พิมพ์หน้านี้ - ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: Toffeenut ที่ 25-11-2017 21:07:34

หัวข้อ: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Toffeenut ที่ 25-11-2017 21:07:34
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



(https://www.img.in.th/images/dd85627ca168b340d968902bf6c304a4.jpg)






.
.
.
รสน้ำตาลหวานไม่เท่าเคลียคลอเคล้ารสรัก
รสรักหวานนักน้ำคำที่พร่ำพะนอ
... รักก่อแล้วกลับละลาย












**ตัดมาจากเนื้อเพลงครวญรักของสุนทราภรณ์**












เ รื่ อ ง สั้ น

♥ Describe me in one word (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64254.0")
♥ Describe me in one word (ตอนพิเศษ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?action=post;quote=3754350;topic=64254.30")
Kiss me under the Mistletoe •.★✿ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?action=post;quote=3760064;topic=64700.0")


เ รื่ อ ง ย า ว (ยังไม่จบ)

▲▲ As an escort #เพื่อนนอน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64001.0")
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171125 - เพื่อนนอนตอนแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Toffeenut ที่ 25-11-2017 21:18:24
▲▲As an escort
#เพื่อนนอนตอนแรก










รสน้ำตาลหวานไม่เท่าเคลียคลอเคล้ารสรัก
รสรักหวานนักน้ำคำที่พร่ำพะนอ
... รักก่อแล้วกลับละลาย










.
.
.










ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่ความรู้สึกรักใครสักคนชืดจางขนาดนี้
...อ้อมกอดเย็นเยียบ
...จูบที่ไม่รู้รส
...รอยประทับบนเรือนร่างสีเดียวกับน้ำตา

...รัก – ความรู้สึกล้ำค่าที่ไร้ราคา







...


“เราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่” เสียงทุ้มนุ่มจากชายหนุ่มร่างสูงลูกชายนักการเมืองชื่อดังถามชิดริมฝีปากอิ่มทันทีที่ถอนจูบออก ร่างเพรียวที่ตกอยู่ในวงแขนแกร่งมาเกือบสองชั่วโมงช้อนดวงตาเรียวขึ้นมอง ริมฝีปากที่เริ่มบวมแดงจากรสจูบเอ่ยตอบผะแผ่ว


“..ขึ้นอยู่กับเวลาของคุณไงครับ”


“และขึ้นอยู่กับเงินด้วยสินะ” เสียงกลั้วหัวเราะเอ่ยสวนคำคล้ายจะหยอกเย้า เพราะรู้ว่านี่ไม่ใช่ปัญหาสำคัญสำหรับเขา แม้ค่าตัวของคนในอ้อมกอดจะสูงลิบลิ่วเมื่อเทียบกับเวลาสองชั่วโมงอันน้อยนิด แต่เชื่อเถอะว่าลูกค้าของที่นี่ยินดีจ่าย


...ถ้าหากว่าได้รับอนุญาตให้มีสิทธิ์จ่ายล่ะก็นะ


กลิ่นกายหอมยั่วยวนดึงดูดให้ริมฝีปากซุกเข้าหาซอกคอหอมกรุ่นอีกครั้ง และไม่ยอมผละจากมาจนกระทั่งสิบนาทีที่เหลือหมดลง แบล็คการ์ดสีดำถูกยื่นคืนสู่เจ้าของพร้อมรอยยิ้มหวานการค้า


คำลาสุดท้ายของค่ำคืนนี้คือคำว่า “ฝันดีนะครับคุณนล” ที่หลอกล่อให้เจ้าของชื่อหลงติดอยู่ในฝันนี้ไปอีกหลายคืน










...

ร่างเพรียวบางในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวที่ยังมีหยดน้ำเกาะพราวบางส่วนยืนนิ่งอยู่หน้ากระจก ร่องรอยสีแดงช้ำสองแห่งบริเวณไหปลาร้าทำให้คิ้วที่พาดเหนือดวงตาเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย มือซีดยกขึ้นแตะแผ่วเบาพร้อมรอยยิ้มหยันมุมปาก


“อนลมาเหรอวันนี้” เสียงทุ้มดังมาจากหน้าประตูห้องน้ำ เรียกให้ดวงตาไหวระริกก่อนจะเกลื่อนซ่อนมันด้วยรอยยิ้มน้อยๆ


“ครับ” ตอบรับพร้อมกับหันไปมอง แต่มือที่ยังไม่ละไปจากบริเวณรอยจูบเรียกให้สายตาคมดุคู่นั้นมองตาม ก่อนสีหน้าไม่ชอบใจนักจะแสดงให้เห็น


“ฉันเคยเตือนมันหลายครั้งแล้วว่าไม่ให้ทำรอยบนตัวเธอ”


“ไม่เป็นไรหรอกครับ อย่างน้อยรอยนี่ก็อยู่ใต้เสื้อ” ถ้าเขาไปเรียน ใส่ชุดนักศึกษาก็ปิดรอยเหล่านี้ได้มิด


“แต่ฉันไม่ชอบ” เสียงทุ้มยิ่งห้วน ประกายตาส่อแววไม่พอใจยิ่งเด่นชัด หากแต่พอมือบางยกขึ้นแตะบนวงหน้าพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง สายตาคู่นั้นกลับค่อยๆ ทอดอ่อนลง


“คุณกลับมาเหนื่อยๆ อย่าหงุดหงิดกับเรื่องไร้สาระพรรค์นี้เลยครับ”


ฝ่ามือแกร่งยกขึ้นทาบทับมือบางบนแก้ม เกาะกุมไว้เบาๆ พร้อมกับใช้ริมฝีปากค่อยๆ จรดลงบนลาดไหล่ ริมฝีปากหยักได้รูปลากผะแผ่วผ่านไล่เนียน ค่อยๆ ลบรอยนั้นด้วยสัมผัสดูดดึงช้าๆ จากซ้ายไปขวา ก่อนจะจรดลงบนปากอิ่มนุ่มนวลทว่าแฝงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ มืออีกข้างรั้งเอวร่างเล็กกว่าให้เข้ามาใกล้ ถ่ายทอดสัมผัสหวงแหนให้คนในอ้อมกอดได้รับรู้


“เธอเป็นของฉัน...”


กล่าวย้ำประโยคเดิมๆ ที่เคยกล่าวนับครั้งไม่ถ้วนตลอดสามปีที่ผ่านมา ย้ำให้สลักลึกในใจคนฟัง




“...ของฉันคนเดียว”










ร่างเปลือยเปล่าสองร่างตระกองกอดกันบนเตียงกว้างสีขาว ผิวสีขาวซีดแต้มรอยสีกุหลาบประปรายตั้งแต่หัวไหล่ไล่ลงเรื่อยจนปลายเท้า ทุกตารางนิ้วบนผิวเนียนถูกดูดดึงประทับตราจากเจ้าของ “คุณฐา” ชายหนุ่มอายุสามสิบห้าผู้เป็นเจ้าของสถานบันเทิงและไนท์คลับหรูสามแห่งใจกลางกรุงเทพฯ หากหนึ่งในสามแห่งนั้นเป็นธุรกิจที่เรียกกันว่า สถานบริการชั้นสูง ด้วยเป็นอาคารใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เปิดเป็นไนท์คลับหรูสองชั้นแรก สปาคอมเพลกซ์สองชั้นถัดมา และสามชั้นก่อนชั้นบนสุดเป็นสถานให้บริการที่มีผู้ให้บริการที่เรียกว่า “เอสคอร์ท”


เอสคอร์ทของคุณฐาแน่นอนว่ามีทั้งชายและหญิง แยกให้บริการแล้วแต่ความต้องการของลูกค้าที่ชั้นห้าและชั้นหก หากแต่ชั้นที่เจ็ด มีห้องรับรองส่วนตัวเพียงแค่สี่ห้องของเอสคอร์ทอันดับต้นที่มีค่าตัวสูงลิ่วสี่อันดับแรก ชายสองและหญิงสอง สมาชิกของคลับแห่งนี้ต้องสมัครสมาชิกด้วยค่าธรรมเนียมรายปีที่แพงระยับ หากแต่สมาชิกที่สามารถขึ้นมาใช้บริการที่ชั้นเจ็ดได้ต้องเป็นสมาชิกที่ถูกเลือกจากเจ้าของคลับ ไม่เพียงแค่เม็ดเงินเท่านั้นที่ต้องมีกำลังจ่าย แต่ต้องเป็นบุคคลที่ถูกไว้วางใจและได้รับการยอมรับ และตอนนี้ สามปีที่สถานบันเทิงแห่งนี้ถูกเปิดขึ้นมา มีพรีเมียมเมมเบอร์ที่สามารถเข้าออกชั้นนี้ได้แค่เพียงสิบกว่าคนเท่านั้น


ในส่วนของเอสคอร์ทนั้น ทุกคนจะมีห้องสำหรับ “การให้บริการส่วนตัว” บนชั้นที่ตัวเองอยู่ แต่สามารถพาลูกค้าไปใช้บริการที่ชั้น 1-4 ได้ตามแต่ความต้องการของลูกค้า แต่ที่นี่ไม่มีระบบไปให้บริการนอกสถานที่ ยกเว้นเพียงจะได้รับการขอร้องมาเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งลูกค้าที่มีสิทธิ์ในการร้องขอก็มีแค่พรีเมียมเมมเบอร์เท่านั้น และทุกครั้งจะต้องได้รับความยินยอมทั้งจากเอสคอร์ทและคุณฐาทั้งสองฝ่ายทุกครั้ง


...ตลอดสามปีที่ทำงานที่นี่มา “ปูรณ์” เป็นเอสคอร์ทเพียงคนเดียวที่ยังครองตำแหน่งเอสคอร์ทค่าตัวสูงสุด รับแขกอาทิตย์ละไม่เกินสองวัน ไม่เคยออกไปข้างนอก และมีแขกประจำเพียงแค่ไม่ถึงห้าคนเท่านั้น









“ปูรณ์...” เสียงทุ้มดังชิดใบหู มาพร้อมสองแขนที่สอดมารอบเอวดึงคนตัวบางกว่าให้ลำตัวแนบชิดกันมากขึ้น ผ้าห่มนุ่มสีขาวกองหมิ่นเหม่ปกคลุมสะโพก คนโดนกอดหลับตาลงช้าๆ ไม่นานก็รับรู้ถึงรอยจูบข้างขมับ และสัมผัสเย็นๆ บริเวณนิ้วนางข้างขวา


“สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้านะ และต้องขอโทษด้วยจริงๆ ที่อาทิตย์หน้าฉันไม่ได้อยู่ฉลองด้วย ต้องไปทำงานที่สิงคโปร์ทั้งอาทิตย์เลย”


ดวงตาเรียวก้มมองเครื่องประดับชิ้นใหม่บนนิ้ว วูบหนึ่งที่ดวงตานั้นเผยรอยยิ้มสดใส หากความจริงที่เป็นมาและตอกย้ำลงในใจมาตลอดก็กลบรอยยิ้มเหล่านั้นเสียสิ้น แต่ร่างบางก็ยังคงพลิกตัวหันมาสบตาเจ้าของของขวัญวันเกิดชิ้นแรกอยู่ดี

“แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วครับ” ริมฝีปากอิ่มจรดลงบนสันกรามซ้ายขวา มือข้างที่เพิ่งถูกสวมแหวนยกขึ้นเกลี่ยเบาๆ ตามแนวสันกรามนั้น แสงไฟน้อยนิดจากโคมไฟตรงหัวเตียงสะท้อนประกายเพชรเม็ดเล็กจากแหวน สัญลักษณ์อินฟีนิตี้บ่งบอกความเป็นนิรันดร์


...หากแต่มีสิ่งใดเล่าที่เป็นนิรันดร์?
คงไม่พ้นความรู้สึกที่ของเขาถูกจองจำโดยเจ้าของแหวนวงนี้



“เพราะเธอเป็นเด็กดีแบบนี้ไง ฉันถึงเอ็นดูเธอมากกว่าใคร” ดวงตาคมดุฉายแววเอ็นดูอย่างปากว่า เสียงทุ้มนุ่มหูอย่างที่น้อยคนนักจะได้ยิน คุณฐาที่ใครๆ รู้จักคือนักธุรกิจชื่อดัง ตัดสินใจเฉียบขาด ฉลาด ดุ และเย็นชาอยู่เสมอ


“เพราะผมอยากเป็นเด็กดีของคุณไงครับ”


“เธอเป็นแบบนั้นเสมอ...เด็กน้อย” ว่าพลางกดริมฝีปากลงบนหน้าผากเนียน ระเรื่อยลงมาตามแนวสันจมูก อบอุ่น อ่อนหวาน สัมผัสที่ปูรณ์ได้รับมาทุกครั้งที่นอนด้วยกัน แม้จะเร่าร้อนหากแต่แสดงออกได้อ่อนโยนยิ่ง มือคู่นั้นทั้งปลอบประโลมและหลอกล่อให้แมงเม่าตัวน้อยๆ เต็มใจกระโจนสู่กองไฟ และไม่ใช่แค่ร่างกายที่ยอมสยบ หากแต่หัวใจของปูรณ์ก็ศิโรราบให้กับมือคู่นี้มานานมากแล้วเช่นกัน


“อ๊ะ คุณฐา...” เสียงครางหวานคลอเคล้าด้วยเสียงเรียกชื่อ ทุกสัมผัสที่ตอกย้ำลงบนเรือนร่างราวกับยิ่งประทับตราตัวตนเจ้าของชื่อให้แน่นสลักอยู่ในใจคนเรียก กว่าจะรู้ตัว ทั้งหมดที่ปูรณ์มีก็ถูกพันธการเอาไว้เสียสิ้น


สองร่างเกาะเกี่ยวกันข้ามคืนจนเกือบเช้า ท่วงทำนองอิโรติกทอดผ่านบรรยากาศกลายเป็นบทเพลงบรรเลงที่มีเพียงทำนองแต่ไร้ความหมาย ความอบอุ่นที่คนหนึ่งเต็มใจมอบให้แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะเติมเต็มในหัวใจที่เคยแหลกละเอียดมาก่อน บทเพลงหวานซึ้งแต่ไร้คำรักไม่อาจสร้างความอิ่มเอมใจได้


คำลาตอนรุ่งสางสลักชัดในหัวใจคนฟังยิ่งกว่าคำใดในโลก








“เธอรู้ใช่ไหมว่าสำหรับเธอแล้วฉันให้ได้ทุกอย่าง...”












...ยกเว้นหัวใจ...









..TBC..














>>> ฝากเนื้อฝากตัวทั้งคนเขียน นิยาย และน้องปูรณ์ด้วยนะคะ
และถ้าจะกรุณา ใครเล่นทวิตเตอร์ เราฝากแท็ก #asเพื่อนนอน ด้วยค่ะ


ขอบคุณค่ะ ^^








หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171125 - เพื่อนนอนตอนแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 26-11-2017 22:37:18
ตามมาจากชื่อเรื่องเลยค่ะ แล้วก็ไม่ผิดหวัง นี่มันทางของเราเลย รู้สึกได้ถึงพลังความบาป อีโรติกร้อนแรงมากค่าาา คุณฐาดูคอนโทรลได้ทุกอย่าง อยากรู้ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อถ้าคุณฐาไม่อยู่ ติดตามนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171125 - เพื่อนนอนตอนแรก
เริ่มหัวข้อโดย: poommy_TY ที่ 26-11-2017 23:20:20
สัมผัสได้ถึงความหน่วงนิดๆเลยค่าาา
บรรยากาศดูแบบอีโรติกแบบหน่วงๆ 5555


น่าติดตามมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171125 - เพื่อนนอนตอนแรก
เริ่มหัวข้อโดย: ellemm ที่ 27-11-2017 00:28:07
ได้กลิ่นความหน่วงมาแบบชัดเจน
รอติดตามอย่างลุ้นระทึกนะคะ :katai1:
ขอให้ปูรณ์ไม่อยู่เป็นของตายด้วยเท๊อด สาธุเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171125 - เพื่อนนอนตอนแรก
เริ่มหัวข้อโดย: masochism2018 ที่ 27-11-2017 00:53:45
กรุ่นกลิ่นดราม่า  :hao7:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171125 - เพื่อนนอนตอนแรก
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 27-11-2017 01:17:55
 :o8: อยากรู้แล้วว่าจะยังไงต่อ
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171125 - เพื่อนนอนตอนแรก
เริ่มหัวข้อโดย: kampootsm ที่ 27-11-2017 12:36:05
ได้กลิ่นของความหน่วงลอยมา บรรยากาศแบบหน่วงๆแต่ก็ไม่อยากไปไหน :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171125 - เพื่อนนอนตอนแรก
เริ่มหัวข้อโดย: usguinus ที่ 27-11-2017 19:40:44
โอย น่าอ่านมากกกค่า ชอบแนวนี้ ชอบความหน่วง55555
บรรยายดีมากค่ะ รอติดตาม :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171125 - เพื่อนนอนตอนแรก
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-11-2017 00:43:50
 :oni1: :oni1:
หัวข้อ: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171130 - เพื่อนนอนตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Toffeenut ที่ 30-11-2017 19:52:29
▲▲As an escort
#เพื่อนนอนตอนที่ 2










ไม่มีคำทักทาย ไร้ซึ่งคำร่ำลา
มีเพียงอารมณ์อาวรณ์ล้ำลึก พร้อมคำรักที่เขาไม่ได้เป็นเจ้าของ
...กลิ่นเหล้า
...อ้อมกอดห่างเหินทว่าแสนรัดรึง
...ดวงตาสีชายามเอ่ยคำอ้อนวอน

เสียงทุ้มพร่าที่เอ่ยเรียกชื่อ
...ใครสักคนที่ไม่ใช่เขา

คำรักที่เขาเคยต้องการ
...แต่กลับเปล่งออกมาด้วยชื่อที่ไม่เคยได้ยิน


รัก..แม้จะเอ่ยออกมาได้ลึกซึ้งอย่างนั้น
หากแต่ทำไมต้องเป็นเขา – ที่ไม่เคยได้รับมัน










.
.
.










ตีสามสิบนาที


บานประตูสีขาวเปิดออกกว้างพร้อมร่างในชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมา การ์ดสองคนที่ยืนเฝ้าหน้าประตูตั้งแต่ได้ยินเสียงโครมครามดังลอดมาจากในห้องเมื่อเกือบสองชั่วโมงที่แล้วรีบเดินเข้ามาหา ตั้งใจจะเอ่ยอะไรสักอย่างหากคนที่เดินออกมาจากห้องกลับเอ่ยคำสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบสนิทคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ขึ้นมาเสียก่อน


“ตามแม่บ้านทำความสะอาด พาคุณธีกลับห้องบนชั้นแปด เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ และที่สำคัญ...”


“.....”


“อย่าให้คุณฐารู้เรื่องนี้เด็ดขาด”


“แต่ว่า...”


“ไม่มีแต่ พวกคุณก็รู้ดีไม่ใช่เหรอว่าวันที่คุณฐาไม่อยู่ ผมมีสิทธิ์ขาดกับทุกคำสั่งในที่นี้”


เพียงเอ่ยสำทับจบ เจ้าของห้องก็หลีกทางให้ชายสองคนทำตามคำสั่ง ร่างเพรียวบางเดินลิ่วไปยังชุดโซฟาสีเข้มริมบานกระจกสูงใหญ่ หลีกเลี่ยงบทสนทนาใดๆ ที่อาจจะเกิดตามมา ดวงตาเรียวทอดมองไปยังแผ่นฟ้ามืดเบื้องหน้า แสงไฟจากเบื้องล่างยังปรากฎให้เห็นจากเมืองที่ไม่เคยหลับไหล มือขาวกระชับเสื้อคลุมให้แน่นพลางเอนหลังพิงพนักโซฟา กำลังจะปิดเปลือกตา ทว่าเสียงนุ่มคุ้นหูกลับดังขัดขึ้นเสียก่อน


“นมอุ่นๆ ครับพี่ปูรณ์”



“เพิ่งรู้ว่าบาร์เทนเดอร์ที่นี่ชงนมแทนชงเหล้าด้วย” เอ่ยเย้ารุ่นน้องออกไป พร้อมรับเครื่องดื่มอุ่นมาถือไว้ในมือ


“ก็ตอนนี้ไม่มีใครมาดื่มเหล้าที่ผมชงนี่นา” เด็กหนุ่มอ่อนวัยกว่าเกือบสองปียิ้มกว้างแล้วนั่งลงเคียงกัน ดวงตาชั้นเดียวบ่งบอกความเป็นลูกคนจีนแทบกลายเป็นสระอิยามเจ้าตัวเผยรอยยิ้มจริงใจแบบนั้น ดวงหน้าสะอาดแม้มีร่องรอยเหนื่อยล้าจากการอดนอนทำงานหนักแต่เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ความสดใสเปล่งประกายนั้นช่างแตกต่างกันยิ่งนัก


อนาวินหรือวิน เด็กกำพร้าจากมูลนิธิที่คุณฐาให้การดูแลมากว่าสิบปีมาทำงานที่นี่ในตำแหน่งบาร์เทนเดอร์ประจำบาร์เครื่องดื่มชั้นเจ็ด ด้วยพรสวรรค์ การเรียนรู้ และความหัวไว ทำให้แขกวีไอพีที่นี่ล้วนติดใจเครื่องดื่มฝีมือเด็กหนุ่มคนนี้ แม้จะยังทำงานได้ไม่ถึงปี แต่ความร่าเริง สดใสช่างคุย ก็ทำให้เขาเปิดใจให้รุ่นน้องคนนี้ได้ไม่ยาก จะว่าไป หากไม่นับเพื่อนสนิทอีกคนที่อยู่ในฐานะเอสคอร์ทลำดับที่สามแล้ว ปูรณ์ก็ถือว่าวินเป็นคนที่เขาสนิทใจจะคุยด้วยยิ่งกว่าใครๆ


“พี่ปูรณ์นอนไม่หลับเหรอครับ” คำถามนั้นเรียกให้คิ้วเรียวได้รูปขมวดเข้าหากัน ปกติแล้วบาร์เครื่องดื่มจะตั้งตรงกลางโถงรับรองแขก นั่นหมายความว่า แขกทุกคนที่ขึ้นมาที่ชั้นนี้ได้จะต้องออกมาจากลิฟท์ที่อยู่ตรงกันข้ามกับบาร์ แน่นอนว่าไม่มีทางที่อนาวินจะไม่เห็น แต่กรณีคุณธี เป็นไปได้ว่ารายนั้นอาจจะใช้ลิฟท์ส่วนตัว ที่ไม่จำเป็นต้องเดินผ่านพื้นที่ส่วนกลางที่มีไว้เพื่อคัดกรองแขกตรงนี้


...แต่ก็ดีแล้วที่อนาวินไม่เห็นคุณธี ดีแล้วที่เขาไม่ต้องมาตอบคำถามที่ไม่อยากพูดถึงเท่าไหร่นัก


“พี่เพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วตาสว่างน่ะ อีกอย่างห้องเลอะนิดหน่อยเลยตามแม่บ้านทำความสะอาด เลยมานั่งรอที่นี่”


แม้จะสงสัยถึงการทำความสะอาดห้องนอนตอนตีสาม แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ถามอะไรกลับไป เลือกที่จะเอ่ยไปถึงเรื่องอื่นๆ แทน


“ว่าแต่เมื่อวานนี้วันเกิดพี่ปูรณ์นี่ครับ เสียดายที่ผมไม่มีอะไรให้อ่ะ อ้อ แต่ผมชงนมอร่อยมากเลยนะ ถือเป็นคำอวยพรย้อนหลังละกัน”


“แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว”


“ดื่มให้หมดนะครับ ผมว่าคืนนี้คงไม่มีใครมาแล้วล่ะ ว่าจะแอบหลับด้วย พรุ่งนี้ผมต้องเข้ามหาลัยไปส่งงานอีก”


“พี่ก็ต้องไปตอนบ่ายเหมือนกัน”


“ปีสุดท้ายแล้ว ยังมีเรียนอีกเหรอครับ”


“เปล่าหรอก ไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาน่ะ แกนัดไว้ตอนบ่ายสอง”


“อิจฉาจัง อีกนิดเดียวพี่ปูรณ์ก็จบแล้ว ผมยังเหลืออีกตั้งสองปี”


“ตั้งใจเรียนเข้าสิ เวลาผ่านไปเร็ว เดี๋ยวเดียวก็สองปีแล้ว”


“แล้วเรียนจบ พี่ปูรณ์จะไปทำงานที่ไหนอ่ะ หรือจะอยู่ทำที่นี่ต่อครับ”


คำถามธรรมดานั้นเรียกรอยวูบไหวในดวงตาเรียวสวย แต่รอยยิ้มเล็กๆ ก็เกลื่อนมันเอาไว้ก่อนจะตอบกลับไปด้วยเสียงแผ่วเบา


“อย่างพี่ จะไปไหนได้ล่ะวิน”


“พี่ปูรณ์ ผมไม่ได้ตั้งใจ” น้ำเสียงรู้สึกผิดของรุ่นน้องทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าหวานกว้างขึ้นอีกนิดราวจะบอกว่าไม่เป็นไร


“ไม่เป็นไรหรอก ..แต่นี่ก็ดึกมากแล้ว วินไปนอนเถอะ พี่ก็จะกลับห้องแล้วเหมือนกัน ฝันดีนะ”


“ฝันดีครับ”


ร่างเพรียวลุกเดินจากไปนานแล้ว แต่กลิ่นกายหอมยังทิ้งความอ่อนจางไว้ในบรรยากาศอย่างอ้อยอิ่ง แม้จะทำงานที่นี่ไม่นาน แต่ความเป็นไปของคลับแห่งนี้ก็ไม่เคยรอดพ้นสายตาเขา ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขาเอาแต่มองหาแผ่นหลังบอบบางแต่แบกรับความรู้สึกหนักหนานั่น



...ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่ความรักในหัวใจเลือกคนที่ไม่อาจเอื้อมมาให้



...สมบัติต้องห้าม แอปเปิ้ลในดินแดนต้องคำสาป เอสคอร์ทอันดับหนึ่งที่ผูกหัวใจทั้งดวงไว้ที่ผู้ชายที่ไม่เคยคิดมอบความรักให้

ถ้าไม่อาจเป็นเขา ใครกันจะช่วยฉุดรั้งแมงเม่าตัวน้อยออกจากกองไฟที่แผดเผาปีกบางๆ นั่นได้สักที
ใครที่จะสามารถเยียวยาจิตใจบอบช้ำแหลกสลายนั่นได้

...หรือรอได้เพียงแค่ ให้กองไฟนั้นมอบความอบอุ่นมาแทนที่

แต่ต้องรอนานแค่ไหน หรือไม่อาจมีหนทางใด ที่แมงเม่านั้นจะได้ชีวิตตัวเองกลับคืน










.
.
.
.
.











‘เพลง...’

‘…..’

‘ผมรักเพลง…’










ถ้อยประโยคลึกซึ้งยามที่ร่างด้านบนโถมกายเข้าหาดังขึ้นในความทรงจำ ดวงตาสีชามองสบดวงตาเรียวของเขาทว่าแววตานั้นกลับไหววูบมองผ่านไปยังใครคนอื่น


...คนที่เป็นเจ้าของถ้อยประโยคแสนหวานนั้น


จวบจนกายแกร่งดึงดันรุกล้ำเข้าหา ความเจ็บคับแน่นทำให้น้ำตาไหลออกจากดวงตาหวานปนเศร้า แต่รอยจุมพิตเหนือเปลือกตากลับช่วยปลุกปลอบ หลอกล่อด้วยสัมผัสจากฝ่ามือที่ลูบไล้ไปทั่วร่าง ริมฝีปากได้รูปไล่เรื่อยไปตามโครงหน้าก่อนจบลงบนริมฝีปากอิ่ม ดูดดึงอย่างเอาแต่ใจ ไล่เล็มราวผีเสื้อกระหายน้ำหวานจากดอกไม้ ที่พอได้น้ำหวานจนสมใจ ผีเสื้อก็บินลับจากไปพร้อมสติของคนเมาที่หลุดลอย





แสงสะท้อนไฟของสร้อยคอสีเงินประดับจี้รูปตัวโน๊ตที่วางบนโต๊ะเล็กข้างเตียงดึงสติให้กลับสู่ปัจจุบัน เจ้าของห้องแต่ไม่ใช่เจ้าของสร้อยฉุกคิดเพียงนิดก็หากล่องเครื่องประดับอันเล็กเพื่อใส่สร้อยส่งกลับคืนเจ้าของ สองเท้าก้าวย้อนกลับไปทางหน้าห้องอีกครั้ง วางกล่องกำมะหยี่ลงบนมือของหนึ่งในการ์ดหน้าห้อง ฝากคำสั่งเพียงแต่ว่า “ส่งของคืนคุณธี” ก่อนจะกลับมาทิ้งตัวลงนอน แม้จะนอนไม่หลับ หากแต่สติก็ไม่ได้นึกถึงคนที่เคยใช้เตียงร่วมกันในค่ำคืนที่เพิ่งพ้นผ่านอีกต่อไป ใจดวงน้อยกลับกระหวัดนึกไปถึงคนที่อยู่ไกลข้ามประเทศ บทสนทนาเมื่อวานตอนเช้ายังติดอยู่ในทุกห้วงความทรงจำ










.
.
.









คำว่าให้ได้ทุกอย่างของคุณฐาไม่ใช่เรื่องโกหก...


นอกจากแหวนวงที่อยู่ติดนิ้วนางไม่เคยถอดตั้งแต่อาทิตย์ก่อนที่ได้รับมันมา ในเช้าวันเกิด เจ้าของห้องที่ใหญ่ที่สุดบนชั้นเจ็ดก็ตื่นมาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนของดอกกุหลาบสีขาวช่อโตที่วางบนหมอนสีเดียวกันข้างกาย ริบบิ้นที่ผูกรอบกระดาษห่อดอกไม้ถูกร้อยด้วยเชือกป่านสีน้ำตาลพ่วงด้วยการ์ดที่มีลายมือเป็นระเบียบคุ้นตาเขียนคำอวยพรที่ไม่ต่างจากทุกปี


“ขอให้มีความสุข... เด็กดีของฉัน”


ใกล้กันนั้นมีกล่องของขวัญกล่องเล็กที่ภายในบรรจุกุญแจรถยนต์ยี่ห้อหรู เช็คเงินสด และเครดิตการ์ดสีทองที่ไม่จำกัดวงเงิน ปากอิ่มแย้มรอยยิ้มชืดจาง ในขณะที่มือข้างที่เพิ่งละจากกลีบดอกไม้ หยิบโทรศัพท์เพื่อกดส่งข้อความขอบคุณไปถึงคนที่อยู่คนละประเทศ ไม่ถึงห้านาทีหลังจากนั้น เสียงเรียกเข้าด้วยเบอร์ทางไกลก็เพิ่มระดับรอยยิ้มบนดวงหน้าหวานได้อีกนิด


“สุขสันต์วันเกิดเด็กน้อย”


เด็กน้อย...เด็กดี...ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็เป็นได้แค่คนที่คุณฐาเอ็นดูอย่างที่เจ้าตัวเคยว่าไว้เท่านั้น


“ขอบคุณครับ”


“อีกห้าวันฉันจองมื้อดินเนอร์ไว้ แล้วเดี๋ยวกลับไปฉลองกัน”


“ครับ”


“ถ้าเธอจะไปตักบาตรหรือทำบุญที่วัด คนขับรถมารอรับอยู่แล้วข้างนอก อาหารทั้งหมดฉันก็ให้คนเตรียมไว้แล้ว อ้อ แล้วถ้าเธออยากไปทำบุญที่บ้านเด็กกำพร้าเหมือนทุกปี ฉันก็จัดการบอกคนของฉันไว้หมดแล้วเหมือนกัน”


“ครับ”


“ปูรณ์”


“ครับ”


“ทำไมพูดสั้นจัง ไม่พอใจที่ฉันไม่ได้อยู่ด้วยหรือเปล่า”


“เปล่าครับ ผมเข้าใจว่าคุณฐามีงาน”


“คราวนี้ฉันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เพราะต้องมาติดต่อเซ็นสัญญาสำคัญ เธอก็รู้ว่าถ้าฉันเลื่อนได้ ฉันไม่เคยพลาดวันสำคัญของเธออยู่แล้ว”


“ครับ” ...ผมรู้ และเพราะรู้ว่าอีกคนให้ความสำคัญกันแบบนี้ แม้บางครั้งจะเจ็บปวดเจียนตายแต่เขาก็ไม่เคยไปไหนไกลจากความรู้สึกที่พันธนาการกันไว้นี่ได้สักที


“เป็นเด็กดี แล้วรอฉันกลับไปนะ”


“ครับ”


“และที่สำคัญ ฉันสั่งทุกคนไว้แล้วว่าไม่ให้เธอทำงานช่วงนี้”


“แต่ว่าคุณนลบอกว่าจะมา...”


“ปล่อยไอ้นลมันไป เพราะถ้าฉันไม่อนุญาต ใครหน้าไหนก็เรียกหาเธอไม่ได้ทั้งนั้น”


“ครับ”


“ฉันต้องวางสายแล้ว สุขสันต์วันเกิดอีกครั้งนะปูรณ์”


“ขอบคุณนะครับคุณฐา”


“ฉันคิดถึงเธอ”


หลังเสียงทุ้มเอ่ยคำหวาน สายก็ถูกตัดไปพร้อมหัวใจแมงเม่าตัวเดิม ที่ยอมกระโจนเข้ากองไฟอีกครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่เคยเข็ดหลาบกับความร้อนทรมานเจียนตาย...














สิบโมงเช้า


แสงอาทิตย์ลอดผ่านม่านโปร่งบางมายังเตียงนอนสีเทาเข้ม ร่างสูงบนเตียงพลิกตัวหนีแสงแดดที่เริ่มร้อนขึ้นทุกขณะแม้เครื่องปรับอากาศจะยังทำงานอย่างเย็นเฉียบ ร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่ามุดหนีแดดยามสายใต้ผ้าห่ม แต่เพียงแค่ไม่นาน อาการปวดหัวเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่หลงเหลือจากเมื่อคืนก็ปลุกให้คนขี้เซายอมลืมตาตื่นมาดูโลก นิ้วมือเรียวสวยขยี้เส้นผมไม่เป็นทรง ดวงตาสีชากวาดมองรอบห้องก่อนจะเจอกับแก้วเล็กใสที่บรรจุยาเม็ดสีฟ้าที่จำได้ว่าใช้แก้ปวดหัวเป็นประจำ วางอยู่คู่กันกับแก้วน้ำที่บรรจุน้ำเปล่าไว้เกือบเต็มแก้วบนโต๊ะเล็กข้างเตียง เลื่อนสายตาอีกนิดก็จะเจอกับถ้วยข้าวต้มที่ควันยังลอยเอื่อยให้เห็น รอยยิ้มพอใจถูกจุดขึ้นที่มุมปาก


...แม่บ้านที่บ้านอาฐาว่าเป็นงานแล้ว ยังต้องยอมแพ้ให้กับแม่บ้านประจำคลับนี้ ขนาดเขานานๆ จะมาค้างสักครั้ง แต่ด้วยฐานะหลานชายเจ้าของคลับและพรีเมียมเมมเบอร์ที่พ่อบังคับให้อาทำบัตรให้ พนักงานที่นี่ล้วนจดจำรายละเอียดสำคัญได้จนหมดสิ้น รู้ว่าต้องทำอย่างไรในเวลาใด ไม่แปลกใจสักนิดที่ธุรกิจนี้จะโด่งดังและสร้างรายได้มหาศาลให้ผู้เป็นอา


ธนาดล หรือธี ชายหนุ่มอายุ 22 ปี ลูกชายคนสุดท้องสุดรักสุดหวงของอาณาจักรนนทวัฒน์ เจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้าและโรงแรมหลายแห่งทั้งในและนอกประเทศ หลานชายคนโปรดของเจ้าของไนท์คลับชื่อดัง พ่วงด้วยตำแหน่งอดีตประธานชมรมว่ายน้ำและนักกีฬาว่ายน้ำของมหาวิทยาลัย ใบหน้าคม ดวงตาดุเหมือนผู้เป็นพ่อและอา ทว่ากลับเป็นสีชาตามสายเลือดลูกครึ่งของผู้เป็นแม่ คิ้วหนาได้รูปรับด้วยจมูกโด่งและริมฝีปากบาง ร่างกายสูงหุ่นนักกีฬาแต่ไม่ดูหนาเทอะทะ กลับได้รูป และขับเสน่ห์ของชายหนุ่มวัยต้นยี่สิบได้ดีราวพระเจ้าตั้งใจปั้น และธนาดลก็เป็นคนหน้าตาดีที่รู้จักจุดเด่นของตัวเอง เพราะเขาบริหารเสน่ห์ไม่เคยขาด แต่ในรูปลักษณ์ภายนอกที่ถูกมองว่าเจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ กะล่อน ชายหนุ่มกลับเป็นคนรักเดียวใจเดียว และเคยมีแฟนมาแค่คนเดียว


...และเป็นคนเดียวกับที่เลิกรากันไปเมื่อเกือบครึ่งปีก่อน แต่ยังทิ้งร่องรอยบาดแผลลึกไว้ในหัวใจ และมันจะถูกกระเทาะขึ้นมาแทบทุกครั้งที่เจ้าตัวถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าครอบงำ


เจ้าของร่างสูงสมบูรณ์แบบเดินเข้าห้องน้ำเพื่อให้สายน้ำเย็นจัดเรียกความสดชื่นกลับมาให้ วันนี้ตอนบ่ายเขาต้องเข้าไปที่มหาลัยเพราะมีงานที่ชมรมว่ายน้ำ จึงตั้งใจจะจัดการตัวเองให้เรียบร้อยไปจากที่นี่เลย เพราะชุดนักศึกษาส่วนหนึ่งของเขาก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่อยู่เเล้ว


หากพอสายน้ำเย็นค่อยๆ ช่วยดึงสติที่หายไปค่อนคืนกลับมา ความทรงจำรางเลือนก็พาเขาย้อนนึกไปถึงสัมผัสหวานละมุนเมื่อคืนที่พ้นผ่าน กลิ่นกายหอมอ่อนที่เขาไม่เคยคุ้น ร่างกายเพรียวบางที่ครวญครางเสียงหวานอยู่ใต้ร่าง รสจูบที่จำได้รางเลือนว่าแสนยั่วเย้า


...ทว่า เขากลับนึกไม่ออกสักนิดว่าเมื่อคืนเข้านอนกับใคร


สัมผัสแบบนั้น
จูบแบบนั้น
อ้อมกอดทั้งหมดนั่น
ไม่มีอะไรดึงดูดเขาได้เท่าดวงตาคู่งามที่ฉ่ำม่านน้ำตา


...เจ้าของดวงตาคู่นั้นเป็นใครกัน?
















“ต้องขออภัยด้วยนะครับคุณนล แต่คุณฐาสั่งไว้ว่า...”


“คุณฐาสั่งไว้ คุณฐาสั่งไว้! ฉันได้ยินคำนี้มาสามครั้งแล้วนะ ปูรณ์ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเองหรือไง?”


“คุณปูรณ์มีสิทธิตัดสินใจเองครับ เพียงแต่ว่า...”


“คุณฐาสั่งไว้!”


น้ำเสียงเกรี้ยวกราดที่ดังลั่นโถงรับรองเรียกให้ร่างสูงที่ตั้งใจเดินลงมาแวะดูอะไรบางอย่างรีบเดินเข้าไปหากลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกลางโถง บอดี้การ์ดชุดดำทั้งหมดสี่คนยืนสงบเสงี่ยมเบื้องหน้าแขกคนสำคัญของคลับด้วยทั้งอิทธิพลและฐานะเพื่อนสนิทของเจ้าของสถานที่แห่งนี้ที่กำลังโมโหด้วยเพราะไม่ได้เจอคนที่ตนตั้งใจมาหา


“อานล...” ธนาดลเอ่ยเรียกเพื่อนสนิทของอา ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังหงุดหงิดหันขวับมามอง พอเห็นว่าคนเรียกเป็นใคร ดวงตาที่เคยฉายแววคุกรุ่นก็ทอประกายอ่อนลง ก่อนจะพยายามฝืนยิ้มทักทายหลานชายของเพื่อนสนิทที่กำลังยกมือไหว้


“อ้าว ธี เมื่อคืนนอนที่นี่เหรอ?”


