-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หน้าที่แรก
ตอนที่แรก ความรู้สึกของโอบลม
ตอนที่สอง ความผิดพลาดของโอบลม
ตอนที่สาม ความลับของพ่อเลี้ยงและความสัมพันธ์ 'ของเรา'
ตอนที่จบ ความรักของคุณโอบศักดิ์
ตอนพิเศษที่แรก แ พ้ ท า ง
หน้าที่สอง
ตอนพิเศษที่สอง น้อง ปั ก เ ป้ า
ตอนพิเศษที่สาม เด็ก ชาย เมือง แมน
ตอนพิเศษที่สี่ คุณ ลุง กานต์ กุล
ตอนพิเศษที่ห้า คำ สาร ภาพ ของ โอบ ศักดิ์
หน้าที่สาม
ตอนพิเศษที่หก คน เห็น แก่ ตัว
ตอนพิเศษที่เจ็ด ความ ยั่ว ยวน ของ กานต์ กุล
-
ความรู้สึกของโอบลม
ท้ายไร่ของตระกูลโอบศักดิ์ มีบ้านเรือนสีขาวสะอาดทั้งหลังที่ถูกปลูกสร้างขึ้นด้วยความรักของผู้เป็นเจ้าของ เด็กชายผู้เป็นแก้วตาดวงใจของเจ้าของไร่ วิ่งเล่นซุกซนตามประสาเด็กน้อยวัยดื้อรั้น ท่อนแขนผอมแห้งจับลากผู้ชายอายุสิบแปดปีอย่างเอาแต่ใจตนเอง โดยที่อีกฝ่ายมิได้เอ่ยทัดทานสิ่งใด
"พ่อเลี้ยงๆ ไปเล่นกันเถอะนะ"
"นะครับ นะ" ผู้เป็นพ่อเลี้ยงยิ้มกว้างเมื่อเห็นคุณหนูอนาคตของเจ้าของไร่กำลังยืนเขย่าแขนเขาและทำเสียงออดอ้อนได้อย่างน่ารักน่าชัง คุณหนูของไร่นี้ทุกคนในไร่ต่างล่วงรู้ถึงกิตติมศักดิ์เป็นอย่างดี ความดื้อรั้น เอาแต่ใจนั้นทำให้คนงานในไร่บางคนถึงกับไม่อยากมีลูกมีเมียกันเลยทีเดียว
เขาอายุสิบแปด แต่เขาเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กอายุสิบสามปี
เขาไม่ใช่คนที่มีแฟนเป็นแม่หม้ายลูกติดนะ เฮ้ ใจเย็นซี
เขาก็เป็นญาติห่างๆ ห่างมากๆจากครอบครัวของนายหัว ผมถูกทิ้งแต่เด็ก แต่ก็ได้ป๊าของลูกเลี้ยงตัวเองนั่นแหละที่คอยเลี้ยงดูผมมา คนในไร่มีหน้าที่เป็นของตัวเอง ผมก็เช่นกัน ผมคือพ่อเลี้ยง นั่นคือหน้าที่ที่ผมโคตรจะภาคภูมิใจของผม ใครๆก็เรียกผมว่าพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงโอบจันทร์
พ่อเลี้ยงของคุณหนู เพราะเล่นมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ คุณหนูจึงยอมฟังและไม่รั้นกับผมแค่คนเดียว ส่วนป๊าหรือพ่อแท้ๆของคุณหนูนั้นนานๆทีถึงจะมาเยี่ยมไร่สักครั้ง
"แต่หนูต้องสัญญากับพ่อก่อนนะว่าเย็นนี้จะทานข้าวที่พ่อทำให้หมด"
"ด้ายยยยยยครับ" ใบหน้าใสๆพยักหงึกหงักๆรัวๆราวกับกลัวว่าคนเป็นพ่อเลี้ยงจะเปลี่ยนใจคืนคำพูด นิ้วก้อยเล็กๆเอื้อมมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของพ่อเลี้ยงอีกทีเป็นการยืนยันคำมั่นสัญญา พ่อเลี้ยงโอบจันทร์ก้มลงไปหอมแก้มลูกเลี้ยงของตัวเองอย่างหมั่นเขี้ยวแล้วจับมือผอมแห้งไว้ จูงมืออีกคนไปวิ่งเล่นในไร่ตามประสาเด็ก
"เมื่อไหร่ป๊าจะกลับมาหาผม"
"ป๊าครับ ผมเตะบอลชนะด้วยนะ"
"ป๊า.." ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจ้าของไร่วางโทรศัพท์ที่สายมาจากผู้ให้กำเนิด ใบหน้าหงิกงอบ่งบอกได้ถึงความหงุดหงิด และไม่พอใจกับสายสนทนาเมื่อครู่นี้ คำนำหน้านามจากเด็กชายกลายเป็นนายโอบลม รูปร่างสูงโปร่งที่เร่งขึ้นอย่างรวบรัดทำให้พ่อเลี้ยงรู้สึกใจหายกับการเจริญเติบโตที่รวดเร็วเกินคาดของลูกเลี้ยง
"พ่อเลี้ยงกลับมาพอดีเลย หนูเหงามาก ป๊าก็ไม่อยู่ไร่แล้ว ป๊าเข้ากรุงเทพ พ่อเลี้ยงก็ไปเรียนอีก"
"ไม่มีใครรักหนูเลย ทุกคนหนีหนูไปหมด" โอบลมพูดพลางดึงผู้เป็นพ่อเลี้ยงมากอดแน่นแล้วซุกหน้าลงบนไหล่แคบๆนั่นอย่างออดอ้อนในที พ่อเลี้ยงโอบจันทร์ส่ายหน้าเนือยๆเมื่อคำพูดของลูกเลี้ยงดูจะเกินจริงไปสักหน่อย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ายามที่เขาไม่อยู่คุณหนูของไร่ไปป่วนคนงานจนวุ่นมากมายแค่ไหน
สายโทรศัพท์แทบไหม้ในแต่ละวัน เสียงบ่นโอดครวญของลูกคนงานในไร่ที่โดนคุณหนูวิ่งไล่จนหอบเหนื่อยเขาก็ยังจำได้ดี ลำบากเขาต้องมาฟังเด็กสิบห้าขวบบ่นกระปอดกระแปดให้ฟังอยู่บ่อยครั้ง
"แต่หนูเหงาจริงๆนะพ่อเลี้ยง" แต่เด็กน้อยก็ยังคงเป็นเด็กน้อยนั่นแล
- บันทึกของเด็กชายโอบลม -
วันนี้ที่โรงเรียนมีงานกีฬาสีด้วย หนูอยู่สีแดง วันนี้มีแข่งชักกะเย่อกับสีฟ้า หนูถือเชือกกับเพื่อนอีกสามคน คนสีฟ้ามีแต่คนตัวใหญ่ๆ ดึงเชือกจนหนูหกล้มเข่าถลอก นั่งร้องไห้จนพ่อเลี้ยงต้องวิ่งมาดู ตอนนั้นตาของพ่อเลี้ยงแดงเหมือนสีเสื้อของหนูเลยละ
วันนี้พ่อเลี้ยงสอนหนูให้อาหารม้าด้วย ม้าตัวใหญ่แต่ก็ใจดีมากๆไม่กัดเหมือนหมาที่ป๊าเลี้ยงไว้ ม้าใจดีเหมือนพ่อเลี้ยงเลย วันนี้อาจารย์บอกว่าถ้าเป็นผู้ชายให้เรียกแทนตัวเองว่าผมเพราะคำว่าหนูผู้ชายไม่พูดกัน ถ้าพูดผมก็มีแต่คนรัก แต่เวลาหนูเรียกแทนตัวเองว่าผมทีไร พ่อเลี้ยงชอบทำหน้าเหมือนหนูตอนกินยาแก้ไอทุกทีเลย ทำไมละ
ผมโตขึ้นถึงได้รู้ว่าการเรียกแทนตัวเองว่าหนูนี่มันน่าอายจริงๆ แต่พออยู่กับพ่อเลี้ยงผมก็แทนตัวเองว่าหนูอยู่ดีละนะเพื่อนในกลุ่มบางคนก็เริ่มมีแฟนและเอามาอวดบ้าง แต่แปลกที่ผมกลับรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรกับการที่เพื่อนมีแฟน และน่าแปลกที่ผมคิดว่าไอ้ผู้ชายตัวเตี้ยที่สุดในห้องมันน่ารักมาก ผมว่าผมแปลกๆนะ
และผมก็รับรู้ได้ว่าตัวเองชอบผู้ชาย ตอนนี้ผมมีแฟนแล้วและแฟนผมเป็นผู้ชาย ไอ้ขี้ก้างของห้องตอนนี้มันเป็นแฟนผมแหละ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมคิดว่ามันน่ารัก จีบก็ไม่ยากเพราะเจอหน้ามันทุกวัน มันก็น่ารักดีทำตัวง้องแง้ง เพื่อนก็ไม่มีปัญหาหากผมมีรสนิยมแบบนั้น และคนในไร่ต้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้
อกหักครั้งแรกนี่มันเศร้าจริงๆเลยครับ คนอื่นอาจเลิกกับแฟนเพราะนอกใจ มีใหม่... เบื่อ... แต่ผมเลิกกันกับเขาเพราะครอบครัวเขารับไม่ได้ น่าเศร้าใจจริงๆเลยนะที่แฟนผมก็เลือกครอบครัวมากกว่าผม นั่งร้องไห้อยู่ดีๆก็มีคนมานั่งข้างๆแล้วเอามือตบไหล่ปุๆ หันไปมองถึงได้รู้ว่าเป็นพ่อเลี้ยงที่อายุห่างจากผมไม่มาก ไม่รู้ว่าเผลอทำหน้าแบบไหนไป พ่อเลี้ยงถึงได้ดันหัวผมให้ไปซบไหล่เขา อยู่ดีๆก็มีความคิดแปลกๆขึ้นมาว่าพ่อเลี้ยงนี่ก็น่ารักเหมือนกันนะ
ถ้ารักพ่อเลี้ยงเขาจะไม่ทิ้งผมไปใช่ไหม
ถ้ารักพ่อเลี้ยงเขาจะไม่ทำให้ผมเสียใจหรือผิดหวัง
ถ้าผม....
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมสอดมือไปรอบเอวของพ่อเลี้ยงแล้วลูบขึ้นลงเบาๆ จมูกโด่งรั้นซุกลงซอกคอขาวและกดริมฝีปากชื้นแตะแต้มเบาๆที่ลำคอ ก่อนที่จะเลื้อยไปแนบจมูกที่ไรผมบริเวณท้ายทอยอย่างลำพองใจเมื่อเห็นว่าพ่อเลี้ยงราวกับจะไม่รู้ตัวถึงการกระทำอันอุกอาจของเขา
ผมเผลอลวนลามพ่อเลี้ยงไปแล้วละ ถ้าพ่อเลี้ยงได้มาอ่านสิ่งนี้เข้า เขาต้องจับผมตีขาลายแน่ๆ
เมื่อคุณหนูของไร่อายุเข้าสิบแปด
ทุกคนในบ้านเรือนขาวรวมทั้งพ่อเลี้ยงและผู้เป็นพ่อแท้ๆของคุณหนู ชายวัยกลางคนยืนกอดอกถือไม้เรียวจ้องมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยความขุ่นเคืองและผิดหวัง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างเอาเรื่อง
"ป๊า...ผมชอบผู้ชายจริงๆนะ!" คุณหนูพูดเสียงดังใส่ผู้ให้กำเนิด ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้หมาดๆ คุณหนูรู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำนิสัยไม่ดีอยู่ หากแต่การที่บิดาต้องมาบังคับเขา เขาก็ยอมไม่ได้เช่นกัน
"ป๊าจะตีผมก็ตีเลยซิ!! ยังไงผมก็ไม่เปลี่ยนใจไปชอบผู้หญิงอยู่ดี!!!"
เพี๊ยะ!!
"แล้วป๊าก็ทำหน้ายังไงเวลาเจอหน้าคุณพ่อของหนูลลิลน่ะ!!" ไม้ไผ่เหลาเรียวยาวถูกฟาดลงต้นขาขาวๆของคุณหนูโอบลมอย่างไม่เบาแรง หากแต่ชายหนุ่มกลับยืนกอดอกเม้มปากจ้องหน้าผู้ให้กำเนิดอย่างไม่สะทกสะท้าน แม้ว่าขาทั้งสองข้างนั้นสั่นเทาจนแทบยืนไม่ไหวแล้วก็ตาม
"ป๊าจะมาคลุมถุงชนผมแบบนี้ไม่ได้นะ!!!"
"โอบลม!"
"ที่ผ่านมาป๊าตามใจเรามากเกินไปใช่ไหม!"
"พ่อเลี้ยง!!! เลี้ยงคุณหนูยังไง ทำไมลูกฉันเป็นคนก้าวร้าวแบบนี้!"
"ป๊า!!! พ่อเลี้ยงเลี้ยงผมดีกว่าป๊าอีกด้วยซ้ำ อย่ามาว่าพ่อเลี้ยงนะ!"
พ่อเลี้ยงโอบจันทร์เดินตามเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ลอยมาตามสายลม สายตาหยุดลงเมื่อเห็นคนเป็นลูกเลี้ยงนั่งกอดเข่าซุกหน้าร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ พ่อเลี้ยงทิ้งตัวลงนั่งข้างๆแล้วเอื้อมมือไปลูบหลังคุณหนูโอบลมเบาๆ โยกศีรษะบ้างยามเจ้าตัวลดอาการสะอื้นไห้ลง
"ไหนเอาขามาให้พ่อเลี้ยงดูหน่อยซิ" คุณหนูของพ่อเลี้ยงทำตามอย่างว่าง่ายขายาวๆค่อยๆกางออกจากกัน รอยแดงจากไม้เรียวเด่นชัดจนพ่อเลี้ยงน้ำตารื้น นิ้วมือเรียวไล้วนยาหม่องไปตามรอยจากไม้เรียวเบาๆ หากพ่อเลี้ยงเงยหน้ามามองสักนิด คงเห็นว่าสายตาที่คุณหนูของไร่มองตนเองนั้นมันเว้าวอนเพียงใด
"อย่าโกรธป๊าเลยนะ เขารักหนูมากเลยคาดหวังมาก พ่อเชื่อว่ายังไงป๊าต้องเข้าใจหนูแน่ๆ"
"แล้วพ่อเลี้ยงละ..."
"ผิดหวังไหม ผมกลายเป็นเด็กก้าวร้าวมากเลยใช่ไหม"
"เสียใจรึเปล่า?"
"ไม่ว่าหนูจะเป็นอะไร ชอบอะไร รักใครอย่างไร ยังไงพ่อเลี้ยงก็รักหนูเหมือนเดิม"
โปรดติดตามตอนต่อไป
-
ติดตามว่า หนู เคะ หรือ หนู เมะ
-
คุณพ่อเลี้ยงน่าจะเป็นนายเอกน่ะเหมาะดีๆๆ
-
ความผิดพลาดของโอบลม
หลังจากการทะเลาะวิวาทครั้งนั้นผ่านพ้นไปผู้เป็นเจ้าของไร่และคุณหนูก็ไม่อาจมองหน้ากันติดอีกเลย พ่อเลี้ยงโอบจันทร์ได้แต่นั่งเงียบทำสีหน้าลำบากใจยามที่ได้ร่วมโต๊ะอาหารด้วย คุณหนูเพิกเฉยต่อบิดาแล้วลงมือทานอาหารโดยไม่เหลียวมองผู้ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ และเช่นเดียวกันกับที่นายหัวโอบศักดิ์ที่ทำสีหน้าบึ้งตึงลงมือทานข้าวไม่พูดไม่จา
นับสัปดาห์ได้ที่การทะเลาะวิวาทครั้งนี้กินเวลาไป
"นายหัว..."
"เรียกใหม่ซิ"
"คุณโอบ" เสียงครางรับในลำคอราวกับเป็นการตอบรับที่ถูกเขาเรียก พ่อเลี้ยงเม้มริมฝีปากเข้าหากันก่อนจะค่อยๆเดินไปยืนข้างคุณโอบศักดิ์ที่ยืนกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่างนั่นอย่างครุ่นคิด
"ปล่อยเขาให้เขาเป็นในแบบที่เขาพึงพอใจไม่ได้หรือครับ"
"พ่อเลี้ยง.."
"เรามีลูกชายเพียงคนเดียวนะ"
"ผิดหวังมากหรือครับ"
"อืม"
"เราไม่รู้ว่าเราเลี้ยงลูกมาผิดพลาดหรืออย่างไร"
"หรือเราไม่ใส่ใจเขากัน" นายหัวโอบศักดิ์พูดพลางพ่นลมหายใจออกจากจมูกอย่างคนคิดไม่ตก เขาไม่รู้ว่าเรื่องมันผิดพลาดมาถึงตอนนี้ได้อย่างไร ทุกอย่างมันผิดพลาดจากที่เขาวาดหวังไว้เสียมาก
"ถ้าผิดคงผิดที่ผมแหละครับ เพราะผมอยู่กับเขามาตั้งแต่เล็กแล้ว"
"ไม่หรอก พ่อเลี้ยงเลี้ยงคุณหนูมาดีเหลือเกิน จนเราละอายใจ"
"ขอโทษด้วย ในตอนนั้นที่เราเผลอพูดจาว่าร้ายพ่อเลี้ยง"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจดี"
"ลองคุยกับเขาดูหน่อยไหมละครับ เปิดใจให้เขาหน่อย"
"นะครับคุณโอบ"
พ่อเลี้ยงโอบจันทร์เดินเข้ามาภายในห้องของคุณหนูอย่างเงียบเชียบเพราะตอนนี้อยู่ในช่วงกลางดึกแล้ว หากแต่เปิดประตูไม้เข้าไปกลับเจอคุณหนูนั่งพิงหัวเตียงอยู่ไม่ยอมล้มตัวลงนอนเสียที นัยน์ตาคมหันมาจ้องพ่อเลี้ยงก่อนที่ความแข็งกระด้างจะลดลงมา จนมีรอยยิ้มบางๆเผยออกมาให้เห็น
ร่างกายสูงใหญ่ที่เลยหัวพ่อเลี้ยงไปแล้วนั้นเอื้อมมาคว้ารอบเอวพ่อเลี้ยงไว้เมื่อโอบจันทร์เดินเข้ามายืนใกล้ๆเตียง ดึงให้อีกคนลงมานอนซบด้วยกันบนเตียงกว้าง หัวทุยๆซุกอยู่ที่หน้าท้องนุ่มนิ่มของอีกคนแล้วค่อยๆปิดเปลือกตาลง โอบจันทร์ยกมือขึ้นลูบเส้นผมสีน้ำตาลในมือแล้วก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยใจ แม้ตัวจะโตแต่สกิลความออดอ้อนไม่ได้ลดละลงเลยสักนิด
ดอกไม้ที่เริ่มบอบช้ำในมือของพ่อเลี้ยงถูกนำไปวางบนหัวเตียง เขารึอุตส่าห์เด็ดออกมาจากหลังสวนเพื่อนำมาให้คุณหนูโดยเฉพาะ หากแต่การสนทนาเมื่อครู่กับนายหัวใหญ่ของบ้าน ทำให้พ่อเลี้ยงเผลอบีบดอกไม้หอมในมือเสียจนช้ำ
ดอกไม้ถูกวางไว้พร้อมกับที่พ่อเลี้ยงโอบกอดหัวทุยที่ซุกอยู่หน้าท้องตัวเองแล้วเริ่มร้องเพลงกล่อม มือเรียวสอดเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มแล้วนวดตามศีรษะเบาๆเป็นการผ่อนคลายให้
นิ้วมือเรียวค่อยๆบรรจงลูบเปลือกตาสีน้ำนมแล้วไล้วนแผ่วเบา รอมยิ้มบางเบาถูกส่งไปให้แม้จะรู้ว่าอีกคนจะไม่รับรู้ก็ตาม
เลื่อนลงมาลูบหลังแล้วตบปุๆบนแผ่นหลังกว้างของคุณหนูที่ยามนี้คดโค้งเข้าหากันจนดูน่าสงสาร แสงไฟสีส้มดับลงเมื่อสิ้นถ้อยคำขับกล่อม ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืดมีเพียงสีเหลืองนวลของดวงจันทร์กลมโตบนฟ้าเท่านั้นที่สาดทอแสงลอดเข้ามาในทางหน้าต่าง
พ่อเลี้ยงโอบจันทร์ไล่ริมฝีปากยุ่นชื้นกดจูบลงที่กลางกระหม่อม แล้วไล่ลงมาที่กลางหน้าผากเรื่อยมายังข้างขมับ จรดแนบริมฝีปากแผ่วเบาอย่างอ่อนโยน
"ขอจงฝันดี"
เหมือนการพูดจาเกลี้ยกล่อมนายหัวจะไม่เป็นผลสำเร็จเมื่อทั้งคู่ก็ยังไม่เลิกทำตัวมึนตึงใส่กันเสียที และดูเหมือนว่าเรื่องราวมันชักจะเริ่มบานปลายกันไปใหญ่แล้วเสียด้วย
"สวัสดีค่ะ คุณโอบศักดิ์" เสียงหวานใสกับกริยาท่าทางเรียบร้อยที่ยกมือพนมขึ้นไหว้นั้นทำให้คุณโอบยิ้มรับว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยรอยยิ้มกว้าง
"สวัสดีจ้ะหนูลลิล"
นรกมาอยู่ตรงหน้าผมแล้วครับ ณ ตอนนี้
พ่อเลี้ยงหันไปมองคุณหนูของบ้านที่ตอนนี้ยืนค้ำหัวบิดาตนเองอยู่ นัยน์ตาคมเข้มจ้องมองคุณโอบศักดิ์ไม่วางสายตา มือสองข้างกำหมัดแน่นอย่างอดทน และคุณโอบศักดิ์หาได้สนใจลูกชายไม่ เจ้าตัวกลับหันไปพูดทักทายแล้วยิ้มรับว่าที่สะใภ้ของบ้านอย่างยิ้มแย้มโดยไม่คิดจะสนใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนเองเลยสักนิด
คุณหนูเดินหันหลังหนีไปพร้อมกับคว้าแขนของเขาไปด้วย พ่อเลี้ยงไม่ได้เอ่ยทัดทานสิ่งใด ขาสั้นๆพยายามที่จะก้าวตามให้ทันคนขายาวข้างหน้าที่เอาแต่ก้าวฉับๆขึ้นบันไดไป เข้ามาถึงในห้องนอนคุณหนูก็ปิดประตูดังปั้งแล้วปล่อยให้พ่อเลี้ยงยืนเคว้งอยู่กลางห้อง คุณหนูก้าวยาวๆไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วรวบเสื้อหลายตัวเข้ากระเป๋าเดินทางใบโต
เห็นดังนั้นพ่อเลี้ยงจึงเดินไปดึงแขนเพื่อห้ามการกระทำนั้น หากแต่พอคุณหนูเงยหน้ามามองเขาหลังจากที่เอาแต่ยัดเสื้อผ้าลงกระเป๋าใบโต พ่อเลี้ยงก็ต้องนิ่งค้างไปเมื่อดวงตาคมทั้งสองข้างแดงก่ำอย่างอดกลั้น สายตานั้นมันช่างเว้าวอนราวกับบอกเป็นนัยว่าอย่าเพิ่งถามหรือติติงอะไรเจ้าตัวตอนนี้ เมื่อเห็นว่าพ่อเลี้ยงไม่พูดอะไรคุณหนูจึงหันไปเก็บเสื้อผ้าต่อ
และเป็นเขาเองที่ทนไม่ไหว กระชากแขนคุณหนูให้หยุดยัดเสื้อผ้าแรงๆเสียที เพราะมือขาวๆนั้นตอนนี้มีรอยแดงจากการถูกซิปขูดขึ้นมาให้เห็นแล้ว
"พอเถอะนะ" คุณหนูหยุดการกระทำลงหากแต่ปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมาอย่างไม่อาจทัดทาน ไม่มีเสียงสะอื้น หากแต่น้ำตาไหลและดวงตาขึ้นสีแดงช้ำ หัวใจพ่อเลี้ยงราวกับมีมีดมากรีดลึกลงกลางใจ จะให้เขาทนได้อย่างไรในเมื่อคุณหนูที่แสนจะเอาแต่ใจคนนี้นั้นเลือกที่จะยืนร้องไห้เงียบๆมากกว่าตะโกนโวยวายออกมาอย่างไม่พอใจ
"หนูทนไม่ไหวแล้วนะพ่อเลี้ยง" น้ำเสียงสั่นเครือและออดอ้อนพร้อมกับคำว่าหนูนั้นทำเอาพ่อเลี้ยงใจแป้วไปโข สองแขนของพ่อเลี้ยงรวบลูกเลี้ยงเข้าไว้แนบอกแล้วโยกเจ้าตัวเบาๆเป็นการปลอบใจ แต่ก่อนจะเป็นคุณหนูที่จะซุกอกเขาหากแต่ตอนนี้เขากลับซุกอกลูกเลี้ยงของตนเองแทน
"ไปคุยกับป๊าก่อนไหม"
"นะ" เมื่อเห็นว่าคุณหนูเหมือนจะไม่มีทีท่าจะยอมเจรจาอย่างที่เขาพูด เขาก็เลยลองอ้อนดู แต่ดูท่าว่าคุณหนูของไร่จะใจแข็งกว่าที่คิด ในหัวกำลังคิดหาทางเกลี้ยกล่อมเจ้าตัวแต่แล้วก็ต้องตัวแข็งทื่อเมื่อรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่หัวไหล่และเสียงสะอื้นไห้ดังคลอเคลียหูผะแผ่ว ด้วยความตกใจสองมือจึงดันอกคุณหนูออกเพื่อดูหน้าตาว่าคุณหนูเป็นอะไร แต่สองแขนของโอบลมกลับกอดรัดเสียแน่นไม่อาจขยับตัวได้ดั่งใจคิด
"รู้ไหมว่าคนสุดท้ายบนโลกนี้ที่ผมอยากให้เขาต่อต้านผมคือพ่อเลี้ยงนะ"
"เข้าข้างผมเถอะ ขอร้องละ"
"ผมพยายามแล้ว...แต่ผมก็ชอบผู้ชายอยู่ดี"
"ฮื่อ แล้วจะให้ผมทำยังไง"
แล้วคนที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างรอยร้าวอย่างเขานั้นควรรู้สึกอย่างไรหนอ
"โอบลม อย่าเสียมารยาทนะ ลงมาคุยกับลลิลซิ!"คุณโอบศักดิ์เปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมๆกับลากแขนลูกชายตนเองออกมา ความโกรธขึงในใจทำให้เผลอออกแรงบีบต้นแขนบุตรชายจนขึ้นรอยแดง หากแต่คุณหนูกลับเม้มปากไม่ร้องโอดครวญเจ็บปวดแต่อย่างใด
"ป๊า!"
"โอบลม อย่ามาขึ้นเสียงใส่ป๊านะ!" เพราะความดื้อดึงของทั้งสองคนที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้อีกฝ่ายทั้งคู่ ชายสองคนที่ออกแรงยุดยื้อกันตรงบันได ด้วยความที่คุณหนูร่างกายยังแข็งแรงแตกต่างจากคนเป็นบิดา ทำให้สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
"ป๊า!"
"คุณหนู!"
หากเลือกได้ เขาก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
โปรดติดตามตอนต่อไป
เราอาจจะมาอัพอีกทีตอนเย็นวันศุกร์นะคะ เพราะเราติดเรียนพิเศษ ถ้าวันไหนไม่ได้ไปเรียน อาจจะมาอัพให้วันนั้นเลยค่ะ
-
รอลุ้นล่ะ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
อ่าวววว เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
เฮ้ออออ เมื่อคนหัวแข็งมาเจอกันอะเนอะ
-
อีกนานเลย T-T
-
จะเป็นไงต่อน๊าาาาา
-
ความลับของพ่อเลี้ยงและความสัมพันธ์ 'ของเรา'
"...."
(ว่าไง)
"ป๊าเป็นยังไงบ้าง"
(ฟื้นแล้ว คุณหนูอยู่ไหน โอเคไหม)
"พ่อเลี้ยง.."
(ครับ?)
"มาเจอหนูหน่อยได้ไหม"
"ที่สวนหลังเรือนขาวนะ"
(อืม)
อากาศเย็นๆของเดือนธันวาคมพัดผ่านโอบล้อมชายหนุ่มไว้ ไหล่ผายกว้างที่เจ้าตัวภูมิใจหนักหนากำลังห่อเล็กลงจนดูน่าเห็นใจ พ่อเลี้ยงโอบจันทร์หยุดยืนมองคุณหนูของไร่จากทางด้านหลังที่กำลังนั่งห่อไหล่อยู่บนโต๊ะไม้แข็งแรงอย่างนึกเห็นใจ พ่อเลี้ยงย่ำเท้าลงบนผืนหญ้าเสียงเบาหากแต่อีกคนกลับได้ยินอย่างชัดเจนเมื่อรอบข้างเงียบสนิท
ใบหน้าคมผินมามองพ่อเลี้ยงแล้วระบายยิ้มให้ หากแต่เขารู้ดีว่ายิ้มนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด พ่อเลี้ยงค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งข้างๆแล้วเอื้อมมือไปลูบหลังมืออีกคนที่กุมมือประสานกันแน่นบนตักของเจ้าตัว ฝ่ามือขาวสั่นระริกจนเขาต้องบีบเบาๆให้เจ้าตัวผ่อนคลายความเครียดเกร็งลง
"พ่อเลี้ยง...หนูว่าหนูจะแต่งงานกับลลิลแหละ" สิ้นคำพูดพ่อเลี้ยงโอบจันทร์นิ่งค้างไป กว่าจะรู้สึกตัวได้ก็เห็นว่าคุณหนูโอบลมจ้องหน้ามองตัวเขาอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
"ทะ..ทำไมละ" ราวกับมีก้อนแห่งความหนักหน่วงใจถ่วงไว้ที่ลำคอ ลมหายใจขาดห้วงเมื่อมองใบหน้าของคนข้างกายกลับเต็มไปด้วยความแน่วแน่ ไหนตอนแรกตัวเองคัดค้านเสียขนาดนั้น
"อยากให้ป๊าสบายใจ"
"แล้วความรู้สึกของหนูละ หนูสบายใจหรือ" คุณหนูของไร่เสหลบสายตาออกจากนัยน์ตาสวยที่มองมาอย่างมีคำถาม ดวงตาคมเข้มเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำทึบ หากแต่ต้องระบายยิ้มออกมายามที่มองเห็นดวงดาวหลากหลายดวงส่องแสงพราวระยับหยอกล้อกัน
พ่อเลี้ยงไม่เคยรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องมากขนาดนี้มาก่อน ฝ่ามือเย็นเฉียบเผลอเอื้อมไปดึงรั้งเสื้ออีกฝ่ายเบาๆ หากแต่อีกคนก็ไม่ได้รับรู้ถึงฝ่ามือชื้นเหงื่อคู่นี้เลย ยังคงจดจ้องท้องฟ้าราวกับจะปล่อยใจไปกับความเวิ้งว้างนั้น หากแต่ได้ทิ้งความหนักอึ้งในจิตใจไว้ให้คนข้างหลังโดยไม่รู้ตัว
"ตอนไปเข้าค่าย เพื่อนหนูชอบถามว่าทำไมหนูถึงชอบมองดาว"
"หนูตอบมันไปว่าไม่มีก็อะไรหนิ แต่ตอนนี้หนูรู้แล้วว่าทำไมหนูถึงชอบมอง"
"เพราะหนูชอบคิดอยู่เสมอว่า...."
"ต้องมีสักวันแหละ ที่หนูและดาวจะเข้าใกล้กันได้มากกว่านี้" ประโยคสุดท้ายคุณหนูโอบลมผินหน้ามาจ้องมองพ่อเลี้ยงของตนเอง ความรู้สึกมากมายที่กักเก็บเอาไว้ แทบล้นทะลักออกมาจนเผยให้พ่อเลี้ยงรู้จนหมดสิ้น ในเวลานี้จิตใจของคุณหนูบอบบางเหลือเกิน เพียงแค่มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เขาก็แทบไม่อยากอดทนต่อความรู้สึกมากมายที่มีในใจนี้
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ริมฝีปากชื้นกดจูบลงที่กลีบปากสีอ่อนระเรื่อ เคล้นคลึงบดเบียดราวกับจะถ่ายเทความอึดอัดใจไปให้อีกคน ปลายนิ้วอุ่นร้อนสอดเข้าไปในเสื้อ บรรจงลูบไล้แผ่นหลังเนียนแผ่วเบา ปลายลิ้นชื้นลูบไล้ริมฝีปากก่อนที่จะดุนให้อีกคนเผยอกลีบปากขึ้น สอดสัมผัสกับปลายลิ้นอีกคนที่หลบหลีกเขานั้นให้ได้เข้าใกล้ชิดกัน
ในคราแรกพ่อเลี้ยงโอบจันทร์นั่งนิ่งค้างแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด ทำให้โอบลมย่ามใจและเริ่มส่งมือไปเคล้นคลึงยอดอก เสียงครางฮือในลำคอทำให้คุณหนูเลิกบดริมฝีปากกับพ่อเลี้ยง แต่เจ้าตัวหันมากดจูบที่หน้าผากและไล่ลงมาที่ขมับแทน มืออีกข้างดันให้พ่อเลี้ยงนอนราบไปตามแนวเก้าอี้ ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือเลิกเสื้อเชิ้ตขึ้นจนเห็นหน้าอกขาวนวล
ลิ้นอุ่นชื้นแตะแต้มลงบนผิวผะแผ่ว มือข้างขวาบดขยี้ยอดอกจนแข็งขืนขึ้นสู้มือ ส่วนมืออีกข้างก็บีบมือพ่อเลี้ยงไว้ให้เจ้าตัวผ่อนคลาย ไม่มีการห้ามปรามใดๆ ทั้งสองเลือกที่จะทำตามใจตนเองทั้งสิ้น
คุณหนูมีความลับที่ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้
และพ่อเลี้ยงก็เช่นกัน
ลิ้นชื้นแฉะไล้เลียตามแอ่งสะดือก่อนที่มือจะเลื่อนลงมาปลดกระดุมออก จนเผยให้เห็นเรือนร่างที่เขาไม่เคยได้เห็นมาจากไหนแม้จะอยู่ด้วยกันมานานก็ตาม เพราะพ่อเลี้ยงมักจะแต่งตัวเรียบร้อยมิดชิดอยู่เสมอ เมื่อยกหน้าขึ้นมองพ่อเลี้ยงก็เห็นได้ว่าเจ้าตัวหลับตาลงและน้ำตาไหลรินลงมาที่หางตา คุณหนูโอบจันทร์ชะงักค้างและมองไปตามตัวพ่อเลี้ยงก็เห็นได้ว่าพ่อเลี้ยงบอบช้ำจากริมฝีปากตนเองมากขนาดไหน
คุณหนูระงับใจถอดถอนหายใจหนักๆอย่างสงบสติอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ก่อนที่จะเอื้อมมือสั่นๆไปติดกระดุมให้คุณพ่อเลี้ยง หากแต่ต้องชะงักเมื่อพ่อเลี้ยงจับแขนของเขาไว้เป็นการห้ามปราม ฝ่ามือของพ่อเลี้ยงเย็นเฉียบจนเขาสัมผัสได้ และก็ต้องนิ่งค้างไปเมื่อพ่อเลี้ยงสอดแขนเข้ามาคล้องคอเขาไว้เสียเอง
"ทำต่อสิ" น้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรงดังขึ้นเผ่าเบาที่ข้างหู พ่อเลี้ยงยิ้มจางๆให้ก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้้ง ฝ่ามือลูบไล้สอดเข้าไปใต้กลุ่มผมของเขาเบาๆเป็นการอนุญาติให้เขาทำตามใจตัวเอง ริมฝีปากชื้นของเขากดจูบซับน้ำตาที่ไหลลงมาจากหน่วยตาที่ปิดตัวลงหากแต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มอย่างสุขใจ
มอบรอยยิ้มให้ทั้งๆที่น้ำตายังคงรินไหลลงมา
ฝ่ามือร้อนสอดเข้าไปในกางเกงผ้ายืดของอีกคนแล้วกอบกุมส่วนอ่อนไหวไว้ภายในอุ้งมือ พ่อเลี้ยงครางฮือจนเขาต้องแนบริมฝีปากตัวเองกับริมฝีปากของพ่อเลี้ยงไว้ เพราะพ่อเลี้ยงกำลังเผลอขบริมฝีปากตนเองจนห้อเลือดชัดเจน
ปลายนิ้วมือลูบไล้ริมฝีปากช้ำเบาๆในขณะที่เริ่มแทรกขาตัวเองไว้ให้ขาของพ่อเลี้ยงอ้าออกกว้าง ส่งปลายนิ้วร้อนไปลูบไล้รอยจีบพับเบาๆจนพ่อเลี้ยงต้องหุบขาเข้ากันโดยอัตโนมัติแต่ก็ไม่สามารถหุบได้เพราะตัวเขาที่แทรกไว้หว่างขา คุณหนูค่อยๆไล่จูบไปตามใบหูและซอกคอขาว ลมหายใจร้อนๆเป่ารินรดมากพอที่จะทำให้พ่อเลี้ยงครางเสียงสั่นในลำคอได้
ฝ่ามือขยับรูดรั้งส่วนอ่อนไหวจนสิ่งที่เคยนอนแน่นิ่งกลับตื่นขึ้นมา คุณหนูเอื้อมมือไปหยิบถุงยางอนามัยที่ถูกสอดเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะใช้ปากกัดและฉีกออกด้วยมือเพียงข้างเดียว เพราะมืออีกข้างยังคงสาละวนอยู่กับหน้าอกขาวๆ น้ำหล่อลื่นที่มากับถุงยางถูกส่วมใส่ลงที่นิ้ว ก่อนที่เจ้าตัวดีจะค่อยๆส่งนิ้วเข้าไปในโพรงนุ่มหยุ่น
"ฮื่ออ" ปลายนิ้วหยุดชะงักการสอดใส่เมื่อพ่อเลี้ยงร้องครางต่อต้าน ปลายนิ้วที่สวมด้วยถุงยางอนามัยค่อยๆไล้วนรอบรอยจีบพับก่อนที่จะค่อยๆกดเข้าและกดออกเป็นการขออนุญาติ ดวงตาสวยยังคงจ้องมองใบหน้าที่ขึ้นสี่ระเรื่อจากอุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้นอย่างไม่อาจละสายตาได้
คนตัวใหญ่กว่าถอดเสื้อออกมา โอบลมอุ้มพ่อเลี้ยงขึ้นจนหลังลอยเหนือเนื้อไม้ แล้วรีบหยิบเสื้อตัวเองไปวางพาดไว้ไม่ให้พ่อเลี้ยงโอบจันทร์รู้สึกระคายผิวหลังยามที่ถูกวางระนาบลง
"พ่อเลี้ยงอย่าโกรธหนูเลยนะครับ" นิ้วเรียวยาวสอดใส่จนสุดปลายนิ้วก่อนที่จะค่อยๆขยับเข้าออกเชื่องช้า ลมหายใจผ่อนเข้าออกยาวๆของพ่อเลี้ยงบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวกำลังผ่อนคลายตนเอง นิ้วเรียวสวยยกขึ้นโอบกอดแผ่นหลังกว้าง จิกลงบ้างยามที่เจ้าคนตัวดีงอนิ้วตัวเองจนครูดกับผนังเนื้อนิ่ม
ถุงยางอนามัยซองใหม่ถูกกัดแกะและสวมใส่ที่ส่วนอ่อนไหวใหญ่โตขึงขัง ส่วนหัวถูไถกับช่องทางเบาๆก่อนที่จะค่อยๆกดตัวเข้าไป โอบลมแลบลิ้นไล้เลียริมฝีปากตัวเองเบาๆเมื่อแกนกายกำลังถูกความอุ่นร้อนโอบอุ้มไว้ พ่อเลี้ยงส่ายหัวพรืดจนคุณหนูโอบลมต้องก้มตัวลงไปตวัดปลายลิ้นที่ยอดอกเป็นการเบนบ่ายความสนใจ พ่อเลี้ยงสอดนิ้วมือเข้าไปขยุ้มเส้นผมของคนด้านบนแรงๆเป็นการระบายความเจ็บเสียด
สะโพกสอบค่อยๆขยับเข้าออกเบาๆ ร่างกายเกร็งขึงจนเส้นเลือดตามท้องแขนและซิกแพคเป็นลอนเผยรูปขึ้นแจ่มชัด หยาดเหงื่อไคลไหลย้อยลงมาตามร่างกายสมบูรณ์แบบ โอบจันทร์เอื้อมมือไปจับกล้ามแขนได้รูปไว้แน่นพลางซุกหน้าลงซบอย่างอ่อนแรง สะโพกสอบขยับเข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ฝ่ามือขาวจับขาข้างหนึ่งของพ่อเลี้ยงตัวเองขึ้นพาดบ่าเพื่อให้สอดใส่ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นอย่างหยาบโลนตามจังหวะสม่ำเสมอ สองมือขาวจับสองขาของพ่อเลี้ยงให้แยกออกกว้างบ้าง ขึ้นพาดบ่าบ้าง ตามอำเภอใจ ริมฝีปากกดจูบไปตามข้อเท้าด้านในไล่ลงมายันน่องปลี
ยามที่เหมือนตัวเองจะใกล้ถึงฝั่งฝันคุณหนูโอบลมกลับค่อยๆผ่อนแรงลงแล้วสาวเอวเข้าออกช้าๆ สวนสะโพกกลับไปเน้นๆจนได้ยินเสียงพ่อเลี้ยงร้องดังอั้กเพราะความจุก คนเด็กกว่าพลิกตัวพ่อเลี้ยงให้อยู่ในท่าคลานและโอบจันทร์ก็ทำตามอย่างว่าง่าย สองมือวางลงบนบั้นเอวขยุ้มแรงๆแล้วเริ่มขยับสะโพกอีกครั้ง
สาวสะโพกเข้าออกสุดความยาวจนลึกล้ำสัมผัสได้ถึงช่วงสะโพกที่แนบชิดกับบั้นท้ายกลมกลึง คุณหนูโน้มตัวลงไปไล่จูบที่ท้ายทอยของพ่อเลี้ยงไล่เรื่อยลงมาที่แผ่นหลังขาวสะอาด ยกหน้าขึ้นมาก็เจอกับเอวโค้งเว้าสวยในแบบผู้ชายที่ยั่วยวนตาเหลือเกินในความคิด
พ่อเลี้ยงไม่ใช่คนผอมบางหากแต่เป็นคนมีเนื้อหนัง ยามที่จับบีบเค้นนั้นก็เต็มไม้เต็มมือจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปฟัดเนื้อนิ่มนั่นอีกรอบ สะโพกสอบสวนแรงขึ้นเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝันอีกครั้ง เสียงครางในลำคอของพ่อเลี้ยงถูกเปล่งออกมาเพราะคุณหนูเอื้อมมือไปสาวรั้งให้ พ่อเลี้ยงถูกพลิกตัวให้มาสบสายตาคมอีกครั้งโดยที่ขาทั้งสองข้างพาดบ่ากว้างทั้งคู่ โอบลมโน้มตัวลงมาทำให้ใบหน้าอยู่ใกล้กับพ่อเลี้ยงจนห่างกันเพียง 1 ฝ่ามือเท่านั้น และส่งยิ้มจางๆไปให้คนใต้ร่าง
"ขอบคุณที่ดูแลผมตลอดมานานครับ" สองมือของคุณหนูสอดประสานกันเหนือหัวพ่อเลี้ยง โน้มใบหน้าลงมาจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากเนียนชื้นเหงื่อ ก่อนที่เสียงครางอื้ออึงจะถูกเปล่งออกมาพร้อมๆกับความอุ่นร้อนที่ถูกอัดฉีดลงไปในถุงยางอนามัย เอวสอบค่อยๆผ่อนแรงขยับรูดรั้งจนหยุดนิ่ง ปลายจมูกโด่งคลอเคลียอ้อร้อกับปลายจมูกอีกคน
พ่อเลี้ยงที่กำลังเคลิ้มก็ต้องกระพริบตาขึ้นเมื่อรับรู้ได้ถึงหยาดหยดน้ำตาจากคนข้างบนที่ทาบทับตัวเองไว้ ส่งมือไปซับน้ำตาให้พร้อมกับรอยยิ้มเพื่อบรรเทาความรู้สึกผิดที่ตีตื้นขึ้นมาจุกที่อกของคุณหนู
"รักลูกชายเราหรือ"
"ระ..รู้เหรอครับ"
"รู้ซิ ก็แม่ของคุณโอบลมคือคุณแม่บุญชูของพ่อเลี้ยงไม่ใช่หรือ" แม้ว่าโอบลมจะเกิดมาจากคนที่คุณพ่อเลี้ยงรักมาก แต่ก็ไม่น่าแปลกใจหากพ่อเลี้ยงจะรู้สึกรักโอบลมเช่นกัน หากแต่มันเกินเลยกันไปเสียหน่อย และคุณโอบศักดิ์รู้ดีว่าคุณพ่อเลี้ยงคนนี้รักลูกชายของเขามากเกินไปเสียแล้ว
"เราขอโทษนะ ที่เราจะพรากคนรักของพ่อเลี้ยงอีกคนมาอีกแล้ว แต่เรามีลูกชายเพียงคนเดียว ปล่อยลูกชายเราไปเถิดนะ"
"อย่าให้ความรักที่บิดเบี้ยวของพ่อเลี้ยงมาทำให้ลูกชายเราเปลี่ยนไปเลย" คนเป็นพ่อรักลูกมากจนไม่อยากให้ลูกชายตนเองชอบพอกับคนที่จะไม่สามารถสืบทายาทได้ แม้ว่าคนนั้นจะเป็นพ่อเลี้ยงโอบจันทร์ก็ตาม
"คุณเห็นแก่ตัวเสมอเลยนะครับคุณโอบศักดิ์"
"ตอนที่คุณแม่บุญชูตั้งครรภ์ คุณโอบศักดิ์ก็พูดแบบนี้กับผมเหมือนกัน ลืมไปแล้วหรือครับว่าที่คุณแม่บุณชูเสียก็เพราะใคร ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมเลี้ยงเขามาแบบคนปกติ ไม่ได้ไปพูดกรอกหูให้เขาชอบพอกับผู้ชายเหมือนกันสักหน่อย"
"ให้ลูกชายคุณเลือกเองเถอะครับ ยังไงผมก็เลี้ยงดูเขามากับมือ
"ผมจะพยายามทำตัวเป็นปกติ แต่ถ้าเกิดว่าคุณโอบลมเข้าหาผมก่อน....ผมจะไม่ปล่อยเขาไปนะครับ"
"ถึงลูกชายเราจะชอบผู้ชาย แต่เขาจะไปคิดกับพ่อเลี้ยงในเชิงนั้นได้อย่างไรกัน"
บทสนทนาที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่วันนั้นจำได้ว่าถึงจะพูดกับคุณโอบศักดิ์ไปแบบนั้น แต่ลึกๆแล้วเขาก็รู้ตัวดีว่าความรักที่บิดเบี้ยวของตนเองคงไม่อาจส่งผลถึงอีกคนหรอก ยิ่งเจอกับคำพูดลอยๆของคุณหนูว่าจะแต่งงานกับหนูลลิล ก็เหมือนกับโลกทั้งใบกำลังมืดมัวลง แต่มาวันนี้ที่เจอการกระทำอันแสนอุกอาจของคุณโอบลม ที่อาจจะทำให้เขาตกใจและตะลึงไปบ้าง หากแต่มันก็ทำให้ความหวังที่ริบหรี่เกินทนของเขาสว่างไสวขึ้นมา
ครั้งเมื่อนานมาแล้วเด็กชายโอบจันทร์เป็นเด็กกำพร้า และถูกเลี้ยงดูมาด้วยคุณแม่บุญชู หัวหน้าแม่บ้านของไร่ คุณแม่สวย ใจดี เลี้ยงดูเขามา ตอนเด็กเขารู้แค่ว่าคุณแม่บุญชูจะมีน้อง อุ้มครรภ์จนครบ 9 เดือน คุณแม่ก็เสียชีวิตลง เด็กในท้องของคุณแม่ถูกส่งทอดมาถึงพ่อเลี้ยงโอบจันทร์ เขาไม่รู้เลย ไม่เคยรู้เลยว่าเด็กที่ออกมานั้นจะเป็นลูกชู้ของคุณโอบศักดิ์กับคุณแม่บุญชู เพียงเพราะว่าภรรยาตนเองเป็นหมัน คุณโอบศักดิ์เลยเลือกที่จะมาสมสู่กับคุณแม่แทน
เติบโตขึ้นมาเขาถึงได้รู้ว่าที่คุณแม่บุญชูเสีย เพราะภรรยาของคุณโอบศักดิ์สั่งเก็บเพราะความแค้นเคืองกับการกระทำอันน่ารังเกียจ โดยที่คุณโอบศักดิ์ไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่น้อย และภรรยาที่เคยเป็นที่รักก็ต้องเข้าคุกรับโทษตนเองไป
ไม่ได้มีเพียงแค่เขาหรอกที่สูญเสีย ทุกๆคนก็สูญเสียกันมาด้วยกันทั้งนั้น จากคนที่สวย อ่อนหวานก็ต้องมีจิตใจที่มืดดำเพราะความแค้นเคือง จะให้เขาโกรธเคืองคุณโอบศักดิ์ก็ไม่ได้อย่างใจคิด เพราะเขาก็มีบุญคุณกับตัวพ่อเลี้ยงเหลือเกิน สัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ให้ความพยาบาทนั่นมากลืนกินจิตใจ ทุกคนในไร่เลือกที่จะเก็บเรื่องราวขมขื่นไว้ในใจแล้วเลี้ยงดูคุณหนูของไร่ออกมาให้มีความสุขที่สุด
ถึงแม้ว่าความรักที่เติบโตขึ้นมานั้นจะผิดรูปแบบไปบ้าง แต่อย่างไรเสียความรักก็ยังคือความรัก
เห็นไหมครับคุณโอบศักดิ์ ไม่ได้มีแค่ผมสักหน่อยที่มีความรักที่บิดเบี้ยว
ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างธรรมชาติ ค่อยๆให้ความรักความห่วงใย แทรกซึมลงไปในจิตใจที่บอบช้ำ
เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง
ร่างกายอ่อนแรงของเขาถูกอีกคนช้อนอุ้มขึ้น เสื้อเชิ้ตยับยู่ยี้ถูกนำมาคลุมร่างกายตนเองเอาไว้ แผ่นอกเปลือยเปล่าของพ่อเลี้ยงและคุณโอบลมสัมผัสกันแนบแน่นเมื่อคนตัวใหญ่กว่าโอบอุ้มเขาไว้ ใบหน้านวลเนียนซบลงที่บ่าเปลือยเปล่าอย่างอ่อนแรง รอยยิ้มจางๆถูกลอบมอบให้อีกคนที่ตั้งอกตั้งใจอุ้มเขาขึ้นบันไดไปยังห้องนอน
"พ่อเลี้ยงรักหนูนะ"
"ผมก็รักพ่อเลี้ยง"
"ยังจะแต่งงานกับลลิลอีกไหม"
"ไม่แล้วครับ"
เสียงหายใจเข้าฟูดใหญ่ดังขึ้นที่กลางกระหม่อมเมื่อโดนคนที่อุ้มลักลอบสูดหายใจแรงๆ แม้จะอยากต่อว่าไปบ้างที่อีกคนแอบขยุ้มบั้นท้ายเขา แต่ก็จะทำเป็นไม่รู้สึกอะไรละกันนะ....ตามใจเขาบ้างสักหน่อย
โอบจันทร์ถูกวางลงบนเตียงนุ่มเบาๆพร้อมๆกับดอกไม้ช้ำในกำมือที่ร่วงโรยลงบนพื้น
เขาว่ากันว่าหากเราชอบดอกไม้เราจะเด็ดดอกไม้มาชื่นชมความงามของมัน
แต่ถ้าหากเรารักดอกไม้เราจะหมั่นดูแล รดน้ำให้ดอกไม้สวยงามขึ้น
แล้วดอกไม้ในมือของพ่อเลี้ยงโอบจันทร์ที่บอบช้ำนี้หละ
ไม่มีอะไรสลักสำคัญ หรือตรรกะตายตัว เพียงแค่การเริ่มต้นกับดอกไม้ดอกใหม่ ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเสียหน่อย
ถ้าดอกเก่าผิดพลาดและบอบช้ำ แค่จำไว้เป็นบทเรียนแล้วดูแลดอกใหม่ให้งดงามดั่งเดิมก็พอ
โปรดติดตามตอนจบ
พบเจอคนผิดนัดหนึ่งอัตราค่ะ มาช้าดีกว่าไม่มาเนอะ คงไม่งงกับแผนผังความสัมพันธ์กันใช่หรือไม่ ตอนหน้าก็ตอนจบแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ :กอด1: :man1:
-
เขาบอกรักกันแล้ว จะเป็นยังไงต่อน่ะ ลุ้นๆๆๆ
ปล.แต่งฉากนี้ได้ใจมาก ไปสูบเลือดก่อน อิอิ
-
ตอนที่ทิ้งท้ายไว้นี่หมายความว่ายังไงกันแน่นะ
บทแรก ๆ มีชื่อสลับบ้างนะคะ
รอตอนต่อไปค่ะ
-
ใกล้แระ
-
ขอให้สองคนสมหวังด้วยเต๊อะะะะะ :call: :call:
-
ความรักของคุณโอบศักดิ์
"โอบลม..."เสียงงัวเงียดังลอดออกมาจากผ้านวมผืนใหญ่ เรียกให้ชายหนุ่มที่นั่งพิงหัวเตียงหน้าเครียดอยู่หลุดออกมาจากภวังค์แล้วผินหน้ามามองคนข้างกาย ฝ่ามือขาวๆดึงรั้งผ้าห่มออกจนเห็นใบหน้าซีดๆกับผมชี้ฟูโด่เด่ไปมา ดวงตาชั้นเดียวยังคงหลับอยู่อย่างนั้นหากแต่อีกคนก็มีแรงพอที่จะยกปากขานเรียกชื่อเขา
พ่อเลี้ยงส่งมือเย็นๆเอื้อมไปจับมือขาวที่สอดประสานกันแน่นบนหน้าตักอยู่ ก่อนที่จะบีบเบาๆเป็นการผ่อนคลายให้ พ่อเลี้ยงไม่เคยทนเห็นสภาพอมทุกข์และคิดมากของคุณหนูได้นานๆหรอก ยังไม่อยากพูดถึงสถานะที่เกินเลยตอนนี้กับเจ้าตัวเพราะตัวพ่อเลี้ยงเองก็เต็มใจเสียขนาดนี้ แค่เรื่องที่คุณหนูเงียบงันจากอุบัติเหตุของบิดาก็เกินพอแล้วที่จะทำให้คุณหนูของไร่ที่ร่าเริงสดใสเก็บตัวมากขึ้น
และแน่นอนว่าคนที่เลี้ยงคุณหนูมากับมืออย่างพ่อเลี้ยงย่อมปวดใจตาม หากแต่ก็อยากให้เจ้าตัวคิดหาทางแก้ไขปัญหาที่ตัวเองทำขึ้นด้วยตัวเอง ผู้เป็นพ่อเลี้ยงทำได้แค่เพียงแนะนำและเป็นที่ปรึกษาให้เท่านั้น หวังว่าเหตุการณ์ร้ายๆครั้งนี้จะทำให้คุณหนูโอบลมโตขึ้นเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนมากกว่าเดิม
"อย่าลืมไปขอโทษป๊านะ พ่อเลี้ยงรู้ว่าหนูไม่ได้ตั้งใจ พ่อเลี้ยงรู้ว่าหนูไม่ใช่เด็กก้าวร้าว"คุณโอบลมวาดแขนขึ้นโอบกอดแผ่นหลังพ่อเลี้ยงจนดวงหน้าซีดขาวซบลงที่ไหปราร้า ไออุ่นจากผิวกายเปลือยเปล่าทำให้พ่อเลี้ยงเลือกที่จะบี้หน้าลงกับผิวเนื้อนั่น ได้ทีของเขาเขาก็ต้องเก็บเกี่ยวซี
โอบลมจ้องมองคนในอ้อมแขนก่อนที่จะค่อยๆหลับตาลงและพิงแก้มลงที่ศีรษะของพ่อเลี้ยง ถึงเขาจะเอาแต่ใจจนเคยตัวหากแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะทำให้ผู้ให้กำเนิดเจ็บช้ำร่างกายถึงเพียงนี้ ภาพที่ป๊าล้มลงเพราะแรงกระชากตัวของเขาเองทำให้ป๊าเสียหลักจนล้มลง ยังจำได้ดีว่าสีหน้าผู้ให้กำเนิดฉายแววผิดหวังมากเพียงใด
โอบลมผลุดลุงขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปหยิบกางเกงขายาวมาสวมใส่ พอเห็นว่าเพราะตัวเองลุกขึ้นทำให้พ่อเลี้ยงค่อยๆเริ่มลุกขึ้นมานั่งตาม ก็เดินไปกดไหล่อีกคนให้นอนลงแล้วหยิบผ้านวมขึ้นมาห่มให้พ่อเลี้ยงที่ตีหน้ายุ่ง ฝ่ามือขาวๆลูบศีรษะทุยเบาๆสอดนิ้วไปขยี้ในกลุ่มผมแล้วก้มลงไปกดริมฝีปากแนบบนข้างขมับขาว
"นอนต่อเถอะครับ" พ่อเลี้ยงพยักหน้ารับคำช้าๆแล้วจมลงห้วงนิทราอย่างง่ายดาย
สองมือขาวๆบรรจงพับม้วนใบตองตามแบบฉบับบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างตั้งใจ หัวคิ้วคมเข้มขมวดชนกันจนคนที่แอบมองหลังกำแพงอย่างพ่อเลี้ยงต้องยอมเดินออกมาเผยตัวให้อีกคนที่สาละวันอยู่กับใบตองได้รับรู้
พ่อเลี้ยงถือวิสาสะไปดึงใบตองในมือของคุณหนูออกมาแล้วค่อยๆสอนพับจีบใบตองให้ดูเป็นตัวอย่าง คุณหนูตั้งอกตั้งใจดูวิธีการทำช้าๆก่อนที่จะเงยหน้ามามองพ่อเลี้ยงเมื่อพับใบตองเสร็จ แล้วจึงส่งยิ้มขอบคุณจางๆ
"นั่งลงสิครับ" คุณหนูเอ่ยชวนพ่อเลี้ยงเมื่อเห็นว่าพ่อเลี้ยงยืนเคว้งอยู่ แต่อยู่ดีๆแก้มซีดๆของพ่อเลี้ยงก็แดงระเรื่อขึ้นจางๆ โอบจันทร์ส่ายหัวแล้วยิ้มแห้งๆให้คุณหนู จนคนที่นั่งงงอยู่เริ่มเข้าใจ แล้วจึงลุกขึ้นเดินไปหยิบเบาะรองนั่งมาวางลงบนเก้าอี้แล้วจึงเดินไปจูงมือให้พ่อเลี้ยงค่อยๆนั่งลง
คุณหนูของไร่นั่งพับต่อไปเงียบๆโดยที่จะเผลอหันไปมองพ่อเลี้ยงข้างตัวด้วยเช่นเดียวกัน เห็นพ่อเลี้ยงขะมักเขม้นกับการเลือกดอกไม้ในถาดแล้วเขาก็อดที่จะหยิบดอกลีลาวดีขึ้นมาทัดหูให้พ่อเลี้ยงไม่ได้ คนที่นั่งห่อไหล่สะดุ้งเบาๆแต่ก็หยุดนั่งนิ่งๆเมื่อกลิ่นหอมจากดอกแผ่โชยไปติดจมูกโด่งรั้น
กรวยใบตองถูกพับจนเสร็จสิ้นแม้จะช้ำไปบ้างหากแต่ก็พอมองข้ามไปได้เมื่อเทียบกับความพยายามทั้งหมดตั้งแต่เช้าตรู่ของคุณหนู โอบลมยื่นกรวยใบตองไปให้พ่อเลี้ยงที่นั่งห่อไหล่อยู่ข้างๆ พ่อเลี้ยงรับไปก่อนที่จะค่อยๆบรรจงหยิบดอกไม้ที่ตัวเองเลือกสรรมาใส่ไว้ในกรวยใบตอง
"ไปกันครับ เดินไหวไหม" พ่อเลี้ยงพยักหน้าเบาๆแล้วค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินช้าๆโดยมีคุณหนูเดินอยู่ข้างๆ ปลายเท้าย่ำขึ้นบันไดอย่างมั่นคงพร้อมๆกับผู้เป็นพ่อเลี้ยง จุดหมายปลายทางคือห้องนอนของป๊า นายหัวที่น่าเคารพของคนทั้งไร่ เมื่อมายืนอยู่หน้าประตู โอบลมยืนสูดลมหายใจเข้าลึกๆเป็นการเรียกกำลังใจ แล้วค่อยๆดันประตูไม้ให้เปิดออก
ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเตียงไม้อย่างดีหันมาตามเสียงของประตูไม้ที่ถูกเปิดออกกว้าง พอเห็นหน้าลูกชายเพียงคนเดียวของตัวเองแล้วก็ได้แต่เบือนหน้าหนี ซึ่งทำเอาชายหนุ่มที่เตรียมตัวเตรียมใจมาขอขมาถึงกับใจแป้วหน้าถอดสี พ่อเลี้ยงผละตัวเองออกไปอยู่นอกห้องเพื่อให้สองพ่อลูกจริงๆได้คุยกัน
สองขายาวค่อยๆคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับวางกรวยดอกไม้ลงบนตักของบิดาที่นั่งอยู่บนเตียง คุณโอบศักดิ์เม้มริมฝีปากกลั้นน้ำตาไว้เงียบๆเมื่อลูกชายเพียงคนเดียวค่อยๆก้มลงกราบบนตักช้าๆ
เสียงสะอื้นดังลอดออกมาแม้ว่าดวงหน้าขาวๆจะก้มต่ำจนแนบลงกับฝ่ามือที่พนมสวย เงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะจับมือของคุณโอบศักดิ์ไว้แล้วบีบแน่น
"ปะ..ป๊า ผมขอโทษ..."
"ผมไม่ได้ตั้งใจ...ผมขอโทษ ฮื่อ"
"จะลงโทษผมยังไงก็ได้..นะ แต่อย่าเกลียดผม" ดวงหน้าคมเข้มซบลงบนตักของบิดาพลางร้องไห้โยเยราวกับเด็กน้อยที่กลัวการถูกทอดทิ้ง
"คุณโอบลมของป๊าขี้แยขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ" แม้จะเอ่ยไปแบบนั้นหากแต่น้ำเสียงทุ้มต่ำก็แหบแห้งและสั่นเครือเหลือเกิน คุณโอบศักดิ์ค่อยๆวางมือลงบนกลุ่มผมอ่อนนุ่มของลูกชายเพียงคนเดียวของตนเอง
ลูกชายเพียงคนเดียว
บุตรที่หวงแหนเพียงหนึ่งคน
ผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ความคาดหวังมากมายโดยที่ตัวเขาเองก็พลาดพลั้งมองข้ามไป กดดันให้ผู้เป็นดวงใจแข็งกร้าวและร้าวราน ความผิดหวังถาโถมในวินาทีที่ตัวเขาล้มลงเป็นอย่างแรกหากแต่ไม่กี่นาทีต่อมาคือการที่อยากบอกว่าขอโทษที่กดดันจนอีกฝ่ายต้องแข็งข้อใส่มากมายขนาดนี้
"ไม่ต้องร้องลูก ไม่ต้องร้อง" คุณหนูโอบลมเงยหน้าขึ้นก่อนที่จะเช็ดน้ำตาลวกๆ มองมือของป๊าที่เริ่มจับกรวยดอกไม้ของตัวเองพลิกไปพลิกมา เขารู้ว่าพ่อชอบดอกไม้มาก เรือนขาวหลังนี้ถึงได้รายล้อมไปด้วยดอกไม้มีกลิ่นหอมหลากหลาย
"เจ็บมากไหมครับ" สายตาคมกวาดมองเข่าบิดาที่ถูกพันผ้าสีขาวไว้รอบๆ เห็นแล้วดวงตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง คุณโอบศักดิ์ไม่ได้ตอบอะไร แต่ส่งมือไปยกแขนคุณหนูของไร่ขึ้นมาดูแทน
"แล้วคุณโอบลมละครับ เจ็บบ้างไหม?" รอยฟกช้ำเป็นจ้ำๆขึ้นตามท้องแขนพอให้ผู้ที่ทิ้งรอยไว้ต้องรู้สึกผิด ทั้งๆที่คุณโอบลมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด ทั้งๆที่คุณโอบลมประกาศจุดยืนของตัวเองชัดเจน มีเพียงเขาที่ดันทุรังมองข้ามอีกฝ่ายไปเพื่อบรรลุความตั้งใจของตัวเอง
"ถือว่าหายกันนะ" คุณโอบศักดิ์ยิ้มจางๆให้ลูกชายก่อนที่จะตบเตียงปุ๊ๆให้อีกฝ่ายขึ้นมานั่งด้วย แต่คุณโอบลมกลับนั่งนิ่งแล้วส่งสายตาจ้องมองมาที่เขาอย่างแน่วแน่
"ป๊าครับ"
"หือ"
"คือผม"
"ผม..."
"ผมเผด็จศึกพ่อเลี้ยงไปแล้วครับ"
"ห๊ะะ!"
"ผมชอบผู้ชาย! ผมเป็นเกย์! ผมรักพ่อเลี้ยงตัวเอง! ผม..."คุณโอบลมพูดรัวๆอย่างเผลอตัว บางทีป๊าอยากโกรธถึงขั้นไล่ออกจากไร่ แต่อย่างน้อยให้เขาได้สารภาพความผิดของตนเองก็ยังดี
"...โอบลม..."
"ลูกไม่ได้ขืนใจพ่อเลี้ยงใช่ไหม"
"เอ่อ..มะ ไม่ครับ" มั้ง...เติมคำนี้ในใจเมื่อการตอบสนองของบิดาผิดคาดไว้มากโข คุณโอบศักดิ์นิ่งอึ้งก่อนที่จะค่อยๆหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งจนคุณหนูของไร่เลิกลั่กนั่งก้นไม่ติดพื้น
"ร้ายจริงๆ"
"ผมจะพยายามทำตัวเป็นปกติ แต่ถ้าเกิดว่าคุณคนเดียวเข้าหาผมก่อน....ผมจะไม่ปล่อยเขาไปนะครับ"
ไม่อยากจะเชื่อว่าคำพูดของพ่อเลี้ยงวันนั้นเจ้าตัวจะทำตามอย่างที่พูดจริงๆ ให้มันได้อย่างนี้สินะ ร้ายเหลือเกินนะคุณพ่อเลี้ยง ไม่คิดจะปล่อยลูกชายเขาให้หลุดมือจริงๆซินะ
"เรียกคุณพ่อเลี้ยงของลูกมาคุยด้วยหน่อยซี" โอบลมพยักหน้างงๆก่อนที่จะลุกขึ้นไปเปิดประตูแล้วเรียกพ่อเลี้ยงที่นั่งรอแถวนั้นให้เข้ามาในห้อง แม้คุณหนูจะมาเรียกพ่อเลี้ยงให้เข้าไปด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็ยังคงเรียกพ่อเลี้ยงให้เข้าไปตามคำสั่ง พ่อเลี้ยงเดินมาแล้วทำท่าจะนั่งลงกับพื้นหากแต่ก็โดนคุณโอบศักดิ์คว้าแขนไว้ให้นั่งลงบนเตียง สายตากรุ้มกริ่มแปลกๆส่งมาให้จนพ่อเลี้ยงรู้สึกเสียวสันหลัง
"เจ็บก้นอยู่ไม่ใช่หรือ" พ่อเลี้ยงนิ่งค้าง นัยต์ตาเลิกลั่กหลุกหลิกก่อนจะหันไปมองหน้าคนหนูอย่างขอคำอธิบาย ไม่ได้อยากปิดบังอะไร หากแต่เขาปล่อยให้สองพ่อลูกมาเคลียร์เรื่องกัน ไหงกลายเป็นเรื่องความสัมพันธ์แบบไฟไวของเขากับคุณหนูได้!
!!!
"พ่อเลี้ยงว่ามาสิ"
"วะ..ว่าอะไรครับ"คนที่มีชนักติดหลังอย่างพ่อเลี้ยงถามเสียงตะกุกตะกัก เมื่อเริ่มรู้สึกถึงรังสีความอยากกลั่นแกล้งแปลกๆที่แผ่ออกมาจากคนบนเตียง
"ค่าสินสอดนะซี"
"ได้เสียกันขนาดนี้แล้วก็ต้องผูกแขนกันเลย ลูกชายเราทำตัวไม่ดีไว้ เขาต้องทำให้มันถูกต้องซี"
"ใช่ไหมครับ..คุณโอบลม"
อะไรนะ!!
ขอบคุณที่ติดตามจนจบค่ะ
จบแล้วค่ะ น่าจะเคลียร์ประเด็นไปได้หมดแล้ว ขอบคุณที่ติดตามกันมานะคะ ขอบคุณค่ะ :กอด1: :man1: รอติดตามตอนพิเศษด้วยนะคะ เดี๋ยวจะเขียนมาเรื่อยๆ :bye2:
ปล.กลับไปแก้ชื่อแล้วนะคะ ขอบคุณที่มาเตือนค่ะ :pig4:
-
จบแล้วเหรอ... น่าจะมีตอนแถมอีกหน่อยนะคะ
แต่ยังไงก็ขอบคุณคนเขียนค่ะ
-
เข้าใจกันแล้ว แถวมีแซวด้วยคุณป๊า อิอิ รอพิเศษน่ะ มันยังไม่จบ คริๆๆ
-
ดีที่เข้าใจกันตอนจบนะ
จะมีตอนพิเศษมั้ยคะ เหมือนมันไม่จบไงไม่รุ :hao4: :hao4:
-
อ่ะ จบแล้วเหรอ ? ตอนจบมันดูกุด ๆ ไงไม่รู้
-
ยังดีไม่จบดาร์ค
-
แ พ้ ท า ง
บนเตียงสีขาวสะอาดมีชายรูปร่างสูงโปร่งนอนแผ่หลาอยู่ แขนข้างขวามีพ่อเลี้ยงนอนมุดหัวหายเข้าไปในผ้านวมหนาจนจมมิดศีรษะ นัยน์ตาสีน้ำตาลของโอบลมทอดมองหน้าจอแอลซีดีสามสิบสองนิ้วอย่างใจจดใจจ่อ ภาพการต่อสู้อย่างดุเดือดเลือดสาดเป็นไปตามเนื้อเรื่องที่มันดำเนินไป หากแต่มือของโอบลมกลับบรรจงลูบเส้นผมนิ่มของคนที่นอนหนุนแขนเขาอย่างอ่อนโยน
คุณหนูสอดมือเข้าไปขยุ้มเส้นผมบ้าง ลากออกมาขยี้ใบหูขาวๆบ้างตามใจชอบ ทำไปอย่างคนที่มือว่างอยู่ไม่สุข หากแต่การกระทำยุกยิกๆนี้ก็ไม่ได้เป็นการรบกวนการพักผ่อนของพ่อเลี้ยงแต่อย่างใด กลับกันพ่อเลี้ยงโอบจันทร์กลับนอนบี้หน้าลงกับแขนอย่างเคลิบเคลิ้ม
อากาศเย็นสบายภายในห้องคราแรกเริ่มหนาวเย็นขึ้นจนเขาต้องเริ่มสอดขาเข้าไปในผ้านวมที่พ่อเลี้ยงนอนกกกอดอยู่ ผิวกายเย็นๆกระทบกับเนื้ออุ่นๆ พ่อเลี้ยงโอบจันทร์จึงสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ จะเงยหน้าขึ้นจากผ้านวมก็ทำไม่ได้เพราะแขนของโอบลมกอดรัดพ่อเลี้ยงเข้าหาตัวไว้ก่อน
"ผมทำให้ตื่นเหรอ" พ่อเลี้ยงส่ายหัวดุ๊กดิ๊กในผ้านวม เขาจึงทำได้แค่นอนมองกลุ่มผมสีอ่อนอย่างเอ็นดู เวลาผ่านมาหลายปีแล้ว จนตัวเขาเองกระดากอายที่จะแทนตัวเองว่าหนู เมื่อตัวเองอายุก็เหยียบเลขสามเข้าไปเสียแล้ว
"นอนต่อเถอะ อากาศเริ่มเย็นแล้ว ผมจะไม่กวนแล้ว" พ่อเลี้ยงมุดใบหน้าเข้าหาสีข้างของโอบลมอย่างงอแง เป็นสิบกว่าปีแล้วที่เขาและพ่อเลี้ยงคบหากันมา อายุอยู่ในช่วงวัยกลางคนแล้ว การงานหน้าที่มั่นคง และชีวิตที่มีครอบครัวเพียงสองคนดูจะเหงาเกินไป
สุนัขสีขาวจึงมาเพิ่มเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว ในคราแรกที่รับมาเลี้ยงดูพ่อเลี้ยงแทบจะไม่สนใจเขาเลย จนเขาเกือบพาสุนัขตัวนี้ปล่อยไปคืนเจ้าของเดิมเสียแล้ว และในตอนนี้ที่ตัวเขาสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะที่ปลายนิ้วเท้าที่โผล่ออกมาจากผ้านวม ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าฝีมือใคร
"แมกซ์ อย่าเลียเท้าพ่อ" โอบลมพูดเสียงเนือยๆบอกหมาตัวสีขาวที่เลียเท้าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ขายาวๆขยับยันหน้าสุนัขไว้จนสุนัขสีขาวหงายท้องเงิบลงเตียง เสียงอั้กที่หน้าอกเพราะถูกฟาดดังขึ้นไล่เลี่ยกันกับเสียงสุนัขที่ตกลงบนพื้นหงายท้อง
พ่อเลี้ยงโอบจันทร์หยิกหน้าอกแน่นๆของอีกคนไปอีกทีโทษฐานที่แกล้งสุนัขตัวโปรดที่เปรียบเสมือนลูก ใบหน้าขาวเนียนซบลงที่อกเปลือยเปล่าของโอบลม ไออุ่นจากผิวเนื้อที่แนบชิดแก้มทำให้พ่อเลี้ยงเลือกที่จะหลับตาลงนอนอีกครั้ง
เวลาล่วงเลยไปจนหนังจบแผ่น โอบลมถึงลุกจากเตียงนอนแล้วเดินลงไปชั้นล่างและใส่เพียงแค่กางเกงผ้าเนื้อนิ่มเพียงตัวเดียวเท่านั้น เวลายามเที่ยงช่างแตกต่างจากตอนเช้าที่อากาศเย็นกำลังดีเสียมาก ลงมาจัดการทอดไข่และผัดเปรี้ยวหวานอย่างที่ชอบ
"พ่อเลี้ยง.."
"พ่อเลี้ยง...ตื่นเร็ว" สองมือเขย่าคนบนเตียงจนหัวส่ายไปมาด็อกแด็กๆ แต่อีกคนก็ไม่มีท่าทางจะว่าตื่นขึ้นมาเลย แต่แอบเห็นแล้วละว่าอีกคนตื่นแล้ว เล่นเกร็งคอจนเหนียงขึ้นเสียขนาดนั้น
โอบลมหันไปมารอบห้องจนสายตาหยุดอยู่ที่สิ่งมีชีวิตสี่ขานามว่า แมกซ์ จัดการอุ้มเจ้าสี่ขาขึ้นมาแล้วโยนสุนัขลงบนตัวผู้ชายอายุ สามสิบปลายๆที่นอนเกร็งเหนียงอยู่บนเตียง พ่อเลี้ยงโอบจันทร์สะดุ้งตื่นเมื่อสุนัขตัวสี่ขาวแลบลิ้นเลียใบหน้าอย่างนึกสนุกสนาน โอบลมเองก็ยืนยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกคนลุกขึ้นมานั่งทำหน้าตาหงุดหงิดอยู่คนเดียวบนเตียง
"โอบลม! ใครเขาปลุกแบบนี้กัน โถ่ มันต้อง ผมจะจูบคุณจนกว่าจะตื่---" ริมฝีปากสีอ่อนหุบลงสนิทเมื่อคนตัวสูงที่ใส่เพียงกางเกงขายาวหนึ่งตัว โน้มลำตัวลงมากดริมฝีปากตัวเองบดบี้ลงบนริมฝีปากอีกฝ่าย ฝ่ามือก็ขยี้ศีรษะที่ฟูกระเจิงเพราะตื่นนอนให้ฟูและพันกันยิ่งกว่าเดิม
ใครว่าพ่อเลี้ยงโอบจันทร์ร้ายกัน
พ่อเลี้ยงโอบจันทร์นี่แพ้ทางคุณหนูโอบลมอยู่ชัดๆ
ตอนพิเศษที่หนึ่งจบ
มีคนบอกว่าจบเหมือนจะห้วนไป คือยังไงอะคะ เราว่าเราเขียนเคลียร์ประเด็นหมดแล้วนะ :o12: แต่ถ้ามันดูห้วนๆเพราะความสัมพันธ์ของตัวละครมันดูน้อยๆก็อยากบอกว่าใจเย็นๆค่ะ เราจะทยอยเขียนเรื่องราวหลังจากนี้ในรูปแบบตอนพิเศษนี่แหละ :man1: :pig4:
-
ก็แพ้ทางมาตั้งแต่ต้นแล้วนิ 5555 :hao7:
-
สงสัยจะไม่จบที่จูบอย่างเดียวใช่มะ อิอิ
-
แม่ะ แต่ละคน ร้ายพอกันมั้ยยย :hao6:
-
ก็แพ้ทางมาตลอดนี่นา 5555
-
ร้ายพอกันเลยจ้า
-
ชื่อโอบเยอะเกินไป สับสนเอง 5555555
แต่สนุกดีค่ะ น่ารักดี ชอบที่น้องแทนตัวเองว่าหนูด้วยแหละ
พ่อเลี้ยงก็แอบร้ายเล็กๆ ชอบ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
เรื่องน่ารักจัง ตอนแรกคิดว่าดราม่าหนักแหงๆที่ไหนได้ :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
-
น้อง ปั ก เ ป้ า
“บอกแล้วไงว่าไม่ให้ตามมา ไม่ให้ตามมา” เสียงทุ้มๆดังขึ้นแข่งกับเสียงฝนพายุด้านนอกกระท่อม ใช่แล้วแหละ ตอนนี้เราติดอยู่ในกระท่อมท้ายไร่โอบศักดิ์
“ก็น้องปักเป้าเหงานี่ครับอาลม” และเราในที่นี้ไม่ใช่ผมกับคุณหนูโอบลมครับ แต่เป็นผม โอบลม และน้องปักเป้า พ่อเลี้ยงที่นอนแผ่หลาหนุนแขนตัวเองอยู่เหลือบตามองสองอาหลานที่นั่งเถียงกันไปมาอย่างเหนื่อยใจ
ตอนนี้เราสามคนกำลังติดแหง็กอยู่ที่กระท่อมขนาดกว้างพอบรรจุคนสักสิบคนได้ กระท่อมเอาไว้ให้คนงานในไร่ที่บางทีทำงานดึกดื่นก็มานอนค้างได้ เครื่องนอนนุ่งห่มครบครันไม่ขาดเหลือ ถัดจากกระท่อมไปก็มีห้องน้ำให้ใช้สอยสะดวกสบายสุดๆ คนงานบางคนเบื่อเมียก็แอบหนีเมียมานอนนี่ก็มี
ความจริงแล้วโอบลมจะพาเขามากุ๊กกิ๊กกันสองคน แต่บังเอิญมีลูกลิงขอเกาะมาด้วย ซึ่งถือเป็นการทำลายความตั้งใจอันแน่วแน่ของเจ้าตัวอย่างสิ้นเชิง แม้โอบลมจะไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหลานอย่างจริงจังนัก
“น้องปักเป้ามาหาอาจันทร์มา” ผมว่าพลางอ้าแขนออกไปเพื่อยื่นแขนรับตัวหลานชายให้เข้ามาซุกกอดตัวเอง แต่สิ่งที่โถมใส่เขานั่นแทนที่จะเป็นหลานชายตัวจ้อยกลับกลายเป็นชายวัยฉกรรจ์ที่โถมกอดใส่เขาแทนหลาน
เจ้าตัวกอดเขาพลางฟัดไปมา เหลือบตามองก็เห็นหลานกำลังเบ้หน้าพร้อมที่จะร้องไห้ พ่อเลี้ยงจึงดันหัวคุณหนูโอบลมออกแต่คุณหนูกลับรัดแน่นไม่ยอมปล่อยเขาเสียที บอกเขาที่ว่าคนที่ยังดื้อกอดเขาอยู่นี่คือชายอายุสามสิบจริงๆหรือ
“อย่าแกล้งหลานซิ” เอ็ดคนตัวโตไปพลางทุบไหล่อั๊กๆไป แต่อีกคนหาได้สำนึกไม่
“ฮื่ออๆๆ อาลมอย่าแกล้งอาจันทร์นะ อาลมปล่อยอาจันทร์เดี๋ยวนี้เลย!” หลานชายว่าพลางเอามือขยี้ตาลวกๆก่อนที่จะพุ่งตัวมาดึงแขนแน่นๆของโอบลมให้ออกจากตัวเขา ซึ่งเมื่อโอบลมเห็นหลานร้องไห้จ้าพร้อมกับกางปีกปกป้องเขาเสียเหลือเกิน เจ้าตัวจึงยอมคลายกอดเสียที
“โอ๋ๆน้องปักเป้าคนเก่งของอาจันทร์ มาให้อากอดหน่อยเร็ว” ว่าแล้วก็เอาตัวหลานชายมากอดพลางโยกตัวปลอบหลานไปด้วย ฝ่ามือเขาตบก้นหลานชายเบาๆจนน้องปักเป้าเคลิ้มหลับไป อาโอบลมคนใจมารของน้องปักเป้า ปูที่นอนให้หลานตัวเองอย่างตั้งใจ และจัดแจงกางมุ้งให้อย่างดี
โอบจันทร์อุ้มน้องปักเป้าแล้วค่อยๆวางลงให้นอน จัดท่าให้สบายและห่มผ้าห่มให้ตบก้นเบาๆจนหลานชายจมเข้าสู่ห้วงนิทรา อากาศเย็นๆไม่ได้หนาวจนเกินไปเมื่อพ่อเลี้ยงรับรู้ได้ถึงผ้าห่มที่ค่อยๆคลุมไหล่เขาจากทางด้านหลัง
หันไปจึงเห็นว่าเป็นคุณหนูโอบลมที่จัดแจงห่มผ้าให้พ่อเลี้ยงแล้วยัดเยียดตัวเองให้เข้ามาในผ้านวมผืนเดียวกัน อ้อมแขนที่ค่อยๆสอดเข้ามาในผ้านวมทำให้พ่อเลี้ยงแอบขนลุกนิดหน่อยเมื่อท้องอุ่นๆถูกแขนเย็นๆโอบรัด
“พ่อเลี้ยง”
“หือ”
“เคยมีความคิดที่อยากมีลูกบ้างไหมครับ”
“หือ ทำไมอยู่ๆมาถามเรื่องนี้” พ่อเลี้ยงว่าขานในลำคอทั้งๆที่ดวงตาปิดลงแล้ว อาจจะเพราะอากาศเย็นๆ หรือเพราะสัมผัสจากฝ่ามืออุ่นๆที่ลูบขึ้นลูบลงบริเวณหน้าท้องตัวเองเบาๆอยู่ก็เป็นได้ที่ทำให้พ่อเลี้ยงรู้สึกเคลิ้มขนาดนี้
“เห็นชอบเด็ก” โอบลมว่าพลางซุกจมูกลงซอกคอขาวๆของพ่อเลี้ยงที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วสูดหายใจฟืดๆเข้าจมูกหอบใหญ่
“ช่ายยย ชอบเด็ก”
“รักเด็กด้วย” พ่อเลี้ยงว่าแล้วก็หันหน้ามาหาคุณหนูที่กำลังดมคอเพลินๆ สอดแขนเข้าไปโอบกอดอีกคนไว้แล้วมุดหน้าลงไปบี้ๆกับแผ่นอกกว้างๆ
อ่า...นั่นซินะ
โอบลมก็เด็กสำหรับพ่อเลี้ยงเหมือนกันนี่เนอะ
ถึงตอนนี้จะอายุขึ้นไปเลขสามแล้วก็เถอะ
“อย่าโอบลม เห็นไหมว่าน้องนอนอยู่ข้างๆ” พ่อเลี้ยงว่าเตือนเมื่อมีมือใหญ่ๆที่เคยโอบตัวไว้เลื่อนลงมาวางแหมะอยู่ที่ก้นและเริ่มขย้ำเล่นทั้งๆที่ทำหน้านิ่งๆอยู่
“ทำลูกไง ไปห้องน้ำกันเถอะ”
“บ้าเหรอ ใครจะดูน้อง”
“เดี๋ยวเรียกพี่แสงมานอนเฝ้าน้องให้ วันนี้พี่แสงหนีเมียมานอนอยู่ชั้นล่างนี่”
“นะครับ”
มือพ่อเลี้ยงทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาค้ำกำแพงเมื่อแรงกระแทกจากด้านหลังโถมใส่จนยืนแทบไม่ไหว ไหล่ขาวๆถูกปลายลิ้นชื้นแฉะของโอบลมไล้เลียไปมาและฟันขูดบ้างสลับกันไป
สองมือที่ลูบไล้หน้าอกเมื่อครูเลื่อนลงมาจับกระโพกขาวๆของพ่อเลี้ยงไว้ บีบขย้ำก้อนเนื้อขาวๆในมือพลางส่งแรงสอดใส่ไปด้วยพร้อมๆกัน ฟาดฝ่ามือลงไปบ้างเมื่อพ่อเลี้ยงเด้งสะโพกรับแรงโถม
“ไม่เล่น แฮ่ก ท่ายากนะ” พ่อเลี้ยงเอ่ยปรามคุณหนูเมื่อโอบลมพลิกตัวพ่อเลี้ยงให้หันหน้ามาแล้วจับขาพ่อเลี้ยงให้ยกสูงขึ้น
“หมดวัยเล่นท่ายากแล้วเหรอครับ” ว่าอย่างเสียดายแต่ก็ยอมปล่อยขาขาวๆลง โอบลมดึงเอวออกมาจนความแข็งร้อนหลุดออกมาด้วย จับแขนพ่อเลี้ยงให้เดินมาที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแล้วกดให้พ่อเลี้ยงหันหลังแล้วค้ำเคาน์เตอร์ไว้
“ท่ายากไม่ได้ แต่ท่าเบสิคยังไหวเนอะ” ว่าอย่างล้อเลียนพลางสอดใส่ความแน่นขึงเข้าไปในความอุ่นร้อนใหม่อีกครั้ง ครางในลำคออย่างพึงพอใจเมื่อโดนผนังร้อนโอบอุ้มไว้ ส่งแรงกระแทกเข้าไปพร้อมกันยืดตัวขึ้นมองพ่อเลี้ยงที่เริ่มนอนหมอบใบหน้าไปกับที่ว่างของเคาน์เตอร์แล้ว
เสียงร้องอึกๆจากพ่อเลี้ยงยิ่งทำให้คนอย่างโอบลมคึกคักยิ่งกว่าเก่า หรือไม่แน่ แค่การที่พ่อเลี้ยงขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็เป็นการกระตุ้นความคึกคักของโอบลมแล้วก็เป็นได้ แรงโถมถูกผ่อนลงช้าๆพร้อมเสียงอ๊าเบาๆจากพ่อเลี้ยง
สองมือถูกส่งไปขย้ำแก้มก้นอีกครา พลางแหวกก้อนเนื้อให้ออกจากกันเพื่อการสอดใส่ที่ถึงใจยิ่งกว่าเดิม โอบลมนึกสนุกจึงเริ่มการสอดใส่โดนเอียงตัวเล็กน้อยแล้วสอดใส่ หมุนคว้างบ้างอย่างนึกสนุกและผลตอบแทนที่ได้กลับมาก็ทำให้ต้องยิ้มกว้าง เมื่อพ่อเลี้ยงครางในลำคอไม่หยุด
“ชอบละซิ” โอบลมว่าพลางอัดสะโพกตัวเองเข้าสอดใส่อีกรอบ มือที่เลิกขย้ำก้นก็สอดล้วงเข้าไปช่วยพ่อเลี้ยงรูดรั้งตามความยาวที่ร้อนผ่าว เสียงครางยาวๆบ่งบอกได้ถึงความสุขที่เอ่อล้นออกมาหลังจากกิจกรรมกามเสร็จลง
“โอบลม...”
“หือ?”
“ทีหลังทำกันดีๆในห้องนอนเถอะนะ”
“ทำไมละครับ?”
“หลังเดาะอะ”
ตอนพิเศษที่สองจบ
ห่างหายไปนานไม่ใช่อะไรนะคะ คือเนื้อเรื่องเราเขียนจบไปนานแล้วแหละ แล้วเพิ่งเอาลง แต่ตอนพิเศษคือเราต้องมาเขียนเพิ่มใหม่ อาจจะช้าบ้างอะไรบ้างนะคะ แถมตอนนี้ก็สอบเสร็จแล้วพอดี คงไม่ห่างขนาดนี้แน่ๆในครั้งหน้า :man1: :pig4:
ปล. ไหนทายซิ น้องปักเป้าลูกใคร
-
อย่าบอกน่ะว่าลูกโอบศักดิ์ ไม่น่ะ จะไหวหรอ
น้องปักเป้าเรียกว่าอาอ่ะ
ขอบแกล้งน้องปักเป้าน่ะโอบลม
แต่งแรกก็กระชุ่มกระช่วยน่ะ หื่นนิดๆๆ แต่มาฮ่า ตอนหลังเดาะนี้แระ 555555
-
“ทีหลังทำกันดีๆใน#ห้องน้ำเถอะนะ” >>>“ทีหลังทำกันดีๆใน#ห้องนอนเถอะนะ”
-
สงสารพ่อเลี้ยงจังที่มาเจอคุณหนูโอบลมผู้น่ารัก ที่ไม่ค่อยหื่นเลยยยยยย
นี้ขนาดมีหลานมาด้วยนะเนี้ยะ. :m15: :m15: :m15:
-
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
:z1: โห หลังเดาะเลย
-
ขำแรงตรงหลังเดาะนี่แหละ
แต่พ่อเลี้ยงกับคุณโอบศักดิ์เวลาคุยกันมันฟังดูมุ้งมิ้งมากอ่ะ
ตอนแรกอ่านไปนึกว่าพ่อเลี้ยงกับคุณโอบศักดิ์เป็นแฟนกัน ฮ่าๆ
-
พ่อเลี้ยงเริ่มเข้าสู่ช่วง สว. แล้วนะคุณหนู
คราวหน้าก็ไปที่เตียงเถอะนะ แกหลังเดาะแล้ว :hao7:
-
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ ^^
-
หนูโอบลมเปลี่ยนเป็นเจ้าหื่นโอบลมแทนแล้วสินะ :hao7: :hao7:
-
ยืนยันความแก่สินะ
-
5555 แก่แล้วนะนั่น
-
เด็ก ชาย เมือง แมน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้ตุ้ด ไอ้ตุ้ดๆๆๆ”
“อย่าไปเล่นกับเมืองแมนนะ เมืองแมนเป็นตุ้ด”
“หยุดพูดนะ!!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า จะกรี๊ดแล้วๆ ตุ้ด เมืองแมนเป็นตุ้ด”
“ฮื่อออออ หยุดนะเว้ย!”
“ไอ้ตุ้-----!!!!”
ผลั๊วะ!!!
“ไหนมึงพูดคำว่าตุ้ดอีกรอบดิ๊” เป็นโอบลมที่ทนเห็นเมืองแมนยืนร้องไห้เพราะถูกล้อไม่ไหว หมัดลุ่นๆจึงซัดเข้าบนใบหน้าของหัวโจกในห้องทันที ไอ้สินเพื่อนสนิทก็เดินมายืนกอดอกเป็นแบ็คอัพให้เขาอย่างดี
“เกี่ยวอะไรกับมึงวะ แล้วมาชกกูทำไม” ไอ้ไม้ที่โดนผมต่อยจนหน้าบี้สะบัดหน้ามาถามผมอย่างเอาเรื่องแม้ว่าจะเกรงๆไอ้สินที่ยืนอยู่ข้างๆผมก็ตาม
“แล้วทีมึงละ ไปด่าเมืองแมนมันทำไม”
“ก็มันเป็นตุ้ด!”
“แล้วเกี่ยวเหี้ยไรกับมึงละวะ” ผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความเครียดเกร็งที่ข้างขมับ มือผมนี่สั่นไปหมดแล้ว ไม่เข้าใจว่าไอ้ไม้มันจะเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรกับชีวิตคนอื่นเขาขนาดนั้น
“ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เมืองแมนเลยเว้ยไอ้ไม้ ปัญหามันอยู่ที่มึงอะเสือก” ว่าจบผมก็เดินไปฉุดแขนเมืองแมนให้เดินตามมาดุ่มๆ ปลายทางคือห้องน้ำชาย โอบลมกวักน้ำมาถูๆตาของเมืองแมนให้แม้จะแรงจนเมืองแมนเจ็บตาจนน้ำตาแทบแตกอีกรอบ แต่คนตัวเล็กกว่าก็ไม่ได้ปริปากอะไรออกไป
ชายเสื้อนักเรียนของโอบลมถูกดึงออกมาแล้วถกขึ้นมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เมืองแมน แม้ในใจจะรู้สึกว่ามันสกปรกมากแค่ไหนแต่ความเอาใจใส่ก็ทำให้เมืองแมนรู้สึกดีจริงๆ
“โอเค ไม่ต้องร้องละ” ว่าพลางปัดหน้าปัดตาอีกฝ่ายให้อย่างอารมณ์ดี โอบลมก็แค่คนธรรมดาที่เห็นคนโดนแกล้งละสงสาร จะให้อยู่เฉยได้อย่างไรในเมื่อผู้ชายตัวเล็กๆเตี้ยนี่กำลังโดนไอ้ไม้ผู้ชายตัวใหญ่ๆยืนล้อเลียน อีกทั้งตัวเล็กๆขาวๆนี่ก็ดูน่าปกป้องไม่หยอก
“ลมไม่สนหรอกว่าเมืองแมนจะเป็นตุ้ดไหม แต่เมืองแมนไม่ต้องไปยอมมันขนาดนั้นก็ได้ ถ้ามันมาล้ออีกก็ด่ามันไปว่าเสือกนะ แต่ถ้าไม่กล้าก็เดินมาหาหรือเรียกลมก็ได้”
“อื้ม..ขอบใจนะ”
หลักจากโดนชกวันนั้นไอ้ไม้ก็ไม่ได้หยุดการกระทำอันน่ารังเกียจของตัวเองเลย และแน่นอนว่าเมื่อไม้ยิ่งแกล้งเมืองแมน ภาพที่ทุกคนได้เห็นคือผู้ชายตัวเตี้ยๆที่มักจะยืนหลบหลังเด็กโข่งอย่างโอบลมเสมอ และเห็นกันจนชินตาและภาพที่โอบลมจูงมือเมืองแมนไปไหนมาไหนนั้นก็ไม่ได้ดูแปลกตาเลยสำหรับเด็กในโรงเรียน
“เมืองแมนไปไหนวะ”
“เมียมึงหนิ กูจะรู้ไหม”ไอ้สินว่าพลางกรอกตาอ่านหนังสือการ์ตูนในมืออย่างไม่ใส่ใจ แต่หารู้ไม่ว่าเพื่อนสนิทอย่างโอบลมตาโตไปแล้ว
“เชี่ย ทำไมมึงรู้วะ” โอบลมหน้าเครียดลงเมื่อเพื่อนรู้ว่าตนเองกับเมืองแมนคบหาดูใจกัน เรื่องนี้เขารึอุตส่าห์ปิดบังทั้งเพื่อนอย่างไอ้สินทั้งป๊า และพ่อเลี้ยงไม่ให้รู้เรื่องนี้ เขาทำอะไรพลาดไปหรือทำไมเพื่อนถึงรู้
“ห๊ะ!” โอบลมเกือบตระครุบปากเพื่อนตัวเองไว้ไม่ทันเมื่อไอ้สินแหกปากเสียงดังและปาหนังสือการ์ตูนทิ้งจนเกือบไปโดนหัวหน้าห้องที่นั่งจดชื่อเพื่อนที่เสียงดังอยู่ข้างหน้า จะไม่ให้สินตกใจได้อย่างไรในเมื่อตัวมันนั้นพูดเล่น!! แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ในเมื่อสองคนนั้นตัวติดกันยิ่งกว่าสิ่งใด และบ่อยครั้งที่จะเห็นได้ว่าเมืองแมนมักจะเริ่มอ้อนโอบลมมากขึ้น
“ตกลงมึงเป็นแฟนกันเหรอ”
“เออ”
“เชี่ยลมมมมม”
“แล้วตกลงเห็นเมืองแมนปะ”
“เห็นเดินหน้าซีดๆไปห้องพยาบาลวะ ดูเหนื่อ--- เดี๋ยวนะ...นี่เกี่ยวกับที่เมื่อวานมึงซื้อถุงยางไปรึเปล่าวะไอ้ลม”
“เออ..”
“ไอ้โอบลม มึงเป็นเกย์?”
“เออกูเป็นเกย์”
ตอนพิเศษที่สามจบ
ฉากนี้น่าจะเป็นช่วงโอบลมอายุสัก 15-16 นะคะ กำลังก๋ากั่นเลยทีเดียว ถ้าอยากรู้ว่าเมืองแมนคือใครให้ลองย้อนไปอ่านบันทึกของเด็กชายโอบลมในตอนแรกดูนะคะ จะเห็นได้ว่าโอบลมเคยคบเพื่อนผู้ชายในห้องมาก่อนที่จะมารักพ่อเลี้ยงตัวเอง คนนั้นก็คือน้องเมืองแมนนั้นเองงงงงงง เราจะได้เห็นโอบลมในด้านที่อยู่นอกพื้นที่ไร่กันบ้างนะคะ
เป็นยังไงบ้างคะ ฟีลเหมือนเราเป็นคนที่อยู่ที่บ้านมาตลอดบางทีเราก็ไม่เคยเห็นด้านของเขาเวลาที่เขาอยู่กับเพื่อนทำนองนั้นเลย :man1: :man1: ขนาดนี่เขียนไปยังต้องพูดกับตัวเองว่า โอบลมของเราโตแล้วซินะ /ตัดภาพไปที่เรียกตัวเองว่าหนูตอนอยู่กับพ่อเลี้ยง
-
โอบลม...ไวมาก
-
โอบลมไวมากกกกกกก ฮ่าๆๆๆ
-
แล้วไงต่ออ่ะ
-
โอบล๊มมมมม อื้อหืออออออ
-
:pig4: :pig4:
-
:3123:
-
คุณ ลุง กานต์ กุล
คนบางคนเกิดมาเพื่อที่จะให้เรารัก แต่เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะรักเรา
“กานต์ ไอ้กานต์”
“ไอ้กานต์เฮ้ย!!”
“ห๊ะ”
“เหม่อไรวะ เรียกก็ไม่หัน”
“คิดไรเพลินๆหน่ะ โทษทีพี่”
“เออๆ ช่างมัน มากินข้าว ลลิลทำเสร็จแล้ว” กานต์กุลรับคำพี่ชายพลางทิ้งก้นบุหรี่ในมือลงบนพื้นแล้วเอาเท้าขยี้จนมอดลง กานต์กุลเดินเฉื่อยๆลงไปนั่งตรงข้ามกับหลานสาวที่กำลังสอนให้ลูกชายของเธอหัดทานข้าวเอง
“แม่ครับๆ”
“จ๋า” ลลิลรับคำลูกชายเสียงหวานจ้อย พลางมองลูกชายที่ทานอาหารจนเปรอะเปื้อนสองข้างแก้มอย่างเอ็นดู
“น้องปักเป้าอยากนั่งตักคุณลุง น้องปักเป้านั่งตักคุณลุงได้ไหมครับ” ตาใสแจ๋วจ้องมองขอคำอนุญาตจากมารดา น้องปักเป้าติดคุณลุงเพราะคุณลุงใจดีทำอาหารอร่อยและชอบเล่นกับน้องปักเป้ามากๆ
“อ่า..น้องปักเป้าต้องขออนุญาตจากคุณลุงเองนะคะ แต่น้องปักเป้าไม่ควรรบกวนคนอื่นจนเกินไปนะ” จบคำมารดาน้องปักเป้าจึงหันขวับไปมองคุณลุงกานต์แล้วกระดึ๊บลงเก้าอี้ สองขาเดินเตาะแตะข้ามไปอีกฝั่งเพื่อไปหาคุณลุง
ตาใสแจ๋วเงยมองก็เห็นคุณลุงก้มหน้าก้มตาทานข้าวอยู่ สองมือป้อมๆจึงวางลงบนหน้าขาผอมๆแล้วเขย่าจนกานต์กุลต้องแสร้งทำเป็นรู้ตัวว่าหลานชายเรียก
“น้องปักเป้านั่งตักคุณลุงได้ไหมครับ” กานต์กุลยิ้มรับน้อยๆก่อนที่จะพยักหน้างึกๆแล้วอุ้มหลานขึ้นมานั่งตักตัวเอง จานอาหารของหลานชายถูกเลื่อนมาซ้อนหน้ากานต์กุลไว้ ก่อนที่จะเริ่มลงมือทานอาหารเงียบๆ
“มึงเอาอีกแล้วนะกานต์” กันต์กมลผู้เป็นพี่ชายเดินมายืนขนาบข้างเมื่อเห็นว่าน้องชายตัวเองเอาแต่สูบบุหรี่แล้วก็เหม่อมองท้องฟ้า สายตาของกันต์กมลยังคงเหลือบมองลูกสาวที่กำลังเก็บจานอาหารที่ทานเสร็จกันไป โดยมีลูกชายเดินพันแข้งพันขา
“ยังไม่ลืมมันอีกเหรอวะ”
“เพื่อนกูมันมีอะไรดีถึงรักมันนักหนา” กันต์กมลพูดขึ้นพลางขบคิดในใจไปด้วย
“พี่ก็พูดได้นี่หว่า” กานต์กมลก้มหน้ารับคำดุว่าจากพี่ชาย เขารู้ว่าพี่กันต์เป็นห่วงเขาแค่ไหน แต่เขาก็ทำใจไม่ได้อยู่ดี ได้แต่ปล่อยตัวปล่อยใจตัวเอาไว้แบบนี้
“กูเป็นห่วงมึงนะเลยพูด ดูดิกูมีเมียมีลูก จนลูกกูมีผัวมีหลานให้กูดูแล้วเนี่ย มึงยังไม่มีใครเลย อายุมึงก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปใครจะดูแลมึงวะ”
“กานต์ดูแลตัวเองได้หรอกน่า”
“มึงแน่ใจ?” กันต์กมลถามเสียงสูงอย่างดูแคลนคนเก่งแต่ปาก จนทนกับความดื้อด้านไม่ไหวเขาจึงล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนรักตนเอง
“ฮัลโหลมึง” ทันทีที่เขาพูดฮัลโหล น้องชายคนเก่งของเขาก็หันขวับมามองหน้าทันที
(ว่าไง)
“เป็นไงบ้างช่วงนี้”
(เรื่อยๆวะ มึงโทรมามีไร)
“หลานกูร้องเรียกหาลูกมึงวะ บอกอยากไปหาอาลมๆ”
(เฮ้ย โอบลมไม่ว่างวะ) เอาจริงๆกันต์กมลก็รู้แล้วแหละว่าโอบลมไม่ว่าง หากแต่พูดนำร่องไปเท่านั้นเอง
“อ่าว แล้วมึงว่างปะละ หลานกูเหงา เดี๋ยวลลิลก็ลงไปทำงานที่กรุงเทพอีกละ ไม่มีใครเล่นด้วย”
(เหรอ เนี่ยพรุ่งนี้ว่างพอดี เดี๋ยวกูไปหาละกัน)
“โอเค เดี๋ยวกูเก็บบ้านรอมึงเลย”
(มึงยังมีแรงอีกเหรอไอ้กันต์)
“ระดับนี้แล้ว สบายวะ” ทั้งคู่หัวเราะให้กันเล็กน้อยจนเสียงหัวเราะน้อยๆจากคำแซวเริ่มน้อยลงไปจนเงียบ ราวอึดใจหนึ่งที่ทั้งคู่ไม่ยอมวางสายจากกันหากแต่ก็ไม่มีใครยอมพูดขึ้น กันต์กมลจึงหันไปมองหน้าน้องชายตัวเองที่ตอนนี้แทบทำหน้าราวกับจะขาดใจ
“...มึง....” กันต์กมลรู้ว่าคนปลายสายก็รอให้เขาพูดอะไรบางอย่างเช่นกัน
(หื้อ)
“ไอ้โอบ”
(ว่าไง)
“ไอ้กานต์ก็อยู่นะเว้ย”
(....อือ คิดถึงน้องมึงเหมือนกัน ไม่เจอกันนาน แค่นี้นะ เดี๋ยวกูรีบเคลียร์งานเลย)
ไอ้โอบวางสายไปแล้ว..
“พี่ฆ่าผมเลยเถอะถ้าจะทำแบบนี้กับผม” และเขาก็ได้เห็นว่าน้องชายของเขาแอบร้องไห้กับแขนเสื้อตัวเองอยู่เงียบๆ
“กูรู้ว่ามึงคิดถึงมัน”
“ไม่งั้นมึงไม่เอาบุหรี่มาสูบหรอก”
“เฮ้อ...คนเป็นพี่อย่างกูคงช่วยมึงได้แค่นี้แหละ”
"พี่กำลังทำให้กานต์คิดถึงพี่เขามากกว่าเดิมนะ"
“มึงก็รู้ใช่ไหมว่าโอบลมลูกมันก็มีเมียเป็นผู้ชาย”
“มันคงไม่รังเกียจเกย์อย่างมึงหรอก ไม่งั้นมันคงรับเรื่องลูกตัวเองไม่ได้แน่ๆ” เรื่องที่น้องเขากังวลมากกว่าการที่ไอ้โอบไม่รักมันตอบคือการที่มันคิดว่าไอ้โอบจะรังเกียจมันที่มันเป็นเกย์ เขาเป็นเพื่อนสนิทของโอบศักดิ์ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเพื่อนหน้าโฉดของตัวเองนั้นภายในของมัน มันใจดีและสุภาพแค่ไหน
ที่สำคัญคือแม่งซื่อบื้อด้วยในบางครั้ง ฉลาดทุกเรื่องแหละแต่เสือกไม่รู้ว่าน้องชายเขาชอบมันมาจนหงำเหงือกขนาดนี้
ถามว่าเขาเสียใจไหมที่น้องเป็นเกย์ ก็ขอบอกเลยว่าไม่สักนิดถ้าคนที่ทำให้น้องเขาเบี่ยงเบนคือไอ้โอบเพื่อนของเขาเอง เพราะแรกเริ่มน้องชายของเขานั้นเสเพลขนาดไหน เสพยาก็เคยมาแล้ว หากแต่ก็ได้เพื่อนอย่างไอ้โอบช่วยไว้ ไม่รู้ไปช่วยยังไงแต่ดูจากที่มันใจดีแบบนี้ ก็คงไม่แปลกที่จะฉุดน้องชายเขาให้กลับมาเป็นผู้เป็นคนได้
แรกๆที่เห็นมันเหม่อๆก็คิดว่าเพราะมันเคยติดยาหรือเปล่า หากแต่นานวันเขาถึงได้รู้ว่ามันก็แค่คิดถึงเรื่องเก่าๆของมันกับไอ้โอบเท่านั้น ยังจำวันที่อยู่ๆมันก็จุดบุหรี่สูบได้ดีทั้งๆที่มันเลิกไปนานแล้ว
“เวลาที่กานต์สูบพี่โอบจะชอบมาห้ามกานต์ตลอด เวลากานต์คิดถึงพี่เขา กานต์เลยชอบหยิบขึ้นมาสูบ”
“เผื่อว่าสักวันพี่เขาจะกลับมาห้ามกานต์อีกครั้ง”
“กานต์แค่คิดถึงพี่โอบหน่ะ แต่กานต์คงทำได้แค่นี้”
ตอนพิเศษที่เท่าไหร่ไม่รู้จบ
ตอนพิเศษมีตัวละครเพิ่มขึ้นมาอีกแล้วอะ อย่าว่าเราเลย เราแค่อยากให้ตัวละครมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากขึ้น :ling1: ตอนนี้น่าจะรู้แล้วเนอะว่าน้องปักเป้าคือลูกใคร เรื่องที่คุณโอบอยากให้ลูกชายตัวเองแต่งงานกับลลิลเนี่ย ถึงทั้งคู่จะไม่ได้แต่งกัน แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้บาดหมางกันนะคะ สองเครือนี้เขาเป็นมิตรกันตั้งแต่รุ่นพ่อแล้ว รุ่นลูกก็แยกกันไปมีครอบครัวใครครอบครัวมันแต่ก็ยังแวะเวียนเยี่ยมเยียนกันบ่อยๆ :man1:
-
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
:hao5: :hao5: :hao5:
-
สงสารกานต์ :katai1:
-
สงสารกานจัง รอมาแสนนาน คิดถุงทุกเวลา คุณโอบจะฉลาดก็ตอนนี้แระ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ชอบๆๆๆๆ
เอาอีกๆๆๆๆๆๆ
-
น่าสงสารกานต์จัง
-
ทุกคนน่ารัก
-
คู่คุณพ่อล่ะๆ อยากอ่านต่อแล้ววววววววววววววววววว :mew2: :mew2:
-
คำ สาร ภาพ ของ โอบ ศักดิ์
เสียงคุยกันเจื้อยแจ้วดังเข้ามาถึงในห้องครัว กานต์กุลก้มลงมองมือขาวซีดของตัวเองที่เริ่มสั่นน้อยๆอย่างห้ามไม่อยู่ สูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆแล้วเริ่มหั่นหอมแดงต่อไปช้าๆ อย่างยืดเวลาให้ตัวเองได้อยู่ภายในครัวได้นานยิ่งขึ้น
เสียงของพี่โอบเป็นยังไงนะ นานแล้วที่ไม่ได้ยิน
เขาอายุปูนนี้แล้วหากแต่ก็ยังไม่อาจสู้หน้าพี่โอบได้ด้วยความสนิทใจ ในเมื่อความคิดถึงที่เขามีให้อีกฝ่ายนั้นท่วมท้นอกเขาเสียขนาดนี้ กี่ปีแล้วหนอที่เราไม่ได้พบหน้ากันเพียงเพราะต่างฝ่ายต่างหันไปใช้ชีวิตของตัวเอง
“ทำอะไรเหรอ”
กานต์กุลสะดุ้งจากความคิดเมื่อเสียงทุ้มดังแทรกขึ้นมา หันไปจึงเห็นพี่โอบยิ้มหวานมาให้เขาอยู่อย่างเคย
“อ่า...ทำลาบหน่ะ” ว่าพลางหลุบตาลงมองเครื่องเคียงตรงหน้าตัวเอง บอกจะมาเล่นกับหลาน แต่เอาเข้าจริงก็ตั้งวงเหล้ากันเสียเอง พี่กันต์ไล่เขาเข้ามาในครัวตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ จนพี่โอบมา
เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้ออกไปพบหน้าแขกคนสำคัญ หากแต่ดูเหมือนว่าแขกจะเข้ามาหาเขาเสียเองแทน
อีกใจก็อยากพบหน้า แต่อีกใจก็ไม่
“อืออ พี่ไม่ได้ชิมฝีมือกานต์มานานละ โชคดีจริงๆเลยที่มาวันนี้” แค่คำว่าโชคดีในประโยคธรรมดาๆก็ทำเอาตัวเขาน้ำตารื้น สิ่งไหนที่เขาทำแล้วพี่โอบมีความสุขนั้นเขารู้สึกยินดีทั้งสิ้น
“เดี๋ยวพี่ไปรอข้างนอกละกัน”
ดึกแล้ว หลังจากที่เขาพาน้องปักเป้าเข้านอน กานต์กุลก็เดินออกมาหน้าบ้านมองสองตาลุงคุยกันตาหยาดเยิ้มเพราะพิษสุรา เขายืนมองเสี้ยวใบหน้าคมคายที่หัวเราะยิ้มแย้มกับพี่ชายเขาอย่างเป็นธรรมชาติอย่างหลงรัก
หลายสิบปีที่ผ่านมาเคยรู้สึกเช่นไร วันนี้ก็ยังคงรู้สึกเช่นนั้น
“ไอ้โอบมันเมาละ พามันไปนอนหน่อย”
“จะให้นอนไหน?”
“นอนกับมึง”
“เผื่อตกดึกมันอ้วกอีก มึงก็เช็ดไง หรือจะให้มันไปนอนข้างนอกละ” ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ให้เขาเสร็จพี่กันต์ก็สะบัดตูดเดินเข้าห้องนอนตัวเองไป ปล่อยเขาไว้กับซากขวดเบียร์และตาลุงที่นอนหมอบกับพื้น พี่ชายเขานี่ก็แปลก บางทีก็ชอบผลักเรื่องราวของพี่โอบมาให้เขาเสมอ
กานต์กุลพยุงโอบศักดิ์หรือเรียกอีกอย่างว่าลากมาให้เข้าห้องนอนอย่างทุลักทุเลน่าจะถูกต้องมากกว่า ถึงห้องก็ปล่อยให้คนเมานอนกับพื้นก่อนแล้วเจ้าตัวก็เดินออกไปเก็บเศษซากขวดเบียร์ข้างนอกจนเสร็จ แล้วค่อยเดินเข้าห้องอีกครั้งพร้อมกับกะละมังใบเล็ก
จัดการชุบน้ำแล้วเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คนเมาอย่างลวกๆ เขาถอดเสื้อให้อีกคนแล้วทิ้งขว้างไปไกลเพราะกลิ่นของมึนเมาเป็นสิ่งที่กานต์กุลไม่ชอบเอาเสียเลย อากาศประเทศไทยร้อนจนถอดเสื้อนอนได้เลยแหละเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นปอดบวมตายหากไม่สวมเสื้อนอน กานต์กุลจึงไม่คิดจะเสียเวลาไปรื้อเสื้อมาใส่ให้เด็ดขาด
อายุปูนนี้แล้วแต่ไม่ลงพุงเลยแฮะ สงสัยเพราะพี่โอบทำงานไร่ ออกกำลังบ่อยๆเนื้อตัวถึงได้เต่งตึงแบบนี้ต่างจากเขาซึ่งผอมแห้งและผิวเริ่มเหี่ยวแล้วทั้งๆที่อายุน้อยกว่าเสียอีก กานต์กุลอุ้มคนเมาที่ไม่ใส่เสื้อให้ขึ้นไปบนเตียง ก่อนอุ้มขึ้นเตียงก็ไม่ลืมที่จะโรยแป้งเย็นให้ตามตัวอีกฝ่ายด้วย
กานต์กุลสอดตัวเข้าไปนอนข้างๆอีกฝ่ายนอนตะแคงมองอีกคนที่หลับไปแล้วก่อนที่จะสอดมือไปจับแขนพี่โอบพลางแนบหน้าผากลงบนท่อนแขนนั่นแล้วเริ่มปิดเปลือกตาลงให้ร่างกายและจิตใจตัวเองได้พักผ่อน
รุ่งอรุณมาเยือน โอบศักดิ์กระพริบตาถี่ๆเมื่อตื่นเช้าขึ้นมา อาการปวดหัวมีให้เห็นเล็กน้อยเท่านั้น เพราะอะไรนะหรือ เพราะเขาดื่มเบียร์ไปนิดเดียวเท่านั้นแหละน่า
“น้องมึงเป็นไงบ้างวะไอ้กันต์”
“ก็ดี” ไอ้กันต์ตอบผมอย่างขอไปที พลางกระดกเบียร์เข้าปากอย่างไม่แยแส
“เอาดีๆดิวะ” ไอ้กันต์เหลือบตาขวางๆมามองผมแวบหนึ่งก่อนที่จะจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง
“ไอ้เวรโอบ ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นเพื่อนกูนี่กูจะถีบมึงยอดหน้าเลย ชอบมาทำน้องกูเสียใจ รู้ว่าน้องกูชอบมึงก็เสือกทำเป็นไม่รู้อีก กูจะยุให้แม่งหาผู้ชายคนใหม่ละ”
กันต์กมลหัวเสียเมื่อรู้ว่าที่จริงแล้วเพื่อนเขามันตั้งใจมาหาเขาเพื่อเล่าเรื่องบางอย่างให้เขาฟัง และเขาก็เพิ่งได้รู้ว่าเพื่อนตัวเองก็แอบมีใจให้น้องชายเขาเช่นเดียวกัน และเพิ่งรู้ด้วยว่ามันแอบกินน้องชายเขาไปแล้วตั้งแต่สมัยยังเอ๊าะๆ!! น่าโมโหที่สุด อยากเอาปืนมาไล่ยิงแม่งจริงๆ!!
“มึงก็ใจเย็นดิวะ”
“ตกลงจะเอาไงกับน้องกูละ ชอบมันบ้างไหม”
“ชอบดิ ไม่ชอบจะเอาเหรอ” เห็นไอ้โอบทำหน้าโซ proud และโซ porn แล้วกันต์กมลชักจะเริ่มเหม็นขี้หน้าเพื่อนตัวเองขึ้นเรื่อยๆ
“ไอ้เวร หมั่นไส้มึงจริงๆ ละทำไมไม่จีบน้องกูให้แม่งเป็นเรื่องเป็นราวซักทีวะ กูถามจริง ปล่อยให้ตัวเองแก่ขนาดนี้ทำไม จะมีแรงไหมวะเนี่ย” เรื่องบนเตียงถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆในชีวิตของลูกผู้ชายเลยก็ว่าได้ คนเป็นพี่ชายเขาอดห่วงเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ ห่วงทั้งน้องชายที่จะได้ผัวไม่มีน้ำยา!! แล้วก็เพื่อนเขาที่ขึ้นชื่อว่าเพลย์บอยในสมัยนั้น แก่มาแล้วไม่มีแรงทำไม่ได้!!
“ก็แต่ก่อนกูเจ้าชู้อะ กูมันเลวไง อยากปล่อยให้น้องมันเจอคนดีๆ แต่ผ่านมาหลายปีไม่คิดจะหาคนใหม่ซักทีจนกูไม่อยากทำตัวเป็นพระเอกละ อีกอย่างลูกกูก็ไม่ต้องเป็นห่วง เอาเมียแล้ว กูไม่ต้องทำตัวเป็นพ่อที่ดีขนาดนั้นให้มันแล้ว กูอยากเอาเมียเหมือนกัน”
เอาเมียแล้วในที่นี้คือเอาเมียแล้วจริงๆ โจ๊ะครึ่มกันทุกวัน จนคนเป็นพ่อหม้ายอย่างเขารู้สึกหมั่นไส้ บางทีแทบอยากเดินไปถีบประตูให้รู้แล้วรู้รอดถ้าไม่ติดว่าเวลาเขาอยู่ในฐานะพ่อเขาจะต้องสุขุมเข้าไว้เป็นตัวอย่างที่ดีให้โอบลม
นิสัยโอบลมจะสุขุมกว่าเขามากแต่ลองมองลึกๆแล้วนิสัยร้ายๆของเจ้าตัวที่ได้จากเขาก็มีเหมือนกันเช่นความเจ้าชู้นี่แหละมั้ง
“รอบนี้จริงจังเหรอ” ไอ้กันต์ถามพลางหรี่ตามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ
“เออ จริงจัง ไม่รอไรแล้ว เดี๋ยวกูแก่ตายก่อน”
“เออ กูยอมให้มึงจีบน้องกูก็ได้ ถ้าทำน้องกูเสียใจอีกกูจะทำให้มึงเป็นหมันเลย”
ตัดมาที่ปัจจุบัน หลังจากที่ผ่านด่านพี่ชายของคนที่นอนข้างๆเขามาแล้ว เขาก็จัดการดื่มเบียร์พอกึ่มๆเท่านั้นตอนที่น้องลากเขามาเขาก็รู้สึกตัวตลอด ตลอดจนน้องเช็ดตัวให้ แอบรู้สึกได้ด้วยว่าน้องแอบลูบกล้ามท้องเขาอยู่หลายที แหม่ นิสัยเก่ามันแก้ยากจริงๆ
“น้องกูมันซื้อเข้าห้องมาบ่อยๆ ดึกๆนี่ร้องซะดังเลย”
“อย่างว่าแหละ คนไม่มีผัว”
คำพูดของเพื่อนเขาลอยเข้ามาในหัว เขาจึงกระเถิบตัวเองมาชิดขอบเตียงแล้วค่อยๆก้มหน้าลงมองใต้เตียง ต้องค่อยๆก้มเสียด้วย ไม่งั้นหน้ามืด ลังขนาดใหญ่ถูกวางไว้ใต้เตียงสภาพกล่องถูกเก็บไว้อย่างดีหากแต่ก็ไม่ได้เก็บไว้มิดชิด เขายื่นมือไปดึงมันออกมาแล้วก็ได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในกล่องทั้งหมด
‘ดิลโด้’
ตอนพิเศษที่เท่านั้นแหละจบ
ดรามงดราม่าอะไรคะ ไม่เอาไม่ชอบ เราชอบแบบนี้!! :oo1: :z1: :haun4:
-
ทำไมกานต์กุลหื่นแบบนี้ แต่พ่อเลี้ยงโอบศักดิ์หื่นกว่า
จัดให้หนักจนลืมอายุไปนะคุณโอบ :hao6:
-
:z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ชอบคนแก่มากกกกก
-
คู่พ่อนี่ท่าจะแซบ 55555
-
แซ่บสุดน่าจะคู่นี้นี่ล่ะ ฮาาาา
-
คู่นี้ต้องถึงใจแน่ๆๆๆรอออออออออ
-
คน เห็น แก่ ตัว
โอบศักดิ์ตื่นแล้ว แม้อาการเมาค้างยังออกอาการให้เห็นอยู่นิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของเขาในการคิดที่จะแกล้งคนที่นอนหันหลังให้เขาอยู่นี่เลย เขาพลิกตัวนอนตะแคงข้างแล้วเอาแขนมาค้ำหัวตัวเองไว้ สายตาเริ่มไล่มองตั้งแต่กลุ่มผมลงมายันไหล่เปลือยขาวๆที่โผล่พ้นผ้าห่มผืนบางๆออกมา
ทั้งผมและน้องตอนนี้ท่อนบนเปลือยทั้งคู่ ของผมนี่น่าจะเพราะน้องเหม็นกลิ่นเหล้ากลิ่นเบียร์แน่ๆ แต่น้องที่ถอดเสื้อนอนนี่โอบศักดิ์รู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าน้องขี้ร้อน แม้เจ้าตัวจะขี้ร้อนแต่กลับขาดผ้าห่มไม่ได้ซะงั้น ผ้าผืนบางๆจึงพันรอบตัวน้องให้เห็นอยู่แบบนี้
เขายื่นมือไปดันหน้าอกน้องให้เข้ามาหาตัวเขา กลิ่นกายอ่อนๆที่เคยได้กลิ่นเมื่อนานมาแล้วไหลกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะกดปลายจมูกลงบนกลุ่มผมเบาๆและไล่ริมฝีปากลงมาตามต้นคอขาวๆ
“อืออ” น้องเริ่มครางเมื่อเขาส่งนิ้วไปขยี้ยอดอกนั่นเบาๆ คลึงและเขี่ยไปมา รสสัมผัสที่เขาไม่ได้แตะต้องมานานทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเหมือนเป็นครั้งแรกที่เคยเปิดซิงน้องเลยละ...ไม่เกี่ยว
กดจมูกไปตามไหล่ลาดเนียน พลางเลื่อนมือที่เคยขยี้ยอดอกไล้ไปตามเอวคอดอย่างคนหุ่นผอมๆ ก่อนที่จะผลุบมือตัวเองหายเข้าไปในกางเกงนอนขายาวที่ใส่สบาย ล้วงง่าย ทำอะไรก็สะดวก
มือหยาบกร้านของเขาเมินเฉยต่อน้องกานต์น้อยที่หลับอยู่แต่หันมาสนใจแก้มก้นแน่นๆที่วางมือลงไปก็ต้องบีบเล่นเหมือนทุกที กานต์กมลเป็นคนผอมแห้งแต่ก้นกลับใหญ่อวบแน่น จนเขาในสมัยหนุ่มต้องหันไปมองสะโพกอวบอัดนั่นอย่างสนใจ เมื่อเห็นคนตัวผอมเดินผ่าน
โอบศักดิ์ไม่เคยเหลียวมองผู้ชายคนไหนจนคอแทบหักขนาดนี้มาก่อนไม่ว่าจะหล่อหรือสวยแค่ไหน จนกระทั่งเจอกับกานต์กุล ยังจำวันที่น้องเดินผ่านเขาเพื่อขึ้นห้องตัวเองได้ จำได้ว่าวันนั้นเขาก็มากินเหล้ากับไอ้กันต์ที่บ้านมันนั่นแหละ แอบเห็นด้วยว่าน้องแอบเบะปากใส่เขา นักศึกษาชายตัวผอมที่ในมือหอบหนังสือเต็มแขน เจ้าตัวสวมแว่นตาทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งนั่นยิ่งทำให้หน้าตาจืดๆนั่นจืดสนิทยิ่งกว่าเดิม
ไม่รู้ว่าเพราะหนังสือมันหนักหรือเจ้าตัวไม่มีแรง มันถึงได้หล่นตุ้บลงก่อนจะถึงบันได และเขาที่สายตายังมองน้องอยู่นั้น ก็ได้เห็นสะโพกกลมกลึงนั่นเป็นครั้งแรกเมื่อน้องก้มหยิบหนังสือที่นอนแอ้งแม้งอยู่แทบเท้าน้อง
“กันต์ น้องมึงมีแฟนยังวะ”
“ไม่มี ทำไมวะ”
“เปล่า เห็นหน้าน้องมึงจืดๆแบบนี้กูคิดไม่ออกว่าจะเอาสาวยังไง” ในสมัยนั้นชายรักชายมันยังไม่เปิดเผยเหมือนตอนนี้เขาจึงทำได้แค่เลียบถามเอาจากเพื่อนเท่านั้นแหละ แถมตอนนั้นเขามีโอบลมแล้วด้วย อายุได้สักสามขวบแล้วด้วยซ้ำ แต่ความเจ้าชู้ของเขามันไม่มีสิ้นสุด ความอยากรู้อยากลองทำให้เขาแอบดอดมาหาน้องบ้าง
ตามตื้อน้องอยู่นานจนเขาแปลกใจว่าทำไมถึงตื้อน้องนานขนาดนี้ เพราะโอบศักดิ์ไม่ใช่คนใจเย็นเสียหน่อย สิ่งที่ทำให้เขาตามตื้อต่อคือการที่น้องเหมือนมีใจให้เขา แต่เจ้าตัวกลับไม่กล้าทำอะไรให้มันชัดเจนเสียอย่างงั้น ราวกับมีกำแพงบางอย่างปิดกั้นน้องเอาไว้ ให้น้องอยู่กับเขาในสถานะเพียงแค่นี้ พี่และน้อง
ทั้งๆที่ความสัมพันธ์ทางกายของเขาและน้องก้าวกระโดดไปไกลเหลือเกิน
“พี่โอบ กานต์รู้เรื่องที่บ้านของพี่อยู่นะ”
“บอกตามตรงว่าบางทีกานต์ก็รับไม่ได้ ที่พี่เคยแอบนอกใจภรรยาของพี่มาหาคุณแม่บุญชู กานต์กลัวพี่ทำแบบนั้นกับกานต์บ้าง”
“เพราะกานต์ก็มีลูกให้พี่ไม่ได้เหมือนกับภรรยาของพี่นั่นแหละ”
โอบศักดิ์ไม่เคยรู้เลย
ไม่เคยรู้เลยว่านิสัยชั่วๆของเขาจะทำให้ทุกคนเจ็บปวดและหวาดกลัวถึงเพียงนี้
ภรรยาของเขาคือคนที่พ่อหามาให้ เธอเป็นคนสวย เก่ง ฉลาด เธออายุมากกว่าเขาสองสามปีได้ รู้จักกันบ้างตามประสาคนคุ้นเคยเห็นหน้า เขาไม่ได้ขัดข้องอะไรกับการที่พ่อหาผู้หญิงมาให้แบบนี้ เพราะคิดไปเองว่าต่างคนต่างไม่จริงจัง เธอไม่เคยว่าปรามเขาเมื่อเขาเกี่ยวพันกับใครอื่น เพราะคิดเอาเองว่าเธอคงไม่จริงจังกับสถานะนี้เช่นเดียวกันกับเขา แต่เขาคิดผิด
นับตั้งแต่ที่เขามีข่าวดีว่าคุณแม่บุญชูอุ้มท้องลูกของเขานั้น หลังจากคลอดเสร็จไม่นานคุณแม่บุญชูก็เสียชีวิตลง และเขาก็ได้รู้ว่าเป็นเพราะเธอ ภรรยาของเขาเอง
“โอบบีบให้พี่ต้องทำแบบนี้เองนะ”
“พี่ไม่เคยยุ่งเรื่องของโอบ ว่าจะไปมั่วกับใครที่ไหน!!!”
“แต่โอบไม่ควรมีลูกกับคนอื่นแล้วทำหน้าระรื่นแบบนี้!!! รู้ว่าพี่ท้องไม่ได้ โอบควรเห็นใจพี่บ้าง!!!”
เธอจริงจังกับเขาเหลือเกิน หากแต่เธอไม่เคยห้ามปรามเขาว่าควรปฏิบัติต่อเธออย่างไร เธอสามารถอดทนได้กับเขาเรื่องหญิงอื่นเพราะเขาไม่เคยเกี่ยวพันกันนาน จนกระทั่งเขามีลูกกับหัวหน้าแม่บ้านของไร่
หากเขาคิดถึงจิตใจคนอื่นสักนิด เรื่องเลวร้ายอาจคงไม่เกิดขึ้น
เพราะแบบนั้นเขาถึงได้หนีจากน้องมา มาอยู่ดูแลลูก กลับมาทำหน้าที่พ่อที่ดี เป็นนายหัวที่ดี และได้แต่หวังว่าน้องจะเจอคนที่ดีสำหรับตัวน้องเอง เขาได้ทำชีวิตของผู้หญิงสองคนพังพินาศมามากพอแล้ว
ในตอนที่เขาหนีจากน้องมา น้องร้องไห้จนเขาทำอะไรไม่ถูกแล้วซักอย่าง และน้องคงไม่ได้เล่าเรื่องของเขากับน้องให้ไอ้กันต์ฟังแน่ๆ เพราะไม่งั้นไอ้กันต์คงเอาปืนมาไล่ยิงเขาแล้ว (มารู้ทีหลังว่าน้องบอกแค่ว่าชอบเขาเลยเสียใจร้องไห้เฉยๆ ไอ้กันต์ทำไรไม่ได้เพราะคิดว่าน้องแอบชอบเขาข้างเดียว)
และเขาก็ได้ทำความผิดอีกครั้ง
น้องติดยา
น้องติดยาเพราะเขา
เพราะเขาแน่ๆ
เขากลับไปหาน้องอีกครั้ง เขาต้องช่วยน้อง สภาพร่างกายน้องย่ำแย่พอๆกับสภาพจิตใจที่โดนเขาขยี้ โอบศักดิ์เป็นคนบาปหนาเหลือเกิน เขาเห็นแก่ตัวเกินไป
เขาทุ่มแรงกายทุ่มแรงใจเพื่อช่วยฉุดน้องที่เดินทางผิด ช่วยให้น้องกลับมาเป็นเด็กดีอีกครั้ง เขาไม่ควรทำร้ายน้องไปมากกว่านี้ สิ่งที่เขาทำให้น้องได้คงมีแค่นั้น มอบกายและใจให้น้องไปทั้งหมดที่มี
เราต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตกันคนละทาง กลับไปดูแลภาระหน้าที่ของตนเองที่ควรจะทำตั้งแต่แรก เขามีลูกและไร่ที่ต้องดูแล น้องมีการเรียนที่รอน้องไปเรียนรู้อยู่และทำตามความฝันของตัวเอง ชีวิตดำเนินต่อไป ตัวห่างไกลแต่ใจยังคงรักและหวงแหนเสมอ
มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เรากลับมาเจอกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเพราะความตั้งใจของเขาเองหรืออะไรลิขิตมาก็ตาม เขาจะทำให้ช่วงชีวิตนี้เราสองคนไม่ต้องแยกจากกันอีก ไม่จำเป็นแล้ว เพราะเขาไม่รู้แล้วว่าเขาจะสามารถอยู่ได้อีกนานแค่ไหน
กลับมาที่ปัจจุบันเถอะ
ตอนนี้คือน้องกำลังนอนสะอื้นจนเขาได้ยินเสียงแล้ว นิ้วชี้ที่กำลังเขี่ยก้นน้องอยู่ก็ยังเขี่ยต่อไป ทำไมเขาต้องหยุดกันละ
“อึกก พี่โอบจะทำอะไรกานต์” ถึงน้องจะพูดอย่างนั้นแต่น้องก็ไม่ได้ห้ามเขาที่ตอนนี้ดันนิ้วตัวเองจนผลุบเข้าไปข้างในแล้ว
“ร้องไห้ทำไม”
“คิดถึง”
“คิดถึงเหมือนกัน”
“พี่บอกไอ้กันต์เรื่องของเราแล้วนะ”
“บะ..บอกแล้วเหรอ”
“มันบอกว่าให้พี่จีบกานต์ได้ หึหึ พี่ว่าระดับนี้พี่คงไม่ต้องจีบกานต์ใหม่แล้วละมั้ง” เขาจงใจเป่าลมหายใจรดใบหูน้องให้น้องโอนอ่อนตามเขาไป เขารู้ว่านี่คือจุดอ่อนของน้อง นิ้วที่สอดเข้าไปในก้นยังคงขยับเข้าออกเบาๆ และเมื่อเห็นว่าน้องหลับตาพริ้มเขาก็ยิ่งได้ใจ
“ขมิบหน่อยค่ะที่รัก” เขาว่าเมื่อนิ้วที่สามสอดใส่เข้าไปในโพรงอุ่นๆนั่น งอนิ้วไปมาคว้านไปทั่วจนน้องครางเบาๆในลำคอ แอบเห็นแล้วว่ามือขาวๆนั่นเริ่มจิกลงบนที่นอนแล้ว
“กานต์เล่นกับของเล่นเยอะเกินไปหรือเปล่าคะ มันถึงได้เข้าง่ายแบบนี้”
ตอนพิเศษที่นั่นแหละจบ
กว่าจะเข็นจบตอนนี้เราเหนื่อยมากก ฮื่ออออ บอกตามตรงว่าเราด้นสดหมดเลย เขียนแล้วก็นึกได้ว่าข้ามไทม์ไลน์ที่เราเคยบอกไว้เมื่อตอนที่แล้ว แก้ไปสามรอบได้ เหนื่อยสุดค่ะ 555555555555 ตาลุงโอบศักดิ์ของเราคือผู้ชายเจ้าชู้และมักมากที่สุดในโลกค่ะ แต่อย่าเกลียดลุงเลย ลุงแก่แล้วว :katai3:
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่อยู่มานานขนาดนี้เพราะความผูกพันธ์ล้วนๆเลยค่ะ สำหรับเราอะไรก็ทำให้เราลืมใครสักคนจริงๆจังๆไม่ได้เนี่ย เพราะช่วงชีวิตของเราเคยมีเขาอยู่ในนั้น ทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ มันทำให้เราไม่อยากลืมและไม่คิดจะลืมด้วย อย่างเราถ้าชอบฝน เราก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงฟ้าร้องบ้าง ส่วนร้ายๆของเขาเราก็ทำเป็นลืมๆและนึกแต่สิ่งดีๆไว้ :man1: :man1:
พี่กันต์เป็นพี่ชายที่ดีนะคะ เรารักเขามาก แต่ทั้งกานต์ทั้งตาลุงโอบ ชอบทำให้พี่เขาเป็นผู้ชายเด๋อๆไม่รู้เรื่องอะไรเลย 5555 โกรธแทนแล้ว :katai4:
เราลองนั่งเทียบบัญญัติไตรยางค์อายุของโอบศักดิ์และกานต์กุลดูแล้ว เอาเป็นว่า อย่านั่งเทียบเลยละกัน 55555555555555555 นี่เอามือลูบหน้าเลยค่ะ
ปล.ความแซ่บรอตอนหน้านะคะ จะไปศึกษามาอย่างดีค่ะ สัญญา 55555555555555555
-
นังลุงงงง :hao7: บอกน้องกานต์ให้ขมิบให้อิลุงขาดเลยข่ะ5555555
-
ตัวพ่อโคตรร้ายเลยอ่ะ
-
รุ่นใหญ่นี่เหมือนขิงแก่ ยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด กริ้ดมาก ดิ้นเร่าๆรอตอนหน้า
-
:hao6: :hao6: :hao6:
-
โอ้โห ลุงพูดแบบนี้ กานต์เล่นกับของเล่นเยอะเกินไปหรือเปล่าคะ มันถึงได้เข้าง่ายแบบนี้
เป็นเราๆถีบเลยนะ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ก็แบบว่าเล่นรอพี่ แต่พี่ไม่มาสักทีนี่นา :hao7:
-
ได้ทีเอาใหญ่เลยน่ะลุง รอตอนหน้าใจจดจอแระ อิอิ
-
คือแบบมันค้างค่าาาาาาาาาาาาาาาาา :katai4:
-
ความ ยั่ว ยวน ของ กานต์ กุล
ลมหายใจฟืดฟาดๆ ดังขึ้นตามจังหวะการสอดเอวเข้ากระแทกสะโพกอวบขาวที่นอนตะแคงข้างใส่เขาอยู่ โอบศักดิ์แลบลิ้นริมฝีปากพลางไล่สายตามองไปตามแนวเอวขาวคอดที่ยั่วยวนสายตาแล้วส่งมือหยาบกร้านไปคว้าต้นขาของกานต์กุล จับให้อ้าออกกว้างเพื่อการสอดใส่ในท่าตะแคงให้ได้สบายขึ้น
โอบศักดิ์ไม่ได้สอดใส่รุนแรงและกลับกันมันเป็นจังหวะผ่อนเบาค่อยๆสอดใส่เข้าไปในช่องทางอุ่นร้อน กานต์กุลหลับตาพริ้มพลางแอ่นสะโพกใส่เขาอย่างลืมตัว โอบศักดิ์ถอนความยาวออกแล้วลุกขึ้นมานั่งคุกเข่า จับคนที่ทำหน้าเหวอให้มาคุกเข่าซ้อนกันข้างหน้าด้วยกัน
มือหยาบกร้านรั้งแขนขาวๆไว้ดึงเข้าหาตัวจนกานต์กุลอกแอ่นขึ้น หน้าอกแบนๆกระเพื่อมขึ้นตามแรงหายใจ เอวสอบของโอบศักดิ์ส่ายไปมาเสียดสีร่องสะโพกแล้วค่อยๆกดเข้าไปช้าๆ เน้นย้ำทุกสัมผัสการแสดงความเป็นเจ้าของให้กานต์กุลรับรู้
ขยับสะโพกช้าๆไม่เร่งรีบแล้วปล่อยมือที่จับแขนมาจับหน้าอกเป็นการโอบกอดไว้แทน นิ้วมือเลื่อนไปขยี้หน้าอกคนข้างหน้าบ้าง บางครั้ง น้องสูงโปร่ง ตัวเล็กเพราะผอมแห้ง แต่ก็ขอบคุณที่สร้างก้นใหญ่ๆนั่นมาทดแทนให้ เพราะจังหวะกระแทกทีไรเขาสัมผัสได้ถึงเนื้อก้นที่กระทบเขาทุกที
“ขมิบหน่อยค่ะ” โอบศักดิ์จรดริมฝีปากลงข้างใบหูแล้วกระซิบเสียงพร่าใส่กานต์กุล น้องขมิบให้ตามคำขอแล้วเริ่มส่ายสะโพกรับแรงสอดใส่จากเขา ฝ่ามือเขาลูบไล้ผ่านยอดอกลงมา ฝ่ามือหยาบกร้านลูบไล้ผ่านซี่โครงที่ผุดขึ้นมาแล้วลงมาบีบพุงน้อยๆหนึ่งรอบแล้วเลื่อนมือลงไปกอบกุมส่วนอ่อนไหว ใช้นิ้วโป้งขยี้หัวเบาๆแล้วเขาก็ได้รับเสียงครางในลำคอตอบกลับมา
เขาปล่อยน้องลงให้น้องนอนราบลงไปกับเตียงนอน สองมือบีบเค้นสะโพกแล้วใช้นิ้วโป้งแหวกเนื้อก้นให้ออกจากกัน เลียริมฝีปากเบาๆเมื่อสายตาดันเอาแต่มองช่องทางที่ขมิบของเขาอย่างละสายตาไม่ได้
มันจะไม่ยั่วเกินไปหน่อยเหรอแบบนี้
“คิดถึงพี่ไหม”
“อืออ”
“อ่า พี่เริ่มปวดหลังแล้วละ” ว่าแล้วก็ดึงความร้อนออกจากสะโพกแล้วเอนตัวลงนอน กานต์กุลมองเขาหน้าบึ้งๆแต่ก็ยอมยกตัวเองมาคร่อมเขาไว้ กานต์กุลรู้หรอกว่าโอบศักดิ์แกล้งเขาหน่ะ
“อยากให้กานต์ขึ้นก็พูดมาซิ พี่ก็รู้ว่ากานต์ชอบขึ้น” เขายิ้มอย่างพอใจเมื่อน้องหันมาค้อนใส่เขา กานต์กุลเมื่อสิบปีที่แล้วเผ็ดยังไงวันนี้ก็ยังคงเผ็ดเหมือนวันนั้น เขานอนมองสะโพกที่ส่ายร่อนบนตัวเขาอย่างสบายใจ น้องกานต์เอนตัวไปด้านหลัง เอาแขนค้ำขาเขาไว้แล้วยกสะโพกขยับขึ้นลง
“คิดถึงกานต์ไหม”
“ยังรักกานต์อยู่ไหม”
“อืออ ไม่ทิ้งกานต์แล้วไม่ได้เหรอ อึกอึก” โอบศักดิ์ทนความอ้อนของน้องไม่ไหวถึงได้ถือดีเด้งสะโพกขึ้นสวนน้อง จนน้องร้องอึกๆเพราะความจุกเสียดในช่องท้อง
“อ่า พี่ไม่ทิ้งกานต์แล้ว”
“เร็วขึ้นหน่อยค่ะ” โอบศักดิ์รวบเอวทั้งสองของน้องไว้เป็นการช่วยประคองน้อง น้องเปลี่ยนจากท่าเอนหลังมาเอนหน้า มือซุกซนลูบไล้หน้าอกเขาแล้วขยี้ยอดอกเล่นๆ หมอบตัวลงมาใช้ลิ้นไล้เลียบ้างเอานิ้วขยี้บ้างสลับกันไป
“หัวนมพี่แข็งแล้วนะ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ใช้ปลายลิ้นขยี้มันอีกที เป็นคนที่ซนจริงๆ
“พี่โอบ อืออ”
“กานต์หลวมไหม?” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ทำหน้าเศร้า กานต์คงเครียดเรื่องความฟิตของตัวเองพอตัวเลยละมั้งเนี่ย รู้สึกผิดขึ้นมานิดนึงแฮะที่ทักเรื่องก้นน้องไป
“หลวม”
“แต่เร้าใจดี” พูดหยอกเจ้าตัวไปแค่นั้นน้องก็รัดแน่นขึ้นมาซะเฉยๆแล้วน้ำข่าวขุ่นของเจ้าตัวก็ไหลพุ่งออกมา...นี่น้องเสร็จเพราะเขาพูดว่าเร้าใจดีนะหรือ เขายกหน้าขึ้นมาก็เห็นน้องอายจนเอามือปิดหน้าตัวเอง น้องเลิกขยับสะโพกแต่ขมิบรัดแน่นจนปวด
เอาจริงๆแล้วไม่ได้ถึงกับหลวมขนาดนั้น แต่ช่องทางมันยืดหยุ่นเข้าง่ายออกง่ายเท่านั้นเองแหละ ได้ฟีลไปอีกแบบเวลาบอกให้น้องขมิบ น้องอาย และเขาชอบ กานต์กุลคงเห็นว่าตัวเองคงขยับสะโพกต่อไม่ได้แล้วเจ้าตัวเลยดึงสะโพกตัวเองออกจากเขาแล้วทำท่าหกเก้าให้แทน น้องดึงถุงยางอนามัยของเขาออกแล้วโยนลงไปให้ห่างจากเตียง
เขาปล่อยให้น้องเล่นของเขาแล้วเขาก็หันมาสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแทน สาบานได้ว่าถ้าคอยาวกว่านี้เขาจะแยงลิ้นเข้าไปเลย แต่ความเป็นจริงคือเขาทำได้แค่ส่งนิ้วให้ไปเล่นเท่านั้น เขาหลับตาลงรับสัมผัสทางกายอย่างเดียวเท่านั้น ความชื้นแฉะไล้เลียอยู่บนส่วนปลายพร้อมสลับกับความร้อนผ่าวเมื่อน้องใช้ปากครอบลงมา
ลิ้นชื้นแฉะผละออกจากความยาวแล้วลงมาสัมผัสลูกบอลกลมๆสองอันแทน แล้วกลับมาสนใจความยาวแข็งขืนที่ผงกหัวหงึกๆเรียกร้องความสนใจจากน้องอยู่ พวกเขาทั้งสองคนไม่ได้ร้อนแรงขนาดนั้นกันแล้ว แต่กลับค่อยๆทำรับสัมผัสอย่างเชื่องช้า ลมหายใจอุ่นร้อนของน้องรินรดจนเขาสัมผัสได้เลย ไม่นานเขาก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมกับน้องที่ยกตัวออกจากเขา แล้วดึงทิชชู่จากมือของโอบศักดิ์ไปเช็ดทำความสะอาดแล้วค่อยๆล้มตัวลงนอนด้วยกัน
เขาไล้นิ้วโป้งไปตามริมฝีปากที่เจ่อขึ้นมานิดหน่อยของน้องแล้วก้มลงไปกดจูบเบาๆ เน้นย้ำสองสามทีแล้วเริ่มลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ
“แก่แล้วไม่ดีเลยเนอะ”
“ได้ขนาดนี้ก็แซ่บแล้วน่า....คุณลุง”
“ตัวเองสี่สิบกว่าแล้วยังกล้าเรียกพี่ว่าลุงอีกเหรอคะ” เขาว่าหยอกล้อน้องแล้วโผเข้ากอดอีกฝ่ายจนจมเตียง เขานอนกอดก่ายหยอกล้อกันทั้งๆที่ตัวยังล่อนจ้อนกันทั้งคู่ และลืมใครบางคนไปเสียสนิท....
“ไอ้เหี้ยโอบมึงทำอะไรน้องกู!!”
จบเถอะค่ะ
ปรบมือค่ะ :laugh: ในที่สุดก็เขียนตอนนี้สักที เย้ เย้ เย้ ติดสอบปลายภาคค่ะ เลยมาช้านิดหน่อย เอาจริงๆแล้วเรื่องสอบเรื่องรองค่ะ เพราะเรื่องหลักๆที่มาช้าแล้วนั้น....
(http://i.imgur.com/NiE0sFj.jpg)
เห็นใจและเอ็นดูชะนีตัวน้อยๆอย่างเราด้วยนะคะ ฉากหวือหวาตอนนี้อาจดูทื่อๆก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ อุตส่าห์บอกจะไปศึกษามาอย่างดีแล้วแท้ๆ 55555555
ขอบคุณที่ตามจนมาถึงตอนที่ตาลุงแก่ๆสองคนสำเร็จใคร่กันแล้วนะคะ รักทุกคนค่ะ ทุกคนคือกำลังใจของเรา เลิฟ :man1:
ปล.เข้ามาแก้ชื่อแล้วค่ะ ขอบคุณมากที่เตือน เขียนชื่อคล้ายกันก็งี้ เบลอ 55555
-
แซ่บแบบคนมีอายุล่ะเนอะ :z1:
-
นอนกอดกันเฉยๆ ใสๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ ฮาาาา
-
:pighaun: :pighaun: :pighaun:
-
ทำไม่รุ่นพ่อมันแซ่บจัง จะละลาย
กำลังหื่น มาขำประโยคสุดท้ายแทน
ทั้งคู่คงลืมไปว่ามีอีกคนอยู่ในบ้านด้วย ฮ่าๆๆๆ
-
คุณพ่อนี่มีความแซบกว่าคู่ลูกนะเนี่ย 5555
-
ดูหนังเยอะๆค่ะ5555
(หนังไรหว่า :ruready )
-
มาช้าไปล่ะ พี่ชาย 55555 :hao6: :hao6:
-
ลั่นตรงช่องแชทนี่ละ 5555 แซ่บมากเลยนะคะคุณพ่อ.. :haun4: :haun4:
-
:hao6: คู่พ่อแซบจริง ๆ ( โอบลมรวบเอวทั้งสองของน้องไว้ เขียนชื่อผิดคนเปล่าค่ะ )
-
555555 โครตแซ่บบบบ
-
:mew1:
-
โอยยยยย น่ารักมากกก แซ่บมาก ชอบค่า ขอบคุณนะคะ
พ่อเลี้ยงโอบจันทร์ช่างน่ารักเหลือเกินน ฮือออ คนมีอายุเขามุ้งมิ้งกันน่ารักกก
-
:hao6: :hao6:
-
ชอบบบบบบบบบ
-
น่ารักกกกก
-
อ่านอีกครั้ง ก็ยังจัดจ้าน สุดยอดดดดดด :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ขอบคุณไรท์ ให้ความสุขคนอ่าน
:L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
คนมีอายุนี่แซ่บลืมค่ะ
เลือดพุ่งเลย
-
มันเลิศมากเลยค่ะ.
ตัวพ่อกับตัวลูกนี่แซ่บพอๆกัน :hao6:
-
งงๆชื่อนิดหน่อย แต่สนุกมากค่ะ :pig4:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
อยากอ่านตอนหนุ่มๆของคู่นี้เลยค่ะ :impress2:
-
เด็ดอยู่
-
แซ่บทุกรุ่นเลยค่ะชอบบบบบบ
-
:pighaun: :pig4:
-
กว่าจะลงเอยได้นะลุงโอบศักดิ์ แก่เลย 5555
-
และแล้วก็เผด็จศึกพี่เลี้ยงจนได้ :impress2:
-
ขอบคุณครับ
สนุกดีครับ
-
:man1: :L2: