พิมพ์หน้านี้ - คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: aiaea83 ที่ 11-08-2016 20:12:11

หัวข้อ: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 11-08-2016 20:12:11
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************




{คำทำนาย ทายว่าต้องรัก}


สารบัญ

คำทำนาย Intro  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3445599#msg3445599)
 คำทำนาย 1  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3447053#msg3447053)
 คำทำนาย 2  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3513427#msg3513427)
 คำทำนาย 3  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3514859#msg3514859)
 คำทำนาย 4  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3515861#msg3515861)
 คำทำนาย 5  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3517999#msg3517999)
 คำทำนาย 6  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3519341#msg3519341)
 คำทำนาย 7  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3523786#msg3523786)
 คำทำนาย 8  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3526750#msg3526750)
 คำทำนาย 9  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3528484#msg3528484)
 คำทำนาย 10  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3530268#msg3530268)
 คำทำนาย 11  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3531603#msg3531603)
 คำทำนาย 12  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3532348#msg3532348)
 คำทำนาย 13  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3533965#msg3533965)
 คำทำนาย 14  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3534854#msg3534854)
 คำทำนาย 15  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3535585#msg3535585)
 คำทำนาย 16  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3536161#msg3536161)
 คำทำนาย 17  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3537893#msg3537893)
 คำทำนาย 18  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3539477#msg3539477)
 คำทำนาย 19  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3540344#msg3540344)
 คำทำนาย 20 [THE END]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3541560#msg3541560)



ตอนพิเศษ


เขาคือคนขี้หึง  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3544712#msg3544712)
 วันปีใหม่  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55178.msg3547116#msg3547116)



************************************************************************************************

แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือค่ะ

(http://www.uppic.org/image-EE56_58C230C9.jpg)

ชื่อเรื่อง : คำทำนาย ทายว่าต้องรัก
ผู้แต่ง : AiaeaAiaea
ปก : iizesketch
จำนวน : 455+ หน้า
ราคา : 490.-
ตอนพิเศษที่ลงเว็บ : 3 ตอน
ตอนพิเศษไม่ลงเว็บ : 5 ตอน (รวม 8 ตอน)
ของแถม : ที่คั่นหนังสือ 1 ใบ + POSTCARD 1 ใบ + เปเปอร์การ์ตูนจิบิ 4 ช่อง 1 แผ่น (โปสการ์ดและเปเปอร์การ์ตูนจิบิแถมรอบพรีออเดอร์เท่านั้น)
ระยะเวลา : วันนี้ - 31 มีนาคม 2560

ขอฝากพี่ใหญ่กับน้องอัดด้วยนะคะ
รักน้อยๆ แต่รักนานๆ จองเยอะๆ ด้วยก็ยิ่งดี อั๊ยยะ >w<




***** สถานที่และตัวละครเรื่องนี้เกิดจากการสมมติขึ้น ไม่มีบุคคลจริงในเรื่อง *****
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> บทนำ << // [11/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 11-08-2016 20:17:14
คำทำนาย ทายว่าต้องรัก : บทนำ


      “ชีวิตของลูกชายสองคนของดิฉันเป็นยังไงบ้างคะพ่อหมอ” เสียงคล้ายเป็นกังวลหลังจากคำทำนายเกี่ยวกับชีวิตและครอบครับได้ผ่านไปเรียบร้อย ยังเหลืออีกสองคนที่ยังเด็ก แม้ไม่อยากได้ยินล่วงหน้า แต่เพราะความเป็นห่วง เนื่องจากสามีเธอต้องมาเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้ต้องดิ้นรนทำไร่ ทำสวนเพียงลำพังจนมาถึงทุกวันนี้ แม้ใครๆ จะบอกหมอดูมักคู่กับหมอเดา แต่การได้รู้อะไรก่อนก็ไม่เสียหายอะไร เพราะจะได้หาทางเดินที่ไม่ต้องลำบาก


   “อืม ลูกชายทั้งสองคนของคุณนาย” หมอดูสูงวัยไว้หนวดเคราสีขาวจ้องมองเด็กชายตัวเล็กสองคนที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่สนามหน้าบ้าน “โตขึ้นมาทั้งคู่จะเป็นเจ้าคนนายคน”


   “จริงหรือคะ” พอได้ยิน คนเป็นแม่ก็รู้สึกโล่งอก ก่อนจะตระหนกเมื่อเรื่องต่อไปที่ถูกคำนายทายทัก


   “แต่เรื่องชีวิตคู่นั้นยากนักแล” หมอดูวัยชราส่ายหน้าช้าๆ “ต้องพลัดพรากทั้งเป็นและตาย”


   “แล้วดิฉันต้องทำยังไงบ้างคะ ถึงจะไม่ให้ลูกต้องมีชีวิตคู่แบบนั้น” ถามอย่างร้อนรนเพราะคงทนไม่ได้ที่เห็นลูกต้องเจอเรื่องราวร้ายๆ เช่นนั้น


   “หนึ่งในสอง ต้องมีคู่ ที่ผิดแปลก หากจำแนก คงจะแยก นั้นลำบาก แต่หากหนึ่ง ในสอง ครองกาย ด้วยใจงาม ความสุข จะพบพาน กันด้วยดี” ดูจบหมอดูวัยชราก็ปิดตำราลงก่อนจะลุกขึ้นยืน “ผมขอตัวกลับก่อนนะครับคุณนาย”


   “ดะ เดี๋ยวสิคะ คู่ผิดแปลกยังไง คุณหมอคะ” แม้จะร้องเรียก แต่หมอดูกลับไม่เหลียวกลับมามอง “แล้วฉันจะเชื่อคำทำนายนี้ได้ไหม” คุณพิกุลมองไปยังลูกชายทั้งสองที่หันมายิ้มให้กับมารดา คนไหนกันนะ ที่ต้องพบเจอรักที่ผิดแปลก ในตอนนี้เธอยังมองไม่ออก


   ก่อนใบหน้าสวยจะคลายความตึงเครียดเมื่อลูกชายทั้งสองวิ่งเข้ามาหา พร้อมหอมแก้มมารดาคนละฟอดสองฟอด


   “แม่ครับ ใหญ่หิวแล้ว”


   “เล็กด้วย”


   “ครับๆ เดี๋ยวแม่จะสั่งให้ป้าจันทร์รีบทำกับข้าวเลยนะจ๊ะ”


   คุณพิกุล เจ้าของไร่ดอกไม้พิกุลจันทร์หอม จากหญิงสาวธรรมดาที่แต่งงานกับลูกชายเจ้าของสวนดอกไม้ที่ปลูกไม่ถึงสิบไร่ ด้วยความขยันบวกกับความเฮงทำให้ทั้งคู่ได้ส่งออกดอกไม้ออกต่างประเทศจนสามารถขยายสวนได้อีกเป็นร้อยๆ ไร่


   แต่การทำงานหนักโดยไม่พักผ่อน อีกทั้งโรคประจำตัวพรากเจ้าของไร่ไป ภรรยาเลยต้องก้าวขึ้นมาแทนที่ แม้ตอนแรกงานจะหนักจนแทบไม่มีเวลาพัก แต่เพื่อลูกทั้งสอง คุณพิกุลก็สามารถผ่านพ้นไปได้ จนเป็นหน้าเป็นตาให้กับจังหวัด


   ด้วยความสวยสะพรั่งแม้จะเป็นหม้าย ยังมีบรรดาแมลงภู่ทั้งแก่ทั้งหนุ่มบินเข้ามาตอม แต่คุณพิกุลปฏิเสธเนื่องจากห่วงลูกชายทั้งสองจะน้อยใจ เธอจึงเลือกจะครองตัวเป็นหม้ายแบบนี้


   “คุณพิกุลคะ เรื่องคำทำนาย” แม่บ้านคนสนิทกล่าวขึ้นอย่างกังวล


   “ฉันจะทำยังไงดีล่ะแม่อิ่ม”


   “ตอนนี้มันยังไม่เกิด ดังนั้นเราอย่าเพิ่งวิตกเลยค่ะ มันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ อย่างที่เขาว่า หมอดูมักคู่กับหมอเดา”


   “ขอให้เป็นแบบนี้ทีเถอะ”


   เจ้าของไร่คนสวยได้แต่ภาวนาขอให้คำทำนายไม่เกิดขึ้นกับลูกชายทั้งสอง หากมีรักที่ผิดแปลก เธอยังคิดไม่ออกว่าลูกเธอจะเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วไปได้ ยิ่งตอนนี้ไม่มีพ่อคอยดูแล มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน


.....TBC

เรื่องที่ 2 ในเล้าแห่งนี้ ก็ยังหวนคิดถึงความตื่นเต้นเหมือนเฉกเช่นเรื่องแรกที่ได้ลง ^^

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ หากตรงไหนติดขัด รับทุกความคิดเห็นค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> บทนำ << // [11/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-08-2016 22:03:25
เจิมเรื่องใหม่ ด้วยคน  :mew1: :mew1: :mew1:
หนึ่งในสอง ต้องมีคู่ ที่ผิดแปลก
หากจำแนก คงจะแยก นั้นลำบาก
แต่หากหนึ่ง ในสอง ครองกาย ด้วยใจงาม
ความสุข จะพบพาน กัน
ใหญ่ หรือเล็ก กันนะ ที่มีคู่ ที่ผิดแปลก? :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> บทนำ << // [11/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-08-2016 22:49:38
 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
คำทำนายเรื่องคู่ที่ผิดแปลกยังไม่น่าห่วงเท่าคำทำนายที่ว่า
หนึ่งในสอง ครองกาย ด้วยใจงาม
ความสุข จะพบพาน กัน
คงไม่เกิดการอิจฉาหรือแย่งคนรักกันระหว่างพี่น้องใช่ไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> บทนำ << // [11/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 12-08-2016 08:45:28
ปูเสื่อรอล่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> บทนำ << // [11/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-08-2016 09:35:40
รอค่าาาาา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> บทนำ << // [11/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 12-08-2016 10:07:11
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> บทนำ << // [11/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 13-08-2016 01:19:03
ก็จับทั้งใหญกับเล็กแต่งงานกันแก้เคล็ดไปเลย 555
รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 13-08-2016 19:29:21
คำทำนาย ทายว่าต้องรัก : 1


       เมื่อถูกความรักหักหลังทำให้ไม่อาจอยู่เจอหน้าได้ เด็กหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบจำเป็นต้องหอบข้าวของหนีกลับบ้านเพื่อไปรักษาบาดแผลในหัวใจ รอวันที่จะกลับมาเข้มแข็งและยืนหยัดได้อีกครั้ง

   สถานีขนส่งผู้คนพลุกพล่าน บางคนก็เพิ่งมาแต่บางคนก็กำลังจะกลับ อย่างเช่นเขา ที่กำลังจะเดินทางออกจากจังหวัดที่มาอาศัยอยู่เกือบสิบปี ตั้งแต่มัธยมจนเรียนจบมหาวิทยาลัย

   ‘อัษฎา’ หรือเรียกสั้นๆ ว่าอัด เด็กหนุ่มที่ย้ายมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาเรียนในตัวเมืองใหญ่ เขาอาศัยอยู่กับพี่สาวของพ่อที่เสียไปตั้งแต่ยังเด็ก ป้ารักอัดราวกับลูกชายคนหนึ่ง อาจเพราะป้ามีแต่ลูกสาวทำให้เธอรักอัดจริงๆ

   คุณป้าเอมอรยืนน้ำตารื้นมองหลานรักที่กำลังจะจากอ้อมอกไป เธอรู้ว่าถึงจะไม่ใช่วันนี้ แต่สักวันอัษฎาก็คงต้องกลับไปหาแม่แท้ๆ ของเขา แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะใจหาย

   “มาหาป้าบ้างนะลูก” ป้าเอมอรกอดอัษฎาเป็นครั้งสุดท้าย เด็กหนุ่มยกมือไหว้คนที่เลี้ยงดูมาตลอดอย่างป้า ก่อนหันไปยกมือไหว้พี่สาวที่แสนดีที่รักเขาเหมือนน้องชายแท้ๆ

   “เดินทางปลอดภัยนะอัด ไว้พี่หยุดเมื่อไหร่จะไปเที่ยว”

   “ครับ อย่าลืมมานะ” อัษฎายิ้มให้กับพี่สาว ก่อนหันไปหอมแก้มคุณป้าฟอดใหญ่ “อัดไปก่อนนะครับ ป้าอย่าลืมทานยาด้วยนะ” ส่งเสียครั้งสุดท้ายก่อนมองไปรอบๆ ตัวอย่างอาลัย ร่างสมส่วนก้าวขาขึ้นบนรถทัวร์ เหมือนหัวใจจะแตกสลายอยู่ตรงท่ารถ ลาก่อนความรักที่แสนเจ็บปวด

   อัฎษาแทบนอนไม่หลับเมื่ออยู่บนรถ แม้เวลาจะเข้าสู่วันใหม่ แต่ดวงตาเขาก็ยังไม่ยอมปิด เพราะในสมองกลับฉายภาพเก่าๆ ซ้ำไปซ้ำมา ตั้งแต่แรกรักที่เขาถูกแฟนหนุ่มมาจีบ ด้วยความที่ยังเด็กทำให้ไม่คิดอะไรมาก แต่คำสอนของแม่ยังคงเตือนใจเสมอว่า อย่ายอมมอบกายมอบใจให้ใครโดยง่าย ดังนั้น เขาจึงตกลงกับแฟนหนุ่มเรื่องการหลับนอน และนั่นกลับเป็นเรื่องที่ทำให้ทั้งคู่เริ่มระหองระแหงมาตลอด

   ผ่านไปห้าปีที่เขาคบกับแฟน ทั้งคู่มักอยู่กันฉันเพื่อนมากกว่า และอัษฎาไว้ใจเขามาตลอด ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะต้องมาเห็นแฟนกำลังมีร่วมรักกับคนอื่นในห้องของตัวเอง และบนเตียงที่ใช้นอนทุกวัน ครั้งแรกพยายามไม่คิดอะไร แต่พอมีครั้งที่สองที่สามมันก็เริ่มทนไม่ไหว จึงระเบิดออกมาด้วยการบอกเลิก ซึ่งคำตอบจากอีกคนก็บอกตกลงโดยไม่ยอมนึกคิดอะไร
 
   เวลาห้าปีคือเวลาที่อัษฎาทุ่มใจลงไปทุกนาที ไม่คิดว่ามันจะเสียเปล่า ถึงแม้จะพยายามนึกถึงความดี ความสุขที่อยู่ด้วยกันมา แต่เรื่องร้ายๆ มันกลบทุกอย่างไว้หมด จนต้องกลับไปหาแม่เพื่อรักษาหัวใจและจะได้อยู่ไกลจากคนพวกนั้น

   ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่าคือคนที่แฟนพามานอนด้วย เป็นคนที่ทำงานบริษัทเดียวกันกับพวกเขา ไม่คิดเลยว่าจะเอาคนที่มีข่าวเสียหายเรื่องชู้สาวมาหลับนอน หรือเป็นเพราะเรื่องเซ็กที่ให้ไม่ได้ถึงถูกหักหลังแบบนี้

   Rrrrrrr

   เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้นเรียกสติที่เหม่อลอยกลับมา อัษฎาหยิบขึ้นมาดูพร้อมกับรอยยิ้มที่ถูกจุดขึ้นมา

   “ครับแม่” เสียงนุ่มกรอกลงไป

   (ถึงไหนแล้วอัด) เสียงมารดาสอบถาม ตอนนี้เวลาเกือบจะหกโมงเช้า ใกล้เวลที่รถจะเทียบท่าทุกที

   “น่าจะใกล้ถึงแล้วนะครับ แล้วแม่มารอแล้วเหรอ” แม้จะรู้สึกเกรงใจที่แม่ต้องตื่นเช้ามารอ แต่เพราะไร่ที่แม่อาศัยอยู่ไม่มีรถผ่านแน่นอน ถึงมีก็คงไม่วิ่งเข้าไปถึงในไร่

   (จ้า พอดีคุณเล็กมารับของ แม่เลยขอติดรถมาด้วยพอดี) คุณเล็กที่แม่บอก เขาเคยเห็นเมื่อสมัยยังเด็ก ตอนนั้นพ่อเสีย แม่จึงพาเขามาอยู่ที่ไร่ คุณเล็กเป็นเด็กยิ้มแย้ม แต่ข้อเสียคือเอาแต่ใจ และมักจะหาเรื่องแกล้งอัดอยู่เสมอ

   “ครับ”

   (เดี๋ยวเจอกันนะอัด แม่คิดถึงลูกมาก)

   “ผมก็คิดถึงแม่ครับ”

   หลังจากวางสาย อัดรีบผงกหัวขอโทษที่เสียงดังปลุกสาวสวยข้างๆ เธอหันมายิ้มพร้อมกับบอกว่าไม่เป็นไร ดวงตากลมเหม่อมองไปนอกรถ ภูเขาสูงปกคลุมด้วยต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวขจีที่ในเมืองกรุงไม่มี หากได้ออกไปอยู่ด้านนอกหรือเปิดประจกได้ อากาศยามเช้าแบบนี้คงจะรู้สึกดีไม่น้อย

   รถทัวร์โดยสายจอดเทียบท่ารถ อัษฎาเดินไปรอกระเป๋าที่พนักงานยกลงมาให้ ชายหนุ่มยิ้มขอบคุณก่อนเดินลากกระเป๋าสองใบและสะพายเป้ใบโปรดออกจากห้องพัก

   ยามเช้าที่ถึงแม้จะมีคนมายืนรอมากมายแต่คนที่อยู่ในความทรงจำยังคงโดดเด่นอยู่เสมอ ปากแดงยิ้มกว้างเมื่อเห็นแม่เดินเข้ามาหา เขารีบทิ้งข้าวของที่ถือแล้วโอบกอดร่างของแม่อย่างคิดถึง

   “อัดคิดถึงแม่ที่สุด” หอมแก้มแม่อีกสองฟอดจนคนที่ยืนอยู่ด้านหลังหัวเราะ “อ่าว คุณ...” ดวงตากลมมองคนด้านหลังอย่างงงๆ

   “อ่อ นี่คุณเล็กจ๊ะ จำได้ไหม” เมื่อแม่แนะนำคนที่ยืนยิ้มอยู่ อัดก็หน้างอนิดๆ ก่อนจะยกมือไหว้เพราะอีกคนอายุเยอะกว่า
อยากบอกว่าจำได้แม่น คนที่เคยแกล้งเอาหนอนตัวใหญ่มาใส่ฝ่ามือ
 
   “สวัสดีครับ”

   “นี่ลูกนมอิ่มเหรอครับเนี่ย โตจนจำไม่ได้แล้วนะ” คุณเล็กโปรยยิ้มหวานมาให้ พอมองดีๆ ตาหน้าผิดจากตอนเด็กลิบลับ เพราะตอนเด็กคุณเล็กดูตัวเล็กสมชื่อ แถมตัวยังแห้งเหมือนเป็นโรค แต่ตอนนี้กลับตัวโตกว่าเขาเสียอีก แถมยังดูคมเข้มเหมาะกับตำแหน่งหนุ่มในฝันที่แม่โทรมาเล่าให้ฟัง

   “ค่ะ ตัวโตขึ้นเยอะ สูงกว่าแม่ซะแล้ว” นมอิ่มที่คุณเล็กเรียกยิ้มหวาน มือที่เริ่มเหี่ยวย่นตามกาลเวลาลูบใบหน้าลูกชายเพียงเดียวที่จำเป็นต้องส่งไปอยู่ที่อื่นเพื่ออนาคตที่ดี

   “แม่ยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะ” อัดกอดเอวมารดาแล้วซบหัวกับไหล่เล็กอ้อน

   “ขี้อ้อนไม่เปลี่ยน ดูสิคะคุณเล็ก ทำตัวเหมือนเด็กไม่มีผิด” แล้วคุณเล็กก็หัวเราะจนอัดหน้างอ

   “รีบกลับเถอะครับ เดี๋ยวถึงไร่ช้าอากาศจะร้อน” ร่างสูงใหญ่เดินกลับไปที่รถ โดยมีอัษฎาเดินลากกระเป๋าตาม

   รถกระบะแวนคันใหญ่ด้านข้างติดสติ๊กเกอร์ชื่อไร่ พิกุลจันทร์หอม มุ่งหน้าออกนอกตัวเมือง อัดมองรอบๆ ข้างที่เริ่มเปลี่ยนจากตึกรามบ้านช่องเป็นต้นไม้สีเขียวเต็มสองข้างทาง

   “เอ่อ ผมขอเปิดกระจกได้ไหมครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยขออนุญาตเจ้าของรถ คุณเล็กหันหน้าไปมองคนที่นั่งด้านข้างก่อนพยักหน้า “ขอบคุณครับ”

   เมื่อได้รับคำอนุญาต มือเรียวสวยยิ่งกว่าผู้หญิงกดเลื่อนกระจกลง ทันทีที่ลมเย็นด้านนอกปะทะกับหน้าขาว ความรู้สึกสดชื่นก็พัดความทุกข์ให้ปลิวหาย ยิ่งได้ยื่นหัวออกไปรับลมตรงๆ ยิ่งทำให้รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย มิน่า แม่ถึงไม่อยากได้อยู่ที่กรุงเทพ เพราะบรรยากาศที่นี่มันดีแบบนี้นี่เอง

   “ระวังหัวชนต้นไม้นะลูก” นมอิ่มเตือนพลางขำเมื่อเห็นลูกตัวเองตื่นตาตื่นใจกับอากาศค่อนข้างเย็นเมื่อใกล้เข้าสู่เขตไร่ อาจเพราะมีต้นไม้ เทือกเขาสูงรายล้อม ทำให้อากาศที่นี่จะเย็นสบาย ยิ่งตอนเช้ามืดหรือตอนดึกจะหนาวจนไม่ต้องเปิดแอร์หรือพัดลม
 
   “เด็กกรุงก็แบบนี้แหละครับ” คำพูดติดขำนิดๆ ทำเอาอัดรีบดึงตัวให้เข้ามานั่งพลางยู่หน้า

   “เมื่อก่อนผมก็เป็นเด็กบ้านนอกเหมือนกัน” อัดว่า ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะสองเสียงดังขึ้น “หัวเราะเข้าไป โธ่” ใบหน้าหวานง้ำงอจนคุณเล็กต้องชำเลืองมองอยู่หลายรอบ และอดคิดไม่ได้ว่า ลูกชายนมอิ่มได้แม่มาทุกสัดส่วน ทั้งหน้าตา ผิวพัน แต่นิสัยคงจะห่างกันไกลโข


   ไม่นานรถที่นั่งมาก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่โกดังเก็บของ อัษฎาลงไปช่วยเจ้าของไร่ยกกล่องเครื่องมือที่ซื้อใหม่ลงไปเก็บ แม้จะมีคนงานวิ่งเข้ามาช่วย ความแข็งแรงขัดกับท่าทางที่ดูอ้อนแอ่นสร้างความแปลกใจให้กับเจ้าของไร่พอดู พอกล่องหลังรถถูกจัดเก็บเข้าที่ คุณเล็กก็เรียกลูกนมอิ่มขึ้นรถ

   “แข็งแรงไม่เบาเลยนะ” พอขึ้นมาบนรถ คนตัวใหญ่ก็ออกปากชมจนคนที่ได้รับคำชมยิ้มแก้มปริ นมอิ่มมองลูกชายตัวเองกับลูกชายคนเล็กของเจ้าของไร่นิ่งๆ ก่อนเสหน้ามองออกนอกหน้าต่าง


   คำทำนายที่ทำให้หวนนึกถึง


   อัษฎาลากกระเป๋าเสื้อผ้าตามแม่ตัวเองไปที่เรือนพักหลังบ้านไม้หลังใหญ่ บ้านที่แม่อยู่แยกออกจากบ้านพักคนงานคนอื่นๆ นั่นเพราะนมอิ่มเป็นแม่นมที่ดูแลลูกๆ ของเจ้าของไร่เมื่อครั้งยังเด็ก อีกทั้งยังเป็นคนสนิทของคุณนายพิกุล ไม่แปลกที่จะได้บ้านพักต่างหาก

   “บ้านหลังใหญ่ยังสวยอยู่เลยนะแม่” อัษฎาเก็บเสื้อผ้าใส่ไม้แขวนเสื้อที่แม่เตรียมไว้ให้ ตอนเดินผ่านบ้านไม้ที่น่าจะเป็นไม้สักทอง ตัวบ้านยังคงสร้างแบบคนภาคเหนือแต่ก็มีความทันสมัยกลิ่นอายโมเดิร์นทางตะวันตกปนมา

   “ก็คุณใหญ่กับคุณเล็กเขาช่วยกันออกแบบใหม่ตอนปรับปรุงน่ะ” แม่ว่า พลางเก็บเสื้อที่มีไม้แขวนใส่ตู้

   “แล้วคุณนายพิกุลเขาไม่อยู่ที่นี่เหรอฮะ” อัษฎาเอ่ยถามแม่

   “คุณนายต้องไปดูแลกิจการส่งออกที่อยู่เมืองในนู้น นานๆ จะมาพักที่นี่ที” นมอิ่มบอกกับลูกชาย เพราะจากที่นี่ไปนาน ครั้งตอนยังเล็ก สมัยที่สามีเสียก็ได้คุณนายพิกุลพามาทำงานที่นี่และยังพาลูกชายเพียงคนเดียวมาพึ่งใบบุญ จนพี่สาวของสามีส่งจดหมายอยากได้หลานไปอยู่ด้วย ตนเห็นว่า หากไปอยู่ทางนู้นโอกาสด้านการศึกษาน่าจะดีกว่า เลยตัดสินใจส่งลูกชายไป

   “แบบนี้นี่เอง” อัษฎาพยักหน้า

   ก๊อก ก๊อก

   เสียงเคาะประตูไม้เนื้อหนาดังขึ้น สองแม่ลูกละความสนใจไปมอง ก่อนคนเคาะจะแง้มบานประตูแล้วโผล่หน้ามาเสี้ยวหนึ่ง

   “นมอิ่มจ๋า มีอะไรให้ลูกเจี๊ยบช่วยไหมจ๊ะ” คนที่ยื่นหน้าเข้ามาเป็นเด็กสาวน่าจะอายุไม่เกินสิบห้าปีแน่นอน อัษฎาส่งยิ้มให้เมื่อเด็กสาวเหลือบมาตามอง “อุ้ย ลูกนมอิ่มเหรอจ๊ะ”

   “อืม เข้ามาสิลูกเจี๊ยบ” คำชวนของนมอิ่มลูกเจี๊ยบก็รีบเดินเข้ามา ขาสั้นเดินมาตรงหน้าอัษฎา ดวงตารีจ้องหน้าคนแปลกหน้าอย่างสนใจ “มองพี่เขาทำไมน่ะเรา”

   “ก็ลูกนมอิ่มหน้าตาเหมือนนมอิ่มเลย สวยด้วย” ลูกเจี๊ยบเอ่ยปากชมตามที่เห็นจนถูกนมอิ่มตีแขนเบาๆ “นมอิ่มตีลูกเจี๊ยบทำไมเนี่ย”

   “ก็พี่เขาเป็นผู้ชาย ไปชมว่าสวยได้ยังไงกัน” นมอิ่มดุเด็กสาวคราวหลาน ที่จริงคำว่าสวยก็คงเหมาะกับลูกชายตัวเอง แต่ติดตรงที่ว่าเป็นผู้ชายไม่ค่อยเหมาะกับคำๆ นี้เท่าไหร่

   “แหม ลูกเจี๊ยบก็พูดตามที่เห็นเอง สวัสดีค่ะ หนูชื่อลูกเจี๊ยบ อายุสิบสามกำลังจะสิบสี่อีกห้าเดือนข้างหน้า พี่ชื่ออะไรเหรอจ๊ะ” คำแนะนำตัวยาวเหยียดเรียกเสียงขำขันจากอัษฎาได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างเป็นมิตร ยิ่งดวงตาใสซื่อไร้พิษสงอย่างที่เขาต้องประสบพบเจอมามากในเมืองกรุง

   “พี่ชื่ออัดครับ” ตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ลูกเจี๊ยบถึงกับยิ้มตาม

   “พี่ยิ้มสวยจัง เห็นมั้ยจ๊ะนมอิ่ม พี่เขาสวยจริงๆ” ลูกเจี๊ยบมองดวงหน้าขาวใสไร้สิวเสี้ยน เส้นผมสีน้ำตาลแดงยิ่งช่วยเสริมความขาว คิ้วดำเรียงเป็นเป็นแพสวย นัยน์ตาดำกลมโตราวกับตุ๊กตา จมูกโด่งนิดๆ พอน่ารัก ริมฝีปากก็ดูบางสวย รวมๆ มันเรียกว่าสวยก็ถูกแล้ว

   “เอาเถอะๆ ว่าแต่เรามาทำอะไร” นมอิ่มส่ายหน้าอย่างระอา

   “อ๋อ ก็ป้านีเรียกจ๊ะ” นมอิ่มพยักหน้ารับรู้ แต่เด็กลูกเจี๊ยบกลับยังไม่ออกไป “พี่อัดชอบน้ำตกไหมจ๊ะ”

   “น้ำตกเหรอ ก็ชอบนะ” อัดตอบเด็กสาวไป ดวงตารีหยีตามรอยยิ้มดูน่ารัก

   “งั้นพอพี่เก็บของเสร็จลูกเจี๊ยบจะพาไปเที่ยว น้ำตกของไร่เราสวยมากเลยนะ”

   “เอาสิ” อัษฎาตอบตกลงเมื่อเห็นความกระตือรือร้นของเด็กสาว ดูท่าจะสวยจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่คะยั้นคะยอแบบนี้

   “อย่าพาพี่เขาไปไกลมากนะเรา แล้วก็รีบกลับก่อนมื้อกลางวันด้วย เข้าใจไหม” นมอิ่มสั่งหนักแน่นก่อนขอตัวไปดูป้านีซึ่งเป็นแม่ครัว คงจะมีเรื่องอะไรสักอย่าง

   ลูกเจี๊ยบช่วยอัษฎาเก็บเสื้อผ้าและของใช้จนเสร็จเรียบร้อย เด็กสาวกวักมือเรียกให้ซ้อนท้ายจักรยาน แต่ดูแล้วเขาน่าจะเป็นคนปั่นมากกว่า เด็กผู้หญิงตัวเล็กกว่าคงพาเขาไปไม่ไหว

   “พี่ปั่นเองมา” อัษฎาหัวเราะก่อนสลับที่นั่งเปลี่ยนให้ลูกเจี๊ยบซ้อนท้าย นิ้วเล็กชี้ตามทางไปเรื่อย

   “พี่อัดมาจากกรุงเทพเหรอจ๊ะ ที่นั่นสนุกไหม” คำถามเจื้อยแจ้วดังตลอดทาง

   “ไม่สนุกหรอ” ตอบกลับไปพร้อมกับการใส่กำลังปั่นมากขึ้นเมื่อถึงเนินเขา “อีกไกลไหมลูกเจี๊ยบ” เพราะเริ่มเหนื่อยเต็มที ขอให้สวยทีเถอะ อุตส่าห์เอากล้องถ่ายรูปห้อยคอมาด้วย

   “อีกเดี๋ยวก็ถึง” อีกเดี๋ยวตั้งแต่เมื่อกี้ก็ยังไม่ถึงสักที

   “ลูกเจี๊ยบอยู่ไร่นี้มานานแล้วเหรอ” อัษฎาถามกลับไปบ้าง เพราะบางทีเขาก็ต้องรู้เรื่องราวไร่นี้

   “นานแล้ว ตั้งแต่เกิดเลยด้วย” แสดงว่านานจริงๆ

   “แล้วรู้จักเรื่องไร่นี้ดีไหม”

   “ทุกเรื่องเลย ถามมาได้”

   “งั้นเรื่องเจ้าของไร่ล่ะรู้จักไหม” เมื่อเช้าเจอเจ้าของไร่ไป ท่าทางดูจะเป็นมิตรไม่ใช่น้อย

   “คนไหนล่ะจ๊ะ คุณเล็กหรือคุณใหญ่” อ่า นั่นสินะ ตอนนั้นเขาก็เคยเห็นว่าลูกเจ้าของไร่มีสองคน

   “ทุกคนนั่นแหละ” ตอบแบบกลางๆ เด็กสาวด้านหลังครางอืมในลำคอก่อนพูดต่อ

   “คุณเล็กเป็นลูกชายคนเล็กของคุณนายจ้ะ” อันนั้นก็พอรู้ดูจากชื่อ “เธอมีลูกด้วยนะ แต่ไปอยู่กับคุณนายที่ในเมือง”

   “คุณเล็กมีลูกแล้วเหรอ” อัษฎาเหลือบไปมองเด็กสาวด้านหลังจนเกือบชนต้นไม้

   “พี่อัดปั่นดีๆ สิ” เด็กสาวตกใจรีบบอก

   “โทษทีๆ ต่อเลย แล้วภรรยาคุณเล็กล่ะ” เกือบหน้าล้มแล้วไหมล่ะ

   “เมียคุณเล็กเหรอ” เขาอุตส่าห์ใช้คำสุภาพ แต่ลูกเจี๊ยบดันเรียกเมียซะเต็มปากเต็มคำ “เมียคุณเล็กหนีไปเกือบจะสองปีแล้วจ้ะ”

   “หนีไปเหรอ ทำไมล่ะ”

   “ก็สาวชาวกรุงใครล่ะจะชอบมาอยู่ในป่าในเขา ตอนนั้นคุณเล็กตามไปที่กรุงเทพแต่ก็ไม่เจอ กลับมากลายเป็นคนขี้เมาจนคุณใหญ่ต่อยซะเลือดออกเต็มไปหมด คุณเล็กถึงกลับมาเป็นคนเหมือนเดิม” ลูกเจี๊ยบเล่าเรื่องตามที่เห็นและแม่บอก

   “แล้วคุณใหญ่ล่ะ” พอรู้เรื่องคุณเล็ก อัษฎาก็ไม่อยากถามต่อ เพราะเรื่องที่เขาต้องรู้คงไม่ได้ลงลึกแบบนี้

   “คุณใหญ่เป็นคนดุมาก เมื่อก่อนใจดีนะ แต่พอเมียตายก็เลยเป็นคนเงียบๆ” ลูกเจี๊ยบเบาเสียงพูดลงพร้อมย่นหน้า “ลูกเจี๊ยบเคยเห็นพี่ศรีเลขาไร่ถูกตวาดจนร้องไห้เลยด้วย แค่ทำบัญชีผิดเอง” อัษฎาเลิกคิ้ว ที่จริงมันก็น่าโมโหนะ บัญชีผิดไปก็เท่ากับเงินสูญไปด้วย

   “น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”

   “ท่าเราไม่ทำผิดคุณใหญ่ก็ไม่ดุหรอกจ้ะ”

   คำบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าของไร่ทั้งสองแม้จะไม่ได้ละเอียดมากแต่ก็มากพอที่จะไม่เผลอพูดเรื่องที่ไม่สมควรพูด ยิ่งถ้าต้องเจอคุณใหญ่ที่ลูกเจี๊ยบว่าดุ เขาคงต้องยอมหลีก

   ทางรถถึงจุดสิ้นสุด อัษฎาต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าลึกอีก บรรยากาศรอบๆ ดูสดชื่น ต้นไม้นาๆ ชนิดขึ้นเต็มไปหมด เขาไม่ลืมยกกล้องขึ้นบันทึกความงามครั้งนี้ เพราะมัวแต่ถ่ายรูป ลูกเจี๊ยบเลยออกเดินนำหน้าไปไกล อัษฎารีบสาวเท้าให้ไวขึ้นเพื่อจะได้ทันเด็กสาวที่จะพาขึ้นไปชั้นบนของน้ำตก

   น้ำตกใสซะจนเห็นโขดหินด้านล่าง น้ำคงจะเย็นน่าดู อัษฎายกกล้องแพนไปรอบๆ ก่อนสะดุดตากับชายคนหนึ่งสวมเสื้อแขนยาวลายสก็อตเก่าๆ นั่งอยู่ริมลำธาร ข้างๆ มีคันเบ็ดวางอยู่ มันน่าแปลก น้ำตกที่น้ำไหลขนาดนี้จะมีปลาอาศัยอยู่

   ด้วยความอยากรู้ อัษฎาเลยเดินข้ามฝั่งไปหาโดยการเหยียบก้อนหินที่โผล่ขึ้นมา พอเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาก็เห็นถังน้ำมีปลาตัวใหญ่อยู่ ไม่น่าเชื่อจริงๆ

   “เอ่อ คุณลุงฮะ ในน้ำตกมีปลาด้วยเหรอฮะ” กล้องถ่ายรูปยกขึ้นมาถ่ายปลาในถังที่กำลังว่ายวนไปมา แต่คนที่ถูกถามไม่ตอบอะไรเพราะมัวแต่สนใจดูปลายเส้นเอ็นที่เริ่มกระตุก ปลาคงติดแน่ เขาเลยรีบเตรียมกล้องเพื่อถ่ายรูป

   มือใหญ่รีบยกคันเบ็ดขึ้นจากน้ำเมื่อส่วนลูกเล็กๆ ที่ลอยเหนือน้ำจมลงไป อัษฎาสังเกตเบ็ดไม้ที่ไม่เคยเห็นตามร้านขาย คงจะทำเอง ปลาตัวโตกำลังดิ้นไปมาอยู่ปลายเอ็น มือใหญ่รีบจับปลาแล้วเอาตะขอออกจากปาก มันจะดูทรมานไปหน่อยก็เถอะ แต่เขาก็ชอบกินปลามากที่สุด

   “ว้าว ปลาตัวโตมากเลย” อัษฎามองปลาตัวโตอย่างตื่นเต้น ปลาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ

   “ไม่ใช่คนไร่นี้ใช่ไหม” เสียงทุ้มดังขึ้นจากคนที่กำลังพันสายเอ็นเข้ากับตัวไม้เบ็ด “ไม่ใช่คนไร่นี้แล้วเข้ามาในนี้ได้ยังไงกัน” น้ำเสียงดุดันจนอัษฎาต้องรีบก้มหน้า

   “เอ่อ ขอโทษฮะ พอดีผมเพิ่งมาจากกรุงเทพ”

   “ฉันถามหรือยังว่ามาจากไหน” เสียงเข้มพูดขัด

   “อะ เอ่อ ผมเป็นลูกของนมอิ่มครับ” หลังจากบอกไป คนตรงหน้าก็เงียบ อัษฎาเหลือบตาสังเกตคนตรงหน้า ใบหน้าที่ถูกหมวกใบลานใบใหญ่บังไว้ซะมิดทำให้มองไม่เห็นอะไรนอกจากเครื่องแต่งกายที่ดูเก่าและโทรม

   “ก็แล้วไป” คนตัวใหญ่ว่าก่อนจะยกถังที่มีปลาขึ้นแล้วเหยียบโขดหินข้ามกลับอีกฝั่งและเดินหายเข้าไปในป่า

   คนอะไรดุเกิน กินร็อตไวเลอร์เป็นอาหารหรือเปล่า

   อัษฎาค่อนขอดก่อนลูกเจี๊ยบจะเดินย้อนมาตะโกนเรียกให้กลับไปอีกฝั่ง ยอดน้ำตกสวยงามดั่งที่ถูกกรอกหูตลอดการเดินทาง กล้องตัวแพงยกกดชัตเตอร์แม้แต่ลูกเจี๊ยบยังอยู่ในเฟรมด้วย และนาฬิกาข้อมือบอกเวลาเกือบจะเที่ยง เขาต้องรีบกลับตามที่แม่บอก

   “วันหลังเราค่อยมาอีกเนอะ” อัษฎายืนอยู่ริมหน้าผาน้ำตกสูง เขายิ้มให้กับธรรมชาติที่สวยงามแม้จะดูน่าหวาดเสียวหากก้มมองลงไป

   “ไร่นี้ยังมีที่สวยๆ อีกเยอะเลย วันหลังลูกเจี๊ยบจะพาพี่อัดไปจ้ะ”

   รถจักรยานเคลื่อนมาจอดหน้าบ้านพักของมรดา อัษฎาขยี้ศีรษะเล็กของเด็กสาวอย่างรักใคร่ รู้สึกถูกชะตาก็ว่าได้ เมื่อลูกเจี๊ยบไปแล้วอัษฎาก็เดินไปหาแม่ที่ห้องครัวตามทางที่ลูกเจี๊ยบบอก

   ทางเดินที่มีต้นไม้ขึ้นเต็มสองข้างทาง บางต้นมีกล้วยไม้เกาะเป็นกาฝาก ลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนมาถึงโรงครัวที่สร้างด้วยปูน เขาเห็นคนในนั้นกำลังวิ่งวุ่น สงสัยจะทำอาหารกัน อัษฎารีบเดินเข้าไปเผื่อจะช่วยอะไรได้ และพอแม่หันมาเห็นก็รีบเรียกลูกชายเข้าไปหา

   “ไหว้ป้านีสิอัด” ป้านีที่แม่บอกรูปร่างอ้วนแต่ใบหน้ามีรอยยิ้มอย่างใจดี เด็กหนุ่มยกมือไหว้พร้อมรอยยิ้มสวย

   “ลูกนมอิ่มนี่งามแต้เน้อ หน้าเหมือนแม่เป๊ะเลย (ลูกนมอิ่มหน้าสวยเหมือนแม่เลย)” สำเนียงไทยปนคำเมืองดูแปลกๆ จนทุกคนขำ

   “พูดคำเมืองก็ได้ครับ ผมพอฟังรู้เรื่อง” อัษฎาบอก ที่ฟังรู้เรื่องเพราะบางครั้งแม่ก็หลุดพูดคำเมืองตอนโทรไปหา

   “ดีเน้อ ฟังฮู้เรื่องนา คุณใหญ่เปิ้นไค้หื้อกู้คนอู้กำเมือง เป๋นก๋านฮักษากำเมืองตวย ละอ่อนสมัยนี้อู้บ่จ๊างกั๋น (ดีนะที่ฟังรู้เรื่อง คุณใหญ่ท่านอยากให้พูดคำเมือง เป็นการรักษาคำเมืองด้วย)” คำเมืองพ่นเหมือนแร็บจนอัษฎาหน้าเหวอ เขาหันไปหาแม่ที่ยิ้มขำอย่างขอความช่วยเหลือในการแปล

   “ป้านีบอกว่าเด็กสมัยนี้ไม่ยอมพูดคำเมืองกันน่ะ” แม่แปลคร่าวๆ ให้ฟัง

   “อ๋อครับ ผมว่าคำเมืองก็น่ารักดีนะครับ” อัษฎาบอกก่อนชะโงกหน้ามองของบางอย่างในถังน้ำที่คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่น้ำตก “ปลานี่มาจากน้ำตกใช่ไหมครับ”

   “แม่นแล้ว คุณใหญ่เปิ้นไปตกมา (ใช่แล้ว คุณใหญ่ไปตกมาเอง)” ป้านีบอกก่อนจะสั่งให้พี่อีกคนเอาปลาไปทุบ

   “คุณใหญ่อยากกินต้มส้มปลาน่ะ ลูกรู้จักไหม” ส่ายหน้าเป็นพัลวันแต่สิ่งที่กำลังคิดอยู่คือคนที่เจอคือคุณใหญ่ ตาแก่ปากร้ายนั่นคือคุณใหญ่เหรอ ไม่เหมือนคุณเล็กที่เป็นมิตรสักนิด

   ยืนมองเหตุการณ์ชุลมุนในโรงครัวอยู่นานในที่สุดกับข้าวทุกอย่างก็เรียบร้อย อัษฎาช่วยแม่ยกขึ้นไปบนเรือนใหญ่เพราะจะได้แนะนำให้กับเจ้าของไร่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ


   บนเรือนที่อัษฎาขึ้นไปดูสวยกว่าด้านนอก ข้าวของทุกอย่างทำมาจากไม้ทั้งหมด ทั้งโต๊ะ ตู้ ม้านั่ง แถมยังมีชานยื่นออกไปด้านนอก หากฝนดาวตกไปนอนดูตรงชานนั้นคงจะดีไม่น้อย ขายาวก้าวตามแม่มาติดๆ จนสะดุดสายตากับเด็กผู้ชายตัวเล็กที่กำลังวิ่งเล่นเครื่องบินกระดาษ เด็กที่ไหน

   “นมอิ่ม น้องต้นคิดถึง” เด็กตัวเล็กนั่นทิ้งเครื่องบินกระดาษแล้ววิ่งมากอดนมอิ่มหรือแม่ของเขา

   “นมก็คิดถึงคุณต้นมากค่ะ” นมอิ่มยิ้มให้กับเด็กตัวเล็กแล้วเงยหน้าโค้งศีรษะให้กับผู้หญิงที่เดินออกมาจากด้านใน “คุณนายมานานแล้วหรือคะ”

   “เพิ่งมาเอง ต้มส้มปลาหรือนี่ ไม่ได้กินตั้งนาน” คุณนายที่นมอิ่มว่าเดินเข้าไปใกล้ ดวงตาสวยเหลือบมองไปด้านหลังที่อัษฎายืนอยู่ “นั่นลูกนมอิ่มเหรอ”

   อัษฎารีบเดินเอาจานผัดผักมาวางที่โต๊ะก่อนยกมือไหว้ “สวัสดีครับ” รอยยิ้มสวยจนคุณนายมองค้าง

   “เหมือนนมอิ่มมากเลยนะ” คำชมที่ได้ยินตั้งแต่ลงรถทัวร์ คุณนายละความสนใจคนยิ้มสวยเมื่อลูกชายสองคนเดินออกมา “ตาเล็ก ตาใหญ่ มานั่งเลยมา ต้มส้มปลานี่น่าอร่อยเสียจริง”

   คุณเล็กอัษฎาเคยเห็นแล้ว แต่คุณใหญ่ที่น้ำตกไม่ได้เป็นตาแก่แบบที่คิด ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ใบหน้าเรียบเฉยแต่คมเข้มกว่าคนน้อง ดวงตาดุเหลือบมามองคนแปลกของที่นี่แวบหนึ่งก่อนเลื่อนเก้าอี้นั่งลง

   รู้สึกไม่น่าอยู่ใกล้ อัษฎาคิด คนๆ นี้สมกับที่ลูกเจี๊ยบว่า

   พอทุกคนนั่งบนโต๊ะ สาวใช้ร่างเล็กก็เริ่มตักข้าวให้กับทุกคน เด็กตัวเล็กที่เกาะแม่เขาเป็นลิงนั่งลงข้างคุณเล็ก หรือว่านี่จะเป็นลูกชายที่ลูกเจี๊ยบว่า ดีที่ได้ยินมาก่อน ไม่อย่างนั้นคงคิดนานพอดู

   “เอาล่ะ ก่อนจะกินข้าว ไหนเราลองแนะนำตัวหน่อยสิ” คุณนายเจ้าของไร่หันมามองหน้าอัษฎา เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบๆ ก่อนโค้งศีรษะแนะนำตัว

   “สวัสดีครับ ผมชื่ออัษฎา เรียกสั้นๆ ว่าอัดฮะ” หลังจากแนะนำตัวเสียงเข้มๆ ก็ดังขึ้น

   “พูดคำเมืองเป็นหรือเปล่า” คนพูดเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ยกมือกอดอกจ้องมาทางเด็กหนุ่มจนคนถูกมองทำตัวไม่ถูก

   “ไม่เป็นครับ” ตอบแบบเกร็งๆ เมื่อยังถูกดวงตาดุจ้อง นี่เขาทำผิดขนาดนั้นเลยหรือไง

   “ไม่เอาน่าพี่ใหญ่ เขามาจากกรุงเทพจะพูดเป็นได้ยังไง” น้องชายแก้ตัวแทนให้เมื่อเห็นคนถูกถามยืนเกร็ง

   “นั่นสิ จะอะไรนักหนากับคำเมืองน่ะเรา เอาล่ะๆ กินข้าวๆ” มารดาเจ้าของไร่ตัดชับเพราะดูเหมือนลูกชายจะเริ่มหาเรื่องอีกแล้ว

   การกินข้าวของครอบครัวเจ้าของไร่เป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่ได้มีพิธีรีตองเหมือนกับในละครที่เคยเห็น แต่ที่แน่ๆ คุณใหญ่ไม่ชอบเขาอย่างแน่นอนอัษฎาคิด เพราะดูตั้งแง่กับเรื่องการพูดคำเมืองซะเหลือเกิน ดังนั้นต่อไปต้องอยู่ให้ไกลซะแล้ว

   เด็กหนุ่มแปลกหน้ายืนก้มมองพื้นเพราะไม่กล้าสบตา ยิ่งกำลังถูกดวงตาดุจ้องอยู่ตลอดยิ่งทำให้เกร็งไม่รู้จะทำตัวอย่างไร และยังมีดวงตาอีกคู่ที่กำลังจ้องโดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่



         ไร่นี้คงไม่ใจร้ายกับคนหัวใจบอบช้ำมาแบบอัษฎาหรอก หวังว่าแบบนั้น   


.....TBC

ตอน 1 ค่าาา ทำไมเรื่องนี้รู้สึกยากกว่า Just you and I หรือว่าเพราะเราไม่ได้เกรียน ฮ่าๆๆ

รับคำติทุกอย่างค่าาาา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 13-08-2016 20:41:13
ชอบทั้ง2เรื่องเลยมาต่อไวๆนะรออ่านเป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-08-2016 21:18:59
คนหนึ่งเมียตายอีกคนเมียทิ้ง อัดเราจะได้คู่เป็นคนพี่หรือคนน้อง :3123: :3123:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 13-08-2016 21:38:50
ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 14-08-2016 10:31:21
รออ่านเรื่องนี้อยู่น๊า
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-08-2016 11:30:25
คุณใหญ่ อัด คุณเล็ก 3p หรือเปล่านะ
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 15-08-2016 14:39:40
รอรอ รอ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 06-09-2016 15:57:43
เรื่องใหม่มาอีกแล้ว ถึงน้องอัษจะไม่เกีรยนเมือนกลอย และต้อม แต่เรื่องนี้สนุกอะ คุณใหญ่อย่าใจร้ายกับอัษนักสิ แล้คุฯใหญ่ต้องรักอัษจนลิมเมียตัวเองที่ตายไปเลย :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 06-09-2016 16:47:00
รออ่านอยู่นะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 08-09-2016 11:24:15
ตามมาจากน้องกลอย มาให้กำลังใจเรื่องใหม่ต่อค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: lllittled ที่ 08-09-2016 15:32:51
อย่ามาแบบทั้งพี่ทั้งน้องรักอัด คนนึงได้รักอีกคนนึงเจ็บเพราะมันไม่ใช่3Pนะ 555555
ปล.ถ้ามีประโยคไหนที่ใช้ภาษาท้องถิ่นแปลเป็นภาษาไทยกลางให้ด้วยก็ดีเนอะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 08-09-2016 20:12:07
อย่ามาแบบทั้งพี่ทั้งน้องรักอัด คนนึงได้รักอีกคนนึงเจ็บเพราะมันไม่ใช่3Pนะ 555555
ปล.ถ้ามีประโยคไหนที่ใช้ภาษาท้องถิ่นแปลเป็นภาษาไทยกลางให้ด้วยก็ดีเนอะ

ได้ค่าา จะแก้ไขให้อย่างด่วน ขอบคุณมากๆ ค่าาา  :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-10-2016 00:07:36
 :L2: :L1: :pig4:

เราชอบอะะะะะะ เดาว่าคู่คุณใหญ๋ ฮื่มมมมลุ้นๆเดี๋ยวไปอ่านคำทำนายอีกที
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-10-2016 20:14:39
เชียร์พี่ใหญ่เป็นพระเอกล่ะ เหมาะกับอัดดีนะ อิอิๆๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Siran ที่ 25-10-2016 21:05:15
เชียร์พี่เล็ก เอ๊ะ หรือเชียร์พี่ใหญ่ดี เลือกไม่ถูกขอสองเลยได้ไหม 5555 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-10-2016 22:29:55
 :L2: รอออออ เมื่อไรจะมาต่อน้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 28-10-2016 23:31:04
ยังรออ่านเรื่องนี้อยู่นะ :call:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-11-2016 22:25:11
 :o12:คุฯนักเขียนจะไม่เทเรื่องนี้ใช่ไหมมม
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 13-11-2016 22:55:51
ขอโทษค่า เพิ่งเห็นจริงๆว่าเปิดเรื่องใหม่ บทนำน่าสนใจดีค่ะ คำทำนายนี่เราก็ยังเดาไม่ออก แต่อย่าเป็นดราม่าแบบพี่น้องชิงรักกันเองเลยนะคะขอล่ะ

ปล.ถึงเรื่องนี้จะไม่เกรียนเท่าเรื่องนังกลอยแต่เราก็จะติดตามน้า อย่าเทนะค้าา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 14-11-2016 07:53:20
ยังรออยู่นะ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 2 << // [14/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 14-11-2016 19:49:33
2




       เช้าวันแรกของการอยู่ในไร่ดอกไม้ เมื่อคืนเด็กหนุ่มนอนหลับเป็นตาย อาจเพราะเดินทางมาเหนื่อย อีกทั้งบรรยากาศยามค่ำคืนช่างเย็นสบายคลายร้อนโดยไม่ต้องพึ่งแอร์หรือพัดลม อัษฎาออกมายืดเส้นยืดสาย ดวงตากลมมองไปยังเรือนพักคนงานที่ผู้คนเริ่มหยิบจอบ หยิบเสียมออกไป

   “พวกเขาเข้าไปทำงานในไร่เหรอฮะ” เขาถามแม่ที่ยิ้มทักทายตอนเช้า

   “ใช่จ้ะ กลุ่มนั้นเข้าไปไร่องุ่นท้ายไร่นู้นแหน่ะ” อัษฎาเบิกตากว้าง ที่นี่มีไร่องุ่นด้วยเหรอ ทำไมเขาเห็นไม่รู้ อย่างตอนเด็กๆ เขาเห็นแค่ไร่ดอกไม้ที่บานสะพรั่งอยู่ไกลลิบๆ แค่นั้น

   “มีไร่องุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ”

   “ก็นานแล้วล่ะ คุณใหญ่แกไปศึกษามา แล้วให้เพื่อนที่เป็นฝรั่งมาช่วยดูให้” บอกไปมือก็คอยหยิบจานข้าววางไว้บนโต๊ะ “มากินข้าวก่อนตาอัด”

   “ถ้าผมจะลงไปช่วยในไร่บ้าง ได้หรือเปล่าครับ” เพราะการมากินนอนอยู่เฉยๆ มันคงจะดูไม่ดี

   “ทำเป็นหรือเรา” มารดาเลิกคิ้วถามลูกชายอย่างสงสัย ดูจากรูปร่างแล้ว ผอมแห้งแบบนี้คงไม่มีแรงแบกหามได้เหมือนคนอื่นๆ

   “ได้สิฮะ ตอนอยู่กรุงเทพ ผมช่วยแบกฉากบ่อย” ทำงานอยู่ในบริษัทอีเว้นต์ แม้จะเป็นงานแบกหามก็ต้องช่วยกัน งานจะได้เสร็จโดยเร็ว

   “งั้นเข้าไปช่วยลุงเหมือนในไร่ดอกดาวเรืองแล้วกันนะ เดี๋ยวแม่จะไปบอกแกให้” อัษฎายิ้มพร้อมกับตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ จนมารดาหัวเราะร่วน “ค่อยๆ กินก็ได้ลูก เดี๋ยวติดคอกันพอดี”

   “ก็มันอร่อย” เด็กหนุ่มยิ้ม แก้มเนียนป่องเมื่อตักข้าวเข้าปากเรื่อยๆ

   “ก๊อกๆ มีใครอยู่ไหมจ๊ะ” ลูกเจี๊ยบยื่นหน้าเข้ามาทักทายจนอัษฎาขำ เด็กสาวยิ้มตาหยีมองคนที่เพิ่งรู้จักแต่กลับรู้สึกรักเหมือนคนในครอบครัว

   “มาแต่เช้าเลยนะเรา” นมอิ่มทักทายลูกสาวของคนงานที่สนิท

   “ลูกเจี๊ยบว่าจะพาพี่อัดไปเที่ยวในไร่จ๊ะนมอิ่ม”

   “แต่พี่ต้องไปช่วยเขาทำงานแล้วน่ะสิ” อัษฎาบอกอย่างเสียดาย ใบหน้าของเด็กสาวย่นลง

   “โหย ไหนนมอิ่มบอกพี่มาเที่ยวไง แล้วทำไมถึงไปทำงานล่ะจ๊ะ”

   “มาเที่ยวก็จริง แต่อยู่เฉยๆ กินข้าวเขาฟรีๆ เดี๋ยวโดนดุเอา” ชายหนุ่มว่า ลูกเจี๊ยบพยักหน้าเข้าใจ

   “บางทีลูกเจี๊ยบก็ต้องทำงานเหมือนกัน แม่ชอบใช้ให้ไปช่วยในไร่” เด็กหญิงยู่หน้าดูไม่ค่อยชอบใจจนถูกนมอิ่มตีแขนเบาๆ
 
   “ก็เราโตขนาดนี้ก็ต้องช่วยพ่อกับแม่ทำงานสิ”

   “รู้แล้วค่า แต่บางทีมันก็ขี้เกียจ เมื่อไหร่จะเปิดเทอมก็ไม่รู้” อัษฎามองลูกเจี๊ยบอย่างแปลกใจ นั่นสินะ เด็กแบบนี้น่าจะยังเรียนอยู่

   “ลูกเจี๊ยบเรียนชั้นไหนแล้วล่ะ”

   “ม.สองจ้ะ เปิดเทอมมาก็จะขึ้นม.สามแล้ว” เด็กหญิงยิ้มแป้นจนคนมองต้องยิ้มตาม

   “ขยันเรียนเข้าไว้นะ จบมาจะได้ทำงานดีๆ มีเงินเยอะๆ”

   “ลูกเจี๊ยบก็คิดแบบนั้นแหละ อยากพาพ่อกับแม่ไปอยู่ในเมือง แต่พวกท่านไม่ยอมไป บอกจะอยู่ที่นี่”

   นมอิ่มส่ายหน้าให้กับความคิดของเด็กรุ่นหลาน ก็ถึงว่า ไม่มีใครอยากมาอยู่ในที่ๆ แม้แต่อินเตอร์เน็ตยังหาสัญญาณลำบาก แถมไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าในเมือง มองไปทางไหนก็มีแต่ไร่แต่สวน ก่อนดวงตาที่เริ่มฝ้าฟางจะมองไปที่ลูกชายเพียงคนเดียว ไม่รู้จะอยู่ที่นี่ได้นานหรือเปล่า คนกรุงมักจะไม่ชอบที่นี่เท่าไหร่ แรกๆ อาจจะตื่นเต้น พอนานๆ ไปก็เบื่อกัน

   อัษฎาทานข้าวเสร็จก็ตามแม่ไปหาลุงเหมือน บ้านพักคนงานถูกปลูกติดกันเป็นแถว แม้จะหลังเล็กแต่ก็กว้างพอสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว

   “ลุงเหมือนจ๊ะ” นมอิ่มตะโกนเรียก เจ้าของชื่อเดินออกมา ในมือกำผ้าขาวม้าไว้ก่อนยกพันรอบคอ

   “ว่าไงครับนมอิ่ม” ลุงเหมือนอายุราวๆ สักห้าสิบกว่าๆ ท่าทางยังดูแข็งแรง คงเพราะทำงานทุกวันคล้ายกับการออกกำลังกาย แถมอากาศที่นี่ยังดีขนาดนี้

   “พอดีฉันอยากจะฝากลูกชายไปช่วยทำงานในไร่ด้วยจะได้ไหมจ๊ะ” ลุงเหมือนจ้องมายังหนุ่มร่างผอมบางที่ยืนข้างๆ ดวงตากำลังประเมินเรี่ยวแรงก่อนส่ายหน้าจนคนถูกมองขมวดคิ้ว

   “ไม่ไหวหรอกมั้งนมอิ่ม ตัวผอมกระร่องแบบนั้น ยกกระสอบปุ๋ยไม่ไหวหรอก”

   “ผมทำไหวครับ” อัษฎาหน้าบึ้งนิดๆ เมื่อถูกดูถูก คนเราไม่ควรประเมินความสามารถคนอื่นแค่เพียงมองเห็น
 
   “แน่ใจเรอะพ่อหนุ่ม”

   “ครับ”

   การยืนยันหนักแน่นทำให้คนแก่กว่าพยักหน้าลง อัษฎาหันไปยิ้มให้มารดาก่อนจะเดินตามลุงเหมือนไป มือก็ช่วยถืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ในไร่ดอกไม้อย่างจอบ เสียบ พลั่ว ก่อนมาแม่ได้ให้สวมเสื้อแขนยาวกันแดดไว้แล้ว แม้จะไม่ค่อยกลัวแดดอย่างเช่นคนกรุงทั่วไป แต่แดดแรงแบบนี้ต้องกันไว้ก่อน

   เส้นทางลัดเลาะมาไร่ต้องลงเนินเขาเตี้ยๆ ไปอีกหน่อย พอเดินเข้าใกล้ก็รู้สึกถึงกลิ่นของดอกไม้ ดอกดาวเรืองมีกลิ่นฉุน หลายคนมักจะไม่ค่อยชอบ แต่สีสันและชื่อของมันช่างสวยขัดกัน ดวงตากลมเบิกกว้างมองไร่ที่ไกลสุดลูกหูลูกตามีแต่สีเหลืองทองของดอกดาวเรือง จนอดที่จะชื่นชมไม่ได้

   “ทุ่งดอกดาวเรืองสวยจังครับ” อัษฎาพูดออกมา ดวงตายังคงจ้องภาพตรงหน้าอย่างตะลึง

   “ก็กว่าจะได้ขนาดต้องทำงานหนักทุกวัน แต่มันก็คุ้มค่าละนะ” ลุงเหมือนว่า

   “แล้วดอกไม้พวกนี้เราส่งไปขายที่ไหนเหรอครับ” ชายสองวัยเริ่มเดินลงจากเนินเขาเพื่อเข้าไปในไร่

   “ก็มีร้านค้าที่เขามาซื้อเองบ้าง เราเอาไปลงตามร้านบ้าง แต่ตอนนี้คุณใหญ่ติดต่อจากต่างประเทศ เห็นว่าจะส่งออกน่ะ” อีกคนที่ชื่นชมคุณใหญ่อย่างออกนอกหน้าจนคนฟังรู้สึกหมั่นไส้นิดๆ ไม่ได้

   “ดีจังเลยนะครับ ส่งออกนอกด้วย” 

   “ดีมากเลยล่ะ คุณใหญ่ท่านมีแผนการอีกเยอะ ท่านเป็นคนพัฒนาที่นี่ ทุกคนเขาก็รักท่านกันทุกคน” ลุงเหมือนหันมายิ้มให้เด็กรุ่นลูกก่อนจะเดินนำหน้าพาเด็กหนุ่มไปในไร่ดอกไม้ที่ดอกสีเหลืองอ่อนกำลังบานสะพรั่งพร้อมให้เก็บ

   ลุงเหมือนพาเด็กใหม่มาแนะนำกับทุกคน อัษฎายกมือไหว้ผู้สูงวัยทุกคน และพอทุกคนรู้ว่าเป็นลูกชายของนมอิ่มผู้ที่มีไมตรีจิตและโอบอ้อมอารีต่างก็พากันรักและเอ็นดู

   ไร่ดอกดาวเรืองที่ปลูกสุดลูกหูลูกตาสวยงามจนอดที่จะถ่ายภาพเก็บไว้ไม่ไหว อัษฎาหยิบมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วกดถ่ายรูปสามถึงสี่รูป และรูปสุดท้ายดันติดหน้าใครบางคนที่แทบจะเห็นรูขุมขน ใบหน้าทะมึนตึงอย่างกับยักษ์จ้องหน้ายามที่ลดมือถือลง เด็กหนุ่มเม้มปากผลุบสายตามองเท้าตัวเอง

   “ที่นี่เขามีแต่คนที่ทำงาน อยากจะถ่ายรูปหรือเที่ยวเล่นเชิญไปที่อื่น!” เสียงเข้มตวาดดังลั่นทำเอาคนงานใกล้ๆ ถึงกับสะดุ้ง ไม่บ่อยนักที่จะเห็นคุณใหญ่ของไร่โมโหรุนแรงขนาดนี้

   “ขอโทษครับ” อัษฎาบอกอย่างลุแก่โทษ แต่ก็ใช่ว่าเรื่องจะใหญ่โตราวกับเป็นเรื่องต้องห้ามขนาดนี้ แค่การถ่ายรูปไร่ คุณใหญ่จ้องคนที่ตัวเล็กกว่าด้วยแววตาตำหนิ แม้จะได้ยินคำโทษแล้วก็ตาม ทำไมเขาถึงหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหน้า แบบนี้ละมั้ง ที่เรียกว่าเหม็นขี้หน้า

   “เออ รู้แล้วก็ออกไป อย่ามายืนเกะกะ คนอื่นเขาจะทำงานกัน” อัษฎาเงยหน้าสบตากับคนที่ออกปากไล่ ดวงตากลมโตจ้องอย่างไม่ค่อยจะพอใจในคำพูดและน้ำเสียงสักเท่าไหร่

   “ผมมาช่วยงานลุงเหมือน ไม่ได้มายืนเกะกะ” ใบหน้าขาวราวกับเคลือบน้ำนมมองอย่างหาเรื่อง ยิ่งจมูกรั้นเข้ากับปากอวบนั่นอีก ยิ่งเห็นยิ่งหงุดหงิด

   “มาช่วยงานแล้วมายืนเฉยๆ ทำไม นู้น ไปยกกระสอบปุ๋ยนู้น รถจอดรอตั้งนานแล้วเห็นไหม” แขนยาวชี้ไปที่รถกระบะขนถุงปุ๋ย อัษฎาอยากเถียงใจแทบขาดว่าเขาเห็นว่าคุณใหญ่เพิ่งขับรถปุ๋ยเข้ามา แบบนี้จะเรียกว่ามานานแล้วได้ยังไงกัน ดวงตาเรียวเลยส่งค้อนขวับก่อนปลีกตัวไปหาลุงเหมือนที่กำลังเขียนอะไรบางอย่างลงสมุด

   “ให้ผมช่วยอะไรหรือเปล่าครับ” ไม่ใช่คุณใหญ่คนเดียวที่เหม็นขี้หน้า อัษฎาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงเลือกจะมาช่วยงานคนอื่นแทน ส่วนถุงปุ๋ยใครขับมาก็ให้ยกเอง

   “อ๋อ งานของลุงไม่มีอะไรหรอก แค่จดรายละเอียดนิดๆ หน่อย” ลุงเหมือนพูดพร้อมรอยยิ้ม “จะมีก็แค่ยกปุ๋ยลง พ่อหนุ่มช่วยหน่อยได้หรือเปล่า”

   “อ่าครับ”

   อัษฎาเดินตามลุงเหมือนมาที่รถกระบะคันเก่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อุตส่าห์จะหลบหน้าได้อยู่แล้วเชียว ยังต้องกลับมาเจอกันอีก คุณใหญ่ของไร่กำลังลากถุงปุ๋ยลงจากรถลงมาที่พื้น พอเห็นว่าหัวหน้าคนงานเก่าแก่ของที่นี่เดินมาก็ยิ้มให้นิดๆ ก่อนจะปั้นหน้ายักษ์ตามเดิมเมื่อเห็นคนเดินตามหลัง

   “ลูกนมอิ่มเขาขอมาทำงานครับคุณใหญ่” ลุงเหมือนรายงาน “ยกไหวไหมล่ะพ่อหนุ่ม”

   “น่าจะไหวครับ” อัษฎาไม่มองหน้าเจ้าของไร่ เด็กหนุ่มพยายามทำเมินมองคนตัวใหญ่หน้าโหดเป็นธาตุอากาศ

   “ใช้คำว่าน่าจะ คงไม่ไหวหรอก ผอมกระร่องแบบนี้” คล้ายคำดูถูกจะกระตุ้นความอยากเอาชนะ อัษฎาเดินเข้าไปคว้ากระสอบถุงปุ๋ยบนพื้นก่อนยกขึ้นพาดไหล่ แม้แรกเริ่มตัวผอมๆ จะเซไปหน่อยเพราะความหนัก แต่พอตั้งหลักได้เขาก็เดินได้สบายๆ

   “ท่าจะไหวอยู่นะครับ” ได้ยินเสียงลุงเหมือนแว่วๆ แต่นาทีนี้ คนที่กำลังยกกระสอบปุ๋ยคงสนใจอะไรไม่ได้ นอกจากหาที่วาง เพราะมันหนักเหลือเกินไปจะหันไปต่อล้อต่อเถียงเช่นทุกครั้ง

   กองถุงปุ๋ยที่วางเรียงเป็นชั้นๆ ในโรงเก็บ อัษฎารีบเร่งฝีเท้าแล้วโยนลงพื้น แม้จะเดินไม่ไกลแต่ความหนักของปุ๋ยก็ทำให้เหมือนเดินมาหลายสิบกิโล

   “วางตรงนั้นได้ยังไง เอาวางเรียงกันสิ เห็นไหม” มาอีกแล้วเสียงสั่งแบบนี้ เจ้าของไร่ตวาดเสียงดังชี้

   “เดี๋ยวสิ คนมันเหนื่อยไม่เห็นเหรอ” คนยืนหอบตวาดกลับอย่างเหลืออด ไม่สนแล้วว่าจะใหญ่มาจากไหน
 
   “นี่กล้าตวาดฉันเหรอ” คุณใหญ่ที่ใครๆ เรียกสาวเท้าเข้ามายืนตรงหน้า อัษฎารีบยืดตัวยืนตรง แม้จะสูงไม่เท่าแต่ก็ไม่มีทางยอมอีกแน่ พอยืนประชันหน้ากันตรงๆ สายตาคมสบกับดวงตากลมโต จ้องกันอยู่แบบนั้นอยู่ครู่ใหญ่ก่อนเจ้าของไร่ตัวโตจะหลบตาแล้วยกถุงปุ๋ยขึ้นวางเรียงเอง

   “นึกว่าจะแน่” เสียงพึมพำของเด็กหนุ่มทำให้คนขี้โมโหหันขวับมามองอย่างเอาเรื่อง

   “นายว่าอะไรนะ” เพราะความขี้โมโหเป็นทุนเดิม ยิ่งได้ยินเสียงพูดข้างๆ หูยิ่งเพิ่มความขุ่นของอารมณ์ มือใหญ่คว้าคอเสื้อเด็กตรงหน้าแล้วดึงขึ้น “เมื่อกี้ว่าอะไรลองพูดอีกทีสิวะ”

   “คุณใหญ่ครับ” ลุงเหมือนกับคนงานคนอื่นๆ รีบถลาเข้ามาหลังจากได้ยินเสียงเอะอะ พอเดินมาใกล้เห็นเหตุการณ์ก็ยิ่งรีบวิ่งเข้ามาห้าม ดูเหมือนว่า คนตัวเล็กกว่าจะตายได้หากมีเรื่องกันจริงๆ

   “ฝากไว้ก่อนเถอะ” พอถูกห้าม ก็รีบผลักคนปากดีไปด้านหลัง ก่อนเดินหนีไป ระหว่างทางก็พยายามคิดหาเหตุผลว่าอะไรทำให้เขาขาดสติแทบจะต่อยไอ้เด็กนั่น

   แต่ที่แน่ๆ เพราะความปากดีและความอวดดีของมันทำให้เขาไม่ชอบขี้หน้า

   ด้านอัษฎาที่กำลังถูกคนงานคนอื่นๆ สำรวจความเสียหายของร่างกาย แต่เด็กหนุ่มส่ายหน้าบอกไม่เป็นอะไรเพราะคุณใหญ่ของพวกเขาแค่คว้าคอเสื้อไว้เฉยๆ

   “วันแรกก็ถูกคุณใหญ่เขม่นซะแล้ว อยู่ยากแล้วพ่อหนุ่มเอ้ย” ลุงเหมือนส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ พลางนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่มา ไม่เคยมีใครถูกคุณใหญ่เขม่นไม่ชอบขี้หน้าแบบนี้สักคน ขนาดคนงานที่เคยขโมยของยังโดนแค่ด่าแล้วไล่ออก

   “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ คุณใหญ่ของลุงเขาคงไม่ชอบขี้หน้าผม” อัษฎาเบ้ปากเมื่อภาพใบหน้าโกรธจัดนั่นแวบออกมา “ผมก็ไม่ชอบขี้หน้าเขาเหมือนกันนั่นแหละ”

   คนแก่กว่าถอนหายใจอย่างอ่อนใจ คนหนึ่งก็แรง อีกคนก็ไม่ยอม ขิงก็ราข่าก็แรงคงเปรียบแบบนั้นได้ พอเรื่องทุกอย่างยุติ อัษฎาก็เดินตามหัวหน้าคนงานเพื่อหางานที่คาดว่าจะเหมาะ ขืนให้มาเจอหน้าคุณใหญ่ข้างๆ เขาคงเห็นจะไม่เหมาะ เดี๋ยวมีเรื่องต่อยตีกันเข้าสักวัน

   ลุงเหมือนพาอัษฎาเดินลัดเลาะมาตามร่อง จนมาโผล่ที่ด้านข้างที่มีโกดัง ด้านในมีผู้หญิงจำนวนหนึ่งกำลังคัดดอกไม้ตามขนาดและออเดอร์ที่สั่งเข้ามา

   “ทำกับแม่พวกนี้แล้วกันนะ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย” ลุงเหมือนว่า คนงานสาวๆ พอเห็นคนแปลกหน้าแถมยังเป็นหนุ่มหน้าตาดีเข้ามาก็พากันร้องวี๊ดว๊าย บางรายถึงกับออกมาคล้องแขนจนเด็กหนุ่มยิ้มแห้งๆ “อย่าเกาะแกะเขาให้มาก เป็นสาวเป็นนางนะ”

   “แหมลุง นานที เนอะ” คนที่ลุกมาเกาะแขนหันไปค้อนหัวหน้าคนงานนิดๆ ก่อนหันไปขอความคิดเห็นจากสาวๆ คนอื่นก็ได้เสียงหัวเราะพร้อมพยักหน้าตอบ

   “เออๆ ดูแลเขาด้วยล่ะ สอนงานดีๆ ล่ะ”

   “ได้ค่า ลุงเหมือนไม่ต้องเป็นห่วง”

   อัษฎามองตามลุงเหมือนที่ส่ายหัวอย่างระอาให้กับแม่พวกสาวๆ กลุ่มนี้ ก่อนจะหันกลับมาสนใจงานตรงหน้า ดอกดาวเรืองสีเหลืองถูกวางกองโต

   “ดอกไม้พวกนี้เอามาคัดกับพื้น ดอกมันไม่ช้ำเหรอครับ” ถามออกไปด้วยความสงสัย สาวเจ้าที่นั่งติดหันมายิ้มพร้อมส่ายหน้าช้าๆ

   “ดอกพวกนี้ไม่ได้ส่งร้านใหญ่ๆ หรอกค่ะ ส่งแถวๆ ตลาดเอง เพราะราคาไม่แพง”

   “แต่ดอกไม้พวกนี้ก็ยังสวยสดอยู่ แม้ราคาจะไม่มากเท่าที่คัดอยู่อีกที่หนึ่ง” ผู้หญิงวัยกลางคนพูดพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร

   “มีอีกที่ด้วยเหรอครับ”

   “ใช่จ้า อีกที่เป็นห้องเย็นน่ะ คัดส่งออกนอกไม่ก็ออร์เดอร์ร้านใหญ่ๆ”

   จากการพูดคุยแบบเกร็งในช่วงแรกๆ เริ่มสนุกสนานมากขึ้น สร้างบรรยากาศน่าอยู่ น่าร่วมงานกว่าที่เคยผ่านมา อัษฎามองย้อนกลับไปถึงงานเก่าที่ลาออกมา แม้จะได้เงินเยอะ แต่หาความสุขแบบนี้ยากนัก น้อยครั้งถึงจะได้หัวเราะ ส่วนมากจะเป็นคิ้วขมวดแทนเพราะต้องคิดงานบ้าง แก้งานบ้างตามที่คนจ้างต้องการ

   “พูดถึงคุณเล็กฉันละสงสารแกจริงๆ” เสียงพูดคุยถึงน้องชายของเจ้าของไร่เรียกให้อัษฎาหันมาฟังอีกครั้ง

   “ทำไมเหรอนังแก้ว แกไปได้ยินอะไรมาอีก” ผู้หญิงสูงวัยที่สาวๆ เรียกป้าจันนั่งตรงข้ามอัษฎาเอ่ยถามอย่างอยากรู้

   “ก็ฉันเดินผ่านตอนคุณนายคุยกับนมอิ่มน่ะสิ” นังแก้วหรือพี่แก้วมองซ้ายมองขวาก่อนจะยื่นหน้าไปกลางวงจนทุกคนต้องยื่นหน้าเข้าตาม รวมทั้งอัษฎาด้วย “คุณนายว่า เมียคุณเล็กโทรมาขอลูกไปเลี้ยงเอง”

   “จริงเหรอวะ”

   “จริงสิพี่น้อม”

   “แบบนั้นก็สงสารจริงๆ นั่นแหละ”

   “เอ่อ...ภรรยาคุณเล็กเธอหนีไปเหรอครับ” แม้จะพอรู้มาจากลูกเจี๊ยบบ้าง แต่ก็ยังไม่ครบถ้วน

   “ใช่จ้ะ หนีความลำบาก” พี่แก้วที่อัษฎาเรียกบอก “ก็ใครล่ะจะมาทนลำบากลำบนแบกหามได้จริงไหม คนกรุงเขาทำไม่ไหวหรอก”

   “สมัยก่อนตอนไร่นี้ยังไม่ใหญ่เท่านี้น่ะนะ พวกคุณๆ ต้องทำทุกอย่างเอง ขนาดเมียคุณใหญ่ยังต้องตัดดอกดาวเรืองเป็นวันๆ แทบไม่ได้พักเลยนะ” ป้าน้อมดูน่าจะอยู่มานานเล่าเรื่องเก่าๆ “แต่เพราะแกมีโรคประจำตัวทำให้ต้องตายไปตั้งแต่ยังสาว”

   “จากตายยังดีกว่าจากเป็นนะพี่น้อม”
 
   แล้วคำบอกเล่าเกี่ยวกับชีวิตของลูกชายเจ้าของไร่ก็ถูกเล่าเป็นฉากๆ อัษฎาที่ฟังบ้างเหม่อบ้าง ไม่ค่อยอยากจะรู้มากมายเท่าไหร่ เพราะปัญหาตัวเองก็มากพออยู่แล้ว ขืนเอาเรื่องคนอื่นมาคิดอีกคงระเบิดพอดี

   กว่าจะคัดแยกดอกไม้กองโตเสร็จก็กินเวลานานจวบเที่ยง แม้สาวๆ จะชวนทานข้าวด้วยแต่อัษฎาก็เลือกจะปฏิเสธ นั่นเพราะไม่อยากรบกวน อีกทั้งทุกคนต้องทำงานหนัก ขืนเขาไปแย่งมีหวังกินไม่อิ่มพอดี เด็กหนุ่มเดินแยกไปเพื่อจะกลับบ้านพัก ระหว่างทางดันเจอกันคนที่ไม่อยากพบซะได้ แต่จะหลบก็ทำไม่ได้อีก

   “มาผมช่วย” อัษฎาเดินไปช่วยคุณใหญ่ถือตะกร้าใส่ดอกไม้ที่ตัดจากต้น ท่าทางทุลักทุเลของเจ้าของไร่ทำให้เดินหนีไปไม่ได้

   “ไม่ไปกินข้าวหรือไง” ใหญ่เหล่ตามองลูกชายของนมอิ่ม แม้จะไม่ชอบใจนักแต่การที่มีคนมาช่วยถือก็ดีกว่าเขากระเตงไปเอง ตอนแรกก็คิดจะรอหลังพักเที่ยง แต่วันนี้แดดแรงนัก ขืนช้าดอกพวกนี้อาจจะเฉาทำให้เสียราคาได้

   “เดี๋ยวค่อยไปก็ได้” แม้จะไม่ชอบน้ำเสียงที่ถูกถาม แต่อัษฎาก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “คุณใหญ่ล่ะ ไม่ไปกินข้าวเหรอครับ”

   “ถ้าฉันไปจะเห็นฉันไหมเล่า ไม่น่าถาม” คำตอบทำเอาความอดทนอดกลั้นของอัษฎาแทบหมดลง แต่เพราะคนข้างๆ คือเจ้าของไร่ อีกทั้งยังเป็นเจ้านายของแม่ ขืนทำอะไรลงไปมีหวังแม่ของเขาจะถูกไล่ออก

   “ผมตาบอดเอง ขอโทษ” ตอบกลับกึ่งประชดจนมีเสียงจิ๊จ๊ะขึ้นคอจากคนฟัง “ผมทำอะไรให้คุณใหญ่ไม่พอใจหรือเปล่า ทำไมจ้องแต่จะหาเรื่องผมอยู่เรื่อย” เมื่อทนไม่ได้ก็ต้องถามให้รู้ดำรู้แดงกันไป คนถูกถามชะงักมือที่กำลังจะตัดก้านดอก ดวงตาคมดุตวัดมามองนิ่ง

   “ก็ไม่ได้ทำอะไร”

   “ไม่ได้ทำแล้วโมโหใส่ผมทำไม”

   “ไม่รู้โว้ย”

   “เอ๊ะ คุณใหญ่....”

   อัษฎากำลังจะโวยวายหากมีเสียงคนอื่นนอกจากเขาและคุณใหญ่ดังเล็ดลอดมาอีกทางทำให้ต้องเงียบลง ใหญ่วางกรรไกรไว้ในตะกร้าก่อนสาวเท้าไปทางเสียงที่ได้ยินโดยมีคนเดินตามมาด้วย

   ภาพที่เห็นคือน้องชายของตัวเองกำลังโทรศัพท์คุยกับใครสักคน หากให้เดาคงจะเป็นภรรยาที่หอบเสื้อผ้าหนีไปจนทำให้น้องชายของเขาเป็นบ้าไปพักใหญ่

   “ไม่นะแคท ผมไม่ให้ลูกกับคุณ คุณหนีผมไปแล้วยังจะมาเอาลูกผมไปอีกเหรอ ผมไม่ยอมแน่” เสียงโวยวายดังลั่น แม้ตอนนี้จะพักเที่ยง แต่หากมีคนงานผ่านมาได้ยินก็อาจจะเก็บไปนินทาได้ คนเป็นพี่ชายเดินคิ้วขมวดเข้าไปหาน้องชายทันทีจนคนที่คุยโทรศัพท์สะดุ้งโหยง “พี่ใหญ่”

   “จะคุยเรื่องพวกนี้ทำไมไม่ไปหาที่อื่นคุย หากพวกคนงานมาได้ยินจะทำยังไง” พูดกึ่งตวาดใส่น้องชายเพียงคนเดียว ที่ต้องตวาดนั่นเพราะเรื่องแบบนี้มันจะดูไม่ดีและอาจถูกนำไปพูดต่อจนเสียหาย

   “ผมขอโทษ พอดีทำงานค้างไว้” เล็ก หรือคุณเล็กที่คนงานในไร่เรียกเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตารีมีรอยแดงนิดๆ คงกลั้นน้ำตาเอาไว้เมื่อตอนคุยโทรศัพท์ “อ่าว นายก็มาด้วยเหรอ” คนอ้ำอึ้งรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังจ้องนอกจากพี่ชาย พอหันไปมองก็สบตากับลูกชายคนสนิทของแม่พอดี

   “อ่าครับ ผมมาช่วยงานในไร่” อัษฎายิ้มนิดๆ ก่อนจะหุบหน้าลงเมื่อถูกสายตาดุตวัดมอง “ผมขอตัวก่อนนะครับคุณเล็ก ขืนไปทานข้าวช้าแล้วกลับมาเข้างานสายจะถูกคนแถวนี้ว่าให้อีก” พูดจบก็รีบเดินหนีทันที ขืนอยู่มีหวังหูชาเป็นแน่ ขนาดรีบเดินยังได้ยินเสียงสบถด่าเขาอยู่เลย




 
   “พี่ใหญ่เข้มงวดเกินไป ยังไงเขาก็มาใหม่” เล็กพูดขึ้นหลังจากอัษฎาเดินไปจนลับสายตา

   “มาใหม่แล้วไง จะอยู่ก็ต้องช่วยกันทำงาน จะมาอยู่ฟรีให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำทำไม” ใหญ่พูดเสียงเรียบ เขาไม่ชอบคนที่ไม่ทำงาน ถ้าไม่ขยันก็อยู่ด้วยกันลำบาก

   “พี่ดูผิดปกติไปนะครับเนี่ย” คนเป็นน้องลอบมองพี่ชายที่เอาแต่มองเส้นทางที่คนมาใหม่เพิ่งเดินไป ความเครียดที่สะสมมาเมื่อกี้หายไปเมื่อเริ่มรู้สึกสนุกกับสิ่งที่เปลี่ยนไปในตัวพี่ชาย

   “อะไรของแกวะ” พอถูกทักว่าผิดปกติ ใหญ่ก็รีบหันมามองน้องชายพร้อมขมวดคิ้ว

   “ก็ดูสนใจอัษฎามากกว่าคนอื่น” ดวงตาพราวระยับอย่างขบขันเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของพี่ชาย 

   “แกเอาอะไรมาพูด ฉันไปสนใจมันตอนไหน”

   “อ่าวเหรอ ผมคงคิดมากไปเอง งั้นพี่ก็ถือว่าผมไม่ได้พูดแล้วกันนะ” รอยยิ้มล้อเลียนทำให้ใหญ่ยกขาจะเตะน้องชาย ปากก็เอ่ยไล่อย่างรำคาญ

   “ไปไกลๆ เลยไป”

   ใหญ่มองน้องชายที่เดินหัวเราะผ่านหน้าไปอย่างหงุดหงิด เขาไม่ได้สนใจเด็กนั่นมากกว่าคนอื่นสักนิด เด็กนั่นก็เหมือนลูกคนงานคนอื่นๆ แต่ที่ต้องบ่นต้องดุก็เพราะเพิ่งมาใหม่ ความขยันที่เห็นวันนี้จะเห็นได้อีกกี่วันเชียว ไม่แน่ อีกอาทิตย์สองอาทิตย์อาจจะนอนตากแอร์อยู่ในห้องเฉยๆ ก็เป็นได้ หากเป็นแบบนั้น เขาจะไล่มันกลับไปที่เดิมคอยดู


   แล้วทำไมต้องสนใจมันด้วยวะ


..................................

เรื่องนี้ไม่ได้อัพนานมว๊ากกกกก แต่ไม่ได้เทนะคะ ตอนนี้กลับมาแล้ว ฟื้นคืนชีพหลังจากไปกอบกู้งานและอิสระภาพของตัวเอง

ฝากคุณใหญ่ไว้ในอ้อมกอด และอัษฎาไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 2 << // [14/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 14-11-2016 20:26:21
เอิ่มม สเตรปซิลสักแผงไหมคะคุณใหญ่เห็นขยันตวาดทุกฉากเลยเจ็บคอแทน อ่านๆไปบางทีก็สงสัยว่าคุณใหญ่แกเคยใช้เสียงโมโนโทนบ้างรึเปล่านะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 2 << // [14/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-11-2016 21:35:52
 :L2: :pig4:

ดีใจจจจจจ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 2 << // [14/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 14-11-2016 23:03:10
สมกับที่รอคอยขอบคุณค่ะ o13
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 2 << // [14/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 14-11-2016 23:19:34
โอ้ยมันดีกับใจที่สุด. คุณใหญ่น้องอัดมาแล้ว แค่อ่านสองตอนก็ติดแล้วมาอับทุกวันนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 2 << // [14/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 15-11-2016 03:55:23
ตามๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 2 << // [14/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 15-11-2016 09:18:34
 :pig4: คุณใหญ่ออกอาการมากจริงๆ แระ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 2 << // [14/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 15-11-2016 11:22:59
น่าสนุกๆ ต่ออีก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 2 << // [14/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 15-11-2016 14:35:26
สองตอนก็ติดแล้วววว :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 2 << // [14/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 15-11-2016 22:18:56
เสียงดังมากระวังคออักเสบนะคะ คุณใหญ่ หุๆๆๆๆ :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 3 << [P.2] // [16/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 16-11-2016 18:55:50
3




      “เขาเจาะจงอยากคุยรายละเอียดกับพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ก็ต้องไปสิ จะให้ผมไปได้ยังไง” เล็กบอกเหตุผลให้พี่ชายตัวเองในการไปเจอลูกค้ารายใหญ่ที่กำลังจะตกลงรับซื้อดอกไม้นานาพันธุ์ภายในไร่เพื่อไปประดับโรงแรมและตกแต่งสวน

   “จะแกหรือว่าฉันก็เหมือนกันนั่นแหละ” ที่ไม่อยากไปใช่จะเกี่ยงงอนอะไร แต่เพราะเบื่อความยุ่งยากของเจ้าของโรงแรมคนสวยนั่นเอง หลายครั้งที่ได้พบเจอและพูดคุย เจ้าหล่อนก็จะแสดงอาการว่าชอบเขาซะเต็มประดา ไม่ได้รังเกียจแต่มันดูไม่เหมาะสมก็เท่านั้น

   “พี่ใหญ่กลัวคุณอรล่ะสิ” เล็กเอ่ยแซวพี่ชายที่ทำท่าทางนิ่งเฉยแต่ดวงตากรอกไปมาเมื่อมีคนรู้ทัน

   “ไม่ได้กลัว แต่มันไม่เหมาะ เขาเป็นผู้หญิงแถมยังพี่ยังเป็นหม้ายอีก ใครเห็นจะได้เอาไปพูดเสียๆ หายๆ” แม้จะพูดให้สวยหรู แต่ความหมายจริงๆ คือไม่ชอบนั่นเอง

   “ผมจะพยายามเชื่อนะ” เสียงขำในลำคอของน้องชายทำให้คนเป็นพี่ทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้อย่างอารมณ์เสีย เอกสารที่วางกองๆ อยู่บนโต๊ะดูรกระเกะระกะไปหมด “นั่นๆ เอกสารพวกนั้นผมอุตส่าห์เรียงเป็นอย่างดีแล้วแท้ๆ พี่ทำวุ่นวายอีกแล้ว”

   “ยุ่งน่า” ใหญ่ปัดมือน้องชายที่ยื่นมาแตะแฟ้มเอกสาร และถึงแม้เล็กจะถูกปัดมือ แต่ก็ยังคงขำท่าทางของพี่ชายอยู่ดี ก่อนเสียงเคาะประตูจะดังขัด สองพี่น้องจึงหันไปสนใจคนที่ยืนอยู่หน้าประตู

   “นมมารบกวนหรือเปล่าคะ” ผู้มาใหม่เอ่ยถามอย่างเกรงใจ เพราะกลัวว่า เจ้าของไร่ทั้งสองจะคุยกันเรื่องงานสำคัญอยู่

   “ไม่เลยครับ นมมีอะไรหรือเปล่า” เล็กเดินยิ้มไปหานมอิ่มที่เป็นคนสนิทของแม่และคอยเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็ก เรียกได้ว่าเป็นแม่คนที่สองเลยก็ว่าได้

   “พอดีนมอยากจะฝากตาอัดเข้าเมืองไปพร้อมกับคุณเล็กได้ไหมคะ แกจะออกไปส่งของที่ไปรษณีย์น่ะค่ะ” คนที่ถูกฝากเข้าเมืองยืนเยื้องอยู่ด้านหลัง ในมือถือกล่องขนาดกลางไว้คงจะเป็นพัสดุที่จะเอาไปส่ง

   “น่าเสียดายจังครับนม ผมไม่ได้ไปแล้ว” น้ำเสียงเสียดายของเล็กทำให้คนอยากจะเข้าเมืองด้วยมีท่าทางผิดหวังเล็กๆ ก่อนจะรีบหันหลังเมื่อได้ยินประโยคถัดมา “นมต้องไปขอพี่ใหญ่แล้วล่ะ เพราะขานั้นจะเข้าเมือง”
 
   “ไอ้เล็ก” ใหญ่ปรามน้องชายที่ทำท่าทางทะเล้น

   “คุณใหญ่จะเข้าเมืองเหรอคะ งั้นนมขอฝากลูกชายไปด้วยได้หรือเปล่าคะ” คำขอที่ส่งมายากที่ใหญ่จะปฏิเสธ เลยพยักหน้ารับแบบส่งๆ ไป “ดีจริง ตาอัดไปกับคุณใหญ่นะลูก”

   “ผมไปวันอื่นก็ได้ครับ” อัษฎารีบบอกปัดทันที ขืนให้ไปกับคุณใหญ่ของไร่มีหวังได้ทะเลาะกันตลอดทางพอดี

   “ทำไมล่ะ ไม่ใช่จะมีใครไปบ่อยๆ นะลูก อีกอย่างลูกก็รีบส่งไม่ใช่หรือไงกัน”

   “ผมกลัวคุณใหญ่จะรีบไปทำธุระแล้วผมจะไปเป็นตัวถ่วงเปล่าๆ” พูดจบดวงตากลมก็เหล่มองไปยังคนที่จ้องมาทางเขาเช่นกัน ดวงตานั่นจะดุไปไหนนะผู้ชายคนนี้

   “จริงด้วย แม่ก็ลืมนึกไป”

   “ไม่เป็นไรหรอกครับนม ผมไม่ได้รีบอะไร” คราแรกก็อยากจะดีใจที่อีกฝ่ายบอกปัด แต่พอคิดอีกทีการมีคนอื่นไปด้วยก็น่าจะเป็นวิธีที่ดีไม่น้อยกับการไปเจออินทิอร “ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะกลับค่ำ” ว่าแล้วก็รีบเดินออกจากห้องไปทิ้งให้สายตาสามคู่มองอย่างมึนงง

   “ผมว่า นมต้องทำน้ำเต้าหู้ให้พี่ใหญ่ดื่มบ้างแล้วล่ะ” เล็กพูดไปขำไปเลยถูกนมอิ่มตีที่แขนเบาๆ “นมก็ ผมพูดจริงๆ นี่นา พี่ใหญ่ต้องเริ่มเข้าโหมดวัยทองแน่ๆ”

   “คุณเล็กไปว่าพี่ชายแบบนั้นไม่ดีนะคะ” แม้จะตักเตือนแต่มุมปากก็ยังติดรอยยิ้ม “รีบไปได้แล้วตาอัด ปล่อยให้คุณใหญ่รอนานไม่ดีนะ” พอเห็นลูกชายที่ยืนข้างๆ ยังลังเล ขายาวจะก้าวก็ไม่ก้าวเลยต้องเร่งซะหน่อย

   “ครับๆ งั้นเดี๋ยวผมมานะ” อัษฎาโค้งให้เล็กก่อนจะรีบวิ่งออกไป คนตัวใหญ่สมชื่อเดินไวเป็นบ้า ออกมาก่อนไม่กี่นาทีก็ขึ้นไปนั่งบนรถรอก่อนแล้ว “ขอโทษครับ”

   “เดินหาเต่าหรือไง ช้าจริง” แม้จะไม่โกรธแต่ปากก็พูดออกไปก่อนสมองคิด ยิ่งเห็นอีกคนหน้าบึ้งก็ยิ่งอยากพูด แต่ถ้าพูดออกไปก็ไม่มีเหตุผลรองรับว่าเพราะอะไรถึงอยากบ่นอยากว่า

   ใหญ่ขับรถจากไร่เข้ามาในเมือง เมื่อก่อนหากมาคนเดียวเขาแทบจะเหยียบจนเกือบชนหลายครั้ง แต่มาคราวนี้กลับขับรถด้วยความใจเย็น ขนาดเจ้าตัวยังรู้สึกแปลกใจ

   “คุณใหญ่ไม่ขับให้ไวกว่านี้หน่อยหรือครับ” อัษฎาเอ่ยถามเมื่อเห็นมอเตอร์ไซค์โบราณขี่แซงขึ้นไป

   “ขับไวก็เปลืองน้ำมัน อีกอย่าง ฉันไม่รีบ” คนไม่รีบผิวปากอารมณ์ดี แต่อีกคนกลับส่งเสียงฮึดฮัด หากคำนวณเวลาคร่าวๆ แล้ว จากไร่ไปที่ไปรษณีย์ใช้เวลาเกือบชั่วโมงแต่ต้องแวะทำธุระ ฉะนั้นต้องบวกเวลาเพิ่มไปอีกหนึ่งถึงสองชั่วโมง แต่ตอนนี้คนขับเหยียบคันเร่งไม่ถึงแปดสิบดีด้วยซ้ำ ทำไมต้องเพิ่มเวลาไปอีกหลายสิบนาที แล้วแบบนี้จะไปทันเวลาเปิดทำการหรือเปล่า

   “ขับแบบนี้ก็เปลืองน้ำมันครับ” อัษฎาแย้งเลยถูกดวงตาดุตวัดมามอง

   “เออๆ เรื่องมากจริง” ใหญ่เพิ่มความเร็วจนคนนั่งมาด้วยตกใจรีบคว้าที่จับไว้แน่น “ไวพอหรือยัง”

   “มันเร็วเกินไปต่างหากคุณใหญ่” อัษฎาว่าก่อนจะจ้องคนกวนประสาทเขานิ่ง เสียงหัวเราะและรอยยิ้มน่ามองช่างดูอบอุ่น ดูเจ้าตัวจะไม่รู้ว่ากำลังยิ้มอยู่ พอหันมาสบตากัน รอยยิ้มนั่นก็หุบลง “ยิ้มบ้างก็ดีนะครับ”

   “ยุ่ง”

   จากความเร็วที่เพิ่มขึ้นทำให้ถึงที่หมายไวกว่าที่คิด ที่แรกที่ต้องมาคือโรงแรมของลูกค้าที่นัดไว้ อัษฎาหรี่ตามองตึกที่สูงลิ่ว ก่อนจะรีบเดินตามใหญ่ที่ยืนรอเขาอยู่หน้าประตูทางเข้า ตอนแรกกะจะอยู่รอด้านนอก แต่อากาศที่ร้อนจัดทำให้เด็กหนุ่มยอมตามเข้ามาด้านใน

   ความเย็นภายในโรงแรมทำให้รู้สึกหนาวเหน็บ แขกเหรื่อที่พักส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ อาจเพราะระดับห้าดาวที่ดูหรูหรากับการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นผสมล้านนาดูไม่น่าจะเข้ากันแต่กลับสวยแปลกตา อัษฎาเหล่ตามองกลุ่มนักท่องเที่ยวฝรั่งกลุ่มใหญ่ที่พากันถ่ายรูปกับช้างปั้นที่ทาสีซะสวย

   “รีบๆ เดิน มัวแต่มองอะไรอยู่ได้” เสียงเร่งด้านหน้าทำให้ต้องรีบก้าวเร็วไปหา ถ้ารีบนักทำไมไม่เข้าไปคนเดียว
 
   “ผมรออยู่ที่ล็อบบี้ก็ได้นะครับ” อัษฎาบอก เพราะไม่อยากเข้าไปรบกวนการคุยงานสำคัญของไร่ทั้งที่ตัวเองก็เป็นแค่ลูกของแม่บ้านเท่านั้น

   “อย่าเรื่องมาก ลูกค้ารออยู่” ใหญ่บอกเสียงเข้มพร้อมกับเดินนำเข้าไปในลิฟท์

   ห้องรับรองแขกที่ถูกจัดรอไว้ก่อนหน้า ใหญ่นั่งที่โซฟาอย่างสบายๆ ต่างจากอีกคนที่นั่งเกร็ง บรรยากาศดูน่าอึดอัดนั่นเพราะมีผู้หญิงสวมแว่นหนานั่งจ้องหน้าอยู่ จนมีสาวสวยเดินเฉิดฉายเข้ามา ทั้งใหญ่และผู้หญิงสวมแว่นก็รีบยืน อัษฎาทำท่าเหลอหลาและรีบลุกตาม

   “ยืนต้อนรับเลยหรือคะเนี่ย น่ารักจริง” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นหน้าไปหอมแก้มเจ้าของไร่ดังฟอด อัษฎาเบิกตากว้างมองดูหญิงสาวที่กล้าหอมแก้มผู้ชายก่อน แม้จะเป็นธรรมเนียมฝรั่ง แต่ถ้าคนถูกหอมแก้มยิ้มแย้มสักหน่อยก็คงจะไม่ขัดตาเช่นนี้ ใหญ่ทำหน้านิ่งไม่กล้ายกมือเช็ดรอยลิปสติกที่เปื้อนแก้มตัวเองออก ดวงตาคมตวัดมองคนที่พามาด้วยที่แอบขำ

   “เข้าเรื่องเลยดีกว่า คุณอรอยากได้ดอกไม้แบบไหนหรือครับ แล้วอยากตกแต่งแบบไหน” ใหญ่รีบเข้าเรื่องทันทีเพราะไม่อยากเสียเวลา จนคนสวยทำใบหน้าง้ำงอด้วยความงอน

   “คุณใหญ่ละก็ นานๆ จะมาเจออรทีทำไมรีบนักละคะ” เสียงหวานติดน้อยใจของหญิงสาวไม่ได้ทำให้ใหญ่เปลี่ยนใจแต่กลับบอกเหตุผลที่ทำให้รีบจนคนถูกอ้างตกใจอ้าปากค้าง

   “พอดีผมพาคนงานในไร่มาด้วย เขารีบน่ะครับ” ทันทีที่ใหญ่พูดจบ นัยน์ตาหวานเชื่อมตวัดมองคนงานในไร่ที่มาด้วยอย่างไม่พอใจ อัษฎาอยากจะเถียงใจแทบขาดแต่ติดตรงที่ว่า ถูกดวงตาดุขยิบตาให้อยู่เฉย “คุณอรอยากได้แบบไหนหรือครับ”

   “อรอยากได้แบบ....” ความต้องการของเจ้าของโรงแรมคนสวยถูกเล่าออกมาเป็นฉากๆ โดยมีผู้หญิงสวมแว่นแทรกมาเป็นระยะ

   อัษฎามองใหญ่ที่นั่งฟังเฉยๆ อย่างขัดใจ ความต้องการมากมายแถมยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเช่นนั้น หากไม่มีการบันทึกแล้วจะจำหมดได้ยังไง ชายหนุ่มรีบหยิบสมุดบันทึกประจำตัวออกมาแล้วจดรายละเอียดที่ได้ยินลงไป เพราะเคยทำแบบนี้ประจำจากที่ทำงานเก่า ทำให้อัษฎาสามารถสรุปเรื่องราวทั้งหมดให้เข้าใจง่ายมากขึ้น

   “คุณใหญ่ว่ายังไงบ้างคะ” อินทิอรเอ่ยถามความเห็นจากชายที่ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น แต่ดูชายหนุ่มจะไม่สนใจในสิ่งที่เธอถามแม้แต่น้อย เพราะดวงตาคมเอาแต่จ้องหน้าเด็กหนุ่มข้างๆ จนต้องเรียกชื่อย้ำอีกหลายที “คุณใหญ่คะ คุณใหญ่”

   “อ่าครับ”

   “ไม่ฟังอรเลย งอนแล้วนะเนี่ย”

   “ขอโทษครับ คุณอรว่ายังไงนะครับ” คำขอโทษของใหญ่เรียกสายตาอัษฎาให้เงยหน้าขึ้นมอง เจอใบหน้าง้ำงอมองมาทางเขาพอดีทั้งที่หญิงสาวกำลังพูดกับใหญ่อยู่แท้ๆ “คุณอรครับ”

   “ไม่มีอะไรแล้วค่ะ เอาแบบที่อรว่านั่นแหละ”

   “ได้ครับ เดี๋ยวผมจะให้ช่างเขียนรายละเอียดและร่างแบบจัดสวนคร่าวๆ มาให้ดูก่อน เผื่อคุณอรจะแก้ไขตรงไหน”
 
   “ค่ะ แต่คุณใหญ่ต้องมาเองนะคะ แล้วก็...มาคนเดียวด้วย” ความต้องการนั่นเรียกให้อัษฎาเกือบสำลักน้ำลาย ถึงแม้จะไม่ได้เห็นหน้าแต่ก็พอรู้ว่าตอนนี้เขากำลังถูกจ้องมองด้วยสายตาไม่พอใจอยู่แน่นอน “อรอุตส่าห์เตรียมอาหารไว้ คุณใหญ่ไม่เคยตามใจอรเลยสักครั้ง น่าน้อยใจจริงๆ”

   “ขอโทษครับ”

   “เปลี่ยนคำขอโทษเป็นอย่างอื่นแทนน่าจะดีกว่านะคะ วันนี้คุณใหญ่ขอโทษอรบ่อยมากเลย”

   “ขอโทษ...”

   “ไม่ต้องขอโทษแล้วค่ะ”

   “อ่าครับ งั้นหากไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ เด็กมันรีบ” ข้ออ้างที่ถูกพูดขึ้นทำให้หญิงสาวอึกอักก่อนพยักหน้าลง

   “คุณใหญ่ใจดีจริงนะคะ แค่คนงานในไร่ยังตามใจขนาดนี้ แต่อรขอเตือนนะคะ ว่าเด็กมันอาจจะเหลิงได้” ถูกแขวะจนคนถูกยกมาอ้างเม้มปากแน่น ทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยแท้ๆ ยังโดนว่าอีกจนได้

   กว่าจะออกจากห้องรับรอง อัษฎาก็แทบจะก้มหน้าคางชิดอก สายตาที่คอยทิ่มแทงอยู่ตลอดทำให้ไม่อยากเงยหน้าขึ้นไปสบตา ไม่ใช่ว่ากลัว แต่ไม่อยากมีปัญหาตามมาภายหลัง

   “ไว้เจอกันใหม่นะคะคุณใหญ่” ก่อนจากลา อินทิอรยังฝากรอยลิปสติกไว้อีกข้าง คนถูกฝากปั้นหน้าแทบไม่ถูกเมื่อถูกหอมแก้มในที่สาธารณะที่ๆ มีคนมากมายหันมาสนใจ

   “ครับ” ใหญ่โค้งศีรษะให้นิดๆ ก่อนสาวเท้ารีบเดินออกมาจากที่นั่น พอขึ้นไปนั่งในรถได้ ใหญ่ก็มองหากระดาษทิชชู่เป็นอย่างแรก แต่ยิ่งถูก็ยิ่งเลอะ ดูท่าแล้วลิปสติกจะติดทนเกินไปจนน่าโมโห

   “เช็ดแบบนั้นมันไม่ออกหรอกนะครับ” อัษฎาขำในลำคอเมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดของคนที่พยายามเช็ดแก้มตัวเองทั้งสองข้าง “มานี่ครับ” อัษฎาล้วงผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าแล้วหยิบขวดน้ำด้านข้างประตูมาเทพอให้ชุ่มแล้วยื่นไปให้

   “อะไร” ใหญ่มองผ้าเช็ดหน้าชุ่มน้ำอย่างสงสัย

   “ใช้นี่เช็ดน่าจะออกไวกว่านะครับ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ยอมรับผ้า อัษฎาจึงถือวิสาสะยื่นมือไปเช็ดให้เอง ใหญ่เบี่ยงหน้าหนีแต่คนตั้งใจดีจิ๊ปากทำให้คนเบี่ยงหน้าหันกลับมาตามเดิม “เช็ดจนแดงหมดแล้ว”

   “เงียบไปเลย” พอถูกสั่งให้เงียบ อัษฎาก็เงยหน้าสบตากับใหญ่ ดวงตาดุที่เคยจับจ้องดูอ่อนลงจนรู้สึกได้ “อะไร”
 
   “คุณใหญ่ถามว่าอะไรมาสองครั้งแล้วนะครับ” อัษฎาว่า

   “แล้วจะทำไม ฉันอยากพูดอยากถามว่าอะไรแล้วมันทำไม” โดนตีรวนจนอัษฎาหัวเราะออกมาเสียงดัง “หัวเราะทำไม น่าขำตรงไหน”

   “ไม่มีครับ ไม่มี” แม้พยายามกลั้นขำแต่ก็ยังเล็ดลอดเสียงหัวเราะออกมา “ออกหมดแล้วครับ”

   “เออ” ใบหน้าเข้มตีนิ่งก่อนจะออกรถเพื่อพาคนที่ทำให้ต้องโมโหไปทำธุระ “ไปส่งอะไร” ใหญ่เหล่ตามองกล่องสีขาวที่ถูกมัดเป็นอย่างดีด้านหลังรถ

   “สมุดน่ะครับ รายละเอียดงานเก่าๆ” พอนึกถึงงานเก่าๆ ก็พาลทำให้นึกถึงคนใจร้ายที่ทำให้ต้องหนีความช้ำมาหาแม่ และต้องมาพบเจอเจ้าของไร่อารมณ์ร้อนและขี้โมโหคอยแต่จ้องจะดุด่า

   “แล้วเมื่อกี้จดอะไรบ้างล่ะ เห็นก้มหน้าเขียนยิกๆ” ใหญ่หันมามองคนข้างๆ ประจวบกับอีกคนมองอยู่ก่อนแล้วทำให้สบตากันนิ่ง

   “คุณใหญ่ไม่มองถนนหรือครับ” คล้ายกับสติที่ลอยชั่วครู่กลับมาอัษฎาก็รีบชี้ไปที่ถนน ยังดีที่ไม่มีรถขับสวนมา “ผมจดรายละเอียดคร่าวๆ เพราะคุณใหญ่ไม่ยอมจดอะไรเลย”

   “ฉันจำเอา” คล้ายกับอวดอ้างความจำดีเลิศ

   “เก่งขนาดจำหมดเชียวหรือครับ ดีจริง” คนยืดอวดความจำหันขวับทันที

   “ประชดฉันใช่ไหม”

   “เปล่านะครับ” อัษฎาทำตาใสปฏิเสธ “ผมชมต่างหาก”

   “น้ำเสียงโคตรไม่เต็มใจ”

   ไปรษณีย์ใหญ่ในตัวจังหวัดยังเปิดอยู่ อัษฎาถอนหายใจออกมาเพราะนี่ก็ใกล้เวลาจะปิดทำการ ยังดีที่มาทัน ไม่อย่างนั้นเขาคงมาเสียเที่ยว

   ใหญ่นั่งรออยู่ในรถ ร่างหนาเอนตัวพิงเบาะปิดเปลือกตาลงเพื่อพักสายตา ดูจากคนมาใช้บริการคงจะนานเอาการ และมันก็เป็นเช่นนั้น ผ่านมาแล้วเกือบครึ่งชั่วโมงแต่อัษฎาก็ยังไม่ออกมาสักที คนขี้โมโหเปิดประตูรถลงไปตามหา เห็นคนที่ทำให้ต้องรอนั่งอยู่ที่ม้านั่ง ขายาวก็รีบสาวเข้าไปหาทันที

   “ยังไม่เสร็จอีกเหรอ” น้ำเสียงติดหงุดหงิดจนคนที่นั่งข้างๆ หันมามอง

   “อีกคิวเดียวครับ อ๊ะ เขาเรียกแล้ว คุณใหญ่รอแป๊บหนึ่งนะครับ” ร่างผอมบางกว่ารีบเดินไปที่เคาน์เตอร์ ปล่อยให้คนมาตามยืนเคว้งอยู่ท่ามกลางสายตาสาวๆ ที่มองอย่างสนใจ

   เพราะไม่ชอบถูกมองมากนัก ใหญ่เลือกจะเดินกลับไปที่รถแทน คล้อยหลังแค่ไม่กี่นาทีอัษฎาก็เดินออกมา ใบหน้าบึ้งตึงของคนที่ยืนพิงรถทำให้คนช้าต้องโค้งศีรษะขอโทษ

   “รีบขึ้นรถ เดี๋ยวฉันต้องไปหาแม่อีก”

   “ครับ”

   รถของไร่ออกจากที่ทำการไปรษณีย์มุ่งหน้าสู่รีสอร์ทพิกุลจันทร์หอมชื่อเดียวกับไร่ดอกไม้ บ้านพักสร้างจากไม้หลังขนาดพอดีอยู่ท่ามกลางต้นไม้และดอกไม้สวย บรรยากาศร่มรื่นน่าพักอาศัย

   “ที่นี่สวยมากเลย” อัษฎามองอย่างหลงใหล เคยได้ยินชื่อรีสอร์ทนี้แต่ก็ไม่เคยได้มาพักสักครั้ง หลายครั้งที่มาทำงานที่เชียงใหม่ แต่ไม่เคยได้มาพักที่แบบนี้ มีแต่จะพักที่โรงแรมในเมืองเพราะสะดวกกับงานที่ต้องทำ

   “ฉันเป็นคนออกแบบและจัดสวนเองมันก็ต้องสวยอยู่แล้ว” ลูกชายคนโตของเจ้าของยืดอกอวดฝีมือจนคนที่ยืนอยู่ด้วยขำ แต่ก็ทึ่งกับความสวยจริงๆ

   “ก็สมกับเป็นเจ้าของไร่ดอกไม้แล้วนี่ครับ” ใหญ่ขมวดคิ้วนิดๆ ฟังประโยคที่ได้ยินคล้ายกับจะชมหรือจะด่าจากคนตรงหน้า

   “เออๆ ถือว่าชม”

   “ลุงใหญ่” เสียงเล็กตะโกนเรียกจนเจ้าของชื่อหันไปมอง ร่างเล็กวิ่งลุนๆ เข้ามาหาจนต้องย่อตัวช้อนร่างขึ้นอุ้ม “ลุงใหญ่มาช้า”

   “นี่ลุงก็รีบสุดๆ แล้ว” สองลุงหลานคุยกันหนุงหนิงจนลืมคนที่มาด้วย อัษฎามองคนขี้โมโหกลายเป็นคุณลุงที่แสนดีเมื่ออยู่กับหลาน “คุณย่าล่ะ”

   “คุณย่าอยู่ในนู้น” นิ้วป้อมชี้ไปทางด้านใน พอดีกับคุณนายเจ้าของรีสอร์ทเดินยิ้มแย้มออกมา “นั่นไง คุณย่า”

   “ทำไมมาช้าล่ะ โทรบอกแม่ว่าออกมานานแล้วนี่นา” คุณพิกุลเอ่ยถามลูกชายก่อนจะหันไปมองคนที่มาพร้อมกับใหญ่ “ไปส่งของมาแล้วเหรอ”

   “ครับ เรียบร้อยแล้ว” อัษฎาตอบพร้อมรอยยิ้ม

   “ไม่ทะเลาะกันใช่ไหม เห็นตาเล็กบอกตาใหญ่ชอบดุ” คุณพิกุลปรายตามองลูกชายที่เพิ่งจะกล่าวถึงที่ทำหน้าบึ้ง “เอาล่ะๆ เข้าไปด้านในก่อน ไปตาใหญ่พาน้องเข้ามา” อัษฎายิ้มนิดๆ ก่อนจะเดินตามแม่ลูกเข้าไปด้านใน พอเข้ามาบรรยากาศยิ่งน่าพักอาศัย ทั้งข้าวของเครื่องใช้ทำจากไม้ทั้งสิ้น

   “ที่นี่นะ ตาใหญ่เขาออกแบบตกแต่งเองทั้งหมด” คุณพิกุลบอกรายละเอียดให้คนที่ดูตื่นตาตื่นใจได้รู้ อัษฎาเหลือบมองคนที่เพิ่งอวดความเก่งไปเมื่อครู่ “เสียอยู่อย่างเดียว ตอนทำกว่าจะเสร็จ ต้องเปลี่ยนผู้รับเหมาหลายราย”

   “แม่ครับ” ใหญ่เรียกแม่เสียงอ่อย ใช่อยากจะเปลี่ยนผู้รับเหมาบ่อย แต่เพราะบางรายเกียจคร้าน บ้างก็โกงงาน ยังดีที่ใหญ่คอยตามงานทุกอย่างทุกรายละเอียด รีสอร์ทเลยออกมาดีแบบที่ตั้งใจไว้

   ทั้งคุณพิกุลและอัษฎาพากันขำท่าทางของใหญ่ พอทั้งหมดเดินไปถึงหน้าห้องทำงานของเจ้าของ อัษฎากำลังเอ่ยขอแยกตัวแต่ใหญ่กลับเรียกเข้าไปด้วย

   “บอกรายละเอียดงานไปสิ จดมาไม่ใช่หรือไง” ถูกโยนงานให้ทันที แม้จะขัดใจแต่อัษฎาก็บอกรายละเอียดได้อย่างถี่ถ้วน ขนาดใหญ่ยังนึกชมอยู่ในใจถึงความรอบคอบ

   “นี่เราโยนงานให้น้องเขาทำได้ยังไง” หลังฟังจบก็ถูกแม่เล่นงานทันทีจนใหญ่ต้องถลึงตาให้คนที่หัวเราะเขา

   “ผมไม่ได้โยนให้สักหน่อย” คำแก้ตัวค่อนข้างฟังไม่ขึ้น แต่คุณพิกุลก็ทำท่าเข้าใจ “ว่าแต่ แม่เรียกผมมามีอะไรหรือเปล่า”

   “อ๋อ พอดีคุณทัศนัยเขามาพักที่นี่แล้วได้ชิมไวน์องุ่นจากไร่เรา เขาติดใจและชอบมาก เลยอยากจะขอรายละเอียดเกี่ยวกับไวน์น่ะ เพราะเขาจะเอาไปลงที่ร้านอาหารของเขา แม่ว่าก็ดีนะ ร้านเขาใหญ่ที่สุดในตัวเมืองด้วย”

   “เอกสารอยู่ที่ไร่ ผมไม่ได้เอาติดมาด้วย” ใหญ่ว่า สายตาดุไม่ได้สนใจแม่เพราะกำลังมองคนที่ตื่นเต้นกับเทียนหอมรูปดอกไม้

   “งั้นพอแกกลับไปแล้วก็ส่งแฟ็กซ์มาให้แม่แล้วกัน” คุณพิกุลพูดไปก็มองท่าทางของลูกชายไป ดวงตาที่เริ่มฝ้าฟางมองเด็กหนุ่มหน้าสวยคล้ายแม่ตัวเองสลับกับหน้าลูกชายพาลทำให้นึกถึงคำทำนายเมื่อสมัยก่อนนั้น

         หนึ่งในสอง ต้องมีคู่ ที่ผิดแปลก หากจำแนก คงจะแยก นั้นลำบาก แต่หากหนึ่ง ในสอง ครองกาย ด้วยใจงาม ความสุข จะพบพาน กันด้วยดี

   คู่ผิดแปลกที่ว่าจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า หากหนึ่งในสองมีคู่ผิดแปลก อีกคนที่เหลือจะกลับมามีความสุข แต่ทั้งใหญ่และเล็กไม่มีท่าทีจะรักหรือชอบเพศเดียวกันเลยด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้จะทำยังไง

   “ใหญ่ ตาใหญ่” คุณพิกุลเรียกซ้ำจนคนเหม่อสะดุ้งและหันมามอง “อย่าลืมส่งเอกสารมาให้แม่ล่ะ”

   “เอกสาร...อ๋อครับ” ท่าทางแปลกๆ ของลูกชายทำให้คุณพิกุลอยากจะไปคุยกับคนสนิทอย่างนมอิ่มมากที่สุด “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมกลับก่อนนะครับ เดี๋ยวจะถึงไร่ค่ำ”

   “จ้ะ” คุณพิกุลยิ้มให้ลูกชายเผื่อแผ่ไปทางลูกชายของคนสนิท “ไว้มาเที่ยวนะ ให้ตาใหญ่พามา” คำชวนทำเอาอัษฎาเลิกคิ้วมอง

   “ครับ” แม้จะขัดแย้งว่าคงไม่ได้มาหรอกแต่ก็ตอบรับไป “ผมกลับก่อนนะครับคุณนาย” ยกมือไหว้ร่ำลาก่อนจะเดินออกจากห้องมาก่อน

   “ขับรถดีๆ ล่ะตาใหญ่ อย่าขับรถเร็วมันอันตราย อ่อ อย่าชวนเขาทะเลาะด้วย”

   “แม่เห็นผมเป็นคนแบบนั้นหรือไง โธ่”

   “ไม่ต้องมาโธ่เลย กลับดีๆ นะลูก” ใหญ่ยกมือไหว้ลาพร้อมกับยื่นมือยีผมหลานตัวเล็ก ขายาวกำลังจะก้าวเดินชะงักหยุดเมื่อแม่เรียกไว้ “ตาใหญ่ ถ้าเกิดลูกต้องทำอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบ แต่มันอาจทำให้น้องดีขึ้น เราจะทำไหม” ไม่รู้อะไรดลใจให้คุณพิกุลถามออกไป แม้จะดูไม่น่าเชื่อถือ แต่คำทำนายที่ว่ามันค่อยๆ เกิดขึ้นจริงตามนั้น

   “ไม่รู้สิครับ ต้องดูก่อนว่าทำอะไร” ตอบเสร็จก็เดินออกมาจากห้องเพราะแม่ไม่พูดอะไรอีก ระหว่างทางกลับไปที่รถ คำพูดของแม่ยังคอยรบกวนจิตใจ จะให้เขาทำอะไรที่ไม่ชอบเพื่อน้อง...เพื่อเล็กน่ะเหรอ เขาต้องทำอะไรกัน

   “คุณใหญ่ยังไม่ได้ปลดล็อกรถครับ” เพราะความเหม่อทำให้เจ้าของรถพยายามดึงประตูรถออก ทั้งๆ ที่เปิดไม่ออก พอมีเสียงบอกคนเหม่อก็รีบกระแอมกลบเกลื่อน

   “รู้แล้วน่า”

   “ครับๆ”

   รถประจำไร่ขับออกไปแล้ว แต่เจ้าของรีสอร์ทอย่างคุณพิกุลยังยืนนิ่งมองจนท้ายรถลับตา หากเป็นตาใหญ่ และหากเป็นลูกชายของคนสนิท หากเป็นแบบนั้นได้ ชีวิตอีกชีวิตจะดีขึ้นไหมนะ ยิ่งตอนนี้ลูกชายคนเล็กกลับมาดื่มเหล้าอีกครั้งตามคำบอกของนมอิ่มคนสนิทยิ่งสร้างความเป็นห่วง เพราะกลัวจะติดเหล้าอย่างแต่ก่อน ตาเล็กนะตาเล็ก ทำให้แม่คนนี้เป็นห่วงอีกแล้ว


...TBC


หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 3 << [P.2] // [16/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 16-11-2016 19:50:12
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยมาต่ออีกไวๆนะจะรออ่านไรท์สู้ๆ :mc4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 3 << [P.2] // [16/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-11-2016 20:04:49
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 3 << [P.2] // [16/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-11-2016 20:16:31
 :mew1: :mew1: :mew1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 3 << [P.2] // [16/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 16-11-2016 23:26:16
คุณใหญ่เอ๊ยเริ่มมีใจให้อัฎโดยไม่รู้ตัวแล้วสินะ :katai5:ชอบเรื่องนี้สุดๆๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 3 << [P.2] // [16/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 17-11-2016 06:28:04
แม่เริ่มคิดอะไรได้แล้วสินะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 3 << [P.2] // [16/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 17-11-2016 15:12:14
 :katai2-1: เอาอีกกกกกก เอาอีกกกกกกก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 3 << [P.2] // [16/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 17-11-2016 15:41:37
 :impress2: เราลุ้นคู่นี้นะ อยากให้คุณใหญ่คู่กับอัต
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 17-11-2016 20:58:32
4




       “ใส่ปุ๋ยเพิ่มหน่อยก็ดีนะ” น้ำเสียงเรียบบอกคนงานที่กำลังจัดแจงตารางใส่ปุ๋ยในไร่ ใหญ่กลับมาเร่งทำงานเพราะเริ่มมีออร์เดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย ดังนั้นช่วงนี้ต้องดูแลดอกไม้ให้ดีเพื่อให้ออกดอกและสวยที่สุด “แล้วก็นะ ช่วยดูตรงท้ายๆ หน่อย ดอกมันดูเล็กกว่าที่ควรจะเป็น” เมื่อสั่งงานเสร็จ ร่างสูงก็เดินข้ามแปลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะได้ยินเสียงคนเรียกทำให้ต้องหันหลังไปมอง

   “คุณใหญ่ครับ”

   “มีอะไร”

   “คือคุณเล็ก...” ชื่อของน้องชายหลุดออกมาจากปากคนงานทำให้พี่ชายต้องขมวดคิ้ว “ท้ายไร่นะครับ” ไม่ต้องบอกรายละเอียดก็รู้ดีว่าคนงานหมายถึงอะไร

   เกือบสองวันมาแล้วที่เล็กดื่มเหล้าหนัก นั่นเพราะถูกภรรยาเก่าโทรมาเร่งเร้าจะเอาลูกชายไปเลี้ยงเอง ขายาวรีบเดินย้อนกลับไปยังท้ายไร่ กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาจนครึ่งทางคนรีบหยุดหอบหนักเพราะความเหนื่อย ก่อนจะมีเสียงบางอย่างดังจากด้านข้าง อัษฎาที่กำลังปั่นจักรยานผ่านมาพอดีเหล่หางตามองเจ้าของไร่หน้าดุ ขาเรียวรีบปั่นให้ผ่านไปโดยไว แต่กลับถูกมือยาวยื่นมาดึงท้ายจักรยานไว้จนรถที่เร่งสปีดเกือบล้ม ยังดีที่คนปั่นใช้ขาค้ำยันไว้ทัน ใบหน้าขาวมุ่ยลงอย่างไม่พอใจ

   “คุณใหญ่ทำอะไรเนี่ย ผมเกือบจะล้มแล้ว เดี๋ยวๆ” อัษฎาเบิกตากว้างเมื่อคนที่อุกอาจดึงท้ายรถขึ้นมาซ้อน “คุณใหญ่ทำอะไรเนี่ย”

   “รีบๆ ปั่นไปท้ายไร่ อย่าพูดมาก” คำสั่งนิ่งๆ ออกจากปากทำให้คนอ้าปากจะว่าต้องงับลงและออกแรงปั่นพาคนซ้อนท้ายไปท้ายไร่ แต่เพราะคนตัวโตซ้อนด้านหลังทำให้แรงปั่นหดหาย “แรงมีแค่นี้เหรอวะ ลงๆ” ใหญ่ใช้ขายันที่พื้นเพื่อหยุดรถก่อนดึงแขนคนปั่นให้ลงแล้วตัวเองก็ขึ้นมาประจำที่คนปั่นเอง อัษฎารีบกระโดดซ้อนท้ายเมื่อเห็นว่าจะถูกทิ้ง แขนขาวรีบรวบกอดเอวคนปั่นไว้แน่นเมื่อรถออกตัวอย่างเร็ว

   “คุณใหญ่จะรีบไปไหนเนี่ย เหวอ” ทางลงลาดชันอัษฎายิ่งเพิ่มแรงกอดรัด หน้าขาวซบกับแผ่นหลังกว้างจนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ เตะจมูก

   คนปั่นที่ไม่สนใจคนซ้อนเท่าไหร่ ปั่นได้ก็เร่งความเร็วจนมาถึงสถานที่ๆ คนงานบอกไว้ อัษฎาทำหน้างงงวยเมื่อใหญ่รีบลุกออกไปและตรงไปที่เพิงพักสำหรับคนงานเฝ้าไร่ หน้าบึ้งตึงคล้ายกับโมโหยามเปิดประตูไปเห็นน้องชายกำลังนอนกอดขวดเหล้าเอาไว้ ท่าทางเหม่อลอยจนต้องตบแก้มเรียกสติ

   “ไอ้เล็ก มีสติหน่อย”

   “พี่ใหญ่” เล็กละเมอเรียกพี่ชายออกมา ดวงตายังล่องลอยเพราะความเมา “ผมไม่ดีตรงไหนแคทถึงทิ้งผมไป”

   “มีสติหน่อย” ใหญ่พยายามเรียกน้องชายตัวเองที่พร่ำเพ้อพรรณนาถึงภรรยาเก่า แม้ตัวเขาเองจะเคยเป็นแบบนี้สมัยภรรยาเสียแต่ไม่นานก็กลับมาตั้งตัวใหม่ได้

   “คุณใหญ่ ผมว่าพาคุณเล็กกลับก่อนเถอะครับ ขืนปล่อยไว้มีหวังยุงหามพอดี” อัษฎาที่เดินตามมาออกความคิดเห็น

   “ไอ้เล็กกลับบ้าน ลุกขึ้น” ใหญ่หิ้วปีกน้องชายให้ยืน แต่คนเมาไม่ให้ความร่วมมือทำให้คนดึงแทบเซล้ม ยังดีที่อัษฎารีบเข้าไปพยุงช่วย จากนั้นสองแรงแข็งขันก็หิ้วแขนคนเมาคนละข้าง กว่าจะถึงเรือนก็ทำล้าไปทั้งตัว ทันทีที่เท้าเหยียบขึ้นเรือน นมอิ่มรีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับสาวใช้อีกสองคนด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพคนที่ถูกหิ้วกลับมา

   พอพาคนเมาไปนอนในห้องได้ ใหญ่ก็จัดการเอาผ้าที่นมอิ่มยื่นให้เช็ดตัวน้องชายที่ไร้สติ มือคนเมาปัดป่ายจนคนเป็นพี่โมโห นมอิ่มเห็นท่าทางแล้วนึกกลัวเลยอาสาทำให้

   “นมว่า คุณเล็กเธอชักจะหนักขึ้นทุกวันแล้วนะคะ” เป็นอย่างที่นมอิ่มว่าจริงๆ ใหญ่ถอนหายใจเฮือก ครั้งแรกที่น้องชายเคยติดเหล้า เขาสติหลุดเผลอต่อยหน้าจนคว่ำ ครานั้นถูกแม่โกรธหนักกว่าจะยอมพูดดีด้วยก็กินเวลาหลายวัน มาคราวนี้เขาละกลัวจะยั้งความโกรธไว้ไม่อยู่ซะจริง

   “ผมก็เบื่อสภาพของมันเต็มทน” พูดจบก็เดินออกไป อัษฎายืนอยู่ที่กรอบประตูมองตามร่างสูงออกจากห้องไป ตอนขากลับจากท้ายไร่ สายตาของใหญ่ที่มองน้องชายเต็มไปด้วยความห่วงใย แม้จะทำตัวแข็งกร้าวดูไม่สนใจ แต่ที่จริงแล้วคงเป็นห่วงมากทีเดียว พวกปากแข็งแต่ใจอ่อน

   “อัด ดูคุณเล็กให้แม่หน่อยนะ เดี๋ยวแม่ไปข้างนอกแป๊บหนึ่ง” นมอิ่มปรายตามองร่างที่นอนนิ่งบนเตียงก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้อัษฎานั่งลงข้างเตียงแทนที่

   “คุณเล็กกำลังทำให้พี่ชายและคนอื่นๆ เป็นห่วงอยู่นะครับ”

   “แคท ผมไม่ยอมให้คุณไป” เสียงละเมอดังออกจากปากคนเมา มือยาวปัดป่ายไปทั่วจนคนนั่งเฝ้าสะดุ้งเมื่อถูกดึงแขน อัษฎาพยายามดึงแขนตัวเองให้ออกจากการจับ “แคท”

   “ผมไม่ใช่ครับ ผมอัด คุณเล็ก” 

   “แคท”

   อัษฎาพยายามยื้อยุดจนเกือบหมดแรง โชคยังดีที่ใหญ่ย้อนกลับมาเอาหมวกที่วางทิ้งไว้ พอเห็นคนตัวผอมทำท่าจะเซไปทับร่างน้องชาย มือใหญ่ก็รีบดึงแขนอีกข้างไว้แล้วออกแรงดึงให้กลับมา ร่างที่หลุดออกมาปะทะกับอกแกร่งจนหน้าผากมนกระแทกเข้าที่คางแหลมเสียงดัง คนเจ็บสองคนยกมือคนลูบในส่วนของตัวเองป้อยๆ

   “เจ็บ” อัษฎาพูดหน้านิ่ว มือลูบหน้าผากตัวเองไปมา

   “ฉันเจ็บกว่าอีก อูย คางแตกหรือเปล่าเนี่ย” คนที่เจ็บน้อยตวัดสายตามอง “จ้องแบบนั้นจะหาเรื่องหรือไง คนมาช่วยแท้ๆ กลับเจ็บตัวฟรี”

   “ผมไม่ได้ขอให้ช่วยสักหน่อย” บอกพลางเชิดหน้าขึ้นสร้างความหมั่นไส้ให้คนที่เห็น

   “หาว่าฉันยุ่งเองหรือไง”

   “ใช่”

   “นี่นาย...” กำลังจะตอบกลับ พอดีกับนมอิ่มเดินเข้ามาพอดี ใหญ่เลยได้แต่ชี้หน้าคาดโทษไว้
 
   หลังจากใหญ่ออกไปแล้ว นมอิ่มมองท่าทางของลูกชายที่ทำปากขมุบขมิบตามหลัง เมื่อตะกี้เธอได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่ลูกชายถูกเล็กดึงแขนและใหญ่มาช่วย ยิ่งได้ฟังคำบอกเล่าจากคุณพิกุลเกี่ยวกับอาการของสองคนนี้ที่รีสอร์ทยิ่งทำให้คิดหนัก

   “อัดไปทำงานก่อนนะครับ เดี๋ยวมีคนกล่าวหาว่าอู้อีก”
 
   “จ้ะ”

   เมื่อไม่มีใครอยู่แล้ว นมอิ่มรีบต่อโทรศัพท์ถึงคุณพิกุลทันที รายละเอียดเกี่ยวกับลูกชายคนเล็กถูกรายงานตามที่เห็น ส่วนลูกชายคนโต นมอิ่มต้องขอให้คุณพิกุลมาพูดเอง

   “คุณนายว่า คุณใหญ่จะยอมหรือคะ” นมอิ่มถามปลายสายอย่างไม่มั่นใจ

   (ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้องลองดู) คุณพิกุลตอบกลับ (เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะเข้าไปพูดเอง)

   วางสายไปแล้วแต่นมอิ่มยังถือหูโทรศัพท์ค้างไว้ ดวงตามองไปที่ร่างไร้สติกำลังละเมอเพ้อพกถึงภรรยาเก่าไม่ขาดสาย ช่างน่าสงสารซะจริงคุณเล็กของนมอิ่ม



   
   “คางไปโดนอะไรมาน่ะ” คุณพิกุลเลิกคิ้วมองใบหน้าลูกชายคนโตที่ปลายคางดูแดงเด่นชัด

   “อุบัติเหตุนิดหน่อย ว่าแต่น้องสร่างเมาแล้วเหรอครับ” ใหญ่เอ่ยถามแม่ที่เข้ามาดูอาการเล็กตั้งแต่บ่ายคล้อย วันนี้มีงานเร่งทำให้ต้องกลับค่ำกว่าปกติ

   “ยัง แม่เห็นเล็กเป็นแบบนี้ล่ะกลุ้มใจจริงๆ”

   “ให้เวลามันหน่อยก็คงดีขึ้นเองผมว่า”

   “แม่ก็หวังให้มันเป็นแบบนั้น”

   ผ่านพ้นมื้อค่ำไปแบบเรียบๆ คุณพิกุลเรียกลูกชายคนโตไปที่ชานเรือน วันนี้ตั้งใจจะพูดในสิ่งที่คิดไว้ แม้ไม่รู้ว่าลูกชายจะตอบรับหรือปฏิเสธ แต่สภาพลูกชายคนเล็กนั้นจะปล่อยทิ้งไว้ก็คงไม่ได้ ทันทีที่สองแม่ลูกนั่งลงที่เก้าอี้ คุณพิกุลถึงกับถอนหายใจออกมา

   “แม่มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่าเรื่องเจ้าเล็ก” เพราะท่าทางของแม่ดูกังวลหนักเลยเดาเรื่องที่หนักใจได้ไม่ยาก “เรื่องที่แม่คุยกับผม คือเรื่องที่แม่พูดค้างไว้เมื่อวันนั้นใช่หรือเปล่าครับ”

   “ใหญ่ แม่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี” ความสับสนจนยากจะพูดออกมา “เรื่องคำทำนาย”

   “ผมว่ามันไร้สาระนะครับ” คิ้วดำขมวดจนเป็นปมเมื่อนึกถึงคำทำนายที่แม่เคยเล่าให้ฟัง ไม่ใช่จะไม่เชื่อ แต่มันดูไร้สาระจริงๆ นั่นแหละ “คำพูดของหมอดูหมอเดา ผมว่ามันไม่ค่อยน่าเชื่อถือนะครับ”

   “แต่ใหญ่ก็เห็น ว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นจริง ทั้งใหญ่หรือว่าเล็ก” คำแย้งของแม่ทำให้ใหญ่เถียงไม่ออก “จะมีทั้งจากเป็นและจากตาย ใหญ่...แม่ไม่ได้จะงมงายเชื่อหรอกนะ แต่มันเกิดขึ้นจริงอย่างที่ลูกเห็น”
 
   “แล้วมีทางแก้ไขไหมครับ”

   “ใหญ่ทำเพื่อน้องได้ไหมลูก แม่ไม่รู้ว่า ถ้าทำไปแล้วจะเกิดผลอะไรตามมา แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรแล้วปล่อยให้มันเป็นแบบนี้” คุณพิกุลพูดน้ำเสียงเครือสะอื้น “ยิ่งตอนนี้เล็กกลับมาดื่มเหล้าหนักอีก แม่แทบจะทนไม่ไหว”

   “แม่ครับ” ใหญ่ยื่นมือโอบร่างบอบบางของแม่ “ผมต้องทำยังไงครับ” ยิ่งเห็นแม่ทุกข์ใจเขาก็ยิ่งทนไม่ไหว จนต้องถามออกไป

   “เรื่องคู่”

   “คู่?”

   “หมอดูทำนายว่า หนึ่งในสองต้องมีคู่ที่ผิดแปลก”

   “ผิดแปลกที่ว่า คือให้ผมแต่งงานกับเพศที่สามน่ะหรือครับ ผมทำไมได้หรอก” พอได้ยินก็รีบปฏิเสธเสียงแข็งทันที เพราะเป็นชายแท้และชอบผู้หญิง อยู่ๆ จะให้ไปแต่งงานกับเพศที่สามแบบนั้นคงทำไม่ได้

   เมื่อลูกชายคนโตยืนยันเสียงหนักแน่นว่าทำไมไม่ได้ คุณพิกุลก็ปล่อยโฮออกมา หากไม่ทำตามคำที่ว่า เธออาจจะเสียลูกชายคนเล็กไปจริงๆ

   “แม่เข้าใจแล้ว ใหญ่ไม่ต้องฝืนใจ เรื่องตาเล็ก เดี๋ยวแม่จะลองปรึกษาจิตแพทย์ดูว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง” ความทุกข์ใจที่ได้เห็นไม่สามารถทำให้ใหญ่คลายปมขมวดของคิ้วได้ “ไปนอนเถอะจ้ะ แม่อยากนอนเต็มแก่แล้ว”

   “เดี๋ยวครับแม่” ใหญ่รีบรั้งแม่ไว้ทันก่อนที่จะลุกออกไป ริมฝีปากเม้มเข้าหากันอย่างสับสน แต่พอเห็นน้ำตาของแม่กับความทุกข์ใจของน้องแล้ว ใหญ่ก็ปล่อยผ่านไม่ได้ “ผมต้องทำยังไง” ในที่สุดก็กลั้นใจถามแม่ของออกไป ครั้นพอได้ยินใหญ่ถาม คุณพิกุลถึงกับผุดรอยยิ้มบางๆ ออกมา

   “ใหญ่ นี่ลูก”

   “ครับ แต่ที่ผมทำก็เพราะแม่ ต่อไปอย่าร้องไห้อีกนะครับ” มือกร้านเพราะทำงานหนักยื่นไปเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มของแม่ “แม่จะให้ผมไปหาคู่จากที่ไหน ผับหรือบาร์อย่างงั้นหรือ” เรื่องคู่นั้นช่างมืดมนซะจริงๆ ไม่รู้ว่าจะถูกใจไปได้ยังไง

   “ก็ตาอัด ลูกชายนมอิ่ม” พอได้ยินคนที่แม่บอก ใหญ่ถึงกับสำลักน้ำลายจนต้องหาน้ำดื่มแทบไม่ทัน พออาการสำลักดีขึ้น ร่างกำยำก็กลับมาทิ้งตัวนั่งข้างแม่ตามเดิม

   “แม่พูดล้อเล่นใช่ไหมครับ เด็กนั่นกับผมเนี่ยนะ” ช่างน่าขันซะจริง เกลียดขี้หน้าตั้งแต่แรกเห็น แล้วอยู่ๆ จะให้มากินนอนฉันสามีภรรยา

   “ไม่ได้ล้อเล่น ลูกชายนมอิ่มเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง”

   “แม่รู้ได้ยังไงว่าเด็กนั่นไม่ชอบผู้หญิง” แม้รูปร่างจะดูบอบบางเฉกเช่นผู้หญิง ที่ท่าทางยังดูเป็นผู้ชายที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนเพศที่สาม

   “นมอิ่มเป็นคนบอกกับแม่เอง อีกอย่าง ที่เขามาที่นี่เพราะถูกแฟนที่เป็นผู้ชายหลอก”

   “เหอะ เห็นไร่ของผมเป็นสถานสงเคราะห์คนอกหักหรืออย่างไรกัน” อดที่จะแขวะไม่ได้ “แล้วเขาจะยอมเหรอครับ”

   “นมอิ่มน่าจะคุยอยู่ ถ้าเราจัดการไว เผื่ออะไรๆ มันจะดีทันตา”

   “ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี”





   “แม่กำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหม ให้อัดเนี่ยนะ แต่งงานกับคุณใหญ่” ครั้งแรกที่ได้ยินก็เกือบทำจานหลุดร่วง ยังดีที่ประคองสติได้
 
   “แม่ไม่ได้ล้อเล่น อัด คุณพิกุลเป็นผู้มีพระคุณต่อครอบครัวของเรา ถ้าไม่มีท่าน ทั้งแม่หรืออัดคงไม่ได้มาอยู่สุขสบายเช่นตอนนี้”

   “แม่บอกอัดมาตลอดจนจำขึ้นใจแล้ว” ว่าเสร็จก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อถูกหยิก

   “เรานี่นะ”

   “คุณใหญ่เขาจะยอมเหรอ เขาเกลียดขี้หน้าอัดจะตาย” อัษฎาเบ้ปากเมื่อนึกถึงใบหน้าเรียบเฉยของเจ้าของไร่คนโต

   “แม่ก็ไม่รู้ ว่าแต่อัดเถอะ”

   “ผม...ทำไมเหรอครับ”

   “ก็เรื่องที่แม่เล่า อัดคิดว่าไงละลูก”

   เรื่องคำทำนายเมื่อนานมาแล้วมันช่างไร้สาระและไม่น่าเชื่อถือสักนิด แต่จะไม่เชื่อเลยก็คงไม่ได้เพราะเหตุการณ์กลับเกิดขึ้นจริง ทั้งเรื่องภรรยาของใหญ่เสียชีวิตและการพลัดพรากจากเป็นของคู่ชีวิตคู่ของเล็ก

   “แรกๆ ที่ได้ยินผมไม่เชื่อ แต่พอคิดๆ ดู มันก็...” เริ่มอธิบายความรู้สึกไม่ได้ จะบอกว่าเชื่อสนิทใจก็ไม่ได้ ไม่เชื่อก็คงไม่ได้อีก งั้นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งคงดีที่สุด

   “คุณใหญ่แกเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ที่จริงแกใจดีมากนะ เป็นที่รักของคนงานที่นี่ทุกคน” อัษฎายู่ปากเมื่อได้ยินคำเยินยอออกจากปากแม่ “อัดของแม่ก็เป็นคนน่ารัก ร่าเริง”

   “ชมอีกหน่อยผมจะลอยแล้วนะครับ” เสียงหัวเราะของลูกชายทำให้นมอิ่มเหยียดยิ้มบางๆ “คุณใหญ่ของแม่เป็นคนดีอัดก็พอรู้ แต่ปากเขาเสียอันนี้แหละที่อัดไม่ชอบ ถ้าต้องให้อัดแต่งงานด้วย มีหวัง ฆ่ากันตายพอดี”

   “ไม่หรอกน่า” น้ำเสียงไม่ได้จริงจังของลูกชายเริ่มคลายกังวลว่าจะปฏิเสธ “อัดตกลงใช่ไหมลูก”

   “คุณใหญ่เขาไม่ตกลงหรอก อัดพนันได้เลย”

   “เรื่องนั้นต้องรอคุณนายเขาอีกที ตอนนี้คงกำลังคุยอยู่” นมอิ่มเหม่อมองออกไปด้านนอก ป่านนี้ไม่รู้จะคุยกันไปถึงไหน ไม่แน่ อาจจะเป็นอย่างที่ลูกชายเธอว่า คุณใหญ่อาจไม่ยอมและปฏิเสธหัวชนฝาไปแล้ว




   เช้าวันรุ่งขึ้น อัษฎาปรือตาตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เห็นคือเพดานสีขาว ร่างบางลุกขึ้นนั่งแล้วบิดขี้เกียจอย่างเช่นทุกวัน หากแต่วันนี้มีบางอย่างที่ต่างออกไป เมื่อเก้าอี้หน้ากระจกมีคนนั่งหน้าบึ้งอยู่ คนเพิ่งตื่นนอนตกใจจนแทบหล่นจากเตียงนอน

   “คะ คุณใหญ่” ยิ่งกว่าเห็นผีซะอีก

   “ตื่นสาย” น้ำเสียงเรียบเฉยกับดวงตานิ่งที่มองตรงมายังคนที่ยังนั่งจุมปุ้กอยู่บนเตียง “รีบไปอาบน้ำแปรงฟันสิ แล้วขึ้นไปข้างบน เขารอนายอยู่แค่คนเดียว” คำสั่งกลายๆ ทิ้งท้าย ก่อนคนสั่งจะเดินออกจากห้องไป อัษฎารีบลุกออกมาเกาะกรอบบานประตูที่เปิดทิ้งไว้แล้วต้องสะดุ้งเมื่อคนที่เพิ่งเดินออกไปหันกลับมามอง

   ใช้เวลาอาบน้ำแปรงฟันทำธุระแบบเร่งรีบจนลืมเช็ดผมให้แห้ง อัษฎาวิ่งขึ้นไปบนเรือนเจอกับแม่ที่ยืนอยู่ข้างคุณพิกุล ทุกสายตามองตรงไปยังคนมาสายที่ผมยังเปียกโชก

   “รีบมากใช่ไหมเราน่ะ ผมเผ้าไม่เช็ดให้แห้ง” คุณพิกุลเอ็ดเบาๆ คนถูกเอ็ดโค้งศีรษะเชิงขอโทษ “นั่งสิ”

   “ครับ” อัษฎามองหน้าแม่แป๊บหนึ่ง เมื่อได้รับการพยักหน้าจึงยอมนั่งลงตรงข้ามกับใหญ่

   “นมอิ่มมานั่งข้างฉันมา” คุณพิกุลยังตบที่นั่งข้างๆ ให้คนสนิทมานั่งด้วย เมื่อถึงเวลา เจ้าของบ้านก็เริ่มเปิดประเด็นทันที “สรุปว่า ตกลงกันทั้งสองฝ่ายสินะ” ไม่มีเสียงตอบรับให้ได้ยิน แต่ก็ไม่มีคำปฏิเสธให้เห็นเช่นกัน “นมอิ่มก็ไม่ขัดใช่ไหมที่ฉันจะสู่ขอตาอัดให้กับตาใหญ่”

   “ค่ะ” รอยยิ้มอบอุ่นอย่างที่อัดเห็นเช่นทุกวันฉายขึ้นบนใบหน้า อัษฎาลอบสังเกตคนที่นั่งตรงกันข้ามซึ่งไร้ท่าทางขัดข้องอย่างแปลกใจแต่ก็ไม่กล้าถามออกมา “คุณใหญ่คงไม่รังเกียจลูกชายของดิฉันใช่ไหมคะ ตาอัดแกเป็นเด็กเอาแต่ใจเพราะดิฉันตามใจเกินไปหน่อย หากคุณใหญ่จะช่วยปรามแก...”

   “แม่...” พอได้ยินแม่พูดออกมา อัษฎาก็ต้องรีบขัดขึ้น

   “ตาใหญ่ยิ่งกว่าเอาแต่ใจอีกนะนมอิ่ม” คุณพิกุลพูดบ้าง คราวนี้พากันหัวเราะเกือบหมด ยกเว้นคนที่ถูกยกว่าเอาแต่ใจมากกว่า “งั้น พรุ่งนี้ก็พาน้องไปเลือกแหวนที่ร้านในตัวเมือง เลือกเสร็จก็แวะไปพบคุณทัศนัยด้วย แม่ส่งรายละเอียดให้เขาแล้ว” คำสั่งกลายๆ ทำให้เห็นท่าทางขัดใจบ้างจากคนตรงหน้า อัษฎาเลือกที่จะจ้องหน้าอย่างไม่เกรงกลัว

   “แล้วฤกษ์ล่ะคะคุณ”

   “ฉันให้พระดูฤกษ์ไว้แล้ว ฤกษ์ดีใกล้ๆ นี้ก็อาทิตย์หน้า” กำหนดการที่กะทันหันทำเอาใหญ่และอัษฎาเบิกตากว้าง ทำไมฤกษ์มันถึงกระชั้นชิดเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ควรจะให้เวลาทำใจอีกสักหน่อย

   “ไม่เร็วไปหรือครับแม่” ใหญ่ทักท้วงขึ้นมา “อาทิตย์หน้าเราจะไปเตรียมงานทันได้ยังไง” เพราะเคยผ่านการแต่งงานมาก่อน อีกทั้งงานที่ผ่านมายังใช้เวลาตระเตรียมร่วมหลายเดือน

   “ไม่เร็วไปหรอก เราจะจัดงานเล็กๆ ผูกข้อไม้ข้อมือ แล้วก็ทำบุญพระก็เท่านั้น” นมอิ่มลอบมองเจ้านายที่บอกรายละเอียดได้อย่างถี่ถ้วน คงคิดเรื่องงานก่อนหน้ามาหลายวันแล้วกระมัง อย่างฤกษ์งามยามดีก็ด้วย ไปดูไม่บอกไม่กล่าว

   “เอ่อ...” คราวนี้เป็นอัษฎาที่ขัดขึ้น

   “มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” พอถูกสายตาสามคู่มองมา คนที่จะพูดก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธ ก็ใครจะไปกล้าท้วงอยากขอเวลาทำใจกัน         “งั้นตกลงตามนี้นะ พรุ่งนี้พาน้องเข้าเมืองแต่เช้าด้วยล่ะ” เมื่อถูกชี้นิ้วสั่ง ใหญ่จึงต้องพยักหน้าลงอย่างช่วยไม่ได้ ก็ออกตัวจะยอมแต่งงานเพื่อให้น้องชายสมหวัง หากคำทำนายบ้านั่นไม่ทำให้ชีวิตของเล็กดีขึ้นละก็ จะไปเผาบ้านหมอดูให้วอดเลยทีเดียว




   “คุณเล็กขา ตื่นได้แล้วค่า ลูกเจี๊ยบจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว คุณเล็กขา” เสียงแหลมเล็กดังจนแสบแก้วหู แต่คนที่ยังนอนอยู่กลับไม่มีท่าทีว่าจะตื่นแต่อย่างใด “คุณเล็กขา” คราวนี้ไม่ได้มาแค่เสียง แต่ลูกเจี๊ยบยังเปิดผ้าม่านให้แสงแดดส่องเข้ามา อีกทั้งยังเพิ่มเสียงตะโกนให้ดังขึ้นไปอีก

   “หนวกหู” สุดท้ายคนที่นอนหลับก็ต้องลุกขึ้นมานั่ง สภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงจนแทบดูไม่ได้ เสื้อผ้าที่สวมใส่หลุดลุ่ยโดยที่เจ้าตัวไม่ใส่ใจ “เอะอะทำไมตั้งแต่เช้าเนี่ย คนจะหลับจะนอน”

   “เช้าที่ไหนกันคะ นี่มันจะเที่ยงแล้ว คุณเล็กเมาแล้วชอบตื่นสายตลอด” เมื่อถูกเสียงแหลมบ่น คนเพิ่งตื่นถึงกับยกมือขยี้ผมตัวเองไปมา “แล้วก็ เพราะคุณเล็กตื่นสายแบบนี้เลยพลาดข่าวดีไปอย่างน่าเสียดาย” ลูกเจี๊ยบพูดไปยิ้มไปสร้างความสงสัยให้คนตกข่าว

   “ข่าวดีอะไร” หรือจะเรื่องส่งออก นั่นเขาก็รู้แล้วไม่น่าจะใช่ข่าวดี หรือว่าม้าที่เลี้ยงไว้ในคอกท้ายไร่ออกลูก แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็ในเมื่อตัวเมียเพิ่งออกลูกไปได้ไม่นาน

   “ข่าวดีที่ว่าคือ...คุณใหญ่กำลังจะแต่งงานกับพี่อัดน่ะสิคะ”

   “ก็แค่...หา พี่ใหญ่จะแต่งงาน กับใครนะ”

   “กับพี่อัดค่ะ พี่อัดลูกของนมอิ่ม”

   คล้ายกับถูกตีด้วยไม้หน้าสามจนมึน เล็กนั่งอยู่บนเตียงด้วยความเหม่อ นี่เขาได้ยินได้ฟังไม่ผิดใช่ไหม พี่ใหญ่พี่ชายของเขากำลังจะแต่งงานอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นคือแต่งงานกับลูกของนมอิ่มซึ่งเป็นผู้ชาย ไม่น่าเชื่อ ต้องล้อเล่นอยู่แน่ๆ ไม่มีทางเชื่อ

   “อย่ามาพูดเล่นแบบนี้นะลูกเจี๊ยบ ฉันไม่ชอบ” เล็กบอกเสียงเข้ม แต่เด็กสาวยังยืนกรานว่าคือเรื่องจริง “ฉันไม่เชื่อ” ว่าแล้วก็รีบลุกจากเตียงไปที่ประตู หากไม่มีแรงที่ดึงชายเสื้อไว้คงพุ่งออกนอกประตูไปแล้ว “ดึงทำไมเนี่ยลูกเจี๊ยบ”

   “คุณเล็กยังออกไปแบบนี้ไม่ได้ค่า” แรงที่น้อยนิดเมื่อเทียบกับผู้ชายตัวใหญ่เกือบทำให้ลูกเจี๊ยบล้ม

   “ฉันจะไปหาพี่ใหญ่ ปล่อย”

   “คุณเล็กยังไม่ได้อาบน้ำแปรงฟันเลย ตอนนี้ตัวเหม็นสุดๆ”

   “จริงด้วย ฉันลืมไป”

   ร่างสูงใหญ่ย้อนกลับเข้าห้อง ข้าวของถูกรวบขึ้นแล้วตรงเข้าห้องน้ำทันที ทิ้งให้คนปลุกส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ คนขี้เมายังไงก็คือคนขี้เมา

   ใช้เวลาไม่นานเล็กก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาพี่ชายตัวเองในไร่ ร่างคุ้นเคยยืนคุยอยู่กับลุงเหมือนหัวหน้าคนงาน เมื่อใหญ่หันมาเจอน้องชายตัวเองในสภาพที่ดูดีกว่าตอนนอนก็นึกชมลูกเจี๊ยบที่ทำงานได้ดี

   “ออกมาได้แล้วหรือแกน่ะ” ใหญ่พูดแขวะทันทีหลังจากลุงเหมือนเดินแยกตัวไป เป็นจังหวะดีที่เล็กจะถามพี่ชายเรื่องที่ได้ยินมาจากลูกเจี๊ยบ

   “พี่ใหญ่จะแต่งงานจริงๆ เหรอ กับลูกนมอิ่มน่ะ” คำถามที่ได้รับคำตอบคือการพยักหน้า เล็กแทบเซเมื่อเห็นพี่ชายไม่โวยวายอะไรอย่างที่ควรจะเป็น “นี่พี่ใหญ่จะแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันเองเหรอครับ”

   “มันเรื่องของฉัน แกควรสนใจเรื่องของแกมากกว่า ไปทำงานซะ” คำสั่งเฉียบขาดพร้อมสายตาดุทำให้คนที่มีความสงสัยเต็มหัวต้องหยุด เล็กมองตามหลังพี่ชายที่เดินห่างออกไป หรือว่าที่แต่งงานเพราะเขา

   ความสงสัยที่มีมากทำให้ลืมมองทางจนเผลอเดินชนกับคนที่เดินสวนมา เล็กรีบเอ่ยคำขอโทษแต่พอเห็นว่าชนใครเข้าก็รีบคว้าแขนทั้งสองข้างคนนั้นแล้วเขย่า

   “นายจะแต่งงานกับพี่ใหญ่เป็นเรื่องจริงเหรอ ล้อเล่นฉันอยู่ใช่ไหม”

   “คุณเล็กผมเจ็บ” อัษฎานิ่วหน้าพยายามงัดแงะมือหนาให้ออกจากแขน พอคนจับได้สติก็รีบปล่อยและเอ่ยคำขอโทษ “ที่ผมแต่งงานกับคุณใหญ่คือเรื่องจริง”

   “ทำไมต้องแต่ง”

   “คุณเล็กต้องไปถามคุณนายเอาเองครับ แล้วก็ คุณเล็กต้องเซ็นต์เอกสารด้วย ผมเอาไว้บนโต๊ะ เอกสารต้องใช้ด่วนนะครับ” อัษฎาย้ำจนคนเกเรไม่ยอมเข้างานต้องเบือนหน้าหนี

   “รู้แล้วน่า” เล็กว่าแล้วก็เดินไปทางออฟฟิต อัษฎายืนมองคนที่เดินไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทุกคนต่างก็หาทางทำให้เล็กมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่จะให้ดีกว่านี้ถ้าเจ้าตัวทำตัวเองให้ดีตาม

   “มายืนอู้อะไรแถวนี้ ไม่ไปทำงานของตัวเอง” เสียงเรียบๆ ดังในระยะใกล้ พอหันไปมองก็เจอคนปั้นหน้ายักษ์ยืนอยู่ข้างๆ
 
   “ผมไม่ได้ยืนอู้นะครับ” อัษฎาเถียง

   “ก็ฉันเห็นนายยืนเฉยๆ ไม่ไปทำงาน นี่แหละคืออู้”

   “ผมไม่ได้ยืนเฉยๆ ผมกำลังหายใจอยู่นี่ไง ไปดีกว่า”

   “นี่นาย...”

   อยากจะด่าใจแทบขาด แต่ตัวต้นเหตุเดินไปไกลแล้ว ใหญ่ได้แต่เตะเศษหญ้าเพื่อระบายความโมโหที่ถูกกวนอารมณ์ แล้วแบบนี้การแต่งงานที่จะเกิดขึ้นเขาจะทนได้นานสักแค่ไหน ยิ่งเห็นคนที่เดินจากไปหันหน้ามาแลบลิ้นใส่ยิ่งอยากจะวิ่งไปตบกะโหลกแรงๆ สักทีสองที นี่เขาไม่น่ากลัวอีกแล้วหรืออย่างไรกัน เด็กนั่นถึงกล้ากวนโมโหขนาดนี้ เอาเถอะ ผ่านช่วงเวลานี้ไปก่อน เด็กนั่นจะได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของเขาที่แท้จริง


...TBC
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-11-2016 21:16:24
คุณใหญ่ชอบขู่จังนะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 17-11-2016 21:53:40
 o13
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 17-11-2016 22:00:50
ดุจริงๆ อยากรู้แต่งแล้วจะดุไปได้นานแค่ไหนกันนนนนนนน :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 17-11-2016 23:03:40
งิออออออออออออออออออ คุณใหญ่เอาโหดๆโฉดๆเลย ตบจูบๆๆๆ :o8: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 17-11-2016 23:47:27
อยากรู้จังคุณใหญ่แต่งงานแล้วจะดุแบบนี้หรือจะหงอเพราะกลัวเมีย :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 18-11-2016 00:47:43
ตลก กวนกันไปกวนกันมา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-11-2016 01:10:02
 :-[ :3123: :pig4:

มวยเหมาะคู่จริงๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 18-11-2016 15:34:20
 :pig4: เราชอบเรื่องนี้อ่ะ ลุ้นตลอด มาลงบ่อยๆน้า อย่าหายไป
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 18-11-2016 16:56:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: y_dao ที่ 19-11-2016 08:25:11
ตามมาจากเรื่องน้องกลอยปะเกรียน5555. ชอบผลงานคุณมากคร้า จะตามต่อนะคะ
ชอบคุณใหญ่จังปากร้ายสุดๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 19-11-2016 09:00:28
กวนกันน่ารักดี
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 4 << [P.2] // [17/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 19-11-2016 21:30:31
เข้ามาปูเสื่อรอคนเขียน :hao5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 20-11-2016 23:41:16
5



       “คุณใหญ่เอาเอกสารมาครบแน่หรือครับ” อัษฎาถามย้ำเมื่อคนข้างๆ ต้องวิ่งกลับเข้าไปเอาของที่ลืมไว้มาสองหนแล้ว คนขี้ลืมพยักหน้าส่งๆ มือก็สตาร์ทเครื่องเตรียมออกรถ ก่อนรถจะเคลื่อน ลูกเจี๊ยบวิ่งกระหืดกระหอบมาหา ในมือถือซองสีน้ำตาลคล้ายๆ ซองที่วางอยู่เบาะด้านหลัง

   “อะไรน่ะ” ใหญ่เอ่ยถามเมื่อเด็กสาวมายืนเกาะขอบกระจกรถ

   “ซะ ซอง ซอง” เพราะความเหนื่อยทำให้พูดไม่เป็นคำจนอัษฎาต้องใช้มือโบกให้คลายร้อน “ซองเอกสารค่า คุณเล็กบอกคุณใหญ่หยิบซองผิดมา” คนหยิบผิดรีบถลึงตาใส่เมื่อถูกหัวเราะเยาะ

   “เออๆ” อัษฎาหยิบซองผิดคืนและเก็บซองที่ถูกต้องวางไว้ด้านหลังตามเดิม “หยุดขำได้แล้ว จะขำอะไรหนักหนา”

   “ก็มันน่าขำนี่นา” แม้พยายามจะหยุด แต่ความน่าขันก็กลบเกลื่อนไม่ได้ คนสั่งห้ามเลยออกรถแบบกระชาก เล่นเอาคนขำอยู่หัวโขกกับหน้ารถจนหน้าผากแดง “มันเจ็บนะคุณใหญ่” อัษฎามุ่ยหน้ายกมือคลำหน้าผากป้อยๆ

   “ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ลอยหน้าลอยตาพูดอย่างไม่สำนึกผิด ก่อนจะออกเดินทางสู่ตัวเมืองตามคำสั่งของแม่

   ถนนเส้นมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองยังคงคลาคล่ำไปด้วยรถรา นั่นเพราะตอนนี้ยังเช้าอยู่มากผู้คนกำลังเริ่มทยอยเข้าไปทำงานในตัวเมือง หากรู้ว่ารถจะติดหนักขนาดนี้น่าจะออกจากไร่สายสักหน่อย จะได้ไม่ต้องมาทนให้รถติดแหง็กขยับทีละคืบสองคืบแบบนี้

   “รถติดจัง” อัษฎาบ่นเบาๆ นี่ขนาดหนีจากเมืองกรุงมาต่างจังหวัดก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องรถติด

   “สงสัยรถจะชน” ใหญ่ออกความคิดเห็น ใบหน้าเข้มมองสภาพการจราจรอย่างเบื่อหน่ายไม่แพ้กัน นี่คือสาเหตุที่ว่าทำไมใหญ่ถึงชอบอยู่ในที่ๆ ห่างไกลจากตัวเมือง หากเป็นที่ไร่ ป่านนี้คงทำงานอะไรได้หลายอย่างไปแล้ว ไม่ต้องมาเสียเวลาทำแค่เพียงนั่งเฉยๆ รอรถขยับแบบนี้ ในระหว่างที่นั่งรอเฉยๆ อัษฎาก็นึกเบื่อเลยคิดจะถามหลายๆ เรื่องกับใหญ่ที่นั่งหน้าเซ็งไม่แพ้กัน

   “เอ่อ...” พอคนข้างๆ เอ่ยขึ้น ใหญ่ก็หันไปมอง “คุณใหญ่ทำไมถึงยอมแต่งงานกับผมล่ะครับ” ข้อสงสัยถูกถามออกไป แม้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตอบหรือเปล่าแต่ก็ยังอยากจะถาม

   “มันไม่ใช่เรื่องของนาย” น้ำเสียงเรียบๆ ตอบกลับ ดวงตาคมมองออกไปยังท้องถนนที่รถเริ่มเคลื่อนตัวไปได้บ้าง “ว่าแล้ว รถต้องชน” ภาพด้านซ้ายคือสภาพรถสามคันชนท้ายกัน

   “ต่างคนก็ต่างรีบเกินไป” อัษฎาพูดขึ้นขณะขับผ่าน

   “ขับไม่เก่งกันต่างหาก” ใหญ่ว่า มุมปากยกยิ้มเหมือนเย้ยหยัน

   “คุณใหญ่ขับเก่งกว่าพวกเขาสินะครับ” อดที่จะเหน็บแหนมคนมั่นใจเกินเหตุไม่ได้

   “แน่นอน” ยืนยันหนักแน่นแถมยังยืดจนดูน่าหมั่นไส้

   “งั้นสมมติว่า คุณใหญ่ขับรถไวมาก การจราจรค่อนข้างโล่ง แต่พอขับเข้าตัวเมืองปุ๊บรถกลับติดมากมายจนน่าปวดหัว แล้วอยู่ๆ คันหน้าเกิดเบรกกระทะหัน คุณใหญ่ก็เบรกตาม...แล้วคันหลังจะทำยังไง” คล้ายกับปัญหาเชาน์ถูกยกมาถาม อัษฎาเผลอยิ้มออกมาเมื่อคนที่มีชื่ออยู่ในเรื่องสมมติทำหน้าเคร่งเครียด ที่จริงแล้ว มันเป็นคำถามบ้านๆ แทบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ “คุณใหญ่” เรียกซ้ำไปอีกรอบ

   “คันหลังก็ต้องเบรกตามสิ จะพุ่งมาชนหรือไง” คำตอบที่ได้ทำเอาคนถามหัวเราะลั่นรถ ใหญ่ชักสีหน้าที่ถูกหัวเราะใส่ “หัวเราะอะไรวะ”

   “ก็คันหลังไม่เกาหรือครับ” คำเฉลยไม่ได้ทำให้ใหญ่คิดได้ในทันควัน แต่กลับนั่งคิดอยู่ชั่วครู่ถึงร้องอ๋อออกมา “เข้าใจที่ผมถามหรือยังครับ”

   “เออ ถามมาได้” คนตอบไม่ได้หน้าคว่ำคล้ายกับโมโห หากแท้จริงแล้วรู้สึกเขินมากกว่าที่ตอบคำถามง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ ทั้งที่ไม่ต้องคิดอะไรเลยด้วยซ้ำ

   ความตึงเครียดที่เคยมีมาแต่ก่อนดูน้อยลงไปมาก แต่ก็ยังไม่หมดเลยซะทีเดียว อัษฎาเริ่มกล้าที่จะถามเรื่องส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งใหญ่ก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างตามอารมณ์ตัวเอง มีบ้างที่ถามกลับด้วยความอยากรู้ จนรถส่วนตัวเลี้ยวเข้าจอดที่หน้าร้านขายจิวเวอรี่ที่แม่บอก

   อัษฎาเดินตามใหญ่เข้าไปในร้าน ภายในมีเครื่องประดับเต็มไปหมด ทั้งแหวนเพชร สร้อยอัญมณีสีต่างๆ ตั้งโชว์อยู่ในตู้กระจก พอเห็นแบบนี้แล้วทำไมเขานึกไปถึงตอนที่คบกับแฟนที่เพิ่งเลิกลากันไป อัษฎาเคยชวนแฟนหนุ่มไปซื้อแหวนคู่ที่ร้านจิวเวอรี่ แต่กลับถูกปฏิเสธทุกครั้งด้วยข้ออ้างว่ายุ่งจากงาน ไม่คิดว่าตอนนี้จะได้เข้ามายืนในนี้ อีกทั้งยังซื้อมากกว่าแหวนคู่ซะอีก

   ใหญ่มองไปรอบๆ ร้านเพื่อหาเพื่อนของแม่ ร้านนี้ไม่เคยมา ตอนที่แต่งงานคราวนั้น ภรรยาที่เสียชีวิตไปเป็นคนเลือกร้านและเลือกแบบให้ทุกอย่าง

   ทั้งคู่มัวแต่มองเครื่องประดับจนเพลิน รู้ตัวอีกทีเจ้าของร้านก็มายืนอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์กระจก ใหญ่รีบยกมือไหว้เมื่อรู้ว่าเป็นเพื่อนของแม่

   “แม่เธอบอกน้าไว้แล้ว ลองเลือกๆ ดูนะจ๊ะว่าชอบแบบไหน น้าจะคิดราคาให้แบบพิเศษเลยล่ะจ้ะ” เจ้าของร้านอัญมณีจิวเวอรี่ฉีกยิ้มหวาน ดวงตารีคอยสังเกตลูกชายคนโตของเพื่อนและว่าที่คู่หมั่นซึ่งเป็นผู้ชาย คราแรกที่รู้ก็ตกใจจนนึกขึ้นได้ว่าคุณพิกุลเคยเล่าเรื่องคำทำนายให้ฟัง คุณมณีเลยเข้าใจว่าเพื่อนอยากจะช่วยลูกชาย

   อัษฎาก้มมองแหวนเพชรที่วางอยู่ในตู้กระจก แต่ละวงมีเพชรเม็ดโตประดับอยู่ บางวงก็เม็ดเดียว บางวงก็เกินสามเม็ด หากดูราคาแล้วคงแพงน่าดูจนไม่กล้าชี้เลือก

   “เอ่อ...” เสียงของคนข้างๆ ทำให้ใหญ่หันไปมอง “พอมีแหวนที่ไม่มีเพชรแล้วถูกๆ บ้างหรือเปล่าครับ” คำถามที่ได้ยินทำเอาคุณมณีหัวเราะ ต่างจากใหญ่ที่เบิกตาโตอย่างตกใจ

   “นี่นายไปถามอะไรแบบนั้น” ใหญ่เอ็ด

   “แหม หนูจะแต่งงานกับเจ้าของไร่ดอกไม้รายใหญ่ขนาดนี้ ราคาแหวนในตู้ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งร่วงหรอกจ้ะ” คุณมณีหัวเราะร่วนจนใหญ่ปั้นหน้าไม่ถูก รู้สึกอายกลายๆ

   “คือผม...”

   “ขอดูวงนี้ครับ” ใหญ่พูดขัดขึ้นมา นิ้วยาวชี้ไปที่แหวนเรียบมีเพชรเม็ดเล็กๆ ฝังอยู่ ดูเหมาะกับนิ้วผู้ชาย ไม่หวือหวาแต่ดูสวย
 
   แหวนวงสวยถูกวางอยู่บนเคาน์เตอร์ ใหญ่ใช้ให้อัษฎาลองแหวนดู แต่คนเห็นราคาแล้วตาโตทำอ้อยอิ่ง จนทนไม่ไหวต้องลองให้เองโดยการจับมือแล้วสวมเข้านิ้วนาง อัษฎาพยายามขืนไว้แต่แรงสู้ไม่ได้เลยต้องปล่อยให้แหวนวงนั้นเลื่อนเข้านิ้วนางจนสุด

   “พอดีเลยนะจ๊ะเนี่ย” คุณมณีฉีกยิ้มให้ สายตาวัยกลางคนจ้องมองปฏิกิริยาของชายหนุ่มทั้งสองที่ดูๆ ไปก็เหมาะสมกันดี อีกทั้งว่าที่คู่หมั่นของลูกชายเพื่อนก็ดูหน้าตาหวาน นัยน์ตาสวย

   “เอาสองวงนี้ครับ” หลังจากใหญ่ลองสวมของตัวเองพอดีก็ถอดออก อัษฎาก็รีบถอดวางข้างๆ กัน รู้สึกไม่กล้าสวมสักนิด ราคาเฉียดครึ่งแสนแบบนั้น

   “คุณใหญ่ ผมว่าเอาวงที่เรียบๆ ไม่ดีกว่าหรือครับ” พอเจ้าของร้านเข้าไปด้านหลังอัษฎาก็รีบท้วงออกมา

   “เงียบๆ เถอะน่า ไม่ได้ยินเหรอว่าขนหน้าแข้งฉันไม่ร่วงน่ะ” ใหญ่เหล่ตามองก่อนตอบ ก็รู้สึกดีที่เด็กข้างๆ ไม่เห็นแก่ได้ หากเป็นคนอื่นอาจจะเลือกวงแพงๆ ไปแล้ว แต่นี่กลับอยากได้ที่มันถูกๆ เอาซะแทบขายหน้า

   “งั้นแว๊กดูครับ ออกหมดแน่” คนยั่วโมโหรีบหลบเมื่อคนขี้โมโหถลึงตาดุใส่ อัษฎาเดินเลือกดูเครื่องประดับอย่างอื่นเพื่อรอเวลาที่เจ้าของร้านคิดเงิน ดวงตากลมสะดุดกับสร้อยคอเส้นสวยมีจี้รูปดาวเล็กๆ

   “อยากได้เหรอ” มัวแต่เหม่อจนไม่เห็นว่ามีคนมายืนอยู่ข้างๆ ใหญ่มองคนที่พามาจ้องมองสร้อยในตู้จึงลองเดินมาดู พอเห็นว่าจ้องจริงก็เลยเอ่ยถามออกไป

   “เปล่าครับ เห็นมันสวยดีเฉยๆ” หันหน้ามาตอบพร้อมรอยยิ้ม แล้วเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ตามเดิม

   “เชี่ยเอ้ย” คำหยาบคายสบถให้ได้ยินแค่ตัวเอง หลังจากถูกรอยยิ้มหวานพุ่งเข้าใส่จนรู้สึกแปลกในอก ใหญ่พยายามทำให้หัวใจเต้นช้าลงจนมีเสียงเรียกให้ไปเซ็นต์ในใบท้ายสลิปบัตรเครดิต พอได้ของมาแล้ว สองหนุ่มก็ยกมือไหว้คุณมณีที่อวยพรงานแต่งก่อนจะออกจากร้าน คำอวยพรที่ได้ทำเอาสองคนแทบไม่มองหน้ากันจนถึงรถ


   ‘รักกันนานๆ นะจ๊ะ’



   ออกจากร้านมาด้วยความผิดสังเกต ใหญ่เหลือบมองคนข้างๆ ที่ดูสงบปากสงบคำจนเกินไป สาเหตุคงจะมาจากขนมกล่องใหญ่ที่เพิ่งได้จากคุณมณีมา ใหญ่มองอัษฎาที่กินเหมือนเด็กตัวเล็ก อย่างหลานของเขาก็มักจะชอบดมขนมแล้วยู่ปาก กว่าจะกินได้ก็นานพอดู

   “กินเหมือนเด็ก” ใหญ่พูด มีเสียงขำในลำคอเล็ดลอดออกมา

   “ตรงไหน” อัษฎายังเคี้ยวขนมมาการองเนื้อนุ่มถาม

   “ก็ตรงมันเลอะ” นิ้วยาวชี้ริมฝีปากตัวเองบอกตำแหน่งเลอะ แต่อีกคนกลับดูเงอะงะเช็ดไม่ถูกสักทีจนเริ่มโมโหเลยยื่นมือไปเช็ดให้เอง “ก็แค่นี้”

   ฉับพลันที่นิ้วแตะริมฝีปากผสานกับดวงตาที่สบกัน สายฟ้าแล่นปราดจนต้องรีบผละออกจากกันคล้ายถูกช็อต ใหญ่รีบกระแอมออกมาและทำเป็นไม่สนใจแต่ตาก็ยังคอยแอบมองคนที่ยังกินขนมเป็นเด็ก ทั้งที่ขอบปากแดงนั่นเลอะขนมอีกแล้วแต่เจ้าตัวยังไม่คิดจะสนใจอีก เห็นแล้วมันหงุดหงิด

   “เลิกกินสักที” เมื่อทนเห็นไม่ได้ ใหญ่ก็ต้องพูดออกไป แม้จะเป็นคำสั่งที่แปลกไปสักหน่อย

   “ทำไมล่ะ หรือคุณใหญ่ก็อยากกิน” อัษฎายื่นกล่องขนมไปตรงหน้า แต่อีกฝ่ายเบือนหน้าหนี เลยเอากลับมาปิดฝากล่องและเก็บลงถุง ไม่รู้เสียงเคี้ยวไปกวนสมาธิขับรถหรือเปล่าถึงถูกสั่งให้หยุดกิน

   แม้อีกคนจะหยุดกินไปแล้ว แต่รอยเลอะข้างริมฝีปากยังคงอยู่ พยายามจะไม่สนใจไม่มองแต่ก็อดไม่ได้ ใหญ่ใช้จังหวะที่รถติดไฟแดงจับหน้าขาวให้หันมาแล้วหยิบทิชชู่มาเช็ด อาจลงน้ำหนักมือมาไปหน่อยเลยถูกมือเล็กตีแขนดังเพี๊ยะ

   “ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ” อัษฎามองค้อนคนทำคุณ แรงควายขนาดนี้จะถือว่าทำคุณได้ไง นี่มันจะฆ่ากันชัดๆ

   “คุณใหญ่ไม่ลองโทรหาคุณทัศนัยก่อนหรือครับ” นัดไว้แต่ไม่ระบุเวลาแบบนี้อาจคลาดเคลื่อนกันจนเสียเวลาทั้งสองฝ่าย
 
   ใหญ่กดมือที่แนบกับกระดาษตาก็มองถนน บ่อยครั้งที่รถสวนทางมาทำให้ต้องวางมือถือเพื่อไปจับพวงมาลัย พอเห็นเช่นนั้นอัษฎาจึงอาสานัดแนะให้ เมื่อได้รับคำอนุญาต นิ้มเรียวก็รีบกดหมายเลขตามที่เห็น แนบโทรศัพท์เครื่องเก่าข้างหูรอฟังสัญญาณชั่วครู่ปลายสายก็ตอบรับ

   “สวัสดีครับ ผมโทรจากไร่พิกุลจันทร์หอมนะครับ”

   (อ๋อครับ ผมทัศนัยเอง มิทราบว่าผมกำลังคุยอยู่กับคุณใหญ่ใช่หรือไม่ครับ) ปลายสายถามกลับมา ดวงตากลมโตจ้องมองเจ้าของเครื่องที่หันมามองอยู่บ่อยครั้ง

   “ไม่ใช่ครับ ผมชื่ออัษฎาเป็นตัวแทนคุณใหญ่ มิทราบว่าคุณทัศนัยอยู่ที่ร้านอาหารหรือเปล่าครับ” เจ้าของเครื่องทำหน้าขัดใจที่คนถามไม่เข้าเรื่องสักที จะพร่ำพรรณนาอะไรมากมาย

   (ครับ คุณใหญ่จะเข้ามาแล้วหรือครับ)

   “ครับ ใกล้จะถึงแล้ว”

   (ผมทราบแล้วครับ ประเดี๋ยวหากคุณมาถึงบอกกับเด็กๆ ได้เลย แล้วพวกเขาจะพาคุณมาหาผมเอง)

   ปลายสายตัดไปแล้ว อัษฎาคืนโทรศัพท์รุ่นโบราณให้เจ้าของ พร้อมกับถ่ายทอดทุกคำที่ได้ยินให้ฟัง ใหญ่พยักหน้าตอบรับ ไม่นานรถก็เลี้ยวเข้าจอดหน้าร้านอาหารที่สนใจผลิตภัณฑ์จากไร่ ใหญ่พอเปิดประตูได้ก็เดินลิ่วๆ ไม่สนใจเอกสารหลายอย่างที่วางกองอยู่ด้านหลังเบาะ คนลงช้ากว่าจึงต้องรีบรวบรวมแล้ววิ่งตามหลังไป

   “คุณใหญ่ลืมของตลอด แก่แล้วหรือครับ” คำยั่วเย้าจนเกือบยั้งขาไม่อยู่ โชคดีที่มีบริกรเดินเข้ามาหาพร้อมเอ่ยบอกว่าคุณทัศนัยรออยู่แล้ว

   แม้จะเตะไม่ได้ แต่ใหญ่ก็ใช้หัวเข่าดันข้อพับด้านหลังของอีกฝ่ายจนอัษฎาแข้งขาอ่อนล้มพับลงไปนั่ง เสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดียามเดินผ่านไปสร้างความแค้นเคืองจนคิดอยากจะเอาคืนบ้าง

   “เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” บริกรหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมารีบเข้ามาช่วยพยุง อัษฎายิ้มขอบคุณไปแล้วเดินตามหลังไวๆ ที่หายเข้าห้องรับรอง

   คนมาสายรีบโค้งศีรษะขอโทษ ดวงตากลมส่งสายตาคาดโทษไปยังคนที่ทำให้ต้องมาช้า

   “งั้นเรามาคุยธุระกันก่อนแล้วค่อยรับประทานอาหารกลางวันกันดีไหมครับ” ทัศนัยเอ่ยถามความเห็น นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องคนมาสายด้วยความขำ เนื่องจากใบหน้าขาวติดง้ำงอเหมือนเด็กๆ

   “ยังไงก็ได้ครับ” ใหญ่ตอบรับแบบสุภาพก่อนจะเดินตามเจ้าของร้านไปนั่ง

   การตกลงพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่น ทางฝ่ายร้านอาหารก็ชื่นชอบรสชาติและกลิ่นจึงติดใจ ยิ่งวันนี้ยังมีของฝากเป็นแบบที่ชอบมาให้ชิมอีก

   “ผมชอบรสชาติไวน์ที่ไร่คุณใหญ่จริงๆ ครับ กลมกล่อมจริงๆ” หลังจากละเลียดดื่มไวน์ทัศนัยก็ชมออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

   “ขอบคุณครับ ผมพยายามปรับลดส่วนลงผลที่ได้ก็น่าพอใจทีเดียวครับ”

   “จริงครับ รสชาติต่างจากที่เคยได้ชิม” การพูดคุยดูผ่อนคลายอย่างน่าแปลกใจ ขนาดอัษฎายังยิ้มออกมาเมื่อทุกอย่างราบรื่น ก่อนมือขาวจะชะงักก่อนถึงแก้วชากลิ่นหอม “แล้วนี่...ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”

   “ผมชื่ออัษฎา เรียกว่าอัดก็ได้ครับ” คนแนะนำตัวยิ้มแป้นเรียกเสียงขำจากทัศนัยได้อีกรอบ

   “อ๋อ งั้นเมื่อสักครู่ก็เป็นคุณใช่ไหมครับที่โทรมา” คำพูดดูไม่คิดอะไร แต่สายตาช่างวาววับ แม้นคนที่โต้ตอบจะไม่สังเกตอะไร แต่ไม่รอดพ้นสายตาของคนที่นั่งจิบไวน์เงียบๆ ที่จับจ้องอยู่

   “ครับ”

   “งั้นหรือครับ เออใช่ นี่ผมคงชวนคุยนานจนเลยเวลาอาหารซะแล้ว คุณอัดคงหิวแย่” ใหญ่ขมวดคิ้วที่อยู่ๆ ทัศนัยเรียกอัษฎาว่าอัดเฉยๆ ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ ขนาดเขายังไม่เคยจะเรียกเลย

   “ก็นิดหน่อยครับ แต่ก่อนมาผมรองท้องไว้แล้วนิดหน่อย” อัษฎาตอบด้วยท่าทีเริงร่ายิ่งเพิ่มความขัดข้องใจให้คนที่ถูกตัดออกจากวงสนทนา

   “งั้นรอสักครู่”

   ทัศนัยเดินออกไปนอกห้องก็ถึงเวลาที่ใหญ่จะค่อนแคะบ้าง ท่าทางดูน่าหมั่นไส้จนเกินจะอยู่เฉยได้

   “ร่าเริงจริงนะ”

   “ผมก็เป็นแบบนี้ตลอดนั่นแหละ”

   “ทีกับฉันทำไมชอบนักไอ้ยั่วโมโหเนี่ย”

   “ก็คุณใหญ่ยั่วโมโหผมก่อน อย่างเมื่อกี้ที่นอกร้าน ทำผมล้มลงไปไม่คิดจะช่วย” คนงอนทำหน้าคว่ำ

   “ขอโทษ” น้ำเสียงแม้จะแข็งไปสักหน่อยแต่ก็ยังดีที่รู้จักคำนี้ แต่อัษฎายังทำหน้าคว่ำไม่พอใจ “อะไรอีก ก็ขอโทษแล้วไง”

   “แค่นี้เหรอครับ”

   “จะเอาแค่ไหน”

   อัษฎาทำหน้านึกจนรอยยิ้มมุมปากผุดขึ้น

   “ขากลับคุณใหญ่แวะตลาดหน่อยได้หรือเปล่าครับ”

   “แวะทำไม จะซื้ออะไร” ใหญ่มองรอยยิ้มแปลกๆ จากคนตรงหน้าด้วยความไม่ไว้ใจ เพราะไม่รู้จะเล่นอะไรแผลงๆ อีกหรือเปล่า นี่ถ้าไม่รู้ว่าเรียนจบทำงานเป็นละก็ คงคิดว่ายังเป็นเด็กน้อยอยู่แน่ๆ

   บทการสนทนาหยุดลงเมื่อทัศนัยเชิญทั้งคู่ออกไปด้านนอกเพราะอาหารจัดเตรียมไว้หมดแล้ว ร้านอาหารก็เริ่มมีลูกค้าเข้ามาบ้างส่วนใหญ่จะสวมสูทสวมชุดเดรสทั้งนั้น

   มื้อเที่ยงที่แสนอร่อยจนไม่อยากอิ่มจบลง อัษฎายกมือไหว้เพื่อบอกลาโดยมีใหญ่คอยเร่งให้รีบขึ้นรถ แม้จะดูเสียมารยาทไปบ้างแต่อัษฎาก็ต้องรีบไป

   “เดี๋ยวครับคุณอัด” ขณะกำลังจะก้าวขาเสียงร้องทักก็ทำให้ต้องหยุด “สะดวกไหมถ้าผมจะขอเบอร์คุณอัดไว้”

   “ครับ?” เพราะแปลกใจเลยอ้ำอึ้งไม่กล้าให้

   “อย่าเข้าใจผิดนะครับ คือถ้าเกิดผมติดต่อคุณใหญ่ไม่ได้จะได้ติดต่อคุณแทน” ข้ออ้างที่ฟังดูขึ้นทำให้อัษฎาไม่สามารถปฏิเสธที่จะให้เบอร์โทรกลับไปได้ “ขอบคุณนะครับ”



   รถส่วนตัวของใหญ่มุ่งตรงกลับไร่ทันที อารมณ์คนขับขามากับขากลับนั้นต่างจากลิบลิ่ว หากตอนนี้รถราติดแน่นเหมือนขามาละก็ มีหวังรถคันหน้าถูกชนจนยับไม่มีเวลามากังวัลเรื่องคันหลังอีกแล้ว

   “คุณใหญ่จะรีบไปไหนครับเนี่ย” อัษฎาโวยวายลั่นรถ มือขาวยึดกับที่จับแน่น ด้วยความเร็วเกือบท้านรกจนหลับตาตลอดการเดินทาง แม้ตัวจะเอนซ้ายเอนขวาตามการขับที่ไม่ปราณีกับผู้ร่วมเดินทาง “คุณใหญ่ผมยังไม่ได้ตายนะครับ รถครับรถ”

   หมดกันความคิดที่จะแวะตลาดเพื่อซื้อไส้อั่วกับน้ำพริกหนุ่มที่อยากกิน จะขัดตอนนี้ก็กลัวถูกเตะลงรถ ไม่กินก็ได้ โธ่ ที่แน่ๆ ตอนนี้ขอภาวนาให้ตัวเองรอดพ้นกลับไร่ไปหาแม่ด้วยความปลอดภัยก่อน ส่วนเรื่องปากท้องค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน 


...TBC     


ขอบพระคุณทุกท่านที่ชื่นชอบและเป็นกำลังใจให้ค่า จะพยายามพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ ให้มันดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก (สไลด์ตัวนอนราบกับพื้นแล้วไหว้)

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 21-11-2016 00:33:54
คุณใหญ่อารมณ์ร้ายจัง ใจเย็นๆนะค
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-11-2016 01:48:52
 :L1: :L2: :pig4:

เลิฟๆ คุณใหญ่จะฮาาาาาไปไหน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 21-11-2016 02:11:16
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 21-11-2016 02:43:55
แหม่ แต่งไม่ทันจะข้ามวันข้ามคืน อาการก็ออกแล้วนะคุณหย่ายยยยย 555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 21-11-2016 06:23:25
คุณใหญ่ตลกจัง 555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 21-11-2016 06:42:25
ไม่ทันไรหึงน้องแล้วเรอะคุณใหญ่
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 21-11-2016 06:52:30
คุณใหญ่ขี้หวงขี้หึง
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 21-11-2016 07:53:21
หึงก็บอกมาคุณใหญ่555 :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 21-11-2016 09:25:17
น่อวววววววว หึงน้องอัดละซิคุณใหญ่ ทำเป็นปากแข็ง :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: yuwa ที่ 21-11-2016 11:03:42
มีอาการนะคุณใหญ่ น้องมันน่ารักละซิ 555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-11-2016 11:08:39
หวงแล้วไม่รู้ตัวเหรอคุณใหญ่ :hao3: :hao3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 21-11-2016 13:51:40
อยากให้ลงทุกวันอะ ได้มั้ย ชอบแนวบ้านไร่ อิอิ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 21-11-2016 15:27:49
 :hao7: คุณใหญ่หึงจนออกอาการเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 21-11-2016 18:21:43
อั้ยยะ ลุงหึงว่าทีเมียแล้วเว้ย หึงโดยไม่รู้ตัวสินะ ลุง :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-11-2016 18:33:02
คุณใหญ่ อัด  :ling1: :ling1: :ling1:
ทะเลาะกันไป ทะเลาะกันมา
เดี๋ยวก็รักกัน
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 5 << [P.2] // [20/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-11-2016 22:52:23
โธ่ เฮีย...ยังไม่ทันแต่งความหวง ความหึงก็พุ่งขึ้นสูงปรี๊ดดดดซะและ 555555 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 22-11-2016 20:30:43
6



        บนเรือนชานของไร่พิกุลจันทร์หอมคลาคล่ำไปด้วยผู้เฒ่าผู้แก่ที่นับถือ ทุกคนพูดคุยสังสรรค์อย่างสนุกสนาน มือไม้ก็ขวักไขว่ในการจัดพานบายศรีสู่ขวัญที่จะใช้สำหรับการแต่งงานของเจ้าของไร่ในวันพรุ่งนี้ โดยมีคุณพิกุลกับนมอิ่มเดินเข้าออกกลุ่มนั้นทีกลุ่มนี้ทีเพื่อดูความเรียบร้อย

   กลีบใบตองสีเขียวแต่ละชั้นบนพานบายศรีมีดอกดาวเรืองของไร่ประดับอยู่ดูสวยงาม พานดอกไม้อีกสองพานก็จัดแยกไว้สำหรับพิธีผูกข้อมือ สายสิญจน์สีขาวเป็นมัดๆ วางตั้งอยู่ไม่ไกล ยังมีหมอนที่สวมปลอกไหมพรมรูปหัวใจที่เตรียมไว้พร้อม

   “คุณยายขา ข้าวมื้อเที่ยงเสร็จแล้วค่า” ลูกเจี๊ยบเดินขึ้นมาบอก เด็กสาวมองความวุ่นวายตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม แม้จะดูแปลกประหลาดไปสักหน่อยที่ผู้ชายแต่งงานกับผู้ชาย แต่สำหรับคุณใหญ่แล้วก็อัษฎานั้นช่างดูเหมาะสมอย่างน่าเหลือเชื่อ ขนาดพ่อกับแม่ยังพูดออกมาว่าหน้าตาช่างคล้ายกัน

   “ขอเชิญคุณป้าทุกท่านที่ชานด้านนอกเลยนะคะ ดิฉันจัดเตรียมอาหารไว้แล้ว” คุณพิกุลยิ้มแย้มเชิญชวน วันนี้เป็นวันที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้เกิดขึ้น วันที่เกิดจากการทำนายทายทักในสมัยก่อนที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง

   “คุณนายก็ควรทานข้าวบ้างนะคะ” นมอิ่มบอกปนขำ เจ้านายใจดีดูตื่นเต้นจนไม่ยอมกินอะไร

   “ก็ฉันลืมนี่นา ไปกินข้าวกันเถอะ” คุณพิกุลจูงมือคนสนิทไปร่วมวงทานอาหารด้วยพร้อมพูดคุยกันอย่างออกรส ส่วนใหญ่เรื่องราวก็เป็นเรื่องนมนานสมัยยังสาว จะมีเด็กสมัยใหม่อย่างลูกเจี๊ยบที่มุ่ยหน้าไม่เข้าใจ

   กว่าการจัดเตรียมงานทุกอย่างจะเสร็จสิ้นก็บ่ายคล้อย วันนี้ใหญ่คลุกอยู่แต่ในไร่ตั้งแต่เช้าตรู่ ส่วนอัษฎาก็เข้าเมืองไปกับเล็กและลูกชายเพื่อซื้อของที่จำเป็น คุณพิกุลยืนมองข้าวของที่จัดแจงเตรียมการในวันรุ่งขึ้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย จะดีใจก็คงไม่ถูก หรือเสียใจก็คงไม่ใช่อีก

   “แม่ทำอะไรอยู่ครับ” เสียงทุ้มของลูกชายคนโตดังจากด้านหลัง คุณพิกุลมองหน้าลูกชายด้วยรอยยิ้มจนใหญ่ต้องยิ้มตาม “หน้าผมเลอะหรือครับ”

   “แม่ขอบใจใหญ่นะ ที่ทำเพื่อน้อง” ใหญ่เลิกคิ้วมองแม่ที่เอ่ยน้ำตาคลอ “แม่ไม่รู้ว่าหากเราทำแบบนี้แล้ว เล็กจะดีขึ้นหรือเปล่า”

   “อย่ากังวลเลยครับ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเราขัดไม่ได้อยู่แล้ว” ใหญ่โอบกอดร่างนุ่มของแม่ ความหอมเย็นจากไออุ่นของแม่ยังเหมือนเดิม “แล้วนี่น้องหายไปไหนหรือครับ” เพราะตั้งแต่ขึ้นมา ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ไม่ว่าจะน้องชาย หลานชาย หรือเจ้าตัวป่วนคนนั้น

   “ไปซื้อของในเมือง เย็นป่านนี้ทำไมยังไม่กลับก็ไม่รู้” น้ำเสียงกังวลทำให้ใหญ่รีบล้วงโทรศัพท์จากกางเกง นิ้วยาวกดเลื่อนหาชื่อน้องชาย

   “อยู่ไหนไอ้เล็ก” กรอกเสียงเมื่อปลายสายกดรับ

   (ยังอยู่ที่ตลาดอยู่เลยครับ) เล็กตอบกลับมา

   “ไปตั้งแต่เช้า จะซื้ออะไรนักหนาวะ รีบๆ กลับได้แล้ว แม่เป็นห่วง” คุณพิกุลมองใบหน้าลูกชายคนโตแล้วชวนขำ ดูจากน้ำเสียงคงเป็นห่วงมากกว่าแม่ซะอีก

   (ครับๆ เดี๋ยวจะกลับแล้ว ไปต้น ไปตามหาพี่อัดกัน) เสียงชักชวนปลายสายเรียกปมขมวดคิ้วของใหญ่ออกมาอย่างลืมตัว
 
   “ไม่ได้เดินด้วยกันเหรอ” ถามออกไปก่อนจะกระแอมเมื่อเห็นแม่จ้องสายตาวับวาวอยู่ข้างๆ ใหญ่รีบเปลี่ยนประเด็นโดยไม่รอคำตอบ “เออๆ รีบกลับ แค่นี้นะ”

   “เป็นไง” คุณพิกุลถามลูกชายคนโต น้ำเสียงเจือเสียงหัวเราะ

   “เดี๋ยวมันกลับมาครับ เอ่อ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ใหญ่รีบแยกตัวเข้าห้องไป ท่าทางอึกอักสร้างเสียงหัวเราะให้คุณพิกุลได้เป็นอย่างดี ความกังวลค่อยๆ เลือนหายไป แต่ความเป็นห่วงลูกชายคนเล็กก็ยังคงมีมากพอควร หวังว่าทุกอย่างจะลงตัวตามที่หมอดูเคยบอก




   ด้านอัษฎาที่เดินหาซื้อของใช้จำเป็น เนื่องจากของบางอย่างขายแยกที่กัน ทำให้ต้องเดินหาจนหัวแทบหมุน ที่ต้องออกมาหาซื้อเพราะเขาต้องย้ายขึ้นไปนอนบนเรือนไม้ตามที่คุณพิกุลบอก คราแรกอยากจะขอนอนกับแม่ตามเดิมแต่ถูกคุณพิกุลขัดเลยจำเป็นต้องทำตาม ไปนอนห้องเดียวกับคุณใหญ่มีหวังได้ฆ่ากันตายเข้าสักวัน

   จังหวะที่แขนขาวยื่นไปหยิบครีมทาผิวเผอิญดันไปชนกับมืออีกคู่ที่ต้องการขวดนี้เช่นกัน อัษฎารีบหันไปขอโทษ หญิงสาวใบหน้าสวยเอ่ยคำขอโทษเช่นกัน

   “เชิญคุณก่อนครับ” อัษฎาขยับถอยนิดๆ ให้หญิงสาวหยิบถนัด อีกฝ่ายหยิบของตัวเองแล้วก็หยิบให้อีกฝ่ายด้วย  “อ่า ขอบคุณครับ”

   “ครีมยี่ห้อนี้ดีมากนะคะ หอมด้วย” หญิงสาวแปลกหน้าเอ่ยขึ้น อัษฎาพยักหน้าเห็นด้วย แม้ไม่ใช่ครีมที่ออกโฆษณาทางทีวี แต่เขากลับชอบเพราะมันทั้งหอมและติดทนนาน

   “ครับ หอมมาก” อัษฎาเดินตามหญิงสาวที่หาซื้อของคล้ายๆ เขา อันที่จริงก็ไม่ได้ดูแลประทินผิวเหมือนผู้หญิง แต่เพราะการทำงานครั้งก่อนหากไม่มีการบำรุงผิวหรือหน้า สภาพคงจะดูไม่ได้
 
   “คุณเป็นคนเชียงใหม่หรือคะ” หญิงสาวถามหลังจากออกมาจากร้านขายเครื่องประทินผิว

   “ครับ แต่ไปโตที่กรุงเทพฯ คุณก็เป็นคนเชียงใหม่หรือครับ” คล้ายกับถูกชะตา ทั้งการพูดจาและท่าทางที่เป็นมิตร

   “เปล่าค่ะ ฉันมาเที่ยว” ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่อัษฎารู้สึกแปลกใจในน้ำเสียงของคู่สนทนา ดวงตารีมองเหม่อดูไร้จุดหมาย “ที่จริงฉันก็อยากเป็นคนเชียงใหม่เหมือนกันนะคะ อากาศที่นี่ดีกว่าในเมืองหลวงเยอะ”

   “อันนี้ผมเห็นด้วยครับ ยิ่งที่ๆ ผมอยู่อากาศตอนเช้ายิ่งดีที่สุด” รอยยิ้มผุดขึ้นเมื่อนึกถึงบรรยากาศยามเช้าที่สดชื่นภายในไร่

   “เมื่อก่อนฉันก็เคยอยู่ในที่ๆ อากาศดีมากเช่นกันค่ะ แต่...” ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีชมพูอ่อนเม้มเข้าหากันแน่นยามหวนนึกถึงวันเก่าๆ “เพราะนิสัยเสียของฉัน ทุกอย่างถึงได้พังทลาย”

   “ไม่มีใครนิสัยดีหมดหรอกครับ ขนาดเหรียญยังมีสองด้านเลย” แม้จะไม่รู้ปัญหาที่หญิงสาวพบอยู่จะหนักหนาเพียงใด แต่การอภัยย่อมเกิดขึ้นหากคนทำผิดยอมรับออกมา “ลองค่อยๆ ปรับนิสัยดู ไม่แน่ คนๆ นั้นอาจจะยังรอคุณอยู่ก็ได้นะครับ”

   “ทุกอย่างแก้ไขไม่ได้แล้วค่ะ”

   “อ่าครับ...” ปัญหาคงจะหนักหนาน่าดู “แต่ถ้าเป็นผม ผมจะลองพยายามทำดูสักตั้ง หากยังเหมือนเดิมก็ถอยยังทัน” คล้ายกับปัญหาที่เคยเจอ อัษฎาเคยลองพยายามมาแล้วแต่ก็ไปไม่รอด สุดท้ายเขาเลยต้องหนีช้ำมาอยู่กับแม่ “ถ้าคนๆ นั้นสมควรให้เรารักจริงก็อย่าเพิ่งยอมแพ้นะครับ ผมเป็นกำลังใจให้” 

   “ขอบคุณนะคะ คุณ...”

   “อัดครับ”

   “ค่ะ ฉันแคทค่ะ”

   เมื่อแยกจากเพื่อนใหม่ ร่างผอมเดินข้ามถนนเพื่อไปรอคนที่มาด้วยที่รถ บังเอิญเจอระหว่างทางซะก่อน เล็กอาสาจะช่วยถือของให้ แต่ในมือคนน้ำใจงามก็มากจนคิดว่าคงถืออีกไม่ไหว

   “ของคุณเล็กก็เยอะมาก ผมช่วยถือน่าจะดีกว่านะครับ” อัษฎายื่นมือไปช่วยถือของ “แล้วน้องต้นละครับ ถืออะไรมา หนักหรือเปล่า” ลูกชายตัวจ้อยของเล็กก็ถือถุงอยู่ ใบหน้าน่ารักส่ายเป็นพัลวัน

   “พ่อเล็กซื้อขนมให้ฮะ น้องต้นอยากกิน” ดูท่าจะอยากกินจริง เพราะเห็นถือไว้ซะแน่น

   “กลับกันดีกว่าครับ เมื่อกี้พี่ใหญ่โทรมาเรียกแล้ว” อัษฎายู่หน้าเล็กๆ ก่อนจะเดินตามไปขึ้นรถที่จอดอยู่ด้านหลังตลาด “ได้ของครบไหมครับ”

   “อ่า ครับ” ก่อนบทสนทนาจะเป็นไปอย่างเรียบๆ ตั้งแต่ตลาดจนถึงไร่ ทั้งสามต่างแยกย้ายกลับห้องของตัวเอง 




   ความมืดมิดปกคลุมไปทั่วพื้นที่ขับให้แสงดาวพร่างพราวเต็มท้องฟ้าเปล่งประกาย ความสวยงามเรียกให้เด็กหนุ่มโตต่างบ้านออกมาชื่นชม แม้กลางคืนจะดูน่ากลัว แต่ความงามยั่วเย้าทำให้คลายความมืด แสงดาวระยิบระยับส่องแสงสวยเต็มผืน หากเป็นเมืองหลวง แสงของตึกรามบ้านช่องคงบดบังแสงธรรมชาติเช่นนี้ไปหมด

   ยามค่ำคืนลมเย็นโชยมาทำให้ร่างที่ไร้ผ้าคลุมกันหนาวสั่นสะท้าน ฝ่ามือนุ่มลูบแขนตัวเองไปมาเพื่อคลายความหนาว

   “บ้านไม่มีดาวให้ดูหรือไง” น้ำเสียงกวนโมโหเช่นนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้ แต่คนนั่งดูดาวก่อนทำเป็นไม่สน “พูดด้วยไม่พูด” ใหญ่เดินมายืนข้างคนที่นั่งบนพื้นหญ้า

   “พูดกับผมหรือครับ” ถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

   “แล้วมีใครอยู่แถวนี้อีกหรือเปล่าล่ะ” ตอนอยู่บนเรือนชานเพราะนอนไม่หลับ สายตาเหลือบเห็นคนทำตัวลับๆ ล่อๆ พอตามมาก็เห็นร่างผอมนั่งกับพื้นหญ้าที่ชื้นแฉะแล้วแหงนหน้ามองดูดาวเต็มฟ้าอย่างหลงใหล ดวงตาคมจ้องมองภาพตรงหน้า รอยยิ้มสวยดูน่ามองจนมิอาจละสายตา หากลมเย็นไม่พัดมาเรียกสติ ใหญ่คงยืนมองคนยิ้มไปอีกหลายนาที

   “ผมอิจฉาคนที่นี่ที่ได้อยู่ท่ามกลางความสวยงาม ทั้งขุนเขา หรือดวงดาวบนท้องฟ้า”

   “แล้วนายไปกรุงเทพทำไมล่ะ อยากจะสบายก็ต้องแลกแบบนี้แหละ” อัษฎาเบ้ปากหลังจากถูกเหน็บเบาๆ

   “ถ้าตอนนั้นพ่อผมไม่ด่วนจากไปเสียก่อน ผมคงไม่ต้องจากบ้านไปหรอก แล้วอยู่ที่นู้นผมก็ไม่ได้สบายอย่างที่คุณใหญ่ว่า ตอนเช้าไปเรียน พอตกค่ำก็ต้องไปทำงาน” แม้ป้าจะดูแลดี แต่ก็ไม่อยากเป็นภาระเพิ่ม “คุณใหญ่ยังไม่ชอบหน้าผมอยู่หรือครับ” ถามออกไปทั้งที่ไม่มองหน้า

   “มั้ง” น้ำเสียงตอบกลับดูไม่มั่นใจ อัษฎาเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่มองหน้าอยู่ก่อนแล้ว

   “ลดลงบ้างไหม” นัยน์ตาระยิบระยับคงเพราะสะท้อนแสงดาวจับจ้องทำให้เผลอจ้องตอบ “คุณใหญ่”

   “หา เอ่อ มั้ง” หากไม่ถูกเรียกซ้ำ ใหญ่คงเผลอจ้องตาอีกนาน “รีบๆ ไปนอน พรุ่งนี้ตื่นสายจะขายหน้าคนอื่น” พูดจบร่างสูงเดินลิ่วๆ ขึ้นเรือนไป

   “ปากเสียตลอด” อัษฎาเบ้ปากตามหลังคนปากร้าย แล้วที่ถามแบบนั้นก็เพราะผ่านคืนนี้ไป เขาต้องใช้ครึ่งชีวิตที่เหลืออยู่กับคนที่ไม่ชอบขี้หน้า แล้วเช่นนี้จะมีความสุขได้ยังไง หนีช้ำจากเมืองกรุงคงจะไม่ต้องช้ำรอบสองที่นี่อีก “จะไหวไหมเนี่ย”



   “ต้องเช้าขนาดนี้เลยหรือแม่” อัษฎาอ้าปากหาวเป็นรอบที่ห้าแล้วนับจากยืนให้แม่แต่งตัว ถูกปลุกยังไม่ตีสี่เลยด้วยซ้ำ รู้เช่นนี้เข้านอนตั้งแต่ทุ่มสองทุ่มน่าจะดี

   “ก็ต้องเช้าแบบนี้นี่แหละ เดี๋ยวพระคุณท่านจะมาแล้ว” นมอิ่มตีแขนลูกชายเบาๆ เมื่อทำท่าโอนเอนจะล้ม “ใครให้นอนดึกขนาดนั้นล่ะ”

   “แม่ก็...แล้วทำไมพระท่านถึงมาเช้าละแม่” จากการที่ได้ไปงานของเพื่อนยังไม่ต้องตื่นเช้าขนาดนี้

   “พระคุณท่านว่างเวลานี้เวลาเดียว ดีแค่ไหนแล้วที่ท่านว่างน่ะ”

   อัษฎาสวมเสื้อและกางเกงผ้าฝ้ายสีขาว มีผ้าแถบลายสวยพาดบ่า ใบหน้าขาวถูกผัดแป้งให้ดูผ่องใสขึ้น ครั้นพอถึงเวลา ลูกเจี๊ยบก็เดินมาเคาะประตูเรียก แม้จะเช้าเพียงใด แต่เรื่องตื่นเต้นเช่นนี้กลบความง่วงให้หายเป็นปลิดทิ้ง นมอิ่มจ้องหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เธอมั่นใจว่าลูกชายจะต้องมีความสุข

   ประตูห้องเปิดออกพร้อมกันทั้งสองฝั่ง อัษฎาก้าวออกมาเผชิญหน้ากับใหญ่ที่แต่งกายคล้ายๆ กัน ใบหน้าหล่อเข้มไม่ได้บึ้งตึงสักเท่าใด แต่ก็ดูนิ่งไม่แสดงออก

   “รีบเถอะจ้ะ พระคุณท่านมาแล้ว”

   ใหญ่เดินตามหลังนมอิ่มและลูกชายไป วันนี้แล้วที่ชีวิตเขาจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง แม้ครั้งนี้จะไม่ได้จัดงานยิ่งใหญ่เช่นคราแรก แต่ก็เป็นการแต่งงาน นี่เขาต้องใช้ชีวิตร่วมกับผู้ชายที่จะได้เลื่อนขั้นเป็นภรรยาจริงๆ หรือนี่ ผู้ชายนี่นะ

   ความสับสนยังคงเกิดขึ้นในใจจวบจนวินาทีสุดท้าย น้ำมนต์เย็นๆ พรมจนชุ่ม ทั้งใหญ่และอัษฎาต่างก็ก้มหน้าไม่ยอมมองกัน พอสิ้นพิธีสั้นๆ ในช่วงเช้าตรู่ทั้งคู่ก็ยังต้องอยู่ดูแลผู้มาร่วมงานที่มีแต่คนกันเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนๆ ที่สนิทและผู้เฒ่าผู้แก่ที่นับถือ

   “ถึงเวลาผูกข้อมือแล้วลูก” คุณพิกุลที่แต่งตัวชุดไทยสวยออกมาเรียกใหญ่ที่นั่งคุยกับน้องชาย เล็กยังรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องเห็นพี่ชายแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันเอง

   “ครับ” ใหญ่รับคำแล้วเรียกน้องให้เข้าไปด้านใน

   หน้าโต๊ะพิธี ใหญ่ถูกจับให้นั่งหันหน้าเข้าหาอัษฎาที่นั่งก้มหน้ารออยู่ก่อน ตรงหน้าคือพานสินสอดทองหมั้นสำหรับให้อีกฝ่าย นมอิ่มเห็นลูกชายไม่ยอมเงยหน้าก็สะกิด

   “อัด ไหว้พี่เขาสิลูก” อัษฎายอมเงยหน้าตามที่แม่ว่า พอสบตากับคนตรงหน้าก็รู้สึกแปลกๆ “ตาอัด” เพราะยังนั่งเฉย นมอิ่มจึงต้องร้องเรียกอีกรอบ

   มือขาวยกไหว้คนตรงหน้า พร้อมๆ กับใหญ่รับไหว้ พิธีการมอบสินสอดและสวมแหวนผ่านพ้นไปแบบเรียบง่าย แต่ตอนที่อัษฎาต้องสวมแหวนให้ มือขาวสั่นจนเกือบทำแหวนหล่น ยังดีที่ใหญ่ใช้มืออีกข้างมากุมมือไว้ให้หยุดสั่น แบบนั้นถึงได้สวมแหวนได้

   ทั้งอัษฎาและใหญ่เปลี่ยนไปนั่งหลังโต๊ะ มีหมอนรูปหัวใจวางอยู่ และตรงหน้ามีพานดอกไม้และบายศรี หมอทำขวัญเดินมาหาทั้งคู่พร้อมกับทำพิธีเรียกขวัญ ตลอดการทำพิธี อัษฎารู้สึกขนลุกทุกครั้ง ไม่เคยคิดว่าจะได้จัดงานเช่นนี้

   “ทำไมทำหน้าแบบนั้น” ใหญ่ยื่นหน้ามากระซิบเมื่อเห็นคนข้างๆ มีเหงื่อผุดที่ไรผม

   “ผมปวดฉี่” เพราะมันตื่นเต้นเลยรู้สึกปวดแบบกะทันหัน ใหญ่เบิกตาโตเมื่อรู้ถึงสาเหตุ หากจะลุกออกไปก็คงไม่ได้เพราะพิธียังไม่เสร็จ “คุณใหญ่”

   “ทนๆ เอาหน่อย เดี๋ยวก็เสร็จ”

   หากชาวบ้านที่มาต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเห็นคู่แต่งงานคุยกับกระหนุงกระหนิง ดูท่าแล้วคงจะรักกันน่าดู จะมีก็แต่คนสนิทที่จะรู้ว่า คู่เหมือนรักแท้จริงแทบปะทะฝีปากกันทุกเมื่อที่เจอ ไม่รู้ตอนนี้กำลังทะเลาะอะไรกันอยู่อัษฎาถึงมีแต่เหงื่อเต็มหน้าแบบนั้น

   เมื่อพิธีเรียกขวัญเสร็จสิ้นก็ถึงช่วงที่ผู้เฒ่าผู้แก่จะผูกข้อมือให้ สายสิญจน์ม้วนใหญ่ถูกตัดแบ่งเป็นเส้นๆ เพื่อให้สะดวกแก่การผูกข้อมือ จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสิบยี่สิบวนไปจวบจนครบ ตอนนี้ข้อมือของหนุ่มทั้งสองเต็มไปด้วยเชือกสีขาว

   “เอาล่ะ เสร็จพิธีแล้วก็ถึงเวลาเข้าห้องหอ” เข้าหออะไรไม่สำคัญเท่าห้องน้ำ อัษฎาทำท่าลุกลี้ลุกลนแทบทนไม่ไหวกระซิบขอเข้าห้องน้ำก่อน พอนมอิ่มได้ยินก็ตกใจรีบบอกให้รีบไปรีบกลับอีกประเดี๋ยวจะเสียฤกษ์

   ลูกเจี๊ยบยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ พอเห็นอัษฎาออกมาก็รีบดึงแขนวิ่งไปหน้าห้องหอที่มีผู้คนยืนรอกันอยู่ เมื่อคนที่รอมา ผู้ใหญ่ก็พาทุกคนเข้าห้อง

   ห้องนอนของใหญ่ถูกตกแต่งเป็นเรือนหอ บนเตียงคิงไซส์มีกลีบดอกกุหลาบโปรยอยู่รอบๆ ก่อนคู่รักที่รักกันมานานจะลงไปนอนบนเตียงก่อนเพื่อเป็นเคล็ดให้รักกันยาวนานดังเช่นคู่ตน ใหญ่มองภาพตรงหน้าคล้ายกับมีการกรอเหตุการณ์ซ้ำเก่า ที่ห้องนี้ เตียงนี้ และภาพของเขากับภรรยาที่รักกันมานานตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย

   เมื่อการถือเอาเคล็ดจบลง ใหญ่และอัษฎาได้นั่งลงที่พื้นเพื่อรับคำอวยพรสุดท้าย คุณพิกุลยื่นมือสองข้างลูบศีรษะชายหนุ่มทั้งสอง ดวงตามีน้ำใสๆ เอ่อขึ้นมาด้วยความปลาบปลื้มปนสงสาร เพราะอยากช่วยน้องทำให้ต้องมาแต่งงานแบบนี้

   “แม่ขอโทษนะใหญ่ แล้วก็ขอบใจจริงๆ” มือที่ลูบศีรษะรีบยกกลับไปเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา “แม้มันจะดูแปลกไปสักหน่อย แต่แม่ก็ขอให้ลูกรักกันนานๆ นะ” เมื่อคุณพิกุลอวยพรเสร็จ ต่อไปก็เป็นนมอิ่มที่น้ำตาไหลตั้งแต่เห็นลูกชายเพียงคนเดียวนั่งก้มหน้า

   “ตาอัดแกเป็นเด็กดีนะคะ หากแกดื้อคุณใหญ่โปรดให้อภัยแกด้วย แล้วก็อัด ต่อไปต้องเชื่อฟังคุณใหญ่ เพราะท่านแก่กว่า เราเป็นเด็กไม่ควรต่อล้อต่อเถียงเช่นดังที่แล้วๆ มา เข้าใจไหมลูก” แม้ไม่มีเสียงตอบกลับ แต่ก็มีการพยักหน้าตอบรับ “มีความสุขมากๆ นะคะ”

   สิ้นคำอวยพร ทุกคนก็ก้าวออกจากห้อง เหลือเพียงสองหนุ่มที่ต่างคนต่างนั่งเงียบ คนหนึ่งยังนึกถึงเรื่องวันวาน อีกคนนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งชีวิตและการดำรงอยู่จะเปลี่ยนแปลงไปยังไง แล้วความเงียบก็ถูกทำลายเมื่อใหญ่ลุกขึ้นยืน ชายหนุ่มรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ควรออกจากห้องหอ แม้จะเป็นเวลาบ่าย หากเขาต้องทนจนข้ามวันถึงออกไปได้ แต่จะให้ทนนั่งเฉยๆ หรือนั่งมองหน้าคนที่ต่อไปนี้ต้องมานอนร่วมห้องด้วยก็คงไม่สบอารมณ์ ร่างสูงเดินวนไปวนมาก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียง ทิ้งให้อีกคนนั่งเคว้งอยู่ที่พื้นเพราะไม่กล้าลุกไปไหน

   อัษฎาเลือกจะพับเสื้อผ้าที่ถูกขนขึ้นมาอยู่บนห้อง ความเงียบทำให้ดวงตาเริ่มเบลอจนต้องเอนตัวลงนอนกับพรมสีเทาข้างเตียง คนบนเตียงดูท่าจะหลับไปแล้ว อัษฎาจึงขอหลับบ้าง แม้จะได้ยินเสียงแว่วๆ ว่ามีคนเดินเข้ามาแต่เปลือกตาช่างหนักลืมไม่ขึ้นเลยปล่อยเลยตามเลย

   นาฬิกาโบราณตีตามจำนวนเวลา อัษฎาสะดุ้งตื่นขึ้นก่อนจะลุกนั่ง บนเตียงยังมีคนที่นอนอยู่และดูท่าจะยังไม่ตื่น หน้าต่างด้านนอกเริ่มมืดมิด บวกกับท้องเริ่มร้องเพราะความหิว ดวงตากลมมองไปทั่วห้องกว้างที่มีเครื่องใช้เป็นไม้ทั้งสิ้น กรอบรูปบานใหญ่ข้างตู้เสื้อผ้าคือรูปของเจ้าของห้องกับภรรยาคนเก่า อัษฎายกมือไหว้และพูดในใจว่าไม่ได้คิดจะแย่ง เพียงแค่อยากช่วยเหลือลูกชายคนเล็กของบ้าน ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าเห็นรูปผู้หญิงสวยในรูปยกยิ้มให้ 

   ความหิวทำให้ต้องมองหาอะไรรองท้อง คราแรกคิดจะเปิดประตู แต่ไปสะดุดกับขันโตกที่ถูกวางข้างประตูซะก่อน พอสัมผัสแล้วอาหารเย็นชืดคงจะวางไว้นานพอดู แต่ความหิวอะไรที่แก้ได้ก็กินได้หมด ทั้งแกงฮังเล ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม สิ่งที่อยากกินทั้งนั้น อัษฎาปั้นข้าวเหนียวจิ้มน้ำพริกหนุ่มกินอย่างสบายใจ ความอร่อยทำให้ไม่ทันสังเกตคนที่อยู่บนเตียงที่กำลังนั่งมองคนกินข้าวอย่างหิวโหย

   ที่จริงแล้ว ใหญ่ตื่นก่อนนานพอดู และกินข้าวก่อนนานแล้ว ส่วนกับข้าวที่อัษฎากินนั่น เป็นสิ่งที่สั่งให้แม่ครัวทำให้อีกที เนื่องจากตอนขากลับจากเมืองคราวนั้น คนอยากกินคิดจะแวะซื้อ แต่เขาดันอารมณ์เสียซะก่อนเลยไม่ได้แวะให้ คนกินอร่อยยัดข้าวคำโตจนแก้มตุ่ยเรียกเสียงหัวเราะได้บางๆ อัษฎาตาโตหันไปมอง

   “คุณใหญ่” แปลกใจที่ทำไมไม่สังเกตว่าอีกคนตื่น

   “อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ” ได้รับการพยักหน้าตอบกลับ ใหญ่ลงจากเตียงมานั่งข้างๆ มือใหญ่หยิบแตงกวาจิ้มน้ำพริกหนุ่มเข้าปาก “ก็งั้นๆ”

   “คุณใหญ่กินบ่อยก็เลยบอกงั้นๆ แต่ผมนานๆ ทีได้กินมันก็ต้องอร่อยสิ” พูดไปเคี้ยวไปดูแล้วขัดใจนิดๆ เพราะน่าจะเคี้ยวให้หมดก่อนพูด “คุณใหญ่ไม่กินหรือครับ”

   “ฉันกินแล้ว” กระแอมออกมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ฉันจะไปอาบน้ำ” ว่าแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้คนกินข้าวมองตามหลังอย่างงงงวย

   ไม่นานคนอาบน้ำก็ออกมาด้วยสภาพผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียวพันที่เอวอย่างหมิ่นเหม่ อัษฎากระพริบตาปริบๆ แล้วรีบเดินสวนเข้าไปพร้อมเสื้อผ้าและเครื่องใช้ ถึงแม้จะไม่ได้ชอบคุณใหญ่ แต่เล่นมาในสภาพแบบนั้นมันน่าตกใจจริงๆ กล้ามแขน กล้ามหน้าอก กล้ามหน้าท้อง ทุกอย่างดูเพอเฟกเหมือนคนเข้าฟิตเนสประจำ หากใหญ่คงทำงานในไร่ที่ใช้แรงมากกว่า ทำให้หุ่นกำยำขนาดนี้

   อัษฎาเดินตัวหอมฉุยออกมาจากห้องน้ำ เห็นใหญ่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง ดวงตากลมโตมิงซ้ายมองขวารู้สึกประหม่า คืนนี้จะให้นอนที่ไหนเนี่ย บนเตียงกับใหญ่งั้นหรือ

   “ให้ผมนอนตรงไหน” ถามออกไป

   “พื้น” ใหญ่ตอบแล้วลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิบนเตียงสีขาว “ฉันไม่ชอบนอนร่วมเตียงกับคนอื่น”

   “อ่อครับ” ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือโมโห เพราะอัษฎาก็คิดเอาไว้ล่วงหน้าอยู่เหมือนกัน ทั้งหมอนและผ้าห่มถูกวางบนพรมอุ่น ถึงจะไม่ได้นอนเตียง แต่ขอนอนบนพรมก็ยังดี ขืนให้นอนบนพื้นไม้แข็งๆ มีหวังเจ็บหลังพอดี

   เมื่อไฟในห้องปิดสนิท ทั้งสองคนกลับตาสว่างโร่ หนึ่งเพราะนอนมาตอนกลางวันอย่างเต็มอิ่ม สองเพราะความกังวล ใหญ่ใช้แขนก่ายหน้าผาก ร่างสมส่วนขยับพลิกตะแคงมองดูที่ว่างข้างๆ ก่อนจะยื่นมือไปลูบช้าๆ สมัยก่อนที่ว่างตรงนี้เคยเป็นที่ของภรรยาที่รัก ครั้นจะให้คนอื่นมานอนทับที่เขารู้สึกไม่ดี ใจจริงก็สงสารคนนอนพื้น แต่ก็นั่นแหละ มันทำใจไม่ได้

   ส่วนอัษฎาที่นอนพลิกไปมาเพราะไม่คุ้นชิน เมื่อบ่ายหลับสนิทเพราะเหนื่อยมาก มาตอนนี้ทุกอย่างมันดูแปลกที่แปลกทางไปหมด และคงอีกนานกว่าจะชิน

   เสียงอึ่งอ่างร้องระงมเพราะฝนใกล้ตก อากาศก็เริ่มเย็น ยิ่งลมที่พัดมาทำให้ร่างที่นอนบนพื้นขดตัวเป็นก้อนกลมๆ ไม่นานเสียงฝนเทลงมาเรียกให้คนนอนบนเตียงสะดุ้งตื่น ใหญ่ชะโงกหน้ามองอีกคนบนพื้น พอเห็นแล้วก็แทบทนไม่ไหวต้องลุกเอาผ้าห่มไปคลุมให้อีกชั้นและเดินไปปิดหน้าต่างเพื่อให้คลายความหนาวเย็น

   พอใหญ่ล้มตัวนอนลง ดวงตากลมโตก็ค่อยๆ เปิดขึ้น อัษฎาก้มมองผ้าห่มหนาที่เพิ่งถูกนำมาคลุมร่างไว้ รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นมาทันที ปากร้ายแต่ใจดีคงเป็นเช่นใหญ่นี่แหละนะ แล้วทั้งคู่ก็ผล็อยหลับไปจวบจนแสงแรกของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่คาดเดาอะไรไม่ได้ นอกจากใช้ชีวิตในวันนี้ให้ดีที่สุด


...TBC


มาแบบตะต่อนยอนค่าา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-11-2016 20:56:47
ปั๊ดโธ่ ไอ้เราก็นึกว่าตื่นมาเห็นอัดนอนขดเพราะความหนาวแล้วจะอุ้มขึ้นไปนอนบนเตียง :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: yuwa ที่ 22-11-2016 22:05:44
 :L2: รอค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 22-11-2016 22:09:13
ความซึนนี้ท่านได้แต่ใดมา ทำไมซึนเกิ๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 22-11-2016 22:10:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 22-11-2016 22:22:48
 :L2: :L1: :pig4:

ช่องว่างค่อยๆแคบลงเนาะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 22-11-2016 22:31:42
คุณใหญ่จะใจแข็งนานแค่ไหนกันเชียว :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 22-11-2016 22:44:10
คุณใหญ่ดูแลเมียดีๆหน่อย มีคนจ้องจะเอาเมียคุณใหญ่อยู่นะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-11-2016 22:56:33
ตอนนี้คุณใหญ่ให้อัด นอนบนพื้นห้อง
จะคอยดูว่าใครจะเป็นคนพาอัด ไปนอนบนเตียง
แคท คิดได้ละมั้ง ว่าที่อากาศดี คนก็ดี น่ะอยู่ที่ไหน
คิดได้แล้วก็กลับมาเป็นเมียที่ดีของคุณเล็ก
 และแม่ที่ดีของลูกได้ละ :mew1: :mew1: :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 23-11-2016 00:24:29
ให้นอนพื้นเนี่ยนะ ถ่อววส
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 23-11-2016 00:43:31
ไม่ทันจะได้เเต่งเมียคุณเล็กก็มีแววกลับมาดีซะละ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 6 << [P.3] // [22/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 23-11-2016 01:54:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 29-11-2016 19:24:21
7



      “หลับสบายดีไหมเรา” คุณพิกุลเอ่ยทักทายลูกชายคนสนิท ที่ตอนนี้ต้องเป็นของลูกชายของเธออีกคน อัษฎาเดินออกจากห้องด้วยความเบลอนิดๆ พอเจอหน้าเจ้านายของแม่ก็รีบยกมือไหว้ตามความคุ้นชิน “ไม่ต้องไหว้หรอก อัดเป็นลูกของฉันอีกคนแล้วนี่นะ คิดซะว่า ฉันเป็นแม่อีกคนแล้วกัน”

   “ครับคุณนาย”

   “แน่ะ เรียกว่าแม่สิ เรียกคุณนายอะไรกันหืม เราน่ะ”

   “ครับ คุณแม่” ไม่คุ้นปากซะจริง อัษฎาเม้มริมฝีปากแน่น ปกติเคยแต่เรียกแม่ตัวเอง หรือมีบ้างที่เรียกแม่ของเพื่อนสนิทว่าแม่

   “แล้วพี่เขาล่ะ ยังไม่ตื่นอีกหรือ” คุณพิกุลเอ่ยถามหลังจากจิบกาแฟหอมกรุ่นแล้ว

   “เข้าไปในไร่ตั้งแต่เช้ามืดแล้วครับ” นาฬิกายังไม่ทันบอกเวลาตีสี่ซะด้วยซ้ำที่ใหญ่ออกไปจากห้อง

   “ช่วงนี้คงรีบทำงาน มานั่งนี่สิอัด” แม่คนที่สองเอ่ยขึ้น ทำให้ต้องเดินไปนั่งข้างๆ “พี่เขาน่ะนะ เมื่อก่อนไม่ได้ปากร้ายขนาดนี้ ตั้งแต่หนูพิณ เอ่อ ภรรยาพี่เขาเสีย เลยกลายเป็นคนเก็บตัว อารมณ์ก็ร้อน ขี้โมโหอีก ถ้าพี่เขาพูดหรือทำอะไรให้ขัดเคืองใจละก็ ให้อภัยพี่เขาด้วยนะลูก” คุณพิกุลคงกลัวอัษฎาจะขัดเคืองในสิ่งที่ลูกชายคนโตทำ

   “ครับ” แม้จะตอบรับแต่ก็ยากที่จะปฏิเสธว่าไม่ได้โกรธหรือโมโห บางทีการกระทำก็เกินเหตุ จะไม่ให้ฉุนเฉียวเลยก็คงไม่ได้
 
   “ทานข้าวเช้านะ แม่ให้เขาเตรียมไว้แล้ว” บอกด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเช่นเดียวกับแม่แท้ๆ

   ระหว่างมื้อเช้ากำลังจะเริ่ม เล็กเดินสะโหลสะเหลออกมา ดูท่าคงจะนอนไม่เต็มอิ่ม หากไม่ได้กลิ่นละมุดที่ติดตัวออกมาด้วยคงจะคิดว่าทำงานจนดึกแน่แท้ คุณพิกุลจ้องหน้าลูกชายคนเล็กอย่างเคืองขุ่น

   “เมื่อวานดื่มหนักล่ะสิ” เสียงเข้มจากมารดาทำเอาคนดื่มหนักยิ้มแหยๆ
 
   “นิดหน่อยครับ ก็งานแต่งพี่ใหญ่ทั้งที” เล็กว่า สายตาเหลือบมองพี่สะใภ้ตัวเองที่เป็นผู้ชาย “คุณพี่สะใภ้หลับสบายหรือเปล่าครับ หรือว่าจ้ำจี้...”

   “เล็ก! ไปพูดแบบนั้นได้ยังไง” คุณพิกุลรีบพูดขัดเมื่อเล็กพูดล้ำเส้นเรื่องส่วนตัวเกินไป

   “ไม่เป็นไรครับ ผมนอนหลับสบายดีครับคุณเล็ก” อัษฎายิ้มให้คุณพิกุลก่อนตอบน้องชายของใหญ่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “คุณเล็กนั่นแหละครับ ดื่มมากหากเป็นอะไรขึ้นมา ไม่สงสารน้องต้นหรือครับ” คำพูดของพี่สะใภ้เล่นเอาคนเอ่ยแซวหยุดกึก มือที่เอื้อมไปหยิบพริกไทยป่นถึงกับค้างเติ่ง

   “นั่นสิ ดื่มเยอะๆ จะตายเร็ว ลูกแกก็จะขาดทั้งพ่อ ขาดทั้งแม่” อดไม่ได้ที่จะว่าให้ลูกชายคนเล็ก คุณพิกุลหน้านิ่งเมื่อเห็นลูกชายเอาแต่ก้มหน้า

   “ผมขอโทษครับ” น้ำเสียงเสียใจปนอยู่จนคนที่มองทั้งสองรีบเปลี่ยนเรื่องทันที

   “กินๆ ข้าวต้มจะเย็นแล้วนั่น”

   การพูดคุยเริ่มกลับเป็นปกติ เล็กยังเอ่ยแซวพี่สะใภ้อยู่เนืองๆ แม้แม่จะปรามบ้างเมื่อพูดเกินไป แต่อัษฎาก็ยิ้ม จนมีคนเดินหน้าง้ำงอเข้ามานั่งด้วย การสนทนาทุกอย่างเลยชะงัก ใหญ่นั่งกอดอกเอนหลังพิงพนัก ดวงตาดุจ้องหน้าน้องชาย แม่และภรรยามาดๆ ของตัวเอง โดยเฉพาะคนสุดท้ายที่มีขมวดคิ้วร่วมอยู่

   “กินข้าวไหมครับ” อัษฎารู้สึกกดดันขึ้นมาเมื่อถูกจ้องเลยเอ่ยถาม

   “เออ หิวจะตายอยู่แล้ว” น้ำเสียงดุดันแต่แฝงความน้อยใจอัษฎารู้สึกได้ คนถูกดุยิ้มนิดๆ ก่อนลุกไปเตรียมชามพร้อมตักข้าวต้มให้ ทุกอย่างที่อัษฎาทำ ใหญ่จะจ้องมองอยู่ตลอด ขนาดที่ว่า ถูกแม่และน้องจ้องกลับยังไม่สังเกต หากเล็กไม่เอ่ยออกมา ใหญ่ก็ยังคงจ้องภรรยาคนใหม่ไม่วางตาแน่

   “นี่พี่ใหญ่กะจ้องพี่สะใภ้ให้พรุนเลยหรือไง” เอ่ยหยอกพร้อมเสียงล้อ ยังมีคุณพิกุลที่ขำไปด้วยจนใหญ่ต้องรีบปั้นหน้านิ่ง

   “ใครจ้อง” ยังมีหน้ามาปฏิเสธ เล็กขำพรืดให้กับท่าทางฟอร์มจัดของพี่ชาย

   “ไม่มีใครจ้องหรอก ผมกับแม่คงตาฝาด เนอะแม่” เล็กหันไปพยักพเยิดกับแม่เลยได้เสียงหัวเราะร่วนกลับมา

   “ไร้สาระ” ใหญ่ว่า มือก็เริ่มจ้วงกินข้าวต้มจนลืมว่ามันร้อนจัด แค่เข้าปากก็ต้องรีบคายออกมา “ร้อนๆ”

   “คุณใหญ่ไม่เป่าก่อนเล่า” อัษฎารีบหยิบทิชชู่ส่งให้ พร้อมช่วยเช็ดตามโต๊ะเมื่อบางส่วนถูกพ่นออกมา

   “ทำไมไม่บอกว่ามันร้อน” ยังมีหน้ามาโทษคนอื่น อัษฎาคิด

         ใหญ่ท่าทางฉุนเฉียวแต่ก็ดูไม่ได้จริงจัง คงอยากเรียกร้องความสนใจมากกว่า คุณพิกุลจ้องลูกชายคนโตกับสะใภ้อย่างพิจารณา แม้จะดูไม่เข้ากันเท่าไหร่ แต่มีบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่า อีกไม่นานพวกเขาจะรักกัน...แม้ไม่รู้เมื่อไหร่ก็ตาม

   “ผมขอโทษ” อัษฎาเอ่ยออกมา คนถูกข้าวต้มลวกปากทำหน้าบึ้ง คงรู้ตัวว่าคนขอโทษไม่ได้ผิดเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ฟอร์มจัด

   “พี่ใหญ่นี่นะ ทำตัวเหมือนลูกชายผมเลย” เล็กที่มองดูอยู่แล้วรีบขัดขึ้น

   “เหมือนยังไง” ถามกลับเสียงเขียว

   “ก็เอาแต่ใจแถมเรียกร้องความสนใจไง” ใหญ่หน้าหุบเมื่อได้ยิน แต่จะลุกออกจากโต๊ะก็รู้สึกแปลกๆ เมื่ออัษฎากำลังใช้ช้อนคนข้าวต้มพร้อมเป่าคลายร้อนชามของเขา “นั่นแน่ะ ไม่เถียงด้วย”

   “เงียบไปเลย”

   “นี่ครับ น่าจะคลายร้อนแล้ว” ใหญ่จ้องชามข้ามต้มก่อนจะเริ่มกิน มันไม่ค่อยร้อนอย่างตอนแรกแล้วจริงๆ พอคำแรกผ่านไป คำต่อๆ ไปก็ตามมาติดๆ พอรู้สึกตัวอีกทีข้าวต้มชามใหญ่ก็หมด

   “คงอร่อยมากสินะ” คุณพิกุลมองดูลูกชายจัดการข้าวต้มอย่างเอร็ดอร่อย แต่ข้าวต้มก็เหมือนกับทุกวัน ใหญ่แทบกินแค่ครึ่งชามด้วยซ้ำหากเป็นทุกที แต่ข้าวต้มมื้อนี้ตักเต็มชามถูกจัดการไม่เหลือ แบบนี้คงไม่ใช่ข้าวต้มอร่อยแล้วล่ะ คงเพราะคนนั่งข้างๆ ทำให้เจริญอาหาร

   “งั้นๆ แหละครับ” เหมือนจะรู้สึกตัวว่าถูกจ้อง ใหญ่รีบวางช้อนแล้วทำหน้านิ่งกลบเกลื่อนความเขิน จะว่าไป นี่เขากินเรียบไม่เหลือสักเม็ดแบบนี้ได้ยังไง ไม่อยากจะเชื่อตัวเอง คงเพราะเข้าไร่เช้าเลยหิวแน่ๆ น่าจะเป็นเหตุผลนี้แหละ



   มื้อเช้าจบลง คุณพิกุลก็ขอตัวกลับรีสอร์ทในตัวเมืองพร้อมหลานชายที่เพิ่งตื่นนอน คงจะนอนดึกพร้อมพ่อตัวเองแน่ๆ พอคิดแล้วก็อยากหยิกลูกชายคนเล็กให้เนื้อเขียว

   อัษฎาเข้าไปในไร่ก่อนเพราะไม่อยากถูกบ่น เพราะตอนลุกจากโต๊ะกินข้าวก็ถูกบ่นว่านอนกรนไปที นี่เขาไม่ได้นอนกรนสักนิด หากอัดเสียงได้จะเอาให้ฟังเลยว่าเป็นเสียงใครกันแน่ที่กรนจนคนอื่นนอนไม่ได้

   ขายาวก้าวเข้าไปเหยียบในโรงคัดแยกดอกดาวเรือง พวกสาวๆ ที่นั่งคุยกันอยู่ก็เงียบลงถนัดตาจนบรรยากาศเริ่มแปลกๆ อัษฎาเดินยิ้มแย้มเข้าไปทักทายเช่นเดิม หากทุกคนกลับเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมพูดคุย

   “เป็นอะไรหรือครับ” ทนไม่ได้ที่จะไม่ถาม

   “เอ่อ คุณนาย คือ...” แค่เริ่มต้นก็รู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียแล้ว อัษฎาขมวดคิ้วแล้วจ้องหน้าทุกคน

   “ผมคือน้องอัด ไอ้อัด พี่อัดของทุกคนเหมือนเดิมนั่นแหละครับ ไม่ใช่คุณนงคุณนายอะไรเลย คุยกับผมแบบเดิมเถอะครับ” น้ำเสียงอ้อนวอนตามหลังทำเอาสาวๆ ที่นั่งก้มหน้าต่างสบตากันเป็นแถวๆ

   “แต่ถ้าคุณนายใหญ่รู้ พวกเราจะถูกตัดเงินเดือน...”

   “คุณนายใหญ่ไม่ว่าอยู่แล้วครับ ไม่มีใครว่าอะไรเลย ผมก็ยังเป็นผม” บอกพร้อมรอยยิ้ม

   “ได้ค่ะ แต่คุณนาย เอ้ย น้องอัดจะไม่ว่าพวกพี่ทีหลังใช่ไหมคะ”

   “ไม่อย่างแน่นอนครับ”

   คนงานสาวๆ พากันถอนหายใจออกมาคนละเฮือกสองเฮือก เพราะตอนเจอหน้ากัน ทุกคนต่างก็พูดคุยเรื่องที่ต้องเจอหน้าภรรยาคนใหม่ของเจ้านาย ต่างก็ไม่รู้จะวางตัว วางท่าทีอย่างไรด้วย หากพูดธรรมดาด้วยก็กลัวถูกกล่าวหาว่าเล่นหัว เลยพากันนิ่งเงียบใส่อย่างเช่นคราวแรกที่อัษฎาเดินเข้ามา

   “พวกเราขอถามหน่อยได้หรือเปล่าคะ” แม้จะพูดคุยเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็คงไม่สมควรพูดห้วนๆ เลยต้องสุภาพสักหน่อย ป้าจันยื่นหน้าไปถามภรรยาของเจ้านายด้วยความใคร่รู้ ดูเหมือนทุกคนก็คงอยากจะรู้เช่นกัน อัษฎายิ้มพร้อมพยักหน้าทำให้ป้าจันหันซ้ายหันขวาก่อนจะถาม “ทำไมคุณถึงแต่งงานกับคุณใหญ่หรือคะ”

   “ไม่ต้องเรียกคุณหรอกครับ เรียกอัดเหมือนเดิมดีกว่า” รู้สึกขัดๆ กับการถูกคนสนิทเรียกว่าคุณ

   “ก็ได้ๆ ทำไมอัดถึงแต่งงานกับคุณใหญ่ล่ะ” ป้าจันถามด้วยดวงตาเป็นประกาย

   “ที่เคยได้ยินมาเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” คำถามอีกแบบจากป้าน้อมที่แทรกเข้ามา อัษฎาและทุกคนหันไปมอง “ก็ที่เขาบอกว่า ตอนสมัยไร่ยังเล็กๆ คุณนายใหญ่เชิญหมอดูมาทำนาย แล้วเขาก็บอกว่า ทั้งคุณใหญ่คุณเล็กต้องมีคนใดคนหนึ่งมีคู่ผิดปกติ”

   “ผิดปกติยังไงป้าน้อม” แก้วเอ่ยถามอย่างสงสัย “หรือว่าต้องพิการ?”

   “พิการอะไรของเอ็งนังแก้ว คู่ผิดปกติก็แบบ ชายกับชาย เหมือนที่คุณใหญ่แต่งงานกับตาอัดนี่ไง” คำพูดของป้าน้อมทำเอาคนงานสาวๆ ตาโต ก่อนหันไปจ้องอัษฎา “ใช่ไหม”

   “ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ” ตอบแบบนี้คงจะดีที่สุด อัษฎายิ้มให้กับทุกคนที่ทำหน้าเบ้เมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการ

   การทำงานที่ยังสนุกสนานจากการพูดคุยทำลายความตึงเครียดไปได้จนหมด ทุกคนดูจะลืมด้วยซ้ำว่าชายหนึ่งเดียวของที่นี่เป็นสะใภ้ของไร่ บางคนยังพูดจาเล่นหัวราวกับอัษฎาเป็นคนงานคนหนึ่งไ แต่ชายหนุ่มไม่มีท่าทีโกรธเคือง เขารู้สึกชอบที่นี่ แม้งานจะหนักกว่าที่เก่ามากโข แต่ทำแล้วมีความสุข จะทำให้รู้สึกคลายเหนื่อย

   อย่างที่เขาบอก คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก คงจะคล้ายๆ เช่นนี้

   เวลาเดินเร็วราวกับติดปีก มองนาฬิกาข้างผนังอีกทีก็เที่ยงซะแล้ว ทุกทีอัษฎาจะเดินไปกินกับแม่ที่ครัว แต่วันนี้ ทุกคนทำกับข้าวมาน่ากินทุกอย่าง อย่างน้ำพริกอ่อง น้ำพริกปลาทู หรือแม้แต่ยอดฟักทองผัดไข่ก็ยังดูน่าทาน สาวๆ ทั้งหมดชวนอัษฎากินด้วยกัน เด็กหนุ่มจึงขอฝากท้องมื้ออร่อย

        ความอร่อยมาพร้อมกับความสุข บรรยากาศทำให้ยิ่งเจริญอาหาร ข้าวในจานพร่องจนเกือบหมดหากประตูโรงงานไม่ถูกกระชากออก คนเปิดตีหน้ายุ่ง ดวงตาคมกวาดมองไปรอบๆ จนเจอคนที่ตามหา อัษฎาที่รู้สึกถึงความเกร็งของเพื่อนร่วมงานจึงเอ่ยขอตัวพร้อมกับดึงแขนเจ้าของไร่หน้าดุให้พ้นเขตโรงงาน พอเดินออกมาหน่อย ใหญ่ก็เริ่มโวยวาย

   “นี่มันกี่โมงแล้ว ฉันกับไอ้เล็กรอกินข้าวอยู่” น้ำเสียงไม่พอใจจากคนรอกินข้าวจนต้องออกมาตามหาซะเอง

   “ผมต้องไปกินข้าวกับคุณใหญ่ด้วยหรือครับ” ถามออกไปด้วยความไม่รู้ กลับได้เสียงจิ๊จ๊ะตอบกลับมา

   “เออ ก็นายเป็นเมียฉะ...เมียเจ้าของไร่ ก็ต้องไปกินที่ออฟฟิตสิ” คนตาดุรีบเสหน้ามองไปทางอื่น อัษฎาเลยโค้งศีรษะขอโทษนิดๆ

   “ขอโทษครับ ต่อไปผมจะรีบไป”

   “รู้แล้วก็รีบไป ฉันหิว” คนหิวกำลังจะเดิน หากคนถูกตามหากลับยังยืนอยู่ที่เดิม

   “แต่ผมอิ่มแล้ว...” อัษฎาบอก ดวงตากลมกระพริบปริบๆ

   “แต่ฉันยังไม่ได้กิน” แม้ที่ได้ยินจะฟังดูแปลกๆ แต่อัษฎาก็เลือกที่จะเดินตามในที่สุด ท้องไม่ติดกันสักหน่อย

   ประตูออฟฟิตเปิดออก เล็กเงยหน้าจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะมองพี่ชายที่เดินหน้าบึ้ง มีพี่สะใภ้เดินตามหลังด้วยใบหน้าแปลกๆ คล้ายกับสงสัยหรือสับสนบางอย่าง

   “มาแล้วเหรอ” เล็กรีบทักทายเพราะดูพี่ชายจะอารมณ์บ่จอย

   “ครับ ขอโทษที่ปล่อยให้คุณเล็กรอ” อัษฎาเลื่อนเก้าอี้นั่งข้างคนหน้าบึ้ง เล็กเดินยิ้มออกมานั่งฝั่งตรงข้ามดวงตาจ้องพี่ชายที่เก๊กขรึมอย่างน่าหมั่นไส้

   “ผมก็ยังไม่ค่อยหิวหรอกครับ ปกติก็กินช้าตลอด แต่ไม่รู้ทำไมมื้อนี้คนกินช้ากว่าถึงอยากกินตรงเวลาก็ไม่รู้” น้ำเสียงเชิงล้อทำเอาใหญ่ถลึงตาใส่ อัษฎาขำเบาๆ มือก็คอยตักข้าวใส่จานแจกจ่าย “ทำไมตักน้อยจังครับ” ถามเมื่อข้าวในจานอัษฎามีแค่นิดหน่อย

   “พอดีผมทานมาบ้างแล้วครับ”

   “พูดมาก กินๆ หิวจะตายอยู่แล้ว” ใหญ่พูดแทรกออกมาทำให้คนคุยกันอยู่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะ

   ท่าทางคนหิวจัดกินไม่เร่งรีบสักนิด หรือกับข้าวไม่อร่อย มื้อนี้เป็นต้มยำไก่แล้วก็ผัดผักรวม ดูแล้วก็น่าอร่อยจะตาย อัษฎาชิมทุกอย่างรสชาติไม่มีที่ติเช่นทุกครั้ง ขนาดเล็กยังทานไวกว่าคนบ่นหิวซะด้วยซ้ำ

   “คุณใหญ่ไม่ชอบกินเหรอ” ถามออกมา แต่ได้สายตาเหล่มองเป็นคำตอบ “ลองนี่สิ ผมว่าอร่อย” นี่ของอัษฎาคือถั่วลันเตา พอถูกวางในจาน ใหญ่ใช้ช้อนเขี่ยไว้ด้านข้างทำให้คนตักให้ยักไหล่และสนใจจานตัวเองแทน พอเห็นว่าไม่มีใครมอง ช้อนข้าวก็ถูกยกขึ้นอย่างไวพร้อมถั่วลันเตา

   เพราะไม่สังเกตว่าถูกจับตามองจากคนตรงข้าม ใหญ่เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว คนเป็นน้องเมื่อเห็นก็ไม่กล้าหัวเราะ กลัวพี่ชายจะเก๊กหน้าทำฟอร์มจัดอีก เลยปล่อยเลยตามเลย พยายามก้มหน้าแต่แท้จริงยังจับท่าทางของพี่ชายอยู่

   “อัดไม่ตักต้มยำไก่ให้พี่ใหญ่บ้างล่ะ ขานี้เขาชอบกินตับไก่มากเลยนะ ไม่รู้แม่ครัวเขาจะตักมาให้หรือเปล่า” เล็กรีบเสนอ ไม่สนพี่ชายจะถลึงตาใส่

   “ตับไก่เหรอ เมื่อกี้ผมเห็นนะ” คนถูกบอกไม่รู้อะไร มือก็รีบหยิบช้อนกลางแล้วคนหาจนเจอ ตับไก่ชิ้นโตถูกตักใส่จานที่เคยปฏิเสธถั่วลันเตา อัษฎามองหาผักอร่อยที่ตักให้แต่ไม่ยักจะมี หรืออาจถูกเขี่ยทิ้งไปแล้ว

   “ยุ่งจริง” ใหญ่แขวะน้องชาย มือก็ใช้ส้อมจิ้มตับไก่กิน ท่ามกลางเสียงขำของเล็ก และอัษฎาที่มองสองพี่น้องแบบสงสัยปนงงงวย



   มื้อเที่ยงจบเอาจวบบ่าย อัษฎาเก็บปิ่นโตและจานข้าวไปวางไว้ที่อ่างล้างเพื่อรอแม่บ้านมาเก็บ ตอนแรกเสนอตัวล้างให้ แต่เล็กรีบห้ามและบอกว่าอีกเดี๋ยวบ้านบ้านจะมาเก็บไปล้างเอง อัษฎาเลยเปลี่ยนใจขอตัวกลับไปทำงาน เล็กหัวเราะนิดๆ แล้วอนุญาตเมื่อเห็นพี่ชายยังนั่งก้มหน้าอ่านเอกสารในแฟ้ม มันคงจะไม่น่าขำถ้าหากแฟ้มนั้นถูกเซ็นแล้วเรียบร้อย

   เมื่ออัษฎาไปแล้ว เล็กก็ลุกจากหน้าคอมพิวเตอร์มานั่งเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของพี่ชาย ที่เห็นอยู่ว่าแอบมองตามหลังภรรยาคนใหม่ไป และเมื่อเห็นน้องชายมานั่ง ใหญ่ก็กระแอมแล้ววางแฟ้มลง

   “อะไร” ถามด้วยน้ำเสียงที่ห้วน

   “พี่ใหญ่นี่นะ”

   “อะไรของแก”

   “ลดลงซะบ้างไอ้ฟอร์มจัดเนี่ย” อดไม่ได้ที่จะว่า เล็กเริ่มรู้สึกเห็นใจพี่สะใภ้ซะจริง

   “ฉันฟอร์มจัดที่ไหน” ใหญ่ไม่ยอมรับ แถมยังยกแฟ้มขึ้นมาทำเหมือนว่ายุ่ง

   “แฟ้มนั่นไม่ต้องอ่านแล้วละมั้งครับ” คนถูกรู้ทันรีบวางแฟ้มลงพลางกระแอมกลบเกลื่อน “พี่ไม่เห็นใจอัดเขาเหรอ ถูกพี่บ่นบ้าง ด่าบ้าง ที่จริงมื้อเที่ยงนี้เราแทบจะกินตอนบ่ายด้วยซ้ำ” เล็กว่า เพราะใกล้เที่ยงพี่ชายเปิดประตูเข้ามาแล้วก็นั่งจ้องนาฬิกา พอถึงเที่ยงตรงก็เอาแต่มองประตู ครั้นพอผ่านไปไม่กี่นาทีก็เริ่มกระวนกระวายเดินไปเดินมา ยิ่งพอเที่ยงครึ่งยิ่งทำหน้าเหมือนไม่พอใจหนัก ปากก็บ่นทำไมยังไม่มา สุดท้ายคงทนไม่ไหวเลยออกไปตาม แบบนี้ไม่เรียกฟอร์มจัดแล้วจะให้เรียกว่าอะไรกัน

   “เห็นใจ? ทำไมต้องเห็นใจ ฉันไม่ได้ไปกินหัวเขาสักหน่อย”

   “เฮ้อ ตามใจพี่ละกัน แต่ผมขอเตือนไว้นะ ขืนพี่ทำแบบนี้มากๆ เข้า เขาทนไม่ได้หนีไปพี่จะรู้สึก” เล็กบอกทิ้งท้ายแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง จากตายว่าทรมานแล้ว จากเป็นเช่นเขาทรมานยิ่งกว่า เล็กไม่อยากให้พี่ชายต้องมานั่งเสียใจแบบตัวเอง

   หลังจากน้องชายเดินไปแล้ว ใหญ่ขมวดคิ้วคิดถึงคำพูด แม้เขาจะปากร้าย อารมณ์ร้อน แต่มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรสักหน่อย แล้วเด็กนั่นก็ไม่ได้มีท่าทีจะโวยวาย ก็ที่บ่นมันเรื่องจริงทั้งนั้น...มั้ง

   ใหญ่ยกมือขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิง ความคิดกำลังสับสนจนนั่งต่อไม่ได้ ขายาวรีบก้าวออกจากออฟฟิต จุดหมายคือในไร่ พอไปถึงก็รีบทำงานนั่นนี่ ทำตัวให้ดูยุ่ง แต่สมองกลับมีแต่คำพูดน้องชายเต็มไปหมดจนน่าหงุดหงิด

   “เออคุณใหญ่ครับ” ลุงเหมือนรีบขัดขึ้นมาจนคนที่ขยันทำงานหันมามองตาดุ

   “อะไร” ถามกลับเสียงดัง ทำให้คนงานแถวนั้นตกใจ

   “องุ่นพวงนั้นยังตัดไม่ได้นะครับ” ลุงเหมือนชี้ไปที่พวงองุ่นที่อยู่ในมือใหญ่ข้างหนึ่ง อีกข้างกำลังจะลงน้ำหนักมือเพื่อตัด พอเห็นว่าองุ่นยังเล็กและเขียวก็รีบปล่อย

   “ทำไมยังไม่สุกวะ” คล้ายกับพาลลงองุ่น ใหญ่ยื่นกรรไกรคืนหัวหน้าคนงานแล้วเดินออกจากไร่ทันที สร้างความสงสัยให้แก่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะไม่รู้เจ้าของไร่ไปอารมณ์เสียจากที่ไหนมาจนทำให้ไม่มีสมาธิ

   อารมณ์ร้อนเช่นนี้ต้องหาวิธีดับ ใหญ่เลือกจะขับมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เข้าไปในป่า น้ำตกเย็นๆ คงจะดับความร้อนในใจลงได้บ้าง นี่เขาเป็นบ้าอะไรอยู่ ไม่เคยร้อนขนาดนี้มาก่อน เพราะอัษฎากับคำพูดของน้องชายนั่นทีเดียว

   “โมโหโว้ย” พูดจบ ร่างกำยำก็พุ่งลงน้ำทันที ผืนน้ำแตกกระจายเป็นวงกว้าง ร่างสูงดำอยู่ในน้ำนานสองนานจนเริ่มสงบลงถึงโผล่พ้นน้ำขึ้นมา หากความสงบกลับถูกรบกวนจากคนที่ทำให้ต้องมาหาความเย็น “มาทำไม” เสียงตะคอกถามคนที่ยืนอยู่บนฝั่ง

   “แม่ให้มาถามว่า คุณใหญ่จะกินต้มส้มปลา หรือปลาเผาดี” อัษฎาเอ่ยถามออกมา ที่ตามมาทันเพราะเห็นใหญ่ขับมอเตอร์ไซค์พุ่งมา เขาก็รีบขอยืมอีกคันจากคนงานที่เพิ่งขับมาจอด แม้จะไม่ใช่คันที่ไต่ตามเขาได้ เลยต้องจอดทิ้งไว้ชายป่าแล้ววิ่งเข้ามา เหงื่อจึงท่วมกายทำให้เสื้อสีขาวเปียกชุ่มจนเห็นรูปร่างชัดเจน คนที่สงบแล้วเผลอมองรูปร่างบอบบาง แม้ไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้งเช่นผู้หญิง แต่ดวงตาก็มิอาจหันหนี “คุณใหญ่”

   “มานี่” ใหญ่กวักมือเรียกอัษฎาไปใกล้ฝั่ง มือกร้านยื่นมาตรงหน้า คงจะให้ช่วยฉุด แต่พอมือนิ่มยื่นไปจับไม่ทันไรก็ถูกแรงมหาศาลดึงจนต้องพุ่งลงไปในน้ำ

   คนที่ลงน้ำไม่ทันตั้งตัวรีบตะกายจนพ้นผิวน้ำ ปากแดงไอคอกแค่กเมื่อสำลักน้ำไปมาก อัษฎาตวัดสายตามองอย่างขุ่นเคือง คนที่ทำยังลอยหน้าลอยตาหัวเราะ จนต้องวักน้ำใส่

   “นี่” น้ำที่พุ่งเข้ามาขณะอ้าปากเลยพลอยกลืนเข้าไป

   “สม” ไม่มีการขอโทษจนคนต้องกลืนน้ำตกโผเข้าไปหา แม้อัษฎาจะหลบได้แต่ก็ไม่รอดพ้น แขนยาวยื่นไปล็อกคอจากด้านหลังแล้วลากไปมา “คุณใหญ่ผมเจ็บ” อัษฎาพยายามดิ้นแต่คนที่ล็อกคอไม่มีท่าทีว่าจะปล่อย เสียงหัวเราะยังดังอยู่ชิดใบหู

   “ไม่” คนปฏิเสธยังคงรู้สึกสนุกที่ได้แกล้ง กว่าจะรู้ตัวว่ากำลังกอดอัษฎาอยู่ก็ตอนที่คนตรงหน้าเอียงแก้มมาชนกับปาก

   คล้ายกับเวลาหยุดเดิน ดวงตาสองคู่สบกันอยู่เนินนาน แก้มขาวเนียนและหอมเมื่อได้อยู่ใกล้ ปากแดงที่เจ้าตัวเผลอแลบลิ้นเลียยิ่งดูน่าหลงใหล เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วกับเสียงน้ำตกที่กระเซนแทบถูกลบเลือน ทุกอย่างดูหยุดนิ่ง แต่มีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหว ดวงตาดุจ้องริมฝีปากแดงอิ่มเนิ่นนานและคงไม่รู้ตัวว่ากำลังยื่นหน้าเข้าไปใกล้

       ...ริมฝีปากแดงถูกประกบชิด ดวงตากลมค่อยๆ หลับตาลง ความนุ่มนวลอ่อนโยนยามปากหนาขยับจูบ ท่าทางที่เอี้ยวผิดธรรมชาติหมุนกลับมา มือขาวจับบ่าหนาไว้แน่น พอๆ กับมือกร้านที่โอบรอบเอวบางไว้แล้วออกแรงดึงเข้ามาแนบชิด

   บรรยากาศเป็นใจทำให้เผลอใจไป กว่าจะรู้ตัวใหญ่ก็รีบผลักคนในอ้อมกอดออก หน้าคมก้มงุดแล้วรีบว่ายกลับขึ้นฝั่ง หัวที่ปียกน้ำสะบัดไปมาหาเหตุผลที่เผลอจูบไป เพราะปากแดงนั่นยั่วเขาเอง กะจะมาหาอะไรเย็นๆ ดับ แต่นี่กลับยิ่งร้อนใจมากขึ้นไปอีก

   อัษฎาที่ถูกทิ้งเคว้งอยู่ท่ามกลางน้ำตกยังยืนนิ่ง ตกใจ ใช่ เขาตกใจ ไม่คิดว่าจะถูกจูบ สติสตังเริ่มกลับมาเต็ม ชายหนุ่มรีบว่ายขึ้นฝั่ง เสื้อผ้าเปียกโชกนั่นไม่น่าห่วงเท่าโทรศัพท์มือถือที่เปียกน้ำไปด้วย อัษฎาเดินย้อนกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ ตอนนี้รู้สึกไม่กล้ามองหน้าใหญ่เลย ไม่รู้จะทำหน้ายังไง แต่ที่แน่ๆ


        ...เจ้าของไร่ตาดุช่างจูบเก่งมากจริงๆ   


...TBC 

ขอโทษที่หายไปนานค่า พอดีกำลังคลานเป็นหอยทากปั่นตอนพิเศษกลอยประเกรียนลงเล่มอยู่ เลยอาจหายไปบ้าง โปรดให้อภัยด้วยค่าาา  :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 29-11-2016 20:04:30
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 29-11-2016 20:11:34
ในที่สุดดดดดดดดดดดดดดดกดดกดกดกดดดด 55555 รอคนแต่งมาตั้งหลายวัน คิดถึงน้องอัดดกับคุณใหญ่ที่สุดเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 29-11-2016 20:31:30
มาแล้ววว สนุก หมั้นไส้คุณใหญ่แบบอยากบิดให้เนื้อเขียว
ฟอร์มจัดชัดจริงเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 29-11-2016 20:44:05
 :o8: คุณใหญ่หลงเสน่ห์น้องอัตแน่ๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-11-2016 21:02:03
ทำฟอร์มจัดเข้าเดี๋ยวอัดทนไม่ไหวแล้วอย่ามาถามหาความเห็นใจนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-11-2016 21:19:57
เฮียใหญ่ฟอร์มจัดสุดๆ 555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-11-2016 21:22:16
 :L2: :L1: :pig4:

คุณใหญ่ กลับไปดูชื่อเรื่องเส่  ต้องรัก จะสับสนทำไมมมมม :katai1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-11-2016 22:05:35
ฟอร์มจัดเสียจริงนะคุณใหญ่
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Asmknrt ที่ 29-11-2016 22:47:43
รอๆๆๆ สนุกมากกก :katai5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 29-11-2016 23:00:47
กรี๊ดๆๆๆๆ เขาจูบกันเเล้ว. เจาจูบกันแล้ว. แต่คุณใหญๆๆๆๆ จะเก๊กไปถึงไหน โถๆรักเค้าแล้วก็ยังเก๊ก เดี๋ยวจะยุให้มีหนุ่มๆหล่อๆมาจีบอัดซะเลย ลุงจะได้หึงแบบไม่รู้ตัว :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 29-11-2016 23:52:09
คุณใหม่น่ารักอ่า ฟอร์มเยอะมากกกก ประมาณรักนะแต่ไม่แสดงออก  :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-11-2016 04:05:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 30-11-2016 10:30:21
แหม คุณใหญ่นี่ออกแนวเห่อเมียแบบเงียบอยู่นะ
มีหงุดหงิดตอนเช้าที่เมียไม่ไปตามและไม่รอกินมื้อเช้า
เที่ยงก็รอเมียมากินข้าว รอไม่ไหวถึงกลับไปตาม
แล้วมีดึงลงน้ำ หยอกล้อเล่นกัน แล้วก็ จูบบบบ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 30-11-2016 12:15:31
ติดตามๆ
มาอัพบ่อยๆนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 7 << [P.3] // [29/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 03-12-2016 21:48:08
สนุกมากๆค่ะ มาต่อเร็วๆนะ :)
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 04-12-2016 09:28:33
8




       เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนเย็น ทั้งใหญ่และอัษฎาต่างก็ไม่กล้ามองหน้ากัน ไม่ว่าจะตอนกินข้าว ตอนนอนที่นอนคนละที่อยู่แล้ว แต่ตอนตื่นมาก็ต้องเจอหน้ากันอยู่ดี คราวนี้ใหญ่ไม่ได้ออกห้องเช้าอย่างวันแรกหลังจากแต่งงาน เพราะอัษฎาตื่นมายังเจอเจ้าของไร่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ดวงตากลมจ้องหน้าเข้มที่มีไรหนวดประปรายตามคางอย่างพิจารณา

   ยามหลับแบบนี้น่ามองกว่าตอนตื่นอีกเป็นไหนๆ

   ปากแดงยู่อย่างหมั่นไส้เมื่อนึกถึงตอนคนหลับบ่นเช้าเย็น อัษฎามัวแต่นึกถึงคำบ่นมากมายจนลืมสังเกตว่าคนนอนหลับบนเตียงลืมตาตื่นแล้ว อีกทั้งยังจ้องมาที่ชายหนุ่มเช่นกัน มารู้สึกตัวก็ตอนที่จ้องตากัน ก่อนคนบนเตียงจะรีบดีดตัวลุกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

   “เกือบไปแล้ว” อัษฎาลูบอกตัวเองไปมา เมื่อกี้นี้ที่เผลอสบตาไปรู้สึกใจสั่นไหวแปลกๆ ก็เขาไม่ได้ชอบผู้หญิง แม้ใหญ่จะไม่ได้ชอบผู้ชายแต่สายตากับการจูบ...มันทำให้หวั่นไหว

   ได้ยินเสียงน้ำไหลเหมือนเรียกสติ อัษฎารีบรวบเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวก่อนวิ่งกลับไปหาแม่ที่บ้านพักคนงาน ใครจะไปกล้าใช้ห้องน้ำต่อได้กัน แค่มองตายังไม่กล้าด้วยซ้ำ

   ใหญ่ใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน แต่ที่ยังไม่ยอมออกมาสักทีก็เพราะมัวแต่ขยี้ผมตัวเองเมื่อนึกถึงดวงตากลมโตดั่งลูกกวางยามจ้องเขาเมื่อกี้ แม้จะหลับตาภาพที่น้ำตกก็ยังคอยวนเวียนจนทำให้นอนไม่หลับและตอนนี้ก็ยังชัดอยู่ ไม่ว่าจะพยายามลืมสักเท่าใดก็มิอาจทำได้ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบรุ่งสาง วันนี้เลยทำให้ตื่นสายกว่าปกติ

   ประตูห้องน้ำถูกแง้มนิดๆ ใหญ่ยื่นหน้าออกไปดูจนไม่เห็นคนนอนร่วมห้องอยู่เลยเดินออกมา ก่อนผงะเมื่อประตูห้องเปิด ท่าทางตกใจที่ดูมากมายจนเล็กขำ เขาไม่เคยเห็นพี่ชายตกใจแบบนี้มาก่อน ปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยตกใจอะไรอยู่แล้วด้วย ขนาดเจองูเห่าแผ่แม่เบี้ยอยู่ตรงหน้ายังทำเฉย แต่นี่แค่เปิดประตูเข้ามาถึงกับกระโดดขึ้นไปนั่งบนเตียง อะไรจะตกใจขนาดนั้น

   “พี่ใหญ่ตกใจผมเหรอ” เล็กว่า น้ำเสียงเจือขำ

   “ไม่ได้ตกใจ” กระแอมเล็กๆ ก่อนก้าวขาลงมาจากเตียง ใหญ่ดึงชายเสื้อให้เข้าที่พร้อมตั้งสติ “มีอะไร”

   “ผมจะเข้ามาเรียก ข้าวเช้าเสร็จแล้ว” ตอนแรกที่ถูกไหว้วานก็แปลกใจไม่น้อย ตอนเล็กเดินออกมาจากห้องเจอกับพี่สะใภ้ที่จัดแจงข้าวต้มหอมๆ อัษฎาแทบยกมือไหว้ขอร้องให้เล็กเข้ามาตามคนที่แต่งตัวช้า “แล้วทำไมวันนี้ตื่นสายโด่งขนาดนี้ล่ะพี่” อดไม่ได้ที่จะถาม ยิ่งไปกว่านั้น สายตาเรียวเหลือบไปเห็นกองหมอนและผ้าห่มที่วางที่พื้น

   “เรื่องของฉันน่า ออกไปได้แล้ว” ใหญ่ลุนหลังน้องชายให้เดินออกมาก่อนๆ จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คราแรกคิดว่าเป็นคนนอนร่วมห้องซะอีก

   โต๊ะอาหารเช้าที่มีข้าวต้มหอมกรุ่น ใหญ่นั่งประจำที่ ดวงตาคมกวาดมองหาบางอย่างที่ไม่เห็นแม้แต่เงาจนคนที่นั่งตรงข้ามสงสัยต้องเอ่ยถามออกมา

   “พี่ใหญ่มองหาอะไร” เล็กเอ่ยถาม ทั้งๆ ที่ก็พอรู้ว่าพี่ชายมองหาพี่สะใภ้แต่ก็ทำเป็นถาม เพราะอยากดูอาการของคนปากแข็ง

   “เปล่า” เสียงเรียบๆ ปฏิเสธออกมา ใหญ่ก้มหน้าจัดการข้าวต้มตรงหน้า บ่อยครั้งจะแอบใช้หางตามองหาคนที่ออกจากห้องแล้วหายเข้ากลีบเมฆ

   อันที่จริงอัษฎาก็ไม่ได้ไปไหนไกล เพียงแค่นั่งหลบอยู่ด้านหลังชานเรือน กาแฟดำที่ทำให้คลายความง่วงในตอนเช้า ยิ่งเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับจึงจำเป็นอย่างมาก ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องไปหลบงีบที่ไหนสักที่

   “มานั่งทำอะไรตรงนี้น่ะพี่อัด” เสียงใสของลูกเจี๊ยบเอ่ยขึ้น อัษฎาหันไปยิ้มให้เด็กสาวนิดๆ

   “อากาศดีเลยอยากรับลมรับแสงสักหน่อย” ว่าไปนั้น แท้จริงอยากหลบหน้าคนที่ทำให้ใจสั่นมากกว่า

   “เหรอ แต่ลูกเจี๊ยบว่าอากาศก็งั้นๆ” เด็กสาวมุ่ยหน้ามองไปรอบๆ

   “ก็ลูกเจี๊ยบอยู่มาตั้งแต่เด็กนี่นา แต่พี่เพิ่งมา เคยอยู่แต่ในห้องแอร์ เจออากาศสดชื่นแบบนี้ก็ต้องสูดให้เต็มที่สักหน่อย” พูดจบก็สูดหายใจเฮือกใหญ่ อากาศที่นี่บริสุทธิ์ไร้ซึ่งควันพิษเฉกเช่นในตัวเมืองหรือในเมืองใหญ่ๆ “ว่าแต่ มีอะไรหรือเปล่า”

   “อ๋อ พอดีลูกเจี๊ยบว่าจะไปตลาดสักหน่อย พี่อัดสนใจไหมจ๊ะ”

   “ตลาด? แถวนี้มีตลาดด้วยหรือ” ตั้งแต่มาอยู่ก็แทบไม่ได้ออกไปที่ไหนเลย จะมีก็แค่ไร่กับน้ำตกเท่านั้น

   “มีสิจ๊ะ แต่เป็นตลาดเล็กๆ ไม่มีของขายแบบในเมืองหรอกนะ เมื่อวานพี่ชมลูกของลุงเหมือนแกเอาลูกไหนมาอวด ลูกเจี๊ยบอยากกินเลยว่าจะไปซื้อสักหน่อย” คนอยากกินพูดยาวเหยียดจนคนฟังๆ แทบไม่ทัน

   “ลูกไหน? หน้าตามันเป็นยังไง”

   “อธิบายไม่ถูก พี่อัดต้องไปเห็นเอง ไปไหมจ๊ะ”

   ลังเลครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตกลง อัษฎาจำเป็นต้องเดินไปที่ห้องนอนของใหญ่เพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์ ร่างผอมสูดรับพลังแสงอาทิตย์ยามเช้าก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน สองพี่น้องที่นั่งทานข้าวอยู่พอมีคนเดินเข้ามาก็ต้องเงยหน้าขึ้นมอง เล็กยิ้มทักทายปกติ แต่อีกคนดูไม่ค่อยปกติ ทันทีที่ใหญ่เงยหน้ามองแล้วสบตาคู่นั้น อดไม่ได้ที่จะเลื่อนสายตาลงมองที่ปากแดงด้วย ภาพน้ำตกคล้ายกับเทปที่ถูกกรอซ้ำๆ จนต้องตบแก้มตัวเอง

   “พี่ใหญ่ตบหน้าตัวเองทำไม” เสียงดังเพียะทำให้เล็กตกใจ ยิ่งรู้ว่าพี่ชายทำร้ายตัวเองด้วย

   “ยุ่ง” ตอบกลับน้องชายไป แต่ดวงตายังจ้องคนที่หายไปตั้งแต่เช้า “มีอะไร” ใหญ่ถามคนที่ยืนนิ่งไม่ยอมขยับ

   “เปล่าครับ พอดีจะเดินเข้าห้อง” อัษฎาว่าแล้วรีบสาวเท้าเข้าห้องไป เล็กตักข้าวต้มเข้าปาก ดวงตาก็คอยจับอาการพี่ชายที่มองตามพี่สะใภ้ไป ขนาดว่าอีกฝ่ายเดินลับตาไปแล้วยังยืดคอมองจนเกือบตกเก้าอี้ พี่ใหญ่ท่าจะเป็นเอามาก

   “จะไปไหน” พอเห็นอัษฎาเดินออกมาพร้อมกระเป๋าสะพาย ใหญ่ก็เผลอถามออกมา เมื่อรู้สึกตัวก็แทบอยากตบปากตัวเองที่ไวกว่าสมอง

   “ไปตลาดกับลูกเจี๊ยบครับ” ตอบออกไปและคิดว่าต้องถูกบ่นแน่ แต่กลับไม่มีเสียงอะไรตอบกลับ “คุณใหญ่กับคุณเล็กจะเอาอะไรหรือเปล่าครับ”

   “ไม่ รีบไปแล้วก็รีบกลับมาทำงาน” อัษฎาหน้ามุ่ยทันทีที่ได้ยิน ต่างจากน้องชายที่สนิทกันมาตั้งแต่เกิด ท่าทางและน้ำเสียงข่มขวัญพูดไปอย่างนั้นเอง แท้จริงแล้วเป็นห่วงจะตาย “ขำอะไรของแก” เพราะน้องชายหลุดขำออกมา คนเป็นพี่เลยตวัดสายตาขุ่นมอง

   “ขำขัน” ว่าแล้วเล็กก็ก้มหน้ากินข้าวต้มต่อ แม้จะมีเสียงจิ๊จ๊ะดังจากพี่ชายก็ตาม

   เมื่อคนไปตลาดลับสายตาไปแล้ว ใหญ่ก็ลุกออกจากโต๊ะ ทั้งที่ข้าวต้มพร่องไปเพียงนิดเดียว สงสัยจะไม่อร่อยเมื่อไม่มีคนมานั่งข้างๆ เล็กกินไปขำไป อีกไม่นาน พี่ชายเขาจะต้องยอมรับออกมาว่าได้ตกหลุมรักคนที่ตั้งแง่คราแรกที่พบ หนีได้หนีไป แต่คนเรามักจะหนีหัวใจตัวเองไม่พ้น

   อัษฎาเดินตามลูกเจี๊ยบไปที่มอเตอร์ไซค์คันเล็กที่จอดอยู่ ขาเรียวขึ้นควบซ้อนท้ายพอดีกับใหญ่เดินลงมาจากเรือนพอดี ลูกเจี๊ยบทักทายพอประมาณก่อนจะออกรถมุ่งหน้าสู่ตลาดป่า ที่ส่วนมากเป็นชาวเขาที่หาของป่ามาขาย

   ใหญ่มองตามหลังคนซ้ายท้ายมอเตอร์ไซค์ไป ทำไมเขาถึงคิดว่าไม่อยากให้ไป อาจเพราะหน้าขาวเนียนต่างจากคนแถวนี้ ผิวพันธ์แบบนั้นอีก แถมดวงตากลมโตดั่งลูกกวางนั่น หากไปแล้วเจอคนลวนลามจะทำยังไง คิ้วหนาขมวดเป็นปมเมื่อสมองจิตนาการภาพเหล่านั้นขึ้นมา ไม่ได้การแล้ว ร่างสูงเดินไปควบมอเตอร์ไซค์ที่จอดในโรงรถ สตาร์ทได้มือก็รีบบิดคันเร่งเพื่อไปตลาดป่าทันที

   แผ่นหลังคุ้นๆ ที่กำลังขี่รถออกไปสร้างความขบขันในคนที่เพิ่งลงจากเรือนได้อีกระลอก เป็นไปได้ เล็กอยากจะลงไปนอนหัวเราะที่พื้นด้วยซ้ำเมื่อเห็นพี่ชายฟอร์มจัดหลุด คงจะเป็นห่วงถึงได้รีบตามไป ก็นะ ตลาดป่ามักจะมีนักเลงไร่อื่นออกมาหาเรื่องพ่อค้าแม่ค้าบ่อย ขืนพวกนั้นเจอคนกรุงผิวขาวๆ หน้าตาน่ารักแบบอัษฎาละก็ อันตรายไม่น้อยแม้จะเป็นผู้ชายก็เถอะ



   มอเตอร์ไซค์คันเล็กของลูกเจี๊ยบจอดเรียงกับคันอื่นๆ คนเพิ่งเคยมามองบรรยากาศตลาดที่คึกคัก ของส่วนใหญ่เป็นของป่า อัษฎาเดินตามลูกเจี๊ยบโดยไม่รู้จะซื้อหาอะไรดี เพราะของพวกนี้ เป็นพวกผักที่ไม่ค่อยรู้จักและไม่เคยกินมาก่อน

   “พี่อัดลองกินสิจ๊ะ” มัวแต่มองผู้คนจนเพลิน หันมาอีกทีลูกเจี๊ยบก็ยื่นผลไม้สีแดงมาตรงหน้า อัษฎาจ้องอย่างสงสัย จะว่าเชอรี่ก็คงไม่ใช่ “ลูกไหนไง ที่เรามาตามหา” พอได้ยิน คนไม่เคยกินก็พยักหน้าแล้วคว้าเข้าปาก

   “เปรี้ยว” ทันทีที่เคี้ยว ใบหน้าขาวก็บิดเบี้ยวทันที ความเปรี้ยวแผ่ซ่านจนต้องคายออกมา ลูกเจี๊ยบเห็นก็เอาแต่ขำ “มันอร่อยเหรอเนี่ย” อัษฎาเบ้ปากเพราะรสชาติฝาดปนเปรี้ยวยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น

   “ที่จริงก็มีลูกหวานๆ นะจ๊ะ แต่ลูกเจี๊ยบชอบแบบนี้มากกว่า กินแล้วไม่ง่วงดี” ลูกหวานๆ ที่ลูกเจี๊ยบบอกมีสีเข้มกว่า อัษฎามองลูกสีแดงกล่ำในมือลูกเจี๊ยบอย่าลังเล ประสบการณ์กินครั้งแรกมันไม่ดีเอาเสียเลย “ลูกนี้หวานจริงๆ” เมื่อได้รับคำยืนยันหนักแน่น อัษฎาจึงลองกัดผิวผลไม้นิดๆ

   “หวานจริงด้วย” ลองชิมแล้วรสชาติดีก็เริ่มติดใจ อัษฎาอยากได้ลูกที่หวานๆ ส่วนลูกเจี๊ยบอยากได้ลูกที่เปรี้ยวๆ แม่ค้าที่นั่งขายเลยหยิบถุงให้เลือกเอง

   ระหว่างที่สองคนกำลังเลือกในแบบที่ชอบ เสียงเอะอะอีกด้านทำให้ต้องหันไปมอง แม่ค้าที่นั่งขายลูกไหนพึมพำเป็นภาษาที่คนกรุงฟังไม่ออก ลูกเจี๊ยบยู่ปากก่อนจะรีบยื่นถุงในมือพร้อมของคนข้างๆ ให้แม่ค้ารีบคิดเงิน เมื่อจ่ายเงินเสร็จ ลูกเจี๊ยบก็แทบดึงแขนคนตัวขาววิ่งไปที่รถ คนแปลกถิ่นมักจะถูกรังแกเสมอเมื่อมาที่นี่ ยิ่งคนที่ลูกเจี๊ยบพามาด้วยตัวขาวอย่างกับแสงไฟนีออนยิ่งแล้วใหญ่

   “จะรีบไปไหนลูกเจี๊ยบ” อัษฎาถามอย่างสงสัย เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่เห็นแล้วคิดจะย้อนกลับไปซื้อ

   “กลับเถอะจ้ะ พวกคนเลวมาแล้ว” เมื่อได้ยิน คนไม่เคยเจอก็หันไปมองด้านหลังอย่างสงสัย สิ่งที่อัษฎาเห็นคือกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำกำลังวางท่าข่มขู่พ่อค้าแม่ค้าอย่างกับเป็นเจ้าของที่ คิ้วสวยขมวดเป็นปม

   “ที่นี่มีมาเฟียเรียกเก็บเงินด้วยหรือ” อัษฎาถามขณะรอลูกเจี๊ยบเข็นรถขึ้นไปบนถนน

   “พวกเลวทำได้หมดนั่นแหละ” ลูกเจี๊ยบว่า “แล้วที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของมันแต่มันก็มาเก็บเงิน รีบไปเถอะจ้ะ” แม้จะเร่งรีบแค่ไหน แต่รถดันมาสตาร์ทติดยาก ไม่ได้ดั่งใจซะเลย ลูกเจี๊ยบพยายามออกแรงขาเพื่อสตาร์ทรถ แต่ก็ยังไม่ติด ใจก็กลัวจะพาอัษฎามาเจอเรื่องน่ากลัว

   “ลูกเจี๊ยบ” เสียงเรียกพร้อมแรงเขย่าทำให้ต้องหันไปมอง คนถูกเรียกเบิกตาโตเมื่อเห็นกลุ่มคนพวกนั้นมองมายังพวกเขา อีกทั้งยังออกก้าวเดินมาแล้ว “ทำยังไงดี ลูกเจี๊ยบ” อัษฎาเริ่มหวาดกลัว สายตาที่ถูกมองมันน่ากลัวเหลือเกิน รอยยิ้มเหี้ยมนั่นอีก

   “พี่อัดมายืนข้างลูกเจี๊ยบนี่” เด็กสาวดึงแขนขาวมายืนจนชิด อย่างน้อยคนพวกนั้นก็รู้จักครอบครัวและรู้ว่าลูกเจี๊ยบคือคนของไร่พิกุลจันทร์หอม

   “ไงจ๊ะ สาวน้อย วันนี้พาใครมาเอ่ย” หัวหน้าของกลุ่มชายฉกรรจ์ส่งเสียงมาก่อน ลูกเจี๊ยบเกือบจะส่งเสียงด่าหากไม่มีร่างสูงใหญ่มาขวาง แผ่นหลังกว้างทำให้คนกลัวรู้สึกผ่อนคลายลงจนยิ้มออกมา “อ่าว พ่อเลี้ยงแห่งไร่พิกุลจันทร์หอมก็มาด้วยหรือนี่” หัวหน้ากลุ่มดูผงะไปเล็กน้อยเมื่อมีคนมาขวาง ยิ่งไปกว่านั้นคนมาขวางไม่ใช่คนอย่างพวกมันจะต่อกรได้สักเท่าใด

   “ที่นี่ไม่ใช่ที่ของพวกแก กลับไปซะ” ใหญ่บอกเสียงนิ่ง นอกไร่แบบนี้ไม่อยากมีเรื่องกับใคร

   “แหม ดุซะจริงนะครับพ่อเลี้ยง พวกผมแค่อยากมาดูหน้าคนผิวขาว กลิ่นหอมเท่านั้นเอง ขนาดยืนไกลแบบนี้ยังได้กลิ่นเลย จริงไหมวะ” หัวหน้ากลุ่มหันไปถามลูกน้องที่ได้คำตอบคือเสียงหัวเราะดังลั่น

   อัษฎากลัวจับจิต มือเรียวยึดแขนเสื้อของคนที่ยืนบังไว้แน่น ใหญ่ปรายตามองคนด้านหลังนิดๆ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับพวกหมาหมู่ หากพวกมันสังเกตสักนิดคงจะเห็นกรามที่นูนขึ้นเป็นสัน เจ้าของไร่พิกุลจันทร์หอมต้องขบฟันกลั้นความโมโหที่พุ่งพล่านจนแทบอยากจะพุ่งเข้าใส่เมื่อเห็นพวกมันทำจมูกยื่นเหมือนหมา

   “กลับไปซะ” ตวาดทิ้งท้าย ก่อนจะดึงคนตัวหอมของพวกมันไปที่มอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ไม่ไกล ลูกเจี๊ยบแลบลิ้นล้อเลียนก่อนจะถีบไถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองตาม พอมาจอดอยู่ข้างกัน ใหญ่จึงช่วยสตาร์ทรถให้ เพียงแค่ครั้งเดียวเครื่องยนต์ก็ติด “กลับ” ใหญ่ว่า ลูกเจี๊ยบมองอัษฎาที่ยังถูกใหญ่จับมือไว้อย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ตัดใจออกรถกลับไร่ ไม่รู้ว่าจะทะเลาะกันหรือเปล่า แต่ก็คงปลอดภัยกว่ามากับเธอ

   เมื่อรถของลูกเจี๊ยบลับตาไป อัษฎาขบเม้มริมฝีปากแน่น เพราะใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยมือสักที จนต้องแตะแขนหนาเบาๆ ใหญ่ถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองจับมือนุ่มซะแน่น

   “ขอบคุณครับที่มาช่วย” บอกพร้อมรอยยิ้มหวาน คนถูกมองรีบเสหน้ามองไปทางอื่น

   “ใครมาช่วย ฉันแค่ผ่านมา” ใหญ่ว่า ก่อนเจ้าตัวจะก้าวขาคร่อมมอเตอร์ไซค์ “รีบขึ้นมาสิ หรืออยากถูกพวกมันเชยชมดอมดมให้สมใจล่ะ” ชอบจริงนะประชดเนี่ย อัษฎาเบ้ปากพร้อมกับขึ้นไปซ้อนด้านหลัง

   “ทางผ่าน คุณใหญ่จะไปไหนหรือครับ ถึงผ่านมาทางนี้” ดูเหมือนจะถูกต้อน ใหญ่เลยทำเป็นหูทวนลม แรงลมที่ปะทะใบหน้าคงเป็นเหตุผลที่จะบอกได้ว่าไม่ได้ยินที่ถาม “คุณใหญ่” คราวนี้เสียงเรียกชิดติดใบหูเมื่ออัษฎายื่นหน้ามาจนชิด คนขี่รถถึงกับเสียสมาธิไปครู่หนึ่ง เพราะกลิ่นหอมอย่างที่ไอ้พวกนั้นว่าแท้ๆ

   “เรื่องของฉัน” เป็นเหตุผลเดิมๆ ที่ไม่อยากบอก เมื่อไม่รู้ อัษฎาเลยเลิกที่จะถามและหันไปมองข้างทางแทน ต้นไม้ที่ผ่านตาดูเหมือนกันทุกต้น ดวงตากลมเลยเลื่อนกลับมาจ้องแผ่นหลังกว้างตรงหน้าแทน กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆ ติดกายจนทะลุเสื้อเนื้อบางทำให้ต้องยื่นหน้าไปชิด “เฮ้ย” ใหญ่ตะโกนลั่นเมื่อหลบหลุมใหญ่ที่ถนนไม่ทันเลยเป็นเหตุให้รถเซถลา ยังดีที่ประคองไว้ได้เลยไม่ล้ม แต่ที่น่าตกใจกว่ารถตกหลุมคืออ้อมแขนที่รัดช่วงเอวไว้แน่น ใบหน้าขาวๆ ที่เห็นกำลังซบกับแผ่นหลัง หากไม่มีเสียงโวยวายดังขึ้นมา ใหญ่ก็คงยังยิ้มอยู่อีกนาน

   “คุณใหญ่ขับยังไงเนี่ย” เสียงดังแข่งกับลม เพราะเมื่อกี้ตอนรถเสียหลักเกือบล้ม อัษฎายื่นขาออกทำให้ครูดกับผิวถนนนิดๆ จนรู้สึกแสบ แต่ก็ยังดีที่ไม่ตกลงไป แบบนั้นคงเจ็บตัวกว่านี้แน่

   “มันเป็นหลุมไม่เห็นหรือ” รีบบอกข้อเท็จจริงทันที ก็มันมีหลุมจริงๆ จะให้บอกว่าอะไร

   เส้นทางมาตลาดไม่ได้นานเช่นตอนขากลับ อัษฎาที่ยังกอดเอว ซบหน้าและหลับตาอยู่บนแผ่นหลังกว้าง ชายหนุ่มหลับตาปี๋ตั้งแต่ตอนนั้น พอมาตอนนี้ลืมตาขึ้นมาเจอกับเสื้อสีฟ้าอ่อนของใหญ่และเพิ่งรู้สึกตัวว่าได้กอดคนขี่มอเตอร์ไซค์ไว้แน่น แต่ที่น่าแปลกที่ว่าคือทำไมไม่ถูกด่าหรือบ่น แต่ก็ช่างมันเถอะ แผ่นหลังกว้างนี้ก็อบอุ่นดีเหมือนกัน อัษฎาเลือกจะซบหน้ากับหลังกว้างไปตลอดทาง

   เช่นเดียวกับคนขี่ที่มีรอยยิ้มผุดขึ้นมา ความเร็วถูกผ่อนซะเหมือนเต่าคลาน รู้แค่ว่า ตอนนี้อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ แต่เหมือนถนนจะไม่เป็นใจ เมื่อมองเห็นประตูทางเข้าไร่อยู่ตรงหน้า ด้วยความฟอร์มจัด ใหญ่กระแอมเบาๆ ก่อนจะพูดออกมา

   “จะกอดอีกนานหรือเปล่า” พอคนกอดเอวแน่นได้ยินก็รีบดึงแขนกลับ ความอุ่นที่รู้สึกมาตลอดทางถูกความเย็นพุ่งเข้าหาจนใหญ่ต้องนิ่วหน้า

   “ขอโทษครับ” อัษฎาเอ่ยขอโทษเบาๆ เมื่อกี้รู้สึกเคลิ้มจนเหมือนจะเผลอหลับไปจริงๆ

   พอมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ที่โรงรถ อัษฎายืนนิ่งก่อนขอบคุณคนช่วยอีกรอบ แม้คนใจดีจะบอกว่าเป็นทางผ่านก็เถอะ แต่ทางนั้นมันจะผ่านไปไหนได้ ก็ตลาดมันอยู่ลึกในป่าแบบนั้น แต่จะพยายามเชื่อในสิ่งที่ใหญ่บอกก็แล้วกัน

   “คุณใหญ่” ขณะใหญ่กำลังจะเดินผ่าน อัษฎาร้องเรียกไว้ทำให้คนก้าวขารีบถอยมายืนที่เดิม ใบหน้าเข้มตีสีหน้าดูไม่ชอบใจนิดๆ “เอ่อ ผมให้” มือขาวยื่นผลไม้สีแดงกล่ำมาให้ หากนับจากจำนวนในมือกับในถุงแล้ว ทำไมใหญ่ถึงได้แค่ห้าลูกเท่านั้น
 
   “ให้ทำไม” พูดไปแบบนั้น แม้จะอยากยื่นมือไปรับมา

   “หวานดีนะครับ เผื่อคุณใหญ่ชอบ” อัษฎาบอกพร้อมรอยยิ้ม

   “ฉันกินมาตั้งแต่เด็กแล้ว” ท่าทางดูไม่ชอบใจแต่ก็ยื่นมือมาหยิบไป “รีบไปทำงาน อู้มาเป็นชั่วโมงแล้วเนี่ย” และไม่ลืมบ่นส่งท้าย พอเดินห่างมาไกล ผลไม้ในมือก็อยู่ในปากและที่เหลือก็ถูกเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง

   อัษฎายืนยิ้มให้คนฟอร์มจัด ก่อนจะยกมือตัวเองขึ้นมาดู ช่วงหนึ่งเขารู้สึกได้ว่า ใหญ่จับมือที่ผสานอยู่ที่เอวหนานั่น บางทีคนดุคนนี้อาจจะใจดีกว่าที่เห็นก็เป็นได้ อย่างที่ลูกเจี๊ยบกับคนอื่นๆ บอกเสมอว่าเจ้าของไร่เป็นคนใจดี มีเมตตาต่อคนงานทุกๆ คน
   




   ท่าทางอารมณ์ดีของใหญ่ทำให้ทุกคนต่างพากันสงสัย เมื่อวานยังหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่เลย แต่วันนี้กลับเปลี่ยนไปคล้ายกับไปเจอเรื่องดีๆ มา และคนที่ถูกถามมากที่สุดก็คงเป็นหัวหน้าคนงานอย่างลุงเหมือน ซึ่งก็ได้แต่ส่ายหน้าเพราะก็ยังเดาอารมณ์เจ้านายไม่ออกเช่นกัน

   “ต้นนี้ตัดแต่งกิ่งอีกหน่อยนะ ลูกมันสวยแล้ว” ใหญ่เดินผิวปากเข้ามาก่อนจะชี้ไปยังต้นองุ่นที่เป็นพุ่มสวย

   “ครับ” ลุงเหมือนรับคำ ก่อนความอยากรู้จะทำให้ลองถามดู “คุณใหญ่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

   “ทำไมหรือ ฉันผิดปกติตรงไหน” มากที่สุด ลุงเหมือนอยากบอกเช่นนั้น

   “เปล่าครับ แค่วันนี้คุณใหญ่อารมณ์ดีเท่านั้นเอง” ลุงเหมือนว่า วันนี้คุณใหญ่มาไร่ช้า ปกติตะวันยังไม่ขึ้นก็อยู่ในนี้แล้ว วันนี้เข้าไร่มาเกือบเที่ยง

   “ฉันอารมณ์ดีหรือ” คนอารมณ์ดีไม่รู้สึกตัว หากได้พยักหน้าเป็นคำตอบเลยลองจับหน้าตัวเอง คลำมาถึงปากถึงรู้ว่าตัวเองกำลังยิ้มอยู่ “คงงั้นแหละ” ตอบด้วยท่าทางสบายๆ ทำให้ลุงเหมือนและคนอื่นๆ พากันเบิกตาโตมอง กี่ปีแล้วที่ไม่ได้เห็นเจ้าของไร่อย่างคุณใหญ่เป็นแบบนี้ ท่าทางอารมณ์ดีจนยิ้มไม่หุบ

   การทำงานวันนี้ อาจเพราะเจ้านายอารมณ์ดี คนงานเลยพลอยยิ้มแย้มไปด้วย บางครั้งเจ้านายเล่นมุกตลกก็พาลทำให้มีเสียงหัวเราะขึ้นจนอยากให้เป็นแบบนี้ทุกวัน

   ก่อนรอยยิ้มกว้างที่มีต้องหุบลงเมื่อมีคนงานมาเรียกไปทานข้าว และพ่วงท้ายด้วยการบอกว่ามีแขกมาเยี่ยมไร่โดยไม่ได้รับเชิญ ใหญ่เดินหน้านิ่งไปที่ออฟฟิต มือกร้านผลักบานประตูเข้าไป ความรู้สึกอึดอัดก็พุ่งพรวด อัษฎากำลังหัวร้อต่อกระซิกกับแขกที่มาใหม่ โดยมีน้องชายนั่งอยู่ด้วย

   “อ่าวพี่ใหญ่” เล็กที่หันมาเห็นก็รีบเรียกพี่ชายที่ยังยืนอยู่หน้าประตูให้เข้าไปนั่ง “คุณทัศนัยเขาอยากมาดูไร่น่ะ แล้วก็อยากได้ไวน์เพิ่มด้วย” มันเป็นสิ่งดีของไร่ก็จริง แต่ไอ้การที่มานั่งจ้องคนของเขามันดูจะมากไป

   “อืม” ใหญ่ครางรับในลำคอก่อนขายาวจะสาวเท้ามานั่งที่วางแขนโซฟาที่อัษฎากำลังนั่งอยู่ แม้จะแปลกใจแต่อัษฎาก็ยังยิ้มแย้มให้แขกที่เป็นลูกค้าของไร่ “มานานหรือยังครับ”

   “เพิ่งมาถึงครับ ผมเอาเค้กที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านมาให้ชิมด้วยนะครับ” ทัศนัยรีบบอกพร้อมเลื่อนกล่องเค้กไปตรงหน้าใหญ่

   “พี่ใหญ่ไม่มานั่งตรงนี้ล่ะ” ทุกคนคงรู้สึกแปลกเหมือนกัน แต่เป็นเล็กที่กล้าเรียกพี่ชายให้ไปนั่งโซฟาด้วย ก็ไปนั่งตรงนั้นอัษฎาก็อึดอัดแย่

   ใหญ่ปรายตามองที่ว่างข้างน้องชายก่อนส่ายหน้าช้า

   “นั่งตรงนี้ก็ไม่ได้ลำบาก” เล็กเกือบหลุดขำออกมาแล้วหากไม่เห็นหน้าตาเหลอหลาของทัศนัย “มาแค่เอาเค้กมาให้ชิมหรือครับ” คำถามตรงจนคนตั้งใจถึงกับพูดไม่ออก

   “เอ่อ...”

   “พี่ใหญ่ละก็ คุณทัศนัยเขามีเรื่องจะพูดด้วย” เล็กรีบขัดขึ้น ดูท่าตอนนี้พี่ชายคงจะอารมณ์ไม่ดี พูดจาได้ห้วนและขวานผ่าซาก ขนาดเป็นน้องยังรู้สึกเกร็งหากถูกจ้องแบบนั้น

   “เรื่องอะไร” ท่าทางดูไม่ได้อยากรู้สักเท่าใด ยิ่งเห็นทัศนัยมองคนที่นั่งข้างๆ ยิ่งไม่ชอบใจอยากจะไล่ไปซะด้วยซ้ำ “ไปทำงานไป” สุดท้ายก็ต้องไล่อัษฎาออกไป ไม่อย่างนั้นใหญ่ก็ไม่รู้ว่าจะระงับอารมณ์ที่มันพุ่งพล่านไร้สาเหตุได้ยังไง

   คนถูกไล่ให้ไปทำงานส่งค้อนแวบหนึ่งก่อนจะลุกออกไป โดยมีทัศนัยมองตามจนประตูปิด การกระทำเช่นนี้ก็บ่งชี้ว่าคนที่อยากให้ชิมเค้กน่าจะเป็นคนที่เดินออกไปมากกว่า

   “คุณใหญ่ดูท่าจะโมโหหิว งั้นผมค่อยมาคุยวันอื่นดีกว่าครับ” ทัศนัยรีบตัดบท เอาจริงๆ อยากมาคุยกับอัษฎา แค่ได้เห็นรอยยิ้มหวานนั่นก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยอย่างน่าแปลกใจ แต่พอถูกไล่ออกไปแล้วก็เหลือแต่คนที่ทำหน้านิ่งกับปั้นหน้าโหด ดังนั้นกลับเลยน่าจะดีกว่า

   “คงจะอย่างนั้น” ใหญ่ว่า แขนสองข้างยกกอดอกดูไม่แยแสสักนิด

   เล็กเดินออกไปส่งแขกของไร่ครู่หนึ่ง พอเดินกลับมาก็มองท่าทางของพี่ชายที่ชักจะแสดงออกมากเกินไป แม้จะรู้ว่าพี่ชายขี้หวง แต่กับพี่สะใภ้คนก่อน ไม่ได้มีอาการถึงขนาดนี้

   “พี่แปลกนะผมว่า” เล็กจ้องหน้าพี่ชาย คนถูกจ้องทำหน้านิ่งๆ พยายามไม่สนใจน้ำเสียงและสายตารู้ทันของน้องชาย

   “แปลกยังไง หิวแล้ว ไปเรียกพี่สะใภ้แกมากินข้าวสิ” รีบเปลี่ยนเรื่องเชียวนะ เล็กขำพรืดออกมา ยิ่งได้ยินพี่ชายเรียกอัษฎาว่าพี่สะใภ้เต็มหูแบบนี้ยิ่งน่าขำหนัก แพ้ใจตัวเองแล้วล่ะพี่ชาย “จะกินไหมข้าวน่ะ” กลบเกลื่อนเป็นหิว เล็กเดินขำตลอดทาง อีกไม่นานหรอกที่พี่ชายจะกล้ายอมรับออกมาว่าหลงเขาไปแล้วอย่างหัวปักหัวปำ

   ด้านใหญ่ที่นั่งอยู่คนเดียวในออฟฟิต ทั้งที่พยายามหาเหตุผลมารองรับว่าทำไมถึงทำตัวแบบนั้นไป ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนั้น ท่าทางที่หึงหวงจนเกินเหตุ ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน หรือเขาจะต้องเป็นดังคำที่แม่กระซิบก่อนออกจากห้องหอในคืนวันส่งตัว


   ...สุดท้ายใหญ่จะต้องรักเขา เชื่อแม่สิ     


...TBC   

ลุงแกออกจะมึนๆ ไปหน่อยโปรดให้อภัยคนเพิ่งหัดมีรักนอกกรอบนะคะ  :o8:

ขอบพระคุณสำหรับการติดตามค่า (ไถนอนกับพื้นพร้อมกราบงามๆ)

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-12-2016 09:54:32
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-12-2016 10:14:06
ปากแข็งเข้าไป...
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 04-12-2016 10:16:36
คุณใหญ่น่ารักอยู่แล้ว ชัดเจนอีกหน่อยก็มีความสุขแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-12-2016 10:42:12
 :m20:

พ่อใหญ่ เกือบดีละ

รออออออออ น้ำตาล(จะมีไหม)

 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 04-12-2016 11:45:16
ขำคุณใหญ่มากกกกก 55555555555 ฟอร์มอะไรเบอร์นั้นนนน :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 04-12-2016 11:56:21
โอยคุณใหญ่คะ อะไรจะฟอร์มเยอะขนาดน้านนนนนนนนนยย  :laugh:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 04-12-2016 11:57:34
รอดูคนฟอร์มแตกจ้าาาาาา :laugh:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 04-12-2016 14:09:49
น่ารักจ๊นนนน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 04-12-2016 15:51:34
 :impress2: คุณใหญ่รู้ตัวเร็ว ๆ ดิ เราอยากเป็นกินน้ำตาลเชื่อมแระ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 04-12-2016 16:00:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 04-12-2016 23:35:50
ทัศนัยคงเป็นคู่แข่งของคุณใหญ่แน่ๆเลย หรือเป็นตัวกระตุ้นใหคุณใหญ่รู้จังตัวเองเร็วนะ ต่อมเก๊กแตกแน่ๆๆๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 05-12-2016 03:58:09
 :pig4: :call:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 05-12-2016 06:42:41
คุณใหญ่เริ่มหึงหวงแล้ววว
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 05-12-2016 09:20:49
มาต่ออีกไวๆนะสนุกมากเลย :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 05-12-2016 09:22:31
ขี้หวงขนาดนี้ อารมญ์ขึ้นๆลงๆอีก หลงมากแล้วหล่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-12-2016 14:08:24
แบกฟอร์มไว้เยอะขนาดนี้หนักไหมคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 05-12-2016 16:08:45
สนุกค่ะๆ :)
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 05-12-2016 16:18:43
โถ่ ลุงปากไม่ตรงกับใจเลยย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-12-2016 18:53:27
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 8 << [P.4] // [04/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 05-12-2016 20:12:28
คุณใหญ่จะซึนไปไหนคะ ชอบเขา หึงเขา หวงเขาออกนอกหน้าขนาดนี้ ยังทำมึนได้อีกนะ 555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 06-12-2016 19:15:07
9




        “แม่ได้ยินมาว่า ใหญ่ให้น้องนอนที่พื้น เรื่องจริงหรือ” คนตักข้าวเข้าปากชะงักเมื่อได้ยิน พอๆ กันอัษฎาที่กำลังดื่มน้ำจนเกือบสำลัก

   “ใครบอกแม่หรือครับ” ดวงตาดุตวัดมองคนนั่งข้าง แต่คนถูกมองส่ายหน้าเป็นพัลวัน

   “ไม่ใช่อัดหรอกที่บอกแม่ ตาเล็กต่างหาก” คุณพิกุลบอกเสียงเรียบ แต่คนมีชื่อโวยวายขึ้นมาเพราะถูกพี่ชายส่งสายตาดุดันมาให้ราวกับจะกินหัว

   “แม่! ทำไมพูดแบบนั้นเล่า” เล็กย่นหน้าเมื่อแม่บอกต้นตอ ทั้งที่ก่อนบอกได้ย้ำแล้วว่าห้ามบอกพี่ใหญ่ว่ารู้มาจากไหน แล้วแบบนี้จะโดนทำโทษหรือเปล่าละนี่

   “ไอ้เล็ก” คิดยังไม่ถึงไหนเสียงดุก็ตวาดขึ้นมา    

   “ผมพูดเรื่องจริงนี่นา” สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าเป็นคนบอก “ผมเห็นที่นอนวางอยู่มุมห้องตอนเข้าไปเรียกพี่ใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องจริงตรงไหน มันคือเรื่องจริง” เล็กพูดเสียงสูงในประโยคสุดท้าย

   “ไม่ต้องไปมองน้องแบบนั้นเลยนะ เราน่ะผิด ทำไมถึงให้อัดไปนอนพื้น แต่งงานกันแล้วนะ ไม่มีบ้านไหนเขาให้ภรรยาไปนอนที่พื้นหรอก แล้วก็...”

   “ครับๆ”

   “คือคุณใหญ่ไม่ได้ผิดหรอกครับ ผมลงไปนอนที่พื้นเอง” อัษฎาออกตัวแทน คุณพิกุลขมวดคิ้วมองสะใภ้คนใหม่อย่างสงสัย “พอดีผมนอนดิ้นเลยกลัวจะไปรบกวนคุณใหญ่...”

   “พี่ใหญ่”

   “ครับ?”

   “ต่อไปให้เรียกว่าพี่ใหญ่ คุณใหญ่อะไรกัน แต่งงานกันแล้วนะลูก” คุณพิกุลบอกเสียงเข้มทำเอาอัษฎารีบหันไปมองหน้าคนข้างๆ ใหญ่ปรายหางตามองนิดๆ ก่อนพยักหน้า “เราด้วยตาใหญ่ แม่ไม่เคยเห็นเราเรียกอัดว่าน้องเลยนะ เรียกนายๆ ตลอด แม่ไม่ชอบ” อุตส่าห์ไม่พูดยังโดนจนได้ ใหญ่เงยหน้ามองแม่ตัวเองนิ่งๆ “ใหญ่”

   “ครับๆ ต่อไปจะเรียกน้องตลอด”

   “อย่ามาประชดแม่นะ มันน่าหยิกให้เนื้อเขียว”
 
   ทั้งเล็กและอัษฎาต่างพากันหัวเราะ รวมไปถึงนมอิ่มกับสาวใช้อีกคนที่พากันขำท่าทางของแม่ลูกที่คอยแหย่กัน ใหญ่ที่เห็นว่าแม่หน้าบึ้งก็เอาใจรีบตักกุ้งตัวโตให้

   “นี่ครับกุ้ง” แม้จะน่าหมั่นไส้ แต่คุณพิกุลก็ยิ้มออกมา

   “ขอบใจย่ะ นั่น ตักให้น้องบ้าง” คนเป็นแม่พยักพเยิดหน้าไปทางอัษฎา แต่ใหญ่กลับตีหน้าแสร้งไม่รู้

   “ให้ไอ้เล็กหรือครับ อะ” ว่าแล้วก็ตักบล็อกโคลี่ให้ ก่อนจะถูกแม่ยื่นมือมาตีจนช้อนแทบหลุดมือ “ผมเจ็บนะแม่” ใหญ่มุ่ยหน้าเมื่อถูกตี แถมยังต่อหน้าต่อตาอัษฎาอีก ขานี้ก็เอาแต่หัวเราะจนใหญ่ต้องกระแอมพร้อมเหล่ตามอง

   “ตักให้ภรรยาแกสิ ตาเล็กมันตักเองได้” อิดออดจริงๆ คุณพิกุลมองท่าทางคนไม่ค่อยเต็มใจตัก เหมือนกุ้งตัวนั้นจะหนักเป็นร้อยกิโลจนยกช้อนไม่ขึ้น “ตาใหญ่ จานน้องน่ะวางสิ”

   “รู้แล้วๆ”

   อัษฎาได้แต่ลอบยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของคนฟอร์มจัด กว่ากุ้งจะวางในจานได้ก็ใช้เวลาอยู่เป็นนาที

   “ขอบคุณครับ” บอกพร้อมรอยยิ้ม ใหญ่ถลึงตาใส่ก่อนก้มหน้ากินข้าวในจานตัวเอง แล้วต้องเงยหน้าอีกรอบเมื่อมือขาวตักตับไก่มาให้ “คุณใหญ่ชอบกินนี่ครับ ผมจำได้”

   พูดไม่ออก ใหญ่รีบก้มหน้าเขี่ยตับไก่ในจาน ดูเหมือนไม่อยากกิน แต่จริงๆ แล้วแอบลอบยิ้มอยู่ต่างหาก คุณพิกุลส่งสายตาให้นมอิ่มมองคนท่ามากแล้วพากันขำ

   วันนี้มื้อเช้ามีคุณพิกุลที่เดินทางมาในวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่สำคัญ ตอนลูกชายคนเล็กโทรไปบอกเรื่องที่อัษฎานอนที่พื้นยิ่งอยากจะมาในคืนนั้น แต่ดึกเกินไปที่จะเดินทาง พอรุ่งสางก็รีบตรงมาทันที แต่พอเห็นท่าทางและอากัปกิริยาของลูกชายคนโตแบบนี้แล้ว แทบไม่อยากจะเชื่อว่าไม่ได้นอนร่วมเรียงเคียงหมอนกัน

   “แล้วคุณทัศนัยเขามีเรื่องอะไรหรือเปล่า ถึงมาที่ไร่ของเรา” พอได้ยินชื่อคนต่างถิ่นใหญ่แทบจะวางช้อนเพราะไม่อยากนึกถึง

   “เขาโทรมาคุยกับผม ว่าน้องชายเขาทำรายการทีวีแล้วสนใจอยากจะเข้ามาทำรายการในไร่เราน่ะครับ ผมว่าจะคุยกับพี่ใหญ่เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน” เล็กหันไปมองพี่ชายที่นั่งกอดอกเอนหลังพิงพนัก “พี่ใหญ่อิ่มแล้วหรือ”

   “เออ” ท่าทางไม่สบอารมณ์เช่นเดียวกับเมื่อวาน

   “งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันดีกว่า กินข้าวเถอะ” คุณพิกุลเห็นอาการของลูกชายคนโตแล้วต้องรีบขัด ขืนคุยตอนนี้จะยิ่งทำให้อารมณ์เสีย แม้ไม่รู้สาเหตุก็เถอะ แต่หน้าตาบึ้งตึงก็สามารถทำให้ความอร่อยลดลงได้ และพอดูดีๆ ตับไก่ชิ้นโตหายไปจากจานเรียบร้อย

   “คุณใหญ่กินนี่สิครับ” เสียงพูดเบาๆ เรียกสายตาของหลายคนให้มอง อัษฎาตักไก่เนื้อแน่นพร้อมมะเขือเทศให้ เจ้าของจานปรายตามองนิ่งทำเป็นไม่สนใจ แต่พอของวางบนจาน มือกร้านก็หยิบช้อนและส้อมขึ้นมาแล้วตักเข้าปาก ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนอื่นๆ


   นี่แหละหนา คนท่ามาก




   “ใหญ่ว่ายังไงล่ะ เรื่องที่คุณทัศนัยเขาบอก” คุณพิกุลเอ่ยถามลูกชายคนโตที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าของไร่นี้

   “ผมว่ามันจะวุ่นวายมากกว่า คนเยอะเรื่องก็แยะ” ตอบพร้อมยกมือกอดอก “เดี๋ยวจะมีพวกมือบอลเด็ดดอกไม้เราจนเสียซะเปล่าๆ” เหตุผลที่เจ้าของไร่พูดมาก็น่าคิด แต่สำหรับคนเพิ่งมาอยู่อย่างอัษฎาชักจะไม่เห็นด้วย “นายว่าไง” ใหญ่ลองถามความคิดเห็นจากคนที่ทำหน้ามุ่ยไม่เห็นด้วยในสิ่งที่เขาพูด

   “ถามผมหรือครับ” อัษฎาเลิกคิ้วมอง แค่ให้เข้ามาฟังด้วยก็มากเกินไปซะด้วยซ้ำ เพราะไร่นี้อัษฎาแทบไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่า ดอกขนาดไหนต้องไปอยู่ตะกร้าไหน

   “เออ...ใช่” คนถามรีบเปลี่ยนคำตอบเมื่อถูกแม่ถลึงตาใส่ ทั้งที่กำชับว่าให้เรียกน้อง นี่ยังเรียกนายอยู่อีก

   “ผมว่า ก็ดีนะครับ” พอได้ยินคำตอบที่ไม่ได้เป็นไปในทางเดียวกัน ใหญ่ก็แทบสำลักน้ำที่กำลังยกขึ้นดื่ม “หากเขามาถ่ายรายการที่ไร่ ผมว่าน่าจะมีประโยชน์มากเหมือนกันนะครับ อย่างเช่น ไวน์ที่คุณใหญ่บ่มเอง ทำเอง ผมว่าอร่อยมากด้วย เรานำสินค้าที่เรามีออกมาโปรโมท ผมว่า ดีมากเลยนะครับ”

   “เล็กก็เห็นด้วยกับอัดนะครับพี่ใหญ่ ได้โฆษณาไม่เสียเงินสักบาท คุ้มจะตาย”

   “ไม่ใช่แค่ไวน์จะขายได้อย่างเดียว ทั้งองุ่นสดๆ ดอกไม้ในไร่ ผมว่า ผู้คนต้องชอบมากแน่ๆ”

   “จริงๆ”

   ใหญ่มองดูน้องชายกับภรรยาคนใหม่อย่างเคืองขุ่น เข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย เขาเลยกลายเป็นหมาที่ไม่มีหมู่ไปซะนี่

   “แม่ว่ายังไงครับ” คนสุดท้ายที่จะออกความคิดเห็นคือแม่ที่นั่งฟังนิ่งๆ ใหญ่ลุ้นน่าดูว่าแม่จะเข้าข้างเขาหรือไปฝั่งนู้น

   “แม่ว่า...” คำตอบที่รอคอยกำลังใกล้เข้ามา ท่าทางลุ้นยิ่งกว่าลอตเตอรี่จะออกทำเอาเล็กขำ “แม่เห็นด้วยกับเล็กแล้วก็อัดนะ”

   “แม่!” กลายเป็นหมาหัวเน่าโดยสมบูรณ์

   “พอคิดๆ ดูแล้ว ไร่เราสวยออกอย่างนี้ น่าจะเปิดให้คนที่สนใจมาชื่นชมนะ อากาศก็ดี ดอกไม้ก็สวย น้ำองุ่นก็หวาน ไวน์ก็มี แล้วทำอะไรอีกน้า”

   “ร้านอาหารเล็กๆ ดีไหมครับแม่ เล็กว่า”

   “ก็ดีๆ”

   “ไม่ดี” เสียงขัดขึ้น สายตาสามคู่จ้องไปที่คนไม่เห็นด้วย ใหญ่กระแอมเล็กๆ ขายาวยกขึ้นไขว่ห้าง “ไร่ของเราจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันนั้นผมก็ว่าดี แต่ผลที่จะตามมาคือ ขยะ แล้วยิ่งดอกไม้ในไร่หากคนหนึ่งไปถ่าย อีกเป็นร้อยเป็นพันก็เข้าไป ดอกไม้ของเราตายหมดไร่พอดี”

   “มันก็จริง”

   “อ่าวแม่” เล็กรีบท้วงเมื่อแม่เริ่มเอนเอียงไปอีกทาง ใหญ่ยิ้มแย้มคล้ายผู้ชนะ

   “ผมว่า ถ้าจัดสัดส่วนให้ดี แล้วบอกบริเวณเข้าออกไว้ น่าจะป้องกันความเสียหายได้นะครับ หรือไม่ก็ จัดให้มีแค่เที่ยวรอบๆ ไร่ดอกไม้แล้วก็ไร่องุ่น” อัษฎาออกความคิดเห็น

   “นายจะให้คนมาถ่ายรายการนั่นให้ได้สินะ” ใหญ่อดไม่ได้ที่จะแขวะ

   “ผมแค่คิดว่าผลิตผลในไร่น่าจะกระจายได้มากกว่าที่เราออกไปหาเอง...”

   “ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” เสียงห้วนแทรกขึ้นมาทันที คนช่วยคิดจึงหยุดพูดแล้วโค้งศีรษะขอโทษ

   “ขอโทษที่ผมก้าวก่ายมากเกินไปครับ” ทั้งน้ำเสียงและท่าทางของอัษฎาเล่นงานคนตำหนิ ใหญ่พูดไม่ออกเมื่อเห็น เลยได้แต่อึกอัก

   “ไม่ได้ก้าวก่ายเลย อัดเป็นภรรยาเจ้าของไร่ ดังนั้นไร่นี้อัดก็เป็นเจ้าของเหมือนกันนั่นแหละ ความคิดของอัดแม่ว่า ก็ดีกับไร่เช่นกัน” คุณพิกุลชักสีหน้าไม่พอใจลูกชายคนโตที่พูดไม่คิดก่อนจะเดินเข้าไปลูบศีรษะทุยสะใภ้ให้คลายความกังวล 

   “อีกหน่อยก็ใหญ่กว่าเจ้าของไร่เองนั่นแหละครับ” เล็กเอ่ยล้อเลยถูกขายาวเตะเข้าหน้าแข้งจนเบ้หน้าร้องซี๊ดด้วยความเจ็บ
 
   “เรื่องนี้ ให้ใหญ่ไปคิดดูก่อนก็แล้วกันว่าจะทำอย่างไรดี” ตัดบทเสร็จคุณพิกุลก็เดินลงไปด้านล่างเพราะนัดกับนมอิ่มจะทำขนมในวันพรุ่ง



   สามหนุ่มต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ใหญ่นั่งทำคิ้วขมวดเมื่อต้องตัดสินใจในการจะให้รายการที่เขาแทบไม่รู้อะไรเลยมายุ่มย่ามในไร่ ส่วนเล็กกำลังวางแผนจะสร้างร้านอาหารเล็กๆ แม้ท่าทางพี่ชายจะไม่อยากให้ไร่เป็นที่ท่องเที่ยว แต่หากทำได้ ร้านนี้น่าจะสร้างรายได้อย่างงาม ยิ่งเป็นอาหารพื้นบ้านด้วยแล้ว มันจะเข้ากับบรรยากาศได้ดี พอคิดแบบนี้ก็ทำให้นึกถึงภรรยาที่มีความใฝ่ฝันในการเปิดร้านอาหาร และสุดท้ายอัษฎาที่นั่งนิ่งเพราะยังรู้สึกผิดที่พูดล่วงเกินหน้าที่ไป แม้จะได้ชื่อว่าเป็นภรรยา แต่เอาเข้าจริง ชายหนุ่มก็เป็นแค่ลูกจ้างในไร่

   “เอ่อ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” อัษฎาที่นั่งอยู่นานคิดถึงงานขึ้นมาก็รีบขอตัว ตอนนี้โรงคัดแยกยังมีงานอีกเยอะ

   “เดี๋ยว” กำลังจะลุกแต่เสียงเรียกจากใหญ่ทำให้อัษฎานั่งลงอีกรอบ

   “คุณใหญ่มีอะไรหรือครับ” แม้จะขัดใจนิดๆ กับคำเรียก ก็แม่ของเขาบังคับให้เรียกอย่างอื่นนี่นา

   “ทำเอกสารมาด้วย” คำบอกที่ไม่เกริ่นอะไรทำเอาอัษฎาตีหน้างงพอๆ กับเล็กที่กระพริบตาปริบๆ มองพี่ชาย เมื่อเห็นสายตาสองคู่มองอย่างฉงน ใหญ่ก็ส่งเสียงจิ๊จ๊ะ “เอกสารที่จะให้พวกนั้นมาถ่ายรายการน่ะ ลงรายละเอียดด้วยว่าให้เข้าใกล้ตรงไหนได้บ้าง ตรงไหนข้ามเข้า ห้ามแตะ เอาให้ละเอียดๆ นะ” คำสั่งกลายๆ ที่ได้ยินแทบต้องขยี้รูหู ทั้งอัษฎากับเล็กหันหน้ามองกันแล้วเผลอยิ้มออกมา

   “พี่ใหญ่ให้พวกเขามาทำรายการแล้วหรือ” เล็กถามท่าทางกระตือรือร้น แต่พี่ชายไม่ตอบอะไร ทำแค่ปรายตามองคนที่เขาสั่งให้ทำเอกสารที่เอาแต่ยิ้ม

   “งั้นเดี๋ยวคืนนี้ผมจะรีบทำ...”

   “ทำตอนนี้แหละ ต่อไปนี้นายก็เข้ามาทำงานในออฟฟิต ไม่ต้องไปทำโรงงานนั่นแล้ว” ใหญ่บอกเรียบๆ ก่อนจะลุกออกจากเรือนไป สร้างความแปลกใจให้คนที่ถูกสั่ง

   เมื่อใหญ่ลงเรือนชานไปแล้ว เล็กก็หัวเราะขึ้นมา ดวงตารีมองหน้าพี่สะใภ้ที่ทำหน้าเหลอหลา ไม่น่าเชื่อว่าพี่ใหญ่จะตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ที่ให้ทำงานในออฟฟิตคงไม่อยากปล่อยให้คลาดสายตา ฟอร์มจัดแบบนั้นน้องชายอย่างเขารู้ทันหรอก

   “ไปออฟฟิตเถอะ” เล็กเอ่ยชวนเมื่อเห็นอัษฎายังนั่งอยู่ที่เดิม

   “ครับ” ตอบรับพร้อมกับเดินตามหลัง “คุณเล็กว่า ตรงไหนที่ไม่ควรให้คนเข้าไปยุ่งหรือครับ” เพราะมาใหม่แถมยังเดินไม่ทั่วไร่ด้วยซ้ำ แบบนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าตรงไหนให้เข้า ตรงไหนห้ามเข้า

   “อัดต้องไปถามพี่ใหญ่แล้วล่ะ ผมอยู่กับเอกสาร นานๆ ถึงจะลงไร่ที” ที่จริงก็พอจะรู้บ้าง แต่อยากให้พี่ใหญ่รีบรู้หัวใจตัวเองโดยเร็วมากกว่า การได้อยู่ใกล้ชิดน่าจะเพิ่มโอกาสให้พี่ชายเปิดหัวใจและยอมรับมันสักที

   เมื่อถูกปัด อัษฎาก็มุ่ยหน้า ขืนไปถามก็ถูกบ่นอีก แต่ไม่ถามก็ไม่รู้จะทำเอกสารได้ยังไง ที่แน่ๆ ต้องโทรไปบอกคุณทัศนัยหรือเปล่า

   งานในออฟฟิตไม่มีอะไรเลยที่อัษฎาต้องทำ เพราะเอกสารส่วนใหญ่เล็กจะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด เพิ่งจะรู้ว่าเล็กจบด้านบริหารมา แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ ใหญ่ก็จบบริหารแถมได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งซะด้วย สองพี่น้องช่างเรียนเก่งซะจริงๆ

   คนไม่มีอะไรทำก็เอาแต่นั่งคิดเนื้อหาในเอกสาร แม้จะเป็นแบบคร่าวๆ เพื่อให้เล็กจัดทำให้สมบูรณ์อีกที แต่มันก็ยากพอสมควรเมื่อไม่รู้ข้อมูล ตอนทำงานที่เก่า อัษฎาจะต้องไปรับงานจากลูกค้ามาก่อนถึงค่อยกลับมาคิดงาน แต่นี่ไม่มีอะไรเลย จู่ๆ จะให้มานั่งคิดก็คงยากเกินไป

   “เบื่อหรือครับ” เล็กที่นั่งอีกฝั่งถาม เห็นพี่สะใภ้นอนฟุบกับโต๊ะตัวเตี้ยมานานแถมยังทำหน้าบึ้งก็อดที่จะถามออกมาไม่ได้ อัษฎามองเล็กพร้อมพยักหน้าลง

   “นิดหน่อยครับ” จะว่าไป งานในโรงงานยังสนุกกว่านี้ซะอีก ได้พูดคุย บ้างก็นั่งฟังผู้หญิงคุยกันเรื่องไร้สาระบ้าง นินทาคนอื่นบ้าง แบบนั้นก็สนุกดี

   “งานในนี้ก็ไม่มีอะไรมาก อัดออกไปข้างนอกได้นะ” บอกจบก็ได้เห็นท่าทางดีใจของพี่สะใภ้ เล็กขำพรืด ก่อนส่ายหน้าเมื่ออัษฎาเดินออกไปด้วยความกระตือรือร้น อยากออกไปนานแล้วสินะ

   เล็กลองลุกไปดูกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเตี้ย คราแรกคิดว่าจะมีแต่กระดาษเปล่าซะอีก ที่ไหนได้มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะแล้วด้วยซ้ำ ติดอยู่ที่สถานที่ต้องห้ามตามคำสั่ง จะว่าไปอัษฎาก็คงทำงานเก่งเหมือนกัน แบบนี้คงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงอีกคนของไร่ได้อย่างแน่นอน สมแล้วที่ได้เป็นพี่สะใภ้ คิดว่าจะเป็นพวกไม่เอาไหนเสียอีก



   ด้านอัษฎาที่ออกจากออฟฟิตมาแล้วไม่ได้หนีไปไหน ขาเรียวก้าวเข้าไร่ดอกดาวเรืองสีเหลืองสวยที่บานสะพรั่งรอการเก็บ กลิ่นฉุนของดอกไม้ช่างต่างจากหน้าตาสะสวยซะจริง แรกๆ ก็หอมดีอยู่หรอก พอเดินมาอยู่ตรงกลางๆ กลิ่นมันฉุนจนต้องยกมือปิดจมูก

   “เอาไป” ผ้าคาดจมูกถูกยื่นมาให้ อัษฎามองผ้านั่นและค่อยๆ มองไล่ตั้งแต่มือ แขน จนไปถึงใบหน้าของคนใจดีที่ยื่นผ้าให้ แม้ใบหน้าจะไม่บึ้งตึง แต่ก็น่าตกใจอยู่ดี

   “ขอบคุณครับ” อัษฎารับผ้าคาดปากมาสวม ใหญ่มองนิดๆ ก่อนเดินผ่านไปอีกฝั่ง คนเพิ่งมาก็รีบเดินตามไปทันที “ดอกดาวเรืองพวกนี้คนเข้ามาคงปวดหัวแย่นะครับ” เสียงอู้อี้ผ่านผ้าคาดปาก ใหญ่ทำแค่เพียงพยักหน้า มือกร้านกวักเรียกคนงานให้เดินมาหา

   “ช่วงนี้หนอนลง ดูแลดีๆ หน่อยนะ” น้ำเสียงธรรมดาของใหญ่แต่อัษฎาเพิ่งเคยได้ยิน ปกติไม่ประชดก็จะตวาด พอคนงานเดินไป ใหญ่ก็หันมาสนใจคนเดินตาม “มีอะไร ทำเสร็จแล้วหรือที่ฉันสั่ง” ปากก็ถาม แต่ดวงตาคมยังมองดูดอกไม้ดอกใหญ่ตรงหน้า

   “ยังครับ” คราแรกคิดว่าต้องถูกด่า แต่กลับเงียบจนน่าแปลกใจ “คุณใหญ่...”

   “แม่บอกให้เรียกพี่ใหญ่ อยากให้ฉันถูกแม่หยิกอีกหรือไง” ไหงถูกดุเรื่องคำเรียกซะได้ “ดอกไม้แปลงนี้ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา เพราะเป็นพันธุ์ใหญ่ที่ฉันจะส่งออก” อยู่ๆ คนเดินนำก็บอก อัษฎาเตรียมกระดาษปากกามาอยู่แล้ว พอได้ข้อมูลก็รีบจดบันทึกทันที

   รายละเอียดมากมายระหว่างที่ใหญ่พาคนเดินชมไร่ดอกไม้ มีแค่แปลงดอกกุหลาบด้านหน้าเท่านั้นที่เข้าได้ เพราะแปลงด้านหลังมีพันธุ์ที่ไร่เพาะเองเป็นพันธุ์พิเศษที่มีดอกใหญ่และสีสวยกว่าท้องตลาด เมื่อเดินพ้นแปลงดอกดาวเรือง ด้วยความอึดอัดมือเรียวจึงปลดผ้าคาดจมูกออก   

   “ดอกกุหลาบสีแปลกหรือครับ” อดไม่ได้ที่จะถามเมื่อได้ยินว่ามีดอกกุหลาบสีแปลกกว่าที่อื่น หากเป็นสีน้ำเงิน สีม่วง สีดำอัษฎาก็เคยเห็นมาแล้ว มันจะมีแปลกแค่ไหนกันเชียว

   “อยากเห็นหรือเปล่าล่ะ” ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยิน อัษฎายิ้มทั้งปากและตาทำเอาคนชวนผงะนิดๆ ยิ้มในแบบที่ไม่ชอบอีกแล้ว เห็นทีไรใจมันคอยจะสั่นแปลกๆ ทุกที

   “อยากเห็นครับ” คนอยากเห็นไม่สังเกตคนจะพาไปสักนิด ใหญ่รีบเดินนำหน้าไปทันที ใบหูขึ้นสีแดงจนสังเกตเห็นได้

   แปลงดอกกุหลาบด้านหลังมีรั้วลวดหนามกั้นไว้ มีประตูเปิดเข้าไป ความตระการตาของดอกกุหลาบดอกใหญ่ที่เรียงรายสวยงาม สีสันแปลกตาสมกับที่ถูกคุยเอาไว้ ดอกกุหลาบสี่สี บางดอกมีห้าสี น่าแปลกแต่ก็ต้องยอมรับว่าสวยมาก

   “คุณใหญ่...เอ่อ พี่ใหญ่เพาะเองหรือครับ” รู้สึกขัดเขินและไม่ชินปาก อัษฎายังคงจ้องดอกกุหลาบห้าสีอย่างทึ่ง เคยเห็นสามสีแต่ห้าสีแบบนี้ไม่เคยเห็น ชั้นล่างเป็นสีแดงสดสลับกับสีเลือดนก ด้านบนเป็นสีชมพูสลับสีเหลืองแซมขาว ดูสวยแปลกตา “เหมือนดอกกระดาษเลย”

   “อยู่ในช่วงทดลองสายพันธุ์อยู่ เพราะสียังไม่นิ่ง” ใหญ่ว่า ดวงตาคมจ้องมองดอกกุหลาบอย่างภูมิใจ เพราะกว่าจะได้ก็ต้องแลกกับเวลานอนไปมาก ยังดีที่มีเพื่อนที่เก่งด้านนี้มาแนะนำ ทำให้ผลผลิตเป็นไปอย่างที่หวัง

   “แค่นี้ก็สุดยอดแล้วครับ” อัษฎายกนิ้วโป้งสองข้างให้คนเพาะ แม้จะทำนิ่งแต่ก็แอบยืดนิดๆ

   “อยากได้หรือเปล่า” อยู่ๆ ก็ถูกถามขึ้นมา คนที่ชื่นชมความสวยหันไปมองอีกทีด้วยความแปลกใจ นี่หูฝาดไปเองหรือเปล่า และคนถามไม่รอฟังคำตอบ ใหญ่เดินไปด้านหลัง มือกร้านหยิบกรรไกรตัดดอกไม้มาหาแล้วให้คนชื่นชมเลือก

   “ให้ผมจริงๆ หรือครับ” ดีใจปนความแปลกใจ แต่พอใหญ่พยักหน้ายืนยัน อัษฎาก็เดินไปชี้ดอกไม้สามสีอีกฝั่ง แม้จะดูไม่น่าทึ่งเท่าห้าสี แต่ดูจะถูกกว่าหากเทียบกัน “เอาดอกนี้ครับ”

   ดอกนี้ของอัษฎาคือสีแดงชมพูและขาว เป็นสีที่เห็นได้หลายที่บนแหล่งท่องเที่ยวบนดอยสูงที่มีแหล่งเพาะพันธุ์ ใหญ่ตัดฉับให้คนที่ทำตาใสรออย่างตื่นเต้นจนอดจะขำไม่ได้

   “อยากได้ขนาดนั้น” เสียงพูดเจือขบขันทำให้คนอยากได้เบ้ปากนิดๆ ก่อนมือหนาจะยื่นดอกกุหลาบให้

   เข็มนาฬิกาคล้ายหยุดหมุน อยู่ๆ ลมอ่อนพัดมาดังละครน้ำเน่าที่เคยเห็น อัษฎามองดอกกุหลาบในมือคนตรงหน้าด้วยใจสั่นไหว แม้จะรู้จักไม่นานและยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าได้ตกหลุมรักคนตรงหน้าไปแล้วอย่างเต็มเปา แม้จะว่าใจง่ายก็เถอะ

   อัษฎายื่นมือไปรับและไม่ทันมองเมื่อมือที่ยื่นไปสัมผัสมือของใหญ่ ร่างผอมก็รีบดึงมือกลับจนดอกกุหลาบเกือบร่วง คนใจดีให้ดอกกุหลาบส่งสายตาดุมาให้ คนชักมือกลับได้แต่โค้งศีรษะขอโทษพร้อมยื่นมือไปรับอีกครั้ง

   “สวย” พอถือไว้ อัษฎาก็ลองยกดอกกุหลาบสีสวยขึ้นดอมดมกลิ่นหอมซึ่งฟุ้งกว่าที่เคยได้เจอ “หอมด้วย”

   หากดอกกุหลาบห้าสีว่าสวยแล้ว คนตรงหน้าที่ถือดอกกุหลาบสามสีด้วยยิ่งกว่า แสงแดดที่ส่องเข้ามาคล้ายกับถูกปรับให้เข้ากับใบหน้าเนียนให้ดูผ่องใสจนมิอาจละสายตา ยิ่งรอยยิ้มหวานนั่นยิ่งไม่อยากกระพริบตาเมื่อกลัวจะหายไป

   ภาพดังภาพวาดตรงหน้าสะดุดลงเมื่อคนงานตะโกนเรียกเจ้านาย ใหญ่ฮึดฮัดแต่ก็ต้องเดินออกไปโดยมีอัษฎาเดินตามเช่นเดิม จุดตรงที่เรียกเป็นแปลงดอกไม้ด้านนอก พอไปดูแล้วก็ได้เห็นถึงปัญหา

   “เอายามาพ่นด้วย ปล่อยให้มันกินไปขนาดนี้ได้ยังไงกัน ดูแลกันดีหรือเปล่า” เสียงตวาดดังลั่นทำเอาคนงานที่เรียกต้องก้มหน้ายอมรับความผิด อัษฎาเห็นก็สงสาร หนอนที่เห็นจะห้ามมันกินได้ยังไง ก็ผีเสื้อในไร่นี้เยอะจะตาย “หนอน” คนโมโหตวัดสายตามาปะทะกับหน้าคนเดินตาม ที่สะดุดตาจนต้องขมวดคิ้วคือตรงไหล่มีหนอนสีเขียวไต่อยู่ และที่บอกไปไม่รู้จะกลัวจนร้องไห้หรือเปล่า

   อัษฎามองตามนิ้วที่ชี้มาที่ไหล่ ดวงตากลมมองหนอนตัวเขียวค่อยๆ ไต่ตามไหลลาด รอยยิ้มเล็กๆ จุดขึ้นพร้อมกับเอามือมาจับมันออก ภาพเช่นนั้นสร้างความแปลกใจให้คนเห็น คนกรุงไม่กลัวหนอนหรือไง

   “ไม่กลัว?” น้ำเสียงตวาดเมื่อครู่กลับมาเป็นปกติ

   “น่ารักออกครับ ตัวเขียวๆ ดิ้นดุ๊กดิ๊ก” อัษฎาเอาหนอนตัวโตมาวางบนฝ่ามือ ตัวนุ่มๆ ช่างน่าบีบเล่น แต่หากบีบแรงไปก็กลัวมันจะตาย “เอาไปไว้ที่ไหน...คุณใหญ่” กำลังจะหาที่วาง แต่เจ้าของไร่หน้าดุกลับยื่นมือมาหยิบแล้วปาลงพื้น ไม่พอแค่นั้นยังใช้เท้าบี้จนแบนติดพื้นดิน

   “เอาวางไว้แถวนี้มันก็ขึ้นไปกินดอกไม้อีก” สิ่งที่ได้ยินดูจะไม่เข้าหูคนไม่กลัวหนอนสักเท่าไหร่ เพราะใบหน้าหวานบึ้งตึงก่อนจะเดินหนี

   คนไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดรีบเดินตาม มือหนายกขึ้นเกาท้ายทอยอย่างสงสัยในความผิด แค่ฆ่าหนอนก็ผิดร้ายแรงงั้นหรือ ใหญ่เร่งฝีเท้าตามคนตรงหน้า พออยู่ในระยะที่คว้าได้ แขนยาวก็ยืดไปดึงข้อศอก คนหน้าบึ้งหันมามองค้อนนิดๆ

   “โกรธอะไร” ใหญ่เอ่ยถาม

   “ฆ่าหนอน” คนโมโหตอบแบบมะนาวไม่มีน้ำ คนถูกงอนถึงกับขำพรืดออกมาก่อนจะเพิ่มเสียงกลายเป็นหัวเราะลั่น “ไม่ตลกเลยนะ”

   “อย่าโลกสวยหน่อยเลยน่า” ใหญ่ยื่นมือไปยีหัวคนตรงหน้า สายตาอ่อยโยนอย่างไม่เคยได้เห็นทำให้ลืมความโกรธไปซะหมด อัษฎาเผลอหน้าร้อนจนแก้มแดงเป็นลูกตำลึง ยิ่งมีฝ่ามือลูบศีรษะอยู่ยิ่งทำให้รู้สึกว่าคนตรงหน้าช่างอ่อนโยนและนุ่มนวล

   “พี่ใหญ่” เสียงหวานเอ่ยเรียกคนตรงหน้าที่ยังคงมีรอยยิ้ม “ตัวบุ้ง” นิ้วเรียวชี้ไปที่คอเสื้อ ใหญ่เอี้ยวคอมองดูเห็นตัวบุ้งมีขนแหลมไต่ที่คอเสื้อ ร่างกำยำรีบกระโดด มือก็คอยปัดให้มันร่วง คนบอกอยากจะขำแต่ก็ต้องกลั้นไว้ เพราะหนอนเมื่อกี้กับตัวบุ้งมันต่างกัน “มันคงมาเอาคืนที่พี่ฆ่าเพื่อนมันแน่ๆ”

   สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะขำ แต่ก็ต้องรีบพาคนถูกตัวบุ้งไปล้างออกก่อนจะเกิดอาการแพ้ ไม่รู้ว่าใหญ่จะแพ้ขนมันหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นอาการอาจจะหนักจนถึงขั้นนอนโรงพยาบาลได้

   “เชี่ยเอ้ย” คนเริ่มมีอาการคันสบถคำหยาบออกมา มือก็คอยเกาคอตัวเองจนแดงเป็นปื้น

   “อย่าเกาสิพี่ใหญ่ เดี๋ยวมันก็ลามไปทั่วตัวหรอก” บอกขณะเอาน้ำล้างคอคนมีอาการคัน “แดงไปหมดเลย”

   “แสบด้วย” ใหญ่บอก มือพยายามจะยกเกาแต่ถูกมือเล็กปัดลงทุกที “เมียหรือแม่วะ” อดไม่ได้ที่จะบ่น ก็คนมันคันไม่ให้เกาแล้วจะให้ทำยังไงเล่า

   อาการแสบๆ คันๆ คงจะเป็นต่อไปอีกหลายวัน แม้จะทายาและกินยาแก้แพ้แล้วก็เถอะ ยังโชคดีที่คนโดนไม่มีอาการแพ้รุนแรง ใหญ่เหล่ตามองคนสั่งห้ามเกาหลายครั้ง หากเผลอเมื่อไหร่ก็จะรีบเกาทันที ในใจก็ได้แต่คิดแค้นตัวบุ้ง คอยดูเถอะ เจอที่ไหนพ่อจะเผาให้เรียบ

   “พี่ใหญ่ ผมบอกว่าอย่าเกา” เสียงแหลมตะโกนมาพร้อมปรี่เข้ามาหา

   “ก็มันคันๆๆ เข้าใจหรือเปล่า คันโว้ย” โวยวายพร้อมหน้างอ คนห้ามได้แต่ขำหนัก บางทีเจ้าของไร่นี้ก็ตลกเหมือนกัน แถมยังน่ารักซะด้วย เอ่อ ในบางมุมน่ะนะ

....TBC

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-12-2016 19:52:25
 :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 06-12-2016 19:56:51
โอ้ย น่าร๊ากกก ขำคนท่ามาก ท่าเยอะ 555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 06-12-2016 20:05:00
กำลังไปได้สวยยยย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-12-2016 20:24:47
คุณใหญ่ หวงเมียและ
ทั้งที่เป็นเมียในนามนะเนี่ย
อัด เริ่มรักพี่ใหญ่แล้ว
คุณเล็ก จะเจอแคท เมื่อไหร่นะ
คิดถึงขนาดจะทำร้านอาหารให้
       :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-12-2016 21:31:48
แหมะ คุณใหญ่จะเก็กไปไหนคะ 5555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Asmknrt ที่ 06-12-2016 21:40:48
ต่ออีกๆๆ  :hao6:อ่านแล้วเขิลลหนักมากกก :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-12-2016 21:46:56
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-12-2016 22:16:28
พี่ใหญ่ท่ามากเหลือเกิน :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 06-12-2016 22:49:23
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-12-2016 22:50:58
 :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 06-12-2016 23:02:39
ตลก5555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 06-12-2016 23:16:55
 :laugh: ตอนนี้คุณใหญ่จี่มาก วางท่าไม่ออกเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 06-12-2016 23:19:41
แอบเขินพี่ใหญ่กะน้องอัท
ว่าแต่คุณเล็กก็เป็นคนตลกดีนะคะ กลัวพี่หงอเชียว 555  :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 07-12-2016 00:27:29
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 07-12-2016 01:25:24
5555 คันโว้ยยยย ทาคาลามายด์ให้หน่อย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 07-12-2016 01:30:21
น่าร้ากกกกก แอบเขินตอนเขาอยู่ด้วยกัน55555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 07-12-2016 09:47:08
ต้องมีตัวกระตุ้นนะ ไม่งั้นก็จะฟอร์มจัด  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 9 << [P.5] // [06/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 07-12-2016 11:24:59
คุณใหญ่ทาเยอะจะเก๊กไปไหน เดี๋ยวจะเชียรืและสนับสนุนคุณทัศนัยแย่งอัดไปเลย รายนี้ชอบอัดอยู่แล้ว จะเอาให้ต่อมเก๊กหระเจิงไปเลย หมั่นไส้ลุง :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 08-12-2016 22:38:42
10



        ขวางหูขวางตาจริงๆ ตอนนี้คนที่เดินยุบยับเต็มบ้านทำให้เจ้าของไร่ขมวดคิ้วไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่ นี่ขนาดเข้ามาสำรวจคนยังเยอะขนาดนี้ ไม่รู้น้องชายประสานงานยังไงบอกมาได้ว่าทีมงานมาแค่สามคน แล้วที่ยืนสลอนนี่ไม่ใช่คนหรือไง

   “พี่ใหญ่ทำหน้าดีๆ หน่อยสิครับ” เล็กสะกิดพี่ชายตัวเองที่นั่งหน้าบูดไม่รับแขก จนไม่มีทีมงานกล้าเข้าใกล้สักคน

   “ไหนแกบอกมีไม่กี่คนไง” อดไม่ได้ที่จะบ่น น้องชายรีบหัวเราะกลบเกลื่อน

   “ก็ไม่กี่คนไง” เอาจริงๆ เล็กก็ตกใจอยู่เหมือนกันที่คนมาเยอะกว่าที่ได้คุยเอาไว้ แต่จะให้ไล่ไปก็ดูไม่ดีต่อภาพลักษณ์ “แล้วอัดล่ะ พี่ใหญ่ไม่เห็นหรือ” ตั้งแต่เช้าแล้วที่พี่สะใภ้หายไป และพี่ชายดูไม่เป็นห่วงอย่างที่ควรจะเป็น

   “อยู่ในไร่” ใหญ่ว่า ตั้งแต่เช้ามืดที่บอกให้อัษฎาลงไปอยู่ในไร่ เพราะวันนี้จะมีคนไม่ชอบขี้หน้ามา ดังนั้นเพื่อเป็นการดีต่ออารมณ์ควรจะให้ตัวแปรไปอยู่ที่อื่น ใบหน้ายิ้มแย้มแลดูจะมีแผนการ แต่เล็กก็ปล่อยผ่านแล้วเดินเข้าไปหากลุ่มคนที่มาดูสถานที่ก่อนถ่ายทำจริง

   ใหญ่ยังนั่งนิ่งมองดูทีมงานยกกล้องถ่ายรูปขึ้นถ่ายนั่นนี่ ขนาดตุ๊กตาปั้นรูปกบยังลงไปนั่งถ่าย อะไรจะขนาดนั้นแม่คุณ

   “คุณอัดล่ะครับ” สายตารีบเบนมาหาคนที่ยืนค้ำศีรษะ ทัศนัยยืนยิ้มจนเหงือกแทบแห้งแต่ไม่ได้รอยยิ้มตอบกลับ มีเสียงสายตาที่มองแบบไม่ชอบใจ “เอ่อ...”

   “พอดีอัดเขาทำงานอยู่น่ะครับ” เล็กรีบวิ่งเข้ามายืนขวางระหว่างพี่ชายกับเจ้าของร้านอาหารที่เป็นลูกค้าของไร่ ด้วยความกลัวว่าพี่ชายจะอาละวาดแบบไร้เหตุผลขึ้นมา

   “อ๋า ถึงว่าไม่เห็น” เมื่อคนถามหาอัษฎาเดินไป เล็กรู้สึกถึงรังสีบางอย่างที่พุ่งมาจากด้านหลัง ร่างสมส่วนค่อยๆ เอี้ยวตัวไปมอง ทันทีจะสบกับดวงตาดุของพี่ชาย คนเป็นน้องก็แทบอยากยกมือไหว้ ความโหดพุ่งออกมาจนน่ากลัว

   “ขอโทษค่ะ” เสียงใสร้องเรียกขัดการต่อว่าทางสายตาจบลง เล็กรีบหันไปยิ้มตามสไตล์ สาวเจ้าดูจะเขินนิดๆ ซะด้วยซ้ำ “คือที่นี่มีไร่องุ่นด้วยใช่ไหมคะ หากจะไปดูสักหน่อยจะได้หรือเปล่า” คำขออนุญาตจากทีมงาน คนที่ตัดสินคือเจ้าของไร่ เล็กหันไปมองพี่ชายอย่างถามความเห็น ใหญ่ทำนิ่งก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

   “ผมจะพาไปชมเอง” เจ้าของไร่บอกเสียงเข้ม พอได้ยินว่าจะได้ชมไร่ ทีมงานทุกคนดูจะตื่นเต้นจนอดไม่ได้ที่จะร้องวี๊ดว๊าย ใหญ่ขมวดคิ้วไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ แต่ที่ต้องพาชมเองก็เพราะคนพวกนี้จะได้กลับไวๆ อีกอย่างจะได้พาห่างจากจุดที่สั่งให้อัษฎาไปทำด้วย ขืนให้เล็กพาไป มีหวังได้เจอกันแน่ๆ 

   ทีมงานจากเมืองกรุงพากันถ่ายภาพไร่ดอกไม้แสนสวย ยังดีที่เอกสารที่ส่งให้ก่อนหน้าระบุอย่างชัดเจนถึงการเข้าไร่เพื่อสัมผัสดอกไม้ แม้เหล่าทีมงานจะแอบเสียดายที่เข้าไปใกล้ชิดแนบสนิทไม่ได้ แต่แค่ได้ชื่นชมความงามแบบนี้ก็ต่างกันชื่นชอบ

   “เสียดายที่เข้าไปใกล้ๆ ไม่ได้” หนึ่งในทีมงานพูดออกมา ซึ่งกลุ่มคนที่มาด้วยต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย บ้างก็ใช้สายตาอ้อนมองเจ้าของไร่เผื่อจะใจดียอมให้ได้สัมผัสสักครั้ง

   ใหญ่ยิ้มตามฉบับของตนเรียกเสียงชอบจากสาวๆ ได้เป็นอย่างดี จะว่าไปเจ้าของไร่ทั้งสองหน้าตาหล่อเหลา หากแต่อยู่ในไร่สาวๆ ข้างนอกจึงไม่ได้เห็น

   “คุณใหญ่ขา พวกเราขอเข้าไปดูใกล้ๆ สักหน่อยได้หรือเปล่าคะ พวกเราสัญญาว่าจะไม่แตะต้องดอกไม้เลย” หัวหน้าทีมงานทนสายตาทีมงานไม่ไหวเลยต้องออกหน้าร้องขอแทน ใหญ่ขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนจะพยักหน้าตกลง

   “ก็ได้ครับ แต่คงให้เฉพาะแปลงด้านหน้านะครับ” คราแรกลังเลอยู่นาน แม้จะมีสายตานับสิบคู่ส่งมาอย่างเว้าวอน สุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องอนุญาตไป “แต่ผมขออย่างหนึ่งนะครับ ขออย่าจับดอกไม้เพราะดอกจะเฉาได้” คนดูแลทุกขั้นตอนย่อมห่วงหวงเป็นธรรมดา

   เมื่อได้รับการยืนยัน ใหญ่ได้เดินนำเหล่าทีมงานลงไปในไร่ ทุกคนต่างก็เตรียมกล้องถ่ายรูปไว้ในมือ ขนาดเห็นไกลๆ ยังสวยขนาดนี้ แปลงสองฝั่งมีดอกดาวเรืองกับดอกกุหลาบ แม้จะปลูกไม่ห่างกันมาก แต่ก็มีแนวกั้นอยู่

   ทัศนัยที่เดินมาด้วยอดที่จะทึ่งกับไร่ไม่ได้ ด้านบนว่าสวยแล้ว ด้านล่างสวยยิ่งกว่า ดอกดาวเรืองดูสวยงามกว่าที่เคยเห็นในท้องตลาด สีเหลืองทองอร่ามสดสวยซะจนอดที่จะถ่ายภาพเก็บไว้ไม่ได้ ขนาดเขาทำร้านอาหารมา สั่งดอกไม้จากร้านมากมาย แม้ดอกดาวเรืองจะไม่ได้อยู่ในส่วนที่ต้องการ แต่ก็ว่าไม่ได้หากจะนำไปตกแต่งเมื่อเห็นความงามเช่นนี้

   กลุ่มคนกลุ่มใหญ่เดินผ่านด้านหน้าของแปลงดอกดาวเรือง คนงานที่เดินผ่านไปมาต่างก็โค้งศีรษะให้นายใหญ่ คนไม่เคยเห็นต่างก็อดที่จะปลื้มไม่ได้ อย่างกับละครที่เคยได้ดู ระหว่างที่ทุกคนสนใจความงามตรงหน้า ใหญ่ที่ตัวสูงเห็นศีรษะคนที่เขาสั่งในอยู่แต่ในไร่เดินออกมา ดวงตาคมรีบหันไปมองเจ้าของร้านอาหารที่เดินปะปนกับกลุ่มคนเมืองกรุง ไม่รู้จะเดินออกมาทำไม
 
   อุตส่าห์พามาไร่ดอกดาวเรืองแท้ ยังเดินออกมาเจออีกจนได้ อัษฎาเดินออกมาเรียกสายตาจากคนกลุ่มใหญ่ที่มองอย่างสังเกต คนงานคนนี้ดูขาวเหมือนไม่เคยเจอแดด แถมยังหน้าตาน่ารักอีก ทัศนัยที่หันมาเจอก็รีบปรี่เข้ามาหา ชายหนุ่มไม่สนสายตาจ้องราวจะกัดของเจ้าของใหญ่ เมื่อเดินผ่านหน้าไปถึงทัศนัยก็รีบช่วยคนที่มองหามาตั้งแต่เช้าถืออุปกรณ์ตัดแต่งกิ่งอย่างกรรไกร แม้ไม่ได้หนักอะไรแต่อย่างน้อยก็ได้ใกล้ชิด

   “คุณใหญ่บอกคุณมาทำงานตั้งแต่เช้า คิดว่าจะไม่ได้เจอกันเสียแล้ว” อัษฎายิ้มนิดๆ ให้กับประโยคที่ได้ฟัง อาจเพราะไม่ได้คิดว่าจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ในประโยคเหล่านั้นเลยไม่ได้คิดอะไรมาก ต่างจากเจ้าของไร่ที่ยืนกอดอกจ้องไม่วางตา “แล้วนี่คุณอัดทำงานเสร็จแล้วหรือครับ”

   “ครับ” ตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินมายืนข้างคนหน้าบึ้งที่คล้ายกับสะกิดจิตทางสายตาให้มายืนข้างๆ “คุณใหญ่มานานแล้วหรือครับ” กระซิบถามเบาๆ

   “ออกมาทำไม งานที่ฉันสั่งเสร็จแล้วหรือไง” ไม่มีคำตอบ แต่กลายเป็นถามกลับซะอย่างนั้น อัษฎากระพริบตามองคนถาม

   “ลุงเหมือนบอกไม่มีอะไรแล้วผมเลยออกมานี่ไง” หัวหน้าคนงานเก่าแก่ที่คราแรกสงสัยว่าทำไมเจ้านายถึงให้อัษฎามาช่วยตัดดอกไม้ อันที่จริงคนงานที่มีก็มากพอจนเหลือด้วยซ้ำ เมื่ออัษฎาลงไปช่วยเลยกลายเป็นว่า ต้องยืนเฉยๆ มอง

   “จะออกมาทำไมตอนนี้นะ” ใหญ่พึมพำกับตัวเอง แม้เสียงจะเบาแต่คนที่ยืนชิดใกล้อย่างอัษฎาก็ต้องได้ยิน ใบหน้าขาวหันไปมอง ดวงตากลมโตมองอย่างสงสัยแต่ก็มิได้ถามอะไรออกไป “ไปช่วยพวกที่โรงงานคัดดอกไม้ไป” เพราะไม่อยากให้อยู่เป็นอาหารตาของคนไม่ชอบขี้หน้า หากไปอยู่ในนั้นอีกนานคงจะได้ออกมา พอถึงเวลานั้น กลุ่มพวกนี้คงกลับไปแล้ว

   “แต่คุณใหญ่บอกไม่ให้ผมไปทำที่นั่น” คำสั่งนี้เพิ่งได้ยินมาไม่กี่วัน คิ้วเรียงสวยขมวดเป็นปม

   “เออ แค่วันนี้นั่นแหละ ดอกไม้มันเยอะไง ถามมากจริง” คนสั่งเริ่มโมโหนิดๆ จะซักไซ้อะไรนักหนา ขนาดมายืนข้างๆ แบบนี้ ทัศนัยยังมองมาเป็นระยะ “รีบๆ ไปเลย”

   ขณะอัษฎากำลังจะก้าวเดิน เสียงร้องทักทำให้ต้องหยุดแล้วหันไปมอง หญิงสาวร่างผอมที่ดูจะตกใจปนดีใจ น้ำเสียงแหลมตะโกนเรียกชื่ออย่างสนิทสนมพร้อมเดินเข้ามาหา ใหญ่เหล่ตามองทั้งคู่สลับกันไปมาอย่างอยากรู้

   “อัดใช่ไหม...ใช่จริงๆ ด้วย” หญิงสาวฉีกยิ้ม มือเล็กยื่นมาจับแขนขาว

   “แอนเหรอ ไม่ได้เจอตั้งนาน สบายดีใช่ไหม” อัษฎายิ้มร่าเมื่อเจอเพื่อนเก่า จะมีก็แต่คนขี้หวงไม่รู้ตัวที่ไม่ชอบรอยยิ้มนั่น เพราะมันถูกยิ้มให้คนอื่น

   “สบายดี อัดล่ะ ทำไมมาอยู่ที่นี่” เพราะไม่ได้พบกันเสียนาน อัษฎาจึงลืมคำสั่งเมื่อกี้ไปซะสนิท ร่างผอมเดินนำเพื่อนสาวไปอีกทางเพื่อไปหาที่นั่งสนทนา

   ใหญ่ยืดคอมองตามแผ่นหลังนั้นไป อุตส่าห์กันทัศนัยได้ ยังมีคนรู้จักเพิ่มมาอีกคนหรือนี่ หวังว่าคงไม่ใช่แฟนเก่าที่เคยได้ยินจากแม่มาหรอกนะ แต่เอ...ไม่น่าใช่ แฟนเก่าของอัษฎาเป็นผู้ชาย พอคิดเช่นนั้นใหญ่ก็ถอนหายใจออกมา แต่ไม่พ้นสายตาของคนที่เอนไปทางชอบอัษฎา

   “คุณใหญ่ถอนหายใจทำไมหรือครับ” หากเป็นคนอื่นถามคงจะตอบแบบสุภาพ แต่นี่แค่เห็นหน้าก็รู้สึกเกลียดจนไม่อยากมอง ใหญ่ปรายตานิดๆ ก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินนำกลุ่มทีมงานไปต่อ ทัศนัยมองตามเจ้าของไร่อย่างงงๆ นี่เขาไปทำอะไรให้เจ้าของไร่โกรธหรือเกลียดหรือเปล่า

   การเดินชมภายในไร่แม้จะใช้เวลานานแถมยังเหนื่อยจนขาแทบลากแต่ก็รู้สึกสนุก ใหญ่พาทีมงานทุกคนกลับมาที่เรือน นมอิ่มพาสาวใช้เตรียมน้ำองุ่นที่ทำเองออกมาให้ดื่มคลายร้อน อีกทั้งยังมีน้ำสมุนไพรต่างๆ เพื่อให้ได้ลองชิม บางคนถึงกับดื่มทุกแก้วอย่าเช่นทัศนัย จนชายหนุ่มออกปากชมว่าอร่อยทุกอย่าง

   “ไวน์ว่าอร่อยแล้ว น้ำองุ่นกับน้ำสมุนไพรก็อร่อยไม่แพ้กันเลยนะครับ” เจ้าของร้านอาหารรู้สึกทึ่งกับไร่นี้มาก ขนาดน้ำดื่มพวกนี้ยังน่าทึ่งจนอดที่จะชมไม่ได้

   “ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ” นมอิ่มยิ้มแย้มเมื่อมีคนชม “ทุกคนที่ตั้งใจทำต้องดีใจมากแน่”

   “พอมีสูตรไหมครับ น้ำสมุนไพรรสชาติดีจริงๆ”

   “ไม่มีหรอกค่ะ” คำตอบนั้นทำเอาคนอยากได้สูตรเสียดาย หากนำไปเสิร์ฟในลูกค้าที่ร้านละก็ ทุกคนจะต้องติดใจอย่างเขาและทีมงานทุกคน

   ใหญ่ที่ยืนอยู่มุมบันได ดวงตาคมมองออกไปด้านนอก เมื่อไม่เห็นคนอู้งานที่หายไปนานสองนาน อาการหงุดหงิดนั่น นมอิ่มที่รู้สาเหตุได้เดินนำน้ำเก๊กฮวยไปให้

   “ทานสักหน่อยค่ะคุณใหญ่ อารมณ์จะได้เย็นขึ้น” พอได้ยินใหญ่ก็รีบยิ้มนิดๆ มือกร้านรับแก้วน้ำขึ้นจิบ “เอ ตาอัดหายไปไหน ทำไมไม่มาช่วยคุณใหญ่ดูแลแขก” พูดไปดวงตาก็มองเจ้าของไร่ไป จนคนที่ตามหาเดินมาพร้อมหญิงสาว นมอิ่มรู้ได้ทันทีว่าทำไมเจ้านายของเธอถึงอารมณ์บูดนัก

   “อ่าวแม่ คุณใหญ่” อัษฎาเดินยิ้มร่ามาถึงหน้าเรือน พอปะทะสายตาดุรอยยิ้มก็ค่อยๆ จางหาย “นี่แอน เพื่อนผมครับ นี่แม่เราเอง” อัษฎาแนะนำเพื่อนให้รู้จัก มันคงจะเรียบร้อยหากใหญ่ไม่กระแอมออกมา นั่นเพราะเขาไม่ถูกแนะนำด้วย คนเจอเพื่อนลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหันไปยิ้มให้เพื่อน “นี่คุณใหญ่ แฟนเราเอง”

   เพื่อนสาวได้ยินก็เบิกตาโตมอง แม้จะรู้ว่าเพื่อนชายเลิกรากับแฟนไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมีแฟนใหม่รวดเร็วเพียงนี้ ครั้งล่าสุดเธอเพิ่งจะด่าแฟนเก่าของอัษฎามาหยกๆ

   “โห เพื่อนได้ดีขนาดนี้เชียวหรือ” แอนเอ่ยแซว ดวงตาเรียวมองแฟนใหม่ของเพื่อนอย่างทึ่ง ครั้งแรกที่เจอเธอรู้สึกชอบเจ้าของไร่นี้ด้วยซ้ำ ยังคิดอิจฉาคนโชคดีที่ได้แฟนหล่อเหลาเช่นนี้

   “ไม่หรอกน่า” ตอบเพื่อนสาวด้วยความขวยเขิน และดูคนหน้าบึ้งจะยิ้มออกมาบ้างแล้ว “ไปเถอะ คุณเล็กรออธิบายนั่นแล้ว”
 
   อัษฎาพาเพื่อนสาวเดินมารวมกลุ่มกับทีมงานที่ตอนนี้ผู้ประสานงานอย่างเล็กกำลังแจกแจงรายละเอียดต่างๆ ให้ฟัง ซึ่งรายละเอียดส่วนใหญ่ก็มาจากเขาทั้งสิ้น อาจมีบางส่วนที่เล็กเปลี่ยนแปลงไปให้เหมาะสมยิ่งกว่า

   “นี่” แรงสะกิดจากด้านหลังทำให้คนที่ตั้งใจฟังหันไปมอง อัษฎามองแก้วน้ำในมือของใหญ่ที่ยื่นมาให้ เพราะหิวน้ำด้วยคนรับเลยไม่คิดอะไร มือขาวยื่นไปรับแล้วยกขึ้นดื่มจนหมด “ฉันกินเหลือ” รอยยิ้มกับน้ำเสียงกวนโมโหทำให้คนที่ดื่มน้ำเก๊กฮวยรวดเดียวสำลัก ดวงตากลมมองค้อน แต่อีกคนกลับหัวเราะร่า

   “สนุกมากหรือเปล่าคุณใหญ่” อัษฎากัดฟันถาม คนถูกถามพยักหน้าจนน่าหมั่นไส้

   ตลอดเวลาของการฟังรายละเอียด อัษฎามักถูกคนตัวโตแหย่เสมอ บางครั้งก็แทบอยากตวาดออกไป แต่กลัวทีมงานต่างจากเมืองกรุงจะตกใจ เลยได้แต่กัดฟันทำเป็นเฉย และนั่นยิ่งทำให้คนชอบแหย่ยิ่งชอบใจ

   “ที่นี่มีลานกว้างสำหรับกางเต็นท์ด้วยนะครับ หากพวกคุณชอบ” เล็กพูดไปสายตาก็เหล่มองพี่ชายกับพี่สะใภ้แหย่กันไปมา อยากจะตะโกนว่าไปหลายครั้งเพราะทำให้เสียสมาธิ “ถ้าสนใจช่วยแจ้งให้ทราบล่วงหน้านะครับ ทางเราจะได้จัดเตรียมสถานที่และอาหารไว้รอ”

   “ดีเลย เราชอบแบบนั้น” ทีมงานทุกคนพากันเห็นชอบ คงจะมีหนึ่งคนที่ไม่ใช่ทีมงาน เป็นเพียงแค่ผู้แนะนำที่อดจะเสียดายไม่ได้

   มื้อเที่ยงที่ทุกคนรอคอย วันนี้แม่ครัวได้ทำกับข้าวพื้นเมืองไว้รอ อาหารทุกอย่างอร่อยมาก บางอย่างก็อร่อยกว่าร้านอาหารในตัวเมือง โดยเฉพาะต้มยำไก่บ้านที่ทุกคนชอบใจขอตักเพิ่มหลายครั้ง

   เจ้าของไร่ทั้งสองอยู่ร่วมรับประทานอาหารด้วย แต่ดูจะกินน้อยเมื่อเทียบกับทุกคน ใหญ่เขี่ยข้าวไปมาเพราะไม่ชอบความวุ่นวาย บนโต๊ะอาหารทีมงานแย่งชิงหมู ไก่กันอย่างสนุก แต่กับคนนั่งมุมโต๊ะกลับไม่ชอบ

   “คุณใหญ่อิ่มแล้วหรือครับ” อัษฎาที่นั่งข้างๆ เอ่ยถามเมื่อเห็นใหญ่แทบไม่แตะต้องอะไรเลย ต่างจากเขาที่มีทัศนัยคอยตักนั่นตักนี่มาให้จนพูนจาน

   “อืม” เสียงนิ่งๆ ตอบกลับ ดองตาคมจ้องจานข้าวที่มีกับจนล้น

   “นี่ครับ” ดูก็รู้ว่าไม่อิ่ม อัษฎาใช้ช้อนกลางควานหาตับไก่จนเจอ ยังดีที่ชามนี้ไม่มีคนมาตัก อาจเพราะเกรงเจ้าของไร่ที่นั่งหน้าบึ้งก็เป็นไปได้ “ทานน้อยจะปวดท้องนะครับ”

   การเอาใจใส่ของอัษฎาที่มีต่อใหญ่ไม่พ้นสายตาคนที่จ้องมองตลอดอย่างทัศนัย คิ้วดำขมวดมุ่น จับสังเกตอาการมาได้สักพักใหญ่ๆ อย่างตอนฟังรายละเอียด หลายครั้งที่หันไปมองเมื่อได้ยินเสียงคนหัวเราะ แม้อัษฎาจะดูหน้าบึ้งไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลบ ยังคงปล่อยให้อีกคนคอยแกล้งอย่างสนุกสนาน

   อิ่มท้องกันแล้ว ทีมงานก็พากันกลับ เจ้าของไร่สุดหล่อสองคนยืนส่งอยู่หน้าประตู สาวๆ ต่างโบกมือลาจนรถตู้สีขาวเคลื่อนออกไปจนลับตา เสียงถอนหายใจหนักๆ ของน้องชายทำให้ใหญ่สงสัย

   “อะไรของแกตาเล็ก” คนถามได้สายตาขึงตอบ

   “ก็เมื่อสักครู่ พี่ใหญ่กับอัดทำให้ผมไม่มีสมาธิ” เล็กว่า “ต่อไปถ้าจะแหย่กัน กรุณาไปเล่นที่อื่น” น้ำเสียงสะบัดงอนจนพี่ชายต้องขำออกมา

   “แกก็ทำได้ดีนี่น่า ไปทำงานกันเถอะ” ใหญ่วาดแขนกอดไหล่น้องชาย ขายาวกำลังจะก้าวเดินต้องหยุดชะงักเมื่อเจอคำถามที่ทำเอาพูดไม่ออก

   “ทำไมพี่ใหญ่ไม่ให้อัดออกมาส่งด้วยล่ะ” อากัปกิริยาของพี่ชายเกือบทำให้เล็กหลุดขำ “หรือเพราะกลัวคุณทัศนัยเขาส่งสายตาหวานมาให้” คนกลัวถึงกับกรอกสายตาไปมาเมื่อคำถามช่างแทงใจดำ

   “กลัวอะไรที่ไหนของแกวะ” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็ถูกหัวเราะใส่ไปแล้ว

   “พี่ใหญ่หวงก็บอกมาเถอะ ชอบพี่สะใภ้แล้วใช่ไหม ไม่ต้องเก๊กหรอก ผมรู้ๆ” เล็กกลั้นยิ้ม ยกมือตบบ่าพี่ชายที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม คนออกเดินส่ายหัวให้กับพี่ชายท่ามาก

   เมื่อเล็กไปแล้ว ใหญ่ยืนนิ่งทบทวนตัวเอง คำถามเมื่อกี้จากน้องชายที่ว่าเขาหวง เขาเนี่ยนะหวง ไม่ได้ชอบจะหวงได้อย่างไร บ้าไปแล้วๆ ที่ไม่ให้ออกมาส่งนั่นก็เพราะให้อยู่ช่วยนมอิ่มเก็บจานชามต่างหาก ไม่เกี่ยวกับการที่กลัวทัศนัยมองตาหวานเลย ไม่เกี่ยว....

   ระหว่างที่กำลังสับสนอยู่ คนที่ทำให้ต้องคิดมากวิ่งตาตื่นมาหา ท่าทางคล้ายกับตกใจจนต้องรีบเดินเข้าไปหา อัษฎาพยายามจะพูดและเพราะวิ่งมาไกลเลยได้แต่หอบหนัก

   “ใจเย็นๆ” ใหญ่ยกมือพัดลมเย็นๆ ให้เพื่อคลายความเหนื่อย ใบหน้าขาวแดงกล่ำคงเพราะร้อน
 
   “พี่นงกำลังจะคลอดลูกครับ แต่ไม่มีรถเข้าเมือง” พี่นงที่ว่า คือคนงานภายในไร่ที่คัดแยกดอกไม้ในโรงงานที่อัษฎาไปทำด้วย “คุณใหญ่ พาพี่นงไปโรงพยาบาลด้วยนะครับ” ใหญ่รีบพยักหน้าแล้วออกวิ่ง มือใหญ่ยื่นไปจับมืออุ่นให้วิ่งตาม ทั้งคู่วิ่งมาจนถึงบ้านพักคนงานที่มีคนรุมล้อม พอมาถึง ใหญ่ก็รีบบอกให้ทุกคนถอย แขนหนาเข้าช้อนใต้รักแร้เตรียมอุ้ม หากมีเสียงตะโกนจนต้องรีบวาง

   “น้ำคล่ำแตกแล้ว” เสียงเอะอะดังจนอัษฎาใจไม่ดี

   “รีบไปหาหมอเถอะคุณใหญ่” อัษฎาจับแขนหนาออกแรงเขย่าเล็กๆ ยิ่งเสียงครวญครางราวจะขาดใจยิ่งทำให้ขวัญเสีย “คุณใหญ่”

   “ไม่ทันหรอก จากไร่ไปโรงพยาบาลในเมืองใช้เวลาหลายชั่วโมง” คนมีสติว่า “ไปเรียกป้าบุญกับนมอิ่มมา เร็ว” สั่งเสียงดังจนคนงานพากันวิ่งไปตาม แต่คนต้องการตัวได้กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาแล้ว

   “เป็นยังไงบ้างคะคุณใหญ่” นมอิ่มทรุดตัวนั่งข้าง มีป้าบุญลูบคลำท้องโต

   “น้ำคล่ำแตกแล้วครับ” เป็นอัษฎาที่บอกเสียงเครือ นมอิ่มมองลูกชายตัวเองที่น้ำตาเอ่อ คงจะกลัวล่ะสิ “แม่ เราต้องพาไปโรงพยาบาล”

   “ไม่ต้องหรอก ป้าบุญแกเคยทำคลอดมาก่อน อัดไม่ต้องห่วงนะลูก” นมอิ่มบอกเสียงนุ่ม ดวงตารีมองไปยังเจ้าของไร่ ซึ่งคนถูกมองพอจะรู้ว่าถูกมองเพราะอะไร ใหญ่ดึงให้อัษฎาลุกขึ้นยืน แต่เรี่ยวแรงที่มีหดหายไปหมด ยิ่งเสียงทรมานนั่นยิ่งทำให้แข้งขาอ่อน

   “คุณใหญ่” อัษฎาเงยหน้ามองคนที่ฉุดแขน ดวงตากลมมีน้ำใสๆ ไหลออกมาจาหางตา จมูกรั้นแดงเป็นลูกตำลึงช่างน่ารัก แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งพิจารณา ใหญ่ตัดสินใจรวบร่างอ่อนปวกเปียกพาดบ่าแล้วพาออกจากห้อง คนถูกแบกอ้าปากค้างไม่ทันที่จะโวยวายจนออกมานั่งม้านั่งด้านนอกถึงได้มองค้อน

   เสียงด้านในห้องตะโกนให้เตรียมน้ำร้อน ทุกคนดูจะกระตือรือร้นพากันจัดเตรียมของทุกอย่างๆ เร่งรีบ อัษฎาอยากจะช่วยแต่ไม่รู้จะทำเช่นไร

   “ไม่เป็นไรหรอก เด็กกับแม่จะต้องปลอดภัย” ใหญ่ลูบศีรษะทุยเบาๆ เพื่อปลอบ คนใจเสียเงยหน้ามองนิดๆ ก่อนพยักหน้าลง

   การรอคอยมันช่างนานเสียจริง คนงานที่ยืนรออยู่หน้าบ้านต่างก็พากันลุ้น บ้างก็ช่วยกันเบ่งคลอด แม้ไม่ให้ด้านในแต่เสียงเจ็บปวดก็ดังออกมาถึงม้านั่งที่อัษฎานั่งอยู่

   “ทำไมยังไม่คลอดอีก คุณใหญ่” คนใจเสียจับมือคนข้างกายไว้แน่น ความวิตกกังวลก่อกวนจนยากจะผ่อนคลายตามคำบอกของเจ้าของมือที่จับ “เราต้องไปช่วยเบ่งอีกแรงไหม” คำถามที่ดูเคร่งเครียด แต่สร้างความขบขันให้แก่คนได้ยิน ใหญ่ขำออกมาไม่สนสายตาขึงค้อน

   “ไม่ต้องหรอกน่า เดี๋ยวก็คลอด ฉันเห็นบ่อยๆ” คนเห็นบ่อยๆ ดูไม่กังวลเลย

   “เห็นที่ไหน คุณใหญ่เคยทำคลอดด้วยหรือ” ไม่น่าเชื่อว่าจะทำคลอดเป็น
 
   “เคยสิ” ยืนยันหนักแน่นจนคนฟังทำตาโต “ฉันเคยทำคลอดม้าออกจะบ่อย”

   ไร้คำโต้เถียง อัษฎาเบือนหน้าหนี จนคนเคยทำคลอดม้าหัวเราะ ก่อนจะบีบมือเพื่อให้คนกลัวรู้สึกดี

   เวลาผ่านไปนานจนคนนั่งต้องยืนขึ้น ขาเรียวเดินไปเดินมา ทำให้คนยืนอยู่ด้วยเวียนศีรษะ พอจับให้นั่ง ครู่เดียวก็เดินใหม่ อัษฎาเครียดจนไมเกรนแทบจะขึ้น หากไม่ได้ยินเสียงแผดร้องของเด็กแรกเกิด เขาคงต้องไปกินยาที่บ้านก่อน เสียงร้องดังไปทั่วบริเวณพาให้คนเฝ้ารอกระโดดโลดเต้นกันใหญ่

   “คลอดแล้วคุณใหญ่” ด้วยความดีใจ ร่างผอมกระโดดเข้ากอดคนคอยปลอบใจแน่น รอยยิ้มกว้างไม่หุบส่งให้คนในอ้อมกอด ใหญ่ก็พลอยยิ้มแย้มไปด้วย

   มือใหญ่กำลังจะโอบกอด ประตูห้องทำคลอดดันเปิดออกมา คนที่กอดเขาวิ่งถลาไปหาทันที มือที่ยกขึ้นมาจึงค้างเติ่งอยู่แบบนั้น ดวงตาคมจ้องฝ่ามือตัวเองแล้วขำออกมาเบาๆ ชักหนักขึ้นแล้วนะอาการของเขาเนี่ย รอยยิ้มแก้เก้อผุดขึ้นมา ก่อนจะถูกเรียกให้เข้าไปหาเด็กทารกเพิ่งคลอดตัวแดงแจ๋

   “น่าเกลียดน่าชังจริงๆ” อัษฎามองลูกในอ้อมกอดแม่อย่างดีใจ ไม่นานพ่อของเด็กที่ขับรถไปส่งดอกไม้มาถึงก้ปรี่เข้ามาหา ภาพความรักของครอบครัวอบอุ่นช่างน่าดูยิ่งหนัก

   “มาด เดี๋ยวรถที่ไร่ไปส่งเมียกับลูกไปโรงพยาบาลนะ ให้ป้าบุญไปด้วย” ใหญ่บอก คนงานทุกคนต่างชื่นชมเจ้าของไร่ที่เมตตาคนงานทุกคน เพราะแบบนี้ถึงไม่มีคนงานคนไหนอู้งานเลยสักครั้ง

   อัษฎายังคงนั่งมองหน้าเด็กทารกตัวแดงอย่างหลงใหล อยากจะยื่นมือไปจับแต่ก็กลัวมือตัวเองสกปรกเลยได้แต่ชื่นชมด้วยสายตา กว่าจะผละมาได้ก็ตอนที่ใหญ่ดึงให้ออกมายืนด้านนอกเพื่อให้สามีอุ้มภรรยาไปขึ้นรถ ป้าบุญอุ้มเด็กแรกเกิดไว้อย่างทะนุถนอมไปด้วย

   “มองทำไม” ใหญ่ก้มมองคนที่จ้องมาตั้งแต่เมื่อครู่นี้ สายตาอ้อนวอนคล้ายกับต้องการอะไรบางอย่าง

   “ผมอยากไปด้วย” คำร้องขอถูกปฏิเสธทันที คนอยากไปยู่ปากก่อนเดินตามเด็กน้อยไปถึงรถ ใหญ่ขำนิดๆ กับอาการที่เห็น

   “ตาอัดแกคงเอาแต่ใจมากไปหน่อย คุณใหญ่อย่าถือสาเลยนะคะ” นมอิ่มเดินมายืนข้างๆ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนออกอาการดื้อแพ่งซะแล้ว

   “ไม่เป็นไรครับ” ใหญ่หันมายิ้มอ่อนโยนเช่นดังก่อนให้กับนมอิ่ม หรือแม่ของภรรยาของเขา นมอิ่มมองลูกเขยอย่างปลื้มใจ เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย นิสัยทุกอย่างเธอรู้ดี เนื้อแท้คุณใหญ่เป็นผู้ชายที่อบอุ่นและอ่อนโยน แต่เพราะเสียภรรยาไปอย่างกะทันหันทำให้กลายเป็นคนคิดมาก ปากร้ายและถือตัวไปสักหน่อย

   ท่าทางอยากไปมากของอัษฎาทำเอาคนห้ามถึงกับคลอนศีรษะ สุดท้ายก็ทนต่อสายตาอ้อนวอนไม่ได้ ใหญ่เอารถส่วนตัวออก พาคนขอร้องตามติดรถอีกคันไปจนถึงโรงพยาบาล กว่าเรื่องทุกอย่างจะเสร็จสิ้นก็กลับซะจนมืดค่ำ

   “ขอบคุณที่พาผมมา” อัษฎายกมือไหว้คนใจดี

   “ไม่เป็นไร” ใหญ่หันมายิ้มให้นิดๆ แล้วหันไปสนใจถนนมืดมิดต่อ

   ดวงตากลมโตมองเสี้ยวหน้าคนเคยดุอย่างพิจารณา จากที่ยอมรับว่าตกหลุมรักไปแล้ว มาวันนี้หลุมนั้นยิ่งลึกกว่าเดิมจนไม่รู้จะมีทางขึ้นทางไหน ความอ่อนโยนที่เจ้าตัวเผลอแสดงออกมาคงจะเป็นตัวตนจริงๆ ถ้าไม่ติดเป็นคนฟอร์มจัด ท่ามาก ไม่แน่ อัษฎาอาจจะกล้าสารภาพไปก่อน

   “หิวนะคะ” เสียงป้าบุญที่ติดรถมาด้วยเรียกสติและสายตาให้หันไปมอง อัษฎาพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อท้องดันร้องออกมาเสียงดัง

   ใหญ่ไม่พูดอะไรออกมา แต่กลับหักเลี้ยวไปจอดริมถนนที่มีร้านบะหมี่ตั้งขายอยู่ คนหิวสองคนพากันมองตาอย่างดีใจ อัษฎารีบลงจากรถรอประคองป้าบุญให้เดินไปด้วยกัน พอมาถึงโต๊ะ ใหญ่อาสาไปสั่งบะหมี่ให้ คนรอต่างก็มองท้องถนนที่มีรถวิ่งไปมา

   “ตอนแรกป้าก็คิดว่าผู้ชายแต่งงานกันเองมันไม่น่าจะรอด ขนาดหลานสาวป้าคบกันแฟนมันมานานแต่งงานไปยังเลิกกันเลย” ป้าบุญบอกความคิดของตัวเองหลังจากเหลือบมองใหญ่ที่คงไม่ได้ยิน อัษฎายิ้มนิดๆ แล้วพยักหน้าเข้าใจ

   “ผมว่า ทุกอย่างอยู่ที่การปรับตัว ทั้งตัวเราแล้วก็เขานะครับ” คนถูกถามพูดตามสิ่งที่เคยเจอ ครั้งแฟนคนก่อน ทั้งที่พยายามปรับตัวแต่ก็ไปไม่รอดเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมปรับตาม “คุณใหญ่คงลำบากที่ต้องมาแต่งงานกับผู้ชาย” ดวงตากลมมองคนยืนสั่งบะหมี่ด้วยรอยยิ้ม

   “คงเป็นงั้นแหละ แต่ดูแกก็มีความสุขดีนะ นานแล้วที่ไม่ได้เห็นคุณใหญ่หัวเราะเสียงดัง” ป้าบุญมองเจ้านายตัวเองอย่างปลื้มใจ “แบบนี้คงเป็นแบบที่นมอิ่มว่า รักไม่ได้อยู่ที่เพศหรืออายุ แต่มันอยู่ที่ตรงนี้” ตรงนี้ของป้าบุญคือหัวใจที่เต้นอยู่

   บทสนทนาจบลงเมื่อชามบะหมี่มาวาง คนเดินไปสั่งเดินมานั่งพร้อมน้ำสามแก้ว ความหิวทำให้สามคนสั่งเพิ่มอีกคนละถ้วย ป้าบุญที่กินไม่หมด มีอัษฎาอาสาจัดการให้ แก้มเนียนป่องเมื่อเคี้ยวลูกชิ้นตุ้ยๆ สร้างเสียงหัวเราะในเพื่อนร่วมโต๊ะ ความสุขมักจะอยู่รอบตัวเสมอหากเรามองเห็น อย่างบะหมี่มื้อค่ำนี้ ก็เป็นมื้อธรรมดาแต่มันความสุขกว่าการไปนั่งกินที่ร้านอาหารแพงๆ เสียอีก


...TBC
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-12-2016 22:51:14
เลิกท่ามาก ปากแข็งซะทีเฮอะคุณใหญ่
อัด เขาแทบจะบอกรักก่อนแล้ว
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-12-2016 23:09:57
 :L2: :L1: :pig4:

รถอ้อยจงมา น้ำตาลจงมาาาาาาาา
เอ ต้องให้คุณใหญ่เลิกฟอร์มจัดสินะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-12-2016 23:12:52
เสพติดเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 08-12-2016 23:25:58
อ่านแล้วรู้สึกร่มเย็นมากๆๆๆๆ
อบอุ่น น่ารัก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 08-12-2016 23:27:02

คุณใหญ่ปากแข็งตลอดเลยนะ :katai2-1: :katai1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MYYAOI ที่ 08-12-2016 23:32:43
ตอนแรกอ่านไปสองตอน คิดว่างานนี้คุณเล็กแหง๋เลยที่ต้องมีซัมติงกับน้องอัด แต่พอตอนที่สามผ่านไป อร๊ายยยยคุณใหญ่ชัวร์ป๊าบบบ แบบว่าปากแข็งแต่ใจอ่อนนะเธอ :mew1: :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 08-12-2016 23:33:07
เรื่องนี้มีเสน่ห์ก็ตรงคุณใหญ่นี่แหละค่ะ ทั้งมึน ทั้งซึน 555  :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 09-12-2016 00:33:31
ฟอร์มได้ไม่นานจริงๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 09-12-2016 01:50:20
ติดงอมแงม โอยยยย คุณใหญ่ยอมรับเถอะค่ะว่าชอบเค้าน่ะ เอ้ออออออออ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 09-12-2016 02:29:38
ท่ามากจริงนะคุณใหญ่55555จะรอดูว่าจะเยอะตลอดรอดฝั่งรึป่าว อิอิ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 09-12-2016 02:30:15
โถถถถ คุณใหญ่หวงขนาดนี้ ชอบเขาไปแล้วล่ะสิ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-12-2016 03:26:11
ก็แล้วทำไมคุณใหญ่ไม่บอกทัศนัยไปเลยล่ะว่าอัดเนี่ยเมียใคร ปล่อยให้เค้าจีบแล้วตัวเองก็มาทำหึงอยู่นั่นแหละ :hao4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 09-12-2016 06:31:12
ทั้งหึง ทั้งหวง ทั้งห่วง แต่ยังไม่ยอมรับ

ยังสับสนกับความรู้สึกตัวเอง

รีบรู้ใจตัวเองเร็วๆนะคุญใหญ่
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MYYAOI ที่ 09-12-2016 07:54:27
พี่ใหญ่ช่างจูบเก่งเหลือเกิน อิอิอิ คนปากแข็งแต่ใจอ่อน หมั่นไส้อีพี่ใหญ่
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MYYAOI ที่ 09-12-2016 08:10:45
บอกแล้วคนแก่เนี้ยะ ระดับฮอร์โมนไม่คงที่ก็เงี้ยะ  :hao6: :hao7: :laugh:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-12-2016 14:25:44
โธ่ พี่ใหญ่คะ หวงก็บอกว่าหวง ท่ามากจริงๆนะ ปากแข็งอี๊กกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 09-12-2016 17:31:57
คุณใหญ่ท่ามากสุดๆๆ ซึนมากมากกกกกกกก
เด๋วโดนแย่งอัดไปก่อนสารภาพนะเออ >< 5555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Asmknrt ที่ 10-12-2016 07:40:39
ชอบคุใหญ่มากกก รู้ใจตัวเองเร็วๆนะ :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 10 << [P.5] // [08/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 10-12-2016 12:16:04
รักกันน่ารักดีนะคะ ชอบบรรยากาศค่อยเป็นค่อยไปนี่จังเลย คุณใหญ่ยอมรับหัวใจตัวเองได้แล้วจ้า
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ ขอบคุณค่า :กอด1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 10-12-2016 21:52:25
11


** โปรดเตรียมใจก่อนอ่านนิดนึง มันมีความเหวี่ยงในอารมณ์ที่อ่านแล้วอยากจะ  :z6: ได้ ขอทุกคนโปรดให้อภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งยวด **






      “คุณใหญ่อยู่นิ่งๆ สิครับ ผมทำไม่ถนัด” เสียงดุคนที่เอาแต่ดิ้นยุกยิก ก็ใครมันจะไปอยู่เฉยได้ ถูกคนตัวหอมคร่อมแล้วมองตาแป๋วเช่นนี้ “คุณใหญ่”

   “ดุจริง ก็ฉันเมื่อย” ข้ออ้างง่ายๆ บอกออกไป อัษฎาย่นหน้าหมั่นไส้คนบอกเมื่อย แค่นั่งเก้าอี้แล้วเงยหน้าให้โกนหนวดแค่นั้น ไม่ได้นานเลยหากคนมีหนวดเคราครึ้มให้ความร่วมมือ

   ที่อัษฎาต้องโกนหนวดให้ก็เพราะมือกร้านเจ็บจากการทำงานที่เผอเรอ มือตัดดอกไม้แต่ตากลับเอาแต่จ้องคนตัวขาวที่ยื่นหน้าไปดมความหอม ทันทีที่ตักฉับกรรไกรเลยเฉือนเข้านิ้ว แม้จะเป็นแผลไม่มากแต่ความปวดกลับเล่นงานจนยกมือแทบไม่ขึ้น ขนาดข้าวมื้อเที่ยงยังต้องมีคนป้อน

   “ถ้าอยู่ไม่นิ่งแล้วเลือดออกผมไม่รับผิดชอบด้วย” พูดอีกรอบก่อนจะค่อยๆ ใช้ที่โกนหนวดปาดโฟมที่อยู่เต็มคางอย่างเบามือ ท่าทางตั้งใจนั่นสะกดคนมือเจ็บให้หยุดนิ่ง ดวงตาดุมองใบหน้าขาวในระยะใกล้ ความหอมอ่อนๆ จากสบู่ทำหัวใจเต้มไม่เป็นจังหวะ กว่าจะโกนหนวดเสร็จ ใหญ่ก็แทบสะกดจิตตัวเองไม่ให้กระชากคนผิวขาวมาฟัด ก็เขาเป็นผู้ชาย มีเลือดมีเนื้อมีความรู้สึก ถึงคนตรงหน้าจะเป็นผู้ชายก็เถอะ

   รอยยิ้มสวยยามจ้องหน้าไร้เคราครึมดูจะพอใจ อัษฎาไม่เคยโกนหนวดให้ใครมาก่อน แม้แต่แฟนคนแรกก็ไม่เคย และพอจ้องอย่างนี้ คุณใหญ่ก็ดูดี ดูหล่อมากเหมือนกัน ใบหน้าหยาบกร้านเพราะไม่ได้ดูแล หากบำรุงครีมสักหน่อยคงกลับมานุ่มเนียนดั่งผิวขาวที่คร้ามแดด

   “อะไร” ใหญ่เหล่ตามองคนหรี่ตาจ้อง

   “ที่จริงคุณใหญ่ก็ขาวนะ” คนก็ขาวเลิกคิ้วขึ้น ใหญ่มองตามสายตามาที่แขนที่มีสีผิวตัดกันอยู่

   “จะอะไรกับขาวไม่ขาว ไม่มีใครดูหรอก” ตัดฉับแล้วลุกขึ้นยืน แต่คนนั่งลงยืมสังเกตว่าคนตรงหน้ายืนชิดมาก พอลุกขึ้นโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง อัษฎาจึงผวาถอยหลัง ขาที่ก้าวไม่ทันเอนจนเกือบล้ม ดีที่มือแขนแกร่งรั้งเอวไว้ หัวใจเต้นรัวที่คิดว่าต้องล้มเปลี่ยนมาเต้นเพราะคนโอบเอวแทน

   สายตาสองคู่ประสานกันเนิ่นนาน หน้ากร้านค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ จมูกโด่งเป็นสันกำลังหยอกล้อกับจมูกรั้นไปมา ความเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของกันและกันที่แข่งกันเต้นแรง

   ความอุ่นทาบทับริมฝีปากแดง จังหวะเนิบนาบที่ขยับเพิ่มความวาบหวามในใจ ยิ่งมือที่โอบเอวดันร่างผอมให้แนบชิดจนรับรู้ถึงความต้องการที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมาตามสัญชาตญาณ ปากบางขยับจูบตามลำคอขาว ความหอมยิ่งกระตุ้นความอยากจนสมองว่างเปล่า

   ชุดนอนสีส้มถูกปลดกระดุมออกสลับกับก้มฝังรอยจูบ อกที่ไม่มีก้อนนุ่มแต่กลับกระตุ้นความต้องการไม่ต่างกัน ยิ่งเจ้าของร่างแอ่นรับสัมผัส คนต้องการยิ่งย้ำรอยจูบหนักและไม่ลืมหยอกล้อกับตุ่มไตสีสวยที่คล้ายกับเชิญชวนให้สัมผัส

   ร่างผอมที่เปลือยท่อนบนถูกยกขึ้นนั่งบนแท่นอ่างล้างหน้า ความรุ่มร้อนรุกเร้าจนปล่อยเสียงครางหวานออกมาจากริมฝีปากแดง มือเนียนเกาะบ่าแกร่งแน่น ความรู้สึกที่ไม่เคยได้สัมผัสทำให้ทำอะไรไม่ถูก เลยปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามกลไกของธรรมชาติ

   คนต้องการแม้ไม่เคยร่วมรักกับเพศเดียวกัน แต่ความต้องการที่แทบพร้อมออกศึกทำให้มองข้ามเพศไป เสียงครางดั่งแมวน้อยข้างหูยิ่งเพิ่มความคึกคักของส่วนล่างจนเจ็บแน่น

   “คุณ...ใหญ่ อื้อ” ร่างด้านใต้ตกใจเมื่อขอบกางเกงนอกและในถูกร่นลงไปคาที่หัวเข่า ทำให้เห็นส่วนกลางลำตัวที่ตื่นตัวอย่างน่าอาย อัษฎาเบนหน้าหนีเมื่อรู้สึกกระดากอายที่ต้องเปิดเผยส่วนปกปิดให้คนอื่นเห็น

   “เรียกพี่ใหญ่สิ” เสียงเบากระซิบชิดใบหูพร้อมขบเม้มจนเสียวซ่าน ยิ่งมีภาพคนใต้ร่างชอบยิ้มแย้มให้คนอื่นยิ่งเพิ่มน้ำหนักมือกระตุ้นสิ่งร้อนในมือ ปาก ดวงตา จมูกและร่างกายขาวนี้เป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

   “อื้อ” คนถูกชักนำครางยาวออกมาจนถูกขำเบาๆ “หะ ห้ามหัวเราะ” เสียงพูดปนหอบคล้ายกับวิ่งราวสิบกิโล ยิ่งแก้มแดงนั่นยิ่งดูน่ารักจนต้องยื่นหน้าไปหอมแก้ม

   คนเขินก้มหน้างุดอย่างน่ารัก ยิ่งมือนุ่มถูกดึงไปสัมผัสส่วนร้อนรุ่มที่เต้นตุบๆ ตรงทางลำตัวคนตรงหน้า แก้มเนียนยิ่งเพิ่มสีจนแทบเป็นลูกตำลึง คนไม่เคยค่อยๆ ทำตามเจ้าของร่าง เสียงทุ้มดังชิดใบหูช่างน่าฟังนัก อัษฎารู้สึกได้ใจเมื่อมือกร้านย้ายตำแหน่งไปลูบต้นขาเนียนแทนและปล่อยให้มือขาวเลยชักนำเอง

   “ดี” คำชมทำให้คนได้ใจออกแรงเพิ่ม ไม่นานสิ่งร้อนก็ถึงฝั่งฝัน ใหญ่หอบเครือ นานแล้วที่ไม่ได้ร้อนรุ่มทุกส่วนแบบนี้ และถึงแม้ความต้องการจะปลดปล่อยไปแล้ว แต่เพียงแค่เห็นร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าก็รู้สึกต้องการขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ร่างกายผู้ชายผอมๆ ขาวๆ แต่กลับกระตุ้นความกำหนัดของใหญ่ได้

   “พี่ใหญ่” อัษฎาตกใจผวาเข้ากอดคอหนาเมื่อร่างถูกรวบขึ้นแนบอก คนอุ้มเดินอาดไปด้านนอกก่อนวางบนเตียงนุ่มอย่างอ่อนโยน แววตาที่จ้องบ่งบอกความต้องการ ยิ่งพอร่างขาวนอนอยู่บนเตียงสะอาดสิ่งจุดอารมณ์ดิบในใจ อยากจะขย้ำให้จมเตียง อยากจะทำเครื่องหมายว่าคนนี้เป็นของเขาเพียงคนเดียว

   ภายในห้องสี่เหลี่ยมมีเพียงลมเย็นพัดผ่านหน้าต่างทำให้ผ้าม่านสีขาวบางปลิวไสว ปากแดงกัดหมอนนุ่มไว้แน่นเพื่อกั้นทั้งเสียง ความเจ็บปวดและความเสียวซ่านยามถูกคนตัวใหญ่รุกราน บางครั้งก็อ่อนโยนจนแทบละลาย บางครั้งก็หนักหน่วงจนเกือบจะจมไปในฟูก แขนแกร่งสะโพกงอนขึ้นเพื่อรับความต้องการ บ่อยครั้งที่ช่วยกระตุ้นกลางลำตัวของคนใต้ร่างให้ตื่น ยิ่งส่วนนั้นตื่นมากเท่าไหร่ ช่องทางด้านล่างจะยิ่งรัดแน่นอย่างน่าหลงใหล

   “พะ พอแล้ว” ทันที่รู้สึกถึงของเหลวบางอย่างที่ถูกปล่อยเข้ามาหลายต่อหลายครั้ง อัษฎาพูดปนเสียงหอบหนัก ครั้งแรกของตัวเองถูกกระทำติดๆ กันจนสมองโล่งไปหมด แม้จะอิ่มเอมแต่ก็เหนื่อยแทบขาดใจ

   “หืม” ครางทุ้มชิดใบหู ปากบางยังคลอเคลียตามซอกคอหอม ไม่รู้ใหญ่คิดไปเองหรือเปล่า ยิ่งเขาครอบครองร่างนี้เท่าใด ร่างขาวนี้ยิ่งหอม พอคิดจะผละก็เสียดาย

   “เหนื่อย เจ็บด้วย” คนบอกเหนื่อยแม้จะนอนอยู่เฉยๆ จนคนเหนื่อยกว่าขำ ก่อนจะหัวเราะหนักเมื่อร่างหอมนั่นคว้าผ้าห่มมาคลุมแล้วม้วนตัวเองกลายเป็นดักแด้ ดวงตาคมจ้องผ้าห่มดิ้นดุ๊กดิ๊กด้วยความอิ่มเอมในใจและเรียกได้อย่างเต็มปากว่านี่คือเมียของเขา




   เช้าวันที่ท้องฟ้าสดใส แต่กลับมีคนไม่สดใสนั่งดื่มกาแฟดำอยู่ที่เรือนชาน อัษฎานั่งจิบกาแฟเพื่อคลายความง่วง แม้ด้านล่างจะรู้สึกขัดๆ แต่ก็พอทนได้หากไม่ออกวิ่งหรือเดินมาก ใบหน้าขาวซีดเผือดจนคนที่เดินออกมาแปลกใจ

   “อัดไม่สบายหรือเปล่า หน้าซีดๆ” เล็กเอ่ยทักทายพร้อมทรุดนั่งลงข้างๆ

   “คงนอนไม่พอน่ะครับ” ก็ใช่อยู่ที่ว่านอนไม่พอ แต่สาเหตุที่ทำให้เป็นแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะบอกคนอื่นได้

   “พี่ใหญ่ให้นอนพื้นแข็งๆ ใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมบอกแม่จัดการให้” คนมีน้ำใจมุ่ยหน้าแต่คนนอนไม่พอรีบห้ามไว้ “กลัวถูกพี่ใหญ่ดุสินะครับ ไม่ได้เรื่องเลย” ก่อนจะว่าออกมา เล็กได้เหลือบมองแล้วว่าพี่ชายไม่อยู่แถวนี้ ขืนมาได้ยิน มีหวังถูกตบหัวไม่ก็เตะก้นแน่นอน

   “คุณเล็กไม่ทานข้าวก่อนหรือครับ”

   “ไม่ดีกว่า กาแฟถ้วยเดียวก็พอแล้ว อีกอย่าง ต้องไปดูคนงานปรับสถานที่เพื่อให้ทีมงานจากกรุงเทพมากางเต็นท์นอน” อัษฎารู้สึกไม่ดีที่ไม่ได้ออกไปช่วย ใจเต็มร้อย แต่ร่างกายยังไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ พูดคุยอีกไม่กี่คำ เล็กก็ลุกออกไป โดยมีดวงตาแสดงออกถึงกำลังใจมอบให้

   ด้านคนที่เพิ่งปรือตาขึ้นมาสู้แสง มือกร้านกวาดไปที่ข้างๆ กลับว่างเปล่า ความเย็นบ่งบอกว่าคนร่วมเตียงลุกออกไปนานแล้ว ใหญ่ลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆ ห้อง ภาพเมื่อคืนฉายย้อนมาเป็นฉากๆ ดวงตาคมกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะยกมือตบท้ายทอยตัวเองแรงๆ ให้คลายความง่วง

   “ฉิบหาย” สบถคำหยาบออกมาเมื่อความต้องการทำให้ทำลงไปแบบนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างหอมนั่นทำให้หลงใหล ขนาดตอนนี้กลิ่นหอมอ่อนๆ ยังติดตามตัวเขาอยู่เลย รอยยิ้มถูกจุดขึ้นมาเมื่อนึกถึงใบหน้าหวานสุดเซ็กซี่ ความวาบหวามในใจทำให้ต้องตบหัวตัวเองแรงๆ ก่อนที่จะรู้สึกขึ้นมาอีก พอได้ลองก็ชักติดใจ

   เสียงเคาะประตูเรียกคนนั่งบนเตียงเดินมาเปิด ก่อนจะเปิด ใหญ่ปรับสีหน้าให้ขรึม แต่คนหลังประตูไม่ใช่คนที่คิดเอาไว้ สาวใช้เลิกคิ้วนิดๆ เมื่อเห็นใหญ่ทำท่าผิดหวัง

   “ทานข้าวค่ะคุณใหญ่”

   “อืม”

   ตอบรับสั้นๆ ก่อนปิดประตู ใหญ่เดินย้อนกลับไปเข้าห้องน้ำ สายตาหันไปเจอเสื้อสีส้มที่ถูกทิ้งไว้ข้างชักโครก มือกร้านหยิบขึ้นมา กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเจ้าของทำให้ต้องยกมาสูดดอมดม คล้ายกับเสพติดไปแล้ว บ้าไปแล้วไอ้ใหญ่ ดวงตาคมจ้องภาพสะท้อนตัวเองที่บานกระจก รอยยิ้มที่เห็นเป็นของเขา

   พอออกจากห้องน้ำมา ท่าทางดีใจค่อยๆ เงียบลงเมื่อเห็นกรอบรูปแต่งงานของเขากับภรรยาเก่าที่ติดผนัง ความรู้สึกพุ่งพรวดจนเซไปนั่ง เตียงนี้เคยเป็นของเขากับภรรยาที่รักกันมานาน เตียงที่หวงแหนมิให้ผู้ใดนอน แต่นี่เขากลับให้คนอื่นมานอน

   ประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นอัษฎาที่เดินเข้ามาตาม ใหญ่ตวัดสายตาดุมองจนคนเพิ่งเข้ามาแปลกใจ คล้ายกับวันแรกที่เจอ สายตาเช่นนั้นอัษฎาจำได้

   “พี่...เอ่อ คุณใหญ่ ทานข้าวครับ” ท่าทางขึงขังจนไม่กล้าเอ่ยเรียกตีสนิท ใหญ่หลับตานิ่งก่อนผุดลุกแล้วเดินผ่านหน้าไปโดยไม่แม้แต่ชายตามอง

   เจ็บแปลบจนต้องยกมือขึ้นกุมอก แม้จะไม่รู้สาเหตุ แต่อัษฎาก็รู้สึกเจ็บ มันเหมือนสายตาแฟนเก่ายามเดินเข้ามาขอเลิก ทั้งที่พยายามจะไม่ให้เกิดซ้ำ แต่สุดท้ายก็ซ้ำรอยอีกจนได้ มือขาวกุมหน้าอกไว้แน่น น้ำตาที่เอ่อคลอพยายามกระพริบตาถี่ให้มันไหลย้อนลงไป ไม่ ต้องไม่ร้อง ต้องไม่อ่อนแอ คิดซะว่า เรื่องเมื่อคืนเป็นความทรงจำที่ดีมากคืนหนึ่ง

   ดวงตาแดงของลูกชายทำให้คนเป็นแม่อย่างนมอิ่มไม่สบายใจ ดูเหมือนทั้งคู่จะทะเลาะกันอีกแล้ว คราวนี้คงจะหนักพอดูลูกชายของเธอถึงกับร้องไห้ออกมาเช่นนี้

   มื้อเช้าช่างไม่อร่อยซะจริง ใหญ่ลุกออกไปโดยไม่สนใจอะไร และถึงแม้คนที่นั่งอยู่จะทำเฉย หากสังเกตจะเห็นคิ้วสวยขมวดกั้นความรู้สึก หลังจากข้าวในชามหมด อัษฎาเงยหน้าส่งยิ้มให้แม่ เพราะไม่อยากให้แม่เป็นห่วง อีกอย่างเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว ไม่อยากที่จะจัดการความรู้สึกตัวเองให้มันกลับมาเข้มแข็งดังเดิม

   “เป็นอะไรลูก” นมอิ่มเดินเข้าไปใกล้ลูกชายที่ยังนั่งยิ้มให้อยู่ แม่บ้านใหญ่ปรายตามองสาวใช้ เพียงแค่นั้น ทุกคนก็พร้อมใจกันเดินออกไป จึงเหลือแค่แม่กับลูก นมอิ่มดึงลูกชายมาซบที่อก มืออุ่นลูบศีรษะราวกับปลอบประโลมยามลูกอ่อนแอ

   “เปล่าครับ” อัษฎาเลือกจะโกหก ไม่อยากเห็นแม่ต้องมาทุกข์ใจอีก “อัดไปทำงานดีกว่า เห็นป้าน้อมบอกงานคัดแยกเยอะมาก ไม่มีอัดสักคนคงเสร็จช้าแน่” รอยยิ้มสดใสแต่ซ่อนความเศร้าจนคนเป็นแม่สงสาร

   “อัด ไม่ไหวก็บอกแม่นะ” น้ำตาแทบจะกลั้นไม่อยู่ อัษฎากระพริบตาปริบๆ ยื่นแขนกอดแม่อย่างรักยิ่ง

   “ครับ” รอยยิ้มที่แม่ชอบ หากจะดีกว่านี้ให้หัวใจยิ้มด้วย “อัดน่ะ รักแม่ที่สุด”

   นมอิ่มมองแผ่นหลังลูกชายที่เดินออกเรือนชานไป ความรู้สึกผิดแล่นขึ้นมาจุกอก นี่เธอทำผิดไปหรือเปล่า ลูกถึงต้องมาทนทุกข์ ทั้งที่คิดว่ามีสุข...

   แม่ขอโทษ





   “คิดว่าชอบงานในออฟฟิตจนไม่อยากมาลำบากที่นี่ซะแล้ว” แก้วเอ่ยแซวเด็กรุ่นน้องที่กลายเป็นคุณนายเจ้าของไร่ไปแล้ว

   “ลำบากแต่มีความสุข ผมชอบแบบนี้มากกว่า” อัษฎาตอบเสียงใสปนหัวเราะ ยามมาอยู่ที่นี่ เสียงพูดคุยกับเรื่องมากมายทำให้ลืมเรื่องราวทุกข์ใจได้เกือบหมดสิ้น แม้เวลาเที่ยงก็ขอฝากท้องกับอาหารบ้านๆ ของบรรดาสาวๆ กินไปคุยไปก็สุขเหมือนกัน
 
   มื้อเที่ยงแบบง่ายๆ จบลง ป้าน้อมได้แต่สังเกตเมียเจ้านายที่ดูยิ้มแย้มแต่ไม่สุด ดูเหมือนจะมีเรื่องทุกข์ใจ เรื่องนั้นคงเป็นความขี้โมโหเจ้านายแหงๆ เพราะตอนเช้าขณะเดินผ่านไร่ ได้ยินนายใหญ่เอ็ดตะโรด่ากราดคนงานจนป้าน้อมต้องรีบวิ่งมาที่โรงงานแบบไม่คิดชีวิต อารมณ์ดังพายุ ช่างน่ากลัวจริงๆ

   มือกร้านยื่นไปสัมผัสคล้ายกับปลอบใจและให้กำลังใจ อัษฎายิ้มให้ป้าน้อม ชายหนุ่มรู้สึกรักเช่นป้าแท้ๆ คนหนึ่ง พอเห็นแบบนี้ก็นึกถึงป้าที่เลี้ยงดูมา ป้าที่รักและไม่เคยทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นคนนอกเลยสักครั้ง...คิดถึงจริงๆ

   “นี่มากินข้าวเที่ยงที่นี่ คุณใหญ่ไม่โกรธเอาหรือ” ป้าจันเอ่ยถาม ได้การส่ายหน้าเป็นคำตอบ ป้าจันเลยเปลี่ยนเรื่องคุยไปซะอย่างนั้น

   การทำงานที่กลับมาเป็นแบบเดิมยิ่งสามารถปรับตัวได้ง่ายขึ้น ในจริงอยากกลับไปนอนกับแม่ซะด้วยซ้ำ เพราะกลัวใหญ่เห็นหน้าแล้วจะโมโหอีก ที่คิดแบบนี้เพราะสายตาห่างเหิน รังเกียจที่ได้เห็นเช่นดังครั้งแรก

   “ทีมงานเมืองกรุงเขาว่าหน้าตาจิ้มลิ้มจริงหรือ แกเห็นนี่นา” แก้วสะกิดเรียกอัษฎาที่เหม่อลอย คนถูกเรียกก็พยักหน้าเออออไปแม้จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้ถูกถามว่าอะไร “สวยได้ไม่ว่า แต่อย่ามาหาผู้ชายแถวนี้แล้วกัน อีแก้วบ่หื้อ (แก้วไม่ให้)”

   “อย่างกับพวกนั้นจะเอามึงอย่างงั้นแหละอีแก้ว” ป้าน้อมชี้หน้าพร้อมเสียงหัวเราะ แก้วหน้ายู่ก่อนจะหัวเราะตามออกมา

   ไม่อยากให้เวลาผ่านไปไวเลย แต่คงจะหยุดเข็มนาฬิกาไม่ได้ อัษฎาเดินกลับเรือนด้วยความหม่นหมอง เรือนไม้ที่แสนสวยแต่เขาไม่อยากอยู่สักนิด ขาเรียวหยุดอยู่หน้าเรือน ก่อนจะเปลี่ยนไปอีกทาง แม่รอเขาอยู่เสมอ อัษฎายิ้มแย้มเมื่อแม่เปิดประตูต้อนรับ เตียงที่เคยนอนครั้งแรกยังนุ่มเหมือนเดิม

   “เฮ้อ นุ่มจัง อัดมานอนกับแม่ได้หรือเปล่า” บิดขี้เกียจนิดๆ พร้อมกับหลับตาลง

   “ได้ยังไง เดี๋ยวคุณใหญ่ก็ว่าหรอก” ไม่หรอก อัษฎาคิดในใจ

   “แม่ไม่อยากให้อัดนอนด้วยเหรอ น้อยใจนะเนี่ย” ท่าทางน้อยใจของลูกชายสร้างเสียงหัวเราะให้กับแม่ “อัดคิดถึงป้า”

   “เอาโทรศัพท์ไปซ่อมในเมืองไหมล่ะ พรุ่งนี้นายมาดนะไปเยี่ยมนงเขา” พรุ่งนี้นงจะออกจากโรงพยาบาล คุณใหญ่ให้นายมาดยืมรถไปรับภรรยา

   “ก็ดีเหมือนกัน ตกน้ำคราวที่แล้ว ซ่อมยังไงก็ไม่ได้” เพราะถูกดึงตกน้ำตก โทรศัพท์มือถือเลยจมน้ำไปด้วย อัษฎาเลยไม่ได้ติดต่อกับใคร “แม่บอกพี่มาดด้วยนะจ๊ะ” อัดยื่นหน้าหอมแก้มมารดาก่อนจะลุกขึ้นยืน ขาเรียวกำลังจะก้าวพ้นประตู ดวงตากลมโตหันมามองแม่อีกครั้ง นัยน์เศร้าที่เห็นเพียงครู่สั้นๆ ทำให้คนเป็นแม่พลอยเศร้าไปด้วย

   เมื่อลูกชายออกไปแล้ว นมอิ่มทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงที่ยังอุ่น มือสองข้างยกพนมไหว้ ปากก็พร่ำขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสามีให้คอยช่วยเหลือลูกชายให้มีความสุข

   สภาพอึดอัดที่ไม่อยากเจอกำลังเกิดขึ้น อัษฎาอาบน้ำออกมาแล้วทำเป็นไม่สนใจคนที่นั่งอยู่บนเตียง ร่างผอมเดินมาปูผ้าบนพรมตามเดิม และหนุนหมอนใบเดิม เตียงเตียงลั่นไปมาเมื่อคนนอนบนนั้นพลิกตัวไม่ยอมหลับตานอน ใช่จะไม่อยากหลับ แต่ดวงตามันไม่ปิดเอง แถมยังเอาแต่จ้องแผ่นหลังของคนที่นอนตรงพื้น


   สับสนจนอยากจะบ้าตาย


   ใหญ่พรวดขึ้นมานั่ง มือทึ้งผมตัวเองจนยุ่งเหยิง นี่เขาเป็นอะไร ทำไมถึงกระวนกระวายเช่นนี้ หรือจะเป็นอย่างที่น้องชายว่า วัยทองอารมณ์มักแปรปรวน อย่างวันนี้ตอนลงไปในไร่ ไม่ว่าอะไรก็ดูขัดหูขัดตาไปซะหมด อยากจะตะโกนออกมาดังๆ แต่ก็กลัวผู้คนแตกตื่น สุดท้ายก็ต้องทิ้งตัวลงนอนอีกรอบ คนนอนหันหลังคงนอนหลับสบายไม่รู้สึกอะไรสินะ แต่นี่เขาจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

   ดวงตากลมโตปิดสนิท หากแต่ความรับรู้ยังมีอยู่เต็ม เสียงฮึดฮัดขึ้นจมูกคล้ายกับไม่พอใจทำให้น้ำตาแทบไหล หรือจะไม่ชอบที่เห็นนอนในห้อง แต่ไม่ว่าเช่นไร อัษฎาก็ต้องทำเป็นนิ่งไว้ก่อน นับแกะจนถึงตัวที่หมื่นถึงผล็อยหลับ

   ลมเย็นที่พัดผ้าม่านจนปลิว อากาศคืนนี้ช่างหนาวเย็นนัก คนนอนบนเตียงค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา ในมือมีผ้าห่มผืนใหญ่ พยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อจะลงเดินให้ไร้เสียง พอชะโงกดูก็เห็นว่าร่างผอมหลับสนิท มือกร้านคลี่ผ้าห่มคลุมร่างที่นอนคุดคู้ด้วยความหนาวอย่างเบามือ

   แม้ความคิดจะปฏิเสธเพียงใด แต่ความรู้สึกกลับทำตรงข้าม

   ความรักช่างน่าปวดหัวแท้จริง





   แสงแดดอุ่นๆ พาดเข้ามาจนต้องหรี่ตามอง แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อไม่เห็นคนที่นอนที่พื้น ผ้าห่มและหมอนถูกเก็บไว้อย่างดี คงไปทำงานแล้ว ใหญ่พยักหน้าให้กับความคิดตัวเองพร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำไป

   อาหารมื้อเช้าเป็นแบบสไตล์ฝรั่ง ไข่ดาวสองฟอง ไส้กรอกและแฮม เล็กนั่งจิ้มไส้กรอกเข้าปากพอเห็นพี่ชายเดินออกมาก็โบกมือทักทาย ท่าทางนั่นทำให้ใหญ่แทบสะดุดขาตัวเอง ภาพวาบหวามบางอย่างฉายทับจนแทบล้ม

   “กินอะไรของแกน่ะ” ใหญ่กระแอมก่อนเดินมานั่งที่เก้าอี้

   “อ่าว ก็กินไส้กรอกไง อร่อย” ว่าแล้วก็จิ้มอีกชิ้นขึ้นมากัด เล็กสังเกตเห็นท่าทางกระอักกระอ่วนของพี่ชายก็ขมวดคิ้ว “เป็นอะไร ทะเลาะกับอัดอีกล่ะสิ คู่นี้หนึ่งวันดี สองวันทะเลาะ”

   “สู่รู้” ใหญ่ว่า ก่องลงมือกินอาหารเช้า แม้จะทำเป็นไม่สนใจ แต่ตาก็คอยเหลือบมองคนที่ไม่เห็นมาตั้งแต่เช้า หากไม่ได้เล็กที่ถามขึ้นมาก็คงไม่รู้ว่าเมียตัวเองหายไปไหน

   “อัดเข้าเมืองไปพร้อมนายมาดตั้งแต่เช้ามืดแล้วค่ะ เห็นว่าจะเอาโทรศัพท์ไปซ่อม” นมอิ่มพูดขึ้น ท่าทางของใหญ่ที่รู้ก็ดูฮึดฮัด ซ้อมกับมีดถูกวางกระทบจานอย่างแรงจนพากันสะดุ้ง “อิ่มแล้วหรือคะ” คำถามของนมอิ่มไม่มีการโต้ตอบ มีเพียงแค่ปรายตามองเท่านั้น ก่อนยาขาวจะเดินลงเรือนไป

   “พี่ใหญ่เขาเป็นอะไร” เล็กหันไปถามนมอิ่มที่ส่ายหน้าตอบกลับ “คงน้อยใจที่เมียหนีเข้าเมืองไม่บอก” น้ำเสียงขบขันของเล็กจุดรอยยิ้มบางๆ ขึ้นมาบนใบหน้าเหี่ยวย่น ไม่กล้ายอมรับสินะ นมอิ่มยิ้มให้กับที่ว่างของที่เจ้าของเก้าอี้เพิ่งลุกออกไป





   
   “ให้ผมมารับกี่โมงดีครับ” นายมาดเอ่ยถามภรรยาเจ้าของไร่ที่ขอลงในตัวเมือง

   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมหาทางกลับเอง” อัษฎาว่า

   “แต่ยากนะครับ รถที่ผ่านไร่ไม่ค่อยจะมีด้วย” กว่าจะมีรถที่ผ่านไปต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เพราะมันไกล อัษฎาลังเลครู่หนึ่งก่อนจะขอเบอร์โทรนายมาดไว้ หากจะกลับแล้วจะโทรบอก

   มือถือเครื่องแพงที่เก็บเงินซื้อเมื่อยื่นให้ร้านไหนดูก็พากันส่ายหน้า เพราะอาการมันหนักจริงๆ อีกทั้งถูกน้ำมานานแล้ว หากเอามาตั้งแต่แรกอาจจะพอซ่อมได้บ้าง อัษฎาทำหน้าเสียดายมือถือที่ยอมอดข้าวเพื่อจะซื้อเป็นคู่ให้แฟนด้วย สุดท้ายก็เสีย สมกับที่เลิกกับแฟนเก่า มือถือก็เลยต้องพังตาม

   อัษฎาเดินเที่ยวในตัวเมืองจนเหนื่อย แขนยาวโบกเรียกรถสี่ล้อแดงไปที่ห้าง ตอนนี้คงจะเปิดทำการแล้ว อยากได้โทรศัพท์เครื่องใหม่สักเครื่อง

   ร้านขายโทรศัพท์ที่มีหลายรุ่นวางเรียงรายจนเลือกไม่ถูก หากตอนอยู่เมืองกรุงคงจะนิยมมือถือยี่ห้อผลไม้ แต่ราคามันสูงลิ่วไม่เหมาะกับการอยู่ป่าอยู่เขา มือเรียวชี้ไปที่รุ่นที่พอซื้อได้ หากหันไปเห็นอีกเครื่องที่เหมือนกัน ใจก็นึกถึงมือถือเครื่องโบราณของใหญ่ รอยยิ้มบางๆ จุดขึ้นมาก่อนจะชี้อีกเครื่องให้ใส่ถุงพร้อมกัน

   มือถือสองเครื่องอยู่ในถุงหิ้ว เวลาเช่นนี้หนุ่มสาวก็ยังพากันเดินขวักไขว่ อัษฎาเดินไปนั่งร้านอาหารบุพเฟ่ที่อยากกิน จานของสดหมุนไปมา นานแล้วที่ไม่ได้กินแบบนี้ เวลาที่ถูกกำหนดถูกใช้อย่างคุ้มค่า เมื่อท้องตึงก็ลุกไปจ่ายเงิน ทำไมวันนี้รู้สึกเป็นอิสระ

   เพราะกินมากไปทำให้รู้สึกแน่นท้อง ชายหนุ่มเดินเข้าร้านขายยา มือที่หยิบซองยาลดกรดไปชนกับมือขาว พอหันไปมองก็เจอกับคนหน้าคุ้น

   “อ่าวคุณ” เสียงใสทักออกมาพร้อมรอยยิ้ม อัษฎาโค้งศีรษะนิดๆ ก่อนทั้งคู่จะพากันออกมานั่งคุยกันด้านนอก “คุณอัดมาเที่ยวหรือคะ”

   “มาซื้อนี่ครับ” ถุงโทรศัพท์มือถือถูกยกขึ้น หญิงสาวหัวเราะร่วนชวนน่ามอง “ตกน้ำไปเลยต้องซื้อใหม่ เสียดาย”

   “คิดว่าหมดวาระของมันค่ะ” ใบหน้ายู่ของชายหนุ่มช่างน่ามอง แม้ไม่ได้น่ามองเช่นชายหนุ่มหล่อ แต่ก็น่ามองเพราะความน่ารัก

   “คุณแคทไม่สบายหรือครับ ซื้อยาซะเยอะเชียว” ถุงยาที่วางบนตักเกือบจะเต็มถุง หญิงสาวยิ้มบางๆ ก่อนพยักหน้า

   “ช่วงนี้แคทเครียดมากไปหน่อย แต่พอได้หัวเราะไปบ้างก็รู้สึกดีขึ้น” ที่เครียดก็เพราะคิดมาก ตอนนี้หน้าจอโทรศัพท์แทบไม่มีสายเรียกเข้าจากคนที่เคยโทรตามวันละเป็นร้อย

   “ระวังเส้นเลือดในสมองแตกนะครับ” บอกอย่างเป็นห่วง “ว่าแต่ นี่กี่โมงแล้วหรือครับ” นาฬิกาข้อมือก็ถอดไว้ในห้องลืมใส่มาจนได้

   “บ่ายสองค่ะ คุณอัดจะไปไหนหรือคะ”

   “พอดีผมต้องกลับไร่น่ะครับ” ตอบก่อนจะเอากระดาษที่มีเบอร์โทรขึ้นมา “เอ่อ ผมขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้หรือเปล่าครับ” คำร้องขอเอ่ยอย่างเกรงใจ แต่หญิงสาวกลับเต็มใจยื่นให้

   อัษฎาปลดล็อกหน้าจอก่อนจะไปที่แป้นตัวเลข ครู่หนึ่งที่เห็นสายโทรเข้าเป็นชื่อเล็ก แต่คงเป็นเล็กอื่น นิ้วสวยกดไปยังหมายเลขที่มาดให้ไว้ ไม่นานปลายสายก็รับ

   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมกลับเองก็ได้” น้ำเสียงอ่อนแรงจนแคทแปลกใจ อัษฎายื่นมือถือคืนให้หลังจากคุยได้เรื่องแล้ว นายมาดพาภรรยากลับไร่ แต่รถยางแตก ตอนนี้เลยยังอยู่ที่อู่ อีกนานกว่าจะซ่อมเสร็จนั่นเพราะต้องเปลี่ยนยางด้วย เงินก้ไม่มี เลยต้องโทรไปหาหัวหน้าคนงานอย่างลุงเหมือน

   “แคทไปส่งไหมคะ” คนใจดีออกตัว “ไร่ที่ไหนหรือคะ”

   “ไร่พิกุลจันทร์หอมน่ะครับ คุณแคทรู้จักหรือเปล่า” ทันทีที่บอกชื่อไร่ หญิงสาวถึงกับตัวชา ดวงตาสวยจ้องมองคนที่เพิ่งรู้จักนิ่ง “คุณแคทครับ” ต้องเรียกอีกครั้งหญิงสาวถึงสะดุ้ง

   “คุณอัดอยู่ที่นั่นหรือคะ” น้ำเสียงเบาหวิวคล้ายกับกระซิบ อัษฎาพยักหน้าลง หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออก

   “งั้นผมกลับก่อนนะครับ รถน่าจะหายากถ้าเกิดไปช้า” อัษฎารวบเก็บของ แต่ถูกมืออีกคนดึงไว้ “ครับ?”

   “ที่ไร่เป็นยังไงบ้างหรือคะ แคทหมายถึง บรรยากาศ เจ้าของไร่อะไรแบบนี้ เผื่อแคทอยากไปเที่ยวบ้าง” ท่าทางแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้สงสัย

   “ไร่ก็ดีนะครับ ส่วนเจ้าของไร่ คุณใหญ่ก็ดูสบายดี คุณเล็กก็ช่วงนี้ยุ่งๆ เพราะจะมีทีมงานจากกรุงเทพไปถ่ายรายการที่ไร่ คุณแคทรู้สึกคุณเล็กด้วยหรือครับ” คนถูกถามรีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน

   “ปะ เปล่าค่ะ งั้นแคทขอตัวก่อนนะคะ” คนขอตัวรีบลุกไป ทิ้งให้คนที่นั่งอยู่มองด้วยความสงสัย ต้องมีอะไรสักอย่างเป็นแน่ เมื่อกี้ท่าทางของหญิงสาวดูจะสับสน ดวงตาคู่นั้นสั่นไหวราวกับมีเรื่องในใจยามที่ได้ยินชื่อคุณเล็ก

   แต่ปัญหาคนอื่นไม่น่าหนักใจเท่าตอนนี้จะกลับยังไง อัษฎาเดินออกมาหน้าห้าง แขนยาวโบกเรียกรถและบอกจุดหมาย แต่กลับไม่มีรถคันไหนตอบรับสักคัน คนไม่มีทางกลับเดินเอื่อยๆ ไปเรื่อยๆ พอถึงทางแยกกลับชะงักเมื่อถูกรถยนต์คันแพงตัดหน้า เกือบจะด่าไปซะแล้วหากเจ้าของรถไม่เปิดประตูออกมา

   “คุณทัศนัย” น้ำเสียงเบาหวิวจนคล้ายพึมพำ

   “ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณอัดที่นี่”

   “ผมก็เหมือนกัน” ท่าทางดีใจของคนหน้าหวานทำเอาหัวใจแข็งแกร่งสั่นไหว ผู้ชายอย่างอัษฎามีบางอย่างที่ทำให้ทัศนัยคนนี้มิอาจหลบสายตาได้ ต้องบอกเลยว่าหลงรักตั้งแต่แรกพบ แม้น้ำจะเน่า แต่ก็ยังเห็นเงาจันทร์

   “ไปกับผมไหมครับ”       


...TBC


หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 10-12-2016 22:14:45
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 10-12-2016 22:21:54
ไร่แตกแน่นอนน ติดรถไปกับคนนี้ 5555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 10-12-2016 22:25:17
 :katai1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 10-12-2016 22:28:22
คุณใหญ่ทำไมใจร้ายแบบนี้  :ling1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-12-2016 22:32:38
ทำร้ายความรู้สึกอัดอีกแล้วน่ะ  :fire:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 10-12-2016 22:32:54
ไอ้คุณใหญ่!!!!!!!!!!!!!!!! :m31:
เดี๋ยวอัดก็หนีกลับกรุงเทพหรอก หึ แล้วจะรู้สึก!! :angry2:
นี่ถ้าเห็นอัดกลับไปพร้อมทัศนัยนี่คงมีองค์ลงอีกใช่มั้ย ห๊ะ!!! :m16:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 10-12-2016 22:40:18
อัดไปกับคนนี้ คุณใหญ่โมโหแน่นอน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-12-2016 22:43:08
ยอมแต่งงานด้วยตัวเอง ทำรักกับอัดก็แล้ว
แถมติดใจ แต่แค่เห็นรูปเมียที่ตายไป
ก็ทำตัวไม่สมกับคนมีวุฒิภาวะ
อัดไม่ได้บังคับให้มาทำรักด้วยสักหน่อย
ตัวเองทำเองทั้งนั้น แล้วมาทำสับสน
เกลียดคุณใหญ่และ
เชียร์ทัศนัย ดีกว่า
ให้คนรู้สึกผิดกับเมียที่เสียไปแล้ว
หึงจนอกแตกตายไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 11-12-2016 00:17:11
มาลงชื่อโกรธคุณใหญ่ค่ะ เธอซึนเหลือเกิน กินน้องเข้าไปแล้วยังท่านู้นท่านี้อีก  :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 11-12-2016 00:21:42
ถ้าแกนึกถึงเมียที่ตายไปแกก็ไม่ควรตกลงแต่งงานตั้งแต่แรก แล้วถ้าทัศนัยไปส่งอัดแกจะเอาความโกรธความโมโหมาลงที่อัดรึป่าว?? ระวังจะเสียใจถ้ามารู้สึกในวันที่สายไป
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 11-12-2016 00:28:12
หมั่นไส้คุณใหญ่ เชียร์คุณทัศนัยเต็มที่เลย #เกลียดคุณใหญ่  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 11-12-2016 00:38:16
สมควรให้เมียไม่รักแล้วคุณใหญ่อ่ะ
โมโหแทนเลยยยยยยยย :z3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 11-12-2016 00:54:53
 ถ้าใหญ่เห็นอัดกลับมากับทัศนัย พายุลงไร่แน่ๆ :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MYYAOI ที่ 11-12-2016 01:11:05
ไร่แตกแน่ งานนี้ไร่แตก แต่สมน้ำหน้าอีคุณใหญ่ หมั่นไส้ พอได้เค้าแล้ว ทำมาสับสน ชิ ขอให้ความหึงพุ่งทะลุปรอท จนเส้นโลหิตแตกไปเล้ยยยย :z6: :z6: :z6: กระโดถีบคนแก่รัวๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ryokijung ที่ 11-12-2016 01:18:18
เฮ้ย ได้เขาแล้วทำไมทำนิสัยอย่างนี้ :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 11-12-2016 01:53:10
ไปค่ะอัด เอาให้ไร่แตก ไร่พังกันไปข้าง โมโห!!!
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 11-12-2016 02:09:36
ถ้ากลับมาด้วยกันไร่จะแตกมั้ยเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 11-12-2016 03:05:48
คุณหย๊ายยยยยยยยยยยย  :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 11-12-2016 12:10:02
ขอเถอะ ให้ อัด เมินไอ้ใหญ่ จริงๆสะที่ เริ่มเกลียดใหญ่แล้ว เข้าใจว่ารักเมียเก่า แต่อย่าเอามาลงกับเมียใหม่ ทำร้ายจิตใจกันไปหรือป่าว กลางคืน มีอะไรกับอัด แต่พอเช้ามา ทำเมินเฉย คือแบบ หน้าชาแทนอัดมากอะ ขอนะ ขอเถอะ ลองให้อัดถอยออกมา หรือไม่ก่ก้อให้อัศนัย จีบ อัดไปไหนกับอัดบ่อยๆเถอะ หมั่นไส้ จนจะเกลียดแล้ว
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-12-2016 12:48:21
เดี๋ยวใหญ่ก็โมโหแล้วก็มาลงใส่อัดอีกแน่ๆ :m16: :m16: :m16:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 11 << [P.6] // [10/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 11-12-2016 20:34:43
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 11-12-2016 22:06:52
12




       บ่ายคล้อยแล้วแต่คนที่ออกจากไร่ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับ ใหญ่เดินวนไปวนมาอยู่บนเรือน วันนี้เขากลับเร็วกว่าทุกที ขนาดตอนทำงานยังดูไม่มีสมาธิจนต้องออกมานั่งตากแอร์ในออฟฟิตฆ่าเวลา แต่พออยู่เฉยๆ หัวสมองกลับฟุ้งซ่าน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ บ่นก็ไม่ได้เดี๋ยวถูกซ้ำเติมจากคนที่คอยจ้องอยู่ตลอด

   พอนาฬิกาติดผนังบอกเวลาบ่ายสี่โมง คนที่นอนเหยียดยาวบนโซฟาก็กระเด้งตัวขึ้นแล้วพุ่งออกจากออฟฟิต ท่าทางที่ดูเป็นห่วงจนออกนอกหน้าสร้างความขบขันให้คนที่พบเห็น ไม่ว่าจะเป็นเล็กที่ขำจนน้ำตาไหล และนมอิ่มที่ตกใจปนแปลกใจที่เห็นเจ้านายออกมาก่อนเลิกงาน อีกทั้งยังผุดลุกผุดนั่ง ดวงตาคมเหม่อมองไปยังประตูอยู่ตลอด

   ตะวันก็ใกล้จะตกดินเต็มแก่ โทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณอะไร หรือจะโกรธที่ถูกเมิน ใหญ่นั่งคิดจนต้องขอยาแก้ปวดหัวเพื่อบรรเทา

   “ลูกชายนมอิ่มไม่ติดต่อมาบ้างหรือครับ” จนแล้วจนรอดก็ทนไม่ไหว ใหญ่เดินไปถามนมอิ่มที่จัดโต๊ะมื้อค่ำอยู่ หญิงสูงวัยส่ายหน้าช้าๆ “ไม่มีจริงๆ หรือครับ”

   “ค่ะ หรือโทรศัพท์จะยังซ่อมไม่เสร็จคะ”

   นี่ไปซ่อมหรือไปผลิตใหม่กันแน่ ใหญ่เดินย้อนกลับไปนั่งเก้าอี้นอกเรือนชานตามเดิม ไม่นานเล็กก็เดินขึ้นมา ดวงตารีฉายแววขบขัน

   “รอใครอยู่หรือพี่ใหญ่” อดไม่ได้ที่จะแกล้งแหย่ แม้จะเจอสายตาดุตวัดมองแต่ก็ยังหยุดขำไม่ได้ “ถ้ารออัดล่ะก็...” แค่โปรยขึ้นมาและยังมีชื่อคนที่รอ ใหญ่ก็รีบเด้งตัวขึ้น

   “ก็อะไร” คนรอนานเริ่มอยากรู้ เมียทั้งคนหายไปไหนก็ยังไม่รู้ ดูคนที่รู้ก็ยังอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ยอมบอกสักที “ไอ้เล็ก”

   “โหดจริงนะพี่ชายผมนี่” เล็กหัวเราะลั่นกับหน้าตาคนฟอร์มจัดที่อยากรู้ซะเต็มประดา “นายมาดโทรมาบอกว่ารถยางแตกอยู่ที่อู่”

   “แล้วยังไงต่อ” ดูจะไม่ใช่คนที่อยากรู้สักเท่าไหร่

   “เลยไปรับอัดไม่ได้ ตอนนี้อัดอยู่ในเมืองนู้น ไม่แน่คงจะนอนแถวนั้นไปก่อน” พอได้ยินปุ๊บ คนเลือดร้อนก็เดินเข้าไปในเรือน มือหนาคว้ากุญแจรถส่วนตัวออกมา หากไม่ถูกเล็กรั้งไว้คงได้ลงเรือนไปแล้ว “เดี๋ยวๆ พี่ใหญ่จะไปไหน”

   “ไปรับมะ...เอ่อ เด็กบ้านั่นน่ะสิ” ไม่มีรถกลับทำไมไม่โทรมาหาก็ไม่รู้  ใหญ่ค่อนขอดนิดๆ หรือไม่ก็ไปหาแม่เขาที่รีสอร์ทก็ได้ จะได้รู้ว่าปลอดภัยดีหรือเปล่า เล่นหายไปเลยแบบนี้ก็เป็นห่วง

   “แล้วพี่ใหญ่รู้หรือว่าต้องไปรับเขาที่ไหน” ใหญ่มองหน้าน้องชายนิ่ง ก็จริงของมัน

   “อัดเป็นอะไรหรือคะคุณเล็ก” นมอิ่มพูดแทรกขึ้นมา ตอนจะมาตามสองพี่น้องไปทานข้าว ได้ยินชื่อลูกชายเลยใคร่รู้ กลัวเกิดอะไรขึ้น

   “ไม่มีอะไรหรอกครับนม พอดีอัดไม่มีรถกลับมา” เล็กตอบ ดวงตาเหล่มองพี่ชายตัวเองที่ถือกุญแจรถนิ่ง “แล้วพี่ใหญ่จะออกไปรับให้”

   นมอิ่มหันไปมองหน้าลูกเขย เมื่อวานยังทำตัวราวกับไม่ชอบอัษฎา ไหงข้ามวันมาอาการเป็นห่วงหนักกว่าเก่าซะอีก

   เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น สาวใช้ด้านในยกหูรับ ก่อนจะเอ่ยเรียกนมอิ่มและบอกชื่อคนโทรเข้า ทั้งสามต่างเดินเข้าไปด้านใน หูโทรศัพท์ถูกส่งต่อ แต่คนอยากรู้ด้วยกลับกดเปิดลำโพงซะนี่ ทำให้ได้รู้กันอย่างทั่วถึง

   “อยู่ไหนลูก” นมอิ่มกรอกเสียงลงไป ปลายสายได้ยินเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆ

   (อยู่ร้านคุณทัศนัยน่ะครับ พอดีอัดเจอเขาระหว่างทาง เขาเลยชวนมากินข้าว) เสียงขบฟันดังจนเรียกสายตาสองคู่ให้หันไปมอง กรามนูนเป็นสันเมื่อถูกกั้นความโมโห (รถพี่มาดยางแตก อัดไม่มีรถกลับ คุณทัศนัยบอกจะหาโรงแรมให้พักก่อน อัดเลยจะโทรบอกแม่ เผื่อแม่จะเป็นห่วง)

   เสียงปลายสายยังพูดไม่ทันจบดี คนที่ถือกุญแจอยู่ก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงเรือนไปแล้ว เล็กและนมอิ่มต่างก็มองหน้ากันแล้วขำออกมา

   “อัด รอที่ร้านนะลูก เดี๋ยวจะมีคนไปรับ” นมอิ่มว่า แต่ไม่บอกออกไปว่าใครจะไปรับ

   (จริงหรือครับ งั้นก็ได้ อัดไม่อยากนอนโรงแรมในเมืองเลย งั้นอัดจะรอที่นี่แล้วกัน)

   หลังจากวางสาย เล็กจับมือนมอิ่มไว้อย่างหลวมๆ ดวงตารีมองหน้าคนที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เกิด รักพอๆ กับแม่ซะด้วยซ้ำ

   “ผมว่า อีกไม่นานพี่ใหญ่ต้องหลุดฟอร์มเข้าสักวัน”

   “นมก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นค่ะ” เพราะสงสารอัษฎาจับใจ ยามเห็นลูกทำหน้าเศร้าแล้วก็อดเศร้าตามไม่ได้

   “นั่นสิครับ ไม่นานหรอก ทำตัวเป็นห่วงออกนอกหน้าซะขนาดนี้ รักแต่ไม่ยอมรับ นี่ละหนอ คนฟอร์มจัด”

   มื้อค่ำนี้ เล็กขอร้องนมอิ่มนั่งทานด้วย เพราะไม่อยากอยู่คนเดียว มันวังเวง เคว้งคว้าง ทั้งเรือนหลังใหญ่ดูเงียบเหงาพิกล
   





   ด้านคนใจร้อนที่เร่งความเร็วท้านรก ใหญ่ขับปาดซ้ายปาดขวามาตลอดทาง ที่ทำให้โมโหไม่ใช่เพราะเด็กนั่นไม่โทรหาเขาหรือไม่กลับมานอนบ้าน แต่ที่โกรธคือไปอยู่กับทัศนัยได้ยังไง แถมมันยังจะพาไปนอนโรงแรมอีก แต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตนยังกล้าให้ชายอื่นพาไปอีก มันน่าจับมาตีก้นจนลายจะได้หลาบจำ

   ใหญ่แวะที่อู่เพื่อจ่ายเงินค่าเปลี่ยนยางให้กับมาดก่อนจะตรงไปยังร้านอาหารที่มีคนรออยู่ ตอนออกจากบ้านอารมณ์เดือดคล้ายหม้อไฟ แต่พอมายืนหน้าร้านอาหาร ไฟใต้หม้อกลับเริ่มมอด นี่เขากำลังหึงอยู่หรือ ไม่หรอก แค่มารับเมียกลับก็เท่านั้น

   ประตูอัตโนมัติเปิดออก ร่างสมส่วนเดินเข้าไปในร้านที่เปิดเพลงสากลเปิดคลอเบาๆ ผู้คนส่วนใหญ่สวมชุดหรูมานั่งดินเนอร์ใต้แสงเทียน ใหญ่กวาดสายตามองหาคนที่จะมารับแต่ไม่เห็นแม้แต่เงา หรือมันจะพาเมียเขาไปที่อื่นแล้ว พอคิดแบบนี้ไฟก็ลุกพรึบขึ้นมาอีก

   “จองไว้หรือเปล่าคะ” บริกรสาวสวยฉีกยิ้มทักทาย ใหญ่มองนิ่งก่อนส่ายหน้าตอบ “กี่ที่คะ”

   “เจ้านายคุณอยู่หรือเปล่า” ไม่รอคำถามหรือการบริการใดๆ เสียงทุ้มถามขัดปล้องจนบริกรทำหน้าเหลอหลา “นายทัศนัยน่ะ”
 
   “เอ่อ อยู่ค่ะ” 

   “ผมขอพบเขาหน่อย” คำขอแสนห้วนกับหน้าตาไม่เป็นมิตรทำเอาบริกรสาวทำหน้าไม่ถูก

   “กรุณารอสักครู่ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะไปบอกคุณทัศนัยว่าคุณ เอ่อ”

   “ใหญ่”

   “ค่ะ คุณใหญ่มาขอพบ”



   ด้านเจ้าของร้านที่กำลังนั่งมองแขกทานมื้อค่ำอย่างเคลิบเคลิ้มจนลืมอาหารตรงหน้าของตน ใบหน้าขาวใส แก้มเนียนป่องนิดๆ เมื่อเจ้าตัวเพิ่งจิ้มหมูเข้าปาก น้ำซอสพริกไทยดำที่เลอะมุมปากยิ่งเพิ่มความน่าเอ็นดู ชายหนุ่มหยิบทิชชู่ก่อนยื่นแขนไปเช็ดให้ คนกินเลอะตกใจขยับเอนหลังหนี

   “ขอโทษครับ พอดีซอสเลอะตรงนี้” ทัศนัยชี้ตรงมุมปากให้ดู อัษฎาเลยยื่นลิ้นออกมาจัดการคราบเลอะ แต่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าท่าทางเช่นนั้นกำลังยั่วยวนคนที่จ้องอย่างเปิดเผย ทัศนัยกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก

   “อาหารอร่อยเลยกินเพลินไปหน่อย” อัษฎาว่าพร้อมรอยยิ้ม แต่คนตรงหน้ากลับนั่งจ้องนิ่งจนต้องเรียกอยู่หลายรอบ “คุณทัศนัยครับ”

   “อ่า ครับ คุณอัดว่ายังไงนะครับ” หัวใจแทบเด้งออกมาด้านนอก ไม่คิดเลยว่าคนตรงหน้าจะมีผลต่อทั้งความรู้สึกและอารมณ์ขนาดนี้

   “ผมชมว่าอาหารร้านคุณทัศนัยอร่อยดีน่ะครับ” บอกพร้อมรอยยิ้มกว้าง แค่ยิ้มนิดๆ ก็ใจสั่น นี่เล่นยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวเช่นนี้อยากจะมอบหัวใจให้เลยด้วยซ้ำ

   “ขอบคุณครับ ว่าแต่ ไม่ต้องเรียกคุณทัศนัยหรอก ผมว่ามันดูห่างเหินกันเกินไป เรียกผมว่าพี่ทัศดีกว่า ดูสนิทกันดี” คนอยากสนิทว่า

   “จะดีหรือครับ” กลัวคนจะมองว่าตีสนิทคนรวย อัษฎามักจะไม่อยากสุงสิงกับคนรวยสักเท่าไหร่ จากประสบการณ์ครั้งเก่าก่อนที่ถูกแฟนคนก่อนบอกเลิกในครั้งแรกก็เพราะกล่าวหาว่าอ่อยเจ้านายเพราะอยากรวย จากนั้นมา อัษฎาเลยจะวางตัวกับคนมีเงินพอสมควร

   “ยิ่งกว่าดีอีกครับ ไม่เรียกนี่สิคือไม่ดี” น้ำเสียงหยอกล้อเพื่อให้คนตรงหน้าเลิกลังเล ทัศนัยอยากเดินหน้าทำคะแนนบ้าง รู้สึกไม่ดีที่เห็นใหญ่ทำตัวสนิทสนมจนเกินเหตุ

   เสียงเคาะประตูห้องวีไอพีดังขึ้น ทัศนัยเอ่ยอนุญาต เมื่อประตูเปิดออก บริกรสาวรีบรายงานว่ามีคนมาขอพบ ชื่อคุณใหญ่ คนถูกขอพบขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนร่วมโต๊ะที่เบิกตาโต

   “คุณใหญ่น่ะหรือที่ขอพบผม” ทัศนัยถามย้ำเผื่อบริกรของร้านอาจจะจำชื่อผิด

   “ค่ะ”

   “ผมว่า คุณใหญ่คงมารับผมมากกว่า” อัษฎาพูดแทรกขึ้นมา แต่ก็ช่างน่าแปลก คุณใหญ่ที่ไม่สนใจหลังจากคืนนั้นทำไมวันนี้มาที่นี่ได้ หรือแม่อาจจะขอร้อง หรือถูกใครบังคับหรือเปล่า “งั้น ผมกลับก่อนดีกว่า”

   แม้จะเสียดายที่เวลาอยู่ด้วยกันช่างน้อยนัก แต่แค่นี้ก็พอจะลดความห่างเหินลงไปได้บ้าง แบบนี้หากเมื่อใดที่ไปที่ไร่ ทัศนัยคงจะเข้าใกล้ได้มากยิ่งขึ้น

   คนอยากพบกับคนที่จะมารับเดินออกมาพร้อมกัน ริมฝีปากแดงเหยียดยิ้มให้เจ้าของร้านอย่างสนิทสนม แค่นั้นคนยืนรอก็แทบปรี่เข้าไปหา ใบหน้าบูดบึ้งคล้ายกับกินรังแตนสักร้อยรัง ทัศนัยที่ถูกขอพบกำลังจะอ้าปากทักทาย แต่ใหญ่ไม่ยอมอยู่คุยด้วย มือหนารีบดึงแขนของอัษฎาออกจากร้านไปทันที ด้วยความตกใจเลยไม่ทันที่จะห้ามหรือเอ่ยอะไรออกมา รู้ตัวอีกที รถสีขาวก็ขับออกไปไกลแล้ว


   รถบ้านคันใหญ่สีขาวเคลื่อนด้วยความเร็วจนเกือบจะท้านรกอยู่หลายครั้ง ยิ่งตอนเข้าโค้งที คนนั่งด้านข้างแทบหลับตาเพราะกลัวรถจะหลุดโค้งไปชนกับต้นไม้หรือลงเหวสักโค้ง อัษฎาพยายามทักท้วง แต่คนขับกลับยิ่งเพิ่มความเร็ว ดังนั้นเลยได้แต่นั่งสวดมนต์คนเดียวเงียบๆ

   เสียงบดถนนของล้อสีดำดังลั่น คนที่เอาแต่สวดมนต์แทบพุ่งไปชนกระจกหน้ารถหากไม่ได้คาดเข็มขัด อัษฎาหรี่ตาขึ้นมาข้างหนึ่ง รอบๆ รถยังเป็นป่ารกทึบ ไม่มีแสงไฟจากบ้านเลยสักหลัง แปลว่ายังอีกไกลกว่าจะถึงเขตชุมชนและไร่พิกุลจันทร์หอม

   “ทำไมถึงอยู่กับมัน!” เสียงตวาดดังลั่นรถทำให้คนที่สนใจด้านนอกหันกลับเข้ามามอง ดวงตากลมโตมองคนหน้าบึ้งด้วยความหวาดกลัว ท่าทางโมโหคล้ายกับจะบีบคอแล้วหมกป่าไว้แถวนี้ “ฉันถาม!”

   “ทำไมต้องตะคอกด้วยเล่า! ผมอยู่แค่นี้เอง” อัษฎาตะคอกกลับบ้าง ในใจยิ่งคิดไปในทางที่ไม่ค่อยดีอยู่ด้วย
 
   “ก็ฉันถามว่าทำไมถึงอยู่กับมัน” แม้จะลดเสียงลงแต่ก็ยังดังอยู่ดีสำหรับการพูดคุยระยะห่างไม่ถึงเมตร

   อัษฎาเลิกคิ้วขึ้นมองคนอยากรู้ นี่ใหญ่สนใจด้วยหรือว่าเขาจะอยู่ไหน หรือไปกับใคร

   “ก็แค่ไม่มีรถกลับ พี่ทัศเลยพามะ...”

   “ใครให้เรียกมันว่าพี่ทัศวะ” ใหญ่ขัดขึ้นมาจนคนพูดอยู่ตกใจ มือขาวลูบหน้าอกเพื่อเรียกสติที่เตลิด ก่อนจะมองค้อนคนที่เอาแต่ตวาด

   “คุณใหญ่จะอะไรกับผมนักหนา วันก่อนไม่ยอมมองหน้าทั้งที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรผิด พอวันนี้มาเป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องผมจะไปไหนกับคุณทัศนัย ผมถามจริงๆ เถอะ คุณใหญ่เป็นบ้าหรือเปล่า หรือสติไม่ดี คุณใหญ่ควรไปพบจิตแพทย์นะครับแบบนี้” อัษฎาพูดในสิ่งที่อัดอั้นมา แม้จะเจอคนแบบใหญ่มาบ้างตอนทำงาน แต่ไม่ได้เจอทุกวันทุกคืนแบบนี้ 

   “นี่นาย!” ใหญ่โมโหจนพูดไม่ออก รู้สึกจุกอกเมื่อสิ่งที่ได้ยินเป็นเรื่องจริง ช่วงนี้ตัวเขาเองก็รู้สึกถึงอารมณ์ที่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา สุดท้ายคนโมโหก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมหลับตานิ่งเพื่อระงับความเครียดที่สะสม ก็รู้ว่าตัวเองผิด แต่มันควบคุมปากไม่ได้

   “ผมขับรถให้ดีกว่า ผมยังอยากกลับไปกอดแม่อยู่” อัษฎาพูดน้ำเสียงราบเรียบเมื่อคนหลับตานั่งนิ่งไม่ยอมขยับ อัษฎาเลยอาสาขับรถแทน อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่าการเอาชีวิตมาฝากไว้กับคนใจร้อนที่ยังไม่มีสติครบถ้วนแบบใหญ่

   คนอารมณ์ไม่คงที่ยอมลงจากรถเพื่อสลับที่นั่งกับอัษฎา รถฟอร์จูนเนอร์สีขาวก็ค่อยๆ ออกตัวด้วยความเร็วปกติ อัษฎาเหลือบมองคนที่ยังนั่งหลับตาอยู่ข้างๆ เป็นระยะ อยากจะถามแต่คงไม่ใช่ตอนนี้เลยปล่อยให้ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ

   กว่าจะถึงไร่ นาฬิกาดิจิตอลหน้าปัดรถบอกเวลาเกือบสี่ทุ่ม นั่นเพราะอัษฎาขับมาด้วยความเร็วที่แทบจะช้ากว่าเต่าเดินด้วยซ้ำ ก็หนทางที่ต้องขับผ่านทั้งมืดและเปลี่ยว ไฟกริ่งข้างทางนานๆ ถึงจะเจอ อีกอย่าง ไม่ชินทางเลยไม่กล้าที่จะเร่งความเร็ว หากพลาดไปมีแต่ตายกับตาย

   ไฟบนเรือนตอนนี้มืดสนิท เล็กคงเข้านอนไปแล้ว หรือไม่ก็คลุกตัวอยู่ในห้อง อัษฎาเดินนำเข้าห้องไม่สนใจคนเดินตามหลัง ทันทีที่เปิดประตูได้ คนเดินตามหลังก็แทรกตัวไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำก่อน ปล่อยให้คนเดินนำยืนเคว้งกลางห้อง เมื่อได้ยินเสียงน้ำไหล อัษฎาเลยเปลี่ยนความสนใจมาที่มือถือเครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อแทน มือขาวแกะเครื่องเก่าเพื่อนำซิมการ์ดเปลี่ยนมาที่เครื่องใหม่ เอกสารประกอบการใช้งานถูกนำมากาง ระบบที่ไม่เคยใช้ก็ดูจะง่ายพอๆ ระบบทำงานของมือถือเครื่องเก่า

   ทันทีเครื่องถูกเปิดใช้งาน ข้อความติดต่อทุกช่องทางต่างเตือนกระหน่ำจนคนถืออยู่เกือบทำหลุดมือ นี่แค่ไม่กี่วันมีคนส่งข้อความมาหาเยอะขนาดนี้เชียวหรือ อัษฎาเลื่อนดูข้อความจากแอฟพลิเคชั่นทุกอย่าง ที่ส่งมามากคงจะเป็นเพื่อนที่เพิ่งเจอเมื่อวันก่อน ทั้งข้อความและรูปภาพต่างถูกโพสพร้อมคำบรรยายซะสวยหรู ยิ่งรูปไร่ดอกดาวเรืองสีเหลืองทองอร่ามเต็มผืนไร่ยิ่งสวยสะดุดตา ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนสาวจะถ่ายรูปออกมาสวยได้ขนาดนี้

   คนที่อาบน้ำเพิ่งเสร็จเดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวอย่างหมิ่นเหม่ ดวงตาคมจ้องมองคนที่นอนหัวเราะกับโทรศัพท์อยู่ที่พื้นอย่างสงสัย หรือจะคุยกับไอ้เจ้าของร้านอาหารนั่น คิดเช่นนั้นใหญ่ก็เดินอาดๆ ไปดึงโทรศัพท์ขึ้นมาโดยไม่สนเสียงโวยวายของเจ้าของเครื่อง

   “คุยกับใครทำไมต้องหัวเราะด้วย” แขนยาวชูขึ้นเหนือศีรษะ ด้วยความสูงกว่ามากทำให้อีกคนเขย่งยังไงก็ไม่มีทางเอื้อมถึง
 
   “คุณใหญ่ นั่นโทรศัพท์ของผม เอาคืนมา” แม้จะรู้ตัวว่ายื้อไม่ได้ แต่ความพยายามก็ไม่มีลดละ อัษฎากระโดดขึ้นเอวแล้วใช้ขาหนีบไว้แน่นเมื่อใหญ่ออกแรงสะบัด “เอาคืนมา” พยายามที่จะยื่นแขนไปจนสุด แต่อีกคนกลับเอนหลบ

   “ไม่ให้โว้ย” ใหญ่กระเตงพาคนเกาะเอวเดินรอบห้อง หลายครั้งที่สะบัดตัวให้คนเกาะตก แต่ขาที่เกี่ยวตรงเอวแน่นทำยังไงก็ไม่มีทางหลุด

   “คุณใหญ่” นี่ก็พยายามยื้อยุด สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ อัษฎาถอยมายืนหันหลังทำหน้ามุ่ย แต่แล้วดวงตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นกองผ้าสีขาวที่พื้น คุ้นๆ กับผ้าผืนนั้น “ผ้าเช็ดตัว...” เมื่อนึกได้ อัษฎาค่อยๆ หันไปมองหน้าคนที่กำลังตั้งใจอ่านข้อความในมือถืออย่างถือวิสาสะ ก่อนไล่สายตาลงมาที่กล้ามแน่นที่หน้าท้องและต่ำลงมาอีก...

   ภาพอันหน้าตกใจกำลังปรากฏอยู่ตรงหน้า คนยืนแก้ผ้าคงยังไม่รู้ตัวว่าผ้าขนหนูได้หลุดร่วงไปแล้ว แม้จะเคยเห็นมาเมื่อไม่กี่วัน แต่นี่มันดูประเจิดประเจ้อไปสักหน่อย อัษฎาเสหน้ามองไปทางอื่นก่อนจะเดินแอบๆ เข้าห้องน้ำไป

   “อ่าว” ใหญ่ที่อ่านข้อความจนหมดหันมาอีกทีเจ้าของเครื่องก็หายไปแล้ว พอได้เห็นข้อความรู้สึกโล่งในอก แบบนี้ค่อยหายใจได้โล่งท้องสักหน่อย...โล่งท้องจนเริ่มเย็นหวิวๆ “ฉิบหาย” ลมเย็นๆ พัดมาทำให้หนาวกว่าปกติ พอก้มมองถึงรู้ว่าตอนนี้ร่างกายท่อนร่างเปลือยเปล่า แสงไฟสว่างจ้าทำให้เห็นทุกสัดส่วน แต่จะให้อายงั้นหรือ...ไม่มีทางซะหรอก ถ้าขนาดของเขาเล็กจิ๋วคงจะรู้สึกขายหน้า แต่นี่...ไม่อยากจะคุย

   คนภูมิใจรูปร่างของตัวเองเดินไปค้นเสื้อผ้าในตู้ วันนี้รู้สึกอยากนอนถอดเสื้อ เอ หรือถอดกางเกงด้วยท่าจะดี คิดเช่นนั้นเสื้อกับกางเกงแพรก็ถูกยัดไว้ในตู้เช่นเดิม ก่อนร่างกำยำจะเดินมานอนบนเตียง แขนสองข้างสอดใต้ศีรษะอย่างสบายอารมณ์

   อัษฎาอาบน้ำออกมาด้วยความสดชื่น แต่ขาเรียวกลับหยุดกึกเมื่อเห็นคนบนเตียงนอนแก้ผ้ายกขาขึ้นไขว่โชว์ให้เห็นของอันตรายที่เคยเล่นงานจนสะโพกแทบคราก แม้จะมีกางเกงในสีดำบดบังก็เถอะ นี่คงตั้งใจยั่วโมโหอยู่แน่ๆ

   “ขึ้นมานอนบนเตียงสิ” เสียงตบเบาะที่ว่างข้างๆ คล้ายกับจะกวนโมโห อัษฎาทำเป็นไม่สนใจก่อนจะเดินไปปิดไฟแล้วกลับมานอนที่พื้นตามเดิม

   “ระวังเป็นหวัดแล้วจะหาว่าผมไม่เตือน” คนนอนที่พื้นพูดก่อนจะล้มตัวนอนตะแคงหันหลังให้

   “ฉันแข็งแรงไม่ป่วยง่ายๆ หรอกน่า วันนี้ร้อนจริงน้า”





   “ฮัดชิ้ว”

   “พี่ใหญ่เป็นหวัดหรือครับเนี่ย”

   คนจามเสียงดังเหล่ตามองน้องชายที่กำลังปรุงเครื่องในชามข้าวต้มร้อนๆ ก่อนมองค้อนให้คนที่นั่งข้างที่ส่งเสียงหัวเราะอย่างไม่ปิดบัง

   “ฮัดชิ้ว” ที่จริงก็ไม่ได้เป็นหวัด แค่รู้สึกคันจมูกก็เท่านั้น “ฉันไม่ได้เป็นหวัดหรอก สงสัยหมอนมีฝุ่นเยอะ ฮัดชิ้ว” เสียงจามติดๆ กันเช่นนี้คงจะไม่ใช่ฝุ่นแล้ว

   “ฝุ่นคงจะมีพิษมากเลยนะครับจามขนาดนี้” ว่าแล้วก็ขำพี่ชายตัวเอง

   “เออ ยุ่ง” คนคันจมูกเพราะฝุ่นทำจมูกยุกยิก

   “ทานยากันไว้หน่อยดีไหมคะคุณใหญ่” นมอิ่มที่เป็นห่วงอาการเริ่มเดินเข้ามาถาม นานแล้วที่ใหญ่ไม่เคยเป็นหวัด ขนาดหน้าหนาวที่หนาวจนเจ็บกระดูก เจ้าของไร่ยังไม่เป็นอะไร

   “ไม่เป็นไรครับนม เดี๋ยวก็คงจะดีขึ้น”

   หลังจากทานข้าวเสร็จ สองพี่น้องเจ้าของไร่ต่างก็พากันลงไปทำงานในออฟฟิต เนื่องจากไม่กี่วันนี้จะมีทีมงานเข้ามาถ่ายทำรายการแล้ว สถานที่ทุกอย่างเล็กก็ดูแลแทบจะหมดจนเหลือแต่ส่วนในไร่ที่ต้องให้พี่ชายเป็นคนจัดการ

   ใหญ่นั่งทำจมูกยุกยิกอยู่ที่โต๊ะ เอกสารในแฟ้มถูกอ่านอย่างช้าๆ เพราะต้องคอยหยิบทิชชู่มาซับน้ำมูกใสๆ ที่ไหลรบกวนตลอดเวลา

   “นี่ครับ” แก้วใบเล็กมียาสีเหลืองหนึ่งเม็ดวางอยู่ ใหญ่ไล่มองมือเรียวไปถึงใบหน้าขาว “ยาแก้แพ้”

   “ฉันไม่ได้เป็นอะไร” ดวงตาสองคู่สบตากันนิ่ง ก่อนใหญ่จะพูดออกมา

   “ตอนนี้ไม่เป็น ไม่กี่ชั่วโมงอาจจะเป็น อย่าลืมว่ายังมีงานรอคุณใหญ่อยู่นะครับ” น้ำเสียงและท่าทางทำราวกับใหญ่เป็นเด็กเล็ก แม้จะทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็ทนความตื้อไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องหยิบยาเม็ดนั้นเข้าปากพร้อมดื่มน้ำตาม

   “ยุ่งจริง” พอกลืนยาลงคอปุ๊บก็บ่นทันที อัษฎาคลอนศีรษะเบาๆ ให้กับคนอารมณ์ร้าย “จะไปไหน” ก่อนที่จะเปิดประตูออกไปก็มีเสียงถามออกมา

   “ไปทำงานที่โรงคัดแยก”

   “ฉันบอกให้ทำในนี้ ไปทำๆ ไมที่นู้นอีก”

   อัษฎาเหลือบตามองดูเล็กที่นั่งกระพริบตาปริบๆ แล้วเมื่อวันก่อนใครที่อาละวาดซะจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้ มาวันนี้กลับไปโกรธที่เขาไม่ยอมอยู่ใกล้อีกแหน่ะ

   “นั่งในนี้แหละ” เล็กรีบบอกพร้อมรอยยิ้ม พี่ใหญ่ช่างเข้าใจยากซะจริง

   “ออกไปดูไร่กับฉัน” ก้นยังนั่งไม่ทันอุ่น คำสั่งจากคนขี้โมโหก็เอ่ยออกมา อัษฎาหันไปมองเล็กอีกที ซึ่งคราวนี้ได้แต่ส่ายหน้าให้กับสิ่งที่เห็น “เร็วๆ”

   “ครับๆ” โดนเร่งจนต้องรีบเดินตาม

   แม้จะบอกให้มาดูไร่ด้วย แต่ทำไมอัษฎาถึงถูกใช้ให้มานั่งมองคนงานตัดองุ่นได้ แถมมีร่มกางไว้ให้อีก คนงานที่เดินกันขวักไขว่ต่างพากันยิ้มล้อจนคนนั่งเฉยๆ รู้สึกไม่ดี ความรู้สึกบางอย่างมันเตือนให้ออกไปช่วยคนอื่นทำงาน แต่พอขาเรียวก้าวออกจากร่ม เสียงตวาดก็ดังขึ้นราวกับมีเซนเซอร์กั้นไว้

   “ห้ามออก นั่งอยู่เฉยๆ”

   นั่งในร่มว่าเขินแล้ว แต่เสียงตะโกนสั่งนี้น่าอายยิ่งกว่า แถมตอนนี้พวกที่ขำเริ่มหัวเราะออกเสียงจนอยากจะมุดหัวลงดิน สุดท้ายก็ต้องกลั้นใจรีบวิ่งหนีไปโดยไม่สนเสียงตะโกนเรียก ขืนให้นั่งอยู่ตรงนั้น มีหวังถูกนินทาไปสิบวันยี่สิบวัน

         “คุณใหญ่ ดอกดาวเรืองดอกนั้นยังตัดไม่ได้ครับ” คนงานที่คุมการตัดตะโกนห้ามเมื่อเจ้าของไร่กำลังจะลงน้ำหนักมือเพื่อตัดดอกตรงหน้า ใหญ่หันไปมองคนห้ามส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างรำคาญ

   “เออ ไม่ตัดก็ไม่ตัดสิวะ อะไรนักหนา”

   ว่าแล้วก็รีบโยนกรรไกรลงพื้นด้วยใบหน้าบึ้งตึง ก่อนขายาวจะรีบสาวไปทางออฟฟิต คนงานนับสิบมองเจ้านายที่ใบหน้าบูดด้วยความแปลกใจ ใครๆ ก็ดูออกว่าตั้งใจเบี้ยวงานไปตามคนที่วิ่งหนีไปต่างหาก เจ้านายนี่ชักจะเนียนเกินไปซะแล้ว อยากอยู่ใกล้เมียแต่ทำเป็นฟอร์มจัด

   “จะไหวไหมครับเนี่ยคุณใหญ่”


...TBC


พาลุงแกมาให้รุม  :z6:  :z6: :z6:



... รักน้อยๆ แต่รักนานๆ ลุงใหญ่ฝากมาบอกค่า  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 11-12-2016 22:22:28
คือรำคาญอีพี่ใหญ่แล้วนะ เปลี่ยนพระเอกเลยดีมั้ยเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 11-12-2016 22:34:12
 :laugh: โอยยยยย คุณใหญ่ขา ซึนไม่ไหวจะเคลีย 555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-12-2016 22:43:12
สมน้ำหน้าสุดท้ายก็เป็นหวัด เป็นยังไงล่ะยังอยากนอนโชว์ว่าตัวเองไม่เล็กอีกไหม :hao3: :hao3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 11-12-2016 22:52:01
ลำไยคนฟอร์มจัดดดดดด หันไปเชียร์ทัศนัยดีกว่าาา :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 11-12-2016 22:53:09
เริ่มเบื่อ นิยายเริ่มลำไยแล้ว อัด ยอมเขาตลอดเลยอะ น่าเบื่อ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 11-12-2016 22:53:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 11-12-2016 23:08:17
หมั่นไส้พระเอก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-12-2016 23:21:46
จะปากหนักไปถึงไหน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 11-12-2016 23:28:09
แต่เราว่าลุงแกตลกดีนะ55555 ก็นะคนปากแข็งขี้เก็กอ่ะ มองดูดีๆน่ารักดีออก มันก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปจู่ๆรักปุ๊ปปั๊ปเลยคงไม่ใช่อ่าเนอะ ตอนแก้ผ้าแกล้งอัดฮามาก  :m20: :m20: เราไม่เบื่อเลยสู้ๆค่ะคนเขียนเป็นกำลังใจให้  :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 11-12-2016 23:28:46
ลุง เลิกซึนได้แล้ว!!!!!! เค้ารู้กันหมดทั้งไร่แล้วเนี่ย เอ้ออออ :hao3:
รักคนเขียน มาบ่อยแบบนี้กร๊าวใจยิ่งนัก จุ้บๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 11-12-2016 23:49:34
เบื่อคุณใหญ่ เชียรคุณทัศนัยดีกว่า อยากให้อัดเย็นชาต่อคุณใหญ่บ้าง อย่ายอม ทำให้คุณใหญ่เจ็บบ้าง จะได้รู้ตัวรู้ใจสักที :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 11-12-2016 23:50:23
 :laugh:มีของใหญ่ งานโชว์ต้องมา 55
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Petalkiss ที่ 12-12-2016 00:12:39
เราว่าคุณใหญ่น่ารักดี 5555 ก็เข้าใจนะ คนไม่เคยชอบผู้ชาย แถมที่เป็นม่ายก็เพราะเมียตาย ไม่ได้อกหัก จู่ๆ จะมาสวีทหวานกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักไม่นานก็คงแปลกๆ
จริงๆ ตอนนี้การกระทำของคุณใหญ่ค่อนข้างชัดแล้วนะ ทุกคนรอบข้างก็ดูออกหมด เหลือแค่เจ้าตัวที่ยังปากแข็ง ไม่ยอมรับตัวเองเท่านั้นแหละ
ถ้าไม่นับตอนที่คุณใหญ่สับสนแล้วเมินอัดเมื่อวันนั้น ที่ผ่านมาเราว่าคุณใหญ่ก็ไม่ได้ทำตัวเลวร้ายมากนะ อาจจะดูเหมือนปากร้าย ชอบดุ ชอบเสียงดังใส่ แต่มุมอ่อนโยนก็มี คอยเป็นห่วง คอยดูแลอัดอยู่เงียบๆ เช่น ห่มผ้าให้ ขับรถไปรับไปส่ง ออกไปดูไร่ด้วยกันก็ให้อัดนั่งในร่มตลอด
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 12-12-2016 00:20:57
ตลกก 5555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 12-12-2016 00:21:51
555. พ่อเก็กแมน

 :katai2-1:  :katai3:  :katai2-1:  :katai3:

....
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 12-12-2016 00:23:36
เกลียดความซึนกับฟอร์มจัดของคุณใหญ่ เก๊กๆอยู่นั้
น รักก็บอกว่ารักไปสิคะ ยึกๆยักๆอยู่นั่นนน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 12-12-2016 00:44:01
สรุปใจความของตอนนี้คือ อีคุณใหญ่นั้นวัยทองแน่นอน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 12-12-2016 05:48:16
นี้คือการแสดงออกของความรัก ความหวง ความห่วงใย

ของคุณใหญ่ใช่มั้ย มีความน่ารัก!!!

หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Asmknrt ที่ 12-12-2016 10:14:56
อัดรอหน่อยนะ อีกไม่นานคุณใหญ่ต้องรู้หัวใจตัวเองแน่ๆ ชอบเรื่องนี้มากกก คือสนุก :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 12-12-2016 13:49:34
หลังจากนางลังเลท่ามาก จนเกือบโดนคาบไป
พออัดกลับมาก้อติดเมียมากเลยจร้า 55555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 12-12-2016 14:47:28
ไบโพราชัดๆลุงใหญ่5555555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 12-12-2016 15:47:23
 :pig4: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 12-12-2016 19:08:15
นี่เหลือแค่รอใครซักคนมาคุยให้คุณใหญยอมรับความรู้สึกตัวเองก็พอแล้ว
เหมือนที่ไม่ยอมรับเพราะยึดติดกับเมียเก่าด้วยหละ พูดไปนางก็น่าสงสารอยู่ เข้าใจได้นะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 12-12-2016 21:35:18
ช็อตนั้นเร็วไป แนะนำให้เพิ่มรายละเอียด =.,=
อัดรู้ใจตัวเองแล้ว เมื่อไหร่คุณใหญ่จะรู้และยอมรับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 12-12-2016 22:27:20
คุณใหญ่ตลก ๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 12-12-2016 23:43:06
หมั่นใส้คุณใหญ่ม๊ากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ส่งสารอัดอ่ะถ้าคุณใหญ่ยังไม่รู้ความรู้สึกตัวเอง ยังคิดเรื่องเมียเก่าอยู่
แบบนี้น่าจะจัดให้กระอักเลือดสักน่อนนะ เชอะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 12-12-2016 23:56:21
เว้นห่างไปนานกลับมาอ่านจนทันแล้ว อิลุงใหญ่นี่ตลกนะปากบอกไม่แต่ใจอะวิ่งไปแล้ว เข้าใจว่ายังสับสนแต่ก็ไม่ควรจะมาเมินใส่อัดนะคือลุงควรคิดตัดสินใจเองเงียบๆอย่ามาลงที่อัดให้มาก แก่แล้วก็หัดยอมรับอะไรง่ายๆบ้าง ระวังจะเจออัดเมินกลับบ้างแล้วจะร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่า
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 13-12-2016 07:07:53
เพิ่งมาเจอ อ่านรวดเดียวเลย
สนุกมากจ้าา  หมั่นไส้ฟอร์มของคุณใหญ่จริงๆ
แต่แอบสงสารอัดอะ เมื่อไหร่คุณใหญ่จะลดฟอร์มสักที :katai1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 13-12-2016 07:37:03
เมียเก่าแกตายไปแล้วอีคุณใหญ่ รู้ว่ารักแต่เก็บเค้าไว้ในใจไม่ดีกว่าหรือ จะเอาอดีตมาทำร้ายคนที่ยังอยู่ทำไม รอแค่แกเปิดใจยอมรับคนเดียวแล้วเนี่ยะ ไม่งั้นนะฉันจะส่งพี่ทัศให้ไปพาอัดกลับมาซะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 12 << [P.7] // [11/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 13-12-2016 08:11:19
หึ  :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 13-12-2016 19:46:39
13





       “พรุ่งนี้พวกเขาจะมาถึงกี่โมงล่ะ” คุณพิกุลมาที่ไร่ในตอนเย็น นั่นเพราะวันพรุ่งจะมีการถ่ายทำรายการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งจะขาดคนที่บุกเบิกไร่นี้มาอย่างคุณพิกุลไม่ได้

   “น่าจะช่วงบ่ายๆ ครับ ตอนนี้เล็กจัดเตรียมเต็นท์ไว้เรียบร้อยแล้ว” ฝ่ายประสานงานอย่างเล็กรีบรายงานให้แม่ฟังถึงเรื่องที่ได้เตรียมไว้แล้ว

   “ดี แล้วนี่อัดไปไหนซะล่ะ” คุณพิกุลเอ่ยถามหาสะใภ้ที่ไม่ออกมาร่วมทานมื้อค่ำด้วย “หรือว่าทะเลาะกันอีก” คนที่ดูเงียบสุดของโต๊ะหันมามองหน้าแม่ของตัวเองที่จ้องรออยู่แล้ว

   “เปล่า” น้ำเสียงนิ่งแบบนี้แสดงว่าใช่

   “อย่าคิดว่าแม่อยู่ที่นู้นแล้วจะไม่รู้อะไรนะ” เสียงนิ่งพอๆ กันกลบทับ

   “ไอ้เล็กชอบพูดเกินจริงแม่ก็รู้นี่ครับ” คนถูกโยนความผิดทำตาโต

   “พี่ใหญ่อย่ามากล่าวหากันลอยๆ นะ ไหนล่ะหลักฐาน” เล็กโวยวายขึ้นมาจนสุดท้าย คุณพิกุลต้องรีบห้ามปราม “นู้นไง” ประตูห้องด้านในเปิดออก คนที่แม่ของพวกเขาตามหาเดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม

   “มาทานข้าวลูก” คุณพิกุลมองหน้าลูกสะใภ้อย่างเอ็นดู “แม่เราบอกว่า วันก่อนเข้าเมืองแล้วไม่มีรถกลับ ทำไมไม่แวะเข้าไปหาแม่ล่ะ” อัษฎาหันไปมองหน้าแม่ตัวเอง ก่อนหันมามองหน้ามองคุณพิกุล

   “ผมเกรงใจน่ะครับ” ว่าพร้อมรอยยิ้ม

   “เกรงใจแม่ผัวแต่ไม่เกรงใจชู้” ใหญ่พูดลอยๆ ออกมา จนได้ค้อนวงใหญ่จากคนขี้เกรงใจ

   “ใหญ่ พูดแบบนี้แม่ไม่ชอบนะ ขอโทษน้องเลย” คุณพิกุลหน้าบึ้ง คิดไม่ถึงว่าลูกชายคนโตจะกล้าพูดออกมา

   “ขอโทษ” แม้น้ำเสียงจะดูไม่ค่อยเต็มใจ แต่ก็พอได้ อัษฎายิ้มให้คุณพิกุลก่อนจะเอื้อมมือไปตักไข่เจียวหมูสับ ขณะจะวางบนจานตัวเอง ดวงตากลมเหลือบเห็นคนนั่งข้างๆ จ้องไข่เจียวในช้อน แม้จะนึกขันแต่ก็ยังโกรธ เลยทำเป็นไม่เห็นซะเลย

   “แล้วที่ไร่จัดการเรียบร้อยแล้วหรือ” คุณพิกุลเอ่ยถามหลังจากโต๊ะเงียบไปครู่ใหญ่ แต่ดูคนที่เธอถามจะไม่สนใจ เพราะเอาแต่มองคนนั่งข้างตักนั่นตักนี่ให้ตัวเอง นี่คงอยากจะให้เขาตักให้บ้างสินะ สมน้ำหน้าซะจริง

   “พี่ใหญ่ แม่ถาม” เล็กเรียกพี่ชายอีกครั้งคนมีชื่อถึงได้หันมาสนใจ ใหญ่ทำหน้าเหลอหลามองแม่ที่ถามแต่เขาไม่ได้ยิน

   “อะไร” ใหญ่กระพริบตาปริบๆ มองแม่กับน้องชายสลับกัน

   “แม่ถามว่าที่ไร่เป็นไง แต่พี่เอาแต่จ้องอัดอยู่นั่น” พูดจบ เสียงหัวเราะก็ดังขึ้น คนนั่งจ้องกระแอมแก้เขิน “เอาน่าๆ เพิ่งแต่งก็เป็นแบบนี้แหละ ทะเลาะกันบ้าง ดีกันบ้าง ผมเข้าใจ”

   “ถ้าตาอัดเป็นผู้หญิงละก็ เราต้องได้หลานหัวปีท้ายปีแน่นมอิ่ม” คุณพิกุลเสริมอย่างเห็นด้วยทำเอาเสียงหัวเราะดังมากขึ้นไปอีก แต่อัษฎาค่อยๆ หุบยิ้มลง ไม่ได้โกรธ แต่เขินมากกว่า

   “พอเถอะค่ะ คุณใหญ่กับตาอัดหน้าแดงหมดแล้ว” นมอิ่มเอ่ยออกมาเมื่อมองสองหนุ่มนั่งก้มหน้าเขี่ยข้าวในจานตัวเอง

   “เอาล่ะๆ ว่าไงใหญ่”

   “ผมไม่ได้หน้าแดง”

   ใหญ่พูดออกมาทำเอาคนรอบโต๊ะหัวเราะอีกรอบ เมื่อในสิ่งที่ถามไม่ใช่ถามว่าหน้าแดงหรือเปล่า พอเจ้าตัวรู้ก็รีบยกน้ำดื่มจนหมดแก้เก้อ

   “นี่แหละน้า คนฟอร์มเยอะ” เล็กหยอกพี่ชายตัวเอง

   “แม่ถามว่าอะไรนะครับ” ใหญ่ตั้งสติได้ก็เอ่ยถามแม่อีกรอบ พยายามไม่สนใจสายตาล้อเลียนจากน้องชาย

   “ที่ไร่เป็นยังไงบ้าง จัดการเรียบร้อยแล้วหรือ”

   “ครับ” ใหญ่ตอบเสียงเรียบๆ แต่พอมีตับไก่ชิ้นใหญ่วางในจาน คนนิ่งก็พยายามกลั้นยิ้มจนคนร่วมโต๊ะหมั่นไส้ “ขอบใจ” หันไปเอ่ยกับคนใจดีตักตับไก่ให้ อัษฎายิ้มกลับนิดๆ ก่อนจะสนใจข้าวตัวเองต่อ

   “หวานจริงๆ เมื่อวันก่อนแทบจะไม่อยากมองเขาด้วยซ้ำ คนเรานี่น้า” เล็กเอ่ยลอยๆ ออกมาอีกรอบด้วยความหมั่นไส้พี่ชายขี้เก๊ก

   “ยุ่ง” ใหญ่ชักสีหน้าใส่ มือก็ตักไข่เจียวที่มีหมูสับกองอยู่เยอะสุดของแผ่นให้คนข้างๆ

   ท่าทางของลูกชายคนโตที่คอยตักนั่นตักนี่ให้แม้จะเหมือนไม่ค่อยเต็มใจ แต่ก็มักจะตักของดีๆ ทั้งนั้น อย่างไก่ที่คนหาแต่ที่เนื้อเน้นๆ เท่านั้น คุณพิกุลลอบมองการเอาใจใส่ของลูกชายที่มีต่อภรรยาคนใหม่อยู่เงียบๆ คงต้องให้เวลาทั้งคู่อีกหน่อย โดยเฉพาะใหญ่ที่ต้องใช้เวลาอย่างมากในการยอมรับใจตัวเองที่มีแต่อัษฎาที่เป็นผู้ชาย

   หลังจากมื้อค่ำจบลง ทุกคนย้ายไปนั่งระเบียงนอกเรือนชาน ชาร้อนๆ ถูกยกมาเสิร์ฟเพื่อคลายความเย็นยามค่ำ อัษฎาที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องพร้อมยาแก้แพ้อีกเม็ดยื่นให้คนจามตั้งแต่เช้า เจ้าของยาทำหน้าเหม็นเบื่อแต่ก็หยิบเข้าปากไม่มีบ่น

   “ไม่สบายหรือใหญ่” คุณพิกุลถามลูกชาย

   “เปล่าครับ แต่มีคนตื่นตูม” คนตื่นตูมที่ใหญ่ว่ากำลังเดินไปนั่งข้างเล็ก “แกเตรียมเต็นท์พอดีกับคนมาแล้วใช่ไหม” ใหญ่หันไปถามน้องชายที่กระซิบกระซาบกับอัษฎา

   “ครับ ทีมงานมาสิบห้าคนครับ ผมเตรียมทั้งเต็นท์หลังใหญ่กับเล็กไว้ เผื่อพวกเขาอยากได้ความเป็นส่วนตัว” เมื่อเช้าเล็กสั่งคนงานนำเต็นท์มาเตรียมไว้บนเรือนแล้ว รอแค่คนเมืองกรุงมาก็สามารถกางได้เลย “แต่เขาอยากก่อกองไฟตอนค่ำด้วย พี่ใหญ่จะว่าไง”

   “จะว่าไง เห็นแกเตรียมหมดแล้วนี่” ใหญ่เอนตัวพิงพนัก “แล้วมีคนอื่นมาหรือเปล่า” นี่คือสิ่งที่อยากรู้มากกว่าคำถามอื่น เล็กเลิกคิ้วมองอย่างสงสัยในคำถาม

   “พี่หมายถึงใคร?” คนถูกถามมองตาพริบๆ ใหญ่เหล่ตามองอัษฎาก่อนเลื่อนสายตามามองน้องชาย

   “คนอื่นที่ไม่ใช่ทีมงาน” ไม่อยากเอ่ยชื่อออกมาเพราะพาลจะทำให้อารมณ์เสีย

   เล็กคิดอยู่นานก่อนจะร้องอ๋อเสียงยาวจนแม่ต้องหันมาถามเพราะอยากรู้

   “สงสัยจะถามถึงคุณทัศนัย” เล็กพูดปนขำ ยิ่งตอนนี้อาการฮึดฮัดของใหญ่แสดงออกชัดเจนคงจะหมายถึงคนนี้นั่นแหละ “ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือเปล่า พี่ลองถามอัดดูสิ” ถูกโยนจนเบิกตากว้าง พอได้ยินชื่อคนให้ถาม ใหญ่ก็เด้งตัวมานั่งตรง ดวงตาคมจ้องมองคล้ายกับอยากจะพุ่งเข้าไปคาดคั้น

   “คุณเล็กอย่าโยนมาสิครับ” อัษฎาว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” รีบออกตัวทันทีพร้อมส่ายหน้ายืนยันอีกทางให้คนที่จ้องคาดคั้น เมื่อเห็นท่าทางจริงจัง ใหญ่ก็เอนตัวไปพิงพนักอีกรอบ

   “แล้วกับข้าวล่ะ บอกป้าเขาไว้หรือยังว่าจะให้ทำอะไรบ้าง” คุณพิกุลถามออกมา นมอิ่มที่นั่งด้วยตอบแทน

   “บอกแล้วค่ะ ข้าวที่เตรียมหลักๆ ก็เป็นมื้อค่ำพรุ่งนี้ มื้อเช้า มื้อเที่ยงอีกวัน ส่วนมื้อค่ำนั้นเห็นคุณเล็กว่า ทางพวกเขาจะก่อกองไฟปิ้งบาบีคิวกันค่ะ”

   “แล้วพรุ่งนี้มีอะไรบ้างล่ะ”

   “ก็มีแกงฮังเล แล้วก็น้ำพริกอ่อง ผักต้มค่ะ”

   “อืมๆ”

   “ไม่มีต้มปลาเหรอครับ” ทุกสายตาพุ่งไปที่คนถาม “แต่ไม่มีก็ไม่เป็นอะไร” รู้สึกถูกจ้องเลยรีบออกตัว

   “อยากกินก็ไปจับเองสิ” คุณพิกุลว่า อันที่จริงสามารถไปซื้อปลามาทำก็ได้ แต่ส่วนใหญ่เมื่อคนชอบอยากกินก็มักจะออกไปตกเองแล้วเอามาให้ แล้วทำไมตอนนี้บ่นอยากกินเฉยๆ

   ใหญ่ทำเป็นนิ่งทุกคนเลยเลิกสนใจ กว่าการคุยรายละเอียดเรื่องพรุ่งนี้จะเสร็จก็เกือบค่อนคืน ใหญ่เดินตามอัษฎาเข้าห้อง หลังจากที่คนเดินนำเดินไปส่งนมอิ่มที่เรือน อัษฎาหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้ใหญ่นั่งอ่านรายละเอียดที่ได้จากน้องชายเงียบๆ


   นั่งอ่านรายงานจนตาลายเลยพักสายตาด้วยการมองนั่นมองนี่ ก่อนจะเห็นถุงบางอย่างที่วางใกล้ๆ ที่นอนของอัษฎา ขายาวก้าวเข้าไปใกล้ มือก็หยิบถุงขึ้นมาดู

   “คุณใหญ่ทำอะไรน่ะครับ” คนอาบน้ำเดินออกมาเจอพอดี คิ้วสวยขมวดเป็นปมแล้วก้าวเข้ามายืนข้าง

   “มือถือเครื่องใหม่?” ไม่ได้ตอบ แต่เอ่ยถามกลับ เพราะเครื่องที่อ่านเมื่อคืนก็ถูกใช้งานแล้ว แต่ทำไมเครื่องนี้ยังอยู่ในกล่อง

   “ของฟรี”

   “โกหก”

   “ผมไม่ได้โกหก”

   “มองตาฉันแล้วบอกความจริงมา” ใหญ่จ้องหน้าคนที่ยอมเงยหน้ามาสบตา แต่ครู่เดียวก็ก้มหน้าลง “บอกมา”

   “ของฟรี...คุณใหญ่จะถามทำไมเยอะเนี่ย” คนโกหกแสร้งทำเป็นโมโห แต่คนจับผิดไม่เอนตาม

   “โกหกไม่เนียน” ใหญ่ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากจนอัษฎาหน้าหงายนิดๆ “ซื้อให้ฉันใช่ไหมล่ะ”

   “ขี้ตู่ว่ะ”

   อยู่ดีๆ ใหญ่ก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนตัวหอมก้มหน้างุด แม้จะซ่อนใบหน้าได้ แต่ใบหูแดงอย่างเห็นได้ชัด คนขี้ตู่เดินไปหยิบมือถือรุ่นเก่าแก่มาก่อนจะยื่นให้อัษฎา

   “เปลี่ยนให้หน่อย” ไม่รู้หูเพี้ยนหรือเปล่าที่ได้ยินน้ำเสียงคล้ายกับอ้อนนิดๆ อัษฎารีบดึงมือถือเครื่องใหม่และเครื่องเก่ามาถือ “เดี๋ยวมา”

   เสียงประตูห้องน้ำปิดลง อัษฎารีบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลายเฮือก เมื่อกี้รู้สึกหน้าร้อนไปหมดเมื่อต้องจ้องตาคมนั่น ตามอารมณ์ไม่เคยจะทันเลยให้ตาย อัษฎาตบแก้มตัวเองแรงๆ ก่อนจะนั่งลงบนพื้นข้างฟูกนอน มือถือเครื่องเก่าของใหญ่ยังเป็นรุ่นขาวดำ อีกทั้งหน้าจอยังไม่มีรูปอะไรเลย ที่สำคัญ แกะฝาเครื่องด้านหลังยากยิ่งนัก เพราะถูกยางรัดถุงมัดเอาไว้จนมันติดกับตัวเครื่อง

   ใหญ่เดินออกจากห้องน้ำมายังเห็นอัษฎาพยายามงัดแงะมือถือเครื่องเก่าของเขาอยู่ คิ้วสวยขมวดเป็นปม ท่าทางจริงจังช่างน่าตลก...แต่ก็น่ารัก สุดท้ายเจ้าของเครื่องสงสารเลยเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ

   “มันแกะยากขนาดนั้นเลยหรือ” ใหญ่ถาม คนแกะไม่ออกพยักหน้าลง ทำหน้ามุ่ย

   “คุณใหญ่เคยแกะมันออกบ้างหรือเปล่าเนี่ย” มือเรียวพยายามดึงแต่ก็ยังไม่ออก สุดท้ายเจ้าของเครื่องก็แย่งไปแกะออกเอง

   “ไม่รู้จักเหรอ มือถือรุ่นฮัดน่ะ” พอได้ยินชื่อรุ่น คนที่สนใจเกี่ยวกับไอทีพอประมาณขมวดคิ้วทันที

   “นี่มันไม่ใช่ของฮัทนี่ครับ” ยี่ห้อที่โชว์อยู่ด้านหน้ามันไม่ใช่เลย

   “ใช่สิ” เจ้าของเครื่องยังยืนยัน ก่อนจะยื่นเครื่องที่เปิดฝาออกแล้วให้ “เนี่ยรุ่นฮัด เอายางฮัดเนี่ย”

   “ยางฮัด?” อัษฎายังตีหน้างงไม่เข้าใจในสิ่งที่ได้ยิน

   “ฮัด คำเมืองหมายถึงรัดน่ะ รู้จักหรือยัง เอายางเนี่ยรัดมันไว้ไม่ให้ฝามันหลุดออกมา” ใหญ่อธิบายไปหัวเราะไป คนไม่รู้ภาษาก็ตีหน้ายุ่ง

   “ตลกมากสินะ” อัษฎามองค้อน มือก็เริ่มเปลี่ยนซิมการ์ดมาที่เครื่องใหม่

   “เป็นเมียฉันก็ต้องฟังแล้วก็พูดด้วย คนนอกไร่ส่วนใหญ่เขาก็พูดคำเมืองกันหมด”

   “ผมก็กำลังฝึกอยู่”

   “กับใคร” ใหญ่ถามออกมาเสียงนิ่ง อัษฎาเงยหน้ามองพร้อมยื่นมือถือเครื่องใหม่ให้ “ฉันถามว่าฝึกกับใครอยู่” แม้มือจะรับไปแต่ใหญ่ยังจ้องหน้าคาดคั้นอยู่

   “กับลูกเจี๊ยบแล้วก็พี่ๆ ที่โรงงานคัดแยก คุณใหญ่ใช้เป็นหรือเปล่าเนี่ย”

   “ฉันไม่ได้โง่นะ” คำตอบชวนหาเรื่อง แต่รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าขัดกันอยู่ “แล้วนี่...

   แอ๊ด เสียงประตูห้องเปิดออก ทั้งใหญ่และอัษฎาหยุดสนทนาแล้วหันไปมอง คนเข้ามาคือคุณพิกุลที่แกล้งทำเป็นลืมถามบางเรื่อง แท้จริงอยากรู้ว่าอัษฎายังนอนอยู่ที่พื้นตามที่เล็กบอกอยู่หรือเปล่า พอเข้ามาก็เห็นฟูกที่ยังไม่ได้ปูก็เริ่มหน้าบึ้งไม่พอใจลูกชายคนโตของตัวเอง

   “แม่จะถามผมเรื่องอะไรนะครับ” เพราะได้ยินตอนเปิดเข้ามาว่าลืมถาม ใหญ่เลยเอ่ยถามแม่ไปเมื่อได้ยินไม่ชัด แต่พอเห็นแม่มองไปที่ฟูก ใหญ่ก็พอรู้ว่าแม่อยากจะเข้ามาดูมากกว่า “แม่ครับ คือว่า”

   “พอเลย นี่เรายังให้น้องนอนพื้นอยู่อีกหรือ แม่โกรธแล้วนะ” คุณพิกุลตรงเข้าไปหยิกแขนลูกชายตัวเองจนใหญ่หน้าบิดเบี้ยว

   “แม่ๆ ผมเจ็บ”

   “แม่ครับ ผมไม่ได้นอนพื้นแล้วครับ” อัษฎารีบเข้าไปช่วย คุณพิกุลทำท่าไม่เชื่อ “จริงๆ ครับ ฟูกนั่นผมลืมเก็บ” แม้จะดูไม่น่าเชื่อถือ แต่คุณพิกุลก็ยอมปล่อยมือออกจากแขนลูกชาย ใหญ่รีบยกมือถูไปมา

   “ก็ได้ ครั้งนี้แม่จะเชื่อ แต่อย่าให้รู้ ว่ายังให้น้องนอนพื้นนะ แม่จะหยิกให้เนื้อหลุดเลย” ชี้หน้าลูกชายเสร็จก็หันหลังกลับ แต่ดวงตาไปสะดุดกับรูปกรอบใหญ่ที่ติดผนัง คุณพิกุลเดินไปลูบรูปภาพนั้นก่อนจะหันไปยิ้มให้ลูกชายที่ทำหน้านิ่ง “ใหญ่ แม่ขอนะรูปนี้”

   ไม่มีคำอนุญาตหรือคัดค้าน ใหญ่เบือนหน้าหนีเมื่อแม่ปลดรูปแต่งงานของเขากับอดีตภรรยาลง ความเจ็บปวดของใหญ่รับรู้ได้ด้วยความรู้สึกทำให้อัษฎายื่นมือไปจับมือกร้านที่กำหมัดไว้แน่น

   “เราต้องก้าวไปข้างหน้านะใหญ่ ส่วนเรื่องราวที่ผ่านมามันไม่ได้จางหายไปไหน มันจะอยู่ในนี้เสมอ” คุณพิกุลชี้ที่หัวใจ “แม่รู้ว่าใหญ่ยังเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา ยังคิดถึง ยังยึดติด แต่อย่าลืมว่า ตอนนี้ใหญ่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ใหญ่ยังมีอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่าเอาอดีตมาปิดกั้นความรู้สึกจนทำร้ายปัจจุบัน” พูดจบคุณพิกุลก็ถือกรอบรูปออกไป ทิ้งให้คนที่ยังจมอยู่อดีตตกอยู่ในความคิดของตัวเองเงียบๆ

   ใหญ่แยกตัวไปนอนที่เตียง ทันทีที่เอนตัวนอนลงก็หลับตาปล่อยให้สิ่งที่แม่พูดไหลเวียนอยู่ในสมอง ส่วนอัษฎายังคงยืนนิ่ง รู้สึกเจ็บปวดไปกับใหญ่ที่ต้องสูญเสียคนที่รักมากไปก่อนวัยอันควร คงยากที่จะทำใจได้จริงๆ พอคิดเช่นนั้นก็พอจะเข้าใจว่าทำไมใหญ่ถึงไม่ยอมรับเขาสักที

   ความเงียบภายในห้องกับลมเย็นๆ อัษฎาเลือกที่จะไปปูฟูกที่พื้นเช่นเดิม ขณะกำลังจะไหว้พระ เสียงใหญ่ก็สั่งให้ขึ้นไปนอนบนเตียงทั้งที่คนพูดยังนอนตะแคงหันหลังให้อยู่ คนที่กำลังจะไหว้พระหันซ้ายหันขวาจนใหญ่กลับตัวมาจ้องหน้า
   “ขึ้นมานอนบนนี้ อยากให้ฉันถูกแม่หยิกเนื้อหลุดหรือไง”

   “อ่า ครับ” อัษฎาหอบหมอนขึ้นไปนอนที่ว่างบนเตียงขาว

   “เดี๋ยวก็ตกหรอก ขยับเข้ามา ฉันไม่กัดหรอกน่า” ใหญ่ส่งเสียงขึ้นจมูกเมื่อคนขึ้นมานอนๆ ซะชิดริมขอบเตียง ยิ่งบอกให้ขยับเข้ามา คนนอนริมทำแค่ไถร่างเข้ามาอีกนิดแทบเหมือนไม่ได้ขยับ คนมองรู้สึกขัดใจเลยยื่นมือไปดึงเอง ร่างผอมบางถลาไปชนอกแกร่งจนตกใจ “ก็แค่นี้แหละ”

   อัษฎาขยับตัวนอนตะแคงหันหลังให้เจ้าของเตียง พยายามขยับตัวอย่างช้าๆ เพื่อให้ห่างร่างกำยำสักหน่อย เพราะถูกดึงเมื่อกี้แทบจะขึ้นไปนอนเกยกันอยู่แล้ว เมื่อรู้สึกห่างพอสมควร อัษฎาก็ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมาเพื่อนั่งสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนให้เสร็จหลังจากถูกรบกวนเมื่อสักครู่

   คนที่มีสมาธิในการสวดมนต์ไม่ได้สนใจคนแกล้งทำเป็นนอนหลับ ใหญ่แอบปรือตามองอัษฎาที่ตั้งใจกราบหมอน นี่เป็นครั้งที่สองที่ได้นอนอยู่เตียงเดียวกัน ไม่สิ คืนแรกนั้นแทบจะไม่ได้นอนมากกว่า เพราะมัวแต่...

   “คุณใหญ่มองอะไร” คนถูกจ้องถามเสียงเขียว ที่จริงรู้สึกตั้งแต่แรกว่าถูกมองอยู่

   “มองเมีย” ตอบด้วยท่าทีสบายๆ ทำเอาคนถามรีบล้มตัวนอนไม่พูดอะไรอีก “กลัวฉันหรือ” ใหญ่มองหลังที่คลุมด้วยเสื้อนอนที่ซ่อนผิวเนียนสวยไว้ด้านใน

   “เปล่า แต่ผมง่วง” ว่าแล้วก็แกล้งหาวออกมา

   “ไม่กลัวก็หันมาสิ” มีท้าทายไป คนที่ถูกท้าทายรีบหันกลับมา แต่พอเจอสายตาที่มองอยู่ก็ต้องรีบกลับไปตามเดิม

   “ผมถนัดตะแคงด้านนี้” แถจนถลอก ใหญ่ขำออกมาเมื่อได้ยินข้ออ้างก่อนจะเงียบลงจนทั้งห้องมีเพียงเสียงจิ้งหรีดที่ร้องระงมอยู่ด้านนอก

   “แม่ฉันบอกต้องเดินไปข้างหน้า” อยู่ๆ ใหญ่ก็พูดทำลายความเงียบ อัษฎาที่แกล้งทำเป็นหลับทั้งที่จริงยังลืมตารอฟัง “ฉันก็เข้าใจ แต่บางทีฉันก็อยากได้เวลาอีกสักหน่อย ฉันกับเขารักกันมาหลายสิบปี แต่พอเสียเขาไปชีวิตฉันก็รู้สึกหายไปครึ่งหนึ่ง มันไม่ง่ายหรอกนะที่จะทำใจได้ ฉันก็เหมือนคนที่เดินมานานอยากจะพักให้หายเหนื่อยจริงๆ แล้วค่อยออกเดินทางต่อ นายเข้าใจฉันใช่ไหม” เป็นครั้งแรกที่ได้ยินความในใจและน้ำเสียงจริงจัง อัษฎาค่อยๆ หันกลับไป ดวงตากลมสบตากับคนที่จ้องอยู่ก่อนหน้า ปากแดงเผยรอยยิ้มออกมาบางๆ

   “ผมเข้าใจ” พอได้ยิน ใหญ่ก็ยิ้มออกมาบ้าง ก่อนจะหุบลงฉับพลันเมื่อคนเข้าใจพูดต่อ “แต่ที่ไม่เข้าใจคือ ทำไมคุณใหญ่ต้องชอบโมโหผมอยู่เรื่อย ไม่อยากเห็นหน้าก็ไล่ พอผมไปก็ด่า ผมพูดจริงๆ นะ เรื่องไปหาหมอเนี่ย”

   “นายว่าฉันบ้าหรือไง”

   “ใช่” คำยืนยันหนักแน่นจนคนถูกว่าบ้าพูดไม่ออก “ก็คิดดู อารมณ์คุณใหญ่ขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับเป็นโรคไบโพล่า บทจะดีก็ดี๊ดี บทจะร้ายก็ยิ่งกว่าตัวอิจฉาในละครอีก”

   “กล่าวหาแรงเกินไปแล้ว”

   “น้อยไปด้วยซ้ำ”

   “นี่นาย”

   “เห็นไหม ชอบตะคอกด้วย แล้วก็ไร้เหตุผลมากๆ”

   “ที่ฉันเป็นแบบนี้ ก็มีเหตุผลของฉันเหมือนกันนั่นแหละ” คนมีเหตุผลยื่นมือไปเขกหน้าผากมนเบาๆ “แต่เหตุผลนั่นมันยังไม่แน่ชัดเท่าไหร่”

   “เพราะหึงผมหรือเปล่า” อยู่ดีๆ อัษฎาก็อยากแกล้งถามเพราะอยากเห็นท่าทางของใหญ่ ดูเหมือนคนถูกถามจะเตรียมการมาดีเมื่อไม่มีท่าทางใดๆ แม้แต่หลบสายตาก็ยังไม่มี “ก็โอเค งั้นฝันดีครับ”

   ทันทีที่อัษฎาพลิกตัวตะแคงไปอีกด้าน ใหญ่ก็รีบถอนหายใจออกมาช้าๆ เมื่อตะกี้ที่ถูกถาม หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมา ยิ่งสบตากับดวงตากลมนั่นอีก เกือบจะไม่รอดซะแล้ว

   “คุณใหญ่”

   “อะไรๆ”

   มัวแต่อยู่กับความคิดตัวเอง พอถูกเรียกใหญ่ก็สะดุ้งจนเผลอลุกขึ้นมานั่ง อัษฎาหัวเราะเสียงดังเมื่อเห็นใหญ่ตกใจออกอาการขนาดนี้

   “ตกใจขนาดนั้นเลยหรือครับ ผมแค่จะบอกว่า อย่าลืมปิดไฟแค่นั้น”

   “รู้แล้วน่า ก็กำลังจะลุกไปนี่ไงเล่า”

   ข้อแก้ตัวที่ดูจะใช้ไม่ค่อยได้ แต่จะทำยังไงได้ก็ในเมื่อลุกขึ้นนั่งแล้ว ใหญ่ก้าวขาลงจากเตียงไปปิดไฟก่อนกลับมาล้มตัวลงนอน แม้ไฟจะดับแต่แสงไฟจากด้านนอกยังส่องเข้ามาเห็นคนข้างกายอย่างชัดเจน หัวใจของเขากำลังบีบตัวแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หรือเขากำลังจะเป็นโรคหัวใจ...สงสัยต้องไปหาหมอแล้วจริงๆ


...TBC


พาลุงมาให้  :beat: แล้วค่าา

สโลแกนเดิม รักลุงน้อยๆ แต่รักนานๆ นะคะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-12-2016 20:04:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 13-12-2016 20:15:15
คุณพิกุลพูดถูก อดีต ความทรงจำไม่ได้หายไปไหน

มันอยู่ในใจเสมอ

ดีใจที่คุณใหญ่ยอมพูดให้อัดเข้าใจ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 13-12-2016 20:15:59
คุณใหญ่ปากแข็ง ชิ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 13-12-2016 20:22:05
อ๋อยย ลุงใหญ่นี่นะ แต่ก็ยังดีที่เหมือนจะยอมเปิดๆใจบ้างแล้ว แต่เปิดใจนี่คือให้ยอมรับว่ารักอัดเต็มๆแล้วนะ เพราะลุงแกหึงเต็มขั้นมาก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-12-2016 20:29:03
สงสัยต้องให้ทัศนัยมากระตุ้นให้หายซึนนะคุณใหญ่

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: กาลณัฐ ที่ 13-12-2016 20:31:58
ถ้าลุงแกยังขี้โวยวายใส่น้อง จะพาหนีแล้วค่ะ 5555555
 :laugh:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 13-12-2016 20:35:56
 :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-12-2016 21:14:28
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-12-2016 21:17:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-12-2016 21:20:23
โรคหัวใจที่ไม่ต้องไปหาหมอไง
คุณใหญ่ เคยมีความรักมาแล้ว ลืมเหรอ
เพียงแต่รักก่อนเป็นรักต่างเพศ
พอเป็นเพศเดียวกันเลยทำตัวไม่ถูกสินะ
ยิ่งชักช้า ความสุขที่ควรมีก็ไม่มีซักทีนะ
รู้สึกตัว คิดได้ไวๆ นะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 13-12-2016 21:20:36
OK ให้เวลาคุณใหญ่หน่อยละกัน  o18
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-12-2016 21:34:58
คงได้เรื่องสักทีนะคุณใหญ่
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 13-12-2016 22:19:56
เมื่อไรอิพี่ใหญ่จะเลิกปากแข็งซะทีเนี่ยยยยยย :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 14-12-2016 00:20:47
รักคุณนายแม่ ตัดสินใจได้เด็ดขาดมาก ขอรูปปุ๊ป ปลดลงปั๊ป  :hao3: แถมยังสอดส่องแบบช่วยลูกสะใภ้สุดๆ
ยกให้เป็นคุณแม่สามีแห่งปีเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 14-12-2016 00:25:21
อยากจะงับหัวลุงนักๆๆๆๆ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 14-12-2016 01:12:37
แม่พูดถูก ใหญ่ต้องเดินไปข้างหน้า
อยากให้ลุงแกยอมรับใจตัวเองสักที
แต่อ่านทีไรแล้วก็จะขำแต่ลุงเขา ฟอร์มจัดอะไรปานนั้น :m20: :laugh:
นี่ถ้ายอมรับคงจะออกนอกหน้ากว่านี้น่าดู 555555
แอบเห็นลุงแกมีแววเกลียมัวนะ ใช่ไหม? o13
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 14-12-2016 01:17:52
ลุงสู้ๆ ต้องเดินไปข้างหน้าได้ มีอัดอยู่ข้างๆเสมอนะ
ตอนหน้า ถ้าเห็นทัศนัยมากับทีมงานด้วยจะเป็นยังไงน้อออ จะเอาอัดไปซ่อนไว้ไหนอีก :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 14-12-2016 01:38:22
สนุกมากจริงๆ อ่านไปยิ้มไป บางฉากบางตอนหัวเราะ สนุกมากๆคับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 14-12-2016 02:03:39
โถ่ลุงโดนแม่ดุด้วย5555555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 14-12-2016 02:04:51
5555 อัดจัดชุดใหญ่
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Asmknrt ที่ 14-12-2016 06:35:59
น่ารักเนอะคู่นี้ o13
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 14-12-2016 09:39:06
ถ้าแม่ไม่ทำ อย่างนี้ ทุกอย่างก็จะอยู่ที่เดิม
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 14-12-2016 18:26:25
โธ่วววคุณใหญ่โตจนแต่งงานมาสองครั้งยั๊งจะโดนแม่หยิกจนเนื้อเขียวอีกกกกกกกกก :laugh3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 14-12-2016 20:09:29
ไบโพลาแน่ๆ 6555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 13 << [P.8] // [13/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 14-12-2016 20:16:00
ลุงใหญ่คะ ถ้าลุงใหญ่ยังเป็นแบบนี้เราจะ  :beat:
จะฟอร์มเยอะไปไหน หือออออ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 14-12-2016 21:55:08
14





        “ขนของขึ้นมาไว้ที่เรือนก่อนครับ” เล็กช่วยบรรดาทีมงานยกข้าวของ มีทั้งกระเป่า ทั้งกล้องและอุปกรณ์ต่างๆ อีกมากมาย หลังจากหัวหน้าทีมงานโทรเข้ามาบอกว่ารถเลี้ยวเข้ามาในไร่แล้ว เล็กที่ยังอยู่ในออฟฟิตก็แทบจะวิ่งลืมความตายมาที่เรือน ยังดีที่นมอิ่มกับบรรดาสาวใช้คนอื่นๆ อยู่คอยกันก่อนแล้ว

   “น้ำสมุนไพรเย็นๆ ค่ะ” สาวใช้หน้าตาแฉลมยกน้ำมะตูมหอมหวานมาเสิร์ฟ บรรดาทีมงานที่เคยมาต่างก็นึกถึงรสชาติหอมละมุน ส่วนคนเพิ่งเคยมาต่างก็ขอเพิ่มอีกหลายแก้วเพราะติดใจรสชาติ

   หลังจากยกของกันเสร็จ ทุกคนก็เริ่มแยกย้ายหาที่นั่งร่มๆ เพื่อพักคลายความเหนื่อย บ้านไม้หลังนี้ตั้งอยู่บนเชิงเขาทำให้มีลมพัดเย็นอยู่ตลอด ใช้เวลาไม่นานเม็ดเหงื่อทุกคนก็เหือดแห้งโดยไม่ต้องพึ่งแอร์คอนดิชั่น

   ไร่ในยามบ่ายแม้จะร้อน แต่ความสวยงามยังคงไม่เลือนหาย เมื่อมองจากเรือนชานไปจะเห็นไร่ดอกดาวเรืองบานสะพรั่ง เป็นภาพที่แสนสวยจนต้องพากันถ่ายรูป

   “ผมเตรียมเต็นท์ไว้ให้แล้วนะครับ” เล็กยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร ทำเอาบรรดาสาวๆ ต่างมองอย่างเคลิบเคลิ้ม “มีอะไรขาดเหลือบอกได้เลยนะครับ ส่วนนี่แม่ผมกับนมอิ่มจะเป็นคอยดูแลพวกคุณ” ทีมงานสาวๆ ต่างพากันไหว้คุณพิกุลและฝากตัวเป็นลูกสะใภ้กันอย่างสนุกสนาน

   เมื่อปล่อยให้ทุกคนได้พัก เล็กเดินกลับมาเคลียร์งานต่อในออฟฟิต นั่งอ่านรายงานอยู่ครู่หนึ่ง คนงานฝั่งไร่องุ่นก็เดินเข้ามาพร้อมเอกสารของภรรยาที่เพิ่งคลอดลูก

   “เดี๋ยวผมจัดการให้เอง ว่าแต่เห็นพี่ใหญ่ไหม” เล็กเอ่ยถามพ่อลูกอ่อนอย่างนายมาดที่ส่ายหน้าตอบ “ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน เอ่อ ผมขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหม ของผมคงลืมเอาไว้ในห้อง” ลองตบกระเป๋าแล้วค้นบนโต๊ะดูแล้วไม่มี โทรศัพท์ส่วนตัวคงวางทิ้งไว้ในห้องอีกตามเคย

   นายมาดยื่นโทรศัพท์ให้กับเจ้านาย เล็กกดเข้าไปเพื่อจะโทรหาพี่ชายเพื่อให้ไปคุยรายละเอียดกับทางทีมงานถ่ายรายการ ก่อนดวงตารีจะสะดุดกับเบอร์โทรที่ช่างคุ้นซะเหลือเกิน เล็กจ้องแล้วจ้องอีก พยายามทวนตัวเลขซ้ำแล้วซ้ำเล่า
 
   “มีอะไรหรือครับคุณเล็ก” นายมาดเอ่ยถามหลังจากเจ้านายคนที่สองของไร่ขมวดคิ้วมุ่น

   “เบอร์โทรนี้” คล้ายกับละเมอพูดออกมา

   “อะไรนะครับ” เสียงที่เบาหวิวทำให้ฟังไม่ถนัดจนต้องถามย้ำ

   “เบอร์โทรนี้โทรมาหานายได้ยังไง” เล็กหันโทรศัพท์ให้เจ้าของดู “เบอร์ศูนย์เก้าสามxxxxxเจ็ดสอง” แม้ไม่ต้องมีชื่อก็จำจนฝั่งในส่วนลึกของสมอง

   “ไม่รู้ครับ”

   “ไม่รู้ได้ยังไง” เล็กเผลอตะคอกออกมาจนนายมาดสะดุ้ง แต่พอรู้ว่าตัวเองเสียงดังเกินไปเล็กก็พยายามควบคุมสติ “คิดดูดีๆ ว่าใครใช้เบอร์นี้โทรเข้าหาตอนบ่ายวันนั้นน่ะ”

   เบอร์โทรนี้โทรเข้ามาเมื่อตอนบ่ายสามกว่าๆ ของวันที่นายมาดพาภรรยาไปหาหมอ เจ้าของเครื่องพยายามคิดอย่างหนักก่อนจะทำตาโตร้องอ๋อลากยาว

   “จำได้แล้วใช่ไหม” เล็กรู้สึกเนื้อเต้นแปลกๆ

   “ครับ เบอร์โทรนี้คุณอัดเป็นคนโทรเข้ามาให้ไปรับ แต่บังเอิญรถยางแตกซะก่อน”

   “อัด...เหรอ”

   ไม่รออะไรอีกแล้ว เล็กรีบวิ่งออกจากออฟฟิตเพื่อตามหาคนที่ใช้เบอร์นี้โทรเข้า เล็กแวะถามคนงานตลอดทางเพราะไม่รู้ว่าอัษฎาหายไปไหน แถมยังไม่มีโทรศัพท์ติดต่ออีก ถามใครก็ไม่มีใครรู้ ตอนนี้ใจเขาร้อนดั่งไฟสุม อยากรู้อย่างเดียวว่าอัษฎาเอาเบอร์โทรนี้มาจากไหน







   คนที่หายไปไม่ได้อยู่ในไร่ เพราะตอนนี้อัษฎากำลังเดินตามใหญ่ไปที่น้ำตก ในมือถือถังน้ำสังกะสีขนาดพอดีไปด้วย สาเหตุเพราะคนเดินนำหน้าอยากกินต้มส้มปลาอย่างที่เปรยขึ้น ซึ่งในวันนั้นคุณพิกุลบอกให้หาปลาเอง ดังนั้นวันนี้คนอยากกินเลยต้องออกมาหาปลา แต่จะปล่อยอัษฎาทิ้งไว้ในไร่ก็ไม่ได้ เพราะทีมงานจากกรุงเทพจะมาถึง ไม่แน่ ไอ้เจ้าของร้านนั่นอาจจะมาด้วยก็ได้ ขืนปล่อยให้อยู่ในไร่ มีหวังมันได้เข้ามาใกล้ทำตาเล็กตาน้อยใส่แน่ พามาด้วยแบบนี้แหละ รู้สึกสบายใจดีแล้วก็ไม่กังวล

   “คุณใหญ่แน่ใจนะว่าจะได้ปลาไปต้มน่ะ” อัษฎาบ่นมาตลอดทาง ก็ใหญ่เล่นเอาน้ำใส่ถังไว้แบบนี้มันก็หนักจนยกแทบไม่ไหว ที่จริงเอาถังเปล่าไปใส่น้ำตกน่าจะดีกว่าอีก

   “ขี้บ่น ตามมาเถอะน่า” คนขี้บ่นทำปากขมุบขมิบ ก็คนเดินนำหน้าถือแค่เบ็ดตกปลาเบาๆ แต่เขานี่ทั้งหนักทั้งเหนื่อย

   กว่าจะถึงจุดตกปลา อัษฎายกแขนขาแทบไม่ขึ้น ถังน้ำถูกวางอย่างแรงจนน้ำกระฉอกเกือบครึ่ง ใหญ่หันไปมองแล้วขำออกมา คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าโดนแกล้งเกือบจะยกขาเตะแล้วหากไม่กลัวถูกเตะกลับจนอาจตกน้ำตายได้ ใหญ่หาที่นั่งเป็นโขดหินใกล้ๆ น้ำ มือก็ใส่เหยื่อล่อปลาอย่างไส้เดือนที่ขุดตามไร่

   “ทำไมปลามันถึงกินไส้เดือนล่ะครับ” เมื่อสายเอ็นเบ็ดถูกโยนลงน้ำ คนขี้สงสัยก็ถามขึ้น ใหญ่เหล่ตามองคนถามนิดๆ เพื่อดูอาการว่าถามจริงหรือแค่กวนโมโห แต่พอเห็นสายตาใคร่รู้ก็เอ่ยออกมา

   “ไม่รู้” ไม่ได้ขี้เกียจตอบ แต่มันไม่รู้จริงๆ “มันอาจจะอร่อยมั้ง นายลองกินสิ” ใหญ่ยื่นถังใส่ไส้เดือนไปตรงหน้าอัษฎา คนอยากรู้ตกใจหงายหลัง มือไม้ปัดป่ายไปทั่วเพราะไม่ได้ตั้งตัว ก่อนจะมีเสียงหัวเราะที่ดังลั่นป่า คนตกใจตวัดสายตาค้อนวงใหญ่
   
   “เล่นอะไรบ้าๆ” อัษฎาหน้ามุ่ยแล้วลุกขึ้นปัดกางเกงที่เปื้อนฝุ่นหลังจากลงไปนั่งกองกับพื้น

   “หนอนไม่กลัว แต่กลัวไส้เดือน ขำว่ะ” ใหญ่ยังหัวเราะต่อเนื่องเมื่อมองคนกลัวไส้เดือนเดินหน้างอแยกไปนั่งอีกทาง

   จากหนึ่งชั่วโมงเพิ่มเป็นสามชั่วโมงที่นั่งเงียบๆ ละอองเย็นของน้ำตกกับลมอ่อนๆ พัดมาทำให้รู้สึกง่วงจนแทบลืมตาไม่ขึ้น อัษฎาที่สัปหงกหลายรอบนึกเบื่อจึงลุกเดินมาหาคนที่นั่งนิ่งรอปลากินเหยื่อโดยไม่มีท่าทีง่วงนอนเหมือนเขา ใหญ่ปรายตามองก่อนยกนิ้วเป็นสัญญาณให้เงียบ คนเบื่อยู่ปากกับหลังหันเตรียมกลับไปนั่งที่เดิม พอดีกับเบ็ดตกปลาเริ่มขยับ ทุ่นที่ลอยเหนือน้ำจมดิ่งลงไปรั้งสายเอ็นเบ็ดให้หมุนรอก

   “คุณใหญ่ๆ ได้ปลาแล้วๆ” อัษฎารีบดึงแขนเสื้อคนหมุนรอกอย่างดีใจ ไม่นานปลาตัวใหญ่ก็ดิ้นอยู่ตรงหน้า “ตัวโตมาก”

   “บอกแล้วว่าต้องได้ ของแบบนี้อย่าใจร้อน” รอยยิ้มแสนเท่ถูกจุดขึ้นมา อัษฎาเผลอตะลึงนิดๆ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็น มันดูมีเสน่ห์น่ามอง “เอาถังมา” เสียงดังเรียกสติ อัษฎาวิ่งไปหยิบถังน้ำมาให้ก่อนปลาตัวเขื่องจะลงไปว่ายอยู่ในถัง

   “เป็นอะไร” ใหญ่ถามคนที่กระโดดดีใจเมื่อครู่ ตอนนี้กลับทำหน้าสลดแปลกๆ

   “สงสารปลา เดี๋ยวจะถูกต้มแล้ว” อัษฎาจ้องปลาในถังด้วยความสงสาร

   “อย่าโลกสวยน่า มันเป็นอาหารของคนซึ่งเป็นวัฏจักรของห่วงโซ่อาหาร”

   “คุณใหญ่พูดถูกหรือ”

   “ไม่รู้ มั่วๆ เอา”

   “คนแบบนี้ก็มี”

   อัษฎาเดินกลับไปนั่งที่เดิมและปล่อยให้ใหญ่ตกปลาเงียบๆ ต่อไป จวบจนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม ทั้งสองจึงพากันกลับ คราวนี้อัษฎารู้สึกตัวเบาหน่อยเพราะได้ถือคันเบ็ด ส่วนถังน้ำมีปลาให้คนอยากกินถือไป

   “เดินไวจริงนะ” ใหญ่แขวะออกมา

   “แน่นอน รีบๆ เดินสิคุณใหญ่ เดี๋ยวจะมืดแล้วเนี่ย แล้วป้าเขาจะไม่ได้ต้มปลาพอดี”

   ใหญ่คลอนศีรษะช้าๆ ให้กับคนเดินนำหน้าลิ่วๆ เมื่อกี้บ่นสงสารปลา ทีแบบนี้กลัวจะไม่ได้กิน ระหว่างทางกลับ คำพูดของแม่ที่บอกไว้ผุดเข้ามาเมื่อเห็นถนนเป็นเส้นทอดยาวไปที่ไร่ อดีตคือด้านหลังที่เขาเพิ่งจากมา ส่วนปัจจุบันและอนาคตคือข้างหน้า ใหญ่มองด้านหน้าของตัวเอง เห็นแผ่นหลังที่เขานอนมองมาตลอดทั้งคืน ก่อนเจ้าของแผ่นหลังจะหยุดเดินแล้วหันกลับมามอง ปากแดงคลี่ยิ้มบางๆ ส่งมาพร้อมน้ำเสียงใส

   “คุณใหญ่เดินเร็วๆ หน่อยไม่ได้หรือไง เดินช้าเป็นคนแก่ไปได้ อ้อ...ลืมไป คุณใหญ่แก่แล้วนี่นา”

   นี่น่ะเหรอคนที่ทำให้ต้องมองไปข้างหน้า เด็กอวดดี ตาสวย ยิ้มหวาน ตัวหอมคนนี้น่ะเหรอ...

   “อยากให้เดินเร็วก็มาช่วยยกถังปลาสิ หนักจะตายอยู่แล้ว” แม้จะบ่นหนัก แต่มุมปากยังมีรอยยิ้ม

   “อยากกินเองก็ต้องยกเองสิ เร็วๆ จะค่ำแล้ว เดี๋ยวไม่ได้กินต้มปลา”

   “เออๆ เร่งจังวะ แล้วเมื่อกี้ใครบ่นสงสารปลา”

   “อย่าบ่นสิ เดี๋ยวเขาจะรู้ว่าคุณใหญ่แก่”

   “ไม่แก่บ้างให้มันรู้ไป”

   “กว่าผมจะแก่ คุณใหญ่ก็หงำเหงือกพอดี”   

   “เดี๋ยวมีคนแถวนี้จะตายก่อนแก่”

   ถนนที่ทอดยาวมีเสียงพูดคุยหยอกล้อของทั้งคู่อยู่ตลอด แม้จะอยากให้ถนนยืดไปอีกสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ต้องถึงปลายทางอยู่ดี

   ทันทีที่ก้าวเข้ามาใกล้เรือน เล็กที่รออยู่ก็พรวดพราดเข้าไปหาจนอัษฎาหงายหลัง ดีที่ใหญ่เดินตามหลังมาติดๆ ยื่นมือประคองไว้ได้ทัน คนเป็นพี่ส่งสายตาขุ่นให้น้องเมื่อโผล่เข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง อีกทั้งยังทำให้ตกใจจนถังน้ำแทบหลุดมือตอนเห็นร่างผอมผงะถอยหลังออกมา

   “อะไรของแกวะ” ใหญ่ดุน้องชาย แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่สนใจ ดวงตารีจ้องมองแต่คนที่เขาจับแขนอยู่

   “มีอะไรครับคุณเล็ก” อัษฎานิ่วหน้าเล็กๆ เมื่อรู้สึกเจ็บที่แขน

   “นายไปเอาเบอร์โทรนั้นมาจากไหน” ประโยคไม่รู้ต้นสายปลายเหตุทำเอาคนไม่รู้เรื่องได้แต่ยืนมองอย่างงงๆ

   “เบอร์อะไรครับ”

   “ก็เบอร์ที่นายใช้โทรเข้าหานายมาด นายไปเอามาจากไหนหรือจากใคร”

   “โทรหานายมาดหรือครับ”

   อัษฎาขมวดคิ้วเมื่อพยายามนึก เล็กแทบอยากจะเขย่าร่างผอมให้รีบคิดให้ออก หากไม่มีสายตาดุของพี่ชายปรามไว้ละก็นะ
 
   “คิดออกหรือยัง เบอร์ศูนย์เก้าสามน่ะ” เล็กเร่งอยู่ตลอด ยิ่งน้ำเสียงร้อนรนยิ่งทำให้คนนึกๆ อะไรไม่ออก

   “ใช่ ผมจำได้แล้ว”

   “จำได้แล้วใช่ไหม เบอร์นั้นนายเอามาได้ยังไง จากใคร โทรที่ไหน แล้วใครเป็นเจ้าของ แล้วก็...”

   “ทีละคำถามสิวะ” ใหญ่พูดแทรกขึ้นมาเมื่อฟังคำถามน้องชายไม่ทัน ซึ่งอัษฎาก็คิดเช่นนั้น

   “เบอร์นั่นนายเอามาจากไหน” เล็กพยายามรวบรวมสติแล้วถามออกมาอย่างช้าๆ แม้ในใจอยากรู้ทุกเรื่องใจแทบขาด

   “เบอร์ของเพื่อนน่ะครับ” อัษฎาว่า เล็กขมวดคิ้วนิดๆ

   “เพื่อน...”

   “ผู้หญิงผู้ชาย”

   เล็กกำลังจะถามต่อ แต่ถูกใหญ่แทรกขึ้นมาซะก่อน อัษฎาปรายตามองนิดๆ ก่อนจะบอกว่าผู้หญิง แค่นั้นใหญ่ก็ถอนหายใจออกมาแล้วส่งให้น้องถามต่อ

   “รู้จักเจ้าของเบอร์ได้ยังไง แล้วเขาชื่ออะไร”

   “เจอโดยบังเอิญครับ ชื่อ เอ่อ เธอชื่อแคทครับ”

   ทันทีที่ได้ยินชื่อเจ้าของเบอร์หลุดออกมาจากปาก เรี่ยวแรงของเล็กก็แทบไม่มี ขาสองข้างเซถลาไปพิงกับราวบันไดไม้ อัษฎารีบเข้าไปประคองด้วยความเป็นห่วง

   “เขาเป็นยังไงบ้าง” น้ำเสียงคล้ายกับหมดแรงเอ่ยถามออกมา

   “ก็สวยครับ”

   “ไม่ใช่เรื่องนั้น ฉันหมายถึง เขาสบายดีหรือเปล่า”

   อัษฎาเหลือบไปมองใหญ่แวบหนึ่งแล้วหันมาตอบเล็กที่ทำท่าเหม่อลอย

   “ก็น่าจะสบายดีครับ เอ่อ คุณเล็กรู้จักเธอด้วยหรือครับ”

   “เขาถามถึงฉัน เอ่อ ไร่บ้างหรือเปล่า” เล็กไม่ตอบแต่เลือกที่จะถามกลับ สีหน้ายามนี้ช่างดูเจ็บปวดทำเอาอัษฎาไม่กล้าตอบสักเท่าไหร่ “ไม่เลยหรือ”

   “ก็แค่ตกใจที่รู้ว่าผมอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ”

   “งั้นหรือ เข้าใจแล้วล่ะ”

   เล็กเดินขึ้นเรือนด้วยท่าทีอ่อนแรง อ่อนล้าจนน่าห่วง คนไม่รู้อะไรมองตามอย่างห่วงใย กลัวว่าคนดูไร้เรี่ยวแรงจะพลัดตกลงมา เมื่อเห็นว่าเล็กเดินขึ้นเรือนได้ปลอดภัย อัษฎาก็ขมวดคิ้ว ในใจเอาแต่คิดว่าพวกเขาต้องรู้จักกันแน่ และต้องมีเรื่องกันอยู่

   “ฉันหนัก” เสียงพูดจากด้านหลัง เรียกคนมองเหม่อรีบหันกลับไป เจอใหญ่ทำหน้ามุ่ยถือถังปลาอยู่

   “อ่าว” ร้องแค่นั้นใหญ่ก็เดินแยกไปที่โรงครัว ปล่อยให้อัษฎายืนทำตาพริบๆ อะไรของเขา

   ใหญ่เดินกลับมาเจออัษฎานั่งรออยู่ที่เชิงบันได คนนั่งรอยิ้มให้นิดๆ แต่ใหญ่กลับทำหน้านิ่งคล้ายกับงอนซะอย่างนั้น

   “คุณใหญ่เป็นอะไร”

   “ไม่ได้เป็นอะไร”

   “แล้วคุณใหญ่ไม่ไปดูคนกรุงเขาหรือ กางเต็นท์เป็นหรือเปล่าไม่รู้” เห็นเจ้าของไร่กำลังจะขึ้นบ้านก็อดเป็นห่วงเพื่อนสาวและทีมงานไม่ได้ เพราะอัษฎาก็กางเต็นท์ไม่เป็น ใหญ่ปรายตามองนิดๆ แล้วเปลี่ยนเป้าหมายเดินลัดเลาะหน้าบ้านเพื่อไปที่ลานกางเต็นท์ที่เล็กเตรียมไว้

   ยามเย็นแสงของดวงตะวันใกล้หมด ลานกว้างถูกไฟสปอร์ตไลท์สามดวงสาดส่องเพื่อให้แสงสว่าง บรรดาทีมงานจากกรุงเทพต่างพากันนั่งมองเต็นท์ของตนที่กางไว้กันเรียบร้อย อัษฎาปลีกตัวไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งหอบเหนื่อยจากการกางเต็นท์ขนาดใหญ่ และพอทุกคนหันมาเจอเจ้าของไร่ก็รีบทักทายยกใหญ่ จะมีบางคนที่เพิ่งเคยมาและเพิ่งเคยเจอถึงกับออกอาการเพ้อถึงความหล่อเหลาที่มีพอๆ หรืออาจจะมากกว่าคนน้อง

   ดวงตาคมยามส่งมาที่ใครยิ่งทำให้หัวใจสั่นจนอยากจะขออาศัยอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต ใหญ่เดินเข้าไปคุยกับหัวหน้าทีมที่เคยคุยกัน ชายหนุ่มรูปร่างสัดทัดยกยิ้มเมื่อเจอ

   “มีอะไรขาดเหลือบอกผมได้เลยนะครับ” เจ้าของไร่พูดพร้อมรอยยิ้มบางๆ เพียงแค่นี้ก็เรียกสายตาของสาวๆ ได้ค่อนทีม

   “ขอบคุณครับ พวกคุณดูแลพวกผมดีขนาดนี้ต้องขอบคุณมากเลยนะครับ” หัวหน้าทีมเอ่ยขึ้นด้วยความจริงใจ “เวลาไปที่ไหนไม่เหมือนที่นี่เลย”

   “ที่จริงไร่ของผมก็ไม่เคยให้ใครเข้ามาสักเท่าไหร่ พวกคุณเป็นกลุ่มแรก” ใหญ่ว่า

   “โชคดีจริงๆ แบบนี้คงต้องหาอะไรไปตอบแทนพี่ทัศที่แนะนำไร่นี้มา พอดีผมกับพี่เขาเป็นญาติกันน่ะครับ”
 
   พอได้ยินชื่อทัศนัยหลุดออกมา รอยยิ้มที่มีมาตั้งแต่ต้นก็ค่อยๆ หุบลง อีกทั้งคนที่ยืนยิ้มแป้นแล้นตรงหน้ายังเป็นญาติอีก รู้แบบนี้แล้วอยากจะยกเลิกรายการพวกนี้ให้หมด

   “เหรอครับ” ตอบกลับเสียงเรียบๆ จนคนที่ยืนคุยรู้สึกแปลกๆ

   “งั้นผมขอไปดูของหน่อยนะครับ” ว่าแล้วหัวหน้าทีมก็รีบเดินไปอีกทาง เพราะรู้สึกถึงอารมณ์บางอย่างที่คุกรุ่นออกมาจากสายตาหลังจากพูดชื่อญาติ

   เมื่อไม่มีคนคุยด้วย ใหญ่เลือกที่จะเดินกลับไปหาอัษฎาที่ยังนั่งคุยกับเพื่อนและกลุ่มสาวๆ อย่างออกรส พอทุกคนเงยหน้าเห็นใหญ่เดินตรงมาหาต่างก็พากระตุกแขนคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ให้แนะนำให้รู้จัก จะมีก็แต่เพื่อนสนิทที่ได้รู้จักมาก่อนหน้า ว่าเจ้าของไร่สุดหล่อคนนี้...มีเจ้าของแล้ว

   สาวๆ ต่างหาคำถามๆ เจ้าของไร่สุดหล่อ ตั้งแต่เรื่องไร่ไปจนถึงเรื่องในห้องนอน ทำเอาคนโดนถามไปไม่ถูกอยู่หลายครั้ง กว่าจะหลุดออกมาจากวงสนทนาของสาวๆ ได้ ก็ตอนที่สาวใช้มาตามขึ้นเรือนเมื่อกับข้าวเสร็จเรียบร้อย บรรดาผู้หิวโหยต่างก็รีบกรูขึ้นเรือน

   “ทำไมถึงปล่อยให้พวกเขาถาม ทำไมไม่ห้ามบ้าง” ใหญ่ว่า เพราะอัษฎาเอาแต่หัวเราะกับคำถาม

   “พวกเขาไม่ได้ถามอะไรมากมายสักหน่อย”

   “ไม่ได้มากมายของนายคือถามว่า ฉันนอนใส่เสื้อหรือถอดเสื้อน่ะหรือ”
 
   “แต่คุณใหญ่ก็ตอบนี่นา”

   คนตอบเองอึกอัก จะไม่ให้ตอบได้ยังไงก็ในเมื่อมีสายตานับสิบคู่จ้องกดดันทำให้ต้องตอบไป พยายามที่จะขยิบตาให้คนนอนร่วมห้องช่วย แต่ก็ดันเอาแต่ขำ

   “นี่ฉันผิดใช่ไหมนี่”

   ไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงเสียงขำในลำคอเบาๆ ให้ได้ยิน

   ใหญ่กับอัษฎาขึ้นเรือนเป็นคู่สุดท้าย มื้อค่ำของวันนี้เนื่องจากคนเยอะเกินจำนวนเก้าอี้ คุณพิกุลเลยตัดสินใจให้นั่งที่พื้นโดยเอากับข้าวใส่ขันโตกแทน โดยให้แบ่งเป็นกลุ่มๆ คนที่ขึ้นมาทีหลังเดินเข้าไปนั่งรวมกลุ่มกับแม่แล้วก็น้องชาย คราแรกอัษฎาจะเดินไปนั่งกับเพื่อนสาว แต่ใหญ่ดึงแขนให้นั่งข้างๆ ด้วย เลยจำใจต้องนั่งลง

   “หวังว่ามื้อนี้ทุกคนคงจะชอบนะคะ” คุณพิกุลเอ่ยขึ้น ก่อนจะเริ่มจัดการมื้อค่ำอย่างเอร็ดอร่อย หากมีดนตรีมาเปิดคลอด้วยคงคล้ายกับนั่งทานในร้านอาหารเลยทีเดียว แต่นี่มีเพียงเสียงจักจั่นร้องระงมก็แปลกไปอีกแบบ เหมือนกับกินข้าวท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ

   “น้ำพริกอ่องอร่อยมากเลยค่ะ” เสียงเอ่ยชมดังเซ็งแซ่ พร้อมกับขอเพิ่มทุกจาน แบบนี้คนทำยิ่งปลื้มใจ

   “นมอิ่มทำเองค่ะ ยังมีอีกเยอะเลย ไม่อิ่มเติมได้เลยนะคะ” คุณพิกุลว่า ทุกคนเลยพากันยกนิ้วให้นมอิ่มที่นั่งอยู่ข้างคุณพิกุล

   ทุกคนดูจะเพลินกับการลิ้มรสอาหารเหนือ จะมีก็แต่คนอยากกินต้มส้มปลาที่อุตส่าห์ออกไปตกมาเอง ดูท่าจะไม่อร่อยดังหวัง ใหญ่เขี่ยปลาไปมาคล้ายกับไม่อร่อยจนน้องชายต้องลองตักมาชิม

   “พี่ใหญ่เป็นอะไร ต้มปลาก็อร่อยดีนี่นา” เพราะเห็นพี่ชายแทบไม่ตักกินเลยสงสัย

   “ไม่ได้เป็น” คนหน้านิ่งตอบ

   “คงโกรธที่ผมไม่ห้ามพวกทีมงานสาวๆ ถามเรื่องส่วนตัวน่ะครับ” อัษฎาว่า และดูเหมือนจะถูกจุด ใหญ่เหล่ตามองแล้ววางช้อนลง

   “ทำตัวเป็นเด็กไปได้ตาใหญ่นี่” คุณพิกุลปรามลูกชายคนโตที่ทำค้อนเหมือนเด็กๆ

   “เพิ่งรู้ว่าพี่ชายผมขี้งอน” เล็กหัวเราะดังขึ้นมา แต่ไม่มีใครสนใจเพราะคนเมืองกรุงต่างส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวแทบกลบเสียงพูดคุยไปหมด

   “ไม่ได้งอน” คนไม่ได้งอนเริ่มจับช้อนอีกรอบ คราวนี้มีเนื้อปลาที่แยกก้างแล้วมาวางบนจาน “ขอบใจ”

   คนรอบโต๊ะพากันส่ายหน้าให้กับคนตัวโตแต่กลับทำนิสัยราวเด็กเล็ก ขนาดคนที่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิดอย่างคุณพิกุลหรือแม้แต่นมอิ่มยังแปลกใจ ก็เพราะเพิ่งเคยเห็นใหญ่ทำนิสัยแบบนี้ หากเมื่อก่อนตอนอยู่กินกับภรรยาคนเก่า ใหญ่จะทำตัวเป็นผู้ใหญ่อยู่ตลอด ไม่มีท่าทางราวกับเด็กน้อยแสนขี้งอนเช่นนี้ ต้องยกความดีให้กับอัษฎาที่สามารถทำให้ตัวตนที่ซ่อนอยู่ลึกให้ออกมาได้




   “มื้อนี้อร่อยมากเลยครับ” หัวหน้าทีมเอ่ยอย่างจริงใจหลังจากอิ่มหนำกันเรียบร้อย

   “ทุกคนชอบ พวกเราก็ดีใจค่ะ” คุณพิกุลยิ้มหน้าบานกับคำชม

   “เดี๋ยวเราค่อยคุยรายละเอียดการถ่ายทำงานพรุ่งนี้นะครับ เชิญพวกคุณตามสบายก่อน” เล็กเอ่ยออกมาก่อนจะเดินกลับเข้าห้อง แม้ท่าทางดูจะปกติ แต่อัษฎายังจำภาพเมื่อช่วงเย็นได้

   “จะไปไหน” ใหญ่รั้งแขนคนที่จะเดินตามเล็กเข้าห้อง

   “ไปดูคุณเล็ก ผมว่า คุณเล็กต้องเศร้าอยู่แน่ๆ” ที่สำคัญ ต้องเกี่ยวข้อกับผู้หญิงที่เป็นเพื่อนใหม่ของเขาแน่นอน

   “ไม่ต้องหรอก เรื่องแบบนี้ให้มันจัดการเอง” คำพูดคล้ายกับรู้เรื่องของใหญ่ ยิ่งกระตุ้นต่อมความสงสัยจนอัษฎาต้องจ้องหน้า “อะไร จ้องหน้าฉันทำไม”

   “คุณใหญ่ก็รู้จักใช่ไหม ผู้หญิงที่ชื่อแคทน่ะ”

   “เมียเจ้าเล็กมัน”

   “อ๋อ หา? เมียคุณเล็ก”

   ตกใจจนแทบหาเสียงตัวเองไม่เจอ คนเพิ่งรู้เรื่องรีบหันไปมองประตูห้องที่ปิดสนิท มิน่าถึงดูเศร้าตอนที่บอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ถามถึงไร่นี้เลย

   “ไม่มีใครจัดการเรื่องคนอื่นแทนกันได้หรอก” ดวงตาคมมองประตูห้องน้องชายที่ปิดเงียบ ตอนกินข้าวดูก็รู้ว่าพยายามทำตัวให้เป็นปกติ คงกลัวว่าแม่จะเป็นห่วง

   “คุณใหญ่เป็นคนมีเหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่” คนกำลังคิดห่วงน้องชายอยู่ พอเจอประโยคคำถามนี้มาถึงกับหันขวับมามอง “อุ้ย นี่ผมคิดดังไปหรือ”

   “มาก” ใหญ่ว่า ก่อนจะพากันหัวเราะออกมา

   “อารมณ์ดีแล้วหรือเรา” อันที่จริงคุณพิกุลนั่งมองอยู่ตลอด แต่ที่เพิ่งลุกออกมาหาก็เพราะอยากให้ถึงจังหวะที่เหมาะสม อย่างเช่นตอนนี้

   ใหญ่ไม่ตอบ แต่เลือกที่จะประคองแม่ไปนั่งที่เก้าอี้แทน มือกร้านลูบหลังมือของแม่ไปมา ดวงตาคมดูอ่อนโยนเมื่อมองหน้าบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง

   “ขอโทษนะครับที่ผมให้แม่เป็นห่วง”

   “ไม่ต้องขอโทษแม่หรอกนะใหญ่ ที่จริงแล้ว แม่ต้องขอโทษใหญ่ด้วยซ้ำที่ต้องมาทำเพื่อน้อง” คุณพิกุลจ้องไปที่บานประตูที่ไร้ความเคลื่อนไหว

   “แต่ผมว่า น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างแล้วนะครับ”

   “ใหญ่หมายถึงอะไร” คนถูกถามไม่ตอบ แต่เลือกจะมองอัษฎาที่นั่งยองๆ อยู่ข้างให้พูดแทน “อะไของเราน่ะ”

   “คือผมเจอกับภรรยาคุณเล็กมาครับ”

   “จริงหรือ ที่ไหนกัน” พอได้ยินก็ตกใจจนต้องยกมือทาบอก คุณพิกุลขมวดคิ้วจ้องสะใภ้ด้วยความใคร่รู้ เพราะเธอพยายามติดต่อไปหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยได้

   “ที่เชียงใหม่นี่แหละครับ เธอบอกพักที่บ้านที่เพิ่งซื้อ แต่ก็ไม่ได้ถามรายละเอียดอะไร” อัษฎาเล่ารายละเอียดคร่าวๆ ให้ฟัง “แต่เท่าที่ได้คุย เธอน่าจะยังรักคุณเล็กนะครับ เพราะเธอบอกเสียใจกับเรื่องที่ทำผิดจนอยากกลับมาแก้ไข”

   “แสดงว่ายังมีหวังสินะ” คุณพิกุลมองหน้าลูกชายคนโตแล้วยิ้มออกมา นั่นยิ่งทำให้คนไม่รู้อะไรอยากรู้ไปใหญ่ “เอาล่ะ ไปตามตาเล็กเถอะ ทีมงานเขาคงจะอยากพักแล้ว รีบๆ คุยแล้วจะได้พัก” ตัดบทเสร็จ อัษฎาก็ประคองคุณพิกุลไปที่ห้องซึ่งแม่ของเขาลงเรือนไปแล้ว

   อัษฎาเคาะห้องสองสามที ห้องนอนที่ปิดสนิทก็เปิดออก ดวงตากลมโตเพ่งมองคนที่แสร้างทำเป็นยิ้มร่า ทั้งที่ดวงตารีแดงช้ำ เล็กเดินเบียดออกไปหากลุ่มทีมงาน เพราะรู้ว่าอัษฎาต้องเห็นตาแดงกล่ำของตัวเอง

   การประชุมวางแผนสุดท้ายเริ่มขึ้น เนื้อหา สถานที่ มุมกล้อง หรือแม้แต่คำถามถูกแจกแจงให้กับทุกคนรวมทั้งเจ้าของไร่ทั้งสองที่จะต้องมีการสัมภาษณ์ คำถามที่เขียนไว้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับไร่ทั้งสิ้น และเมื่อคุยกับจบ ต่างก็แยกย้ายไปพักผ่อน




   “คุณใหญ่” เสียงเรียกขณะใหญ่กำลังล้มตัวนอน คนเรียกเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ

   “จะทำอะไร” ถามเพราะเห็นแผ่นสีขาวๆ ในมือคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ

   “พรุ่งนี้คุณใหญ่ออกกล้อง ก็ต้องบำรุงหน่อยสิ หน้าด้านๆ จะได้นุ่ม”

   “อยากทำก็ทำเอง เฮ้ย” ถึงกับร้องเสียงหลงเมื่ออัษฎาวางที่มาร์กหน้าสีขาวแหมะบนหน้ากร้าน มือก็คอยลูบให้ติดกับใบหน้า เพราะเห็นถึงความตั้งใจเลยยอมนอนอยู่เฉยๆ

   “พรุ่งนี้รับรองคุณใหญ่หล่อระเบิดระเบ้อแน่” อัษฎาหัวเราะออกมาเมื่อคนนอนนิ่งกรอกสายตาไปมาอย่างไม่คุ้นชิน

   “แล้วจะนอนได้เมื่อไหร่” พอเอาแผ่นนี่แปะหน้าทำให้การพูดช่างลำบากนัก

   “อีกสิบนาที” ว่าแล้วดวงตากลมก็มองนาฬิกาแขวนผนัง “คุณใหญ่รออีกสิบนาทีค่อยเอาออกนะ”

   “เดี๋ยวๆ แล้วนายล่ะ” ใหญ่รีบผุดขึ้นนั่งเมื่อคนข้างๆ ล้มตัวนอนลง

   “ก็นอนไง ราตรีสวัสดิ์ครับ”

   ไม่รงไม่รอมันแล้ว ใหญ่ดึงแผ่นสีขาวออกแล้วปาลงถังขยะ ขายาวก้าวลงเตียงไปปิดไฟ เมื่อกลับมาเห็นผ้าห่มหนาถูกคนข้างๆ ดึงไปเกือบครึ่ง ใหญ่สอดตัวลงนอนก่อนใช้เท้าถีบปลีน่องเพื่อดึงผ้าห่มคืนมา คนถูกแย่งผ้าห่มไม่ยอมพร้อมยกเท้าถีบกลับ การแย่งชิงผ้าห่มจึงเกิดขึ้น สุดท้ายใหญ่จัดการรัดตัวร่างผอมไว้ในอ้อมกอดร่างนั้นถึงได้อยู่นิ่ง เสียงหัวใจสองดวงเต้นรัวเมื่อได้ใกล้ชิดกัน...ก่อนความง่วงจะค่อยๆ ดึงสองร่างให้หลับตาลงในค่ำคืนอันมืดมิด


...TBC

มาแบบเนือบๆ ตามสไตล์คนล้านนา ต่อนยอนแต้ๆ 

 :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 14-12-2016 22:11:58
คุณใหญ่มีความน่ารัก!!!
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-12-2016 22:27:47
 :L2: :L1: :pig4:

ดีใจที่มาบ่อยๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-12-2016 22:35:36
ทีเดียว 14 ตอนนน คุณใหญ่น่ารัก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 14-12-2016 22:36:12
คุณใหญ่นี่พออยู่กับอัดแล้วนิสัยเด้กเด็ก ขี้งอนบ้างละ ขี้หวงบ้างละ ขี้น้อยใจอีก โอยยย เด็กน้อยแท้ๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-12-2016 22:41:00
 :impress2: ส่องอยู่ตลอดเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 14-12-2016 23:10:37
ลุงกำลังจะน่ารักขึ้นเรื่อยๆแล้ว. ให้อภัยก็ได้ที่เคยอยากจะกระทืบลุง :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 14-12-2016 23:14:40
จะดีมากกกกกกกกถ้าคุณใหญ่เลิกซึนซะที~~~~ :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-12-2016 23:17:21
มาให้กำลังใจจ้า

กลังตามอ่านอยู่
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 14-12-2016 23:41:00
และแล้วลุงก็กระดึ้บไปอีกหนึ่งสเต็ป
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: กาลณัฐ ที่ 14-12-2016 23:41:21
 :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 14-12-2016 23:58:17
ศึกแย่งชิงผ้าห่มคราวนี้ อัทแพ้ราบคาบเพราะอ้อมกอดของคุณใหญ่  :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 15-12-2016 00:07:19
ค่อยดีขึ้นหน่อยนะคุณใหญ่ :)
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 15-12-2016 00:17:53
โอ๊ยยยยย น่ารักแต้ๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-12-2016 00:53:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 15-12-2016 01:09:20
ลุงแก่อารมณืไม่คงที่เสมอ5555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-12-2016 03:40:01
คุณใหญ่ยังไม่แน่ใจตัวเองอีกหรือครับ อาการออกขนาดนี้ อย่าดุน้องอัดนักเลย ส่วนคุณเล็ก ก็หวังว่าครอบครัวจะกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้งนะครับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 15-12-2016 06:40:38
เขินอ่าาา ตอนนี้ทั้งคุณใหญ่ทั้งอัดน่ารักกกก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seii ที่ 15-12-2016 07:18:13
เเหม อิคุณใหญ่นี่ซึนจริงๆ พ่อคุณเอ้ยยยยย.    ไม่อยากให้คุณเล็กคืนดีกับเเคทเล้ยยยยยย  :ling3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 15-12-2016 10:49:42
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-12-2016 11:21:27
ตอนนี้คุณใหญ่เริ่มน่ารัก แต่ไม่รู้ว่าเวลาทัศนัยมาจะน่ารักหรือน่าถีบ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Asmknrt ที่ 15-12-2016 18:11:53
ชอบมากก คือตามส่องทุกวันว่าอัพยังๆ55 o13
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 15-12-2016 19:13:37
ชอบอัดพูดหน้าด้านๆจะได้นุ่ม :m4: :laugh3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 15-12-2016 20:18:26
พึ่งเห็นว่าเป็นคนแต่งเรื่องเดียวกับกลอยเลยมาติดตามด้วยคนสนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 15-12-2016 22:06:00
ลุงนางดีขึ้นนิดนึง 55
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 15-12-2016 22:23:08
โอ้ยยยย ฮามุขกำเมืองคุณใหญ่ขนาด 5555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 15-12-2016 22:42:53
มีเมียเด็กนี่ก็ทำตัวเป็นเด็กเลยนะลุงใหญ่ แต่ก็ยังรอดูความชัดเจนวันที่ลุงเผยความในใจอ่ะ //เล็กก็กำลังจะดีขึ้น ขอให้มีความสุขสักทีนะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 15-12-2016 22:48:35
15




            บรรยากาศใกล้รุ่งสาง ทีมงานนับสิบชีวิตต่างพากันเร่งรีบทำงานในส่วนของตนเพื่อเตรียมงาน อัษฎาที่ไม่อยากอยู่เฉยเดินหยิบนั่นหยิบนี่ช่วยเหลือ ความวุ่นวายและเร่งรีบเช่นนี้คล้ายกับย้อนเวลากลับไปตอนทำงานที่บริษัทเก่า งานที่บางครั้งต้องหามรุ่งหามค่ำไม่ได้หลับได้นอน งานที่ทั้งหนักและเหนื่อย เป้าหมายคือเงินสำหรับผ่อนรถ คอนโดรวมทั้งประทังชีวิตของเขาและแฟนคนเก่า

   ภาระมากมายทำให้ไม่มีเวลาเที่ยวเล่นอย่างคนอื่นเขา พอคิดแล้วก็ช่างน่าขัน ทำงานมาหลายปีแต่แทบไม่มีเงินเก็บ นั่นเพราะความโง่เง่าไม่ทันเล่ห์เหลี่ยม เพราะเชื่อใจมากจึงยอมทุ่มเททุกอย่าง สุดท้ายกลับว่างเปล่าไม่ได้อะไรกลับคืนมา กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นควายโดยสมบูรณ์

   “นึกถึงตอนทำงานในกรุงเทพหรือเปล่า” เพื่อนสาวที่เดินเข้ามาถาม ขณะอัษฎากำลังเก็บน้ำเปล่าลงถังขนาดใหญ่

   “ก็นิดหน่อย ไม่ได้วุ่นวายแบบนี้มานานแล้วเหมือนกัน” ชายหนุ่มตอบพร้อมยิ้ม ดวงตากลมเหม่อมองผู้คนเดินจัดนั่นจัดนี่ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น เพราะอยากได้ภาพบรรยากาศที่แสนสวยของไร่มีด้านหลังเป็นดวงตะวันสีส้มอ่อน

   “ไร่ดอกไม้นี่ก็เหมาะกับแกดีนะ” แอนเอ่ยออกมา

   “เหรอ แต่ฉันก็ช่วยอะไรไม่ค่อยได้หรอก วันๆ ก็คลุกอยู่ที่โรงคัดแยกนู้น”

   “แต่อยู่ที่นี่ แกดูมีความสุข นี่ล่ะที่เหมาะ”

   อัษฎาหันมายิ้มให้เพื่อนสาวคนสนิท ก็เป็นจริงอย่างที่แอนว่า อยู่ที่นี่เขามีความสุข ที่นี่มีทั้งแม่ มีทั้งดอกไม้สวยๆ มีภูเขาห้อมล้อม มีลมเย็นๆ ที่สำคัญ มีชีวิตใหม่ที่เพิ่งเริ่มขึ้น แม้จะขรุขระไปสักหน่อย

   “เร็วๆ พระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว”

       เสียงตะโกนให้เร่งมือทำให้ทั้งคู่ต้องปลีกตัวไปทำหน้าที่ของตัวเอง อัษฎาเดินย้อนกลับไปบนเรือน ตอนนี้เจ้าของไร่ทั้งสามคนกำลังถูกบรรดาช่างแต่งหน้าวาดลวดลายเสริมทรงให้ดูดี เหมือนจะมีคนที่ไม่ค่อยชอบนั่งหน้าบึ้งให้ช่างผมจัดแต่งทรง สายตาคมเหลือบเห็นคนที่เพิ่งเดินขึ้นมาก็ยกมือเรียก

   “หายไปไหนมา” น้ำเสียงไม่พอใจออกจากปากที่เคลือบด้วยลิปมันวาววับ อัษฎาเหล่ตามองช่างทำผมที่แอบยิ้มก่อนจะถลึงตาใส่ใหญ่ อีกเดี๋ยวต้องถูกนำไปพูดต่อแน่นอน ความลับของดารานักร้องก็มักจะหลุดมาจากช่างแต่งหน้าทำผมทั้งนั้น “แน่ะ มาทำตาโตใส่อีก”

   “คุณใหญ่นั่งนิ่งๆ พี่เขาทำผมไม่ได้น่ะเห็นหรือเปล่า” รีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อรู้สึกถูกมอง

   “เออๆ ดุจังวะ” คนไม่อยู่นิ่งนั่งหน้าบึ้ง ไม่สนเสียงขำจากคนด้านหลังที่เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน

   อัษฎาปลีกตัวเดินไปหาแม่ตัวเองที่นั่งหัวเราะคุณพิกุลที่หมุนซ้ายหมุนขวาอยู่หน้ากระจก คงเพราะตื่นเต้นที่จะได้ออกทีวีกระมัง

   “อัดมาก็ดีแล้ว ช่วยแม่ดูหน่อย แม่ดูดีหรือยัง” คุณพิกุลว่า ก่อนจะหมุนตัวไปมาอีกรอบ เสื้อผ้าฝ้ายสีชมพูสวยกับผ้าถุงลายโบราณดูสวยและมีเสน่ห์ คนถูกเรียกมายกนิ้วโป้งให้เป็นคำตอบ ทำเอาคนไม่ค่อยมั่นใจยิ้มร่า “วันนี้ลูกชายสองคนของฉันก็หล่อมากเหมือนกัน ที่จริงเราน่าจะเข้ากล้องด้วยนะ” คุณนายใหญ่ของที่นี่มองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทั้งสองคนก่อนจะหันมาเอ็ดเบาๆ ให้คนที่ไม่ยอมเข้ากล้อง

   “ไม่เหมาะหรอกครับผมว่า” มันดูไม่เหมาะกับตัวของใหญ่มากกว่า สังคมภายนอกแม้จะมีคนรับได้ แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่จะรับไม่ได้หากรู้ว่าเจ้าของไร่แต่งงานอยู่กินกับเพศเดียวกัน ซึ่งสังคมแบบนั้นอัษฎาเคยผ่านมาก่อนและเจ็บปวดทุกครั้ง ยามที่ถูกแฟนเก่าแนะนำว่าเขาคือเพื่อนเพื่อรักษาหน้าตา

   “เตรียมตัวเลยค่ะ เดี๋ยวจะเริ่มถ่ายทำแล้ว” ทีมงานสาวสวมหูฟังอันใหญ่เดินเข้ามาบอก “เดี๋ยวเราจะเริ่มถ่ายจากที่ระเบียงก่อนนะคะ จะให้เห็นพระอาทิตย์ด้วย”


   ดวงตะวันสีส้มกำลังโผล่พ้นก้อนเมฆใหญ่เพียงเสี้ยว แต่แสงสว่างกลับส่องประกายทำให้ไร่ทั้งไร่สวยงามอย่างกับมีเวทมนต์ น้ำค้างที่เกาะอยู่ตามดอกไม้ ใบไม้ยามกระทบกับแสงแดดอุ่นส่องประกายแวววาว หัวหน้าทีมงานหรือผู้กำกับถึงกับเอ่ยชมออกมาเมื่อได้เก็บภาพสวยๆ สมใจ

   กองถ่ายพากันขึ้นเรือนเพื่อทำการเปิดตัวเจ้าของไร่พิกุลจันทร์หอม แม้ตอนแรกจะดูวุ่นวายเพราะเจ้าของไร่ทั้งสาม โดยเฉพาะใหญ่มีความแข็งกระด้างคล้ายกับโรบอตในการตอบคำถาม ซึ่งกว่าจะผ่านมาได้ก็เหนื่อยเอาการ

   “คุณใหญ่พูดแบบปกติสิ” อัษฎาเดินเข้ามาเช็ดเหงื่อเม็ดเป้งที่ผุดตามไรผม ตอนนี้กองถ่ายพากันลงไปถ่ายทำต่อในไร่ คนที่พูดไม่ปกติหันมาจ้องตาขวาง

   “ปกติที่สุดแล้ว” อยากจะขันแต่ก็พอเข้าใจ คนเพิ่งเคยเจอกล้อง เจอผู้คนมากมายแถมยังต้องพูดตามสคริปอีก มันยากสำหรับมือใหม่ “เมื่อไหร่จะเสร็จวะเนี่ย” ใหญ่ทำหน้าง้ำงอไม่พอใจ

   “อีกแป๊บเดียวก็เสร็จ ถ้าคุณใหญ่ไม่ทำให้เขาต้องถ่ายหลายครั้งแบบเมื่อตะกี้” อัษฎาว่าแล้วขำออกมา ก่อนจะดึงมือหนาไว้ “คุณใหญ่ต้องปล่อยตัวตามสบาย คิดซะว่ากล้องก็คือลูกค้าที่เข้ามาดูดอกไม้ในไร่ คุณใหญ่ก็อธิบายไปในแบบของคุณใหญ่ ไอ้สคริปนั่นมันแค่นำทางไม่ให้คำถามหรือคำตอบที่ตกลงกันมันเลยเถิด”

   “นายเชื่อว่าฉันจะทำได้งั้นหรือ” ดวงตาคมจ้องคนตรงหน้านิ่ง

   “เชื่อสิ” คนเชื่อตอบพร้อมรอยยิ้ม

   ไม่มีคำพูดหรือรอยยิ้มตอบกลับ ใหญ่เดินเข้าไปหาน้องชายที่ยืนคุยรายละเอียดต่างๆ สีหน้าและท่าทางดูไม่ขัดเขินเหมือนตอนแรก

   “หล่อนะเนี่ย แฟนแก” แอนเดินเลียบๆ เคียงๆ เข้ามาเอ่ยแซว “ชักอิจฉาซะแล้วสิ”

   “แฟนแกก็หล่อจะตาย”

   “หล่อไม่เท่าคุณใหญ่ของแกหรอกน่า” ว่าเสร็จก็เดินแยกไป ทิ้งให้คนมีแฟนหล่อกว่ายืนเขินอยู่กับที่



   การถ่ายทำดูจะราบรื่นขึ้นมาก ใหญ่พูดเป็นตัวเองจนทีมงานแปลกใจเพราะช่างแตกต่างจากตอนถ่ายทำบนเรือน การเล่าความเป็นมาในไร่ก็ดูจะลื่นไหล เนื้อหาในสคริปมีครบถ้วนแต่ถูกเปลี่ยนคำพูดให้ออกมาในตัวตนของตัวเอง

   ผ่านไปครึ่งวันการทำงานค่อนข้างเป็นไปได้สวย แทบไม่มีอะไรติดขัดอีก เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง ทุกคนต่างก็กรูไปยังลานกว้างใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ถูกจัดเป็นที่รับประทานอาหาร บนโต๊ะมีอาหารหลากชนิดให้เลือก ซึ่งแต่ละอย่างก็ค่อยๆ หมดลงเพราะความอร่อย

   “ทำงานที่นี่มีความสุขจริงๆ นะครับ” หัวหน้าทีมเอ่ยออกมาหลังจากจัดการข้าวพูนจานหมด

   “น้ำหนักต้องขึ้นแน่เลย หนูกำลังไดเอตอยู่นะคะเนี่ย” ผู้ช่วยสาวเอ่ยเสริม

   “แค่พวกคุณชอบ ทางเราก็ดีใจมากแล้วค่ะ” คุณพิกุลเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม

   ทุกคนดูจะชื่นชอบที่มีอย่างมาก การทำงานวันนี้ทุกคนเลยมีแต่รอยยิ้ม พอรู้ตัวอีกทีก็ถ่ายทำเสร็จหมดแล้ว ทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เหลือเพียงแค่ตัดต่อแล้วก็ส่งสถานีโทรทัศน์เป็นอันจบ

   “ไวน์ที่นี่อร่อยมากจริงๆ” โปรดิวเซอร์รายการติดใจขอซื้อกลับติดมือไปหลายขวด

   “ขอบคุณครับ แต่กว่าจะได้รสชาตินี้ก็นานพอดูเหมือนกัน” ใหญ่ที่เริ่มเป็นมิตรกับทุกคนพูดจายิ้มแย้มทำให้มีสาวๆ กล้าเข้าหาพูดคุยมากขึ้น

   “คุกกี้องุ่นก็อร่อยค่ะ พายด้วย ขนมอร่อยหมดเลย”

   “ดอกไม้ก็สวย บรรยากาศก็ดี อาหาร ขนม เครื่องดื่ม อร่อยหมดทุกอย่าง ไว้ว่างๆ พวกเราจะขอมาพักอีกได้หรือเปล่าคะ”

   “ได้สิครับ ไร่ของเรายินดีต้อนรับ”

   “แหม คุณใหญ่หล่อแบบนี้ มีแฟนหรือยังคะเนี่ย” น้ำเสียงหยอกเอินของสาวๆ ทำเอาใหญ่ยิ้มแล้วปรายตามองคนที่นั่งคุยกับเพื่อนสนิทอยู่ไม่ไกล

   “มีแล้วครับ” คำตอบช่างดูหนักแน่นจนสาวๆ ร้องเสียดายออกมา

   “แล้วคุณเล็กมีแฟนหรือยังคะ” พอคนพี่ไม่ได้ คนน้องก็ยังมี

   “มีลูกแล้วครับ” คล้ายกับตัดโอกาส คนถามถึงแกล้งเบ้หน้าจะร้องไห้ สร้างความขบขันยามคลายเหนื่อยหลังจากทำงานอย่างหนักมาทั้งวัน



   เมื่ออุปกรณ์ทุกอย่างถูกเก็บเรียบร้อย คราวนี้ก็ถึงเวลาฉลอง เป็นโชคดีที่คราวนี้ทีมงานแทบไม่ต้องเตรียมอะไรเลย เพราะไร่นี้จัดของทุกอย่างให้เสร็จสรรพ ขนาดบาร์บีคิวยังเสียบไว้รอกล่องใหญ่

   ที่ว่างข้างๆ ลานกางเต็นท์ถูกจัดเตรียมสำหรับก่อกองไฟและปาร์ตี้บาร์บีคิว บรรดาทีมงานต่างพากันสนุกสนานรื้นเริง แม้จะไร้แอลกอฮอล์ แต่มีคนหนึ่งที่ไม่สนุกด้วย เจ้าของไร่นั่งหน้าบึ้งหลังจากยิ้มแย้มกับสาวๆ ไม่กี่นาทีที่ผ่านมา สาเหตุเพราะมีคนมาเพิ่มอีกหนึ่งคน ที่สำคัญ ตอนนี้กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับคนของเขาอีก

   “พี่ใหญ่มองอะไร”

   “มองเมีย” ใหญ่ปรายตามองน้องชายที่แกล้งเข้ามาถาม พอได้ยินก็หัวเราะร่วน “อยากได้ยินแบบนี้ไม่ใช่หรือไง”

   “หวงขนาดนี้ก็เดินไปบอกเลยว่าอัดเป็นเมียพี่น่ะ” เล็กแกล้งยุแหย่ เพราะยังไงซะ พี่ชายของเขาก็คงไม่กล้า ก็ท่ามากออกอย่างนี้ โดนแย่งไปแล้วจะรู้สึก

   ขณะเล็กกำลังจะกัดหมูบาร์บีคิวในมือ ดวงตารีเบิกโตขึ้นเมื่อพี่ชายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สีหน้าและแววตาดูมุ่งมั่นยามมองไปทางกลุ่มที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน ที่สำคัญ เรียกอัษฎาว่าเมียได้เต็มปากเต็มคำ เอาแล้วไง พี่ใหญ่เอาจริงแล้ว

   กลุ่มคนที่หัวเราะเพราะเรื่องตลกของเจ้าของร้านอาหารไม่ทันมองใหญ่ที่เดินตรงเข้ามาหา กว่าจะรู้ก็ตอนนี้ร่างกำยำเบียดแทรกที่ว่างระหว่างอัษฎากับทัศนัย สาวๆ ที่นั่งรายล้อมต่างชักชวนให้อยู่ฟังเรื่องสนุก จะมีก็แต่คนที่ถูกเบียดเริ่มทำหน้ามุ่ย อัษฎายื่นหน้าไปกระซิบถาม

   “คุณใหญ่มาเบียดทำไม ที่อื่นก็มีทำไมไม่ไปนั่ง”

   “ก็อยากนั่งตรงนี้” ตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะพูดพร้อมรอยยิ้มให้สาวๆ ใจเต้น “ขอโทษนะครับที่วันนี้ไม่มีแอลกอฮอล์”
 
   “ดีแล้วค่ะ เที่ยวแบบนี้มีเหล้าคงไม่ดี” หนึ่งสาวที่ดูจะหลงเสน่ห์หนุ่มบ้านป่ามองอย่างเคลิบเคลิ้ม ไม่อยากจะเชื่อว่าในป่าในเขาจะมีคนหล่อแบบนี้อาศัยอยู่

   “คุณใหญ่ทานบาร์บีคิวไหมคะ” เพื่อนสนิทของอัษฎายื่นจานบาร์บีคิวให้ แต่ชายหนุ่มคลอนศีรษะเชิงปฏิเสธ

   “ตามสบายเลยครับ ผมอิ่มแล้ว”

   “อยากรู้จังว่าแฟนของคุณใหญ่เป็นใคร อิจฉาจริงๆ”

   และยังมีอีกหลายเสียงที่เสียดายความไม่โสดของเจ้าของไร่ทั้งพี่ ทั้งน้อง

   “นั่นน่ะสิ อิจฉาแฟนของคุณใหญ่จริงๆ เนอะ” อัษฎาถลึงตาให้เพื่อนสนิทที่ใช้ข้อศอกสะกิดยิกๆ

   ตอนนี้ความสนุกของทัศนัยชักจะกร่อย ไม่คิดว่าใหญ่จะมาเบียดแล้วนั่งแทรกไม่ลุกไปไหน แล้วพอเขาจะคุยกับอัษฎาก็มักจะโดนคนนั่งขวางขัดอยู่ตลอด ทั้งที่วันนี้คิดจะมาทำคะแนนสักหน่อย เลยกลายเป็นว่าถูกกันไว้ซะหมด

   “คุณทัศนัยเติมน้ำหรือเปล่าครับ” กำลังท้อใจอยู่รู้สึกมีแรงเมื่อได้ยินเสียงใสเอ่ยถาม เจ้าของร้านอาหารรีบชะโงกหน้าให้พ้นคนตัวใหญ่ที่คอยขวางอยู่ตลอด แม้จะใช้ความพยายามอย่างมากแต่ก็คุ้มที่ได้เห็นหน้าอัษฎาอีกครั้ง

   “ขอบคุณครับ” เอ่ยพร้อมรอยยิ้มหวานก่อนจะหุบฉับพลันเมื่อมีใบหน้าอื่นยื่นมาคั้น แม้เจ้าของใบหน้าจะฉีกยิ้มแต่ดวงตานั้นกำลังขู่เอาเรื่องอยู่

   อัษฎายื่นมือผ่านใหญ่ไปหยิบแก้วน้ำที่หมดค่อนแก้ว น้ำมะตูมหอมๆ ถูกเทลงไปจนเต็ม อากาศยามดึกเช่นนี้ต้องมีเครื่องดื่มอุ่นๆ ไว้คลายความหนาว มือเรียวกำลังจะยื่นส่งคืนเจ้าของแก้ว หากมีมือคนนั่งคั่นกลางคว้าไปซะก่อน ทัศนัยหน้าเสียทันทีเมื่อได้รับแก้วน้ำจากใหญ่

   “ดื่มเยอะๆ นะครับ” น้ำเสียงปกติแต่สายตาไม่ใช่

   “ขอบคุณครับ” แม้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจแต่ไม่กล้าขอตัวกลับ ทัศนัยยกน้ำขึ้นจิบ รู้สึกไม่ได้ดั่งใจสักนิด

   กองไฟที่กำลังลุกโหมสร้างความอบอุ่นให้คลายหนาว ยิ่งมีเสียงดีดกีต้าร์เบาๆ เคล้าเสียงร้องเพลงเพราะๆ ยิ่งทำให้เพลิดเพลิน อัษฎามองดูบรรยากาศรอบตัวด้วยความสุข ดวงตากลมหันไปเจอคนที่ดูมีความทุกข์นั่งอยู่เพียงลำพัง

   “จะไปไหน” ทันทีที่ลุกขึ้นยืน ใหญ่รีบคว้าข้อมือไว้แล้วถามออกมา

   “ไปหาคุณเล็ก” อัษฎาก้มหน้ากระซิบชิดใบหู เพราะตอนนี้ทุกคนกำลังให้ความสนใจเสียงดนตรีอย่างไพเราะ “เดี๋ยวผมมา”

   เมื่อมือที่ถูกกำคลายออก อัษฎาค่อยๆ สาวเท้าเข้าไปหาคนที่นั่งมองเหม่ออยู่คนเดียว ขนาดมีคนเดินมาใกล้ เล็กยังไม่รู้สึกตัว จนถูกสะกิดถึงได้หันกลับมามอง

   “เป็นอะไรหรือครับคุณเล็ก” คนเป็นห่วงนั่งลงข้างๆ

   “คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนั่นแหละครับ” เล็กตอบ “แล้วพี่ใหญ่ล่ะ”

   “นั่งอยู่กับสาวๆ นั่นแหละครับ” อัษฎาชี้ไปทางใหญ่ที่ตอนนี้มีสาวมานั่งที่แทนเขาเรียบร้อย “คุณเล็กมีอะไรให้ผมช่วย บอกมาได้เลยนะครับ”

   “ผมจะไปมีเรื่องอะไรให้อัดช่วยล่ะ” เล็กทำเป็นหัวเราะแล้วมองคนเล่นดนตรีกลบเกลื่อน

   “ก็เรื่องของคุณแคท” พอได้ยินชื่อนี้หลุดออกมา รอยยิ้มที่แสร้งขึ้นค่อยๆ หุบลงจนกลายเป็นนิ่ง เล็กหันมามองพี่สะใภ้ช้าๆ ด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์อย่างไม่ปิดบัง “หากคุณเล็กต้องการให้ผมช่วย ผมยินดีเสมอนะครับ”

   “ขอบคุณครับ” เล็กมองมือนุ่มที่ยื่นมาจับมือเพื่อปลอบ

   “เรื่องบางเรื่อง เก็บไว้คนเดียวมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย หากคุณเล็กไว้ใจผมเมื่อไหร่ ผมพร้อมจะเป็นผู้ฟังที่ดีเสมอ” รอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาทำให้คนทุกข์ใจมีรอยยิ้มอีกครั้ง

   “ขอบคุณจริงๆ มีพี่สะใภ้ดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง” แม้จะเศร้า แต่ก็ยังแกล้งแหย่ได้ อัษฎาหน้าตูมทันทีที่ถูกล้อ “พี่ใหญ่ท่ามากไปอย่างนั้นเอง ที่จริง หวงอัดจะตาย” คนถูกหวงทำท่าไม่เชื่อ เล็กเลยพยักพเยิดหน้าไปทางกลุ่มที่อัษฎาเพิ่งลุกมา ตอนนี้ใหญ่กำลังจ้องมาทางนี้อย่างไม่วางตา

   “คุณใหญ่เขาอาจจะห่วงคุณเล็ก”

   “พนันกันไหมล่ะครับ ว่าห่วงผม หรือหวงอัด”

   ไม่ทันคาดคิด แค่เล็กดึงอัษฎามานั่งเก้าอี้เดียวกัน คนที่นั่งจ้องอยู่ถึงกับลุกออกจากวงสนทนาแล้วตรงเข้ามาหาทันที ดวงตาคมมองจ้องน้องชายอย่างเอาเรื่อง

   “เห็นไหมล่ะ” เล็กรีบกระซิบข้างใบหูขาวก่อนจะถูกพี่ชายดึงแขนให้ลุกขึ้นยืน “อะไรเนี่ยพี่ใหญ่” แกล้งโวยวายแต่ริมฝีปากมีรอยยิ้ม

   “ไปคุยกับพวกเขาสิ แกอยู่ฝ่ายประสานงานไม่ใช่หรือ”

   ทำมาเป็นไล่ เล็กขำท่าทางของพี่ชายที่ออกอาการขนาดนี้

   “เดี๋ยวผมไปเองก็ได้ คุณใหญ่กับคุณเล็กนั่งคุยกันเถอะครับ” คนตั้งใจดีกำลังจะหมุนตัว พอดีกับมีมือกร้านคว้าหมับเข้าที่แขน

   “ให้ไอ้เล็กไปถูกแล้ว นายนั่งที่นี่นั่นแหละ” คำสั่งกลายๆ จากปาก แต่ดวงตาบังคับให้อัษฎานั่งลง

   “รู้แล้วๆ ผมไปเอง อัดนั่งกับพี่ใหญ่นี่แหละ เดี๋ยวลมพัดหึงจะกำเริบ” เล็กรีบหลบหน้าแข้งพี่ชายที่ยกจะหวดก้น ก่อนเดินไปนั่งแทนที่พี่ชายตัวเองในวงล้อมของสาวๆ

   “มองอะไร” เมื่อน้องชายไปแล้ว ใหญ่จึงหันมาสนใจคนที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างๆ ดูเหมือนว่า อัษฎากำลังมองหาอะไรสักอย่าง

   “ก็คุณทัศนัย ไม่รู้ไปที่ไหนแล้ว” วงล้อมที่เล็กไปนั่งมีแต่สาวๆ ทั้งที่ตอนใหญ่ลุกมายังเห็นทัศนัยนั่นอยู่

   “จะไปมองหามันทำไม” แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกไม่ชอบใจ ใหญ่นั่งหน้านิ่วยกแขนขึ้นกอดอก เขานั่งนี่อยู่ทั้งคนยังมองหาคนอื่นอีก

   “มองหาเฉยๆ ไม่ได้หรือครับ”

   “ไม่ได้”

   เสียงปฏิเสธแทบจะทันทีที่ถูกถาม อัษฎายิ้มออกมาให้คนท่ามาก

   “คุณใหญ่หึงผมหรือ”

   “ใครหึง ไม่ได้หึง”

   “เหรอครับ”

   อยากจะขำกับท่าทางคนไม่ได้หึง ใหญ่กรอกสายตาไปมาคล้ายคนกำลังโกหก ดวงตาคมก็ไม่ยอมหันมามอง อาการแบบนี้มีพิรุธเห็นๆ

   “เมื่อกี้คุยอะไรกับเพื่อนนาย ได้ยินทำงานกรุงเทพอะไร” หลังจากเงียบไปนาน ใหญ่ก็เอ่ยถามออกมา ตอนแรกว่าจะถามตั้งแต่ได้ยินใหม่ๆ แต่พอมีทัศนัยคอยพยายามจะยิ้มให้คนของเขาทำให้สมองลืมคำถามทุกอย่างไปเสียหมด

   “อ๋อ พอดีเพื่อนผมชวนไปทำงานด้วยน่ะครับ” อัษฎาละความสนใจจากเสียงเพลงหันกลับมามองคนที่นั่งจ้องอยู่ “ก็ทำงานกับทีมนี้แหละครับ”

   “แล้วนายตอบว่าไง” ดูใหญ่จะสนใจเป็นพิเศษ จากท่านั่งสบายๆ ตอนนี้ขยับมายืดตัวตรง ดวงตาคมจ้องไม่กระพริบ อีกทั้งคิ้วยังขมวดคล้ายกับรอลุ้นคำตอบที่กำลังจะได้ยิน

   “ก็...”

   “ก็อะไร”

   “ขอคิดดูก่อน”

   “จะไปคิดทำไมวะ”

   คำตอบที่ได้ดูไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่ ใหญ่หน้าบึ้งกว่าเดิม แถมยังลุกเดินไปทางเรือนแล้ว อัษฎามองตามด้วยความมึนงง ก็แค่คำตอบแบบขอไปทีไม่ได้จะตกลงสักหน่อย ทำไมต้องโมโหซะเว่อร์ขนาดนั้น

   คนเดินขึ้นเรือนลงส้นเท้าจนคุณพิกุลที่กำลังจะปิดประตูห้องตกใจ อีกอย่างนี่เป็นเรือนไม้ เดินเช่นนี้ก็สะเทือนไปทั้งบ้าน ใหญ่ทิ้งตัวนั่งเก้าอี้นวมหน้าทีวี ในใจกำลังสับสนกับสิ่งที่ได้ยิน อัษฎากำลังคิดจะกลับไปอยู่กรุงเทพงั้นหรือ ได้เขาแล้วจะทิ้งหรือนี่ ช่างเป็นคนนิสัยไม่ดีเอาเสียเลย ความรู้สึกตอนนี้ไม่ใช่โกรธ ไม่ใช่โมโห แล้วมันคืออะไรกันแน่

   “เป็นอะไรของเราน่ะ” คุณพิกุลยกมือลูบศีรษะลูกชายด้วยความเป็นห่วง พอเห็นใหญ่ทำหน้าเคร่งเครียดคำติติงที่ตั้งใจไว้ก็มลายหายไป

   “เปล่าครับ”

   “เปล่าแล้วทำหน้าบึ้งทำไม หรืองานไม่สนุกล่ะถึงขึ้นเรือนมาก่อน”

   “แค่เบื่อๆ”

   คุณพิกุลขำคำตอบของลูกชายคนโต ทั้งที่ตอนหัวค่ำยังตามติดอัษฎาอยู่เลย แล้วไหงตอนนี้บอกเบื่อเช่นนี้ สงสัยคงถูกทำอะไรขัดใจมาถึงหน้าบึ้งมาแบบนี้

   “เบื่องานหรือเบื่ออะไร”

   “ทุกอย่าง”

   “งั้นหรือ”

   น้ำเสียงของแม่คล้ายกับรู้ทันความคิดภายในใจ ใหญ่จึงรีบเปลี่ยนประเด็นเป็นเรื่องอื่นทันทีเพื่อกลบเกลื่อน

   “อาทิตย์นี้ตาต้นไม่ได้กลับหรือครับ”

   “แม่เห็นว่าเราจะยุ่งเลยไม่ได้รับกลับมา แต่แม่ก็อธิบายจนแกเข้าใจแล้วล่ะ”

   ต้น ลูกชายคนเดียวของเล็กอยู่โรงเรียนประจำในตัวจังหวัด ทุกวันศุกร์คุณพิกุลจะไปรับหลานชายมาอยู่ที่รีสอร์ทด้วย หากวันไหนหลานบ่นคิดถึงพ่อถึงจะพามาที่ไร่

   “อัษฎาเขาเจอแคทที่ในตัวเมือง แสดงว่าเธอไม่ได้หนีไปไกลเลย”

   “ทั้งที่เราพยายามตามหาแทบตายแต่ทำไมถึงไม่เคยเจอนะ” คุณพิกุลทำหน้าหนักใจ “แล้วตาอัดไปเจอได้ยังไง อีกอย่างตาเล็กว่ายังไงบ้างล่ะ”

   “อัษฎาใช้เบอร์ของแคทโทรเรียกคนงานให้ไปรับครับ เจ้าเล็กคงไปเห็นเข้าเลยมาคาดคั้นซะยกใหญ่ เห็นว่าแคทไม่ถามถึงมันสักคำ”

   “มิน่า ถึงดูเศร้าพิกล” ใช่ว่าคุณพิกุลจะไม่สังเกตลูกชาย วันสองวันมานี้ ลูกชายคนรองดูเศร้าซึมกว่าทุกที “แล้วจะทำยังไงต่อล่ะ ตอนนี้ฝ่ายนั้นก็ไม่โทรมาขอตาต้นแล้วนี่”

   “ไม่รู้สิครับ”

   “ใหญ่ต้องช่วยน้องนะลูก แม่สงสารน้อง ไม่อยากให้เล็กกลับไปติดเหล้าเหมือนแต่ก่อน” ใบหน้าเศร้าหมองของแม่ทำให้ใหญ่ยื่นมือไปจับ มุมปากมีรอยยิ้มผุดขึ้นมา

   “ครับ ผมจะลองไปตามหาแล้วคุยกับเธอดู”

   สองแม่ลูกกอดกันกลมจนมีเสียงฝีเท้าเดินมาถึงผละออกจากกัน อัษฎาโค้งศีรษะเชิงขอโทษที่มาขัด คุณพิกุลยิ้มนิดๆ เมื่อเห็นอาการลูกชายคนโต

   “ไม่เป็นไร แม่จะเข้าไปนอนแล้ว ฝากดูแล...ให้เรียบร้อยนะ” ประโยคที่เว้นหายไปแต่ใช้สายตาบอกแทน อัษฎายิ้มแกรนๆ ส่งท้ายให้กับคุณพิกุล

   เสียงประตูลงกลอนดังขึ้น คนที่นั่งหน้าบึ้งก็ลุกขึ้นแล้วก้าวพรวดเข้าห้อง อัษฎามองท่าทางเช่นนั้นด้วยความอ่อนใจ อยากจะรู้จริงๆ ว่าตอนนี้อายุของใหญ่เท่าไหร่กันแน่ สามสิบห้า หรือสิบห้ากันแน่ ถึงได้ขี้งอนเหรอเกิน ขาเรียวเดินตามเข้าไป เจอคนเข้ามาก่อนกำลังถอดเสื้อเตรียมอาบน้ำ

   “งานเลิกแล้วหรือ” แม้จะถาม แต่ไม่มองหน้า

   “ใกล้แล้วครับ คุณเล็กดูแลอยู่” คนถูกถามตอบออกไป

   “นายทัศนัยล่ะ เจอหรือยัง” ไม่อยากจะพูดชื่อนี้สักนิด แต่ก็อดจะว่าไม่ได้ ชื่อนี้นั่นแหละที่ทำให้โมโหแล้วขึ้นมาปรับอารมณ์บนเรือน

   อัษฎาเลิกคิ้วมองคนถามนิดๆ ไม่คิดว่าจะได้ยิน คงเป็นอย่างที่เล็กว่า หึงแต่ไม่ยอมรับความจริง พอเห็นแบบนี้แล้วก็สนุกดีเหมือนกัน หากได้แกล้งสักนิดสักหน่อย

   “เจอแล้วครับ ไปส่งที่รถเสร็จก็เลยขึ้นมา” พูดไปเพื่อยั่วเท่านั้น ทั้งที่จริงบอกลากันตั้งแต่ใหญ่ขึ้นเรือน ทัศนัยก็เดินมาขอตัวกลับ รวมๆ แล้วก็เกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้

   พอได้ยิน เสื้อที่ยังถอดคาอยู่ที่คอถูกดึงออกแล้วเหวี่ยงไม่รู้ทาง เจ้าของเสื้อเดินตาวาวเข้ามาหาจนอัษฎาต้องถอยหลังหนี ท่าทางเอาเรื่องราวกับโกรธแค้นแสดงออกทางสายตา

   “ไปส่งมันทำไม หรืออยากไปกับมันด้วย” เสียงพูดกึ่งตะคอกชักจะไม่รู้สึกสนุกซะแล้ว อัษฎาที่ถูกดันจนหลังติดประตูยกมือขึ้นดันแผ่นอกกว้างออก แต่ข้อมือกลับถูกยึดไว้แน่น “ฉันถาม”

   “ผมล้อเล่น เขากลับไปตั้งนานแล้ว” รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ข้อมือจนต้องนิ่วหน้า

   “ฉันไม่ชอบคนล้อเล่น” เสียงพูดกัดฟันจนคนอยากแกล้งหน้าหงอยอย่างคนรู้สึกผิด

   “ขอโทษครับ”

   ใหญ่ปล่อยแขนที่จับไว้ลง ก่อนเดินปึงปังเข้าห้องน้ำอย่างไว อารมณ์โมโหตอนนี้มันพุ่งสูงจนอยากได้อะไรเย็นๆ มาดับ ไม่อย่างนั้นคนด้านนอกที่ยืนเบ้หน้าร้องไห้คงจะถูกพายุเดือดพัดเข้าใส่อีกแน่

        น้ำเย็นจัดยามถูกผิวกายรู้สึกยะเยือก หากมันดับความรุ่มร้อนภายในใจได้เป็นอย่างดี หลังจากได้ยินประโยคนั้นใหญ่รู้สึกเหมือนภูเขาไฟในหัวกำลังปะทุขึ้นมาจนอยากจะระเบิด แต่พอดวงตากลมนั่นมีน้ำใสๆ คลอขึ้นมาลาวาที่พร้อมจะพุ่งก็ถูกก้อนอะไรสักอย่างกดทับ เพราะไม่อยากทะเลาะกันอีกจึงเลือกที่จะใช้น้ำเย็นดับความโมโหก่อนออกไปเจอ

   ส่วนอัษฎาทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยความตกใจที่ได้เห็นใบหน้าขึงขังยามโกรธก็รู้สึกเสียใจที่ได้พูด แต่จะย้อนกลับไปก็ไม่ได้เสียแล้ว ตอนนี้คงหาวิธีที่จะทำให้คนอาบน้ำอยู่ใจเย็นขึ้นมาบ้าง พอคิดเช่นนั้น ขาเรียวก็วิ่งออกจากห้องไป

   ขณะคนหนึ่งวิ่งออกไป อีกคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เปิดประตูออกมา ดวงตาคมมองเห็นประตูห้องเปิดออกก็ตกใจ หรือว่าอัษฎาจะกลัวจนวิ่งหนี เมื่อกี้เขายังไม่ได้ตะคอกเสียงดังเลยนะ เอ่อ...เมื่อเทียบกับช่วงแรกๆ หรือจะร้องไห้ไปหานมอิ่ม...ใหญ่เดินรีบออกจากห้องเพื่อไปตามหาคนที่หายไป ทันทีที่ขาเหยียบขั้นบันได คนที่เขาตามหาก็ก้าวขึ้นมาพอดี สายตาสองคู่สบกันนิ่ง
 
   “ไปไหนมา” คนที่ยืนด้านบนถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

   “ไปเอานี่มา” อัษฎาชูแก้วน้ำสีเหลืองใสให้ดู “น้ำเก๊กฮวยจะทำให้คุณใหญ่รู้สึกอารมณ์เย็นขึ้น”

   คนเป็นห่วงขมวดคิ้วจ้องแก้วน้ำในมือขาว นี่อย่าบอกว่าเขาตื่นตูมไปเอง ก็ท่าทางเหมือนจะร้องไห้เมื่อกี้มันทำให้คิดแบบนี้นี่นา

   “อ่าว มายืนท้าลมหนาวอะไรแถวนี้พี่ใหญ่” เสียงจากด้านหลังทำให้สายตาสองคู่ที่สบกันอยู่หันไปมอง เล็กกระพริบตาปริบๆ มองพี่ชาย “แก้ผ้าโชว์สาวหรือ”

   แก้ผ้างั้นหรือ ใหญ่รีบก้มมองร่างตัวเองพร้อมเบิกตาโต เพิ่งจะรู้ว่าทั้งตัวมีแค่ผ้าขนหนูสีขาวพันรอบเอวอย่างหมิ่นเหม่ ก็เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วก็วิ่งออกมาเลยจนลืมว่ายังไม่ได้แต่งตัว เล็กเห็นพี่ชายทำหน้าตื่นก็สะกิดอัษฎา

   “รีบพาเข้าห้องเถอะ เดี๋ยวก็เป็นหวัด” ใหญ่ไม่รอให้ใครพาเข้าห้อง เพราะตอนนี้ขายาวสาวเท้าเข้าห้องเองเรียบร้อย สร้างรอยยิ้มให้กับคนที่ยังยืนอยู่ด้านนอก “แล้วนี่ เอาน้ำเก๊กฮวยไปไหน”

   “ให้คุณใหญ่น่ะครับ ตอนนี้คงไม่ต้องแล้ว”

   เล็กขอตัวเข้าห้องนอน ส่วนอัษฎาหลังจากดื่มน้ำเก๊กฮวยจนหมดถึงเดินกลับเข้าห้อง พอเปิดประตูเข้าไป ใหญ่ก็นอนอยู่บนเตียงเรียบร้อย

   “ไหนล่ะน้ำเก๊กฮวย” คนที่ใช้ผ้าห่มคลุมจนเหลือแต่ตาถาม คงจะหนาวหลังเจออากาศเย็น

   “ผมดื่มหมดแล้ว” บอกพร้อมทำตาใส

   “เอามาให้ฉันไม่ใช่หรือ” ใหญ่ขยับลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง

   “ก็คุณใหญ่อารมณ์เย็นขึ้นแล้ว ไม่ต้องกินก็ได้นี่ครับ”

   “แต่นายเอามาให้ฉัน”

   “งั้นเดี๋ยวผมไปเอาให้ใหม่”

   “ไม่ต้องๆ รีบไปอาบน้ำแล้วมานอนเลย ง่วงแล้ว”

   อัษฎาถอนหายใจออกมาเมื่อการเถียงเรื่องน้ำเก๊กฮวยจบลง

   “คุณใหญ่ก็เข้านอนไปก่อนเลย ผมอาบน้ำนาน”

   “ไม่รอหรอกน่า”

   นาฬิกาบนผนังค่อยๆ ขยับไปทีละนิด จนคนในห้องน้ำเดินออกมา มือเรียวเอื้อมปิดไฟแล้วสอดตัวลงนอนในผ้าห่มผืนใหญ่ พยายามจะขยับตัวให้น้อยที่สุดเพราะกลัวคนที่หลับแล้วตื่น ถึงแม้จะขยับตัวเบายังไง คนที่แกล้งทำเป็นหลับก็รู้สึกอยู่ดี เมื่ออัษฎาล้มตัวนอนลง แขนแกร่งก็รีบพาดทันที คนถูกกอดรีบเอี้ยวหน้าไปมองยังเห็นใหญ่นอนหลับตานิ่ง คงจะละเมอคิดว่าเขาเป็นหมอนข้าง เลยปล่อยให้กอดไปอย่างนั้น

   ลมเย็นพัดโชยทั้งคืน คนตัวหอมขยับตัวเข้าหาความอุ่นข้างๆ แขนเรียวสอดเข้าที่เอวหนาแล้วรัดแน่น ดวงตากลมโตถูกเปลือกตาปิดสนิทในยามหลับใหล ต่างจากดวงตาคมที่ยังคอยจ้องมองไม่ยอมหลับตา ใหญ่โน้มหน้าจูบหน้าผากมนเบาๆ แขนที่กอดกระชับร่างผอมจนแนบชิดราวกับหวงแหน...

   “ฉันเป็นของนายแล้ว ห้ามทิ้งขว้างเป็นอันขาด เข้าใจไหม” กระซิบแผ่วเบาชิดใบหู ก่อนจะหลับตาลงในคืนที่แสนอบอุ่น อีกไม่นานคงจะหนีใจตัวเองไม่พ้นจนตองยอมรับออกมาเป็นแน่


...TBC

ประโยคสุดท้ายของลุง เพิ่มความน่าหมั่นไส้ได้จริงๆ ค่า  :katai5:


 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 14 << [P.9] // [14/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 15-12-2016 23:19:42
คุณใหญ่เริ่มน่ารักละ  :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 15-12-2016 23:23:41
โอ้ยยยยย เขินลุงงงงงง 555555555 :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 15-12-2016 23:23:53
มันน่าหมั่นไส้จริงๆนั้นแหละ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: zeeL ที่ 15-12-2016 23:29:29
หมั่นไส้ใหญ่มากอะ
เล่่นตัวตลอด เฮ้อๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Khan_htt ที่ 15-12-2016 23:31:22
ลุงคนซึนนน หึงก็ยอมรับสิว่าหึง :ling1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 15-12-2016 23:50:16
ลุงพูดเหมือนตัวเองเสียสาวเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 15-12-2016 23:51:28
ขี้หึง ขีน้อยใจ ขี้วีน อารมณ์ขึ้นง่ายถ้าเป็นเรื่องของอัทกะคุณทัศนัย

โอ๊ยคุณใหญ่ขา ยอมรับใจตัวเองไปเหอะ เดี๋ยวน้องอัทหนีไปทำงานที่กรุงเทพนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 16-12-2016 00:01:18
น้านนนน!!! ฉันเป็นของนาย แสดงว่าให้หัวใจกับอัดแล้วสิ ฮ่าๆ รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 16-12-2016 00:11:20
โอ้ยลุงงงงงง!!!!!!!!!!!!!
หวานก็เป็นง่าาาา :katai5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-12-2016 00:17:04
หวงขนาดนี้ยังจะท่ามากอีกเนอะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 16-12-2016 00:20:44
 
ฉันเป็นของนายแล้วอย่าทิ้งข้วางเด็ดขาด อั้ยยะลุงเปลี่ยนไป๊ :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-12-2016 00:29:14
 :L2: :L1: :pig4:

น่ารักขึ้นเรื่อยๆนะลุง
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-12-2016 00:49:23
โอ้ยคุณใหญ่ สลับบทรึป่าว

น้องต้องพูดสิ โดยเต๊าะไปแล้วน่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 16-12-2016 00:53:53
แคทถามถึงไร่ ถามถึวเล็กหนิ ไม่ใช่หรอ ไมอัดบอะว่าไม่ได้ถามถึง
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 16-12-2016 01:39:28
โอ้ยลุง ยังไม่แก่เลย ทำไมอารมณ์แปรปรวนง่ายจัง :z1:
หึงเค้าก็บอกว่าหึงสิ เอ้ออออ ต้องจัดการให้อัดรู้เลยว่าเป็นของเค้าแล้วอ่ะ เป็นยังไง อีกสักทีซิ :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 16-12-2016 01:52:54
ก็รีบยอมรับใจตัวเองสักทีเถอะลุงงง รอจนจะแก่ตามลุงไปแล้วเนี่ยย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 16-12-2016 02:06:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 16-12-2016 03:57:50
หมั่นไส้อิลุงค่ะ  :beat: <--- อีโมนี้มาตลอด 55555555
จะมีตอนแก้เผ็ดอิลุงไหมคะ? หมั่นนางมานานนนนน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-12-2016 04:21:01
“ฉันเป็นของนายแล้ว ห้ามทิ้งขว้างเป็นอันขาด เข้าใจไหม”
คุณใหญ่ ทั้งน่ารัก  ทั้งแสนงอน มากมาย
แน่จริงพูดต่อหน้าอัดไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 16-12-2016 04:31:40
วันวันนึงลุงแกเปลี่ยนหลายอารมณ์มาก
วัยทองสุดๆ โดยมีตัวแปรสำคัญคือคนที่ได้ลุงแกแล้ว?คิดจะทิ้งลุงแก(ตอนไหน)? 555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Dolamon ที่ 16-12-2016 06:55:12
อิคุณใหญ่ แสดงออกซะขนาดนั้นแล้ว


คนอื่นเขาดูออกหมด มีแต่เจ้าตัวทึ่ยังปากแข็ง


 :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 16-12-2016 17:24:10
อิลุงท่ามากกกกกกกกก  ล
เล่นใหญ่และมีความโกรธจิงมาก 555555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: oiruop ที่ 16-12-2016 18:30:38
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 16-12-2016 20:10:03
อ่านทันแล้วจ้า

ชอบความซึนของคุณใหญ๋มากๆ

จะติดตามอ่านต่อไป รอๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Asmknrt ที่ 16-12-2016 20:58:20
โอ้ยยย ลุงนี่จะโรแมนติกไปไหนน :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 16-12-2016 21:02:05
16




         เปลือกตาที่ซ่อนดวงตาคมยังปิดสนิท คนที่ตื่นก่อนกำลังจ้องใบหน้ายามหลับสนิทของเจ้าของไร่ นิ้วเรียวสัมผัสอย่างแผ่วเบา เริ่มจากเส้นผมสีดำเข้มชี้ไม่เป็นทรง หน้าผากที่มีความแห้งเพราะไม่ได้บำรุงอะไร ดวงตาคมนัยน์ตาดุราวกับเสือยามที่ถูกจ้องมอง จมูกโด่งเป็นสันสวยได้รูป จนมาถึงริมฝีปากบางที่เคยทำให้หลงใหลในรสสัมผัส นิ้วเรียวยกเหนือริมฝีปากเพราะกลัวเจ้าของจะตื่น

   หล่อเหลาไร้ที่ติจริงๆ

   “จะจ้องอีกนานไหม คิดว่าฉันเขินไม่เป็นอย่างงั้นหรือ”

   เสียงพูดผ่านริมฝีปากทำเอาอัษฎาตกใจจนแทบกลิ้งตกเตียง ยังดีที่มีแขนแกร่งรัดร่างไว้ได้ทัน

   “คุณใหญ่ตื่นนานแล้วหรือ” รู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกจับได้เช่นนี้

   “ตั้งแต่นายขยับตัวตื่นนั่นแหละ” แค่คนในอ้อมกอดขยับเพียงนิดเดียว ใหญ่ก็รู้สึกตัวตื่น แต่อยากจะดูว่า คนในอ้อมกอดนี้จะทำอย่างไรบ้าง

   “ตื่นแล้วก็ลืมตาสิ” พูดไม่ทันจบดี ดวงตาคมก็ลืมพรึบขึ้นมา คนท้าเผลอจ้องอย่างตกใจ “เอ่อ ผมไปอาบน้ำดีกว่า” ว่าแล้วก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความเร็ว

   ใหญ่ยังนอนอยู่บนเตียง มุมปากมีรอยยิ้มฉายออกมา รู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะกลิ่นหอมจากร่างผอมคล้ายกับยานอนหลับ ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมาเขานอนหลับสนิท หากเมื่อกี้อัษฎาไม่ขยับตัวละก็ เขาอาจจะยังไม่ตื่นก็ได้ ใหญ่พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงไม่อยากจะลุก จมูกโด่งหยุดสูดดมผ้าปูที่นอนที่ยังมีกลิ่นกายหอมของเจ้าตัวฝากทิ้งเอาไว้...

   ด้านคนที่เข้าห้องน้ำ อัษฎายกมือกุมหัวใจตัวเองที่เต้นระรัวยามเผลอสบตาคมคู่นั้น นัยน์ตาที่สั่นไหวมีภาพเขาอยู่ แม้จะเพียงชั่วครู่แต่ก็ทำให้รู้สึกใจเต้น อัษฎาพยายามควบคุมสติแล้วยิ้มให้กับกระจก แม้จะดูคิดไปเองสักหน่อย แต่ความรู้สึกบางอย่างบ่งบอกว่า ในไม่ช้า ใหญ่ต้องชอบเขา อย่างที่เขาชอบใหญ่ไปแล้ว

   ขาเรียวก้าวออกจากห้องน้ำหยุดกึกหน้าประตูเมื่อเจอร่างกำยำที่ถอดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ

   “ผมรู้ว่าคุณใหญ่ไม่อาย แต่ผมอายแทน”

   อัษฎาหน้าร้อนทันทีที่คนหน้าไม่อายถอดชุดออกจนหมด สภาพตอนนี้เรียกได้ว่าล่อนจ้อนเลยทีเดียว ใหญ่ทำลอยหน้าลอยตาเดินเบียดคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ และไม่ลืมก้มลงมากระซิบข้างใบหูขาวเบาๆ พร้อมขยิบทำตาเจ้าชู้ใส่

   “อย่างกับไม่เคยเห็น”

   คนยืนหน้าห้องน้ำยกมือจับแก้มร้อนสองข้างแน่นเมื่อคนอารมณ์ดีผิวปากร้องเพลงเข้าห้องน้ำไปแล้ว นี่ใหญ่ทำให้เขาหวั่นไหวเกินไป อัษฎาสูดอากาศหลายเฮือกแล้วเดินออกมาด้านนอก ทีมงานจากกรุงเทพบางคนขึ้นมาจิบชาและกาแฟหอมๆ บนเรือน บ้างก็ยังไม่ตื่น

   “ตื่นเช้าจังเลยนะครับ” อัษฎาเอ่ยทักหัวหน้าทีมงานหรือตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของรายการ ชายหนุ่มซึ่งเป็นญาติกับทัศนัยยิ้มทักทาย

   “คงชินนั่นแหละครับ งานผมมันไม่เป็นเวลา” หัวหน้าทีมบอกก่อนหัวเราะเบาๆ “ได้ยินจากแอนว่าคุณเคยทำบริษัทฟรีแลนซ์ในกรุงเทพหรือครับ”

   “ครับ” เพื่อนสาวคงไปคุยอะไรมาแน่ มิน่าถึงได้เอ่ยชวนให้ไปทำงานด้วย

   “มิน่า เมื่อวานถึงช่วยงานได้เยอะทีเดียว แถมเก่งซะด้วย”

   “ไม่หรอกครับ ผมแค่อยากให้งานออกมาดีมากกว่า”

   “คนเก่งมักถ่อมตัวเสมอ ผมชอบคุณนะ ถ้าอยากทำงานเมื่อไหร่ ติดต่อไปได้เลย”

   “ขอบคุณครับ”

   บทสนทนามากมายเมื่อสักครู่ ดูจะไม่เข้าหูคนที่เพิ่งเดินออกมา นอกจากประโยคเดียวที่ถูกฉายซ้ำไปมาว่า ผมชอบคุณ ใหญ่ขมวดคิ้วเตรียมเดินเข้าไปหา หากถูกแม่ที่เพิ่งออกจากห้องเรียกไว้ซะก่อน หน้าหล่อบึ้งตึงจนคนเรียกแปลกใจ คุณพิกุลมองตามสายตาของลูกชายคนโตก่อนจะพยักหน้ารับรู้ถึงสาเหตุ

   “หึงหรือเรา”

         ถามออกมาทั้งๆ ที่รู้คำตอบในใจ แต่คุณพิกุลแค่อยากได้ยินคำยืนยันเท่านั้นเอง แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อคำตอบที่ออกมาจากลูกชายไม่ได้เป็นไปตามที่คาดไว้

   “เปล่าครับ”

   “งั้นหรือ”

   คุณพิกุลอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง คนบอกไม่ได้หึงแต่ตาดุนั่นเบิกโตแทบจะหลุดออกจากเบ้าอยู่หลายครั้ง แล้วดูจ้องคนไม่วางตาขนาดนี้ยังจะบอกเปล่าอีก เบื่อจริงพวกปากไม่ตรงกับใจ

   “ทำไมพวกเขายังไม่กลับอีกครับ” น้ำเสียงห้วนๆ เอ่ยขึ้น ทำไมรู้สึกขวางหูขวางตา ทั้งที่วันนี้ตื่นมาด้วยความสดชื่นแล้วแท้ๆ
 
   “ก็นี่มันเช้าอยู่ สายๆ คงออกเดินทางแล้ว จะไล่พวกเขาแล้วรึ” พยายามอย่างที่สุดแล้วในการกลั้นขำ แต่ก็ยังมีเล็ดลอดให้ได้ยิน ใหญ่รีบหันหน้ากลับมาเมื่ออัษฎาเหลือบมามอง “ท่ามากจริงพ่อคนนี้” อดไม่ได้ที่จะตีแขนลูกชายดังเพียะ คอยดูเถอะ ไม่แสดงออกอะไรไป วันไหนเขาจากไปแล้วจะรู้สึก



   มื้อเช้าวันนี้เริ่มสายทำให้ทีมงานเมืองกรุงกว่าจะขึ้นรถกลับก็เกือบบ่าย อัษฎาเดินไปช่วยเพื่อนสาวขนกระเป๋าขึ้นรถตู้ แขนเรียวกอดรัดร่างเล็กของเพื่อนด้วยความรัก

   “แล้วมาเที่ยวอีกนะ”

   “อืม แล้วอย่าลืมล่ะ ที่จองแกไว้น่ะ”

   “ไม่ลืมหรอกน่า”

   คำพูดหยอกล้อดูมีลับลมคมในจนคนที่ยืนใกล้อยากจะรู้ เมื่อรถตู้สองคันวิ่งลับตาไป ใหญ่ก็รีบประชิดตัวอัษฎาทันที

   “นัดอะไรกัน”

   อัษฎายืนยิ้มให้กับท้ายรถที่แม้จะลับตาไปแล้ว ก่อนจะหันหน้ามาหาคนที่ถามด้วยใบหน้าใคร่รู้

   “ก็แค่...”

   “พี่ใหญ่ คุณอรเธออยากคุยกับพี่ใหญ่แน่ะ”

   กำลังจะได้เรื่องอยู่แล้วเชียว หากน้องชายไม่มาขัดซะก่อน ใหญ่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะแล้วดึงโทรศัพท์จากเล็กมารับช่วงต่อด้วยหน้าตาบูดบึ้งราวกับกินยาขม ส่วนคนไม่รู้เรื่องอะไรก็ทำหน้ามึนงงที่ถูกโมโห

   “ผมมาขัดอะไรหรือเปล่า”

   “เปล่าครับ” อัษฎาหัวเราะให้กับท่าทางของเล็ก “เอ่อใช่ คุณแคททักข้อความผมมาด้วย” คำบอกเล่าของพี่สะใภ้ทำเอาเล็กตัวชาวาบ ก่อนจะใจเต้นเพราะอยากรู้ว่าติดต่ออะไรมา “เธออยากพบผมเพราะมีเรื่องอยากจะคุย คุณเล็กไปกับผมไหมครับ”

   “เธอจะได้หนีหน้าอีกน่ะสิ” ใช่จะไม่เคยแอบไปพบ แต่ทุกครั้งอดีตภรรยามักจะหนีหายไปทุกที แม้แต่โทรศัพท์ก็ยังไม่รับ

   “ผมเจ้าแผนการนะครับ” บอกพร้อมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นหน้าหล่อเหลาไม่แพ้พี่ชายสลดลง

   “วันนี้หรือครับ” เล็กมีท่าทีกังวล แต่ก็อยากจะคุยอีกสักครั้ง ผ่านมาเกือบปีแล้วที่ไม่เคยเจอหน้า มีแค่การโทรคุยไม่กี่ครั้งกับเรื่องอยากได้ลูกชายไปเลี้ยง

   “ครับ ออกสักบ่ายๆ หรือคุณเล็กจะไม่อยากไป ผมจะได้...”

   “ไปครับไป งั้นเดี๋ยวผมไปจัดการเอกสารก่อน อย่าเพิ่งรีบไปก่อนนะครับ”

   ท่าทางหงอยเหงาคราแรกหายวับไปทันตา เล็กยิ้มแย้มก่อนรีบวิ่งไปทำงานที่คั่งค้าง ตอนแรกที่อัษฎาได้รับข้อความก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน เคยภาวนาให้หญิงสาวติดต่อมา และเธอก็ติดต่อมาจริงๆ การช่วยให้คนรักสมหวังจะมีบุญหนุนนำให้เราเจอคนที่รักโดยเร็ว นี่คือคำทำนายที่ถูกทายทักสมัยยังเป็นนักศึกษา ครั้งนั้นถูกเพื่อนลากไปแท้ๆ เลยมีโอกาสได้สัมผัส และไม่เคยคิดเลยว่า ผ่านมาไม่ถึงห้าปีที่สิ่งถูกทักจะเกิดขึ้น

   คำทำนายที่ว่า คนรักจริงๆ จะไม่ต้องไขว่คว้า เขาจะมาเองตามดวงชะตาที่เคยบนบานร่วมกันแต่ชาติปางก่อน ทั้งที่แฟนคนแรกก็ไม่ต้องไขว่คว้าและคิดว่าใช่คู่ แต่สุดท้ายก็มีอันต้องจากลาเพราะความมักง่ายไม่รู้จักพอ

   อัษฎาเลือกลงไปทำงานในไร่เพื่อฆ่าเวลารอ อีกทั้งตอนนี้ในสมองยังมีคำถามมากมายที่จะใช้ถามหญิงสาวว่าเหตุใดกันแน่ที่เธอเลือกที่จะทิ้งทุกอย่างไป

   ดอกไม้ในไร่ยังบานสะพรั่งสวยสดเช่นเคย คนงานก็ยังคงตั้งใจทำงานไม่มีอู้ให้เห็น สมแล้วที่ลูกเจี๊ยบว่า คนงานที่นี่ทุกคนรักเจ้านาย รักไร่ เป็นความรักที่น่าชื่นชมซะจริงๆ

   “คุณอัดอย่าทำให้คุณใหญ่อารมณ์แปรปรวนสิครับ” ระหว่างตรวจดูขนาดดอกดาวเรือง คนงานหนุ่มผิวดำเอ่ยออกมา ซึ่งคนอื่นๆ ต่างก็พากันเห็นด้วย ที่จริงหลังจากแต่งงานกับใหญ่ คนงานจะเรียกอัษฎาว่าคุณนาย แต่เจ้าตัวยืนยันว่าห้ามเรียก ทุกคนเลยเรียกคุณอัดแทน ซึ่งน่าจะดีกว่าเป็นไหนๆ

   “ผมเนี่ยนะ ทำให้คุณใหญ่อารมณ์แปรปรวน” คนถูกกล่าวหาขมวดคิ้วมุ่น

   “ครับ บางวันก็อารมณ์ดีจนพวกผมแปลกใจ บางวันก็โมโหร้ายจนไม่อยากจะเข้าใกล้”

   “พวกเราไม่เคยเห็นคุณใหญ่เป็นแบบนี้มาก่อนจริงๆ”

   “ใช่ๆ”

   “ขนาดตอนคุณนายคนแรกเสีย คุณใหญ่ยังไม่โมโหร้ายขนาดนี้”

   ประโยคหลังน่าจะเข้าหูสุด อัษฎากระพริบตาปริบๆ แล้วถามกลับว่าจริงหรือ ซึ่งทุกคนลงความเห็นแบบเดียวกับคนที่ตอบ

   “ตอนนั้นคุณใหญ่จะสุขุม นิ่งเงียบ ไม่โวยวาย หากไม่พอใจจะใช้สายตาด่าเอา พวกผมพากันหวาดผวากันหมด แต่ตอนนี้ คุณใหญ่กำลังเปลี่ยนไป” แล้วเสียงหัวเราะก็มาจากทั่วสารทิศ อัษฎาเพิ่งรู้ว่าตอนนี้คนงานหลายคนมายืนรวมอยู่ที่เขากันหมด

   “งั้นหรือ”

   เสียงนิ่งๆ ดังมาจากด้านหลัง เพียงแค่นั้นบรรดาผึ้งงานทั้งหลายต่างแตกฮือไปคนละทิศละทาง จะมีก็แต่ร่างผอมที่ยังยืนหันหลังให้ อัษฎาหลับตาแน่นปากก็ขยับสบถอยู่ตลอด

   “คุณใหญ่” คนที่ยืนหันหลังค่อยๆ หันกลับไปมองพร้อมรอยยิ้มหวาน แต่พอเจอใบหน้าบึ้งตึงก็รีบหุบยิ้มทันที

   “งานไม่มีทำหรือไง มาชวนคนงานอู้งานน่ะ” น้ำเสียงนิ่งซะจนใจแป้ว

   “มีครับ กำลังตรวจขนาดดอกตามที่คุณใหญ่บอกนี่ไง”
 
   “แต่ที่ฉันเห็นกำลังคุยกันอยู่ไม่ใช่หรือ” ดวงตาคมจ้องปุ๊บ อัษฎาก็รีบเดินไปตามร่องของแปลงทันที “มีหนีนะ”

   ใหญ่เดินแยกไปอีกฝั่ง สายตาตวัดมองคนงานที่หมายหัวด้วยสายตาไว้แล้วว่าแอบมาคุยกับคนของเขา ไม่ใช่โมโหหรอก แต่ไม่ชอบใจ แม้พยายามคิดว่า ทำไมช่วงนี้ถึงรู้สึกแบบนี้บ่อยยามมีคนมาคุยกับอัษฎา แต่ก็ยังหาคำตอบอื่นให้กับตัวเองไม่ได้ นอกจากกำลังหึงแบบที่แม่และน้องชายว่า

   ระหว่างที่ใหญ่กำลังเช็คงาน เขาเห็นหลังบางที่คุ้นเคยเดินลิ่วๆ ไปที่ออฟฟิต พอดูนาฬิกามันเพิ่งจะบ่ายโมงครึ่ง จะว่าหิวก็ไม่ใช่ เพราะเพิ่งกินข้าวเที่ยงก่อนมาที่ไร่ หรือมีเรื่องอะไรกับเจ้าเล็กที่เขายังไม่รู้ พอคิดเช่นนั้น ใหญ่ก็รีบฝากงานกับหัวหน้าคนงานแล้วเดินตามไปที่ออฟฟิต

   ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป เห็นน้องชายกำลังเก็บของ คล้ายกับจะเตรียมตัวออกไปที่ไหนสักที่ ส่วนอัษฎาถือกระเป๋ารออยู่แล้ว

   “จะไปไหนกัน”

   พอเจอคำถาม คนจะออกไปข้างนอกหันมองหน้ากันนิดๆ ก่อนจะเป็นอัษฎาที่ตอบแทน

   “ไปตัวเมืองครับ พอดีผมอยากได้ของใช้นิดหน่อย” ไม่ได้ตั้งใจปิดบัง แต่หากไปหลายคนกลัวเรื่องราวมันจะบานปลาย
 
   “งั้นหรือ”




       คล้ายกับเข้าใจ แต่ไม่เลย เมื่อภายในรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวมีบุคคลหน้ามุ่ยนั่งกอดอกอยู่ด้านหลัง ใหญ่เหล่ตามองน้องชายกับอัษฎาที่นั่งหน้าคู่กันอย่างขัดเคือง เพราะทั้งคู่ไม่ยอมเล่าเรื่องให้ฟังเลยต้องมาด้วย ที่จริงก็ไม่ได้อยากมาสักเท่าไหร่ เพียงแค่ไม่ชอบใจที่ถูกปิดบัง

   รถคันใหญ่เลี้ยวจอดหน้าร้านกาแฟตามที่นัดไว้ อัษฎาเหลือบตามองคนด้านหลังก่อนพยักหน้าให้เล็กนิดๆ พอมือขาวยื่นเปิดประตู ด้านหลังก็รีบเปิดตาม หากถูกน้องชายเอี้ยวตัวดึงแขนไว้ แม้จะมีแรงยื้อยุดแต่เล็กก็ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อย

   “อะไรของแกวะ” ใหญ่ถามเสียงเขียว เขาตั้งใจจะตามอัษฎาไป เผื่อในร้านนั้นจะมีคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้ารออยู่ อีกอย่างตอนนี้ร่างผอมนั้นเดินเข้าร้านกาแฟไปแล้ว จะตามยังไงให้ดูปกติที่สุดละนี่

   “อีกเดี๋ยวค่อยเข้าไปนะ ผมขอล่ะ” เมื่อน้องชายทำหน้าร้องขออย่างจริงจัง ใหญ่จึงชะงักแล้วดึงประตูรถกลับเข้าที่ ก่อนยกแขนขึ้นกอดอกหันหน้ามองเข้าร้านตรงหน้าอย่างกังวล ขออย่าให้คนที่รอเป็นคนที่คิดไว้เถอะ ถ้าใช่พ่อจะพังร้านให้ดู

   ด้านอัษฎาที่เดินเข้าร้านกาแฟมาด้านใน ดวงตากลมกวาดมองทั่วร้านจนเจอแขนขาวๆ ยื่นสูงเพื่อเรียก หญิงสาวสวมชุดเดรสสีขาวดูสวยใส ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางโทนอ่อน ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงเหยียดยิ้มเมื่อเจอคนที่ตั้งใจเรียก

   “ขอโทษนะคะที่เรียกคุณอัดออกมา” หญิงสาวเอ่ยด้วยความเกรงใจ

   “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ คุณแคทมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า” ไม่อยากจะเสียเวลา คนเพิ่งมารีบเข้าประเด็นทันที

   “แคทก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี” ท่าทางสับสนแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน “อยู่ที่นี่แคทรู้จักกับคุณอัดแค่คนเดียว แคทเลยอยากจะปรึกษา คือตอนนี้แคทอึดอัดมาก รู้สึกว่าตัวเองงี่เง่ามาก ที่แคททำทุกอย่างพังเพราะอารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง”

   “ใจเย็นๆ นะครับ” อัษฎายื่นมือไปจับเพื่อให้คนระบายอารมณ์ใจเย็นลง 

   “แคทรู้ว่าแคทโง่จริงๆ” หญิงพยายามก้มหน้าซ่อนน้ำตาที่รื้นหน่วยตารอเวลาไหล

   “เรื่องคุณเล็กใช่หรือเปล่าครับ” อัษฎาลองถามออกไปดู

   ทันทีที่ได้ยินชื่ออดีตสามี หญิงสาวเบิกตาโตไม่คิดว่าอัษฎาจะรู้เรื่อง เพราะเธอไม่เคยปริปากบอก แม้จะได้ยินว่าชายหนุ่มตรงหน้าพักที่ไหนก็เถอะ แต่เธอไม่เคยบอกว่ารู้จักเล็ก

   “คุณอัดรู้เรื่องด้วยหรือคะ” น้ำเสียงสั่นเครือทันทีเมื่อคนตรงหน้าพยักหน้าลง “เล็ก...เล่าเรื่องให้คุณฟังหมดหรือเปล่าคะ”
 
   “ไม่เลยครับ คุณเล็กไม่ยอมเล่าอะไรออกมาเลย”

   หญิงสาวจุดรอยยิ้มขึ้นมาบางๆ เมื่อนึกถึงหน้าอดีตสามีเก่าที่ยังรักมาก

   “เล็กก็เป็นคนแบบแหละค่ะ เขาชอบเก็บทุกอย่างไว้กับตัว ไม่นานแคทว่า คงจะเป็นบ้าแน่นอน”

   “ขอบคุณนะ ที่ยังจำได้”

   ไม่ใช่เสียงจากคนตรงหน้า เพราะเสียงนี้แคทจำได้ดี และจำมันฝังอยู่ในหัวใจ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่เดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ดวงตารีมองตรงมาที่เธออยู่แล้ว

   “เล็ก...” เสียงเรียกชื่อเบาหวิวจากปากสวย

   “ขอผมนั่งด้วยคนนะ” เล็กเอ่ยออกมา แม้พี่ชายของเขาจะนั่งลงไปแล้วก็ตาม

   ไร้เสียงตอบรับ หญิงสาวก้มหน้าซ่อนความรู้สึกยามเมื่อพบพานอีกครั้ง เล็กมองอดีตภรรยาด้วยความรักและคิดถึง ความรู้สึกที่ลึกซึ้งทำให้คนที่ดูจะเป็นตัวขัดต้องรีบลุกออกไป อัษฎาดึงแขนใหญ่ให้ลุกออกมาด้วย

   “จะไปไหน ยังไม่ได้สั่งกาแฟเลยนะ” ใหญ่ยื้อยุดร่างตัวเองเมื่ออยู่หน้าเคาน์เตอร์ เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากบริกรสาวที่ยืนไม่ไกล

   “เรื่องมากจริงคุณใหญ่เนี่ย” อัษฎาแสร้งทำเป็นบ่น แขนสองข้างยกขึ้นกอดอกรอคนเรื่องมากสั่งกาแฟแก้ง่วง ในระหว่างนั้นดวงตากลมชะเง้อมองเหตุการณ์ด้านใน ก็อยากอยู่ฟังด้วยหรอกนะ แต่ก็กลัวจะไม่เหมาะ และตอนนี้เล็กนั่งแทนที่เขาแล้ว ดูเหมือนว่าทั้งสองยังไม่ยอมที่จะพูดจากัน ขออย่าล่มทีเถิด

   “จ่ายเงินให้หน่อย” แรงสะกิดที่หัวไหล่ทำให้คนที่ชะเง้อคอมองต้องหันกลับมา “นายรีบเองนะ ฉันเลยหยิบกระเป๋าเงินมา” ตัวผิดแท้ๆ ยังมีหน้ามาโทษคนอื่นเขา อัษฎามุ่ยหน้าแต่ก็ควักเงินมาจ่ายให้

   เสียงกระดิ่งประตูดังหลังจากมือหนาปิดประตู อัษฎาหรี่ตามองเพราะแสงแดดช่างจ้าเหลือเกิน ไม่รู้คนด้านในจะคุยกันนานหรือเปล่า และไม่รู้ว่าจะไปรอที่ไหนดีด้วยซ้ำ

   “ตรงนั้นมีตลาดนัด” ใหญ่ชี้นิ้วไปอีกฟากฝั่งของถนน มือที่ถือกาแฟยื่นหลอดดูดไปตรงกับปากแดง อัษฎาเหลือบตามองนิดๆ ก่อนก้มดูดชิมความอร่อย รสชาติที่สัมผัสคือความขมจนต้องเบ้ปาก “ไม่ชอบหรือ”

        “ผมชอบลาเต้มากกว่า” ตอบโดยไม่สนใจคนข้างๆ

   “แล้วฉันจะจำไว้”  ประโยคเรียบๆ แต่ทำเอาเขิน พอเหลือบตามองคนพูดก็แสร้งทำเป็นดูดกาแฟไม่สนใจ 

   รถราวิ่งกันขวักไขว่ อัษฎามองมือตัวเองที่ถูกมือหนายื่นมาจับแน่น เจ้าของมือจะรู้ไหมว่าตอนนี้หัวใจเขาเต้นเร็วแค่ไหน เมื่อรถว่าง ใหญ่รีบดึงร่างผอมให้วิ่งตาม พอข้ามฝั่งมาภาพที่คิดไว้ก็มลายหายสิ้น รู้สึกผิดหวังนิดๆ เมื่อมีร้านเปิดแค่ไม่กี่ร้าน   
“สงสัยยังเช้าอยู่ ต้องรอค่ำๆ ร้านถึงจะเยอะ”

   ถึงแม้จะมีเพียงไม่กี่ร้านที่เปิด แต่ก็มีของที่ทำให้ถูกใจ นั่นคือข้าวโพดคลุกเนย ความหอมของเนยและข้าวโพดยั่วยวนชวนท้องร้อง อัษฎาเดินนำหน้าไปที่ร้านโดยจูงมือใหญ่ไปด้วย กว่าจะรู้ตัวว่ามือจับกันอยู่ก็ตอนที่คนขายยื่นข้าวโพดมาให้ อัษฎาแก้เขินรีบตักข้าวโพดเข้าปากคำใหญ่ แต่เพราะมันเพิ่งลงจากเตาเลยทำให้ลวกปาก

   “ร้อนๆ”

   ใหญ่หัวเราะเบาๆ แต่พอเห็นว่าอัษฎาเจ็บจริงใบหน้าเข้มก็ขมวดคิ้ว ก่อนมือกร้านจะจับคางให้เงยขึ้น แล้วให้รีบอ้าปากดู ถึงแม้ตอนนี้คนจะยังไม่ค่อยเยอะ แต่การที่ผู้ชายสองคนยืนเป็นห่วงกันเช่นนี้ก็เป็นจุดสนใจมากทีเดียว พออัษฎาเหลือบเห็นผู้คนมองมาก็รีบงับปากแล้วดึงใหญ่ให้กลับไปร้านกาแฟดังเก่า

   “ทำไม อายหรือ” ถามออกมาด้วยความไม่พอใจนิดๆ 

   “ไม่ได้อาย แต่กลัวคนจะมองคุณใหญ่ไม่ดีต่างหาก” อัษฎาว่าจากใจ เพราะสายตาพวกนั้นเขาเจอมาจนชิน จนไม่รู้สึกอะไรด้วยซ้ำ

   “เป็นห่วงฉันหรือ” อยู่ๆ ก็อยากยิ้มออกมา ใหญ่พยายามฝืนตัวเองไม่ให้ยิ้ม แต่มันก็หลุดออกมาบางที

   ท่าทางตลกนั่นเรียกเสียงหัวเราะจากอัษฎาได้เป็นอย่างดี

   “จะขำก็ขำสิ คุณใหญ่จะเก๊กทำไม มิน่าคุณเล็กถึงบอกว่าพี่ชายฟอร์มจัด ท่ามาก...”

   “ท่ายากก็มีนะ”

   “คุณใหญ่” พอถูกกระซิบแบบนั้น หน้าขาวก็ซับสีแดงจางๆ “ทะลึ่งจริงๆ”

   “พูดกับเมียทะลึ่งตรงไหน” ยังไม่ยอมหยุด ใหญ่พูดยั่วเย้า แถมยังตีก้นงอนเต็มมือ

   “ไม่พูดด้วยแล้ว”

   “เขินเหรอ นี่”

   คนเดินนำหน้าปั้นหน้าบูดกลบความเขินอาย ส่วนคนเดินตามเอาแต่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี นี่ชีวิตคู่เริ่มเข้าที่เข้าทางหรือเปล่า พอคิดเช่นนี้คนหัวเราะก็หัวเราะหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก ความสุขอยู่แค่เอื้อมจริงๆ


...TBC


วันนี้ลุงมาพร้อมความน่ารักแล้วค่าาาา  :-[


มาทุกวัน ลงทุกวัน มาจนเบื่อกันไปข้างนึง  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-12-2016 21:20:02
 :L2: :L1: :pig4:

เลิฟ เลิฟ รอทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-12-2016 21:22:35
ตามอัดแจเลย
พอได้คุยกับอัด อารมณ์ดีนะคุณใหญ่
ทำเก่งอีก "ท่ายากก็มีนะ " อะจ๊ากกกก :z1: :z1: :z1:
แสดงเลย แสดงกับอัดสิ คุณใหญ่คนเก่ง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-12-2016 21:23:52
เมื่อไหร่คุณใหญ่จะเลิกปากหนัก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIMJOO ที่ 16-12-2016 21:27:06
ทะลึ่งจริงๆเลย :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-12-2016 21:29:29
น่ารักเนอะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 16-12-2016 21:29:49
ลุงเปลี่ยนไปปป ลุงน่ารักขึ้นน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: toeyy ที่ 16-12-2016 21:39:42
รอทุกวัน  มาทุกวัน  ไม่มีเบื่อแน่นอนค่าาา :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 16-12-2016 21:42:11
ตอนนี้ตาลุงแกมีความทะลึ่งตึงตัง 5555555
แต่ยังงงงงงงงงงคงความฟอร์มจัดไว้เหมือนเดิม
 คนเชียร์อย่างเราก็ได้แต่เซ็งลุงแกไป
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 16-12-2016 21:52:12
ลงทุกวันเลยค่ะ ชอบบบบบ  :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: jpeemka ที่ 16-12-2016 21:54:21
ลุงน่ารักขึ้นทุกวัน ต้องยอมๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 16-12-2016 21:57:13
ถ้าปากตรงกับใจเมื่อไหร่น้องอัดเราแย่แน่ๆคุณใหญ่ดูหื่นซะขนาดนี้ :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 16-12-2016 22:03:30
อั้ยยะลุงมีท่ายากด้วย ท่าไหนอะ ช่วยแสดงให้ดูหน่อยสิ :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 16-12-2016 22:06:43
งื้ออออออ ดีละเกินนนนน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-12-2016 22:12:56
น่ารัก ๆ คุณใหญ่น่ารัก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 16-12-2016 22:28:17
โอ้ย ลุง ออกอาการซะขนาดนี้ก็รับๆมันไปเหอะ เก็กอยู่ได้ ท่ายาก เอ้ย ท่ามากจริงๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 16-12-2016 22:28:44
 :o8: ไม่เบื่อค่าาา มาทุกวันเลยๆชอบ555555555
คุณใหญ่ก็คือคุณใหญ่จริงๆ ปากหนัก ท่ามากไม่ยอมลดเลย
เป็นตาแก่ขี้ซึน  :oo1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 16-12-2016 22:36:25
ใหญ่ อัด หวานกันแล้ว  เล็กกับแคท ก็น่าจะคุยกันได้ดี
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 16-12-2016 22:51:16
ไม่เบื่อหรอกนั่งรออ่านทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-12-2016 23:10:52
ถ้าพี่ใหญ่เลิกปากแข็งจะน่ารักกว่านี้มากกกกกกกกกกค่ะ

ลุ้นให้คู่พี่เล็กกลับมาดีกันเหมือนเดิมซะที
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 16-12-2016 23:14:07
ความสุขน่ะมีอยู่รอบตัว แกก็ลองวางลงบ้างสิทิฐิ ฟอร์มจัด ท่ามากน่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 15 << [P.10] // [15/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 16-12-2016 23:23:10
ฉันเป็นของนายแล้ว เหยยยยย ยอมรับแล้วในระดับนึงสินะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 16-12-2016 23:32:43
มาลงทุกวันจริงๆนะคะ ไม่เบื่อค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 16-12-2016 23:46:56
แหม..... ปากเก่งนะคุณใหญ่
โชว์ท่ายากให้ดูสักทีสิ 55555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 17-12-2016 00:04:29
ลุงน่ารักเนอะ เขินนน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 17-12-2016 01:05:59
คุณใหญ่คะ ยอมรับซะเถอะค่ะว่าตัวเองหนะขี้หึง  :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 17-12-2016 01:15:48
ความสุขของลูกทั้งสองของคุณนายพิกุลเริ่มกลับมาแล้วนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 17-12-2016 01:22:49
ลุงเริ่มน่ารักขึ้นแต่ก็ยังปากแข็งอยู่ดีนะ

มาทุกวันดีแล้วไม่เคยเบื่อเลย วันไหนไม่มาเราหงอยเลยนะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-12-2016 01:25:03
หวังว่าเรื่องของแคทกับเล็ก จะจบลงด้วยดีนะครับ
ส่วนคู่หลักก็ค่อยเป็นค่อยไป ศึกษากัน ดูแลกันดีๆ อย่าตีกันบ่อย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-12-2016 09:34:37
ขุ่นใหญ่น่าเอ็นดุจิงจิ๊งงง
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 17-12-2016 13:05:16
ทุกวันนี้ก็พูดคำว่าเมียได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยนะลุง แน้ะๆ
มาบ่อยๆมาทุกวันดีแล้วค่ะ ไม่เบื่อ ชอบบบบบ รักกกกกกกก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 17-12-2016 15:46:50
ลุงก็มีมุมน่ารักเยอะ555555555555

ไม่เบื่อมาทุกวันเลยคิดถึงงงงงงง :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Asmknrt ที่ 17-12-2016 16:40:05
โอ้ยยย ชอบใจ :o8:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 17-12-2016 21:10:42
น่าเห็นใจคนฟอร์มเยอะนะคะ กว่าจะกระเทาะฟอร์มออก แต่ตอนนี้คุณใหญ่ก็ดีขึ้นมากแล้ว  :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 18-12-2016 01:57:22
คุณใหญ่น่ารักขึ้นนะเนี่ย
แต่เสียดายปากแข็งไปหน่อย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mam79 ที่ 18-12-2016 15:28:50
คุณใหญ่น่ารักขึ้นเยอะเลยยยย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 16 << [P.10] // [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-12-2016 19:48:33
 :katai5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 18-12-2016 20:10:51
17




        “สบายดีไหม” เสียงทุ้มทักทายออกมาหลังจากเงียบกันอยู่นาน นัยน์ตาสีน้ำตาลสั่นไหว ความรู้สึกโหยหาโพยพุ่งออกมาจนแทบอยากจะร้องไห้ “นานแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน”

   “ขอโทษนะเล็ก” ประโยคสั่นเครือออกมาจากริมฝีปากได้รูป ดวงหน้าสวยก้มแทบชิดอก

   “เล็กสิต้องขอโทษ เล็กผิดเองที่ดูแลแคทไม่ดีอย่างที่เคยสัญญากับพ่อและแม่ของแคท”

   เมื่อสมัยทั้งสองยังเป็นนักศึกษา แคทมีฐานะทางบ้านที่ร่ำรวย ต่างจากเล็กที่แม้จะเป็นลูกชายเจ้าของไร่ดอกไม้ทางเหนือ แต่สถานการณ์ตอนนั้น ไร่ของเขายังไม่ได้เจริญเติบโต เป็นเพียงดอกดาวเรืองไม่กี่ไร่ แต่หญิงสาวก็มองข้ามเรื่องนี้ไป จนความรักที่ผ่านมานับสี่ปีเริ่มสุกงอม เล็กให้แม่ไปสู่ขอหญิงสาว ทางบ้านฝ่ายหญิงตั้งแง่ด้วยฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวย แต่แคทก็ดึงดันว่าจะแต่งงานด้วย พ่อกับแม่เลยตัดหางไปเพราะแคทไม่ยอมรับหมั้นชายที่เหมาะสมที่พวกท่านหาให้

   การแต่งงานผ่านไปอย่างด้วยดี จนมีพยานรักที่น่าเอ็นดูลืมตาดูโลก แต่ด้วยความที่ไร่กำลังเริ่มขยับขยาย ทุกคนจึงต้องช่วยกันทำงาน เล็กเริ่มไม่มีเวลาสนใจอะไรนอกจากงาน เพราะความเหนื่อยทำให้เล็กและแคทเริ่มทะเลาะกันมากขึ้น ด้วยความเป็นลูกคุณหนูมาตั้งแต่เด็ก หญิงสาวเริ่มเบื่อหน่ายการมีชีวิตซ้ำๆ ซากๆ ตื่นเช้าไปทำงาน ตกเย็นก็เข้านอน ไม่มีการไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหน วันๆ มัวแต่ทำงาน พอปัญหาเริ่มสะสมมากๆ เข้า ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แคทขอเลิกกับเล็กทันทีและหอบข้าวของออกมาจากไร่ แม้อยากจะพาลูกชายมาด้วย แต่คุณพิกุลไม่ยอมให้มาจึงออกไปเพียงลำพัง

   เวลาผ่านไป แคทกลับมาใช้ชีวิตเป็นลูกคุณหนู ดื่มเที่ยวอย่างสมัยก่อน จนความเหงาเริ่มค่อยๆ คืบคลานมาหา หญิงสาวนอนร้องไห้แทบทุกคืนเมื่อหวนนึกถึงคนรักและลูกชาย ดังนั้นเธอจึงอยากได้ลูกชายมาเลี้ยงเองเพื่อบรรเทาความเหงาที่ต้องอาศัยอยู่เพียงลำพัง

   ส่วนเล็ก หลังจากภรรยาหนีไปก็เริ่มไม่ทำการทำงาน วันๆ ดื่มแต่เหล้าเมามายจนพี่ชายทนไม่ไหวลากไปทิ้งน้ำตกและซัดกันนัวเนีย เล็กนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายอาทิตย์กว่าจะกลับมาหายเป็นปกติและมาคิดได้ระหว่างป่วยว่าเขายังมีแม่ มีพี่ชายและยังมีลูกที่น่ารัก เล็กเลยกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง แม้จะยังเหม่อลอยไปบ้างแต่ก็ใช้ชีวิตได้เป็นปกติ

   มาตอนนี้ เล็กเพิ่งรู้ว่า การยิ้มแย้มของตัวเองในทุกๆ วันมันช่างซ่อนรอยความเศร้า เคยหาใครมาแทนที่แต่ไม่มีใครแทรกเข้ามาในใจได้ เพราะเล็กยังรักแคท เล็กยังรักผู้หญิงคนแรกที่เขารัก และยังรักมากแม้จะห่างกันไปนานเหลือเกิน...จนตอนนี้ คนที่รักนั่งอยู่ตรงหน้าแล้ว

   “เล็กขอโทษ”

   “เล็กไม่ผิดหรอก เพราะเล็กดูแลแคทดีทุกอย่าง แคทผิดเองที่ทำตัวงี่เง่า เอาแต่ใจ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นทุกคนกำลังตั้งใจทำงาน แต่แคทกลับทำแต่เรื่องเดือดร้อน แม่ของเล็ก พี่ของเล็กคงจะเกลียดแคท”

   “ไม่มีใครเกลียดแคทเลยนะ อย่าโทษตัวเองสิ ที่จริงเล็กก็ผิดด้วยที่ไม่ได้สนใจแคทกับลูกเลย”

   “ก็เล็กต้องทำงานนี่นา”

   “แคทก็เลี้ยงลูกเหมือนกันนี่นา”

   ต่างคนต่างโทษตัวเองว่าผิด พอเงยหน้าสบตากันก็พาลหัวเราะออกมา ความรู้สึกมากมายที่น่าอึดอัดคล้ายปลดล็อกไปเปราะหนึ่ง แม้จะยังมีปัญหายิบย่อยอะไรอีกมากที่ต้องคุยกัน

   “คุณอัดเป็นใครหรือ ถึงได้พาทั้งเล็กแล้วก็พี่ใหญ่มาพร้อมกันแบบนี้ได้” ตอนแรกก็ตกใจอยู่ว่าทำไมทั้งเล็กกับพี่ชายถึงมาด้วย ที่สำคัญ ภาพตอนที่อัษฎาดึงแขนใหญ่ออกไปช่างน่าตกใจยิ่งนัก อย่างพี่ใหญ่น่ะหรือจะยอมให้ใครมาฉุดกระชากลากถูออกไปแบบนั้น เล็กหัวเราะออกมาก่อนจะยื่นหน้าไปกระซิบ

   “พี่สะใภ้ผมเอง”

   “หา? เล็กพูดจริงหรือ” หญิงสาวเบิกตาโตอย่างตกใจ หากเป็นเรื่องล้อเล่นก็ดูจะมากไปสักหน่อย

   “พูดจริงๆ” เล็กยืนยันหนักแน่น แล้วพยักหน้าเมื่อแคททำท่าคล้ายว่านึกอะไรออก

   “อ๋า ใช่แล้ว ไม่น่าเชื่อเลยนะ ตอนแคทฟังคุณแม่เล่ายังไม่เชื่อเลย” คำบอกเล่าของคุรพิกุลแวบเข้ามา ซึ่งทุกคนในตอนนั้นรู้เรื่องคำทำนายหมด แม้แต่ภรรยาคนก่อนของใหญ่ก็ได้รับรู้ แต่เรื่องราวมันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจ อีกอย่างไร่ก็กำลังขยายเรื่องพวกนี้เลยไม่มีใครใส่ใจ และไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ

   “ไม่มีใครเชื่อเหมือนกัน แต่ก็ต้องขอบคุณอัดเขาที่ยอมแต่งงานกับพี่ใหญ่” เล็กว่าขำๆ พลอยทำอดีตภรรยาขำไปด้วย

   “พี่ใหญ่เป็นคนอบอุ่นจะตาย แคทยังอิจฉาพี่สะใภ้เลย” ใหญ่เมื่อสมัยก่อนเป็นผู้ชายสุขุม อบอุ่นและใจดี

   “ตอนนี้แคทต้องคิดใหม่แล้วล่ะ” หญิงสาวเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ

   “แต่ก็เหมาะกันดีนะ คุณอัดเป็นคนน่ารัก”

   “แล้วเราล่ะ” สุดท้ายก็ต้องรีบเข้าเรื่อง เล็กมองอดีตภรรยาด้วยแววตาจริงจัง “ถ้าเราจะกลับมาเริ่มต้นกันใหม่”

   หญิงสาวตรงหน้าเม้มริมฝีปากแน่น คิ้วสวยขมวดมุ่นเมื่อกำลังคิดหนัก ไม่ใช่ไม่อยาก แต่กลัวจะทำผิดพลาดอีก

   “แคท...”

   “ตอนนี้ไม่ต้องตอบก็ได้ แค่เรากลับมาคุยกันอีกครั้งเล็กก็ดีใจที่สุดแล้ว” ไม่อยากเร่งรัด อีกอย่างก็กลัวคำตอบที่จะได้ยิน เล็กรีบตัดบทแล้วชิมเค้กที่สั่งมา



   ภาพสองหนุ่มสาวหัวเราะกันอย่างมีความสุขก็พลอยทำให้คนที่แอบมองมีความสุขไปด้วย อัษฎายิ้มออกมาด้วยความดีใจ นี่เขากลายเป็นคิวปิดแล้วหรือนี่ แถมน่าจะได้ผลซะด้วย

   “หัวเราะอะไร” เสียงกระซิบถามชิดใบหูทำให้หันไปมอง ไม่รู้เพราะใหญ่จงใจยื่นหน้ามาแล้วไม่ยอมถอยหรือเปล่าเลยทำให้ปากแดงแตะกับแก้มคนกระซิบ อัษฎาผงะถอยหลังจนเกือบล้ม ยังดีที่ขาหลังก้าวทัน “อยากหอมแก้มก็ไม่บอก”

   “วันนี้คุณใหญ่กินกัญชามาหรือเปล่า” นั่นเพราะวันนี้ใหญ่ดูอารมณ์ดีเกินไป

   “กินแต่กาแฟเนี่ย หรือกาแฟมันใส่กัญชาวะ” พูดจบก็หัวเราะออกมา อัษฎารีบเดินหนีทันที ตอนนี้รู้สึกปวดหัวกับคนอารมณ์แปรปรวนซะเหลือเกิน









   บนเรือนชาน เล็กเดินยิ้มอารมณ์ดีจนคุณพิกลที่รอลุ้นอยู่ชักอยากรู้เรื่องราวโดยเร็ว เพราะลูกชายคนโตโทรไปบอกเลยรีบมาที่ไร่ ทั้งที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไร

   “เป็นไงบ้างเล็ก เมียเราว่าไงบ้าง” เล็กยิ้มให้แม่นิดๆ ก่อนส่ายหน้า

   “ยังไม่มีอะไรเลยครับ ผมให้แคทคิดดูก่อน” พอได้ยินคำตอบ คุณพิกุลพยักหน้าเห็นด้วย ก็นะ ขืนรีบร้อนไปก็ไม่มีอะไรดี “ผมดีใจที่แคทยอมคุยกับผม เธอหัวเราะเหมือนก่อนด้วย แม่ครับ เล็กดีใจ” แขนยาวรวบเอวคอดของแม่ หน้าคมแนบกับอกอย่างดีใจ

   “แม่ก็ดีใจ ต่อไปห้ามแอบกินเหล้าอีกนะ” คุณพิกุลลูบศีรษะลูกชายคนเล็กอย่างรักใคร่ แต่มิวายดุนิดๆ เมื่อในห้องมีขวดเหล้าหลายขวดตั้งอยู่ “ลูกแม่เป็นคนดี ความดีจะทำให้เรามีความสุข”

   ความรักของแม่ช่างยิ่งใหญ่นัก เล็กกอดแน่นจนคุณพิกุลโวยวายนิดๆ วันนี้เธอดูจะมีความสุขมากเมื่อเห็นลูกชายที่จมทุกข์มานานยิ้มแย้มทั้งปาก ตา และหัวใจ

   ส่วนอีกด้านของประตูห้อง อัษฎาเดินเข้าห้องน้ำเพราะปวดท้อง แต่กลับมีคนเดินตามเข้ามาด้วยทำให้ต้องยกมือกั้นสุดกำลัง
 
   “คุณใหญ่จะเข้ามาทำไม ผมปวดขี้” บอกอย่างหมดความอดทน อัษฎารู้สึกปวดท้องตั้งแต่นั่งมาในรถ เขาปล่อยให้พี่น้องนั่งคุยกัน ส่วนตัวเองนั่งกุมท้องอยู่เงียบๆ

   “ไม่ได้อาบน้ำหรือ” พูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยคล้ายกับไม่คิดอะไร แต่กลับสร้างสีแดงบนแก้มเนียนได้เด่นชัด
 
   “ยังไม่อาบ ออกไปก่อน ผมจะไม่ไหวแล้ว” แทบยกมือไหว้กว่าคนดึงดันจะยอมถอย เมื่อประตูห้องน้ำปิดสนิทจนอัษฎาต้องถอนหายใจออกมา ไม่คิดว่าใหญ่จะเปลี่ยนไปอย่างที่คนงานว่ากัน

   คนที่ไม่ได้เข้าห้องน้ำตามยิ้มออกมานิดๆ แล้วเดินออกจากห้องเจอน้องชายกำลังกอดกับแม่อยู่ ด้วยความหมั่นไส้เลยเดินไปเคาะหัวลูกลิงเกาะเอวแม่เสียงดังจนเล็กโวยวาย

   “อายุกี่ขวบวะแกน่ะ” ใหญ่ว่า มือหนาหยิบแอปเปิ้ลในตะกร้ามากัดกิน

   “สามสิบสองขวบครับ” เล็กตอบจนได้ยินเสียงหัวเราะร่วนจากคนถาม “อัดล่ะ ผมยังไม่ได้ขอบคุณเลย ถ้าไม่มีอัดคงไม่ได้เจอแคท”

   “ขี้อยู่ โอ๊ยแม่” คุณพิกุลตีเพียะเข้าแขนเมื่อได้ยินคำตอบของลูกชาย

   “ปากเรานี่นะ แล้วเลิกฟอร์มจัดแล้วหรือ แม่ละเหนื่อยแทนตาอัดเสียจริง รู้แบบนี้ให้แต่งกับตาเล็กยังดีกว่าอีก” เล็กพยักหน้าเห็นด้วย ใหญ่รีบกัดกินแอปเปิ้ลเหลือแต่แกนกลางจนแก้มตุ่ย ดวงตาคมมองค้อนมารดากับน้องชาย “ดูๆ เดี๋ยวสำลักแล้วจะขำให้”

   “แม่ต้องเห็น พี่ใหญ่พยายามลวนลามอัดด้วยนะ” เล็กรีบบอก แม้จะคิดเรื่องอดีตภรรยา แต่ก็ไม่ลืมสังเกต
 
   “นั่นเมียฉันนะเว้ย จะเรียกลวนลามได้ยังไง” พอกลืนแอปเปิ้ลคำใหญ่ก็รีบตอบออกมา แล้วเพิ่งมานึกขึ้นได้ว่าอาจถูกล่อลวงให้พูด ใหญ่รีบหันกลับจะเดินเข้าห้อง แต่อัษฎายืนเบิกตาโตหน้าห้องอยู่ก่อนแล้วและคงได้ยินชัด

   “แม่ได้ยินหรือเปล่า เรียกเมียเต็มปากเชียว อ่าวอัด” เล็กขำ แต่พอเห็นคนช่วยที่ทำให้ได้พบอดีตภรรยาก็รีบกวักมือเรียก อัษฎาเดินมาหาแต่ดวงตากลมยังจ้องคนที่เรียกเขามาเมียเต็มปาก ใหญ่พยายามหลบสายตาแต่ก็ไม่ยอมเดินไปไหน

   “คุณเล็กมีอะไรหรือเปล่าครับ”

   “ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ...พี่สะใภ้” เล็กจงใจพูดเสียงดังจนคนถูกเรียกหน้าร้อนฉ่า ยิ่งสายตาเหลือบเห็นคนไม่ยอมไปไหนแอบยิ้มอีก

   “มะ ไม่เป็นไรครับ” เขินจนพูดตะกุกตะกัก

   “เพื่อเป็นการตอบแทน วันไหนอัดทะเลาะหรือไม่อยากมองหน้าพี่ใหญ่ มาเคาะห้องผมได้ เปิดรับตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง" เล็กพูดไปวิ่งหนีพี่ชายที่ไล่เตะไป คุณพิกุลโวยวายลั่นเมื่อพี่น้องวิ่งไล่กันบนเรือน สุดท้ายก็เข้าห้องใครห้องมันเพราะแม่ถือไม้เรียวไล่หวด

   เมื่อประตูห้องปิดลง อัษฎาพยายามเดินเลี่ยงๆ ไปหยิบโทรศัพท์มาดูเหมือนเห็นแสงวาบขึ้นมา นิ้วสวยเลื่อนอ่านข้อความแล้วยิ้มออกมานิดๆ และท่าทางแบบนั้นทำให้คนที่ยืนมองหน้าบึ้ง ตั้งแต่ซื้อมือถือใหม่ชอบนักยิ้มให้มือถือเนี่ย

   “จะเล่นมือถืออีกนานไหม” น้ำเสียงหงุดหงิดติดงอนดังขึ้นมา คนที่เอาแต่สนใจมือถือหันไปมองอย่างสงสัย ยิ่งเห็นใหญ่ขมวดคิ้วมองก็ยิ่งงง

   “คุณใหญ่มีอะไรหรือครับ” ถามด้วยความสงสัยเมื่อยังเห็นใหญ่ยืนเท้าเอวมองมา

   “ก็จะอาบน้ำ” คำตอบนี้ก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าต้องการสื่ออะไร พอถูกมือใหญ่กวักเรียก อัษฎาก็สาวเท้าเข้าไปหา ก่อนจะตาโตเมื่อถูกช้อนร่างขึ้นอุ้ม “อาบน้ำ” แล้วก็ได้รู้ความหมายของการที่ไม่ยอมไปไหน

   “คุณใหญ่โด๊ฟกัญชามาแน่” แม้ปากจะว่า แต่แขนขาวก็ยกคล้องคอไว้หลวมๆ ยามถูกพาเข้าห้องน้ำ

   “โด๊ฟไม่โด๊ฟเดี๋ยวก็รู้” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เผยบนใบหน้าคนอุ้ม จนอัษฎาต้องก้มหน้างุด

   บางที...หากปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามสัญชาตญาณมันคงจะดี








   “พี่ใหญ่” เสียงเคาะห้องกับเสียงเรียก ปลุกคนที่นอนหลับสนิทให้ลืมตาขึ้นมา ใหญ่ยกมือขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิง อีกทั้งคนตัวหอมที่นอนกกกอดทั้งคืนหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ “พี่ใหญ่”

   “เออๆ” ใหญ่เดินมาเปิดประตูให้น้องชายที่ยิ้มร่ารออยู่ “อะไรของแก เฮ้ย” อยู่ๆ เล็กก็กระโดดกอดคอพี่ชายตัวเองแล้วออกแรงหมุนไปมา

   “พี่ใหญ่” น้องชายยังคงไม่ตอบอะไร เพราะเอาแต่เรียกพี่ชายตัวเองซ้ำๆ

   “ไม่พูดมีถีบนะเว้ย” ใหญ่ตวาดดังลั่นก่อนเล็กจะถอยห่าง “อะไรของแกวะ มาปลุกทำไมแต่เช้าเนี่ย” แถมหาเมียไม่เจอยิ่งน่าโมโหหนัก ออกไปไหนไม่เคยจะบอก

   “แคท เมียผมยอมรับโทรศัพท์แล้วๆ วันนี้เราจะไปรับลูกด้วยกัน พี่ใหญ่ผมดีใจ” พูดจบก็กระโดดกอดพี่ชายตัวเองอีกรอบ แต่คราวนี้ใหญ่ใช้หน้าแข้งดันไว้ทัน คนจะกอดเลยวิ่งไปกอดนมอิ่มแทน

   ใหญ่เดินกลับเข้าห้อง ขายาวก้าวไปที่ห้องน้ำแต่ก็ว่างเปล่า หายไปไหนแต่เช้าเนี่ย พอหาในห้องไม่เจอ ใหญ่เดินกลับออกมาข้างนอกอีกครั้ง ดวงตาคมกวาดมองทั่วบริเวณแต่ก็ไม่เจอ สุดท้ายเลยต้องเรียบๆ เคียงๆ ถามนมอิ่มแทน

   “แม่ล่ะครับ” นมอิ่มมองลูกเขยเจ้าของไร่แล้วยิ้มออกมาคล้ายกับรู้ทัน เพราะเห็นคนที่ถามเอาแต่มองหาใครสักคน

   “ตาอัดไปดูแม่ค้ามารับดอกไม้ตั้งแต่เช้าแล้วเดี๋ยวคงมาค่ะ” ใหญ่ยิ้มแหยๆ ให้คนรู้ทัน “นั่นไง” ไม่ทันขาดคำคนที่ตามหาก็เดินขึ้นเรือนมา อัษฎาเห็นแม่ยืนคุยอยู่กับใหญ่ก็ยิ้มแล้วเข้าไปหา

   “มีอะไรกันหรือเปล่าครับ” ถามออกมาด้วยความสงสัย ใหญ่จ้องหน้าคนที่หายไปไม่บอกไม่กล่าวอย่างแง่งอน แถมอัษฎายังทำหน้าเรียบเฉยดูปกติ ทั้งที่เมื่อคืนออกจะเร้าร้อนขนาดนั้น

   “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ไปล้างมือเลย เดี๋ยวจะได้ทานข้าวเช้า คุณพิกุลลงครัวเองเลยนะ คงดีใจเรื่องคุณเล็กจนนอนไม่หลับ”
 
   “นมอิ่มก็พูดเกินไป” คนที่มีชื่อเดินยิ้มออกมาจากห้องหลังเปลี่ยนชุดใหม่ “มานั่งๆ วันนี้แม่ทำเองเลยนะ แล้วตาเล็กล่ะ”
 
   “แต่งตัวอยู่ในห้องค่ะ นัดกับคุณแคทตอนบ่าย นี่เพิ่งเช้าอยู่แต่เตรียมตัวซะแล้ว”

   “ช่างเถอะ นั่งๆ”

   แม้จะดูไม่สนใจ แต่คุณพิกุลก็รู้สึกดีใจมากเช่นกัน อีกไม่นานครอบครัวลูกชายคนเล็กอาจกลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง หากเป็นเช่นนั้นได้ เธอคงจะนอนตายตาหลับ
   

   การทำงานในวันนี้ช่างดูมีความสุขดีซะเหลือเกินสำหรับเจ้าของไร่ทั้งสอง ไม่ว่าจะเจอใครก็เอาแต่ยิ้มแย้มมีเสียงตลกให้ได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก อย่างตอนนี้ใหญ่ชวนอัษฎามาที่น้ำตกเมื่ออยากกินปลาเผา และคนตามมาก็อยากกินเช่นกัน

   คราวนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน อัษฎาเดินตัวปลิวมานั่งบนโขดหิน ข้าวของทุกอย่างให้ใหญ่เป็นคนถือซะหมด ทั้งเบ็ด ทั้งกระป๋องเหยื่อรวมถึงถังน้ำด้วย คนถือเองก็ดูจะเต็มใจไม่มีปริปากบ่นสักคำ

   ใหญ่นั่งรอปลาอยู่นานแสนนาน ดวงตาคมเหลือบมองคนที่มาด้วยกำลังนั่งเฝ้าเบ็ดตกปลาอีกอัน แต่รอแล้วรอเล่าก็มิเห็นว่าปลาจะมาติดเหยื่อ

   “เบื่อ” ร่างผอมลุกขึ้นบิดขี้เกียจ เสียงกร๊อบแกร๊บของกระดูกดังขึ้นเมื่อนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน เกือบสองชั่วโมงยังไม่ได้ปลาสักตัว

   อัษฎาเดินไปหาใหญ่ที่นั่งอีกที่ หน้าขาวชะโงกมองถังน้ำสีเงินเห็นปลาแหวกว่ายอยู่ตั้งสองตัว ทำไมตรงนี้มีปลา แล้วที่เขาไม่มี

   “ได้กี่ตัวแล้ว” น้ำเสียงคล้ายเย้ยหยันและอวดอ้างที่ตัวเองได้ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอัษฎาตกไม่ได้เลยสักตัว

   “คุณใหญ่แอบเอาอะไรใส่หรือเปล่า” เหล่ตามองกระป๋องเหยื่อนิดๆ

   “มันอยู่ที่ฝีมือ คนไร้ฝีมือก็งี้แหละ” เพราะหมั่นไส้อีกทั้งยังแค้นอยู่หลายเรื่อง อัษฎาแสยะยิ้มนิดๆ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ร่างสูงที่ยืนริมน้ำตก

   “นั่นสินะ ผมไม่มีฝีมือหรอก มีแต่ฝีเท้า...แบบนี้ไง” ว่าแล้วก็ยกเท้าถีบเข้าสะโพกจนใหญ่ร่วงหล่นลงน้ำดังสนั่น คนทำหัวเราะเสียงดังลั่นพอๆ น้ำตูมใหญ่เมื่อกี้

   “กล้าถีบเลยเหรอ” ใหญ่โวยวายอยู่ในน้ำ ก่อนจะรีบว่ายขึ้นฝั่งเพื่อชำระโทษ พอปีนขึ้นมาได้ คนทำผิดได้วิ่งหนีกลับเรือนไปแล้วอย่างไม่คิดชีวิต เป็นครั้งแรกที่ถูกเอาคืน พอคิดแบบนี้คนถูกถีบก็หัวเราะออกมา สมแล้วที่เคยทำให้เสียใจ แต่ถีบแรงซะจนสะโพกครากแบบนี้ก็ไม่ไหว เดี๋ยวกลางคืนจะไม่ได้ใช้งานพอดี

   อัษฎาที่วิ่งหนีมาถึงเรือนรีบหยุดนิ่งเมื่อพบหน้าทัศนัยที่กำลังยืนยิ้มหวานส่งมาให้ ข้างๆ เป็นคุณพิกุลที่กำลังต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี คนเพิ่งมาค่อยๆ เดินเข้ามาหาแล้วนั่งลงเก้าอี้อีกตัวที่ว่าง

   “วิ่งหนีอะไรมาหรือครับ” เสียงทุ้มถามอย่างแปลกใจ ดูจากเม็ดเหงื่อแล้วคงวิ่งมาไกลพอสมควร

   “ออกกำลังกายน่ะครับ แล้วคุณทัศนัยมาถึงนี่มีอะไรหรือเปล่า” ทัศนัยนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อไม่ได้ยินชื่อที่เคยบอก

   “บอกให้เรียกผมว่าพี่ทัศไงครับ อัดทำเป็นลืมแบบนี้พี่น้อยใจนะ” คนอยากตีซี้ทำเสียงเง้างอดเลยได้เสียงหัวเราะกลับมา

   “ขอโทษทีครับ อัดลืมไป” การพูดจาเป็นกันเองสร้างความแปลกใจให้คนที่นั่งอยู่ด้วย คุณพิกุลมองลูกสะใภ้กับเจ้าของร้านอาหารที่เป็นลูกค้าไวน์ของไร่อย่างแปลกใจ แถมลูกสะใภ้ยังแทนตัวเองด้วยชื่อยิ่งดูสนิทสนมมากขึ้น

   “พอดีมารับไวน์ที่สั่งเพิ่มไป คุณเล็กไม่ได้บอกเหรอ น่าน้อยใจจัง”

   “คุณเล็กไม่ได้บอก แล้วนี่พี่ทัศได้ไวน์หรือยัง”

   “ครับ คุณเล็กกำลังให้คนงานขนมาให้อยู่ แล้วคุณ...”

   กำลังจะพูดถึงอยู่พอดี คนไม่อยากเจอก็มา ใหญ่ตัวเปียกม่อลอกม่อแลกขึ้นเรือนมา ใบหน้าที่ยิ้มแย้มหุบฉับพลันเมื่อเจอคนเหม็นขี้หน้านั่งยิ้มอยู่ข้างอัษฎา ดวงตาคมตวัดมองหาเรื่องอย่างเปิดเผย

   “มาทำไมครับ” ประโยคทักทายที่เอาคุณพิกุลขำ เพราะหลังฟังการสนทนาแล้วเกิดหมั่นไส้นิดๆ ที่ตีสนิทลูกสะใภ้ ใช่ว่าจะไม่ชอบขี้หน้าด้วย แต่มันดูสนิทมากเกินไป

   “พอดีมารับไวน์ที่สั่งเพิ่ม คุณใหญ่ร้อนหรือครับ เปียกมาเชียว” ทัศนัยพยายามหาเรื่องคุย เพราะอีกเดี๋ยวต้องถูกไล่แน่

   “ครับ พอดีคนของผมเขาอยากเล่นน้ำ” เสียงเข้มเน้นคนของผมซะจนทัศนัยหน้าเสียนิดๆ ใหญ่เดินมานั่งที่พักแขนเก้าอี้นวมของอัษฎา “วิ่งมาไม่รอเลยนะ” ก้มกระซิบชิดใบหูให้ดูเหมือนว่าหอมแก้ม คนมารับไวน์แทบสำลักน้ำลายเมื่อเห็น

   พอดีกับเล็กเดินยิ้มแย้มขึ้นมาบอกว่าไวน์ขนใส่รถเรียบร้อย คนมารับไวน์กำลังจะหันไปลาร่างผอม แต่กลับเจอเพียงเก้าอี้นวมเปล่า ทัศนัยมองประตูห้องที่เพิ่งถูกปิดลงเมื่อกี้ตาละห้อย จนมีน้ำหนักกดมาที่บ่าเบาๆ

   “เพราะคุณเป็นคนดี” เล็กเอ่ยออกมา “อย่างที่เขาว่า คนดีมักเป็นพระรองเสมอ”

   “แปลว่าพี่ชายคุณคงเลวสินะ ถึงได้เป็นพระเอก”

   เล็กคิ้วกระตุกนิดๆ เมื่อได้ยินคนด่าพี่ชายว่าเลว แต่พยายามคิดว่ามันคือการเปรียบเปรยเลยพอทำใจได้นิดๆ

   เมื่อคนอยากเจอไม่อยู่แล้ว ทัศนัยยกมือลาคุณพิกุลและเล็กก่อนจะลงเรือนด้วยใบหน้าเศร้าหมองดั่งคนอกหัก แม้เจ้าของเรือนจะสงสารเห็นใจ แต่ในเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างกำลังจะคลี่คลายและลงเอย เธอจึงเห็นสมควรว่า ให้ทัศนัยอยู่ห่างๆ เพื่อใหญ่จะได้อารมณ์ไม่แปรปรวนอีก เพราะกว่าจะได้มาถึงขนาดนี้หลายคนก็เสียใจมามากพอ

   “แม่ว่า คุณทัศนัยเขาชอบอัดจริงๆ หรือเปล่า” เล็กถามออกมาด้วยความใคร่รู้

   “น่าจะมากพอๆ กับพี่แกนั่นแหละ” คุณพิกุลตอบ ดวงตามองไปยังห้องที่เพิ่งปิดลงเมื่อสักครู่ “นั่นก็เปิดเผย แต่ของเรานี่สิ อมพะนำซะฉันอยากเอาคีมง้างปาก รักเขาแล้วไม่ยอมพูด วันหนึ่งเสียเขาไปแล้วจะรู้สึก”

   “เดี๋ยวก็รู้” เล็กเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บางอย่างออกมาสร้างความงุนงงให้ผู้เป็นแม่สงสัย หากพี่ใหญ่ท่ามากนักละก็ๆ จงหมดท่าไปเพราะความท่ามากนี่แหละ จะได้รู้สึกเจ็บหนัก


....TBC


 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 18-12-2016 20:25:23
เห็นด้วยกับคุณแม่ อยากจะเอาคีมงัดปากคุณใหญ่มาขนาดนี้แล้วก็ยังปากหนักไม่ยอมพูด
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-12-2016 20:33:57
เล็กคิดวางแผนอะไรหรือเปล่า :hao3: :hao3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 18-12-2016 20:47:03
รักเขาขนาดนี้ยังท่ามากอีกกกกก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 18-12-2016 20:48:16
อะไรคือต้องเอาอัดเข้าไปอาบน้ำด้วย :z1: :pighaun: :z1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 18-12-2016 21:06:27
คุณเล็กมีแผนจัดการคุณพี่ชายท่ามากแล้วสินะ ทีมคุณเล็กเลยจ้าาา ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-12-2016 21:16:20
เดี๋ยวได้รู้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 18-12-2016 21:21:30
 :m1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-12-2016 21:36:43
#ทีมคุณนายพิกุล ได้ไหมครับ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 18-12-2016 21:55:43
#ทีมเล็ก จัดการหนักๆเลยนะ ง้างปากมันเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 18-12-2016 21:57:13
หึหึ เรื่องตัวเองจัดการเรียบร้อยแล้ว เลยว่างมายุ่งกะเรื่องพี่แล้วสินะ 555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-12-2016 22:01:21
เห็นด้วย จัดคนท่ามาก ให้หมดท่าเลย :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
แหม.....ที่ว่าเมื่อคืนออกจะร้อนแรง
ร้อนแรงยังไง ไม่เข้าใจ  :katai1:
อธิบายหน่อย อยากรู้ม้าก มาก อะ :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 18-12-2016 22:06:48
เชียร์คุณเล็กค่ะ เอาให้พูดจนหมดฟอร์มเลยนะคะ!! หึๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 18-12-2016 22:11:52
คุณแม่ขา คุณเล็กขา คีมที่จะเอามาง้างปากคุณใหญ่ ขออันที่แข็งแรงและใหญ่หน่อยนะคะ ปากหนักเกิ๊นนนน

ปล.คุณเล็กนี่เวลาดีใจ เหมือนเด็กๆเลยนะคะ น่ารักดี   :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-12-2016 22:22:12
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-12-2016 23:09:38
อย่าว่าคุณใหญ่เลย

คนเคยชอบผู้หญิง

จะให้มาชอบผู้ชายด้วยกัน

ต้องใช้เวลาหน่อย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 18-12-2016 23:32:25
 :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 18-12-2016 23:39:55
จัดเลยค่ะคุณเล็ก หมั่นไส้ตาลุงเต็มกำลัง
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-12-2016 23:50:06
กระดึ๊บไปอยู่ฝั่งคุณเล็กแป๊บ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 18-12-2016 23:50:42
ทัศนัยสู้ๆ #ทีมพี่ทัศ :katai2-1: :katai3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 19-12-2016 00:01:40
หมั่นไส้อิตาคุณใหญ่เหลือเกิน  :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 19-12-2016 00:15:00
อย่าบอกนะว่าเล็กจะวางแผนอะไรให้พี่ชายท่ามากอีก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 19-12-2016 00:37:18
คุณเล็กจัดการคุณใหญ่ให้อัดหน่อยยยย o7
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-12-2016 00:54:42
เชียร์คุณเล็กจัดการเลย คนปากหนักจะได้สิ้นท่าสักที :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 19-12-2016 04:35:42
รอทั้งวันนึกว่าจะไม่ได้อ่านแล้ว :hao5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 19-12-2016 06:26:02
จะทีตอนเสียใจเร้อะ?!!!

เล็กใกล้คืนดีแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 19-12-2016 06:31:54
คุณเล็กมีแผนอะไรคะ ขอเด็ดๆเลยนะ ><
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Asmknrt ที่ 19-12-2016 06:45:54
โอ้ยยยย เมื่อไรลุงจะโดนง้างปาก รอๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 19-12-2016 14:40:48
คุณใหญ่ปากแข็ง
เดี๋ยวก็เชียร์คุณทัศน์ซะเลยย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 19-12-2016 22:21:20
Love this
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 19-12-2016 23:35:01
55555 รอแผนคุณเล็กจัดการคุณใหญ่
หมั่นไส้มากเหมือนกันค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 17 << [P.12] // [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 20-12-2016 18:42:35
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 20-12-2016 19:35:39
18





       “สวัสดีค่ะคุณอัด” เสียงใสกังวารเอ่ยทักทายยามเย็น อัษฎาเพิ่งเดินออกมาจากห้อง หลังต้องนวดยาให้คนที่เขาถีบตกน้ำจนสีข้างช้ำเป็นทางเมื่อกระแทกกับโขดหิน

   “คุณแคทมานานแล้วหรือครับ ว่าไงครับน้องต้น” หลานชายเพียงคนเดียวของไร่ยื่นขนมคุ้กกี้ให้คนที่เพิ่งออกมา “ให้พี่หรือ”
 
   “ฮะ น้องต้นให้พี่อัด” เด็กตัวน้อยที่ไม่ได้ออกจากโรงเรียนประจำมาเป็นอาทิตย์ยิ้มแย้ม วันนี้รู้สึกดีใจที่มีพ่อพาแม่ไปรับที่โรงเรียนแบบเพื่อนคนอื่นๆ “วันนี้พ่อกับแม่ไปรับน้องต้นด้วย เพื่อนๆ บอกว่าแม่ของน้องต้นสวยมากเลย” ประโยคบอกเล่าของลูกชายทำเอาคนเป็นพ่อและแม่ต่างก็น้ำตารื้น ขนาดอัษฎายังรู้สึกสะอื้นอยู่ในใจลึกๆ

   “ต่อไปทุกอาทิตย์ พ่อกับแม่จะไปรับน้องต้นทุกวันเลยดีไหมครับ” เล็กจูบศีรษะลูกชายเบาๆ อย่างรักใคร่ และเมื่อได้ยินพ่อพูดเช่นนั้น น้องต้นก็วิ่งดีใจไปรอบบ้านก่อนจะวิ่งเข้าหาลุงใหญ่ที่เพิ่งเดินกระเพกออกมา “อ่าวพี่ใหญ่เป็นอะไรน่ะ”

   “อุบัติเหตุนิดหน่อย” ใหญ่ตอบออกมา แม้จะเป็นความจริงเพียงครึ่ง เพราะอีกครึ่งใครจะไปกล้าบอกว่าถูกเมียถีบตกน้ำ พอตอบน้องชายเสร็จก็ยิ้มรับนิดๆ เมื่ออดีตภรรยาของน้องยกมือไหว้ “ไปรับเจ้าตัวแสบมาหรือ”

   “ครับ แล้วพวกเราก็แวะซื้อไก่ย่างเจ้าอร่อยมาด้วย แต่เสียดายไม่มีตับที่พี่ใหญ่ชอบ” เล็กเอ่ยหยอกล้อพี่ชายตัวเองอย่างขำๆ แต่ดูเหมือนว่า คนถูกล้อจะไม่ขำด้วย

   “เออ ซื้อมาก็กินให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่กระดูกนะ” ใหญ่ประชดก่อนจะอุ้มหลานชายไปนั่งที่โต๊ะอาหารโดยมีอัษฎาเดินตาม

   มื้อเย็นของวันนี้ช่างมีความสุขกว่าทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่หรือรุ่นเล็กก็ดูจะเจริญอาหาร อิ่มปุ๊บก็เรอปั๊บทำเอาคนทั้งโต๊ะหัวเราะเด็กน้อย แคทมองภาพความสุขตรงหน้าก็พาลให้หวนนึกถึงตอนที่ตัวเองทิ้งทุกอย่างไว้แล้วก็หนีไป คราวนั้นเธอช่างโง่เง่าสิ้นดีที่กล้าทิ้งความรักและความสุขแบบนี้ เพื่อไปหาสิ่งไร้สาระที่คิดว่าใช่ที่สุด สายไปถึงได้รู้ความหมายของคำว่าครอบครัวที่อบอุ่นโดยแท้จริง

   หญิงสาวมองผู้ร่วมโต๊ะแต่ละคน ทุกคนไม่ได้โกรธเคืองหรือพูดจาถากถางที่เธอทิ้งไป โดยเฉพาะอัษฎาที่เพิ่งรู้ว่าเป็นพี่สะใภ้ของเล็ก แม้จะเป็นผู้ชาย แต่ความน่ารักและเป็นกันเองก็เหมาะสมกับใหญ่ซะจริงๆ

   “มองผม มีอะไรหรือเปล่า” รู้สึกคล้ายถูกจ้อง พอลองหันมาก็เจอเข้าจริงๆ อัษฎาเอ่ยถามหญิงสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งเธอก็ส่ายหน้าช้าๆ

   “คุณอัดหน้าตาคล้ายพี่ใหญ่เลยนะคะ” พอได้ยิน ทุกคนก็รีบมองหน้าคนที่นั่งข้างกันสลับไปมา

   “ไม่หรอกมั้งครับ” อัษฎารีบเอ่ย เขาเนี่ยนะหน้าเหมือนใหญ่ ไม่สักนิด

   “ไม่เหมือนหรอกแคท อัดเขาหน้าเนียนขาว ส่วนพี่ใหญ่หน้าแห้ง แถมกร้านอีก ดูสิ มีฝ้าด้วย” เล็กได้ทีรีบทับถมก่อนร้องลั่นบ้านเมื่อถูกเท้าของใหญ่เหยียบอย่างจังใต้โต๊ะ

   “มากไปๆ” ตวัดมองน้องชายด้วยอาการเคืองขุ่น ใบหน้าเขาไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย...ก็อาจจะแห้งบ้าง กร้านบ้าง ก็ทำงานในไร่มีทั้งแดด ทั้งฝุ่น จะให้ขาวใสได้อย่างไร “แล้วนี่ จะนอนที่นี่หรือเปล่า” พอสิ้นคำถาม ทั้งแคทและเล็กต่างก็มองหน้ากันราวกับไม่ได้คิดคำตอบไว้

   “นั่นน่ะสิ จะค้างที่นี่ไหมล่ะ” คุณพิกุลรีบเสริม

   หญิงสาวมีอาการลังเลไม่แน่ใจ เพราะไม่รู้จะนอนในฐานะอะไร ภรรยาของเล็กเธอก็รู้สึกกระดากอาย จะเป็นแขกก็ดูแปลกอยู่

   “เดี๋ยวผมไปส่งในเมืองก็ได้” เล็กพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าอดีตภรรยาอ้ำอึ้งดูหนักใจ เรื่องแบบนี้คงต้องใช้เวลามากสักหน่อย แต่แค่นี้ก็ดีมากพอ

   “คือ...” ท่าทีอึกอักยิ่งทำให้เล็กดูเศร้าลง “แคทนอนที่นี่ก็ได้ค่ะ”

   “จริงหรือ” เล็กเบิกตาโต ริมฝีปากเหยียดยิ้มกว้างออกมา

   “งั้นเดี๋ยวแม่ให้คนเปิดห้องแขกให้นะ” คุณพิกุลเรียกสาวใช้ให้ไปเปิดห้องแขก เพราะยังเห็นอาการอดีตลูกสะใภ้ลังเลอยู่มาก และเห็นว่าคงไม่ดีหากจะนอนร่วมห้องกับเล็กทั้งที่ยังมีเรื่องค้างคาในใจกันอยู่

   “ขอบพระคุณค่ะคุณแม่” แคทยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม ความเอ็นดูที่ได้จากแม่ของอดีตสามียังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หญิงสาวเริ่มละอายใจนิดๆ กับความผิดของตัวเองจนมีมืออุ่นยื่นมากอบกุมพร้อมน้ำเสียงห่วงใย

   “ถึงยังไงหนูก็ยังเป็นลูกแม่อยู่นะ” ความรักและห่วงใยทำเอาคนทำผิดร้องไห้สะอื้น และพาลทำเอาลูกชายตัวเล็กร้องไห้ตาม ทุกคนต้องพากันปลอบให้วุ่น

   หลังจากมื้อค่ำจบลง คนที่เคยออกจากที่นี่กำลังนั่งเหม่อมองอยู่ที่ระเบียงนอกเรือน ดวงตาสวยจ้องพระจันทร์เสี้ยวคล้ายกับรอยยิ้มของคนในเรือนนี้ ไม่ว่าจะนานเพียงใด ไม่ว่าเธอจะใจร้ายแค่ไหน แต่ทุกคนก็ยังรัก พอคิดแบบนี้ก็พาลน้ำตาไหลออกมาอีกรอบ

   “ขอนั่งด้วยได้หรือเปล่าครับ” อัษฎาส่งเสียงเรียกคนเหม่อให้หันมอง พอหญิงสาวพยักหน้าลงพร้อมรอยยิ้ม ร่างผอมก็ทรุดนั่งที่เก้าอี้นวมอีกตัว

   “ขอบคุณนะคะที่ช่วยแคท” ทันทีที่อีกฝ่ายนั่งลง หญิงสาวรีบเอ่ยออกมา และได้รอยยิ้มตอบกลับ “หากไม่ได้คุณอัด แคทคงไม่ได้กลับมานั่งมองพระจันทร์ตรงนี้อีก ไม่ได้เจอกับคุณแม่ เจอคุณเล็ก เจอพี่ใหญ่แล้วเจอน้องต้น”

   “ถ้าให้ผมเดา ที่คุณแคทอยากได้น้องต้นไปเลี้ยงเอง เพราะน้องคือความรักของคุณแล้วก็คุณเล็กใช่หรือเปล่าครับ” อัษฎาถามทันทีที่ใบหน้าสวยสลดลงเมื่อพูดถึงลูกชาย

   “ลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างของแคท เป็นความรักที่ทั้งแคทกับเล็กสร้างขึ้นมาด้วยกัน แคทเคยคิดว่า หากได้ลูกมาเลี้ยงเอง อย่างน้อยก็จะทดแทนเล็กได้” ดวงตาสวยมองดวงดาวบนท้องฟ้าพร้อมรอยยิ้มเหงา “แต่แคทคิดผิดหมดทุกอย่าง แคทเคยไปหาลูก เคยไปถามแกว่าอยากไปอยู่กับแคทหรือเปล่า” หญิงสาวหันมามองคู่สนทนา “น้องต้นตอบว่าอยากอยู่กับแม่และพ่อพร้อมกัน ตอนนั้นแคททำอะไรไม่ถูกสักอย่าง ลูกไม่ใช่ของพ่อหรือแม่ แต่ลูกคือความรักของเรา” 

   “งั้นคุณแคทก็จะให้โอกาสคุณเล็กอีกครั้งใช่ไหมครับ” คนที่ช่วยลุ้นตั้งแต่แรกดูจะดีใจจนออกนอกหน้า

   “แคทยังกลัว ไม่ใช่กลัวว่าเล็กจะทำให้เสียใจ แต่แคทกลัวว่าตัวเองจะทำให้เล็กเสียใจมากกว่า”

   “แต่ผมไม่กลัว” เสียงจากด้านหลังดังขึ้น คนที่ตั้งใจถามเผลอยิ้มออกมาเพราะเห็นตั้งแต่ชายหนุ่มมายืนฟัง “แคท ผมก็ทำผิดกับคุณ เคยทำไม่ดีมากๆ ด้วย ถ้าหากคุณไม่โกรธผม เรากลับมาเริ่มต้นกันใหม่นะ”

   “เล็ก” เจ้าของชื่อย่อตัวนั่งลง ก่อนยื่นนิ้วเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเนียน

   อัษฎายิ้มให้กับภาพที่เห็นก่อนจะแอบย่องออกไป เพราะไม่อยากรบกวนช่วงเวลาคืนดีของคนรักกัน เมื่อเดินกลับเข้ามาในห้อง เจอเจ้าของห้องนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง มือกำลังกดเล่นเกมส์โทรศัพท์เครื่องใหม่อยู่

   “กว่าจะมา” คนนอนเล่นเกมส์เอ่ยก่อนกวักมือเรียกอัษฎาให้เข้าไปหา พอไปถึงคนนอนเหยียดขยับลุกขึ้นมานั่ง มือที่เล่นเกมส์อยู่เปลี่ยนมาเป็นกล้องถ่ายรูปแทน “ยิ้มหน่อย”

   มือถือเครื่องใหม่ถูกยกสูง ภาพหน้าจอกลายเป็นหน้าคนถือที่กำลังยิ้มแป้นกับอีกคนที่เอาแต่จ้องหน้าด้วยความแปลกใจ

   “คุณใหญ่กินยาผิดหรือเปล่า” อัษฎาจ้องหน้าคนที่นึกครึ้มอยากถ่ายรูปด้วยกัน

   “ถูกแล้วน่า เร็วๆ ยิ้มหน่อย” แม้จะเร่งให้อีกคนยิ้ม แต่สุดท้ายรูปที่ถ่ายก็ยังเป็นรูปที่มีแต่ใหญ่ยิ้มและอัษฎาที่หันข้างจ้องคนถ่ายรูป

   “เอ่อ คุณใหญ่ ผมมีเรื่องอยากจะบอก” ใหญ่เงยหน้าจากรูปที่ถ่ายมามอง ก่อนคนอ้าปากจะพูดธุระ ประตูห้องนอนถูกเปิดออก ร่างเล็กวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาหาแล้วปีนขึ้นมาบนเตียงทำตาแป๋ว

   “อะไร” ใหญ่ขมวดคิ้วมองหลานตัวเองมานั่งทำตาใสคั้นกลาง

   “น้องต้นมานอนกับลุงใหญ่ได้ไหมฮะ” คำขอพร้อมสายตาอ้อนวอนทำเอาลุงใหญ่ถึงกับทำอะไรไม่ถูก เพราะความคิดแรกคืออยากจะนอนกอดคนตัวหอมทั้งคืน

        “ทำไมไม่นอนกับพ่อกับแม่ล่ะ มานอนกับลุงทำไม” ใหญ่พยายามทำน้ำเสียงอ่อน แต่ดูแล้วคนอยากมานอนด้วยจะไม่ยอมง่ายๆ

   “ลุงใหญ่ไม่อยากให้น้องต้นนอนด้วยหรือ” นัยน์ตามีน้ำเอ่อคลอคล้ายจะร้องไห้

   “ให้นอนสิ เรานอนด้วยกันนี่แหละเนอะ” พอเห็นลุงไม่ยอม เด็กน้อยเลยหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากคนที่นั่งอีกด้าน

   “ยอมทำไมเนี่ย เอาออกไปคืนพ่อมันเลย” ใหญ่โวยวายนิดๆ เมื่ออัษฎายอมให้หลานเจ้าของห้องนอนด้วย

   “คุณใหญ่อย่าใจแคบน่า เตียงออกตั้งกว้าง เนอะ” น้องต้นรีบพยักหน้าแล้วสอดตัวนอนคั้นกลางทันที คนที่อารมณ์ดีจนอยากถ่ายรูปเริ่มหน้าบึ้ง ร่างกำยำสอดตัวนอนแล้วตะแคงหันหลังให้ อัษฎาที่นั่งมองอยู่ได้แต่ขำ ลุงกับหลานนิสัยคล้ายกันมากจริงๆ









   เช้าวันใหม่ เล็กอาสาขับรถไปส่งแม่ที่รีสอร์ทก่อนแวะส่งอดีตภรรยาคนสวยที่บ้านพัก ใจจริง ชายหนุ่มแทบอยากให้คนรักกลับไปอยู่ด้วยกันที่ไร่ แต่เพราะยังมีอะไรหลายอย่างที่หญิงสาวต้องจัดการเลยขอกลับมานอนในตัวเมืองอีกสักหน่อย

   “บ้านหลังนี้ทิ้งไว้แบบนี้นั่นแหละ ไม่ต้องขายหรอก เผื่อวันไหนเราเข้าเมืองไม่อยากไปนอนรีสอร์ทแม่ ก็มานอนที่นี่ได้” เล็กว่า

   “ค่าคุณเล็ก ขอบคุณนะที่เข้าใจแคท”

   “ไม่ให้เข้าใจแคท แล้วจะให้เข้าใจใครอีกล่ะ” หยอดนิดๆ ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถ ตอนนี้รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง ย้อนกลับไปตอนที่จีบแคทแรกๆ มีหยอดบ้าง พูดตลกบ้างให้อีกคนรับรัก พอคิดเช่นนั้นเล็กก็พาลหัวเราะตลอดทาง

   หลังจากออกจากตัวเมือง เล็กแวะรับของที่ไปรษณีย์นำจ่ายของหมู่บ้าน ซึ่งจดหมายหรือพัสดุของไร่ทุกชิ้นจะถูกจัดส่งมารวมไว้ที่นี่ ก่อนจะถูกนำแจกจ่าย นายบุรุษไปรษณีย์เจอหน้าก็ทักทายอย่างเป็นกันเองพร้อมกับยื่นจดหมายหลายฉบับให้

   “วันนี้มารับเองเลยนะครับคุณเล็ก”

   “พอดีไปธุระในเมืองมาก็เลยแวะมาน่ะครับ”

   เมื่อได้ของ เล็กก็กลับไร่ ที่จริงหากมีจดหมายด่วนมา บุรุษไปรษณีย์จะรีบนำไปให้ถึงไร่ แน่จดหมายพวกนี้ไม่มีอะไรด่วน ดังนั้นจึงได้แต่ใบนัดรับ

   รถสีขาวขับเข้าจอด พอดีกับเจอเจ้าของซองจดหมายสีชมพู เล็กรีบเรียกให้อัษฎาหยุดก่อนยื่นซองที่จ่าหน้าถึงให้ไป เมื่อเห็นชื่อคนส่ง อัษฎาก็ยิ้มแย้มมือขาวรีบเปิดตรงนั้นเลย ทำให้เล็กได้เห็นของด้านในด้วย

   “สวยกว่าที่คิดนะครับเนี่ย” เล็กเอ่ยชมของในมือขาวแล้วขอตัวไปทำงาน คราวนี้สิ่งที่จะกระชากคนท่ามากก็ถึงเวลาแล้ว พี่ใหญ่ต้องเสร็จแน่นอน

   อัษฎาเดินกลับมาที่เรือน ซองสีชมพูถูกสอดไว้ในหนังสือโปรด ประตูห้องเปิดออกจนสะดุ้ง คนเข้ามาคือแม่ของเขานั่นเอง นมอิ่มเข้ามาเพื่อเรียกลูกชายออกไปด้านนอกเนื่องจากมีคนมาหา เมื่อเดินออกไป คนมาหายิ้มแย้มทักทายอย่างเคย

   “คุณทัศนัยมีอะไรหรือเปล่าครับ” แปลกใจที่เห็นเจ้าของร้านอาหารมาหาตอนบ่ายเช่นนี้

   “พอดีผมได้เค้กจากเชฟนอกมาแล้วมันก็อร่อยมาก ผมนึกถึงหน้าอัดเป็นคนแรกเลยซื้อมาฝาก” ทัศนัยยื่นกล่องเค้กขนาดสองปอนด์มาให้ แต่ก่อนมือขาวจะจับ กล่องก็ถูกดึงกลับ “อ่อ เรียกผมว่าคุณทัศนัยอีกแล้วนะ”

   “ขอโทษครับ มันชินปาก” อัษฎายื่นมือออกไปรับกล่องเค้กอีกรอบ “ขอบคุณครับพี่ทัศ” ที่จริงไม่ได้ไม่อยากเรียก แต่เพราะถูกใหญ่สั่งห้ามเรียก ไม่อยากทะเลาะกันเลยพยายามเลี่ยง แต่ตอนนี้คนห้ามไม่อยู่น่าจะพอเรียกได้

   “น้องอัดลองชิมดูนะครับ หากติดใจพี่จะซื้อมาฝากอีก” ทัศนัยยิ้มหวาน ตอนนี้พร้อมจะพุ่งชนเจ้าของไร่แล้ว อยากจะลองเป็นตัวร้ายดูบ้าง ในเมื่อเป็นคนดีแล้วเป็นแค่พระรอง

   “ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมเกรงใจ”

   “แต่สำหรับอัด พี่เต็มใจนะ” ทัศนัยยิ้มพร้อมแววตาจริงจังจนอัษฎาอึกอัก “ลองชิมไหม”

   “ไม่เป็นไรก็ได้ พี่ทัศ” ห้ามไปก็เท่านั้น เมื่อกล่องเค้กถูกเปิดออก มือหนาตักเค้กแล้วยื่นไปจ่อที่ปากแดง “คือ...”

   “ลองชิมดูนะครับ” ตักป้อนพร้อมคะยั้นคะยอคนขี้เกรงใจให้ลองชิม

   จังหวะที่ปากแดงกำลังจะงับช้อน มือที่ถือเค้กอยู่ถูกมือปริศนายื่นมาดึงและเจ้าของมือนั้นก้มกินเค้กบนช้อนจนหมด ทั้งอัษฎาและทัศนัยต่างมองคนเคี้ยวเค้กอย่างอร่อยด้วยความตกใจ

   “คุณใหญ่”

   “อร่อยนะครับเค้กเนี่ย”

   ใหญ่ยิ้มแย้มดูเป็นมิตร แต่สายตาที่ส่งให้คนใจดีหอบเค้กมาฝากไม่ได้เป็นเช่นนั้น สายตาดุจ้องคล้ายกับเสือรอตะปบเหยื่อแล้วลากไปขย้ำให้ตายคาที่

   “ผมตั้งใจซื้อมาฝากน้องอัดน่ะครับ แต่เห็นคุณใหญ่ชอบด้วยผมก็ดีใจ” คราวนี้ทัศนัยไม่กลัว เขาจ้องกลับอย่างไม่ลดละจนกลายเป็นอัษฎาเองที่กลัวแทน

   สายตาสองคู่กำลังฟาดฟันกันอยู่ หากเป็นดั่งนิยายหรือละครคงมีไฟฟ้าพุ่งเข้าหากันอยู่เป็นแน่ อัษฎาหันไปมองแม่ตัวเองที่ยืนดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ รู้เช่นนี้เธอไม่น่าใช้คนงานไปเรียกใหญ่ให้ขึ้นมาเลย

   “ผมว่า เรากินเค้กกันดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมเอาชามาให้” ดูท่าสถานการณ์เริ่มย่ำแย่เพราะต่างคนต่างก็นิ่งเงียบเอาแต่จ้องกันเฉยๆ อัษฎาลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหยิบจานและขอชาจากแม่เพื่อหยุดทัพศึก “ชาครับ” เทชาร้อนหอมๆ ใส่แก้วพร้อมยื่นให้ แม้ทั้งสองฝ่ายจะหันมายิ้มรับแต่ก็หันกลับไปจ้องกันเหมือนเดิม

   “คุณไม่ไปดูร้านหรือครับ” ใหญ่ออกปากก่อน

   “แล้วคุณใหญ่ไม่ไปดูดอกไม้ ดูองุ่นหรือครับ” ทัศนัยสวนกลับทันควัน จนเจ้าของไร่แทบจะพุ่งไปขย้ำคอ หากต้องข่มอารมณ์ไว้

   “ไร่ผมอยู่แค่นี้ แต่ร้านคุณอยู่ในเมือง ระยะทางมันห่างกันนะครับ ผมว่า ถ้าคุณกลับช้าอาจจะมืดค่ำและอันตราย กลับเถอะครับเดี๋ยวผมไปส่ง” ว่าแล้วใหญ่ก็รีบดึงแขนทัศนัยให้ลุกยืน มือหนารีบลากแขนคนใจดีให้ไปที่รถโดยไม่ทันได้ล่ำลากับคนที่เขาเอาเค้กมาฝาก “ไปครับ ให้ผมสตาร์ทรถให้ด้วยไหมครับ”

   “คุณใหญ่ไม่ได้ไล่ผมกลับใช่ไหมครับ” ทัศนัยที่ถูกดันให้เข้าไปนั่งประจำที่คนขับหันมาถาม

   “ใครว่าไล่ ไม่ได้ไล่เลยครับ ผมเป็นห่วง” คนเป็นห่วงยิ้มด้วยแววตาเชือดเฉือน

   “จะพยายามเชื่อแล้วกัน วันหลังผม...”

   “วันหลังไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากอีก เมียของผม ผมดูแลเองได้” ใหญ่ทำหน้าจริงจัง พูดลอดไรฟันออกมา นี่ถือว่าเตือนแบบเบาๆ หากยังกล้ายุ่งมากกว่านี้ ไม่แน่ เขาอาจจะได้แสดงถึงความโหดร้ายมากกว่านี้

   ทัศนัยมองหน้านิ่งของใหญ่ ดวงตาคมที่จ้องมาบ่งบอกว่าเอาจริง แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดกลัว หน้าคมคลี่รอยยิ้มออกมาจนใหญ่ต้องขมวดคิ้ว

   “เรื่องแบบนี้ต้องอยู่ที่น้องอัดแล้วล่ะครับ”

   ตึง เสียงกำปั้นทุบกับหลังคารถจนเป็นรอยบุบเล็กๆ ที่โมโหไม่ใช่เพราะโยนการตัดสินใจให้อัษฎา แต่ที่ไม่พอใจคือกล้าเรียกเมียของเขาว่าน้อง ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดสักนิด

   “ผมขอเตือนคุณนะครับคุณทัศนัย อย่ายุ่งหรือแม้แต่แตะคนของผม ผมไม่อยากเสียลูกค้าอย่างคุณไปเพราะการมาแย่งเมียชาวบ้าน คุณคงเข้าใจที่ผมพูด อัษฎาเป็นของผม” ใหญ่บอกหนักแน่นและจริงจัง

   “คุณรักน้องอัดหรือเปล่า” สิ้นคำถามนี้ ใหญ่คลายคิ้วออกจากกัน ดวงตาคมเริ่มกระพริบถี่ ทัศนัยเห็นแบบนั้นก็รีบถามไปอีก “คุณรักเขาหรือเปล่าล่ะ ตอบผมสิครับ”

   “ผม...” ท่าทางอึกอักของใหญ่ทำให้ทัศนัยยิ้มอย่างมีชัยชนะ

   “คุณไม่ได้รักอัด แล้วคุณมาหวงก้างทำไม”

   “ผม...”

   “ทางที่ดี คุณควรปล่อยเขาให้เจอคนที่รักมากกว่า”

   ใหญ่จ้องหน้าทัศนัยนิ่ง คำตอบติดอยู่ที่ปลายลิ้น แต่ทำไมถึงพูดออกมาไม่ได้

   “ผม...ไม่ได้...”

   “คุณใหญ่ไม่ได้รักอัด”

   คนพูดไม่ได้จ้องหน้าเขา ใหญ่ค่อยๆ เอี้ยวตัวมองตามสายตาคนตรงหน้าไปด้านหลัง อัษฎายืนนิ่ง จมูกรั้นขึ้นสีแดงเพราะกลั้นสะอื้นไว้ เพียงแค่เห็นใบหน้าของอัษฎา หัวใจของใหญ่ก็แทบแตกสลาย นี่เขาทำพลาดไปใช่ไหม เขาติดกับไอ้เจ้าของร้านนี่ใช่ไหม พอขายาวจะก้าวไปหา ร่างผอมกลับวิ่งขึ้นเรือนไปแล้ว

   “ถ้าคุณใหญ่ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองคิดยังไง ก็ปล่อยอัดไปเถอะครับ” พูดจบ ทัศนัยก็ขับรถออกจากไร่ไป ทิ้งให้เจ้าของไร่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก ได้แต่หันรีหันขวางไม่รู้จะไปทางไหน

   และเพราะไม่รู้จะง้อยังไง ก็เขาไม่เคยง้อผู้ชาย หากเป็นผู้หญิงคงจะหาดอกไม้สักช่อ แต่นี่อัษฎาเป็นผู้ชาย จะให้ปรึกษาน้องชายก็อาจจะถูกซ้ำเติม ใหญ่เครียดเดินวนไปวนมาอยู่หน้าแปลงกุหลาบ ขาหนึ่งทำท่าจะกลับบ้าน แต่อีกขากลับจะย้อนกลับเข้าไร่ เจ้าของไร่เดินหมุนไปมาสุดท้ายก็ตัดสินใจกลับ

   ใหญ่ลังเลอยู่หน้าห้องนอนตัวเอง มือจะผลักเข้าไป แต่อีกมือกลับฉุดมือให้ออกห่าง เล็กมองดูท่าทางสับสนแปลกๆ ของพี่ชาย พอถามใครก็ไม่มีใครรู้ๆ แต่เพียงว่าวันนี้ทัศนัยมาที่บ้านแล้วอาจจะทะเลาะกัน แต่ก็ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง

   “พี่ใหญ่ไม่เข้าห้องหรือ” เล็กเดินไปทักพี่ชาย ใหญ่หันมามองแล้วขมวดคิ้ว “นั่น ผมถาม มาขมวดคิ้วใส่อีก พี่เป็นอะไร”

   “ไม่รู้”

   “พี่ใหญ่ไม่รู้ แล้วใครจะรู้เล่า”

   “เออๆ”

   ใหญ่ตัดบท มือผลักบานประตูเข้าไปแล้วปิด ปล่อยให้เล็กที่ยืนอยากรู้อยากเห็นใช้หูแนบเพื่อฟังคนด้านใน ไม่รู้จะทะเลาะกันหรือเปล่า ไม่แน่ พี่ใหญ่อาจไปทำอะไรให้อัษฎาไม่พอใจ แต่ที่แน่ๆ กำลังเข้าทางเขาแล้ว

   ด้านในห้อง ใหญ่ยืนนิ่งเมื่อเจอกับอัษฎาที่เพิ่งออกจากห้องน้ำมา ใบหน้าขาวดูปกติทุกอย่าง ดวงตากลมโตเหลือบมามองเขานิดๆ แล้วก็แทรกตัวออกจากห้องไป งอนเขาหรือนี่

   หลังจากทำธุระเสร็จ ใหญ่รีบออกมาตามคนงอน แต่ดูอัษฎาจะทำเมินเฉย ไม่มอง ไม่คุย ไม่แม้แต่จะแลหางตามองด้วยซ้ำ ทำไมรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้น ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ยังมีโอกาส ไม่แน่ ข้ามคืนไปแล้วคนงอนอาจจะหายก็ได้ คิดเช่นนั้นก็พลอยทำให้หายใจโล่งขึ้นมาหน่อย







   เช้าวันใหม่ คนนอนตื่นสายวาดมือไปที่ข้างๆ แต่เจอความว่างเปล่าและที่นอนอันเย็นเฉียบ ใหญ่ลืมตาตื่นขึ้นมา เขากวาดสายตามองไปทั่วห้องแต่ก็ไม่พบ พอออกมาด้านนอกเจอแม่ที่มาแต่เช้า เจอน้องชายที่เพิ่งงัวเงียเดินออกจากห้อง เจอนมอิ่มที่เลี้ยงมากำลังตักข้าวต้มใส่ชาม แล้วอีกคนล่ะ...

   “มองหาใคร” คุณพิกุลเอ่ยถาม

   “แม่มาซะเช้าเลยนะครับ” ใหญ่ไม่ตอบ แต่ทำเป็นถามกลับ ขายาวเดินมานั่งที่เก้าอี้ แม้จะยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟัน แต่ก็เผลอดื่มกาแฟเข้าไปแล้ว

   “ตาเล็กแวะรับมาน่ะ” ใหญ่หันไปมองน้องอย่างงงๆ ก็สภาพเล็กเพิ่งตื่นจะออกไปรับแม่ที่รีสอร์ทได้อย่างไร “ได้ข่าวว่า เมื่อวานทะเลาะกับคุณทัศนัยรึตาใหญ่”

   “ไม่ได้ทะเลาะสักหน่อย” ใหญ่ว่า “แล้วนี่...เอ่อ”

   “จะถามว่าอัดไปไหนล่ะสิ” เล็กเอ่ยออกมา คนมองหารีบพยักหน้า “เขาไปแล้ว”

   “ไปแล้ว? ไปไหน” ทันทีที่ได้ยินน้องชายบอก ใหญ่ก็รีบถามกลับทันที คิ้วเข้มขมวดมุ่น

   “ไม่รู้ ก็พี่ไม่รักอัดอย่างที่คุณทัศนัยเขาว่า พี่ก็ปล่อยอัดไปนั่นแหละครับถูกแล้ว” เล็กพูดก่อนจิบกาแฟยามเช้าอย่างสบายอารมณ์ “ผมถามพี่ใหญ่อีกครั้ง พี่รักอัดเขาหรือเปล่า” คำพูดจริงจังของน้องชายและสายตากดดันของแม่และนมอิ่มทำให้ใหญ่คิดหนัก

   “ไม่...”

   “ไม่ได้รักเหรอ”

   “ไม่...”

   คำว่าไม่ลอยอยู่เต็มหัวไปหมด ใหญ่สะบัดศีรษะแรงๆ หลายที พยายามเถียงกับความคิดของตัวเอง ไม่ เขาไม่ได้รัก ไม่สิ เขารัก หรือไม่ได้รัก

   “พี่ใหญ่ไม่ได้รักอัดเขาใช่ไหม” เล็กถามย้ำอีกครั้ง

   “เอ่อ รักก็ได้ รัก พอใจหรือยัง” ใหญ่ตะโกนออกมาเสียงดัง
 
   “พูดไปเขาก็ไม่ได้ยิน” เล็กเอ่ยเบาๆ

   “แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง เขาหายไปไหนก็ไม่รู้ ติดต่อก็ไม่ได้ เมื่อวานหน้าฉันเขายังไม่มอง น้อยใจอะไร งอนเรื่องไหน จะง้อยังไง โว้ย ประสาทจะกินอยู่แล้ว” ใหญ่ระบายความในใจออกมา 

   “ถ้าผมบอกว่า ผมรู้ที่อยู่ล่ะ” เล็กเอ่ยออกมาก่อนชายตาแลพี่ชายตัวเอง

   “ที่ไหน” น้ำเสียงร้อนรนมาพร้อมแรงเขย่าที่ต้นแขนจนเล็กแทบความดันขึ้น “ไอ้เล็กบอกมาว่าที่ไหน”

   “ถ้าพี่ยังเขย่าผมแบบนี้ ผมคงบอกพี่ไม่ได้” คนถูกเขย่าพูดฟังแทบไม่ได้ศัพท์ พอใหญ่ลดมือลง เล็กก็รีบบีบนวดต้นแขนตัวเอง รู้สึกเหมือนถูกคีมใหญ่ๆ หนีบจนปวดไปถึงกระดูก

   “บอกมา”

   “เขากลับไปทำงานที่กรุงเทพแล้ว” เป็นคุณพิกุลที่พูดออกมาเรียบๆ ใหญ่ได้ยินถึงกับทรุดนั่ง ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือด สิ่งที่อัษฎาเคยบอกไว้ว่าถูกชักชวนให้ไปทำงานย้อนกลับเข้ามา ไม่จริงใช่ไหม อัษฎาทิ้งเขาอย่างนั้นหรือ เป็นไปไม่ได้หรอก...ใช่ไหม

   “พี่ใหญ่ ผมรู้ว่าทำใจยาก แต่พี่ทำมันพังเอง” เล็กตบบ่าพี่ชายพร้อมปลอบ

   “แม่เคยเตือน เคยบอกมาตลอดว่าให้ดูแลคนปัจจุบันให้ดี เป็นไงล่ะ ฟอร์มจัด ท่ามาก ไม่พอใจก็ดุ ก็ตวาด เขาทนแกได้ขนาดนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว” ไม่ได้อยากซ้ำเติม แต่สิ่งที่คุณพิกุลว่าถูกทั้งหมด ใหญ่ยกมือกุมขมับ รู้สึกเครียดในความผิดของตัวเอง เขาทำไม่ดีกับอัษฎามาตลอด ตั้งแต่แรกที่เจอจนถึงเมื่อวาน...

   “พวกคุณอย่าว่าคุณใหญ่เลยค่ะ” นมอิ่มรู้สึกสงสารคนที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก “อีกไม่นาน...”

   “พี่ใหญ่ไม่ตามไปหรือ” ใหญ่เงยหน้ามองนมอิ่มก่อนน้องชายจะพูดขัดขึ้นมา “ตามไปบอกแบบที่บอกกับพวกเราเมื่อกี้นี้ ไปบอกว่ารักอัด”

   “นั่นสิ ไม่แน่ ถ้าแกรีบตามไปตอนนี้ เขาอาจจะคลายโกรธบ้างแล้วก็ได้” คุณพิกุลรีบเสริมลูกชายคนเล็ก

   “ไปพาคนรักของพี่กลับมาให้ได้นะ สู้ๆ”

   ใหญ่มองกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่มีชื่อพร้อมที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ในมือ หลังจากน้องชายเป็นคนหยิบมาให้ นี่คือที่ๆ อัษฎาพัก เขาต้องรีบไปตามหัวใจอีกดวงของเขาให้กลับคือมา และเขาจะบอกความในใจทุกอย่าง รอก่อนนะ ที่รักของผม

   ลับหลังพี่ชายไป เล็กแอบหัวเราะออกมา มีคุณพิกุลยิ้มแย้มอารมณ์ดี จะมีแค่นมอิ่มที่ดูจะไม่พอใจที่สองแม่ลูกกลั่นแกล้งลูกชายคนโต ใหญ่เป็นคนใจร้อน หากรีบขับรถจนเกิดอุบัติเหตุจะทำอย่างไร ก็ได้แต่หวังว่าใหญ่จะถึงที่อย่างปลอดภัย



....TBC


ลุงฟอร์มจัดยอมรับแล้วว่ารัก เย้ๆ  :z2:


ปอลอ. อีกสองตอนจะจบแล้วเน้อ ลุงคนซึนใกล้จบแล้วว น่าใจหาย รู้สึกหมั่นไส้ลุงมากตั้งแต่ตอนที่หนึ่งจนถึงบทสุดท้าย  :laugh:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 20-12-2016 20:27:47
โดนเอาคืนนิดเดียวเอง หน้าซีดปากสั่นเลยเชียว 555555555555555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-12-2016 20:41:36
ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 20-12-2016 20:42:46
ก็ลุงขี้เก็ก ปากแข็งเกิ๊นนนนน โดนบ้างอ่ะ ดีและ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-12-2016 20:47:11
 :laugh:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 20-12-2016 20:50:47
5555 แหม่ ต้องสุมไฟกันกองใหญ่ทีเดียว
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 20-12-2016 20:56:00
จะจบแล้ว ไม่อยากให้จบเลย ขอตอนพิเศษเยอะๆได้ไหมคะ  :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 20-12-2016 21:13:47
เป็นไงล่ะ กว่าจะยอมเอ่ยปากนะคะลุง
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-12-2016 21:25:00
 :เฮ้อ:คุณใหญ่เอ้ยยย

 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-12-2016 21:29:43
สมน้ำหน้าคนปากหนัก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 20-12-2016 21:31:31
โอยยยยยย ขำแรงงง  สมน้ำหน้าลุงแก
อัดไปงานแต่งงานเพื่อนใช่ไหม อิอิ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-12-2016 21:35:36
โถววลุง ตื่นมาเมียหายนี่ถึงกับหน้าซีดปากสั่นเลยทีเดียว นี่แหละน้าคนปากหนักก็ต้องโดนเอาคืนแบบนี้แหละ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 20-12-2016 22:01:02
หาคนดามใจให้พี่ทัศด้วยยย สงสาร
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 20-12-2016 22:05:42
โอยย กว่าจะยอมพูด น้องมันร้องไห้ไปกี่รอบแล้ววว
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-12-2016 22:06:16
จะชอบทัศนัยก็คราวนี้แหละ

คนแต่งหาคู่ให้คุณทัศนัยเค้าหน่อยนะ

เป็นไงละคุณใหญ่ท่ามาก ฟอร์มเยอะ สุดท้ายก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ

ไปตามกลับมาให้ได้นะคับ สู้ๆคุณใหญ่
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 20-12-2016 22:15:14
 :c5: จดหมายน้อยๆนั่นมีอะไรน้าาา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 20-12-2016 22:43:51
ลุงโดนเอาคืนแบบจัดหนักเลยนะเนี่ยยยยย 5555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 20-12-2016 23:09:54
เอ้าค้างงง :a5:
สมน้ำหน้าเลยครับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 20-12-2016 23:13:54
สะใจจริงๆเลย :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 20-12-2016 23:37:06
ได้เวลาใหญ่ตามหาอัดแล้วสินะ รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 20-12-2016 23:40:21
คุณทัศนัยแอบร้าย แอบถามให้ผัวเมียเค้าทะเลาะกัน 555 แต่ก็ดีนะคะ เป็นตัวกระตุ้นคุณใหญ่ผู้ทึ่มีความซึนตลอดกาลให้ยอมรับออกมาได้

ปล.ยังไม่อยากให้จบเลยค่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 20-12-2016 23:46:06
ในที่สุดลุงก็ฟอร์มแตกแล้ว :laugh:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 20-12-2016 23:47:54
แผนสูงกันทั้งบ้าน5555555555

ลุงจะจบแล้วเหรอ กำลังสนุกเลยยยย :sad4: :o12: :hao5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 20-12-2016 23:50:30
ว้ายยยยสมน้ำหน้าเมียหาย!!!!
 :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3: :m14: :m14: :m14:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 21-12-2016 00:40:34
ลุงนี้เยอะจนหยดสุดท้ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 21-12-2016 00:43:43
วิ่งวนเป็นหนูติดจั่นเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 21-12-2016 00:50:49
สมน้ำหน้า ลุงอยากซึนดีนักโดนเอาคืนแบบนี้สิถึงจะเหมาะ น๊อคกลางอากาศไปเลย ชิ หมั่นไส้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 21-12-2016 01:31:49
5555555 อยากจะหัวเราะดังๆ

แกล้งลุงอีก แกล้งอีกแกล้งอีก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-12-2016 07:30:13
คุณใหญ่ เรื่องรัก ไม่รัก ไปตอบทัศนัยทำไม
สมน้ำหน้าคุณใหญ่ ท่ามาก ปากแข็ง :z6: :z6: :z6:
คราวนี้ละร้อนรน ตามง้อ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 21-12-2016 10:49:33
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 21-12-2016 11:56:51
รู้ใจตัวเองซักทีนะ อ่านแล้วลุ้นจริงๆ ว่าเมื่อไหร่จะใหญ่จะหลุดออกจากอดีตได้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 21-12-2016 18:04:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 21-12-2016 18:26:18
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 18 << [P.13] // [20/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 21-12-2016 21:10:11
มารอลุ้นว่าคุณใหญ่จะง้อเมียยังไง
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 21-12-2016 21:38:20
19


**โปรดทำใจก่อนอ่านค่า**



        ตึกสูงลิ่วตรงหน้าคือสถานที่ๆ มีชื่อโชว์หราบนกระดาษที่น้องชายเขียนบอกไว้ มือหนาผลักบานประตูใสเข้าไปด้านใน ดวงตาคมมองเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ด้านหน้าซึ่งมีสาวสวยโปรยยิ้มหวานรออยู่แล้ว

   “สวัสดีค่ะ ติดต่อสอบถามห้องพักได้นะคะ” แม้จะยิ้มหวานเพียงใด แต่ใหญ่ก็ไม่สนใจ ดวงตาคมกวาดมองไปรอบๆ บริเวณ “มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ”

   “ขอโทษนะครับ อัษฎาพักห้องไหนหรือครับ” สุดท้ายก็ถามไป ในเมื่อตั้งใจมาแล้ว อีกทั้งยังขับรถข้ามคืนมาด้วย ตอนแรกถูกทั้งแม่และนมอิ่มห้าม แต่ในเมื่อรู้ที่อยู่หัวใจตัวเองแล้วจะรอช้าทำไม ขนาดมื้อเช้ายังไม่สำคัญเท่า ใหญ่ออกจากไร่ช่วงบ่ายๆ หลังถูกน้องชายบังคับให้เคลียร์เอกสารก่อนมา ไม่อย่างนั้นคงจะมาถึงช่วงเย็นแล้ว แต่นี่มาถึงเมืองกรุงก็ค่อนดึกดื่น หากไม่ได้กาแฟดำนับห้าแก้วละก็ รถเขาอาจจะไปชนที่ไหนสักที่

   “เอ่อ...เราบอกไม่ได้จริงๆ ค่ะ เพราะเป็นกฎของที่นี่” ห้ามเปิดเผยเลขของห้องพักให้คนนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนพักอาศัย เพื่อความปลอดภัยของเจ้าของห้องพัก นี่คือกฎที่พนักงานต้องจำให้ขึ้นใจ

   “ผมเป็น...เอ่อ เป็นแฟนเขาๆ หนีผมมา” ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีก ใหญ่บอกออกไปจนสาวเจ้าทำตาโตแล้วยิ้มออกมาด้วยความเสียดาย “ขอร้องเถอะครับ ผมอยากเจอเขาจริงๆ”

   ด้วยความรู้สึกเห็นใจในความรัก ตอนนี้ใหญ่เลยได้มายืนหน้าห้องสี่ศูนย์สอง ห้องที่ประชาสัมพันธ์สาวบอกว่าเป็นของอัษฎาที่ซื้อทิ้งไว้สมัยอาศัยอยู่กรุงเทพ นาฬิกาข้อมือบอกเวลาล่วงเลยเข้าวันใหม่ ใหญ่ไม่อยากจะปลุกคนในห้องให้ตื่นเลยเลือกที่จะทรุดนั่งหน้าประตูแทน

   เวลาค่อยๆ ผ่านไป คนที่ขับรถมาเป็นเวลานานกำลังเผลอหลับสนิท มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนนี้มีคนสะกิด

    “อัด” เผลอสะดุ้งเรียกชื่อ แต่พอลืมตาตื่นกลับเป็นคนอื่น ชายร่างผอมทำตาโตตกใจ ที่เขาปลุกก็เพราะใหญ่กำลังจะหัวทิ่มลงพื้น “ขอบคุณครับ” คนถูกปลุกสะบัดศีรษะคลายความมึนงง

   “ไม่เรียกคนข้างในล่ะครับ นอนตรงนี้ยุงก็หามพอดี” ชายหนุ่มสวมชุดพนักงานร้านสะดวกซื้อยิ้มบางๆ ก่อนขอตัวกลับห้อง ใหญ่ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูอีกที เวลาเพิ่งผ่านไปแค่ชั่วโมงเดียว ปากบางหาวจนน้ำตาไหล

   ขณะกำลังบิดตัวเพื่อไล่ความปวดเมื่อย อยู่ๆ ประตูห้องก็เปิดออก เจ้าของห้องทำตาปรือหันซ้ายหันขวาแต่ก็ไม่เจอใคร จนรู้สึกถึงแรงกระตุกที่ขากางเกงเลยก้มมอง

   “คุณใหญ่!” อัษฎาตะโกนลั่นตึกอย่างลืมตัว ก่อนจะรีบดึงคนที่ไม่คิดว่าจะมานั่งหน้าห้องให้เข้ามาด้านใน “คุณใหญ่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อเจอหน้าคมเข้มจ้องมองอยู่

   “ขับรถมาตั้งแต่เช้าแล้ว กว่าจะถึงก็ดึก” ใหญ่ว่า       

   “เลยนอนอยู่หน้าห้องแทนหรือครับ” เพราะเสียงคนคุยกันเสียงดังหน้าห้อง อัษฎาเลยสะดุ้งตื่นก่อนจะเปิดประตูออกไปดู “ทำไมไม่เคาะเรียกผมล่ะ”

   “ไม่อยากกวน”

   “คิดอะไรไม่เข้าท่า” อัษฎากอดอกยืนมองคนที่มาจากเชียงใหม่ ดูจากใบหน้าที่อิดโรยคงเหนื่อยจากการเดินทางระยะไกลพอสมควร “คุณใหญ่ไปเปลี่ยนชุดแล้วนอนพักเถอะ ตาจะปิดอยู่แล้วนั่น” นึกขำกับคนนั่งตาปรอย หัวเอนไปหน้าทีหลังที

   คนง่วงพยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำพร้อมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงกีฬาที่น่าจะใส่ได้ ใหญ่เปลี่ยนชุดของอัษฎาเสร็จก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม วันนี้แดดร้อนอีกทั้งยังขับรถโดยไม่แวะที่ไหนเลยนอกจากร้านกาแฟ เพราะใจมาอยู่ที่นี่ ตัวเลยต้องรีบตามมา ขนาดข้าวยังไม่ตกถึงท้องสักเม็ด

   เสียงท้องของคนนอนหลับร้องโครกคราก อัษฎาที่กำลังจะล้มตัวนอนข้างๆ ถึงกับสะดุ้ง นี่อย่าบอกว่าข้าวก็ไม่ได้แวะกินมา อะไรจะรีบขนาดนั้น แล้วนี่ก็ยังไม่รู้ว่ามาที่นี่ทำไม






   นาฬิกาปลุกปล่อยพลังเสียงจนแสบแก้วหู ใหญ่รู้สึกว่าตัวเองเพิ่งได้นอนไป ความปวดเมื่อยตามร่างกายทำให้ขี้เกียจจะลุกจากเตียงนุ่ม แขนยาวยืดไปจนสุดตามความเคยชิน ก่อนดวงตาคมจะมองเพดานสีขาวด้วยความมึนงง

   “ตื่นแล้วเหรอครับ” เสียงดังจากปลายเตียงเรียกให้คนเพิ่งนึกอะไรออกลุกพรวดจนหน้ามืดกระทะหัน ใหญ่ยกมือกุมหน้าสักครู่พอเริ่มดีก็ยิ้มนิดๆ อัษฎาวางจานมื้อเช้าบนโต๊ะ กลิ่นหอมยั่วยวนชวนน้ำลายสอ ใหญ่ที่ไม่ได้กินข้าวมาเมื่อวานรีบลุกมาจากเตียงกำช้อนไว้แน่น

   “หอมมาก” ใหญ่ทำตาเป็นประกาย ข้าวผัดหมูกับไข่ดาวสุกพอดีๆ น่ากิน อัษฎาลงนั่งข้างๆ มองคนที่จัดการมื้อเช้าด้วยความเอร็ดอร่อย เพียงไม่นานข้าวก็หมด จานใบใหญ่ไม่เหลือข้าวสักเม็ด พออิ่ม อัษฎาก็เป็นคนเก็บจานแต่ใหญ่รีบแย่งไปล้าง สร้างความแปลกใจให้คนยืนมอง

   “คุณใหญ่เอาหัวชนต้นไม้มาหรือเปล่า” อัษฎายืนมองคนตั้งใจล้างจานจนเอี่ยมสะอาด

   “เปล่า” ใหญ่เช็ดมือกับผ้าสะอาดแล้วเดินมารวบร่างผอมแนบอก คนถูกกอดตกใจทำตาโต “อย่าอยู่ที่นี่เลยนะ” น้ำเสียงอ่อนคล้ายอ้อนวอนดังใกล้หู

   “คุณใหญ่เป็นอะไร” อัษฎาเอี้ยวคอมองใหญ่ที่กอดเขาจากด้านหลังด้วยความสงสัย “แล้วทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ”

   “อย่าหนีพี่มาอยู่ที่นี่เลยนะ” สรรพนามแทนตัวเองเปลี่ยนไป ใหญ่วางคางกับบ่าคนตัวหอม “อัด พี่ขอโทษ พี่รู้ว่าพี่ทำผิด พี่นิสัยไม่ดี ชอบตวาด ชอบดุ แถมขี้หึงมากด้วย”

   “เป็นโรคไบโพล่า” คนในอ้อมกอดพูดแทรกพร้อมหัวเราะเลยถูกฉกหอมแก้มฟอดใหญ่

   “พี่รู้ตัวว่าทำผิดมาก แต่อัดอย่าหนีพี่มาทำงานที่นี่เลย ต่อไปพี่จะไม่ด่า ไม่ตวาด จะไม่ใช้แรงงานหนักด้วย ขออย่างเดียว กลับไปอยู่กับพี่นะ”

   “หนี...เหรอ”

   “พี่รักอัดนะ”

   “หา? คุณใหญ่ว่าอะไรนะครับ”

   “พี่รักอัด” เสียงเน้นย้ำทุกคำจนคนฟังใจเต้นระส่ำ “พี่ก็ไม่รู้ตัวว่าเริ่มรักตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้เพียงว่า ไม่ชอบเห็นอัดยิ้มให้ใคร โดยเฉพาะไอ้เจ้าของร้านหน้าขาวนั่น”

   “เดี๋ยวครับคุณใหญ่ ตอนนี้ผมกำลังงง คุณใหญ่บอกว่าผมหนีมาทำงานที่นี่หรือครับ” ใหญ่พยักหน้าลงช้าๆ “ผมว่าต้องมีการเข้าใจผิดแล้วล่ะ ผมไม่ได้มาทำงานที่นี่”

   “ไม่จริง ถ้าไม่มาทำงานที่นี่ อัดจะหนีพี่มาทำไม”

   “ผมไม่ได้หนีสักหน่อย”

   “หนีสิ”

   “ผมเขียนจดหมายวางบนโต๊ะนั่นไง คุณใหญ่ไม่ได้อ่านหรือครับ”

   “จดหมายอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่อง”

   “ผมเขียนบอกว่าจะมากรุงเทพสักสามวันเพื่อมาช่วยงานแต่งงานของแอน คนที่ไปถ่ายรายการที่ไร่คุณใหญ่ไง จำได้ไหมครับ” พอได้ยินคนที่ไม่เห็นจดหมายขมวดคิ้วมุ่น ใหญ่ผละจากคนตัวหอมมานั่งที่เก้าอี้พร้อมใช้ความคิด “แล้วผมก็บอกทั้งแม่ ทั้งคุณเล็ก แล้วคุณเล็กก็เป็นคนจองตั๋วแถมมาส่งผมขึ้นเครื่องบินเอง พวกเขาไม่ได้บอกคุณใหญ่หรือครับ”

   นั่นปะไร ถูกน้องชายเล่นจนได้ ใหญ่เม้มปากข่มอารมณ์โมโหที่พุ่งพล่าน หากเล็กยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้คงจะเห็นตัวเท่ามดแล้วก็จะขยี้ด้วยเท้าให้เละ

   “นี่พี่ถูกไอ้เล็กมันหลอกหรือ” คนถูกหลอกกุมขมับ “ทุกคนหลอกพี่งั้นหรือ”

   อัษฎาวางมือบนบ่าเพื่อปลอบใจคนถูกหลอก ใหญ่กุมมือขาวให้มาจับแก้มตัวเองพร้อมถูไถไปมาคล้ายกับอ้อนจนเจ้าของมือหัวเราะออกมา

   “คุณใหญ่...”

   “เรียกพี่ใหญ่สิ” ใหญ่ดึงร่างที่ยืนปลอบให้นั่งลงบนตัก แขนยาวโอบรอบเอวพอหลวม “ต่อไปให้เรียกพี่ใหญ่ ห้ามเรียกคุณใหญ่อีก” จมูกโด่งคลอเคลียพวงแก้มใส

   “พูดให้ฟังอีกทีได้ไหมครับ” อัษฎาจับหน้าหล่อไว้ ดวงตากลมโตจ้องมองดวงตาคมด้วยความอ่อนโยน

   “พี่รักอัดนะครับ รักมาก หวงด้วย หึงด้วย” ริมฝีปากบางจูบซับแก้มเนียนก่อนวกมาจูบย้ำๆ ปากแดง

   “เรื่องคุณเล็ก พี่ใหญ่อย่าไปเอาเรื่องเลยนะ” อัษฎาอ้อนวอนเพราะรู้สึกถึงชะตากรรมของเล็กคงจะไม่ค่อยดีแน่ๆ หากใหญ่กลับไป

   “เรื่องไอ้เล็กพี่คงทำตามที่อัดขอไม่ได้ พี่เกือบหลับในตั้งหลายครั้ง” คนเกือบหลับในทำหน้าบูด “แต่ตอนนี้ พี่มีเรื่องต้องจัดการก่อนกลับไปเก็บน้องตัวเองอีก”

   “จัดการเรื่องอะไรหรือ”

   อัษฎามองดวงตาคมยามจ้องมองในระยะใกล้ นัยน์ตาแววระยับช่างดูเจ้าเล่ห์ซะจริง และสิ่งที่คิดไว้ก็ไม่ผิดสักนิด เมื่อร่างผอมของตัวเองถูกใหญ่ช้อนอุ้มไปวางบนเตียงนุ่ม ก่อนร่างกำยำจะคร่อมทับ

   “เรื่องนี้ไง คิดถึงจะตายอยู่แล้ว”

   พูดจบ ปากแดงก็ถูกประกบ เนิ่นนานจนเกือบหายใจไม่ทัน

   “พี่ใหญ่”

   “ครับ”

   เสียงเบาหวิวกระซิบชิดใบหูพร้อมขบเม้มเบาๆ สร้างความสยิวให้ร่างผอมจนต้องย่นคอหนี ปากบางกำลังจะเคลื่อนย้ายจากใบหูมาที่คอแต่ถูกมือนุ่มดันหน้าไปซะก่อน คนถูกขัดมุ่ยหน้าเมื่อโดนขัดใจ

   “ทำไมครับ”

   “อัดต้องไปช่วยงานเพื่อน”

   “เดี๋ยวค่อยไปไม่ได้หรือ พี่ไม่ไหวแล้วนะ” คนไม่ไหวจับมือนุ่มลงไปสัมผัสสิ่งที่ตื่นตัวพร้อมออกรบ “นะครับ” ทั้งน้ำเสียงและสายตาอ้อนวอนทำเอาหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ อัษฎาก้มหน้างุดก่อนพยักหน้าลงเบาๆ เชิงอนุญาต

   เมื่อได้รับคำอนุญาต ใหญ่ไม่รอช้า เขาจัดการลอกคราบคนตัวหอมจนไร้อาภรณ์ เสื้อเชิ้ตที่อุตส่าห์รีดมาเมื่อคืนถูกปาทิ้งปลายเตียง ส่วนกางเกงยีนส์กับกางเกงชั้นในกองอยู่หน้าห้องน้ำเรียบร้อย

   “พี่รักอัดนะ” เสียงพูดปนกระเส่าแว่วเข้ามายามสติกำลังถูกฉุดให้ว่างเปล่า อัษฎาพยักหน้าเบาๆ เพื่อให้คนบอกได้รับรู้ “แล้วอัดรักพี่ไหมครับ”

   “รัก...รักมานานแล้วด้วย” อัษฎาจับหน้าหล่อมาประกบจูบ

   ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรก หรือครั้งที่สอง คนชักนำก็อ่อนโยนทุกครั้ง ใหญ่ค่อยๆ ห่มรักอย่างทะลุถนอม แม้จะหนักหน่วงบ้างตามอารมณ์แต่ก็ไม่ถูกทักท้วงใดๆ ยิ่งมีเสียงครางกระเส่าคล้ายแมวตัวน้อยยิ่งกระพือกามอารมณ์ให้ลุกโหม ผิวกายนุ่มลื่น เนียนไปทุกสัดส่วน ใหญ่ไม่พลาดที่จะฝากรอยรักไว้ทุกจุด ร่างกายที่ไม่นุ่มเท่าหญิงแต่กลับทำให้หลงใหลจนยากที่จะถอนตัว

   “พอแล้ว สายแล้วด้วย” อัษฎาขยับตัวหนีเล็กน้อยเมื่อคนด้านบนก้มลงมาจูบไหปลาร้าจนมีรอยสีกุหลาบนิดๆ

   “พี่ไปด้วยนะ” ตอนนี้คนที่ชอบตวาดหายไปแล้ว เหลือแค่คนขี้อ้อนที่กำลังส่งสายตาหวาดหยาดเยิ้มมาให้ “นะครับ ให้พี่ไปด้วย”

   “ก็ได้ แต่ระวังเบื่อนะ” พอตอบตกลง แก้มเนียนก็ถูกหอมอีกหลายฟอด

   กว่าจะออกจากห้องได้ร่างผอมก็แทบไม่ได้เดิน หากถูกอุ้มได้คงถูกอุ้มไปแล้ว ใหญ่ไม่ยอมปล่อยให้อัษฎาอยู่ไกลมือ ไม่ว่าจะในลิฟต์หรือแม้แต่ในรถ มือกร้านยังกอบกุมมือนุ่มอยู่ตลอด บ่อยครั้งจะยกมาจูบพร้อมสายตาหวาน ขนาดการจราจรที่หนาแน่นยังไม่ทำให้อารมณ์แปรเปลี่ยน ยิ่งดีเสียอีกที่จะได้อยู่แบบนี้ไปอีกนานๆ

   รถฟอร์จูนเนอร์สีขาวเข้าจอดที่ลานใต้โรงแรม เจ้าของรถรีบดับเครื่องแล้ววิ่งอ้อมมาเปิดประตูให้คนนั่งข้าง อัษฎาเลิกคิ้วมองการกระทำที่ไม่เคยเห็น แต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้เป็นคนทลายกำแพงคนนอกกลายมาเป็นคนสำคัญได้ ยิ่งนึกถึงตอนที่ใหญ่สารภาพว่ารักก็ทำให้เขินจนหน้าร้อน

   นี่ใหญ่บอกรักเขาจริงๆ หรือเขาแค่ฝันไปกันแน่

   “เชิญครับ” คนเปิดประตูยิ้มหวานแล้วยื่นมือไปประคอง

   “รู้สึกแปลกๆ” อัษฎาบอกพร้อมขำ ปกติไม่เคยเจอแบบนี้เลยไม่ค่อยชินตาสักเท่าไหร่

   “เดี๋ยวก็ชิน” ใหญ่จับมือนุ่มที่คล้องแขนแล้วยกยิ้มให้ ที่จริงตัวเขาเองก็ไม่ชินเหมือนกัน กับภรรยาคนเก่าก็ไม่ได้จี๋จ๋าแบบนี้ คงเพราะทั้งเขาและภรรยาต่างต้องทำไร่ตลอดเลยไม่มีเวลามาสวีทหวาน พอคิดเช่นนี้ก็รู้สึกสงสารคนเก่า ใบหน้าคมเข้มหุบยิ้มลง
 
   “พี่ใหญ่เป็นอะไรหรือเปล่า” สังเกตเห็นคนข้างตัวนิ่งเงียบ อัษฎาเลยสะกิด ใหญ่หันมามองแล้วส่ายหน้าช้าๆ พยายามไม่เอาอดีตมากั้นความรู้สึก

   บริเวณที่จัดงาน ตอนนี้มีดอกกุหลาบสีขาวจำนวนมากที่กำลังถูกขนเข้ามาให้จัดซุ้ม อัษฎาเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวที่มาคุมงานด้วยตัวเอง ส่วนคนที่มาด้วยเดินแยกไปดูดอกกุหลาบด้วยความสนใจ คงเพราะทำไร่ดอกกุหลาบทำให้เจ้าของไร่ขมวดคิ้วเมื่อเห็น

   “มีอะไรหรือครับ” อัษฎาที่สังเกตเห็นท่าทีแปลกๆ ก็รีบเดินเข้าไปถาม

   “ดอกไม้นี่สั่งจากร้านไหนหรือครับ” ใหญ่ไม่ได้ตอบคำถาม แต่เลือกจะหันไปถามว่าที่เจ้าสาวแทน แอนทำหน้าเหลอหลาก่อนจะยื่นใบเสร็จที่มีชื่อร้านดอกไม้ให้ดู

   “มีอะไรหรือคะ”

   “พอดีผมเห็นขนาดดอกไม่เท่ากัน บางดอกก็ดูเล็กเกินไป หากสั่งแบบจัมโบ้ตามใบเสร็จนี้” ใหญ่หยิบดอกกุหลาบสีขาวขึ้นมาจากช่อ “อย่างเช่นดอกนี้ ดูไม่น่าจะได้มาตรฐานขนาดจัมโบ้นะครับ”

   “จริงด้วย” ว่าที่เจ้าสาวขมวดคิ้วก่อนเรียกพนักงานส่งดอกไม้เข้ามาถาม พอถูกคาดคั้นก็เกิดอาการลังเลเพราะไม่รู้อะไร เลยต้องโทรติดต่อเจ้าของร้าน “ขอบคุณนะคะ หากไม่ได้คุณใหญ่ แอนคงถูกร้านสอดไส้แน่ๆ จ่ายเงินเต็มที่แต่ของไม่ได้มาตรฐาน”

   ว่าที่เจ้าสาวแยกตัวไปคุยกับเจ้าของร้านดอกไม้ที่จัดหามาไม่ตรงตามที่คุยตั้งแต่แรก เมื่ออยู่กันเพียงลำพัง อัษฎายกนิ้วโป้งสองข้างให้กับคนที่รู้เรื่องและเชี่ยวชาญ คนที่ได้รับคำชมยิ้มแป้น ที่จริงจะปล่อยเฉยก็ได้ เพราะส่วนมากหากมีลูกค้าสั่งดอกไม้มากมายขนาดนี้ก็คงจะมีดอกเล็ก ดอกใหญ่ปะปนกันมา แต่ดูจากราคามันสูงเกินไปที่จะได้ของต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งตรงนี้ คนที่ปลูกและพัฒนามากับมือปล่อยเฉยไม่ได้จริงๆ

   “เจ้าของร้านดอกไม้จะด่าหรือเปล่าเนี่ย” อัษฎาพูดลอยๆ เมื่อได้ยินเพื่อนสาวบ่นเจ้าของร้านเรื่องส่งดอกกุหลาบต่างไซส์ แม้จะพูดแทบไร้เสียง แต่คนหูดีและอยู่ใกล้ย่อมได้ยินอย่างแน่นอน

   “ถ้ากล้าด่าก็มาตอนนี้เลยสิ พี่จะจัดให้ชุดใหญ่เลยทีเดียว” ใหญ่เดินเข้ามากระซิบ ท่าทางไม่ได้พูดเล่นแน่หากเจ้าของร้านจะมาเจอ

   “พี่ใหญ่ก็ ยอมนิดยอมหน่อยก็ไม่ได้ ดอกเล็กๆ เราก็เอาแซมดอกใหญ่ไม่เห็นจะเป็นอะไร”

   “อัดต้องจำไว้ว่ามีสามีเป็นเจ้าของไร่ดอกไม้ ดังนั้น หากเราจะส่งของ เราก็ต้องส่งตามที่ลูกค้าต้องการ เราต้องคัดสรร จัดหา ไม่ใช่ทำแบบส่งๆ ไป แบบนั้นลูกค้าได้หายหมดพอดี เงินไม่ใช่บาทสองบาท”

   “ครับๆ ตาลุงขี้บ่น” อัษฎาหัวเราะให้คนบ่นที่หน้าบึ้ง พอดีกับว่าที่เจ้าสาวเดินมา ทั้งสองเลยหันไปสนใจเพราะอยากรู้ว่าเจ้าของร้านดอกไม้จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร “เขาว่าอย่างไรบ้าง”

   “เห็นว่าจะเปลี่ยนให้ แต่ให้เราคัดแยกดอกเล็กออก แล้วจะเอามาเปลี่ยนตามจำนวน” ว่าที่เจ้าสาวตีหน้ายุ่ง เพราะดอกไม้ตั้งมากมายจะไปคัดแยกหมดได้อย่างไร อีกทั้งพรุ่งนี้งานก็จะเริ่มแล้ว “แต่เราว่า คงไม่ทัน อาจต้องใช้ดอกเล็กนั่นไป” แอนฝืนยิ้มให้เพื่อนสนิทรวมไปถึงเจ้าของไร่ที่เดินแยกไปทางซุ้มดอกไม้

   “เพราะมันฉุกละหุกเกินไป ถ้าผมมาเร็วกว่านี้ คุณคงไม่ต้องถูกเอาเปรียบ” เจ้าของไร่สุดเนี๊ยบรู้สึกเสียใจนิดๆ ที่ช่วยอะไรไม่ได้ หากจะให้คัดแยกจริงคงใช้เวลานานทั้งทางนี้และทางร้านด้วย

   “ช่างปะไร แค่จัดให้สวยก็พอ ไม่มีคนจับผิดหรอกว่าดอกกุหลาบเล็กหรือใหญ่” อัษฎาว่าปิดท้าย ก่อนทั้งสามจะพากันหัวเราะ

   การตกแต่งห้องจัดเลี้ยงวันสุดท้ายเป็นไปอย่างเรียบร้อย แม้จะเหน็ดเหนื่อยมากสักหน่อย แต่งานที่ออกมาสมบูรณ์ตามที่หวังไว้ ว่าที่เจ้าสาวที่ลงมาดูแลเองดูจะปลื้มใจ งานนี้ไม่ได้จัดใหญ่โต มีเพียงญาติสนิทและเพื่อนกันเท่านั้น

   “เสร็จสักที ว่าแต่ แกจะกลับยังไงหรือ” อัษฎาเช็ดเหงื่อให้คนช่วยติดป้ายชื่อพลางเอ่ยถามเพื่อนสนิท

   “เดี๋ยวพี่พลมารับ นั่นไง” แอนหันไปเจอว่าที่เจ้าบ่าวของตัวเองที่เดินยิ้มแย้มเข้ามาหา “เคลียร์ทุกอย่างหมดแล้วใช่ไหม จะมาลืมนั่นลืมนี่ไม่ได้แล้วนะ” ว่าที่เจ้าสาวหน้าง้ำงอ เพราะเมื่อวานว่าที่เจ้าบ่าวดันลืมแจกการ์ดญาติฝ่ายแม่ของตัวเอง วันนี้เลยต้องเดินสายแจกเองทั้งวัน

   “ครับ เหนื่อยมาก” แอนพยักพเยิดหน้าให้ดูคนของตัวเองที่อ้อนโน้มหัวมาพิงไหล่ อัษฎาเห็นแล้วก็ขำก่อนจะขำไม่ออก เมื่อมีมือจับที่เอว “ขอบคุณน้องอัดมากเลยนะที่มาช่วย แล้วนี่....”

   “สวัสดีครับ ผมใหญ่ เป็นแฟนของอัด” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยอย่างมั่นคงและเต็มใจ ดวงตาคมยามนี้ช่างอ่อนโยนไร้ความดุดันเช่นก่อน

   “แหม สวีทหวานแซงคู่เราไปแล้วนะ” แอนเอ่ยหยอกล้อเพื่อนสนิทที่เขินหน้าแดง

   ทั้งสี่อยู่คุยกันอีกครู่ใหญ่ก่อนแยกย้ายกันกลับ อัษฎาที่นั่งมาในรถเพิ่งสังเกตว่าคนขับรถทำไมรู้เส้นทางเมืองกรุงเป็นอย่างดี ใหญ่เลิกคิ้วเมื่อถูกถาม

   “คิดว่าพี่เป็นคนหลังเขาไม่เคยมาเมืองศิวิไลขนาดนั้นเลยหรือ”

   “ก็แค่สงสัยเท่านั้นเอง ดูพี่ใหญ่ขับรถรู้เส้นทางไปซะหมด”

   “พี่เรียนปริญญาตรีแล้วก็โทที่นี่ แต่ตอนนั้นถนนหนทางไม่ได้มากมายเช่นนี้ บางทีก็หลงเหมือนกันนะ”

   น่าแปลกกับข้อมูลที่เพิ่งรู้ ใหญ่เรียนจบปริญญาโทด้วยหรือนี่ คิดว่าจบปริญญาตรีบริหารเท่านั้น ไม่ใช่เล่นๆ เลยผู้ชายขี้เก๊กคนนี้

   “พรุ่งนี้เราอยู่แค่ช่วงเช้า ช่วงบ่ายกลับไร่กันไหมครับ” อัษฎาเอ่ยชวน เพราะงานกลางคืนจะเป็นปาร์ตี้ของเพื่อนๆ ซึ่งมีเพื่อนที่รู้จักแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ใหญ่รีบพยักหน้าเห็นด้วยทันที

   “ก็ดีเหมือนกัน พี่ก็ห่วงงานในไร่อยู่ ไม่รู้ตอนนี้จะเป็นอย่างไร” งานในไร่แม้น้องชายจะดูแลได้ แต่คงไม่เข้มงวดเหมือนเขา อีกอย่าง ต้องกลับไปสะสางคดีความที่เขาถูกน้องชายและคนอื่นๆ ต้มซะเปื่อย






   รถฟอร์จูนเนอร์สีขาวเลี้ยวเข้าจอดในโรงรถหน้าเรือนไม้ของไร่พิกุลจันทร์หอมในยามค่ำคืน อัษฎาขนกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองลงมาหลังจากเจ้าของไร่เดินอ้อมมาเปิดประตูให้ ความเหนื่อยล้าของทั้งคนขับและคนนั่งข้างทำให้ทั้งคู่อยากนอนมากกว่าพูดหรือคุยอะไรกัน พอขึ้นบ้านได้ก็ตรงเข้าห้อง ไม่สนใจเล็กที่เปิดประตูออกมาดูแล้วโบกมือทักทาย มีเพียงอัษฎาที่ยิ้มบางๆ แล้วเดินเข้าห้องไป ส่วนพี่ชายของเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง

   พรุ่งนี้งานคงเข้าสินะ

   แล้วสิ่งที่คิดไว้ก็เป็นจริง เล็กนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มหนาแต่ถูกกระชากออกโดยมือของพี่ชาย ใบหน้าเข้มทะมึนตึงพร้อมจะบีบคอน้องชายตัวเอง เล็กเห็นปุ๊บก็รีบถลาลงเตียง

   “พะ พี่ใหญ่” มาแบบไม่ทันตั้งตัว เล็กยิ้มแหยๆ พนมมือไหว้คนทำท่าโกรธตรงหน้าอย่างลุแก่โทษ “ผมขอโทษ”

   “เก็บคำขอโทษของแกไว้ซะ มาให้ฉันเตะแกซะดีๆ ไอ้เล็ก” ใหญ่ชี้หน้าแล้วเริ่มวิ่งไล่ แม้ก่อนนอนเมื่อคืนอัษฎาจะขอให้เขาไม่ทำอะไรน้องชาย แต่พอนึกถึงหน้ากับคำพูดมันแล้วก็อดที่จะแค้นไม่ได้ “ไอ้เล็ก อย่าหนี”

   “พี่ใหญ่ ผมขอโทษ” คนเป็นน้องวิ่งรอบบ้านทำเอาผู้คนในบ้านแตกตื่น จนคุณพิกุลต้องหยิบไม้เรียวที่แขวนผนังมาไล่หวดก้นทั้งพี่ทั้งน้อง การวิ่งไล่จึงหยุดลง แต่ถึงอย่างนั้นใหญ่ก็ยังใช้สายตาตวัดมองดุคาดโทษ

   “ถ้าแกจะโกรธน้องก็ต้องโกรธแม่ด้วย” คนห้ามเอ่ยขึ้น ในมือยังกำไม้เรียวไว้อยู่

   “แม่...”

   “ก็เพราะเราไม่ยอมพูดอะไรออกมา เอาแต่อ้ำอึ้ง ลังเล น้องมันก็รำคาญสิ ที่จริงต้องขอบใจน้องมันด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นแกจะได้เมียกลับมาแบบนี้หรือ” คุณพิกุลว่าเมื่อเห็นลูกสะใภ้ถูแขนแกร่งของลูกชายที่โดนไม้เรียวหวดเมื่อกี้

   “ใช่ๆ ถ้าไม่ได้ผม พี่ใหญ่จะไปรับอัดเขากลับมาหรือ ไม่แน่ อาจไม่กลับมาแล้วก็ได้” เล็กรีบเสริมก่อนถูกเขกหัวอย่างแรงจนหน้าเบี้ยว

   “ไม่ต้องทำมาเป็นพูด”

   “แม่ครับ ดูพี่ใหญ่ทำร้ายเล็ก”

   “แกไม่ต้องฟ้องแม่เลยนะ”

   “พอๆ หยุดทั้งพี่ทั้งน้องเลย ไม่อายอัดเขาหรือ โตขนาดนี้แล้ว” คุณพิกุลว่าอย่างอ่อนใจเมื่อพี่น้องยังมาเถียงกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง “งานเพื่อนเรียบร้อยดีนะ” เมื่อเห็นว่าพี่น้องเงียบกันแล้ว คุณพิกุลจึงถามลูกสะใภ้แทน ตอนที่อัษฎาเข้ามาขออนุญาตไปช่วยงานนั้น ใบหน้าขาวดูเศร้าหมอง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงช่วยลูกชายคนเล็กโกหกมดเท็จไป

   “ครับ” ตอบก่อนหันไปมองใหญ่ที่นั่งสะกิดแขนยิกๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ

   “เอาเถอะ ไปอาบน้ำแต่งตัวไป เดี๋ยวค่อยออกมากินข้าว วุ่นวายแต่เช้าเลยพี่น้องคู่นี้” เจ้าของบ้านโบกมือไล่ลูกชายก่อนจะกลับเข้าห้องโดยมีนมอิ่มประคอง

   ก่อนจะแยกย้ายกลับห้อง ใหญ่ยังเตะก้นเล็กส่งท้ายน้องชายจะเข้าห้อง แต่ก็ถูกอัษฎาตีเข้าแขนดังเพียะ ใหญ่หน้างอแล้วดึงแขนคนตีเข้าห้องเมื่อถูกเล็กหัวเราะเยาะเย้ย พอเข้าห้อง ร่างกำยำก็ดึงคนที่ทำให้ถูกล้อตามลงมานอนทับอกบนเตียง แขนแกร่งรัดเอวบางแน่น

   “พี่ใหญ่ทำอะไรเนี่ย” อัษฎาตกใจที่ถูกดึงตาม แถมยังถูกหอมแก้มซ้ายขวาจนมึนงงไปหมด

   “ลงโทษที่ทำให้พี่ถูกหัวเราะเยาะ” คนลงโทษยังระดมทั้งจูบทั้งหอมจนอัษฎาต้องดิ้นหนี แต่กลับถูกพลิกร่างลงไปนอนบนเตียงแทนแล้วถูกคร่อม

   “พี่ใหญ่”

   “นั่นไม่ได้เอาจริง นี่ต่างหาก”

   ดวงตาคมจ้องมองอย่างแพรวพราว มือกร้านค่อยๆ ปลดชุดนอนร่างหอมออก ปากก้มจูบผิวสวยตามกระดุมที่ถูกปลดทีละเม็ดอย่างหลงใหล พอด้านบนไร้อาภรณ์ชิ้นต่อไปก็ด้านล่าง ใหญ่ไม่รอช้าอีก มือดึงพรวดเดียวกางเกงที่สวมใส่ของร่างใต้หลุดออกจนหมด

   อารมณ์ดิบตามสัญชาตญาณพุ่งพรวดและคงรอช้าไม่ได้ในเมื่อของๆ เขาก็พร้อมแล้ว ยิ่งถูกมือนุ่มกอบกำไว้ยิ่งรู้สึกไวเป็นพิเศษ ที่เคยสอนมานั้นคนใต้ร่างช่างเป็นงานไวซะจริง ใหญ่ใช้เวลาไม่กี่วินาทีในการลอกคราบตัวเองจนเปลือยเปล่าเสมอกัน

   “มามะเมียจ๋า มาให้พี่ลงโทษซะดีๆ” คนเคยท่ามากกัดมุมปากขยิบตาเจ้าชู้ใส่ก่อนจะพุ่งคร่อมร่างบนเตียงที่เอาแต่หัวเราะให้กับท่าทางทะเล้นที่เห็น

   “นี่เอาจริงหรือทำให้ตลกละนี่” อัษฎาว่าขำๆ แต่ไม่นานเสียงหัวเราะก็กลายเป็นครางกระเส่าคล้ายกับแมวตัวน้อยที่ใหญ่อยากฟังมากที่สุด

   คนที่เคยบอกมีท่ายากแสดงให้ดูเป็นตัวอย่างเล็กน้อยเพราะต้องทำเวลา ร่างบางถูกจับให้นอนตะแคงข้าง มือกร้านยกขาเรียวให้เกี่ยวเอวสอบไว้ก่อนจะจัดการภาพยั่วยวนตรงหน้า สิ่งแข็งขืนดุนดันเข้าไปใหม่อีกครั้ง คนคุมเกมส์สลับจังหวะช้าบ้างเร็วบ้างจนร่างขาวตรงหน้าทนแทบไม่ไหวต้องร้องขอออกมา

   “อ๊ะ อื้อ พี่ใหญ่ ไม่ไหว”

   “จุ๊ๆ”

   คนขี้แกล้งไม่ยอมหยุด เอวสอบกลับกระแทกกระทั้นหนักขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้น บ่อยครั้งที่ปากบางจะโน้มลงไปซุกไซร้ตามซอกคอหอม พอร่างใต้ใกล้ถึงฝั่งฝัน คนขี้แกล้งกลับหยุดเคลื่อนไหวแล้วขยับลุกขึ้นนั่งโดยมีร่างผอมตามมานั่งทับ พอจัดอยู่ในท่านี้ ส่วนที่ยังเชื่อมอยู่ยิ่งฝังลึกจนอัษฎาต้องหน้ามุ่ย

   “อย่าแกล้งนะ...น้อง อื้อ”

   อัษฎาพูดฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อถูกคนด้านล่างขยับสวนทางเข้ามาจนสะดุ้งตัวโยน มือหนาสอดผ่านมาลูบไล้ทั่วอกขาวก่อนลดลงไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวร่างบนตักพร้อมออกแรงชักนำ อัษฎาเอื้อมมือไปขยุ้มกลุ่มผมดำคนด้านหลังเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน ทั้งด้านหน้าและด้านหลังรุกรานด้วยความเร็ว ไม่นานร่างผอมก็กระตุกปลอดปล่อยออกมาพร้อมๆ กับของรุ่มร้อนภายในตัวเต้นตุบๆ และปลดปล่อยเข้ามาตามหลัง

   “เมียพี่นี่น่ารักจริงๆ” ใหญ่พูดปนหอบหนัก รู้สึกเหนื่อยยิ่งกว่าเดินตรวจงานทั้งไร่อีก แต่ต่อให้เหนื่อยหนักกว่านี้ก็ยอมหากได้กอดกกร่างนุ่มไว้แบบนี้

   “ไม่ต้องพูดมากเลย จะไปอาบน้ำแล้ว ไม่รู้ช้าแบบนี้แม่จะบ่นหรือเปล่า” อัษฎาหน้างอแล้วเดินเปลือยเปล่าเข้าห้องน้ำ ขณะที่ใหญ่รีบวิ่งจะตามเข้าไปกลับถูกประตูปิดใส่หน้าจนหน้าผากโขกเสียงดังสนั่น

   “เล่นแรงเกินไปแล้ว” ใหญ่ลูบหน้าผากป้อยๆ แต่ปากบางยังติดรอยยิ้มอยู่ตลอด ตอนนี้รู้สึกมีความสุขมาก เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ความสุขนี้หลุดลอยไปอีก ไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน “อัดจ๋า พี่ใหญ่อาบน้ำด้วยคน”

   “ไม่โว้ย”


...TBC


อีกตอนเดียวจะจบแล้ววว วันนี้ปล่อยอ้อยไปแบบเบาๆ แต่ปาดเหงื่อมาก แต่งสวีทได้เท่านี้จริงๆ แย่จริงเชียว  :mew2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 21-12-2016 21:57:29
และแล้วลุงแกก็กลายร่างเป็นตาแก่ตัณหากลับไปโดยปริยาย ลุงเอ้ยยย พอปากตรงกับใจนี่ใส่ไม่ยับเลยนะ!!
ไม่อยากให้รีบจบเลย งืออออ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-12-2016 21:59:24
สวี้ต.....นี่ก็แซ่บหลายแล่วเด้อ  :ling1: :ling1: :ling1:
เห็นภาพแล่วเด๊อออ  :hao6: :pighaun: :haun4:
คุณใหญ่ ลดละปากแข็ง
ความสุขสม ก็มาเยือน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-12-2016 22:03:01
จัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-12-2016 22:14:08
โอ้โห คุณใหญ่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที
จากคนซึนปากแข็งกลายเป็นหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง :-[ :-[ :-[
แต่ความหื่นนี่คงที่ดีนะ :haun4: :haun4: :haun4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 21-12-2016 22:17:18
บทจะหวานนะลุง  :katai1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 21-12-2016 22:19:07
 :z1: :z1: :z1: :-[ :o8: :-[
โอยยยยยยย เกลียดลุงแก กลายร่างซะแล้วววว  :katai1: เอะอะก็จัดอย่างเดียว :hao5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-12-2016 23:01:40
 :L2: :L1: :pig4:

เราชอบอ้อยยย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 21-12-2016 23:09:38
พอรู้ใจตัวเองแล้วหมั่นไส้ มีจ๊ะมีจ๋าด้วย แหวะ! เลี่ยนแต่น่ารักดี
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 21-12-2016 23:09:59
ลุงเปลี๋ยนไป๋ แต่ความหื่นมีมากกว่าเดิม :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-12-2016 23:10:51
แหมๆ กว่าจะเอ่ยปากออกมาได้นะครับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 21-12-2016 23:14:28
 หว๊านหวาน ชอบบรรยากาศแบบนี้จัง อ่านไปยิ้มไปด้วย รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 21-12-2016 23:24:06
โอ้ยๆๆทำใจไม่ได้ ลุงเปลี่ยนไปปปปปป
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 21-12-2016 23:27:44
สุดท้ายก็แพ้ทางเมีย วะฮะฮ่าาา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 21-12-2016 23:28:21
สายหื่น
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 21-12-2016 23:41:11
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 22-12-2016 00:00:51
พอเลิกซึนก็ทั้งหื่นทั้งหวานจนน่าหมั่นไส้จริงๆด้วย ชิๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 22-12-2016 00:09:07
อิลุงนี้กำไรน่าดู เดี๋ยวกอด เดี๋ยวหอม แหม พอสารภาพรักเสร็จนี่อ้อยมาทั้งคันรถกันเลยทีเดียว  :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-12-2016 00:46:51
พี่ใหญ่อ้อนเมียหนักมาก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 22-12-2016 00:54:31
จะจบแล้วรึนี่ พึ่งได้เข้ามาอ่าน ดีงามมากๆ ชอบความเป็นพี่น้องของคุณใหญ่กับคุณเล็กมาก แล้วที่ขำสุดคือตอนที่อัดปวดขี้ 5555555555555 อันนี้ขำจริงๆนะ กำลังซึ้งบทแม่กับคุณเล็กอยู่มาเจออัดปวดขี้นี่ขำเลย5555555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 22-12-2016 00:55:56
ใครจะคิดว่าเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 22-12-2016 01:19:38
ลุงคนติดเมียเด็ก55555555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 22-12-2016 02:08:56
 :-[ พอคุณใหญ่รู้ตัวเท่านั้นล่ะ เราโกยน้ำตาลขึ้นไม่ทันเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 22-12-2016 03:06:09
เกลียดความอ้อน ความหวานนางอะ 555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 22-12-2016 05:22:57
โอ๊ะ นึกว่าจะเจ็บจี๊ดๆ

แล้วไหนอ่ะคนขี้เก๊ก คนฟอร์มจัด

ทำไมพอรู้ใจตัวเองนิสัยคุณใหญ่ถึงเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้

หมั่นไส้กว่าเดิมอีก  :z6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 22-12-2016 06:52:52
อิพี่ใหญ่หื่นได้หื่นดี น่าจะให้อัดงดบ้างนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 22-12-2016 08:40:09
ห๊ะ เป็นเอามากนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 22-12-2016 08:42:08
ขยี้ตาแปบ

โอโห้วววว เปลี่ยนไปเย้ออออเลยลุง
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 22-12-2016 10:17:05
เอิ้ววววว สวีทกันน่าร้าก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 22-12-2016 12:11:59
เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตะ ตะ เอออ....เท้า! เลยนะใหญ่
โอ๊ยยยยย อ้อนเมียอะไรขนาดนี้ คนอ่านยังกระดากแทนเลย
งานนี้ต้องขอบคุณเล็กนะ ไม่งั้นก็ยังบื้อ ปากแข็ง ไม่รู้ใจตัวเองต่อไป
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 22-12-2016 15:48:40
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 22-12-2016 20:11:21
อิลุงหื่น  :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Dezzerr ที่ 22-12-2016 21:54:35
ตามอ่านรวดเดียวจนทัน แฮร่
หมั่นไส้ตาลุงจริงเชียว
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ มีตอนพิเศษมาเรื่อยๆ ให้หายคิดถึงหน่อยนะคะ
รอตอนจบค่าาาา  :hao5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-12-2016 22:24:06
พี่ใหญ่เปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือ

เป็นเรื่องที่ดี ดีใจกับอัดด้วย

แต่สุดท้ายอยากรู้เรื่องของแฟนเก่าอัด

ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 22-12-2016 22:40:02
เดี๋ยวๆจริงๆแล้วพี่ใหญ่เป็นคนแบบนี้หรอ555555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 22-12-2016 23:32:25
แหม๋ พอพูดว่ารักได้เท่านั้นลุงแกก็จัดเต็มเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 22-12-2016 23:38:44
จะจบแล้วรู้สึกว่ามันไม่นานนี้เอง คุณใหญ่พอหายปากแข็งก็หื่นขึ้นมาตลอดเวเลยนะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Asmknrt ที่ 23-12-2016 06:44:27
จะจบแล้วหรือนี่ โอ้ยยยยยย ชอบเรื่องนี้จริงๆ o13
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 23-12-2016 12:27:37
สนุกมากเลยค่ะ อ่านรวบเดียว

ไม่อยากให้จบเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 19 << [P.14] // [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 23-12-2016 18:40:00
พี่ทัศนัยมาบ่อยๆ นะให้ตาลุง บ้าบิ่นไปเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 -END- << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 23-12-2016 22:00:59
20




        “ลุงใหญ่” ร่างป้อมวิ่งเข้ามาหา ยิ่งถูกลุงช้อนอุ้มยิ่งทำให้มีเสียงหัวเราะเอิ้กอ้าก “น้องต้นคิดถึง”

   “แล้วพ่อกับแม่เราล่ะ” ใหญ่หันซ้ายแลขวาเพราะเห็นแค่หลานชายวิ่งจากเรือนมาหาที่ไร่

   “น้องต้นมากับพี่อัดฮะ” ว่าแล้วก็ชี้ไปทางอัษฎาที่เดินยิ้มเข้ามาหา “พี่อัดบอกว่า ลุงใหญ่จะพาน้องต้นไปเที่ยวน้ำตก”

   “ลุงบอกหรือ” ใหญ่เหล่ตามองคนที่พาหลานมาหา “พี่ไปบอกตอนไหน”

   “ก็ตอนนี้แหละเนอะ” อัษฎาขยิบตาให้หลานชายของใหญ่ที่ยิ้มแป้นหอมแก้มลุงตัวเองฟอดใหญ่จนน้ำลายเยิ้ม

   แม้จะไม่ได้บอก สุดท้าย ใหญ่ก็พาทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาเที่ยวน้ำตก หลานชายตัวน้อยดูจะชอบเล่นน้ำ พอๆ กับเขาชอบมองร่างผอมดำผุดดำว่ายข้างๆ เสื้อขาวที่สวมแนบเนื้อจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน ใหญ่พยายามทบทวน ว่าทำไมเดี๋ยวนี้เวลาเห็นอัษฎา ความคิดลามกถึงชอบผุดขึ้นมานัก แม้พยายามสะบัดทิ้งแต่มันก็อดไม่ได้ที่จะนึกภาพตาม ขนาดบางครั้ง เสียงครางกระเส่ายังติดมากับโสตประสาทจนไม่เป็นอันทำการทำงานต้องไปสงบสติอารมณ์กับการขุดดิน

   “พ่อกับแม่เด็กล่ะ” ใหญ่เอ่ยถามเมื่ออัษฎาขึ้นมานั่งข้างๆ คนถามพยายามไม่หันไปมองเพราะกลัวอดใจไม่ไหว เผลอปล้ำในป่า

   “กำลังคุยกับคุณแม่อยู่ เลยให้ผมพาน้องออกมาข้างนอก” คนพามาว่า ดวงตากลมโตส่องประกายยามหัวเราะร่างป้อมพ่นน้ำเหมือนช้างที่เพิ่งดูในทีวีก่อนมา ก่อนจะหันมาเจอดวงตาคมที่จ้องมองอยู่ก่อนหน้า “พี่ใหญ่มีอะไรหรือเปล่า” อัษฎาเอ่ยถามเมื่อเห็นคิ้วเข้มขมวดเป็นปม “อย่าบอกว่ากำลังคิดลามกอยู่...ใช่ไหม” รู้ทันเพราะกำลังมองตามสายตามาที่ร่างกายตัวเอง

   “รู้ทันอีก ทีหลังห้ามใส่เสื้อสีขาวอีกนะ ถึงไม่เปียกก็ห้ามใส่ สีนี้พี่สั่งห้าม” คำสั่งห้ามช่างน่าขันสิ้นดี

   “ห้ามได้ยังไง ก็เสื้อผ้าของผมส่วนใหญ่มีแต่สีขาวนี่นา” ตู้เสื้อผ้าไม้สักหลังใหญ่ตอนนี้มีชุดของใหญ่ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งเป็นของอัษฎาที่ตอนนี้ดูท่าจะมากกว่าอีกฝั่ง

   “งั้นเดี๋ยวไปซื้อมาใหม่ เอาสีดำให้หมด อัดก็รู้ว่าพี่หวงอัดแค่ไหน” ตั้งแต่เลิกเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ ใหญ่ก็บอกอยู่เสมอเรื่องความรู้สึกที่หวงแหนร่างกายคนตรงหน้า

   “พออย่างนี้ละพูดมากเชียว ทีเมื่อก่อนต่อให้ผมแก้ผ้ายืนต่อหน้าคนอื่น พี่ใหญ่ก็คงไม่ว่าใช่ไหม”

   “นั่นมันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ห้าม เข้าใจไหม ห้าม”

   อัษฎาหัวเราะให้กับคนขี้หึง (มาก) และขี้หวง (มากๆ) ตอนนี้เขารู้สึกชีวิตช่างมีความสุข ได้อยู่กับแม่ ได้พักอาศัยในที่ๆ มีอากาศปลอดโปร่งไร้มลพิษ ที่สำคัญ ได้มีคนที่รัก และเขาก็รักตอบกลับมา ตอนนี้แทบไม่ต้องไขว่คว้าหาสิ่งใดอีกเลย

   “เข้าใจแล้วน่าลุงแก่ขี้หึง” หยอกล้อไปนิดหน่อยเลยถูกลุงแก่จับมาจูบปากซะเลย หากไม่มีเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กเล็ก ใหญ่อาจจะเผลอทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ “อายเด็กไหมนี่” ว่าอย่างเขินๆ แล้วลงไปว่ายน้ำเล่นต่อ

   ท้องฟ้าสีครามเริ่มเปลี่ยนสี ใหญ่พาคนที่รักทั้งสองกลับมาที่เรือน คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยจากบนเรือน พอทั้งสามเดินขึ้นไปถึง อัษฎาอุทานด้วยความตกใจก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดร่างท้วมของหญิงสูงวัย ใหญ่เดินอุ้มหลานชายตามเข้าไปเงียบๆ เพราะไม่รู้จักคนแปลกหน้าเกือบห้าคนที่นั่งอยู่ข้างแม่ของตัวเอง

   “ใหญ่ มานั่งนี่มา” คุณพิกุลกวักมือเรียกลูกชายให้เข้าไปนั่งใกล้ๆ พอใหญ่นั่งลงแล้วคุณพิกุลก็แนะนำให้รู้จักหญิงสูงวัยตรงหน้า “นี่ป้าอร เขาเป็นป้าของตาอัด”

   “สวัสดีครับ” ใหญ่ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ในสายตาคนแก่อายุเลยค่อนชีวิต ผู้ชายตรงหน้านี้ช่างดูดีเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ผิวพรรณ รวมไปถึงกิริยามารยาท “มากันนานแล้วหรือครับ”

   “จ๊ะ สักพักแล้วล่ะ” ป้าอรตอบพร้อมรอยยิ้มก่อนจะก้มถามหลายชายสุดที่รักที่ยังกอดเอวไม่ยอมคลายออก “แล้วนี่หายไปไหนกันมา”

   “ไปเล่นน้ำตกมาครับ อัดคิดถึงป้าที่สุด” ว่าแล้วก็ยื่นหน้าหอมแก้มคนแก่หลายฟอด จนถูกลูกสาวของป้าตีเข้าที่แขนเพราะความหมั่นไส้ “ป้าดูสิ พี่อันตีอัด” คนขี้ฟ้องทำหน้างออย่างน่ารัก

   “ก็ดูสิ ทำตัวราวกับเด็กสิบขวบ น่าไม่อาย” อัน เป็นสาวหน้าตาสะสวย ลูกสาวคนโตของป้าเอมอร เธอรักอัดราวกับน้องชายแท้ๆ และหวงราวกับไข่ในหิน คราแรกที่รู้ว่าน้องแต่งงานก็แทบจะขึ้นเครื่องมาหา แต่พอได้รับคำอธิบายเลยต้องรอเวลาขึ้นมาเชียงใหม่พร้อมแม่ของเธอ

   “เอาๆ อย่าแกล้งกันนักเลย ว่าแต่ ตาอัดไม่ดื้อใส่เธอใช่ไหม” ป้าอรหันไปถามใหญ่ที่นั่งยิ้มบางๆ ส่งให้

   “ก็มีบ้างครับ” ใหญ่ตอบ แต่ดูคำตอบจะไม่ถูกใจ อัษฎาเบ้ปากราวกับไม่เห็นด้วย “แล้วนี่ คุณป้าจะมาเที่ยวกี่วันหรือครับ ผมจะได้พาเที่ยว” ใหญ่รีบออกตัวทันที

   “ลูกสาวป้าเขาลางานไม่ได้น่ะ คงกลับเย็นวันอาทิตย์ นี่ป้าแค่อยากมาเห็นหลานเขยแล้วก็อยากมาเจอแม่อิ่มเขาน่ะ เห็นว่าไม่เจอกันนาน” ป้าอรยื่นมือไปจับมือน้องสะใภ้ที่ยังเป็นคนเรียบร้อยเช่นเดิม แม้น้องชายของป้าอรจะเสียไปนาน แต่ความผูกพันยังคงมีมากอยู่ “พอเห็นว่าสุขสบายดีก็เบาใจ ส่วนเรานี่นะ ไม่พาหลานเขยไปหาป้าเลยนะ”

   “ก็อัดไม่มีเวลา” การอ้อนที่แสนน่ารักทำให้คนที่นั่งมองตาละห้อยอิจฉา เพราะเขายังไม่เคยถูกอ้อนแบบนั้นสักครั้ง ยิ่งได้ยินความต้องการของอัษฎายิ่งตกใจจนปั้นหน้าไม่ถูก “คืนนี้อัดจะนอนกับป้า”

   “ต๊ายแล้ว มาพูดแบบนี้ได้ยังไง” ป้าอรอุทานออกมาจนทุกคนพากันหัวเราะ

   “ทำไมล่ะครับ ก็อัดคิดถึง” นี่ก็ไม่ยอม แขนเรียวยังรัดเอวป้าที่รักแน่น

   “ก็ดูหลานเขยสิ คงจะไม่ยอมเป็นแน่” ป้าอรพยักพเยิดให้มองคนที่ทำหน้างอ “ดูสิ หน้างี้บึ้งเชียว” พูดจบ คนรอบข้างต่างก็ส่งเสียงหัวเราะกันเซ็งแซ่ ขนาดคนทำหน้าบึ้งยังแอบยิ้มออกมา

   “ป้าก็ คุณใหญ่เขานอนคนเดียวได้”

   “ไม่ได้ครับ”

   คนไม่อยากนอนคนเดียวรีบแทรกขึ้นมา ยิ่งสร้างเสียงหัวเราะมากขึ้นไปอีก ภาพความสุขเช่นนี้เป็นภาพที่ไม่ได้เห็นมานาน คุณพิกุลรู้สึกดีใจที่ทุกอย่างลงตัว ไม่เคยคิดเลยว่า จะได้อยู่จนเห็นภาพเช่นนี้อีก ดวงตาเรียวเหม่อมองออกไปบนท้องฟ้า หัวใจเต้นรัวคล้ายกับสามีรับรู้เรื่องราวทุกอย่างและส่งผ่านมาทางสายลมที่โอบกอดทุกคนเอาไว้ ตอนนี้ไร่พิกุลจันทร์หอมจะมีแต่ความสุขดั่งที่คุณจันทร์ได้วาดฝันเอาไว้







   “ป้าไม่น่ารีบกลับเลย” อัษฎาเง้างอดเมื่อต้องอำลาป้าเอมอรที่สนามบิน สองวันมานี้ ทั้งหลานชายและหลานเขยต่างก็พาแขกที่มาเยือนเที่ยวจนหนำใจ ไม่ว่าจะเป็นในไร่หรือในเมือง แถมยังมีของอร่อยจากไร่ติดกลับไปมากโข

   “พี่ๆ เขาต้องทำงาน อย่างอแงเป็นเด็กสิ” ป้าเอมอรลูบศีรษะหลานชายสุดที่รักเบาๆ อัษฎาผละจากอ้อมแขนของป้าแล้วตระเวนไล่กอดทุกคน ยกเว้นสามีของอันที่ถูกใหญ่ดึงไว้ซะก่อน จนถูกทุกคนหัวเราะในความน่ารักของคู่ข้าวใหม่ปลามัน “ถ้าว่าง ไปเที่ยวหาป้าบ้างล่ะ”

   “ครับ” ปากแดงรับคำ แต่ดวงตากลมกลับมีน้ำใสๆ เอ่อคลอ “แต่ถ้าอัดไม่ว่าง ป้าต้องมาหานะ”

   “ดูพูดเข้าสิ จะให้คนแก่อย่างป้าขึ้นเครื่องบินไปมาได้ยังไง เวียนหัวตาย” คุณป้าพยายามพูดให้ขัน แต่ยิ่งทำให้หลานชายน้ำตาไหลอาบแก้ม “ขี้แยอีกนั่นปะไร ไปๆ ป้าจะขึ้นเครื่องแล้ว ขอบใจนะคะคุณใหญ่ที่พาพวกป้าเที่ยว แถมยังได้องุ่นสดๆ อีกตั้งเยอะแน่ะ”

   “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ” ใหญ่บอก ขณะมีลูกลิงใช้หน้าถูตามแขนเสื้อเขาเพื่อเช็ดน้ำตา “เดินทางปลอดภัยนะครับ”

   “จ้ะ ฝากดูแลหลานชายของป้าด้วยนะ ป้ารักราวกับลูกคนหนึ่ง แกอาจจะดื้อบ้าง ซนบ้าง แต่ตาอัดเป็นคนที่น่ารัก จิตใจดี ป้าฝากหัวใจดวงนี้ของป้าด้วยนะ” ป้าเอมอรพูดไปน้ำตาก็พาลจะไหลจนต้องรีบเดินเข้าไปด้านในเพราะไม่อยากน้ำตาไหลให้ใครเห็น

   “พี่ไปแล้วนะไอ้ลูกลิง” อันเดินเข้าไปกอดน้องชายอีกครั้งด้วยความรัก “แล้วจะมาเที่ยวใหม่”

   “เดินทางดีๆ นะ แล้วพาทุกคนมาหาผมบ่อยๆ”

   อัษฎาโบกมือลาทุกคน ทั้งอัน สามีและเพื่อนของพี่สาวทั้งสองที่มาเที่ยวด้วย เมื่อทุกคนเข้าไปด้านในแล้ว คนเจ้าน้ำตาบ่อน้ำตาแตกอีกรอบ คราวนี้ทำเอาคนทั้งสนามบินมองกันให้พรึ่บ ใหญ่รีบจับศีรษะมนให้หน้าซบกับอกเพื่อกั้นเสียงสะอื้นที่ดังจนเกินไป และกว่าจะหยุดร้องก็ยืนกันจนขาแทบแข็ง

   “หิวไหม” เอ่ยถามคนที่หยุดร้องไห้แต่จมูกกับใบหน้ายังแดงกล่ำ

   “หิว” อัษฎาว่าพลางลูบท้อง สงสัยจะร้องไห้มากเกินไปเลยหิวจนท้องร้อง และกว่าจะกลับถึงไร่ก็ตั้งหลายชั่วโมง ดังนั้นควรหาอะไรรองท้องก่อนน่าจะดีกว่า “แวะร้านสะดวกซื้อก็ได้ เดี๋ยวตอนเย็นจะกินแกงฮังเลไม่ได้”

        “ครับๆ” ใบหน้าคมยิ้มแป้น หากเป็นเมื่อก่อนคงหน้าบูดแล้วก็โวยวาย ไม่มีพูดหรอกไอ้คำว่าครับเนี่ย “มองพี่ทำไม” 

   “ผมชอบที่พี่หัวเราะมากกว่าทำหน้าเก๊กขรึมซะอีก”

   “พี่ก็นะชอบนะ” ใหญ่เว้นวรรคประโยค ทำเอาคนฟังต้องกระพริบตาปริบๆ รอ “ชอบที่อัดเป็นแบบนี้ น่ารักแบบนี้ แต่เพิ่มความขี้อ้อนแบบที่อ้อนคุณป้าด้วยจะดีมากๆ”

   “จะอ้อนพี่ใหญ่ให้เหมือนป้าได้ยังไง”

   “ทำไมเล่า”

   “ก็มันเขิน”

   “น่ารักเกินไปแล้ว”

   อัษฎาก้มหน้างุดด้วยความอาย ตอนนี้ใบหน้ารู้สึกร้อนราวกับผิงเตาไฟ นับวันชักจะรู้สึกเขินกับใหญ่มากไปแล้ว ชอบนักพูดหยอดให้เขินอายเนี่ย



   กว่าทั้งคู่จะถึงบ้านก็เกือบมืด ถึงแม้ดวงตะวันใกล้จะลับลาท้องฟ้าเต็มที แต่ก็ยังมีแขกที่มาไม่ยอมกลับเพราะยังไม่ได้พบคนที่อยากมาหา ใหญ่ขมวดคิ้วเดินตรงเข้ามาหาเรื่องทันทีแต่อัษฎารั้งไว้ได้ทัน

   “มาทำไมวะ” ไม่มีแล้วกับคำว่าสุภาพ หากตอนเช้าหรือกลางวันยังพอว่า แต่นี่จะค่ำยังอยู่รออีก มันชักจะทนไม่ไหว
   “ผมรอคุยกับน้องอัด” ทัศนัยยืนเต็มความสูง ดวงตาจ้องกลับไม่มีเกรงกลัว
 
   “มึง” เล็กวิ่งเข้ามารวบร่างพี่ชายตัวเองไว้แน่น ขืนปล่อยให้อัษฎาดึงคนเดียวคงเอาไม่อยู่ “จะอะไรนักหนากับคนของกูวะ” ใบหน้าคมบึ้งตึง แขนยาวพยายามจะคว้าคอเสื้อคนตรงข้ามอยู่ตลอด

   “วันนี้ผมแค่อยากมาคุยกับน้องอัดจริงๆ” ทัศนัยเบนสายตามองร่างผอมที่ยืนข้างๆ คนโมโหแทน “นะครับ”

   “เดี๋ยวผมมา” อัษฎายิ้มบางๆ ส่งให้ใหญ่ที่เบิกตาโตมอง ไม่คิดว่าคนของเขาจะยอมไป

   ใหญ่มองตามหลังสองคนที่ลงจากเรือนไปด้วยความโมโห ในสมองพยายามคิดหาเหตุผลทำไมอัษฎาต้องยอมไปคุย ทั้งที่มันไม่ควรจะมีเรื่องอะไรคุยกัน

   “เขาคงแค่อยากคุยเฉยๆ นั่นแหละพี่ใหญ่” เล็กรู้สึกเป็นห่วงพี่ชาย เพราะพี่เขาชอบคิดอะไรไปก่อนอยู่เสมอ อีกอย่างกลัวจะทะเลาะกับอัษฎาด้วย

   “ทำไมแกไม่ไล่มันกลับก่อนที่ฉันจะมาวะ” ใหญ่มองน้องชายตาขวาง หากไอ้เจ้าของร้านนั่นรอมานานก็น่าจะไล่กลับได้ แต่นี่กลับปล่อยให้อยู่รอจนพบคนของเขา มันน่าโมโหจนอยากทำอะไรสักอย่าง “เชี่ยเอ้ย” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนทำท่าจะลงไปตาม แต่เล็กกลับดึงแขนไว้ “อะไรวะ ปล่อย”

   “ผมว่า พี่ปล่อยให้อัดเขาเคลียร์เองจะดีกว่า พี่คุยก็มีแต่เสียกับเสีย”

   “นี่แกว่าฉันหรือวะ”

   “ไม่ได้ว่า แต่พี่ใหญ่ใจร้อน ขืนให้คุยมีวางมวยกันน่ะสิ”

   เมื่อถูกห้ามทั้งร่างกายและคำพูด ใหญ่จึงได้แต่ฮึดฮัดแล้วนั่งลงต่อ ดวงตาคมจ้องมองบันไดอยู่ตลอด แทบจะนับเข็มนาฬิกาที่เดินเป็นวินาที หากช้าเกินไปต่อให้น้องชายเอาช้างมาฉุดเขาก็จะลงไปตามเมียของตัวเอง


   ด้านอัษฎาเดินนำทัศนัยมาที่ลานข้างบ้าน ดวงตารีจ้องมองด้านหลังคนที่ทำให้เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ คนที่เขาคิดอยากจะแย่งมา ขณะที่ทัศนัยกำลังจะยื่นมือไปจับ อัษฎาหันหลังกลับมาพอดี เมื่อเห็นมือ ร่างผอมรีบเบี่ยงตัวหนี จนคนยื่นมือหน้าเสียไป

   “ขอโทษครับ” คนเบี่ยงตัวหนีทำหน้าเสียเอ่ยขอโทษ

   “ไม่เป็นไร” ทัศนัยพยายามยิ้มแย้มให้เป็นปกติ ทั้งที่เสียความมั่นใจไปนิดหน่อย “คุณใหญ่ดีกับอัดแล้วใช่ไหม”

   “ครับ”

   “เหรอ...”

   ใช่ว่าอัษฎาจะดูคนไม่ออก การทำงานของเขาสมัยก่อนต้องเจอคนหลากหลายประเภท ทั้งเข้ามาจีบเขาและให้เขาเป็นทางผ่าน อย่างทัศนัยคงมาอย่างแรก แม้จะวางตัวให้อยู่ห่างแต่ก็ดูจะไม่มากพอ
 
   “มีอะไรกับผมหรือครับ”

   “พี่รู้ ว่าอัดก็รู้ในสิ่งที่พี่จะพูดด้วย” ท่าทางอัษฎาเขารู้ดี ดวงตากลมโตแม้จะดูเฉย แต่กลับไม่มีเงาเขาในตานั้นเลย “พี่คิดว่าพี่ชอบ...”

   “อัดว่า อัดไม่เหมาะกับพี่ทัศหรอกครับ” ไม่ได้อยากพูดตัดบท แต่ไม่อยากให้ยืดเยื้อมากไปกว่านี้ เขาต้องพูดอะไรให้ชัดเจน “อัดขอบคุณที่พี่ทัศรู้สึกดีๆ กับอัด แต่พี่ทัศ...”

   “จะบอกว่าพี่ดีเกินไปหรือ” อยากจะหัวเราะตัวเองที่ถูกชมว่าเป็นคนดีมาสองหน

   “เปล่าครับ” คนปฏิเสธแอบขำ เมื่อเห็นคนชมตัวเองเซ

   “นี่ว่าพี่เลวหรือ” ทัศนัยขำออกมาเมื่อรู้สึกเก้อนิดๆ

   “นี่ก็เปล่า”

   “แล้วพี่ทำไมหรือ”

   “อัดจะบอกว่า...อัดรักพี่ใหญ่”

   คล้ายกับถูกก้อนหินก้อนใหญ่ทุบลงที่หัวใจจนเจ็บร้าว แม้จะพอรู้คำตอบ แต่ได้ยินกับหูแบบนี้กลับซ่อนอาการไม่ไหว ทัศนัยนิ่งเงียบมีเพียงสีหน้าและแววตาแสดงความเจ็บปวด จนคนบอกความในใจถึงกับห่วง

   “พี่ก็พอรู้คำตอบมานานแล้ว แต่พี่ยังคิดว่า พี่ยังมีโอกาส หากคุณใหญ่ไม่ได้รักอัดจริงๆ” ความในใจของคนแอบหวังพรั่งพรูออกมา “แต่วันนั้น ตอนที่พี่พูดกับคุณใหญ่ สีหน้าและอารมณ์โกรธของคุณใหญ่ทำให้พี่รู้ว่า เขาก็รักอัดมากเช่นกัน”

   “เขาก็เป็นคนแบบนั้นแหละครับ” คนฟอร์มจัดท่ามากแต่มักแสดงออกให้ทุกคนรู้ มีแค่ตัวเองที่ไม่รู้

   “พี่ต้องถอยใช่ไหม” ว่าแล้วก็ถอยจริงๆ ทัศนัยถอยหลังออกห่างไปเรื่อยๆ “แต่เรายังคุยกันได้เหมือนเดิมใช่ไหม”

   “ครับ พี่ทัศก็ยังเป็นพี่ชายของผมเหมือนเดิม อ้อ เป็นลูกค้าสุดหล่อของไร่ด้วย”

   “งั้นพี่กลับก่อนนะ ไว้ค่อยเจอกันใหม่” ทัศนัยยิ้มส่งท้าย แม้ตอนหันหลังจะมีเสียงพูดตามหลังมา แต่นั่นก็จุดรอยยิ้มเหงาๆ ขึ้นมา ก็เพราะเขาเป็นฝ่ายแพ้

   “สักวันพี่จะเจอคนที่รักพี่และพี่ก็รักเขาโดยไม่ต้องไขว่คว้า ผมเชื่ออย่างนั้น”

   เมื่อทัศนัยขับรถออกไปแล้ว อัษฎายังยืนยิ้มอยู่กับที่ ก่อนจะรู้สึกลมเบาๆ เป่าที่หู พอหันไปมองก็เจอหน้าบูดบึ้งของใหญ่ ร่างกำยำกอดอกจ้องหน้าคล้ายหาเรื่อง

   “มันกลับแล้วหรือ” น้ำเสียงห้วนถาม

   “พี่ใหญ่ก็เห็นแล้วนี่นา” นี่ก็ตอบกลับแบบกวนๆ จนได้ยินเสียงฮึดฮัดในลำคอหนา “ขึ้นเรือนเถอะ หิวแล้ว” อัษฎายื่นแขนไปคล้อง แต่ใหญ่ทำสะดีดสะดิ้งสะบัดแขนแล้วเดินขึ้นเรือนไปก่อน

   ท่าทางของคนงอนสินะ

   อัษฎาหัวเราะร่วนก่อนเดินตามขึ้นเรือน ทำไมเห็นท่าทางของใหญ่แล้วรู้สึกอารมณ์ดี การได้แกล้งคนฟอร์มจัดมันสนุกแบบนี้นี่เอง มิน่าเล็กถึงคอยพูดยุแย่ให้เขาแกล้งพี่ชายตัวเอง




   มื้อค่ำไม่อร่อยสักนิดสำหรับใหญ่ ไม่ว่าจะหมูหรือปลาที่ถูกตักมาวางบนจาน แต่มือกร้านก็เขี่ยออก แม้ใหญ่จะทำแบบนั้นแต่กลับสร้างความขบขันให้ทั้งเล็กแล้วก็อัษฎา หากแม่ไม่รีบกลับรีสอร์ทก็คงจะขำไปด้วย

   “อิ่มแล้วหรือพี่ใหญ่” เล็กกลั้นขำแกล้งถามพี่ชาย

   “เออ” แล้วคนขี้งอนก็กลับเข้าห้อง

   คนนั่งกินข้าวยังทำเฉย ทั้งเล็กแล้วก็อัษฎายังนั่งกินข้าวปกติ แต่คนที่เดินกลับเข้าห้องไปแล้วๆ กลับออกมาอีกรอบเมื่อไม่มีใครเดินตาม ท่าทางกระฟัดกระเฟียดราวเด็กน้อยนั้นทำให้อัษฎายอมลุกตามเข้าห้อง

   “เอาไม้เรียวเข้าไปด้วย พูดไม่ดีหวดเลย” เล็กตะโกนบอก “แต่ถ้ารับมือไม่ไหว ห้องผมยังว่างนะครับ” ประโยคหลังทำให้ใหญ่วิ่งมาหาแล้วเขกหัวอย่างแรงก่อนจะวิ่งกลับเข้าห้อง

   เสียงคนโวยวายดังอยู่ด้านนอก เดาว่าเล็กคงเจ็บตรงที่ถูกเขกแน่นอน แค่ฟังจากเสียงก็รู้ได้ว่ามันแรงแค่ไหน ส่วนคนทำยืนหันหลังกอดอกอยู่กลางห้อง

   “พี่ใหญ่” อัษฎาเดินไปสะกิดแขน แต่คนงอนสะบัดออก “ถ้าพี่ใหญ่อายุเท่าน้องต้นทำแบบนี้น่ารักนะ แต่อายุปูนนี้แล้วทำมันตลกว่ะ” ว่าออกมาแล้วขำ

   “พี่โกรธนะเนี่ย ง้อเลย” แนะ มีการสั่งให้ง้อซะด้วย

   “ให้ง้อยังไงดี ไหนคนงอนช่วยบอกผมสักหน่อยสิ”

   เพียงแค่นี้ก็ได้เห็นรอยยิ้มคนฟอร์มจัดขี้งอน ใหญ่วกกลับมารวบร่างผอมไว้แน่น และไม่ลืมหอมแก้มเนียนสองข้างสลับไปมาจนเจ้าของแก้มต้องดันหน้าเข้มให้ห่าง

   “นี่ตกลงจะให้ใครง้อกันแน่น่ะครับ”

   “จะพี่หรืออัดง้อ บทสรุปก็เหมือนกันนั่นแหละ” คนง้อก่อนปรายตามองเตียงขาวแล้วเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

   “อัดไม่เคยคิดเลยว่าพี่ใหญ่จะ...”

   “จะอะไร หืม”

   “จะหื่นน่ะสิ”

   “แล้วปกติพี่เป็นคนยังไง ไหนลองบอกพี่ซิ” ใหญ่ถาม แต่ปากบางคอยจูบตามใบหน้าและซอกคอหอมอยู่ตลอด

   “ก็เป็นพวกฟอร์มจัด ท่ามาก ขี้เก๊ก พี่ใหญ่...” อัษฎาดันหน้าคนถามแต่ไม่ยอมฟัง ส่วนมือก็คอยปัดมือที่พยายามล้วงตามเสื้อผ้าของตัวเอง “ถามก็ต้องฟังสิ” น้ำเสียงดุนิดๆ เรียกสายตาให้เงยขึ้นมามอง “เป็นคนนิสัยโคตรแย่ ชอบหาเรื่อง จอมเผด็จการ และเลว”

   “เดี๋ยวๆ ไอ้คำหลังนี่พี่ว่ามันแรงเกินไปนะ” หน้าชามากสำหรับคำด่าเป็นชุด นี่เขาทำเรื่องแย่แบบนั้นเลยหรือ

   “ไม่แรงสักหน่อย ก็ตอนที่พี่ใหญ่ได้อัดแล้วทำเป็นไม่สนใจ นิสัยแย่ เลวมาก” พอนึกถึงแล้วก็รู้สึกไม่ดี หากย้อนกลับไปได้ อัษฎาอยากจะต่อยหน้าเข้มนี่สักหมัด

   “พี่ขอโทษ” คนรู้สึกผิดทำหน้าจ๋อย แขนที่รัดเอวขยับรัดแน่นยิ่งขึ้น “ตอนนั้นพี่สับสน ความรู้สึกมากมายมันผุดขึ้นมา อยากจะทักแต่ก็รู้สึกผิด มันอธิบายไม่ถูก” ท่าทางสับสนนั่นพอทำให้อัษฎายิ้มออกมาได้

   “อัดรู้ พี่ใหญ่เป็นผู้ชายที่ไม่ได้ชอบผู้ชาย ความรู้สึกมันเลยแปลกๆ ใช่ไหมล่ะ”

   “นิดหนึ่ง ตอนนี้พี่ก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย” พอได้ยิน อัษฎาค่อยๆ หุบยิ้มลง “แต่รักต่างหาก” แรงหอมแก้มฟอดใหญ่คล้ายกับจะดูดเอาพวงแก้มให้หลุด

   “พี่ใหญ่ท่ามากเกินไป เบื่อว่ะ” คนเบื่อแต่ปากมีแต่รอยยิ้ม

   “ไม่ได้ท่ามากอย่างเดียว ท่ายากก็มี” ดวงตาคมมองพราวระยับ แขนแกร่งช้อนร่างผอมขึ้นแนบอก “เดี๋ยวพี่จะโชว์ท่ายากให้ดู”

   “จะคอยดู ว่าจะมีท่ายากสักแค่ไหน”






   สายลมเย็นยามเช้าพัดใบไม้ดอกไม้ไหวเอน หมอกสีขาวบดบังทัศนียภาพแต่กลับทำให้ดูสวยแปลกตา หากหมอกหนาค่อยๆ สลายเมื่อดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้า ไร่ดอกดาวเรืองบานสะพรั่งเหลืองอร่ามดั่งทองไปทั่วผืน เจ้าของไร่เหม่อมองด้วยความรู้สึกสุขใจ

   “พ่อครับ ผมทำความฝันของพ่อสำเร็จแล้วนะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ภาพตรงหน้าคือสิ่งที่เขาเคยได้ยินพ่อวาดฝันให้ฟังอยู่ตลอด และตอนนี้ มันเป็นแบบนั้นทุกอย่าง

   ความหนาวเย็นได้หายไปเมื่อถูกความอุ่นของอ้อมกอดคนรักโอบจากด้านหลัง ใบหน้าขาวซบกับแผ่นหลังกว้าง ก่อนเจ้าของแผ่นหลังจะหันไปแล้วโอบกอดแทน

   “ทำไมตื่นแล้วไม่ปลุกอัดล่ะ” แม้จะยังเช้าอยู่มากก็เถอะ

   “พี่ไม่อยากปลุก เมื่อคืนกว่าอัดจะได้นอนก็เกือบเช้านี่นา” ว่าแล้วก็ก้มหอมแก้มขาวฟอดใหญ่ “ขอบใจนะ ที่อัดไม่ทิ้งพี่ตอนที่พี่ทำตัวแย่ๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ”

   “ก็ไม่อยากทนนักหรอก แต่จะทำยังไงได้ ก็รักเขาไปแล้วนี่นา”

   “น่ารักอีกแล้ว”

   “พี่ใหญ่เชื่อคำทำทายหรือเปล่า” เงยหน้าถามคนที่กอดเขาอยู่ “มีคนเคยทายว่าอัดจะเจอคนรักที่ไม่ต้องไขว่คว้าและเขาจะรักอัดจริงๆ”

   “ของพี่ก็เช่นกัน เขาว่าพี่จะได้คู่ที่แปลก”

   “แต่หมอดูเขาไม่ได้เจาะจงว่าเป็นพี่ใหญ่สักหน่อย”

   “พี่เป็นพี่ ก็ต้องเป็นพี่สิ”

   “อาจจะเป็นคุณเล็กก็ได้”

   “เอ๊ะ ทำไมชอบเถียงนักนะ”

   “พี่ใหญ่ก็ชอบเถียงเหมือนกันนั่นแหละ”

   เมื่อดวงตาสองคู่สบกัน เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นทันที ใหญ่กระชับร่างผอมแนบแน่น จากความรักครั้งก่อนจนมาถึงครั้งนี้ ไม่มีใครสำคัญมากกว่ากัน อดีตคือสิ่งที่เขายึดติดมันมาตลอดจนได้ทำร้ายความรัก ความรู้สึกของคนในอ้อมกอด ตอนนี้เขาจะดูแลความรักครั้งนี้เป็นอย่างดี 

   “แบบนี้พี่ต้องขอบคุณคำทำนายนั่นไหม”

   “ทำไมล่ะ”

   “ก็มันทำให้พี่ได้รักอัด” ใหญ่มองหน้าคนรักด้วยแววตาอบอุ่น ทั้งที่ตั้งแง่เรื่องการเดาของหมอดูมาตลอด ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะเชื่อ จนเรื่องทุกอย่างกลับเกิดขึ้นจริงจนยากที่จะปฏิเสธ

   “อัดว่า คำทำนายมันก็แค่สิ่งที่ชี้แนวทางให้เรา แต่ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวเราทำเองทั้งนั้น” อัษฎายิ้มตอบคนรัก

   “คำทำนายนั่น บอกว่าพี่ต้องรักอัด แล้วพี่ก็รักอัดจริงๆ รักมากด้วย”

   “อัดก็รักพี่ใหญ่เหมือนกัน รักมากด้วย”

   ไร่พิกุลจันทร์หอมได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทั้งเสียงหัวเราะและความสุข แม้จะใช้เวลานานกว่าจะมาถึงวันนี้ แต่เมื่อถึงปลายทางมันช่างคุ้มซะจริง

   “หวานรับอรุณแต่เช้าเชียวนะครับ” เสียงเล็กดังจากด้านหลัง ประตูห้องที่เปิดออกมาไม่ได้มีแค่เจ้าของห้อง ยังมีคนรักของชายหนุ่มเดินตามออกมาด้วย ใบหน้าสวยยิ้มแย้มไร้ความทุกข์อย่างเช่นทุกครั้ง

   “แกก็ไม่แพ้ฉันหรอกน่า” ใหญ่เอ่ย

   “แน่นอนสิ ผมกับแคทมีแพลนจะปั้มลูกอีกสักโหล” คู่ที่เพิ่งกลับมารักกันดูหวานไม่ต่างจากอีกคู่ ใหญ่รีบขมวดคิ้วแล้วหันมาจ้องหน้าคนในอ้อมกอด

   “งั้นเราไปปั้มลูกบ้างดีกว่า” ว่าแล้วก็ช้อนร่างผอมขึ้นแนบอก

   “พี่ใหญ่จะบ้าหรือ ผมจะมีลูกได้ยังไงเล่า” ใบหน้าขาวแดงเถือก มือเรียวตบเข้าอกหนาเบาๆ

   “ถึงไม่มีก็ปั้มได้ ไอ้เล็ก กินข้าวเลยไม่ต้องรอ ขอเวลาปั้มลูกแป๊บหนึ่ง” ว่าแล้วก็อุ้มร่างผอมเข้าห้องพร้อมเสียงปิดประตูดังสนั่น

   “ร้อนแรงจริงๆ พี่ใหญ่ของผม” เล็กหัวเราะพี่ชายตัวเอง ก่อนจะทำตาโตแล้วมองอดีตภรรยาที่ตอนนี้กลายเป็นปัจจุบันอีกครั้ง “เราต้องรีบปั้มแข่งพี่ใหญ่แล้วเดี๋ยวไม่ทัน”

   “บ้าน่า พูดอะไรไปเรื่อย ว๊าย”

   ไม่ทันเสียแล้ว ประตูห้องสองบานปิดสนิท ด้านในมิมีใครล่วงรู้ว่าปั้มลูกกันไปถึงไหน แต่ที่แน่ๆ มื้อเช้าวันนี้ไม่มีใครออกมารอสักคน




   “สงสัยยังไม่ตื่น” นมอิ่มพำพึมเบาๆ

   “แต่เมื่อกี้ลูกเจี๊ยบได้ยินเสียงพี่อัดนะจ๊ะนม” เด็กสาวที่ช่วยยกถาดข้าวต้มมาว่า เพราะได้ยินเสียงอัษฎา เด็กสาวถึงขอขึ้นมาด้วย “หรือว่าลูกเจี๊ยบหูฝาด”

   “ช่างเถอะ เราลงไปกินข้าวข้างล่างดีกว่า หากพวกเขาหิวก็คงออกมากินเองนั่นแหละ” นมอิ่มสรุปก่อนจะพาเด็กสาวลงจากเรือน

   อีกไม่นาน เรือนไม้พิกุลจันทร์หลังนี้คงจะมีเด็กตัวน้อยวิ่งกันให้ขวักไขว่ ความสงบเงียบไร้ชีวิตชีวากำลังจะกลับมาสดชื่นอีกครั้ง ดั่งเช่นดอกไม้นับหลายร้อยไร่ที่แข่งกันชูช่อออกดอกสวยรับเช้าวันใหม่ในทุกๆ วัน



   “พี่รักอัดนะครับ”

   “อัดก็รักพี่ใหญ่”


----- THE END ----



จบแล้วค่า ลุงใหญ่จอมซึน จบแบบมึนๆ ฮ่าๆๆ



ต้องขอบพระคุณทุกๆ คนเลยที่เข้ามาอ่านและมอบกำลังใจที่แสนมีค่าให้ หากไม่มีทุกคน ลุงใหญ่คงไม่มาถึงตอนจบเช่นนี้
ขอบพระคุณมากๆ ค่า  :กอด1:

ยังมีตอนพิเศษนะคะ อ้อยของลุงยังมีอีกหลายคันเลย  :laugh:



หากมีข้อติติง ทักท้วง มีคำผิด หรืออยากให้แก้ไข บอกได้ค่า จะนำไปปรับปรุงให้ดีกว่านี้ ทำภาษาให้ลื่นไหลกว่านี้

ด้วยรักและขอบคุณ   :mew1:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: 
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 23-12-2016 22:20:44
สนุกมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 23-12-2016 22:31:35
โอ้ยยยลุ้งงงงงงงเหมือนที่อัดบอกพอเลิกปากแข็งนี่ขยันหยอดจังเลยนะ ขยันหื่นด้วย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 23-12-2016 22:42:20
จบแล้ว สนุกมาก ขอบคุณนะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-12-2016 22:46:51
นี่ถ้าอัดท้องได้คุณใหญ่คงแข่งกับเล็กปั๊มลูกตั้งเป็นทีมฟุตบอลแน่ๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 23-12-2016 22:53:13
โอ้โหลุง พอฟอร์มแตกแล้วเอาใหญ่เลยนะ น่ารัก5555555555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 23-12-2016 23:01:54
สนุกมากค่ะ จะรอตอนพิเศษนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-12-2016 23:08:46
สนุกมาก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
คุณใหญ่-อัด คุณเล็ก-แคท มีความสุขแล้ว
ขอบคุณไรท์ มากกกก  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-12-2016 23:10:46
 :impress2: มีความสุข
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 23-12-2016 23:16:17
อยากให้มีรวมเล่มจัง ชอบมาก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 23-12-2016 23:17:51
ลุงนี่แบบพอหายซึนก็ปากหวานขนกันมาแบบอ้อยทั้งไร่เลย
รอตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 23-12-2016 23:38:12
รักลุงสุดๆเลย :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: swoooaa ที่ 23-12-2016 23:54:38
ว้าา จบซะแล้วว เรื่องนี้น่ารักมากเลย ชอบทั้งครอบครัวเลย คุณแม่ก็ดีฝุดๆๆ ขอตอนพิเศษเยอะๆน้า อิอิ :impress2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 24-12-2016 00:03:33
อิลุงนี่สุดยอด หื่น และแสนงอน สงสารก็แต่น้องอัท ต้องง้อจนเกือบเช้า  :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 24-12-2016 06:34:19
สนุกมากกกก ได้ข้อคิดดีๆหลายอย่าง

ภาษาดี อ่านสบายๆ อัดเป็นคนที่เข้มแข็ง

คุณใหญ่ทำให้หมั่นไส้ได้ตลอด

ความรักคือสิ่งที่สวยงาน ขอให้ทั้งสองรักกันตลอดไป

รอตอนพิเศษ

ว่าแต่จะมีเรื่องของคุณทัศนัยหรือเปล่า

ถ้ามีก็ดีนะ ชอบเรื่องราวของความรักแบบผู้ใหญ่แบบนี้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 24-12-2016 07:55:58
พอลุงหายซึนนี่ ความหวานยกขบวนกันตามมาเลยนะ ความหื่นก็พุ่งเลยแม็กเลยทีเดียว  :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Dezzerr ที่ 24-12-2016 09:20:09
ลุงเป็นผู้ชายที่น่าแกล้งมากอ่ะ 555555555
จบแล้ว น่ารักมากๆ เลยค่ะ เป็นกำลังใจให้น้าาา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 24-12-2016 20:29:58
คุณใหญ่บทจะหวาน ก็หวานซะ!
ตอนแรกๆลุงใหญ่แกซึนมากกกก กว่าจะยอมรับว่ารักน้องอัด เกินครึ่งเรื่อง5555
มีตอนพิเศษมั้ยคะ  :mew2:
ขอบคุณคนเขียนนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 24-12-2016 21:02:00
แปะโป้งรอสเปเชียล // แหมๆๆ ตาลุงอย่าหักโหมใช้งานเอวเยอะสิ ตัวเองน่ะแก่แล้วนะไม่ใช่เด็กๆแบบเมีย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 24-12-2016 23:23:20
งานดีจริงๆเรื่องนี้ feel good มาก ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-12-2016 00:28:57
พี่ใหญ่ตลกอ่ะ ชอบๆๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆ เรื่องนี้ค่าาา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-12-2016 01:08:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 25-12-2016 01:37:50
ขอบคุณค่ะ สนุกมากๆค่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 25-12-2016 07:57:01
แฮปปี้เอนดิ้งมากเลย สนุกค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่แต่งนิยายละมุนๆมาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-12-2016 08:50:38
ลุงแกเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน 5555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bungg ที่ 25-12-2016 12:00:21
เพิ่งมีโกาสได้เข้ามาอ่าน สนุกมากๆเลยค่ะน่ารักมากกๆๆๆ
ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับนิยายดีๆแบบนี้ กราบงามๆเลยค่ะ
คุณใหญ่ถึงจะซึนไปหน่อยแต่ก็นิสัยน่ารีกมากๆคอยห่วงน้องตลอดทั้งแบบรู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง5555
ส่วนอัดก็น่ารักเสมอต้นเสมอปลายเลยค่ะ ดีใจกับทั้งคู่ด้วยนะคะ สำหรับรักครั้งใหม่ที่สดใส :o8:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 25-12-2016 12:13:26
สนุกมากเลยยย ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 25-12-2016 12:55:32
มารอตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 25-12-2016 13:39:43
 o13 o13

ชอบค่า สนุกกกกกก

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 25-12-2016 16:14:00
เรื่องนี้น่ารัก ไม่มีอุปสรรคแบบที่กลัว ขอบคุณมากๆนะ ^^
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 25-12-2016 17:08:58

คนปากแข็งก็งี้ล่ะ

ครอบครัวอบอุ่น

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Violasheep ที่ 25-12-2016 20:24:44
สนุกมากค่า ชอบมาก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 26-12-2016 14:51:53
อ่านจบแล้ว ชอบมากเลยค่ะ อบอุ่นมากๆๆๆๆ อยากอ่านตอนพิเศษค่ะ 555555

ขอบคุณมากๆ เลยนะคะสำหรับนิยาย  :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: yokibear ที่ 26-12-2016 14:59:20
ลุงนี่น่าจับตีจริงๆ ซึนมึนซะไม่มี
พอรู้ใจตัวเองแค่นั้นแหละ คนละคนกันเลยเชียว
น่ารักมากๆ ชอบการบรรยายบรรยากาศในไร่
เราจินตนาการตามคิดว่าต้องสวยมากแน่ๆ
อยากไปเที่ยวเชียงใหม่เลยค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายฟีลกู๊ดนะคะ
เลิ้บบบบ

หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 26-12-2016 16:35:08
 o13 o13
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 26-12-2016 18:06:16
สนุกมากค่ะ
คุณใหญ่หึงเบอร์แรงมาก
เป็นหวงอัดเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 26-12-2016 19:54:16
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GimmeAagban ที่ 26-12-2016 23:11:48
สนุกมากเลย เดินเนื้อเรื่องดีค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 27-12-2016 02:02:43
แอร๊ยยยย ตอนแรกๆนี่หมั่นไส้ลุงมากกกก อะไรจะซึนได้ขนาดนั้น

นี่อ่านรวดเดียวเลย งอมแงมมากค่าาา

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ :D

หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 27-12-2016 07:39:40
หาแทบแย่ที่แท้จบแล้ว ย้ายแล้ว  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 27-12-2016 12:40:28
จบแล้ว หวานมาก ใหญ่นี่คนละฟิลกับตอนรกเลยนะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 27-12-2016 14:05:46
เอ็นดูในความน่ารักของลุง5555555555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 27-12-2016 15:48:38
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 27-12-2016 19:11:21
ขยันๆ เข้าใหญ่ เดี๋ยวอัดก็ท้องเองล่ะ
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น 5555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 27-12-2016 22:09:41
โอ้วโหวลุง ตอนจบนี่แทบเป็นคนละคน :z1: :haun4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง - << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 27-12-2016 22:44:03
ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง




        หากพูดถึงชื่อเจ้าของไร่แห่งนี้ ละแวกข้างหรือแม้แต่ไร่ถัดๆ ไปจะรู้จักดี ของๆ เขาก็คือของๆ เขา ไม่ว่าผู้นั้นจะยิ่งใหญ่มาจากไหนก็ตามแตะต้อง ซึ่งตอนนี้ มีอยู่อย่างหนึ่งที่เจ้าของไร่หวงสุดชีวิต หวงยิ่งกว่าชีวิตตัวเองเสียอีก นั่นก็คือ...

   “พี่บอกอัดแล้วนี่ ว่าห้ามไปที่ตลาดนั่น” เสียงทุ้มบอกด้วยความโมโห ทั้งที่สั่งนักสั่งหนาว่าห้ามไปที่ตลาดป่าแต่คนตรงหน้าก็ไม่ยอมจะฟัง

   “อัดไปแค่แป๊บเดียวเอง ไม่มีอะไรเสียหน่อย พี่ใหญ่คิดมาก” คนขัดคำสั่งพยายามยิ้มเอาใจ ตั้งแต่เช้าตรู่ ลูกเจี๊ยบ ลูกสาวคนงานในไร่ที่ทำตัวติดกับอัษฎาแอบมาชวนไปเที่ยว และหนึ่งในนั้นคือตลาดป่า เพราะยังติดใจรสชาติลูกไหนของคนที่นี่จึงอยากจะไปซื้ออีกรอบ แต่บังเอิญไปเจอกับคนงานฝั่งไร่องุ่นที่คงจะไปรายงานเลยทำให้เขาต้องถูกบ่นแบบนี้

   “คิดมากยังดีกว่าคิดน้อย เกิดเจอไอ้พวกอันธพาลอีกจะทำอย่างไร” น้ำเสียงเจือความเป็นห่วงทำให้คนดื้อทำหน้าสลด “พี่รู้ว่าอัดเป็นผู้ชาย แต่ตัวผอมแบบนี้ อีกทั้งลูกเจี๊ยบก็เป็นเด็กผู้หญิง สองแรงจะไปสู้ไอ้พวกนั้นได้เช่นไร”

   “อัดขอโทษ ต่อไปถ้าอัดไปอีก อัดจะขอพี่ใหญ่ก่อน” พูดเอาใจพลางยื่นแขนรัดเอวหนา ใบหน้าขาวถูหน้าอกแกร่งไปมาเพื่ออ้อนให้คลายโกรธ

   “ถ้าอัดยังดื้ออีก พี่จะล่ามไว้คอยดู” ร่างผอมเบิกตาโตทันทีที่ได้ยิน เพราะหากเป็นคนอื่นพูดคงจะไม่คิดอะไร แต่หากเป็นเจ้าของไร่นี้ รับรองว่าทำจริงอย่างแน่นอน “ชอบนักหนีเที่ยวเนี่ย เดี๋ยวต้องไปบ่นลูกเจี๊ยบด้วย พากันเที่ยวดีนัก”

   “พี่ใหญ่ละก็” ใบหน้าขาวง้ำงอทันที   

   ไม่ใช่ไม่อยากให้อัษฎาไปไหน แต่ใหญ่รู้สึกว่าทุกที่ๆ ไม่มีเขาไปด้วย ร่างผอมอาจได้รับอันตราย และเขาจะรู้สึกเป็นกังวลจนทำอะไรไม่ได้อยู่ตลอด ดวงตาคมจ้องมองประตูเมื่อบานประจกถูกเปิดเข้ามา อัษฎารีบผละออกจากอ้อมกอดแต่ก็ยังไม่พ้นสายตาของเล็กอยู่ดี

   “แหม สวีทในออฟฟิตเลยนะ เดี๋ยวนี้ไม่มีฟอร์มก็หวานเรี่ยราดตลอดนะคนเรา” เล็กเอ่ยหยอกพี่ชายกับพี่สะใภ้ตัวเองก่อนจะถูกภรรยาตีแขนเสียงดังจนต้องย่นคิ้ว “แคทอ่า ตีเล็กทำไม”

   “ไปล้อพี่ใหญ่ทำไม เล็กไม่เห็นว่าอัดหน้าแดงหรือ” พอได้ยินเช่นนี้อัษฎายิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่ ห้ามสามีแต่ตัวเองกลับล้อแทน เหมาะสมกันแล้วคู่นี้

   หลังจากน้องชายเข้ามา ใหญ่ปลีกตัวเข้าไปคุยงาน ปล่อยให้อัษฎาอยู่กับน้องสะใภ้ไป ดูเหมือนคู่นี้จะสนิทสนมกลมเกลียวกันมาก ไม่ว่าแคทมีเรื่องอะไรก็มักจะไปปรึกษาอัษฎาอยู่เสมอ จนบางครั้ง ทั้งใหญ่และเล็กต่างก็น้อยใจที่รู้เรื่องทีหลัง

   อัษฎาชวนแคทกินผลไม้ที่ไปหาซื้อมาโดยลืมสนใจอะไร แม้จะถูกสายตาคมตวัดมองมาเป็นระยะเพราะยังเคืองขุ่นเรื่องหนีออกไปตลาดป่าโดยไม่ขออนุญาต หลังจากลงไร่มาแต่หาร่างผอมไม่เจอ ใหญ่ก็กระวนกระวายใจแทบจะอาละวาดทุกคนที่ถามก็บอกอย่างเดียวว่าไม่เห็น จนคนงานที่ไปหาซื้อของกลับมาแล้วบอกว่าเจอคนของเขาเที่ยวที่ตลาดป่า ความโมโหก็พุ่งสูงจนไม่มีใครเข้าหน้าติด เมื่อคนแอบหนีกลับมา ใหญ่รีบดึงเข้าออฟฟิตแล้วบ่นยาวเหยียดทันที

   ไม่รู้เพราะอายุเพิ่มขึ้นหรือเพราะคนรักของเขาดื้อ ใหญ่ถึงกลายเป็นคนขี้บ่น ทั้งที่ปกติไม่ได้ขี้บ่นเช่นนี้ อาจจะมีบ้างหากเป็นเรื่องงาน มิน่าทั้งนมอิ่ม หรือแม้แต่ป้าเอมอรถึงบอกว่าอัษฎาดื้อ อยากจะเถียงแทนแต่ตอนนี้เริ่มเห็นด้วย บางทีดื้อจนอยากได้ไม้เรียวหวดก้นลายสักรอบ ชอบนักที่เวลาสั่งซ้ายไปขวา สั่งขวาไปซ้าย

   ใหญ่มัวแต่มองคู่หนุ่มสาวที่นั่งคุยกระหนุงกระหนิงจนลืมสนใจงานตรงหน้า พอน้องชายที่อธบายงานยาวเหยียดเงยหน้าขึ้นมองแล้วเผลอหลุดขำออกมา นั่นทำให้คนเหม่อรีบหันกลับมา

   “ขำอะไรของแก” ใหญ่ถามหน้ามุ่ย

   “พี่ใหญ่เข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม” เล็กแกล้งถาม เพราะรู้ดีว่าเรื่องทั้งหมดคงไม่เข้าโสตประสาทของพี่ชายแม้แต่คำเดียว

   “เออ” อยากปฏิเสธแต่กลัวถูกล้อ ใหญ่แกล้งพยักหน้าส่งๆ ไป ยิ่งเพิ่มเสียงหัวเราะของน้องชายให้ดังขึ้น “บ้าหรือเปล่า ทำงานสิทำงาน”

   แนะ ยังมาทำฟอร์มจัดอีก เล็กส่ายหน้าอย่างขำๆ พี่ชายของเขาหลงพี่สะใภ้ตัวขาวนี่มากเกินกว่าที่คิด ขนาดแม่หรือนมอิ่มยังพากันสงสัย ว่าเพราะอะไรพี่ใหญ่ของเขาถึงหลงอัษฎามากมายขนาดนี้

   “แล้วสรุปงานลอยกระทงปีนี้ทางเทศบาลเขาจะสั่งดอกไม้จากเรา พี่ใหญ่ว่าไง”

   “ก็ให้เขาทำแบบทุกปีนั่นแหละ ส่งใบเสนอราคามา ถ้าแกเห็นว่าเหมาะก็ตกลง”

   “เอาแบบนี้เลยหรือ”

   “ตามนี้นั่นแหละ” ใหญ่รีบตัดบทก่อนจะเดินไปดึงแขนเรียวให้ลุกขึ้น “ไป”

   “ไปไหน” อัษฎาทำตาโตมองคนที่ฉุดแขนให้เดินตามออกไปด้านนอกโดยไม่สนใจเสียงน้องชายที่ตะโกนเรียก “พี่ใหญ่จะไปไหนเนี่ย” ใหญ่เดินเร็วจนอัษฎาต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อให้ทัน

   “ทำงานไง” คนดึงว่า

   “งานอะไร แล้วปล่อยก่อน อัดเดินเองได้ ลากซะเหมือนลากควายเลย” ออกแรงตีมือที่ดึงมือตัวเอง พอใหญ่หันมามองก็รีบปล่อย “หาเชือกมาผูกจมูกนี่ควายเลยนะ” อดที่จะแขวะไม่ได้ เล่นไม่สนใจอะไรเลยแบบนี้ก็ไม่ดี

   “พี่ขอโทษ” ใหญ่ทำหน้าเสียเมื่อเห็นข้อมือของอัษฎาแดงเถือก “ไหน พี่ขอดูหน่อย”

   “ที่ออกอาการแบบนี้แสดงว่าคิดแปลกๆ อยู่ใช่ไหม” มือที่หมุนแขนหยุดชะงักทันที แปลว่าอัษฎาคิดถูก “คิดไม่ซื่อระหว่างอัดกับแคทใช่ไหม พี่ใหญ่ทำไมเป็นคนแบบนี้เนี่ย”

   “ไม่ได้คิดแบบนั้น” ใหญ่รีบอธิบายทันที “พี่ไม่ชอบให้ใครจับตัวอัด อัดก็รู้นี่”

   “แค่นี้นะเหรอ โอ๊ย พี่ใหญ่นี่ละก็” อัษฎาขำออกมา สาเหตุคงเพราะแคทลูบหลังมือของเขาแน่นอน แต่ที่ลูบก็เพราะอัษฎาเพิ่งซื้อแฮนด์ครีมตัวใหม่มาลองแล้วมันนุ่ม น้องสะใภ้คนสวยเลยขอสัมผัสดูแค่นั้น “จะหวงอะไรนักหนา”

   “ก็พี่ขี้หวงนี่นา มันห้ามได้ซะทีไหน” คนขี้หวงทำหน้างอดูน่ารักดี อัษฎาเดินเข้าไปคล้องแขนแล้วถูศีรษะกับต้นแขนแกร่ง “ไม่ต้องมาอ้อนเลย”

   “ไปทำงานๆ”

   อัษฎากลายเป็นคนขี้อ้อนในแบบที่ใหญ่ชอบ ยิ่งเวลาโมโหหนักๆ เจอลูกอ้อนเข้าไปก็มีเขวทันที แม้จะพยายามเก๊กหน้าฟอร์มจัดสักเท่าใดก็มิเคยชนะ มีอันต้องใจอ่อนทุกครั้งไป



   การทำงานช่วงบ่ายช่างต่างจากช่วงเช้ามากโข ใบหน้ายิ้มแย้มของเจ้านายทำให้มีกำลังใจในการทำงานมากกว่าเสียงบ่น แม้แดดยามบ่ายจะร้อนแรงเพียงใด แต่ก็ยังสู้ความรักของเจ้าของไร่ไม่ได้ แม้ใหญ่จะพาอัษฎามาลงแปลงด้วย แต่ก็ไม่ยอมให้ร่างผอมออกจากร่มที่ใช้คนงานไปเอาที่โรงเก็บมาเพื่อกางให้ มิหนำซ้ำยังเตรียมกระติกน้ำเย็นไว้ให้อีก แม้อัษฎาจะทำหน้ายุ่งเพียงใด แต่ก็มิอาจขัดใจคนสั่งได้

   “นั่งอยู่ตรงนี้จนเลิกเลยนะครับ” หนึ่งในคนงานที่กำลังลงแปลงเอ่ยออกมา เพราะมีอัษฎาอยู่ด้วย ใหญ่เลยพลอยอารมณ์ดี ไม่ดุ ไม่ด่า อาจมีสายตาตวัดมองเป็นระยะบ้าง

   “ไม่ดีหรอก รู้สึกเหมือนกินแรงพิกล” อัษฎาว่า พยายามจะออกไปช่วยงานบ้าง แต่พอถูกเห็นก็ต้องกลับเข้ามานั่งใหม่อีกรอบ นี่เขาไม่ได้บอบบางขนาดนั้น “คุณใหญ่ไปไหนแล้วล่ะ” เมื่อมองซ้ายมองขวาไม่เห็นแม้แต่เงา

   “คงข้ามไปแปลงนู้นครับ” ชี้บอกเสร็จก็ขอตัวไปดูแปลงอื่นบ้าง

   อัษฎาที่นั่งโบกพัดคลายความร้อนเฉยๆ ชักจะเบื่อ ขาเรียวก้าวออกจากร่มแล้วมองหาเจ้าของไร่ เมื่อไม่เห็นก็ค่อยๆ เดินลัดเลาะแปลง มือหยิบหมวกที่เอาติดตัวมาด้วยสวมไว้เผื่อใหญ่เจอจะได้จำไม่ได้

   และก็เจอจริงๆ อัษฎาพยายามก้มหน้าก้มตาแสร้งว่าทำงานยุ่ง ใหญ่ที่เดินผ่านดูจะจำไม่ได้จริงๆ จนคนหลบใจชื้น แต่พอออกเดินเท่านั้น แขนเรียวถูกดึงไว้แน่น

   “คิดจะหลอกพี่ได้อย่างงั้นหรือ” ริมฝีปากบางยกยิ้ม

   “รู้ได้ยังไงล่ะนี่” อุตส่าห์ทำเนียนเป็นคนงานแล้วเชียว

   “นี่อัดกำลังทำให้พี่ขำอยู่หรือเปล่า ชุดที่ใส่นี่พี่ก็เลือกให้ตอนเช้า แล้วกลิ่นตัวหอมๆ นี่อีก เมียทั้งคนลืมก็แย่แล้ว” ใหญ่พูดออกมาเสียงดัง คนงานแถวนั้นพากันหัวเราะขรม

   “โธ่ จบเห่เลย” คนถูกจับได้ดึงหมวกคลุมหน้าออก ใบหน้าขาวบูดบึ้งทั้งที่คิดว่าจะหลบได้อยู่แล้วเชียว ก็อย่างที่ใหญ่ว่า เขาลืมนึกไปว่าเครื่องแต่งกายก็บ่งบอกอยู่แล้ว ไม่น่าเลย

   “จะไปไหนล่ะ” ใหญ่ถามออกมา น้ำเสียงปนขำนิดๆ จนถูกดวงตากลมโตมองค้อน

   “ไปทำงานไง ให้นั่งเฉยๆ เหมือนเอาเปรียบ คนอื่นหรือแม้แต่พี่ใหญ่ยังทำงานเลย” ลุงเหมือนหัวหน้าคนงานที่ยืนอยู่ด้วยถึงกับยิ้มให้กับความคิด

   “จะทำอะไรล่ะ ในแปลงก็ไม่เห็นมีงานอะไร”

   “ไปทำที่โรงคัดแยกก็ได้นะครับ” หัวหน้าคนงานเก่าแก่แทรกเข้ามา ใหญ่ตวัดสายตามองนิดๆ แต่อัษฎารีบพยักหน้าทันที
 
   “งั้นอัดไปที่โรงคัดแยก ไม่มีแดดด้วย ตอนเย็นเจอกันครับ” ไม่รอคำอนุญาต อัษฎารีบวิ่งหนีไปทันที ปล่อยทิ้งให้หัวหน้าคนงานที่เสนอความคิดเห็นต้องรีบก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม แม้จะมีสายตาไม่พอใจจ้องอยู่ก็ตาม...เจ้านายของพวกเขาช่างขี้หึงซะจริง

   อัษฎาเดินเอ้อระเหยมาจนถึงโรงคัดแยก พอเปิดประตูเข้าไป เสียงนกแตกรังก็เงียบสงัดราวกับไร้ผู้คน แต่พอคนด้านในเห็นคนเข้าไปก็รีบพากันถอนหายใจกันยกใหญ่ บ้างก็บ่นว่าไม่ให้ซุ่มให้เสียง เกรงว่าจะเป็นเจ้าของไร่มาตรวจงาน

   “โหย ตกใจจนหัวใจจะวายตาย” ป้าน้อมรีบยกมือลูบอกตัวเองไปมา “แล้วนี่เอ็งมาทำไมหึ” เพราะลูกสะใภ้คนโตบังคับให้พูดตามปกติ ทุกคนเลยกล้าพูดกล้าคุยราวกับว่า คนที่เข้ามาก็เป็นพี่เป็นน้องตามเดิม

   “มาช่วยทำงานสิครับ” อัษฎาว่า มือก็เริ่มช่วยคัดแยกดอกที่อีกไม่นานจะมีวันลอยกระทง ดอกดาวเรืองที่ไร่นี้จึงเป็นที่นิยมกันมาก

   “พี่อัด มะเหมี่ยวจะแต่งงานนะจ๊ะ” หญิงสาวร่างท้วมบอกด้วยความขวยเขิน ใบหน้ามีความสุขราวกับทั้งโลกเป็นสีชมพู

   “จริงหรือ เมื่อไหร่ล่ะ” อัษฎาดูจะตื่นเต้นเมื่อเห็นคนกำลังจะมีความสุข

   “พรุ่งนี้จ้ะ แต่งานเล็กๆ ไม่มีอะไรมากเลย” คนจะแต่งงานว่า ดวงหน้าเต็มไปด้วยความเบิกบาน

   “ยินดีด้วยนะ แล้วจัดที่ไหน ผมจะได้บอกพี่ เอ่อ คุณใหญ่”

   “มะเหมี่ยวบอกคุณใหญ่ไปแล้วนะจ๊ะ ตั้งแต่เมื่อวาน” อัษฎาหน้ามุ่ยเมื่อไม่รู้ข่าวอะไรเลย ใหญ่ไม่เห็นบอกอะไรหรือว่าจะลืมกัน

   การทำงานวันนี้ดูจะสนุกสนานเฮฮาเมื่อมีว่าที่เจ้าสาวอยู่ในกลุ่ม บ้างก็แซว บ้างก็เอ่ยกลเม็ดเคล็ดลับเอาใจสามี บ้างก็วกมาหาอัษฎาที่ให้เก็บข้อมูลไปใช้ แต่อย่างเขาจะให้เอาอะไรไปใช้ จะให้ยั่วยวนบนเตียงก็คงไม่ไหว ขนาดไม่ได้ทำยังเคล็ดขัดยอกขนาดนี้ ทั้งที่ทำงานในไร่มาก็หนัก แต่ทำไมยังมีแรงขนาดนั้น พอสมองนึกถึงภาพเร้าร้อนก็หน้าแดงขึ้นมาเฉย

   เวลาใกล้เลิกงานเต็มที บรรดาสาวน้อย สาวใหญ่ต่างพากันเก็บข้าวของเตรียมกลับ แต่พอประตูเปิดออกต่างคนก็ต่างควานหาอุปกรณ์มาถือใหม่ ทำเอาอัษฎาแอบขำ ต้องโทษใหญ่สินะ ที่เข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง

   “ขยันกันจังนะ” เจ้าของไร่มองภาพตรงหน้า ริมฝีปากพยายามกลั้นยิ้ม ก็ดูบางคนถืออะไรมั่วซั่วไปหมด คงตกใจที่เขาเข้ามา “กลับกัน” ก่อนทุกคนจะทำอะไรไม่ถูก ใหญ่รีบเอ่ยชวนอัษฎาให้ออกมา คนถูกเรียกก็พอเข้าใจเลยรีบลุกออกไปทันที

   ออกมาจากโรงคัดแยกแล้ว อัษฎาทำเป็นเมินเฉยไม่สนใจคนที่เดินเคียงข้าง ใหญ่ขมวดคิ้วแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งที่ก่อนมาก็ยังดูปกติ แล้วทำไมมางอนเขาได้

   ทางเดินจากไร่มาถึงบ้าน คนงอนยังไม่ยอมพูดอะไรสักคำ แต่กลับเอ่ยทักภรรยาน้องชายที่นั่งคุยกับสุนัขพันธ์เล็กที่ซื้อมาเลี้ยง ใจจริงๆ ใหญ่ไม่ค่อยชอบสุนัขเท่าไหร่ ไม่ชอบเสียงเห่าของมัน เวลานอนๆ อยู่แล้วดันเห่าขึ้นมาทำให้ตกใจ นี่คือสิ่งที่ไม่ชอบ

   ใหญ่ปลีกตัวขึ้นมาบนเรือนก่อน ในหัวสมองกำลังคิดหาเรื่องที่ทำให้เขาถูกโกรธแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จนสายตาเหลือบไปเห็นซองสีขาวที่ใหญ่เตรียมไว้ใส่ขวัญถุงคู่แต่งงานของคนงานในไร่ก็ถึงกับบางอ้อ คงจะเรื่องนี้กระมังที่ทำให้ถูกเมินเฉย

   นั่งรออยู่นานกว่าอัษฎาจะขึ้นมาที่ห้อง พอเจ้าตัวมาถึงก็รีบคว้าผ้าขนหนูเพื่ออาบน้ำ แต่ก็ช้ากว่ามือกร้านที่คว้าหมับไว้ ใบหน้าขาวง้ำงอดูแล้วก็รู้สึกขำ

   “ไม่ตลก” น้ำเสียงดูนิ่งพอๆ กับใบหน้าเรียบเฉย

   “โกรธพี่เรื่องงานแต่งคนงานหรือ” พยายามง้อคนขี้งอน เรื่องนี้ต้องขอบคุณหัวหน้าคนงานเก่าแก่อย่างลุงเหมือนที่คอยแนะนำ ดั่งคนแก่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนย่อมรู้ดีว่าควรทำแบบไหนแล้วมันจะดีต่อคู่ตัวเอง พอเห็นคนงอนเงียบ ใหญ่จึงดึงมารวบกอดไว้ คางมนวางเกยบนไหล่ “พี่ลืมบอกไป ไม่ใช่จะไม่บอกสักหน่อย”

   อัษฎายังนิ่งเงียบจนใหญ่ใจคอไม่ดี เหตุการณ์เก่ายังคงวนกลับมาให้คิดเมื่อตอนก่อนจะเลิกฟอร์มจัด ไม่ได้ เขาต้องรีบเคลียร์ ใหญ่จับหน้าเนียนให้จ้องตา พยายามอ้อนวอนด้วยแววตาเพื่อให้คนรักหายโกรธ สุดท้ายคนโกรธก็เผลอหลุดขำออกมา

   “นี่แกล้งพี่หรือ” เพิ่งรู้ว่าถูกหลอก ใหญ่จูบปากอวบจ๊วบใหญ่จนปากแทบเจ่อ

   “นี่จูบหรือจะกินปากอัดกันแน่เนี่ย” อัษฎาเบ้ปาก

   “ลงโทษที่แกล้งพี่ รู้ไหม พี่ใจเสียหมด อย่าทำแบบนี้อีกนะ”

   “รู้แล้วครับ”

   อันที่จริงก็พอโกรธบ้าง แต่ก็รู้ว่าใหญ่ทำงานหนัก ทั้งไร่ดอกไม้ ไร่องุ่น ไหนจะไวน์อีก แล้วช่วงนี้เริ่มมีโทรศัพท์โทรเข้ามาเยอะมากเพราะได้ดูรายการท่องเที่ยว ขนาดที่ใหญ่ต้องดึงสายโทรศัพท์ทิ้งเพราะมันเยอะจนรับไม่หวาดไม่ไหว แล้วแบบนี้จะลืมก็ไม่แปลก

   พอเข้าใจกันดี ต่างคนก็ต่างแยกทำธุระส่วนตัว อัษฎาวางผ้าเช็ดตัวแล้วออกมาด้านนอกเพื่อมานั่งเล่นสุนัขตัวเล็กที่คอยไล่งับนิ้วที่แกล้งวนไปมารอบตัว เสียงหัวเราะดังเล็ดลอดเข้าไปในห้อง ใหญ่เดินออกมาเห็นคนรักยิ้มตาแทบปิดกับเจ้าหมานั่น แม้พยายามจะไม่รู้สึกอะไร แต่ก็อดที่จะเขม่นเจ้าเตี้ยนั่นไม่ได้

   ใหญ่เดินเรียบๆ เคียงๆ มาข้างอัษฎา ตอนนี้ไม่มีเจ้าของมันอยู่ สงสัยจะเข้าห้อง ดวงตาคมแอบมองยามคนเล่นเผลอ ก็ใช้เท้าเขี่ยเจ้าเตี้ยให้ออกห่างคนรักของเขา แต่เหมือนถูกกรรมตามทัน เจ้าเตี้ยที่ใหญ่เรียกกระโดดงับนิ้วเท้าจนเจ้าของขาหวีดร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด แม้จะเป็นเขี้ยวเล็กๆ แต่ก็แหลมคมพอที่จะฝังลงบนเนื้อได้

   อัษฎาที่นั่งอยู่ด้วยมัวแต่แกะซองขนม พอได้ยินเสียงใหญ่โวยวายก็เงยหน้าขึ้นมอง คนโวยวายกระโดดเหยงๆ จับเท้าตัวเองไปมา

   “เลือด” ตรงโคนนิ้วหัวแม่เท้ามีเลือดไหลออกมาจากรอยฟันเล็กๆ สองรู พอใหญ่ได้ยินว่าเลือดตัวเองออกก็รีบกระโดดไปนั่งเก้าอี้นวม ส่วนอัษฎาคว้ากล่องปฐมพยาบาลเข้าไปดูแล “ไปทำยังไงให้มันกัดเนี่ย” ปากก็บ่น มือก็ประคองร่างสูงลุก

   “จะไปไหน” ใหญ่มองคนที่ดึงเข้าให้ยืนขึ้น เวลาวางเท้าแล้วรู้สึกจี๊ดๆ

   “ไปล้างน้ำสบู่ก่อน แล้วต้องไปฉีดยา อืม รู้สึกจะแปดเข็มหรือเปล่า”

   “หา แปดเข็ม บ้าไปแล้ว”

   “อัดเคยฉีดแบบนี้นี่นา ยาพิษสุนัขบ้าห้าเข็มและยากันบาดทะยักอีกสาม รวมเป็นแปดพอดี”

   ใหญ่หน้ามุ่ยเมื่อต้องฉีดยามากมายขนาดนี้ นี่แหละ เขาถึงไม่ชอบสุนัข ไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่

   จังหวะที่ประคองกันไปเข้าห้องน้ำ เจ้าของสุนัขก็เดินออกมา แคทตาโตตกใจเมื่อรู้ว่าสุนัขตัวเองกัดพี่ชายสามี หญิงสาวถลาเข้าไปหา มือก็รีบยกไหว้ทันที

   “แคทได้ฉีดยามันหรือเปล่า” อัษฎาถามเสียงเครียด

   “ค่ะ เพิ่งฉีดตอนไปรับมา วัคซีนครบทุกอย่าง” หญิงสาวว่า สีหน้ามีความวิตกกลัวใหญ่จะเป็นอะไรมาก

   “งั้นก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง”

   “สบายใจยังไงคะ”

   “ก็พี่ใหญ่ไม่เป็นบ้าแน่นอน โอ๊ย” โดนดึงจมูกเป็นการลงโทษ แคทพยายามกลั้นขำเพราะกลัวถูกดึงจมูกด้วย “ไปล้างสบู่ก่อน”

   หลังจากทำแผลทุกอย่าง อัษฎาก็เป็นคนขับรถพาใหญ่เข้าไปในเขตหมู่บ้านซึ่งมีสถานีอนามัย แม้คนโดนสุนัขกัดจะไม่อยากมา แต่เพื่อเป็นการป้องกัน อีกทั้งยังลดการบ่นของอัษฎา ใหญ่จึงยอมมาด้วย

   “ทำไมขี้บ่นเนี่ย” หลังจากฉีดวัคซีนเสร็จก็ขับรถกลับ

   “พี่ใหญ่จะได้รู้สึก ว่าอัดรู้สึกยังไงตอนโดนพี่บ่นเยอะๆ” คนบ่นมองค้อน

   ใหญ่เผลอขำออกมานิดๆ เริ่มรู้สึกแล้วว่า การถูกบ่นมันรู้สึกได้สองแบบคือ หนึ่ง คนบ่นกำลังเป็นห่วง สอง คือหากบ่นมากเกินไปจากเป็นห่วงจะกลายเป็นรำคาญ

   พอรถของไร่จอดปุ๊บ เล็กก็รีบเดินเข้ามาหา ใบหน้าแสดงถึงความห่วงใยและเป็นกังวลเมื่อได้รู้จากภรรยาว่าพี่ชายของเขาถูกเจ้าตัวเล็กกัดจมเขี้ยว เท่าที่เห็นตอนนี้คงไม่เป็นอะไรมากอย่างที่กังวล ดูใหญ่ยังเดินได้เป็นปกติ จะมีก็แค่ลูกเล่นแกล้งอ้อนอัษฎาเท่านั้นแหละ

   “มันคงกัดลึกมากสินะครับ” เล็กอดไม่ได้ที่จะแหย่ ก็เห็นอยู่ว่าใหญ่ก้าวขาลงจากรถปกติ แต่พออัษฎาอ้อมรถมาหาก็แกล้งยืนพิงประตูแสร้งทำหน้าว่าเจ็บมาก ช่างน่าหมั่นไส้ซะจริง

   “เออ” ใหญ่ปรายตามองน้องชายเพื่อให้สงบปากสงบคำก่อนจะหันไปอ้อนคนคอยพยุงขึ้นเรือน “เจ็บ”

   นี่พี่ใหญ่จริงหรือนี่ เล็กมองภาพพี่ชายอ้อนคนข้างๆ แล้วก็อดที่จะทึ่งไม่ได้ ตั้งแต่เกิดจนโตมา เพิ่งเคยเห็นพี่ชายเป็นแบบนี้ แทบอยากยกนิ้วให้พี่สะใภ้ซะจริง

   ขึ้นเรือนมา นมอิ่มแทบจะพุ่งเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง ใหญ่ยิ้มน้อยๆ บอกเพิ่งฉีดยามาสองเข็มและปวดมาก จนใบหน้าหล่อบิดเบี้ยว

   “รีบพาพี่เขาไปพักเถอะ” บอกลูกชายตัวเองให้รีบพาใหญ่เข้าห้อง หลังจากประตูปิดลงแล้วได้แต่ภาวนาขออย่าให้ใหญ่เป็นอะไร

   “ไม่ต้องห่วงมากหรอกครับ” เล็กเดินมายืนข้างๆ แล้วบอก พอนมอิ่มหันมามองก็ยิ้มบางๆ “เจ็บแบบอ้อนเมียเฉยๆ”

   “คุณเล็กพูดจริงหรือ” คล้ายกับไม่เชื่อ เพราะใบหน้าเมื่อกี้ทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้

   “จริงๆ สิ เชื่อผม เขี้ยวไอ้ดาวเรืองมันเล็กนิดเดียว คงไม่เจ็บปางตายหรอกครับอย่างที่เราเห็นหรอกครับ”

   พอได้ยิน คนเป็นห่วงก็พยักหน้าลงอย่างเบาใจ อันที่จริงตอนนั่งรออยู่ก็ไม่ได้ห่วงมากมาย เพราะสุนัขที่กัดอายุแค่สองเดือนกว่า ไม่น่าจะกัดลึกถึงกระดูก แต่พอเห็นสภาพก็อดหวั่นไหวไม่ได้ ยิ่งลูกชายของเธอประคองอีก ไม่ให้ห่วงยังไงไหว นึกแล้วก็อดค้อนลูกเขยไม่ได้ เล่นอะไรไม่ดูเวลาร่ำเวลา

   ด้านคนเจ็บถูกประคองเข้าไปนั่งบนเตียง อัษฎาเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาให้

   “พี่จะอาบน้ำหรือให้เช็ดตัว” เอ่ยถามคนนั่งบนเตียงที่ทำหน้าหงอย ใหญ่ทำหน้านึกอยู่นานก่อนจะยกยิ้มนิดๆ

   “เช็ดตัวดีกว่า รู้สึกหนาวยังไงไม่รู้” คนเจ็บยกมือลูบแขนสองข้างไปมาคล้ายกับหนาว ทั้งที่อากาศกำลังเย็นสบายเมื่อมีลมพัด

   “เช็ดตัวก็ดีเหมือนกัน ตอนแรกอัดคิดจะอาบให้แท้ๆ แต่ถ้าพี่ใหญ่รู้สึกหนาวละก็ เช็ดตัวก็ได้”

   “เดี๋ยวๆ พี่ว่า อาบน้ำก็ดีเหมือนกัน ทำงานมาทั้งวัน เหนียวตัวมากเลย” ข้ออ้างที่ยกมาพูดดูฟังขึ้นในความคิด รู้สึกคิดถูกที่เมื่อตอนเย็นไม่ได้อาบน้ำ

   “สรุปจะให้เช็ดตัวหรือจะอาบน้ำ”

   “ถ้าอัดอาบให้ พี่ก็จะอาบ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทำให้อดหมั่นไส้ไม่ได้

   “อย่าสำออยไปหน่อยเลย แผลเล็กนิดเดียวเอง” อัษฎาบีบจมูกคนนั่งบนเตียง

   “โอ๊ยๆ เจ็บ” ใหญ่หน้ามุ่ยเมื่อถูกลงโทษ “ผัวเจ็บอยู่นะ”

   “เจ็บสำออย” พอถูกจับได้ ใหญ่ก็ดึงร่างผอมมานั่งตัก มือกอดเอวไว้แน่น “ทำไมพี่ใหญ่ถึงถูกกัด อัดเล่นกับมันตั้งแต่เช้ายังไม่โดนเลย” รู้สึกว่าคนที่เขากำลังนั่งตักซวยซะจริงที่ถูกสุนัขตัวเท่าฝ่ามือกัด

   “ก็เล่นมันนั่นแหละ” ตอบแบบส่งๆ ไป หากถูกดวงตากลมโตจ้องระยะประชิดเลยรีบหลบตา

   “หึงอัดกับหมาใช่ไหม” คล้ายกับเดาถูก เมื่อดวงตาคมกรอกไปมา “นี่พี่ใหญ่เพี้ยนไปหรือเปล่า นั่นหมานะ” อยากจะขำซะจริง เพิ่งเคยเห็นคนหึงสุนัข

   “ก็อัดไม่สนใจพี่เลยนี่” พอพูดจบ หน้าหล่อถูกฝ่ามือสองข้างประกบแก้มให้หันมาจ้องตา

   “อัดก็สนใจพี่ใหญ่ตลอดนั่นแหละ เชื่อใจกันบ้าง แล้วก็ อย่าหึงให้มาก เดี๋ยวเส้นเลือดแตกซะก่อน แก่ขนาดนี้แล้ว” พูดยังไม่ทันจบดี ร่างผอมก็ลอยหวือลงไปนอนบนเตียงโดยมีคนแกล้งเจ็บคร่อมไว้ “ลุกเลย”

   “รุกอยู่นี่ไง” ว่าแล้วก็ก้มหน้าซุกไซ้ตามซอกคอหอม “หอม”

   “ไม่อาบน้ำจะหอมได้ยังไง ลุกเลย ไปอาบน้ำก่อน เหนียวตัวด้วย....พี่ใหญ่” เมื่อเห็นคนที่คร่อมอยู่ไม่ทำตาม ปากอวบอ้าปากงับจมูกเข้าไป ใหญ่ถึงกับผละออกทันที

   “เจ็บ พี่ต้องไปฉีดยาอีกไหมนี่ โอ๊ยๆ ยอมแล้วครับ” ถูกเปรียบเป็นเจ้าสุนัข อัษฎาต่อยรัวเข้าที่แขนทันที ก่อนจะถูกรวบมือสองข้าง “ไปอาบน้ำกันดีกว่า”

   “เออ” ตอบตาขวางแต่ก็ยอมเดินตามร่างสูงเข้าห้องน้ำ




   เจ้าของไร่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสุขุม อัษฎาอยากจะหัวเราะให้กับคนที่ให้คำจำกัดความแบบนี้ คงจะไม่รู้ตัวตนว่าแท้จริง
เจ้าของไร่พิกุลจันทร์หอมแสนจะขี้หึง ขี้หวง และขี้น้อยใจสุดๆ




   “อัดครับ ถูหลังให้หน่อย”

   “ขาเจ็บ มือไม่ได้เจ็บ ถูเองเลย”

   “นี่ผัวนะ”

   “นี่เมียนะ”

   “เข้าใจแล้วครับ ถูเองก็ได้”


   ที่สำคัญ เจ้าของไร่นี้ ยังแพ้คนรักอย่างราบคาบ แค่มองด้วยตาก็หงอเป็นลูกแมว ช่างน่ารักซะจริง


...

รถอ้อยคันนี้หวานน้อยไปไหมคะ ฮ่าๆๆ มาแบบเอื่อยๆ เน้อค่า

ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่า สำหรับนิยายเรื่องนี้อาจมีข้อผิดพลาดหลายๆ อย่าง มีข้อติเตียน หรือสิ่งที่อาจทำให้ขัดใจบ้าง ทั้งเรื่องภาษาหรือเรื่องอื่นๆ ต้องกราบขอประทานอภัยอย่างยิ่งค่า จะพยายามพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ

ปอลอ....รถอ้อยยังมีอีกหลายคันนะคะ  :mew1:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-12-2016 23:03:15
โธ่ คุณใหญ่กับหมาก็ยังหึงได้อีกนะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 27-12-2016 23:47:02
ขี้หึง ขี้หวงนักเชียว
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 27-12-2016 23:48:29
คุณใหญ่จะหึงพร่ำเพรื่อเกินไปแล้ว ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-12-2016 23:57:23
  o13o13 o13
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-12-2016 00:23:46
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-12-2016 00:31:59
 :m20: :L1: :pig4: :L2:

คุณใหญญญญญ่เพี้ยนจริงไ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 28-12-2016 06:39:45
กับหมายังไม่เว้นนะลุง :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 28-12-2016 07:12:09
 โอ้ยลุงนี่รถอ้อยคว่ำกี่คันเนี่ย :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 28-12-2016 08:48:18
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 28-12-2016 09:07:47
น่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 28-12-2016 09:37:23
ชอบๆขออีกหลายๆคัน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 28-12-2016 10:19:08
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 28-12-2016 10:19:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-12-2016 10:27:50
คุณใหญ่นอกจากทำไร่ดอกไม้ไร่ชาแล้วยังสัมปทานไร่อ้อยด้วยใช่ไหม :hao3: :hao3: :m1: :m1: :m1: :m1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 28-12-2016 11:04:54
 :L2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bungg ที่ 28-12-2016 12:03:34
นอกจากขี้หึงแล้วยังกลัวเมียด้วยสินะ 55555
อยากเห็นน้องอัดหึงพี่ใหญ่บ้างจัง ต้องน่ารักมากแน่ๆ
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Dezzerr ที่ 28-12-2016 12:40:06
ขำ สมน้ำหน้าคุณใหญ่ดีไหมนี่ 5555555
รอรถอ้อยคันถัดไปนะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 28-12-2016 12:47:24
 :เฮ้อ: เอาที่สบายใจเลยคุณใหญ่เว่อร์ทุกเรื่องจริง ๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-12-2016 13:37:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 28-12-2016 15:52:51
หึงแม้แต่กับหมายังพอว่า แต่ดันกลัวเมียด้วยนี้สิ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 28-12-2016 16:44:17
อ้อยมากกกกกก อ้อยทั้งสวนก็สู้ไม่ได้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ASAMENG ที่ 28-12-2016 17:32:05
 :-[ น่ารักน่าติดตามมากๆ สนุกนะ ถ้าทำเรื่องยาวเพิ่มหลายๆอารมณ์เข้าไป รับลองมันส์ สู้ต่อไปนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: toonsora ที่ 28-12-2016 19:29:49
อ้อยมาทั้งไร่เลยค่ะพี่ใหญ่ :hao7: :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 28-12-2016 19:38:24
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 28-12-2016 22:03:52
น่ารักมากๆๆๆๆๆ
 :impress2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 29-12-2016 01:54:45
นี่เมียนะ
เจอไปสามคำนี่เงียบเลย555555555
ลุงยังน่ารักเหมือนเดิม เอฟซีลุง :mc4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 29-12-2016 05:29:54
โอ้ยย พลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไง
สนุกมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 29-12-2016 17:09:12
ผัวแล้วไง นี่เมียนะ!!! 555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 29-12-2016 21:57:11
ถึงกับหึงหมา นี่ไม่ธรรมดาเลยนะ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 29-12-2016 23:02:29
คุณใหญ่ตอนเริ่มเรื่องกับตอนจบเรื่องนี่อย่างกับคนล่ะคน :laugh:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 29-12-2016 23:15:05
ขอบคุณสำหรับตอพิเศษนะคะ น่ารักมากกกกก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 29-12-2016 23:51:45
หมันไส้อิลุงงงงง :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 30-12-2016 00:40:52
นี่เมียนะ 5555 พี่ใหญ่จอดสนิทชอบๆๆๆๆรถอ้อยมาหลายๆคันน้าาาาา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-12-2016 02:47:48
โอ๊ยยยย หวานได้อีกค่ะ

ใหญ่เปลี่ยนไปจริงๆ 55555
น่ารักมากเลย เค้ารู้ทาง รู้ใจกัน

ใหญ่เวอร์มาก ขำหนักมาก คือหวงยังพอว่า แต่กับหมาก็หวง คิดไปได้
อัดน่ารัก อ้อนเข้าไปค่ะ ใหญ่ยอมตั้งแต่เริ่มอ้อนแล้ว

รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 30-12-2016 08:32:43
ใหญ่โหมดนี้ อ่านไปขนลุกไปเลย 5555
เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 30-12-2016 15:09:36
 o13 สนุกมากเลย เราอ่านรวดเดียวจบ ตลกคนแก่เป็นไบโพล่า
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ryneyz ที่ 30-12-2016 16:06:17
โอ้ยยยยยย หวานนนนนนนน
ขอบค่ะ
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-12-2016 16:59:38
หลงเมียหนักมาก 55
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ เขาคือคนขี้หึง << [P.17] // [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 30-12-2016 22:58:51
ลุงนี่ขี้หึงยังไม่พอยังหงอให้เมียอีก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 31-12-2016 18:41:46

ตอนพิเศษ วันปีใหม่





       บรรยากาศยามเช้าช่างคึกคัก บรรดานกกระจิบนกกระจอกต่างพากันออกรังเพื่อไปหาอาหาร ดังเช่นคนงานในไร่ที่พากันแบกเสียม แบกจอบไปทำงาน วันนี้ทุกคนดูมีความสุขกว่าทุกวัน เพราะพรุ่งนี้จะได้พักผ่อนเนื่องจากวันปีใหม่ ที่สำคัญ วันนี้เจ้าของไร่แสนใจดีจะมีงานเลี้ยง เหล่าคนงานเลยกระตือรือร้นอยากให้เลิกงานไวๆ ทั้งที่เพิ่งจะหกโมงเช้า

   “อัดอยู่กับแม่แล้วก็คนอื่นๆ ที่นี่เถอะ” ร่างสูงสอดแขนเข้าเสื้อเชิ้ตที่ถูกถือไว้โดยอัษฎาและปล่อยให้ร่างผอมกลัดกระดุมเสื้อให้อย่างเช่นทุกเช้า

   “ก็ได้ครับ” รับคำง่ายๆ เพราะงานที่ต้องเตรียมล้วนแล้วแต่เป็นงานหนัก ทั้งแบกหามข้าวของ ทั้งต้องจัดสถานที่อีก หากปล่อยให้สาวๆ ทำกันเองคงจะไม่ไหว “ตอนเที่ยงแม่ว่าจะทำขนมจีนน้ำเงี๊ยว พี่ใหญ่รีบกลับมานะ”

   “ครับ พี่จะรีบกลับ” ใหญ่เชยคางแหลมขึ้นแล้วก้มหน้าลงไปจูบปากอวบเบาๆ “พี่ไปทำงานก่อนนะครับ”

   แผ่นหลังกว้างที่แสนอบอุ่นเดินออกจากห้องไป อัษฎาก็รีบเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะลงไปช่วยงานในครัว วันนี้จะมีปาร์ตี้เลี้ยงฉลองทั้งไร่ กับข้าวคงต้องทำเยอะมากเป็นพิเศษ

   และก็จริง งานในครัวช่างวุ่นวาย คนทำอะไรไม่เป็นดูเก้งก้างและเกะกะ แม้อัษฎาจะพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์ ช่วยหยิบนั่นหยิบนี่ แต่ก็มักจะไม่ทันใจแม่ครัวที่ผัดผักมือเป็นระวิง

   “เอามะเขือส้มมาหื้อป้ากำ” (เอามะเขือเทศให้ป้าหน่อย) คำสั่งเป็นภาษาคำเมืองเล่นงานอัษฎาจนนิ่ง ในเมื่อเขาไม่รู้จักเลยได้แต่ยืนหันรีหันขวางไม่รู้จะหยิบอันไหน

   “อันนี้จ้ะพี่อัด” ยังดีที่มีลูกเจี๊ยบอยู่ด้วย เลยถูกบ่นน้อยลง เพราะป้าแม่ครัวพูดแต่คำเมือง และเป็นคำที่ฟังยากมาก อัษฎาพยายามเรียนกับลูกเจี๊ยบแต่ก็ไม่ค่อยคืบหน้าเท่าที่ควร

   “ปาเปิ้นออกไปจ้วยงานตางนอกไป ลูกเจี๊ยบ” (พาเขาออกไปช่วยงานด้านนอกไป ลูกเจี๊ยบ) ผู้ช่วยแม่ครัวอีกคนเอ่ยออกมา รู้สึกสงสารนิดๆ ที่คนไม่เคยทำครัวต้องมายืนนิ่งให้โดนด่า

   “พาพี่เขาออกไปช่วยข้างนอกเถอะลูกเจี๊ยบ” นมอิ่มย้ำอีกรอบ ริมฝีปากได้รูปยิ้มน้อยๆ ส่งให้ลูกชาย แม้อัษฎาจะทำอาหารเป็นบ้าง แต่ก็มักทำแต่พวกอาหารฝรั่ง ส่วนนี่เป็นอาหารไทย แถมยังเป็นกับข้าวพื้นเมืองอีก ยากนักที่จะเรียนรู้ภายในไม่กี่เดือน
 
   อัษฎาหน้าตูมเมื่อลูกเจี๊ยบพาออกมาด้านนอก เด็กสาวเอื้อมมือตบบ่าคนที่เปรียบเสมือนพี่ชายที่รักมาก

   “พี่อัดอย่าคิดมากนะจ๊ะ ป้าแกก็ปากอย่างนั้นนั่นแหละ ส่วนใหญ่เขาก็ปล่อยให้บ่นไป เหนื่อยแกก็หยุดเอง ลูกเจี๊ยบนี่ฟังจนไร้ความรู้สึกไปแล้ว” คล้ายกับปลอบใจ และก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมานิดๆ อย่างตอนอยู่ในครัว อัษฎารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน จะเดินออกก็ไม่ได้ จะเดินเข้าไปช่วยมากก็ไม่ดี เลยได้แต่ยืนนิ่ง แต่ก็มิวายถูกบ่น

   พอออกมาด้านนอก คนงานผู้ชายส่วนหนึ่งเริ่มช่วยกันยกโต๊ะ เก้าอี้พลาสติกออกมาเรียงรายที่ลานกว้างข้างบ้านที่จะใช้เป็นสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ค่ำคืนนี้ ร่างผอมรีบเดินไปช่วยจัดเก้าอี้ เช็ดโต๊ะบ้าง ทำนู้นทำนี่จนลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ส่วนลูกเจี๊ยบเดินกลับเข้าไปในครัวตามเดิม

       เสียงพูดคุยสนุกสนานเร่งให้เด็กสาวรีบมาหาอีกรอบ อัษฎากำลังนั่งหัวเราะให้กับเรื่องราวตลกของคนงานที่เพิ่งฝันว่าถูกงูไล่ฉกที่คิดว่าจะเจอเนื้อคู่ ที่ไหนได้ เช้ามากลับเจองูไล่ฉกจริงๆ เหตุการณ์ชวนขนลุกแต่เจ้าของเรื่องกลับทำให้เป็นเรื่องขบขัน 

   “ลูกเจี๊ยบก็เคยฝันว่าได้จับอึด้วย” เด็กสาวรีบเล่าเรื่องความฝันตัวเอง ทุกคนต่างรอฟังอย่างตั้งใจ

   “เขาว่า ฝันจับอึจะได้เงินได้ทองนี่หว่า” คนงานที่รู้จักเด็กสาวเอ่ยขึ้นมา

   “มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละจ้ะลุงกร แต่แม่กลับปลุกลูกเจี๊ยบให้ตื่นมาซะก่อนเลยไม่รู้ว่าจับอึไปไหน” ใบหน้าหวานบึ้งตึงนิดๆ “แม่บอกว่า ลูกเจี๊ยบอึใส่ที่นอน เลยต้องรีบลุกไปล้างตอนนั้นเลย แต่ลูกเจี๊ยบไม่ได้อึนะ”

   “สกปรกจริงเอ็งนี่” มีทั้งเสียงหัวเราะและใบหน้าแขยง

   “ปวดขี้ก็เลยฝัน พอฝันว่าได้ขี้เอ็งก็เลยปล่อยใช่ไหมวะ”

   “ลุงมีก็ ลูกเจี๊ยบไม่ได้รู้สึกปวดเลยนะ”

   อัษฎาหัวเราะให้กับใบหน้าง้ำงอของเด็กสาว ที่จริงเขาก็เคยฝัน แต่ก็ตื่นเข้าห้องน้ำทุกครั้ง ไม่เคยปล่อยเรี่ยราดออกมา ไม่ว่าจะปวดหนักหรือเบา

   “หัวเราะอะไรกัน” เสียงทุ้มดังจากทางด้านหลัง คนงานแทบแตกฮือเมื่อเจ้าของไร่เดินหน้านิ่งเข้ามา ใหญ่เลิกคิ้วนิดๆ เมื่อคนงานที่นั่งล้อมวงคุยลุกหนีไปจัดนั่นจัดนี่ จะมีก็แต่คนรักของตัวเองที่มองหน้าแล้วหัวเราะ “หัวเราะอะไร”

   “ก็พวกเขากลัวพี่ใหญ่น่ะสิ” อัษฎาพูดไปขำไป มีลูกเจี๊ยบนั่งหัวเราะเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ “ยังไม่เที่ยงเลยนี่ ทำไมรีบมาล่ะ” ยังเหลืออีกหลายสิบนาที

   “พี่สัญญาเอาไว้นี่ว่าจะรีบกลับมา” หยอดไปให้คนร่างผอมเขิน ความหวานพาให้คนนอกอย่างลูกเจี๊ยบรู้สึกเลี่ยนจนต้องขอตัวไปในครัว อัษฎารีบตีต้นแขนแกร่งด้วยความกระดากอาย “ตีพี่ทำไมนี่”

   “ชอบพูดเลี่ยนอยู่เรื่อง ลูกเจี๊ยบหนีไปอ้วกแน่” แสร้งทำดุ แท้ที่จริงเขินจนหน้าแดง ใหญ่มองใบหน้าขาวที่ขึ้นสีระเรื่อแล้วอยากจับมาฟัด ติดตรงที่พวกเขายังยืนอยู่ในที่โล่งแจ้ง อีกทั้งยังมีคนงานเดินกันให้ขวักไขว่ คงไม่เหมาะหากจะชื่นใจคนรักของตัวเองให้คนอื่นดู

   “ก็พูดกับอัดคนเดียวนั่นแหละ” แม้ไม่ได้หอมแก้ม แต่แค่ได้ลูบก็ยังดี มือกร้านลูบแก้มเนียนเบาๆ “แล้วนี่ ทำงานหนักหรือเปล่า พี่ว่า อัดน่าจะนั่งดูอยู่เฉยๆ นะ”

   “อัดไม่ได้พิการเป็นง่อยสักหน่อย ช่วยกันจะได้เสร็จไวๆ” ใหญ่พยักหน้าลงช้าๆ แม้จะไม่ค่อยเห็นด้วยที่ปล่อยให้อัษฎายกนั่นหามนี่ แต่ก็ขัดไม่ได้ ในเมื่อเคยสัญญาว่าจะให้อัดตัดสินใจเองโดยที่เขาจะยุ่งได้แค่บางเรื่อง

   “ปีใหม่นี้ อัดอยากได้อะไรหรือเปล่า เพราะพี่คงพาไปเที่ยวไม่ได้” ทั้งที่ในใจอยากจะพาคนรักตระเวนเที่ยวให้ฉ่ำปอดแบบคู่รักอื่นๆ แต่ติดตรงงานที่มีเข้ามาอยู่ตลอด เลยทำให้ออกไปหลายวันไม่ได้

   “ไม่อยากได้อะไรหรอก แค่อยู่กับพี่ใหญ่ก็เป็นของขวัญของอัดแล้ว” ไม่ได้พูดเอาใจ แต่ออกมาจากใจจริงๆ ใหญ่เขินจนหูแดงเมื่อได้ยิน ใบหน้าเข้มเก๊กขรึมแม้ปากจะอยากยิ้มกว้างก็เถอะ “ทำเป็นเก๊ก” อดแขวะไม่ได้ ใหญ่เลยยื่นมือขยี้ผมคนล้อจนยุ่งเหยิง

   “ไม่ต้องล้อเลย” ใหญ่หัวเราะ มือโอบเอวร่างผอมไปเข้าคิวตักขนมจีนที่เพิ่งถูกยกมาวางบนโต๊ะ บรรดาคนงานต่างแหวกทางให้เจ้าของไร่เริ่มก่อน แม้ใหญ่จะให้ทุกคนตัก แต่ก็ไม่มีใครกล้า

   ขนมจีนน้ำเงี๊ยวหม้อโตหมดเกลี้ยง คนงานจำนวนมากต่างอิ่มหนำกับมื้อเที่ยงแสนอร่อย จะมีก็แต่เจ้าของไร่ที่ยังจัดการของตัวเองไม่หมดสักที เพราะมัวแต่ดูแลอัษฎา ลุกไปตักนั่นตักนี่จนแทบไม่ได้กิน

   “จะหมดไหมนี่” เมื่อเห็นจานตัวเองแล้วก็ขำออกมา เส้นขนมจีนพองจนขยายเต็มเพราะดูดน้ำเงี๊ยวจนแห้ง

   “สมน้ำหน้า อยากเอาใจเมียดีนัก” เล็กหยอกพี่ชายก่อนจะหลบถั่วงอกที่พุ่งเข้ามาหาจากน้ำมือพี่ชายตัวเอง “ไม่โดนหรอก”
 
   “เล่นกันเป็นเด็กไปได้ รีบๆ กิน” คุณพิกุลต้องปรามลูกชาย นี่ขนาดว่าโตขนาดนี้ยังเล่นเป็นเด็ก ใหญ่ชี้หน้าน้องชายตัวเองแล้วรีบตักขนมจีนใส่ปากคำใหญ่ “เอาๆ กินมูมมาม”

   “ต้องรีบกินครับ เดี๋ยวอัดมา พี่ใหญ่จะกินมูมมามไม่ได้” พูดอีกรอบ คราวนี้เล็กถูกน้ำแข็งก้อนโตปาใส่หัวเต็มๆ และไม่มีใครสงสารในเมื่อปากดีเอง

   ส่วนอัษฎาที่เดินนำจานไปใส่กะละมังกลับมาเห็นเล็กลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ ก็นึกสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เมื่อนั่งลง มือขาวยื่นเขี่ยดอกงิ้วออกจากจานให้ ใหญ่ยิ้มแป้นจนคนรอบโต๊ะอดหมั่นไส้ไม่ได้

   “อย่าเอาใจพี่ใหญ่ให้มาก เดี๋ยวได้ใจ” เล็กยังปากดี แต่คราวนี้หลบก้อนน้ำแข็งได้ทัน

   เมื่อมื้อเที่ยงแสนอร่อยเสร็จสิ้น ทุกคนต่างก็แยกย้ายไปทำงาน ยกเว้นเจ้าของไร่ที่อ้อยอิ่งไม่อยากไปเลยแกล้งขึ้นเรือนไปนอนเหยียดยาวบนเก้าอี้นวม รอเวลาคนงานกับน้องชายลงไร่ไปถึงได้ลุกขึ้นมานั่ง

   “คุณใหญ่หนีงานหรือคะ” นมอิ่มขำท่าทางของลูกเขย

   “ไม่ได้หนีครับ” ข้ออ้างแต่ช่างฟังไม่ขึ้น “แล้วอัดละครับ”

   “อยู่ข้างล่างค่ะ คุณใหญ่มีอะไรหรือเปล่า...”

   “อย่าเรียกผมว่าคุณสิครับ ผมว่าจะพูดหลายรอบแล้ว”

   “อ่าว แล้วจะให้เรียกว่าอะไรหรือคะ”

   “เรียกใหญ่เฉยๆ ดีกว่าครับ เพราะแม่คือแม่ของอัด อีกอย่างแม่ก็เลี้ยงผมมาตั้งแต่เกิด เป็นแม่สองชั้นซ้อนเลยนะครับ” พยายามพูดติดตลกเพื่อไม่ให้หญิงสูงวัยน้ำตาไหล “ขอบคุณนะครับ ที่เลี้ยงผมแล้วก็สร้างอัดมาให้ผม”

   “ค่ะ เพราะคุณ...เอ่อ เพราะลูกเป็นคนดี ตาอัดแกต่างหากที่โชคดี” นมอิ่มยิ้ม มือยกเช็ดน้ำตาที่อาบแก้ม

   “เราโชคดีทั้งสองคน วินๆ ครับ”

   “ชอบพูดแกล้งคนแก่อยู่เรื่อย”

   ภาพรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความยินดีจุดรอยยิ้มของคนที่เพิ่งเดินขึ้นมาให้ฉายกว้าง อัษฎากอดร่างของคุณพิกุลที่เดินขึ้นมาพร้อมกัน ศีรษะทุยเอนพิงไหล่อุ่น จะปีใหม่แล้ว อะไรๆ ก็ดูจะเข้ารูปเข้าลอยลงตัวไปซะหมด นี่แหละคือความสุขที่ต้องการ

   เมื่อใหญ่ไม่ลงไร่ เลยถูกอัษฎาใช้ให้ช่วยจัดโต๊ะเตรียมของแทน แม้จะบ่นแต่มือก็ทำตามทุกอย่าง ขนาดคนงานที่ช่วยยังแอบเกรงใจ พยายามแย่งงานของใหญ่ทุกอย่างแต่ถูกอัษฎาร้องขัดเลยต้องปล่อยให้ใหญ่ทำเอง กว่าการจัดการทุกอย่างจะเสร็จก็เกือบค่ำ คนงานเริ่มทยอยออกจากไร่เพื่ออาบน้ำแต่งตัวเตรียมมางานฉลองปีใหม่ ใหญ่ดึงอัษฎาไปอาบน้ำพร้อมกันด้วยข้ออ้างประหยัดน้ำ แต่หลายคนรู้ดีว่าอยากจะอ้อนคนรักมากกว่า




   ยามค่ำคืน ดนตรีที่เปิดแม้ไม่กระหึ่ม แต่ก็สนุกสนาน บรรดาคนงานต่างพากันจัดการกับข้าวแสนอร่อยคลอเคล้าเสียงเพลงที่คนงานผลัดกันขึ้นไปร้องคนละเพลงสองเพลง บางคนก็ร้องเพราะ บางคนก็ถูกโห่ไล่ลงสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนในงาน

   “ผมว่า เราควรจะให้คุณใหญ่มาร้องเพลงให้พวกเราฟังสักเพลง ปรบมือหน่อยครับ” คนงานไร่องุ่นที่ร้องเพลงคนสุดท้ายเอ่ยเรียกเจ้าของไร่หนุ่มให้ออกมา แม้ใหญ่จะส่ายหน้า แต่ถูกอัษฎาดันออกไป หน้าคมจ้องคนข้างกายก่อนจะยอมเดินออกไป

   “ท่ามากซะจริง” เสียงคุณพิกุลลอยเข้ามาหลังจากลูกชายคนโตลุกออกไปแล้ว

   ใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ ดวงตาคมจ้องมองหน้าจอเพื่อเลือกเพลงที่จะร้อง ผ่านไปหลายสิบเพลงแต่ก็ไม่ถูกใจสักที จนเล็กต้องเร่ง นั่นยิ่งสร้างเสียงหัวเราะ

   “พี่ใหญ่รีบๆ เลือก ทุกคนรอจวนจะหลับแล้ว”

   “มาร้องเองเลยมา” ใหญ่พูดออกไมโคโฟน ก่อนจะเลือกเพลงรักหวานๆ พอดนตรีคาราโอเกะคลอขึ้นมา บรรดาผู้คนที่อยู่ร่วมงานต่างปรบมือกันดังสนั่น “ขอออกตัวก่อน ว่าผมไม่ได้เสียงเพราะ แต่อยากจะร้องเพลงนี้ให้กับคนๆ หนึ่ง” แม้ไม่พูดออกมา แต่แววตากลับพูดแทน ใหญ่จ้องมองมายังโต๊ะที่เขาเพิ่งลุกออกมา

   “ร้องให้เมียผมหรือ” เล็กเอ่ยแซวเลยถูกด่าออกไมโครโฟนอีกรอบ

   “เพลงนี้ ผมตั้งใจร้องให้แทนของขวัญ” นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มสั่นไหวยามจ้องมองดวงหน้าขาวที่ยิ้มหวานส่งกำลังใจมาให้อยู่ตลอด “ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ ที่จะเสกปราสาทงามให้เธอ ไม่มีฤทธิ์เดช ไม่มีราชรถเลิศเลอ แต่ฉันมีใจพิเศษ จะพาเธอผ่านคืนนี้ไป ฉันเป็นเพียงผู้ชาย คนนี้ที่มีใจมั่นรักเธอ” น้ำเสียงทุ้มนุ่มน่าฟังขับกล่อมให้บรรยากาศดูเป็นสีชมพู อัษฎานั่งมองด้วยความขวยเขินจนจบเพลง เสียงปรบมือดังเกรียวกราวไปทั่วบริเวณพร้อมเสียงโห่ร้องหยอกล้อคู่รักแสนหวาน

   “คุณใหญ่ทำให้คนไร้คู่เฮิร์ทนะครับ” บรรดาหนุ่มสาวไร้คู่ต่างพากันเห็นด้วย แต่เจ้าของไร่ทำแค่เพียงยักไหล่ไม่สนใจ ใบหน้าคมลอยไปมาคล้ายเยาะเย้ยพวกไร้คู่

   “ดูทำหน้าเข้า ตอนนั้นอัดน่าจะทิ้งพี่ใหญ่ไม่ต้องกลับมาอีกก็ดี” เล็กพูดจบก็ต้องวิ่งหนีขาท่อนใหญ่ของพี่ชายที่พุ่งเข้าหา

   “ปากดีนะแก กินเท้าหน่อยเป็นไร” ใหญ่วิ่งไล่เตะน้องชายจนรอบบริเวณก่อนเหนื่อยหอบก็พากันหยุดในที่สุด “หนอย” แต่ก็มิวายถูกเขกศีรษะคนน้องชายร้องโอดโอย


   ภายในงานกลับมาคึกคักอีกรอบ คราวนี้บรรดาคนงานสาวๆ ทยอยออกมาร้องเพลงลูกทุ่งทั้งเต้น ทั้งโยกทำเอาเหนื่อยกันไปตามๆ กัน ก่อนความสนุกจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อจะเริ่มจับของขวัญที่เจ้าของไร่เป็นคนจัดสรรมาให้ ตั้งแต่ของเล็กๆ ไปจนถึงของรางวัลใหญ่อย่างทองคำแท่งหนักสองสลึงที่ได้จากเล็กและใหญ่คนละแท่ง

   เสียงเฮดังตลอดเมื่อคนแล้วคนเล่าออกมาจับฉลาก ทุกคนต่างหวังรางวัลชิ้นใหญ่ที่ยังไม่ออก อัษฎานั่งหัวเราะเมื่อลูกเจี๊ยบจับได้ชิ้นใหญ่เป็นคนแรก เสียงดีใจฝั่งพ่อและแม่ของเด็กสาวและเสียงเสียดายของบรรดาคนอื่นๆ ดังเซ็งแซ่

   “ยังเหลืออีกแท่งนี่นา แท่งนี้ลูกเจี๊ยบขอ” เด็กสาวรับจากมือเล็กแล้วยิ้มกว้าง ทองแท่งนี้สามารถเป็นทุนการศึกษาของเด็กสาวได้ เหมาะแล้วที่ลูกเจี๊ยบจะได้ไป

   ของขวัญเริ่มลดลงเรื่อยๆ จนทองแท่งสุดท้ายออก คนที่จับได้คืออัษฎา แม้เจ้าตัวจะดีใจแต่ก็ขอจับใหม่เพราะเจ้าของทองตั้งใจนำมาให้ลูกน้องที่เขารัก พอได้ยินว่าขอจับใหม่ บรรดาคนที่ยังไม่ได้จับก็เฮลั่นอีกรอบ

   “เมียพี่นี่น่ารักจริงๆ” ใหญ่ยื่นหน้ามากระซิบ มือก็ปรบให้กับคนที่ได้ของขวัญชิ้นอื่นๆ

   “เพราะอัดอยากได้สิบบาทมากกว่า” อัษฎากระซิบตอบ ใหญ่ทำตาโตทันที “ล้อเล่นนา”

   “ถ้าอัดอยากได้ มากกว่าสิบบาทพี่ก็ให้ได้นะ” ที่ทำตาโตเพราะไม่คิดว่าอัษฎาจะอยากได้อะไร รู้แบบนี้ตอนไปซื้อทองน่าจะซื้อติดมือมาอีกสักแท่ง

   “ไม่เอาหรอก แพง” อันที่จริงซื้อทรัพย์สินไว้ก็ดีหลายอย่าง แต่หากต้องให้คนอื่นซื้อให้มันก็ดูไม่ดีเท่าไหร่ “ไว้อัดเก็บเงินซื้อเอง”

   “แต่อัดไม่มีเงินเดือนนี่”

   “ก็จริง”

   อยากจะหัวเราะคนรัก แต่ก็ไม่กล้า แม้อัษฎาจะช่วยงานในไร่แต่ก็ไม่ได้เงินเดือนเนื่องจากเป็นภรรยาของเจ้าของไร่ หากอยากใช้เงินก็ขอใหญ่ได้เลย หรือเขาจะคิดผิด

   “อัดอยากได้เงินเดือนไหมล่ะ พี่จะจ่ายให้”

   อัษฎาเหล่ตามองคนที่จะจ่ายเงินค่าจ้าง “พี่ใหญ่จะให้อัดเท่าไหร่”

   “อืม สักห้าหมื่นต่อเดือนดีไหม”

   “ต้องทำงานเช้ายันดึกไหม พี่ใหญ่ก็”

   เงินเดือนคนงานภายในไร่อย่างมากสุดก็อยู่ที่สามหมื่นนิดๆ แต่นี่อัษฎาไม่ได้ทำงานหนักอะไรเลยจะได้เงินห้าหมื่นได้อย่างไร มันไม่ใช่เรื่องสักนิด ดีไม่ดีจะถูกนินทาว่าทำงานไม่คุ้มกับเงินค่าจ้าง

   “งานกลางวันไม่หนักหรอก มันมาหนักตอนดึกนี่สิ” พูดไปขยิบตาไป

   “คิดอยู่อย่างเดียวนี่เนอะคนแก่”



   งานเคาท์ดาวน์ปีนี้คึกคักกว่าปีที่ผ่านๆ มา อาจเพราะมีคุณนายคนใหม่ทำให้เจ้าของไร่อย่างใหญ่ใจดีมากกว่าปกติ หากเป็นปีที่ผ่านมาทำแค่จัดงานเลี้ยงเงียบๆ แล้วก็แยกย้ายก่อนเที่ยงคืนด้วยซ้ำ ดังนั้นปีนี้ทุกคนจึงดูสนุกสนานแม้จะไร้แอลกอฮอล์ก็ตาม
 
   “ลูกเจี๊ยบอยากฟังพี่อัดร้องเพลงบ้าง” เสียงใสดังขึ้นมาระหว่างเลือกหานักร้องคนต่อไป อัษฎาโบกมือปฏิเสธแต่กลับถูกมือเล็กลากออกไปหน้าเวทีแทน “ปรบมือค่า อย่าแพ้คุณใหญ่นะพี่อัด” เด็กสาวกระซิบบอกข้างหู

   ตอนนี้สายตาทุกคู่ต่างก็จ้องมองคนที่นั่งบนเวที โดยเฉพาะเจ้าของไร่ที่นั่งจ้องไม่ยอมกระพริบตา อยากรู้จริงว่าคนรักจะร้องเพลงอะไร และจะร้องให้เขาหรือเปล่า

   ดวงตากลมจ้องมองหน้าจอแอลอีดีเพื่อหารายชื่อเพลง และบังเอิญเหลือบไปเห็นกีต้าร์โปร่งวางอยู่ ร่างผอมลุกจากเก้าอี้ไปหยิบมาแล้วจัดสายให้พอดี ทุกคนล้วนแต่จ้องมองอย่างแปลกใจที่อัษฎาไม่ยอมร้องกับคาราโอเกะแต่จะเล่นกีต้าร์เอาเอง

   “ออกตัวก่อนนะครับ เสียงผมอาจจะไม่เพราะ ฝีมือกีต้าร์ก็มีนิดหน่อย หากผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ” เกริ่นก่อนจะเริ่มเล่นเพลงที่เป็นเพลงโปรด เพียงแค่อินโทรลนิดๆ ก็เรียกเสียงปรบมือไปทั่วสารทิศ แต่ที่ปรบมือดังสุดคงจะเป็นใหญ่ถึงกับลุกขึ้นยืน

   “วู้วๆ” ปรบมือไม่พอยังส่งเสียงโห่ร้อง

   “อวดเมียเว้ยเฮ้ย” เล็กอดที่จะแขวะไม่ได้ แต่ก็ถูกแคทตีแขนเมื่อปากดีเกิน “เข้าข้างพี่ใหญ่ตลอด” งอนพอประมาณให้รู้ว่าเคือง

   “ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต” แคทว่าสามีตัวเอง แต่พออัษฎาเริ่มร้องต่างก็เงียบไป

   “ในคืนที่ฟ้านั้นเต็มไปด้วยแสงไฟ เราโอบกอดกันและมองไปบนฟ้าไกล สุดหัวใจ สุดสายตา มีแต่เรา ดวงจันทร์ล่องลอยและมอบความรักให้กัน ขอบคุณวันนี้ที่คอยดูรักฉันจากหัวใจ จากนี้ไปมีแต่เธอ” น้ำเสียงไพเราะขัดกับที่บอกว่าร้องไม่ดี ดวงตากลมโตนัยน์ตากว้างน่าช่างหลงใหล ตอนนี้อัษฎาดูมีเสน่ห์มาก หากบอกว่าเป็นนักร้องต้องมีคนเชื่ออย่างแน่นอน “จะมีเพียงเธอ รักเพียงแต่เธอ โอบกอดเธอด้วยรัก รักที่ห่วงใย ใจฉันให้เธอ มันเป็นของเธอรู้ไหม ทุกคำมันกลั่นออกมาจากหัวใจ เราจะลอยข้ามฟ้า ท่ามกลางหมู่ดาว จะไม่มีความเหงาเข้ามากล่ำกลาย เพลงนี้เพื่อเธอ มันเป็นของเธอรู้ไหม สัญญาจะดูแลเธอจากนี้ ตลอดไป” คำสุดท้ายอัษฎามองตาหวานมายังคนรัก ที่ตอนนี้เคลิบเคลิ้มจนยิ้มเหมือนเป็นคนบ้า
 
   อยากจะลากเข้าห้องเดี๋ยวนี้ ใหญ่ขมวดคิ้วสลับกับยิ้มแย้ม ความคิดตีรวนจนวุ่นไปหมด ความมีเสน่ห์ที่มีมายังน้อยไปเมื่อเทียบกับวันนี้ วันที่มีแสงไฟส่องแต่ยังเจิดจ้าไม่เท่า ใหญ่แทบอยากจะเร่งให้คนรักร้องเพลงจบโดยเร็ว หากยังปล่อยให้ร้องไปเรื่อยๆ แบบนี้ มีหวังต่อมหึงโหดได้ทำงานเป็นแน่ ในเมื่อทุกสายตาจ้องมองไปยังคนของเขา...หวงมาก หวงจนไม่อยากให้ใครมอง หากทำได้จะเข้าไปกระชากเข้าห้องลงกลอนอย่างแน่นหนา

   เสียงอันไพเราะจบลง อัษฎาวางกีต้าร์ไว้ที่เดิม ขายังไม่ทันได้ก้าวลงจากเวทีกลับมีมือกร้านฉุดดึงให้รีบลงมา เสียงร้องโห่ล้อดังไปทั่ว คนไปดึงไม่สนใจขอเพียงแค่ให้อัษฎากลับมาที่โต๊ะให้ไวที่สุดเท่านั้นพอ

   “อะไรเนี่ยพี่ใหญ่” คนถูกดึงถามอย่างมึนงง

   “ต่อไปไม่ต้องร้องแล้วนะ” ไม่มีคำตอบแต่กลายเป็นคำสั่ง ใหญ่ทำหน้าเข้มบอก “ไม่ขำด้วย”

   “ต่อมหึงกำเริบหรือครับเนี่ย” อัษฎาหัวเราะร่วนก่อนจะนั่งลงข้างๆ คนหน้าบึ้ง แต่พอเอาใจนิดๆ หน่อยๆ หน้าบูดก็กลับมามีรอยยิ้มตามเดิม ไม่อย่างนั้นงานที่เหลืออาจจะกร่อยได้

   เข็มนาฬิกาเริ่มใกล้เวลาที่รอคอย ทุกคนต่างลุ้นที่จะได้นับเลขถอยหลังเข้าสู่วันใหม่ของปีใหม่ เสียงนาฬิกาโบราณที่ถูกนำมาวางไว้ส่งเสียงต๊อกแต๊กแทนการเดินของเข็มวินาทียิ่งเพิ่มความตื่นเต้น อัษฎาบีบมือใหญ่ไว้แน่น ปีนี้เป็นปีแรกที่จะได้เคาท์ดาวน์กับคนรัก เพราะทุกปีของเขามักจะได้นับถอยหลังภายในงานสิ้นปีของคนอื่นเสมอ มันทำให้รู้สึกใจเต้นกว่าทุกที

   ฝ่ามือที่บีบกันแน่นแม้จะมีเหงื่อออกแต่ทั้งสองก็มิยอมปล่อย ใหญ่ก้มมองเจ้าของมือที่บีบอยู่ ดวงตากลมจ้องมองมาเป็นประกายสวย

   “ตื่นเต้นหรือ” ใหญ่ถาม ริมฝีปากบางติดรอยยิ้มสวย

   “มาก” คนตื่นเต้นแสดงอาการให้เห็นจนได้เสียงหัวเราะ “ปีนี้เป็นปีแรกหลังจากเรียนจบที่ได้เคาท์ดาวน์”

   “แล้วปีก่อนๆ ล่ะ”

   “ทำงานยันเช้าเลย ไม่มีเวลามาบอกปีใหม่ใครเลย”
 
   “ปีนี้ก็บอกพี่ไง”

   เสียงพูดคุยต้องหยุดลงเมื่อเริ่มนับเลขถอยหลังจากสิบ เก้า แปด เจ็ด หก ห้า สี่ สาม สอง

   “หนึ่ง”



   “สวัสดีวันปีใหม่”



   เสียงนับเลขหนึ่งดังกระหึ่มพร้อมๆ กับเสียงจุดพลุฉลองดังไปทั่วบริเวณ ใหญ่ตะโกนบอกปีใหม่กับทุกๆ คนก่อนวกกลับมากระซิบข้างใบหูคนรักเบาๆ

   “สวัสดีปีใหม่ครับ”

   “สวัสดีปีใหม่ครับพี่ใหญ่”

   คล้ายกับที่ตรงนั้นไม่มีผู้คน มีแต่เสียงพลุและแสงไฟ ใหญ่โน้มหน้าจุ๊บปากอวบเบาๆ ปีใหม่นี้เขาช่างมีความสุขที่สุด ไม่สนเสียงโห่หยอกล้อของน้องชายหรือคนงานคนอื่นๆ ตอนนี้ที่สนใจมีเพียงคนรักที่ยืนอยู่ตรงหน้าเท่านั้น

   “ไปฮันนีมูนกันไหม” เอ่ยชวนแผ่วเบา ฝ่ายตรงข้ามยิ้มกว้างรีบพยักหน้าตอบรับ คนชวนใจพองโตก้มจูบปากอวบอีกรอบ คราวนี้เป็นจูบที่ดูดดื่มท่ามกลางเสียงและแสงพลุที่ยังคงสว่างไปทั่วผืนฟ้า “เข้าห้องกัน”

   “คนแก่คิดแต่เรื่องนี้นะ” อัษฎายิ้มเขิน ก่อนวาดแขนโอบเอวร่างกำยำไว้แน่น ปีใหม่นี้เขาพร้อมที่จะก้าวเดินโดยไม่กลัวอุปสรรคอะไรอีก ขอแค่มีคนที่เขารัก และรักเขา แค่นั้นก็เพียงพอ “อัดรักพี่ใหญ่นะ” เขย่งหอมแก้มสากฟอดใหญ่

   “ก็ทำแบบนี้จะไม่ให้คิดแต่เรื่องหื่นๆ ได้ยังไง” ใหญ่หัวเราะลั่น วันนี้รู้สึกรักอัษฎามาก และพรุ่งนี้คงจะมากขึ้น มะรืนก็คงมากขึ้นกว่านี้อีก “แค่นี้พี่ก็รักจนไม่รู้จะรักยังไงไหวแล้ว เข้าห้องกันเถอะ”

   “ยังไม่มีใครกลับเลยนะ เราจะกลับเข้าห้องได้ยังไง”

   “แม่เรากลับไปแล้วนะ เราก็กลับได้”

   “พี่ใหญ่ เฮ้ย เดี๋ยวๆ”

   คำว่าเดี๋ยวไม่เข้าโสตประสาทสักนิด ใหญ่รวบร่างผอมขึ้นพาดบ่าแล้วรีบเร่งกลับขึ้นเรือน ปล่อยให้บรรดาคนงานสนุกสนานกับการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ต่อไป ส่วนเขาตอนนี้ขอไปจัดการคนรักที่ทำตัวน่ารักมาทั้งวันให้หายคิดถึงก่อน


   อะ อะ อะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อตอนนี้ดึกมากเกินไป อีกทั้งฮัษฏายังเหนื่อยกับการจัดงาน พอหัวถึงหมอนปุ๊บกลับนอนหลับไปซะอย่างนั้น ใหญ่ถึงกับขมวดคิ้วแต่ยังไงเสีย รอวันอื่นก็ได้ อีกทั้งยังต้องไปฮันนีมูนอีก พอคิดก็รู้สึกดีแล้ว มือกร้านเอื้อมปิดไฟจนทั้งห้องตกอยู่ในความมืด ใหญ่โน้มหน้าลงจุ๊บหน้าผากมนเบาๆ



   “สวัสดีวันปีใหม่ครับ...ที่รักของผม”


...ง

HAPPY NEW YEAR 2017


ขอให้ทุกท่านจงมีแต่ความสุข มีสุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยด้วยทรัพย์เงินทอง และสติปัญญา ไร้ปัญหาใดๆ ตลอดปีระกาค่า


 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 31-12-2016 19:22:21
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 31-12-2016 19:24:40
สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 31-12-2016 20:02:32
สวัสดีปีใหม่ ปี2560 นะคะทุกๆคน :L1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 31-12-2016 20:12:22
สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ  สุขสันต์ในปีใหม่เน้อ  :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 31-12-2016 20:18:09
สวัสดีปีใหม่ค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 31-12-2016 21:25:33
 :L2: :L2: :L2: :L1: :L1: :L1: :L1:
HNY
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 31-12-2016 21:45:14
สวัสดีปีใหม่ค่าาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-12-2016 21:53:50
หวานนนนนนนนนนนนนนนนนน  :m1: :m1: :m1: :m1:

สวัสดีปีใหม่จ้า :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Jessiebier ที่ 31-12-2016 21:55:25
สุขสันต์วันปีใหม่ค่าาา พี่ใหญ่น้องอัด และทุกคนๆรัก :mew1: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-12-2016 22:43:23
อิจฉาคนมีความรัก 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 31-12-2016 23:03:26
สวัสดีปีใหม่จ้าาา :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 31-12-2016 23:41:51
สวัสดีปีใหม่คุณใหญ่ คุณอัด คุณเล็ก  คุณแคท และครอบครัว รวมถึงชาวไร่ทุกคนจ้า ปีใหม่แล้วแต่คุณใหญ่ก็ยังขี้หึงเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือความหื่นนั่นเอง ฮาา สวัสดีปีใหม่คุณแอ้ด้วยน้าา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-01-2017 00:22:56
 :L2: :L1: :pig4:

Happy 2017!
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ryneyz ที่ 01-01-2017 00:25:49
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 01-01-2017 01:08:07
Happy New Year 2017
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Moonuglygirl ที่ 01-01-2017 03:46:24
สวัสดีปีใหม่ค่ะ เรื่องนี้ยังสนุกและน่ารัักมากเหมือนเคย เป็นเรื่องที่น่าจดจำเรื่องหนึ่งในใจ ขอบคุณสำหรับนิยายดีที่แต่งมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-01-2017 11:41:51
 :pig4 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 01-01-2017 14:08:54
ลุงแก่หลงเมียเด็ก :katai2-1:
555555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: heyguy ที่ 01-01-2017 14:28:45
จากหนุ่มหล่อผู้นิ่งขรึม กลายเป็น ลุงแก่ตัญหากลับ 55555555555555
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Dezzerr ที่ 01-01-2017 15:04:54
สวัสดีปีใหม่ค่าาาา
คุณใหญ่แม้จะหลงเมีย แต่ก็ยังท่ามากเหมือนเดิม 5555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 01-01-2017 18:14:52
โอยยย หวานน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-01-2017 19:13:16
Happy New Year 2017 ค่ะ

คุณใหญ่คะ ทำเนียนนะคะ หาว่าน้องยั่วนะ สมควรแล้วที่อัดจะบอกว่าคนแก่หื่น
หวงเวอร์ หวงไปทุกคน หวงหนักมาก ถ้าล่ามโซ่ได้จริง คงทำ

อัดน่ารัก แค่เอาใจ อ้อนนิดหน่อย คุณใหญ่ละลายแล้ว เค้าเรียกรู้ทางกันเนาะ

ขอบคุณนะคะสำหรับตอนส่งท้ายปี พิเศษมากจริงๆค่ะ น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงในเงามืด ที่ 01-01-2017 20:39:30
 :katai2-1 น่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-01-2017 22:20:48
สวัสดีปีใหม่ค่าาา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-01-2017 23:31:06
สวัสดีปีใหม่ครับมีความสุขมากๆนะครับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 02-01-2017 00:08:37
สวัสดีปีใหม่จ้า :)
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 02-01-2017 10:10:28
น่ารักมากกกกกก ชอบอัดมีความอดทนมากเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 02-01-2017 10:29:03
มีความสุขทุกๆคนเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: psyche ที่ 02-01-2017 16:36:48
อ่านจบแล้ว  ชอบอัด นายเอกที่ไม่ง๊องแง๊งเลย
คุณใหญ่ ปากร้าย ใจดี หลงเมียสุดๆ
ชอบแนวบ้านไร่อยู่แล้ว รวดเดียวจบ แนะนำค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 02-01-2017 16:48:20
เป็นเรื่องที่น่ารักมากกกก  ทำไมเพื่งเจอนะ

พี่ใหญ่น่ารักปนจำอะ ตาลุงหื่น

ชอบคาแรกเตอร์อัดมาก น่ารัก ไม่งี่เง่า

นี่คือนิยายที่ตรงกับคำนิยามว่า Feel good สุดแล้ว  เป็น Feel goodที่สนุก ไม่เอื่อย ด้วย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 02-01-2017 18:07:35
หวานข้ามปี
 Happy New Year
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 02-01-2017 19:06:15
สวัสดีปีใหม่จ้า
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 02-01-2017 21:06:02
HNY2017 นะไรท์ มีความสุขมากกๆๆ // พี่ใหญ่นี่ขี้หึงยังไงก็อย่างงั้นแถมยังหนักขึ้นไปอีก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 02-01-2017 21:36:50
พี่ใหญ่นี่ หลังๆลากอัดเข้าห้องอย่างเดียวเลยนะ  :haun4:  สวัสดีปีใหม่ค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: hoihak ที่ 02-01-2017 22:21:19
น่ารักกกกกก ชอบๆ ยิ้มจนปวดแก้มเลยย o13 o13
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-01-2017 22:38:22
❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากกกกกกก
。◕‿◕。
:L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 03-01-2017 00:15:54
สวัสดีปีใหม่จ้าาาา
สวัสดีปีใหม่อัดและใหญ่ด้วย
ขอตอนพิเศษอีกน้าาา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 03-01-2017 13:49:15
 :L2: :L2: :pig4:  น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ธิดาพระสมุทร ที่ 04-01-2017 00:50:00
ยิ้มหนักมากกก เลิ้บบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 05-01-2017 16:01:40
สนุกมาก อ่านรวดเดียวจบเลย นั่งยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้าเลยละ 555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 05-01-2017 23:46:09
สวัสดีปีใหม่คับ คิดถึงจริงนิยายเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: akajinkame ที่ 06-01-2017 07:28:36
หมั่นใส้ลุงแกมากกกก แต่ก็เถอะ มีเมียน่าร้กก็แบบนี้แหละ   คนเขียนก็มีความสุขมากๆนะคะ จะได้เขียนเรื่องดีๆแบบนี้มาให้คนอ่านอีก มีความสุขกับปีไก่ค่า
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Janny ที่ 06-01-2017 18:53:08
เพิ่งได้มาอ่านตอนเห็นว่าจะมีรวมเล่มกับสำนักพิมพ์ค่ะ ตอนแรกกะแค่อ่านคร่าวๆดูแนวทางเฉยๆไปๆมาๆไม่หลับไม่นอน อ่านจนตี 3 เลยค่ะ โอ๊ยยยย น่ารักกกก น้องอัดน่ารักมากกกกกกกกก เราชอบนะคะ แต่นี่คือไม่ได้รู้สึกรำคาญคุณใหญ่เลยอ่ะค่ะ สงสัยเพราะเราอ่านรวดเดียวจบ เลยไม่มีความรู้สึกว่าคุณใหญ่ท่ามากเท่าไหร่ 5555555 เราชอบมากเลยอ่ะค่ะ ตอนที่น้องอัดบอกว่าถูกทิ้งเพราะไม่มีอะไรกับแฟน แม่สอนให้มีกับคนที่รัก คือมันแสดงให้เห็นว่าทุกคนมันก็ควรแบบนี้นะคะ ไม่ใช่ว่าเป็นเกย์แล้วต้องง่ายนะ ฮื้อ นี่คือความประทับใจแรกค่ะ พอมาเจอคุณใหญ่ จริงๆก็แอบหมั่นไส้แกบ้างนะคะ แต่แกก็เป็นคนน่ารักอ่ะค่ะ ให้อารมณ์เด็กอนุบาลที่ชอบใครก็จะไปแล้งเขา เรียกร้องความสนใจ โถ คุณคะ... แต่ก็เข้าใจอ่ะ ถ้ายอมรับว่ารักน้องง่ายๆแล้วภรรยาเก่าล่ะ? คือเข้าใจว่าคุณใหญ่รักภรรยามากนะคะ ดูเป็นผู้ชายจริงจังกับเรื่องแบบนี้อ่ะ แล้วรักกันมาตั้งแต่มหาลัย จู่ๆน้องอัดเข้ามาจะให้ไปบอกรักง่ายๆมันก็คงไม่ใช่ ดังนั้นเราจะไม่ด่าคุณใหญ่ ณ จุดนี้ค่ะ แต่น้องอัดน่ารักจริง ใครอยู่ใกล้ก็ต้องรักอ่ะค่ะ ก็ไม่แปลกที่คุณใหญ่แกจะหลงเข้า โอ๊ย นี่เราชอบตอนไปน้ำตกแล้วคุณใหญ่จูบน้องมากเลยค่ะ โง้ยยย เขินมาก เรานี่นั่งบิดเลยค่ะ ฮื้อออออ เวลาไม่มีสติสัญชาตญาณก็จะทำงาน จริงๆก็ชอบเขาไปแล้ววว นี่ต้องขอบคุณคุณหมอดูเลยนะคะ มาค่ะ สำนักอยู่ไหนคะ เราอยากไปดูบ้าง หนูจะลงจากคานเมื่อไหร่เหรอคะ 555555555555 นอกจากคุณใหญ่กับน้องอัดนี่ จริงๆเราเชียร์คุณเล็กมากเลยค่ะ อยากให้แกมีความสุขอ่ะ น้องต้นก็น่ารักมาก แอบเสียดายที่น้องบทน้อยเหลือเกินค่ะ แต่น้อยยังไงก็มาขัดขวางการนอนกอดเมียของคุณใหญ่ได้นะคะ กรี๊ดดด รู้เลยว่าพ่อเล็กส่งมาเพราะแค้นที่โดนไล่เตะ โอ๊ยยย เออ จริงๆแล้วอ่ะค่ะเวลาคุณใหญ่เผลอๆแล้วแอบมองแอบเรียกร้องความสนใจ เรียกเมียฉันนี่มันน่ารักมากเลยนะคะ เอ็นดูจังค่ะ นี่ก็แอบคิดไปว่าหลงขนาดนี้จะมีวันไหนละเมอลงจากเตียงไปนอนกอดน้องบนพื้นรึเปล่า เสียดายนะคะที่ไม่มี ฮื้ออออ ที่ขาดไม่ได้เลย คุณแม่ทั้ง 2 คนค่ะ คุณแม่นมนี่ดูเข้าอกเข้าใจลูกมากเลยค่ะ ส่วนคุณแม่คุณใหญ่คุณเล็กนี่ก็รักลูกเหลือเกิน ดีนะคะที่ครอบครัวนี้พี่น้องรักกัน ไม่งั้นเราว่ามันคงแปลกๆอ่ะค่ะ สมมติถ้าพี่ใหญ่แบบหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่แต่งกับผู้ชายแบบนี้ทะเลาะกันบ้านแตกแน่เลย แล้วก็จะมีประโยคประเภทแม่รักน้องมากกว่าตามมา... ดีแล้วล่ะค่ะที่เขารักกันมากจนไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ ฮือออออ

ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่เขียนนิยายเรื่องนี้ออกมา ทุกอย่างในเรื่องน่ารักมากกกกกกกกกก เลยค่ะ เราชอบมาก จะรออุดหนุนเล่มนะคะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 07-01-2017 12:35:56
หวานน้ำตาลหยด
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 07-01-2017 20:59:17
จบแล้ววว  :katai2-1:
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจจัง ขอบคุณสำหรับนิยายที่มาแบ่งปันให้อ่านนะครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 10-01-2017 14:04:57
น่ารักมากเรื่องนี้
สนุกมาก ชอบอัดน่ารักดี
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 10-01-2017 14:07:53
ตาลุงหวานมากกกกก
จะมีตอนพิเศษฮันนี่มูนไหมค่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 14-01-2017 15:10:48
รักนิยายเรื่องนี้  :hao3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 20-01-2017 13:53:46
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 01-02-2017 17:39:28
นิยายสนุกมากกกกกกกกกกกกค่า
อ่านแรกๆนี่หมั่นลุงใหญ่มาก ปากเสีย กวนตีนได้โล่
พอแต่งกันไปก็ฟอร์มจัดสนน่าหมั่นไส้แต่ก็ตลกดี ฮ่าาา
แกก็คงไม่สนุกเท่าไหร่ที่อารมณ์แปรปรวน
อัดน่ารักค่ะ ก็เข้าใจได้อยู่ที่แกหวงของแก

ยังไงขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ สนุกจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kkookai ที่ 04-02-2017 10:37:24
คุณใหญ่เปลี่ยนไป๋....
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 04-02-2017 18:46:48
 :mew1: :katai2-1: :hao7:สนุกมากค่ะน่ารักด้วยขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 05-02-2017 22:11:19
ถ้ามีคุณใหญ่ในโลกของความจริง ขอกระโดดเกาะคอไม่ปล่อยเลย :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 06-02-2017 20:43:06
 o13  o13 o13
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ << [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 12-02-2017 19:17:24
ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์




         ดอกกุหลาบปีนี้คาดว่าจะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงเทศกาลสำคัญที่ใกล้จะถึงนี้ ดูจากยอดสั่งซื้อที่มีมากกว่าแต่ก่อนก็อดที่จะยิ้มหน้าบานไม่ได้ แบบนี้ค่อยหายเหนื่อยจากการลงแรง แต่ก็ใช่จะหมดหน้าที่ ก็เพราะคนสั่งมากก็ต้องใช้เวลาดูแลมากกว่าปกติ ดังนั้น ชีวิตแทบทั้งวันและค่อนคืนใหญ่จึงต้องคลุกอยู่แต่ในไร่ กลับบ้านก็ตอนนอน ตื่นเช้าก็เข้าไร่ ชีวิตวนเวียนแบบนี้มาเกือบสองอาทิตย์หลังจากไปฮันนีมูนมา

   จะว่าไป ก็แทบไม่ได้คุยหรือหยอกล้อกับอัษฎาอย่างเมื่อก่อน ยังดีที่คนรักเข้าใจ บางทีก็ลงมาช่วยที่แปลง ใหญ่จะให้ช่วยแต่ช่วงเช้าที่อากาศเย็นสบาย แต่พอคล้อยบ่ายก็ให้เข้าออฟฟิศแทน

   คนพี่ยุ่งกับในไร่ ใช่ว่าคนน้องจะว่าง เล็กก็หัวหมุนเช่นกันกับการทำบัญชี อีกทั้งยังมีรายการสั่งซื้อเข้ามามาก ต้องเรียกได้ว่า หัวหมุนกันเลยทีเดียว แม้จะมีภรรยาอย่างแคทคอยช่วย แต่กลัวจะเหนื่อยและปวดหัวเลยให้นั่งมองอยู่เฉยๆ นิสัยเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง

   “น่าเบื่อจังค่ะ” แคทเอ่ยออกมาหลังจากนั่งดูสามีทำบัญชีไปคิ้วขมวดไป

   “นั่นน่ะสิ” อัษฎาที่นั่งข้างๆ พยักหน้าเห็นด้วย ใจจริงอยากออกไปเที่ยวเล่นด้านนอก แต่ใหญ่กำชับว่าให้นั่งแต่ในนี้ ไม่อยากขัดเดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกัน เลยต้องนั่งนิ่งแบบนี้ “ง่วงด้วย”

   อัษฎาคิดจะกลับเรือน แต่เปลี่ยนใจไปโกงดังคัดแยกคงจะทำให้หายง่วงได้บ้าง ทันทีที่เข้าไป บรรยากาศเฮฮาที่คิดไว้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะทุกคนต่างก้มหน้าก้มตาคัดแยกดอกไม้โดยที่ไม่พูดอะไรกัน อาจเพราะถูกเร่งมาด้วย แม้แต่ดอกดาวเรืองยังมีคนสั่งเยอะกว่าทุกที นี่มันเทศกาลความรักหรืออะไรกันแน่

   เมื่อคิดว่าอาจเป็นภาระ อัษฎาจึงเลือกที่จะกลับเรือน จะไปช่วยในครัวก็กลัวถูกบ่นอีก ทำไมวาเลนไทน์ปีนี้มันช่างน่าเบื่อเหมือนทุกปีนะ ปีก่อนๆ ก็เอาแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ปีนี้แม้ไม่ได้ทำงานแต่ก็เบื่ออยู่ดี

   อัษฎานั่งอยู่หน้าระเบียง ดวงตากลมมองฟ้า มองภูเขาอย่างไร้จุดหมาย หากตอนนี้อยู่เมืองกรุงเขาคงออกไปเที่ยวห้างที่ไหนสักที่ แม้ทุกครั้งจะต้องไปเดินคนเดียวโดยไร้เงาแฟนเก่า แต่ก็ยังดีกว่าอยู่เหงาๆ คนเดียว อย่างน้อยในห้างก็ยังมีคนมากมายทำให้รู้สึกว่ามีเพื่อนบ้าง

   “ทำอะไรน่ะ” เสียงของแม่ดังขึ้น ร่างผอมหันไปยิ้มบางๆ ส่งให้
 
   “กำลังคิดเรื่องเก่าๆ อยู่ ใกล้วาเลนไทน์เข้ามาทุกวัน งานที่ไร่ยิ่งเยอะ” อัษฎาว่า

   “ปีนี้ดูท่าว่าจะเยอะกว่าปีก่อนๆ คงเพราะได้ออกทีวีด้วย” แม่อิ่มมองหน้าลูกชายเพียงคนเดียวพร้อมรอยยิ้ม “เบื่อหรือเราน่ะ”

   “มาก” ตอบอย่างไม่ต้องคิด “อัดจะเข้าไปช่วยงานในไร่ คุณใหญ่ก็ไล่ออกมา พอไปที่โกดัง ทุกคนก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน อัดเลยไม่มีที่ไป” หน้าขาวติดบึ้งตึง รู้สึกเหมือนผีไม่มีศาลชอบกล

   “ลองถักไหมพรมแก้เบื่อไหมล่ะ” ดูเหมือนลูกชายจะยังไม่เข้าใจ แม่อิ่มจึงเดินไปหยิบตะกร้าไหมพรมหลายสีออกมาจากลิ้นชัก “นี่ไหมพรม แม่กับคุณพิกุลชอบถักเวลาเบื่อแล้วก็ว่างน่ะ อัดจะลองดูไหมลูก”

   “อัดทำไม่เป็นหรอกครับ” แม้จะดูเป็นงานของผู้หญิง แต่อัษฎาก็เคยเห็นผู้ชายทั้งแท่งถักมาแล้ว แถมถักสวยซะด้วย

   “ไม่มีใครทำอะไรเป็นมาตั้งแต่เกิดหรอก อัดก็ค่อยๆ ฝึกทำเอา เอาง่ายๆ อย่างผ้าพันคอดีไหม แม่จะสอนให้” อัษฎามองหน้าแม่ตัวเองก่อนพยักหน้ารับ หากถักสวยก็กะจะเอาให้ใหญ่ แต่หากออกมาไม่สวยก็คงจะเป็นผ้าเช็ดอะไรสักอย่าง

   “นี่นะ ทำแบบนี้” แม่อิ่มค่อยๆ สอนลูกชายอย่างใจเย็น คนที่ไม่เป็นอะไรเลยได้แต่ขมวดคิ้วและทำตาม ตรงไหนติดขัดก็จะเรียกแม่ตลอด

   “ยากนะเนี่ย” เสียงบ่นเบาๆ ออกจากปากอวบ อัษฎาขมวดคิ้วจิ้มไหมพรมตามที่แม่สอน แรกๆ มันอาจจะยุ่งยากและพันมือพันไม้ไปซะหมด แต่พอผ่านไปหลายชั่วโมงก็เริ่มดีขึ้น มารู้ตัวอีกทีท้องฟ้าด้านบนกลายเป็นสีดำไปแล้ว ร่างผอมวางไหมพรมลงบนโต๊ะแล้ววิ่งไปเปิดไฟ ความมืดบนเรือนสว่างพรึ่บ คนเปิดไฟย้อนกลับมาที่งานตัวเองพลางสะดุ้ง “ตกใจหมด”

   “ตกใจอะไร พี่ไม่ใช่ผีสักหน่อย” ใบหน้าอิดโรยของใหญ่ทำให้อัษฎาลืมงานของตัวเอง ร่างผอมลูบคลำใบหน้าคมก่อนดันหลังให้กลับเข้าห้อง แต่แป๊บเดียวก็ต้องวิ่งกลับมาเอางานตัวเองเข้าห้องด้วย “นั่นอะไรน่ะ”

   “ไหมพรมไง แม่สอนให้ถักผ้าพันคอ” ไม่ใช่เรื่องที่จะปิดบัง อัษฎาชูผ้าพันคอที่ถูกถักไปได้มากโข แม้จะบิดเบี้ยวไปบ้าง แต่ก็ถือว่าใช้ได้

   “ถักให้พี่หรือ” ใหญ่ยิ้มแป้นทันที

   “ถ้าสวยนะ แต่อัดว่ามันไม่สวยว่ะ”
 
   “อัดถักให้พี่ เบี้ยวแค่ไหนก็สวยหมดนั่นแหละ แม้ของไม่สวย แต่คนทำตั้งใจ พี่ชอบทั้งนั้น”

   “ปากหวานจริงนะ”

   ใหญ่ยิ้มน้อยๆ ก่อนเข้าห้องน้ำเพื่อชำระคราบไคล พอออกมาก็เห็นคนรักนั่งถักไหมพรมหน้าตาเคร่งเครียดคล้ายกับอ่านหนังสือสอบ

   “มันต้องขมวดคิ้วขนาดนั้นเลยหรือ”

   “ก็มันยาก”

   “ยากก็วางก่อน ไปกินข้าวกัน”

   อัษฎามองหน้าคนชวนที่ดวงตาคมแทบจะปิด ก่อนว่างผ้าพันคอบิดเบี้ยวแล้วตามออกไปด้านนอกที่ตอนนี้โต๊ะตั้งกับข้าวไว้รอเรียบร้อย ซึ่งมื้อค่ำเป็นไปอย่างเรียบง่ายและเงียบผิดแปลกจากที่เคยเป็น นั่นเพราะแต่ละคนก็เหนื่อยจากการทำงาน โดยเฉพาะเจ้าของไร่ทั้งสองที่กินข้าวไปตาปิดไป




   เมื่อกลับมาในห้อง ใหญ่ก็ล้มตัวนอนหลับทันที มันเป็นแบบนี้มาหลายวันที่ใหญ่ไม่เอาอะไร ขอแค่ได้นอนเป็นพอ อัษฎายังนั่งถักผ้าพันคอไปเรื่อยๆ ด้วยความเพลิน รู้ตัวอีกทีก็เกือบฟ้าสาง และคนรักก็ตื่นพอดี ร่างกำยำตกใจที่ยังเห็นคนรักนั่งถักผ้าพันคอไม่ยอมหลับยอมนอน

   “พี่ว่าไม่ต้องทำแล้ว ทำแล้วไม่ยอมนอนแบบนี้” ใหญ่โวยวายพร้อมกับลุกขึ้นมาดึงไหมพรมออกจากมือ อัษฎาที่กำลังถักร้องเสียงหลงเมื่อใหญ่ดึงผ้าพันคอไปทำให้ที่ถักหลุดออกไปเกือบครึ่ง

   “อัดทำตั้งนานนะ” แทบไม่เคยขึ้นเสียง แต่ครั้งนี้มันเกินไปจริงๆ อัษฎายืนจ้องหน้าคนที่อุกอาจดึงไหมพรมของเขาไป

   “จะทำก็รู้จักเวลาสิ ไม่ใช่อดตาหลับขับตานอนถักมันอยู่นั่น” ใหญ่ก็ไม่ยอมเช่นกัน “จะทำอะไรก็ควรจะรู้จักความพอดี ไม่ใช่ตะบี้ตะบันทำจนไม่หลับไม่นอน”

   แม้จะไม่ชอบใจ แต่ที่ใหญ่พูดก็ถูก ก็ตอนที่ถักมันเพลินจนลืมดูเวลา รู้แค่อยากถักให้มันเสร็จไวๆ หากไม่สวยจะได้ถักใหม่เพื่อให้ทันวันวาเลนไทน์นี้

   “อัดขอโทษ” น้ำเสียงอ่อนเอ่ยออกมา คนดุเห็นท่าทางและน้ำเสียงรู้สึกผิดก็ถอนหายใจออกมา

   “พี่เป็นห่วงรู้ไหม อย่าทำแบบนี้อีก เข้าใจไหมครับ” คนเป็นห่วงเดินเข้ามากอด เมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นเสียง แต่รู้สึกไม่พอใจมากๆ ที่เห็นคนรักยังนั่งอยู่ที่เดิม คนในอ้อมกอดพยักหน้าช้าๆ รับคำ “ดีแล้ว งั้นไปนอนเถอะ เดี๋ยวพี่จะไปทำงานแล้ว”

   “พี่ใหญ่ก็ด้วย ทำอะไรก็รู้จักพักบ้าง อัดเป็นห่วง” ใบหน้าขาวหงิกงอจุดรอยยิ้มบางๆ ของคนเป็นห่วงขึ้นมา ใหญ่หอมแก้มตอบแทนความเป็นห่วงไปฟอดใหญ่

   “ครับ ไปนอนซะนะ”




   
   อัษฎาสะลึมสะลือตื่นมาตอนบ่าย รู้สึกหนักหัวคล้ายกับเอาลูกตุ้มมาห้อยไว้ จังหวะที่จะก้าวขาลงเตียง เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาซะก่อน คนที่เข้ามาคือลูกเจี๊ยบที่ยิ้มแป้นถือกล่องบางอย่างเข้ามาด้วย

   “อะไรน่ะลูกเจี๊ยบ”

   “ช็อกโกแลตจ้ะ ลูกเจี๊ยบเอามาให้พี่อัด”

   “หืม” อัษฎารีบหันไปดูปฏิทิน “วันนี้วันที่สิบสามเองนี่นา” พรุ่งนี้ต่างหากถึงจะวาเลนไทน์

   “บ้าแล้ว วันนี้วันที่สิบสี่จ้ะ” ลูกเจี๊ยบเถียง แต่คนที่ยังนั่งบนเตียงส่ายหน้ายืนยันว่าไม่ใช่ “จริงๆ ดูจากมือถือลูกเจี๊ยบเลย” ว่าแล้ว โทรศัพท์ที่อัษฎาซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดก็ถูกยื่นมาตรงหน้า คิ้วดำขมวดเป็นปมเมื่อบนหน้าจอขึ้นวันที่สิบสี่เดือนกุมภาพันธ์

   “เดี๋ยวนะ แต่ปฏิทินนั่นมัน...” นิ้วเรียวชี้ไปยังปฏิทินแขวนที่ติดผนัง แล้วสายตาเหลือบขึ้นไปมองเดือนที่โผล่แค่นิดเดียว ลูกเจี๊ยบเดินไปขยับจนเห็นว่า หน้าที่อัษฎาดูเป็นของเดือนที่แล้ว นั่นคือเดือนมกราคม ที่สำคัญ ดันลืมว่าเดือนกุมภาพันธ์ที่ไหนเขามีสามสิบเอ็ดวันกัน พอเห็นแล้วก็อยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆ

   “พี่อัดเบลอแล้วล่ะ” ลูกเจี๊ยบขำท่าทางของพี่ที่รักและเคารพ “นี่จ้ะ ลูกเจี๊ยบเลือกเองกับมือเลยนะ อันแพงๆ ลูกเจี๊ยบไม่มีเงิน พี่อัดคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมจ๊ะ” อัษฎามองช็อกโกแลตรูปเหรียญบาทห้าเหรียญแล้วอมยิ้ม นานแล้วที่ไม่ได้เห็นของกินแบบนี้

   “จะว่าอะไรล่ะ ลูกเจี๊ยบตั้งใจเอามาให้นี่นา ที่จริงไม่ต้องก็ได้นะ แค่เราตั้งใจเรียนก็พอแล้ว” เค้าโครงหน้าตาเด็กสาวเริ่มมีแววสวย อัษฎาลูบศีรษะทุยเบาๆ ด้วยความรัก เพราะเป็นลูกคนเดียว ไปอยู่กับป้าก็เป็นน้องเล็ก ดังนั้น ลูกเจี๊ยบที่ขอเป็นน้องสาวจึงเป็นที่รักมาก และอัษฎาก็ส่งเสียให้เรียนด้วยเงินเก็บของตัวเองตั้งแต่เริ่มทำงานซึ่งก็น่าจะทำให้ลูกเจี๊ยบเรียนจบมัธยมปลาย ส่วนมหาวิทยาลัยคงต้องให้แสดงฝีมือในการเรียนเพื่อขอทุนเรียนดีตามที่เจ้าตัวฝัน และดูท่าฝันคงไม่ไกลเกินเอื้อมในเมื่อผลคะแนนที่ผ่านมาได้ที่หนึ่งมาตลอด

   “ลูกเจี๊ยบจะตั้งใจเรียนจ้ะ พี่อัดอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวไปกินข้าว ลูกเจี๊ยบเอาข้าวมาไว้บนโต๊ะแล้ว” ตอนเดินหาอัษฎาเจอกับเจ้าของไร่พอดี ใหญ่บอกให้ลูกเจี๊ยบมาดูว่าอัษฎาตื่นหรือยัง หากตื่นแล้วก็หาอะไรให้กินด้วย

   อัษฎาใช้น้ำเย็นขับไล่ความมึนงงจนหาย ร่างผอมเดินออกมานั่งที่โต๊ะทานข้าว มื้อเช้ารวบเที่ยงเป็นอาหารง่ายๆ อย่างกระเพาไข่ดาวไม่สุกในแบบที่เขาชอบ ลูกเจี๊ยบที่นั่งอีกฟากเท้าคางมองตาใส

   “มองพี่ทำไม หรืออยากกินด้วย” รู้สึกถูกจ้องมอง พอเงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับเด็กสาวพอดี

   “ลูกเจี๊ยบกินแล้วจ้ะ แค่อยากมองพี่อัดเฉยๆ” ที่อยากมองเพราะรู้สึกว่าตัวเองจะโชคดีแบบพี่ชายคนนี้หรือเปล่า ที่ได้เจอทั้งคนรักที่ดี กับข้าวนี้ใหญ่เป็นคนสั่งให้แม่ครัวทำกระเพาเผ็ดน้อยกับไข่ดาวไม่สุก “อิจฉาพี่อัดจังน้า ลูกเจี๊ยบจะเจอคนรักแบบคุณใหญ่บ้างหรือเปล่า”

   “เรียนก่อนแล้วค่อยคิดน่าพี่ว่า” ส่ายหน้าขำกับความคิดของเด็กสาว “กว่าพี่จะเจอคุณใหญ่ พี่ก็ไม่ได้มีความสุขแบบนี้หรอก”

   “ทำไมละจ้ะ พี่อัดเคยมีแฟนมาแล้วหรือ” รู้สึกดีที่ได้รู้เรื่องพี่ชายบ้าง เพราะลูกเจี๊ยบเล่าเรื่องราวตัวเองให้ฟังจนหมดไส้หมดพุง

   “เคยสิ” อัษฎาว่า สมองประมวลความหลังขึ้นมา ริมฝีปากอวบเผยรอยยิ้มบางๆ “ตอนแรกที่พี่ได้เจอแฟนคนนี้นะ เขาเป็นคนเพอเฟกมาก รวย หล่อ หน้าตาดี เป็นเดือนคณะด้วยนะ”

   “จริงหรือ แล้วทำไมถึงเลิกกันละจ๊ะ”

   “เพราะเขาเบื่อพี่ละมั้ง เราคบกันมาตั้งแต่เราอยู่ปีสอง จนพี่เรียนจบแล้วออกมาทำงาน รวมๆ ที่คบก็เกือบหกปีละมั้ง” นานพอดูสำหรับรักครั้งแรก “เขาเบื่อที่พี่หวงตัวเอง เบื่อที่พี่ทำแต่งานไม่มีเวลาให้ เบื่อที่พี่ไปไหนด้วยไม่ได้เวลาเขามีปาร์ตี้กับเพื่อน” ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทะเลาะกันแทบทุกวัน อัษฎาย้ายจากบ้านของป้ามาพักที่คอนโดมิเนียม และแฟนคนแรกขอย้ายมาอยู่ด้วย แต่อัษฎาปฏิเสธ ไม่ใช่ไม่รัก แต่มันชินกับการอยู่คนเดียวมากกว่า

   “แย่เลยนะ เพราะแบบนั้นก็เลยเลิกเหรอจ๊ะ”

   “ที่เลิกเพราะเขามีคนอื่นต่างหาก” ยามนึกถึงภาพที่เจอแฟนของเรากอดกับคนอื่น ทั้งจูบทั้งหอมแทบจะได้เสียกันในผับ มันช่างเป็นภาพที่สะเทือนใจจนไม่มีวันลืม เพราะเพื่อนสนิทอย่างแอนไปเจอเข้าและเรียกให้ไปดู อัษฎาต้องทิ้งงานเพื่อไปดูให้เห็นกับตา ที่เจ็บใจคือแฟนเก่าแนะนำว่าเขาคือเพื่อน มันช่างน่าโมโห

   “นิสัยไม่ดีมากเลย พี่อัดเลิกได้ก็ดีแล้วจ้ะ ลูกเจี๊ยบละกลัวเจอคนแบบนั้นจัง” เด็กสาวยู่ปากรู้สึกสยองกับคนแบบแฟนเก่าอัษฎาคนนั้น

   “แต่ก็ดีนะ ถ้าเขาไม่เลิกกับพี่ละก็ พี่คงไม่ต้องหนีมาที่นี่แล้วเจอคุณใหญ่ของลูกเจี๊ยบหรอก” ในความทุกข์หนักก็มักจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นตามมาเสมอ

   “ใช่ๆ คุณใหญ่นะ ทั้งหล่อ รวย เพอเฟก ที่สำคัญ ไม่เจ้าชู้ด้วย ผู้หญิงตั้งมากมายเข้าหาแต่คุณใหญ่ไม่เล่นด้วยสักคน ลูกเจี๊ยบอยากยกนิ้วให้เลย”

   พูดไปกินไปจนข้าวหมด อัษฎาเดินลงจากเรือนเพื่อเก็บจานไปล้างที่โรงครัว ซึ่งตอนนี้ทุกคนกำลังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน อัษฎาทักทายแม่ตัวเองนิดหน่อยก่อนขอตัวขึ้นข้างบน ดูแล้วเขาอาจจะรบกวนคนอื่นได้ ส่วนลูกเจี๊ยบแยกตัวไปทำการบ้านให้เสร็จ


   อัษฎาย้อนกลับเข้าห้อง มองไหมพรมที่ถูกดึงออกเกือบครึ่งก็ได้แต่ถอนหายใจ วันนี้วันวาเลนไทน์ ผ้าพันคอนี่คงเสร็จไม่ทัน ทำไมเขาถึงสับเพล่าขนาดนี้นะ ลืมดูเดือนบนปฏิทินซะได้ มิน่าเมื่อวานใหญ่ถึงกลับเร็วกว่าทุกวัน และวันนี้เห็นลูกเจี๊ยบบอกว่าใหญ่ออกไปส่งดอกกุหลาบในเมือง จะกลับค่ำๆ ดังนั้นมือเรียวจึงรีบถักผ้าพันคออีกครั้ง ได้แค่ไหนก็แค่นั้น

   เวลาผ่านไปเสียงเคาะประตูดังขึ้นเรียกให้อัษฎาเงยหน้ามอง แล้วก็เพิ่งรู้ว่าด้านนอกมืดสนิทแล้ว นี่ทำจนเพลินแบบที่ใหญ่บอกอีกแล้วสินะ เสียงที่ประตูยังดังต่อเนื่อง ร่างผอมรีบลุกไปเปิด แม้จะหน้ามืดนิดหน่อยแต่ก็ประคองตัวเองไปเปิดได้
 
   “มีอะไรครับ” เอ่ยถามคนงานที่ทำหน้าตื่นมาหา

   “คือคุณใหญ่...” น้ำเสียงแปลกๆ และท่าทางลนลานทำให้อัษฎาตกใจกลัว

   “คุณใหญ่ทำไม หรือถูกรถชน” ใจเริ่มไม่อยู่กับตัว ร่างผอมรีบวิ่งออกจากห้องแล้วตรงเข้าไปยังไร่ทันที ตอนนี้กลัวความคิดตัวเองไปหมด “พี่ใหญ่” เสียงใสตะโกนดังไปทั่วบริเวณ น่าแปลกทำไมวันนี้ไร่ถึงไม่มีแสงไฟส่องเลยสักนิด มือถือก็ไม่ได้เอามา มีเพียงแสงจันทร์ที่เห็นเพียงเงาลางๆ เท่านั้น “พี่ใหญ่อยู่ไหน ไม่เล่นแบบนี้นะ”

   พรึ่บ

        อยู่ๆ แสงไฟสปอร์ตไลท์ก็พุ่งเข้ามาหาจนร่างผอมต้องหรี่ตาลง เมื่อปรับสายตาจนดีแล้ว ภาพที่เห็นตรงหน้าคือโต๊ะอาหารที่คลุมด้วยผ้าสีขาว บนโต๊ะมีเชิงเทียนวางอยู่ตรงกลาง สองฝั่งของโต๊ะกลมมีจานอาหารสไตล์ฝรั่งวางอยู่ และยังมีแก้วไวน์อีกด้วย

   “นี่มันอะไรเนี่ย” อัษฎาเดินเข้าไปใกล้โต๊ะนั้น ก่อนจะหันมองไปรอบๆ ก็ยังไม่เห็นใครสักคน ดวงตากลมมองเห็นแผ่นกระดาษสีขาววางอยู่บนโต๊ะ เมื่อหยิบมาอ่านแล้วก็ต้องยิ้มออกมา ในช่วงเวลาที่อ่านก็จะมีเสียงพูดดังออกมาด้วย

   “พี่ขอโทษที่ทำงานจนไม่มีเวลาให้ แต่พี่ก็ไม่ลืมว่าวาเลนไทน์นี้พี่ต้องทำอะไร พี่ไม่รู้ว่าที่ทำอยู่มันดีไหม แต่พี่ก็ตั้งใจที่จะทำเพื่ออัดจริงๆ สุขสันต์วันแห่งความรักครับ จากพี่ใหญ่” คนพูดค่อยๆ เดินออกมาจากความมืด ใหญ่แต่งชุดมาทำงานไม่ได้ดูหรู มือหนายื่นช่อดอกกุหลาบสีแดงสลับขาวช่อใหญ่มาให้

   “พี่ใหญ่เล่นอะไรเนี่ย” ความขวยเขินพุ่งสูงจนไม่กล้าสบตา

   “พี่ไม่ได้เล่นนะ รับสิ พี่จัดเองกับมือเลยนะ” อัษฎายื่นมือไปรับช่อดอกไม้ช่อโตมาถือไว้ ก่อนจะถูกจูงให้ไปนั่งที่เก้าอี้ “มันอาจดูไม่โรแมนติกเท่าไหร่ แต่พี่ก็พยายามที่สุดแล้ว” คนบอกไม่โรแมนติกยกมือขึ้นปัดจมูกแก้เขิน วันนี้เขาต้องรีบเข้าเมืองเพื่อส่งดอกกุหลาบ พอเสร็จแล้วก็ต้องรีบบึ่งกลับมาเตรียมงานคืนนี้ ดีที่น้องชายคอยช่วย

   “แค่นี้อัดก็ไม่รู้จะรักพี่ยังไงแล้ว” พอได้ยิน ใหญ่ก็หัวเราะร่วน “ว่าแต่ เอาเวลาที่ไหนมาจัดเนี่ย” ตอนนี้ไฟสปอร์ตไลน์สองดวงสาดมาที่พวกเขา

   “ก็ช่วงเย็นนั่นแหละ พี่รีบแทบตายกลัวไม่ทัน แล้วก็กลัวอัดออกมาเห็นด้วย เจ้าเล็กก็ลุ้น” ตอนจัดเตรียมของแทบไม่มีใครเป็นสุข ต่างคนก็ต่างกลัวอัษฎาออกจากเรือนมาที่ไร่ หากเป็นเช่นนั้น ที่วางแผนไว้ก็จบเห่ “พี่ดีใจนะ ที่อัดชอบ”

   “อัดชอบทุกอย่างนั่นแหละ ถ้ามันออกมาจากใจ จะแค่ดอกหญ้ากำเดียวอัดก็ดีใจแล้ว” เอาจริงๆ ไม่ว่าจะดอกไม้ถูก ดอกไม้แพง หรือดอกไม้ข้างถนน หากคนให้ๆ ด้วยใจ ยังไงมันก็มีค่าเท่ากัน

   “น่ารักอีกแล้วเมียพี่” ใหญ่เทไวน์องุ่นใส่แก้วก่อนยกรอคนรัก เสียงชนของแก้วไวน์ดังเบาๆ แต่ความรักที่ส่งผ่านไปช่างยิ่งใหญ่

   “นี่พี่คิดเองหรือใครคิดให้”

   “พี่คิดสิ อย่ามาดูถูกความโรแมนติกของพี่นะครับ”

   “ขอบคุณนะครับ แต่อัดไม่มีอะไรให้พี่ใหญ่เลย”

   “อัดคือของขวัญที่ดีที่สุดของพี่แล้ว”

   “เลี่ยนว่ะ”

   “เขินพี่ล่ะสิ”

   “เออ”

   “เมียพี่โคตรน่ารักเลย”




   ภาพที่ไร่ดอกไม้สร้างรอยยิ้มให้ผู้ร่วมขบวนการ เล็กที่ช่วยจัดทำทุกอย่างไว้รอปลื้มใจที่เห็นพี่ชายมีความสุข แขนยาวรวบเอวภรรยาสุดที่รักมาแนบชิด พร้อมกดหอมแก้มไปฟอดใหญ่

   “เล็กก็รักแคทนะ สุขสันต์วันแห่งความรักครับ”

   “แคทก็รักเล็กนะ ขอโทษที่เคยทำตัวแย่ และเป็นแม่ที่ไม่ดีของลูกเล็ก”

   “แค่แคทยอมเปิดโอกาสให้เล็ก ให้ตัวเองและให้ลูก แค่นี้ก็ดีมากที่สุดแล้ว”

   “ขอบคุณนะ”

   ระหว่างที่ริมฝีปากทั้งสองจะสัมผัสกัน ดันมีเสียงกระแอมดังขัด พอหันไปมองก็เจอกับสายตานับสิบคู่ บ้างก็หัวเราะ บ้างก็ก้มเขิน เมื่อรู้ตัวว่าทำอะไรโจ่งแจ้ง แคทก็รีบวิ่งกลับไปที่เรือนโดยมีเล็กวิ่งตามไปด้วย จึงเหลือแต่คนงานที่พากันแอบดูความรักของเจ้านาย

   บรรยากาศสีชมพูเริ่มแผ่ไปรอบไร่ จนดอกดาวเรืองแทบเป็นสีชมพู ใหญ่กินไปมองคนรักไป เขาช่างโชคดีที่เจอคนดีและคนที่รักเขาจริงๆ ไม่ใช่เฉพาะวันพิเศษ แต่เป็นในทุกๆ วัน แค่มีอัษฎาอยู่ด้วยก็เหมือนเป็นวันแห่งความรัก

   วาเลนไทน์ปีหน้าคงต้องหาวิธีเซอร์ไพรส์แบบใหม่อีก รู้สึกดีใจที่เห็นคนรักยิ้มแย้มมีความสุข แบบนั้นใหญ่ก็พลอยมีความสุขไปด้วย แบบนี้ละมั้งที่เขาเรียกว่า...


        ความรัก


.......................................................................

Happy Valentine's day 2017 ค่าา

มาเร็วไปนิด แต่ความรักไม่มีลด มีแต่เพิ่มค่า

 :L2: :L2: :L2:

 
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-02-2017 20:01:09
Happy Valentine's day 2017 ไรท์ เช่นกัน
คุณใหญ่โรแมนติคซะด้วย น่ารักมาก  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 12-02-2017 22:05:26
โอ้ยยยย คุณใหญ่~ นี่ใช่คุณใหญ่จริงๆใช่มั้ย หวานจริงๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Moonuglygirl ที่ 13-02-2017 01:52:35
มดเต็มไร่กันไปหมดเลย เดินไหนก็โดนกัดดด หวานเกิ๊น อิจ!!นะเนี้ย 55+
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 13-02-2017 13:02:18
 :L1: น่าอิจฉาทุกคู่เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 13-02-2017 18:54:24
อิจฉาจัง
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 13-02-2017 19:47:19
หวานจะมดขึ้นเลยอ่ะ//ปัดมด ปัดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 13-02-2017 20:38:29
หวานเชียว
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-02-2017 20:40:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-02-2017 22:14:47
 :L2: :L1: :pig4:

ดีใจจจจจ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 13-02-2017 22:26:52
 :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-02-2017 23:01:09
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-02-2017 02:21:57
 จากไร่ดอกไม้คงได้เปลี่ยนเป็นไร่อ้อยแล้วมั้ง หวานจัดขนาดนี้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 14-02-2017 08:29:01
หวานนน ความรักหลงเมียไม่มีใครเกินเลยนะพี่ใหญ่
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 14-02-2017 10:39:34
 :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Haruya ที่ 14-02-2017 20:26:49
 :o8: :-[ น่ารักมากกกก ฟิน
พี่ใหญ่เนี่ย 35 เอง ใกล้วัยทองละ
เขียนดีจังค่ะ เราอ่านไปเขินไป
ไม่ดราม่าเลย ชอบบบบ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 15-02-2017 01:16:01
พี่ใหญ่แมนติกได้น่ารักมาก  :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์<< [P.20] // [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 15-02-2017 11:20:27
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ [แจ้งข่าวค่ะ] [P20][15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 15-02-2017 19:02:35



กราบสวัสดีเพื่อน พี่ น้อง ที่รักทุกท่านค่า

เรื่องคำทำนาย ทายว่าต้องรัก

ได้ตีพิมพ์และเปิดการจองกับ สำนักพิมพ์เพื่อนใจแล้วค่า

สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ >> สนพ.เพื่อนใจ (https://www.facebook.com/book.peunjai/)

ขอฝากคุณใหญ่ (ฟอร์มจัด) กับน้องอัดไว้ในซอกหลืบของห้วงหัวใจด้วยนะคะ


:mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 15-02-2017 20:05:58
ดาวเรืองคงไม่เหลืองแล้วล่ะแบบนี้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 16-02-2017 22:40:38
 :impress2: :-[ :L1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 17-02-2017 09:36:51
 :L2: :3123: :L1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนพิเศษ วันปีใหม่ << [P.18] // [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Azuryngel ที่ 23-02-2017 21:56:46
Thank you na ka writer. P'yai and aun in the flower ranch.  :mew1: I want to visit one nowwww.  :hao5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 25-02-2017 08:13:31
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 05-03-2017 20:55:48
อ้ากกกกกก แพ้พี่ใหญ่
น่ารักมากค่ะ

ชมก่อน พล็อตน่ารักค่ะ ฟิลกู๊ดเลย บรรยากาศในเรื่องก็ดี การบรรยายการใช้ภาษาก็ดี ภาษาอ่านลื่นเลยค่ะ การเล่าเรื่อง เรียบเรียงเหตุก็ก็ดี

อ่านไปเหมือนไปอยู่ในไร่เลยค่ะ

ชอบอัด หมั่นไส้พี่ใหญ่
คุณแม่ นมอิ่ม คุณเล็กก็น่ารักค่ะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนในการสร้างผลงานใหม่ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 05-03-2017 22:17:22
สนุกอ่าาาา คุณใหญ่นี่รักเมียหลงเมียไปอีก มากกว่านางก็ไม่มีอีกแล้ววววว น่ารัก ออดอ้อนเข้าไป อัดก็ยอมให้อ้อน แอบขำฉากคุณใหญ่โดนลูกหมากัด สำออยซะเรานึกว่าขาจะขาดแล้วเนี่ย 555555 สุดท้ายเราจะตามไปอุดหนุนนะคะ เลิฟๆ รอกลอยเกรียนออกเป็นเล่มด้วยนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: -Otto- ที่ 11-04-2017 01:25:31
น่ารักมาก...ประทับใจ :mew1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 17-04-2017 17:15:49
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 24-04-2017 06:52:01
น่ารักมากกกก น้องอัดน่ารักน่ารักมากๆ แบบนี้พี่ใหญ่เลยหลงมาก
ขอบคุณเรื่องน่ารักๆนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 24-04-2017 16:09:37
 :impress3:  เรื่องนี้สนุกบอกเลย น่ารักจริงๆ


 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 25-04-2017 20:32:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 11-07-2017 11:11:43
ชอบบบ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 14-07-2017 17:36:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 03-09-2017 00:28:40
 o13 สนุกดี
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์ < [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 08-09-2017 22:35:59
Happy Ending มากมายยยยย
อิจฉาอัดจัง แต่กว่าจะมาเป็นพี่ใหญ่ในวันนี้ ก็ผ่านการเป็นตาแก่ขี้บ่น กวนทีนไม่น้อย 555555
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ [แจ้งข่าวค่ะ] [P.20]//[15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 09-09-2017 13:45:47
 :mew4: :seng2pedชอบพระเอก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 02-10-2017 21:37:43

ตอนพิเศษ -ความสุข





   เสียงประทัดดังลั่นไปทั่วผืนป่า บรรดานกกระจิบกระจาบต่างก็กระพือปีกบินหนีด้วยความตกใจ หากเป็นเดือนอื่น หรือวันอื่นๆ ชาวบ้าน ชาวดอยคงคิดว่ามีการจุดระเบิด ไม่ก็มีการต่อสู้จากกระบอกปืนเป็นแน่ แต่เพราะวันนี้ เป็นวันเทศกาลที่เป็นประเพณีสืบทอดกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นประเพณีที่ดีงามที่ควรอนุรักษ์

       ...หากไม่ใช่

   “โอ๊ยๆ ผมเจ็บครับ” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อถูกทำร้ายร่างกาย “นายครับ ผมขอโทษ”

   “เจ็บสิจะได้จำ ใครใช้ให้มาเล่นประทัดในไร่ฮะ อยากเล่น ไปเล่นที่อื่น ที่นี่เขากำลังทำงานกันไม่เห็นหรือ” เจ้าของไร่ยังหนุ่มบอกเสียงเครียด หลังปล่อยมือออกจากใบหูหนึ่งในคนงานที่ล้อมวงกันเล่นประทัด

   “โธ่ คุณใหญ่ ลอยกระทงทั้งที แถมประทัดที่เล่นนี่ ก็ไม่ได้ดังสักหน่อยนะครับ” ผู้ร่วมเหตุการณ์บอกเสียงอ่อย พร้อมยื่นซองประทัดให้เจ้านาย เมื่อมีฝ่ามือยื่นมาตรงหน้าแทนคำสั่ง “คุณใหญ่”

   “ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อน ไปทำงาน เดี๋ยวลูกค้าจะมารับของแล้ว” ใหญ่สั่งเสียงเข้มก่อนเดินอาดๆ ไปดูแปลงอื่น ใบหน้าหล่อเหลาไร้รอยยิ้มให้เห็น

   พอเจ้าของไร่เดินพ้นไปแล้ว คนงานก็กลับมารวมกลุ่มกันอีกรอบ คราวนี้ต่างพากันถกปัญหาที่ทำให้คุณใหญ่ของไร่หน้านิ่วคิ้วขมวด

   “เพราะปวดขี้หรือเปล่าวะ” หนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น แต่ทุกคนต่างไม่เห็นด้วย “งั้น เมียทิ้ง” เหตุผลหลังทำเอาทุกคนพยักหน้า
 
   “คุณใหญ่แกติดเมียนะว่าไหม” พอรู้ปัญหา คนงานก็พากันออกความเห็นกันยกใหญ่ แต่หลายคนก็ไม่ลืมสอดสายตามองเผื่อคนต้นเรื่องจะเดินย้อนกลับมา

   “ก็ธรรมดาหรือเปล่าวะ คุณอัดน่ารักออกอย่างนั้น” นี่ก็เป็นอีกประโยคที่ทุกคนลงความเห็นว่าใช่

   “แหม ก็แค่เมียเข้าเมือง ทำไมต้องทำหน้าบึ้งด้วย อารมณ์เสียซะไม่กล้าอยู่ใกล้”

   “ฉันรู้มาว่า คุณอัดแกไปโดยไม่บอกน่ะสิ”

   “หือ แกรู้ได้ยังไง”

   “ก็เมื่อเช้า ฉันได้ยินคุณใหญ่แกโทรศัพท์ไปด่าคุณเล็กให้พาเมียแกกลับมาน่ะสิ” คนแอบฟังรีบเล่า มือหยาบยกป้องปากกันเสียงดังพร้อมๆ กับทุกคนต่างก็ล้อมวงยื่นศีรษะมาใกล้กัน “แกโวยวายแถมขึ้นเสียงใส่ด้วยนะ”

   “โวยวายอะไรแกได้ยินหรือเปล่า” เป็นคำถามที่มีแต่คนอยากรู้

   “ก็สั่งว่า ไอ้เล็ก แกพาเมียฉันกลับมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก แบบนี้เลย” คนเล่าดัดเสียงให้แหลมและใส่อารมณ์พอประมาณเพื่อให้ทุกคนได้นึกภาพตามได้ “แต่จนแล้วจนรอด คุณเล็กก็ไม่กลับมา”

   “อ๋า เพราะแบบนี้สินะ ถึงมาอารมณ์เสียใส่พวกเรา ทั้งที่เป็นวันลอยกระทงแท้ๆ”

   “นั่นสิ แล้วคืนนี้งานจะกร่อยไหมเนี่ย”

   “ขอให้คุณอัดกลับมาแล้วแก้สถานการณ์ได้ด้วยเถอะ ไม่งั้น ล้มแน่...”

   ระหว่างที่ทุกคนพุ่งความสนใจและภาวนาขอให้สงครามอารมณ์คลี่คลายอยู่นั้น คนต้นเรื่องก็เดินย้อนกลับมา ใหญ่ยกมือเท้าเอวตีหน้ายุ่งมองคนงานที่สุมหัวคุยกันอยู่ และเรื่องที่คุยคงจะเป็นเรื่องอื่นไม่ได้ นอกจากเรื่องของเขาเอง...


   “พวกนั้นน่ะ ไม่อยากทำงานก็ไปเขียนใบลาออกซะ!”


   คำสั่งแสนเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าประทัดยักษ์เสียอีก คนงานทุกคนพากันแตกกระเจิงวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง มองดูแล้วคงตกใจมากกว่าฝูงนกเมื่อกี้ซะอีก ความน่ากลัวมันเพิ่มมากกว่าเมื่อก่อนเป็นร้อยเท่า จากคนมีเหตุผล ตอนนี้มีแต่อารมณ์ล้วนๆ

   ใหญ่กระฟัดกระเฟียดขึ้นออฟฟิศ หมวกใบลานถูกเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ใยดี ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกาแล้วก็ต้องส่งเสียงจิ๊จ๊ะ ที่จริงตั้งแต่เช้า เขาดูนาฬิกาเกือบพันรอบได้ มือถือเครื่องสวยที่ได้จากคนรักนอนแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะไร้เสียงและข้อความใดๆ
 
   เพราะแบบนี้มันถึงน่าโมโห ไปโดยไม่บอก แถมไม่ยอมกลับมาอีก นี่เห็นเขาสำคัญบ้างหรือเปล่า

   “เอ่อ คุณใหญ่คะ” เสียงเรียกหลังจากคนงานสาวกลั้นใจเปิดประตูเข้าออฟฟิศมา

   “อะไร” น้ำเสียงห้วนพอๆ กับใบหน้า ทำเอาแข้งขาคนเข้ามาสั่นไปหมด

   “คือ ลูกค้าต้องการเปิดบิลค่ะ” เหตุผลที่เข้ามาถูกบอกด้วยน้ำเสียงสั่นระรัว ความกลัวทำให้อยากออกไปโดยเร็ว แต่ติดที่โดนสายตาคมจ้องมาเลยขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ “ดอกไม้...”

   “บอกเขาไปว่าจะส่งให้ทีหลัง” ใหญ่ปัดมือไล่คนงานสาว ซึ่งเธอก็รีบรับคำแล้ววิ่งหนีออกไป เหมือนได้กลับขึ้นมาบนสวรรค์อีกรอบจนแทบอยากร้องไห้ ส่วนคนไล่ยังคงนั่งเอกเขนกหลับตาอยู่บนเก้าอี้ทำงาน

   นานพอดูกว่าจะมีเสียงเปิดประตูอีกรอบ คนแสร้งหลับยังคงนิ่ง แต่เสียงเสียดสีของถุงพลาสติกทำให้ต้องขมวดคิ้วแล้วลืมตาขึ้นมาดู

   “ตื่นแล้วเหรอ” เสียงใสทักทายเมื่อเห็นดวงตาคมปรือขึ้นมา “อัดซื้อขนมที่พี่ใหญ่ชอบมาฝากด้วยนะ” มือเรียวชูถุงขนมหลายถุงให้ดูด้วยรอยยิ้ม

   “อืม ขอบใจ” แต่การตอบกลับของอีกฝ่ายทำให้ต้องย่นคิ้ว ใหญ่มองหน้าคนรักนิ่ง ภายใต้ใบหน้าเฉยชามีคำที่อยากถามมากมาย แต่ก็เลือกจะเงียบ

   “กินเลยไหม เดี๋ยวอัดเอาไปใส่จานให้”

   “ไม่ต้อง”

   “อ่าว ทำไมล่ะ หรือพี่ใหญ่ต้องไปทำงานอีก” อัษฎามองนาฬิกาบนกำแพงแล้วต้องย่นคิ้วอีกรอบ “นี่ห้าโมงกว่าแล้วนะครับ”
 
   ก็รู้นี่ว่าห้าโมงเย็นแล้ว...ใหญ่ไม่ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะหลับตาลงอีกรอบ
 
   “ง่วง” บอกสั้นๆ แล้วก็เงียบไป

   อัษฎามองท่าทีของคนรักด้วยความแปลกใจที่ทำไมอยู่ๆ ใหญ่ถึงเงียบ แถมพูดน้อย ทั้งที่เตรียมใจตั้งแต่เช้าว่าต้องถูกด่า ถูกบ่นแน่นอน

   “พี่ใหญ่ไม่สบายหรือเปล่า” อัษฎาเดินเข้าไปใกล้พร้อมยื่นมือไปจับหน้าผากดู แต่แล้วก็ถูกปัดออกอย่างไม่ใยดี “พี่ใหญ่”
 
   “ไม่ได้เป็นอะไร ง่วงก็คือง่วง” ใหญ่แอบชะงักเล็กๆ ตอนเห็นอัษฎาหน้าเสียหลังจากเขาปัดมือ ที่จริงไม่ได้ตั้งใจจะทำ มือมันไปเอง “ไปทำอะไรก็ไป”

   อัษฎายืนมองคนออกคำสั่งครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินออกจากห้อง ไม่รู้หรอกว่าเป็นอะไร แต่การที่กลับมาเป็นคุณใหญ่เจ้าของไร่ที่เคยเจอคราวแรก เขาไม่ชอบสักนิด คนที่ไม่แคร์ว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไงในคำพูดของตัวเอง

   พอออกจากออฟฟิศมา อัษฎาก็เดินลงไปในไร่เมื่อยังเห็นคนงานเดินวุ่นกันอยู่ ร่างผอมสูดลมหายใจช้าๆ ก่อนปรับอารมณ์สำหรับการยิ้มให้ทุกคน ซึ่งทุกคนพอเห็นว่าใครมาต่างก็พากันร้องอย่างดีใจ

   “ทำไมต้องดีใจขนาดนั้นล่ะครับเนี่ย” อัษฎาดูจะงงนิดๆ เมื่อถูกคนงานล้อมหน้าล้อมหลัง “มีอะไรหรือเปล่า”

   “โหย คุณอัดกว่าจะกลับมาได้ พวกเราคิดว่าระเบิดนิวเคลียร์จะลงที่ไร่ซะอีก” คนงานที่ถูกดึงหูรีบพูดก่อนใครเพื่อน

   “ใช่ๆ พอคุณอัดไม่อยู่ คุณใหญ่ก็อารมณ์เสีย หงุดหงิดมาตั้งแต่เช้า”

   “พวกเราไม่กล้าเข้าใกล้สักคน ขนาดลุงเหมือนแกยังถูกตวาดน่ะครับ”

   อัษฎาเลิกคิ้วฟังสิ่งที่คนงานว่า ซึ่งหลายคนก็พูดไปในทำนองเดียวกันคือใหญ่อารมณ์เสียแล้วพาลคนอื่น

   “คุณอัดช่วยทำให้คุณใหญ่หายโมโหไวๆ นะครับ คือพวกผมกลัวงานคืนนี้จะกร่อย” คำฝากฝังมาพร้อมสายตาอ้อนวอนจากคนงาน อัษฎายิ้มบางๆ พยักหน้ารับ ไม่รู้หรอกว่าจะทำยังไง แต่ต้องรับปากไปก่อน “ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวพวกผมไปเตรียมงานก่อน”

   เมื่อปัญหาคาดว่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี คนงานต่างก็พากันกลับเพื่อเตรียมงานลอยกระทง วันนี้ทางไร่จะจัดงานฉลองให้กับทุกคน มีการกินดื่มอย่างไม่อั้น แต่การดื่มนั้นต้องไร้แอลกอฮอล์ตามกฎของไร่

   อัษฎายืนมองคนงานกอดคอเฮฮาขึ้นไปด้านบนแล้วก็ถอนหายใจออกมา นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงให้ใหญ่อารมณ์ดี เพราะตัวเขาเองก็โมโหใหญ่เหมือนกัน

   “เอาวะ เพื่อคนงาน” คนถูกฝากความหวังเรียกพลังการสู้ เมื่อก่อนเคยทำให้คนขี้เก็กกลายเป็นคนขี้อ้อนมาแล้ว ตอนนี้ทำให้คนรักหายงอน น่าจะง่ายกว่า...มั้ง

   อัษฎาเดินย้อนกลับไปออฟฟิศอีกรอบ คราวนี้ไม่มีใครอยู่ คาดว่าคงกลับขึ้นเรือนไปแล้ว พอคิดได้ ขายาวก็เดินกลับไปบ้าง พลางคิดว่าวิธีทำให้ใหญ่กลับมาเป็นแบบเดิม

   “อัด” เสียงทักหลังจากขึ้นบนเรือน อัษฎากระพริบตาปริบๆ เมื่อเล็กรีบปรี่เข้ามาหา “พี่ใหญ่โคตรแปลกอะ”

   “ทำไมหรือครับ หรือตวาดพี่เล็กอีก” ยังจำเสียงคาดโทษผ่านมือถือเมื่อเช้าได้ดี

   “ถ้าด่าจะรู้สึกดีกว่านี้เยอะ นี่ไม่พูดอะไรเลย เดินกลับเข้าห้องไปเฉย” คนเป็นน้องอุตส่าห์ยัดหมอนไว้ที่ก้นกันถูกพี่ชายเตะ แต่พอเจอหน้ากัน พี่ชายกลับเดินผ่านไปเฉยเหมือนมองไม่เห็นอย่างงั้น “รู้สึกไม่ดีเลยที่ไม่ถูกด่า”

       เล็กเดินคอตกกลับเข้าห้อง ตอนนี้บนเรือนก็เหลือแค่อัษฎาที่ยืนเคว้งอยู่คนเดียว ห้องที่ถูกขวางด้วยประตูที่ปิดนั้น ไม่รู้สภาพอารมณ์คนด้านในเป็นแบบไหน
 
   “สู้ๆ นะ” มือที่กำลังจะผลักบานประตูชะงักเมื่อมีเสียงให้กำลังใจจากเล็ก อัษฎามองตามหลังน้องชายของคนรักที่ลงเรือนไป คงกลับเข้าห้องเพื่อเอาหมอนออกจากก้นแน่นอน พอคิดแบบนี้ รอยยิ้มก็ถูกจุดแต้มขึ้นมา


   เรื่องบางเรื่อง อาจจะกลัวไปก่อนก็ได้


   อัษฎาผลักบานประตูเข้าไป ในห้องนั้นว่างเปล่า มีเพียงเสียงน้ำไหลจากด้านในทำให้รู้ว่าเจ้าของห้องยังอยู่ ไม่นานคนอาบน้ำก็เดินออกมา บนตัวมีผ้าขนหนูสีขาวพันรอบเอวอย่างหมิ่นเหม่และผมที่เปียกลู่แนบใบหน้า ใหญ่ปรายตามองร่างที่ตัวเล็กกว่ายืนอยู่ข้างเตียง

   “พี่ใหญ่” ลองเรียกดู แต่อีกฝ่ายก็ยังคงเมิน “โกรธที่อัดเข้าเมืองไม่บอกหรือครับ” อัษฎาตัดสินใจเดินเข้าไปหาคนรักที่กำลังสวมเสื้อยืดสีขาว “พี่ใหญ่ อัดขอโทษ ก็ตอนนั้น...”

   “อืม” พูดไม่ทันจบดีก็มีเสียงครางรับแบบสั้นๆ ตัดประโยค ใหญ่สวมกางเกงวอร์มเสร็จก็ปลดผ้าขนหนูตากไว้ที่ราวเตี้ยข้างๆ และทำท่าจะเดินออกห้อง หากถูกแขนขาวรวบรัดไว้รอบเอวทำให้เดินไม่ได้ “ทำอะไรน่ะ” ว่าเสียงดุ

   “อัดขอโทษ ตอนนั้นพี่ใหญ่ทำงาน อีกอย่างพี่เล็กก็บอกไปแป๊บเดียว” ตอนแรกที่คุยกันไว้คือไปไม่นาน ซื้อของเสร็จก็กลับ แต่แคทกับต้นไม้กลับอยากเที่ยวซะก่อน เลยทำให้ยืดเวลาไปอีกหลายชั่วโมง ใช่ว่าอัษฎาจะมีความสุขมากนัก หลายครั้งที่เขามักจะถามเวลาจากเล็ก เพราะอยากกลับก่อนใหญ่เลิกงาน

   “ทั้งวันน่ะหรือ คือแป๊บเดียว” น้ำเสียงห้วนของใหญ่ ทำให้อัษฎาใจแป้วนิดๆ คงถูกโกรธหนักแน่นอนแบบนี้

   “ก็ต้นไม้อยากเข้าห้าง...”

   “มือถือก็มีทำไมไม่โทรมา หรือไม่รู้ว่ามีคนรอ อ่อ หรือไม่สนใจอยู่แล้ว”

   “พี่ใหญ่ อัดขอโทษ”

   แบบนี้คงไม่ได้ถูกโกรธ แต่คนในอ้อมกอดกำลังน้อยใจต่างหาก อัษฎาเริ่มมีรอยยิ้มออกมา

   “ช่างมันเถอะ ไม่ต้องสนใจ” ว่าแล้วมือหยาบก็แกะมือที่รัดเอวออก แต่มือเล็กกว่าไม่ยอม พอหลุดจากเอวก็รีบรัดอีก เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้งจนใหญ่ต้องหันมาจ้องหน้ากับคนกอด “ปล่อย”

   “ไม่ปล่อย ถ้าพี่ใหญ่ไม่หายงอนก็ยังไม่ปล่อย” คนรั้นยืนยันหนักแน่น แถมยังกอดแน่นเหมือนกัน

   “พี่ไม่ได้งอน” คำบอกเล่า แต่น้ำเสียงไม่ใช่ ใหญ่เบ้ปากนิดๆ พยายามเมินใบหน้าของคนรักยามซบที่อก ขนตายาวเรียงกันเป็นแพรสวยขยับพลิ้วไปมายามเจ้าของดวงตากระพริบ

   “ไม่ได้งอนน้อยน่ะสิ” พออัษฎาช้อนตาขึ้นมอง ใหญ่ก็รีบเสหน้าและทำท่าผลักคนรัดตัวออก

   “ปล่อยสิ”

   “ไม่”

   “อัด พี่ต้องไปทำงาน”

   “พี่เล็กดูอยู่” อัษฎาว่า ก่อนจะนึกอะไรออก “มาด้วยกันก่อน”

   ว่าแล้วมือนุ่มก็ดึงข้อมือใหญ่ให้ออกจากห้อง ใหญ่รั้งตัวในตอนแรก แต่สุดท้ายก็ยอมเดินตาม แม้จะทำท่าอิดออดไปบ้างก็เถอะ

   เป็นการรักษาฟอร์มเดิมที่คุ้นเคย

   อัษฎาพาใหญ่ลงมาที่ลานข้างเรือน สนามหญ้าที่โล่งมีเพียงไฟกริ่งที่ตั้งเพื่อส่องสว่าง คนถูกพามาตีหน้านิ่ง ก่อนจะส่งเสียงจิ๊จ๊ะเมื่อถูกสั่งให้ยืนอยู่กับที่ ส่วนคนสั่งก็วิ่งหายไปอีกด้าน

   “ไปไหนวะเนี่ย” ใหญ่ยืนกอดอกพึมพำ ดวงตาคมกวาดมองไปรอบๆ ไม่เห็นผู้คนเดินไปมา สงสัยคงไปรวมตัวกันที่ลานอีกด้านที่ใช้จัดงานลอยกระทงของไร่

   นานพอดูกว่าคนหายไปจะกลับมา ใหญ่ตั้งท่าจะโวยวาย แต่พอเห็นของที่อัษฎาถือมาด้วยก็ได้แต่ย่นคิ้วมองและอดไม่ได้ที่จะเข้าไปช่วยถือ ทั้งที่คิดว่าจะทำเมินแล้วแท้ๆ

   “เอามาทำไมน่ะ” ใหญ่ถามขณะวางกะละมังสีดำ

   “เดี๋ยวก็รู้” อัษฎาว่า เสียงลมหายใจติดขัดนิดๆ ด้วยความเหนื่อย แต่ก็ไม่ลืมจะยิ้มตาหยีให้กับคนรัก “ถือก่อน ห้ามเปิดนะ” คำสั่งอีกระลอก ใหญ่ได้แต่ย่นหน้า

   “จะไปไหนอีก เมื่อยแล้วเนี่ย”

   “ทำไมพี่ใหญ่ไม่นั่งรอล่ะ ยืนทำไม”

   คนยืนรอได้แต่กระพริบตาปริบๆ นี่เขาโง่เองใช่ไหมที่ไม่ยอมนั่ง กลับยืนรอจนขาแข็งเนี่ย
 
   อัษฎาหายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมถังที่มีน้ำจนเต็ม ร่างผอมเดินช้าๆ สองมือยกถังน้ำที่ดูแล้วคงจะหนักมาก ใหญ่รีบปราดเข้าไปช่วย

   “เอาน้ำมาทำไม”

   “ใส่ในกะละมังเลย”

   แม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็เทน้ำใส่กะละมังตามที่ได้ยิน ใหญ่ยืนมองคนรักที่หันหลังไปทำอะไรสักอย่าง ดูเหมือนของในถุงจะสำคัญ

   “อะไรน่ะ”

   “แทดแด”

   อัษฎายิ้มร่าชูกระทงขนมปังให้ดู แต่เหมือนใหญ่จะยังไม่เข้าใจ คนถือกระทงเลยจับยัดใส่มือ

   “กระทง?”

   “อืม กระทง”

   “เอาไปลอยในงาน?”

   “ลอยที่นี่แหละ”

   “หา? ลอยที่นี่” ใหญ่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ เพราะในงานที่จัดได้มีการทำบ่อชั่วคราวไว้ให้คนงานได้ลอยกัน แล้วทำไมอัษฎาถึงบอกจะลอยที่นี่ “ลอยในไหน” 

   “นู้นไง” ปากแดงบุ้ยไปทางกะละมังสีดำที่วางอยู่

   ตอนนี้ใหญ่เริ่มเข้าใจในสิ่งที่สงสัย ว่าทำไมคนรักถึงเอากะละมังมา ที่แท้ก็จะลอยกระทง คงอยากจะลอยกับเขาแค่สองคน พอคิดแบบนี้ริมฝีปากก็เหยียดยิ้มออกมา แต่พอเห็นว่าถูกจ้อง หน้าเข้มก็รีบปรับนิ่งตามเดิม

   “จะยิ้มก็ยิ้มสิ เก็กทำไมอีก” อัษฎาใช้ข้อศอกสะกิดคนฟอร์มจัด แต่ใหญ่กลับปรายตามองนิ่ง “พี่ใหญ่นี่นะ”

   “ทำไม พี่ทำไม”

   “ฟอร์มจัดไม่หายไง จะลอยไหม หรือไม่อยากลอย อัดจะได้เก็บ” อัษฎาลอบมองคนนิ่ง ดูเหมือนจะยังวางฟอร์ม มือเล็กเลยดึงกระทงคืนมาพร้อมยัดใส่ถุงตามเดิม “ไม่ลอยก็ไม่ต้องลอย ทั้งที่อยากลอยกับพี่ใหญ่สองคนแท้ๆ”

   “ลอยๆ”

   สุดท้ายคนฟอร์มจัดก็ฟอร์มแตก ใหญ่รีบแย่งถุงกระทงมาถืออีกรอบพร้อมจับมือคนรักให้เข้ามาใกล้ กระทงขนมปังหนึ่งอัน ด้านในมีตุ๊กตาเล็กๆ ที่ถูกปั้นจากดินวิทยาศาสตร์ ซึ่งดูแล้วก็คือใหญ่กับอัษฎานั่นเอง

   “นึกว่าจะแน่” อัษฎาว่าขำๆ ดวงตากลมมองคนรักที่ทำปากขมุบขมิบบ่น

   ใหญ่กับอัษฎาย่อตัวนั่งลงตรงหน้ากะละมังสีดำ ทั้งคู่ชูกระทงขึ้นพร้อมกันแล้วหลับตาอธิฐานขอพร ซึ่งพรของแต่ละคนต่างก็ขอให้อีกฝ่ายมีความสุข ไม่มีสิ่งไหนที่ดีกว่าการที่ได้เห็นคนรักมีความสุข

   “อัดขอพรอะไร”

   “บอกไม่ได้ เดี๋ยวสิ่งที่ขอจะไม่สำเร็จ”

   ใหญ่หรี่ตามองคนรัก ก่อนริมฝีปากจะเหยียดยิ้มกว้างออกมา

   “แต่พี่เชื่อว่าสิ่งที่พี่ขอ มันต้องสำเร็จแน่นอน”

   กระทงขนมปังที่มีคำอธิฐานของคู่รักลอยอยู่ในกะละมัง ความรักที่เริ่มต้นจากศูนย์ มันค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นทุกวันและทุกวัน
 
   “อัดว่า เราลืมจุดเทียนนะ”

   “พี่ก็ว่างั้นแหละ”

   เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังขึ้นไปถึงบนเรือน เล็กที่เพิ่งดูงานเสร็จก็ชะโงกหน้าผ่านหน้าต่างดู เห็นพี่ชายกลับมายิ้มอีกครั้งก็รู้สึกดีใจ อาการพี่ชายตอนเย็นช่างน่ากลัวยิ่งกว่าพายุสึนามิซะอีก พายุที่พร้อมถล่มทุกอย่าง


   สงสัยต้องเอาหมอนกลับมายัดก้นใหม่อีกรอบ กันถูกเตะ





   เมื่อหายงอน ใหญ่ก็จูงมือคนรักไปที่งาน ตอนนี้คนงานกำลังสนุกสนานรื่นเริงกับกิจกรรมที่จัดขึ้น มีทั้งรำวงย้อนยุค สอยดาวที่มีของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึง มีซุ้มทำกระทงจากต้นกล้วย แต่ที่น่าสนใจมากที่สุด คงเป็นการประกวดนางนพมาศของไร่ สาวๆ ไม่ว่าจะรุ่นใหญ่หรือรุ่นเล็กต่างก็ประชันความงามและความสามารถเพื่อเป้าหมายรางวัลใหญ่ นั่นคือเงินรางวัลหนึ่งหมื่นบาทของคุณพิกุล

   กิจกรรมทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสุขและความสนุก อัษฎาหัวเราะเมื่อเห็นใหญ่ถูกคนงานชวนไปรำวง เจ้าของไร่สุดหล่อยิ้มร่าต่างจากตอนเช้า และหากใบหน้าของใหญ่เป็นเหมือนตอนนั้นคงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้

   “คุณอัดอย่าไปไหนแบบวันนี้อีกนะครับ พวกผมหัวจะขาดเอา” คนงานที่เหนื่อยหอบเดินมากระซิบบอก “น่ากลัว สยดสยองสุดๆ”

   “ครับๆ” แล้วอัษฎาก็หัวเราะ เขาเชื่อว่าใหญ่เป็นแบบนั้นจริงๆ

   ภาพความสุขตรงหน้าทำให้คุณพิกุลปลื้มปริ่ม ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ ภาพที่ทุกคนสนุกสนาน สามัคคีอย่างที่สามีหวังไว้ เห็นแบบนี้แล้วก็ตายตาหลับ

   “แม่ครับ เชิญครับ” ใหญ่เดินมาโค้งให้แม่พร้อมยื่นมือมารอ คุณพิกุลหัวเราะก่อนลุกไปรำวงด้วย แม้แต่อิ่มก็ถูกเล็กดึงไปร่วมสนุก

   “อัดไม่ออกไปรำวงบ้างเหรอ” คำถามดังมาจากภรรยาของเล็กที่เหนื่อยหอบ เธอรำวงสนุกสนานโดยมีลูกชายเต้นเป็นคู่ “แคทขอบคุณอัดอีกรอบนะ ถ้าเราไม่รู้จักกัน ภาพแบบนี้ ความสุขแบบนี้แคทคงไม่ได้เห็นอีก”

   “สวรรค์คงลิขิตไว้แบบนี้ เราจะได้รู้ว่า ความสุขที่แท้จริงคืออะไร และมันน่าหวงแหนแค่ไหน” อัษฎายิ้มให้กับน้องสะใภ้คนสวย ซึ่งเธอก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน “ไปรำวงกันเถอะ” อัษฎาลุกออกไปรำวงกับแคท เสียงเพลงดังก้องไปทั่วขุนเขา พร้อมๆ กับเสียงความสุขของคนในไร่



   ปัง ปัง

   พลุสวยถูกจุดสว่างทั่วท้องฟ้า คนในงานต่างพากันหยุดกิจกรรมแล้วเงยหน้าขึ้นชื่นชมความงาม พลุหลายแบบถูกจุดขึ้นต่อๆ กันอย่างสวยงาม ช่างเป็นความทรงจำที่ดีอีกปีหนึ่ง

   “พี่รักอัดนะ” ใหญ่โอบเอวคนรักพร้อมกระซิบเบาๆ “ขอบคุณที่ทำให้พี่มีความสุข”

   “อัดก็มีความสุขที่สุด” อัษฎาช้อนตามองคนรักอย่างรักใคร่ ก่อนศีรษะทุยจะเอนซบอกอุ่น

   ท่ามกลางพลุสวยกับบรรยากาศแสนสนุก งานลอยกระทงปีนี้ช่างเป็นปีที่ดีที่สุด และจะมีปีที่ดีที่สุดแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ ตราบใดที่ความรักของใหญ่และอัษฎายังคงอยู่....

   “ขออย่างเดียว ห้ามไปไหนโดยไม่บอกพี่อีก เข้าใจไหม”

   “พี่ใหญ่นี่นะ ชอบทำให้บรรยากาศเสียอยู่เรื่อย”

   ...เรื่องกำลังจะจบลงอย่างสวยงามอยู่แล้วเชียว หากคนขี้หวงไม่ทำลายลง

   “ก็จริงนี่ อัดทำเหมือนพี่ไม่มีความหมาย เป็นแค่คนที่ไม่น่าสนใจ”

   “ดูพูดเข้า”

   “ก็มันจริง”

   “เอาๆ ทะเลาะกันอีกแล้วคู่นี้” คุณพิกุลร้องทักหลังจากเสียงพลุเงียบลง เลยได้ยินเสียงคนเถียงกันดังขึ้นมาแทน

   “ทะเลาะกันยิ่งรักกันนะครับ” คนงานในไร่ต่างก็พูดหยอกล้อ ซึ่งคุณพิกุลก็เห็นด้วย

   “จะดีกว่านี้ถ้าไม่ทะเลาะกันนะ” อิ่มพูดขำๆ ซึ่งนี่คุณพิกุลก็เห็นด้วยอีกเช่นกัน

   “เอาล่ะๆ สนุกสนานกันต่อ อย่าไปสนใจ ใครจะเถียง จะทะเลาะก็เรื่องของเขา” พอได้ยินแบบนั้น เสียงเพลงก็ถูกเปิดอีกรอบ ความสนุกสนานกลับมาอีกครั้งและมากกว่าเดิม จนไม่มีใครสนใจคนสองคนที่เชือดเฉือนกันด้วยสายตา





   “จะงอนละนะ”

   “อืม”

   “งอนจริงๆ นะ”

   “ก็ตามใจพี่ใหญ่”

   “งอนจริงๆ ไม่ได้โม้เลยนะ”

   “เออ อยากงอนก็ตามใจ ไม่ง้อแล้ว เหนื่อย”

   “ไม่งอนก็ได้ อัดจ๋า พี่ไม่งอนแล้ว”

   ภาพเจ้าของไร่ผู้แสนเย็นชาจะมลายหายไปทันทีเมื่อมีคนรักยืนอยู่ข้างๆ เจ้าของไร่สุดหล่อเดินง้อคนรักไปทั่วงาน กว่าจะถูกหายงอนก็เกือบตกน้ำในบ่อเพราะถูกน้องชายหมั่นไส้เดินมาผลัก ตอนนี้แหละ หมอนที่รองก้นก็ได้ใช้งาน เมื่อถูกพี่ชายวิ่งไล่


   แม้ความสนุกจะจบลงในวันนี้ แต่ความสุขจะยังคงอยู่ตลอดไป




.......

พาลุงใหญ่กับอัดมาทักทายค่า...แม้จะจบไปแล้ว แต่ความสุขก็จะยังคงอยู่ไปตลอด
ขอบคุณสำหรับการติดตาม รับชม รับอ่านและขอบคุณกำลังใจจากทุกๆ คนค่า

ปล.หนังสือยังสามารถสั่งจองได้นะคะ ได้โปรดรับลุงใหญ่ไว้ในอ้อมกอดของทุกคนด้วยค่า
   
      
        
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-10-2017 23:48:29
ขอบคุณหรับรอยยิ้ม
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-10-2017 15:20:23
 :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 03-10-2017 20:48:15
 :mew3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 03-10-2017 22:00:30
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-10-2017 10:05:20
ฮ่าๆๆๆลุงใหญ่นี่ยิ่งแก่ยิ่งขี้งอนนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 06-10-2017 11:24:43
มีความสุขกับอัดและคุณใหญ่จัง :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 06-10-2017 21:00:20
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tong_pub ที่ 07-10-2017 13:25:03
ไม่ได้เม้นนิยายมานานมาก ทำตัวเป็นนักอ่านเงาอยู่พักใหญ่
มาเรื่องนี้ไม่เม้นไม่ได้จริงๆ ต้องเม้นให้สมกับฝีมือคนเขียนที่แต่งนิยายมาโดนจริตเรามาก555
ชอบแนวแบบนี้ค่ะ เอาจริงๆชอบอัดนะ คนแบบอัดน่ารักอ่ะ มีเสน่ห์ในตัว
ขอบคุณคนเขียนนะคะที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่าน

 :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: NongJesZa ที่ 09-10-2017 00:00:35
เขินลุงอ่า เขินนนนนนนนนนนนนน :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: NongJesZa ที่ 09-10-2017 00:04:06
ไม่คิดว่าลุงจะเปลี่ยนไปมาก มีเมียเด็กอ่ะเนอะ   :impress2: งอแงขี้น้อยใจไปได้  :laugh: 555555555555 น่ารักที่สุด รักกันนานๆนะครับ เลิฟๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 09-10-2017 07:34:34
อ่านรวดเดียวจบ น่ารัก ๆ มากเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-10-2017 07:56:19
ยิ่งอยู่กับอัต ทำม้ายคุณใหญ่ ติดอัตขนาดนี้
หายใจเข้าเป็นอัต หายใจออกก็เป็นอัต  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

พออัต เข้าไปเมืองโดยไม่บอกกล่าว โทร ก็ไม่โทร กลับมาซะเย็น
คุณใหญ่เลยเข้าโหมดดาร์ก โดยสมบูรณ์
กว่าอัต จะง้อได้ไม่ใช่น้อยจริงๆ
สงสัยอัตต้องง้อด้วยภาษากายละมั้ง ถึงจะอารมณ์ดี ร่าเริง อย่างรวดเร็ว  o18  o18  o18

คุณใหญ่ อัต  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์ มาต่ออีกนะ
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 09-10-2017 12:08:33
สนุกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-10-2017 20:59:59
คิดถึงเรื่องนี้ กลับมาอ่านอีกครั้ง ก็ยังประทับใจและมีความสุขตามไปด้วยตลอด
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-10-2017 09:52:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-10-2017 21:50:03
 :กอด1: :L2: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 13-10-2017 17:12:23
55555 คนเข้มหรือจะสู้คนน่ารักเนาะ หวงเมียออกปานนั้น

อัดน่ารักมาเลย กลัวก็กลัว แต่ก็ยอม
ใหญ่ก็ทำขรึมให้น้องง้อใช่ไหม เนียนนะ

ขอบคุณนะคะ สำหรับตอนพิเศษ น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 13-10-2017 21:17:23
คนแก่นี่ขี้งอนจริงๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 14-10-2017 14:05:20
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ชอบมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fstwrsr ที่ 15-10-2017 05:34:46
สวัสดีค่ะไรเตอร์ อยากจะบอกว่า ชอบเรื่องนี้มากถึงขั้นสมัครไอดีมาเม้นเลยยย  ร้องห่มร้องไห้อย่างแรงพอรู้ว่าอ่านจะจบแล้ว ภาวนาให้ตอนพิเศษเยอะๆๆ อิ่มมากค่ะ ฮืออออออออออ
สนุกมากๆ ใช้ภาษาอ่านง่ายแต่กลับสวย อ่านลื่นมาก เข้าใจอารมณ์ของตัวละครได้ดีเลยค่ะ
ชอบเรื่องนี้มากกกกก กรี๊ดคาแรกเตอร์พระ-นายมากจริงๆค่ะ ชอบคุณใหญ่มาก รู้สึกเลยว่าเขาก็รักของเขา หวงของเขาจริงๆ ฮือ //กัดผ้าด้วยความอิจฉา
น้องอัดก็น่ารักมากเลยค่ะ กลายเป็นนายเอกท๊อปลิสไปเลย น่ารักมาก มองโลกในแง่ดีตลอด เขาน่ารักของเขา ไม่ได้รู้สึกว่าเกินตัวจนน่าหมั่นไส้อะไร เอ็นดูมากTTTTT
ตัวละครอื่นๆก็น่ารักมากเหมือนกัน ทั้งคุณแม่ๆ คุณเล็ก คนงานคนอื่น อบอุ่นมากเลย อ่านจบแล้วได้อารมณ์แบบ you made my dayเลยค่ะ แง
ฟิคนี้กลายเป็นอันดับท๊อปสิบในใจเลยค่ะ ดราม่ากรุบกริบให้หน่วงๆสมเหตุสมผล ชอบคาแรกเตอร์มากจริงๆ  อิ่มมากๆ ขอบคุณที่สร้างสรรค์อะไรดีๆมาให้อ่านนะคะ มีความสุขมากๆเลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 15-10-2017 12:30:33
อัดน่ารักมากค่ะ จินตนาการหน้าเป็นน้องซีเกมส์​ใน Together ​with me เพราะหน้าขาวๆ ปากแดง ตาแป๋ว เหมือนกันเลย อิอิ ส่วนคุณใหญ่ก็ซึนเสียเหลือเกิน รักเมียหวงเมียชนิดมดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม น่าอิจฉาจริงๆ คู่คุณเล็กกับแคทก็น่ารัก เล็กกวนพี่ชายได้น่ารักน่าเตะ 555 สงสารสุดคือทัศนัย พระรองที่แสนดี อยากให้มีคู่กับเค้าซักคนค่ะ พอจะมีทางมั้ยคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: kesuki ที่ 15-10-2017 21:22:56
อัดน่ารักขั้นสุด และคุณใหญ่ขึ้หวงมากกกกกก สนุกมากๆเลยค่ะ และน่ารักมากๆด้วย ขอบคุณนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 27-10-2017 09:52:41
น่ารักมาก ๆ ครับ ............................. ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TaemyG ที่ 21-11-2017 20:26:13
น่ารักมากๆเลย ชอบความฟอร์มจัดของอีตาพี่ใหญ่จริงๆ น่า   :z6: สักป้าบอ่ะ ฮ่าา
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 06-02-2018 21:10:01
น่ารัก
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 1 << // [13/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 11-02-2018 14:05:57
เอ.... คงไม่ใช่ศึกระหว่างพี่น้องนะ เราว่าอัดน่าจะคู่กับคุณใหญ่

นะ(หรือเปล่า) อัดอุตส่าหนีเรื่องวุ่นวายใจมาจากกทม.

มานี่ยังจะเจออีกเนอะ สู้เขาอัด สู้ๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก >> ตอนที่ 20 - END - << [P.15] // [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 12-02-2018 05:06:54
ว้อยยยยย  อิลุง อิคนซึน ปากแข็ง ฮืออ หมั่นไส้

ขอบคุณมากๆนะคะ สนุกมาก นึกว่าจะม่าซะแล้ว

ตอนอ่านเจอคำทำนายก็คิดไปแล้ว อห ไม่ใช่ว่าพี่น้องแย่งนายเอก

กันหรอกนะ ถ้าเป็นงั้นม่าตายแน่เลย ไหนจะจากเป็น จากตายนั่นอีก

พอมาอ่าน เอา 55555  :laugh: กลายเป็นฮา และหมั่นไส้คุณใหญ่

มากๆไปเลยอ่ะ ในความม่าที่ไม่ม่า เรื่องนี้ดีต่อจิตใจเรามากกกกก


ขอบคุณอีกรอบนะคะ แต่งดีมาก สนุกค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 12-02-2018 06:18:28
โง้ย เรื่องหลักว่าหวานพอตัว เจอตอนพิเศษแต่ละตอนเข้าไป


มดนี่เดินยั้วเยี้ยกันเต็มไปหมดเลยค่ะ อิจฉาอัดละเกิน งุ้ย  :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: punpunn ที่ 19-02-2018 01:50:16
สนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 27-02-2018 17:39:21
 :impress2: :impress2:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ชายกุมภ์ ที่ 01-03-2018 01:04:49
ตาลุงนี่ฮาจริงครับ คิดตามแล้วเด๋อด๋าในหลายๆ ซีน ตลกมาก เป็นพระเอกที่ชอบมากครับผม ไม่ต้องเพอเฟคแต่โคตรมีเสน่ห์

ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆ เรื่องนี้ครับ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 09-03-2018 10:27:39
พี่ใหญ่ขี้หวงมากๆเลยค่า ทีเมื่อก่อนปากแข็งเหลือเกิน
รักกันนานๆเลยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 11-03-2018 12:12:21
ฮาอีลุง ซึนยันจบ :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 14-03-2018 16:24:29
น่ารักมากเลยค่า
คุณใหญ่นี่ตั้งแต่เลิกปากแข็นนี่ขี้หวงสุดๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: armsa2531 ที่ 14-03-2018 21:37:42
 :katai2-1:น่ากอดน่ากิน
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 23-03-2018 02:57:44
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tutatoomtam ที่ 25-03-2018 10:39:27
น่ารักจังเลยยยยย องอัดผู้อดทนเก่งของพี่ :haun4: :haun4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 22-04-2018 14:26:06
สนุกมากครับ
ขอบคุณคนแต่งนะ

ชอบพี่ใหญ่มาก แอบลุ้นคู่พี่เล็กด้วย
สุดท้ายมีความสุขทุกคนเนอะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 04-06-2018 09:17:51
สนุกมากก ถึงจะแอบหมั่นไส้คุณใหญ่อยู่หน่อยๆ

อยากให้อัดหายไปนานๆให้แกอกแตกตาย  :ling1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 18-09-2018 06:03:47
คุณใหญ่เปลี่ยนไปมาก ท่ามากจนเมียเหนื่อยใจเลย ดีนะที่ตอนหลังรักเมียหลงเมีย อิอิ :hao7:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 19-09-2018 17:39:58
กลับมาอ่านอีกรอบก็ชอบเหมือนเดิม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nano ที่ 20-09-2018 23:56:48
น่ารักกกกกกมาก ชอบคาเรคเตอร์พี่ใหญ่ น่ารัก ดุดัน แต่ขี้อ้อน แถมหื่นอีกด้วย ชอบๆ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 21-09-2018 15:31:09
ลุ้นมากคู่นี้
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 22-12-2018 23:05:21
กลับมาอ่านอีกรอบ

น้องอัดดดดดดด น่ารัก น่าเอ็นดู
ส่วนพี่ใหญก็น่าหมั่นไส้ซะเหลือเกิน

เราชอบบรรยาการในไร่ ชอบทุกคนในเรื่องเลยมันมีความสำคัญ กระทั่งคนงานในแต่ละตอน ให้บรรยากาศจริงๆ

ชอบความอุ่นๆในเรื่องด้วย ภาษาอ่านลื่นไหลเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 22-12-2018 23:42:14
ขอยืมคำอัดมาใช้...นึกว่าจะแน่   :m20:

อัดเอาอยู่  :laugh:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 23-12-2018 09:47:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 24-12-2018 16:36:05
น้องอัดน่ารัก ส่วนพี่ใหญ่ก็เข้มมาก
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ  o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 17-02-2019 23:04:41
สนุกมาก  พีี่ี่ใหญ่น่ารัก  น้องอัดก็น่่่่่่ารัก
สนุกทุกตอน  ขอบคุณนักเขียน
เนื้อเรื่องอ่านเพลินมาก :pig4: :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: reginasorn ที่ 22-06-2019 16:30:06
เนื้อเรื่องละมุนมาก ชอบความขี้หึงของพี่ใหญ่ :กอด1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เลยร์มุจา ที่ 23-06-2019 10:43:35
บอกได้คำเดียว [เพอร์เฟค ] :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 27-06-2019 19:23:26
เข้ามาอ่านเพราะถูกใจชื่อเรื่อง

พอเริ่มอ่าน ก็คิดว่าจะได้น้องอัดทั้งพี่ทั้งน้อง อิอิ

ขอบคุณนะคะ ชอบมาก ๆ เลย

 :L2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Sevenny ที่ 28-06-2019 20:41:08
อยากได้แบบคุณใหญ่อีกสักคน มีไหมคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: habanice ที่ 20-02-2021 23:12:58
 :o8 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nonocong ที่ 15-05-2021 17:39:28
น่ารักมาก อัดกับคุณใหญ่ ขอให้เจ้าของสวนดอกไม้ร่ำรวย ๆ น้า เรื่องราวของคู่ชีวิตคู่นี้ตราตรึงมากฮับป๋ม ตาฮักคะนาดนัก ปี้นักเขียนกะตาฮักแต้นา :กอด1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 27-05-2021 08:05:48
 :pig4: :pig4: :L2: เป็นนิยายที่น่ารักมากค่ะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 05-06-2021 15:58:39
สนุกมากๆ ค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 14-08-2021 10:39:31
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: goaroundstravel ที่ 14-08-2021 13:52:04
so much fun สนุกสุดๆเลย :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Vergintomza ที่ 18-08-2021 19:17:11
หลงรักทุกคนเลยครับ โดยเฉพาะคุณใหญ่
หัวข้อ: Re: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 19-08-2021 23:29:38
อ่านเพลินดีครับ สนุกดี ขอบคุณครับ