“ครับ บนชั้นแปด” คำอธิบายต่อท้ายทำให้ผู้เป็นเหมือนอาอีกคนมองมาด้วยแววตารู้ทัน แต่คนเป็นหลานก็เพียงยิ้มรับและเอ่ยถามไปถึงสาเหตุของเสียงเอะอะเมื่อสักครู่


“ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าครับ”


สิ้นคำถามก็เกิดความเงียบขึ้นกลางวงสนทนา บอดี้การ์ดสี่คนแม้จะรู้แก่ใจดีว่าคำตอบคืออะไรแต่ใครจะกล้าเอ่ยออกมาในเวลาแบบนี้ ในขณะที่คนที่ “สร้างปัญหา” ก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่เบาลงคล้ายไม่อยากยอมรับว่าตนกำลังจะก่อเรื่องอะไร


“อามาหาคนน่ะ”


“บนชั้นนี้เหรอครับ?” ถามกลับไปเหมือนไม่รู้ แต่ถึงเขาจะไม่ค่อยได้ข้องเกี่ยวกับธุรกิจของผู้เป็นอามากนัก แต่เรื่องกฎเบื้องต้นต่างๆ ของคลับแห่งนี้ก็ใช่ว่าเขาจะไม่ทราบ



...สมาชิกของไนท์คลับแห่งนี้แบ่งง่ายๆ เป็นสองกลุ่มหลัก คือเมมเบอร์ทั่วไป และพรีเมียมเมมเบอร์ สิทธิพื้นฐานทั่วไปไม่ต่างกันนัก เข้าออกคลับทุกครั้งต้องแสดงบัตรสมาชิก ไม่สามารถพาคนอื่นเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ได้ ไม่อนุญาตแม้ผู้ติดตามหรือบอดี้การ์ดรักษาความปลอดภัยส่วนตัว ใช้บริการได้ทุกอย่างตั้งแต่ชั้นแรกถึงชั้นหกแต่ทั้งหมดต้องจองล่วงหน้า ยกเว้นชั้นเจ็ดเท่านั้นที่มีเพียงพรีเมียมเมมเบอร์ที่มีสิทธิ์ขึ้นมา และพรีเมียมเมมเบอร์ที่ว่า ล้วนเป็นสมาชิกที่อาฐาคัดเลือกเองทั้งสิ้น


พนักงานทุกคนต้องจดจำหน้าตา ชื่อ นิสัยส่วนตัวหลายๆ อย่าง รวมไปถึงรสนิยมของลูกค้าได้ทุกราย โดยเฉพาะลูกค้าพิเศษของชั้นนี้ แน่นอนว่าพนักงานชั้นนี้จดจำรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านั้นได้ทั้งหมด แต่ธนาดลไม่ใช่พนักงาน ดังนั้นเขาไม่รู้แน่ว่าเพื่อนสนิทอาของเขามาหาใคร


หรือเรียกให้ถูกคือ...มาใช้บริการเอสคอร์ทคนใด


ในขณะที่ความเงียบกำลังครองพื้นที่โถงกลาง เสียงเรียกแผ่วเบาก็ดังขึ้นเบื้องหลังชายทั้งหก ก่อนจะปรากฎร่างเพรียวในชุดนักศึกษาสถาบันเดียวกันกับเขาขึ้นตรงประตูทางเข้าออก


“คุณนล” เมื่อร่างนั้นเดินเข้าใกล้กลุ่มสนทนา ก็ทำให้บอดี้การ์ดสี่คนที่ยืนอยู่รีบเดินถอยไปข้างหลังแต่ก็ไม่ได้ทิ้งหน้าที่ดูแลคนสำคัญของชั้นเจ็ดไปไหน ปูรณ์ยกมือไหว้เจ้าของชื่อให้อนลยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน


“มีคนไปแจ้งว่าคุณนลมาหาผมเหรอครับ”


แจ้งอะไร? ฟ้องสิไม่ว่า


“ใช่”


“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะครับ ผมไม่ทราบว่าคุณนลจะมา พอดีบ่ายวันนี้ผมต้องออกไปเรียน”


“งั้นฉันไปส่งเธอที่มหาลัยก็ได้”


“คุณฐาเตรียมรถไว้ให้แล้วครับ”


“ถ้าอย่างนั้นไปทานมื้อเที่ยงกัน เธอคงยังไม่ได้ทานอะไรใช่ไหม”


“ผมไม่ได้อยากปฎิเสธคุณนลนะครับ แต่พอดีว่าผมตื่นสาย และนัดอาจารย์ไว้ นี่ก็ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว ผมเกรงว่าจะไม่ทัน”


“ถ้าอย่างนั้นตอนเย็นเธอว่างหรือเปล่า? ให้ฉันรอรับแล้วไปทานดินเนอร์กันไหม?”


“ผมไม่แน่ใจว่าจะคุยงานเสร็จกีโมง เกรงใจถ้าคุณนลจะต้องรอนนานนะครับ”


“เกรงใจหรือตั้งใจจะปฏิเสธฉันกันแน่ บอกปัดกันทุกประโยคแบบนี้”


“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นนะครับ แต่ถ้าคุณนลไม่ว่าอะไร วันศุกร์ปลายสัปดาห์นี้ เรียนเชิญคุณนลที่นี่ได้ไหมครับ ผมจะให้คนจัดดินเนอร์ไว้รอ”




ฉลาดตอบ...ธนาดลคิดในใจ เพราะวันศุกร์ที่ว่าคือกำหนดการกลับมาถึงของอาฐาแล้ว แถมการชวนดินเนอร์ที่นี่ก็เหมือนการปฏิเสธกลายๆ ว่าจะไม่ออกไปข้างนอกกับอนล และตามกฎของเอสคอร์ทที่นี่แล้ว ดินเนอร์นั้นมีเวลาไม่เกินสามชั่วโมง ไม่มีการออกจากโถงรับรอง ไม่รับดินเนอร์ในห้องส่วนตัว


ถ้าดูจากรูปร่าง ผิวพรรณ คำพูดคำจารวมทั้งยังกิริยายั่วยวนไม่รู้ตัวทั้งที่เจ้าตัวอยู่ในชุดนักศึกษาแท้ๆ ธนาดลไม่น่าจะเดาผิดว่าร่างบางตรงหน้าคือหนึ่งในสี่เอสคอร์ทอันดับต้นของที่นี่


และเขาก็เชื่อเดี๋ยวนั้นว่าคำคาดเดาของเขาเป็นจริงเมื่อคนตรงหน้าเบนสายตาขึ้นสบ ดวงตาเรียวหวานคู่นั้น รอยยิ้มน้อยๆ บนริมฝีปากอิ่ม จมูกโด่งเชิดรั้น และผิวขาวเนียนแม้ติดจะซีด แต่ทั้งหมดเมื่อรวมกันอยู่บนดวงหน้าหวานใสแล้ว เอสคอร์ทอันดับหนึ่งที่มีแต่คนพูดถึงแถมอาเขาหวงนักหวงหนาต้องเป็นผู้ชายคนนี้แน่ๆ


และทั้งๆ ที่ นี่คือครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้เจอกัน แต่ทำไมดวงตาเรียวคู่นั้นถึงดึงดูดเขาเอาไว้ได้มากขนาดนี้กัน…












สุดท้าย สถานการณ์เหล่านั้นก็ถูกคลี่คลายโดยส่วนหนึ่งเกิดจากการยื่นมือเข้าช่วยของคุณธี เพราะปูรณ์เองก็เกรงใจคุณนลเกินจะปฏิเสธออกไปตรงๆ การที่คุณธีเอ่ยขึ้นว่าจะรีบไปมหาลัยและชวนเขาออกมาด้วยกันนั้นจึงทำให้เรื่องราวนั้นจบไม่แย่มากนัก


“ขอบคุณคุณธีมากนะครับที่ช่วย” สำเนียงนุ่มหูดังออกมาจากริมฝีปากของคนที่นั่งบนที่นั่งข้างคนขับเมื่อรถออกจากอาคารสูงริมน้ำมาได้สักครู่ คนขับรถเหลือบตามองด้านข้างก่อนย้อนถาม


“รู้จักชื่อฉัน?”


“ผมเคยเห็นรูปในห้องทำงานคุณฐา และเจอคุณที่มหาลัยสองสามครั้ง”


“อ้อ แล้วเธอชื่ออะไร”


“ปูรณ์ครับ”


“อิฐ หิน ดิน ทราย”


“หืมม??”


“ปูนไง ปูน อิฐ หิน ดิน ทราย”


“นี่คือมุกหรืออะไรครับ”


“ไม่ขำเหรอ? ถ้าไม่ขำงั้นสะกดชื่อเธอสิ”


“ปูรณ์ ป ปลา สระอู ร เรือ ณ เณร การันต์”


“ชื่อแปลกดี ปกติเจอแต่ปูน อิฐ...”


“หิน ดิน ทราย” เสียงที่เอ่ยแทรกทำให้คนถูกแย่งมุกชะงัก ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ


“ไม่น่าเชื่อว่าจะกวนๆ เหมือนกันนะ”


“ขอโทษครับ”


“ไม่เห็นต้องขอโทษเลย อ้อ ฉันถามได้ไหมว่าเธออายุเท่าไหร่ เรียนปีไหนแล้ว”


“ปีสี่ครับ ปีนี้ก็ 22”


“อ้าว เท่ากันเลย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดสุภาพขนาดนั้นหรอก เรียกฉันว่าธีเฉยๆ ก็ได้”


“ครับ”


“แล้วเธอเรียนคณะอะไร”


“เศรษฐศาสตร์ครับ”


“ยังจะครับอยู่อีก”


“.....”


“.....”


พอไม่รู้จะตอบหรือต่อบทสนทนาว่าอย่างไรทั้งสองคนก็พากันเงียบ จนกระทั่งรถจอดติดไฟแดงเกือบร้อยกว่านาที คนที่นั่งหลังพวงมาลัยจึงหันหน้ามาเผชิญกัน แล้วเอ่ยเรียกช้าๆ


“ปูรณ์”


“ครับ”


“เรา...”


“.....”


“เราไม่เคยเจอหรือคุยกันแบบนี้มาก่อนใช่ไหม?”


“.....”


“.....”





เสียงทุ้มพร่าที่เอ่ยเรียกชื่อ
...ใครสักคนที่ไม่ใช่เขา

...








“ครับ เราเพิ่งเคยเจอกันวันนี้ครั้งแรก”






บางอย่าง...
ให้มันเลือนหายไปกับกาลเวลาน่าจะดีมากที่สุด


บางเรื่องราว
ไร้ประโยชน์ที่จะรื้อฟื้น


บางคน
...คนคนนี้
ก็ไม่ใช่คนที่เขาควรเข้าไปยุ่ง


ให้มันเป็นอดีตที่ไม่มีใครจดจำนั่นแหละดีแล้ว...
เขาเอง ก็ควรจะลืมเช่นกัน















..TBC..














>>> เป็นบทที่ มาแนะนำตัวละครเพิ่มค่ะ

ผู้ชายในเรื่องนี่หลักๆ น่าจะมีเท่านี้
แต่เรื่องราวยังมีอีกเย๊อะ

ฝากติดตามด้วยนะคะ ^^








หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171130 - เพื่อนนอนตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: usguinus ที่ 30-11-2017 22:21:11
พระเอกตัวจริงมาแล้วแน่ๆ แต่ก็เป็นผู้ชายที่มีคนในใจแล้วอีกแล้ววว
เป็นกลจให้คนเขียน รอน้องปูรณ์ตอนต่อไปนะคะ >.<
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171130 - เพื่อนนอนตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 30-11-2017 22:32:21
ฮือ ใครคือพระเอกตัวจริง คุณฐาหรือ ธี
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171130 - เพื่อนนอนตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 01-12-2017 01:53:14
สักวันปูนณ์จะต้องได้เป็นอิสระนะ อดทนนะปูรณ์ มีความเชียร์หลานธี
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171130 - เพื่อนนอนตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: PaePT ที่ 01-12-2017 08:54:42
แต่ 2 ตอน ก็รู้แล้วว่ามีมาม่ารออยู่เป็นโรงงาน .....
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171130 - เพื่อนนอนตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Pirepear ที่ 01-12-2017 11:06:29
ดราม่าแน่ๆ แต่ผชรอบตัวน้องปูรณ์นี่แซ่บทู้กกกคน รอติดตามค่า
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171130 - เพื่อนนอนตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: donut4top ที่ 01-12-2017 16:20:00
คุณฐาทำเหมือนจะรักแต่ก็ไม่รัก เพราะถ้ารักจริงหวงจริงไม่เอาน้องมาขายให้นอนกับคนอื่นไปทั่วหรอก ส่วนคุณธีก็มีคนในใจอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่มีพระเอกได้ไหม อยากให้น้องออกจากคลับอย่างสวยๆ แง้
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171130 - เพื่อนนอนตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 03-12-2017 12:23:53
คนไหนพระเอกคะเนี่ยยย อาหรือหลาน ทำไมทุกคนดูแซ่บหมดเลยยยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171130 - เพื่อนนอนตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 03-12-2017 13:47:01
ชอบแนวนี้ แต่สงสารปูรณ์ รอติดตามตอนต่อไป เอาไป +1
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171205 - เพื่อนนอนตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Toffeenut ที่ 05-12-2017 21:13:05
▲▲As an escort
#เพื่อนนอนตอนที่ 3










บทสนทนาปราศจากคลื่นเสียง
คำถามเวียนวนแต่ไร้คำตอบ

...ใคร?

กลิ่นหอมอ่อนของหยดฝน
เย็นระรื่นหากชืดจางยิ่ง

จูบอ้อยอิ่งแต่ดึงดูดให้ถลำลึก
เพียงครั้งเดียวแต่จารจำสลักไม่ลืม

เจ้าของรอยจูบนั้น
...รอยจูบที่ปนไปกับหยาดฝน – หรือหยดน้ำตา??











.
.
.










“อืมมม”


เสียงทุ้มครางต่ำเมื่อคนบนร่างขยับพาเขามาจนถึงจุดอิ่มเอมแต่ไม่อาจเต็มความอิ่มใจ ร่างขาวผุดผ่อง แบบบางทว่ายั่วยวนค่อยเคลื่อนกายลงนอนเคียงข้าง มือบางสวยไล้วนตรงรอยสักเหนืออกข้างซ้าย กลุ่มผมนุ่มสีน้ำตาลเคลียคลอบริเวณต้นคอแกร่ง ริมฝีปากเล็กแดงด้วยรสจูบแย้มยิ้มอย่างพึงพอใจ


...หากแต่ตรงกันข้ามกันธนาดล


แน่นอนว่าเซ็กส์ที่เกิดจากเอสคอร์ทอันดับสามไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง แต่คำตอบที่ได้รับหลังจากวนเวียนอยู่ในคำถามเดิมๆ มาสามคืนติดยิ่งทำให้ร่างสูงหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก


เพราะเขาจำได้แน่ๆ ว่าเขาต้องนอนกับใครสักคนบนชั้นนี้ แต่ความเมาทำให้ไม่สามารถจดจำใบหน้าของคู่นอนเพียงคืนเดียวคนนั้นได้ ที่จำได้มีเพียงรสรักข้ามคืน รอยจูบประโลม และถ้าเขาไม่ไร้สติจนเกินไปนัก ..ค่ำคืนนั้นจบลงด้วยน้ำตา
สามคืนที่เข้าเฝ้าหาคำตอบ วนเวียนใช้บริการเอสคอร์ทบนชั้นเจ็ดอย่างที่แม้จะมีคนสงสัยแต่ก็ไม่มีใครกล้าตั้งคำถาม แต่ความรู้สึกของทุกค่ำคืนที่ผ่านมาบอกเขาว่าไม่ใช่


...เหลือเพียงคนเดียว


แต่เป็นไปได้หรือ? เช้าวันนั้นที่เจอกันยังไม่แสดงท่าทีผิดปกติใด แถมคนที่เข้านึกถึงตอนนี้ก็เป็นคนที่อาเขาหวงนักหวงหนา





‘คุณฐาสั่งเอาไว้ว่าถ้าท่านไม่อยู่ ก็ห้ามไม่ให้คุณปูรณ์ออกมารับแขกครับ’

‘กับฉันก็ไม่ได้’

‘กับใครก็ไม่ได้ครับ’

‘แล้วช่วงนี้ปูรณ์ทำอะไร’

‘ตรวจบัญชีให้คุณฐาครับ’

‘ของที่นี่?’

‘ทุกธุรกิจของคุณฐาเลยครับ ท่านไว้ใจให้คุณปูรณ์ทำงานนี้ให้มาสองปีกว่าแล้ว’





เอสคอร์ทคนนั้น จะใช่คำตอบที่เขาตามหาอยู่หรือเปล่านะ??










ฝนนอกหน้าต่างร่วงหล่นเป็นสายมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น จวบจนค่อนคืนไปแล้วก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุดตก ไอเย็นกระทบกระจกบานสูง มือบางที่วางบนนั้นค่อยๆ ไล่นิ้วเรื่อยไปตามสายฝน ดวงตาคู่เรียวภายใต้แว่นสายตาที่ใส่ทำงานมองเหม่อฝ่าความมืดออกไปภายนอก ตกอยู่ในห้วงวกวนจนไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเปิดปิดประตูและฝีเท้าที่มายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง


ธนาดลเกือบจะเอื้อมมือไปดึงรั้งร่างบางนั่นเข้ามาแนบชิด กดจูบลงบนริมฝีปากอิ่ม ตักตวงบางอย่างจากร่างตรงหน้าเพื่อไขข้องใจให้ตัวเอง แต่คนตัวสูงกว่าก็รู้ดีว่าเขาไม่มีสิทธิ์ ที่ทำได้จึงแค่เพียงเอ่ยทักทายออกไปเนิ่บๆ เท่านั้น


“ดึกขนาดนี้ทำไมยังไม่ไปนอน”


คนที่คิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวเงียบๆ สะดุ้งขึ้นสุดตัวเพราะเสียงทุ้มนั่น เรียกให้คนเดินเข้ามาทีหลังอย่างถือวิสาสะหัวเราะเบาๆ ในลำคอ ก่อนจะแย้มรอยยิ้มทักทายอีกครั้ง


“มาทำงานให้อาฐาเหรอ”


“ครับ”


“ดึกขนาดนี้?”


“งานยังไม่เสร็จเลยครับ แต่ผมรู้สึกปวดตาเลยมายืนพักสายตาตรงนี้ก่อน”


“ชอบฝนตก?”


“ครับ...”


คนที่ยังยืนนิ่งริมกระจกบานใหญ่แค่ตอบรับ แต่ไม่กล้าขยายความสิ่งที่เขาเคยคิดเกี่ยวกับตัวเอง


เขาก็เหมือนหยาดฝนเหล่านั้น
อยู่สูงแค่ไหนก็ร่วงหล่นสู่พื้น
...ก่อนจะแตกสลาย


ตำแหน่งเอสคอร์ทที่นี่ก็เหมือนกัน
แม้จะถูกวางตัวให้สำคัญ ให้เป็นอันดับหนึ่ง เป็นเอสคอร์ทค่าตัวแพงที่ซื้อตัวได้ยากยิ่ง
แต่ไม่ว่าถูกเรียกว่าอย่างไรเขาก็แค่เด็กขาย – ไร้ค่าแบบนั้นมาตั้งแต่ต้น


แต่ทว่าตั้งแต่คืนนั้น –



“ปูรณ์” ความคิดถูกขัดด้วยเสียงเรียกชื่ออีกครั้ง แก้มข้างหนึ่งถูกโอบประคองขึ้น นิ้วหัวแม่มือไล้ไปตามผิวแก้มเนียน “คิดอะไรอยู่”


“ผม...อ่ะ”
 

คำตอบนั้นหายไปกับเสียงฝนด้านนอก พัดพาออกไปพร้อมกับสายลมแรง หายไปกับรสจูบอุ่นๆ ที่ทาบทับลงมา ริมฝีปากหยักได้รูปเลาะเล็มริมฝีปากอิ่ม ปลายลิ้นร้อนค่อยๆ เสาะหาทางเข้า เพียงไม่นาน ก็หลอกล่อให้ลิ้นเล็กหลงกล ยอมเกี่ยวกระหวัดกลับมา





‘รัก...’

‘.....’

‘ผมรัก –‘






ความทรงจำในค่ำคืนนั้นย้อนกลับมาพร้อมรอยจูบที่เกือบทำให้ถลำลึก คนตัวเล็กกว่าที่ได้สติก่อนยกมือดันหน้าอกแกร่ง ผละออกมาโดยไม่ยอมมองหน้า แต่วูบหนึ่งก็อยากที่จะดึงดันเดินเข้าไปในอ้อมกอดนั้นอีกครั้ง


...แค่อยากให้พูดว่ารักอีกสักครั้ง


ทว่าในความเป็นจริง เขาก็ทำได้เพียงเอ่ยออกไป


“ขอโทษนะครับคุณธี แต่ช่วงนี้ผมไม่ได้รับแขก”


ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้คนที่สับสนมาหลายวันยิ่งมึนงงในสิ่งที่เพิ่งตระหนักได้
...เขาไม่ควรหลงไหลไปกับรสจูบนั้น ไม่ควรอาวรณ์หาสัมผัสนั่น
ครั้งเดียวครั้งนั้น ..แค่คืนนั้นก็เกินพอ









ความคิดถึงควรเกิดจากเหตุผลไหน ความโหยหาควรเกิดเพราะความรู้สึกใด?


สายน้ำเย็นเยียบไม่ได้ทำให้หัวใจที่เต้นรัวสงบลงได้ ร่างเพรียวที่นอนแช่น้ำจนถึงปลายคางค่อยๆ กดตัวเองให้จมลงในสายน้ำนั้นอีกนิด จวบจนสายน้ำเย็นเฉียบไล้จูบบนริมฝีปาก ปลายจมูก เปลือกตาบาง คิ้วเรียว ไปจนจรดหน้าผาก


หนึ่งวินาที


สองวินาที


ฟองน้ำลอยสู่ผิวน้ำจากริมฝีปากอิ่มที่เผยอออก ดวงตาเรียวภายใต้เปลือกตาที่ปิดสนิทพยายามเพ่งมองภาพบุคคลที่อยู่ในห้วงความคิดถึง


ความรู้สึกผิดก่อให้เกิดความคิดถึงได้ไหมนะ?


...เมื่อไหร่จะกลับมา?


สิ้นคำถามเงียบงันที่ถามตัวเอง ร่างกายเพรียวบางก็ลุกออกจากอ่างอาบน้ำกว้าง พาผิวขาวเนียนที่เต็มไปด้วยหยดน้ำเดินออกจากห้องน้ำกว้าง ชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดถูกสวมอย่างลวกๆ มือข้างหนึ่งหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กซับน้ำออกจากใบหน้าก่อนเลยต่อไปยังผมเส้นเล็กที่เปียกชื้น เท้าสองข้างก้าวพาเจ้าของห้องเดินไปยังทิศทางที่มุ่งสู่เตียงนอน ก่อนจะสะดุ้งขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองของค่ำคืนเมื่อเสียงคุ้นเคยและอ้อมกอดที่โหยหามาตลอดรัดรึงรอบเอวบาง


“สระผมดึกๆ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”


“คุณฐา...”


“ฉันกลับมาแล้ว เป็นเด็กดีหรือเปล่า”


“.....”


เด็กดีที่ไม่กล้าตอบเป็นคำพูด ได้แต่พลิกตัวเข้าหาอกกว้าง ความอบอุ่นที่ได้รับมาตลอดตอบรับเขาอย่างดีเช่นทุกครั้ง สองมือที่กำผ้าขนหนูนุ่มยกขึ้นคล้องรอบลำคอคนตัวสูง เขย่งปลายเท้ามอบจุมพิตจากริมฝีปากอิ่มเย็นเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จไปให้ ปลายลิ้นบอกได้ดีกว่าคำพูดใดว่าเขาคิดถึงเจ้าของอ้อมกอดนี้มากแค่ไหน


ปลายลิ้นร้อนที่รุกไล่กลับมาเรียกเสียงครางหวานจากคนตัวเล็กกว่า สาบเสื้อคลุมที่ไม่ได้ตั้งใจปิดให้สนิทตั้งแต่แรก ถูกแยกออกจากกันด้วยฝ่ามืออุ่นร้อน ผิวกายที่ยังมีหยดน้ำพรมอยู่ค่อยๆ ร้อนขึ้นตามอุณหภูมิของฝ่ามือคู่นั้น ไม่นาน เสื้อคลุมสีขาวก็ร่วงหล่นลงบนพื้นพร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีดำที่เจ้าของไม่ได้ใส่ใจ ขายาวสองข้างพาอีกคนก้าวข้ามกองเสื้อไร้ประโยชน์เหล่านั้นไปที่ฟูกนอนยกพื้นสีขาว ห้องนอนเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่หลังห้องที่ใช้รับแขกสวยหรูที่น้อยคนนักจะรู้ถึงการมีอยู่ของห้องนี้ ปูรณ์ไม่เคยพาใครเข้าห้องนอน ไม่เคยรับแขกในพื้นที่ส่วนตัวนี้ คนๆ เดียวที่เคยก้าวเข้าห้องนี้คือคนที่สั่งกั้นห้องนี้ให้และเป็นคนเดียวกับที่กำลังประคองเขาให้นั่งคร่อมลงบนตักแกร่งอย่างเชื่องช้า


“เช็ดผมก่อน ถ้านอนเลยทั้งแบบนี้เธอจะไม่สบายเอาได้” แม้จะเป็นประโยคคำสั่ง แต่เจ้าของคำสั่งกลับเป็นคนดึงผ้าขนหนูผืนเล็กไปวางบนหัวทุยสวยแล้วออกแรงเช็ดให้เสียเอง ดวงตาคมดุมองทั่วใบหน้าที่ยอมรับว่าคิดถึง ก่อนริมฝีปากบางจะกดจูบลงไปบนเรียวปากอิ่มที่เริ่มเห่อบวมอีกครั้งและอีกครั้ง ในขณะที่มือทั้งสองก็ยังคงทำหน้าที่ของมันจนผมสีน้ำตาลเริ่มหมาดแห้ง ผ้าขนหนูผืนนั้นก็ถูกทิ้งลงข้างเตียงอย่างไร้ประโยชน์ มือแกร่งจึงรั้งเอวบางให้เข้าแนบชิดมากกว่าเดิมพลางถอยหลังจนนั่งชนผนังห้องฝั่งหัวเตียงโดยมีร่างเพรียวบางคร่อมอยู่บนตัก ฝ่ามือที่ห่างหายจากกันไปเกือบทั้งสัปดาห์ลูบบนต้นแขนเนียนเปลือยเปล่า คนที่นั่งอยู่บนร่างก็ค่อยๆ ขยับอย่างรู้งาน เรือนกายขาวละเอียดเลื่อนลงจนคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า ริมฝีปากที่ถูกจูบดูดดึงจนแดงจัดก้มลงแตะแผ่วเบาบนแก่นกายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงสีเดียวกับเสื้อที่ถูกถอดทิ้ง ก่อนฟันเรียงสวยเป็นระเบียบจะค่อยๆ คาบซิปกางเกงและรูดรั้งลงตามความยาวพลางช้อนสายตามองเมื่อความยาวซิปสิ้นสุดลง


ฝ่ามือสองข้างที่เคยลูบบนต้นแขนเนียนยกขึ้นเกลี่ยปอยผมที่ตกลงปรกหน้าออกให้ เก็บปอยบางส่วนทัดหูก่อนจะประคองศีรษะด้านหลัง ขยำกลุ่มผมนิ่มเมื่อริมฝีปากอิ่มเริ่มเข้าครอบครองความเป็นชาย ฝนนอกหน้าต่างห้องนอนยังคงตกลงเป็นสาย ละอองน้ำคงจะซ่านกระเซ็นที่พื้นเบื้องล่าง ความอ่อนนุ่มดุจกำมะหยี่ค่อยๆ โอบอุ้มกันอย่างช้าๆ ริมฝีปากและมือเรียวทำงานอย่างสอดประสาน


กลืนกิน ดื่มด่ำ ลึกล้ำ


...จวนเจียนจะขาดใจ


และเพียงไม่นาน ละอองน้ำนับพันก็สาดกระเซ็นเหมือนฝนด้านนอก แต่ไอร้อนกลับระอุขึ้นภายในห้องนอนแห่งนี้ ตัดกับความเย็นจากบรรยากาศด้านนอกราวกับอยู่คนละพื้นที่


ลิ้นเล็กสีแดงสดไล้เลียรอบริมฝีปากอิ่ม


“ปูรณ์...”


เจ้าของชื่อถูกพลิกตัวลงให้นอนราบไปกับเตียงกว้าง เส้นผมสีอ่อนกระจายบนหมอน ดวงตาเรียว ริมฝีปาก ทุกอย่างที่มองกลับมาล้วนยั่วยวน หลอกล่อให้ลุ่มหลง กิริยาเย้ายวนสมกับเป็นอันดับหนึ่งของที่นี่


ผิวกายขาวจัดสั่นสะท้านเมื่อดวงตาคมดุกวาดมอง ครั้งหนึ่งปูรณ์ให้คำนิยามการกระทำเหล่านี้ของคุณฐาว่าเป็นการ ”ประเมินและตรวจสอบสินค้า” และความหมายที่เจ็บปวดนั้นก็กัดกร่อนหัวใจดวงน้อยจนแหว่งวิ่นเกือบปีกว่าจะเข้าใจว่าคุณฐาไม่เคยทำแบบนี้กับใคร เจ้าของสินค้าไม่เคยนอนกับเอสคอร์ทคนไหน


แต่เขาก็ไม่เคยรู้เช่นกัน ว่าการกระทำระหว่างเราสองคนถูกนิยามว่าอย่างไร





‘เธอก็รู้ว่าฉันยอมเธอได้ทุกอย่าง’

‘…..’

‘ที่เธอขอ ที่เธอต้องการ’

‘…..’

‘ยกเว้นแค่เรื่องเดียว’






เรื่องเดียวที่เขาเข้าใจดีว่าคืออะไร แต่ก็เป็นเพียงเรื่องเดียวที่เขาต้องการ


เคยคิดอย่างคนโง่ว่าความสัมพันธ์ทางกายจะผูกมัดกันไว้ได้ แต่มันก็เปล่าประโยชน์ แลกสิ่งใดไปย่อมได้สิ่งนั้นกลับมา เซ็กซ์ก็แลกได้เพียงเซ็กซ์


ในวันที่เรียนรู้ว่าควรใช้หัวใจแลก


...หัวใจอีกดวงก็ไม่มีอยู่จริงอีกแล้ว






ดวงตาสองคู่มองสบกันในความมืด ทิ้งอดีตไว้ในแววตาอันลึกล้ำ ดำดิ่งสู่ปัจจุบันด้วยร่างกายที่กำลังค่อยๆ สอดประสานเป็นหนึ่ง ความอึดอัดคับแน่นมาพร้อมความเสียวซ่านสุขสม จังหวะหนักแน่นของสายฝนพรำด้านนอกไม่อาจสู้จังหวะที่บรรเลงไปพร้อมกันตอนนี้ มือบางสองข้างกำผ้าปูที่นอนจนยับย่น ทว่าก็ถูกกอบกุมไว้ด้วยมือคู่ที่ใหญ่กว่า อุ่นกว่า แรงบีบรัดช่วงล่างเรียกเสียงครางเป็นระยะ เสียงกระทบของผิวกายทำให้ใบหน้าหวานเกินชายแดงจัด ดวงตาเรียวเคลือคลอไปด้วยหยาดน้ำ


“เธอมีความสุขใช่ไหมปูรณ์”


“ครับ”


เพราะไม่อาจตอบคำใดได้นอกจากนี้ อย่างน้อยตอนนี้เขาก็มีความสุข แม้วูบหนึ่งที่จะอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำคืนนั้น คืนที่ถูกบอกรักเหมือนเป็นตัวแทนใครสักคน


...อดคิดขึ้นมาไม่ได้จริงๆ ว่า ถ้าวันหนึ่งเขาถูกกอดไว้ด้วยความรัก ถูกบอกรักด้วยความรู้สึกรักจริงๆ จะดีสักแค่ไหน
และอีกคำถามที่เพิ่งรู้สึกตัวว่ามันดังชัดก็วันนี้ ว่าในคืนนั้น ..ที่เขาเต็มใจ เพราะเขาคาดหวังใช่ไหม?
ว่าสักครั้งที่จะถูกบอกรักด้วยความรู้สึกรักแบบนั้น
...จากใครสักคน





ฝนหยุดตกตอนเกือบใกล้รุ่งสาง เวลาไล่เลี่ยกับที่สองร่างบนเตียงกว้างผละออกจากกันหากแต่คนตัวเล็กกว่ายังถูกกักกอดไว้ในอ้อมกอดอุ่นจนสาย นาฬิกาเหนือประตูบานเลื่อนบอกเวลาสิบโมงเช้าแต่ยังไม่มีท่าทีว่าคนที่นอนกอดกันอยู่จะตื่นขึ้นมา และปูรณ์ก็ไม่นึกอยากปลุก ด้วยเพราะรู้ดีว่าอีกคนเหนื่อยกับการทำงานมากเพียงใด ปกติแล้วแม้แต่เสาร์อาทิตย์คุณฐาก็ไม่มีโอกาสได้ตื่นสายแบบนี้ แต่นี่คงเป็นเพราะเคลียร์งานเสร็จก่อนกำหนด จึงมีเวลาพักบ้าง


แต่นอนนิ่งให้คนที่หลับสนิทกอดซุกอยู่เพียงไม่นาน คนที่เพิ่งกลับจากทำงานไกลข้ามประเทศมาเมื่อคืนก็ลืมตาตื่น เพื่อมาพบว่ามีดวงตาเรียวใสจ้องรออยู่แล้ว


ริมฝีปากได้รูปกดจูบลงบนหน้าผากเนียน ร่างกายเปล่าเปลือยใต้ผ้าห่มขยับเข้าหากันจนชิด เสียงทุ้มเอ่ยถามอ่อนโยน


“หิวหรือยัง หืม?”


“ยังครับ แล้วคุณฐาหิวไหม”


“หิวสิ เมื่อวานตอนเย็นก็ไม่ได้ทานอะไรเลย เสร็จงานก็รีบเลื่อนไฟล์ทขึ้นเครื่องกลับ”


“แล้วกัน งั้นลุกไปอาบน้ำไหมครับ เดี๋ยวผมทำอาหารเช้าให้”


“อยากกินข้าวต้มปลาฝีมือเธอ”


“ได้ครับ เดี๋ยวผมให้แม่บ้านเอาของขึ้นมา”


“ไปทำบนห้องชั้นดีกว่า ขึ้นข้างบนกัน”


“ครับ”


ตอบรับแล้วก็จะลุก แต่ทว่าคนที่นอนกอดกันกลับรั้งเขาลงไปบนเตียงอีกครั้ง กำลังจะเอ่ยปากถามว่าไหนว่าหิว แต่คนตอบก็ตอบโดยไม่ต้องรอคำถาม


“แต่ก่อนไปขอมัดจำอีกรอบก่อน”


แล้วการมัดจำครั้งนั้นก็กินเวลาเกือบจนเที่ยงเลยทีเดียว





“อร่อยเหมือนเดิม”


คำชมมาจากคนที่นั่งบนเก้าอี้บาร์ทรงสูงที่กำลังตักข้าวต้มปลาเข้าปาก สลับกับป้อนคนที่เขายกอุ้มให้ขึ้นไปนั่งบนบาร์เครื่องดื่ม เอสคอร์ทคนดังอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ๆ ที่คลุมได้ไม่ถึงเข่ากับกางเกงนอนขาสั้นเนื้อนิ่ม ชายหนุ่มอายุสามสิบห้าไล้มือข้างที่ไม่ได้จับช้อนไปบนเรียวขาเนียนที่วางเหยียบมาบนตัก ฝ่ามือร้อนไล้ขึ้นสูงเรื่อยๆ จนหายเข้าไปใต้ชายเสื้อตัวบาง


“คุณฐา” มือบางจับมือซนให้หยุดนิ่ง ยู่ปากอย่างจะปรามหากแต่กิริยาน่ารักนั้นกลับเรียกเสียงหัวเราะจากคนหน้าดุ ตาดุได้


“ฉันไม่อยู่ มีเรื่องวุ่นวายมาถึงเธอบ้างหรือเปล่า?”


“คุณนลเข้ามาครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้วุ่นวายอะไร แล้วผมต้องออกไปมหาลัยด้วยพอดีครับ”


“รู้ไหม? ไอ้นลส่งข้อความมาหาฉัน ขออนุญาตพาเธอไปดินเนอร์พรุ่งนี้”


“จริงๆ ผมนัดคุณนลมาที่นี่คืนนี้ ถ้าคุณนลยอม”


“มันไม่ยอมหรอก เพราะรู้ว่ามาที่นี่ก็ไม่ได้อะไร ค่าตัวเธอตั้งแพง มันคงไม่อยากจ่ายเพื่อแค่ได้กินข้าวเฉยๆ แน่”


“แบบนั้นหมายความว่าพรุ่งนี้...”


“ฉันไม่ได้อนุญาตไปหรอก”


“คุณฐา” เสียงหวานนุ่มเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ยอมรับว่าดีใจที่ได้ยินประโยคนี้


“จนกว่าเธอจะเรียนจบ ฉันจะไม่ให้เธอทำงานนี้แล้ว”


“.....”


“หลังจากเธอเรียนจบ ฉันจะให้เธอตัดสินใจอีกครั้ง แต่จนกว่าจะถึงวันนั้น มาอยู่ด้วยกันบนนี้นะปูรณ์ คลับที่นี่ฉันยังต้องดูแลและเธอก็น่าจะช่วยฉันได้ดีกว่าใคร ฉันอยากให้เธอมาเป็นผู้ช่วย คอยดูแลบัญชี เรื่องยิบย่อยทั่วไป รวมถึงเรื่องฝึกงานของเธอเทอมหน้า ฉันจะทำเรื่องให้เข้าฝึกงานที่บริษัท มีหลายธุรกิจของฉันที่อยากให้เธอเรียนรู้”


“.....”


“ฉันอาจจะเจ้ากี้เจ้าการวางแผนชีวิตเธอ และเธออาจจะไม่พอใจ แต่ช่วยอยู่ด้วยกันก่อนเถอะนะ แล้ววันที่เธอเรียนจบ ฉันจะคืนอิสระให้”


“.....”


“วันนั้น เธอจะอยู่หรือจะไป ฉันจะให้เธอตัดสินใจเอง”


“ผมไม่เคยคิดจะไปไหน...”


“ชู่ว อย่าเพิ่งพูดเลย เธอมีเวลาตัดสินใจอีกเกือบปี และฉันอยากให้เธอทบทวนมันให้ดีที่สุด”


ดวงตาสองคู่ประสานสบกันในความเงียบงัน คู่หนึ่งมีแววไม่เข้าใจ เต็มไปด้วยคำถามและการอ้อนวอน หากแต่อีกคู่กลับเรียบนิ่งเหมือนทะเลสาบยามเช้า นิ่ง สงบ แต่ลึกลงไปเพียงใด ไม่มีใครรู้ได้เลย





เย็นวันนั้น ฐานัฐสั่งพนักงานในคลับรวมถึงการ์ดช่วยกันขนย้ายข้าวของของปูรณ์ขึ้นมาที่ห้องนอนฝั่งซ้ายบนชั้นแปด ไม่มีคำอธิบายให้ใครเข้าใจ ตำแหน่งเอสคอร์ทอันดับหนึ่งก็ยังคงอยู่แบบนั้นเหมือนที่เคยเป็นมาตลอด


ปูรณ์จะยังคงมีชื่อเป็นเอสคอร์ทของที่นี่ มีสิทธิ์สั่งการแทนเวลาเขาไม่อยู่ในทุกๆ เรื่อง มีสิทธิ์เดินเข้าออกตลอดทั้งแปดชั้น เพียงแต่จะเป็นเอสคอร์ทที่ไม่มีใครได้แตะต้องอีกแล้ว


ในห้องฝั่งซ้ายของชั้นแปด ในนั้นยังแยกเป็นห้องนอนสองห้องและฐานัฐยกห้องที่เขาไม่ได้ใช้ให้ปูรณ์ แรกทีเดียวคนที่เพิ่งย้ายมาก็แปลกใจระคนสงสัย แต่ก็เก็บคำถามเหล่านั้นไว้ไม่เอ่ยออกไป


...คุณฐาคิดอะไร ใครจะล่วงรู้


เมื่อสามปีก่อนตอนที่ได้เจอกันครั้งแรกก็เป็นแบบนี้ 









ท่ามกลางความวุ่นวายของอาคารปีกซ้ายชั้นแปด เจ้าของอีกฝั่งก็ยืนกอดอดทอดสายตามองความวุ่นวายเหล่านั้นอย่าเงียบงัน หากแต่ในใจปั่นป่วนด้วยบทสนทนายามบ่ายแก่ที่อาเรียกเขาเข้าไปคุย





‘ช่วงที่อาไม่อยู่ มีเรื่องอะไรที่อาควรจะรู้จากปากธีหรือเปล่า’


ความเงียบเป็นคำตอบที่ชัดเจนแต่ไม่ใช่คำตอบที่ดี ดวงตาคมดุต่างสีจ้องกันในความเงียบงันนั่น ไม่มีใครยอมแพ้ มีเพียงเสียงเตือนที่แฝงความหมายที่ธนาดลไม่อาจทำความเข้าใจได้


‘เด็กคนนั้น ถือว่าอาขอ’


‘มันก็เหมือนการให้บริการของเอสคอร์ทคนอื่นๆ และอาไม่เคยห้าม’


‘แต่ไม่ใช่กับปูรณ์ ธี สมาชิกทุกคนที่นี่ต้องรู้ว่ากับปูรณ์ อาต้องเป็นคนอนุญาตเท่านั้น’


‘…..’


แล้ววันนั้น เพราะเจ้าตัวอนุญาต หรือมันคือการขืนใจ?
แต่เป็นไปไม่ได้ แม้สติจะพร่าเลือนแต่ความรู้สึกอ้อนวอนโหยหาที่เขาสัมผัสได้วันนั้นคือของจริง


‘แต่ตำแหน่งอันดับหนึ่งของที่นี่ก็บอกว่าเขามีหน้าที่ให้บริการ’


‘ตำแหน่งอันดับหนึ่งของที่นี่บอกว่า เขาไม่ใช่คนที่ใครจะมาแตะต้องได้ง่ายๆ ต่างหาก’


‘เพราะเขาเป็นของอางั้นหรือครับ?’


‘…..’   


‘…..’


‘เพราะเขาไม่ใช่ของอา’


‘.....’


‘เรื่องที่ผ่าน ขอให้มันผ่านเลยไปได้ไหมธี แค่เด็กคนนี้เท่านั้น.. นอกจากนั้นธีอยากทำอะไรกับคลับนี้อาจะไม่ห้ามเลย’






ยิ่งคิดย้อนไปยิ่งสงสัย เพราะหวงมาก เพราะรักมาก?
หรือเพราะมีเหตุผลอื่นใด?


ยิ่งนึกถึงสัมผัสในค่ำคืนนั้นเขาก็ไม่ปฏิเสธว่าโหยหามันอยู่ลึกๆ
สัมผัสอ่อนหวาน ยั่วเย้า


ดวงตาเรียวคลอคลองม่านน้ำตาที่มองมาอย่างพร่าเลือน
และคำว่ารักของเขา ที่ทำให้ดวงตาคู่นั้นวูบไหว


ต้องทำอย่างไรเขาถึงจะเข้าถึงตัวเอสคอร์ทคนดังคนนั้นได้
เขาต้องเสาะหาวิธีใด?








โถงกลางชั้นเจ็ดที่เรียกกันว่าโถงวีไอพีมีโอกาสต้อนรับหลานชายเจ้าของสถานที่อีกครั้งในค่ำคืนนี้ ดวงตาสีชากวาดมองรอบตัวก่อนจะยกยิ้มมุมปากกับตัวเองเมื่อชายหนุ่มรูปร่างบอบบาง ทำผมสีบลอนด์ที่ปล่อยบางส่วนละข้างแก้มใสเดินเข้ามาทักทายเขา มือคู่ที่เขาเคยได้สัมผัสมาแล้วว่านุ่มเพียงใดแตะลงบนต้นแขนก่อนจะสอดคล้องแล้วพาชายหนุ่มเดินไปยังที่โซฟามุมสุดที่มีของว่างสองสามอย่างวางเตรียมไว้


“ผมไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งเร็วขนาดนี้” เอสคอร์ทอันดับสามเอ่ยขึ้น รอยยิ้มยั่วยวนราวฝึกมาอย่างดีติดบนริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ มือข้างที่เพิ่งละจากแขนซ้ายลากลงลูบไล้ต้นขาแกร่งไปมา


“ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะว่าง”


“แค่คุณธีต้องการ นัดไหนก็ไม่สำคัญทั้งนั้นครับ”


“ผมซื้อเวลาคุณมาได้สามชั่วโมง ผมทำอะไรได้บ้าง?”


“มันขึ้นกับว่าคุณอยากทำอะไร”


“ทุกอย่าง?”


“ตราบใดที่ไม่เดินออกไปจากที่นี่ ได้ทุกอย่างที่คุณธีต้องการ...”


เพียงเท่านั้น ริมฝีปากช่างเจรจาก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากร้อนชื้น ธนาดลไม่ได้อยากทำอะไรมากไปกว่าการหาข้อมูลจากริมฝีปากสีแดงสดนี่ และสามชั่วโมงเขาก็หวังว่ามันจะพอ


“ฉันแค่อยากรู้ ว่าเอสคอร์ทที่นี่ทำงานยังไง”


“.....”


“รับแขกแบบไหน”


“.....”


“อย่างละเอียดเท่าเวลาสามชั่วโมงที่คุณมี”

















..TBC..














>> ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ ^^
เราหน้าใหม่มากเลยกับเล้าเเละนิยายวาย

ภาษาอาจจะสะดุดบ้าง อาจจะแปลกๆ
แต่แนะนำได้นะคะ

ขอบคุณอีกครั้งจริงๆ ค่ะ


ปล.. แอบฝากเรื่องสั้นตอนเดียวจบ feel good ไว้เรื่องนึงนะคะ ^^

[เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ♥ Describe me in one word ♥
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64254.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64254.0)









หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171205 - เพื่อนนอนตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 06-12-2017 00:42:18
เราชอบเรื่องนี้มากๆเลยดูอีโรติกดูเซ็กซี่
คุณฐาดีมากอยากจะเป็นลมมมมมมมมมม ศึกอาหลานใช่มั้ยเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171205 - เพื่อนนอนตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 06-12-2017 06:56:07
ชอบบบบบ //////
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171205 - เพื่อนนอนตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: PaePT ที่ 06-12-2017 09:25:34
ตอนนี้เหมือนระเบิดเวลาถูกตั้งแล้ว รอธีร์กับปูรณ์อดทดอดกลั้นห้ามใจตัวเองไม่ไหวขึ้นมาเมื่อไหร่ คงได้พังพินาศกันหมดแน่ๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171205 - เพื่อนนอนตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: vermilion ที่ 06-12-2017 09:27:13
ฮือออออ หน่วงจัง แต่ติดซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171205 - เพื่อนนอนตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: usguinus ที่ 06-12-2017 12:23:36
ชอบมากเลยค่ะ :katai2-1:
รอตอนต่อไปน้าา สู้ๆค่ะ #ทีมคุณธี
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171205 - เพื่อนนอนตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-12-2017 18:58:31
คุณฐาคิดยังไงกับปูรณ์กันแน่
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171205 - เพื่อนนอนตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 06-12-2017 21:29:42
แอบเชียร์คุณธี
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171205 - เพื่อนนอนตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: lolli_candy99 ที่ 07-12-2017 09:03:37
กรี๊ดดดดดด สนุกมากกก :t3:  รอนะคะ
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Toffeenut ที่ 10-12-2017 21:45:58
▲▲As an escort
#เพื่อนนอนตอนที่ 4













 “เอสคอร์ทที่นี่มีหลายระดับ” น้ำเสียงหวานชวนฟังเอ่ยเล่าหลังจากรับเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์ยื่นส่งให้คนตัวสูงข้างๆ เรียบร้อยแล้ว ศีรษะได้รูปเอนพิงกับไหล่กว้างของธนาดล ขาเรียวยกขึ้นไขว่ห้าง มือถือแก้วเครื่องดื่มคนละสี แต่ดวงตาคู่วิบวับนั้นเงยขึ้นมองสบกับดวงตาคมดุสีชาคล้ายรู้ทัน


“ส่วนมากเราทำหน้าที่ให้บริการ เพื่อนคุย เพื่อนดื่ม พาไปสปาคอมเพลกซ์ตรงชั้นสามสี่ หรือแม้กระทั่งรับแขกในห้องรับรองส่วนตัว”


“.....”


“ค่าตัวก็ขึ้นอยู่กับระดับของเอสคอร์ท ความต้องการของลูกค้า แต่ยิ่งเอสคอร์ทมีห้องรับรองบนชั้นสูงๆ ขึ้น ค่าตัวก็แพงตามไปด้วย และคุณธีก็น่าจะรู้ดีว่าเอสคอร์ทที่ค่าตัวแพงสุดอยู่บนชั้นนี้” ...ชั้นเจ็ด


“.....”


“ปกติแล้ว ถ้าแค่การให้บริการลูกค้าทั่วๆ ไป ที่ไนท์คลับชั้นล่างจะมีผู้จัดการคอยจัดตารางการทำงานให้ ยิ่งค่าตัวแพงมากเท่าไหร่งานส่วนชั้นล่างก็จะน้อยลงเท่านั้น และผมคิดว่าคุณธีคงไม่ได้ต้องการรายละเอียดในส่วนนี้”


“รู้ดี” ธนาดลยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบอีกครั้ง แต่สายตาก็ยังคงกดดันให้เล่าต่อ แต่อีกฝ่ายกลับแย้มรอยยิ้มแล้วถามไปอีกเรื่อง


“คุณธีทราบไหมครับว่าผมเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของปูรณ์”


“หืม?”


“เราโตมาด้วยกันที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่บ้านคุณธีให้การอุปถัมภ์ครับ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ปูรณ์เป็นเด็กดีมาก เรียนเก่ง ช่วยงานที่มูลนิธิตลอด ใครๆ ก็รัก แต่ปูรณ์เป็นคนเงียบๆ เก็บตัว ตามสัญญาของมูลนิธิแล้วเด็กส่วนมากหลังพ้นอายุ 18 ไปก็จะต้องออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองข้างนอก แต่ถ้าจะเรียนต่อทางมูลนิธิก็ยินดีส่งเรียนจนจบปริญญาตรี ผมกับปูรณ์ก็เป็นแบบนั้น เราคุยกันว่าจะออกมาเช่าหอพักข้างนอกระหว่างที่เรียน แต่ว่าปูรณ์ก็ได้เจอกับคุณฐา คุณอาของคุณก่อน”


“.....”


“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนนั้น ไม่รู้ว่าคุณอาของคุณคุยอะไรกับปูรณ์ รู้เพียงแต่คุณฐาไปหาปูรณ์ที่มหาลัยเรื่อยๆ ไม่บ่อยมากแต่ก็ไม่เคยหายไปนาน จนปีหนึ่งเทอมสองปูรณ์ก็เล่าให้ผมฟังเรื่องโครงการไนท์คลับนี้และชวนผมมาทำงานด้วย ผมรู้ดีว่าปูรณ์ไม่อยากทิ้งให้ผมลำบาก แต่งานที่ปูรณ์บอกก็ไม่ได้ทำให้เจ้าตัวสบายใจ แต่หมอนั่นก็ยอมมา ยอมมาทำ มาเรียนรู้งาน เหตุผลทั้งหมดนั่นไม่ใช่เพราะเงิน แต่เป็นเพราะคุณอาของคุณ”


“เพราะอาฐา?...” คิ้วเข้มขมวดมุ่น ทว่าคนฟังกลับมีสีหน้าผ่อนคลายอย่างจงใจ


“บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องเดียวที่ผมไม่สามารถให้รายละเอียดกับคุณได้”


สีหน้าของคนฟังเครียดขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่นั่นยิ่งทำให้เอสคอร์ทที่จะเรียกว่าอารมณ์ดีที่สุดในชั้นนี้ก็ว่าได้ต้องลอบยิ้ม กลณัฏฐ์ทิ้งความเงียบให้เป็นตัวคั่นกลางบรรยากาศ ดวงตาโตกวาดมองไปรอบๆ โถงวีไอพี ก่อนจะเบิกตาขึ้นอีกนิดเมื่อเห็นคนสองคนที่เดินเข้ามาตรงทางเข้า และท่าทางนั้นก็ทำให้ธนาดลหันมองตาม


“ฉันจะออกไปข้างนอก จัดการเรื่องเวลาของปูรณ์ด้วย” เสียงทุ้มดุของฐานัฐเอ่ยสั่งผู้จัดการของคลับที่มาโค้งรับ เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยดีก็แตะหลังร่างเพรียวก่อนจะเลื่อนมือขึ้นโอบบ่าแล้วพาเดินออกไปในทิศทางที่เพิ่งเดินเข้ามา


“คุณธีรู้ไหมครับ ปกติแล้วลูกค้าของเราสามารถขอพาเอสคอร์ทออกไปข้างนอกได้แต่ต้องมาส่งให้ตรงตามกำหนดเวลา ต้องจองคิวล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์ ที่สำคัญคือต้องได้รับการอนุญาตจากคุณฐา และเอสคอร์ทเองก็มีสิทธิปฏิเสธการออกไปข้างนอกด้วยถ้าไม่เต็มใจ แต่ปูรณ์เป็นคนเดียวที่คุณฐาไม่เคยอนุญาตให้ออกนอกสถานที่เลย ไม่ว่าเจ้าตัวจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม”


“.....”


“ค่าตัวของหมอนั่นเวลารับแขกแต่ละครั้ง แค่นั่งทานข้าวธรรมดาๆ สองชั่วโมงก็จ่ายกันเกือบแสนแล้ว นั่นยิ่งไม่ต้องคิดไปถึงการทำอย่างอื่น แต่ขนาดค่าตัวแพงระยับขนาดนั้น คนรอใช้บริการก็มีเป็นสิบๆ คิว แต่ก็ได้แค่รอนั่นแหละครับ คุณอาของคุณปัดคำขอพวกนั้นทิ้งหมด ยิ่งหลังๆ มานี้ บางอาทิตย์ปูรณ์แทบไม่ได้ออกมารับแขกเลยด้วยซ้ำ”


คิ้วได้รูปคู่เดิมยังคงขมวดมุ่น ยิ่งได้ฟังยิ่งแปลกใจแต่ว่าลึกๆ เขาไม่ปฏิเสธเลยว่าทำไมเอสคอร์ทคนนั้นถึงมีค่าตัวสูงขนาดนี้


ท่าทางเย็นชาแต่ยั่วยวนอยู่ในที ใบหน้าติดหวาน รูปร่างสะอดสะอง ผิวขาวแม้จะซีดแต่ก็เนียนราวได้รับการดูแลเลี้ยงดูมาอย่างดีมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงริมฝีปากอิ่มที่น่าจูบจนช้ำนั่นก็ด้วย


“ว่าแต่ตอนนี้ คุณธีมีเวลาเหลือสองชั่วโมง อย่างทำอะไรมากกว่านั่งคุยกันหรือเปล่าครับ”


ดวงตาสีชาทว่าคมดุคล้ายผู้เป็นอาเหลือบมองเอสคอร์ทที่นั่งด้านข้าง มือหนึ่งยกขึ้นวางบนต้นขาภายใต้กางเกงเนื้อดีสีขาว ลูบไล้ไปมาแต่ไม่ยอมทำอะไรมากกว่านั้น กำลังจะเอ่ยถึงสิ่งที่ตั้งใจแต่ริมฝีปากสีระเรื่อก็เอ่ยขัดมาก่อน


“ได้ทุกอย่างที่คุณธีต้องการ ตราบใดที่ไม่ออกไปจากห้องโถงนี้นะครับ”


เท่านั้นความตั้งใจที่จะพาไปดินเนอร์นอกสถานที่ก็ถูกปัดไป ธนาดลจึงลุกขึ้นยืนมองสบกับดวงตาที่ยังฉายแววรู้ทัน


“เอาเป็นว่าฉันยกสองชั่วโมงที่เหลือนี้ให้เธอ ถือว่าแทนคำขอบคุณ”


“ด้วยความยินดีครับ”


ร่างสูงของหลานชายเจ้าของสถานที่เดินจากไปนานแล้ว แต่กลณัฏฐ์ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมพร้อมแอลกอฮอล์ในแก้วใบเก่า นิ้วมือเรียวสวยไล้หยดน้ำที่เกาะพรายรอบขอบแก้ว รอยยิ้มที่มีมาตลอดหนึ่งชั่วโมงหายไปเหมือนเช่นทุกครั้งที่ไม่ต้องรับแขก


...ไม่ว่าใคร ก็ล้วนถูกดึงดูดสู่วังวนของความรู้สึกอันยากจะเข้าใจเหมือนกันทั้งนั้น










ซอยเล็กๆ ที่รถสีดำคันหรูกำลังขับผ่านทำให้ร่างเพรียวที่นั่งข้างคนขับหันมองอย่างแปลกใจ ตอนคุณฐาเอ่ยชวนออกมาทานมื้อเย็น ปูรณ์ไม่ได้คาดหวังว่าจะถูกพาไปที่ไหนแต่โดยปกติแล้วก็คงไม่พ้นโรงแรมสักแห่งแบบที่คุณฐาไปบ่อยๆ แต่ทว่าเส้นทางแปลกตาตอนนี้ทำให้อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม


“เรากำลังจะไปที่ไหนกันเหรอครับ”


“ทานข้าวไง” เสียงทุ้มเอ่ยตอบรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้ขยายความใดนอกจากตั้งใจขับรถ ทำให้คนขี้สงสัยไม่กล้าถามออกมาเช่นกัน แต่เพียงครู่เดียว รถคันหรูก็เลี้ยวเข้าเขตรั้วไม้ไผ่ผ่านถนนที่ปูด้วยกรวดเล็กๆ ก่อนจะจอดลงที่หน้าบ้านแบบญี่ปุ่นหลังหนึ่ง พร้อมกันนั้นก็มีชายหญิงหนึ่งคู่เดินออกมาก่อนจะโค้งตัวลงพร้อมเอ่ยต้อนรับ


“สวัสดีครับคุณฐานัฐ ห้องและอาหารที่จองไว้เรียบร้อยพอดีเลยครับ”


“นำไปได้เลยครับ”


คนที่ยังทำหน้างงงวยถูกดันแผ่นหลังให้เดินตามชายหญิงคู่นั้นไป ก่อนดวงตาเรียวจะเบิกขึ้นนิดๆ เมื่อเห็นห้องรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่นและอาหารที่ถูกเตรียมไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็ก ที่มีเบาะปูนั่งวางเตรียมไว้สองเบาะตรงข้ามกัน


“ตามสบายนะครับ” ฐานัฐพยักหน้ารับแล้วพยักเพยิดให้คนตัวเล็กกว่าถอดรองเท้าก่อนจะเดินไปนั่ง เจ้าของไนท์คลับหรูมองอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นว่าสิ่งที่สั่งไว้ก่อนหน้าถูกเตรียมไว้อย่างดี และยิ่งพึงใจมากขึ้นเมื่อใบหน้าเนียนมีรอยยิ้มประดับทั้งปากและตา


“ฉันจำได้ว่าเธอชอบทานอาหารญี่ปุ่น และนี่ร้านเพื่อนฉันเอง คนญี่ปุ่นแท้เลยล่ะ คิดว่าพาเธอมาเลี้ยงย้อนหลังที่นี่เธอน่าจะชอบ”


“ขอบคุณมากนะครับ” เจ้าของวันเกิดพุ่มมือไหว้


“ถ้าอยากขอบคุณก็ทานเยอะๆ” พูดพลางแกะตะเกียบแล้วส่งให้ ก่อนจะยิ้มรับเมื่อปูรณ์ส่งถ้วยชาเขียวร้อนกลับมา


“ชาเขียวที่นี่หอมมาก และฉันก็บอกให้ที่ร้านเตรียมเอาไว้ส่วนหนึ่งให้เธอเอากลับไปชงเองด้วยนะ”


“แต่ผมไม่เคยชงชาเขียวแบบนี้เลยนะครับ”


“พรุ่งนี้ตอนบ่ายจะมีคนจากทางร้านเข้าไปสอน ฉันนัดไว้ให้แล้ว”


“ครับ”


“ทานเยอะๆ นะ ฉันไม่ชอบที่เธอผอมลง” ประโยคคล้ายสั่งกันนั้นมาพร้อมกับอาหารที่ถูกวางลงบนจานสีขาวใบเล็ก


“ขอบคุณครับ แต่คุณฐาไม่ต้อง...”


“ฉันแค่อยากดูแลเธอบ้าง” เสียงทุ้มเอ่ยขัดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คนตัวเล็กกว่าจึงไม่กล้าเอ่ยขัดอะไรอีก ได้แต่ก้มหน้าลงซ่อนสีแก้มที่ระเรื่อแดงขึ้นแล้วคีบปลาดิบชิ้นโตเข้าปาก ก่อนจะคีบอีกชิ้นวางไว้บนจานของฐานัฐ


“ผมก็อยากดูแลคุณฐาบ้างเหมือนกันครับ”


รอยยิ้มน้อยๆ แต้มบนใบหน้าคม สายตาเย็นชาที่เอาไว้มองใครต่อใครทอดเสียอ่อนโยนเมื่อมองเด็กผู้ชายตรงหน้า ในดวงตาคู่คมมีแววเอ็นดูที่ไม่เคยพยายามปิดบังและไม่เคยใช้แววตานี้กับใคร แต่ฐานัฐก็รู้ดีเท่ากับที่อีกคนรู้ ..มันไม่เคยเจือปนไปด้วยความรักในรูปแบบนั้น


...ไม่เคยเลย





ดวงไฟที่ประดับเหนือสะพานข้ามแม่น้ำใหญ่ส่องแสงตกกระทบร่างคนคู่หนึ่งที่เดินเคียงกันรับลมธรรมชาติจากแม่น้ำยามดึกหลังอิ่มจากมื้ออาหารที่เรียกได้ว่าพิเศษ ชายร่างสูงกว่าเดินนำหน้าเพียงเล็กน้อย มือข้างที่ว่างจากการล้วงกระเป๋ากางเกงขณะเดินเอื้อมมาด้านหลังเพื่อจับจูงข้อมือเล็กขาวของคนอ่อนวัยกว่า


“นานมากเลยนะที่ฉันไม่ได้เดินเล่นแบบนี้”


“ก็คุณฐางานเยอะ”


“ฉันหวังว่ามันจะดีขึ้นถ้าเธอมาช่วย”


“คุณฐาครับ” น้ำเสียงที่จริงจังขึ้นทำให้ร่างสูงหยุดเดินและหันมามอง “คุณฐาจำตอนที่ชวนผมมาทำงานที่นี่ได้ไหมครับ”




ประโยคที่ปูรณ์ใช้ตอบรับตอนที่ฐานัฐชวนมาทำงานที่ไนท์คลับแห่งนี้


‘ผมจะช่วยคุณ จนกว่าคุณจะไม่ต้องการ’





“ผมแค่อยากบอกว่าไม่ว่าจะตอนนั้นหรือในอนาคต ผมก็ยังยืนยันแบบเดิม ผมจะตอบแบบเดิม”


“.....”


“...จนกว่าคุณจะไม่ต้องการ”


“เด็กดี...” ฝ่ามืออุ่นยกขึ้นมาประคองแก้มเนียน ไล้ปลายนิ้วเบาๆ ลงบนแก้มนั้น แววตาทอดมองดวงตาเรียวทอประกายล้อแสงไฟตรงหน้า มองลึกไปถึงดวงตาที่คล้ายกันนี้ของใครอีกคน


“ตอนฉันอายุเท่าเธอ ฉันมีแฟนคนหนึ่ง”


“.....” ความไม่เข้าใจฉายชัดบนใบหน้าหวาน แต่ดวงตาคู่ที่จ้องมองกันอยู่ก็สะกดให้ฟังเงียบๆ โดยไม่เอ่ยอะไรออกไป


“เธอเป็นผู้หญิงน่ารัก เป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นแต่ไปโตที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นเธอมาเรียนแลกเปลี่ยนที่นี่ เราเริ่มคุยกันเพราะถูกอาจารย์จับคู่ให้ทำโปรเจคด้วยกัน เธอเป็นคนฉลาด หัวดี เรียนเก่งแถมยังร่าเริงและมีน้ำใจ เพื่อนคนไทยที่นี่รักเธอกันหมด ตอนแรกเราก็แค่เป็นเพื่อนคุยกันถูกคอเพราะชอบอะไรคล้ายๆ กัน แต่สุดท้ายมันก็พัฒนาเป็นความรัก เราคบกันจนเธอหมดช่วงเวลาเรียนแลกเปลี่ยนและต้องกลับไปญี่ปุ่น แต่ก็ติดต่อกันตลอดจนกระทั่งเราทั้งคู่เรียนจบ”


“.....”


“เราคุยกันว่าเราจะไปเรียนต่อโทที่เยอรมันด้วยกัน ฉันให้สัญญาว่าจะไปพบพ่อแม่ของเธอ ให้ผู้ใหญ่ได้คุยกัน อาจจะให้เราหมั้นกันไว้ก่อน ทุกอย่างดูราบรื่นจนกระทั่งวันหนึ่งที่อยู่ๆ เธอก็เดินทางมาหาฉันที่นี่ แม้จะแปลกใจแต่ฉันก็ดีใจเกินกว่าจะสงสัยอะไร เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันประมาณสองอาทิตย์ ก่อนที่เช้าวันต่อมาฉันจะตื่นมาเพื่อพบว่าเธอหายตัวไป”


“.....”


“ฉันใช้เวลาหนึ่งปีเต็มหลังจากนั้นในการตามหาผู้หญิงคนหนึ่งทั้งที่นี่และประเทศบ้านเกิดเธอ สืบเสาะจนหาญาติที่อยู่เหลือเพียงคนเดียวของเธอเจอ แต่ตอนนั้นมันก็สายไปแล้ว ข่าวที่ได้มีน้อยนิด น้อยมากจนฉันรู้แค่ว่าครอบครัวเธอทั้งหมดที่ญี่ปุ่นโดนฟ้องล้มละลาย และพวกเขาตัดสินใจที่จะจบชีวิตตัวเองพร้อมกัน”


แววตาคมที่เปิดเผยร่องรอยความเศร้าเสียใจที่ฝังรากลึกมานานทำให้คนฟังน้ำตาคลอ และมันก็หยดลงบนแก้มเนียนให้คนเล่ายิ้มจางแล้วค่อยๆ เช็ดออกให้


“แต่ครั้งนั้น ทำให้ฉันได้รู้ว่าเธอมีน้องชายที่เหลืออยู่ที่ประเทศไทย เพราะน้องชายเธอถูกทิ้งไว้ที่นี่ตั้งแต่ยังเด็กกับญาติคนนั้นที่ฉันเจอ ฉันจึงตั้งใจว่า ฉันจะขอดูแลเด็กคนนั้น เพราะฐานะทางบ้านของญาติคนนั้นก็ไม่ได้ดีนัก แต่น่าเสียดายที่เขาบอกว่าเด็กคนนั้นไม่ได้อยู่กับเขาตั้งนานแล้ว เขายกเด็กให้มูลนิธิแห่งหนึ่งดูแลแทน นั่นหมายความว่าถ้าฉันอยากเลี้ยงดูเด็กคนนั้น ฉันต้องตามหามูลนิธิที่ว่าและเข้าไปคุยด้วยตัวเอง

ตอนแรก ฉันตั้งใจจะรับเด็กคนนั้นเป็นบุตรบุญธรรมด้วยซ้ำ แต่อายุเราห่างกันน้อยเกินไป ถ้าฉันเกิดเร็วกว่านี้สักสองปี หรือเด็กคนนั้นเกิดช้าอีกหน่อย อะไรๆ มันอาจจะง่ายกว่าตอนนี้”


“คุณฐา...”


“เธอจำได้ใช่ไหมปูรณ์ ฉันย้ำกับเธอเสมอว่าสำหรับเธอแล้วฉันให้ได้ทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ ยกเว้นเพียงเรื่องเดียว”


“.....”
   

“เพราะเรื่องนั้น ฉันยกมันให้พี่สาวเธอไปหมดแล้ว”


สิ้นประโยคนั้น น้ำตาก็หยดไหลลงเป็นสายผ่านดวงตาเรียวทั้งสองข้าง ตอนเด็กๆ ครูที่มูลนิธิก็เคยเล่าเรื่องครอบครัวเขาให้ฟังบ้าง ตอนยังเล็กเขาก็แค่สงสัยว่าจะให้เขาเกิดมาบนโลกใบนี้ทำไมถ้าไม่มีใครต้องการ


...แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังสงสัย ว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะเป็นที่ต้องการของใครๆ ได้เสียที


เสียงสะอื้นฮักทั้งๆ ที่เจ้าตัวพยายามอย่างยิ่งที่จะกลั้นมันไว้ทำให้ร่างสูงกว่าดึงเข้ามากอด มือลูบหลังลูบไหล่คนที่ซบหน้าร้องไห้กับอกเขาอย่างหมดท่า ฐานัฐรู้ดียิ่งกว่ารู้ว่าความจริงมันเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่อยากให้ปูรณ์ถลำความรู้สึกที่มีต่อเขาให้ลึกลงไปกว่านี้


เพราะเขารู้ดี รู้ว่าชีวิตนี้เขาคงรักใครอีกไม่ได้แล้วจริงๆ


“ถึงอย่างนั้น...ฮึก” เสียงปนสะอื้นเอ่ยตะกุกตะกักอย่างน่าสงสาร “ถึงอย่างนั้นคุณฐาก็ไม่ลืม...”


“.....”


“และก็เป็นผมไม่ได้จริงๆ ใช่ไหมครับ”


อ้อมกอดที่กระชับขึ้นในความเงียบงันแทนคำตอบทั้งหมดได้อย่างดีแล้ว

...ที่ตรงนั้นไม่เคยเป็นของเขา

...เป็นเขาไม่ได้

...ต่อให้ไม่ว่าจะพยายามจนตัวเองเจ็บเจียนตายอีกกี่ครั้งก็ตาม










รู้เธอมีเหตุผลอะไรสักอย่าง

ที่ทำให้เธอไม่คิดจะอยู่กับฉัน

อาจเป็นเพราะเธอแค่เหงาใจในวันที่เราพบกัน

เธอแค่มีความสุข แต่ว่าเธอไม่ได้รักกัน

.....

โปรดรักฉันรักฉันเถอะนะ จะไม่ทำให้เธอเสียใจ

รู้ฉันสู้เขาไม่ไหว เทียบกับใครที่เธอมี

แต่เลือกฉันเลือกฉันได้ไหม ฉันจะดูแลเธอให้ดี

โปรดถามใจเธออีกที เพราะทั้งใจฉันมันยังมีแค่เธอ

(**เนื้อเพลง please - อะตอม ชนกันต์)









เพราะร้องไห้จนหมดแรง พอขึ้นมานั่งบนรถได้ไม่นานปูรณ์ก็หลับไป เมื่อมาถึงไนท์คลับฐานัฐจึงเป็นคนอุ้มร่างเพรียวบางนั้นเข้าห้องนอน บนฟูกนอนสีขาวนุ่มแบบที่เจ้าของห้องคนใหม่ชอบ ร่างสูงของเจ้าของคนเดิมกำลังนั่งพิงหัวเตียง มือข้างหนึ่งลูบเส้นผมนุ่มไปมาราวจะกล่อมคนหลับให้นอนหลับให้สนิท เปลือกตาบางที่บวมช้ำยังมีร่องรอยของคราบน้ำตาบนแพขนตาเปียกชื้น ริมฝีปากอิ่มแดงชัดเพราะเจ้าตัวทั้งกัดทั้งเม้มตอนที่ร้องไห้ คนโตกว่าที่นั่งข้างๆ อดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบบนหน้าผากเนียน แววตาที่ทอดมองสะท้อนความสงสาร เรื่องราวบางอย่างที่เขาไม่ได้เล่าก็ยังคงถูกเก็บเป็นความลับอยู่แบบนั้น


...ไม่ใช่แค่ไม่รัก แต่กับบางคน แม้อยากจะรักก็ไม่อาจรักได้จริงๆ










เพราะเป็นเช้าวันจันทร์ที่ต้องไปเรียน แม้จะรู้สึกมึนหัวและตัวรุมๆ แต่ปูรณ์ก็ยังลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้า โดยปกติแล้วคนขับรถที่นี่จะไปส่งที่มหาวิทยาลัย แต่บางครั้งเจ้าตัวก็เลือกจะนั่งรถเมล์ แท็กซี่ หรือเดินทางไปเองโดยวิธีใดก็ได้ที่ไม่ต้องรบกวนใคร แต่เช้าวันนี้ปูรณ์กลับเจอใครอีกคนที่อยู่ในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันเสียก่อน และธนาดลก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาหาทางในการไปเรียนเอง


“ทำไมตัวอุ่นๆ”


คนที่จับจูงข้อมือบางกึ่งบังคับให้เดินไปในทิศทางเดียวกันหลังจากจอดรถที่หน้าโรงอาหารเรียบร้อยถามพร้อมขมวดคิ้วอย่างกดดันให้ตอบ


“ผมไม่สบายนิดหน่อยน่ะครับ”


“แล้วทำไมไม่ให้คนที่คลับมาส่ง”


“ผมไม่อยากรบกวนใคร”


“งั้นวันหลังก็มากับฉัน”


“เดี๋ยวนี้คุณธนาดลย้ายมานอนที่คลับเหรอครับ”


“นี่ถามเพราะสงสัยหรือถามเพราะหาเรื่อง”


“ใครจะกล้าหาเรื่องคุณกัน...”


“ฉันมีเรื่องต้องทำ มีเรื่องต้องหาคำตอบเลยขออาฐามาอยู่ชั่วคราวน่ะ”


“จริงๆ ห้องฝั่งนั้นก็เป็นของคุณอยู่แล้ว”


“ฉันต้องขอเพราะห้องฝั่งอาฉันไม่ได้มีแค่อาอยู่คนเดียวต่างหาก”


“คุณธีรู้...”


“รู้แค่ว่าเธอย้ายมาอยู่ แต่ไม่รู้เหตุผล”


“คุณฐาก็แค่อยากให้ผมไปช่วยงานบางอย่างน่ะครับ”


“รวมถึงงานบนเตียงด้วยหรือเปล่า?”


“คุณธี” ข้อมือบางบิดออกจากการเกาะกุมทันทีที่ถูกถามด้วยคำถามแบบนั้น แต่ธนาดลกลับบีบมือนั้นแน่นยิ่งขึ้น ร่างสูงผ่อนลมหายใจช้าๆ แม้จะไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของตัวเองในช่วงสองสามวันนี้มากนัก แต่ก็รู้ดีว่าควรเอ่ยคำขอโทษ


“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”


“คุณธีครับ” คนที่ถูกกึ่งจูงกึ่งลากมาตลอดทางปรับน้ำเสียงให้จริงจังขึ้น เงยหน้าสบตาร่างสูงแล้วเอ่ยถามในสิ่งที่สงสัยออกมา


“เพราะคุณธีรู้อะไรบางอย่างมาหรือเปล่า คุณธีถึงมาตั้งคำถามแบบนี้”


“ถ้าเธอหมายถึงเรื่องคืนนั้น ฉันจำได้แล้วว่าคนที่ฉันอยู่ด้วยคือ...”


“ลืมมันไปเถอะครับ” แม้จะรู้ดีว่าการเอ่ยแทรกแบบนี้มันเสียมารยาท แต่พอคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญเขาก็จำต้องพูด “ผมจะคิดว่ามันก็เหมือนกับการรับแขก งานของผมก่อนหน้าก็ไม่ต่างจากวันนั้น”


“แล้วเธอคิดว่าฉันไม่พยายามหรือไง?” เสียงทุ้มสวนกลับด้วยความดุดัน ความสับสนที่มีมาตลอดทำให้ธนาดลพูดแทบทุกอย่างในใจ “ฉันก็ไม่ได้อยากจำ ไม่ได้อยากรื้อฟื้น แต่ความรู้สึกวันนั้นมันติดอยู่ในหัว สัมผัสของเธอติดอยู่ในทุกคืนที่ฉันฝัน สำคัญกว่านั้นคือภาพที่เธอร้องไห้ มองฉันแล้วอ้อนวอนให้ฉันรัก มันติดอยู่ในความคิดฉันตลอดเวลา”


...คนที่โหยหาความรักขนาดนั้น


“แต่วันนั้น คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าตอนนั้นจริงๆ แล้วความรู้สึกของคุณกอดใคร สายตาคุณมีใคร คำรักของคุณพูดถึงคนไหน”


“แฟนเก่า” ธนาดลสวนขึ้นทันทีเพราะรู้ตัวเองอยู่แล้ว “ฉันยอมรับว่าฉันยังไม่ลืม แต่ฉันก็พยายามตัดใจมาตลอดตั้งแต่เลิกกัน เวลาฉันเมาฉันอาจจะเพ้อถึงบ้าง แต่เวลาปกติฉันก็ไม่ได้นึกถึงอีกแล้ว”


“นั่นเพราะจิตใต้สำนึกคุณยังไม่ลืมเธอไงครับ”


“แต่หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาจิตใต้สำนึกฉันนึกถึงแต่เธอ”


เกิดกระแสความเงียบขึ้นทันทีหลังประโยคนั้นจบลง สายตาสองคู่ที่มองสบกันอยู่ตั้งแต่แรกมีแต่ความเก้อกระดาก ก่อนจะต้องหันมองคนละทิศละทางเมื่อไม่รู้จะต่อบทสนทนาให้ไปทางไหน แต่แล้วคนตัวโตกว่าจะคว้าข้อมือบางขึ้นอีกครั้งแล้วเอ่ย


“ไปทานข้าวกันก่อนเถอะ นายจะได้ทานยาลดไข้” สรรพนามที่จู่ๆ ก็เปลี่ยนไปรวมถึงสถานการณ์ชวนอึดอัดขัดเขินแปลกๆ ทำให้คนตัวเล็กกว่าทำได้เพียงรับคำเบาๆ ก่อนยอมเดินตามร่างสูงไปหาที่นั่งในโรงอาหาร


“ครับ”


“มีร้านประจำไหม ทานอะไรดี”


“ผมไม่มีร้านประจำครับ แต่เดี๋ยวผมไปซื้อเอง คุณธีไปซื้อก่อนเถอะครับ ผมเฝ้าโต๊ะให้”


“เลือกมาสักอย่าง” คำสั่งเชิงกดดันนั้นทำให้อดไม่ได้ที่จะเม้มปาก แต่สายตาก็มองหาร้านที่อยากทาน ก่อนจะบอก


“แกงจืดเต้าหู้หมูสับร้านนั้นก็ได้ครับ”


“แล้วก็ข้าวเปล่า”


“ไม่เอาข้าวครับ”


“อืม” แม้จะรับคำไปแบบนั้น แต่สุดท้ายสิ่งที่วางลงตรงหน้าคนที่นั่งจองโต๊ะก็คือข้าวเปล่า แกงจืด แล้วก็ผัดผักอีกจานอยู่ดี


“นายทานก่อนได้เลย จะได้รีบทานยา”


“แล้วคุณธีล่ะครับ?”


“ฉันสั่งอีกร้านหนึ่งไว้ อยากทานก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ มากกว่า”


“แต่นี่ผมทานคนเดียวไม่หมดหรอกนะครับ” 


“เหลือก็ทิ้ง”


“เสียดายแย่”


“เสียดายก็จัดการให้หมด ฉันไม่กินผัก” เสียงบอกเรียบหน้าตายนั้นทำให้คนถูกบังคับกลายๆ อดไม่ได้ต้องบ่นออกมาเบาๆ


“โตขนาดนี้แล้วแท้ๆ”



ไม่นาน คนที่บอกว่าอยากทานก๋วยเตี๋ยวก็เดินกลับมาพร้อมถ้วยก๋วยเตี๋ยวที่มีเพียงเส้นเล็กและเนื้อหมูกับเครื่องในเพิ่มพิเศษ ปรุงรสด้วยพริกสีแดงแจ๋ที่แค่มองด้วยตายังรู้สึกเผ็ดแทน


“เช้าๆ แล้วทานเผ็ดขนาดนี้ระวังแสบท้องนะครับ”


“เรื่องปกติน่ะ ร่างกายชินแล้ว”


“ชินแล้วพังไม่ได้เหรอครับ”


“ทำไมเถียงเก่ง”


“ก็คุณธี...”


“ฉันทำไม?”


นั่นสิ ธนาดลทำไม?


ปกติปูรณ์ก็ไม่ใช่คนที่ต่อปากต่อใครกับใครอยู่แล้ว ออกจะไปทางเงียบๆ ฟังอย่างเดียวมากกว่าด้วยซ้ำถ้าเป็นคนที่ไม่สนิท แต่กับผู้ชายคนนี้...


...อาจจะเป็นแค่ความสบายใจอย่างหนึ่งก็เป็นไปได้


“ไม่มีอะไรครับ”บอกปัดไปแล้วก็รวบช้อนส้อม ร่างสูงที่นั่งตรงข้ามมองมานิ่งๆ เห็นว่ากับข้าวพร่องไปอย่างละครึ่งก็แอบยิ้มออกมา ก่อนจะแกะยาออกจากซองแล้วยื่นให้


“ทานข้าวอิ่มแล้วก็ทานยา”


“ครับ”


พอเห็นว่าคนป่วยยอมทานข้าวทานยาจนตนพอใจ ธนาดลก็กลับไปทานของตัวเองต่อเงียบๆ ปล่อยให้คนที่แก้มยังแดงเรื่อเพราะพิษไข้ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ระหว่างรอ เมื่อจัดการกับตัวเองเสร็จแล้วก็เอ่ยถามขึ้นมาอีก


“วันนี้เรียนถึงกี่โมง”


“บ่ายสามครับ”


“ฉันเลิกบ่ายสามครึ่ง รอก่อน แล้วค่อยกลับพร้อมกัน”


“แต่ผมกลับเองได้นะครับ เกรงใจคุณธี”


“บอกให้รอก็ทำตามนั้นเถอะน่า”


“ครับ”


“แล้วนี่เพื่อนนายไม่มาเรียนด้วยกันเหรอ กลณัฏฐ์น่ะ”


“คุณธีรู้จักนัทเหรอครับ”


“ก็เรียกว่ารู้จัก”


“นัทไม่มีมีเรียนวันนี้ครับ”


“เหมือนที่เธอไม่มีเรียนวันศุกร์สินะ”


“นัทบอกเหรอครับ”


“ก็ประมาณนั้น”


“ผมถามอะไรบางอย่างได้ไหม”


“ว่ามาสิ”


“คุณธีคิดอะไรอยู่หรือครับ”


“.....”


“.....”


“เปลี่ยนจากคำถามนั้นเป็นคำตอบของเธอดีกว่าไหม ไม่ต้องสนใจว่าฉันจะคิดอะไร ไม่ต้องระวังตัวเองขนาดนั้น ถ้าฉันบอกเธอว่าฉันจะลืมเรื่องคืนนั้น จะไม่มีการพูดถึงมันอีก เราสองคนจะเป็นเพื่อนกันได้ไหม”


“.....”


“แค่เพื่อนเท่านั้นปูรณ์”


ไม่รู้ว่าเพราะดวงตาสีชาคู่นั้นที่แสดงความจริงใจออกมาเต็มเปี่ยมหรือเปล่า ที่ทำให้ปูรณ์ยอมพยักหน้าลงช้าๆ ด้วยรอยยิ้มแต้มมุมปากที่ธนาดลมองว่าน่ารักดี


เป็นแค่เพื่อนไปก่อนก็ได้...บางความสัมพันธ์มันก็พัฒนามาจากคำว่าเพื่อนนี่แหละ


แค่รอเวลาที่เหมาะสมมากกว่านี้แล้วค่อยว่ากันอีกทีเท่านั้นเอง












..TBC..














>> มาละค่ะ เหตุผลที่ทำไมคุณฐาถึงบอกว่ารักน้องปูรณ์ไม่ได้

ขอบคุณที่ติดตามละก็ฝากเอ็นดูน้องปูรณ์ด้วยนะคะ ^^

ปล..แอบฝากเรื่องสั้นตอนเดียวจบ feel good ไว้อีกรอบนะคะ ^^


[เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ♥ Describe me in one word ♥ (http://"http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64254.0")











หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 10-12-2017 22:19:51
เริ่มคลายปมมาหน่อยแหละ
ติดตามตอนต่อไป
+เป็ดหนึ่งตัว
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 11-12-2017 00:32:11
ไม่ิว่ายังไงคุณฐาก็รักปูรณ์ไม่ได้ใช่มั้ย สงสารปูรณ์
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-12-2017 01:04:44
กับคุณฐาคงไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้วใช่ไหมคะ  :ling3:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: masochism2018 ที่ 11-12-2017 02:01:22
สงสารีี :hao5:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 11-12-2017 02:27:54
สงสารเรื่องคุณฐานะ แต่มาแบบนี้คุณฐาคงไม่ใช่พระเอก
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-12-2017 12:00:23
หน่วงดี
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: somzaa ที่ 15-12-2017 09:17:35
พอรู้ปมแล้วนี่เศร้ากว่าเดิมอีก กับคุณฐาคือเรารักกันไม่ได้จริงๆสินะ  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-12-2017 05:12:31
ชอบบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ปูรณ์ มีเสน่ห์ รอบตัวปูรณ์มีคนสนใจหลงไหลปูรณ์แต่ปูรณ์รักเพียงฐา

ฐา หวงปูรณ์ หวงสุดๆ เพราะเป็นน้องชายของคนรัก
มีเซ็กส์กับปูรณ์ แต่ให้แค่ร่างกาย หัวใจให้ไม่ได้
เพราะฐาไม่สามารถรักใครได้อีก รักแค่พี่สาวปูรณ์ ที่ตายไปแล้ว
น่าชื่นชม เป็นรักแท้ รักแค่คนเดียว

ธี เข้ามาในวังวน รู้ว่าปูรณ์โหยหาความรัก และตัวเองก็หวั่นไหวไปกับปูรณ์
ปูรณ์ จะหวั่นไหวไปกับธีไดไหมนะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 16-12-2017 08:41:39
ธีทำให้ปูรณ์มาชอบให้ได้นะ สงสารปูรณ์อ่ะ รักคนที่เขาไม่รักอยากใฟ้ธีรักปูรณ์และปูรณ์รักธี
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 16-12-2017 09:12:43
สนุกดีนะเรื่องนี้ :)
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-12-2017 09:21:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน▼▼ ..171210 - เพื่อนนอนตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: lolli_candy99 ที่ 16-12-2017 09:58:22
เชียร์คุณธีๆๆๆ มาต่อไวๆนะคะะะ  :mew1:
หัวข้อ: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 5 ▼▼ UP!! 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: Toffeenut ที่ 16-12-2017 19:50:21
▲▲As an escort
#เพื่อนนอนตอนที่ 5










บางความเจ็บปวด ไม่เคยมีใครอยากจำ
แต่มันกลับฝังรากลึก

จนเกินจะเลือน











.
.
.













“พักนี้เราไม่เจอกันเลย” ถ้วยชาเซรามิคสีขาวที่ควันยังกรุ่นถูกวางลงบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยแฟ้มเอกสารสีดำเกือบสิบแฟ้ม ร่างเพรียวบางที่นั่งอ่านเอกสารมาเกือบสองชั่วโมงเงยหน้าขึ้นจากตัวเลขที่เรียงกันเป็นพรืดเพื่อมองเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันหลายวันอย่างที่เจ้าตัวทัก


“นี่เรางานยุ่งมากเลย ทั้งที่มหาลัยทั้งที่นี่ นัทเป็นไงบ้าง”


“ก็เรื่อยๆ” คนเดินมาทักทิ้งตัวลงนั่ง ยักไหล่ตอบด้วยท่าทางชวนมอง ไม่บ่อยนักที่คนที่ไนท์คลับจะเห็นเอสคอร์ทสองคนนี้อยู่ด้วยกันแม้ทั้งคู่จะเป็นเพื่อนสนิทกันก็ตาม เพราะส่วนมากทั้งปูรณ์และกลณัฏฐ์สะดวกใจจะคุยกันที่มหาวิทยาลัยหรือข้างนอกมากกว่า


“ทำไมเรื่อยๆ เราได้ข่าวว่าช่วงนี้งานยุ่ง”


“เพราะต้องทำงานแทนใครบางคนแถวนี้ไง” คำตอบนั้นทำให้รอยยิ้มบนสีหน้าของอีกคนจางลง


“เราขอโทษนะนัท”


“จะขอโทษทำไม เราไม่ได้ซีเรียส งานเยอะก็แปลว่าเงินดี เราจะรวยกว่าปูรณ์ให้ดู” คำตอบสบายๆ ตามนิสัยเวลาอยู่กับเพื่อน เรียกรอยยิ้มให้กลับคืนมาบนใบหน้าของผู้สนทนาด้วยได้


“ขอบคุณนะ”


“พูดเหมือนคนอื่นคนไกลไปได้ เรื่องแค่นี้เอง เออนี่ เรามีเรื่องจะถาม”


“ถามว่า?”


“คุณธีจีบปูรณ์อยู่ใช่ป่ะ?” คำถามตรงๆ นั้นทำให้คนที่กำลังจิบชาร้อนถึงกับสำลัก


“แค่ก ---“


“สำลักเลยทีนี้ ว่าไง จริงสินะ”


“คุณธีบอกว่าเป็นเพื่อนกัน”


“เพื่อนอะไร เราเห็นนะว่าไปมหาลัยด้วยกันบ่อยๆ แล้วอีกอย่างคุณธีชอบมาหลอกถามเราเรื่องปูรณ์ด้วย”


“หืม?”


“ไม่รู้ล่ะสิ สองสามครั้งได้ละมั้ง ไม่รู้ติดใจอะไรนักหนา”


คำถามปนแซวของเพื่อนสนิท ทำให้แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อ เสหลบตาเพื่อนก่อนจะตอบออกไป


“นัทก็รู้ว่าเราไม่ได้อยากให้เรื่องเป็นแบบนี้”


“แต่เราอยาก...”


“.....”


“เราอยากเห็นปูรณ์มีความสุข การวิ่งไล่ตามคนที่ไม่มีวันเป็นของเรามันทรมานไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมเราถึงจะอยากเห็นเพื่อนเราทรมานแบบเดิมซ้ำๆ ล่ะ ปูรณ์รู้ไหมว่ามีคนที่พร้อมจะมอบความรักให้ปูรณ์เยอะแค่ไหนแค่ปูรณ์ยอมเปิดใจเท่านั้นเอง”


“คนพวกนั้นก็หวังแค่เรื่องบนเตียง”


“นั่นอาจจะเป็นส่วนหนึ่ง แต่คนที่จริงจังก็มีไม่ใช่หรือไง”


ที่กลณัฏฐ์พูดก็มีส่วนจริง เพราะมีคนที่เข้ามาแบบที่เพื่อนสนิทพูด คนที่พร้อมจะรัก พร้อมจะลืมอดีตเลวร้ายของเขา ขอเพียงแค่เขารับความรักนั้นและก้าวออกไปจากวังวนนี้เสียที

...แต่ปูรณ์ก็ไม่เคยทำได้เลย ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม


“คุณธีเป็นคนดี เราสัมผัสได้ว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้จริงๆ”


“ได้ค่าจ้างมาเท่าไหร่เหรอเชียร์ขนาดนี้”


“ถ้าค่าจ้างที่ได้คือความสุขของปูรณ์ มันก็โคตรคุ้มเลยสำหรับเรา”


“มันเป็นไปไม่ได้หรอกนัท”


ดวงตาเรียวเปิดเผยทุกความรู้สึกกับเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขามี เพราะโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก อยู่ด้วยกันในแทบทุกเรื่องราวของชีวิต จึงไม่มีความจำเป็นสักนิดที่เขาจะมีความลับกับเพื่อนคนนี้


“เรารักจนรู้สึกว่าไม่อยากรัก แต่เราก็เลิกรักไม่ได้”


“.....”


“เพราะเราทำงานแบบนี้ นัทก็รู้สึกใช่ไหมว่าเราถูกกอดเพราะลูกค้ามองเราเป็นตัวแทนของคนอื่น เป็นใครก็ได้ที่จะทำให้พวกเขามีความสุขในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นตัวแทนของคนที่พวกเขาอยากกอดจริงๆ แต่ทำไม่ได้ เป็นเหมือนสินค้า เป็นสิ่งของที่แลกกับเงิน”


แม้ค่าตัวจะสูง คำเรียกจะดูดีแค่ไหน
แต่สุดท้ายศักดิ์ศรีก็ถูกทำลายลงบนเตียงทั้งนั้นไม่ใช่หรือ?



“แต่คุณฐาไม่เคยทำให้เรารู้สึกแบบนั้น เรารักเขาเพราะเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน คุณฐาทำให้เรารู้สึกว่าเขาอยู่กับเราจริงๆ เราที่เป็นตัวเรา เราที่ไม่ใช่ตัวแทนของใคร”


แม้แต่กับธนาดลก็ไม่เป็นแบบนั้น
คำบอกรักที่ไม่ใช่ของเขายังดังก้องในหู



“เท่านั้นแหละนัทที่เราต้องการ เราแค่อยากเป็นตัวเองต่อหน้าคนๆ หนึ่ง ไม่ว่าเขาจะรัก หรือจะไม่รัก ก็ขอแค่ให้เขารู้สึกแบบนั้นกับตัวตนของเรา แค่นั้นเราก็พอใจแล้วจริงๆ”










“หอมจัง” ปลายจมูกโด่งที่กดลงบนไหล่บางขณะที่เจ้าของจมูกได้รูปสอดมือเข้ามากอดรัดเอวคนที่ยืนอยู่หน้าเตาอบขนมเสียแทบแน่น กลิ่นเนยที่ลอยฟุ้งในอากาศทำให้ไม่แน่ใจนักว่าคำถามนั้นถามถึงขนมหรือคนทำ


“คุ้กกี้เนยครับ ผมเพิ่งได้สูตรมาจากข้างล่าง เลยลองทำดู”


“มิน่า หอมขนาดนี้” พูดพลางค่อยๆ ย้ายปลายจมูกมายังต้นคอ ท้ายทอย แถมยังทิ้งท้ายด้วยการสูดลมหายใจฟอดใหญ่บริเวณหลังใบหูที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงชัดเจน


“ฮื่อ..คุณฐา”


“ยังไม่ชินอีกเหรอ หืม?”


“ผมจั๊กกะจี้” เสียงสั่นๆ เอ่ยบอก แล้วเอียงคอหลบคนที่ตามมาแกล้งด้วยการเม้มริมฝีปากตามรอยที่ปลายจมูกกดลงไปก่อน ก่อนจะกัดลงบนปลายหูเล็กเพราะทั้งหมั่นเขี้ยวและเพราะกลิ่นหอมของเนยที่กรุ่นอยู่บนผิวบาง


“ฮื่ออ...” คนโดนแกล้งครางฮือเมื่อหลบไม่พ้น มือสองข้างเลยวุ่นอยู่กับการแกะพันธนาการที่อยู่รอบเอวออก


“อีกกี่นาที?”


“อะไรนะครับ”


“คุ้กกี้เธอน่ะ กว่าจะเสร็จเหลืออีกกี่นาที”


“นะ...น่าจะสิบนะครับ ผมตั้งเวลาไว้”


“งั้นฉันก็มีเวลาสิบนาทีระหว่างรอ”


“ครับ?”


คำถามสั้นๆ นั้นได้รับคำตอบเป็นการที่ถูกมือข้างหนึ่งพลิกกายเจ้าของคำถามเข้าหา วงแขนที่รัดรอบเอวบางเมื่อสักครู่อุ้มคนตัวเล็กกว่ายกขึ้นไปนั่งห้อยขาบนโต๊ะหินอ่อนกลางห้องครัวที่มีอุปกรณ์ทำขนมวางทิ้งไว้ ก่อนร่างสูงจะแทรกตัวเองเข้าไปอยู่กลางหว่างขานั้น แล้วกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มที่เผยอออกเพราะยังตั้งตัวไม่ทัน


“ฉันจะชิมขนม”


“แต่มันยังไม่สุกเลยนะครั—“


คำพูดปลายประโยคถูกริบคืนด้วยริมฝีปากได้รูปที่กดจูบลงมาซ้ำๆ อีกครั้ง อาศัยจังหวะที่คนบนโต๊ะยังตั้งตัวไม่ทันแทรกปลายลิ้นอุ่นร้อนไปในโพรงปาก ดูดดึงอย่างเอาแต่ใจคล้ายจะขโมยลมหายใจกันให้ได้ด้วยจูบนี้ ฟันคมขบลงบนเรียวปากอิ่มจนขึ้นสีแดงระเรื่อชวนมอง สองมือที่รัดรอบเอวเลื้อยเข้าไปใต้เสื้อยืดเนื้อนิ่มที่อีกคนชอบใส่เวลาอยู่บ้าน ผิวลื่นมือที่กรุ่นกลิ่นเนยทำให้คนที่เพิ่งกลับจากทำงานตั้งแต่เช้าลอบยิ้มอย่างพึงพอใจ


คนที่ถูกขโมยจูบอย่างไม่ทันตั้งตัวมาตั้งหลักได้ก็ตอนฝ่ามืออุ่นร้อนนั้นลากไล่ไปตามแนวกระดูกสันหลัง แขนสองข้างที่ดันหน้าอกแกร่งอยู่เมื่อสักครู่ย้ายขึ้นไปโอบรอบคอ แทรกมือเข้าไปในกลุ่มผมสีเข้มแล้วนวดคลึงเบาๆ แบบที่รู้ว่าอีกคนจะยิ่งผ่อนคลายจากสัมผัสนี้


สองร่างที่คุ้นเคยกันดีเบียดกายเข้าแนบชิด ฐานัฐเลื่อนมือลงโอบรอบสะโพกดันให้ลำตัวแนบชิดกันมากขึ้นและก็ไม่ผิดหวังเมื่อขาสองข้างของคนตัวบางกว่าตวัดรัดรอบเอวสอบในขณะที่ริมฝีปากก็ยังไม่ยอมเคลื่อนออกจากกัน เสียงครางหวานปนไปกับเสียงทุ้มที่แสดงออกชัดเจนว่าพึงพอใจ เนิ่นนานจนกระทั่งเสียงร้องเตือนของเตาอบขนมดังขึ้น ทั้งสองร่างถึงได้ยอมผละออกห่าง


“ขะ...ขนมเสร็จแล้ว”


“แล้วต้องทำไงต่อ”


“ต้องเอาออกจากเตาก่อนครับ”


“แล้ว...”


“รอมันเย็นเดี๋ยวผมค่อยเก็บใส่ขวดโหลไว้”


“หนึ่งนาที”


“ครับ?”


“ฉันให้เวลาหนึ่งนาที”


“.....”


“แล้วฉันจะจัดการเธอหลังจากเธอจัดการขนมพวกนั้นเสร็จ”










“ทำยังไงให้กลิ่นขนมติดตัวขนาดนี้หืม?”


“อ๊ะ คุณฐาไม่ชอบเหรอครับ”


“มันทำให้เธอน่ากินกว่าเดิมไปอีกสิบเท่า”


“คุณฐา!”


“ฉันพูดจริงๆ นะ” หลักฐานประกอบคำพูดคือร่องรอยสีกุหลาบที่แต้มเต่งบนผิวขาวจนทั่ว ถ้าไม่กลัวว่าคนที่นั่งซ้อนบนตักตอนนี้จะเจ็บ เจ้าของตักคงกัดลงไปจนผิวช้ำ


“ไม่แกล้งสิครับ”


“ใครแกล้งเธอ”


“เราไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า ผมว่าเราขึ้นจากน้ำไหมครับ แช่จนตัวจะเปื่อยแล้ว”


“อีกสิบนาที”


คนที่วันนี้คอยกะเกณฑ์เวลากับทุกอย่างออกแรงอีกครั้งให้คนที่จะลุกออกจากอ่างอาบน้ำเอนตัวมาพิงหน้าอกเขาไว้ ฝ่ามือร้อนก็คอยลูบผิวเนียนใต้น้ำไปมา


“ฉันชอบเวลาที่ได้อยู่กับเธอนะ มองเธอทำนู่นทำนี่อยู่ในสายตาแล้วค่อยรู้สึกหายเครียดหน่อย”


“งานหนักมากเลยเหรอครับ”


“ช่วงนี้เริ่มโปรเจคใหม่หลายอย่าง ประชุมบ่อย นัดลูกค้าก็บ่อย มีแต่เรื่องให้ตามแก้ไม่หยุด”


“บางวันคุณไม่กลับมานอนที่ห้องด้วยซ้ำ ได้กลับบ้านหรือเปล่าครับ”


“ไม่เลย ถ้าไม่กลับมาที่นี่คือฉันนอนที่ห้องทำงาน บางคืนแทบไม่ได้นอน”


“คุณบอกอยากให้ผมช่วยงาน แล้วช่วงนี้ผมช่วยอะไรคุณได้บ้างหรือเปล่า”


“ดูแลที่นี่ให้ฉันก็พอ...”


“ครับ”


“แล้วช่วงนี้เธอเรียนหนักหรือเปล่า ใกล้จบแล้วน่าจะงานเยอะ”


“ก็มีบ้างครับ แต่ไม่น่ามีปัญหาอะไร”


“แล้วเรื่องฝึกงานล่ะ”


“อาทิตย์หน้าก็ไปเอาเอาสารที่มหาวิทยาลัยเพื่อส่งให้กับแหล่งฝึกแล้วล่ะครับ”


“งั้นเอามาที่นี่ เดี๋ยวฉันเซ็นให้เอง”


“ครับ”


“แล้วช่วงนี้ตาธียังมาวุ่นวายกับเธอหรือเปล่า”


“คุณรู้...”


“ฉันรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับที่นี่ ยิ่งถ้ามันเกี่ยวกับเธอ”


“.....”


รวมถึงเรื่องคืนนั้นด้วยหรือเปล่า?
ไม่รู้ทำไม ที่จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองสกปรกขึ้นมา สกปรกจนไม่กล้าสู้หน้า ไม่กล้าคิดว่ายังควรรักคนคนนี้ต่อไปได้ไหม



ราวกับจะรู้ว่าคนตัวเล็กเงียบไปเพราะอะไร คนอายุมากกว่าเลยยกมือขึ้นประคองข้างแก้ม บังคับอย่างอ่อนโยนให้หันมาสบตากัน


“อย่ากังวลเลยปูรณ์ ฉันอยู่กับเธอฉันก็คิดแค่ว่านี่คือเธอ ไม่มีอดีต ไม่มีเรื่องราวภายนอก ไม่มีใครนอกจากเราสองคนเท่านั้น”


“.....”


“นอกจากเรื่องที่ฉันตอบแทนให้เธอไม่ได้ ฉันเองก็อยากเป็นความสบายใจให้เธอเหมือนอย่างที่เธอเป็น”


ริมฝีปากบางก้มกดลงบนหน้าผากเนียน บางเบาทว่าอบอุ่น


จะเป็นไปได้ไหม
ที่ตัวเขาจะสะอาดขึ้นได้บ้าง เพียงเพราะได้อยู่ในอ้อมกอดของคนคนนี้



“ไปแต่งตัวกันดีกว่า ฉันสั่งอาหารไว้แล้วเดี๋ยวแม่บ้านคงยกมาเสิร์ฟ”


“ครับ”





พ้นอาหารมื้อเย็นเกือบดึกไปได้เพียงไม่นาน เจ้าของห้องก็หายเข้าไปในห้องทำงานเพราะมีงานค้างไว้ที่ต้องทำให้เสร็จ คนมาอยู่ด้วยที่วันนี้เคลียร์งานของตัวเองทั้งหมดจนเสร็จสิ้นแล้วจึงเดินมานั่งดูโทรทัศน์ที่ห้องรับแขก คงเพราะเพิ่งอิ่มไม่นาน จึงคิดว่ายังไม่ควรเข้านอนในเวลานี้


...แต่ลึกๆ ก็แค่อยากรอเข้านอนพร้อมกัน


เสียงออดหน้าห้องที่ดังแทรกท่ามกลางเสียงการ์ตูนเรื่องดังที่เปิดทิ้งไว้ทำให้ดวงตาเรียวที่จ้องแป๋วอยู่หน้าจอมาเกือบครึ่งชั่วโมงต้องละสายตาหันไปมอง คิ้วได้รูปขมวดมุ่นเพราะไม่คิดว่าเวลาสี่ทุ่มครึ่งแบบนี้จะมีใครมากดออดเรียกเจ้าของที่พัก


“คุณธี” เอ่ยเรียกชื่อร่างสูงที่อยู่ในชุดนอนสีเข้มเรียบร้อย ทรงผมยุ่งเหยิงแต่ยังเปียกชื้นนั่นฟ้องว่าเจ้าตัวน่าจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ


“ฉันหิวข้าว”


“อะไรนะครับ”


“ฉันหิว เลยโทรหาอาฐา อาบอกว่าให้มาทานที่นี่”


“เอ่อ...”


“ฉันเข้าไปได้หรือเปล่า”


“ขอโทษครับ” คนที่ยืนขวางอยู่หน้าประตูว่าพลางก้าวเท้าหลบ รอจนอีกฝ่ายเข้ามาในห้องแล้วเดินไปทางครัวถึงปิดประตูแล้วเดินตาม


“มีอาหารที่สั่งจากข้างล่างไว้ตอนเย็นคุณธีทานได้ไหมครับ หรือจะให้ผมโทรสั่งให้ใหม่”


“แค่อุ่นที่มีอยู่ก็พอ ฉันรอไม่ไหวแน่ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เช้า”


“ทานข้าวไม่เป็นเวลาแบบนี้ระวังเป็นโรคกระเพาะนะครับ”


“เตือนเฉยๆ หรือเพราะเป็นห่วง”


“ทั้งสองอย่างครับ”


“.....”


“อย่างน้อยคุณก็บอกว่าเราเป็นเพื่อนกัน”


รอยยิ้มบางที่มีมาแต่แรกหุบลงแทบจะทันทีที่ได้ยินคำอธิบายนั้น ดวงตาคมเลยเสกวาดมองรอบๆ แทนระหว่างรอเจ้าของสถานที่อุ่นอาหารให้


“ฉันได้กลิ่นเนย”


“ผมเพิ่งทำคุกกี้เนยครับ ถ้าคุณธีทานข้าวเสร็จเดี๋ยวผมแบ่งให้ไปไว้ที่ห้อง”


“ไม่ต้องหรอก”


“ไม่ชอบเหรอครับ”


“ชอบ แต่เดี๋ยวจะมาทานที่นี่เอง”


หลานชายเจ้าของพูดแบบนั้นแล้วปูรณ์จะทำอะไรได้ จึงหันไปสนใจกับกับข้าวที่อุ่นเรียบร้อยแล้วทั้งสามอย่าง แล้วยกมาวางบนโต๊ะทานข้าว ตักข้าวรวมถึงรินน้ำใส่แก้วจนเสร็จสรรพก็ไม่เห็นว่าคนบ่นหิวที่นั่งรอมาแต่แรกจะเริ่มทานสักที


“ไม่ทานเหรอครับ”


“ฉันไม่เคยทานข้าวคนเดียว”


“หืม?”


“ฉันไม่เคยทานข้าวคนเดียว”


คนที่ถือช้อนส้อมรอย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง


“แต่ผมอิ่มแล้ว”


“มานั่งด้วยกันก็พอ”


“เอ่อ...”


“อาฉันรู้อยู่แล้วว่าถ้าให้ฉันมานั่งทานข้าวที่นี่เธอก็ต้องนั่งเป็นเพื่อน นิสัยเสียข้อนี้ของฉันที่บ้านรู้หมดแหละ”


“ก็ได้ครับ”


ร่างเพรียวที่อยู่ในชุดนอนคล้ายๆ กันจำต้องยอมหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้าม นั่งมองไปสักพักก็อดไม่ได้ต้องถามขึ้นมา


“คุณธีไม่ทานปลาเหรอครับ”


ก็แกงส้มถ้วยนั้นถูกตักชิมแค่น้ำสองสามคำเท่านั้น


“ปกติอยู่บ้านแม่จะแกะให้”


...นี่ถูกเลี้ยงดูมาดีแค่ไหนกันนะ


แม้จะแอบคิดแบบนั้นในใจ แต่ก็ยอมลุกไปหยิบจานและช้อนส้อมอีกชุดก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม ลงมือตักเนื้อปลาสีขาวน่าทานชิ้นโตมาวางไว้บนจานของตัวเอง ก่อนจะค่อยๆ แกะเนื้อปลาและแยกก้างให้อย่างเรียบร้อย แล้วนำปลาไปวางลงบนจานที่ยังมีข้าวเหลืออยู่เกินครึ่ง


“ขอบคุณครับ” ธนาดลก้มมองเนื้อปลาบนจานข้าว แอบอมยิ้มกับตัวเองก่อนจะตักทั้งข้าวทั้งปลาเข้าปาก และพอหมดคำรอยยิ้มก็ยิ่งกว้างเดิมเมื่อผักสีเขียวถูกวางลงบนจานแทนที่ สุดท้ายมื้อนั้น คนที่อุ่นอาหารให้ก็กลายเป็นคนตักกับข้าวใส่จานให้ด้วยจนเขาอิ่ม แม้จะแทบไม่ได้พูดคุยอะไรกันแต่ธนาดลก็รู้ดีว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาค่อยๆ ลดลงแล้วตอนนั้นนั่นเอง


“พรุ่งนี้ไปมหาลัยหรือเปล่า”


“ไม่ไปครับ ไปอีกทีอาทิตย์หน้าเลย”


“อ๋อ ..อืม”


“คุณธีมีอะไรหรือเปล่าครับ”


“ก็...”


“ธี” ยังไม่ทันได้เอ่ยถึงสิ่งที่สงสัย เสียงเรียกชื่อจากเจ้าของห้องตัวจริงก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน


“ครับอา” คนเป็นหลานตอบรับแล้วลุกขึ้นยืน อดขมวดคิ้วไม่ได้เมื่อผู้เป็นอาเดินมาวางมือลงบนไหล่บางของคนนั่งตรงข้ามถึงโต๊ะอาหาร ปลายนิ้วมือเกลี่ยรอยช้ำเล็กๆ ตรงต้นคอที่เขาไม่พอใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ประตูห้องเปิดออกและเขาได้เห็น


“อิ่มหรือยัง รีบไปไหนต่อไหม อามีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย”


“ได้ครับ”


“ตามมาสิ”


ร่างสูงของสองอาหลานเดินตามกันเข้าไปในห้องทำงาน ทิ้งสายตาสงสัยไว้ให้กับคนที่นั่งเพียงลำพัง










“เรื่องฝึกงานของธี อาอยากให้ธีเข้าไปฝึกที่สำนักงานใหญ่”


“กับพ่อเหรอครับ ไหนตอนแรกอาบอกว่าจะผมอยู่สาขากับอา”


“อาอาจจะไม่มีเวลา ตอนนี้ที่สาขามีโปรเจคใหญ่ที่อาต้องรับผิดชอบ แล้วอีกอย่างคืออาขอปูรณ์ไปฝึกด้วยแล้ว เลยคิดว่าให้ธีไปเรียนรู้งานหลักๆ เลยน่าจะดีกว่า”


“เหตุผลสำคัญคือปูรณ์หรืองานครับ”


“เเล้วธีต้องการคำตอบแบบไหนจากอา”


ดวงตาคมสองคู่มองสบกันเนิ่นนานในบรรยากาศกดดันที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก่อนคนอ่อนวัยกว่าจะยอมหลบสายตาก่อน


“ก็อาฐาไม่เคยขัดใจผมเลยตั้งแต่เด็กจนโต แต่นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่อาขัดผมเรื่องปูรณ์ ผมถามได้ไหมครับว่าสำหรับอาแล้วปูรณ์เป็นใครกันแน่”


“ถ้าอาตอบว่าเด็กอา?”


“จริงจังไหมล่ะครับ ถ้าจริงจังผมจะไม่ยุ่ง แต่ถ้าไม่ผมขอ”



เสียงทุ้มเอ่ยจริงจังตามคำพูดที่ออกจากปาก ดวงตาคมสบกลับไปใหม่และไม่ยอมหลบเหมือนครั้งก่อนหน้า


“ก่อนจะขออา ธีถามตัวเองก่อนเถอะว่ารู้สึกแบบไหนกันแน่ ปูรณ์ทำงานกับอามาจะสามปี และธีไม่ใช่คนแรกที่มาขออาแบบนี้ เด็กนั่นทำให้คนหลงได้ก็จริงแต่หลงเพราะรูปหรือเพราะรักไม่เคยมีใครกล้าตอบอาจริงๆ สักคน”


“.....”


“แต่คำตอบที่ไม่มีใครกล้าตอบ อาตอบตัวเองได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ตั้งคำถาม และมันไม่ใช่เพราะเหตุผลแรกแน่นอน อามองปูรณ์เป็นแบบที่เจ้าตัวเป็น มองข้ามเปลือกที่ป้องกันตัวเองของเด็กคนนั้น มองจนรู้ว่าลึกๆ แล้วเด็กคนนั้นกำลังต้องการอะไร”


“.....”


“และที่สำคัญที่สุดเลยนะธี ธีรู้อยู่เต็มอกว่าปูรณ์ทำงานอะไร การจะเป็นเอสคอร์ทอันดับหนึ่งของที่นี่ได้ต้องผ่านอะไร หรือใครมาบ้าง ธีรับได้ไหม? จะยอมจริงจังกับคนที่แม้ตัวเจ้าตัวเองยังรู้สึกว่าตัวเองสกปรกได้จริงหรือเปล่า”


“.....”


“ตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเองให้ได้ แล้วค่อยมาขอคำตอบจากอา ว่าอาจะยกปูรณ์ให้ธีได้ไหม”


“.....”


“แต่จนกว่าจะถึงวันนั้น ปูรณ์ก็คือเด็กของอา”


“.....”


“และอาหวังว่าธีจะไม่ยุ่งกับปูรณ์เกินเลยแบบคืนนั้นที่ธีเมาอีก เพราะตอนนี้จนกว่าจะถึงวันที่เจ้าตัวเรียนจบ อาสั่งปูรณ์ให้งดรับงานในฐานะเอสคอร์ทไปแล้ว”




















..TBC..














>> เริ่มเลือกได้เลยค่ะ ทีมใครดี ><









หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 5 ▼▼ UP!! 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 16-12-2017 20:01:25
ทำไมเกิดความลังเล ไม่เลือกทีมได้ไหมคะ เอาสองคนเลย คุณฐาก็ดีต่อใจจจจจ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 5 ▼▼ UP!! 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 16-12-2017 23:21:08
แล้วชั้นเลือกอะไรได้มั้ย ฮืออออออออ
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 5 ▼▼ UP!! 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: prmino ที่ 16-12-2017 23:38:07
โอ้ยยยยยยยยยยยยเลือกไม่ถูกเรยยยยยยยย ลังเลมากค่าาาา คุณฐาตอนนี้คือพระเอกสุดๆๆ ธีเด็กน้อยไปเลยแงงงงง ยังไงก็แล้วแต่สนุกมากค่ารอนะคะ
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 5 ▼▼ UP!! 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: benceii ที่ 17-12-2017 00:51:27
ไม่เลือกได้มั้ยคะ ไม่อยากเลือกเลยจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 5 ▼▼ UP!! 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: PaePT ที่ 17-12-2017 01:26:03
งงกับอีตาอาฐา เป็นห่วงเป็นใยไม่ให้รับงาน แถมใส่ใจรับรู้ความรู้สึกทุกอย่าง แต่บอกว่ารักไม่ได้ให้หัวใจไม่ได้ เพราะเป็นน้องของคนรักมาก ... แต่ก็งงอีกว่า เป็นน้องของคนรักที่ตัวเองรักมาก แต่ก็ให้ขายตัว แบะมีอะไรด้วย ??? เฮ้ยยยยย คือยังไงงงมาก

ทีมธีร์
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 5 ▼▼ UP!! 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: masochism2018 ที่ 17-12-2017 01:42:12
 อะไรของคุณฐาาา  :hao4:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 5 ▼▼ UP!! 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: lolli_candy99 ที่ 17-12-2017 02:01:10
ยังยืนยัน ว่าทีมคุณธีค่ะ คุณธีมีความละมุนน เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะะะะ สู้ๆค่ะ #ทีมรออ่าน  o13
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 5 ▼▼ UP!! 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: pinknocchio ที่ 17-12-2017 05:55:54
ลำไยคุณฐา ดูมีความย้อนแย้งในตัวเองสูง มันน่า
 :z6: :z6: :z6:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 5 ▼▼ UP!! 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 17-12-2017 06:40:23
 :pig4:
หัวข้อ: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 6 ▼▼ UP!! 22/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: Toffeenut ที่ 22-12-2017 22:35:37
▲▲As an escort
#เพื่อนนอนตอนที่ 6













“จริงๆ คุณธีไม่น่าลำบากเลย”


หลังขึ้นมานั่งบนที่นั่งข้างคนขับเรียบร้อย ปูรณ์ที่วันนี้อยู่ในชุดนักศึกษามีป้ายคล้องคอบ่งบอกตำแหน่งนักศึกษาฝึกงานก็เอ่ยกับเจ้าของรถคันหรูที่โน้มตัวมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้เขาเหมือนทุกๆ วันที่ผ่านมาตลอดตั้งแต่เขาเริ่มฝึกงานที่บริษัทสาขาแห่งนี้ 


...และมันก็เป็นเวลาเกือบสามเดือนแล้ว


“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ลำบาก”


สรรพนามแทนตัวนี่เจ้าตัวก็เปลี่ยนเอง บอกว่าแบบนี้ดูดีกว่าเดิม แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนักแต่คนที่ต้องมานั่งตุ๊กตาหน้ารถหลายเดือนก็เหนื่อยจะขัดใจ


เพราะเชื่อเถอะว่าเขาขัดมาไม่รู้กี่สิบรอบ แต่ลองคุณธนาดลบอกว่าจะทำ นั่นก็แปลว่าใครก็เปลี่ยนใจเจ้าตัวไม่ได้


และเรื่องนี้ก็เหมือนกัน


“จะจีบผมเหรอครับ?”


“คุณถามคำถามนี้มาสามรอบแล้ว”


“ผมแค่...”


“ผมก็ตอบเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม นี่ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมคุณถึงไม่ยอมเชื่อสักทีว่าผมจริงจังกับคุณจริงๆ”


“ก็มันเชื่อยากไม่ใช่เหรอครับ ตอนแรกคุณก็บอกว่าเป็นเพื่อน”


“แล้วเพื่อนที่ไหนมาคอยตามรับตามส่งกันทุกวันขนาดนี้”


“คุณธีคิดดีแล้วเหรอครับ”


“ถ้าถามคำถามประมาณนี้อีกผมจะโกรธจริงๆ ละนะ เพราะผมจะถือว่าคุณกำลังดูถูกความรู้สึกของผม”


“คุณธีก็รู้ว่าผมไม่ได้หมายความแบบนั้น”


“ผมรู้ และผมก็คิดมาดีแล้ว เอาล่ะปูรณ์ ผมไม่อยากให้คุณดูถูกความรู้สึกของผมก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะดูถูกตัวเองได้ คุณก็คือคุณที่นั่งข้างผมในรถตอนนี้ และผมก็กำลังจีบผู้ชายคนนี้นี่แหละ ผมไม่สนหรอกนะว่าที่ผ่านมามันจะเป็นยังไง คุณอาจจะลืมไม่ได้ แต่ผมก็ไม่เคยอยากจำอะไรแบบนั้น”


“.....”


“ผมก็ไม่ได้จะเร่งรัดคุณหรอกนะ ไม่ต้องตอบรับความรู้สึกผมตอนนี้ก็ได้ แต่เปิดใจให้ผมเถอะ เกราะความเป็นเพื่อนของคุณมันทำอะไรผมไม่ได้หรอก หน้าด้านหน้าทนมาขนาดนี้แล้ว”


“ครับ”


“ครับนี่คืออะไร ครับประโยคไหน?”


“ครับว่ารับรู้ที่คุณบอกน่ะครับ ไม่ได้ครับว่าตอบรับประโยคไหน”


“ใจแข็งชะมัด” คนที่กำลังขับรถบ่นอุบอิบ เรียกเสียงหัวเราะแผ่วจางจากคนตัวขาวที่นั่งข้างๆ


...แต่ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว





“กินเยอะๆ” เสียงทุ้มจากคนนั่งตรงข้ามมาพร้อมกับกุ้งตัวโตที่แกะเรียบร้อยวางลงบนจานกระเบื้องสีขาว ก่อนมือข้างเดอมจะตักน้ำจิ้มรสเด็ดราดลงบนตัวกุ้ง กิริยาเหล่านั้นทำให้เจ้าของจานต้องเอ่ยเตือนยิ้มๆ


“คุณธีไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้”


“เต็มใจน่า”


“ขอบคุณนะครับ” แทนคำขอบคุณ เนื้อปลาที่เอาก้างออกเรียบร้อยก็วางตามมาบนจาน “จริงๆ แล้วคุณธีชอบทานปลาใช่ไหมครับ ไปทานข้าวด้วยกันทีไรคุณก็สั่งเมนูปลาทุกที แต่ก็ไม่เคยยอมเอาก้างออกเองเลยสักครั้ง”


“ต้องการคำตอบดูดีหรือจากใจ”


“มันต่างกันเหรอครับ”


“ถ้าดูดีก็จะตอบว่าชอบ แต่ถ้าจากใจจริงก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้น แต่ทานได้ ที่ชอบมากกว่าปลาคือคนที่คอยเขี่ยก้างปลาออกให้ต่างหาก”


“จำเป็นต้องหยอดกันตลอดเวลาเลยเหรอครับ” แม้จะถามแบบนั้นแต่แก้มเนียนก็ซับสีเรื่อชวนมอง จนอดไม่ได้ต้องยิ้มออกมา


“ยังจีบไม่ติดเลย เลิกหยอดแล้วเมื่อไหร่จะติดล่ะ”


“ไม่ใช่เด็กมัธยมสักหน่อยที่จะต้องกุ๊กกิ๊กกันตลอดเวลา”


“แล้วใครออกกฎห้ามเด็กมหาลัยกุ๊กกิ๊ก? ไม่เคยได้ยินเหรอ คนมีความรักมักจะดูเด็กลงไปนิดหนึ่ง”


“ขอบคุณนะครับที่พูดเฉยๆ โดยไม่ใส่ทำนองไปด้วย”


“อยากฟังไหม ผมร้องเพลงนี้ได้นะ”


“ไม่ล่ะครับ คุณธีทานข้าวเยอะๆ ดีกว่า”


“จะบอกว่าไม่ต้องพูดมากก็พูดออกมาตรงๆ เถอะน่า” ดวงตาสีชาคู่นั้นวิบวับบ่งบอกว่าเจ้าตัวอารมณ์ดีอย่างที่เห็นจริงๆ และปูรณ์ก็ไม่ได้อยากขัดอะไรอีก สองคนจึงทานมื้อเย็นต่อด้วยกันเงียบๆ เหมือนวันที่ผ่านๆ มา จนเริ่มอิ่มคนตัวเล็กกว่าจึงเอ่ยชวนคุยอีกครั้ง


“วันนี้คุณธีกลับบ้านหรือเปล่าครับ”


“คิดว่าคงไม่กลับ ผมมีงานที่ทำค้างไว้ที่ห้อง อีกอย่างที่คลับก็ใกล้สำนักงานใหญ่มากกว่าด้วย พรุ่งนี้เริ่มงานเช้า จะได้สะดวก”


“ถ้าคุณธีเริ่มงานเช้าผมไปเองได้นะครับ”


“ไปด้วยกันเหมือนเดิมนี่แหละ ผมรับปากอาไว้ว่าจะคอยขับรถรับส่งคุณผมก็ต้องทำให้ได้ตามที่พูด”


และไม่ใช่แค่เรื่องรถ แต่เรื่องอื่นๆ ที่เคยได้รับปาก ธนาดลก็มั่นใจว่าเขาจะต้องทำมันได้





‘อาฐาครับ คำถามที่อาเคยถามผมไว้ ถ้าผมมั่นใจในคำตอบของตัวเองแล้ว อาจะเลิกขัดขวางผมหรือเปล่าครับ?’


‘ถ้าธีมั่นใจ อาจะแค่คอยดู’


‘ผมอยากให้อามั่นใจในตัวผมด้วย’


‘เวลาจะช่วยพิสูจน์คำพูดของธีเอง จำคำที่อาเคยบอกไว้ ปูรณ์ไม่ใช่คนที่ธีจะมาล้อเล่นด้วยได้ ถ้าธีจะเดินหน้าต่อ ธีต้องรับผิดชอบทุกอย่างให้ดี ทั้งความรู้สึกของธีรวมถึงความรู้สึกของปูรณ์’


‘…..’


‘ที่สำคัญนะธี ถ้าเราอยากดูแลรับผิดชอบชีวิตใครสักคน มันหมายถึงการที่เรายอมรับทุกอย่างในชีวิตของเขาเอาไว้ ไม่ใช่วันนี้รัก พรุ่งนี้หันหลังให้ ความรู้สึกไม่ว่าจะของใครก็ตามไม่ควรถูกเอามาล้อเล่น และการเดินเข้าไปในชีวิตปูรณ์ธีอาจจะได้รับรู้เรื่องราวหลายอย่าง บางอย่างอาจจะต่างจากที่ธีเคยรู้ บางอย่างอาจจะไม่ใช้สิ่งที่ธีเห็น เวลาจะค่อยๆ บอกธีด้วยตัวของมันเอง และอาหวังว่าจนถึงวันนั้นธีก็จะยังยืนยันความรู้สึกของตัวเองแบบวันนี้’





แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ถ้าลองได้เรียนรู้แล้วเขาก็ไม่อยากยอมแพ้มันง่ายๆ เพราะยิ่งนับวันที่ได้ใกล้ชิดกัน ดวงตาเรียวคู่นั้นก็ราวจะดึงดูดเขาให้ยิ่งอยากเข้าไปใกล้ ไปค้นหาความหมายที่ลูกแก้วสีน้ำตาลอ่อนใสนั้นซ่อนอยู่


“แล้วปูรณ์ล่ะเป็นไงบ้าง ฝึกงานดีไหม อาผมใช้งานอะไรคุณหนักหรือเปล่า?”


“ถามเหมือนเป็นผู้ปกครองเลยครับ” เอ่ยเย้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะตอบออกมา “ก็เรื่อยๆ มากกว่าครับ ปกติผมเคยช่วยคุณฐาทำงานมาบ้างแล้ว พอจะเข้าใจระบบบ้าง แต่นี่มาดูที่สเกลมันใหญ่ขึ้นก็ยากขึ้นเป็นธรรมดา ผมเลยต้องพยายามหน่อย ไม่งั้นอาคุณก็จะทำงานหนักมากคนเดียว ผมไม่ค่อยอยากเห็นภาพนั้นเท่าไหร่”


“รู้สึกแปลกๆ ที่ได้ยินแบบนี้แฮะ”


“คุณธี...”


“ตอนแรกๆ ที่ผมมายุ่งกับคุณ คุณรู้ไหม อาผมห้ามผมไว้ตั้งสองครั้งทั้งที่เขาไม่เคยขัดใจอะไรผมเลยตั้งแต่เล็กจนโต”


“คุณอาคุณก็แค่เป็นห่วงคุณ การมายุ่งกับผมไม่ใช่เรื่องดีนักหรอกครับ”


“ผมว่าเขาห่วงคุณมากกว่า”


“.....”


“หรือบางทีอาจจะหวงคุณด้วยซ้ำ”


...แต่ตอนนี้ธนาดลก็เข้าใกล้ปูรณ์ได้ตั้งเท่านี้ไม่ใช่หรือ?


“ผมยอมรับว่าผมแอบหงุดหงิดทุกครั้งที่รู้ว่าคุณนอนห้องไหน ทั้งที่พยายามจะไม่คิดอะไรแต่คุณเข้าใจผมใช่ไหมว่ามันยากที่จะสลัดภาพเวลาคุณเดินเข้าห้อง แล้วอาผมออกมารับ หลังจากนั้นพวกคุณก็อยู่หลังบานประตูนั้นด้วยกันโดยที่ผมถูกกันอยู่ข้างนอก มันหงุดหงิด และยิ่งหงุดหงิดไปอีกเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเลย ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดแบบนั้นด้วยซ้ำ”


“ผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้ยังไง แต่คุณธีครับ คุณอาของคุณเป็นผู้มีพระคุณ เป็นคนที่ต่อให้ผมใช้ทั้งชีวิตตอบแทนก็ไม่อาจทดแทนอะไรได้ มันเป็นแบบนั้นมาตลอด และอาจจะเป็นแบบนั้นต่อไป” ...เรื่อยๆ ทั้งชีวิต


สิ่งที่ร่างบางคิดแต่ไม่ได้พูดออกไปคือ เพราะเขาให้ฐานัฐไปหมดแล้วทุกอย่าง ชีวิต ร่างกาย หัวใจ ..ให้ไปเท่าที่ว่าใครคนหนึ่งจะมอบสิ่งมีค่าในตัวเองให้ใครอีกคนได้ เขาเคยคิดว่าให้ไปจนหมดแล้วและมันจะไม่มีพื้นที่หรือความรู้สึกใดให้ใครอีกแล้ว จนกระทั่งวันที่ธนาดลเดินเข้ามา


เวลาสามเดือนที่ค่อยๆ เปลี่ยนทุกอย่างไป


ความรู้สึกหนึ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางความรู้สึกทั้งหมดของตัวเองที่เขาไม่ได้เป็นเจ้าของ คือการเปิดใจ ให้ใครคนหนึ่งมีพื้นที่มากขึ้นในชีวิต มีความสำคัญมากขึ้นให้นึกถึง แม้ในวันนี้มันไม่สามารถเรียกได้ว่ารักหรือแม้แต่ชอบ ระยะเวลาสามเดือนยังเทียบกับสามปีที่เขาฝังใจไม่ได้ก็จริง แต่ความรู้สึกหนึ่งที่ต่างกันระหว่างผู้ชายสองคนนี้ในชีวิตเขาคือ ผู้ชายคนหนึ่งคือคนที่เขาคิดว่ารัก รักทั้งๆ ที่ได้ยินคำย้ำบอกตลอดว่าไม่มีวันจะรักกันได้ แต่ผู้ชายคนนั้นคือคนให้ชีวิต คือคนที่คอยกอบกุมหัวใจที่เคยแหลกละเอียดและไม่เคยมีใครดวงนั้น เขาถึงวางใจวางทุกอย่างลงไปบนมือคู่นั้น แม้สิ่งที่ได้ตอบมาไม่ใช่รัก แต่ความหวังดี ความปรารถนาที่จะเห็นเขามีความสุข พบเจอสิ่งที่ดีๆ นั่นคือความจริงที่ฐานัฐมอบให้เขาตลอดมา และปฏิเสธไม่ได้ว่า มันเป็นสายใยที่ถักทอผ่านวันเวลาได้อย่างหนักแน่นและมั่นคง แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันก็ไม่ใช่ความรัก ความรักที่เป็นของเขา ความรักที่เขาต้องการ


แต่ธนาดลก็เดินเข้ามาเพื่อหยิบยื่นมันให้ และรอเวลาเพื่อให้เขาเปิดใจรับความรักนั้นเข้ามา



“ปูรณ์ ถ้าผมมีเรื่องจะขอร้องคุณ คุณอย่าเพิ่งโกรธผมนะ”


“คุณธีอยากขอร้องอะไรครับ”


“เลิกรับงานได้ไหม”


“ผมเลิกรับงานตั้งแต่ย้ายขึ้นไปอยู่ห้องอาคุณแล้วครับ ที่เห็นลงมาข้างล่างบ้างคือมาตรวจดูความเรียบร้อยมากกว่า”


“ไม่ใช่แบบนั้น”


“แล้วคุณธีหมายถึง?”


“หมายถึงกับอาฐาด้วย”


...ไม่นอนกับอาเขาแล้วได้ไหม


“มันอาจจะเห็นแก่ตัวแต่ว่า...”


“ผมจะพยายามครับ”


“อาบังคับคุณเหรอ?” เพราะคำตอบนั้นทำให้อดไม่ได้ที่จะถามออกไป


“เปล่าครับ แต่มันก็มีบางอย่างที่ผมยังไม่พร้อมจะอธิบายตอนนี้”



เพราะหลังกำแพงที่กันคนนอกรวมถึงเขาออกมานั้น ไม่ได้มีแค่ปูรณ์อยู่ที่นั่นคนเดียว
แต่หลังกำแพงนั้นยังมีผู้ชายอีกคน


ผู้ชายที่แม้เขาจะไม่รู้ว่าอยู่ในฐานะไหน แต่ก็สำคัญกับหัวใจดวงที่เขาอยากได้ไม่น้อย



“แต่ผมเองก็กำลังพยายามอยู่นะครับคุณธี”


ทั้งการเลิกรักใครบางคน... และการเปิดใจมองความรักที่มีใครอีกคนมอบให้มา










เพราะวันนี้เป็นวันหยุด การได้ตื่นนอนตอนแปดโมงเช้าเพื่อมาเจอกลิ่นหอมของกาแฟและอาหารที่ลอดมาจากห้องครัวที่มีร่างๆ หนึ่งในชุดผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงินเข้มเดินวนไปมาช่างให้ความรู้สึกดีจนทำให้เช้าวันหยุดแบบนี้เริ่มด้วยรอยยิ้มของคนที่แทบไม่ได้ยิ้มมาตลอดเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา


“อ้าว ตื่นแล้วเหรอครับคุณฐา อรุณสวัสดิ์ครับ”


“อรุณสวัสดิ์เด็กดี” คำทักทายยามเช้าเริ่มต้นที่น้ำเสียงหวานหูและจบลงที่รอยจูบบนหน้าผากเนียน “ฉันควรดีใจสินะที่การส่งเธอไปเรียนอาหารตอนนั้น จะทำให้ห้องหอมฟุ้งแบบนี้”


“ผมทำคุณฐาตื่นหรือเปล่าครับ?”


“ไม่หรอก ได้นอนแค่นี้ก็ดีแล้ว”


“แล้ววันนี้ต้องออกต่างจังหวัดเหมือนอาทิตย์ที่แล้วไหมครับ”


“ไม่แล้วล่ะ เสาร์อาทิตย์นี้พักผ่อน”


“ดีเลยครับ” รอยยิ้มแต้มเต็มริมฝีปากอิ่ม โชว์รอยลักยิ้มข้างแก้มซ้ายที่นานๆ ทีเจ้าตัวจะยิ้มเต็มแก้มให้ได้เห็นแบบนี้ “เช้านี้มีแพนเค้ก แต่คุณฐาไม่ชอบน้ำผึ้งผมเลยเตรียมวานิลลาไซรัปไม่ค่อยหวานไว้ให้แทน แล้วก็พวกเบค่อน ไส้กรอก ไข่ดาวอะไรแบบนี้นะครับ อยู่ในตู้เย็นหลายวันแล้ว คุณไม่อยู่ทานผมเลยไม่กล้าทำอะไรเลย”


“ฉันได้กลิ่นกาแฟ” มือเรียวยกขึ้นเกลี่ยปอยผมที่เริ่มยาวปรกหน้าผาก เห็นรอยฝุ่นแป้งที่ติดบริเวณคิ้วและสันจมูกก็ช่วยเกลี่ยออกให้อย่างเบามือ


“ผมได้เมล็ดกาแฟมาใหม่ อยากให้คุณฐาลองดู หอมใช้ได้เลยครับ”


“หืม? เธอสนใจเรื่องกาแฟด้วยเหรอ”


“ได้คุยกับวินน่ะครับ น้องเลยสอนมาบ้าง”


“บาร์เทนเดอร์จะลาออกไปเป็นบาริสต้าหรือเปล่าทีนี้”


“ไม่หรอกครับ แต่ผมก็เคยแซวน้องแบบนี้เหมือนกัน วินชงกาแฟได้อร่อยพอๆ กับเหล้านั่นแหละ”


“วินเป็นเด็กขยัน ถ้าเรียนจบแล้วอยากเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเองฉันก็คิดว่าจะออกทุนให้”


“น้องคงดีใจ แต่วินคงไม่ไปไหนหรอกครับ ระหว่างร้านกาแฟกับคุณฐา วินก็คงอยากทำงานช่วยที่นี่มากกว่า”


“ถ้าโอกาสฉันก็อยากให้ทุกคนมีเส้นทางเดินของตัวเอง”


“บางคนเขาอาจจะอยากเดินทางนี้ก็ได้นี่ครับ เพราะมันปลอดภัย”


“บางทีนะปูรณ์ ฉันก็เคยคิดว่าถ้าฉันปิดที่นี่ เด็กๆ เหล่านั้นอาจจะได้เดินตามทางที่ตัวเองเลือก ฉันคงสนับสนุนทุกคนในทางที่พวกเขาต้องการ”


เพราะส่วนมากแล้ว หลายๆ คนที่ทำงานที่นี่ล้วนมาจากมูลนิธิ มาจากโอกาสที่คุณฐาหยิบยื่นให้


“รวมถึงเธอด้วยเหมือนกัน”


“ผมเคยพูดไปแล้วว่าผมจะไม่ไปไหน”


“.....”


“และนั่นคือสิ่งที่ผมจะไม่เปลี่ยนใจไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามครับ”


“เธอรู้ไหม ปัจจัยอะไรที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เราเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนการกระทำ”


“.....?” ดวงตาเรียวฉายความสงสัยทดแทนคำพูดที่ไม่ได้เอ่ยถามออกมา


“ความรักไงล่ะ ความรักสอนให้เรารู้จักปรับตัวเพื่อมัน บางครั้งก็เป็นไปในทิศทางที่ดี บางครั้งก็ตรงข้าม คนเราสูญเสียตัวตนของตัวเองเพราะความรักมานักต่อนักแล้ว ในขณะเดียวกันบางคนก็ค้นพบตัวเองเพราะความรักด้วยเหมือนกัน”


“.....”


“ฉันไม่เคยเห็นเธอยิ้มเต็มแก้มแบบนี้มานานแล้ว” มือข้างหนึ่งเกลี่ยรอยลักยิ้มที่อวดสายตาเมื่อสักครู่ “เธอรู้ใช่ไหมว่าถ้าเธอมีความสุขได้ทั้งหมดใจ ฉันจะยินดีด้วยมากที่สุด เพราะฉันไม่อาจให้ความสุขแบบที่เธอต้องการได้ ถ้าเธอพร้อมจะรับมันจากใครสักคน ฉันก็คาดหวังให้มันดีสำหรับเธอ”
   

“เพราะคุณฐาไม่อยากอยู่กับผมแล้วใช่ไหมครับ” น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงจากตาคู่สวย และทันทีที่เจ้าของมันปิดเปลือกตาซ่อนร่องรอยอ่อนไหวเจือรอยเศร้า คนอายุมากกว่าก็ดึงเข้ามากอดทันที

   
“ทำไมถึงตีความไปได้แบบนั้น หืม”
   

“ผม...”
   

“จำวันแรกที่ฉันชวนเธอมาอยู่ด้วยกันได้ไหม ฉันบอกเธอว่าขอชีวิตเธอให้ฉันดูแล จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังยืนยันคำเดิม แต่ถ้าวันหนึ่งมีใครดูแลเธอได้ดีกว่า ให้เธอได้มากกว่าและสิ่งนั้นคือสิ่งที่เธอต้องการ ฉันก็จะไม่ห้ามถ้าหากเธอจะไป”
   

“.....”
   

“ฉันเปิดที่นี่เพื่อเธอ มันเป็นของเธอตั้งแต่วันแรก ดังนั้นเธอมีสิทธิ์ทุกอย่างไม่ว่าจะอยู่หรือไป”
   

“.....”
   

“และสิทธิ์นั้นก็รวมถึงสิทธิ์ในตัวฉันด้วย ทั้งหมดนี้เป็นของเธอ”


“คุณฐา” ดวงตาชื้นน้ำเงยขึ้นมองใบหน้าที่อยู่สูงกว่า ริมฝีปากสีแดงจัดเพราะเจ้าตัวกัดมันกลั้นสะอื้นเผยอออกเล็กน้อย ก่อนปลายเท้าเรียวจะเขย่งขึ้นแล้วกดจูบลงไปบนริมฝีปากที่อยู่ตรงหน้า หลับตาเพื่อซึมซับรสจูบเจือรอยน้ำตาตัวเอง มือสองข้างกำแน่นอยู่บริเวณอกเสื้อของคนตัวโตกว่า เนิ่นนานกว่าริมฝีปากอิ่มจะยอมผละออก


“ผมอยากอยู่กับคุณ”


“ฉันก็ไม่เคยผลักไสเธอให้ไปไหนเด็กน้อย แต่วันหนึ่งข้างหน้าเธออาจจะพบใครที่เธออยากอยู่ด้วยมากกว่า”


เพราะไม่เคยมีใคร มือคู่เดียวที่ยื่นมาหาท่ามกลางความมืดมิดในชีวิตก็คือมือของคนๆ นี้
เขาไม่เคยอยากไปไหน ที่เดียวที่อยากอยู่คือที่ข้างๆ คนๆ นี้


“จริงๆ แล้วเช้าๆ แบบนี้เราไม่ควรคุยกันเรื่องนี้เลย ป่ะ ทานข้าวกันดีกว่า”


“ครับ”


“ล้างหน้าหน่อยไหม เลอะหมดแล้ว”


“ก็เพราะใครล่ะครับ”


“ฉันขอโทษ” แทนคำขอโทษ ริมฝีปากที่เอื้อนเอ่ยคำนั้นก็ก้มลงจูบซับน้ำตาให้


บางครั้งปูรณ์ก็อยากร้องขอ ...ถ้าไม่รักกันก็อย่าอ่อนโยนกับเขาขนาดนี้เลย


“ไปเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการที่เหลือนี้เอง”


“ครับ”










.
.
.






ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดผิวแก้มจนผิวเนียนใสปรากฎสีแดงระเรื่อ ฝ่ามือสองข้างลากไล้ไปทั่วผิวกายเปลือยเปล่า


หน้าอก


เอวคอด


สะโพกกลมมน


...จวบจนปลีน่อง


ผลักดันเรียวขาขาวให้แยกออกจากกันก่อนร่างกายสูงใหญ่จะเคลื่อนกายแทรกกลาง ทาบทับ เสื้อผ้าที่อยู่ติดตัวครบทุกชิ้นถูกมือบางค่อยไล่ปลดออกให้เริ่มตั้งแต่กระดุมเม็ดบน เปิดเปลือยกล้ามเนื้อสวยที่เจ้าของบรรจงสร้างมาอย่างดี


ไอร้อนของสองร่างทาบทับกันแนบสนิท แรงเต้นของหัวใจสองดวงฟ้องว่าสัมผัสเหล่านี้เกิดขึ้นจริง


ดวงตาเรียวปรือมองคนบนร่าง ดวงตาคมดุล้ำลึกมองกลับมาด้วยความรู้สึกเดียวกับทุกครั้ง ร่างกายเบียดเสียดรุนแรงกว่าเดิม จังหวะชีพจรเต้นหนักหน่วงแข่งกับเสียงเพลงที่เปิดค้างไว้ ริมฝีปากก้มลงจูบเอาแต่ใจ ผ่านหน้าผากเนียน ปลายจมูกเล็ก จงใจเว้นระยะจากริมฝีปากที่เผยอหอบ ลากไล่มาตามลำคอระหง ยอดอกที่ชูชันตอบรับ สะดือ ต่ำลงเรื่อยๆ และทิ้งร่องรอยสีแดงเข้มชัดเจนที่ข้างข้อเท้าขวา


“คุณฐา...”


ก่อนเจ้าของริมฝีปากนั้นจะวนกลับมาด้านบนอีกครั้ง ประกบจูบอย่างเอาแต่ใจกับริมฝีปากอิ่มที่จงใจละเว้นเมื่อสักครู่ สอดลิ้นเกี่ยวพันตักตวงทั้งความหอมหวานและลมหายใจระอุ นิ้วมือยาวอ้อมข้างหลังเพื่อเปิดช่องทางที่ตอบรับด้วยความเต็มใจทุกครั้ง


ก่อนปลายนิ้วจะค่อยๆ แทรกลึก


แต่ทว่าครั้งนี้...



“อ๊ะ คุณฐา”


สองมือที่โอบรอบคอเลื่อนมาดันอกแกร่ง ดวงตาเรียวสั่นไหวแบบที่เจ้าตัวไม่อาจห้าม



‘เลิกรับงานได้ไหม’

...

 ‘หมายถึงกับอาฐาด้วย’




เพราะคำขอร้องนั้นที่แทรกมาในห้วงความคิด ความเต็มใจเช่นที่ผ่านมาจึงกลายเป็นคำปฏิเสธแบบที่เจ้าตัวก็ไม่อาจยั้งตัวเองไว้ได้ทัน


“เจ็บเหรอ?”


“เปล่าครับ”


“.....”


“ผมแค่...” ดวงตาวูบไหวเบือนหลบ ริมฝีปากล่างถูกกัดเพราะเจ้าตัวไม่อาจสรรหาคำใดมาบอกได้ในเวลาเช่นนี้


“ฉันเข้าใจแล้ว” มือข้างนั้นถอนออกจากสัมผัสที่กำลังจะล้ำลึก ก่อนจะล้มตัวนอนเคียงข้างแล้วดึงคนตัวเล็กกว่าที่กำลังสับสนเพราะร่างกายนั้นสั่นไหวเข้ามากอดแนบอก


“ผม ...ผมขอโทษ”


“ไม่เป็นไรเลย ไม่ต้องขอโทษ ไม่เป็นไรนะ”


“คุณฐา ผมขอโทษ คุณฐา”


ริมฝีปากอิ่มเรียกชื่อซ้ำไปมาอย่างจะย้ำกับตัวเอง หยดน้ำตาไหลเป็นครั้งที่สองของวันแต่ความรู้สึกข้างในหนักหน่วงรุนแรงกว่ากันมากนัก


“คุณฐา”


“ชู่ววว เงียบซะนะเด็กดี”


เสียงสะอื้นตามมาหลังประโยคนั้นเพราะเจ้าตัวไม่คิดกลั้นมันไว้อีกแล้ว


เด็กน้อยของเขา ยอมไม่ได้ก็ร้องไห้งอแงเหมือนเด็ก


ปฏิเสธเขาก็กลัวความรู้สึกตัวเอง


อยากรู้สึกผิดต่อเขาแต่ก็ไม่กล้ารู้สึกอย่างเต็มที่



อ้อมแขนที่มั่นคงยังคงมั่นคงอย่างเช่นทุกครั้งที่โอบกอดปูรณ์เข้านอนในวงแขนแกร่ง มือคู่นั้นยังคงลูบหลังอย่างอ่อนโยนเหมือนที่ผ่านมา หัวใจดวงนั้นก็ยังเต้นอย่างหนักแน่นในจังหวะที่เขาคุ้นเคยมาตลอด


ถ้าจะมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในค่ำคืนนี้

ก็คงเป็นจังหวะหัวใจของตัวเขาเอง...







ฐานัฐก้มมองคนที่หลับสนิทไปแล้วในอ้อมกอด เอื้อมมือไปดึงผ้าห่มผืนหนามาคลุมให้จนถึงคอ ดวงตาอ่านยากคู่นั้นมองไปท่ามกลางความมืด ความคิดไหลย้อนกลับถึงสัญญาเดียวในชีวิตที่เขาเคยรับปากใครบางคนเอาไว้


ลายมือคุ้นตาบนกระดาษที่ยังติดตาและติดอยู่ในความทรงจำ



“ฝากดูแลน้องชายฉันด้วยนะคะ อย่าทอดทิ้งเขาเหมือนที่ฉันทำ
แล้วช่วยรักเขาให้มาก มากกว่าที่คุณเคยรักใคร”




รัก...
...มากกว่าที่เคยรักใคร























..TBC..














>> มีใครยังอยู่ทีมเดิมกับตอนที่แล้วไหมคะ?? ^^

เราไม่รู้ว่าตอนนี้จะทำให้เข้าใจสามคนนี้มากขึ้นหรือเปล่า
แต่เดี๋ยวจะค่อยๆ เฉลยความรู้สึกของทุกคนไปเรื่อยๆ ค่ะ









หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 6 ▼▼ UP!! 22/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: masochism2018 ที่ 22-12-2017 22:51:33
คุณธีคือทรงพระรองมากอะ55555555555555
เชียร์คุณธีนะ แต่แบบยังไงดี สับสนแทนปูรแล้ว
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 6 ▼▼ UP!! 22/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 22-12-2017 23:13:19
ฮือ เลือกทีมไม่ถูกจริงๆนะคะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 6 ▼▼ UP!! 22/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 23-12-2017 10:43:45
จะรอฟังเหตุผลนะคุณฐา รักให้มากกว่าใคร เอ็นดูที่สุด เป็นน้องชายของผู้หญิงที่รักที่สุด ขอชีวิตเขามาดูเเล

แต่
มีอะไรกับน้องชายคนที่ตัวเองรัก และไม่รัก ทำไม๊ๆๆ
พี่สาวเขาคงดีใจ
น้องชายคนที่ตัวเองรักก็กลายเป็นคนขายตัวไปซะงั้น

อืมมมม ไม่เชียร์คุณฐาอ่ะบอกเลย 5555 ที่นอนกะเขานี่เก็บค่าฝากชีวิตหรอ ต่อให้น้องอาจจะเริ่มก่อนก็เถอะหรือต้องการก็เถอะ
อุดมการณ์ที่มีต่อคนรักเก่าและน้องชายคนรักเก่าของคุณฐาเนี่ย มันแปลกไปหน่อยม้างงงงงง ระวังเถอะ ไ้ปากที่พูดว่ารักๆๆๆพี่สาวเเต่มามีอะไรกะคนน้องเนี่ย เดี๋ยวน้องเลิกรักได้แล้วจะสะอึก ที่บอกว่ารักไม่ได้เนี่นมันมั่นคงแค่ไหน กำลังรู้สึกผิด + หลอกตัวเองอยู่ป่าวววววว #ทีมคุณธีค่ะบอกเลอออออออ #อินสุด
เขียนดีมากค่ะ สนุกมากเลย ยกตำเเหน่งคนน่าเบิ๊ดกะโหลกให้คุณฐาค่ะ
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 6 ▼▼ UP!! 22/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-12-2017 17:39:37
............................
อืมมมม ไม่เชียร์คุณฐาอ่ะบอกเลย 5555 ที่นอนกะเขานี่เก็บค่าฝากชีวิตหรอ ต่อให้น้องอาจจะเริ่มก่อนก็เถอะหรือต้องการก็เถอะ
อุดมการณ์ที่มีต่อคนรักเก่าและน้องชายคนรักเก่าของคุณฐาเนี่ย มันแปลกไปหน่อยม้างงงงงง ระวังเถอะ ไ้ปากที่พูดว่ารักๆๆๆพี่สาวเเต่มามีอะไรกะคนน้องเนี่ย เดี๋ยวน้องเลิกรักได้แล้วจะสะอึก ที่บอกว่ารักไม่ได้เนี่นมันมั่นคงแค่ไหน กำลังรู้สึกผิด + หลอกตัวเองอยู่ป่าวววววว #ทีมคุณธีค่ะบอกเลยยยยย #อินสุด
เขียนดีมากค่ะ สนุกมากเลย ยกตำเเหน่งคนน่าเบิ๊ดกะโหลกให้คุณฐาค่ะ

คิดเหมือนเลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 6 ▼▼ UP!! 22/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 24-12-2017 20:22:03
เห็นเรื่องนี้ผ่านตามาสักพักแล้วค่ะ แต่พึ่งได้มีโอกาสอ่าน
เราทีมคุณธีมาตลอดเลย ตอนที่ห้าก็เลยเป็นอะไรที่บีบหัวใจเรามาก พออ่านแล้วเรารู้สึกว่าคุณธีไม่มีทางที่จะได้เป็นคนที่เป็นเจ้าของความรักที่หนูปูรณ์ต้องการเลย ตอนอ่านคือรู้สึกสิ้นหวังมาก คิดว่าคุณฐาพระเอกแน่ๆ
แต่ตอนที่หกก็ทำให้เรากลับมามีความหวังอีกครั้ง เรารู้สึกว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างหนูปูรณ์กับคุณฐา สำหรับหนูปูรณ์นั้นเป็นเพราะการเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า การที่คุณฐาเข้ามาก็เหมือนมาเติมเต็มบางส่วนของช่องว่างภายในใจ คุณฐาไม่ใช่คนในครอบครัวแต่ก็ดูแลเอาใจใส่อย่างดี คอยหาสิ่งดีๆมาให้ ยกเว้นเรื่องงานนั่น ที่เราคงต้องรอคุณคนแต่งอย่างเดียวว่าทำไม เราไม่รู้ว่าครั้งแรกของคุณฐากับหนูปูรณ์เกิดขึ้นได้ยังไง แต่พอมีครั้งที่หนึ่ง ก็คงทำให้มีครั้งต่อๆมา กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีคำนิยาม ตอนฉากนั้นเลยเกือบจะกลั้นใจอ่านเลยทีเดียว ว่าหนูปูรณ์จะปฏิเสธไหม ซึ่งนั่นแหละค่ะมันจุดความหวังในใจของเราที่ทีมคุณธีมาก แต่ก็แอบหวั่นว่าจังหวะหัวใจของคุณฐาที่เต้นผิดไป จะทำให้คุณฐาอยากจะรักคนที่ตัวเองบอกว่ารักไม่ได้ ทั้งที่แฟนเก่าก็บอกว่าให้รักมากกว่าที่เคยรักใครไหม เอาจริงๆทุกวันนี้เราก็รู้สึกว่าเหมือนคุณฐาจะสร้างกรงขังหนูปูรณ์อ่ะ ไม่ให้เข้าใกล้เกินไปแต่ก็ไม่ยอมให้ออกไปไหนไกลเหมือนกัน แต่เรื่องของคุณฐาก็เป็นอะไรที่อยากจะคิดเดาไปเอง ทำให้เรารู้สึกไม่ชอบคุณฐาได้ไม่เต็มที่เพราะกลัวเดี๋ยวจะหน้าแตก 55555
ขอโทษด้วยนะคะที่เวิ่นเว้อเสียยาวเลย แต่เราอ่านแล้วอินมาก อยากจะจับหนูปูรณ์คุณธีไปปล่อยเกาะให้อยู่กันสองต่อสองเลยทีเดียว

ปล.ไม่รู้ทำไมรู้สึกเอ็นดูคุณธีที่บอกว่าปกติแม่แกะปลาให้ ดูเป็นลูกชายที่สนิทกับคุณแม่น่าดู


หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 6 ▼▼ UP!! 22/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: Meercorn ที่ 25-12-2017 22:35:25
เชียร์คุณธีนะ ธีดูน่ารักดี จะบอกว่าฉากปูรณ์กับคุณฐานี่คือลุ้นมากกลัวว่าจะมีอะไรกันไหม ในใจนี่คือสงสารธีไปแล้วนะ55555555 แต่พอหนูปูรณ์ปฏิเสธเท่าแหละ :heaven ดีมากก ในส่วนของคุณฐา เราว่าใจคุณฐาก็รักน้องไปแล้วนะ แต่เหมือนพยายามจะปฏิเสธตัวเองตลอดเพราะเหตุผลนั้นที่คุณคนเขียนยังไม่บอกใช่ไหมค้าาา
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 6 ▼▼ UP!! 22/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 26-12-2017 12:16:05
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 6 ▼▼ UP!! 22/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 29-12-2017 00:20:26
ทีมคุณฐานะ กร๊าวใจกว่ามากๆๆๆ แต่ดูทรงแล้วน่าจะล่มแหะเรือนี้
ไม่อยากผิดหวังเลยอ่ะ ฮืออออ ขอเลยนะ ถ้าพระเอกจะไม่ใช่คุณฐา ขอแบบที่คนอ่านอย่างเราผิดหวังน้อยที่สุดทีนะ เดี๋ยวทำใจไม่ได้55555555555
เรื่องหัวใจอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่อยากให้ใจคุณฐาเต็มร้อย คือตอนนี้ก็เชียร์ 70% แล้วอ่ะ
คุณฐาของน้อง
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 6 ▼▼ UP!! 22/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 29-12-2017 01:59:33
ขอแล่นเรือไปกับคุณธีร์นะคะเราว่าตรรกะคุณฐามันแปลกๆอะ55555ยังสงสัยทำไมเอาหนูปูรณ์มาขายได้ทั้งที่บอกว่ารัก หืมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 6 ▼▼ UP!! 22/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 02-01-2018 23:58:45
งื้ออออออ ไม่เข้าจายยยยยยทำไมคุณฐาต้องทำแบบเน้อออ

ปากบอกแค่น้องชายคนที่รักแต่ก็มีเซ็กซ์กะปูนท์

ถ้าแค่น้องต้องทำแบบนั้นมั้ยยยยย
หัวข้อ: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 7 ▼▼ UP!! 03/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Toffeenut ที่ 03-01-2018 21:57:25
▲▲As an escort
#เพื่อนนอนตอนที่ 7













“น้ำส้มหรือนมสดดีครับ?” เสียงทักทายพร้อมรอยยิ้มกว้างจากบาร์เทนเดอร์ที่ไม่ยอมเสิร์ฟเหล้าให้เขาเอ่ยขึ้นในตอนเกือบๆ เที่ยงของวัน เพราะวันนี้เป็นวันหยุด หมายถึงปูรณ์ไม่ต้องเข้าไปฝึกงานที่บริษัท แต่งานที่คลับไม่ได้หยุดตามไปด้วย และบ่ายวันนี้เขาก็มีนัดที่สปาชั้นสามเพื่อดูห้องรับรองใหม่ที่จะเปิดให้บริการหลังจากปิดปรับปรุงมาเกือบเดือนแล้ว


“เดี๋ยวนี้ไม่ถามเสิร์ฟเหล้าให้พี่แล้ว”


“เพิ่งจะเที่ยงเองครับ พี่ปูรณ์คงไม่ได้อยากเมาแล้วไปคุยงานใช่ไหม”


“หมายถึงถ้าเย็นนี้พี่ว่าง วินจะยอมให้พี่ลองเครื่องดื่มสูตรใหม่ของวินหรือเปล่า”


“แรงนะครับสูตรนั้น”


“ตั้งใจจะมอมใครเหรอ?”


“เพื่อนพี่ปูรณ์แหละขอมา เห็นบ่นว่าหลังๆ เจอแต่คนเรื่องเยอะๆ เลยอยากหาเครื่องดื่มไว้ช่วยชีวิตตัวเองบ้าง”


“พูดเป็นเล่นไป”


“น็อกมาสองสามรายแล้วนะครับ หลับตรงโซฟาด้านนอกนี่เลย พี่นัทเลยรับเงินสบายๆ”


“ระวังเถอะ เดี๋ยวแขกก็ฟ้อง”


“เจอลูกอ้อนพี่นัทไปที ขี้คร้านว่าจะลืมไปหมดว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง” รอยยิ้มขบขันนั้นทำให้ปูรณ์ต้องยิ้มตาม หลังๆ มานี้เวลาเขาลงมานั่งที่บาร์ ก็จะมีวินคอยคุยเป็นเพื่อน เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง อัพเดทข่าวช่วงที่เขาไม่อยู่ แถมยังรับหน้าแทนได้ดีด้วยเวลามีคนถามถึงเอสคอร์ทค่าตัวแพงที่สุดของที่นี่


“แต่เห็นทีว่า พี่ปูรณ์อาจจะได้ลองใช้เครื่องดื่มของผมเร็วๆ นี้แล้วล่ะครับ” คำพูดแฝงนัยบางอย่างพร้อมสายตาที่มองไปยังประตูกระจกที่เป็นทางเข้าชั้นเจ็ดทำให้ร่างบางบนเก้าอี้ต้องหมุนตัวหันไปมองตาม ดวงตาเรียวสวยเบิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างสูงของคนที่ไม่ได้เจอกันนานเดินเข้ามา กำลังจะยกมือขึ้นไหว้ดังเช่นทุกครั้ง แต่ก็ไม่ทันคนที่รีบสาวเท้าเร็วๆ เข้ามาหาเมื่อเห็นว่าเป้าหมายที่ต้องการพบอยู่ตรงหน้าง่ายดายกว่าทุกครั้ง


ริมฝีปากของอนลกดจูบทักทายลงบนแก้มนิ่มอย่างไม่ทันให้ใครได้ตั้งตัว มือสองข้างที่ยังพนมค้างไว้ถูกดึงไปกุมไว้หลวมๆ แม้การ์ดของคลับจะเข้าประชิดหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงสะทกสะท้าน


“ฉันแค่มาหาปูรณ์เฉยๆ” เอ่ยเสียงเรียบบอกคนรอบตัว และรอให้ปูรณ์พยักหน้าลงเพียงนิด การ์ดสี่ชีวิตจึงยอมถอยไปอยู่ห่างๆ แต่ก็ไม่ยอมปล่อยให้เอสคอร์ทคนดังได้คลาดสายตา


“ฉันคิดถึงเธอ” เมื่อคนอื่นๆ ทิ้งระยะห่างมากพอที่จะไม่ได้ยินเสียงบทสนทนาเบาๆ ที่เกิดขึ้นอนลก็เอ่ยสิ่งที่ติดอยู่ในใจมาเกือบสี่เดือนออกมา และคนที่รับฟังก็เพียงแค่แย้มรอยยิ้มบางๆ รับคำทักนั้น


“ผมใกล้เรียนจบแล้ว ฝึกงานด้วยน่ะครับ เลยไม่ได้ลงมาที่นี่เลย”


“แสดงว่าวันนี้ว่าง?”


“ก็ไม่เชิงครับ จริงๆ มานั่งรอประชุมตอนบ่ายมากกว่า”


“ประชุม?”


“ผมต้องรอคุยกับผู้รับเหมาเรื่องสปาส่วนที่ปิดปรับปรุงไปน่ะครับ วันนี้เป็นวันนัดเซ็นรับมอบงานด้วย”


“ฉันคิดถึงเธอจริงๆ นะ”


ประโยคอ่อนหวานประโยคเดิมถูกเอ่ยอีกครั้งด้วยน้ำเสียงทอดอ่อนกว่าที่เคย แต่สิ่งที่ได้รับก็มีเพียงรอยยิ้มแบบเดิมเท่านั้น


“ผมไม่สะดวกรับงานช่วงนี้นะครับคุณนล”


“แค่ทานข้าวมื้อกลางวันก็ไม่ได้เชียวหรือ?”


“ผม...” เมื่อเห็นท่าทางลังเลพร้อมกับอาการกัดริมฝีปากน้อยๆ แบบที่คนคุ้นเคยรู้ดีว่ากำลังหาทางเลี่ยงอยู่ ผู้ที่เจนจัดในการใช้ลูกล่อลูกชนมากกว่าจึงหลอกล่อต่อ


“แค่มื้อกลางวัน ทานที่นี่ และฉันสัญญาว่าจะไม่แตะต้องตัวเธอ”


ดวงตาเรียวสวยก้มลงมองมือสองข้างที่ถูกเกาะกุมไว้ตั้งแต่อนลทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ แต่เจ้าของมือกลับยักไหล่แล้วเอ่ยต่อไปอย่างคนเจ้าเล่ห์


“ฉันจะยอมปล่อย ถ้าเธอยอมตกลงทานข้าวด้วย”


เมื่อเห็นท่าทีที่อ่อนลงของคนตัวเล็กกว่า ผู้มาเยือนจึงรีบสำทับคำอ้อนไปอีกครั้ง


“เถอะนะปูรณ์ ฉันแค่คิดถึงและอยากทานข้าวกับเธอแค่นั้นเอง”


“ก็ได้ครับ”





อาหารสี่อย่างบนโต๊ะกระจกทรงกลมล้วนแล้วแต่เป็นของที่ปูรณ์ชอบทั้งสิ้น เห็นได้ชัดว่าคนตรงหน้ากำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะเอาใจเขา ต่างจากทุกครั้งที่พบหน้ากันที่เขามักจะถูกเรียกร้องให้เป็นฝ่ายเอาใจคนๆ นี้


“ทานเยอะๆ เธอผอมลงนะรู้ตัวไหม” พูดพร้อมกับตักกุ้งซอสมะขามตัวใหญ่วางลงบนจานให้


“ช่วงฝึกงานก็แบบนี้แหละครับ ถ้างานเยอะๆ ก็ไม่ค่อยมีเวลาทานข้าว” ปูรณ์เอ่ยขอบคุณพลางตักอาหารในจานอื่นคืนให้บ้าง ซึ่งฝ่ายนั้นก็ยิ้มรับแล้วชวนคุยต่อ


“ฐาใช้งานเธอหนักเหรอ”


“ไม่หรอกครับ แต่ผมก็อยากเรียนรู้ไวๆ ด้วย เผื่อจะช่วยงานคุณฐาได้มากขึ้นบ้าง”


“ถ้าได้ลูกน้องแบบเธอ คนเป็นเจ้านายคงดีใจแย่”


“เพราะคุณฐาดีกับผมมาก ผมเลยต้องตอบแทนให้มากๆ ด้วยเหมือนกันครับ”


“แล้ววันนี้เจ้านายเธอไปไหนล่ะ ฉันโทรหาแต่เช้าก็เป็นเลขารับโทรศัพท์แทน บอกแต่ว่าคุยกับลูกค้าอยู่ จะโทรกลับตอนเย็นๆ”


“คุณฐาไปพบลูกค้าที่ระยองน่ะครับ ไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้ว”


“แปลกใจเหมือนกันที่ไม่พาเธอไปด้วย”


“คงเพราะเป็นธุระด่วนน่ะครับ” แม้จะตอบเลี่ยงไปเช่นนั้นแต่ปูรณ์ก็รู้เหตุผลหลักดียิ่งกว่าใคร


เพราะหลังจากสถานการณ์ไม่ปกติในค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไป แม้ในตอนเช้าปูรณ์จะลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดที่อบอุ่นคุ้นเคย แต่หลังจากวันนั้นก็ดูเหมือนคนทั้งสองต่างพยายามหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกันมากเกินกว่าที่เคยทำในอดีต น้อยครั้งที่จะอยู่กันสองต่อสอง แม้จะเป็นเวลางานแต่การพูดคุยกันของทั้งคู่ยังมีเลขาของฐานัฐหรือบุคคลที่สามอยู่ร่วมวงสนทนาด้วยเสมอ หากแต่ไม่ได้เป็นเพราะอึดอัด หากเป็นเพราะทั้งคู่รู้ดีว่ากำลังพยายามเว้นระยะห่างเพื่ออะไร หรืออาจจะเพื่อใครสักคน


ยิ่งการไปต่างจังหวัดและต้องค้างคืน ฐานัฐคงเลี่ยงการพาปูรณ์ไปด้วยเหมือนเช่นที่เคยทำผ่านๆ มาแน่ๆ


“แล้ววันนี้ คุณนลตั้งใจมารอคุณฐาที่นี่เหรอครับ”


“ไม่หรอก ฉันตั้งใจมาหาเธอ”


“คุณรู้ว่าผมอยู่ที่นี่?”


“รู้แค่ว่าฐาไปต่างจังหวัดกับเลขา เลยเดาต่อเองว่าถ้าเธอไม่ได้ไปด้วยเธอก็น่าจะอยู่ที่นี่ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ได้เจอ”


“แต่อานลอาจจะผิดหวังหลังจากตอนนี้ก็ได้นะครับ” น้ำเสียงทุ้มที่เอ่ยแทรกพร้อมร่างสูงของเจ้าของคำพูดที่ถือวิสาสะหย่อนกายลงนั่งบนที่พักแขนของเก้าอี้ของปูรณ์ทำให้คนที่กำลังจะตักอาหารใส่จานชะงัก เงยหน้าขึ้นมองถึงเห็นว่าเป็นหลานชายของเพื่อนสนิทที่กำลังจ้องมองเขาด้วยแววตาไม่พอใจอย่างเปิดเผย


“คุณธี” น้ำเสียงเอ่ยเรียกบางเบาพร้อมมือที่วางลงบนแขนอย่างจะปรามในทีนั้นยิ่งทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันมากขึ้นกว่าเดิม


“สวัสดีครับอานล” ธนาดลจงใจเมินต่อเสียงปรามนั้นด้วยการเอ่ยทักทายผู้สูงวัยกว่าแทน แม้จะด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ก็ยังยกมือไหว้ตามมารยาทเช่นที่เคยเป็นมา ก่อนจะก้มลงคุยกับเจ้าของเก้าอี้ที่เขาทิ้งตัวลงนั่งบนพนักวางแขนอยู่


“ผมเห็นว่าทีมผู้รับเหมามาพร้อมแล้วเลยมาตามคุณ”


“ถึงเวลานัดแล้วเหรอ? แต่ปูรณ์ก็ยังทานข้าวไม่เสร็จเลย”


“ไม่เป็นไรครับคุณนล ปกติผมก็ไม่ได้ทานเยอะอยู่แล้ว”


“มิน่า เธอถึงผอมลงขนาดนี้” ไม่พูดเปล่า เพราะมือข้างหนึ่งบนโต๊ะยื่นมาลูบบนหลังมือบางเบาๆ ประกอบคำพูดนั้นด้วย “ถึงจะทำงานหนักแต่เธอก็ต้องรู้จักดูแลตัวเอง”


“ครับ...” ตอบรับด้วยรอยยิ้มจาง พลางพยายามดึงมือกลับ “ถ้าอย่างนั้นผมอาจจะต้องขอตัวก่อน ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ทานด้วยจนจบมื้อนะครับ”


“ไว้โอกาสหน้าฉันจะมาหาใหม่”


“.....”


“หวังว่าเราจะได้เจอกัน และไม่ใช่แค่การทานข้าวแบบนี้” รอยยิ้มมุมปากนั้นเรียกสายตาไม่พอใจอย่างเด่นชัดจากคนที่ไม่อยู่ในบทสนทนาแต่ทว่าไม่มีใครสังเกตเห็น ปูรณ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้เมื่ออนลเป็นฝ่ายลุกขึ้นก่อน ก่อนจะพุ่มมือไหว้ลาอีกครั้ง


“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับคุณนล”











“คุณธี”


“.....”


“คุณธีครับ”


มือบางเอื้อมคว้าข้อมือของคนเดินลิ่วๆ นำหน้าไว้ให้ต้องหยุดเดิน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลกว่าที่เคย


“โกรธอะไรหรือครับ?”


“ผมมีสิทธิ์โกรธด้วยหรือไง?”


“.....”


“คุณทำงาน ผมไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายอยู่แล้ว” เน้นคำว่าทำงานจนคนฟังชะงัก แต่คนตัวเล็กกว่าก็ยังใจเย็นพอที่จะอธิบาย


“ผมไม่ได้ทำงานครับ คุณนลแค่แวะมาหาคุณฐาและนั่นก็แค่นั่งทานข้าวเฉยๆ”


“ปกติแค่คุณทานข้าว ก็ได้ชั่วโมงละเท่าไหร่ล่ะ?”


“ถ้าคุณกำลังตัดสินผมจากภาพที่คุณเห็น ผมก็ไม่มีอะไรต้องอธิบายอีกนะครับ”


น้ำเสียงเรียบตึงพอกันนั้นทำให้คนที่กำลังโมโหชะงักบ้าง ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อระบายความอึดอัดที่คับแน่นในใจเต็มไปหมด


“ผมตั้งใจจะมาชวนคุณทานข้าวกลางวันเพราะเห็นว่าอาฐาไม่อยู่ คุณน่าจะไม่มีเพื่อนทานข้าว ไปหาที่ห้องไม่เจอคุณ โทรหาคุณก็ไม่รับ ลงมาข้างล่างก็เจออานลนั่งจับมือมองคุณตาเชื่อมอยู่แบบนั้นจะให้ผมคิดยังไง”


“แล้วคุณต้องคิดอะไรด้วยเหรอครับ”


“ปูรณ์”


“มันก็แค่การนั่งทานข้าวเฉยๆ ไม่มีอะไรมากกว่าที่คุณเห็นเลยสักนิด”


“.....”


“ถ้าคุณตัดสินผมจากอดีต คุณก็จะเห็นแค่อดีต ถ้าคุณมองผมเป็นผมที่อยู่ตรงหน้าคุณ คุณก็จะไม่คิดไปไกลกว่าภาพตรงหน้าเท่านั้น”


“.....”


“คุณธีเริ่มเข้าใจหรือยังครับ ว่าทำไมอาคุณถึงห้ามนักหนาว่าไม่อยากให้คุณมายุ่งกับผม เพราะเรื่องพวกนี้มันจะตามติดไปกับชีวิตผมและผมก็ทำได้ดีที่สุดแค่นี้ ถ้าคุณคิดมากใจคุณก็จะหนัก และถ้าคุณแบกอดีตผมไว้คุณก็ไม่มีวันมองเห็นผมตอนนี้ตรงหน้าคุณ”


“.....”


“คุณยังมีเวลาคิดและเวลาถอนตัวนะครับคุณธี ก่อนที่อะไรมันจะถลำลึกไปไกล แล้... อื้ออ”


ปลายประโยคขาดห้วงลงเพราะริมฝีปากได้รูปที่ก้มลงมาทาบทับจนปิดสนิท หยุดทั้งคำพูดเจรจา และท่าทีต่อต้านที่คนตัวเล็กกว่าแสดงออกให้เห็น ริมฝีปากหยักกดลงไปค่อนข้างแรงในตอนแรก ก่อนจะค่อยๆ คลายอารมณ์หนักหน่วงลงตามสัมผัสที่เนิบช้า แล้วแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นความหวามไหวเมื่ออีกคนยอมเผยอริมฝีปากออก ดูดดึงทั้งน้ำหวานและริมฝีปากล่างจนบวมช้ำ จวบจนเสียงหายใจผะแผ่วดังขึ้นพร้อมแรงดันตรงหน้าอกธนาดลถึงค่อยยอมคลายสัมผัสนั้นออก ก่อนจะกดจูบลงไปบนริมฝีปากที่ขึ้นสีแดงเรื่อนั้นอีกครั้ง และอีกครั้ง


“ผมขอโทษ” หยดน้ำที่เลอะรอบมุมปากถูกนิ้วโป้งค่อยๆ ปาดออกให้อย่างนุ่มนวล “ผมใจร้อนเอง ผมขอโทษที่ตัดสินคุณแบบนั้น” แขนสองข้างรวบคนที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกมากอดไว้แนบอก มือสองข้างทั้งโอบประคองและลูบผมนุ่ม ลูบแผ่นหลังบอบบางไปมาอย่างจะปลอบโยน


“ยกโทษให้ผมนะคนดี ผมไม่ได้ตั้งใจ”
   

“.....”
   

“ผมไม่พอใจเพราะผมคงหึงคุณมาก ใจผมมันร้อนไปหมดตอนที่เห็นคุณอยู่กับอานลสองต่อสอง”
   

“...การ์ดมีเป็นสิบเลยนะครับตอนนั้น”


“ผมหน้ามืดเองนี่นา”


“.....”


“เอาเป็นว่าผมขอโทษนะครับ ยกโทษให้ผมได้ไหม”


หลังคำขอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนนั้น ร่างในอ้อมกอดก็ยืนนิ่งไปชั่วขณะ เนิ่นนานกว่าหัวทุยสวยจะผงกขึ้นลงเบาๆ ให้เจ้าของอ้อมกอดใจชื้นและได้ยิ้มกว้าง


“ผมสัญญาว่าผมจะใจเย็นกว่านี้ แต่เรื่องหึงคุณผมไม่อยากรับปากเลย”


“คุณธี...”


“เพราะผมรักของผมมาก ผมหึงก็เป็นเรื่องธรรมดาถูกไหม แต่ผมจะไม่วู่วามแบบวันนี้อีกแล้ว”


ถ้อยคำเหยียดยาวท้ายๆ ประโยคนั้นไม่สามารถทำให้ปูรณ์จับใจความอะไรได้เลยแม้แต่น้อย เพราะในสมองขาวโพลนไปตั้งแต่ได้ยินคำๆ นั้นแล้ว


...เพราะผมรักของผมมาก...


เป็นเขาได้แล้วจริงๆ ใช่ไหม? เจ้าของข้อความอ่อนหวานนั้น
คำรักที่เขาเคยเฝ้ารอมานานจากใครสักคน ตอนนี้อยู่บนมือที่หยิบยื่นให้เขาคู่นี้แล้วใช่ไหม?


ปูรณ์ไม่ได้ถามอะไรย้ำไปกับประโยคที่ได้ยิน แต่หัวใจที่เต้นรัวผิดจังหวะขึ้นมาเพราะประโยคนั้นก็ฟ้องว่าเจ้าของกำลังเต็มตื้นกับถ้อยคำบอกรักนั้นมากแค่ไหน
บางทีถ้าเป็นคนๆ นี้ เขาจะสามารถรักได้อย่างที่อยากรักใช่หรือเปล่า?


...เพราะผมรักของผมมาก...


เป็นคำรักที่มอบให้เขาคนเดียว และมีเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ได้ครอบครองมันใช่ไหม?
หากคำถามหนึ่งที่ยังคงค้างคาใจก็ทำให้อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไป



“คุณธีลืมผู้หญิงคนนั้นได้แล้วจริงๆ เหรอครับ”



คนที่คุณเคยเอ่ยบอกรักในวันแรกที่เรากอดกันใต้บรรยากาศสายฝนพรำ



“ไม่มีใครอยู่ในใจผมตั้งแต่วันที่คุณเดินเข้ามาแล้วล่ะปูรณ์”



เชื่อได้ใช่ไหม?
เขาเลือกที่จะเชื่อคำๆ นี้ได้ใช่หรือเปล่า


ร่างเล็กกว่าหลับตาลง พิงซบลงบนอ้อมกอดที่ยังคงกอดเขาอยู่อย่างทะนุถนอม
เลือกจะวางความเหนื่อยล้าทั้งหมดลง ณ ที่ตรงนี้


“ถ้าอย่างนั้น รอผมนะครับคุณธี”


รอวันที่หัวใจเขาเป็นอิสระจากเจ้าของเดิม ได้ปลดปล่อยพันธการบางอย่าง วันนั้นเขาคงตอบกลับคำนั้นไปได้เช่นกัน










“คุณฐา” เสียงเรียกอย่างระมัดระวังที่ดังขึ้นหน้าห้องทำงานหลังจากเขาเอ่ยอนุญาตให้คนที่เคาะประตูเดินเข้ามาได้ ทำให้คนที่กำลังอ่านเอกสารจากแฟ้มในมือชะงัก เงยหน้าขึ้นจากตัวหนังสือที่เรียงกันยาวเหยียดก็เห็นร่างบางในชุดนอนเรียบร้อยยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าห้อง


“เข้ามาสิปูรณ์”


“ผมมากวนเวลาคุณทำงานหรือเปล่าครับ”


“ไม่หรอก แต่รบกวนขอกาแฟสักแก้วได้ไหม”


“ดึกขนาดนี้แล้ว เป็นชาดีกว่าไหมครับ”


“ได้ ตามใจเธอ”


“งั้นสักครู่นะครับ”


คนที่โผล่หน้ามาเพียงครู่ หายลับไปหลังประตูอีกครั้ง และไม่เกินสิบนาทีจากนั้น กลิ่นชาหอมกรุ่นก็ลอยนำคนชงชาเข้ามาภายในห้องทำงานที่ติดกับห้องนอนใหญ่ ข้างๆ ถ้วยชาสีขาวสะอาดยังมีคุ้กกี้ชิ้นเล้กวางไว้อีกสองชิ้น


“เผื่อรองท้องครับ ผมเห็นคุณยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย”


“จริงๆ ฉันทานมาตอนบ่ายสามแล้วนะ”


“รวบไปกี่มื้อครับนั่น” คำถามรู้ทันนั้นทำให้คนงานยุ่งอดไม่ได้จะยีหัวทุยสวยเบาๆ


“ทำเป็นรู้ดี”


“ก็เวลาคุณฐางานยุ่งๆ ก็ทานข้าวไม่เป็นเวลาตลอด”


“ฉันถึงขอบคุณเธอไง ที่คอยเตือนคอยบอกฉันอยู่เรื่อย”


“.....”


“ไม่มีเธอ ฉันก็คงแย่เหมือนกัน”


“ไม่หรอกครับ ไม่มีคุณต่างหากที่ผมคงแย่”


“ชมกันไปมาแบบนี้ไม่ได้คุยกันสักทีแน่ๆ เธอมีธุระจะคุยกับฉันใช่ไหม?”


“เอ่อ ก็...”


“ไม่ต้องเกรงใจนะ มีอะไรที่เธออยากได้อยากบอกหรือเปล่า?”


“ผม...”


“เด็กดีของฉัน” มือหนึ่งลูบศีรษะคนอ่อนวัยกว่าอย่างอ่อนโยน มองแววตาสับสนตรงหน้าแล้วก็ส่งยิ้มให้ “เธอจะมาขอฉันย้ายไปอยู่ที่อื่นหรือเปล่า?”


“คุณ?”


“ฉันอยู่กับเธอมานานพอจะมองความสับสนในแววตาเธอออก” มือหนึ่งเกลี่ยใต้ตาเบาๆ และคนถูกมองจนทะลุก็ได้แต่หลุบตาลงต่ำหนีสายตาคมคู่นั้น “ไม่เป็นไรเลยนะปูรณ์ ฉันให้ได้ทุกอย่างที่เธอต้องการอยู่แล้ว”


“ผมแค่จะขอลงไปอยู่ห้องเดิม”


“ฉันจะให้เธออยู่ห้องนี้ ส่วนฉันจะกลับไปอยู่ที่บ้าน”


“คุณจะลำบาก”


“ไม่หรอก ชั้นเจ็ดตอนนี้อาจจะอันตรายเกินไปสำหรับเธอ”


“.....”


“รับปากมาก่อนสิปูรณ์ สามข้อที่ฉันจะขอจากเธอ”


เพราะฐานัฐรู้ดี นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงง่ายๆ อย่างแค่การย้ายห้อง

แต่มันคือการเปลี่ยนแปลงที่เด็กน้อยตรงหน้าเขากำลังจะก้าวออกจากปีกของเขาที่เคยปกป้อง ออกจากความรู้สึกที่พันธนาการกันเอาไว้ตลอดมา

และสิ่งที่เขาอยากได้เป็นข้อแลกเปลี่ยนคือความมั่นใจว่าปูรณ์จะปลอดภัยภายใต้โลกที่ปูรณ์กำลังจะเลือกนั่น



“ข้อแรก ไม่ว่าเธอจะเจอกับอะไร ให้รู้ไว้ว่าฉันอยู่ข้างเธอเสมอ ไม่ว่าจะถูก หรือผิด ฉันคือคนๆ หนึ่งที่จะอยู่กับเธอทุกเวลา”


“.....”


“สอง ให้ฉันได้รับรู้ความเป็นไปของเธอทุกๆ สองอาทิตย์ จากปากเธอเอง”


“.....”


“และสุดท้าย อย่ารักใครมากกว่าที่รักตัวเอง”


“คุณพูดเหมือนเป็นคุณเองที่จะไปไหนไกล”


“ฉันพูด เพื่อให้เธอมั่นใจว่าฉันจะอยู่กับเธอตลอดเวลาต่างหาก”


“.....”


“รับปากฉันได้ไหม?”


“ครับ”


“ดีมากเด็กดี เธอรู้ดีใช่ไหมว่า ที่ผ่านมา ฉันไม่เคยปล่อยให้เธอคลาดสายตาไปไหนไกล และถ้าถึงเวลาที่ฉันจะปล่อย ฉันต้องได้แน่ใจว่าเธอจะมีความสุข”


“ผมจะพยายามครับคุณฐา”


“ไหน ขอฉันดูหน้าคนที่รับปากว่าจะมีความสุขหน่อยสิ”


มือหนึ่งเชยคางของคนที่ก้มหน้าลงต่ำให้เงยขึ้นสบตากัน ในดวงตาเรียวคู่นั้นคลอคลองไปด้วยหยาดน้ำใส ความไม่แน่ใจ ความสับสน กระทั่งความกลัวไหลวนปนกันอยู่บนตาคู่สวย ทว่าเมื่อมองสบเข้ากับนัยน์ตาคมดุที่มั่นคงยิ่งกว่าครั้งใดๆ ความหมายที่แฝงในดวงตาคู่คมนั้นก็คล้ายจะช่วยปลอบโยนกันดังเช่นที่เคยเป็นเสมอมา


“เธอรู้ใช่ไหมว่าสำหรับฉันแล้ว เธอเป็นคนสำคัญกว่าใคร”


“ผมรักคุณฐานะครับ” พร้อมประโยคนั้นที่ชัดเจนที่สุดตั้งแต่ปูรณ์เคยเอ่ยถ้อยคำที่สื่อความหมายเดียวกันนี้ออกมา หยดน้ำที่กลั่นออกมาจากอารมณ์อ่อนไหวอันหลากหลายก็ไหลหยดเปรอะเปื้อนสองแก้มเนียน


“เก็บคำว่ารักของเธอเอาไว้”


...เพราะฉันรักเธอไม่ได้


“แล้วให้ฉันเป็นแค่คนสำคัญในชีวิตเธอก็พอ”


“คุณฐาเป็นคนนั้นเสมอเลยนะครับ”


“เธอก็เป็นคนนั้นปูรณ์”


รอยจูบที่กดลงซับหยาดน้ำตาบนเปลือกตาบางแทนคำอวยพร แทนการปลดปล่อย
คำบอกรักครั้งสุดท้าย ช่วยปลดโซ่ที่พันธนาการหัวใจดวงหนึ่ง หากกลับรัดรั้งหัวใจอีกดวงโดยไม่มีใครรู้ตัว



ไม่มีใครรู้ดีเท่าเขา ไม่มีใครเจ็บปวดเท่าเขา



“ขอโทษนะ”


ที่ฉันไม่อาจตอบรับความรู้สึกนั้นของเธอได้
แต่ได้โปรดเก็บเอาความรู้สึกล้ำค่านั้นไว้มอบให้ใครที่คู่ควรกับมัน



ครั้งสุดท้ายที่ริมฝีปากทั้งสองแตะลากันอย่างแผ่วเบา


นกตัวน้อยกำลังจะกางปีกเพื่อบินออกไปตามทาง
ผู้ฟูมฟักที่ทำได้แค่เฝ้ามองจากรังนอน และอวยพรให้นกตัวนั้นโชคดี

















..TBC..














>> ขอโทษที่มาช้าค่ะ TT TT แต่ตอนต่อไปจะมาเร็วขึ้นแล้วสัญญาเลย
เพราะเราจะพาไปอ่าน side story ของคุณฐาและย้อนเวลากัน ^^

Happy New year ย้อนหลังด้วยนะคะ
มีความสุขกันมากๆ มีเงินเยอะๆ ด้วย 55









หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 7 ▼▼ UP!! 03/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 03-01-2018 22:50:37
จากเหตุการณ์ตอนนี้ก็หวั่นใจเหลือเกินว่าจะมาม่าแน่นอนในความสัมพันธ์ของธีปูรณ์ แต่เราก็ยังจะหวังค่ะว่ามันจะออกมาดี ธีของแม่ต้องเป็นคนที่ทำให้โลกของหนูปูรณ์สดใสแน่นอน ถึงแม้คนเขียนจะให้มาม่าเรา เราก็จะไม่ทิ้งความเชื่อนี้!!!!

:hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 7 ▼▼ UP!! 03/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 04-01-2018 00:38:06
เราจะลงกอดคุณฐาไว้เอง ปูรณ์ะไปหารักแท้ก็ไปเลยนะ เดี๋ยวทางนี่พี่ดูแลเอง คุณฐาป่วยหรอ ใกล้ตายหรือเปล่า ถึงได้ปิดกั้นตัวเองขนาดนั้น หื้มมมม
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 7 ▼▼ UP!! 03/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 04-01-2018 02:20:16
ผ่านมา7ตอนก็ยังเลือกทีมไม่ถูกอยู่ดี
ฮือ ทำไมคุณฐารักน้องปูรณ์ไม่ได้
ยังไงก็ได้แค่อยากเห็นปูรณ์มีความสุขจริงๆซักที
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 7 ▼▼ UP!! 03/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 04-01-2018 10:15:43
 :pig4:
หัวข้อ: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 8 ▼▼ UP!! 14/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Toffeenut ที่ 14-01-2018 21:58:08
▲▲As an escort
#เพื่อนนอนตอนที่ 8













Thanath’s Part


ผมเติบโตมากับครอบครัวนักธุรกิจที่เห็นเม็ดเงินสำคัญกว่าความสัมพันธ์ที่จับต้องไม่ได้ พ่อกับแม่แต่งงานกันเพราะเหตุผลทางการเมืองของพวกผู้ใหญ่ ทั้งที่ตอนนั้นแม่มีลูกติดอยู่แล้วหนึ่งคนคือพี่ชายผม เราเป็นครอบครัวเหว้าแหว่งที่ยิ่งเหว้าแหว่งมากขึ้นเมื่อผมพบเจอความจริงบางอย่างเข้า


มีคนบอกว่า ถ้าเราเริ่มต้นโกหก เราก็ต้องโกหกไปเรื่อยๆ เพื่อปิดบังเรื่องโกหกแรก


และผมก็มีเรื่องโกหกเรื่องใหญ่มากหนึ่งเรื่องในชีวิต โกหกเพราะผมไม่สามารถบอกความจริงทั้งหมดให้ใครฟังได้ ผมเคยเลือกจะเล่าส่วนเสี้ยวหนึ่งของเรื่องนี้ให้เจ้าของเรื่องได้รับรู้ แต่ผมก็เล่าได้เพียงไม่ถึงครึ่งของเรื่องจริงที่ผมมี


คนสำคัญที่ผมโกหกคือปูรณ์..


วันที่ผมยอมเล่าเรื่องพี่สาวของเด็กคนนั้น คือครั้งแรกที่ผมยอมเผยส่วนเสี้ยวของอดีตที่อยากฝังลึกไปพร้อมกับโศกนาฎกรรมที่ฝังชีวิตครอบครัวหนึ่งให้จากไปตลอดกาล


อดีต ผมเคยมีผู้หญิงที่ผมรัก เธอเป็นคนสดใส เป็นสาวน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่นที่มาเรียนแลกเปลี่ยนและเราได้เจอกัน ผมตกหลุมรักดวงตาอ่อนหวาน ถูกดึงดูดด้วยอารมณ์อ่อนไหวที่เราต่างพากันสร้างขึ้น เราคบกัน และการคบกันนั้นก็พาเราทั้งคู่ก้าวสู่ความลับที่เคยถูกปิดตาย


ผมรู้เพียงแค่ว่าเธอเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น มีพ่อเป็นคนไทย พ่อและแม่ของเธอเจอกันเพราะการประชุมหุ้นส่วนและผู้ถือหุ้นของบริษัท ปกติแล้ว ผมเคยได้ยินแค่เรื่องผู้หญิงไทยถูกชาวต่างชาติหลอก แต่เรื่องที่ผมรับรู้กลับสวนทางกับสิ่งที่เคยได้ยิน พ่อของเธอไม่เคยยอมรับเธอเป็นลูก ไม่เคยยอมรับผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยา ความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งยึดถือไว้ด้วยหัวใจด้วยชีวิต อีกฝ่ายกับให้ราคาแค่ของเล่นข้ามคืน ...ของเล่นที่มีหลักฐานและพยานเป็นผู้หญิงที่เติบโตมาให้ผมรัก ก่อนผมจะมารู้ทีหลังจากการตามสืบหาตัวเธอว่า ผู้ชายคนนั้น คนที่ไม่เคยรับเธอเป็นลูก คือผู้ชายที่มีลูกชายกับภรรยาที่สมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วสองคน และหนึ่งในสองนั้นก็คือผมเอง


ความจริงที่ประดังเข้ามาทำให้เจ็บปวด แต่ไม่เจ็บปวดเท่าความจริงที่ต้องเผชิญหลังจากนั้น ผมมารู้ทีหลังว่าพ่อผมยังคงติดต่อกับผู้หญิงญี่ปุ่นคนนั้น ทั้งๆ ที่เธอกลับบ้านเกิดเธอไปแล้ว ยื่นสายใยที่เรียกว่าเมียน้อยให้คนที่รักตัวเองอย่างหมดหัวใจ สิบกว่าปีที่สายใยจอมปลอมนั้นถูกถักทอขึ้นด้วยเชือกที่มองไม่เห็น ทั้งคู่แอบเจอกันและสายสัมพันธ์ที่ไม่เคยมีใครคิดว่ามันผิด จนเกิดพยานขึ้นเป็นเด็กน้อยอีกคนหนึ่ง และเป็นอีกครั้งที่เด็กคนนั้นถูกทิ้งขว้างอย่างไม่มีใครต้องการ


ผมบอกปูรณ์ไปว่าเขาถูกครอบครัวทางญี่ปุ่นทิ้งให้อยู่เมืองไทยกับญาติเพราะฐานะทางบ้านที่ไม่ได้ดีพร้อม แต่ความจริงแล้วเลวร้ายกว่านั้นนัก ปูรณ์ถูกทิ้งให้อยู่ที่นี่เพราะพ่อของผมรับปากว่าจะดูแลเด็กคนนี้ แต่คำว่าดูแลกลับอยู่ในกรอบของแค่มูลนิธิ ผมแน่ใจด้วยซ้ำว่าพ่อไม่เคยแยแส ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กคนนั้นโตมาอย่างไร แม้แต่ชื่อที่เคยตั้งทิ้งไว้ส่งๆ พอถูกที่มูลนิธิเปลี่ยนให้ใหม่ ผมว่า พ่อผมใจร้ายมากพอที่จะลืมเด็กคนนั้นได้จริงๆ ด้วยซ้ำ


ผมสงสารปูรณ์ตั้งแต่บังเอิญเจอความลับในกล่องสีดำใบนี้ และความสงสารทำให้ยื่นมือเข้าไปหา โอบอุ้มเพราะต้องการชดเชยความผิดในส่วนที่ผู้มีพระคุณของผมได้ก่อ แต่ผมไม่เคยคิดว่าความสงสารนั้นจะก่อให้เกิดความรู้สึกลึกซึ้งบางอย่าง ที่พันธนาการหัวใจของผมและเขาเอาไว้


แต่เขาคือน้องชาย...


ผมรู้มาตลอดว่าปูรณ์รัก แต่ผมรักปูรณ์ตอบอย่างเปิดเผยไม่ได้ ถ้าผมต้องการรักษาเขาไว้ ผมต้องวางเขาให้ห่างจากตัวที่สุด แต่ในทางกลับกัน หากผมต้องการปกป้องเขา ผมก็ต้องเก็บเขาไว้ใกล้มือที่สุดเช่นกัน


เพราะผมไม่อยากให้เขามีจุดจบเหมือนครอบครัวจริงๆ ของเขา จุดจบที่ผมก็ไม่แน่ใจในสาเหตุของการจากไปนั้นนัก แต่ผมเองในชีวิตวัยนั้น ก็กลัวเกินกว่าจะค้นหาความจริงได้ต่อไป ที่ผมทำได้ก็เพียงชดเชยให้ปูรณ์ รักเขาอย่างที่เคยรับปากกับพี่สาวเขาไว้
และผมมั่นใจ นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ผมทำได้ดี


รักเขามากกว่าความรักทั้งหมดที่ผมเคยมีให้ใคร...





ปูรณ์นอนคนเดียวไม่ได้..


ช่วงแรกที่เรานอนด้วยกัน ปูรณ์จะผวาตื่นกลางดึก บางคืนนอนหลับไปสักพักก็จะตื่นทั้งเพราะฝันร้ายและบางครั้งก็ตื่นขึ้นเองอย่างไม่มีสาเหตุ ผมชอบที่จะนอนกอดเขาเอาไว้ ถ่ายทอดไออุ่นของผมไปให้ นานวันเข้า ผมก็ค้นพบว่าถ้าผมกอดเขาเอาไว้เขาจะนอนหลับได้สนิทจนถึงเช้า หลายเดือนผ่านไปจากช่วงแรกที่เจอกัน อาการนอนไม่หลับเขาเริ่มดีขึ้น เขานอนคนเดียวได้บ้าง แต่ผมไม่เคยปล่อยให้เขาต้องนอนคนเดียวนาน สิ่งที่ผมไม่เคยคิดคือจะมีวันหนึ่งที่เราจะไม่ได้นอนด้วยกันอีกแล้ว
วันที่ผมต้องปล่อยมือเขาไป


ผมยอมรับว่าผมใจหาย แต่ก็ละอายเกินกว่าจะหวง ผมเฝ้ามองเขาจากที่ของผม จากความรู้สึกที่ผมพยายามกันเขาเอาไว้ ยอมรับอย่างไม่ค่อยเต็มหัวใจดีนักเรื่องเจ้าธี แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าปูรณ์จะรักผมหรือไม่ จะอยู่กับผมหรือกับใคร ผมก็สามารถที่จะดูแลเขาได้ ดูแลแบบที่เคยทำมาตลอด แม้ว่าอาจจะไม่ได้ใกล้ชิดมากเท่าเดิมก็ตาม


แต่ความรักของผมจะอยู่กับเขา จะคอยประคองชีวิตเขาเอาไว้ ส่วนหัวใจ เป็นเรื่องของเจ้าตัวว่าเลือกจะฝากไว้ให้อยู่ในมือใครดูแล


“เธอใช้ห้องนอนใหญ่ได้เลยตามสบายนะ ข้าวของเครื่องใช้ ถ้าอยู่ๆ ไปแล้วขาดเหลืออะไรก็บอก”


“คุณพูดเหมือนคุณจะไม่กลับมา”


“ก็ฉันยกห้องนี้ให้เธอแล้ว”


“แต่มันเป็นห้องของคุณนะครับ”


“ก็คิดว่าตั้งแต่นี้มันจะเป็นของเธอ”


“คุณฐา...” เจ้าตัวครางเรียกชื่อผมเสียงอ่อน น้ำตาคลอดวงตาคู่สวยที่สะดุดตาผมตั้งแต่แรกเห็น ปูรณ์เป็นเด็กขี้อ้อน ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะขาดความอบอุ่นตั้งแต่เด็ก ไม่เคยรู้สึกว่าได้รับความรักจากใคร พอมาอยู่กับผม เจ้าตัวก็เหมือนเจอหลักยึด หลายครั้งที่ผมเคยอยากตั้งคำถามว่าปูรณ์รักผมเพราะเขาไม่มีใคร หรือรักเพราะผมเป็นผมจริงๆ แต่ผมก็ตัดคำถามสงสัยนั้นทิ้งไปทุกครั้ง เพราะผมไม่เคยอยากดูถูกความรู้สึกของใคร


โดยเฉพาะเด็กน้อยตรงหน้าคนนี้


ผมอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ปูรณ์เบาๆ เขาคงรู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึกว่าถ้าผมก้าวออกจากห้องนี้ เราคงห่างกันขึ้นอีกนิด และมันก็น่าใจหายมากพอสำหรับคนที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี  แต่ผมก็หวังอยากให้เขาได้เดินด้วยตัวเอง เติบโตด้วยตัวเอง และรักใครได้อย่างใจของตัวเอง


“เด็กขี้แย” ผมแหย่เขาหวังจะให้เขายิ้มให้บ้าง “อย่าร้องไห้ให้ฉันยิ่งเป็นห่วง แค่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว แต่เวลางานเราก็เจอกันได้ตลอดนี่ ฉันยังรอให้เธอมาเป็นผู้ช่วยฉันอยู่ ถ้าเรียนจบแล้วเธอไม่เปลี่ยนใจนะ”


“ผมบอกแล้วว่าผมจะอยู่กับคุณ”


นี่คงเป็นความเห็นแก่ตัวข้อหนึ่งของผมเอง ผมไม่เคยปล่อยมือปูรณ์ได้จริงๆ เสียที ผมรั้งเขาไว้ กระตุกปลายเชือกที่รั้งความสัมพันธ์ของเราทุกครั้งที่รู้สึกว่ามันตึงเพราะเขาไกลออกไปให้ใกล้เข้ามา ไม่เคยยอมปล่อยให้เชือกหลุดมือ ไม่ยอมให้เขาปล่อยเชือก แม้จะรู้ว่าเชือกเส้นนี้เปราะบางขนาดไหนและก็ยื้อมันไว้ ดึงมันไว้อยู่อย่างนั้น


เพราะผมรู้ดีว่าผมทำไม่ได้ ผมปล่อยให้เขาจากไปจริงๆ ไม่ได้เสียที


เขาจะรักใคร ใครจะรักเขา ผมก็ต้องแน่ใจว่าคนนั้นเป็นคนดี เป็นคนที่จะไม่ทำให้เขาเจ็บปวด แม้ผมจะทำแบบนั้นอยู่บ่อยครั้ง ถึงไม่เคยตั้งใจแต่ผมรู้ตัว และนั่นก็เป็นความเห็นแก่ตัวที่ผมปฏิเสธไม่ได้


ถ้าเพียงแต่เขาจะไม่ใช่น้องชายที่มีสายเลือดร่วมกันถึงครึ่งผมก็คงพันเชือกเส้นนั้นรัดเราเข้าด้วยกันไว้ตั้งแต่แรกแล้ว


“ดูแลตัวเองดีๆ”


“คุณก็เหมือนกันนะครับ อย่าลืมทานข้าวเช้าก่อนไปทำงาน อย่าดื่มกาแฟเกินสองแก้ว อย่านอนดึก”


“เธอสั่งเหมือนฉันเป็นเด็กห้าขวบ” ผมหัวเราะ ลูบกลุ่มผมนุ่มเล่นอย่างเพลินมือ กลิ่นหอมของปูรณ์ทำให้ผมผ่อนคลาย


ขณะเดียวกันก็กระตุ้นความรู้สึกผิดบาปอย่างช้าๆ


“ผมมีอะไรอยากพูดกับคุณเต็มไปหมด แต่เราไม่ได้จากกันแบบนั้น ผมเลยแค่อยากบอกให้คุณดูแลตัวเองดีๆ”


“อืม”


“ผมจะตั้งใจฝึกงาน ตั้งใจกลับไปสอบ แล้ววันหนึ่งผมจะไปช่วยแบ่งเบาภาระคุณตอนนี้นะครับ”


ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมสร้างธุรกิจ พยายามแยกบริษัทตัวเองออกมาจากบริษัทแม่ พยายามลงทุนทางด้านอื่นที่ไม่ทับเส้นธุรกิจทางบ้านก็เพราะอนาคตของเด็กคนนี้


ผมอยากสร้างทางเดินดีๆ และมั่นครอเอาไว้ให้เขาได้ก้าวเดิน


“ฉันจะรอดูความสุขของเธอ”


เพราะผมก็หวังเพียงแค่นี้


แค่อยากเห็นคนที่ผมรักมีความสุขได้เต็มหัวใจ ..ก็เท่านั้นเอง






..........





ข้างนอกฝนตกอีกแล้ว


ผ่านมาเกือบอาทิตย์ที่เขาพักอยู่ห้องนี้เพียงลำพัง จากคนที่นอนไม่ค่อยหลับเวลานอนคนเดียวช่วงแรกๆ กลับหลับสนิทไม่แม้แต่จะฝันด้วยซ้ำ กลิ่นกายของเจ้าของเดิมยังคงลอยวนอยู่รอบกายในห้อง อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาอุ่นใจขึ้นมาได้บ้าง อีกอย่าง ช่วงกลางวันก็เจอกันที่บริษัท ปูรณ์ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตตัวเองเปลี่ยนไปมากนัก แค่เพียงแต่เหมือนตัวเองเติบโตขึ้นอีกก้าวมากกว่า และเป็นก้าวที่เขาไม่เคยกล้าจะเดินก่อนหน้านี้เท่านั้นเอง


อากาศเย็นที่แตกต่างกับน้ำอุณหภูมิที่เพิ่งอาบเสร็จทำให้คนผิวซีดห่อเสื้อคลุมอาบน้ำให้กระชับลำตัวมากยิ่งขึ้น จากที่ตั้งใจว่าอาบน้ำเสร็จจะออกมาหาอะไรง่ายๆ ทำเป็นมื้อเย็นก็กลับเปลี่ยนใจเดินไปอุ่นนมสดให้ร้อนจากไมโครเวฟหนึ่งแก้วใหญ่ แล้วถือไปนั่งตรงพื้นมุมห้องที่ปูพรมหนานุ่มไว้ พร้อมกับทอดสายตาฝ่าความมืดมองสายฝนด้านนอก ทิ้งสายตาได้เพียงไม่นาน เสียงออดที่ดังขึ้นทุกๆ ค่ำคืนในเวลาเดิมแบบนี้ก็จุดรอยยิ้มน้อยๆ แต้มมุมปาก ร่างบางกระชับชุดคลุมอาบน้ำอีกครั้งก่อนเดินไปเปิดประตูห้อง ยิ้มกว้างอีกนิดเมื่อเห็นผู้มาเยือนหอบถุงข้าวของมาเต็มสองมือ



“หอบอะไรมาเยอะแยะเลยครับคุณธี”


“ผมมาชวนคุณปาร์ตี้”


“ปาร์ตี้?”


“ใช่ สองคน”


“เนื่องในโอกาสอะไรหรือเปล่าครับ”


“สำคัญนิดหน่อย แต่จริงๆ หาเรื่องมาทานข้าวกับคุณมากกว่า”


“ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แต่ยังไม่ได้แต่งตัวเลย คุณธีเข้ามาก่อนสิครับ ขอผมไปเปลี่ยนชุดแป๊บหนึ่ง”


“ไม่ต้องรีบนะปูรณ์ ตามสบายเลย คิดว่านี่เป็นห้องตัวเอง”


“มุกนี้เก่าแล้วนะครับ ยังจะเล่นอีก”


ร่างสูงหัวเราะเพราะคำเย้านั้น “นิดหนึ่งน่า ว่าแต่เตาอบใช้ได้ใช่ไหม?”


“คุณธีจะทำอาหารเองเหรอครับ” ถามพร้อมก้มมองถุงในมืออีกฝ่ายอีกครั้ง เขาถึงเพิ่งสังเกตว่าเป็นอาหารสด ไม่ใช่กับข้าวที่ซื้อมาสำเร็จแล้วอย่างทุกทีที่ธนาดลมาหาแล้วชวนทานข้าวด้วยกัน


“ผมเพิ่งให้แม่สอนมาสดๆ ร้อนๆ เลย อยากอวดวิชาน่ะ”


“ครัวจะไม่ไหม้ใช่ไหมครับ”


“ดูถูก” สิ้นคำนั้นทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ก่อนปูรณ์จะพยักหน้าขึ้นลง แล้วเอ่ยบอก


“งั้นรอผมสักครู่นะครับ เปลี่ยนชุดแป็บเดียว เดี๋ยวผมออกมาช่วย”


“อือ เดี๋ยวผมเตรียมของรอ”


หายไปไม่นาน คนอาบน้ำเพิ่งเสร็จก็ออกมาอีกครั้งด้วยชุดง่ายๆ อย่างเสื้อยืดสีขาวและกางเกงนอนขายาว บนโต๊ะตัวใหญ่กลางครัวมีของวางรออย่างกระจัดกระจาย กวาดตามองสองรอบปูรณ์ก็ได้คำตอบให้ตัวเองแต่ก็ยังถามออกไปเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นไม่ผิด


“คุณธีจะทำสเต็กแซลมอนเหรอครับ?”


“ใช่ มีสลัดด้วย นี่น้ำสลักสูตรลับของคุณแม่เลย”


“เพราะมันเป็นสูตรลับ คุณแม่คุณเลยไม่ยอมบอกวิธีแต่ทำให้มาแทนเลยเหรอครับ?” คนตัวเล็กกว่ากล่าวเช่นนั้นเมื่อเห็นน้ำสลัดที่ปรุงเรียบร้อยแล้วในขวดแก้วใบใหญ่


“โธ่ มันยากนี่นา แล้วนี่ผมก็ไปช่วยมาเองกับมือ”


“ช่วยทำอะไรครับ”


“หยิบน้ำมันงา”


“เป็นประโยชน์มากเลยครับคุณธี” ว่าด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ “แล้วสเต็กปลานี่จะรอดเหรอครับ”


“ก็คุณแม่ปรุงมาแล้ว เหลือแค่ทำให้สุกเท่านั้นเอง”


“คุณธีจะใช้เตาอบ?”


“อ้าว แล้วไม่ใช่แบบนั้นเหรอ”


พอเห็นสีหน้างงงวยที่ตั้งคำถามอย่างจริงจัง ปูรณ์ก็ส่ายหน้าช้าๆ พร้อมกับมือบางก็ดันแผ่นหลังคนตรงหน้าให้หลีกทางให้


“ย่างบนกระทะน่าจะดีกว่าครับ”


“อ๊ะ เคยเห็นคุณแม่ทำเหมือนกัน”


“คุณธีดูสนิทกับคุณแม่คุณนะครับ ผมได้ยินคุณพูดถึงบ่อยๆ”


“ก็คุณพ่อทำแต่งาน” ร่างสูงยักไหล่ “ถ้าคุณโตมากับใครคุณก็จะสนิทกับคนนั้นแหละ บางครั้งผมยังเกรงๆ เวลาคุยกับพ่อตัวเองด้วยซ้ำ”


คู่สนทนายิ้มจางกับคำเล่านั้น ก็ดีกว่าเขาไม่ใช่หรือ ที่โตมากับความโดดเดี่ยว ไม่มีใครเลย


“ผมโตมากับมูลนิธิน่ะครับ ไม่ได้สนิทกับใครหรอก แต่จริงๆ ก็มีนัทที่โตมาด้วยกัน”


“ผมขอโทษนะปูรณ์ถ้าทำให้คุณรู้สึกแย่”


“ผมไม่เป็นไรแล้วครับ” มันดีขึ้นมากแล้วถ้านับจากตอนนั้น “ตอนนี้ผมโอเคดี”


“ตอนนี้คุณมีผมนะ” ร่างสูงยิ้มให้อย่างจริงใจ ก่อนวางมือข้างหนึ่งลงทับมือบางบนโต๊ะแล้วบีบเบาๆ “ผมจะอยู่ข้างๆ คุณ แค่อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีใคร”


“ขอบคุณนะครับ” มือสองข้างกระชับเข้าหากันก่อนมือเล็กกว่าจะปล่อยออก หันไปหยิบกระทะ แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย “ถ้าวันนี้คุณธีกลับบ้านมา แล้วไม่ต้องอยู่ทานข้าวเย็นที่บ้านเหรอครับ”


“อ๋อ คุณพ่อคุณแม่ผมไปออกงานน่ะ อาฐาก็ไปนะ ทุกคนเลยไม่ว่างทานข้าวที่บ้านกัน”


“อ๋อ”


“แต่ถึงคนที่บ้านว่างกัน ผมก็อยากมาทานข้าวกับคุณมากกว่า”


“ขยันหยอดจังเลยครับเดี๋ยวนี้”


“ก็ขยันขนาดนี้คนแถวนี้ก็ไม่ยอมใจอ่อนสักที”


ไม่มีเสียงพูดตอบรับจากคนยืนอยู่หน้าเตา มีเพียงเสียงเนยหอมๆ ที่สัมผัสกับอาหารในกระทะเท่านั้นตอบกลับคนตัวสูงที่ยืนจัดจานอยู่


แต่เขาก็รู้ ว่าอีกคนกำลังค่อยๆ เปิดใจให้กัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้มายืนในห้องนี้ ทานข้าวด้วยกันสองคนบ่อยแบบที่เรียกได้ว่าแทบจะทุกวันแบบนี้หรอก





“อร่อย” คำชมเต็มปากหลังจากเคี้ยวไปจนเต็มแก้มทำให้คนที่มีหน้าที่เพียงทำให้อาหารตรงหน้าสุกเลิกคิ้วยิ้มอย่างล้อเลียน


“ชมเองแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอครับ”


“หรือคุณจะเถียงว่าไม่อร่อย”


“ไม่เถียงหรอกครับ คุณแม่คุณทำอาหารอร่อยจริงๆ” เพราะไม่ใช่แค่เพียงครั้งนี้ แต่ที่ผ่านๆ มา ธนาดลก็นำอาหารฝีมือมารดามาฝากเขาด้วยอยู่บ่อยครั้ง


“ไว้ผมจะให้คุณไปเรียนกับคุณแม่ จะได้ทำให้ผมทานบ้าง”


“หืม?”


“ผมเล่าเรื่องคุณให้ท่านฟังเยอะแยะเลย นี่ทุกครั้งท่านก็บอกให้เอาขนมนู่นนี่มาฝากคุณเยอะๆ”


“คุณธี...” ร่างบางเอ่ยเรียกเสียงอ่อน ไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะจริงจังถึงขั้นนี้


“ผมชอบคุณ ผมบอกคุณไปแล้วว่าผมชอบ ผมก็บอกแม่ไปแล้วเหมือนกัน”


“แล้วท่านไม่ว่าอะไรเหรอครับ?”


“ว่าอะไร? นี่แม่อยากเจอคุณจะแย่ แล้วคุณล่ะ พร้อมไปเจอแม่ผมหรือยัง?”


“ผม...”


“ไปในฐานะเพื่อนก็ได้ปูรณ์ ในฐานะคนที่ผมจีบอยู่ก็ได้ ผมไม่ได้ต้องการจะผูกมัดหรือเร่งรัดคุณด้วยเรื่องนี้หรอกนะ แค่อยากให้คนที่ผมรักได้เจอกัน พูดคุยกันบ้างเฉยๆ”


คนที่ผมรัก...


หัวใจเต้นผิดจังหวะไปเพียงครู่ก่อนเจ้าของมันจะรวบรวมสติแล้วส่งยิ้มกลับไป


“รอผมพร้อมกว่านี้ได้ไหมครับ”


“ได้อยู่แล้ว”


“ขอบคุณนะครับคุณธี”


“ผมสิต้องขอบคุณ ที่คุณยอมให้ผมอยู่ตรงนี้” ปลายนิ้วยื่นไปเกลี่ยมุมปากคนตรงหน้าทั้งๆ ที่ไม่ได้เลอะอะไร “ผมอยากขอบคุณที่คุณทำให้ผมมีความสุข”


“คุณก็ทำให้ผมมีความสุขครับ” ปูรณ์ตอบไปอย่างที่ใจนึก เขาคิดมาตลอดว่าตัวเองรักใครอีกคน


...แต่เวลานี้ความสุขก็อยู่ตรงหน้า


“เดี๋ยวทานเสร็จเราไปนั่งดูหนังกันไหม ผมติดหนังที่ชอบมาจากบ้านให้คุณเลือกสี่ห้าเรื่อง พรุ่งนี้วันหยุดทั้งที นอนดึกๆ หน่อยก็น่าจะไม่เป็นไร”


“คุณวางแผนมาหมดแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”


“รู้ดี” คนถูกต่อว่าไม่จริงจังส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะลงมือทานอาหารมื้อค่ำต่อจนอิ่ม หลังจากเก็บกวาดเรียบร้อย ธนาดลก็ขอตัวไปอาบน้ำก่อนเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว คนที่รอยู่ห้องจึงจัดแจงหาผ้าห่มผืนนุ่มๆ สองผืนมากองไว้บนพรมหน้าโทรทัศน์จอใหญ่ พร้อมของกินเล่นที่อีกฝ่ายเตรียมมาจากบ้าน


“ผมปิดไฟตรงนี้นะ” ร่างสูงร้องบอกให้เจ้าของห้องตอนนี้พยักหน้า พอห้องมืดสมใจเหลือเพียงแสงไฟจากจอโทรทัศน์ คนที่อยู่ในชุดนอนคล้ายๆ กันจึงทิ้งตัวลงนั่งซุกใต้ผ้าห่มอยู่ข้างกัน


“คุณชอบเรื่องนี้เหรอ?”


“ผมยังไม่เคยดูครับ แต่เรื่องอื่นผมดูหมดเลยเลยอยากลองเรื่องนี้มากกว่า หรือคุณธีเบื่อแล้ว?”


“ไม่เลย ผมชอบเรื่องนี้ที่สุดในทั้งหมดที่ผมเอามา ปีนี้ดูไปสี่ห้ารอบแล้วด้วยซ้ำ”


“สนุกขนาดนั้นเลยเหรอครับ”


“โดยรวมก็สนุก แต่ผมชอบฉากหนึ่งในเรื่องมากกว่า ผมดูหนังวนๆ ก็เพื่อรอดูฉากนั้นฉากเดียว”


“หืมม?”


“ถ้าคุณดูจบผมจะให้คุณทายว่าฉากไหน”


“ทายถูกแล้วจะได้อะไรครับ”


“ได้เหมือนในหนัง”


คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเพราะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้น แต่ก็ปัดรอยยิ้มรบกวนนั้นทิ้งไปแล้วหันไปสนใจภาพที่ฉายอยู่ตรงหน้าต่อ
เรื่องราวในจอฉายไปเรื่อยๆ จากวินาทีเป็นนาที จากนาทีเป็นชั่วโมง ท่าทางของทั้งคู่ที่ตอนแรกเพียงนั่งกอดผ้าห่มอยู่ข้างๆ กันก็เปลี่ยนเป็นซุกอยู่ภายใต้ผ้าห่มเพราะอากาศเย็นทั้งจากเครื่องปรับอากาศและฝนด้านนอกที่ยังคงไม่หยุดตก และแม้จะอยู่ใต้ผ้าห่มผืนนิ่มคนละผืน แต่เวลาผ่านไปก็เริ่มขยับเข้าหากันไม่รู้ตัว


“คุณธีชอบฉากนี้เหรอครับ”


ฉากนี้ที่ว่าคือฉากขอแต่งงานตอนใกล้จะจบเรื่อง ในหนังไม่ได้สื่อถึงความโรแมนติกหรูหราหากแต่เป็นคำพูดธรรมดาในวันที่ตัวเอกเดินเล่นด้วยกันในสวนสาธารณะหลังเลิกงาน แล้วฝ่ายชายก็หันมาถามฝ่ายหญิงด้วยคำพูดสั้นๆ แค่ว่า คุณอยากเดินจับมือกับผมแบบนี้ไปตลอดชีวิตของคุณไหม และรอยยิ้มของนางเอกก็เป็นคำตอบและตอนจบของเรื่องราวทั้งหมด


“คุณอยากถูกขอแต่งงานเหรอ?”


“มะ.. ไม่ใช่นะครับ” ปฏิเสธพลางนึกไปถึงคำพูดที่คุยกันทิ้งไว้ก่อนหนังเริ่มฉายแล้วใบหน้าก็พลันขึ้นสีแดงเรื่อ


“จริงๆ ผมชอบฉากที่พระเอกเจอนางเอกครั้งแรก”


คนฟังนึกย้อนไปถึงฉากที่ว่าก่อนจะค่อยๆ นึกภาพในหนังที่เพิ่งดูจบไปแล้วพูดออกมา “ฉากที่พระเอกเห็นนางเอกอยู่อีกฝั่งถนนเหรอครับ?”


“ใช่”


“แต่ฉากนั้นไม่มีอะไรเลยนะครับ”


“มีสิ พระเอกยิ้มออกมาทันทีที่เห็นนางเอก แล้วหลังจากนั้นเขาก็ตามหาเธอ ผมคิดว่าฉากที่ไม่มีบทพูดนี่แหละน่าจะบอกเราว่าให้ใช้ใจดูหนังเรื่องนี้เยอะๆ แล้วผมก็มาเข้าใจเอาตอนหลังๆ ว่า ในฉากที่ผมชอบนั้น พระเอกคงคิดว่าแน่ๆ ว่าเขาเจอแล้วคนที่อยากอยู่ด้วย”


“.....”


“แล้วไม่ว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไง ถ้าผมเจอคนที่ชอบ ผมจะตามหาเขา บอกว่าผมชอบ และทำทุกอย่างให้เขาตอบตกลงในวันที่ผมขอแต่งงาน”


“คุณธี...”


“หนังมันก็เนื้อเรื่องธรรมดา แต่พอผมชอบดู ผมก็คิดว่ามันพิเศษ”


“.....”


“แล้วผมก็อยากให้คุณคิดเหมือนกัน”



ไม่รู้ว่าธนาดลหมายถึงหนัง หรือเรื่องอะไร


แต่ปูรณ์ก็ไม่ได้ถอยหนีตอนอีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ ยอมปล่อยให้มือข้างหนึ่งโอบประคองไว้ที่ข้างแก้ม ยิ้มบางๆ รับสัมผัสที่เกลี่ยเบาๆ บนผิวแก้มเย็น ก่อนจะหลับตาลงเมื่ออีกคนโน้มตัวเข้าหา


รสจูบเย็นๆ แตะแผ่วเบาบนริมฝีปากอิ่ม แช่ค้างเนิ่นนานคล้ายรอดูท่าที จนเมื่ออุณหภูมิของริมฝีปากที่แตะกันเพิ่มขึ้นจนอุ่น ริมฝีปากบางได้รูปที่เริ่มก่อนจึงค่อยๆ ขยับอย่างเนิบช้า กลืนกินริมฝีปากอีกฝ่ายทีละน้อย ค่อยๆ เปิดสัมผัสเพื่อหาความอบอุ่นที่มีมากกว่า จนมั่นใจว่าถูกตอบรับ จึงเพิ่มแรงดึงดูดระหว่างกันจนปลายลิ้นทั้งสองค่อยๆ เกี่ยวพันกันอย่างไม่รู้ตัว


เสียงจูบกันดังก้องสะท้อนห้องมืดที่มีเพียงความเงียบ ริมฝีปากบดเบียดกันแลกเปลี่ยนอารมณ์หวามไหวที่ค่อยๆ ถูกกระตุ้นเพราะบรรยากาศ ปลายนิ้วแกร่งลากไล้จากแก้มเนียนไปตามลำคอระหงเรื่อยลงจนถึงแผ่นหลังบอบบาง สอดปลายมือทักทายผิวกายที่สั่นระริกตอบรับใต้เสื้อยืดเนื้อดี และเมื่อเนื้อผ้าสีขาวที่เกะกะขวางทางถูกถอดออก เจ้าของเสื้อที่ท่อนบนเปลือยเปล่าจึงค่อยๆ ถูกประคองให้เอนกายลงบนพรมผืนนุ่มช้าๆ


และนั่นก็ทำให้ร่างบางกว่าได้สติขึ้นมา


“ไม่นะครับคุณธี ไม่ใช่ตอนนี้”


“ปูรณ์...” น้ำเสียงสั่นไหว แววตาสั่นสะท้านมองตอบกันในความมืด ก่อนถ้อยคำปฏิเสธจะถูกเอ่ยอีกครั้ง


“ไม่ใช่ที่นี่ด้วยครับ” ...นี่เป็นห้องคุณฐา


“.....”


“.....”


ความเงียบปล่อยให้สองร่างพากันค้นหาความหมายที่ซ่อนไว้ใต้แววตา และผู้ที่ค้นพบมันก่อนก็อาจจะไม่ใช่ผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้


“เป็นอาของผมเหรอ?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม กดกลั้นความเจ็บปวดไม่มิด


“.....”


“คนที่ซ่อนอยู่ในใจของคุณ”


“ผม...”


“ที่คุณไม่เคยยอมให้ผมเข้าใกล้ได้มากกว่านี้ เป็นเพราะเขาใช่ไหม?”


“คุณธี”


“.....”


“.....”


“ผมขอโทษนะปูรณ์” พร้อมคำขอโทษ เสื้อที่ถูกถอดทิ้งถูกสวมใส่อีกครั้งโดยคนที่ปลดเปลื้องมันออก ริมฝีปากได้รูปกดลงบนหน้าผากเนียนอย่างพยายามสะกดกลั้นอารมณ์


“คุณคงอยากได้เวลา”


“.....”


“ผมเองก็เช่นกัน”


ทิ้งไว้เพียงเท่านั้นร่างสูงก็ลุกออกจากห้องไป


ทิ้งสายตาคู่หนึ่งให้ทอดมองตามในค่ำคืนที่ความมืดก็ยังคงไม่ได้ให้คำตอบแก่ใครได้ ว่าความรู้สึกสับสนเช่นนั้นเป็นเพราะหตุใด



รัก หรือ ไม่ใช่?

ไม่มีใครสามารถตอบคำถามนี้ได้เลย...


















..TBC..














>> ดราม่าหรือเปล่าไม่รู้ แต่นี่คือปมแรกของเรื่องเองค่ะ ^^

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันด้วยนะคะ









หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 8 ▼▼ UP!! 14/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: masochism2018 ที่ 14-01-2018 23:25:06
 :a5: o22
ปวดหัวเลยคร่ะ
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 8 ▼▼ UP!! 14/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 15-01-2018 23:54:44
 o22
น้องปูรณ์จะรู้สึกยังไงถ้าได้รู้ว่าคุณฐาเป็นพี่ชายของน้อง..  :ling2:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 8 ▼▼ UP!! 14/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 18-01-2018 10:36:50
ปมของอาฐานี่มัน....
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 8 ▼▼ UP!! 14/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 20-01-2018 10:42:58
มันอึนๆ มึนๆ ไม่สดใสเลยน้องปูรณ์
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 8 ▼▼ UP!! 14/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 03-02-2018 21:13:55
คิดถึงเรื่องนี้ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 8 ▼▼ UP!! 14/01/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 06-02-2018 19:48:23
กลัวใจจริงๆ
หัวข้อ: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 9 ▼▼ UP!! 09/03/20
เริ่มหัวข้อโดย: Toffeenut ที่ 09-03-2018 19:14:05
▲▲As an escort
#เพื่อนนอนตอนที่ 9













“พอเถอะครับคุณธี” มือบางข้างหนึ่งเอื้อมมารั้งมือที่ยกแก้วเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าเข้าปาก แม้คนเมาแทบไม่มีแรงขัดขืนแต่ดวงตาแดงก่ำก็ตวัดมองอย่างไม่ชอบใจนักที่ถูกขัดจังหวะ


“อย่าห้ามผมน่า” เสียงทุ้มส่งออกมาอ้อแอ้หากแต่คราวนี้กลณัฏฐ์ไม่ยอมเหมือนชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะออกแรงเพิ่มอีกนิดแก้วเหล้าใบนั้นก็มาอยู่ในมือเขา และถูกส่งต่อไปให้คนดูแลที่ยืนอยู่ไม่ไกล รวมถึงขวดเหล้าที่เหลือของเหลวสีอ่อนอยู่เพียงก้นขวดด้วย


เสียงจิ๊ปากอย่างขัดใจดังมาจากร่างสูงที่ถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์เล่นงาน มือที่ว่างจากแก้วเหล้ายกขึ้นคลึงขมับ นวดแรงๆ สองสามครั้งก็ถูกมือคู่เดิมที่แย่งแก้วเหล้าไปรั้งเอาไว้ สัมผัสอ่อนโยนรั้งคนที่ตัวสูงกว่าให้เอนนอนลงมาบนตักเพราะทั้งคู่นั่งเคียงกันอยู่ที่โซฟาตัวยาว ก่อนจะค่อยๆ คลึงขมับให้แทน สัมผัสนั้นวนไปมาซ้ำๆ อยู่เกือบห้านาทีเจ้าของทั้งมือทั้งตักจึงเอ่ยขึ้นก่อนเนิบๆ


“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจอยากระบายไหมครับ”


คิ้วของคนบนตักขมวดเข้าหากัน ไม่แน่ใจว่าอยากพูดออกไปหรือแค่อยากดื่มเหล้าเงียบๆ เพื่อให้ตัวเองหลับไปได้ในคืนนี้ หนีทั้งความจริง ทั้งความสับสนที่ปะปนในหัวใจ แต่เสี้ยวหนึ่งเขาก็อยากระบายให้ใครสักคนได้ฟัง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เลือกเรียกเอสคอร์ทคนนี้ ...คนที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของปูรณ์ให้ออกมาหา


“คุณรู้เรื่องเพื่อนคุณ...” พูดได้แค่นั้นก็เงียบไปอีกครั้ง แต่เจ้าของตักก็ใจเย็นพอจะไม่พูดแทรก นิ้วมือยังคงทำหน้าที่นวดคลึงขมับให้ผ่อนคลาย


“.....”


“คุณรู้เรื่องเพื่อนคุณกับอาของผมไหม?”


“.....”


ความเงียบเป็นคำตอบอย่างดี


“ทำไมวันนั้นที่ผมคุยกับคุณ คุณถึงไม่บอกผมเรื่องนี้”


“ผมจะมีสิทธิ์อะไรไปบอกล่ะครับ”


“.....”


นั่นสิ...เพราะแม้แต่ตัวเขาเองยังไม่มีสิทธิ์ได้รับรู้


เรื่องระหว่างคนสองคนเท่านั้น


“แต่คุณรู้ใช่ไหมว่าผมชอบเพื่อนคุณ”


เสียงทุ้มปร่าแปร่งทั้งเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์และความรู้สึกสั่นไหวของในใจ ทว่าสติยังคงหลงเหลือให้สามารถต่อบทสนทนาได้ด้วยเพราะไม่ใช่คนคออ่อนแต่ทุนเดิม


“ใครได้รู้จักปูรณ์ก็ชอบกันทั้งนั้นแหละครับ” สายตาที่ก้มลงมองมีแวววูบไหว รอยยิ้มชืดจางปรากฎบนใบหน้าที่หากไม่สังเกตก็ไม่พบแววเหนื่อยล้า “ปูรณ์เป็นคนอ่อนโยน หมอนั่นมักจะนึกถึงแต่คนอื่นจนไม่สนความรู้สึกตัวเอง อะไรที่ยอมได้ก็ยอมไปหมด แม้เรื่องบางเรื่องเจ้าตัวจะไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่ถ้าลองมีคนขอร้อง คนใจอ่อนอย่างปูรณ์ก็ทำให้แทบทุกอย่าง”


“.....”


“ผมเคยบอกเคยว่าเป็นร้อยครั้งว่ามีแต่คนโง่ที่ยอมอะไรแบบนี้ แต่หมอนั่นก็ยังยิ้มและบอกเพียงแค่ว่าถ้าผมได้รักใครสักคนผมก็จะเข้าใจ”


“.....”


“แต่จนถึงวันนี้ ผมก็ยังไม่อยากแม้แต่จะเข้าใจเลยสักครั้ง”


สิ้นประโยคนั้น ความเงียบก็ขับกล่อมคนสองคนอย่างบางเบาในความมืดมิดของค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์ ไร้แสงดาว เนิ่นนานจนในที่สุดเจ้าของประโยคสุดท้ายเมื่อสักครู่ก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง และคราวนี้ น้ำเสียงนั้นเจือแวววิงวอนขอร้องอย่างคนที่ตัดสินใจมาอย่างดีแล้ว


“พยายามอีกนิดได้ไหมครับคุณธี เรื่องบางเรื่องผมอาจไม่มีสิทธิ์บอก ไม่มีสิทธิ์อธิบาย แต่ถ้าลองพยายามอีกสักครั้ง คุณอาจจะได้รับคำอธิบายในเรื่องที่ใครคนไหนก็ไม่มีสิทธิ์ได้รู้ก็ได้”


“.....”


“ลองอีกครั้งแล้วถ้าคุณเหนื่อยก็แค่กลับมา...”


“.....”


“แล้วถ้ามีคราวหน้า ผมจะดื่มเป็นเพื่อนคุณเอง”


รอยยิ้มอ่อนหวานเผยบนใบหน้าเนียนที่แม้จะมองไม่ค่อยชัดในห้องที่ไฟเปิดเพียงแสงสลัว หากแต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้ธนดลยอมลุกขึ้น ไตร่ตรองทุกอย่างในใจเท่าที่สติเขายังคงไหว และเมื่อได้คำตอบ ร่างสูงก็หันมาส่งยิ้มให้


“ขอบคุณนะ” คำตอบสั้นๆ นั้นจากไปพร้อมกับเจ้าของดวงตาสีชาที่เดินออกจากห้อง ทิ้งเจ้าของห้องไว้กับรอยยิ้มที่ฝืนความอ่อนล้าไว้ยากเต็มที



ตอนไม่รู้จักความรัก... ก็ว่าไม่เคยเข้าใจ
แต่พอได้รัก... กลับยิ่งไม่อยากจะเข้าใจ











ควันร้อนลอยอ้อยอิ่งเหนืออ่างอาบน้ำสีขาว...


อุณหภูมิของน้ำในอ่างที่โอบล้อมผิวกายขาวซีดร้อนจนส่งผลให้ผิวบอบบางแดงเรื่อ ร่างกายที่อ้อนล้าค่อยถดตัวเองลงในอ่างให้ลึกจนกระทั่งระดับน้ำแตะริมฝีปาก ดวงตาเรียวปิดลงแล้วปลดปล่อยตัวเองให้ดำดิ่งในห้วงความคิดวกวนท่ามกลางความเงียบของยามกลางคืน ปล่อยให้เวลาผ่านไปนานจนอุณหภูมิของน้ำลดต่ำลงจนกลายเป็นความเย็นที่เข้ามาแทนที่ ตอนนั้นร่างกายเพรียวบางถึงยอมลุกออกจากอ่างอาบน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่


กระจกในห้องน้ำไม่สะท้อนภาพใดเพราะเกาะพราวไปด้วยฝ้าเต็มแผ่น ปลายนิ้วหนึ่งจรดลงบนแผ่นกระจกนั้นแล้วลากไล้เป็นถ้อยคำและรูปร่างไร้ความหมาย เอื้อมมือหยิบชุดคลุมอาบน้ำที่แขวนไว้ด้านข้างมาสวม รวบจับสาบเสื้อเข้าด้วยกันพร้อมกับผูกเชือกเรียบร้อยแล้วจึงก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำ ปล่อยปลายผมที่ไม่ได้ถูกซับให้หยดน้ำหยดลงบนผ้าคลุมสีขาวสะอาดและตามทางเดินก่อนจะถึงเตียงกว้าง


“ผมกำลังคิดว่าถ้าอีกสิบนาทีคุณยังไม่ออกมาผมจะเข้าไปตาม”


เสียงทุ้มที่ดังมาจากฝั่งหนึ่งของห้องทำให้เจ้าของห้องตอนนี้หันขวับ ดวงตาเรียวที่เต็มไปด้วยความสับสนวูบไหวยิ่งกว่าเดิมเมื่อต้องสบกับดวงตาสีชาแน่วแน่ที่มองตรงมา มือเผลอกระชับสาบเสื้อคลุมเข้าหากันเมื่อร่างสูงนั้นขยับเข้ามาใกล้และเขาได้กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ปนมากลับกลิ่นน้ำหอมประจำของอีกฝ่าย


“คุณธี”


“ผมอยากมาขอโทษคุณ”


ปูรณ์เงยหน้ามองร่างสูงที่เดินมาใกล้ รับฟังน้ำเสียงที่ทอดอ่อนอย่างเว้าวอนด้วยรู้สึกผิด


“ผมแค่สับสน หรือบางทีผมก็แค่...”


“.....”


“กลัว”


“ผม...”


“แต่ผมก็ยังอยากขอโอกาสจากคุณนะปูรณ์”


“.....”


“ให้ผมได้รักคุณเถอะนะ”


ดวงตาสองคู่ประสานสบกันท่ามกลางความสับสน หน่วยตาเรียววูบไหวเพราะความสั่นคลอนข้างในหัวใจ ขณะที่ดวงตาคู่คมกลับแน่วแน่ยิ่งกว่า หนักแน่นเพราะเขาถามหัวใจตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วก่อนจะกลับมาที่ห้องนี้อีกครั้ง


และครั้งนี้ไม่มีใครอื่น ไม่มีความรู้สึกของใครเข้ามามีอิทธิพลหรือข้องเกี่ยว มีเพียงเขา และเจ้าของสายตาสั่นไหวตรงหน้าเท่านั้น


“นะ ปูรณ์...”


สองร่างที่ยืนตรงข้ามราวกลับมีแรงดึงดูดเข้าหากันเพียงเพราะคำวอนสั้นๆ นั้น มือข้างหนึ่งของผู้มาเยือนกลางดึกโอบข้างแก้มเพื่อให้รับกับองศาที่เรียวปากทั้งคู่จะได้สัมผัสกันอย่างแนบชิด มืออีกข้างที่ว่างคว้าเอวบางเข้ากอดแนบอก ริมฝีปากทั้งสองบดเบียดเข้าหากันอย่างโหยหา


รุนแรง ทว่าอ่อนโยนยิ่ง


ริมฝีปากอิ่มได้รูปทุกรุกเร้าอย่างหนักหน่วง ลมหายใจหอบกระชั้นเนื่องเพราะถูกพรากไปทีละน้อย เรียวลิ้นร้อนกวาดต้อนเอาความหอมหวานทุกหยาดหยด เกี่ยวพันกันด้วยความรู้สึกนับพันประการ เชือกของชุดคลุมอาบน้ำที่รัดรอบเอวซึ่งเป็นเสื้อผ้าเพียงชิ้นเดียวของร่างเล็กกว่าถูกปลดอย่างง่ายดายด้วยมือข้างที่กำลังไล้โลมไปทั่วผิวกายละเอียด เพียงไม่นาน ชุดคลุมทั้งชุดก็ถูกรั้งร่วงลงสู่พื้น พร้อมกันกับที่เจ้าของชุดในร่างเปลือยเปล่าถูกประคองให้นอนลงกับเตียงกว้างสีขาว ก่อนจะถูกทาบทับกักขังด้วยเรือนกายสูงใหญ่


รสจูบล้ำลึกล่อหลอกให้ไร้ซึ่งเรียวแรงต่อต้าน สัมผัสร้อนผ่าวลามเลียทั่วผิวกายเย็นชืดเพราะเพิ่งขึ้นจากน้ำ มือบางสองข้างโอบรอบก่อนรั้งท้ายทอยของคนด้านบนให้จูบนั้นยิ่งแนบชิดมากขึ้น


ในสติกึ่งเมา กึ่งรับรู้ ภาพในอดีตในวันแรกที่ทั้งสองได้แนบชิดกันผุดขึ้นมาในห้วงความคิดของธนาดลเป็นฉากๆ ภาพฉายซ้ำละเอียดราวกับกำลังกรอแผ่นหนังดูวนไปซ้ำๆ


ภาพผิวกายเนียนนิ่มที่ถูกเขาลูบไล้ เสื้อตัวบางที่ถูกกระชากจนกระดุมขาดแล้วหล่นกลิ้งไปบนพื้นห้อง ริมฝีปากอิ่มที่เม้มแน่นขัดขืนแต่ก็ถูกขบกัดจนห้อเลือด เรี่ยวแรงน้อยนิดที่พยายามดิ้นรนขัดขืนหากก็ถูกความเมาและเอาแต่ใจของเขาครอบครองทั้งเนื้อทั้งตัวจนไม่มีทางดิ้นหนี และในสำนึกนั้นสิ่งที่แว่วชัดที่สุดกลับเป็นเสียงกระซิบแผ่วเบาราวกับคนละเมอ



‘รักผม...’


‘รักผมไม่ได้เหรอครับ’




และก็เป็นเขาในตอนนั้นที่ตอบกลับไปด้วยสิ่งที่ฝังอยู่ในใจพร้อมกับสติอันน้อยนิด



‘เพลง’


‘ผมรักเพลง’




ร่างสูงแทบจะสร่างเมาได้ในนาทีนั้น ความเจ็บปวดในใจของคนที่เขากอดอยู่จะรุนแรงแค่ไหนกันนะ การอ้อนวอนขอความรักจากคนที่ให้รักกลับมาไม่ได้มันทั้งน่าสมเพชและน่าสงสารพอกัน


แต่ในนาทีนี้ เขาอยากเป็นคนเยียวยาแผลนั้น อยากปลุกปลอบจิตใจบอบช้ำดวงนั้นด้วยคำที่เขามั่นใจ
ความรู้สึกรักของเขาที่มอบมันให้คนคนนี้ไปแล้วจนหมดสิ้น


“ปูรณ์”


ริมฝีปากได้รูปกระซิบชิดริมฝีปากอิ่มแดงจากการจูบยาวนาน


“ผมรักคุณ”


“.....”


“รักแค่คุณ”


และเพราะมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง รวมทั้งอยากไถ่โทษ สัมผัสร้อนแรงบนเตียงกว้างจึงเหลือเพียงแค่ความอ่อนโยน ปลอบประโลม มีเพียงการจูบซ้ำๆ ไปทั่วผิวกายบอบบาง ไม่ล่วงเกินมากกว่านั้น ใช้สัมผัสนั้นทั้งบอกรักและขอโทษกับความผิดที่แล้วมา


ธนาดลรู้ว่ามันเป็นเรื่องยาก แต่รอยยิ้มเต็มแก้มที่ผ่านไปถึงนัยน์ตาที่แฝงรอยเศร้าอยู่เสมอยามที่เขากดจูบลงบนหน้าผากเนียนก่อนกระซิบบอกฝันดี ก็เป็นคำตอบอย่างดีว่าอีกคนเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อว่าเขาไม่ได้ต้องการเพียงร่างกายนี้เหมือนใครที่เคยผ่านเข้ามา สิ่งที่เขาต้องการมันสำคัญกว่านั้น ยิ่งใหญ่กว่านั้น


และเขาก็พร้อมจะรอ วันที่ปูรณ์จะเป็นคนมอบทุกอย่างให้เขาด้วยตัวเองอย่างเต็มใจ










ฝนที่ตกตอนใกล้รุ่งทำให้อากาศตอนเช้าเย็นชื้น แอร์ในห้องนอนที่เปิดให้เย็นจัดอยู่เสมอเย็นลงกว่าทุกวันที่ตื่น ทว่าอ้อมแขนแข็งแกร่งที่โอบรัดเอวบางและแผ่นอกอุ่นของคนที่นอนซ้อนอยู่ด้านหลังก็ทำให้ความหนาวเย็นของอากาศแทบจะไม่มีผลกับความรู้สึก เรียวปากบางคลี่ยิ้มตอนที่วางมือลงทาบทับมือที่วางอยู่แถวหน้าท้อง และยิ่งแย้มรอยยิ้มกว้างยิ่งขึ้นเมื่อมีสัมผัสบางเบาจากริมฝีปากคนด้านหลังกดลงบนลาดไหล่เปลือย


“อรุณสวัสดิ์” เสียงทุ้มแหบพร่าอย่างคนเพิ่งตื่นนอน ริมฝีปากที่เพิ่งเอ่ยทักทายย้ายไปกดจูบลงข้างขมับสองสามครั้งจนคนถูกจูบเอียงคอหนีแล้วครางประท้วง


“ฮื่อ... พอก่อนครับ”


“อยากได้ morning kiss”


ดวงตาเรียวให้ไปค้อนให้คนด้านหลัง และนั่นก็ทำให้ปลายจมูกรั้นถูกงับเบาๆ


“คุณธี!”


“อย่าโมโหแต่เช้าสิ”


“ก็เพราะใครล่ะครับ”


“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว ว่าแต่นี่ยังเช้ามากอยู่เลย นอนต่ออีกนิดเถอะ”


“ผมไม่ง่วงแล้ว”


“แต่ผมยังง่วงอยู่ เหมือนจะปวดหัวนิดๆ ด้วย” เสียงทุ้มเอ่ยอ้อน พร้อมกระชับอ้อมกอดเข้ามาอีกนิด


“ก็คุณธีดื่มเยอะเองนี่นา”


“แต่เมื่อคืนก็ไม่ได้เมามากนะ แล้วนี่ก็แค่ปวดหัวนิดหน่อย”


“ถ้าแบบนั้นผมไปหาอะไรร้อนๆ ให้คุณธีดื่มดีกว่า เผื่อจะได้ทานนยาแล้วจะได้นอนต่อ วันนี้ไม่มีธุระที่ไหนใช่ไหมครับ”


“ไม่มีธุระ แต่ก็ไม่เอา”


“หืม?”


“ไม่กินยา ไม่กินอะไรทั้งนั้น”


“ทำไมดื้อจังครับ”


“ผมอยากนอนกอดคุณแล้วหลับไปมากกว่า”


“คุณก็กอดมาทั้งคืนแล้ว”


“ให้กอดอีกทั้งวันก็ไม่พอ”


เถียงไปแบบนั้นพร้อมกับรัดคนตัวบางกว่าเข้าหาตัว ก่อนจะขู่อีกฝ่ายนิ่งๆ ว่าถ้าไม่ยอมหยุดพูดจะจูบจนปากช้ำ แค่นั้นอีกคนก็ก้มหน้างุด ซุกอกให้เขาได้ลูบผมลูบหลังก่อนจะหลับไปพร้อมกันอีกรอบ





และกว่าที่เจ้าของห้องจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนที่มีแรงเขย่าเบาๆ ที่ต้นแขนพร้อมเสียงเรียกชื่อซ้ำไปมา


“ปูรณ์ ปูรณ์”


“ฮื่อออ”


“ตอนเช้ายังดีๆ อยู่เลย ทำไมตอนนี้คุณตัวรุมๆ แล้วล่ะ”


“กี่โมงแล้วครับ?”


“ตอนนี้เกือบเที่ยงแล้ว ผมว่าคราวนี้คุณนั่นแหละที่ต้องตื่นมาทานข้าวทานยา”


“เจ็บคอจังเลยครับ”


“เดี๋ยวผมหาข้าวต้มร้อนๆ ให้”


“คุณทำเป็นเหรอครับ”


“เอาน่า ตอนนี้คุณลุกไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะ ไหวไหม? ให้ผมอุ้มไปดีกว่า” ถามแบบไม่รอคำตอบก่อนจะช้อนร่างเพรียวบนเตียงแล้วอุ้มพาไปส่งที่หน้าห้องน้ำ หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กยื่นส่งให้แล้วกำชับเสียงเข้ม


“ห้ามอาบน้ำนะ ล้างหน้าแปรงฟันก็พอ”


“ทีคุณยังอาบได้เลย เมื่อเช้ายังบ่นปวดหัวแท้ๆ” คนตัวร้อนเถียงเพราะเห็นอีกฝ่ายแต่งตัวเรียบร้อยด้วยชุดที่คงกลับไปเอาที่ห้องของเจ้าตัว


“ผมแค่แฮงค์ครับ ไม่ได้ป่วย”


“ผมก็ไม่ได้ป่วย แค่ตัวอุ่นนิดเดียว”


“เถียงเก่งแบบนี้แสดงว่าไม่เป็นไรมาก งั้นผมรู้แล้วแหละว่าจะพาคุณไปทานข้าวที่ไหนดี” แววตาที่มาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทำให้คนในห้องน้ำมองอย่างสงสัย แต่ธนาดลก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไรกลับไป เพราะอีกไม่ถึงชั่วโมงคนตรงหน้าก็จะได้รับคำตอบเอง









บ้านหลังขนาดกลางแถบชานเมืองที่ปรากฎตรงหน้าหลังจากรถจอดสนิททำให้คิ้วเรียวที่แทบจะขมวดมุ่นมาตลอดทางยิ่งขมวดจนแทบจะผูกกันได้ แววตาสงสัยเงยขึ้นสบกับคนตาพราวระยับที่มองมาแต่ก็ยังไม่ยอมเอ่ยอธิบายอะไรให้เขาได้เข้าใจอยู่ดี ร่างสูงเพียงเดินอ้อมมายืนข้างๆ กันและเตะเอวให้เขาเดินตามทางปูหินอ่อนตรงไปข้างหน้า จนกระทั่งไปถึงห้องรับแขกที่มีหญิงชราท่าทางใจดีนั่งง่วนอยู่กับผ้าห่มถักผืนโตในมือ


“คุณยายครับ” เพราะธนาดลไม่เอ่ยบอกว่าจะพาเขามาที่ไหน ไม่เอ่ยเกริ่นนำอะไรทั้งนั้น ดังนั้นสรรพนามที่เอ่ยออกมาจากคนที่ยืนข้างจึงทำให้เขาตกใจอยู่ไม่น้อย อยากต่อว่าคนเจ้าเล่ห์ออกไปแต่ก็ไม่ทันเพราะหญิงชราที่ถูกเรียกเงยหน้าขึ้นมาเสียก่อนแล้วเอ่ยทักทายหลานชายตัวโตด้วยถ้อยคำส่อถึงความเอ็นดูอย่างเต็มที่


“มาแล้วเหรอพ่อตัวดี”


“โธ่ ทำไมทักผมแบบนั้นล่ะครับ ผมคิดถึงคุณยายจะแย่”


“คิดถึงจะแย่แต่หายไปเป็นเดือนจะให้ยายเชื่อรึไงน่ะเรา”


“ผมฝึกงานนี่ครับคุณยาย”


“แก้ตัวได้ตลอดนะคนเรา”


“โธ่ พูดความจริงก็หาว่าแก้ตัวอีก” ร่างสูงกอดเอวผู้เป็นยายแล้วเงยหน้าหอมแก้มที่เหี่ยวย่นตามวัยดังฟอด “นี่พอว่างก็รีบมาหาเลยนะครับ”


“ทำปากหวานไปเถอะ แล้วไหนเพื่อนที่บอกยายว่าจะพามาทานข้าวที่บ้าน” ถามพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ยืนอย่างประหม่าอยู่ข้างๆ รอยยิ้มใจดีเผื่อแผ่มาถึงแขกผู้มาเยือนก่อนจะเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงใจดีไม่ต่างกัน


“ปูรณ์ใช่ไหมลูก ตาธีบอกว่าจะพาเพื่อนชื่อนี้มาที่บ้าน ว่าแต่เป็นแค่เพื่อนกันจริงหรือเปล่า?”


น้ำเสียงล้อเลียนจากหญิงชราใจดีทำให้แก้มคนฟังขึ้นสีเรื่อ แต่ก็ทำได้เพียงแค่ยกมือไหว้อย่างนอบน้อมตามมารยาท “สวัสดีครับ”


“ไหว้พระเถอะลูก”


ปูรณ์ยิ้มตอบรอยยิ้มที่ถูกส่งมาให้จากเจ้าของบ้าน ก่อนจะค่อยๆ เขยิบไปนั่งใกล้เมื่อถูกกวักมือเรียกอีกครั้ง


“หน้าตาก็ดี ผิวพรรณก็ละเอียด แถมยั่งยิ้มสวยอีก ไม่น่าเป็นเพื่อนกับตาธีได้นะเนี่ย”


“อ้าว คุณยาย” เสียงทุ้มประท้วง เรียกเสียงหัวเราะให้หญิงชราที่กำลังชมแขกของบ้านอย่างเอ็นดู


“ก็เพื่อนเราดูเรียบร้อยน่ารัก ไม่ได้ดูทะโมนแถมดื้อเหมือนเรานี่นา ว่าแต่นี่เป็นเพื่อนจริงเหรอ”


“ผมกำลังจีบอยู่ครับ” คำตอบตรงไม่อ้อมค้อมทำให้ผู้สูงวัยหมั่นไส้ ในขณะที่ผู้ถูกพาดพิงได้แต่ยิ้มเจื่อนเพราะทำตัวไม่ถูก


“ใจแข็งเยอะๆ นะลูก กับคนแบบนี้อย่าไปยอมง่ายๆ”


ปูรณ์ถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อมือเหี่ยวย่นข้างนั้นละจากแขนหลานชายมาจับมือเขาไว้แล้วบีบเบาๆ “ครับ”


“โธ่ คุณยาย ไหนก่อนหน้าโทรคุยกันบอกว่าจะช่วยไงครับ ผมถึงกับพามาทานข้าวด้วย ทำไมตอนนี้กลับคำแบบนี้ล่ะ”


“ก็ยายถูกชะตากับปูรณ์เค้านี่นา เรามันเด็กดื้อ โดนแบบนี้แหละจะได้ไม่กล้าทำอะไรไม่ดี”


“ผมเสียหายนะครับ เกิดปูรณ์เชื่อคุณยายแล้วหักคะแนนผมทำไงอ่ะ”


“มีให้หักด้วยเหรอเรา กับยายนี่ติดลบตั้งแต่เกิดได้ไม่ถึงสามวัน”


“คุณยายยยย” เสียงท้วงรวมถึงกิริยาเหมือนเด็กโข่งนั้นเรียกเสียงหัวเราะอีกสองเสียงได้ไม่ยาก ความน่ารักของสองยายหลานทำให้ปูรณ์นึกถึงความอบอุ่นของครอบครัวที่เขาไม่เคยได้สัมผัส รอยยิ้มจางที่แต้มริมฝีปากติดรอยเศร้าจนคนมองสังเกตได้ และก็เป็นคนแก่ที่สุดที่ยื่นมือมาเปลี่ยนเรื่อง


“ไหนเรา ตาธีบอกว่าไม่ค่อยสบาย ยายเตรียมแกงจืดร้อนๆ กับกับข้าวสองสามอย่างไว้ให้ ไปทานกันเถอะ เผื่อต้องทานยา แล้วถ้าต้องนอนพักก็นอนที่นี่เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจยาย คนแก่แล้ว นานๆ ทีลูกหลานมาเยี่ยมก็อยากให้อยู่ด้วยนานๆ”


“ขอบคุณครับ ไปทานข้าวทานปลาก่อนเถอะเรา เย็นๆ เดี๋ยวดีขึ้นแล้วยายจะชวนทำขนมไปวัด”


“ไปวัดเหรอครับ?”


“ใช่ลูก พรุ่งนี้วันพระ ถ้าเราสะดวกก็ค้างที่นี่เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะได้ตื่นไปวัดกัน”


“เอ่อ ผม...” แม้จะอยากอยู่ตามคำชวนแต่ความเกรงใจก็มีอยู่ไม่น้อย ปูรณ์จึงหันหาอีกคนที่มาด้วยกันเป็นเชิงขอความเห็น ซึ่งอีกฝ่ายที่รอท่าทีอยู่แล้วรีบยิ้มกว้างก่อนจะบอก


“จริงๆ ผมก็ตั้งใจอยากพาคุณมาค้างที่นี่แหละ ขนมฝีมือคุณยายอร่อยมากเลยนะคุณรู้ไหม กับข้าวยิ่งอร่อย อยู่นานๆ แล้วคุณจะติดใจ”


พอได้ยินแบบนั้น คนอายุน้อยที่สุดจึงหันมาหาผู้อาวุโส แล้วแย้มรอยยิ้มกว้าง “ถ้าอย่างนั้นผมขอรบกวนด้วยนะครับ”










“คุณยายของคุณน่ารักมากเลยนะครับ ใจดีกับผมมากเลย” ในห้องโดยสารของรถคันหรูเสียงชวนคุยดังมาจากคนนั่งข้างคนขับ บนใบหน้ายังมีรอยยิ้มแต้มเมื่อนึกถึงสองวันที่ผ่านมาในบ้านหลังอบอุ่นแถบชานเมือง


“คุณยายก็ชมว่าคุณน่ารัก อยากให้ผมพาคุณมาหาบ่อยๆ ท่านยังแซวอยู่เลยว่าให้ผมรีบจีบคุณให้ติด ดังนั้นคุณอย่าใจแข็งกับผมนักเลยนะ เดี๋ยวคุณยายเสียใจ”


“เกี่ยวกันที่ไหนล่ะครับคุณธีก็”


“ไม่รู้แหละ ผมต้องรีบทำคะแนน เดี๋ยวเอาไว้วันหยุดคราวหน้าผมพาคุณมาที่นี่อีกดีไหม?”


“ถ้าคุณยายคุณไม่ว่าอะไร ผมก็อยากมานะครับ”


“คุณยายไม่ว่าหรอก จริงๆ นะปูรณ์ ท่านชอบคุณมากเลย”


“ผมก็ชอบท่าน ..ท่านทำให้ผมอยากนึกถึงญาติผู้ใหญ่ตัวเอง แต่ผมก็แทบไม่มีความทรงจำพวกนั้นให้คิดถึงเลย”


“.....”


“คุณโชคดีมากเลยรู้ตัวไหมครับ” รอยยิ้มเศร้าที่เก็บไม่มิดทำให้คนขับละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยรถแล้วเอื้อมมาจับมือบางที่วางบนตักพลางบีบเบาๆ


“เล่าให้ผมฟังได้ไหม ผมอยากแบ่งความเสียใจมากจากคุณ”


มีความลังเลเกิดหลังคำถามนั้นชั่วครู่ แต่สุดท้าย ริมฝีปากอิ่มที่เม้มแน่นก็ค่อยๆ คลายออก แล้วเอ่ยตอบเสียงแผ่วด้วยคนเล่าเองก็จมกลับไปอยู่ในความทรงจำที่ครั้งนั้นก็ช่างมืดมนเหลือเกิน “ผมไม่ได้ไม่อยากเล่านะครับ แต่พอนึกย้อนไปแล้วผมกลับนึกไม่ออก มันขาดๆ หายๆ แล้วผมก็จำอะไรไม่ค่อยได้ ที่จำได้แน่ชัดก็มีแค่ผมโตมากับมูลนิธิ มีครูๆ คอยดูแล มีเพื่อนเพียงไม่กี่คน แต่ที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กก็เป็นนัท”


“.....”


“ผมชอบตอนที่คุณยายคุณสอนทำขนม ให้ผมช่วยเป็นลูกมือทำอาหาร แล้วตอนที่ท่านกอด ผมก็รู้สึกอบอุ่น รู้สึกดี เหมือนผมไม่เคยรู้จักความรู้สึกแบบนี้มาก่อน”


“.....”


“บางทีที่ผมจำอะไรตอนนั้นไม่ค่อยได้ อาจจะเพราะมันแย่จนสมองสั่งให้ลืมก็ได้นะครับ แม้กระทั่งพี่สาวผมที่ผมเพิ่งมารู้จักเธอทีหลัง ผมก็จำไม่ได้แล้วว่าผมผูกพันกับเธอหรือเปล่า รู้แค่ว่าตอนนั้นเธอเหมือนครอบครัวเดียวที่ผมมี แต่พอเธอจากไป ผมก็ไม่ได้รู้สึกโหยหา รู้สึกแค่สิ่งที่ไม่เคยมีก็แค่กลับไปไม่มีเหมือนเดิม”


“ผมไม่เคยรู้เลยว่าคุณมีพี่สาว”


“มันเป็นความทรงจำสั้นๆ ช่วงหนึ่งที่ผมก็นึกไม่ค่อยออกด้วยน่ะครับ” 


“คุณเหงาบ้างไหมปูรณ์?”


แม้จะรู้ว่าไม่ควรตั้งคำถามแบบนี้ แต่ธนาดลกลับอยากให้อีกคนตอบ อยากให้คนข้างๆ ระบายความรู้สึกหนาหนักที่ทับถมในใจออกมาบ้าง อย่างน้อยให้เขาได้เป็นคนรับฟังความรู้สึกพวกนั้นบ้างก็ยังดี


“มันแย่กว่าเหงาอีกครับ”


“.....”


“ผมเคยรู้สึกแย่ เคยอิจฉาคนอื่นที่เค้ามีครอบครัวพร้อมหน้า มีความรักเหลือเฟือที่เผื่อแผ่ให้กัน ให้ขณะที่ผมเองกลับไม่มีใคร มันโดดเดี่ยวจนบางครั้งก็เกิดคำถามวนอยู่ในใจซ้ำๆ ว่าถ้าไม่มีใครต้องการแล้วจะให้ผมเกิดมาทำไม”


“.....”


“แต่ผมคิดว่าตอนนี้ผ่านความรู้สึกพวกนั้นมาได้ทั้งหมดแล้วล่ะครับ”


ปูรณ์เงียบไปนานหลังประโยคนี้จบลง เขาไม่ได้พูดออกไปแต่ในใจกลับหวนคิดถึงคนที่พาเขาก้าวผ่านความรู้สึกแย่ๆ พวกนั้น คนที่จับมือเขาผ่านอดีตที่โหดร้าย คนที่มอบแสงสว่างให้เป็นคนแรก


คนที่ประคับประคองหัวใจบอบช้ำดวงหนึ่ง เยียวยาจนมันดีขึ้น ดูแลจนจังหวะหัวใจแผ่วเบาที่เต้นอย่างอ่อนแรงเข้มแข็งได้ขึ้นมา
คนที่เขาเคยมอบความรัก มอบทุกอย่างที่มีไปให้ ...แม้สุดท้าย สิ่งเดียวที่ไม่ได้รับกลับมาคือรักเหมือนกันก็ตาม


“คุณธี”


หลังห้วงเวลาแห่งความเงียบเนิ่นนาน เสียงแผ่วก็เอ่ยเรียกชื่อเจ้าของมือที่กุมกันไว้แน่นบนตัก หันไปสบตาคนที่อยู่ข้างๆ เอ่ยถ้อยคำวอนขอที่ทำให้หัวใจสองดวง เริ่มเต้นในจังหวะเดียวกัน ไปพร้อมๆ กัน


“ความรักของคุณที่คุณเคยบอก ให้มันเป็นของผมได้ไหมครับ”


“.....”


“ของผมแค่คนเดียว”


แทนคำตอบนั้น ริมฝีปากได้รูปจรดลงบนหลังมือขาว คำสัญญาถูกเอ่ยออกมาแน่นหนัก ราวกับจะให้ฝังลึกแทนที่ทุกความทรงจำที่เคยผ่านมา และยินดีจะพูดย้ำซ้ำๆ ให้คนคนนี้ได้มั่นใจ


“มันเป็นของคุณอยู่แล้วปูรณ์”


“.....”


“ผมรักคุณคนเดียว”



















..TBC..














>> ก่อนอื่นต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ
เราหายไปนานมากเลย ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว
แต่นี่จะไม่หายแบบนี้อีกแล้วค่ะ เราตั้งใจจะให้เรื่องนี้จบภายในเมษาถ้าเป็นไปได้ ^^
(เพราะเราอยากลงเรื่องใหม่แล้ว)

ฝากเรื่องนี้อีกครั้งด้วยนะคะ แฮ่ๆ









หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 9 ▼▼ UP!! 09/03/2018
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 09-03-2018 20:38:57
ตอนเห็นว่านิยายเรื่องนี้อัพดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ
ตอนนี้นัทกับคุณธีทำดีมาก อยากจะจับมาหอมหัวจังเลย

มาแบบสดใสขนาดนี้ แอบมีพายุลูกโตรออยู่หรือเปล่าคะ  :ruready
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 9 ▼▼ UP!! 09/03/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 10-03-2018 22:57:54
ไม่ขออะไรมาก นอกจากอยากเห็นน้องปูรณ์มีความสุข
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 9 ▼▼ UP!! 09/03/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ygff0429 ที่ 11-03-2018 00:58:49
อยากเห็นปูรณ์มีความสุขแล้วอย่าดราม่าเลย สาธุ /\
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 9 ▼▼ UP!! 09/03/2018
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 31-03-2018 20:46:51
คิดถึงหนูปูรณ์กับคุณธี
 :mew2:
หัวข้อ: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Toffeenut ที่ 06-04-2018 19:30:06
▲▲As an escort
#เพื่อนนอนตอนที่ 10












‘ผมรักคุณคนเดียว’
 




ประโยคบอกรักที่วนอยู่ซ้ำๆ ในห้วงความทรงจำทำให้คนที่หลุดไปในห้วงอดีตหน้าขึ้นสีเรื่อ ชวนให้คนลอบมองที่นั่งข้างๆ กันต้องเอ่ยคำถามอย่างสงสัย


“วันนี้เห็นเธอยิ้มแบบนี้หลายครั้งแล้ว มีเรื่องดีๆ อะไรที่ฉันไม่รู้หรือเปล่า?” น้ำเสียงทุ้มที่ยังอบอุ่นอย่างที่เคยเอ่ยถามขณะที่มือก็ยังคงพลิกเอกสารไปมา สามตาคู่คมไม่ได้จับจ้องกดดัน เหมือนจะถามเพียงผ่านๆ แต่ใจเจ้าของรู้ดีว่าเขากำลังรอคอยกับคำตอบ


“ก็นิดหน่อยครับ”


“เกี่ยวกับเรื่องที่ไปบ้านคุณยายเจ้าธีวันเสาร์ที่ผ่านมา?”


“คุณฐารู้เหรอครับ”


“มีเรื่องอะไรของเธอบ้างที่ฉันไม่รู้”


คำย้อนนั้นทำให้ดวงตาคนตั้งคำถามหลุบลงต่ำ มือที่กำปากกาคล้ายจะสั่นระริกอย่างที่เจ้าของก็ไม่อาจรู้ตัว “ก็แค่ไปทานข้าว นอนค้าง แล้วคุณยายก็สอนทำขนมด้วยน่ะครับ”


“ฝีมือคุณยายดีมากเลยนะ ขนมอร่อย กับข้าวก็อร่อย ฉันเองยังชอบทาน”


“แล้วคุณยายยังใจดีด้วยนะครับ” ปูรณ์เงยหน้าขึ้นมาบอกแล้วยิ้มกว้าง ให้คนมองอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบกลุ่มผมนุ่มนั้นเบาๆ


“ฉันดีใจนะที่เห็นเธอยิ้มได้แบบนี้”


“ผม...”


“อย่าลังเลที่จะมีความสุขเลยนะปูรณ์ เธอสมควรมีมันตั้งนานแล้ว”


“คุณฐาเอง ก็มีความสุขดีใช่ไหมครับ”


“นั่นส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับเธอ”


“เอ๋?”


“เพราะฉันเคยบอกไปแล้วว่าฉันอยากให้เธอมีความสุข ถ้าเธอรู้สึกแบบนั้นได้จริงๆ ฉันก็จะมีความสุขไปด้วย”


ไม่รู้ว่าถ้อยประโยคหวังดีอย่างจริงใจนั้นควรทำให้คนฟังอย่างเขารู้สึกอย่างไรได้มากกว่ากัน ใจหนึ่งก็เป็นสุขเพราะรู้ว่าความหวังดีนั้นสัมผัสได้จริงๆ หากอีกใจก็คล้ายจะเจ็บปวดเมื่อเห็นอีกคนคล้ายจะปล่อยมือกันได้อย่างง่ายดาย


อาจจะเพราะที่ผ่านมาคุณฐาก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ได้รัก ความรู้สึกลึกซึ้งที่มีแต่เขาที่จมอยู่กับมันมาตลอดสามปีเพียงฝ่ายเดียวจะหวังเรียกร้องอะไรตอนนี้คงไม่ได้สินะ


“อย่าได้คิดอะไรมากมายเลยปูรณ์” น้ำเสียงนั้นยังอ่อนโยน สัมผัสแผ่วเบาที่ลูบลงบนศีรษะทุยสวยก็ยังคงเหมือนเคย “ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีกับเธอมากไม่ใช่เหรอ ฉันเห็นเธอยิ้มได้ หัวเราะได้ แววตาของเธอบอกฉันแบบนั้น”


“.....”


“อย่าลังเลที่จะเปิดใจเลยนะ ฉันไม่ได้พูดเพราะอยากผลักไสเธอให้ใคร ฉันก็ยังเป็นฉันที่เธอรู้จักมาตลอด เราอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันนั่นก็เพราะฉันอยากให้เธอก้าวไปข้างหน้า แต่ขอให้เธอรู้ไว้ ไม่มีวันไหนเลยที่ฉันปล่อยมือออกจากเธอ”


“.....”


“วันแรกที่เรารู้จักกันฉันหวังดีกับเธอยังไง จนถึงวันนี้มันก็ยังคงเหมือนเดิมแบบนั้น”


ความหวังดีที่ไม่เคยแปรเปลี่ยนเป็นอื่น ..รวมถึงไม่เคยเป็นความรักแบบที่ปูรณ์เคยต้องการ


“ขอบคุณนะครับคุณฐา” ปูรณ์พนมมือไหว้ คล้ายๆ ความรู้สึกที่ถูกผูกรั้งกันไว้ค่อยๆ ถูกคลายเกลียวลงทีละน้อย ทีละน้อย


“คนที่เธอควรขอบคุณมากกว่าฉันคือคนที่กำลังรอรับเธอหลังเลิกงานอยู่ตอนนี้หรือเปล่า?”


“ผม...”


“หน้าแดงซะแล้ว พูดแค่นี้”


ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น ก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาด้วยเพราะไม่รู้จะแสดงอาการกึ่งเขินอายนี้อย่างไรดี


“มีความสุขให้เยอะๆ ฉันขอจากเธอแค่นี้”


“ครับ”





“เย็นนี้คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?” คำถามดังจากคนขับรถทันทีที่ทั้งคู่ขึ้นมานั่งเคียงกันเรียบร้อยเหมือนอย่างทุกๆ วันที่ผ่านมา


“กลับไปที่ห้องได้ไหมครับ ผมอยากทำแกงส้มที่คุณยายคุณสอน เผื่ออร่อยจะได้ทำไปฝากท่านด้วย ไปรบกวนท่านบ่อยๆ จนผมเกรงใจจะแย่”


“คุณไม่ต้องเกรงใจหรอก คุณยายผมเต็มใจ”


“ถึงจะอย่างนั้นแต่ผม...”


“หลานชายคุณยายก็เต็มใจ” รอยยิ้มของเจ้าของรถยืนยันประโยคที่โพล่งขึ้นแทรก และนั่นก็ทำให้ริมฝีปากอิ่มอดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มออกมา


...ถ้าคุณฐาอยากให้เขามีความสุข เขาเองก็อยากมีความสุขให้เต็มที่เหมือนกัน


“ถ้าอย่างนั้น หลานชายคุณยายพาผมไปซุปเปอร์ได้ไหมครับ ที่ห้องมีของไม่ครบ ว่าแต่คุณอยากทานอะไรเพิ่มเป็นพิเศษหรือเปล่า”


“คุณจะทำแกงส้มกุ้งใช่ไหม เพราะคุณรู้ว่าผมชอบกิน”


“ไม่เกี่ยวเลยครับ เพราะคุณยายคุณสอนเมนูนี้มาต่างหาก”


“เพราะคุณยายรู้ไงว่านี่เมนูโปรดผม ถ้าอย่างนั้น ผมอยากได้ไข่เจียวกุ้งสับ กับกุ้งทอดซอสมะขามเพิ่ม คุณทำเป็นหรือเปล่า”


“คุณธีจะไม่ทานอย่างอื่นเลยเหรอครับ”


“ผมชอบนี่นา”


“แน่ใจนะครับว่าจะไม่เบื่อ”


“คุณไม่รู้เหรอ ว่าผมเป็นคนที่ชอบอะไรแล้วก็จะชอบอยู่แบบนั้นอย่างเดียว ไม่เบื่อง่ายๆ หรอก” ความนัยที่มาพร้อมประโยคเคลือบเสียงหัวเราะทำให้คนฟังหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ เดี๋ยวนี้ปูรณ์เขินบ่อยเพราะอีกฝ่ายชอบพูดจาทำนองนี้ใส่เขาตลอด และเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเปลี่ยนเรื่องให้พ้นตัวไปเท่านั้น


“งั้นมือนี้คุณธีให้ผมออกค่าอาหารเองนะครับ พวกเครื่องปรุงอะไรด้วย คุณธีจ่ายมาหลายมื้อแล้ว”


“แต่ผมไปรบกวนคุณ ให้ผมออกน่ะดีแล้ว”


“ไม่เป็นไรครับ” ได้โอกาสคนที่แพ้ย่อยยับทุกครั้งที่โดนหยอดจึงอยากเอาคืนบ้าง “เพราะผมเองก็เต็มใจเหมือนกัน”





หลังจบมื้อเย็นที่กว่าจะซื้อของ กว่าจะทำ กว่าจะทานเสร็จก็กินเวลาเกือบสามชั่วโมง สองคนที่ตอนนี้คนหนึ่งอิ่มจนแทบจะจุกก็ย้ายที่นั่งจากโต๊ะอาหารมาเป็นบนพื้นพรมหน้าโซฟาเพื่อเริ่มกิจกรรมดูหนังที่เดี๋ยวนี้ธนาดลชอบหอบแผ่นหนังมาชวนปูรณ์ดูด้วยกันบ่อยๆ


“คุณยายโทรมาบอกด้วยว่าอาหารของศิษย์เอกอร่อยมากเลย”


เพราะหลังจากที่ทำอาหารเสร็จ ปูรณ์ก็แบ่งส่วนหนึ่งให้เด็กที่คุณธีโทรตามให้มาเอาอาหารไปฝากคุณยาย ทั้งแกงส้มกุ้ง และกุ้งทอดซอสมะขาม พอได้ยินคำชมแบบนั้น คนที่ลองทำอาหารก็ยิ้มขึ้นมาได้เต็มแก้ม


“ไม่สู้ที่คุณยายทำหรอกครับ”


“ไม่สู้ได้ไง ผมกินข้าวเกือบสามจาน ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ทุกวันผมแย่แน่ๆ ซิกส์แพ็คผมคงหายหมด”


“เคยมีด้วยเหรอครับ”


“อ้าว ผมเป็นนักกีฬามหาลัยนะ ดูถูกกันนี่นา ผมแก้ผ้าให้คุณดูตอนอิ่มๆ นี่ยังได้ ผมหุ่นดีนะเผื่อคุณไม่รู้”


“ผมไม่รู้ครับ... แล้วก็ไม่ได้อยากรู้ด้วย คุณธีอย่าเนียนนะ” 


“โธ่ ผมนึกว่าคุณจะหลงกลให้ผมแก้ผ้าอยู่ด้วยซะแล้ว”


“เดี๋ยวนี้ทะลึ่งใหญ่แล้วนะครับ”


“ผมชอบเห็นคุณหน้าแดง”


“.....”


“น่ารักดี”


พูดมาแบบนั้นแล้วเขาจะเถียงอะไรได้ สุดท้ายคนที่ถูกทำให้เขินครั้งแล้วครั้งเล่าจึงใช้มุกหนีเดิมคือการมุดตัวเข้าใต้ผ้าห่มแล้วเปลี่ยนเรื่อง


“ดูหนังดีกว่าครับ คุณธีชวนผมดูหนังไม่ใช่เหรอ มัวแต่คุยเล่นอะไรไม่รู้”


เสียงหัวเราะที่ดังแว่วมาทำให้แก้มซับสีเลือดฝาดมากขึ้น รู้ดียิ่งกว่ารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องมองเขาอยู่ด้วยสายตารู้ทัน แต่การไม่ตอบโต้ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้แล้ว





“ปูรณ์”


“.....”


“ปูรณ์”


“.....”


“ปูรณ์ครับ”


“อื้อ...”


“ถ้าคุณไม่ตื่นผมอุ้มคุณเข้าไปในห้องนะ”


“.....”


“แล้วถ้าผมนอนด้วยคืนนี้คุณจะไม่โกรธตอนตื่นมาใช่ไหม”


“.....”


“แค่นอนเฉยๆ ผมสัญญาจะไม่แอบทำอะไร”


“.....”


“แต่แอบหอมแก้มนิดเดียวคุณคงไม่รู้หรอกเนอะ”


ธนาดลพูดทั้งหมดนั่นอยู่คนเดียวพลางอุ้มคนที่หลับไปตั้งแต่หนังยังเล่นไม่ถึงกลางเรื่องให้เข้าไปนอนบนเตียงในห้องดีๆ อดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบเบาๆ บนหน้าผากเนียนพร้อมบอกฝันดี ตั้งใจว่าจะกลับไปนอนที่ห้องถึงแม้จะพูดเล่นไปแบบนั้นก็ตาม แต่มือเรียวของคนหลับที่กำชายเสื้อเขาเอาไว้ก็ทำให้ต้องทรุดตัวลงนั่นบนเตียงนั้นแทน


“หลับไม่รู้เรื่องแท้ๆ ยังรั้งผมไว้อีก”


ปลายนิ้วสะอาดเกลี่ยปอยผมที่ปรกระหน้าตา ระหน้าผากออกให้อย่างเบามือ นั่งข้างๆ มองใบหน้าเนียนที่หลับพริ้มใต้แสงสลัวพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน


“รักผมบ้างรึยังนะปูรณ์” คำถามสุดท้ายดังขึ้นในความเงียบของยามค่ำคืน ก่อนที่ร่างสูงจะหลับตามไปช้าๆ ด้วยความง่วงงุนเช่นเดียวกัน










ในขณะเดียวกันที่เกิดความสงบเงียบขึ้นภายในชั้นแปด โถงกลางของชั้นเจ็ดที่เปิดไฟสว่างไสวแทบจะตลอดเวลากลับมีลูกค้าวีไอพีนั่งดื่มอยู่คนเดียวเงียบๆ ที่บาร์กลางโถง เหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าถูกเสิร์ฟและเติมเข้าปากไม่ขาดสาย หากในขณะที่แก้วล่าสุดกำลังจะถูกกรอกตามไปนั้น มือบางของเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์สว่างก็ยื่นมาห้ามเอาไว้ได้เสียก่อน


“ทำไมช่วงนี้ลูกค้าของเราถึงเอาแต่มาเมาที่นี่ก็ไม่รู้นะครับ”


“ก็ที่นี่เป็นบาร์เหล้า”


“ปกติคุณนลขึ้นมาดื่มเหล้าที่ชั้นเจ็ดเหรอครับ?”


“แล้วปกติเพื่อนฉันสอนให้เอสคอร์ทที่นี่บริการลูกค้าด้วยการยอกย้อนแบบนี้หรือไง”


“คุณฐาสอนให้เรา ตามใจ ลูกค้าต่างหาก” คำว่าตามใจถูกเน้นด้วยน้ำเสียงยั่วยวน พร้อมๆ กับที่สะโพกกลมกลึงของร่างบอบบางนั่งเบียดลงพนักเก้าอี้ที่อนลนั่งดื่มอยู่


“ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยมือจากแก้วเหล้าของฉันได้แล้ว”


“ถ้าเอาแต่ดื่มแล้วเมา คืนนี้ก็ไม่สนุกสิครับ”


“ฉันไม่ได้มาเพื่อสนุก” ดวงตาคู่คมแวววับ จับจ้องเอสคอร์ทอันดับสามของที่นี่อย่างไม่สบอารมณ์เพราะถูกก่อกวน


“อย่างนั้นหรือครับ?” มือบางยอมปล่อยแก้วเหล้าตามคำบอก แต่ก็ใช้มือข้างเดียวกันนั้นไล้เรื่อยไปตามท่อนแขนแกร่ง ไหล่หนา ก่อนจะกึ่งๆ โอบบ่ากว้างเอาไว้แล้วโน้มกายเข้าหาแล้วเอียงหน้าถาม “ทั้งที่คนส่วนมาก มาที่นี่เพื่อหาความสนุกแบบนั้นแท้ๆ”


“ฉันไม่ได้ต้องการ”


“คุณนลไม่ต้องการ หรือคนที่คุณนลต้องการให้ความสนุกคุณนลไม่ได้กันแน่”


“นี่เธอ!”


แม้จะถูกเสียงดังใส่ แต่กลณัฏฐ์ก็ยังเผยรอยยิ้มยั่วยวนแบบที่เจ้าตัวถนัด “จะไม่สนใจผมจริงๆ เหรอครับ?”


“หึ” เสียงทุ้มต่ำหัวเราะในคอ เขารู้จักเอสคอร์ทคนนี้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยเรียกใช้บริการเพราะเขาไม่เคยชอบท่าทียั่วยวนเปิดเผยแบบนี้ เขามองว่ามันดูจงใจล่อให้คนเข้าหามากเกินไปและไร้เสน่ห์ เพราะคนที่มีเสน่ห์ในสายตาเขาคือคนที่อยู่นิ่งๆ ไม่ต้องพยายามจนน่ารำคาญ แต่ก็ยังดึงดูดสายตาเขาได้แบบเอสคอร์ทอันดับหนึ่งคนนั้นต่างหาก


หากแต่ผู้จัดการก็บอกเขาแล้วว่าช่วงนี้ปูรณ์ไม่สะดวกรับแขก เขาถึงต้องมาดื่มเหล้าอยู่แบบนี้แทน


แต่ดูเหมือนความตั้งใจของเขากำลังถูกทำลายลงเสียแล้ว


“ไหนลองบอกมาสิ ว่าเธอมีอะไรน่าสนใจ”


ขาข้างหนึ่งของคนถูกตั้งคำถามยกขึ้นไขว่ห้างทั้งที่ยังนั่งหมิ่นเหม่บนพนักเก้าอี้ ใบหน้าสวยเกินชายก้มลงต่ำ สบตาคนที่เงยหน้าขึ้นท้าทายพลางแย้มรอยยิ้มที่ทำให้คนติดใจมาแล้วนับไม่ถ้วน ก่อนจะก้มลงกระซิบชิดริมหู


“ของแบบนี้ เขาไม่ได้บอกกันด้วยคำพูดนี่ครับ” ริมฝีปากได้รูปไม่ได้ละออกมาหลังเอ่ยถ้อยประโยคนั้นจบ กลับจงใจขมเม้มแผ่วเบาไล่เรื่อยตามใบหู ลำคอ จนถึงต้นคอที่กลิ่นน้ำหอมผู้ชายยังคงหอมฟุ้ง “แล้วตำแน่งอันดับสามของผม ก็ช่วยการันตีให้คุณได้นะครับ ถ้าคุณอยากรู้”


“ฉันไม่ได้อยากรู้”


“.....”


“แค่อยากลองดูเท่านั้น” สิ้นถ้อยคำนั้น มือที่เคยถือแก้วเหล้าก็รั้งร่างบางให้นั่งคร่อมลงมาบนตัก ริมฝีปากหยักบดจูบลงบนกลีบปากอิ่มที่ยั่วยวนอยู่ไม่ห่าง เพิ่มความร้อนแรงตามแรงมือที่บีบเค้นอยู่ตรงช่วงเอวบางก่อนจะสอดเข้าไปในชายเสื้อเชิ้ตเนื้อนุ่ม ลูบผิวเนื้อเนียนใต้ร่มผ้าอย่างย่ามใจเมื่อคนบนตักคล้อยตามอย่างไม่มีทีท่าจะห้าม เสียงจูบดังขึ้นระหว่างคนทั้งคู่เนิ่นนานจนเรียกเสียงครางอย่างพอใจในลำคอของทั้งสอง ก่อนที่คนตัวบางกว่าจะเป็นฝ่ายผละออกมาก่อน


“ผมมีเวลาแสดงให้คุณเห็นจนถึงเช้า”


“.....”


“แต่ต้องไม่ใช่ตรงนี้ครับ”


หลังจากนั้นมือบางก็คล้องโอบรอบลำคอแกร่งเมื่อตัวเขาถูกอุ้มขึ้น ริมฝีปากถูกปิดอีกครั้งและอีกครั้งด้วยริมฝีปากคู่เดิม และกลณัฏฐ์ก็ต้องใช้เวลาทั้งคืนเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองนั้นน่าสนใจจริงตามที่ได้เอ่ยอวดอ้างเอาไว้










“คุณธี”


“.....”


“คุณธีครับ ตื่นได้แล้ว” แรงเขย่าเบาๆ ที่แขนและเสียงเรียกแว่วๆ ทำให้ร่างสูงบนเตียงค่อยๆ ลืมตาตื่น กระพริบตาช้าๆ เพื่อปรับกับแสงสว่างภายในห้อง ก่อนจะเอ่ยถามทั้งที่ยังง่วงงุน


“กี่โมงแล้ว”


“หกโมงครึ่งแล้วครับ วันนี้ยังต้องเข้าบริษัทอีก คุณธีตื่นไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาทานข้าว ผมทำข้าวต้มกุ้งเอาไว้”


“เช้าจัง ผมขอนอนอีกนิดได้ไหม”


“ถ้านอนอีกนิดคุณธีจะไปทำงานสายนะครับ”


“ไม่เป็นไร บริษัทพ่อ ไม่มีใครว่าผมหรอก”


“โตแล้วทำไมงอแงแบบนี้ครับ”


“ผมง่วง”


“คุณลุกไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวก็หายง่วงแล้ว”


“ผมอาบในห้องคุณได้ไหม”


“แต่ที่นี่ไม่มีเสื้อผ้าคุณธีนะครับ”


“เดี๋ยวผมเดินไปเปลี่ยน”


“.....”


“นะ”


“.....”


“ไม่งั้นผมหลับต่อ” ไม่เพียงขู่เท่านั้น แต่คนกึ่งง่วงกึ่งงอแงก็ยังทำท่าว่าจะนอนต่อตรงนั้นจริงๆ


“ลุกเลยครับคุณธี อาบที่นี่ก็อาบที่นี่ เดี๋ยวผมไปเตรียมชุดคลุมกับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กให้”


“จูบก่อน”


“ไม่ครับ”


“นะ จูบนิดเดียว”


“ไม่ –“


“นะครับ”


“ทำไมพูดยากแบบนี้ล่ะครับเช้านี้”


“ถ้าคุณจูบผมจะว่าง่ายให้คุณเลย”


“.....”


“นะ”


จุ๊บ...


ไม่รู้เพราะคำว่า “นะ” ด้วยน้ำเสียงออดอ้อนหรือสายตาที่มองมานั้นกันแน่ที่ทำให้ปูรณ์ก้มลงไปจูบบนริมฝีปากของคนที่ยังนอนอยู่บนเตียงเบาๆ ด้วยความรวดเร็ว


“ทีนี้ก็ลุกได้แล้วครับ”


“ครับๆ”


ฟอดดด...


“คุณธี!”


“ก็คุณจุ๊บผมแล้ว ผมเลยอยากหอมแก้มคุณคืนบ้างนี่นา”


“.....”


“จะได้หายกันไงครับ”


“เกเรชะมัดเลย”


“ผมชอบเวลาคุณดุผมแบบนี้จัง”


“ไปอาบน้ำได้แล้วครับ!”


“ครับๆ ไปเดี๋ยวนี้เลย”





“หอมจัง” เสียงทุ้มที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นข้างหูพร้อมใบหน้าคมคายของคนพูดที่ชะโงกผ่านไหล่เขาไปหาข้าวต้มที่ควันยังกรุ่นอยู่บนหม้อทำให้ปูรณ์อดไม่ได้ที่จะสะดุ้งขึ้นนิดๆ


“เล่นอะไรแบบนี้ล่ะครับ”


“เพราะคุณมัวแต่เหม่อต่างหาก ตอนปิดประตูห้องคุณเมื่อกี๊ผมก็ออกจะเสียงดัง”


“ผมนึกถึงเรื่องของคุณอยู่”


“หืมม ห่างกันแค่สิบ ยี่สิบนาทีผมทำให้คุณคิดถึงได้ตั้งมากขนาดนี้เลยเหรอครับ”


“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ผมแค่สงสัยว่าเมื่อคืนผมไปนอนในห้องได้ยังไง แล้วทำไมคุณก็นอนที่นี่ด้วย ไม่กลับห้องของคุณ”


“คุณหลับไปตั้งแต่หนังยังไม่จบ ผมเลยอุ้มพาคุณไปนอนในห้อง แล้วคุณดึงผมไว้ผมเลยนอนด้วย”


“ไม่จริงหรอก”


“ตรงไหนล่ะครับที่ไม่จริง”


“.....”


“คุณหลับไปแล้ว คุณไม่รู้ตัวหรอกจริงไหม?”


“.....”


“แต่ผมไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการจูบหน้าผากแล้วบอกฝันดีคุณหรอกนะครับ”


“คุณธี” เสียงผะแผ่วเรียกคล้ายปรามด้วยเพราะยังคงเขินอยู่เหมือนที่เคย


“ผมอยากให้เราเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จัง”


“.....”


“ผมอยากตื่นมาเจอคุณทุกเช้า เข้านอนพร้อมคุณทุกคืน กินข้าวกับคุณทุกมื้อ ดูหนังกับคุณ อาบน้ำกับคุณ”


“ค... คุณธี”


“อันหลังนั่นล้อเล่นนะครับ พูดเผื่อฟลุ๊ค”


“ยังจะเล่นอีก”


“แต่ที่พูดมาผมพูดจริงนะครับ ผมอยากใช้เวลาในชีวิตผมไปพร้อมๆ กับคุณ”


“จะขอผมแต่งงานเหรอครับ” เพราะโดนเล่นงานมาทั้งเช้าทำให้ปูรณ์อดไม่ได้ที่จะแหย่กลับไปบ้าง


“ผมไม่คิดข้ามขั้นแบบนั้นหรอก” ถึงจะทำอะไรข้ามขั้นไปเยอะก็ตาม “มันต้องเริ่มจากขอคุณเป็นแฟนก่อน”


“.....”


“เป็นแฟนกับผมนะปูรณ์”


“.....”


“เป็นคนรักของผม เป็นคนที่ใช้เวลาในชีวิตไปด้วยกันเรื่อยๆ”


“.....”


“นะครับ”


แล้วคำสั้นๆ ที่ใช้อ้อนวอนที่ปูรณ์ได้ยินมาทั้งเช้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง


“นะ”


แล้วเขาที่ใจอ่อนขนาดนี้จะทำอะไรได้นอกจาก...


“ครับคุณธี”















..TBC..














>> ตัดจบตอนที่กำลังหวานๆ นี่ก็พอเนอะ :)









หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 06-04-2018 22:00:25
หวานๆแบบกังวลไปด้วย ปูรณ์รักคุณธีบ้างยังนะ ถ้าคุณฐาเกิดบอกรักปูรณ์ขึ้นมา น้องจะไม่ปล่อยมือคุณธีไปใช่ไหม ฮือออ เครียด  :ling3: :ling3:

ส่วนนัททำแบบนี้ทำไม หน้าที่หรือชอบคุณนล  แต่จากตอนที่แล้วคิดว่านัทชอบคุณธีซะอีก

ตอนนี้เหมือนจะมีปมแค่ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้คุณฐาตอบรับความรักจากปูรณ์  ซึ่งมันจะไม่มีอะไรที่จะไปสั่นคลอนความสัมพันธ์ของธีปูรณ์แล้วใช่ไหมคะ
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 07-04-2018 10:17:20
เป็นแฟนกันแร้วววววววววววว เห็นด้วยกับคุณฐาว่าอยากให้ปูรณ์มีความสุขซะที
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 07-04-2018 11:18:20
 :oo1:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: bojaebearyun ที่ 09-09-2018 08:56:01
พออ่านตอนแปดจบละยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจการกระทำคุณฐาเข้าไปใหญ่ 
สรุปว่าตอนนี้รักน้องเกินคำว่าน้องชายแล้วใช่มะ? หรือยังไง
แต่บอกตรงๆว่าไม่ชอบที่คุณฐาทำเลยซักอย่าง ไม่ชอบตั้งแต่แรก
คือตัวเองพลาดมาแล้วตอนรักพี่สาวน้อง ยังจะมาทำแบบนี้กับน้องอีกอะ
โคตรใจร้ายมากๆๆ พอมาเฉลยว่าเป็นตัวพี่ชายมันเลยยิ่งแบบอะไรวะ
ถ้าอยากชดเชยที่พ่อทำไม่ดี ถ้าสงสารและหวังดีกับน้องจริงๆ ก็ไม่ควรนอนกับน้อง
ไม่ควรทำตัวหาเศษหาเลยให้ความหวังน้อง ไม่ควรต้องให้น้องมาทำงานนี้ด้วยซ้ำ

ตัวเองรู้อยู่แก่ใจก็ยังจะทำให้น้องคิดแต่ปากย้ำรักไม่ได้นะ  มันทำร้ายน้องเกินไปปะ
ตบหัวลูบหลังสุดๆ นี่คือปกป้องแน่หรอ โคตรเห็นแก่ตัวอะ แย่มาก
มันเลยกลายเป็นแขยงคุณฐาเกินกว่าจะเชียร์ให้ก้าวข้ามคำว่าพี่ชายไปงานincestอะ

ตอนนี้อยากรู้ปมทั้งหมด ทำไมไม่บอกน้องแต่แรกว่าเป็นพี่ชาย ไม่รู้ว่าจะหักอีกกี่มุมกี่ดราม่า
แค่นี้ก็สงสารปูรณ์จะแย่ ถ้าเราเป็นปูรณ์ละรู้ความจริงคงช็อคมาก
เหมือนคุณฐาสร้างแผลในใจให้ปูรณ์ไปแล้วอะ
เอาแค่ไอเรื่องที่ทุกวันนี้น้องรู้สึกว่าตัวเองสกปรกมันเพราะอะไรและใครก็โมโหล้ะ
เลยไม่อินกะความห่วงใยที่คุณฐามีให้ปูนเฉยเลย
เพราะคุณฐาเห็นแก่ตัวสุดแต่เริ่มในความรู้สึกเรานะ มีแต่ได้กับได้

เชียร์ธีมากๆ ธีปูรณ์ขาดใจ ชอบเวลาธีกับปูรณ์อยู่ด้วยกันมากกกๆๆ น่ารักกกทั้งคู่
ยิ่งตอนพาไปหาคุณยายยิ่งน่ารักกกกโคตรรร
คือไม่รู้ธียังอยู่ในขั้นหลงน้องมากกๆอยู่รึป่าว แต่ก็เห็นกันชัดๆว่าธีทำให้น้องมีความสุขแบบจริงๆอะ
ความสุขที่น้องตามหามาตลอดชีวิตได้เป็นคนที่ถูกรัก
ธีทำให้น้องรู้สึกถึงความอบอุ่นของการมีใครซักคน ความรู้สึกของคำว่าครอบครัวที่น้องไม่เคยเจออะ
ไม่ใช่ปากบอกทำเพื่อน้องแต่จริงๆแล้วทำร้ายกัน แหนะขอแอบกัด 5555
แต่ในความเป็นแฟนกันแล้วก็ยังดูน่ากังวลมากกก คลื่นใต้น้ำมาก ไม่ไว้วางใจ  ฮืออออ
อยากให้ปูรณ์มีความสุขจริงๆซะที ไม่อยากให้น้องต้องเสียใจอีกแล้ว
น้องควรเป็นเมียสวยๆผัวเทินขึ้นหิ้งอยู่บ้านนิ่งๆให้เขารักมากๆได้แล้ว

ฮืออออ ขอโทษที่เม้นยาวและใส่อารมณ์นะคะ
คืออ่านรวดเดียวบู้มเลยอินจัดไปหน่อย  สนุกมากค่ะ
จะรอน้าาา อยากอ่านต่อมว๊ากกก
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 09-09-2018 09:29:22
 :mew3:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: sweetie009 ที่ 09-09-2018 10:40:22
คุณฐาเป็นพี่ชาย แล้วคุณธีเป็นหลานชายคุณฐา  แสดงว่า คุณธีก็เป็นหลานชายปุณ  กินกันเองในครอบครัว
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: fxxg0430 ที่ 27-09-2018 04:47:29
ดิฉันไปอยู่ไหนมาเพิ่งมาเจอเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวเลยค่ะ ก่อนอื่นขอบคุณคุณนักเขียนที่เขียนนิยายเรื่องนี้ค่ะ ทัชมาก ทัชจนนอนร้องไห้หมอนเปียกหนักมาก พรุ่งนี้ต้องเอาไปซักเพราะกลัวจะเป็นรา


รักปูรณ์จังเลยค่ะ คนแต่งทำให้เรารู้สึกหลงรักคนๆนี้ได้โดยไม่มีเงื่อนไขเลย น้องเป็นเด็กน่ารักสมกับคำบรรยายที่บอกว่าใครอยู่ใกล้ต้องหลงรัก เรารู้สึกว่าน้องยังผูกพันกับคุณฐาอยู่มาก มันอาจจะไม่ใช่รักแบบนั้นแล้วแต่คุณฐาคืออีกครึ่งนึงของชีวิตปูรณ์ เราสะเทือนใจทึกครั้งที่น้องไพล่คิดถึงคุณฐา เวลาที่น้องบอกว่าคุณฐาตัดใจง่ายจังเพราะไม่เคยรักใช่ไหม อะไรพวกนี้เราร้องไห้หนักมากกกกก


คุณฐา ไม่มีใครก็มาหาเราค่ะ ชอบค่ะ หล่อ รวย อบอุ่น พูดเพราะ เอาใจใส่ ฮื้อ ดีมาก แต่ก็ไม่ใด้ด้วยสายเลือดแบบ half แสดงว่าธีก็มีเลือดเดียวกันกับปูรณ์25% ใช่ไหม โอ้ยปวดตับ แต่ยังไงเราก็รักคุณฐาค่ะ อยากให้คุณฐามีความสุขกับชีวิตจริงๆ อ้อ ที่บอกว่าไม่รักๆ เราเชื่อว่าฐารักปูรณ์นะ รักมากเลยแหละ ถึงยอมได้ขนาดนี้


ส่วนพระเอกของเรา คุณธี เขาเป็นคนดีนะ แต่จะมีความเด็กๆอยู่เยอะ แล้วเรากลัวปัญหาต่อๆไปมากอย่างที่อาฐาและปูรณ์เตือนว่าธีจะไม่มีวันลืมอดีตของปูรณ์ น่ากลัวนะ อีกอย่าง ธีจะลืมได้ไหมว่าคนที่ตัวเองรักมีสัมพันธ์กับอาตัวเองมายาวนานสามปี แถมปูรณ์ยังเคยรักฐามาก คือเรากลัวใจธี แต่เชื่อว่าธีถูกเลี้ยงมาด้วยครอบครัวที่อ่อนโยน จะข้ามผ่านมันไปได้

พอดูวันที่แล้วก็กลัวจัง เราจะได้อ่านเรื่องนี้ต่อไหมคะ เผื่อคนเขียนแวะมาอยากบอกว่าเราเป็นกำลังใจให้ จะขายเล่มก็จะซื้อเลยตอนรี้ รักตัวละครทุกตัวเลย งื้อ ๆๆ ๆ  ผิดที่เราเจอกันช้าไป ..
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 27-09-2018 13:05:42
 :L1:
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 28-09-2018 15:08:31
ดีมากเลยค่ะเรื่องนี้

เราเชียร์ไม่ถูกเลย

เราหวังว่า ปูรณ์จะมีความสุขนะ


ห่วงคุณฐาด้วย รู้สึกใจไม่ได้ กลัวว่าส่งปูรณ์ถึงฝั่ง แล้วจะตามแฟนเก่าไปยังไงก็ไม่รู้


และอยากเห็นนัทมีความสุขด้วย
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: แพรพลอย ที่ 28-09-2018 20:29:00
คิดว่าทุกคนคงอยากให้ปูรณ์มีความสุขเหมือนกัน เราเองก็ด้วย
แต่พูดถึงเรือแล้ว...แม้หลายคนจะบอกว่าคุณฐาเห็นแก่ตัว ไหนจะเรื่องสายเลือดพี่น้องอีก
อันนี้เราไม่เถียง แต่ยังไงก็เลือกคุณฐาอยู่ดี เรารู้สึกว่าคุณฐาเองก็สมควรได้รับความสุขเหมือนกัน
ส่วนคุณธี โอเคว่าเป็นคนน่ารักดี ความพยายามพิชิตใจ ความเอาใจใส่ คือดีไปหมด
แต่ไม่รู้ทำไม เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่อะ แต่ถ้าท้ายที่สุดแล้วทั้งคู่ได้ลงเอยกันจริงก็ไม่ได้อะไรมาก
ส่วนคุณฐาเราจะรับไว้เอง ไม่เป็นไรนะคุณฐา /กอดแน่นๆ
หัวข้อ: Re: ▲▲As an escort #เพื่อนนอน ตอนที่ 10 ▼▼ UP!! 06/04/2018
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 26-06-2019 22:42:58
เห็นคุณคนเขียนออนเมื่อไม่นานมานี้ อยากบอกว่ายังรออยู่นะคะ  :impress: