Chapter 5 : On the job [ NC ]
" หึๆ ....."
ขณะที่ภีมกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตในการคิดวิธีเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของหนุ่มฝรั่งตัวโตอย่างมาร์คัสก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างหงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะในลำคออย่างกวนอารมณ์ของอีกฝ่าย
" หัวเราะทำไม! " ภีมถามเสียงแข็ง
" เปล่านี่ " มาร์คัสเบะปากน้อยๆแล้วส่ายหัวปฏิเสธ ขณะที่เลื่อนมือทั้งสองข้างที่ท้าวกำแพงมาจับเอวบางของภีมไว้แทนก่อนจะออกแรงดันคนตัวเล็กกว่าที่พยายามดิ้นขัดขืนอย่างเต็มที่ให้เดินถอยไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ เขากวาดเอาของบนโต๊ะลงไปอย่างไม่สนใจว่าจะมีอะไรเสียหายหรือไม่แล้วดันภีมที่กำลังจะผลักเขาออกไปขึ้นนั่ง
" ปล่อยนะเว้ย!! " ภีมตวาดเมื่อมือทั้งสองข้างถูกมือใหญ่เพียงข้างเดียวล็อคไพร่หลังไว้ มาร์คัสขยับตัวเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นแล้วจับขาที่กำลังเตะลมไปมาของภีมให้แยกกว้างขึ้นอีก ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆลงบนแก้มเนียนที่หันหนีเขาทันทีที่ริมฝีปากเฉียดใกล้เข้าไป
" หึๆ ..."
" หัวเราะอยู่ได้ ประสาทรึเปล่าเนี่ยะ!? " ภีมที่โดนจับนั่งอยู่บนโต๊ะไม้เนื้อดีแทบจะตะคอกใส่มาร์คัสที่มองหน้าเขาแล้วเอาแต่หัวเราะ
" เปล่า " เสียงทุ้มตอบกลับ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มเจ้าเล่ห์ มือใหญ่รัดข้อมือทั้งสองข้างของภีมแน่นกว่าเดิมขณะที่ก้มหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนๆปะทะเข้ากับผิวเนียนจนขึ้นสี " แต่ดูนายสิ ..ฉันยังไม่ทันทำอะไรก็ตัวสั่นแล้ว นี่แปลว่าจนป่านนี้นายคงยังไม่เคยมีเซ็กซ์เลยสินะ หึๆ...รู้จักคำนี้รึเปล่าหนูน้อย "
" ร......รู้สิ!....รู้ดีด้วย!! " ภีมกลั้นใจทำใจกล้าตอบกลับ " อย่างนายอ่ะ สกิลง่อยมาก! "
" อย่างฉันเนี่ยะนะง่อย ? ถามหน่อยเถอะนายมีเซ็กซ์ครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่.." มารคัสว่า ทำเอาภีมนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อถูกจี้จุด
" ส..สิบเก้เว้ย! " เขากลั้นใจมั่วออกไป ...อันที่จริงอย่าว่าแต่เซ็กซ์เลย แค่จูบธรรมดาๆเขายังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ!! เพราะงั้นเมื่อเช้านั่นล่ะคือจูบแรกในชีวิต แต่ขืนบอกไปได้โดนไอ้ฝรั่งนี้ดูถูกตายเลย!
มาร์คัสพยักหน้าน้อยๆอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อภีมซักเท่าไหร่ เขาหรี่ตามองอีกฝ่ายพลางแลบเลียริมฝีปากแห้งผากของตัวเองช้าๆ พลางมองไล่ลงไปยังแผ่นอกขาวภายใต้เสื้อยืดตัวหลวมสีขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงถี่ๆตรงหน้ายาวเรื่อยลงมายังเอวบาง ดวงตาสีน้ำทะเลที่กวาดมองแบบนั้นทำให้ภีมนึกอยากจะตบปากตัวเองที่พูดอะไรอวดเก่งแบบนั้นออกไปและอดขยับถอยหนีไม่ได้เมื่อมาร์คัสขยับเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น
" ฉันสิบห้า "
มาร์คัสกระซิบคำตอบเสียงพร่าก่อนจะก้มตัวลงไปจูบริมฝีปากสีอ่อนอย่างร้อนแรงจนทำให้ได้ยินเสียงครางเบาๆของคนในอ้อมแขนตามมา มือใหญ่ค่อยๆคลายออกจากข้อมืออีกฝ่ายก่อนจะใช้มันรั้งช่วงเอวและแผ่นหลังให้ภีมเข้ามาใกล้มากขึ้น คนอ่อนประสบการณ์พยายามดิ้นหนี หากแต่ลิ้นร้อนที่สอดเข้ามาในโพรงปากมีแต่จะทำให้เขาหมดแรงเอาเสียดื้อๆ ทำได้แค่เพียงเอื้อมขึ้นกำปกเสื้อของมาร์คัสไว้แน่นเท่านั้น
ชายหนุ่มตัวโตไล่ต้อนอีกฝ่ายที่เหมือนจะยิ่งทำให้เขาอารมณ์พุ่งสูงจนแทบไม่รู้สึกตอนที่ภีมพยายามดันเขาออก แต่มาร์คัสก็ยอมถอนจูบออกมาแต่เพียงเล็กน้อยพอแค่ให้ภีมที่หน้าแดงเถือกให้สูดหายใจเข้าปอดก่อนจะกดจูบลงไปใหม่จนเจ้าตัวครางประท้วงเบาๆในลำคอและชกกลับอย่างไม่เบานักลงบนไหล่เขา ท่อนแขนแข็งแรงรัดเอวพอดีมือของคนตัวเล็กกว่าตรงหน้าเอาไว้แน่นเมื่อรู้สึกว่าภีมกำลังพยายามขยับตัวหนี
มาร์คัสถอนจูบออกแล้วเลื่อนใบหน้าลงมายังลำคอของเขา ใช้ปลายจมูกโด่งไล้เบาๆพร้อมกับพรูลมหายใจร้อนๆออกมา ไล่ลิ้นเลียผิวนุ่ม ดูดเม้มเบาๆจนเกิดเป็นรอยเล็กๆ กดจูบไล่เรื่อยไปจนถึงแนวไหล่ ภีมพยายามที่ใช้มือทั้งสองข้างดันอีกฝ่ายออกห่างแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยให้อะไรๆมันดีขึ้นมาเลยซักนิด
" นายรู้มั้ยว่าฉันจะไม่ปล่อยให้นายรอดไปเป็นรอบที่สอง " มาร์คัสละใบหน้าออกจากลำคอขาวแล้วเงยหน้าขึ้นมาจ้องตาอีกฝ่าย กระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆอย่างที่ชอบทำเมื่อเห็นภีมที่ริมฝีปากบวมแดงน้อยๆกำลังทำหน้าตาโมโหใส่ มันดูน่าเอ็นดูในความรู้สึกเขาจนอดจะยกมือขึ้นสัมผัสผิวแก้มเนียนที่ขึ้นสีระเรื่อไม่ได้
" .............. " ภีมหันหน้าหนีสัมผัสจากมืออุ่น รู้สึกว่าดวงตาสีสวยของมาร์คัสกำลังทำให้เขาเหมือนกำลังสะกดจิตเขาให้เคลิบเคลิ้มไปด้วยขึ้นทุกที หากแต่ภีมต้องร้องอุทานอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆมาร์คัสก็ลากเขาลงมาจากโต๊ะแล้วจับหันหลังก่อนจะเลื่อนมืออีกข้างออกแรงดึงกางเกงยางยืดขาสั้นพร้อมทั้งชั้นในของเขาออกไปอย่างรวดเร็ว
" ทำบ้าอะไรเนี่ยะ! " ภีมตะคอกแล้วพยายามดึงเสื้อลงมาปิดเมื่อเห็นว่ากางเกงสองชิ้นของตัวเองถูกคนข้างหลังเหวี่ยงออกไปไกล
" ทำรัก..."
มาร์คัสกระตุกยิ้มและจู่โจมกดจูบลงไปบนคำคอขาวจากด้านหลัง เขาเอื้อมรั้งเอวพอดีมือของคนที่เกาะขอบโต๊ะไว้แน่นให้เข้ามาใกล้เขามากยิ่งขึ้นจนเจ้าตัวครางเบาๆเมื่อส่วนกลางลำตัวเสียดสีเข้ากับกับช่องทางอีกฝ่ายย่างไม่ตั้งใจ ชายหนุ่มกัดลงน้อยๆบนแผ่นหลังภีมพร้อมใช้อีกมือเลื่อนลงไปขยับปลุกเร้าอารมณ์ของอีกฝ่ายจนภีมเริ่ดหน้าขึ้นและเอนตัวมาพิงเขาพร้อมกับมือเรียวที่กำแน่นอยู่ที่มือของเขาอีกข้าง
" นายมัน.....แย่! ไอ้ขี้โกง!! " ภีมที่พยายามกลั้นเสียงพูดขณะที่ยังเกร็งตัวจากสัมผัสร้อนของมือใหญ่ที่ยังปลุกเร้าอารมณ์เขาไม่เลิก
" ไม่ นายผิดแล้ว ฉันเยี่ยมมาก และฉลาด ต่างหากล่ะ " มาร์คัสพูดแก้จากภีมก่อนจะละมือจากส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่าย เลื่อนมาแตะเบาๆเข้าที่ช่องทางด้านหลัง และนั่นทำให้ภีมแทบจะรีบเด้งตัวออกมาเลยด้วยซ้ำถ้าไม่ติดว่ามาร์คัสยังใช้แขนอีกข้างรั้งเอวเขาไว้แน่น
" อย่า! ฉ...ฉันเจ็บนะ! " ภีมร้องเตือนเสียงกระตุกกระตักเมื่อนิ้วยาวกดเข้ามาในตัวเขาทีละนิ้ว
" ชู่ววว หนูน้อยเวอร์จิ้นอย่างนาย ต้องอยากเจ็บตอนนี้มากกว่าตอนต่อไปแน่ "
มาร์คัสกระซิบข้างใบหูขาวก่อนจะงับเล่นเบาๆ เขานึกนับถือตัวเองไม่ได้ที่ใจเย็นพอที่จะค่อยๆสอดนิ้วเพิ่มเข้าไปในช่องทางสีเรื่อที่บีบรัดนิ้วเขาอย่างเป็นจังหวะจนกระทั่งสามนิ้ว นิ้วเรียวยาวขยับเข้าออกเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับอีกฝ่ายสำหรับขั้นต่อไป ภีมครางเครือในลำคอ นิ้วยาวในตัวกำลังเป็นตัวเร่งให้เขาเกิดอารมณ์ร่วมไปกับคนด้านหลังมากขึ้นเรื่อยๆจนเขาอดจะอายไม่ได้เมื่อเห็นส่วนกลางร่างกายของตัวเองแสดงความรู้สึกของตัวเขาเองออกมาอย่างชัดเจนต่อหน้ามาร์คัสที่มองมาจากด้านหลัง
" อะ!! "
ภีมหายใจสะดุดและอุทานออกมาเมื่อจู่ๆมาร์คัสก็ถอนนิ้วออกไป ก่อนจะจับเขาโยนลงไปบนเตียงขนาดคิงไซส์ ในสติอันน้อยนิดภีมยังพยายามที่จะคิดหนีแม้อารมณ์ของเขาจะถูกปลุกจนเลยเถิดไปไกล หากแต่มาร์คัสที่เดินตามมาก็ดึงข้อเท้าขาวไว้จนภีมไถลลงกับที่นอน
เขาเอื้อมไปดึงเสื้อยืดของภีมออกก่อนจะรีบถอดเสื้อของตัวเองตามหลัง เขาแทรกตัวเข้าระหว่างกลางจับขาทั้งสองข้างของภีมให้อ้าออก พอใจไม่น้อยที่ได้ยินเสียงโวยวายปนกระเส่าเบ่าๆจากริมฝีปากปากเมื่อเขาไล้ปลายลิ้นเบาๆลงที่ต้นขาด้านใน
" ไหนใครว่าเคยมีเซ็กซ์ตั้งแต่สิบเก้าน้า~ " ชายหนุ่มพูดล้อคนที่หอบหายใจเบาๆ ภีมได้แต่พยายามกลั้นเสียงเมื่อใบหน้าทีมีไรหนวดบางๆของมาร์คัสสัมผัสโดนผิวเนื้อใกล้กับต้นขาเขา และยิ่งกำมือขยำลงกับผ้าปูที่นอนจนยับย่นเมื่อลิ้นร้อนแตะเข้าที่ช่องทางด้านหลัง
" อ...อา....พอ....มาร์คัส! " ลิ้นร้อนยังคงลากไล่วนที่ช่องทางสีเรื่อช้าๆ ภีมพยายามหนีบขาเข้าหากันหากแต่ไม่อาจต้านแรงของคนตัวโตกว่าได้ มาร์คัสเลื่อนมือข้างหนึ่งปลดการเกงขาสั้นของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจับตัวภีมพลิกนอนหงายและสอดแกนกายใหญ่โตของตัวเองเข้าริมฝีปากของอีกฝ่ายโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว
" อาาา " ชายหนุ่มเริ่ดหน้าขึ้นครางต่ำอย่างพอใจกับโพรงปากนุ่มก่อนจะขยับเข้าออกเบาๆ โดยที่มือใหญ่จับล็อคใบหน้าของอีกฝ่ายไม่ให้หันหนี " เป็นเด็กดี อย่าแม้แต่จะคิดกัดน้องชายฉันเชียว "
ก๊อกๆๆ!
เสียงเคาะประตูหน้าบ้านพักที่ดังขึ้นไม่ได้ทำให้มาร์คัสคิดจะหยุดสานต่อการกระทำแต่อย่างใด ต่างกับภีมที่แม้อารมณ์จะยังค้างคาแต่ก็พยายามจะผละออกจากส่วนใหญ่โตของมาร์คัสเมื่อรู้ว่ามีใครบางคนมาอยู่แถวนี้
" เฮ้~มาร์คัส นายอยู่รึเปล่า? "
เสียงผู้หญิงที่ดังขึ้นหน้าประตูทำให้ภีมสะดุ้ง เขารีบดันหน้าท้องแข็งของอีกฝ่ายออกและพยายามจะลุกขึ้นเมื่อจำได้ว่าเป็นเสียงของพี่สาวเขานั่นเอง!
" ว้าว~ พี่สาวนายตามมาขัดรอบสองถึงที่นี่เชียว " มาร์คัสว่ายิ้มๆขณะจับที่พยายามขับขืนภีมหันหลังเหมือนเดิมและคร่อมตัวทับใช้แรงกดตรึงแขนทั้งสองข้างของภีมจมลงกับเตียง ก้มมองใบหน้าน่ารักที่ฉายแววตื่นตระหนกกระวนกระวาย
" ปล่อยนะมาร์คัส! " ภีมดิ้น
" ไม่มีทาง ฉันอารมณ์ค้างมาตั้งแต่เช้ารอบนึง แล้วก็ตอนอลิซอีก นายหนีฉันไม่ได้แล้วล่ะ " มาร์คัสพูดก่อนจะรั้งสะโพกอีกฝ่ายเข้ามาใกล้แล้วจับแกนกายใหญ่โตของตัวเองจ่อเข้ากับช่องทางสีอ่อน ภีมที่รู้สึกได้ถึงส่วนร้อนผ่าวของมาร์คัสพยายามกระถดสะโพกหนี
" อย่าทำนะ! ไม่งั้นฉันจะร้องดังๆเลย!! " ภีมขู่พยายามเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อดันหน้าท้องแข็งๆของอีกฝ่ายให้ออกห่างจากจุดอันตราย หากแต่มาร์คัสเลื่อนแขนข้างหนึ่งขึ้นพาดรั้งช่วงอก และอีกข้างรั้งที่ช่วงเอวให้เข้าไปใกล้จนภีมสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อแข็งแรงและส่วนแข็งขืน
" ก็ร้องไปสิ ฉันเองก็ไม่ได้อายซักหน่อย " สิ้นเสียงทุ้มข้างหู ภีมก็แทบตะครุบปิดปากตัวเองไม่ทันเมื่อมาร์คัสสอดแกนกายร้อนผ่าวเข้ามาในตัวเขาอย่างดึงดัน ดวงตากลมโตปิดแน่นจนหยดน้ำที่คลออยู่กลิ้งลงบนผิวแก้ม ภีมจิกเล็บลงบนแขนของร่างสูงใหญ่พลางหายใจหอบถี่เมื่อความเจ็บปนเสียวซ่านแล่นริ้วขึ้นมาถึงกลางอก
" เจ็บ เจ็บนะ! " ภีมพูดเสียงแผ่วตำหนิคนด้านหลัง " มันใหญ่แบบนี้.......จะใส่เข้ามาได้ไง! "
" นั่น....อ่า....ฟังดูเหมือนคำชมนะ " มาร์คัสบอกก่อนจะค่อยๆสอดใส่เข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆจนสุด ความอ่อนนุ่มที่ตอดรับเป็นจังหวะทำให้เขาอดกระแทกย้ำเข้าไปด้านในจนอีกฝ่ายอดสะดุ้งไม่ได้
" ลึกไปแล้ว! " ภีมกลั้นใจพูดคำน่าอายออกมาเมื่อมาร์คัสดูเหมือนจะพยายามดันส่วนใหญ่โตของตัวเองกระแทกเข้ามาในตัวเขาเรื่อยๆ
" แล้วรู้สึกดีรึเปล่าล่ะ " มาร์คัสว่าพลางขยับวนภายใน ก่อนจะค่อยๆขยับเข้าออก
ภีมยกมือขึ้นปิดปากพยายามกลั้นเสียงน่าอายไม่ให้หลุดออกมา ก่อนจะโดนมือใหญ่เล่นมาดึงมือเขาออกไป ภีมเม้มปากแล้วกลอกมองสบเข้ากับดวงตาสีฟ้าสวยอย่างตำหนิ หากแต่มาร์คัสเพียงแค่ยิ้มอย่างหล่อร้ายและโน้มหน้าเข้ามามอบจูบเร่าร้อน ก่อนจะเริ่มเร่งจังหวะเบื้อล่างให้เร็วขึ้นและหนักหน่วง
ก๊อกๆๆ~
" มาร์คัสอยู่รึเปล่า~ นี่พี่ภัทรนะ เพื่อนลินด์ซี่ พี่จะขอถามอะไรหน่อย "
เสียงของภัทรที่ลอดเข้ามาในตอนนี้ไม่สามารถแทรกเข้ามาในช่วงร้อนแรงของคนทั้งคู่ในห้องนอนได้ มาร์คัสก้มลงแลบเลียกัดผิวเนื้อขาวๆช่วงหลังของภีมอย่างกระหาย จงใจกระแทกตัวหนักๆหลายครั้งเพื่อแกล้งคนที่พยายามกลั้นเสียงสุดความสามารถ
" พี่สาวนายตื้อชะมัดเลย " มาร์คัสพูดขณะที่ขยับเข้าออกอย่างหยาบโลน ภีมที่ตอนนี้ทิ้งตัวลงนอนคว่ำกับเตียงหันหน้ามามองเขาด้วยสายตาคาดโทษน้อยๆ ก่อนจะปิดตาลงเมื่อมาร์คัสกระแทกตัวลึกเข้าไปอีก
" ลึก......ลึกไปแล้ว เบาหน่อย....อา....." ใบหน้าที่แดงเถือกและน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นของภีมทำให้มาร์คัสเริ่มจะสูญเสียการควบคุมไปทีละนิด เขาเลื่อนมือไปรั้งตัวของอีกฝ่ายขึ้นมา ขบเม้มผิวเนื้อที่ลำคออย่างกระหาย สอดแทรกส่วนกลางลำตัวเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนเร็วขึ้นจนเกิดเสียงเฉอะแฉะน่าอาย มือใหญ่ข้างทีว่างเลื่อนมาขยับส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่ายจนภีมรู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหวอีกต่อไปเมื่อถูกเร้าอารมณ์ทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง
" มาร์คัส ......อืม " เสียงครางกระเส่าจากริมฝีปากบางราวกับเชื้อเพลิงชั้นดีในการกระตุ้น
" เรียกอีก..........เรียกชื่อฉัน......" เสียงทุ้มดังขึ้นสั่งข้างใบหู
" ม...มาร์คัส......ฮ่ะ......อา.....จะไป.....จะไป......" ภีมพูดเสียงสั่นพร่าขณะที่เกร็งตัวแน่น มาร์คัสครางในลำคอเมื่อช่องทางของภีมตอดรัดเขาแน่นขึ้นเรื่อยๆ เขาก้มหน้าลงซุกลำคอขาวหายใจถี่ เร่งจังหวะมากกว่าเดิมจนภีมปลดปล่อยออกมาบนมือเขา มาร์คัสรั้งตัวคนที่แทบจะฟุบลงไปกับเตียงขึ้นมาเร่งจังหวะให้หนักหน่วงมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงหายใจหอบของภีมอยู่ข้างใบหู
" อะ...เจ็บ " ภีมครางท้วงน้อยๆเมื่อมาร์คัสใส่แรงกระแทกเข้ามาในตัวเขาไม่ยั้ง
" จะเสร็จแล้ว.......อา " คนตัวโตกว่ากระซิบบอกแล้วรั้งใบหน้าอีกฝ่ายมาจูบก่อนจะกระแทกหนักๆเข้าไปในช่องทางด้านหลังอีกไม่กี่ครั้งและปลดปล่อยเข้าไปภายในจนภีมรู้สึกร้อนวาบ มาร์คัสถอนจูบออกหากแต่ยังคลอเคลียริมฝีปาก ขยับแกนกายทิ้งท้ายอีกสามสี่ครั้งก่อนจะรั้งภีมลงนอนลงไปด้วยกัน
ก๊อกๆๆ
" มาร์คัสพี่มาตามหาน้องชายน่ะ ไม่รู้หายไปไหน นายอยู่รึเปล่าเนี่ยะ "
เสียงของภัทรดังขึ้อีกครั้ง ทำให้มาร์คัสและภีมที่ยังเหนื่อยหอบจากกิจกรรมบนเตียงหันมากลอกตามองกันน้อยๆ ภีมที่นอนหันหลังให้มาร์คัสเลื่อนมือดันหน้าท้องอีกฝ่ายเบาๆ
" เอาออกไป" ภีมพูดเบาๆอย่างรู้สึกอายเมื่อยังรู้สึกถึงส่วนที่ยังเชื่อมกันอยู่ และความชื้นแฉะที่หว่างขา
" ทำไมล่ะ ? " ไม่พูดเปล่ามาร์คัสยังรั้งเอวภีมเข้ามาใกล้มากขึ้นทำให้แกนกายของเขาสอดลึกกลับเข้าไปภายใน
" พี่ภัทรมา!! ฉันจะแอบออกไป! " ภีมว่าพยายามจะไม่รู้สึกอะไรเมื่อมาร์คัสแกล้งขยับเอวเบาๆ
" พนันได้ล้านเปอร์เซ็นต์ว่านายลุกไม่ไหวหรอก " เขายิ้มล้อก่อนจะยอมถอนแกนกายออกมาในที่สุด ภีมสะดุ้งเฮือกกำหมอนแน่นเมื่ออีกฝ่ายออกไปจากตัวเขาแบบไม่ให้ตั้งหลัก มาร์คัสก้มลงจูบขมับชื้นเหงื่อและเลื่อนลงมาจูบที่ริมฝีปากที่บวมน้อยๆแผ่วเบา
" นอนพักซักตื่นเถอะ แล้วฉันจะไปส่งนายเอง " ชายหนุ่มบอกขณะที่ลุกขึ้นเดินโทงๆไปหยิบผ้าเช็ดตัว ทำให้ภีมอดจะพลิกตัวหนีกับภาพอุจาดในความคิดเขาตรงหน้าไม่ได้ แต่อาการปวดร้าวทั่วสะโพกเลยขึ้นมาถึงช่วงเอวทำให้เขาแทบจะกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย
" โอ้ย~ "
" เห็นมั้ยล่ะ สภาพแบบนี้นะจะวิ่งหนี เหอะ~ แค่นี้ยังไม่ไหวเลย "
" ก็มันเพราะใครล่ะ! " ภีมโวย
" ขอโทษทีเผอิญขนาดฉันมันเกินมาตรฐานไปหน่อย " ภีมได้แต่เบะปากแล้วเอาหมอนอีกใบปิดหน้าหนี ......คนด่าอยู่เห็นๆ ยังมีหน้ามาคุยโวใส่! หมอนี่มันหน้าด้านหน้าทนไม่รู้สึกรู้สาอะไรมั่งเลยรึไง!!!
" นี่...เลิกด่าฉันในใจแล้วนอนพักซะ เดี๋ยวฉันจะเช็ดตัวให้เอง " มาร์คัสที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำบอกอย่างรู้ทันเมื่อแอบเห็นใบหน้ายุ่งๆที่ซุกอยู่ใต้หมอน
" ไม่นอนโว้ย! "
" โอเค~ งั้นแปลว่านายอาจจะอยากต่อกับฉันในห้องน้ำอีกซักสองรอบ "
" บ้าเหรอ!!!! ไปไหนก็ไปเลย! จะนอนแล้ว เพลีย!!!! "
และเสียงทีตวาดกลับมาก็ทำให้นายมาร์คัสหัวเราะออกมาก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
งานนี้คนน่าสงสารอาจจะเป็นพี่ภัทรล่ะมั้ง อุตส่าห์เดินไปถามลินด์ซี่ว่าเห็นภีมหรือเปล่า แล้วก็ขอที่พักของมาร์คัสมา ไปเดินตามหารอบหาดมารอบหนึ่งก็ยังไม่เจอ และจนป่านนี้ที่หน้าบ้านพักของมาร์คัส นอกจากเสียงกุกกักๆของอะไรบางอย่างก็ยังไม่มีใครตะโกนตอบเธอมาเลยซักคน
__________________________________________________________
ง่าาาาาาาา~ จบไปเรียบร้อยสำหรับ NC เต็มรูปแบบครั้งแรก
บอกเลยค่ะว่าชอบอ่านนะ แต่มาเขียนเนี่ยะ ฉากแบบนี้เขียนยากจริงๆค่ะ
จะบรรยายยังไงตรงไหน แหม่~พิมพ์ไปก็เขินไป ><
วันนี้มาอัพเย็นๆอีกแล้ว ยังไงก็ขอฝากเหมือนเดิมนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกคำติชม
อ่านแล้วชื่นใจทุกทีเลย~ ขอบคุณมากๆนะคะ
คำติก็จะพยายามนำมาแก้ คำชมก็เป็นแรงผลักดัน
ปล. สำหรับคนที่ถามเรื่อง 'ไตร' จะมีบทบาทอะไรมั้ย ยังไม่แน่นะคะ อาจจะมี ^^ แต่คงเป็นเรื่องอื่นค่ะ
ปล2. ชื่อตอน on the job = (slang) have sex ( วิธีจำศัพท์ที่น่าสนใจ = =" (เหรอ? ) )
เรื่องนี้ยังไม่จบนะค้าาาาาา ช่วยติดตามกันต่อด้วยนะคะ ><
:hao5: :impress2: :katai2-1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
Chapter 6 : On the island
ทำไมถึงได้ปวดเมื่อยไปทั้งตัวแบบนี้วะ วันนี้ไปทำอะไรแปลกๆมาอีกรึไง..
ภีมคิดรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งในช่วงบ่ายๆ เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นนวดขมับรู้สึกปวดหัวหน่อยๆ ผ่านไปสักพักหลังจากที่นอนปรับตัวนิ่งๆ ภีมก็เริ่มจะนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้และมันทำให้เขาต้องถอนใจออกมาอย่างคิดไม่ตกกับความใจง่ายและร่างกายอันน่าสงสารของตัวเองที่คล้อยตามไปกับการชักนำแสนเจ้าเล่ห์ของมาร์คัส ภาพเพดานห้องสีขาวเบลอๆตรงหน้าทำให้เขาปิดตาลงอีกครั้งเพื่อปรับการมองเห็นที่ยังเบลออยู่หน่อยๆ
" นี่ แกจะนอนขี้เกียจอีกนานมั้ยภีม "
เสียงของพี่ภัทรดังขึ้นขัดจังหวะคนที่กำลังจะเผลอตัวหลับไปอีกรอบ ภีมลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะเห็นพี่สาวตัวเองกำลังยืนหมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากระจกพลางจัดแต่งเสื้อผ้าและทรงผมอย่างอารมณ์ดี ทำเอาเขาอดนึกสงสัยไม่ได้ว่าที่พี่ภัทรตามหาเขาเมื่อเช้าไปจนถึงบ้านพักของมาร์คัส แล้วจู่ๆเขาก็มาโผล่อยู่ที่บ้านแบบนี้มันไม่มีปัญหาอะไรแล้วหรือไง
" ภีมปวดหัวอ่ะ " ภีมตอบไปตามความจริง
" ก็แหงสิ แต่บอกไว้เลยนะพี่ไม่เห็นใจเราหรอกนะภีม เพราะแกดันไปกินของพวกนั้นเอง " ภัทรบอก ทำให้ภีมขมวดคิ้วมุ่นกับข้อมูลเมื่อครู่ "แกนี่ก็โชคดีนะเนี่ยะ มาที่นีปุ๊บก็เจอกับมาร์คัสปั๊บ รู้มั้ยว่ากว่าถึงฉันกับลินด์ซี่จะเรียนมหา'ลัยเดียวกับเขา
แต่กว่าจะได้เจอตัวนี่........ "
" เดี๋ยวๆๆนะ เอาใหม่ดิ๊...ภีมไปกินอะไรเข้าไป แล้วมันโชคดีตรงไหน ภีมงงหมดแล้วนะพี่ภัทร " ภีมพูดเบรกพี่สาว
" ก็เมื่อตอนบ่ายๆ มาร์คัส เขาอุ้มแกมาส่งที่นี่ บอกว่า นายแอบเข้าไปก๊งเหล้าในบ้านพักเขาตอนเขาปาร์ตี้อยู่กับเพื่อนๆ เสร็จแล้วพี่ก็เลยถามว่าแกกับเขารู้จักกันได้ไง มาร์คัสเลยบอกว่าลินด์ซี่แนะนำแกให้รู้จักตอนเขาไปเป็นบาร์เทนเดอร์ที่งาน " ภัทรพยายามอธิบายเหตุการณ์ยาวยืดให้สั้นที่สุดเพื่อให้น้องชายที่เธอคิดว่ากำลังแฮงค์ฟัง
ด้านภีมที่ได้ยินคำอธิบายจากภัทรก็เริ่มฉุนมาร์คัสขึ้นมาไม่น้อยที่กุเรื่องเขาขึ้นมาครึ่งนึง! แล้วพี่ภัทรไม่สงสัยบ้างรึไงว่าถ้าเขาเข้าไปก๊งจริงๆทำไมไม่มีกลิ่นเหล้าติดตัวมาซักนิดเนี่ยะ!!
" แล้วไหนคือที่พี่ภัทรบอกว่าภีมโชคดี? " เขาถาม ปล่อยให้ความจริงของเรื่อเป็นความลับต่อไปเมื่อเขาคิดว่ามันอาจจะยิ่งวุ่นวายมากขึ้นถ้าเขาบอกพี่ภัทรไป
" ก็แกได้เจอ มาร์คัส เวอร์โก้ ไง! เฮ้อออ~ แกนี่มันโง่หรือโง่วะ เอ้า! นี่! " ภัทรส่ายหน้าหน่ายๆใส่ภีมก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบนิตยสารที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งโยนลงมาข้างๆเขาบนเตียงแล้วหันไปแต่งหน้าต่อ
" อะไรอ่ะ? " ภีมทียังทำหน้ายุ่งถามพลางหยิบขิงข้างตัวมาพลิกหน้าพลิกหลัง
" ก็ดูหน้าปกสิยะ นอกจากแกแล้วเนี่ยะคนในออสเตรเลียไม่มีใครไม่รู้จัก มาร์คัส เวอร์โก้ หรอก ถึงจะยังไม่ได้มาทำงานถ่ายแบบเต็มตัวนะ แต่เขาก็กำลังเป็นนายแบบวัยรุ่นที่กำลังดังมากในออสเตรเลียช่วงนี้เลยนะ ทั้งหล่อ ทั้งเรียนเก่ง หุ่นก็ดี นิสัยก็น่ารัก โอ้ยยยย~ ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นน้องนะ ฉันจะทุบหัวแล้วลากขึ้นเตียงแล้วแหละ "
ภีมเบะปากกับสรรพคุณของมาร์คัสในความคิดของพี่ภัทรที่ช่างตรงกันข้ามกับความเป็นจริงที่เขาเคยสัมผัสมา พลางกลอกตามมองอาการเพ้อฝันของภัทรอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะก้มมองดูรูปที่ขึ้นปกนิตยสารชื่อดังที่มีรูปของมาร์คัสขึ้นปกจริงๆ ....สงสัยเพราะอย่างนี้นี่เองหมอนี่ถึงได้พยายามตามมาราวีลบรูปในกล้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
" แล้วนี่พี่ภัทรจะไปไหนอ่ะ " ภีมพูดขึ้นเมื่อนึกคำถามที่คิดไว้ตอนแรกออก
" ก็ล่องเรือไง นี่แกลืมไปแล้วเหรอไอ้ภีม!! " ภัทรว่า ทำให้ภีมต้องตั้งสตินึกย้อนในสมองเล็กน้อยก่อนจะจำได้ว่าพี่ภัทรกับเขาจะได้ชมทะเลโดยเรือยอร์ชของคุณลินด์ซี่ " ตั้งแต่มานี่แกป้ำๆเป๋อๆนะเนี่ยะ "
" เอาน่า ก็จำได้แล้วก็ช่างมันเหอะน่า " เขาพูดปัดๆก่อนจะพยายามกระถดตัวไปริมเตียงแล้วเดินอย่างยากลำบากไปหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยน
" ทำไมแกเดินงั้นอ่ะภีม อย่างกับสาวน้อยเพิ่งเสียพรมจรรย์ " ภัทรแกล้งพูดแซว หากแต่นั่นกลับกระแทกจี้จุดภีมอย่างจังจนเขาแทบสะดุ้ง เขาทำแค่เพียงหันไปมองพี่สาวอย่างหงุดหงิดน้อยๆแล้วปิดประตูปัง!เข้าห้องน้ำไป
เรือยอร์ชสียาวทะยานตัวผ่านเกลียวคลื่นบนท้องทะเลไปด้วยความเร็วไม่มากนัก บนนี้จะมีแค่คนที่ลินด์ซี่ออกปากเชิญเองเท่านั้นถึงจะขึ้นมาได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเขากับพี่ภัทร ภีมกำลังรู้สึกอารมณ์ดีสุดๆเมื่อลมทะเลเย็นๆพัดปะทะเข้ากับใบหน้า เขาแทบจะไม่ได้ลดกล้องถ่ายรูปลงเลยเพราะตลอดทางที่ผ่านมามีแต่วิวธรรมชาติสวยๆทั้งนั้น
" พี่ภัทร ช่วย........อ้าว? "
ภีมหันไปด้านข้างเพื่อจะเรียกให้พี่สาวช่วยหามุมสวยๆให้เพื่อที่เขาจะได้ถ่ายรูปเพิ่ม หากแต่พี่ภัทรที่ยืนอยู่ข้างๆเขามาตลอดทางดันเดินไปเม้าท์มอยในกลุ่มเพื่อนกับคุณลินด์ซี่เสียแล้ว ครั้นพอจะหันกลับมาสายตาก็ดันมองไปเห็นร่างคุ้นตายืนเก๊กท่าอยู่ไม่ไกลอีกต่างหาก
" มาร์คัส ฉันไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่เลยกับเรือนี่ " อลิเซียที่เดินคู่มากับร่างสูงใหญ่พูดขึ้นขณะที่ยังซบอยู่กับไหล่หนาด้วยท่าทางที่ดูออดอ้อน
" เธอไม่ค่อยได้ขึ้นไง ถึงไม่ค่อยชิน เอาเป็นว่าเกาะฉันไว้ดีๆแล้วกัน " มาร์คัสบอกพลางกดจูบเบาๆลงไปบนเรือนผมสีสวยของหญิงสาว เขากระตุกยิ้มนิดๆอย่างรู้ทันกับสายตาของใครบางคนที่จ้องมาที่เขา
" เรือมันไม่ได้เร็วขนาดนั้นซักหน่อย " ภีมที่มองร่างสูงใหญ่กับสาวสวยที่ดูจะเคมีเข้ากันอย่างนึกหงุดหงิดในหัวหน่อยๆ อะไรบางอย่างมันทำให้เขารู้สึกอึดอัด และไม่พอใจภับภาพคู่รักตรงหน้านัก แต่พอจะหันหน้าหนีสายตาเจ้ากรรมมันก็พลันอยากจะมองกลับไปดูทุกที
" ฉันไม่ชอบอยู่กลางทะเลเลย " อลิเซียพูด ตอนนี้เขาได้ยินคนสองคนคุยกันชัดแจ๋วยิ่งกว่าเอาโฮมเธียเตอร์มาจ่อหูอีก เพราะไอ้ฝรั่งตัวโตบางคนมันพาแฟนเดินมาจนใกล้เขาแล้วก็หยุดยืนพิงที่ราวกั้น
" หึๆ.. ทำไมคิดงั้นล่ะ ฉันว่ามันดีออกนะ อิสระดี " เสียงทุ้มตอบกลับ ก่อนที่มือใหญ่ที่โอบหลวมๆไว้กับเอวคอดของหญิงสาวจะกระชับร่างบอบบางของเธอเข้าใกล้ตัวมากขึ้น ทำให้ภีมอดจะเบะปากแล้วค่อยๆพาร่างกายที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยถอยห่างไม่ได้
" ไม่ล่ะ ดูเอาสิ เมฆครึ้มแบบนั้นน่ากลัวจะตาย " เธอพยักเพยิดไปยังท้องฟ้าที่เริ่มมีกลุ่มเมฆสีเทาเพิ่มขึ้น
ภีมหลับตาแล้วถอนใจแรงเพื่อคลายความหงุดหงิดรำคาญใจขณะที่เขาคิดว่ายัยนางแบบสุดสวยเซ็กซ์เอ็กซ์แตกคนนี้จะกลัวอะไรนักหนากับทะเลสวยๆ และแค่ก้อนเมฆครึ้มๆ ยังไงคนขับเรือก็ต้องพาพวกเขากลับเข้าฝั่งก่อนที่ฝนมันจะตกอยู่แล้ว
แปะ..
แทบจะทันทีที่เขาคิดจบ หยดน้ำเย็นๆก็ตกลงบนมือ และก่อนที่ทุกคนจะทันได้มองหาสาเหตุฝนก็ตกลงมาจริงๆ.. เพราะฉะนั้นตอนนี้เรือก็กำลังเริ่มจะหันหัวกลับและทุกคนก็รีบเดินเข้าไปหลบฝนด้านใน ภีมได้ยินเสียงพี่สาวของเขาตะโกนเรียกอยู่ไม่ไกลนักและเขาก็หันไปพยักหน้าว่าได้ยินแล้ว หากแต่จังหวะนั้นลมก็หอบเอาคลื่นลูกใหญ่พัดเข้ามาปะทะกับตัวเรือจนมันโคลงไม่เบานัก
" เฮ้ย!!~ "
ภีมอุทานอย่างตกใจเมื่อกล้องหลุดมือออกไปบนพื้นเรือและรีบก้มตัวตาม หากแต่เมื่อเรือปะทะเข้ากับคลื่นอีกลูกทำให้กล้องกลิ้งหล่นลงจากขอบเรือตกลงทะเลไปพร้อมๆกับภีมที่ไม่ทันตั้งหลักแล้วตกลงไปเช่นกัน!!!!
" ภีม!!! "
" โอ้ พระเจ้า! มีคนตกน้ำ!! ช่วยด้วย ๆ !!.......ไม่นะ มาร์คัส!! "
อลิเซียที่ยังยึดตัวเองอยู่กับราวกั้นได้ทันร้องขอความช่วยเหลือออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นร่างของภีมกลิ้งผ่านช่องว่างของราวกั้นที่ขอบเรือตกลงทะเลไปพร้อมๆกับกล้อง เธอพยายามห้ามแฟนหนุ่มไม่ให้ตามลงไป หากแต่มาร์คัสที่มองภีมอยู่ตลอดเวลาไม่ลังเลที่จะรีบสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมแล้วกระโดดตามภีมลงไปทันที
" แค่ก ๆ ...."
ภีมสะดุ้งขึ้นมาอีกครั้งด้วยอาการหอบเหนื่อยและหัวใจที่ยังเต้นรัวอยู่ในอกจากความตื่นกลัวในความมืดของท้องทะเลและกระแสคลื่นที่พัดแรง เขายันตัวขึ้นนั่งและพบว่าตัวเองอยู่บนชายหาดในสภาพตัวเปียกโชก สภาพอากาศยังคงมืดครึ้มแม้ฝนจะตกเบาลงมากแล้ว
" มาร์คัส! "
ภีมที่มองสำรวจรอบตัวจนมาเจอคนที่นอนคว่ำอยู่ข้างๆในสภาะไม่ต่างกัน ถึงจะนึกโทษพระเจ้า และ โชคชะตาที่อุตส่าห์ส่งไอ้คนที่มาเกยหาดข้างๆเขาเป็นหมอนี่ แต่อาการที่นอนนิ่งๆ เหมือนไม่หายใจแบบนั้นทำให้ภีมไม่อาจนั่งเฉยได้ มือเรียวจับร่างของมาร์คัสพลิกขึ้นนอนหงายอย่างยากลำบากเพราะขนาดตัวที่ต่างกันก่อนจะใช้มืออังจมูกโด่ง
" ไม่หายใจ?! "
เขาพึมพำกับตัวเองเมื่อไม่รู้สึกถึงลมร้อนๆที่พ่นออกมา ก่อนจึงเริ่มตบเบาๆที่แก้มกร้าน แต่ก็ยังไม่เห็นว่ามาร์คัสจะรู้สึกตัวแต่อย่างไร ภีมเริ่มใจไม่ดี เขามองรอบตัวไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากใคร ก่อนเขาจะนึกวิธีที่น่าจะพอทำได้อยู่ขึ้นมา
" ผายปอด.....เอาวะ " ภีมพูดกับตัวเองแล้วรีบใช้วิธีที่จำมาจากสมัยเรียนลูกเสือช่วยคนที่นอนไม่ได้สติ
เขาบีบจมูกโด่งแล้วก้มลงเป่าปาก ก่อนจะร้องในลำคออย่างตกใจเมื่อลิ้นร้อนสอดเข้ามาในโพรงปากพร้อมกับแขนของคนที่เขาคิดว่าไม่ได้สติยกขึ้นมากดเอวเขาไว้แล้วรั้งคอให้แนบชิดยิ่งขึ้น ภีมรู้ทันทีว่าโดนมาร์คัสหลอกอีกแล้ว เขาพยายามถอยหนี แล้วทุบอั้กเข้าที่ไหล่หนาอย่างแรงจนมือใหญ่คลายออก
" โอ้ย~ เจ็บนะ " มาร์คัสแกล้งร้องโอดโอยขณะที่ลุกขึ้นนั่งตามขึ้นมา
" นายบ้ารึเปล่าเนี่ยะ! เรื่องความเป็นความตายมันไม่ใช่เรื่องจะอามาล้อเล่นกันนะ! " ภีมพูดอย่างโมโหเมื่อเห็นสายตาที่ดูเหมือนจะไม่สำนึกของคนตัวโต
" ฉันไม่ได้แกล้งซักหน่อยนี่ " มาร์คัสว่า " ฉันแค่เหนื่อยเลยนอนหลับตาหลังจากที่ลากนายขึ้นมาบนฝั่งได้ แล้วจากนั้นนายก็ฟื้น แล้วก็ฉวยโอกาสกับฉัน.....ใครสมควรจะโวยวายมากกว่าเนี่ยะ หื้ม? "
" ................. " ภีมมองคนที่นั่งมองหน้าเขาอย่างโมโหแล้วรีบลุกเดินหนี
" เฮ้ จะไปไหนน่ะ ที่นี่ไม่ใช่หาด Monkey Mia นะ มันเป็นเกาะอะไรก็ไม่รู้ " มาร์คัสพูด มองคนที่เดินไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่แล้วอมยิ้มเมื่อคิดถึงสาเหตุของมัน
" ไปไกลๆจากคนอย่างนาย! "
" กล้าเดินไปคนเดียวเหรอ ระวังเถอะ อาจจะเจอเผ่ากินคนเข้า " คำพูดของมาร์คัสทำให้ภีมค่อยๆลดความเร็วลง อันที่จริงเขาไม่ควรจะไปเชื่อลมปากหมอนี่อีกแล้ว แต่ที่นี่มันไม่ใช่เมืองไทยแล้วมาร์คัสก็เป็นคนออสเตรเลียคนเดียวที่อยู่กับเขาตอนนี้
" นายโกหก! "
" แล้วแต่จะคิดแล้วกัน " มาร์คัสว่าแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินไปอีกทางกับเขา
ภีมลังเลที่จะเดินต่อ แต่ก็ถือทิฐิไม่อยากจะตามคนเจ้าเล่ห์ไป เขาจึงตัดสินใจเดินไปที่ใต้ต้นไม้ที่มีโขดหินสูงๆขึ้นมาพอจะนั่งได้แล้วปักหลักลงตรงนั้น
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ อากาศยามค่ำคืนยิ่งเย็นลง ภีมที่นั่งตัวเปียกอยู่ที่เดิมนั่งกอดเข่าแน่นเมื่อลมหอบใหญ่พัดเข้ามา เสียงกรอบแกรบแปลกๆที่ดังขึ้นใกล้ๆเป็นบางครั้งทำให้เขาอดจะสะดุ้งทุกครั้งไม่ได้ ประกอบกับที่มาร์คัสขู่เรื่องเผ่ากินคนไว้ก่อนหน้านี้ทำใเขายิ่งจินตนาการเข้าไปใหญ่
" ลุก "
จู่ๆเสียงทุ้มก็ดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับแรงดึงที่ต้นแขนทำให้เขาตกใจ แต่เมื่อตั้งสติได้ว่าเป็นเสียงที่คุ้นเคยภีมก็หันไปมองคนที่กระชากแขนตัวเองอย่างไม่พอใจ
" จะไปไหน! " มาร์คัสไม่ตอบหากแต่ลากคนตัวเล็กกว่าไปเรื่อยๆจนถึงที่ที่เขาก่อกองไฟไว้อยู่ พร้อมกับปลาย่างตัวเล็กๆที่เสียบไม้ปักไว้อยู่กับทราย ชายหนุ่มลากภีมลงไปนั่งก่อนจะทิ้งตัวตามลงไป แล้วถอนใจเบาๆเมื่ออีกฝ่ายรีบกระเถิบตัวห่างไปอีก
" กินซะ ฉันได้ยินเสียงกระเพาะนายร้องเป็นจังหวะเบรคแดนซ์แล้ว " มาร์คัสว่า
" ................ " ภีมเงียบไป มองภาพตรงหน้าอย่างหงุดหงิดที่ตัวเองทำอะไรแบบนี้บ้างไม่ได้ แต่ก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยเมื่อพอจะมีกองไฟอุ่นๆไว้ผิงบ้าง
" นี่ ฉันไม่ได้พกยาพิษมา กินไปเถอะไม่เป็นไรหรอก "
" ขอบใจ " เขากลั้นใจพึมพำมันออกไปแล้วหยิบปลาตัวน้อยขึ้นมากินบ้าง ภีมคิดว่าถึงจะพูดเบาๆแบบนั้นแต่มาร์คัสก็คงได้ยิน เพราะเขาเห็นหางตาว่าริมฝีปากหยักสวยกำลังกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างที่ชอบทำ
" ตรงนี้คงอยู่ทิศใต้ของ Monkey Mia " เสียงทุ้มดังขึ้น ภีมขมวดคิ้วหันไปมองอย่างสงสัยว่าเขารู้ได้ยังไงมาร์คัสจึงโชว์นาฬิกาที่มีเข็มทิศเล็กๆที่ข้อมือให้ดู " ฉันคิดว่ามันน่าจะยังไม่เจ๊ง "
" หึ " ภีมคลี่ยิ้มออกมาบางๆขณะที่เคี้ยวเนื้อปลาจืดๆ " ใจคอนายจะเป็นทุกอาชีพเลยหรือไง? บาร์เทนเดอร์ นายแบบ ไลฟ์การ์ด นายพราน "
" อืม~ ก็บ้านฉันชอบเดินป่า แล้วบังเอิญตอนเกรดสิบก็เป็นกัปตันชมรมว่ายน้ำ ทำงานพิเศษเป็นบาร์เทนเดอร์ แล้วก็มีแมวมองมาจ้างไปเป็นนายแบบ " มาร์คัสตอบยิ้มๆแล้วโยนไม้ที่เสียงปลาเข้ากองไฟเมื่อจัดการหมดแล้ว
เขามองใบหน้าของภีมภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องลอดออกมาจากแนวเมฆทึบ เห็นริมฝีปากบางซีดลงน้อยๆ และเสื้อผ้าชื้นแฉะที่แนบเนื้อตัว
" มองอะไร " ภีมรีบโยนปลาที่กินหมดไปเกินครึ่งในมือทิ้งแล้วกระเถิบหนีเมื่อเห็นสายตาของคนที่นั่งข้างๆ
" เปล่า " มาร์คัสพูดขำๆแล้วกระเถิบตาม จนภีมถอยไปติดต้นไม้ นั่นทำให้ภีมนึกไปถึงเหตุการณ์น่าอายเมื่อเช้าที่เขาถอยไปจนมุมที่กำแพงและหนีไปไหนไม่ได้แบบนี้
มาร์คัสเคลื่อนตัวมาประชิดแล้วยกมือขึ้นไล้ผิวแก้มเนียนเบาๆ หลุดขำออกมามากขึ้นเมื่อเห็นว่าภีมกำลังหลับตาปี๋พร้อมกับชันเข่าแล้วเอามือยกขึ้นกอดอกตัวเองไว้แน่น มันทำเอาเขาอยากจะแกล้งฟัดให้หนำใจจริงๆ
จุ๊บ
สัมผัสอุ่นๆแนบลงบนหน้าผากเบาๆ ก่อนที่มือใหญ่อุ่นๆจะลูบลงบนผมเขา ภีมค่อยๆลืมตาขึ้นมอง เห็นใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆถอยห่างออกไป
" ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้ " มาร์คัสพูดเบาๆด้วยท่าทีที่อ่อนลงจนภีมอดแปลกใจไม่ได้ เขาขยับไปเอนตัวพิงต้นไม้แล้ว เอื้อมรั้งตัวภีมที่ขืนตัวต้านเขาน้อยๆให้นอนลงบนตัก
" นาย!....."
" นอนเถอะ ตอนนี้ฉันไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว " ชายหนุ่มพูดเมื่อเห็นว่าภีมยังมองเขาตาแป๋วและขยับตัวขยุกขยิกไปมา เขาวางมือลงบนกลุ่มผมนุ่มชื้นน้ำแล้วลูบเบาๆ
ภีมขมวดคิ้วน้อยๆรู้สึกร้อนใบหน้ากับการกระทำแปลกๆของมาร์คัสที่เขาคิดว่ามันดูไม่เขากันกับหมอนี่ แล้วเหลือบมองใบหน้าของอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้าย มาร์คัสทำเพียงแค่คลี่ยิ้มบางๆไม่พูดออะไรก่อนภีมจะรีบหลบตาหนีและนอนหันหลังให้กับเขา
__________________________________________
อาจจะตอนหน้าค่ะจะจบแล้ว ขอบคุณทุกคนนะคะที่ติดตาม
ชี้แจงเรื่องที่พิมพ์อีริคค่ะ
คือว่า วันก่อนเปิดดูเรื่อง X-men first class แล้วเกิดอาการคลั่ง
อีริค x ชาร์ล ขึ้นมาค่ะ เลยคิดจะแต่งฟิคคู่นี้ แต่แต่งไปแล้วคิดว่าคู่นี้มันน่าจะเหมาะกับ
อะไรที่น่ารักๆมากว่า เลยเอาเอนซีจากในนั้นมาใส่ในนี้แล้วแต่งต่อค่ะ
ฉะนั้นขอโทษนะคะ อ่านไปเลยอารมณ์สะดุด ><
ส่วนตอนนี้เพิ่งดู Captain America : Winter soldier
กำลังคิดอยากจะแต่ง Steve x Bucky อยู่ค่ะ มีใครสนใจมั้ยคะ 55555 ><
เอาล่ะ ยังไงก็ขอฝากตอนนี้ไว้ด้วยนะคะ
วันนี้ขอตัวไปอีกตามเคย แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ
บ้ายบาย
:z2: :really2: :katai5:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
Chapter 9 : On the Street
หลังรอดพ้นกลับมาจากเกาะร้างมหาภัยได้ภีมก็แยกจากมาร์คัสไปพักผ่อน เขากินอาหารไปหนึ่งมื้อใหญ่โดยที่พี่ภัทรยอมเจียดเงินเดือนออกเลี้ยงให้เขาเป็นค่าทำขวัญและให้เข้าบ้านพักไปอาบน้ำเย็นๆจนสบายตัว จากนั้นพี่ภัทรก็ชวนเขาออกไปนั่งเล่นที่ริมหาดกับเพื่อดูปลาโลมาที่จะว่ายเข้ามาในเขตน้ำตื้นในช่วงเย็นอีกรอบ
" คราวหลังถ้ากล้องมันจะตกก็ให้มันตกไปเหอะนะ ไม่ต้องไปห่วงมันหรอก ของน่ะซื้อใหม่ได้ แต่น้องแบบแกฉันจะไปหาซื้อจากไหน " ภัทรพูดขึ้น
" รู้แล้วคร้าบ " ภีมรับคำพี่สาวเสียงยานๆ ....ภัทรมองน้องชายผ่านกระจกที่โต๊ะเครื่องแป้ง เธอเห็นดวงตากลมโตมองกลับพร้อมกับการพยักหน้าเหมือนแค่รับๆคำไปเฉยๆ แล้วจึงพูดต่อ
" นี่ดีนะที่มาร์คัสเขาโดดตามลงไปช่วยทันน่ะ ไม่งั้นล่ะก็...... "
" นี่เราจะออกไปแค่นี้เอง จะแต่งอะไรเลิศนักหนาเนี่ยะ " ภีมที่กำลังกลัดกระดุมเสื้อชะงักแล้วพูดแทรกภัทรเมื่อเธอพูดถึงใครอีกคนขึ้นมา มันทำให้เขาหงุดหงิดที่ต้องนึกถึงมัน
ตอนที่มาถึงหาดพี่ภัทรกับคุณลินด์ซี่รีบตรงเขามากอดเขาแล้วถามด้วยความเป็นห่วง เขาแค่บอกพี่ว่าไม่เป็นไรแล้วหันไปมองดูคนที่ตามลงมาทีหลัง รายนั้นมีสาวสวยและก๊วนเพื่อนตัวใหญ่ๆอีกสองสามสี่คนเดินเข้ามาหา ที่มันทำให้เขาหงุดหงิดเหมือนแก๊ซกำลังรั่วในหัวไม่ใช่แฟนของมาร์คัสที่เข้ามากอดแล้วก็เขย่งตัวขึ้นจูบปลายคางที่มีไรหนวดน้อยๆ แต่เป็นเพราะหมอนั่นเองก็ยิ้มกับเธอต่างหาก!
มันหงุดหงิดเอาจนน่าแปลกใจว่า ทำไมตัวเขาถึงได้ทำตัวเหมือนสาวน้อยขี้หึงแบบนี้?
" ไม่ได้หรอก ฉันต้องดูดีตลอดเวลา ....แถวนี้มีแต่ผู้ชายหล่อๆ อย่างน้อยก่อนจะกลับวันพรุ่งนี้อาจจะมีใครมาตกหลุมรักฉันซักคนก็ได้ " ภัทรตอบแล้วยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดี
ภีมแทบจะไม่ได้ยินคำตอบของภัทร เขาทำแค่เพียงแต่ส่ายหัวเบาๆเพื่อไล่เรื่องนั้นออกไปก่อนจะหันไปเก็บเสื้อผ้าชุดเก่าลงตระกร้าผ้า จึงเห็นว่ากล้องของตัวเองวางทิ้งอยู่ใต้กองเสื้อตรงนั้น และมันก็ทำให้เขาต้องนึกถึงคนที่ก็บมันมาได้และคำพูดเมื่อเช้าที่ยังดังก้องอยู่ในหัว
ขอเขาคบ แต่ยังดี๊ด๊ากับสาวสวยคนนั้นคืออะไรล่ะ!?
" เหม่อคนเดียวอีกแล้วภีม "
" ฮะ? อะไรนะพี่ภัทร? " ภีมที่เผลอขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียวเมื่อครู่หลุดจากภวังค์แล้วหันไปถาม
" ฉันบอกว่าแกเหม่ออีกแล้ว แกเป็นแบบนี้บ่อยนะช่วงนี้ มีอะไรในใจรึเปล่า? อกหัก รักคุด ละมุดเน่า บอกฉันได้นะ พี่สาวคนสวยคนนี้อาจจะช่วยได้ " ภัทรว่าขณะที่กำลังใช้กิ๊บพินติดผมเปียของเธอเข้าไป
ภีมมองพี่สาวสลับกับกล้องในมือพลางเม้มปากอย่างครุ่นคิด
" ไม่มีหรอกพี่ภัทร "
" ภีม.........เราพี่น้องกันนะ แกไม่สบายใจก็ให้พี่ช่วยสิ " ภัทรขยับตัวหันกลับมามองน้องชายตรงๆ เธอจ้องหน้าภีมที่เสหลบตาแล้วทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับเธอและก้มหน้านิ่งไปก่อนจะเห็นริมฝีปากบางค่อยๆเปิดออก
" คือ......." ภีมสองจิตสองใจว่าจะพูดออกไปดีรึเปล่า แต่เมื่อเขากลอกตามองภัทรอีกรอบและพบว่าพี่ของเขายังมองมาที่ตัวเขาอยู่ ก็คิดว่าบางทีถ้าได้พูดความรู้สึกอึดอัดกับใครซักคนน่าจะพอช่วยให้อะไรๆดีขึ้น
" ถ้า....ถ้าเกิด..............สมมุติ คนที่พี่ชอบ เขามีแฟนอยู่แล้ว แต่จู่ๆ..........เขาก็มาขอคบกับเรา พี่ภัทรจะทำไง " ภัทรเอนตัวพิงกับขอบโต๊ะแล้วหรี่ตามองภีมอย่างจับผิดเมื่อได้ฟังประโยคคำถามข้างๆคูๆว่าสมมุติ แต่เธอคิดว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่องที่แค่สมมุติขึ้นมาหรอกไม่งั้นน้องชายของเธอจะทำแบบนั้นทำไม
" คนนั้นของแกคือใครอ่ะภีม "
" พี่ภัทร....... " ภีมทำเสียงเข้มพร้อมกับหน้างอๆมาให้ ภัทรจึงได้แต่ยอมทิ้งความอยากรู้นั่นไป
" ก็ได้ๆ ไม่รู้ก็ได้.........จริงๆ เรื่องแบบนี้มันก็ไม่ค่อยดีน่ะนะ ในเมื่อเขามีแฟนอยู่แล้ว " ภัทรว่า " แต่พี่ว่ามันไม่ผิดนะถ้าจะเปลี่ยน เพราะยังไงก็ยังไม่ได้แต่งงานกันไม่ใช่เหรอ? ถ้าคนที่คบก่อนไม่ใช่คนที่โอเคสำหรับเขา มันไม่ผิดนี่ที่แกจะเป็นคนมาทีหลังจริงๆแล้วแกอาจจะเป็น soulmate ของเขาก็ได้ แต่พี่เตือนไว้อย่าง ถ้าจะคบกัน ต้องให้หมอนั่นเลิกกับแฟนก่อนแล้วกัน "
ภัทรพูดเน้น ภีมที่นั่งฟังเงียบๆพยักหน้าเบาๆ หากแต่เขาต้องขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อฉุกใจคิดขึ้นมาได้ว่า เมื่อกี้ที่พี่ภัทรพูดอธิบายใช้คำว่า 'เขา' และก็ 'หมอนั่น' ออกมา .....มันชักทะแม่งๆแฮะ?
" พี่ภัทรคิดว่าคนที่ภีมถามเป็นผู้หญิงผู้ชายเนี่ยะ? " ภีมถามหน้าเครียด หากแต่พ่สาวของเขากลับหลุดขำออกมาแล้วหันไปแต่งหน้าต่ออย่างอารมณ์ดี
" หึๆๆ หนังหน้าอย่างแกฉันพอจะเดาได้หรอกว่าหาสามีได้อย่างเดียว "
หลังจากเสียเวลาเถียงเรื่องผู้ชาย? กับพี่ภัทรไปเกือบยี่สิบนาที ตอนนี้เขาก็ได้มานั่งกินลมชมวิวยามเย็นที่ริมหาดพี่ภัทรไปตามคุณลินด์ซี่ที่บ้านทิ้งให้เขานั่งรออยู่คนเดียว
ลมเย็นๆแบบนี้มันพอจะทำให้เขาพอจะสงบจิตสงบใจลงได้บ้าง ครั้งนี้เขามาโดยมีแค่มือถือหนึ่งเครื่องและกระเป๋าตังค์ ไม่ได้หยิบเจ้ากล้องตัวโปรดมาด้วยเพราะขี้เกียจที่จะเห็นมันแล้วคิดอะไรๆอีก
ครืด ครืด
แรงสั่นเตือนว่ามีคนพิมพ์ไลน์ตอบกลับมาทำให้ภีมละสายตาจากผืนทะเลสีฟ้าสวยเหมือนกับสีตาของใครบางคนก่อนจะเปลี่ยนท่าเป็นนั่งชันเขาแล้วยกเครื่องมือสื่อสารดีไซน์สวยขึ้นมา
/ ไงภีม ไปหลงหนุ่มออสซี่แล้วอ่อ ไม่เห็นทักกลับมาบ้างเลย =3= /
ภีมคลี่ยิ้มออกมาเมื่อพบว่าคนที่ทักมาคือ 'ไตร' เพื่อนซี้ของเขานั่นเอง แต่มันก็ทำให้เขาอดจะเดือดนิดๆไม่ได้ที่แม้แต่ไตรเองก็ยังแซวว่าเขาจะต้องมีแฟนเป็นผู้ชาย
ให้ตายเถอะ หรือเขาควรจะเริ่มไว้หนวดตั้งแต่วันนี้ดีล่ะ! จะได้ดูแมนขึ้นหน่อย!!
นิ้วเรียวพิมพ์สิ่งที่ตัวเองนึกลงไปก่อนจะขำพรวด เมื่อไตรส่งอีโมติคอนบอกอารมณ์ว่ามันน่ากลัวขนาดไหนกลับมา ภีมกดเลือกสติ๊กเกอร์ส่งกลับไปก่อนจะพิมพ์หาไตรอีกครั้ง แต่จู่ๆโทรศัพท์เขาก็ถูกดึงออกจากมือไปเสียก่อน
ภีมรีบหันหน้ากลับไปอย่างงงๆปนโมโห แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่กำลังทรุดตัวนั่งลงข้างๆในชุดเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงสามส่วนสีอ่อนพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วมันก็ทำให้เขาต้องถอนหายใจออกมาแทน
" เอาคืนมา " มาร์คัสยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าน่ารักบูดบึ้ง เขาเพียงแค่ชันเข่าขึ้นมานั่งท่าเดียวกันกับภีมแล้วเลื่อนหน้าแชทของอีกฝ่ายดู แต่ก็ต้องขมวดคิ้วแล้วเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มเมื่อในนั้นเป็นภาษาไทยทั้งหมดและเขาไม่เข้าใจมันเลยซักนิดเดียว
แต่ที่สะดุดตาและเป็นอย่างเดียวยที่เขาอ่านออกในนั้นคือชื่อของคนที่ภีมคุยด้วย ..ไม่ มันไม่ใช่ชื่อเฉยๆ แต่มันเขียนว่า ' My Boy <3 ' น่ะสิ!
" เขียน My Boyแล้วก็มีหัวใจนี่หมายความว่าไง?! " มาร์คัสหันขวับกลับไปถามคนตัวเล็กกว่าด้วยความหงุดหงิดที่พรวดขึ้นมาในหัวเขาหน่อยๆ
" อะไร..... เจ้าของภาษาอย่างนาย แปลแค่นี้ไม่ออกหรือไง? " ภีมว่าแล้วเอื้อมมือหมายจะคว้าโทรศัพท์ตัวเองกลับมาแต่มาร์คัสก็เอาออกห่างออกไปอีก ..มันทำให้เขานึกไปถึงตอนบนเกาะนั่นทีหมอนี่เอากล้องหนีเขา แล้วก็ตอนกลับมาที่นี่แล้วแฟนสุดเอ็กซ์ของก็เข้ามาเกาะแกะหมอนี่ และมันทำให้เขาเริ่มจะฉุนกึ่กเหมือนกัน!
ดวงตาสีฟ้าคมกริบมองระวังภีมที่พยายามคว้าโทรศัพท์ตัวเองกลับไป แล้วรีบกระเถิบตัวหันหลังให้แล้วพิมพ์ข้อความลงไป โดยที่มีเสียงแง้งๆของภีมอยู่ข้างหูว่า ทำอะไรน่ะ! หยุดนะ! เอาคืนมา! ....ริมฝีปากหยักกดยิ้มร้ายบนใบหน้าเมื่อเขากดส่งข้อความลงไปในจังหวะเดียวกับที่ภีมสามารถคว้ามันกลับไปได้พอดี
' Hey dumbass, stop texting my wife!! Do you want some problem? '
" ทำอะไรของนายเนี่ยะ!! " ภีมมองข้อความที่มาร์คัสส่งไปอย่างตกใจขณะที่โทรศัพท์สั่นขึ้นมาอีก และไตรก็ตอบกลับมาด้วย...
/ ...........................????? /
" my wife!!! ใครเป็นภรรยานายไอ้บ้า! " ภีมโวยวายแล้วเอามือผลักไหล่คที่นั่งข้างๆไปเต็มแรง " แบบนี้ฉันจะอธิบายกับเพื่อนยังไง!? "
" เพื่อน? นายเมมชื่อเพื่อนนายว่า My Boy เนี่ยะนะ!!? " มาร์คัสไม่ตอบคำถามภีม แต่รีบจับมือเรียวก่อนที่จะใช้มุขเดิมๆด้วยการควักเอาทรายมาประทุษร้ายเขาอีกรอบไว้แน่น
" ฉันจะเมมชื่อเพื่อนว่าอะไรทำไมจะต้องมาอธิบายให้นายฟังด้วย!?........เจ็บนะโว้ย! ปล่อยดิ! " ภีมเกร็งแขนฝืนแรงของคนตัวโตกว่าเพื่อทำให้ข้อมือตัวเองเป็นอิสระ
" นายจะต้องอธิบายมาภีม ฉันไม่ยอมให้นายกับคนอื่นหรอกนะ! "
" เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย! อย่ามาบังคับนะเว้ย! " ภีมตวาดกลับทำให้มาร์คัสชักจะโมโหขึ้นมาจริงๆ ที่ภีมโยกโย้ไม่อธิบายแล้วก็ไม่ตอบตกลงคบกับเขาบางทีคงจะเป็นเพราะไอ้หมอนี่!!
" งั้นจะให้ฉันทำให้ทุกคนรู้ตรงนี้เลยมั้ว่าเราเป็นอะไรกัน! " มาร์คัสกดเสียงเข้มแล้วกดอีกฝ่ายที่ไม่ทันตั้งตัวลงบนผืนทราย ภีมเอามือข้างที่ไม่ถูกตรึงไว้ดันอกกว้างไว้สุดแรง
" นายมีแฟนอยู่แล้วจะมาอะไรนักหนากับฉันอีกฮะ!! ปล่อยเลย!!!! " ภีมโพล่งออกมาเสียงดังเมื่อใบหน้าหล่อคมก้มลงมาใกล้ และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มชะงักไปเมื่อเห็นดวงตาสีเข้มคลอด้วยน้ำใสน้อยๆ ดูก็รู้ว่าภีมพยายามกลั้นเจ้านั่นไว้เพราะเสียงที่พูดออกมาแบบโกรธๆนั่นเจือด้วยความสั่นเครือ ก่อนดวงตาสีน้ำทะเลจะทอแววอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
ภีมเม้มปากขณะที่หายใจหอบ มาร์คัสที่ยังคร่อมทับด้านบนสัมผัสได้ถึงเสียงใจเต้นถี่ของอีกฝ่าย ความรู้สึกโกรธปนเศร้าถ่ายทอดออกมาจากดวงตาของภีมหากแต่ก็ยังมองมาที่เขาอย่างระแวงกับปฏิกิริยาของเขาว่าจะเกิดอะไรขึ้น
" ฉันขอโทษ ขอโทษภีม " เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบา มือใหญ่ลูบลงบนกลุ่มผมสีดำสนิทเพื่อปลอบโยน ภีมเบือนหน้าเสมองไปทางอื่นเมื่อเห็นดวงตาแบบนั้นของมาร์คัส เขาไม่อยากใจอ่อน หมอนี่กำลังทำหน้าเหมือนไซบีเรียนตัวโตๆที่กำลังสำนึกผิดยังไงอย่างงั้น
" โอ้ว~~ ภัทร ฉันไม่นึกว่าน้องชายนายจะร้อนแรงขนาดนี้ "
เสียงของลินด์ซี่ที่ดังขึ้นทำให้เขาและมาร์คัสต้องผละออกจากกัน เขารีบสะบัดเม็ดทายที่ติดตามเนื้อตัวออกก่อนจะพบว่าพวกเขาสองคนกลายเป็นเป้าสายตาของสองสาวเข้าเสียแล้ว คุณลินด์ซี่กำลังอมยิ้มแปลกๆ แต่พี่สาวของเขากำลังทำตาโตเท่าไข่นกกระจอกเทศได้...
" อ........ไอ้ภีม! แกอย่าบอกนะว่า..........มาร์คัส.......!!..."
ภัทรอ้าปากค้าง ชี้นิ้วไปทางนายแบบหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่ข้างน้องชายตัวเองด้วยใบหน้าที่ฉีกยิ้มแห้งๆแก้เก้อ ภีมเอาคอเสื้อเช็ดหน้าเช็ดตาลวกๆแล้วหันไปเพ่งสายตากับภัทรว่าอย่ามาอึ้งตอนนี้ได้มั้ย!!!!
" ฉันดูไม่ผิดจริงๆ " ลินด์ซี่พึมพำพลางหรี่ตามองแล้วพยักหน้าให้กับความปราดเปรื่องของตัวเอง นั่นทำให้ภัทรหูผึ่งและรีบหันกลับไปตะปบไหล่เพื่อนตัวเองทันที
" เธอหมายความว่าไงลินด์ซี่?! "
" ชู่ววว~ ไว้ฉันจะแอบเล่าให้ฟัง "
ขณะที่สองสาวกำลังกระซิบกระซาบกันภีมที่จัดการกับทรายที่ติดตามตัวเสร็จแล้วก็หันมาทำเป็นนั่งเล่นโทรศัพท์ต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ยังรู้สึกใจสั่นไม่หายกับดวงตาสีสวยที่มีอำนาจเหลือร้ายของมาร์คัส! แน่นอนว่าอย่างแรกคือเขาพยายามบอกตัวเองว่า ต้องอธิบายกับไตรก่อน!...
มาร์คัสหยุดมองคนข้างตัวนิ่งๆด้วยความรู้สึกผิดในใจที่เขาเกือบจะทำให้คนตัวเล็กนี่ร้องไห้อีกรอบ เขากำลังจะเอื้อมมือไปแตะไหล่ของอีกฝ่าย แต่เสียงของผู้มาใหม่กลับหยุดเขาไว้ก่อน...
" เฮ้ มาร์คัส! "
เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียกและพบว่าเป็น แบรท เพื่อนร่วมงานนายแบบด้วยกันกับตนเดินมาพร้อมกับอลิเซียที่ยืนมองมาที่เขาและภีมด้วยสายตาเรียบนิ่งและไม่พูดอะไร
" ว่าไง? " เขาถามกลับ เสียงทุ้มทำให้ภีมเงยหน้าขึ้นมาดูเหตุการณ์ข้างกายและมองเผลอสบเข้ากับดวงตาสีน้ำผึ้งของหญิงสาวร่างเพรียวบางที่ยืนกอดอกตรงหน้า เธอจ้องตอบกับภีมแค่เล็กน้อย ทำแค่เพียงถอนใจแล้วหันกลับไปอีกทาง
" รีบๆพูดเขาสิแบรท " เธอสะกิดเร่งเพื่อนชายตัวโต
" รู้แล้วๆ.........คือ ผู้จัดการให้พวกเรามาตามนายไปคุยหน่อยนะ " แบรทบอกขณะที่มองเหลือบไปทางภีมให้มาร์คัสรู้ " ดูเหมือน เรื่อง....ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ด้วย แนะนำให้รีบๆไปดีกว่าว่ะ "
" โอเค " มาร์คัสพยักหน้าเข้าใจแล้วขยับตัวลุกขึ้น ก่อนจากไปเขาเลื่อนมือไปแตะผิวแก้มเนียนของอีกฝ่ายที่ยังมีทรายติดนิดหน่อยเบาๆ ดวงตาสีเข้มมองมาดุๆแต่เขาคลี่ยิ้มบางๆให้ก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูง
" สัญญา ฉันจะทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย " ภีมฟังคำพูดทิ้งท้ายเบาๆของคนตัวโตแล้วทำเป็นไม่สนใจ และทำเป็นว่าสนใจกับการถ่ายรูปคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งนักหนารอให้ทั้งสามคนเดินออกไป
________________________________________________
มาต่อช้าไปนิดนึงขอโทษนะคะ :z10:
บังเอิญเจอคู่จิ้นมากมาย ทั้ง Hiddlesworh // Fassavoy // Shevine // ฯลฯ
คู่สุดท้ายที่กำลังหนักเลยค่ะ เลยทำให้ปั่นช้าเลย
ขอโทษมากๆนะคะ ><
และอีกครั้งค่ะ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์และบวกเป็ดค่าาาาาา^______^
แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ จะพยายามติ่งในหนึ่งวันให้น้อยลงค่า
บ้ายบายยยยยยยยยยยยยย
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
:rureadyประกาศความคืบหน้า
ขอโทษทุกคนด้วยนะคะ มาอัพแบบโคตรรรรรรรรรช้า :z10:
เผอิญมีธุระค่ะ ขอโทษจริงๆ ยังไม่หยุดอัพเรื่องนี้นะคะ จะจบอยู่แล้ว
แต่...แต่......
ดันคิดเรื่องใหม่ขึ้นมาได้ :heaven เลยจัดเลยค่ะ ไม่รู้จะชอบกันรึเปล่ายังไงก็ฝากด้วยนะคะ
:L2:
____________________________
[/color]
Cupid love เล่ห์รักกลกามเทพ : ซุป'ตาร์ตัวร้ายกับนายกระจอก
เรื่องนี่คือ Cupid Love เล่ห์รักกลกามเทพ นะคะ อารมณ์เหมือนซีรี่ย์ที่จะแบ่งเป็นตอนๆไป ในตอนนี้คือ ซุป’ตาร์ตัวร้ายกับนายกระจอก ค่ะ ^^
จิ้มโลดเลยค่า>>>>http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42196.msg2713000#msg2713000 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42196.msg2713000#msg2713000)
______________________________________
ฝากตัวกับเรื่องใหม่ด้วยนะคะ หวังว่าจะชอบกัน :z13:
เดี๋ยวจะกลับมาอัพเรื่องนี้นะคะ :katai5:
ขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะคะ
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: