาย และสองคือผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของเลไปหยกๆ ได้ใช้เวลาร่วมกัน เขาเปิดประตูออก เห็นคนที่ออกมาก่อนหน้า ดีนปรายตามองเมื่อเห็นวินออกมา เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าห้อง ตรงข้ามกับคนที่กำลังยืนพิงกำแพง กอดอกพอดี

“กูเป็นพี่ชายเลจริงๆ แล้ว” เสียงทุ้มชวนคุย ประโยคเริ่มต้นที่ไม่ค่อยน่าอภิรมณ์เท่าไหร่ วินไม่ได้มีปัญหากับพ่อแท้ๆ ของเล เขารู้สึกดีใจที่น้องได้เจอพ่อแท้ๆ เพราะเลมีปมเรื่องนี้มาตลอด คนที่รู้สึกว่าจะมีปัญหาด้วยสักหน่อย เห็นจะเป็นคนลูก

เจอกันครั้งแรกมันทำท่าว่าจะชอบเล แต่คราวนี้มันกลายมาเป็นพี่แท้ๆ ของเล แล้วเขาจะวางใจได้ยังไงว่าวันดีวันคืนดีที่ไอ้ฮิมไม่อยู่มันจะไม่บุกห้องไปปล้ำน้องเขาน่ะ!

“อย่าคิดอกุศลกับน้องแท้ๆ ของมึงก็แล้วกัน” วินเตือน

ดีนขมวดคิ้วราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาบอก มันกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรสักอย่าง บังเอิญคนในห้องเดินออกมาซะก่อน เลวิ่งไปกอดไอ้ดีนก่อน พูดอะไรกันสักอย่างแล้วหัวเราะ ถัดจากนั้นจึงวิ่งมากอดเขา ซุกหน้าเข้าที่อก พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“เลอยากไปหาพี่ฮิม”



คนที่เลต้องการพบบัดนี้นอนอยู่เบื้องหน้า บนเตียงของโรงพยาบาล บนจมูกคาดทับด้วยหน้ากากออกซิเจนและยังหลับสนิท สภาพของพี่ฮิมไม่ได้ดูย่ำแย่ แค่ใบหน้าซีดเซียวกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด

ผมทาบมือลงบนหลังมือติดสายน้ำเกลือของอีกฝ่าย จากนั้นเปลี่ยนมาประสานเอาไว้ เพื่อให้ฮิมรู้ว่าผมยังอยู่ข้างกายแม้เขาจะยังไม่ได้สติ ซึ่งเป็นเพราะผมแท้ๆ

“พี่ฮิม เลขอโทษ”

“น้องเลไม่ต้องขอโทษหรอก” คุณแม่พี่ฮิมที่คอยยืนอยู่ข้างกายว่า ปากว่าแบบนั้นแต่สีหน้าเหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด ท่านคงเฝ้าลูกชายทั้งคืน ร่างบางจับตัวผมเข้ากอด จับใบหน้าของผมซุกลงบ่า ลูบศีรษะแล้วปลอบเหมือนเด็กๆ “น้องเลไม่ผิด ผู้ใหญ่ผิดเอง มันเป็นปัญหาทางธุรกิจแต่ดันทำให้เลต้องมารับเคราะห์ แม่ขอโทษนะคะ”

“เลโอเค น้องไม่ได้เป็นอะไรมาก” ผมว่า ละตัวออกจากอ้อมกอด

“ดีแล้วที่น้องเลไม่เป็นอะไร เพราะถ้าเลเป็นอะไรไปอีกคน…” เสียงนุ่มหยุดชะงักไป เพราะคุณแม่เหมือนจะร้องไห้คุณพ่อพี่ฮิมจึงพาตัวออกไปสงบสติอารมณ์ด้านนอก ก่อนจะเดินกลับเข้ามานั่งที่โซฟา อีกฝ่ายกระดิกนิ้วเรียกผมเข้าไปหา พอเลเดินไปนั่งข้างๆ ก็ถูกรวบตัวกอด

“โกรธเลไหม” ผมถาม “เลทำให้พี่ฮิมต้องเปลี่ยนแบบนี้”

“ไม่มีใครโกรธเล พวกเราต่างหากที่ต้องขอโทษน้อง” อีกฝ่ายจับแขนผม รอยเชือกจาการถูกรัดแน่นยังโชว์เด่ดอย่างเห็นได้ชัด “ขอโทษนะ”

ผมถอนหายใจ เอนหัวซบบ่าอีกคนด้วยความรู้สึกอ่อนแรง “พี่ฮิมจะพื้นไหม”

“ฟื้นอยู่แล้ว”

“ตอนโดนยิงฮิมสลบไปแล้วครั้งหนึ่ง เลกลัวพี่ฮิมไม่ตื่นอีกก็เลยบอกว่าจะยังไม่แต่งด้วย ให้ฟื้นแล้วค่อยมาขออีกทีนึง”

เหมือนได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาอยู่ข้างหู “ถ้างั้นยิ่งต้องฟื้น”

“แล้วก็…” ลากเสียงยาว กำลังคิดว่าเรื่องนี้อีกฝ่ายจะรู้แล้วหรือยัง “เลมีพ่อจริงๆ แล้วนะ”

เกิดเดดแอร์ไปประมาณสามสิบวินาที ก่อนที่เสียงทุ้มจะบอกว่า

“รู้แล้ว”

“แต่คุณพ่อสองก็ยังเป็นพ่อของเลนะ” ให้ตาย จากเริ่มต้นใช้คำว่าพ่อแค่กับพี่ฮิม ตอนนี้ผมเริ่มงงแล้วว่าควรจะใช้กับใคร ยังไง

“เกลียดคำว่าสอง ตัดมันออกไปได้ไหม ไอ้คนที่มาที่หลังน่ะควรจะเป็นที่สองหรือเปล่า”

“เขาทำให้เลเกิดมานะ”

“แต่มันไม่ได้เลี้ยงน้องหนิ” โอ้โห แรงมาก! ผมอ้าปากค้าง จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก สีหน้าของคุณพ่อพี่ฮิมจริงจังจนคิดเป็นเรื่องตลกไม่ได้ “ไม่งั้นก็กลับไปเรียกคุณลุง”

เอ้า! งอน “โอเค คุณพ่อก็ได้”

เลจะพยายามหาทางพูดคำว่าคุณพ่อแต่เจาะจงคนได้ก็ได้แล้ว

“น่ารักมาก” ว่าพลางจีบๆ แก้มผมเล่น จากแก้มก็ลามไปเอว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขย้ำๆ ขย้ำๆ ไปทั้งตัว

“แล้วคุณพ่อรู้ตอนไหน?”

“ตอนที่เลยังสลบ ไอ้คนน่าหมั่นไส้มันก็รีบมาทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อ”

บังเอิญ ไอ้คนน่าหมั่นไส้ ที่คุณพ่อพี่ฮิมว่าเดินเข้ามาพอดี ป๊ะป๋าแอรอน(เรียกงี้เลยก็แล้วกัน) เมื่อเห็นว่าเลกำลังนั่งอยู่บนตักของใคร ทางนั้นก็รีบเดินจ้ำเข้ามาดึงตัวของผมออกไปกอดทับ

สองพ่อจ้องตา เหมือนเห็นประกาศสายฟ้าอยู่แวบๆ

ผมผละตัวออก กลับไปนั่งจับมือพี่ฮิมอยู่ข้างเตียงเหมือนเดิม ส่วนอีกสองคนในห้องก็พร้อมใจกันเดินออกไปคุยกันด้านนอกแทน

“รีบๆ ตื่นนะ” พูดกับคนบนเตียงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่รับรู้ถึงผมเลยก็ตาม



2 วันต่อมา

“น้องเลพักก่อนไหมครับ” ดีนจับบ่าของคนที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงของฮิมมาแล้วสองคืน

คงจะเหนื่อย…

ดีนถือวิสาสะอุ้มคนหลับสนิทไปนอนบนโซฟา ใจจริงเขาอยากพาน้องกลับบ้าน แต่ดูเหมือนว่าถ้าเจ้าตัวตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลข้างเตียงคนป่วยแล้วล่ะก็ ทั้งบ้านคงเกิดการนองเลือด เพราะเลไม่ยอมไปจากที่ตรงนี้ อยู่เฝ้าข้างเตียงแบบข้ามวันข้ามคืนด้วยเหตุผลเดียวคืออยากให้ฮิมตื่นขึ้นมาแล้วเจอเลเป็นคนแรก ยังดีที่ข้าวปลามีหลายคนผัดเปลี่ยนเวียนเอามาให้ เพราะถ้าเลเกิดผอมลงไปมากกว่านี้ คนที่ดูท่าว่าจะตายคนแรกคงเป็นพ่อของเขา

รายนั้นรักน้องเลยิ่งกว่าอะไร ก่อนที่ยังไม่รู้ว่าน้องเป็นลูกแท้ๆ ก็เรียกว่าทุ่มเกินควรแล้ว แต่พอเลได้เป็นน้องชายของดีนเท่านั้นแหละ ไม่กี่วันหลังจากที่รู้ พ่อแทบจะยกธุรกิจสัมปาทานทั้งหมดที่มีให้น้องเลอยู่ร่อมร่อ

ดีนดีใจที่เลเป็นน้องชายแท้ๆ ของเขา แต่ก่อนที่เขาเคยคิดว่าอยากได้น้องเลเป็นสถานะอื่นที่มากกว่าน้อง แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว ร่างสูงรู้สึกว่าตัวเองอยากจะดูแลเลมากกว่า เขามีความสุขที่ได้เห็นคนตรงหน้ามีความสุข จะเหลือก็แต่พี่ชายอีกคนของเลที่ยังทำท่าไม่ไว้ใจ รายนั้นดูแล้วนิสัยไม่ต่างจากพ่อเขาสักเท่าไหร่ แต่เอาเถอะ ถ้าเขารับมือพ่อมาได้ รับมือกับอีกฝ่ายก็ไม่น่าจะยาก

“พี่ดีน” คนที่ถูกอุ้มไปนอนที่โซฟาจู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาขยี้ตางัวเงีย เขาเดินลงไปนั่งข้างๆ ทำตัวเป็นหมอนข้างเมื่อน้องกอด “หิวข้าว”

“อยากกินอะไรไหม เดี๋ยวพี่พาไป”

“กินไม่ลง” น้องว่า สาเหตุก็น่าจะเป็นเพราะคนบนเตียงยังไม่ฟื้น

“ทุกคนเป็นห่วงเล” ดีนจ้องหน้าน้อง พูดออกมาตามตรง “ฮิมมันคงไม่โอเค ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าเลผอมลง”

ชื่อที่ถูกอ้างอิงส่งผลต่อเลได้เสมอ น้องแสดงท่าทีเอนเอียงไปทางเขามากขึ้น “แล้วถ้าฮิมตื่นขึ้นมาตอนเลไปกินข้าวล่ะ”

“เชื่อพี่เถอะว่ามันจะไม่โกรธน้อง”

จบประโยคคนฟังก็ถอนหายใจ ลุกขึ้นแล้วบอกกับเขาขอเวลาเตรียมตัว ดีนอมยิ้ม รู้ได้ทันทีที่ว่าการพูดโน้มน้าวของเขาได้ผล ร่างสูงลุกขึ้นยืนมองผู้ป่วยบนเตียงขณะที่เลเดินเข้าห้องน้ำ ลองกระซิบเสียงแหบพร่าด้วยประโยคที่คิดว่าหากจิตสำนึกของคนตรงหน้าได้ยิน ดีนเชื่อว่ามันคงจะตื่นขึ้นมาทันที

“ลืมตาขึ้นมาได้แล้ว เลบ่นว่าอยากแต่งงาน ช้ากว่านี้น้องเปลี่ยนใจไปแต่งกับคนอื่น ใครก็ช่วยมึงไม่ได้นะ”

ดีนแสยะยิ้ม รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำอะไรที่ไร้สาระ เขาเดินออกจากห้องไปพร้อมเลและสั่งให้คนด้านนอกมาเฝ้าแทน ทันทีที่ประตูปิดสนิท ดีนไม่คิดเลยว่าสิ่งตัวเองพูดเอาไว้มันส่งผลแค่ไหน

เมื่อเปลือกตาสีไข่ที่ปิดสนิทมาสามวันเริ่มขยับ



45 นาทีต่อมา

“ฮิมฟื้นแล้วเหรอ” ดีนที่กำลังดื่มชาอยู่ถึงกับชะงัก ดูเหมือนคนตรงหน้าที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู๋จะไม่มีอารมณ์กินข้าวอีกต่อไป เลลุกขึ้นจากโต๊ะ ขณะที่ร่างสูงลุกตาม เปิดกระเป๋าตังค์หยิบแบงค์จำนวนหนึ่งออกมาวางซึ่งมากพอที่จะจ่ายค่าอาหารตรงหน้าได้ จากนั้นจึงเดินออกจากร้าน ขึ้นรถเหยียบเกือบสุดไปที่โรงพยาบาล

เลไม่รอให้รถจอดสนิทด้วยซ้ำ ร่างบางออกแรงวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไปที่ห้อง

ปัง!

“พี่ฮิม!”  เสียงตะโกนทำให้คนในห้องหันมามอง เลวิ่งไปดูที่เตียงซึ่ง… ว่างเปล่า “ฮิมล่ะ”

“หมอพาไปตรวจอยู่ มานั่งก่อน” วินจับน้องมาเช็ดเหงื่อ บังคับให้คนตัวเล็กนั่งลงบนโซฟา เลกวาดสายตามองในห้องมีแค่วิน ทั้งที่ควรจะมีมากกว่านี้เพราะตอนที่พี่วินโทรหาเขาได้ยินเสียงคนหลายคน

“ไปไหนกันหมด”

“แม่ฮิมไปกับฮิม ส่วนพ่อฮิมกับพ่อน้องเลพึ่งเดินออกไปคุยกันด้านนอก”

เลหันไปมองหน้าประตู เมื่อกี้เขารีบมากเลยไม่ได้สังเกตุ พึ่งเห็นว่าป๊ะป๋าแอรอนกำลังชูสองนิ้วให้ผ่านประตู ไม่กี่วิหลังจากนั้นคุณพ่อพี่ฮิมก็โผล่หน้าเข้ามาขยิบตาให้

“อีกนานไหม”

“ไม่นานหรอก ถูกพาไปตรวจสักระยะแล้ว เดี๋ยวก็มา”

จบประโยคนั้นได้ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออก คนที่เลอยากพบมากที่สุดถูกเข็นเข้ามาในห้อง ร่างบางลุกขึ้นยืนวิ่งเข้าไปกอดหลวมๆ เพราะกลัวอีกฝ่ายเจ็บ มือหนาลูบศีรษะเลตอบ ฮิมยังนิ่งเงียบจนกระทั่งถูกพยุงขึ้นบนเตียงดังเดิม นัยน์ตาคมจ้องคนที่ยังจับมือไม่ห่างแล้วขมวดคิ้ว

“ทำไมผอมลง” คำถามที่ทำให้คนฟังถึงกับสะอึก เหมือนที่พี่ดีนคาดการณ์เอาไว้ไม่มีผิด คนในห้องทยอยออกเพื่อให้ทั้งสองได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน แต่ความหวังดีเริ่มสร้างความลำบากให้เลเมื่อฮิมจี้หนัก “น้องเล”

คนฟังทำหน้ารู้สึกผิด รีบประสานนิ้วทั้งสิบเข้ากับมือหนา “ก็เลเป็นห่วงฮิม”

“ไม่กินข้าวเหรอ?”

“กินไม่ลง” ร่างเล็กส่ายหน้า รีบเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา “ฮิมเจ็บไหม”

“ขึ้นมาให้พี่กอด” เลทำตามคำสั่ง ขึ้นมานั่งบนเตียงก่อนจะถูกรั้งคอเข้าไปประทับจูบแผ่วเบา บรรยากาศสงบลง เลเอนตัวพิงบ่าในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนไปกับผู้ป่วย “ได้ข่าวว่าเกิดเรื่องขึ้นเยอะ”

“อืม”

“เล่าให้พี่ฟัง” เขาไม่อยากขัดพี่ฮิม เลเริ่มจากตอนที่ตัวเองตื่นหลังจากสงบไปหนึ่งวันเต็ม มารู้ว่าพ่อของพี่ดีนคือพ่อแท้ๆ ได้พี่ชายต่างแม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน แล้วก็ตอนที่คุณพ่อของฮิมกับป๊ะป๋าแอรอนเกือบทะเลาะกันเพราะเขา

“คุณพ่อรักน้องเลจะตาย”

“ไม่เห็นรู้มาก่อน”

“ก็แต่ก่อนเลทำหน้าเบ้ใส่คุณพ่อตลอดนี่”

“ไม่เถียง” เลว่า ร่างเล็กพยายามสังเกตุอารมณ์ของอีกฝ่ายเมื่อเห็นฮิมเงียบลง “ฮิมโอเคไหม”

“ทำไมพี่ต้องไม่โอเค”

“ก็…” เลเม้มปาก เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก อึดอัดจนคนป่วยสัมผัสได้ มือสากประคองใบหน้าสวยขึ้น แนบจูบลงบนแก้มใสกระซิบใส่ข้างหู

“เลมีความสุข พี่ก็มีความสุข”

“แต่เมื่อกี้ฮิมเงียบ” ฮิมถอนหายใจ เขาจำเป็นต้องสารภาพ

“พี่ปวดแผล” ไม่อยากบอกเลเพราะกลัวจะทำให้น้องเป็นห่วง และก็เป็นอย่างที่คาด ร่างบางขยับไปนั่งข้างเตียงแทนด้วยสีหน้าตื่นๆ

“เลขอโทษ” เสียงนุ่มว่าปรับหัวเตียงให้เอนลงต่ำเพื่อให้คนป่วยได้พักผ่อน “นอนดีกว่าเนาะ”

คนตัวสูงไม่ปฏิเสธ ฮิมจับมือน้องแนบเข้าที่แก้ม “อยู่กับพี่”

“พักผ่อนได้แล้วครับ”



ฮิมหลับแล้ว

เหมือนจะเพลียมาก เพราะไม่ถึงสิบนาที คนบนเตียงก็หลับสนิท ผมค่อยๆ ดึงมือที่ถูกจับแนบแก้มออก จัดผ้าห่มให้คนหลับก่อนจะเดินออกไปด้านนอก กอดหมับเข้าที่เอวของหนึ่งในสองพ่อที่ยังคุยกันไม่เสร็จ

“สบายใจขึ้นแล้วใช่ไหม” ป๊ะป๋าดึงตัวผมมาด้านหน้า จากฝ่ายกอดกลายเป็นฝ่ายถูกกอดจากทางด้านหลัง อีกฝ่ายวางคางไว้บนหัวเล จะว่าไปรอบตัวผมมีแต่คนสูงๆ เลยนะเนี่ย “คุณพ่ออยากนอนกอดน้องละ--”

“เลจะนอนเฝ้าพี่ฮิม” ผมพูดแทรกขึ้นมาทันควัน แน่นอนว่าคนฟังมีท่าทางขัดใจอย่างเห็นได้ชัด ป๊ะป๋าหันหน้าไปหาคุณพ่อพี่ฮิม ถามเสียงแข็ง

“อีกกี่วันถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้”

“สี่ห้าวันมั้ง ถามทำไม”

“เดี๋ยวจะเตรียมห้องที่บ้านให้”

“นี่ลูกฉัน จะให้ไปอยู่บ้านแกทำไม”

“ก็น้องเลต้องมาอยู่กับคุณพ่อสิใช่ไหมคะ” เพราะรู้ว่าผมไม่ยอมห่างพี่ฮิม ก็เลยต้องจัดห้องให้พี่ฮิมที่บ้านอย่างนั้นสินะ

“เสียใจ บังเอิญว่าบ้านนี้ก็มีห้องของน้องเลอยู่แล้ว ยิ่งฮิมเจ็บด้วยแบบนี้เอาที่ที่เคยอยู่ดีกว่า สะดวกกว่าเยอะ”

เลได้แต่หัวเราะแฮะๆ แรงกดดันรอบด้านทำให้บรรยากาศเริ่มมาคุขึ้นเรื่อยๆ ผมต้องการจะเปลี่ยนเรื่อง แล้วก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

“โอ๊ะ! คุณพ่อ” เรียกทั้งสองพ่อไม่ได้เจาะจงใคร แต่ขยับหนีออกจากป๊ะป๋าแอรอนแล้ววิ่งไปกอดพ่อพี่ฮิมแทน “ลำบากแย่เลยใช่ไหม?”

“ลำบาก?” คนฟังขมวดคิ้ว ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ ผมกัดริมฝีปากแน่น วกกลับไปกอดป๊ะป๋าอีกครั้ง

“ป๊ะป๋า ป๊ะป๋าต้องช่วยคุณพ่อพี่ฮิมนะ”

“จะเอาเท่าไหร่” ท่านไม่ถามอะไรทั้งนั้น แต่เอ่ยคำพูดพร้อมยื่นเช็กให้เลย “แกเขียนๆ เอาเองแล้วกัน”

“เลพูดอะไรเนี่ย” คุณพ่อพี่ฮิมไม่ได้รับเอาไว้ ร่างสูงทำหน้างง เลิกคิ้วขึ้นเป็นคำถาม

“ก็บริษัท…” พูดขึ้นจากนั้นก็ร่ายยาวจนจบ ผมน้ำตาคลอ “แย่เลยใช่ไหม”

ถึงคนที่ยิงพี่ฮิมจะถูกจับ แต่ศาลตัดสินแล้วว่าแฮมินตันแพ้คดี ถึงผมจะไม่เก่งเรื่องธุรกิจ แต่พี่ฮิมก็เคยกรอกหูอยู่ว่า เรื่องขึ้นศาลพวกนี้มันมีอิทธิพลพอสมควร แพ้ศาลหนึ่งครั้งความน่าเชื่อถือลดลงไปอยู่มากโข มันไม่ได้กระทบแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งแต่กระทบไปถึงส่วนรวม ดังนั้นผมเลยคิดว่าช่วงนี้แฮมินตันน่าจะตกที่นั่งลำบาก ทว่าคุณพ่อฮิมกลับส่ายหน้า

“น้องเข้าใจผิดแล้ว”

“อ้าว”

“แฮมินตันไม่ได้แพ้ศาล”

“หา?” ผมอ้าปากค้าง ไม่แพ้ได้ไง ก็ตอนนั้นออกข่าวเลยนะ! “ก็ข่าว…”

“สื่อถ้าใช้ให้เป็นก็มีประโยชน์” คนกอดผมกระซิบข้างหู ผมหันหน้าไปมอง ยังไม่เข้าใจจนกระทั่งได้เฉลย “จ่ายเงินให้เขียนข่าวว่าแพ้แล้วค่อยแก้ว่าไม่ได้แพ้ทีหลัง”

โอ้มายก็อดดดดดด

“ได้รับผลกระทบอยู่บ้างช่วงแรก แต่หลังจากนั้นก็กลับมาเป็นปกติ ฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายช่วยแก ได้ข่าวว่าตอนนั้นเซ็นยกบริษัทให้เพื่อแลกกับที่อยู่ของเลนี่”

“จริงเหรอ” ผมหน้าตาตื่น ขณะที่คุณป๋าของเลมีท่าที่ปลื้มปิติที่ผมถาม มากกว่าเรื่องที่ว่าเซ็นสัญญาเพื่อแลกกับที่อยู่

“เป็นห่วงเหรอคะ น่ารักจัง”

“จะเอาเท่าไหร่” ถามคำเดิมถูกย้อน คุณพ่อก้มลงหยิบเช็กบนพื้น เอาปากกาขีดลายเซ็นคุณป๋าออก แทนที่ด้วยลายเซ็นตัวเอง ซ้ำประโยคเดียวกันพร้อมกับแสยะยิ้ม “แกเขียนๆ เอาเองแล้วกัน”

รอยยิ้มบนใบหน้าของฝ่ายที่กอดเลอยู่หายไป เห็นท่าไม่ดีผมจึงต้องรีบห้ามศึกด้วยการกอดตอบแน่นๆ บังเอิญได้ผลดีเกินคาด ป๊ะป๋าแอรอนรีบวกความสนใจกลับมาที่เล รอยยิ้มประดับประดาบนใบหน้าดังเดิม “ตอบเลหน่อย”

“คนนี้เครียดแทนแล้ว” ว่าติดตลก ทว่าประโยคต่อมา ผมกลับตลกไม่ออก “มันได้ไปจริง”

กำลังจะอ้าปากค้าง ทว่า “แต่มีสิทธิครอบครองหลังจากออกมาจากคุกแล้วน่ะนะ ซึ่งตอนนี้ใบสัญญาที่มันได้ไปก็คง…”

เสียงฟิวดังต่อท้าย ทำมือเหมือนมีบางอย่างถูกลอยไปในอากาศ

“ยังไงก็ได้รับผลกระทบ เพราะคลาร์กที่แพ้น่ะ ชื่อเจ้าของบริษัทมันเป็นแกนี่”

ป๊ะป๋าทำหน้าเอือมระอา ปากบอกว่าจัดการได้ ไม่ต้องห่วง แล้วชวนผมคุยเรื่องอื่นเพื่อเปลี่ยนเรื่อง เลหันไปสบตากับคุณพ่อพี่ฮิม ร่างสูงอมยิ้มส่งสายตามาบอกว่าไม่จำเป็นต้องกังวล ผมยังไม่ค่อยวางใจหรอก แต่พวกผู้ใหญ่ดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากให้เลยุ่งเรื่องนี้ ผมก็เลยปลง เลิกคิดแล้วไหลไปตามเรื่องที่คุณป๋าชวนคุยไปด้วยประการฉะนี้



พี่ฮิมได้ออกจากโรงพยาบาลไม่กี่วันหลังจากนั้น และท้ายที่สุดเราก็เลือกที่จะอยู่บ้านของคุณพ่อ แม้ป๊ะป๋าของผมจะอยากให้ผมย้ายไปอยู่อีกบ้านมากก็ตาม เพราะรู้ว่าผมจะคอยเฝ้าพี่ฮิม ไปไหนไม่ได้ ทางนั้นก็เลยแก้ปัญหาโดยการขึ้นเฮลิคอปเตอร์มากินข้าวเย็นด้วยเกือบทุกวัน เลว่าดีนะ อย่างน้อยก็ทำให้การกินข้าวเย็นมีสีสันขึ้น เพราะต้องฟังผู้ใหญ่สองคนคุยกันปนๆ กับการเถียงกันไป

แผลของพี่ฮิมต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่ามันจะหาย ดังนั้นพี่วินและพี่ดีนจึงได้กลับไทยก่อน เพราะใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ส่วนเลอยู่ในระหว่างการตัดสินใจ

จบเทอมนี้พวกพี่ๆ ก็เรียนจบ รับปริญญากันหมด สามพี่ของเลก็คงไม่มีใครอยู่ประจำที่ไทย พี่ฮิมต้องกลับมาอังกฤษ พี่ดีนก็เช่นกัน ส่วนพี่วินรายนั้นก็เปรยๆ ว่าอาจจะได้ไปทำงานอยู่ดูไบ ยังไม่แน่ใจแต่ก็คิดว่ารายนั้นก็คงจะไม่ได้อยู่ที่ไทย

พี่ๆ ของเลมีงานทำกันหมดแล้ว เหลือก็แค่ผมคนเดียว

ยิ่งคิดเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกหนักใจ ทีแรกผมคิดว่าถึงพี่ฮิมจะกลับมาที่อังกฤษ ตัวเองก็จะเรียนที่ไทยต่อ แต่พอมีพี่วินพี่ดีน ยิ่งคุณพ่อแอรอนโผล่มาเพิ่ม ผมก็เริ่มคิดหนัก เพราะพึ่งรู้สึกว่ามีครอบครัวที่ครบขนาดนี้ ก็เลยไม่อยากห่าง ป๊ะป๋าเองก็คิดเหมือนกัน แต่ท่านไม่ได้บังคับ ให้โอกาสผมตัดสินใจทุกเรื่อง

โดยเฉพาะเรื่องการเรียนที่เลแทบจะวิ่งเต้นปรึกษาทุกคนไปแล้ว ไม่เว้นกระทั่งคุณพ่อของพี่วิน ดูจากประวัติ คุณพ่อแอรอนจบจาก MIT คุณพ่อพี่ฮิมจบมาจากหนึ่งในมหา’ลัย Ive league หรือคุณพ่อของพี่วินที่จบจากมหา’ลัยชื่อดังของอังกฤษก็ตาม ล้อมรอบตัวเลมีแต่คนเก่ง แต่คนเก่งทุกคนกลับไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกดดัน ไม่รู้ว่าเพราะว่าการเรียนของผนมันตกต่ำย่ำแย่หรืออย่างไร ทุกคนถึงไม่ได้มีท่าทีคาดหวังสูงนัก ป๊ะป๋ายิ่งแล้วใหญ่ ฝ่ายนั้นบอกเลยว่า…

ถ้าเรียนมันยากนัก น้องเลก็ไม่ต้องเรียนก็ได้ อยากทำอะไรก็ค่อยมาบอก คุณพ่อจะสนับสนุนเอง

อะไรประมาณนี้

กว่าผมจะตัดสินใจได้ วันนั้นก็เป็นวันสุดท้ายที่พี่ฮิมกำลังจะกลับไทย หลังจากแผลหายสนิทพอดี







(50%)



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

พอกันกับดราม่า ส่วนความหวานน่ะ มันเริ่มหลังจากนี้ ฮี่ๆๆๆๆๆ 5555555

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 28-03-2019 23:55:24
เย้ๆๆๆ รอเค้าหวานกันนน  :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-03-2019 00:04:27
รอๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-03-2019 00:12:06
เล หนูเริ่มจะญาติเยอะแล้วนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 29-03-2019 00:24:08
ชอบการแก้เกมของคนเขียนที่ใช้สื่อ
ดีจริง แยบยล คิดไม่ถึง เยี่ยมเลย

น้องเลรู้จักครอบครัวจริงๆครบแล้วเนอะ
คราวนี้ไม่เหงาแน่ๆ สองพ่อคงปะทะคารมกันตลอด

รออ่านต่อจากนี้ค่า
รอคู่ดีนกับวินด้วย ยังไงน้าาาาา

เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ(^^)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 29-03-2019 00:26:30
น้องจะตัดสินใจยังไงงงง
แต่ละคนพร้อมเปย์น้องมาก โอ๊ยยยยย 5555555555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 29-03-2019 05:25:57
โอยยยยน้องงงงงง หมดทุกข์หมดโศกนะลูก
รอความหวานอยู่จ้า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-03-2019 07:53:35
หมดเคราะห์สักทีนะน้องเลย แถมได้ป๊ะป๋ากับพี่ชายเพิ่มมาอีก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 29-03-2019 08:22:40
รอความหวาน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 29-03-2019 12:13:49
รอนะคะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 29-03-2019 14:49:43
 :really2: พ่อเยอะจนมึนแทน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 29-03-2019 16:03:15
ถึงไม่เรียนน้องก็มีคนเลี้ยงบอกเลย แถมยังอาจได้มรดกอีกมากมายอ่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 29-03-2019 20:43:33
ขอบคุณครับ

แล้วเราก็ต้องรอต่อไปอีกว่าจะหวานแค่ไหน
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 18-04-2019 07:46:55
ep44 (100%)



เหนือน่านฟ้าประเทศไทย

เสียงกัปตันประกาศว่าอีกไม่กี่นาทีเครื่องบินจะลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นผลให้คนที่กำลังนั่งอ่านข่าวธุรกิจอยู่เงยหน้า มือหนายกแก้วไวท์แดงสัญชาติออสเตรเลียอย่าง PENFOLDS GRANGE BIN 95 ขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด จากนั้นจึงลุกขึ้น เดินเข้าไปในห้องๆ หนึ่งของเครื่องบินส่วนตัวก่อนจะพบกับร่างเล็กที่กำลังขดตัวนอนหลับอยู่บนเตียง กายขาวซ่อนอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนา มีแค่หัวไหล่กลมมนเปล่าเปลือยโผล่ออกมาน่ามอง

เลถูกเขารังแกตั้งแต่เครื่องบินขึ้นเหนือน่านฟ้าประเทศอังกฤษ ให้พักแล้วก็รังแกวนลูบเดิมอยู่หลายครั้งจนเลสลบเหมือดเข้าจริงๆ เมื่อสามสี่ชั่วโมงก่อน รู้สึกผิด แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปอีกฮิมก็คงทำเหมือนเดิม หลังจากห่างกายเรื่องนี้ไปนานเป็นเดือนเพราะการรักษาตัวอย่างทรหด ปวดแผลยังไม่เท่ากับการปวดหนึบที่แก่นกายแต่ทำอะไรไม่ได้ เมื่อก่อนความต้องการเลของเขามันก็สูงเอาเรื่องอยู่แล้ว ยิ่งคราวนี้อีกฝ่ายมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ แทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงเพื่อดูแลเขา ยิ่งทำให้ฮิมแทบจะคลั่งตายอยู่ร่อมร่อ เพราะจะแตะน้องทีไร แผลจากการถูกยิงมันก็ประท้วงเจ็บขึ้นมาราวกับว่าเป็นผู้พิทักษ์เลยังไงยังงั้น และเมื่อหายดีปุ๊บฮิมก็ต้องบินกลับไทยทันที เพราะมหา’ลัยเปิดเทอมไปแล้วหลายอาทิตย์ ดังนั้นเลที่ตามกลับมาด้วยจึงไม่พ้นการถูกจับกินบนเครื่องบินไปหลายต่อหลายครั้ง

ร่างหนาแทรกเข้าผ้าห่ม ขึ้นคร่อมทับคนหลับ ริมฝีปากสวยจูบซับที่หัวไหล่แล้ววนเวียนไซร้อยู่บริเวณนั้นจนคนหลับเริ่มเปิดตาขึ้น เลส่งเสียงงอแงสีหน้าเง้างอดหากสองมือกลับยกขึ้นโอบรอบลำคอ ปลายนิ้วสอดขยุ้มกลุ่มผมสีดำพร้อมรั้งศีรษะอีกฝ่ายแนบอกเพื่อให้นอนหลับด้วยกัน ฮิมค้ำแรงเอาใจ อยากตามใจน้องอยู่หรอกแต่ติดที่ว่าเครื่องบินกำลังจะลงจอด พวกเขาต้องกลับไปนั่งที่นั่งเพื่อรัดเข็มขัดตอนที่เครื่องบินลงอีกไม่เกินสิบนาทีหลังจากนี้

“Honey, wake up”

“...”

“เล”

“...”

“น้องเล

ไม่ตื่น

ฮิมถอนหายใจ ไม่พยายามที่จะปลุกน้องอีก ร่างสูงลุกจากเตียงไปหยิบเสื้อผ้าของเลที่ตกอยู่รอบขึ้นมาแต่งตัวให้อีกฝ่ายในท่านอน ก่อนจะอุ้มร่างผอมขึ้นไปที่นั่งจัดการคาดเข็มขัดให้ ทว่ากระทั่งเครื่องบินจอดสนิทบนพื้นเลก็ยังหลับอยู่ เขาไม่ได้ปลุกให้เลตื่น จัดการอุ้มคนหลับไปทั้งอย่างนั้น น้องตื่นขึ้นเองเมื่อได้ยินเสียงผู้คนพลุกพล่านในสนามบิน



บ้าน

ปวดเอว

เลบ่นว่างั้น ปวดหนักจนน้องขอแวะจอดซื้อยาคล้ายกล้ามเนื้อระหว่างขับรถกลับบ้าน แต่พอถึงบ้านปุ๊บไม่รู้ว่าอาการปวดมันหายไปไหน คนป่วยดูร่าเริงวิ่งกอดทุกคนรอบบ้านไม่เว้นกระทั่งสิ่งมีชีวิตสี่ขาที่น้องมักจะบอกว่าเกลียดอยู่ตลอดอย่างเปอร์เซีย

“พี่รพพพพพพพพ” เลกระโดดกอดเจ้าของเรือนผมสีแดง จับบ่าแกร่งคว้าหมับให้อีกคนอุ้มเหมือนลูกลิง

“เล่นอะไร”

“คิดถึงจัง”

“คิดถึงกู?”

“คิดถึงอาหารของพี่รพ”

“ตลกละมึง”

“ล้อเล่น คิดถึงพี่รพด้วย” ฮิมดึงคนที่ถูกอุ้มออกมาอุ้มเอง เลดิ้นลงแล้ววิ่งไปกอดคนอื่นแทน

“ไงมึง หายดียัง” รพทัก กวาดสายตามอง แทบจะเป็นปกติ ดูไม่มีวี่แววคนเคยถูกยิงมาก่อน มันก็ยังขรึมเหมือนเดิม บรรยากาศโดยรอบอึมครึมและน่ากลัวเหมือนเดิม “โกรธที่พวกกูไม่ได้ไปเยี่ยมนะ มึงไม่ให้ไปเอง”

วินเป็นคนส่งข่าว แน่นอนว่าทุกคนตกใจจนพูดไม่ออกตอนที่รู้ว่าฮิมโดนยิง พวกเขาตั้งใจจะบินไปเยี่ยมที่อังกฤษ แต่มันฟื้นก่อน แถมก็สั่งให้ทุกคนไม่ต้องมาเพราะว่ามหา’ลัยใกล้จะเปิดเทอมอยู่เต็มที ดังนั้นเพื่อนจึงได้แต่ส่งควรห่วงใยไป ความห่วงใยในแบบพวกเขาน่ะนะ

“ปัญญาอ่อน” คนฟังส่ายหน้าเอือมระอา อย่าว่าแต่จะโกรธ แค่คิดเรื่องที่พวกนี้จะบินไปเยี่ยมก็รู้สึกแปลกๆ เต็มทน ปกติสนหัวกันที่ไหน

ฮิมเดินผ่านเพื่อน เขาตั้งจะจับตัวเลที่กำลังเกาะแกะไทด์กับเกียร์มาทายา รู้ว่าน้องต้องบ่นว่าปวดเอวหลังจากเดิมหลังจากนี้ แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสตัว พี่ชายสุดที่รักของเลก็เดินลงมาพอดี ร่างเล็กดุ๊กดิ๊กรีบเปลี่ยนเป้าหมายไปกอดคนพี่ทันควัน

“มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่” วินถามน้อง จมูกไซร้ขมับแล้วบังเอิญได้กลิ่นแปลกประหลาด ดวงตาคมสบตาฮิม แค่มองก็รู้ทันทีเลยว่ามันทำอะไรน้องเขาตอนอยู่บนเครื่องบิน

“ไงฮิม ดีใจนะที่ยังไม่ตาย” ไทด์ตบบ่าเพื่อนสองสามที

ฮิมไม่ได้ฟังเพื่อนพูดด้วยซ้ำ วงแขนแกร่งรีบโอบเอวบางก่อนที่เลจะหนี กระชับเข้าหาตัวแล้วอุ้มพาดบ่า

“พี่ฮิม! อย่าใช้แรงเยอะสิ เดี๋ยวไส้ทะลัก!” เลโวย คนฟังส่ายหน้าพึมพำว่าพูดไปเรื่อย ถ้ามันจะทะลักจริงคงเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เขากระแทกหนึ่งในอวัยวะส่วนล่างเข้าใส่ร่างกายอีกคนอย่างไม่อ้อมแรงแล้ว “เดี๋ยวเลเดินเอง”

“ขึ้นห้อง”

“ทำไรเหรอ ทำตรงนี้ได้ไหม เลอยากอยู่คุยกับพี่ๆ อะ”

“เหรอ จะทายาตรงนี้เหรอ” เขากระซิบ รู้ว่าอายก็เลยไม่พูดดัง แต่ตอนนี้ห้องเงียบคนเลยได้ยินกันหมด เป็นผลให้เลหน้าแดง วิ่งขึ้นห้องไปก่อนทันที ฮิมคว้าถุงยาที่ทำตกอยู่บนพื้นจากการไล่จับตัวดี ก่อนจะหันไปบอกคนที่เลเหลือว่าเดี๋ยวลงมาคุยด้วย พวกมันพยักหน้า แต่ละคนย่างอื่นหาอะไรมานั่งทำรอหากสายตามองเขาเป็นเชิงว่าอย่านาน

ร่างสูงเดินขึ้นห้อง เปิดประตูมองคนที่กำลังนอนรอบนเตียง มือหนากดล็อกประตู ฮิมขึ้นคร่อม มือหนาไล่ปลดกระดุมเสื้อ เปลื้องผ้าน้องออก

“ปวดตรงไหน”

“ไหล่ เอว สะโพก” เลว่า ขณะที่นัยน์ตาคมจดจ้องอยู่ที่ยอดอกแดงระเรื่อน่าฟัด จนเผลอก้มลงกัดอย่างไม่รู้ตัว “พี่ฮิมหยุดเลย! ไม่งั้นเลจะทาเองแล้วนะ”

เจ้าของใบหน้าคมละหน้าออกอย่างจำใจ “เดี๋ยวพี่นวดให้”

ฮิมเสนอ เขาเลิกแกล้งน้อง บีบครีมคลายกล้ามเนื้อใส่มือ ใช้นิ้วปาดครีมแล้วพลิกตัวเลคว่ำ แต้มครีมลงตามจุดที่เลบอกว่าปวดเริ่มจากไหล่แล้วนวดเบาๆ คนถูกปรนนิบัติเอามือหนุนหน้า หลับตาพริมอย่างมีความสุข

มือสากเลื่อนมาถึงเอว แต้มครีมใส่แล้วออกแรงนวด บริเวณนี้ขึ้นยังขึ้นสีแดงอ่อนอย่างเห็นได้ชัดผลมาจากการที่เขาขย้ำเอวแรงไปหน่อย แต่จุดที่เกิดรอยแดงเด่นชัดที่สุดเห็นจะเป็นส่วนที่สาม… สะโพก

กางเกงยางยืดถูกดึงลงต่ำหมิ่นเหม่ เผยสะโพกและบั้นท้ายที่เปลี่ยนสีชั่วคราว จากขาวสะอาดกลายมาเป็นแดงระเรื่อ ฮิมแต้มครีมใส่แล้วออกแรงนวดตาม คนน้องส่งเสียงประท้วงว่าปวดช่วงแรกก่อนจะสงบลง กลับกันคนนวดกลายมาเป็นคนปวด(หนึบ)เสียเอง

แก่นกายแข็งชันขึ้นใต้กางเกงยีนส์ Armani สีเข้ม มือไล่ต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงกึ่งกลางของบั้นท้ายขาว สองนิ้วเรียวเกือบแทรกเข้าใส่ใจกลางนั่นอย่างเผลอไผลถ้าไม่ติดที่ว่าคนนอนราบพลิกตัวกลับ เลรีบดึงกางเกงขึ้น สายตามองมาอย่างรู้ทัน

“จะโกรธแล้วนะ” ฮิมข่มใจ ปล่อยน้องหนีได้แต่ยังไม่วายตบก้นอวบนั่นสองสามทีอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมกับอีกคน



บรรยากาศเดิมกลับมา แบบที่ทุกคนมานั่งรวมตัวแล้วก็พูดคุยกันอย่างนี้ แน่นอนว่านั่งคุยเฉยๆ ก็ดูจะไม่สนุก แอลกอฮอล์และเบียร์ถูกเปิด ควันบุหรี่หลากหลายยี่ห้อลอยว่อนอยู่ในห้องจนต้องปิดแอร์ เปิดประตู หน้าต่างออกเพราะเลที่แพ้ควันบุหรี่หน่อยๆ เริ่มไอและหายใจติดขัด

น้องนั่งอยู่บนตักฮิม เอาหัวซบบ่าเจ้าของตักและพาดขาไปทางพี่ชายที่กำลังลงมือตัดเล็บเท้าให้

“สรุปว่าน้องเลจะไม่ต่อที่ไทยเหรอ?” จบคำถามจากผา เลก็พยักหน้า

เขากลับไทยครั้งนี้ไม่ได้มาเรียนต่อ แต่มาลาออกรวมถึงจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่จะย้ายไปอยู่อังกฤษกับคุณพ่อและอาจจะอยู่ที่นั่นถาวร เพราะธุรกิจต่างๆ รวมถึงบริษัทหลักที่พี่ฮิมต้องเป็นคุมบังเหียนในอนาคตนั้นทุกอย่างล้วนอยู่ที่อังกฤษ

เรื่องเรียน ไม่มีใครบังคับเล เป็นตัวเลเองที่เลือกไม่ได้ แต่ยืนยันว่าในอนาคตตัวเองอยากจะเป็นนักแข่งรถ เขาชอบในด้านนี้ เก่งในด้านนี้ และไม่เห็นว่าตัวเองจะเหมาะกับอะไรอย่างอื่นไปมากกว่านี้อีกแล้ว ดังนั้นหลังจากไปคุยกับคุณพ่อเป็นครั้งที่สอง ท่านก็เลยเสนอทางเลือกมาให้สองทางด้วยท่าทีจริงจังผิดไปจากเดิม

หนึ่งคือไปเรียนต่อที่อังกฤษจนจบ รับปริญญาไว้เป็นคุณวุฒิ ต่อจากนั้นคุณพ่อจะดันเขาเข้าสู่แวดวงให้เอง สองคือมุ่งทางตรง ไม่ต้องเรียนในมหา’ลัย แต่ต้องไปเรียนรู้เรื่องรถหรือพวกเรื่องพื้นฐานสำหรับการแข่งรถโดยเฉพาะ กับเพื่อนของคุณพ่อจบจาก MIT ซึ่งเลเคยรู้จักในคราวก่อนจะมาเป็นโค้ชให้ ถ้าเรื่องพื้นฐานแม่น ความสามารถพร้อมแล้ว ต่อจากนั้นจะสมัครเข้าไปเป็นนักแข่งให้กับเฟอร์รารี่ แม็กลาเรน เมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือบริษัทอื่นก็ค่อยว่ากันไป เพราะเป้าหมายสูงสุดของเลคือการชนะการแข่งขัน Formula1

ทุกคนฟังแล้วก็พยักหน้า ไม่มีใครพูดว่าเลไม่เหมาะกับอาชีพนี้ เพราะถ้าเป็นเรื่องรถ ก็ต้องยอมรับว่าเลโดดเด่นเรื่องนี้ สมแล้วที่โตมากับบ้านซึ่งทำธุรกิจใหญ่เกี่ยวกับรถ

“เลกลับอังกฤษวันไหน” วินถาม

“วันพุธหน้า”

“อาทิตย์เดียว?” เกียร์ถาม หันไปมองเจ้าของตักแกร่งที่เลนั่งทับซึ่งไม่น่าจะยอม บัดนี้กลับทำหน้านิ่ง

เลถอนหายใจ เรื่องนี้ทำให้ฮิมงอนเขานิดหน่อย ที่เลต้องรีบกลับก็เพราะคุณพ่อ ตั้งแต่ที่รู้ว่าเป็นลูกแท้ๆ ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว การดูแลพี่ฮิม ทำให้เลไม่ได้ไปอยู่กับอีกฝ่ายที่ทำท่าว่าอยากจะเลี้ยงเขาจนใจจะขาดแบบจริงๆ จังๆ เพราะอันที่จริงคุณพ่อเสนอทางเลือกที่สามซึ่งเป็นทางเลือกพิเศษให้ด้วย นั่นคือไม่ต้องเรียนหรอก ให้พ่อเลี้ยง ซึ่งดูเหมือนว่าข้อนี้คุณป๋าของเลจะภูมิใจนำเสนอเสียเหลือเกิน

ดังนั้นการกลับไทยเพื่อมาเคลียร์ธุระในครั้งนี้ จึงได้ระยะเวลาอยู่แค่อาทิตย์เดียว นานกว่านั้นเลเชื่อว่าคุณป๋าของตัวเองอาจจะขึ้นเครื่องบินเจ็ตตามมาถึงไทย

แต่การเอาใจคนหนึ่ง ผลลบไปก็ส่งไปถึงอีกคน ถ้ากลับอังกฤษนั่นหมายถึงเขาอาจจะต้องห่างกับฮิมเป็นเดือนๆ ส่งผลคนที่พึ่งหายจากการถูกยิงแต่กลับได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแบบปกติแค่หนึ่งอาทิตย์แสดงอาการงอนหน่อยๆ แต่เขาเชื่อว่าพี่ฮิมเข้าใจ ไม่อย่างนั้นก็คงคัดค้านหรือขอยืดเวลาไปแล้ว

เอาเถอะ! ในหนึ่งอาทิตย์นี้ เขาจะพยายามตามใจพี่ฮิมให้ได้มากที่สุดก็แล้วกัน

คุยต่ออีกประมาณสามสิบนาทีเลก็ขอขึ้นห้อง เจ้าตัวถอดเสื้อผ้าหยิบ Macbook เดินเข้าห้องน้ำ ลงแช่ตัวในอ่างกุชชี่พร้อมกับเปิดหนังดูจนจบเรื่องหนึ่ง แล้วเดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับกลิ่นกายน้ำฟุ้ง

เลเปิดประตูในจังหวะเดียวกันที่ร่างสูงเปลือยท่อนบนกำลังถอดเข็มขัดที่สะโพก กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยอบอวนเป็นหลักฐานว่าเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาฮิมดื่มหนักขึ้นพอสมควร คน(ท่าจะ)เมาเห็นเขาก็เดินมาหา ทำตาระยิบระยับใส่โอบกอดเอาไว้ก่อนจะไซร้คอ

“Are you drunk?” เลถามตามตรง อีกคนส่ายหน้าปากบอกว่าไม่เมาแต่นัยน์ตาหวานหยดเยิ้มไปแล้ว คนมองสรุป “You get drunk.”

“No, I’m not”

“Yes, You are” เลยืนหยัดในคำพูดจนร่างสูงหัวเราะ ทุ่มน้องลงเตียงพร้อมกับคร่อมทับ

“Okay babe” กายหนายอมแพ้ตอนที่ได้กัดริมฝีปากล่างของอีกคน ปลายลิ้นสัมผัสกันเพียงนิดหน่อยฮิมก็ถอยออกมากระซิบน้ำเสียงแหบพร่าข้างหู “I’ll be whatever you want me to be หืม ดีไหม”

เกือบแล้ว

เกือบดี ถ้ามือของอีกฝ่ายไม่ไล้พล่านอยู่ตรงต้นขา บีบเค้นหนักหน่วงขึ้นมาถึงสะโพก คนเมามอมให้เลรู้สึกเมาตามด้วยริมฝีปาก ส่งผ่านกลิ่นแอลกอฮอล์และรสชาติผ่านปลายลิ้นที่ยังคงกรุ่นรสสัมผัสเจือจาง ใบหน้าหล่อเหลาผละออกวกกลับเข้ามาใกล้ริมฝีปากอีกครั้งก่อนเบี่ยงไปหอมข้างแก้มฟอดใหญ่แทน

“ฝันดีครับ”



เลตื่นอีกทีตอนสิบโมงเช้า พื้นที่เตียงข้างกายเย็นชืดบ่งบอกว่าฮิมคงลุกออกไปนาน อาบน้ำแล้วลงมาหาอะไรทานก็พบว่าทั้งบ้านไม่มีใครอยู่แล้วนอกจากเขา หนึ่งชั่วโมงต่อมาเลเตรียมเอกสารสำหรับการยื่นลาออกให้เรียบร้อยก่อนจะขับรถไปมหา’ลัย เขานัดเจอกับพี่ฮิมที่ใต้ตึกคณะ ร่างสูงในชุดนักศึกษาที่ไม่ได้เห็นมานานจนดูแปลกตาเดินมาหาในเวลาเที่ยงตรงก่อนจะพาไปยื่นเรื่อง

ต่อจากนั้นพี่ฮิมต้องกลับไปเรียนเสริม อาจารย์ใจดีสอนชดเชยช่วงแรกที่ขาด เลจึงใช้โอกาสนั้นไปหาพี่รหัส พี่นนท์นี่ถึงกับร้องไห้ตอนที่เขาบอกว่าตัวเองลาออกจากมหา’ลัยและจะไปอยู่ที่อังกฤษ บรรยากาศเศร้าเข้าครอบงำทันตาเห็น แต่หลังจากเศร้าเสร็จพี่รหัสก็เรียกรวมพล ทั้งแก็งโรซารี่และเพื่อนหลีดตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงส่งให้เลภายในวันนี้

สุดท้ายเรามาอยู่กันที่ร้านเนื้อย่าง งานเล็กแต่อุ่นใจ แก็งโรซารี่ย่างเนื้อแล้วขุนให้เขากินจนท้องจะแตก นั่งกินนานจากบ่ายสามกว่าจนถึงสามทุ่ม กระทั่งพี่ฮิมโทรตาม มื้อค่ำของวันนี้จึงจบลงด้วยความรู้สึกเศร้าปนสนุก ไม่รู้ว่าพอไปที่อังกฤษแล้วเขาจะหาพี่และเพื่อนแบบนี้ได้อีกไหม

วันที่สองเรื่องการที่ยื่นให้มหา’ลัยเสร็จเรียบร้อย การลาออกเสร็จสมบูรณ์​ รู้สึกเปลี่ยวนิดหน่อยตอนที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นนักศึกษาของมหา’ลัยอีก ต่อมาเลไปบอกลาพี่ๆ ที่คลับและพี่ๆ ที่บริษัทฮิมรวมถึงจัดการเรื่องวีซ่าอีกนิดหน่อย แต่หลังจากเสร็จหมดทุกเรื่องที่อยากทำแล้วเขาก็หันมาใช้เวลากับฮิม อย่างเช่นไปกินข้าวด้วยกัน ไปดูหนังกัน นอนกอดกัน ทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยกัน เป็นอย่างนั้นจนกระทั่งถึงวันสุดท้าย

หลายคนไปส่งเลที่สนามบิน ตั้งแต่พี่และเพื่อนในมหา’ลัย สามสหายเกี๊ยกดินพิษ พี่ๆ ที่คลับอย่างพี่บอม พี่ตี๋ พี่ซัน สุดท้ายคือพี่ๆ ในบ้าน เลขอกอดทุกคนที่มาส่ง จากที่คิดว่าไม่เป็นอะไรในตอนแรก ตอนนี้กลับรู้สึกเหว้งว้างในใจจนสุดท้ายก็ได้ร้องไห้ออกมา เริ่มเข้าใจความรู้สึกของคนที่ร้องไห้ในสนามบินที่เคยเห็นผ่านคลิปหรือผ่านหนังขึ้นมาทันตาเห็น อันที่จริงเลมีแพลนที่จะกลับไทยเพื่อมาหาพี่ฮิมในอีกสองเดือนข้างหน้าเสียด้วยซ้ำ แต่มันก็แค่อยู่ชั่วคราวเท่านั้น ยิ่งถ้าพี่ฮิมเรียนจบเมื่อไหร่ โอกาสที่จะมาไทยก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น การบินไปอังกฤษในครั้งนี้จึงเป็นการบ่งบอกว่าบ้านหลักของเขาไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทยอีกต่อไป

อีกสิบนาทีเลจะต้องเข้าเกท สามนาทีแรกใช้ในการถ่ายรูปรวม เจ็ดนาทีที่เหลือในตอนนั้นพี่รพ พี่ไทด์ พี่เกียร์ พี่ผาล้อมวงเข้ากอดหอมแก้มทีละคน กระซิบว่าถ้ามีโอกาสจะบินไปหาที่อังกฤษ อวยพรในเขาโชคดี ขอให้มีความสุขมากๆ เป็นโอกาสพิเศษหนึ่งในไม่กี่ครั้งหลังจากอยู่รวมกันมาเกือบสี่ปีที่พี่ๆ ไม่ได้พูดเล่นหรือติดตลกแต่แสดงออกด้วยความจริงใจ เลได้รับของขวัญชิ้นหนึ่งมาด้วย พอเปิดดูก็ถึงกับน้ำตาไหลพราก มันไม่ได้มีมูลค่าสูงถ้าเทียบกับเงินตราแต่มีคุณค่ามหาศาลทางจิตใจ

เป็นอัลบั้มรูปถ่ายตั้งแต่วันแรกที่เลเข้ามาอยู่ในบ้านกับทุกคน และอีกหลายรูปของเขากับทุกคนในแต่ละวันธรรมดาหรือวันพิเศษที่ได้อยู่ร่วมกัน ส่วนมากเป็นภาพแอบถ่ายเขาที่คนถ่ายจะเป็นคนไปไม่ได้นอกจากผู้ร่วมบ้าน บางภาพมีคำบรรยายออกไปในเชิงตลก แต่เมื่ออ่านแล้วนึกถึงเหตุการณ์นั้นแทนที่จะตลกกลับทำให้น้ำตาไหลแทน

ห้านาที พี่ดีนกับพี่วินเข้ามาเช็ดความเรียบร้อยให้ ทั้งสองเขม่นกันหน่อยๆ เรื่องนี้เป็นที่หลายคนตะลึงเมื่อได้รู้โดยเฉพาะๆ พี่ในบ้านและคนไม่กี่คนในแก็งของพี่ฮิม ก็หัวหน้าใหญ่จากสองแก็งที่เคยยกทัพจะตีกันตายเพราะเล ดันเป็นพี่คนละพ่อของเลซะได้ ทั้งสองเกือบได้ตีกันจริงๆ กลางสนามบินตอนที่เลเข้าไปกอดทั้งสอง โดนพี่วินหอมแก้มและโดนพี่ดีนจุ๊บปาก

เสร็จธุระกับทุกคนแล้ว เขากับพี่ฮิมสองคนก็เดินออกห่างจากคนอื่นไปที่ลับตาคน จากนั้นก็ตะปบจูบเข้าหากันจนริมฝีปากบวมเจ่อ คนตัวสูงกระซิบบอกรัก ส่วนเลย้ำไม่จริงจังว่าห้ามมองคนอื่นระหว่างที่เขาอยู่ห่าง ฮิมหัวเราะรวบตัวเขาไปกอดอีกสักพักก่อนจะปล่อยออกเมื่อถึงเวลาที่ต้องไปจริงๆ

นาทีสุดท้ายเลโบกมือลา จากนั้นจึงเข็นกระเป๋าเดินทางเดินเข้าเกทไป เวลาที่หนาวจับใจจริงๆ ไม่ใช่ตอนที่โบกมือลาทุกคน แต่เป็นวินาทีที่เครื่องบินส่วนตัวทะยานขึ้นฟ้า พอมองลงมาเห็นทัศนียภาพด้านล่าง ร่างบางก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่



ลาก่อนประเทศไทย





(100%)



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

หลังจากผ่านเรื่องมามาก ตอนนี้รู้สึกเหมือนเลโตขึ้นอีกขั้น แบบน้องต้องไปใช้ชีวิตแล้วอะไรประมาณนั้น y-Y
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-04-2019 09:14:24
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 18-04-2019 09:22:30
แล้วจะยังไงต่อ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 18-04-2019 10:10:03
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 18-04-2019 10:33:26
น้องโตขึ้นนะ
ฮึบไว้ลูกน้องเล สู้ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 18-04-2019 11:40:00
 :laugh: พี่ฮิมขาดใจตายแน่ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 18-04-2019 13:03:15
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 18-04-2019 16:24:50
น้องเลลูกกกก โตขึ้นแล้วนะ
รอหวานๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-04-2019 22:46:00
รอดูความสำเร็จของหนูเล  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-04-2019 00:45:03
รอวันที่จะได้อยู่ด้วยกันอีกนะน้องเล
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 19-04-2019 17:19:19
บรรยากาศเริ่มผ่อนคลาย :mew3:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180419#44 p.56
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 24-04-2019 14:11:41
เอาน่า..อีกแป๊ปเดียวพี่ฮิมก็บินตามไปอังกฤษละ
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 18-05-2019 22:02:24
   #45 (end)

   

   2 เดือนต่อมา

   บนหน้าจอ Macbook Pro ฉายภาพสลัวเหมือนสัญญาณติดขัด สักพักมันก็ขึ้นภาพใบหน้าสวยที่ตอนนี้… บูดบึ้ง

   (โดนโค้ชด่า) เลบอกเหตุผลก่อนที่เขาจะถาม (ดุยิ่งกว่าหมีกริซลี่)

   ฮิมหัวเราะ มือหนาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ นั่งฟังน้องบ่นโดยที่ยังไม่ออกความเห็นอะไร (เมื่อสี่วันก่อนคุณพ่อพาไปแฟรงเฟิร์ตกะทันหัน เลเลยไม่ได้บอกโค้ชล่วงหน้าแถมวันนี้มาสายอีกเพราะพึ่งถึงอังกฤษตอนตีห้า เหนื่อยแย่)

   “ไม่ได้บอกเหรอว่าคุณพ่อพาไปน่ะ”

   (บอกแล้ว แต่ใครจะกล้าด่าคุณป๋าของเลเล่า!) เจ้าตัวบ่นๆ ไป (คิดถูกหรือผิดเนี่ยที่เลือกทางนี้เหนื่อยยิ่งกว่าเรียนมหา’ลัย ไม่มีเวลาให้เลได้พักเลย หายใจเข้าออก เป็นซ้อม เรียน ซ้อม เรียน)

   คนฟังพยักหน้า เขาออกจะเห็นใจเลหน่อย ฮิมได้ดูตารางเรียนคร่าวๆ ของน้องแล้ว หนักจริง ไม่ง่ายเลยสักนิด ส่วนใหญ่เน้นทางปฏิบัติเสียมากกว่า ทางที่เลเลือกคือไม่เรียนมหา’ลัยแต่เรียนกับโค้ช เพื่อนของคุณพ่อที่จบจาก MIT มาเหมือนกัน ซึ่งไม่ง่ายแถมยังยากกว่าที่คิด น้องได้ซ้อมหนักมาก บางวันกินเวลาไปกว่า 10-15 ชั่วโมง เมื่อเดือนก่อนเจ้าตัวพึ่งมาโวยกับเขาว่าได้ฝึกไดรฟ์ซ้ำไปซ้ำมา เวียนหัวจนอ้วกแตก

   ทว่าสุดท้ายเจ้าตัวกลับถอนหายใจ สรุปใจความทั้งหมดได้ว่า (แต่บ่นไปก็เท่านั้นแหละ โค้ชอยากให้เลเก่งยิ่งกว่านี้ก็เลยดุหน่อย เข้าใจ)

   “คนเก่งของพี่โตขึ้นแล้ว” ฮิมอดที่จะชมไม่ได้ ดูเหมือนตั้งแต่ที่ไปอยู่อังกฤษ เลมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว

   เลเปลี่ยนเรื่องคุย น้องบ่นคิดถึง จากนั้นก็คุยกันว่าชีวิตความเป็นอยู่เดี๋ยวนี้เป็นยังไง จบด้วยคำถามที่ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่

   (อีกไม่กี่เดือนเอง) อีกไม่กี่เดือนที่ว่าฮิมก็จะเรียนจบ แน่นอนว่าคราวนี้คนที่จะมาไทยไม่ใช่แค่น้องเลแต่เป็นทั้งบ้าน เดินทางเพื่อมางานรับปริญญาเขา (แล้วเราก็จะได้อยู่ด้วยกัน)

   ประโยคสุดท้ายลงเสียงอ้อนๆ เห็นให้ภาพ น้องเล ทำไมน่ารักแบบนี้นะ

   “แค่คิดถึง ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก เลตั้งใจในสิ่งที่น้องอยากทำเถอะ”

   เขารู้ว่าน้องรู้สึกไม่ดีนิดหน่อยที่ต้องเลือกระหว่างเขาที่พึ่งถูกยิงมากับคุณพ่อตัวเองเมื่อหลายเดือนก่อน เห็นได้ชัดว่าเวลาคุยกันทีไร เจ้าตัวจะพยายามเอาอกเอาใจเขาเกินเหตุ ซึ่งบางครั้งการที่เลพยายามมากจนเกินไป มันทำให้น้องคิดมากในเรื่องที่ฮิมไม่ถือสาหาความอีก เขาเข้าใจดี

   คนตัวเล็กเงียบไปสักพัก ก่อนจะพยักหน้า สีหน้าดูดีขึ้นกว่าเดิม ดวงตากลมโตประกายแวววับคล้ายกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ทันทีที่อ้าปากเสียงตะโกนเรียกให้เลกลับไปซ้อมก็ดังขึ้นขัดจนใบหน้าสวยกลับไปบึ้งตึงดังเดิม

   “โดนเรียกแล้วนั่น” โค้ชหมีกริซลี่ที่เลว่าโผล่เข้ามาอยู่ในหน้าจอ น้องส่งจุ๊บข้ามทวีปมาให้ ฝากบอกคิดถึงทุกคนก่อนที่สัญญาณภาพจะตัดไป

   แก้วกาแฟเย็นชืดหมดแล้ว ฮิมปิดแมคบุ๊กลง มองเอกสารที่กองพะเนินบนโต๊ะแล้วถอนหายใจ ไม่ใช่แค่เลคนเดียวที่ต้องพยายาม เขาก็เช่นกัน

   

   หลายเดือนต่อมา

   วันรับปริญญา

   ร้อนขั้นสุด

   ผมปาดเหงื่อบนหน้าผาก มองสภาพผู้คนหลากหลายวัยที่กำลังเดินพลุกพล่านไปมา มีตั้งแต่เด็กทารกไปจนถึงคนเฒ่าคนแก่ งานนี้ไม่ว่าใครก็อยากมาร่วมแสดงความยินดีกับลูกหลานของตัวเองทั้งนั้น

   เราอยู่ในช่วงรอการทำพิธีเสร็จ ซึ่งนั่งรอมาแล้วเกือบสองชั่วโมง คงใกล้จะถึงเวลาเลิกแล้ว

   “คุณพ่อพี่ฮิมเนี่ย สุดยอดไปเลยนะ” จู่ๆ พี่รหัสข้างกายของเลก็พูดขึ้น สายตาของทุกคนรอบกายผมหันไปมองกลุ่มผู้ใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปอีกหน่อยกำลังยืนคุยกันใต้ร่มไม้ “หล่อเป็นบ้า!”

   “พี่เคยสงสัยว่าคนลูกหล่อขนาดนี้ คนพ่อจะหล่อขนาดไหน พอเห็นแล้ว อื้อหือสเปค!” พี่ไก่ว่าพร้อมสูดปาก ทำท่าเหมือนน้ำลายจะหกจนผมเผลอหัวเราะ

   ไม่แปลกใจหรอก วันนี้คุณพ่อทั้งหลายหล่อกันมากจริงๆ ว่าครอบครัวอื่นเขาขนกันมาทั้งบ้านแล้ว ครอบครัวผมก็ไม่แพ้กัน คุณแม่พี่ฮิมซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียว ส่วนรุ่นพ่อตั้งแต่พ่อพี่ฮิม พ่อพี่วิน และคุณพ่อของเลมากันทั้งหมด โดดเด่นและตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นตั้งแต่เดินลงมาจากมาเซราติคันหรู อีกทั้งสามพ่อยังพร้อมใจกันใส่ชุดสูทสีดำคล้ายๆ กันจนดูเป็นกลุ่มเป็นแก็ง นั่นยิ่งทำให้เด่นเข้าไปใหญ่ แล้วแต่ละคนหล่อน้อยซะที่ไหน เริ่มจากส่วนสูงก็หนึ่งร้อยแปดสิบขึ้นไปกันทั้งนั้น อายุก็พึ่งจะสี่สิบต้นๆ เพราะมีลูกเร็วกันหมด วัยผู้หญิงกำลังติด ยิ่งยืนคุยกันในชุดสูทออกทางการ เลคิดว่าถ้ามีแก้วเชมเปญเพิ่มเข้ามาหน่อย จากภาพคุณพ่อมางานรับปริญญาลูกสามารถเปลี่ยนเป็นภาพนักธุรกิจกำลังคุยเรื่องธุรกิจเงินล้านกันได้เลย

   อ้อ! ยัง ยังไม่หมด รายล้อมกลุ่มของคุณพ่อ ก็มีเหล่าครอบครัวของพี่ๆ ในบ้านเช่นเดียวกัน อย่างครอบครัวของพี่รพเองก็พึ่งเชิญพวกเราไปเลี้ยงฉลองภัตตาคาร งานนี้คุณพ่อตอบตกลง ดังนั้นเลจึงคิดว่าวันนี้อิ่มแปล้แน่นอน เพราะได้ยินมาว่าถึงกับปิดภัตตาคารฉลองให้พี่รพ แต่ก็นั่นแหละ ลูกชายจะดูดีได้ DNA พ่อแม่ก็ต้องไม่ธรรมดา วันนี้ผมจึงได้เห็นเหล่าต้นแบบที่เผยแพร่ความหล่อและดูดีของพี่ๆ แต่ละคน สวยหล่อจนตาพร่า แต่ละบ้านดูดีกันทั้งนั้น

   “กูชอบพ่อพี่วิน” พี่เชอร์รี่ว่า เลียริมฝีปาก สายตาจ้องเป้าหมาย “หล่อเว่อร์วัง หล่อออร่ามาก”

   “อย่าว่างั้นงี้เลย แต่ตั้งแต่ที่จ้องมา คุณพ่อน้องเลทำผู้หญิงมองตามหยาดเยิ้มไปหลายรายแล้ว” เห็นพี่รหัสว่างั้น ผมจึงรีบหันหน้าไปหาคุณป๋า บังเอิญอีกฝ่ายมองมาพอดี ร่างสูงโปรยรอยยิ้มก่อนจะกระดิกนิ้วเรียก ซึ่งภาพตรงหน้า ทำเอาหนึ่งในแก็งโรซารี่ถึงกับเลือดกำเดาไหล “เอื้อก! ไม่ไหว ให้ไปเป็นแค่คนใช้ในบ้านกูก็จะเป็น”

   ผมหัวเราะ ขอตัวเดินไปหาคุณพ่อที่อ้าแขนรอรับ

   “อากาศร้อนน้องออกไปตากแดดทำไม เหงื่อออกหมดแล้ว” ว่าพลางใช้ทิชชู่เปียกซับหน้าให้ “น้องเลหน้าแดงแล้วนะคะรู้ตัวไหม”

   “น้องเลไปนั่งรอในรถไหมคะ จะได้เย็น” ไม่รู้ว่าหน้าผมแดงแค่ไหน แต่คงแดงพอที่จะทำให้คุณแม่ทักขึ้นได้ เลส่ายหน้า

   “เลอยู่ได้ครับ งานน่าจะเสร็จแล้วอีกแปปเดียว”

   “งั้นเลนั่งอยู่ในร่มนะ” คุณป๋าว่าทำเสียงดุหน่อยในยามที่อยากให้ผมอยู่ใต้บังคับบัญชา วิธีนี้เลแก้โดยการทำตาโตใส่ เม้มปากเหมือนกลัว แค่นั่นคุณป๋าก็เรียบเปลี่ยนท่าทีรีบพะเน้าพะนอผมจนคุณพ่อพี่ฮิมร้องหึในลำคอ “พ่อแค่กลัวว่าน้องเลจะเป็นลม”

   “จ้าๆ” ผมนั่งรอให้ร่มอย่างว่าง่าย และหลังจากนั่งได้ไม่ถึงสามสิบนาที คนก็เริ่มแว่วๆ มาว่าพิธีเสร็จแล้ว นักศึกษามากหน้าหลากตาในชุดครุยเริ่มเดินออกมาให้เห็นเป็นการยืนยัน พวกเราทุกคนรีบเช็คความเรียบร้อย งานนี้บ้านเลถึงกับจ้างช่างภาพมืออาชีพถึงสามคนมาถ่ายรูปโดยเฉพาะ คนหนึ่งถ่ายรูปพวกเรา คนที่สองเก็บบรรยากาศ ส่วนคนสุดท้ายถ่ายวิดิโอ

   พี่วินเป็นคนแรกที่เดินมาถึง ก่อนที่พี่คนอื่นจะทยอยเดินตามมา แต่ละคนเหงื่อท่วมกันหมด วันนี้ว่าร้อนแล้ว ใส่ชุดครุยด้วยยิ่งนรกไปกันใหญ่

   “ดื่มน้ำก่อนไหม” ผมยื่นน้ำให้พี่ชาย แจกจ่ายผ้าเย็นให้ทุกคนเช็ดเหงื่อ พร้อมทั้งรีบพัดเอาอกเอาใจให้คุณชายแต่ละท่านหายร้อนก่อนจะถ่ายรูป

   พี่ฮิมมาถึงเป็นคนสุดท้าย ร่างสูงดูหงุดหงิด เห็นดังนั้นผมจึงขอปลีกตัวจากพี่วินไปหาพี่ฮิม แล้วยัดเยียดตำแหน่งคนดูแลพี่วินตกเป็นของพี่ดีน (ที่โดนเลบังคับให้มาด้วยกัน) ชั่วคราว

   อารมณ์ดีขึ้นหน่อย ฮิมจูงมือผมไปถ่ายรูปคู่ก่อน “แต่งตัวน่ารักจัง”

   “วันรับปริญญาฮิมนี่”

   “ไม่มีของขวัญให้พี่หน่อยเหรอ”

   “เอานี้ไปก่อนก็แล้วกัน” ผมยื่นช่อดอกไม้ไปให้ อันที่จริงก็เอามาให้พี่ๆ ทุกคนเหมือนกันหมด ไม่แปลกแยก ฮิมรับไป แนบจมูกสูดกลิ่นหอมเจือจางไปพร้อมกับสบสายตากับผม

   เสียงทุ้มว่า “เลคือของขวัญที่ดีที่สุด”

   

   เหตุการณ์หลังจากนั้นวุ่นวายนิดหน่อย เริ่มจากตอนที่มีผู้หญิงคนหนึ่งฝากช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับพี่ฮิมผ่านเล (ไม่กล้าเอาไปให้เอง) ผมรับเอาไว้ แต่มีคนแรกก็ต้องมีคนที่สอง สาม สี่ ตามมา รู้ตัวอีกทีอุ้งแขนของเลก็หอบดอกไม้แสดงความยินดีกับพี่ฮิมเอาไว้ไม่หมด และก่อนที่ผู้หญิงคนที่ยี่สิบกว่ากำลังจะเข้ามาวางช่อดอกไม้ที่ใกล้ท้วมหัวเลเต็มทน จู่ๆ พี่ฮิม (ที่น่าจะทนเห็นสภาพผมไม่ไหว) ก็เดินมารับโดยตรงจากมือของเธอคนนั้นไปเลย เท่านั้นแหละฝูงชน (ที่น่าจะคอยมองนานแล้วแต่ไม่กล้าเข้ามาให้) ก็ทะลักทลายเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ เลถูกเบียดออกไปด้านนอก ส่วนร่างสูงถูกห้อมล้อมไปด้วยสาวๆ และช่อดอกไม้

   ร่างสูงหันมามองผม ดูก็รู้ว่าเมื่อสักครู่พี่ฮิมไม่พอดีที่เห็นผมโดนเบียดออกไปแบบนั้น เขาทำท่าว่าจะไม่รับของที่หลายต่อหลายคนยื่นให้และทำท่าว่าจะเดินมาหา ผมจึงต้องส่งข้อความผ่านสายตาว่าไม่เป็นไร และขอให้ฮิมรับของเอาไว้เถอะ

   ปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่ฮิมโด่งดังในมหา’ลัยพอสมควร เลเชื่อว่ามีคนที่ชอบอีกฝ่ายอยู่เหลือล้น ทว่าน้อยคนที่จะได้เข้าใกล้ผู้ชายคนนี้ ที่เขาอยากให้ฮิมรับเอาไว้ หนึ่งเพราะนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฮิมยังเป็นพี่ปีสี่ ยังเป็นนักศึกษามหา’ลัย พ้นจากวันนี้ไปเขาจะกลายเป็นบัณฑิตจบใหม่ ชีวิตจะค่อยๆ เปลี่ยนไปสู่อีกโลกหนึ่งที่เรียกว่าโลกของผู้ใหญ่ ให้โอกาสคนที่ชอบและอยากเข้าใกล้พี่ฮิม อย่างน้อยก็ได้ให้ดอกไม้เป็นครั้งสุดท้าย สองคือพ้นจากวันนี้ไป มันจะกลายเป็นอีกหนึ่งความทรงจำแสนประทับใจยากจะลืม

   นัยน์ตาคมมองเขาสักพักก่อนจะยืนนิ่ง หลังจากนั้นฮิมถึงยอมยื่นมือออกไป รับช่อดอกไม้หลายสีที่ถูกยื่นมาให้จากทุกทิศทาง แน่นอนว่าพี่ฮิมซึ่งถูกมองว่าเป็นป้อมปราการแข็งแกร่งที่สุดยังยอมรับของที่คนอื่นเอามาให้ ดังนั้นพี่ๆ ในบ้านที่ยื่นอยู่รอบข้างจึงไม่รอด ถูกรุมล้อมและได้รับสิ่งของไปตามๆ กัน

   ลานกว้างถูกคนนับร้อยทะยอยเดินเข้ามาในชั่วพริบตาเดียว

   ผมตะลึง รู้ทั้งรู้ว่าพวกเขาเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คนทั้งๆ ที่ชื่อเสียงทางด้านลบก็กระฉ่อน แต่นี่มันเยอะเกินความคาดหมายจนอดทึ่งไม่ได้ ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าที่คนจะเริ่มซา ขณะเดียวกันดอกไม้และสิ่งของรอบตัวพี่ๆ ทุกคนก็เยอะจนเอาไปขายต่อไปเลย

   ช่วงเวลาการรับของเสร็จสิ้นลงจริงๆ เมื่อลูกน้องทางฝั่งคลับที่ส่วนมากเป็นปีหนึ่งปีสองปีสามเข้ามาจัดการให้ โดยการยืนเรียงรายเป็นวงกลมขนาดใหญ่ช้อนๆ กันล้อมรอบบัณฑิตจบใหม่เอาไว้ไม่ให้คนอื่นเข้าไปหา และกันไม่ให้คนด้านในออก ผมยืนงงว่าทุกคนกำลังจะอะไร จนกระทั่งเสียงแกนนำจากใครสักคนตะโกนขึ้น การบูมเริ่มขึ้นหลังจากนั้น เสียงดังก้องกังวาลจนทำให้หลายคนหันมามอง

   พร้อมเพรียง ทรงพลัง ดุดัน จริงจัง

   สมกับเป็นวิศวะ

   ในตอนนี้เลรู้สึกดีมากที่จ้างตากล้องถึงสามคน หวังว่าการบูมครั้งนี้จะได้รับการถ่ายวิดิโอไว้ เพราะมันน่าประทับใจจนทำให้คนมองอย่างผมและหลายคนรอบด้านรู้สึกทึ่งจนน้ำตาไหล ถึงแม้ผู้ชายหกคนในวงบูมยังยืนนิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไร อย่างมากก็แค่เผยรอยยิ้มมุมปากให้เห็นเท่านั้น เอาเถอะ ก็สมกับเป็นพวกเขาดี

   ครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นสุดกิจกรรมในวันนี้เป็นอะไรที่ผมชอบที่สุด คุณพ่อพี่ฮิมบอกว่าจะถ่ายรูปกลุ่มใหญ่ โดยจัดให้พี่ทั้งหกยืนอยู่ตรงกลางเป็นที่ตั้ง ครอบครัวแต่ละคนอยู่ด้านข้างหรือด้านหน้าตามลำดับ ด้านหลังส่วนใหญ่เป็นลูกน้องพี่ๆ ที่มาบูมให้ หลังไปอีกเป็นเหล่าแฟนคลับที่พากันกระโดดเด้งดึ๋งเพราะอยากร่วมเฟรม

   ผมกำลังสับสนว่าตัวเองควรจะไปอยู่ส่วนไหนของรูป สุดท้ายก็เลยตัดสินใจเดินไปยืนด้านหน้าคุณพ่อด้านข้างของพี่ๆ แต่ครั้นจะถ่ายพี่เกียร์ที่ยืนอยู่ใกล้ตัวผมก็เอื้อมมือมาดึงตัวเล คราวนี้ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะจากด้านข้าง ผมถูกจัดวางให้ยืนอยู่ตรงกลางคั่นพี่ๆ ออกเป็นสาม-สาม กลางสุด เด่นสุด เด่นกว่าพวกพี่ที่ควรจะเด่นสุดด้วยซ้ำ

   เลว่ามันเด่นไป พอจะเดินหนี พี่ฮิมกับพี่วินที่ประกบซ้ายขวาก็ยื่นมือมาจับมือผมเอาไว้คนละข้าง

   “จะถ่ายแล้วนะครับ!”

   “ตรงนี้จะดีเหรอ” ผมหันไปถามฮิม คำตอบที่ได้คือการพยักหน้า “เลว่ามันกลางไปนะ”

   “ดีแล้ว” ฮิมตอบ

   ส่วนพี่วินอวยน้อง (ซึ่งก็คือผม) ด้วยการพูดว่า “มึงอยู่กลางใจทุกคน”

   ประโยคหวานหูทำเอาผมหยุดยิ้มไม่ได้ ถึงอย่างนั้นก็หยุดต่อต้าน ยอมยื่นอยู่ตรงกลางแล้วหันไปมองกล้อง

   ไม่รู้ว่าประโยคที่พี่วินพูดมันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือเปล่า ที่แน่ๆ คือเกือบสี่ปีที่ได้อยู่ร่วมกับพวกเขา ประสบการณ์ที่ได้ ทุกอย่าง ถึงจะไม่อยู่กลางใจ แต่อยู่ในใจของผมแน่นอน

   “พร้อมนะครับ”

   1

   เพราะคนที่จองพื้นที่กลางหัวใจของเลกำลังยืนยันสิทธิ์ของเขาด้วยการกระชับมือที่ประสานกันแน่น ฮิมไม่ได้มองหน้าเขา อีกฝ่ายพูดเสียงแผ่วเบาผ่านสายลมมากระซิบข้างหู

   2

   3

   “พี่รักเล”

   แชะ!

   

   

   
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 18-05-2019 22:10:04
3 เดือนต่อมา

   รูปงานรับปริญญาของฮิมวินและงานของดีนในภายหลัง ถูกอัดใส่กรอบขนาดใหญ่ติดผนังบ้านเอาไว้อย่างดีทั้งที่ไทยและที่อังกฤษ เสร็จจากงานรับปริญญาของพี่ฮิมกับพี่วินแล้ว ผมต้องอยู่ไทยต่ออีก 1 อาทิตย์เพื่อรองานรับปริญญาของพี่ดีน จบงานของพี่ดีนก็เดินทางกลับอังกฤษทันที

   จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสามเดือนแล้ว ช่วงแรกยังดูอีรุงตุงนัง ต้องใช้เวลากว่าที่หลายอย่างจะเข้าที่เข้าทาง

   เริ่มจากพวกพี่ๆ (ที่เคยอยู่) ในบ้านก่อนก็แล้วกัน หลังจากงานรับปริญญาเพียงสองวัน ข้าวของส่วนตัวของแต่ละคนที่อยู่ในบ้านก็ถูกขนออกจนบ้านดูว่างไปในทันที เลอดเปลี่ยวใจไม่ได้และรู้สึกดีที่ไม่เลือกเรียนต่อที่ไทย เพราะคงไม่สามารถอยู่บ้านหลังนี้คนเดียวได้ มันคงโหวงเหวงแปลกๆ จากที่เคยอยู่กันเจ็ดคนกับอีกหนึ่งตัว เหลือเพียงผมคนเดียว

   แต่ละคนก็แยกย้ายกันไปตามทางที่ตัวเองอยากจะได้ ผมไม่ค่อยห่วงพวกพี่เท่าไหร่เพราะพี่ฮิมเคยบอกว่าทุกคนมีบริษัทหรืองานทำตั้งแต่ก่อนจะจบปริญญารอเอาไว้ก่อนแล้ว ซึ่งถ้าจะให้เล่าว่าแต่ละคนแยกไปทำงานอะไรบ้างก็คงจะยาว ขอยกตัวอย่างพี่เกียร์ก็แล้วกัน ผมเคยถามฮิมว่าจบแล้วพี่เกียร์จะไปทำอะไรต่อ เท่านั้นแหละฮิมถึงกับปรายตามอง บอกว่าถ้าคิดห่วงเกียร์ ไปคิดห่วงคนอื่นแทนจะดีกว่า แล้วใบ้ให้ว่าการที่พี่ฮิมกลับมาศึกษางานที่อังกฤษก่อนจะขึ้นเป็นประธานบริษัทเต็มตัว ดังนั้นตอนนี้ประธานบริษัทสาขาประเทศไทยจึงว่างอยู่ตำแหน่งหนึ่ง

   ผมยังไม่ได้คำตอบชัดเจนว่าพี่เกียร์ขึ้นเป็นประธานบริษัทสาขาประเทศไทยแทนพี่ฮิมหรือยังไง อย่างไรก็ตาม เรื่องการงานของพี่ๆ แต่ละคน เลคงไม่จำเป็นต้องกังวลหรือเป็นห่วงอีกแล้ว

   “คุณหนูคะ คุณท่านฝากมาบอกว่าแขกพร้อมแล้วค่ะ”

   “เดี๋ยวเลไป” ผมละความสนใจจากรูป รีบเดินตรงดิ่งไปทางสวนดอกไม้หลังบ้าน วันนี้เรามีงาน เป็นปาร์ตี้เล็กๆ เนื่องในโอกาสอยากเลี้ยงฉลอง แขกก็มีแต่คนในครอบครัวทั้งนั้น รวมถึงครอบครัวของพี่ฮิมและพี่วินด้วยนะ จะว่าไปแล้วนี่เป็นการรวมตัวครั้งแรก หลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่อังกฤษ

   สำหรับเล ความวุ่นวายแรกเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ไทย เพราะพวกพี่แยกย้ายกันไป บ้านที่เคยอยู่ด้วยกันซึ่งปัจจุบันเป็นทรัพย์สินของเลก็ต้องถูกทิ้งร้าง เพราะผมเองก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะได้กลับมาอยู่ ต้องตัดสินใจว่าจะขายหรือเก็บเอาไว้ ซึ่งผลการตัดสินใจคืออย่างหลัง เก็บแล้วจ้างคนมาทำความสะอาดเดือนละครั้ง

   เรื่องวุ่นที่สองคือการย้ายบ้าน เลตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่บ้านของคุณพ่อตามคำขอร้อง อีกฝ่ายบอกว่าเขาเสียช่วงเวลาวัยเด็กของผมไปแล้ว ไม่อยากเสียเวลาที่ผมกำลังจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวไปอีก ซึ่งเรื่องนี้คุณพ่อของพี่ฮิมก็เข้าใจ ทางนั้นยินยอมให้ผมย้ายและขอให้แวะมากินข้าวที่บ้านบ่อยๆ แต่แน่นอนว่าเลย้ายมีหรือที่พี่ฮิมจะไม่ย้ายตาม อีกคนคือพี่วิน ผมขอให้พี่วินขายเพ้นเฮ้าส์ที่อังกฤษ เสนอให้บ้านของคุณป๋าเป็นบ้านประจำของพี่วินเวลาที่อีกฝ่ายมาอังกฤษ อีกความหมายหนึ่งก็คือให้พี่วินมาอยู่บ้านเดียวกันกับผมนั่นแหละ ทีแรกพี่ชายเลไม่ยอม แต่พอโดนอ้อนหน่อยสุดท้ายก็ใจอ่อน

   เพราะจะมีคนเข้ามาอยู่เพิ่มอีกสามคน ที่อยู่สำหรับหมาแมว คือไจแอ้นหนึ่งสองสามของเลกับเปอร์เซียของพี่ฮิม (หอบมันกลับอังกฤษด้วย) รวมเป็น 4 ตัว อีกทั้งคุณพ่อยังสั่งทำห้องสำหรับแขกเพิ่มอีกสองห้อง ดังนั้นคฤหาสน์จึงต้องทำการรีโนเวตครั้งใหญ่ กว่าบ้านจะเข้าที่เข้าทางพร้อมอยู่ เฟอนิเจอร์พร้อมจริงๆ ก็ใช้เวลาประมาณสามอาทิตย์

   “มาแล้วเหรอคุณหนู” ผมขยับเข้าไปหานั่งคุณพ่อของพี่ฮิม ทักทายคนตรงหน้าด้วยการสวมเข้ากอดพร้อมกับแนบแก้มทั้งสองข้าง “วันนี้ไม่มีซ้อมเหรอ แล้วไหนคราวก่อนบ่นว่าต้องซ้อมทุกวัน”

   “ก็วันนี้มีปาร์ตีี้นี้ คุณป๋าเลยโทรไปขอโค้ชให้”

   วันนี้หยุดเป็นกรณีพิเศษ ทั้งๆ ที่ปกติผมไม่เคยกลับทันกินข้าวเย็นเลยด้วยซ้ำ

   การฝึกซ้อมเพื่อเดินทางตามความฝันของผมมันหนักพอสมควร ไม่ใช่แค่ซ้อมหนัก อย่างอื่นก็หนัก เลต้องออกกำลังกายและกินอาหารบางประเภทที่ไม่ชอบเพื่อให้ได้รับสารอาหารครบห้าหมู่ทุกวัน การดูแลร่างกายถือเป็นเรื่องสำคัญมากในตอนนี้ เพราะถ้าซ้อมทั้งปีแต่ไปเป็นอะไรในวันแข่ง ทุกอย่างมันก็จบ

   ช่วงแรกยิ่งกว่าคำว่าเหนื่อย ร่างกายแทบแหลกสลายเป็นผุยผง ปวดตัวจนอยากหาหมอนวดทุกวัน หลังๆ จึงเริ่มชิน

   ไม่มีทางลัดในการประสบความสำเร็จ คนรอบตัวผมรวยมหาศาล เงินทำได้แค่ช่วยให้เราไปถึงจุดนั้นได้เร็วขึ้น

   อย่างไรก็ตาม เลสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไขมันบางส่วนในร่างกายเริ่มเปลี่ยนเป็นเนื้อหนังมังสาแล้ว ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเทรนเนอร์ นักโภชนาการ และเชฟที่สามารถทำอาหารจากวัตถุดิบที่เลไม่ค่อยชอบให้ออกมาอร่อยได้

   “คิดถึงจัง คุณแม่ไม่มาเหรอครับ”

   “ดื่มชาอยู่ตรงนู้นไง”

   เลหันไปมองแล้วพยักหน้า “แด๊ดดี้ มางานเลมีของขวัญมาด้วยไหม”

   “น้องอยากได้อะไร บอกคุณพ่อสิคะ ไปขอคนอื่นทำไม” คุณพ่อตัวจริงทักท้วง

   “ได้จากคุณป๋าเยอะแล้วไง ขอแด๊ดดี้บ้าง” ว่าพลางหันไปทางคุณพ่อพี่วิน “ขอของคุณพ่อด้วยนะ!”

   ช่วงสรรพนามหรรษา เลมีคุณพ่อเพิ่มพรวดพราดขึ้นมาตั้งสามคน เรียกคุณพ่อทีนึงหันสาม เพื่อไม่ให้สับสน ดังนั้นเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ผมจะเรียกคุณพ่อว่าคุณป๋า เรียกคุณพ่อพี่ฮิมตามที่พี่ฮิมเรียกว่าแด๊ดดี้ ส่วนสรรพนามคุณพ่อที่แท้จริงตกไปเป็นของพ่อพี่วินแทน ที่เป็นเช่นนี้เพราะถ้าผมใช้สรรพนามว่าพ่อกับคนใดคนหนึ่งในสองคนแรกที่กล่าวถึง พวกเขาก็จะเขม่นกันทันที

   ผมนั่งกับผู้ใหญ่อีกสักพัก ก่อนจะวิ่งไปหาคุณแม่บ้าง ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเสร็จหมดทุกอย่าง จากนั้นจึงไปหาพี่ๆ ที่กำลังตักอาหารกันอยู่

   ปาร์ตี้วันนี้เป็นบุพเฟ่ต์ มีทั้งคาวหวาน มากมายหลายรสชาติและอร่อยแน่นอน เพราะคุณป๋าลงทุนจ้างทั้งเซฟและปาติซีเยชื่อดัง ไม่รู้ว่าหมดไปเท่านั้น แต่รู้ว่าวันนี้เลได้อิ่มแน่ๆ

   ผมเข้ากอดพี่วินจากทางด้านหลัง และโดนพี่ชายสุดที่รักหยิบเนื้อยัดปาก

   “อา-ย่อย”

   “อร่อยก็กิน”

   “ทำให้หน่อย”

   “มีมือมีตีน ทำเองบ้างเล” ปากร้ายแต่มือหันเนื้อให้หน้าตาเฉย กินเรียกน้ำย่อยแล้วมันเริ่มหิวจริงๆ ผมตักอาหาร จากนั้นจูงมือพี่วินพาไปกินโต๊ะเดียวกันที่พี่ดีนนั่งอยู่ก่อน รู้ว่าทั้งสองยังเข้าหากันไม่ติดเท่าไหร่ ต่างจากคุณป๋ากับแด๊ดดี้ที่ชอบเขม่นใส่กันแต่เข้าใจกันดี แต่พี่วินกับพี่ดีนนี่ บรรยากาศเวลาอยู่ร่วมกัน มาคุแปลกๆ อย่างเห็นได้ชัด

   พี่ชายต่างพ่อกับต่างแม่ของเล ทั้งสองมีหนทางของตัวเองแน่ชัดและมีรูปแบบเส้นทางชีวิตคล้ายๆ พี่ฮิม คือทำงานตั้งแต่ยังเรียนอยู่ พี่วินเป็นรองประธานบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ (ทั้งหมดทั้งมวลเลลืมบอกเรื่องหนึ่งคือ พวกพี่เรียนคณะวิศวะ แต่ไม่ใช่สาขาเดียวกันทั้งหมด) แบบที่ไม่ใช่สร้างตึกทั่วไปแต่เป็นสร้างตึกระดับเวิร์ลคลาส คิดภาพไม่ออก ลองเสิร์จภาพตึกดังๆ ในดูไบเอาก็แล้วกันนะครับ

   พี่ดีนแตกต่างจากฮิมและวินนิดหน่อย ตรงที่พี่ดีนรับตำแหน่งประธานบริษัทเต็มตัวไปแล้ว ธุรกิจที่เจ้าตัวจัดการอยู่เกี่ยวกับเพชรพลอยและเหมืองแร่ วันดีคืนดีก็ทำสร้อยเพรชมาให้ จนตอนนี้ผมมีเครื่องประดับคอลเลคชันเพชรแท้เต็มตู้ไปหมดแล้ว

   สองพี่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือเดินทางบ่อยมากกกกกกกกกกกกก ช่วงนี้ทั้งสองเทียวไปเทียวมาระหว่างดูไบกับอังกฤษ พี่วินมีตึกที่ต้องไปจัดการ ส่วนพี่ดีนเห็นว่ากำลังจะขุดเหมืองใหม่

   “น้องเลมาให้กอดหน่อย” วิ่งเข้าไปให้พี่ดีนกอดรัดฟัดแก้มสองสามทีก็ถูกพี่วินดึงคอเสื้อออกห่าง

   “ขึ้นเครื่องบินมาเหนื่อยไหม” พี่ดีนกับพี่วินพึ่งถึงบ้านเมื่อเช้านี้เอง

   “เหนื่อยกับคน” ว่าพลางปรายตามองคนข้างกายผม รู้เลยว่าคนที่พี่ดีนสื่อคือใคร แต่แล้วจู่ๆ นัยน์ตาคมก็จ้องผมพร้อมกับหรี่ตาลง “น้องเลนั่นแหละที่ทำพี่เหนื่อย”

   ผมเม้มปากทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ มองซ้ายมองขวา รีบโก่ยแนบ…

   คืองี้เลรู้ว่าทั้งสองจะต้องบินมาอังกฤษในวันเดียวกัน ผมเลยขอให้คุณป๋าทำยังไงก็ได้ให้ทั้งสองได้ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวลำเดียวกัน (ปกตินั่งคนละลำ) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ แต่ดูท่าผลลัพธ์จะตรงกันข้าม

   ผมหวังว่าทั้งสองจะดีกันในสักวันหนึ่ง

   “เห็นฮิมไหมครับ” ถามแม่บ้านคนหนึ่งที่เดินผ่าน เธอพยักเพยิดไปทางห้องดนตรี พอเปิดประตูเข้าไป เสียงเปียโน เพลง Nocturne op.9 No.2 ของ Chopin ก็ดังเข้าหู คนที่เล่นอยู่คือพี่ฮิมที่ผมตามหา

   เจ้าของแผ่นหลังกว้างตรงเหยียดกำลังบรรเลงเพลงตามจังหวะ เลรอจนกระทั่งอีกฝ่ายเล่นเสร็จจึงเอ่ยชม “เพราะจัง”

   “เล่นไหมครับ”

   “เลลืมหมดแล้ว” ผมพูดติดตลก เดินเข้าไปกอดแผ่นหลังกว้าง วางคางลงบนไหล่ของอีกฝ่าย “มีคนเล่นให้ฟังแบบนี้ดีกว่า”

   โดนฮิมบีบจมูก เลเลยหอมแก้มคืน แกล้งกันไปมาก่อนจะลุกขึ้นยืน “มาตามพี่เหรอ”

   “อือฮึ” จ้องหน้าเขานิ่ง ตามไม่กะพริบ

   “ไปสิ”

   ขวับ!

   ผมยื่นมือไปจับฮิมเอาไว้ในตอนที่ร่างสูงกำลังจะเดินผ่าน พี่ฮิมคงจับความผิดปกติได้ ร่างสูงจึงยืนนิ่งยอมให้ผมลูบใบหน้าเล่นไปพลาง ขณะที่อีกฝ่ายเอียงใบหน้าแนบฝ่ามือผม ใช้ดวงตาคมจ้องเลกลับ

   ตอนนี้ฮิมกลายเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของแฮมินตันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร่างสูงต้องเรียนปริญญาโทคณะบริหารต่อ เพราะอีกไม่กี่ปีคนตรงหน้าของผมก็จะได้เป็นประธานผู้มีอำนาจสูงสุดของแฮมินตัน

   คนที่อยู่ตรงหน้าเลในตอนนี้

   ฮิมของผม

   “เลรักพี่ฮิม มากๆ เลยนะ” ผมบอกรักฮิมเป็นพันๆ ครั้ง แต่นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่คนตรงหน้าทำท่าตกใจก่อนจะยิ้มร้าย

   “ทำเหมือนจะขอพี่แต่งงาน”

   “ก็ฮิมไม่…” รีบเม้มปากเมื่อคิดได้ว่าตัวเองกำลังจะพูดอะไรออกไป “ไปกันดีกว่า คนอื่นรอนานแล้ว”

   ผมจับมือพี่ฮิม ตั้งใจจะเดินออกจากห้องแต่ร่างหนากลับไม่ยอมขยับ พอหันไปหาก็ถูกจู่โจมด้วยประโยคร้ายกาจเพราะมันส่งผลต่อหัวใจอย่างรุนแรง

   “พี่รักเล” ตามทาบมาด้วยสัมผัสนุ่มนิ่มแนบที่ริมฝีปาก อ่อนโยนจนผมใจอ่อนยวบยาบไปหมด บรรยากาศเป็นใจเหลือเกิน ผมกลัวคนอื่นรอนานทว่าทันทีที่มือหนาล้วงขึ้นสะกิดยอดอกเลก็ทนต่อไปอีกไม่ไหว เสียเวลาอีกสามสิบนาทีในห้องดนตรี เสร็จกิจจึงรีบใส่เสื้อผ้าเดินไปหาทุกคน

   ทุกสายตามองเมื่อเห็นผมกับพี่ฮิมเดินจับมือกัน ราวกับว่าทุกคนรู้ว่าผมกับพี่ฮิมทำอะไรกันก่อนมา คุณป๋าเป็นคนแรกที่ทัก

   “ไปนานจังเลยนะคะน้องเล”

   “นานแบบนี้ทำอะไรกับฮิมอยู่เหรอ”

   “เกือบให้วินไปตามแล้วสิ”


   “อย่าแซวสิ!” ผมท้วง เสียงหัวเราะลั่นดังขึ้น บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุข มันเป็นภาพที่ผมต้องการเห็นมาโดยตลอด ภาพที่ทุกคนมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ หัวเราะแบบนี้ และมีความสุขแบบนี้ งานปาร์ตี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากนั้น เราสนุกกันมาก ยิ่งมีแอลกอฮอล์เข้ามา ผมก็ยิ่งสนุกจนลืมเรื่องร้ายๆ ที่เคยผ่านมาไปจนหมด

   ทุกอย่างที่ผ่านมาระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันยาวนานยิ่งกว่าระยะเวลาสิบแปดปีที่ผมเกิดมา

   ตั้งแต่ที่ยังเรียกพี่ฮิมว่าพ่อ เลื่อนขั้นมาเป็นแฟน เลิกกันไปหนึ่งครั้ง กลับมาคบกันใหม่ก็โดนบอกว่าเป็นพี่น้องกัน พอจะถูกขอแต่งงานพี่ฮิมก็โดนยิง และในระยะเวลาพวกนั้นมันก็เกิดเหตุการณ์หลายอย่างที่ให้ประสบการณ์ รวมทั้งสิ่งร้ายและสิ่งดีกับผม

   “เลมีความสุขจัง” ผมพึมพำให้พี่ฮิมฟัง ขณะเอนตัวพิงฮิมอยู่บนม้านั่ง “เลมีความสุขมากเลยพี่ฮิม”

   อ้อมแขนแกร่งกอดเลแน่นจากทางด้านหลัง “ดีแล้วนี่”

   “คิดดูสิ…”

   จากเลที่อายุยังไม่ถึงสิบแปด ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น

   ผมที่อายุสิบแปดในตอนนี้ เคยโดนทั้งเรื่องผู้หญิง เคยเจอเพื่อนที่ไม่ดี เคยแอบไปแข่งรถเถื่อน เคยเกือบถูกฆ่าโดยการวางยาพิษ เคยถูกจับลักพาตัวเรียกค่าไถ่ และที่สะเทือนใจที่สุดคือเคยเห็นพี่ฮิมถูกยิิงต่อหน้าต่อตา

   แต่ทุกเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ผ่านมา มันทำให้ผมได้พี่วิน พี่ดีน และคุณพ่ออีกสามคน ทุกคนรวมกันเป็นสิ่งที่เลต้องการมากที่สุด เหลือแค่อีกสองสิ่งผมยังไม่ได้

   “คืออะไรบ้าง” เสียงทุ้มกระซิบถามข้างหู

   “หนึ่งคือเป็นแชมป์ Formula 1”

   “แล้วอย่างที่สอง?”

   เลยิ้มร้าย ผละตัวออกแล้วเดินหาทุกคนเมื่อได้ยินเสียงคุณป๋าชวนไปถ่ายรูป ผมหันไปมองพี่ฮิมที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม เขารอฟังคำตอบของเลอยู่

   ผมเปิดปากเอ่ยเสียงเบาแต่มั่นใจว่าพี่ฮิมได้ยิน เพราะทันทีที่พูดจบร่างหนาแทบจะวิ่งมาฉุดผมเข้าไปกอดดังเดิม

   “น้องเลมากลับเลยนะ!”

   “ไปถ่ายรูปก่อน”

   “Honey!” เสียงอ้อนจนต้องหันไปมอง ฮิมทำหน้าเหมือนลูกหมาถูกทิ้ง ผมหัวเราะก่อนจะแลบลิ้นใส่ เพราะสิ่งที่สองที่เลบอกพี่ฮิมไปน่ะคือ…

   ‘เปลี่ยนจากแฟนเป็น Husband ยังไงล่ะ’

   

   

   “ทุกคนยิ้มน่ะ เอ้า! หนึ่ง! สอง! สาม! ชีส!”

   แชะ!

   

   รูปนี้ถูกอัดเป็นภาพใหญ่ใส่กรอบติดไว้กับผนังบ้านเหมือนรูปรับปริญญาของพี่ฮิม เหมือนเป็นเครื่องเตือนใจของผมว่า กว่าที่ทุกคนในภาพนี้จะมารวมตัวกัน ผมต้องผ่านอะไรมาบ้าง

   อดีตถือเป็นบทเรียนชีวิตอันล้ำค่า แต่ไม่ว่าสิ่งที่ได้มันจะดีหรือร้ายยังไง ปัจจุบันก็ยังสำคัญที่สุด ชีวิตมันต้องเดินต่อไป

   อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเลในตอนนี้ถึงจะเหนื่อยบ้างแต่ก็มีความสุขสุดๆ ไปเลยล่ะ

   อ่ะ! เกือบแล้ว เกือบลืมกล่าวถึงอีกคนไปสินะ

   

   

   

   



   ถึงคุณแม่ที่อยู่บนสวรรค์

   เลมีครอบครัวอย่างที่ต้องการแล้วนะ

   

   

   

   

   THE END



   





เราอยู่กับฮิมเลมานานมาก...

   แต่งเกือบสี่ปีและในขณะที่แต่งเราก็โตไปพร้อมๆ กับตัวละครด้วย

   มันมีหลายอย่างที่ทำให้อัพช้า แต่สุดท้ายเราก็มาถึงจุดนี้ จบจริงๆ แล้วนะคะ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามและอยู่กับเรามาโดยตลอด เรารักพวกคุณมากๆ พวกคุณเป็นกำลังสำคัญให้เรา ที่อยากขอบคุณมากที่สุดคือขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน และอยู่กับเรามาจนถึงตอนจบนี้ค่ะ :)

   

   #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

   

   twitter : @_mdreds

   facebook : mdred's heaven

   

      

   

   ส่วนนี้...

   
(http://i66.tinypic.com/ezkb38.jpg)

   แบบร่างหน้าปกค่ะ

   
   เปิดพรีเมื่อไหร่เราจะมาแจ้งทุกคนค้าบบบ!!







หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-05-2019 23:02:40
ขอให้มีความสุขนะน้องเล  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 18-05-2019 23:10:07
จากนี้และตลอดไปก็ขอให้มีแต่ความสุขนะเล  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
แล้วก็ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ ค่ะมีครบทุกความรู้สึกจริง ๆ   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 18-05-2019 23:29:00
จบซะแล้ว น้องเลก็ได้ครอบครัวใหญ่ และว่าที่สามี ขอให้มีความสุขมากๆ นะจ๊ะ.

ขอบคุณไรท์ค่ะ.  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 18-05-2019 23:33:43
ดีงาม
เหลือแค่เปลี่ยนสถานะแฟนเป็นสามีตามกฎหมายสินะ น้องระวังไว้เถอะ
จะมีตอนพิเศษมั้ยน้าาา
ขอบคุณนิยายดีๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 18-05-2019 23:38:20
 :pig4: :pig4: ขอบคุณผูแต่งค่ะ ในที่สุดน้องเลก็มีความสุขจริงๆซะที
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-05-2019 23:53:27
จบแล้ว สนุกมากๆจ้า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 19-05-2019 01:46:03
ครอบครัวใหญ่และอบอุ่นมากๆ
มีความสุขเต็มที่ไปเลยนะเล  :hao5:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 19-05-2019 07:16:46
อบอุ่นมากเลยยย น้องเลมีความสุขแล้วว รักน้องงง
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายสนุกๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: btoey ที่ 19-05-2019 11:01:51
ในที้สุดก็มีความสุขกันซักที
 :pig4: :pig4: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 19-05-2019 13:32:51
จบแล้ว เย้เย้  :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 20-05-2019 00:35:25
 :pig4: ขอบคุณคนเขียนมากๆเช่นกันค่าาาา
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-05-2019 05:20:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-05-2019 08:57:49
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 27-05-2019 15:31:38
จบแล้ว สนุกดีค่ะ ชอบเนื้อเรื่อง น่าติดตามดี ตัวละครทุกตัวมีคาเร็กเตอร์ของตัวเอง ชอบค่ะ :pig4: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 29-05-2019 08:41:17
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: คือจบแล้ว ฮือออออ รอมานานมากกกก ฮือๆๆๆ ไปอ่านอีกรอบก่อนนนน ฮือออออออ :hao5: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 29-05-2019 10:12:28
ตอนอ่านตอนที่น้องเลทะเลาะกับฮิม แล้วห่างกัน แล้วก็เซ็นสัญญาพันล้าน ตอนนั้นนี่อ่านละงงๆ เลิกแบบงงๆ น่าจะเป็นเราอ่านไม่ละเอียดเอง

เรือดีนวิน หรือวินดีน ต้องไม่ล่ม ฮ่าฮ่าฮ่า นี่นอนไม่หลับ ถึงขั้นต้องลุกมานั่งทำแฟมิลี่ทรีดึกๆดื่นๆ

แม่พี่ดีน--------แอรอน--------ซาร่า--------พ่อพี่วิน
              |                 |                |     
              ดีน              เล             วิน
              พี่น้องคนละแม่  พี่น้องคนละพ่อ
 เอาเว้ย เขาไม่เกี่ยวสายเลือดกัน เรือแล่นต่อได้ เย้ 
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-06-2019 11:51:34
น้องเลมีความสุขสักที
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 02-06-2019 07:19:21
จบแล้วเราอ่านรวดเดียวแบบจบเลย
สนุกมากอ่านแล้ววางไม่ลง
คือจะดูดื้อดูโง่ไปไหนทั้งที่พี่ฮิมเตือนแล้ว
แต่ก็จบแบบที่น้องเลมีความสุขสักทีมาตั้งสามคน
เราชอบกลุ่มเพื่อนๆของพี่ฮิมที่อยู่บ้านเดียวกัน
อยากเห็นคู่ของแต่ละคน
และที่สำคัญอยากอ่านคู่วินดีนหรือดีนวินดี
อยากอ่านคู่นี้มากเลย
สุดท้ายนี้ขอบคุณนักเขียนสำหรับนิยายสนึกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 04-06-2019 10:27:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 04-06-2019 16:10:39
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 07-06-2019 18:54:39
 น่่่่ารักมาก ๆอ่านแล้้้้วรักทุกๆคนเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: Onlyoil231 ที่ 08-06-2019 10:22:31
งื้ออออ รักน้องเลพี่ฮิมอ้ากกก

Sent from my CPH1723 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 11-06-2019 22:38:48
สนุกดีค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 12-06-2019 10:41:13
สนุกมากค่ะ เนื้อเรื่องมีอะไรให้ตื่นเต้นตลอด ที่สำคัญ เรื่องนี้มีแต่คนหล่อๆเย ะมาก

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
บวกค่ะ^^
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 23-06-2019 23:58:36
ช่วงแรกฮิมเลก็ตามสไตล์ชื่อเรื่องที่น่าสนใจเลยเข้ามาอ่าน

แต่ช่วงหลัง ๆ มันออกทะเลไปเยอะมากเหมือนหาที่ลงไม่ได้..เลยสนุกไม่สุด

แอบเสียดายพล็อตเรื่องนะ :hao5: แต่ยังไงก็  :pig4: :pig4: :pig4: จ้า
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 24-06-2019 06:59:17
เย้ อ่านจบแล้ว
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ
เป็นกำลังใจให้นักเขียนเสมอ
 ขอให้ผลิตผลงานดีๆ ออกมาเรื่อยๆ นะคะ
จะรอติดตามผลงานต่อไปจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: JellyfishB ที่ 28-06-2019 00:15:21
นุ้งเลน่ารักกกกกกก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 01-07-2019 00:35:21
เย้ อ่านจบแล้ว ดีงามมากจ้าหลากหลายอารมณ์
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 180519#45 (the end) p.56
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 20-07-2019 22:46:19
น้องเลน่ารัก มีความสุขแล้ว o13 แต่คู่พี่ชายทั้งสองของน้องเลนี่น่าติดตามนะคะ ^^ ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะคะะ
หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 290719#sp - never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: :mdred ที่ 29-07-2019 20:37:11
   คิดถึงเลยมาหาค่ะ :)

.

.





   “มาเล่นเกมกัน”

   เลเปิดท่ามกลางห้าบุคคลนั่งล้อมวงบนโซฟาในห้องกว้างที่มีแค่แสงสลัวสว่างพอให้ได้เห็น บรรยากาศเย็นคลุ้งกลิ่นแอลกอฮอล์ วงรอบนอกมีพ่อบ้านสองสามคนยืนตามมุมคอยเสิร์ฟ

   เงียบและสงบ

   แต่เหมือนจะสงบเกินไป น้องน้อยของบ้านจึงอยากหาอะไรมาเล่น เนื่องในโอกาสที่สมาชิกอยู่พร้อมหน้า และแน่นอนว่าเมื่อเลพูด ใครที่อยู่ ไม่อยากเล่นก็ต้องเล่น จริงจังยิ่งกว่าไฟท์บังคับ

   “เกมอะไรค่ะ” แอรอนเป็นคนแรกที่ถาม ออกจากหัวข้อการสนทนาเรื่องนักการเมืองเมื่อสิบนาทีก่อนแล้วหันมาสนใจลูกชายแทน

   “never have i ever ไหม” สุดยอดคลาสสิกเกมในวงแอลกอฮอล์ ขึ้นประโยคในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ ถ้าใครเคยทำก็ดื่ม

   “ดื่มอะไร” วินถาม

   “เตกีลาหนึ่งช็อต”

   ฮิมขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปถามคนข้างกาย “ไหวเหรอครับ”

   “ไหว” เลยืนยัน “ไม่ไหวก็อ่อนให้เลสิ”

   “ใครกันนะที่ต้องอ่อนให้ ไม่ใช่เลเหรอครับ” ประโยคความนัยน์ที่ทุกคนเข้าใจความหมาย เพราะนอกจากน้องเล ทุกคนในที่นี้ก็มีอะไรที่เคยทำเหมือนกันมาแล้วทั้งนั้น อะไรที่เลไม่ แต่พวกเขาเคย

   มีเยอะซะด้วย

   “จริงเหรอ” เสียงหวานว่า มองคนข้างกายอย่างมีเลศนัย “ใครเคยก็ดื่มแค่นั้นเอง”

   “รู้เลยนะคะว่าเป้าหมายเป็นใคร”

   “กูว่าบ้านแตกก็คราวนี้” คนถูกพาดพิงยิ้มมุมปาก ฮิมหันมามองน้องที่หันมาทำหน้าจริงจังใส่

   “Babe” เลเตือน “DO NOT LIE TO ME”

   “Okay, no lie, promise” ฮิมให้สัญญา ร่างสูงคว้าเอวบางเข้าใกล้ ก่อนจะจูบลงบนกระหม่อมบางของคนที่ดูทำท่าจริงจังตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม แค่ฟังชื่อเกมเขาก็พอจะรู้แล้วว่าตัวเองต้องโดนซักไซ้หนัก

   “แต่ยากไปไหม” วินท้วง “อะไรที่ไม่เคย”

   “ทำมาหมดแล้วว่างั้น” ดีนขัด

   “ไม่มากก็น้อย”

   “Never I ever had sex with men.”

   “กวนตีน”

   “เคยก็ดื่ม” คนพูดยิ้มมุมปาก กวักนิ้วเรียกพ่อบ้านมาเตรียมเตกีลาเป็นช็อตไว้รอ

   “นี่เริ่มแล้วเหรอ” เลถาม

   “เริ่มแล้วค่ะ” แอรอนว่า ก่อนที่เตกีลาสองช็อตจะถูกยื่นให้คู่รักที่นั่งโซฟาฝั่งตรงข้าม สามคนที่เหลือยังนั่งนิ่ง “ดื่ม”

   สิ้นคำสั่ง หนึ่งช็อตถูกกลืนลงคออย่างง่ายดาย ปริมาณไม่มากแต่ทำเอาเลหน้าร้อน สี่สิบดีกรีไม่ใช่อะไรที่เขาจะดื่มได้ง่ายๆ ไม่แปลกที่ฮิมจะถามก่อนเล่นว่าไหวไหม ที่เป็นอย่างนั้นเพราะเลคิดเอาไว้แล้วว่าตัวเองจะไม่ได้ดื่มมาก เขามีอะไรที่เคยทำน้อยกว่าทุกคนในที่นี้แน่นอน

   ฮิมมองคนซบหัวลงบนบ่า ก่อนจะตัดสินใจจับคนที่กำลังกรึ่มได้ที่มานั่งตัก กอดเอวบางไว้หลวมๆ ขณะที่มือข้างนึงยังถือแก้ววิสกี้ชั้นดีเอาไว้ล้างปาก โดนไปช็อตเดียวแบบเพียวๆ สำหรับฮิมยังไหว คนดีของเขาต่างหากที่หน้าแดง ตาปรือไปหมดแล้ว

   “ต่อไหม”

   “ต่อ”

   ร่างสูงหันไปสบตากับดีน ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเล่นเรื่องนี้เพราะตั้งใจจะกวนวินหรือตัดกำลังเล แต่ที่เจาะจงเลเลยก็คือแอรอน คุณป๋าของน้องที่สั่งให้ดื่มทั้งๆ ที่มันไม่จำเป็นต้องเริ่มตานี้ ทางนั้นรู้แน่ๆ ว่าเลต้องเมา น้องรับแอลกอฮอล์กว่าสี่สิบดีกรีไม่ไหว มากสุดฮิมให้แค่สี่ช็อต

   รู้ว่าเมาแต่ก็ให้ดื่ม

   มันผิดวิสัยคุณพ่อที่รักเลแบบยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม เพราะเลตั้งใจจะเล่นเขา ทว่าเกมนี้กลับไม่ใช่แค่ฮิมคนเดียวที่โดนเล่น

   แต่เป็นทุกคนยกเว้นเล

   คนประเภทเดียวกัน ก็มักจะทำอะไรเหมือนๆ กัน

   แต่ร้ายสุดเป็นใคร ก็น่าจะเห็นได้ชัดแล้ว

   “ตาคุณพ่อนะคะ”

   “อือๆ” เลพยักหน้า

   “Never I ever said I love you without meaning it.”

   “จริงเหรอ” เลทำตาโต “เลเชื่อคุณป๋าได้ไหม”

   “ผู้หญิง แค่สองคน แม่ดีนกับแม่น้องเล”

   “คนอื่นล่ะ” เลกวาดสายตามอง มีแค่คนเดียวที่ยกขึ้นดื่ม “พี่ดีน!”

   “ครับ?”

   “ทำไมเป็นคนแบบนี้!!”

   “No lie”

   “ไม่เอานะ อย่าไปบอกรักใครทั้งๆ ที่ไม่ได้รักสิ”

   “ครับ ขอโทษครับ”

   “เลคิดว่าพี่ดีนจะไม่เจ้าชู้ซะอีก” เลเบ้ปาก ในขณะที่หนึ่งในคนฟังถึงกับสำลักน้ำแล้วหัวเราะ “พี่วินเป็นอะไรอะ”

   “ตลกดี”

   “พี่ดีนอย่าเป็นเหมือนคุณป๋านะ” คนหน้าแดงสั่ง

   “ไหน คุณพ่อเป็นยังไงคะ”

   “โปรยเสน่ห์เก่ง”

   “ดีนเขาไม่เหมือนคุณพ่อหรอกค่ะ” แอรอนหันไปมองลูกชาย “เจ้าชู้เงียบ”

   “...” คนฟังไม่สะทกสะท้าน ดีนกวักนิ้วเป็นสัญญาณให้คนต่อไปเริ่ม

   และมันเป็นคราวของฮิม “Never have I ever fallen asleep during sex.”

   “พี่ฮิม!!”

   “ไม่จริงเหรอครับ”

   “ใครเคยก็ดื่ม” วินย้ำ ก่อนที่เลจะหันไปมองคนรอบด้าน น้องทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

   “Seriously?? ไม่เคยเลย?” ทุกคนยิ้ม “โกหกเลแน่ๆ”

   “ไม่อ่อนขนาดนั้น”

   “ดื่มเลยค่ะ” ฮิมรับแก้วหนึ่งช็อตยื่นให้น้องที่ทำสีหน้าตัดพ้อใส่เขา

    “You’re so mean.” ว่าจบก็กรอกน้ำสีเข้มลงคอ ช็อตที่สองทำหัวเลมึน คนตัวเล็กก้มลงซุกลำคอขาวเจ้าของตักแล้วพึมพำไม่ยอมเลิก “Never have I ever received nudes.”

    สี่ช็อตรวดพร้อมกัน

   “ใคร” เลถามเสียงอู้อี้ใส่คนข้างกาย ฮิมหัวเราะ จับมือบางประสานเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายตีที่ไหล่ เขากดจูบลงบนลำคอขาว ขณะแหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายกระทบกันเบาๆ กระซิบข้างหูให้คนมึนรู้ตัว

   “ก็จากเลไม่ใช่เหรอครับ”

   “...”

   คนฟังชะงักไปสักพักก่อนจะก้มหน้าเงียบ กระซิบและหัวเราะกันแค่สองคน อาการชัดเจนจนวินถอนหายใจ

   “หวานจนเลี่ยน จะต่อไหมเกมน่ะ”

   “ต่อ!”

   “Never have I ever sent a nude.”

   “พี่วิน!!”

   “อะไร ใครเคยก็ดื่มไปสิ”

   “No lie นะคะคนเก่ง” แอรอนย้ำอีกครั้ง นึกขำตอนเห็นเลเบ้หน้าเหมือนถูกรุมทำร้าย

   ช็อตที่สามไหลลงคอ

   เลส่ายหน้ารัวๆ ให้ได้สติ ถึงเมาแต่ก็ยังสั่งให้เล่นต่อไป

   ฮิมเงยหน้า สบตากับทุกคนสื่อความนัยน์ที่เข้าใจตรงกันว่าอย่าพึ่งให้เลดื่มไปมากกว่านี้

   ประโยคต่อจากนั้นจึงเป็นสิ่งที่เลน่าจะไม่เคยทำ

   “Never have I ever shot a gun.”

   “Never have I ever dated someone who was underage.”

   “Never have I ever kicked someone in the face.”

   .

   .

   .

   .

   “Never have I ever played video games all night.”

   “ที่รัก” คนตัวขาวพูดเสียงอ่อน ทำหน้าผิดหวังรุนแรงเมื่อฮิมพูดในสิ่งที่ทำให้เขาต้องดื่มช็อตที่สี่

   น้ำสีอำพันไหลลงคอละลายไปพร้อมกับสติ

   เกมที่ตั้งใจจะเล่นฮิม วกกลับมาเล่นตัวเองจนย่อยยับ

   ต้องโทษเวลาเลเมาแล้วน่ารักเกินไป น้องกอดฮิมไว้แน่น กอดเหมือนหมีโคอาล่าเกาะต้นยูคาลิปตัส

   “ฮิมแกล้งเล”

   “พี่ไม่ได้แกล้ง”

   “แกล้ง!!!”

   “โอเคครับ แกล้งก็แกล้ง”

   “พี่ฮิมไม่…%^$# น่า ^%#))(_) เล &)_)_)$#^%^. ไม่ (*(_แล้ว”

   “ฟังไม่รู้เรื่องแล้วนั่น” ดีนว่า พร้อมกับหันไปมองขวดเตกีลาที่เหลืออยู่ไม่มาก “คำถามสุดท้าย”

   “ตาน้องเล”

   “ไม่ไหวแล้ว ให้วินแทน” แอรอนเสนอ ขณะที่คนฟังยิ้มมุมปาก

   “Never  have I ever had a foursome.”

   “...”

   ฮิมนิ่งไปสักพัก ร่างสูงมองคนงอแงบนตักที่กำลังบ่นว่าจะนอนพร้อมกับลูบหลังน้องแล้วยกแก้วเตกีลาหนึ่งช็อตขึ้นดื่ม



   ก็สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะไม่โกหก



   น่าเสียดายที่เลเมาเกินกว่าจะจับใจความได้

   ในความคิดวิน คิดว่านั่นดีแล้ว เพราะผลลัพธ์ที่ได้น่าแปลกใจจนต้องขมวดคิ้ว

   ถ้าน้องรู้เรื่องบ้านคงได้แตกจริงๆ

   เป็นอย่างที่ว่าคนประเภทเดียวกัน มักจะทำอะไรเหมือนกันๆ



   เพราะไม่ใช่แค่ฮิมที่ดื่ม



   สองคนที่เหลือก็ยก



   เหล้าหมดพอดี








#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์



หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 31-07-2019 02:57:37
ดีจริงๆที่เลหลับไปก่อน
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 31-07-2019 06:32:59
คำถามสุดท้ายอยากจ แหมมมมมม  ยาวว ถ้าน้องเลไม่เมาหลับมีง้อกันยาว ไม่ใช่แค่ฮิมที่จะถูกงอน :mew4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 31-07-2019 08:11:03
คิดถึง~
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 02-08-2019 19:25:56
กลับมาอ่านอีกครั้งก็ยังสนุกเหมือนเดิมชอบความน่ารักของน้องเลกับความdarkของพี่ฮิม ตัวละครทุกตัวมีความโดดเด่นเฉพาะตัว...สนุกค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 02-08-2019 20:53:15
ขอบคุณครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 10-08-2019 23:22:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 14-08-2019 13:54:31
น้องเล น่ารัก  :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 01-09-2019 23:12:38
 :haun4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: JJAY.K ที่ 07-09-2019 10:32:06
เป็นนิยายอีกเรื่องที่ครบเครื่องมาก  ถ้าลดความรุนแรงและดราม่าลง เราจะชอบมาก (เราไม่ชอบดราม่าและความรุนแรง) แต่เรื่องนี้ทนอ่านจนจบได้ แสดงว่าสนุกจริง

ทุกตัวละครมีปมกันหมด  ทำให้น่าติดตามอาจจะมีบางช่วงที่ยืดเยื้อไปนิด  แต่ไม่ได้ทำให้เสียอารมณ์อะไร  กว่าจะเฉลยปมจนหมดก็แทบจบเรื่องเลยทีเดียว  NC ซี๊ดซ๊าด เผ็ดร้อนดังไฟ 555 พี่ฮิม So Hot ยัยน้องเลก็ใช่ย่อยแทบจะตายคาอกกันเลยทีเดียว

เรื่องคำผิดมีบ้าง บางประโยคอาจจะคำตกไปต้องคาดเดาเอาเองบ้าง  แต่ก็ไม่ทำให้ติดขัดอะไรมากมาย นักเขียนเขียนได้อารมณ์มากเลย โดยรวมแล้วเป็นอีกเรื่องที่ชอบ  ตามมาอ่านรวดเดียวจบเลย  แอบใจหายเหมือนกัน  ขอบคุณนักเขียนที่แต่งนิยายสนุก ๆ มาให้อ่าน  :pig4:

ปล.แอบไปติดตามแชทลับในจอยลดามา เพิ่มความฟินหลังจากฝ่าพายุดราม่ามาได้ 555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: Pramooknoi ที่ 26-09-2019 00:19:51
เรื่องนี้สนุกมากกกก พล็อตเรื่องก็คือนิยายที่พระเอกแบดๆ นายเอกน่ารักๆ  เราชอบตรงที่มันมีปมเยอะดีเนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อ  ดีนะที่ได้อ่านตอนจบแล้วเพราะว่าถ้าอ่านระหว่างที่คนเขียนกำลังแต่งเราคงอ่านได้ไม่จบแน่ๆ เพิ่งรู้ว่าผู้แต่งใช้ระยะเวลานานมากในการแต่ง เนื้อเรื่องที่ออกมาก็คุ้มค่ามาก เรื่องนี้ถือว่าเป็นนิยายในดวงใจเราอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ เดี๋ยวจะต้องมีการอ่านอีกรอบแน่ๆค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 27-03-2020 04:35:13
อ่านถึงตอนที่พี่ฮิมส่งทีมทนายมาหาน้องเลละ พันล้าน โอ้ว แอบอยากเป็นน้องเล 5555

มาเข้าเรื่อง เอาจริงเราแอบรำคาญน้องเลและก็เสือกเข้าใจน้องเลไปพร้อมๆกัน ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นเลจะพอเข้าใจได้นะเพราะน้องเค้าไม่รู้ความคิดของฮิมไง และการอยากกบฏออกนอกกรอบก็พอเข้าใจ มันเป็นธรรมชาติของวัยรุ่นที่ยิ่งห้ามยิ่งทำ พูดมาเหมือนเข้าข้างหมดเลยเนอะแต่เรื่องที่เลชอบตบฮิม เราไม่ตลก ไม่เห็นด้วยเลยด้วยซ้ำ ความรักที่ต้องทำร้ายร่างกายกันนี่มันยังไง ทีเดียวพอทน สามทีคืองงใจ และตบต่อหน้าคนอื่น ฮิมคงเหมือนโดนหยามอะนะ

มาทางตาพระเอกกันบ้าง เราก็ไม่ได้ชอบอะไรนางมากนักหรอกแต่ส่วนที่นางดีนางก็ทำมาได้ดีตลอด ยอมตลอดเลยนะ ยกให้เลเป็นที่หนึ่งเสมอ ที่นางส่งทนายมาเพราะเลบอกว่าเกลียดหรือเปล่าเลยต้องปล่อยไป มาดูกันล่ะกันว่าไง อ่านต่อแปป




Edit///กว่าจะอ่านจบ55555 ยาวอยู่นะ ก่อนอื่นต้องขอบคุณคนเขียนก่อนนะคะสำหรับนิยายสนุกๆเรื่องนี้ น้องเลและพี่ฮิมก็น่ารักมากจริงๆ ส่วนพี่ชายทั้งสองวินกับดีนนี่ปลื้มเป็นพิเศษ เรื่องอื่นจบลงแบบไม่ติดใจ แต่ข้องใจกับเดวาตั้งแต่ปล่อยคลิปละว่าทำไมถึงไม่จัดการตั้งแต่ตอนนั้น ปล่อยให้ตามมาทำร้ายเลอีกครั้งได้ยังไงนี่แอบแปลกใจ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 09:09:26
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: Moddyyks. ที่ 29-04-2020 00:56:51
อ่านรวดเดียวจบ อย่างชอบบบบบบบ
ขอบคุณที่แต่งออกมาดีขนาดนี้ค่ะ ฮือออ  o13
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 08-05-2020 23:57:45
สนุกมากครับ ^^
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 29-10-2020 01:28:35


  เขาเร่งจังหวะให้เร็วกว่าเดิมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนคนบนตักจะกระตุกเฮือก เสียงครางดังลั่นห้อง ก่อนแผ่นหลังเล็กจะเอนพิงไหล่ของคนด้านหลังพร้อมๆ กับน้ำสีใสที่ถูกปล่อยออกไปจากปลายรูเล็ก
 
เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า น้ำอยากมันจะใสเหนียวๆ น้ำเสร็จมันจะขุ้นข้นเหนียวๆ แนะนำให้ดูหนังGVก่อนเขียนนะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 250117#10(50%) p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 29-10-2020 01:43:04

“หุบปากไว้แล้วไปกับพวกกู”

“…”

“พี่ฮิมมีเรื่องจะคุยด้วย”

ชิบ-หาย-แล้ว!!
อยู่ดีๆก็ซวยเพราะไอ้เด็กนรกเล โรงเรียนก็สอนเพศศึกษาแต่มันก็ไม่รู้ แถมสัญชาติญานทางเพศของมนุษย์ทั่วไปที่ยังไงๆก็ต้องรู้จักการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองก็ไม่มีอีก เกลียดมันตรงที่มาบังคับขู่เข็ญบอมจนซวยไปด้วย ไอ้เด็กนรก
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 140317#11(0%) p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 29-10-2020 01:47:59

 

 
ผัวะ!

มือหนายกขึ้น ฮิมใช้ด้านข้างของมือตบหน้าอีกฝ่ายจนสะบัด อาการเจ็บชาลามไปทั่วใบหน้า แผลที่มุมปากถูกซ้ำจนได้เลือดอีกครั้ง บอมยังไม่ทันได้สติดีนักหมัดหนักๆ ก็ตามลงมาอีกสามครั้งติด ความเจ็บแล่นไปทั่วร่าง สัญชาติญาณบอกให้หนี เปลือกตาคล้ายหนักอึ้งลงเรื่อยๆ บอมพยายามลืมตาขึ้นก่อนจะหลับลงอีกครั้งเมื่อกำปั้นหนาถูกยกขึ้นเตรียมที่จะต่อยที่หน้าเขาเป็นครั้งที่สี่ ทว่า…

 
ซวยแท้ๆ เพราะไอ้เลเด็กเสนียดแท้ๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 150417#15(70%) p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 29-10-2020 03:31:20

 

 เมื่อน้ำสีขุ่นเริ่มปริออกจากลำแท่ง 
ไม่ใช่แล้ว น้ำอยากจะใส น้ำเสร็จจะข้น ยังไม่ทันทำอะไรน้ำข้นมาแล้ว จิ๊ จิ๊ จิ๊ ไม่รู้ว่าฮิมไก่อ่อนหรือคนแต่งไม่รู้จริง
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230717#20(90%) p.27
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 29-10-2020 07:05:38


(200,000 ครั้งนี้แพงหน่อยว่ะ)

 
ยาราคาขนาดนี้มีจริงเหรอ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 280717#21(45%) p.28
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 29-10-2020 07:25:37
บอกไม่ถูก...เริ่มจากเลจบมัธยมมาได้ยังไง???ไม่รู้เรื่องเพศศึกษาเท่าไร ช่วยตัวเองไม่เป็น??ไม่รู้วิธีช่วยตัวเอง??ถึงฮิมจะดูแลดีแค่ไหน มันก้อต้องมีเวลาส่วนตัวที่อยากรู้อยากเห็นเองบ้าง ไม่ใช่อ่อนใสเสียจนขัดความรู้สึก จนสงสัยว่าเลมีอีคิวที่ต่ำติดดินขนาดนั้นหรือ???(ยังไม่นับผลการเรียนที่น่าจะคาบลูกคาบดอก)...จากนั้นมีพฤติกรรมที่งอแง งี่เง่าอีกหลายอย่าง...แอบผิดหวังที่ยังไม่เห็นการพัฒนาของเลเท่าที่ควร...รักฮิมเหลือเกิ้นนนน..กลัวชะนีจะแย่ง แต่ไม่ยอมให้ปั้วมีอะไรด้วย..แค่ตอนที่ได้กันครั้งแรก ที่ฮิมบอกว่าเอาเลเสร็จ แล้วต้องไปหาชะนี..น่าจะคิดได้นะว่าควรทำยังไงให้มัดใจอิพี่ฮิม ไม่ใช่มัวแต่งอแงอยู่นั่นแหล่ะ
ส่วนอีพี่ฮิม...เรื่องชะนีพอเข้าใจให้ผ่านๆไป แต่เลี้ยงเลแบบโลกนี้สีขาว ถามว่ามันจะไปรอดไหม???อะไรที่ปิดๆควรจะเปิดเผยได้แล้ว ไม่ใช่เลี้ยงเมียแบบเด็กสามขวบ ให้เกีรยติเลบ้าง ทำให้เลเรียนรู้โลกของผู้ใหญ่ที่มีทั้งขาว-ดำ...กำลังรอดูว่าที่ปิดๆอยู่มันจะแตกเมื่อไร???ภูมิต้านทานต่ำแบบเลจะรับได้ไหม??
รอสมน้ำหน้าคุณพี่ฮิม!!
โดนมากๆ คิดเหมือนเราเลย ผัวมีความต้องการสูงแต่ไม่ยอมผัว ถ้าผัวไปสอยชะนีเราจะรอสมน้ำหน้า ส่วนเรื่องช่วยตัวเอง เราตอบไปก่อนหน้านี้แล้ว ตอบแบบเดียวกันเลย
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 170817#23 p.30
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 29-10-2020 08:19:36




triger warning :
เนื้อหาต่อไปนี้มี rape (การข่มขืน) และมีการใช้ความรุนแรง
ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านเป็นอย่างสูง หรือแนะนำให้ข้ามค่ะ[/color]


 
สะใจแล้วสมน้ำหน้าเลมากๆ กับความโง่ของนาง
ฮิมไปหาเมียสวยๆดีๆแต่งซักคนเถอะ อย่ามาเสียเวลากับไอ้เด็กเวรงี่เง่า เล่นตัวไม่ยอมให้ผัวหลับนอนด้วย ดื้อด้านแสนโง่
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 090418#30 p.42
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 29-10-2020 17:23:48

“แต่ฮิมก็ยังเคยตบเลเลยนะ”

 
ตบเขาก่อนตั้งสามทีป่าววะ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 230117#9 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 09-02-2022 05:21:56
พร้อมๆ กับน้ำสีใสที่ถูกปล่อยออกไปจากปลายรูเล็ก
น้ำเสร็จมันขาวขุ่นเหมือนไข่ขาวในไข่ลาวานะ ส่วนน้ำอยากมันจะใสเหมือนไข่ขาวดิบๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: Pramooknoi ที่ 27-03-2022 09:01:39
 :-[กลับเข้ามาอ่านอีกรอบยังสนุกเหมือนเดิมค่ะ คิดถึงนิยายดีๆ แบบนี้อยู่เสมอเลยค่ะน้องเลน่ารักมากๆจริงๆ
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 05-05-2023 22:59:51
กลับมาอ่านอีกรอบ หลังจากไม่ได้อ่านมา 3 ปี
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 22-05-2023 13:07:06
เรื่องนี้สนุกมาครับ แต่จะปวดๆหัวหน่อยกับคุณหนูเล 555
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 16-03-2024 20:15:00
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 24-03-2024 21:21:18
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 25-03-2024 20:03:50
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 42บ./1วัน กด *104*68*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)
หัวข้อ: Re: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 26-03-2024 20:55:55
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)