-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับสรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด 7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
......................................................................
รวมเล่มแล้วนะคะ :hao5: รายละเอียดตามลิ้งค์เลยค่ะ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46577.msg3041902#msg3041902
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ^^
...
นิยายเรื่องนี้โนกุ๊กกิ๊ก เนื้อหา(ค่อนข้าง)รุนแรง(มั้ง) (ไม่นะY^Y) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพราะคนเขียน ชอบความรุนแรง :z6:
เข้ามาอิดิทเมื่อ ๙ พ.ย.๕๔
......................................................................
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑
“ที่จริงไม่ต้องมาส่งก็ได้นะพี่” เขาพูดพลางไขกุญแจบ้านไปด้วย
“ที่จริงต้องให้มาอยู่เป็นเพื่อนต่างหาก” หนุ่มรุ่นน้องทั้งส่ายหน้าทั้งหัวเราะเบาๆให้กับคำตอบของประธาน
ปีสามดูจะคิดมากเกินเหตุ
“ผมเข้าบ้านแล้ว พี่สบายใจรึยัง” ก้าวเท้าเข้าเขตบ้านปุ๊บก็กอดอกเลิกคิ้วถามปั๊บ
“อืม” แค่พยักหน้าให้คนถามรู้ว่าเข้าใจ แต่ทำไมยังไม่ไปอีก เจ้าของบ้านที่ยืนพิงขอบประตูอยู่ต้องถอน
หายใจอย่างเอือมๆ
“ผมอยู่คนเดียวได้ ไม่มีใครกล้าทำอะไรถึงในบ้านผมหรอกน่า ของที่พี่ให้มาผมก็เอาติดตัวไว้ตลอด
พี่กลับบ้านเหอะ ค่ำกว่านี้อันตรายเปล่าๆ” ชายหนุ่มชูปืนปากกาด้ามที่ได้มาเมื่อเช้าพร้อมควงเล่นให้รุ่นพี่
ดูอย่างไม่ยี่หระ เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูพร้อมปิดทันที เป็นการไล่ทางอ้อม เขาไม่ค่อยชอบให้ใครมา
ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขานัก ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนก็ตาม ถึงจะแค่หน้าประตูบ้านก็เหอะ รุ่นพี่จำยอมพยัก
หน้าแล้วเดินออกจากบริเวณบ้านไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ยังไม่ทันจะก้าวขึ้นห้องนอนที่อยู่บนชั้นสองของบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออกไปหาอะไรกินมื้อค่ำแถว
ตลาดกลับมีเสียงเคาะประตูบ้านขัดจังหวะซะก่อน หรือพี่เขามีอะไรอีก?
ชายหนุ่มวางกุญแจบ้านและปืนปากกาที่อยู่ในมือไว้บนโต๊ะโทรทัศน์ แล้วเปิดประตูออกไปอย่างหงุดหงิด
“พี่ดิวมีอะ...” ไม่ทันจบคำ ประตูได้ถูกดึงจากอีกฝั่งให้เปิดอ้าเต็มบาน มีผู้ชายมากกว่าสองดันร่างเขาเข้า
มาในบ้าน แล้วพากันกรูตามเข้ามาติดๆ คาดเดาจากสายตาเห็นว่าพวกมันมีกันถึงหกคน ไม่สิ เจ็ด
ต่างหากเพราะมีอีกคนยืนดูต้นทางอยู่หน้าบ้านโน่น หึ เล่นอย่างนี้สินะ
ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่เขาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแต่ก็บอกตัวเองว่าไม่มีอะไรหรอก ลูกผู้ชายเขาไม่ลอบกัด
หรอก นักเลงจริงเขาไม่แทงข้างหลังแน่ เพราะคิดอย่างนั้น เลยพลาดเอง เผลอชะล่าใจได้เป็นวันๆ ใน
ที่สุดมันก็แค่นักเลงข้างถนนนี่นา จะถามหาวิถีความเป็นลูกผู้ชายอะไรจากพวกมันได้ ขอแค่ได้เอาคืนไม่
ว่าจะด้วยวิธีสกปรกแค่ไหน พวกมันก็ไม่สนใจหรอก แค่ให้ได้สิ่งที่ต้องการ มันก็พร้อมทำกันทุกวิถีทาง
สินะ
.
.
.
ทันทีที่ผ้าคาดตาถูกเปิด คนที่ถูกมัดข้อมือทั้งมือสองข้างก็ได้ถูกผลักให้เดินเข้าไปในห้องซึ่งมีหญิงสาวในชุด
นักเรียนร่วมสถาบันรออยู่ก่อนแล้ว เธออุทานเรียกชื่อเขาอย่างตกใจ ตามด้วยเสียงล็อคกุญแจจากประตู
ด้านนอก
ไม่ต้องเดาก็ตอบได้ ถึงกับต้องขังกันเลยเหรอ
“แก้ว!” หญิงสาวโผเข้าแก้เชือกที่มัดมือชายหนุ่มออกอย่างลนๆแล้วกระโดดกอดเขาด้วยอาการวิตกวังวล
สั่นกลัว น้ำตาของเธอไหลพรากสะอื้นไห้โดยมีหน้าอกของแก้วเป็นที่พึ่งพิง เขาเองคงทำได้ดีที่สุดเท่านี้
แฟนสาวของไอ้เพื่อนตัวดีคงจะกลัวมากที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ไม่งั้นคงไม่กล้ากอดเขาแน่นซะ ทั้งที่
จริงแล้วทั้งคู่ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมายมาก่อนเลย
“มิว! พวกมันทำอะไรมิวรึเปล่า” แก้วลูบหลังปลอบโยนแฟนเพื่อนและถามไถ่อาการเธอ “ใจเย็นๆสิมิว มี
สติหน่อย” มิวยิ่งสะอื้นดังกว่าเดิม จากที่ว่าปลอบคงกลายเป็นเรียกต่อมน้ำตาเจ้าหล่อนให้ทำงานซะ
ล่ะมั้ง
“ฮึก ฮึก XX” มิวผละจากอกเขา พูดชื่อโรงเรียนช่างกลแห่งหนึ่งออกมา แก้วไม่ได้แปลกใจเลยสักนิด
เพราะพวกมันนี่แหละที่เอามีดจี้เอวเขาถึงในบ้านแล้วพามานี่...ที่ไหนก็ไม่รู้ ช่วงที่ถูกจับขึ้นรถมาก็ถูกผ้าปิด
ตาตลอดทาง เมื่อลงจากรถก็แค่ได้กลิ่นหอมของหญ้าอ่อนๆ ไอ้พวกนักเลงข้างถนนมันเปิดตาให้ก็ตอนที่
ผลักเข้ามาในห้องแล้ว
“มันซักที่อยู่พงษ์ แต่มิวไม่รู้ มิวไม่รู้จริงๆนะแก้ว มิวได้ยินมันพูดกันว่าจะเอาเราเป็นตัวล่อ ยังไงๆพงษ์ก็
ต้องออกมาแน่ แต่ถ้าพงษ์ไม่ออกมาล่ะแก้ว พวกมันจะทำร้ายเรารึเปล่า มิวกลัว มิวกลัวนะแก้ว ฮือออ”
“มิวๆ ฟังนะ” แก้วเรียกสติแฟนสาวของเพื่อนเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มควบคุมมันไม่อยู่แล้ว ก่อนจะเตลิดไป
มากกว่านี้ เขาจึงจับไหล่หญิงสาวตรงให้มองหน้ากันได้ พูดด้วยน้ำเสียงเบาแต่จริงจัง
“พวกมันไม่ทำอะไรเราหรอก อย่างที่ได้ยิน เราแค่เป็นตัวล่อ ถ้ามันถามเราก็บอกไม่รู้ ไม่เห็นอย่างเดียว
เชื่อแก้วนะ เดี๋ยวพวกเราก็คงมาช่วย” แก้วปลอบเธออีกครั้ง เขามั่นใจว่าถ้าพี่ดิว ประธานปีสามรู้เรื่องล่ะ
ก็ ยังไงซะต้องตามมาช่วยแน่ ยิ่งเป็นสถาบันคู่อริด้วยแล้ว การอุ้มเด็กในสายมาทั้งคนอย่างนี้มันไม่ไว้หน้า
กันมากไป
“พงษ์อยู่ไหน ทำไมแก้วใจเย็นจัง ไม่กลัวพวกมันเลยเหรอ แล้วแก้วไม่ห่วงพงษ์เลยรึไง” มิวยังซักไม่เลิก
แต่แก้วเลือกที่จะเงียบแทน
“แต่พงษ์ทิ้งมิว พงษ์หลบไปไหนไม่คิดจะบอกมิวเลย พวกมันก็ตามรังควาญมิวทั้งที่บ้านทั้งโรงเรียน พงษ์
แม่งเห็นแก่ตัว ฮึก ฮือออ” เมื่อได้ยินคำนี้เข้าไม่รู้จะบอกว่าใครเห็นแก่ตัวกันแน่ แต่แก้วเริ่มรำคาญ และไม่
มีอารมณ์มาปลอบหรือโต้ตอบอะไรกับมิวแล้ว จึงปล่อยให้เธอร้องไห้ไปจนเหนื่อย แล้วหลับไปเอง ตอนนี้
เขาห่วงแค่ว่าไอ้พงษ์ ไอ้เพื่อนตัวดีมันจะรู้เรื่องรึยังว่าเพื่อนกับแฟนถูกจับมาเป็นตัวประกันเพื่อล่อให้มัน
ออกมารับผลจากการกระทำของมันอยู่ แก้วได้แต่ภาวนาขออย่าให้พงษ์มันติดต่อมาตอนนี้เลย
ประตูถูกเปิดออกด้วยชายในชุดฉ็อปต่างสถาบัน ในมือถือข้าวกล่องพร้อมขวดน้ำเข้ามาวางไว้ที่พื้นห้อง
สองชุด ไม่วายมองหน้าเขาแถมแสยะยิ้มสมน้ำหน้าอีก ประตูห้องถูกปิดและตามด้วยเสียงลงกุญแจอีก
ครั้งหลังเสร็จธุระของมัน
ผนังไม้พื้นปูนฉาบโล่งๆ ไม่มีอะไรเลยภายในห้องนี้ ให้คิดว่าเป็นบ้านหลังเล็กๆที่ยังสร้างไม่เสร็จเพราะขาด
การตกแต่งก็คิดได้ ถึงไม่มีเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นแต่น่าจะสร้างไว้ให้คนอาศัยมากกว่าสร้างไว้เพื่อจับใครมาขัง
ไว้เป็นข้อต่อรอง
แก้วปลุกมิวให้มาล้างหน้าล้างตาแล้วกินข้าวซะ อย่าเพิ่งฟุ้งซ่านคิดอะไรเยอะเลย นั่นกลับทำให้หญิงสาว
มองแก้วด้วยสายตาแปลกๆ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจสายตาคู่นั้นมากมาย การที่แก้วไม่แสดงอาการเป็น
ห่วงเพื่อนอย่างออกนอกหน้าไม่ใช่ว่าเขาสบายใจซะที่ไหน เพียงแต่เขาต้องการอยู่ในความคิดของตัวเอง
เพื่อหาทางออกสำหรับเรื่องนี้มากกว่าเดิม เท่านั้นเอง
ตอนนี้เขาเอาเวลาไปเดินสำรวจรอบห้องดีกว่า เห็นมีรูเล็กๆจากช่องไม้จึงลองมองลอดช่องหนึ่งดู แต่กลับ
มีเพียงเงาดำของต้นไม้ใหญ่เท่านั้นที่ผ่านเข้ามาในสายตา คงเพราะตอนนี้มันมืดแล้ว เดาไม่ได้อยู่ดีว่าอยู่
ที่ไหน แก้วจึงเปลี่ยนใจเดินหน้าตาไร้อารมณ์มานั่งกินข้าวข้างมิวบ้าง จะให้อดข้าวประชดผู้ร้ายมันปัญญา
อ่อนเกินไป
ไม่ได้ต้องการให้มิวคิดเยอะก็ถูก แต่ไม่ใช่ไม่ให้คิดอะไรเลย
วันก่อนหญิงสาวยังภูมิใจยิ่งกว่าอะไรที่รู้ว่าแฟนตัวเองทำร้ายเด็กช่างต่างสถาบันได้
แต่วันนี้กลับต้องมาร้องไห้กับเรื่องที่เคยคุยโวและภูมิใจในตัวไอ้พงษ์นักหนา
หวังว่าหญิงสาวคงรู้คำตอบด้วยตัวเองบ้างนะว่ามันไม่ใช่เลย
ไอ้พงษ์ไม่ควรทำร้ายเขาหรือใครทั้งนั้น
และมิวไม่ควรยินดีกับสิ่งที่ไอ้พงษ์ทำ
เพราะใครทำอย่างไรก็ต้องได้รับผลตอบแทนอย่างนั้น
มิวเป็นแฟนไอ้พงษ์ ถ้าจับมิวมา ไอ้พงษ์ต้องเป็นเดือดเป็นร้อนแน่
เกี่ยวโยงมาถึงเขาที่เป็นเพื่อนสนิท ถ้าไอ้พงษ์รู้ว่าเพื่อนกับแฟนตกอยู่ในอันตราย เพราะตัวมันเอง ยังไง
มันต้องโผล่หัวออกมาแน่
พวกนี้มันไม่ปล่อยให้เรื่องจบง่ายๆด้วย ...
ในเมื่อการล้างแค้น...มันคือหนึ่งในวัฏจักรเด็กช่างอย่างพวกเขาที่ใครก็อย่าหวังว่าจะเปลี่ยนมันได้
.
.
.
บรรยากาศตรงนี้มันเงียบจนได้ยินเสียงจิ้งหรีดร้องอยู่รอบข้าง
อืม คงจะห่างไกลความเจริญเยอะอยู่มั้ง เสียงกลุ่มคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกคุยกันเสียงดังบ้างเบาบ้าง
คาดว่าคงตั้งวงกินเหล้ากันตามปกติ และแก้วก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรอีกเช่นกัน
เขาไม่ได้ชิวกับการถูกอุ้มหรอกนะ แต่ใจเขามันไม่ได้จดจ่อตรงนี้ต่างหาก
แก้วหลับๆตื่นๆข้างๆมิว มารู้สึกตัวอีกทีเอากลางดึก กี่ทุ่มแล้วไม่รู้ แต่อากาศเย็นสบายจริงๆ
และคงจะเป็นเวลาที่พระสวดเสร็จเรียบร้อยแล้วสินะ ลืมตาขึ้นมาถึงได้เห็นว่ามีชายชุดดำยืนจ้องเขาอยู่
เขาไม่รู้ว่าถูกมองด้วยสายตาอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันก็ทำให้การพลิกตัวเปลี่ยนท่านอนของแก้วชะงัก
ค้าง
“มึงรู้ใช่ไหมกูต้องการอะไร” เสียงทุ้มต่ำเย็นยะเยือกแต่น้ำหนักเอียงไปทางดุเอ่ยเมื่อเห็นแก้วลืมตา
ชายชุดดำดึงคอเสื้อแก้วให้ลุกจากซอกมุมหนึ่งของห้องที่อาศัยซุกตัวนั่งหลับจนปะทะเข้ากับหน้าอกเขา
ใกล้จนได้กลิ่นน้ำเมา
“ผมไม่รู้”
“นอกจากเมียมันก็มีแต่มึงที่เป็นเพื่อนสนิท มึงจะให้กูเชื่อว่าเพื่อนซี้อย่างมึงไม่รู้ว่าเพื่อนตัวเองจะเป็นจะ
ตายที่ไหนอย่างงั้นเหรอวะ” แก้วเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตัวสูงกว่า นัยย์ตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความแข็ง
กร้าว ดุดัน แต่เศร้า...จนแก้วแทบจะควบคุมอาการเกร็งของตัวเองไม่ไหว ถ้าเป็นผู้หญิงคงได้ปลดปล่อย
ความรู้สึกตอนนี้ด้วยการร้องไห้เหมือนมิวไปแล้ว ง่ายชะมัด
“ก็..ก็ผมไม่รู้จริงๆนี่ วันที่มีเรื่องผมก็ไม่ได้อยู่กับมัน มารู้เรื่องก็ตอนที่...”
“ตอนที่เพื่อนกูตาย?” ชายชุดดำพูดแทรก
ไม่ใช่ ไม่ได้ตั้งใจจะพูดอย่างนั้นสักหน่อย แก้วเม้มปากก้มหน้าลงต่ำเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็น ไม่ต้องรับรู้ถึง
ความเจ็บปวด การสูญเสีย คนที่รักที่ผูกพันจากสายตาของคนตรงหน้า แต่ชายชุดดำต่างสถาบันกลับบีบ
ปลายคางแก้วแน่นจนเจ็บเพื่อให้ยังมองหน้ากันอยู่ แก้วใช้สองมือพยายามดึงมือเดียวที่ปลายคางออกแต่
กลับไม่เป็นผล ทั้งที่ความสูงน่าจะพอๆกัน พละกำลังน่าจะใกล้เคียงแค่แก้วดูผอมกว่าหน่อยเดียวถึงขนาด
สู้แรงผู้ชายด้วยกันไม่ได้เชียวเหรอ?
“ไม่บอกก็ไม่เป็นไร มึงเป็นเพื่อนก็คงจะห่วงเพื่อนตัวเองเป็นธรรมดา เฮ้ย!พวกมึง” มันตะโกนเรียกพวกที่
อยู่ข้างนอกให้หันมาสนใจ แต่คนพวกนั้นก็แค่โผล่หน้าเข้ามามองเหตุการณ์อย่างสะใจเท่านั้น
“ใครเอาศพมันมาได้ กูจ่ายไม่อั้น” ชายชุดดำบอกกล่าวพวกของตนแต่กลับแสยะยิ้มส่งให้แก้ว
“ทำแบบนั้น...” ... ไม่ได้นะ! แก้วอ้าปากโต้ตอบแต่ไม่ทันได้จบประโยคตัวก็ลอยหวือหลังกระแทกเข้ากับ
ผนังไม้พร้อมๆกับเสียงกรี๊ดของมิว และนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวร้องไห้เสียงดังขึ้นมาอีก แต่คนต้นเหตุไม่ได้
สนใจมิวเลยด้วยซ้ำ เขาล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกพับอย่างไม่เป็นระเบียบนักเขวี้ยงใส่
ตัวแก้วก่อนจะเดินออกจากห้องไป
แก้วซึ่งยกแขนบังหน้าไว้ด้วยสันชาตญานค่อยๆลดมือลง หยิบกระดาษแผ่นนั้นคลี่ออกช้าๆ
วันที่xx เดือน xx ปีxx เวลา 19.00 นาฬิกาโดยประมาณ
นายธรรมรัตน์ คงไพศาล ถูกทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิตด้วยอาวุธมีด บริเวณหน้าบ้านที่พักอาศัย เลขที่
xx ตำบลxx อำเภอxx จังหวัดxx ผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งว่า ผู้ตายได้มีปากเสียงและเกิดการทะเลาะ
วิวาทกับนายพงษ์ศิริ วัชระตระการกุล นักเรียนโรงเรียนเทคโนT ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา
...............ฝากนิยายด้วยนะคะ :pig4:...............
แอร๊ยยย จัดหน้ากระดาษไม่เป็น มันพรืดๆไงไม่รู้ เพลียเหลือเกิน... :เฮ้อ:
https://goo.gl/oG6PWY เพจข้าเจ้า
-
รออ่านอยู่นะ
-
เริ่มเรื่องมา น่าสนใจดีคะ
บวก บวกให้เลย :L2:
-
:laugh: เด็กช่าง
กำลังอยากอ่านแนวนี้พอดี
แต่ว่า อย่ามาม่ามากน๊าาาา :เฮ้อ:
-
เด็กช่าง น่าสนใจครับ น่าสนใจ :z1:
-
สงสัยพระเอกจะอยู่ต่างสถาบัน รออ่านอยู่นะ เป็นกำลังใจให้ครับ o13
-
นึกว่าจะหวานแหวว ที่ไหนได้ดราม่านี่นา
-
น่าสนใจมากเลยค่ะ ภาษาก็ดีมากเลย ชอบๆๆๆ
รออัพค่ะ ^^
-
ผมชอบเด็กช่าง.....ช่างน่ารัก 555
รอนะครับ จุ๊บๆ~^๐^
-
แหม..ชอบชื่อเรื่อง
ฟังดูอบอุ่นดี :o8:
-
ชื่อเรื่องเหมือนจะโรแมนติค :o8:
พงษ์อยู่ไหน?
คนชุดดำเป็นพระเอกใช่ป่าว?
ลุ้นตอนต่อไปจ้า @'ㅅ'@
-
น่าติดตามครับ สงสัยจะดราม่า น่าดู
-
น่าสนุกๆมาก จะติดตามนะคะ
-
:mc4: :pig2:
-
อ่านแล้วจะงงมากต้องตั้งใจอ่าน
มาต่อไวไวนะ น่าติดตามๆ ^^
-
+1 ให้จ้า
:mc4: ต้อนรับเรื่องใหม่จ้า :pig2:
น่าสนุกดีนะ :really2:
:call: :call:
-
เด็กช่าง..ชั่งใจ..ช่างน่าสนใจจริงๆๆ
+1
-
ปรกติเกลียดอีพวกเด็กเวรตีกันที่สุด :m16:
แต่นี่เป็นนิยาย ก็น่าติดตามดีเหมือนกัน
เป็นกำลังใจให้นะคุณ *~SeAsOnS~*
-
:mc4: :mc4:
เอาแล้วไงน่าติดตาม
เป็นที่สุด :z2:
-
:mc4:
-
กูละอยากตบหัวไอ้พวกตีกันจริงจริง :m31:
-
น่าสงสารแก้วอ่ะ เพราะพงษ์คนเดียวแท้ๆ
-
ถึงขั้นตายกันเลยเหรอเนี่ยโหดจังอ่ะ
แค้นต้องชำระแบบนี้น่าเศร้านะเนี่ย
-
โอ้ว้าววว
ชอบแนวนี้ :man1:
อั๊ยยะ :laugh:
-
รออ่านตอนต่อไปค่ะ :mc4:
:pig4: :pig4:
-
o15 o15เรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ
น่าสนใจมากๆค่ะ ติดตามๆ ^^
-
เปิดเรื่องมาก็ระทึกเลยนะครับ
:mc4:
-
ชื่อเรื่องชวนอยากให่อ่านมากๆค่ะ อิอิ รอตอ่ไป
-
หนุ่มโฉดคนนี้ใช่พระเอกมั้ยน้าาา
-
ง่ะ โหยยย มาม่ามาหล่ะ แต่ก็จะอ่านนะ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒
แสงแดดสาดส่องตามช่องไม้ในเช้าตรู่วันถัดมา บรรยากาศเย็นสบายโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศสักชิ้น
ชวนให้น่าหลับมากกว่าตื่นขึ้นมาแล้วไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ไหน แล้วจะโดนคาดคั้นอะไรขึ้นมาอีกไหม มันตอบ
ตัวเองไม่ได้ แก้วจึงเลือกกอดอกนั่งพิงผนังหลับตาลงอีกครั้ง
ผัวะ!
กำปั้นหนักถูกส่งเข้าหน้าเรียวเล็กอย่างไม่ทันตั้งตัว กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่วปาก ไม่อยากตื่นก็คงต้องตื่นแล้วล่ะ
เขาใช้นิ้วโป้งแตะเบาๆมุมปากพอให้มีเลือดติดนิ้วออกมาเพื่อย้ำว่าปากเขาแตกจริง บ้าชะมัดมันเข้ามากันตอนไหนวะเมื่อกี้ยังไม่เห็นเลย
แหงนหน้าจ้องมองชายชุดดำคนเมื่อคืนไม่วางตาอย่างท้าทายให้มันรู้ว่าเขาไม่ได้เกรงกลัวที่จะถูกทำร้ายเลยสักนิด
คนที่ยืนอยู่ทำท่าจะเข้ามาโดนตัวแก้วอีกครั้ง จากคนอวดดีท้าทายด้วยสายตาเมื่อครู่ต้องเผลอขยับตัวหนีอย่างหลุดฟอร์มซะอย่างนั้น
“ฝิ่นใจเย็น” ชายชุดดำอีกคนเหมือนจะห้ามทั้งที่ไม่ทันแล้ว
“ไอ้เหี้ย! มึงบอกมานะเว้ยเพื่อนมึงอยู่ไหน” น้ำเสียงยานแต่ยังคงตะคอกได้ดังและดุเช่นเมื่อคืน
นัยย์ตาแดงก่ำคู่เดิม จับจ้องมายังเขาเขม็ง
“ฝิ่นพอก่อน” ถ้าไม่ได้อีกคนดึงมันไว้ แก้วคงได้โดนอีกหมัดเป็นแน่
“เพื่อนมึงมันเหี้ย ไอ้ระยำ ไม่บอกใช่ไหมว่ามันอยู่ไหน งั้นมึงก็ตายแทนมันเลยแล้วกัน”
ควับ!
กระบอกปืนถูกจ่อ ณ เบื้องหน้า แก้วสะดุ้งถึงกับตะลึง การท้าทายได้ผลเกินคาดเหรอนี่ แต่ทันทีที่
ปืนกระบอกนั้นถูกยกขึ้นอย่างส่ายไปส่ายมาถ้ายิงจริงคงไม่มีทางโดนเป้าหมายแน่ ขนาดตั้งใจชักมาขู่ยัง
โดนอีกคนแย่งชิงไปได้อย่างง่ายดาย จนแก้วอดคิดไม่ได้ว่าไอ้นี่มันห่ามก็จริงแต่ก็อ่อนแอสิ้นดี
“ไอ้ฝิ่น มึงจะทำอะไร หยุดนะเว้ย” มีปืนจ่อหน้าว่าน่าตกใจแล้วแต่ยังไม่เท่าเห็นบุคคลที่เพิ่งตามมาทีหลัง
เขาคนนั้นวิ่งเข้ามาผลักไอ้ฝิ่นนั่นให้ออกห่างจากแก้วที่ยังนั่งมองเหตุการณ์อย่างมึนงง
“มึงไม่ต้องยุ่ง แค่ตามหาคนๆเดียว พวกมึงแม่งหาไม่ได้ พรุ่งนี้ก็จะเผาแล้ว กูไม่ให้เพื่อนกูตายฟรีแน่”
“เฮ้ยฝิ่น...มึงสงบสติอารมณ์ก่อนดิวะ” ชายชุดดำอีกคนคนที่ช่วยไม่ให้แก้วต้องกลายเป็นเหยื่อลูกปืน
พยายามเรียกสติมัน เรียกจากความเมาหรือจากอาการบ้าคลั่งก็ไม่รู้
“เวลาแค่สองวันเองนะ ไหนตอนแรกมึงจะเอาหลังเผาไง แล้วนี่กูก็พยายามเต็มที่แล้ว พี่ไม้เข้าใจผมใช่ไหม?” พี่ดิว ประธานปีสามของแก้วโวยกลับไปทางสองคนนั้น
“แต่กูไม่รอแล้ว กูจะเอาก่อนวันเผา มันต้องมากราบเพื่อนกู แล้วมันก็ต้องไปอยู่กับเพื่อนกู!”
“แต่กูว่า...”
“มึงเงียบไปเหี้ยดิว น้องมึงนี่หว่า มึงจะช่วยพวกกูซักเท่าไหร่เชียว บางทีที่เพื่อนกูตายมึงอาจรู้เห็นด้วยก็ได้”
“เฮ้ยฝิ่น เย็นหน่อยดิวะ” พี่ไม้ตบไหล่ไอ้ฝิ่นเพื่อเตือนให้เลิกโวยวายคู่อริได้แล้ว ขนาดอยู่คนละโรงเรียน
ตีกันออกจะบ่อยแต่เมื่อมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ยังช่วยให้ความร่วมมืออย่างดี แก้วคิดว่าผู้ชายคนนั้นคงกลัวไอ้ฝิ่น
จะพูดมากกว่านี้แล้วจะขาดแนวร่วมเพราะอาการของมันนอกจากเมาแทบไม่ได้สติแล้วก็เหมือนกับคนบ้า
กลายๆที่เอาแต่อาละวาดฟาดงวงฟาดงาใส่ทุกคน
“ดิวกูขอโทษแทนมันด้วย มันเสียใจมาก มึงก็เห็น”
“อืม ช่างแม่งเหอะ แต่อย่าทำอะไรไอ้แก้วละกัน มันไม่รู้เรื่องอะไรหรอก”
พี่ดิวยังมีหน้ามาปกป้องเขาอีกเหรอ แก้วหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง พลันหันหน้าหนีจากวงสนทนาที่เอาแต่
ตะโกนคุยกันเมื่อดิวเอ่ยชื่อเขาเข้าไปในประเด็น
“เมียมันบอกกูหมดแล้วว่ามึงรู้ที่อยู่ไอ้นั่น” เมื่อคนชื่อไม้ไม่ยอมให้ต่อว่าพี่ดิว ไอ้ฝิ่นมันจึงหันมาเล่นงานแก้วต่อ
บอกหมดแล้วเหรอ บอกอะไร มิวรู้อะไรรึไง แก้วหันไปมองหามิวเพื่อจะถามเจ้าตัวว่าพูดอะไรออกไปรึเปล่า
ห้องโล่งๆ แต่เขายังมองแล้วมองอีก ทุกซอกทุกมุม แต่ไม่เจอ นี่เขาไม่เห็นแฟนเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วล่ะ
ถึงว่าเสียงดังขนาดนี้ถึงไม่ยอมตื่น แต่จะไปไหนเมื่อไหร่ก็ช่างเถอะ ที่เห็นว่ามองเขาแปลกๆเมื่อคืนคง
เพราะหาทางจับผิดเขาสินะ
ทั้งที่ไม่รู้อะไรเลยแต่เพื่อเอาตัวรอดกลับโบ้ยมาที่แก้วแทน ไม่ห่วงเขา เขาไม่ว่าแต่เท่ากับว่าส่งผัวตัวเองไปตายชัดๆ ผู้หญิงนี่เชื่อใจไม่ได้เลยจริงๆ
“หึ ถ้าผู้หญิงมันรู้จริงทำไมมันไม่บอกไปเลยล่ะว่าไอ้พงษ์อยู่ไหน” กำปั้นหนักเหวี่ยงเข้าแก้มข้างเดิม
อีกครั้ง ซี๊ดดด ไม่น่าปากดีเลย พี่ดิวทำท่าจะเข้ามาขวางแต่ถูกแก้วจ้องอย่างไม่พอใจ รุ่นพี่จึงได้แต่ยืน
มองใบหน้าที่มีแผลมุมปากอย่างกระวนกระวาย
“กูให้โอกาสถึงพรุ่งนี้ ถ้ายังไม่รู้ว่าเพื่อนมึงอยู่ไหน กูนี่แหละจะฆ่ามึงแทน” แล้วไอ้ฝิ่นมันก็เดินออกไป
นี่ถึงเวลาที่เขาต้องตายแทนเพื่อนแล้วจริงๆเหรอ...มึงนะมึงไอ้พงษ์
แต่คนชื่อไม้ยังมองหน้าแก้วอยู่ไม่ได้ตามฝิ่นออกไปในทันที มองด้วยแววตาสงบนิ่งแต่รู้สึกกดดันชะมัด
แก้วถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“ขอบคุณที่ช่วยผมนะพี่” มือลูบแก้ม ปากเอ่ยขอบคุณ ทั้งที่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องการฟังคำอื่นมากกว่า
“กูไม่ได้ใจดี แต่กูไม่อยากทำร้ายคนอื่นแค่นั้น ส่วนเพื่อนมึงถ้ามันเจอตำรวจก่อนก็ถือว่าโชคดี”
พูดจบไม้ก็ออกจากห้องไป แก้วมองตามหลังได้แต่ภาวนาในใจขออย่าให้ตำรวจแล้วก็คนพวกนี้เจอเพื่อนเขาเลย
“แก้ว พี่ขอโทษว่ะ พี่ก็โดนบีบมาเหมือนกัน ...แต่หวังว่าไอ้พงษ์มันจะรอดนะ” พี่ดิวนั่งลงตรงหน้าแตะไหล่
แก้วเบาๆ มองเขาสายตาเว้าวอนดั่งคนต้องการความเห็นใจ เหอะ ถึงแก้วกับพงษ์จะเรียนปีสามเหมือนกัน
แต่ก็ให้ความเคารพนับถือพี่ดิวในฐานะพี่ใหญ่คนหนึ่งในสายตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าเรียนแล้ว
แต่วันนี้คนที่เป็นประธานรุ่น คนที่เขาเคยเคารพและเชื่อใจ คนที่ต้องคอยดูแลคนในรุ่นไม่ใช่ไปเข้าข้างศัตรู
อย่างนี้ กลับต้องการส่งตัวเพื่อนเขาให้ไปตาย คนอย่างนี้ไม่สมควรได้รับความน่าเชื่อถืออะไรอีกแล้ว
“ผมผิดหวังในตัวพี่ที่สุด” แก้วปัดมือดิวออกจากไหล่ กอดเข่าหันหน้าไปทางอื่น ไม่สนใจรุ่นพี่อีกต่อไปจน
ดิวทนไม่ไหวต้องถอนหายใจแล้วเดินออกจากห้องไปเอง
แก้วนั่งประมวลความคิดอยู่สักพักจึงลุกเข้าห้องน้ำที่อยู่ในสุดของห้อง ถอดเสื้อนักเรียนที่ติดตัวมาตั้งแต่เมื่อวานพาดไหล่
เหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวไว้ติดตัว น้ำก็ไม่ได้อาบ เหอะ อุบาทตัวเองอยู่เหมือนกัน ดีนะที่มันเลือกจับเขามาวันสอบวันสุดท้ายพอดี
ทำธุระส่วนตัว ล้างหน้าโดยใช้เสื้อนักเรียนนั่นแหละเช็ดหน้าเช็ดแผลมุมปากไปก่อน ออกจากห้องน้ำจึง
ลองมองลอดช่องเล็กๆของไม้ผุอีกครั้งเผื่อเห็นอะไรเป็นจุดเด่นบ้าง
“เฮ้อ ทุ่งนา” เห็นแต่ยอดข้าว แก้วส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่ายหันไปเจอข้าวกล่องกับขวดน้ำวางไว้ให้เหมือน
เมื่อคืนแต่ต่างกันตรงที่วันนี้มีแค่ชุดเดียว คิดแล้วก็ได้แต่สมเพชปนสมน้ำหน้าเพื่อนตัวเอง
ไอ้พงษ์มึงรู้ไหมว่าแฟนมึงเอาตัวรอดโคตรเก่งเลยว่ะ เขาเองก็หวังว่างานนี้พงษ์มันจะเอาตัวรอดได้เหมือนแฟนมันเหมือนกัน
อย่าให้สิ่งที่เขาเผชิญอยู่ตอนนี้ ต้องสูญเปล่าเลย
.
.
.
วันนี้คงสวดศพคืนสุดท้ายแล้วสิ แก้วหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาดูอีกครั้ง
มันคือใบแจ้งความ...
วันที่xx เดือน xx ปีxx เวลา 19.00 นาฬิกาโดยประมาณ
นายธรรมรัตน์ คงไพศาล ถูกทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิตด้วยอาวุธมีด บริเวณหน้าบ้านที่พักอาศัย
เลขที่ xx ตำบลxx อำเภอxx จังหวัดxx ผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งว่า ผู้ตายได้มีปากเสียงและเกิดการ
ทะเลาะวิวาทกับนายพงษ์ศิริ วัชระตระการกุล นักเรียนโรงเรียนเทคโนT ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา
เด็กช่างมันก็แค่นี้ เลือกจะเรียนโรงเรียนอาชีวะก็เท่ากับเลือกที่จะเดินเข้ามาในถนนของนักเลงฝึกหัด
ชีวิตลูกผู้ชายพวกพ้อง น้องพี่ อำนาจ ศักดิ์ศรี ต้องมาก่อน
ตีรันฟันแทง ก็เหมือนกิจวัตรประจำวัน
บ้างก็ถูกตำรวจจับ บ้างก็เจ็บ บ้างก็ตาย มีให้เห็นแทบทุกครั้ง
แต่คนที่รอดอยู่กลับไม่เคยมีใครยอมรับมันได้เลย ทั้งที่ทุกคนในสถาบันล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยกันทั้งนั้น
อย่างเรื่องที่เพิ่งเกิดก็เหมือนกัน มันเป็นอุบัติเหตุนี่ ทะเลาะกันไม่ใครก็ใครต้องเจ็บ หรือถึงคราวซวยก็ต้องตาย
คนที่จับตัวเขามาก็รู้ แต่แค่ไม่ยอมรับความจริง เพราะความรักหรือแค่คำว่าศักดิ์ศรีที่พร่ำเพ้อกันแบบโง่ๆ
อยู่ทุกวันกันล่ะถึงทำให้พวกนี้คิดเอาคืน
ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิตตามวิถีเด็กช่างอย่างนั้นหรือ
แต่ต้องไม่ใช่ชีวิตไอ้พงษ์ เพื่อนไอ้แก้วคนนี้แน่นอน...
เพราะต่อให้ฆ่าไอ้พงษ์ให้ตายตามกันไป เพื่อนของพวกมันก็กลับมามีชีวิตอีกครั้งไม่ได้อยู่ดี
เลือกที่จะเรียนอาชีวะ เลือกที่จะเป็นนักเลงข้างถนน ก็เท่ากับเอาชีวิตไปแขวนอยู่บนเส้นด้าย
เราไม่ทำเขา เขาก็ทำเรา เลือกจะเดินบนเส้นทางที่ใช้การตีรันฟันแทงเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ
ก็ต้องยอมรับให้ได้ไม่เจ็บก็ตาย เป็นเรื่องปกติเช่นกัน
........................
เยิ่นเย้อหน่อยนะคะ อยากให้เห็นถึงความคิดของแก้วเยอะๆ หรือบางทีคนอ่านอาจจะเห็นความคิด
ของพระเอกด้วยเช่นกัน นั่นแหละค่ะคือปมของเรื่อง ฮี่ๆๆ (เล่นบอกเลย กลัวไม่มีคนอ่านเพราะมันเขียนไม่รู้เรื่อง เอิ๊กกก)
ตอนหน้าจะพาขึ้นรถไฟฟ้าแล้วค่ะ ไอ้พงษ์จะมาแล้วววว (หวังว่าจะพามันมาได้)
บอกก่อนนะคะ คนเขียนไม่มีสต๊อคเน้อมีแต่พล็อตในหัว เขียนได้สวย(ในความคิดตัวเอง)เมื่อไหร่ ก็จะมาอัพทันทีค่ะ^^
ชื่อเรื่องก็เอาที่ชอบไว้ก่อนค่ะจริงๆไม่ได้ตั้งใจว่ามันจะฟังดูหวานแหววอะไรนะ แค่ชอบเด็กช่างอยากเห็น
เด็กช่างกอดกันอะไรอย่างนี้ ...(เพลียเหลือเกิน!)
ส่วนดราม่ารึเปล่านั้น ...ไม่บอก ฮ่าๆ
มีคนอ่านแล้ว งง ด้วยอะ ข้าน้อยขออภัยT^T งงตรงไหนเอ่ยภาษามันวกวนใช่ไหมคะ อันนี้คนเขียนก็งง
เหลือเกิน(เหมือนกัน) จึงต้องมาอัพเพิ่มเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง (เหรอ?)
ก็แบบว่าเค้ายังอ่อนด้อยมากมายอะ ปกติแค่พูดยังไม่ค่อยมีใครจะเข้าใจเลย นี่เล่นมาเขียนอีกยิ่งแล้วใหญ่ Y^Y
อยากให้ช่วยติเยอะๆด้วยนะคะ เพราะคนเขียนเองคงวิจารณ์งานของตัวเองไม่ได้แน่ๆ มันเขียนอะไรมันก็รู้
เรื่องอยู่คนเดียว ... คนเขียนรู้ว่ามันต้องมีตำหนิอยู่ในนิยายเรื่องนี้มากมายแน่นอน ยังไงถ้าเนื้อเรื่องมัน
ดำเนินไปได้ซักพัก รบกวนจัดหนักมาได้เลยนะคะ
ยินดีรับฟังคำวิจารณ์จากทุกท่าน...ด้วยใจอันน่อยๆดวงนี้
หมายเหตุ: เพื่อให้เข้าใจในระบบโรงเรียนอาชีวะยิ่งขึ้นสำหรับคนที่ไม่คุ้นชิน อ้างอิงจากสถานศึกษาที่ซีซั่น
เคยร่ำเรียนมาในอดีตกาล(ป๊าดดด) เขาจะมีระบบดังนี้ค่ะ
ประธานนักเรียน คือ ใหญ่สุดในโรงเรียน สามารถพูดคุย สั่งการ รวมไปถึงควบคุมดูแลนักเรียนแผนกช่างได้ พาณิชย์ได้ ทุกสายทั้งโรงเรียน
ประธานสาย คือ โรงเรียนหนึ่งๆมักจะมีรถประจำทางผ่านหลายสาย นั่นแหละค่ะไอ้ตัวเลขสาย
เดินรถนั่นแหละ เขาเอามาจัดตั้งเป็นหน่วยงานในการปกครอง(?)ของเด็กอาชีวะกัน โรงเรียนคนเขียน
ประธานสายจะแฝงตัวอยู่ในระดับ ปวช.ปีสาม และ ปวส.ปีหนึ่ง เท่านั้น
ขอบอกว่าประธานสายรุ่นที่คนเขียนเรียนน่ะ หล่อมากกก
หน้าที่ของประธานสายที่เห็นๆคือ สั่งลุยให้ลุย สั่งหยุดให้หยุด ถ้ามึงไม่หยุดกูจะหยุดมึงเองและจะถูกขับ
ออกจากสายในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นเรื่องที่แย่นะสำหรับเด็กช่างที่ไม่มีสายอาศัย อันตรายทั้งจากศึกนอก
และศึกในเชียวล่ะ (มันไปเรียนหรือไปรบกันฟร่ะ!)
รองประธานสาย มีหลายคนค่ะ อธิบายง่ายๆก็เหมือนลูกน้องคนสนิทของประธานสายน่ะค่ะ
แต่ประธานสายก็ยังมีแยกย่อยออกไปตามสถานที่จุดหลักๆต่างๆที่รถประจำทางสายนั้นๆวิ่งผ่านอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น สายคลองหนึ่ง สายคลองสอง งี้ อันนี้ยกตัวอย่างเฉยๆนะ =*= จุดนี้ เพลียอีกละ...มันจะย่อยอีกทำไม
แต่อำนาจสั่งการสูงสุดในสายยังคงเป็นของประธานสายอยู่ดีค่ะ (ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงของโรงเรียนจริงๆประธานนักเรียนท่านจะไม่เข้ามายุ่ง)
ยัง...ยังไม่หมด ยังมี...
ประธานปีหนึ่ง คือ คนที่ใหญ่ที่สุดในชั้น ปวช.หนึ่ง
ประธานปีสอง คือ คนที่ใหญ่ที่สุดในชั้น ปวช.สอง
ประธานปีสาม คือ คนที่ใหญ่ที่สุดในชั้น ปวช.สาม
หน้าที่รวมๆทุกตำแหน่งจะไปในทางเดียวกันค่ะ และคนที่คุมคนในสายได้จะต้องพาเพื่อนร่วมสายไป
โรงเรียนอย่างปลอดภัย และ กลับบ้านอย่างปลอดภัย รวมไปถึงการเล่นงานโรงเรียนคู่อริด้วย
เด็กช่างจะให้ความสำคัญในการลำดับญาติอย่างมากค่ะ เข้าก่อนเป็นพี่ เข้าทีหลังเป็นน้อง
อย่างเคสของพี่ดิวที่เรียนมาก่อนแต่มีเรื่องให้ต้องเรียนปีหนึ่งถึงสองรอบ แก้วถึงเรียกมันว่าพี่ค่ะ
จบการรายงาน (สักทีเถอะ) อิอิ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเข้ามาคอมเม้นให้นะคะ ขอบคุณหลายๆเด้อ เป็นกำลังใจให้กล้าที่จะเขียนมากเลย
ส่วนตอนนี้คนเขียนขอปั่นจักรยานไปดูมวลน้ำก่อน ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ถ้ายังไม่ได้หอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่
ที่อื่นคงได้เจอกันอีกเร็วๆนี้ ระวังน้ำด้วยนะคะทุกคน :pig4:
.....ทอล์คยาวมากแม่นาง เอวังY^Y....
-
อยากรู้เหตุผลไอ่พี่ดิวมากกว่า ว่าทำไมถึงต้องยอมเข้าข้างฝั่งนั้น ทั้งๆที่ตัวก็เป็นประธานรุ่นนะนั่น
-
เรื่งเล่าในอดีต..ทำให้เรารู้ว่า
..มันผ่านมานานนนนนแล้ว..
-
ตามมมมมมมมมม
-
คนที่คุมคนในสายได้จะต้องพาเพื่อนร่วมสายไป
โรงเรียนอย่างปลอดภัย และ กลับบ้านอย่างปลอดภัย รวมไปถึงการเล่นงานโรงเรียนคู่อริด้วย
อ่านตรงนี้แล้วละเหี่ยใจ... หยั่งกะทหารชายแดนใต้คอยคุ้มครองนักเรียนไปส่งโรงเรียน (แต่อันนี้ไร้สาระกว่ามาก)
-
สมัยเรียน เทคนิค มัน เป็นอย่างนั้น จริงๆนะ :เฮ้อ:
-
รู้สึกว่าชีวิตเด็กช่างไม่ปลอดภัยเลยจริงๆ แก้แค้นกันไปมาไม่จบไม่สิ้น แต่เดี๋ยวนี้คงดีขึ้นแล้วมั้ง ไม่ค่อยเป็นข่าวแล้ว(รึเปล่า)
ส่วนพระเอกก็น่าจะเป็นฝิ่นใช่มั้ย เชียร์อยู่ แต่อย่าดราม่ามากนะคะ ตบจูบๆในเรื่องได้ แต่ขอจบแบบแฮปปี้แอนดิ้งเถอะน้า
-
ใครคือพระเอกหว่า?พี่ดิว?
แบ่งกันเป็นระบบเชียวนะ
:z2:
-
แก้แค้นกันไปมาไม่จบสิ้น
เลวร้ายยิ่งกว่าคือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง
-
มาเถอะพงษ์ อย่าให้แก้วบอบช้ำไปมากกว่านี้เลย :angry2:
แค่ชอบเด็กช่างอยากเห็น
เด็กช่างกอดกันอะไรอย่างนี้ ...
นึกว่าจะเป็นคนเดียว แอบกริ๊ดเหมือนกันเล้ยย อ๊ายยย :laugh: :laugh:
-
แถวบ้านเก่าก็รายล้อมไปด้วยโรงเรียนอาชีวะ ยอมรับเลยว่าแอบกลัว o22
เพิ่งเข้าใจระบบเด็กช่างเ้ค้าก็วันนี้แหละ :laugh:
ตอนหน้าพงษ์มา แล้วปัญหาจะจบอ๊ะป่าวน้อ :z3:
-
ชอบเรื่องของเด็กช่าง เพราะเรียนจบช่างมาเหมือนกัน เพิ่งรู้นะว่าเด็กช่างใน กทม. แบ่งสายกันแบบนี้เลยอะ ไม่อยากให้มีใครตายเพิ่มขึ้นอีกเลย อยากรู้จังว่าเรื่องนี้ใครเป็นพระเอก
:L2:มอบดอกไม้ให้คนเขียนด้วย รออ่านตอนนต่อไปนะครับ :L2:
-
:เฮ้อ: ชอบอ่านเรื่องของเด็กช่างนะ
แต่เบื่อการโมโห และศักศรีค้ำคอจิงๆ
-
:L2:
-
:กอด1:
-
ไม่งงค่าไม่งง ^^ ชอบมากมายอ่ะเรื่องนี้ ชอบแก้วด้วย อ่านบรรยายความคิดของตัวละครก็ดีค่ะ จะได้เข้าใจความคิดของพวกเขา (แต่ต้องระวังเวิ่นเว้อนะคะ ^^")
อืม เพิ่งรู้ว่ามีระบบแบบนี้ด้วย เราเรียนสายสามัญไม่รู้เรื่องนี้เท่าไหร่
ว่าแต่เรื่องนี้ใครพระเอกหส่า? พงษ์? ดิว? หรือฝิ่น? (แต่เชียร์ฝิ่นนะ 555)
สุดท้าย ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่แต่งมาให้อ่านค่ะ
-
แอบคิดว่าบุคลิกอย่างไม้น่าจะเป็นพระเอกนะ ถ้าใช่ ก็เป็นรักต่างสถาบันอะสิ
-
สงสารแก้วต้องเจ็บตัวเพราะเพื่อน
พวกเด็กช่างน่ากลัวจริง ๆ
-
เนื้อเรื่องดูไปแนวๆน่ารัก(?)อ่ะ แต่เริ่มมาก็ดราน่าเลยนะ
-
o13
-
เขียนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวคงเข้าที่ครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ
-
น่ากลัวอ่ะ
-
แย่แล้ว ไม่น่าหลงเข้ามา ติดหนับซะแล้ว
ลุ้นเอาใจช่วยแก้ว
พงษ์ นายมาเร็วๆ เพื่อนจะโดนกอดล่ะ
แต่อีกนานชิมิ ท่าทางลอยคอมาม่ากันนาน
แต่ก็จะตามอ่าน ขยันเข้านะ (บีบคอเล็กน้อย)
...จะรอ
อ้อ กดบวดและปล่อยเป็ดลงเล่น ให้แก้วที่เด็ดเดี่ยว
-
มารอตอนต่อไป ~
-
ติดตามจ้า
-
กรี๊ดดดดด เด็กช่างงงงง
-
อยากเห็นเด็กช่างกอดกันเร็วๆ :o8: ส่วนพระเอกยังไม่รู้จะเชียร์ใครดี รออ่านต่อไปเรื่อยๆ อิอิ มาต่อเร็วๆ เน้อ :3123:
-
ไม้เป็นพระเอกใช่ป่าว
อ่านทอล์คแล้วได้ความรู้ใหม่ มีประธานหลายแบบเนอะ
-
ฝิ่นหรือไม้เป็นพระเอกกันนะ :m28:
ส่วนดิวมีเหตุผลอะไรถึงไปช่วยพวกฝิ่นนะ
แต่ตอนนี้ที่รู้สงสารแก้ว :m15:
เกลียดยัยมิว :z4:
-
สนุกมากจริงๆ เลย o13
อ่านแล้วติด
แอบสงสารแก้ว โดนลากมาพัวพัน
ว่าแต่คนที่ชื่อฝิ่นพระเอกรึเปล่า?
-
มารอตอนต่อไปครับ เกริ่นเรื่องมาได้ดีครับ ^^
-
เข้ามาีกด F5 รอตอนที่ 3 ครับ o13
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓
กลางดึกคืนถัดมาภายในห้องที่ถูกกักขัง
“ไหนมึงทำเป็นไม่รู้เรื่องไง” แก้วซึ่งนั่งพิงผนังกอดเข่าหลับด้วยท่าประจำเลิ่กลั่กลุกยืนเมื่อฝิ่นเปิดห้องเข้า
มาด้วยท่าทางเกรี้ยวกราดตรงดิ่งเข้าบีบปลายคางคนที่ถูกขังอยู่ภายในจนตัวแก้วถอยไปชิดติดผนัง
“อะ อะไร?”
“หึ กูชักอยากฆ่ามึงให้ตายด้วยอีกคน หน้าตาซื่อๆทำเอากูเกือบเชื่อ ที่ไหนได้ตอแหลเก่งไม่แพ้ผู้หญิง”
มือหนาเพิ่มแรงบีบปลายคางเขามากยิ่งขึ้น ทั้งคำพูดทั้งแววตาคงอยากจะบีบให้ร่างเขาแหลกสลายตาย
คามือจริงๆสินะ
“ตำรวจโทรบอกว่าเพื่อนมึงมอบตัวแล้วที่สระบุรีตอนสี่ทุ่ม” พี่ไม้ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงประตูห้องพูดเสียงเรียบ
“แล้วมึงรู้ไหม ทำไมเพื่อนมึงไปอยู่ที่นั่นได้?” ดึงคนหน้าซื่อออกจากผนังตามด้วยผลักอย่างไม่ออมแรงจน
แก้วถลาล้มกลางห้องข้อศอกกระแทกพื้นจนถลอก ทำไม? เกิดอะไรขึ้น แก้วหน้าเครียด
“ทีนี้มึงก็ปล่อยไอ้แก้วได้แล้วนะ” พี่ดิวกับพวกรวมสามคนเดินผ่านพี่ไม้เข้ามาเผชิญหน้ากับฝิ่น
“ยัง”
“ไอ้ฝิ่น!”
“กูบอกมึงตั้งแต่แรกแล้วว่ากูต้องการตัวไอ้เหี้ยนั่น ไม่ใช่ต้องการให้มันเข้ามอบตัวเพื่อรับโทษทางกฎหมาย”
“แต่ตอนนี้มึงก็รู้แล้วว่ามันอยู่ไหนมึงก็ไปจัดการเองสิวะ ปล่อยคนของกูได้แล้ว”
“มึงคิดว่ากูโง่เหรอ? มึงคิดว่ากูโง่เหรอดิว?” ฝิ่นพรวดเข้าประชิดตัวประธานปีสามพร้อมดึงคอเสื้อคู่อริเข้า
หาตัว แววตาพร้อมเอาเรื่องทั้งคู่ ไม่ปล่อยให้โดนข่มขู่นาน คนของพี่ดิวก็ได้ผลักมันออกทันที
“กูเห็นด้วยนะฝิ่น เดี๋ยวเราไปดักมันตอนออกจากสถานีตำรวจก็ได้” พี่ไม้ทิ้งบุหรี่พร้อมเหยียบขยี้เพื่อดับไฟ
วางหน้าเรียบเช่นน้ำเสียงเดินเข้ามาร่วมวงสนทนาภายใน
“แล้วพี่จะแน่ใจได้ไงว่าเราจะได้ตัวมัน”
“แล้วมึงแน่ใจเหรอว่ามันจะไม่แจ้งความเรื่องเพื่อนมันน่ะ ...กูก็อยากรู้เรื่องไม่น้อยไปกว่ามึงเลยว่าทำไมมันต้องถึงขนาดทำให้ตายด้วย มึงกับเป้งก็น้องกูทั้งคู่ คนนึงตายไปแล้ว อีกคนยังต้องโดนจับข้อหาลักพาตัวอีกเหรอวะ กูอยากให้มึงคิดบ้างไม่ใช่เอาแต่ใช้อารมณ์อยู่อย่างนี้”
.
.
.
แก้วจึงได้มาอยู่ที่นี่ ข้างๆไอ้เพื่อนตัวดีที่ตำรวจจากสระบุรีนำตัวมาส่งยังสถานีตำรวจที่พวกนั้นแจ้งความไว้
“ขอโทษนะเว้ยมึงเลยต้องเดือดร้อนไปด้วย”
“อืม มึงโอเคนะ”
“ไม่เป็นไร เขารู้เรื่องแล้วเดี๋ยวคงมาประกันตัว”
แก้วพยักหน้าให้เพื่อนตัวดีที่นั่งอยู่ข้างๆ จากคำพูด สีหน้าท่าทางของมัน ไม่ได้มีความสำนึกเลยว่าไปก่อ
เรื่องอะไรมา
มันไม่ได้มีท่าทีเดือดร้อนอะไรเลยนอกจากโดนกระทืบจนน่วมไปทั้งตัวตอนจะเดินเข้าโรงพัก อีกทั้งใบหน้า
ขอบตาก็บวมช้ำจนแก้วต้องไปขอผ้ากับน้ำแข็งจากนายตำรวจมานั่งประคบหน้าให้มันอยู่ตอนนี้
ถ้าไม่ได้ตำรวจเข้าไปช่วยกันตีนไว้ให้ ป่านนี้คงไม่มีหน้ามานั่งระรื่นอยู่ข้างๆนี้หรอก
“ซู๊ดดด มึงเสียใจล่ะสิที่ช่วยกูไม่ได้” พงษ์ซี๊ดปากเพราะเจ็บแผลแต่ยังระบายยิ้มถามเพื่อน
“เฮ้อ” แก้วถอนหายใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว ในเมื่อเพื่อนเขาตัดสินใจแล้วหนิ “มึงนี่ใจร้อนไป
ไหนวะ ยังไงบ้านสวนกูก็ไม่มีใครตามมึงได้อยู่แล้ว” สวนผลไม้ร้อยกว่าไร่ตั้งอยู่หลังรีสอร์ทขนาดใหญ่
นอกจากเจ้าของไร่แล้วไม่มีใครเดินไปถึงบ้านหลังเล็กริมลำธารได้สักราย เขาหาที่ๆดีที่สุด ที่ๆคิดว่า
ปลอดภัยที่สุดให้เพื่อนหลบซ่อนตัวแล้วเชียว แต่ไอ้พงษ์ดันกลับตัวกลับใจเหมือนเป็นคนดีเข้ามอบตัวกับ
ตำรวจภายในเวลาไม่กี่วันหลังเกิดเหตุ ทั้งที่มันไม่ได้สำนึกผิดเลยด้วยซ้ำ
“ถึงกูจะเลวจะชั่วยังไง มึงก็ไม่เคยทิ้งกูเลย แล้วจะให้กูทิ้งมึงเอาตัวรอดคนเดียว ปล่อยให้เพื่อนต้องเดือดร้อนแทน กูคงรับตัวเองไม่ไหวว่ะ กูไม่สนใจหรอกนะว่าใครจะเป็นจะตาย มึงก็เลิกทำหน้ารู้สึกผิดแทนกูได้แล้ว เรื่องวันนั้นถ้าไอ้นั่นไม่ตาย คนที่ตายก็คงต้องเป็นกูเอง ยังไงก็ขอบใจนะเว้ยที่มึงหลับหูหลับตาเข้าข้างกูแม่งทุกที”
กลายเป็นแก้วที่ยิ้มเฝื่อนตอบกลับมัน เฮ้อ มันก็คิดซะอย่างนี้
แต่ก็ถูกของมัน ไม่ว่ามันจะไปทำอะไรผิดร้ายแรงมามากขนาดไหน ยังไงๆไอ้พงษ์ก็ยังเป็นเพื่อนเขาอยู่ดี
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูบ้านดังรัวบ่งบอกถึงความร้อนรนของคนมาเยือน
“แก้ว กูขอโทษ”
“ขอโทษ?” ไม่ปล่อยให้เพื่อนยืนงงอยู่นาน คนที่คิ้วขมวดกันแน่นแสดงถึงความหนักอึ้งอยู่ข้างในแถม
เสื้อผ้ายังย่นยับอาบไปด้วยเหงื่อก็ดึงแขนแก้วเข้าบ้าน ปิดประตูแล้วสวมกอดแก้วแน่น
อาการอย่างนี้เหมือนคนไปทำอะไรผิดมาแล้วต้องการการให้อภัย
แก้วตบหลังเพื่อนเบาๆเขาต้องการคำอธิบายที่มากกว่าคำขอโทษและการสวมกอด ยังไม่ทันดึง
เพื่อนออกจากตัว เสียงทุ้มได้กระซิบบางคำที่คนฟังได้ชาไปทั้งตัว แขนขาแทบไร้เรี่ยวแรง
“กูฆ่าคนตาย”
“.........................”
“มึงได้ยินแล้วใช่ไหม กูขอโทษ กูจำเป็น”
“หะ ห๊ะ?”
“มึงได้ยินกูรู้ แต่กูบอกอีกทีก็ได้ กู-ฆ่า-คน-ตาย” พงษ์จับไหล่เพื่อนให้มองหน้าตัวเอง พูดเน้นๆชัดๆให้คน
ฟังไม่มีทางปฏิเสธไปไหนได้อีก แก้วตัวแข็งทื่อ...
แต่ไหนแต่ไรมาเพื่อนมักทำตัวเป็นอันธพาลชอบก่อเรื่องอยู่เรื่อยแต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันจะถึงขั้นกล้าทำร้าย
ชีวิตคนอื่นได้
แก้วน้ำตาซึม...ผิดหวังในตัวเพื่อน ผิดหวังที่เป็นคนแบบนี้ ผิดหวังที่ผิดคำสัญญา
ผิดหวังที่...ทำไม...ไอ้พงษ์ถึงไม่โกหก บอกทำไม บอกเขาเพื่ออะไร ตั้งแต่สมัครเข้าเรียนโรงเรียนอาชีวะ
ก็ขอแล้วใช่ไหมว่าให้ระวังตัว ไม่จำเป็นก็อย่ามีเรื่องชกต่อยเลย ขอทุกวัน ก็มีเรื่องทุกวัน อันนั้นเขาก็
พยายามทำความเข้าใจเพื่อที่จะรับมันให้ได้ เพราะไม่อยากเห็นเพื่อนต้องเจ็บตัวไม่อยากให้เพื่อนเสีย
อนาคต และคำขอสุดท้าย อย่าไปทำร้ายชีวิตใคร
... และแล้วก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว
มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก มันคับแน่นอยู่ในอกดั่งภูเขาลูกใหญ่วางทาบทับ คนที่เราคาดหวังไว้ได้ทำลาย
ความหวังดีของเราครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ไม่เคยรู้สึกถึงสภาวะที่มืดมนเช่นนี้เลย
พงษ์กระชับอ้อมกอดเพื่อนรักอีกครั้งพูดขอโทษซ้ำไปซ้ำมา
พงษ์น่าจะรู้ดีว่าได้ทำร้ายความรู้สึกของแก้วไปมากขนาดไหน แต่มันก็ยังทำ...
“เออ แล้วมิวล่ะ?” พงษ์ถามหาแฟนสาว คาดว่ามันคงรู้แค่ถูกจับไปด้วยกันเท่านั้น
“กลับบ้านอย่างปลอดภัยแล้วล่ะ มึงไม่ต้องห่วง”
“อืมๆ”
ไม่ถึงชั่วโมงพ่อแม่พงษ์ก็เดินทางมาถึงโรงพักหนึ่งที่รับแจ้งความเรื่องของลูกชายเพื่อประกันตัว พ่อของไอ้
พงษ์เป็นคนใหญ่คนโตในจังหวัด ข้อหาของไอ้เพื่อนตัวดีจึงจบที่เด็กช่างตีกัน คนตายก็ตายด้วยการ
ทะเลาะวิวาท ไม่ได้เป็นการเจตนาฆ่า ซึ่งเด็กช่างกับข้อหานี้ปกติตำรวจก็ไม่เคยให้ความสำคัญอยู่แล้ว
พงษ์มันไม่ได้เฉียดเข้าห้องขังเหมือนวันโดนตรวจเจออาวุธแล้วแก้วต้องคอยตามประกันตัวด้วยซ้ำ
“พี่ดิว” พงษ์อุทานเรียกชื่อรุ่นพี่ที่เดินมายืนตรงหน้าเก้าอี้ตัวที่เขานั่งรอพ่อกับแม่ภายในโรงพัก แก้วผละ
จากการประคบหน้าเพื่อน หันหน้าหนีไปทางอื่นทันที
“ไม่เป็นไร” ประธานปีสามแตะไหล่พงษ์สองสามที มองทางแก้วแล้วส่ายหน้าถอนหายใจ
“ไม่ใช่ความผิดของมันหรอก มันห้ามผมโทรเข้ามือถือแล้ว แต่ผมเสือกโทรเข้าบ้าน ใครจะไปคิดล่ะว่าพวก
ไอ้ฝิ่นจะจับมันกับมิวไป...แต่ก็ยังดีที่มันทิ้งลูกน้องเฝ้าบ้านไว้ไม่งั้นผมก็ไม่รู้อะไรเลย” ดิวพยักหน้าเออออ
เมื่อได้ฟังพงษ์พูด แต่สีหน้าก็ยังดูเครียดๆ
“กูก็พลาดด้วยแหละ”
“พี่ไม่ต้องห่วงหรอก มันจบแล้ว เกิดเรื่องอย่างนี้พ่อไม่ให้ผมอยู่ไทยหรอก” แก้วลุกออกจากเก้าอี้อย่างไม่สบ
อารมณ์ เดินออกไปยืนสูบบุหรี่รอเพื่อนหน้าโรงพักแต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นรถกระบะสองคันพร้อม
วัยรุ่นกลุ่มใหญ่ยืนมองเข้ามาทางเขาพอดี หนึ่งในนั้นเขาจำได้แม่น ก็มันเพิ่งใจดีปล่อยตัวเขาออกมาหนิ
คนที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้มันอยากจะฆ่าเขาเสียเหลือเกิน
เหอะ ก็แค่ให้ที่ซ่อนตัวเพื่อน...เขาผิดตรงไหนไม่ทราบ?
.............
สวัสดีค่ะ น้ำยังไม่ท่วมบ้านแต่ก็เหมือนอยู่กลางเกาะ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ T^T
ขยันมากเลยอะ (ให้ตลอดรอดฝั่งเถอะแม่คุ๊ณ ค่อยมายกหางตัวเอง ก๊ากกกก)
เอาพระเอก(ใคร?) นายเอกมาชูโรง ไหงไปสนใจอิพี่ดิวอะ //มอบฉ็อปสถาบันให้คุณiamnan
นั่นสินะ ทำไม? หุหุ
เรื่องนี้ คนเขียนมีพระเอกในดวงใจแล้วค่ะ แต่พระเอกในดวงใจอาจไม่ใช่พระเอกของเรื่องก็ได้ (มันจะบอกเพื่อ!...)
ไม่ว่าสมัยไหนเด็กช่างก็ยังเหมือนเดิมแหละค่ะ เพียงแต่เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นๆเท่านั้น(เท่านั้น :a5: )
รุ่นแรกๆจะไม่มีการใช้อาวุธ มือเปล่าๆ นั่นแหละค่ะ นักเลงจริง
ไม่เหมือนทุกวันนี้ อาวุธเพียบ แลกเจ็บ แลกตายกันไปพรรคพวกเอ้ยยย
พกอาวุธเข้าโรงเรียนได้อีกนะ ไม่รู้ที่หน้าโรงเรียนตรวจยังไง อ่อนด้อยมาก ไม่ทันเด็กมันซะเลย
ที่ไม่มีข่าวไม่ใช่ว่ามันเบาบางลงนะคะ
ศิษย์ปัจจุบันโรงเรียนคนเขียนเผากันทุกเดือนค่ะ
เมื่อเดือนที่แล้วคนเขียนเพิ่งไปงานศพรุ่นพี่ต่างสถาบันของคุณแฟนมาด้วย
ทุกที่มีคนทุกประเภทแหละค่ะ ไม่อยากแก้ตัวแทนเด็กช่างนะ
แต่ลองอ่านไปเรื่อยๆนะคะ เผื่อจะได้อะไรเกี่ยวกับนักเรียนนักเลงบ้าง (หลอกล่อคนอ่านได้เนียนไหม? :-[ )
ขอบคุณทุกคอมเม้น ขอบคุณสำหรับบวกบวก และบวกเป็ด (ถ้าน้ำมาเค้าจะเอาเป็ดไว้เกาะลอยคอแทนเรือ...เอ่อ เพลีย มันเล่นมุขไรเนี่ย)
ปล.ฉันไม่แก่นะยะ! :angry2: แค่จบมานานแล้วเท่านั้นเองY^Y
ขอบคุณค่ะ^^ กอดทุกคนเลย :กอด1:
-
รักเพื่อนก็ดีครับ แต่มันก็ผิดที่ปิดเรื่อง
คนตายหนึ่งคนยังมีคนข้างหลังอีกหลายคนนะครับ
เพื่อนก็ใช่ แต่ที่สำคัญคือครอบครัว
-
ตามอ่านทั้งๆ ที่ไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้เล้ยยยยยย :z3:
-
ความสัมพันธ์ระหว่างแก้วกับพงษ์เราไม่สามารถจิ้นเป็นอย่างอื่นได้นอกจากเพื่อนที่ยอมทำทุกอย่างให้แก่กัน
ชอบตอนนี้มากๆเลยค่ะ ^^
รออัพ
-
อยากถีบหน้าพงษ์ แต่ทำไม่ลงลางสังหรณ์บอกว่ามันหล่อ (?) :impress2:
-
ใครคือพระเอกหนออออ
ฝิ่นรึเปล่าอ่ะ :confuse:
-
เพื่อน คำนี้แม่ง! !~ สุดๆแหละ
เฮ้อ แอบสงสารพี่ฝิ่นนะ. ...
-
โอยย จะรอดมั้ยนี่
ตั้งฐานรอเลยนั่น o18
-
งงๆ กับสายจริงๆ เลย
-
น่าติดตามค่ะ แต่อ่านแล้วก็รู้สึกกลัวไปด้วย มองมุมนี้ก็นะ บอกได้ว่าเด็กพวกนี้น่ากลัวเนอะ แต่อย่างว่าแหละ นี่ก็เป็นเพียงมุมนึง มันต้องมีมุมอื่นด้วย คนเขียนสู้ๆนะคะ
-
พวกฝิ่นจะมาทำร้ายพงษ์หรือเปล่า แล้วแก้วจะโดนจับตัวไปอีกไหม
-
ตาย ๆ ยกขบวนกันมาเตรียมแก้แค้นแล้ว จะรอดไหมเนี่ย
แก้วคงโดนลูกหลงไปด้วยแหง ๆ ไม่น่าเลย มีเพื่อนผิด เลยซวยไปด้วย
ยังเดาพระเอกไม่ออก ฝิ่น พี่ไม้ พี่ดิว ส่วนพงษ์ไม่ใช่แน่ ๆ
-
แก้วจะได้ออกไปดีๆมั้ยเนี่ย มาดักรอขนาดนั้น โอ้ววววววววววววว
ปล. เรื่องสนุกมากค่าา มาต่อไวๆนะ อยากอ่านก่อนที่จะเปิดเทอมมว๊ากกกกกกกกก
-
จะมารุมหน้าโรงพักเนี่ยน่ะ
เง้อไม่โดนตำรวจจับหมดเลยเหรอเนี่ย
-
เราก็เคยมีเพื่อนเรียนเทคนิกค่ะ ตอนนั้นฟังเพื่อนเล่าแล้วก็เพลียและเครียดนะ กลัวเค้าตายก่อนจบ
แต่เพื่อนเราเค้าค่อนข้างจะเห็นเป็นเรื่องสนุกและตลก ก็ยังดีที่เค้ารักษาตัวรอดจนต่อ ป.ตรี ได้ค่ะ ทั้งที่มันก็เอี้ยไม่น้อยเลยทีเดียว เหอๆ
รอติดตามนะคะ :L2:
-
ใครคือพระเอกหนอ อยากรู้จริง ๆ
-
พระเอกคือครายยยย o22
เราก็ยังคงงมโอ่งกันต่อไป ๕๕
-
พวกแมร่งกะเล่นกันหน้าโรงพักเลยเหรอ?
(http://i269.photobucket.com/albums/jj72/myem0/01/yoyo-emoticon-2-024.gif) มันไม่เปรี้ยวเกินไปเรอะ !?!
-
สมัยก่อนไร้ซึ่งอาวุธเป็นนักเลงจริงๆ
ส่วนสมัยนี้มันเป็นอันธพาล
ตอนที่แล้วอยากรู้เหตุผลของดิวเพราะคนที่ถูกเลือกมาย่อมได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนและรุ่นพี่ก้ต้องยอมรับด้วย
เพราะฉะนั้นคนที่ยืนจุดนี้ไม่น่าที่จะหักหลังเพื่อนได้(ถ้าเป็นคนจริง) ส่วนแก้วและพงษ์นับถือน้ำใจที่ไม่ทิ้งเพื่อนโดยเฉพาะแก้ว จากตอน2อ่านแล้วรู้สึกว่าแก้วปลงถ้าจะต้องตาย พอมาตอน3แก้วเป็นคนให้ที่ซ่อนพงษ์นั่นหมายความว่าไม่คิดที่จะบอกแน่ๆว่าเพื่อนซ่อนตัวที่ไหน เพื่อนไม่ว่าจะทำผิดยังไงก็ยังเป็นเพื่อนนับถือค่ะ
เพราะฉะนั้น +1และ+เป็ดให้คนเขียนค่ะ(เกี่ยวมั้ย555)
-
น่าติดตามมาก :impress2:
เรามีน้องเรียนช่าง2คน คนนึงชีวิตโลดโผน อีกคนนึงค่อนข้างสงบ -*-
-
o22 จะยังไงต่อ
-
มันส์ อ่านตอนนี้แ้ล้วค้างคามากค่ะ
อยากรู้จังว่าจะเป็นยังไงต่อ
-
:เฮ้อ:
-
อย่าว่าแต่เด็กช่างตีกันเลยค่ะ นักเรียนมอปลายหัวเกรียนก็ไม่แพ้กันหรอก :เฮ้อ:
แต่ว่ารักเพื่อนแบบนี้มันก็ไม่ค่อยจะถูกต้องเท่าไหร่น้าแก้ว o22
ชีวิตคนเราก็มีค่าด้วยกันทั้งนั้น จะมากจะน้อยแต่มันก็มีใช่ไหมล่ะ แล้วมาฆ่ากันง่ายๆเหมือนผักปลา มันก็ o22
สงสัยจะอินมากเกิน มันเรียลมากเลยค่ะนิยายเรื่องนี้ :serius2:
-
+1ให้จ้า
เราจบสายพาณิชย์ ต่างจังหวัด
เลยไม่ค่อยรู้เรื่องเด็กช่าง เคยเห็นเค้าตีกัน โดนตำรวจจับ ปรับ แล้วปล่อย ไม่เห็นเค้าจะอาฆาตกันเลย
เห็นเค้าก็เรียนจนจบ ออกมาทำงานหรือว่ามันคนละแบบกัน
ไม่รู้ซินะ เก่งจริงน่าจะออกรบนะพวกนี้จะได้รู้ว่าเป็นไง
:call: :call:
-
:กอด1:
-
o22มารอเป็นคันรถเลย จะรอดไหมนี่
-
ใครคือพระเอกหว่า
มารอลุ้น
และมาให้กำลังใจแก้วด้วย
-
มิตรภาพ o13
-
น้องแก้ว ไม่ผิด แต่ จากนี้ จะโดน พี่ฝิ่น หิ้ว ไปเคลียร์ ตัวต่อตัว หึหึ :a2:
-
พี่ไม้ๆๆๆๆๆ กรี๊ดดดดด สุขุม นุ่มลึก พระเอกสุดๆๆๆ :m3: :m3: :m3:
พงษ์..ชิลเกินไปป่าวแก จะต้องเข้าสถานพินิจป่าวไม่รู้เนี่ย
รออ่านต่อนะจ๊า :pig4:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
ดูรุนแรงเนอะ
-
ขอฝิ่นเป็นพระเอกก็แล้วกัน :z6:
-
เค้าอยากอ่านต่ออ่ะ
เเก้วกับพงษ์เป็น "เพื่อน"ที่ให้กันได้ทุกๆอย่าง อ๊ากเค้าชอบ
พงษ์บอกว่าถ้ามันไม่ตายคนตายก็จะเป็นพงษ์ คงต้องเลือกระหว่างเราตายกับเขาตาย มะนเลือกยากนะ
แก้วจะเจออะไรไมเนี่ย
-
แก้วอยากจะถามฝิ่นใช่มั้ย ช่วยเพื่อนแค่นี้ผิดมากเหรอ เดี๋ยวต่อยๆ ชริส์
-
พวกเด็กช่าง(ที่ชอบตีรันฟันแทงกัน)แรงดีอย่างนี้น่าจะส่งให้ไปเป็นทหารเนอะ ส่งไปรับใช้ชาติซะเลย ทำตัวให้เป้นประโยชน์หน่อย อิอิ
-
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
รอต่อไป :z13:
-
:z13: :z13: :z13: :z13:
-
ตามอ่านทันละ รอลุ้นต่อไปค่ะ :L2:
-
นานๆจะมีนิยายแนวแปลกๆมาให้อ่านสักที
เรื่องตีกนนี้ต้องยอมรับคะ ว่ามีทุกที่จริงๆ
เราจะรออ่านนะว่าคนเขียนจะสื่อผ่านความรักในแง่มุมไหนของเด็กช่าง
เป็นกำลังใจให้คะ >~<
+1 ให้นะคะ
-
มารอตอนสี่ค่ะ
เชียร์ฝิ่นเป็นพระเอก อ๊ายๆ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๔
“เฮ้ย! ยังไม่ไปอีกเหรอ...กูให้พ่อถอนประกันตัวทันไหมวะ?” ไอ้พงษ์กับพี่ดิวเดินออกมายืนข้างๆ
“ไม่ตลกพงษ์ ยังมีหน้ามาเล่นอีก” แก้วเหวี่ยงมันด้วยสายตา ไอ้เพื่อนตัวดียิ้มแหย๋แย่งบุหรี่จากมือเขาไปดูดต่อ
“แหะๆ ผิดไปแล้วครับ มึงเป็นเพื่อนหรือพ่อกูเนี่ย ดุฉิบหาย”
“คงต้องให้ตำรวจตามไปส่งแล้วล่ะ ไม่งั้นมึงไม่รอดแน่” พี่ดิวเอ่ย
ตีสอง ...กว่าจะได้ออกจากโรงพักก็อาศัยพี่ดิวนั่นแหละที่ช่วยหาทางออกให้
พี่ดิวเสนอให้พ่อของไอ้พงษ์ไหว้วานตำรวจให้ช่วยขับรถตามไปส่งถึงหน้าบ้านโดยที่พี่ดิวทำทีเป็นกลับไปก่อน
แต่ก็ไม่ได้หายห่วงอย่างสนิทใจเลยเมื่อพวกนั้นมันขับรถตามจนถึงหน้าบ้านเหมือนกัน จนต้องให้ตำรวจเฝ้าหน้าบ้านสองนาย
และแน่นอน ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน แก้วเลยต้องนอนบ้านไอ้พงษ์ตามความต้องการของมัน
“นี่มันทำร้ายมึงด้วยเหรอ” มันเพิ่งเห็นรึไง พงษ์ใช้นิ้วเขี่ยเบาๆมุมปากเพื่อนซึ่งนั่งอยู่ขอบเตียง แผลเล็กนั่นเริ่มแห้งเกือบตกสะเก็ดแล้ว ทั้งยังแตะเบาๆที่ข้อศอกอีก มันดูเหมือนตั้งใจทะนุถนอมแต่ก็รู้สึกเสียวแปล๊บเล็กๆอยู่ดี แผลใหม่นี่หว่า
“พงษ์ บอกกูได้ไหมทำไมต้องทำกันถึงตายด้วย” เขาจับข้อมือพงษ์ไว้ไถ่ถามหาคำตอบแทนคนกลุ่มนั้นเหรอ? ไม่ใช่หรอก เขาถามหาคำตอบให้ตัวเองต่างหาก เขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างพงษ์จะฆ่าใครได้ แต่นั่นเพราะคำสารภาพได้ออกจากปากเจ้าตัวเอง แก้วจึงไม่รู้จะสรรหาอะไรมาแก้ตัวให้มัน
ไอ้เพื่อนตัวดีจิ๊ปากจับข้อมือแก้วออกจากแขนตน คิ้วชนกันพลางขยี้ผมลื่นของเพื่อนรักแล้วกระโดดขึ้นเตียงนอน กลบเกลื่อนชัดๆ เออ...ไม่พูดก็ไม่พูด
.
.
.
พ่อแม่พงษ์เดินทางไปช่วยเงินทำศพอีกฝ่ายด้วยเงินก้อนใหญ่ในเช้าวันเผา ซึ่งไม่ว่าจำนวนเงินจะมากมายเท่าไหร่ก็คงชดเชยให้กับความสูญเสียไม่ได้ ทั้งคนในครอบครัว ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง ของคนที่ไอ้พงษ์ทำร้ายเขาอีกล่ะ
มันทดแทนกันไม่ได้เลยจริงๆ
แก้วรู้เพื่อนเขาฆ่าคนตายไม่ว่าจะจงใจหรืออุบัติเหตุอย่างที่เขาคอยจะแก้ตัวให้ แต่นั่น...ก็เพื่อนเขาหนิ
แก้วรู้เขาเป็นคนให้ที่ซ่อนตัวพงษ์เพราะเขาไม่อยากเห็นเพื่อนต้องเข้าคุกหรือโดนอีกฝั่งเล่นงาน ซึ่งบางทีอาจถึงตายได้
แก้วรู้แก้วผิดที่เห็นแก่ตัว เขารักเพื่อนในทางที่ผิด เขารู้...
แต่เขายอมไม่ได้ที่จะให้ใครจับตัวเพื่อนเขาไปลงโทษไม่ว่าทางกฎหมายหรือกระทั่งกฎหมู่
และที่รู้ดีที่สุดคือ ถ้าเรื่องถึงหูพ่อแม่พงษ์เมื่อไหร่แล้วล่ะก็ เขาสองคนจะต้องแยกจากกันอย่างหาข้อโต้แย้งไม่ได้
และนี่คงเป็นสิ่งที่เขากลัวที่สุด
บ่อยครั้งที่มีเรื่องชกต่อยแล้วหนีไม่ทันไอ้พงษ์โดนตำรวจจับ ทั้งสองคนพยายามปิดครอบครัวมาตลอด
แต่ครั้งนี้เรื่องมันใหญ่จริงๆ เด็กโรงเรียนนั้นตามไปถึงบ้านพงษ์ ถึงพ่อแม่มันจะไม่ค่อยสนใจลูกนอกคอก
อย่างไอ้พงษ์นักแต่มันก็น่าขายหน้าไม่ใช่เหรอถ้ามีใครรู้ว่าบ้านผู้มีเกียรติหลังนี้มีลูกที่ได้ชื่อว่าเด็กเดนของสังคม
.
.
.
หนึ่งสัปดาห์ที่แก้วอาศัยในบ้านหลังใหญ่ การรักษาความปลอดภัยเป็นเรื่องปกติของบ้านหลังนี้
ทั้งที่เจ้านายแทบไม่มีใครอยู่ติดบ้านเลย
เพื่อนรักสองคนใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้คุ้ม ก็ได้เวลาที่ทั้งคู่ต้องเดินทางไปสนามบินสักที ไร้วี่แววพ่อแม่มัน
“มิวไม่รู้เป็นอะไร โทรหาก็ไม่ค่อยรับ บอกให้มาส่งก็ไม่ว่าง จะว่าโกรธเรื่องนั้นกูก็ขอโทษแล้วนี่หว่า” พงษ์บ่นลอยๆให้สายที่เพิ่งกดวาง แล้วยักไหล่
“แต่ก็ดี กูจะได้ควงแหม่มอย่างสบายใจ” พูดอยู่คนเดียวพอไม่มีใครสนใจเลยหันไปหาเพื่อน
“แต่มึงน่ะ เดี๋ยวกูจะโทรหาบ่อยๆนะ สไกป์กันทุกวันก็ยังได้ ไม่ปล่อยให้เหงาหรอก” ไม่ได้ขี้เหงาขนาดนั้นสักหน่อย
“........................”
“ยิ้มให้กูหน่อยสิวะ มึงทำให้กูเป็นห่วงรู้เปล่า”
“.......................” ห่วงอะไร ห่วงตัวมึงเองเถอะ แก้วคิด ไอ้คนเพื่อนเลยทำหน้ามุ่ยใส่เขาเมื่อไร้คำพูดออกจากปากแก้ว
“เสียดายเนอะ มึงน่าจะไปอยู่ด้วยกัน”
“มึงเข้าใจไหมว่าเขาจับเราแยกน่ะ เฮ้อ” ทั้งที่ไม่มีอารมณ์จะต่อปากต่อคำกับมัน ไอ้เพื่อนตัวดีแต่เลวก็
พร่ามไม่หยุด แก้วพูดแทรกพร้อมถอนหายใจดังๆ
การเดินทางไปต่างประเทศของพงษ์ไม่ใช่เรื่องยากเลย หนังสือเดินทางนอนรอมันตั้งแต่หลังออกจากสถานีตำรวจแล้ว
ที่ล่าช้ามาจนถึงวันนี้เพราะไอ้พงษ์ถ่วงเวลาเพื่อจะอยู่กับเขานานๆเท่านั้นเอง
แล้วการที่จะหนีปัญหาไปอีกคนก็เท่ากับว่าแก้วยอมรับว่าชีวิตเขาล้มเหลวจริงๆอย่างที่ใครอยากให้เป็นน่ะสิ
ที่พ่อแม่จับแยกกันคราวนี้เพราะคิดว่าทั้งสองคนคบกันมีแต่ชักจูงกันทำตัวแย่ๆไม่ใช่เหรอ
สงสัยไอ้พงษ์จะลืมไปว่ากฎเหล็กข้อนี้ออกมาตั้งแต่วันที่ตัวมันเองดีดดิ้นจะเรียนอาชีวะให้ได้โน่น
“ฮื่อ แต่กูกลัวมึงเหงานี่หว่า อืม หรือไงไปนอนบ้านกูก็ได้นะ” มันยังยื่นข้อเสนออีก
“ไปกูก็นอนคนเดียวอยู่ดี” จะต่างจากนอนบ้านตัวเองก็แค่มีแม่บ้านกับ รปภ.แค่นั้น
“แต่อย่างน้อยมึงก็มีบ้านกูเป็นเพื่อนไง...ตัวเล็ก กูขอโทษจริงๆนะเว้ย”
“มึงหุบปากเหอะ” เขาเอือมกับท่าทางที่พยายามทำเหมือนออดอ้อนของไอ้เพื่อนตัวสูง ความเถื่อนที่มีใน
ตัวมันทำยังไงก็น่ารักไม่ขึ้นหรอก แต่แก้วก็อดอมยิ้มไม่ได้
“ขอโทษที่ทำตามสัญญาไม่ได้ ทั้งที่คิดว่าทางนี้มันดีแล้วแต่ก็คิดผิด แก้ว...ไม่มีกูมึงจะอยู่ยังไง กูขอโทษ กูขอโทษ” พงษ์ลูบศีรษะเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ดึงคนที่ยืนกอดอกมองคนอื่นไปทั่วเข้าหาตัว
“พงษ์...”
“อย่านะ ลูกผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กันหรอก” เสียงเฉียบพร้อมกับทฤษฎีบ้าๆของมันทำให้แก้วซุกหน้าเช็ดน้ำตาที่เริ่มปริ่มกับเสื้อมันนั่นแหละ
ตอนทำ ทำไมมึงไม่คิด เคยซะที่ไหนต้องอยู่คนเดียว
เขารู้เขาเห็นแก่ตัวไม่น้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้น และในใจก็อยากจะเห็นแก่ตัวอีกครั้งบอกมันไม่ให้ไป
แค่เพียงเอ่ยปากร้องขอเท่านั้น มันก็ขัดคำสั่งทุกคนได้เพื่อเขา เขารู้...
แต่ก็ทำไม่ได้
บางทีการที่มันไม่ได้อยู่ที่นี่ เรื่องอาจจะจบเร็วก็ได้ ขอแค่มันปลอดภัย ไม่เป็นไรหรอก ห่างกันบ้างอีกเดี๋ยวคงชินเอง
“พี่ดิว ฝากไอ้แก้วด้วยนะพี่” ดึงตัวแก้วออก หันไปบอกพี่ที่มันเคารพซึ่งขันอาสาไปรับตั้งแต่ออกจากบ้านแถมยืนอยู่ข้างแก้วตลอดเวลาโดยที่แก้วไม่ได้สนใจพี่ชายคนนี้แม้แต่น้อย
“ขอบใจนะพงษ์ โชคดีไอ้น้องรัก” สองคนกอดร่ำลากันต่อหน้าแก้วที่เบือนหนีไปมองทางอื่นแล้วไปทางอื่นเล่า
ตลบตะแลงโคตรเก่งเลย แก้วแสดงความคิดเห็นกับภาพอันน่าประทับใจภาพนี้...ในใจ
“มึงกลับได้แล้วแก้ว ส่งกูแค่นี้พอ ขอบคุณนะพี่” พงษ์ยกมือไหว้รุ่นพี่ แก้วพยักหน้าฝืนยิ้มหวังให้เพื่อนสบายใจ กอดกันครั้งสุดท้าย ก่อนต้องห่างกันคนล่ะซีกโลก
“กูไม่เคยทิ้งมึง ถึงเราต้องห่างกันแต่กูไม่ได้ทิ้งมึง จำไว้” ถ้อยคำของเพื่อนสื่อความหมายของทุกความรู้สึกได้อย่างเต็มเปี่ยม
“พงษ์...ที่กูทำให้มึง ยังน้อยกว่าที่กูได้รับจากมึงเยอะ”
ก้าวเท้าเดินออกจากอาคารผู้โดยสารโดยมีประธานปีสามเดินประกบจนถึงจุดรอรถอย่างน่าหงุดหงิด
“พี่จะเดินตามทำไมเนี่ย”
“เอ้า มาด้วยกันก็กลับด้วยกันสิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ผมกลับเองได้พี่จะไปไหนก็ไปเถอะ” เสียความรู้สึกกับพี่ดิวจนไม่อยากอยู่ใกล้แล้วยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ
“ได้ไง เมื่อกี้พงษ์ฝากแก้วไว้กับพี่ ลืมแล้วเหรอ” หน้ายิ้มแป้นจนอยากจะต่อยให้สักหมัด ติดที่ว่ายัง
ต้องเจอกันอีกเป็นเทอมแก้วจึงถอยหลังโดยไม่ทันมองให้ดีกะจะเลี่ยงเดินไปทางอื่นแต่กลับต้องชะงักหยุด
เมื่อแผ่นหลังปะทะเข้ากับใครบางคนที่ยืนซ้อนอยู่พอดิบพอดีแถมช่วยจับไหล่เขาไม่ให้ต้องเซเสียหลักด้วย
พลันสีหน้าพี่ดิวก็เจื่อนลง...
แก้วกำลังหันตัวไปด้านหลังหมายจะขอโทษใครคนนั้น แต่ไม่ต้องแล้วเมื่อเขาปล่อยมือข้างหนึ่งจากไหล่แต่อีกข้างเล่นเลื่อนขึ้นวางพาดบ่าแทน
หนีเสือไม่พ้นยังมาเจอะมัจจุราชอีก...
“ไง?” ห๊ะ ไง? กอดไหล่แก้วพร้อมมองหน้าพูดทักทายเหมือนคนคุ้นเคยกันอย่างนั้นแหละ โน่น พี่ดิวพรรคพวกมึงยืนอยู่โน่น
“มึงจะเอาไงอีก” พี่ดิวหน้าเครียดถาม แต่แก้วเครียดกว่า
“ก็คงต้องเอาอย่างที่ควรจะเอา ส่วนไอ้นี่ เดี๋ยวกูเจียดเวลาเล่นด้วยสักหน่อยก็ได้” แก้วเสียวสันหลังวาบ
ไม่จบเหรอนี่ นี่เขาคาดเดาผิดเหรอ ตอนแรกเขากะจะให้พงษ์หนีไปสักพักเดี๋ยวเรื่องก็เงียบเองนั่นล่ะ
แต่พอมันออกมาแล้วไปอยู่ต่างประเทศก็ว่าน่าจะจบไวกว่าที่คิดแล้วแท้ๆ แต่ทำไม...
“เตรียมตัวต้อนรับกูได้เลย”
.............
เอ่อ ตอนที่ ๔ ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไร (จริงๆก็ไม่มีอะไรนั่นแหละถูกแล้ว เย้ย! )
ขอไปส่งพงษ์นิดนึงนะคะ เพราะเด็กคนนี้ก็มีความสำคัญกับแก้วไม่น้อยเลย
แต่แอบหมั่นไส้แก้วจริงๆแทนที่จะไปกับพี่ดิวดีๆ เจอไอ้ฝิ่นซะ เป็นไงล่ะ สมน้ำหน้า ชิ! :laugh:
เคยมีใครไปโรงพักแล้วเห็นผัวเมียตีกัน หรือคนทะเลาะกันมาจากข้างนอกแล้วตำรวจพามานั่งเจรจาไกล่เกลี่ยแต่กลับวิ่งเข้าใส่กันต่อหน้าตำรวจไหมคะ (ใครจะสนิทกับโรงพักเหมือนแก!)
คนมีโทสะทั่วไปเขาทำนะคะ แต่เด็กช่างไม่
ในตอนนี้ซีซั่นถึงเขียนให้ฝั่งไอ้ฝิ่นยังเล่นงานพงษ์ไม่ได้เพราะคนกลุ่มนี้มันรู้จักตำรวจดี ต่อให้มีคนจากสองสถาบันโดนจับมานั่งข้างกัน ไม่ถูกกันมากแค่ไหนมันก็ไม่มีทางวิ่งเข้าใส่กันโต้งๆแน่
ถ้าใครสงสัยข้องใจตรงไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาย ลำดับญาติ หรือภายในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยกลิ่นผู้ชายดิบๆเถื่อนๆสกปรกๆ(?) ล่ะก็ ถามได้เลยค่ะ ตอบได้จะตอบ ตอบไม่ได้ก็จะตอบ ฮ่าๆๆๆ
เผื่อตอนต่อๆไปเกิดคนเขียนพาเดินไปซุ้มประธานสายเข้าจะได้ไม่งงกันเนอะ
แอบรู้สึกผิดที่ทำให้คนอ่านค้างคาอะไรรึเปล่า ตอน ๓ ไม่ค้างนะเพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆนี่นา :z6: ส่วนตอน ๔ ถ้าต่อก็คงไม่ได้เพราะยังไม่ได้เขียน เหอะๆ
แต่จะขอไถ่โทษให้ในตอนหน้านะคะ ซึ่งเราจะยังไม่อัพตอนที่ ๕ (?)
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ขอบคุณทุกบวกบวก และเป็ดน้อย ขอบคุณที่ใส่อารมณ์กัน โฮฮฮ อย่าเพิ่งเอาไม้หน้าสามฟาดหัวตัวละครเค้านะ
เจอกันตอนหน้าจ้า^^
-
^
^
^
จิ้มซีซั่น :laugh:
ให้เป็ดไปขี่หนีน้ำท่วมด้วย ^^
ตัดตอนได้... :serius2:
จะเกิดไรขึ้นกะแก้วหนอ :z3:
-
ขอบคุณคนเขียนค่า :pig4:
ฝิ่นยังไม่ยอมจบอีกหรือ ตอแยแก้วแบบนี้ระวังจะได้ไปเป็นเพื่อนเขยของพงษ์นะ :laugh:
(จริงๆ คนอ่านคิดว่าพี่ไม้เป็นพระเอก เพราะรู้สึกว่าพี่ไม้น่าจะชอบหรือติดใจแก้วอยู่บ้าง แต่ฝิ่นก็ดูเหมือนจะปะทะและมีโมเมนท์กับแก้วบ่อยกว่าคนอื่น เป็นไปได้สูงที่คนเขียนจะให้ฝิ่นเป็นพระเอกอะนะ ก็คงต้องตามดูต่อไปปปปปปปป)
-
:L2: :L2:
-
กำลังเดาว่าใครเป็นพระเอก
:pig4:
-
พงษ์ไปซะแล้ว ใครจะดูแลน้องแก้วล่ะ :serius2:
ฝิ่นนี่ พี่ดิวคงเอาไม่อยู่เหมือนกัน โอยยย
อยากรู้เรื่องสมัยก่อนของแก้วกับพงษ์จัง ^^
ขอบคุณค่ะ
-
พงษ์แมนสาดดด :impress2:
-
น้องแก้วระวังตัว+ใจดีนะครับ
-
สงสัย หนุ่มโหดเป็นพระเอกแน่เลย
ตอนแรกนึกว่าเพื่อนสนิทเป็นพระเอกซะอีก
-
ตอนที่สองอ่านแล้วงง ๆ
-
ไม่จบไม่สิ้น แก้วไม่ได้ฆ่าคนซะหน่อย :z3:
-
อ่านเเล้วชอบพงา์กับแก้ว พงษ์ไปเเล้วใครจะอยู่กับแก้ว
-
เด็กช่างกับเด็กช่างของคู่กัน
-
แนวนี้ น่าติดตามคับ มาลงให้ต่อเนื่องนะ
จะรอเป็นกำลังใจและติดตามคับ
-
แก้วใจของพี่ จะเป็นยังไงต่อไปล่ะเนี่ย
-
ลงกะพงษ์ไม่ได้เลยมาลงกะแก้วงั้นสิ
เมื่อไหร่เนื้อเรื่องจะอบอุ่นเหมือนชื่อเรื่องเนี่ย
:z3:
-
แอร๊ยยย สั้นอ่า อยากอ่านอีกแล้วๆๆๆ (นอนดิ้นกะแด่วๆกับพื้น o9)
แก้วนี่รักพงษ์เกินเพื่อนหรือเปล่า? ไม่ใช่หรอกเนอะ แต่ทำไมเรารู้สึกอย่างนั้นน้อ :z3:
แลวฝิ่นจะมาเอาอะไรกับแก้วอีก แน่จริงตามไปคิดบัญชีกับพงษ์ที่เมกาซี้ :angry2:
-
แก้ว รักพงษ์ อ่ะดิ แต่คำว่าเพื่อนมันเหมือนน้ำท่วมปากใช่มั้ย แล้ว พี่ดิว นี่ ชอบน้องแก้ว ด้วยรึเปล่า
แค่ 3-4 ตอน ยัง เริ่มอิรุงตุงนัง แล้วเนี่ย เรื่องนี้ ท่าจะเวียนหัวใช่น้อย
แต่ ตอนต่อไปยาวกว่านี้ อีก จึ๋งนึงก็ได้นะ
-
แล้วจะอย่างไรต่อไป
-
:impress2: :impress2:
เรื่องเริ่มมันตรงนี้แหละ
แก้วจะเจออะไรอีกเน้อทีนี้
รอตอนต่อไปน่ะค่ะ :กอด1: :z2:
-
:serius2: :serius2: :serius2:
-
อืม...เป็นฝิ่นคู่กะแก้วรึเปล่าอะ แต่ว่าสองคนนี้จะคุยกันดีๆๆยังไงอะ
-
เห็นพายุวิ่งมาหาแก้วแว็บๆ แก้วเราแนะนำให้นายทำประกันไว้แต่เนิ่นๆนะ o18
ช่วงนี้อยากอ่านแนวเด็กช่างตีกันมากเลย ไม่รู้เป็นอะไรดูตื่นเต้นเร้าใจดี ฮ่าาาาา
เป็ฯกำลังใจให้คนแต่ง ดูๆแล้วแต่งสนุกดีค๊ะ สู้ๆนะคะ รออ่านตอนต่อไปมากๆเลยคะ :L2:
-
o22มาลงที่แก้วแทนเหรอ
-
รอติดตามยาวๆ 555+ เป็นกำลังใจให้นะคร๊าบบบ
-
:L2:มอบดอกไม้ให้คนแต่งก่อนอันดับแรก :L2:
:กอด1:พงษ์กับแก้วนี่คงไม่ใช่เพื่อนรักกันแบบธรรมดาแล้วมั้ง ส่วนดิวนี่น่าจะแอบชอบแก้วแน่ๆ เลย ไหนจะฝิ่น แล้วก็ไม้อีก เดายากแหะว่าใครจะเป็นพระเอก :กอด1:
-
ชีวิตใคร ใครก็รัก
แต่เมื่อสูญเสีย อีกชีวิตก็ต้องชดใช้
สิ่งที่แก้วทำอยู่มันไม่ได้ดูดีเลยสักนิด ไอ้พงษ์เห็นชีวิตของคนอื่นไม่มีค่าอะไร
มันไม่ได้เสียใจอะไรด้วยซ้ำ ถึงขึ้นเพื่อนรักโดนทำร้ายมันยังไม่สำนึกเลย
มันไม่เห็นค่าอะไรของใครทั้งนั้นไม่ว่าเพื่อนหรือชีวิตของคนอื่น นอกจากตัวของมันเอง
น่าจะตายไปซะคนแบบนี้ อยู่ไปคนอื่นก็เดือดร้อนเปล่า
??หรือว่าไม่เปล่า เพราะมันกำลังมาเยือนไอ้แก้วแล้ว โชคดีนะแก้ว
ที่รักเพื่อนมากกว่าตัวเอง เจ็บตัวได้แต่อย่าให้เพื่อนเจ็บ
o13นับถือจริงๆ :เฮ้อ:ทุเรศว่ะแก้ว
-
เรื่องราวอ่านแล้วงงๆดีอ่ะ อิอิ
แต่ก้อรอตอนต่อไปนะ อิอิ
-
แก้วจะลงเอยกับใครเนี่ย !!!
ถ้าไม่ผิดพลาดอะไรก็คงเป็นฝิ่นใช่ไหมครับ รออ่านตอนต่อไปครับ
-
:laugh: โดนฉุดแล้วโว้ยยยย
-
รอตอนต่อไปนะฮะ ><
น่ารักดี แก้วไปชนกับใครหนอ ?
-
ฝิ่นจะทำอะไรแก้วอีก กลัวใจพวกนี้จัง
-
ใครเป็นพระเอกน๊ออออ
-
รอตอนต่อไปนะครับ
-
ฝิ่น ดูเหมือนจะเป็นคนซาดิสม์ :z6:
-
เหมือนพงษ์กับแก้วมีซัมติงกัน
โอย ฝิ่นจะทำอะไรแก้วเนี่ย ถนอมๆหน่อยน้า เดี๋ยวแก้วช้ำหมด หุหุ
-
จำเลยรักภาคเด็กช่างกำลังจะเริ่มขึ้น
-
ยังไม่ค่อยกล้าอ่านให้จบตอนเท่าไหร่ค่ะ :m8: คือแบบว่ารู้สึกว่าเนื้อเรื่องจะแรงไปหน่อยในความรู้สึกของเรานะ o2 เลยอ่านแบบข้ามๆไปก่อน รอตอนที่มันเบาๆกว่านี้แล้วจะกลับมาอ่านตอนต้นเรื่องแล้วกันนะ :m5:
ยังไงก็รอตอนต่อไปค่ะ :call:
เป็นกำลังใจให้ค่ะ :pig4: :pig4:
-
ยังงงๆ ยังไงไม่รู้ รึเราอ่านไม่ละเอียด แหะๆๆๆ
-
ถึงคนอื่นจะดูงงๆ แต่เราเข้าใจนะ สนุกมากเลย
รออ่านต่อคะ :L2:
-
เถื่อน ดิบมาก แก้วจะรอดไหมเนี่ย แต่ดูท่าคงยาก
-
แก้แค้นกันไปแก้แค้นกันมาไม่รู้จักจบสิ้น -0-
-
:z13: :z13: :z13: :z13:
-
รอด้วยคนคร๊ะ
-
ว้าววว ชนกะพรเอกด้วย รึป่าววะ
สุดท้ายคยที่ต้องรับกรรม คือ แก้ว กรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อซะด้วย เฮ้อออ สงสารแก้วที่สุด
-
มารอตอนต่อไป :call:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอน อำนาจเงินตรา...หายื้อชีวิตได้ไม่
“ญาติเข้าเยี่ยมได้นะคะ” พยาบาลสาวร่างอวบเปิดประตูเชิญกลุ่มคนที่นั่งรอหน้าห้องไอซียูกันอย่างเงียบๆมาเป็นเวลาร่วมสามชั่วโมง
พ่อแม่ของผู้ป่วยเดินน้ำตาซึมเข้าไปก่อน คนข้างนอกได้แต่นั่งรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
เวลาผ่านไปไม่นานคนเป็นพ่อก็พยุงแม่ในอาการแทบทรุดออกจากห้องไอซียูมาด้วยน้ำตา
ฝิ่นและพี่ไม้ คนซึ่งผูกพันกันดั่งเพื่อนตายของผู้ป่วยจึงค่อยลุกเดินเข้าไปเปลี่ยนรองเท้าและสวมเสื้อคลุมเพื่อป้องกันเชื้อโรคภายในห้องชั้นแรก เพื่อจะได้เข้าเยี่ยมเป็นคิวถัดไป
ทั้งสองเปิดประตูเข้าไปด้วยความเงียบไร้ซึ่งคำพูดคุย สีหน้าเรียบนิ่งคาดเดาอารมณ์ไม่ถูกปะทะเข้ากับไอเย็นจัดจากเครื่องปรับอากาศ สวมเสื้อคลุมทับยังสัมผัสถึงอุณหภูมิที่ต่ำได้ขนาดนี้ แล้วคนขี้หนาวที่นอนสวมเครื่องช่วยหายใจอยู่บนเตียงล่ะ มีเพียงผ้าห่มผืนบางคลุมกายแค่ชั้นเดียว ...ทนได้ยังไง
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
“ตอนนี้คนไข้อ่อนเพลียมาก คุณหมอเลยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจไว้ก่อน ถึงจะผ่าตัดแล้ว แต่โอกาสว่าจะรอดก็50-50 เพราะคนไข้เสียเลือดมากก่อนจะมาถึงโรงพยาบาล” พยาบาลกล่าวเมื่อทั้งสองเดินมาถึงเตียงผู้ป่วย
“พยาบาลขอผ้าห่มหนาๆอีกผืนหน่อยสิ” ฝิ่นสูดจมูกร้องขอเครื่องห่มกายแทนเพื่อนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ต้องตัดไตข้างขวานะครับคุณพ่อคุณแม่ ไม่มีทางไหนจะห้ามเลือดได้เลย หมอไม่อยากใช้คำว่าพรุนแต่เก็บไว้ไตข้างนี้ก็ไม่สามารถใช้งานได้อีกแล้ว อวัยวะบอบช้ำมาก จำเป็นต้องตัดทิ้งเพื่อผู้ป่วยจะได้มีชีวิตรอดนะครับ”
“เจ็บไหมเป้ง” หน้าตาบวมปูดม่วงช้ำ อีกทั้งผ้าพันแผลจากรอยมีดกรีดพาดผ่านหน้าอก ทำให้ไม้มองดูสภาพน้องชายนัยน์ตารื้น คนบนเตียงที่ลืมตาอยู่แล้วมองเพื่อนตายทั้งสองด้วยความอิดโรย มีเพียงน้ำตาที่หยดไหลเท่านั้นทำให้คนเยี่ยมคิดไปเองว่าคือปฏิกิริยาตอบสนองจากเป้ง
ไม้วางมือไว้บนศรีษะเบาๆแล้วใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาให้คนบนเตียงพลันตัวเองก็ต้องเงยหน้ามองหลอดไฟเพื่อห้ามน้ำตาตัวเองเช่นกัน
“ลูกผู้ชาย ร้องไห้บ้างก็ได้ ไม่ใช่เรื่องหน้าอายอย่างที่มึงคิดหรอก” บังคับตัวเองส่งยิ้มให้น้องชายทั้งยังเปลี่ยนไปกุมมือที่ไร้แรงขยับไหวไว้เบาๆ
“ใครทำมึงวะ” คำถามห้วนๆจากปากฝิ่น รู้ทั้งรู้เพื่อนคงไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวก่อนหน้าที่ทำให้ต้องมีสภาพอย่างนี้ได้ แต่ด้วยความโมโหก็อดคาดคั้นไม่ได้เช่นกัน
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
เพียงมองสบตากันเท่านั้น ท่ามกลางเสียงสัญญาณชีพจรของเครื่องช่วยหายใจ
พยาบาลเดินกลับมาคลุมผ้าผืนบางให้คนป่วยอีกสองผืน ฝิ่นทำท่าจะท้วงติงแต่พี่ไม้ได้แตะข้อศอกเขาไว้ก่อน ทั้งที่ไม่พอใจแต่กลับทำอะไรไม่ได้ ฝิ่นจึงหันไปสนใจเพื่อนแทน
“อดทนนะเว้ย กูสัญญา...ใครที่ทำมึงเจ็บ มันต้องเจ็บกว่ามึงร้อยเท่าพันเท่า” คำพูดหนักแน่นมองสบตา
คนบนเตียงนัยน์ตาลอยๆขยับไปทางขวาทีทางซ้ายทีอย่างไม่รู้ความหมาย ยิ่งทำให้คนเยี่ยมอยากจะตะโกนให้ลั่น
ห้อง ถ้ามีคำไหนที่ความหมายมันมากกว่าคำว่าสงสาร ...นั่นคงเป็นความรู้สึกจากคนเยี่ยมทั้งสองคนแล้ว
อยากเจ็บแทนเหลือเกิน...
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดดดดดดดดดด
.
.
.
กลุ่มนักเรียนอาชีวะx ร่วมห้าสิบคนเดินทางไปถึงหน้าเทคโนT
“ประธานสาย๕x ต้องการเจอดิว๓T” ลูกน้องในสายบอกเด็กช่างเจ้าถิ่น กลุ่มหนึ่งซึ่งยืนต้อนรับพร้อมอาวุธครบมือหน้าโรงเรียน
ประธานสายที่ใหญ่ที่สุดของเทคโนTเดินผ่านหน้านักเรียนคู่อริเข้าไปในโรงเรียนอย่างไม่สนใจใยดีเพราะไม่ใช่เรื่องของตน แต่คนที่เดินตามหลังมาทั้งคันรถกลับตะโกนเย้าแหย่กันอย่างสนุกสนาน
“เลือกเอาจะจบที่คน หรือที่สถาบัน” เขายื่นข้อเสนอให้ประธานปีสามของที่นี่
.
.
.
เสียงพระสวดอภิธรรมศพเป็นภาษาบาลีที่คนฟังไม่เข้าใจความหมายดังไปทั่วศาลาวัด แต่ไม่ได้เข้าหูสองในแขกของงานแม้สักนิด
“ไหนบอกตัดไตแล้วจะรอดไงวะ”
“มันก็อดทนสุดๆแล้ว” น้ำเสียงเรียบๆตอบรุ่นน้อง สายตามองไปยังภาพถ่ายนักศึกษาที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมตั้งอยู่หน้าโลงศพนิ่ง
หลังพระสวดจบฝิ่นได้เอาใบแจ้งความแจกจ่ายคนในสายเพื่อให้ตามหาไอ้คนต้นเหตุ จากคำให้การของผู้คนละแวกบ้านรวมทั้งเด็กช่างคู่อริที่นั่งกินเหล้ากันทั้งกลุ่มบอกเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่า ใครเป็นคนทำ
เขาจะต้องตามตัวมันมาให้ได้ ไอ้พงษ์ ไอ้เด็กไม่เจียมกะลาหัว กล้ามากที่ทำเพื่อนเขา มันจะต้องได้รับบทลงโทษอย่างสาสม
“เมื่อเช้าไปดักบ้านกับที่โรงเรียนมันแล้วแต่ไม่เจอ ถามแฟนมันก็บอกไม่รู้เรื่อง” ฝิ่นรายงานความเคลื่อนไหวฝั่งตัวเอง พลางจุดบุหรี่ส่งให้พี่ชาย
“มึงเชื่อเหรอ” ไม้ยังคงวางหน้าเรียบพ่นควันออกจากปาก เข้าใจว่าเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ากัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดของทั้งคู่เพราะคนที่จากกลายเป็นคนใกล้ตัวที่สุด แต่ทำไมยังนิ่งได้อีก อันนี้ที่ฝิ่นไม่เข้าใจ
“หึ ลองตามแฟนมันก่อน ผมว่ายังไงมันต้องติดต่อกันบ้างล่ะ” เขาเองก็เคยหนีเหมือนกัน ต่อให้หลบซ่อนตัวดีแค่ไหน ไม่พ้นต้องส่งข่าวอยู่ดีล่ะน่า
“ก็แล้วแต่มึง” พี่ไม้ไม่แสดงความเห็นเพิ่มซึ่งทำให้ฝิ่นคิ้วขมวดกันแน่นกว่าเดิม ถึงเขาจะขึ้นมารับช่วงเป็นประธานสายต่อจากพี่แต่ก็ยังให้เกียรติพี่เสมอ คนในสายตายกี่คนต่อกี่คนพี่ก็คอยออกโรงเองไม่ใช่เหรอ แล้ววันนี้มันอะไร ทำไมพี่ถึงได้พูดน้อยเหมือนคนไม่สะทกสะท้านอะไรเลย คนที่ตายวันนี้มันไม่มีความสำคัญกับพี่เลยรึยังไง
“อ้อ ไอ้ดิวมันรับปากจะช่วยเรานะ”
“ก็ดี” เฮ้อ...
“ทางพี่ล่ะ?” ฝิ่นเริ่มเสียงห้วนจุดบุหรี่ของตัวเองบ้าง มองเข้าไปยังศาลาตั้งศพที่ญาติๆของเป้งกำลังเก็บข้าวเก็บของกัน
“ไม่มีอะไรผิดปกติ เช้ามันไปโรงเรียน เย็นไอ้ดิวไปส่งบ้าน กูเฝ้าทั้งคืนแล้ว มันอยู่คนเดียว”
“ถ้ายังไม่คืบหน้าก็คงต้องบีบแล้วนะ”
“ตามใจมึง” ก็ได้! ถือว่าให้อำนาจจัดการเรื่องนี้เต็มที่แล้วนะ
ทั้งสองคนคุยบ้าง เงียบบ้างเหมือนไม่รู้จะทำให้บรรยากาศตอนนี้ดีขึ้นยังไง จนสัปเปร่อไล่แล้วไล่อีกให้กลับไปได้แล้ว หลังทำการปิดศาลาซักพักแต่ยังต้องมานั่งเฝ้าสองคนนี้อีก
“กูจะอยู่เป็นเพื่อนมึงจนวินาทีสุดท้าย”
........
อาชีวะx คือสถาบันของฝิ่น ไม้ เป้ง
เทคโนT คือสถาบันของแก้ว พงษ์ ดิว
-
พ่อมึงใหญ่มาจากไหนหะสัดฝิ่น :m31:
-
รอต่อไปจ้า :call:
-
ทีละนิด ทีละนิด :z3:
-
เรื่องเป้งกับ พงษ์ มันต้องมีเบื้องหลังอะไรแน่เลย
แต่ก็นะพงษ์เห็นแก่ตัว หรือว่าไงดีละ
แต่ฝิ่นใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลและก็คงมองอะไรในมุมของตัวเอง เข้าข้างตัวเอง ความคิดตัวเอง
อยากได้พี่ไม้แทนนะที่จะเป็นพระเอกนะ ดูเค้ามองมุมกว้างขอปัญหา
เป็นผู้นำ ถ้าคู่กับแก้วจริง สามารถปกป้อง ดูแลแก้วได้
-
โอยย ค้างๆๆ
สงสารอะ สงสารทุกคน
พงษ์ไม่น่าทำกับคนอื่นแบบนี้เลย
รอต่อไปค่ะ
-
พระเอกตัวจริง..กำลังจะเผยตัว
-
พงษ์กับเป้งนี่ต้องมีอะไรสักอย่าง แล้วพี่ไม้ดูเหมือนจะรู้อะไรแฮะ
แต่ก็สงสารทุกคนเลยอ่ะ T^T
ชอบที่บอกว่า >>>> “กูจะอยู่เป็นเพื่อนมึงจนวินาทีสุดท้าย” <<<< โฮฮฮฮฮฮ เศร้ามากอ่ะ
o13 :pig4: :กอด1:
-
อ่านมาถึงตอนนี้
คำว่า “เลือกเอาจะจบที่คน หรือที่สถาบัน”
สุดท้าย ไม่ว่า จะเลือดอันไหน มันก็ ไม่จบทั้งนั้นแหละ :เฮ้อ:
-
มาอ่านตอนใหม่
จะรออ่านตอนต่อไปนะครับ เป็นกำลังใจให้นะคร้าบบ
-
ลุ้นๆ >.<แก้วจะโดนอะไรบ้างเนี่ย
-
มันต้องมีเบื้องหลังที่ทำให้พงษ์ฆ่าคนตาย
แต่ไม่ว่าเหตุผลอะไร ก็ไม่มีสิทธิ์เอามาเป็นข้ออ้างทำร้ายคนอื่นได้อยู่ดี
ฝิ่นก็เหมือนกันถึงจะแค้นแต่นั่นก็หาได้ใช่ข้ออ้างที่จะทำร้ายคนอื่นได้อยู่ดี
-
พงษ์ เปิดก้นหนีไปละ แก้วต้องมารับกรรมแทน :(
-
มันต้องมีเหตุผลสักอย่างที่พงษ์ต้องฆ่าสิ :z3:
อย่าทำแก้วๆ
-
:เฮ้อ:
-
เชียร์ให้ไม้เป็นพระเอก ดูแล้วเป็นคนมองอะไรในมุมกว้่าง มีเหตุมีผล และดูไม่ใช้อารมณ์ต่างจากฝิ่นสิ้นเชิง
ไม่รู้ว่าฝิ่นจะทำอะไรแก้ว แต่คิดว่าคงเป็นอะไรที่แก้วคิดว่าสู้ฆ่าให้ตายดีกว่ามาตายทั้งเป็นแบบนี้
-
:กอด1:
-
โอ้ววว...เหมือนมันกำลังวกไปวนมายังไงชอบกล
หวังว่าพระเอกคงจะใช่อย่างที่คิดไว้นะ หึๆ
-
:L2:สำหรับคนเขียนนะจ๊ะ :L2:
:m15:เริ่มจะเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงแล้วใช่ไหมว่าทำไมพงษ์ถึงต้องทำร้ายแป้งจนเสียชีวิต ไม้ต้องรู้สาเหตุแน่ๆ เลย :m15:
-
มันต่อจากตอนที่แล้ว ตั้งชื่อตอนเอาหน้าเข้าไว้ :o8:
“เป็นไง? ไอ้พงษ์ก็ไม่ได้ ตัวล่อก็ส่งคืนทุกอย่างเป็นศูนย์”
“เอาไว้ก่อนได้ไหมกูไม่สะดวกคุยเรื่องนี้”
“ก็พี่ เออ หลวงพี่ไม่ใช่เหรอบอกให้ทำอย่างนี้!” ฝิ่นกระแทกน้ำเสียงรุนแรงใส่รุ่นพี่ซึ่งตอนนี้อยู่ในผ้าเหลือง แล้วเดินดุ่มนำหน้าไปทางสระน้ำที่อยู่ท้ายวัด
“อย่าตะโกนภายในวัดฝิ่น ที่นี่เป็นที่สงบ เรื่องภายนอกก็ส่วนภายนอก ที่นี่กูอยู่ในผ้าเหลือง กูตั้งใจจะปฏิบัติธรรมเพื่อไอ้เป้ง มึงไม่ควรมาชักจูงกูไปทางกิเลสตอนนี้” หลวงพี่ไม้เดินตามช้าๆเอ่ยด้วยน้ำเสียงโทนเดียวไร้คีย์ชวนให้น่าหงุดหงิด
“พี่...หลวงพี่จะบวชถึงเมื่อไหร่” เขาลดน้ำเสียงลงแต่ด้วยความไม่พอใจมันก็ยังฟังดูกระด้างอยู่ดี
“จนกว่าจะเปิดเทอม”
“แล้วหลวงพี่จะให้ทำยังไงต่อ” หลวงพี่ไม้เงียบไปครู่หนึ่งสายตาทอดมองไปยังสระน้ำที่อยู่เบื้องหน้า
“กูไม่เคยรู้สึกเสียใจอะไรมากเท่านี้เลย ทุกครั้งต้องจบเรื่องให้ได้ภายในไม่กี่วัน แต่ครั้งนี้ มันใกล้ตัวเราเกินไป ใกล้จนรู้สึกว่าเราสูญเสียมากไปไหม เราเอาคืนไปเพื่ออะไร คนที่ตายก็ตายไปไม่ได้รับรู้อะไรด้วยเลย...บางทีเราควรหันกลับมาคิดได้แล้วว่าเราได้อะไรบ้างไหมจากสิ่งที่กำลังจะทำ”
“เหอะ นี่หลวงพี่คิดอย่างนี้ได้ยังไง ไอ้เป้งคงดีใจตายห่าที่ทำให้คนบนที่สูงอย่างพี่คิดได้” ฝิ่นประชดประชัน
“กูไม่อยากเสียเป้งไปโดยเปล่าประโยชน์ บางทีการตายของมันอาจเป็นการดึงกูกลับสู่จุดเริ่มต้นก็ได้ ฝิ่น...อำนาจ มันไม่ได้สำคัญอะไรเลยนะ ถ้าต้องแลกมาด้วยชีวิตคนแล้วยิ่งคนๆนั้นเป็นคนของเราด้วย มันไม่คุ้มกันเลย”
“แล้วไอ้เป้งผิดตรงไหนถึงต้องทำมันขนาดนี้ด้วย”
“ถ้ามึงยังคิดเองไม่เป็นแบบนี้ ไอ้เป้งคงไม่ใช่คนสุดท้ายที่ตาย ฝิ่นมึงก็รู้ยิ่งสูงยิ่งหนาว มึงมองย้อนกลับไปสิว่าเราเสียรุ่นน้องไปเท่าไหร่แล้วกว่าจะแข็งแกร่งได้อย่างนี้ มึงเจ็บปวดไหม มึงทุกข์ใจรึเปล่า ให้มันจบเถอะนะ”
หลวงพี่ไม้ค่อยๆก้าวย่างไปทางกุฏิ ด้วยความสงบ ดูสุขุม นิ่งจนแปลกตา
“อ้อ อีกอย่าง อย่าไปโกรธ อย่าไปแค้นอะไรเพื่อนมันเลย มันก็แค่เด็กรักเพื่อนเหมือนพวกเรานั่นแหละ” หลวงพี่เอ่ยประโยคส่งท้ายด้วยรู้นิสัยเขาดี ทิ้งให้ฝิ่นยกเท้าฟาดเตะกอหญ้าที่อยู่ใกล้ๆด้วยความโมโห
“ยังไงผมก็ไม่ยอมให้ไอ้เป้งตายฟรีแน่!” ฝิ่นตะโกนลั่นตามหลังหลวงพี่ไป
.
.
.
คนข้างนอกบอกว่าพวกเขาเป็นอันธพาล คนข้างนอกบอกว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อสร้างความเสื่อมเสียให้สถาบัน ฉุดความตกต่ำให้ประเทศ
คนข้างนอกมองว่าพวกเขาเอาดีแต่เรื่องชกต่อย นั่นก็ไม่เถียงเพราะมันเป็นเรื่องจริง
แต่คนข้างนอกไม่เคยรับรู้เลยว่า เขาก็มีหัวใจเหมือนคนทั่วไปนั่นแหละ
ทุกครั้งที่วิ่งเข้าชน ก็มาจากความรักและศักดิ์ศรีทั้งนั้น รักในสถาบัน รักในพวกพ้องผองเพื่อน ไม่ได้ทำไปเพราะคิดว่าเท่ ไม่ได้ต้องการเหรียญเชิดชูความเป็นวีรบุรุษจากใคร
แต่เขาคิดว่าลูกผู้ชายมันต้องอย่างนี้ โลกสร้างให้ผู้ชายมีพละกำลัง โลกสร้างให้เป็นเพศที่แข็งแกร่ง
และการอยู่เหนือผู้คนมันเป็นความท้าทายที่น่าทะยานขึ้นไปให้สูงที่สุด
ไม่เคยต้องการให้ใครสูญเสีย แต่หลายครั้งมันก็เลี่ยงไม่ได้
ทุกครั้งที่มีใครตาย มันเหมือนเขาได้ทอดทิ้งเพื่อนไปอย่างไม่ใยดี
มันรู้สึกผิดเจ็บปวดทุกครั้ง เพราะอย่างนั้นถึงต้องเรียกศักดิ์ศรีเพื่อนคืนมา
แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยจะเท่าครั้งนี้
คนที่เริ่มก้าวพร้อมกัน คนที่มีฝันร่วมกันทุกเวลา มันเร็วไป เร็วไปจริงๆ
เขาเพิ่งจะขึ้นเป็นใหญ่ในสายได้เพียงไม่กี่เดือน เป้งยังชื่นชมมันไม่พอใจด้วยซ้ำ กลับมาด่วนจากไปเสียแล้ว
เขาคิดอย่างหลวงพี่ไม่ได้หรอกนะ มันทำให้การตายของไอ้เป้งไร้ความหมายเกินไป
เขายอมรับไม่ได้จริงๆ เพื่อนใคร ใครก็รัก คนที่ฆ่าเพื่อนเขาเท่ากับมันเป็นศัตรู
และเพื่อนของศัตรูก็คือศัตรู
“พี่จะเอาไงต่อ” เด็กในสายส่งคำถามที่เขาได้ถามหลวงพี่ไปแล้วมาให้
“ยังไม่ได้คิด” ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ในใจกลับไม่ได้เย็นลงเลยสักนิด มีแต่เพิ่มความร้อนรุ่มกระวนกระวายเพิ่มโทสะให้เขายิ่งกว่าเดิม
“ผมว่าเล่นมันเลยดีกว่า” รุ่นน้องเสนอความคิดเมื่อเห็นประธานสายยังไม่ทำอะไร นับวันก็จะยิ่งเป็นการปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อเปล่าๆ
“อันนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว”
“พี่จะเอาเมื่อไหร่ก็สั่งมาเลย งานนี้เราเป็นต่ออยู่แล้ว พวก๙T มันไม่ยุ่งชัวร์” อันนั้นเขารู้ดี ถึงให้โอกาสไอ้ดิวไง เรื่องนี้ใครทำก็ต้องรับผิดชอบ แต่เมื่อคนผิดมันหนีความรับผิดชอบนั้นไป เรื่องก็ต้องกลายเป็นเรื่องของสถาบันอย่างเลี่ยงไม่ได้
“เมื่อไหร่เหรอ...” ใจเขาอยากบุกเข้าไปยิงหัวมันกลางสนามบินตอนนี้ด้วยซ้ำ แต่ก็คงโจ่งแจ้งเกินไป ได้แต่แอบตามดูความเคลื่อนไหวของไอ้คนชั่วช้าที่กำลังร่ำลาเพื่อนมันอย่างโหยหาอาวรณ์กันซะเหลือเกิน
เพราะมัน ไอ้แก้ว...ถ้ามันไม่เสือกเข้ามายุ่งป่านนี้เขาคงพาไอ้พงษ์ไปลงนรกได้แล้ว
กูควรจัดการกับมึงยังไงดี...
.....................
เอ่อ เพิ่งลงก็รีบรอเลยอะ รีบไปไหนกันหรือ? แงๆ โดนแกล้ง
ว่าจะยังไม่ลงแล้วนะ แต่เดี๋ยวคุณเฉาก๊วยจะหัวแตก นี่ไม่รักไม่ลงนะเนี่ย (เหรอ? ฮ่าๆ) (เหมือนคนเขียนไม่สำนึกเลยอะ )
ตอนหน้าอีกเมื่อไหร่ไม่รู้ค่ะ รีบปั่นรอน้ำมาเยือน ต่อไปจะเอามายาวๆกว่านี้ แล้วอย่าบ่นว่ายาวไปขี้เกียจอ่านล่ะ (ทำให้ได้แล้วค่อยมาพูด!) แง๊...
ยิ่งเขียนไปพล็อตใหม่ยิ่งเข้ามาจากที่จดไว้ต้องขีดทิ้งแล้วทิ้งอีก โอยๆสติจงกลับมา
ยาวหน่อยนะคะ หมายถึงทอล์คอะค่ะ ยาวหน่อย //หลบทรีน :z6:
สองตอนนี้ไม่ใช่ตอนพิเศษนะคะ แต่อยากเอามาลงให้เห็นมุมของอีกฝั่งบ้าง
ใครเป็นพระเอกคงไม่ต้องเดาแล้วเนอะ (ตกลงใครอะ ช่วยได้ยัง อิอิ)
เจ้สอง งง ตอนที่ ๒ ง่ะ อ่านนิยายหนูไปจนจบสิคะเจ้จะได้ไม่งง ฮ่าๆ (เนียนอีกละ) จริงๆตั้งใจลงตอนที่ ๓ ให้เป็นคำตอบของตอนที่ ๒ น่ะค่ะ (งงกว่าเดิมไหมเนี่ย)
ไม่แปลกใจเลยค่ะที่มีหลายคนงงๆ อยู่ นั่นเป็นเพราะซีซั่นตั้งใจปกปิดบางสิ่งบางอย่างเอาไว้(ปิดลึกไปไหมแก!) ถ้าเขียนออกมาหมดก็ไม่สนุกสิเนอะ^^ ถ้าทำให้คนอ่านไม่มีคำว่าเพราะอะไร ทำไม คนเขียนก็คงจะต่อนิยายไม่ได้อะค่ะ
หวังว่าคงค่อยๆเฉลยเผยออกมาทีละนิด(มั้ง) :z6:
แต่ทุกตอนมีคนจับทางได้ตลอดเลยนะ ใครเอ่ย?^^
สั้นY^Y...อ๊ากกก เค้าก็พิมพ์ไว้ยาวพรืดๆประมาณสี่ถึงห้าหน้าแล้วนะตัวเอง (มีตอนปัจจุบันนี่แหละสั้นจู๋เลย) พอจัดหน้ากระดาษให้อ่านง่ายขึ้นมันก็หกถึงเจ็ดหน้าแล้วด้วย ยังสั้นอีกเหรอ (ยังมันยังไม่สำนึก!)
เกรงว่าเขียนเยอะกว่านี้มันจะมีแต่น้ำอะ คนเขียนพยายามลดความเวิ่นเว้อของตัวเองออกจากนิยายอยู่
ไม่อยากให้มันยาวแต่อ่านแล้วไม่มีอะไรเลย (พูดเหมือนนิยายแกเคยมีอะไรงั้นแหละ...)
พยายามเขียนให้มันเต็มอยู่อะ ไม่อยากให้อ่านแล้วไม่เข้าใจแต่ต้องการให้เกิดความสงสัย แต่ก็เหมือนเดิมติเข้ามาเยอะๆค่ะจะได้รู้ตัวแล้วจะแก้ไขในตอนต่อๆไป
อืม...ถ้าจะตอบว่านิยายเรื่องนี้แรงไหม คือ คนเขียนตอบไม่ได้จริงๆค่ะ เพราะอยู่ในฐานะคนข้างในที่มองจากข้างนอกด้วย ทั้งยังมีจิตใจที่หยาบกร้านอีก ยังไงขอคำตอบจากคนอ่านด้วยน่ะเจ้า (แต่เค้ายังไม่ได้พาไอ้ฝิ่นยกพวกไปเทคโนTเลยนะ ถ้าแรงเค้าจะได้ตัดออกไปเลยT^T)
ซีซั่นรักในความเป็นสถาบันอาชีวะมากค่ะ แต่ไม่เคยสนับสนุนให้เด็กฆ่าฟันกันนะ เพราะซีซั่นรักในส่วนความเป็นมิตรภาพ เขียนๆไปก็คงจะทำร้ายคนกลุ่มนี้ได้ไม่มาก ทุกๆตอนพยายามใส่แง่มุม สิ่งที่เขาคิด ไม่ว่าสิ่งนั้นตัวละครจะคิดยังไง ผิดหรือถูกซึ่งจะเน้นให้ออกมาเป็นตัวของเด็กอาชีวะให้มากที่สุด (คนอ่านด่าได้ตามสบาย)
คนกว่าจะเป็นคนได้ มันต้องผ่านการหล่อหลอมจากอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง
ไม่ว่าเด็กๆในเรื่องจะใช้เหตุผลที่ถูกต้อง(ของมัน) หรือเป็นเหตุผลที่ต้องถูก คนเขียนเชื่อว่ามันก็มาจากความรู้สึกด้วยกันทั้งนั้น
อย่าลืมว่าตอนนี้คุณอ่านเพียงมุมหนึ่งเท่านั้น
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะคะ เป็นกำลังใจให้อย่างดีเลยค่ะ ยิ่งได้อ่านคอมเม้นท์แล้วชื่นใจทุกครั้งสิน่า^^ ชอบที่คุณรู้สึกไปกับเนื้อเรื่องชอบที่คุณเปิดเผยคำถามที่คาใจออกมา ชอบที่คุณบอกว่าเราเขียนสั้น-*- แต่คุณก็ยังอ่านนิยายเราและเป็นกำลังใจให้เราเสมอ ขอบคุณมากค่ะ //กอดแข้งกอดขาคนอ่าน จุ๊บๆ
-
:really2: :really2: :really2:
-
อยากรู้เรื่องต่ออ่ะ พรีสสสส
-
รอตอนตอ่ไปนะจ้า อิิอิ
-
อยากรู้ปมลึกๆของเป้งกับพงษ์นะครับ
-
หลวงพี่ไม้ !!! แล้วใครจะมาเป็นกันชนให้น้องแก้วอ่า~~
ชอบที่ได้เห็นมุมมองของแต่ละคนว่าที่ทำ ทำไปเพื่ออะไร (มีแต่ของพงษ์ที่ยังเป็นปริศนาอยู่)
ถึงจะทำเพราะมีเหตุผล แต่ก็ไม่ใช่พาลไปให้คนอื่นเดือดร้อน! อย่าทำน้องแก้วนะว้อยยยยยย (นี่แหละประเด็น555)
ประทับใจเรื่องนี้จัง ^^
ปอลิง สั้นไม่กลัว ยาวไม่กลัว กลัวไม่อัพ T T โคม่าแล้วอ่ะ ตอนนี้เช็คทุกวันเลยค่ะ 555
ปอลิง2 ถ้ารู้ว่าจะมาง้ออย่างนี้นะ จะงอนวันละ3เวลาเลย ^^
-
เขารักเพื่อนมึงก็ยังจะไปยุ่งกับเขาอีก :m31:
- โมโหใครมาลงที่ฝิ่นหมด :กอด1:
-
หลวงพี่ไม้ทำไงดี ไอ้ฝิ่นมันไม่ฟังเลยอ่ะ มันจะทำแก้ว อ่ะ
:sad4:ไม่เอาๆ อย่าทำแก้วเลย
-
รักเพื่อนกันดีจัง
-
อ่านมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นพระเอกเลย
-
จัดการกับความคิดมึงก่อนสิไอ้ฝิ่น ไอ้ห่านี่ :beat:
-
อ่านแล้วซึ้ง ทึ่งในความคิดของคุณค่ะ ทุกคำพูดที่ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ โดยเฉพาะคำพูดของหลวงพี่ไม้เมื่อครองสมณะเพศ
บังเอิญ เราเองก็เพิ่งผ่านสถานการณ์คล้าย ๆ กับในเรื่องนี้มาเหมือนกัน เพราะเรื่องมันเกิดใกล้ตัวเราเกินไป คนตายก็ตายไปแล้ว แต่คนที่อยู่นี่สิจะเป็นอย่างไรต่อไป....
ติดตามอ่านต่อไปค่ะ
-
ฝิ่น แก้แค้นไปมาแล้วจะจบเมื่อไหร่
น่าจะไปบวชเป็นเพื่อนหลวงพี่นะ
-
อ่าน ไป ก็ งง ไป น่าจะ เกริ่น เรื่อง ไป ซักระยะ ก่อน แล้ว ค่อย มา เสริมตอนพิเศษที่เป็นเรื่องย้อนหลังว่าเกิดอะไรขึ้น แบบนั้นน่าจะดีกว่าไหมอ่ะ :z10: แต่ก็ชอบ น่ะ แหวกแนวเด็กช่างดี :กอด1:
-
เอ่อ เพิ่งลงก็รีบรอเลยอะ รีบไปไหนกันหรือ? แงๆ โดนแกล้ง
ว่าจะยังไม่ลงแล้วนะ แต่เดี๋ยวคุณเฉาก๊วยจะหัวแตก นี่ไม่รักไม่ลงนะเนี่ย (เหรอ? ฮ่าๆ) (เหมือนคนเขียนไม่สำนึกเลยอะ )
^
^
อะ โดนคนเขียนแซว :m23:
ถามว่าสำนึกมั้ย...ไม่เลยซักนิด 555+ :laugh:
ก็ตอนก่อนหน้านี้ที่เอามาลงมันสั้นจริงๆ นี่คร้าบบบ
อย่าว่าแต่เคี้ยวหมากจะแหลกแล้วหรือเปล่าเลย ยังไม่ทันทาปูนแดงบนใบพลูด้วยซ้ำ ก็อ่านจบแล้วอะ กร๊ากกกกกกกก คนอ่านมันวัยเคี้ยวหมากแล้วหรือนี่ :serius2:
ขอบคุณนะคะที่เอามาลงอีกจึ๊กนึง จึ๊กนี้เนื้อหาเดินจนช่วยให้หายคัน (ใจ) มากๆ ค่า จึ๊ก จึ๊ก จึ๊ก :กอด1:
(ตอนนี้งดเม้นท์เนื้อเรื่อง แต่เตรียมลับฝีปากรอประณามไอ้คุณฝิ่นเรียบร้อยแล้ว :angry2: )
-
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
-
โอย ค้าง
ฝิ่นจะทำอะไรแก้ว
ค้าง ค้าง ค้าง
มารอค่ะ รีบมาต่อนะค้าาา อยากอ่านต่อแล้วง่าาาาา
ปล.ลงยาวๆไม่ว่าหรอกค่ะ ชอบด้วย >o<
-
:กอด1:
-
ฝิ่นเอ้ย จะเล่นกับไฟ ระวัง ไฟมัน จะเผาตัวเองนะ
-
ไม่ยอมหยุดกันแบบนี้ ก็ต้องมีคนตายเพิ่มล่ะ
ฝิ่นจะจับตัวแก้วไปอีกเหรอ
บอกตามตรงไม่ชอบอ่านแนวโหดแบบนี้เท่าไร
แต่อยากรู้ตอนต่อไปน่ะ
-
จุใจเลยมาทีเดียวสองตอน เป็นกำลังใจให้ครับ
-
เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ :z2:
:pig4: :pig4:
-
+1 ให้จ้า
ฝิ่น แกจะสงบบ้างไม่ได้เลยเหรอ :z3:
สงสารแก้วไม่รู้เรื่องก็ดันเป็นเพื่อนสนิทอีก เฮ้อ :เฮ้อ:
สู้ ๆ ๆ แก้ว และ คนแต่งจ้า :amen:
:call: :call:
-
จับน้องแก้วมาทำเมีย :man1:
จบเลยค่ะน้องฝิ่นขา :impress2:
-
ร้ายกาจแค้นกันไปแค้นกันมามันก็ไม่จบกันซะมีอะดิ
-
เมื่อไหร่จะกอดกันหนอ
-
คนทำก็หนีไปแล้ว
คนโดนทำก็ตายไปแล้ว
เหลือแต่เพื่อนของทั้งสองฝ่ายที่กำลังจะก่อศึกใหม่
แก้แค้นกันไปมา ไม่รู้จบ มีแต่เสียกับเสีย
-
:เฮ้อ: เบื่อพระเอกประเภทใช้แต่อารมณ์ไม่ใช้เหตุผล
พี่คนเขียนเขียนดีนะครับ แม้บางทีก็งงๆ ดูโดดๆ
-
อ่านเรื่องนี้จบทีไรต้องดิ้นบนเตียงตลอด =.=
มันค้างอ่า ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง T^T
-
ตามต่อค่ะ :L2:
อันนี้คือตอนก่อนที่จะจับแก้วอีกรอบใช่มั้ย?
แก้วโดนจับไปแล้วจะโดนอะไรบ้างหนอ :เฮ้อ:
-
:L2:สำหรับคนเขียน :L2:
:L2:ชอบประโยคที่หลวงพี่ไม้พูด เพราะมันคือสัจธรรมจริงๆ :L2:
เรื่องนี้ได้สะท้อนมุมอีกมุมหนึ่งของเด็กสายอาชีวะ ที่คนภายนอกไม่รู้ เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน มีขาว ก็มีดำ เพียงแต่ว่าเราจะมองเห็นด้านไหน บางคนก็มองว่าเด็กช่างหัวรุนแรง แต่ลืมมองไปว่าทุกสถาบันมันก็มีทั้งดีและไม่ดีทั้งนั้น
-
พงษ์น่าจะบอกแก้วบ้างว่ามีเรื่องอะไรกับเป้ง ดูมันซับซ้อนซ้อนเงื่อนมากๆ
-
จะบอกว่าชอบพงษ์จัง ดูถนอมแก้วมาก :-[
ส่วนน้องแก้ว ก็รักเพือนมากเช่น (เอ๊ะๆๆๆๆๆๆ ซัมติงไรกันมั๊ยนี่ :haun4:)
ส่วนไอ้น้องฝิ่น เฮ้ออออ ต่อไปน้องแก้วอ่วมแน่เลย
ปล. เค้าค้างอ่ะตัวเธออออออว์ :z3:
-
:L2: สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ :L1:
-
สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันของแก้วกับฝิ่น คือความรักทีทมีต่อเพื่อนตนเอง
อันนี้น่านับถือที่สุด
แงๆ ต่อไปหนูแก้วจะเจอรัยบ้างก็ไม่รู้อ่ะ
-
ผมรอติดตามอยู่นะครับ เป็นกำลังใจให้ แต่ขอให้เนื้อเรื่องกระชับอีกสักนิดก็ดีนะครับ :pig4:
-
สรุปคนที่ตายเป็นเพื่อนของฝื่นเหรอ?
แอบมึนๆ งงๆ ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นพี่น้อง
รออ่านตอนต่อไป เผื่อจะเข้าใจมากขึ้น
-
^^ รอติดตามต่อ แก้วจะเป็นไงหนอ
-
:กอด1:
-
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว น่าติดตามมาก
-
ขอบคุณที่ทักว่าเพื่อนหรือพี่ที่ตายกันแน่นะคะ เพราะกลับไปอ่านตอนสองมันพลาดจริงๆค่ะ
ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้เป้งเป็นพี่แต่มันใกล้ตัวเกินไปเลยเพิ่งเปลี่ยนให้เป็นเพื่อนดีกว่าตอนลงนี่แหละเลยแก้ไม่หมดซะงั้น
อยากตอบเม้นจังเลยแต่ไม่ทันแล้วค่ะ คนเขียนได้ใช้เป็ดน้อยที่คนอ่านให้มาเป็นประโยชน์แล้วววว
โดนสั่งให้ไปตามหลวงพี่ไม้รีบสึก เอ้ย เค้าต้องหนีน้ำแล้วตัวเอง
ก็คงเอาช่วงที่ไม่มีเน็ตใช้ทำให้เป็นประโยชน์ด้วยการเอาคำบอกกล่าวของคนอ่านมาทำให้เนื้อเรื่งมันเดินและต่อเนื่องมากขึ้นล่ะค่ะ
ระวังน้ำกันด้วยนะคะทุกคน
จนถึงสิ้นเดือนไม่ได้อัพแน่นอนค่ะ กลับมา(เมื่อไหร่) ค่อยเจอกันนะคะ
ขอโทษจริงๆที่ทำให้ต้องรอ T^T
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ^^
-
ฮือๆ
ไม่เป็นไรครับ พวกเรารอได้
ฝิ่นนะฝิ่น คอยดูเถอะ ทีหลังจะมาเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปไม่ได้นะ ถ้าถึงตอนนั้น เราจะซ้ำเติมให้ดู ว๊ากกกก <<<< อินจัด
-
รอคอยต่อไปนะคะ
สู้ๆ
-
รอจ้า :L2:
-
บางทีพยายามลดความเวิ่น แต่ก็ทำให้นิยายขาดๆเกินๆนะจ๊ะ อ่านแล้วงงนิดหน่อย ต้องตั้งใจอ่านมากๆ
แต่ก็สนุก เนื้อเรื่องชวนให้ติดตาม ว่ารักต่างสถาบันครั้งนี้จะรอดหรือไม่ ตามลุ้น้จา
-
จะรอต่อไปค่ะ
ขอให้น้ำลดไวๆ
-
บางครั้ง ความแค้น ก็ลืมได้ แค่ลืม..
-
:m5: มาต่อเร้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :m17:
-
จะติดตามต่อไปครับผม
-
เรื่องนี้ซับซ้อน เพราะมันเรื่องความรู้สึก
สงสารตัวละครนะ...
ติดตามค่ะ
-
จะรออ่านนะครับ ขอให้ปลอดภัยนะครับ สู้ ๆ
-
รอจ้า :z2:
-
แก้วรับกรรมไป
-
ฝิ่น เลิกจองเวรจองกรรมได้แล้ว
-
o9 o9
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕
“เตรียมตัวต้อนรับกูได้เลย” คนกลุ่มใหญ่ออกมาคนละทิศคนละทางมายืนล้อมหน้าล้อมหลังทั้งสามคน
“ไม่ต้องรุม แต่ถ้ามันอยากโดนก็จัดให้มันหน่อย” ฝิ่นเอ่ยปากบอกพวกพ้อง ทำให้พี่ดิวที่รับปากฝากฝังจากไอ้พงษ์ดิบดีต้องยอมปล่อยให้ฝิ่นลากคอรุ่นน้องฝ่าพวกของมันนั่นล่ะออกไปทางโซนที่จอดรถ พร้อมคนตามคุมอีกสองคน แก้วเลยต้องก้าวเท้าเดินไปตามแรงบีบจากต้นคออย่างขัดไม่ได้
ถ้ามันยังไม่จบล่ะก็...
พลั่ก!!
“โอ๊ะ!” หน้าแก้วแทบทิ่มกระโปรงรถเมื่อคนที่ลากมาถีบสะโพกเขาอย่างจัง
“ขึ้นรถ” มันสั่ง
“ขึ้นรถ? ไปไหน” แก้วหันไปถาม
“มึงมีสิทธิ์ถามเหรอ” พูดแปลกจะพาไปไหนทำไมเจ้าตัวจะไม่มีสิทธิ์รู้ แต่ ... เขาไม่อยากรู้แล้วก็ได้เมื่อไอ้ฝิ่นมันควักมีดพับออกมากดเปิดกดพับ พลิกมีดเล่มเล็กนั้นสำรวจความคมของมันไปมา เหอะ ไม่ต้องขู่ก็ไปด้วยดีๆอยู่แล้วน่า
“ถ้ามึงไม่ยุ่ง ทุกอย่างคงจบสวยกว่านี้”
“แต่นี่ก็จบเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?” สายตาคมกริบจ้องมองอย่างไม่พอใจเมื่อแก้วพูดจบประโยค ทำให้แก้วต้องก้มหน้าคิดหาทางออกทางอื่นด้วยความหวาดหวั่น แต่ตอนนี้เขาคิดว่าควรเงียบปากและทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีไปก่อนน่าปลอดภัยกว่า
“เหอะ” มันแสยะยิ้มแล้วพยักหน้าให้คนที่ยืนคุมอยู่ข้างหลังแก้ว “ลองมึงสูญเสียดูบ้าง จะยังถามคำนี้ไหม? กูอยากรู้จริงๆ”
ลองสูญเสียอย่างนั้นเหรอ แก้วกลับมาถามตัวเองบ้าง
ถ้าคนที่ถูกทำร้ายเป็นไอ้พงษ์บ้างน่ะเหรอ เขาจะเป็นยังไงนะ
ก็คง...จะเสียใจและโกรธเคืองคนที่ทำอยู่บ้าง แต่คงไม่ถึงขนาดต้องเอาคืนหรอก
คงไม่ถึงกับต้องเอากันให้ตาย อย่างที่คนข้างๆคิดจะทำแน่ มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านั้นสิ
กฎหมายไงล่ะ ให้กฎหมายเป็นตัวจัดการสิ แต่... ไอ้พงษ์ยังถูกประกันตัวได้ง่ายๆเลย
เพราะใครล่ะ?
“ยังไงซะคนเราก็ต้องตาย จะตายเร็วตายช้าก็หนีไม่พ้นหรอก” บ่นงึมงำเบาๆ ไม่ได้ต้องการให้ใครได้ยิน
เพราะเขาไม่ได้เข้าข้างตัวเองเลยสักนิด
อย่าต้องให้ถึงกับลองสูญเสียเลย แค่คิดว่าต้องเสียใครไป แก้วก็ยอมไม่ได้แล้ว
มัวแต่อยู่ในห้วงความคิดของตนเอง จนไม่ทันระมัดระวังตัว มือหนึ่งพร้อมผ้าผืนเล็กที่อ้อมมาจากด้านหลังจึงโปะเข้าจมูกอย่างง่ายดาย
พยายามยื้อแย่งเอามันออกไปแต่เรี่ยวแรงก็หดหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
“มึงเอามันขึ้นรถ แล้วจะไปไหนก็ไป” ฝิ่นสั่งโจ้เด็กในสายให้แบกร่างของตัวการที่ทำให้คนฆ่าเพื่อนเขาลอยนวล
“พี่จะจัดการกับมันยังไง” โจ้ คนสนิทประธานสาย๕x หันมาถามลูกพี่หลังจากวางตัวแก้วที่เบาะหลังเสร็จ
“พวกมึงเห็นไอ้ดิวมองมันไหม?”
“อืม”
“ก็เห็นสิพี่” ทั้งโจ้ทั้งเด็กอีกคนพยักหน้าตอบ
“โจ้ มึงว่าเหมือนรึเปล่า?” ด้วยความที่โจ้เป็นคนสนิทกว่าอีกคนฝิ่นจึงเอ่ยถามเพื่อให้แน่ใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังคิด
“ไอ้เหมือนน่ะเหมือนพี่ แต่...สายตาไอ้ดิวมันดูมีอะไรมากกว่า ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร อยากรู้พี่คงต้องไปถามหลวงพี่เองแล้วล่ะ” บุคคลนอกการสนทนาได้แต่ทำหน้าสงสัยเพราะไม่เข้าใจว่าสองคนนี้คุยเรื่องอะไรกัน
“รายนั้นปล่อยให้เขาสงบจิตสงบใจไปก่อนเถอะ แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย แล้วตอนนี้กูก็รู้แล้วจะเอาคืนพวกมันยังไง”
.
.
.
เธอคือส่วนหนึ่งของหัวใจ ที่ตอนนี้ได้ขาดหายไป ...
แก้วรู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงเพลงรอสายที่คุ้นเคยอยู่ใกล้ๆ แต่ยังไม่มีแรงขยับเขยื้อนตัว
“มีอะไร” แก้วมองหลังคนรับสายซึ่งนั่งอยู่ปลายเท้าเขาด้วยความฉงน ถ้าจำไม่ผิดมันโทรศัพท์เขาหนิ
“...................” ฝิ่นหันหน้ากลับมามองเขาพร้อมแสยะยิ้มมุมปากเมื่อพบว่าแก้วรู้สึกตัว สายตาส่อเจ้าเล่ห์เหมือนคิดอะไรได้ชวนให้แก้วยิ่งงุนงงเข้าไปใหญ่
“กูก็อยู่กับน้องมึงไง”
“....................”
“หึ อย่างมึงจะทำอะไรกูได้” น้ำเสียงเย้ยหยันดั่งคนถือไพ่เหนือกว่าซ้ำยังมองหน้าแก้วไม่วางตา เขาพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งแต่ต้องสะดุดที่ข้อเท้าของตนเองซึ่งมีโซ่ล่ามอยู่ แก้วมองหน้าฝิ่นด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะหลบสายตาด้วยการมองไปรอบตัว เอาอีกแล้วห้องที่ไม่คุ้นเคย คราวที่แล้วโดนจี้ข่มขู่ คราวนี้วางยากันเลยเหรอ
“...................”
“ทำไม ถ้ากูจะทำมึงห้ามได้เหรอ ใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้กูไม่ให้อยู่สุขแน่” มันขยับมานั่งใกล้เขาทั้งยังเอานิ้วจิ้มหน้าผากแก้วแรงๆ
“......................”
“เตือนตัวมึงเองเถอะ” แล้วโยนมือถือเครื่องนั้นใส่ตัวเขา แก้วหยิบมือถือมาดู สายของพี่ดิวได้ถูกตัดไปแล้ว
“ไง? หลับสบายดีไหม?” มันถาม แต่ก็ผลักหน้าอกแก้วให้ลงไปนอนอีก ตามด้วยมือใหญ่ข้างเดียวกอบกุมรอบคอเขา
แก้วมองหน้าคนเจ้าอาฆาตเขม็ง กัดฟันดึงมือนั้นออกจากคอ แต่ไม่สำเร็จ เขาไม่ได้โดนบีบคอแต่มันทำให้เขาลุกไม่ได้ และมันก็อึดอัดจนแทบขาดอากาศหายใจได้เหมือนกัน
“หึ แค่นี้ก็ลุกไม่ได้” มันจับตัวแก้วพลิกคว่ำหน้าเข้าหาเตียง ใช้เข่าดันหลัง รวบมือแก้วไขว้หลังด้วยมือเดียวของมัน อีกมือที่ว่างอยู่ก็กดหัวแก้วทำให้ใบหน้าฝังเข้ากับหมอน
“กูรู้กูกำลังพาลแต่มึงก็ชั่วไม่แพ้เพื่อนมึงนั่นแหละ!”
“อื๊อ” แก้วดิ้นรนหาอากาศหายใจแต่ไม่ต้องเมื่อยแรงขนาดนั้น ไอ้ป่าเถื่อนฝิ่นก็ดึงผมเขาขึ้นแถมปล่อยด้วยการผลักให้หน้าทิ่มหมอนอีกต่างหาก
“เฮือก! ฟู่ววว” พลิกตัวเองลุกขึ้นมาได้รีบสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ เฮ้อ ก็รู้ว่ามีส่วนผิดแต่ไม่ต้องย้ำขนาดนี้ก็ได้ แล้วไอ้โซ่นี่ล่ะ
“ล่ามทำไม” แก้วถามเสียงห้วน ดึงโซ่ที่ถูกล็อคติดกับขาเตียงขึ้นแล้วตั้งใจโยนลงพื้นแรงๆ
ไอ้ฝิ่นนั่นไม่ตอบ ดูเหมือนไม่ได้สนใจเสียงเขาด้วยซ้ำ มันเปลี่ยนไปนั่งไขว่ห้างข้างเตียงกอดอกคิ้วขมวดทำหน้าเคร่งเครียด เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
แก้วทำหน้าเบื่อใส่โซ่นั่น ลูบคอ ลูบหัวตัวเองลุกออกจากเตียงอย่างรำคาญข้อเท้า แต่กลับต้องชะงักเมื่อสายตาคมกริบหันมาเห็นการกระทำของเขาเข้า
ไหนๆก็ลงจากเตียงได้แล้ว จึงค่อยๆขยับไปยืนพิงผนังห้องแก้เก้อก่อนละกัน
“มึงเห็นนั่นไหม?” มองตามสายตาที่ฝิ่นพยักพเยิดบอก เสื้อยืดสีขาวพร้อมเฉิ๊ดสีดำสวมทับอยู่บนไม้แขวน
หน้าตู้ไม้บานหนึ่งทำให้แก้วต้องหยุดชะงัก เม้มปากแล้วเสมองไปทางอื่น
“เรื่องเพื่อนมึง เสียใจด้วยนะ” ถ้าเสื้อยืดตัวนี้ไม่เต็มไปด้วยร่องรอยคราบเลือดและสภาพที่ขาดแหว่งทำให้
ไม่กล้าจินตนาการว่าคนสวมใส่โดนกระทำไปอย่างรุนแรงขนาดไหน แก้วจะโกรธที่โดนมันทำร้ายซ้ำแล้ว
ซ้ำเล่าอยู่หรอก แต่พอมาเห็นอย่างนี้ความรู้สึกผิดมันกลับเข้ามาแทรกแทน
ไอ้พงษ์มันทำได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ คนที่คอยโอบอุ้มเขามาตลอดเนี่ยนะ เกิดอะไรขึ้นกับใจมัน...
“มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น” ฉึก! เอาเถอะจะแดกดันยังไงก็ตามใจเถอะ รู้แล้วว่าเพื่อนเขาผิดแต่จะให้ทำยังไงได้คนเราก็ต้องมีพลาดกันบ้าง เขาเชื่อว่าพงษ์มันก็ไม่ได้ตั้งใจหรอกน่า แม้ว่าความคิดของเขาจะขัดแย้งกับสภาพเสื้อตัวที่เห็นนี้ก็ตาม
“ฉ็อปมันหายไป มึงรู้ไหมมันอยู่ที่ไหน”
“ใครจะไปรู้ล่ะ” ถามมาก็กล้าตอบให้อย่างทันควัน
“หึ นอกจากหน้ามืดตามัวหลงเพื่อนแล้วมึงรู้อะไรบ้างเนี่ย” ไอ้ฝิ่นมันว่าเขาหลงเพื่อน โธ่ แล้วทีมันล่ะ
“ก็ไม่ต่างกันหรอกน่า” พูดออกไปก็ต้องถอยให้ชิดผนังเข้าไปอีก ซึ่งมันชิดกว่านี้ไม่ได้แล้ว แก้วอยากจะตบ
ปากตัวเองสักทีที่ไปบ้าโต้ตอบกับมันเข้า
ฝิ่นลุกจากเตียงเดินอ้อมมาอีกฝั่งที่แก้วยืนทำหน้าตาสลดเพราะปิดอาการหวาดระแวงไม่มิดยิ่งเหมือนทำให้มันนึกสนุก
“ปากดีอย่างนี้ ต่อยกับกูสักยกดีกว่า มา!”
“ห๋า เอ่อ” อะไรของมันอีก มันเดินมามองหน้าเขาแล้วอยู่ๆก็ท้าต่อยขึ้นมาดื้อๆ แต่ไอ้แก้วอย่าได้ใช้
ความคิดอะไรเลย มันเอ่ยปากแล้วกระชากคอเสื้อแก้วเข้าหามันทันที
แก้วทำได้เพียงใช้มือดันหน้าอกคนตรงหน้าไว้เท่านั้น
“ต่อยสิ มึงไม่อยากชกกูรึไง กูให้โอกาสมึงแล้วนะ” ไอ้อยากน่ะอยากอยู่หรอกแต่อยู่ๆดีๆจะให้มาชกกันง่ายๆอย่างนี้เนี่ยนะ?
แต่...ได้...ในเมื่อกล้าท้าเขาก็กล้าทำตามข้อเสนอเหมือนกัน ถือเป็นการเอาคืนที่ลากตัวเขามาถึงสองครั้งแถมครั้งนี้ยังทำเหมือนเขาเป็นนักโทษอีก จัดไป สองมือแก้วกำแน่นชกเต็มๆแรงเข้าที่หน้าท้องไอ้ฝิ่น
...แต่ทำไมมันไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
ปุ๊บ ปุ๊บ ปุ๊บ แก้วรัวๆกำปั้นเข้าไปอีก แต่มันก็ยังนิ่งอยู่...
ปุ๊บ ปุ๊บ โว๊ยยย ไอ้พงษ์นะไอ้พงษ์ทำไมมึงถึงไม่สอนกูต่อยกับคนอื่นเขาบ้าง มึงจะหวงวิชาไว้ทำไมวะ เขานึกโมโหในใจ
“เหอะ อ่อนด้อยอย่างนี้กูจะคุ้มไหมวะ?” มันใช้น้ำเสียงเย้ยหยันดูถูกเขาสุดๆ เมื่อแก้วดันเผลอทำหน้าหงอยที่ไม่สามารถทำให้มันสะเทือนได้ แก้วอ้าปากอยากโต้เถียงแต่พูดไม่ออกในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง เลยเปลี่ยนเป็นพ่นลมหายใจแทน
อีกอย่างจากที่เจอมันแค่ไม่กี่ครั้งก็รู้แล้วว่ามันบ้าดีเดือดแค่ไหนจึงเลือกไม่ต่อกรกับมันดีกว่า
โบราณว่าหมากัดอย่ากัดตอบ
แค่ต่อยแล้วมันไม่เจ็บไม่ได้แปลว่าแก้วอ่อนแอสักหน่อย!
ไอ้นี่มันหนังหนาหน้าเหนียวซะขนาดนั้น
ไอ้ฝิ่นเหวี่ยงแก้วลงเตียงอีกครั้ง
“เพื่อนมึง ไอ้ดิว รวมทั้งมึง รวมหัวกันลอบกัดกู แต่กูจะเอาคืนให้หมด เทคโนT กูจะค่อยๆเก็บไปทีละคน ทำกูไว้เจ็บแค่ไหน กูจะให้พวกมึงเจ็บกว่า”
“ทำไมหยุดไม่ได้ จะอาฆาตแค้นกันไปถึงไหน คนเขามีพ่อมีแม่ มึงไม่รู้สึกรู้สาอะไรบ้างเลยเหรอที่ไปทำร้ายเขา?” แก้วท้าวแขนยันเตียงต่อปากต่อคำด้วยความที่เขาเองก็เหลืออดแล้วเหมือนกัน
ฝิ่นขึ้นคล่อมบนตัวแก้ว ดึงคอเสื้อคนบนเตียงให้เผชิญกับสายตาที่เยือกเย็น
“แล้วเพื่อนกูล่ะ! เพื่อนกูโดนเพื่อนมึงฆ่า มึงกลับปกป้องเพื่อนมึงที่เป็นฆาตกร มึงรู้สึกรู้สาอะไรบ้างไหม?”
“กู...” เขาพูดไม่ออก ในเมื่อสิ่งที่มันตอกกลับมาเป็นความจริงซะจริงกว่าจริง
ถ้ามันยังไม่จบล่ะก็...
“กูรับผิดชอบคนเดียวก็ได้” เขาพูดโดยไม่มองหน้าคนที่อยู่ข้างบน เขาไม่อยากให้คนอื่นมารับเคราะห์แทนในสิ่งที่เขาและเพื่อนก่อ หรือบางที
ถ้าเขาไม่เข้ามายุ่งอย่างที่มันว่า ...เรื่องคงจบแค่ที่ไอ้พงษ์
แต่นั่นมันเป็นไปไม่ได้แล้ว
“หึ มึงต้องรับผิดชอบที่เป็นต้นเหตุเรื่องนี้ทั้งหมดอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่มึง ทุกอย่างจะไม่เป็นอย่างนี้ คนอื่นจะไม่ต้องเดือดร้อนเพราะความเห็นแก่ตัวของมึง กูจะทำให้มึงเจ็บจนแทบกระอักเลือดตาย แต่กูไม่ให้มึงตายง่ายๆหรอก ไม่ต้องกลัว อย่างมึงมันไร้ค่าเกินไปสำหรับกู”
แล้วต้องทำยังไง ชดใช้ด้วยชีวิตพอไหม? คำตอบคือไม่เห็นๆ
แล้วจะให้เขาต้องทำยังไงกับปัญหาที่ไร้ทางออกอย่างนี้
“ทำไมกูให้มึงต่อยรู้ไหม? เพราะกูต้องแน่ใจว่ามึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกู แต่ถ้าเป็นตัวประกันล่ะก็ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม จากนี้ กูจะตามมึงไปทุกที่ กูจะสร้างหายนะให้พวกมึงด้วยตัวกูเอง!”
สายตาที่เคยโศกเศร้าได้หายไปจากผู้ชายคนนี้แล้ว เหลือเพียงความแข็งกร้าววาวโกรธที่เต็มเปี่ยม เพียงแค่มองเข้าไปยังนัยน์ตาก็เหมือนดังถูกฟาดด้วยท่อนเหล็กแข็งจนแทบทรุด แก้วเบือนหน้าไปทางอื่นก่อนถูกผลักให้หลังชนเตียงแล้วตามด้วยเสียงปิดประตูดังปัง!อย่างตั้งใจให้ขวัญกระเจิง
เขาผิดไปแล้ว นี่ใช่ไหมจุดจบของคนเห็นแก่ตัวเช่นเขา ถ้ามันจะชดใช้อะไรให้ฝิ่นได้ เขายอมทุกอย่างแต่อย่าต้องให้ใครที่ไม่เกี่ยวข้องมารับกรรมแทนพวกเขาด้วยเลย
.................................
สวัสดีค่ะ เหนื่อยจัง เพิ่งกลับมาถึงเมื่อคืนวานนี่เอง หนีน้ำไปสองอาทิตย์ก็ยังไม่ยอมมาบ้าน พรุ่งนี้ต้องเข้าออฟฟิซละ
คนอ่านลืมกันรึยังเน้อออ T^T ตอนนี้เนื้อเรื่องกำลังเดินแล้วนะคะ(นี่แกเดินแล้วหรือ??) อิอิ เดินนิดนึงแล้วเห็นไหมหนอT^T ซึ่งยังคงความยานขาดความกระชับเช่นเคย :เฮ้อ: ปมสร้างไว้หมดแล้วจากตอน ๑-๔ ซึ่งคนเขียนไม่สร้างเพิ่มแน่นอนค่ะ จากนี้ไปจะค่อยๆคลี่คลายแล้ววว
ขอบคุณทุกกำลังใจและคำบอกกล่าวนะคะ ตรงไหนที่งงๆกันก็บอกเป็นจุดๆมาได้ซีซั่นจะได้รู้ว่ามันคือบทที่เราตั้งใจให้ขาดหรือเราพลาดอีกจะได้แก้ไขได้ตรงจุด
ว่าจะเอาช่วงตะลอนๆหนีน้ำจืดไปหาน้ำเค็มทำสต็อคไว้สักหน่อยจนเวลาล่วงเลยถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีเช่นเคย น้องๆชวนนับเลขทั้งวันทั้งคืนเลย แต่เค้าก็รีบมาปั่นต่อแล้วน๊า...
คุณdawnthesky เราเป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
กอดทุกคนเลย จุ๊บๆ (แอร๊ คนเขียนติดจุ๊บอะ)
-
เดี๋ยวอีแก้วตายไปแล้วมึงจะรู้สึก :laugh:
-
..ฝิ่นนี่...พิศาลตัวจริงมาเลย พระเอกแหงๆๆๆ
..น้องแก้วของช้านนนนนน ช้ำในหมดแล้วว
..แต่ชอบนะพระเอกโหดๆๆเนี่ย สู้ๆจ้าเรื่องน้ำท่วม หนีมันไปน้องน้ำมันตามเราไม่ทันหลอก :laugh:
-
โอยๆๆ กลิ่นจำเลยรักโชยมาเชียว
รอคลี่คลายปม ทั้งพงษ์ฆ่าเพื่อนฝิ่นทำไม ไม้/ดิวเกี่ยวอะไรกับแก้ว มีความหลังอะไรที่ทำให้ฝิ่นถามลูกน้องว่า "เหมือนหรือเปล่า" และแก้วกับพงษ์เป็นแค่เพื่อนสนิทกันหรือมากกว่านั้น
ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า :pig4:
-
กลับมาแล้วว ดีใจค่าาา
ชัวร์แล้วว่าฝิ่นเป็นพระเอก
แล้วจับแก้วมาแบบนี้ กะจะให้แก้วเป็นอะไรเนี่ย
จำเลยรัก? ฮาๆๆๆ
ค้างมากเลยค่ะ รีบมาต่อนะคะ *A*
-
ยังไม่ลืมคร้าบ รออ่านอยู่ทุกคืนวัน
ดีใจที่ตัวละครเริ่มจะคืบหน้าแล้ว
-
เมื่อไหร่จะกอดกันหนอ
-
ฝิ่นนี่มันบ้ารึเปล่าว่ะ :เฮ้อ:
-
:pig4: :pig4:
-
ไม่ลืมค่า รอคอยอยู่ :กอด1:
ชอบแก้วจัง ดูเป็นผู้ใหญ่ นิ่งๆ สงบใจได้แม้ในสภาวะสุ่มเสี่ยง เป็นนายเอกที่แปลกไปอีกแบบ :o8:
ฝิ่นบอกว่าแก้วเป็นต้นเหตุทั้งหมด หมายถึงเรื่องหาที่ให้พงษ์ซ่อน หรือว่าเรื่องอย่างอื่นด้วย (เช่นเรื่องที่ทำให้พงษ์ฆ่าคน)
ชักอยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ มาต่อไวๆน้า สู้ๆค่า
:L1: :pig4:
ปอลิง ใกล้จะได้หนีน้ำแล้วล่ะค่ะ (ฮา)
-
ทิ้งเนื้อเรื่องไปก่อนนะ แต่โซ่เนี่ย.... :m3:
-
o22 o22 o22
น้องแก้วจะโดนน้องฝิ่นเอาไปขัดดอกแล้ว :m15:
-
โซ่ แส้ กุญแจมือเอาให้ครบ อิอิ
ยังมองไม่ออกว่าคู่นี้เขาจะลงเอยกันยังไง
-
+1 ให้จ้า
รอว่าแก้วจะรอดจากฝิ่นได้ไง :z3: :z3:
รอจ้า :call: :call:
-
อย่าทำรุนแรงกับแก้วมากนะฝิ่น
เด่วจะมาเสียใจภายหลังไม่รู้ด้วยนาา .. :เฮ้อ:
-
ไม่ลืมหรอกจ้า รออย่างใจดจ่อเลย
แก้ว-พงษ์ เป็นเพื่อนที่รักกันมาก(จะเกินเพื่อนหรือปล่าว)
ไม่รู้ว่าพงษ์นี่ใช้แล้วทิ้งหรือจะมีบทต่ออ่ะค่ะ
ส่วนพี่ดิวแอบชอบแก้วชัวร์ แต่ทำไมพี่แกปกป้องแก้วไม่ได้เลย
-
พี่ฝิ่นมันเถื่อนมาก ขี้โมโหจริงๆ แก้วอาจจะเห็ฯแก่ตัวที่ช่วยเพื่อนที่ผิด แต่รวมๆแล้วแก้มก็เป็นคนดีมากคนหนึ่งเลยอะ
ชอบมากอยากอ่านอีกเยอะๆเลยอย่าหายไปนาน นะจ๊ะ จะรอ :L2:
-
มาต่อเร็ว ๆ น้า :sad11:
-
อ่านตอนนี้รู้สึกอยากให้กอดกันไปเลย
-
เครียสไปหรือป่าวอะ
-
กอดแก้ว :กอด1:
รออ่านนะคะ :z2:
-
^^
-
โหดร้ายที่สุด เจ้าคิดเจ้าแค้นจริงๆเลย ไอ้ฝิ่น
-
โอ้ยอะไรจะแค้นเคืองขนาดนั้นเนี่ย
ต้องชดใช้ด้วยอะไรล่ะทั้งที่ก็ไม่ได้เป็นคนก่อปัญหานะเนี่ย
รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบบบบบบบบ
-
ใจเย็นๆเฮียฝิ่น อย่ารุนเเรงกับหนูเเก้วนะ :sad4: :sad4: :sad4:
-
โห้!!!!!!!!!
ฝิ่นครบสุตรเจรงๆๆ (สูตรซาดิสต์อ่ะนะ)
แต่ละอย่างบ่งบอกมากกกกก
o22 o22 o22
-
เหนื่อยใจ กว่าจะรักกันได้ สงสัยแก้วช้ำในเกือบตายก่อนมั้งเนี่ย :z3:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๖
ห้องนอนขนาดกว้างซึ่งครบพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกแทบทุกชนิด หากแต่ไม่มีแม้หน้าต่างสักบาน ...แล้วที่นี่คือที่ไหนอีกล่ะเนี่ย
ช่างเถอะจะที่ไหนก็ช่าง ไม่มีแล้วคนที่หวังให้คอยช่วยเหลือ ไม่ว่าพี่ดิวจะใหญ่โตในโรงเรียนมากเท่าไหร่แต่นอกอาณาเขตของตัวเอง พี่ก็เป็นได้แค่มดน้อยตัวหนึ่งเท่านั้นเอง
อีกอย่างตั้งใจไว้แล้วนี่ว่าจะจบเรื่องด้วยตัวเอง ถึงไอ้ป่าเถื่อนฝิ่นมันยังยืนกรานไม่ยอมจบง่ายๆก็ตามที อย่างน้อยคงพอให้ประวิงเวลาไปได้จนกว่าจะเปิดเทอม เผื่อมันอาจเปลี่ยนใจมาลงที่เขาทุกอย่างดังที่ตั้งใจก็เป็นได้
เดินลากโซ่เส้นยาวเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำผ่านเสื้อตัวที่แขวนหน้าตู้แล้วใจหาย ไม่ใช่กลัวสิ่งลี้ลับจากเจ้าของเสื้อนะ แต่มันรู้สึกละอายใจปนรับรู้ได้ถึงแรงแค้นของคนที่ยังอยู่ ถ้าไม่อาฆาตกันแรง คงไม่เก็บเสื้อไว้ในสภาพนี้เป็นแน่
“ขออโหสิกรรมแทนไอ้พงษ์ด้วยนะ” แก้วมองซากเสื้อด้วยใจห่อเหี่ยว ยังคงรู้สึกผิดอยู่ข้างในอย่างหลีกหนีไม่พ้น แม้พยายามยกข้ออ้างให้เพื่อนตัวเองชั่วน้อยลงเท่าไหร่ แต่ก็เท่ากับตนสนับสนุนให้เพื่อนเลวทางอ้อมมากเท่านั้น
ออกจากห้องน้ำเดินไปทางประตูห้องลองเปิดดูปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อค หากแต่เปิดออกไปได้ก็พบกับแสงไฟสลัวตามทางเดินพร้อมราวบันไดทางด้านซ้ายมือ น่าจะไว้ใช้สำหรับขึ้นไปยังชั้นบน แต่เขาออกไปสำรวจมากกว่านี้ไม่ได้ ความยาวของโซ่พาให้เขาอยู่ได้เพียงบริเวณห้องเท่านั้น
อยู่คนเดียวที่ไหนก็อยู่ได้ ถึงจะในห้องแคบๆอย่างนี้ แต่เขากลับรู้สึกโล่งมากกว่าการอยู่ท่ามกลางผู้คน ถ้าเพียงแต่ขังเขาไว้อย่างนี้ไปเป็นปีเป็นชาติหรือตลอดชีวิต แล้วฝิ่นสบายใจ ลดความโกรธเคืองลงไปได้บ้าง ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา แค่รำคาญไอ้ที่ติดอยู่ตรงข้อเท้าซ้ายบ้างเท่านั้น แต่หากเพียงเขาไม่ใส่ใจมองข้ามมันไป เขาก็ทนได้สบายมาก
.
.
.
ปัง! สะดุ้งตื่นเมื่อเสียงประตูปลุก เจ้าของห้องวางกระเป๋าใบหนึ่งหน้าประตูมองแก้วตาขวาง แก้วลุกขึ้นนั่งบนเตียงหยิบโทรศัพท์มาดูเวลาปรากฏว่าทุ่มกว่าแล้ว
“ไปโดนอะไรมาน่ะ” ทักออกไปคล้ายความเคยชินเมื่อเห็นฝิ่นคิ้วแตกกลับมา แผลก็ยังไม่ได้ทำ
“ยุ่ง!” ฝิ่นตวาดกลับทั้งเลี่ยงจากเตียงไปเปิดตู้หยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ
เฮ้อ ทำไมต้องอยู่ใกล้พวกชอบใช้ความรุนแรงตลอดด้วยนะ แก้วถอนหายใจรำพันกับตัวเอง
ไม่นานเสียงน้ำจากฝักบัวก็หยุดลง เจ้าของห้องเดินออกมาเช็ดผมอย่างลวกๆแล้วโยนผ้าใส่ตะกร้าที่อยู่หน้าห้องน้ำ เสร็จแล้วเดินกลับไปเปิดตู้หยิบบ็อกเซอร์ออกมาใส่ไม่ได้สนใจอีกคนที่อยู่ในห้องเลย
แก้วลุกจากเตียงลากโซ่ก้าวเท้าอย่างไวมายืนตรงหน้าฝิ่น
“เอ่อ มีอุปกรณ์ทำแผลรึเปล่า กูช่วยได้นะ” นี่เขาไม่ได้หวังผลอะไรเลยนะ แค่อยากช่วยจริงๆ แต่รอยยิ้มบนใบหน้ากลับผุดขึ้นมาประจานความคิดของตัวเอง
“เสือก!” ทั้งตะคอกทั้งผลักไหล่แก้วให้ออกไปให้พ้นทาง เฮ้อ คนอยากทำดีด้วยก็ไม่เอา
ฝิ่นเดินไปเปิดลิ้นชักหยิบกล่องพยาบาลออกมาวางไว้บนโต๊ะ แก้วหน้าบึ้งไม่พอใจที่เมื่อกี้ถามแล้วไม่ยอมตอบแต่ก็เพียงครู่เดียวจากนั้นเขาก็ทำการลากโซ่ตามไปแย่งสำลีออกจากมือฝิ่น หยิบทิ้ง
“ที่จับก็มี” แก้วหยิบปากคีบออกจากกล่อง เทแอลกอฮอล์ใส่ฝาขวด คีบสำลีตัวใหม่มาจุ่มให้ชุ่ม ซับนิดหน่อยแล้วเอื้อมมือไปเช็ดแผลตรงหางคิ้วคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ฝิ่นจิ๊ปากทำท่ารำคาญเขาเสียเต็มที่
“จิ๊ เหี้ย เบาๆกูแสบ” แก้วแอบกลั้นหัวเราะ
“ไปโดนอะไรมาเหรอ” ถามออกไปก็เห็นสีหน้าคนตรงข้ามที่ดูจะไม่พอใจ
“คิดไม่ถึงว่าไอ้ดิวจะกล้ายกพวกมาหน้าบ้านกูเชียว” คำพูดที่ออกจากปากไม่รู้ว่ามันคือคำตอบรึเปล่า แต่ที่กลับมาสภาพอย่างนี้ก็คงมาจากพี่ดิวสินะ ขนาดเขาทำตัวไม่ดีใส่ พี่ยังเป็นห่วงยังมีน้ำใจตามหาเขาอีก ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิด
“หึ แต่โง่ๆอย่างนั้น กูปล่อยให้ค้นทั้งบ้านก็หาตัวมึงไม่เจอหรอก” ฝิ่นนั่งลงที่เก้าอี้ กอดอก ไขว้ห้างมองหน้าแก้วบ้าง มันกวนอารมณ์แก้วชะมัด
“ก็เล่นมีห้องใต้ดินนี่เนอะ” แก้วแขวะ แล้วคีบสำลีตัวใหม่ชุบยาแดงก้มตามไปเช็ดแผลและรอบๆซ้ำก่อนจะใช้ผ้าก๊อซปิดแผลไว้เป็นอันเสร็จ งานอย่างนี้เขาถนัดนัก
“อย่าคิดว่าทำอย่างนี้แล้วจะช่วยอะไร เก็บเข้าที่ด้วย”
“คนใจดำ” แก้วพึมพำประท้วงเบาๆตามหลัง เก็บกล่องพยาบาลปึงปังเข้าลิ้นชักที่เดิมที่เจ้าของมันเอาออกมา
ตอนอยู่คนเดียวเขาสบายใจจะอยู่ในห้องนี้ยังไงก็ได้ แต่พอเจ้าของห้องกลับมาเขาก็ไม่รู้ว่าเขาควรอยู่ที่ไหน
ฝิ่นเดินไปอีกมุมซึ่งเป็นครัวเล็กๆ แต่แก้วยังคงยืนเก้ๆกังๆอยู่ที่เดิม
“แดกข้าวรึยัง” มันถามเสียงดังจากมุมครัว
“ยะ ยัง” เหมือนจะตะโกนตอบแต่น้ำเสียงมันเบาบางเหลือเกิน
“ทำไมไม่แดก หรือมึงตั้งใจจะอดข้าวตายจะได้รีบๆหนีความรับผิดชอบใช่ไหม?!” เฮ้อ ยังไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นเลยเหอะ
แก้วเดินตามเข้าไปในส่วนของครัว
“ก็ไม่รู้ว่าให้กินอะไรได้นี่” ไม่ได้ค้นอะไรในห้องสักอย่างเลยด้วย
“ปากดี” มันโผล่หน้าออกจากตู้เย็นมาว่าแก้วนิ่งๆ เขาเองก็เพิ่งรู้ตัว ลืมไปว่าควรจะทำตัวว่าง่ายกับมันเข้าไว้
นึกขึ้นได้จึงแย่งข้าวกล่องซีพีจากมือฝิ่นทั้งสองกล่องไปเวฟเอง จัดแจงใส่จานวางบนโต๊ะกินข้าวให้เสร็จสรรพอย่างไม่สนใจใบหน้าเบื่อหน่ายของเจ้าของห้องเลย
“ถอดออกซะ กูรำคาญเสียงมันฉิบหายแม่ง” ฝิ่นที่กินข้าวเสร็จก่อนโยนกุญแจดอกหนึ่งให้แก้ว แก้วมองหน้าฝิ่นอย่างข้องใจ แล้วจึงนั่งลงกับพื้นเพื่อปลดล็อกกุญแจที่ข้อเท้าออก ทั้งยังรู้สึกใจชื้นขึ้นมาแทนที่ความงุนงงอีกด้วย นี่ขนาดเขาเพิ่งทำดีกับมันแค่นิดหน่อยนะ ยังได้รับการตอบแทนขนาดนี้ ถือว่าคุ้มสุดๆ ยังไงซะคนทุกคนก็ต้องพ่ายแพ้ต่อความดีแหละน่า
“หึ เฉพาะตอนกูอยู่เท่านั้น” เหมือนมันจะรู้ว่าเขากำลังดีใจ
“ห๋า?”
“อนุญาตให้ถอดออกแค่ตอนกูอยู่เท่านั้น” มันว่าอย่างเหนือกว่า แก้วหน้ามุ่ยเพราะเมื่อครู่ยังนึกว่าความดีจะเอาชนะไอ้ป่าเถื่อนนี้ได้อยู่เลย
“กลัวกูหนีล่ะสิ” ถอดโซ่ออกได้ก็ลุกขึ้นยืนอย่างมาดมั่นทั้งยังเอ่ยวาจาท้าทายเจ้าของห้องอีก
“เหอะ ถ้าคิดว่าแน่ก็ทำ ไม่ต้องมาอวดดี เพราะถึงยังไงกูก็ไม่ปล่อยพวกมึงอยู่แล้ว” แก้วอ้าปากค้างนึกโมโหตัวเองที่แค่เถียงยังสู้มันไม่ได้ ไอ้ป่าเถื่อนแสยะยิ้มเดินชนไหล่เขาไปหยิบกระเป๋าที่ถือเข้ามาด้วยโยนขึ้นเตียง
“เสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำซะ”
“เฮ้ยนี่มัน” แก้วเดินตามไปที่เตียงคิดว่ากระเป๋าใบนี้มันคุ้นๆนะจนกระทั่งรูดซิปเปิด
“กูให้คนไปขนให้จะได้ไม่มาเป็นเสนียดเสื้อผ้ากู” อยากยุ่งเกี่ยวกับเสื้อผ้ามึงตายล่ะ แก้วตอบในใจ “เร็วๆ จะได้ออกไปสักที”
“ไปไหน?” เขาย่นคิ้วถาม
“ฮึ่ย กูจำเป็นต้องตอบมึงไหม มึงอยู่ในฐานะอะไรสำเหนียกตัวเองบ้าง คนอย่างมึงมีหน้าที่ทำตามคำสั่งกูเท่านั้น จำใส่กะโหลกบางๆมึงไว้” พร้อมจิ้มหน้าผากเขาแรงๆก่อนมันจะออกกจากห้องไป
แก้วค้นกระเป๋าเจอผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟันทั้งยังเสื้อผ้าอีกหลายชุด ...ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้กลับบ้านเลยนี่นา โทรศัพท์ก็โดนยึดเพิ่งได้คืน กุญแจบ้านก็คงยังโดนเก็บไว้อยู่ มิน่าถึงได้เข้าไปเก็บข้าวของเขามาได้ ไม่รู้ป่านนี้บ้านเขาจะเป็นยังไงบ้าง
แก้วหยิบเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำด้วย อาบน้ำเปลี่ยนใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ธรรมดา เปิดประตูห้องน้ำออกมาเจ้าของห้องก็รออยู่ด้วยเปลี่ยนใส่เสื้อเชิ๊ดแขนยาวสีเดียวกันอีก
เดินตามฝิ่นออกจากห้องขึ้นบันได เจ้าของบ้านเปิดฝ้าบานใหญ่กว่าตัวออก แก้วโผล่หัวขึ้นตาม แต่ยังต้องก้มหัวลอดผ่านประตูบานเตี้ยอีกชั้นถึงจะออกจากห้องได้จริงๆ ออกมาแล้วเขาจึงรู้ว่านี่มันห้องใต้ดินที่ใช้ห้องเก็บของใต้บันไดบังหน้าชัดๆ
“ไปไหนลูก” หญิงวัยกลางคนหน้าตาดูใจดีเอ่ยทักก่อนจะออกจากบ้าน
“นัดเพื่อนไว้น่ะแม่ อ้อ นี่เพื่อนหนูชื่อไอ้แก้ว มันจะมาอยู่นี่สักพัก” ไปเป็นเพื่อนมันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วได้เต็มใจมานี่แต่แรกไหม แก้วค้านในใจแต่ก็ยกมือไหว้คนที่ไอ้ป่าเถื่อนเรียกว่าแม่อย่างนอบน้อม
แม่ฝิ่นพยักหน้ายิ้มพร้อมรับไหว้
“ไม่เคยเห็นหน้าเลย ตามสบายนะลูกแก้ว” ลูกแก้วเหรอ ไม่ได้ยินใครเรียกอย่างนี้มานานมากแล้วนะ แก้วมองผู้หญิงตรงหน้าไม่วางตา “คิ้วไปโดนอะไรมา”
“มีเรื่องนิดหน่อย ไปนะแม่”
“ฝิ่นอย่าเมามากนะลูกพ่อเขาเป็นห่วง”
“จ๊ะ ไปล่ะๆ ไม่ต้องรอนะหลับก่อนได้เลย” ฝิ่นสะกิดแขนแก้วให้เดินตาม เพียงแค่เจอกันครู่เดียวแก้วกลับรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูอบอุ่นจัง แต่ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า มีแม่ใจดีอย่างนี้ทำไมลูกถึงได้ทำตัวเลวร้ายนักนะ
.
.
.
รถยนต์เข้าจอด ณ ผับแห่งหนึ่งซึ่งโซนนี้มันแถบของเทคโนT แต่คนที่ยืนรออยู่บริเวณที่จอดรถกลับเห็นเป็นพวกของไอ้ป่าเถื่อนทั้งนั้น ทุกสายตาล้วนแต่มองเขาเป็นศัตรู ถ้าไม่เพราะมากับประธานสายคงได้โดนรุมสกรัมแต่แรกเห็นแน่
“เดี๋ยวๆมาที่นี่ทำไม” แก้วเปิดประตูลงจากรถรีบเดินตามฝิ่น มาถึงถิ่นขนาดนี้มีหวังได้เรื่องชัวร์
“ทำไม? มึงจะตุกติกอะไร?” เอากับมันสิ ในหัวมันเคยจะเปิดรับข้อความอะไรจากใครก่อนไหม แก้วถอนหายใจเพราะชักรำคาญความคิดคนอย่างมันแล้ว
“ก็...”
“อย่ามีปัญหา” ฝิ่นจับต้นคอแก้วดันให้เดินตามพวกของมันเข้าไปในผับ ที่นี่แก้วเคยมาสองสามครั้งแค่ยื่นบัตรประชาชนก็เข้าได้แล้ว
“อายุสิบเจ็ด” แต่คนที่หยิบไปดูไม่ใช่การ์ดหน้าผับ “อ่อนกว่ากู ทีหลังเรียกพี่ด้วย ไอ้เด็กอมมือ” มันยักคิ้วล้อ
“เหอะ” แก้วเบ้ปากหันหน้าหนี
“ถึงกูไม่ใช่รุ่นพี่ที่มึงเคารพแต่กูก็เกิดก่อน พี่มึง เพื่อนมึงไม่เคยสอนให้เคารพคนอาวุโสกว่ารึไง”
“เหอะ” อีกครั้ง เขาไม่ใช่คนก้าวร้าวอะไร ถึงเขาจะยินยอมอยู่ในโอวาทมันเพื่อหวังจะลบล้างความผิดที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่เขาต้องก้มหัวแสดงความเคารพคนที่เขาไม่ได้นึกเคารพอย่างมัน
“บัดดี้! บัดดี้จริงๆด้วย เฮ้ย ทำไมมากับ...” ทั้งคนที่เดินนำหน้า ทั้งคนที่เดินตามหลังต่างเข้ารุมล้อมเจ้าของเสียงทักที่เดินสวนออกมา “เหี้ยแล้วกู”
“แสน เอ่อ กู” ไม่รู้จะบอกเพื่อนว่ายังไง อีกทั้งมือที่เคยบีบต้นคอได้เปลี่ยนเป็นล็อกแล้วลากพาเดินเข้าไปข้างในร้าน แก้วเกร็งตัวไม่เดินตาม
“สนุกตั้งแต่หน้าร้านเลยโว้ย” ฝิ่นหัวเราะชอบใจ
“อย่าทำอะไรเขา” แก้วขืนตัวเอ่ยคำร้องขอออกไป ฝิ่นยกยิ้มมุมปากหันมามองหน้าเขา
“โจ้ กระทืบมัน”
“ครับพี่”
“อย่านะ แสน ระวัง! ปล่อย ปล่อยนะเว้ย อย่าทำคนอื่น อย่า...” แก้วทั้งตะโกนทั้งดึงทั้งข่วนตีแขนหนาที่ล็อกคอ แต่ยิ่งดิ้นยิ่งถูกลากให้เข้าไปข้างในร้านจนไม่สามารถมองเห็นเหตุการณ์อะไรได้อีก
“นี่แค่เริ่มต้น”
“ใจมึงทำด้วยอะไร แค้นนักมึงก็ฆ่ากูเลยสิ ไปทำคนอื่นทำไม ไปทำคนที่ไม่รู้เรื่องด้วยทำไม!” ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับบัดดี้เขาด้วยซ้ำ แต่มันยังทำร้ายกันได้ เลวที่สุด
ฝิ่นก้มกระซิบใกล้ใบหูเขาด้วยความพึงพอใจ
“กูพอใจ มีอะไรไหม? มึงทุรนทุรายใช่ไหมล่ะที่รู้ว่าเพื่อนตัวเองต้องเจออะไร นี่แหละคือสิ่งที่กูสะใจที่สุด”
.................
จบตอนเพราะต่อจากนี้ยาวมาก(แน่ใจ?) ต่อในตอนหน้าดีกว่าเนอะ //คนอ่านพยักหน้าบอกว่าโอเค
เปิดเพลงท้ายเรื่องเหมือนละครหลังข่าว
...กักขังฉันเถิดกักขังไป ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่า
อย่าขังหัวใจให้ทรมาน ให้ฉันเศร้าโศกา
เหมือนว่าฉันเป็นเช่นดังจำเลย …
ไม่รู้จะทำยังไงเนื้อเรื่องมันถึงจะกระชับ ปั๊บๆ ตัดฉากไปโน่นนี่แบบไม่ขาดตอนได้ ทั้งที่ก็ชอบอ่านนิยายมาก เกิดอาการอยากเขียนเองขึ้นมาแต่พอมาทำแล้วกลับไม่มีความสามารถพอแฮะ อย่างตอนนี้ก็เขียนแล้วแก้ แก้แล้วเขียนอยู่หลายรอบ เพราะตัวเองอ่านแล้วรู้สึกไม่สนุก ยืดไปไหนแม่คุณเอ้ย มองดูนิยาย อ้อ อืดอาดเหมือนคนเขียนเองนิหว่า เฮ้อ ถอนหายใจวันละหลายรอบพอๆกับไอ้น้องแก้ว...ว่าแล้วก็เดินไปตบหัวไอ้ฝิ่นระบายอารมณ์ ไม่ได้เรียกร้องความสนใจจากคนอ่านนะคะ (อันนี้ขอเลยอย่าเห็นใจมัน) เค้าแค่บ่นเอาฮา คนอ่านอย่าใส่ใจเพราะนังซีซั่นจะเกิดอาการอย่างนี้บ่อยมาก เอิ๊กกก(รู้ตัว) บ่นต่อ จริงๆตอนนี้ไม่กล้าโพสนะ ทำใจตั้งแต่เมื่อวาน เพราะเรื่องมันยังไปไม่เท่าไหร่เลย แต่บอกตัวเองว่า ถ้าแกไม่ลงแล้วเรื่องมันจะเดินได้ยังไง วะ ฮะ ฮะ ให้กำลังใจตัวเองแบบหน้าด้านๆ เอากับมันสิ
:o8:คนอ่านจะว่าอะไรไหมถ้าเรื่องนี้มันจะขาดความกระชับขาดความรวดเร็วไปบ้าง แต่คนเขียนถนัดเรื่องเวิ่นเว้อนะขอเอามาแทนได้เปล่า กร๊ากกก (ดูมัน)
แต่มั่นใจในตัวเองมากว่า เรื่องเดินทุกประโยคค่ะ^^ //ฮุเร่ ฮุเร่ ถือพู่เชียร์ตัวเอง
แหม๋ เห็นโซ่ตรวนมารำไรล่ะตื่นตัวกันเชียวนะ (ทั้งคนเขียนทั้งคนอ่าน ฮ่าๆ)แต่มันยังกอดกันง่ายๆไม่ได้หรอกค่ะ ยังขาดอุปกรณ์อีกหลายอย่าง (สนองนี๊ดตัวเองล้วนๆละอันนี้) ...เพลียกับตัวเองนะบางที
:pig4:ขอบคุณมากเลยค่ะที่โพสไปยังคงมีคอมเม้นท์กลับมาเช่นเคย โฮ น้ำตาปริ่ม (เวอร์ๆ) จริงๆยิ้มแก้มปริเลยอ่า กอดดด จุ๊บ
ปล.ฝิ่นเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลีกหนีคำว่า”เธอดีเกินไป”ค่ะ
ตอบเม้นท์ข้างล่างนะคะ^^
-
ผิ่นโหดร้ายมากอ่ะ
ทำคนไม่มีทางสู้
:z3: :z3: :z3:
-
ชื่อเรื่อง น่าจะเป็นความรักแบบสนุกๆ นะ
แต่เนื้อเรื่อง มันเครียสอะๆ
-
เราไม่รู้สึกว่าฝิ่นเกลียดแก้วแฮะ แต่ทำตัวแบบนี้ มันน่า :z6: ทีกะแม่นีแทนตัวเองว่าหนู ที่กะแก้วแรงตล๊อด (วิบัติเพื่อเสียง)
ให้กำลังใจคนเขียนนะคะ เราว่าแต่งเก่งออก สนุกด้วย อ่านจบแล้วอยากนอนไปจนถึงวันอัพตอนใหม่เลยค่า :laugh:
ปอลิง แสนน่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นซวยนะ ออกมาได้ประโยคเดียวก็.......*ยืนไว้อาลัย*
===========================================
มาดิธ พอดีอ่านตรงตอบเม้น
อย่าบอกนะว่าที่แก้วนิ่งเป็นเพราะ แก้วเป็นมาโซ :a5:
-
ฝิ่นพูดตามตรงไม่อยากให้เอ็งเป็นพระเอกเลย มันเลวเกินวะ เป็นใครจะรักลงทำเเบบนี้ สงสารเเก้ว จุ๊บๆ
ทำร้ายจิตใจโคตรอ่ะๆฝิ่นสงสัยอยากให้เหมือนตอนที่ตัวเองเจอ
-
ฝิ่นทำตัวน่าโดน :z6: จริง
สงสารแก้วจังแฮะ
เมื่อไหร่จะถึงบทแก้วทำให้ฝิ่นรู้สึกบ้างน๊า
-
เวินเว้อเถอะค่ะ ชอบยาวๆ
แต่ขอตอนนึงเยอะๆ ยังอ่านไม่สะใจเลย ตัดวู้บ
มันค้างนะค้าาา
อยากอ่านอีกไวๆแล้วง่าา
รีบมาต่อน้าค้าา
ตั้งใจรอ
-
เข้าใจว่าแค้น แต่สงสารน้องคนที่ชื่อแสนแล้วละตอนนี้ o12
-
ฝิ่นไม่ได้ดีเกินไปจริงๆด้วยค่ะ แต่เลวเกินไปเลยแหละ :laugh:
-
ตอบเม้นท์บ้าง
เดี๋ยวอีแก้วตายไปแล้วมึงจะรู้สึก :laugh:
...ฮ่าๆๆ ใจเย็นๆ
..ฝิ่นนี่...พิศาลตัวจริงมาเลย พระเอกแหงๆๆๆ
..น้องแก้วของช้านนนนนน ช้ำในหมดแล้วว
..แต่ชอบนะพระเอกโหดๆๆเนี่ย สู้ๆจ้าเรื่องน้ำท่วม หนีมันไปน้องน้ำมันตามเราไม่ทันหลอก :laugh:
...บางทีเจ้าแก้วมันก็อาจชอบแบบโหดๆเหมือนกันก็ได้ อิอิ เรื่องน้องน้ำอะพอเห็นหน้าออฟฟิซปริ่มๆไอ้เรารึก็รีบหนีก่อนเลย รัฐบาลประกาศหยุดเท่าไหร่ เอกชนอย่างเราหยุดเยอะคูณสาม แบบว่า ตื่นตูมแบบเบาๆมาก เอิ๊กๆ
โอยๆๆ กลิ่นจำเลยรักโชยมาเชียว
รอคลี่คลายปม ทั้งพงษ์ฆ่าเพื่อนฝิ่นทำไม ไม้/ดิวเกี่ยวอะไรกับแก้ว มีความหลังอะไรที่ทำให้ฝิ่นถามลูกน้องว่า "เหมือนหรือเปล่า" และแก้วกับพงษ์เป็นแค่เพื่อนสนิทกันหรือมากกว่านั้น
ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า :pig4:
...แอร๊ยยย ได้กลิ่นจนได้ อยู่กับเค้านานๆนะคุณเฉาก๊วย ถ้านิยายมันน่าเบื่อเมื่อไหร่ก็ถือว่าเข้ามานั่งเคี้ยวหมากกับเค้าไปพลางๆก็ได้ ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณเช่นกันจ้า^^
กลับมาแล้วว ดีใจค่าาา
ชัวร์แล้วว่าฝิ่นเป็นพระเอก
แล้วจับแก้วมาแบบนี้ กะจะให้แก้วเป็นอะไรเนี่ย
จำเลยรัก? ฮาๆๆๆ
ค้างมากเลยค่ะ รีบมาต่อนะคะ *A*
...ดีใจที่เห็นคุณดีใจเช่นกันค่า^^ ค้างอะไรนี่จบแบบไม่ค้างแล้วนะ (จริงเหรอ?) อิอิ
การจะเอาคืนอะไรใครสักอย่างมีหลายวิธีนะคะ แล้วฝิ่นก็เริ่มจะมองออกแล้วว่า ใช้แก้วเป็นเครื่องมือน่าจะสาสมที่สุด แว๊กกก บอกทำไมง่ะ
ยังไม่ลืมคร้าบ รออ่านอยู่ทุกคืนวัน
ดีใจที่ตัวละครเริ่มจะคืบหน้าแล้ว
...มันคืบแบบกระดึ๊บกระดึ๊บ พยายามแล้วนะคะ แต่เร่งมันไม่ได้เดี๋ยวไอ้ฝิ่นสั่งเก็บคนเขียน กระซิก กระซิก
ขอบคุณมากนะคะ^^
เมื่อไหร่จะกอดกันหนอ
...กอดกันนี่จบเลยนะY^Y แล้วคนเขียนจะหาคอมเม้นท์ที่ไหนอ่านอีกต่อไป โฮฮฮ
แย้มนิดนึงว่าอีกสักพักล่ะค่ะ ฝิ่นก็ผู้ชายแบบ...แบบที่อ่านกัน จะเกิดซัมติงกับผู้ชายก็คงไม่ง่ายนัก สำหรับไอ้ฝิ่นแล้วมันต้องผ่านบทเรียนซะก่อน ความรักถ้าได้มาง่ายๆมันก็ไม่มีความหมาย ยิ่งกว่านั้น คือคนเขียนจะไม่อินนี่สิ
ฝิ่นนี่มันบ้ารึเปล่าว่ะ :เฮ้อ:
...เล่นมันเลยไหม? ฮ่าๆ
:pig4: :pig4:
...ขอบคุณคร๊าบบบ กอดๆ
ไม่ลืมค่า รอคอยอยู่ :กอด1:
ชอบแก้วจัง ดูเป็นผู้ใหญ่ นิ่งๆ สงบใจได้แม้ในสภาวะสุ่มเสี่ยง เป็นนายเอกที่แปลกไปอีกแบบ :o8:
ฝิ่นบอกว่าแก้วเป็นต้นเหตุทั้งหมด หมายถึงเรื่องหาที่ให้พงษ์ซ่อน หรือว่าเรื่องอย่างอื่นด้วย (เช่นเรื่องที่ทำให้พงษ์ฆ่าคน)
ชักอยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ มาต่อไวๆน้า สู้ๆค่า
:L1: :pig4:
ปอลิง ใกล้จะได้หนีน้ำแล้วล่ะค่ะ (ฮา)
...แก้วดูเหมือนนิ่ง ถูกค่ะ แต่ยังมีอีกอย่างซ่อนอยู่ในความนิ่งของแก้ว รอการจับได้ต่อไป อิอิ
ส่วนไอ้ฝิ่นมันก็พาลของมันไปเรื่อยแหละค่ะ โทษคนอื่นปาวๆแต่ไม่เคยย้อนมองตัวเองบ้างเลย เอ๊ะ คนเขียนมันโกรธอะไรตัวละครนอกรอบรึเปล่าเนี่ย
จะหนีแล้วแวะมาหาเค้าด้วยนะตัวเอง ไม่งั้นเค้ารอเม้นท์จริงๆด้วย ฮ่า กอดๆ
ทิ้งเนื้อเรื่องไปก่อนนะ แต่โซ่เนี่ย.... :m3:
...ให้สนใจเนื้อเรื่องว่าเดินบ้างรึยัง ก็นะ ...เพลียเหลือเกิน =*= ล่ามสี่ทิศขึงไว้บนเตียงเลยไหมล่ะ ฮ่าๆ กอดๆ
o22 o22 o22
น้องแก้วจะโดนน้องฝิ่นเอาไปขัดดอกแล้ว :m15:
...ไม่ใช่ทองนะ ฮา
นี่มันคือจำเลยรักหรือเปล่านิ เฮ้อ -..-
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
...ประมาณนั้นมั้งค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจจ้า^^
โซ่ แส้ กุญแจมือเอาให้ครบ อิอิ
ยังมองไม่ออกว่าคู่นี้เขาจะลงเอยกันยังไง
...เพิ่มเทียนอีกอันก็ดีนะ อิอิ รอดูกันยาวๆ ^^
+1 ให้จ้า
รอว่าแก้วจะรอดจากฝิ่นได้ไง :z3: :z3:
รอจ้า :call: :call:
...บวกคืนจ้า^^
ไม่ลืมหรอกจ้า รออย่างใจดจ่อเลย
แก้ว-พงษ์ เป็นเพื่อนที่รักกันมาก(จะเกินเพื่อนหรือปล่าว)
ไม่รู้ว่าพงษ์นี่ใช้แล้วทิ้งหรือจะมีบทต่ออ่ะค่ะ
ส่วนพี่ดิวแอบชอบแก้วชัวร์ แต่ทำไมพี่แกปกป้องแก้วไม่ได้เลย
...ขอบคุณที่รอกันนะคะ หม้อนึ่งมากเลย (ซึ้ง! ตบมุกตัวเอง ก๊ากก)
ตัวละครตั้งแต่ตอนที่หนึ่งถึง สี่ ห้า แล้วก็ที่แซมๆอีกสองตอน ไม่ทิ้งแน่ค่ะ ทิ้งไม่ได้สักคนเลย
พี่ฝิ่นมันเถื่อนมาก ขี้โมโหจริงๆ แก้วอาจจะเห็ฯแก่ตัวที่ช่วยเพื่อนที่ผิด แต่รวมๆแล้วแก้มก็เป็นคนดีมากคนหนึ่งเลยอะ
ชอบมากอยากอ่านอีกเยอะๆเลยอย่าหายไปนาน นะจ๊ะ จะรอ :L2:
...ใช่ๆ จริงๆเบื่อไอ้ฝิ่นเหมือนกันนะ สั่งเก็บมันเลยไหม? เอิ๊กกก
ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่หายจากเน็ตก็คงมาต่อเรื่อยๆน่ะค่ะ อาจวันเว้นวันสองวันมั้ง เพราะหายไปนานๆก็ต่อไม่ติดเหมือนกัน เชื่อไหมว่าตอนห้าเราเขียนตั้งแต่หนีน้ำจนกลับกรุงเทพฯเพิ่งเสร็จเอง เฮ้อ
มาต่อเร็ว ๆ น้า :sad11:
...มาแล้วๆ
อ่านตอนนี้รู้สึกอยากให้กอดกันไปเลย
...กอดแล้วจบเลยนะ อิอิ
เครียสไปหรือป่าวอะ
...คนเขียนมันเบาๆจริงๆนะคะ พอเจอคนอ่านบอกว่าแรงก็ลดแล้วนะคะ ดีใจที่น้ำท่วมโรงเรียนเลยยังไม่เปิด มีเวลาคิดฉากเปิดเทอมอีกนานหน่อย พยายามให้อยู่ในเรทเยาวชนอ่านได้อยู่ค่ะ
กอดแก้ว :กอด1:
รออ่านนะคะ :z2:
...แก้วฝากคนเขียนมากอดคนอ่าน:z2:
^^
... :z2:
โหดร้ายที่สุด เจ้าคิดเจ้าแค้นจริงๆเลย ไอ้ฝิ่น
...ไม่อยากแก้ตัวแทนลูกชาย มันเลวมาตั้งแต่เกิดแล้วไอ้ฝิ่นเนี่ย อิอิ
โอ้ยอะไรจะแค้นเคืองขนาดนั้นเนี่ย
ต้องชดใช้ด้วยอะไรล่ะทั้งที่ก็ไม่ได้เป็นคนก่อปัญหานะเนี่ย
รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบบบบบบบบ
...ขอบคุณคร๊าบบบ^^
ใจเย็นๆเฮียฝิ่น อย่ารุนเเรงกับหนูเเก้วนะ :sad4: :sad4: :sad4:
...ไม่แรงก็ไม่ถึงใจแก้วสิคะ ฮ่าๆ อุ้ย สปอยส์รึเปล่า
โห้!!!!!!!!!
ฝิ่นครบสุตรเจรงๆๆ (สูตรซาดิสต์อ่ะนะ)
แต่ละอย่างบ่งบอกมากกกกก
o22 o22 o22
...ฝิ่นมันเยอะกว่านี้ค่ะ เหนื่อยใจที่จะเอาออกมาให้เห็นจริงๆ(เหรอ?) ฮ่าๆ
เหนื่อยใจ กว่าจะรักกันได้ สงสัยแก้วช้ำในเกือบตายก่อนมั้งเนี่ย :z3:
...ถ้าแก้วตายไปก็คงดีนะ เผื่อฝิ่นจะคิดได้บ้าง
ของคุณ p_phai อีกรอบ^^
ชื่อเรื่อง น่าจะเป็นความรักแบบสนุกๆ นะ
แต่เนื้อเรื่อง มันเครียสอะๆ
...ขอโทษจริงๆนะคะ ถ้าชื่อเรื่องมันจะทำให้เข้าใจไปในทางนั้น เป็นคนเขียนอะไรยาวๆไม่เป็น(นอกจากเวิ่น) เพราะอย่างที่บอกตั้งแต่แรกๆว่าเราอ่อนเรื่องเรียบเรียงคำพูดมาก แต่อยากตอบจริงจังเรื่องนี้สักครั้งเหมือนกัน...ตอนเราตั้งชื่อเรื่องเราให้ความหมายของ ”อ้อมกอดเด็กช่าง” ว่า ...ความรักของคนกลุ่มนี้คงเป็นอะไรที่ไม่ง่ายดายนัก กว่าคนที่อยู่ในสังคมของศักดิ์ศรี ทิฐิ อริ นักเลง ซึ่งเปรียบเหมือนกำแพงหนารอบกาย กว่าเขาจะเจอกับความสุขที่แท้จริง มันน่าจะสมควรผ่านอะไรที่หนักหนาไปก่อน เราจึงใช้ความขัดแย้งมาเดินเรื่อง ยอมรับว่าเนื้อเรื่องหนักจริง(เพิ่งรู้ตัว แหะๆ ขนาดตัดความคิดบางอย่างออกไปบ้างแล้วนะ)
...กว่าจะได้เจอ ได้รู้จักคนที่โหยหา อันนี้เราต้องการสร้างคุณค่า สร้างบทเรียนให้ตัวละคร อ้อมกอดจากใครสักคน จะมีความหมายที่สุดถ้าเราได้มันมาในวันที่เราไม่มีโอกาสร้องขอโอกาสอะไรเลย คือ เรารู้สึกอย่างนั้นไปเองน่ะค่ะ
ถ้าทำให้คนอ่านที่คลิกพลาดเข้ามาขัดเคืองใจ ต้องกล่าวคำขอโทษจากใจ จริงๆนะคะ น้อมรับทุกคำบอกกล่าวเช่นเคยค่ะ^^
ขอบคุณทุกคนอีกครั้งจ้า ^^ ขี้เกียจเปลี่ยนสี (นิสัยละ!)
-
สนุกดีแล้วจ้าซีซั่น แม้จะแป่วๆเล็กน้อยที่พี่ไม้ไม่ใช่พระเอก ไม่เป็นไรๆ o18
ขำเนี่ยฝิ่นเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลีกหนีคำว่า”เธอดีเกินไป”ค่ะ
:m20:
-
ฝิ่นโหดร้ายมากอ่ะ
นิสัยๆๆๆๆๆนะ
อย่ามาหลงรักแก้วทีหลังนะ
จะให้แก้วจัดหนักเลย
55555+++
-
...เขียนตามแบบที่อยากเขียนแหละน้อง ไม่อืดหรอก พี่อ่านได้
...การเขียนบรรยายแบบละเอียดมันก็ได้เห็น อารมณ์ ความรู้สึก ของตัวละครได้ถ่องแท้ดี
...อย่างที่สรุปไว้ตอนท้ายของรีพลายเลย ตามนั้นแหละ มันต้องค่อยเป็นค่อยไป แล้วก็ค่อยๆๆลึกซึ้ง..ถูกต้องแล้วคร๊าฟฟฟ :laugh:
-
บอกได้คำเดียวว่า ฝิ่นเลวได้โล่ห์ เฮ้อ
-
โหดร้าย :o12:
-
ไอ้คุณฝิ่นนี่มันนิสัยพาลตัวพ่อเลยอะ
ไอ้พงษ์ผิด ก็มาพาลลงที่แก้ว แล้วก็ไปลงที่แสน กะให้แก้วเจ็บ
เออ..ดีเนาะ กลายเป็นว่าตอนนี้แก้วเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดซะงั้น แล้วไอ้พงษ์มันจะรู้เรื่องอะไรมั้ยเนี่ย
นิสัยพาลแบบนี้ไม่อยากให้เป็นพระเอกเล้ย จริงๆ ให้ตายเหอะ
คิดถึงหลวงพี่ไม้ของสีกาเฉาก๊วยมากๆ กว่าหลวงพี่จะสึก ไอ้คุณน้องของหลวงพี่มันก็อัพเลเวลความเลวไปถึงไหนๆ แล้ว
ตามต่อไปว่าแก้วจะหาทางหยุดไอ้คุณฝิ่นไม่ให้ทำร้ายคนอื่นอีกได้อย่างไร (จะลงทุนทำร้ายตัวเองเพื่อจบเรื่องก็คงไม่ใช่ แก้วก็น่าจะมีพ่อมีแม่ คงคิดถึงพ่อแม่บ้าง (หรือเปล่า))
ขี้เกียจเดาละ รอคนเขียนป้อนข้อมูลใหม่ดีกว่า เดาไปก็ผิด อิอิ
-
:m20:
ฝิ่นพูดแทนตัวกับแม่ว่า "หนู" โอ้ยมันจะน่ารักหรือน่าถีบดีเนี่ย
ไม่ได้เข้าเลย
แก้วจ๋า อย่าไปคิดมาก ฝิ่นมันเลวเป็นเรื่องปกติ ยังไม่ชินหรือจ้ะ
ต้องชินนะ เพราะแก้วต้องอยู่กับฝิ่นอีกนาน :กอด1:
ปล.ชอบอ่านคนเขียนบ่น มันฮาคลายเครียดจากเรื่อง
-
อ่า.... โหดๆๆๆๆ
-
ฝิ่นใจร้ายมากเลย
-
ทำไมเด็กช่างโหดจิงๆๆๆเลย มาต่อไวๆๆๆนะคับ
-
มาอย่างโหด
:z6: :z6: :z6:
-
ฝิ่น เท่ มาก T*T
-
จะเครียดไปใย อย่างน้อย คนอ่านนี่ ก็หนึ่งในหลายๆคน ที่ชอบ แบบเลวๆ อ่ะนะ
-
อืมมม อยากเห็นไอ้ฝิ่นมันรักแก้วเร็วๆจังโว้ย!!
แก้วจะได้แก้แค้น หึหึ... o18(แต่เรื่องแนวนี่นายเอกมักจะชอบคนเลว :เฮ้อ:)
-
รอๆอยากเห็นตอนขาดไม่ได้
-
โดนซะมั่งจะได้รู้ความรู้สึกของคนอื่นเขา
ว่าเป็นคนโดนกระทำบ้างมันจะรู้สึกว่าเจ็บและสูญเสียมันเป็นอย่างไร
รักและห่วงมันไม่ผิด
แต่ใครๆก็รักชีวิตของตัวเองกันทั้งนั้น ใช่มั้ยแก้ว
-
แรงอ่ะ ฮือๆๆๆ
รอตอนต่อไปนะจ้า อิอิ
-
เอ่อ
เข้ามาติดกับนิยายเรื่องนี้
ดราม่าเล้กๆ สะละ -*-
เรื่องราวมันสับซ้อน จะเป้นไงต่อไปเนี้ย
ไงก็มาต่อเร็วๆนะ
สงสารแก้วไม่ีรุ้ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีก
-
ไอ้บ้าฝิ่น แกมาจากนรกขุมไหนเนี่ย :angry2:
-
ฝิ่นเป็นพระเอกเหรอเนี่ยน่า :z6:เป็นที่สุด
-
กดบวกปล่อยเป็ดให้แก้ว
น้องเข้มแข็งกว่าที่คิด
แบบนี้ล่ะถึงจะเอาฝิ่นอยู่
ป้ายไฟเชียร์ฝิ่น (แต่มันโหดเอาการว่ะ) :z3:
-
สงสัยคงอ่านต่อไม่ไหว ไม่ค่อยชอบอ่านแนวนี้เท่าไหร่
แต่ชอบชื่อเรื่องนะ เพียงแต่ไม่ชอบเรื่องที่ไม่พอใจก็จะคอยกระทืบคน
ขอบคุณค่ะ
-
^^
-
อิหนูฝิ่นเกะกะระรานเกินไปแล้ว
-
กร๊ากกกกกกก เข้ามาขำคนเขียน :m20:
คนเขียนคงเห็นว่ามีคนอ่านที่ไม่ชอบดราม่าหลงเข้ามาอ่านเรื่องนี้
ก็เลยเขียนเตือนท้ายชื่อเรื่องว่า (Drama Story) ซะงั้น
จัดเป็นคนเขียนที่แคร์คนอ่านมิใช่น้อย เหอๆๆๆ
(เราก็หวั่นๆ เหมือนกันนะเนี่ย กลัวจะมีใครตายอีกอะสิ รู้สึกกลิ่นไม่ค่อยดีเลย เฮ้ออออ :เฮ้อ: )
-
ฝิ่นแกมันเชี่ย!!!!!!
ไม่ไหว แก้วอดทนนะ
จะมาม่าถ้วยใหญ่ก็ได้ แต่ตอนจบขอแฮปปี้นะคนเขียน
-
เห็นชีวิตจริงในนิยายนะคะ
๑ ฝิ่นทำตัวเป็นพระเอกได้แย่มากในสายตาคนอ่าน แต่ในชีวิตจริงก็คงประมาณนี้ แถมตอนที่คุยกับแม่ก็น่ารักเชียว
แสดงให้เห็นว่ามุมหนึ่งนอกบ้านอยู่ในมิติของลูกพี่ แต่ในบ้านก็เป็นเด็กน้อยน่ารักของพ่อแม่เท่านั้น
๒ ตอนหนึ่งที่แก้วคิดถึงพี่ดิว (ชื่อไม่ผิดใช่ไหม) ว่าในโรงเรียนใหญ่โตแค่ไหนแต่เมื่ออยู่ข้างนอกก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
นี่แสดงให้เห็นอีกเหมือนกันว่าคนเรามีหลายบทบาท ต่อให้เก่งมากในเรื่องหนึ่ง แต่อีกเรื่องหนึ่งอาจเป็นแค่เด็กอนุบาลก็ได้
๓ การกระทำระหว่างแก้วกับพงษ์ และฝิ่นกับแก้ว เป็นการแสดงมุมมองของผู้ถูกกระทำและผู้กระทำได้ชัดเจน
แก้วช่วยพงษ์เพราะเป็นเพื่อน ทั้งๆ ที่พงษ์ฆ่าคนอื่นตาย (แถมกฎหมายก็ทำอะไรไม่ได้) ส่วนฝิ่นพยายามแก้แค้นพงษ์
โดยการจับแก้วมาเพื่อแก้แค้นแทนเพื่อน ทั้งนี้ทั้งนั้น ความจริงก็เพื่อสนองตอบความรู้สึกของตัวเอง
ต้องถือว่ามีวิธีการเขียนที่แตกต่างจากนิยายหลายเรื่องที่เคยอ่าน ช่วงแรกๆ อ่านแล้วงง แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ สงสัยจะชิน
-
คนอย่างมึงใครเขาจะทนอยู่ด้วยได้นานวะ - -
-
o22 ฝิ่นโหดอ่ะ ใจร้าย ทำไมต้องไปกระทืบเพื่อนแก้วด้วย
เรื่องกำลังลุ้นมากๆ เข้าไปในผับแล้วจะทำอะไรอีกเนี่ย อ๊ากกกกก :serius2:
-
:sad11: เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษชั้นไย
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๗
นี่หรือที่ต้องการให้รับรู้
นี่หรือที่ต้องการให้สัมผัส
ความเจ็บปวดจากข้างในที่เห็นเพื่อนถูกทำร้าย แต่ช่วยอะไรไม่ได้ นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่มันต้องการสั่งสอนเขา
ท่ามกลางแสง สี เสียง ที่ใครๆมองว่ามันคือความบันเทิง โซฟาสีน้ำตาลแดงตัวยาวชิดติดผนัง แก้วถูกจัดให้นั่งในสุดซึ่งมีโจ้นั่งประกบข้างด้วยใบหน้ายังคงมีร่องรอยจากการชกต่อยให้เห็น ไม่รู้แสนเพื่อนเขาจะเป็นยังไงบ้าง
แก้วนั่งมองคนตรงข้ามเงียบ สองมือกำแน่นไว้บนตัก เขาไม่อยากรับรู้ไม่อยากได้ยินคำพูดจาดูถูกถากถางจากกลุ่มคนร่วมโต๊ะและโต๊ะข้างๆซึ่งคือนักเรียนสถาบันคู่อริทั้งสิ้น เขาไม่เคยชอบการใช้กำลัง เขาเกลียดความแค้น เกลียดโทสะ แต่นั่นเขาก็สามารถใช้ชีวิตอยู่กับมันได้
เพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลตามร่างกาย ทายา พักผ่อน ไม่นานก็หาย หากแต่เขาหลีกหนีที่จะเรียนรู้การถูกกระทำแบบกระทบชิ่งจิตใจมาโดยตลอด เขาจึงไม่รู้วิธีการรักษา ไม่รู้ว่าต้องกำจัดความกระวนกระวายในใจออกไปได้ยังไง
“ทำไม? มองหน้า ไม่พอใจว่างั้น หึ” ฝิ่นยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบทั้งเย้ยหยันแก้วด้วยความพึงพอใจ แก้วไม่ตอบแต่กุมมือตัวเองไว้แน่น
เพราะเขา...ทำให้แสนต้องโดนทำร้าย เพราะความขี้ขลาดของเขาที่กลัวว่าพงษ์จะตกอยู่ในอันตรายจึงทำทุกวิธีให้เพื่อนรอด ใช่...ไอ้พงษ์รอดแล้ว แต่เขาไม่เคยนึกถึงผลที่จะตามมาว่ามันอาจกระทบชิ่งไปที่คนอื่นได้เหมือนกัน
“เงียบ ไม่พูด มึงคิดอะไรอยู่” ฝิ่นถาม
“เปล่า” ตอบพร้อมตวัดสายตามองไปทางอื่น
“ไอ้โจ้” ฝิ่นพยักหน้าเชิงบอกโจ้รินเบียร์ให้แก้ว “แดกๆไป กูไม่ได้ใจดีเลี้ยงศัตรูบ่อยหรอกนะ”
แต่แก้วยังนิ่งเงียบ ไม่ไหวติงใดๆ เพราะเบื่อทั้งคนทั้งบรรยากาศรอบข้างเสียเหลือเกิน มันดูวุ่นวาย รกหูรกตาไปหมด
นั่นกลับสร้างความไม่พอใจให้กับคนอย่างฝิ่น
“มึงจะงัดข้อกับกูเหรอ อยากลองดีรึไง?” ฝิ่นวางแก้วเครื่องดื่มของตัวเองกระแทกโต๊ะเสียงดัง เด็กในสายที่ร่วมโต๊ะอีกห้าคนต่างพากันเงียบและหันมอง
“ให้แดกดีๆไม่ชอบใช่ไหม!” มันโน้มตัวจากฝั่งตรงข้ามมาบีบปากเขา อีกมือจับแก้วเบียร์ที่โจ้เพิ่งรินยกขึ้นกรอกปากแก้วท่ามกลางความสนุกสนานของกลุ่มคนร่วมโต๊ะที่เริ่มส่งเสียงเฮด้วยความชอบใจ แก้วจับมือนั้นหมายห้ามและให้ปล่อยเพราะเริ่มสำลัก แต่ก็สู้แรงไม่ไหว เมื่อมันพอใจก็หยุดไปเอง แต่หลังจากแถมด้วยเครื่องดื่มอีกแก้วราดตั้งแต่หัวเขาลงมา
แก้วยกมือลูบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกจากใบหน้าซึ่งยังข่มให้เรียบนิ่ง เหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งที่รู้สึกเจ็บตามกระพุ้งแก้ม ทั้งก็เปียกไปยันเสื้อ
มันอยากทำอะไร ก็ทำไปเถอะ
“พอใจแล้วใช่ไหม” ขอแค่มาลงที่เขาพอ แก้วเอ่ยปากถามเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“มึงแม่งกวนอารมณ์กูฉิบหาย มึงทำให้กูอยากเล่นพี่มึงซะตอนนี้เลยรู้ไว้ซะ เหี้ยเอ้ย” แก้วชะงักกึก แทนที่มันจะพอใจแล้วเลิกบ้า กลับยิ่งเพิ่มความบ้าให้มันอีกเหรอนี่
“ขอ...ขอไปเข้าห้องน้ำนะ” เอ่ยคำขออนุญาตเพื่อหวังหลบอารมณ์ที่กำลังปะทุเดือด เผื่อฝิ่นจะหายหงุดหงิดบ้าง
“มึงรีบไปไกลๆตีนกูเลย ก่อนที่กูจะหมดความอดทน” นี่มันใช้ความอดทนอยู่เหรอ เฮ้อ
เด็กสาย๕xสามคนที่นั่งฝั่งแก้วลุกขึ้นหลีกทางให้เขาเดินออกจากโต๊ะพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความสมน้ำหน้าอยู่รอบข้าง
หนึ่งในนั้นถูกสั่งให้เดินตามเขาไป
.
“เมื่อกี้ไอ้ดิวมันจะลุกมาอยู่แล้วพี่” โจ้เทเบียร์ให้ลูกพี่ พร้อมรายงานความเคลื่อนไหวของโต๊ะอีกฝั่งซึ่งอยู่ห่างกันคนละมุม
“หึ มันนี่โง่ของแท้เลยว่ะ เก็บอารมณ์ไม่เป็นซะด้วย” ไอ้แก้วไม่ใช่เด็กในสายธรรมดาจริงๆสินะ เขาจิบเบียร์เพียงเบาๆ คิดย้ำความรู้สึกของตัวเอง
“มันลุกเดินไปทางห้องน้ำแล้วพี่” โจ้บอกเมื่อเหลือบสายตาไปทางโต๊ะคู่อริอีกครั้ง
“อืม อีกเดี๋ยวก่อน”
.
แก้วฝ่าฝูงคนที่แออัดจนไปถึงห้องน้ำ คนที่ตามมาก็ยังตามติดอยู่ไม่ห่าง เขาเดินตรงไปล้างหน้าล้างผมที่อ่าง แล้วหันไปดึงทิชชู่ซับตามคอตามเสื้อ เหวี่ยงสายตาไปทางคนที่ยืนประกบ
“จะเฝ้ายันหน้าโถฉี่เลยไหม?” คนนั้นยักไหล่ไม่ใส่ใจคำพูดของแก้ว ทั้งยังเดินผิวปากไปยืนรูดซิปกางเกงฉี่โถข้างๆก่อนเขาอีก แก้วส่ายหน้าเปลี่ยนใจเข้าไปทำธุระในห้องน้ำดีกว่า
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“แก้ว”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“แก้ว อยู่ห้องไหน”
เสียงเคาะประตู เสียงคุ้นๆตะโกนเรียกชื่อเขาที่หน้าห้องน้ำ แก้วเปิดประตูออกมาพร้อมๆกับแขกของร้านคนอื่น
“พี่ดิว” และเด็กสาย๓T สิบกว่าคน แก้วหันไปหาคนที่ตามมาจากโต๊ะก็เห็นมันกองอยู่ที่พื้นเปียกใกล้โถฉี่นั่น
อีกแล้วเหรอ...
“เป็นไงบ้าง มันเอาแก้วไปไว้ที่ไหน พี่เป็นห่วงแทบแย่” พี่ดิวลูบหน้าลูบผม จับแขนรุ่นน้องสำรวจหาร่องรอยการถูกทำร้าย
“พี่ดิวพี่ ผมไม่เป็นไร” ถึงยังเคืองพี่อยู่บ้าง แต่ก็รับรู้ได้ถึงความห่วงใย
“แต่พี่เห็นที่มันทำเมื่อกี้ ไอ้เหี้ยฝิ่น กูเอาคืนแน่”
“พี่...” สายตาแข็งกร้าวของพี่ดิวทำให้แก้วหวั่นใจ นี่คือสิ่งที่เขากลัว...กูเอาคืนแน่...เอาคืนทั้งที่ไม่ได้เป็นคนโดนเอง เอาคืนทั้งที่ยังไม่ได้รับฟังอะไรทั้งนั้น
“พี่รู้แก้วไม่เชื่อพี่อีกแล้ว แต่ให้แก้วรู้ไว้ที่พี่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อแก้วทั้งนั้น ใครที่มันทำแก้ว พี่ยอมไม่ได้หรอกนะ” ประธานปีสามบอกน้ำเสียงจริงจัง
“หมายความว่าไง?”
“พี่ต้องยอมทำเป็นให้ความร่วมมือพวกมัน เพราะถ้ามันรู้ที่อยู่ไอ้พงษ์ มันเก็บแน่ พี่ถึงต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อทำให้พวกนั้นไว้ใจ พี่ต้องการรู้ความเคลื่อนไหวทั้งจากไอ้พงษ์ทั้งจากพวกมัน เกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยทัน แต่ไอ้พงษ์ก็ดันออกมาซะก่อน ...ก็ดีแล้วล่ะที่มันไปอยู่นอกได้”
อย่างนั้นเหรอ พี่ดิวอยู่ข้างพวกเขาตลอด ลดศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อคอยช่วยเหลือเขากับพงษ์
แต่เขาสิ วางแผนให้ที่ซ่อนพงษ์ดิบดีแต่กลับเป็นสาเหตุให้ทุกอย่างมันพัง
ถ้าจะมีใครสักคนที่น่าสมเพช คงเหลือเขาเพียงคนเดียวสินะ
“ผม...” คำขอโทษมันพูดยากจริงๆ ถึงตอนนี้รู้สึกอยากขอโทษพี่ แต่ก็ทำไม่ได้...ถ้าพูดออกไปก็เท่ากับเขาเป็นคนผิดน่ะสิ
“พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอกเราก่อน ไปกันเถอะ พี่จะไปส่ง” พี่ดิวจูงแขนเขาไม่สนใจสายตาคนอื่นๆที่มองอยู่
“เดี๋ยวพี่” แต่ถ้าเขาไปกับพี่ อะไรจะเกิดขึ้นล่ะ เท่ากับหนีเลยนะ ถ้าทำอย่างนั้นไอ้ป่าเถื่อนนั่นคงอาละวาดแน่ แล้วใครจะเป็นคนโดนลูกหลงจากการกระทำของเขาอีก
พี่ดิวหยุดเดินหันกลับมามองหน้าเขาด้วยความข้องใจ
“ไง? จะไปไหนกันเหรอ” ฝิ่นคาบบุหรี่เดินเข้ามาพร้อมลูกน้องมันกลุ่มใหญ่ คนใช้ห้องน้ำคนอื่นๆคงเห็นท่าไม่ดีจึงพากันรีบออกไปอย่างไว
“ไอ้ฝิ่น มึงจะเอาไง?” พี่ดิวดันแก้วให้อยู่ข้างหลัง เจ้าตัวเดินไปประจันหน้ากับฝิ่น
ฝิ่นคีบบุหรี่ส่งให้โจ้ แล้วพ่นควันใส่หน้าดิว
“กูจะเอามัน” ดิวชะงัก กำหมัดแน่น
“มึงว่าไงนะ”
“หื๊อ? ไม่ได้ยินเหรอ” ฝิ่นเลิกคิ้วเหมือนสงสัย แสร้งถอนหายใจ “เอาล่ะฟังชัดๆนะกูบอกว่า กู -จะ–เอา-มัน” ทั้งสายตา ทั้งนิ้วที่ชี้มายังแก้วบ่งบอกจุดประสงค์ของมันอย่างชัดเจน
ดิวผลักหน้าอกฝิ่นด้วยความโกรธแล้วปรี่เข้ากระชากคอเสื้อแต่ถูกโจ้ผลักกลับออกมาทันควัน
ดิวมองฝิ่นเขม็ง
ฝิ่นล้วงกระเป๋ากางเกงสองข้าง มองดิวอย่างไม่ร้อนไม่หนาว
ชายวัยรุ่นทั้งสองฝ่ายต่างมองหน้ากันพร้อมเอาเรื่อง
เรื่องชักจะไปกันใหญ่แล้ว แก้วครุ่นคิดหาทางออกเฉพาะหน้า ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อพี่ดิว
“อย่ามีเรื่องกันเลยนะพี่” เพราะคงพูดอย่างนี้กับอีกคนไม่ได้ แก้วจึงเอ่ยปากบอกรุ่นพี่ของเขา
“แก้ว” ดิวไม่ยอม “ถ้ามันไม่จบ พี่ก็คงจบไม่ได้เหมือนกัน” พี่ดิวส่งตัวเขาไปให้เด็กในสายดูแล ทุกอย่างชุลมุนวุ่นวายไปหมด ต่างฝ่ายต่างวิ่งเข้าใส่กัน บ้างก็ไล่กันออกไประรานยังแขกคนอื่นที่กำลังสนุกกันอยู่ในร้าน พี่ดิวอยู่ไหน แก้วมองหาไม่เห็น แล้วไอ้ฝิ่นล่ะ แก้วก็หาไม่เจอ ทั้งยังโดนเพื่อนในสายดึงตัวพาถอยห่างจากเหตุการณ์เรื่อยๆ ผู้คนแตกตื่นพลุกพล่าน ขวดเหล้าขวดเบียร์ ปลิวว่อนไปมาทั่วร้าน แก้วพลัดหลุดจากการควบคุมของเพื่อนร่วมสาย วิ่งหาที่หลบแต่ชนเข้ากับแขกในร้านจนตัวเขาถลาล้มไป
“โอ๊ย!” ข้อมือซ้ายที่ใช้ช่วยยันตัวขณะล้มเมื่อครู่รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมา
ปัง! ปี๊ดดด ตำรวจ! คืออย่างแรกที่เขานึกถึง ถ้าตำรวจมาต้องวิ่ง แต่ตอนนี้ แก้วไม่รู้ว่าต้องวิ่งไปทางไหน แล้วเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ต้องวิ่งด้วยรึเปล่า
เสียงปืนและเสียงนกหวีดดังขึ้นยิ่งทำให้ความชุลมุนเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัวเมื่อต่างคนต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด แก้วกัดฟันกุมข้อมือตัวเองเก้ๆกังๆอยู่กับที่ ก็ถูกกระชากแขนข้างที่เจ็บข้อมือเข้า
“โอ๊ย!” โจ้ไม่ทันได้สนใจเสียงร้องของเขา พาออกตัววิ่งไปทางหลังร้านแล้ววิ่งข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งเห็นรถยนต์คันที่พาแก้วมาสตาร์ทรออยู่แล้ว
“แยกกันเลยนะพี่” โจ้เปิดประตูข้างคนขับบอกลูกพี่อย่างร้อนรนแล้วดันตัวแก้วเข้าไปข้างใน ปิดประตูได้ รถก็เคลื่อนออกด้วยความเร็วทันที
“อูยย ฟู่วๆ”
“เป็นไร?” ฝิ่นถามเมื่อเห็นเขาพยุงข้อมือขึ้นเป่าแล้วนวดเบาๆ
“เปล่า” ขยับนั่งตัวตรง วางมือไว้บนตักอย่างเป็นปกติ เรื่องอะไรจะให้มันรู้ว่าเขากำลังเจ็บ ในเมื่อความเจ็บของเขาทำให้มันพอใจแต่ไม่ยอมหยุด เขาก็จะไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งใดให้มันดู แล้วดูซิว่ามันจะตามจองล้างจองผลาญเอาอะไรกับเขาได้อีก
เอี๊ยดดด ฝิ่นเหวี่ยงรถเข้าจอดข้างทาง ด้วยสัญชาติญาณแก้วที่ยังไม่ได้คาดเบลท์ยกมือซ้ายขึ้นแตะคอนโซลรถอย่างอัตโนมัติ
“โอ๊ย!”
ฝิ่นหันมองเขาด้วยหางตา
“หึ” แล้วเอื้อมมือไปจับข้อมือซ้ายของแก้วขึ้นมา
“อ๊ะ” แก้วรีบกัดเม้มริมฝีปากกันเสียงเล็ดรอดออกมาทั้งน้ำตาไม่รักดีเริ่มรื้นขอบตาด้วยจากแรงบีบและบิดของคนป่าเถื่อน แล้วมันค่อยดึงข้อมือแก้วทีเดียวดังกึ๊ก “อ๊า” เขาร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
“หายรึยัง” เอ่ยถามเสียงห้วน แต่ไร้คำตอบ ทำอย่างนี้จะหายได้ยังไงมีแต่เพิ่มความเจ็บเท่านั้นล่ะ เขาตอบในใจ
แก้วจับข้อมือตัวเองที่ขยับได้แล้วแต่ยังรู้สึกไม่มีแรงพอหยิบจับอะไรได้คืนมา มันรู้สึกดีกว่าเมื่อกี้จริงๆด้วย
“ทีหลังอย่าอวดดีกับกู ถ้ามึงอยากเจ็บ มึงต้องเจ็บด้วยมือกูเท่านั้น จำไว้”
แก้วเงยหน้าบึ้งๆมองคนพูด สูดลมหายใจเข้าช้าๆเพื่อระงับอารมณ์ ดึงสายเบลท์มาคาดหันหน้าออกไปนอกกระจกแล้วลูบมือตัวเองต่อด้วยความหงุดหงิดที่ดูเหมือนว่าตัวเขาเองทำอะไรก็ผิดไปซะทุกอย่าง
ขนาดข้อมือซ้นยังผิด เฮ้อ
ทำดีก็แล้ว ทุรนทุรายยันเฉยชาก็แล้ว ยังไม่มีทางไหนที่ดูว่าเขาจะเอาชนะไอ้ฝิ่นได้เลย
ความพอใจของมันขีดเส้นไว้ที่ระดับไหนนะ เขายังคงมองไม่เห็นเช่นเคย
……………………………….
ไม่ค้างนะคะ ไม่ค้างงง เอาหัวจุ่มน้ำเน่าเถียงเลย นี่มาตามแนวทางการเขียนนิยายเป๊ะๆ เปิด ปู ปิด ชัดเจน! (เหรอ?) //ยืดอกแฟ่บๆแสดงความมั่นใจ
//ปาดเหงื่อหลังจากพยายามปลูกต้นรักให้ทั้งคู่ พร้อมก่ออิฐกำบังตัว เตรียมรับคำคอมเม้นท์
คนเขียนไม่เครียดนะคะ เพราะเขียนไปก็ทั้งด่าทั้งจิกไอ้ฝิ่นอยู่ตลอด เกือบหลุดบุคลิกเจ้าแก้วประจำ เขียนๆไปก็เหมือนได้ระบายอารมณ์ประมาณนั้นน่ะนะ
แต่ไม่อยากเห็นคนอ่านเครียดเลย(แต่แกเขียนแนวนี้เนี่ยนะ!) มันเป็นแค่นิยายที่หยิบยกเอาความขัดแย้งของคนที่ชอบใช้กำลังมาปรุงแต่ง ซึ่งเอาตามตรงคนเขียนเพิ่งเอาออกมาได้แค่ 0.5 หน่วยรูขุมขนจากตัวไอ้ฝิ่นเองค่ะ อ่านเอาสนุก(มีด้วยเหรอ?) อย่าไปคิดอะไรมากมาย ทุกตัวละครย่อมมีบทสรุปจากสิ่งที่ได้กระทำอยู่แล้วล่ะค่ะ
คนอ่านจะอ่านต่อหรือเลิกติดตามไปเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ ซีซั่นน้อมรับในส่วนนี้
แต่ตัวคนเขียนเมื่อเลือกที่จะนำเสนอมาแล้ว ก็ต้องสู้ๆต่อไปค่ะ^^ (ขอกอดหน่อย>w<)
ไม่ว่าจะมีคอมเม้นท์ติงหรือให้กำลังใจ ซีซั่นอ่านและทบทวนทุกข้อความอย่างดี ต้องขอขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาคอมเม้นท์ให้มากเลย กอดๆ ถ้าใครไม่ถนัดเม้นมาเป็นจุดไข่ปลาซีซั่นก็กระดี๊กระด๊าแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ มันรู้สึกดีจริงๆนะ
ปล.คุณเฉาก๊วยแซวT^T เค้ากลัวคนอ่านคลิกเข้ามาเพราะชื่อเรื่อง(ที่คนเขียนมันบ้าพลังให้ความหมายซะลึกลับอะไรขนาดนั้น!) ไม่อ่านไม่ว่ากันค่ะ เข้าใจดี แต่ไม่อยากให้เสียความรู้สึกอะ เลยรีบไปขึ้นไว้หัวซะเลย ฮ่าๆๆๆ (สายไปแล้ว กร๊ากกก)
...ไม่มีใครตายอีกหรอกค่ะ ฝิ่นแค้นก็จริงแต่มีอย่างหนึ่งที่น่าคิดคือ ทำไมฝิ่นไม่ฆ่าแก้ว ไม่ฆ่าพี่ดิว ทั้งที่จะทำก็ทำได้เลย อันนี้สปอยส์อีกละ (สปอยส์ไรของแกวะคะ เขียนยังไม่จบเลย==”) แต่อาจจัดหนักหลวงพี่ไม้ของคนอ่านสักเล็กน้อย ข้อหาสีกาในโอวาทแซวดีเหลือเกิน หึหึ
ปล.๒ คราวที่แล้วกด quast จนแทบคลาน ดึงสายอ็อกซิเจนมาครอบหัวแทบไม่ทัน ไม่เอาแล้วนะ ไม่ตอบอย่างนั้นอีกแล้ว ตอบรวมๆอย่างนี้ดีกว่า โปรดเห็นใจคนชรา วิ๊งๆ*-*
ปล.๓ บอกตอนจบเลยนะเนี่ย ไม่ต้องล้งต้องลุ้นกันละ
ก่อนเขียนเรื่องนี้ ซีซั่นถามอดีตเด็กช่างที่บ้านว่า เป็นไปได้ไหมถ้าเด็กช่างต่างสถาบันมันจะเอากันได้ เอ้ย รักกันได้
ฮีตอบว่า เป็นไปไม่ได้ ยิ่งสถาบันคู่อริยิ่งไม่ได้เลย
ไอ้เราก็คิดในใจคุณโม้ใช่ไหม? ฉันไม่เชื่อคุณหรอก พลันถามออกไปอีกครั้งด้วยแววตาเป็นประกายเปี่ยมไปด้วยความหวัง แอบชอบกันก็ได้ ประมาณนี้ได้เปล่า
ฮีบอกว่า ลดหย่อนเหลือเป็นไปได้ยากก็ได้อะ …แหงะ
นั่นคือที่มาว่า ...งั้นฉันทำให้มันรักกันเองก็ได้! ไม่ง้อความเห็นจากคุณหรอก ชิชิ
ปล.ส่งท้าย (จะทอล์คเยอะไปไหนที่บ้านไม่มีคนพูดด้วยรึไง?) ...คนอ่านคิดว่าแก้วเป็นคนยังไงคะ อยากรู้จริงๆว่าซีซั่นสื่อให้เห็นได้รึเปล่า ตอบไม่ตอบก็ได้ค่ะอันนี้ (แล้วจะถามทำม๊ายยย วิบัติได้อีกเพื่อความเพลีย ฮ่าๆๆ)
เค้า+ ทุกคนแทนคำขอบคุณ แล้วบวกเป็ดเม้นท์ไหนหมายความว่าขอบคุณเพิ่มเติมนะคะ
จุ๊บๆ จบละ^^(คนอ่านบอก : ไปสักทีเถอะเม้าท์เยอะกว่านิยายแล้ว โฮ Y^Y)
-
:z1: กูจะเอามัน ก็เอาสักทีสิพ่อฝิ่น :laugh:
หื่นจิงชั้นนนนนนนนนนน :jul1:
-
เอาเลยค่ะ สนับสนุนให้คู่อริรักกัน สังคมจะได้ปรองดอง ฮิ้วววววว
-
พี่ดิวคงหงุดหงิดน่าดู เจอตัวแล้วแต่เอาืคืนไปไม่ไ่ด้ :เฮ้อ:
:z6:ฝิ่น
-
เชียร์ฝิ่น (เราเปล่าโรคจิตน่ะ ><)
แต่เค้าว่าคนทุกคนก็ต้องมีเหตุผลในการกระทำของทุก ๆ อย่าง ???
ฮ่าๆๆๆๆๆ พิมพ์แล้วก็งงตัวเอง
แต่เชียร์ฝิ่น 555555555555 ชอบอ่ะ
หาได้ที่ไหนเลวขนาดนี้ ชั่วขนาดนี้ (ตกลงชมหรือเชียร์ฟร้ะ)
มาต่อไวไวน้ะค้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
-
ไม่ว่าเรื่องนี้จะจบแบบไหน แต่บอกได้เลยว่าเป็นนิยายอีกเรื่องหนึ่งที่ประทับใจมาก
-
ฝิ่นจ๋าาาาาา
แก้วน่าสงสารออก ไม่สงสารบ้างเลยเหรอ
เมิงจะโหดร้ายมากไปมั๊ยจร๊ะ
เด๋วสั่งเก้บซะนี่
-
จะรอวันที่ ซีซัน ทำให้ สองคนนี้ รักกันจนได้
-
เริ่มหวงการบาดเจ็บของแก ต่อไปคงหวงทั้งตัวใช่ไหม กริ๊วๆๆ o18
-
แก้วโคตรทนอ่ะ สุดๆ
-
ไอจะเอานี่มันหมายความว่าไงเนี่ยฝิ่น
จะเอาตัวแก้ว หรือว่าจะอึบแก้ว 555
คนเขียนจะเขียนแบบไหนก็เอาเลยค่ะ
แต่ตัดจบค้างแบบนี้ ทำร้ายคนอ่านจังเลย มันอยากอ่านต่อนะคะTwT
ค้างค่ะค้าง รีบมาต่อนะคะ
-
...มีความรู้สึกเหมือนฝิ่นจะเริ่มห่วงหาอาธรณ์ และก็เริ่มจะสังเกตการเปลี่ยนแปลงของแก้วบ้างแล้วด้วย
...พี่ว่าพี่เคยอ่านเรื่องเล่า เด็กช่างต่างสถาบันเค้ารักกันก็มีนะ พี่ชอบอ่านเรื่องเล่าแต่จำชื่อเรื่องไม่ค่อยได้
...น้องก็แต่งไปเถอะให้ตอนจบ พออ่านแล้วยิ้มได้ หรืออิ่มใจก็พอ ไม่เอาที่ตอนจบแล้วเศร้านะ ฮ๋าๆๆ :laugh:
-
ฝิ่นโหดเกิ๊น
แก้วเข้มแข็งจัง
:pig4:
-
แก้ว เอ้ยก่อนจะไปห่วงแสน ห่วงตัวเองก่อนเถอะ
ฝิ่นนี่ชอบแกล้งจังเลยนะ แค่แก้วไม่สนใจตัวหันไปทักเพื่อนแกล้งใหญ่เชียว แกล้งทั้งแสนทั้งแก้ว(แกล้งเหรอ?) :o8:
พี่ดิว แอบเลวนะเนี่ยนึกว่าจะเป็นพี่ประธานซื่อๆ ซะอีก นี่อะไร!!
---------------------------------------------------------------------
นิสัยแก้วนี่เท่าที่เห็นก็ชอบโทษตัวเอง รักเพื่อน ทนไม่ได้ถ้าเพื่อนหรือคนรู้จักถูกฝิ่นทำร้าย
หมดแล้วไม่กล้า(เดา)เยอะ กลัวผิด 5 5+ :laugh:
นิยายเรื่องนี้ตอนแรกๆเครียดนะค่ะ เครียดเพราะยังไม่เข้าใจ สับสน แต่ถ้าอ่านมาเรื่อยความเครียดมันจะน้อยลง เพราะเริ่มเข้าใจบ้างแล้ว
ดราม่าเยอะเหรอ? เท่าที่อ่านตอนนี้ก็กำลังดี ไม่เน่า ไม่โชย ค่ะ
ตอนจบของเรื่องก็แล้วแต่คุณซีซั่นล่ะค่ะ เคารพการตัดสินใจ แต่ขอแฮปปี้ก็ดีนะค่ะ(ไม่ค่อยกดดัน)
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
โดนซะบ้างจะได้รู้สึก
-
สู้ๆนะคนแต่ง ซาดิสๆโหดๆเราชอบ
-
:L2:
อย่างแรกเลยคงต้องบอกว่าโครงเรื่องน่าสนใจ
ลักษณะการเขียนก็แปลกมีเอกลักษณ์ดี แม้จะ
อ่านไม่ราบรื่นแต่ก็ชวนให้ติดตาม o13
-
ชอบบบบบบบมั๊ก มาต่อไวไวนะค๊ะ จะรอค๊ะ :กอด1:
สงสารแก้วจัง แต่ก็ชอบฝิ่นเถื่อนดี ฮ่าาาาา
-
เย้ๆๆๆ ซีซั่นมาแล้ว ขอบคุณมากๆครับที่มาต่อ
ตอนนี้อ่านแล้วสบายๆ แอบเขินตินที่ฝิ่นช่วยให้มือแก้วหายซ้น
มันเหมือนมีความห่วงใยที่เล็กๆๆๆๆๆจนเกือบไม่เห็นแสดงออกมา อ่าา แค่นี้ก็ทำให้คนอ่านเขินได้
-
เป็นกำลังใจให้แก้วเอาชนะใจอิตาฝิ่นให้ได้นะคะ :a2:
กอดคนเขียนค่ะ
-
ชอบคนเขียนทอล์คค่ะ :laugh:
สงสารแก้ว แต่ก็สงสารฝิ่นเหมือนกัน เหมือนกับยังหาทางออกไม่ได้ เลยต้องไปลงที่แก้ว สะใจก็จริง แต่ก็ไม่ได้สุขขึ้น สุดท้ายก็วนเวียนไปเรื่อย :เฮ้อ:
:pig4:
-
อ่านแล้ว งงดีแฮ่ะ
แต่ก้อรอตอนต่อไปนะจ้า อิอิ
o18 o18 o18
-
เด็กช่าง หรือเด็ก5ขวบเนี่ยเรื่องแค่นี้ยังคิดไม่เป็นเลย เอาแต่เจ้าคิดเจ้าแค้น- -
-
ชอบตอนนี้จังเลย :o8:
อ่านแล้วเขิน ไม่รู้เป็นอะไร
-
^^
-
คนเขียนมาคอนเฟิร์มว่าไม่มีใครตายอีก คนอ่านก็พอจะตามอ่านไหวละ ไม่งั้นมันจะเศร้าเกินไป
ส่วนดรามาแบบเลือดตกยางออกก็พอจะรับได้บ้าง ทนไม่ไหวเมื่อไหร่ก็เม้นท์ด่าตัวละครระบายอารมณ์คนอ่านไปซะก็สิ้นเรื่อง o18
แก้วเป็นคนยังไงอะเหรอ ก็น่าจะเป็นคนนิ่งๆ เฉยๆ ไม่ชอบยุ่งเรื่องของใคร ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตน และมีพื้นที่ส่วนตัวค่อนข้างสูง
แม้ไม่รักไม่ชอบสิ่งใด แก้วก็จะอยู่กับสิ่งแวดล้อมแบบนั้นได้ โดยการทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หรือปิดกั้นความรู้สึกต่อสิ่งนั้นๆ ไป
ความที่เป็นคนแบบนี้ ทำให้คนเข้าถึงจิตใจได้ค่อนข้างยาก แต่ก็เป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนบางคนอยากเข้าไปรู้จัก
และถึงแม้แก้วจะเป็นคนนิ่งๆ แต่ก็เป็นคนช่างสังเกต มีระบบการคิดที่ดี เวลาคิดเรื่องใดๆ ไม่ค่อยเอาอารมณ์มาเป็นที่ตั้ง
แก้วเป็นคนดีระดับหนึ่งนะ จิตใจค่อนข้างอ่อนโยน พร้อมจะให้อภัยคนอื่นหากคนนั้นรู้ตัวว่าผิด รวมถึงขอโทษคนอื่นได้เสมอหากรู้ว่าตัวเองผิดด้วย
แต่แก้วก็เป็นปุถุชนคนหนึ่ง แม้จะเป็นคนจิตใจดี แต่ก็มีรักมีห่วงมีหลง
แก้วเรียงลำดับความสำคัญในชีวิตโดยให้เพื่อนรักมาก่อนความถูกต้อง ฉะนั้นแม้การเข้าข้างเพื่อนรักจะเป็นเรื่องที่ผิด แต่แก้วก็ยังพร้อมที่จะทำ
คนเขียนถามมา คนอ่านก็ตอบไปจ้า ตอบแทนที่เขียนเรื่องสนุกๆ มาให้อ่านนะค้า :pig4:
-
เริ่มให้คนอ่านพอจิ้นได้แล้ว อิอิ
-
เอิ่ม ฝิ่นนี่น่าโมโหจริงๆ
-
เอาไงต่อละทีนี้
พี่ดิวว่าไง?
เอิ๊กๆ
-
จะรักกันได้ไงเนี่ย
:z3: :z3: :z3:
-
สงสารแก้วจัง โดนอีกแล้ว :o12:
-
พระเอกเถื่อนๆ จัดมาเลย....ชอบบบบบบบบ :z1: แต่ถ้าจะให้ดีมากๆ ช่วยเขียนตอนยาวๆหน่อยได้ไม๊อะ :z3: มันอ่านไม่จุใจ ฮิๆๆๆ :z2:
-
เนื้อเรื่องก็ดี พยายามเข้านะ
สู้ ๆ จะรอตอนต่อไป o22
-
ชุลมุนวุ่นไปหมดสุดท้ายแก้วก็กลับไปอยู่กับฝิ่นอีกเหมือนเดิม
โธ่พี่ดิวอุตส่าพยายามมาพาตัวกลับยังไม่สามารถพาไปได้อีกน่าสงสารจริงๆๆ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๘
ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือดัง ลุกนั่งตาลีตาเหลือกควานหาต้นตอของเสียงเพราะกลัวคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงจะตื่นแล้วเกิดพาลขึ้นมาได้
“พงษ์” กรอกเสียงทักเมื่อเห็นเป็นเบอร์โทรจากต่างประเทศ พลางดึงโซ่ให้สูงจากพื้น เดินเบาๆเข้าไปคุยในห้องน้ำ
“โทรเข้าบ้านทำไมไม่รับ ทำอะไรอยู่” คนทางโน้นทักทายกลับมาเป็นคำต่อว่า
“เออ เอ่อ นอนสิวะ นี่มันเพิ่งกี่โมงเองโทรมาหัดดูเวลาบ้างนะ” กลับมาถึงดึกดื่นไม่พอ ยังโดนไอ้ฝิ่นจับมือยัดเข้าไปแช่ในช่องฟรีสอีก มันบอกช่วยประคบข้อมือ เขาจะทำอะไรได้มันบอกประคบก็คงต้องเป็นประคบ...ตามนั้น แถมต้องอาบน้ำล้างกลิ่นล้างคราบเบียร์ออกจากตัว กว่าจะได้นอนมันยังล่ามโซ่แล้วให้เขานอนกับพื้นเย็นๆข้างล่างเตียงมันอีกต่างหาก แอร์ก็เย็นจนนอนแทบไม่หลับ ผ้าห่มสักผืนก็ไม่มี
“กูคำนวณแล้วตอนนี้เมืองไทยคงประมาณสิบโมง”
นอกจากแสงไฟสลัวที่เจ้าของห้องเปิดไว้ มองไปทางไหนภายในห้องก็เดาไม่ได้เลยว่ามันกี่โมงกี่ยาม
จะพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกดินในห้องนี้ไม่ได้แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย
แก้วยกมือถือละจากใบหูมาดูเวลา
“สิบโมงครึ่ง!”
“เออสิ มึงตื่นสายขนาดนี้เลยรึไง ไปเถลไถลที่ไหนมารึเปล่า” พงษ์ตะล่อมถามอย่างไม่จริงจัง
“เปล่าๆจะให้ไปไหนได้ล่ะ แล้ว เออ ถึงนานรึยังทำไมเพิ่งโทรมา” แก้วรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ถึงสักพักแล้วล่ะ แต่เพิ่งเข้าบ้าน บ้านหลังใหญ่แต่อยู่คนเดียวอีกแล้วว่ะ”
“อืม แต่คงไม่เหงานะ” เพราะความเหงาไม่เคยครอบงำพงษ์ได้เลย ต่างจากทางนี้ชะมัด เขาถามเสียงอ่อย
“ไม่หรอก มึงล่ะอยู่คนเดียวได้รึเปล่า”
“สบายมาก” ตอบไปอย่างนั้นแต่น้ำเสียงไม่ได้ฟังดูสดชื่นขึ้นเลย
“มึงคงถนัดล่ะสิ กูไม่น่าห่วงมึงเลยให้ตาย เออ แล้วพวกนั้นยังตามอยู่ไหม?”
“อะ อ๋อ ไม่เห็นมีหนิ ไม่ต้องห่วงหรอก” จะให้บอกได้ยังไงว่ามันไม่ได้ตามหรอก แต่ตอนนี้เขาอยู่บ้านมันเลยต่างหากล่ะ
“อืม ใจจริงอยากให้พี่ดิวไปอยู่เป็นเพื่อนสักพัก แต่มึงคงไม่เอา”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า กูดูแลตัวเองได้”
“เชอะ” เขานึกภาพไอ้พงษ์ที่กำลังแกล้งน้อยใจอยู่แล้วถึงกับยิ้มขำ
“ฮ่าๆ อืม จริงๆ”
“ตัวเล็ก เข้มแข็งนะ มึงเรียนอีกเทอมเดียวเดี๋ยวกูไปรับมาอยู่ด้วยกันที่นี่” มันย้ำเรื่องที่เคยคุยกันไว้อีกแล้ว
“อืม” เขาไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะความรู้สึกของเขาตอนนี้มันโดดเดี่ยวเหลือเกิน แต่จะให้ฉุดรั้งมันไว้ เขาก็ทำไม่ได้อีก คงได้แต่รอเหมือนครั้งนั้น แล้วทุกอย่างคงจะดีกว่านี้
“เฮ้อ เพิ่งห่างกันวันเดียวก็คิดถึงมึงแล้ว ดูสิ แล้วกูจะทนได้กี่วันวะเนี่ย”
“เอาน่า เดี๋ยวก็ชิน” กูก็กำลังพยายามจะชินกับมันให้ได้เหมือนกัน เขาเม้มปาก มือกุมหน้าอกข้างซ้ายไม่ให้สั่นไหวไปตามความรู้สึก ไม่ได้อยู่ใกล้กันอีกแล้ว ความรู้สึกแสนอ้างว้างมันก็ประเดประดังเข้ามาอีกครั้งจนได้
“มึงบังคับกูทางอ้อมนะ”
“ทำเพื่อพ่อแม่มึง เพื่อตัวมึงเองบ้างเถอะ”
.
.
.
ลำธารน้ำใส ธรรมชาติสวยงามร่มรื่น เด็กๆต่างพากันเล่นน้ำด้วยความสนุกสนาน มีเพียงคนเดียวที่นั่งกอดเข่าเหม่อมองสายน้ำเหมือนไม่มีสิ่งใดรบกวนเขาได้
“ขวัญนั่นใครวะ”
“อ๋อ ไอ้ลูกแก้ว ลูกเมียน้อยน่ะ”
“ลูกเมียน้อย?” พงษ์ทวนคำ “ก็น้องมึงน่ะสิ ทำไมไม่ชวนมาเล่นน้ำด้วยกัน”
“น้องบ้าอะไรวะ กูไม่นับญาติด้วยหรอก แต่...มึงไปเรียกมันมาสิกูจะพาเล่นอะไรสนุกๆ”
พงษ์เห็นเด็กชายตัวเล็กนั่งเหงาอยู่คนเดียวจึงขึ้นจากน้ำเดินเข้าไปหา
“มึงๆ ไอ้ตัวเล็กไปเล่นน้ำกัน” เขาเงยหน้าขึ้นมองคนที่มาทัก แล้วส่ายหน้า
“ทำไมวะ เล่นกันหลายคนสนุกออก” เขาส่ายหน้าอีกครั้ง ฟุ่บหน้าลงกับเข่า
“เป็นใบ้รึเปล่าวะมึงเนี่ย พูดด้วยก็ไม่พูด”
“เปล่าครับ”
“อ้าว เหี้ย ก็พูดเป็นนี่หว่า พี่มึงให้มาตามไปเล่นด้วยกัน” เด็กน้อยสะดุ้งตาโต
“พี่ลูกขวัญเรียกเหรอครับ” ลนลานลุกขึ้นยืนอย่างไว
“ก็เออสิ อะไรวะ ทีอย่างนี้ว่าง่ายจัง”
เด็กชายตัวเล็กก้มหน้าเดินตามพงษ์ไปจนถึงบริเวณที่เด็กกลุ่มใหญ่เล่นน้ำกันอยู่
“ไอ้ขวัญ มาแล้วๆ” ลูกขวัญหยุดกวักน้ำใส่เพื่อนคนอื่นๆเพราะเสียงตะโกนของพงษ์ แล้วเดินขึ้นมาบนฝั่ง
“ไปเล่นน้ำ” เอ่ยปากบอกเด็กชายตัวเล็กซึ่งอยู่ในฐานะลูกเมียน้อยเสียงเรียบ แต่นั่นมันคือคำสั่งสำหรับเขา
“แต่...”
“มึงกล้าขัดเหรอ” ลูกขวัญคว้าแขนเขาให้เดินลงไปสัมผัสน้ำตามหลังตน จากเข่า ถึงเอว จากเอว ถึงหน้าอก แล้วผลักเขาออกไปให้ลึกกว่าเดิม เด็กน้อยตีน้ำผลุบๆโผล่ๆ สำลักน้ำเป็นว่าเล่นเด็กคนอื่นๆได้แต่ยืนมองไม่มีใครกล้าห้าม ไม่มีใครกล้าช่วยเพราะกลัวลูกขวัญไม่พอใจ
“เฮ้ยไอ้ขวัญพอแล้ว น้องมึงว่ายน้ำไม่เป็นนี่หว่า ไอ้ขวัญพอ” พงษ์รีบวิ่งลงไปช่วย ทั้งที่เด็กน้อยไม่ได้เอ่ยปากร้องขอความช่วยเหลือจากใครเลย เขาดึงเด็กตัวเล็กขึ้นมายังน้ำตื้น เด็กน้อยกอดอกตัวสั่นงกด้วยความหวาดกลัว
“แค่ก แค่ก”
“ไอ้ขวัญมึงรู้ว่าน้องว่ายน้ำไม่เป็นทำไมยังทำอย่างนี้วะ”
“กูจะทำ ใครจะทำไม หรือมึงมีปัญหา ห๊ะ ไอ้ลูกแก้ว มึงมีปัญหาอะไรไหม?”
“ปะ เปล่าครับ”
“เห็นไหม มันเชื่อฟังกูจะตาย นี่ดูนี่” ลูกขวัญดึงตัวเขาจากที่ยืนอยู่ข้างหลังพงษ์ไป “ลูกแก้ว ดำน้ำให้กูดูหน่อย” เด็กชายตัวเล็กก้มหน้าก้มตาตัวสั่นด้วยความกลัว “ไอ้แก้ว! กูบอกให้ดำน้ำ” รู้สึกเหมือนเสียหน้าที่โดนขัดคำสั่ง ลูกขวัญจึงผลักตัวเขาหงายหลังแล้วตามเข้าไปจับผมเด็กชายตัวเล็กกดหัวลงไปในน้ำ “กูบอกทำไมไม่ทำ มึงกล้าหักหน้ากูเหรอ ดำน้ำๆ ดำลงไป”
เด็กชายสำลักไอ หัวถูกกด ถูกดึงขึ้นลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความสนุกสนานของคนๆเดียว
“เหี้ย มึงเลิกเล่นได้แล้ว!” พงษ์ดึงตัวเพื่อนออกจากเขา ตามด้วยชกหน้าลูกขวัญด้วยความโกรธแทน
“แค่กๆ พี่อย่าครับ” ลูกแก้วรีบห้าม แต่ไม่ทัน
“มึง ไอ้เหี้ยพงษ์มึงกล้าต่อยกูเหรอ?” ลูกขวัญกุมแก้มตัวเอง แล้วถอยห่างจากพงษ์ด้วยความกลัว
“เออ! มึงเก่งนักก็มาเอาคืนเลยมา”
“ไอ้เหี้ยมึง” ลูกขวัญชี้หน้าพงษ์ ตามด้วยแก้ว “ไอ้ลูกแก้ว กูจะฟ้องแม่” ลูกขวัญคาดโทษทั้งพงษ์ทั้งลูกแก้วแล้ววิ่งขึ้นจากน้ำด้วยความอับอาย เมื่อลูกขวัญไปแล้วเด็กกลุ่มใหญ่ทุกคนต่างเข้ามารุมล้อมเด็กชายตัวเล็กด้วยความเห็นใจ
“ต๊าย ลูกแก้วทำไมถึงใส่ร้ายพี่อย่างนี้นะ คุณพี่อย่าไปเชื่อนะคะ น้องพยายามอบรมเด็กคนนี้ด้วยความรักความเอาใจใส่ทุกวี่วัน แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ เด็กมีปัญหานี่คะ เลยชอบทำอะไรเพื่อเรียกร้องความสนใจประจำ อันนี้น้องก็ไม่เคยว่านะ แต่นี่โกหกคนอื่นจนพี่ชายถูกเข้าใจผิดอย่างนี้ ไม่ไหวจริงๆเลย” แพรวพรรณแม่ของลูกขวัญเอ่ย ทั้งที่รู้นิสัยลูกชายตัวเองดีเพราะเธอปลูกฝังมาเองกับมือ
“โถ อย่างนั้นเองเหรอคะ ถ้ายังไงพี่ขอโทษแทนเจ้าพงษ์ด้วยนะคะที่หูเบาจนทำร้ายน้องลูกขวัญไป” แม่ของพงษ์แสดงความเห็น พร้อมทั้งขอโทษขอโพยในสิ่งที่ลูกชายตัวเองเข้าใจผิดจนก่อเรื่องเข้า
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพี่ น้องพงษ์น่ะใสซื่อเกินไปตามเด็กคนนี้ไม่ทันหรอกค่ะ ถ้ายังไงก็ห่างๆไว้ดีกว่านะคะ นับวันเด็กคนนี้ยิ่งจะอันตรายมากขึ้น ใครเข้าใกล้ลูกแก้ว นิสัยเสียตามกันหมดเลยค่ะ น้องไม่รู้จะทำยังไงแล้วเหมือนกัน” แพรวพรรณยังคงใส่ไฟต่อ
“แล้วอย่างนี้พาตัวไปฝากไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ดีเหรอคะ คุณพี่ก็ทำมูลนิธิอยู่เหมือนกัน เขาอบรมสั่งสอนให้เด็กเปลี่ยนนิสัยได้นะคะ”
“น้องก็คิดอยู่เหมือนกันค่ะ แต่คุณพ่อเขาน่ะสิคะ ไม่ยอม เฮ้อ น้องล่ะเป็นห่วงอนาคตลูกแก้วมากๆเลยค่ะ” แพรวพรรณทำท่ากลุ้มอกกลุ้มใจเสียเต็มประดา
นั่นทำให้พ่อแม่ของพงษ์คิดว่าลูกแก้วเป็นเด็กมีปัญหา ทุกครั้งที่เดินทางจากกรุงเทพฯมาพักผ่อนที่รีสอร์ทนี้ แพรวพรรณก็กีดกันไม่ให้พงษ์เจอตัวลูกแก้วอีก แต่พงษ์ก็หลบไปหาไอ้ตัวเล็กของเขาได้ทุกครั้งเหมือนกัน
“นี่ ทำไมต้องยอมไอ้ขวัญด้วยวะ”
“เขาเป็นพี่ครับ ผมเป็นน้องต้องยอมให้พี่ทุกอย่างครับ”
“พี่? แต่มันบอกมึงเป็นลูกเมียน้อย”
“ก็...คงใช่มั้งครับ”
“ยังไงวะ” ลูกแก้วอึกอักไม่ยอมพูด “กูช่วยมึงไม่ให้จมน้ำตายนะมึงไม่เชื่อใจกูเหรอ” ลูกแก้วจึงตัดสินใจพูดออกไป
“พ่อกับแม่ผมแต่งงานกันแล้ว จดทะเบียนกันแล้วด้วย แต่...เมื่อเดือนที่แล้ว คุณแพรวพรรณเข้ามาที่รีสอร์ทบอกว่าเป็นเมียพ่อมาก่อนแม่ซะอีก แถมยังมีพี่ลูกขวัญมาด้วย คุณพ่อไม่ปฏิเสธเลย ไม่ปฏิเสธอะไรเลย ฮืออ” ลูกแก้วเล่าไปตามที่เคยได้ฟังมาจากแม่ของตน เขาเองชักไม่แน่ใจว่าตนได้เกิดมาจากความรักจริงๆอย่างที่พ่อกับแม่เคยพร่ำบอกรึเปล่า
“เฮ้ยๆ อย่าร้องไห้ ลูกผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กันหรอก”
“ฮึกๆ” เด็กชายตัวเล็กมองพงษ์ตาแป๋ว เขาเพิ่งเคยได้ยินว่าผู้ชายไม่ร้องไห้หรอกเหรอ
“แม่เสียใจ กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย” ลูกแก้วบอกพงษ์ด้วยนัยน์ตาทอดยาวเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย พงษ์นึกสงสารและเห็นใจ จากที่เห็นลูกขวัญเพื่อนของเขากระทำกับเด็กคนนี้เขาก็พอเดาออกว่าไอ้ตัวเล็กต้องเจอกับอะไรบ้าง
“มึงอายุเท่าไหร่”
“สิบขวบครับ”
“มา” ลูกแก้วมองมือที่ยื่นมาตรงหน้าตาใส “เป็นเพื่อนกัน” พงษ์พูดบอก
“แต่ พี่เป็นเพื่อนพี่ลูกขวัญ จะมาเป็นเพื่อนผมได้ยังไงครับ” เขาถูกห้ามไม่ให้พูดคุยกับเพื่อนพี่ชายทุกคน รวมทั้งในชั้นเรียนก็ถูกกล่าวหาจนไม่มีใครกล้าคุยด้วย นี่ถ้าคุณแพรวพรรณรู้ว่าแอบมาคุยกับพี่พงษ์เขาคงต้องถูกทำโทษด้วยการให้อดอาหารเป็นแน่
“งั้นกูเลิกเป็นเพื่อนไอ้ขวัญตอนนี้เลยละกัน กูจะได้เป็นเพื่อนมึง”
“ได้เหรอครับ?” เด็กน้อยถามด้วยความไม่แน่ใจ
“ได้สิ แต่มึงต้องเลิกพูดครับก่อนกูแสลงหูเหี้ยๆ”
“อืม” เด็กน้อยทำท่าครุ่นคิดเพราะแม่ของเขาสอนว่า เป็นเด็กดีต้องพูดจาไพเราะตั้งแต่จำความได้ แต่ถ้าไม่เลิกก็จะไม่มีเพื่อนน่ะสิ ทั้งพี่คนนี้ยังใจดีกับเขาด้วย “ครับ เลิกพูดก็ได้ครับ” พงษ์หัวเราะเสียงดังเมื่อได้ฟังคำตอบที่แสนไร้เดียงสา
“จากนี้กูกับมึงเป็นเพื่อนกันแล้วนะเว้ย” พงษ์ขยี้ผมไอ้ตัวเล็กด้วยความเอ็นดู
ความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นฮีโร่มันดีอย่างนี้นี่เอง
พงษ์มีคนให้คอยดูแลปกป้องอย่างจริงจังสักที ต่อไปนี้เขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ให้พ่อกับแม่ได้ภูมิใจ
.
.
.
พงษ์หัวดี เรียนเก่งจนสอบเข้าโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งของประเทศ ไม่เคยนอกลู่นอกทาง ไม่เคยทำตัวเกเรให้พ่อแม่เห็น และยังติดต่อกับลูกแก้วตลอดทั้งที่ถูกสั่งห้าม จนกระทั่ง...
“คุณพ่อครับคุณแม่ครับจำได้ไหมที่เคยบอกให้ผมขอของขวัญที่สอบได้เกรดสี่แต่ผมไม่เคยขอเลย”
พงษ์ในวัยสิบเจ็ดปีเอ่ยถามผู้ปกครองกลางโต๊ะอาหารเมื่อรับประทานกันเสร็จแล้ว
“จำได้สิ แกนึกออกแล้วใช่ไหมว่าอยากได้อะไร” พ่อของพงษ์กางหนังสือพิมพ์บังหน้าแต่ก็พูดคุยกับลูกชายคนเดียวของตนคล้ายตั้งใจฟัง
“ผมอยากเรียนเทคโนTครับ” บอกอย่างมาดมั่นด้วยความตั้งใจมาแล้วถึงห้าปี ห้าปีที่รอให้เจ้าตัวเล็กมันเรียนจบมัธยมต้น และเขาจะได้ทำหน้าที่อย่างจริงจังสักที
เทคโนT โรงเรียนของลูกผู้ชาย
“อะไรนะลูก” แม่พงษ์ถึงกับเอามือทาบอก
“เจ้าพงษ์ แกคิดอะไรของแก” พ่อพงษ์พับเก็บหนังสือพิมพ์ทันที ถามกลับเสียงดุ
“คุณพ่อคุณแม่ครับ ไหนเคยบอกว่าผมอยากได้อะไรจะให้ผมทุกอย่าง นี่ผมก็ไม่ได้ขออะไรมาห้าปีแล้วนะครับ” พงษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยใจและตัดพ้อ เขาตั้งใจที่จะไม่เอาอะไรเลย เพื่อให้ได้วันนี้ต่างหากล่ะ
“แต่แกจะจบม.๖อีกแค่ปีเดียวเองนะ คิดได้ยังไงจะย้ายไปเรียนโรงเรียนซังกะบ๊วยแบบนั้น มีแต่พวกเด็กเหลือขอทั้งนั้นแหละที่เรียนที่นั่น!”
“คุณคะ อย่าเสียงดังใส่ลูก” แม่พงษ์ที่นั่งข้างๆรีบแตะแขนสามีปราม
“คุณพ่อครับ แต่สายอาชีพเป็นฟันเฟืองของชาตินะครับ ลูกน้องคุณพ่อตั้งหลายคนก็จบจากช่างกลทั้งนั้นไม่ใช่เหรอครับ พวกเขายังทำงานให้คุณพ่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่แพ้คุณพ่อที่จบจากนอกเลยนะครับ ผมจำได้ดีอันนี้คุณพ่อเคยเล่าให้ผมฟังเอง” พ่อพงษ์สะอึกเมื่อโดนย้อน “คุณพ่อครับ ลูกผู้ชายเขาไม่ผิดคำพูดนะครับ” พงษ์ตะล่อมเข้าสิ่งที่ผู้ปกครองเคยรับปาก และเขามั่นใจว่าเขาต้องได้ในสิ่งที่เขาเสียเวลารอ
“ก็ได้! แต่ถ้าแกก่อเรื่องขึ้นมาเมื่อไหร่ แกต้องออกจากโรงเรียนนั้นทันทีไม่มีข้อโต้แย้งนะ”
“ครับ สัญญาด้วยเกียรติลูกผู้ชายเลย”
.
.
.
ลูกแก้วเรียนจบมัธยมต้นจากโรงเรียนชายล้วนประจำจังหวัดแล้วขอผู้เป็นพ่อเข้าไปเรียนต่อในกรุงเทพฯตามคำบอกกล่าวของพี่ชายในความรู้สึกของเขา พี่ชายกลายเป็นเพื่อน เพื่อนที่คอยบอกคอยสอนเขาทุกอย่าง
“อยู่ที่นี่มึงจะตายเพราะพี่เพราะแม่ใหม่มึง” พงษ์ว่ายังไงเขาก็ว่าอย่างนั้น
แพรวพรรณยิ่งเห็นดีด้วยเขาจะได้ไปให้พ้นหูพ้นตาเสียที เพราะเธอต้องการให้ลูกชายเป็นทายาทเพียงคนเดียวของรีสอร์ทเท่านั้น ยิ่งรู้ว่าลูกแก้วจะเรียนต่อโรงเรียนอาชีวะ เธอยิ่งพึงพอใจที่เห็นชีวิตลูกเลี้ยงคนนี้เริ่มตกต่ำในสายตาเธอ จึงยุส่งให้สามีซื้อบ้านให้ไปเลย เมื่อลูกแก้วร้องขอ
“แขวนกระสอบทรายทำไม” เขาถามเมื่อเห็นพงษ์ตั้งหน้าตั้งตาแขวนมันไว้กับกิ่งของต้นมะม่วงหน้าบ้าน
“ทำไมวะ?”
“ก็เห็นทำอยู่นาน ทำ ทำไมเหรอ” ทั้งที่อยากลุกไปช่วย แต่ทำได้แค่นั่งท้าวคางมองเฉยๆตามคำสั่ง บ้านไม่ใช่ค่ายมวยสักหน่อยไม่รู้จะทำให้เกะกะทำไม
“ไม่ใช่ กูให้มึงถามว่า กูแขวนกระสอบทรายทำไมวะ สอนไม่รู้จักจำ” อ้าว เขาเผลออีกแล้วเหรอ
“อ้อ เออ แขวนทำไมวะ” เขากระตือรือร้นพูดใหม่ เป็นผู้ชายพูดมึงพูดกู พูดวะ พูดโว้ยเข้าไว้ พงษ์สอนมา
“เอาไว้ซ้อมเตะซ้อมต่อย”
“จะสอนเหรอ?” เขาถามด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“สอนเหี้ยไร อย่างมึงอยู่เฉยๆก็พอละ” เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กตัวเล็กจนถึงตอนนี้ แม้เด็กชายตัวเล็กวันนั้นจะโตขึ้นมากแล้ว พงษ์ก็ยังไม่ยอมให้เขาได้เรียนรู้การต่อสู้แบบลูกผู้ชายที่ปากพร่ำบอกสักที
“พงษ์ มึงไปมีเรื่องอย่างนี้ทุกวันทำไมวะ เจ็บตัวสนุกนักรึไง” ตั้งแต่พาตัวเองเข้าเรียนไอ้โรงเรียนลูกผู้ชายตามที่พงษ์ว่าก็ต้องนั่งทำแผลให้พงษ์แทบทุกวัน
“กูต้องเก่งต้องแกร่งเข้าใจไหม ต่อไปแค่พูดชื่อกูก็จะไม่มีใครกล้าแตะมึงไง จำไว้นะตัวเล็กเกิดเป็นผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ มึงต้องสู้ ต้องสู้คำเดียวเท่านั้นถึงจะมีชีวิตอยู่ได้”
“สู้ทั้งที่มึงไม่เคยให้แม้แต่มดกัดกูเนี่ยนะ” เขาท้วง
“กูก็แค่อยากปกป้องมึง ตัวมึงแค่อยู่ใกล้กูน่ะหายห่วง แต่มึงต้องสู้ด้วยใจ อันนี้มึงต้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง ต่อให้โดนกระทืบจนตัวตาย มึงก็ต้องลุกขึ้นยืนให้ได้ จำไว้”
ถึงเขาจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พงษ์บอกเท่าไหร่ แต่เขาก็จะพยายามทำมันให้ได้
ถ้าเราเชื่อว่าหัวใจเราเข้มแข็งพอ ทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี
“คุยเสร็จก็ออกมาได้แล้ว” เสียงเจ้าของห้องทำให้เขาหลุดจากภวังค์ พร้อมประตูห้องน้ำถูกผลักเข้ามาอย่างง่ายเพราะมันติดสายโซ่เขาจึงไม่สามารถปิดล็อกมันได้ แก้วไม่รู้ว่ามันมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้แต่หวังว่าคงไม่ทันได้ยินอะไรนะ
ตั้งท่าเดินสวนออกมาอย่างไม่มีพิรุธ แม้จะโดนข่มขู่ทางสายตาก็ตามที
...สู้ทั้งที่ยังรู้สึกว่าบางทีคงสู้ไม่ไหว เอาอย่างนี้ก็ได้วะ
........
เนียนแย้มไปนิดหน่อยในช่วงที่แก้วคิดถึงพงษ์ เย้ เย้ งงอีกล่ะสิ มันโยงมาได้ไง ฮ่าๆๆ
แต่ด้วยความเนียนและใบหน้าฉาบปูนของคนเขียนแล้ววว มันจึงออกมาเช่นนี้แล
ไอ้ฝิ่นคงดีใจที่ตอนนี้มันแทบไม่มีบท รอดแล้วตู ประมาณนั้น
(พล็อตที่ร่างๆไว้มันใช้ไม่ได้เลยค่ะ เอาเข้าจริงมันก็ต่อเนื่องตามอารมณ์ ตามสิ่งที่น่าจะเป็นในเวลานั้นๆ แล้วจะวางพล็อตไว้ทำไมเนี่ย ฮ่าๆๆๆ)
ทดไว้ในใจกันต่อไปว่าแก้วคิดยังไงกับพงษ์กันแน่
ว่าแต่มันลี้ภัยไปประเทศไหนทำไมแกเพิ่งถึงห๊ะไอ้ลูกชาย...
ใครคนหนึ่งที่เหมือนอยู่ตัวคนเดียว พอเจอเข้ากับใครอีกคน จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล่วแต เอ้ย แล้วแต่ (เล่นเพื่อ?) (และจะด้วยเขียนอย่างขาดๆหายๆก็แล้วแต่เช่นกัน ฮ่าๆๆๆ) มันก็เป็นบ่อเกิดของความสัมพันธ์ที่ทำให้ใจสั่นได้ใช่ไหมล่ะ?
คุณ StillLoveThem ใช่เรื่องอดีตเด็กพาณิชย์รึเปล่าคะ ถ้าไม่ใช่พี่นึกออกเมื่อไหร่แปะให้หนูด้วย วิ๊งๆ ออดอ้อน ฮ่าๆ หนูก็ชอบอ่านเรื่องเล่าเหมือนกันค่ะ มันได้อารมณ์ดี
คุณ LifeTime อ่านไม่รื่น อันนี้ตรงจุดมากค่ะ อย่าว่าแต่คนอ่านไม่รื่นเลยคนเขียนก็ไม่รื่นเหมือนกัน เรื่องภาษา เรื่องลักษณะคำน่ะ เป็นอะไรที่ลำบากสำหรับซีซั่นมากนะคะ อ่อนด้อยสุดๆก็ว่าได้
เพราะเป็นคนไม่รู้ไม่เคยสนใจว่าไอ้นั่นเรียกอะไร ไอ้นี่เรียกอะไรด้วยแหละ คอนโซลรถยังต้องเปิดอากู๋ว่ามันเรียกอย่างนี้ถูกรึเปล่า
ส่วนนี้ก็จะพยายามอยู่เหมือนกัน เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ต้องการเอาชนะตัวเองด้วยค่ะ^^
จะรอดไม่รอดก็ไม่ได้กดดันตัวเองด้วยสิ(เอากับมัน ==) ถ้าได้ทำจนถึงที่สุดแล้ว ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้นอ่ะค่ะ เพราะถือว่าเราตั้งใจแล้วนี่เนอะ อิอิ
คนอ่านทนๆหน่อยนะคะ ฮ่าๆๆ
//ถือไมค์ร้องเพลง งงดีๆ งงดีแปลว่าอะไร? ฮ่าๆ งงมันต้องไม่ดีต่างหากเล่า
อืม คนเขียนเป็นคนที่ค่อนข้างคิดและชอบทำหลายสิ่งหลายอย่างทับซ้อนกันมันเลยออกมาเป็นอย่างนี้อะค่ะ รู้ตัวนะคะ แต่แก้ไม่ได้
คิดในแง่ดี เออ การทำให้คนอ่านงงอาจเป็นจุดเด่นของนิยายเรื่องนี้ก็ได้นะ Y^Y (เหอะๆ ช่างกล้าคิด)
แต่ฮามากคนอ่านบอกอ่านๆไปแล้วก็เข้าใจเอง คงเพราะชิน ฮ่าๆๆ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
คุณเฉาก๊วย ถ้าจะบอกความเป็นแก้วได้ขนาดนี้ล่ะก็ คนเขียนถอดหัวเข็มขัดสถาบันให้ไปเลยค่ะ ^^
ปล. คนเขียนก็ชอบอ่านคอมเม้นท์เช่นกันค่ะ^^
:pig4: ขอบคุณที่ติดตามเช่นเคยนะคะ^^ กอดๆ จุ๊บ
-
แก้ว...เข้าใจแล้วว่าแก้วรักพงษ์มากแค่ไหน
เพราะพงษ์คอยดูแลแก้วมาตลอดนี่เอง :m15:
-
ตอนนี้น้ำตาจะไหล T^T รู้แล้วทำไมแก้วถึงทนเพื่อพงษ์ได้ขนาดนี้ ไม่ได้ชอบอ่านมาม่า แต่เลิกอ่านเรื่องนี้ไม่ได้อ่า
ชอบที่ซู้ดดดดดดด >< (วิบัติเพื่อเสียง)
เอาพงษ์กลับม๊า จะเอาพงษ์เป็นพระเอก~
-
:z3: :z3: :z3:
-
อ่านตอนนี้แล้วเข้าใจความรู้สึกของแก้วเลยค่ะ :z3: :z3:
-
แก้วจ๋า ชอบแก้วจังทำไมแม่ใหม่ถึงได้เลวยังงี้ เพราะพงษ์ดีกับแก้วมากจริงๆ พงษ์สำหรับแก้วเราคิดว่าเป็นเหมือนดวงตะวันเลยอะ
จะพงษ์-แก้วก็ได้นะ ยอมอะ น่ารักมากๆ แต่ ฝิ่น-แก้ว :m29: อย่าพึ่งทำแก้วช้ำไปก่อนนะ รักแก้ว :กอด1:
ปล. ซีซั่นซัง รีบๆมาต่อไวไวนะค๊าบ ชอบเรื่องนี้ม๊ากกกกกมาก :L2:
-
กรี๊ดดดด คนเขียนลืม o22 ทั้งที่บอกไปแล้วว่าไม่มีใครตายอีกหรอก
ตอนนี้ไหงแม่หนูแก้วไปซะล่ะ :beat:
แต่ในตอนนี้ที่กล่าวถึงมันคืออดีตนะคะ ที่ว่าไม่มีใครตายหมายถึงเรื่องปัจจุบันและอนาคตนั่นอะค่ะ //ปาดเหงื่อ
เค้าขอโทษY^Y
-
อ่านทันแล้วคะ สนุกมากๆๆๆเลย ^^
แก้วน่าสงสารอะ ฝิ่นใจร้ายจริงๆเลย
แต่ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมแก้วต้องทำเพื่อพงษ์ขนาดนั้น
หวังว่าฝิ่นจะเข้าใจและเห็นใจแก้วบ้าง TT
-
กรี๊ดดดด คนเขียนลืม o22 ทั้งที่บอกไปแล้วว่าไม่มีใครตายอีกหรอก
ตอนนี้ไหงแม่หนูแก้วไปซะล่ะ :beat:
แต่ในตอนนี้ที่กล่าวถึงมันคืออดีตนะคะ ที่ว่าไม่มีใครตายหมายถึงเรื่องปัจจุบันและอนาคตนั่นอะค่ะ //ปาดเหงื่อ
เค้าขอโทษY^Y
^
^
^
^
เอาตอนใหม่มาแล้วจะให้อภัย 5555+
-
ที่แท้พงษ์ก็คอยดูแลแก้วมาตลอดนี่เอง ไม่แปลกใจเลยทำไมแก้วถึงเป็นห่วงและทำเพื่อพงษ์ขนาดนี้ ตามนิสัยของพงษ์ไม่น่าจะเป็นคนฆ่าใครได้เลยนะอาจจะเป็นการเข้าใจผิดอะไรบางอย่างก็ได้ (ลุ้นให้เป็นแบบนั้น) แก้วเองก็เป็นคนดีมากๆ สักวันฝิ่นจะต้องรู้สึกผิดมากๆที่ทำกับแก้วแบบนี้
เป็นกำลังใจให้ผู้เขียน ตั้งหน้าตั้งตาเขียนมาลงให้อ่านกันต่อไปครับ เข้ามารออ่านทุกวันเลย o13
-
...ตอนนี้ถึงจะนอกพ๊อตเรื่อง แต่พี่ว่ามันก็ทำให้รู้ถึงความสัมพันธ์ และความเป็นมาของแก้ว และพงษ์มากอยู่นะ
...ส่วนเรื่องเล่า พี่จำไม่ได้..พี่บ้าไง ไปอ่านหลายเวปมาก เวปชายรักชายนี่แหละบางเวปก็โดนปิดไปแล้ว
...พี่เลยจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร แต่จำได้ว่า มีเด็กช่างต่างสถาบันรักกันด้วยยยยยยยยย ฮ๋าๆๆ สว จำอะไรไม่ค่อยได้
...ที่จำได้เพราะอ่านไปนึกไปว่าเออ ต่างสถาบันตีก้นแต่ก็รักกันได้ เลยจำได้ฮ่าๆๆถ้าไม่อ่านไป คิดไปก็..แป่ววววว :laugh:
-
แม่อีน้องขวัญเกรียนมาก ไม่รู้จะพูดอะไรดี
พงษ์ก็เนอะ อารมณ์เป็นเหตุแท้ๆเลย :เฮ้อ:
ป.ล. ตอนนี้ฝิ่นไม่มีบท เย่!1 :mc4: (เขาเป็นพระเอกนะแก)
-
อีแก้วมันโง่เป็นควาย ถึงขนาดนี้มันยังรักเพื่อนมากกว่าตัวเองเลย
สมแล้วทีโดนไล่ออกจากบ้าน เพราะพ่อมันเองยังไม่รักเลย
-
เข้าใจแล้วว่าทำไมแก้วถึงต้องปกป้องพงษ์ขนาดนี้
-
สงสารแก้วสุดๆๆๆๆ
-
แก้วกับพงษ์เขามีความหลังกันอย่างนี้นี่เอง ซึ้งนะ เดาว่าพงษ์คิดกับแก้วมากกว่าเพื่อนแน่ ๆ
-
สงสารแก้วจังตัวเองเป็นลูกเมียน้อยหรือเปล่าก็ไม่รู้
ชีวิตช่างน่าเศร้าเหลือเกิน
-
โบกป้าย พงษ์-แก้ว-ฝิ่น ควบสองเลยแก้ว
-
อ้อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
รออ่านจ้า o13
-
รออ่านต่อค่า :pig4:
ออกจากห้องน้ำไปจะเจออะไรอีกกกกกกกกกก :เฮ้อ:
-
มาต่ออีกนะคับ สนุกมากๆคับ
-
อ่านอตนนี้แล้วเปลี่ยนใจมาเชียร์ พงษ์-แก้ว
ส่วนนายฝิ่นเราว่าเอา น้องขวัญไป เหมาะสมกันดี
ในอนาคตน้องขวัญอะไรนี่ จะกลับมาทำร้ายแก้วอีกไหม อุส่าหนีมันมาไกลแล้วขออย่ามารังควานแก้วอีกเลย
รอพงษ์มารับแก้ว :กอด1:
-
เดาไม่ออกเลยว่าสองคนนี้จะดีกันยังไง แต่ก็คงเกิดจากความใกล้ชิดละมั้ง
-
อ่านตอนนี้แล้วเข้าใจเลยว่าทำไมแก้วถึงช่วยพงษ์ และไม่โกรธเลย :กอด1: :กอด1:
-
กดเป็ดกดบวก
เริ่มเห็นภาพในอดีตชัดขึ้น
เราสองสามคน แก้วก็นะ พงษ์ก็ด้วย
คงรักกันลึกๆ แอบซ่อนไว้ทั้งสองฝ่าย
แต่ฟ้าคงไม่เข้าข้าง อุอุ
เชียร์พระเอกเถื่อน
-
พงษ์กับแก้วมีอดีตร่วมกันอย่างนี้นี่เอง :เฮ้อ:
-
น่านิยมในน้ำใจ แต่สอนเพื่อนผิดๆ แทนที่จะสอนให้เพื่อนหัดสู้คน กลับสอนให้อดทนอย่างเดียว มินาโดนรังแกยันเจ็บตัวตลอด
-
พงษ์เค้าประคบประหงมลูกแก้วมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกหยั่งงี้ ถ้ารู้ว่าลูกแก้วตกอยู่ในมือฝิ่นเนี่ย ไม่แทบเหาะมาเลยเหรอนั่น
ฝิ่นนี่ก็อะไร ไม่ได้ครึ่งพิศาลเลยนะนั่น มือเท้าก็ประเคนให้ไอ้ลูกแก้วมันสิ
:angry2: ทำร้ายร่างกายไอ้แก้วแรง ๆ บีบหัวใจมันให้สุด ๆ คนอ่านมันจะได้เกลียดมรึง!
โถ.. ลูกแก้ว คนดีของเจ้ ทำไมชีวิตหนูช่างน่าสงสารอย่างนี้นะ อย่าท้อนะลูกนะ :impress:
-
ตอนนี้ชักอย่างให้พงษ์ขึ้นแท่นพระเอกซะแล้วซิ
-
โห
อ่านตอนนี้
แ้ลวรักพงษ์ขึ้นมาเลยอะ
เข้าใจแล้วว่าทำไมแก้วถึงได้รุ้สึกกับพงษ์มากขนาดนี้
แม่จะไม่ใช่ความรักแต่มันก็มากกว่ารัก(เอ๊ะยังไง) เหมือนพี่น้อง เหมือนเพื่อน
พงษ์คือทุกอย่าง
เข้าใจแล้วทำไมแก้วถึงได้ปกป้องพงษ์นัก
ซึ่งมากๆที่สุด
รักพงษ์ขึ้นมา 78% เอาใจเราไปเลย
ฝิ่นบทน้อยๆไปเมิงอะ
พงษ์ึคำแบ๊คพรีสสสส
-
สัญญาลูกผู้ชาย
-
จะโดนทำอะไรไหมเนี่ย -0-
-
เค้ามีความหลังกันแบบนี้นี่เอง คริๆ รู้สึกว่าชอบพงษ์มากกกกกก ^^
-
โอ๊ยยยย อ่านแล้วติดใจเลยคร้าบบบ เรื่องนี้ไม่มีใครผิดใครถูกเลยเน๊อะ มันอยู่ที่ว่าอยู่ฝั่งไหนมากกว่า
+1คร้าบบบบ
-
สงสารแก้วอ่าา
-
ดูเหมือนสำหรับแก้ว พงษ์เหมือนหลายอย่าง เพื่อน พี่ชาย อาจจะเป็นคนสำคัญด้วย เป็นใครๆก็ต้องทำยังนี้ไม่ว่าเขาจะทำไรก็ตาย
พงษ์ต้องมีเหตุผลเเน่ๆว่าทำไมถึงฆ่า
กระทืบไอ้ขวัญที่ ชื่อเเม่งไม่เหมาะวะ 555
-
พงษ์ทั้งเป็นคนดี เรียนเก่ง มีอุดมการณ์ สมแล้วที่แก้วเต็มที่ให้
แต่ทำไมถึงก่อเรื่องได้น้อ ปริศนาเอย..จงไขกระจ่าง
-
ตอนนี้พงษ์เท่มาก ไอ่คุณฝิ่น เมื่อไหร่มันจะดีกับแก้วเสียที
-
พงษ์ทุ่มเทเพื่อแก้วมากจริงๆ ถ้าพงษ์รักแก้ว เราจะเชียร์พงษ์นะ ^^
-
น่าสงสารทั้งพงษ์ ทั้งแก้ว
พงษ์คอยปกปอปงแก้วมาโดยตลอด แบบนี้นี่เองที่แก้วยอมให้ฝิ่นล้างแค้นกับตัวเองแทนพงษ์
-
:กอด1: พงษ์กับแก้ว มีความผูกพันกันแบบนี้นี่เอง :กอด1:
:L2:มอบดอกไม้ให้กำลังใจคนเขียน เนื้อเรื่องเริ่มน่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ แล้ว พงษ์ ดิว ฝิ่น อยากรู้จังเลยว่าใครกันนะจะเป็นพระเอก :L2:
-
o22
ลูกแก้วน่าสงสารจัง :m15:
-
เริ่มเทใจให้พงษ์ เพราะเค้าผูกพันกันมาแต่เล็กแต่น้อย
เรื่องราวมีปมที่น่าสนใจอยู่เยอะเหมือนกันนะคะ รวมถึงเรื่องที่พงษ์พลั้งมือฆ่าคนตายก็น่าจะมีอะไรซ่อนอยู่
กำลังลุ้นมากๆค่ะ o13
-
อ้อมกอดเด็กช่างตอนที่ ๙
“เสร็จแล้วตามขึ้นไปข้างบนด้วย” ฝิ่นบอกหลังจากที่เขาเซ้าซี้ทำความสะอาดแผลให้ใหม่จนเสร็จเรียบร้อย และมันกำลังจะเดินออกจากห้อง
“ไป...”
“ไปไหน? ทำไมมึงต้องถามด้วยวะ กูบอกอะไรแค่ฟังแล้วทำตามไม่ได้รึไง?” เขาจำต้องหุบปากลง ไม่ถามก็ไม่ถาม
“ล่ามตัวเองซะ” ลูกกุญแจกับแม่กุญแจที่ติดกันอยู่ตั้งแต่เมื่อกลางวันถูกวางกระทบโต๊ะ
“ไหนบอกว่า ตอนมึงอยู่ไม่ต้องล่ามโซ่ไง” เขาท้วงด้วยความกล้าๆกลัวๆ และตัวเขาเองก็สบายใจเมื่อถูกล่ามโซ่โดยที่ไม่มีมันอยู่มากกว่า
“ในเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี่ มึงยังคิดจะหนีไปกับไอ้ดิวอยู่เลย แล้วกูจะเชื่ออะไรมึงได้ ห๊ะ!” เขาไม่ได้คิดหนีสักนิดเลยเถอะ ทำไมมันต้องยัดเยียดความคิดของตัวมันเองให้เขาด้วยนะ
แก้วนั่งกับพื้นชันเข่าไขกุญแจปลดล็อกโซ่ออกจากข้อเท้า ล่ามตัวเองก็ต้องไขให้ตัวเอง มีอย่างที่ไหน เฮ้อ แล้วปิดเครื่องปรับอากาศ ปิดไฟในห้อง เดินตามขึ้นไปยังบนบ้าน
ยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนที่จัดโต๊ะอาหารรอ แม่ฝิ่นพยักหน้ารับทั้งรอยยิ้มเช่นเมื่อวาน
“ไม่ต้องไหว้ทุกวันหรอกลูก นั่งๆตามสบายนะ” แก้วมองหน้าฝิ่นอย่างลังเล เชิงถามว่า เขาต้องนั่งตรงไหน คำตอบถูกส่งมาด้วยสายตาตำหนิเชิงเบื่อรำคาญ เขาทำอะไรผิดอีกล่ะเนี่ย ...แก้วจึงเลือกนั่งตรงข้ามกับมันอย่างเก้ๆกังๆ
“เมื่อเช้าพระมาบิณฑบาต ถามหาลูกด้วย” ตักข้าวให้ลูกชายและเพื่อนของลูกตามความเข้าใจพลางชวนคุย
“หนูก็ว่าจะไปหาเหมือนกัน”
“เหลือกันอยู่แค่นี้ มีอะไรก็คุยกันซะ อย่าคิดเองคนเดียวมันหนักเกินไปลูก” ฝิ่นมองหน้าแก้ว เขารีบหลุบตาลงต่ำเพราะรู้สึกว่าเรื่องที่คุยกันอยู่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเขา
“หนูรู้...แล้วนี่พ่อไม่กลับมากินข้าวเที่ยงเหรอ” ฝิ่นเปลี่ยนเรื่องคุย
“โทรมาบอกว่ารถเยอะ เดี๋ยวงานเสร็จไม่ทันลูกค้าใช้ คงหากินแถวโน้น รุ่นร้องลูกก็อยู่ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก”
“งั้น หนูไปช่วยพ่อที่อู่ก่อนเสร็จแล้วค่อยไปหาหลวงพี่ดีกว่าเนอะ”
“ไม่ต้องหรอก ไปวัดก่อนเถอะเห็นพระว่ามีเรื่องจะคุย”
“อ้อ อืม เอาอย่างนั้นก็ได้”
ระหว่างทานข้าวมื้อเที่ยงสองคนแม่ลูกก็พูดคุยกันไป มีแต่แก้วที่นั่งก้มหน้าก้มตาตักข้าวเข้าปากอย่างเงียบๆพร้อมกับสายตาคนตรงข้ามที่คอยส่งมาจิกกัดอยู่เรื่อยๆ
“ผมช่วยครับ” เมื่อเสร็จแล้วแก้วรีบลุกช่วยเก็บจานชามเข้าไปในครัวด้วยความเกรงใจ เขาจะช่วยล้างอยู่แล้วแต่ถูกห้ามไว้ก่อน
“ฝิ่นน่ะตั้งแต่เป้งไปมันก็เงียบลงมาก คนพี่ก็หันหน้าเข้าวัดจะพูดจะคุยกับใครมันก็ไม่เหมือนกัน แม่ก็เป็นห่วงแต่ทำได้แค่ยืนดู ยิ่งเขาไม่พูดแม่ก็รู้ว่าเขายิ่งคิดมาก” แม่ฝิ่นปรับทุกข์
ไม่ใช่แค่ไอ้ฝิ่นที่เป็นทุกข์กับการสูญเสียเท่านั้น ผู้หญิงคนนี้ก็ทุกข์ด้วยสินะ แล้วยังมีใครอีกล่ะที่ไม่ได้ยืนอยู่อยู่ตรงหน้าเขา เพราะใคร...
“พี่ที่ชื่อไม้บวชเหรอครับ” ถามออกไปด้วยความข้องใจ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่เห็นใครอีกคนที่น่าจะตัวติดกับฝิ่น
“อ้าว หนูไม่รู้หรอกเหรอลูก” แม่ฝิ่นย้อนถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ อ้อ ผมลืมน่ะครับ” เขาแก้เก้อหัวเราะกลบเลื่อนทำเป็นรู้เรื่อง
แสดงว่าพี่คนนั้นบวชตั้งแต่งานศพแล้วสิ ถึงว่าไม่ยักเห็นตั้งแต่วันที่อยู่โรงพักแล้ว
ถึงไม่ได้ช่วยล้างแต่แก้วก็ช่วยแม่ฝิ่นเก็บจานเข้าชั้นวางจนเสร็จ ด้วยเพราะรู้สึกอบอุ่นเวลาอยู่ใกล้ๆผู้หญิงคนนี้
“แม่ฝากอยู่เป็นเพื่อนมันหน่อยนะลูก มีคนอยู่ข้างๆตอนมันอ่อนแอ แม่ก็เบาใจไปเปราะนึง” อ่อนแอเหรอ? ตั้งแต่เจอหน้ากันเขาก็เคยเห็นวันที่รู้สึกว่าไอ้ฝิ่นมันอ่อนแอแค่ครั้งเดียว แล้วหลังจากนั้นน่ะเหรอ...
“...ครับ” เขารับคำอย่างเสียไม่ได้ ถ้าวันหนึ่งแม่ฝิ่นรู้ว่าเขามีส่วนทำให้ลูกชายแม่เป็นอย่างนี้ เขายังจะได้เห็นรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นนี้อีกไหม
อีกอย่างยังไงซะเขาก็ต้องอยู่อยู่แล้วนี่ อยู่เพื่อชดใช้ให้มัน... จนกว่ามันจะพอใจ
.
.
.
“ฝิ่น” ชายในชุดจีวรเหลืองเรียกทักรุ่นน้องเสียงแข็ง เมื่อเห็นว่ามีใครอีกคนเดินตามมาด้วย
แก้วยกมือไหว้
“ผมรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ พี่ไม่ต้องคิดมากน่า” ฝิ่นพูดดักหลวงพี่ของตน
หลวงพี่ไม้ส่ายหน้าเมื่อโดนทักท้วงตั้งแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร
“ตอนนี้มึงรู้...แล้วต่อไปล่ะ? มึงรู้ด้วยรึเปล่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง” สายตาหลวงพี่จ้องมองนัยน์ตารุ่นน้องอย่างจริงจัง ก่อนจะนั่งลงที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่
แก้วก้มหน้าคิดตาม แล้วเพื่อนเขาล่ะ มันรู้ทั้งก่อนทำและหลังทำ แต่ทำไมมันยังทำนะ...
“วันข้างหน้าก็ต้องเป็นวันของผม ผมไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ผมทำ” ฝิ่นพูดอย่างหนักแน่นด้วยเชื่อในความคิดของตนเป็นที่สุด แล้วจึงเดินไปนั่งลงข้างๆหลวงพี่ไม้
“จำคำมึงไว้ให้ดี”
“สาธุ” ฝิ่นยกมือไหว้เหนือหัวเหมือนซาบซึ้งในคำสอนของพี่เสียเหลือเกิน “แล้วพี่จะสึกได้รึยัง” พลางเปลี่ยนบรรยากาศ
“ไอ้นี่ มาทีไรชวนกูสึกตลอด บาปนะมึง แล้วไอ้แก้วจะยืนค้ำหัวพระอีกนานไหม” หลวงพี่ไม้ส่ายหน้าพลางยิ้มน้อยๆกับท่าทางกวนประสาทของรุ่นน้อง ก่อนเอ่ยชวนใครอีกคนให้นั่งตาม
แก้วนั่งลงแต่หันหลังให้กับรุ่นพี่รุ่นน้องคู่นี้ ทำตัวเป็นผู้ฟังอย่างเงียบๆ
“ตัวบาปไม่กล้าเข้าใกล้ผมหรอก ตกลงเมื่อไหร่ว่ามา”
“วันมะรืน กลัวผมขึ้นไม่ทันฝึกงาน” หลวงพี่พูดปนขำ
“หึ ห่วงหล่อหรือว่าอิ่มในรสพระธรรมแล้ววะ” พูดจบ จุดบุหรี่แล้วส่งให้
“...ไม่หรอกว่ะ กูไม่ได้ตั้งใจใฝ่ธรรมะอะไรมากมายแต่แรกอยู่แล้ว กูแค่คิดว่าลองได้สงบบ้างคงจะดี แต่มันคงสงบจนเงียบเกินไป กู...” ตัดประโยคด้วยการคีบบุหรี่เข้าปาก แล้วพ่นควันช้าๆอย่างปลงๆ
“ผมก็คิดถึงมัน”
“หึ แต่กูไม่ว่ะ มันมาหากูออกจะบ่อย” มองหน้ารุ่นน้องอย่างเหนือกว่าแล้วเสมองไปทางสระน้ำเช่นเดิม
“เฮ้ย จริงดิ ได้ไงวะ เหี้ยเป้งไม่เห็นไปหากูมั่งเลยนะมึง” ฝิ่นโวยวายอย่างไม่จริงจังนัก พลางแอบมองใบหน้าที่วางไว้เรียบเฉยแต่ก็ดูออกว่าในใจคงจะหนักอึ้งอยู่ไม่น้อย
“หึ เข้าป่าคราวหน้าคงไม่มีใครมานอนเบียดแล้วสิ” นี่นะคำพูดของคนที่ไม่คิดถึง
“มันรีบก็ให้มันไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวผมก็คงตามไปเหมือนกัน”
“ไอ้เหี้ย” ฝิ่นยกมือรับพรก่อนจาก ถ้าไม่ติดว่าห่มผ้าเหลืองอยู่ หลวงพี่ไม้คงได้ไล่เตะเขาเป็นแน่
.
.
.
ฝิ่นกลับขึ้นรถเมื่อร่ำลาหลวงพี่ไม้เสร็จ หยิบแว่นกันแดดมาใส่แต่ยังไม่ยอมออกรถ
“พี่กูไม่เคยเศร้าขนาดนี้ ...เพราะเพื่อนมึงคนเดียว” แก้วก้มหน้ายินยอมรับคำต่อว่าต่อขานแต่โดยดี
“หึ เงียบทำไม มึงมีความสุขไหมกับผลพวงที่มึงทำ” แก้วเม้มปากเบือนหน้าหนี ไม่ต้องย้ำเขาก็รู้แล้ว ไม่ต้องย้ำเขาก็เข้าใจ ความรู้สึกของการจากไปอย่างไม่มีวันกลับน่ะ เขารู้จักดี แต่จะให้เขาทำยังไงไอ้ฝิ่นมันถึงจะรู้ว่าตัวเขาเองก็เสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน
“บอกกูสิ” มันบีบไหล่เขาทั้งสองข้าง พลางเขย่าคาดคั้นเอาคำตอบ
“กู...” มันเป็นอุบัติเหตุ มันเป็นอุบัติเหตุ แก้วย้ำสิ่งที่เขาคิดอยู่ข้างในเพียงคนเดียว
“ขอโทษสักครั้ง มึงยังทำไม่ได้เลย” มันผลักเขาจนกระแทกกระจกข้างแล้วค่อยถอยรถออกจากวัดด้วยความเร็ว
...ถ้าขอโทษก็เท่ากับว่าผิดน่ะสิ
เขายินดีรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่...เขายอมรับว่าไอ้พงษ์ทำผิดไม่ได้จริงๆ
.
.
.
“กลับมาแล้วเหรอไอ้หนู มาๆนั่งกินเหล้ากับพ่อหน่อย ฉลองที่วันนี้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษโว้ย” แก้วยกมือไหว้ผู้ชายที่ดูมีอายุ มือตบเสื่อเรียกลูกชายให้เข้าไปนั่งด้วย
“แม่บอกรถเยอะ ไอ้เราก็ว่าจะเข้าไปช่วย ไปถึงไอ้โจ้บอกพ่อกลับบ้านแล้วซะงั้น” ฝิ่นเดินไปนั่งกับพ่อ
“เจ๋งไหมล่ะ ฮ่าๆๆ แล้วใครวะนั่น ไม่เคยเห็นหน้าเลย” เหมือนมันจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีเขายืนอยู่ข้างหลังมันเมื่อคุณลุงเอ่ยทักขึ้นมา
“นั่ง” มันจึงหันมาสั่ง “เด็กโนTพ่อ พกไว้ทำเท่” ยักคิ้วบอกพ่อตน
แก้วนั่งลงข้างๆฝิ่น
“เท่ตรงไหนวะ เจี๋ยมเจี้ยมซะขนาดนี้ มึงเรียนอะไรวะไอ้หนู” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามทั้งยังยื่นแก้วเหล้าส่งให้เขา
แก้วรับมาอย่างขัดไม่ได้
“อิเล็กฯครับ” เขาตอบ แล้วยกแก้วเหล้าเข้าปากอย่างเฝื่อนขมเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท เขาไม่เคยจะชินกับรสชาดมันเลยทั้งที่โดนจับกรอกปากออกจะบ่อย
“เรียนช่างน่ะมันต้องกระโชกโฮกฮากหน่อยสิวะ เรียบร้อยไปไหนเนี่ย” พ่อฝิ่นยังคงต่อว่าเขาไม่หยุด จนเขารู้สึกเกร็งไม่น้อยไปกว่าตอนที่ถูกไอ้ฝิ่นตะคอกเลย
“พ่อไปว่าเพื่อนลูกทำไม เด็กมันดี รู้จักกาลเทศะก็ดีอยู่แล้ว” แม่ฝิ่นวางกับแกล้มไว้ให้ ต่อว่าสามีเล็กน้อยก็กลับเข้าไปในบ้านทันทีเพราะไม่ใช่วงสนทนาของตน
“แล้วไปเอาไอ้หน้าอ่อนนี่มาไว้บ้านทำไมวะ” เหมือนถูกเมียต่อว่าเลยเปลี่ยนไปซักลูกชายตัวเองแทน น้ำเสียงเริ่มอ้อแอ้ คงจะดื่มมาก่อนสักพักแล้ว
“เปล่า หนูก็แค่นึกสนุกๆไม่มีอะไรหรอกน่า”
“โกหกพ่อมันบาปนะเว้ย” พูดอย่างรู้ทันลูกชายตัวเอง
“หนูถึงพูดความจริงแค่ครึ่งเดียวไง”
“แหนะ มันกะล่อนได้ใครวะ” พ่อส่งแก้วเหล้าให้ลูกชายอีกรอบ “เออ แล้วตามคนทำไอ้เป้งได้รึยัง”
“กำลังจัดการอยู่พ่อ” มันตอบ พร้อมเหล่ตามองแก้วที่เริ่มจะก้มหน้างุดอีกครั้ง
“เอาคืนไม่ต้องเอากันให้ตายก็ได้นะฝิ่น ลูกก็ผ่านความรู้สึกนั้นมาแล้วน่าจะรู้ดีว่ามันมีแต่ทุกข์”
“หนูรู้น่า เอ้า ชนๆ ซีเรียสทำไมพ่อนี่ ”
.
.
.
แก้วพาดแขนฝิ่นไว้บนไหล่แล้วพาเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่น สภาพอย่างนี้เขาคงไม่มีแรงแบกมันลงห้องใต้ดินได้ แม่ฝิ่นเลยให้พามันมานอนที่sofa bed ตรงห้องนั่งเล่นแทน
“ทำไมผู้ชายอย่างมึงถึงเป็นคนสำคัญได้วะ กูไม่เห็นว่ามึงจะมีอะไรดีสักอย่าง” เมาอย่างที่แก้วไม่เคยเห็นมาก่อน วันที่เจอกันครั้งแรกนึกว่ามันไม่ได้สติแล้ว แต่วันนี้คงจะมากกว่า ถึงได้กอดคอพร่ำเรื่องของเขาอยู่อย่างนี้
“อะไรดีที่ว่าคือความเป็นอันธพาลรึเปล่า” แก้วปล่อยตัวฝิ่นลงบนโซฟาอย่างไม่กลัวมันเจ็บและไม่กลัวว่ามันจะไม่พอใจ...เมาขนาดนี้มันจะทำอะไรเขาได้
“หึ ยกเว้นแม่งปากดี” ฝิ่นดึงแขนเขาให้ล้มตามลงไป แก้วสะดุ้งยันแขนคล่อมตัวมันไว้เกือบไม่ทัน “มึงเป็นเกย์เหรอวะ” ฝิ่นหลับกระซิบถามเบาๆ
“อะ อะไรนะ!”
“มึงอยากรู้ไหมอะไรที่จะทำให้กูพอใจจนเลิกราวีโนTคนอื่นๆได้” ไอ้ฝิ่นมันคง...เมามากไปแล้ว ถึงได้พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนขนลุกแบบนี้ ทั้งยังมือที่ลูบไล้มาถึงสะโพกเขาอีก
แก้วรีบตะปบมือหนานั้นไว้ก่อนที่มันจะลูบวนไปมากกว่านี้ พลันคนเบื้องล่างก็ลืมตาอันหยาดเยิ้มขึ้นมาประสานกับสายตาเขาพอดี
“รักกูสิ แล้วกูจะปล่อยพวกมึงไป...ทุกคน”
....................................
ค่อยๆรักกัน เบาเบา...ในวันที่คนเขียนไม่มีแรงจิ้น
บทสนทนา และเวิ่นๆบางช่วง(ไม่กล้าใช้คำว่าบทบรรยาย) งงกันไหมคะ ไม่หรอกเนอะ(ไซโค) อิอิ
คนเขียนรู้สึกไปเองว่าตอนเช้าอากาศมันเย็นๆผิดปกติอะนะ ร่างกายมันเลยปรับตัวไม่ทัน ก็เลยต้องนอนไวเป็นพิเศษ (เกี่ยวไหมน๊อ) อิอิ เอาน่าดีกว่าน๊อคไปเลยเนอะ ตอนนี้จึงเสร็จช้าหน่อย จากที่พยายามจะให้เสร็จภายในสองวันT^T
:pig4:ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ กอดๆ ^^
-
แก้วก็ยอม ๆ ไปเหอะ :jul1:
-
รีบรับรักไปเลย....แก้ว
-
:sad4:แก้วกดมันเลย :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
:call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: รอต่อนะ
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ไม้บวชเป็นพระ?? ทำไมคำพูดเหมือนคนธรรมดาหล่ะ
-
มันเป็นแผนของฝิ่นรึเปล่า เมาง่ายเกิ๊น
-
แผน แผนใช่ไหมฝิ่น
อย่ามาทำให้ตื่นเต้นนะ!! (อ้าว) :-[
-
เเก้วรักมันไปเหอะ ฮุฮุ
-
ว่าแล้วก็จับแก้วใส่พานส่งให้ฝิ่น :oo1:
-
o22
จะซึ้งกับการขอความรักของพ่อหนุ่มนี่ได้ไม๊ :laugh:
-
ไม่งงจ้า โอเคแล้ว
วี้ดวิ้วกะประโยคสุดท้าย บอกกันตรงๆแมนๆงี้เลยนะ
แก้วเครียดดิทีนี้ เหอๆ
-
อืม อะไรๆที่เปลี่ยนไปมันก็ทำใจยากทั้งนั้นแหละเน๊อะ หากว่าเราคุ้นเคยกับมันมานาน
เอาใจช่วยทุกคนให้ปลดวางความแค้นนะครับ +1 รีบมาต่อน้า
-
จับกดเลย อิอิ
-
เดี๋ยวฝิ่นก็คงจะบอกว่า ".....กูล้อเล่น" ใช่ม๊ายยยยย :serius2: อย่าไปสนใจมันน้องแก้ว สนใจพงษ์คนเดียวก็พอ (/โดนฝิ่น :beat:)
พี่ไม้จะสึก เดี๋ยวก็จะได้เห็นพี่แกออกมาโลดแล่นแล้ว :laugh:
:pig4:
-
:L1: วิธีบอกรักของฝิ่นนี่ช่างไม่โรแมนติกเลย หรือว่าฝิ่นจะให้แก้วรับรักตัวเองเพื่อทรมานแก้วทั้งเป็น :L1:
-
ฝิ่นจะหลอกให้รักใช่ม่ะ แก้วอย่าไปหลงรักเชียว :serius2:
...รอให้ฝิ่นมารักเองดีกว่า :z1:
-
หุหุหุ ถ้าแก้วตกลงเป็นแฟนละแกจะซ้อมแก้วไหมนิ
ยังไงก็เชียร์คู่นี้อยู่ ชอบแก้วจังเลย :กอด1: น่ารักน่าหยิก
แอบชอบ ไม่ด้วย มี ไม้-แก้ว ด้วยไหม 555+
คนตายมันก็รุ้สึกสูญเสียกันทุกฝ้าย มันอาจจะมีเหตุผล หรือว่าเป็น อุบัติเหตุก็ได้
ปล. ซีซั่นซัง มาต่อไวไวนะ เลิฟวิ่งยูว ทูมัช!! โซมัช!! เวรี่มัช!! ไรนาววว :z2:
-
“รักกูสิ แล้วกูจะปล่อยพวกมึงไป...ทุกคน” อารมณ์ไหนเนี้ย เชื่อถือได้อ่ะเปล่า :m31:
-
แก้วกับพงษ์ผูกพันกันขนาดนี้นี่เอง
อยากรู้ทำไมฝิ่นพูดอย่างนั้น
-
ปริศนาตอนนี้...."คนสำคัญ" ของใคร? พงษ์? ดิว? เป้ง? ไม้? หรือ ฝิ่น?????????? :really2:
-
สนุกมากครับ o13
-
ว่าแล้วเชียว ต้องลงเอยแบนี้
-
ว๊ากกกก ตอนจบค้างงง
รีบมาต่อไวๆนะครับ
-
ถ้าได้แก้วจริง :man1:
อย่ารุนแรงนะฝิ่น :angry2:
*ของดีไม่ได้มีมาง่ายๆนะโว้ย :beat:
-
หลังจากไม่ได้เข้านาน เห็นชื่อเรื่องเเร้วเปค
อ่านรวดเดียวเรยยย :L2: :L2: รีบมาต่อน้า
รออยู่ น้องเเก้วน่ารัก อิอิ :o8: :o8:
-
^^
-
แก้วยอมไปเถอะคะ ป้าขอร้อง อิอิอิ
-
สุดท้ายทุกคนก็เจ็บปวดเหมือน ๆ กัน
-
เธอจะรักหรือเธอจะร้ายยยยยยยย คุณชายฝิ่น
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
ถ้าฝิ่นจะอ่อนโยนขนาดนี้(?) ก็จับกรอกเหล้าเช้าเย็นเถอะ :laugh:
-
:-[ เท่าที่อ่านมา ตอนนี้เริ่ดที่สุด
ตอบรับไปเลยแก้ว อยากทำเพื่อทุกคนไมใช่หรอ
-
ไม้บวชเป็นพระ?? ทำไมคำพูดเหมือนคนธรรมดาหล่ะ
เพิ่งกลับถึงบ้าน แวะมาตอบสักหน่อย
ขัดกับคำพูดพวก กู มึง วะโว้ย ใช่ไหมคะ
อันนี้หลวงพี่ไม้พูดได้ค่ะ จริงๆไม่ได้ผิดศีล ๕ แต่ประการใด
ด้วยความสนิทสนมกับบุคคลที่สนทนาด้วย เจตนาไม่ได้ชวนทะเลาะวิวาท ถือว่าเป็นคำพูดธรรมดาค่ะ
แต่พูดกับพ่อแม่ คนที่อายุเยอะกว่าไม่ได้นะจ๊ะ เพราะจะถือเป็นคำไม่สุภาพไป
v
v
v
:pig4: จุ๊บๆ
-
ไม้บวชเป็นพระ?? ทำไมคำพูดเหมือนคนธรรมดาหล่ะ
^
^
เราก็เคยได้ยินพระที่สนิทกับฆราวาสผู้ชายมากๆ ท่านก็พูดจาธรรมดาแบบเพื่อนฝูง ไม่ได้แทนตัวเองว่าอาตมาแต่อย่างใด (แต่ก็ไม่ได้พูดต่อหน้าฆราวาสทั่วไปนะคะ พูดเฉพาะกับเพื่อนสนิทอะค่ะ)
ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผิดมั้ย ใครรู้วานบอกที
* มาตอบแทนคนเขียนซะงั้น
-
อย่าทำแก้วนะ สุดท้ายก็จะมีเเต่คนเจ็บ
-
ถ้าติดฝิ่น แร้วจาเลิกได้ไหม
-
พี่ฝิ่นเมาแล้วก็นอนซะ อยู่ ๆ จะมาบอกให้รักกันง่าย ๆ ทำได้ที่ไหน
-
กลัวแต่ว่าพอแก้วรักฝิ่นแล้วฝิ่นก็ทิ้ง :sad4: เหมือนมาม่าเริ่มจะตั้งหม้อ :a5: (หรือตั้งมานานแล้ว 555)
ละก็ยังสงสัยว่าทำไมพงษ์ถึงฆ่าเป้งอยู่เลยค่ะ อยากรู้เหตุผลเร็ว ๆ แต่คาดว่าคงเป็นปมของเรื่องใช่ไหมค่ะ
เป็นกำลังใจและจะติดตามค่ะ :กอด1:
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ร้ายกาจมากฝิ่น... :a5:..มันเป็นแผนรึจากใจลึกๆๆเนี่ย :เฮ้อ:
ปล.สงสารแก้ว
-
ถ้ารักแล้วใครกันแน่ที่จะไม่ปล่อย
-
เอางี้เลยหรอ 0.0
-
ฝิ่นแกจะมาไม่ไหนยะ จะแกล้งอะไรอีก แก้วระวังตัวอย่าหลงกลนะ
-
ก่อนรักต้องทำรักก่อนอ๊ะป่าวเนี่ย
-
แล้วจะรักกันได้ยังไง
ในเมื่อแก้วไม่รุ้สึกถึงคำๆนั้นเลย
ใจแก้วก็คงยังไม่รุ้ตัวเองว่าอยุ่ที่พงษ์ไปแล้วละมั้ง
เห่อ
ช่างน่าเศร้าพงษ์กลับมาไวๆดิ
-
ตอนแรกก็คิดอยู่ มันจะรักกันยังไง
แต่อีแบบนี้ ฮูยยย ฝิ่นเรียกร้องเอาความรักจากแก้วตรงๆงี้เลยหรอ
แก้วก็ยอมๆไปเหอะ แต่เชื่อว่ายอมนะ
อ่านมาถึงตอนที่ฝิ่นดึงแก้วไปนอน เริ่มเห็นลาง อ่านไปอีกนิด คนเขียนตัดแน่
ซึ้งก็ตัดจริงๆ ค้างเลย
เหมือนจะเข้าหน้าหนาวแล้ว รักษาสุภาพนะคะ เราเองช่วงทั้งไอทั้งเจ็บคอ ไม่ชอบเลย
-
เยสสสสสส ช่ายเลยฝิ่น
นี่ล่ะที่เราต้องการ :fire:
แก้วจ๋าแก้ว
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๐
รัก...อย่างนั้นเหรอ ง่ายไปไหม?
ความรู้สึกข้างในจิตใจของเขา ย่อมไม่มีใครล่วงรู้อยู่แล้ว
“ก็ได้” แก้วรับข้อเสนออย่างไม่ต้องคิดให้มากความ
ก็แค่แสดงแกล้งทำเป็นรัก หรือแค่พูดว่ารัก ง่ายนิดเดียว เรื่องง่ายๆแค่นี้เองเหรอที่มันต้องการ
“หึ ฉลาดนะมึง” แต่ฉลาดแบบโง่ๆนะ ฝิ่นผลักแก้วให้ออกจากตัว ทำให้แก้วหล่นลงไปกองที่พื้น
“นอนเฝ้ากู” ด้วยเพราะกินเหล้าที่บ้านทำให้เขากล้าที่จะเมาอย่างไม่ต้องระวังตัว แค่เดินลงไปนอนห้องตัวเองไม่ไหวเท่านั้นเอง จึงเอ่ยปากสั่งให้แก้วเฝ้าอยู่ตรงนี้ เรื่องอะไรจะปล่อยให้มันกลับไปนอนห้องคนเดียวอย่างสบายใจ
.
.
.
“อ้าวมาคนเดียวเหรอ” พี่ไม้ที่เปลี่ยนใส่เสื้อเชิ๊ดกางเกงยีนส์พร้อมหมวกแก๊บปิดบังหัวโล้นๆเอ่ยทัก
“จะให้มากับใครล่ะ” ไอ้โจ้ก็มาถึงก่อนเขาแล้วนี่
“ก็นึกว่าจะสังเกตพฤติกรรม ๒๔ ชั่วโมง” พอสึกแล้วปากก็กลับมาเป็นอย่างนี้ ถึงพี่จะยังแบกรับความเศร้าเอาไว้ แต่ก็ยังพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่อยากบอกว่ามันปิดไม่มิดเลย
“เหอะ พี่แม่งกวน ถ้าไม่นับถือล่ะก็ได้เจอกันแน่เรา”
“หึ ไอ้เหี้ย ริเนรคุณกู”
ไม่ต้องพกมันติดตัวตลอด ๒๔ ชั่วโมงหรอก ในเมื่อยื่นข้อเสนอไปแล้ว ที่เหลือแค่รอมันทำตามก็พอ ในเมื่อมันกล้าที่จะออกตัวรับผิดชอบ เขาก็จะให้มันได้ทำหน้าที่ของมันให้เต็มที่
คำสั่งออกไปแล้ว ...สั่งให้รัก แม้สิ่งที่จะได้กลับมา มันเทียบกับชีวิตเพื่อนเขาไม่ได้ แต่มันก็คุ้มไม่น้อยถ้าให้พวกมันได้รู้สึกอะไรบ้าง ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่รอคอยคนพวกนั้นอยู่ข้างหน้า ตายทั้งเป็นคือสิ่งที่เขาจะหยิบยื่นให้พวกมัน
ให้ไอ้โจ้ขับรถเดินทางออกจากวัดพาพี่ไม้ไปส่งบ้าน ระหว่างทางก็มีอะไรให้เล่นสนุกๆพอดี
“โจ้ๆจอดรถ” โจ้หันข้างมามองเขาอย่างงงๆแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยถาม มีหน้าที่ทำตามได้เพียงตบไฟเลี้ยวรถเข้าจอดข้างทาง
ฝิ่นเปิดประตูลงจากรถเดินไปหาคนกลุ่มหนึ่งที่เดินอยู่ริมฟุตบาท
“ไง สบายดีไหมไอ้ดิว” เอ่ยปากทักทายมันไปก่อน
“ไอ้ฝิ่น” เด็กสาย๓Tหันมามองเขาเป็นตาเดียวเมื่อลูกพี่มันทักกลับ แต่ฝิ่นกลับไม่ได้เกรงกลัวอะไรเลย
“คืนนี้เจอกันที่ร้านหลัง ม.” บอกเสร็จกำลังก้าวเท้าเดินกลับไปที่รถ
“เดี๋ยว” ดิวตะโกนเรียก เขาหยุด “มึงเอาน้องกูไปไว้ไหน” มันถาม ...นี่มันกล้าถามเขาเหรอ ฝิ่นหันกลับไปมองหน้ามัน
“อยากรู้มึงก็ไปเจอกู ... คืนนี้” แล้วมึงจะรู้ว่ากูไม่ใช่เพื่อนเล่นที่มึงคิดจะดัดหลังกันได้ง่ายๆ
บอกเสร็จก็เดินกลับไปขึ้นรถโดยไม่รอคำตอบ มึงโง่เองนะดิวที่ปิดความต้องการของตัวเองไม่มิด
“มึงจะทำอะไรวะฝิ่น” พี่ไม้ส่งคำถามมาจากเบาะหลัง
“ฉลองที่พี่สึกไง”
“เอาดีๆ”
“ผมบอกพี่แล้วไง ผมไม่ยอมให้ไอ้เป้งตายฟรีหรอก” หันกลับไปมองหน้าพี่ บอกถึงความตั้งใจที่ไม่เคยเปลี่ยน
“มึงก็ไปกระทืบมันสิ จะได้ลดลงบ้างไอ้ความโกรธในใจมึงน่ะ”
“ไม่พอหรอก” ฝิ่นสวนทันควัน “กระทืบมัน มันก็เจ็บแค่ไม่กี่วัน เอาแบบที่ให้มันเจ็บไปจนวันตายดีกว่าเยอะ”
“ฝิ่น” พี่ไม้พยายามทักท้วง แต่พี่ก็รู้ว่าเขาไม่เปลี่ยนใจแน่
“พี่บอกจะจัดการยังไงก็ให้แล้วแต่ผมแล้วไง” เขาทวงถามสิ่งที่พี่เคยกล่าว
“แต่ไม่ได้หมายความว่ากูต้องเห็นด้วยกับวิธีของมึง มึงน่าจะรู้จักกูดี” เพราะรู้จักพี่ดีไง ถึงต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“นั่นแหละที่ผมต้องเอาคืน มันทำร้ายไอ้เป้ง มันทำร้ายพี่ ผมยอมไม่ได้จริงๆ ขอให้ผมได้ทำ อย่าห้ามผม ...ขอร้อง”
คนที่ไม่เคยสูญเสีย แม่งไม่รู้หรอก ต่อให้เป็นชีวิตของคนที่ถูกตราหน้าว่าอันธพาล มันก็มีค่า มีความหมายเหมือนคนอื่นๆนั่นแหละ
“ขึ้นไปกินข้าวกับแม่แล้วกลับลงมาอาบน้ำแต่งตัว” เขาเอนหลังลงบนเตียง แล้วบอกอีกคนที่อยู่ในห้องตามที่แม่สั่งลงมา
ไอ้แก้วนั่งลงไขกุญแจออกจากข้อเท้าโดยไม่เอ่ยถามอะไร เขาคิ้วขมวด
“มึงจะเงียบทำไม ไม่ได้ยินที่กูบอกเหรอ!” น่ารำคาญชะมัด มันคิดว่าเขามีความอดทนกับมันขนาดไหนเชียว
ไอ้นี่มันทำให้เขาโมโหได้ทุกเวลาจริงๆ
ไอ้แก้วอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็เงียบลงเช่นเดิม ฮึ่ย!
“มึงกวนกูเหรอ มึงตั้งใจกวนประสาทกูใช่ไหม?” ฝิ่นลุกจากเตียงเดินไปกระชากคอเสื้อไอ้แก้วจนมันลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากัน มันถอนหายใจหันหน้าไปทางอื่น ซึ่งเป็นท่าทางที่เขาไม่ชอบเป็นที่สุด
“ก็พอกูถามมึงก็บอกไม่ให้ถาม พอกูทำตาม มึงก็ยัง...” ยอกย้อน ฝิ่นผลักตัวแก้วจนเซล้มลงไปกองกับพื้น
“กูไม่อยากอารมณ์เสียกับมึงละ อ้อ อย่าลืมที่ตกลงกันด้วยล่ะ วันนี้จะเป็นวันแรกที่มึงต้องรักกู” ย้ำข้อเสนอแล้วหันเดินกลับไปที่เตียง
“มึง...จำได้เหรอ” เหมือนไอ้แก้วมันจะพลั้งปากพูดออกมาตามหลังเบาๆ แต่เขาได้ยิน
“กูแค่เมา ไม่ได้ความจำเสื่อม ถ้าไม่อยากเห็นพวกของมึงเจ็บตัว ก็ว่าง่ายๆกับกูซะ” แต่กูจะทำให้พวกมึงต้องเจ็บใจแทน...
.
.
.
ผับหลัง ม. ถิ่นของเทคโนT ที่เก่าที่เดิม แต่มีเหรอที่อาชีวะx สถาบันซึ่งก่อตั้งมายาวนานกว่าจะต้องเกรงกลัว
“นัดแค่สิบคนเองเหรอพี่” แล้วจะให้แห่กันมาทำไมตั้งเยอะแยะ คนน้อยใช่ว่าจะสู้ไม่ได้สักหน่อย
“มึงป๊อดเหรอโจ้” เขาเย้าลูกน้องเล่น
“เปล่า ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว ยิ่งมีพี่ไม้อยู่ผมยิ่งหายห่วง”
“หึ กูเกษียณนานแล้วเหอะ” พี่ไม้ส่งเสียงค้านมาจากเบาะหลัง ไอ้คนนั่งข้างๆกันก็เก็บข้อมูลอยู่เงียบๆ
“โหยพี่ วางมือไปแล้วแต่ชื่อพี่ก็ยังยิ่งใหญ่เหมือนเดิมแหละน่า” ไอ้โจ้ยังคงอวดสรรพคุณลูกพี่ใหญ่ของมันไม่เลิกจนพี่ไม้ต้องเอื้อมมือมาเขกกะโหลกมันถึงได้เลิกพร่าม
โจ้เลี้ยวรถเข้าจอดแล้วรถอีกคันก็ตามมารวมกลุ่ม
แค่นี้ก็เกินพอ ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับฝีมือ ไม่ใช่จำนวนคน
แต่ละคนเดินหน้าเข้าร้านด้วยความคึก ยกเว้นพี่ใหญ่ที่ทำหน้าเหมือนถูกบังคับให้มา
ละทางโลกไปสิบกว่าวันทำเอาพี่กูเรียบร้อยขึ้นมากเลย ฝิ่นตบหลังพี่เบาๆ เออ แล้วไอ้แก้วล่ะ
ฝิ่นหยุดกะทันหันทำเอาคนอื่นๆต้องหยุดเดินตามไปด้วย เขาหันกลับไปมองจนถึงท้ายกลุ่ม มันยังเดินต้อยๆตามหลังเขาทั้งหน้าตาก็ดูทำท่ากลัดกลุ้มอะไรนักหนา
“โอ๊ะ!” เหม่อจนถึงขนาดเดินชนเชียว
“มึงคิดหาทางหนีอีกแล้วเหรอ ไม่ต้องห่วงหรอกน่ายังไงวันนี้ก็ต้องเจอพี่ดิวมึงอยู่แล้ว แต่พี่มึงอ่อนนี่เนอะจะพึ่งพาอะไรก็ไม่ค่อยได้ด้วยสิ”
ไอ้แก้วเงยหน้ามองเขาแล้วเสมองไปทางอื่นเหมือนไม่ใส่ใจกับคำพูดของเขาเลย
ฝิ่นผลักหน้าอกมันทันทีด้วยความหมั่นไส้
“ฝิ่น มึงจะอะไรกับมันนักหนาวะ ไปเข้าไปได้แล้ว”
ฝิ่นชี้หน้าคาดโทษแก้วแล้วเดินนำเข้าไปในร้านด้วยอาการฟึดฟัดเมื่อถูกพี่ไม้ปราม ...นี่ก็ไม่รู้จะเข้าข้างมันทำไม
“มาแล้วพี่” โจ้กระซิบบอก
“มึงมานั่งนี่” ชักจะตัวติดพี่ไม้มากไปแล้ว ฝิ่นกระดิกนิ้วเรียกแก้วที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามให้เปลี่ยนมานั่งฝั่งเดียวกับเขาสองคนเพื่อให้เป็นจุดสนใจแทน ส่วนไอ้แก้วน่ะมันจะกล้าหือกล้าอืออะไร บอกอะไรไปมันก็บื้อทำตามทุกอย่างนั่นแหละ
“ชงเหล้าให้กูซิ” วางแก้ว ขยับขวดเหล้ามาไว้ตรงหน้ามัน วันนี้พี่ไม้อยู่ เมานิดเมาหน่อยสบายอยู่แล้ว
แก้วงุดผสมเหล้าโซดาปากก็พึมพำสูตรผสมของมัน
“ใช้ได้” เอ่ยชมพร้อมกับมือที่วางขึ้นพาดไหล่ แก้วหันมามอง “ทำไม มีปัญหาอะไร?” เขายักคิ้วถาม
“เฮ้อ เปล่า” ดูมันตอบ ฝิ่นมองไปยังโต๊ะที่สาย๓Tนั่งกันอยู่แล้วหันกลับมาหาแก้ว
“แดกดีๆ” ดันหน้ามันให้หันมารับแก้วที่เขาตั้งใจให้เป็นภาพป้อนอันแสนสนิทสนม เมื่ออีกฝ่ายจ้องมองมาตาเป็นมัน และนั่นมันทำให้เขาพอใจ ผิดกับพี่ไม้ที่ยังคงส่ายหน้าแสดงเจตนาว่าไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำเช่นเดิม แต่ฝิ่นสนรึเปล่าล่ะ ที่ทำก็เอาคืนแทนพี่ทั้งนั้น
“ไปห้องน้ำเดี๋ยวมานะพี่” โจ้บอก
“เอาเด็กไปเป็นเพื่อนด้วย” บอกไอ้โจ้กลับอีกที ตั้งใจมาหาเรื่องขนาดนี้เกิดมันดักเล่นงานขึ้นมารุ่นน้องจะมาซวยแทนเปล่าๆ โจ้พยักหน้ารับแตะไหล่เด็กอีกคนให้ไปเป็นเพื่อน
“ไป...กับโจ้ได้รึเปล่า” เสร่อละไอ้คนข้างๆ
“มึงมาเที่ยวมึงต้องเข้าห้องน้ำทุกครั้งเลยรึไง” ไอ้แก้วมองหน้าเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด ทำไมวะ มีปัญหาแม่งทุกเรื่อง “หรือมึงจะเล่นแบบคราวก่อนใช่ไหม” ที่หลอกให้เขาตายใจแล้วส่งซิกไปให้ไอ้ดิวเข้ามาช่วย ตั้งใจบีบไหล่มันแรงๆจนมันหน้านิ่ว หึ ดูซิจะทนได้แค่ไหนกัน
“ไอ้ฝิ่นมึงนี่จริงๆเลย” พี่ไม้ลุกยืนแล้วโน้มตัวมาตีมือเขาที่บีบไหล่แก้วอยู่ มันไม่ได้เจ็บอะไรหรอก แต่นี่คือพี่เริ่มเตือนแล้ว ฝิ่นจึงยกแขนออกจากไหล่มัน พี่ไม้พยักพเยิดหน้าบอกให้ไอ้แก้วไปได้แล้ว
“พี่ชอบขัด”
“มึงไม่ต้องขู่มันก็ไม่กล้าตุกติกหรอก เด็กมันซื่อจะตายมึงดูไม่ออกรึไง” เหอะ พี่ต่างหากที่ดูไม่ออกว่ามันโคตรสองหน้าเลย ที่เห็นซื่อๆน่ะแค่ภายนอกแต่ข้างในมันคิดอะไรอยู่ ตามมันไม่ทันหรอก
“อ้าว ไอ้โจ้” ไม้จะถามเมื่อเห็นแค่เด็กในสายกลับมา แต่ไม่ทันใจเขา ฝิ่นลุกขึ้น ทุบโต๊ะ ปัง!
“เอ่อ พี่ฝิ่นคือผมเจอประธานสาย๓T โน่น โต๊ะโน้น” ฝิ่นมองหาโต๊ะที่รุ่นน้องชี้ ใช่นั่นมันประธาน๓T แล้วอีกคนที่กอดไอ้แก้วอยู่ล่ะ ใคร?
“ใครวะ?” ใครที่ป้อนเหล้าป้อนเบียร์ไอ้นั่นแล้วมันไม่ขัดขืนเลยสักนิด หนำซ้ำยังยิ้มรับอีก แล้วนั่นนัวเนียกอดจูบจนแทบจะได้กันอยู่แล้ว
“ไม่รู้พี่ แต่ประธาน๓T ดึงมันไว้ ผม...” ไอ้โจ้ก้มหน้าหลบตา
“มึงไม่กล้า! แค่นี้มึงก็พลาดเหรอวะ” ทำไมทุกครั้งที่ปล่อยมันไกลหูไกลตา มีอันต้องได้เรื่องทุกทีวะ แล้วไอ้โจ้ก็อีก จะกลัวทำไมกะแค่ไอ้แชมป์ “กูเคยสอนให้มึงถอยไหมโจ้” ถามออกไปอย่างไม่พอใจ
“ผมขอโทษพี่ ผมขอแก้ตัว”
“ไม่ต้อง!” ในเมื่อจัดการเรื่องนี้ในทันทีไม่ได้ “กูไปเอง” พูดและมองหน้าโจ้อย่างตำหนิ
ไม่ได้จะเอาอะไรกับรุ่นน้องมากมาย แต่แค่อยากสอนให้มันกล้ามากกว่านี้ เพราะถ้าเราพลาดไปแม้แต่ครั้งเดียว นั่นมันก็เท่ากับความน่าเชื่อถือลดลงไปด้วย
“เฮ้ย ใจเย็นสิวะ เดี๋ยวกูไปให้เอง” พี่ไม้เข้ามาแทรกตรงกลาง จับไหล่ไอ้โจ้นั่งจะได้สำนึกผิดให้เต็มที่ แล้วเสนอตัว
มีเหรอที่เขาจะให้พี่ไม้ไปคนเดียว ป่านนี้ไอ้ดิวมันคงหัวเราะเยาะเขาแถมเข้าไปหาน้องมันแล้ว
แต่เมื่อเดินไปถึงโต๊ะนั้นกลับมีคนนั่งกันอยู่เพียงสามคน ไอ้แก้ว ไอ้แชมป์ และ ใคร?
“ไอ้แก้ว” พี่ไม้วางมือเบาๆบนไหล่มัน แต่มันกลับสะดุ้งก่อนจะหันมามองหน้าด้วยใบหน้าซีดเผือก
แล้วไอ้คนที่ซบก็ยังซบอกอยู่ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไรด้วยเลย
“พี่ภูครับนั่งดีๆก่อน” มันจับไหล่ใครคนนั้นออกเบาๆ แต่แทนที่จะออกห่างกันอีกคนกลับโอบกอดรอบคอมันแน่นเข้าไปอีก
ฝิ่นหันไปมองโต๊ะที่ดิวนั่ง มันมองอยู่จริงๆด้วย อย่างนี้ก็เท่ากับแผนที่วางไว้ไม่ได้ผลแล้วสิ
“ขอคนของกูคืนด้วย!” กระชากเสียงบอกอย่างพยายามข่มอารมณ์ที่สุด ติดที่พี่ไม้ดึงแขนเขาไว้ไม่งั้นจะไม่ใช้แค่เสียงแต่จะกระชากแม่งให้ออกจากกันซะตรงนี้เลย
“คนของมึง? เล่นตลกอะไรวะนี่มันเด็กในสายกู” ประธานสาย๓T ลุกเดินมายืนประจันหน้าเขากับพี่อย่างไม่มีท่าทีหวาดหวั่นอะไรเลย
“ไอ้แก้ว!” เรียกออกไปด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง จะเอายังไง ต่อให้เป็นประธานสายถ้าคิดจะขัดแข้งขัดขาเขา เขาก็พร้อมปะทะได้ทุกเมื่อเหมือนกันนะ
“เอ่อ พี่ภูครับ พี่แชมป์ ผมมากับพวกเขา ถ้ายังไงขอตัวเลยนะพี่” ท่าทีตะกุกตะกักชวนน่ารำคาญพลางแกะมือที่โอบรอบคอนั้นออกอย่างอ่อนโยน กลัวมันเจ็บอะไรนักหนาวะ ขัดลูกกะตาเป็นที่สุด
“หมายความว่าไงไอ้แก้ว หรือมึงเป็นสายให้มัน” ไอ้แชมป์หันไปถามเด็กในสายของมัน
“เปล่านะพี่ คือ...”
“ปล่อยน้องมันไปเถอะ มึงจะมีปัญหาอะไรวะ คนเราจะมีเพื่อนต่างสถาบันมันผิดมากเลยรึไง” คนที่ดูท่าจะไม่สนใจโลกเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ลิ้นพัน แต่ยัง...ตัวมันเองยังไม่ยอมออกจากอกไอ้แก้วเลย
“ภูครับมึงแดกไปเงียบๆครับ เรื่องของผู้ชายมึงไม่เกี่ยวโอเคนะ”
“ไอ้เหี้ยแชมป์!” คนนั้นผละออกจากไอ้แก้ว ขยับนั่งตัวตรง อ้อแอ้คล้ายจะเอาเรื่อง
“ภูรักครับ มึงอย่าให้แชมป์โกรธบ้างนะ”
“ไอ้เหี้ยๆๆ มึงขัดใจกู มึงว่ากูเหรอ งั้นกูจะแดกแม่งให้เมาตายคาร้านนี่แหละ ไปเลยไสหัวมึงทิ้งกูไปอีกคนเลย กูง้อมึงไหม ถามหน่อย กูต้องง้อมึงไหม” ไอ้คนนั้นตะกุยตะกายลุกเดินมาหาไอ้แชมป์ด้วยการพยุงจากไอ้แก้ว ตบ?...เรียกว่าสะกิดน่าจะเหมาะกว่า มันสะกิดแขน สะกิดหน้าอกไอ้แชมป์ระบายอารมณ์ ท่าทางเอาแต่ใจไม่น้อย
ถ้าเป็นกูนะจะเอาขวดเหล้ายัดปากให้แม่งตายสมใจไปเลย ฝิ่นคิด
“เฮ้อ ไอ้แก้วมึงจะไปไหนก็ไปเหอะเปิดเทอมค่อยคุยกัน แต่ตอนนี้กูต้องลากพี่มึงกลับละ วุ่นวายฉิบหาย” ไอ้แชมป์ดึงตัวไอ้นั่นไปกอดแล้วบอกแก้วอย่างไม่ติดใจเอาความอะไร
“ไม่ไป ปล่อย แชมป์ปล่อย... แก้วช่วยพี่ด้วย พี่ไม่กลับพี่จะเมาพี่จะเมา ฮื๊ออ แก้ววว” เหอะ จะอาลัยอาวรณ์อะไรกันขนาดนั้น
เขาลากแขนแก้วเดินออกจากร้านโดยมีพี่ไม้เดินตามหลังกดโทรศัพท์ตามพวกข้างใน
...เสียแผน ผิดแผนไปหมด แล้วจะอยู่ให้ไอ้ดิวมันสมน้ำหน้าต่อทำไม
“ไอ้นั่นเป็นใคร?” ออกปากถามหลังจากผลักมันหลังชนกำแพง
“ใคร?” แค่ไปอยู่กับไอ้นั่นไม่ทันไรมันกล้าถามเขากลับเหรอ ฝิ่นบีบปากแก้วแน่น
“กูถามว่าไอ้นั่นเป็นใคร?” แล้วคาดคั้นต่อ
“พี่แชมป์ประธานสาย กับพี่ภู” แก้วพยายามแกะมือที่บีบปากออก
“แล้วมึงเป็นอะไรกับมันอีกคน” คนที่มึงยินยอมอย่างว่าง่ายนะ ใคร!
“เป็นอะไร?” แม่งยอกย้อน
“กูสั่งให้มึงรักกูแล้วมึงทำอะไร” ทำให้ต้องเสียแผน ทำให้การเอาคืนแค่ยกแรกยังพ่ายแพ้ ...เขา...พ่ายแพ้
“ทำอะ....”
“ทำอะไร?” ฝิ่นรวบมือที่เกะกะของแก้วออก จับรวบขึงไว้เหนือหัวด้วยมือเดียว เพิ่มแรงมือบีบแก้มเข้าไปอีก แล้วโน้มตัวให้ปากประกบกับริมฝีปากของแก้ว สอดลิ้นเข้าไปตวัดรัวด้วยความรุนแรง เพียงครู่ก็ทำให้แก้วถึงกับเข่าอ่อน “อย่างนี้เรียกว่าทำอะไร ถ้ามึงอยาก มึงบอก เดี๋ยวกูช่วย แต่อย่ามารับปากกูแล้วทำไม่ได้!” ตวาดพร้อมเหวี่ยงตัวแก้วกลิ้งลงไปกองกับหินคลุก
แก้วได้แต่อึ้ง
ไม้ตามมาถึงเห็นเหตุการณ์เพียงเสี้ยวนาทีเข้าไปจับสองมือแก้วขึ้นมาดู
ถึงกับถลอก ทั้งยังเศษหินเล็กๆที่ติดอยู่กับมือ แต่แก้วเพียงเม้มปากข่มความเจ็บไว้ ไม่ร้องสักคำ
“ฝิ่น อย่าเล่นกับความรู้สึกคนได้ไหม กูขอ” พี่ไม้เงยหน้ามาพูดกับเขา แววตาเต็มไปด้วยความเห็นใจ
“พี่จะมาขอร้องแทนมันทำไม แล้วที่พวกมันทำพี่ล่ะ พี่ลืมความรู้สึกพวกนั้นไปแล้วรึไง” นี่เบาเท่าไหร่แล้วกับสิ่งที่พวกมันได้รับ ไม่ได้ครึ่งของพวกเราด้วยซ้ำ แล้วทำไมพี่ถึงต้องใจอ่อนให้กับมันด้วย
“เพราะกูไม่ลืมไงล่ะ กูถึงไม่อยากให้มึงทำอย่างนี้ ยิ่งมึงทำ กูยิ่งรู้สึก และมันยิ่งตอกย้ำกู ฝิ่น...”
“พี่ห้ามได้เฉพาะเรื่องที่ผมยอมเท่านั้นล่ะ” ฝิ่นพูดแทรก ก้มกระชากแขนแก้วให้ลุกและหลุดจากการใจอ่อนของพี่
“มึงไม่เคยรู้เลยว่ากูรู้สึกยังไง ถ้ามึงรู้มึงจะไม่ทำแบบนี้!” ไม้ตะโกนตามหลังเมื่อฝิ่นผลักตัวแก้วเข้าไปในรถ
“พี่กลับอีกคันละกัน ถึงบ้านแล้วโทรบอกผมด้วย” บอกก่อนจะขึ้นรถฝั่งคนขับแล้วถอยรถออกไป
.....................
ยาวไปรึเปล่า??
เอาไอ้ฝิ่นมาเดินเล่นบ้าง
ฝิ่นเอ้ยรักษาเนื้อรักษาตัวนะลูก คนอ่านแต่ละคนเอ็นดูแกทั้งนั้น (?)
คนเขียนก็จะหลบอยู่ข้างหลังไอ้ฝิ่นอีกที จะรีบยุให้มันได้กันไวไปไหน
แล้วช่างเดาใจถูกว่าคนเขียนจะตัดจบ ณ จุดใดด้วย ฮ่าๆๆๆ แต่ก็ไม่ค้างนี่เนอะ(เนอะๆ)เพราะหลังจากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ยุยงให้คนอ่านชินอีกเรื่องหนึ่งของนังซีซั่น ฮ่าๆ
แก้วฝากบอกว่า”ผมไม่ได้รักใครง่ายๆอย่างที่คุณคิดนะ!” วะฮะฮ่า “แต่ผมก็ได้ไม่ยากนะเออ” แอร๊ยย แก้วตบเค้าทำไมT^T
:pig4:ขอบคุณทุกคอมเม้นท์น่ะเจ้า...กอดๆ จุ๊บ
-
จิ้มๆ
-
ฝิ่นน่ารักอ่ะ(?)
เหอะๆ พี่ไม้ ณ จุดๆนี้ พี่ไม้เท่ห์สุดยอด
-
:m16: อิฝิ่นนี่เจ้าคิดเจ้าแค้นมากกกกกกกกกก
พี่ไม้เท่ห์มากอ่ะตอนนี้
ทำไมเราไม่รู้สึกดีใจที่เค้าจูบกันเลย
เมื่อไหร่จะปล้ำสักทีจะได้จบๆ :-[ :laugh:
-
แบบนี้แถวบ้านเรียกว่าหึงได้หรือเปล่า อิอิ :z1:
-
ฝิ่นง้องแง้ง น่ารักดีอะ 5555+
อยากเชียร์ไม้-แก้ว พี่ไม้เท่ห์จัง :o8:
ปล. ซีซั่นซัง มาต่อทุกวันเลยได้ไหมเราจะรออออออ เลิฟยูว!!
-
เมื่อไรจะรักกันซะทีคู่นี้
แก้วช่วยรักฝิ่นง่าย ๆ ซักคนได้มั๊ย !?
-
อ้ายฝิ่นบร้า :fire: :fire:
-
ปากหมาแบบนี้จับกดเลย
-
เหมือนตอนนี้จะมีปมโผล่มาอีกรึเปล่า
อ่านแล้วแอบงงๆ
พี่ภูคือใคร เป็นอะไรกับแก้ว ตอนลุกไปห้องน้ำแก้วโดนฉุด แล้วดิวมันรู้สึกยังไง เปิดเผยอะไร
แล้วความรู้สึกของพี่ไม้ มันเกิดอะไรขึ้น
โอย อยากรู้ๆๆๆ
-
:z6: :z6: :z6: :beat:
ฝิ่น!
-
ไม้ถูกทำอะไร? (เดาในใจเงียบๆ กระโตกกระตากไปเดี๋ยวหน้าแตก :a5: )
-
ไอ้เอี้ยฝิ่น ชัดชัดเน้นเ้น้น
-
อย่าริเล่นกับความรัก เพราะเมื่อถูกพิษของมันเข้าเมื่อใดยิ่งกว่าตายทั้งเป็นนะจ๊ะนายไม้
-
ฝิ่น จะบ้ามากไปแล้ว
พี่ไม้เขายังไม่อะไรเลย แล้วเมิงจะมาทำเพื่อเขาทำไม
-
ปลื้มพี่ไม้ อิอิ :o8: :-[
-
ไอ้ฝิ่น ไอ้ติ๊งต๊อง
-
ฝิ่นเอ้ย ทั้งห่าม ถ่อย เถื่อน จะขุดขึ้นมั้ยเนี่ย ลูกแก้วงานช้างเลยลูกเอ้ย จับมันดัดสันดานซะเลย
-
ฝิ่นคะ เอ็งจะหน้าแตกหรือเอ็งจะหึง
บอกสักคำได้ไหม เผื่อคนอ่านจะเอ็นดูมากขึ้่น :m31:
-
ฝิ่นสุภาพบุรุษ ? มากกกก o13 มันซะเมื่อไหร่เล่า :angry2:
บังอาจทำร้ายแก้ว :z6: แต่เค้าจุ๊บกันแล้วอ้ะ และอีกไม่น่าคงบะละฮึ่ม ดึมดึ๊ย :z1: (โรคจิตไปแล้ว55)
แอร๊ยยยยย เขินเป็นที่สุด
ปล ทั้งรักทั้งเอ็นดูฝิ่นจะอยากหามีดมากระซวกเลยฮับ o18
:pig4: :pig4: :pig4:
-
สั้นไปต่างหาด คุณนักเขียน
ยังมาถามว่ายาวไปไหม อิอิ แก้วผมจะเป็นไงบ้างเนี่ยยยย
-
ถ้าไม่ได้จูบด้วยความรักมันก็น่าเจ็บปวดนะ :เฮ้อ: ล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่น :beat: :beat: :beat:
พี่ไม้คงไม่ได้มีซํมติงนะ 555
:pig4:
-
ดูอีแก้วจะง่ายไปซะทุกเรื่อง
-
ฝิ่น เเมงเมาเล่นกับไฟชัดๆ
-
นังแก้ว ไปยุ่งกับอีพวกประธานสายทำไม เจ็บตัวเลย เสียของ เสียของ
-
ใครกันแน่ที่จะรู้สึก ฝิ่นหน้าโง่
-
ตั้งแต่ตอนแรกยันตอนนี้ ฝิ่นของเรา(?)ก้ยังโฉดเหมือนเดิม
พี่ไม้จะเป้นพระรองหรือปล่าว แสนดีเหลือเกิน อย่ามาหลงรักแก้วนะ แค่นี้ก็เยอะจะแย่แล้ว ฮ่า ๆ
-
ต่อมหึงฝิ่นเริ่มออกฤทธิ์แล้วสินะ :-[ :-[ :laugh:
-
กอดพี่ไม้ :laugh: :o8: :กอด1:
-
ระหว่างรอคนเขียนเอาเรื่องมาลง ถามคนเขียนทิ้งไว้นิดนึงว่าไอ้ที่เราเขียนข้างล่างเนี่ยเข้าใจถูกมั้ย
อ้อ..มีที่สงสัยเพิ่มอยู่ด้านล่างด้วยนะคะ (คนอ่านมันก่งก๊งอะค่ะ)
- เทคโน T: แก้ว พงษ์ ดิว แชมป์ ภู
ประธานนักเรียน: ?
ประธานสาย 3: แชมป์ (คนในสาย: แก้ว พงษ์? ภู?)
ประธานปี 3: ดิว (นร.ปี 3: แก้ว พงษ์ ดิว แสน แชมป์ ภู)
- อาชีวะ X: ฝิ่น ไม้ โจ้ เป้ง
ประธานนักเรียน: ?
ประธานสาย 5: ฝิ่น (อดีตประธานสาย 5: ไม้) (คนในสาย: ฝิ่น โจ้ เป้ง)
ประธานปี 3: ? (นร.ปี 3: ฝิ่น โจ้ เป้ง)
- ไม้เป็นรุ่นพี่ฝิ่น แต่ฝิ่นอยู่ปี 3 แล้ว แสดงว่าไม้เรียนจบไปแล้วหรือเปล่า (แต่ไม้พูดถึงเรื่องเปิดเทอม แสดงว่ายังเรียนอยู่นี่นา หรือว่าเรียนต่อ ปวส.?)
- มีนิยายตอนหนึ่งคล้ายๆ กับว่าแก้วอยู่สาย 9 อะ สรุปว่าสาย 3 หรือสาย 9 เอ่ย
- ดิว แชมป์ ภู อยู่ปี 3 เหมือนแก้ว แต่แก้วเรียกพี่ทุกคนเลยอะ พวกนี้ทำไมมันแก่กันจัง?? (รู้ว่าดิวเรียนซ้ำ แต่อีกสองคนไม่รู้อะ)
-
..ฝิ่นมันล้อเล่นกับความรัก กับความรู้สึกของแก้วจริงๆๆ
..สุดท้ายมันก็ตกหลุม ที่มันสร้างเอง และก็กระโดดขึ้นมาไม่ได้ คอยดูสิใช่ไหม... น้องคนแต่ง :laugh:
-
ระหว่างรอคนเขียนเอาเรื่องมาลง ถามคนเขียนทิ้งไว้นิดนึงว่าไอ้ที่เราเขียนข้างล่างเนี่ยเข้าใจถูกมั้ย
อ้อ..มีที่สงสัยเพิ่มอยู่ด้านล่างด้วยนะคะ (คนอ่านมันก่งก๊งอะค่ะ)
- เทคโน T: แก้ว พงษ์ ดิว แชมป์ ภู
ประธานนักเรียน: ?
ประธานสาย 3: แชมป์ (คนในสาย: แก้ว พงษ์? ภู?)
ประธานปี 3: ดิว (นร.ปี 3: แก้ว พงษ์ ดิว แสน แชมป์ ภู)
- อาชีวะ X: ฝิ่น ไม้ โจ้ เป้ง
ประธานนักเรียน: ?
ประธานสาย 5: ฝิ่น (อดีตประธานสาย 5: ไม้) (คนในสาย: ฝิ่น โจ้ เป้ง)
ประธานปี 3: ? (นร.ปี 3: ฝิ่น โจ้ เป้ง)
- ไม้เป็นรุ่นพี่ฝิ่น แต่ฝิ่นอยู่ปี 3 แล้ว แสดงว่าไม้เรียนจบไปแล้วหรือเปล่า (แต่ไม้พูดถึงเรื่องเปิดเทอม แสดงว่ายังเรียนอยู่นี่นา หรือว่าเรียนต่อ ปวส.?)
- มีนิยายตอนหนึ่งคล้ายๆ กับว่าแก้วอยู่สาย 9 อะ สรุปว่าสาย 3 หรือสาย 9 เอ่ย
- ดิว แชมป์ ภู อยู่ปี 3 เหมือนแก้ว แต่แก้วเรียกพี่ทุกคนเลยอะ พวกนี้ทำไมมันแก่กันจัง?? (รู้ว่าดิวเรียนซ้ำ แต่อีกสองคนไม่รู้อะ)
^
^
^
มาแบบนี้เข้าใจง่ายดีอ่ะ ^^ เราว่าที่เรียกพี่ไม้ว่าพี่ เพราะนับถือเป็นพี่รึเปล่า ก็เลยเรียกอย่างนั้น
รอคนเขียนมาตอบ และมาต่อ 555
-
อะไร ๆ ก็ลงที่แก้ว
โคตรซวยเลยแก้ว
เอ๊ย ! :z3:
-
แลเหมือนอิฝิ่นมันบ้าาอยู่คนเดียว :m20:
-
ระหว่างรอคนเขียนเอาเรื่องมาลง ถามคนเขียนทิ้งไว้นิดนึงว่าไอ้ที่เราเขียนข้างล่างเนี่ยเข้าใจถูกมั้ย
อ้อ..มีที่สงสัยเพิ่มอยู่ด้านล่างด้วยนะคะ (คนอ่านมันก่งก๊งอะค่ะ)
- เทคโน T: แก้ว พงษ์ ดิว แชมป์ ภู
ประธานนักเรียน: ?
…ยังไม่ถูกกล่าวถึงค่ะ ไม่แน่ว่าจะมีพูดถึงไหมเพราะเรื่องราวมันคงไม่ต้องถึงขั้นนั้นอะค่ะ
ประธานสาย 3: แชมป์ (คนในสาย: แก้ว พงษ์? ภู?)
...รวมพี่ดิวด้วยค่ะ
...แล้วก็ภูไม่ใช่เด็กในสายค่ะ แต่ เอ๊ เอ๊ มันเป็นใครหนอ? (คนเขียนโดน :z6: )
ประธานปี 3: ดิว (นร.ปี 3: แก้ว พงษ์ ดิว แสน แชมป์ ภู)
…แสน ไม่ได้อยู่สาย ๓Tนะคะ (ยังไม่ได้บอกใช่ไหม ฮ่าๆๆ (ขำเพื่อ?) แก้เขินงี้!...คือตั้งใจยังไม่บอกอะค่ะ )
...แชมป์ เรียน ปวส ปีหนึ่งค่ะ ส่วนนี้รอแก้วกล่าวถึงนะคะ
...ภู อิตาคนนี้ เรียนเทคโนTค่ะ แต่มิใช่เด็กในสาย
- อาชีวะ X: ฝิ่น ไม้ โจ้ เป้ง
ประธานนักเรียน: ?
...ยังไม่ถูกกล่าวถึงเช่นกันค่ะ
ประธานสาย 5: ฝิ่น (อดีตประธานสาย 5: ไม้) (คนในสาย: ฝิ่น โจ้ เป้ง)
...ถูกต้องนะคร๊าบบบบ กดไลค์ๆ
ประธานปี 3: ? (นร.ปี 3: ฝิ่น โจ้ เป้ง)
...ประธานปี ๓ ยังไม่มีบทให้มันค่ะ ฮ่าๆ
...ฝิ่นกับเป้งเรียน ปวส ปี๑ ค่ะ
...พี่ไม้เรียน ปวส ปี ๒
- ไม้เป็นรุ่นพี่ฝิ่น แต่ฝิ่นอยู่ปี 3 แล้ว แสดงว่าไม้เรียนจบไปแล้วหรือเปล่า ...(แต่ไม้พูดถึงเรื่องเปิดเทอม แสดงว่ายังเรียนอยู่นี่นา หรือว่าเรียนต่อ ปวส.?)
...เอ คนเขียนก็ก๊งไม่แพ้กันนะ คือจำไม่ได้ว่าได้เขียนบอกรึเปล่าว่าเด็กๆมันเรียนปีไหน ถ้าจำไม่ผิดจะบอกไปแล้วแค่พี่ดิว แก้ว พงษ์ นะ (รึเปล่า)
...พี่ไม้ ปวส ๒ ค่ะ
...ฝิ่น ปวส ๑ ค่ะ
- มีนิยายตอนหนึ่งคล้ายๆ กับว่าแก้วอยู่สาย 9 อะ สรุปว่าสาย 3 หรือสาย 9 เอ่ย
...ตอนไหนอ่าาา (ถามมาก็ถามกลับ ฮ่าๆๆๆ...คือจะได้กลับไปแก้) จำได้ว่ามีตอนหนึ่งพูดถึงประธาน๙T เท่านั้นนะ (รึเปล่า) ...อิคนเขียนมันมั่นใจอะไรบ้างเนี่ย เอิ๊กกก
...แก้วอยู่สาย ๓T ค่ะ
- ดิว แชมป์ ภู อยู่ปี 3 เหมือนแก้ว แต่แก้วเรียกพี่ทุกคนเลยอะ พวกนี้ทำไมมันแก่กันจัง?? (รู้ว่าดิวเรียนซ้ำ แต่อีกสองคนไม่รู้อะ)
...ดิว บอกไปแล้วอยู่ปี๓ เรียนซ้ำ
...พี่แชมป์ยังไม่ได้บอกนะว่าอยู่ปีไร แต่ตอบคนอ่านไปแล้วข้างบนเนอะ คือ ปวส ๑
...พี่ภู ก็ยังไม่ได้บอก บอกเลยละกัน อยู่ปวส ๑ แต่ไม่ใช่เด็กในสาย
[/quote]
กะเอาไว้ว่า ให้ถึงตอนเปิดเทอมก่อน ก็น่าจะอีกตอนสองตอนอะค่ะ ซีซั่นถึงจะแทรกประวัติคร่าวๆลงในนิยายได้ แล้วก็เดี๋ยวจะทำให้อ่านง่ายๆอีกรอบหนึ่งนะคะ
จำได้ไหมท้ายตอนที่ ๒ เค้าเคยบอกไว้ว่าประธานสายจะอยู่ในสองระดับคือ ปวช ปี๓ กับ ปวส ปีหนึ่ง
แล้วก็ ตอบต่อเลย ใจจริงซีซั่นก็อยากลงเรื่องทุกวันนะคะ (อยากอ่านคอมเม้นท์ ฮาาา)
แต่บางตอนนั่งหน้าคอมทั้งวันก็คิดไม่ออกเลย คือตอนที่บ่นว่านิยายมันอืดๆอะค่ะ นั่นคือ หัวไม่แล่นเอาซะเลย
อย่างบางตอนนั่งแค่ไม่กี่ชั่วโมงมันแล่นพรืดๆเลย ที่แล้วมาก็ตอนของพงษ์อะค่ะสงสัยมันกล่าวถึงอดีตเลยเขียนง่ายหน่อย เขียนแป๊บเดียว ที่เหลือแก้ไข ปรับปรุง
ทุกตอนที่เขียนมาซีซั่นจะลงตอนปัจจุบันในเล้าก่อนแล้วค่อยเริ่มเขียนตอนต่อไปได้ ซึ่งมันก็ไม่ได้เขียนต่อกันได้เลยทุกครั้ง
เขียนเสร็จเมื่อไหร่ อ่านแล้วคนเขียนมีความรู้สึกว่าไหวนะ ก็เอามาลงเลยค่ะ
อย่างตอนต่อไปก็เพิ่งได้สองประโยค คงต้องเนรเทศตัวเองออกจากเครื่องที่มีเน็ตแล้วล่ะ นาววว...
(ใช้คำว่าเขียนตลอด ทั้งๆที่มันพิมพ์เลยทุกครั้ง T^T )
อ้อ เค้าเก็บนิยายไว้ในแฟลชไดฟ์อย่างเดียวเลยอะ กลัวว่ามันจะโดนไวรัสไม่วันใดก็วันหนึ่งเพราะน้องๆชอบเอาไปลงเกมส์เหลือเกิน
ใครมีวิธีเก็บนิยายที่แบบว่าความเสี่ยงในการสูญหายน้อยที่สุดบ้างไหมคะ จะฝากไว้ในเมลก็เคยมีประสบการณ์การโดนบล็อกมาแล้วอีก
:กอด1:
-
เทคโน T
ประธานสาย 3: แชมป์ (คนในสาย: แก้ว พงษ์? ภู?)
...รวมพี่ดิวด้วยค่ะ
...แล้วก็ภูไม่ใช่เด็กในสายค่ะ แต่ เอ๊ เอ๊ มันเป็นใครหนอ? (คนเขียนโดน )
รับทราบค่ะ สรุปว่าดิวเป็นเด็กในสาย 3 ด้วย
ประธานปี 3: ดิว (นร.ปี 3: แก้ว พงษ์ ดิว แสน แชมป์ ภู)
…แสน ไม่ได้อยู่สาย ๓Tนะคะ (ยังไม่ได้บอกใช่ไหม ฮ่าๆๆ (ขำเพื่อ?) แก้เขินงี้!...คือตั้งใจยังไม่บอกอะค่ะ )
...แชมป์ เรียน ปวส ปีหนึ่งค่ะ ส่วนนี้รอแก้วกล่าวถึงนะคะ
...ภู อิตาคนนี้ เรียนเทคโนTค่ะ แต่มิใช่เด็กในสาย
อ้อ..เราไม่ได้คิดว่าแสนอยู่สาย 3 ค่ะ แต่คิดว่าน่าจะอยู่ปวช. ปี 3 เพราะบอกว่าเป็นบั๊ดดี้ของแก้ว ก็น่าจะอยู่ปีเดียวกัน
รอข้อมูลภูต่อไป สงสัยจริงๆ ว่าเป็นอะไรกับแชมป์ แถมมีพูดเหมือนเคยถูกทิ้งด้วยอะ
- อาชีวะ X: ฝิ่น ไม้ โจ้ เป้ง
ประธานสาย 5: ฝิ่น (อดีตประธานสาย 5: ไม้) (คนในสาย: ฝิ่น โจ้ เป้ง)
...ถูกต้องนะคร๊าบบบบ กดไลค์ๆ
ประธานปี 3: ? (นร.ปี 3: ฝิ่น โจ้ เป้ง)
...ประธานปี ๓ ยังไม่มีบทให้มันค่ะ ฮ่าๆ
...ฝิ่นกับเป้งเรียน ปวส ปี๑ ค่ะ
...พี่ไม้เรียน ปวส ปี ๒
OK รับทราบแล้วค่ะ :กอด1:
- มีนิยายตอนหนึ่งคล้ายๆ กับว่าแก้วอยู่สาย 9 อะ สรุปว่าสาย 3 หรือสาย 9 เอ่ย
...ตอนไหนอ่าาา (ถามมาก็ถามกลับ ฮ่าๆๆๆ...คือจะได้กลับไปแก้) จำได้ว่ามีตอนหนึ่งพูดถึงประธาน๙T เท่านั้นนะ (รึเปล่า) ...อิคนเขียนมันมั่นใจอะไรบ้างเนี่ย เอิ๊กกก
...แก้วอยู่สาย ๓T ค่ะ
สงสัยเราจะคิดไปเองค่ะ เพราะมีตอนหนึ่งคนเขียนพูดถึงสาย 9T เราเลยว่ามันโผล่มาได้งัยหว่า เพราะทั้งเรื่อง มีแต่ 3T กับ 5X อะจ๊า ก็เลยคิดว่าคนเขียนเขียนผิด ขออภัยคร้าบบบบบ (มันเป็นตอนก่อนที่ฝิ่นจะไปจับแก้วอะค่ะ ที่โจ้บอกว่า “พี่จะเอาเมื่อไหร่ก็สั่งมาเลย งานนี้เราเป็นต่ออยู่แล้ว พวก๙T มันไม่ยุ่งชัวร์” อะคร้าบบบ
ขอบคุณคนเขียนที่มาตอบนะคะ :pig4: ที่ต้องถามเรื่องรุ่นเพราะงงๆ เรื่องการใช้คำพูดและการแสดงความเคารพกันอะจ้า
อืม...งั้นก็แสดงว่าพงษ์มันทะเลาะกับคนข้ามรุ่นเลยนะเนี่ย
-
แก้ว โดนอีกแล้ว สงสารจัง
-
ฝิ่นงี่เง่า รังแกคนอ่อนแอไม่แมนเลยนะ ใครเตือนก็ไม่ฟัง
ต้องให้เจ็บแบบไม่มีใครแลซักทีเถอะ
-
ฝิ่นหึงอ่ะดิ อิอิ
-
:เฮ้อ:
เอาแต่ใจขนาดนี้ อ้อมกอดมันจะอุ่นไม๊น่ะ ???
-
:z6: ฝิ่น ทำตัวน่ารักไหมนั่น
:pig4:
-
ฝิ่นเล่นกับความรู้สึกคนอื่นมันอย่างนี้ไม่ดีนะว้อย
-
ฝิ่นจ๋า หึง ก้อบอกเค้าไปอย่าทำโมโหกลบเกลื่อน
สงสารน้องแก้ว ช้ำหมดน้าาาา :angry2:
-
ไม้มันคงรู้สึกแบบประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
ตอนเป้งโดนพงษ์ทำก็คงประมาณนี้
แต่แค่เปลี่ยนจากเป้งเป็นแก้วเท่านั้นเอง :เฮ้อ:
-
^^
-
ฝิ่นง้องแง้ง หึงหล่ะสิ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๑
...หากมีใครทำคนที่เรารักและผูกพันให้ตายจาก มันก็ยากที่จะให้อภัย...
เขาได้แต่มองตามรถรุ่นน้องด้วยความเป็นห่วง...ห่วงใจมึงจริงๆ ฝิ่นเอ้ย
ตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดให้อภัยคนที่ทำร้ายเป้งอย่างที่ฝิ่นเข้าใจเลย... ยิ่งคิด ยิ่งอภัยให้ไม่ได้
ใครที่กล้าทำร้ายคนที่เขารัก มันจะต้องได้รับจุดจบที่เลวร้ายยิ่งกว่า นั่นมันสมควรอยู่แล้ว
แต่ไม่ใช่พาลคนรอบข้างอย่างที่ไอ้ฝิ่นทำ มันไร้ประโยชน์จริงๆ
ต้นเหตุคือใคร คนนั้นต้องรับผิดชอบสิถึงจะถูก
จะให้ใครมารับเคราะห์แทน เขาทำไม่ได้ นั่นไม่ใช่วิสัยของลูกผู้ชายที่พึงกระทำ
หากแต่ความเป็นลูกผู้ชายที่เขาสอนน้องไป คือคิดจะทำอะไรแล้ว ต้องทำให้ได้ ยิ่งอยู่สูง จิตใจยิ่งต้อง
แกร่งและแน่วแน่เด็ดเดี่ยว
เมื่อลั่นวาจาออกไปแล้ว ความสำเร็จเท่านั้นที่ต้องได้คืนกลับมา
มึงถึงต้องหาทางลงต่อไปเรื่อยๆอย่างนี้ใช่ไหม? ฝิ่น
กูเข้าใจ...แต่ไม่ชอบวิธีการของมึงเลย
“โจ้ไปส่งกูบ้านไอ้ฝิ่น” บอกรุ่นน้องอีกคนด้วยความเป็นกังวล
ใจมันอยากจะทำร้ายเขา แต่ที่จริงแล้วใจมันนั่นแหละที่ทำร้ายตัวเอง
ถ้าไอ้ฝิ่นมันยังไม่ยอมถอยและกลับมารอ ความเจ็บปวดที่ผ่านมาแล้วแทนที่จะค่อยๆจางหาย มันก็จะ
กลายเป็นพายุที่พัดพาเอาความเคืองแค้นให้ทับถมตัวเองจนไม่สามารถลุกขึ้นมายืนได้อีก...ถ้ามันใจเย็นสัก
นิด ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์สักหน่อย เรื่องเอาคืนไม่มีคำว่าสายไปหรอก
ถึงหน้าบ้านบอกไอ้โจ้กลับไปได้เลยไม่ต้องรอ แม้เด็กในสายทุกคนจะคุ้นเคยกับเจ้าของบ้านหลังนี้เป็น
อย่างดี แต่มันคงไม่เหมาะที่จะมารบกวนพ่อกับแม่ในเวลาที่ต้องหลับนอนอย่างนี้
หยิบลูกกุญแจที่พ่อฝิ่นให้ไว้ด้วยความไว้ใจให้เป็นหูเป็นตาดูแลน้องๆแทน เผื่อมีอะไรถ้าต้องเข้าบ้านดึกดื่น
จะได้สะดวกอย่างไม่ต้องเกรงใจ ไขกุญแจรั้วเดินเข้าไปไขประตูบ้านต่อมุ่งหน้าสู่ห้องเก็บของใต้บันไดที่คน
ภายนอกรู้แค่นั้น แต่มันกลับเป็นห้องลับอย่างดีที่เขากับน้องสร้างไว้เพื่อการหลบซ่อนตัว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก มีเพียงห้องนี้ที่มันล็อกจากข้างในไม้จึงไม่สามารถถือวิสาสะได้
แกร๊ก ฝิ่นเปิดประตูออกมาในชุดผ้าขนหนูพันรอบเอว ทั้งตัวก็ยังเปียกอยู่ สบตากับพี่ด้วยแววตาสั่นระริก
ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างเช่นที่เห็นเวลาอยู่ต่อหน้าเด็กในสายคนอื่นๆ
“ยิ่งพี่แสดงความเห็นใจมันเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งอยากให้มันเจ็บมากขึ้น” เขาไม่ใส่ใจกับคำต่อว่าซึ่งคล้ายกับ
การข่มขู่ตัวประกันของฝิ่น เดินชนไหล่น้องเข้าไปยังห้องนอนทันที
ภายในห้องไร้เงาของอีกคน มีเพียงสายโซ่ที่ลากจากขาเตียงเข้าไปในห้องน้ำที่ยังได้ยินเสียงน้ำไหลจาก
ฝักบัว เท่านั้นที่พอบอกได้ว่า ไอ้เด็กโชคร้ายนั่นอยู่ไหน
หันไปมองหน้าน้องชายเพื่อต้องการคำตอบ ว่าทำไมต้องล่ามโซ่ด้วย ศัตรูก็คนเหมือนกันนะไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
ที่ต้องมาจำกัดอิสรภาพกันถึงขนาดนี้ แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยปากถาม ไม้ก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมา
เขารีบเดินไปจนถึงหน้าห้องน้ำ ฝิ่นก็ปรี่เข้ามาขวางทาง
“ผมไม่ได้ทำอะไรอย่างที่พี่คิด แต่พี่แน่ใจเหรอว่าจะเข้าไปตอนนี้...รอก่อนละกัน” ฝิ่นบอกเชิงห้ามทั้งดันพี่
ให้ถอยห่างจากหน้าห้องน้ำ แล้วเจ้าของห้องที่หยิบเสื้อผ้าติดมือมาด้วยค่อยแง้มประตูเดินเข้าไปข้างใน
ถ้าฝิ่นไม่ได้ทำอย่างที่เขาคิดก็ยังถือว่ามันพอมีสติอยู่บ้าง
เพราะการได้ตัวใครคนหนึ่งมาเป็นของเราไม่ใช่เรื่องยากเลย
แต่ถ้าหากการได้มาโดยที่คนนั้นจำยอมไม่ใช่ด้วยความเต็มใจ
กลับกัน ...คนที่จะตายก็จะกลายเป็นตัวเราเองต่างหาก
ถอยหลังกลับไปที่เตียงนอนหมายจะนั่งรอที่ตรงนั้น แต่สายตาก็มองเห็นสิ่งที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าเข้าพอดี นี่มัน...
“อยากได้อะไรก็มาขนเอานะลูก” เสียงพ่อของเป้งบอกเขาทั้งสองในวันสวดศพคืนสุดท้าย
ไม่คิดเลยว่านอกจากของรักของเพื่อนมันแล้ว มันยังเลือกเก็บเสื้อตัวนี้มาด้วย
ไม้หลับตากำสองมือแน่นเพื่อข่มความรู้สึกสั่นไหวที่กำลังปะทุอยู่ข้างใน
...เป้ง...พี่ขอโทษ
.
.
.
“พี่ไม้มา” ไอ้ฝิ่นเดินเข้ามาในห้องน้ำอีกครั้ง ปิดฝักบัว โยนผ้าเช็ดตัวสีขาวของมันอีกผืนคลุมหัวเขาที่ยังนั่งแหมะอยู่กับพื้น
แก้วที่เหลือแค่กางเกงยีนส์ค่อยๆยันตัวลุกยืนด้วยความรู้สึกที่โหวงเหวงแปลกๆ
มันรู้สึกแปลกๆตั้งแต่ถูกลิ้นของมันล่วงล้ำเข้าไปในโพรงปากแล้ว ทั้งยังตอกย้ำด้วยเหตุการณ์เมื่อครู่นี้อีกล่ะ
“มึง...จะทำอะไร?” แก้วคิ้วขมวดถามเมื่อถูกดันตัวไปเข้าไปในห้องน้ำ หลังจากมันล่ามโซ่เขาเสร็จ
“มึงรักกูรึยัง” แต่ดันถูกถามกลับ
สองมือมันท้าวผนังห้องน้ำให้เขาอยู่ระหว่างกลางแขนมัน ใกล้...ไปไหม?
แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ใกล้กับมันขนาดนี้นี่
เขา...รู้สึกเกร็งๆแปลกๆ หรืออาจเพราะพี่ภูมอมเบียร์ไปหลายแก้วเกิน
ไม่ได้ๆต้องมีสติให้มากกว่านี้
เขาเตือนตัวเองพลางก้มหน้าหลบสายตามัน ยกแขนตัวเอง พยายามดันหน้าอกไอ้ฝิ่นให้ออกห่างจากตัว
ความรู้สึกตอนนี้คือไม่อยากให้มันอยู่ใกล้เลย
“มึงรับปากกูแล้ว กูไม่ยอมมึงง่ายๆหรอกนะ ยังไงๆมึงก็ต้องรักกูเข้าใจไหม” พูดพร้อมกับจับมือข้างหนึ่งของเขายกขึ้นมาแบดู คิ้วมันขมวดหน้านิ่ว
แก้วหน้ามุ่ย มันจะจับเบาๆไม่ได้เลยรึไง เพราะนอกจากถลอกแล้วมือยังเป็นแผลจากที่โดนหินก้อนเล็กๆจิ้มเข้าไปในฝ่ามืออีก
“เข้า...ใจ” ฮึ่ย แทบอยากตบปากตัวเอง ทำไมต้องตะกุกตะกักด้วยวะ
“ดี เข้าใจว่ารักกูแต่มึงไปจูบกับคนอื่นเนี่ยนะ” คำพูดคล้ายลำเลิกซะอย่างนั้น
“พี่เขาไม่สบายใจ แค่ผู้ชายแตะปากกันธรรมดา กูไม่ได้ทำอะไรผิดคำพูดเลยเหอะ” ถึงพี่ภูจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่ด้วยความบริสุทธิ์ใจและสนิทกันอยู่แล้ว เขาก็ไม่เคยคิดอะไรเกินเลย
อีกอย่างยังไงๆก็ต้องพูดว่ารักมันอยู่ดี แล้วจะเซ้าซี้เอาอะไร แก้วค้านต่อในใจ
“หึ กูไม่ได้ให้มึงรักษาคำพูด แต่กูต้องการให้ใจมึงทำ” ฝิ่นใช้อีกมือค่อยๆดึงชายเสื้อเขาให้เลิกสูงขึ้น
“เฮ้ยๆๆ” ตาลีตาเหลือกปัดป่าย แต่ก็ต้องหยุดเมื่อมันจับสองมือเขารวบไว้เหนือหัว
...มันเหมือนกับที่ผับ
แก้วเงียบหยุดดิ้น ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันพลันรีบหันหน้าหนีเพื่อหลบสายตาฝิ่นด้วยความรู้สึกที่บอก
ไม่ถูก ใกล้กับไอ้พงษ์มากกว่านี้ก็ยังไม่เคยใจสั่นอย่างนี้เลย เป็นบ้าอะไรของมึงไอ้แก้ว!
“เห็นมือมึงเป็นแผลคงจะอาบน้ำไม่สะดวก เดี๋ยวกูจะช่วยมึงอาบเอง” แก้วเงยหน้ามองฝิ่น อ้าปากค้าง ล้อเล่นใช่ไหม?
ฝิ่นดึงตัวแก้วมายืนใต้ฝักบัวพลันเอื้อมมือเปิด สายน้ำไหลกระทบใบหน้ายันร่างกายของทั้งคู่ แทนที่จะสดชื่นขึ้นและหายจากอาการมึนๆเบลอๆที่เจ้าตัวคิดว่ามาจากความเมา แต่กลายเป็นว่าตอนนี้สมองแก้วกลับมึน ตื้อ ยิ่งกว่าเดิมเมื่ออยู่ๆกลับยอมปล่อยให้ไอ้บ้าฝิ่นถอดเสื้อยืดออกจากตัวเขาอย่างง่ายดาย
“ตัวมึงขาวฉิบหาย” เสียงพร่ากระซิบข้างหู แววตาเอาจริงจดจ้องมายังดวงตาเขา แก้วตัวแข็งทื่อก่อนจะสลัดหัวเรียกสติแล้วก้าวเท้าถอยหลังแต่กลับถูกสองแขนแกร่งโอบรอบเอวไว้ซะก่อน
“รักกูไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะ เพราะงั้นกูจะช่วยทำให้มันง่ายขึ้นเอง”
“ไม่ ไม่ ไม่!” แก้วปัดมือฝิ่นออก สะบัดตัวดิ้นเพื่อจะออกจากวงแขนแกร่งให้ได้ แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเหมือนมันจะชอบใจ ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เผยบนใบหน้าก่อนจะโน้มเข้ามาใกล้เขามากขึ้น จนริมฝีปากทั้งสองประกบชิดสัมผัสกันอีกครั้ง แก้วยืนนิ่งในขณะที่สองมือยังจับแขนฝิ่นค้าง คนตรงข้ามค่อยๆดูดเม้มริมฝีปากแก้วช้าๆอย่างนุ่มนวล ไม่รุนแรงดุดันเหมือนครั้งก่อน
แก้วถูกดันหลังให้ชิดกำแพงอีกรอบ มือหนาค่อยๆดึงเข็มขัดออกพร้อมรูดซิบกางเกงยีนส์เขาอย่างช้าๆไม่รีบร้อนด้วยความย่ามใจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาฝิ่นจิ๊ปากด้วยความเสียอารมณ์ก่อนจะถอดเสื้อถอดกางเกงที่เปียกน้ำโยนทิ้งต่อหน้าแก้วเหลือไว้เพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันเอวเดินออกไปเปิดประตูห้องต้อนรับคนที่มาเยือน
แก้วทรุดนั่งกับพื้น...ต้องขอบคุณคนที่มาขัดจังหวะจริงๆ เพราะเขาดันเผลอไผลไปกับความอ่อนโยนที่เพิ่งได้รับจากมันเมื่อครู่ไปได้ยังไงก็ไม่รู้
แก้วเดินตามฝิ่นออกจากห้องน้ำ หลังจากมันเอาลูกกุญแจสำหรับไขโซ่ออกจากข้อเท้ายื่นมาให้ เพื่อจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวก แล้วเขาค่อยล็อกเพื่อล่ามตัวเองกลับอีกที เหมือนที่เคยทำ
เขาเดินไปโต๊ะคอม วางลูกกุญแจ แล้วนั่งก้มหน้าหลบสายตาพี่ไม้ที่มองมาและเดินตามอย่างจับพิรุธ
“ฝิ่น ถอดโซ่ออก!” เรียกน้องตัวเองแต่กลับจ้องหน้าเขาไม่เลิก
“กุญแจวางอยู่บนโต๊ะ ตรงหน้ามันนั่นน่ะ” ฝิ่นตะโกนมาจากบนเตียง แก้วทำเป็นไม่ได้ยินที่สองคนพูด
“ทำไมมึงยอมให้มันล่ามโซ่เหมือนหมูเหมือนหมาวะ” เขาไม่รู้จะตอบพี่ไม้ว่ายังไง ไม่ใช่แค่ให้มันล่ามแต่เขายังล่ามโซ่ตัวเองตามความต้องการของมันได้ด้วย เพราะเข้าใจดีว่าฝิ่นมันทำด้วยเหตุผลอะไร เขาจึงยอมมันได้ “ไม่ว่ามึงจะทำยังไง ความผิดของเพื่อนมึงก็ไม่หายไปได้หรอก” แก้วตาโตแหงนมองหน้าพี่ไม้ทันควัน แทนที่จะมีความหวัง นี่มาพูดให้รู้สึกว่าตัวพี่ไม้เองก็เคืองแค้นไอ้พงษ์อยู่ไม่ต่างกัน นี่เขาอดทนมาถึงขนาดนี้แล้วจะกลายเป็นสิ่งสูญเปล่าไม่ได้นะ
ไม้หยิบกุญแจที่วางอยู่บนโต๊ะยื่นให้แก้ว เขาไม่รับ
“ทำไม?”
“...มันไม่ให้ถอด” ขืนถอดออกโดยที่ยังไม่อนุญาตก็ได้เจ็บตัวอีกหรอก ถ้ามันพอใจจะล่ามเขาไว้ก็ให้มันทำไปเถอะ เขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว
“แต่กูสั่ง” พูดพร้อมหันไปมองคนที่ทำเป็นหูทวนลมบนเตียง
แก้วลังเลเมื่อพี่ไม้ยังยืนกรานจะให้ถอดโซ่ให้ได้ จนพี่เขาต้องย่อตัวนั่งลงต่ำ แก้วจึงละล่ำละลักบอก
“พี่ๆ ไม่ต้อง ผมทำเอง” นั่งลงชันเข่าไขกุญแจปลดโซ่ออกจากข้อเท้า แล้วลุกมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมทำตัวให้วุ่นอย่างไม่ให้เกิดพิรุธด้วยการเปิดปิดลิ้นชักคล้ายหาอะไรสักอย่างแต่ไม่ยอมหยิบขึ้นมา
จนพี่ไม้คงจะรำคาญหรือยังไง แย่งเขาเปิดลิ้นชักหยิบกล่องพยาบาลขึ้นมาวางไว้หน้าแก้ว เขาทำตัวไม่ถูก นั่งนิ่ง
“แบมือ เดี๋ยวกูทำให้” อยู่ใกล้แค่นี้ทำไมต้องพูดซะเสียงดังลั่นห้องด้วย แล้วก็...แค่แผลถลอกนิดหน่อยไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวมันก็หายเองแหละ แก้วบ่นในใจแต่ก็ยอมแบมือวางไว้บนโต๊ะตามที่พี่ไม้สั่ง พี่คนนี้ไม่ได้มีท่าทางเกรี้ยวกราดอะไรเลย แต่พอพี่เขาพูดอะไรออกมาแต่ละคำมันทำให้แก้วรู้สึกว่าห้ามขัดยังไงอย่างนั้น
ได้ยินเสียงคนลุกจากเตียงก้าวมาทางเขาอย่างเร็ว
“หื๊อ ลุกมาทำไม?” พี่ไม้เอ่ยปากถามมันด้วยน้ำเสียงกวนเบื้องล่าง เห็นไอ้ฝิ่นฟึดฟัดหยิบขวดยา ขวดแอลกอฮอล์ออกมาวางเกลื่อนเต็มโต๊ะแล้วเอาสำลีชุบเบตาดีนมาลูบผ่านฝ่ามือเขา
“ที่ผมต้องทำเองเพราะกลัวพี่ใจอ่อนแค่นั้นแหละ”
“หึ” พี่ไม้ส่งเสียงในลำคอแล้วเดินเก็บโซ่ไปจนถึงขาเตียง
“สำออยนะมึง” ดูมันว่า เขาไม่ได้ร้องขอให้ใครทำอะไรให้สักหน่อย แล้วมันก็หันไปหาพี่ไม้
“พี่จะทำอะไร?”
“เก็บ ...กูไม่ให้ใช้ แค่มึงตีกรอบความผิดให้มัน ก็มากเกินกว่าจะต้องมาล่ามมาขังกันไว้แล้ว”
“แล้วไม่ใช่เพราะมันเหรอ ไอ้เป้งถึงโดนเล่นน่ะ” ฝิ่นพูดพร้อมมืออีกข้างของมันดึงผมเขาจนแก้วต้องเงยหน้าขึ้น เพราะเขา? อะไรกัน?
“อย่ารังแกคนไม่มีทางสู้ต่อหน้ากู” ไอ้ฝิ่นถึงปล่อยมือจากหัวเขาแต่โดยดี
“พี่ก็เป็นซะอย่างนี้ ทำไมพี่ต้องทำเหมือนว่าพวกมันไม่ผิดด้วย”
“ผิดฝิ่น แต่มึงต้องแยกให้ออกคนทำผิดกับคนที่ต้องรับผิดน่ะมันคนละคนกัน” แก้วได้แต่นั่งฟังอยู่เงียบๆ
“แล้วยังไง? ไอ้เหี้ยนั่นมันอยู่ให้ผมกระทืบไหม? ก็ไม่ เพราะงั้นผมจะจัดการตามวิธีของผม” พร้อมกดสำลีลงกับฝ่ามือเขาอย่างแรง แก้มเม้มปากแน่น
“มึงทำไม่ได้หรอกฝิ่น”
“พี่จะมารู้ดีไปกว่าผมได้ยังไง ถ้าผมจะทำ ต้องมีแต่คำว่าได้ เท่านั้น!”
“เพราะกูรู้จักมึง มากกว่ามึงรู้จักตัวเองยังไงล่ะ”
พี่ไม้ปลดโซ่ออกจากขาเตียงสำเร็จ มองเสื้อตัวที่แขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้า
“ถ้ามึงจะโทษไอ้แก้วอย่างนั้น มึงคงมองข้ามความผิดของกูและของเพื่อนมึงไปเหมือนกัน” แล้วหยิบเสื้อออกจากไม้แขวน เสื้อตัวที่ไอ้ฝิ่นมันตั้งใจแขวนไว้ให้เขาเห็นทั้งวันทั้งคืนเพื่อตอกย้ำความเลวของเพื่อนเขา “ถ้าวันนั้น กูไม่ปล่อยให้มันกลับคนเดียว เรื่องนี้ก็คงไม่เกิด” พลางพับเก็บเสื้อตัวที่เป็นร่องรอยของความเจ็บปวดใส่ถุงกระดาษที่พี่เขาเปิดหาได้จากลิ้นชักตู้เสื้อผ้า โดยที่เจ้าของห้องไม่ได้ทักท้วงการกระทำนั้น
.................................................
เพิ่งเสร็จจ้า กริ๊บกริ๊ววว
คุณ →Yakuza★ เลิฟยูทู ไม่รับปากนะคะ นี่ก็อู้งานอู้เล่นเกมส์ปั่นทุกวันเลย เสร็จเมื่อไหร่ก็รีบลงทันทีเลยจ้า^^
คุณ cocoaharry ถ้าโผล่มาต่อจากนี้จะเป็นการค่อยๆเผยปมแล้วค่ะ ไม่มีปมใหม่แล้ว ผูกอีกคนเขียนคงได้กระอักเลือดตายแน่ๆเลย ฮา แก้ไม่ไหวแล้วน๊า งุ๊งงิ๊งๆ ตัวละครที่โผล่มาอย่าไปให้ความสนใจมากค่ะ ฮีๆเป็นเพียงตัวประกอบที่มาเติมเต็มบางอย่างในเรื่องเท่านั้นค่ะ อีกเดี๋ยวคงได้รู้จักภูรักนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ตัวสำคัญอะไรมากมาย
คุณ StillLoveThem พี่อย่าถามหนูอย่างนั้นสิ ฮ่าๆๆๆ หนูก็ไม่อยากขุดหลุมฝังตัวเองเหมือนไอ้ฝิ่นนะ แค่นี้ก็โดนจับได้ทุกตอนเลย เอิ๊กๆๆๆ
คุณ เฉาก๊วย ถ้าไม่เบื่อที่จะถาม ถามได้ตลอดเลยค่ะ รวมคนอ่านท่านอื่นๆด้วยนะคะ ยินดีตอบเพื่อไขข้อข้องใจและเพื่อให้เข้าถึงนิยายด้วยความยินดีเป็นที่สุดค่ะ^^ (แต่โน้ตทิ้งท้ายนิดนึงว่าให้เค้าตอบงี้ เพราะเค้าไม่ได้ตอบทุกคอมเม้นท์อะจ้า)
:pig4:ขอบคุณ คุณCapricorn, Little Diamond, TanyaPuech, BeeRY, Jillinv, RAKDEK_KA, naiin, PBOBP , qwank8, Karn12, yunjae55, atommic, Bowbonk, Still_14OC, Crossley, suck_love, j4c9y, ratnalin, roseen, gumrai3, seaweed, i love u {knt}, Chiren, PIKKOJUNG, theduchess, Rhythm, sirikanda28, bulldog17, taroo, malula, sang som, LifeTime, - คราส -,~MiKi~,shoi_toei, Paracetamol,matame กอดๆ จุ๊บ >3
-
จิ้มคนแรกเลยค่า
แก้วเริ่มหวั่นไหวแล้วล่ะสิ
-
แล้วไม่ใช่เพราะมัรเหรอ ไอเป้งถึงโดนเล่นน่ะ
หรือเป้งชอบแก้ว เลยไปมีเรื่องกับพงษ์?
จิ้น 555
-
เริ่มซับซ้อนขึ้นทุกที แล้วแก้ว โดนลากไปเอี่ยวด้วยเรื่องอะไรอีกเนี่ย
-
มีแค่เป้งและพงษ์ที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันเกี่ยวอะไรกับแก้วด้วยล่ะ
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: แก้วน้อแก้ว
:เฮ้อ: :เฮ้อ: ฝิ่นน้อฝิ่น
-
จำเลยรักภาคเด็กช่าง
แก้วไปเกี่ยวอะไรด้วยนี่
จากตอนนี้ทำให้รู้ว่าแก้ว M
:pig4: :กอด1:
-
รู้สึกชอบพี่ไม้อ่ะ :o8:
นิสัยผู้ชายมันน่าจะแบบนี้นะ ไม่ใช่กิ๊วก๊าวไร้เหตุผลแบบไอ้ฝิ่น :beat:
-
แก้วเริ่มมีหวั่นไหวเบาๆ :serius2:
ส่วนฝิ่น..เอ่อ..ชักสงสัยว่าเป็นเกย์มาก่อนด้วยหรือเปล่า ทำไมเลือกจะแก้แค้นโดยการให้แก้วมารักด้วยอะ (อยู่ๆ ผู้ชายแท้ๆ เขาคงไม่คิดจะทำแบบนี้ล่ะมั้ง) :z3:
:pig4:
-
แล้วถ้าแก้วรักฝิ่นจริง
แล้วฝิ่นล่ะรักแก้วจริง
ป่ะ :z3:
-
ฝิ่นมันซึนมากอะ น่ารักดี :laugh:
ปลื้มพี่ไม้ มาดแมน แอนด์ แฮนซั่ม สุดๆ เคลิ้ม :o8:
หวังว่าไม้คงไม่คู่กะพงษ์นะ อยากให้พงษ์เป็ฯคิงอย่างงี้อะดีละ เอาไว้เป็นชู้แก้ว ให้ฝิ่นมันหึงเล่น
ปล. อยากอ่านนอกรอบไม้แก้วจัง หุหุ
-
แก้วซวยตลอดเลย
-
นิ่งไว้แก้ว นิ่งสงบฝิ่น
-
ไม่ใชาแค่แก้วแล้วละที่หวั่นไหว
ฝิ่นด้วยละมั้งสภาพนี้อะ
เห่อ
ตอลงความหลังเรื่องเป้งคืออะไีร
มันเกี่ยวกับแก้วยังไงหรือว่าจะเป็น.....?
พงษ์กับมาเร็วๆเถอะ
-
:L2:มอบดอกไม้ให้กำลังใจคนเขียนก่อนอันดับแรก :L2:
:m15:อยากรู้จังเลยว่าทำไมพงษ์ถึงทำร้ายเป้ง แต่คิดว่าพงษืทำเพื่อแก้วแน่ๆ เลย แต่ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงต้องทำ เมื่อไรน่าจะเฉลยสาเหตุ ส่วนฝิ่นสงสัยรักแก้วแน่ๆ เลย แต่เพราะความแค้นเลยต้องทำเป็นว่าไม่รัก :m15:
-
เริ่มติดใจเรื่องนึงนะเนี่ย
ว่าสาเหตุการตายของเป้ง ต้องมีแก้วเข้ามาเป็นตัวแปรอยู่บ้าง เห้อ อึดอัดๆๆๆๆๆ
-
อย่าเชียวนะแก้ว อย่าไปหลงรักมันเด็ดขาด คนอย่างไอ้ฝิ่นอ่ะ มันไม่มีทางรักแก้วหรอกกกก (แอบเสี้ยมแก้ว :laugh: )
ปล. รอตอนต่อไปน้าาา :กอด1:
-
พี่ไม้ไม่ยกโทษแล้วจะเอาไงกะแก้วอ่า :m17: แก้วยอมทุกอย่างแหละน้า :m13:
พี่ไม้ๆๆๆๆ อ๊ายยย :-[
-
อย่าใจอ่อนละแก้ว >:(
-
อย่าหลงรักแก้วก็แล้วกัน
เชอะ :angry2:
-
ถ้าฝิ่นคิดได้สักเศษเสี้ยวหนึ่งของพี่ไม้ก็คงดี
แต่เรื่องนี้ดูแล้วมันมีเบื้องหลังเยอะแยะเลยแฮะ o18
-
มันอะไรยังไงกันน้อ ดูสลับซับซ้อนกว่าที่คิดอีก :เฮ้อ:
ก่อนแก้วจะหลงรักแก แกคงหลงรักแก้วก่อนแหละฝิ่น :z1:
-
เรื่องดูลึกลับซับซ้อนมาก
แก้ว เริ่มหวั่นไหว ดีใจๆ
แต่อยากให้ไอฝิ่นหลงหัวปักหัวปำมากกว่า อิอิ
ชอบพี่ไม้อ่ะดูมีเหตุผลที่สุด
-
:กอด1:
-
ขอสักทีนะฝิ่น เรียกสติ :z6: พี่ไม้มาได้จังหวะพอดีเลย 555 รู้สึกว่าพี่ไม้แกเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ และประสบการณ์เยอะนะ ^^
เหมือนมันจะเริ่มมีแง้มๆอะไรออกมาอีกแล้ว ลุ้นๆ ><
ขอปคุณคร้าบ
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
มึนงงกันเลยทีเดียว ฮ่า ๆ
-
ชอบครับ ปมเยอะดี 555+
-
จากที่คิดว่าฝิ่นโกรธแก้วเรื่องที่ เอาตัวพงษ์ไปซ่อน
อ่านตอนนี้แล้วคิดว่าน่าจะมีเรื่องอื่นอีก
รอดูตอนต่อไป
-
ฝิ่นนนนนนน ทำกะแก้ว เหมือนกับเรื่องจำเลยรักเลยอ่ะ T_____T สงสารจัง แต่ฝิ่นต้องทรมานกว่าแก้วเยอะ คอยดูเขาจะไม่รับรักง่ายๆนะเช๊อะ!!!
-
แก้วน่าสงสารอีกแล้วอ่ะ แต่แอบเขินนะ ตอนที่ฝิ่นจูบ
ในความดราม่า ก็ยังคงมีฉากหวานๆ(นิดนึง)ให้เราได้อ่านอยู่ ชอบแบบนี้แหละ
ขอบคุณนะครับที่มาต่อนิยาย
-
:กอด1:
-
เรื่องนี้บีบหัวใจอ่ะ อึดอัดแปลกๆ ติดตามอยู่นะคะคนเขียน อิอิ
-
พี่ไม้พูดค้างคาอะ
-
เนื้้อเรื่องเริ่มเข้มข้นแล้ว จะติดตามรออ่านตอนต่อไปนะุคะ
-
เดี๋ยวเถอะ คุณฝิ่น ถ้าวันไหนหลงแก้วจนโงหัวไม่ขึ้นมาละก็นะ
คุณกูจะหัวเราะ :jul3:
-
อย่ามาหลงรักแก้วละกัน
-
...ฮ่าๆๆ มันคงอยากแก้แค้นแก้วมาก ถึงได้บอกให้แก้ว ..รักมันด้วยใจอยู่เนี่ย
...แต่พี่ไม้อย่ามาตกหลุมรักแก้วอีกคนก็แล้วกันเดี่ยวมันจะเสีย..เพื่อน
...ดูเหมือนพี่ไม้จะดูออกนะว่า..ฝิ่นคิดยังไงกับแก้ว :L2:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๒
เป็นคืนแรกที่ได้นอนบนเตียงนิ่มๆและได้รับความอบอุ่นจากผ้าห่มหลังขดตัวนอนกับพื้นเย็นๆมาหลายคืน
ส่วนพี่ไม้ออกปากบอกให้เขายึดที่นอนเสร็จก็ลากไอ้ฝิ่นออกไปตั้งแต่ตีสอง
แต่เขาก็ข่มตาให้หลับไม่ลง เมื่อในใจมันยังกระวนกระวายด้วยหาสาเหตุไม่ได้
หรือจะเพราะเรื่องที่ได้ยินเมื่อครู่ การตายของคนๆนั้น สาเหตุมาจากตัวเขางั้นเหรอ?
แต่ทำไมเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ เฮ้อ...แก้วหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์โทรออกต่างประเทศ
“ว่าไงโทรมาแต่เช้าเลย? แต่เอ...เมืองไทยยังไม่เช้านี่แก้ว”
“อื๊อ นอนไม่หลับ” เพราะกังวลเรื่องนี้เรื่องเดียวจริงๆนะ
“เป็นอะไร มีอะไร” พงษ์ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงแสดงความเป็นห่วง เฮ้อ มีเรื่องให้คิดเยอะเลยล่ะแต่ไม่รู้จะเล่าให้ฟังยังไงดี แก้วจึงลองถามเรื่องที่พงษ์น่าจะให้คำตอบได้
“พงษ์...เมื่อไหร่จะเล่าเรื่องอาชีวะXให้ฟังได้”
“มึง ถามทำไม” พงษ์ตกใจที่เขายังถามเรื่องนี้อีก “มันจบไปแล้วนี่ หรือว่าพวกมันทำอะไรมึงอีก”
“เปล่าๆ แค่อยากรู้น่ะ” แค่อยากรู้ว่าเรื่องมันเกี่ยวกับเขาจริงอย่างที่ได้ยินมารึเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็เขาก็ไม่ใช่แค่ผู้สมรู้ร่วมคิด แต่จะกลายเป็นตัวการเลยต่างหาก
“จะรู้ไปทำไมวะ ลืมๆมันไปเถอะ”
“พงษ์แต่นั่นชีวิตคนนะ” จะให้ลืมได้ยังไง ทำไมถึงชอบพูดออกมาง่ายๆอย่างนี้นะ แต่พงษ์กลับสวนขึ้นมา
“แล้วใครใช้ให้มันทำมึงก่อน”
“...อะไรนะ? ใครทำอะไร?” เขาย้ำถาม
“เฮ้อ มึงจะเซ้าซี้กูทำไม มึงไม่เชื่ออะไรกูแล้วเหรอ กูบอกให้มึงลืม มึงก็ลืมไปเถอะ”
“เชื่อสิ แต่มึงบอกเหตุผลกูรึยังล่ะ ตกลงคนนั้นทำอะไรกู แล้วทำไมต้องเล่นกันจนตายด้วย”
“จริงๆกูไม่ได้จะเอามันให้ตายหรอกนะ แต่กูไม่มีทางเลือก กูรู้มึงกำลังจะโทษตัวเองใช่ไหม แต่ฟังนะมึงห้ามคิดอย่างนั้นเด็ดขาด เพราะนั่นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด”
“เล่ามา ขอร้อง”
“...วันนั้นกูไปกินเหล้ากับพวกพี่ดิว แล้วไอ้นั่นเดินผ่านหน้าซอยพอดี มีคนจำได้ว่ามันเคยตบหน้ามึง กูกับพี่ดิวก็เลยตาม จบไหม?”
“ตามจน...” แก้วไร้คำพูด
“กูมีเหตุผลมากกว่านั้น”
“พงษ์ กู...”
“ไม่ร้องนะตัวเล็ก กูยอมเป็นคนเลว แต่มึงอย่าร้องไห้เพราะกู” แก้วเอามือปิดปากกันเสียงสะอื้นที่กลั้นไว้กลัวพงษ์ได้ยิน
“เฮ้ย ต้องออกไปเรียนแล้ววะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ คิดถึงมึง บาย”
“พงษ์ ...” เรียกทั้งๆที่สายถูกตัดไปแล้ว เขารู้ดีนี่เป็นการเลี่ยงของพงษ์
แก้วเช็ดน้ำตาที่กำลังปริ่ม พลิกตัวนอนตะแคง กัดนิ้วโป้งตัวเองครุ่นคิด
ถ้าย้อนกลับไปตั้งแต่เข้าเรียนมาจนเกือบสามปี เขาก็เคยถูกโรงเรียนคู่อริเล่นงานมานับครั้งไม่ถ้วนพอๆกับ
ไม่อยากนับนั่นแหละ แต่นี่แค่ตบหน้า ทั้งที่เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคนนั้นเป็นใคร สถาบันไหน มัน
เพียงพอกับเหตุผลที่ต้องคร่าชีวิตกันด้วยเหรอ คิดไปก็หาคำตอบไม่ได้ อีกอย่างถ้านี่ไม่ใช่สาเหตุทั้ง
หมดแล้วยังจะมีอะไรอีก
ก่อนที่แก้วจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนในใจ
และความรู้สึกที่ ...เหมือนว่าตรงนี้มันขาดอะไรไปสักอย่าง
.
.
.
“มึงอยู่คนเดียวเหรอ” พี่ไม้ถามหลังจากแก้วรับกุญแจบ้านจากฝิ่นมาเปิดประตู
“เมื่อก่อนอยู่สองคน” ตอบพลางมองสำรวจความเรียบร้อยของบ้านไปด้วย ถึงไม่ได้กลับมาอยู่เกือบสอง
สัปดาห์แต่บ้านก็ยังดูเรียบร้อยดีเพราะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ประจำ
“รอตรงนี้นะ” พี่ไม้บอก กดเปิดโทรทัศน์แล้วนอนเหยียดตัวยาวเต็มโซฟา ทำตัวตามสบายอย่างกับบ้าน
ตัวเอง แก้วส่ายหน้าเดินขึ้นห้องนอนของเขาโดยมีฝิ่นเดินตาม เขาไม่ได้กลัวอะไรมันมากนักเพราะรู้ว่ามีพี่
ไม้อยู่ในบ้านอีกคน ถึงพี่แกจะตามใจน้องตัวเองหลายครั้ง แต่เขาก็คิดว่าปลอดภัยกว่าไม่มีอะนะ
และจะปลอดภัยมากกว่าถ้าไม่ต้องอยู่สองต่อสองกับมัน
“เมื่อก่อนอยู่สองคน?” มันพูดมาแค่นี้ก็รู้แล้วว่าต้องการอะไร
“อยู่กับไอ้พงษ์” เขาเลยตอบให้ซะ บ้านหลังเล็กๆสองชั้นสองห้องนอนสองห้องน้ำ แต่อยู่แล้วสบายใจ
กว่าบ้านหลังใหญ่โตซะอีก
“อ้อ ไอ้ดิว ไอ้พงษ์ มึง ตกลงมีความสัมพันธ์กันยังไงแน่” ฝิ่นพูดมือก็ถือวิสาสะเปิดตู้รื้อเสื้อผ้าเขาออกมากองเต็มพื้น
“ยังไง?”
“อย่าย้อนกู คิดว่าพี่ไม้อยู่กูไม่กล้าทำอะไรมึงรึไง” แล้วมันก็หันมาข่มขู่เขาทางสายตา เหอะ บ้าอำนาจ
นี่มันคงคิดว่าเขาชอบผู้ชายสินะ เขาท่าทางเหมือนเกย์ตรงไหน? ถึงได้สงสัยอะไรทำนองนี้
“พี่ดิวก็เป็นพี่ ไอ้พงษ์ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้ว” แก้วตอบ มันจะได้เลิกคิดไปเองสักทีเพราะถ้าเขา
ชอบผู้ชายจริงคงชอบพี่ภูไปแล้วล่ะ แก้วก้มเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาวางบนเตียง อีกคนก็ยังรื้อค้นไม่หยุด
“หึ” มันส่ายหน้าค้านหันมามองเขาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ พร้อมผลักแก้วที่ในมือถือเสื้อผ้าอยู่หงายหลังลง
เตียง แล้วตามมาคร่อมตัวจับมือเขาไว้บนเตียง แก้วหันหน้าหนี หนีจากสายตา หนีความความรู้สึกที่ชักจะเบลอๆขึ้นมาอีกแล้ว...
“มึงรักกูใช่ไหม” เสียงทุ้มกระซิบพร้อมเป่าลมเข้าหู แก้วย่นคอด้วยเพราะจั๊กจี้ “กูถาม” เขาพยักหน้า
หงึกๆโดยไม่หันกลับไปมองหน้ามัน “ตอบ”
“ระ รัก” แก้วกลั้นใจตอบ ...รักแค่คำพูด ไม่ได้รู้สึกตาม มันอยากได้คำตอบก็ตอบๆมันไปจะได้ออกไปไกลๆเขาสักที
“ไม่มีผู้ชายคนไหนบอกรักผู้ชายด้วยกันโดยที่ไม่ได้เป็นเกย์หรอกนะ” เขาหันมองหน้าไอ้ฝิ่นขวับ ก็เขาถูก
บังคับทางอ้อมนี่! อีกอย่างเขาไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น...เลยสักนิด “แล้วกูก็ไม่เชื่อด้วยจนกว่ากูจะรู้สึก ลุกมา
เก็บเสื้อผ้ามึงได้แล้ว” ฝิ่นลุกออกจากตัวเขา โยนกระเป๋าขึ้นมาบนเตียง แก้วลุกขึ้นนั่งใจยังเต้นแรงอยู่
อยากให้เขารักเขาก็พูดว่ารักมันแล้ว แต่มาบอกไม่เชื่อทั้งที่เขาต้องรวบรวมความกล้ากว่าจะพูดออกมาได้
ถึงจะเป็นแค่คำพูด แต่พูดออกไปโดยที่ไม่รู้สึกตามนั้นมันก็ยากนะ แล้วมันยังต้องการอะไรอีกไหนว่าแค่รัก
ก็จบไง
แต่เขาไม่อยากอยู่ใกล้มันแล้ว เขารู้สึกเหมือนโดนบีบให้สับสนยังไงอย่างนั้น อีกทั้งยังไม่เข้าใจว่าถ้ารักมัน
แล้วเรื่องจะจบยังไงด้วย หรือไอ้ฝิ่นมันเป็นเกย์แล้วมันชอบเขา เฮ้อ คิดไปโน่น...
“คือ...ให้กูอยู่บ้าน แล้วให้คนมาเฝ้าไม่ได้เหรอ” เขาลองยื่นข้อเสนอมันไป
“...................” ไอ้ฝิ่นส่ายหน้า โยนเสื้อผ้ามาคลุมหัวเขา แก้วถอนหายใจ อะไรๆก็ไม่ได้
วันนี้ใกล้เปิดเทอมเข้ามาทุกที แต่ไอ้ฝิ่นมันยังจะให้เขาอยู่บ้านมันต่อ จนพี่ไม้ที่ขัดมาตั้งแต่เช้ายังต้อง
ยอมเพราะพูดอะไรไปก็ไร้ผล เขาจึงต้องกลับบ้านมาเก็บชุดนักศึกษาเพื่อเอาไปไว้บ้านมัน
“โรงเรียนกูกับบ้านมึงก็อยู่คนละทาง อีกอย่างเทอมนี้กูก็ต้องฝึกงาน เดินทางไม่สะดวกแน่ กูขอแค่
นี้แหละ ยังไงกูก็ไม่ได้หนีไปไหนอยู่แล้ว” เขาฮึดบอกเหตุผลมันไปอีกครั้ง
“กูเชื่อมึงได้เหรอ”
“ถ้ากูจะปัดความรับผิดชอบกูคงไม่ทนจนถึงทุกวันนี้หรอก” ที่ผ่านมามันแสดงว่าเขาตั้งใจที่จะชดใช้ความ
ความผิดพลาดนั้นไม่พออีกเหรอ
“มึงไปเช้า ตอนเย็นก็นั่งรถไปบ้านกู ไม่เห็นจะลำบากตรงไหน จะเรื่องมากทำไมวะ กูไม่ตามมึงยันในโรงเรียนก็บุญเท่าไหร่แล้ว” กลายเป็นว่าเขาเรื่องมากอีก แล้วนี่ต้องขอบคุณมันด้วยไหมที่ใจดีไม่ตามคุมเขายันในโรงเรียน เฮ้อ...แต่...
“หึ มึงเฝ้ากูในโรงเรียนไม่ได้ แล้วมึงแน่ใจได้ยังไงว่ากูจะกลับบ้านตามคำสั่งมึง”
“กูเชื่อว่าต้องเห็นมึงที่บ้านก่อนหกโมงเย็น”
“แล้ว...แล้วถ้ากูไม่กลับล่ะ” แก้วยืดคอพูดอย่างเหนือกว่า ถ้าเขาไม่ไปมันจะทำอะไรเขาได้ แต่ถ้ามันยอม
ให้เขากลับมาอยู่บ้าน ได้ห่างกับมันสักหน่อย เขาก็ยังยินดีรับผิดชอบทุกอย่างตามเดิม
“กูก็จะเล่นโนTสักคนสองคนไม่เห็นต้องคิดมาก”
“มึง...”
“ไม่มีคำว่าปรานีสำหรับศัตรู” แก้วอ้าปากค้าง ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีข้อต่อรองเลยใช่ไหม
...........................
เอามาให้ค้างแล้วเราก็จะชิ่งไปแต่งตอนที่ ๑๓ ฮ่าๆๆๆ //ป๊าบบบ โดนโบก
จริงๆเอามาปิดตอนที่แล้วเฉยๆค่ะ ไอ้พงษ์จะมาทำไมไม่ได้ช่วยอะไรเลย เฮ้อออ
ปล.แก้วยังไม่มีสามี อย่าเพิ่งหาชู้ให้น้อง โอยยย :laugh:
แล้วก็ไอ้ฝิ่นมันไม่นั่งคร่ำครวญฉันไม่ใช่เกย์ๆเหมือนแก้วนะ แต่เดี๋ยวจะรู้ว่าทำไมมันถึงเลือกใช้วิธีนี้ ที่จริงตอนที่แล้วก็แย้มแล้วนะนิดหน่อย (หน่อยมากอะ)
ถ้าคุณได้รู้เหตุผลคุณคนอ่านคงอยากเตะอิคนเขียนมากเชื่อเหอะ กร๊ากกก
แต่วางมาแบบนี้แล้วอะ ยอมโดน :z6:
:pig4: ขอบคุณทุกคนมากนะคะ^^ กอดๆ
v
v
v
แว๊ก รีบจิ้มไวแท้ ฮ่าๆ จุ๊บๆ
-
จิ้มๆๆ
-
ตอนนี้เพิ่มสาเหตุที่พงษ์ทำร้ายเป้งมาอีกนิด นิด นิด :z3:
คนเขียนบอกว่าฝิ่นไม่ใช่เกย์ และแย้มไว้นิดๆ (ตอนไหน?) ว่าทำไมฝิ่นเลือกวิธีนี้
คนอ่านขี้เกียจเดา เพราะประเด็นนิดๆ ที่ว่ามันสามารถคิดได้จากหลายนิดหลายจุดเลยจ้า
สรุป รอเฉลยละกันนะ เง้อออออออออออออ :z3:
-
ยังคงไม่รู้เหตุผลต่อไป ฮ่า ๆ
-
ไม่เดา รอเฉลย :z2:
-
:z3: เดาไม่ถูกจิงๆ
-
หวงหล่ะสิ :z1:
-
พงษ์จะรู้ไหมว่าไอ้ที่ทำเพราะต้องการปกป้องแก้วน่ะ แก้วต้องมารับกรรมแทนเต็ม ๆ
-
พงษ์โผล่มาแวบนึงแต่ไม่ช่วยอะไร o18
ชีวิตแบบนี้มันจะดำเนินไปถึงเมื่อไหร่นะน้องแก้ว
:pig4: :L1:
-
รอ รอ รอ ตอนต่อไป
-
สงสารแก้วจัง
-
โหด เลว ไม่มีมีีดี
-
ฝิ่นฮิตเลอร์ คุณจงรับฉายานี้ไปแต่โดยดี
ปล.ยังคงสงlารแก้วเหมือนเดิม T^T
-
*วิ่งมากอดแก้ว* หุหุ พงษ์มาละไม่ได้อะไรเลยจริงจริ๊ง ไม่มีอะไรคืบหน้าเล๊ย
แต่ชอบพงษ์นะ ชอบพงษ์เรียกแก้วว่าตัวเล็ก น่ารักมาก
พี่ฝิ่นเถื่อนได้มากกว่านี้อีกไหม มันยังเถื่อนได้อีกนะ :laugh:
ปล. ยังเป็น FC พี่ไม้อย่างเหนียวแน่น :o8:
-
มันค้างอย่างแรงงงงงงงงงงงง :z3:
ปล. งงไม่เข้าใจความในอย่างแรง :เฮ้อ: รออ่านตอนต่อละกันเนาะ สู้ๆๆๆๆนะจ๊ะคนแต่งจ๋า :กอด1:
-
ขนาดคนเขียนแย้มแล้ว เรายังไม่รู้เรื่องเลย (ทำหน้าแบ๊วๆ) :m13:
เพราะฉะนั้นรอดีกว่า อิอิ
-
คนเขียนทำเราค้างทุกที
ทิ้งไว้ให้สงสัย
แล้วเราก็อยากรู้
-
ตอนนี้ชาชินกับ ความโหดร้ายของฝิ่นแล้ว รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะขืนใจแก้วทำเมีย
แล้วก็รอเวลาพงษ์จะรู้ แล้วบินกลับมาไทยเพื่อมาช่วย(?)แก้ว
-
เอาพงษ์กลับมาไห้แก้วและฝิ่นสับสนไง
เอิํ๊กๆ
ไงก็มาต่อเร็วๆนะ
เหมือนตอนมันจะหดลงๆ555+
-
โฮ๊ย อยากอ่านต่อ!!!
มันทำมึง คำตอบจากพงษ์ เจ็บใจจี๊ดกันเลยทีเดียว แย่แล้ว ลูกระเบิดรอเวลาอย่างเดียว
ฝิ่น นายตายแน่ๆ แต่ไม่รู้ตอนไหนแค่นั้น
กดเป็ดกดบวก ลงแดง รอออออออออ :z3:
-
สนุกมากๆครับ ค่อยๆเฉลยปมแล้วสินะ
-
ไม่เดา รอเฉลยดีกว่า
:z2: :pig4:
-
รอเฉลยกันต่อไป :o12:
-
รอต่อไป :really2:
-
:L2:มอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้คนเขียน :L2:
:L1:ตอนนี้เหมือนแก้วจะรักฝิ่นจอมโหดซะแล้วนะเนี่ย :L1:
-
กดดันแก้วมาก ระวังเขาหนีนะ
-
เห้อ อ่านตอนนี้แล้วอารมประมาณ
แน่นในจมูก เกือบน้ำตาปริ่ม แต่ยังไม่ถึง เห้ออออ
-
o13 o13 o13
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๓
“พี่ไม้หวัดดีครับ พี่ฝิ่นหวัดดีครับ” ไม้กับฝิ่นยกมือรับไหว้เด็กในสาย
“โจ้ล่ะ” ฝิ่นถามหารุ่นน้องคนสนิท
“ตุนของพี่” เขาพยักหน้ารับรู้ แค่เตรียมไว้แต่ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องใช้
ให้เชื่อไอ้แก้วน่ะเหรอ เขาไม่เชื่อหรอก ยิ่งมันพยายามตีตัวออกห่างกล้าขอกลับไปอยู่บ้านมันเองด้วยแล้ว
ยิ่งเป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาเลี่ยงไม่ได้คือต้องปล่อยให้มันไปเรียนตามปกติและรอดูว่ามันจะรักษาคำพูดได้
สักแค่ไหน ...หกโมงเย็นคือคำตอบ
.
.
.
“บั๊ดดี้” แก้วหันตามเสียงเรียก เรียกอย่างนี้ไม่ต้องสงสัย ทั้งโรงเรียนมีแค่คนเดียว เขายกมือไหว้พี่ภูที่เดิน
นำหน้าไอ้แสนมา พี่บุญธรรมที่เผอิญถูกชะตากันตั้งแต่แรกเห็น วันที่พี่ภูขึ้นร้องเพลงแนะนำชมรมดนตรี
สากล
แต่พี่ภูในวันที่เส้นเลือดไร้แอลกอฮอล์เพียงพยักหน้าบึ้งๆตอบแล้วเดินเลยไปนั่งที่ซุ้มหน้าตึกบริหาร
แก้วมองหน้าแสน
“มึงไปทำอะไรให้พี่เขาไม่พอใจรึเปล่าวะ” หน้าเชิดๆนิ่งๆบรรยากาศมาคุตั้งแต่วันแรกซะขนาดนี้
“กูที่ไหนล่ะ โน่นเฮียเลย” แก้วรีบยกมือไหว้พี่โซ่ประธาน๙T แล้วรีบเปลี่ยนเป้าหมายจากซุ้มเดินออกไปให้
ห่างๆ ยังไม่ทันได้พูดคุยกับพี่ด้วยซ้ำ
“มีอะไรกันอีกวะ” ถามไอ้แสนด้วยความเป็นห่วง พี่ภูเดือนโรงเรียน ที่หมายปองของทั้งเด็กช่างเด็กบริหาร
แต่เกิดถูกตาต้องใจประธาน๙Tคนที่ดุที่สุดในเทคโนTเข้า วันๆเห็นแต่ทำให้พี่ทุกข์ใจ
“เฮียเอาไอ้มิวไปกกที่บ้าน พี่ดันไปเจอพอดี สนุกสนานตามเคยบ้านนี้”
“มิว?” คงไม่ใช่คนเดียวกันนะ เขากับแสนเดินไปทางโรงอาหาร หาที่นั่งคุย
“ไม่ต้องสงสัย เมียเก่าไอ้พงษ์นั่นแหละ” แก้วอึ้ง “เห็นว่าตั้งแต่ไอ้พงษ์มีเรื่องมันก็เลิกกันเลย ชิ่งไวฉิบ
หาย” มิวต่างหากล่ะที่เลิกไปคนเดียว แต่ก็อย่างว่าใครจะอยากโดนหางเลขไปกับไอ้พงษ์ ที่เห็นก็มีแต่เขา
นี่แหละ
“อืม แล้วยังไงพี่โซ่เลี้ยงต่อเหรอ”
“เลี้ยงเหี้ยไรล่ะ ไล่กลับแทบไม่ทัน”
“อ้าว อย่างนี้ก็แย่นะสิ” แย่ทั้งกับผู้หญิง ทั้งทำร้ายจิตใจพี่ภูด้วย ถึงว่าพี่หนีไปเมากับพี่แชมป์อีกแล้ว
“มึงอย่าไปคิดแทนเขาเลย ผู้หญิงที่นี่บางคนมันก็เอาใครก็ได้ที่มีอำนาจไว้สร้างบารมีให้ตัวเอง ไม่ต่างจาก
เด็กช่างที่ต้องการเป็นใหญ่หรอก” เขาพนักหน้ารับฟังอย่างผ่านๆ
“แล้ววันนั้นที่ผับมึงเป็นอะไรมากไหม? โทษทีนะเว้ย” ตั้งใจว่าเปิดเทอมเจอกันจะได้ขอโทษมันสักที
เพราะเขาเป็นต้นเหตุแท้ๆเลย
“ไม่เท่าไหร่ว่ะ ดีที่มันตัวตัว ไม่งั้นกูคงไม่ได้ยืนคุยกับมึงอย่างนี้หรอก เออแล้วมึงไปอยู่กับสายนั้นได้ไงวะ”
เบาใจไปหน่อย เขานึกว่าพวกนั้นจะรุมแล้วซะอีก แต่ต้องคิดหาคำตอบมาให้มันน่ะสิ “ไอ้ดิวมา กูไปนะ
เกลียดขี้หน้าแม่งชะมัด” อ๊ะ จะเรียกไว้ก็ไม่ทัน แต่ก็ค่อยยังชั่วพอจะมีเวลาคิดหาข้ออ้างหน่อย
ไอ้แสนลุกออกจากโต๊ะ พี่ดิวก็เดินมานั่งลงข้างๆ
“พี่รอเราที่สายไม่ยักมาสักที นึกว่าจะไม่มาแล้ว”
“ผมมาเช้าน่ะพี่” มีโอกาสออกจากบ้านมันแล้วก็ต้องรีบออก อีกอย่างกว่าจะมาถึงโรงเรียนก็ยังต้องใช้
เวลานานกว่าปกติอีก
“แล้วไอ้ฝิ่นมันเอาแก้วไปไว้ที่ไหน พี่ตามไม่ได้เลยลูกน้องมันเพ่นพ่านเต็มไปหมด” แก้วกลืนน้ำลายลงคอ
เฮือก ถัดจากไอ้แสนก็มาพี่ดิวจนได้
“ไม่เป็นไรพี่ ผมปลอดภัยดี” พยายามเลี่ยงตอบ
“เดี๋ยวเย็นนี้พี่ไปส่งบ้านนะ” แก้วหลุบตาลงต่ำเพื่อหลบสายตาพี่ดิวที่มองเหมือนจับผิด
“ไม่เป็นไรพี่ ผมกลับเองได้” เขาไม่อยากให้ต้องวุ่นวายกันมากกว่านี้ ทุกอย่างกำลังจะเรียบร้อย เขาไม่
อยากเป็นต้นเหตุของการทะเลาะวิวาทให้เกิดเรื่องเกิดราวอีกแล้ว
“ทำไมล่ะ ไหนๆก็กลับทางเดียวกันอยู่แล้ว”
“เอ่อ คือ ผมมีธุระก่อนน่ะ” ก็วันนี้ไม่ได้กลับทางเดียวกันแล้วไงล่ะ แถมจำกัดเวลาไว้ให้แค่หกโมงเย็นด้วย
“อืม ก็เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อนไง” พี่ดิวยังคงเซ้าซี้ไม่เลิก เฮ้อ ...
“ผมลืมไปคืนนี้ผมรับปากไอ้แสนไว้ว่าจะไปค้างบ้านมัน” เอาเพื่อนนี่แหละมาเป็นข้ออ้าง คงไม่น่าแปลก
เท่าไหร่เพราะเขากับไอ้พงษ์ก็เคยไปค้างบ้านมันบ่อยๆ
“นี่แก้วยังไม่เชื่อใจพี่ใช่ไหม ขนาดไอ้พงษ์ฝากแก้วไว้กับพี่ แต่แก้วก็ตีตัวออกห่างตลอด บางทีพี่ก็คิดนะ
ว่าแก้วถูกไอ้ฝิ่นบังคับไปหรือเต็มใจไปกับมันกันแน่” ถึงกับสะอึก พี่ดิวชักจะยุ่มย่ามมากไปแล้ว
“พี่ดิว!” เขารู้สึกไม่พอใจมองหน้าพี่ดิวอย่างตำหนิ เขาจะถูกบังคับหรือจะเต็มใจมันก็เป็นเรื่องของเขา เขา
คิดมาดีแล้ว นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่เอะอะจะใช้แต่กำลังเหมือนพี่
“ไม่รู้ล่ะ แก้วหลุดจากมันวันนี้พี่ก็จะไม่ให้แก้วกลับไปหามันได้อีก” พี่ดิวบอกน้ำเสียงหนักแน่นไม่ได้แคร์
อะไรเลย แต่ถ้าเขาไม่กลับไปบ้านมัน เขากลัวว่าไอ้ฝิ่นจะหาเรื่องมาเล่นงานคนอื่นๆอีกน่ะสิ
“พี่ดิว” มองพี่ด้วยแววตาค้าน ยังไงเขาก็ไม่ยอมให้พี่มาทำให้เสียเรื่องหรอก
“หรือจะให้ไอ้พงษ์รู้เรื่องนี้”
.
.
.
พี่ดิว ประธานปี๓ ช่างไฟฟ้า รู้จักกันตั้งแต่วันรับน้อง หลังจากนั้นก็ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ เพราะ
พี่ดิวเริ่มสนิทกับไอ้พงษ์
เขาไม่เคยสนใจว่าพี่ดิวรู้เรื่องเขากับไอ้พงษ์มากน้อยแค่ไหน ด้วยความที่พี่ดิวชอบจู้จี้เซ้าซี้เขาตลอด เขาจึง
ไม่ใส่ใจการมีอยู่ของพี่ดิว แต่วันนี้ วันที่พี่เอาไอ้พงษ์มาอ้าง เขาจึงได้ฉุกคิด พี่ดิวต้องรู้ว่าเขาแคร์ไอ้
พงษ์มากกว่าใครแน่
แก้วถูกดันให้ขึ้นรถประจำทางและเดินไปนั่งเบาะหลังสุดโดยมีพี่ดิวนั่งประกบข้าง ตามด้วยเด็กช่างเต็มคัน
รถที่คอยรับหน้าให้ก่อนถ้าหากเกิดเรื่องระหว่างเดินทาง
ไม่อยากให้ไอ้พงษ์รู้กับไม่อยากขัดคำสั่งไอ้ฝิ่น เขาต้องเลือกสักอย่าง
ถ้าไอ้พงษ์รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนมันไม่อยู่บ้าง มันต้องรีบบินกลับมาหาเขาอยู่แล้ว และนั่นเขาจะต้องทำไอ้
พงษ์เสียอนาคตเป็นรอบที่เท่าไหร่ล่ะ
แต่ถ้าขัดคำสั่งไอ้ฝิ่น มันจะต้องไม่พอใจ จากที่โกรธแค่เขากับเพื่อนมันก็จะลามไปเป็นเรื่องของสถาบัน
ถ้ามีเรื่องกันขึ้นมา คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็อาจถูกลูกหลง
เขาอยากเลือกได้สักทาง แต่...ไม่เลย
ตอนนี้เขาเหมือนคนจนมุม จะไปทางซ้ายก็เหว จะไปทางขวาก็ไฟ ไม่มีทางเลือกสำหรับเขาเลย
“พี่เลยบ้านผมแล้ว” แก้วจะลุกแต่ลุกไม่ได้เมื่อรถวิ่งผ่านซอยเข้าบ้านไปแล้วแต่พี่ดิวดึงแขนเขาไว้
“พี่ปล่อยให้เราอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้หรอก” พี่ดิวพูดเบาๆให้ได้ยินกันสองคน ซึ่งนั่นมันลำบากเมื่ออยู่ใน
รถที่เต็มไปด้วยเด็กช่างที่เอาแต่ตะโกนคุยกันลั่นรถ
“ก็ไหนพี่บอกจะมาส่งไง”
“พวกนั้นมันรู้บ้านแก้วนะ เกิดมันอยากจับตัวเราไปอีกพี่จะทำไง ต่อจากนี้ให้พี่ได้ดูแลแก้วแทนไอ้พงษ์
นะ” พี่ดิวเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มาได้ยังไง เขาไม่เคยคิดจะเอาใครมาแทนที่ไอ้พงษ์อยู่แล้ว
“แต่ผมดูแลตัวเองได้” เอ่ยค้านด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย ไม่ชอบใจ
“เพราะพี่ไม่เลวเหมือนไอ้ฝิ่นใช่ไหมแก้วถึงไม่ให้โอกาสพี่” แก้วใจกระตุกวาบเมื่อพี่ดิวเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา
“อะไรนะ?”
“...พี่เจ็บแค่ไหนที่โดนมันหยามหน้า แก้วไม่รู้หรอก” พี่ดิวมองหน้าเขาจริงจัง คำพูดทั้งตัดพ้อทั้งต่อว่า
แล้วทำไมเขาจะต้องรู้ด้วย
“หยามหน้า?” เรื่องของศักดิ์ศรีอะไรกันอีกล่ะ “พี่จะมีเรื่องอะไรกันก็เรื่องของพี่เถอะผมคงช่วยอะไรใคร
ไม่ได้หรอก” ลำพังเรื่องของตัวเองก็ไม่รู้จะไปถึงไหนเลย
“เรื่องนี้ไว้เราคุยกันที่บ้านพี่ดีกว่า” พี่ดิวตัดบทสนทนาหันไปรับแก้วเบียร์จากเด็กในสายที่ยื่นมาให้พอดี
แก้วมองดูนาฬิกาข้อมือ สี่โมงห้าสิบนาที ถึงยังพอมีเวลาเดินทาง แต่เขาก็ไม่รู้จะออกห่างจากพี่ดิวได้ยังไง
.
.
.
“อ้าว ไอ้แก้ว” แก้วปั้นหน้าให้เป็นปกติทั้งที่ในใจเป็นกังวลหนัก ยกมือไหว้พี่ดีพี่ชายพี่ดิวศิษย์เก่าเทคโนT
ซึ่งตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว
พี่ดิวเดินไปยืนประจันหน้ากับพี่ชายที่ส่งยิ้มให้แก้ว แล้วกลับมาดึงแขนเขาพาเดินผ่านเพื่อขึ้นห้อง
เขาเห็นรอยยิ้มคล้ายนึกสนุกของพี่ดี แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร
แก้วมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้ง ห้าโมงครึ่ง... ป่านนี้ไอ้ฝิ่นมันจะรู้หรือยังว่าเขาไม่สามารถกลับบ้านมันได้แล้ว
“เสื้ออยู่ในลิ้นชักนะ” เขาก้มเปิดลิ้นชักที่แยกเสื้อผ้าไว้ต่างหาก แต่หยิบเสื้อพงษ์ออกมา บ้านพี่ดิวเป็นที่
สำหรับรวมกลุ่มเด็กปี๓ เพราะพ่อกับแม่พี่ดิวไม่ได้อยู่ที่นี่ เป็นอีกหนึ่งที่ๆไว้ดื่มไว้กินหรือนัดรวมกลุ่มกัน
เวลาจะมีเรื่อง เขากับไอ้พงษ์เคยมาค้างที่นี่บ้างเวลาที่มันเมาจนเขาลากกลับไม่ไหว จึงต้องมีเสื้อผ้าทิ้งไว้
สองสามตัวไม่ต่างจากเด็กในสายคนอื่นๆก็ทิ้งไว้เหมือนกัน
ใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดสีแดงของไอ้พงษ์เดินออกจากห้องน้ำ
พี่ดิวลุกจากเตียงหยิบผ้าเช็ดตัวพาดบ่าเดินสวนกันแค่มอง แต่ไม่พูดอะไร เขาจึงคิดว่าลงไปรอพี่ข้างล่าง
น่าจะดีกว่านั่งเซ็งอยู่คนเดียว
เดินลงชั้นล่างเห็นพี่ดีถือถุงกับข้าวมาจึงเข้าไปช่วยถือ
“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอแก้ว” พี่ดีก้มหน้ามาใกล้ๆในจังหวะที่เขารับถุงจากมือ
“ครับ” ที่จริงไม่ต้องถามก็น่าจะเห็นว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนะ
“ไอ้ดิวอาบน้ำอยู่เหรอ”
“ครับ” เขาตอบอีกครั้ง เอาถุงกับข้าววางไว้ที่โต๊ะ พลางขยับตัวออกห่างจากพี่ดี
“เดี๋ยวพี่ตักข้าว เอ็งแกะกับข้าวได้เลยนะ เดี๋ยวมันก็ลงมา” เขาพยักหน้ารับ หยิบถ้วยหยิบจานออกมาวาง
อยู่ๆพี่ดีที่น่าจะไปตักข้าวกลับมายืนช้อนหลังแล้วเอื้อมมือมาหยิบถุงกับข้าวจากมือเขา
“หอม” เสียงพูดเบาๆข้างหู แก้วรู้สึกแปลกๆรีบเหวี่ยงตัวหลบ
“ครับ?” มองหน้าพี่ดีด้วยความข้องใจ
“หอมกับข้าวน่ะ” อ้อ แก้วจึงหยิบกับข้าวถุงใหม่มาแกะ
“ทำอะไรกัน?!” เสียงพี่ดิวมาก่อนตัว พี่ดียักไหล่หน้าระรื่นแกะกับข้าวใส่จานเฉย
“ไม่ช่วยแล้วยังโวยวาย เนอะ” พี่ดีหันมาพยักพเยิดหน้ากับแก้ว เขาจึงเลี่ยงไปตักข้าวแทน
“คนนี้อย่ายุ่ง” เสียงพี่ดิวพูดเบาๆแต่เขาได้ยิน ถึงไม่หันกลับไปมองก็พอเดาออกว่าพี่ดีคงยักไหล่ไม่ก็ตีคิ้ว
กวนน้องชายอยู่แน่เลย
“อย่าเข้าใกล้ไอ้ดีตอนพี่ไม่อยู่รู้ไหม” พี่ดิวพูดขณะเดินขึ้นห้องปล่อยให้พี่ดีล้างจานคนเดียว เห็นพี่ดิวบอก
ว่าวันนี้เวรพี่เขา
“แค่พี่ดีช่วยแกะกับข้าว นี่พี่เป็นอะไรเนี่ย” ชักจะเยอะขึ้นทุกที
“นี่แก้วไม่รู้อะไรเลยรึไง อย่างแก้วน่ะ...เฮ้อ ไอ้ดีน่ะมันจ้องจะแต๊ะอั๋งเราอยู่นะ ถ้าพี่ลงไปช้ากว่านี้มันคงทำ
มากกว่านี้แล้วล่ะ” พี่ดิวก็พูดอย่างกับว่าเขาควรจะสงวนตัวให้มากกว่านี้ยังไงอย่างนั้น
“พี่น่ะ คิดเยอะไปรึเปล่า ผมก็ผู้ชายเหมือนพี่เหมือนพี่ดีนะ กอดคอกินเหล้ากันก็เคยมาแล้ว” แก้วนั่งลงบน
เตียงจัดที่นอน “วันนี้ผมนอนข้างนอกนะ” บอกพี่ดิวเพราะทุกครั้งที่มาเขาจะนอนชิดผนังห้องแล้วมีไอ้พงษ์
คั่นกลางระหว่างเขากับพี่
“ไอ้ดีน่ะ ผู้ชายมันก็เอา” พี่ดิวขึ้นไปนั่งฝั่งตัวเองก่อนจะเอนหลังนอน ...แก้วถึงกับเงียบ แต่พี่ดีไม่น่าจะมา
คิดอะไรกับเขานะเพราะเขาไม่ได้ตุ้งติ้งอะไรสักนิด หน้าตาก็ไม่ได้หวานแหววเหมือนผู้หญิงสักหน่อย ทำไม
พี่ดิวถึงคิดอย่างนี้ได้ ก่อนจะเม้มปาก หันหน้าไปก้มถามพี่ ฮึดพูดออกไป
“แล้วพี่ล่ะ” พี่ที่ทำตัวออกนอกหน้าจนไอ้ฝิ่นมันคิดว่าเขาเป็นเกย์ คิดจะแตะอั๋งเขาตลอดด้วยรึเปล่า
แก้วลุ้นกับคำตอบ
“พี่หวังดีกับเรานะ แค่ได้ดูแล ได้อยู่ข้างๆเราพี่ก็พอใจแล้ว” พี่ดิวมองเขาด้วยแววตาเป็นประกาย อมยิ้ม
พอใจที่ได้พูด แก้วรีบหันหน้าหนี
“นะ นอนเถอะ” ถึงพี่จะตอบอย่างนั้นแต่มันไม่ได้ฟังดูดีไปมากกว่าพี่ระแวงพี่ดีเลย นี่เขาเป็นเกย์อย่างที่ไอ้
ฝิ่นว่าจริงๆเหรอ
แก้วนอนตะแคงหันหลังให้พี่ดิว มือใหญ่ของพี่ลูบเบาๆที่ศีรษะคล้ายต้องการกล่อมให้หลับฝันดี ก่อนที่มือ
อีกข้างจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงไหล่เขาและพี่ยังวางมือไว้ตรงนั้น
แต่ทำอย่างนี้ยิ่งทำให้เขานอนไม่หลับ แก้วนอนนิ่งไม่ไหวติงจนรู้สึกได้ว่าพี่ดิวน่าจะหลับแล้ว
เขาจึงค่อยๆพลิกตัวนอนหงาย จับมือพี่ดิวเบาๆออกจากตัว
แล้วหยิบหมอนลงไปขดตัวนอนกับพื้นข้างเตียง
...........................
ชื่อเล่น แก้ว
อายุ ๑๗ ย่าง ๑๘ ปี
ส่วนสูง ๑๗๒ เซนติเมตร
น้ำหนัก ๔๕ กิโลกรัม
ปวช.๓ สาขาช่างอิเล็กทรอนิกส์
............................
ตอนที่แล้วมึนกันอย่างสนุกสนาน ฮ่าๆ
เช่นเดิม อย่าสนใจตัวประกอบมากนักนะคะ แต่เดินเรื่องได้ทุกตัวสิ เอ๊ะ ยังไง
ตอนที่แล้วมีจับได้ว่าแอบหด ฮ่าๆ ทีตอนยาวๆไม่เห็นทักเค้าเลย เช๊อะ //สะบัดหน้า แอร๊ยยย คอเคล็ด ฮ่าๆ
ปล.อาทิตย์นี้อัพสามวันติดแล้วใช่ไหม (ลืม แต่คิดว่าใช่) กรี๊ดดด สู้ๆ :-[
:pig4:ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ เห็นคอมเม้นท์แล้วสนุกที่จะเขียนมากเลย^^ กอดๆ จุ๊บ
เง้ออ งอนตัวเองใช้ตัวหนังสือผิดสี ไปเวลดีกว่า :seng2ped:
-
:กอด1:
-
เวรกรรม งานจะเข้าแก้วหรือเด็กเทคโนT คนไหนอีกล่ะเนี่ยยยยย :serius2:
คืนนี้ไอ้ฝิ่นวีนอีกแน่ ชัวร์ :m16:
-
everything is ok :เฮ้อ:
มีปากทำไมไม่พูดล่ะแก้วเอ๋ย
-
ถ้าอัพ7วันติดจะเทพมากๆค่า กรี๊ดดดดด สู้ๆ
สูง 172 หนัก 45 -*- ผอมมากเลยนะแก้ว สงสัยเพราะโดนฝิ่นทารุณใช่มั๊ยเนี่ย (แต่ชอบผู้ชายชื่อแก้วจังเลยอ่า >\\\<)
ตอนนี้พี่ดิวเต็มๆตอนเลย^^ แต่ตอนหหน้าฝิ่นจะขโมยซีนกลับมาใช่ม่ะ 555 กลับมาทวงตำแหน่งพระเอก รีบๆมาและรีบทำคะแนนนะ เพราะน้องแก้วฟีโรโมนกระจายมาก (และคนอ่านจะไม่เชียร์เอ็ง ถ้ายังทำตัวอย่างนี้ XD)
รอดูงานเข้าตอนหน้า ^^ ขอบคุณค่า
-
เหมือนแก้วจะติดที่ต้องนอนกะพื้นแฮะ :pig4:
-
คุณฝิ่นคงจะอาละวาดแน่ เห้อ
-
เย้ๆๆๆ มาให้ได้อ่านทุกวัน
เหอะๆ ตอนหน้า ฝิ่นระเบิดแน่ๆ เฮ้ออ แก้วจะโดนรัยมั้ยเนี่ย
-
แก้วจะเป็นไงต่อนะ อยากรู้จังคับ มาต่อไวๆๆๆนะคับ
-
เป็นห่วงแก้วจัง ฝิ่นยิ่งบ้าๆอยู่อ่ะ
-
พี่ดิวพามาบ้านก็ใช่จะปลอดภัย ต้องระวังอิพี่ดีอีก
เหวย ๆ แก้วไม่กลับบ้าน ฝิ่นผีเข้าแน่
-
(ไอ)พี่ดี มาดมแก้วได้ไง เรายังไม่เคยได้ดมเลยน๊ะ ...เอ๊ะ!?
ไม่ใช่ซิ รู้สึกเหมือนโดนชู้ฉูดไปเลยแหะ เดี๋ยวเจ้าของเค้ามาตามกลับละจะหนาวนะ
ปล. พงษ์แก้วก็โอเค พงษ์ชอบโอ๋แก้ว :กอด1:
-
ชักอยากให้แก้วอยู่กับฝิ่นมากกว่าพี่สองคนนี้แล้ว
แก้วผอมมากอะ
:L2: :pig4:
-
แก้ว sos // sms ไปบอกฝิ่นก่อนดีมั้ย
คาดว่า ฝิ่นเป็นหมาบ้าแน่ๆ เพื่อนๆแก้วมีเจ็บชัวร์
-
แก้ว ฟีโรโมนกระจายมากกกกกกกกกกก
อยากเห็นฝิ่นหึงขั้นรุนแรง 55555555555
-
...มาแล้วกลิ่น...โหดดดดดดดดดดๆๆโชยมาแล้ว ฝิ่นมันจะคุ้มคลั่ง ตามมายิงกันหน้าบ้านดิวไหมหว่า
...อ้าวคุณพี่ดี ก็เกย์บ้านนี้เกย์ทั้งบ้าน แล้วมาแต๊ะอั๋งน้องแก้วของช้านอีกคนแล้ว คนน่ารักมันโดนรุม..รัก :laugh:
-
มาปูเสื่อรอตอนหน้า :mc4: :mc4:
ไอ้ฝิ่นมันมาดีเดือดยกพวกมาตีแน่ๆเลย ยิ่งห่ามๆโง่ๆอยู่ด้วย o22
สงสารแก้วง่ะ :กอด1:
ปล.อยากรู้เรื่อง พี่ภู กับ พี่โซ่ด้วยอ้ะ ขอเปงตอนพิเศษได้ม้ายยย :-[
-
งานจะเข้าแก้วแน่เลย
-
ตาย ผิดเวลา ฝิ่นตามมาแน่ๆเลย
-
สับสนแทนแก้ว เป็นสาเหตุของเรื่องรึเปล่า ฝิ่นคิดจะทำอะไร ดิวเกย์รึเปล่า
ตัวเองเกย์เหรอ [ต่อให้ไม่เกย์ หลงมาเล้านี้ ก็ต้องได้สามีแน่น้องแก้ว คริๆๆ :laugh:]
-
สงสารดิวนิดๆก็คนมันชอบอยากดูแลนี้เนอะ
ทำไงได้
แล้วไอ้ฝิ่นมันไม่โมโหตายเลยหรอ เห่อ
เป้นเรื่องอีกละ
ความซวยนี้วิ่งเข้าใส่จังเลยนะ
สงสารแก้วนะ
-
ฝิ่นตามมาได้เจ็บตัวอีกแล้วมั้งนี่
-
แก้วเอ้ยย รอรับความทรมานเลยลูก ไม่พลาดดดดดดดดดดดด :monkeysad:
-
โอ้ยยย จะโดนฝิ่นลงโทษมะเนี่ย :z10:
-
ทำไมแก้วหนักกว่าเค้าแค่สามโลเองอ่ะ :z3:
ตัวเล็กมากๆๆๆ o22
ว่าแต่อิตาฝิ่นไม่เป็นลมบ้าหมูตายไปแล้วเหรอนั่น แก้วหายตัวไปทั้งคืนแบบนี้อ่ะ :a5:
-
ตอนหน้าใครจะได้เลือดบ้างเนี่ย
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๔
เพล้ง!!!
เสียงแก้วหลังถูกปาใส่ผนังด้วยความโกรธ
โจ้หน้าเสีย รินเหล้าใส่แก้วใบใหม่วางไว้ตรงหน้าพี่ก่อนจะรีบไปเก็บกวาดเศษแก้วที่กระจัด
กระจายเต็มทางเดิน...อีกรอบ
ฝิ่นจับแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นมาบีบไว้แน่น คล้ายต้องการให้มันแตกคามือ
“โจ้ๆเปลี่ยนช่องดูบอล” ขัดกับพี่ไม้ที่นั่งไขว่ห้างดูโทรทัศน์แล้วจิบเหล้าพร้อมหยิบกับแกล้มเข้าปากเรื่อยๆอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน
“แม่ ไอ้แก้วกลับถึงบ้านรึยัง” เขากดโทรศัพท์โทรออกถามข่าวจากที่บ้านตนอีกครั้ง
“ยังไม่เห็นเลย ทำไมหนูไม่โทรเข้าเบอร์เพื่อนล่ะลูก”
“หนูไม่มีเบอร์มัน” พูดไปก็โมโหตัวเอง ทำไมไม่รู้จักเมมเบอร์มันไว้ก่อนวะ
“ไปดูที่บ้านรึยังลูก แม่ว่าเจ้าแก้วคงกลับบ้านเขาล่ะมั้ง”
“หนูรออยู่บ้านมันเนี่ย” รอตั้งแต่สามทุ่มแล้ว กลับมานะกูจะกระทืบให้ลุกไปเรียนไม่ไหวเลย
ตอแหลกูดีนัก เชื่อใจๆถุย เหี้ยเอ้ย “แม่แค่นี้นะถ้าเห็นมันกลับแล้วโทรบอกหนูด้วย”
“อืมๆจ๊ะ ถ้ายังไงตามเพื่อนด้วยนะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าก็ไม่รู้ อยู่ๆก็หายไปแม่ใจไม่ดีเลย” แม่บ่นส่ง
ท้ายด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะวางสาย
...แม่ก็เป็นห่วงเพื่อนเขาทุกคนนั่นแหละ แต่ไอ้แก้วมันจะเป็นอะไรไปได้นอกจากต้องการหนีความผิดน่ะแม่
ฝิ่นกระดกเหล้าเข้าปากทีเดียวหมดแก้วแล้วยกขึ้นสูงหมายจะปาใส่ผนังบ้านมัน
“แก้วบ้านเขาจะหมดแล้วมั้ง” ไม่ช่วยแล้วยังจะขัดอีก
เขาเหล่ตามองพี่ไม้ที่กระดิกเท้าอย่างสบายอารมณ์ เห็นแล้วชวนหงุดหงิด จึงลุกยืนเพื่อจะเดินไปเข้าห้องน้ำสงบอารมณ์สักหน่อย
“พี่ฝิ่นหยุด!!”
“อ๊ะ ซี๊ดดด เหี้ย!” ฝิ่นกระโดดยกเท้าขวา ร้องลั่นบ้าน
โจ้ที่ในมือถือไม้กวาดกับที่ตักกำลังเก็บเศษแก้วร้องบอกแล้วแต่ไม่ทัน ฝิ่นดันเหยียบเศษแก้วที่
ตัวเองทำซะก่อน
รุ่นน้องทำหน้าหน้าแหย๋เพราะกลัวความผิด โจ้จึงรีบกวาดๆเศษแก้วที่เหลือให้ออกไกลๆเท้าพี่ แล้วดึงตัวเขากลับมานั่งที่เดิม
“สวย” เสียงคนเชียร์บอลอยู่ข้างๆพร้อมปรบมือฉาดใหญ่ดังขึ้นได้จังหวะพอดี
“พี่ไม้ก็ทับถมดีจริงจริ๊ง” โจ้ส่ายหน้าแซวพี่ใหญ่ก่อนจะหันมาทางเขา “ผมอุตส่าห์เตือนพี่แล้วนะ ไม่ต้องมาด่ากันทีหลังด้วย”
“เตือนเหี้ยอะไรของมึง” เตือนตอนเขาเหยียบแล้วนี่นะ “มึงรีบๆไปหาอะไรมาพันตีนกูให้ไวเลยนะ ซี๊ด แม่งคนไม่อยู่ บ้านยังเลวใส่กูได้อีก” อย่าให้เจอนะ กูจะเอาคืนให้หนักเลย
“โหย ผมจะไปหาจากไหนพี่ฝิ่น กลับไปทำแผลที่บ้านพี่กันเถอะ เดี๋ยวผมรอมันอยู่นี่เอง” ไอ้นี่มึงก็รื้อหาสิวะ ยากตรงไหน
“นี่ๆ เลิกเถียงกันได้แล้ว รบกวนกูไหม มารยาทน่ะมีกันบ้าง” ปากพูดแต่ตาไม่ยอมหันหนีจากจอโทรทัศน์เลย
ใช่สิ เขาไม่ใช่น้องรักนี่
“จิ๊ พี่ห่วงผมสักนิดไหมวะ เห็นไหมเนี่ยเลือดออกเต็มตีนอยู่เนี่ย” เอาแต่จะคอยสมน้ำหน้าท่าเดียว
พี่ไม้หันมองเท้าเขาตามที่มือชี้ให้ดู แล้วพี่ก็จับยกขึ้นวางพาดโต๊ะกระจกเตี้ยๆซึ่งตอนนี้วางขวดวาง
แก้วเหล้าอยู่ แล้วหยิบแก้วเหล้าของตัวเองเทราดใส่เท้าเขา
“อ๊าก เย็นๆๆ ทำบ้าอะไรของพี่วะ”
“แอลกอฮอล์ล้างแผล”
“อุ๊บ ...ฮ่าๆๆๆๆ”
“ไอ้โจ้!” ตวาดไอ้โจ้ที่ไปรับมุกพี่ อยากจะต่อว่าพี่ว่ารักน้องไม่เท่ากันจริงๆแต่คิดว่าเอามาพูดเวลานี้คงยังไม่เหมาะ
จึงได้แต่นั่งหน้ามุ่ยให้ไอ้โจ้เอาน้ำสะอาดมาล้างแผลซ้ำไปก่อนแล้วเอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆของมันมาซับเท้าตัวเองไปพลางๆ
เขาส่งรุ่นน้องกลับบ้านเสร็จตั้งแต่ห้าโมงเย็น ไม่ได้หวังว่าจะเห็นมันกลับเข้าบ้านหกโมงเป๊ะหรอกนะแต่แค่ตั้งเวลาบีบไว้เล่นๆเท่านั้น
แต่หกโมงครึ่งก็แล้ว ทุ่มสองทุ่มก็แล้ว ก็ยังไม่เห็นหัวมันโผล่เข้าบ้านจนเขาต้องชวนพี่ไม้กับไอ้โจ้มาดูที่บ้านนี้เผื่อว่ามันจะขัดคำสั่งเขาแล้วมาที่นี่ จนตอนนี้สี่ทุ่มกว่าก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ...นี่มึงตั้งใจหนีใช่ไหม
นึกแล้วเชียวทำไมอยู่ดีๆไอ้แก้วมันคิดจะกลับมาอยู่บ้านเพราะนอกจากจะชิ่งหนีความผิดแล้วจะมีเหตุผลอะไรได้อีก ในเมื่อบอกแล้วไม่ยอมทำตาม กล้าทำลายความเชื่อใจเขา เขาก็จะทำให้มันเห็นว่าเขาพูดจริงแล้วก็ทำได้จริง กล้าไม่รักษาคำพูดกับเขา มันก็ต้องมีตัวอย่างให้เห็นบ้างล่ะ
“มันหนีไปอยู่ไหนวะ”
“มันสนิทกับไอ้พงษ์ก็ใช่ว่ามันจะมีเพื่อนแค่คนเดียวนี่พี่” ไอ้โจ้พูดบอก ใช่มันมีเพื่อน แต่มันจะไปอยู่บ้านใครที่คุ้มหัวมันได้ล่ะ
“ไอ้ดิว!” เขาอุทานออกมา ใช่ มันยังเหลือไอ้ดิวอีกคนที่คอยคุ้มกะลาหัวมันอยู่ งั้นกูก็จะเล่นไอ้ดิวนี่แหละให้มึงดู จะได้รู้สักทีว่าถ้ากูไม่ปล่อย หน้าไหนมันก็เจ็บได้ทั้งนั้น
.
.
.
ฝิ่นในชุดนักศึกษาแต่สวมรองเท้าแตะ เท้าขวามีผ้าพันแผลพันไว้อยู่ แต่ยังเดินทางไปวิทยาลัย
จนถึงแยกระหว่างทางไปเทคโนTกับอาชีวะx ฝิ่นกับพวก ลงจากรถประจำทางเพื่อรอต้อนรับการเปิดเทอมและสั่งสอนไอ้แก้วไปในตัว
“ดักรอมันตรงนี้ เล่นไอ้ดิวให้ได้ เอาคนใกล้ตัวมันนั่นแหละ แต่ถ้าใครแส่ก็จัดการได้เลย” ฝิ่นสั่งรุ่นน้อง
“พี่จะเอาด้วยเหรอ เดินไหวไหมนั่น” ไอ้โจ้ถาม กะอิแค่ตีนเจ็บกูไม่ได้พิการนะเว้ย แล้วที่ตีนกูเป็นอย่างนี้เพราะใครล่ะ กูไม่ปล่อยให้มันอยู่อย่างสบายใจหรอกนะ
“แค่นี้กูไม่ตายหรอก แต่คนที่ไม่รักษาคำพูดกับกูน่ะ ต้องถูกสั่งสอน”
“พี่รอฟังข่าวละกัน เดี๋ยวผมเคลียร์ให้” ไอ้โจ้ส่ายหน้าไม่เห็นด้วย เอ่ยขัดความตั้งใจ เขาฮึดอัดลองทิ้งน้ำหนักลงเท้าจะได้ชิน แต่มันเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันทีเลยได้แต่พยักหน้าเออออตามมัน แต่ก็ไม่วายสั่ง
“เล่นให้หนักเอาแค่เจ็บ ระวังตัวกันด้วย” เอ่ยปากสั่งไอ้โจ้ ยกเท้าขึ้นมาดู เหี้ย เลือดซึม บ้าฉิบหาย
“ลูกพี่ไรวะ นั่งรออย่างเดียว” พี่ไม้ไม่วายเย้ยหยัน เหอะ กูคนนะเว้ยไม่ใช่หุ่นยนต์ แล้วมาได้แผลที่ตีนเนี่ย กูจะเอาอะไรเดินไม่ทราบ กัดกูได้ทุกเม็ดสิน่า
“เมื่อก่อนไม่เคยสั่งผมเลยเนอะ” พี่ไม้เฉไฉด้วยการตบหัวเขาเมื่อโดนย้อน ดีนะไม่มีเด็กในสายคนอื่นแล้ว ไม่งั้นเสียภาพพจน์ประธานสายฉิบหาย
“ไปรอที่วิทยาลัยดีกว่า เกิดตำรวจวิ่งมา กูไม่มีปัญญาแบกมึงหลบหรอกนะ” พี่ไม้พูดเสร็จเดินล้วงกระเป๋าไปยืนโบกแท็กซี่ก่อนเลย เขาจึงต้องรีบเขย่งเท้าเดินตาม
ไอ้โจ้กับพวกเข้ามาวิทยาลัยเกือบสิบโมง เขารู้ฝีมือลูกน้องดีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องห่วงอะไร
“ไอ้ดิวหัวแตก มีคนเล่นสนับมือ ผมห้ามไม่ทัน” ฝิ่นหยักหน้า ก็บอกแล้วเอาให้เจ็บ จะเจ็บด้วยวิธีไหนก็ทำไปเถอะ “ส่วนไอ้แก้วประธานสายคุมอยู่ ผมเข้าใกล้ไม่ได้” ไม่เป็นไร ไม่ได้จะทำอะไรมันอยู่แล้วแค่ต้องการให้มันได้เห็นแค่นั้นพอ
แต่มันก็ใช่ย่อยเหมือนกันนอกจากไอ้ดิวแล้วยังมีถึงไอ้แชมป์คุ้มหัวอีก แต่... ปล่อยมันไปก่อน คนอย่างไอ้แก้วถ้ามีตัวอย่างให้เห็นสักสองสามครั้ง เดี๋ยวก็กลับมาอยู่แทบเท้าเขาเองนั่นแหละ
“ฝั่งเราล่ะ” เอ่ยถามสภาพลูกน้องตัวเอง
“เล็กน้อยพี่ ไม่ได้มากไปกว่าทุกครั้ง”
“อืม” เขาพยักหน้ารับ ถ้าโจ้บอกไม่เป็นไรก็คืออย่างนั้น อีกอย่างเรื่องอย่างนี้เด็กบางคนมันก็รอวันเล่นอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องสนุกของพวกมันซะอีก
ใครอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ แค่รักษาตัวเองให้รอดก็พอแล้ว
คนเป็นพี่ใหญ่อย่างเขาทำใจไม่ได้หรอกนะถ้าต้องเห็นน้องหรือเพื่อนของตัวเองต้องเจ็บหรือตาย...
แต่ลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ มึงทำกูเจ็บ มึงต้องเจ็บมากกว่ากู
เรื่องเก่ายังชดใช้ไม่ได้ อยากก่อเรื่องขึ้นมาเพิ่มทำไม ช่วยไม่ได้จริงๆ
จำไว้เป็นบทเรียนนะไอ้แก้ว นี่แค่คำเตือนเล็กๆน้อยๆ รอวันที่แผลกูหายเมื่อไหร่ มึงได้ทุกข์ใจจนแทบกระอักเลือดแน่
..................................................
สั้น!! :-[
……………………………………
ชื่อเล่น ไม้
อายุ ๒๐ ปี
น้ำหนัก ๑๘๐ เซนติเมตร
ส่วนสูง ๖๔ กิโลกรัม
ปวส.๒ ช่างยนต์
ประธานสาย๕x ปีที่แล้ว
ได้ข่าวว่าเป็นแค่พี่พระเอกไหงโปรไฟล์มาก่อน... ก็เค้ารักของเค้านี่ ฮ่าๆๆๆ
ชื่อเล่น ฝิ่น
อายุ ๑๙ ปี
น้ำหนัก ๑๗๗ เซนติเมตร
ส่วนสูง ๖๕ กิโลกรัม
ปวส.๑ ช่างยนต์
ประธานสาย๕x ปัจจุบัน
............................
มีคำไม่สุภาพอยู่นะคร๊าบ เด็กๆไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง
แต่ก็นะ จะให้ไอ้ฝิ่นพูดเพราะกว่านี้นิยายก็คงเลี่ยนแปลกๆพิลึก ฮ่า
คนอ่านน่ะ!! //ประท้วงๆโวยวายๆ ถ้าจะรู้ใจไอ้ฝิ่นกันขนาดนี้ล่ะก็...คนเขียนจะเอาอะไรมาหากินเน้อ โฮฮฮ
ช่วง...ชงตัวเอง ... ตอนนี้ก็ปาไปตอนที่ ๑๔ แล้ว //แปะ แปะ แปะ ปรบมือ (เยอะตรงไหน?) คนอ่านที่ติดตามกันมาอย่างมึนงงตั้งแต่ตอนแรกยันตอนนี้ ด้วยความที่ซีซั่นเป็นคนบกพร่องเรื่องการเรียบเรียงคำพูด เอ่อ อย่างหนัก เขียนนิยายเรื่องนี้ออกมาก็ด้วยความอยากล้วนๆ คนอ่านคิดว่าภาษาในนิยาย งงน้อยลงไหม? เค้าว่าน้อยลงแล้วนะ ใช่เปล่า คนอ่านว่าไง?
เสาร์ อาทิตย์ ไม่อัพนะคร๊าบบบ ไม่อยากเป็นเทพ //สะบัดหน้าใส่คุณratnalin ไม่ต้องมายุเลย เค้าทำไม่ได้ ฮ่าๆ
ปล.แก้วผอมจริงๆค่ะ คงต้องหายาดีให้น้องไวๆซะแล้ว คิกคิก
:pig4: ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ^^ กอดๆจุ๊บ
แฮ่ม ลืมบอก เดี๋ยวมีตอนนอกรอบตอบแทนคนอ่านนะคะ แต่ยังไม่ใช่เร็วๆนี้^^
-
สงสารแก้ว ตอนหน้าจะโดนอะไรมั้งเนี้ย
-
อ่า แก้วน่าสงสารที่สุด ไอ้ฝิ่นนะไอ้ฝิ่น
โหดร้ายที่สุด ให้พี่ไม้เป็นพระเอกยังจะดีกว่า ไอ้เด็กฝิ่น ชิ
-
แก้วเอ๊ย จะรอดไหมครับคราวหน้านี้
-
มาปลื้มพี่ไม้ :-[
:pig4: :L2:
-
เมื่อก่อนไม่ค่อยชอบพวกเด็กช่างเท่าไหร่ แต่พออ่านเรื่องนี้แล้วน่ารักดีนะ แก้วอ่ะ
แต่ก็แอบงงๆ กับลอจิคของเด็กพวกนี้เหมือนกัน
-
สั้นได้ใจมากเลย
-
เห็นเค้าลางความซวยของหนูแก้ว :m29:
-
:เฮ้อ: สงสารแก้ว
ไอฝิ่นแกโหดมากกกก
เมื่อไหร่จะจับแก้วทำเมียสักที รอกันเหงือกแห้งแล้ว :laugh:
-
“ไปรอที่วิทยาลัยดีกว่า เกิดตำรวจวิ่งมา กูไม่มีปัญญาแบกมึงหลบหรอกนะ” พี่ไม้พูดเสร็จเดินล้วงกระเป๋าไปยืนโบกแท็กซี่ก่อนเลย เขาจึงต้องรีบเขย่งเท้าเดินตาม
กร๊ากกกกกกกกกกกก...ไม่ได้อินไปกับความสะใจของไอ้คุณฝิ่นเลย เพราะเจอประโยคข้างบนเข้าไปก็ฮาหงายเก๋งสิบแปดตลบเลยจ้า :laugh:
กดไลท์ให้พี่ไม้สิบล้านครั้ง o13 :laugh:
โธ๋ ไอ้คุณฝิ่น ไอ้ขี้คุยเอ๊ยยยยยยยยยยย :m20:
-
งานนี้แก้วโดนอีกแล้วหรอ เมื่อไรจะด๊กันซะทีนะ
-
อ่านตอนนี้ละฮาฝิ่นอะ ดูเกรียนๆง้องแง้งๆ น่ารักน่าตึบ :กอด1:
เราจะรอวันจันทร์ก็ได้ แต่ขอตอนหน้ายาวๆเยอะๆเลยนะจุ๊บๆ
ปล.ไม่ผิดหรอกที่พี่ไม้มาก่อนฝิ่น ก็พี่ไม้เท่ห์อะ (พี่้ไม้FC)
-
แก้วไปไหนอะ
ตอนนี้ฝิ่นปัญญาอ่อน+โง่ด้วย
-
สั้น!!!!! (/โดนโบก :beat:)
เมินใส่เค้าทำมายยยย :laugh:
มาทำบ้านคนอื่นเละ แต่คนเก็บกวาดดันเป็นโจ้ซะได้ 555 เป็นเบ๊ส่วนตัวของฝิ่นสินะ ทำทุกอย่างตั้งแต่กระทืบยันกวาดบ้าน ส่วนพี่ไม้ อรั๊ง~ เท่ที่ซู้ดดดดด :m3: (รู้สึกคนอ่านจะปลื้มพี่ไม้มากกว่าผิ่นแล้วนะ 555)
ส่วนฝิ่นในตอนนี้ = =" ความแค้นมันบังตา แถมแก้วยังขัดใจ ....ไม่ได้ดั่งใจแล้วไปกระทืบคนอื่นเนี่ยนะ!
จะไม่อัพเสาร์อาทิตย์จริงอ่ะ ปิ๊งๆๆๆๆ :monkeysad:
:กอด1: :pig4:
-
หง่า แก้ว ไม่มีบทสักแอะเลยตอนนี้ พาแก้วมาแก้ต่างให้ตัวเองหน่อยก็ไม่ได้
-
พี่ไม้!!!! ผมชอบพี่คับ :m3: :m1: :m13:
-
เหนื่อยใจกับฝิ่นจริงๆ
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
งานเข้าแล้วไงแก้ว งานนี้หนักแน่ๆ
-
กระทืบไปมันก็ไม่สู้หรอ จับแก้วกดเลยดีกว่าอีก
-
สั้นจริงงงงงงง :z3:
เทใจให้พี่ไม้คร้า :กอด1:
-
:เฮ้อ: อึดอัดแทนแก้ว ... :เฮ้อ: เจ๊กลากไป ไทยลากมา
-
ดีฝิ่นจัดหนักให้ดิวไปเย ยุ่งนัก :angry2:แฟนฝิ่น ฮิๆๆๆ ซีซั่นมาต่อเรื่อยๆนะ เราเข้ามารอทุกกกกกกวันจ้า :3123:
-
เจอหน้าที จะไม่ข่มขืนเลยรึไง ฝิ่นแม่งใจร้ายจริงๆ
-
ฝิ่นคิดถึงแก้วอ่ะดิ เลยระบายอารมณ์แบบนี้ อย่างนี้ถ้าเจอไม่จับแก้วขึงเลยรึ 55555+++
-
โรคจิตป่าวเนี้ย ชอบหาเรื่อง
-
ตีกันไป ตีกันมา สุดท้ายได้อะไรน้อ :z3:
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน
อ่านทีเดียวเลย
เห็นใจทุกฝ่ายเหมือนกัน
-
กดเป็ดกดบวก
ดูท่าไม่รู้ใครเจ็บกว่าใคร แต่ชอบไม้ว่ะ ขโมยซีนสุดๆๆๆๆ 5555
-
แค่บทเรียน ก็ทั้งเลือก ทั้งแตก เห้อออ
-
สั้นไปเเร้วววววว อ่าตัวเองงง
อัฟ ต่อๆ รออยู่นะจ๊ะ น่ารัก ดี
คนแต่งสู้
-
รอ รอ รอ รีบรีบมาเน้อ
-
งานนี้แก้วไม่รอด. ฝิ่นนี่นายแอบหึงป่ะเนี้ย
-
:m15:สงสารแก้วอะ ทำไมทุกคนถึงต้องมาบังคับจิตใจแก้วแบบนี้ละ :m15:
-
หน่ายใจ :เฮ้อ:
-
แอลกอฮอล์ล้างแผล คิดได้นะพี่ไม้
ส่วนแก้ว...หนักใจแทนเลย :เฮ้อ:
-
ไม่อยากอ่านตอนแก้วกลับมาอยู่บ้านฝิ่นเลย กลัวแก้วจะโดนจัดหนัก เอ๊ะ(?)...อะไรหนัก
ขอให้ฝิ่นใจเย็นๆซักนิด ฮือๆ
แก้วโดนบีบทุกทาง
-
แก้วจะโดนอะไรมั่งน๊อ อยากเห็นตอนฝิ่นรู้สึกผิดแล้วไปตามง้อแก้วจริงๆ :laugh:
-
สงสารแก้วจัง
กลับไปคงจะโดนหนักแ่เลย :เฮ้อ:
-
แก้วเสร็จแน่ๆ
-
^^
-
^^
-
รอรอรอรอ
-
มาวิ่งเล่นรอ :oni1:
-
แก้วโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
อะไรจะซวยได้ขนาดนี้ :o12:
-
:กอด1: เรื่องนี้สนุกดีนะ เป็นกำลังใจให้ แต่จะมีใครว่าเราไหม ถ้าเราอยากให้ พงษ์ เป็นพระเอก ดูหักมุมดี :call: ตัวเล็กของพงษ์ ชอบอ่ะ :o8:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๕
“ไม่จบไม่สิ้น” พี่แชมป์ส่ายหน้าอย่างเบื่อระอา
“ไม่จบก็ไม่จบสิวะ แล้วมึงน่ะ เห็นกูโดนอย่างนี้มึงไม่คิดจะช่วยเลยรึไง” พี่ดิวจับผ้าก๊อซที่ติดแผลอยู่บนศีรษะพลางพูดคล้ายต่อว่าพี่แชมป์
ถึงตอนนี้พี่แชมป์จะเรียนในชั้นปีที่สูงกว่าแต่ทั้งคู่ก็เคยเป็นเด็กรุ่นเดียวกันมาก่อน
“มันตั้งใจเล่นมึง” ใช่ เขาเห็นด้วยกับพี่แชมป์
“ก็แล้วไง แต่กูเล่นมันคืนทั้งสายแน่”
“พี่ดิวพอก่อนเถอะพี่ รักษาตัวให้หายก่อนดีกว่าไหม” เขาพูดแทรก แล้วลุกเดินไปรับยาแทนพี่และเพื่อนอีกหลายคนที่ปากแตกบ้างโดนไม้ฟาดบ้าง
เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันเกิดจากอะไร
“ดิววันนี้มึงกลับบ้านไปก่อนเลย กูจะเข้าไปเคลียร์กับฝ่ายปกครองหน่อย ส่วนพวกที่เหลือก็ดูสารรูปตัวเองก่อน ถ้าคิดว่าไปแล้วโดนซักก็หยุดๆไปซะเพิ่งเปิดเทอมไม่มีอะไรหรอก ปกติกูก็ไม่เห็นพวกมึงจะเรียนกันอยู่แล้ว” เกิดเรื่องอย่างนี้มีเหรอที่จะเล็ดรอดสายตาอาจารย์ฝ่ายปกครองได้ พี่แชมป์เลยต้องไปรับหน้าแทน “แล้วไอ้แก้วมึงจะเข้าโรงเรียนพร้อมกูเลยไหม ป่านนี้พี่มึงง้างหมัดรอกูแล้วมั้ง” พี่แชมป์ถาม
เขามองหน้าพี่ดิว ที่พี่ต้องโดนอย่างนี้ก็เพราะเขาผิดคำพูดกับมันแท้ๆ
“เดี๋ยวผมไปส่งพี่ดิวที่บ้านก่อนค่อยว่ากันอีกทีพี่”
”อืม ถ้ามีอะไรก็โทรหากูนะมึง” พี่แชมป์จับไหล่เขาก่อนจะเดินออกจากโรงพยาบาล
.
.
.
“ทำไมกลับกันมาสภาพนี้วะ” พี่ดีที่ยังไม่ออกไปมหาวิทยาลัยทักเมื่อเห็นเสื้อเปื้อนเลือดพาดบ่าแก้วกับบาดแผลจากใบหน้าและที่หัวน้องชาย
“เจอหมาลอบกัด” พี่ดิวตอบ
“ฮ่าๆๆ มึงน่ะมันอ่อนไอ้ดิว กูบอกแล้วอย่างมึงให้ใช้สมองมากกว่าโชว์พาว กะจะเจ๋ง ถุย จอดสนิท”
“มึงหุบปากแล้วจะไปตายที่ไหนก็ไป”
“เหอะ อย่างมึงน่ะ เหมาะที่จะยืนอยู่ข้างหลัง ไม่สิ ปลายแถวเลยดีกว่าถึงจะถูก แค่มึงคิดจะเทียบกับกูก็ผิดทางแล้วไอ้น้องรัก” เขาไม่รู้ว่าพี่น้องสองคนนี้มีอะไรกันรึเปล่าดูเวลาพูดคุยกันมันรู้สึกแปลกๆ รู้แค่ว่าพี่ดีถึงไม่เคยขึ้นเป็นประธานชั้นหรือประธานสาย แต่ก็มีคนให้ความเคารพ
นับถือด้วยเสียงเล่าลือในความเก่งและแกร่งของพี่เขาอยู่มากโข
พี่ดิวกัดฟันกรอดมองหน้าพี่ชายตัวเองเขม็ง เขาจึงสะกิดแขนพี่ให้ขึ้นห้องเมื่อเห็นท่าไม่ดี
“พี่นอนพักนะเดี๋ยวผมเอาเสื้อไปแช่ให้”
“อืม รีบมานะ” พี่ดิวรับคำเอนตัวนอน ยาคงจะออกฤทธิ์แล้ว
เขาขยี้เสื้อนักศึกษาของพี่แล้วแช่ทิ้งไว้ ออกจากห้องน้ำมาพี่ดิวยังไม่หลับ แต่ดูก็รู้ว่าฝืนไว้
“ทำไมยังไม่นอนอีกพี่” เขาเดินมานั่งข้างเตียงเอ่ยถาม
“พี่รอคุยกับแก้ว”
“ไว้ตื่นก่อนก็ได้”
“พี่กลัวว่าแก้วจะหนีพี่ไปน่ะสิ ...รู้ใช่ไหมเรื่องเมื่อเช้ามันเป็นความจงใจ”
“ก็...ครับ” …รู้ยิ่งกว่ารู้ซะอีก ทั้งที่เขากำลังพยายามจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองแล้วแท้ๆ และดูเหมือนว่ามันกำลังเป็นไปได้สวยเพราะไอ้ฝิ่นมันรับปากออกมาแล้ว แต่พี่ก็บังคับเขามาอยู่ที่นี่ในช่วงที่มันต้องการความเชื่อใจจากเขา แม้เขาจะฝืนใจแต่ก็พอทำได้ แล้วเป็นยังไง สุดท้ายมันก็มาเล่นงานคนในสายอย่างที่มันเคยขู่ แถมคนที่โดนเป็นพี่ดิวอีก
“แต่พี่ไม่ปล่อยแก้วไปอีกแน่” พี่ดิวพูด สบตาเขาด้วยแววตาจริงจัง “ไอ้ฝิ่นมันทำได้ทุกอย่างให้ศัตรูของมันจมดิน คนอย่างมันเป็นตัวอันตรายที่สุด”
เพราะเขารู้ไงล่ะว่ามันอันตราย จึงต้องกันทุกคนให้ถอยห่าง เขาพยายามทำให้ได้และให้ดีที่สุดแต่ทำไมมันล้มเหลวทุกครั้ง บางครั้งเขาก็เหนื่อยกับการที่ต้องถูกบีบทุกทางอย่างนี้เหมือนกันนะ แต่นั่นก็มาจากไอ้พงษ์ทำคนของมันก่อนไม่ใช่เหรอ เขาถึงได้ออกตัวมาไถ่โทษให้มัน
“พี่หลับเถอะ ผมว่าจะเข้าโรงเรียนหน่อย” เขาเปลี่ยนเรื่อง
“พี่ไม่ให้ไป” พี่ดิวเอ่ยเสียงแข็งมือก็คว้าหมับกับมือเขา แก้วคิ้วขมวดมองหน้าพี่ด้วยความไม่พอใจก่อนจะดึงมือตัวเองออก พี่ดิวหน้าเสีย “คือ...ไปตอนนี้มันอันตราย พี่กลัวพวกมันยังดักอยู่” พี่เปลี่ยนใช้น้ำเสียงเบาลงแสดงความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมนั่งแท็กซี่ไปได้” เขาลุกหมายจะเดินออกจากห้อง เขาต้องไปรับผลของการกระทำด้วยตัวเขาเอง ก่อนที่มันจะพาลไปมากกว่านี้
“โอ๊ะ แก้ว พี่ปวดหัว” เขาหันกลับมามองพี่ด้วยความตกใจ พี่ดิวลุกนั่งหน้าซีดมือหนึ่งจับที่แผล
แก้วตัดสินใจเดินกลับมาดูพี่
“พี่เป็นอะไร ปวดมากไหม”
“อื๊ออ พี่รู้สึกไม่ดีเลย”
“งั้นพี่กินยาอีกสองเม็ดนะ” แก้วหยิบยาแก้ปวดออกมาส่งให้พี่ แล้วเดินไปเทน้ำเปล่าใส่แก้ว เอากลับมายื่นให้
“อยู่เป็นเพื่อนพี่ได้ไหม พี่ไม่รู้ว่าตื่นมาแล้วจะปวดอีกรึเปล่า เมื่อกี้หัวแทบระเบิดเลย” เขามองพี่ด้วยความลังเล เย็บแค่เจ็ดเข็ม แผลก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย ไอ้พงษ์เคยโดนมายี่สิบเข็มยังไม่เคยร้องขอให้เขาอยู่เป็นเพื่อนเลย
“เฮ้อ ก็ได้ครับ” รับปากออกไปก่อนให้พี่สบายใจ เอาไว้พี่ดิวหลับก่อนค่อยคิดอีกทีว่าจะเอายังไง
.
.
.
“หึ มาเร็วกว่าที่คิด” เขาที่ยืนอยู่หน้าบ้านนานสองนานเงยหน้ามองเจ้าของเสียงด้วยใจสั่นๆ
เพราะกลัว?
“แส่กลับมาหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ” พี่ไม้ส่ายหน้าแล้วเดินออกไปอีกทางไม่ได้จะเข้าบ้าน
“โจ้ ไปส่งพี่ด้วย”
“ครับ”
บอกลูกน้องเสร็จไอ้ฝิ่นมันก็เปิดประตูรั้วเดินกะเผลกเข้าไปในบ้านเหมือนมองไม่เห็นเขา...ไม่ใช่สิ เมื่อกี้มันยังทักเขาอยู่เลย อย่างนี้มันไม่สนใจเขาชัดๆ
แก้วทานข้าวเย็นพร้อมพี่ดิวแล้วเอายาแก้ปวดให้พี่กินอีกรอบ รอจนพี่หลับจึงตัดสินใจมารอไอ้ฝิ่นที่หน้าบ้านตอนหกโมงเย็นเพื่อจะมาอธิบายให้มันเข้าใจว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะหนีความรับผิดชอบเลย
ทำใจไว้แล้วว่าเมื่อเจอหน้ามันต้องเหยียบเขาแน่ แต่...มันกลับไม่โมโห ไม่ตะคอกถาม ไม่โวยวายอะไรใส่เขา แถมยังเมินเขาอีก
แก้วเม้มปากลังเลแต่ก็รีบรุดเดินตามเข้าไปจนถึงห้องนอนมัน
เสื้อผ้าเขากระจัดกระจายอยู่เต็มห้อง มันคงอาละวาดไปก่อนหน้านี้แล้ว แก้วก้มเก็บทีละตัว
“เก็บใส่กระเป๋าแล้วหอบกลับบ้านมึงไปให้หมด อ้อ ไม่ได้อยู่บ้านแล้วนี่ เก็บไปไว้บ้านไอ้ดิวให้หมดอย่าให้เหลือไว้รกบ้านกูแม้แต่ด้ายเส้นเดียว” เขาเงยหน้ามองหลังคนที่นั่งอยู่บนเตียง ใจหวิว...
“อะไรนะ?” เอ่ยถามเผื่อว่าจะได้ยินอะไรผิด
“มึงรับปากกูแต่ทำไม่ได้มาสองครั้งแล้วนะ ในเมื่อมึงทำตามที่ตกลงกันไว้ไม่ได้ กูก็คงต้องจัดการเรื่องนี้ให้มันจบๆสักที ชีวิตแลกชีวิต ใครสักคนในโนT อาจจะจบเร็วกว่าข้อเสนอของกูด้วยซ้ำ”
“ไม่...ไม่ได้นะ” แก้วทิ้งเสื้อผ้าลงพื้นเดินไปเผชิญหน้ากับเจ้าของห้องที่นั่งอยู่บนเตียง “กูขอร้อง กูไม่ได้ตั้งใจจะหนีมึง แต่กู...” เขาก้มหน้าหลบตาคล้ายคนกลัวถูกจับได้เมื่อฝิ่นไม่ยอมละสายตาไปจากใบหน้าเขา “กูมีธุระ กูกำลังหาทางกลับมา” นอกจากกลัวว่ามันจะทำในสิ่งที่พูดแล้ว อีกความรู้สึกมันคล้ายว่าตัวเองกำลังถูกไล่ จึงรีบบอกเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นออกไป
“มึงเห็นกูเป็นอะไร!?” ฝิ่นลุกพรวดผลักเขาจนหลังชนกับตู้เสื้อผ้า มือใหญ่บีบเข้าที่รอบคอ “ตัวตลก? เพื่อนเล่น? นึกจะโกหกก็พูดออกมาง่ายๆ หึ กูโคตรเชื่อมึงเลย” มันกัดฟันยิ้ม เพิ่มแรงบีบที่คอมากขึ้น เขาไม่ขัดขืนมันเลยสักนิด แค่มันยอมฟังและให้โอกาสเขาได้แก้ตัว เขายอม... จนไอ้ฝิ่นจิ๊ปากอย่างรำคาญหรืออาจจะโมโหใช้มืออีกข้างกระชากคอเสื้อแล้วเหวี่ยงเขาจนตัวปลิวลงพื้น “ออกไปจากบ้านกูซะ!” ฝิ่นตวาดพร้อมกลับไปนั่งที่เตียง
“ไม่ๆ กูยอมทุกอย่างเลย ไม่เอาอย่างนี้ มึงจะกระทืบกูยังไงก็ได้แต่ไม่เอาอย่างนี้” แก้วส่ายหน้ารัวคลานเข้าไปจับที่เท้าฝิ่นหมายจะยกขึ้นมากระทืบตัวเอง “ไปโดนอะไรมา?” จับเข้ากับเท้าข้างที่มีผ้าพันแผลพันไว้อย่างลวกๆจึงเกิดความสงสัย
“เพราะมึงนั่นแหละ เพราะมึง!” ฝิ่นใช้นิ้วจิ้มหน้าผากเขาอย่างแรง แก้วไม่เข้าใจ แต่...”มึงจะทำอะไร?” ไอ้ฝิ่นย่นคิ้วจะยกเท้าหนีแต่เขาดึงไว้ก่อน
“ถ้ามันเป็นเพราะกู ก็ให้กูได้รับผิดชอบเถอะ” เขาแกะผ้าพันแผลที่เท้าฝิ่นออก เห็นเป็นร่องรอยคล้ายแก้วบาดหลายแผล คิ้วขมวดเป็นปม มันไปโดนอะไรมา
“เหอะ” ไอ้ฝิ่นกอดอกหันหน้าไปทางอื่น แก้วรีบลุกเดินไปหยิบกล่องพยาบาลแล้วมานั่งทำความสะอาดแผลพร้อมใส่ยาและพันผ้าก๊อซไว้ดูเรียบร้อยกว่าอันที่แล้ว พอเสร็จฝิ่นยกเท้าหนีทันที “จะรีบทำไปทำไม อาบน้ำเดี๋ยวมันก็เปียกอยู่ดี” อย่าบอกนะว่าแผลโดนน้ำมาแล้ว
“แล้วทำไม มึงไม่อาบในอ่างล่ะ”
ปุ๊บ! ไอ้ฝิ่นตบที่นอน หันกลับมามองหน้าเขา
“มึงสอนกูเหรอ!? กูจะทำอะไรยังไงมันก็เรื่องของกู” พร้อมดึงคอเสื้อเขาแล้วผลักอีกรอบ แก้วเผลออมยิ้มที่มันกลับมาร้ายใส่เขาเหมือนเดิม ก่อนจะเอากล่องพยาบาลไปเก็บเข้าที่
เธอคือส่วนหนึ่งของ หัวใจ ที่ตอนนี้ได้ขาดหายไป...
เบอร์พี่ดิว
“ครับพี่” ป้องปากกรอกเสียงลงในสายแต่เจ้าของห้องก็ยังคงมองมาไม่วางตา
“แก้วอยู่ไหน?” พี่ดิวถามเสียงแข็ง
“เอ่อ ผมออกมาข้างนอกแป๊บเดียวน่ะพี่”
“แต่พี่นั่งรอแก้วเป็นชั่วโมงแล้วนะ”
“พี่ตื่นนานแล้วเหรอ!” ถามออกไปด้วยความตกใจ
“ตกลงตอนนี้แก้วอยู่ไหน”
“เอ่อ ผม ผมออกมากินข้าวกับไอ้แสน” เขาตะกุกตะกักตอบ ทั้งไม่อยากให้ไอ้ฝิ่นได้ยินทั้งกลัวพี่ดิวจับได้ว่าที่พูดไปไม่ใช่เรื่องจริง
“อืม รีบกลับมานะ เพราะถ้าไอ้พงษ์รู้ว่าแก้วไปไหนไม่บอกพี่ มันคงเป็นห่วงเราแย่”
แก้วกดวางสาย รู้สึกหนักๆในใจ เม้มปากมองหน้าไอ้ฝิ่นที่มองเขาอยู่เชิงว่าจะเอายังไง
“ไปจัดการเรื่องของมึงให้เรียบร้อย” มันพูดด้วยน้ำเสียงเฉยชา ดูไม่แสแยนั่นยิ่งทำให้เขาคิดหนัก
“แต่...”
“ถ้ามึงยังรู้ตัวว่ามีความผิดก็รีบเคลียร์ตัวเองแล้วกลับมารับโทษ กูจะให้โอกาสมึงอีกครั้ง”
“จริงนะ?” เขาถามกลับออกไปทันควัน ทั้งที่ควรจะกลัวและใช้โอกาสนี้หนีไปที่ไหนก็ได้แต่เขากลับดีใจที่ได้ยินมันพูดคำนี้ อะไรนะ? ...ดีใจ บ้าน่าไม่ใช่หรอก
“เอามือถือมึงมานี่” เขายื่นโทรศัพท์ให้มันอย่างว่าง่าย ฝิ่นกดมือถือแก้วเข้าเบอร์ตัวเองแล้วส่งคืนเจ้าของ “ก่อนกลับเก็บเสื้อผ้ามึงด้วย” แก้วพยักหน้ารับ รู้สึกโล่งอกนิดๆที่พอมีทางเลือกให้เขาบ้าง ที่เหลือก็แค่เคลียร์กับพี่ดิว
ก่อนกลับเขาเข้าไปทำน้ำอุ่นไว้ให้มัน
“เรื่องตอแหลขอให้บอกมึงเลยจริงๆ” ไอ้ฝิ่นว่าเขาต่อหน้าตอนที่เขาออกจากห้องน้ำแล้ว แต่เขากลับไม่รู้สึกโกรธอะไร คงจะชินซะล่ะมั้ง
“กู...กลับนะ” บอกคล้ายขออนุญาต พูดเสร็จก้มหน้าหลุบต่ำพลางหันหลังจะออกจากห้อง
“เดี๋ยว”
“ห๊ะ?...” หันกลับเข้ามาในห้องตามเสียงท้วง แต่กลับถูกรวบเอวเข้าไปชิดตัวมัน ใบหน้าของคนตาดุสะกดให้เขาหยุดนิ่งก่อนที่มันจะเริ่มไซร้ซอกคอทำเอาเขาขนลุกซู่
แก้วใจเต้นตึกตัก
“อ๊ะ!” รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มันกัดเข้าที่ต้นคอแล้วผลักหน้าอกเขาให้ออกจากห้องมันซะแล้ว
แก้วส่ายหน้า ตบแก้มตัวเองสองสามที
หัวใจกระตุกวูบวาบ ...ความรู้สึกคล้ายว่าเหมือนไม่ได้เดินแต่กำลังล่องลอยออกจากบ้านมัน
..........................
พงษ์
อายุ ๒๐ ปี
ส่วนสูง ๑๘๒ เซนติเมตร
น้ำหนัก ๖๕ กิโลกรัม
ปวช.๓ ช่างอิเล็กทรอนิกส์
.........................
ดิว
อายุ ๑๙ ปี
ส่วนสูง ๑๘๐ เซนติเมตร
น้ำหนัก ๖๕ กิโลกรัม
ปวช.๓ ช่างไฟฟ้ากำลัง
....................
เผื่อใครข้องใจ ...พงษ์อายุมากกว่าทำไมเรียกดิวว่าพี่ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ค่ะ
เข้าก่อนเป็นพี่ (ดิวเรียนเทคโนT มาก่อนพงษ์แต่เรียนปีหนึ่งสองรอบและคุมเด็กมาตั้งแต่ปีหนึ่ง)
เข้าทีหลังเป็นน้อง (ถึงจะเรียนปีเดียวกัน แต่มาทีหลังก็คือทีหลังค่ะ เข้าทีหลังโดนเล่นหมด ส่วนคนที่อายุมากกว่าแบบมากๆจะเรียกคนเข้าก่อนเป็นพี่หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการยอมรับอีกต่อนึงค่ะ เด็กช่างเขาจะมีวิธีการจัดการของเขาเอง)
เข้าพร้อมกันเป็นเพื่อน (ดิวกับแชมป์เป็นตัวอย่างนะคะ)
เดี๋ยวจะรีบปั่นนะคะ ไม่รู้พรุ่งนี้จะเสร็จรึเปล่า
:pig4: ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ ^^ กอดๆจุ๊บ
-
:เฮ้อ: บางทีก็แอบคิดว่าแก้วซื่อบื้อ
ฝิ่นดูเย็นขึ้น(มั้ง)
ดีใจที่แก้วหวั่นไหว แต่จะดีใจมากๆถ้าคนที่หวั่นไหวคือฝิ่น
-
กว่าจะรักกันเลือดหมดตัวแน่ๆ
-
Drama story นี่จบเศร้ามั้ยคะ อิิอิ แต่ชอบฝินน่าเถื่อนๆดีจังเลยอ่ะ
-
โล่งอก นึกว่าแก้วจะเจอศึกหนักกว่านี้อีกสะแล้ว :เฮ้อ:
-
กว่าจะรักกันได้นี่ แก้วคงช้ำไปทั้งตัว นายฝิ่นนี่ตบจูบ ๆ อย่างเดียวเลย หวังว่าคงไม่ใช่ "หลอกให้รัก" แล้วตีจากนะ สงสารแก้วจริง ๆ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเลย .... ไม่รู้ว่าใครปกป้อง ไม่รู้ว่าใครรัก ไม่รู้ว่าใครเกลียด....ไม่รู้อะไรเลย
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
อยากอ่านต่อเร็วๆ
-
ไอ้คุณฝิ่นตั้งใจทำรอย bite mark ให้อิคุณพี่ดิวเห็นล่ะสิ
อิคุณพี่ดิวคลั่งแน่ แล้วแก้วก็จะโดนซักฟอกอีก โดนกักตัวอีก และก็แอบหนีมาอีก โดนไอ้คุณฝิ่นทำโทษอีก โถ..ชีวิตโศรยา :เฮ้อ:
เหนื่อยใจกับแก้ว เริ่มหวั่นไหวกับฝิ่นอีกแล้ว สงสัยจะติดนิสัยมาโซคิสมาตั้งแต่เด็กที่ยอมให้พี่เลี้ยงโขกสับ ชีวิตนี้จะต้านทานใครได้มั่งเนี่ย :เฮ้อ:
ส่วนไอ้คุณฝิ่น ชั้นจะรอดูว่าเมื่อแกจะหวานกับความรัก แกจะเปลี่ยนโหมดอิท่าไหน
ตอนนี้แกเริ่มผูกพันกับคนที่แกเรียกว่าศัตรูแล้วล่ะสิ คนอ่านเขาดูแกออกหมดแล้ว มีแกที่ไม่รู้ตัวอยู่คนเดียว 555+ :laugh:
ส่วนพี่ทิดไม้ก็ยังเท่เหมือนเดิม จะเท่ไปไหนเนี่ยพี่จ๋า ถ้าช่วยเป็นพ่อสื่อให้คู่นี้ด้วยจะเลิฟพี่มากขึ้นอีกนะคะ จุ๊บๆๆๆ :กอด1:
-
...พี่ได้อ่านสองตอนอีกแล้ว เค้าตีกันไปแล้ว พึ่งจะได้อ่าน ชักเกลียดฝิ่นแล้วนะ
...มันเอาแต่แก้แค้น คิดไปเองตลอด เอ๊ะ..นักเขียนชอบไม้ นี่เอาอิมเมจไม้มาจากคนใกล้ตัวหรือเปล่าหว่า
...ตอนล่าสุดนี่ฝิ่นเริ่มใจอ่อน ลงนิีดนึงหรือเปล่า ก็เค้าไม่ได้ตั้งใจหนีซะหน่อย เค้าก็เลยกลับมาหาแล้วไง :laugh:
-
ตอนแรกแก้วยอมฝิ่นเพราะว่ากลัวฝิ่นไปทำร้ายคนอื่น แต่ตอนนี้มันมีอะไรมากกว่านั้นรึเปล่าหว่า? ที่จริงมันก็น่าจะมีทางออกอย่างอื่นนะ ถึงแก้วจะนึกไม่ออก แต่แก้วก็มีคนอยู่ข้างๆเต็มไปหมด น่าจะช่วยหาทางได้ ไม่น่าเอาตัวองมาทรมานงี้เลยน้องเอ้ย o9
:pig4: :กอด1:
ปอลิง ฝิ่นจงใจทำรอยแหงๆอ่ะ พี่ดิวเห็นคลั่งแน่ เรื่องมันก็จะเลยเถิดบานปลาย สงสารน้องแก้ว :เฮ้อ:
-
แก้วเริ่มหวั่นไหวแล้วหรอ :serius2: ไม่นะ อย่าไปหลงกลฝิ่นมันนะ
-
แก้วเริ่มหวั้นไหวกับไอ้โหดฝิ่นซะแล้วหราเนี่ยยยย ไม่นะเค้าสงสารแก้วอ่ะ :serius2: :sad4:
-
ความรู้สึกของแก้วเริ่มเปลี่ยนไปแล้วล่ะสิ
-
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าแก้วมาโซ :z3:
เหนื่อนแทนเลยแก้ว
:pig4: :L2:
-
^^
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดด มีกัดคอด้วย อร๊ายยย o18 o18
-
ฝิ่นดีขึ้นแล้ววว(มั้ง)
เท่าที่อ่านมาทั้งหมดนี่ รู้สึกชอบตัวละครที่ชื่อพงษ์มาก ดูแล้วพึ่งพาได้ยังไงไม่รู้ :-[
-
สงสัยจะตายก่อนได้รักกัน
-
โดนอีกล่ะ มาต่อไวๆๆนะคับ
-
นึกว่าแก้วจะโดนบักฝิ่นซ่อมสะแล้ว :เฮ้อ:
ใจเต้นแบบนี้หมายความว่า........ :-[
-
แก้วหลงฝิ่นแล้วเหรอ สงสัยชอบ SM
พี่ไม้ว่าแก้วตอนกลับมา แต่จริงๆแล้วพี่ใจดีหรือปล่าวว่าแก้วเหมือนไม่อยากให้กลับมา
-
ฝิ่น ตีตราจอง ให้แก้วเอาไปอวดดิวเหรอ ตายๆๆๆ
-
อั๊ยยะ!! มีการแสดงความเป็นเจ้าของด้วย
แถมแก้วเริ่มหวั่นไหวกับฝิ่นแล้ว o13
-
มันรู้สึกไม่สุดซักอย่าง :z3:
จะสุขก็สุข จะเศร้าก็ไม่เศร้า เพราะเราอยากให้มันรักกันไวๆ :laugh:
แต่ค่อยเป็นค่อยไปแบบนี้ก็ดีอ่ะ :o8:
-
:กอด1:
-
แก้วรู้ตัวหรือเปล่าว่าฝิ่นทำเครื่องหมายไว้ให้ไม้ดู :-[
รอตอนต่อไปจ้า :call:
+1 ให้จ้า
-
ฝิ่นทำเครื่องหมายไว้ด้วย
เมื่อไหร่จะรักแก้วซักทีเนี้ย :กอด1:
-
:เฮ้อ:แก้ว น่าสงสาร โดนทั้งดิว ทั้งฝิ่น ดิวก็ห่วงแก้ว (แต่มีแอบขู่โดยใช้ชื่อพงษ์) ส่วนฝิ่นก็ชอบบังคับแก้ว ให้ทำตามที่ตนเองต้องการ :เฮ้อ:
-
มาต่อเร็วนะค่ะ
:กอด1:
-
เออเนาะ ตีกันง่ายๆยังกะพากันไปเที่ยวเลยแฮะ
พี่ไม้เรา แค่โปรไฟล์ก็เท่แร้ว กี๊ดๆๆ :impress2:
-
ฝิ่นนี่เอาแต่ใจตัวเองจริง ๆ
ดูจาก นน.สส.แล้ว ฝิ่นเท่น้อยกว่าคนอื่นอ่ะ พี่ไม้ พงษ์ ดิว สูง ๑๘๐ อัพกันทั้งนั้น
-
ขอให้รักกันรักกันไวไว
-
:o12: รักแก้ว สงสารฝิ่น เชียร์ พงษ์ ปันใจหิวดิว แอบชอบไม้
ทำไงดีนี่ อ่านเรื่องนี้แล้วหลายใจ แต่ยังไงก็ชอบ อ่านรวดเดียว ๑๕ ตอน
ไม่เป็นอันทำงานแล้ววันนี้ ขอตอนต่อไปด้วยนะ :sad4:
-
ต่อไปแก้วคงเป็นพวก SM :haun4:
-
:กอด1: :กอด1:
หวงจริงจังนะเนี่ยยย
น่ารัก ๆ รออยู่ค่ะรีบมาต่อน้าาา
o13 o13
-
นึกว่างานจะเข้าแก้วแล้ว แต่ดูดูไปเหมือนแก้วจะมีใจยังไงไม่รู้
รอตอนหน้าจ้า^^
-
เมื่อไหร่จะรักกัน
อยากอ่านตอนหวานๆบ้างอะ
+1 นะคะ
-
ฝิ่นรักเค้ามากก็บอกไปเหอะ รู้สึกว่าจะหวงมากนะเนี่ย
-
อ่านไปลุ้นไป^^
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๖
“ไอ้แก้ว ไปไหนมาล่ะเนี่ย” พี่ดีลงจากรถแท็กซี่พูดด้วยน้ำเสียงลิ้นพันเดินเซๆเข้ามาหากอดไหล่เขาที่เพิ่งถึงหน้าบ้านพอดี
กลิ่นเหล้าหึ่ง ดูท่าคงเมาตั้งแต่เลิกเรียนเลยสิ
เขาคุ้นชินกับภาพเด็กช่างเมาแอ๋ตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่นึกว่าพี่ดีเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ยังทำตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“ไป...บ้านเพื่อนมาพี่” เขาตอบ เหล่ตามองแขนที่พาดบนไหล่ ก็แค่ผู้ชายกอดคอกันปกติน่า...
เพราะไอ้ฝิ่นบ้านั่นแท้ๆทำเอาเขาระแวงคนอื่นไปด้วย
“อือๆ เข้าบ้านกันเถอะ พี่ง่วงฉิบหาย วันนี้ไปฉลองเปิดเทอมมา ไม่ได้อยากจะเมาเลยให้ตาย” เขาจำต้องพยุงพี่ดีที่เกาะไหล่เขาไม่ปล่อยเข้าบ้าน
“แก้ว!” พี่ดิวเรียกซะเสียงดัง ยืนคิ้วชนกันรออยู่หน้าประตู
“อ้าว น้องชายทำไมมายืนตรงนี้ล่ะ ไม่นอนพักล่ะคร๊าบ เดี๋ยวทรุดไม่สบายขึ้นมาจะหาว่าพี่ไม่เตือนน๊า”
“มึงเงียบปากไปเลย กูไม่ได้จะคุยกับมึง”
“ออๆ ไม่คุยๆ แก้วไปส่งพี่ที่ห้องหน่อยครับ พี่มึนหัวเดินไม่ไหวเลยจริงๆ” เขาลังเล เพราะรู้ว่าพี่ดิวกำลังไม่พอใจ แต่พี่ดีก็เมาจนยืนแทบไม่อยู่จริงๆนี่นา
พี่ดิวจ้องหน้าพี่ดีเขม็งก่อนจะผลักอกพี่ชายตัวเองจนเซออกห่างจากตัวเขา แก้วเองก็เซไปชนกับบานประตูเช่นกัน
“หึ หวงจริงหวงจัง ของตัวเองก็ไม่ใช่” พี่ดีปัดๆไหล่ตัวเองมองหน้าน้อง
“มึงจะไปเลวที่ไหนก็ไป แต่บอกแล้วอย่ามายุ่งเกี่ยวกับคนของกู” พี่ดิวกัดฟันพูดคล้ายข่มอารมณ์ที่สุดแล้ว แก้วสังเกตได้จากสองมือพี่ที่กำหมัดแน่นแนบลำตัว
“แบ่งๆกันน่าจะเป็นไรไป ทีของพี่ พี่ยังแบ่งน้องได้ตลอดเลยนี่นา” พี่ดีพูดโดยไม่ดูอารมณ์น้องชายตัวเองเลย
“ไอ้ดี!”
“หึ ที่มึงขึ้นมาถึงวันนี้ได้ ไม่ใช่เพราะกูหรอกเหรอ อย่าลืมบุญคุณกันหน่อยเลยน่า” พี่ดียังพูดยั่วต่อคล้ายสนุก
“ไม่ใช่!” พี่ดิวเสียงดังใส่ทันควัน แต่พี่ดีเพียงหัวเราะให้ ก่อนจะหันมาหาเขา
“เอ็งไม่เป็นไรใช่ไหมไอ้แก้ว” เขาพยักหน้าแทนคำตอบ อึ้งๆกับน้ำเสียงพี่ดีที่ชัดถ้อยชัดคำ คนพูดจาลิ้นพันกันเมื่อกี้หายไปไหนวะ “ถ้าอยู่กับมันแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยล่ะก็...”
“แก้วขึ้นห้อง!” พี่ดิวเสียงแข็งพูดแทรกทันที แล้วดึงแขนเขาเดินผ่านหน้าพี่ดีที่ยังยิ้มร่าอยู่เหมือนเคย
แกล้งเมาเหรอเนี่ย ...หึ โง่ชะมัดไอ้แก้ว พี่ดีคงจะไว้ใจไม่ได้อย่างที่พี่ดิวบอกจริงๆแล้วสิ
.
“ไปไหนมา?” คำถามส่งมาทันทีเมื่อประตูห้องนอนปิดลง แก้วเดินไปเปิดลิ้นชักควานหาเสื้อผ้าเพื่อจะเปลี่ยน แต่พี่ดิวกลับตามมาจับไหล่ให้เขาหันหน้าเพื่อไปคุย
“ไปกินข้าวกับไอ้แสน” เขาตอบ แต่พี่มองเหมือนไม่เชื่อ แก้วจึงรีบเสหน้ามองไปทางอื่น
เรียวมือสัมผัสเบาๆที่ซอกคอทำเอาเขาสะดุ้งถอยหนีก่อนจะหันกลับมามองพี่ตาขวาง นี่พี่ดิวจะทำอะไร?
“แก้ว...” พี่มองหน้าเขาด้วยแววตาตัดพ้อ อะไร?... “แก้วไปไหนมา” พี่ดิวยังย้ำคำถามเดิม แววตาตัดพ้อที่ว่า เขาคิดว่ามันดูเหมือนคาดคั้นมากกว่าแล้วตอนนี้
“เมื่อกี้ผมก็บอกพี่แล้วไงว่าไป...” แก้วชะงักเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้ ก่อนจะรีบร้อนหยิบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไปอย่างเร็ว
ร่องรอยจากคนตาดุที่ซอกคอ
แก้วแตะรอยจ้ำสีม่วงปลายนิ้วลากผ่านรอยฟันคมเบาๆพลางถอนหายใจใส่หน้ากระจก เฮ้อ... จะบอกว่าไอ้แสนทำพี่ดิวต้องไม่เชื่อแน่ แล้วไอ้บ้านั่นมันนึกยังไงของมันกัดมาได้ แก้วเม้มริมฝีปากมองหน้าตัวเองผ่านกระจก
มือขวาวางตรงหน้าอกข้างซ้ายที่เพียงแค่นึกขึ้นมา ในใจก็รู้สึกขัดแย้งกับสิ่งที่คิดยังไงบอกไม่ถูก
เขาใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าปกติ จึงคิดว่าน่าจะออกไปได้แล้ว แต่พอออกมาก็ไม่เห็นพี่...ก็ดีเหมือนกัน เขาไม่อยากพูดอธิบายอะไรตอนนี้ แล้วยิ่งรู้ว่าพี่ดิวหวังดีกับเขาแบบแปลกๆ ซึ่งเขาสัมผัสไม่ได้ เขายิ่งไม่อยากจะพูดบอกอะไรให้มากความ
เขาเอนหลังลงเตียง เมื่อเช้าพี่ดิวตื่นก่อนดันเห็นเขานอนกับพื้นจนได้ พี่กลัวว่าเขาจะไม่สบายจึงขอให้นอนที่เตียงแทน เขาจึงต้องรับปาก เพราะไม่รู้จะแก้ตัวยังไง จะบอกว่านอนดิ้นก็ไม่ใช่อยู่แล้ว อันนี้พี่ดิวก็รู้อยู่…แต่จริงๆเขานอนข้างล่างตั้งหลายวันยังไม่เห็นเป็นอะไรเลยสักนิด พี่ดิวนี่ชอบคิดมากจัง
แก้วง่วง อีกทั้งตั้งใจจะเลี่ยงตอบคำถามที่ค้างอยู่ของพี่ดิวด้วย จึงหลับตานอนเล่นๆสุดท้ายก็เข้าสู่นิทราจริง
.
.
“น่าเอาสนับมือกระแทกตาด้วย มองอยู่นั่นแหละ”
“ซู่ววว” เขาจุ๊ปากปรามเพื่อน
“ไอ้พงษ์มันคิดยังไงของมันนะฝากมึงไว้กับไอ้ดิวเนี่ย” แสนยังนินทาระยะเผาขนไม่หยุดเมื่อเขาเล่าเรื่องบางส่วนให้ฟัง
วันนี้นักศึกษาปวช.ปี๓ กับ ปวส.ปี๒ ที่ต้องไปฝึกงานต้องมานั่งฟังอาจารย์อบรมแต่เช้า และพี่ดิวก็นั่งอยู่แค่แถวหลังนี้ด้วย ไอ้แสนมันชอบหาเรื่องใส่ตัวดีจริงๆ
“ก็นี่แหละ กูรู้สึกยังไงๆไม่รู้” มันบอกไม่ถูกด้วยสิ เขารู้สึกแปลกแยกตั้งแต่...ตั้งแต่อยู่ดีๆก็ถูกสั่งให้รักผู้ชายด้วยกัน
“ไม่รู้สึกสิแปลก ไอ้ดิวน่ะมันจ้องจะงาบมึงอยู่ตลอดซะขนาดนี้”
“ห๋า?...เอ่อ ...เหรอ?” นี่ไอ้แสนรู้เรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ เขาตาโตก่อนจะขยับตัวนั่งตรง
“ไม่รู้จะเทอดทูนอะไรกับคนอย่างนี้ กูล่ะสงสารไอ้พงษ์จริงๆ อืม เอาอย่างนี้ไหมบัดดี้ มึงย้ายสายเลย มาอยู่กับเฮีย อยู่บ้านเฮียก็ได้”
“จะดีเหรอ” บ้านเขากลับได้สองทางทั้ง๓T และ ๙T ก็จริง แต่ถ้าย้ายสายตอนนี้ก็ต้องไปรับน้องใหม่ ไม่มีไอ้พงษ์อยู่ข้างๆเขาก็ไม่อยากทำอะไรเลยจริงๆ ทำไปเพื่ออะไรมันรู้สึกอย่างนั้น แถมอีกไม่กี่เดือนก็เรียนจบแล้วด้วย คงไม่จำเป็นต้องหาใครมาคุ้มหัวหรอก อีกอย่างเป็นภาระคนอื่นเปล่าๆ
“อืม ดีสุดแล้ว แล้วก็พักกลางวันเข้าไปหาพี่ภูในห้องซ้อมด้วย” เขาพยักหน้ากะจะทำตามแค่อย่างหลัง เอาไว้คุยกับพี่ก่อนละกันค่อยว่าอีกที แล้วหันไปสนใจฟังอาจารย์ที่พูดอยู่หน้าห้องประชุม
.
.
“เสียดายที่ไม่ได้ฝึกงานที่เดียวกัน” พี่ดิวพูดขณะทานข้าวเที่ยงด้วยกัน แต่ตายังเผลอมองที่คอเขาบ่อยๆตั้งแต่ออกจากบ้านทั้งที่เขาติดพลาสเตอร์ปิดไว้ตั้งสองแผ่นแล้วนะ
“.....................” เขาพยักหน้าพลางตักข้าวเข้าปาก ก็ดีแล้วนี่ขืนต้องฝึกงานที่เดียวกันอีกเขาคงไม่มีเวลาหายใจเป็นส่วนตัวแน่ อยู่บ้านก็เจอ อยู่โรงเรียนยังตามติดทุกฝีก้าว ไอ้แสนยังต้องหนีไปกินข้าวกับเพื่อนคนอื่น มันบอกว่ารำคาญ...เขาเองไม่รำคาญหรอกแต่แค่รู้สึกว่าพี่ดิวก้าวเข้ามายุ่งกับชีวิตประจำวันเขามากไปเท่านั้นเอง
“อิ่มรึยัง?” เสียงนุ่มแต่เหวี่ยงดังขึ้นเหนือหัว แก้ว พี่ดิว เงยหน้าขึ้นมอง
“พี่ กินข้าวเสร็จว่าจะไปหาอยู่พอดี” เขายิ้มให้พี่ภู แต่พี่ดิวหันหน้าหนีไปทางอื่น
“ก็นั่นแหละ อิ่มรึยัง มีเรื่องจะคุยด้วยไอ้แสนไม่ได้บอกเหรอ ไม่ได้ว่างรอทั้งวันหรอกนะ” ผีเข้าแต่เที่ยงวันเชียววุ้ย แก้วมองนาฬิกาข้อมือ เที่ยงสิบห้านาที จะรีบไปไหนของพี่วะ?
“แต่นี่เพิ่ง...”
“อิ่มแล้วใช่ไหม งั้นตามมา เดี๋ยวนี้!” พี่ภูพูดมองหน้าพี่ดิว แต่แค่มองนะ มองผ่านเฉยๆไม่ได้สนใจพี่ดิวอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
“ถือว่ามีแบ็คใหญ่แล้วกร่าง” พี่ดิวว่าตามหลัง
“พี่ภูเขาก็เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่เกี่ยวกับมีหรือไม่มีพี่โซ่สักหน่อย” เขาพูดให้พี่ดิวเข้าใจพี่ชายเขาอีกคน อารมณ์อย่างนี้คงโดนไอ้แสนกวนมาอีกล่ะสิท่า “ผมไปก่อนนะพี่” บอกเสร็จแก้วรีบเดินออกจากโรงอาหารตามพี่ภูเข้าห้องซ้อมอย่างไว
.
.
“ทำไมไม่มีใครอยู่เลยพี่” ปกติห้องนี้ต้องมีเสียงกลองเสียงเครื่องดนตรีดังจนหนวกหูทุกครั้งที่เข้ามานี่นา
“กูขอใช้พื้นที่เองแหละ”
“...ครับ” เขาฟังคำตอบของพี่ รับคำอย่างมึนๆ พลางคิดในใจ งานใหญ่แน่ ไม่อย่างนั้นพี่ภูคงไม่ไล่คนอื่นออกจากห้องหรอก แก้วเดินไปนั่งโซฟาที่อยู่หลังโต๊ะคอมซึ่งพี่ภูกำลังก้มหน้าก้มตาตัดเสียงอยู่
“เมื่อวานอารมณ์ไม่ดีเลยยังไม่ได้คุย วันนี้พูดทีเดียวเลยแล้วกัน” ยังคงหันหลังกดเมาส์ยิกๆ “เล่ามาสิ” ประโยคนี้พี่ภูหันเก้าอี้มากอดอกมองหน้าเขาจังๆ ทำเอาแก้วชะงักกึก
“หะ ห๋า?”
“คอไปโดนอะไร?” พี่ภูย่นคิ้วถาม เอ่อ... อ่า... จะตอบว่ายังไง แก้มเม้มริมฝีปากเข้าหากัน มือลูบพลาสเตอร์
“เมื่อวานไหนบอกไม่โดนอะไรไง”
“คือ คือ เมื่อวานไม่โดนพี่”
“แล้วนี่ล่ะ” พี่ภูตีมือเขาแล้วปัดออกพลันแกะพลาสเตอร์อย่างเร็ว
“เฮ้ย พี่!” เขาอุทานอย่างตกใจ รีบเอามือปิดๆไว้ซึ่งมันคงไม่ทันแล้ว...
“อะ ไอ้แก้ว มึง คอมึง” พี่พูดตะกุกตะกัก จับไหล่เขาเขย่า “บอกมานะใครทำ ไอ้ดิวเหรอ? ไอ้ดิวใช่ไหม กูจะไปเอาเลือดหัวมันออก ไอ้เหี้ย ไอ้เลว ไอ้...” พี่ท่าทางโมโหปนสับสนอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะลุกเดินวนรอบห้องอย่างกระสับกระส่าย
แล้วทำไมไม่คิดว่าเป็นผู้หญิง หรือไม่ก็คนอื่นทำบ้างล่ะ
เขาลุกไปดึงแขนพี่มานั่งโซฟาตัวเดียวกัน แต่แก้วกลับไม่มีท่าทีร้อนรนไปตามพี่ แค่ไม่อยากให้ใครเห็นเท่านั้น ไม่อยากตอบคำถาม ไม่ได้ให้ค่าอะไรกับมันมากมาย...สักนิด
“พี่ครับ ไม่ใช่!” เขารีบตอบก่อนที่หัวใจจะเต้นแรงไปมากกว่านี้เมื่อคิดถึงคนที่ทำรอย เฮ้อ ไอ้หัวใจไม่รักดี บอกว่าไม่ให้ค่าก็อย่าใส่ใจสิวะ
“มันเป็นใคร? กล้าทำรอยมึงได้ไง แล้วไม่ใช่รอยดูดธรรมดาซะด้วย ซาดิสม์ล่ะสิท่า” แก้วรู้สึกหน้าร้อนๆชอบกล คงมาจากที่พี่จ้องหน้าสบตาอย่างคาดคั้น ไม่ได้มาจากคำพูดของพี่หรอกน่า
“พี่...พี่รู้สึกยังไงตอน เอ่อ...” แก้วเลือกที่จะตั้งคำถามแทนการตอบ พี่ภูเป็นเหมือนคนในครอบครัวรองจากไอ้พงษ์ คุยได้ทุกเรื่องก็จริง แต่...จะเริ่มจากตรงไหนนะ
“เอางี้ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร” เขาหน้าเหวอเมื่อพี่พูดออกมาโต้งๆ แก้วหันไปมองประตูขวับกลัวใครเข้ามาได้ยิน
“เหวอ...ผู้ชาย!? ทำไม่พี่ไม่คิดว่าเป็นผู้หญิงล่ะ” แล้วถามกลับเบาๆ
“หึ ความรู้สึกมันบอกอย่างนั้น แล้วนี่ไม่ใช่ไอ้ดิวใช่ไหม?”
“...................” เขาพยักหน้า แล้วก้มนับนิ้วมือตัวเอง
“เฮ้อ โล่งอก คงเป็นไอ้นั่นสินะ”
“เห๋? ไอ้นั่น?” เขาเงยหน้ามองพี่อีกครั้งด้วยความข้องใจ พี่ภูยิ้มอย่างมีเลศนัย ไอ้นั่นของพี่คือใครหว่า?
“หึ ฮ่าๆๆๆๆๆ” พี่ภูกลับหัวเราะซะยกใหญ่กลับมา “ไอ้โซ่คงจะนอยด์ไปหลายวันถ้ารู้ว่ามีคนชั่วกว่ามันในโลกนี้ด้วย ฮ่าๆๆๆ” เหอะ อะไรจะทำท่าพอออกพอใจขนาดนั้น
ก๊อก ก๊อก
“พี่ภู เฮ้อ โล่งอก” ประตูถูกเปิดพรวดเข้ามา แก้วรีบมองหาพลาสเตอร์ที่พี่ดึงออก พลันหยิบมาส่งให้พี่ช่วยแปะคืนเพราะเขามองไม่เห็นรอย
“อะไร? มีอะไร” พี่ภูเสียงแข็งตะโกนตอบคนนั้น น่าจะเด็กช่างปีหนึ่งเดินเข้ามาหาพี่
“อ้อเปล่าๆ แต่พี่อยู่แต่ในนี้นะอย่าออกไปไหนล่ะ” มันพูด หึ ไม่ได้มีพิรุธเลย แก้วนึกขำในใจ
“ทำไม?”
“เอ่อ คือ”
“ไอ้แจม กูถามว่าทำไม?” เออทำไม? มึงจะเลือกตอบได้รึยังก่อนที่พี่กูจะองค์ลงอีกรอบ
“คือ พี่โซ่ให้มาเฝ้าอย่าให้พี่ออกไปข้างนอก อาชีวะx เต็มหน้าโรงเรียนเลย แหะๆ” ไอ้น้องชื่อแจมตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ คงโดนขู่มาล่ะสิ เอ๊ะ...อาชีวะX
“เหี้ยเอ้ยเรื่องจะคุยยังไม่ได้คุยเลย”
“ไอ้ฝิ่น” เขาพึมพำแล้วรีบวิ่งตามพี่ออกไป ได้ยินแต่ไอ้แจมบ่นตายห่าๆวิ่งตามหลัง
คงต้องตายแน่ๆ ไม่ตายวันนี้มึงจะตายวันไหนไอ้บ้าฝิ่น มึงจะมาทำไมวะ? ไหนบอกให้เวลากูเคลียร์แล้วไง
แก้วใจหายใจคว่ำวิ่งตามพี่ไปจนถึงตึกหนึ่งซึ่งมองเห็นเหตุการณ์หน้าโรงเรียนได้แต่ไม่สามารถได้ยินเสียง
บรรดาอาจารย์ต่างไล่นักเรียนเข้าห้อง ไม่ได้เข้าใจเลยว่าในเวลาอย่างนี้มีแต่คนอยากรู้อยากเห็นทั้งนั้น
“ไอ้โซ่!” พี่ภูคล้ายกับพูดลอยๆคนเดียว
ใช่หน้าโรงเรียนนั่น พี่โซ่ พี่แชมป์ พี่เวย์ประธานอีกสาย พี่ป๊อบประธานนักเรียนยืนพูดคุยกันอยู่หน้าโรงเรียน และเด็กในสายเรียกได้ว่าแทบทุกคนของทุกสายยืนออกันอยู่ใกล้ๆตรงนั้น
ถ้าเขาจะเดินไปดูเหตุการณ์ใกล้ๆด้วยก็ไม่แปลกใช่ไหมเพราะเขาก็คนของสายเหมือนกัน
ไวเท่าความคิด เท้าแก้วก็ก้าวทันที
“กูไปด้วย” แก้วหยุดชะงัก พี่ภูคงจะเป็นห่วงพี่โซ่อยู่ไม่น้อยดูจากสีหน้าที่กังวลจนปิดไม่มิด
“พี่รออยู่นี่กับไอ้แจมนะ” เขาบอกแล้วรีบจ้ำอ้าวไปหน้าโรงเรียน
จะมาทำไมมาเหยียบถึงถิ่นขนาดนี้พี่โซ่ไม่ปล่อยไปแน่
“ไอ้ดิว” ฝ่ายนั้นพูด
“กูต้องสอบสวนเด็กกูก่อนว่ามันทำจริงรึเปล่า” พี่แชมป์คงจะตอบกลับ
“กูสอบเด็กมึงแล้วมันบอกมาอย่างนี้มึงยังจะถ่วงเวลาหาอะไรวะ”
“เอาเป็นว่าเรื่องนี้เราคุยกันได้เหมือนที่เคยทุกครั้งนะ แต่ขอทางกูสอบถามเด็กก่อน ถ้ามันทำจริงก็ต้องส่งตัวให้อยู่แล้ว” พี่ป๊อบที่มีอำนาจต่อรองที่สุดตอบโต้บ้าง นี่คุยกันเรื่องอะไรอยู่วะ
“มีเรื่องอะไรกันเหรอ” เขาเอ่ยปากถามเพื่อนร่วมสถาบัน
“ประธาน๕Xโดนฟันเมื่อเช้า มึงคิดว่ามันเป็นเรื่องรึเปล่าล่ะ” ไอ้นั่นตอบมา ประธาน๕X ถ้าเขาจำไม่ผิด...
“ไอ้ฝิ่น!” แก้วชะเง้อคอมองไปยังกลุ่มคนต่างสถาบัน ไม่มีมัน ไม่มีจริงๆด้วยไม่มีไอ้ฝิ่น พี่ไม้ ไอ้โจ้
“บัดดี้ๆ” ไอ้แสนสะกิดแขนเขา แก้วทำเป็นยืนนิ่งให้เข้ากับคนอื่นๆ แต่ในใจกลับไม่อยู่ตรงนี้แล้ว “พี่ดิวคนดีก่อเรื่องอีกแล้วล่ะ”
“กูให้เวลาสามวัน แต่ภายในเวลานี้ถ้าพวกกูเจอมันที่ไหนแล้วจะเอาคืนบ้างก็อย่ามาโวยละกัน” ทางนั้นพูดประโยคส่งท้ายก่อนจะยกพวกพากันเดินออกไปทางป้ายรถเมล์เพื่อขึ้นรถกลับ
พี่ดิว?
แล้ว...ไอ้ฝิ่นเป็นยังไงบ้าง
..................................
สดๆร้อนๆ ในที่สุดเราก็อัพติดกันไม่ได้อีกแล้ว กระซิก กระซิก (คิค)
Drama story นี่จบเศร้ามั้ยคะ อิิอิ แต่ชอบฝินน่าเถื่อนๆดีจังเลยอ่ะ
...ตอบอย่างเต็มปากเต็มคำว่าไม่เศร้าแน่นอนค่ะ ซีซั่นชอบนิยายที่มีอะไรในเรื่อง (อะไร คืออะไร? แอร๊ งง ตัวเอง ฮา) เพราะถ้าเรื่องนี้จบไม่งามคนเขียนคงเป็นคนแรกที่ไม่สามารถเขียนได้ค่ะ แค่คิดพล็อตก็คงนอยด์จนเขียนไม่ออกแล้ว เคยอ่านนิยายที่จบเศร้าๆนะ ชอบนะไม่ใช่ไม่ชอบ แต่อ่านจบแล้วนอยด์มาก ต้องจูนสติตัวเองเป็นเดือนถึงจะเข้ามาอ่านนิยายเรื่องใหม่ได้ อันที่จริงเรื่องนี้ไม่ได้ดราม่านะ (ยังคงยืนกรานว่าอย่างนั้น เอิ๊กๆ)
เอ๊ะ..นักเขียนชอบไม้ นี่เอาอิมเมจไม้มาจากคนใกล้ตัวหรือเปล่าหว่า
:laugh:
...คนใกล้ตัวถ้าให้อิมเมจคงเป็นไอ้ฝิ่นมากกว่าพี่ ฮ่าๆๆๆๆ
...พี่ไม้นี่จะว่าใกล้ก็ไม่กล้าพูด จะว่าไกลก็คงประมาณนั้น พี่เขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่วิทยาศาตร์ไม่สามารถอธิบายได้ เวลานั่งใกล้ๆรู้สึกเหมือนมีรังสีบางอย่างผลักเราให้ออกห่างยังไงอย่างนั้น เป็นคนประมาณไม่ต้องพูดอะไร แค่รู้ว่าพี่ไม้อยู่ตรงไหนก็ใจสั่นแล้วอะ (พูดไปนั่น อวยเหลือเกิน ฮ่าๆ)
เกิดเป็นพี่ไม้นี่โชคดีจริงๆ แค่โปรไฟล์ยังเท่ซะ ? พูดไม่กี่ประโยคคนอ่านก็ปลื้มละ ใช่ซิ๊ ไอ้ฝิ่นเหมือนลูกเมียน้อยเลยสินะ เกิดเป็นพระเอกต้องอดทนนะลูกนะ โฮ ชีวิตแกช่างน่าเศร้าเหลือเกิน
:pig4: ขอบคุณคนอ่านทุกคนนะคะ^^ คนอ่านหน้าใหม่ที่หลงผิดคลิกพลาดเข้ามาด้วย ฮ่า ยินดีต้อนรับคร๊าบบบ กอดๆ จุ๊บ
-
ตายห่าสะได้ก็ดีี เปลี่ยนพระเอกแม่งเลย ฮาาา :laugh:
-
ไม่ทันไรเป็นห่วงเค้าแล้วเหรอแก้ววว
:z2: :z2: :z2:
-
โอยฝิ่นจะเป็นอะไรไหม ถ้าเป็นก็ดี สะใจ!!! :laugh:
ชอบแสนคนอะไรจะน่ารักได้ขนาดนี้
-
อร๊ายยยยยยยย คนเขียนใจร้ายยยยย จบได้แบบค้างมากๆๆๆ :z3:
อยากจะสมน้ำหน้าไอ้คุณฝิ่นจริงๆ ก็แกตั้งใจให้ไอ้พี่ดิวมันคลั่งอยู่แล้วนี่ แถมยังไปทำร้ายเขาก่อนหน้านี้อีก
เล่นกันไปเล่นกันมาแบบนี้ แก้วก็คงเป็นนางเอกตามไปพยาบาลคนโน้นทีคนนี้ทีเหมือนเคย เฮ้อออ :เฮ้อ:
-
เอ๊า!! ไปโดนฟันเมื่อไหร่เนี๊ยะ แต่เราไม่ชอบดิวอะ ดูโกงๆไงไม่รู้
รู้ว่่แก้วสำคัญกับพงษ์ยังจ้องจะกินอีก ไม่ใช่แฟนแก้วก็มาทำหวงด้วย (แก้วของเรานะ!! //โดนฝิ่นโบก!)
ขอตอนหน้าไวไวเลยนะเบบี๋ แอบค้างนะเนี๊ยะ :กอด1:
-
กำ กำ จะตายไหมนั้น
:a5:
-
วู้ๆๆๆไอ้ฝิ่นโดนฟัน เค้าสะใจจริงๆๆๆ :laugh: :laugh: ( สมแล้วให้มันโดนซะมั้งเนาะ )
ว่าแต่แก้วนี่เริ่มจะหลงรักไอ้เลวฝิ่นแล้วนะเนี่ยย
ใครบอกว่าผู้หญิงชอบคนเลว ผู้ชายเค้าก็ชอบคนเลวเหมือนกันนะ ใช่ไหมแก้วว :m12:
-
:jul3: ฝิ่นจะเป้นไรนะ
แต่โดนซะบ้างก็ดี
แก้วไปพยาบาลด่วนนนนนนนนนนนนน
-
เป็นห่วงฝิ่น แก้วรีบไปช่วยด่วน :angry2:
-
:เฮ้อ: แก้วเอ้ย :กอด1:
:pig4:
-
แก้วเริ่มออกอาการแล้วนา :m12:
-
:กอด1:
-
แก้วโทรไปเช็คฝิ่นก่อนแล้วรีบตามไปหาอย่างไวเลย
-
ไปหาฝิ่นเลยแก้วววววววววววววววววววว :z10:
-
เวลาเจ็บตัวนี่หละเวลาได้ทำคะแนน แก้วดูแล ขี้คร้านฝิ่นมันจะทั้งรักทั้งหลง หรา ? ฮ่า ฮ่า
-
อึดอัดแทนแก้ว ไม่รู้จะมายุ่งวุ่นวายอะไรมากมาย
แล้วก็ แต่ละคนที่เข้าหาแก้วไม่รู้จุดประสงค์เลย รู้แต่ฝิ่นคนเดียว พี่ดิวนี่นอกจากชอบยังต้องมีอะไรอย่างอื่นอีก(มั้ง)
-
55555555555555
ฝื่นโดนฟันจริงดิ !!
ดีใจที่เรื่องนี้ไม่ดราม่า เพราะเวลาอ่านนิยายที่มันจบเศร้าแล้วแบบ
เห้อออออออออออออออออออ !
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ
-
พี่ดิวทำฝิ่นจริงหรอ สงสารฝิ่นนะ ถึงจะเราชอบและอยากเชียร์พงษ์ ก้อตาม
-
แก้วเป็นห่วงฝิ่นเหรอจ๊ะ
-
...โอ พระเอกโดนฟันซะแล้ว แล้วนายเอก คนกลาง จะไปซ้าย หรือไปขวาหว่า น่าอึดอัดเนอะเป็นคนกลางเนี่ย
...แต่รู้สึกหัวใจมันจะเอียงไปทาง คนที่โดนฟันซะแล้วมั้ง งั้นก็เอากายไว้ทางนี้ เอาใจไปทางโน้นก็แล้วกัน อึดอัดแทนแก้ว :L2:
-
รู้สึกรำคาญพี่ดิวมากเลย :serius2:
ตัดฉับไปนะ.....แก้วเริ่มชอบฝิ่นแล้วสิ :-[. ...แล้วฝิ่นหล่ะ :เฮ้อ:
-
แล้วทำไมไม่คิดว่าเป็นผู้หญิง หรือไม่ก็คนอื่นทำบ้างล่ะ <<< :laugh: แก้วเอ๊ยยย
หนุ่มๆเยอะขนาดนี้น่าจับจิ้นซะให้หมด อรั๊ยย >///<
ฝิ่นโดนฟัน กร๊ากกกก สมน้ำหน้า ทารุณน้องแก้วเรานัก ส่วนพี่ดิวมาดโฉดนี่มันช่าง :-[ :m3: (<<สวนกระแสมาก 55)
เอาล่ะ สมน้ำหน้าพอเป็นพิธี ขอส่งแก้วไปดูแลฝิ่น ทำคะแนนให้ว่อง(เพราะดันพลาดไปหวั่นไหวก่อน) -*-
รู้สึกว่าตีกันไปตีกันมา เรื่องมันเลยเถิดออกทะเลไปซะแล้ว สงสารน้องแก้ว TT[]TT
:กอด1: :pig4:
ปอลิง ดีใจที่เรื่องนี้ไม่จบเศร้า นึกว่าตอนสุดท้ายจะมีการตายในอ้อมกอดเด็กช่างซะแล้ว 555
ปอลิง2 ถามนิดนึง ในชีวิตจริงแล้ว พอสอบสวน แล้วส่งตัวให้ฝ่ายตรงข้าม ปกติจะจัดการยังไงอ่าคะ โดนรุมกระทืบ? หรือส่งตัวให้ตำรวจ? etc? หรือมันจะเป็นการสปอยล์เนื้อเรื่อง? ><"
-
ค้างมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คนเขียนทำร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :serius2:
มาต่ออีกนะ เค้าจะรอ ๕๕๕
-
เป็นพระเอกเรื่องนี้ต้องเจ็บตัวตลอด
แล้วนายเอกของเราก็รู้ใจตัวเองว่ารักเขาเข้าแล้ว
ชอบพี่ภู อยากอ่านพี่โซ่กะพี่ภูด้วยค่ะ
-
มาต่อไวๆๆๆนะคับ
-
จะมีตอนไหนมั้ยเนี่ยที่ฝิ่นมันจะสมประกอบ เจ็บตัวตลอดเลยเหอะ :onion_asleep:
-
ถ้าจะเป็นห่วงเป็นใยกันขนาดนี้ รักกันเลยดีมั้ยจ๊ะ :z1:
-
น้องแก้วใจ เป็นห่วงเค้าอะดิ๊ :o8:
-
+1 ให้จ้า
ฝิ่นจะเป็นอะไรมากมัยเนี่ย :sad4:
แก้ว เป็นห่วงเขาซินะ ไปเฝ้าเลย :เฮ้อ:
รอตอนต่อไปจ้า :call: :call:
-
สมน้ำหน้าฝิ่น โดนบ้างรัยบ้าง
-
ไอพี่ดิวแม่งก่อเรื่องอีกแล้ว เป็นตัวละครที่รู้สึกหมันไส้พิกล
แก้ว ยังไม่ทันไรก็ห่วงฝิ่นซะแล้ว555
-
แก้วไปอยู่กับไอ้ฝิ่น
เหอะ รำคาญไอ้ดิว
จะตายอยู่แล้ว :seng2ped:
-
แก้วน่าจะอ้างอะไรซักอย่างแล้วไปอยู่กับฝิ่นแบบถาวรซะเลยนะ ตัดปัญหา
คู่ภูโซ่น่าสนใจอ่า :m13:
-
อ๊ากกก อ่านตามทันจนได้!!
เป็นนิยายที่ไมกดปิดไปซะก่อน
นิยายคุณน่าติดตามจริงๆค่ะ!! :L2:
-
ขออ่านด้วยคนนะคะ
-
:เฮ้อ: ไม่จบไม่สิ้น น่าสงสารแก้วที่สุด ต้องคอยแก้ปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อ อยากรู้จังว่าฝิ่นโดนใครทำร้าย แอบหวังลึกๆ ว่าไม่ใช่ดิว :เฮ้อ:
-
^^
-
นับวันยิ่งไม่ชอบขี้หน้าอิพี่ดิวขึ้นทุกวัน ๕๕๕๕๕
ไม่ค่อยชอบคนช่างตื้อ ช่างตาม หวงก้าง(ที่ไม่ใช่ก้างตัวเอง)
แอร๊.. เรามีนิสัยเป็นแบบแสนเลยอ่ะ จะรำคาญมากๆจนต้องด่า จั๋งซี่มันต้องถอน... =..=
กรี๊ดดดด เป็นห่วงฝิ่น
-
เห็นหัวเรื่องเปลี่ยนเลยรีบเข้ามา
แต่ยังไม่มา ๕๕๕
-
^
^
:กอด1:
........................
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๗
ตึกช่าง อาคาร ๒ ณ ห้องเรียนห้องหนึ่ง
ประธานนักเรียนจะเรียกคุยกับประธานสายน่ะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เขามายืนทำอะไรที่นี่ด้วย
“ไม่เชื่อถามไอ้แก้วดูสิ ผมอยู่กับมันตลอด” พี่ดิวพูดบอกเมื่อถูกคาดคั้นจากพี่ป๊อบ
“ขะ ครับ” เขาตอบได้ไม่เต็มปากนัก ...อยู่ตลอดน่ะใช่ แต่เขาไม่มั่นใจว่าทุกเวลารึเปล่าเพราะบางทีเขาก็ลืมมองพี่ดิวไป
ถึงไม่ใช่ครั้งแรกที่สถาบันอื่นมาเยือนเราถึงถิ่น แต่ก็น้อยครั้งที่ประธานนักเรียนจะออกมารับเรื่องเองอย่างนี้
แล้วครั้งนี้ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
“แล้วจะเอายังไง ประธาน๕X มันบ้าจะตาย กูต้องเตรียมคนไว้รอเลยใช่ไหม?” พี่เวย์ ประธานสาย๗T พูดแขวะ
“ไม่ใช่เรื่องของกู กูคงไม่จำเป็นต้องยุ่งใช่ไหม?” พี่โซ่ ประธานสาย๙T พูดจบยกมือลาพวกที่ยืนอยู่ แล้วเดินหนีออกจากวงสนทนาไปเลย
มันถูกแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเอง ไม่มีใครเขาจะเอาตัวมาข้องเกี่ยวหรอก
“เรื่องเกิดที่สายกู กูจัดการเอง รับรองว่าจะไม่ให้มันใหญ่ไปกว่านี้ จะไม่ให้สายอื่นต้องมาเดือดร้อนไปด้วย” พี่แชมป์มองหน้าพี่ดิวคาดโทษทั้งเอ่ยปากบอกพี่อีกสองคนที่เหลือ ก่อนที่พี่ป๊อบ พี่เวย์จะพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้อง
“รุ่นน้องเจ็บสอง คงต้องนอนโรงพยาบาล” พี่แชมป์บอก เดินไปนั่งเก้าอี้
“แล้วไง? กูทำอะไร? มีใครเห็นไหมว่ากูเป็นคนทำ” พี่ดิวเดินไปยืนท้าวโต๊ะ
“ไอ้ดิว!”
“หึ กูว่ามึงจะป๊อดขึ้นทุกวันแล้วนะแชมป์ กะอิแค่มันยกพวกมาข่ม ก็กลัวจนขี้หด” พูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันดูถูก
เขาไม่ชอบพี่ดิวในเวลานี้นัก น่าจะให้เกียรติพี่แชมป์มากกว่านี้เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นแค่เด็กในสายธรรมดาที่ไม่ควรมาได้ยินคำพูดแบบนี้เลย
“มึงจะทำอะไรกูไม่ยุ่งหรอกนะ แต่อย่าให้คนอื่นต้องมาเจ็บตัวไปด้วย มึงเป็นพี่ มึงน่าจะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้”
“รับผิดชอบ? แล้วมึงล่ะ มึงเห็นพวกนั้นเล่นกูต่อหน้าต่อตา แล้วมึงจัดการยังไงให้กู”
“แล้วมึงรอได้ไหมล่ะ! ทำไมมึงไม่รอบ้าง ยังไงกูต้องเคลียร์ให้มึงอยู่แล้ว มึงคิดว่ากูอยู่เฉยๆรึไงวะ! “ เขา...รู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่รุนแรงขึ้นของพี่แชมป์ แก้วมองหน้าพี่ทีละคน ถ้าไม่มีธุระอะไรกับเขาแล้ว เขาขอออกไปรอข้างนอกได้ไหม
...อยากจะพูดคำนี้เหลือเกิน แต่ทำได้แค่ก้มหน้ามองใต้โต๊ะเงียบๆ
“กว่ามึงจะจัดการได้ เด็กทั้งสายคงต้องนอนจมเลือดอยู่ข้างถนนหมด”
“ก็ถ้ากูโดนเล่นงานคนเดียวแล้วพวกมึงอยู่รอดปลอดภัยกันทุกคนกูก็ทำให้ได้ แต่พวกมึงจะเลิกสร้างปัญหากันได้ไหมล่ะ ก็ไม่ได้ เพราะงั้นพวกมึงก็ควรจะใจเย็น อย่ายุน้อง เด็กมันมีเรื่อง เรื่องมันก็มาถึงทุกคนในสาย มันอยู่ยากมึงไม่ยอมเข้าใจเลย”
“เหอะ” พี่ดิวแสยะยิ้มท่าทีต่อต้าน “คราวนี้ก็ถือว่าเจ๊ากันไปละกัน เมื่อวานมันทำกูก่อนเองนี่หว่า” พี่ดิวมองมาที่คอเขา แก้วร้อนตัวชอบกลกับแววตาเอาเรื่องของพี่
“เด็กโดนซ้อมจนถึงต้องปริปากบอกว่ามึงสั่งนี่นะ! คงจบง่ายๆได้หรอก” พี่แชมป์เสียงดังจ้องพี่ดิวเขม็ง
“เด็กนั่นมันคงหมั่นไส้อะไรกูสักอย่าง มึงก็อย่าไปเชื่อมันให้มาก ไปแก้วกลับบ้านกัน” พี่ดิวดึงแขนเขาออกจากห้องเหมือนไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น แก้วหันไปมองตามเสียงโต๊ะล้มโครมครามจากในห้องเรียน
พี่แชมป์คงโมโหมาก แล้วหันมามองหลังพี่…อย่างไหนที่เขาควรจะเชื่อนะ
“พี่ดิว” เขากระตุกแขนเรียกให้พี่หันมาฟัง พี่ดิวหันมามองหน้า...มองคอ แล้วมองหน้าอีกรอบ “พี่ไม่ได้ทำใช่ไหม” เขาไม่เข้าใจว่าจะถามเอาอะไร ทำหรือไม่ได้ทำก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเขาตรงไหนเลย ดีซะอีกให้มันได้เจ็บตัวซะบ้าง
“แล้วแก้วเชื่อพี่รึเปล่า?” พี่ดิวตั้งคำถามกลับมา “พี่ที่ไอ้พงษ์นับถือ พี่ที่ยอมลดศักดิ์ศรีตัวเองเพื่อช่วยไอ้พงษ์ พี่ที่ทำทุกอย่างเพื่อเพื่อนของเรา ...หวังแค่ให้เราเชื่อในตัวพี่ แล้วแก้วคิดว่ายังไง?” เขานิ่ง
...ก่อนจะพยักหน้าให้พี่ดิวที่มองเขาอย่างคาดหวังพลันดึงมือตัวเองออกจากมือพี่และเป็นคนเดินนำออกจากโรงเรียนแทน
เป็นสิ่งที่เขาเคยคิดไว้ เหตุการณ์อย่างนี้มันจะหมุนรอบเป็นวงกลมอยู่ซ้ำๆ
เมื่อวานไอ้ฝิ่นไม่พอใจเรื่องเขาเลยมาดักเล่นงานคนในสาย
วันนี้พี่ดิวเอาคืน
“เฮ้อ...” เขาแหงนหน้ามองฟ้า เขาไม่ได้คิดจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำกันมารุ่นสู่รุ่นหรอกนะ
แต่เขาจะต้องอยู่กับความรู้สึกกดดันอย่างนี้ไปอีกกี่วันกัน
ทางที่ดีเขาต้องรีบจบเรื่องของตัวเองให้ได้เร็วๆ ก่อนที่จะเกิดเรื่องอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทั้งที่บางทีมันอาจไม่เกี่ยวกับเขาแต่ก็อดรู้สึกผิดไม่ได้เมื่อรู้ว่าคนที่ทำคือใคร
ด้วยเพราะต้นเหตุมาจากเขา เขาต้องทำมันให้ได้
สักครั้งที่จะเป็นครั้งแรก...เขาอยากทำให้สำเร็จสักครั้ง ไม่ใช่แค่เป็นสิ่งที่ตัวเองทำได้
แต่มันจะต้องเป็นสิ่งที่เขาพิสูจน์ให้ไอ้พงษ์ได้เห็นว่าเขาเข้มแข็งขึ้นแล้วจริงๆ
อีกไม่นานหรอกพงษ์ เรื่องนี้มันจะต้องจบ ถ้ากูกลับไปบ้านมันอีกครั้ง กูต้องทำตามข้อตกลงให้สำเร็จ
ถึงตอนนี้กูจะอยากรู้ว่ามันอาการเป็นยังไงบ้าง แต่กูก็ไม่อยากทำลายความเชื่อใจของพี่ดิวเป็นครั้งที่สองเหมือนกัน
นักเรียนทุกระดับชั้นถูกแจ้งให้กลับบ้านทันทีไม่ต้องรอเวลาเลิกเรียน
เพราะอาจารย์ไม่มั่นใจในความปลอดภัยจากสิ่งที่เห็นเมื่อช่วงพักกลางวัน
เด็กบริหารจะมีรถตู้ไปส่งถึงหน้าบ้าน เด็กช่างจะถูกจัดให้นั่งรถบัสของโรงเรียนไปส่ง
เขากับเพื่อนร่วมสายและเด็กช่างบางส่วนก็เลือกนั่งแท๊กซี่กลับ แทนที่จะกลับรถประจำทางเหมือนทุกวัน เพื่อความปลอดภัยเช่นกัน
.
.
.
“พวกนั้นกลับมาแล้วพี่” ไอ้โจ้เดินเข้ามาบอก
เขาทิ้งบุหรี่ลงพื้น ใช้ปลายรองเท้าเหยียบขยี้จนบี้แบน
วันนี้เขาใส่รองเท้าผ้าใบมาเรียน ถึงจะยังวางฝ่าเท้าได้ไม่เต็มที่ แต่แผลแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก
“เรียบร้อยพี่ ผมให้เวลามันสามวันตามที่พี่บอก” สามวันเหรอ...หึ ก็แค่คำขู่เล่นๆ คนอย่างเขาจะต้องเสียเวลารอเพื่ออะไร
“ดีมาก” เขาพูดแล้วจับเสื้อฉ็อปสีเทาที่พาดอยู่บนบ่ามาสวมใส่ท่อนบนเปลือยเปล่าแทนเสื้อนักศึกษาที่ขาดเป็นรอยเฉียงจากด้านหลัง
ก็แค่โดนมีดสะกิดเท่านั้น แต่เล่นยกพวกไปถึงโรงเรียนมัน ทุกคนต้องคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ หึ ให้คิดอย่างนั้นแหละดีแล้ว
“ไม่ว่ามึงจะโวยวายหรือจะนิ่ง ในหัวมึงก็ยังคิดแต่ให้คนอื่นรู้สึกผิด” เขาโยนเสื้อนักศึกษาให้โจ้เป็นคนเอาทิ้งถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ใส่ใจคำพูดพี่ไม้
วิธีเอาคืนน่ะ ไม่จำเป็นต้องเจาะจงวิธีใดวิธีหนึ่งหรอกนะ
แค่ลูกกระจ๊อกอยากเอาใจลูกพี่ แต่คงขาดการเทรนด์อยู่มาก...อย่าหวังว่าจะทำอะไรเขาได้เลย นี่ขนาดเขาปล่อยโอกาสให้มันได้ลงมีดกับเขาเป็นบุญหัว ยังทำได้แค่เอามีดมาเขี่ยหลัง คิดจะฟันคนมีของ โถ อนาถ...ลูกพี่อ่อนยังไง ลูกน้องก็ไม่ต่างกัน กูไม่อยากจะสมเพชพวกมึงเลยจริงๆ
“แดกยาดองดีกว่า” ฝิ่นยักไหล่กอดคอพี่พร้อมยิ้มให้ พี่ไม้ส่ายหน้าเพราะเบื่อที่จะรู้ทันแต่ปรามไม่ได้
เขาเดินนำไปจนถึงร้านยาดองซึ่งตั้งอยู่ข้างวิทยาลัย
“เอาเป็นว่าพี่รอดูอย่างเดียวละกัน ถ้าพี่ไม่อยากลงมือเองจริงๆ” ถึงเวลานั้นพี่จะต้องขอบคุณเขาแทบไม่ทันเชียวล่ะ
เขารู้ว่าพี่รอได้ แต่กว่าจะถึงวันที่ไอ้พงษ์กลับมาให้พี่เอาคืน วันนั้นเขาไม่มั่นใจว่าพี่จะเจ็บน้อยลงจนคำว่าอภัยมาแทนที่ไหม นั่นคือสิ่งที่เขากลัว จิตใจที่โลเลของพี่ในตอนนี้
สู้คอยสะกิดพวกมันต่อไปเรื่อยๆ ดีกว่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้จุดหมาย เขาคิดอย่างนั้น และความคิดของเขานี่แหละคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว อีกทั้งการได้ลงมือทำด้วยตัวเอง คือสิ่งที่จะกำหนดบทสรุปให้เห็นกับตา ได้ดีที่สุด
อย่างเวลานี้ไอ้ดิวคงกำลังกระวนกระวายแล้วสินะ หึ เล่นด้วยกับกูง่ายจริงๆ นี่สิถึงจะสนุก แค่รอยที่กูทำเล่นๆ มึงยังลนได้ขนาดนี้
แต่...ยังหรอก มึงจะยังไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกของการสูญเสียได้ ในเมื่อวันนี้แผนของกูยังไม่คืบหน้าเลย เอาไว้ถึงวันที่ไอ้แก้ว คนของมึงหลงกูจนโงหัวไม่ขึ้นขึ้นมา วันนั้นจะเป็นวันที่พวกมึงได้ชิมรสชาดของการตายทั้งเป็นว่ามันรู้สึกยังไง
เพื่อนกูต้องไม่ตายเปล่า พี่กูต้องไม่เจ็บฟรี
...บทบาทของการเป็นผู้ถูกกระทำ พวกกูเป็นฝ่ายถูกทำร้ายมาตั้งแต่แรก จำไว้!
..................
ฝิ่นขอขอบคุณคนอ่านทุกท่านที่เป็นห่วงเป็นใยกับข่าวคราวที่ได้อ่านมา (เหรอ?) :-[
ฝิ่นไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกค่ะ แต่แผ่นหลังฝิ่นนั้น...ต้องรอฉากอนาคตก่อนแล้วจะได้รู้ว่าทำไมมีดยันสปาต้าถึงทำอะไรมันไม่ได้
อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกนะคะ เพราะส่วนใหญ่คนพวกนี้เขาจะบูชาของป้องกันตัวเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่าเป็นพระเอก(โถ กล้าพูด) แล้วคนเขียนจะสร้างมันขึ้นมาให้เหนือกว่าคนอื่นหรอก แต่การจะทำร้ายคนพวกนี้มันมีทริคค่ะ ไม่ใช่สักแต่จะแกว่งคมมีดแล้วจะได้เห็นเลือดพวกนี้ง่ายๆ
ลองมองความแตกต่างจากวิธีการทำร้ายฝิ่นกับเป้งดู แล้วคนเขียนจะมาบอกว่าทริคนั้นคืออะไร (อินี่มันเล่นตัว กร๊ากกก)
ประเดี๋ยวซีซั่นจะรีวิววิธีชำแหละเด็กช่างให้ดูนะคะ ฮ่าๆๆๆ
ปอลิง2 ถามนิดนึง ในชีวิตจริงแล้ว พอสอบสวน แล้วส่งตัวให้ฝ่ายตรงข้าม ปกติจะจัดการยังไงอ่าคะ โดนรุมกระทืบ? หรือส่งตัวให้ตำรวจ? etc? หรือมันจะเป็นการสปอยล์เนื้อเรื่อง? ><"
...ไม่สปอยล์อะไรค่ะ แต่Gossip นะ (ถึงตรงนี้ไม่มีอะไรเป็นความลับแล้วล่ะนังคนเขียน :serius2:)
ถ้าเรื่องที่ก่อไม่ร้ายแรง ไม่ได้เล่นกันจนตาย ไม่ส่งตัวให้ ไม่ต้องหนี ชิลๆ
ถ้าร้ายแรงถึงขั้นมีการตาย (ณ ที่นี้ หมายถึงฝ่ายกระทำ เช่นคนเขียนฆ่าพี่ไม้อย่างนี้) ก็จะสั่งโรงเรียนให้ปิดข่าวให้เงียบ คนในห้ามพูดถึงเด็ดขาด และสั่งคนที่ก่อเรื่องให้หนีไปซ่อนตัวจนกว่าเรื่องจะซา แต่ถ้าอยากกลับมาก็ดูแลตัวเองดีๆเพราะโอกาสรอด ยาก เท่าเดิม
อย่าฝันว่าคู่อริจะให้ความร่วมมืออะไร ไอ้ที่ว่าเดี๋ยวตามให้ๆอย่าไปเชื่อคำนั้น
นอกจากอาจารย์จะส่งตัวให้ตำรวจทางเดียว ซึ่งอาจารย์ก็ไม่กล้ายุ่งอยู่แล้ว
ตอบได้เท่านี้ค่ะ บางส่วนอยู่ในเนื้อเรื่องที่ผ่านมาแล้วด้วยเพียงแต่ไม่ได้บอกเป็นภาษาชัดเจนอย่างนี้ อิอิ
ตรงนี้จะเห็นเลยว่าวิธีการข่มขู่หน้าโรงเรียนเพื่อเอาตัวประกันเป็นเรื่องสูญเปล่า ที่จะได้คือ...ทำให้พวกเด็กใหม่เสียขวัญ เหมือนเป็นการดิสเครดิตความน่าเชื่อถือของพี่ใหญ่ในสาย และสร้างความวุ่นวายทำให้โรงเรียนจับตามองเด็กของตัวเองเพิ่มเพียงเล็กน้อย
ซึ่งไอ้ฝิ่นมันก็รู้ดี เพราะในเรื่องก็เคยคว้าน้ำเหลวมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันก็ทำ...เพราะมันมองว่าครั้งนี้มันได้มากกว่าเสีย (หรือจะว่าไป มันไม่คิดถึงสิ่งที่มันเสียต่างหาก)
ปล.พี่ภู + เฮียโซ่ แปะโป้งไว้ก่อนนะคะ หวังว่าจะมีโอกาสพาไปเก็บstoryสองคนนี้เหมือนกัน แต่อะไรๆก็ไม่แน่นอนค่ะ ^^ ทำความรู้จักแบบแซมๆในเรื่องนี้ไปก่อนเนอะ
:pig4:ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากค่ะ ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับทุกคอมเม้นท์^^
ยินดีต้อนรับคนอ่านหน้าใหม่นะคะ หลงกลเราอีกแล้ว เย่ เย่ กอดๆจุ๊บ
กรีดร้องงง เปลี่ยนหัวเรื่องแล้วจะโพสเน็ตดันหลุด เลวร้ายมาก โฮT^T
ปล.๒ คนเขียนตกใจ ไหงตอนนี้สั้นจังหว่า
แอร๊ เข้ามาดิทสาย ขอบคุณคุณเฉาก๊วยมากเจ้าาาา^^
-
จิ้มมมมมมมม
ทันไหม ?
๕๕๕
-
:กอด1:
-
เข้ามาอ่านสองตอนรวด
ยังโนคอมเม้นอยู่
:z2:
-
:pig4: ตอนนี้สั้นจิงๆด้วย
เมื่อไหร่จะ :oo1:กานนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หื่นจิงกู
-
ไอ้บ้าฝิ่น ตกใจหมด เดี๊ยะให้แก้วงอนสัก3วัน
-
:pig4: ตอนนี้สั้นจิงๆด้วย
เมื่อไหร่จะ :oo1:กานนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หื่นจิงกู
...นับถอยหลังรอได้เลย อีกประมาณ seasons ทำหน้าครุ่นคิด //นับนิ้วๆๆๆ :sad4:
-
:a5: ฝิ่นหวังให้แก้วหลง
ดีนะที่แก้วมัน M
:pig4:
-
ที่แท้ก็เป็นแผนไอ้พี่ฝิ่นนี่เอง
ลุ้นเมื่อไหร่จะได้กอดกันซะที
-
:เฮ้อ:
สามคำจัดไป
เกลียด พี่ ดิว
-
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ แต่คนเขียนอย่าฆ่าพี่ไม้น้า ^^ (ตอนนี้พี่ไม้ออกมาหนึ่งประโยค แต่เด็ดมาก ><)
สรุปแล้วพี่ดิวไม่ได้เป็นคนฟัน แต่สั่งรุ่นน้องไปสินะ แอบรู้สึกเห็นใจพี่ดิวนิดๆนะ วิ่งพล่านเชียว เค้ารักของเค้านี่ -*- ฝิ่นนี่ก็...เฮ่อจริงๆ = =" อย่างนี้ให้โดนฟันไม่ต้องลุกเลยดีกว่ามั๊ยเนี่ย
แก้วต้องรู้สึกผิดแน่ๆเลย แล้วก็ต้องคิดแน่ว่าตัวเองเป็นสาเหตุ ที่จริงแล้วแก้วเป็นข้ออ้างต่างหาก T^T สาเหตุมันอยู่ที่ใจเหล่าผู้กระทำทั้งหลายนั่นแหละ >< หนีความวุ่นวายไปอยู่กับพงษ์เต๊อะ
ขอบคุณคร้าบ เย้ อัพ2วันติดแล้ว ^^ สู้ๆ
ปอลิง(ดิธเพิ่ม หลังจากอ่านใหม่ตั้งแต่ตอนแรก 555 พยายามมาก)
พยายามจะทำความเข้าใจเหตุผลของแต่ละคน คิดว่าโดยพื้นแล้วไม่มีใครเลว มีแค่เหตุที่ส่งให้เกิดการกระทำ เราว่านิยายเรื่องนี้ ตัวละครสมจริงมากค่ะ และด้วยการกระทำต่างกัน เลยเห็นความคิดของแต่ละคน(แต่ก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมดนะ -*-) อ่านแล้วก็นั่งคิดตามไปด้วย คนเขียนสุโค่ยค่ะ 555 ^^b
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
รอตอนต่อไป......... :เฮ้อ:
-
เมื่อถึงเวลานั้นเจ๊เชื่อว่าคนที่จะเจ็บมากกว่าแก้วก็คือฝิ่นเองนั่นแหล่ะ
-
...อ้าว เรื่องทั้งหมดกลายเป็นแผน เผด็จศึก หรือมัดใจนายเอก เพื่อฆ่าคู่อริทางอ้อม หรือนี่ ล้ำลึกนะ..นายฝิ่นดิบบบบบบ :laugh:
-
เมื่อถึงเวลานั้นเจ๊เชื่อว่าคนที่จะเจ็บมากกว่าแก้วก็คือฝิ่นเองนั่นแหล่ะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งคร้าบบบบบ o13
-
ฝิ่นนะฝิ่น ร้ายกาจจริงๆ
-
หวังว่าตอนที่แก้วหลงฝิ่น
ฝิ่นก็คงหลงแก้วเหมือนกัน
-
สนุกมากกกก มาต่อเร็วๆนะคะ o13
-
เกิดเป็นแก้ว คงได้ฆ่าตัวตายวันละหลายๆรอบ :a6:
เนื้อก็ไม่ได้กิน หนังก็ไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ
-
เด็กพวกนี้จะยังไงกันเนี่ย :z3:
-
^^
-
เอ่อ...พี่โซ่เป็นประธานสาย ๙T ส่วนพี่เวย์เป็นประธานสาย ๗T มั้งคะ
ตอนนี้โคตรละครหลังข่าวเลยอะคนเขียน ประมาณว่าพระเอกแค้นคนสนิทของนางเอก ก็เลยเอานางเอกมาแก้แค้น เพื่อให้คนๆ นั้นเป็นทุกข์กระอักเลือดตายอะ
แต่ก็ยังเดาไม่ได้ว่าไอ้คุณฝิ่นวางแผนแบบไหน จะทำให้แก้วรักแก้วหลงแล้วเขี่ยแก้วทิ้ง เพื่อให้แก้วเสียใจแล้วพงษ์แค้นแทน
หรือทำให้แก้วรักแก้วหลง เปลี่ยนมาเชื่อฝิ่นแทนเชื่อพงษ์ (เพราะฝิ่นอาจเข้าใจว่าแก้วกับพงษ์มีอะไรมากกว่าคำว่าเพื่อน) ซึ่งแบบนี้พงษ์ก็จะแค้นฝิ่นเช่นกัน
อืมมมม...แต่ฝิ่นใช้คำว่าตายทั้งเป็นนี่นะ งั้นก็น่าจะเป็นแบบแรกมากกว่า เพราะการที่เห็นคนที่เรารักเสียใจและเป็นทุกข์น่าจะเป็นการตายทั้งเป็นมากกว่า
แต่กลัวว่าไปๆ มาๆ ไอ้คนที่ตายทั้งเป็นน่าจะเป็นแกมากกว่านะ..ไอ้คุณฝิ่น :laugh:
-
ชอบมากเลยอะครับ เรื่องของเด็กช่างอะครับ
-
ฝิ่นต่างหากที่จะหลงแก้ว
-
อุตส่าสงสารคิดว่าฝิ่นมันเจ็บหนัก ดันกลายเป็นแผนซะงั้น
ถ้าแกเจ็บหนักก็อยา่กให้แก้วมาดูแลแกนะฝิ่นเอ๊ย
แต่ตอนนี้้ไม่ไหวละขอแช่งให้แกโดนหนักๆซักทีเถอะ
แล้วก็จะรอวันที่แกหลงรักแก้วแบบหัวปักหัวปำแต่ให้แก้วไม่สนใจแกซะให้เข็ด
หมั่นไส้ฝิ่น o12 เซ็งดิว o18 รักพี่ไม้ :-[(แอร๊ย :z6: )
-
อยากอ่านต่อว๊อยยยยยยย
:z3:
ฝิ่น นายแบ๊ดได้จายมั่กกก~
กดเป็ดกดบวกไปรุย
-
เห็นด้วยอย่างยิ่งคร้าบบบบบ o13
เห็นด้วยอีกเสียง
-
ย๊ากกกก ไอเลวฝิ่น แกมีของนี่นา
ว๊ากกก เกลียดคุณสอง หนูแก้ว จะเป็นไงต่อนะเนี่ย
-
:เฮ้อ:
-
ยิ่งอ่านเรื่องนี้ยิ่งอิน เพราะเราก็เรียนอาชีวะ
แอบจิ้นคนใน รร บ่อยๆ แอบรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเหมือนชีวิตจริงเลย
แก้แค้นกันไปแก้แค้นกันมา สงสารแก้ว ฝิ่นใจร้ายมากๆ
-
ดิว..ตอแหล :beat:
ฝิ่น..จอมวางแผน :o
มีทางเลือกอื่นให้แก้วอีกม๊ายยย :serius2:
-
:m4:
ต้องบอกว่าหลังๆ อ่านเข้าใจง่ายขึ้น...จะมีแต่ "เขา" ที่มักใช้แทนตัวละคร
คนอ่านต้องอ่านไปซักพักถึงจะรู้ว่า "เขา" ตอนนี้คือแก้วหรือฝิ่น???
แต่ยังไงก็เริ่มติดงอมแงมละ...มาต่อให้ไว อยากรู้เหมือนกันว่าจะลงเอยยังไง :เฮ้อ:
-
กรรม.. อุตส่าห์หลงเป็นห่วงมัน -_-+
แบบนี้มันต้องฟาดด้วยแส้เสียให้เข็ด
เฮ้ออ.. ไม่ว่ายังไงก็ไม่ชอบขี้หน้าดิวอยู่ดี TwT
อยากได้แก้วหลงฝิ่นไวไว นังดิวมันจะได้รู้สึก หึหึ =..=
-
อยากรุ้ว่าตกลงเรื่องราวมันเกิดขึ้นเพระาอะไร
ยังไงกันแน่
โอ้ย อยากรุ้ๆ555+
ไงก็มาต่อเร็วๆนะ
แกวซวยได้ตลอดศก
-
:เฮ้อ:สงสารแก้ว ไม่ได้ทำอะไรเลยแต่ต้องกลับมาโดนแบบนี้ :เฮ้อ:
-
วงจรชีวิต ... รันทดเน๊อะแก้ว
-
แล้วแก้วจะทำไงต่อเนี่ย
-
มาต่อเร็วๆนะครับ. ชอบเรื่องนี้มากครับ
-
กว่าจะอ่านทันเล่นเอาเหนื่อย
-
มีเล่นของด้วย-0- :really2:
ฝิ่นเอ้ยยย สงสารแก้วจากใจ :beat:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๘
เขาลงรถประจำทาง เดินมาหยุดยืนหน้าตึกสูงตระหง่าน
ป้ายชื่อโรงแรมเป็นสิ่งที่ทำเอาเขาใจหวิว
เพราะความใหญ่โตโอ่อ่าของมันหรือเพราะ...
มันเป็นชื่อเดียวกันกับรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสระบุรี …ชื่อซึ่งคุ้นเคยมาตั้งแต่เกิด
ถึงตอนนี้ตัวเขาจะอยู่ไกลจากตรงนั้นมาก ไกล...ที่ไม่ใช่จำนวนของระยะทาง
แต่มันก็ยังคงห้อยท้ายชื่อจริงของเขาอยู่เสมอ
แก้วก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านใน ตรงดิ่งไปยังโต๊ะประชาสัมพันธ์ของโรงแรม
“สวัสดีค่ะ” พนักงานสาวสวยยกมือไหว้เขาซึ่งมาในชุดนักศึกษาและดูท่ามองยังไงแก้วก็อายุน้อยกว่าอยู่ดี เขายกมือไหว้ตอบ “ท่านประธานให้คุณไปพบที่ห้องก่อนค่ะ” แก้วพยักหน้ารับแล้วเดินตามพนักงานเข้าลิฟท์เพื่อจะไปพบใครคนนั้น
ขอแค่เพียงสักครั้ง ขอแค่ได้อยู่ในสายตา
...หึ ไม่จำเป็นหรอกน่า
เมื่ออาจารย์แจกกระดาษให้หาที่ฝึกงาน ไอ้พงษ์ไม่รีรอที่จะกรอกชื่อโรงแรมของพ่อเขาลงไป เพียงเพื่อต้องการให้เขากับพ่อได้ใกล้ชิดกันบ้าง มันจึงไม่ฟังคำคัดค้านจากเขา
...ไม่เป็นไร ไม่ว่ามาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ยังมีไอ้พงษ์อยู่ข้างๆ
คำปลอบใจตัวเองในวันนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลย เมื่อในวันนี้ วันที่เขาก้าวเท้ามาที่นี่...เพียงคนเดียว
เขาชักไม่แน่ใจว่าจะอดทนต่อความเฉยชาได้สักเท่าไหร่แล้วสิ
“ลูกแก้ว มาถึงแล้วเหรอ” เขายกมือไหว้ประธานผู้บริหารโรงแรม ด้วยความรู้สึกข้างในมันโปร่งๆ คงเพราะมีใครอีกคนนั่งทำตาขวางใส่เขาอยู่ในห้องนี้ด้วย “นั่งสิลูก” แก้วเลื่อนเก้าอี้นั่งฝั่งตรงกันข้ามตามที่พ่อบอก
“คุณพ่อจะให้ผมทำอะไรก่อนครับ” เขาเอ่ยถามเสียงเรียบ พร้อมเริ่มงาน
“ไม่ต้องทำอะไรหรอก แค่ลูกมาให้พ่อเห็นหน้า มาอยู่ใกล้ๆพ่อ...”
“เอ่อ ลูกแก้ว!” ใครอีกคนที่อยู่ในห้องพูดแทรกทั้งที่ผู้เป็นพ่อยังพูดไม่ทันจบประโยค พี่ขวัญยิ้มเดินปรี่เข้ามาดึงตัวเขาลุกจากเก้าอี้ “คิดถึงจังเลย ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี” ทั้งยังกอดเขาอย่างไม่ให้ตั้งหลักทัน แก้วยืนตัวเกร็ง
“ฮ่าๆ พี่ลูกขวัญกับคุณแม่เขาคิดถึงลูกมากนะ บ่นเป็นห่วงน้องอยู่ทุกวัน” พ่อบอกด้วยความพึงพอใจ ย้ำในสิ่งที่พี่ขวัญทำตอนนี้
“...ครับ” แก้วรับคำ แต่ในใจก็รู้ว่ามันไม่ใช่
“ตามสบายนะลูก ที่นี่มีช่างทุกแผนกอยู่แล้ว ลูกจะไปเรียนรู้งานกับเขาก็ได้ แต่ไม่ต้องลงมือทำอะไรเองหรอก โรงแรมของเราเองยังไงพ่อก็เซ็นต์ผ่านให้อยู่แล้ว อ้อ เดี๋ยวพ่อมีประชุมนะ ลูกขวัญถ้ายังไม่มีเรียนก็อยู่คุยกับน้องนะ” พ่อเดินมาตบบ่าเขาเบาๆ พี่ขวัญถึงปล่อยเขาออกจากอ้อมกอด แต่ยังกอดไหล่ไว้อยู่
“ผมยินดีที่สุดครับคุณพ่อ” พี่ขวัญในชุดนักศึกษายิ้ม มองหน้าเขา ซึ่งเขารู้สึกได้ถึงความเสแสร้ง
“อ้อ อีกอย่างเวลาว่าง ลูกมาพักที่ห้องทำงานพ่อนะ”
“ครับ” เขารับคำอีกครั้งผู้เป็นพ่อจึงเดินออกไป
“มึงมาที่นี่ทำไม!” พี่ขวัญหันมาบีบไหล่เขาทั้งสองข้าง “ไหนทำเป็นแน่ เดินออกจากบ้านมาแล้ว แล้วตอนนี้มึงกลับมาทำไมอีก ไม่มีมึงพ่อเขาก็สบายดีอยู่แล้ว!” พี่ต่อว่าหนำซ้าเหวี่ยงเขาใส่เก้าอี้
“...ทำไมผมจะมาไม่ได้ ที่นี่โรงแรมพ่อผม เมื่อกี้พี่ก็เห็นว่าพ่อดีใจแค่ไหนที่เห็นหน้าผม” เขาฝืนเถียงในสิ่งที่มันไม่ใช่ พ่อยังคงไม่ได้สนใจเขาเหมือนทุกครั้ง แต่เขาต้องพูดเพื่อหลอกตัวเอง
“นั่นเพราะเขาพูดไปตามหน้าที่ต่างหากล่ะ ตลอดเวลาที่ไม่มีมึง กูไม่เคยเห็นพ่อพูดชื่อมึงเลยสักครั้ง”
...สักครั้ง...ก็ไม่เคยเลยเหรอ แก้วเม้มปาก เสหน้ามองไปทางอื่นเพื่อกลั้นความรู้สึก
“ไม่จริง!” มันไม่ใช่ อย่าไปเชื่อ อย่าไปฟัง พี่โกหก
แค่เพียงอย่าไปฟังคำพูดของคนอื่น ถึงความเป็นจริงจะไม่ใช่แต่ถ้าเรารับรู้แต่เพียงสิ่งที่ตัวเองอยากจะเข้าใจใจก็จะไม่ต้องเจ็บ
“มึงกล้าขึ้นเสียงใส่กูเหรอ!” พี่ขวัญดึงผมเขาอย่างแรงจนต้องแหงนหน้ามองพี่ แก้วกำหมัดเกร็ง “ไอ้พงษ์มันเสี้ยมมึงให้อวดดีใส่กูใช่ไหม?!” เสี้ยมเหรอ...ถ้าเป็นการเสี้ยมสอนปกป้องดูแลเขาทั้งที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันล่ะก็ ใช่
“ผมจะไม่ยอมพี่อีกแล้ว!” แก้วตวาดเสียงดัง ทั้งยกเท้ายันขวัญออกไปจากตัวจนได้ …เขาทำได้
“นี่มึง ไอ้แก้ว มึงกล้าทำกูเหรอ” พี่ขวัญตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อแล้วเหวี่ยงเขาจนถลาล้ม
แก้วก้มหน้าลังเล นึกกลัว แต่ก็ต้องรีบลุกยืนมองหน้าพี่คล้ายว่าไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับท่าทีแบบนี้
อยากทำก็ทำ...
“ไม่ว่าพี่จะทำ จะพูดอะไร ผมจะไม่ยอม และไม่สนใจพี่อีก!” เขาพูดชัดๆใส่หน้าพี่ชาย
เพราะจริงๆแล้วพี่ ... ไม่ได้ให้ความสำคัญกับผมเหมือนกัน
“เฮอะ อะไรนะ มึงพูดใหม่ซิ” พี่ทำท่าไม่เชื่อ หรืออีกอย่างคือ ไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาพูด
“ผมบอกว่า...”
“ไม่มีทาง! “ พี่ขวัญเสียงแข็งพูดแทรก “กูไม่ยอม กูไม่ยอม! ยังไงมึงต้องเป็นที่รองมือรองตีนให้กูอย่างนี้ทั้งชีวิต มึงกลับมาเพื่อสิ่งนี้ไม่ใช่เหรอ กูรู้ดี กูรู้จักมึงดี กูไม่เชื่อที่มึงพูดหรอก มึงหลอกกูไม่ได้หรอก ไอ้ลูกเมียน้อย!” พี่ขวัญพูดรัว เดินรอบห้องทำงานเหมือนหนูติดจั่น เพราะอะไร เพราะไม่เชื่อเขาจริงๆใช่ไหม
“พี่….” เขาร้องเรียกพี่ชายเสียงละห้อย “ผมเคยดีใจที่แม่ เอ่อ คุณแพรวพรรณกับพี่ทุบตีผม เพราะนั่นมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกว่าพี่มองเห็นผม ผมมีตัวตนในสายตาพวกพี่ แต่วันนี้ผมจะไม่ยอมพี่อีกแล้ว ชีวิตนี้ผมไม่ต้องมีครอบครัวผมก็อยู่ได้” พี่หยุดนิ่ง มองเขาตาขวาง “เรื่องมาที่นี่ ผมผิดเองที่ห้ามพี่พงษ์ไม่ได้ แต่พี่ไม่ต้องห่วงหรอก ทุกวันนี้ไม่ต้องมีใครสนใจผม...ผมก็อยู่ได้” รวมถึงคุณพ่อด้วย แก้วพูดแล้วยิ้มอย่างเฝื่อนๆ
ถึงเขาจะพยายามหลอกตัวเองว่าพ่อรักเขา แต่ความห่างเหินเมื่อครู่นี้ ก็ไม่ได้ทำให้เขาเจ็บปวดมากไปกว่าเดิมเลยสักนิด
แค่ไม่กี่เดือนที่ต้องเจอหน้ากัน แค่เพียงเขามองข้ามความจริงไป เขาต้องทนได้แน่
“มึง...” พี่ขวัญอึกอัก “มึงหมายความว่าจะทำเหมือนกูไม่มีตัวตนอย่างที่ไอ้พงษ์ทำใช่ไหม?” พี่กำหมัดแน่น
“...................................” เขาไม่ตอบ แต่เลือกเดินออกจากห้องทำงานของพ่อแทน ปล่อยพี่ชายให้หาคำตอบเอาเองจากการกระทำของเขา
ไม่จำเป็นแล้ว พี่กับแม่ของพี่ ไม่มีความสำคัญอะไรกับเขาแล้ว ไม่ต้องมองเห็น ไม่ต้องให้ความสนใจ เขาก็อยู่ได้ ...อยู่อย่างสบายด้วยสิ
แก้วยิ้มให้ตัวเอง ต่อไปนี้อย่าหวังว่าพี่จะทำร้ายเขาได้อีกเลย
แก้วเข้าห้องน้ำกวักน้ำล้างหน้า เช็ดหน้าเช็ดตาก่อนจะเดินเข้าลิฟท์เพื่อลงไปยังชั้นล่าง วันนี้ไม่ทำมันแล้วงาน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
“เดี๋ยว” เสียงพี่ขวัญร้องเรียกพร้อมมือจับเข้าที่ข้อศอกเขา แก้วหันกลับไปมอง “กูจะไปส่ง”
“ไม่ต้องครับ”
“มึงจะทำอย่างนี้กับกูไม่ได้นะ!” พี่ตะคอกใส่หน้า แก้วสะดุ้ง แต่รีบทำตัวให้เป็นปกติ ก่อนจะจับมือพี่ออกจากแขน แล้ววิ่งข้ามถนนเพื่อไปขึ้นรถเมล์ฝั่งตรงข้ามโดยไม่หันกลับไปมอง
พี่กับแม่ของพี่ ไม่ใช่คนพิเศษที่ผมควรจะให้ค่า
แม่พี่เป็นเพียงภรรยาอีกคนของพ่อ พี่ขวัญเองก็เป็นเพียงลูกอีกคนของพวกเขา
ผมจะไม่น้อยใจ ไม่เสียใจอะไรอีก
เพราะผม...ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกับพวกคุณอีกแล้ว
.
.
.
เขาอยากรู้ว่าไอ้ฝิ่นมันจะเป็นยังไงบ้าง
ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง
แก้วกดกริ่งหน้าบ้าน แต่ไร้เงาคนมาเปิดประตู พ่อกับแม่มันคงไปทำงาน แก้วมองนาฬิกาข้อมือ นี่ก็เพิ่งจะสิบโมง กว่าแม่ของมันจะกลับมาก็ตั้งเที่ยง
ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง
เขากดกริ่งอีกครั้ง
ถ้าไอ้ฝิ่นเจ็บมันก็น่าจะอยู่บ้านและคงได้ยินเสียงแล้ว
หรือว่าจะไม่มีใครอยู่ แต่ก็ได้ยินกับหูว่ามันโดนฟันนี่นา ถ้าเจ็บก็น่าจะอยู่บ้าน
หรือว่า...เขาคิดไปถึงคนในสายที่พี่แชมป์บอกว่าต้องนอนโรงพยาบาล
ไม่น่า...มันคงไม่ได้เจ็บอะไรมากหรอกน่า ความรู้สึกหลากหลายกำลังเถียงกันเอง
เอาวะ ไหนๆก็มาแล้ว...
แก้วตัดสินใจนั่งรถเมล์ต่ออีกสองป้ายเพื่อไปยังอู่ซ่อมรถของพ่อฝิ่น
เขาไม่ได้เป็นห่วงอะไรก็แค่อยากรู้ว่าไอ้ฝิ่นมันเป็นอะไรมากรึเปล่าเท่านั้นเอง
“มาทำไม?” พี่ไม้ในชุดเสื้อยืดสีดำกางเกงยีนส์ขาดๆเลอะน้ำมันเครื่องในมือถือประแจเลื่อนอยู่ เดินตรงมาหาเขา
“คือ ...ผมได้ยินมาว่า...”
“แล้วยังไง?” พี่ไม้พูดขัด ทั้งที่เขายังไม่ได้พูดอะไรเลย
“อ้าว ไอ้โนT” พ่อของฝิ่นเดินออกมาจากในร้าน เรียกทัก แก้วยกมือไหว้ “หวัดดีๆ โดดเรียนมาเหรอมึงน่ะ”
“เปล่าครับ วันนี้ผมมีฝึกงาน” แก้วตอบ
“อ้าว ฝึกงานไหงมาเดินอยู่นี่วะ”
“คือผม...”
“ไปคุยทางโน้น ขอเวลานอกนะพ่อ” พี่ไม้ส่งประแจเลื่อนให้พ่อไอ้ฝิ่นแล้วกอดคอลากเขาให้เดินไปด้วย
“อะไรวะมีความลับเหรอ เออๆตามสบาย”
“เอาเปล่า” พี่ไม้ที่นั่งข้างกันจุดบุหรี่ยื่นให้เขาเมื่อพามาถึงโต๊ะหินอ่อนหลังร้าน
“ไม่ครับ” เขาปฏิเสธเพราะปกติก็สูบบุหรี่แค่เวลามีเรื่องให้คิดเท่านั้น เขาไม่อยากว่างก็ดูด เดี๋ยวจะติดอะไรที่ไร้สาระเปล่าๆ พี่ไม้จึงชักมือกลับเอาไปดูดเอง
“กูบอกมึงแล้วใช่ไหม ไม่ว่าจะทำยังไงไอ้ฝิ่นก็ไม่ลบคดีเพื่อนมึงออกจากหัวหรอก” รวมทั้งพี่ด้วย เขาเถียงในใจ
“ยังไงพวกพี่ก็จะไม่มีวันได้ตัวไอ้พงษ์เหมือนกัน” เขาตอบไม่ได้มองหน้าคู่สนทนาหรอกแต่ก็รู้ว่าพี่ไม้มองเขาอยู่ แค่ไม่รู้ว่ามองด้วยความหมายยังไงเท่านั้นเอง คงจะสงสาร เห็นใจ ไม่ก็สมเพช
“หึ เลยยอมเป็นคนรับผิดแทน”
“ก็ถ้า ... การชดใช้ของผม ทำให้พวกพี่เลิกโกรธ เลิกแค้นเพื่อนผม ผมก็ยินดี” เขาตอบตามที่คิด
“มึงมันโง่ โง่ งี่เง่าทั้งคู่” พี่ไม้พูดกลั้วขำ “จะจบเรื่องว่างั้น แต่คงลืมว่าพวกมึงกำลังสร้างเรื่องกันอยู่ต่างหาก” เขาย่นคิ้วหันไปหาพี่ไม้ เรื่องอะไรอีก? “มึงมาที่นี่ทำไม?”
“อ้อ อ๋อ” เขาสะดุ้งเมื่อโดนถามคำนี้ หันหน้าหนีกลัวโดนจับได้ เขารู้แล้ว สายตาพี่คนนี้คอยจะจับผิดอยู่นี่เอง แก้วนั่งตัวตรงมองไปข้างหน้า
“อย่าบอกว่ามาหาไอ้ฝิ่นนะ”
“เปล่าๆ” เขาส่ายหน้าปฏิเสธพัลวัล “... ครับ” แต่ประโยคลงท้ายกลับยอมรับซะอย่างนั้นเมื่อบังเอิญหันไปมองหน้าคนข้างๆอีกครั้ง
ไม่ได้ดุ ไม่ได้มีท่าทีคาดคั้นสักหน่อย ทำไมรู้สึกกลัวนะ
“มึงพลาดแล้วล่ะ”
“หมายความว่าไง” เขาไม่เข้าใจ “หรือมันโดนไปเยอะเหรอพี่” เขารีบถามกลับ เรื่องอย่างนี้ไม่เข้าใครออกใครหรอก คนที่เหนือกว่าคือคนลงมือนั่นล่ะ
พี่ไม้ลุกยืนเดินมาหยุดตรงหน้าเขา แก้วเงยหน้ามอง พี่ไม้เองก็มองอยู่เหมือนกัน คล้ายกำลังต้องการอะไรสักอย่าง จนแก้วต้องเลี่ยงด้วยการก้มหน้าหลุบต่ำ
“ความใกล้ชิดมันอันตรายจริงๆ ยิ่งในเวลาที่ไม่รู้ตัวด้วย ยิ่งอันตรายสุดๆ” พี่ไม้ตอบ...รึเปล่า? “มีโอกาสก็ออกห่างไปจากพวกกูซะ เรื่องไม่จบง่ายๆอย่างที่ใจมึงคิดหรอก ความจริงกับฝันเฟื่องของมึง มันไม่มีวันจูนกันติดได้”
ใช่ นั่นไม่ใช่คำตอบแต่พี่ไม้กำลังหาทางขัดขวางเขาอยู่ต่างหาก
“ก็เพราะพวกพี่มีแต่ทิฐิต่างหากล่ะ พี่ก็รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เมื่อมันเกิดกับคนใกล้ตัวพี่ พวกพี่ก็รับกันไม่ได้” เขาลุกยืนต่อปากต่อคำ ...ไม่รู้สิ เขารู้สึกกลัวพี่ไม้มาก แต่อีกความรู้สึกมันบอกว่าพี่คนนี้จะไม่ทำร้ายเขา
“ใช่ มึงพูดถูก ถ้าคนที่ตายไม่ใช่คนของกู กูก็สามารถเอาลูกปืนกรอกปากมึงง่ายๆตอนนี้ได้เลยล่ะ” เขาคง...ไปกระตุกต่อมความรู้สึกของพี่ไม้เข้า และคงคิดผิดที่หลงมองว่าคนนี้จะใจดี สายตาแข็งกร้าวจึงถูกส่งมาให้เขาได้รู้สึกตัว
“ผม...” อยากจะพูดว่าขอโทษที่พลั้งปาก แต่... “ผมไม่ได้ตั้งใจ” เขารู้สึกผิดที่พูดออกไปแบบนั้น ไม่น่ามารื้อฟื้นอะไรเลย
“กูไม่มีวันให้อภัยคนที่ฆ่าไอ้เป้ง ไอ้ฝิ่นก็เหมือนกัน ไม่มีใครรับผิดแทนใครได้ ตัวมึงเองก็ไม่มีวันชดใช้ให้กับสิ่งที่พวกกูเสียไปได้ ไปให้พ้น ก่อนที่มันจะสายไปมากกว่านี้”
“ไม่ ผมไม่มีความจำเป็นต้องทำตามที่พี่บอก” เขาฮึดเถียง “ผมเชื่อว่าผมทำได้ ผมจะทำให้พี่ ให้ไอ้ฝิ่นได้เห็นความตั้งใจของผม เมื่อวันที่ผมชนะทิฐิในใจพวกพี่ได้ ผมถึงจะไป” แก้วเถียงยืดคอเป็นเอ็นมองเข้าไปยังนัยน์ตาคนตรงหน้า ให้พี่ไม้ได้เห็นว่าเขามีความตั้งใจจริงอย่างที่พูดออกไป
“หึ อวดเก่งเหมือนน้องกูว่าไม่มีผิด กูเตือนแล้วแต่มึงไม่ฟังเองนะ”
พี่กลัวต่างหาก
...แก้วมองตามหลังคนที่ชิ่งหนีความจริง
เพราะพี่กลัวว่าเขาจะทำสำเร็จ พี่กลัวว่าจะใจอ่อน แล้วยกโทษให้พวกเราใช่ไหม นั่นแหละทิฐิของพวกพี่
ก็บอกแล้วว่าเขายอมทุกอย่างเพื่อไอ้พงษ์ไม่ต้องเดือดร้อน
ไม่มีใครห้ามสิ่งที่เขาตั้งใจทำได้หรอก เขาจะเป็นคนทำลายกำแพงของพวกพี่เอง
.............................
จริงๆต้องอัพตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ แต่ออกจากที่ทำงานก็ไปเดินอนุสาวรีย์ รถก็ติดแสนติด กว่าจะไปถึงก็ใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงแหนะทั้งที่ปกติไม่ถึงสามสิบนาทีเลย (บ่น -*-) ทีแรกว่ากลับมาแล้วค่อยโพสก็ได้เอ้ออ แต่กว่าจะถึงบ้านปาไปสี่ทุ่มครึ่ง แอร่กกก คนเขียนไม่มีแรงเปิดคอม เลยเอามาอัพที่ทำงานแทน ที่จริงเค้าเข้ามาแต่เช้าแล้วรอบนึงแต่เจ้านายแย่งสัญญาณใช้เน็ตอีก ชีวิตรันทดY^Y
...เสียใจ อดทำสถิติสามวันติด โฮฮฮฮ
จากตอนที่แล้วพอแปะแล้วสั้นจนน่าใจหาย(คนเขียนใจหล่นวูบ) ซีซั่นก็ได้รู้ตัวว่าต่อไปตอนไหนที่สั้นๆไม่ควรจะลงเป็นตอน น่าจะกลายเป็นครึ่งหลังมากกว่า มองเห็นข้อผิดพลาดของตัวเองอีกหนึ่งอย่าง ฮ่าๆ
คุณratnalin ขอบคุณมากค่ะที่ยังอุตส่าห์กลับไปเริ่มต้นมึนอีกรอบ ทั้งพยายามเข้าใจคนเขียนและตัวละครได้อีก //ปรบมือ แปะ แปะ แปะ
ทั้งหมดทั้งมวลมาจากตัวเองอยากอ่านนิยายแบบไหนก็เลยเขียนแบบนั้นอะค่ะ ถึงภาษาจะใช้ไม่ได้ แต่อาศัยความทนทานของใบหน้าล้วนๆเลย กร๊ากกก
คุณLifeTime ดีใจ นิยายมึนน้อยลงแล้ว เย่เย่
ส่วนคำว่า”เขา” รู้ตัวตั้งแต่ตอนพิมพ์แล้วค่ะ แต่ก็เลือกที่จะเขียนอย่างนี้ (กวนละ-*-) อิอิ เพราะอยากให้คนอ่านเห็นอะไรมากกว่าสิ่งที่บอกอะค่ะ “เขา”ในแต่ละประโยคจะคิดว่าเป็นตัวละครตัวไหนก็ได้ แต่เมื่อเจอประโยคพูดหรือบทคร่ำครวญของมัน คนอ่านก็จะรู้ได้เลยว่าเป็นใคร ใช่ไหมล่ะ (ถ้าคนอ่านบอก ใช่ที่ไหนล่ะคนเขียนซวยเลย) ...ฟังดูดีไหม? โอ้ย อายตัวเองนะบางที ฮ่าๆ
:pig4: ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะ^^ กอดๆจุ๊บ
-
ชีวิตแก้วนี่มีแต่คนรังแก เนาะขนาดพ่อยังไม่สนใจลูกตัวเองเลยยยยย :z3: :z3:
-
^
^ ไซด์โค้งงงงงงงงง ฮ่าๆ
^
น้องมิ้นต์ สารภาพมาให้หมดนะ อย่ากั๊กไว้ :o12:
-
พ่อแม่มักจะต้องรักลูกของตัวเองเสมอ
แต่การแสดงออกของแต่ละบุคคล มันไม่ได้เหมือนกันไปทั้งหมด
ขึ้นอยู่กับ สถานะการณ์และเหตุผลของใครของมันไงคะ
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เรื่องวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ
-
ง่ะ... ตอนนี้แก้วยังไม่เจอฝิ่นเลยอ่ะะ
อยากให้สองคนนี้อยู่ด้วยกันไวไว ๕๕๕๕
อยากรู้ว่าฝิ่นจะทำไงต่อไป
:oo1:
ดูเหมือนว่าพี่ขวัญก็อาจจะไม่ร้ายมาก(หรือเปล่า?)
เหมือนแบบพยายามเรียกร้องความสนใจจากน้องรึเปล่าไรงี้?
อยากมีเพื่อนเล่น(?) อิอิ
o18
-
แก้วน่าสงสารอ่ะ แม้แต่เรื่องครอบครัวก็มีปัญหา เฮ้ออ อยากให้แก้วมีความสุขเร็วๆจังเลย
-
เราเป็นแก้วเราจะหนีไปเลย ถ้ามั่นใจว่าไม่มีใครตามพงษ์เจอนั่นแปลว่าพงษ์ปลอดภัย จะได้หนีฝิ่นหนีพี่ไม้แล้วก็ครอบครัวไปเลย ไปอยู่ในที่ๆปลอดภัยจะทนอยู่ทำไมและทำแบบนี้ทำไม หรือลึกๆแล้วใจแก้วต้องการอยู่ใกล้ฝิ่น
-
โอ้ยยย ต่ออีกได้ป่ะ กะลังมันส์เลยอ่า
-
ชีวิตแก้วมันช่างรันทด
สู้ต่อไป อย่าได้ถอย
รู้สึกสงสัยไอพี่ขวัญแปลกๆ ตกลงมันดีหรือร้าย
ไอที่แตะศอกแล้วถามว่าจะให้ไปส่งมั้ย มันไม่ใช่วิสัยของคนที่เกลียดกันหรอกมั้ง
-
:เฮ้อ: ชีวิตแก้วรันทดหดหู่มากกกกกก
พี่ขวัญนี่ยังไง
บอกตรๆอยากให่ขวัญดีกับแก้ว อย่างน้อยจะได้มีคนคุ้มกะลาหัวบ้าง
-
ข้อเสียของการอ่านนิยายที่ยังเขียนไม่จบและลงเรื่องแบบอัพเดทตอนต่อตอน คือ....คนอ่านทุรนทุราย อยากอ่านต่ออออออออออออ :z3:
คงได้แต่ท่อง อดทน อดทน อดทน เง้อออออออออออ :call:
พี่ไม้ฉลาด รู้ทันทั้งฝิ่นและแก้ว แยกแยะได้ว่าเรื่องไหนควรเอาเรื่องกับใคร ก็เลยเตือนแก้วเพราะไม่อยากให้แก้วมาเกี่ยว
ไม่รู้ว่าแก้วจะทันเกมของฝิ่นมั้ย แต่ถึงจะรู้ก็คงยอมตกหลุมพรางเพื่อให้ฝิ่นใจอ่อนอีกหรือเปล่า
น่าเห็นใจที่แก้วต้องมาทำตัวโง่ๆ ในสายตาของคนอื่น เพียงเพื่อหยุดความแค้นที่เกิดจากคนของตัว และก็เป็นคนๆ เดียวที่คอยห่วงใยและดูแลแก้วมาตลอดด้วย
ว่าแต่...ตอนนี้มีอะไรซ่อนไว้อีกแล้วนะคนเขียน ไอ้คุณพี่ขวัญนี่ชักจะยังไงๆ อีกแล้วนะ แต่ไม่รู้ว่ายังไงๆ กับพงษ์หรือกับแก้วกันแน่
คนเขียนชอบมีเรื่องซ่อนไว้เรื่อยเลยอะ ถ้าไม่มาต่อไวๆ คนอ่านคงได้แอดมิดเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ จากโรคต่อมอยากรู้อักเสบแล้วมั้ง :serius2:
-
พี่ขวัญแกล้งแก้ว เพราะเรียกร้องความสนใจหรือปล่าว
แต่ท่าทางคุณหญิงเธอจะเกลียดจริงๆ
พี่ไม้จริงแล้วจะใจแข็งหรือใจอ่อนกันแน่
-
พี่ไม้คงรู้ว่าแก้วชอบฝิ่น
แต่แก้วมันไม่รู้ใจตัวเอง :เฮ้อ:
-
ไม่รู้ทำไม เห็นพี่ขวัญแล้วปลื้มซะงั้น :-[
-
รออ่านนะคะ
-
พี่ลูกขวัญ แปลกๆ เหมือนมีปมในใจกับแก้ว จริงๆแล้วหวงแก้วรึเปล่า จะกั๊กน้องไว้คนเดียว??
-
...แก้ว โดนทั้งศึกใน ศึกนอกเลย ตัวช่วยก็ไม่มี มีแต่ตัวที่ช่วยจะทำลาย ความมั่นใจของแก้ว
...แล้วฝิ่นมันหายไปไหน เป็นแผลไม่เยอะนี่ หรือหลบไปคิดแผนอะไรอีก รออ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ :L2:
-
สงสารแก้ว กลัวอนาคต มันจะเจอกับอะไรบ้าง ต้องเจ็บปวดแน่นอนเลย
ผิ่นก็ชั่ว ดิวก็ชั่ว ไม่ไหวเลย
-
+1
:เฮ้อ:
-
ตอนพงษ์อยู่ แก้วก็ยังมีเพื่อนอยู่เคียงข้าง
ตอนนี้พงษ์ไม่อยู่ แก้วก็ต้องเผชิญเหล่าคนบ้าๆบอๆอยู่คนเดียว :z3:
สู้ๆนะแก้วจ๋า :กอด1:
-
สงสารแก้ว ไปอยู่เมืองนอกกะพงษ์เหอะ :เฮ้อ:
-
แก้วน่าสงสารไปไหมอะ??
-
แก้วน่าสงสารอ่ะ เหมือนปัญหาทุกอย่างจะรุมเข้ามาหาแก้วพร้อมๆกัน
พี่ไม้เท่มากกกกก :impress2:
เหมือนพี่ขวัญจะชอบแก้วเลย หรือเราคิดไปเอง
-
แก้วเองก็ทิฐิเหมือนกัน เอาเข้าจริง ทำความดีเพื่อล้างบาปมันยังเป็นไปไม่ได้ นี่ยิ่งพงษ์เป็นคนทำ แก้วมายอมรับผิดแทน มันไม่ใช่ว่าจะหายกันซะหน่อย -*-
อยากให้แก้วเชื่อพี่ไม้(สติดีสุดแล้วคนนี้) แต่อาจเป็นเพราะแก้วไม่รู้แผนของฝิ่นก็ได้...........มั้ง = ="
แอบคิดว่าเรื่องพี่ขวัญรึเปล่าที่ทำให้แก้วยอมทนฝิ่นด้วย แต่ดีใจที่แก้วสู้คนแล้ว >< (สู้ฝิ่นด้วยก็ดีนะลูก)
รอตอนหน้า ^3^ ขอบคุณคร้าบ
-
เข้ามาอ่านด้วยคนครับ น่าเห็นใจแก้วจังเจอแต่เรื่องร้ายๆ อยากให้เหตุการณ์คลี่คลายโดยเร็ว
-
:เฮ้อ: ขอให้ฝิ่นหวั่นไหวโดยไว (แล้วมันจะดราม่ายิ่งๆขึ้นไปไหม)
:pig4:
-
ลูกขวัญดูจิตจิตยังไงไม่รู้ พงษ์กลับมาดูแลแก้วด่วนเหมือนโดนกดดันรอบด้าน
-
รออ่านตอนต่อไปนะครับ
-
อยากให้พี่ไม้เป็นพระเอกจังเลย
ชีวิตแก้วก็รันทดเหลือเกิน
-
โอ้ยย ย ย อ่านไป อ่านมา มึน น น
ถ้าพูดถึงการสูญเสียเนี่ย ,, แก้วมันเจอมากกว่านี้อีกนิ โอ้ยย ย ย มึนๆ
-
^^
-
ติดเรื่ิงนี้งอมแงมแล้วครับ มาต่อเร็วๆนะคัรบ
-
ขอตอบไว้ก่อนนะครับ เด่ว อ่าน ก่อน :L2: :L2:
-
:กอด1: :กอด1:
กอดแน่น ๆ อิอิ
-
ชักจะเซงแก้ว
จะชอบฝิ่นเร็วเกินไปไหม
แต่ก็นะเรื่องความรักความใกล้ชิดมันไม่เข้าใครออกใครนิเนาะ
ยิ่งอยุ่ใกล้ๆ(แต่ไม่มีความรุ็สึกดี) ก็อาจจะรู้้สึกสับสนอะไรหรายๆอย่างได้
เห่อ
ยังไงก้ขอไห้พี่ขวัญไรนั้นมีบทเยอะหน่อยก็ได้ เข้ามาทำไห้เขวหน่อยก็ยังดี
ยังสงสัยเกี่ยวกับตัวขวัญกับใครอีกหรายๆคน555+
พงษ์ I♥U
-
:เฮ้อ:มีแต่เรื่องๆๆๆวุ่นวายไม่สิ้นสุด
...สงสารลูกแก้วจัง :กอด1:
-
เข้ามากรี๊ดพี่ไม้ :m3:
-
:เฮ้อ:ทำไมแก้วต้องเจอปัญหาหลายด้านรุมเร้าเช่นนี้นะ :เฮ้อ:
:L1:สงสัยลูกขวัญแอบชอบแก้วแน่ๆ เลย :L1:
-
ความใกล้ชิดมันอันตรายจริงๆ
พี่ไม้ฉลาดที่ซู๊ด :-[
เซอร์นิดๆ เย็นชาหน่อยๆ โอ๊ววว...ละลายยย :m3: :m3:
ส่วนนายเอก...เรื่องเยอะน่าดู สู้ต่อไปทาเคชิ !!
-
สู้ต่อไปนะแก้ว :really2:
-
สู้โว้ย แก้ว!!
-
ยากเหมือนกันน๊า คนตายที่คนเชียวนะแก้ว
พี่ชายแก้วดูแปลกๆนะพระรองป่ะเนีย
-
เราแอบเชียร์ฝิ่นนะ >.,<
เราว่าจริงๆฝิ่นเป็นคนดีอะ น่าัรักดี 555
แต่รำคาญอิพี่ดิวเหลือเกิน - -++
อยากให้แก้วเจอกับฝิ่นเร็วๆ
พี่ไม้เท่ที่สุดอัะ555
-
หายไปฉลองวันพ่อเหรอ ไม่มาทุกวันเหมือนเดิมเลย แก้วกำลังใจอ่อนเชียว
-
รอ
-
เราก็เชียร์ฝิ่นเหมือนกันนะ แม้บางทีจะน่าหมั่นไส้ก็ตาม (โดยเฉพาะตอนแรกๆ) :laugh:
แต่พอเจอพี่ดิวในโหมดนี้แล้ว..เพลียจิตเบาๆ หางานให้หนูแก้วเฉยเลย..
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
:L2:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๙
.
.
.
“ฮัลโหล พี่ดิว...ผมกลับดึกนะ” กดโทรศัพท์โทรออกไปบอกคนที่เขาอาศัยบ้านอยู่
จนป่านนี้แล้วแก้วยังหาทางปลีกตัวออกจากพี่ดิวไม่ได้เลย
เขาไม่อยากให้พี่ดิวเสียน้ำใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าโอกาสของไอ้ฝิ่นจะมีให้เขาได้กี่วันเหมือนกัน
“ไปไหนเหรอ” ปลายสายส่งคำถามมาอย่างจับผิด...อีกแล้ว
“ไม่รู้ครับ” เขาตอบ ปรายตามองคนขับรถ
“ไม่รู้?” ก็เขาไม่รู้จริงๆนี่จะย้ำเหมือนไม่เชื่อทำไม
...แก้วเซ็ง ก่อนจะข่มความเคืองแล้วพูดออกไป อย่างพยายามใจเย็น
“ผมอยู่กับพี่ชาย” พี่ขวัญหันมามองหน้าเขายิ้มๆ แล้วหันไปมองถนนต่อ
“พี่ชายที่ไหน”
“พี่ชาย...แท้ๆ” เขาตอบพี่ดิวไป ถึงจะเป็นคำตอบที่ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดก็ตาม แต่คงดีกว่าถ้าพี่ดิวรู้อะไรมากกว่านี้แล้วจะมายุ่งกับชีวิตเขามากกว่าเดิม
“ทำไมพี่ไม่เคยรู้ว่าแก้วมีพี่ชายด้วย” คำต่อว่าจากทางนั้นทำเองนึกเคืองอีกครั้ง
นี่เขาผิดรึเปล่าเนี่ยที่เขากับพงษ์ตั้งใจไม่โพนทะนาให้คนทั้งโลกรู้ แล้วเขาก็คิดว่าพี่ดิวไม่มีความจำเป็นต้องรู้ทุกอย่างก็ได้นะ
“หรือว่าแก้วปิดบังอะไรพี่อยู่”
“พี่ดิว!” เขาเรียกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“อ้อ เอ่อ พี่ขอโทษ พี่คงเป็นห่วงแก้วมากไป”
“เอาเป็นว่าผมอยู่กับพี่ชาย ไม่รู้ว่าจะกลับกี่ทุ่ม พี่ไม่ต้องรอนะ ผมคงกลับไปนอนบ้านตัวเอง” เสี้ยวหนึ่งในความคิด แก้วกะว่าเวลานี้น่าจะเอาพี่ขวัญมาอ้าง จะได้ออกจากบ้านพี่ดิวอย่างไม่มีอะไรให้ติดใจสงสัย
“ไม่เป็นไรๆ” พี่ดิวสวนทันควัน “พี่รอได้ ดึกแค่ไหนพี่ก็รอได้”
“เอ่อ ...” เขาอยากจะอ้างว่าจะไปอยู่กับพี่ขวัญ แต่ติดที่ว่าพี่เขานั่งอยู่ข้างๆจะให้พูดออกไปก็ไม่ได้
“อีกสักพักได้ไหมแก้ว ให้พี่แน่ใจก่อนว่า๕X มันจะไม่วุ่นวายกับเราอีก ตอนนี้ขอให้แก้วอยู่ในสายตาพี่ก่อน มีอะไรพี่จะได้แก้ไขทัน”
“...ครับ” เขาจำยอมรับคำ “งั้นแค่นี้นะพี่” เขาไม่กล้าปฏิเสธความห่วงใยจากพี่ดิว
“แก้วๆ” เขากำลังจะกดวางแต่พี่ดิวเรียกท้วง
“ว่า?”
“พี่เป็นห่วงแก้วนะ ไอ้พงษ์ก็คงเหมือนกัน”
“ครับ” เขารับคำแล้วกดวางสาย
ไอ้พงษ์เหรอ?
ตอนนี้เขาอยากคุยกับมันมากเลย ถ้าไม่ใช่เพราะมันเคารพพี่ดิวมาก เขาก็คงไม่ต้องมารักษาน้ำใจกันอยู่แบบนี้ ไอ้ที่ว่าเป็นห่วงๆ ไม่ใช่ต้องพูดเหมือนเอาโซ่มาคล้องคอให้เขาตลอดเวลาสักหน่อย ...แต่ทำไมโทรไปไม่รับสายนะ เป็นอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้
“เปลี่ยนเสื้อแล้วตามออกมา” แก้วรับเสื้อเชิ๊ตลายสก็อตแขนสั้นโทนขาว-ดำที่พี่ขวัญโยนให้มาคลี่ดูก่อนจะวางไว้บนตัก
ลูกขวัญเปิดประตูรถออกไปแล้ว แต่ลูกแก้วยังนั่งหน้าบึ้งอยู่ฝั่งข้างคนขับ
ทำไม? ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่เขาไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับที่บ้านอีก ไปฝึกงานเขาก็เลี่ยงไม่เจอหน้าพ่อแล้วด้วย ยังไม่พอใจอีกเหรอ จะเอาอะไรกับเขาอีก พี่ถึงได้ตามติดมาทั้งอาทิตย์ขนาดนี้ แล้วนี่ยังลากเขามาด้วยเพื่ออะไร
“ไอ้แก้ว?!” พี่ขวัญเปิดประตูรถแล้วเรียกเขาน้ำเสียงไม่พอใจ จากที่ยืนรออยู่นาน
“พี่จะทำอะไร พามาที่นี่ทำไม” เขาแหงนมองหน้าพี่ เอ่ยถาม พี่ขวัญทำท่าไม่อยากจะพูด แต่สุดท้ายก็ยอมพูดออกมา
“ฟังนะ วันนี้กูจะบอกเลิกกับคนที่เคยคบ แล้วมึงต้องแกล้งมาเป็นแฟนใหม่กู”
“ห๊ะ ห๋า?? อะไรนะ!” เขาต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆเลย
“อย่าให้กูพูดซ้ำ เป็นน้องมีหน้าที่ทำตามที่พี่สั่ง” พี่ขวัญพูดย้ำสิ่งที่เคยใช้บังคับเขามาตั้งแต่เด็ก
“เหอะ แต่ผมบอกพี่แล้วว่าจะไม่สนใจพี่อีก” แก้ววางเสื้อไว้เบาะคนขับอย่างไม่แยแส
“กูก็จะไม่สนใจสิ่งที่มึงคิดมึงทำเหมือนกัน”
“อะไรนะ?”
“มึงทำเป็นไม่สนใจกู กูก็จะไม่สนสิ่งที่มึงทำเหมือนกัน เก็ทไหม”
“หมายความว่า...” ไม่ว่าเขาจะทำยังไงพี่ขวัญก็ยังจะเป็นพี่ขวัญเหมือนเดิมน่ะเหรอ เฮ้ย!
“มึงโตแล้ว กูไม่อยากใช้กำลัง เพราะงั้น ตามใจกู” เหอะ เอาแต่ใจ ...เอาแต่ใจเหมือน...
แก้วสะบัดหัวไล่สิ่งที่กำลังเข้ามาอยู่ในความคิด เฮ้อ...
“พี่เป็นเกย์รึไง ถึงจะเอาผู้ชายไปเล่นเป็นแฟนเนี่ย” ปากพูดไปแต่มือก็แกะกระดุมเสื้อนักศึกษาถอดออก พลางหยิบเสื้อที่วางไปเมื่อกี้มาสวมแทน
เขาไม่ได้ยอมแพ้กับเรื่องที่ตั้งใจจะทำ แต่ในเมื่อพี่ขวัญพูดมาขนาดนี้แถมโดนลากใส่รถมาถึงนี่ เขายังจะขัดอะไรได้
“กูจะเป็นอะไร มึงสองคนก็ไม่เคยมองเห็นอยู่ดี” พี่ขวัญพูดเศร้าๆแล้วหันหลังให้เขา
แก้วเปลี่ยนเสื้อเสร็จลงจากรถเดินตามพี่เข้าไปในร้าน
สถานที่ท่องเที่ยวยามราตรียอดฮิตของเมืองหลวง เขาไม่เคยมาที่นี่แค่เคยได้ยินชื่อแบบผ่านๆ จึงรีบเดินตามประชิดหลังพี่ด้วยความประหม่า พี่ขวัญหยุดกึก หันมามอง
“ไม่เคยเที่ยวผับเหรอ?” พี่คงรำคาญจึงหันมาถาม
“เคย...ไม่กี่ครั้ง”
“อ้อ ก็คงสอนให้เคยแต่ไม่ยอมให้คุ้นสินะ” พี่ขวัญพูดอะไรที่เขาไม่เข้าใจแล้วเดินลิ่วเข้าไปในร้าน เขาจึงต้องรีบก้าวเท้าตาม
เพียงไม่นานที่นั่งมองพี่ขวัญดื่มเหล้าอยู่ภายในร้าน ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งหน้าตายิ้มแย้ม ...แต่เป็นยิ้มแบบเจื่อนๆเดินมายังโต๊ะของพวกเขา
“ขวัญ” ชายคนนั้นยืนทัก
“สวัสดี” พี่ขวัญเงยหน้ามองผู้ชายคนที่มาใหม่ “นี่ไงเด็กใหม่ผมที่พี่อยากเจอ” พี่ขวัญกอดไหล่เขาซึ่งรีบก้มหน้าหลบอย่างเกร็งๆ คนของพี่จะเชื่อไหมนะ แก้วหวั่นๆในใจ
“เหอะ ไอ้เด็กนี่นะเหรอที่ทำให้ขวัญทิ้งพี่ได้” คนนั้นท่าทางไม่เชื่อจริงๆด้วย
“ถึงไม่มีเขาผมก็ไม่คิดจะคบกับพี่นานอยู่แล้ว”
“ขวัญถึงกับเปลี่ยนรสนิยม”
“ครับ ผมยังไงก็ได้”
“ทำไมล่ะขวัญ พี่ยอมขวัญทุกอย่าง ใครจะว่าร้ายอะไรยังไงขวัญพี่ก็ไม่เคยแคร์ แล้วนี่เหรอสิ่งที่ขวัญตอบแทนพี่”
“ผมจำได้ว่าไม่เคยขอนะ คนอย่างผมไม่เคยคิดผูกมัดกับใคร วันนี้เราเลิกกันเถอะ แล้วผมจะบอกใครๆว่าผมไม่คู่ควรกับพี่เอง” พี่ขวัญพูดง่ายๆด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่เหมือนคนที่เคยรักกันสักนิด
ผู้ชายคนนั้นพยายามมองหน้าแก้ว ซึ่งแก้วเองไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาอยู่แล้ว
“ขวัญเป็นคนเดียวที่พี่รักมาก ...ก็ได้ ถ้ามันทำให้ขวัญสบายใจ พี่ก็จะเลิกให้ แต่พี่ก็จะรอให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม นะครับ”
“พี่อย่ารอเลย” พี่ขวัญลุกยืน “ผมไม่มีหัวใจไว้รักใครหรอก” จบประโยคแก้วเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายตัวเองก่อนจะหันไปมองอีกคน
ใจร้าย...พี่ใจร้ายจัง นอกจากใจร้ายกับเขา พี่ยังร้ายใส่คนอื่นอีกด้วยเหรอ
ถึงเขาไม่เข้าใจความรักแบบนี้แต่สิ่งที่พี่ทำเขาเชื่อว่าอีกคนต้องเสียใจแน่ๆ
...ถ้าเป็นเขา ไม่ว่าจะหมดรักกันแล้วแต่จะไม่ทำให้ใครเจ็บปวดเพราะเขาเด็ดขาด
“พี่ขวัญ” แก้วเรียก กระตุกมือพี่
“เด็กผมกำลังไม่พอใจ ถ้าพี่เข้าใจแล้วก็กลับไปเถอะ ผมไม่อยากเสียบรรยากาศ” แก้วอ้าปากค้าง
เขาอยากให้พี่ลองทบทวนดูดีๆไม่ใช่ต้องการไล่คนนั้นของพี่ คนนั้นของพี่ขวัญมองหน้าแก้วอย่างเศร้าๆ แล้วเดินจากไปแต่โดยดี
“พี่...ไม่ลองคิดดูดีๆเหรอ” เขาพูดกับพี่ชายที่มองตามหลังคนนั้นอยู่เหมือนกัน พี่ขวัญไม่ได้ตอบแต่ยกแก้วเครื่องดื่มเข้าปากทีเดียวหมด แล้วเดินออกจากโต๊ะไปอีกทาง “เฮ้ย รอด้วย!” แก้วรีบลุกเดินตาม เบียดผู้คนที่กำลังสนุกอยู่เต็มร้าน ชะเง้อมองหาพี่ตัวเอง แต่แล้วก็คลาดกันจนได้
เขาคิดว่าคงถูกทิ้งอีกคนแล้วล่ะ จึงมองหาทางออกอย่างเหนื่อยใจ
“ไอ้แก้วๆ เฮ้ย พี่นึกว่ามองผิด”
“พี่ดี” เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เจอพี่ดีที่นี่ อย่างที่บอกร้านนี้มันในเมือง แถวบ้านก็มีที่เที่ยวเยอะแยะ
“มากับไอ้ดิวเหรอ นั่งอยู่ไหนกันวะ”
“เปล่าครับ” แต่พี่ดีคงแปลกใจมากกว่าที่ได้ฟังคำตอบของเขาจึงได้เลิกมองหาโต๊ะพี่ดิว
“อ้าวแล้วนี่มากับใคร” แล้วหันมาซักเขา เหมือนน้องชายจริงๆ เขาพึมพำในใจ
“มากับพี่ชายครับ กำลังจะกลับพอดี”
“พี่ชาย?...อ้อ เหรอ แต่เมื่อกี้พี่เห็นเอ็งมองหาใครอยู่แหนะ สงสัยจะคลาดกันแล้วมั้ง เอางี้ไหนๆก็เจอกันแล้ว ดื่มกับพี่สักแก้วหน่อยสิวะ”
“คือ พี่ชายผมคงไปรอที่รถแล้ว” เขาปฏิเสธแบบเลี่ยงๆ
“เหย แก้วเดียวเอง อ่ะ ดื่มๆ ถ้าเอ็งมัวแต่โอเอ้อยู่อย่างนี้ก็ช้าสิวะ” พี่ดีคะยั้นคะยอทั้งยังจับแก้วเครื่องดื่มสีไม่คุ้นตาจ่อปากเขาอีก เพื่อนในกลุ่มพี่ดีก็กดดันเขาด้วยสายตา
แก้วเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง จะได้ออกไปสักที
เขาจึงจับแก้วเครื่องดื่มจากมือพี่ดีเข้าปากอย่างลังเล กะว่าจิบนิดหน่อยพอ
“อ๊าส์” แอลกอฮอล์รสชาดแรงบาดคอ แต่เขาก็ดื่มเข้าไปจนหมดแก้วด้วยพี่ดีเอามือดันอยู่ตลอด เขาขอน้ำเปล่าดื่มตาม เช็ดปากตัวเองพลันขอตัวกลับเลย
“เดี๋ยวกูเดินไปส่งน้องหน่อยนะเว้ย” พี่ดีพยักพเยิดบอกเพื่อน ซึ่งเขาไม่ได้ต้องการ
แต่ไม่เป็นไร ออกไปแล้วคงเจอรถพี่ขวัญ จะได้ชิ่งจากพี่ดีสักที เขายังจำคำพี่ดิวบอกได้ว่าไม่ควรไว้ใจพี่คนนี้
แก้วเดินนำเบียดคนในร้านกว่าจะออกมาได้เล่นเอามึนไปเลย
เขายืนงงๆแต่ก็พยายามมองหารถพี่ชายตัวเอง ...ไม่มี คงจะไม่รอแล้วมั้ง หรือคงลืมไปแล้วว่าพาเขามาด้วย
“สงสัยกลับไปก่อนแล้ว งั้นผมกลับแท็กซี่ดีกว่า” แก้วบอก ทั้งตอนนี้ยังรู้สึกเบลอๆแล้วด้วย
“งั้นเดี๋ยวกลับด้วยกันดีกว่า” พี่ดีเสนอ แก้วหาทางเลี่ยง
“เพื่อนพี่รออยู่ข้างในนะครับ” เขาปฏิเสธพลางปาดเหงื่อเพราะรู้สึกร้อนๆ สงสัยเมื่อกี้จะเบียดคนจะเยอะไปหน่อย
“ไม่เป็นไรหรอก พวกมันรู้แล้วล่ะ”
“เอ๋?” พี่ดีไม่รอให้เขาข้องใจนาน ดึงแขนเขาเดินไปยังป้ายรถเมล์ทันที
แก้วขนลุกซู่ตั้งแต่แว๊บแรกที่พี่ดีแตะตัว เขารู้สึก...แปลกๆในร่างกาย จึงเผลอสะบัดมือพี่ดีออกกลางคัน
พี่ดียิ้มยักคิ้ว แล้วเดินเข้ามากอดเอวเขา
“พี่ดี?”
“สงสัยจะเมา เดี๋ยวพี่ช่วยนะ” พี่ดีโบกมือเรียกรถแท็กซี่คันที่เปิดไฟว่าง รถจอด แก้วถูกดันตัวเข้าไปนั่งเบาะหลังทันที
“พี่ดี” แก้วเรียกเสียงกระเส่า เขารู้สึกแปลกไป รู้สึกเหมือนจะหมดแรงแต่ในใจกลับเต้นรัว และน้องชายของเขามันกำลัง...
“ครับ?” พี่ดียังคงยิ้ม “ทนอีกนิดนะ เดี๋ยวพี่จะช่วยเอง” แก้วอึ้ง พี่ดีรู้เหรอว่าเขาเป็นอะไร
...เดี๋ยวนะ ตั้งแต่มาถึงเขายังไม่ได้กินอะไรเลย นอกจาก...เครื่องดื่มแก้วเดียวจากพี่ดี
ถ้าแอลกอฮอล์แรงมันก็มึนๆเมาๆปกติ แต่นี่...
“พี่...ทำอะไรผม” ขยับตัวออกห่างแต่พื้นที่ในรถมันก็มีแค่นี้ แก้วถามออกไปทั้งที่รู้แล้วว่าโดนเข้าแล้วไง
“เลี้ยวเข้าโรงแรมข้างหน้าเลยครับ” พี่ดีบอกคนขับรถที่มองผ่านกระจกมาเป็นระยะ พลางยกแขนกอดไหล่เขาไว้ อีกมือก็ลูบเข้าตรงเป้ากางเกงเขา “เยิ้มเลยนะเอ็ง” แววตาหื่นกระหายทำเอาเขาหายใจไม่ทั่วท้อง แก้วดันมือพี่ดีออกด้วยความขยะแขยง แล้วเอามือกุมของตัวเองไว้แทนโดยที่มือพี่ดียังคงวนเวียนลูบหลังมือเขาอยู่
เขาเกิดอารมณ์...แต่ไม่...มันต้องไม่ใช่ตอนนี้
รถแท็กซี่วิ่งเข้าจอดภายในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง พี่ดีควักเงินจ่ายค่าโดยสาร
“พี่...ชะ ช่วย...” เขารวบรวมคำพูดอย่างอ่อนแรงขอความช่วยเหลือจากคนขับแท็กซี่
“แก้ว ใจเย็นๆนะ” พี่ดียิ้มสายตาเจ้าเล่ห์พูดกับเขา “แฟนผมไม่สบายน่ะครับ” และบอกคนขับ
พี่ดีประคองเขาลงจากรถ แก้วขืนตัวด้วยเรี่ยวแรงที่เริ่มน้อยลง
“พี่..ป.ล่.อ.ย ...” เขาพยามดิ้นรน
“ว่าง่ายๆนะเด็กดี หึหึ” พี่ดีโอบไหล่ล็อกตัวเขาพาเดินเข้ายังห้องหนึ่ง
เขารู้สึกเหมือนมึนงงแต่ก็ยังพยายามให้มีสติ ร้องขอความเห็นใจ
“พี่...อย่าทำอะไร...ผ.ม.เ.ล.ย” แต่ความเห็นใจกลับกลายเป็นการวางเขานอนกับเตียง
“ก็แก้วมาถูกจังหวะพอดีนี่นา จะให้พี่ทำยังไงได้ล่ะ หืม?” พี่ดียักยิ้มด้วยความพึงพอใจ
หมายความว่าไม่ได้ตั้งใจจะมอมเขาแต่เขาซวยเองใช่ไหม...
เขาจะทำยังไงดี...
แก้วพยายามพยุงตัวลุก แต่ก็ลุกไม่ไหว มีสติแต่ไร้เรี่ยวแรง เขา...จะยังไงดี
นาทีนี้เขาอยากตะโกนขอความช่วยเหลือจากใครสักคนเหลือเกิน
...แก้วหันหน้าหนี ไม่ยอมรับการซุกไซ้ซอกคอจากคนที่กำลังกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่
...ใครสักคน ช่วยด้วย!
แล้วมันจะรู้ได้ยังไงว่าเขาต้องตกอยู่ในสภาพน่าทุเรศอย่างนี้
ฮึก น่าขำ ทำไมต้องนึกถึงมันในเวลานี้ด้วยนะ
เพราะถึงมันรู้ก็คงไม่มีทางช่วยศัตรูอย่างเขาแน่
แก้วน้ำตาคลอ... มือปัดป่ายไปมาไม่ให้พี่ดีปลดกระดุมเสื้อเขาได้สำเร็จ
ร่างกายร้องเรียกหาสัมผัส แต่ไม่ใช่จากใครก็ได้ ไม่ใช่!
“อ.ย่.า. อย่าทำผม ฮึก ฮึก”
........................
ชื่อเล่น...ลูกขวัญ (ไอ้ขวัญ)
อายุ ๒๐ ปี
ส่วนสูง ๑๗๘ เซนติเมตร (ลูกบ้านนี้เตี้ยแฮะ)
น้ำหนัก ๖๐ กิโลกรัม
การศึกษา...เรียนที่ไหนก็ช่างแมร่งมัน
.......................
มึนกันอีกครั้งกับพาร์ทแรกของตอน ในเรื่องเวลามันต้องเดินอีกสักพัก...ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ลังเลอยู่เหมือนกันว่าจะอัพเลยดีรึเปล่า (แต่ก็ตัดสินใจอัพอะนะ ฮ่าๆ)
สิ่งที่ขวัญทำมีที่มาที่ไป(เป็นส่วนหนึ่งในเรื่อง ไม่ได้มาอย่างโดดๆแต่อย่างใดค่ะ) ตอนนี้มีแต่ที่ไป ส่วนที่มา ยังเดินทางไม่ถึง อ่านแบบผ่านๆไปก่อนนะคะ^^
ส่วนพาร์ทสองของตอน
ใครที่รอNC อยู่อะ //สะกิดๆ
สะกิดเสร็จคนเขียนก็ชิ่งดีกว่า //ฟิ้วววววว
คนเขียนไม่ยักกะสงสารแก้วแฮะ ที่มันเจออยู่ทุกวันนี้ก็มาจากที่เจ้าตัวเลือกเองแท้ๆ //คอยสมน้ำหน้า :z6:
ปล.ช่วงนี้ต้นเดือนอัพช้าหน่อยนะคะ คงปั่นมาลงทุกวันไม่ทัน แต่พยายามให้ได้อาทิตย์ละสามตอนเหมือนเดิม ซีซั่นต้องเคลียร์บัญชีให้เสร็จก่อนถึงจะสามารถนั่งพิมพ์ได้ทั้งวันอะค่ะ จะสิ้นปีอีกด้วย งานที่กองไว้เพียบเลยค่ะ
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์จ้า^^ กอดๆจุ๊บ
-
ฝิ่นนนนนนนนน มึงเป็นพระเอกนะะะะะะะะะะะะะะะะะ :z3:
-
ุุ^
^
กู เอ้ย เราเห็นด้วย มึงเป็นพระเอกนะ :z6:
แล้วอีพี่ขวัญไปไหนคะเนี่ย พามาไม่รับผิดชอบ :m31:
น่าตบน่าถีบจริงๆอีสองตัวนี้ :beat: :z6:
-
เวรเลย พี่ลูกขวัญ ทิ้งน้อง ซวยซ้ำซวยซ้อน ซวยซ่อยเงื่อน จริงๆลูกแก้วเอ้ย
-
แก้ว มือถือมีไว้ทำไม โทรสิ
แอบโทรให้คนช่วยอย่าไปยอมไอพี่ดีม้านนนน
-
...คงต้องรอพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยแล้วละแก้วเอ๊ย :laugh:
-
ฝิ่นนนนนนนนน !!! :serius2:
มึงอยู่ไหนเนี่ย :m31:
แก้วมันจะโดนเปิดซิงแล้วววววว :angry2:
รีบมาสิโว้ยยยยยยยยย :z3:
-
พี่ดี ....เลว
ใครก็ได้มาช่วยเเก่วหน่อย
พี่ขวัญ หือ ไอ้ฝิ่นก็ได้(เชียร์ฝิ่นอ่ะ)
รออ่านนะคะ
-
ฝิ่นอยู่หนายยยยยยย มานี่ด่วนเลยยยยย
ฝิ่น...ถ้าแกมาช่วยแก้วทัน เราจะยอมเป็นเอฟซีแก พร้อมเชียร์แกด้วย มาให้ทันนะวุ้ย ไม่งั้นไม่ยอม :serius2:
พี่ลูกขวัญชอบพงศ์รึป่าวอ่ะ
-
แก้วจะรอดไหม อยากรู้ใจจะขาด :z3:
แ่ต่ตอนนี้ต้องเรีกยหาคนมาช่วยแก้วอีกแรงก่อน :m5:
-
ตายๆๆๆๆๆๆ
ไม่น่าเข้าวันนี้เล๊ย ให้ตายเหอะโรบิ้น :z3: :z3: :z3:
ใจเต้นตูมตาม ลุ้นพระเอกมาช่วย
หักคอพร้อมฟันศอกไอ้พี่ดี พ่วงขาคู่ก่อนจาก
-
ทามมายเป็นเยี่ยงนี้ไปได้ สงสารแก้ว จะโดนอะไรมากกว่านี้ป่าวหว่า
แล้วครายจะมาช่วยได้เนี่ย??? :sad4:
อิพี่ดี ไม่ดีสมชื่อเลย น่าจะเป็น ดี่ ดี้ ดี่ ดี .. . . 55+
เป็นกำลังใจให้แก้วครับ สู้ๆ
แล้วจะส่งข่าวให้ฝิ่นรุ้ด้วยวิธีไหนง่าส์ แงแง แก้วโดนฝิ่น จักหนักแน่เลย งานนี้... คิคิ
-
เชื่อคนง่าย แถมไอ้ที่คบอยู่ทั้งหมดก็เลวทั้งก๊ก
-
อะไรยังไงๆๆ
แก้วจะเป็นอะไรไหม
พี่ดีมาชุบมือเปิปหรอ เชียร์ฝิ่นๆๆๆๆ แอบชอบขวัญด้วย 555+
-
ฝิ่น อยู่ไหน แก้วเรียกอยู่ ไปช่วยด่วน :really2:
ไอ้ดี มันเลวได้ใจจริง ๆ :z6:
+1 ให้จ้า :call: :call:
-
ไอ้ "มัน" คนนั้นน่ะ ช่วยมาด่วนเลยยยยยย เอ็งเป็นพระเอกนะเฟ้ย(ถึงคนอ่านจะปลื้มพี่ไม้ก็เถอะ) แต่คิดดูอีกที ที่มาช่วยได้แสดงว่าต้องพาใครมาเข้าม่านรูดน่ะสิ -*- อืมมมม บางทีคนมาช่วยอาจเป็นพี่ภูก็ได้นะ 555 (แอบหวังว่าจะเป็นพี่ไม้นะ กร๊ากกกกกก XD)
แล้วพี่ลูกขวัญทิ้งแก้วทำไม รู้สึกผิดที่บอกเลิกแฟนจนลืมแก้ว? หรือว่าจงใจ? -*-
ขอบคุณนะคร้าบ รอตอนหน้า
ปอลิง พี่ลูกขวัญไม่เตี้ยน้า ตั้ง 178 ><
-
:serius2:
-
อ๊ากกก ค้าง ฝิ่นมาช่วยเร็วๆ
-
o22 :z3: :z3:
-
ไม่เอากะไอ่เลวนี้น๊ะ!!!!
จริงแก้วมันก็ไม่เด็ดขาดเอง ไม่ปฏิเสธให้จริงจัง ยอมนิดยอมหน่อยอยู่นั้นแหละ มันเลยอึมครึมอย่างนี้
รีบๆฝึกงานให้เสร็จละไปอยู่กับพงษ์ดีกว่า!!! :z3:
ปล. ว่าแต่มันค้างมากเลยซีซั่นซังงงงงง
-
ไปทำบุญบ้างเถอะแก้วเอ๊ย
กรวดน้ำแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย รวมทั้งขอพรให้ไอ้พวกเลวๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งหลายที่คอยมารังควานเรา ให้มันไปพ้นๆ จากชีวิตเราซักที
นี่ถ้าชั้นเป็นแก ชั้นบวชไปนานละ อะไรชีวิตมันจะเฮงซวยขนาดนี้วะ :serius2:
-
“นัดเพื่อนไว้น่ะแม่ อ้อ นี่เพื่อนหนูชื่อไอ้แก้ว มันจะมาอยู่นี่สักพัก”
สรรพนามแม่ง - -;
-
จะมีใครมาช่วยแก้วไหมเนี่ย
หรือว่าแก้วจะตกเป็นของดีมันจริงๆ
ฝิ่นแกเป็นพระเอกแกต้องมาช่วยแก้วมันนะ
+ 1 นะคะ
-
เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !
ไม่เอาแบบนี้น่ะ ขอร้องหล่ะคะ TT"
-
ไอ้พี่ดีนี่ แม่ม ไม่ได้ดีสมชื่อเลยย :z6: :z6: :beat: :beat:
พี่ลูกขวัญหรือใครจะมาช่วยน้าาา ลุ้นๆๆๆ
-
ใครจะมาช่วยแก้วนะ แก้ว :o12:โดนอีกแล้ว
-
แก้ว ซวย!
-
ใครก็ได้มาช่วยแก้วที จะโดนไอ้พี่ดีปล้ำอยู่แล้วนะ
-
ลูกแก้วลูกขวัญ :mc4: พี่ขวัญทิ้งแก้วได้ไง
โอยยย...เครียด :serius2: ใครก็ได้มาช้วยแก้วที :a5:
-
ซะงั้นนนนนนนนน
:a5: :a5: :a5:
-
อ้าาาากกกก ใครก็ได้ช่วยแก้วที
-
:m31: :m15:อะไรกันนี่ ถึงขนาดมอมยาปลุกเซ็กซ์เลยหรือ อิพี่ดีจิตใจจะหยาบช้าไปถึงไหนเนี่ย :m31: :m15:
-
เฮ่ย ย ย ,,, ช่วย แก้ว โดยด่วนนน น น
-
อะไรมันจะซวยขนาดนี้นายแก้ว
ช็อคเรื่องอิพี่ขวัญเป็นเกย์ไม่พอ ยังมาเจอนายดี คนเลวตัวพ่ออีก
อิพี่ฝิ่น ถ้ายังอยากเป็นพระเอก ก็โผล่มาได้แล้ว ด่วน
-
อ๊ากกกกกกกก :angry2: ฆ่าไอ้พี่ "ดี" ด่วนนน ใครก้ได้ พลีสสสสสสสสส :m15: :m15:
แล้วฝาก เอา ไอ้พี่ "ขวัญ" ไปเก็บไกลๆ เลย
-
ฝิ่นๆๆ :m31: :m31:
-
ขวัญชอบพงษ์??
-
เอาเลยๆ
-
ฝิ่นมาช่วยให้ไวเลย
-
ฝิ่นนนนนนนนนนนนนนนนน
มึงเป็นมิเอกมิใช่หรือ...
หายหัวไปไหนฮ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :z6: :z6:
-
ว๊ากกกก ตอนหน้า NC ของแก้วกะฝิ่นรึป่าวน้า
ไอ้ฝื่นมาเร็วๆ แกต้องเป็นคนเปิดซิงแก้วเท่านั้นนะฝิ่น
ขอบคุณมากครับที่มาต่อ ย๊ากกก อยากอ่านต่อ
-
ไม่ชอบไอ้พี่-น้องดี-ดิวเลยวุ้ย :z6: :z6: :z6:
ไอ้ฝิ่นแกอยู่หน่ายยยยยยย..มาช่วยลูกแก้วด่วนนน :z3: :z3:
-
อ้าย !!!! ใครก็ได้มาช่วยลูกแก้ว เร็ว ๆ ๆๆๆๆๆๆ เลย :z3: :z3:
ไอ้พี่ดี นี่แม่ง..เลวมาก น่า :z6: :beat: :z6: :beat:
-
ทำไมมมมมมม....ซ๊ซั่นทำอย่างนี้ จบได้ชะงักในอารมณ์มากๆ
-
เลวอะ
-
^^
-
คาดว่าพี่ฝิ่นต้องมาช่วยไว้ได้แน่ ! ฮิ้วว และอย่าลืมจัดการน้องแก้วซะเองด้วยนะคะ
-
แอร๊ยยยยย ย ย
ทำไมต้องเป็นคนนี้ *ตบพี่ดี*
ที่พี่คนนั้นบอก หมายความว่าไง? เปลี่ยนรสนิยม?
ขวัญเป็นเคะเรอะ! :serius2:
แล้วอย่าบอกว่าชอบพงษ์ :angry2:
หวังว่าฝิ่นจะมาช่วยทัน(?) :oo1:
-
อ้าว พระเอกกรูหาย
เฮ้ย ฝิ่น ทำงานๆ
น้องแก้วจะเสียตัวแล้วนะแก
-
o22 :a5: :sad4:
-
จะทำไงละทีนี้
พี่ดีนิสัยไม่ได้ดีตามชื่อเลยจริงๆ :angry2:
-
:z3: แก้วซวยไปแล้วนะ
พี่ดีนี่เหี้ยจิงๆ
ไอฝิ่นยุหนายแกยังจะอยากเป็นพระเอกยุไหม มาด่วนนนนนนนน
-
เอ่อ ก้อว่าพี่ขวัญชอบพงป่าวเนี่ย
มึงจะแค้นไอก้แก้ว ไรนักหนาถ้าไม่ได้คิดไรกะพงมัน
อิอิ อีกคู่ป่าวเนี่ย
ว่าแต่ไอ้ฝิ่น !! รีบๆหน่อยดิ
ไอ้ดีจะเปิดซิงน้องแก้วอยู่่รอมร่อแล้ว
ขะจั๋ยโวยๆ << ภาษาเหนือ
-
รอตอน ต่อไปนะครับ มาต่อเร็วๆนะครับ
-
ไอ้พี่ดีสงสัยชื่อเต็มจะชื่อ "ดีแต่ทำเรื่องชั่ว" รึเปล่่าวะ :z6:
ใครก็ด๊ายยยย มาช่วยแก้วทีี :serius2:
-
เอาจริงๆ ก็ไม่สงสารเหมือนกันนะั
แก้วโง่เองอะ
ดูแค่นี้ดูไม่ออกหรอ
ว่าอะไรเป้นอะไร :เฮ้อ:
ตั้งแต่เรื่องที่ยอมเอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับฝิ่นแล้ว
ยังจะโง่กินเหล้าพี่ดีอีก
เหตการณ์แบบนี้เดาได้ไม่ยากเลยนะ :beat:
แต่เหมือนๆว่าจะต้องมีคนมาช่วยและซ้ำต่อเองหรือป่าว :m25:
555+ แหงมๆ
ส่วนพี่ขวัญนั้น
ชอบพงษ์ชิมิฮ๊ะ หรือก็ชอบทั้งพงษ์ทั้งแก้วนั้นละ
แต่ทิ้งน้องยังงี๊กากเกินนะ
สรุปว่า ขวัญต้องรับแน่ๆ แต่ไห้แก้วมาอ่างว่าตัวเองจะเป็นรุกหรอ
หรือยังไงฟังจากคำพูดพี่คนนั้นแล้ว มันแปลกๆ
สรุปเราอะแปลกเอง -*-(คิดห่าไรมากมาย :z6:)
ไงก้มาต่อเร้วๆบะบาย :bye2:
-
:z3: :z3:
คุนฝิ่นคร้าบบบอยู่ไหนรีบมา
ช่วยว่าที่เมียเดี๊ยวนี้นะเฮ้ย :angry2: :angry2:
-
:beat:
สำหรับไอ้พี่ดี..กับไอ้คุณลูกขวัญ
ปล. ทำไมรู้สึกพี่ไม้แมนมากกกก :-[
-
:z10:
ลักษณะถ้าฝิ่นไม่มาช่วย
อาจถูกลดสถานะจากพระเอก มาเป็นตุ๊ดปอด(หมายถึงไม่แมน ไม่ใช่สาวแตกนะจ้ะ)แทนนะ
มาช่วยด่วนนนนนนนนน! ยังไม่อยากเปลี่ยนพระเอกจ้ะ :laugh:
รอตอนต่อไปจ้ะ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๐
ข้อมือทั้งสองข้างถูกตรึงไว้เหนือศีรษะ ภาพทับซ้อนว่าเคยเกิดมาแล้วเกิดขึ้นในหัว หากแต่ผู้กระทำถูกเปลี่ยนตัว
รอยยิ้มที่เคยยั่วโมโหน้องชายตัวเองเป็นเรื่องที่เคยเห็นปกติของคนนี้
หากแต่สายตาชั่วร้ายกลับเป็นสิ่งแปลกใหม่ให้แก้วเพิ่งเคยพบเจอ
พี่ดีแกะกระดุมเสื้อเขาอย่างช้าๆคล้ายต้องการหยอกล้อ โดยไม่สนใจความรู้สึกของแก้วในตอนนี้ว่าเห็นดีด้วยรึไม่
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมาอย่างหวาดกลัว
เขาอาจโง่ที่ไว้ใจพี่ดี แต่เขาไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
“ร้องไห้ทำไม หืม? หรือคิดถึงไอ้ดิว ...เอ๊ะ รอยที่คอ?” พี่ดีใช้นิ้วเขี่ยรอยฟันตรงซอกคอที่ยังหลงเหลือจางๆ ยิ้มเยาะ เขาไม่ได้ปกปิดมันไว้เหมือนวันแรกๆ เพราะไม่สังเกตก็ไม่เห็นแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าจะถูกสังเกตเห็นเมื่ออยู่ในสภาพอย่างนี้
“อย่างไอ้ดิวน่ะ มีวาสนาได้กินแค่ของเหลือเดนพี่เท่านั้นล่ะ” แก้วสะบัดหน้าหนีคำคุยโวนั่น
ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเสียน้ำตาต่อหน้าคนแบบนี้ น้ำตาของความอ่อนแอที่เขาปกปิดคนอื่นๆมาโดยตลอด
สุดท้ายเขาก็ยังเป็นคนอ่อนแออยู่วันยังค่ำใช่ไหม?...
“โอ๊ะ โอ น่ารักจริงๆ” มือสากข้างที่ว่างลูบไล้ผ่านหน้าอก สะกิดเม็ดสีชมพูเบาๆก่อนจะก้มใช้ปลายลิ้นหยอกเย้าแทน
แก้วบิดตัวหนีแต่หาได้พ้น
ปลายลิ้นยังคงสนุกสนาน มือสกปรกเลื่อนลงต่ำไปลูบคลำกลางเป้ากางเกงที่มันยังคงตื่นตัวอย่างขัดใจเจ้าของ แล้วไล่ยุ่งกับเข็มขัดหนังเส้นสีดำถึงขั้นปลดมันออก
“พี่.ดี...” เสียงเบาขาดหาย...แต่แค่น้ำเสียงก็น่าจะรู้ว่าเขาร้องขอความเมตตา ขอทั้งที่ใบหน้ายังหันมองทางอื่น
“ครับ? หืม?” พี่ดีจับปลายคางให้เขาหันหน้าไปมอง แล้วก้มลงมาหมายประกบปาก แก้วเม้มปากตัวเองทันที
“แก้ว...อย่าดื้อกับพี่” เสียงเย็นนัยน์ตาดุบีบบังคับ แก้วยิ่งเม้มแน่นจนเผลอกัด ได้กลิ่นเลือดในปากตัวเอง แต่พี่ดียังไม่ยอม ยิ่งเพิ่มแรงบีบที่ปลายคางให้เขาเจ็บเข้าไปอีกเพื่อประกบจูบและส่งลิ้นเข้ามาควานเล่นในช่องปากตามที่ต้องการให้ได้
“อื๊อ อือออ ฮึก” แก้วคิดอะไรไม่ออก เขารังเกียจ ขยะแขยง การกระทำคล้ายกันแต่สัมผัสมันไม่ใช่! เขาตัดสินใจต่อต้านด้วยการกัดลิ้นพี่ดี แต่ก็ทันแค่ปลายลิ้นเมื่อพี่ดีตวัดออกทัน
“โอ๊ย!! ไอ้เหี้ย!” ตะคอกด่าพร้อมสายตาที่ทวีความน่ากลัว แต่มือที่รวบอยู่เหนือหัวไม่ได้ทิ้งไปเลย กลับเปลี่ยนจากการกอบกุมเฉยๆแทนที่ด้วยปลายเล็บทั้งห้าจิกเข้ามายังเนื้อเขาด้วยความโกรธเกรี้ยว
“กูเล่นด้วยดีๆแม่งไม่ทันใจมึงใช่ไหม?!” พูดหลังจากเอามืออีกข้างแตะลิ้นตัวเองสำรวจความเสียหาย
แก้วมองหน้าพี่ดีตาแข็ง เสียดาย...เขาน่าจะกัดมันให้ขาดไปเลย
แต่ไม่ทันได้มีเวลาเอาคืนแม้ในความคิด กางเกงยีนส์สีดำที่เขาสวมใส่แทนกางเกงนักศึกษาได้ถูกปลดซิบและกระชากลงจากเอวด้วยมือเดียว
พยายามแล้ว เขาพยายามดิ้นรนแล้วแต่เรี่ยวแรงเขาแทบไม่มีเลย
ไอ้พี่ดีปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระแต่มือก็วางอยู่ที่เดิมอย่างอ่อนแรง มันแสยะยิ้มอย่างสาแก่ใจแล้วขยับมานั่งกลางตัวแก้วพลางดึงกางเกงยีนส์ออกไปให้พ้นขาเขา
คนโง่ๆอย่างเขาทำได้เพียงหวังในใจลึกๆให้ใครสักคนเข้ามาช่วย
ใครล่ะ ฮึก ฮึก พงษ์ ช่วย...
แต่...
แก้วชะงักเมื่อเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่มีพงษ์อยู่ข้างๆแล้ว
ไอ้ฝิ่น!...ช่วยด้วย! ชื่อของตัวอันตรายดังก้องอยู่ข้างใน แต่คนนี้ก็คงไม่มีทาง...เหมือนกัน
“หึ หึ ฮะ ฮ่าๆๆ” ถ้ามันมาเห็นเขาตอนนี้มันคงชอบใจในความเจ็บปวดที่เขาได้รับมากกว่าให้การช่วยเหลือเป็นแน่
แก้วหัวเราะทั้งน้ำตาอย่างสมเพชตัวเอง ในเวลาอย่างนี้ยังมาคิดถึงคนที่ต้องการทำร้ายตนได้อีก
“หืม? เริ่มชอบแล้วเหรอ?” พี่ดีถามพลางปลดกระดุมเสื้อตัวเองเมื่อเห็นท่าทีแปลกไปของเขา
แก้วไม่ได้ตอบแต่ค่อยๆปิดเปลือกตาลงอย่างคนสิ้นคิด
เปล่าหรอก เขาไม่มีทางรอดให้คิดแล้วต่างหาก
แก้วนอนนิ่งไม่ไหวติงใดๆ อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ร่างกายของเขามันไม่เคยมีค่าไม่เคยมีความหมายอยู่แล้วนี่
จบคำ มือพี่ดีก็ลูบวนน้องชายแก้วที่เหลือเพียงกางเกงในปิดบังอยู่ และมันยังคงพองตัว
เขาเกิดอารมณ์ เขาต้องการการปลดปล่อยแต่มันเป็นเพียงปฏิกิริยาจากสิ่งแปลกปลอมที่รับเข้ามาในร่างกายด้วยความโง่เขลาเท่านั้น
แต่ในใจเขาไม่ได้ต้องการให้ใครมาสัมผัสเลย
เขาเกลียด เขาขยะแขยง แก้วกลั้นหายใจเมื่อพี่ดีเริ่มซุกไซ้ซอกคอ
ประตูห้องถูกพังเข้ามา พี่ดีหันขวับไปมองแต่ไม่ได้ออกจากการทาบทับแก้วในทันที หากแต่ถูกกระชากตัวออกไปต่างหาก
ชายวัยรุ่นเกือบสิบคนหน้าตาไม่คุ้น แต่การแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งทับเสื้อยืดมันเป็นเอกลักษณ์ให้คิดไปทางเดียวว่าคนกลุ่มนี้คือเด็กช่างแน่นอน
แก้วพยายามพยุงร่างกายในสภาพล่อแหลมทั้งยังมึนๆเพื่อจะลุก แต่อย่าคิดว่าเขาจะมีแรงทำได้ ยิ่งเวลาล่วงเลยนานขึ้น ร่างกายของเขายิ่งตอบสนองฤทธิ์ยามากขึ้นเท่านั้น
ร่างกายเกือบเปลือยนอนแผ่อยู่กลางเตียงถูกคลุมด้วยผ้าห่มจากใครคนหนึ่งในกลุ่มที่คงจะเวทนาในความอนาจารของเขา
แก้วกัดฟันกวาดแขนตัวเองมาซุกเข้ากับผ้า เหลือแค่ช่วงคอให้พอมองเห็นเหตุการณ์
เขาเคยล่อนจ้อนเหลือแต่กางเกงในต่อหน้าคนมากมายมาแล้วเมื่อครั้งตอนรับน้องเข้าสาย
วันนั้นเขาไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะผู้ชายเหมือนกันเป็นเรื่องธรรมดา ต่อให้แก้ผ้าต่อหน้าคนเป็นร้อยยังเป็นเรื่องปกติได้เลย
แต่วันนี้ความรู้สึกมันแตกต่างไป ...เขารู้สึกเหมือนตัวเองแปลกแยก รู้สึกเหมือนกลายเป็นตัวประหลาด ด้วยเพราะเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อครู่
และน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้งสนองห้วงความคิดตน
นี่เขาเป็นอะไรไป...
“ไอ้เหี้ย! พวกมึงเป็นใครวะ” พี่ดีตะโกนถามหลังถูกกำปั้นอัดเข้าที่ใบหน้าไปหลายหมัดจนปากแตก แต่ได้เท้ายันเข้าที่หน้าท้องจนพี่ดีถอยหลังไปชนผนังเป็นคำตอบ
ภาพที่เห็นตอนนี้คือหนึ่งต่อสิบ เขาควรจะสงสาร เห็นใจคนที่ถูกรุมใช่ไหม...
“พอก่อน” หนึ่งในนั้นเอ่ยปาก มือถือโทรศัพท์แนบหูเดินออกไปนอกห้อง
พี่ดีทรุดลงไปกองที่พื้น
พลันสายตาแก้วก็เหลือบไปเห็นคนอีกกลุ่มเดินเข้ามาในห้อง
...น้ำตาหยุดไหลไปซะดื้อๆ
ไม่ใช่ความบังเอิญใช่ไหม?
ใจเขาสั่นรัว...
เขาหวังอะไรอยู่นะ...
หนึ่งในนั้นเดินไปมองหน้าพี่ดีด้วยสายตาอมหิต ก่อนจะใช้เท้าขวาเขี่ยใบหน้าเปื้อนเลือดไปมา
“มึงกล้ามากนะแตะคนของกู” ฝิ่นวางรองเท้าผ้าใบเปื้อนฝุ่นที่มันสวมใส่ไว้แนบแก้มพี่ดี
พี่ดีแหงนข้างมองหน้ามันด้วยความอาฆาต
เขาไม่รู้น้ำหนักจากปลายเท้านั้นหนักเบาแค่ไหน แต่แก้วมองภาพที่เห็นตรงหน้านี้ด้วยความว่างเปล่า
สาสมแล้วไม่ใช่เหรอกับสิ่งที่พี่ทำผม...
พี่ไม้พยุงตัวแก้วขึ้น สายตาที่คอยจับพิรุธนั้นมองมาอย่างหดหู่ หึ ใครเห็นเขาตอนนี้ก็ต้องสมเพชทั้งนั้นแหละ
แก้วเอามือปาดน้ำตา ขยับตัวติดกระดุมเสื้อ
“มึงจะเอาคืนก็ได้” ไอ้ฝิ่นเสียงเหี้ยมเอ่ยปากท้าทายพี่ดี “แต่ข้อหาของมึงดูซิจะมีใครกล้าเสี่ยงกับกูไหม?”
“อั่ก!” พี่ดีร้องออกมาเมื่อถูกเท้าข้างเดิมเตะเข้าเต็มๆท้อง ก่อนที่โจ้จะล็อกแขนลูกพี่มันไว้
“พอเถอะพี่ นี่ก็ปางตายแล้ว” มันสลัดแขนรุ่นน้องออก ก้มเก็บกางเกงที่พื้นมาโยนใส่หน้าแก้ว
“มึงอีกคน เตรียมใจไว้ล่วงหน้าเลยกูไม่ปล่อยมึงแน่!” ต่อว่าเขาด้วยความโมโหพร้อมนิ้วจิ้มหน้าผากเขาแทบหงาย ติดที่พี่ไม้ดันหลังไว้ทัน
แล้วมันก็ฮึดฮัดเดินลิ่วออกไปไม่สนใจใคร
“หมดเรื่องแล้วล่ะ พวกมึงแยกย้ายกันกลับได้เลย” พี่ไม้บอกคนกลุ่มแรกที่มาช่วยเขา
“รีบตามออกมานะพี่” โจ้บอกแล้วรีบวิ่งตามฝิ่นออกไป
ในห้องเหลือเพียงเขา พี่ไม้ และพี่ดีที่คู้ตัวนอนมือกุมหน้ากุมท้องตัวเอง
“ใส่เองไหวรึเปล่า” พี่ไม้คงจะเห็นว่าเขาไม่มีแรงแม้แต่จะใส่กางเกงเองสินะ
แต่แก้วกัดฟันพยักหน้า คว้ากางเกงเข้ามาในผ้าห่มอย่างเบลอๆและสวมใส่อย่างทุลักทุเล ยังไงเขาก็ไม่ขอความช่วยเหลือคนอื่นไปซะทุกเรื่องหรอก
เสร็จแล้วชูข้อมือตัวเองมาดูรอยเล็บจิก เขาเม้มปากคิดหนัก แต่ก็ต้องเจ็บจี๊ดเพราะลืมไปว่าเผลอกัดปากจนได้เลือดเข้า
หึ มันน่าสมน้ำหน้าตัวเองนัก
นี่เหรอรุ่นพี่ที่เคยร่วมสถาบัน นี่เหรอพี่ชายของคนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยเขาในตอนที่ไอ้พงษ์ไม่อยู่
พี่ไม้เอาแขนเขาพาดไหล่ตัวเองพยุงพาออกจากห้องนรกนั่น ทิ้งพี่ดีไว้ให้พนักงานม่านรูดจัดการต่อ
เขากลั้นใจรับความช่วยเหลือทั้งที่ไม่อยากสัมผัสใครในเวลานี้เลย
ถึงรถยนต์คันคุ้นตาที่สตาร์ทเครื่องรอหน้าห้อง แก้วพยักหน้าเชิงขอบคุณพี่ไม้ที่ช่วยส่งจนถึงเบาะก่อนจะขยับตัวนั่งชิดประตูเพราะยังรู้สึกปวดที่ตรงนั้น และไม่กล้ามองหน้าใคร แม้จะเหลือกันอยู่แค่นี้ก็ตาม
พี่ไม้ปิดประตูรถนั่งข้างๆกลับมาทำหน้าที่จับพิรุธเขาอย่างเคย
“มีผ้าเย็นในรถนี่โจ้” แล้วเอ่ยถามคนที่ทำหน้าที่ขับรถ
“อ้อ ครับ” โจ้มองผ่านกระจก รับคำ “พี่ฝิ่นหยิบให้หน่อย” แล้วเอ่ยบอกคนที่นั่งข้างๆอีกที
“จิ๊” จิ๊ปากรำคาญแต่ก็เอื้อมมือเปิดลิ้นชักรถหยิบซองผ้าเย็นออกมาส่งให้พี่ไม้สามอัน
“ไม่ค่อยเย็นแล้วว่ะ แต่ใช้ไปก่อนละกัน” เขาก็ว่าอย่างนั้น
แก้วก้มหน้ารับจากมือพี่ไม้แกะออกอย่างลนๆแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดแขนตัวเอง ถูที่เดิมซ้ำแล้วซ้ำอีกหมายให้สัมผัสจากพี่ดีออกไปจากตัวเขาให้หมด แต่รอยเล็บยังเหลือให้เห็น ทั้งแผลที่กัดปากตัวเองด้วยล่ะ
แต่แล้วก็อดชำเลืองมองคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างคนขับไม่ได้ ถ้าไม่ได้พวกมัน เขาคงต้องเจ็บตัวและเจ็บใจมากกว่านี้เป็นแน่
แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนเหงื่อจะไหลอยู่ตลอดเวลาเพราะไอ้ที่ปวดตุบๆกลางลำตัวยังไม่มีแววว่าจะหายปวดเลย
...........................................
ที่ไปมาก่อนอีกแล้ว ที่มารอตอนหน้านะคะ รีบแล้วค่ะ แฮ่กๆ (ทำเป็น -*- )
แล้วจะหายข้องใจว่า ตอนนี้ไอ้ฝิ่นมาได้ไง (ฝิ่น: ก็กูเป็นพระเอก! คนเขียน: มึงหุบตรูดไปเลยแสรดดด :beat:)
ประเดี๋ยวโพสตอนที่ ๒๑(ตอนหน้า) เสร็จ จะตอบคอมเม้นท์นะคะ เพราะงั้นคนอ่านรบกวนกรุณาถามอะไรก็ได้คนเขียนทีเถอะ ฮ่าๆๆ เค้าอยากคุยง่ะ>w< ไม่ใช่! ในนี้คุยไม่ได้ ฮา...เอาเป็นว่ามึน งง ติดใจ ตรงไหน อยากรู้อะไร จะตอบในตอนหน้านะคะ^^ อยากรู้ไหมใครหล่อสุดในเรื่อง งี้ เพราะคนเขียนไม่เคยพรรณนารูปร่างหน้าตาตัวละครเลย (ประเด็นคือคืออยากถูกถามอะนะ เหอๆ)
คือจะรีวิววิธีเฉือนเด็กช่างด้วยไม่อยากคุยต่อท้ายเยอะเดี๋ยวเสียอรรถรสในการอ่าน (ที่แล้วมาคุยน๊อยย น้อย) คนอ่านที่เรียนโรงเรียนอาชีวะอยู่หรือเด็กเก่าน่าจะรู้บ้างแล้ว แต่จะเล่าให้ฟังเฉยๆประกอบการอ่านนิยายในตอนต่อๆไปค่ะ และเผื่อใครที่ไม่ชำนาญเอาไว้นำไปใช้ด้วยค่ะ แวร๊กก ไม่ใช่! (จริงๆไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เลย โม้ไปงั้นแหละ)
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์เจ้า ^^ กอดๆ จุ๊บๆ
มีคอมเม้นภาษาเหนือโต้ย แปลว่าไร แปลให้ข้าเจ้าโตย คือ ข้าเจ้าบ่ฮู้เรื่อง ข้าเจ้าแอ๊บเหนือไปงั้นเอง T^T
-
จิ้มๆๆๆ
+1
ให้ฝิ่นจร้าาาาาาาาา
-
:เฮ้อ: สั้นจัง
ดีที่พ่อพระเอกมาช่วยไว้
ใครจะช่วยแก้วปลดยาล่ะ ฝิ่นช่วยหน่อย :pigha2:
-
ฝิ่นรักแก้วแล้วใช่มั๊ยเนี่ย
รอตอนหน้านะคะ ^^
-
ไอ้ฝิ่นบ้า มาช่วยแก้ว แล้วย้งปากดีอีก เดี๊ยะจะโดนไม่ใช่น้อย :fcuk:
-
และแล้วพี่ฝิ่นก็เปิดตัวมาอย่างเท่ห์
และ(อีกที)แก้วยังโดนยาอยู่ อย่าลืมนะฝิ่น :z1:
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: คิดถึง
เย้ๆ ในที่สุดฝิ่นก็มาช่วยแก้วแล้ว
ตอนหน้าจะมีโอกาสได้อ่าน NC ไหมน่อ
:z1: :z1: :z1:
-
ยิ่งอ่านยิ่งอิน
ฝิ่นมาแล้ววววววว แบบใจจริงอยากให้พี่ขวัญมาช่วย
พี่ขวัญชอบพงษ์ ??? เอ๊ะหรือชอบแก้ว o22
-
เฮ้อรอดดดด
-
เหยยยยยยยย สั้นจริงดิ ตอนยังไม่ได้จัดอยู่ที่ ๔-๕ หน้าword แล้วนะ (พยายามแถสุดๆ :o12: )
สปอยล์ แน่ใจเหรอว่าอยากได้NC (สปอยล์ไรของมันอีกวะไม่เห็นบอกไรเลย :angry2:)
-
นึกว่าจะเสร็จไอ้พี่ดีซะแล้ว ตอนนี้ต้องยกความดีให้พี่ไม้ เอ้ยๆ ไม่ใช่ต้องฝิ่นสิเนอะ :z1:
-
:กอด1:
-
เย้!!นายฝิ่นวันนี้ขี่ม้าขาวมาช่วยแก้วเลยทีเดียว :mc4:
แต่จะสำเร็จโทษแก้วต่อเปล่าน้า... :z1:
-
รีบมาต่อให้ว่อง รออ่าน nc :z1: :z1:
-
กรี๊ดดดดด พี่ไม้ขาาาาา :give2: (ตรูเป็นพระเอกนะเฟ้ย!! : ฝิ่น :angry2:)
+1ให้คนเขียน กับฝิ่น แหม มาได้จังหวะพอดี อ่านตอนนี้แล้วก๊าวใจ ฝิ่นมีรัศมีพระเอกแผ่พุ่งซะที(หวังว่าคงไม่ใช่แค่ตอนเดียวนะ -*-)
ว่าแต่แก้วเอ๊ย ไอ้ที่ค้างๆคาๆอยู่น่ะ กลับไปบ้านฝิ่นแล้วคงไม่หน้ามืดปล้ำฝิ่นนะลูก o18
ขอบคุณคร้าบ รอตอนหน้า ^^
ปอลิง ชอบอ่านคนเขียนคุยน้า ฮาดี เขียนยาวๆก็ได้ค่ะ
ปอลิง2 อยากให้ถามเราก็จะถาม 555 อยากถามว่า ขอเอาพี่ไม้กลับบ้านไปนอนกอดถาวรได้ไหมอ่า >< (โดนพี่ไม้fcไล่ออกจากกระทู้) :oni1:
-
อ่านแล้วขยะแขยงไอ้พี่ดีเหลือเกิน :z6:
ตอนนี้ไม่สงสัยอะไร รอคนเขียนมาเฉลยตอนหน้าว่าไอ้พวก 5X มาได้ยังไงหว่า
และที่สงสัยจริงๆ อะมันตอนที่ผ่านๆ มาจ้า
ทั้งเรื่องความรู้สึกของไอ้พี่ลูกขวัญที่มีต่อพงษ์กับแก้ว เบื้องหลังระหว่างพี่น้องไอ้พี่ดิวกับไอ้พี่ดี (มันเป็นพี่น้องกันประสาอะไรวะเนี่ย) และก็สาเหตุที่พงษ์กับเป้งมีเรื่องกันจนถึงกับฆ่ากันตาย
เรื่องรูปพรรณสัณฐาน ใครหล่อขนาดไหนไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าพงษ์น่าจะสูงที่สุด และหน้าตาอาจจะดูดีด้วยเพราะก่อนหน้านี้มีแฟนมาแล้วนี่นะ
ส่วนคนอื่นๆ ในเรื่องไม่เคยพูดถึงเรื่องผู้หญิงเลยอะ มีแต่ทะเลาะต่อยตีไปเรื่อย
แต่โดยส่วนตัว อยากให้พี่ไม้หล่อสุด เค้าเป็นแฟนคลับพี่ไม้ แง่มๆๆๆๆ
อ้อ...อยากรู้หน้าตาของแก้วนิดนึงด้วยจ้า คนเขียนไม่เคยพูดถึงหน้าตาของแก้วเลย รู้แต่ว่าขาว (จากไอ้คุณฝิ่นบอกว่าขาวสัดๆ) และชมพู (จากวีรกรรมความเลวของไอ้พี่ดี)
แต่ก็น่าจะหน้าตาดีพอควรเลยนะ เพราะดูจากบั๊ดดี้แสนที่บอกว่าไอ้พี่ดิวมาชอบแก้วอะ คือแสนพูดอย่างนั้นได้หน้าตาเฉย แสดงว่าแสนยอมรับนิดๆ ว่าหน้าตาแบบแก้วเป็นแบบที่ผู้ชายชอบได้
ว่าแต่...พออ่านนิยายในเล้ามากๆ ชักสงสัยว่าเดี๋ยวนี้เกย์เขานิยมวางยาเกย์ด้วยกันแล้วเนอะ เห็นหลายเรื่องเหลือเกิน :เฮ้อ:
-
กริสสสสสสส ในที่สุดก็เป็นฝิ่นที่มาช่วย โล่งใจจริง T^T
-
ไม่มีคำถามจ๊าาาาา
กัดมุมผ้าเช็ดหน้า ลุ้นน้องแก้วจะทำอะไรยังไง ต่อไปอะ
:กอด1:
-
...ไอ้พี่แก้วมันหายหัวไปไหน พอเสร็จธุระของตัวก็หายหัวจ้อย
...ปล่อยให้แก้วมันรับกรรมไปคนเดียว ดีนะพระเอกขึ่ม้าสีหมอกมาช่วยไว้ไม่งั้นเสร็จโจร
...ถามเหรอ ...เออๆๆๆแก้วโดนยาอะไรจ๊ะ ปลุกเซกส์ หรือเปล่าแล้วทำไมมันหมดฤทธิ์เร็วจัง :L2:
-
พระเอกขี่ม้าขาวมาสักที นึกว่าจะไม่มาละ
รอตอนต่อไปอยุ่นะ :pig4:
-
ตอนนี้พระเอกมาช่วยนายเอก เจ๊จะหายโกรธชั่วคราว แต่หากทำร้ายนายเอกอีกเจ๊จะโกรธมากกว่าเดิม และโกรธคนเขียนด้วยที่ปล่อยให้นายเอกโดนทำร้ายทุกตอน เจ๊โกรธจริง ๆ นะ ^_^
-
แก้ว แคล้วคลาดปลอดภัยแล้วนะ :sad11:
ฝิ่น ไม่สงสารแก้วเลยหรอ :m16:
ไอ้ดี มันสมควรได้รับ.....ีน นะ ไอ้ชั่ว :z6:
รออยู่นะ :call: :call:
-
เค้าล่ะร๊อรอตอนต่อไปมากๆ :haun4:
แอ๊! น้องแก้ว คุณพี่ขอโทษ คุณพี่ไม่ได้หื่น แต่เป็นห่วงแก้วม๊ากมาก
ถ้าพงษ์รู้นี้ไม่บินกลับมากระทืบพี่ดีซ้ำหรอกหรือ o22
-
ฝิ่น : ตกลงมรึงเป็นพระเอกหรอเนี่ย
55555555555555
o13 o13
-
วันนี้กดรีทั้งวันรอตอนต่อ
ต้องมาจิ้มก่อน แต่อ่านถึงฝิ่นล่ะ
ฝิ่นเหวยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ฝิ่นมาแล้ว :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
อยากจิ้มบวกซักร้อยบวก ดีมากฝิ่นดีมาก
อัดพี่ดีมันซะ มันทำเลวกับลูกแก้ว ต้องจัดการแม่งอย่างเดียว :angry2:
-
ไม่อยากเชียร์ฝิน เชียร์พี่ไม้แทน :o8: (ซะที่ไหนล๊ะ!!)
รอตอนหน้า วิธีรักษาแก้วนะจ๊ะ หุหุหุหุ (ไม่ค่อยหื่นเลยกุ :z3:)
-
อยากรู้เรื่องความรู้สึกจริง ๆ ที่ลูกขวัญมีต่อ แก้ว กับ พงษ์
และอยากรู้เรื่องของ พงษ์ เป้ง และไม้ อะว่ามีอะไรเกิดขึ้นจึงทำให้พงษ์
ทำเป้ง ถึงตายอะ
-
:pighaun: รอตอนต่อไปอย่างจดจ่อ ลูกแก้วเอ๊ย
-
ฝิ่นรอดตัวไปนะมาทันเวลาพอดี
-
ไอ้พี่ดี ว่าและไอ้นี่มันต้องชั่ว ไม่คิดว่าจะถึงขนาดนี้ :z6: :beat:
-
แบบนี้ยิ่งทำให้แก้วเลือกไม่ไปเจอดิว เพราะอาจจะเจอพี่ดีแล้วซ้ำรอยเดิมสินะ
ฝิ่นต้องลบรอยให้แก้วนะ
-
มาต่อเร็วๆนะครับ
-
ลุ้นเหมือนกัน แต่แก้วก็รอดมาได้แล้วหลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อนะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนครับ
-
เย้!!!! ฝิ่นมาจริงๆด้วย โอเคร๊ ต่อไปนี้เราจะเชียร์นาย ถึงแม้นายจะน่าหมั่นใส้สุดสุดก้อตาม
อยากรู้ลักษณะ รูปร่าง หน้าตาเหมือนกัน ขอของทุกคนเลยนะคะ ^^
-
ชอบไม้ครับ
-
อ่านไป อ่านมา ทำไมชอบพี่ไม้ ซะได้ 55555555555555
-
คนเขียนนน
ตอนหน้าใครจะช่วยหนูแก้วหล่ะ ไอ้ที่ปวดตุบๆ มันยังไม่หายเลยนะ หึหึหึ
-
โล่งอกที่แก้วไม่โดนไอ้พี่ดี(แต่ทำชั่ว)มันแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ
แต่กลับไปไม่แน่อาจจะโดนจากฝิ่นก็ได้เพราะฤทธิ์ยายังอยู่
แต่ประเด็นหลักของคนอ่านคือเข้ามากรี๊ดพี่ไ้ม้ :m3: :m3: ( :z6:แอ่ก โดนถีบออกจากทู้)
-
อะไรยังไงไม่รุ้
แต่ที่รุ้ๆ ตอนต่อไป :m25:
ใคร...จะช่วยแก้ว 555+
หรือจะ ทรีซั่ม อ๊ายยยย 555+
พี่ไม้ เอากะเขาไหมละ? ขี้สงสัยขี้จับผิดนักนิ :beat:
ใครรักใครอะไรยังไงไม่รุ้
แต่ืั้ที่รู้ๆ I♥พงษ์ \m/ (กูร๊อค) :กอด1:
o13
-
ถ้าตอนหน้าฝิ่นมันจะได้แก้วจริงๆก็ขอเบาๆหน่อย :oo1:
อย่ารุนแรง :man1:
-
ดีนะที่ฝิ่นมาช่วยไว้ได้ทัน
อยากรู้ว่าฝิ่มมันจะชอบแก้วตอนไหนอะ
เพราะยังไม่เห็นวี่แววว่าฝิ่นมันจะชอบแก้ว
มีแต่ความแค้นสงสัยความแค้นมันบังตาแน่ๆเลย
+ 1 นะคะ
-
อย่าบอกนะว่าฝิ่นวางแผนอีกอ่ะ
-
ไอ้พี่ไม้นี่ช่างแตกต่างจากน้องเหลือเกิน
ทำไมน้องมันไม่ดีอย่างนี้บ้างนะ :angry2:
-
:laugh:
พี่ไม้ท่าจะดังกว่าพระเอกซะละ...แมนได้ใจ :o8:
-
:เฮ้อ:
-
นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว :เฮ้อ:
-
โล่งอกไป
ชอบจังตอนฝิ่นพูดว่าคนของกู
ถามๆๆ พี่ไม้เป็นเกย์หรือเปล่า
พงษ์ฝากพี่ดิวดูแลแก้วจริงๆ หรือเป็นแค่ข้ออ้างของพี่ดิว
ตอนนี้ฝิ่นชอบแก้วหรือยัง
:pig4:
ป.ล. ชอบอ่าน talk คนเขียน
-
อิดี เมิงไปเปลี่ยนช่ือเป็นอิเลวทราม หรือ อิชั่วช้า เลยนะ น้องเค้าไว้ใจแท้ๆยังทำได้ :z6:
เรื่องใครหล่อไม่ค่อยสนอ่ะ คนเรามันเท่ที่การวางตัว การแสดงออก
พี่ไม้: :m19:
อิแวน: อุกรี๊ดสสสส :-[
รอตอนหน้า nc เหอๆ ฮี่ๆ ฮุๆ :z1:(เสียงหัวเราะโรคจิตจริงตู)
-
ปัญหาก็คือ...กลับถึงบ้านแล้วจะซีน ถอนพิษ ไหมเนี๊ยะ....5555
-
เื่มื่อไรจะมาต่อหนอ อยากอ่านใจจิขาดแล้วเน้อ :sad4:
แงแง คิดถึงฝิ่นกะแก้ว :impress2:
รอรอรอ ต่อไป คิคิ จุฟๆ :o8: :o8:
-
ไล่ตามอ่านมาจนถึงตอนล่าสุดค่ะ
เม้นที่เดียวเลย บอกได้คำเดียวว่า
"ชอบ" นิยายเรื่องนี้มากเรื่อง
เนื้อเรื่องน่าติดตาม มีอะไรให้ลุ้นตลอดเวลา
ตัวละคนแต่ละตัวก็มีที่มาที่ไป มีปมให้ชวนติดตาม
มานั่งรอตอนต่อค่ะ มาลุ้นพี่ฝิ่นกับน้องแก้ว
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๑
ลงจากรถปิดประตูดังปัง! อย่างไม่สนว่าเจ้าของรถจะว่าอะไรไหม? ...รถพ่อกูใครมีปัญหาอะไรวะ
ถ้าปิดแล้วมันจะพังก็พังไปเลย ไอ้ตัวต้นเหตุจะได้รู้ว่าทำให้เขาไม่พอใจโคตรๆอยู่
เปิดประตูฝั่งเบาะหลังดึงแขนไอ้แก้วออกมา มันดูเบลอๆจนถึงกับซบหลังเขา ไอ้นี่ก็เหลือเกินหาเรื่องให้กูวุ่นวายได้ตลอด
“ไปส่งพี่ไม้แล้วเอารถไปจอดไว้บ้านมึงเลย พรุ่งนี้เช้าค่อยขับมาคืน” ไอ้โจ้พยักหน้ารับคำ แต่พี่ไม้ไม่ยอม
เอาตามที่บอก แถมยังเปิดประตูรถออกมามองหน้าเขาอีก
“กูจะนอนนี่” ชัดถ้อยชัดคำ!
ตั้งแต่ไม่มีไอ้เป้งมีสักครั้งไหมที่พี่จะปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่ควรทำ แล้ววันนี้ไอ้นี่มันก็กำลังหาคนคุ้มกะลา
หัวเพิ่มอีกคน พี่บอกเองไม่ใช่เหรอว่าคนที่มันเข้าม่านรูดด้วยน่ะคือมือขวาอดีตประธาน๓T อย่างไอ้แก้ว
หน้าซื่อของพี่เนี่ยมันทำได้ทุกทางนั่นแหละเพื่อจะปัดความรับผิดชอบ แล้วถ้ามันหนีไปอีกคน จะตามเอา
ผิดที่ใครได้ …นี่เขาก็ใจเย็นกับเรื่องนี้เท่าไหร่แล้ว
“ตามใจ” พี่อาจว่างมีเวลามาหยุดการกระทำเขา แต่พี่หยุดความคิดเขาไม่ได้หรอก
ขนาดเขาส่งคนตามไอ้แก้วอีก หลังจากคราวที่ตามเรื่องไอ้พงษ์ พี่ยังเพิ่งรู้เลย
ไอ้แก้วที่เขายังดึงข้อมือไว้อยู่ สะกิดแขนยิกๆ หลังจากเขาพูดกับพี่ไม้ ฝิ่นจึงปล่อยมือแล้วมองหน้าเชิงถามว่ามีอะไร
คนนัยน์ตาแดงๆก้มหน้างุดแต่ดันก้มใส่แขนเขา จะซบทำไมเนี่ย
“จะหลบทำเหี้ยอะไร กูยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่” เขาต่อว่า
ที่ให้โอกาสอยู่กับไอ้ดิวนานสองนานเพราะเขาอยากเว้นระยะห่างกับมันดูเพื่อจะได้คิดอะไรหลายๆอย่าง
บางครั้งเขาก็รู้สึกอยากปล่อยมันไป แต่บางครั้งเขาก็คิดว่าพวกมันควรจะได้รับบทลงโทษบ้าง
เขาถึงลงทุนสร้างสถานการณ์ว่าโดนทำร้ายเพื่อปั่นหัวมันเล่น โชคดีที่ก่อนหน้านั้นโดนแก้วบาดตีน เลยรู้ว่า
ของที่มีดันเสื่อมตอนไหนก็ไม่รู้ ไม่งั้นแผนที่เขาสร้างขึ้นอาจต้องลงทุนด้วยเลือดก็เป็นได้ แต่ยังคุ้มเพราะ
ผลตอบรับก็น่าพอใจใช่น้อยเมื่อไอ้โจ้รายงานว่ามันวิ่งแจ้นมาหาเขาถึงอู่
แต่ความผิดของมันก็ตามมา ด้วยการเอาโอกาสที่เขาให้ไปอ่อยผู้ชายซะทั่ว
ใครก็ได้ใช่ไหมขอแค่กันมึงออกจากกูได้น่ะ
“ขะ คือ...”
“อ๋อนี่มัวเมาในรสรักจนติดอ่างไปแล้วเหรอ” ไอ้แก้วอ้าปากค้างเมื่อเขาพูดจบ หึ เถียงไม่ออกเพราะมันเป็นความจริงสินะ ฝิ่นกอดอกมองแก้วด้วยหางตา
“มึงมีอะไรรึเปล่า” พี่ไม้เอ่ยปากถามมันอีกแรง
“...ผม...ไม่ได้เป็นอะไร” ทำท่าทำทีเหมือนกระวนกระวายอะไรสักอย่างแล้วพูดตอบเบาๆคล้ายคนไม่มีแรง
“งั้นก็เข้าบ้าน” พี่ไม้บอก เคาะกระจกรถ “โจ้กลับบ้านได้เลย”
“เดี๋ยวๆโจ้” ไอ้แก้วร้องขัดอย่างลนๆ “คือ...พี่ไม้...ผมไม่ได้เป็นอะไรแล้ว พี่กลับไปพักเถอะ ขอบคุณมากพี่” มันเหมือนฮึดรวบรวมคำพูดบอกเสียงเนือยๆพร้อมยกมือไหว้
“เฮอะ” ฝิ่นมองหน้าแก้ว เย้ยในใจ สร้างภาพชะมัด
ถ้ามึงอยากไหว้คนที่มึงต้องไหว้น่ะกูนี่ กูที่ให้คนตามเฝ้ามึงทุกฝีก้าวตั้งแต่มึงเสร่อไปอยู่บ้านไอ้ดิวแล้ว
พฤติกรรมมึงทั้งในทั้งนอกโรงเรียนกูก็รู้หมด ยกเว้นว่ามึงพูดอะไรกับใครที่คนของกูไม่ได้ยิน และในบ้านไอ้ดิวเท่านั้นล่ะที่กูพลาด
แต่มึงก็พลาดกว่าที่ไม่สนใจสิ่งรอบข้างอะไรเลยว่ามีคนตามอยู่ กูเลยยกประโยชน์ให้ ครั้งนี้มึงไม่ต้องไหว้กูก็ได้ กูน่ะ แฟร์ๆอยู่แล้ว
พี่ไม้ยังคงมองหน้าไอ้แก้วไม่วางตา
“อะไรของพี่เนี่ย เจ้าตัวก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร หมายถึงไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว เอ๊ะ พี่ห่วงมันเหรอ” เขาชักสีหน้าไม่พอใจเมื่อนึกขึ้นได้
พี่ไม้จะหลวมตัวมากไปแล้ว ถึงว่าก่อนนี้ถึงได้แก้ตัวแทนกันตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้ามันด้วยซ้ำ สันนิฐานมาได้ว่ามันโดนมอมรึเปล่าถึงเข้าม่านรูดง่ายๆ เพราะพี่เริ่มเขวแล้วน่ะสิถึงคิดอย่างนั้นได้ น้ำหน้าอย่างนี้มีแต่สมยอมเท่านั้นล่ะ
“เฮ้อ มึงเลือกเองนะไอ้แก้ว” พี่ส่ายหน้ามองเขาที มองไอ้แก้วที ไอ้นี่ก็ก้มหน้าอยู่นั่นล่ะ
“พี่กลับบ้านไปเลยไป พรุ่งนี้ไม่ต้องมาก็ได้อยู่กับแม่เถอะ” ฝิ่นหน้าขรึมเดินไปเปิดประตูรถทำให้แก้วที่ยืนพิงอยู่ต้องเซน้อยๆ เขาดันพี่ให้เข้าไปนั่งข้างคนขับ พยักหน้าส่งสัญญานให้โจ้ออกรถไปเลย
พี่เขาไว้ใจไม่ได้เลยใช่ไหม ...ของยิ่งเคยๆด้วย
รถแล่นออกไปแล้ว ฝิ่นก้าวเท้าไปไขกุญแจบ้านทันที ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่ยังยืนอยู่ที่เดิม
“ยืนบื้ออะไร” ส่งคำถามออกไป ไอ้แก้วถึงกับถอนหายใจ กำหมัดแน่นค่อยๆก้าวมาทางเขาอย่างเซๆ เมาเหรอ?
เขารีบเดินกลับไปพยุงแต่มันดันสะดุ้งซะนี่ สะดุ้งทำไม? แต่มันก็ยอมให้เขาพยุงแขนจนเดินไปถึงห้องนอน
ลองไม่ยอมดูสิ คนอุตส่าห์มีน้ำใจ
“อะไรวะ?” ฝิ่นย่นคิ้วตามหลัง ข้องใจ เมื่อเข้ามาในห้องไอ้แก้วถึงกับสะบัดมือเขาออกจากแขนมัน แล้ว
มันก็เดินเซๆคลำผนังเข้าห้องน้ำไปซะอย่างนั้น ทั้งที่ท่าทางเหมือนไม่มีแรงน่ะนะ
เขาถอดถุงเท้าถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนนุ่งผ้าขนหนูเตรียมจะอาบน้ำ
ต่อให้ดึกแค่ไหนถ้าเพิ่งกลับเข้าบ้านเขาจะต้องอาบน้ำก่อนทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นจะนอนไม่หลับ
เขานั่งรอไอ้คนที่วิ่งโร่เข้าห้องน้ำนานสองนานยังไม่ออกมาสักที
เอ...อาการสะดุ้งมันก็แอบเป็นบ่อยๆให้เขาเห็นบ้าง แต่มันก็เพิ่งกล้าสะบัดมือเขาเป็นครั้งแรก
ถ้าลองคิดดู คนขี้ขลาดอย่างไอ้แก้วคงไม่กล้าหือกับเขา
...หรือจะมีอะไรที่ผิดปกติ
ฝิ่นเดินไปเปิดลิ้นชักโต๊ะคอมฯหยิบกุญแจห้องน้ำมาไขแล้วเปิดโพล่งเข้าไป
ไอ้แก้วถึงกับหยุดทุกการกระทำเมื่อเห็นเขา
แล้วเขาล่ะ ...เรียกว่าตะลึงเลยดีกว่า
ภาพผู้ชายตัวเล็กๆ นั่งเหยียดขาหลังพิงผนังมือจับท่อนเอ็นที่ยังมีน้ำสีขาวขุ่นคามือชะงักค้าง ก่อนที่มันจะก้มหน้าลง
“ฮึก ฮึก” เสียงสะอื้นเบาๆเหมือนกลั้นไว้ไม่ไหวเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน ...มันร้องไห้?
ฝิ่นเดินเข้าไปหาร่างเล็กนั่น
...เดินเข้ามาหามันทำไม? เขาไม่มีคำตอบ จนต้องสะบัดหัวตัวเองแล้วย่อตัวลงนั่ง
“โดนยาเหรอ?” เขาถามด้วยความไม่เชื่อ ไอ้แก้วไม่ตอบแต่เงยหน้าขึ้นมามองเขาแทน น้ำตาอาบเต็ม
ใบหน้า สายตาขอร้องอ้อนวอน ? คล้ายต้องการความช่วยเหลือ? ก่อนที่แก้วมันจะเม้มปากบางๆนั่น
เหมือนที่เคยทำ แต่ก็แค่แป๊บเดียว
“ฮึก ฮึก มัน ไม่..ห.า.ย” ถ้าอย่างนั้นเขาก็เข้าใจผิดน่ะสิ คิดว่ามันตั้งใจไปกับไอ้นั่นเอาเอง
มันก้มหน้าอีกครั้งพูดเสียงสั่นเบา ทุกทีจะอารมณ์เสียเมื่อไอ้แก้วหลบตาเขา แต่ครั้งนี้ไม่ใช่
...ให้มันอย่ามองเขานั่นแหละถูกแล้ว
เขาเบนสายตาลงต่ำไปถึงท่อนเอ็นที่พองตัวน้อยๆอยู่ในมือมัน เพราะเขาไม่ได้มองว่ามันเป็นผู้ชายรึเปล่าถึงได้คิดไม่ออกอย่างนี้
ถ้าเป็นเพื่อนผู้ชายทั่วไปเขาคงช่วยมันชักว่าวให้แล้วล่ะ แต่ไอ้นี่ เขาไม่รู้จะช่วยมันยังไง
แต่...อย่าปล่อยโอกาสให้หลุดไปเฉยๆสิไอ้ฝิ่น ถึงมันจะไม่ใช่ผู้ชายแต่มันก็ยังเป็นผู้ชายอยู่นะ อะไรของกูวะ? เขาคิดเองงงเอง ก่อนจะสะบัดหัวทวงสติตัวเองกลับมา
เอาวะ ถ้ามันเป็นเกย์การที่เขาได้สัมผัสกับมัน อาจจะทำให้ไอ้แก้วหลงเขาง่ายขึ้นก็ได้
ที่ผ่านมาแค่จูบ ครั้งนี้กูขอจับเลยละกัน
“กูรู้ว่ามึงอยากให้กูช่วย” คราวนี้ล่ะ มึงจะต้องรักต้องหลงกูเร็วขึ้นแน่ๆ
เขาเอื้อมมือแกะกระดุมเสื้อแก้วแล้วถอดโยนทิ้งแถวนั้นโดยที่แก้วไม่ขัดขืนอะไรมากไปกว่าการส่ายหน้า
ก่อนจะนั่งก้นติดพื้นแล้วโอบเอวแก้วออกจากผนังให้หลังมาพิงหน้าอกเขาแทน
กลายเป็นว่าตอนนี้เขานั่งซ้อนหลังมันอยู่
ไอ้แก้วที่ผงะเล็กน้อยตอนที่พาย้ายที่เมื่อกี้รีบเอาสองมือกุมเอ็นน้อยตัวเองไว้อีกครั้ง
...ปิดตอนนี้ไม่ทันแล้วล่ะมึงเอ๋ย
มือซ้ายโอบเอวบางยกก้นขึ้น มือขวาดึงกางเกงลงให้พ้นทางเกะกะ พลางเอื้อมมือไปจับสองมือที่กุมส่วนนั้นอยู่
ไอ้แก้วก้มหน้าตัวสั่นย่นคอเล็กน้อยเมื่อปลายจมูกเขาเริ่มซุกไซ้หลังคอ
ฝิ่นใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวขาแก้วให้ชันตามจึงค่อยปลดกางเกงออกให้พ้นขา มันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเลย
“หึ อ่อยกูเหรอ” ของมันแน่อยู่แล้วที่จะเป็นอย่างนั้น ถึงเขาจะยังไม่เคยเอาผู้ชายแต่เขาก็มั่นใจว่าชายไม่
แท้หลงเขาได้ไม่ยากหรอก ...จากที่เคยมีคนเสนอมาให้เอาบ่อยๆ
แต่กลิ่นหอมอ่อนๆตรงซอกคอทำเอาเขารู้สึกแปลกไปเหมือนกัน ทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้กลิ่นนี้สักหน่อย
หรือเพราะครั้งนี้มีกลิ่นน้ำคาวของมัน ...
เออช่างแม่ง...ฝิ่นปัดมือเกะกะของแก้วออกแล้วกอบกุมไว้เอง เล็กกว่าที่ตาเห็น
เขาเขี่ยหัวเอ็นลื่นๆแล้วรูดลง รูดขึ้นช้าๆ พร้อมกับเลียซอกคอ ใบหูไปด้วย
“อ๊ะ อืม...” มือมันเปลี่ยนเป็นจับแขนเขาไว้ทั้งสองข้าง เสียงครางเบาๆทำเอาเขานึกพอใจ หึ มึงชอบใช่
ไหมล่ะ อย่างว่าละนะของที่ต้องปลดปล่อยมันก็ต้องเอาออกไม่งั้นก็คงไม่หาย
เขาเองก็นึกครึ้ม...จากที่แค่ลองสัมผัสผู้ชายดูบ้าง ตอนนี้กลายเป็นชินที่ต้องสัมผัสมันไปซะแล้ว
แต่ก็คงช่วยเท่าที่ช่วยได้
นึกรำคาญเสียงสะอื้นจึงยกมือซ้ายมาเช็ดน้ำตาให้มันก่อนจะกลับไปวางคล้ายโอบกอดเช่นเดิม
“อ๊ะ อ๊ะ ฮือออ” ทั้งครางทั้งส่ายหน้า แต่ท่าทางอย่างนี้แถวบ้านเรียกว่ามีอารมณ์ร่วม
“อ่อยไปก็เท่านั้น กูไม่เอาคนสติไม่สมบูรณ์หรอก” เขาพูดเบาๆแล้วเป่าหูมัน ทำเอาไอ้แก้วขนลุกและมือยังคงทำหน้าที่เร็วบ้างช้าบ้างตามแต่ใจที่เต้นตึกตักสั่งมา
“มึงหันมาจูบหน่อย” เป็นเขาที่เสียงอ่อนเสียงเบา พร้อมใช้มือซ้ายดันหน้ามันเบาๆหันมารับการประกบปากเพื่อสนองอารมณ์
หื๊อ ได้กลิ่นคาวเลือด? แต่ช่างแม่งเจ้าตัวมันยังเอาลิ้นมาพันลิ้นเขาได้เลย
ไอ้แก้วเอนหลังพิงเขาหายใจหอบถี่ซะสบายหลังจากปลดปล่อยเป็นรอบที่เท่าไหร่ของมันก็ไม่รู้
ส่วนนั้นของมันอ่อนตัวลง คงจะหมดฤทธิ์ไม่เจ้าตัวก็หมดแรงแล้วล่ะ แต่มือเขายังจับไม่ปล่อยหันไปเขี่ยลูกบอลน้อยๆเล่นแทน
ไม่ได้อะไร ...มันเพลินดี
“หายอยากรึยัง?” เขาถาม ไม่ได้ตั้งใจจะกระซิบแต่หูมันอยู่ใกล้ปากพอดีเลยงับเล่นอีกที แล้วไอ้ของๆกูจะแข็งทำไม
เหี้ย!กูมีอารมณ์กับผู้ชายเหรอวะ?!
ไอ้แก้วมันเงียบครู่นึงก่อนจะเงยหน้ามามองเขา
“...กูรังเกียจพี่ดี” พักหอบหายใจ “...แต่กูไม่ยักรังเกียจมึง” มันเม้มริมฝีปากอีกแล้ว เขาจึงก้มลงไปจูบปากมันเล่นอีกรอบ
ปากมึงมีแรงดึงดูดอะไรรึเปล่าวะ
“มึงรักกูแล้วใช่ไหมล่ะ? หึ กูนึกไว้แล้วไม่มีผิด” ฝิ่นยิ้มเยาะอย่างพอใจแต่กลับต้องชะงักเมื่อคนที่พิง
หน้าอกอยู่ดีๆหันตัวมาหาเขาพร้อมยกสองแขนคล้องคอทั้งเข้าประกบปากเขาอย่างเร็ว
ฝิ่นแตะเอวบางอย่างมึนงงก่อนจะเป็นผู้นำตวัดลิ้นพัวพันกับลิ้นมันอย่างดูดดื่ม มือซ้ายใช้ยันตัวไม่ให้ล้ม มือขวาลูบไล้สะโพกมนที่เปลือยเปล่า
“มึงรู้ใช่ไหมว่าทำอะไรอยู่” ฝิ่นถอนปากออก เอ่ยถามเพื่อให้แน่ใจ ไอ้แก้วก้มหน้างุดพยักหน้าแนบอกเขา “เฮ้อ...” ฝิ่นเงยหน้าถอนหายใจ
“เอาไว้มึงมีสติมากกว่านี้ค่อยมาอ่อยกูใหม่” เขาจับแขนแก้วออกจากรอบคอ มองเห็นเป็นรอยคล้าย
โดนเล็บจิกแล้วอดโมโหไม่ได้ ...คนที่ทำมึงเจ็บได้ ต้องเป็นกูคนเดียวเท่านั้น ฝิ่นผละออกจากแก้ว
ดึงฝักบัวมาถือแล้วเปิดน้ำให้ไหลราดหัวแก้วลงมา มันนั่งก้มหน้านิ่งไม่ได้ต่อต้านอะไร
ต้องดีใจสิที่มันพลั้งตัวพลั้งใจมาทางเขา แต่ทำไม...รู้สึกหนักๆในอกยังไงไม่รู้
.............................
:pig4:ขอบคุณทุกคนอ่านทุกคอมเม้นท์นะคะ^^ กอดๆ จุ๊บๆ
แอร่กกก //โดนถีบ คล้ายๆว่าคนเขียนจะโดนลอบสังหาร เอ...เราคิดมากไปเองน่า คนอ่านออกจะใจดี๊ดี หุหุ
(เค้าเปล่ารับปากนะว่าตอนนี้จะNC รอกันอีกนิด... อีกนิด ฝิ่นบอกว่าไงนะ)
ดิท...มีตอบคอมเม้นหน้า ๓๑ นะคะ^^
-
คิดว่าฝิ่นเอนเอียงมากกว่าแก้วอีกนะ
-
:-[ :-[ :-[
:L2: :L2:
-
รอตอนแก้วมีสติ :z1:
รู้สึกถึงความหวานเล็กๆ
:pig4:
-
โห....ตอนนี้ดูฝิ่นเป็นคนดีมาก ๆ อิอิอิ
-
ตกลงใครจะหลงใครกันแน่ล่ะทั่นเอ๋ย :oo1: :oo1:
-
nc10 :o11:
แก้ว: ฮึก :impress3: อุตส่าห์ไล่กขค(พี่ไม้แสนรู้ :-[)
ฮึก :impress3: อุตส่าห์อ่อยแลออดอ้อนไอฝิ่นสารพัดอย่างที่ไม่เคยมาก่อน
ยังโดนปฏิเสธ ได้ไงอ่า อับอายยิ่ง คนแต่งใจร้ายยย :o12:
-
เฮ้อ..แก้ว :เฮ้อ:
ไปบอกเขาทำไมว่าไม่รังเกียจเขาแต่รังเกียจคนอื่น
และไปพยักหน้ายอมรับทำไมว่ารู้ใจตัวเองดีตอนเอามือคล้องคอเขาน่ะ
หมดกัน หมดกัน
ไอ้คุณฝิ่น งานเข้าแกแล้ว หาเรื่องมาหนักหัวเองช่วยไม่ได้ แล้วจะกล้าทำตามแผนเดิมต่ออีกมั้ยล่ะเนี่ย o18
พี่ไม้....พี่เป็นเกย์เหรอออออออออออ ของยิ่งเคยๆ ที่ไอ้คุณฝิ่นคิดอะ มันคืออะไรรรรรรรรรรรรรรรร :z1:
-
รักแก้วแล้วละสิฝิ่น(แอบหวั่นไหวนะฝิ่น)55+ รอ รอ ตอนต่อไป สู้ๆ
-
เริ่มหลงรักแก้วแล้วล่ะสิฝิ่น
-
อิคุณฝิ่นทำไมต้องอยากเป็นคนดีตอนนี้ด้วยเล่า ขัดใจชะมัด ชิส์
-
รักกันๆๆๆ :mc4:
-
:กอด1: ตอมเม้นท์เจ้า
กรี๊ดดดดด พี่ไม้ขาาาาา :give2: (ตรูเป็นพระเอกนะเฟ้ย!! : ฝิ่น :angry2:)
+1ให้คนเขียน กับฝิ่น แหม มาได้จังหวะพอดี อ่านตอนนี้แล้วก๊าวใจ ฝิ่นมีรัศมีพระเอกแผ่พุ่งซะที(หวังว่าคงไม่ใช่แค่ตอนเดียวนะ -*-)
ว่าแต่แก้วเอ๊ย ไอ้ที่ค้างๆคาๆอยู่น่ะ กลับไปบ้านฝิ่นแล้วคงไม่หน้ามืดปล้ำฝิ่นนะลูก o18
ขอบคุณคร้าบ รอตอนหน้า ^^
ปอลิง ชอบอ่านคนเขียนคุยน้า ฮาดี เขียนยาวๆก็ได้ค่ะ
ปอลิง2 อยากให้ถามเราก็จะถาม 555 อยากถามว่า ขอเอาพี่ไม้กลับบ้านไปนอนกอดถาวรได้ไหมอ่า >< (โดนพี่ไม้fcไล่ออกจากกระทู้) :oni1:
…โหยกล้ามากอะ คนเขียนยังไม่กล้าเข้าใกล้พี่ไม้เลยนะ ยืนห่างสามเมตรยังรู้สึกเหมือนจะโดนพี่มันฆาตกรรมเลยอะ ถ้าเอาไปก็ดูแลสวัสดิภาพตัวเองด้วยนะ ฮ่าๆ
ขอบคุณเช่นกันจ้า^^
อ่านแล้วขยะแขยงไอ้พี่ดีเหลือเกิน :z6:
ตอนนี้ไม่สงสัยอะไร รอคนเขียนมาเฉลยตอนหน้าว่าไอ้พวก 5X มาได้ยังไงหว่า
และที่สงสัยจริงๆ อะมันตอนที่ผ่านๆ มาจ้า
ทั้งเรื่องความรู้สึกของไอ้พี่ลูกขวัญที่มีต่อพงษ์กับแก้ว เบื้องหลังระหว่างพี่น้องไอ้พี่ดิวกับไอ้พี่ดี (มันเป็นพี่น้องกันประสาอะไรวะเนี่ย) และก็สาเหตุที่พงษ์กับเป้งมีเรื่องกันจนถึงกับฆ่ากันตาย
เรื่องรูปพรรณสัณฐาน ใครหล่อขนาดไหนไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าพงษ์น่าจะสูงที่สุด และหน้าตาอาจจะดูดีด้วยเพราะก่อนหน้านี้มีแฟนมาแล้วนี่นะ
ส่วนคนอื่นๆ ในเรื่องไม่เคยพูดถึงเรื่องผู้หญิงเลยอะ มีแต่ทะเลาะต่อยตีไปเรื่อย
แต่โดยส่วนตัว อยากให้พี่ไม้หล่อสุด เค้าเป็นแฟนคลับพี่ไม้ แง่มๆๆๆๆ
อ้อ...อยากรู้หน้าตาของแก้วนิดนึงด้วยจ้า คนเขียนไม่เคยพูดถึงหน้าตาของแก้วเลย รู้แต่ว่าขาว (จากไอ้คุณฝิ่นบอกว่าขาวสัดๆ) และชมพู (จากวีรกรรมความเลวของไอ้พี่ดี)
แต่ก็น่าจะหน้าตาดีพอควรเลยนะ เพราะดูจากบั๊ดดี้แสนที่บอกว่าไอ้พี่ดิวมาชอบแก้วอะ คือแสนพูดอย่างนั้นได้หน้าตาเฉย แสดงว่าแสนยอมรับนิดๆ ว่าหน้าตาแบบแก้วเป็นแบบที่ผู้ชายชอบได้
ว่าแต่...พออ่านนิยายในเล้ามากๆ ชักสงสัยว่าเดี๋ยวนี้เกย์เขานิยมวางยาเกย์ด้วยกันแล้วเนอะ เห็นหลายเรื่องเหลือเกิน :เฮ้อ:
…เรื่องที่คุณเฉาก๊วยถามเป็นปมซ่อนของเรื่องทั้งนั้นเลยค่ะ ลูกขวัญ ลูกแก้ว พงษ์ ถ้าบอกไปแล้วต้องอย่าทิ้งเรากลางคันนะ //แอบติดสินบน
ที่แล้วมาก็น่าจะเห็นความสัมพันธ์ของพงษ์กับแก้วบ้าง แล้วขวัญล่ะ ทั้งที่เป็นเพื่อนกันมาก่อนที่พงษ์จะเจอแก้วซะอีก คล้ายๆความรู้สึกของคนถูกเมิน ยืนอยู่ด้วยกันสามคนแต่ทำไมเหมือนเราไม่มีตัวตนอยู่คนเดียว...ประมาณนั้น เรื่องมันเกิดจากตรงนั้น
พี่ดิวกับพี่ดี ก็เป็นพี่น้องกันแท้ๆนั่นแหละค่ะ ความอิจฉาเกิดขึ้นได้ไม่เว้นแม้แต่คนในสายเลือดเดียวกันหรอก
พงษ์กับเป้ง ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน นอกจากเป้งทำแก้วก่อนที่พงษ์เคยบอก แต่บอกไม่หมด ที่เหลือเอาไว้พงษ์กลับมาก่อนนะคะ
ส่วนรายละเอียดเชิงลึก จะตอบในนิยายทั้งหมดแน่นอนค่ะ บางอย่างอาจจะอยู่ท้ายเรื่องโน่นเลย
...รูปพรรณ ที่อยากให้ถามเพราะคนเขียนอยากบอก อิอิ จริงๆเราเขียนออกมาไม่ได้ค่ะว่าคนนี้จะต้องคิ้วหนาตาเล็กตาโตตาตี่ หล่อคม บลาๆ เพราะซีซั่นไม่เห็นภาพ บวกกับพรรณนาไม่เป็น เวลาอ่านนิยายคนอื่นก็ไม่เห็นภาพเหมือนกันนะ เลยใช้คำพูด การกระทำมาแทนจินตนาการในส่วนนี้ ซึ่งคนอ่านทุกคนเลยก็ว่าได้ มองออกว่าตัวละครตัวไหนประมาณไหน ขอบคุณกันจริงๆเลยค่ะ^^
พงษ์ดูดีจริงๆค่ะ แต่คนอื่นที่ไม่พูดถึงเพราะมันไม่มีที่เรียกว่าแฟน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะขาดการเสพบุรุษและสตรีนะ เดี๋ยวคงได้เห็นในเรื่อง
อันนี้อยากบอก ฮา แต่ส่วนตัวแล้วคนเขียนสร้างขวัญให้หน้าตาดีที่สุดนะ เป็นคนที่พอเดินผ่าน เกย์ทุกคนต้องเหลียวหลังไปมอง เอาอย่างนั้นเชียว เอิ๊กๆ
สำหรับพี่ไม้ เอาคำว่าเท่ไปแทนเลยค่ะ หน้าตาก็พอมองให้เขินได้ แต่อย่ามองนานเดี๋ยวจะโดนพี่มันกัด ปากใช่ย่อยนะนั่น
แก้ว เหมือนเด็กผู้ชายตัวเล็กๆค่ะหน้าตาไม่ได้หวานนะ ออกแนวหน้าตาดื้อๆซนๆ (หน้าตานะคะไม่ใช่นิสัย) แต่เป็นผู้ชายหน้าใสน่ามอง ไอ้แสนน่ะมันคลั่งผู้ชายน่ารัก แต่มันไม่ได้เป็นเกย์นะคะ
ซีซั่นว่าเกย์เขาคงไม่วางยากันหรอกค่ะ แต่ที่เห็นหลายเรื่องเพราะคนเขียนอยากให้ตัวละครโดนยาเองทั้งนั้น ...เพลีย
ส่วนเรื่องนี้ก็อยากวางยาไอ้แก้วเหมือนกัน ฮา แต่ไม่ได้วางเพื่อให้มันได้กัน ที่คาดไว้คือต้องการให้เป็นจุดเปลี่ยนเพื่อเดินเรื่องต่อค่ะ
อ้าว กรรม ลืม พระเอก ไอ้ฝิ่นหล่อดุค่ะ หล่อแบบหน้าดำคล่ำเครียด //โดนฝิ่นเตะ แอร๊ยยย
...ไอ้พี่แก้วมันหายหัวไปไหน พอเสร็จธุระของตัวก็หายหัวจ้อย
...ปล่อยให้แก้วมันรับกรรมไปคนเดียว ดีนะพระเอกขึ่ม้าสีหมอกมาช่วยไว้ไม่งั้นเสร็จโจร
...ถามเหรอ ...เออๆๆๆแก้วโดนยาอะไรจ๊ะ ปลุกเซกส์ หรือเปล่าแล้วทำไมมันหมดฤทธิ์เร็วจัง :L2:
…ปลุกเซ็กส์ค่ะพี่ แต่ยังไม่หมดฤทธิ์นะ มาหมดเพราะมือไอ้ฝิ่นตอนที่ ๒๑นี่แหละ
ยาตัวนี้ทั่วไปแล้วจะอยู่ได้หนึ่งชั่วโมงถึงจะหมดฤทธิ์ ไม่ก็ต้องปล่อยน้ำจนหมดแรง ฮ่าาาา
ตอนนี้พระเอกมาช่วยนายเอก เจ๊จะหายโกรธชั่วคราว แต่หากทำร้ายนายเอกอีกเจ๊จะโกรธมากกว่าเดิม และโกรธคนเขียนด้วยที่ปล่อยให้นายเอกโดนทำร้ายทุกตอน เจ๊โกรธจริง ๆ นะ ^_^
…คุณเจ๊...เสียงยาววว คุณเจ๊ทำเอาซีซั่นเสียวสันหลังวาบ อิอิ
คุณเจ๊เตรียมตัวโกรธซีซั่นกับไอ้พระเอกได้เลยค่ะ ๙๕% แก้วโดนแน่ๆ
อยากรู้เรื่องความรู้สึกจริง ๆ ที่ลูกขวัญมีต่อ แก้ว กับ พงษ์
และอยากรู้เรื่องของ พงษ์ เป้ง และไม้ อะว่ามีอะไรเกิดขึ้นจึงทำให้พงษ์
ทำเป้ง ถึงตายอะ
...ความรู้สึกของลูกขวัญรอหน่อยนะคะ ต่อจากนี้ไปฮีจะวนเวียนอยู่รอบตัวแก้วบ่อยๆ เดี๋ยวคงได้เห็นกัน
พงษ์ เป้ง ไม้ ตอบคุณเฉาก๊วยข้างบนแล้วนะคะ บางส่วนพงษ์บอกแล้วว่าเพราะเป้งทำแก้ว(แต่ไม่ใช่คำตอบทั้งหมด) ส่วนพี่ไม้ไว้จะเล่าให้ฟังในนิยายนะคะ
เย้!!!! ฝิ่นมาจริงๆด้วย โอเคร๊ ต่อไปนี้เราจะเชียร์นาย ถึงแม้นายจะน่าหมั่นใส้สุดสุดก้อตาม
อยากรู้ลักษณะ รูปร่าง หน้าตาเหมือนกัน ขอของทุกคนเลยนะคะ ^^
…เอาเฉพาะตัวละครในเรื่องเนอะ ตัวประกอบอย่าไปสนใจมันเลย^^
ไม้ …โครงหน้าเล็ก ผิวเข้มแต่ไม่เรียกว่าดำนะ ชอบไว้หนวดไว้เคราให้ดูน่าเกรงขาม เมื่อก่อนไว้ผมยาวด้วย ยาวมากๆ แต่คนอ่านยังไม่เคยเห็นเพราะรู้จักพี่ไม้อีกทีแกก็ผมรากไทรเหมือนชาวบ้านละ แล้วตอนนี้ล่ะ เกรียนเลยพี่เอ้ย ฮ่าๆ
ฝิ่น…หน้าคมก็ได้อะ (บอกไม่ถูก) ตาดุ ชอบจิก ผิวไม่ขาว พอๆกับพี่ไม้ พวกกร้านแดดกร้านลม ...ผมรองทรงยาว
พงษ์…ไอ้นี่ก็ผมรองทรง จำกัดความว่าหล่อ รวย เพอร์เฟค อ้อ สูงด้วย เจ้าชู้อีก
ดิว…หน้าเสี้ยมยาว คิ้วหนาแต่ห่าง หน้าผากแคบ ผมรากไทรแต่ไม่ยาวมาก
ลูกขวัญ…หน้าเรียวเล็ก ผิวขาว ผมรากไทร จมูกดูสันเป็นคม จะว๊ายย! ผมหยักรากไทรย้อมสีน้ำตาลเข้ม
ลูกแก้ว….ให้นึกถึงผู้ชายใบหน้ารั้นๆ(หน้าแบบไหนฟร่ะ!) ผิวขาวน้อยกว่าขวัญ ผมรากไทรประบ่า ไม่หยักไม่ทำสี แต่น่ารักกว่าไอ้ขวัญ!
เป้ง ตายแล้ว! บอกทำเพื่อ?!
ดีนะที่ฝิ่นมาช่วยไว้ได้ทัน
อยากรู้ว่าฝิ่มมันจะชอบแก้วตอนไหนอะ
เพราะยังไม่เห็นวี่แววว่าฝิ่นมันจะชอบแก้ว
มีแต่ความแค้นสงสัยความแค้นมันบังตาแน่ๆเลย
+ 1 นะคะ
…ฝิ่นไม่ได้มองแก้วเป็นผู้ชายทั่วไปตั้งแต่ตอนที่เห็นดิวมองแก้วที่สนามบินค่ะ ตอนนั้นยังไม่ได้ชอบนะคะ แค่มองด้วยความต่างเท่านั้น ถ้าจะตอบว่าจะชอบแก้วตอนไหน คนเขียนคิดว่าฝิ่นมันไม่รู้ตัวหรอกค่ะ เพราะฝิ่นเป็นคนที่คิดอะไรแล้วทำเลย และฝิ่นมันต้องการเอาคืนเป็นหลัก น้อยครั้งที่จะกลับมาคิดทบทวน(ตอนที่ ๒๑) มันมีคิดบ้าง มันคงเป็นน้ำบ่อซึมอะค่ะ
ไอ้พี่ไม้นี่ช่างแตกต่างจากน้องเหลือเกิน
ทำไมน้องมันไม่ดีอย่างนี้บ้างนะ :angry2:
…เพราะพี่ไม้ผ่านอะไรมามากกว่าฝิ่นนั่นเอง^^
......................................
ลืมตอบอะ มาเจอเม้นคุณเฉาก๊วยพอดี จำได้ว่าตอนที่แล้วก็มีคนถามแต่ลืมตอบเรื่องพี่ไม้
ถ้าผู้ชายจะรักผู้ชายด้วยกันแม้จะแค่คนเดียว ล้านเปอร์เซ็นต์ของสาววาย "เรียกว่าเกย์!"
.....................................
อันนี้เรื่องชำแหละเด็กช่างนะคะ
บางคนเขาจะมีของ มีสัก มีตระกุด ซึ่งเอาไว้คุ้มครองเรา
ฟัน แทง ไม่เข้า โดนลูกปืนก็ไม่ตาย
ยกเว้น ของเสื่อม...เสื่อมยังไง เสื่อมเพราะอาจเผลอลอดใต้บันได หรือผู้หญิงข้ามหัว (หมายถึงถ้าเรายืนอยู่ใต้สะพานลอยแล้วมีผู้หญิงเดินอยู่ข้างบน) และทั้งผู้หญิง ผู้ชายข้ามหัว (คงจะพอนึกออกนะ เรท) เสื่อมเพราะอาวุธที่ถูกทำร้ายมีชายผ้าซิ่นหรือผ้าเหลืองของพระสงฆ์ที่มีอาคมผูก หรือมีเลือดประจำเดือนติด ที่จำได้เท่านี้ค่ะ ทั้งที่เพิ่งโทรถามมาเมื่อคืน เหอๆ
ของที่มีเขาจะปกป้องตอนที่เราไม่รู้ตัวค่ะ แต่ตอนที่ฝิ่นเหยียบแก้วทำไมแก้วบาดล่ะ?...นั่นเพราะมันไปทำอะไรให้ของเสื่อมเข้าโดยไม่รู้ตัว คนเขียนไม่ได้เขียนบอกว่ามันไปทำอะไรมา แต่เอาเป็นว่ามีผู้หญิงเดินอยู่บนสะพานลอยเหนือหัวมันละกัน ฝิ่นค่อนข้างระวังนะ จะไม่โดนของต่ำง่ายๆด้วยตัวเอง นอกจากบังเอิญเท่านั้น
แต่ถ้าของเสื่อมแล้วจะมีคาถาเรียกของคืน จำไม่ได้ประมาณไหนเพราะใบที่ติดไว้บ้านหายสาบสูญ
อีกวิธีคือไปครอบครูขอขมา กับอาจารย์(อาจารย์ด้านเล่นของ)ที่เราเคารพค่ะ
อย่างตอนที่โดนฟัน ข้างหลังของมันจะเป็นรอยเฉยๆค่ะ แต่ถ้าฟันแล้วกรีด เฉือน จะห้อเลือดเท่านั้น
ถ้ารู้ตัวเขาจะไม่คุ้มกันเรานะ อย่างไปลงของมาแล้วอยากลองเอามีดมาเสียบพุงตัวเองดูซิว่าจะเข้าไหม อย่าลองเลยค่ะ
แต่โดนชกโดนสนับมือต่อย ปากแตกหัวแตก เป็นเรื่องปกติค่ะ
แล้วเป้งล่ะ เป้งมีของค่ะ แต่...มีบอกในเรื่อง แต่ไม่ใช่ตอนใกล้ๆนี้
เด็กช่างในเรื่องนี้มีของทุกคน แต่คนละครู ขลังบ้างไม่ขลังบ้างตามแต่
มีแต่แก้วคนเดียวที่ไม่มีจ๊ะ
วิธีทำร้ายคนมีของและของไม่เสื่อมคือจับหัวกดน้ำ ตายแน่นอน! คนเขียนออกแนวจิตยังไงไม่รู้ :laugh:
อ่านประกอบการอ่านนิยายเฉยๆนะคะ
ขอบคุณ Bowbonk, TanyaPuech, Jillinv, Still_14OC, Crossley, PBOBP, p.spring, iamnan, panari, roseen, silent_loner, atommic, ratnalin, เฉาก๊วย, patwo, khuan, StillLoveThem, np, Karn12, chantana, BeeRY, beautjang, creator, →Yakuza★,Ella, Ooคุณชายติ๋วoO, malula, yunjae55, i love u {knt}, boyza_Casanova, thaitanoi, ~MiKi~, The_outsider, JipPy, Capricorn, sam3sam, Ipatza, A_ay, tuek, matame, Little Diamond, LifeTime, sirikanda28, - คราส -, $VAN$, everyone, zariming, dandelion
สบายใจละ ได้คุยยาว ฮ่าๆๆๆๆ
ถ้าจะมีคนชอบที่ซีซั่นคุยเยอะขนาดนี้......มากกว่าหนึ่งเรานับว่าเยอะมากๆอะ ฮ่า เปลี่ยนจากเขียนนิยายมานั่งคุยเฉยๆดีกว่า แอร่กกก //โดนถีบ อีกรอบ
^^ กอดๆ จุ๊บๆ
-
ฝาก :กอด1: ฝิ่น
-
ตามสบายเลยพี่ :m16:
-
ใครหลงใครหนอ อิอิ ฝิ่นเอ๊ย
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕
.........
“พวกมึงเห็นไอ้ดิวมองมันไหม?”
“อืม”
“ก็เห็นสิพี่” ทั้งโจ้ทั้งเด็กอีกคนพยักหน้าตอบ
“โจ้ มึงว่าเหมือนรึเปล่า?” ด้วยความที่โจ้เป็นคนสนิทกว่าอีกคนฝิ่นจึงเอ่ยถามเพื่อให้แน่ใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังคิด
“ไอ้เหมือนน่ะเหมือนพี่ แต่...สายตาไอ้ดิวมันดูมีอะไรมากกว่า ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร อยากรู้พี่คงต้องไปถามหลวงพี่เองแล้วล่ะ” บุคคลนอกการสนทนาได้แต่ทำหน้าสงสัยเพราะไม่เข้าใจว่าสองคนนี้คุยเรื่องอะไรกัน
“รายนั้นปล่อยให้เขาสงบจิตสงบใจไปก่อนเถอะ แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย แล้วตอนนี้กูก็รู้แล้วจะเอาคืนพวกมันยังไง”
^
^
เข้าใจบทสนทนาข้างบนมากขึ้นก็ตอนที่คนเขียนมาตอบคุณ tuek ว่า "...…ฝิ่นไม่ได้มองแก้วเป็นผู้ชายทั่วไปตั้งแต่ตอนที่เห็นดิวมองแก้วที่สนามบินค่ะ ตอนนั้นยังไม่ได้ชอบนะคะ แค่มองด้วยความต่างเท่านั้น..." นี่แหละ
คำว่า "เหมือน" น่าจะหมายถึง "เหมือนเกย์" หรือเปล่า แต่ไม่รู้ว่าหมายถึงแก้วหรือดิว
ส่วนที่ให้ลองถามพี่ไม้ แสดงว่าพี่ไม้ดูเกย์เป็นเหรอออออออออออ อิอิ :laugh:
แต่ถ้าไม่ใช่ "เหมือนเกย์" ก็น่าจะหมายถึง "เหมือนคนมองคนที่ตัวเองชอบ" อะนะ..หรือเปล่า?
คือว่าสงสัยบทสนทนานี้มานานแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าคำว่า "เหมือน" เนี่ย หมายถึงอะไร
ตอนแรกคิดว่าแก้วเหมือนคนๆ หนึ่งที่คนในกลุ่มนี้รู้จัก และอาจเกี่ยวข้องกับเป้งและพี่ไม้ด้วย....คิดไปได้นะเรา เง้อออออ :เฮ้อ:
-
:เฮ้อ:
นึกว่าไอ้โหดจะใช้วิกฤตเป็นโอกาสซะแล้ว
โชคดีของแก้วที่ยังรอดมาได้...แต่ก็นะ :-[
-
:กอด1:
-
สองคนนี้เริ่มมีใจให้กัน แต่ไม่ยอมรับเองต่างหาก
-
ใครหลงใครกันแน่
แต่อยากให้ฝิ่นหลงอ่ะ
-
พี่ไม้...
ถ้ายังอยู่นะ คนอ่านโกรธกันเต็มอะ
เพราัะแม่มจะอดอ่านฉากนี้(ที่รอคอย) กันหมด 55555555 :laugh:
-
ฝิ่นอ่ะ นอกจากจะทำร้ายจิตใจแก้วแล้ว ยังทำร้ายจิตใจเราอีก บ้าๆๆๆๆๆ
แก้วอารมณ์ค้างใช่มั้ย จับ ฝิ่น กดเองเลย :laugh: นี่แน่มันต้องโดน :oo1: เล่นตัวนักนะ
-
โชคดีไปนะแก้วว
ฝิ่นนี่แอบน่ารักนะ :-[ :กอด1:
-
o22 o22 o22
-
ฝิ่นเอ้ย ตัวเองก็อย่าเผลอไปชอบเค้าก่อนล่ะ ดูถูกเค้าเอาไว้เยอะหนิ
-
โชคดีที่ฝิ่นช่วยไว้ทัน ไม่งั้นแก้วเอ๊ยยย
แค่ช่วอย่างเดียว แต่ก็ถือเป็นพัฒนาการที่ดี(ชิมิ?)
แต่ไอหนักๆอกหมายความว่าไงหาฝิ่น
-
ฝิ่นปากร้ายยยแต่การกระทำอีกอย่าง คุคุ
ชีวิตน้องแก้วจะโหดร้ายไปไหม น่าสงสาร นี่โชคยังดีที่อิพี่ฝิ่นไปช่วยได้ทัน :sad11:
เซ็งตับกับไอ้พี่น้องสอง ด. มาก :เฮ้อ:
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
ฉันรู้นะว่าแกชอบ
-
ความจริง ถ้าไม่บ้าฝิ่นมันก้อน่ารักเหมือนกันนะเนี่ยะ
ขอบคุณคนเขียนนะคะที่มาอธิบายลักษณะตัวละครให้เกิดความกระจ่างในการจิ้น o3
-
ทำไมฝิ่นถึงรู้สึกหนักใจก็ไม้รุ็อ่าาาา :z3: ไม่เข้าใจ
-
นึกว่าแก้วจะเสร็จฝิ่นเราซะแล้ว..... :เฮ้อ:
-
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ
-
จะให้เขารักเขาหลง
ดันมาหลงรักแก้วก่อนซะนี่ :m20: :m20:
-
แอบ NC เล็กๆ :z1:
นายฝิ่นแอบหลงรักแก้วแล้วละซี่
มีเอาไว้มีสติค่อยมาทำใหม่ด้วย :z1:
-
โอ้ย อ่านแล้วเคลิ้มมากกกกกกกกกกกก
-
“...กูรังเกียจพี่ดี” “...แต่กูไม่ยักรังเกียจมึง” :o8: :o8: :o8:
-
:o8: :o8: :o8:
เฮ้อออออออออออออออออออออออ :z3:
-
ไอ้ฝิ่นบร้าาาาเอ๊ย
เสียเซลฟ์หมด
:m16: :m16: :m16:
-
...พี่ไม้ดูเหมือนจะดูออกนะ ว่าแก้วโดนอะไรมา แต่แก้วคงอายพี่ไม้หรือเปล่าถึงไล่ให้กลับไปไม่อยากให้คนรู้หลายคนมั้ง
...แหม แต่ตอนนี้พระเอกก็ดีนะ มีสติดี ไม่ฉวยโอกาส ขอบคุณจ้าที่มาตอบคำถาม :L2:
-
อยากทำตอนมีสติครบถ้วนก็ไม่บอกนะฝิ่น คริ คริ
-
รีบมาลงด่วน!!! นั่งรออยู่ อิอิ ล้อเล่นจ้า
บทเลิฟซีนขัดใจคนอ่านจริงๆ อันนี้เรื่องจริง
สงสารแก้วอ่ะ แต่แอบลุ้นให้ได้กะฝิ่นเร็วๆ
-
ใครเอนมาทางใครกันแน่บักฝิ่นเอ้ยยยยยยยย :-[พูดไม่คิด
ปล.ฝิ่นก็เป็นคนดีเหมือนกันนะเนี่ยไม่ฉวยโอกาสตอนแก้วโดนยา(รึโง่หว่า) :laugh:
-
มาทักทายก่อนไปนอนจ้า
รอๆ ตอนหน้า อยากรู้ว่าแก้วจะทำตัวแบบไหนหลังจากเปิดใจออกไปบ้างแล้ว
ส่วนไอ้คุณฝิ่นเนี่ยไม่คิดว่ามันจะทำตัวสวีตหวานแหววต่างจากเดิมสักเท่าไหร่หรอก เก๊กซะขนาดนั้น
แต่ก็คิดว่าฝิ่นจะใช้เวลามองความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น
คงต้องตามต่อว่าฝิ่นจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป รอดูท่าที หรือว่าคงแผนการต่อ ก็แผนมันสำเร็จมาขั้นหนึ่งแล้วนี่นะ :เฮ้อ: (ว่าแล้วก็ถอนหายใจ แก้วเอ๊ยยยย ไม่น่าเล้ยยยย)
:a12:
-
บอกไม่รังเกียจก็แล้ว โผเข้ากอด+จูบด้วยเอ้า
ฝิ่นเอ๋ย นายไม่ตายดีแน่ อุอุ
กดบวกเป็ด
-
อยากอ่าน nc ฝิ่นกับแก้วแล้วอะ
ปล.พี่ไม้จะมีคู่ไหมอะแล้วพงษ์มันจะกลับมาตอนไหน
+ 1 นะคะ
-
จะคอยดูสิ ว่าต่อไป ใครจะหลงใครกันแน่ เนาะแก้วเนาะ
:beat:ไอ้พี่ดี
-
ฝิ่นทำไมไม่ทำให้มันมากกว่า่นี้ กรี๊ดดดดดดดดด
-
โอ่ย ยยยย คิดถึงแก้วกับฝินแย่แล้่ว
มาต่อเร็ว ๆ นะจ้ะ :กอด1:
-
มาต่อเร็วๆนะครัย. คิดถึงเรื่องนี้มาก
-
อ่านมาทันจนได้...555+
ไอ้ฝิ่นนี่ก็โหดแต่หวง ส่วนแก้ว..ชีวตินี้ทำใจยอมรับซะเหอะ 555+
เป็นกำลังให้ผู้เขียนด้วยนะครับ จากใจผู้อ่าน ^^!
-
อยากอ่านต่อแล้วค๊าาาาาาา
ตกลงใครหลงใครกันน้า :impress2:
-
แก้วเริ่มรักมันแล้วอ่ะดิ เชียร์ฝิ่น ด้วยคนนะ
-
นึกว่าฝิ่นจะฉวยโอกาสซะอีก รอตอนต่อไปครับ
-
แหม พี่ฝิ่นคิดว่าไอ้แก้วรักตัวเอง
ตัวเองรักไอ้แก้วเข้าแล้วไม่ว่า
ไม่งั้นไม่มาห่วงใยกันขนาดนี้
รอเอ็นซีพี่ฝิ่นกับน้องแก้วค่ะ หึหึ
-
มารอออออออ
คิดถึงแก้วแล้วอ่ะ
เมื่อไหร่จะมา
:z2: :z2: :z2:
:call: :call: :call:
-
โอ๊ะ! สนุกมากอ่ะค่ะ
ทำเราติดเรื่องนี้ซะแล้วสิ
อยากรู้ว่าพี่ไม้กับเป้งเนี่ยมีซัมติงกันรึปล่าว
แต่อยากให้พี่ไม้คู่กับไอ้เชี่ยพี่ขวัญนะ ดูเหมาะจะปราบมาร555
-
คนข้างๆ : อ่านไรอยู่ ไมหน้าแดงจัง
ผม :... ยุ่ง!
(อ่านนิยายคุณซีซั่นอยู่ครับ :-[)
-
เข้ามารอพี่ไม้ :impress2: :impress2:
-
^^
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๒
เพราะอะไร?...คือคำถามที่ค้างอยู่ในหัว
แก้วลุกขยับไปนั่งหย่อนขาที่ข้างเตียง
ทั้งที่เหนื่อยและอ่อนเพลียจากเรื่องราวเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงของวันมาอย่างหนัก
ทั้งที่คิดอยากพักให้เต็มแรง แต่กลับข่มตาหลับไม่ลง
แก้วยกมือขวามาวางตรงหน้าอกข้างซ้ายที่มันเพิ่งเต้นตามจังหวะปกติได้สักพักหลังจากเจ้าของ
ห้องเดินหน้ามุ่ยไม่สบอารมณ์ออกจากห้องไปเมื่อครู่
เขาหวนนึกถึงข้อเสนอที่เจ้าของห้องยื่นให้
...รัก คือสิ่งที่มันต้องการ ...รัก ที่ไม่ใช่แค่คำพูด
เขาไม่ใช่พี่ภูที่จะรักชอบในเพศเดียวกันมาตลอด
เขาไม่ใช่พี่ขวัญที่อยู่ๆก็มาบอกว่ามีแฟนเป็นผู้ชายทั้งที่ไม่เคยมีวี่แววมาก่อน
เขาไม่เข้าใจนักหรอกว่าผู้ชายจะรักกันได้ยังไง ในเมื่อเขาไม่เคยมีมาก่อน
...หรือต้องเรียกว่าไม่เคยมีความรักเลยด้วยซ้ำ
ความห่วงใยแบบที่มากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องที่พี่ดิวมีให้ เขาก็ไม่เคยสัมผัสได้ว่าแท้จริงมันคืออะไร
จนตอกย้ำด้วยการกระทำของพี่ดี ...สัมผัสที่ชวนขยะแขยงเมื่อต้องตกอยู่ในภาวะซึ่งถูกคุกคาม
เขาไม่ได้ยินดีที่จะมีอะไรกับผู้ชาย นั่นคือคำตอบว่าเขาไม่ได้ชอบเพศเดียวกันอยู่เห็นๆ
แต่เมื่อเห็นหน้าไอ้ฝิ่นโผล่เข้ามาในตอนนั้น เขากลับรู้สึกต่างออกไป ...ดีใจ? ปลอดภัย?
หรือเป็นเพราะคาดหวังว่ามันจะให้ความช่วยเหลือตัวเอง
แต่ความรู้สึกนั้นก็ไม่น่าจะนำพาให้ใจเขาสั่นไหวไม่เป็นตัวของตัวเองจนยอมให้มันสัมผัสตัวเขาได้
...สัมผัสในที่ๆศัตรูไม่น่าจะสัมผัสได้ซะด้วย
หากแต่กลับมาย้อนมองตัวเอง นั่นเขาไม่ได้ยอมแต่มันคือความเต็มใจต่างหาก เต็มใจที่จะให้มันสัมผัส เต็มใจที่จะ...ทดสอบตัวเองด้วย
แก้วเกือบมั่นใจว่าเขาไม่ใช่เกย์แน่นอนอยู่แล้วเชียว
แต่ไอ้ฝิ่นมันบังคับเขา...มันบังคับให้เขารู้สึกยินดีที่ได้ใกล้ชิดกับมัน แล้วความมั่นใจของเขาก็แผ่วไป
จะเป็นเพราะอะไรก็ช่างมันก่อนเถอะ แต่...
“มึงรักกูแล้วใช่ไหมล่ะ? หึ กูนึกไว้แล้วไม่มีผิด”
...สิ่งที่เขารู้สึกมันเรียกว่ารักได้แล้วเหรอ ...ไม่หรอกน่ามันเล็กน้อยเกินไปในความคิดเขา
รักมันต้องรู้สึกอะไรที่มากมายกว่านี้สิ รักมันต้องเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ รักต้องเป็นเรื่องดีๆที่เมื่อได้รับจากใครสักคนแล้วอีกคนถึงจะรักตอบได้
ไม่ใช่มีให้กับคนที่คิดร้ายต่อกัน หรือจากการบังคับทางอ้อม
...สงสัยเขาจะตั้งใจทำตามข้อเสนอมันจนคิดมากเกินไป
...แต่มันจะเข้าใจว่าคือความรักก็ได้ เขาไม่ได้เสียหายอะไรนี่นา กลับแต่จะเป็นเรื่องดีซะอีก
ถ้ามันเข้าใจอย่างนั้นแล้วความผิดของเขากับพงษ์จะยุติ ...ก็ให้มันเข้าใจไปตามนั้นละกัน
นึกถึงไอ้พงษ์ขึ้นมาก็อยากจะคุยด้วยให้คลายกังวล แก้วลูบเตียงควานหา มองไปยังโต๊ะตรงหัวเตียง แต่เขาก็หาโทรศัพท์มือถือไม่เจอ
ลุกจากเตียงเดินไปค้นกางเกงยีนส์เปียกๆที่พาดไว้ในห้องน้ำก็ไม่เห็น
“หายไปไหนนะ?” แก้วคิดพลางนึกเหตุการณ์ตาม หรือว่าจะหล่นตอนอยู่ในม่านรูด
...ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะเขาไม่เอาคืนก็ได้ ถ้าหากต้องกลับไปที่นั่นอีก...
แต่...เขาไม่มีเบอร์ไอ้พงษ์สำรองเลยนะ
แล้วจะทำยังไงได้ ตัวเองเป็นคนไม่เคยใส่ใจอะไรเองแท้ๆ ของหายไปตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้เลย เฮ้อ...
แก้วอดจะต่อว่าตัวเองไม่ได้
.
.
.
“เมื่อคืนเมากันมาเหรอลูก เห็นฝิ่นนอนตรงห้องรับแขกยังไม่ตื่นเลย” แม่ฝิ่นถามในขณะที่แก้วช่วยคนข้าวต้มในหม้อ
ถ้าไอ้พงษ์เห็นคงวิ่งมาตีมือเขาแล้ว มันไม่ชอบให้เขาเข้าครัวทั้งที่การทำกับข้าวคงเป็นอะไรที่สนุกน่าดู
แต่จะตอบแม่มันว่ายังไงนะ เมาหรือไม่เมา เอาคำตอบไหนดี? แล้วเมื่อคืนมันกับพวกไปเจอเขาได้ยังไง
ถ้าบอกว่าบังเอิญ ก็คงจะบังเอิญเกินไป...แต่รอดมาได้ก็บุญละ
“ครับ” แก้วพูดส่งๆไม่อยากโกหกคนอายุคราวแม่พลางปิดเตาแก๊สเมื่อแม่ฝิ่นตักข้าวต้มชิมแล้วพยักหน้าให้
ตั้งแต่ออกจากห้องน้ำฝิ่นมันก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องตั้งแต่เมื่อคืน ไม่พูดอะไรกับเขาสักคำ
ท่าทางครุ่นคิดของมันชวนให้เข้าใจว่าไม่พอใจอะไรเขาอีกรึเปล่า หรือเป็นเพราะ...คิดไปก็รู้สึกร้อนๆที่ใบหน้า
ต่อให้ตั้งใจเอาไว้ว่าต้องรักมันให้ได้เร็วแค่ไหนยิ่งดี แต่เอาเข้าจริงเขาก็อดละอายใจไม่ได้
...เกิดมาเพิ่งเคยให้คนอื่นชักว่าวให้ แถมจิตใจยังโอนอ่อนผ่อนตามมันซะขนาดนั้น ...น่าขายหน้าใช่ไหมล่ะ
แต่เขาจะต้องทำให้ได้ มากกว่านี้ก็ต้องได้ เพื่อจะได้รักมันอย่างที่มันต้องการและเพื่อให้เรื่องมันจบๆไปสักที จะได้ไม่ต้องมีอะไรค้างคาในใจอีก
ทานข้าวต้มมื้อเช้าพร้อมแม่ฝิ่นสองคนเสร็จ แก้วก็กลับลงไปที่ห้องทันที
เช้าวันเสาร์อย่างนี้ มันไม่มีอะไรให้ทำเลยจริงๆ
เอ...หรือจะเอาเวลานี้ไปเคลียร์เรื่องพี่ดีเลย ป่านนี้ไม่รู้พี่ดิวจะรู้เรื่องรึยัง
...แต่จะยังไงก็ตาม ไม่ว่าเขาตั้งใจหาเรื่องออกจากบ้านพี่ดิวอยู่แล้วหรือไม่ ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถอยู่ร่วมบ้านกับพี่ดีได้อีกแล้ว
แค่นึกถึงเขาก็รังเกียจพลางขยะแขยงตัวเองไปด้วย ทั้งเป็นคนที่โดนคุกคาม ทั้งยังเคยเป็นศิษย์ร่วมสถาบันอีก ชีวิตนี้ไม่น่ามารู้จักคนแบบนี้เลยให้ตายเถอะ
แก้วจึงตัดสินใจหอบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะเดินทางไปบ้านพี่ดิว
“ผมไปบ้านเพื่อนนะครับ” บอกแม่ฝิ่นหลังจากแอบไปดูคนที่อาศัยโซฟาหลับนอนตรงห้องรับแขกมาแล้ว ทั้งที่จะไม่บอกก็ได้แต่กลัวจะมีปัญหาที่หลังเลยบอกไว้อย่างอ้อมๆสักหน่อย
เขาก็ง่วงนะไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน แต่ถ้ายังสะสางปัญหาไม่จบ เขาก็หลับไม่ลงอยู่ดี
อาศัยช่วงที่ไอ้ฝิ่นมันหลับนี่แหละออกไปเคลียร์ให้เรียบร้อยเพื่อจะได้เหลือแค่ทางนี้ฝั่งเดียว
แก้วนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างจากหน้าบ้านฝิ่นมาเรียกรถแท็กซี่หน้าปากซอย
เขารู้ตัวดีว่าร่างกายกำลังอ่อนเพลียเพราะไม่ได้พักผ่อนจึงไม่อยากเดินทางล่าช้าด้วยการใช้บริการของรถเมล์
และมันก็ไวกว่าเท่าตัว ...เขาใช้เวลาเดินทางจากบ้านฝิ่นมาถึงบ้านพี่ดิวเพียงสามสิบนาที
กดกริ่งหน้าบ้านด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ ขอให้คนที่ออกมาเปิดประตูเป็นพี่ดิวทีเถอะ
ตอนจะมาก็ไม่ได้คิดว่าต้องเผชิญหน้ากับพี่ดีซะด้วย แต่ถึงมาแล้วเขาก็ไม่อยากเห็นหน้าพี่ดีตอนนี้นี่นา
ถึงมั่นใจว่าต่อหน้าพี่ดิว พี่ดีจะไม่ทำอะไรเขาก็ตามที แต่ความนึกรังเกียจมันยังติดใจเขาอยู่
“แก้ว...” พี่ดิวมองซ้ายมองขวา ดึงมือเขาจะพาเข้าบ้าน แก้วเกร็งแขนไว้
“เอ่อ พี่ดีอยู่รึเปล่า” ถามออกไปด้วยความหวาดระแวงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปมากเพราะไม่รู้ว่าพี่ดิวจะรู้เรื่องรึยัง
“มันโดนคู่อริซ้อม นอนโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน แล้วถามถึงมันทำไม?” พี่ดิวตอบและถามกลับอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
...คงจะไม่รู้เรื่องสินะ แล้วอย่างนี้เขาจะบอกพี่ว่ายังไงดี
“...ผมก็ถามไปงั้นแหละ เข้าบ้านกันเถอะพี่” แก้วเฉไฉ พยักหน้าให้พี่ดิวก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านทั้งคู่
แล้วอย่างนี้จะบอกยังไงนะ ถ้าบอกความจริงว่าพี่ดีคิดจะทำอะไรตนแล้วคนเป็นน้องอย่างพี่ดิวจะเชื่อรึเปล่า
หรือจะโกหกดี... ถ้าโกหกจะเอาข้ออ้างมาจากไหนล่ะ?
แต่ยังไงเขาก็ทำใจอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหวแล้ว ไม่รู้ว่าพี่ดีจะทำอะไรเขาขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ แถมโดนเล่นงานหนักขนาดนั้นต้องโดนเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกแน่เลย
“แก้ว!”
“...ขะ ครับ” แก้วสะดุ้งเมื่อพี่ดิวเรียกเสียงดัง
“มีอะไรรึเปล่า?” พี่ดิวคิ้วชนกันมองลงมาจากขั้นบันไดที่สูงกว่าถามด้วยความข้องใจ
...เขาคงจมอยู่ในความคิดตัวเองมากไปแล้ว
“เปล่านี่พี่ เอ่อ...”
“มีอะไรรึเปล่า เมื่อคืนพี่เห็นว่าดึกมากแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้เลยโทรหาดู แต่เป็นคนอื่นรับพูดจาไม่เข้าหูเลย” พูดคล้ายต้องการคำตอบจากเขาพลางเดินลงมาหา มองหน้าด้วยสายตาต้องการคำตอบ
เอ...หรือว่าจะลองดู
“พี่ขวัญพี่ชายผมน่ะ อืม...ใช่ๆ ว่าจะมาบอกพี่เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน คือผมต้องไปพักที่คอนโดพี่ชายนะพี่ดิว มันใกล้ที่ฝึกงานกว่าเยอะเลย” แก้วพูดรัวยกเอาพี่ลูกขวัญมาอ้างทั้งที่จริงแล้วไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนรับโทรศัพท์เขา พลางเบี่ยงตัวเดินหลบพี่ดิวขึ้นห้องเพื่อจะไปเอาหนังสือเรียนที่เอามาทิ้งไว้ที่นี่
“ไม่เห็นจำเป็นเลย ถ้าแก้วเดินทางลำบากพี่เอารถไปรับไปส่งทุกวันก็ได้” พี่ดิวบอกพลางยื่นข้อเสนอที่เป็นทางเลือกให้เขา
...น้ำใจของพี่ เขาไม่อยากปฏิเสธมันหรอกนะ แต่พี่ชายของพี่กลายเป็นคนอันตรายสำหรับเขาไปแล้ว
มือจับลูกบิดประตู ก้มหน้าครุ่นคิด ถ้าปฏิเสธพี่ดิวไป ไอ้พงษ์จะว่าอะไรเขารึเปล่าถ้าจะเป็นการหักหาญน้ำใจรุ่นพี่ที่มันเคารพสักครั้ง
“มีอะไรก็บอกพี่ได้ พี่พร้อมจะช่วยเหลือแก้วเสมอ ขอเพียงแต่แก้วให้โอกาสพี่บ้าง” พี่ดิวยืนข้างหลังวางมือทาบทับมือเขาที่จับลูกบิดอยู่
ไม่เห็นรู้สึกอะไรแปลกๆเหมือนตอนอยู่ใกล้ไอ้ฝิ่นเลย...
“ไม่มีอะไรหรอกพี่ ทุกอย่างมันก็เรียบร้อยดีแล้วนี่” เขาหมายถึง เขากำลังทำให้มันเรียบร้อยอยู่ “แต่ผมขัดที่บ้านไม่ได้จริง” เขายกข้ออ้างสารพัด เกลียดตัวเองที่ต้องโกหกจริงๆ
“หึ แล้วทำไมแก้วถึงออกมาอยู่กับไอ้พงษ์ได้ล่ะถ้าบอกว่าขัดคำสั่งที่บ้านไม่ได้น่ะ”
“พี่ดิว!” นี่พี่กำลังก้าวก่ายเขาอีกแล้วนะ
แก้วสูดลมหายใจเข้าช้าๆ ใช้มืออีกข้างจับมือพี่ดิวออก แล้วเปิดประตูเข้าไปข้างใน
“แก้วโกรธทุกครั้งที่พี่พูดถึงไอ้พงษ์” พี่พูดด้วยน้ำเสียงข่มอารมณ์ เพราะเขาไม่ได้หันไปดู “มันแตะไม่ได้เลยรึไงทั้งที่ก็เห็นๆกันอยู่ว่ามันไม่เคยใส่ใจอะไรเราด้วยซ้ำ” พี่ดิวต่อว่าเขา...หรือคงเป็นเขากับพงษ์ แก้วเม้มปากไม่พอใจแต่ก็ไม่ตอบอะไร เพราะคนอื่นไม่มีความจำเป็นต้องมารับรู้เรื่องราวอะไรของพวกเขาทั้งนั้น “พี่แค่อยากดูแลแก้ว อยากเป็นคนที่อยู่ข้างเราเหมือนที่ไอ้พงษ์เคยทำไม่ได้เลยเหรอ” แต่พี่ดิวติงไม่เลิก เอ๊ะ เรียกร้องด้วยรึเปล่า
“พี่ดิว หน้าที่นั้นมีเจ้าของอยู่แล้ว ถ้าพี่รู้จักพวกผมดี พี่น่าจะรู้ว่าเราไม่โอนสิทธิ์นั้นให้ใครง่ายๆ” แก้วบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังหลังระงับอารมณ์เรียบร้อย ในน้ำเสียงไม่ได้เจือความไม่พอใจสักนิด เขาหวังว่าพี่ดิวจะเข้าใจ พลางก้มหน้าก้มตาเก็บหนังสือใส่กระเป๋าเป้ที่ไอ้พงษ์เอามาทิ้งไว้ “ผมขอบคุณพี่มากนะที่หวังดี แต่ผมบอกพี่ทุกครั้งแล้ว ว่าผมดูแลตัวเองได้” ถึงความเป็นจริงจะได้ไม่ดีเท่าไหร่นักก็ตาม
...แก้วรู้ การที่พงษ์ฝากให้พี่ดิวดูแลเขาเพราะมันไว้ใจพี่ดิวมาก และมันคงเชื่อว่าพี่ดิวจะดูแลเขาได้
เขาไม่ชอบความคิดนี้เท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธหากพี่ดิวจะหวังดีกับเขาอย่างมีขอบเขต ไม่ใช่ทำตัวมาแทนที่ไอ้พงษ์ตลอดเวลาอย่างนี้
“แม้แต่โอกาสที่พี่จะใกล้ชิดแก้วก็ให้ไม่ได้เหรอ” พี่ดิวนั่งลงตรงหน้า แก้วไม่ตอบ... “ตลกนะ ทั้งที่พี่ทำทุกอย่างเพื่อแก้ว แต่เราก็เอาแต่จะหนีพี่”
“ไม่ใช่หรอกพี่ ...”
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังทำให้เขาต้องหยุดคำพูดไว้ครึ่งๆกลางๆ
“ใครมาวะ” พี่ดิวลุกขึ้นอย่างเสียอารมณ์ ก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง แก้วมองตามหลังด้วยหลายหลายความรู้สึก
ไม่ใช่เขาหนีพี่ดิวหรอก เขาก็อยากรู้เหมือนกันไอ้ความรู้สึกดีๆของพี่มันคืออะไร
เขาอยากมีเวลาเรียนรู้มันอีกสักพักถึงจะไม่ชอบใจคำพูดต่อว่าของพี่บ่อยครั้งแต่เขาก็ยังต้องการคำตอบให้ตัวเอง...
แต่ถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ใครจะแน่ใจว่าพี่ดีจะไม่ทำอะไรเขาอีก
ให้พี่ดิวคิดว่าเขาหนีพี่ คงดีกว่าให้รู้ว่าพี่ชายตัวเองทำร้ายคนที่พี่ดิวอยากปกป้องน่าดีกว่า
อีกอย่างถ้าอยู่นี่ต่อไปเรื่อยๆ เขาจะเอาเวลาที่ไหนไปชดใช้ให้ไอ้ฝิ่น ยิ่งยืด มันก็ยิ่งยื้อ เวลาก็จะนานวันไปเรื่อยๆ รีบๆทำให้มันจบๆไปไม่ดีกว่าเหรอ
แก้วเก็บแค่หนังสือเรียนห้าหกเล่มทั้งที่กว่าจะได้ใช้ก็ปลายเทอมหลังจากฝึกงานจบโน่น แต่เสื้อผ้าไอ้พงษ์ยังทิ้งไว้เหมือนเดิม เสร็จแล้วเลยลงไปหาพี่ข้างล่าง
“ไอ้ฝิ่น?” แก้วคิ้วขมวดเดินออกไปหน้าบ้าน ยิ่งใกล้ยิ่งเห็นได้ชัดว่าเขาตาไม่ฝาด
ตายห่าละ!...
แก้วรู้สึกลนๆทำอะไรไม่ถูก อยากหาที่หลบแต่มันไม่ทันแล้ว ความรู้สึกตอนนี้คล้ายคนโดนเจ้าหนี้ตามทวงเงินอย่างไงอย่างนั้น
เอาไงดีวะไอ้แก้ว
“ออกมาแล้วเหรอ ไอ้ดิวมันไม่ให้พี่เข้าไปหาแก้วในบ้านน่ะ” เอ่อ...ถ้าเป็นคนอื่นคงคิดว่ากำลังฟ้องเขาอยู่แน่ แต่นี่มันไอ้ฝิ่น ไอ้ป่าเถื่อนฝิ่นนะ!
คำพูดต่อว่าต่อขานเบาๆอย่างไม่จริงจังนัก พร้อมรอยยิ้มน้อยๆดูไม่มีอารมณ์ครุกรุ่นใดๆเลย ทั้งที่ปกติมันต้องบ้าแล้ว
แก้วไม่รู้จะตอบยังไง
“ไหนแก้วบอกว่าจะไปอยู่กับพี่ชายไง?” คนที่เดือดกลับเป็นพี่ดิวที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เอ่อ...เอ่อ...”
“อะไร? นี่แก้วไปโกหกไอ้ดิวทำไม” ฝิ่นแสยะยิ้มพูด “บอกมันไปตรงๆเลยว่าจะไปอยู่กับพี่ พี่ดิวของแก้วจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงไง” คำพูดคำจาเรียบๆทำเอาแก้วเสียวสันหลังวาบ
ถ้าออกจากบ้านพี่ดิวเร็วกว่านี้คงไม่เป็นแบบนี้แล้ว
ฝิ่นมันต้องการยั่วโมโหพี่ดิวอยู่สินะ
ขอแค่ได้ชนะมันเล่นได้ทุกบทบาทจริงๆ
พี่ดิวไม่ได้สนใจคำพูดของไอ้ฝิ่น เอาแต่มองหน้าเขาสายตาร้องขอคำตอบ
“พี่ดิว ผม...” เขาพูดไม่ออก มันจุกๆเมื่อโดนจับได้
ทั้งที่หาทางออกจากบ้านพี่ดิวอย่างสงบได้แล้วเชียว เขาจะอธิบายให้พี่ดิวฟังยังไงล่ะทีนี้
“แก้ว พี่รอนานแล้วนะ กลับบ้านเรากันเถอะ” แก้วเสหน้าไปมองคนนอกรั้วที่ยังบ่นงุบงิบไม่เลิก แล้วหน้าตาจะระรื่นไปไหน
“พี่...” ก่อนจะหันกลับมาคุยกับพี่ดิว
“ทั้งที่พี่คิดว่าหลายต่อหลายครั้งไอ้ฝิ่นมันคงบังคับแก้ว แต่วันนี้แก้วก็ทำให้พี่เห็นว่าพี่คิดผิด ...ที่แก้วไม่ยอมเปิดใจให้พี่เพราะต้องการให้ไอ้ฝิ่นทำหน้าที่นั้นสินะ” พี่ดิวพูดแทรกด้วยสายตาดูถูกดูแคลนเขาสุดๆ
“ไม่ใช่” แก้วเองก็สวนทันควันเหมือนกัน
“ถ้าพี่เป็นคนดีแล้วแก้วมองไม่เห็น พี่ก็จะไม่ดีอีกต่อไป” พี่ดิวเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว
“พี่เข้าใจผิดนะ” แก้วพยายามจะอธิบายทั้งที่ยังคิดหาคำพูดไม่ออก แต่ดูท่าพี่ดิวคงไม่ฟังอะไรเลย
“แล้วพี่จะคอยดู!” พี่ดิวมองหน้าเขาก่อนจะหันหลังให้แล้วเดินเข้าบ้าน
ทำไมเขารู้สึกสายตาของพี่มันไม่เหมือนเดิมนะ
เขาเพียงอยากลบล้างความผิดให้คนสำคัญที่สุดในชีวิต ในเมื่อมีโอกาสเขาก็ควรรีบรับไว้ไม่ใช่เหรอ
เขาไม่มีเวลาจะเอาใครมาเทียบกับใครหรอกนะ แล้วทั้งพี่ดิวทั้งไอ้ฝิ่น เป็นให้เขาอย่างที่พงษ์เป็นไม่ได้อยู่แล้ว
การที่เขาจะทำอะไรเพื่อไอ้พงษ์ มันทำให้เขาดูแย่ในสายตาพี่ดิวเชียวเหรอ
แต่เอาเถอะใครจะมองยังไงก็ช่าง ...เขายังยืนยันจะทำตามที่ได้ตั้งใจไว้ให้สำเร็จจนได้
“เปิดประตู แล้วออกมา!” แก้วสะดุ้งอีกครั้งเมื่อไอ้ฝิ่นเสียงห้วนใส่ เขาดึงรั้วเล็กเปิดแล้วเดินออกไปยืนตรงหน้ามัน
“มึงคิดอะไรอยู่วะ แล่นมาหามันถึงที่ หรือเมื่อคืนยังไม่เสร็จเลยมาให้มันเอาต่อที่บ้าน” แก้วอ้าปากหวอมองหน้าฝิ่น “เหี้ยเอ้ย กูไม่น่าไปขัดมึงใช่ไหมเมื่อคืนนี้น่ะ!”
มันก็รู้ว่าเขาโดนยา ทำไมยังพูดอย่างนี้อีก
ไอ้ฝิ่นจับเข้าที่ต้นแขนเขา บีบจนเจ็บ เขานึกแล้วว่ามันต้องบ้าแล้วมันก็บ้าจริงๆด้วย
“กู...”
“อ้อไม่สิเมื่อคืนมันคนพี่ วันนี้จะต่อกับคนน้องว่างั้น กูว่าแล้วอย่างมึงน่ะโคตรตอแหล ทำเป็นสำออยร้องห่มร้องไห้ คงไม่ใช่หาที่พึ่งแล้วล่ะอย่างนี้ต้องเรียกว่าสันดานมึงเลยต่างหาก” นี่ความคิดมันจะยัดเยียดให้เขาเป็นตามที่มันคิดอย่างเดียวเลยใช่ไหม แก้วส่ายหน้าอย่างไร้คำจะเอ่ย เขาไม่ใส่ใจกับความคิดมันหรอกนะ แต่ก็ต้องพูดออกไปเพราะไม่งั้นมันคงพร่ามไม่หยุดแน่
“กูมาเก็บของไปบ้านมึง”
“.................................” เงียบ แต่มือที่บีบอยู่คลายออกแล้ว ดูมันจะอึ้งๆที่เขาพูดบอกไปอย่างนั้น หรือเขาพูดเบาไปมันเลยไม่ได้ยิน
“กูมาเอาหนังสือ เพื่อจะไปอยู่บ้านมึง” แก้วจึงพูดย้ำอีกครั้ง
“...อ้อ ...เหรอ” มันอึกอักหน้าตายคล้ายทวนคำ
ตกลงเป็นอันเข้าใจแล้วนะ จะได้เลิกพูดอะไรตามใจตัวเองสักที แล้วมันก็เดินไปขึ้นรถเฉยเลย
อ้าว อะไรของมันอีกล่ะ บทจะง่ายก็ง่าย นี่เขาตามอารมณ์มันไม่ทันจริงๆนะ
....................................................
อ่าาา มาแล้วจ้า ช้ากว่าปกติเลย T^T
ที่จริงเย็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดราชการ ซีซั่นจะไม่ได้แตะคอมค่ะอันนี้คือข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันกับอดีตเด็กช่างเพราะเรามีเวลาให้กันไม่กี่วันในแต่ละสัปดาห์ (แต่คุณเขาเอาเวลามาดอทเนี่ยนะ!) ถ้าอยากเล่นเน็ตตัวเราต้องเข้ามือถือเท่านั้น (เคยเม้นท์นิยายในมือถือจนนิ้วชา -*-บ่น) แล้วก็ถ้าเขียนเสร็จจากที่ทำงานจะโพสนิยายในวันที่เขาอยู่ก็ต้องขออนุญาตได้มาแค่สามสิบนาทีก็ต้องยกมือท่วมหัว มีพระคุณจริงจริ๊ง (เวรกรรมมาก เคยโพสตัวที่ยังไม่ได้แก้ด้วยเพราะรีบแล้วเซฟชื่อเดียวกันอีก นอยด์มากแต่ไม่บ่นตอนนั้นเดี๋ยวคนอ่านรู้เพราะบางประโยคมันหายไปแต่ก็เอากลับมาไว้ในตอนถัดมา เอิ๊กๆ รู้กันหมดละว่าพลาดอีกแล้ว ฮ่าๆ) ช่วงที่ผ่านมาที่โพสได้ทุกวันไม่จำกัดเวลาเขียนเสร็จตอนไหนก็ลงตอนนั้นเพราะว่าคุณเขาติดน้ำท่วมต้องลงพื้นที่ให้ผู้ประสพภัยด่าทุกวัน เอ้ย ช่วยผู้ประสพภัย แต่ตอนนี้น้ำลดแล้ว (เราควรจะดีใจใช่ไหม?) ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เราคงได้เจอกันน้อยลง Y^Y
(...เสียเวลาปั่นนิยายตั้งสามวันแหนะ)
แต่เราจะคงสามตอนไว้ให้ได้เหมือนเดิม ไม่รับปากกับคนอ่าน แต่กดดันตัวเองเอาไว้ ฮ่าๆ
เจอคำชมจากคนอ่านตอนที่แล้วด้วย คนเขียนขอเวลาลอยละลิ่วก่อนนะ คริคริ อย่าอวยสิ เขินน๊า>w<
"เหมือนคนมองคนที่ตัวเองชอบ" อะนะ..หรือเปล่า?
...ตามนั้นเลยจ้า กรี๊ดดด ความรู้สึกเหมือนเอาของไปซ่อนแล้วถูกคนอ่านหาเจอ ฮ่าๆ
ส่วนทำไมต้องถามพี่ไม้ ...หึหึ :z6://แอร๊ยยย
ทำไมฝิ่นถึงรู้สึกหนักใจก็ไม้รุ็อ่าาาา :z3: ไม่เข้าใจ
...แสดงว่าฝิ่นมันต้องคิดอะไรอยู่แน่ๆ (นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว! จะตอบอย่างนี้ทำไม โอย ฮ่าๆ)
คงกำลังลังเลอะไรสักอย่างมั้งคะ (อิคนเขียนตอบอย่างนี้อย่าตอบเลยดีกว่า)
...พี่ไม้ดูเหมือนจะดูออกนะ ว่าแก้วโดนอะไรมา แต่แก้วคงอายพี่ไม้หรือเปล่าถึงไล่ให้กลับไปไม่อยากให้คนรู้หลายคนมั้ง
...ใช่ค่ะพี่ แก้วอายที่จะให้ใครรู้ แล้วถ้าพี่ไม้อยู่ไอ้ฝิ่นคงไม่ได้แตะแก้วแต่อาจจะเป็นพี่ไม้แทน ซึ่งคนเขียนรับไม่ได้ ==” หวงเลยไล่พี่มันกลับไปก่อน ฮ่าๆ ไม่ใช่!
พี่ไม้ค่อนข้างละเอียดในความคิดค่ะ จะคิดมากกว่าพูด และไม่ตามใจความคิด ผิดกับอิตัวเอกสองตัวอย่างสิ้นเชิง
อากาศหนาวมากเลย รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน
แต่ถ้าต้องการไออุ่น แวะมาหาอ้อมกอดเด็กช่างสิคะ :กอด1: (โฆษณาจนได้ ...เพลียตัวเองเหลือเกิน)
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ^^ กอดๆ จุ๊บๆ
-
ให้รีบๆๆรักกันแล้วเรื่องจะได้จบ....???? (จะจริงหรือจะแก้ว :z3:)
:เฮ้อ:
-
ฝิ่นนี่ขี้โมโหจริงๆ
:z3: :z3: :z10:
-
คนดีไม่เร้าใจแก้ว พี่ดิวเลยจะลองเป็นคนเลวเหมือนฝิ่นใช่มะ :laugh:
บางทีก็คิดว่าแก้วลองพูดความจริงออกไปบ้างมันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า
แต่อย่างน้อยๆก็ทำฝิ่นเอ๋อไปได้ชั่ววูบนึงล่ะนะ :z1:
-
สงสารแก้วจัง :เฮ้อ:
:L2: :L2:
-
:mc4: มาต่อแล้วววววววว
ฝิ่นนี่จริงๆเล้ยยยยย เดี๋ยววันไหนหลงแก้วหัวปักหัวปำ จะขำให้
ตอนนี้ก็ดีดีกับแก้วบ้างสิยะ
ขอบคุณมากจ้าาาาา :pig4:
-
แสดงว่าแก้วยังไม่คิดว่าตัวเองรักฝิ่น แต่แค่ยอมรับกับตัวเองว่าไม่รังเกียจสัมผัสของฝิ่นสินะ
พี่ดิวนี่ก็นิสัยแย่อะ ขนาดว่าเข้าใจว่าแก้วกับพงษ์น่าจะมีอะไรที่พิเศษต่อกัน แถมพงษ์ยังไว้ใจให้ดูแลแก้วอีกต่างหาก แต่ก็ยังคิดจะเป็นมือที่สามนี่นะ
ถ้าพงษ์รักแก้วแบบคนรักจริงก็ถือได้ว่าไอ้พี่ดิวกำลังหักหลังน้องรักอยู่นะเนี่ย
ไอ้คุณฝิ่นแย่แล้ววววว อาการหนักเข้าขั้นล่ะพ่อเอ๊ยยยย :laugh:
* คนเขียนตอบเม้นท์ได้แบบกระตุ้นความอยากรู้มาก
อุตส่าห์เลิกคิดไปแล้วว่าพี่ไม้อาจจะชอบแก้ว (เพราะเห็นพี่ไม้วิจารณ์การกระทำของฝิ่นกับแก้วแบบผู้สังเกตการณ์ที่เป็นกลางมากๆ ในเวลาปกติก็ไม่เคยเข้าใกล้แก้วทั้งการกระทำและคำพูด) แต่ไปๆ มาๆ คนเขียนกลับทำให้เรากลับไปคิดอีกละ แหย่คนอ่านเล่นๆ หรือจะเอาจริงคะ :serius2:
อยากอ่านต่ออีกแล้วอะ หนีอดีตเด็กช่างมาโพสเหอะ o18
-
เกิดเป็นแก้วมีแต่ทนกับทน
เพื่อนก็ไม่มี หาคนเข้าใจก็ไม่มี
คนที่แอบมีใจให้ก็ขี้โมโห เจ้าอารมณ์
-
:m16: ไอฝิ่นนี่ยิ่งกว่าสตรีวัยทอง
-
เริ่มรู้สึกว่าความจริงฝิ่นมันก้อน่ารักเหมือนกันนะ ดูซึนๆดี :m1:
ถึงจะไม่ค่อยชอบพี่ดิว แต่ตอนนี้สงสารพี่ดิวอ่ะ คงจะชอบแก้วมากเลยเนอะ
-
ฝิ่นมันแอ๊บเนียนรึว่า มันหึงจริง คาดว่าอย่างหลัง แต่มันยังไม่ยอมรับตัวเอง
แก้วเริ่มชัดเจนแล้วนะ แต่ดูแล้วยังอีกนานกว่า จะเปิดใจกัน
:เฮ้อ: ลุ้นต่อไป พี่ลูกขวัญก็มาแบบแว๊บๆวับๆ มาหาย มาหาย
-
เอ๋รึว่าฝิ่นก็เริ่มรักแก้วแล้วเนี่ยยย งงวุ้ยย :z3: :z3:
-
แก้วน่าสงสารจริง
ดิวก็ตื้อไม่เลิก จะโกหกเพื่อจากไปด้วยดี
นายฝิ่นก็เข้ามาให้เข้าใจผิดอีก ที่ทำอย่างนี้เริ่มห่วงแก้วใช่ไหมล่ะ
แต่ยังชอบพูดจาทำร้ายจิตใจแก้วตลอดอ่ะ :m16:
-
แก้วววววววววววววววววว
รักแก้วโคตรๆๆๆๆ
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ฝิ่นนี่เข้าใจยากจัง สงสารแก้วอ่ะ
-
คือถ้าแก้วไม่ชิงพูดก่อนนี่
คงจะตั้งใจด่าว่าแก้วอีกใช่ม้ายย :angry2: :beat:
-
ฝิ่น หึงแก้วเกินไปเปล่า :really2:
ฝิ่น ชอบทำให้แก้วเจ็บ และเสียใจ เสมอเลย :z3:
แก้วไม่ตอบโต้ ฝิ่นบ้างอะ :13223:
รอจ้า :call:
อ้อ +1 ให้จ้า
-
แก้วซวยตลอดดดดดดดดด
-
ไอ้ฝิ่นหางานให้น้องแก้วอีกแล้ววว
แก้วก็คนดีเกิ๊น น่าจะบอกดิวไปเลย
ใส่สีตีไข่ให้พี่น้องมันฆ่ากันตายไปซะ
กำจัดศัตรู อิอิ
ส่วนฝิ่น ตอนท้ายที่แกเดินหนีไปอ่ะ แอบยิ้มอยู่ใช่มั้ยล่ะ ชั้นรู้นะยะ555
ปล. ตกลงพี่ไม้กับเป้งมีความสัมพันธ์กันแบบไหนอ่ะคะ เราคันหูอยากรู้มากอ่ะ55
-
ฝิ่นอึ้งไปเลยกับคำตอบแก้ว
-
พี่ดิวมันจะทำอะไรแก้วป่าวเนี่ย
-
แก้วก็ปากหนักจริง บอกๆไปเหอะ ปิดบังไปไอ้พี่ดี ก็ไม่ได้ดีขึ้นตามชื่อหรอก เห็นไหม ผลเสียก็มาลงที่แก้วเหมือนเดิม เห้อออ
-
นี่ฝิ่นหึงหรือเปล่า เอ๊ะ หรือว่าไม่หึงอ่ะ
เริ่มชอบแก้วแล้วล่ะสิ ไอโหดฝิ่น
-
....เกิดเป็นแก้วนี้ไซ้ยากเย็นแสนลำบาก
....ต้องคอยปกป้องคนนั้น เอาใจคนนี้
....ไอ้คุณฝิ่นมันก็เล่นละครตบตาคนอื่นเป็นเหมือนกันนะ :L2:
-
:กอด1:
-
ตอนนี้ฝิ่นน่าหมั่นไส้มากกกกกกกกก
น่ารักน่าหยิก o18
ไม่รู้จะสงสารรึสมน้ำหน้าพี่ดิวดี?
อยากให้แก้วพูดไปตรงๆเลย พี่ดิวก้าวก่ายมากเกินไปป่ะ :m16:
...ทำไมตอนนี้ไม่มีพี่ไม้(ของเค้า)อ่ะ :angry2:
-
ฝิ่น ถ้าตามมาหึงก็ควรบอกบ้างนะ 555555555555555555555
-
มาต่อไวๆๆๆนะคับ
รออ่านอยู่คับ สนุกดีคับ
-
ไอ้บ้าฝิ่น หัดมีสาระบ้างดิ :angry2:
-
ถ้าแก้วไม่พูดสวนขึ้นมาก่อนคงโดนฝิ่นด่าเสียหมาแน่ๆ :o10:
-
เฮ้ยยย !!
ถึงพี่ดิวจะไม่ใช่พระเอก
แต่ก้ออยากได้พี่ดิวคนดี
กลับคืนมาอ่ะ ไม่อยากหั้ยเลวเลยยยยย
จะว่าไปก้อสงสารพี่ดิวนะ เฮ้ออ !! รักเค้าข้างเดียว
-
เจ้าแก้วนี่อ่านแล้วขัดใจป้ามากเลย หุ้ย :z3:
-
ฝิ่นไม่คิดจะฟังแก้วเลยใช่ปะ?? :m16:
-
ติดเรื่องนี้ มาก มาต่อเร็วๆนะครับ
-
:z1:
กูมาเก็บของไปบ้านมึง...อึ้งไปเลยพี่ฝิ่น :laugh:
-
ไม่มีใครเข้าใจแก้วบ้างเลย
สงสารแก้ว
-
บางทีก็รำคาญแก้วนะ
มัวแต่เอ้ออ้าอยู่นั่นแหละ
บอกไปเลยว่าไม่ชอบ
:z3: :m31: :m16:
-
แง ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน ไปค่ายแล้วก็เปิดเทอมแล้ว เลยยุ่งๆนิดนึง >< เปลี่ยนมาพิมพ์ในคอมแล้วคร้าบ
อ่านตอนล่าสุดโกรธฝิ่นอ่ะ เล่นละครหลอกพี่ดิว ทำให้แก้วลำบาก แถมยังด่าแก้วอีก -*- แต่พอแก้วบอกเหตุผลแล้วฝิ่นอึกอักเราโคตรฮาอ่ะ 555 เหมือนน้อยใจที่แฟนแอบหนีมาบ้านชู้ แต่ความจริงไม่ใช่อย่างที่คิด 555 แต่ฝิ่นก็ทำให้เรื่องยุ่งแหละ(หึงใช่มั๊ยล่ะ ><) เพราะพี่ดิวก็โดนฝิ่นปั่นหัวออกอาการน้อยใจ(อีกคน)ซะแล้ว ไม่รู้ตอนแก้วไปเรียนจะเป็นไงมั่ง -*-
แต่ก็นะ แก้วเริ่มต้นด้วยการโกหก ก็ต้องโกหกไปเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่โกหกตั้งแต่แรกก็ไม่ได้อีก แก้วโดนบีบจริงๆ T^T แล้วก็สงสารพี่ดิวอีกคน อย่าทำตัวร้ายเลยนะแค่นี้แก้ว(กับคนอ่าน)ก็เครียดกันหัวหมุน
ขอบคุณค่า ^^
ปอลิง ชักไม่แน่ใจว่าใครใจเอนเอียงไปหาอีกคนมากกว่ากันซะแล้ว :laugh:
-
ฝิ่น...รีบมาตามเลยเชียวนะ แต่ทำไมต้องประชดกันด้วย หรือว่าคิดว่าแก้วเป็นอย่างนั้นจริงๆ ชิส์!
-
อย่างนี้แล้วแก้วก็ต้องลำบากกันต่อไปสิ เป็นกำลังใจให้คนเขียนครับ
-
อนาคตแววกลัวเมียมาเห็นๆแล้วนะฝิ่น
-
^^
-
:m15:แก้วพยายามจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ทำไมกลับกลายเป็นว่า สิ่งที่แก้วทำลงไปนั้นมันสูญเปล่า ไม่มีใครเข้าใจแก้วเลยหรือไง มีแต่ต้องการให้แก้วทำตามความต้องการของตนเอง :m15:
-
เข้ามาอ่านตอนใหม่ครับ จะติดตามต่อไปนะ
-
:z3: :z3: :z3:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๓
“พี่ ผมขอล่ะ จะให้ผมทำอะไรก็ได้ พี่จะสั่งซ่อมผมกี่ร้อยเท่าผมก็ทำได้ แต่อย่าเล่นไอ้แก้วหนักเลยนะ” เด็กใหม่คนหนึ่งแอบมาหาเขาในห้องพักเพียงลำพัง ยกมือไหว้ขอร้องพร้อมเหตุผลที่ว่า “ผมไม่อยากให้มันเจ็บตัว”
ในวันนั้นเขาคิดว่า อะไรวะ? เลือกเรียนเทคโนTแต่กลัวเจ็บตัว จะมาเรียนทำไมและจะมาเข้าสายเพื่ออะไร
“มันจะเป็นไปได้ยังไง ขนาดเด็กเส้นยังต้องโดนทุกคนเท่ากัน” ที่นี่ทุกคนจะต้องผ่านการทดสอบมาทั้งนั้น ใครอ่อนออกไป คนที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะร่วมเดินทางไปด้วยกันได้
“พี่เป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่พวกผม ยังไงก็ช่วยหน่อยแล้วกัน ผมขอล่ะ ขอจริงๆ” ไอ้พงษ์ที่เพิ่งรู้จักกันได้เดือนเดียวยกมือไหว้เซ้าซี้ไม่เลิก มันไม่เข้าใจระบบเลยเหรอวะ
เขาในฐานะพี่ใหญ่ในรุ่นได้แต่พยักหน้าเออออไป ไม่อย่างนั้นมันคงได้ก้มกราบเขาเป็นแน่
แต่พอต้องรับน้องจริงๆ อำนาจขาดก็อยู่ที่ประธานสาย
เขาขัดไม่ได้อยู่ดีเพราะทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามระเบียบที่สืบทอดต่อกันมา
ถ้าแค่ผ่านการรับน้องไม่ได้ แล้วจะเรียนโรงเรียนนี้ได้ยังไง
เจ้าตัวมันยังไม่มีปัญหา บอกให้ทำอะไรหนักแค่ไหนก็ไม่เห็นบ่นสักคำ แล้วทำไมอีกคนต้องมาขอร้องแทนด้วย?
ไอ้พงษ์ที่เคยร้องขอก็ดูท่าว่าจะเข้าใจแต่แค่มาพูดเผื่อจะโดนน้อยลงเท่านั้นเอง...เอากับมันสิ
ที่ไหนมีไอ้พงษ์ ที่นั่นมีไอ้แก้ว...
เพื่อนรุ่นน้องสองคนดูจะสนิทกันมาก ...ไม่ใช่แค่เรียนสายเดียวกัน ...ไม่ใช่แค่รู้จักกันมาก่อน
“ก็มีกันแค่สองคนนี่พี่” นั่นคือคำตอบที่ไอ้พงษ์พูดให้หายข้องใจพร้อมยีหัวเพื่อนอีกคนเล่นด้วยรอยยิ้ม
และนั่นเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นรอยยิ้มตอบกลับมาจากรุ่นน้องอีกคน
รอยยิ้มของความรักและภูมิใจ ที่มีให้คนๆเดียว
ที่ไหนมีไอ้พงษ์ที่นั่นมีไอ้แก้ว ...ยกเว้นเวลาเล่นคู่อริ
ทั้งที่เป็นเด็กในสาย ทั้งที่มารวมกลุ่มทุกครั้งที่จะมีเรื่อง แต่เวลาเล่นใครจริงๆไอ้แก้วกลับหายหัวไปทุกครั้ง
แต่จะเห็นมันเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เพื่อมาพยุงตัวไอ้พงษ์หนีตำรวจ หรือไปทำแผล
เขาเห็นภาพเหล่านั้นจนเคยชิน เพราะจ้องที่จะหาคำตอบว่าไอ้รุ่นน้องคู่นี้เป็นอะไรกันแน่
ไอ้พงษ์ควงผู้หญิงพาณิชย์เปลี่ยนหน้าไปมาทุกเดือน แต่ไอ้แก้วก็ยังอยู่ดีไม่ได้มีท่าทีหวงเพื่อนอะไร
ต่างจากไอ้คนที่มีแฟนกลับเอาใจใส่เพื่อนมากกว่าผู้หญิงซะอีก
ดิวเฝ้ามองคนที่คิดว่าไม่น่าจะเข้าถึงได้ เฝ้ามองจนกระทั่งเผลอยิ้มไปกับรอยยิ้มหายากของไอ้แก้วตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตัว
ก็แค่เด็กที่ดูมีโลกส่วนตัวสูง ไม่สุงสิงกับใครง่ายๆและไม่สนใจสิ่งรอบข้างใดๆ
แต่ทำไมเขาอยากจะก้าวเข้าไปอยู่ในสายตาคู่นั้นนะ
หรือเพราะความที่ในสายตาคู่นั้นมีแต่ไอ้พงษ์คนเดียวรึเปล่าถึงได้ดึงดูดให้เขาสนใจมันได้ขนาดนี้
จากแค่มองจึงค่อยๆทำ... ทำทุกอย่างเพื่อให้รุ่นน้องชื่อแก้วหันมามองเขาบ้าง
เขาต้องเด็ดเดี่ยวทั้งต่อหน้าและลับหลัง ใครทำร้ายไอ้แก้ว เขาสามารถเอาคืนได้อย่างไม่ต้องคิด พอๆกับไอ้พงษ์
จนกระทั่งไอ้พงษ์ยกให้เขาเป็นแบบอย่างของมัน
ไอ้พงษ์เองยังสยบเขา แล้วไอ้แก้วล่ะ?
เพียงรอยยิ้มที่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำพูดใด ซึ่งแทนคำชื่นชมไว้มากมาย
...เขาต้องการเป็นเจ้าของมัน
.
.
.
แต่ไม่มีประโยชน์จริงๆ...
ดิวเดินเข้าบ้านแล้วหันกลับไปมองรุ่นน้องที่เขาเฝ้ามองมาเกือบสามปีกับไอ้ศัตรูคู่อริต่างสถาบัน
น้องเดินตามไอ้ฝิ่นขึ้นรถไปแล้ว...
“กูไปเที่ยวกับเพื่อน เห็นไอ้แก้วเดินเข้ามากะจะเข้าไปทักนึกว่ามากับมึงรึเปล่า เห็นหน้า๕xไม่กี่นาที ดูมันเล่นกูสิ” ไอ้ดีในสภาพที่ต้องหยอดน้ำข้าวต้ม ใบหน้าบวมช้ำ ปากแตก ร่างกายฟกช้ำไปหมดเล่าเรื่องราวให้ฟัง
“กูว่าเด็กมึงแม่งมีชู้แล้วล่ะ แรดขนาดนั้น คงกลัวกูมาเล่าให้มึงฟังเลยกะปิดปาก ขนาดในผับคนเยอะแยะยังแทบจะเอากันได้ละ กับอริซะด้วย เป็นสายด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้” น้ำลายไอ้ดี เขาไม่เชื่อมันหรอก
“มึงจะไม่เชื่อกูก็ตามใจ” ไอ้ดียังพล่ามไม่หยุด “แต่กูอยากรู้จริงๆมันไปสนิทกันพวกนั้นได้ยังไง”
“ตั้งแต่ปิดเทอมที่...ไอ้พงษ์...ฆ่าเพื่อนประธาน๕xตาย” เขาบอกพี่ชายเสียงเรียบ ทั้งย้ำในเรื่องที่ไอ้พงษ์เคยก่อให้ฟัง
แม้แต่ไอ้พงษ์เป็นฆาตกร ก็ไม่ได้ทำให้ความศรัทธาที่ไอ้แก้วมีให้ลดน้อยลงเลย
“เหอะ แล้วไงวะ ถ้าอย่างนั้นมันควรจะแค้นสายเรารวมทั้งไอ้แก้วสิ”
“ใช่” เขาก็คิดอย่างนั้น แต่สิ่งที่เห็นมันผิดแปลกไปทุกอย่าง
“หรือเด็กมึงจะเอาตัวเข้าแลก” เขาอยากต่อยปากไอ้ดีซะตอนนี้ ดิวตบหมอนที่พี่ชายหนุนอยู่อย่างมีอารมณ์
ปุ๊บ!
“มึงจะบ้าเหรอ ไอ้แก้วไม่มีวันทำแบบนั้นหรอก!” คนที่ยึดมั่นในความคิดของตัวเอง ไม่มีวันลดตัวไปทำอะไรให้เสียศักดิ์ศรีแน่ คนอย่างแก้วให้โดนทำร้ายร่างกายจนตายยังยินดีซะกว่า
“อ้าวไม่แน่ หน้าตาอย่างไอ้แก้วเพื่อนกูยังอยากได้เลย”
“มึงว่าอะไรนะ?”
“อ้อ กูพูดว่า ให้ใคร เขาก็เอาทั้งนั้นล่ะ แล้วยิ่งนิสัยหวงตัวปิดกั้นตัวเองแบบนั้นยิ่งน่าลองเข้าไปใหญ่” นั่นมันสันดานของพวกมึงแล้วล่ะ!
ดิวเดินหนีไม่อยากฟังคำพูดเสื่อมๆจากปากไอ้ดี ออกไปตรงระเบียงหยิบโทรศัพท์มือถือกดโทรออกไปยังเบอร์รุ่นน้องคนพิเศษ
ตรู๊ด ตรู๊ดดด
“ฮัลโหล” แต่เสียงปลายสายกลับไม่ใช่น้ำเสียงที่เคยได้ยิน
“นี่มันโทรศัพท์ไอ้แก้ว มึงเป็นใคร” ถามออกไปด้วยความข้องใจและอยากรู้เร็วๆ ขออย่าให้เป็นอย่างที่ไอ้ดีพูดมาเลย
“เป็นใครก็เรื่องของกู” ปลายสายน้ำเสียงเหวี่ยงกลับมา แล้วกดวางสาย เมื่อเขากดโทรกลับไปอีกครั้งก็ไม่รับอีกเลย
เหี้ยเอ้ย! ...ดิวกัดฟันมือกำโทรศัพท์แน่น
ไอ้แก้วไม่ใช่คนที่จะให้ใครยุ่งกับของๆตัวเองได้สักหน่อย แล้วไอ้คนที่รับโทรศัพท์มันเป็นใคร?
.
.
.
สายตรู่ของวันถัดมา... รุ่นน้องมาหาเขาถึงบ้าน พลันถามหาไอ้ดีก่อนเลย
หึ คงจะระแวงว่าเขาจะรู้เรื่องเมื่อคืนที่โกหกเอาไว้สิท่า
ไหนบอกว่าไปกับพี่ชาย ...พี่ชายที่ไหนก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ไอ้ดีกลับบอกว่าเห็นอยู่กับไอ้ฝิ่นและพวก๕x
ถ้ามันพูดลอยๆเขาไม่มีทางเชื่อแน่ ถ้าเขาจะเชื่อมีเพียงคำพูดจากปากรุ่นน้องเท่านั้น
หากแต่สภาพไอ้ดีที่เห็น เรื่องราวก็พอปะติดปะต่อตามที่มันเล่ามาน่าเชื่อทั้งนั้น
จริงๆแล้วน้องโกหกเขาเพื่อจะไปหาไอ้ฝิ่น!..ทำได้ยังไง
ทั้งที่การรู้จักกันของทั้งคู่เป็นสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าอะไร ...แต่ทำไมแก้วถึงให้ความสนใจกับมันได้
เขาเคยคิดว่ารุ่นน้องถูกบังคับถึงได้ไปไหนมาไหนกับศัตรูในช่วงแรกๆ
แต่มีด้วยเหรออะไรที่บังคับข่มขู่แก้วได้? ...นอกจากเจ้าตัวจะเต็มใจเอง
ขนาดขอให้พักอยู่ด้วยกันเพื่อความปลอดภัยของตัวเองแล้ว น้องยังอึกอักจะตอบรับ
แล้วการวิ่งโร่ไปหาอีกฝ่ายอย่างนี้ มันคืออะไร?
ไม่มีไอ้พงษ์แล้ว เขาคิดว่าน้องจะให้ความสนใจเขาบ้าง
แต่เปล่าเลย...
ไอ้ฝิ่นมันมาจากไหน มันเคยทำอะไรดีๆให้น้องเห็นรึเปล่าก็ไม่
มันที่คิดจะทำร้ายไอ้พงษ์ซึ่งๆหน้า ซึ่งแม้แต่เขาพอเอ่ยชื่อไอ้พงษ์น้องก็ไม่พอใจแล้ว
แต่ทำไมแก้วถึงยอมรับในตัวไอ้เหี้ยฝิ่นได้
เกือบสามปีที่เฝ้ามองและจัดการหลายสิ่งหลายอย่างให้ น้องไม่เคยรับรู้เลยใช่ไหมว่าเขาทำไปเพื่ออะไร?
ไม่สิ น้องตั้งใจที่จะไม่รับรู้เลยถึงจะถูก
ท่าทีเฉยเมยเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนที่ดูกระตือรือร้นเมื่ออยู่ต่อหน้าไอ้ฝิ่น
นี่คือคำตอบของการปฏิเสธความหวังดีจากเขาทุกอย่างใช่ไหม?
นี่กูโง่เพราะผู้ชายคนเดียวได้ขนาดนี้เหรอวะ?!
แล้วจะทำตัวเป็นคนดีต่อไปเพื่ออะไร
...คำว่ารักที่เขาพร้อมจะมอบให้แต่เจ้าตัวไม่เคยแยแส
เขาแบกมันไว้นานเกินไปแล้ว
เมื่อมองไม่เห็นก็ไม่ต้องมอง เมื่อไม่อยากได้ก็ไม่ต้องเอา แต่อย่าคิดว่าความรู้สึกดีๆที่เขามีให้ เขาจะปล่อยมันทิ้งไปง่ายๆ
พี่คนนี้ที่เป็นทั้งคนดีและคนเลวได้ในคนๆเดียว แก้วเลือกที่จะเปลี่ยนบทให้พี่ต้องแสดงออกมาเองนะ
.............................
ฮ๊าวววววว ตาจะปิดแล้วY^Y
รู้ไหมเอ่ย ตอนนี้บทใคร?
ปล. ตกลงพี่ไม้กับเป้งมีความสัมพันธ์กันแบบไหนอ่ะคะ เราคันหูอยากรู้มากอ่ะ55
...คันปากยิกๆ อยากเล่าเหมือนกันจ้า เรื่องจะแดงเมื่อถึงเวลานะคะ
รออีกนิดนึง^^
แง ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน ไปค่ายแล้วก็เปิดเทอมแล้ว เลยยุ่งๆนิดนึง >< เปลี่ยนมาพิมพ์ในคอมแล้วคร้าบ
อ่านตอนล่าสุดโกรธฝิ่นอ่ะ เล่นละครหลอกพี่ดิว ทำให้แก้วลำบาก แถมยังด่าแก้วอีก -*- แต่พอแก้วบอกเหตุผลแล้วฝิ่นอึกอักเราโคตรฮาอ่ะ 555 เหมือนน้อยใจที่แฟนแอบหนีมาบ้านชู้ แต่ความจริงไม่ใช่อย่างที่คิด 555 แต่ฝิ่นก็ทำให้เรื่องยุ่งแหละ(หึงใช่มั๊ยล่ะ ><) เพราะพี่ดิวก็โดนฝิ่นปั่นหัวออกอาการน้อยใจ(อีกคน)ซะแล้ว ไม่รู้ตอนแก้วไปเรียนจะเป็นไงมั่ง -*-
แต่ก็นะ แก้วเริ่มต้นด้วยการโกหก ก็ต้องโกหกไปเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่โกหกตั้งแต่แรกก็ไม่ได้อีก แก้วโดนบีบจริงๆ T^T แล้วก็สงสารพี่ดิวอีกคน อย่าทำตัวร้ายเลยนะแค่นี้แก้ว(กับคนอ่าน)ก็เครียดกันหัวหมุน
ขอบคุณค่า ^^
ปอลิง ชักไม่แน่ใจว่าใครใจเอนเอียงไปหาอีกคนมากกว่ากันซะแล้ว :laugh:
...อร๊ายยย นึกว่าหายไปไหนตอนก่อนโน้นก็ไม่เจอ คิดถึงนะคะ ^^ ว่างเมื่อไหร่ก็แวะมาจ้า รอคนอ่านเสมอ
ตอนนี้ขอตัวก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะทุกคน
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ :กอด1:กอดๆจุ๊บๆ^^
-
กระโดดฟัด ซีซั่นซังงงงง รออ่านทุกวันเลย 5555+
พี่ดิวในมุมมองมันเหมือนจะเป็นคนดีนะ แต่เดี๋ยวได้ไปเข้าสมาคมแดรกหญ้ากะไอ่ฝิ่นละ
คิดเองเออเองกันหมด ยกแก้วให้พี่ไม้ ไม่ก็พงษ์งะดีแล้ว :laugh:
-
โอเครู้แล้วว่าดิวรักแก้ว คาใจมานาน
แต่ก็นะ ไม่มีใครหรอกที่จะมาแทนที่พงษ์ได้
เพราะ 2 คนนั้นมีกันและกันมานานแล้ว
สายสัมพันธ์อันนั้นมันเหนียวแน่นเกินกว่าใครจะทำลายออกได้ง่ายๆ
แม้แต่ฝิ่นเอง.....มั้ง
-
เอาเหอะพี่ดิว ไหน ๆ พี่ก็ไม่ได้เป็นพระเอก พี่ก็เป็นผู้ร้ายให้สะใจตัวเองไปเลย
-
สั้นจัง. ค้างอะ พี่ดิวแกจะทำไรเนี่ย :z3:
-
โนคอมเม้นท์ ขี้เกียจฟังไอ้พี่ดิวพล่ามมมมม :เฮ้อ:
-
ง่าาา จะมีตัวร้ายเพิ่มมาอีกแล้ว
-
^^
-
:กอด1:
-
สรุป พี่ดิว ก็ ไม่รู้อะไร
-
มาต่อเร็วๆนะครับ
-
มาต่อเร็วๆนะครับ
-
แก้วระวังตัวนะดิวมันจะร้ายแล้ว
+ 1 นะคะ
-
ไอ้พี่ดี เลว ใส่ร้ายแก้ว มันไม่น่ารอดมานอนหยอดข้าวต้มได้เลย ชิร์
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
:call: :call: :call:
-
ชอบอ่านแบบมุมมองของตัวละครหลายๆตัว อย่างตอนนี้ก็พี่ดิว ชอบอ่ะ >///<
ไอ้พี่ดีนี่เลวแล้วยังไม่สำนึก แถมใส่ร้ายแก้วอีก พี่ดิวก็เข้าใจไปนู่นนนนนนนนนนนนนน ตายแน่แก้ว -*-
ขอบคุณคร้าบ
ปอลิง คิดถึงพงษ์ -3-
-
+1 อ่านสองตอนรวดทีเดียว
จะพูดว่าทั้งฝิ่นและแก้วอยู่ในช่วงดูใจได้มั้ย
หื้ม! เหมือนว่าทั้งคู่กำลังดูท่าทีของอีกฝ่ายอยู่
แล้วก็ไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง
ว่าความรู้สึกที่มีให้อีกฝ่ายคืออะไร
ตอนแรกฝิ่นก็เหมือนอยากจะเอาชนะ
แต่ไปๆมาๆเพราะความน่ารักของแก้ว
เริ่มทำให้เขว แต่ยังไม่กล้ายอมรับ
เพราะคิดว่าอีกคนเป็นศัตรู รักกันไว้เถิดเชื่อพี่
เรากำลังจะได้เห็นพี่ดิวร้ายแล้วใช่มั้ย?
อกหักมานาน เพิ่งรู้ตัว พอรู้ตัวก็ทนไม่ได้
เห้ย ก็คนมันไม่รักไม่ชอบจะไปบังคับได้ไง
แต่เชื่อว่าพี่ดิวคงทำอะไรแก้วไม่ได้หรอก
เพราะแก้วมีฝิ่นอยู่่ เอิ๊กส์ เอิ๊กส์
รอตอนต่อไปค่ะ
-
:เฮ้อ:
:pig4:
-
คดีพลิกๆๆๆๆ
ดิวเปลี่ยนแล้ว
ดีละจะเลิกเลวยัง
-
สงสารดิวนะ
คนมันรักนิ
ทำดีไห้ทุกอย่าง
แต่กับไม่เคยเห็นค่า
ใครๆก็ต้องรุ็สึกเสียใจอยุ่แล้วละ
แล้วแก้วเป้นห่าอะไรเนี้ย (อุ๊ย)
ทำไมไม่ยอมบอกว่า พี่ดีมันทำอะไรแก้วละ
จะอมไปถึงไหน
เรื่องบางเรื่องก็สมควรจะบอกหน่อย
ไม่คิดถึงผลที่จะตามมาเลยจริงๆ
จริงอย่างที่ฝิ่นบอก
แก้วมันโง่ โง่เกินกว่าจะเล่นตามเกมคนอื่นทัน เห้อ
-
ทันแล้วๆๆๆ เย้!!!!!
อ่านแล้วรู้สึกว่าสงสาร แก้ว ที่สุดเลยอ่ะ
และก็คิดว่าอีกไม่นาน พงษ์ กลับมาแหงๆๆ
และแล้วเรื่องราวใหญ่โตก็จะตามมา
แต่ท้ายที่สุดแล้ว หวังว่าคนที่เจ็บปวดที่สุดคงไม่ใช่ แก้ว นะคะ คุณผู้แต่ง
อย่าแกล้ง แก้ว อีกเลยนะ T T
ขอบคุณ คุณผู้แต่ง สำหรับเรื่องนี้นะคะ ^^
-
เฮงจัดไป :jul1:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
สงสารแก้วว
-
อ่า..พออ่านพาร์ทดิวก็ไขว้เขวแอบสงสาร..นิดนึงอ่ะนะ
เรื่องนี้อิพี่ดีระยำสุด ไอ้ชั่ว :z6: :z6:
-
แก้วอ่ะทำไมไม่บอกพี่ดิวไปล่ะ ว่าไอ้พี่ดีมันทำอะไรไว้
ไม่รู้จะสงสารใครดีความรักมันบังคับกันไม่ได้หรอกนะพี่ดิว
-
จะรอดูว่าดิวจะเลวได้ขนาดไหน
แต่โทรศัพท์แก้วอยู่กับใคร ใครกันที่เป็นคนรับโทรศัพท์แก้ว
เฮงจัดไป :jul1:
เฮงไหนหนอ สงสัยจะคนละเรื่องแล้วมั้งคะ :laugh:
-
อิดีชั่วจริงๆไม่ชั่วเล่นๆ
ส่วนดิว เขาไม่รักตอบก็โกรธ อีคิวต่ำว่ะ
บ้านนี้พ่อแม่เขาสั่งสอนกันยังไงเนี่ย :m16:
-
มาต่อเร็วๆๆน้าาา
-
ว่าแล้วต้องเป็นแบบนีจริงๆด้วย พี่ดิว ตัดใจเหอะ!!
-
พี่ดีแหลสดค่ะ :z6:
พี่ดิวก็นะเชื่อไปได้ จะทำอะไรนะ ถึงเลวแค่ไหนแก้วก็ไม่สนหรอก ถนอมๆ แก้วบ้างเต๊อะ :o12:
แก้วก็นะ พูดบ้างก็ได้ ลูกคนนี้บางทีก็หน่ายนะ อย่าปล่อยให้ใครเค้าไปเอ้งงงง
-
สุดท้ายทุกอย่างก็ตกมาอยู่ที่แก้ว น่าสงสารนะ
-
...คนที่ไม่มีใจ ดีแค่ไหน ก็เป็นได้แค่..พี่ และ เพื่อน ปลงซะพี่ดิว
...คนที่มีใจ เลวแค่ไหน ก็ร๊ากกกกกกกกกก :laugh:
-
เฮ้อออ แก้วน่าสงสารที่สุด
-
พี่ดีแม่ง โกหกหน้าด้านๆ
พี่ดิวทำใจเหอะ ว่าเป็นพระรองยังไม่ใช่ด้วยซ้ำ
สำหรับแก้ว ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่อะเนอะ
-
อ่านตี้งแต่ตี1ยั้นตี5
สนุกมาก
มาต่อไวไว นะคับ o13
-
หวังว่าพี่แกคงจะไม่ทำอะไรบ้าๆนะ
-
ท่าทางแก้วเพิ่มศึกดิวกลายร่างอีกหนึ่ง
ฝิ่นท่าจะศพไม่สวยอีกรอบ
รอ~รอ~รอ~ :L1:
-
ศัตรูเพิ่มอีกหนึ่งคน :เฮ้อ:
-
จากพี่ที่(น่าจะ)ไว้ใจได้ กลายเป็นคนใจร้ายไปแล้วเหรอพี่ดิว :z3:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๔
“ทำยังไงถึงจะให้เขารู้ว่ารักเหรอ?” พี่ภูวางไม้กลองที่ตะบี้ตะบันตีจนเขาเกรงว่าไม้จะหักอีก ...นี่ขนาดอารมณ์ปกติดีนะ
พี่เดินมานั่งข้างๆ หยิบขวดน้ำมาดื่ม แก้วพยักหน้ารอฟังคำตอบ
เรื่องอย่างนี้ปรึกษาพี่ภูถูกต้องที่สุดแล้ว ทั้งพี่เคยเจอไอ้ฝิ่น ทั้งเข้าใจว่ารอยกัดที่คอคราวนั้นเป็นของมัน...ซึ่งก็เข้าใจถูกน่ะนะ
พี่ภูเป็นคนไม่ซักไซ้อะไรให้มากความ พูดออกไปแค่ไหนก็รับฟังเท่านั้น ไม่เคยเอาเรื่องคนอื่นไปพูดในทางไม่ดี เขาจึงมั่นใจว่าพี่จะไม่เอาไปพูดต่อกับใคร
“แล้วทุกวันนี้ไอ้๕xมันไม่รู้เหรอ?” ถามอีกละ...ทั้งที่คิดว่าพี่จะไม่ถามแล้วเชียว แล้วเมื่อไหร่เขาจะได้เรื่องเนี่ย
แก้วตอบด้วยการส่ายหน้า
“รู้อะไรครับ” พลางย่นคิ้วถามกลับ
“อ้าว ก็รู้ว่ามึงรักมันไง”
“ผม...?” แก้วถึงกับสะอึก มองหน้าพี่ ชี้นิ้วเข้าหาตัว
“มึงยังไม่ได้บอกมันเหรอ?” เขาส่ายหัวอย่างงงๆ เอ๊ะ...
“เคยบอกแล้วพี่ แต่มันบอกว่าไม่ใช่ให้รักแค่คำพูด” แก้วพูดเบาๆ
ไม่ได้กลัวใครได้ยินเพราะทั้งห้องซ้อมมีแค่เขากับพี่สองคน แต่ที่พูดเบาเป็นเพราะเขาไม่กล้าจะพูดถึงต่างหาก
ทั้งที่ก็แค่คำง่ายๆคำเดียว ก่อนนี้ยังพูดออกไปได้โดยไม่ต้องคิดอะไร แต่ทำไมวันนี้เขาไม่กล้าที่จะพูดนะ
“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่ามันไม่รู้จักมึงดีพอ เพราะการที่มึงให้มันทำรอยขนาดนั้นก็เท่ากับมึงให้มันเป็นคนสำคัญแล้วล่ะ” พี่ภูเปลี่ยนท่าเอนหลังหัวพิงพนักโซฟา คล้ายคนตั้งท่าจะนอน แต่เขาว่าดูจะขี้เกียจนั่งมากกว่า
“คนสำคัญ?”
“นี่มึงไม่ได้สำรวจตัวเองเลยเหรอไอ้แก้ว กี่คนที่มึงจะมานั่งคุยด้วยอย่างนี้ กี่คนที่มึงจะให้เขายุ่งกับเนื้อตัวมึงน่ะ” เขาไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอก ทุกวันนี้ก็คิดแต่จะทำยังไงให้ชดใช้พวกนั้นได้เท่านั้นล่ะ เขาไม่อยากให้ใครมาว่า ว่าไอ้พงษ์เป็นฆาตกรนี่นา
“ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดหรอก” เพราะต่อให้สำรวจตัวเอง มันก็ไม่ได้แปลว่าเขารักมัน ขนาดเขายังไม่รู้สึกแล้วไอ้ฝิ่นมันจะรับรู้ได้ยังไง ที่ผ่านมาก็แค่ให้มันทำตามที่มันอยากทำเท่านั้นเอง ...ความรักมันต้องยิ่งใหญ่กว่านี้สิ “แล้วผมจะรู้ได้รึยังว่าต้องทำยังไง” เขาย้ำคำถามเดิม
“อืม...” พี่ภูขยับนั่งไขว้ห้าง ข้อศอกยันขาตัวเองพลางกัดนิ้วโป้งคิดหาวิธีให้เขา
“เอาอย่างนี้ พี่ทำยังไงให้พี่โซ่รู้ ผมเอาตามนั้นแหละ” แก้วเห็นพี่คิดนานจึงอยากช่วย เผื่อจะได้คำตอบเร็วๆ
“ทะลึ่ง” แต่พี่กลับจิกตาเหวี่ยงใส่เขาพลางเสมองไปทางอื่น อะไร? ถามแค่นี้ต้องเหวี่ยงด้วย “พูดแล้วมันไม่เชื่อใช่ไหม” พี่ถามต่อเสียงห้วน
“ครับ...” แก้วตอบอย่างเกร็งๆ รู้ว่าพี่ไม่ได้โกรธหรอก แต่ไม่ชอบให้พี่หน้าบึ้งใส่เลย
“มึงอยากให้มันรู้ว่ามึงรัก แล้วมันล่ะรักมึงด้วยรึเปล่า” พี่หันกลับมามองหน้า คำถามของพี่ทำเอาเขาก้มหน้านิ่งงันไม่กล้าสบตาพี่ “ที่กูทำได้เพราะกูมั่นใจว่าโซ่รักกู แต่กูไม่อยากให้มึงทำตาม ...กูกลัวมึงจะเป็นของเล่นของมันเปล่าๆน่ะสิ”
นั่นมันไม่ใช่ประเด็นหรอก
“...ผม...ผมไม่กลัว ผมทำได้ทุกอย่าง” สองมือกำกันแน่น แม้ในใจจะลังเล แต่เขาต้องไม่หวาดหวั่น อะไรที่แทนหรือคู่ควรกับคำว่ารัก ต่อให้มันยากลำบากสักเท่าไหร่ ต้องแลกด้วยอะไร เขาก็จะทำ!
เพื่อให้ไอ้ฝิ่นมันรู้ว่าเขาไม่ได้บอกรักมันเพียงลมปาก เอาให้มันแน่ใจไปเลยว่าเขาเป็นในสิ่งที่มันต้องการได้แล้ว
เมื่อเขารักมัน ไอ้พงษ์ก็ไม่ต้องมีบทลงโทษ พี่ดิวก็ไม่ต้องโดนหางเลข รวมทั้งเพื่อนร่วมสถาบันคนอื่นๆก็ไม่ต้องซวยไปด้วยเหมือนที่มันเคยข่มขู่เขาหลายครั้ง
เขาตั้งใจฟังในสิ่งที่พี่บอก ... ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน คิ้วขมวดแทบจะเป็นปม พลางก้มหน้าอย่างคิดหนัก
วิธีนี้มัน! ...เขาเคยเกือบจะทำมาแล้วนี่ ทำเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่รังเกียจมันจริงๆ
แต่กลับเป็นวิธีที่ใช้แทนความรู้สึกของพี่
หรือว่า ...เขาอาจจะรักมันเข้าแล้ว?!
แก้วเดินออกจากห้องซ้อมดนตรีของโรงเรียนเอาบ่ายโมงกว่า วันนี้ตอนเช้าเขาเข้าไปดูพนักงานของพ่อทำงานมาแล้ว ต้องบอกว่าอย่างนั้นเพราะไม่มีใครให้เขาทำอะไรเลย กว่าจะหมดช่วงฝึกงานสามเดือนแก้วคิดว่าเขาคงลืมวิธีต่อแผงวงจรไปเลยล่ะ ทานข้าวเที่ยงเสร็จเขาจึงนั่งรถมาหาพี่ภูที่โรงเรียน ด้วยคิดว่าพี่ภูน่าจะช่วยชี้ช่องทางให้เขาได้มากที่สุด
ในฐานะผู้มีประสบการณ์รักเพศเดียวกันมาก่อน
อืม...รู้สึกพี่จะช่วยได้มากกว่าที่คิดซะอีก เล่าซะละเอียดยิบเลย ทั้งที่ปากบอกว่าไม่อยากพูดนะนั่น
“เฮ้ย อะไรวะ?!” เหมือนจะเดินสวนกันธรรมดากลับถูกหนึ่งในกลุ่มชนไหล่เข้าให้ แถมมองหน้าพูดจาด้วยท่าทีดูหาเรื่องอีก
“.........................” ดูยังไงก็ไม่น่าใช่พี่ปีสอง แล้วถ้าเขาจำไม่ผิดสามคนนี้มันเด็กสาย๓Tนี่ แก้วส่ายหน้าเพราะคิดว่าไอ้เด็กคนนี้กำลังปีนเกลียวโดยไม่รู้ตัว มันคงจำหน้าเขาไม่ได้เพราะเขาไม่ค่อยยุ่งกับสายเท่าไหร่
แก้วก้าวเท้าเดินต่ออย่างไม่ใส่ใจ ถ้าเด็กไม่รู้ก็ช่างมันเถอะ เขาไม่ใช่คนอวดเบ่งอยู่แล้ว
“เฮ้ย ถือว่าเป็นรุ่นพี่แล้วกวนตีนได้เหรอวะ” เสียงดังไล่หลังทำเขาต้องหยุดกึก
“รู้ว่าเป็นรุ่นพี่แล้วทำไมยังกล้าพูดอย่างนี้” แก้วเองก็หันกลับไปมองหน้าสามคนนั่นอีกครั้ง เขาไม่ชอบยกตนข่มใคร หากแต่ต้องทำเพื่อไม่ให้รุ่นน้องอวดดีใส่ได้
“ถุย รุ่นพี่ไม่มีน้ำยาน่ะเหรอวะ ไง? กล้าเปล่า เอาเปล่าล่ะ?” สามคนนั้นเดินเข้ามาผลักไหล่เขาอย่างจงใจ นี่...? ถึงเขาจะไม่ชอบต่อยตีแต่อยู่มายันปีสามเพิ่งมีคนมาหาเรื่องเขาในโรงเรียนก็วันนี้ล่ะ แถมยังเป็นรุ่นน้องในสายอีก ...ทำไม?
“พวกมึง...จะปีนเกลียวกูว่างั้น?” ข่มน้ำเสียงพูดออกไปคล้ายไม่สะเทือนกับคำท้าทาย หากแต่ในใจกำลังครุ่นคิดว่าจะทำยังไงดี ถ้าต้องต่อยกับรุ่นน้องจริงๆก็คงต้องทำ ไม่ใช่กลัวเสียระบบอะไรแต่เป็นการต่อสู้ด้วยตัวเองที่เขาต้องทำในวันที่ไม่มีไอ้พงษ์อยู่ข้างๆต่างหาก
แต่ถ้ามีเรื่องตอนนี้ทุกคนก็รู้สิว่าเขาไม่เอาไหน
“แล้วยังไง? ไอ้พี่แก้ว ต่อให้กูกระทืบมึงตอนนี้ก็ไม่ผิดหรอกโว้ย รู้ไว้ซะพี่ดิวเขาไม่คุ้มหัวให้มึงแล้ว” ...เกี่ยวอะไรกับพี่ดิว
รุ่นน้องสามคนไม่ขยายความอะไรต่อ กลับผลักเขาให้ออกจากบริเวณหน้าห้องซ้อมถอยหลังเข้าไปยังโรงกลึงเรื่อยๆ
“กูเป็นรุ่นพี่มึงนะ” เขาพูดออกไปหมายจะให้มันรู้ตัว ...ทั้งที่ไอ้สามคนนี้มันรู้อยู่แล้ว
พวกมันแสยะยิ้มหักนิ้วมือกรุบกรอบเชิงบอกให้เขาเตรียมตัวล่วงหน้า ไอ้แก้วโดนเล่นงานแน่ เขากลืนน้ำลายเฮือก แค่คนเดียวก็คงสู้ไม่ไหวนี่สามรุมหนึ่งเลยเหรอ
“ทำอะไรกัน?!” แสงไฟสว่างขึ้นพร้อมกับเสียงเข้มของใครบางคนดังจากข้างหลัง แก้วรีบหันไปมอง พี่โซ่...
“เหี้ยทำไมมึงไม่ดูให้ดีว่ามีคนรึเปล่า”
“มืดขนาดนี้ใครจะไปสังเกตวะ”
รุ่นน้องสาย๓Tหน้าเสียโบ้ยกันไปมา ไม่แปลกหรอกที่จะไม่รู้ว่ามีใครอยู่ในนี้รึเปล่า เพราะถ้าไม่มีการเรียนการสอน ห้องนี้บางมุมจะมืดอย่างกับกลางคืนจนมองอะไรไม่เห็นเลยทีเดียว
พี่โซ่เดินมายืนข้างเขาเพียงคนเดียว ทั้งที่ข้างหลังก็เป็นกลุ่มของพี่อีกห้าหกคน มีแต่ตัวบิ๊กๆทั้งนั้น
เขาจะโดนอะไรอีกไหมเนี่ยที่ดันเข้ามาในที่ที่๙Tอยู่ตอนนี้
“มาทำอะไรที่นี่ มึงควรจะกลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” พี่โซ่หันมาถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ...ว่าแล้วเชียว
“ไม่เกี่ยวกับพี่” ไอ้คนที่ผลักไหล่เขาคนแรกตอบแทน พี่โซ่หันขวับไปมองหน้ามันทำเอามันสามคนสะดุ้งไปเลย …สม นี่พี่โซ่นะไม่ใช่ไอ้แก้ว เฮ้อ...รู้สึกเหมือนกำลังว่าตัวเองอยู่
“แต่เกี่ยวกับไอ้แชมป์ใช่ไหมวะ” พี่โซ่ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า ไอ้สามคนก็ถอยหลังไปอย่างหวาดๆ ทั้งที่พี่โซ่ยังไม่ได้มีท่าทีจะแตะตัวพวกมันสักนิด จนพวกมันวิ่งออกไปจากโรงกลึงในที่สุด
ต่อให้พี่โซ่เป็นประธานสายที่ใหญ่ที่สุดในโรงเรียน แต่พวกเรา๓T ไม่ได้เป็นเด็กของพี่โซ่ จึงไม่จำเป็นต้องเคารพ ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ บางคนถึงขนาดเกลียดพี่โซ่ยังมี แต่ถ้าเรื่องถึงหูพี่แชมป์ประธานสายเราไอ้พวกนี้มันโดนเล่นงานโทษฐานปีนเกลียวรุ่นพี่แน่ พี่โซ่เองก็คงไม่อยากจะมีเรื่องกับคนนอกสายจึงขู่ไปอย่างนั้น
ฟู่ว...แก้วถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ต้องมีเรื่องมีราวกับคนในสาย
“ไปเหยียบตีนใครมาล่ะ?” พี่โซ่เดินกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวว่าง มือกอดอก ยกขาเหยียดกับโต๊ะ เฉียดสายตามองมาทางเขาที่มองตามหลังพี่อยู่
“เปล่าพี่” เขามั่นใจว่าไม่เคยสร้างศัตรูเองที่ไหน อยู่ๆมามีเรื่องอย่างนี้ก็มึนไปเหมือนกัน
“ทีหลังจะมีเรื่องกันช่วยไปในที่ที่ไม่มีกูได้ไหม รำคาญที่จะเห็น” คำติติงจากประธาน๙T
แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงจะมีเรื่องที่ไหนเมื่อไหร่แล้วพี่อยู่ตรงไหนใครจะไปรู้ล่วงหน้า เขาเองก็ไม่ได้อยากให้ใครมายุ่งด้วยสักหน่อย
พี่โซ่เป็นคนที่เขาไม่อยากเข้าใกล้เลยจริงๆ มีดีอย่างเดียวที่พี่แกไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นเท่านั้นเอง
“...ครับ”
“ไปๆได้ละกูจะนอน” พี่โซ่เอนศีรษะวางบนหน้าขาคนในสายที่นั่งอยู่ข้างหลังพี่แก พลางหลับตาลง ไม่วายยกมือทำท่าปัดๆไล่เขาอีก
“ขอบคุณนะพี่” เขาเอ่ยปากเบาๆ
แก้วกลับหลังเดินออกจากโรงกลึง มองจากตรงนี้มันตั้งฉากกับห้องซ้อมดนตรีนี่นา ถึงจะมองไม่เห็นว่าข้างในทำอะไรบ้างแต่ก็ได้ยินเสียงเครื่องดนตรี เสียงคนร้องเพลง และก็เห็นว่าใครเข้าออกห้องนี้ได้อย่างชัดเจน
เขารู้แล้วว่าทำไมพี่โซ่ถึงมาอยู่ที่นี่...
ความมั่นใจที่พี่ภูไม่ได้คิดไปเองเพราะพี่โซ่แสดงออกให้เห็นอย่างสม่ำเสมออย่างนี้นี่เอง
แล้วเขาล่ะ ถ้าจะทำตามวิธีของพี่ เขาคงทำด้วยการไม่อาศัยความมั่นใจอะไรเลย...ต่างกันสุดๆ แต่ก็นะเขาไม่ได้คาดหวังอะไรมากกว่าทำตามที่มันเสนออยู่แล้วนี่ ...ก็แค่เขารักมัน ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน ไม่เห็นจะต้องการอะไรตอบแทนเลย ...มั้ง
แก้วเดินออกจากโรงเรียนด้วยความรู้สึกแปลกๆ แปลกกับสายตาของเด็กช่างหลายต่อหลายคนที่มองมา เขาไม่ได้ระแวงไปเองแต่เขาเห็นเต็มๆตา ทั้งที่เขารู้ตัวว่าถูกมองและจ้องกลับไปยังสายตาเหล่านั้น แต่กลับไม่มีใครหลบตาเขาสักคน เกิดอะไรขึ้นทำไมทุกคนถึงมองเขาอย่างนี้
แก้วออกจากโรงเรียนนั่งรถไปลงที่บ้านตัวเอง ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านไอ้ฝิ่น งั้นเวลานี้เขาขอความเป็นส่วนตัวสักวันเถอะ
แก้วยืนอยู่นอกรั้วมองเข้าไปยังตัวบ้าน
เขาคิดถึง...คิดถึงบ้าน ให้กลับมาอยู่ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะอยู่ได้รึเปล่า
เขาคิดถึง คิดถึงอีกคนที่เคยอยู่ด้วยกัน แต่เขากลับไม่อยากจะก้าวเข้าไปข้างในตอนนี้
มันเหมือนขาดๆอะไรไปหลายอย่าง
เฮ้อ... แก้วถอนหายใจอย่างเซ็งตัวเอง ในความสับสนวุ่นวายที่เต็มหัวสมองตอนนี้ เขาคิดว่าถ้าได้มาชาร์ตแบ็ตเติมพลังจากที่นี่เขาคงมีกำลังที่จะสู้ต่อมากขึ้น แต่เอาเข้าจริงที่นี่กลับเป็นที่ที่ทำให้เขาอ่อนแอมากที่สุด ภาพเก่าๆที่เคยมีมาเป็นสิ่งทำให้เขาสั่นไหวจากข้างใน อยากอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแต่...ทางเดียวที่จะเหมือนเดิมคือต้องทำให้ได้สินะ ชำระล้างตราบาปให้ไอ้พงษ์ เมื่อสำเร็จแล้วเราก็จะใช้ชีวิตกันแบบเดิมได้อีก โดยไม่มีอะไรติดตัวและติดค้างในใจ
ว่าแล้วแก้วจึงตัดสินใจไม่เข้าไปในบ้าน เดินออกไปหน้าปากซอยเพื่อขึ้นรถเมล์เดินทางไปบ้านไอ้ฝิ่น แต่ก็แอบเตร็ดเตร่แวะข้างทางบ้างเหมือนกัน
แก้วหยิบลูกกุญแจประตูรั้วออกจากที่ซ่อนเปิดไขเข้าไปทำท่าลับๆล่อๆ ก่อนจะเก็บกุญแจไว้ที่เดิม เดินเข้าไปในบ้านปรากฏว่าบ้านล็อก แก้วรู้สึกโล่งอกที่ไม่มีใครอยู่ พลางหยิบกุญแจอีกดอกออกมาจากกระถางต้นไม้เพื่อเปิดไขเข้าไป
เขาเดินเข้าไปถึงห้องนอนไอ้ฝิ่นแล้วรีบเก็บของใช้ที่แวะซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเข้าไว้อีกตู้ที่มันให้เขาใช้ส่วนตัว
แก้วโยนถุงเข้าไปแล้วปิดตู้ นั่งคิดอะไรบางอย่าง...ถึงเขากลับมาคราวนี้ไอ้ฝิ่นมันจะไปนอนห้องรับแขกทุกคืนก็เถอะ แต่โอกาสที่มันจะเปิดตู้เสื้อผ้าเขาก็มีเพราะมันไม่ยอมขนเสื้อผ้ามันออก ในตู้หลังนี้จึงมีเสื้อผ้ามันอยู่ด้วยครึ่งตู้
แก้วจึงเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วเก็บใหม่ด้วยการเอาเสื้อผ้าที่พับอยู่ทับไว้
“เฮ้อ...” ถ้ามันไม่รื้อของอีกก็คงไม่เห็นแน่ แก้วยกมือปาดเหงื่อตรงหน้าผาก “ไอ้แก้วสู้โว้ย” พูดเบาๆอย่างคนอ่อนแรงพลางหงายหลังลงเตียงแล้วเอามือมาแตะหน้าอกข้างซ้ายที่หัวใจมันกำลังเต้นแรงตามความคิดอีกแล้ว
..................................................
อัพที่ทำงาน...
เย้ เย้ เป็นไทแล้ว //จุดพลุ จุดพลุ
สัปดาห์หน้าไม่อยากจะบ่นอะไรไว้เลย เพราะนั่งๆลูบคอตัวเองอยู่ (ซีซั่นลูบคอตัวเองเป็นประจำ) ดันรู้สึกเจ็บและรู้สึกคอโตขึ้นมาซะงั้น น้ำตาร่วงเผาะๆ (โอเวอร์แอคติ้ง ฮา) คือตัวเราเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษอยู่แล้ว แต่ขาดยาไปนานมากกก แต่ก็ระแวงตัวเองอยู่ประจำเพราะไม่อยากเป็นอีก(ซึ่งรู้ตัวดีว่าไม่ได้หายขาด) จับๆคออยู่แล้วเจ็บความคิดแรกคือ ไทรอยด์แน่เลย ไม่เอานะ ไม่เอา ฟูมฟายใหญ่โต แต่มาวันนี้เสียงหาย เฮ้ย ไทรอยด์คงไม่เป็นแล้วแต่ได้หวัดมารับประทานแทน ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจเพราะไม่ว่าจะเป็นอะไรขึ้นมาซีซั่นจะเลเวลต่ำลงไปยันติดลบ (อดีตเด็กช่างบอกว่าสำออย...-*- )
คนอ่านรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
เจอกันอีกที ...ไม่รู้วันไหน ฮ่าๆ แต่ก็สู้ๆอยู่ เป็นคนไม่ค่อยรับผิดชอบอะไรเท่าไหร่หรอก แต่รู้ว่ามีคนติดตามอ่านเรื่องที่ตัวเองเขียน(เขียนไม่ค่อยรู้เรื่องอีก)มันก็ทำลายน้ำใจคนอ่านไม่ได้จริงๆ ขอบคุณมากนะคะ
:man1:ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์มากค่ะ^^ กอดๆจุ๊บ >3
-
สงสารแก้วจัง
:L2: :L2:
-
^
^
อย่าสงสารแก้วเลยยย มันทำตัวมันเอง มันเลือกที่จะมองและทำต่างจากมุมมองของเราอะนะ
เพราะงั้น อย่าสงสารแก้ว (คนเขียนจะได้จัดเต็มแบบไม่ต้องระแวงหลัง กร๊ากกก)
V
V
ขอบคุณคร๊าบบบ :กอด1:
V
V
-
อย่าหักโหมนะครับ ซีซั่น เดี๋ยวอาการจะแย่เอา ไงก็สู้ๆนะครับ
-
พี่ภู บอกอะไรแก้ว อร๊ายยยยยยย แล้ว แก้ว ซื้ออะไรมาซ้อนไว้ถึงกลัวฝิ่นเห็นล่ะหึ :o8:
-
แก้วจะทำยังไงให้ฝิ่นเชื่อเน้อ
:z2: :z2: :z2: :z2:
-
:L1: แก้วสู้ๆๆๆๆ
-
ไอ้พี่ดิว จะทำไรวะ
:z6: :z6: :z6:
-
อย่าจัดให้แก้วมากน้าา
คนอ่านจะขาดใจ :monkeysad:
-
พูดว่ารัก
แสดงออกให้เห็นว่ารัก
แต่ยังไม่ได้รู้สึกรัก หรือยังไม่รู้ตัว
หงุดหงิดแก้วเล็กๆ
:pig4: :กอด1:
-
อะไรหนอ ที่คู่ควร หวังว่าจะหวานนะ :o8:
แต่ก็เหมือนพายุดิววีนกำลังมา o21
อยากอ่านภู-โซ่ ๆๆๆ o9
+1จ้า
-
อ๊าย พี่โซ่เท่ได้ใจ
รู้สึกจะกรี๊ดได้ทุกคน ยกเว้นไอ้พระเอก
พี่ภูสอนอะไรน้องแก้วหนอ คาดว่าไอ้พี่ฝิ่นจะได้ประโยชน์เต็ม ๆ ใช่ไหม
-
แก้วจะทำยังไงน้อออออ...รอลุ้นๆๆ
-
ภูบอกให้แก้วใช้วิธีไหน พอจะเดาๆ ได้จากที่คนเขียนให้คีย์เวิร์ดคำว่ารังเกียจมา
แต่ไอ้ของที่ซ่อนในตู้เนี่ยมันอะไรกันค้า :z3: คนอ่านไม่กล้าแม้แต่จะเดาเลยจ้า (แม้แก้วมันจะกล้าทำตามที่ภูบอกก็เถอะ) :z3:
แก้วโดนเด็ก 3T เล่นงานซะละ ไอ้พี่ดิวแม่งไม่เป็นลูกผู้ชายเลยว่ะ รู้ๆ ก็รู้อยู่ว่าแก้วมันอ่อนแออะ
เดี๋ยวคนอ่านจะขี่ม้าสามศอกไปบอกพงษ์ซะเลยนี่ :angry2:
-
แก้วจะเอาตัวเข้าแลกเหรอ
-
ไอ่เ- ี่ย พี่ดิว โดน ไอ่ ดี กรอกหู มาผิดๆ
ไอ่ดีต่างหากจะ ปล้ำ แก้วว ว ว
ดิวนี้ ไม่ใช่พระเอกยังจะ โง่ อีกนะ
-
พี่ภูแนะนำอะไรไปเนี่ย!? :z1:
อยากอ่านตอนพิเศษพี่โซ่พี่ภูจัง
ใกล้จะถึงวันนั้นแล้วใช่มั๊ยแก้ว :impress2:
ทำให้ฝิ่นติดใจให้ได้นะ o18
ปล.หายเร็วๆนะคะ
-
ไอ้ดิวมันก็เหี้ยตัวนึง
เมื่อไม่ได้สิ่งที่มันต้องการ มันก็ไม่ได้มีดีอะไรเหมือนกับไอ้พงษ์
-
โว้ว ดิวเริ่มปฏิบัติการเลวแล้ววุ้ย o3
แต่สงสัยว่าแก้วซ่อนอะไรไว้ในตู้ :z1:
-
อยากรู้ว่าแก้วซ่อนอะไรเอาไว้
ตอนนี้แก้วไม่มีไอ้ดิวคอยคุ้มกัน
มันก็ยิ่งอันตรายใหญ่เลย
เกลียดไอ้ดิวมันจริงๆ
+ 1 นะคะ
-
แก้ว จะทำอะไรว่ะ
:L2:เป็นกำลังใจให้คนเขียน
-
โห้ยยย เอาตัวแลกกก ลิงๆๆๆ
-
:m16:
รู้สึกเกลียดไอ้สองพี่น้องตัว ด จริงๆเลย :เฮ้อ:
-
แก้วสู้ๆ
-
อิดิวแบบนี้เค้าไม่เรียกว่ารักย่ะ ถ้ารักจริงๆต้องปกป้องแก้ว ไม่ใช่เค้าว่าไม่สน แล้วมาทำตัวแบบนี้ แ่ย่มากกกก :m16:
น้องแก้วจะเอายังไงต่อไป อยากอ่านต่อไวไว ^^
ขอบคุณมากค๊า
-
...สรุปแก้วเริ่มชอบฝิ่นจริงๆๆแล้ว พี่ดิวเริ่มออกฤทธิ์แล้ว ที่นี้จะมีใครช่วยได้ล่ะ
...ตอนนี้โชคดี ที่เจอพี่โซ่ช่วยเอาไว้ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือ บังเอิญ แต่ก็ถือว่าโชคดี
...น้องซีซั่น รักษาสุขภาพนะ คนเป็นไทรอยด์มันจะเดี๋ยวอ้วน เดี๋ยวผอมเนอะ เห็นเพื่อนเป็นอยู่ ไข้หวัดหายไวๆๆจ้า:L2:
-
แก้วเอ๊ยยยย สู้ สู้ นะลูกนะ :กอด1: ทีนึง
-
อ๊ากกกกกก ผมติดเรื่องนี้มากๆเลยครับ ชอบเรื่องเด็กช่าง :sad4: โคตรจะสงสาร แก้ว :o12:
แก้วเป็นนายเอกที่ผมชอบมากครับ ทั้งความคิด การกระทำ และบุคลิก ใช่เลย :-[ :o8:
ติดตามเรื่องนี้ต่อไปนะครับ คนเขียนสู้ๆ o18
-
แก้วจะไม่เป็นไรนะ :monkeysad:
-
2ด นี่น่า :beat:มาก
เฮ้อ แก้วมันทำตัวเองจริงๆ แหละ
-
พี่ดิวนี่ สุด ๆ อะ แก้วไม่รักแล้วทำยังนี้อะนะแต่ก็สมควรแล้วที่แก้วไม่รัก
แก้วเอาอะไรไปแอบในตู้อะ....
-
อิพี่ดิวนี่มันร้ายนะ จัดการมันเลยดีมั๊ย :pigangry2: :pigangry2:
-
ดิว ไมทำงี้อ่ะ!
-
แก้วเอ๊ย ทั้งศึกในศึกนอก จะรับมือไหวไหมเนี่ย ยิ่งตัวคนเดียวออยู่ด้วย
ตอนนี้อยากให้พงษ์อยุ่ด้วยจัง เพราะเหมือนพงษ์เป็นคนเดียวที่หวังดีกับแก้วจริงๆ :z3:
-
เพิ่งอ่านทัน ชอบเรื่องนี้มากค่ะsmดี ฝิ่นซาดิสต์จริงๆ จะสงสารแก้วดีมั้ยฮ่าๆ
-
แก้วน่าสงสาร :m15: :monkeysad:
ฝิ่นแก้วไม่เหลือใครแล้วนะ แกต้องดูแลแก้วดีๆนะเฟ้ย
ห้ามมาทำให้เสียใจนะ :angry2:
-
รู้สึกกลัวแทนแก้ว เวลาอยุ่ในโรงเรียน :serius2:
ปล. ชอบพี่ภูกับพี่โซ่จัง เหมือนพ่อแม่ที่คอยอยู่เคียงข้างแก้ว (คนอ่านคิดเองเออเอง ฮ่าๆๆ)
-
ไอพี่ดิวมันต้องบอกอะไรกับพวกรุ่นน้องแหงๆ ลูกแก้วระวังตัวด้วยน้าา
ยิ่งบอบบางอยู่ เป็นห่วงๆ*-*
-
พี่โซ่จะเท่เกินไปหรือเปล่า
ไม่ชอบดิวเลย :angry2:
คิดถึงแสนนน ของที่แก้วซื้อมาคงไม่ใช่ตัวช่วยหรอกนะ
-
รอๆๆๆๆๆนะคร้าบบบบ
-
อยากอ่านnc =__= haha
เหมือนว่าแก้วจะรักพงษ์?
แบบว่าเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ
ไม่รู้ใจตัวเองอะไรงี้ แต่เชียร์ฝิ่น
ฮิฮิฮิ คนเขียนสู้ๆนะคะะ
-
แก้วสู้ๆๆๆๆๆๆ สงสารแก้วอ่ะ
ปล.อยากอ่าน โซ่-ภู จัง ^^
-
ไอ้พี่ดิวนี่"หมาหวงก้าง"ชัดเจนเลย
-
^^
-
รอครับ
-
แสดงว่าคนในร.ร.คงไม่ชอบพี่ดิวเยอะ แล้วก็ไม่ชอบแก้วไปด้วยมั้ง -*- สู้ๆนะแก้ว T^TQ
แต่ไม่อยากให้แก้วทำตามพี่ภูเลย ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่เพราะพี่ภูเตือนไว้ อย่าทำเลยนะแก้ว
ขอบคุณค่ะ
ปอลิงโซ่กะภู กรี๊ดดดดดด ><
-
:เฮ้อ:ดิวจะเปลี่ยนไปเป็นคนไม่ดี เพื่อให้แก้วมาสนใจหรือ แบบนี้ไม่ยิ่งทำให้แก้วลำบากใจหรือไงนะ :เฮ้อ:
-
หน้า 37 คืนนี้มา แน่ ๆ ย่อง ๆ :m7: รอ :m24: คนโพส
:L2: :L1: :L2:
-
มารอๆ
:z2: :z2: :z2:
-
เข้ามาดักรอผู้เขียน เอิ้กส์ๆ
-
เกิดเป็นแก้วนี่มันลำบากแท้น้อ :เฮ้อ:
เริ่มหมดศรัทธาในตัวพี่ดิวลงไปทีละเล็ก ทีละน้อย ชิๆ :m16:
-
ชอบๆๆ สนุกดีคับ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจระบบ สายอะไรนั่นซะเท่าไรก็ตาม
เป็นกำลังใจให้นะคับ มาต่อเร็วๆนะ รอ,,รอ,,,รอ
-
เย้ๆๆๆๆๆ
อ่านทันแล้ว
ว่าแต่ของที่ซื้อมาอะ ไอ้นั้นใช่ปะ ^__^
-
หืมมม มีมาดักรอด้วย ฮ่าๆๆๆๆ (หัวเราะทั้งน้ำตาY^Y) ปกติต้องอัพเมื่อคืนแล้วสินะ
ไอ้เรื่องไม่สบายไม่ใช่ปัญหาละตอนนี้ แต่ flash drive ของตัวเรา(หรือของสาธารณะวะ)น้องเอาไปลงเกมส์ นิยายที่เขียนๆไว้ โดนไวรัสหายเกลี้ยง!!
เดี๋ยววันนี้นั่งปั่นก่อนนะ งานการไม่ทำละ นิยายหายโว้ยยย
รวมถึงพี่ภูพี่โซ่ที่เขียนมาก่อนเรื่องนี้ก็หายไปด้วย หาย...หาย...หายไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
พล็อตอื่นๆที่เขียนไว้ก็หายไปด้วย :m15: ไปหมดเลย ...Rep :z3:
-
หืมมม มีมาดักรอด้วย ฮ่าๆๆๆๆ (หัวเราะทั้งน้ำตาY^Y) ปกติต้องอัพเมื่อคืนแล้วสินะ
ไอ้เรื่องไม่สบายไม่ใช่ปัญหาละตอนนี้ แต่ flash drive ของตัวเรา(หรือของสาธารณะวะ)น้องเอาไปลงเกมส์ นิยายที่เขียนๆไว้ โดนไวรัสหายเกลี้ยง!!
เดี๋ยววันนี้นั่งปั่นก่อนนะ งานการไม่ทำละ นิยายหายโว้ยยย
รวมถึงพี่ภูพี่โซ่ที่เขียนมาก่อนเรื่องนี้ก็หายไปด้วย หาย...หาย...หายไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
พล็อตอื่นๆที่เขียนไว้ก็หายไปด้วย :m15: ไปหมดเลย ...Rep :z3:
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :o12: (ร้องไห้วิ่งไปซบพี่ไม้)
ยังไงก็รอนะคะ o13
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๕
“เบอร์พี่ดิว” แน่นอนอยู่แล้วพี่ดิวบอกเองว่าโทรมาแล้วคนรับสายพูดจากวนตีน
แก้วเลื่อนมือถือดูเบอร์อื่นต่อ
“เบอร์พี่ภู” โทรมาทำไม? เมื่อวานไปเจอก็ไม่เห็นพูดถึงนี่ ...แต่คนๆนี้เคยมีธุระอะไรด้วยเหรอ แก้วคิดเพียงครู่ ...เดี๋ยวค่อยโทรกลับก็ได้ แล้วตอบตัวเอง
“.............” เบอร์ไอ้ฝิ่น แน่ล่ะ ถ้ามันไม่โทรมาฉะกับพี่ขวัญมีเหรอเขาจะได้มือถือคืน
ฝิ่นบอกว่าโทรหาเขาตั้งแต่วันที่อยู่กับพี่ดีแล้ว แต่คนรับสายพูดจากวนตีน ยั่วโมโหมัน มันพูดด้วยไม่รู้เรื่อง
อืม...เขาก็เคยคิดว่าถ้าสองคนนี้มาเจอกันก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว มันเลยไม่อยากคุยด้วย แต่อยู่ดีๆมันก็เอารูปพี่ขวัญยืนคุย
โทรศัพท์ซึ่งเขาดูไม่ออกหรอกว่าโทรศัพท์ที่แนบหูพี่มันของเขารึเปล่า แต่ไอ้ฝิ่นบอกว่าใช่ เขาจึงต้องใช่ตามใจมัน
มันเลยท้าให้เขามาเจอกับพี่ขวัญเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือคืน และตามมานั่งข้างๆเพื่อยืนยันว่าที่มันพูดน่ะเป็นความจริง
ที่แท้มือถือก็หล่นอยู่ในรถพี่ขวัญนี่เอง
แต่เขาอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมพี่ขวัญไม่ฝากโทรศัพท์ไว้ให้เขาตั้งแต่เมื่อวานเพราะรู้ทั้งรู้ว่ายังไงเขาก็มาทำงานที่โรงแรมอยู่แล้ว
“พี่ไม่โทรมาเหรอ” แก้วหมายถึงพงษ์แต่ไม่อยากพูดชื่อเพราะไอ้ฝิ่นนั่งวาดรูปฟันเฟืองอยู่ข้างๆ ถึงมันจะดูตั้งอกตั้งใจกับกระดาษที่มันวาด แต่นั่งติดกันขนาดนี้พูดอะไรออกไปมันก็ได้ยินอยู่ดี
“เปล่า” พี่ขวัญยักไหล่ทำเหมือนไม่ใส่ใจก่อนจะหันไปมองทางอื่น แก้วจึงเปลี่ยนจากไล่ดูเบอร์โทรเข้าโทรออกช่วงที่มือถือไม่ได้อยู่กับตัว เลื่อนไปกดเมนูข้อความเพื่อเช็คดูปกติ
‘รอนะ’
ข้อความสั้นๆที่ส่งจากเบอร์โทรต่างประเทศซึ่งถูกเปิดอ่านไปแล้วปรากฏขึ้น
แก้วเงยหน้ามองพี่ขวัญตาขวาง
นาทีนี้เขาไม่สนใจพี่แล้ว และไม่สนใจไอ้คนที่นั่งข้างๆด้วย แก้วกดเบอร์โทรออกไปยังเจ้าของข้อความที่ส่งมาให้ทันที
...
...
มีเสียงรอสาย แต่ไม่มีคนรับ
...
...
แก้วกดซ้ำๆอีกสองสามรอบ แต่ก็ยังไม่มีใครรับสายอยู่ดี
...
...
อะไรของไอ้พงษ์อีกวะ ข้อความก็แค่สองคำสั้นๆ ไอ้รอน่ะรออยู่แล้ว ไม่เห็นต้องส่งข้อความมาเตือนความจำเลย
แต่ตอนนี้หลังจากที่ติดต่อมันไม่ได้มาสักพักเขาเพียงแค่อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง สบายดีไหม และเขาอยากคุยกับมันให้ได้สบายใจเพียงเสี้ยวนึงก็ยังดี
แต่โทรติดต่อก็ลำบากมากขึ้นทุกวัน นี่เขาต้องรอมันโทรมาอย่างเดียวแล้วใช่ไหม
แก้วหน้าหงอยลงทันตาก่อนจะมองหน้าพี่ชายตัวเองอีกครั้งตาละห้อย
แต่พี่ขวัญกลับลุกเดินออกไปซะดื้อๆ
“กวนตีน” ไอ้ฝิ่นเงยหน้าวิจารณ์พี่ขวัญตามหลังก่อนจะพับกระดาษที่มันวาดอย่างลวกๆยัดใส่กระเป๋า
กางเกงและเก็บปากกาไว้ที่กระเป๋าเสื้อฉ็อป แล้วลุกยืน “เสร็จธุระรึยัง”
ฝื่นถามแก้วจึงลุกตามอย่างไร้อารมณ์ ...คือไม่อยากจะคิดอะไรแล้วตอนนี้
แก้วเดินตามหลังฝิ่นออกจากโรงแรมของพ่อ ทั้งคู่เดินข้ามถนนไปรอขึ้นรถประจำทางเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายถัดไป
“อะไรของมึงเนี่ย ทำหน้าอย่างกับจะขาดใจตาย” ไอ้ฝิ่นหยิบแว่นตากันแดดมาใส่ แก้วเหล่ตาไปมอง
“เฮ้อ...” แก้วไม่ได้ตอบ เขาขอความสงบเงียบสักพักได้ไหม เขาอยากรู้ทำไมไอ้พงษ์ถึงไม่โทรหาเขาเลย
แถมข้อความสั้นๆของมันอีก มันต้องการจะบอกอะไรที่มากกว่านั้นรึเปล่า หรือแค่ส่งมาเป็นกำลังใจให้เขาเฉยๆ
“ไอ้แก้ว!”
“...เปล่า รีบไปเถอะให้ผู้ใหญ่รอนานไม่ดี” คำตอบคือไม่ได้ เกิดเป็นไอ้แก้วอย่าได้มีแม้แต่เวลาคิดเลย...
ฝิ่นดันหลังแก้วให้ขึ้นรถก่อน แก้วจะเดินไปนั่งแถวเบาะหน้าแต่ไอ้ฝิ่นดึงคอเสื้อเขาแล้วพาเดินไปนั่งเบาะหลังๆ
โดยให้เขานั่งติดหน้าต่าง
คือ รถเมล์สายนี้มันไม่ใช่สายประจำทั้งของเขาทั้งของไอ้ฝิ่นน่ะนะ แก้วอยากทักท้วงแต่คิดว่าไอ้ฝิ่นมันน่าจะรู้ดี
โอเค ไม่สนก็ไม่สน สายป่านนี้หวังว่าคงไม่เจอนักเรียนช่างเจ้าถิ่นแล้วล่ะมั้ง
“มึงโกหกกูรึเปล่าเนี่ย”
“อะไร?” แก้วละสายตาจากการมองออกไปนอกหน้าต่างหันมาทางฝิ่นกลับต้องผงะเมื่อไอ้ฝิ่นมันมองเขาอยู่ก่อนแล้ว ถึงจะผ่านแว่นดำก็เถอะ
แต่...เขาคิดมากไปแล้วนี่นา อะไรๆมันเลยดูจะไม่ปกติไปหมดอะนะ
“ก็หน้าตามึงไม่เห็นเหมือนไอ้นั่นเลย ให้บอกว่าเป็นคู่ขายังจะน่าเชื่อมากกว่าเป็นพี่น้องกัน” แก้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับมัน
ดูไอ้ฝิ่นพูดจาแต่ละทีมันน่าให้เขาหลงรักเสียเหลือเกิน
แก้วได้แต่ระงับอารมณ์ตัวเองด้วยการหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างอีกรอบ
เขาไม่อยากเสียความตั้งใจเพราะปากมันหรอกนะ ถึงจะรู้สึกน้อยใจในสิ่งที่มันคิดอยู่บ้างก็ตาม
“เฮ้ย!” แก้วหันมามองหน้าฝิ่นอีกรอบ ลนลานจับเสื้อฉ็อปฝิ่นถอดออก ไอ้ฝิ่นขัดขืนไม่ยอมให้ถอดง่ายๆ
“ทำอะไรของมึง” สองมือถูกจับให้ค้างอยู่อย่างนั้น แก้วมองมือตัวเองภายใต้การกอบกุมของฝิ่นถึงกับหน้าร้อนวูบ
...อย่า ตื่นเต้นได้แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้
“ถอดออกก่อนเร็วๆ” แก้วสะบัดหัวเรียกสติพูดบอกในขณะสายตายังมองสลับไปที่ประตูรถเมล์ มือยังวุ่นกับจะถอดฉ็อปฝิ่นให้ได้ จนไอ้ฝิ่นมันถอดออกให้เอง
แก้วรีบพับแล้วพันๆฉ็อปมาถือเอาไว้ข้างตัวฝั่งด้านในก่อนจะฉกแว่นตาสีดำที่มันใส่แล้ว...ก็เท่นะแต่ตอนนี้คงจะดูกวนตีนมากกว่า แก้วเอามาเก็บในมือข้างเดียวกัน
ไอ้ฝิ่นไม่ต้องเสียเวลาถามเขาอีกให้มากความเมื่อรถเมล์จอดป้ายข้างหน้าสนิทแล้วนักเรียนในชุดฉ็อปเจ้าถิ่นขึ้นรถมาห้าคน
แก้วนั่งก้มหน้ามือซ้ายกำเสื้อฉ็อปมือขวากำแน่นเกร็งไว้บนหน้าขา ในขณะที่ฝิ่นกดโทรศัพท์มือถือเล่นอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
แล้วไอ้พวกต่างสถาบันมันก็เดินมานั่งเบาะตัวยาวหลังสุด เขาไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าที่รู้สึกถึงสายตาคนกลุ่มนี้มองเขากับไอ้ฝิ่นอยู่ตลอด
...แน่ละถึงจะแต่งตัวเหมือนกันแต่มันต้องมองออกอยู่แล้วว่าเรียนคนละที่ ไอ้พงษ์เคยบอกว่ากลิ่นสถาบันมันต่างกัน แต่จะรู้รึเปล่าว่าสถาบันไหนนั้นเขาไม่แน่ใจ
...กลุ่มคนข้างหลังนั่งเงียบจนแก้วใจคอไม่ดี ไปนั่งแถวหน้าก็ปลอดภัยแล้ว แต่ถ้าลุกออกตอนนี้ก็จะกลายเป็นพิรุธเห็นๆ
ทำไงดีๆ เขาไม่ชอบเผชิญหน้ากับเด็กช่างต่างสถาบันเลย มันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ตลอดเวลา
“ .......................” แก้วมองมือตัวเองที่ถูกมือซ้ายของคนที่นั่งข้างๆกุมไว้หลวมๆพอหันไปมองเจ้าตัวกลับ
ยังกดมือถือเล่นอยู่ด้วยมือข้างเดียว
ถ้าจะเข้าใจไปเองว่ามันกำลังปลอบเขาได้ไหมนะ ...แต่มันไม่เห็นจะสนใจเขาเลยด้วยซ้ำนี่
“ลงกัน” แก้วพูดเบาๆมองหน้าด้านข้างฝิ่น ไอ้ฝิ่นกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะยกมือออกจากมือเขาแล้วลุกยืน
เฮ้ย ถ้ารู้ว่าพูดง่ายขนาดนี้เขาบอกมันลงตั้งนานแล้ว
แก้วรู้สึกถึงทางโล่งโปร่ง การที่กลุ่มคนซึ่งนั่งข้างหลังเงียบๆอยู่ใช่ว่าจะเป็นสัญญาณดีซะที่ไหน ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นเรา คือหมายถึงต่อให้เป็นถิ่นเขา เขาก็ไม่สู้อยู่แล้ว อีกอย่างไม่ใช่ถิ่นไอ้ฝิ่นด้วย แถมมากันแค่สองคนขืนโดนเล่นงานมีแต่เละกับเละเป็นแน่
“เดี๋ยว” กลุ่มนักเรียนต่างสถาบันลุกเดินมาขวางทางออก ซึ่งก็คือตรงหน้าไอ้ฝิ่น แก้วที่เพิ่งยืนตามรีบเอาฉ็อปไปแอบไว้ข้างหลัง แต่ฝิ่นกลับเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงอย่างใจเย็น
“มีอะไร?” มันถามคนพวกนั้นแบบนิ่มๆ
“๕Xใช่รึเปล่า”
“แล้วยังไง?” ไอ้ฝิ่นไม่ตอบเปล่าๆแต่ผลักอกไอ้คนที่ถามจนมันถอยไปล้มใส่เบาะนั่งตัวตรงกันข้าม
เอาแล้วไง จนได้สิน่า...
ผู้โดยสารคนอื่นๆเริ่มส่งเสียงดังและลุกออกจากเบาะนั่งของตัวเอง เฮโลพากันไปกดกริ่งเพื่อจะลงจากรถและมองเหตุการณ์อย่างหวาดระแวง
ฝิ่นกระชากมือแก้วดึงตัวให้ออกมายืนอยู่ข้างหลังมัน แล้วผลักให้เขาไปอยู่รวมกับผู้โดยสารคนอื่นๆที่จะลงจากรถ แต่ตัวมันกำลังเริ่มแลกหมัดกับห้าคนนั่นอยู่
รถเมล์จอด ผู้โดยสารต่างพากันรีบลงจากรถเพราะกลัวโดนลูกหลงซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ประจำ
แก้วเองก็เคยวิ่งก่อนคนแรกมาแต่ไหนแต่ไร แต่ตอนนี้กลับลังเลเมื่อเห็นไอ้ฝิ่นกำลังจะเสียเปรียบ
“เฮ้ยพวกมึงหยุดเลยๆ พ่อแม่ส่งให้เรียนหนังสือเสือกมาทำตัวเป็นอันธพาล” คนขับรถเมล์เดินมาพูดห้ามแกมด่าแต่ก็ไม่กล้าเข้าแยก
เอาวะต่อให้ฝิ่นมันบ้าแค่ไหนเขาก็ไม่อยากเห็นมันตายไปต่อหน้าต่อตาหรอก
สองมือแก้วกำหมัดแน่นก่อนจะทิ้งเสื้อฉ็อปพร้อมแว่นกันแดดลงเบาะนั่งหมายจะเดินเข้าไปสู้กับไอ้พวกหมาหมู่ทั้งห้าแต่โดนไอ้ฝิ่นทั้งเตะทั้งต่อยอย่างสบายมือ
หนึ่งในห้าจ้ำเดินมาทางเขาทั้งยกกำปั้นเหวี่ยงหมัดเข้ามากลางใบหน้า
...แก้วเอาแขนที่ยกบังหน้าตัวเองลงถึงเข้าใจว่าทำไมยังไม่เจ็บเมื่อมองหาไอ้พวกหมาหมู่ทั้งห้าไม่เจอเพราะโดนพวก๕Xรุมซ้อมล้อมเตะกองอยู่ที่พื้นหมดแล้ว
พวกมันห้า พวกของไอ้ฝิ่นเป็นสิบ ...พวกมากได้เปรียบจริงๆ
“เหี้ย กว่าจะมากันได้ไม่ปล่อยให้กูโดนซ้อมตายก่อนล่ะ” ไอ้ฝิ่นโวยก่อนจะเดินลงจากรถไปก่อน แต่จะให้
ดีกว่านี้ไอ้ฝิ่นมันไม่น่าไปผลักเขาก่อนเลยนะ ถ้าลองพูดกันดีๆบางทีอาจไม่มีเรื่องก็ได้...มั้ง
แต่แก้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่พวกของฝิ่นมาทันเวลา ก่อนจะหยิบฉ็อปพร้อมแว่นกันแดดแล้วเดินตาม
มันลงไป แล้วพวกบนรถที่เหลือจึงทะยอยลงมายืนตรงป้ายรถเมล์ที่ประธานสาย๕xหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ
“ขอโทษพี่ ก็วันนี้พี่บอกไม่ต้องตามไง”
“แต่กูเรียกมึงด่วน มึงเข้าใจคำว่าด่วนไหม ห๊า!” ไอ้ฝิ่นหันหน้ามาตะคอกคนในสายด้วยท่าทีหัวเสียก่อนจะหันกลับไปมองถนน
“เอาน่ามึงก็ไม่เป็นอะไรนี่หว่า ปากแตกนิดๆหน่อยๆขำๆ” ถ้าจำไม่ผิดคือคนที่โทรศัพท์ตามไอ้ฝิ่นในวันที่เขาอยู่ม่านรูดนี่
“ขำเหี้ยมึงสิ!” ปากมันต่อว่าทั้งยังคาบบุหรี่อยู่ มือก็เอื้อมมาหยิบเสื้อฉ็อปกับแว่นออกจากมือแก้วไปสวมใส่ ก่อนจะโบกมือเรียกรถแท็กซี่
“แยกย้ายใครมัน” ฝิ่นบอกพรรคพวกตน ส่งบุหรี่ให้เพื่อนมันแล้วกระชากแขนเขาขึ้นรถแท็กซี่ตาม
มันใจร้อนเขารู้ แต่ที่เขาเห็นมันกดมือถือเล่นบางทีคงกำลังตามพวกมันอยู่เพราะยังไงก็ต้องโดนแน่ๆ แต่เอาโดนแล้วตัวเองปลอดภัยคงดีที่สุด
เขากลับดันสะกิดชวนมันลุกซะก่อนเลยทำให้มีเรื่องกันไวขึ้น แล้วคงตามสันดานไอ้ฝิ่นด้วยล่ะ ถึงว่ามันลุกให้เขาง่ายจัง
แก้วเอื้อมมือไปเกลี่ยเลือดออกจากแผลมุมปากฝิ่นเบาๆ ไอ้ฝิ่นหันมามองเขาชะงักนิดนึง ...มันคงจะเจ็บ
แก้วจึงตั้งใจเกลี่ยให้เบามือกว่าเดิม
“พอ” ฝิ่นจับมือเขาออกเหมือนไม่อยากให้ยุ่งกับหน้ามัน แก้วเม้มปากนิดนึงเพราะรู้สึกแย่ ถ้าเขามาคน
เดียวปกติแล้วจะนั่งรถแถวเบาะหน้าๆตลอด แต่นี่ไอ้ฝิ่นมาด้วย มาเพื่อเอาโทรศัพท์เขาคืนจากพี่ ทั้งที่แถว
นี้มันต่างถิ่นแท้ๆ เลยมีเรื่องจนได้ เขานี่เป็นตัวซวยรึเปล่าวะ แก้วอดจะต่อว่าตัวเองไม่ได้
จากที่หงอยเพราะติดต่อพงษ์ไม่ได้ แก้วจึงหงอยเพราะคิดว่าตัวเองเป็นตัวปัญหาอีกรอบ
“มึงจะไปอู่ก็ไปเลยนะ แต่กูจะเข้าบ้าน ให้พ่อเห็นกูสภาพนี้ไม่ได้หรอก”
วันนี้เขานัด ไม่สิ พ่อฝิ่นนัดให้เขาไปฝึกงานที่อู่ซ่อมรถวันแรกหลังจากที่พ่อมันถามว่าเขาฝึกงานที่ไหน
แล้วแก้วตอบไปตามจริงคือฝึกที่โรงแรมพ่อตัวเอง
แต่พ่อฝิ่นเห็นว่าเข้าไปเป็นเด็กเส้นขนาดนั้นคงจะไม่ได้เรียนรู้งานอะไร ซึ่งก็ถูกตามนั้น พ่อของมันจึงจะให้
เขาไปฝึกงานที่อู่ซ่อมรถแทน ...ซึ่งงานนั้นมันคนละสายวิชาที่เขาเรียนมาเลย
เขาลังเล ยังไม่ได้ตกปากรับคำด้วยซ้ำแต่พ่อมันบอกว่า “เอาตามนี้นะ” เขาจึงไม่กล้าขัด
แต่เขาก็ไม่มีผลเสียในการย้ายที่ฝึกงานอยู่แล้วนี่ คงมีอะไรให้ทำมากกว่าไปนั่งดูพนักงานทำงานอย่างเปล่าประโยชน์อะนะ
แล้วอีกอย่างตั้งแต่เข้าโรงแรมเจอหน้าพ่อนับชั่วโมงได้เลย ...ก็ดีจะได้ไม่ต้องหวังลมๆแล้งๆ จะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกลกัน ความรู้สึกของเขากับพ่อก็เท่าเดิมนั่นแหละ อาจจะถูกใจพี่ขวัญด้วยซ้ำ
ไอ้ฝิ่นบอกเสร็จมันก็เปิดประตูรถลงไปเลย เขาอยากจะอยู่ดูมันแต่ด้วยความที่รับปากผู้ใหญ่เอาไว้แล้วจึงต้องไปหาพ่อมันก่อน
“เดี๋ยวกูรีบกลับนะ” แก้วกลัวว่าฝิ่นจะคิดว่าเขาไม่สนใจมัน จึงตะโกนบอกก่อนจะปิดประตูรถเข้ามา
มันซึ่งหันหลังเปิดรั้วอยู่สะบัดมือคล้ายกับไล่เขายังไงอย่างนั้น เฮ้อ...พอเขาให้ความสนใจมันกลับตอบรับอย่างนี้นี่นะ
แต่เอาเถอะ ...ถ้าจะรักมันเรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องใส่ใจเลย ทำในสิ่งที่คิดว่าตัวเองควรจะทำกับคนที่รักก็พอแล้วล่ะ
รถเคลื่อนแล้ว แก้วแอบหันไปมองหลังฝิ่นอีกครั้ง ทั้งที่มันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากและมันก็เข้าบ้านแล้วด้วย ...ทำไมยังอดเป็นห่วงไม่ได้นะ
มึงรู้ตัวรึเปล่าฝิ่นว่าทำกูสับสน...สับสนว่ารักหลอกๆกับรักจริงๆตอนนี้ความรู้สึกกูที่มีให้มึงมันคืออย่างไหนกันแน่
.............................
แก้วจ๋า ตอนหน้าเดี๋ยวรู้แล้วนะลูก คนอ่านก็นะ เค้าไม่เคยเขียนNCนี่นา :o8:
พี่ไม้ พี่โซ่ ไม่ใช่พระเอกนะคะ โอย คนเขียนเพลียเหลือเกินทำไมเรทติ้งพระเอกไม่กระเตื้องเลย ฮ่าๆ ...หลังปีใหม่คงได้เจอพี่ไม้แล้วนะคะเดี๋ยวแก้วจะพาไปชม หรือจะให้พี่ไม้มาชมแก้วดี ... ฮะ ฮะ กระตุ้นคุณเฉาก๊วยซะหน่อย แต่อย่าลืมที่เราเคยบอกลับๆนะ เอิ๊กกก
หลังปีใหม่ปริศนาของพี่ไม้จะไขแล้วจ้า (สำหรับคำถามที่ซีซั่นเลี่ยงตอบคราวก่อนโน้นน) เอาไว้Talk ท้ายตอนอีกทีจะบอกว่าไขส่วนไหนนะคะ (ตอนนี้ก็วางแพลนไว้ล่วงหน้าเท่านั้น เหมือนเดิม)
พี่ภู + พี่โซ่ จะเอาตอนพิเศษมาลงให้ค่ะ (ยังไม่ได้เขียน เขียนไปหนึ่งหน้าแล้วหาย) รวมทั้งคนที่คิดถึงเจ้าแสนด้วย เย้ เย้ ดีใจมีคนชอบ เพราะซีซั่นก็ชอบแสนมากเหมือนกัน ^^ รอนิดนึง สัปดาห์หน้าคงได้อ่านกัน กะว่าคงเป็นตอนพิเศษช่วงปีใหม่เนอะ อยากให้มีอะไรหวานๆบ้างซึ่งถ้ารอไอ้คู่เอกในเรื่อง ต่อมความหวานคงเสื่อมกันซะก่อน ฮา แต่คงไม่ได้เดินเรื่องแต่แรกเริ่มนะคะเพราะพล็อตหาย ...หาย...ไปแล้ววว คนเขียนใจสลายY^Yต่อให้จำได้ลางๆก็ต้องใช้เวลา ...ไปดีนะจินตนาการของข้าเจ้า :o12:
StillLoveThem หน้าหนูก็บวมบ้าง เหมือนผู้เหมือนคนบ้างค่ะพี่ ฮ่า ไอ้อ้วนผอมน่ะไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ เพราะหนูคงไม้อ้วนไปกว่านี้แล้ว หนักสุดแค่ ๔๖ เองนะ แต่ปัญหาหนูจะเป็นเรื่องเหนื่อยหอบพวกนี้มากกว่า หนูโรคเยอะ ชินแล้วค่ะ แต่จะให้ดีก็ไม่อยากเป็นเลย รำคาญตัวเอง
ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ เป็นหวัดหายแล้ว วันอาทิตย์นอนเต็มที่เลย หายห่วงๆ
ปล.คุณโจ๊กกุ้งงงงง มาซบคนเขียนนี่งานคนเขียนหายนะ มาปลอบเค้าก็พอ ไปซบอิพี่ไม้ทำไม เฮ้อ เนียนจริงอะไรจริง
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ^^ กอดๆจุ๊บ
-
แหมๆๆๆ
แก้วรีบๆรู้ตัวเข้า
-
แก้วใจของพี่
ขนาดพี่เป็นคนนอกพี่ยังรู้เลยว่าหนูน่ะรักไอ้ฝิ่นมัน
รักจริงๆนะ ไม่ได้รักหลอกๆ :o8:
-
พระเอกทำตัวน่ารักเกิ๊นนนนน
เรตติ้งพระรองเลยกระจาย :m20:
-
รอตอนหน้าค่าาาา :z1:
-
เชียร์พี่ไม้แก้ว กับ พงษ์แก้ว 5555+
ฝิ่นมันลีลา เล่นตัวอยู่นั้นแหละ เซ็งมันละ
-
ฝิ่นก็คงกำลังสับสนเหมือนกัน ถ้ารักกันจริงๆแล้วพงษ์จะโดนเอาคืนอยู่มั้ยอ่ะ ดราม่าแน่ๆเลย
-
รอตอนต่อไป
:z2: :z2: :z2:
-
แก้วสู้ต่อไป!!! o13
เป็นกำลังใจให้ทั้งแก้วและคนเขียนนะค่ะ :L2:
-
อร๊ายยยย เขาเป็นห่วงเป็นใยกันด้วย
เออ อิพี่ฝิ่นค่อยเล่นสมเป็นพระเอกหน่อย กลัวถูกปลดกลางอากาศล่ะสิ อิอิ
-
..คุณชายฝิ่นนี่จะเอายังไง พอเค้าเริ่มสนใจเริ่มจะรัก ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เล่นตัว เนอะแก้วเนอะ
..น้องซีซั่น รักษาสุขภาพ ทำตัวเราให้แข็งแรงเข้าไว้ เราต้องปฏิบัติหน้าที่ต่างๆๆอีกนานนนนนนน เพื่อคนข้างกาย :laugh:
-
อยากรู้ความจริงที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดด
มาต่อไวๆ นะจ้ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ทำให้ลุ้นกันนะ แต่ก็ยังสงสารแก้วอยู่ดี รอตอนต่อไปนะครับ
-
คนเขียนบอกว่าแก้วจะพาไปหาพี่ไม้หรือ? ทำไมต้องไปหาพี่ไม้ด้วยฟะ :m28:
ถ้าให้เดา....ไอ้สิ่งที่จะกระตุ้นให้แก้วไปหาใครสักคนนอกจากพงษ์ก็น่าจะเป็นเพราะ....อยากรู้ อยากให้ช่วย คิดถึง (อ๊ะไม่ใช่ 55+) หรือไม่ก็ถูกเรียกให้ไปหา
พี่ไม้คงไม่เรียกแก้วให้ไปหา ฉะนั้นที่เหลือก็คือแก้วไปเพราะอยากรู้หรืออยากให้ช่วยเรื่องบางเรื่อง.....อะนะ ก็เดาไปปปปป (เคยเดาถูกบ้างมั้ยเนี่ย?) :serius2:
ว่าแต่ คนเขียนเคยบอกอะไรเราไว้บ้างนะ แน่ใจนะว่าเคยบอกอะค่ะ กั๊กตลอดแหละคนเขียนอะ เคยเฉลยอะไรกะเค้าบ้างมั้ยยยยย :a14:
พงษ์บ้าง...ข้อความที่พงษ์ส่งมา แถมแก้วยังติดต่อกลับไม่ได้ ชวนให้นึกว่าตอนนี้พงษ์กำลัง กำลัง.....เอ๊ยยยยย ถ้าเป็นแบบที่คิด ก็มันส์สิพะย่ะค่ะ พงษ์บอกให้รอ คนอ่านก็จะรอนะจ๊ะ :m26:
ว่าแต่อิพี่ขวัญมันหวงแก้วหรือหวงพงษ์กันแน่ฟะเนี่ย บุคลิกคุณเธอไม่เข้าตากรรมการจริงๆ คนเขียนบอกว่าบทจะเยอะซะด้วยสิ ยังทำใจยอมรับส่วนแบ่งเนื้อที่ในนิยายไม่ได้เลยนะ ถ้าไม่ทำให้อะไรๆ ดีขึ้น เธอออกมาน้อยๆ ก็จะเป็นพระคุณต่อสายตาของคนอ่านอย่างสูง :m5:
พ่อไอ้คุณฝุ่นนี่ก็ยังงัยกันค้า เอาว่าที่ลูกสะใภ้มาฝึกงานใกล้หูใกล้ตาแบบนี้ ตั้งใจอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าเอ่ย (นิสัยคนอ่าน แม้แต่คนแก่มันก็ยังไม่เว้น 555+ )
ตอนนี้คงไม่เม้นท์ความรู้สึกของแก้วกับฝิ่น เค้าปั๊ดตะนากันไปละ คนอ่านรอซีนเค้าฟีเชอริ่งกันอย่างเดียวเลย โหๆๆๆ
ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า :pig4:
-
อยากอ่านต่อแว้วววววววววว :impress2:
แก้วเอ้ย รักเค้าเข้าแล้วล่ะสิ อิอิ
-
รอตอนต่อไปน่ะ
:L2: :L2:
-
ชัวร์ แก้วเอ๋ย นู๋รักฝิ่นจริงๆนั่นแหละ อย่าสับสยไปเลย
-
มา นั่ง รอ ตอนต่อไป จร้า า า
-
ก็พระเอกทำตัวแบบนี้ เรตติงเลยไม่ขยับไงจ๊ะ
-
อ่านแล้วก็ลุ้นว่าเมื่อไรคู่นี้จะได้รักกันซะที
-
รักจริงๆซะแก้ว นาทีนี้ ไม่มีรักหลอกๆแล้วหล่ะ
-
หมั่นไส้ไอ้พี่ขวัญว่ะ :z6:
ปล.ส่องพี่ไม้ พี่โซ่ พี่ภู ก่อนออกจากทู้ :m3:
-
:กอด1:
-
เรตติ้งพระเอกไม่ดี อาจเป็นเพราะนักเขียน
ไม่ยอมเขียนในมุมของพระเอกเกี่ยวกับการรัก ๆ หึง ๆ หวง ๆ งี้นะ น้อยไป
เขียนให้เยอะกว่านี้ แบบคิดอะไร หึงอยู่นะ ไรงี้นะ 55
ถ้าลองเขียนรับรอง FC ตรึมม
-
แ้ก้วรักฝิ่นจริง ๆ ใช่ไหมนั่น
-
พึ่งเข้ามาอ่านค่า ฝากตัวด้วยนะค่ะ
ตอนแรกดูชื่อเรื่องอยู่สองวัน วันนี้เลยทำใจกดเข้ามาอ่าน
พูดตามตรงน่ะค่ะเปงคนไม่ค่อยชอบดราม่าเท่าไรแบบเด็กช่างอ่ะค่ะ
อ่านจบไปหนึ่งตอน อืมมมมม..............ก้อไม่เลวเหมือนกันเนอะ :laugh:
-
เห้อ!! ครบทุกรสจิงๆสินะค๊าฟเนี่ย ............. ขอสมัครเป็นสมาชิกเรื่องนี้อีกสักคนน้อ><
อ่านไปร้องไห้ไปตั้งหลายครั้ง สงสารไปหมด มีปมทุกคนเล๊ยT^T
รีบๆมาต่อด้วยนะค๊าฟฟ รอ รอ รอ ด้วยคนน้อ^^
-
ก็จริงเหะ
ไม่รุ้สึักสงสารแก้วเลยนะ
เพราะมันเลือกทำตัวเอง
แต่จะโทษมันก็ไมไ่ด้เพราะมันไมไ่ด้เป้นคนเลือกสะทีเดียว
ต้องโทษคนแต่งสิ
เพราะคนแต่งเลือกไห้มันเป้นยังงั้น เอ๊ะยังไง //โดน :z6:
ไงก็มาต่อเร็วๆนะ
อยากรุ้เรื่องพงษ์มากกว่าหายไปไหนฟร๊ะ o22
:bye2:
-
แอร๊ยยยยยย พระเอกเลวได้ใจจริงๆๆ
แค้น เคือง โกรธ อ็ากกกกก :m31:
-
ฮือออออ หวั่นไหวเข้าแล้วล่ะซิ ทั้งฝิ่นทั้งแก้วเลย
แต่ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรมากระตุ้นต่อม
เพราะฉะนั้นก็สับสนกันไปก่อน 5555
พงษ์ส่งข้อความมาแค่นั้นหมายความว่าไง
ไม่ใช่แค่แก้วที่อยากรู้ คนอ่านก็อยากรู้
หรือว่าพงษ์จะกลับมาแล้ว เห้ย เร็วไป
คงต้องรอตอนต่อ o18
-
แก้วค่ะ คนอยู่ในเกม มักมองเกมไม่ออกนะคะ รักแล้วละคะ
-
ฝิ่นก็คงสับสนไม่แพ้แก้วหรอก ใช่มั้ยซีซั่น
หรือว่า ฝิ่นไม่สับสนตั้งนานแล้ว?
รอตอนต่อไปนะค๊าบ
-
ตอนที่ 21 แอบหวานอ่ะ กิ๊วๆๆ น่าให้มี NC เร็วววๆๆ อิๆๆ :haun4:
-
จะผิดไหม
อยากจะบอกว่าแอบสงสารอีพี่ดิวอ่ะ
ถึงแม้บางครั้งจะเหลืออดกับความบ้าของพี่แก :laugh:
-
ตกลงเรื่องนี้ฝิ่น
เป็นพระเอกปล่าว
เนี่ย :z3:
-
คิดถึงแสนเหมือนกัน ออกมาตึ๋งเดียวแต่ดวงซวยโดนกระทืบ 555 ที่จริงแอบชอบโจ้อ่ะ เพิ่มบทได้มั๊ย ^^"
ตอนนี้มีประเด็นนายพงษ์มาให้ขบคิดกันอีก -*- ประเด็นเก่าก็ยังไม่เคลียร์ รอคนเขียนมาเฉลย ส่วนน้องแก้ว ก็กำลังอยู่ในช่วงสับสน แต่รู้สึกว่าบรรยากาศดูสวีท(หวีด?)มากขึ้นนะ (หวังว่าจะไม่กลัแไปเป็นแบบเก่า ให้คนอ่านสาปแช่งฝิ่นอีกนะ 555)
ขอบคุณนะคร้าบ ^^ รอตอนพิเศษ และตอนใหม่ ^3^ จุ๊บๆ ดูแลตัวเองด้วยจ๊า
-
มาต่อเร็วๆ เน้อ
รออยู่ แอบมาส่องทุกวัน
:o8: :o8:
-
แวะมาดันบอร์ดให้น้อค๊าฟฟ ^^
รีบๆมาต่อน้า รอ รอ รอน้อ^^
-
เริ่มหลงรักฝิ่นแล้วนะแก้ว
:o8: :o8: :o8:
-
พงษ์อาจจะรู้เรื่องอะไรแล้วก็ได้
เรื่องนี้มันมาม่ารสต้มกุ้งน้ำข้น จริงๆ
-
อิพี่ขวัญนี่ยังไง ไม่ใช่ว่าเอาโทรศัพท์แก้วไปทำอะไรเสียๆ หายๆ นะยะ
หรืออิพี่ขวัญจะชอบพงษ์ แล้วไอ้ "รอนะ" นี่มันอะไร จะกลับมาแล้วเหรอ
ไหนจะเรื่องไอ้บ้าพี่ดิวอีก โอย กลุ้มแทนแก้ว ศึกรอบด้าน
-
รอนะ..จะมาหาเหรอจ๊ะพงษ์
ฝิ่นปากเสีย ชอบหาเรื่องได้อีก มันจะดูแลแก้วได้ป่ะเนี่ย
-
รอตอนหน้า
อยากอ่าน nc ไวๆจังเลย
รออ่านคู่ ภู+โซ่ นะคะ
+ 1 นะคะ
-
แก้วใกล้รู้ตัวแล้ว
แล้วไอฝิ่นล่ะเมื่อไหร่จะรู้ตัว
-
ข้อความของพงษ์ แถมโทรไปไม่รับสายอีก
อืม..ความเป็นไปได้มันดีทีเดียว คึคึ :laugh:
แต่พระเอกมันดันไม่ขึ้นจริงๆ รู้ว่าหวั่นไหว แล้วทำเป็นเก๊ก โถ.. :z6:
ป.ล. ค้างจัง มาต่อไวๆนะคะ ได้ข่าวตอนหน้า NC (??) 555 :z1:
-
แก้วท่าทางสับสนเน๊อะ ใช้หัวใจ สมอง ตัดสินยากนัก ก้อลุยด้วยร่างกายนี่แหละ 555
เกลียดไอ้พี่ดิว
-
ข้อความของ พงษ์ สั้นได้อีกเนอะ 555+
แก้ว รีบทำความเข้าใจตัวเองได้แล้วนะจ๊ะ ^^
-
มาต่อเถอะค๊าฟฟ......รอๆแระน้อT^T
อยากอ่านมากมายจิงๆน้อนี่++
-
อยากเห็นฝิ่นกับแก้วได้กันอ่ะ
นะคับ
-
:call: :call: มารอ
-
เพิ่งมาอ่านเรื่องนี้
หลงรักน้องแก้วจริงจัง หนูน่ารักมากลูก
แอบหมั่นไส้ไอ้ฝิ่น แต่หลังๆทำตัวดี เริ่มให้อภัย
ส่วนอิพี่ดิว รู้สึกไม่ชอบหน้าเลย ชิ
พี่โซ่ดูเท่ห์แบบเถื่อนๆ เหมาะกับพี่ภูจังง :o8:
ส่วนพี่ไม้ เท่ห์มาก เหมือนจะรู้ไปทุกอย่างเลย :laugh:
รอตอนต่อไปคร่าา
-
เข้ามารอ 18+ :-[ :impress2:
-
มารอๆ
:z10: :z10: :z10:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๖ เรท ๑๘+
“ทำไมไม่ขึ้นไปกินข้าวกับแม่ล่ะ” ไอ้แก้วเดินเข้ามาในห้องหยิบฉ็อปเขาที่วางทิ้งไว้บนเตียงลงตะกร้าผ้า
แม่คงจะบ่นอะไรไปแล้ว แต่มันจะมาถามทำไมกินไม่กินก็เรื่องของเขาสิวะ
“ยุ่ง” ฝิ่นซึ่งนั่งพิงหัวเตียงกดปุ่มรีโมทปิดโทรทัศน์เพราะหนวกหูกับเสียงเจี้ยวจ้าวในจอ พลางกอดอกพูดตอบ
“...กินโจ๊กแล้วกันนะ” ไอ้แก้วเดินไปในส่วนครัว หยิบหม้อเปิดเตาแก๊ส เสียงดังน่ารำคาญ
เขาจึงลุกไปเปิดตู้หยิบผ้าหยิบผ้าเช็ดตัวเดินหน้ามุ่ยเข้าห้องน้ำ
มึงควรจะอยู่ทำให้กูกินตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้ว กูเจ็บปากเนี่ย กินอะไรก็ลำบาก ให้แม่เห็นแม่ก็ไม่ได้เดี๋ยวจะเป็นห่วงทั้งที่เขาแค่ชกต่อยเอามันส์เล็กๆน้อยๆ แล้วให้พ่อเห็นก็ไม่ได้อีก มีหวังโดนสมน้ำหน้าแน่ที่ได้แผลกลับมา
“อูยยย” แผลแค่นี้แม่งแสบ ฝิ่นโวยไปเรื่อยเมื่อโดนน้ำกระทบใบหน้า แต่อย่างน้อยก็ได้ออกกำลังกายบ้างละวะ กะจะใส่ตั้งแต่เห็นไอ้พวกนั้นเดินขึ้นรถแล้ว ติดที่ไอ้คนข้างๆก็ทำท่าปิดอาการกลัวซะเหลือเกิน เขารู้มันกลัว เลยนึกสนุกกะแกล้งให้มันกลัวต่อไปเล่นๆ อยากจะลองดูว่ามันจะปิดเขาได้นานแค่ไหน แต่ก็เพียงแค่ไม่กี่ป้ายรถเมล์เท่านั้น
อันตรายที่ไม่ทันตั้งตัว...กูจะสอนให้มึงได้รับรู้ทุกความรู้สึกที่เพื่อนกูเคยผ่านมาแล้วให้หมด...ฝิ่นประกาศกร้าวในใจ แม้ความรู้สึกของเขาชักจะสวนทางกันแต่เขาก็จะไม่สนใจ
เขาจะไม่ให้อะไรมาเปลี่ยนความคิดเขาได้โดยเด็ดขาด
ฝิ่นออกจากห้องน้ำ เปลี่ยนใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว
“อะไร?” เขาเงยหน้ามองและเอ่ยถามเมื่อไอ้แก้วยืนเลิ่กลั่กอยู่ใกล้ๆพลางตักโจ๊กเข้าปาก ...แต่ก็ต้องค่อยๆกินเพราะอ้าปากกว้างนักไม่ได้
“เปล่าๆ”
“เหม็นน้ำมันเครื่อง ไปไกลๆกูไป” ฝิ่นปัดมือไล่หมายให้แก้วออกห่าง วันนี้พ่อเขาให้มันไปทำงานที่อู่เพราะเห็นว่ามันดูคุณหนูเกินผู้ชายเถื่อนๆแบบพ่อจะรับได้ ...ก็แน่ล่ะ ไอ้นี่มันแมนซะที่ไหน พ่อเลยจะฝึกให้มันคลุกฝุ่นคลุกน้ำมันเครื่องตามแนวทางของแก เหมือนที่เคยให้เขา ไอ้เป้ง พี่ไม้ เดินตามรอยแกมาแล้ว
...ว่าแต่มันจะคุณหนูยังไงพ่อจะไปยุ่งกับมันทำไมวะ เห็นอะไรขัดหูขัดตาเป็นไม่ได้เลย แล้วนั่นมันโนT โรงเรียนคู่อริพ่อเหมือนกันนะเว้ย
แล้วไอ้ท่าทีตั้งอกตั้งใจจะเอาหน้าน่ะ ขอให้บอกไอ้แก้วเลย มันตั้งใจซะจนเขาหมั่นไส้ เออออตามเขาตามพ่อแม่ ตามคนรอบข้างเขาไปหมด
คงอยากลบล้างความผิดให้เพื่อนมากสินะ ...อย่าฝันไปเลย กูไม่จบง่ายๆหรอก!
ผิดก็คือผิด ถ้าคิดว่าทำดีแล้วลบล้างได้ ปืนจะมีไว้ทำไมวะ!
แต่ไอ้แก้วยังยืนค้ำหัวเขาอยู่ เดี๋ยวนี้ชักจะไล่แล้วไม่ยอมไป พลางยกแขนมาดม ทั้งดึงคอเสื้อขึ้นดมอีก
“...เหม็นเหรอ? แต่วันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ พ่อมึงให้กูยืนดูเฉยๆ” มันเถียงอย่ากล้าๆกลัวๆ อ๋อนี่จะบอกว่าเขาคิดไปเองรึไง?
ฝิ่นวางช้อน มือตบโต๊ะดัง ปัง! จนไอ้แก้วสะดุ้ง เขาลุกยืนท้าวโต๊ะมองหน้าแก้ว
“แค่มึงไปยืนกลิ่นน้ำมันเครื่องก็ติดตัวมึงได้แล้ว” มันโง่หรือจะเรียกอะไรได้วะ ฝิ่นกัดฟันพูดบอกอย่างโมโหที่ไอ้แก้วทำเหมือนไม่เชื่อ นั่นอู่ซ่อมรถนะกลิ่นอะไรต่อมิอะไรมันติดตัวกลับบ้านทุกคนนั่นล่ะ
“แต่...”
ฝิ่นไม่รอให้แก้วออกปากโต้ได้อีก เดินออกจากโต๊ะไปยืนตาขวางตรงหน้ามันพร้อมทั้งก้มสูดดมทำจมูกฟุตฟิตๆ แถวซอกคอ
“นี่ไง ยังจะมาเถียงกูอีก” กลิ่นแปลกปลอมติดตัวเองมาแท้ๆไม่รู้ได้ไงวะ
เขาเงยหน้ามาบอกแก้วแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นแก้วยืนนิ่ง หน้าแดง
“...มึง...ไปอาบน้ำไป ขืนยืนบื้ออยู่นี่กูแดกไม่ลงแน่” ฝิ่นพูดจาเลิ่กลั่ก
ไอ้แก้วจึงเดินลอยๆเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะเดินเข้าเดินออกอีกรอบมาเปิดตู้หยิบผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าของมันเอาเข้าไปเปลี่ยนเหมือนทุกวัน
“เอ่อ...เดี๋ยวมาทำแผลให้นะ” แล้วยังโผล่หน้าออกจากห้องน้ำมาบอกเขาอีก
จะแกล้งมาทำดีมีน้ำใจใส่กูทำไม ที่กูต้องการแค่มึงรักมึงหลงกูเท่านั้น
...เท่านั้นก็มากพอละแม่งเสือกมีของแถม กูไม่เอาหรอกโว้ย!
ฝิ่นตักโจ๊กเข้าปากอย่างไม่รีบร้อน แต่ก็หมดพร้อมๆกับไอ้แก้วออกมาจากห้องน้ำพอดี
เขาว่าเขากินช้าแล้วนะปกติมันต้องอาบเสร็จไวกว่านี้นี่ ...กูนี่ก็ชักจะจับผิดมันเยอะเกินไปละ
เขาเลิกสนใจหน้าตาใสซื่อที่เดินมายืนมองอีกครั้ง กินเสร็จเอาชามไปวางที่อ่าง แต่ไอ้แก้วรีบเดินมาแทรก
“กูล้างให้” มันเสนอ...ยังไงมึงก็ต้องทำเองอยู่แล้วหนิ หรือคิดว่ากูจะทำ?
ฝิ่นจึงเดินเข้าห้องน้ำไปแปรงฟันอย่างยากลำบาก เจ็บแผลว่ะ!
ออกจากห้องน้ำหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา สามทุ่ม...แม่กับพ่อคงขึ้นข้างบนกันแล้ว ได้เวลาที่เขาจะขึ้นไปห้องรับแขกเหมือนกัน เขาต้องแอบไปนอนและรีบกลับลงมาที่ห้องทุกวันกลัวแม่เห็นเดี๋ยวจะหาว่ามีปัญหาอะไรกับเพื่อนอีก แต่ก็ไม่อยากนอนเตียงเดียวกับมันนี่หว่า ทำใจไม่ได้ว่ะ ศัตรูก็คือศัตรู ถ้าพี่ไม้ไม่บังคับให้มันนอนบนเตียง เขาก็คงไม่ต้องแอบพ่อแม่แบบนี้หรอก
ว่าแล้วฝิ่นก็จะเดินออกจากห้องแต่ไอ้แก้วถือดีดึงแขนเขาไว้ก่อน
ฝิ่นหันกลับมามองอย่างข้องใจ
“ยัง...ไม่ได้ทำแผลเลย” มันก้มหน้าช้อนตาขึ้นมองเขา ไอ้ท่าทางกล้าๆกลัวๆนี่เป็นสันดานมันเลยรึไงวะ กะแค่จะทำแผลให้ทำไมต้องทำเหมือนไม่กล้าบอกด้วย
ฝิ่นจิ๊ปากทำเป็นไม่พอใจแต่เดินกลับไปนั่งที่เตียง
แก้วหยิบกล่องพยาบาลมาวางแล้วนั่งลงข้างๆเขา แผลตรงมุมปากก็ไม่ได้ใหญ่อะไร แต่มันอยากทำก็ทำไป ประจบกูเข้าไปเผื่อกูจะใจอ่อน ว่างั้น?
“เหอะ!” ฝิ่นแค่นหัวเราะในลำคอ ไอ้แก้วที่เอายาป้ายมุมปากอยู่ถึงกับย่นคิ้วคล้ายสงสัย แต่ฝิ่นเองก็สงสัยเหมือนกัน ทายาเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังนั่งมองหน้าเขาอยู่อีก
“มีอะไร?” ออกปากถามเสียงห้วนเพราะเขาจะไปแล้ว ไอ้แก้วเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับเป่าเบาๆที่มุมปากเขา
...ยะ ยาที่ทา...มันก็คงไม่แห้งเร็วทันใจหรอก แต่...มึงไม่ต้องเป่าก็ได้ กูไม่รีบแล้ว...
ฝิ่นจับไหล่แก้วให้ออกห่างหลังจากค้างไปครู่หนึ่ง ไอ้แก้วนั่งนิ่ง เม้มปากบางๆนั่นอีกแล้ว แม่งเหี้ยเอ้ย! กูมองทำไมวะ แต่มันไม่ยักหลบตาเหมือนทุกครั้งที่เขาแสดงความไม่พอใจใส่
“มึงอ่อยกูเปล่าเนี่ย!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงๆ มันคงถนัดอยู่แล้วเรื่องอย่างนี้
ฝิ่นรู้สึกเหมือนถูกชักจูงไปอีกทาง ไอ้แก้วมันกำลังหาทางกลบความเลวของเพื่อนมัน เขาต้องไม่เล่นไปตามเกมส์นั้น มันต่างหากที่ควรอยู่ในเกมส์ของเขา
.
แก้วรีบโน้มใบหน้าเข้าใกล้จนริมฝีปากตนประกบติดกับริมฝีปากฝิ่นก่อนที่จะโดนเหวี่ยงด้วยการกระทำ
ไอ้ฝิ่นถึงได้หยุดโวยวายแต่มือยังคาไว้ที่สองไหล่เขา
เขามีสติสัมปชัญญะดีตามที่มันเคยบอก และเขาก็ตัดสินใจแล้วด้วย
“คนอื่นกูไม่รู้ แต่สำหรับกู Sex คือคำตอบ” คำพูดของพี่ภูทำเขาอึ้งไม่น้อย แล้วที่พี่ดีทำกับเขาล่ะ? เรียกว่ารักได้รึเปล่า
“แล้วSex ที่ไม่เต็มใจล่ะพี่”
“ก็เรียกว่าฝืนใจไงวะ คิดเยอะทำไมเนี่ย อย่าบอกนะว่ามึงจะไปฝืนใจใคร”
“เฮ้ย ถามเฉยๆ” เขารีบแก้ต่างทันควัน
“แก้ว...ผู้ชายอย่างเราๆ ถ้ายิ่งครั้งแรกเรายอมให้กับใคร นั่นคือเรารักเขาสุดๆแล้ว มึงเอ้ย ...แต่ตอนนี้มึงกำลังหน้ามืดตามัวด้วย โอย น้องกู”
...รักก็รักสิ! ในเมื่อเขาจะบอกมันด้วยวิธีนี้ ไอ้ฝิ่นเองมันก็ต้องรับรู้ด้วยวิธีนี้เหมือนกัน
แก้วพยายามแทรกลิ้นเข้าไปในปากฝิ่นอย่างเก้ๆกังๆ เพราะกลัวมันจะเจ็บแผล แต่เวลาจะอยู่ตามลำพังกับมันใช่ว่ามีเยอะซะเมื่อไหร่ มีโอกาสตอนไหน ตอนนั้นก็ควรจะรีบบอกรีบทำน่ะถูกต้องแล้วนี่
ไอ้ฝิ่นเหมือนกับจะต่อต้านเพราะมันนิ่งไป แต่มันกลับไม่ถอนปากออกแล้วมาโวยวายเขา
แก้วจึงมุ่งหน้าใช้ปลายลิ้นแตะลิ้นฝิ่นต่อ
“เหี้ย อ่อยกูเสือกกั๊ก” ฝิ่นถอนริมฝีปากออกมาต่อว่าก่อนจะประกบปากแก้วเองพลันตวัดหยอกเย้าเรียวลิ้นแก้วด้วยลิ้นตนอย่างผู้ชำนาญ มันรุกเร้าและเร่าร้อนพร้อมๆกันจนแก้วถึงกับสั่นไหวไปทั่วตัวและใจ
“อือ อืมมม” เขาไม่คิดอะไรแล้ว ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น แม้แต่ต้องการมีSexกับมันเพื่ออะไรกันแน่ ตอนนี้คำตอบนั้นก็ได้หลุดหายไปจากสมองแก้วแล้ว มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกหน้าอก ณ เวลานี้
“กูไม่หลงกลมึงหรอกนะ” ฝิ่นพร่ามด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่แก้วหูอื้ออึงไปพร้อมเรียวลิ้นที่สัมผัสกันนับครั้งไม่ถ้วน
“หึ กูยังไม่อยากหรอกแต่มึงอ่อยมากูก็จะสนองให้” พูดก่อนจะเลียเล็มริมฝีปากเขาด้วยนัยน์ตาหวานฉ่ำแล้วใช้มือปัดกล่องพยาบาลที่วางอยู่ข้างๆจนมันหล่นลงพื้นเสียงดัง ก่อนจะผลักแก้วให้หงายหลังลงเตียงแล้วตามมาคร่อมด้านบนพร้อมจับสองมือเขาคล้องคอ ...แก้วทำตามอย่างว่าง่าย แววตาเป็นประกายมองสบตาคนข้างบน
ฝิ่นโน้มใบหน้าลงมาบดปากไล่จูบดูดลิ้นเขาซ้ำๆ พลันซุกไซร้ตามซอกคอก่อนดึงเสื้อยืดที่เขาสวมใส่ถอดออกจนพ้นเหนือหัว
...กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งสองกำลังเปลือยท่อนบนกันทั้งคู่
เขาตื่นเต้นแต่ไม่ได้หวาดกลัว เขาลังเลแต่ก็เต็มใจ...มันคือความรู้สึกที่ต้องการมอบให้คนที่รักสินะ
“เป็นบุญของมึงแล้วที่โดนกูเอา” แก้วถึงกับมึนงง ในขณะที่ฝิ่นเริ่มละเลงลิ้นอุ่นๆไปทั่วตัวทำเอาเขาสะดุ้งเป็นพักๆเพราะรู้สึกจั๊กจี้
...ไม่ใช่เพราะกูรักมึงหรอกเหรอกูถึงจะยอมให้มึงเอา เป็นผู้ชายแท้ๆแต่กลับรู้สึกวาบหวามไปกับสัมผัสของมัน สัมผัสจากหน้าอกเปลือยเปล่า สัมผัสจากส่วนกลางลำตัวที่มีเพียงกางเกงคนละตัวกั้นไว้
...ตรงนั้นของมันที่กำลังบดเบียดกับของเขา
แก้วเปลี่ยนจากคล้องคอตามที่มันต้องการมาผลักหน้าอกฝิ่นเบาๆ
“ทำไม? เปลี่ยนใจตอนนี้ไม่ทันแล้วล่ะ” ไอ้ฝิ่นไม่ยอมให้เขาได้ท้วง มันเปลี่ยนจับสองมือเขาตรึงไว้เหนือหัวก่อนอีกมือจะผละไปวุ่นกับกางเกงขาสั้นที่เขาสวมอยู่
“ฝิ่น...” แก้วเรียกเสียงสั่นเบา กางเกงขาสั้นได้ถูกปลดออกไปแล้วเหลือเพียงกางเกงในตัวขาวที่ยังปกปิดอยู่ ฝิ่นลูบผ่านตรงนั้นอย่างแผ่วเบาแต่สายตาของมันกำลังหยอกเย้าเล้าโลมเขาอย่างจริงจัง รอยยิ้มเยาะตรงมุมปากมีแผลทำให้แก้วต้องเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปซุกด้านข้างด้วยความเคอะเขินอาการร้อนวูบวาบเกิดขึ้นไปทั่วร่างกาย แต่ฝิ่นไม่ปล่อยให้เขากระวนกระวายใจนาน มันถอดบ็อกเซอร์ตัวเดียวของมันออกโยนทิ้งทั้งที่ยังคร่อมเขาอยู่ พลันจับมือเขาไปสัมผัสตรงส่วนนั้นของมันในทันที
แก้วได้แต่เตือนตัวเองว่า คิดดีแล้วๆ...คิดมาดีจนยอมปล่อยกางเกงในตัวเองให้หลุดออกจากตัวไปแล้ว
“มองหน้ากู” ฝิ่นก้มกระซิบเบาๆ ก่อนละเลียดเลียใบหูและต้นคอชวนให้สยิวพร้อมกับใช้ข้างแก้มตัวเองดันแก้มเขาให้หันตรงก่อนประทับริมฝีปากชนกันเพียงเสี้ยววินาที
ฝิ่นจับมือเขาให้รูดขึ้นลงตามแต่มันต้องการจนตรงนั้นของมันขยาย...เอ่อ ใหญ่
…แก้วไม่กล้าลุกไปมองหรอกแต่ที่แน่ๆเขาอยากจะเปลี่ยนใจซะแล้วตอนนี้
ฝิ่นยังมองหน้าเขาไม่วางตา นัยน์ตาหยาดเยิ้มของมันทำให้เขาต้องหรุบตาหลบไปเรื่อย
เจ้าตัวยิ้มเยาะก่อนลุกผละจากการคร่อมแก้วเขยื้อนตัวขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียงทั้งมือยังลูบตรงกึ่งกลางลำตัวของมันอยู่คล้ายไม่อยากเสียจังหวะ
“ลุกมานี่” ฝิ่นเรียก ยื่นมืออีกข้างออกมาจับแขนเขา แก้วยันตัวลุกคลานเข่าเข้าไปหาอย่างเต็มใจ “อม” มันพูดสั้นๆพร้อมกับกดหัวแก้วลงไปให้เผชิญหน้ากับ...
“กูไม่...” ฝิ่นไม่รอฟังให้จบประโยคมือจับไอ้นั่นของมันเข้าปากเขาทันที เขาเคยทำซะที่ไหนล่ะ!
แก้วน้ำตาเล็ดเมื่อมันขยับส่วนนั้นเข้าๆออกๆในโพรงปาก
“อ๊าส์ ระวังฟัน” จะให้ระวังยังไงใครจะไปทำเป็นวะ แก้วค้านในใจในขณะที่มันส่งเสียงพึมพัมอย่างพึงพอใจ
“อื๊อ!” แก้วร้องครางยันสะดุ้งทั้งไอ้นั่นยังคาในปากเมื่อรู้สึกถึงนิ้วมือชุ่มๆสอดเข้ามาทางช่องด้านหลัง ...คงจะเป็นน้ำลาย “อื๊อ อื๊ออ” ได้แต่ประท้วงอย่างไม่เป็นคำเมื่อมันไม่ยอมให้เขาถอนปากออก
เจ็บ... มันเจ็บแปล๊บๆที่ตรงนั้นเมื่อมันจิ้มนิ้วเข้ามาพรวดเดียว
แก้วกัดฟันอดทนพลางหายใจแรงถี่ดันแขนฝิ่นที่จับหัวเขาอยู่
...ทั้งดันทั้งตีกว่ามันจะยอมปล่อย
“อ๊ะ...” แก้วโผกอดรอบคอฝิ่นอย่างอ่อนแรงก่อนจะซบหน้าลงที่ไหล่มัน ไอ้ฝิ่นหัวเราะหึในลำคอพลางจับขาเขาให้คร่อมกับตักมันแล้วซุกไซร้ซอกคอ หัวไหล่แก้วอย่างต่อเนื่อง
ฝิ่นขยับนิ้วเข้าออกช้าๆก่อนจะเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกหนึ่ง มันคล้ายกับนวดคลายคลี่คลึงเพื่อขยายช่องนั้น
เขาเจ็บ... มันหงุดหงิดเมื่อมีอะไรคาอยู่ที่ช่องก้นตัวเอง
“พะ...พอก่อน” แก้วจับมือฝิ่นให้หยุดค้าง ไอ้ฝิ่นคงจะขัดใจใช้มือข้างที่ว่างจับหน้าแก้วให้หันไปจูบ
“อือ อืมม มึง...ฝิ่น เดี๋ยวๆ” แก้วพูดตะกุกตะกัก ไอ้ฝิ่นถึงได้หยุด มองหน้าเขาอย่างเสียอารมณ์ “อ๊ะ” แก้วดึงมือฝิ่นออกจากช่องรู ลุกลงจากเตียงไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบของที่ซื้อมาออกวางไว้บนเตียง
ไอ้ฝิ่นที่จับลูบของตัวเองรออยู่เห็นถึงกับมองหน้าแก้วแล้วยิ้ม
“มึงแม่งเหี้ย” มันกัดปากตัวเองก่อนจะต่อว่าเขาน้ำเสียงเบาแล้วดึงแก้วลงเตียงพลันขึ้นมาทาบทับทันที
ฝิ่นหยิบถุงยางมาสวมพลางหยิบหลอดKYมาบีบเจลใส่ฝ่ามือแล้วลูบชโลมไปทั่วส่วนนั้นของมันแล้วจึงเอามาป้ายที่ช่องทางด้านหลังเขา นิ้วมือของมันยังคงลูบวนอยู่ต่อเนื่องก่อนจับขาทั้งสองข้างขึ้นแยกชัน
แก้วหลับตาปี๋ กัดฟันกลั้นใจรอ
“มองหน้ากู” แก้วลืมตาช้าๆมองหน้าสบตามันตามที่บอก “บอกกูสักคำ” ฝิ่นถอนนิ้วออก จ่อหัวของส่วนนั้นถูไถกับช่องทางของเขา
แก้วมองหน้าฝิ่นให้เต็มตายกสองมือโอบรอบคอแล้วดึงมันลงมาจูบ เขาเป็นฝ่ายกระซิบข้างหูมันบ้าง
“กู...กูคิดว่า ...กูรักมึง” ฝิ่นไล้จมูกจากข้างแก้มมาชนจมูกเขา ...หน้าผาก ปลายจมูก ริมฝีปากเราชิดกัน
“หึ ก็ดี” มันหน้านิ่งก่อนกระตุกยิ้มมุมปากพลางแทรกส่วนลำเข้ามาภายในตัว
“อ๊ะ” แก้วรีบเม้มริมฝีปากกันเสียงน่าอายเล็ดรอดออกมาให้ได้ยิน น้ำตาเริ่มปริ่มเกินจะกลั้นไหว ไม่อยากให้รู้ว่าเจ็บ ไม่อยากให้เห็นว่านาทีนี้เขาต้องอดทนแค่ไหน
ฝิ่นโน้มใบหน้ามาจูบซับตรงหางตาก่อนจะปรนเปรอปลายลิ้นเข้ามาเกี่ยวกัน ทั้งมือฝิ่นยังช่วยจับน้องชายเขารูดขึ้นรูดลง แก้วเคลิ้มจนแทบลืมเจ็บ
“ซี๊ดดด ขมิบแรงไปแล้ว อ๊าส์” แววตากรุ้มกริ้มพราวระยับ “ร้องสิ ร้องเลย...” เสียงพร่าเอ่ย ทั้งสะโพกยังคงขยับเข้าออกเป็นจังหวะช้าบ้าง ถี่บ้าง
“อ๊ะ อ๊ะ ....” แก้วส่ายหน้าครวญครางอย่างไร้ความอาย ทั้งเจ็บทั้งเสียวความรู้สึกมันปะปนกันก่อนที่น้ำขาวขุ่นของตัวเองจะทะลักเปรอะเต็มหน้าท้อง
แก้วหายใจแรงอย่างหอบเหนื่อย
“อืม อืมม ฝิ่น อ๊ะ” แต่ฝิ่นยังไม่เสร็จ มันดูดตามซอกคอ หัวนมอย่างรุนแรง ก่อนเร่งจังหวะโยกถี่กระชั้นจนแก้วแทบกรีดร้อง
กว่าที่มันจะพอใจแล้วถอนกายออกในเวลาต่อมา แก้วก็เสร็จไปอีกรอบโดยที่มันไม่ต้องสัมผัสอีก
...กูรักมึงไปแล้วนะ รักทั้งตัวทั้งใจตามที่มึงต้องการ
ถึงแม้มันจะเจ็บบ้าง แต่กูก็สุขใจ
...เมื่อผ่านพ้นความเหนื่อยหอบแก้วจึงได้นึกอะไรขึ้นมาได้
และขอเพียงมึงทำตามที่ตกลง เจ็บกว่านี้กูก็ทนไหว
.............................
พยายามเบาๆแล้วนะ เค้าไม่อยากเน้นNC แต่ไม่รู้ว่าแค่ไหนถึงจะพอดี ตอนแรกสั้นกว่านี้นะ เขียนๆไป อะ ต่ออีกซักหน่อยเดี๋ยวจะข้องใจว่ามันได้กันจริงเปล่า ฮ่าๆๆ
...เสร็จแล้วรับตัวเองไม่ได้ เป็นNCที่หยาบเหลือเกิน ขอแบนตัวเองหนึ่งสัปดาห์ :laugh:
เดี๋ยวมาคุยด้วยใหม่นะคะ อ้อ สวัสดีและยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ของเรื่องเป็นอย่างยิ่งค่ะ^^
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์จ้า^^ กอดๆจุ๊บ
ปล.เมื่อกี้จะโพสแล้วเจ้านายมาให้สอนเล่นFacebook ปิดแทบไม่ทัน ฮาาา
-
มาต่อไวๆๆๆนะคับ o13
-
แต่ฝิ่นไม่ได้รักแก้วเลย ?
-
หยาบๆเถื่อนๆสมกับเป็นฝิ่นดี o13
ความสัมพันธ์,,,ได้ขนาดนี้ก็ถือว่าก้าวหน้าแล้วเนอะ
ตกลงแก้วรู้ใจตัวเองแล้วใช่มั๊ยลูก แต่เจ้าฝิ่นล่ะ!!
ตอนนี้เจ้าฝิ่นแอบน่ารักนะเนี่ย เหมือนพยายามสะกดจิตตัวเอง ว่าไม่คิดอะไร 555
ปล.หนึ่งอาทิตย์เลยหรอคะ :sad4:
-
น้องแก้วเสียซิงแล้ว :mc4: แต่ดูฝิ่นจะไม่สำนึกอะไรบ้างเลย :z6:
สงสารแก้วล่วงหน้าไปละ ทำไปก็ไม่ได้อะไร มีแต่เสียกับเสียนะแก้ว :sad4:
-
เรียบร้อย :oo1: :oo1: :oo1:
-
แบบว่า :m25: กันแล้ว
ฝิ่นก็ดูเหมือนเฉยๆนะ
-
แ้ก้วรักฝิ่นจริง ๆ ใช่ไหม เหมือนแก้วเองก็ยังไม่แน่ใจ ส่วนฝิ่นก็เหมือนรู้สึกดี ๆ กับแก้วเหมือนกันใช่ไหม ถ้าไม่สนเรื่องพงษ์เนี่ย
-
แก้วเอ้ย เอาตัวเ้ข้าแลกจริง เดิมพันนี้สูงอยู่นะ
-
หนูแก้วเป็นสาวแล้ว555
-
เอาแล้วไง ลูกแก้วจ๋า รักมันก็ดีอยู่ แต่ไหงใช้วิธีนี้หล่ะ :m15:
ควายอย่างไอ้ฝิ่นมันจะรู้จะซึ้งจะรักตอบมั้ย มันดีแต่ใช้กำลังจนสมองฝ่อคิดอะไรไม่เป็นแล้ว :angry2:
น้ำเดือดปุ๊ดๆ มาม่าชามใหญ่รอเราอยู่ :monkeysad: :sad11:
-
:-[ :-[ :-[
-
กำลังรออยู่พอดีเลย
:laugh: เสร็จจนได้
-
ต่อไปขอให้มีหวานๆกันบ้างเน๊อะ ^^
ฝิ่นทำตัวดีดีกับแก้วบ้างนะ :impress2:
ขอบคุณมากค่ะ
-
ฝิ่น มึงมันปากไม่ตรงกับใจ :angry2:
ขอให้รักแก้วหลงแก้วยิ่งกว่าอะไร :z10:
-
อร๊ากกก>< จะว่าแก้วก้อไม่ได้ สงสารคนที่ต้องเก็บความรู้สึกทั้งมดไว้คนเดียว
ต่อไปจะเจออะไรอีกก้อไม่รู้
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้อค๊าฟฟ รอ รอ รอน้า ชอบที่สุดเยยย
-
ไม่ไหวแล้วว :m25:
อยากให้ฝิ่นรักแก้วจริงๆๆ
ไม่อยากให้ฟันแล้วทิ้ง หรือเพื่อแก้แค้นอ่ะ
แต่อย่างว่ามันเป็น Drama Story คงอีกนานแก้วจะถึงฝั่งฝันกับฝิ่น
แต่ถึงสวรรค์ไปก่อนล่ะกัน (เสื่อมได้อีก) :laugh:
ปล. ทำแก้วเสียใจแกตายไอ้พระเอก o18
-
แก้วเต็มใจมีเซ็กส์เพราะรัก แต่ท่านฝิ่นมีเซ็กส์เพราะ ... :fire: :fire: :fire:
เฉยชาเยาะเย้ยกันได้อีก
แก้วถึงกับเอาตัวเข้าแลกเลยเหรอลูก ถ้าพงษ์กลับมาจะทำยังไง :sad4:
-
แว๊กกกกก!
ไม่ให้แบนตัวเองนะตัวว ว..
กรี๊ดดดดดดด ด อิฝิ่นดูเจ้าชู้เหลือร้ายมากตอนนี้ ฮ่า...
โอ๊ยย ไม่ไหวเคลียร์ อยากให้ฝิ่นมันหลงแก้วจริงจริ๊งงงง
ถึงตอนนั้นแล้วจะหัวเราะให้ฟันหัก 555555555
:laugh:
-
:jul1: :jul1: :jul1:
ตายไป เลย
-
:m25: :m25: :m25:
รอตอนต่อไป
-
น้องแก้ว :oo1: กะอินังฝิ่นแล้ววว
ต่อจากนี้ฝิ่นคงจะอ่อนโยน?ใช่มะ
ต้องอ่อนโยนนะเฟ้ย แกได้น้องไปแล้วววว :angry2:
-
เสียสาวไปแล้วแก้วเอ๋ย
-
:jul1: :jul1:
แก้วบอกรักด้วยวิธีนี้ทำเอาคนอ่านเสียเลือดไปตามๆกัน
แต่ความรู้สึกนี้จะถึงฝิ่นไหมเนี่ย :เฮ้อ:
-
รักแบบไม่เต็มใจก็ไม่อยากเจออ่ะคับ
สงสารทั้งคู่คับผม
-
หวังว่าจะรักกันด้วยหัวใจจริงๆนะ :เฮ้อ:
-
...อารายเนี่ยแก้ว ไปบอกรักฝิ่นทำไม ไปยั่วมันก่อนทำไม เดี๋ยวมันฟันแล้วก็ทิ้งหรอก
... ฝิ่นมันไม่มีหัวใจ มันจะแก้แค้นอย่างเดียว :L2:
-
:o8: แก้วแอบแรงส์ส์อ่ะ...แต่เค้าชอบนะตัวเอง :กอด1: รักแก้วมั่งนะฝิ่นนะ
-
ว๊าววว จะเป็นยังไงต่อนี้ๆๆ
-
จบแบบแอบค้างอ่ะ
รีบมาต่อน้าาาาา
-
ฝิ่นมันจะคิดได้ไหมเนี่ย
-
รักแก้วบ้างเน้อ
ิอย่ารังแกแก้วเน้อ
:-[ :-[
-
อย่าเพิ่งแบนตัวเองงงงง :serius2:
อ่านแล้วเศร้า ไม่ได้มีทำร้ายร่างกาย หรือแต่งไม่ดีนะ แต่รู้สึกเศร้าอ่ะ T^T สงสารน้องแก้ว ไปหลงรักมันเข้าจริงๆแล้ว :z6:
ถึงจะเติมให้ตอนยาวขึ้นแต่ก็ยังค้างๆคาๆ อยากรู้อาฟเตอร์~~~!!! ><"
เหมือนฝิ่นจะรู้ตัวเองว่าเริ่มหวั่นไหว ถ้าพยายามฝืนความรู้สึกตัวเองคราวนี้มาม่าบวมอืดแน่เลย :laugh:
ขอบคุณค่ะ :กอด1:
ปอลิง พอดีเข้ามาอ่านอีกรอบ 555 หื่น~ (มะช่ายยยย) รู้สึกเหมือนแก้วคิดว่าการมีเซ็กส์เป็นการบอกรักฝิ่น เป็นวิธีบอกรักที่ฝิ่นจะสามารถรับรู้ได้ แก้วก็เลยยอมฝิ่น โดยที่มันไม่ได้เกิดมาจากความรักจริงๆ มันเหมือนยังเป็นความรู้สึกว่าแก้วจะช่วยพงษ์อ่ะเลยทำแบบนี้ T^T หลังจากนี้แก้วจะต่อรองกับฝิ่นว่าให้เลิกแค้นพงษ์รึเปล่านะ? รอตอนใหม่ค่ะ ^^
-
แก้วออกเรือนได้แล้วนะคะพงษ์
-
วันนี้ที่รอคอย :oo1:
แต่อ่านแล้วมันปวดใจไงไม่รู้ :sad11:
-
เป็น NC ที่สมกับความเป็นฝิ่นและแก้วจริงๆ :เฮ้อ:
ฝิ่นมันก็ช่างเอาแต่ใจ อยากแกล้งอยากให้แก้วทำอะไรมันก็สั่งๆๆๆๆ มันท้าทายเพื่อลองใจ...แมร่ง เอี้ยอิ๊บอ๋าย :beat:
ปากแมร่งก็ร้าย คำก็ด่าสองคำก็ประชดประชัน อ่านแล้วโคตรสงสารแก้วที่กำลังจะมีสามีเป็นพ่อค้าปากตลาด
ส่วนแก้วก็นะ เขาให้ทำอะไรก็ทำ มันไม่มีกั๊กไม่มีไว้ตัวอะไรทั้งนั้นแล้ว ยอมไอ้คุณฝิ่นไปซะทุกอย่างแบบนี้ เฮ้อ...
ซึ่งมันก็เป็นนิสัยแก้วจริงๆ อะแหละ ตอนเด็กพี่ลูกขวัญบอกให้ทำอะไรมันก็ทำ เพื่อให้พี่ลูกขวัญรักมันเอ็นดูมัน
ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่เสียศักดิ์ศรีในสายตาคนอื่นแค่ไหน สำหรับแก้วมันไม่คิดมาก และมองข้ามสายตาดูแคลนของคนตรงหน้าได้อย่างง่ายๆ
แก้วมันคิดอะไรง่ายดี คิดอะไรไม่ซับซ้อน สมละที่ไอ้คุณฝิ่นมันจะหมั่นไส้ตลอดเวลา :เฮ้อ:
จริงๆ สองคนนี้มันรู้ใจตัวเองทั้งคู่แหละว่าใจกำลังจะหวั่นไหว
ซึ่งแก้วอาจจะยอมรับความรู้สึกกับตัวเองมากกว่าฝิ่น แต่ก็ไม่รู้ว่ายอมรับแบบไหนเหมือนกัน
แบบที่ยอมรับว่ารักจริงๆ หรือว่ายอมรับเพราะคิดว่าต้องรักฝิ่นเพื่อพงษ์...ก็คงต้องเดาใจคนเขียนต่อไปอะนะ
ส่วนไอ้คุณฝิ่น มันรู้นะว่าแก้วพยายามจะทำความดีไถ่โทษ แต่มันก็บอกตัวเองอยู่ตลอดว่าจะไม่ให้อะไรมาเปลี่ยนความคิดมันเด็ดขาด
ถึงตอนนี้คงต้องรอดูว่าเมื่อถึงคราวที่ต้องทำตามแผน ฝิ่นมันจะกล้าทำกับแก้วอีกมั้ย และแก้วมันจะเลือกใครระหว่างฝิ่นและพงษ์
(รู้แต่ว่าถ้าฝิ่นมันใจแข็ง งานนี้ก็เจ็บทั้งคู่อะนะ แก้วมันยังดีที่มีพงษ์ แต่แกไม่มีใครนะไอ้ฝิ่น โหโหโห ชั้นจะรอดูวันที่แกอึ้งอะเว้ยเฮ้ยไอ้คุณพระเอก :laugh: )
-
ถึงฝิ่นจะได้แก้วแล้ว แต่ก็คงไม่ทำให้เรื่องมันดีขึ้นมาเท่าไหร่หรอก :onion_asleep:
-
เย้ๆๆๆๆ เค้าได้เสียกันแล้วว
-
^^
-
อยากถีบฝิ่นตกคลองแล้วแต่งตั้งพระเอกคนใหม่ขึ้นมาแทน
อะไรของมันฟะ :angry2:
ป.ล.คิดถึงพงษ์ (มันดูเหมือนไม่เกี่ยวอะไรกับเอ็นซีตอนนี้เลย 55)
:L2: :L2: :L2:
-
แอร๊ยยย
-
:กอด1:
-
ไอ้ฝิ่น :z6: :z6: :z6:
-
เราว่าที่แก้วทำไม่ได้เพราะอยากให้พงษ์พ้นผิด
แต่ที่ทำเพราะรักฝิ่นเข้าแล้วหรือเปล่า
ตั้งแต่แ้ก้วมาอยู่กลับฝิ่นก็ดูเปลี่ยนไปนะ
เพราะความรักหรือเปล่า หึหึ
ส่วนฝิ่นบางทีไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไร
แต่เพราะทิฐิในตัวมันสูงเกิน
เลยไม่ได้แสดงออกมาว่ารู้สึกยังไงกับแก้ว
คล้ายๆว่าพยายามกดความรู้สึกบางอย่างไม่อยากยอมรับ
เราาชอบตอนที่ฝิ่นบังคับให้แก้วมองหน้านะ
เหมือนประมานว่าในสายตาของมึงต้องมีกูคนเดียว
มึงเป็นของกูคนเดียว อร๊ายยยยยย
บุคลิคพี่ฝิ่นเป็นประเภทโรแมนติกหลบใน
โรแมนติกเถื่อน ชอบจังเลย
เอ็นซึโฮกมากค่ะ มันเถื่อนได้ใจดี เอิ๊กส์ๆๆ
รอตนอต่อไปอยู่คร้าาาา :impress2:
-
แก้วเสร็จฝิ่นซะแล้ว
ฝิ่นมันจะรักแก้วบ้างไหมนะ
+ 1 นะคะ
-
นู๋แก้วเตรียมพร้อม จะเสียตัวทั้งที มีอุปกรณ์ครบฮ่ะ :laugh:
ไอฝิ่น :angry2:พูดมาแต่ละคำ มีแต่จะเย้ยให้แก้วเสียใจ ทีเรียกให้แก้วพูดล่ะ จะให้เขาบอกรัก ชิส์
-
เพิ่งอ่าน อ่านทีเดียวเลย
แอร๊ย ย ยย บอกได้คำเดียวเลยว่าชอบอ่ะ
:o8: :-[ :o8: :-[
เถื่อนได้ใจจริงๆ แก้วน่าร๊า กกก
-
:เฮ้อ:
:L2: :L2:
-
สักทีนะแก้ว :mc4:
-
แก้วรู้ตัวแล้ว แล้วฝิ่นละ เห้ออออ
-
ฝิ่นเมื่อไรจะรู้ใจตัวเองนะ
-
เสร็จไป2รอบ น่าสงสารจัง
-
ฝิ่นอย่ามาเยอะ
รีบๆรักแก้วได้เละ
แม่ยกเชียร์อยู่
:m16:
-
รอตอนต่อไป
ทำไมแก้วรักฝิ่นไวจังอ่ะ แล้วฝิ่นล่ะ ????
-
อิพี่ฝิ่นมันรู้สึกอะไรมั่งเหอะแก้วเอ๊ย
-
แก้วตาดวงใจของพงษ์ เอร๊ย ของฝื่น เอิ้กส์ๆ
-
แง๊ๆT^T ยังไม่มาอีกหลอค๊าฟฟฟ
คิดเถิงแก้วแระง่า........อยากรุ็ว่าเกี่ยวจะต้องโดนทำร้ายอีกขนาดไหนกานนะ
รีบๆมาต่อนะค๊าฟฟ^^!!
-
:กอด1:แก้วรู้ใจตัวเองแล้วว่ารักฝิ่น ถึงได้ยอมที่จะมีอะไรลึกซึ้งกับฝิ่นแบบนี้ :กอด1:
:เฮ้อ:ส่วนฝิ่นเมื่อไรนะที่จะรู้ใจตัวเองเสียที ระวังนะกว่าจะรู้ใจตัวเองเมื่อนั้นทุกอย่างอาจจะสายไปแล้วและไม่อาจกลับไปแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว :เฮ้อ:
-
ยังไม่มาอีกหลอT^T
รออยุ๋นะค๊าฟฟ
-
แก้ว รัก ฝิ่น ไปซะแล้ว
แล้ว ฝิ่น หล่ะเริ่มรัก แก้ว รึยัง
อย่ารอให้มีเรื่องร้ายๆเกิดก่อนเลยนะ
-
สงสารแก้วยัง เสียตัวและให้ใจไปแล้วจะได้อะไรตอบแทนจากฝิ่นเนี่ย
จะได้ความเสียใจหรือเปล่า ฝิ่นยังสะกดจิตตัวเองอยู่เลย
มาต่อไว ๆ นะคนเขียน
-
อ่านทันแล้วค่ะ เย้ เย้
ปกติเป็นคนชอบนิยายสนุกๆ ค่ะ ไม่ค่อยชอบแบบดราม่าซักเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้เป็นข้อยกเว้น เพราะเป็นดราม่าที่สนุกมากกกก ลุ้นมากกกกกก
อ่านรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันเลย สำนวนดีค่ะ อ่านเพลินกันเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่าเพิ่งจะแต่งเป็นเรื่องแรก
แถมยังได้รู้ข้อมูลเชิงลึกของเด็กช่างอีกด้วย เป็นข้อมูลที่น่าตกใจปนทึ่งกันเลยทีเดียว
ว่าแต่ เมื่อไหร่จะมาต่อตอนต่อไปสักทีล่ะค้า :m16: :m16:
-
ท่านผู้มีอุปการะคุณโปรดทราบบบบ
ข้าเจ้าช้าหน่อยเน้อ งานรัดตัวจริงๆ สัปดาห์สุดท้ายก่อนหยุดปีใหม่แล้ว
ทั้งยังพิมพ์ที่ออฟฟิซไม่ได้ด้วยค่ะ พิมพ์เครื่องนึงไว้พอจะต่อย้ายมาอีกเครื่อง งานหาย ตัวสแกนไวรัสดีเกิ๊นนน แว๊กกกก
พิมพ์ใหม่สามรอบแล้วค่ะ เหนื่อยจริงๆ :เฮ้อ:
-
:m25:
เรียบร้อยโรงเรียนฝิ่น :z2:
-
ฝิ่นยังไม่รักแก้วหรอก จนกว่าแก้วจะหนีฝิ่นไป แล้วฝิ่นตามหาแก้ว แล้วแก้วใจอ่อน. อยากให้แก้วต่างหากที่ได้ฝิ่นแล้วทิ้งไปหาพงษ์มันคงพลิกน่าดู ขอโทษแฟนคลับฝิ่นด้วยนะ อิอิ แต่เราเชียร์พงษ์
-
เยส! ตามทันซะที :z3:
ง่า~ เเก้วรู้ตัวเเล้ว ฝิ่นล่ะ รู้หรือยัง เเทนเเก้งยังจะ.... :a5:
:z6:อ๊าก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
จะดราม่าป่ะเนี่ย คิดเเล้วเเซด :เฮ้อ:
:กอด1:กอดที ต่อเร็วๆนะค่ะ รอเสมอ อิอิ :z13:
-
คิดถึงพี่ฝิ่นกับน้องแก้ว...
-
เฝ้า แต่ รอ รอ รอ รอ
55555
เราเชียร์ฝิ่นน้าาา โหดเถื่อนดี 55555
-
ยังไม่มา เลย :o12: :o12: :o12:
-
แง๊ๆ.......เค้าบอกว่าถ้าติดหนีค้างปีไม่ดีน้า T^T
รีบๆมาต่อนะค๊าฟ อยากอ่านแล้วนะนี่T^T
รอ รอ รอน้าาาา
-
มานอนรอ :t3: :t3:
-
มารอๆๆๆ
:z2: :z2: :z2:
-
ท่านผู้มีอุปการะคุณโปรดทราบบบบ
ข้าเจ้าช้าหน่อยเน้อ งานรัดตัวจริงๆ สัปดาห์สุดท้ายก่อนหยุดปีใหม่แล้ว
ทั้งยังพิมพ์ที่ออฟฟิซไม่ได้ด้วยค่ะ พิมพ์เครื่องนึงไว้พอจะต่อย้ายมาอีกเครื่อง งานหาย ตัวสแกนไวรัสดีเกิ๊นนน แว๊กกกก
พิมพ์ใหม่สามรอบแล้วค่ะ เหนื่อยจริงๆ :เฮ้อ:
^
^
มารอลุ้น....อยากรู้สถานะความสัมพันธ์หลังเสียตัว o8
-
ไม่ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้สักพัก...อ่านปุ๊บถึงขั้นน้ำตาซึม TT
ของเขาแรงๆจริง ดราม่าแบบจังๆ
เคืองพี่ฝิ่น!! เฮ้ออออ.....พี่แก้วสู้ๆ !!!~
:กอด1:กอดพี่คนแต่งค่ะ
-
มารอลุ้น....อยากรู้สถานะความสัมพันธ์หลังเสียตัว o8
ู^
^
^
ใช่ๆ อยากรู้ว่าฝิ่นมันจะทำไงต่อ มาต่อเถอะค่าะ พลีสสสสสส :impress2:
-
:impress2: :impress2:
ในที่สุดก้อนะ แต่แอบสงสารแก้วด้วย
ฝิ่นรู้ตัวไว ๆ เน้อออ
รออยู่ ๆ ค่ะ
-
ชิ! ไอ้ฝิ่น อย่าหลงแก้วบ้างแล้วก๊านนนน!!!!
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๗
อ้อมกอดที่อุ่นใจ...
เขาเคยคิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้รับจากใครอีกแล้ว
ความรู้สึกปลอดภัย สุขใจ ทำให้หัวใจมีกำลังเคลื่อนไหว สิ่งเหล่านี้ เขาเคยได้รับจากพงษ์
แต่หลายครั้ง เขาเจ็บตรงนี้ ณ เวลานี้ เขาต้องการอ้อมแขนแข็งแกร่งเดี๋ยวนี้ หากแต่การปลอบโยนของพงษ์มักจะมาในช่วงเวลาคล้อยหลังเสมอ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการ แต่เขาหายเจ็บแล้วต่างหาก
ตามจริง เจ็บตรงนี้ก็ต้องใส่แผลที่นี่ ไม่ใช่รอให้ถึงบ้านก่อนทุกครั้งไป ซึ่งพงษ์ทำแบบนั้นประจำ
และการที่ติดต่อมันไม่ได้อย่างตอนนี้ มันก็จะมีสิ่งที่เหนือความคาดหมายมาให้เขาได้เช่นกัน...กูรอมึงนะ
ความคล้ายที่แตกต่างกับคนๆนี้ คนที่ทำให้เขาเจ็บทั้งตัวทั้งใจตั้งแต่แรกเห็น คนที่มองเห็นเขาจริงๆอีกคน
แม้ในสายตาคู่นี้ เขาจะยืนอยู่ในสถานะที่แตกต่างจากพงษ์มองมาอยู่มากก็ตาม
คนที่ดูอันตรายไม่น่าเข้าใกล้ แต่กลับเป็นอันตรายที่เขาต้องการเดินเข้าหา
ฝิ่นสามารถทำร้ายเขาได้ทุกที่ และสามารถปกป้องเขาได้ในเวลาเดียวกัน
ทั้งตอนที่เขาต้องการ และไม่ต้องการ มันเป็นให้เขาได้เสมอ
เพียงเพราะต่างฝ่ายต่างต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน...งั้นเหรอ
ก็ใช่นะ!
...แต่สำหรับเขา ถ้าใจไม่ปรารถนาก็คงทำอย่างนี้ไม่ได้หรอก
...แก้วได้คำตอบแล้ว
...ความรักไม่เห็นมีอะไรยิ่งใหญ่เท่ากับการรู้ใจตัวเองเลย
แม้สถานะของพงษ์กับฝิ่นจะต่างกัน แต่ความรู้สึกของเขาที่ได้อยู่กับสองคนนี้ ...ไม่ต่างกันเลย
“จะไปเข้าห้องน้ำ” แก้วเอ่ยปากบอกคนที่นอนทับอยู่ ทั้งที่เสียงหายใจก็เต้นเบาเป็นปกติแล้ว แต่ฝิ่นยังไม่ยอมลุกออกจากตัวเขาเลยจนเขาต้องพูดบอกเพราะเขารับสภาพตัวเองแบบนี้ไม่ได้ มันเลอะเทอะเกินไปถึงฝิ่นมันจะเช็ดให้เขาแล้วก็เถอะ
ฝิ่นกลิ้งตัวไปนอนหมอนใบข้างๆไม่ได้ดูขัดเคืองอะไร
ฟู่ววว แก้วรู้สึกโล่งอก ความอึดอัดกดดันต่างๆนาๆที่เก็บไว้มานาน เวลานี้เขารู้สึกว่าตัวเองผ่อนคลายขึ้นแฮะ ...เขาตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ
“โอ๊ะ” แต่แค่เพียงยันตัวลุกนั่งมันก็รู้สึกจี๊ดที่ก้นจนต้องนั่งนิ่งๆไว้ก่อน ...ทั้งที่คิดว่าสบายตัวสบายใจแล้วเชียว
แก้วกัดฟันก่อนจะกลั้นใจลุกอีกครั้ง เขาหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่มาคาดเอวพลางดึงผ้าขึ้นห่มตัวฝิ่นกันอุจาด ทั้งที่ฝิ่นเองลืมตาขึ้นมามองเขาแล้ว ...แต่แค่มองเฉยๆไม่ได้มีท่าทีอะไร และไม่ยอมจับผ้าขึ้นห่มเองซะด้วย... แก้วเก็บของที่ซื้อมาไปวางไว้โต๊ะหัวเตียง เก็บซากถุงยางที่ใช้แล้วแต่มันแค่ถอดทิ้งไว้เอาไปทิ้งลงถังขยะ แล้วจึงถือเสื้อกับกางเกงเดินเข้าห้องน้ำ
แก้วอาบน้ำ ทำความสะอาดตัวอีกครั้งก่อนจะมาสำรวจตัวเองที่หน้ากระจก ซอกคอมีรอยจ้ำแดงสองจุด เนินอกเป็นจ้ำพร้อมรอยฟันกัด เฮ้อ... ไปจนทั่วหน้าท้อง
ถ้ารอยพวกนี้บอกแทนความพึงพอใจของมึงได้ก็ดีสินะ
แก้วออกจากห้องน้ำด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ และกลิ่นบุหรี่ที่เพิ่งได้กลิ่นจากห้องนี้เป็นครั้งแรก
ฝิ่นนอนเหยียดตัวยาว ไม่ได้ต่างจากตอนที่เขาเข้าห้องน้ำเลย ที่เพิ่มมามีเพียงมือขวาคีบบุหรี่วางตรงแท่นเขี่ยบุหรี่พอดิบพอดีเท่านั้นเอง
สูบบุหรี่ทำไม?
ทั้งที่นอกจากเครื่องปรับอากาศแล้ว ในห้องนี้ไม่มีอะไรช่วยระบายอากาศได้เลย
“มานอนสิ ยืนบื้ออยู่ได้” คำสั่งที่ไม่แม้แต่มองหน้า หรือว่า...จะไม่พอใจเรื่องเมื่อครู่ แต่ฝิ่นมันเป็นคนทำเองมันไม่ได้เสียเปรียบตรงไหนด้วยซ้ำยังมีอะไรให้มันไม่พอใจอีกเหรอ
แก้วล้มตัวลงนอนข้างๆฝิ่นอย่างไม่สบายใจเหมือนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี้นัก
ก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้มันเพราะเขากำลังครุ่นคิดอยู่...ทั้งที่ฝิ่นเองก็ต้องการเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ถึงเขาจะยัดเยียดให้มันก่อนก็เถอะ แล้วอะไรทำให้มันต้องมาสูบบุหรี่ในห้องนอนด้วย
“นี่มึงไม่พอใจอะไรกูรึเปล่าวะ”
“เห?” อะไรกัน เขาต้องถามคำนี้กับมันต่างหาก “อูยส์” ฝิ่นจับไหล่ให้เขาพลิกตัวนอนหงายจนต้องร้องออกมาเพราะเจ็บก้น แล้วจับเขาพลิกอีกทีให้หันไปเผชิญหน้ากับมันที่นอนตะแคงย่นคิ้วอยู่
“บอกมาสิ มึงคิดอะไรก็พูดออกมา กูต้องการรู้ทุกเรื่องที่มึงคิด”
“..........” อืม... ฝิ่นหันไปวางบุหรี่ก่อนหันกลับมาจับไหล่เล่นจ้องตากันต่อ “...มึงต่างหากไม่พอใจอะไรกูอีกเหรอ” แก้วเอ่ยปากบอกและถามกลับไปในคำเดียว พลางเม้มริมฝีปากแล้วมองหน้าฝิ่นเพื่อรอฟังคำตอบ
“เหอะ มึงรักกูแล้วนี่ มีอะไรที่กูจะไม่พอใจด้วยเหรอ” มันลุกนั่งเอามือลูบหน้าตัวเองก่อนสองแขนจะท้าวยันไว้ข้างหลัง
รอยมีดฟันจำนวนนับไม่ถ้วนปาดเฉียงซ้อนทับกันไปมาเต็มทั่วแผ่นหลังให้เขาได้มอง...ถึงจะไม่เป็นแผลแต่มันก็ยังคงเป็นร่องรอย
“นอนเถอะ พรุ่งนี้เดี๋ยวมึงทำงานกับพ่อกูไม่ไหว” นี่มัน...
ฝิ่นบอกแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ
“สบายมาก ไม่ต้องห่วง” แก้วรีบตอบอย่างไม่ลังเล แอบใจชื้นขึ้นมาเล็กๆหลังจากแป้วไปเมื่อกี้นี้
“ใคร?...ใครห่วงมึง” ไอ้ฝิ่นขึ้นเสียงสูงแล้วหันมามองหน้าเขาที่เปื้อนยิ้มอยู่ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหัวเขา
ยิ้มน้อยๆของแก้วต้องรีบหุบแทบไม่ทันเมื่อมันตอบมาอย่างนี้
...ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง
...นอกจากการกระทำของมึงที่ตอบสนองความตั้งใจของกูแล้ว ...ไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิมเลย
เอาเถอะ ในเมื่อคิดจะรักไอ้ฝิ่นแล้ว เขาก็ควรจะยอมรับสิ่งที่มันเป็นให้ได้ ถูกต้องไหม?
เรื่องทำให้เขาเจ็บซ้ำๆนี่ต้องมันเลย อย่างว่าแหละนะ แค่ความรักมันจะลบล้างอะไรได้ยังไง แม้เขาจะให้มันได้ แต่เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ดี
ไม่ต่างจากแผ่นหลังของมัน แม้จะไม่เกิดบาดแผล แต่ก็เห็นความเป็นมาจากร่องรอย
ใช่ เขาตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ แต่จะทำยังไงให้การตัดสินใจของเขามันสำเร็จ?
...จะทำยังไงให้ร่องรอยเหล่านั้นจางหายไปได้นะ?
.
.
.
“อย่างนี้ นี่ นี้ อ๊ะ ทำ” พ่อฝิ่นถอดฝาครอบรถยนต์ล้อหน้าออก ฉับๆ แล้วยื่นไขควงปากแบนอีกอันจากมือโจ้ที่ยืนอยู่ข้างๆเพราะเมื่อกี้มันทำงานนี้อยู่ ยื่นส่งให้เขา
แก้วเอาไขควงแงะๆเข้าไปในฝาครอบล้อหลังบ้าง เหมือนพ่อมันทำให้ดูเป็นตัวอย่างเมื่อกี้ ก่อนจะใช้ไขควงประแจหมุนน็อตต่อเหมือนที่พ่อมันกำลังทำให้ดูอีก
“อูยส์” ที่พ่อมันทำดูง่ายจัง พ่อฝิ่นหมุนๆประแจไม่กี่ทีน็อตก็หลุดแล้ว แต่ทำไมพอทำเองต้องออกแรงด้วยวะ “ฮึ๊บๆ” ยิ่งออกแรงมันก็เจ็บไปยันก้น
เวรกรรมของไอ้แก้ว...
“โนT มันอ่อนขนาดนี้เลยเหรอวะ ถอดล้อรถยังทำไม่ได้เลย ตายๆๆ” พ่อฝิ่นพูดทำเอาเขาหน้าเสีย ก็ถ้าเมื่อคืนไม่ไปทำอะไรมาเขาก็ทำอย่างที่พ่อมันทำให้ดูได้อยู่แล้วล่ะน่า
“ผมเรียนต่อแผงวงจรมา” แต่ไม่วายแก้ต่างให้ตัวเอง
“นี่ ไอ้โนT มึงจะเรียนอะไรมาไม่สำคัญหรอกนะ บางคนเรียนจบมาทำงานไม่ตรงสายก็เยอะแยะ สู้เราทำอะไรได้นอกเหนือจากในตำราสอน ไม่เจ๋งกว่าเหรอวะ ทำเป็นทุกอย่าง ก็อยู่ได้ทุกที่ ไม่อดตายด้วย” แก้วไม่ค่อยยอมรับในสิ่งที่พ่อฝิ่นพูดนัก แต่ก็เถียงไม่ออกอีก จึงก้มหน้าอย่าเคืองๆหันมาใส่อารมณ์กับการหมุนน็อตที่ล้อแทน “เวร งอนกูเปล่าเนี่ย” แก้วไม่สนใจกับคำพูดต่อท้ายนั่นหรอก จนกระทั่งพ่อฝิ่นเดินไปดูรถคันอื่นแล้วโจ้เดินมาสอนงานแทน
เขาทั้งใช้มือ ใช้เท้าในการหมุน กว่าน็อตจะหลุดได้แต่ละตัวเล่นเอาเหงื่อตก ทั้งที่เมื่อเช้าอากาศเย็นสบายอยู่แท้ๆ พอมาทำงานกลางแจ้งไหงร้อนจัดขนาดนี้วะ
“หน้าซีดนะมึง”
“..................” แก้วหน้าบึ้งเหล่ตามองโจ้เล็กน้อยที่มันถอดเสร็จไปแล้วสามล้อแต่กำลังยืนท้าวเอวก้มมองตนอยู่ แต่เขาไม่ได้ตอบอะไร พลางตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่ตัวอย่างเต็มที่
นี่ขนาดไอ้ฝิ่นไปเรียนไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย ยังอุตส่าห์ฝากพ่อฝากน้องมันทับถมเขาแทนได้อีก
แก้วมองไปยังใต้ท้องรถอีกคันที่พี่ไม้นอนวุ่นอยู่ใต้ท้องรถคันนั้น ...ไม่คิดจะออกมาเกทับเขาอีกคนเหรอ
เขาฮึดอีกครั้งก่อนที่พี่ไม้จะลุกมาอีกคน แก้วออกแรงหมุนน็อตตัวสุดท้ายพลางลุกยืนกะจะใช้เท้าช่วยเหยียบอีก แต่กลับรู้สึกเย็นวูบที่ใบหน้า ดีที่โจ้เดินมาจับตัวไว้ทัน
แก้วต้องยืนเฉยๆสักพักถึงค่อยรู้สึกดีขึ้น ...เกือบเป็นลมไปแล้ว
“ขอบใจ”
“หนักล่ะสิ” แก้วมองหน้าโจ้อย่างเหวอๆ รอยที่คอเขาก็เอาพลาสเตอร์ปิดแล้วและไอ้ฝิ่นคงไม่ได้บอกคนอื่นหรอกน่า ...หรือว่ามันจะบอก เขารู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันใดเมื่อโจ้พูดคำปริศนาขึ้นมา
“...อะไร?”
“โจ้รับรถหน่อยเว้ย” เสียงพ่อฝิ่นตะโกนมาจากทางหน้าร้าน
“ครับ” โจ้ตะโกนตอบรับ ก่อนยักคิ้วให้เขาทีนึง “...มึงออกแรงหมุนหนักไปล่ะสิ อ่อนอย่างที่พ่อว่าไม่ผิดเลย” แล้วมันก็เลี่ยงไปรับรถจากลูกค้า
ฟู่ว...แก้วถอนหายใจอย่างโล่งอก ถึงจะเป็นสิ่งที่เขาจงใจทำแต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ละอายสักหน่อย นี่ยังรู้สึกผิดต่อพ่อกับแม่มันอยู่เลย
โจ้เดินออกไปแล้ว แก้วจึงหันมาง่วนกับน็อตตัวสุดท้าย เขาเสียบประแจเข้ากับน็อตแต่พี่ไม้แทรกมาช่วยหมุนแทน
“ถ้าอะไรที่มันไม่ใช่ มึงก็ไม่จำเป็นต้องทำ มันเสียเวลาเปล่าๆ” นั่นไง มาอีกคนจนได้ แถมสวนทางกับที่พ่อไอ้ฝิ่นว่าเขาซะด้วย
แก้วถอยออกจากตัวรถเพื่อไม่ให้เกะกะพี่ไม้
“แต่การได้ลองทำถึงจะสำเร็จหรือไม่ มันก็ดีกว่าไม่ทำอะไรไม่ใช่เหรอ” เขาพูดค้าน
เขาไม่ได้หวังจะเป็นได้ทุกอย่างเหมือนที่พ่อฝิ่นพูดหรอก แค่เป็นได้อย่างละนิดละหน่อยก็พอแล้ว
“รู้ว่าทำไม่ได้จะทำไปทำไมกัน”
“แล้ว...จะรู้ได้ไงว่าทำไม่ได้ล่ะพี่ ถ้ายังไม่ได้ทำน่ะ” อย่างที่เขาไม่ได้รู้สึกดีตอนเริ่มถอดน็อต แต่ก็ถอดมาได้ตั้งสามตัวแหนะ อดภูมิใจเล็กๆไม่ได้
“เหอะ” พี่ไม้ต่อด้วยการเปลี่ยนล้อรถเองทั้งหมดคนเดียวใช้เวลาเพียงไม่นานก็เสร็จ ...เฮ้ย ง่ายจัง
“ของอย่างนี้แค่มองก็รู้แล้วว่าเกินความสามารถเรารึเปล่า ไม่ต้องลงแรงให้เหนื่อย ให้เสียเวลาหรอก นอกจากพวกหลอกตัวเองที่อวดดีดันทุรันจะทำ” ใบหน้ามุ่งมั่นจดจ่ออยู่แต่กับงานตรงหน้า แต่ปากยังทักท้วงเขาได้ทั้งที่เหมือนไม่สนใจฟังสิ่งที่เขาพูดเลยด้วยซ้ำ
“...แต่ก็ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าตัวเขาหรอก” แก้วยืดคอเถียง รู้สึกว่าโดนพี่ไม้หลอกด่าเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับรถไปแล้ว
“บางทีเจ้าตัวมันก็โง่เกินจะรับรู้อะไร คิดเอาเอง มั่นใจไปเอง ตกม้าตายกูจะขำให้” เหอะ เขาไม่อยากจะพูดกับพี่ไม้เลย แต่ละคำอย่างกับจะสะกดจิตให้คนฟังคล้อยตามความคิดตนให้ได้
แก้วเห็นพี่ไม้เหยียบที่ยกล้อเพื่อวางรถลง จึงเข้าไปช่วยเหยียบอีกตัวด้วยหน้าที่เง้างอ
“ผมว่าพี่น่าจะบวชต่อไปเรื่อยๆ อนาคตคงบรรลุแน่ๆ” เมื่อพูดจบแก้วก็ชักอยากจะเอาหน้ามุดเข้าไปใต้ท้องรถเมื่อพี่ไม้มองมาอย่างดุๆ
ทีว่าคนอื่นน่ะว่าได้ ทีเขาพูดอะไรนิดหน่อยจ้องจะบีบคอกันท่าเดียว
ไอ้พวกอาชีวะx มันสืบทอดสายเลือดกันมาของแท้เลย
“สิ่งที่ตั้งใจมันไม่ได้เป็นอย่างที่ใจเราต้องการไปทุกอย่างหรอกนะ การกระทำก็คือการกระทำ หัวใจก็คือหัวใจ ข้อต่อรองของพวกมึงมันโคตรเลว”
พี่ไม้คงจะรู้ทุกเรื่องสินะถึงได้พูดดักเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แก้วยืนนิ่งก่อนจะพูดออกไปอย่างมั่นใจ ...นิดๆ
“แล้วถ้าผมทำได้แล้วล่ะ” แต่พี่ไม้ไม่ได้รู้ทุกเรื่องจริงหรอก ทุกวันนี้เขาแน่ใจว่าเขาใกล้ชิดไอ้ฝิ่นมากกว่าทั้งพี่ไม้ทั้งโจ้ ใครจะไปรู้ดีมากกว่าคนที่ลงมือเองและใครจะให้คำตอบเขาได้มากกว่าไอ้ฝิ่น
“ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอก ไม่เชื่อมึงถามไอ้ฝิ่นดูสิ”
แก้วหันกลับหลังตามที่พี่ไม้พยักพเยิดหน้า ฝิ่นมันยืนอยู่แล้ว ยืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เขาไม่รู้ และไม่อยากรู้ไปมากกว่า...
“กูรักมึงแล้วนะ เรื่องที่เคยตกลงกันไว้ ...ว่ายังไง?”
แรงผลักดันเพื่อให้ลบรอยในใจของมันและพวก คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ...เขาอยากจะรู้
เขาต้องการคำตอบ ไม่ใช่สายตาตัดพ้อก่อนจะเบนหน้าไปทางอื่น ...ทำเหมือนเขาเป็นคนผิดที่เอ่ยถามประโยคเมื่อครู่ออกไป
...........................................
กรี๊ดดดดดดดดดด (เก็บกด!)
ค้างกันใช่ไหม ค้างอีกแล้วใช่ไหมล่ะ //โดนตื๊บ กะว่าจะเอาภู+โซ่ มาแทรกในตอนถัดไป คงไม่อยากอ่าน กันแล้วใช่ไหม? //โดนตื๊บอีกรอบ แอร๊ยยย
ตอนหน้า (เมื่อไหน?) ไม่รู้จะได้ก่อนวันศุกร์รึเปล่านะ (อย่าต้องรอจิ เค้ากดดัน Y^Yแงๆ คนอ่านง่ะ ) เพราะวันศุกร์ซีซั่นก็ต้องไปต่างจังหวัดแล้ว และ อดีตเด็กช่างฮีกลับมาแย่งโน๊ตบุ๊คเราพรุ่งนี้แล้ว (มาทำม๊ายยย) เพราะงั้นไปปั่นแบบเสี่ยงไวรัสที่ทำงานต่อ แผ่เมตตาให้ทุกวัน มันไม่เห็นใจงานฉันเลยY^Y
แบบว่า แปลกใจที่คนอ่านบอกว่ามันดราม่ามากนะ เพราะที่ห้อยท้ายว่าดราม่า ซีซั่นกลับไม่รู้สึกว่านิยายที่ตัวเองเขียนมันเข้าข่ายเลยนะ อันนี้รู้สึกจริงๆเลย ส่วนเหตุผลที่ห้อยก็รู้ตั้งแต่ตอนต้นๆเรื่องแล้วเนอะ
อืม ...หรือจิตใจฉันมันด้านชาไปแล้ว ไม่นะ Y^Y ปีหน้าเอาพี่ไม้มาลงจะไม่โคตรดราม่าเลยเหรอ
//โดนตื๊บอีกรอบ หมั่นไส้ตัวเองมันเนียนโฆษณาชวนเชื่อตลอด
ปล.วันนี้ปิดบัญชีเดือน พฤศจิกายน เสร็จแล้ว เย้ๆ
ปล.๒ ติได้นะคะ อย่าชมอย่างเดียว นังคนเขียนมันชมตัวเองได้ แต่ติตัวเองไม่เป็น จัดเต็มได้จ้า ^^
ปล.๓ ตกลงว่า ยังไม่มีภูรักแอนด์พี่โซ่นะคะ เอาตอนต่อไปให้จบก่อน (ก่อนที่คนเขียนจะจบชีวิตด้วยน้ำมือคนอ่าน) เช๊อะะะ
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ขอบคุณทุกบวกบวก ขอบคุณทุกบวกเป็ดนะคะ ^^ กอดๆ จุ๊บ
สองทุ่มเดี๋ยวมาตอบคอมเม้นท์จ้า เก็บกด อ๊ากกกกก!! เน็ตก็เน่า //ทึ้งหัวตัวเองโขกแป้นพิมพ์
ตอบคอมเม้นท์หน้า ๔๒ นะคะ
-
โอ๊ยยยยยยยย
ฝิ่นจะเอาไงเนี่ยยยยยยยยยยย
-
:a5: ค้างงงง
อยากได้ตอนธรรมดาก่อนอ่า
-
อ่านะ ฝิ่นคิดไงเนี่ยยย
หวง?
-
แก้วถามฝิ่นออกไปแบบนั้นเหมือนตอกย้ำว่าที่แก้วบอกรักฝิ่น เป็นเพราะต้องการจะช่วยพงษ์ ถึงจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะที่ว่าต้องการช่วยพงษ์ แต่แก้วก็รักฝิ่นจริง ๆ ไม่ใช่หรอ ฝิ่นจะรู้สึกไม่ดีก็ไม่แปลกหรอก เพราะเหมือนว่าฝิ่นก็เริ่มรู้สึกดี ๆ กับแก้วเหมือนกันนะ
-
อร๊ายยยยยยย
ฝิ่นจะว่าไงเนี่ย !?
:z3: :z3:
-
เร็วๆๆงับเร็วๆ
มาต่อเร็วๆเลย
เอาหนุกๆ มันๆ ซึ้งๆ55+ สู้ๆ
-
:z3: :m16:
-
เมิงก็ถามอะไรเนี่ยแก้ว :z6: :z6:
พี่ไม้ชอบแก้วรึป่าว สงสัย?
-
3 คำง่ายๆ
ค้าง ได้ อีก
ปล. เอา 2 คนนี้ให้เคลียร์ก่อนได้ไหม ไม่มีอารมณ์อ่านคู่อื่น :laugh:
-
^
^
^
ชอบคชาอะ ตามใจแฟนคลับคชาเลยละกัน (โยงตลอด อิอิ)
:a5: ค้างงงง
อยากได้ตอนธรรมดาก่อนอ่า
...ตามใจคนอ่านนะ แน่ใจเหรอว่าจะไม่ค้างอีก //แอร๊ยยย โดนโบก
ยังไงก็ได้ค่ะ เพราะยังไม่ได้ต่อสักประโยคทั้งตอนหลัก ตอนแทรกเลย
งั้นเอาตอนหลักให้ได้ก่อน ตอนแทรกไปหลังปีใหม่เลยแล้วกัน ตามนั้นเนอะ
...บ่งบอกว่าคนเขียนมีจุดยืนมาก ฮ่าๆๆๆ
-
จริงๆก็อยากอ่านอีกคู่นะ แต่คู่นี้ยังคาราคาซังอยู่เลย
เหมือนจะพัฒนาความสัมพันธ์แต่ก็เหมือนไม่ เห้ออออออ :เฮ้อ:
ขอบคุณมากน้า สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ :L2:
-
ค้างอ่ะ
อยากอ่านต่อๆๆๆๆ
:z3: :z3: :z3:
-
สงสัยแก้วจะผิดหวังแล้วแหละ อิฝิ่นมันไม่เปลี่ยนง่าย ๆ หรอก
-
เอายังไงก็ว่ามา อย่าปล่อยให้คนอื่นเขาทรมาณ :z13:
-
พี่ไม้ :m3:
-
แอบค้างงอ่ะ
เมื่อไหร่อีตาพงษ์จะกลับมาซักที
คิดว่าอีกหน่อยต้องเกิดเรื่องกับแก้วเป็นแน่แท้
ปล.ปูเสื่อรอคู่พี่โซ่อิๆๆ :z1:
-
เหมือนฝิ่นจะเริ่มชอบแก้วแล้วใช่ป่ะ
ฝิ่น รีบรักแก้วเร็วนะ ก่อนจะมีคนมาคาบไป
-
ตำพูดพี่ไม้นี่สะอึกจริงๆ
-
อร๊ากกก..........ค้างมากมาย แล้วมันจะเปงไงต่อละเนี่ย!!
รีบๆเอามาต่อน้า อย่าให้แก้วต้องเจ็บอีกเลย สงสารT^T
รอ รอ น้อค๊าฟฟ
-
ไล่บวกตอนที่แล้วครบก็มาตอบบางเม้นท์ได้ละ
ด้วยสังขารของคนเขียนแล้ว ทำได้เท่านี้ แต่ทุกคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้คนเขียนอย่างมากเท่ากันนะ^^ //ซบพุงคนอ่าน กร๊ากกก (เรื่องประจบขอให้บอกนังซีซั่น)
ก่อนอื่น (เวิ่นอีกละ) ขอซับน้ำตาก่อน (ตอมาก) ปลื้มจิตอย่างแรงที่มีคนอ่านและคนเม้นท์ให้ ตอนอ่านนิยายคนอื่นใฝ่ฝันเหลือเกินว่าอยากอ่านคอมเม้นท์ที่เป็นนิยายของเราจัง
และแล้ว มีให้อ่านมาสามเดือนแล้วโว้ย กรี๊ดๆๆ
อย่าเพิ่งแบนตัวเองงงงง :serius2:
อ่านแล้วเศร้า ไม่ได้มีทำร้ายร่างกาย หรือแต่งไม่ดีนะ แต่รู้สึกเศร้าอ่ะ T^T สงสารน้องแก้ว ไปหลงรักมันเข้าจริงๆแล้ว :z6:
ถึงจะเติมให้ตอนยาวขึ้นแต่ก็ยังค้างๆคาๆ อยากรู้อาฟเตอร์~~~!!! ><"
เหมือนฝิ่นจะรู้ตัวเองว่าเริ่มหวั่นไหว ถ้าพยายามฝืนความรู้สึกตัวเองคราวนี้มาม่าบวมอืดแน่เลย :laugh:
ขอบคุณค่ะ :กอด1:
ปอลิง พอดีเข้ามาอ่านอีกรอบ 555 หื่น~ (มะช่ายยยย) รู้สึกเหมือนแก้วคิดว่าการมีเซ็กส์เป็นการบอกรักฝิ่น เป็นวิธีบอกรักที่ฝิ่นจะสามารถรับรู้ได้ แก้วก็เลยยอมฝิ่น โดยที่มันไม่ได้เกิดมาจากความรักจริงๆ มันเหมือนยังเป็นความรู้สึกว่าแก้วจะช่วยพงษ์อ่ะเลยทำแบบนี้ T^T หลังจากนี้แก้วจะต่อรองกับฝิ่นว่าให้เลิกแค้นพงษ์รึเปล่านะ? รอตอนใหม่ค่ะ ^^
...อั่ยยะ!! ตรง ปอ. เอ้ย ปล.มันช่างโดนใจจริง
บางทีอาจจะรู้สึกทั้งสองอย่างควบคู่กันไปก็ได้ ซึ่งน้ำหนักส่วนไหนมากกว่า แก้วก็ยังตอบไม่ได้ ส่วนหนึ่งที่แก้วคิดว่าตัวเองรักฝิ่นเข้าแล้ว ก็เพราะว่าตัวฝิ่นเองยื่นข้อเสนอมาให้แก้วทำตาม และแก้วจะชอบย้ำตรงคำว่าตั้งใจๆ ซึ่งคนอ่านก็สามารถตีความได้สองทาง ตามนั้นจ้า^^
แสดงว่าชินกับแนวการเขียนของเราอีกคนแล้วสิ ฮ่าๆ กำกวมๆแต่คำตอบมันก็อยู่ในเนื้อเรื่องนั่นแหละไม่ได้หายไปไหนไกลเลย
จะบอกว่า แก้วทำอะไรได้มากกว่าที่คนอ่าน(และคนเขียน) คิด
เป็น NC ที่สมกับความเป็นฝิ่นและแก้วจริงๆ :เฮ้อ:
ฝิ่นมันก็ช่างเอาแต่ใจ อยากแกล้งอยากให้แก้วทำอะไรมันก็สั่งๆๆๆๆ มันท้าทายเพื่อลองใจ...แมร่ง เอี้ยอิ๊บอ๋าย :beat:
ปากแมร่งก็ร้าย คำก็ด่าสองคำก็ประชดประชัน อ่านแล้วโคตรสงสารแก้วที่กำลังจะมีสามีเป็นพ่อค้าปากตลาด
ส่วนแก้วก็นะ เขาให้ทำอะไรก็ทำ มันไม่มีกั๊กไม่มีไว้ตัวอะไรทั้งนั้นแล้ว ยอมไอ้คุณฝิ่นไปซะทุกอย่างแบบนี้ เฮ้อ...
ซึ่งมันก็เป็นนิสัยแก้วจริงๆ อะแหละ ตอนเด็กพี่ลูกขวัญบอกให้ทำอะไรมันก็ทำ เพื่อให้พี่ลูกขวัญรักมันเอ็นดูมัน
ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่เสียศักดิ์ศรีในสายตาคนอื่นแค่ไหน สำหรับแก้วมันไม่คิดมาก และมองข้ามสายตาดูแคลนของคนตรงหน้าได้อย่างง่ายๆ
แก้วมันคิดอะไรง่ายดี คิดอะไรไม่ซับซ้อน สมละที่ไอ้คุณฝิ่นมันจะหมั่นไส้ตลอดเวลา :เฮ้อ:
จริงๆ สองคนนี้มันรู้ใจตัวเองทั้งคู่แหละว่าใจกำลังจะหวั่นไหว
ซึ่งแก้วอาจจะยอมรับความรู้สึกกับตัวเองมากกว่าฝิ่น แต่ก็ไม่รู้ว่ายอมรับแบบไหนเหมือนกัน
แบบที่ยอมรับว่ารักจริงๆ หรือว่ายอมรับเพราะคิดว่าต้องรักฝิ่นเพื่อพงษ์...ก็คงต้องเดาใจคนเขียนต่อไปอะนะ
ส่วนไอ้คุณฝิ่น มันรู้นะว่าแก้วพยายามจะทำความดีไถ่โทษ แต่มันก็บอกตัวเองอยู่ตลอดว่าจะไม่ให้อะไรมาเปลี่ยนความคิดมันเด็ดขาด
ถึงตอนนี้คงต้องรอดูว่าเมื่อถึงคราวที่ต้องทำตามแผน ฝิ่นมันจะกล้าทำกับแก้วอีกมั้ย และแก้วมันจะเลือกใครระหว่างฝิ่นและพงษ์
(รู้แต่ว่าถ้าฝิ่นมันใจแข็ง งานนี้ก็เจ็บทั้งคู่อะนะ แก้วมันยังดีที่มีพงษ์ แต่แกไม่มีใครนะไอ้ฝิ่น โหโหโห ชั้นจะรอดูวันที่แกอึ้งอะเว้ยเฮ้ยไอ้คุณพระเอก :laugh: )
...ขอคารวะ(คะ) เลยคนนี้ ฮ่าๆๆ ฝิ่นเอ้ย คนเขียนล่ะสงสารแกจริงๆคนอ่านแต่ละคน รอวันแกดับทั้งนั้นY^Y
ส่วนรูปปากแก้วเค้าหาได้แล้วนะ แต่อยู่ที่ออฟฟิซ ไว้วันไหนอัพจากที่โน่นจะแปะย้อนหลังนะ จุ๊บๆ
เราว่าที่แก้วทำไม่ได้เพราะอยากให้พงษ์พ้นผิด
แต่ที่ทำเพราะรักฝิ่นเข้าแล้วหรือเปล่า
ตั้งแต่แ้ก้วมาอยู่กลับฝิ่นก็ดูเปลี่ยนไปนะ
เพราะความรักหรือเปล่า หึหึ
ส่วนฝิ่นบางทีไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไร
แต่เพราะทิฐิในตัวมันสูงเกิน
เลยไม่ได้แสดงออกมาว่ารู้สึกยังไงกับแก้ว
คล้ายๆว่าพยายามกดความรู้สึกบางอย่างไม่อยากยอมรับ
เราาชอบตอนที่ฝิ่นบังคับให้แก้วมองหน้านะ
เหมือนประมานว่าในสายตาของมึงต้องมีกูคนเดียว
มึงเป็นของกูคนเดียว อร๊ายยยยยย
บุคลิคพี่ฝิ่นเป็นประเภทโรแมนติกหลบใน
โรแมนติกเถื่อน ชอบจังเลย
เอ็นซึโฮกมากค่ะ มันเถื่อนได้ใจดี เอิ๊กส์ๆๆ
รอตนอต่อไปอยู่คร้าาาา :impress2:
... กร๊ากกก โรแมนติกหลบใน คนอ่านก็ยังจับได้นะ ฮ่าๆๆ ด้วยนิสัยของฝิ่นด้วยล่ะ ไอ้ที่ชอบสั่งๆ มันสั่งได้ทุกเวลาแหละค่ะ มันคิดว่ามันเหนือกว่าคนอื่น จึงออกมาแบบจะหวานก็ไม่หวาน เลยหวานแบบดิบๆดาษๆไป
รอตอนต่อไป
ทำไมแก้วรักฝิ่นไวจังอ่ะ แล้วฝิ่นล่ะ ????
...สิ่งที่จะทำให้แก้วรักฝิ่นไวคำตอบซ่อนอยู่ในตอนที่แก้วกับขวัญเจอกันในห้องทำงานพ่อแล้วค่ะ
ส่วนฝิ่นรักแก้วรึเปล่า ...อืม อืม อืมมม (สักที!) ฝิ่นค่อนข้างชัดเจนนะ เป็นคนที่ชัดเจนในชีวิตมาก แต่...
อ่านทันแล้วค่ะ เย้ เย้
ปกติเป็นคนชอบนิยายสนุกๆ ค่ะ ไม่ค่อยชอบแบบดราม่าซักเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้เป็นข้อยกเว้น เพราะเป็นดราม่าที่สนุกมากกกก ลุ้นมากกกกกก
อ่านรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันเลย สำนวนดีค่ะ อ่านเพลินกันเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่าเพิ่งจะแต่งเป็นเรื่องแรก
แถมยังได้รู้ข้อมูลเชิงลึกของเด็กช่างอีกด้วย เป็นข้อมูลที่น่าตกใจปนทึ่งกันเลยทีเดียว
ว่าแต่ เมื่อไหร่จะมาต่อตอนต่อไปสักทีล่ะค้า :m16: :m16:
... ขอบคุณค่ะ^^ ดราม่ามันต้องไม่สนุกสิ ฮ่าๆๆ
ที่จริงนี่ไม่ใช่เรื่องแรกที่แต่งค่ะ ก่อนหน้านี้เคยแต่งแล้ว แนวแฟนตาซี ลงในนี้ประมาณสี่ตอนได้ รู้สึกว่ามันไกลตัว เกินความสามารถเราเกินไปแล้วเราจะเขียนออกมาให้คนอ่านอินได้ยังไงในเมื่อตัวคนเขียนยังไม่เชื่อเลย จึงแจ้งพี่โมดุลบไปนานแล้วค่ะ เก็บไว้ก็รกบอร์ด เรื่องนี้เรียกว่าเรื่องแรกที่ลงแล้วต่อมาได้ขนาดนี้คงจะถูกกว่า เป็นเพราะมีคนอ่าน มีคนเม้นท์ มีบอกแสดงตัวว่าเออ อ่านอยู่นะ เท่านี้ก็เขียนต่อได้แล้วค่ะ สำหรับมือใหม่หัดเขียนเนี่ย มันช่วยได้จริงๆ แล้วก็ ก่อนหน้านี้เคยเขียนพล็อตเรื่องของภู+โซ่ และอีกสองเรื่องด้วยนะ(อวดๆ) เรื่องละไม่กี่ตอนก็เถอะ แต่หายไปกับไวรัสละ Y^Y อ้อมกอดเด็กช่างเป็นเรื่องที่คิดขึ้นมาตอนไปงานศพเป้งในเรื่อง จึงตัดสินใจเขียน และโพสหลังจากนั้นไม่นาน วัดความพยายาม ความอดทนของตัวเองไปด้วย เพราะเป็นคนทำอะไรขึ้นอยู่กับอารมณ์ล้วนๆ และด้อยปัญญาเรื่องภาษามากด้วย หลายคำหลายประโยคต้องค้นในกูเกิ้ลว่าเรียงคำถูกไหม เป็นถึงขนาดนั้น ซึ่งเบื่อตัวเองมาก ถ้าไม่มีคนอ่านก็คงเลิกเขียนเรื่องนี้ไปนานแล้วเหมือนกัน
ขอบคุณทุกคนนะคะ^^
ฝิ่นยังไม่รักแก้วหรอก จนกว่าแก้วจะหนีฝิ่นไป แล้วฝิ่นตามหาแก้ว แล้วแก้วใจอ่อน. อยากให้แก้วต่างหากที่ได้ฝิ่นแล้วทิ้งไปหาพงษ์มันคงพลิกน่าดู ขอโทษแฟนคลับฝิ่นด้วยนะ อิอิ แต่เราเชียร์พงษ์
...คงไม่นิยายขนาดนั้นมั้ง อ้าว นี่มันนิยาย ฮ่าๆๆๆ เรื่องอื่นเขาหนีกันแล้ว แก้วยังจะหนีตามเขาอีกเหรอ คนอ่านเบื่อแย่เลยนะถ้างั้นน่ะ
•♀NoM!_KunG♀• //เขียนเช็คยี่สิบบาทเข้าบัญชี ดันให้จริงดันให้จัง ฮ่าๆๆ
กอดทุกคนจ้า^^
-
แก้ว สุ้ๆ
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
ก่อนอื่น ขอบอกว่าคนเขียนช่างหาเรื่องมาให้คนอ่านได้ปวดกบาลเหลือเกิ๊นนนนน :z3:
แล้วจะเอายังไงล่ะทีนี้ ทั้งไอ้คุณฝิ่น ไอ้แก้ว และคุณพี่ไม้ แกจะเอายังไงกันต่อไปค้า เฮ้อ... :เฮ้อ:
ขอด่า เอ๊ยยย ขอเม้นท์อิคุณฝิ่นก่อน งานเข้าแกแล้วล่ะฝิ่นเอ๊ย ชอบเขาไปแล้วล่ะสิ
อย่ามาปากแข็งอีกต่อไปเลย เพราะจากลีลาที่แกฟัดกับแก้วมาอะ มันบอกว่าแกแคร์ไอ้แก้วสุดๆ
เพราะแกจะสักแต่มุดๆ ทำให้มันเสร็จๆ และเสร็จแล้วก็ต่างคนต่างนอน มันก็ได้...แต่แกไม่ทำ
แม้จะไม่อ่อนโยนทะนุถนอมนัก แต่แกก็เข้าใจและพยายามให้ครั้งแรกของไอ้แก้วมันรู้สึกดีเท่าที่แกจะทำได้
พอรบเสร็จ แกก็ยังมีแก่ใจดูแลเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ ซึ่งหากเป็นคนที่ไม่แคร์กัน มันจะทำให้มั้ย
ฉะนั้น...แกมันคงมีใจให้ไอ้แก้วไปแล้วล่ะไอ้คุณฝิ่น 555 :laugh:
แล้วงัยต่อล่ะทีนี้ พอเริ่มชอบเขาขึ้นมา อยู่ๆ แกก็จะมาเล่นบทพระเอกขี้ใจน้อยหลังจากมีใจให้เขาแล้วนี่นะ
แกอย่าลืมนะว่าตอนแกสั่งให้ไอ้แก้วมันรักอะ แกมันก็ยื่นข้อเสนอเขาตรงๆ แบบที่ไอ้แก้วมันถามแกกลับมาตรงๆ ครั้งนี้เช่นกัน
แฟร์ๆ หน่อยสิวะฝิ่น
ตอนยื่นข้อเสนอบ้าๆ แกยังทำได้หน้าตาเฉย สั่งให้รักนี่นะ....แมร่ง
และพอเขาบอกว่ากรูรักมึงแล้วนะ มึงทำตามที่ตกลงไว้ด้วย...ทีนี้ล่ะก็ ทำเป็นงอนขึ้นมาเชียว
ไอ้ปากแข็งขี้ใจน้อยเอ๊ย :angry2:
และคอยดูนะ เดี๋ยวแกก็จะมาเหวี่ยงทำร้ายจิตใจแก้วผสมปนเปกับความน้อยใจและพิษรักแรงหวงแรงเป็นดับเบิ้ลทริปเปิ้ลเข้าไปอีก
ไอ้แก้วไม่ช้ำในคราวนี้ ก็ไม่ใช่ไอ้ฝิ่นแล้วล่ะ....(ขอบอกว่าคนอ่านโคตรเซ็งพระเอกเรื่องนี้จริงๆ) :เฮ้อ:
มาถึงไอ้แก้ว...ซึ่งโคตรจะเป็นนายเอกที่ซื่อบื้อแต่น่ารักซะจริงๆ (เหรออออ)
เพราะไม่ว่าอะไรก็ดูเหมือนคุณน้องแก้วต้องเรียนรู้อารมณ์ของคนแปลกหน้าไปซะหมด
คุณน้องไม่มีความมั่นใจ และคุณน้องก็ไม่มีเซ้นส์อะไรในการเดาความคิดหรือการกระทำของคนอื่นเลย
ในหัวคุณน้องมีแต่คำว่า..ทำไม, อะไร อยู่ตลอดเวลา...ทำไมมันทำหน้าแบบนั้น ทำไมมันพูดแบบนี้ ทำไมมันเงียบ..ทำไม..ทำไม..ทำไม
เฮ้อ...เป็นแก้วนี่ช่างน่าสงสารจริงๆ เพราะคุณน้องเหมือนพยายามเข้มแข็ง พยายามสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง และพยายามต่อสู้โดยคิดว่าตัวเองอยู่เพียงลำพัง
การกระทำครั้งนี้ของแก้วที่ถามฝิ่นออกไปเช่นนั้นก็ไม่น่าแปลกใจหรอก มันก็แค่พยายามเดินหน้าในสิ่งที่มันตัดสินใจไปแล้วเท่านั้น
เป็นสิ่งที่คนเราพยายามจะทำให้ความคิดของตัวเองไม่เป๋ ไม่เสียศูนย์เท่านั้นเอง
แต่เชื่อเถอะว่า ไม่ว่าผลของการถามออกไปเช่นนั้นจะเป็นอย่างไร ฝิ่นจะโกรธจะเคืองแค่ไหน ไอ้แก้วมันก็สามารถทำให้ฝิ่นหายโกรธได้ด้วยท่าทางและคำพูดแบบซื่อๆ เหวอๆ ของมันนั่นแหละ
และถึงไอ้คุณฝิ่นมันจะทำอะไรแก้ว แก้วมันก็ไม่แคร์หรอก ยังคิดอยู่ว่าจะมีบทให้แก้วร้องไห้น้อยใจไอ้ฝิ่นบ้างมั้ย เพราะดูเหมือนแก้วจะโกรธฝิ่นไม่ขึ้นจริงๆ
(...คนเขียนมาแยบๆ แล้วว่าแก้วทำอะไรได้มากกว่าที่คนอ่านคิด...อืมมมม ว่าแล้วเชียว คิดอยู่เหมือนกันว่าหลายๆ เรื่องแก้วมันก็ช่างทำไปได้นะ มันคิดอะไรของมันเนี่ย :เฮ้อ: )
หน่ายกับนายเอกเรื่องนี้เช่นกัน :z3:
ส่วนพี่ไม้..พี่ก็เป็นคนที่พยายามจะเตือนสติน้องๆ เหมือนเดิม ก็คงเพราะเล็งเห็นความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอะสินะ ก็พี่เป็นคนที่รู้นิสัยรู้ใจไอ้คุณฝิ่นที่สุดนี่นา
แต่พี่อาจจะลืมไปอย่างว่า พี่อาจจะยังไม่รู้ใจน้องตัวเองยามที่มันมีความรักก็ได้
รอดูต่อไปนะพี่นะ ว่าคุณน้องชายของพี่น่ะมันจะจัดการหัวใจมันเองอย่างไร
ว่าแต่...ขอสงสารพี่ล่วงหน้าก่อนเลย ได้ข่าวว่าคนเขียนจะจัดพี่หนักหลังปีใหม่...ดูแลตัวเองดีๆ นะพี่นะ :กอด1:
// ถึงคนเขียน เค้าขอคู่หลักก่อนเลย แม้จะปลื้มพี่โซ่มากกว่าพระเอกแค่ไหนก็ตาม มันเหมือนกินข้าวไม่อิ่มขรี้ไม่สุดอะคนเขียน เห็นใจกันหน่อยน้า :laugh:
-
^^
-
ฝิ่นมันต้องน้อยใจละไปลงกะแก้วอีกแน่เลย ต่างคนต่างคิดไปเองทั้งสองคน เหอๆ แต่ก็อยากอ่านโซ่-ภูอยู่เหมือนกันน้า
ตามใจคนแต่งจ้า
-
ค้าง งงงงงงงงงงงงงงงงง :a5:
เเต่มาต่อให้ก็ดีใจนะค่ะ อิอิ
ต่อไวๆน่อ รอ รอ รอ รอ เเละรอ เเละเเล้ว อีตาพงษ์ก็หายสาบสูญ :z3:
-
คู่นี้ไม่ค่อยคืบหน้าเลยจริงๆ :เฮ้อ:
-
รอตอนต่อไป
//แผ่รังสีกดดัน 555
-
จะบอกว่าตอนนี้หวานที่สุดตั้งแต่อ่านมา ได้มั้ย???
5555 พี่ฝิ่นมันโรแมนติกหลบในจริงๆ
หมั่นไส้อ่ะ ทำเป็นอยากรู้ว่าแก้วคิดยังไง
แก้วมันรักนายจริงๆ นายว่าไงหล่ะฝิ่น นายรักแก้วมั่งยัง?
ใจแข็งแบบนี้ เดี๋ยวจับแก้วใส่พานถวายพี่ดิวซะดีม่ะ
รายนั้นชัดเจนกว่าเยอะ 55555
ตอนนี้อ่านไปยิ้มไปค่ะ เริ่มจะเห็นความรู้สึกลึกๆของฝิ่น
แต่มันคงอยู่ในหลืบที่ลึกมากถึงได้โผล่มานิดเดียว
ก็นะพ่อพระเอกของเราเถื่อนซะขนาดนี้ แข็งทื่อเหมือนตอไม้ก็ไม่ปาน
อยากเห็นตอนฝิ่นมันโรแมนติกแบบเปิดเผยจังเลย
คงจะน่ารักน่าดู รอลุ้นกันต่อไป เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ
-
มาปูเสื่อรอ ^^
-
ค้างงงงงงงงงงงงง อยากได้ตอนธรรมดา และก็ตอนพิเศษพร้อมกันเลยอ่ะเจ๊ ><"
แหม สะใจฝิ่นจริงๆ แววตาตัดพ้อ :laugh: แต่ฝิ่นก็มีแอบหวานนะ น่ารักดี (แต่แก้วไม่เข้าจายยยย)
ีถ้าเลิกปากแข็ง ทิ้งทิฐิ แล้วคุยกันดีๆ(โดยตัดคดีเก่าออกไป) มันไม่น่าจะมาม่านะคู่นี้ เพราะต่างคนต่างหวั่นไหว ฝิ่นรู้ตัวเองดี ส่วนแก้วก็ยอมรับใจตัวเองแล้วด้วย แต่พอแก้วปล่อยประโยคเด็ดออกไป ฝิ่นก็คง o22
ตอนนี้พี่ไม้โผล่มา เล่นซะแก้วจุกอ่ะ(โจ้ด้วย...รึเปล่า?) ด่าด้วย แทงใจดำด้วย สงสารน้องแก้ว แต่พี่ไม้เขาเตือนสตินะ ฟังพี่เขาหน่อย
:pig4: :กอด1: เรื่องงานก็สู้ๆนะคะ
ปอลิง เป็นนิยายที่ใช้เวลาในการเม้นนานมาเลยอ่ะ มีเรื่องให้เม้นเยอะ แต่เม้นไม่ออก 555
รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้่วววววววว :serius2:
-
สนุกคับ มากมาย มาต่อไวๆๆๆนะคับ
-
ค้างนะ ไม่อยากให้เป็นดราม่าเรยอะ???
ขอเป็นแบบน่ารักๆไม่ได้เหรอ?
พูดตรงๆ อ่านแล้วสงสารแก้วว
ไม่อยากให้จบ...แต่เจ็บ
-
ขอตอนธรรมดาก่อนเถอะน๊าาาาาาาาาาา
พลีสสสสสสสสส :call:
:L2:
-
ง่ะ ซีซั่น ผมอยากรู้คำตอบฝิ่นแล้ว
เอาคำตอบแบบดีๆนะ ไม่งั้น.......หึหึหึ บ้านเละแน่ ฮ่าๆๆ
-
ยังมองไม่เ็นอนาคตแก้วกับฝิ่นเลย :เฮ้อ: มันจะพากันไปลงเหวรึเปล่าเนี่ย
-
ดันๆๆ
-
เรื่องจะจบยังไง เดาไม่ออกเลย
โอ้ย เดาไม่ออกเลย
-
:กอด1:
-
:o8:
แก้วกล้าถามเนอะ...ละตกลงจะรักกันจริงไม๊เนี่ย???
-
ค้างอย่างแรงเลยนิ
-
มาเป็นผู้ติดตามเรื่องรายใหม่ครับผม o13
-
มารอแระน้าT^T รีบๆมาต่อจิค๊าฟฟ
อยากรู้ๆใจจะขาด 555++
-
จะติดตามต่อไปครับผม
-
มันค้างมากๆ
อยากรู้ว่าฝิ่นมันจะตอบว่ายังไง
มันคงจะทำร้ายจิตใจแก้วอีกแน่ๆ
มันไม่เคยพูดดีกับแก้วเลยนี่
ส่วนแก้วแกก็ยอมฝิ่นมันจัง
-
หวังว่าฝิ่นเริ่มจะชอบแก้วบ้างนะ
ไม่ชอบตอบคำทำร้ายจิตใจแก้วเหมือนผู้ชาย ซึน อีกคนนะ
จะให้พี่ไม้ตบหัว
ปล.อยากรู้ึความเป็นไป พี่โซ่ กับ พี่ภู เช่นกันนน
-
แล้วแต่ดวงนะแก้ว :เฮ้อ:
-
ค้างสวดๆอ่าห์ :a5:
อยากรุ้ว่าจะเป้นไงต่อไปแล้วอ่าห์ :z3:
-
...แน่ พ่อสามี มีการห่วง ความรู้สึกลูกซาใภ้ ด้วยวุ้ย กลัวลูกซาใภ้จะ..งอน
...ประโยคสุดท้ายนี่ ฝิ่นมันคงนึกว่า แก้วเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้มาซึ่ง การอภัยให้กับพงษ์แหงๆๆ
...ฝิ่นอาจเข้าใจว่า มันไม่ได้เกิดจาก..ความรักจริงๆๆ แล้วแก้วเอ๊ย คงต้องชดใช้ให้ฝิ่นอีกนานนะนี่ :L2:
-
แก้วถามโต้งๆงี้เลยเนาะ :laugh:
ที่ว่าทำตัดพ้อนี่ไอฝิ่นหรอ อะไรของมันนิ
สะดุดกึก!! จะเอาพี่ไม้มาลงๆๆๆ :oni2:
-
ฝิ่นชักอยากจะให้แก้วรักตัวเองจริงๆโดยไม่มีข้อแม้แล้วละซี
-
อย่าเพิ่งเอาพี่ภูมาลงค่าาา
อยากอ่านของแก้ว-ฝิ่นก่อนอ่ะ!!
กำลังสนุกเลยค่ะ o13
-
สะดุดกับบรรทัดสุดท้าย
แบบสะใจ...
นุ้งฝิ่นตัดพ้ออออออออ :laugh:
ป.ล. ยังคิดถึงพงษ์เสมอ กำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นเอฟซีมันรึเปล่า :laugh:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๗.๒
“กูรักมึงแล้วนะ เรื่องที่เคยตกลงกันไว้ ...ว่ายังไง?”
ว่ายังไงเหรอ?...กล้าถามกูอย่างนี้เลยเหรอวะ!
“เฮอะ” ฝิ่นเปลี่ยนความรู้สึกหันกลับมามองแก้วตากร้าว “นี่มึงรักกูแบบมีเงื่อนไขเหรอ” แม่งเหี้ยจริงๆ
เขาผลักหน้าอกแก้วด้วยความชังขี้หน้า ยิ่งการมองสบตาเพื่อต้องการจะฟังคำตอบเขายิ่งนึกเคืองโกรธ
“กูบอกมึงแล้วว่าเปล่าประโยชน์” ฝิ่นหันหลังแล้วเดินออกไปจากอู่ในทันที มีเสียงพี่ไม้พูดตามหลัง คงคุยอะไรกันค้างอยู่ก่อนที่เขามาถึง
ทั้งที่อุตส่าห์มีน้ำใจกลับมาดู เพราะเห็นว่าเมื่อเช้าหน้าตามันไม่สู้ดีนัก ไหงต้องมาเจอคำถามเหี้ยๆนี่ด้วย
เหอะ คนอย่างมึงแม่งทำได้ทุกอย่างจริงๆ ไม่ว่ากูจะให้ทำอะไรมึงก็ทำได้...กูนึกอยู่แล้วมึงมีข้อแลกเปลี่ยนอยู่ตลอดใช่ไหม? และไอ้ท่าทางใสซื่อของมึงแม่งตอแหลทั้งนั้น ดีที่กูฉลาด...ไม่งั้นคงหลงติดกับมึงไปแล้ว
ฝิ่นเดินจ้ำเอ้าโดยมีแก้ววิ่งตะโกนเรียกตามหลัง ...เขาไม่อยากเห็นหน้ามันตอนนี้ มันไม่มีสิทธิ์จะมาทวงถามอะไรทั้งนั้น นั่นมันวิธีการของเขา เขาจะให้ใครอยู่ จะเล่นงานใคร ตัวเขาเองเท่านั้นที่ออกปากได้ ไม่ต้องมาพูดย้ำเรื่องข้อแลกเปลี่ยนหรอก เพราะเขาทำไปแล้ว ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอะไรด้วย ทุกอย่างมันกำลังเป็นไป ถึงจะช้า แต่มันก็คือการหลอมละลายทีละนิด... ทีละนิด
...ถ้ามึงไม่ตลบหลังกูมาอย่างนี้ซะก่อน หึ
เขาเดินเข้าไปในซอยห่างจากอู่พ่อไม่ไกลเท่าไหร่ มันเป็นแหล่งรวมกลุ่มของอาชีวะx เด็กมันอยู่กันหลายคน ด้วยที่พวกมันเกะกะเหลือเกินจึงใช้เท้าถีบพวกมันเรียงตัวรวมทั้งเทกระจาดวงหมากรุกให้พ้นทางก่อนที่เขาจะโมโหไปมากกว่านี้
และตอนนี้รำคาญไอ้คนที่ตามหลังมาถึงนี่มากเลยว่ะ เซ้าซี้ไม่เลิกนะไอ้นี่
ไอ้แก้วยืดคอเป็นเอ็นเพื่อมองหาเขา แต่อย่าหวังว่าเขาจะออกไปหามัน กล้าตามมาถึงนี่ มึงก็รับหน้าเด็กกูไปละกัน
เด็กในสายสี่ห้าคนเดินหน้าเหี้ยมไปยืนเรียงหน้ากระดานกั้นหน้ามันไว้หลังเห็นว่าเขาอารมณ์ไม่ดี หึ ไอ้แก้วชะงักหน้าสลดในทันที ไม่แน่จริงแล้วเสือกกล้าดี ถุย!
“ที่นี่ถิ่นใคร มึงไม่รู้เหรอ” ขู่ไปหนึ่ง
“พี่ฝิ่นอารมณ์เสียเพราะมันชัวร์” สองตอกย้ำ
“มาถึงนี่ หรือจะเอา” สามใช้กำลัง
...เหี้ย! ไม่ต้อง! กูไม่ได้สั่ง
ไอ้เด็กปีสองพับแขนเสื้อแล้วกระชากคอเสื้อไอ้แก้วเข้าหาตัว ไอ้นั่นก็เงอะงะให้คนอื่นข่มอยู่ได้
ฝิ่นลุกพรวดจากม้านั่งเดินออกไปหาแก้ว แล้วตบหัวไอ้เด็กในสายก่อนอันดับแรก เสือกไม่เข้าเรื่องจริงๆ
“มึงตามมาทำเหี้ยอะไร” เขาตวาดเสียงแข็งออกไป ทั้งทำหน้าเคร่งเครียดเข้าไว้เดี๋ยวไอ้พวกในสายแม่งจะไม่กลัว
“...................” แต่แทนที่มันจะตอบ กลับมองเขาตาใสเหมือนเมื่อคืนตอนที่มัน...
เฮ้ย! ไอ้นี่ ฝิ่นสูดลมหายใจกำหมัดแน่นพลันเสมองไปทางอื่นเพราะไม่อยากเห็นหน้ามัน เขา...จะไม่หวั่นไหวไปกับการแสดงของมันเด็ดขาด กล้าตลบแผนเขามันต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง
“มึงไสหัวไปได้แล้ว ...กูจะไม่พูดอะไรไปมากกว่าที่เคยพูด ถ้ามึงอยากรู้ มึงต้องหาคำตอบเอาเอง แต่ไม่ใช่ที่กู!” เขาพูดโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา
“...ฝิ่น” ได้ยินเพียงเสียงสั่นเบาจากคนตรงหน้า ก็ทำเอาเกือบจะเขวตาม ...มึงอย่าอ่อนนะไอ้ฝิ่น
“กูไม่อยากลงไม้ลงมือกับมึง” เพราะเตะแม่งตายคาตีน ไอ้นี่ก็ไม่สู้สักนิด เสียแรงเปล่าๆ มีแต่คนโรคจิตเท่านั้นล่ะที่จะสนุกด้วยการกระทืบมันน่ะ “เตือนไว้เลยอย่าให้กูต้องใช้กำลัง เพราะฉะนั้น อย่ามาล้ำเส้นกู” ฝิ่นหันขวับจ้องตาข่มขวัญมันเข้าไว้ คือ ...เขาหมายถึง การล้ำเส้นจากมันทุกอย่าง ทั้งถ้อยคำทั้งการกระทำ อย่ามาโน้มน้าวเขาไปมากกว่านี้ มันใช้กับเขาไม่ได้ผลหรอก นอกจากความรำคาญใจ ที่เป็นอยู่ตอนนี้เท่านั้นเอง
...ที่มึงต้องทำคือรักกู แต่มึงรักกูแบบห่างๆก็ได้ ไม่ต้องมาเซ้าซี้อะไรทั้งนั้น กูรำคาญ เดี๋ยวจะพาลให้มึงได้ใกล้ชิดตีนกูเล่นซะหรอก
“เข้าใจแล้ว” คำพูดแผ่วเบาพร้อมกับริมฝีปากบางที่เม้มเข้าหากันทั้งยังช้อนตามองเขาอีก
“ฮึ่ย!” หมั่นไส้โว้ย “เฮ้ย เข้าโรงเรียน!” ฝิ่นเสียงดังบอกคนในสาย แล้วเดินฮึดฮัดเลยผ่านแก้วไป
.
.
.
“พี่ ผมเหนื่อยแล้ว ขอสามรอบได้เปล่า” ไอ้เด็กปีสองวิ่งตามหมาในโรงเรียนหอบแฮ่กๆตะโกนขอ
“สิบรอบ!” ฝิ่นเน้นย้ำคำสั่ง ข้อหาทำเกินกว่าที่เขาต้องการ มันก็ต้องโดนซ่อมอย่างนี้ ไอ้พวกข้างๆก็ตะโกนโฮ่ฮากันไป วิ่งรอบหมาสิบรอบเรื่องง่ายๆแต่ทำไม่ง่าย เก๋านักมึงก็ทำให้ครบไปเลย
“แฮ่กๆ สี่รอบแล้วโว้ย โอย พี่ฝิ่น” มันวิ่งลากเสียงยาวตามหมาเจ้าถิ่นไปกลางสนามฟุตบอล เฮอะ
“ไปบอกมันพอได้แล้ว เหี้ยลูกน้องกู รับน้องใหม่เลยไหม!” ฝิ่นปัดๆมือให้หลัง เก่งแต่เรื่องใช้กำลัง ความอดทนไม่เคยจะมี
“พี่ครับ เย็นนี้ผมเลี้ยงเหล้านะ ขอบคุณครับ” มันยกมือไหว้เขาแล้ววิ่งหายหัวเข้าไปในตึกเรียน
เฮอะ ธรรมเนียมบ้าบอซ่อมไม่ไหวให้เลี้ยงเหล้า ...แต่กูก็เอา
.
.
.
เขากลับเข้าบ้านก็มืดแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรพ่อกับแม่รู้นิสัยเขาดีถึงจะดื่มข้างนอกบ่อยๆแต่เขาก็กลับมานอนบ้านเสมอจึงไม่มีการโทรตามหรือห่วงเวอร์อะไร แต่ที่แปลกตาไปคือไอ้คนอาศัยมานั่งรอมืดๆอยู่หน้าบ้านนี่สิ
ฝิ่นเห็นแล้วล่ะแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไร ไอ้หน้าหงอยเหมือนรู้สึกผิดแต่ไม่ยอมขอโทษน่ะ ทำได้แค่นี้ก็โดนกูเมินซะเถอะ
เขาเดินเข้าห้องโดยไม่พูด ไม่มองคนข้างหลัง เอาให้อึดอัดตายไปเลยยิ่งดี แต่ไอ้นี่ความอดทนมันต่ำไม่แพ้เด็กในสายเขาหรอก มันจึงรุดเดินมายืนขวางหน้าเขา
ฝิ่นยักคิ้วเชิงถามแบบกวนๆว่ามีอะไร
“กู...ขอกอดมึงนะ”
“.......................” ฝิ่นถึงกับคิ้วชนกัน ขอกอดมึงนะ...ขอกอดมึงนะ?
“จะไม่ถามอีกแล้ว...กู...จะเชื่อมึง” แก้วโผเข้ามากอดทำเอาฝิ่นถึงกับชะงักงันไปเลย
“อะ ...เออ มึงควรคิดอย่างนั้นน่ะถูกต้องแล้ว” และที่จริงมึงต้องถามกูว่าขอกอดได้ไหม ไอ้เลว เฮอะ! แต่เขาพูดและคิดไม่ทันจบคำไอ้แก้วก็แตะริมฝีปากมันชนกับริมฝีปากเขาเบาๆโดยไม่ทันตั้งตัว “อะไร?” ฝิ่นถามต่อทั้งที่เห็นๆอยู่ว่าแก้วกำลังแกะกระดุมเสื้อนักเรียนเขา
“...ความรู้สึกของกู”
“เหอะ” มารยาไอ้แก้วนี่มีเป็นพันเล่มเกวียนเลยมั้ง
แล้วไอ้ท่าทางก้มหน้าก้มตามุ่งมั่นแบบกล้าๆกลัวๆ ของมึงนี่ขัดใจกูเหลือเกิน
เออก็ได้!...ถ้าคิดว่า Sex คือรักที่กูกับมึงมีร่วมกัน กูก็จะผูกพันมึงไว้ด้วย Sex ...เขาจะยอมตามใจแก้วเรื่องนี้เรื่องเดียว เพราะผลประโยชน์มันตกเป็นของเขาล้วนๆ ทั้งตอนนี้ และในภายภาคหน้า หึ!
เป้ง มึงต้องเชื่อใจกูนะ ถ้าพวกมันเจ็บน้อยกว่ามึงเมื่อไหร่ เมื่อนั้นกูจะไปอยู่เป็นเพื่อนมึงเอง
สัญญา...จะไม่มีอะไรมาอยู่เหนือกว่าใจกูไปได้ คนอย่างกู...ทำอะไร กูต้องทำให้ได้ หรือได้มากกว่าเท่านั้น ชีวิตกู ต้องไม่มีคำว่าล้มเหลว และต้องไม่มีคำนั้นตลอดไป
...ปากผู้ชายเหี้ยอะไรวะ ทั้งนุ่มทั้งหวาน ฮึ่ย!
.......................................
อั่ยยะ!! ไม่ค้างแล้วน๊า คนอ่านเรื่องนี้ แหม๊ สั่งได้กันจริงๆ เชอะ //เชิ่ดหน้า สยายผม แล้วรีบปิดคอมเดี๋ยวโดนขู่จะเอาอีกตอน รู้ทันหรอก ฮ่าๆๆๆๆ
อย่าแปลกใจถ้ามีจุดสองห้อยท้ายตอนเก่า เพราะคิดว่าไม่คุ้มกับการปิดเรื่องแบบสั้นๆ ซีซั่นเลยรวมเป็นตอนเดิมเอาไว้ค่ะ
เจอกันอีกทีหลังปีใหม่นะคะ สุขสันต์ปีใหม่ล่วงหน้าจ้า
เค้าขอพรอันประเสริฐในโลกนี้ ส่งผลให้คนอ่านทุกคนประสบพบเจอแต่สิ่งดีๆในวันหน้านะคะ^^ กอดๆจุ๊บ
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์จ้า
ปล.อวยพรล่วงหน้าเพราะปีใหม่นอกจากกระแสจิตแล้วซีซั่นคงไม่มีช่องทางสื่อสารกับคนอ่านได้ บ้านเกิดบ้านนอกเหลือเกิน
-
ปากกับใจไม่ตรงกันเลยเนอะ ส่วนอีกคนก็ซื่อเกิน
-
โดนอีกเเล้วอ่ะเเก้ว เข้าใจว่ารัก คือเซ็กส์ไปซะเเล้ว
ฝิ่นก็เนอะ ก็เเก้งเขาใสอ่ะ คิดว่ามารยาอยู่ได้ :z6:
ต่อๆๆๆๆๆๆๆๆไม่ดราม่านะเออ :a5:
:z13:จิ้มช้าไป จิ้มข้างบน อิอิ :z13: :z13: :z13:
-
โอ้ย ฝิ่นรู้ใจซะทีเถอะ :z3:
-
ฝิ่นเอ้ย ไอ้ประ็โยคสุดท้ายนี่บอกใครอะจ๊ะ หุหุ :o8:
-
o13 :bye2:โว้วๆๆๆๆ
ทำไมแก้วง่ายจังอะ?
-
ฝิ่นเอ๊ยแกหวั่นไหวไปทั้งใจแล้วรู้ตัวมั้ยเนี่ย :laugh:
เอ่อ..แก้ว หนูเข้าใจเรื่องความรักเป็นแบบไหนล่ะนั่น :เฮ้อ:
ปล.มันถึงครึ่งเรื่องหรือยังจ๊ะ
-
เย้ ขอบคุณครับซีซั่น จะได้ไปเที่ยวแบบมีความสุขไม่ค้างคา
สุขสันต์วันปีใหม่นะครับ
-
มิตรภาพ กับ ลูกผู้ชาย เฮ้อ เฮ้อ เฮ้อ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ประโยคสุดท้ายนี่มันยังไงอยู่นะฝิ่น อย่ากลืนน้ำลายตัวเองแล้วกัน :m16:
-
ฝิ่นเอ้ยยยย ไม่รุ้จะอธิบายยังไงงง
ก็พอเข้าใจฝิ่นอะนะ เจอแก้วถามแบบนี้ก็จุกเหมอืนกัน
เอาน่อๆ จะคอยดู หุหุ
-
เบื่อพระเอก :fcuk:
ขอบคุณไรเตอร์มากค่ะ ที่ขยันอัพนิยายสนุกๆๆ ให้อ่านนะค่ะ
จะเริ่มปีใหม่แล้ว ก็ขออวยพรให้ไรเตอร์มีความสุขมากๆๆนา
สุขภาพแข็งแรง เฮงๆๆ ซินเจียยั่วอี่ซินหนี่ฮวดไช้ o14
-
อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้รู้สึกค้างคาตลอดๆ
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ
:laugh: :laugh: :laugh:
-
เห้ออออออ เหนื่อยใจกะอิพี่ฝิ่นเหลือเกินนนนนน :z3:
ขอบคุณมากน้าาาา
-
ยิ่งหนีเท่าไหร่ก็ยิ่งเข้าใกล้มากเท่านั้นนะฝิ่น
-
กรี๊ดดดดดดดด ด..
ทำไมชั้นรู้สึกว่าแก้วชักจะรับมือยากขึ้นทุกวัน ๕๕๕๕๕
เหมือนมันจะจับจุดฝิ่นได้เลยนะ แบบ...วิธีง้อที่ทำให้ฝิ่นพูดไม่ออกเนี่ย กร๊ากกกกก
-
สัญญาอะไร ไม่เอา
ดูน่ากลัว
-
เห้อ++..........จะสงสารแก้วดีมั้ยนะ
เพราะหลังมานี้รู็สึกแก้วจะทำตัวเองจังเลย.......ยังไงดีละเนี่ย
อ่านแล้วมันอึดอัดยังไงก้อไม่รู้..........อยากอ่านให้แบบมันไม่ค้างคาอ่ะ ฮิ้วววว!!
เพราะฉะนั้นรบกวนคนแต่งมาต่อเร็วๆน้า........ไม่ไ่ด้ขู่นะ แต่ถ้าไม่มาต้องจะร้องไห้ให้ดู 555++
-
เตรียมตัวต้อนรับปีใหม่ ขอใหัทุกคนสุขภาพร่างกายแข็งแรง
-
กรี๊ด ๆๆ น้องแก้วของป้าทำไมช่างกล้า
อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าฝิ่นไม่ทำร้ายแก้ว
สวัสดีปีใหม่คนเขียนล่วงหน้าด้วยค่ะ เที่ยวให้สนุก มีความสุขมาก ๆ รักษาสุขภาพนะคะ
-
สงสัยแก้วยังแสดงออกไม่พอ ฝิ่นเลยยังไม่เชื่อใจ
แก้วลองไปเข้าคอร์สกับพี่ภูดีมั้ย 555 เผื่อจะดีขึ้น อร๊ายยยยย
-
ฝิ่นเหมือนจะมีใจให้แก้วเลยนะนั่น
-
ไม่นาน เดี๋ยวก้อหลงแก้ว :laugh:
-
:angry2:
-
ไม่ว่ามีจุดรึป่าว...ก็ค้างอยู่ดี
แต่ยังงัยก็ มีความสุขในวันปีใหม่นะคะ
กลับมาเจอกันพร้อมกันส่ิงดีๆ
-
บางทีก็เหมือนแก้วอ่อยเกินไปเลย ฮ่าๆๆๆ แต่ก็สงสารแก้วนะ ฝิ่นนะฝิ่น แกระวังพงษ์กลับมาแล้วแกจะหนาว ^o^
-
ไอฝิ่น แล้วแกจะเสียใจ :angry2:
น้องแก้วยอมมาก เด่วไอฝิ่นมันได้ใจนะ :เฮ้อ:
-
แก้วยังคงเดินหน้าทำตามความคิดของตัวเองต่อไป
ในเมื่อแก้วเชื่อตามที่ภูบอกไปแล้วว่าเซ็กส์คือการบอกรักที่ชัดเจนกว่าคำพูด รวมถึงแก้วมันคงสัมผัสถึงอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นจากการมีเซ็กส์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกดีๆ เมื่อมีเซ็กส์กับฝิ่น หรือปฏิกิริยาตอบสนองของฝิ่นที่ไม่ได้รังเกียจที่จะมีเซ็กส์กับมัน...
หลายๆ อย่างรวมกันนี้ก็เลยทำให้แก้วมั่นใจในทางที่มันเลือก
ณ ตอนนี้ไม่ค่อยสงสัยในความคิดและการกระทำของแก้วมากเท่าไหร่
แม้การกระทำของแก้วตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ก็เพื่อพงษ์ เพื่อไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน และเพื่อลบล้างความผิด แต่ในระหว่างที่เรื่องราวดำเนินไป แก้วก็ค่อยๆ ผูกพันกับฝิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ
แก้วไม่ได้รังเกียจฝิ่น แถมยังรู้สึกห่วงใยฝิ่น และชอบฝิ่นพอสมควร ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมที่จะมีเซ็กส์ด้วย
ซึ่งจะชอบมากถึงขั้นรักขนาดไหนนั้น คงต้องตามอ่านต่อไป
ว่าแต่แก้วจะรู้มั้ยนะว่าสิ่งที่ทำให้ไอ้ฝิ่นมันจะรู้สึกดีกับแก้วอะ มันไม่ใช่เซ็กส์
แต่เป็นการกระทำอื่นๆ ของแก้วทุกอย่างที่มันได้รับหรือเห็นจนชินตา...หุหุหุ
มาที่ไอ้คุณพระเอก.....เราว่าที่ตอนนี้ยังอึมครึมอยู่น่าจะเป็นสิ่งที่ฝิ่นคิดมากกว่า
ทั้งๆ ที่อ่านแล้วก็รับรู้นะว่าฝิ่นชอบแก้ว ไม่รังเกียจที่จะมีเซ็กส์กับแก้ว
และก็รู้นะว่าฝิ่นมันไม่เปลี่ยนใจอะไรง่ายๆ และมันมั่นคงที่จะแก้แค้นให้เพื่อนขนาดไหน
แต่ทำไมเหมือนต่อความคิดของฝิ่นไม่ติด ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรต่อไป ไม่รู้ว่ามันตั้งใจจะจบเกมแบบไหน
(ซึ่งก็คือประเด็นที่คนเขียนกั๊กๆ ไว้นั่นแหละ เฮ้ออออ :z3: )
เอาเป็นว่า..คิดมากปวดหัว รอคนเขียนเฉลยดีกว่า :serius2:
-
อะไรไม่รู้
รุ้แต่ว่า....แก้วแรดอ๊ะ o22
ตายละไห้ท่าผู้ชายนะแก้วนะ
เขินจัง อยากจะเข้าไปแทน ณ จุดๆนั้น (อ่าวแรดกว่า) :beat:
ไม่ไหวนะแก้ว ทำไมหนอทำไม
ตอนแรกนึกว่าคำว่า เข้าใจแล้ว
คือการจะยอมล้มเลิกสะอีก
คิดว่าจะฉลาดขึ้นมาเห่อ
เอาจริงๆแค่ปีเดียว หนีแม่มไปอยุ่กับพงษ์เลยมะ
ชักเซงไอ้ฝิ่นละ
ชอบคิดว่าแก้ว เป้นคนไม่ดี (แรด ร่าน อะไรเถือกนี้) แม้การกระทำมันจะแปลกๆ
แต่ก็ไม่ใช่นะฮว๊าฟฟฟ
ปล. I♥พงษ์ เช่นเดิม :กอด1:
-
แอบขัดใจฝิ่น เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองวะ
-
^^
-
เชียร์พงษ์ ดีกว่าดีไหมเนี้ย
-
เอิ่ม...ประโยคสุดท้ายของฝิ่นเนี่ยดูขัดกับคำสัญญาที่ให้ไว้กับเป้งแปลกๆเนอะ
คนแต่งรู้ทันอ่ะ จะเอาๆๆๆๆๆๆ*งอแง* :sad4:
ปล.สวัสดีปีใหม่ค่ะ :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
เฮ้อ~สงสารแก้วก็สงสารแต่ก้สงสารพระเอกเหมือนกัน
:serius2: :serius2: :serius2:
-
เหนื่อใจกับแก้วกับฝิ่นมันจริงๆ
+ 1 นะคะ
ปีใหม่นี้ขอให้คุณซีซั่นมีความสุขมากๆนะคะ
-
ว๊าววว นุ่มหวานนน
-
เหอๆ
-
:beat: ไอฝิ่นปากแกนะ แข็งมากกกกกกกกกกกกก
แก้วก็ซื่อเกินคน :เฮ้อ: หนักใจกะคู่นี้
-
โปรดบอกพี่ภูให้กลับมาเคลียร์ด่วน รักคือเซ็กซ์ แต่สำหรับนุ้งแก้วมันไม่ใช่แนววว :z3:
ไอ้ฝิ่น ไอ้นี่ก็อีกคน มันหลอกตัวเองอยู่ได้ :z6:
ป.ล.เรารอพงษ์อยู่เสมอนะ(ยอมรับล่ะว่าเป็นเอฟซีมัน) :laugh:
-
ฝิ่นทำเป็นเก่งนะ สุดท้ายขอให้แกรักแก้วหัวปักหัวปำ หึหึ
-
5555555
ในที่สุดก้อตามทัน
ชอบมาเลยและจะรออ่านตอนต่อปัยนะ
รีบมาต่อนะ
-
อะไรฝิ่น เมนส์มรึงไม่มาเหรอ อารมณ์ขึ้นๆลงๆเนี่ย
-
แก้ว หนูทำอะไรลูก หนูกำลังยั่วไอ้พี่ฝิ่นชัดๆ
แล้วฝิ่นก็ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ 5555
ฝิ่นเอ๋ย...ฝืนใจตัวเองสนุกนักรึ??
เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว แก้แค้นไปมีประโยชน์อะไร
มีแต่จะทำให้ตัวเองกับคนที่รักเจ็บนะ
ไม่อยากเห็นแก้วกับแกต้องมาเจ็บนะเว้ย
คิดดีๆฝิ่น ฉันอยู่ข้างแก เป็นแม่ยกแกเสมอ ฮิ้วววว
ว่าแต่แก้ว เปลี่ยนไปจริงๆด้วย
เป็นเพราะความรักหรือเปล่าหนอ?
ขอเรียกคนแต่งว่าคุณซีซั่นนะคะ จะปีใหม่แล้วขอให้คุณซีซั่นเจอแต่สิ่งดีๆ คนดีๆ
มีความสุขตลอดทั้งปีเลยนะคะ
จะติดตามนิยายต่อไปค่ะ
-
โอ้เย :mc4: สุขสันต์วันปีใหม่เช่นกันค่า ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ เจอแต่คนดีๆนะคะ^^
รู้สึกว่าไม่เลวร้ายอย่างที่คิดไว้แฮะ ตอนนี้ฝิ่นน่ารักสุดๆอ่ะ :laugh: (ดราม่าอยู่ แต่ในมุมมองคนอ่านนี่ก็อีกอารมณ์นึง ><)
เชียร์ฝิ่นก็ได้ฟร้าาา!
:pig4: :กอด1:
-
เดี๋ยวนะ เวลาแก้ชื่อเรื่องแต่ละทีมันจะขึ้นตั้งแต่หัวข้อหน้าแรกอย่างนี้เลยเหรอ
งง...คือ งง เฉยๆอันนี้ไม่ได้จะบอกอะไร ฮ่าๆๆ :z6:
ที่คนอ่านถามว่าถึงครึ่งเรื่องรึยัง จะว่าครึ่งก็ครึ่งนะ
เพราะซีซั่นคิดว่าความสัมพันธ์ของฝิ่นกับแก้ว ถึงมันจะมีอะไรอยู่ในทุกความรู้สึก แต่คนอ่านก็เห็นและเข้าใจแล้วว่าแต่ละคนเลือกเอาความรู้สึกไหนมาวางไว้อันดับหนึ่ง
แต่หลังจากนี้ เรื่องราวมันจะเยอะกว่านี้อะค่ะ (แล้วมันบอกครึ่งเรื่องได้ไง?!)
ทั้งเรื่องพี่ดิว พงษ์ ขวัญ สารพัด กว่าจะเดินไปจบเรื่อง หนักกว่านี้อะค่ะ คือ คนเขียนอะหนัก กร๊ากกกก
ปล.เอ่อ ว่าลงรูปปากแก้ว แต่ลงไม่เป็น ฮาา :z3:
ไปทำงานละ บายยย จุ๊บๆ^^ :bye2: Happy New Year จ้า
-
ครึ่งเรื่องแล้ว และครึ่งหลังหนักกว่านี้ อ๊ากกกกกกกกกกกส์ :z3:
พงษ์จะมาแย้วววว เย้ เย้ :o8:
ว่าแต่..ดิวกับขวัญมาทำไมอะ ใครเชิญมิทราบ :m16:
-
ถ้ารวมดิว พงษ์ ขวัญ อิพี่ดี
มาเจอพร้อมกัน วันนั้นแก้ว
คงยิ่งกว่างานเข้านะเนี่ย :z3:
-
มีแต่พวกคิดเยอะเน๊อะแก้วเน๊อะ
-
อูยยยย ถึงจะหนัก จะยาวกว่านี้ ก็จะตาม! เจ๊ซีซ่า เอ๊ย ซีซั่นเตรียมตัวไว้เลย 555
ปีใหม่สุขสันต์ทุกคนนะคะ ^^
-
จะหนักแค่ไหนเราก็พร้อมจะอ่าน จัดเต็มมาเลยจ้า
-
ตามอ่านทันแล้ว
อิชั้นสงสารหนูแก้วค่ะ
-
เมา หัว กับ คู่นี้ จิงๆ
ตกลงเอาไง
-
มาเร็ว ๆ นะ รออยู่
-
รอด้วยคน
-
มารอเรื่องราวของฝิ่นและแก้วหลังปีใหม่ครับ
.....
สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนลืมความเหนื่อยล้า ลืมความบาดหมางใจ ลืมความทุกข์ความเสียใจ แล้วมีชีวิตใหม่ที่สดในในปีที่มีแต่เสียงหัวเราะทวีคูณ 2(555)
-
มาต่อเร็วๆนะครับ
รออยุ่นะ
จะสมหวังหรอยังเนี้ย
-
เหมือนฝิ่นมันจะเริ่มชอบแก้วแล้วล่ะ
สู้ๆ นะแก้ว ถึงแม้หนทางข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ไม่รู้
อาจแล้วกลัวทุกที กลัวเศร้า...
-
มารอน้าาาT^T
อยากรู้ว่ามันจะเปงไงต่อไปแระง่า><
-
รอๆๆๆ
-
เข้ามารอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ
คนเขียนอย่าลืมที่แย้มๆ ไว้ล่ะว่าหลังปีใหม่ให้รอเจอพี่ไม้อะ
ว่าแต่ขอเจอแบบชุ่มชื่นหัวใจได้มั้ย อย่าจัดหนักมาก สงสารๆๆ
...วิธีลงรูปก็คือ คนเขียนต้องเอารูปไปฝากที่เว็บฝากรูปก่อนนะคะ จากนั้นเอาลิงก์หรือ url ที่ได้มาใส่แทรกตรงกลางระหว่าง code ที่ใช้ใส่รูปค่ะ
เช่น หากเราไปฝากรูปไว้ที่เว็บ http://upic.me/ ก็ทำตามนี้นะคะ
- ไปที่ http://upic.me/
- กดที่ไอคอน "Select Images" แล้วเลือกรูปที่เราต้องการ
- เมื่อรูปถูกอัพโหลดเสร็จ จะมีลิงก์ขึ้นมาหลายแบบ ให้เลือกลิงก์อันที่สองของหัวข้อ "Direct URL"
- นำลิงก์ที่เลือกนั้นมาใส่ระหว่าง code ที่ใช้แปะรูป (โดยกดที่รูปโมนาลิซ่าใน box โพสตอบข้อความของเล้าฯ)
-
สนุกจริงๆ o13 รออ่านอยู่นะจ๊ะ
-
รอต่อไป
:3123:
-
มารอด้วยคนครับ :m15:
-
หายไปไหนน้าาาาาาาา...........รอยู่นะค๊าฟฟฟ ^^
-
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้คนเขียนมีความสุขมากๆนะครับ แล้วจะรอเรื่องราวของฝิ่นกับแก้วกันต่อไป
-
มารอติดตามเรื่องของแก้วกับฝิ่นนะครับ :impress3:
-
รอเธออยู่เสมอ :laugh:
สุขสันต์ปีใหม่(ย้อนหลัง)จ้า
-
ปีใหม่แล้ว มีตอนพิเศษป่าวน๊ออออ~
คึ~
มาปูเสื่อรอพี่ไม้(?)
-
ผ่านวันหยุดยาวปีใหม่มา 2 วันแล้วววววววววววววววววววววววว :serius2:
-
ปูเสื่อรอพี่ฝิ่นน้องแก้ว
-
เราว่าเราหายไปนานแล้วนะ มีคนนานกว่าเราอีก 555
คิดถึงพี่ไม้ เอ๊ย! เจ๊ซีซั่นและน้องแก้ว :กอด1:
-
หาย ไปนานเลยแหะ...
-
แง๊ๆ รออยุ่น้าาา
-
ตอนพิเศษ ภูรัก+โซ่
ประธานสาย คือชื่อเรียกแทนความเป็นผู้นำ
แน่นอน...คนที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ต้องมีหน้าที่นำ และมีศักดิ์ยิ่งใหญ่กว่าสมาชิกคนอื่นๆในแก๊งค์
ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนต้องมีคนเดินตามเป็นพรวน
ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่จำเป็นต้องลงมือทำเอง
เพียงแค่ขยับปากออกคำสั่งเท่านั้น ทุกอย่างจะมากองตรงหน้าคนอย่างเขาโดยไม่ต้องออกแรงใดๆ
แต่เรื่องบางเรื่อง พี่ใหญ่อย่างเขาก็ต้องลงมือทำเอง
เพราะสิ่งที่เขาต้องการ มันให้ใครทำแทนไม่ได้
อืม...บางทีอาจทำแทนกันได้ แต่เมื่อคิดถึงผลตอบแทนกับการลงทุนแล้วมันคุ้ม ...เขาก็ขอลงทุนลงแรงทำเองมันก็น่าภูมิใจมากกว่าว่ะ
เหมือนตอนนี้ที่เขากำลังเดินตามกลุ่มนักดนตรีของโรงเรียนท่ามกลางฝูงคนเป็นพันๆเพราะนี่มันงานเคาว์ดาวน์ปีใหม่ที่จังหวัดจัดขึ้น ถ้าไม่ได้ลูกน้องเดินแหวกทางให้ก่อนทั้งยังเคลียร์พื้นที่ด้านซ้าย-ขวาให้เดิน เขาคงไม่มีอากาศหายใจเป็นแน่ ไม่เข้าใจว่าภูรักมันเดินเบียดกับคนอื่นๆไปได้ยังไง จะให้รุ่นน้องนำทางให้เดินสะดวกๆก็ไม่ยอม แล้วจะไม่เป็นไรเลยถ้ามันเบียดเฉพาะคนในวง แต่นี่ใครก็ไม่รู้ยืนช้อนหลังมันซะแนบจนจะสิงกันอยู่แล้ว เข้าใจว่าคนแน่นแต่มึงอย่ามาโดนตัวเมียกูนะไอ้แย้
โซ่แตะไหล่เด็กในสายที่เดินอยู่ข้างหน้าให้หลบทางเดินตนกะจะไปเตือนไอ้แย้นั่นซะหน่อย แต่เพื่อนในสายดันจับไหล่เขาไว้ก่อน
“งานยังไม่เริ่มเลยนะมึง” ไอ้หนึ่งพูดบอก โซ่ปัดมือเพื่อนออกจากไหล่พลางถอดแว่นตาดำของตนที่ใส่ไว้ทำเท่แม้กระทั่งตอนกลางคืนออกมาเสียบไว้กระเป๋าเสื้อเชิ๊ตสีดำสกรีนหลังคำว่า ยนตกรรม ๙T แล้วมองหน้าเพื่อนอย่างขัดใจที่มันดันทักท้วง
“แต่ไอ้แย้นั่นเบียดแฟนกู” โซ่มองหน้าหนึ่งพลางชี้มือไปข้างหน้าโดยไม่หันไปมอง
“แต่ถ้ามึงไปสวัสดีมันตอนนี้แล้วโดนไอ้ภูงอนมันคุ้มว่างั้น” เออ ถูกของมัน เขาไม่ค่อยชอบลงไม้ลงมือเองหรอกนะ ไม่ชอบสนใจพวกตัวประกอบที่วิ่งผ่านสายตาด้วย แต่นี่ไอ้แย้มันดันมาวิ่งเข้าเบ้าตาโซ่พอดีเขาเลยเคือง
เกือบทำเสียฤกษ์ตั้งแต่เมียยังไม่ทันขึ้นเวทีซะละ
“เออๆ งั้นมึงเคลียร์เลยนะ” ไอ้หนึ่งมันนักเจรจาชั้นยอด ส่งมันไปคงดีกว่าเขาไปเคลียร์เอง ไอ้แย้นั่นจะได้มีชีวิตรอดรอดูเมียเขาร้องเพลงคืนนี้ต่อ
“กูว่าไม่ทันแล้วว่ะ”
“ห๊ะ?”
โซ่มองหนึ่งเป็นเครื่องหมายคำถามก่อนจะมองตามสายตาเพื่อนไปอีกทาง ทางที่ภูรักยังก้าวขาเดินไปไหนไม่ได้
ขณะเดียวกันภูรักเองก็หันมาจิกตามองโซ่เข้าพอดี เขายิ้มแหย๋โบกไม้โบกมือเชิงบอกว่าไม่เกี่ยวนะ มันไปเอง
“พี่ ขยับออกห่างๆหน่อยพี่” แสนเดินออกจากกลุ่มไปยืนหลังไอ้แย้แล้วตบไหล่มันสองที ชายหนุ่มรูปร่างสูงกว่าหันมามองด้วยความข้องใจ
“ครับ?” ไอ้แย้ชี้นิ้วใส่ตัวเอง เชิงถามว่าหมายถึงตัวมันเหรอ
“เออ พี่นั่นแหละ คนมันเยอะนะพี่ แต่เดินห่างๆพี่ชายผมหน่อยดิวะ อย่าเบียดอะเข้าใจไหม?” ไอ้แสนบอกไอ้แย้ด้วยถ้อยคำสุภาพ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เข้าใจความหมายที่แสนจะสื่อเท่าไหร่...ไอ้นี่มันโง่ว่ะ คนเยอะแต่ห้ามเบียดมันน่างงตรงไหน
ป๊าบ!
ฝ่ามือเรียวบรรจงฟาดเน้นๆใส่หัวแสน
“เหี้ย ใครวะ”
“กูนี่แหละ” จากที่มือลูบหัวป้อยๆต้องยกมาไหว้เหนือหัว ยิ้มแหย๋
“แฮ่ โทษครับ ว่าแต่พี่ภูตบหัวแสนทำไมครับ”
“แล้วมึงมาหาเรื่องอะไรตรงนี้ บอกก่อนเลยนะถ้างานนี้ล่มกูคิดบัญชีทั้งสาย” ภูรักดึงแขนเสื้อทีละข้างก่อนจะวางมือทั้งสองข้างท้าวเอว มองหน้าแสนอย่างคาดโทษ
“เปล่าหาเรื่องนะ ก็ไอ้นี่มันมาเบียดพี่ก่อน” ไอ้แสนชี้หน้าไอ้แย้ที่ยืนชิดกันอยู่คล้ายฟ้อง ไอ้แย้นี่ก็ยังคงมึนทำหน้างงต่อไป
“คนมันเยอะมึงก็เห็น ใครเขาก็เบียดกันทั้งนั้น”
“แต่มันเบียดพี่นี่นา แสนไม่ชอบหนิ”
“งานนี้พ่อมึงจัดรึไงถึงได้มาจัดระเบียบคนร่วมงาน ถ้าพ่อมึงจัดก็ช่วยหาสถานที่กว้างๆกว่านี้ด้วยจะได้ไม่มีใครมาเดินเบียดกู” ภูรักต่อว่าแสนก่อนจะเชิดหน้าไปทางอื่นแล้วแหวกผู้คนเดินฉับๆไปคนเดียว ...องค์ลงอีกแล้ว
“โดนโกรธแน่เลย” แสนพึมพำตามหลัง มันก็รู้นะว่าภูรักไม่ชอบทำตัวเด่นกว่าคนอื่น นี่เล่นไปข่มคนต่อหน้าภูรักขนาดนี้ล่ะก็...สมน้ำหน้ามึงไอ้แสน
“ผมขอตัวนะครับ” ไอ้แย้พูดยิ้มๆทำให้ไอ้แสนต้องแยกเขี้ยวใส่มัน
“เพราะมึงพี่เลยโกรธกู”
“ไอ้เหี้ย” โซ่ตามมาพูดลากเสียงใส่แสนที่ทำหน้าหงอยอยู่ “จะโกรธกูอีกคนรึเปล่าวะ” เมียจ๋า งานนี้โซ่ไม่ได้สั่งไอ้แสนมันนะ โซ่คิดหาข้อแก้ต่างในใจล่วงหน้า งานนี้ต่อให้ไม่ได้เรื่องก็ทำตัวหาเรื่องเห็นๆขยันหางานให้กูจริงๆ
“ก็เฮียไม่ทำอะไร ไอ้นั่นมันลวนลามพี่อยู่นะ ผมเลยต้องออกโรงเอง”
“มึงอยู่เฉยๆได้ไหม กูนี่แฟนพี่มึง มึงไม่ต้องเสร่อมาหวงแทนกูหรอก” โซ่พูดแต่ชะเง้อคอมองตามหลังกลุ่มนักดนตรี
“ก็...”
“หุบปาก แล้วรีบตาม เดี๋ยวนี้”
เขาออกตัวเดินนำโดยไม่รอให้ใครมาแหวกทางให้เพราะกลัวตามภูรักไม่ทัน
“บัดดี้ๆ” เสียงไอ้แสนยังคงลอยมาเรื่อยๆ รำคาญมันเหมือนกันแต่ถ้าไม่มีมันเขาก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักกับภูรักมาถึงขนาดนี้ เพราะงั้น ปล่อยมันพล่ามอะไรของมันไปเถอะ
“เฮียๆ เมื่อกี้เราเดินผ่านอาชีวะxด้วย” แสนเบียดเพื่อนร่วมสายมาฟ้องเขา
“แล้วยังไงวะ” เดินผ่านก็เดินผ่านสิ นี่มันงานจังหวัดถึงสถาบันนั้นจะอยู่ไกลจากที่นี่แต่ใครๆก็มีสิทธิ์เที่ยวงานปีใหม่ได้ทั้งนั้น
“แต่เจอไอ้แก้วอยู่กับพวกนั้นด้วยนะเฮีย ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย เฮียไม่คิดว่ามันแปลกบ้างเหรอ เมื่อกี้ผมเรียกก็เหมือนมันหันมาเจอนะ แต่เหมือนแกล้งหลบตากันยังไงอย่างนั้นแหละ” เด็กโนTกับอาชีวะxอีกแล้วเหรอ อะไรที่เขาไม่อยากรู้ไม่อยากเห็นนี่เข้ามาในสายตาบ่อยจริงๆ โซ่เพียงแค่ฟังไม่ได้มีท่าทีสนใจอะไรมากมาย
“แต่เพื่อนมึงก็อยู่รอดปลอดภัยใช่ไหมล่ะ” แต่ก็พูดให้ไอ้แสนมันเลิกหาเรื่องสงสัยไปงั้น ก็ยังไม่เห็นโดนเก็บแทนไอ้พงษ์และยังเห็นมีเวลาว่างมาหาภูรักทั้งที่อยู่ในช่วงฝึกงานได้อยู่ ถึงภูรักจะบ่นเป็นห่วงมันอยู่บ้าง แต่เขาคิดว่าเหตุการณ์มันดูไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรงเพราะเรื่องนั้นก็ผ่านมานานแล้ว
“อืม เคยถามแล้วแต่มันไม่พูดผมก็เลยไม่อยากพูดถึงอีก”
“ดีแล้ว เรื่องของใครก็เรื่องของมัน อะไรที่ไม่เกี่ยวกับเราก็อย่าเข้าไปยุ่งเดี๋ยวมันจะวุ่นวายเปล่าๆ”
“ครับ...แต่ผมก็ยังอยากรู้เหตุผลอยู่ดี”
“ถุย มึงจะครับทำเชี่ยอะไรวะ” โซ่ส่ายหน้าระอารุ่นน้องแล้วมองเห็นภูรักมองมาทางเขาพอดี
เขาส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้าหาเต้นท์สีขาวที่มีไว้สำหรับใช้เป็นห้องพักของบรรดานักดนตรีที่จะขึ้นแสดงในงาน
“มองหน้าอยากได้กำลังใจเหรอ” โซ่เอ่ยถามภูรักที่มองเขาหน้าตาบึ้งตึง ซีเรียสได้อีกครับมึง
“อย่าสร้างเรื่องนะโซ่”
“ครับ” โซ่รับคำคนจอมเหวี่ยงที่กอดอกพูดบอกน้ำเสียงดุ พร้อมยิ้มให้เจ้าตัวด้วยความพออกพอใจที่เมียเป็นห่วง
“ไปรอที่หน้าเวทีได้แล้ว อีกสองวงก็จะขึ้นเล่นละ” ภูรักปัดมือไล่แล้วหันหลังจะเดินเข้าไปในเต้นท์ แต่โซ่จับมือไว้ทัน
จากที่โดนหางเลขของไอ้แสนเมื่อครู่กลายเป็นโดนเหวี่ยงเต็มๆก็คราวนี้แหละเพราะเขาไม่จับมือเดียวแต่ใช้สองมือกุมมือภูรักไว้โดยไม่แคร์สายตาคนรอบข้างเลย
“อย่าดื่มนะ” บอกด้วยความเป็นห่วงเช่นกันเพราะถ้าเมียเขาโดนแอลกอฮอส์เมื่อไหร่มันจะน่ารักจนเขากลัวทุกครั้ง
“นิดๆหน่อยๆเพื่องานน่า” นั่นไง ไม่มีทางที่มันจะยอมเขาง่ายๆหรอก อีกทั้งตอนนี้ภูรักก็ยังแกะมือเขาออกจากมือมันแล้วด้วย
จับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้ เดี๋ยวก็กอดให้กำลังใจมันซะตอนนี้เลยหรอก
“อย่าแม้แต่จะคิดนะโซ่ คนมองเยอะแยะ” มันพูดอย่างรู้ทัน หรือตาเขาจะฟ้องมากไป
ภูรักมันดูหยิ่งๆเหมือนไม่สนใจใคร แต่จริงๆแล้วมันแคร์คนรอบข้างจนเกินเหตุ ที่นี่นอกจากคนในสายที่รู้เรื่องของเราสองคนอยู่แล้ว คนอื่นๆก็ไม่เห็นรู้จักเราสักคน เขามั่นใจว่าคนในครอบครัวภูรักไม่มางานนี้แน่ ไม่รู้ว่ามันจะกลัวคนอื่นมองทำไม ไอ้สายตาคนอื่นนี่แคร์จริง แต่สายตาเขากว่าภูรักจะสนใจก็เล่นเอาท้อแล้วท้ออีก
“รัก”
“อะไร” เสียงเหวี่ยงได้อีก สายตาก็ต่อว่าเขาเข้าไปเถอะทั้งที่เขายังไม่ได้ทำอะไรที่ภูรักไม่ชอบเลยนะ (?)
“เปล่าเรียก แต่บอกว่ารัก” โซ่โน้มใบหน้าไปกระซิบข้างหูภูรัก
“ไอ้บ้า”
“ฮ่าๆ สู้ๆนะ” เขาถอยหลังเพราะโดนภูรักที่ยิ้มน้อยๆทุบหน้าอกเบาๆแก้เขิน พลางยกสองมือมาทำเป็นรูปหัวใจตรงหน้าอกข้างซ้ายให้ภูรักดู ภูรักแลบลิ้นแล้วรีบหมุนตัวเดินเข้าไปในเต้นท์ทันที...น่ารักว่ะ ไม่อยากให้มันร้องเพลงแล้วอยากพากลับบ้านมันซะตอนนี้เลย
“อ๊วกกกกก” ลับหลังภูรัก พวกในสายต่างพากันหันไปทำท่าอ๊วกคนละทิศคนละทาง มันแซวยันประธานสาย! แต่ไม่กล้าแซวต่อหน้าเมียเขา พวกมึงแม่งลูกน้องกูเจ๋งจริงๆ เหอะ...
...แต่ช่างพวกมันปะไร เขารักของเขา เขาพอใจที่จะบอกรักตอนไหนก็ได้ ทำไมต้องสนใจคนอื่นล่ะ
ถ้าผู้นำของคนนับร้อยจะเดินตามหลังคนๆเดียวบ้าง ไม่เห็นเป็นเรื่องเสียศักดิ์ศรีตรงไหน
...หัวใจมันอยู่เหนือศักดิ์ศรีว่ะ
............................
สวัสดีเจ้า ตอนพิเศษ? พิเศษตรงไหน...ตรงคนเขียนบอกว่ามันพิเศษเองนี่แหละ ฮาา แค่กๆ ฮ่าาาา อ้อนไว้ก่อน คิกคิก เค้าไม่สบายเน้อ กลับจากอุบลฯตั้งแต่วันที่ ๕ แล้ว แต่ปวดหัว ตัวร้อน เสียงหาย ไอจนเจ็บท้องมาตั้งแต่วันสิ้นปีแล้ว นี่ก็ยังไม่หายนะ เป็นคนที่ถ้าป่วยแล้วจะเป็นนาน รำคาญตัวเองมาก จะลุกจะนั่งก็โอย ฮ่าๆๆ แต่ขออดีตเด็กช่างมาพิมพ์พี่ภู เฮียโซ่ ก่อนเพราะวันนี้ได้นอนทั้งวันแล้ว(หยุดงานเอง กร๊ากก)
เอาเท่านี้นะคะ ไม่ต่อแล้ว(เดี๋ยวจะยาว) ทักทายพี่ๆของแก้วพอหอมปากหอมคอก็พอเนอะ ตอนหน้าเจอพี่ไม้จ้า
ขอบคุณที่มารอเน้อ (รู้สึกผิดเล็กๆที่ต้องให้รอ เล็กจริงๆ กร๊ากกก) โอย หัวเราะเสียงดังไม่ได้สะเทือนกระหม่อม เอิ๊กกก
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ ขอตัวไปนอนต่อ กอดๆจุ๊บ^^
แวะมา ปล. ปากน้องแก้วเค้ายังไม่ลืมนะตัว รอก่อนๆ
-
ผิดคาดดดดดดดดดดดดดด
นึกว่าตอนพิเศษของภูโซ่จะออกแนวร้อนแรงซะอีก หงัยถึงมาแนวหวานเล็กๆ ชวนร่วมช่วยเด็กในสายอ๊วกแบบนี้ล่ะ
ไม่ไหวๆ ที่ปรึกษาของแก้วไม่โชว์ทักษะที่สอนลูกศิษย์เลยแฮะ :z1:
หายป่วยไวๆ นะคะ จะได้มาต่อเรื่องอะตัวเอ๊งงงงง :laugh:
-
ภูกับโซ่น่ารักมากกกกกกก :-[ :-[
คู่นี้หวานกว่าที่คิดไว้อีก
โดนมากตรง "หัวใจมันอยู่เหนือศักดิ์ศรี" เนี่ยแหละ o13
ปล.คนเขียนขอให้หายป่วยไวๆนะคะ
-
อยากให้แก้วกะโซ่มีแบบนี้บ้างจัง ซีซั่นอย่าลืมจัดแบบนี้นะ
แล้วก็หายไข้ไวๆนะคับบ :pig4:
-
ชอบค่ะ...........หัวใจมันอยู่เหนือศักดิ์ศรี 555 น่ารักอ่ะ !!
-
ตาย ตาย พี่โซ่มีโมเมนต์นี้กะเขาด้วย หวานไปป่ะ
ชอบเคะเหวี่ยง ๆ แบบพี่ภู ถูกใจคู่นี้มาก
ไม่สบายหายเร็ว ๆ นะ พักผ่อนมาก ๆ
-
โซ่หวานนะเนี่ย
-
อย่างน้อยก้อยังมีตอนพิเศษมาให้อ่านน้อ
อย่าลืมมาต่ออีกนะค๊าฟฟ
รอรอเหมือนเดิม!!
-
พออ่านตอนนี้ แล้วทำให้อิมเมจโซ่ผิดจากที่คิดไว้มากกกกกกกกกกก
เฮียแกดูเกลียมัวได้อีกอ่ะ :m20: :m20: :m20:
-
พออ่านตอนนี้ แล้วทำให้อิมเมจโซ่ผิดจากที่คิดไว้มากกกกกกกกกกก
เฮียแกดูเกลียมัวได้อีกอ่ะ :m20: :m20: :m20:
ขอลอกรีนี้เลยจ้า
โซ่หวานเว่อ
-
โซ่พูดถูกจร้าาาาาา
เดินตามหลังเมีย หมาไม่กัดจร้าาา
-
อิพี่โซ่น่ารักกว่าที่คิดอ่ะ ฮ่าๆ
คุณซีซั่นหายไวๆนะคะ สู้ๆๆๆ
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
พี่โซ่น่ารักกว่าที่คิดว่ะ
-
มาต่ออีกนะคับ
-
คู่นี้น่ารักเนอะะะ
ได้เห็นอะไรที่น่ารักๆๆท่ามกลางความป่าเถื่อนก็ดีเหมือนกันนะนี่ :D
-
โซ่เป็นคนอย่างนี้เองหรอกเหรอ :jul3:
หวานมากอ่ะ มดกัดคันยิบๆแล้วเนี่ย รักเมียหลงเมียสุดๆอ่ะ :o8:
-
พี่โซ่โคตรเท่ :m3: แต่กลัว เอ๊ย! เกรงใจเมีย 555
นั่งอ่านไปยิ้มไป เมื่อไหร่ฝิ่นกับแก้วจะมีช่วงเวลาแบบนี้มั่งน้า :m29:
หายป่วยไวๆนะคะ พักเยอะๆ :กอด1: :pig4:
-
คู่นี้ก็น่ารัก :really2:
-
ว๊ายยยยยยย !!!!!!!!!!!!!!!!!! ไอ้พี่โซ่กลัวเมียนี่หว่า :m20:
-
:o8: โซ่กลัวเมียเหรอเนี่ย
-
ทำเป็นซ่าต่อหน้าคนอื่น แต่กับเมียนิเหมือนลูกหมาเลย
:laugh: :laugh: :laugh:
-
คู่นี้น่ารักจริงๆ :impress2:
เฮียโซ่โคตรรักเมียอ่ะ
ถึงพี่ภูจะดุไปหน่อยแต่ก็น่าฟัด :laugh:
-
ขออ้วกหลังไมล์ ....
แม่งกลัวเมีย นี่หว่า ฮ่าๆๆ
น่ารักกกกกก ว่าแต่คู่เอกจะมีหวังมั้งมั้ยเนี่ย หวานๆน่ะ :z3:
-
พี่โซ่น่าร้าก กกกกกกก เเต่เเอบช็อคพี่เเกเป็นอย่างนี้ :a5:
คิดว่าจะโหดซะอีก o22
อยากอ่านเเก้วเเล้วอ่ะ กำลังเข้มข้น :z3:
:กอด1:มาต่อเร็วๆนะค่ะ รอๆๆๆๆ
-
คู่โซ่-ภู น่ารักอ่ะ
ใครจะเชื่อว่าประธานสายจะโรแมนติกได้ขนาดนี้
รักก็บอกว่ารักเลย ไม่เหมือนฝิ่นยังคงซึนเสมอต้นเสมอปลาย
แอบอยากรู้เวลาฝิ่นมันคิดจะหวาน
จะโรแมนติกใส่แก้วจะเป็นยังไง
รอตอนหลักอยู่นะคะ
-
น่ารักอ่าคู่นี้ มีแอบหวานนิดๆ แต่กลัวเมียเยอะ :-[
-
น่าร้ากกก :impress2: ทั้งคู่เลย
คนแต่งแอบพูดถึงตอนที่ได้มาเจอกันเพราะแสน ทำให้คนอ่านเกิดอาการอยากรู้อยากเห็นมว๊ากกก
รับผิดชอบด้วยเน้อ อิอิ
-
หวานไปไหน
:o8: :o8: :o8: :o8:
-
ขอบคุณครับ เป็นอีกคู่ที่น่ารักดีเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะครับ
-
แง๊ๆ รออยู่น้าาาาาT^T
-
คู่นี้น่ารักมากกกกกกกก :กอด1:
ขอบคุณมากน้าาา อย่าลืมอีกคู่ด้วยนะจ้ะ ^^
-
โห
อ่านตอนนี้
ภาพโซ่คนละอารมณ์กับตอนนี้เลย 55+
น่ารักกันทั้งคู่เลยนะ
แต่ชอบอะ
หัวใจมันอยู่เหนือศักดิ์ศรีว่ะ ชอบมากๆๆๆๆ
อยากไห้ไอ้ฝิ่นมันได้ยินและคิดแบบนี้บ้างจัง
-
:-[
คู่ภูรักน่ารักสมชื่อ :o8:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๘
“มึงไม่ต้องมาทำเป็นเอาใจกูอีกคนหรอก” ไม้จับผ้าขนหนูสีเทาที่เคยพาดไหล่มาเช็ดหน้าหลังจากล้างทำความสะอาดจากคราบเหงื่อไคลก่อนจะกลับบ้าน และไอ้แก้วก็ถือถาดใส่แก้วน้ำมายื่นให้ตรงหน้าด้วยท่าทางตาละห้อย
เขาพูดให้มันสำนึกและล้มเลิกความคิดโคตรบวกของมันสักที
“ก็...พ่อเขาไม่ให้ผมทำอะไรเลย มันดูไร้ประโยชน์ไปรึเปล่าพี่ที่ผมต้องนั่งดูพวกพี่ทำงานกันน่ะ”
“มึงทำอะไรเก้ๆกังๆ พ่อเขาขี้รำคาญ” ถึงจะตอบไม่ตรงคำถาม แต่มันก็เป็นคำตอบ
ด้วยความขี้รำคาญของพ่อไอ้ฝิ่นถึงได้จะสอนไอ้แก้วที่ท่าทาง ผิวพรรณดูผู้ดีเกินกว่าอดีตเด็กช่างอย่างพ่อจะทนดูได้ อยากให้มันมาคลุกควัน คลุกน้ำมัน ออกพละกำลังอย่างที่พวกห่ามๆแบบพ่อชอบ
“แต่ผมก็ตั้งใจแล้วนะ” มันยืนยัน ก็เพราะมันตั้งใจนี่แหละพ่อถึงได้เกะกะลูกตาแล้วเลิกให้มันลงมือทำ แต่บอกให้มันนั่งดูนั่งจำจนกว่าจะทำอะไรคล่องแคล่วเป็น
...ขนาดแค่ล้อรถมันยังยกไม่ขึ้น ไม่รู้ว่ามันโตมาได้ยังไง
“บางทีตั้งใจมากไปมันก็ไม่ใช่เรื่องดีหรอก”
“ถ้าลองได้โอกาสนะ ผมทำได้ทุกอย่างแหละพี่” ไอ้แก้วยังถือถาดเดินตามหลังแม้เขาจะเดินหนี ไม้จึงต้องหันกลับไปจ้องหน้าแก้ว มันถึงกับชะงักมองหน้าเขาอย่างเกร็งๆ
“มึงก็เรียกหาแต่โอกาสๆ โอกาสที่ต้องการสิ่งตอบแทน ใครเขาจะอยากให้มึง ถ้าความตั้งใจของมึงทำเพราะอยากเรียนอยากรู้มากกว่าทำเพราะอยากให้คนอื่นยอมรับในสิ่งที่มึงทำ โอกาสของมึงจะมีค่ามากกว่านี้”
“ผม...ทำอะไรให้พี่ไม่พอใจรึเปล่า” มันมองหน้าเขาค้าง เอ่ยถามตะกุกตะกัก เหอะ...นอกจากรำคาญความคิดมันไม้ก็ชักจะรำคาญพฤติกรรมของมันอีกด้วย ไอ้ท่าทางที่เกรงกลัวเขาแต่ข้องใจอะไรแม่งก็ถามออกมาโต้งๆ มันจะชัดเจนไปไหมกับคนที่ต้องการชดใช้ความผิด
“มึงไม่ต้องมาใส่ใจอะไรกู กูไม่เคยพอใจกับสิ่งที่มึงทำทุกเรื่อง กับกู...จำคำว่าเปล่าประโยชน์ใส่หัวมึงไว้ก็พอ”
เขาเดินออกจากคู่สนทนาโดยไม่สนใจว่าลับหลังเขามันจะทำหน้ายังไง เขารู้ว่ามันตั้งใจจริงที่จะชดใช้ความผิดให้
...แต่เขารู้สึกแย่กับคำว่าตั้งใจซะนี่
“เดี๋ยวผมไปส่ง”
“ไม่ต้อง วันนี้กูเอามอเตอร์ไซด์มา” ไม้บอกฝิ่นที่เดินสวนกันหน้าร้าน มันพยักหน้ารับรู้แล้วเรียกไอ้โจ้ที่กำลังเก็บเครื่องมือใส่กล่อง
“โจ้ ไปส่งพี่ไม้ด้วย”
“ครับพี่”
เขาไม่ใช่เด็กช่างกิ๊กก๊อกอย่างไอ้แก้วที่ไม่มีปัญญาดูแลตัวเอง แต่เขารู้ว่ารุ่นน้องกลัวอะไรแม้จะมีชื่อให้คนหวาดเกรงเป็นด่านแรกแม้จะมีพละกำลังมากแค่ไหนแต่ทุกคนก็พลาดได้เหมือนกัน เขาจึงยอมทำตัวเสมือนมีการ์ดข้างกายเพื่อให้ฝิ่นสบายใจ
“โจ้ ไอ้แก้วล่ะ”
“หึ”
“พี่อย่ามองผมแบบนั้น” มันค้านทั้งที่เขายังไม่ได้ว่าอะไรเพียงแค่แสยะยิ้มในลำคอและมองมันอย่างเหยียดๆเฉยๆ
“ไม่รู้ว่ะพี่ ผมยุ่งอยู่เลยไม่ทันมอง”
“อยู่หลังร้าน” ไม้เลยเป็นคนบอกแทน ไม่รู้ป่านนี้ไอ้แก้วจะให้กำลังใจตัวเองเสร็จรึยัง
“ถึงบ้านแล้วโทรบอกด้วยนะ” มันสั่งเขา แต่เขาก็ไม่เคยโทรรายงานมันเลยสักครั้งมีแต่ไอ้ฝิ่นที่โทรตามตลอด “มึงด้วยไอ้โจ้”
“ทราบครับพี่ ไปพี่ไม้กลับบ้านเรารักรออยู่” ไอ้โจ้ทำท่าตะเบ๊ะหลังเก็บของส่วนที่ตัวเองใช้เพราะลูกน้องของพ่อยังทำงานกันอยู่ ก่อนที่มันจะไปสตาร์ทรถมอเตอร์ไซด์เขารอ
“อย่าตกหลุมที่ตัวเองขุดนะมึง” เขายักคิ้วกวนตีนพลางแหย่ไอ้ฝิ่นแล้วขึ้นซ้อนท้ายไอ้โจ้ มันจิ๊ปากด้วยความเคือง และไม่กล้าหือกับคนที่มันนับถือให้เป็นพี่ แต่มันก็ไม่ฟังคำเตือนจากเขาอยู่ดี
“มึงเบื่อทำตามคำสั่งบ้างไหมวะโจ้” เขาชวนไอ้โจ้คุยช่วงรถติดไฟแดงคั่นเวลา
“เบื่อสิพี่ มีใครบ้างชอบให้คนอื่นมาชี้นิ้วสั่ง”
“งั้นมึงไม่ต้องมาส่งกูตามที่ไอ้ฝิ่นบอกก็ได้ กูแม่งดูขาลงขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ไม้พูดกึ่งขำ เข้าใจความคิดคนสนิททุกคนดีแต่โดนคนอื่นรู้สึกเป็นห่วง มันก็รู้สึกแย่วะ
“เอาไว้ใจพี่แข็งแรงก่อนแล้วผมจะเลิกรับงานนี้ โอเคเปล่า แล้วนี่คิดอะไรของพี่เนี่ย พี่ฝิ่นสบายใจที่รู้ว่าพี่กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย ผมก็สบายใจไม่ต่างกัน”
“แต่คงดีกว่านี้ ถ้าเรายังอยู่รอดปลอดภัยทุกคน”
“เฮ้ยพี่ คิดไปถึงไหนเนี่ย”
“หึ ขอบใจว่ะโจ้” เขาตบไหล่ไอ้โจ้เบาๆ ขอบใจกับความหวังดีของมัน
“เพราะงั้นพี่รีบสร้างความเชื่อมั่นให้พี่ฝิ่นและก็คนอื่นๆได้แล้ว แค่พี่เข้มแข็งกลับมาเป็นพี่คนเดิมก็พอ เลิกเหม่อลอย เลิกคิดถึง...เท่านี้ผมจะได้ไม่ต้องมาเป็นสารถีให้พี่ทุกวัน”
“โจ้ กูว่ามึงเริ่มเลวแล้วนะ”
“หึ ฮ่าๆ พี่ทำได้ไหมล่ะ ผมว่าพี่ทำไม่ได้หรอก” มันท้าเขา เหอะ อยากจะหัวเราะให้ฟันหัก
“บางทีกูอาจไม่ได้คิดอะไรอย่างที่พวกมึงคิดแล้วก็ได้”
“เหรอ?” โจ้ลากเสียงอย่างไม่เชื่อ
สมควรที่มันจะยังเป็นห่วงเขากัน ตัวเขาเองไม่ได้คิดไปถึงไหนหรอก ความคิดของเขามันไม่ได้ไปไกลกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเลย
.
.
.
“ฟาดมาเลยพี่ กลางหลัง หนักๆ” เป้งถอดเสื้อฉ๊อปถอดเสื้อนักเรียนวางไว้บนตักเปลือยแผ่นหลัง มันวางมีดคมๆเล่มยาวกลางวงเหล้าของเด็กอาชีวะxหลังจากไปลงของสักยันต์กันมาตั้งแต่เมื่อกลางวันและพูดบอกไม้ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ให้เป็นคนทดสอบความขลัง
แต่ไม้รึจะกล้า...
“ของอย่างนี้เขาไม่ลองกันหรอก” ไม้บอกตามจริง ถึงจะขลังสักแค่ไหนแต่ก็ไม่มีใครคิดลองอย่างเป้งมันหรอก ของพวกนี้มีไว้ป้องกันอันตรายจากสิ่งที่เราไม่รู้ แต่ไม่ได้ป้องกันจากสิ่งที่รู้อยู่แล้วว่าต้องโดน ถ้าเกิดลงมีดกลางหลังมันแล้วไอ้เป้งเกิดเลือดตกยางออกขึ้นมา เขาจะทำยังไง
...เขาทนเห็นมันเจ็บไม่ได้หรอกแล้วยิ่งเจ็บจากเขาเป็นต้นเหตุด้วยแล้ว เขายิ่งทำไม่ลง
“พี่กลัวอะไรวะ ถ้ามันไม่แน่นผมจะได้ไปลงเพิ่มไง” ลายเต็มแผ่นหลังมันยังคิดว่ามีพื้นที่เหลือให้มันสักได้อีกเหรอ
“ไม่ได้กลัวแต่ไม่บ้าพลังเหมือนมึง” เขาแสร้งต่อว่ามันไป
“โหยพี่ ขัดใจว่ะ” ไอ้เป้งเก็บเสื้อเก็บฉ๊อปพาดไหล่นั่งชันขาข้างเดียวยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มด้วยอารมณ์ไม่ได้ดั่งใจ
แต่คนอย่างไอ้เป้ง ความกล้าที่จะเอาคืนเขามีมากกว่าไอ้ฝิ่นอยู่แล้ว
เป้งผสมเหล้ากับโซดา คนให้เข้ากันด้วยนิ้วชี้ของมันก่อนจะวางแก้วเหล้าไว้กลางวงแล้วหยิบมีดด้ามนั้นขึ้นมากรีดลงนิ้วชี้ที่มันคนเหล้าเมื่อกี้จนเลือดหยดติ๋งลงในแก้ว แล้วมันก็เช็ดเลือดด้วยการเอานิ้วลงไปคนในแก้วอีกรอบ
“หึ ไอ้เหี้ย เล่นอะไรไม่บอกไม่กล่าว” ไอ้ฝิ่นว่าเพื่อนแต่กลับหัวเราะชอบใจ มันคว้ามีดจากมือเป้งมากรีดนิ้วก้อยตัวเองจนได้เลือดเหมือนกันและมันก็เช็ดเลือดด้วยวิธีเดียวกัน
“พี่ไม้ จัดมา” ไอ้เป้งจับมีดจากมือไอ้ฝิ่นมาวางไว้ตรงหน้าเขา มองหน้ากดดันและท้าทาย...
“แค่มึงกับไอ้ฝิ่นก็พอแล้ว” แต่ที่จริงพวกมันก็เรียนที่เดียวกันมาตั้งแต่อนุบาลไม่ต้องมากรีดเลือดสาบานกันแล้ว ซึ่งมันเรียนมาคนละโรงเรียนกับเขา ไม้กับฝิ่นบ้านอยู่แถวเดียวกันเลยรู้จักกันแบบผ่านๆแต่มาสนิทกันก็ตอนที่เข้ามาเป็นพี่น้องร่วมสถาบัน และไม้เพิ่งได้รู้จักเป้งตั้งแต่ตอนนั้น
“ไอ้ฝิ่นไว้ตามใจ คบกับมันมีแต่ตายกับตาย แต่พี่มีไว้ดึงพวกผมไง” เหตุผลของมันทำให้เลือดของเขาหยดลงแก้วใบเดียวกันจนได้ อย่างน้อยในความคิดมันก็ยังอยากจะมีเขา ใช่ เขาคิดเข้าข้างตัวเอง..แต่ถึงมันไม่มีเหตุผลเขาก็ยอมมันอยู่แล้ว
“ไอ้เป้ง!” เลือดหยดลงแก้วสองสามหยดมันก็จับนิ้วชี้มีแผลเขาไปอมหน้าตาเฉย ไอ้ฝิ่น ไอ้โจ้ พากันขำกลิ้งรอบวงเหล้า
“ฮื่อ” มันเอาปากออกจากนิ้วเขา ยิ้มแฉ่ง ไอ้วิธีห้ามเลือดของมันทำเอาเขาใจหายใจคว่ำ หึ เป้งมันทำโดยไม่คิดอะไรหรอก ...แต่เขาแม่งคิดอยู่คนเดียว “เราจะเป็นพี่น้องกันตลอดไป ดื่ม!” ต่อให้มีคนอยู่เต็มบ้านมันก็จะสาบานกันสามคน ไม้ยิ้มพลางส่ายหน้าแล้วยกแก้วเหล้าผสมเลือดขึ้นดื่มเป็นคนสุดท้าย
เพราะความบ้าบิ่นของไอ้เป้งแท้ๆที่ทำให้เขานึกเป็นห่วงกลัวมันเรียนไม่จบ เพราะความรั้นที่นึกอยากจะมีเรื่องเมื่อไหร่มันก็วิ่งเข้าใส่โดยไม่คิดอะไร แม้จะโดนรุมมันก็บอกสนุกและไม่เคยเข็ดหลาบ ชีวิตลูกผู้ชายเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว อยากจะทำอะไรก็ทำๆไป ทำตามที่ใจคิด ความคิดของมันกับไอ้ฝิ่นที่ไปในทางเดียวกันจึงไม่มีใครห้ามใคร แต่ไอ้ฝิ่นยังมีพ่อที่คอยบอกคอยเตือน แต่ไอ้เป้งพ่อแม่มันไม่เคยเป็นเด็กอาชีวะมาก่อน พูดบอกอะไรเป้งมันเลยไม่ฟัง เขาถึงต้องตามบอกตามสอนจนความรู้สึกมันเพิ่มมากขึ้นทุกวันโดยที่เขาเองก็จับต้นชนปลายไม่ถูกว่ามันเริ่มต้นเปลี่ยนไปตั้งแต่วันไหน
“พี่เป็นอะไรของพี่วะ เอาแต่ดื่มๆไม่สนใจผมเลย ผมมายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่เห็นผมรึเปล่า”
ค่ำวันหนึ่งเป้งเดินเข้ามาในบ้านหลังเล็กของเขาด้วยท่าทางมีอารมณ์ ไม้ ฝิ่น โจ้ และคนสนิทในสายอีกสองคนนั่งกินเหล้ากันอยู่ แต่ไอ้เป้งไม่ได้สนใจคนอื่นๆ มันยืนนิ่งชั่วครู่แล้วตรงมาดึงแก้วเหล้าออกจากมือเขาที่ไม่ยอมมองหน้ามัน
ทำไมจะไม่รู้ไม่เห็น ไม่ว่ามึงจะอยู่ตรงไหนพี่ก็มองมึงอยู่ตลอดนั่นล่ะ แต่... มันบอกไม่ถูกหลังจากที่เขาเริ่มมั่นใจในความรู้สึก เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นห่วงเป้งมันเกินเหตุ และชักหวงเมื่อเห็นมันไปไหนมาไหนกับผู้หญิง เขาไม่ชอบใจ โกรธมันโดยที่เป้งมันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย เขาก้าวข้ามคำว่าพี่น้อง เขาจึงไม่กล้าสู้หน้ามัน พยายามถอยห่าง มองและเป็นห่วงเป้งมันอยู่ไกลๆ เพราะให้เดินไปคนละทางกับมันเขาก็ทำไม่ได้ เอาแค่นี้ เท่าที่คนเป็นพี่จะทำได้ ถ้าเผื่อว่าน้องมีเรื่อง เขาพร้อมเข้าช่วยทันที แต่จะให้ไปอยู่ข้างมันโดยที่ใจไม่บริสุทธิ์ ...เขาป๊อดว่ะ
“แล้วที่มึงไปกับผู้หญิงเมื่อวาน มึงสนใจพี่ไม้บ้างไหม?” ไอ้ฝิ่นโต้ตอบอย่างมีอารมณ์ก่อนลุกขึ้นผลักหน้าอกไอ้เป้งที่มันทำอะไรไม่เห็นหัวพี่อย่างเขา
“แล้วไง? มันไม่ใช่เรื่องที่พี่ไม้จะเอามาเป็นข้ออ้างที่จะไม่พอใจกูเลยว่ะ” มันเสียงดังใส่กันก่อนจะหันมาโวยไม้ต่อ “ผมทำอะไรผิด ทำอะไรที่พี่ไม่ชอบ พี่ก็บอกสิวะ ไม่ใช่ทั้งวันพูดกับผมนับคำได้ ไอ้อาการปากหนักของพี่ผมโคตรไม่ชอบเลยว่ะ”
“ไอ้เป้งมึงก้าวร้าวพี่ไม้มากไปแล้วนะ” ฝิ่นยังคงปะทะอารมณ์กับเป้งและอารมณ์มันดูมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม้เลือกที่จะนั่งมองเฉยๆ ไม่มีเหตุผลหรือข้อแก้ตัวอะไรจะให้ใคร
“ก็ถ้าพี่ไม้ยังนั่งเป็นใบ้อย่างนี้กูก็จะพูดแม่งอย่างนี้เหมือนกัน ถือว่าตัวเองเป็นพี่ทำอะไรไม่เคยรับฟังคนอื่น เด็กมันพกอาวุธเข้าโรงเรียนพี่ก็ออกรับแทนจนโดนพักการเรียน แล้วยังหลายต่อหลายเรื่องคิดว่าแน่ ว่าเจ๋งกว่าใคร ตัวเองเป็นพี่แล้วยังไง อ้างแต่ความเป็นพี่เพื่อรับผิดชอบเรื่องที่น้องก่อแต่จริงๆทางออกมันมีมากกว่าที่พี่คิดไปเอง แล้วตอนนี้ในใจน่ะคิดอะไรอยู่ ไม่พอใจอะไรผมทำไมไม่บอกกัน พูดมาสิวะไม่ใช่ให้คนอื่นรู้ก็ต่อเมื่อตัวเองทำลงไปแล้วเท่านั้น! ...หึ ขนาดกูพูดกับเขาอยู่เนี่ย เขายังไม่ฟังกูเลย”
ผลั๊วะ!!
ไอ้เป้งล้มคว่ำกลางบ้านหลังถูกกำปั้นหนักๆของไอ้ฝิ่นฟาดเข้าข้างแก้ม
“ฝิ่นหยุด” นั่นจึงทำให้ไม้นั่งเป็นผู้ชมอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป
“แล้วดูมันว่าพี่ปาวๆสิ ไอ้เหี้ย!”
“ไอ้ฝิ่น! กูบอกให้หยุด!” เขาตะโกนเสียงดังทั้งยังลุกไปดึงตัวฝิ่นที่จะเข้าไปซ้ำเป้งออก
“พวกมึงกลับบ้านกันได้แล้ว ถ้ามันอยากคุยกูก็จะคุย” ไม้สั่งเสียงดัง พลางก้มลงมองคนที่นั่งเช็ดเลือดตรงมุมปาก
“พี่แม่งรักน้องไม่เท่ากัน” ไอ้ฝิ่นต่อว่าต่อขานแล้วฟึดฟัดเดินออกจากบ้านเขาไป คนอื่นๆจึงค่อยตามกันออกไป
ให้พี่เก็บไว้คนเดียวน่ะดีแล้ว จะต้องให้พี่พูดออกไปทำไม
ความในใจที่ไม่รักดี ถ้ามึงรู้ มึงจะรับได้เหรอ มึงจะเปลี่ยนไปไหม ต่อไปมึงจะมองพี่ยังไง ความห่วงใยจากพี่ มันไม่ใช่พี่ที่หวังดีอีกต่อไป แต่เป็นพี่ที่คิดเป็นอื่น มึงยังจะเชื่อฟังพี่อยู่ไหม ในหัวมันคิดไปสารพัด
พี่แม่งขี้ขลาดขึ้นทุกวันหลังจากที่ได้รู้จักมึง
จากไม่เคยกลัวก็รู้จักกลัว จากที่คิดว่าชีวิตนี้อยู่เพื่อแม่ เรียนเอาความรู้เอาประสบการณ์เยอะๆรักษาตัวเองให้รอดกลับบ้านทุกวัน ใครจะเป็นจะตายช่างมัน แค่เอาคืนให้ไม่เสียชื่อ๕x จบ!
แต่พอมารู้จักมึง จากที่ทุกวันพี่ทำเพื่อแม่พี่ก็ต้องทำเพื่อมึงอีกคน จากที่เคยมองแต่ตัวเอง พี่ก็เอาแต่มองมึงอีกคน พี่ต้องดี พี่ต้องแกร่ง พี่ต้องเป็นแบบอย่างให้ใครต่อใครและพี่ต้องทำใจแข็ง...เพื่อมึง แต่วันนี้...มึงบอกว่าพี่ทำอะไรไม่ชอบบอกใคร ใช่ พี่เป็นคนแบบนั้น แบบที่มึงไม่ชอบเพราะคนอย่างมึงแม่งต้องรู้ทุกเรื่องที่มึงอยากรู้ แต่มึงไม่เคยรู้เลยว่าความคิดของพี่ ถูกมึงชักจูงและสั่งได้
..........................
พี่ไม้ตอนเดียวไม่จบแฮะ
กำลังพาคนอ่านไขข้อข้องใจเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง ไม้ เป้ง ฝิ่น รวมถึงความเป็นมาของพี่ไม้ในวันนี้ และไขปริศนา(ป๊าดดดด) ที่ว่าฝิ่นไม่ได้เป็นเกย์แต่แรก(ตอนนี้มันเป็นละ -*-) แต่ไหงมันมีความคิดจะเอาคืนด้วยวิธีที่โคตรนิยายอย่างนี้ ฮ่าๆๆ คือบางทีอาจเขียนขาดไปบ้าง แต่ฝิ่นมันวนเวียนอยู่รอบตัวพี่ไม้กับเป้งมันก็ต้องรู้ต้องเห็นอะไรบ้างใช่ปะ ...อืม เค้าใช่คนเดียวก็ด่ะ
ตอนที่แล้วอิมเมจพี่โซ่ผิดแปลกไป ฮ่าๆ จริงๆคงไม่แปลกไปหรอกค่ะแต่เป็นเพราะที่ผ่านมาเรารู้จักพี่โซ่พี่ภูจากไหนล่ะ? ก็จากมุมมองของแก้วไงล่ะคะ ซึ่งบุคลิกของโซ่ก็ตามที่คนอ่านเข้าใจนั่นแหละค่ะ แต่การแสดงความเป็นตัวเรามันก็ขึ้นอยู่กับคนที่เราอยู่ด้วยว่าอยากให้เขารู้จักเราแบบไหน อย่างแก้วก็รู้จักพี่โซ่แบบเผินๆ เผินมากๆ เปรียบดังคนนอกอะนะ คนนอกเขารู้จักอีกคนแบบไหน เขาก็มาเล่าให้ฟังแบบที่เขาเห็นและคิด ซึ่งจริงๆมันอาจใช่หรือไม่ใช่ทั้งหมดอย่างที่เขามองก็เป็นได้
เราจะรู้จักอีกคนก็ต่อเมื่อเราเข้าไปสัมผัสตัวตนของคนๆนั้นจริงๆเท่านั้นล่ะค่ะ ซึ่งไม่ว่าอิมเมจพี่โซ่ที่คนอ่านคุ้นเคย หรือกับตอนล่าสุด มันก็คือตัวไอ้พี่โซ่ทั้งสองบุคลิกค่ะ ...พล่าม...เก็บกด เอิ๊กกก
ปล.คุณแวน อิฉันไม่ได้เปิดประเด็นนะฮะ ไอ้เราก็กะเขียนคลุมๆไป ฮ่าๆๆ เอาไว้จบคู่นี้ก่อนเนอะ ให้มั่นใจในตัวเองอีกสักนิดว่าเขียนนิยายรู้เรื่อง ซีซั่นอาจจะเขียนเรื่องโซ่+ภู มาลง (ซึ่งมันเป็นเรื่องของอนาคต)
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ขอบคุณทุกความห่วงใยและทุกกำลังใจนะคะ ^^
อัพเดทอาการคนเขียนกันบ้าง ไม่มีใครอยากรู้หรอกแต่อยากพิมพ์บอก ฮ่าๆ เพราะพูดลำบากเหลือเกิน ...เก็บกด พูดแต่ละคำก็ไอไปด้วย ไอทีก็ปวดหัวที แถมเจ็บท้องอีก กรรมเวร แล้วเพิ่งได้อ่านกระทู้ในห้องพูดคุยว่าการกินยาพารามากๆเป็นอันตราย จึงเกิดอาการวิตกจริตขึ้นมาอีก เพราะซีซั่นเป็นคนเอะอะอะไรก็กินแต่พาราๆ เคยกินติดต่อกันทุกวันเพราะนอนไม่หลับ(มโนว่าพาราคือยานอนหลับ) จนกินวันละสองเม็ดก่อนนอนข้าเจ้าก็ไม่หลับ! คือดื้อยาแล้วนั่นเอง แต่ก็ยังไม่เลิกนิสัย ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ขับถ่ายไม่สะดวก ข้าน้อยก็จะยัดแต่พารานี่แหละลงกระเพาะ แล้วตอนนี้เพิ่งเคยเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไอแล้วเจ็บช่วงกระบังลม ไอจนน้ำตาเล็ดไม่ได้เจ็บคอแต่เจ็บท้องอย่างแรงเคยพยายามที่จะไม่ไอด้วยนะ ฮ่าๆ แต่อย่าฝันว่าจะทำได้เราเลยไม่อยากกินยาตัวไหนอีกเลยเป็นการล้างท้อง...กลัวตาย จนคุณนายแม่(แม่อดีตเด็กช่าง)ท่านก็ให้พรมาซะยับเลย ไม่กินชาตินี้ก็ไม่มีวันหายหรอก มันไม่กัดกระเพาะเหมือนพารา แกไม่ต้องกินข้าวก็กินได้ โหว ค่ะ กินค่ะกิน แต่ก็ยังหนีไม่พ้นอาการไอและปวดหัวอยู่ดี เมื่อวานอยู่หน้าจอคอมไม่ได้เลยจะอาเจียนตลอด วันนี้ก็คิดว่าดีขึ้นอะนะ ไม่อยากป่วยนานพาลจะง่อยเปล่าๆเลยมานั่งๆนอนๆสูดน้ำมูกต่อส่วนของพี่ไม้...ซึ่งต่อไม่จบ กร๊ากกก กะว่าจะเขียนตอนเดียวแต่ไม่ได้แฮะ ดูสั้นไป คนเขียนไม่อินเลยคิดว่าคนอ่านก็ไม่อินเช่นกัน แต่เค้าขอพักก่อนนะตัว เพราะงั้นใครที่อ่านตอนนี้แล้วก็ค้างไปก่อนนะคะ เพราะซีซั่นก็ค้างพอๆกับคุณนั่นแหละ ฮ่าๆ
แต่ตอนนี้ต้องขอตัวไปนอนแล้วจ้า เวิ่นเยอะประหนึ่งสบายดีแล้ว ฮ่าๆ จะอัพตั้งแต่ทุ่มนึงแล้วเน็ตก็เต่าเหลือเกินเดี๋ยวติดเดี๋ยวขาด ป่วยแข่งกับเจ้าของมันรึไงฮะ เฮ้อ กอดๆจุ๊บ^^ (แพร่เชื่อหวัด เอิ๊กกก)
อ้อ เค้าก้าวผ่านช่วงเบญจเพสมาแล้ว คนอ่านนับญาติได้เลยค่ะ ไม่คุ้นกับคำว่าคุณซีซั่นเลยแฮะ แหะๆ เขิน><มันดูเป็นทางการไปน่ะค่ะ^^
คนอ่านรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
-
ชอบ ๆ มาต่อเร็วไว
-
ไม้ - เป้ง เหรอ โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮอ ตอนที่เป้งตายไมจะรู้สึกยังไง :sad4:
คงแค้นพงษ์มากแน่ๆ
แต่ตอนนี้ยังไงไม่รู้ ตาคนนี้เดายาก
แก้วในสายตาไม้ บอบบางมากค่ะลูก :laugh:
-
โป๊ะเลยค่ะ ความสัมพันธ์ของสามคนเป็นประการฉะนี้เอง
พี่ไม้เศร้าสุด ฝิ่นแค้นสุด เข้าใจแล้ว
-
โอ้ พี่โม้ ความรู้สึกนึกคิดพี่มันช่างลึกซึ้งจริง :sad4:
อ่านแ้ลวแบบว่าสงสารพี่ไม้ :monkeysad:
-
แก้วเอ๊ยยยยยย
บอบบางน่ารักจริง :o8:
-
พี่ไม้เท่อ้ะะะะะะะะะะะะ
ชอบที่แทนตัวเองว่าพี่มากอ้ะ ซึ้งงง
แล้วเป้งต้องมาตายแบบนี้.. :monkeysad:
-
พี่ไม้ แมน คักๆ
-
พี่ไม้น่าสงสารอ่ะ เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงบวช
ขอบคุณมากน้า :กอด1:
-
เรื่องค่อยๆๆเปิดเผย
คนเขียนรักษาสุขภาพด้วยนะคะ :L2:
-
:กอด1:
-
สงสารพี่ไม้มากๆ คนเป็นพี่นี่เนอะทำอะไตามใจตัวเองก็ไม่ได้ :monkeysad:
ปล.คนเขียนไปหาหมอยังค่ะ รักษาสุขภาพด้วยค่า
-
เหมือนที่คิดไว้เลยว่าไม้รักเป้ง
-
คนแต่งเริ่มจะคลายปมแล้วใช่มั้ย ท่าจะยังอีกนาน กว่า แก้ว-ฝิ่นจะลงตัว :เฮ้อ:
-
ไม้กับเป้งงั้นหรือ
-
ขอให้หายป่วยไวๆนะ นั่งรอซีซั่นอยู่ที่เดิม อิๆ o18
-
การตายของเป้ง ส่งผลต่อความรู้สึกของพี่ไม้และฝิ่นที่ต่างกัน
สำหรับฝิ่น เป้งเป็นเพื่อนรักที่เคยแม้กระทั่งกรีดและดื่มเลือดร่วมสาบาน เมื่อเพื่อนตายมันก็ย่อมเกิดความแค้นเป็นธรรมดา
และจากที่มันเป็นคนมุทะลุ หุนหันพลันแล่น เอาแต่ใจ และเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง เมื่อมันเชื่อว่าเวรย่อมระงับด้วยการจองเวร สิ่งที่มันคิดก็คือต้องเอาคืนเท่านั้น
จริงๆ แล้วในครั้งแรกฝิ่นคงคิดแก้แค้นเฉพาะพงษ์ แต่ในเมื่อมันทำไม่ได้ มันก็ต้องพยายามหาทุกวิธีการ
ซึ่งมันก็เกิดความคิดแปลกๆ ขึ้นมาเมื่อมันสัมผัสถึงความสัมพันธ์อะไรบางอย่างระหว่างพงษ์กับแก้ว และยิ่งมันเห็นว่าดิวรู้สึกพิเศษกับแก้วด้วยแล้ว มันก็ยิ่งมั่นใจว่าแก้วน่าจะเป็นเกย์
คิดได้แบบนี้แก้วมันจะไปเหลืออะไรล่ะ ก็เลยโดนไอ้อนาคตเกย์ฝิ่นใช้เป็นเครื่องมือซะงั้น คงคิดว่าความเจ็บปวดของแก้วจะไปกระเทือนซางของพงษ์บ้างล่ะมั้ง
มิชชั่นนี้ฝิ่นมันคงคิดว่าเหมือนได้ล้างแค้นให้กับคนถึงสองคน
หนึ่ง..ล้างแค้นให้เป้งจากที่พงษ์มันจะได้เจ็บปวดทรมานใจจนปางตาย (ซึ่งต้องติดตามต่อว่าคนเขียนจะผูกเรื่องอย่างไรต่อ)
และสอง..ล้างแค้นให้พี่ไม้ ความรู้สึกเสียใจเจ็บปวดทรมานใจของลูกพี่มันจากการที่คนรักต้องเจ็บปวดจนตายเป็นอย่างไร ไอ้พงษ์คงได้รับรู้จนถึงทรวงก็ตอนนี้แหละ
จุดนี้ก็คงไม่สงสัยแล้วว่าทำไมไอ้คุณฝิ่นเลือกวิธีนี้ แม้มันจะเลือกทำร้ายร่างกายแก้วก็ได้ ซึ่งพงษ์ก็คงเจ็บปวดพอกันก็ตาม
แต่เพราะจริงๆ แล้วมันก็คงไม่อยากให้ใครนอกจากพงษ์ต้องถึงตายนั่นแหละ ก็เลยเลือกวิธีแบบนี้ล่ะนะ
(แต่ก็ยังตงิดๆ นิดนึงว่าไอ้คุณฝิ่นมันคิดจะมีอะไรกับแก้วจริงๆ หรือว้า มันเห็นเป็นเรื่องที่ฝืนๆ ทำไปก็ได้หรืองัยวะเรื่องแบบนี้อะ..สุดยอดจริงไอ้อนาคตเกย์ฝิ่นเอ๊ยยยย)
ส่วนพี่ไม้ ก็ง่ายๆ เลยว่าพี่ไม้ก็แค้นเหมือนไอ้คุณฝิ่นนั่นแหละ
แต่พี่ไม้ก็เลือกจะเอาคืนกับคนที่ทำผิดจริงๆ เท่านั้น ไม่ใช่ไม่เลือกวิธีการเหมือนน้องสิ้นคิดของพี่
และการที่พี่ไม้มักเตือนฝิ่นและแก้วเสมอในเรื่องของวิธีการที่สองคนนี้เลือกใช้ ก็เพราะพี่ไม้คงไม่อยากให้ทั้งคู่มาล้อเล่นกับเรื่องความรัก
ความเสียใจความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากความรักเป็นอย่างไร พี่ไม้ย่อมรู้ดีกว่าเด็กสองคนนี้ที่อาจจะยังไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกนั้นมาก่อน
พี่ไม้ไม่ได้ไม่ชอบแก้ว แต่รังเกียจสิ่งที่แก้วและฝิ่นคิดและทำ
หากยอมรับในไมตรีที่แก้วยื่นให้ ก็จะเหมือนกับให้กำลังใจแก้วทางอ้อมในสิ่งที่แก้วทำอยู่
.....ตามต่อๆ ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่คนเขียนมาทำให้ค้างนะเนี่ย อยากรู้ความรู้สึกของไอ้แก้วกะไอ้ฝิ่นจะแย่แล้ววววว.....เง้อออออออออ
(ไอ้คุณพี่ขวัญอะ อย่าเอามาออกช่วงนี้ได้มั้ยคร้าบบบ พักเรื่องฝิ่นกับแก้วไปนาน คนอ่านจะชักกระแด่วๆ ตายเอา :z3: )
* ขอให้คนเขียนหายป่วยและแข็งแรงไวๆ นะคะ อาการไอเป็นสิ่งที่ทรมานมากจริงๆ และเป็นอาการที่หายช้าที่สุดเมื่อเป็นหวัดด้วย บางคนอาการไข้หรือน้ำมูกหายไปเป็นเดือนแล้ว แต่อาการไอก็ยังมีอยู่เลยค่ะ
-
พี่ไม้ :กอด1:
-
ร้ายกาจๆ........ว่าแล้วว่ามันต้องมีอารายหลายๆอย่าง อิอิ
ซ้อนกันแล้วซ้อนกานอีก อิอิ ชอบๆ
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกนะค๊าฟฟ รอ รอน้อ><
-
อั๊ยหยะ ตามทันแล้ว สามวันเต็มๆๆ :mc4: :mc4:
รอตอนต่อไปค่ะ :L1: :L1:
:pig4: :pig4:
-
ไม้รักเป้งนี่เอง
ตอนเป้งตายไม้ต้องเสียใจมากๆแน่ๆ
+ 1 นะคะ
-
^^
-
เอางี้ไหม ให้พี่ไม้
มากิ๊กกับพงษ์ซะเลย
ครบคู่ (คิดได้ไงวะ) :a5:
-
...พี่ไม้มีใจให้เป้งสินะ
...คุณพ่อทำไมให้ภริยาคุณฝิ่นอยู่เฉยๆซะล่ะ แล้วคุณแก้วจะทำยังไง อุตสาตั้งใจ้ตั้งใจจะทำงานแล้วนะ
...น้องซีซั่น รักษาสุขภาพ อากาศมันเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน หายไวๆๆจ้า :L2:
-
:o12: หาคนมาดามอกพี่ไม้ได้ไหม
-
ตามทันแล้ว..อยากให้ฝิ่นรักและเอ็นดูหนูแก้วให้มากๆ..
:monkeysad: :monkeysad:
-
รอ
-
อยากทราบความเกี่ยวข้องของ แก้ว พงษ์ เป้ง มากกว่าอ่ะ :serius2:
ส่วนนับญาตินี่ ยังไงดีค่ะ
'ป้า' ดีมั๊ยคะ? อิอิ :laugh: :laugh: :laugh:
(me/วิ่งหนีออกจากกระทู้โดยเร็ว :oni1:)
-
o22
อ่านมาตั้งนานเข้าใจว่าเป้งกับพี่ไม้เป็นพี่น้องกันจริงๆ :jul3:
คิดแล้วให้สงสารพี่ไม้เป็นยิ่งนัก...อยากปลอบใจแทนเหลือเกิน :กอด1:
-
พี่ไม้คิดอะไรอยู่นะตอนนี้
-
ต่อโดยด่วน555
-
:a5:
-
:z3: ได้สารภาพรักก่อนเป้งตายมั๊ยหนอ?
-
ตอนนี้เป็นอันเข้าใจพี่ไม้เลย
ก็คิดอยู่ว่าทำไมพี่ไม้ดูเจ็บปวดกับการตายของเป้ง
ซึ่งมันต่างจากฝิ่น ที่ไหนได้พี่ไม้แอบชอบเป้งนี่เอง
เนื้อเรื่องซับซ้อน เข้มข้นขึ้นทุกตอนเลย
ว่าแต่เมื่อไหร่จะมีฉากหวานๆของฝิ่นแก้วให้ได้อ่านบ้าง สักนิดก็ยังดี
ต้องเรียกคนแต่งว่าพี่ซีซั่น เพราะอายุเรายังไม่ถึงเบญจเพศ แค่เกือบๆ
5555 แอบอยากรู้ค่ะว่าเป้งคิดอะไรๆกับพี่ไม้หรือเปล่า รอตอนต่อไปนะคะ
-
พี่ไม้เจ็บมาก
-
ไม้ เป้ง... ไม้ชอบแก้วเถอะ นะ เค้าเชียร์อยู่ 555
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๘.๒
บอกพวกมันกลับ มันก็พากันกลับไปโดยดี เหลือทิ้งไว้เพียงเศษซากจากที่พากันตั้งวงเมื่อครู่
ไม้เลยต้องเป็นคนเก็บกวาดเอง...
“เมื่อไหร่?”
“อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” เขาตอบ
“เมื่อไหร่จะบอกผมสักที” เขาคงวุ่นกับขวดเหล้ามากไปจนดูเหมือนถ่วงเวลาไม่อยากสนทนากับคนปากแตกที่ยังนั่งตาขวางอยู่ที่เดิม ไม้หยุด มองหน้าเป้ง
“ลุกมานั่งรอดีๆให้พี่เก็บขวดเหล้าไปทิ้งก่อนที่แม่จะกลับแล้วเราค่อยคุยกัน” เขาบอกให้เป้งย้ายไปนั่งโซฟาแทนพื้นกลางบ้าน มันก็ฟัง แต่ยื่นมือมาหาเขาหมายให้ช่วยดึงแขนมันลุก “โดนหมัดเดียวลุกเองไม่ไหวเลยเหรอวะ” เขายื่นมือไปฉุดมือเจ้าตัวพาลุกและแหย่เป้งเล่น
“พี่โกรธผมรึเปล่า”
“ไม่หนิ” เขาส่ายหน้าพลางเก็บขวดเหล้าที่หมดเกลี้ยงไปเรียงไว้หน้าบ้านขวดไหนเหลือเขาก็เก็บแช่ตู้เย็นไว้ตั้งวงกันวันหลัง
“แต่ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ผมพี่คงเอาตีนเหยียบปากมันไปแล้ว ไม่รอไอ้ฝิ่นซัดแทนหรอก” มันพูดตาใสเดินไปนั่งรอที่โซฟาตามที่บอก
“หึ” รู้ดีไปทุกเรื่อง ทั้งสายก็มีแต่ไอ้เป้งนี่แหละที่กล้าลามปามเขา
จากค่อยๆตอดทีละนิดมันก็ค่อยๆเล่นแรงขึ้นเรื่อยๆจนบางทีเขาคิดว่าไอ้เป้งมันกำลังลองใจอะไรเขาอยู่รึเปล่าเหมือนกัน แต่คงไม่ใช่เพราะปากมันก็เป็นอย่างนี้กับคนอื่นด้วย ต่างจากคนอื่นตรงที่เขาเป็นพี่เท่านั้นเอง
“แม่พี่มาละ ผมไปรอที่ห้องนะ” ไวจนฟังไม่ทัน เป้งพูดแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องนอนเขาทันทีก่อนที่แม่จะเข้ามาถึงในบ้าน ไม้ส่ายหน้าตามหลัง
“เพื่อนมาเหรอไม้” แม่วัยสี่สิบต้นๆถามด้วยความคุ้นเคยเมื่อเห็นจำนวนขวดเหล้าที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อวาน
“อืม แต่กลับหมดแล้วเหลือแค่ไอ้เป้งอยู่ในห้อง” บ้านหลังเล็กที่มีเพียงไม้และแม่อยู่กันสองคน ด้วยความที่โตมามีแต่แม่ทั้งสองจึงสนิทกันพูดคุยกันได้ทุกเรื่องและไม้เองก็อยากให้แม่รู้จักพฤติกรรมลูกตัวเองจริงๆ อยู่นอกบ้านเป็นยังไง ในบ้านเขาก็เป็นอย่างนั้นเพื่อที่แม่จะได้ไม่ต้องไปฟังคำว่าร้ายจากคนอื่น ถ้าจะร้ายก็ให้แม่เห็นไปเลย ชีวิตเขาก็เหมือนวัยรุ่นผู้ชายทั่วไป มีอยากรู้ อยากลองอะไรไปหมด แต่ทั้งหมดแม่ก็รู้ทั้งนั้น เพราะแม่เลี้ยงเขาด้วยคำว่าเชื่อใจมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงไม่อยากทำลายความเชื่อใจของแม่ ส่วนจะรับได้รับไม่ได้ยังไงแม่ก็จะออกความคิดเห็นในบางเรื่องซึ่งเขาก็ยินดีรับฟังทุกคำบอกกล่าวอยู่แล้ว
“จริงๆเลย” แม่ส่ายหน้าด้วยความชาชินกับพฤติกรรมไอ้เป้งเช่นกัน “ไปมีเรื่องที่ไหนมาอีกล่ะ”
“ที่บ้านนี่แหละ โดนไอ้ฝิ่นต่อย” เขาเปิดตู้เย็นรินน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้แม่ดื่ม
“เฮ้อ...วัยรุ่นช่างเข้าใจยากจริงๆ แล้วดูมันหลบหน้าแม่สิ”
“แม่พูดอย่างกับตัวเองแก่ไปได้ ก็แม่ชอบบ่นอยู่เรื่องเดียว ไอ้เป้งมันชอบใช้กำลังแม่ก็ยุให้มันเลิกทุกทีมันก็ขี้เกียจฟังน่ะสิ” แล้ววันนี้เพิ่งได้แผลมาสดๆร้อนๆ ถ้าแม่เจอหน้ามันคงจะบ่นยาวสามวันก็ไม่จบ แล้วไอ้เป้งน่ะไม่ว่าจะพ่อแม่มันพ่อแม่ไอ้ฝิ่นหรือแม่เขาบ่นมันก็นั่งฟังเฉยๆแต่ไม่ได้เข้าหูมันหรอก
“จ้า จะให้แม่ให้ท้ายน้องๆอย่างไม้แม่ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน หัวอกคนเป็นแม่นี่นะ วัยรุ่นอย่างลูกๆไม่เคยเข้าใจหรอก”
“น่าแม่ อีกไม่กี่ปีก็เลิกแล้ว ไม้ก็เตือนรุ่นน้องอยู่ไม่ได้ตีกันเอามันส์อย่างเดียวซะเมื่อไหร่...แต่ก็สนุกดีนะแม่ตื่นเต้นดีออก”
“เดี๋ยวเถอะไม้” แม่ตีแขนเขาดังเปรี๊ยะอย่างหมั่นไส้เมื่อเขาพูดเล่นใส่ “แม่ไปพักผ่อนก่อนละ เอาไว้ให้หายเหนื่อยก่อนจะแวะมาเฉ่งเจ้าเป้งมัน กล้าหนีหน้าแม่ได้ยังไงกัน”
“หึ ครับ”
แม่เดินเข้าห้องไปแล้ว ไม้จึงเข้าห้องตัวเองบ้าง ก็เจอเป้งนอนหลับตาเอามือประสานกันไว้ตรงหน้าอกไม้จึงเดินไปนั่งขอบเตียงแต่หันหลังให้มัน
“ว่ามาเลยพี่ผมรอฟังอยู่”
“เริ่มตรงไหนก่อนวะ” ยังไม่ได้เรียบเรียงคำพูด แล้วก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาพูดความในใจแบบพระเอกละครน้ำเน่าให้ผู้ชายอย่างไอ้เป้งฟังด้วย แต่คนอย่างมันคงอึดอัดไม่น้อยวันนี้ถึงได้มาโวยเขากลางวงเหล้า
คนที่นอนอยู่ลุกนั่ง มันคงอยากลุกมาคาดคั้นเขาให้เต็มที่ แต่เปล่าเลยไอ้เป้งมันทำอะไรโดยไม่คิดด้วยการโอบกอดคล้องคอเขาจากด้านหลังแล้วซุกหน้าเข้ากับแผ่นหลังเขา...!
“เริ่มตั้งแต่พี่แทนตัวเองว่าพี่กับผมแค่คนเดียว ตั้งแต่พี่มองหาผมเวลาที่ต้องรวมกลุ่มใหญ่ ตั้งแต่พี่เริ่มบ่นว่าให้ป้องกันตัวได้แต่อย่าไปท้าต่อยใครทั้งที่พี่รู้สันดานผมดีว่าเป็นไปไม่ได้ ตั้งแต่พี่เริ่มสกรีนผู้หญิงให้ผมพี่ชอบบอกว่าคบคนนั้นสิคนนี้สิแต่พอผมได้ฟันแต่ละคนพี่ได้ฟังก็จะนั่งเงียบใส่ผมตลอดทั้งที่เป็นเรื่องปกติที่พวกเราคุยกันแท้ๆ หรือจะตั้งแต่พี่เริ่มไม่มองหน้าผมเวลาผมอยู่กับผู้หญิงพวกนั้น หรือจะ...”
“มึงรู้?”
“ผมรักตัวเองก็ตรงนี้แหละ แม่งโคตรประสาทสัมผัสไวดี คงจะมาจากชอบหาเรื่องใส่ตัวด้วยเลยมองอะไรออกง่ายๆ...หรือพี่ว่าไง?” เป้งคลายวงแขนจากรอบคอไม้ พูดขำ ขยับตัวอย่างไวมานั่งข้างๆแล้วยกแขนกอดคอตีเสมอหันข้างมองหน้าเขาซึ่งเขาก็หันไปมองมันเหมือนกัน
แทนที่มันจะเกรงใจกลับตีคิ้วใส่ หึ เลือดร้อน ปากหมา หน้ากวนส้นตีน ลามปามก็เป็นที่หนึ่ง ใครพูดอะไรก็ไม่เคยฟัง ไม่สิ มีอยู่คนนึงที่มันฟังคือไอ้ฝิ่นเพราะโคตรจะความคิดเดียวกัน นอกจากหาเรื่องโรงเรียนคู่อริไปวันๆ มันมีอะไรให้เขาใส่ใจมันเป็นพิเศษวะ
ทั้งสองต่างยิ้มให้กัน
“เป้งมึงนับถือพี่ไหมเนี่ย” เขาว่ามันอย่างไม่จริงจัง โอเค มันยิ้มแก้เก้อเอามือออกจากไหล่เขาแต่มาจับมือเขาแทน
“พี่อยู่กับผมพี่มีอารมณ์รึเปล่าวะ” ไอ้เป้งยกขาข้างหนึ่งขึ้นบนเตียง สองมือกุมมือเขา หันหน้ามาคุยกับเขา...คล้ายจริงจัง แต่บทสนทนามันไม่ใช่นะ เลยทำให้ไม้ขยับเปลี่ยนมานั่งท่าเดียวกันกับมันเผื่อจะคุยกันรู้เรื่อง
“อะไรของมึง” เขาถาม ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนไปสักนิดเมื่อไอ้เป้งรู้ทุกความรู้สึกที่เขาไม่ได้พูดบอกออกไป คงเป็นเพราะเป้งพูดออกมาเองด้วยมั้ง คนขี้ขลาดอย่างเขาเลยพลอยสบายใจไป
“ผู้ชายอย่างเราๆเวลาอยู่กับเพศตรงข้ามสองต่อสองมันก็มีอารมณ์อยากปลดปล่อยใช่เปล่า แต่กับผมเนี่ย พี่อยู่กับคนที่พี่รัก พี่มีอารมณ์รึเปล่าวะ”
“หึ” ตรงได้อีก “ว่าแต่พี่บอกรักมึงแล้วเหรอ” ไม้ยื่นมือไปแตะแผลที่ริมฝีปากเป้ง ทำให้เจ้าตัวจับฝ่ามือเขาไว้ให้หยุดนิ่ง
“เออ ผมเข้าใจไปเองก็ได้” เป้งแตะริมฝีปากที่ข้อมือเขา ไม้ได้แต่มองสิ่งที่น้องทำด้วยความหวาดระแวง “ขอผมเป็นของพี่นะ” คำพูดตรงๆ กับแววตาร้องขอในสิ่งที่เขากลัว ในใจเขาคงไม่มีความลับสำหรับมันสินะ มันคงรู้มาตลอด แต่ก็ไม่จำเป็นต้องยืนยันว่ารู้ด้วยวิธีนี้ เขากลัว...กลัวการเปลี่ยนแปลง ถ้าหากเขาตัดสินใจทำอะไรผิดๆลงไป
“แต่เป้งพี่ไม่ได้ต้องการจะเอามึง”
“พี่เคยได้ยินไหม ชายได้ชายคือยอดชาย ผมอยากให้พี่เป็นยอดชายว่ะ”
“มึงไม่ต้องห่ามไปซะทุกเรื่องก็ได้”
“พี่ไม้ผมเต็มใจ...ให้ผมตอบแทนน้ำใจของพี่นะ แล้วยิ่งรู้เรื่องที่พี่ไม่พูด ถึงขัดใจบ้างแต่โคตรเจ๋งเลยว่ะที่จับพี่ได้เนี่ย”
.
.
.
ไม่มีอะไรแปรเปลี่ยน เป้งไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างที่เขากลัวไปล่วงหน้า แต่มันเหมือนเดิมไปรึเปล่าอย่างกับว่าเรื่องระหว่างเขากับมันไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ไม่เคยเปิดใจ ไม่เคยมีอะไรกัน เหมือนกับกระดาษเปล่าๆที่ไม่เคยได้ขีดเขียนอะไรลงไปทั้งนั้น
...มันทำทุกอย่างเหมือนเดิมขนาดนี้ได้ยังไงทั้งที่ความสัมพันธ์ของเรามันไม่ใช่แค่วันนั้นวันเดียว
“พี่ต่อว่าหรือจะเตะต่อยผมก็ได้ แต่ทำไมต้องทำในสิ่งที่ผมไม่ชอบด้วย” หลังเลิกเรียนเป้งไปส่งผู้หญิงอีกคนที่มันคบแล้วกลับมาหาเขาที่บ้านไอ้ฝิ่นเอามืดค่ำ...เท่านี้พอที่เขาจะไม่พอใจได้ใช่ไหมในเมื่อคนของเรามันไม่ยอมหยุด
เขาจึงเดินออกมาคุยกับมันนอกบ้านสองคนหลังจากเขานั่งเงียบฟังมันโวยไม่ไหว มันพอใจที่จับความคิดเขาได้ แต่มันก็ชอบทำในสิ่งที่เขาไม่พอใจ
“แล้วมึงล่ะ รู้ว่าพี่เป็นห่วงลับหลังพี่มึงก็ยังอันธพาลไม่เลิก ที่ไม่ชอบให้ไปกับผู้หญิงเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่มึงโชว์แมนเที่ยวตบเด็กโรงเรียนอื่นไว้ทั่ว”
“ผมก็เป็นของผมแบบนี้” เหอะ มันยืนล้วงกระเป๋าฉ็อปเถียงอย่างไม่สะทกสะท้าน ก็เพราะมึงเป็นมึงอย่างนี้พี่ถึงอยากให้มึงทำตัวใหม่ พี่ถึงได้ใส่ใจมึงมากกว่าคนอื่นเพราะมึงไม่เคยฟังใครยังไงล่ะ
“แล้วที่มึงต้องการเป็นคนของกูล่ะ”
อย่างน้อยในเมื่อเราก้าวข้ามคำว่าพี่น้องกันแล้ว มันก็ควรจะทำตามที่เขาบอกบ้าง ที่ไม่พอใจเพราะไม่อยากให้มันสร้างศัตรูรายวัน เขาไม่สามารถอยู่กับมันได้ตลอดเวลา เขาทำได้แค่บอกแต่ไม่สามารถรั้งมันได้เมื่อมันออกไปกับคนอื่น ยอมรับว่าหวงและห่วงแต่เข้าใจว่ามันก็ยังเป็นผู้ชายแบบเดิมๆ แต่ถ้ามันยอมรับความรู้สึกของพี่คนนี้ได้ เป้งมันก็น่าจะใส่ใจความห่วงใยจากเขาสักนิด
“ผมเป็นคนของพี่แต่ผมก็ยังเป็นตัวผมเองด้วย พี่อย่ามามีกฎเกณฑ์กับผมสิวะ” พี่ผิด?
“เฮ้อ...วันนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่อง” เขาเริ่มฉุน แต่ไม่อยากให้ต้องทะเลาะกันด้วยอารมณ์จึงอยากยุติข้อโต้เถียงวันนี้ไปก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็น้อยใจในคำพูดของเป้งลึกๆ หรือเพราะใจมันอ่อนแอมากขึ้นทุกวัน เลยรับฟังคำพูดตรงๆของน้องไม่ไหวอีกแล้ว
“ก็แค่ผมไปกับผู้หญิงเหมือนทุกที ยังไงๆผมก็เป็นของพี่อยู่วันยังค่ำแหละน่า”
“ไม่ใช่เป้ง พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้น” เขาคงจะผิดจริงๆจนทำให้ไอ้เป้งเข้าใจไปว่าเขาต้องการตัวมันมากกว่าความเข้าใจที่มันควรจะให้เขาบ้าง
“แล้วอะไรล่ะ ผมก็เป็นของผมอย่างนี้ตั้งแต่แรก พอมาวันนี้พี่อยากให้ผมทำโน่นทำนี่ตามใจพี่ แล้วอย่างนี้มันคืออะไร ยังไงวะ?”
“พี่คงทำตัวก้าวก่ายมึงมากไป”
“ก็...ไม่ใช่ ผู้หญิงก็ส่วนผู้หญิง ผมไม่อยากให้พี่คิดมากเพราะยังไงผมก็ยอมพี่คนเดียว พี่คือคนที่ผมรักและนับถือ พี่คือพี่ที่ผมให้ได้ทุกอย่างเข้าใจไหม แต่พี่เหลือความเป็นตัวตนให้ผมบ้าง”
“ถ้าจะขนาดนั้นไม่ต้องก็ได้เป้ง ถ้ามึงจะให้พี่อยู่สูงขนาดนั้น ถ้ามึงคิดว่าพี่กะเกณฑ์ชีวิตมึงมากไป ไม่ต้องแล้ว...”
ใช่ เป้งมันก็เป็นเป้งตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่ใช่เหรอ แล้วอะไรที่ทำให้เราต้องมาทะเลาะกันอยู่อย่างนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องการเปลี่ยนแปลงตัวมัน หึ ตลกสิ้นดี คนที่กลัวว่าเป้งจะเปลี่ยนไป กลับกลายเป็นตัวเองที่ต้องการให้น้องมันเปลี่ยนมากกว่า เป็นพี่ ที่สั่งใครต่อใครได้จนเคยตัว แต่ไม่สามารถสั่งคนที่คิดว่าตัวเองควบคุมได้ให้ทำตามใจก็เลยออกมาเป็นแบบนี้
“ไม่ได้ขนาดนั้นหรือขนาดไหน แต่ผมเป็นผู้ชายนะพี่ ผมไม่ได้...”
“พอเป้ง! เข้าไปในบ้าน ให้ไอ้ฝิ่นไปส่งนะ พี่อยากอยู่คนเดียวสักพัก” ให้พี่หยุดคิดที่จะครอบคลุมชีวิตมึงให้ได้ก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกัน
เมื่อต้องยอมรับความเป็นจริงมันก็รู้สึกแย่ว่ะ เมื่อความห่วงใยของเราทำให้อีกคนอึดอัด แต่เวลานี้เขาคุยต่อไปไม่ไหว บอกเลยว่าเสียใจกับทุกความรู้สึก เขาชอบมัน ให้ความสนใจมันเพราะมันบ้าๆดิบๆอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ ที่สุดไปกว่านั้น เขาผิดหวังในตัวเอง...
“...ถ้าพี่ไม่พูดกับผมให้เคลียร์งั้นแยกกันตรงนี้เลยดีกว่า” เป้งมองหน้าเขาเพื่อรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ แต่เขาเลือกที่จะหันไปมองทางอื่น มันเงียบเพียงครู่แล้วเดินออกจากหน้าบ้านไอ้ฝิ่นไป ไม่ยอมเข้าไปหาเพื่อนมันตามที่เขาสั่ง
และเขาก็เลือกมองตามหลังมันแทนที่จะเดินไปคุยกับน้องให้รู้เรื่อง
วันนั้นถ้าเขายอมลดทิฐิของตัวเอง เดินตามมันไปอย่างที่ใจสั่ง การแยกกันของเราคงเป็นเพียงแยกทางกันกลับบ้านธรรมดา ไม่ใช่แยกจากกันตลอดไปอย่างเช่นวันนี้...
ไม้ยืนมองเสื้อยืดขาดวิ่นตัวที่เก็บมาจากบ้านไอ้ฝิ่นก็มีแต่ตอกย้ำสิ่งที่ตัวเองทำพลาดไปกับมือ
“...ผมไม่ได้รักพี่แบบเกย์ กะเทยนะเว้ย แต่ผมก็รักพี่เพราะพี่เป็นพี่”
คำรักที่ฟังแล้วแสนเจ็บปวด และไม่ว่ามึงจะรักพี่แบบไหนแต่มึงก็ยังได้บอกพี่แล้ว
แต่พี่นี่สิ รักมึงเพราะมึงเป็นมึงแท้ๆ รักมึงจนสูญเสียความเป็นตัวเอง
แต่กลับไม่เคยพูดเอ่ยคำๆนั้นออกจากปากให้มึงได้ฟังเลย...
มัวแต่รอ...รอให้มึงเป็นอย่างที่พี่ต้องการ...จนพี่ไม่มีโอกาสได้พูดคำนั้นอีกแล้ว
..........................
ค่อยๆเชือดไปทีละราย
เค้ายังไม่ได้ไปหาคุณหมอจ้า และจะไม่ไปด้วย ฮ่าๆๆ โตมากับโรงพยาบาลแท้ๆแต่ไม่อยากคุ้นเคยเลยเลือกกินยาแทนดีกว่า เมื่อวานเพิ่งไปถอยมาอีกซอง ...เดี๋ยวก็หายเองแหละ มันเบื่อเดี๋ยวมันก็ไปติดคนอื่นต่อเอง ชิวๆแล้ว ดีวันดีคืนละ ^^
❃indy❣zaka❃ :beat: ตบเด็กเสร็จมาลูบหลังต่อ กร๊ากกก เรียกได้หมดแหละจ้า ไม่ถือๆเพราะอันตัวเราแล้ว ก็มีแต่คนเรียกป้า Y^Y
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ ^^กอดๆ จุ๊บ
แม่นางเฉาก๊วย กอดๆเว้ยย
-
พี่ไม้ :o12:
-
พี่ไม้น่าสงสารมากอ่ะ :sad4: :sad4:
เป้งนี่ยังไง ยอมพี่ ชอบพี่เพราะพี่เป็นพี่????? เห้ออออ เข้าใจยาก
พี่ไม้เลยต้องมาเจ็บปวด อยากรู้ซะแล้วว่ามันเิกิดเรื่องอะไรขึ้นต่อไปแน่
ขอบคุณมากค่ะ :กอด1:
-
:เฮ้อ: เป้งนี่แปลกๆ สงสารพี่ไม้จัง
หาคู่ให้แกหน่อยยยยย
-
พี่ไม้ :m15: :m15:
ต้องรีบหาคนมาดูแลอย่างใกล้ชิดนะคะคนเขียนนนนน :monkeysad: :monkeysad:
:pig4: :L1: :pig4:
-
ที่แท้ความสัมพันธ์ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
-
หาคู่ให้พี่ไม้ที
-
พี่ไม้ T^T พี่ไม้ทำมั้ยกานนะ ทาัม้มยพี่ไม้ต้องเจอเรื่องแบบนี้
มันคงแย่มาก แย่มากๆเลยทำให้พี่กลายเปงคนนิ่งมากขนาดนี้
เห้อ......นี้ละนะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเกิดขึ้นก้อสายไปT^T
ยังไงก้อมาต่ออีกนะคับ รอนะ
รอทุกวันเลยยT^T
-
ปมของพี่ไม้กับเป้ง คลายแล้ว ต่อไปปมใครดี ไอ้พงษ พี่ดิว รึพี่ลูกขวัญดี
-
สงสารพี่ไม้ที่ต้องทนเห็นแก้วที่ทำตัวแบบนี้
ไม่ได้คิดว่าพี่ไม้จะมารักแก้วอะไรหรอก เพราะบุคลิกของแก้วกับเป้งแทบไม่เหมือนกัน
แต่ที่สงสารพี่ไม้ก็เพราะสิ่งที่แก้วทำนี่แหละ
ไอ้การที่แก้วบอกว่ามันจะรักฝิ่นอย่างที่ฝิ่นต้องการ มันช่างคล้ายๆ กับเป้งที่ขอเป็นคนของพี่ไม้
สำหรับแก้ว...พี่ไม้น่าจะเข้าใจว่าแก้วยอมรักหรือยอมถึงขั้นมีอะไรกับฝิ่น เพราะอยากชดใช้ความผิดให้พงษ์หรือไม่ก็ละอายต่อการตายของเป้ง
มันยากที่จะเชื่อว่าแก้วยอมฝิ่นเพราะก็รักฝิ่นด้วยเหมือนกัน
สำหรับเป้ง...พี่ไม้ดูเหมือนเข้าใจไปแล้วว่าเป้งยอมเป็นคนของตัวเพราะตอบแทนน้ำใจและทุกๆ สิ่งที่ไม้ทำให้กับเป้ง รวมถึงยอมเพราะความนับถือในตัวของพี่ไม้ด้วย
(ที่เป้งบอกว่า "ผมก็รักพี่เพราะพี่เป็นพี่" นั่นแหละ ซึ่งไม่ว่าความหมายของ "พี่เป็นพี่" จะคืออะไร ก็ดูเหมือนพี่ไม้จะเชื่อไปแล้วว่า พี่คือ "พี่ชาย หรือไม่ก็ลูกพี่" ไม่ใช่ "ตัวตนของพี่")
น่าสงสารพี่ไม้ที่ต้องมาเห็นภาพซ้อนในอดีตในตัวแก้ว ซึ่งแม้เหตุการณ์และเหตุผลของสองคนนี้จะต่างกัน แต่มันก็อดทำให้คิดถึงเป้งไม่ได้
การที่ต้องมาเห็นอะไรคล้ายๆ กับสิ่งที่คนที่ตนรักทำ มันคงยิ่งทำให้คิดถึงและคิดถึง
ติดตามต่อว่า ทำไมพงษ์ต้องฆ่าเป้ง? พี่ไม้คิดจะจัดการกับพงษ์ถึงขั้นไหน? และ ฝิ่นวางแผนไว้อย่างไรในการจัดการกับพงษ์โดยใช้แก้วเป็นเครื่องมือ?
อ้อ...ไอ้คำว่า "รอนะ" ของไอ้คุณพงษ์ด้วย เมื่อไหร่คนอ่านจะรู้ซักทีค้า :sad4:
(อีกนิด...เพิ่งรู้ซึ้งกับที่คนเขียนเคยแย้มๆ ว่า..พี่ไม้จะโดนจัดหนักแน่..แล้วล่ะ :sad4: )
-
มันคงเป็นความรักอีกแบบหนึ่ง ที่คนสองคนคิดไปคนละทาง
แต่สิ่งที่ได้เป็นบทเรียนคืออย่าปล่อยให้ทุกอย่างสายเกินไป
-
คนที่น่าสงสารที่สุดคือคนที่มีชีวิตอยู่
-
แล้วเป้งไปเกี่ยวกับแก้วยังไงเนี่ย :serius2:
มาอัพเร็วๆนะคะป้าขาาาาา :laugh: :laugh:
-
พี่ไม้ น่าสงสาร T_T มาๆให้เค้าปลอบ อิอิ
-
สงสารพี่ไม้ ยังไม่ทันได้บอกคำว่ารักเลย
แถมยังไม่ได้เคลียร์กันให้เข้าใจด้วยซ้ำ :monkeysad:
-
บอกได้คำเดียวว่ามาม่าชามโต :sad4:
มันเศร้าที่รู้ว่าต่อให้อยากพูดมากแค่ไหนแต่ยังไงพี่ไม้ก็ไม่โอกาสจะบอกคำว่ารักกับเป้งอีกต่อไปแล้ว :o12:
แต่ปมอื่นยังเหลือเพียบ เราก็อยากรู้ใจจะขาด :sad11:
-
สงสัยต้องหาคนมาปลอบใจพี่ไม้...
แต่ก็นะอิมเมจพี่แกยังคงเป็นฝ่ายรับ...
-
พี่ไม่น่าจะมีความสุขมากกว่านี้ :monkeysad:
-
เป้งเกรียนอะพี่ไม้ มาซบเราเถอะนะ เรารักพี่ไม้คนเดียวววว//โดนโบก!!
-
ปวดใจไปกับพี่ไม้ด้วย
มิน่าทำไมถึงดูฝิ่นออก กะไว้แล้ว ไม่ฝิ่นแอบรักเป้ง เป้งก็ต้องมีอะไรๆกับพี่ไม้ โว๊ะ
เป้งนี่ก็นะ แต่ก็แอบคิดว่า ถ้าคบกันไปอีกหน่อยก็ต้องเลิกกันอยู่ดีรึป่าว บางทีนิสัยเป้งก็ไม่เคยเปลี่ยนมันก็แย่อ่านะ
-
ความรู้สึกของเป้งในตอนนั้นจะเป็นยังไงนะ ทำไมไม่คุยกันให้เข้าใจนะไม้
-
อิมเมจเป้งคนละแนวกับที่คิดไว้เลย *ชูป้ายไฟเป้งแทนพี่ไม้* :laugh:
-
สงสารพี่ไม้มากๆอะ :impress3: :impress3: :impress3:
-
สงสารไม้จังเลย
-
:กอด1:
-
อ่านทันแล๊ววววววววววววววววววววววววววววววววววว
รีบๆมาต่อน้า :z2:
-
ผมเปลี่ยนใจทันไหมอ่า
ไม่ชอบฝิ่นแระ มาชอบพี่ไม้แทน ฮาๆๆๆ
ก็พี่ไม้เค้าดูอบอุ่นเนาะสงสารพี่ไ้ม้จัง
เพิ่มตัวละครเข้ามาได้ไหมครับอยากให้พี่ไม้เขามีความสุขบ้างเหมือนกัน
รออ่านตอนต่อไปนะครับ
ขอให้หายจากไม่สบายไวๆนะครับผม^^ :call: :call: :L1: :L1:
-
งงอ่ะ เคลียร์ด่วๆๆ
-
ไม้เจอมาเยอะ
-
ต้องจากกันทั้งที่ยังมีอะไรค้างคา :sad4:
อ่านในมุมมองของฝิ่น พี่ไม้เป็นคนที่พึ่งพาได้ มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่พออ่านในมุมพี่ไ้ม้ พี่ไม้็ก็เป็นวัยรุ่นธรรมดาที่มีปัญหาชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป
มาเห็นแก้วทำแบบนี้ พี่ไม้เลยคิดถึงเป้งล่ะมั้ง :เฮ้อ:
หายไปนานนนนนนน กลับมาเจอเจ๊ซีจัดหนัก(ทั้งเฮียไม้และคนอ่านเลย 555)
ปกติแล้วเราจะเคยชินกับการซื้อยากินเอง แต่ถ้ากินแล้วไม่หาย(ซะขนาดนี้ -"-)ไปหาหมอก็ดีน้า ลองให้หมอดู แล้วให้หมอสั่งยาน่าจะได้ยาตรงสเป็คกับที่เป็นอยู่มากกว่านะคะ (เผื่อแบบเชื้อดื้อยา หรือหาสาเหตุของโรค ไรงี้) ส่วนพารานี่ กินมาก ระวังน้องตับนะตัวเอง o18
:pig4: :กอด1: ไปหาหมอซร้าาาาาา
-
สรุป เรื่องนี้ พี่ไม้น่าสงสารสุด
ดรามา มาม่า ได้อีก
เสียคนที่ตัวเองรักไป ไม่ไมีวันได้กลับคืน
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
กรี๊ดดดดด ด...
สงสารเฮียไม้ .. ทำไมพงษ์ต้องฆ่าเป้งด้วยอ่า(?)
เกี่ยวอะไรกับที่เป้งเคยตบแก้วป้ะเนี่ยยย
อยากรู้แล้งอ่าาา การี๊ดดดดดด ด
-
อ๊ากกกกกกกกกกกก
:sad4:
ไม้ไม่เป็นไรนะ( :L3: -ไม้)
-
ไม้ก็ขมขื่นไม่แพ้แก้วเลยเหมือนกันนะนี่ :z3:
-
พี่ไม้นี่น่าสงสารจังแฮะ สงสารจนบรรยายไม่ออกเลย เอิ้กส์ๆ
-
รู้ล่ะ เปลี่ยนพระเอกจากไอ้ฝิ่นเป็นพี่ไม้ซะ
พระเอกอย่างฝิ่นมันดันไม่ขึ้น ก็เปลี่ยนซะเลย :laugh:
-
อ่านทันแล้วดีใจ:)
ฝิ่นคู่แก้ว
พงษ์คู่ขวัญ(หรือเปล่า)
สุดท้ายพี่ไม้คู่โจ้อืมคิดไปเอง5555
ตอนแรกสงสารแก้วแต่ตอนนี้พี่ไม้น่าสงสารสุด :sad4:
(คิดไปเอง)ให้โจ้ปลอบใจซะพี่ไม้ o13
-
^^
-
พี่ไม้ :sad4:
เป้ง :really2:
อารมณ์นี้ แบบว่างงๆกะเธอจัง อิอิ
:L2: ค่ะ
-
มาม่าชามใหญ่อ่ะไม่รู้จะสงสารใครดี
-
อูยยย เรื่องนี้มันซักซ้อนจริงๆ แต่สนุกมาก!!!
อยากรู้ทำไมพงต้องฆ่าเป้งแว๊ เท่าที่อ่านนี่ไม่มีเกี่ยวกับแก้วเลยนี่นาา
สงสารพี่ไม้ TT คู่กับน้องโจ้เลยเป็นไง? 55+
ติดตามตอนต่อไป!!!
-
...พี่ไม้เจอคนอย่างเป้ง ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มันก็เลยลำบากใจมากๆๆนะ
...เพราะมนุษย์เราเมื่อรักกันแล้ว และใช้คำว่า..คนของเรา แล้วเราก็ไม่อยากให้เค้าไปยุ่งกับคนอื่นไม่ว่าหญิงหรือชาย
...น้องซีซั่น หาแฟนใหม่ให้พี่ไม้ด้วยนะจ๊ะ พี่จะรออ่าน เอามาจากตรงไหนก็ได้ ไอ้โจ้น้องฝิ่นก็ได้ 555เอาที่แสบๆๆหน่อยน่ะ
...ปล น้องฝิ่นชื่อ โจ หรือโจ้ หว่าอ่านแล้วลืม เอิ๊กๆๆๆ :laugh:
-
...พี่ไม้เจอคนอย่างเป้ง ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มันก็เลยลำบากใจมากๆๆนะ
...เพราะมนุษย์เราเมื่อรักกันแล้ว และใช้คำว่า..คนของเรา แล้วเราก็ไม่อยากให้เค้าไปยุ่งกับคนอื่นไม่ว่าหญิงหรือชาย
...น้องซีซั่น หาแฟนใหม่ให้พี่ไม้ด้วยนะจ๊ะ พี่จะรออ่าน เอามาจากตรงไหนก็ได้ ไอ้โจ้น้องฝิ่นก็ได้ 555เอาที่แสบๆๆหน่อยน่ะ
...ปล น้องฝิ่นชื่อ โจ หรือโจ้ หว่าอ่านแล้วลืม เอิ๊กๆๆๆ :laugh:
...พี่คะ โจ้ไม่ใช่น้องแท้ๆฝิ่นนะ แอร๊ หนูใช้คำว่าน้องมากกว่ารุ่นน้องใช่ปะ แงๆ เอาใหม่ๆ
ปล.คนเขียนโคม่า แอร่ก คนอ่านอย่าเพิ่งรอนะคะ Y^Y
//ออนมือถือ
-
อ่า
หงายเงิปไปอีกละ
ที่แท้ก้เป็นยังงี๊ (แม้จะแอบๆเดาได้ว่า อะไรเป็นอะไร)
สงสารไม้นะ เห่อ มันไม่ใช่ความรักที่สมหวังอะ(มันยังไม่ใช่อะ)
เหมือนๆไม้จะโทษตัวเองนิดๆ
แต่ตอนนี้เอาเรื่องแก้วไห้เครียก่อน
เพลียเหรือเกินกับแก้วอะ -*-
-
:call: :call: :call:
มาจุดธุปรอ
-
ไม่ว่าวันไหนก้อจะรอ........จะยังไงก้อจะรอ
ขอแค่สักวันต้องมาต่อก้อพอ>< ไม่ว่าวันไหน เดือนไหน ก้อจะรอเพราะชอบ><
-
สงสารไม้ :เฮ้อ:
ความจริงแล้วไม้กับเป้งไม่ควรข้ามคำว่าพี่น้องไปเลย
มันจะได้ไม่ต้องเป็นแบบนี้
ไม้รู้สึกยังไงเวลาที่เห็นแป้งอยู่กับผู้หญิงคนอื่น
ไหนจะกลัวเป้งไปมีเรื่อง แล้วอีกหลายเรื่อง
มันเหมือนบาปในใจของไม้ลึกๆ
ถ้าวันนั้นตัวเองไม่ทะเลาะกับเป้ง เรื่องนั้นคงไม่เกิด
เป้งคงไม่ต้องตาย ว่าแต่ใครจะมาดามใจไม้ล่ะเนี่ย
-
ดราม่าทุกตอนสำหรับเรื่องนี้ :o12:
ลูกผู้ชายมันยิ่งใหญ่ยอดเยี่ยมจริงๆ
เเล้วเเก้วจะรู้ได้ยังว่ารักไม่ใช่เซ็กส์เนี่ย :z6:
:กอด1:มาต่อไวๆน่อ รอๆๆๆ ถึงจะดราม่าเเต่เราก็อ่านนะ
นี่ฉันเป็นSMเเล้วหรือนี่ o22
-
ความตายมันเป็นอะไรที่ .......
-
ทั้งพี่ไม้ ทั้งเป้ง เข้าใจยากพอกันเลยวุ้ยย
-
มานั่งรอนักเขียนนะครับผม
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๒๙
“เป็นอะไร?”
“.....................” เขาหันหน้าออกไปมองนอกกระจกรถ
เอี๊ยดดด
“นี่มึง!” ฝิ่นเบรกรถอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำเอาแก้วแทบหัวทิ่มพร้อมๆกับเสียงดุของมัน
“เฮ้อ เปล่าเป็น...”
“เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่ ไม่พอใจก็ทำหน้าบึ้ง ปากมีทำไมไม่พูดวะ” มันจับหน้าเขาให้หันไปมอง
เขามีสิทธิ์พูด ทำ อะไรก็ได้อย่างมันด้วยเหรอ แก้วมองหน้าฝิ่นอย่างชั่งใจพลางจับมือมันออกเบาๆ
“พ่อมึงไม่เห็นให้กูทำอะไรเลย”
“ก็ดีแล้วนี่ มึงมีปัญหาอะไรอีก”
“แล้วอย่างนี้จะต่างจากไปทำงานกับพ่อกูตรงไหน ถ้างั้นกูกลับไปทำงานกับพ่อไม่ดีกว่าเหรอ” เขาขยับตัวหันไปคุยกับมันอย่างจริงจัง
งานก็คนละสาย ถ้าจะให้มานั่งดูอย่างเดียว สู้ไปนั่งดูอะไรที่ตรงกับสายงานเราจะไม่เข้าท่ากว่ารึไง ไหนพ่อมันบอกจะสอน เขาเองก็ตั้งอกตั้งใจจะเรียนรู้ แต่มาบอกว่าเขาทำตัวเชื่องช้า เกะกะ มันใช่เรื่องไหมเนี่ย
“มึงคิดอย่างนั้นเหรอ” สายตาเฉียบดุหันมองสบตา พร้อมกับคำพูดนิ่งๆฟังดูเย็นๆสันหลัง
“...ปะ เปล่า ...พูดเฉยๆ” เห็นไหม พอเขาพูดฝิ่นมันก็ไม่พอใจ
เขาผละตัวนั่งหน้าตรงเม้มปากตัวเองเล่นแก้เก้อ
“อยู่ๆไปเถอะ ใกล้หูใกล้ตากูก็พอแล้ว ไปอยู่ไกลก็ลำบากคนอื่นเฝ้าเปล่าๆ” เลยให้อยู่ที่อู่ เพราะมึงจะได้ตามเฝ้ากูง่ายๆใช่ไหม รวมถึงเทียวรับเทียวส่งอย่างทุกวันนี้ด้วย
แต่อย่างว่า ไม่ว่าฝิ่นมันจะตามเขาเองหรือจะให้ลูกน้องมันตามเฝ้าซึ่งเขามารู้ทีหลังว่าถูกจับตามองมาโดยตลอด เขาก็ให้สิทธิ์ไอ้ฝิ่นมันเต็มที่ไปแล้วนี่ อีกทั้งยังรู้สึกดีกับการที่ได้อยู่ในสายตาของมันอีกด้วย
ฝิ่นจอดรถยนต์ไว้ที่อู่แล้วเดินออกไปพร้อมพวกของมันที่มารอกันก่อนแล้ว แก้วเดินไปหลังร้านหยิบเสื้อฉ็อปสีเลือดหมูที่ตากผึ่งไว้กับราวตากผ้ามาสวม ฉ็อปสีที่ต่างไปจากคนอื่นๆในร้านหลัง ฉ็อปตัวที่เท่าไหร่ของเขาตั้งแต่เรียนมาก็จำไม่ได้แล้วเพราะโดนฉกชิงวิ่งราวจากคู่อริบ่อยเหลือเกิน จากที่ชั่งใจอยู่นานว่าจะใส่ดีหรือไม่เพราะเกรงใจคนของอาชีวะxที่ทำงานในร้าน แต่สุดท้ายเขาก็เอามาใส่ทำงานจนได้เพราะเขาไม่มีฉ็อปสีอื่นเลยนี่นา แม้จะไม่ได้เกลือกกลั้วน้ำมันเครื่องเท่าคนอื่นแต่มันก็ช่วยป้องกันคราบน้ำมัน คราบสี และอะไรต่อมิอะไรกระเด็นเข้าตัวได้ดีกว่าใส่เสื้อยืดเปล่าๆแค่ตัวเดียว
“อะไรของมึง” โจ้เดินมาแย่งสายพ่วงแบตเตอรี่ออกจากมือเขา
“เฮ้ย อันนี้ทำเป็น บวกกับบวก ลบกับลบ” เขาบอกโจ้ถึงวิธีการชาร์ตแบตเตอรรี่รถยนต์ที่เขาศึกษามา...ศึกษาจากที่นี่นี่แหละ แค่เอาสายขั้วบวกต่อกับแบตเตอรี่ขั้วบวกของรถคันที่ใช้งานได้ แล้วก็เอาสายขั้วลบต่อกับแบตเตอรี่ขั้วลบเท่านี้ ง่ายๆ
“แล้วต่อจากนี้ล่ะ”
“ก็...สตาร์ทเครื่อง?” แก้วตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจ
“หืม ไอ้แก้วข้ามขั้นตอนได้อีก มึงไปแยกน๊อตในร้านโน่นเลยไป” ไอ้โจ้ไล่ เฮ้ย ถ้าไม่ถูกก็สอนใหม่สิวะจะหวงวิชาไว้ทำไมนักหนา แต่เขาก็ยังไม่ไปไหนยังยืนดูโจ้เสียบสายพ่วงแบตต่อจนมันเงยหน้ามาเหวี่ยงด้วยสายตา
“ก็แค่ดูเฉยๆ” เขาพูดแก้เก้อ
“ไปไกลๆไปมึง” มันพูดแล้วเดินไปสตาร์ทรถหลังจากต่อพ่วงสายแบตเตอรี่เสร็จ
แก้วเดินตาม
“โจ้ กูน่ารำคาญมากเลยเหรอ”
“มากกกก” เขาถึงกับหน้าชาเมื่อไอ้โจ้ลากเสียงยาวใส่
...เขาไปช่วยพี่ไม้ล้างรถก็ได้
แก้วเดินไปทางพี่ไม้ที่กำลังล้างรถอยู่ เขาถอดเสื้อฉ็อปพาดไว้แถวนั้นแล้วหยิบสายยางอีกอันขึ้นมากะว่าจะช่วย
“ไปคอยรับรถ ไม่ต้องมายุ่งกับกู” คำบอกห้ามแกมไล่ให้ไปทำอย่างอื่นทำให้แก้วที่ถือสายยางอยู่ต้องหยุดค้าง เฮ้อ...
เขาทิ้งสายยางแทบจะทันที หยิบเสื้อฉ็อปขึ้นพาดไหล่แล้วเดินเข้าไปหยิบสมุดรับรถจากโต๊ะทำงานของพ่อฝิ่นมาถือ
...นี่แหละงานของเขา วันๆก็อยู่แต่กับกระดาษและปากกาคอยจดอาการเสียของรถจากคำบอกของพ่อไอ้ฝิ่นเท่านี้แหละ
แก้วยื่นใบรับรถให้ลูกค้าหลังจากพ่อฝิ่นแจ้งอาการและทำการรับรถไว้เสร็จสรรพ พ่อฝิ่นเดินเข้าร้านไปแล้วแต่เขายังอยู่ที่เดิมก็มีมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งขับเข้ามาในอู่ซะก่อน
“อ้าว แก้ว”
“มิว” แก้วเรียกชื่อคนซ้อนท้ายที่ลงจากรถแล้วถอดหมวกกันน็อกออกพอดี เขามองซ้ายมองขวาอย่างลนๆไม่คิดว่าจะบังเอิญมาเจอกันที่นี่ เขากลัวว่าโจ้หรือพี่ไม้จะมาเจอ กลัวว่ามิวจะรู้เรื่องที่เขาทำ ระแวงไปซะทุกอย่าง
“แก้วมาทำอะไรที่นี่เหรอ” มิวถามปกติหรือว่ากำลังสงสัยอะไรอยู่รึเปล่า …อันนี้เขาคงระแวงไปเอง
“คือ...”
“แล้วนี่ ไม่ไปฝึกงานเหรอมาทำอะไรที่อู่พี่ฝิ่น” มิวถามมาอีกคำ ก็ช่วงที่กรอกเอกสารเขาอยู่กับไอ้พงษ์แล้วก็มิว มิวคงจำได้ว่าเขาจะไปฝึกงานที่โรงแรมไม่ใช่ที่อู่ซ่อมรถ
“คือ แก้ว...” เขาคิดหาข้อแก้ตัวโดยต้องไม่ให้มีพิรุธ และมิวต้องไม่ข้องใจอีก “เอ๊ะ มิวรู้?” แต่กลับสะดุดเข้ากับคำพูดของมิวเมื่อกี้
“อ้อ เอ่อ...” กลายเป็นมิวที่ตะกุกตะกักหน้าเสียไป
“...มิวรู้ได้ยังไงว่าเป็นอู่ซ่อมรถของไอ้ฝิ่น”
“คือว่า...แก้ว คือมิวขอโทษ พี่ฝิ่นเขา”
“พี่ฝิ่น?”
“ไอ้แก้ว เข้าไปแยกน็อตข้างในไป” เขามองหน้ามิว และมองหน้าโจ้ที่เดินมาแทรกบทสนทนาแล้วไล่ให้เขาเข้าไปในร้าน มิวหน้าถอดสีมองเขาคิ้วชนกันก่อนจะก้มหน้าหลบตา
มิว...รู้จักไอ้ฝิ่นมากกว่าคนที่จับตัวมิวไปเป็นข้อต่อรองวันนั้นด้วยเหรอ
“กูบอกให้มึงเข้าไปข้างใน!” โจ้เสียงดังใส่
แต่...ไม่ เขาต้องการรู้อะไรมากกว่านี้ แก้วเรียกมิวอีกครั้งเพื่อต้องการพูดกันให้รู้เรื่อง
“มิว...”
“รถเป็นอะไร?” โจ้ถามมิวขึ้นมาโต้งๆทั้งที่เขากำลังพูดกับเธออยู่
“มันอืดๆบิดไม่ค่อยวิ่ง” เพื่อนผู้หญิงที่เป็นคนขับตอบ แล้วมิวเองก็ดูเหมือนสนใจที่จะคุยกับโจ้มากกว่ากับเขา
“เดี๋ยวดูให้เอง อีกชั่วโมงค่อยกลับมาเอา ตอนนี้จะไปไหนกันก็ไปก่อนได้เลย”
“ไม่เป็นไรรอได้เราไม่มีธุระอะไร” เพื่อนมิวคนเดิมบอก
“บอกว่าค่อยกลับมาเอาไง” โจ้เสียงแข็งมองหน้ามิว มิวจึงรีบสะกิดแขนเพื่อน
“เอ่อ แก้ว สบายดีนะ มิวขอตัวก่อนล่ะ” มิวถามเขาเป็นมารยาทด้วยใบหน้าเจื่อนๆของเธอ
“ก็ดี...” เขาตอบ ก่อนที่มิวกับเพื่อนจะเดินออกจากอู่ไป แต่เขายังยืนมึนอยู่ที่เดิม
ขอให้เป็นแค่เรื่องบังเอิญถ้ามิวกับฝิ่นจะรู้จักกันหลังจากเรื่องวันนั้น
ขอให้สิ่งที่อยู่ในหัวสมองตอนนี้ เขาคิดมากไปเองคนเดียว
แก้วปลอบตัวเองว่าอย่างนั้น ทั้งที่ในใจมันกำลังหวั่นๆอย่างหาสาเหตุไม่ได้
...หรือจริงๆแล้วเขาไม่อยากรับรู้อะไรเองต่างหาก
แค่พงษ์...แค่พงษ์ก็พอแล้ว อย่าหลงระเริงกับเพียงการได้อยู่ในสายตาของคนที่มองเราอย่างมีจุดประสงค์
เพียงตัวเองทำตามที่มันต้องการเท่านั้นก็พอแล้ว อย่าได้คิดอะไรไปไกล
แต่...กับใจที่เหมือนมีช่องโหว่ตอนนี้ เขาจะทำยังไงกับตัวเองดี
.............................
ขอโทษที่มาช้ามากๆนะคะ เหตุผลเดิมยังไม่หาย แต่มันมีเหตุอีกอย่างคือโน๊ตบุ๊คการ์ดจอเสียส่งซ่อมตั้งแต่วันเสาร์เมื่อวานโทรไปร้านซ่อมเขาบอกรออีกสองวัน ตัวเราเลยมาปั่นที่ทำงานแทนซึ่งสมาธิมีน้อยมาก เฮ้อ จะเป็นลม
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ^^ กอดๆจุ๊บๆ
ปล.ปากแก้ว เอ้ย! อิมเมจรูปปากของแก้ว หน้าตาไอดอลที่ก๊อปมามันไม่ใช่แก้วเลยตัดมาแค่นี้ ดูผ่านๆนะคะ ริมฝีปากเขาสวยดีเราเลยโมเมมา ฮ่าๆๆ
(http://upic.me/i/pf/c11424185-202.jpg)
แค่เนี้ย? :z6:
-
รู้สึกว่าตอนนี้มันสั้นไปหรือเปล่า
-
อ่านๆไปละอยากให้พงษ์มารับแก้วไปอยู่ด้วยไวไว
สงสารแก้วอะ เมื่อก่อนอยู่ด้วยกัน2คนก็ดีอยู่แล้ว เห้อออ
-
สั้นง่ะป้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :m31:
อยากบอกว่า เชียร์พงษ์ค่ะ :laugh:
ดีกว่าอิยาเสพติดซึนเดเระนี่อีกเหอะค่ะ!!!! :beat:
-
ผมก็ว่ามันสั้นจริงๆนะ
-
จ๊ากกกกกกกกก เอกเธอ เอกฉันท์ ว่าสั้นด้วยง่ะ
ขอต่อในตอนถัดไปนะคร๊าบบบ ข้าเจ้าผิดไปแล้ว >3 :o12:
v
v
v
กรี๊ดดดด รีล่าง ใช่เลยค่ะ :man1:
-
ความคิดของแก้วนี่ชั่งอึดอัดเน๊อะครับ
เป็นคนกล้ามาก แต่ก็กลัวมาก กล้าๆกลัว จะทำไม่ทำ
จากสายตาของฝิ่นจึงมองแก้วเป็นพวก ไม่ค่อยจริงใจไปได้
แก้วถามโต้งๆเลย เอาให้มันรู้ปาย~~~~
-
งืมมมมมมม รอตอนหน้าจ้า
ขอบคุณมาก :กอด1:
-
น่าสงสารแก้วอ่ะ เหมือนจะมีอะไรที่แก้วยังไม่รู้อีกเยอะ :monkeysad:
-
เห้อ.......ทามมั้ยต้องมีแต่เรื่องที่ทำให้แก้วจุกได้อยู๋เรื่อยเลยเนอะ
ไม่มีใครสงสารแก้วเลยสินะ
ไอพวกเลวนั้น ชนะีตนนั้น้อเหลือเกิน
ร้องไห้แต่เช้าอีกเรา อินไปมั้ยT^T
อย่าลืมมาต่อนะค๊าฟฟ รอเหมือนเดิม^^!!
-
ขอตอนยาวกว่านี้ได้ไหม
มาทีก็ให้หายคิดถึงหน่อยซิ
+ 1 ให้หายคิดถึง
-
ไอ้หยา...มิวมาจากไหนนนนนนนนนนนนนน เง้อออออออออออ
ถ้ามิวพูดขอโทษแบบนี้ แสดงว่ารู้จักกับฝิ่นมาก่อนล่ะสิ
แล้วมาคบกับพงษ์ทำไม และที่แก้วบอกว่าตอนที่พงษ์ทำร้ายเป้ง มิวยังชื่นชมอยู่เลยนั้น แปลว่าอะไร
งงคร้าบบบบบบบบบบบบบบบ :z3:
-
สั้นมากอ่ะ ค้างๆๆๆ
-
ชะนีโผล่มาเมื่อไหร่ เกิดเรื่องเมื่อนั้น
-
มีมิวมาอีกคนให้มึนอีกแล้วเจ้าค่า :z3:
เป้งกับพี่ไม้เริ่มกระจ่าง ก็มีอีกปมเข้ามาแทน
ทำไมมิวยังเรียกฝิ่นซะดูคุ้นเคยซะขนาดนั้น
-
ปากน่ารักดี :oni2:
-
อะไรก็ได้ขอแค่ให้อยู่ในสายตาใช่ป่ะ :laugh:
มันฮาตรงที่ให้ไปนั่งแยกน็อตนี่แหละ
ถนอมกันจั๊งงงงงงงง ช่วยกันใหญ่ทั้งอู่นั่นแหละ แต่วิธีถนอมนี่แอบเถื่อนนะ
สงสารแก้ว ปมเก่ายังไม่คลาย ปมใหม่เข้ามาเสียบอีก หนึบหนับๆ
+1 รอตอนต่อไปจ้า
-
ขอบคุณค่ะ พึ่งตามอ่านแล้วจะตามให้ทันค่ะ :z2:
-
มานิดเดียวเองอะครับ
-
สงสารพงษ์สุด
ถ้ากลับมาแล้วทุกอย่างมันเปลี่ยนไป แงงง
-
:กอด1:นิดนึงพอ
-
^^
-
ง่ะ ปมเก่าไม่คลาย ปมใหม่อีกแระ แถมยังมาแบบสั้นๆ อีก :serius2:
-
ได้กลิ่นมาม่ามาแต่ไกล เอ๊ะ แต่เรื่องนี้ก็มาม่าอยู่แล้วนี่นะ
-
อยู่ในดงศัตรูหัวเดียวกระเทียมลีบจริง ๆ เลยแก้ว
-
:a5: มีปมใหม่มาอีกแล้ว
-
:เฮ้อ:
-
รอตอนต่อไป น่าสงารแก้ว
ไอพวกโหด
-
สั้นอ่ะ งี้ดด :monkeysad:
ตกลงยังมีอีกหลายเรื่องที่แก้วยังไม่รู้ใช่มะ :เฮ้อ:
คนอ่านก็ลุ้นจนเหนื่อย :z3:
-
น้อยจังเลยอ่ะ
:serius2:
-
...แก้วนี่เค้าอยู่ในวงล้อม ของพวกปิดๆ บังๆๆ เนอะ แต่ละคนทำให้แก้วคลุมเคลือทั้งนั้น
....มาฝึกงานปั้ม แต่ไม่ได้ทำงาน เฮ้อ ไม่รู้ว่าโชคดี หรือโชคร้ายว่ะ :L2:
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
สั้นนนนนน :z3:
มิวกับฝิ่น แง่ะ ทำแก้วสงสัยอีกแล้ว
-
รอกิน มา่ม่า :z3:
-
พงษ์...มาเต๊อะ!
-
ทุกอย่างดูมีเงื่อนงำไปหมดเลย :m28: :m28:
รอตอนต่อไปค่ะ :pig4: :pig4:
-
แก้วปากหอยนะ :m20:
-
มิวน่าสงสัยนะเนี่ย มิวกับฝิ่นเกี่ยวข้่องอะไรกัน ทำไมโจ้ถึงต้องคอยกันมิวไม่ให้คุยกับแก้วด้วย กลัวว่าแก้วจะรู้อะไรงั้นหรอ
-
แก้ว : “โจ้ กูน่ารำคาญมากเลยเหรอ”
โจ้ : “มากกกก” เขาถึงกับหน้าชาเมื่อไอ้โจ้ลากเสียงยาวใส่
กระทบไลค์โจ้แรงๆพันครั้ง เพราะคำตอบตรงใจคนอ่านสุดๆ o13 :laugh:
-
สั้นไปจริงๆครับ
-
มาต่ออีกนะครับ
-
เพิ่งสมัครได้ไม่นานและเม้นเรื่องนี้เป็นครั้งแรกค่ะ(แต่ตามอ่านมานานแระ) :o8:
ตอนล่าสุดอ่านแล้วสงสารน้องแก้วมากๆเลยค่ะเหมือนทุกคนรวมหัวกัน ใครๆก็ไม่รัก :o12:
แล้วสงสัยจังเลยว่าพงศ์หายไปไหนทั้งที่สนิทกับแก้วขนาดนั้น อยู่ๆหายไปเลยน่าสงสัยมากเลยค่ะ
น้องแก้วถ้ามันทรมาณนักก็หยุดเถอะ คนอ่านเจ็บแทน :m15:
-
มาสั้นๆก็ได้ แต่มาบ่อยๆนะจ๊ะ
-
รู้สึกอึดอีดแทนแก้ว -*- แต่ช้ักจะชอบฝิ่นแฮะ (น่ารักแบบแอบๆมิดๆอ่า :m3: )
สู้ๆน้าเจ๊ซี :pig4: o13
-
ทำไมมันสั้นอย่างนี้... :z3: :z3: :z3:
-
มารอแก้วต่อ......^^
อย่าลืมมาต่อน้า
-
มิวเป็นกุญแจอีกดอกที่จะไขปริศนา หรือว่าเป็นแค่คนทรยศ
-
เอ๊ะมิว ยังไงกันเนี้ย :serius2:
-
สั้นง่ะ!!! :sad4:
อยากอ่านต่อมากกก
มาต่อเร็วๆนะค้าา :serius2:
-
มิว...นางโผล่มาทำไม
โผล่มาทำให้น้องแก้วไม่สบายใจเล่นหรอ
มีปริศราให้คิดอีกแล้ว มิวกับฝิ่นเอ๊ะยังไง
มิวนี้ใช่แฟนเก่าของพงษ์หรือเปล่าึค่ะ
โห้ย โจ้มีขึ้นเสียงใส่แก้วนะ นั้นมันพี่สะใภ้แกนะเว้ย
เทคแคร์หน่อยซิ พี่ไม้อีกคนจะรำคาญแก้วอะไรหนักหนา
น้องมันตัวคนเดียวนะนั้น อีพี่ฝิ่นอีกคนเย็นชาให้มันได้ตลอดนะ
วันหนึ่งแก้วมันไม่อยู่ด้วยแล้วนะรู้สึก
คือ แก้วอ่ะอยากให้พงษ์กลับมา
แต่ถ้าพงษ์กลับมาแล้วเรื่องทุกข์อย่างจะดีขึ้น
หรือมันจะเลวลงกันหล่ะเนี่ย แอบสงสารน้องแก้ว
เหมือนตัวคนเดียวเลย พี่ฝิ่นมาูดูแลด่วน!!!
พี่ซีซั่นตอนนี้สั้นไปอ่ะ ตอนหน้าขอยาวๆนะคะ
-
ขวัญใจเด็กช่างไปไหนน้า.....รอรอนะค๊าฟฟ ><
-
สนุกคับ
ปมมากมาย
อยากให้ต่อบ่อยๆ
ขอบคุณครับ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๐
“มึงคิดว่าไง” ฝิ่นถาม
“อะไร?”
“เรื่องเมียเพื่อนมึง” ฝิ่นซึ่งวางข้อศอกขวาไว้กับขอบหน้าต่างรถแท็กซี่ เอ่ยถามเขา
“ก็...ไม่ได้คิดว่าไง”
“หน้าหมาคาใจของมึงมันฟ้องอยู่ แล้วก็ กูบอกให้มึงพูดทุกเรื่องที่มึงคิดแล้วไม่ใช่เหรอ จะอมน้ำลายไว้ทำไมวะ”
ไอ้ข้องใจน่ะมันก็ข้องใจ อึดอัด อยากจะรู้สุดๆแล้วว่ามิวกับฝิ่นมันรู้จักกันระดับไหน มิวเรียกฝิ่นว่าพี่ได้อย่างสนิทปากทั้งที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน แต่พอไอ้ฝิ่นกลับเข้าอู่มารับเขาตอนเย็นของเมื่อวานมันกลับมาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวแถมยังต่อว่าไอ้โจ้สารพัดที่ปล่อยให้มิวมาที่อู่ซ่อมรถของพ่อมัน แต่ที่ไอ้โจ้โดนด่าหนักสุดคงเป็นเรื่องที่ปล่อยให้มิวเจอเขานี่แหละ
และที่ต้องนั่งอมน้ำลายอยู่อย่างนี้ไม่ใช่เพราะทุกทีพูดอะไรไปฝิ่นมันไม่เคยจะพอใจเลยไม่ใช่รึไง
“แล้วมึงคิดว่ากูข้องใจอะไรล่ะ” ฝิ่นหันมามองเขาด้วยหางตา มันแสยะยิ้มก่อนจะละสายตาลงไปมองที่มือซ้ายของมันเอง
“ถ้าไม่พูดก็ไม่พูด แต่พอพูดออกมาทีแม่งสะกิดตีนกูยิกๆ” แก้วจึงต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆด้วยที่เพิ่งจะเริ่มระแวงว่าจะโดนมันเอาคืนเพราะดันเผลอย้อนมันรึเปล่า
ก็ไม่ได้ตั้งใจกวนตีนอะไร แต่ฝิ่นมันอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าเขาคิดเห็นยังไงแล้วเรื่องอะไรเขาจะต้องบอกมันตรงๆด้วยล่ะ ถ้ารู้ว่าเขาข้องใจ ก็ต้องรู้ว่าข้องใจเรื่องอะไร ไม่ใช่บอกว่ารู้เพียงแค่หลอกถามความรู้สึกเขาอยู่ฝ่ายเดียว
“มึงว่าทำไมเมียเพื่อนมึงมาหากูถึงที่ได้วะ”
“เอารถมาซ่อมมั้ง”
“หึ ถ้ามึงคิดแค่นั้นจะให้กูกุมมือมึงทำไม” แก้วถึงกับต้องสะอึก ก็...เขาคิดหลายเรื่องปนเปในหัวสมองเต็มไปหมด เพื่อให้ตัวเองไม่ต้องคิดมาก แก้วจึงจับมือซ้ายของฝิ่นวางทับมือขวาตัวเองที่เอาวางไว้บนหน้าขามัน เพื่อปลอบให้ตัวเองมั่นใจว่าไม่มีอะไรมากมายอย่างที่คิดไปไกลหรอกน่า
“...บางเรื่องไม่ต้องรู้ก็ได้”
“เช่นกูกับมิวรู้จักกันยังไง มีอะไรกันรึเปล่า”
“มีอะไรกันด้วยเหรอ?” เขาพูดแทรกตาโต ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขาพยายามไม่คิดแล้วแต่กลับออกมาจากปากไอ้ฝิ่นจนได้
“หึ ถ้ามี แล้วมึงคิดว่าไง”
“...ก็ ...ก็แล้วแต่มึง” แก้วพูดได้ไม่เต็มเสียงขยับมือออกจากขาฝิ่นแต่เจ้าตัวมันก็จับไว้อีก
“ไอ้เหี้ย” เอ่อ ...นี่พูดตามใจมันแล้วยังโดนด่าอีก “ไหนมึงบอกว่ารักกู แล้วยอมให้กูไปเอาคนอื่นได้ด้วยรึไง?” มันถามเสียงเหวี่ยง ยังดีที่ไม่กระชากคอเสื้อเขาด้วย
แต่ตอนนี้คนขับรถแท็กซี่กำลังมองพวกเราผ่านกระจกอยู่ เขาจึงลดเสียงพูดกับฝิ่นให้เบาลง
“กูห้ามมึงได้เหรอ”
“ห้ามไม่ได้หรอก แต่มึงรู้สึกได้”
“..................................” แก้วก้มมองมือขวาตัวเองที่อยู่ภายใต้การกอบกุมของมือฝิ่น กุมไว้ด้วยมือมันเองไม่ใช่จากเขาเป็นคนจับวางเหมือนทีแรก
...รู้สึกอะไร รู้สึกเหมือนใจถูกแกว่งอยู่บนชิงช้าซึ่งไม่มีที่เกาะน่ะเหรอ
“รักของมึงมันก็แค่รักลมปาก ตราบใดที่มึงไม่รู้สึกรู้สาอะไร ไม่หึง ไม่หวง กูสักนิดจะให้กูแน่ใจได้ยังไงว่ามึงรักกูจริงอย่างที่พล่าม”
“แต่นั่น มันเป็นรักที่เห็นแก่ตัว” คนเห็นแก่ตัวเช่นเขา เข้าใจดี ที่ฝิ่นพูดมันคือการแสดงความเป็นเจ้าของชัดๆ
และไอ้หึงๆหวงๆมันคงไม่ใช่ความรู้สึกเขาหรอก แต่ความไม่เข้าใจ ไม่ชอบใจที่มิวซึ่งเป็นแฟนเพื่อนเขามาก่อนมาพูดจาดูสนิทสนมกับฝิ่น ความรู้สึกแรกมันดังแปล๊บตรงหน้าอกข้างซ้าย แล้วยิ่งฝิ่นบอกว่ามีอะไรกับมิว มันเหมือนกับหัวใจตัวเองหล่นวูบซะทันที เพราะเขาใกล้ชิดกับฝิ่นได้ มิวซึ่งผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้นมาด้วยกันก็คงจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับฝิ่นไม่ต่างกันสินะ หากแต่เขาไม่รู้ว่าจะต้องแสดงออกแบบไหนให้อยู่ในขอบเขตของคนที่รักมัน ...สิทธิ์แค่รักมันเท่านั้น
เขากลัว...กลัวฝิ่นไม่พอใจจึงได้แต่ทำนิ่งเฉยอยู่แบบนี้ทั้งที่ในหัวมันวิ่งวุ่นไปทั่ว
และเขายังคาใจ มิวกับฝิ่น ใกล้ชิดกันอย่างมีเงื่อนไขเหมือนเขารึเปล่า?
แล้วเขาอยากได้คำตอบแบบไหนกันระว่างใช่กับไม่ใช่
แต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่เรื่องดีที่เขาจะต้องรับรู้เลย เพราะไม่ว่าคำตอบคือแบบไหน คนที่เซคงจะมีแต่ตัวเอง
“มึงเห็นแก่ตัวได้ กูอนุญาต” ฝิ่นบีบมือเขาคล้ายกับให้ทำตามที่มันบอกได้จริงๆ “เต็มที่”
...ถึงจะยังไม่หายแคลงใจแต่ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดๆที่มันยอมให้เขาได้รู้สึกอะไรกับมันมากกว่าแค่ทำตามคำสั่งไปวันๆ
แก้วเงยหน้าขึ้นสบตาฝิ่น
“แล้วถ้าตอนนี้กูไม่อยากให้มึงยุ่งกับมิวอีกล่ะ” เขายังจำวีรกรรมที่มิวไปยุ่งกับพี่โซ่ได้ ยังจำคำพูดจากไอ้แสนได้ดี ผู้หญิงบางคนคบกับใครก็ได้เพียงเพื่อให้ตัวเองดูเหนือกว่าคนอื่น ถึงฝิ่นไม่ได้เหนือกว่าใครในเทคโนT แต่มันก็ใหญ่กว่าใครในสายของมัน ...ถ้าเขาเป็นผู้หญิงก็คงอยากจะอวดตัวว่าเป็นอะไรกับมันให้คนอื่นรู้ไปแล้ว คงจะเรียกร้องสายตาคนทั่วไปได้ไม่น้อยที่มีแฟนเป็นประธานสายคู่อริกับโรงเรียนตน
ที่พูดมาคล้ายๆกับเป็นข้ออ้างให้ตัวเองรู้สึกแย่น้อยลงรึเปล่า
แต่สำคัญที่ sex คือรักที่เขาให้ไอ้ฝิ่น เขาก็ไม่อยากรับรู้ว่ามันไปมีอะไรกับใครสักเท่าไหร่หรอก ถึงจะไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวมันทั้งนั้น ถึงจะเคยได้ยินคนในอู่พูดเรื่องผู้หญิงของฝิ่นบ้าง แต่ให้มาเห็นกับตาเรื่องผู้หญิงของมัน เขาก็ไม่อยากเห็น และยิ่งเป็นมิวด้วย มันใกล้ตัวไปไหม เขากลัวจะเก็บอาการไม่ไหว...
“หึ มึงนี่พูดไม่รู้เรื่องบอกว่าห้ามไม่ได้แต่รู้สึกได้ไงล่ะ ถ้ามึงรู้สึกเสียใจที่กูมีคนอื่นเมื่อไหร่กูจะพิจารณาให้อีกที”
เฮ้อ ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลย แล้วความรู้สึกกูมันอยู่ข้างใน อีกกี่ชาติมึงถึงจะเห็นล่ะ
รถแท็กซี่จอดเยื้องหน้าโรงเรียนเทคโนโลยีT ฝิ่นละฝ่ามือออกจากมือแก้วหยิบแว่นดำขึ้นมาสวม
“ไม่ต้องไปเสวนากับคนอื่นนะ กูพูดอะไรก็ให้มึงฟังไว้แค่นั้น” คนอื่นที่มันพูดถึงหมายถึงใครเป็นพิเศษรึเปล่า
“อืม”
“อย่าลองดี อย่าคิดว่ากูไม่รู้ไม่เห็น จำไว้” เวรกรรม เขากะจะแอบไปคุยเรื่องนี้กับมิวต่อ กะว่ารับปากฝิ่นมันส่งๆไปก่อน ดันพูดดักทางอีกจนได้
“รู้แล้วๆ”
“เสร็จแล้วโทรบอกด้วย เดี๋ยวให้คนมารับ”
“ขนาดนี้มึงยังไม่เชื่อใจกูอีกเหรอ”
“ขนาดไหนกูก็ไม่เชื่อใครทั้งนั้นแหละ ให้มาก็บุญเท่าไหร่ไม่เคยจะสำนึก หรือมึงมีปัญหาอะไรอีก?” เหอะ ตามนั้น ขนาดกูไม่มีปัญหาอะไรมันก็ยังเป็นปัญหาได้ทุกเรื่องเลย
“บัดดี้” เฮ้อ เพิ่งจะลงจากรถเดินได้ไม่กี่ก้าวก็มีเสียงตะโกนมาจากข้างหลังจึงต้องหยุด แล้วหันไปมองหน้าไอ้คนชอบเสียงดัง
“จะตะโกนทำไม”
“ก็เดี๋ยวกูตามมึงไม่ทัน แล้วนี่ใครมาส่ง”
“...เห็นด้วยเหรอ”
“เต็มสองตา แต่เห็นแค่ข้างหลังนะ” ค่อยโล่งอกหน่อย
“ไม่มีอะไรหรอก เข้าโรงเรียนกันเถอะ”
“กูอยากรู้ว่าใครไม่ได้อยากรู้ว่ามีอะไรรึเปล่า มึงนี่ชักจะลื่นใหญ่แล้วนะ” แก้วเลี่ยงด้วยการชวนแสนเข้าโรงเรียน แสนส่ายหน้าเดินมากอดคอแล้วต่อว่านิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ซักอะไรอีก
วันนี้มีนัดฟังการประเมินการฝึกงาน นักศึกษาปีสามและ ปวส.ปีสอง จึงต้องเอาแบบประเมินเข้ามาส่งโรงเรียนและรอฟังอาจารย์พูด ถ้าเป็นที่อื่นอาจารย์คงจะสุ่มไปประเมินตามสถานที่ฝึกงาน แต่สำหรับโรงเรียนนี้เขาจะใช้วิธีนี้มาตลอด มีคนบอกว่ามันประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลาของอาจารย์เพราะเรียกนักเรียนมาฟังแค่เดือนละวันเท่านั้น
หลังจากแวะไปหาพี่ภูที่ห้องซ้อมเขาก็เข้าห้องประชุมและอยู่กับไอ้แสนทั้งครึ่งวัน แต่ก็แอบมองพี่ดิวซึ่งนั่งเยื้องอยู่อีกสองแถวหน้าตลอด พี่เห็นเขาแล้วแต่ก็มองแบบมองผ่านเฉยๆและไม่ได้สนใจอีกเลย คงจะยังเข้าใจผิดเรื่องวันนั้นอยู่แน่ๆ แต่...ปล่อยไปอย่างนี้ดีกว่า จะได้ไม่ต้องมาเดือดร้อนไปกับเรื่องไอ้พงษ์
บ่ายโมงกว่าๆแก้วแยกกับแสนที่หน้าโรงเรียนเดินข้ามสะพานลอยไปรอรถประจำทางสาย๓T ซึ่งต้องนั่งก่อนจะไปต่อรถอีกสายเพื่อไปอู่พ่อฝิ่น เขาไม่ได้ลืมที่มันบอกให้โทรไปหาแล้วจะให้คนมารับหรอกแต่ถ้าให้๕xมารับที่หน้าโรงเรียนตอนนี้คงจะพากันกลับไม่ถึงบ้านแน่เพราะไม่ใช่เฉพาะพวกที่ฝึกงานแต่พวกรุ่นน้องมันก็พากันออกนอกโรงเรียนมาพร้อมกันด้วย แก้วจึงเลือกจะเดินทางกลับเอง อีกอย่างอยากให้ไอ้ฝิ่นมันเห็นด้วยว่าเขาสามารถทำให้มันเชื่อใจได้โดยที่มันไม่ต้องจับตามอง
“อ้าวพี่แก้วนึกว่าย้ายสายไปแล้วซะอีก” ทันทีที่นั่งลงกับเบาะรุ่นน้องคนเดิมที่เคยหาเรื่องเขามันก็พูดขึ้นมา
“ย้ายสายอะไร”
“เปล่า...เดี๋ยวนี้เห็นสนิทกับ๙Tนึกว่าจะไปซะแล้วนี่หว่า”
“หาเรื่องอะไรกูอีก ไม่ใช่ว่ากูเพิ่งจะสนิทกันสักหน่อย”
“อ้อ ไม่งั้นก็คงจะย้ายไปอยู่๕xสินะ”
“เป้ มากไปรึเปล่าวะ” เพื่อนอิเล็กฯของแก้วคนนึงลุกขึ้นปราม
“มึงจะเอาไงกับกูว่ามาเลยดีกว่า” เขาฮึดลุกขึ้นยืน คนมันจะหาเรื่องมันก็คงหาเรื่องอยู่อย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น ถึงแก้วจะทำเป็นมั่นใจต่อปากกับไอ้รุ่นน้องปีนเกลียวแต่ใช่ว่าเขาอยากจะมีเรื่อง แต่นี่มันต่อหน้าเพื่อน ต่อหน้ารุ่นน้องคนอื่นๆ เขาดูอ่อนไปไหมถ้าจะยอมให้เด็กมันว่าเอา
“เอาอะไร อย่างมึงเนี่ยจะให้กูเอาอะไร มึงน่ะมีอะไรสู้กูได้” ไอ้เป้กับเพื่อนมันเดินกรูมาล้อมเขา
“เฮ้ย เบาๆกันหน่อย” เพื่อนเขาเห็นเหตุการณ์ออกปากดุอีกครั้ง
เรียนมาสามปีเพิ่งจะเคยถูกเด็กช่างล้อมหน้าล้อมหลังจังๆ แล้วยังเป็นคนในโรงเรียนเดียวกันด้วย แก้วไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรให้พวกนี้ไม่พอใจถึงขนาดนี้ แต่ถ้ามันอยากรุมเขาก็คงสู้แค่ตาย อยู่กับคู่อริยังอยู่มาแล้ว จะต้องเกรงทำไมกับแค่เรื่องตรงหน้า
“ไม่เป็นไร” เขาบอกเพื่อน “มีอะไรก็เคลียร์กันให้จบไปเลย พูดมากแล้วรำคาญ” แล้วหันมองไอ้พวกรอบตัว
“อวดเก่งจริงๆ” ไอ้เป้ว่าแสยะยิ้มดูถูกก่อนจะปรี่เข้ามาถีบท้องเขา
“อั่ก!”
แก้วคู้ตัวถอยหลังไปชนกับพวกของมัน หนึ่งในนั้นล็อกแขนเขาไว้
“เฮ้ย พวกมึงมีเรื่องกันกูไม่ออกรถนะเว้ย” คนขับรถเมล์ตะโกนเสียงดัง
ไอ้เป้เหวี่ยงหมัดใส่หน้าเขาเต็มแรงด้วยใบหน้าสาแกใจซะเต็มประดาของมัน
ผั่วะ!
“เหี้ย หยุดๆเลย” เพื่อนเขาฝ่าวงล้อมเดินเข้ามา
“พี่อย่ายุ่งดีกว่า อยู่เฉยๆผมขอเตือน”
เพื่อนเขาไม่ได้อยู่เฉยตามที่ไอ้เป้บอกแต่ก็เข้ามาไม่ถึงตัวเขาเมื่อรุ่นน้องมีคนเยอะกว่าไอ้เพื่อนคนนั้นเลยถูกกันตัวออกไป
หึ แก้วยกหัวไหล่ขึ้นมาเช็ดเลือดตรงมุมปากด้วยแขนทั้งสองข้างยังถูกล็อกไว้
“ไอ้ลูกหมา” แววตาดูแคลนเย้ยหยันจ้องมองไอ้เป้ด้วยความสมเพช
รู้ตัวดีว่าให้ใช้กำลังต่อสู้กับใครก็สู้ไม่ได้แน่ แต่กลับรู้สึกดีกว่าเมื่อโดนล็อกแขนเอาไว้โดยถูกพวกมันกระทำเพียงฝ่ายเดียว
ภาพที่ทุกคนเห็นคือเขาโดนเล่นงาน ไม่ใช่ภาพที่หนึ่งต่อหนึ่งแล้วเขาพ่ายแพ้
“ปากเก่งจริงๆนะไอ้พี่แก้ว”
ผั่วะ! มันไม่ได้สะทกสะท้านไปกับคำด่าจากเขาแต่กลับแถมให้อีกหมัดเข้าแก้มอีกข้าง
“ถุย!” แก้วจ้องหน้ามันตาแข็งพร้อมกับบ้วนน้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดใส่หน้ามัน
“เหี้ย” ไอ้เป้ลูบหน้าตัวเองแล้วกระชากคอเสื้อเขาไปชนกับตัวมัน แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
เอาสิ เขากลัวรึก็ไม่
“หยุดนะ!”
“ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง”
“นี่มันรุมกันชัดๆหนิ ปล่อยเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้เลย” มิวเดินแทรกเด็กช่างมาพยุงตัวเขาแต่กลับไม่มีใครสนใจเสียงมิวเลย ต่อให้ไอ้พวกรุ่นน้องมันปล่อยแขนเขาแต่ทุกคนก็ยังยืนล้อมอยู่ที่เดิม
“ไม่มีใครสั่งพวกนี้ได้ทั้งนั้นแหละ” พี่ดิวเดินมาจากไหน เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อไหร่เขาก็ไม่รู้ “นอกจากพี่”
“งั้นพี่ก็สั่งเด็กพี่ได้แล้ว” มิวว่า
“หึ แล้วแก้วล่ะ ว่ายังไง ให้พี่บอกพวกมันหยุดให้ไหม?” พี่ดิวพูดกลั้วขำ แต่ในแววตาพี่กลับมองเขาอย่างเห็นใจ หรือบีบบังคับให้เขาร้องขอพี่กัน
“..............................” เขามองพี่ดิวตาขวางยกมือขึ้นเช็ดเลือดอีกครั้ง
“ถ้าไม่ใช่พี่ พี่ก็นึกไม่ออกว่าใครจะปกป้องแก้วได้” พี่ดิวพูดแล้วหันไปมองไอ้เป้พร้อมกับหักนิ้วมือตัวเองก่อนจะเหวี่ยงกำปั้นเข้าหน้าไอ้เป้
“ไปกันเถอะแก้ว” มิวกระตุกแขนเขา
“ขอบคุณ” เขาบอกพี่เพียงเท่านั้น รู้สึกผิดที่วันนั้นทำให้พี่ผิดหวังในตัวเขา แต่...ให้มันเป็นไปตามนี้ก็ดีแล้วเพราะเขาไม่เคยคาดหวังให้ใครมาดูแล และถึงแม้ต่อจากนี้ เขาจะไม่มีพี่ที่คอยหวังดี เขาก็คงไม่เจ็บไม่ปวดไปมากกว่าที่ผ่านมาแล้วล่ะ แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่แล้วมา แม้ว่าเขาจะไม่เคยสัมผัสได้ก็ตามที
เขาเดินออกจากกลุ่มพร้อมกับมิว แต่พี่ดิวคว้าหมับดึงมือเขาไว้
“แก้วจะไม่พูดอะไรกับพี่มากกว่านี้เลยจริงๆเหรอ”
“...ไม่เป็นไรครับ” แก้วยิ้มดึงข้อมือตัวเองกลับคืนโดยไม่หวั่นให้กับท่าทางไม่พอใจของพี่ดิว แล้วเดินลงจากรถเมล์
ไม่แน่ใจว่าเขากับพี่ ใครเป็นคนทิ้งใครก่อน แต่...พี่อย่ามายุ่งกับผมอีกเลย
..............................
คิคิ ยาวกว่าตอนที่แล้วด้วยนะ
ไม่สบายหายเกลี้ยงแล้วจ้า โน๊ตบุ๊คก็ไปรับมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วด้วย
สัปดาห์หน้าเราจะได้เจอกันเป็นปกติสักที สัปดาห์ละสามตอนหรือ อาจจะมากกว่านั้น (กดดันตัวเองล่วงหน้า เพราะรู้สึกผิดที่เหลวไหลมานาน ฮ่าๆ)
มิวยังคงเป็นปริศนา แต่ตอนนี้ก็มีอะไรที่มากกว่ามิวแล้วเนอะ (เหรอ?) แฮ่ๆ
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ^^กอดๆจุ๊บ
•♀NoM!_KunG♀• //เซ็นเช็คอีกสิบห้าบาทเข้าบัญชี กว่าจะจบเรื่องคงพอมีตังค์เก็บเปิดบัญชีได้ละ (เหรอ?) ฮ่าๆ โอ๋ๆตัวเองร้องไห้ทำไมนิยายเค้าออกจะสนุกสนานเฮฮา กุ๊กกิ๊กๆทั้งเรื่อง
แว๊กกก พิมพ์ตกเยอะมาก
มัวแต่นั่งแก้ตัวหนังสือ ลืมตอบเลย โทษทีคร๊าบบบ มิวคือคนเดียวกับแฟนพงษ์จ้า
-
เอาเข้าไป
ปมมาอีกแระ
เต็มที่เลยพี่
เอาให้งงตาย
กันไปข้างเลย
:a5: :z3:
-
:กอด1:
-
แอบเขินนะ :impress2:
-
ไปทางไหนก็มีแต่คนกดดัน จะเอาอะไรกับแก้วนักหนา เหนื่อยแทน
-
แก้วน่าสงสาร พี่ดิวกำลังคิดแผนชั่วร้ายแน่ๆ แล้วมิวเกี่ยวยังไง?
-
งะมันกุ๊กกิ๊กตรงไหนเนี่ย......ต่อยกานทั้งเรื่อง จะบ้า><
โหดร้ายที่สุด มีแต่คนเล่นก่ะความรู้สึกของแก้ว นิสัยๆ!!
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้า
รอรอเหมือนเดิมน้อ^^!!
-
แก้วเจ็บตัวแต่ ได้ ใจ อ่ะ ยัยมิวเหมือนจะดี ฉันสับสนนะยะเอาให้แน่ จะดีรึจะร้ายจะได้เชียร์ได้ด่าถูก
-
:o12: ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าความคิดฝิ่นกะแก้วคนละขั้น
นิยายเรื่องนี้มีแต่ปม ที่ไม่คิดจะแก้ :jul3:
-
สงสารแก้วเจ็บปวดใจยังไม่พอ ต้องเจ็บตัวด้วย :z3:
ดิวแย่มากยังจะต้องการคำพูดอะไรจากแก้วอีกถ้าจะทำอย่างนี้
ส่วนฝิ่นนี้ก็รู้สักทีเหอะว่าแก้วนะรักแกจริงๆเฟ้ย
-
ยาวกว่าตอนที่แล้ว แต่ทำไมมันรู้สึกค้างกว่าตอนที่แล้วนะ
ดิวทำอะไรไม่คิดให้รอบคอบเลย ส่วนฝิ่นก็ฐิถิมากไป เชื่อในความคิดของตัวเองจนลืมสังเกตุตัวแก้ว
แก้วก็เก็บกดได้อีกๆๆๆๆๆ
-
สงสารแก้วนะ เจ็บทั้งตัวทั้งใจ
-
กร๊ากกกกก....อ่านเม้นท์เพื่อนๆ แล้วเริ่มรู้สึกว่าคนเขียนเริ่มถูกคนอ่านกดดันกับปมที่เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ 555
เรื่องดิวขอผ่าน มันจะคิดจะทำอะไรแก้วก็ช่างหัวมันเถอะ มันคงไม่ทำอะไรแก้วมากไปกว่าให้แก้วเห็นว่ามันสำคัญและสามารถดูแลแก้วแทนพงษ์ได้
แต่กับฝิ่นนี่ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าดิวจะทำอะไรฝิ่นมั้ย มันคงแค้นฝิ่นพอดูที่ได้แก้วไป
ปมเรื่องมิวนี่ก็นะ ถ้ามิวไม่ได้รู้จักฝิ่นก่อนพงษ์ไป มิวก็คงไม่ได้ผิดอะไรที่จะหาคนใหม่ เพราะก็ดูเหมือนเริ่มห่างๆ พงษ์ก่อนพงษ์ไปเมืองนอกอยู่แล้ว
ว่าแต่ไปรู้จักกับฝิ่นได้ยังไงนี่สิ ใครเข้าหาใครก่อน และมีอะไรถึงขั้นไหน
ตอนนี้เดาว่ามิวเข้าหาก่อน (น่าจะหลังจากที่อ่อยโซ่) และมิวยังไม่มีอะไรกับฝิ่น (จากที่ฝิ่นมันเหวี่ยงแก้ว ถ้ามันมีอะไรกับมิวจริงแล้วมาทำเป็นเหวี่ยงแก้วล่ะก็ แกก็สะตอมากเลยว่ะไอ้คุณฝิ่น)
และถ้าหากฝิ่นมันเป็นฝ่ายดึงมิวมาเกี่ยวด้วยก่อนจริง คนอ่านจะเพิ่มเลเวลเกลียดพระเอกของเรื่องเพิ่มขึ้นไปอีก แมร่งโคตรไม่แมน จะอาศัยผู้หญิงหรือแก :beat:
จริงๆ แล้วตอนนี้คนอ่านไม่กลุ้มเรื่องดิวกับมิวเท่าเรื่องความรู้สึกของแก้วนะเนี่ย เฮ้ออออ
แก้วมันจะเอายังไงกับเรื่องนี้ต่อไปฟะ ผลลัพธ์ของสิ่งที่ตัดสินใจทำลงไปและตัวเองไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองได้ แก้วมันก็เริ่มรู้สึกแล้ว เริ่มเจ็บปวดแล้ว
ถ้าไอ้ฝิ่นมันรู้เข้า มันจะสะใจมั้ย หรือมันจะเปลี่ยนใจ
อีกเรื่องที่ตอนนี้ต่อมอยากรู้ของคนอ่านทำงานหนักมากก็คือ ความรู้สึกของไอ้คุณฝิ่นกับแก้วมันไปถึงไหนแล้ว
แหม่ๆๆๆ มีจับมือ มีปลอบเล็กๆ (เหรออ?) มีเจ็บ มีน้อยใจ นะยะ
ถ้าไม่ลำบากคนเขียนมากนัก ก็จัดฉากแบบหวานๆ ให้เห็นกันชัดๆ กว่านี้ได้มั้ย
(โดนคนเขียนโบกกกก..เรื่องนี้เน้นดรามา ไม่เน้น NC ค่ะคนอ่าน o18 )
-
เย้ๆๆๆๆ มาต่อแล้ว มาอีกเร็วๆนะครับ
-
:m31:<<<< อารมณ์ประมาณนี้
เบื่ออิเป้จัง ชื่อเดียวกะตูอีก เดะตบซ้ายขวา บังอาจมาต่อยแก้วของฉัน ลามปามใหญ่ละนะยะ!! :beat:
-
กุ๊กกิ๊กทั้งเรื่อง :a5:
อ่านไปปวดใจหนึบๆไป สงสารแก้วก็สงสารนะคะ
แต่ยอมเยอะไปจะกลายเป็นรำคาญแก้วแล้วอะ ไม่สู้คนเลยคนไรว้าา :m31:
-
สัปดาห์หน้าเลยหรอครับ อยากให้ซะทุกวันมากกว่า 555
-
อะไรของฝิ่นมัน? ตกลงว่ามันเคยมีอะไรกับมิวจริงๆ ใช่ไหม?
แต่ก็ไม่แปลก เพราะคนอย่างฝิ่นก็ต้องมีผู้หญิงวิ่งเข้าหาเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ที่พูดกับแก้ว มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเบาใจขึ้นมาเลยสักนิด
มันยังไม่เคลียร์เท่าไหร่เลย แคลงใจเหมือนแก้วเหมือนเดิม :a5:
ส่วนพี่ดิวนี่ก็นะ ปล่อยแก้วไปเหอะ
ถ้าจะเลวเพื่อให้แก้วมารักก็นะ เลวไปจนสุดขั้วก็ไม่สนหรอก
-
แอบสงสารพี่ดิวนิดสนึงอ่ะ
-
หน้าบวมช้ำกลับบ้าน แล้วเดี๋ยวอิตาฝิ่นจะว่าไงเนี่ย :z3:
-
:o8:
1. ฝิ่นเท่ห์สุดยอดไปเลย
2. รำคาญพี่ดิวมากๆถึงมากที่สุด
-
^^
-
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
-
นิยายหลายเรื่องตีกันในหัว
เดี๋ยวต้องค่อยๆอ่านอีกรอบละ...
-
ค้างงงง งง งง :serius2: :serius2:
-
สมัครเป็นแม่ยกน้องแก้วจ้า
ตามอ่านอยู่หลายวัน กว่าจะอ่านทัน
รักแก้ว เอ็นดูแก้ว
หมั่นไส้ฝิ่น
เกลียดพี่ดิว
ปลื้มพี่ภู,พี่โซ่
ชอบน้องแสน
(อันนี้ชอบที่น้องเรียกบั๊ดดี้)
คุ้นกับคำนี้มาก แบบได้บรรยากาศสุดๆ
สนุกปนหน่วงในใจสงสารแก้วเวอร์
รอตอนต่อไปนะคะ
-
มิวมันต้องมีอะไรแน่ๆ
+ 1 นะคะ
-
แก้ว สู้ ๆ
-
หวังว่าพี่ดิวคงไม่ได้สั่งให้เป้มันมาทำร้ายแก้ว เพื่อโชว์พาวหรืออะไรหรอกนะ มองโลกในแง่ร้ายไปป่าวเนี่ยตู :z3:
มิวยังคงเป็นปริศนา ฮึ่มมมมม
-
ชอบน้องแก้วตอนอยู่บนรถเมล์จัง ถึงจะโดนอัดฝ่ายเดียว แต่เท่อ่ะ :impress2:
ส่วนตอนอยู่กับฝิ่นก็ยังงึกๆงักๆระหว่างความรู้สึกกับความคิด คิดเยอะมาก จนไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง อาการนี่ชัดแล้ว แต่ยังตั้งใจจะรักเกินไปนะหนูแก้ว
แต่ชอบตอนจับมือกันจังเลย น่าร้ากกก ดราม่าบ่อยๆน่ารักเป็นพักๆให้คนอ่านชื่นใจ ^^ อร๊ายยยยย น้องหมาของฝิ่น :m3:
ส่วนเรื่องของมิว มันคงมีอะไรแน่ๆ - - (พงษ์กลับมาด่วน!!!)
:pig4: :3123:
ปอลิง คิดถึงพี่ดิว มามะ :กอด1: น้องแก้วไม่สนใจพี่เลยอ่ะ เศร้าแทน
ปอลิง2 รออาทิตย์ละ 3 ตอนอย่างใจจดใจจ่อ 555 มาแก้ปมด่วนเลย ปมเยอะไปแล้วนะเจ๊
-
...มิว กับ ฝิ่น มันต้องมีแผนอะไรร่วมกันแน่ๆ อาจเป็นการล้วงลับตับแตก ..พงษ์ก้ได้
...น้องซีซั่น เก็บเงินเข้าบัญชีตั้ง 15 บาท แต่ก็เยอะนะ เด็กที่บ้านพี่เก็บตังค์เข้าบัญชีที่โรงเรียน 2 ปี 40 บาท
...เห็นแล้วต๊กใจ กลัวธนาคารเค้าเจ๊ง :laugh:
-
:เฮ้อ:
-
ไอเด็กพวกนี้มันช่างวอนตีนมากค่ะ :angry2:
ไม่รู้หรอ....
นายเอกที่ชื่อแก้วน่ะ ฝิ่นมันตีตราไว้ห้ามหน้าไหนทำร้าย มันจะเก็บไว้ 'รัก' เอ้ย 'เชือด' คนเดียว
ปล. +1 จ้า กำลังค้างเลย มาต่อไวๆน๊า
-
:z3: :z3: :z3:มาอีกนะ
-
ไอ้พี่ดิวแมร่งเลว,,, ถ้าคิดว่าทำแบบนี้แล้วแก้วจะกลับมาสนใจมากขึ้นหรือไง ไม่มีทาง!!!
-
คือ พี่ฝิ่นค่ะ ไอ้ที่ๆพูดมาเนี่ยกะจะให้น้องแก้วมันหึงใช่มั้ยค่ะ
น้องมันก็หึงอ่ะนะ แต่ไม่กล้าแสดงออก
ก็ทำอะไรก็ดูผิดไปหมดนี่นะ อยากจะหึงบ้างอะไรบ้าง ก็กลัวจะทำให้ฝิ่นไม่พอใจ
ซ้ำยังไม่รู้สถานะของตัวเองอีก ว่าฝิ่นวางไว้สถานะไหน
ยังคงเอ็นดูน้องแก้วเหมือนเดิม และหมั่นไส้อีพี่ฝิ่นเหมือนเดิมเช่นกัน
แต่ยังไงเขาก็เป็นเอฟซีพี่ฝิ่นนะ
5555
นั่นไง มารมาผจญ พี่ดิวนี่คิดอะไรแปลกๆนะ
อยากจะให้แก้วเห็นว่าตัวเองปกป้องแก้วได้คนเดียว
เลยสั่งให้รุ่นน้องมารุมแก้วเนี่ยนะ
ปกป้องตรงไหนย่ะอีพี่ดิว แล้วก็เป้อีกคน
มาต่อยน้องแก้วทำไม จะให้พี่ฝิ่นมาเอาคืนค่อยดู
สรุปมิว นางดีหรือไม่ดีกันหนอ ต้องดูกันไปเรื่อยๆ
เขาไม่กดดันพี่ซีซั่นนะ รอได้เสมอค่ะ อาทิตย์หน้าได้มาอัพแบบเดิมแล้วดีใจอ่ะ ไม่ต้องคอยนาน สู้ๆเน้อเจ้า
-
ดิวคิดอะไรของดิวกันนะเนี่ย
-
โอ๊ะปี1ลุมปี3 ยอมมันทำไมเนี้ยแก้ว พี่ดิวจะเล่นแรง?ไปป่าว :m16:
-
ถ้าจะขนาดนี้ อ๊าก! :z3: :z3:
-
:z2: :z2:
ทันแร้ว ๆ หลังจากหายไปนานนน
แก้วยังคงน่ารักเหมือนเดิมมม
สู้ ๆ นะแก้ววว
-
จะเอาพงษ์คู่กับแก้วอ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :z3: :z3: :z3: :z3:
-
เห้อมีอะไรก็ไม่พูด ออกไปแล้วเมื่อไหร่จะได้รู้กันสักทีนิ
-
สงสารแก้วจังโว้ย
โดนตลอดๆ
:m31: :m31: :m31: :m31:
-
:เฮ้อ: สงสารแก้วจังทำไรก้อดูผิดตลอด
-
อ่านเรื่องนี้แล้วแอบเครียด
ตอนแรกว่าอ่านไปหน่อยนึงแล้วจะเลิก
แต่ไหงไปๆ มาๆ สำนวนมันเจ๋งมากค่ะ
แม้พี่จะค่อนข้างงง กับการจัดสายอะไรนั่น
พี่เลยเอาแต่เนื้อๆ
สรุปพวกนี้มันมาเฟีย หรือนักเรียนกันเนี่ยะ
ไอ่พี่ดิวเนี่ยะ มันไม่ดีเลยน่ะ รักหวังสิ่งตอบแทน
เขาไม่รักตอบ ก็ไม่หวังดีต่อ
แล้วนี่ถูกรุม ไอ่ฝิ่นมันจะว่าไงน่ะ คงยกพวกมาแก้แค้นอีกสิ
ประมาณว่า เด็กกู คนอื่นห้ามแตะ
-
มาต่อเร็วๆนะครับ ติดเรื่องนี้มาก
-
ใช่แล้วแก้ว บอกมันไปเลย
อย่างเช่นที่คิดเมื่อกี้อ่ะ
บอกไปโลด ว่าอย่ามายุ่งกับผม กร๊าก :laugh:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๑
“พี่ฝิ่น แก้วกำลังจะโดนรุม”
“ว่าไงนะ!” ฝิ่นเสียงดังก่อนจะลดน้ำเสียงลงเพราะอาจารย์คุมสอบหันมามองเขาที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่หน้าห้อง “ใครรุมใคร?” ถามเพื่อให้แน่ใจว่าฟังไม่ผิด
“มิวมองผ่านหน้าต่างรถเห็นพวกปีหนึ่งยืนล้อมแก้วเต็มคันรถเลย”
“มีเรื่องอะไรกันวะ”
“ไม่รู้ กรี๊ดด” เหี้ย กรี๊ดใส่หูกู เขาเบ้หน้าเอามือถือออกห่างจนเสียงมิวเงียบไปค่อยเอามาแนบใบหูอีกที
“เธอ เธอ!”
“แก้ว แก้วโดนต่อย” โดนต่อย!
“แล้วยืนดูอยู่ได้เข้าไปช่วยสิวะ!” ฝิ่นสั่งมิวเสียงดุด้วยความโมโหแทนที่จะมารายงาน เข้าไปช่วยก่อนสิโว้ย
“กรี๊ดด พี่ฝิ่นจะให้มิวช่วยยังไงล่ะมิวเป็นผู้หญิงนะ”
“ถ้าไม่รู้จะทำยังไงก็เอาหน้าเธอไปให้ไอ้พวกนั้นมันต่อยแทนซะสิ ซื่อบื้อจริงๆ” ฝิ่นรำคาญเสียงแว๊ดๆของยัยนี่เลยช่วยบอกวิธีให้เอาบุญแถมตอนนี้เขาชักร้อนใจขึ้นมาด้วย
“พูดอย่างนี้ก็ปล่อยให้แก้วตายคาตีนไปเลยละกัน ชิ”
“เธอกล้าก็เอาสิ” เขาเปล่าขู่ แค่พูดให้สำเหนียก
“อะไรๆก็แก้ว ทุกคนเลย” ยัยมิวบ่นอุบแล้ววางสาย
เขาเป็นใคร ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร กล้าดียังไงมาตัดสินชีวิตไอ้แก้วแทนเขา ก็แค่เมียไอ้ฆาตกรที่ขี้ขลาดหนีความผิดและ...เมียเก่าไอ้เป้ง แต่ตอนนี้พยายามมาจุ้นกับเขาต่อ เหอะ มีอะไรที่เขาต้องไว้หน้าด้วยเหรอ ไม่คิดบัญชีด้วยอีกคนเพราะเห็นว่าเป็นเพศแม่ก็บุญเท่าไหร่แล้ว
“โจ้ ไปรับไอ้แก้วที่โนTด้วย” ฝิ่นกดโทรศัพท์โทรออกไปยังเบอร์ของโจ้ ตอนนี้เขาเหลือสอบอีกสองวิชาไม่อย่างนั้นคงไปรับมันเองแล้ว
แล้วป่านนี้เป็นยังไงบ้างวะ ยัยมิวนั่นยังไม่โทรมาบอกอีก ส่วนจะโทรไปถามข่าวเองนะเหรอ...ฝันไปเถอะ
“ผมมาซ่อมรถที่บ้านลูกค้าพี่ บอกไอ้แก้วรออีกสักชั่วโมงนะ”
“ไอ้โจ้ กูบอกมึงตอนนี้จะให้รอทำไมแล้วนี่ไอ้นั่นกำลังมีเรื่องด้วย”
“มีเรื่อง! เรื่องอะไรวะไหนบอกไปโรงเรียนไง”
“กูจะรู้ไหมเรื่องอะไร”
“แล้วพี่จะให้ผมไปทำไม ไปให้โนTยำตีนเหรอพี่”
“เออ!”
“อ้าว”
มีเรื่องอะไรกับใครเขาจะรู้กับมันเหรอ มันสร้างศัตรูที่ไหนไว้บ้าง...นอกจากเขาวะ
แต่ตอนนี้อยากเห็นหน้ามันสุดๆ คือ...อยากเห็นว่ามันเป็นอะไรมากรึเปล่า
...ไม่ได้เป็นห่วงแค่จะได้สมน้ำหน้าถูก
“พี่ไม้อยู่ด้วยรึเปล่า” เมื่อพึ่งไอ้โจ้ไม่ได้เขาเลยถามหาพี่ไม้ต่อ
“พี่อยู่อู่ครับ”
“แค่นี้นะ” ฝิ่นกดวางสายแล้วจึงกดเบอร์โทรออกไปหาพี่ไม้ ถ้าใช้ไอ้โจ้ได้เขาก็ไม่อยากยุ่งกับพี่หรอก
“พี่ไม้ไปรับไอ้แก้วให้หน่อยผมมีสอบ”
“ใช่หน้าที่กูไหม”
“เถอะน่าพี่ ก่อนที่มันจะตายซะเปล่า”
“หืม?”
“นะพี่นะ เดี๋ยวผมโทรบอกให้มันรอหน้าโนT”
“อืม ยุ่งกับกูจนได้นะ” ไหว้วานพี่ไม้เรียบร้อยฝิ่นจึงรีบโทรไปเบอร์ไอ้แก้วทันที
ตรู๊ดดด ตรู๊ดดดด ทำไมไม่รับวะ
ตรู๊ดดดด
“อืม” อืมเนี่ยนะคำทักทายมึง
“อยู่ไหน?” เขาทำเสียงให้เป็นปกติเอ่ยถามไม่ให้มีน้ำเสียงร้อนรนอะไรแม้แต่นิด
“อยู่บนรถ ...แท็กซี่”
“จะไปไหน รอที่นั่นแหละ” แต่ประโยคนี้ดันพูดรัวใส่ ก็มันกำลังขัดคำสั่งเขาหนิ
“แต่...”
“กูบอกให้รอ!” สิ้นคำสั่งโทรศัพท์มือถือของไอ้แก้วก็โดนแย่งไปพูด
“พี่ฝิ่นคะ” ยัยมิวทำเสียงหวานเสียงอ้อนตีน
“เหอะ อะไรของเธอ”
“เดี๋ยวมิวจะไปส่งแก้วที่บ้านเองค่ะ”
“ไม่ต้องยุ่ง หมดหน้าที่เธอแล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงมิวนะคะ” เฮ้ย กูเป็นห่วงยัยนี่ตอนไหนวะ “แก้วก็เพื่อนมิว เดี๋ยวมิวนั่งรถไปเป็นเพื่อนเองขืนยังช้าอยู่มีหวังได้โดนรุมสกรัมอีกรอบแน่” เฮ้อ ถ้าจะบอกว่าเสียงโคตรตอแหลกูจะยังเป็นผู้ชายอยู่ไหมวะ
“ไม่ต้องยุ่งได้ไหม” ฝิ่นเสียงเอือมบอกมิวเรียบๆ
“โอเคนะคะ แล้วเจอกันค่ะ”
“เหี้ย” ฝิ่นสบถมองหน้าจอมือถืออย่างเซ็งๆ
โดดสอบได้ไหมวะ
ทั้งไอ้แก้วโดนเล่นงาน ทั้งเรื่องผู้หญิงคนนี้ ร้อยวันพันปีไม่เคยให้ผู้หญิงเฉียดใกล้บ้านแล้วก็อู่เพราะไม่อยากให้ใครก้าวเข้ามาในชีวิตมากเกิน แต่ยัยมิวที่ตามตื้อเขาไม่เลิกกลับเสนอหน้าไปอู่แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แถมยังหน้าด้านกว่าคนอื่นอีก แค่ใจดีวานให้ช่วยดูพฤติกรรมไอ้แก้วให้หน่อยเดียว คงคิดว่าเขาสนใจเป็นพิเศษรึไงวะ ถ้าไม่มีประโยชน์ อย่าหวังว่าเขาจะลดตัวลงไปคุยด้วยหน่อยเลย
“พี่ไม้ไปหามันที่บ้านเลย” เขาโทรไปบอกพี่ไม้อีกครั้งจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปเทคโนT
“บ้านไหน” เฮ้ย พี่ไม้นี่ถามมาได้ไงวะ
“บ้าน...” เออบ้านไหนวะ “ไม่ได้ถามว่ะ ก็ต้องบ้านผมมั้ง” ยัยนั่นเล่นพูดฉอดๆอยู่คนเดียวนี่หว่า
“เออๆ”
“เออนี่รู้เหรอ”
“กูไม่ได้โง่ เสร็จแล้วรีบตามมานะกูมีเรื่องอื่นที่มีสาระกว่าเรื่องของพวกมึงต้องทำอีกเยอะ” สาธุเถอะแต่ละคำของพี่กู
ฝิ่นเก็บมือถือแล้วเดินเข้าห้องสอบ
กูโง่ตรงไหนวะ? ต่อให้กลับบ้านเองไอ้แก้วมันก็ต้องกลับไปรอเขาที่บ้านแน่ๆ แต่วันนี้มียัยเสียงแหลมตามประกบนี่หว่า เออ นั่นสิ แล้วไอ้บื้อนั่นมันจะพายัยมิวไปบ้านเขาด้วยเหรอวะ
สองวิชาฝิ่นสอบวิชาละสิบนาทีได้ แล้วแทนที่ใครสอบเสร็จก่อนให้ทำวิชาต่อไปได้เลยแต่ต้องมานั่งรออีกเกือบชั่วโมงใครมีธุระอะไรไม่ต้องไปทำกันเลยใช่ไหม
ฝิ่นออกจากโรงเรียนให้คนในสายไปส่งที่บ้านไอ้แก้ว...พอดีไม่ได้โง่อย่างที่พี่ไม้ว่าก็เลยรู้ว่าไอ้แก้วมันไม่กล้าให้ใครรู้หรอกว่ามันอยู่บ้านเขา รั้วเล็กหน้าบ้านเปิดทิ้งไว้อยู่แล้วเขาจึงเดินเข้าไปในบ้านได้อย่างสะดวก รองเท้าหลายคู่วางระเกะระกะอยู่หน้าบ้านทั้งที่มันไม่ใช่คนเพื่อนเยอะ
...โดนรุม? ถึงขั้นไหนทำไมญาติเพียบเลยวะ โชคดีที่ความเป็นห่วงยังไม่ทันแว๊บขึ้นมาในหัวให้พาเสียหลัก ฝ่ามือเน้นๆก็ฟาดเข้าที่ใบหน้าทันทีเมื่อเขาโผล่หน้าไปที่บานประตู เหี้ย โชคดีตรงไหนวะ
เพี๊ยะ!
“เหี้ยอะไรวะ!” เขาผลักหน้าอกไอ้นั่นออกไปด้วยสัญชาตญาณ พอดีกับร่างอีกคนที่คว้าเอวมันไว้ทัน
เกือบสวนหมัดทักทายเหมือนกันดีที่จำหน้ามันได้
“มึงปล่อยให้น้องกูโดนทำร้ายได้ไงวะ” ไอ้สำอางมันเสียงดังใส่
“แล้วมึงปล่อยให้น้องมึงโดนทำร้ายได้ยังไงทั้งที่อยู่โรงเรียนเดียวกัน” เอาสิว่ามากูก็ว่ากลับ แล้วกล้ามากที่ตบหน้ากูเนี่ย เขาพูดสวนทันที จ้องหน้ามันไม่ต่างกัน
“เฮ้ย แล้วมันหน้าที่กูไหม นั่นมันหน้าที่มึงที่ต้องดูแลน้องกูไม่ใช่รึไง”
“ใช่ไม่ใช่แล้วมึงยุ่งอะไรด้วย เป็นเดือดเป็นร้อนแทนกันเหลือเกินเป็นมากกว่าพี่รึเปล่าวะ” พูดออกไปเขาก็นึกข้องใจขึ้นมา ไอ้แก้วบอกว่าเป็นพี่แล้วเขาก็เชื่อง่ายๆอย่างนี้เหรอวะ
“มากไม่มากก็มากกว่ามึงละกัน”
“หน๋อยไอ้นี่ ซักทีดีไหม?”
“มีอะไรก็พูดกันดีๆสิ” ไอ้โซ่ดึงไอ้เลื้อยไปยืนข้างหลัง มันถามเขาหน้าตาย พอๆกับไอ้เลื้อยนั่นเชิดหน้าจ้องเขาตาขวาง หลบอยู่ข้างหลังเก่งจริงๆเลยมึง
“ถุย แล้วไอ้นี่ถามอะไรกูสักคำไหม มาถึงก็ใส่ทั้งมือทั้งปากสงสัยจะไม่เคยตาย”
“ก็ไม่เคยนี่หว่า ถ้ามึงแน่จริงลองตายให้แฟนกูดูก่อนไหม” แฟน?
ฝิ่นยืนงงๆเคยเห็นพี่ภูของไอ้แก้วไปกับไอ้แชมป์ดูจากท่าทางก็รู้ว่าไม่แมนแต่ไม่คิดว่าโฉดๆอย่างไอ้โซ่จะมีเมียเป็นผู้ชายแถมบอกคนอื่นได้เต็มปากเต็มคำอีก
“ชิ อยากจะอ๊วก รู้สึกบรรยากาศไม่ค่อยดีมิวกลับดีกว่า” ฝิ่นสลัดหัวเบนสายตาไปหายัยมิวที่ลุกออกจากที่นั่งข้างๆพี่ไม้เดินมาเหล่ตามองคู่รักตรงหน้าเขาแล้วนางก็เชิดหน้าตรงมาเกาะแขนเขาอีกต่อ “แก้ว มิวกลับก่อนนะ” และยิ้มหวานบอกไอ้แก้วที่มองมาอย่างไร้อารมณ์
“เดี๋ยวออกไปส่ง” ฝิ่นมองหน้าแก้วยักคิ้ว พลางจับมือมิวออกจากแขนแล้วจูงมือเดินนำออกจากบ้าน
ยัยนี่มีประโยชน์ตรงที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกไอ้แก้วนี่แหละ แววตาวูบไหวแสดงความไม่มั่นใจของไอ้แก้ว เป็นสิ่งที่มองเห็นง่ายที่สุด ง่ายกว่าคำพูดของมันด้วยซ้ำ
“ใครทำ” เขาสะบัดมือปล่อยแขนยัยมิว ถามเสียงเข็ง
“เฮอะ นี่ถ้ามิวไม่ส่งข่าวพี่ พี่จะสนใจมิวบ้างไหม”
“ถาม ให้ตอบ”
“๓Tปีหนึ่ง” มิวกอดอกมองหน้าเขาคล้ายกับเป็นเพื่อนเล่นให้เจ้าหล่อนท้าทายได้ง่ายๆ
“มีเรื่องอะไรกัน”
“เด็กมันหมั่นไส้แก้วจะมีอะไร” ยัยมิวขึ้นเสียงสูงได้น่าหมั่นไส้จริงๆ ...เย็นไว้ไอ้ฝิ่นนี่มันผู้หญิง
“ไปถ่ายรูปพวกมันมา ด่วนที่สุด”
“ชิ หมดธุระของมิวแล้วใช่ไหม” มิวพูดด้วยน้ำเสียงเอือมกับคำสั่งเขา แล้วไง? คิดว่าเขาไม่เอือมที่ต้องเสวนากับเธอรึไง
“ยัง เธอพูดมากอะไรรึเปล่า”
“หึ”
“อย่าทำตัวน่าฆ่าทิ้งหน่อยเลย ถ้าพี่มีปัญหาเมื่อไหร่เธออยู่ไม่สุขแน่”
“ถ้าพี่ฝิ่นกลัวว่าแก้วจะรู้เรื่องของเราพี่ก็นอนกับมิวสิ แล้วมิวจะไม่เข้าใกล้ไอ้สำออยนั่นอีก” น้ำเชื้อกูฝังเพชรรึไงวะทำไมยัยนี่มันเซ้าซี้แต่เรื่องนี้ตลอด
“เธอขู่พี่งั้นเหรอ” เขาจับหมับที่ต้นแขนยัยมิว แต่ไม่ได้ออกแรง
“ปะ เปล่า มิวรักพี่ พี่ก็รู้ ขนาดพี่หลอกใช้มิว มิวยังทำตามที่พี่สั่งทุกอย่าง...”
“เลิกพูดได้แล้ว!” กูใกล้จะหมดความอดทนแล้วด้วย “พี่หลอกใช้อะไรเธอ ไม่พอใจก็ไป ออกไปไกลๆพี่ได้ยิ่งดี ผู้หญิงอย่างเธอแค่อยู่ใกล้พี่ก็เซ็กส์เสื่อมแล้ว เห็นแก่ไอ้เป้งอย่าให้พี่ต้องใช้คำว่ารังเกียจผู้หญิงอย่างเธอเลย”
“พี่ฝิ่น! รังเกียจมิวเข้าไปเถอะ ที่มิวคบกับพี่เป้งก็ไม่ใช่เพราะมิวชอบพี่รึไง คอยดูนะมิวจะทำให้พี่ยอมมิวให้ได้ มิวไม่หยุดแค่นี้แน่”
“อย่างเธอจะทำอะไรได้” เขาพูดตามหลังมิวที่เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากบริเวณบ้านไป
เหอะ เป้งมึงโง่หรือโดนมอมวะถึงได้คบกับยัยนี่ได้นานสองนาน
..................................
แอนตี้ผู้หญิงมากไปรึเปล่าหนอนังซีซั่น -*- เฮอะ แต่ก็ไม่ใส่ใจนี่มันนิยายวาย :z2:
ต่อตอนหน้านะจ๊ะ^^ โทรเรียกรถน้ำตาลก่อน
TanyaPuech ใสร้ายเค้าง่ะ ไม่จริ๊งไม่จริง
เฉาก๊วย หัวเราะคล้ายสะใจมาก แล้วถ้าคนเขียนกดดันขึ้นมามากๆใครล่ะที่เดือดร้อนไม่ใช่ตัวเองหรอกรึ กร๊ากก
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะ ^^กอดๆจุ๊บ
สวัสดีคนอ่านหน้าใหม่ของเรื่องนี้ด้วยนะคะ กอดๆ
-
:กอด1:มีเรื่องไม่เว้นแต่ละวันนะแก้ว
-
เข้าตำรา พระเอกมาตอนจบไม่ก็ตกม้าตาย
ตอนหน้าเอาน้ำตาลมาเท ใช้มั้ย ดีๆๆๆๆ จะได้เตรียมกระสอบไว้โกย
-
มิวแกก็อยากได้ตัวฝิ่นนี่เอง
-
ที่ให้คนคอยตามแก้วนี่
กลัวน้องตายเพราะคนอื่น
ไม่ได้ห่วงน้องใช่ไหม
ทำไมเรารู้สึกฝิ่นมันปากแข็งจังอ่ะ
มิวนี่ก็แรดเนอะ
ดีนะที่เราไม่ได้คบเพื่อนชื่อนี้
55555555+
-
กร๊ากกกกกกกกก ฮาฝิ่น ปากแข็ง แต่ใจเนี่ยอ่อนยวบยาบไปแล้ว ห่วงซะขนาดนี้ ไม่รู้จะพูดไง แต่คนอ่านปลื้มอ่ะ 555 เสียดายน้องแก้วยังไม่รับรู้ถึงความรู้สึกนี้ ><
ส่วนยัยมิว เห็นตอนแรกมาช่วยแก้วก็อุตส่าห์คิดว่าจะเป็นคนดี แต่สุดท้ายชีก็....-*- เกิดมายังไม่เคยเห็นใครแรดได้ขนาดนี้
สุดท้ายเราก็ได้รู้ถึงต้นเหตุของเรื่อง แต่พงษ์จะถึงกับฆ่าคนเพราะเรื่องมิวเลยเหรอ รอเจ๊ซีมาแง้มมากกว่านี้ดีกว่า ^^
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่นะค้า ให้กำลังใจๆๆๆ
ปอลิง กระทืบไลค์พี่ไม้พันครั้ง อิอิ ^^
-
อยากจะ:beat: :z6:ชะนีมิว :monkeysad:....แก้ว
-
ยังมีอารายอีกหลายอย่างที่ต้องรอดู อิอิ
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่อน้าา
รอรอค๊าฟฟฟ
-
ยัยมิวน่า :z6:
-
^^
-
ตอนนี้อ่านแล้วงงเล็กน้อย
มิวเป็นเมียทั้งของเป้งและพงษ์เหรอ แล้วทำไมแก้วมันคิดว่ามิวมันชื่นชมกับการกระทำของพงษ์ตอนที่มีเรื่องกับเป้งล่ะ
หรือว่าคนที่พงษ์มีเรื่องด้วยตอนนั้นแล้วมิวชื่นชมไม่ใช่เป้ง?
เอ๊ะ..หรือว่ามิวชอบใจเพราะคิดว่าผู้ชายสองคนทะเลาะกันเพราะตัวเอง?
สงสัยวุ้ย เง้อออออ :z3:
ว่าแต่..แล้วจริงๆ พงษ์ทะเลาะกับเป้งเพราะอะไรกันแน่ เพราะแก้ว เพราะมิว หรือเพราะอะไร? (ก็สงสัยกันต่อไป ถ้าพงษ์ไม่โผล่ คนเขียนก็คงยังไม่ยอมมาเฉลยหรอก ชิชิ)
เฮ้ออออ....มีแต่คำถาม แต่ก็ยังดีที่ตอนนี้มีข้อมูลเรื่องของฝิ่นกับมิวเพิ่มมาอีกนิด
สรุปยัยมิวนี่ร่านตัวแม่เลยใช่มั้ยเนี่ย ใช้ร่างกายเปลืองจริงๆ นะเธอ
กรี๊ดๆๆ ให้พี่ไม้...แม้จะไม่เอ็นดูอะไรแก้วนัก แต่ก็ยังดีที่มีห่วงน้องมันบ้าง สงสารมันหน่อยนะพี่นะ
และก็กรี๊ดยาวๆๆๆๆๆ ให้ภูโซ่ พี่ภูน่ารัก อุตส่าห์ตามมาดูอาการแก้วถึงบ้าน (หรือมาคอยเฉ่งอิฝิ่นกันแน่? 555)
โซ่ก็มาดดีเหมือนเดิม อิคุณฝิ่นหัดเอาเป็นเยี่ยงอย่างบ้างนะ รู้สึกจะเหวี่ยงเก่งเกินไปละนายน่ะ
สุดท้าย...ตอนหน้าจะหวานเหรอคะคนเขียน
บ้านคนเขียนอยู่ไหน เดี๋ยวจะให้คนเอาน้ำตาลไปส่งถึงบ้านซักสิบคันรถเลยเป็นงัย :laugh:
-
เอาอีกๆ
ถือป้ายประท้วงหน้าบอร์ดคับ
-
ปากกับใจไม่ตรงกันอย่างแรงอ่ะคุณฝิ่น :m12:
-
ยังไง ผญ ก้ิอเพศแม่หน่า
:z2: :z2: :z2: :z2:
-
:angry2: อิฝิ่นแกปากตรงกะใจมากกกกกกกกกกกกกก
-
ตอนนี้แก้วไม่ได้พูดเลย
ยัยมิวนี่ตกลงเป็นแฟนเป้ง หรือเป็นแฟนพงษ์
-
แหม พี่ฝิ่นพอรู้ว่าน้องแก้วโดนรุม
เต้นเป็นเจ้าเข้าเลยนะ ไหนบอกว่าไม่สนใจ
เล่นโทรไปหาคนนู้นคนนี้ให้ช่วย
ถ้าแก้วมันรู้ว่าฝิ่นเป็นห่วงขนาดนี้คงจะดีใจเน้อ ว่าแต่ตอนนี้น้องแก้วไม่มีบทพูดเลย
ตอนแรกว่าจะมองมิวในแง่ดีแหละ
แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าชะนีนางนี้มีสิทธิ์ทำให้ฝิ่นกับแก้วครอบครัวร้าวฉานได้
สรุปว่ามิวเป็นแฟนเป้ง เป็นแฟนพงษ์ด้วย
หรือสองคนเขาทะเลาะกันเรื่องนี่หว่า ลุ้นกันไปเรื่อยๆ
พี่ซีซั่นขยันจังเลย พรุ่งนี้จะมาต่อมั้ยหนอ รอค่ะรอ
-
ที่แท้ก็คบเพราะคำสั่งฝิ่นนี่เอง
ขอบคุณมากค๊า :pig4:
-
ชอบเรื่องนี้มากก แต่ไม่อยากให้ดราม่าอะค่ะ
สงสารแก้วว เรื่องนี้เราว่าหวานๆก็ได้นะ
เป็นกำลังใจให้เน้อ
-
+1 กรี๊ด ล่วงหน้าสำหรับตอนหน้า
ถึงขนาดขั้นต้องโทรเรียกรถน้ำตาลเลยหรอ อร๊ายยยยยย can't wait !!
ปล. ชะนีเรื่องนี้ท่าทางจะคันมาก :laugh:
-
ถ้าผู้ชายสองคนต้องมาฆ่ากันตายเพราะผู้หญิงอย่างมิวล่ะก็ เป้งเอ้ย ตายเปล่าแท้ๆ
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก้วเนี่ย มันเรื่องอะไรกันวุ้ย
จริงๆฝิ่นก็ห่วงแก้วนี่ แต่การกระทำ ปากกับใจตรงกันบ้างก็ได้ อ้อ ลืมไป บางทีความคิดของฝิ่นมันก็หลอกตัวเองเล้ย ไม่ห่วงเค้าเลย ไม่ห่วงเลยจริงจริ้ง แมมมมมมมมมมมมมมม๊
-
....มิว กวาดหนุ่มๆ หมดโรงเรียนหรือยังหว่า อ่อยไปเรื่อย
....ฝิ่น แม่ง ปากกับใจไม่ตรงกัน ขอให้ใจเน่า :laugh:
-
ผู้หญิงอย่างเธอแค่อยู่ใกล้พี่ก็เซ็กส์เสื่อมแล้ว คำนี้แรงได้ใจอ่ะ
กรื้ด ด ด ดฝื่นเท่มากคร้าา :impress2:
-
นังมิวนี่มาจากไหน? ไหงหล่อนมาชอบฝิ่นได้? แล้วไหงเป็นเมียเก่าพงษ์กับเป้ง โอ๊ยยย งง!
ไม่น่าเลยฝิ่น ใช้ผู้หญิงคนนี้อนาคตอาจจะเป็นงูเห่าแย้งมาทำร้ายฝิ่นกับแก้วก็เป็นได้
ส่วนฝิ่นคงซาดิสม์ละ ชอบเห็นคนอื่นเขามีแววตาเจ็บปวดรึไง
-
:laugh:
ีรักไม่รู้ตัว...ว่าแต่เกลียดยัยมิวจัง :beat:
-
เป็นห่วงเขาแต่ก็ทำเป็นปากแข็งนะ
-
กรี๊ดดดดดดดด ด...
ทุกคนดูเป็นห่วงเป็นใยแก้ว ชอบอ่าาาา น่าร๊ากกที่สวดดด ๕๕๕๕๕
แหม..ฝิ่น ทำเป็นปากแข็งนี่หว่า
กะจะแก้แค้นให้แก้วใช่มะ? แบบว่า อย่ามายุ่งกับผู้หญิง(?)ของอั๊วะ กร๊ากกกกกกก ก...
มิวดูกลายเป็นคนใช้เป็นเลย แต่ก็ดีละ คอยเป็นหูเป็นตาให้
หุหุ คิดจะเล่นกับพี่ฝิ่น แน่ใจเหรอน้องง..
แต่ก็นะ ชอบอ่าาา.. ฝิ่นแทนตัวเองว่าพี่.. น่ารักสวดๆ TvT
แอร๊ยย ดูเป็นผู้ชายไทย ใจแมนมากเลย(เนี่ยนะ?) ๕๕๕๕
ดูอบอุ่นง่ะ ชอบๆค่ะ
-
นังชะนีมิววว :z6: นี่แน่ะๆๆๆๆๆ :beat: :beat: :beat: :beat:
-
ฝิ่นหลอกคนอื่นหลอกได้ แต่หลอกใจตัวเองได้จริงหรอ ห่วงแก้วขนาดนั้น โซ่เท่นะเนี่ย ภูก็น่ารัก
-
ฝิ่นปากแข็งจริง
:m16:
-
:a5: รอครับ...สู้ๆ :man1:
-
เรื่องช่างวุ่นวายและยุ่งเหยิง
รอตอนหวานๆ
:call: :call: :call: :call: :call:
-
อ้าวว...ไม่ให้พี่ภูหลบหลังพี่โซ่.แล้วจะให้หลบข้างหลังใครอะ..55+
ชอบพี่โซ่จังเลยคะ..บอกให้พูดกันดีๆ.แต่ตอนแรกปล่อยให้แฟนตัวเองไปตบเค้าเฉยเลย.. :laugh:
-
มิวหน้าด้าน
-
เอ่อ ตกลงยัยมิวนี่แฟนใครกันแน่อะ(เห็นหลายใจเหลือเกิน)
ฝิ่นถ้าบอกตรวๆว่าเป็นห่วงแก้วคงจะดีใจมิใช่น้อยนะ o18
-
พี่ภูชนะเลิศ...
-
:L2: :L2: :L2:มาเป็นกำลังใจให้ครับ
-
ยัยมิวก็พอมีประโยชน์เหมือนกันนะ o12
-
เอรึว่า เป้งกะพงษ์จะแย่งมิวกัน เลยทะเลาะกันถึงปางตาย
หรือว่าแย่งแก้ว หว่า เห็นพงษ์พูดในตอนแรกกับแก้วว่า
ก็มันมาทำมึงก่อนอ่ะ 55+ งง กันต่อไป :seng2ped:
-
เอิ่มมม ช่วยหาผู้หญิงรุ่นๆ ดีๆ ซักคนมาใส่ในเรื่องหน่อยได้ไหมครับ รู้สึกแย่กับความคิดมิวจน เป็นห่วงนักเรียนผู้หญิงสมัยนี้เลยทีเดียว
-
ไม่รู้จะด่ามิวว่าไรดี :z6:
-
ยัยมิวน่ากลัวและน่าหมี่นไส้ได้อีก :m16:
นี่ขนาดยังไม่มีซัมติงรองกับฝิ่นยังตามแจขนาดนี้
แอบสงสารแก้วเจ็บตัวยังไม่พอ มาเจอนายฝิ่นแกล้งให้ปวดใจอีก
ชอบพี่โซ่อ่ะ เปิดเผยได้อีก :-[
นายฝิ่นก็ควรเอาเป็นแบบอย่างนะ
ควรจะรู้ใจตัวเองได้แล้ว ถ้าจะเป็นห่วงแก้วขนาดนี้
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๒
“อะไรวะ?” ฝิ่นเดินเข้ามาในบ้าน พี่ไม้นั่งดูโทรทัศน์โดดๆอยู่คนเดียว โซฟาตัวยาวมีไอ้โซ่นั่งเล่นมือถือติดกับไอ้เลื้อยภูที่กำลังเอาผ้าเช็ดมุมปากให้ไอ้แก้ว และเพื่อนมันอีกคนนั่งมองอย่างกับลุ้นอะไรอยู่ข้างๆกัน
ถามไปก็ไม่มีใครตอบ ...ฝิ่นถอนหายใจเสียงดังกะว่าทุกคนต้องได้ยิน แต่เฉย เขาจึงเดินไปยืนค้ำหัวพวกมันสามคนที่กำลังสุมหัวกันอยู่ ไอ้แก้วรีบก้มหน้าหลบตา ส่วนไอ้ภูช้อนตาขึ้นมาจิกใส่เขา...รู้สึกคันตีนกับไอ้นี่เหลือเกิน
“เอามานี่ ทำเอง” เขาแย่งผ้าประคบน้ำแข็งจากมือไอ้ภูและมองหน้ามันกลับ มันไม่ได้ยื้อไว้กลับปล่อยผ้าให้ง่ายๆ แต่ที่มันไม่ได้เข้าใจเลยคือเขาต้องการให้มันลุกออกจากตรงนี้ แต่ดันนั่งไขว่ห้างกอดอกเฉย เขาจึงเอาตีนเขี่ยขาอีกคนที่นั่งอยู่อีกข้าง ไอ้นี่ก็มองหน้าแต่ก็ขยับออกให้
“ไม่ต้องทำหรอก” ไอ้แก้วซึ่งยังก้มหน้าอยู่เอานิ้วแตะๆมุมปากตัวเองบอกเขา
“กูจะทำ” เขาจับมือมันมาวางตรงหน้าขาแล้วกดผ้าที่มุมปากแก้วเบาๆ ฝิ่นคิ้วขมวดพลางเม้มปากตัวเองไปด้วย ก็กะน้ำหนักไม่ถูกนี่หว่า แต่พอใจจะทำมีอะไรไหม? ทีพี่มึงทำได้ ทีกูทำบ้างดันมีปัญหา
“บั๊ดดี้เอาตามนี้แหละ มาอยู่กับเฮียถ้าเกิดมีเรื่องอีกทีกูจะได้จัดการได้” ไอ้คนข้างๆชะเง้อหน้ามาพูดกับไอ้แก้วโดยมีเขานั่งคั่นอยู่ตรงกลาง
“ใครวะ” ฝิ่นถามแก้ว
“เฮียโซ่น่ะ เฮียนี่อะ” เพื่อนมันชี้ไปที่ไอ้โซ่ เออ แล้วกูจะรู้ด้วยไหม
“แล้วทำไมต้องไปอยู่กับมัน”
“หมายถึงให้ย้ายสาย” ไอ้ภูบอก
ถึงกับต้องย้ายสายเลยเหรอ
“ยังจะมีเรื่องอีกเหรอ” ฝิ่นจับหน้าแก้วให้เงยขึ้นมาด้วยความรำคาญ เอาแต่ก้มหน้าเพื่ออะไรยังไงๆมึงก็มีความผิดอยู่ดีที่ไม่โทรมาบอกตามที่รับปากแถมยังไปโดนเล่นงานมาอีก
กะแค่รุ่นน้องยังปล่อยให้เขาซ้อมได้ ชีวิตมึงมีค่าอะไรบ้างไหมเนี่ย
“แต่...ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกน่าอีกเดี๋ยวก็จบแล้ว” แก้วพูดมองหน้าเขาแว๊บนึงก่อนจะเบนสายตาไปมองเพื่อนมันเต็มๆ “คือ เดี๋ยวเรียนจบก็ไม่เจอแล้ว”
“โหย มึงก็อย่างนี้ทุกที พี่ภูบอกมันหน่อยสิ นี่แสนเป็นห่วงมันนะท่าทางไม่น่าไว้ใจแล้วด้วย”
ฝิ่นเช็ดมุมปากทั้งสองข้างของแก้วแล้วมองไปยังจุดอื่นของร่างกายพลางยกแขนแก้วสองข้างขึ้นมามองหาร่องรอยเพิ่ม
นอกจากตรงไหล่มีรอยเลือดก็ไม่มีอะไรแล้วนี่หว่า
“อยู่ที่นั่นเหมือนเดิม มึงอย่าหนี คนที่ต้องหลบคือคนที่ทำมึง กูโทรบอกไอ้แชมป์ให้จัดการไอ้ดิวไปแล้ว”
“พี่ภู” ไอ้แก้วสะกิดแขนพี่มันเหมือนปรามไม่ให้พูด
“เกี่ยวอะไรกับไอ้ดิว” แต่เขาดันสะกิดหู
“รักมาก เกลียดมาก มึงรู้จักไหม ขี้อิจฉาอย่างไอ้ดิวถ้ามันไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน”
“ไอ้ดิวทำมึงเหรอ” เขาถามแก้ว
“เอ่อ...รุ่นน้องปีหนึ่ง” มันตอบตะกุกตะกักหรุบตาลงต่ำ
“มึงจะปัดความผิดพี่ดิวของมึงทั้งที่รู้อยู่แก่ใจเหรอวะแก้ว ถ้าไอ้ดิวไม่ปล่อยมึงคิดว่าเด็กมันจะกล้าปีนเกลียวไหม”
“หึ ตั้งใจปิดกูว่างั้น”
“ไม่ใช่อย่างนั้น เฮ้อ” ไม่ใช่ได้ยังไงนี่มึงกำลังปิดกูชัดๆ นึกว่าไอ้ดิวจะมองมึงฝ่ายเดียวแต่มึงก็อาลัยอาวรณ์มันเหมือนกันล่ะสิ เขาลุกพรวดทิ้งผ้าใส่โซฟา ไอ้แก้วแหงนมองทันควัน
“พี่ไม้ กลับกัน” ฉุนเว้ย ถ้าไม่ติดว่ามีคนนอกอยู่ด้วยคงได้โวยไปโต้งๆโดยไม่ต้องคิดว่าพวกมันจะสงสัยแล้ว
“รอโฆษณาเดี๋ยวสิ” พี่บอก แต่ตามองจอโทรทัศน์
“งั้นพี่ก็รอคนเดียวละกัน” อยากทึ้งหัวตัวเองโว้ย
“...ฝิ่น” ไอ้แก้วเรียกเสียงเบาแต่กลับกล้าดึงมือเขาไว้ เฮอะ
“มึงมีปัญหาอะไร?”
“อยู่...ด้วยกันก่อน”
“มึงกล้าขวางกูรึไง?”
“เปล่า...ไม่ใช่ ก็แค่...” ไอ้แก้วอ้ำอึ้งช้อนตามอง ..ฝิ่นเลยต้องหน้านิ่งนั่งลงที่เดิม คิดว่ามึงรั้งกูละกัน จะคอยดูซิยังมีอะไรที่มันกั๊กไว้อีก นี่ขนาดเขาพยายามอยู่กับมันให้มากที่สุดเพื่อจะได้รู้ทุกเรื่องราวของมัน ให้คนตามสืบประวัติก็แล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าและรู้จุดอ่อนของมันเพิ่มเลยนอกจากเรื่องไอ้เหี้ยพงษ์เรื่องเดียว ถึงเขาจะชอบมองตามันแต่ใช่ว่าเขาจะเดาได้ทุกเรื่องหรอกนะ คิดยังไงกับไอ้ดิว มันก็ไม่เคยตอบเขาให้เคลียร์เลย ...นั่งฟังไปก่อนก็ได้วะ
“โธ่ ทำเป็น” เสียงไอ้ภู
“ต่อนะ พี่แชมป์ก็จะได้เท่าไหร่เชียว ติดที่เกรงใจพี่ดีตามเคย” เพื่อนมันพูดต่อ
“ยังไงกูก็ไม่ยอมให้ใครรังแกไอ้แก้วแน่วันนี้มันเริ่มเล่นแรง ต่อไปมันจะทำอะไรอีกก็ไม่รู้ ถ้าไอ้พงษ์อยู่กูคงไม่ต้องมาห่วง คนที่อยู่ก็พึ่งอะไรไม่ได้ เซ็งโคตร ” ไม่ต้องมองมาทางกู กูไม่สนใจหรอกว่ามึงจะหลอกด่าอะไรกูอีก ปากจัดชะมัด “โซ่ โซ่”
“หืม?” ไอ้โซ่ก็ไม่ได้ต่างจากพี่ไม้เลย ตาจ้องจอมือถือแต่ยังทำเป็นคุยด้วยได้
“โซ่ช่วยคิดหน่อยสิจะทำยังไงให้ไอ้ดิวมันเลิกยุ่งกับน้องได้”
“โซ่คิดไม่ออกหรอกไม่ใช่เรื่องของโซ่”
“พูดอย่างนี้มึงจะมานั่งอยู่นี่ทำไมให้เกะกะ”
“รักอยู่ไหนโซ่ก็ต้องตามไปเฝ้าสิ แอ๊บนะเราน่ะ ฮะฮะ” มันเงยหน้ากระพริบตาปริบๆใส่ไอ้ภูแล้วยิ้ม
“พอเถอะเฮีย ผมอ๊วกจนใครๆคิดว่าท้องแล้วเนี่ย มันไม่ได้ดูน่าเอ็นดูอะไรเลย ถ้าเป็นพี่ภูเลี่ยนค่อยว่าน่ารักหน่อย”
กูก็จะอ๊วก นี่นะไอ้โซ่ประธานใหญ่โนT เหอๆ สายเขากับ๙Tไม่ใช่อริกันจังๆหรอกแต่ก็เคยเจอกันบ้าง ครึ้งนึงยังเคยถือสปาต้าไล่ฟันกันหน้าสน.เลย แต่เห็นไอ้โซ่สภาพนี้แล้วชวนคลื่นไส้จนเขาต้องส่ายหน้า ...ทำไปได้นะมึงน่ะ
.
.
.
“เป็นอะไรมากรึเปล่า” ไอ้โจ้ขับรถมาส่งตามที่เขาโทรบอกหลังจากพวก๙Tกลับไปหมดแล้ว
เรื่องนี้คงไม่ต้องถึงมือเขาเพราะไอ้แสนเพื่อนมันเป็นคนบอกจะจัดการเอง
ก็ดี...ไม่ได้อยากจะยุ่งสักเท่าไหร่หรอก
แต่ไอ้ดิวมันตัดไอ้แก้วได้เหรอวะ เร็วไปไหมกูไม่ได้ต้องการอย่างนี้สักหน่อย
“ไม่เป็นไรมากหรอก ขอบใจที่เป็นห่วง”
“ใครเขาห่วงมึงวะ” ฝิ่นพูดแทรกเมื่อไอ้แก้วตอบไอ้โจ้ที่เดินมายืนตรงหน้ามัน
“ไหนยืนขึ้นซิขอดูหน่อย” ไอ้โจ้พยักหน้าบอก
“เอ่อ เอ่อ ทำไม”
“จิ๊ พี่ฝิ่น” ไอ้แก้วมันทำตัวมีปัญหาด้วยการไม่ทำตามที่ไอ้โจ้บอก รุ่นน้องมันเลยเรียกให้เขาสั่งแทน
“นั่นดิ ลุกทำไม?” เขาท้าวเอวสองข้างมองหน้าไอ้โจ้
“มึงก็ยืนๆให้ไอ้โจ้มันดูหน่อยจะได้เห็นว่าเหมือนกับไอ้ฝิ่นซ้อมมึงเปี๊ยบ จะได้พอใจสักที”
“อะไรนะ” ฝิ่นหันมองพี่ไม้ซึ่งกำลังสนใจสารคดีสัตว์ป่าในหน้าจอโทรทัศน์แล้วหันมามองหน้าไอ้แก้ว
เขาจับไหล่มันสองข้างให้ลุกยืน แก้วมองหน้าเขาเหมือนกับรู้ตัวว่าทำผิด แต่ก็นั่นแหละ มันจะทำอะไรมากไปกว่ายืนเงียบให้เขาโมโหเล่นได้
รอยรองเท้ากลางท้อง
“ฮึ่ย!” ฝิ่นกัดฟันผลักแก้วให้ล้มลงไปนั่งที่เดิม “ทำไมมึงโง่อย่างนี้วะ”
กูรู้ว่ามึงอ่อนปวกเปียก รู้ว่ามึงสู้ไม่เป็น รู้ว่ามึงอะไรๆก็ยอมไปหมด แต่มึงไปยอมให้พวกนั้นทำร้ายตัวเองได้ยังไง
“องค์ลง พี่ไม้เรากลับกันเถอะพี่” ไอ้โจ้
“เดี๋ยวก่อนตัวอย่างตอนหน้าสิงโตจะตะปบลูกหมาแล้ว”
“พี่ไม้นั่นมันสัตว์ป่ามีลูกหมาที่ไหนห๊ะ” เขาเอ่ยเสียงเหวี่ยงใส่พี่
“ลูกหมาจิ้งจอกไง หึ”
“เอ่อ ผมชงเสร็จแล้ว หมดหน้าที่เราแล้วไปกันเถอะพี่ ยังไม่อยากโดนตะปบเองว่ะ”
“เฮ้ย เดี๋ยวกูดูไม่ทัน” พี่กูเกิดอยากจะงอแง ตั้งใจจะอยู่กวนกันให้ได้ใช่ไหม ใครจะอยู่ก็อยู่ ใครจะไปก็ไป แต่ตอนนี้เขาจ้องหน้าไอ้แก้วไม่วางตา จะทำยังไงกับมันถึงจะสมควรกับที่ทำให้เขาโกรธซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนี้
“ช่างมัน เดี๋ยวผมออกตังค์ซื้อแผ่นไปไว้ให้พี่ดูที่บ้าน จบนะ ไปกันเถอะไอ้โจ้ไหว้ละ”
“หึ มึงก็ไหว้กูปกติอยู่แล้วโจ้เอ้ย”
“ครับพี่ครับ” ไอ้โจ้ยกมือไหว้พี่แล้วดึงแขนพี่ไม้ออกจากบ้าน ทำให้เหลือกันอยู่สองคน ไอ้ที่นั่งอยู่ก็ก้มๆเงยๆยังกับทำตัวไม่ถูก แต่เขานี่สิ โคตรจะทำตัวไม่ถูก โมโห โมโหมากๆ ว่าแล้วก็คว้าหมอนอิงโยนใส่หน้าแม่งไปที
“เจ็บมากไหม!” เขาถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ โดนชกเหมือนที่กูชกมึง โดนถีบเหมือนที่กูถีบน่ะ
“สบายมาก มากกว่านี้ก็เจอมาแล้ว”
“นี่มึงว่ากูเหรอ”
“เฮ้อ ไม่ได้หมายความอย่างนั้น” แก้วลุกยืนมองหน้าเขานิ่งก่อนจะซบหน้าเข้ากับอกเขา “มันก็เจ็บนะ แต่ก็เจ็บไม่มาก เท่ากับ...”
ฝิ่นถอนหายใจกับการกระทำของแก้ว
“เท่ากับ?”
“เท่ากับมึงเขวี้ยงหมอนใส่กูเมื่อกี้”
“นี่มึง! เดี๋ยวนี้มึงกล้าว่ากูเหรอ”
“อย่าเพิ่งผลักเลยนะ” เฮ้ย มีสั่งกูด้วย ถึงจะสั่งด้วยน้ำเสียงสั่นเบาก็เถอะแถมโอบแขนกอดเขาไว้อีก “...ก็ถ้าไม่พูดมึงก็จะว่ากูอีก” ก็เลยหลอกด่ากูเนี่ยนะ ติดมาจากไอ้เลื้อยรึไง
“พอเถอะ มึงไม่ต้องทำเป็นออเซาะหรอก”
“กูไม่เป็นไรถ้าใครจะซ้อมกู เพราะกูไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนอื่น แต่กับมึง...แค่มึงมองกูตาขวางก็รู้สึกไม่ดีแล้ว...เพราะ”
“พูดให้จบ” เขาคว้าข้อมือทั้งสองข้างของแก้วมาจับไว้
“...เพราะมึงสำคัญ” แก้วเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาระยิบระยับ
แรกๆไม่ทันตั้งหลักก็ตกใจที่มันชอบเข้าถึงตัว ขอแค่ให้ได้สัมผัสนิดๆหน่อยมันก็ทำหน้าระรื่นได้แล้ว
แต่เขาเพิ่งจะเข้าใจว่ามันคือวิธีปลอบตัวเองของไอ้แก้ว
มันอยากทำเขาก็ปล่อยให้มันทำ ทำให้สบายใจไปเถอะ ถือว่าเลี้ยงใจมันไปละกัน
“หึ จดจำคำของมึงไว้ให้ดีนะ” เพราะสิ่งที่กูต้องการก็คือเป็นที่สุดในชีวิตมึง มากกว่าคนสำคัญ
ปล่อยข้อมือแก้วให้เป็นอิสระ แล้วเดินไปนั่งโซฟา ไม่ต้องสะกดคำว่ารอไอ้แก้วก็เดินเข้ามาหาหากแต่เขาไม่ปล่อยให้มันนั่งข้างๆกลับฉุดมือพร้อมคว้าเอวมันลงมานั่งตัก
“ฝิ่น”
“เดี๋ยวเป่าให้ มึงจะได้หายเร็วๆถูกไหม” กูไม่ให้มึงตายง่ายๆหรอก เพราะกูต้องใช้มึงอีกนาน
ฝิ่นแกะกระดุมเสื้อนักเรียนแก้วทีละเม็ดจนเผยให้เห็นรอยช้ำตรงหน้าท้องเต็มตา
“เหี้ยเอ้ย” เขากัดฟันสบถเบาๆพยายามระงับอารมณ์คุกรุ่นที่กำลังก่อตัวอีกครั้งพลันเบนความสนใจไปที่ริมฝีปากมันแทน “เจ็บก็บอก” ฝิ่นแตะนิ้วเบาๆตรงมุมปากเป็นแผล
“...........” มันส่ายหน้า “ชอบ” สองมือโอบรอบคอแล้วซุกหน้าเข้าที่ไหล่เขา
“หืม?”
“ชอบให้มึงกอด ฮึก ฮึก”
“สะอื้นทำไม”
“เปล่า ฮึก”
“หึ” เขาเบี่ยงไหล่ออกจากใบหน้าแก้วแล้วแตะริมฝีปากที่หน้าผากคนที่กำลังสะอื้นอย่างไม่มีเหตุผล ยิ้มน้อยๆกับอาการเม้มปากกันเสียงสะอื้นไม่ยอมให้เขาได้ยินแต่หลักฐานคลอเต็มเบ้าตา
สภาพอย่างนี้ไม่เจ็บก็เนื้อหนังด้านชาเกินไปแล้ว
ฝิ่นแตะริมฝีปากชนกับปากแก้วครู่เดียวเดี๋ยวมันเจ็บ
การเจ็บตัวของมึงมันทำให้กูลังเล อาจเพราะ...กูต้องมีสิทธิ์ในตัวมึงคนเดียวเท่านั้นไม่ใช่ใครจะทำอะไรกับมึงก็ได้
หรือลังเลเพราะ...
ไม่ กูต้องไม่ลังเล!
...........................................
จะอัพตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่สัญญาณเน็ตหายทุกทีเมื่อเด็กอยู่เต็มบ้าน Y^Y
แล้วก็...รถน้ำตาลไม่ได้คว่ำกลางทางใช่ไหม? ...คนเขียนรู้สึกคล้ายกับ :z6:
ชอบเรื่องนี้มากก แต่ไม่อยากให้ดราม่าอะค่ะ
สงสารแก้วว เรื่องนี้เราว่าหวานๆก็ได้นะ
เป็นกำลังใจให้เน้อ
...ซีซั่นคิดว่าตัวเองเขียนแนวกุ๊กกิ๊ก หวานๆ ไม่ถนัดอะค่ะ (เห็นได้จากที่แล้วๆมา) นิยายทุกเรื่องมันก็มีสุขเศร้าเหงากระอักเลือดนะเราว่า ดราม่าเรื่องนี้เป็นเพราะหนักเรื่องชกต่อย ทำร้ายจิตใจมากไปรึเปล่าเลยดูดราม่าละมั้ง แต่ซีซั่นคิดว่าเราไม่ได้เขียนให้มันจมความโศกทั้งเรื่องนะ จากที่วางเรื่องไว้แต่แรกจนถึงตอนนี้ เราลดอาวุธลดพฤติกรรมของเด็กช่างไปบ้างแล้ว เพราะกลัวว่าจะหนักไปนี่แหละค่ะ คนอ่านอย่าคิดว่ามันดราม่าตามที่ห้อยท้ายชื่อเรื่องเลยนะคะ พล็อตมันก็วนเวียนตามแนวนิยายทั่วไปนั่นแหละ คนเขียนอยากแชร์จินตนาการ ซึ่งจินตนาการแต่ละคนมันก็แตกไปได้หลายทางน่ะค่ะ จริงๆมันก็หวานได้ก็ถูกค่ะ(แต่ไม่ใช่ตอนนี้)แต่ที่ออกมาอย่างนี้เพราะคิดว่าตัวเองสนุกที่จะเขียน ลองแล้วมันใช่แฮะ เราว่านิยายจะถ่ายทอดออกมาได้ดีก็ตรงที่มันใกล้เคียงกับคนเขียนนี่แหละ และเราไม่ได้สงสารแก้วด้วย แอร๊ยยย ใครตบเค้า :กอด1:กอดสำหรับกำลังใจจ้า
เอิ่มมม ช่วยหาผู้หญิงรุ่นๆ ดีๆ ซักคนมาใส่ในเรื่องหน่อยได้ไหมครับ รู้สึกแย่กับความคิดมิวจน เป็นห่วงนักเรียนผู้หญิงสมัยนี้เลยทีเดียว
...ผู้หญิงดีๆในเรื่องคงเหลือแต่แม่ฝิ่นกับแม่ไม้ละค่ะ :jul3:
คนอ่านติติงได้เลยนะคะไม่ต้องคิดว่าคนเขียนจะท้อจะไม่พอใจรึเปล่าซีซั่นรับได้ทุกอย่าง (จริงๆอยากจะรุกบ้าง เฮ้อ...)
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ ^^ กอดๆจุ๊บๆ
-
ชิชะไม่ลังเลจะคอยดู. ถ้าพงษ์กลับมาระวังจะเสียแก้วไปนะคอยดูเถอะ
-
:beat: :z6: ไอ้ฝิ่นผู้ชายปากแข็ง ซึนเดเระ
-
หลอกใครก็หลอกไปเห๊อะ แต่จะหลอกตัวเองได้นานแค่ไหนกันว้า ไอ้ฝิ่น :เฮ้อ:
-
ทำเป็นหลอกใจตัวเองนะฝิ่น วันไหนที่เสียแก้วไปจะรู้สึก
-
หน้าตาหลังจากอ่านจบ o18
คือแบบว่า ให้ตายเถอะ อีพี่ฝิ่นเว่อร์ชั่นผีออก
อบอุ่นจนน้องแก้วร้อนกันเลยทีเดียว 5555
ฮา พี่โซ่มากอ่ะ คือ ตั้งแต่ตอนพิเศษแล้ว
ที่อาเฮียเขาเสี่ยวใส่เมียตัวเอง นึกภาพแบบ
เด็กช่างหน้าดุๆ ตัวโตๆ ส่งยิ้มอ้อนเมีย
มันน่ารักอ่ะ แต่คือ มันน่ารักแบบแปลกๆ
ถึงคนอื่นจะรับไม่ได้ แต่เขารับพี่โ่ซ่ได้นะ :laugh:
พี่ฝิ่นจร้า้น้องแก้วเจ็บขนาดนี้ ไปเอาคืนเถอะ
เอาให้พี่ดิวสำนึกซะหน่อย รักแบบพี่ดิวเนี่ย
มันโคตรเห็นแก่ตัวเลย ตัวเองไม่ได้ึคนอื่นก็ไม่ได้
แต่่คือแบบทำไมต้องลงที่แก้วด้วยหล่ะ
แก้วไม่ผิดนะ แก้วพี่สิทธิ์ที่จะรักใครก็ได้
พอแก้วไม่รักตัวเองก็โกรธ มันน่านัก ฮึ้ยยยย
พอแหละ ใส่อารมณ์กับพี่ดิวมากไป
กลับมาหวานกับพี่ฝิ่นน้องแก้วดีกว่า
ดูเหมือนว่าแก้วจะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าฝิ่นแล้วนะ
ปกติก็แค่กับพงษ์ใช่มั้ยหล่ะ ส่วนต่อหน้าคนอื่นเนี่ยชอบทำเป็นเฉยชา
แสดงว่าตอนนี้ถือว่าฝิ่นมีความสำคัญกับแก้วพอๆกับพงษ์เลย
แต่ประเด็นคือพี่ฝิ่นอยากได้มากกว่านั้น มากกว่านั้นนี้คืออะไ
ตัวก็ได้แล้ว หัวใจก็ได้แล้ว นายจะเอาอะไรอีกนาย
เมื่อวานเข้ามาดูเห็นยังไม่อัพ ลองเข้าอีกทีตอนเช้าอัพพอดีเลย
แอบอู้งานมาอ่าน หุหุ :z2: รอตอนต่อไปอยู่นะคะ พี่ซีซั่นสู้ๆ :กอด1:
-
ปากแข็งไปเถอะพี่ฝิ่น
ไม่รักไม่ห่วง จะโมโหไปทำไม ชิ
พี่โซ่ พี่ภู โผล่นิดเดียว ก็หวานเรี่ยราดได้อีก
-
คนเขียนกั๊กอะ จะปล่อยความหวานของคู่นี้มาทั้งทีก็มาแบบกั๊กๆ ให้คนอ่านได้เห็นได้รู้แบบนิดๆ หน่อยๆ ซะงั้น ชิชิ
แต่แหมมมมมมม......ไอ้สองคนนี้มันก็ก้าวหน้าไปไกลมากจริงๆ ทำอย่างกับเป็นคนรักกันเลยแฮะ
รู้สึกได้ว่าการแตะเนื้อต้องตัวหรือการสัมผัสของคนคู่นี้ มันดูเป็นเรื่องที่เป็นปกติของทั้งคู่
ยิ่งเวลาอยู่ด้วยกันสองคนด้วยแล้ว น้องแก้วเธอแทบไม่เหลือฟอร์มอะไรเลย แตะได้เป็นแตะ โอบได้เป็นโอบ กอดได้เป็นกอด
แม้จะไม่ได้ทำตัวเป็นแมวขี้อ้อนเอาหัวถูๆ ดูแอบแบ๊วน่ารัก แต่ก็เชื่อได้ว่าสิ่งที่แก้วทำกับฝิ่นนั้นแก้วไม่เคยทำกับใครมาก่อนแน่ๆ แม้แต่กับพงษ์ก็ตาม
แก้วมันรับฝิ่นเข้ามาเป็นคนสำคัญคนหนึ่งของชีวิตมันแล้ว แต่จะสำคัญกว่าคนสำคัญอย่างพงษ์หรือไม่ ตัวแก้วเองก็คงตอบได้ยาก แต่ถ้าให้เดา เราว่าพงษ์ก็ยังมาเป็นอันดับหนึ่ง
เพราะแม้แก้วจะยกให้คนทั้งคู่เป็นคนสำคัญ จากการที่คิดว่าตัวเองได้รับในสิ่งที่ตัวเองต้องการจากพงษ์และฝิ่น นั่นคือความอบอุ่น ความรู้สึกปลอดภัย
แต่สิ่งที่ฝิ่นยังไม่ได้ให้แก้วและยังทำให้แก้วรู้สึกไม่ได้ แต่แก้วรับรู้ได้จากพงษ์ ก็คือ...การได้เป็นคนสำคัญของคนสำคัญ..นั่นเอง
แกยังต้องแสดงอะไรออกมามากกว่านี้นะอิคุณฝุ่น ถ้าแกคิดจะแย่งความเป็นคนสำคัญมาจากพงษ์จริงๆ ตามแผนของแกอะนะ
จะว่าไปคนอ่านก็สับสนอีกหลายเรื่องแฮะ ฝิ่นมันคิดว่า "แต่ไอ้ดิวมันตัดไอ้แก้วได้เหรอวะ เร็วไปไหมกูไม่ได้ต้องการอย่างนี้สักหน่อย"
แสดงว่ามันก็ยังเอาดิวมาเกี่ยวด้วยอีกเหรอ มันแค้นอะไรไอ้พี่ดิววะ นึกว่าจะเล่นแต่พงษ์ซะอีก
ก็จำได้นะว่าฝิ่นมันโกรธดิวด้วยที่ไม่ให้ความร่วมมือตอนที่หาตัวพงษ์ แต่ทำไมฝิ่นมันต้องเอาดิวมาเกี่ยวด้วยฟะ
เอ...หรือว่าจะแค้นเรื่องดิวให้ลูกน้องมาทำร้ายเมื่อคราวก่อน
เฮ้อ....ช่างมันเต๊อะ รออ่านต่อดีกว่า
ส่วนเรื่องความรู้สึกของฝิ่นตอนนี้...เหอๆๆๆ ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ สงสัยแกจะขึ้นจากหลุมพรางที่แกขุดไว้ได้ยากแล้วว่ะ
จำคำเตือนของพี่ไม้ให้ดีแล้วกัน งานนี้ถ้าแกยังดื้อทำต่อ แกก็เจ็บไม่แพ้กันหรอกวะ
กรี๊ดดดดดดดดดด ให้กับคุณพี่โซ่ พี่เท่มากกกกกกกกกกก น่ารักมากกกกกกกกกกก
อิจฉาพี่ภู อิจฉาพี่ภู (ดิ้นๆๆๆๆๆๆๆ 5555)
พี่ไม้ก็มุกกระจาย มุกแบบเงียบๆ โคตรน่ารักอะพี่ หายเศร้าไวๆ เน้อ จะได้เอาความน่ารักไปให้คนอื่นได้เชยชมบ้าง (แต่คาดว่าพี่คงสติลเศร้าอีกนาน เฮ้ออออ)
โจ้เอ๊ย...ชงบ่อยๆ นะ คนอ่านชอบ อิอิ
-
แอบหวานเบาเบา :-[ :-[
ฝิ่นนี้ก็ปากไม่ตรงกับใจ ความคิดสับสนวุ่นวายตลอด
อารมณ์ด่า แต่ว่าก็เป็นห่วง ในใจก็แอบหวงแก้วใช่ไหมหละ
ฮาพี่โซ่เลี่ยนได้อีก หมดมาดเลยจ้า :laugh:
พี่ไม้ก็ดันมาอยากดูสารคดีสัตว์โลกอะไรตอนนี้ ฮาได้อีก
-
มาอีกไวไวนะครับ
-
อร๊ากกก..........ฝิ่นเริ่มสับสน อิอิ ชอบๆทรมานละเส่ ><
แก้วก้อน้อยั่วจิงอารายจิง อิอิ น่ารักๆ
อย่าลืมมาต่ออีกนะค๊าฟฟ
รอรอน้า วันละนิดวันละหน่อยก้อกระชุ่มกระชวย :bye2: :bye2:
-
ปล่อยให้ผีออกไปนานๆก่อนนะ อย่าเพิ่งให้ผีกลับมาเข้าฝิ่นนะจ๊ะ
ฝิ่นเวอร์ชั่นผีออกน่ารักดี แก้วก็แอบหวานเบาๆ ชอบๆ น่ารักดี :กอด1:
พี่ไม้กวนตรีนว่ะ o18 แต่พี่โซ่หยอดเมียได้โคตรเสี่ยวมาก :laugh:
-
คู่หลักนี่ฝิ่นกุ๊กกิ๊กมากขึ้นแล้วนะ มีเช็ดแผลให้ ดูแผลที่ท้องให้
มีไม่พอใจที่แก้วโดนคนอื่นทำร้าย(แก้วอ่ะ ฝิ่นทำร้ายได้คนเดียวใช่ป่ะ o18)
แก้วเองก็งุ้งงิ้งน่าเอ็นดูเชียวน้า :-[
คู่ภู-โซ่ นี่กุ๊กกิ๊กแบบเป็นธรรมชาติ แต่งกันมานานแล้วไรงี้ :give2: คนอ่านเลยได้น้ำตาลบ้างจากคู่นี้
พี่ไม้มีแย่งซีนแบบกวนๆ เอาอีกพี่เอาอีก :laugh:
-
อยากอ่านฉากหวิวหวานๆของผิ่นแก้วจังเลย ><
เื่อไหร่พงษ์จะกลับสักที
อยากรู้เรื่องมิวด้วย ว่าเกี่ยวข้องอะไรกับฝิ่น
ปล.นานวันรู้สึกว่าฝิ่นยิ่งซึน ฮาาาาาา
-
รัก...........คนเขียน
...............อ่านแล้วมีความสุขครับ...............
..........................รอตอนต่อไปครับ........................
-
ตอนนี้แอบหวานอ่ะ ชอบตอนที่แก้วซุกหน้าลงกับอกฝิ่น อ๊ากกก อ่านแล้วเขิน
-
จ้า จ้า เค้ารู้กันหมดแล้วล่ะจ้าว่าตัวเองนะไม่ลังเลเล้ยยยยยยยยย แหม๊ :laugh: :laugh:
แก้วเจ็บตัวคราวนี้ เพราะพี่ดิวจริงๆ ด้วย ฮึ :fire:
บทนี้พี่ไม้ตลกอ้ะ ตะปบลูกหมา โจ้กลัวโดนตะปบเอง
แก้ว นิดหน่อยๆ ก็ดีใจแล้วเหรอ ฝิ่นเค้าหาว่าแก้วเราฉวยโอกาส :o8:
-
รู้สึกว่าตอนนี้ฝิ่นมันน่ารักนะนี่ :z1:
-
ลูกแก้ง แกเป็น มาโว หรอกเระอะ อร๊ายยยยย ได้ทีอ้อนฝิ่นใหญ่เลยอ่ะ แมเดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยแคร์สื่อซะด้วย อิฝิ่นก็เหมือนกัน ที่ลังเลเนี่ย ไม่ยอมรับความจริงล่ะซิ ไอ้ปากไม่ตรงกับใจเอ้ย
-
เอิ่มมมม
บอกตรงๆ ว่ารำคาญคนแบบฝิ่นมากกกกกกกกกกก เลยค่ะ
-
ลังเลก็บอกมาดิวะ
แหม่ๆๆๆๆ ซึน!
-
เบื่อฝิ่นมันจริงๆเลย
-
จ้าาา ขอบคุณที่ตอบเม้นท์เน้อ
ก็...เขียนตามใจเลยค่า ไม่ได้ว่าไรหรอก แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองอ่านไปร้องไห้ไปอ่า (คือประมาณอารมณ์อ่อนไหวไง)
ส่วนเรื่องพฤติกรรมเด็กช่าง?? เราก็รับได้นะ มันก็ต้องมีบ้าง ตีรันฟันแทง อะไรเงี้ยยยย
อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้เรา..อืม จะว่าไงดีหละ?? ก็จินตนาการตามนะ เพราะว่าโดยส่วนตัวเราไม่ค่อยรู้ความคิดหรือการ
กระทำของเด็กช่างเท่าไร?? ดีค่ะ...ชอบๆๆๆ เป็นกำลังใจให้จ้าาา
-
เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองซักทีเน้อฝิ่นเอ๊ยฝิ่น
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
^^
-
:z3: :z3: :z3:จะรุกอะไรหรือ งง หรือให้แก้วรุก โอ้ววววม่ายนะไม่ดีแน่ๆ
-
เหมือนจะหวานนิดๆ อยากให้น้องแก้วอ้อนอีกเยอะๆ ฝิ่นจะได้ใจอ่อนซะที
-
:3123:
-
ตอนนี้หวาน แต่ก็หวานแบบเ็จ็บๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ
สงสารแก้ว เพราะแก้วไม่สู้คนเลยยอมโดนถึงขนาดนี้
ส่วนฝิ่น ก็อบอุ่นขึ้นกว่าเดิม ยังปลอบใจ ยังกลัวว่าแก้วจะเจ็บ
แต่ก็อย่างที่แก้วบอก โดนคนอื่นทำร้ายสักแค่ไหนก็ยังไม่เจ็บเท่าที่ฝิ่นปาหมอนนุ่มๆ ใส่
อันนั้นมันเจ็บที่ใจต่างหาก ร่างกายน่ะอีกไม่นานก็หาย
+1 ให้คนเขียนนะคะ ชอบแบบนี้ :z2:
-
:pig4:
-
โอ๊ยย ย อิฝิ่นนะอิฝิ่น ปากแข็ง กลบเกลื่อนใจตัวเองอยู่นั่นแหละ..
รีบๆยอมรับซักทีเถอะ แต่ก็กลัวว่าวันที่มันรู้ใจตัวเองแล้ว มันจะเป็นบ้าอ่ะดิ่ =_=;;
แล้วกรรมก็จะไปตกอยู่ที่แก้ว เฮ้อ...
น่าสงสารจริงอะไรจริง
แต่ก็นะ ๕๕๕๕๕ แก้ว แกช่าง..
แรดดีจริงๆ กร๊ากกกกก ก.. แต่ก็ชอบอ่ะ น่าร๊ากกกกกกก ก
-
+1 ให้จ้า
ฝิ่นเอ้ย ใจแข็งไปเปล่า :z3:
รักแก้ว แต่ทำเป็นไม่สนใจอะ เดี๋ยวแก้วงอนไปรักคนอื่นป้าไม่ปลอบนะ :z2:
รอจ้า :call:
-
ฝิ่น ถ้าจะรักแก้วก็ไม่มีใครเค้าว่าอะไรหรอกนะ
-
อิฝิ่นนน อิคนปากไม่ตรงกับใจ :beat: :beat:
-
มันหวานอมขมนิดๆนะแบบนี้
ขอบคุณมากค๊าา :กอด1:
-
ชอบอันนี้มากๆคะ..
'' คนที่อยู่ก็พึ่งอะไรไม่ได้ เซ็งโคตร ” ...
ขออีกอะพี่ภู..ขออีก...พี่ด่าได้ตรงมากเลย...55+
-
ต่างคนต่างรักกันน่ะนะ :กอด1:
-
ฝิ่นอย่าซึนให้มากนะ
เดี๋ยวโดนคนอ่านโบก ฮ่าๆๆๆ
-
ฝิ่นรู้สึกจะสับสนในความคิดตัวเองน่าดูเลยนะนั่น
-
...นี่ก็เริ่มหวานๆๆ กันแล้วละน้องคนแต่ง พอแล้วฝิ่นก็ดูอ่อนลงมามากๆๆแล้ว ตอนนี้แก้วเริ่มอ้อนฝิ่นแล้วนะ
...พอแล้ว หวานมากเดี๋ยวจะผิดกติกา ของ....เด็กช่างงงงงง :laugh:
-
ชอบอ่ะพวกปากแข็งใจแข็งเนี่ย อิอิ
-
ฝื่นอย่ามาปากแข็งเลยนะเออ
ตอนนี้แอบหวานนะ โอ้ย เขิน :-[
-
ไอ่เด็กพวกนี้ มันคิดอะไรดีๆ กันมั่งได้ไหม
คิดถึงอนาคตกันบ้างหรือเปล่า
วันๆ วนเวียนแต่จะตีกัน
สรุปคือสงสารแก้ว
และสงสัยว่า ฝิ่นจะรักแก้วหรือเปล่า หรือแค่หลอกใช้ไปวันๆ
หรือจะทำให้เจ็บช้ำเพื่อรอวันแก้แค้นพงษ์
-
ดิวยังไม่รู้ความตริงอีกหรอจ๊ะเนี่ย เห้อ
ฝิ่นแมร่งน่ารักว่ะ !!!
-
รอพงษ์กลับมาเชือดใจฝิ่น
-
แก้วคงไม่รู้หรอกว่าฝิ่นห่วงแก้วมากเพราะอิฝิ่นมันปากแข็ง ปากไม่ตรงกับใจ แถมชอบพูดจากระชากๆเสียงห้วนๆด้วย แง่งๆ กลายเป็นแก้วต้องรู้สึกแย่ ขณะที่ฝิ่นก็ ..เปล่าห่วง แค่กลัวมันตายก่อน(เร้อ? 555)
ก็นะ ต่างคนต่างมีอะไรในใจ
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่นะคะ ^3^
ปอลิง กรี๊ดกร๊าดโซ่ภู กะพี่ไม้ ><
-
ฝิ่นกับแก้วหวานกันแล้วใช่ไหมเนี่ย อ่านไปก็งงๆ หวานแบบหน่วงๆ
ชอบพี่ไม้ น่าสงสารมาก อยากให้มีใครสักคนมาดามหัวใจพี่แกหน่อย
พี่โว่กับพี่ภู สวีทมากชอบ
:L2:
-
อ้อนเยอะๆเลยหนูแก้ว..พี่ฝิ่นจะได้ใจอ่อนสะที :z1: :z1:
-
แค่แก้วอ้อนนิดอ้อนหน่อย ....ก็ไปไม่เป็นแล้ว
ฝิ่นเอ้ยยย งานนี้ไม่รู้ใครจะเสร็จใครกันแน่
รู้ตัวได้บ้างแล้วเหอะพ่อคุ๊ณณณ
+1 จ้า อ่านตอนนี้มีความสุข ยิ้มไม่หุบเลยอ๊ะ
-
อ้ายฝิ่นหลอกเค้าให้รักใจก็คิดหาแต่จะแก้แค้น แมร่งเอ้ย :angry2: :angry2:
ซักวันต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ต้องเลือกระหว่างรักกับแค้นชั้นจะไม่สงสารแกอ้ายฝิ่น
-
ลังเล ซักทีเถอะพี่
จะได้ happy happy ซักที
:m16: :m16: :m16: :m16:
-
มารอออออ :z2: :z2:
-
:pig2:
-
เเค่ตอนนี้เท่านั้น ที่เพิ่งเห็นว่าหวานๆจริง บันไซ ซซซ :z3: :z3: :z3:
ฮูเรๆ ฝิ่นเริ่มเเล้วงุงิ เริ่มที่จะเห็นเเก้วสำคัญเเล้ว
ต่อๆๆๆๆ เรื่องนี้ ถึงจะดราม่าก็ติดตาม
มันเป็นอะไรที่พูดยาก พูดได้ว่า มาต่อเร็วๆนะคร้าบ บบบ :กอด1:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๓
“ไปไหน?” คำถามถูกส่งมาพร้อมกับข้อมือถูกจับไว้จากคนที่ยังนอนหลับตาเมื่อเขาจะลุกออกจากเตียง
“อาบน้ำไปทำงาน” แก้วก้มไปบอก
“สารรูปอย่างนี้นี่นะ” ฝิ่นลุกขึ้นนั่งตาปรือเล็กน้อยจับใบหน้าเขาหันซ้าย-ขวา
แก้วย่นคิ้วเล็กน้อย อมยิ้ม... ก็สารรูปอย่างนี้นี่แหละ แค่รอยแผลเล็กๆและรอยช้ำตรงมุมปากนิดหน่อยคงไม่โดนพ่อมันว่าเสียๆหายๆไปมากกว่าเดิมหรอก
“กูอุตส่าห์ยอมค้างบ้านมึงเพื่อให้ตอนเช้ามึงกลับไปโดนพ่อบ่นอีกเนี่ยนะ”
“...แล้วจะให้ทำยังไง”
“นอนต่อ”
“หา?”
“จากที่มึงอ่อนด้อยในสายตาพ่อกูอยู่แล้วขืนเอาหน้าอย่างนี้ไปให้เขาเห็นอีก คราวนี้พ่อได้จับมึงสวมนวมแน่”
“จะสอนมวยเหรอ” แก้วตาโตด้วยความตื่นเต้นดีใจเพราะเคยพลาดจากพงษ์มาแล้วเรื่องนี้แต่วันนี้เขาเริ่มมีความหวังขึ้นมาใหม่ คราวนี้ล่ะเขาจะได้ไม่ต้องแสร้งทำเป็นเก่งอีกต่อไป แต่เขาจะเก่งให้ทุกคนได้เห็นจริงๆ
“นอน!” แต่ฝิ่นกลับตัดบทด้วยการล็อกคอเขาล้มลงไปตามกัน
มันนอนคว่ำหันหน้าไปทางอื่นแต่มือยังก่ายคอเขาซึ่งนอนหงายท้องจากฝีมือมันเมื่อกี้
ท่าทีอย่างนี้หมายความว่าไม่ใช่อย่างที่เขาคิดอีกแล้วใช่ไหม เฮ้อ...
“แต่...โดดงานอย่างนี้จะดีเหรอ” แก้วเหล่ตาไปทางฝิ่นพลางจับยกแขนมันไปวางแถวหน้าท้องแทน
“อืม”
“แต่...”
“เดี๋ยวไอ้โจ้แถเอง” แต่เขาเกรงใจพ่อมันนี่นา
“ฝิ่น”
“หืม?”
“มึงไม่ไปเรียนเหรอ” เป็นอันเข้าใจแล้วว่ามันไม่ให้เขาไปทำงาน แต่มันล่ะ นี่ก็หกโมงครึ่งแล้วยังไม่ลุกจากที่นอนอีก
“อืม”
“เฮ้ย อุ๊บ” พลิกตัวหันหน้าไปหาฝิ่นจะค้านว่าไม่ต้องโดดเรียนมาเฝ้าก็ได้ เขาไม่ได้เป็นอะไรมากและไม่ได้คิดจะไปไหนไกลหูไกลตามันเลย แต่เป็นจังหวะเดียวกับมันหันหน้ามาพอดีเขาจึงเอ่ยได้เพียงคำเดียวก่อนที่ปากจะถูกปิดซะก่อน
ไม่ใช่ว่าหันไปปุ๊บแล้วปากจะชนกันโดยบังเอิญเหมือนละครไทยเพราะฝิ่นยังทันได้มองเห็นเขาก่อนแล้ว
แต่นี่...ฝิ่นมันตั้งใจเอาปากมาแตะกับริมฝีปากเขาชัดๆ
ไม่ใช่ปากแตะปากเหมือนเมื่อวานตอนเย็นหากแต่ฝิ่นยังส่งลิ้นอุ่นๆเข้ามาเกี่ยวลิ้นเขาให้พันพัวไปตามอารมณ์เมื่อถูกเชิญชวนเข้าให้
“กวนกูแต่เช้า” มองคล้ายตำหนิเขาอยู่เนือยๆ มือหนาข้างที่วางอยู่ตรงเอวก็แทรกเข้าไปใต้เสื้อตัวที่เขาสวมใส่พลางลูบไล้สะโพกเขาเล่นอยู่อย่างนั้น “เจ็บรึเปล่า” มืออีกข้างเอื้อมมาจากเหนือศีรษะวางเบาๆตรงริมฝีปากจนเขาแทบไม่รู้สึกว่ามันแตะแล้ว
“ห..หายแล้ว” แก้วตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เป็นรอบที่เท่าไหร่ที่มันถามแล้วเนี่ย ถามว่า...เจ็บรึเปล่า... เจ็บสิถามได้ แต่มันเป็นคำถามที่คนได้ฟังแทบจะหายเป็นปลิดทิ้งไปเลย
“หึ เคยมีคนนึงมันรักการได้เสียเลือดมาก ได้แผลกลับมาวันละหลายแผล มันก็บอกไม่เจ็บๆอย่างนี้นี่แหละ แต่มึง มึงไม่ได้สันทัดเรื่องอย่างนี้เลย ถ้ามึงบอกว่าเจ็บกูก็ไม่ว่าอะไรมึงหรอก แค่มึงบอกมา ความรู้สึกของมึง”
ฝิ่นผละมือออกจากสะโพกพลิกดันตัวเขาให้นอนหงายพลันขึ้นคร่อมตามกันพร้อมกับจ้องตาเขาด้วยแววตาหวั่นวิตก เขารับรู้อย่างนั้น
“ก็เจ็บแต่เดี๋ยวก็หายเอง”
“หึ อึดจริงนะมึง” ฝิ่นแค่นหัวเราะก่อนจะมองหน้าเขาด้วยแววตาจริงจัง “...มึงรักกูไหม?”
“อืม” เขาไม่ลังเลที่จะพยักหน้า
“พูด”
“ระ รัก” พูดออกไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงจนคิดว่าฝิ่นมันจะได้ยินคำพูดหรือเสียงหัวใจเขามากกว่ากันแน่
“ถ้ากูทำให้มึงเจ็บบ้าง มึงจะทนอย่างนี้ได้ไหม ทนเพื่อกูได้รึเปล่า?” แก้วชะงักเมื่อได้ฟังคำพูดของมัน ไหนเมื่อครู่ยังบอกให้เขาเจ็บได้ไงล่ะ แล้วทำไมถึงมาบอกให้ทนอีก
ก็แล้วทำไมจะทนไม่ได้เพราะที่ผ่านมา กูสามารถเจ็บได้ อ่อนแอได้ เมื่ออยู่กับมึง ถ้ามึงจะทำร้ายกูเหมือนเมื่อก่อน ทำไมกูจะทนไม่ได้ ขอแค่มึงเป็นคนปลอบกูก็พอ
“กูยอมให้มึงทุกอย่าง”
“หึ ยอมกูไปตลอดด้วย” ไม่วายออกคำสั่ง...คำสั่งที่เขาเต็มใจทำ
แก้วจับมือฝิ่นที่วางคร่อมตนไว้ฝั่งละข้างพลางย่นคอด้วยความจั๊กจี้เมื่อคนข้างบนเริ่มซุกไซ้ใบหน้าวนเวียนอยู่แถวต้นคอ
เมื่อตนมั่นใจในความรู้สึกมันดันเหมือนสั่นๆในอกอย่างบอกไม่ถูก รักที่มันปรารถนา เขาควรจะเต็มอิ่มอยู่แค่นั้น แต่กลับเหมือนมีเส้นบางๆกั้นในทุกความรู้สึกที่เราสองคนมอบให้กัน ...มันคืออะไร? ความเต็มที่เหมือนไม่เต็มอย่างนี้ ทั้งที่บอกตัวเองไว้ว่าไม่ได้ต้องการความรู้สึกใดๆจากมัน มากกว่าสิ่งที่ฝิ่นเคยรับปาก ทว่า...ในใจกลับค้านว่าเขาไม่ได้ต้องการเพียงเท่านั้น
เขาอยากรักมันโดยที่ไม่มีไอ้พงษ์เป็นตัวประกัน
แล้วถ้าไม่มีเรื่องของพงษ์ ฝิ่นยังจะให้เขารักอยู่ไหม?
.
.
.
ฝิ่นวางจานผัดกะหล่ำปลีที่มันเพิ่งทำเสร็จแล้วตามด้วยข้าวสวยแฉะๆจากฝีมือเขา
บอกให้ไปกินข้าวข้างนอกก็ไม่ไปจนเขาต้องโทรให้แม่บ้านซื้อผักซื้อเนื้อหมูมาให้มันถึงเลิกโวยวาย
“มองหน้า?”
แก้วจึงหยิบช้อนก้มหน้าก้มตาตักอาหารมื้อเช้าแต่กินตอนสิบเอ็ดโมงเข้าปากอย่างเนือยๆเมื่อโดนมันยักคิ้วใส่
“กูไม่ได้โดดเรียนเพราะมึงหรอกน่าอย่าสำคัญตัวเองไปหน่อยเลย” เขาหงอยลงทันตาเมื่อได้ฟังคำพูดจากปากฝิ่น ตอนมันตื่นเต็มตาแล้ว
“เมื่อวานกูสอบ” ฝิ่นพูดขึ้นอีกลอยๆ “วันนี้หยุด ก็พอดีได้เฝ้ามึง”
“อืม”
“.........................”
“.......................”
เคร้ง!
“เป็นเหี้ยอะไรอีกวะ” ฝิ่นวางช้อนส้อมกระแทกจานเสียงดังจนแก้วสะดุ้งตาม
มันคงไม่พอใจอะไรสักอย่าง อาจจะเพราะ ที่เขาสำคัญตัวเองผิดไปก็ได้
“มึงทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ” แก้วจึงชวนคุยเรื่องอื่นโดยไม่กล้ามองหน้ามัน
“ไม่ได้คุณหนูแบบมึงนี่”
“อืม” ก็เขาทำอะไรไม่เป็นสักอย่างหนิ
“เฮ้ย!”
เคร้ง! เสียงช้อนกระทบจานอีกครั้ง แต่คราวนี้แก้วเงยหน้าขึ้นมองฝิ่นทั้งน้ำตาคลอเบ้าแต่ก็เห็นเพียงแผ่นหลังของมันที่กำลังเดินออกไปนอกบ้านเท่านั้น
เขาเม้มปากแน่นพลางเอามือขยี้ตาไม่ให้น้ำตาไหล
“ก็ไม่ได้สำคัญอะไรจริงๆทำไมต้องโกรธอีกด้วย” เขาสำนึกตัวเองอยู่ทุกวันนั่นล่ะ ฝิ่นพูดอะไรเขาก็ไม่เคยค้าน แล้วทำไม ต้องไม่พอใจเขาอีก แก้วพึมพำเสียงสั่นๆก่อนจะเก็บกับข้าวเข้าตู้เย็นทั้งที่กินไปได้ไม่กี่คำ
เมื่อเช้ายังดีๆอยู่แท้ๆ
แก้วมองออกไปนอกบ้านเห็นฝิ่นสูบบุหรี่ก่อนจะทิ้งลงพื้นแล้วหันไปลงกับกระสอบทรายที่แขวนอยู่ใต้ต้นไม้แทน เขาไม่กล้าออกไปเจอมันตอนนี้หรอก
แก้วเดินขึ้นห้องไปหยิบกุญแจดอกนึงออกจากกระเป๋าตังค์แล้วเดินไปเปิดอีกห้องซึ่งอยู่ติดกัน...ห้องของพงษ์
แก้วทิ้งตัวนอนกลางเตียงที่ได้ถูกความสะอาดและถูกจัดไว้อย่างกับว่ามีคนใช้เป็นประจำทุกวันไม่เปลี่ยน แม้เขาก็ไม่ได้อยู่นี่เลยตั้งแต่อีกคนไป แต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมตามที่พงษ์สั่งแม่บ้านไว้ก่อนไป
แก้วจับผ้าห่มคลุมตัวแล้วกลิ้งไปมาจนผ้าห่มห่อตัวเองแทบจะเป็นแหนมอยู่แล้ว จึงได้หยุด
ไม่น่าเลย ...คิดไปได้ยังไงว่าไอ้ฝิ่นเป็นห่วง หลงตัวเองไปได้ถึงขนาดนั้น
เฮ้อ...ไม่มากไปใช่ไหมถ้าหัวใจของเขามีค่าพอให้ไอ้ฝิ่นเลิกแค้นไอ้พงษ์
ถ้าอย่างนั้นคงไม่มากไปที่เขาก็อยากได้ความรักจากมันเหมือนกัน แต่มันไม่ต้องแลกกับอะไรเลย
“เป็นอะไร?” แก้วสะดุ้งมองตามเสียงห้วนๆก็เห็นฝิ่นยืนอยู่หน้าประตูห้องแล้ว
“ปะ...เปล่า” เขาตอบเสียงสั่นๆในขณะที่ฝิ่นมองไปทั่วห้อง
แก้วเพิ่งรู้ตัวว่าเขาไม่ควรเปิดห้องนี้ตอนที่ไอ้ฝิ่นอยู่ในบ้าน
“ห้องใคร” มันถามน้ำเสียงเข้ม
“ห้อง...ไอ้พงษ์”
“แล้วมึงมาอยู่นี่ทำไม”
“.....................” เขาย่นคอเข้าในผ้าห่มจนเหลือแค่ตา ก็...มึงกำลังไม่พอใจนี่นากูก็เสียขวัญเป็นธรรมดา
“ออกมา!” พูดจบเจ้าตัวก็เดินหายไปจากหน้าประตู แก้วลุกลี้ลุกลนจะลุกทันทีก็ลุกไม่ขึ้น ลืมตัวว่าผ้าห่มพันตัวอยู่เขาจึงรีบกลิ้งตัวออกแล้วรีบวิ่งตามฝิ่นแต่ดันสะดุดชายผ้าห่มเข้าทำเอาล้มโครมลงกลางห้อง
“โอ๊ยยย อูยยย” แผลเก่ายังไม่ทันจะหายได้แผลตรงข้อศอกขึ้นมาอีก แต่ช่างเถอะเขาต้องรีบตามไอ้ฝิ่นไปก่อน
แก้วเป่าข้อศอกตัวเองที่ใช้ยันพื้นกันหัวกระแทกเมื่อกี้แล้วเงยหน้ากำลังจะลุกแต่กลับต้องชะงัก
ฝิ่นคงเดินกลับมาเพราะได้ยินเสียงเขาล้มไม่ก็เสียงเขาร้อง แต่มันจ้องเขาเขม็งทั้งยังใบหน้าบูดบึ้งนั่น
แก้วมองสบตาฝิ่นพลางลุกเดินตรงเข้าไปหามันก่อนจะคว้าลูกบิดประตูปิดล็อกห้อง
“ถ้ามึงไม่เข้าไปในนั้นก็คงไม่ต้องเจ็บตัว”
“ฝิ่น...” เขารู้ เขายอมให้มันตำหนิ แต่...
“ลงไปกินข้าวต่อเถอะ”
แก้วช้อนตามองสบตากับคนตรงหน้า นั่นสินะต่างคนต่างกินไปได้ไม่กี่คำใครจะอิ่มล่ะ แต่ตอนนี้...
เขาเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนเอ่ยเสียงเบา
“ฝิ่น...กูเจ็บ”
“เฮ้อ...” มันถอนหายใจเสมองไปทางอื่นพลางจูงมือเขาเดินลงไปข้างล่าง
เขาไม่กล้าถามว่ามันรู้สึกอะไรกับเขารึเปล่าพอๆกับไม่กล้าทวงถามสัญญานั่นล่ะ
แต่เขาต้องกล้าที่จะพูดทุกความรู้สึกนึกคิดให้มันได้ฟัง เพราะมันอยากจะรู้ทุกเรื่อง เขาก็ต้องทำตามนั้น
“กูรักมึง” แก้วพูดบอกในขณะที่ฝิ่นทายาแดงให้
“มันใช่เวลาไหม?” แก้วอ้าปากท้วงเมื่อไอ้ฝิ่นไม่ได้สนใจจะฟังและเอาแต่จ้องข้อศอกเขาอยู่นั่น
ช่างเถอะ ชอบให้พูดไม่ใช่เหรอ ถึงมันจะไม่ค่อยพอใจเรื่องที่เขาพูดเท่าไหร่ก็ตาม แต่เป็นเรื่องที่มันชอบ เขาก็จะไม่ขัดอีกแล้ว
................................
เกือบช้ากว่านี้แล้วไหมล่ะ เพิ่งเสร็จจ้า โฮY^Y
มีใครคิดถึงลูกขวัญไหมคะ? คิคิ
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์จ๊าดนักเจ้า ^^ กอดๆจุ๊บๆ
-
อี้ออึงในใจดีแท้
-
คุณพี่ฝิ่นผีเข้าผีออกบ่อยจริง
-
“กูรักมึง” แก้วพูดบอกในขณะที่ฝิ่นทายาแดงให้
“มันใช่เวลาไหม?” แก้วอ้าปากท้วงเมื่อไอ้ฝิ่นไม่ได้สนใจจะฟังและเอาแต่จ้องข้อศอกเขาอยู่นั่น
.
.
.
. :jul3: :jul3: :jul3: :jul3: :m20: :m20: :m20: :laugh: :laugh: :laugh:
ถึงกับหลุดก๊ากก เลยกรู 5555555555555
-
แก้วก็บอกรักบ่อยๆ ทำรักบ่อยๆ(เกี่ยวด้วย???) อีกไม่นานฝิ่นมันก็แพ้ใจแก้วแหละ
-
:เฮ้อ: อึดอัดดีนะ
-
“กูรักมึง” แก้วพูดบอกในขณะที่ฝิ่นทายาแดงให้
“มันใช่เวลาไหม?” แก้วอ้าปากท้วงเมื่อไอ้ฝิ่นไม่ได้สนใจจะฟังและเอาแต่จ้องข้อศอกเขาอยู่นั่น
เออ ใช่แก้ว มันใช่เวลามั้ย?(ใช่สิฟร่ะ)
:laugh: :laugh: :laugh:
-
อิฝิ่นชอบทำร้ายจิตใจแก้ววะ :angry2:
เมื่อไหร่พงษ์จะกลับมาน้อออ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
:pig4: :pig4:
-
พูดไปก็ไม่เห็นค่า
ไปพูดให้หมาฟังดีกว่าน้องแก้ว
-
อยู่อย่างนี้
เจ็บตายห่า
เจ็บที่ใจน่ะ
:m31: :m31: :m31:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เมื่อไหร่จะเข้าใจกันอะ
-
ฝิ่นหึงอ่าดิ แสดงออกบ้างก็ได้นะ แก้วจะได้ดีใจบ้าง
-
ใช่แก้ว มันใช่เวลาไหม เด๋วบั๊ดจับปล้ำซะเลย
-
สองคนนี้ต้องคุยกันเยอะๆนะ :z10:
-
น้องแก้วววววววววว~
น้องน่ารักมาก ยิ่งอ่านยิ่งหลงเสน่ห์น้อง
รักน้องแก้วอ่ะ
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ
-
รักนี้มันหน่วงเพราะถูกเมิน
ความรู้สึกของแก้ว ...... ฝิ่นไม่รู้ หรือ แกล้งไม่รับรู้
เราเข้าใจฝิ่นแต่ก็ยังเคืองทุกครั้งที่ฝิ่นทำเหมือนคำว่ารักของแก้วเป็นสิ่งไร้ค่า
ทั้งๆที่ 'รัก' คือ 'รัก' ดันมองว่ามัน คือ เล่ห์
ตราบใดที่ยังปล่อยให้คำว่าระแวงกับความแค้นมาแทรกกลางความรู้สึก
..... ก็คงต้องหน่วงกันต่อไป .....
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบ รอตอนต่อไปจ้า
-
อึดอัดเหลือเกิน
-
ตอนนี้แอบหวานบางบางเบาเบา
แต่ก็ชวนอึกอัด เหมือนมีเส้นใยบ้างๆกั้นระหว่างกัน
คำบอกรักของแก้วเลยไปไม่ถึงซะที เหมือนอารมณ์ความรักที่ต้องมีเงื่อนไข
ฝิ่นไม่รู้หงุดหงิดอะไรจัง ห่วงเค้า แต่ปากไม่ตรงกับใจตลอด
-
เหนื่อยใจกับฝิ่นมันจริงๆเลย
-
เฮ้อ ฝิ่นก็นะ ชอบทำร้ายจิตใจของแก้วอยู่เรื่อย สงสารแก้วอ่ะ
-
:L2: :L2: :L2:มาเป็นกำลังใจให้นะครับ
-
แก้วนี่.. มีความคิดแปลกๆจริงๆนะ =______=;; ๕๕๕๕๕
เอาจริงๆก็แอบหมั่นไส้ แต่เอาจริงๆก็สงสาร กร๊ากกก ก (อะไรของตรู..)
ฝิ่น แกปากแข็งมาก พอเขาไม่พูดหน่อยเดียวก็ทำเป็นหงุดหงิด เชอะๆๆ
-
แอบฮาแก้วอ่ะ ไอ้พระเอกก็ผีเข้าผีออกเกิ๊นน :laugh3:
-
ฝิ่นแม่ง
เดาอารมณ์ไม่ได้ :z3: :angry2:
สงสารแก้วที่พยามเกิน :man1:
-
พระเอกเรื่องนี้ ผีเข้าผีออก :laugh:
ฝิ่นมันคงหึงแก้วตงิดๆ ตอนที่รู้ว่าเป็นห้องพงษ์
สองคนนี้จะรักกันได้โดยที่ไม่มีชื่อบุคคลที่สามไหมเนี่ย?
-
อิฝิ่นอารมณ์เสียทำเพื่อ? ตัวเองพูดเองสร้างเงื่อนไขเองจะไม่พอใจทำไม :angry2:
-
อิฝิ่น...ชิชิ
(อยู่ๆก็นึกหมั่นไส้มัน)
-
เอ่อ ถ้าแก้วพูดทุกเรื่องในใจออกไป ฝิ่นคงคลั่งน่าดู รึว่าจะดีกันแน่น้า
ขวัญงั้นเหรอค่ะ อย่าบอกว่าตอนหน้าขวัญมีบท จะเข้ามาป่วนอะไรอีกเนี่ย
ถ้ามีพี่ขวัญ ก็ต้องมีพี่ดิวด้วยถึงจะสมน้ำสมเนื้อ
ฝิ่นผีเข้าผีออก ทำเป็นถือแต้มเหนือกว่าดีนัก หนึ่งนาทีหลายอารมณ์ดีแท้ รอให้พงษ์กลับมาก่อนเถอะ ตัวเองจะกลายเป็นหมาหัวเน่าแก้วเค้าไม่สนใจ :laugh:
-
:z10: :z10: :z10:
-
แก้วน่ารักขึ้นทุกวันเลยเน้อ....ขี้อ้อนนนนนนนนน...> <
อยากให้พงษ์มารับแก้ว...ฝื่นจะได้เลิกเก๊กซะที..55+
-
หวานแบบโหดๆ สมกับเป็นเด็กช่างจริงๆ
แต่รู้สึกว่าแก้วจะชอบอ้อนอยู่น้า ชอบๆ ชอบคนขี้อ้อน :o8:
แล้วก็ลืมคิดถึงลูกขวัญไปเลยอ่ะ นึกอยู่พักนึงว่าเป็นใคร แบบว่าแอบลุ้นฉากสวีทของแก้วกับฝิ่นจนลืมไปสนิท :m20:
-
:เฮ้อ: ฝื่นจะผีเข้าผีออกอีกนานไหมเนี้ย
-
ทำไม...แต่ละคนไม่บอกความในใจออกมาเรยย
เรื่องมันจะได้ไม่ซับซ้อนอย่างนี้
สงสารแก้ววว
-
ต่างคนก็ต่างมีปมในใจเรื่องพงษ์
-
คิดถึงเรื่องนี้มากๆเลย ดีใจมากกกกกกก สงสารแก้วอ่า เมื่อไรนายฝิ่นจะพูดดีๆด้วยสักที :sad4:
อยากอ่านต่อ มาอีกน้าาาาาาาาาา :o8:
-
ตอนนี้แอบน่ารักเบาๆ? แต่ก็คลุมเครืออยู่ดี
ต่างคนต่างไม่พูด ไม่ชัดเจน มีกำแพงบางๆกั้น ซึ่งไม่มีใครยอมข้ามมา :เฮ้อ:
:pig4: ค่า
-
ถ้าพงษ์กลับมาพร้อมแฟน รึเพื่อนใหม่อะไรงี้ก็คงจะดี ฮ่ะๆๆๆ
อ่านแบบนี้แล้ว เข้าถึงความรู้ึสึกอึดอัดเลย
พงษ์กลับมาเร็วๆนะ.... ขอบคุณคนเขียน o13
-
^^
-
ชอบมาก
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจ้าาาา
-
โฮกกกกกก อ่านรวดจนดึกดื่น
ชอบมากจริงๆ ค่ะ รอตอนต่ออยู่นะคะ!!
-
เห้อ!!.........จุกจัง ไม่รุ้สิ มันคืออะไรและมันเปงยังไงกานแน่นะ
สงสารแก้วนะที่ต้องมีความรู้สึกแต่ส่วนลึกก้อยังกลัวเลยต้องเก้บไว้ไม่กล้าระบายออกมา
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกนะคับ
รอรอน้า!!
-
ฝิ่นแม่งเถื่อนได้ใจมาก แก้วก็ซื่อดี กดบวกไป
-
ใช่เวลาไหม <<< ฮาประโยคนี้ อิฝิ่นเขินใช่ม๊ายยยยย 555
ฝิ่นเหมือนลืมตัวห่วงมั่ง อยากให้สนใจมั่ง แต่พอนึกได้ว่าตัวเองตั้งเงื่อไขอะไรไว้ ก็ทำตัวโฉดใส่ทันที ลงที่น้องแก้วหมด -*-
เวลาเราอ่านเราคงมองว่าหวานปนขมเพราะเราเห็นมุมมองของทั้ง2คน แต่ถ้ามองมุมมองของแก้วคนเดียว น่าสงสารแก้วมากอ่ะ T^T
ถ้าพงษ์กลับมา เรื่องนี้คงเป็นละครโศก แต่ไม่เป็นไร เรารอพระเอกตัวจริง(?)กลับมาอยู่ 555 (/โดนฝิ่นโบก)
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ค่ะ
ปอลิง น้องแก้วเหมือนหมาน้อยน่าร้ากกกกอ่ะ! ><"
-
"กูรักมึง" แก้วน่ารักอ่ะ
-
:กอด1:
-
ไม่รู้ว่าวันใหนที่
พงษ์กลับมาเลือด
จะนองขนาดใหน :z13:
-
ผีเข้าผีออกจริงๆ :เฮ้อ:
-
ไอ้ฝิ่นเขิน :m20: :laugh: :pigha2: :jul3:
-
แหม พี่ฝิ่นจะหวานให้มันนานๆหน่อยก็ไม่ได้นะ
ผีเข้าผีออก เล่นเอาน้องแก้วของเราตามไม่ทัน
ปากอ่ะแข็งให้ได้ตลอดนะ พูดออกมาบ้างให้แก้วมันรู้อ่ะ
แก้วก็ยังคงสับสนต่อไป ตกลงจะเรียกร้องอะไรได้มั้ย
เอาเรื่องพงษ์ออกไปแล้วแสดงความรู้สึกจริงๆของตัวเองออกมา
ความรู้สึกที่มีให้อีกฝ่ายจะได้ไม่ต้องคลุมเครือ
แต่เห็นท่าจะยาก ปากฝิ่นงี้เอาอะไรมาง้างก็ไม่ออก
แล้วที่ตัวเองนะสั่งนู้นสั่งนี้กับแก้ว ให้บอกรักงี้ ชิ หมั่นไส้จริงๆ
แก้วจ้าอย่าไปยอมให้อีพี่ฝิ่นมันมากนักเลย ดูซิมันได้ใจตลอดเลย
รอตอนต่อไปค่ะ คืนนี้พี่ซีซั่นจะมาอัพมั้ย??? รอๆ
-
เรื่องธรรมดามีตบ-จูบ แต่เรื่องนี้ต่อย-จูบ ครับท่าน
-
เห้อ!!! สงสารหนูแก้วจังเลย :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๔
...บ้านนี้ต้อนรับกูดีจริงๆ....
แก้วกดปิดข้อความที่ส่งมาพร้อมไฟล์ภาพบ้านไอ้พงษ์
...ว้าว ของฝากจากอเมริกา...
แก้วกดปิดข้อความที่ส่งมาพร้อมไฟล์ภาพเสื้อเชิ้ตแบรนด์ดังจากต่างประเทศตัวหนึ่ง...อีกครั้ง
...คิดถึงกู ฮ่าๆ ไอ้พงษ์บอกมาอย่างนี้...
เหอะ อย่างพี่ขวัญน่ะเหรอไอ้พงษ์จะคิดถึง เขาค้านในใจแล้วกดปิดข้อความตามเดิมอย่างไม่ใส่ใจ
...มีเบอร์ติดต่อใหม่ละนะ...
แก้วเปิดค้างข้อความที่เพิ่งได้รับล่าสุด
เขาอ่านทวนซ้ำไปซ้ำมา เพื่อรอรับข้อความใหม่เผื่อจะช่วยขยายข้อความนี้ได้บ้าง แต่โทรศัพท์มือถือที่มีข้อความส่งเข้าติดต่อกันสักพักตอนนี้กลับเงียบไป
“ไม่เอาไม่สนใจ” แก้วพึมพำคนเดียว
เขานั่งแยกน็อตตามยี่ห้อรถยนต์สลับกับมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือจนแทบไม่มีสมาธิ ทำเอาแยกน็อตผิดๆถูกๆ ของยี่ห้อนึงดันเอาใส่กล่องอีกยี่ห้อนึงซะงั้น
“บ้าไปแล้ว” เขาว่าตัวเองก่อนจะกดหมายเลขโทรออกไปยังเบอร์ต่างประเทศเพราะไม่อยากคิดตามข้อความบ้าๆของพี่ชาย
แต่ก็ไร้สัญญาณตอบรับใดๆ...เช่นเคย
“พอกันที!” แก้วลุกพรวดหันหน้าออกจากกล่องใส่น็อตรถยนต์เดินไปหาพ่อไอ้ฝิ่น
“ผมขอลางานครับ”
“จะไปไหนก็ไปเถอะ ดูแลตัวเองด้วย” พ่อมันเงยหน้าจากกระดาษที่กำลังโน๊ตงานแว๊บนึงแล้วบอกอนุญาตเขาส่งๆ
แก้วโค้งศีรษะเล็กน้อยแทนคำขอบคุณแล้วเดินหลบจากรัศมีพ่อฝิ่น
ตรู๊ดดด ตรู๊ดดด ตรู๊ดดด ตรู๊ดดด
เขากดโทรออกไปยังเบอร์ไอ้ฝิ่นเพื่อขออนุญาตมันอีกคน แต่ดันไม่รับ
โทรซ้ำอีกหลายรอบก็ไม่รับ
“โจ้กูไปธุระแป๊บนะ” เขาจึงเดินไปบอกโจ้ แต่เหล่ตามองพี่ไม้ที่กำลังซ่อมรถอยู่ด้วยกัน
“พี่ฝิ่นรู้รึยัง”
“โทรไปแล้วไม่รับ”
“แหงล่ะสอบอยู่นี่หว่า ...ด่วนรึเปล่าถ้ารอได้ก็รอบอกพี่ฝิ่นก่อน” โจ้บอกแต่ไม่เงยหน้าจากกระโปรงรถเลย พอกันกับพี่ไม้ที่ทำเหมือนไม่เห็นเขาอย่างนั้นแหละ
“เฮ้อ” แก้วถอนหายใจพลางเดินวนไปวนมาใกล้ๆโจ้ ไม่ได้ด่วนอะไรหรอกแต่พี่ขวัญกำลังยั่วประสาทเขาอยู่ และเขาไม่ยอมเต้นตามเกมพี่หรอกเพราะงั้นถึงอยากไปดูให้เห็นกับตายังไงล่ะ
“ไอ้แก้วเกะกะ” โจ้เงยหน้ามาย่นคิ้วใส่และต่อว่าอย่างรำคาญ
“เอางี้ มึงไปกับกู” เขาเลยยื่นข้อเสนอให้มัน
“มากไป คนเขามีงานทำเยอะแยะ” แก้วหน้าเสียหลังโดนพี่ไม้พูดแทงใจดำ เขายู่หน้าใส่แต่ไม่กล้าโต้ตอบ
“งั้นเดี๋ยวกูรีบไปรีบกลับนะ” ในเมื่อโทรหาฝิ่นแล้วมันไม่รับเอง และพี่ไม้กับโจ้ก็รู้แล้วด้วยแก้วจึงไม่มีอะไรต้องกังวลว่าตัวเองขัดคำสั่งฝิ่นมากไปกว่าความอยากรู้ว่าพี่ขวัญกำลังเล่นอะไรอยู่
แก้วถอดเสื้อฉ็อปวางไว้แถวนั้น
“เฮ้ย ไม่ให้ไปนะเว้ย” แล้วเดินออกจากอู่โดยไม่ฟังเสียงโจ้ นั่งมอเตอร์ไซด์วินไปปากซอยก่อนจะโบกรถประจำทางเพื่อเดินทางไปบ้านพงษ์
เขาไม่สนใจหรอกว่าพี่ขวัญจะเล่นตลกอะไร เขาไม่เชื่อด้วยว่าพี่ขวัญจะมีเบอร์ที่สามารถติดต่อไอ้พงษ์ได้ ในเมื่อเขายังโทรหามันไม่ได้เลย
“ให้ไปไม่ใช่ว่าให้ทิ้งกันซะหน่อย” แก้วพึมพำใส่หน้าจอมือถือต่อว่าคนที่เงียบหายไปนาน หายไปเฉยๆอย่างนี้ได้ยังไงไม่คิดถึงใจกันบ้างเลยเหรอ เขาต้องอดทนต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกผิดทุกวันก็ไม่หวั่นเพราะรู้ว่ายังมีพงษ์อยู่ด้วยเสมอ แต่นี่ ติดต่อไม่ได้นานเกินไปแล้วนะ จะให้เขาทวงความบริสุทธิ์ให้พงษ์แบบเลื่อนลอย เขาก็ชักเหนื่อยนะเว้ย
ถ้ายังไม่ตายก็ช่วยส่งข่าวหน่อยเถอะพงษ์
เขาลงจากรถประจำทาง เดินเข้าไปไม่ไกลนักก็เจอบ้านหลังใหญ่ที่คุ้นตา แต่รถยนต์คันที่จอดอยู่หน้าบ้านกลับคุ้นยิ่งกว่า
“รถคุณพ่อ?”
เขาเดินไปทางป้อมรปภ.ซึ่งตั้งติดกับประตูรั้ว
“พี่ครับมีใครกลับมาเหรอ” แก้วถาม รปภ.เวรยามซึ่งก็เคยเจอหน้ากันบ้าง
“คุณท่านกับคุณหญิงครับ”
“แล้ว...”
“คุณพงษ์ไม่ได้กลับครับ คุณหนูจะเข้าบ้านไหมครับ” รปภ.พูดบอกก่อนที่เขาจะถามจบทั้งยังรีบวิ่งมาเปิดประตูรั้วให้
ผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่ได้ยินคำว่ามันกลับมาแล้ว ...แต่จะกลับมาได้ยังไงล่ะในเมื่อพงษ์ยังไม่ได้บอกเขาเลย แต่เอ... บอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์สินะ แก้วแค่นหัวเราะคนเดียว เขาเป็นต้นไม้ที่มันปลูกมาเองกับมือนะ มันไม่มีทางลืมเขาหรอก วันนี้ก็แค่มันลืมรดน้ำเท่านั้นเอง แต่เดี๋ยวมันก็จะกลับมาดูแลตามเดิม
“ไม่ล่ะ ผมแค่ผ่านมา กลับเลยนะครับ”
แก้วรีบบอก รปภ.เมื่อเห็นคนที่ไม่อยากเจอเดินมาทางนี้ ก็แค่มาดูให้เห็นกับตาถึงจะไม่โดนพี่ขวัญโม้ ก็แค่พี่มาหาพ่อแม่พงษ์ ไม่เห็นจะมีอะไรเกี่ยวกับไอ้พงษ์สักนิด แต่คนนั้นดันตะโกนมาแต่ไกล เฮ้อ...แก้วรีบหันหลังก้าวเท้าเดินให้พ้นหน้าบ้านทำเหมือนมองไม่เห็นเขา
“มาหาใคร พ่อ แม่ คุณลุง คุณป้า หรือ พี่ชาย” แต่พี่ขวัญวิ่งมากระชากแขนเขาให้หันกลับไปแล้วถามด้วยสีหน้าเยาะเย้ยสิ้นดี
“เปล่า” เขาหันไปตอบเสียงห้วนพร้อมกับใบหน้าเบื่อหน่ายประหนึ่งบอกพี่ขวัญไปในตัวว่าไม่อยากคุยด้วย
“อืม หรือจะมาเอาเบอร์พี่ชายสุดที่รัก” แต่พี่ขวัญยังไม่เลิกทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่ “แต่คงให้ไม่ได้ว่ะ เจ้าตัวเขาไม่อยากติดต่อกับมึงแล้ว”
“อ๊ะ!” แก้วชะงัก “พี่ขวัญ พี่จะโกหก...”
“มึงเชื่อกูแต่ก็ยังหลอกตัวเองอยู่ได้นะลูกแก้ว มึงเชื่อกูตั้งแต่แรกแล้วถึงได้มาที่นี่ แค่ไม่ยอมรับความจริงนี่แหละคือมึงเลย”
“เหอะ พี่เอาอะไรมาพูด”
“หรืออยากมั่นใจ ไปกัน ไปหาพวกผู้ใหญ่ในบ้านกัน” พี่ขวัญทำทีจะลากเขาเดินเข้าบ้าน รปภ.ก็เอาแต่ยืนมองแต่ไม่กล้าพูดไม่กล้าห้ามเพราะรู้ฤทธิ์พี่ขวัญดี
“ในเมื่อทุกคนที่นี่เห็นผมเป็นตัวปัญหาทั้งนั้น แล้วจะให้ผมเชื่ออะไรใครได้ หึ” แก้วสะบัดแขนพี่ชายออกพูดไปด้วยความน้อยใจแต่ไม่ได้เรียกร้องให้ใครสนใจหรอกนะ
“ในที่สุดไอ้พงษ์ก็ค่อยๆทิ้งมึงเหมือนที่มันเคยทำกับกู”
“ไม่” ถึงเขาจะเป็นตัวปัญหาสำหรับคนอื่นแต่กับพงษ์เขาไม่ใช่
“ไม่เชื่อ?” พี่ขวัญย้ำคำพูดเขาแล้วยักคิ้วถามกลับพลางกดโทรศัพท์โทรออก พร้อมเปิดโฟน
แก้วมองหน้าลูกขวัญด้วยความลังเลและไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว
“มึงจะโทรมาอีกทำไมนี่มันเวลานอนกูแล้วนะ”
“พงษ์!” แก้วมองหน้าพี่ขวัญด้วยความไม่เชื่อ แต่พี่ขวัญจุ๊ปากไม่ให้พูดอะไร
“น้องกูคิดถึงมึง”
“น้องมึง? แม่มึงท้องอีกแล้วเหรอ” น้ำเสียงยียวนตอบกลับมา
“หึ ลูกแก้วน้องรักกูไง นี่อย่าบอกนะว่ามึงจำไม่ได้แล้ว”
“เรื่องของมัน” คำพูดเน้นๆชัดๆไม่ใช่แค่ให้พี่ขวัญได้ยินแต่เขาก็ได้ยินเต็มสองรูหู “แล้วมึงก็เลิกโทรมาได้แล้วจะต้องให้กูเปลี่ยนเบอร์หนีมึงอีกกี่รอบวะ” น้ำเสียงพงษ์คล้ายรำคาญพร้อมเหวี่ยงๆ แต่ตอนนี้เขา...
แก้วยืนตัวแข็งทื่อ กระพริบตาปริบๆเพื่อยืนยันว่ายังมีสติ
“หึ มันมาขอเบอร์ใหม่มึงด้วย”
“อย่าเสือกเรื่องของกู”
“ไอ้พงษ์!” พี่ขวัญสบถเมื่อพงษ์ตอบกลับ
“ไอ้เหี้ยขวัญ ขอย้ำอย่ายุ่ง!”
“ทำไม? เมื่อก่อนตอนที่มึงเลิกคบกูมึงก็ค่อยๆหายไปอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ”
“หึ อย่าเอาเรื่องของพวกกูไปเปรียบกับคนอย่างมึง เลิกยุ่งเรื่องคนอื่นได้แล้ว”
“พงษ์” ทนไม่ไหวแล้ว ทนฟังเสียงพงษ์ไม่ไหวแล้ว แก้วร้องเรียกชื่อพงษ์เสียงละห้อย ทำไมถึงโมโหที่พี่ขวัญพูดเรื่องเขา ทำไมแค่เอ่ยชื่อเขาพงษ์ต้องทำเสียงไม่พอใจ ทำไม? ถามสารทุกข์สุกดิบเขาสักนิดไม่ได้เลยรึไง
“ตะ ตัวเล็ก?” เสียงพงษ์อ่อนลงเหมือนอุทานขึ้นมาแต่ไม่อยากให้เขาได้ยิน หรือว่า ไม่อยากจะเอ่ยชื่อเขากันแน่ ก่อนที่ปลายสายจะกดวางโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
“หึ”
“พี่พงษ์...” แก้วหลุดเรียกชื่อพงษ์เหมือนไม่รู้ตัว
“ไง? ทีนี้เชื่อรึยังว่ามึงกำลังจะโดนทิ้ง!”
“...ไม่...ไม่จริง” แก้วตาลอยส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ ต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ๆ
“ดื้อด้าน! ไม่เชื่อใช่ไหม งั้นมานี่!”
“ไม่ ไม่ไป พี่ขวัญ ปล่อย ปล่อยผมนะ” พี่ขวัญคว้าแขนเขาดึงกลับเข้าไปในบ้าน แก้วยื้อตัวทั้งร้องปฏิเสธแต่พี่ขวัญยิ่งได้ใจฉุดลากเขาเข้าไปตามทางเดิน
“ฮึก ฮึก ไม่ไป” เขาร้องขอ
“ฮึก พี่ขวัญ ปล่อยแก้ว แก้วไม่เข้าไปนะ ขอร้อง ฮือออ” เข้าไปเจอกับคุณพ่อ คุณแพรวทั้งยังพ่อกับแม่ไอ้พงษ์อีก เขาไม่ไป
“อย่าร้อง”
“ฮึก ฮึก”
“แก้ว! พี่บอกว่าอย่าร้อง!”
“ฮึก ฮือ ปล่อยผม ปล่อย ปล่อย พี่ขวัญ”
“มึงเลิกดิ้นได้แล้ว!
“พี่ก็ปล่อยแก้วสิ! ฮึก แค่กๆ” เข้าไปข้างในเขาจะโดนตอกย้ำอะไรอีกก็ไม่รู้ ไม่เอาหรอก ทุกคนใจร้ายกับเขาทั้งนั้น แล้วจะให้มาฟังเรื่องของไอ้พงษ์อีกรอบ เขาไม่ฟัง ปล่อย! แก้วพยายามดึงแขนลูกขวัญออกพลางเช็ดน้ำตาไปด้วย
มันต้องมีอะไรผิดพลาด ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ พงษ์ไม่มีวันทิ้งเขา
“แค่ก แค่ก” แก้ววิ่งกลับออกไปนอกบ้าน เขารู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอ “อะ อ๊วกกกก แค่กๆ เอ๊าะ ”
“เฮ้ย ยะ ยังไม่หายอีกเหรอ” พี่ขวัญวิ่งตามมาลูบหลังให้เขา รปภ.ก็กุลีกุจอวิ่งไปหยิบขวดน้ำมายื่นให้
“ฮึก ฮึก”
“เลิกร้องได้แล้ว” พี่ขวัญลูบหลังพลางรับขวดน้ำมาเปิดแล้วส่งให้เขา
“ฮึก ผมไม่เข้าไปข้างในนะ”
“มึงเงียบก่อนเดี๋ยวเลือดกำเดาไหล”
“พี่รับปากมาก่อนสิ ฮึก ฮึก” แก้วต่อรองทั้งที่ยังอยากจะอาเจียนอยู่ ไม่ยอมรับขวดน้ำจากมือลูกขวัญ
“เรื่อง? อยากอ๊วกจนลงไปดิ้นตายก็ตามใจ”
“ฮึก ฮือ” ยิ่งได้ฟังคำพูดของพี่มันยิ่งจุกในอก ทั้งที่พี่ถามคล้ายกับจำได้ว่าเขาเคยมีอาการยังไงเมื่อเครียดมากๆ แต่พี่กลับไม่สนใจเลย
แก้วใช้หลังมือปาดน้ำตาทั้งยังปาดน้ำมูกแต่พอมองที่หลังมือน้ำมูกกลับเป็นสีแดง
ไม่ใช่... ไม่ใช่น้ำมูก
“เงยหน้าแล้วเลิกร้องไห้!” พี่ขวัญตะคอกเสียงดัง ยืนเก้ๆกังๆอยู่ตรงกันข้าม แต่เขายังเอามือปาดจมูกมองพี่ตาขวาง จนมีใครบางคนดึงเขาจากด้านหลังให้หันไปซบกับอกนั้น กลิ่นน้ำมัน กลิ่นเครื่องยนต์
“พี่ไม้ มาได้ยังไง?” แก้วมองคนตรงหน้าชะงักค้างก่อนจะรีบผละออก ลืมไปเลยว่าเลือดกำเดากำลังไหล ไหลเปื้อนเสื้อยืดสีขาวแต่ดำเขลอะของพี่ไม้ด้วย และลืมไปเลยว่ากำลังฟูมฟายด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจคนบ้านนี้อยู่
“ให้ตายเถอะ ใครเอามีดแทงข้างหลังมึงนี่ก็คงจะไม่รู้ตัวสินะ”
“พี่ตามผมมาเหรอ?”
“กูไม่อยากตามเก็บศพมึงทีหลัง” พี่ไม้ว่าแล้วดึงชายเสื้อยืดเขาขึ้นสูงเหนืออกทั้งกดหน้าเขาลงไปให้เช็ดเลือดออก
เขาไม่ตายหรอก ฮึก แก้วเช็ดๆแล้วเงยหน้าขึ้นฟ้าก่อนจะรับขวดน้ำที่พี่ไม้แย่งมาจากมือพี่ขวัญ ยื่นให้ แก้วเทน้ำล้างหน้าล้างตา
“โรคตอแหลที่แก้ไม่หาย” พี่ขวัญเหน็บ ตอนนี้เลือดกำเดาเขาหยุดไหลแล้ว เขามักจะเป็นอย่างนี้เมื่อควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่อยู่ จริงๆมันหายไปสักพักแล้วล่ะ ตั้งแต่มีพงษ์เข้ามาในชีวิต แต่มันก็กลับมามีอาการเดิมอีกครั้ง ด้วยความน้อยใจที่เขามีต่อพงษ์ และพี่ขวัญกดดันเขา
“ขอบคุณที่พี่ยังจำได้” เขาบอกแต่พี่เชิดใส่
“ถึงจะคนละแม่แต่ยังไงก็พ่อเดียวกัน” อยู่ๆพี่ไม้ก็พูดขึ้น
“เพราะงั้นมันเลยไม่เกี่ยวกับคนอื่น!”
“พวกที่จิตใจอิจฉาริษยา ใฝ่แต่จะเอาชนะ มันน่าสงสารมากรู้ไหมไอ้แก้ว”
“ห๊ะ หา” เขามองพี่ไม้เกรงๆ อารมณ์ไหนวะ
“มึงควรจะให้อภัย คนที่ขาดอย่างพี่มึงนะ”
“มึง...” พี่ขวัญอึ้ง ชี้หน้าพี่ไม้ “มึงเป็นใคร พ่อแม่มึงเป็นใครถึงได้กล้าว่ากู” แล้วโวยใส่ ต่างกับพี่ไม้ที่มองหน้าพี่ขวัญอย่างคนเหนือกว่า สนุกล่ะสิ ที่ตอกหน้าพี่ขวัญแล้วพี่เขาเดือดตาม
“แม่เป็นครูส่วนพ่อตายแล้ว อยากรู้อะไรอีกไหม” พี่ไม้ตอบ หันมองหน้าเขา “ดีขึ้นแล้วก็กลับเถอะ” เขาพยักหน้าแล้วเดินตามหลังพี่ไม้ออกจากหน้าบ้านหลังใหญ่
“นี่ด่ากูแล้วจะชิ่งเหรอ”
“มีปัญหาไปหากูที่อู่xx” พี่ไม้ตอบพี่ขวัญโดยไม่หันกลับไปมอง เขาเองก็ไม่หันไปมองเหมือนกัน พี่อะไรกะจะให้เขาตายไปต่อหน้าต่อตาตั้งแต่เล็กจนโตให้ได้เลยใช่ไหม
ไอ้พงษ์ก็เหมือนกัน ตอนนี้กูแค่น้อยใจแต่ถ้ากูจะตายกูนั่งเครื่องไปดิ้นตายต่อหน้ามึง เอาให้มึงรู้สึกผิดมากๆที่ทำร้ายกู คอยดู...
“ถึงขนาดเลือดกำเดาไหลเลยเหรอ” พี่ไม้ถาม ขากลับเรานั่งรถแท็กซี่กลับกัน
“มันเป็นวิธีเรียกร้องความสนใจของผม”
“เหอะ คงเป็นเรื่องช้ำใจมากถึงต้องเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีนี้” พี่ไม้ยักไหล่มองไปนอกกระจกรถ
เรียกร้องไปก็เท่านั้น พี่ขวัญจำได้ยังไม่คิดจะปลอบเขาเลย
“พี่ไม้...พี่อย่าให้ไอ้ฝิ่นรู้นะ”
“มุสาวาทา”
“สาธุ พอเถอะพี่” แก้วหัวเราะกับคำพูดพี่ไม้ แต่ในใจกลับมีคำถามที่หนักกว่าเหตุการณ์แล้วๆมา
.
.
.
“ตอนแรกก็ไปทำธุระแต่อากาศมันร้อนเลือดกำเดาเลยไหล” แก้วรายงานในห้องน้ำ ขณะที่ฝิ่นถอดเสื้อยืดเขาออกเหนือศีรษะ
กลับไปอู่เจอฝิ่นหน้าบึ้งรออยู่แล้วแต่มันไม่ได้โวยวายอะไร คงรู้แล้วว่าเขาตั้งใจจะบอกมันก่อนแต่ติดต่อมันไม่ได้เอง แต่มันก็หันมาเหวี่ยงเรื่องไปกับพี่ไม้แทน
“แล้วเปื้อนยันเสื้อพี่ไม้?”
“ตอนแรกไม่ทันตั้งตัว แต่ก็บอกพี่ไม้แล้วนะเดี๋ยวซื้อเสื้อให้ใหม่”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูจัดการเอง”
“อือๆ” เขาพยักหน้า “ ฝิ่น...” อยากกอดจัง เห็นหน้ามันแล้วเกิดอยากจะร้องไห้ขึ้นมาซะอย่างนั้น
“อะไรอีก”
“ทุกทีที่กำเดากูไหลวันต่อมาจะไม่สบายทุกครั้ง” เขาบอก
“แล้วยังไง ก็จะให้แช่น้ำอุ่นนี่ไงจะได้สบายตัวขึ้น” ฝิ่นคิ้วขมวดถามด้วยความข้องใจ
“มึงอังหน้าผากกูบ่อยๆนะ” แก้วมองหน้าฝิ่นตาละห้อย มันไม่ตอบเอาแต่ถอนหายใจแล้วเสมองไปทางอื่นแต่มือก็ยังถอดเข็มขัดให้เขาอยู่
อย่าทำให้รู้สึกเหมือนไม่มีใครพร้อมๆกันเลยนะ
................................
ตอนนี้ถ้าคนเขียนขาดตกบกพร่องตรงไหนถามได้เลยนะคะ ถ้ามีต้องเพิ่มจะเพิ่มในตอนที่เนื้อหาเฉลย แต่ถ้าไม่แน่ใจจะตอบให้ก่อนค่ะ
พล็อตที่เหลือ มิว ดิว พงษ์ ไม่ได้มีเพิ่มมาเน้อ อันนี้แก้ตัวล่วงหน้า ฮ่าๆ กำลังตามแก้อยู่ ช้าที่คนเขียนทำได้เพียงสื่อออกมาจากตัวละครทีละตัวนี่แหละค่ะ น้อมรับผิด จุ๊บๆ
dandelion ถ้าอัพวันศุกร์หรือวันเสาร์อาจเป็นไปได้ค่ะ เพราะพี่มีเวลาพิมพ์จากที่ทำงาน(นิสัย!) ไม่ก็อัพจากที่ทำงาน แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์พี่มิสามารถค่ะ อดีตเด็กช่างฮีดอทตลอด วันธรรมดาเราครองแล้ว ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่เขากลับบ้านเลยยอมๆให้เขาเล่นไปค่ะ เพราะงั้นถ้าอาทิตย์ไหนเจอพี่อัพมันจะอเมซิ่งมากๆ ฮ่าๆ
เห็นล็อคอินใหม่ๆอีกแล้ว ยินดีต้อนรับนะคะ ขอบคุณที่ชอบกัน
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นขอบคุณทุกบวกบวกขอบคุณทุกบวกเป็ดจ้า^^ กอดๆจุ๊บ
//อาบน้ำนอนแล้ว ฝันดีจ๊ะคนอ่าน
-
ทำไมพงษ์เป็นคนอย่างนี้เนี่ยยย
ตัวเองทำเลวไว้ แก้วต้องเจ็บทั้งใจและกายแต่ยอมอดทนเพื่อพงษ์มาตลอด ทำไมถึงทำกับแก้วได้ฟระ
-
อ่านแล้วเป็นไรไม่รู้...ชอบฝิ่น
ชอบมากก ดูแบบเถื่อนๆแต่ก็รักจิง อะไรประมาณนั้นอะ
คนเขียนเป็นไงบ้างง ช่วงนี้มาอัพบ่อย...ดีใจๆ
เจอกันเมื่อไรอ่าาา
-
แก้ว :m15: :m15:
ชอบอ่ะน้องแก้วขี้อ้อนน :man1: :man1:
-
มุม อ่อน เเอ
ของคนคนนึง
ฝิ่น ดูแล แก้วดีดี นะ
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
พงษ์...หมั่นไส้ว่ะ...
-
โอ๊ย อยากจะบอกว่าสะใจมาก พี่ไม้พูดเรียบๆ แต่เจ็บหนัก
เล่นเอาขวัญหน้าหงายไปเลย
เป็นไงล่ะคุณพี่ขี้อิจฉา โดยตอกกลับบ้าง เจ็บมั้ยล่ะเออ
ว่าแต่เรื่องของพงษ์มันซับซ้อน แล้วก็ซับซ้อน
ทำไมพงษ์ถึงเงียบหายไปจากแก้วหล่ะ
มีเหตุผลอะไร แล้วทำไมขวัญถึงติดต่อกับพงษ์ได้ ณ จุดนี้ มีปัญหาให้คิดต่ออีกแล้ว
แก้วเอย พี่อยากให้น้องตบอีพี่ขวัญสักฉาดสองฉาด
แต่น้องก็เอาแต่ร้องไห้ สู้เขาสิหนู
เอาเลือดป้ายหน้าแม่ม (5555 โรคจิต)
พี่ฝิ่น มาดูแลน้องแก้วด่วน ดูแลดีด้วย
แอบอยากรู้ ถ้าฝิ่นมันรู้ว่าแก้วมีโรคประจำตัวแบบนี้จะรู้สึกยังไงหนอ
หนูแก้วก็ขี้อ้อนเหลือเกิน อร๊ายยย น่ารัก -////-
ว่าจะนอนแล้วเชียว เปิดมาเจอพี่ซีซั่นอัพพอดี
เขาก็ชอบแอบอู้งานมาอ่านนิยายในเล้าเหมือนกัน 5555
อัพตอนไหนก็รออ่านตลอดค่ะ สู้ๆ
-
วุ่นวายๆๆๆๆๆๆๆๆ
ปมเยอะซะเหลือเกิน
พงษ์ก็ปากแข็งได้อีก
:z2: :z3: :z3: :z3:
-
สงสารแก้วอีกแล้ว
พงษ์แกเป็นอะไรของแก
หรือว่าไอ้ดิวไปฟ้องพงษ์ที่แก้วไปอยู่กับฝิ่น
ฝิ่นดูแลแก้วดีๆนะ
-
:o8: หลงรักฝิ่นละอ่ะ (แรกๆใครด่า?) ผู้ชายน่ารัก แอบโหด ขรึมๆ
แก้วน่าสงสารอ่ะ ทำไมอิพงษ์ทำกับลูกแก้วอย่างนี้ แล้วอิพี่ขวัญขาดความอบอุ่นหรอจ๊ะ? :angry2:
:pig4:+ :กอด1: คนแต่งค่า
-
ลูกแก้วขี้อ้อน :-[
ทำไมพงษ์ทำแบบนี้?
หรือต่อไปจะเป็นพี่ไม้กะไอ้พี่ลูกขวัญ :serius2:
-
รอต่อไป
ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า :pig4:
-
งงกับพงษ์มากอ่ะ :z3:
สงสารแก้วตอนนี้มากถึงมากที่สุด
ฝิ่นช่วยอยู่ตอนที่แก้วรู้สึกไม่มีใครด้วยนะ
-
เรื่องพงษ์ต้องมีเบื้องหลังอะไรแน่ๆเลย ขวัญรักพงษ์ละสิท่า :m16:
เป็นอย่างนี้แล้วอยากให้แกล้งขวัญแทนแก้วละมันเลว 5555
ส่วนแก้วกะฝิ่นเหมือนไม่คืบหน้าเลยอ่า :เฮ้อ:
-
ฝิ่นนี่แหล่ะเหมาะสมกับแก้วที่สุดแล้ว
-
...จับคู่พี่ไม้ กับลูกขวัญ ก็ดีเหมือนกันนะ ลูกขวัญจะได้เลิกบ้ากับน้องซักที
...พี่ไม้เป็นพระเอก นะตอนนี้ ฝิ่นดูเอาใจใส่แก้วมากกว่าแต่ก่อนเนอะ :L2:
-
ลูกแก้ว อ้อนไอ้ฝิ่นมันเข้าไว้ คนอื่นช่างหัวมันจะเป็นจะตายจะไปห่าเหวที่ไหนก็อย่าไปสน
-
ทำไมพงษ์ถึงทำกับแก้วแบบนี้นะ ถึงเวลาที่ฝิ่นทำคะแนนเเล้ว :o8:
-
ขยันผูกรัดมัดปมจริงๆเลย
-
กลับมาแก้ปมนี้เถอะ 555 ทนไม่ไหวแล้ววววววววว
-
อ้อนนนนนน
อิ๊กนอร์พงษ์ เมินให้ได้ตลอดนะยะ
(แอบลุ้นพี่ไม้ลูกขวัญ จะได้มีคู่) :z2:
-
งง พฤติกรรมของพงษ์ มันต้องมีอะไรแน่ๆ
แก้ว รุ้สึกว่าจะขึ้อ้อนน่ะ
ไอ่พี่ขวัญก็กวนตามประสาเด็กถูกตามใจจนเหลิงและขี้อิจฉา
ฝิ่น รักแก้วมั่งหรือยังเนี่ืยะ
-
พงษ์ไม่ทิ้งตัวเล็กหรอก จริงๆนะ T^T สงสารน้องแก้วแต่เราว่าพงษ์ไม่ทิ้งแก้วหรอก มันน่าจะมีอะไรสักอย่าง
พี่ลูกขวัญใจร้าย (หรือว่าความจริงพี่ลูกขวัญน้อยใจที่พงษ์ทิ้ง และอิจฉาแก้ว)
เราว่าแก้วไม่ได้รักพงษ์แบบที่รักฝิ่น เพราะมีแต่พงษ์ พงษ์เลยเป็นที่ยึดเหนี่ยว ส่วนฝิ่นมันผีเข้าผีออก ปากแข็งอยู่นั่น และก็เป็นแบแมีเงื่อนไข จะให้ทิ้งตัวใส่เต็มที่ก็คงยังกระดากๆ พอเจอไปแบบนี้ ก็เลยรู้สึกเคว้งล่ะมั้ง
แต่ตอนนี้พี่ไม้พระเอกมากอ่ะ 555 ฮามาก ><
ขอบคุณนะค้า ^^
-
พงษ์คงมีเหตุผลนะที่ทำยังงั้น แต่รู้ไหมว่าเป็นการผลักแก้วให้ไกลออกไปเรื่อย ๆ
พี่ไม้เยี่ยมมาก ถ้าจับคู่พี่ขวัญจะเป็นไงนะ
ฝิ่นกลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวสิ่งเดียวที่แก้วมีสินะ
-
เขียนดีจัง... :jul1: แลดูเขารักกัน o13 o13
-
มารอครับ
-
เห้อ!! บ่อน้ำตาแตกอีกแล้ว ทำมั้ยต้องเป็นแก้วคนเดียวเลยนะที่ต้องเจออารายแบบนี้
คนเดียวเลยจิงๆ ให้ตายเถอะโรบิ้น แม่เจ้า
ฝิน (ขอร้องคนเขียน) ช่วยดูแลแก้วแล้วรุ็ใจตัวเองสักทีนะ
อย่าให้แก้วต้องช้ำในตายเลย มันแย่นะฝิน T^T
รอรอต่อไปนะค๊าฟฟ
-
แก้วเริ่มอ้อนแล้ว หึหึ :z1: :z1:
-
คิดว่าพงษ์ไม่น่าจะรำคาณฉก้วหรอก มันต้องมีอะไรสักอย่าง
แต่เล่นตัดสายทิ้งแล้วไม่อธิบายอะไรแบบนี้เนี่ย................ สงสารแก้วนะ
T^T
-
พงษ์ทำไมแกทำอย่างนี้งี้แว๊
สงสารลูกแก้วอย่างแรงเลย
รุ้มั้ยว่าก่อนที่ฝื่นเป็นคนได้ขนาดนี้ แก้วต้องเจออะไรมาบ้าง :sad4:
อ่านตอนนี้แล้วรักแล้วหลงฝื่นโพด โหดแต่ก็อบอุ่น คิกคิก :laugh:
ฝื่นดูแลแก้วมันดีๆน่ะ เอาให้มันลืมพงษ์ไปเลย หึหึ :jul3:
อีพี่ขวัญกวนตีน แต่จากที่ดูมันก็น่าจะรักแก้วนะ แต่แค่แสดงความรักไม่เป็น
หรือรู้สึกไปเองคนเดียว :laugh:
อ๋อ อีกอย่าง คงไม่ใช่ว่าพี่ไม้คู่กะอิพี่ขวัญนะ :m20:
สู้ๆๆค่ะคนแต่ง เป็นกำลังใจให้ o13
-
Confused with pong
P'Mai so cute xD
-
อ้อนจังเนอะ แต่ว้าเลือดกำเดานี่มันสั่งได้ด้วยเหรอ
-
พงษ์มันเป็นอะไร แก้วก็มีวิธีอ้อนแบบของแก้วนะฮ่าๆ
-
มาเป็นกำลังใจให้นะครับ รับๆมาอีกนะครับ
-
:L2:
-
^^
-
“มึงอังหน้าผากกูบ่อยๆนะ” แอร๊ยยยยย ถ้าแกจะขยันอ้อนแบบนี้นะแก้ว :o8:
-
:o8: อยากได้แบบพี่ไม้บ้าง
อยากรู้จังอ้ายพงษ์มันเป็นอาราย :beat:
ปล.ให้คะแนนฝิ่นเพิ่มอีก 1.5 แต้ม
:pigha2:
-
ผมว่าแฟนพงษ์ คงต้องบอกว่าแก้วไปอยู่กับฝิ่นแน่เลย พงษ์เลยเสียใจ. มาต่อเร็วๆนะครับ
-
จากที่อ่านมาพงษ์ต้องมีความจำเป็นอะไรแน่ๆถึงไม่ติดต่อแก้วกลับมา
เพราะดูจากบทสนทนาก็ไม่มีคำพูดไหนที่ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับแก้ว
แต่คนที่สับสนเองคือแก้วหรือเปล่า เอาจริงๆเราอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจว่าแก้วจะเอาอย่างไร
จะรักฝิ่นหรือรอพงษ์ แล้วความรู้สึกที่แก้วมีต่อสองคนนี้เป็นยังไงกันแน่
แต่ตอนนี้แอบเชียร์พี่ไม้กับลูกขวัญ ฮ่าๆๆๆ คงเป็นคู่เผ็ดๆมันส์ๆอีกคู่แน่ๆ
ปล.ชอบฝิ่นมากอะ
ขอบคุณมากค่ะ :กอด1: :กอด1:
-
เกิดไรขึ้นอ่า อยากรู้ๆ
-
ทำไมมีแต่คนบอกว่าสงสารแก้ว..
ทำไมอิชั้นถึงรู้สึกอยากตบแก้วฟระ!!! คือแบบ..โห่..ไม่รู้จะเรียกอ้อน หรือ จะเรียกว่าเรียกร้องความสนใจดี
เอ๋ะ? หรือมันเหมือนกัน? =_=;;
คืออ่านๆไป แล้วแบบ.. ขอโทษนะแก้ว แกสำออยไปไหมฟระะะ ฮือออออ..
ไม่อยากจะด่าแก้วเลยนะ แต่มันก็ตงิดๆหัวใจอ่ะ กร๊ากกกก ก..
เหมือนกับว่า แก้วมันอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้เลยอะไรอย่างงี้อ่ะ
ยิ่งประโยค 'ถ้ากูจะตายกูนั่งเครื่องไปดิ้นตายต่อหน้ามึง เอาให้มึงรู้สึกผิดมากๆที่ทำร้ายกู คอยดู...'
เอ่อะ... รู้สึกแบบ พงษ์คงตามใจแก้วมากอ่ะเนอะ คือมันรู้สึกอย่างงี้เลยอ่ะ แบบว่า เหมือนเด็กเอาแต่ใจ ตรงคำว่าดิ้นตายต่อหน้าเนี่ยแหละ 5555
อยากประชด อยากจะทำให้เขาเจ็บอะไรงี้อ่ะ แต่แบบ.. ไม่รู้เลยเหรอ? มึงทำตัวเอง =_=;;
(กรี๊ดดดดดด ด.. อิชั้นแรงไปป่าวอ่ะ แต่มันหมั่นไส้อ่ะค่ะ ฮือออ แต่ก็รักนะ จุ๊บุๆ)
แต่สิ่งที่กรี๊ดที่สุดในสามโลกกกกกกก ก ...
แอร๊ยยยย..คำว่า
ตัวเล็ก ตัวเล็กตัวเล็กเนี่ยแหละ
เขินเฟร้ยยยยย
:-[
-
อ่านตอนนี้แล้วสารภาพว่าแอบงงกับความรู้สึกของแก้ว
เข้าใจว่าแก้วที่อยู่ทางนี้ เสียใจมากที่เพื่อนขาดการติดต่อไปเป็นเวลานาน
ทั้งๆที่ยอมลงทุนสละตัวเองขัดดอกล้างบาปให้เพื่อน ... เพื่อนก็ดั๊นหายหัวเข้ากลีบเมฆ
แต่มาสะกิดใจตรงที่แก้วตัดพ้อนี่สิ อย่างน้อยใจแล้วจะไปดิ้นตายต่อหน้าเนี่ย
แบบเนี๊ยะ !!! เค้าจิ้นนะตัวเอ๊ง :z3:
ความสัมพันธ์มันเหมือนจะมากกว่าที่เพื่อนคนนึงจะห่วงเพื่อนคนสำคัญ
เสี้ยววินาทีนึงเลยเฉตีรวนไปว่าแก้วรักพงษ์ >> คิดได้แบบนั้นแล้วตกใจ รีบสลัดหัวดึงความคิดตัวเองกลับมา =[]=
แต่สุดท้ายก็กลับบ้านมาอ้อนฝิ่นเหมือนเดิมอยู่ดี ถอนหายใจ เห้อ โล่ง
+1 อ้อนเยอะๆเลย เค้าช๊อบบบบบบบ :laugh:
ปล.เราว่าพี่ขวัญจัดฉากจงใจโทรไปยั่วพงษ์มากกว่า
เหวี่ยงขนาดนี้ คิดว่าที่พงษ์เปลี่ยนเบอร์วุ่นวายจนแก้วติดต่อไม่ได้ก็เพราะอิพี่ขวัญนี่แหละ :angry2:
-
ฝิ่นรักแก้วให้มากๆนะ
-
แก้วน่าสงสาร พงษ์พูดไปเพราะเบื่อขวัญแน่
ทำไมยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าฝิ่นรู้สึกดีกับแก้ว ดูอบอุ่นไงไม่รู้
แก้วก็น่ารัก ขี้อ้อนนนนน :impress2:
พี่ไม้พระเอกๆๆๆๆๆ
-
อ่านตอนนี้แล้วเจ็บจี๊ด สงสารแก้วยิ่งนัก
พี่ขวัญจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร
แต่เหมือนปมด้อยตอนเด็กๆ พ่อมีเมียน้อย
มันก็เป็นแบบนี้กันบ่อยๆ ในละครหลังข่าว แต่จริงๆ แ้ล้วขวัญก็คงห่วงแก้วอยู่บ้าง
ส่วนเรื่องพงษ์ที่ไม่ติดต่อแก้วกลับมาเพราะพงษ์รู้เรื่องแ้ก้วกับฝิ่นรึเปล่า?
หรืออะไรยังไง? อันนี้คงต้องรอกันต่อไป
อยากจะบอกว่าตอนนี้พี่ไม้พระเอกมากกกก :-[
เดี๋ยวปั๊ดเชียร์พี่ไม้แทนฝิ่นซะเลยนี่ หมั่นไส้ๆๆ
แอบเดาๆ ว่าพี่ไม้จะได้คู่กับคนรู้จักแก้วคนนี้ใช่ไหมเอ่ย?
ปล. สงสารแก้ว บอกฝิ่นมันไปก็นิ่ง :monkeysad:
ปล1. +1 คนแต่งค่ะ
-
อ่านตอนนี้แล้วไม่อยากให้พงษ์รีบกลับมาเลยอ้ะ บรรยากาศกำลังดีเลย หวานแบบแปลกๆ ฝิ่นขี้ห่วง กับ แก้วคนอยากจะอ้อน
ดูน่ารักดีนะค่ะ
ตอนนี้พี่ไม้เท่ห์มากเลย พี่ลูกขวัญโดนเข้าไปบ้าง เป็นไงล่าเด็กขี้อิจฉา เจอพี่ไม้ถึงกับเดือดเลยเหรอ o18
ตอนที่แก้วเกิดอาการอ้วกนะ ดูเหมือนพี่ขวัญแกเป็นห่วงนะ เหมือนคนทำอะไรไม่ถูกแต่ด่านำไว้ก่อน แทนตัวเองว่าพี่ด้วยแหละแต่ตอนที่พี่ไม้แกแสดงตัวก็กลับมาร้ายเหมือนเดิม ไม่เอาน่ารักเอาซะเลยนะเธอ :laugh:
พงษ์พูดเพราะตัดรำคาญขวัญแหงๆ แต่ขวัญตื้อขนาดนั้นมีอะไรรึเปล่าน้อ :impress2:
:กอด1: :กอด1: ตอนหน้าแก้วไม่สบาย :haun4:
-
โอ้ยย มีปมเพิ่มมาตลอดดด พงษ์กับขวัญนี่มันยังไง!!
ชักงงๆ แต่เชียร์ฝิ่น รักฝิ่น สุดใจขาดดิ้นน อ้ายยย :กอด1:
แก้วเอ้ยยยย น่าสงสารเว่ออ่ะค่ะ!!
-
ไปก็ดีพงษ์ ~
แบบนี้คนสำคัญของแก้วก็จะมีแต่ฝิ่น :laugh:
-
พี่ขวัญนิสัยไม่ดี...ตั้งแต่เด็กจนโตเลย...T__T
ชอบแกล้งน้อง..เป็นพี่แต่ไม่ดูแลน้องเลย..
-
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ ,,, หวังว่าตอนหน้าคงน่ารักนะ
-
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะค่ะ...รีบมาต่อเร็วๆนะคะ...แก้วขี้อ้อนอ่ะ...น่าลุ๊คอ่ะ :-[ :-[ :-[ :-[
-
:impress2:น่าติดตามจังเลย
-
ไม่รู้ว่าพงษ์เป็นอะไร
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่
เราสงสารแก้วอ่ะ
ทำไมพงษ์ทำแบบนี้
ที่แก้วเจอทุกวันนี้เพราะพงษ์ไม่ใช่เหรอ
งงกับไอ้คุณพงษ์ว้อยยยยยยยยย~
-
มีใครรักแก้วจริงๆบ้างไหมเนี้ย
คนที่ไว้ใจก็ร้ายที่สุดซะงั้น สงสารแก้วจังเลย
-
อยากอ่านต่อเร็วๆแล้วอ่ะค่ะ...รีบๆมาต่อนะคะสงสารแก้ว
-
อิพี่ขวัญนี่มันบ้า
ว่ะ จะอะไรนัก
หนาว่ะ :z3:
-
มารอครับ
-
แก้วเป็นโรคไรอ่ะ
-
คิดถึงแล้ว
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๕
แก้วก้มหน้าก้มตามุ่งมั่นอยู่กับการบวกลบรายรับ-รายจ่ายของอู่ นิ้วมือข้างซ้ายชี้ตัวเลขทีละบรรทัด ส่วนอีกข้างก็วุ่นอยู่กับปุ่มเครื่องคิดเลขสลับกับจับปากกาจดๆตัวเลขไว้กันลืม ...เครียดกว่าซ่อมคอมฯอีกนะเนี่ย
เขาพักสายตาด้วยการมองออกไปหน้าอู่ ช่างแต่ละคนต่างก็วุ่นอยู่กับงานที่ตัวเองรับผิดชอบทั้งนั้น ไม่ว่าจะงานใหญ่หรืองานเล็ก ลงมือซ่อมเองหรือเป็นเพียงผู้ช่วยคอยส่งเครื่องมือ ทุกคนล้วนไม่อิดออด ยังไง งานก็คืองานล่ะนะ เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำทุกคนก็ดูเต็มที่กับมัน เพราะการมีหน้าที่นี่แหละคือสิ่งที่น่าภูมิใจ แล้วยิ่งหน้าที่ของเราเสร็จเรียบร้อย ยิ่งน่าภูมิใจเข้าไปใหญ่ ...ไอ้แก้วไม่ไร้ประโยชน์แล้ว
คิดได้อย่างนั้นแก้วจึงก้มหน้ายิ้มร่าใส่ตัวเลขอีกครั้ง แม้การฝึกงานของเขาจะไม่เคยตรงกับสายที่เรียนมา แต่ก็ถือซะว่าได้ประสบการณ์ไปอีกแบบ ไหนจะแยกน็อต ไหนจะทำบัญชี และต่อไปเขาต้องชาร์ตแบ็ตเตอรี่รถสำเร็จให้ได้ แอบจำจากช่างในร้านบ่อยๆรอแค่โอกาสเท่านั่นล่ะ
“อ่ะ”
“หืม?”
“ชามะนาว กินไม่หมด” เขารับแก้วชามะนาวจากมือฝิ่น
...กินไม่หมด?
“แต่ทำไมยังเต็มแก้วอยู่เลยล่ะ”
“กินๆไปเถอะ”
เมื่อเช้าตอนฝิ่นออกไปเรียนเขาก็ซื้อกินไปแล้วนะแก้วนึง พงษ์เคยให้กินหลังจากดื่มเหล้าเข้าไป มันบอกแก้คลื่นไส้ได้ เขาเลยเอามากินเมื่ออาการนั้นกำเริบตลอด ถึงจะคลื่นไส้คนละแบบก็เถอะ
อาการของเขา เขารู้ดีว่ามันคือการทรมานตัวเอง ยิ่งรู้สึกแย่อาการมันก็ยิ่งออก และนอกจากอยากอ๊วกแล้วเขายังปวดหัวตุบๆมาตั้งแต่เมื่อคืนอีกด้วย
อ๊วกหมดท้องเดี๋ยวมันก็หยุดเอง กำเดามันก็ไม่เคยไหลข้ามวัน แต่ปวดหัวนี่ จะหายเมื่อไหร่ก็เดาไม่เคยได้
ยิ่งอ๊วกยิ่งปวดหัว เขาเลยรักษาตัวเองด้วยวิธีง่ายๆไปก่อน
แก้วดูดชามะนาวไปกว่าครึ่ง แล้วเงยหน้ามองฝิ่นที่นั่งหันหลังให้เขาอยู่บนโต๊ะทำงาน
ไอ้พงษ์หายไปก็ดีแล้ว เพราะหนึ่งในหลายคนที่ไม่ต้องการให้เขาติดต่อกับพงษ์ก็คงรวมฝิ่นด้วย เขาถึงขอไม่ให้พี่ไม้พูดเรื่องเมื่อวานให้มันฟังไง
ก็ถ้า...พงษ์มันเลือกที่จะเงียบไปก็ขอให้มันหายไปจากความทรงจำไอ้ฝิ่นเลยยิ่งดี
แก้วยื่นมือไปจับชายเสื้อนักศึกษาของคนตรงหน้าแล้วกระตุก
“กูจะอยู่กับมึงจนกว่ามึงจะไม่ต้องการ” เขาพูดบอกเมื่อฝิ่นหันมาก้มมอง
เขารู้สึกตามที่พูด ถามว่ารับได้เหรอกับสิ่งที่พูด ก็จะตอบว่ารับได้ เพียงแต่ อาจจะใจหวิวๆไปบ้าง
“เหอะ เป็นอะไรมากรึเปล่าวะ เดี๋ยวนี้ชักเพ้อๆนะมึง”
“คนเราจะอยู่ด้วยกันได้ก็ต้องมีความหมายสำหรับกัน ก็ถ้า...สักวัน กูไม่มีความหมายสำหรับมึง...”
“เลิกพูดได้แล้ว” ฝิ่นปัดมือเขาออกแล้วกระโดดลงจากโต๊ะเดินลิ่วไปหน้าร้าน
“ไม่พูดก็ได้ ...แต่ไม่ได้แปลว่ากูจะไม่คิดสักหน่อย” เขาพูดคนเดียวพลางฟุบหน้าลงกับท่อนแขนตัวเองอย่างเหนื่อยใจ
ใครสักคนจะเดินจากอีกคนไปมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องเข้าใจยากหรอก
ใครจะพูดอะไรก็ได้ แต่ใครจะทำได้อย่างที่พูดนั่นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์จริงๆ ...ขนาดเคยพูดว่าจะไม่ทิ้งกัน...วันนี้ก็ดันใกล้เคียงซะแล้ว
...ไอ้ตัวเล็กคนนี้ยืนได้ด้วยคิดว่ามีอีกคนอยู่ข้างๆ ถึงตัวเราจะไม่ได้ใกล้กันแต่คำมั่นที่เคยพูดเอาไว้ยังจดจำอยู่ในทุกโสตประสาท
ไม่ได้โกรธถ้าต้องโดนลอยแพ แต่แค่เสียใจ...
เราเคยพูดกันทุกเรื่องไม่ใช่เหรอ ให้มึงเดินมาไล่กูต่อหน้าก็จะไม่คิดมากอย่างนี้เลย ถ้าเป็นอย่างนี้จะบอกให้รอทำไม รอเพื่อรับรู้สิ่งว่างเปล่าที่มึงไม่คิดจะบอกกูอย่างนั้นสิ
ต่อไป...ถ้าหากล้มแล้วจะลุกมาเพื่อใคร
“มึงเคยมีความหมาย แต่บางทีมึงอาจจะไม่มีความหมายแล้วก็ได้” แก้วเงยหน้าย่นคิ้วมองฝิ่นกับท่าทางลนๆน้ำเสียงรีบๆของมันด้วยความข้องใจ
“กู” เขาชี้นิ้วใส่ตัวเอง “ไม่มีความหมาย?” พูดทวนคำ
“เออ!”
“.......................” เขาก้มหน้ากำมือตัวเองแนบตักน้ำตาคลอ
“เป็นอะไร?”
“.........................” เขาส่ายหน้ารัว
รับได้สิต้องรับให้ได้ มันคือความจริง
ปัง!
“อย่าเงียบใส่กู” แก้วสะดุ้งเฮือกเมื่อฝิ่นตบโต๊ะเสียงดัง
“ไม่มีความหมายก็ได้แต่ให้กูอยู่กับมึงไปก่อนได้ไหมล่ะ” เขาพูดสวนทันควัน ไม่ต้องมารักเขาตอบ ไม่ต้องมาทำเป็นหวังดี ไม่ต้องมาผูกพัน ขอเวลาให้เขาเข้มแข็งกว่านี้...แล้วเขาจะไม่เรียกร้องอะไรอีกเลย
“มึงต้องอยู่กับกูแบบที่มึงไม่มีความหมายนี่แหละ ใช่ ถูกต้องที่สุดแล้ว ไม่ต้องมีความหมายอะไรเลย”
แก้วก้มหน้าสะอื้นด้วยความสมเพชตัวเองก่อนจะรีบวิ่งออกประตูหลังร้าน อ่อนแอเกินไปแล้ว...
“อ๊วก แอ่ก แค่กๆ” โก่งคออ๊วกข้างพุ่มไม้อย่างทรมานลำไส้ ตอนไม่เป็นก็ไม่เป็น พอเป็นทีก็กะเอาให้เขาไส้ขาดเลยใช่ไหม
“แม่ ไอ้แก้วมันอ๊วกอย่างกับจะเป็นจะตาย” ฝ่ามือของฝิ่นที่วิ่งตามมาลูบหลังอย่าลนๆ เขาแหงนมองมันนิดนึงก็เห็นว่ากำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“..............................”
“เป็นโรคกระเพาะรึเปล่าวะ” มันถาม
“ไม่” เขาตอบ พลางนั่งยองๆเปิดสายยางฉีดน้ำใส่หน้า
“ไม่ได้เป็นแม่ ตัวก็ไม่ร้อน” มันนั่งตาม ใช้หลังมืออังหน้าผากเขาพร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย
“.............................”
“ปวดหัวไหม?”
“อืม” พร้อมพยักหน้า
“ไมเกรนเหรอ?”
“เปล่า”
“ก็ไม่อีกน่ะแม่ บอกพ่อด้วยหนูพามันไปโรงพยาบาลก่อนละกัน” มันวางสายแล้วฉุดมือเขาให้ลุกขึ้นตาม
“ไม่ไปโรงพยาบาลxนะ” เขาเดินตามแต่รั้งข้อมือมันไว้
“ต่อรองทำไม วุ่นวายจริงโว้ย” มันโวยแต่ยังลากเขาเดินต่อ
“หรือจะไม่ไปเลยก็ได้ กลับบ้านนอนพักก็หายแล้ว”
“อย่ามีปัญหาได้ไหม กูตัดสินใจเองได้”
“...............................” แก้วหน้างอตาแดงแต่ก็ไม่กล้าขัดขึ้นมาอีก
เขาเดินตามแรงลากของฝิ่นจากที่จะหายก็ชวนอยากจะปล่อยออกมาอีก ค่อยยังชั่วที่มันยัดเขาใส่รถก่อน แต่ เฮ้ย นั่นรถพี่ขวัญวิ่งเข้าอู่มาพอดี ไอ้ฝิ่นที่ปิดประตูฝั่งเขาหันไปเห็นแล้วมันก็เดินเลยไปหาพี่ขวัญแทนที่จะมาออกสตาร์ทรถตัวเอง
แก้วมองตามฝิ่นทุกฝีก้าว
ทำไมต้องให้ความสนใจพี่ขวัญด้วย
ปึก! เสียงปิดประตูรถ
แก้วมองฝิ่นค้อนขวับพลางคาดเข็ดขัดนิรภัยจะได้ไปกันสักที
“วุ่นวายทั้งพี่ทั้งน้อง” มันเองก็ค่อนขอดเขาเหมือนกัน แต่พอหมุนพวงมาลัยเลี้ยวออกจากอู่ มันก็เอามือซ้ายมากุมมือเขา
“ฝิ่น...”
“อะไร”
“ปวดหัว”
“บ้าเอ้ย” มันสบถแล้วเลี้ยวรถจอดข้างทางก่อนจะโอบตัวเขามาปรับเอนเบาะเพื่อให้เขานอน
ปรับเองเป็น...
.
“นอกจากอาเจียน ปวดหัวแล้ว ยังมีอาการอะไรอีกรึเปล่าครับ” คุณหมอถาม
“เลือดกำเดาไหล” แต่เขาไม่ได้ตอบ ไอ้คนที่พามาชักสีหน้าตอบหมอแทน
“แน่ใจว่าไม่มีโรคประจำตัวนะครับ”
“มีรึเปล่า” ฝิ่นย้ำคำถามของหมอด้วยน้ำเสียงคาดคั้น
“ไม่มีครับ เคยมีหมอไปตรวจที่บ้านเมื่อประมาณสาม-สี่ปีที่แล้ว คือ...เขาบอกว่ามาจากตัวเอง”
“อืม...หมอก็คิดว่าอย่างนั้นครับ คนไข้รู้ตัวใช่ไหมว่าควรจะทำยังไง หมอให้ยาไปก็ใช้ไม่ได้ผลหรอก ถ้าตัวคนไข้ยังทำร้ายตัวเองอยู่อย่างนี้ เมื่อรู้ว่าเครียดก็อย่าไปคิดมาก ใจเราเป็นทุกข์ร่างกายเราก็ทุกข์ตาม วันนี้หมอให้ยาแก้เครียดไปทานนะ แต่เจ้าตัวก็ต้องรักษาตัวเองด้วยล่ะ อายุแค่นี้เองมีอะไรให้เครียดเนี่ยเรา”
“ครับ” เขารู้มากกว่าที่หมอแนะนำอีก แต่บางทีก็อดไม่ได้นี่หว่า
“เดี๋ยวนะ ไม่เข้าใจ” คนที่พามานั่งฟังอย่างตั้งใจ แต่ก็คงไม่เข้าใจนัก
“คืออย่างนี้ครับ อาการของเพื่อนน้องเรียกว่าสมองสั่งให้ร่างกายทำตาม สมองควบคุมกดดันตัวเองจนเกิดอาการข้างเคียงดังกล่าว อาการที่เพื่อนน้องเป็นนี่ถือว่าเบาแล้วนะครับ บางรายถึงขั้นลงมือทำร้ายตัวเองจนเลือดตกยางออกโดยที่มีสติและไม่มีประวัติใช้ยาเสพติด คนไข้ต้องปล่อยวางให้มากๆอย่าคิดเล็กคิดน้อย เพราะยิ่งกดดันตัวเองมากเท่าไหร่สุขภาพร่างกายเราก็จะแย่ตามไปด้วย หรือถ้ามีปัญหาจริงๆลองปรึกษาจิตแพทย์ดูก็ดีนะครับ การพบจิตแพทย์ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นบ้า แต่จะให้คำปรึกษาได้ตรงจุดมากกว่า อันนี้หมอแนะนำเฉยๆแล้วแต่คนไข้จะตัดสินใจครับ”
.
“พี่ฝิ่น แก้ว” นั่นไง จนได้สิ รู้ว่ามิวฝึกงานที่นี่ไงถึงไม่อยากมา ไม่อยากเจอ แต่ดันเจอจนได้ โลกแคบจริงๆ
“หวัดดีมิว” เขาเอ่ยทัก
“อืม หวัดดี พี่ฝิ่นมาทำอะไรที่นี่คะ” หวัดดีเขาแต่ตากลับมองไอ้ฝิ่น
“พี่ฝิ่น พี่ฝิ่น”
“ยุ่ง!” ฝิ่นว่ามิวแล้วเดินลิ่วไปเลย
มันเงียบไปตั้งแต่ตอนคุยกับหมอ ออกจากห้องตรวจแล้วมันก็ยังเหมือนคิดอะไรคนเดียวอยู่ อย่าว่าแต่มิวเลย เขาพูดกับมันเรื่อยๆมันยังทำอย่างกับไม่ได้ยิน
“ไปนะมิว” เขาบอกเธอ
“เดี๋ยวสิแก้ว” เขารีบเดินหนีให้พ้นไม่อยากจะคุยกับมิวนาน ถึงฝิ่นจะไม่เคยพูดถึงมิวอีกแต่เขาก็ไม่ได้ยินดีที่จะเห็นสองคนนี้พูดคุยกันหรอกนะ
แก้วตามฝิ่นเข้าไปนั่งในรถข้างคนขับ มันสตาร์ทรถเปิดแอร์เรียบร้อยแต่ยังนั่งนิ่ง นอกจากเสียงแอร์แล้วเขาไม่ได้ยินเสียงอื่นอีกเลย
“เป็นอะไรรึเปล่า” แก้วจึงออกปากถามมันเอง
“กูต้องทำยังไง?”
“เรื่องอะไร?”
“ที่มึงเป็นอย่างนี้เพราะกูรึเปล่า” เขามองหน้าฝิ่นอย่างลังเลที่จะตอบ ถึงต้นสายปลายเหตุจริงๆ
“ไม่ใช่ว่ากูสั่งให้ตัวเองไม่สบายได้หรอก แต่กูควบคุมตัวเองไม่ได้ต่างหาก แค่คำพูด การกระทำของคนที่กูให้ความสำคัญมันแสดงออกมาเหมือนไม่มีที่ให้กูอยู่ อาการอย่างนี้มันก็จะเป็นเอง หึ ฮะๆ แต่ชินซะละ”
“ยังมีหน้าหัวเราะอีก ชีวิตมึงแม่งบัดซบไม่เลิก”
“กูไม่ตายง่ายๆหรอก”
“ใครเขาให้มึงตายกันห๊ะ” ฝิ่นต่อว่าเสียงเข้ม
“อืม ฝิ่น...”
“มึงเรียกกูแบบนี้อีกแล้ว ฮึ่ย” มันว่าอย่างหัวเสียพลางขับรถออกจากโรงพยาบาล
“การได้รักใครสักคนมันก็ดีนะ แต่คงดีกว่าถ้าได้ถูกคนที่เรารัก รักตอบ”
“..........................” มันเงียบเขาเลยคิดว่าฝิ่นมันคงไม่เข้าใจ
“กูไม่ได้ต้องการอะไร แค่พูดให้ฟัง”
“กูไม่ได้ไม่รักมึงซะหน่อย”
“ห๊ะ?”
“ให้มึงซื่อบื้อต่อไปละกัน”
..............................
อ่านแล้วเป็นไรไม่รู้...ชอบฝิ่น
ชอบมากก ดูแบบเถื่อนๆแต่ก็รักจิง อะไรประมาณนั้นอะ
คนเขียนเป็นไงบ้างง ช่วงนี้มาอัพบ่อย...ดีใจๆ
เจอกันเมื่อไรอ่าาา
...คนเขียนก็งานเยอะค่ะ แต่ก็อู้เป็นประจำอยู่แล้ว แต่งานท่าจะรุมอีกแล้วเพราะว่าเจ้านายขยายธุรกิจเพิ่ม แถมแม่บ้านยังลาออกอีก บอกเลยว่าได้ แอร่ก แน่ ตอนกลางคืนก็นอนดมยาดมไปด้วย พิมพ์นิยายไปด้วยปกติจ้า ถ้าไม่เถลไถลไปจิ้นเด็กตามยูทูป ก็คงจะดีจะได้มาไวกว่านี้ ฮ่าๆๆๆ
อ้อนจังเนอะ แต่ว้าเลือดกำเดานี่มันสั่งได้ด้วยเหรอ
...เราว่าคงสั่งไม่ได้หรอกค่ะ อาการบางส่วนมาจากประสบการณ์ตรงของคนเขียนค่ะ อย่างตอนล่าสุดที่พูดถึงอาการของแก้วก็อ้างอิงจากคนเขียนไปคนเดียวเพราะไม่รู้เหมือนกันว่ามีใครอาการทำนองนี้ไหม
กะว่าน่าจะไม่เกินตอนที่ ๖๐ หรือถ้าเกินก็คงไม่ไกลกว่านี้มาก จะปิดม่าน ฝิ่นกับแก้วแล้วค่ะ
พงษ์ซื้อตั๋วเครื่องบินอยู่ ยิ่งคนอ่านไม่อยากให้มันมา มันก็จะยิ่งมา :beat: ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ รักจัง >< กอดๆจุ๊บ
-
จิ้ม ๆ :กอด1:
-
มาต่ออีกนะคะกะลังอินเลย...ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :z3:
-
ตอนนี้เป็นหวานแบบเถื่อนๆ ตามแบบของฝ่ิน
5555 บอกรักกันแบบนี้...ตะโกนด่าเลยดีกว่า
อะนะ คนเขียนก็อย่าหักโหมมากนะคะ
พักผ่อนบ้างไรบ้างงงง
เป็นห่วงจ๊ะ
-
พี่ฝิ่นพระเอกมาก รักก็บอกว่ารักไปเลย
ถ้าแก้วไม่คิดมากก็คงจะมองเห็นสิ่งที่ฝิ่นแสดงออกบ้างล่ะนะ
-
พงษ์กะลังจะกลับเหรอคะ
อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิดละเนอะ ปลงซะละ :เฮ้อ:
-
แก้วเอ๊ย....คนเขียนจะให้หนูมีความสุขได้เมื่อไหร่น๊อ :เฮ้อ:
-
ตั้งแต่พงษ์ทำแก้วเครียด เราก็ไม่อยากเจอมันอีกเลย :laugh:
ฝิ่นมันน่ารักขึ้นตั้งเยอะ :กอด1: แต่อ่านอตนนี้แล้วก็สงสารแก้ว เพราะพื้นฐานชีวิตแก้วไม่ใช้เป็นคนที่จะปรึกษาใครก็ได้
คนเดียวที่คอยช่วยก็มาหายไป มันก็ต้องเครียดแหละนะ แล้วมาโดนไอ่เห้ขวัญกดดันอีก อยากส่งมันดาวอังคารจริงๆ
ไม่เชียร์มันกับพี่ไม้โครตเท่ห์หรอก ไม่เห็นจะคู่ควรเลย ไปกระแดะกับพงษ์คนเดียวไป๊
-
แก้วไม่ได้ซื้อบื้ออย่างที่ฝิ่นว่าหรอก แค่ ไม่มั่นใจ ไม่อยากคิดไปเอง เพราะกลัวเจ็บอีกไง
ฝิ่น ถ้าไม่อยากให้แก้วเป็นแบบนี้ ก็ รักแก้วตอบซิ แล้ว แสดงออกให้ชัดเจน ให้ แก้วมั่นใจ นะนะ ได้ป่ะ
-
โอ้วๆ แม่งซึ้งเว้ย 555 "กูไม่ได้ไม่รักมึงซะหน่อย"
-
อร๊ากกก.......เหมือนฝิ่นจะรุ็ตัวแล้ว ><
ร้ายกาจที่สุด เขิลๆ
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้า อิอิ
ชอบๆ ><
-
"กูไม่ได้ไม่รักมึงซะหน่อย"
โอ๊ยย..ฝิ่นน่ารักวะ.. :o8: :o8: :o8:
-
ฝิ่นรักแก้วแล้วใช่ไหม
-
เอ๊ะ ยังไงหว่าฝิ่น
จะเลิกปากแข็งแล้วเหรอออ
อยากอ่านต่ออีกแล้วอะ
มาต่ออีกเร็วๆนะ 555
-
ฝิ่น ตกลงแกรักแก้วแล้วใช่ไหมยะ? ชัดเจนหน่อยสิ :m16:
เด๋วแก้วเครียดตายทำไง
:pig4: ค่า
-
"กูไม่ได้ไม่รักมึงซะหน่อย"
โอ็ย รักฝื่นสวดๆอ่าห์ :give2:
พงษ์ชื้อตั่วนานๆนะ
ให้เค้าสองได้อินเลิฟๆกันก่อน :impress2:
-
"กูไม่ได้รักมึงซะหน่อย"
อ่านแล้ว..เขินอ่ะ
-
ก็รักๆกันซะสิๆ =)
-
ไม่ได้ไม่รัก แค่นี้ก็ทำให้แก้วและคนเขียนชื่นใจแล้ว :-[
ฝิ่นคงรู้ใจตัวเองแล้วซินะ
ใกล้จะปิดม่านแล้วเหรอ อีกใจหนึ่งก็ยังไม่อยากให้จบ
แต่อีกใจหนึ่งก็อยากให้คลายปมต่างๆไวๆอ่ะนะ
-
เอ่อะ...
เจอประโยคเดียว น็อคเอ้าท์คาคอม!!!
ฝิ่นนนนนน ฝิ่นน.. อย่ามาอะไรแบบ รักแบบพี่น้อง ผูกพัน ไรงี้ไม่ได้นะ
ไอ้แบบอยู่บ้านเดียวกัน เลยพลอยรักพลอยเป็นห่วงนี่ไม่เอานะ
คือเราจิ้นเธอแล้วอะไรแล้วอ่ะ แอร๊ยยยยยย.. เขินมากที่สวดดด ฮืออออๆๆๆ
ฝิ่นเอ้ยยย ชอบทำให้หัวใจป้าจะวายตลอดเลยนะ
o18
-
สรุปแล้วแก้วเป็นโรคเครียดนี่เอง เห้อคนข้างๆสงสัยจะสงบปากสงบคำไปเยอะแน่ๆ รักแก้วขนาดนี้ยังปากแข็งอีก น๊ะคนเรา
-
:L2: ไม่รักแต่เป็นห่วง
-
ฝิ่น...มึงน่ารักอ่ะ
-
กริ๊วววว ฝิ่นมันเริ่มใจอ่อนแล้วใช่มั้ย สงสารแก้ว :sad4:
-
:-[ ทำไมยิ่งอ่านแล้วยิ่งรูสึกว่าฝิ่นอบอุ่นจัง
แต่ปากยังแข็งไม่น้อย :laugh:
-
สงสารแก้วอ่ะ
ใหนจะเรื่องพงษ์
ใหนจะเรื่องฝิ่น
ทำดีกับน้องบ้างไม่ได้เลยรึไงเลยพี่ฝิ่น
ปากตรงกับใจซะบ้างเถอะพ่อ
ชิส์..............ขัดใจว้อย
-
มาแบบหวานดิบๆอีกแล้วสองคนนี้
ฝิ่นบอกว่าแก้วไม่มีความหมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สำคัญ
เพราะถ้าแก้วไม่สำคัญ อีพี่ฝิ่นจะเป็นห่วงขนาดนี้หรอ
ออกนอกหน้านอกตามาเลยนะตอนที่แก้วอ้วก
ว่าแต่ขวัญมาทำอะไรหรอ หาเรื่องมาให้แก้วหรือเปล่า
ทำไมฝิ่นถึงต้องอารมณ์เสียด้วย
"ไม่ได้ไม่รัก"หมายความว่ารักหรือเปล่าจ๊ะฝิ่น
พูดว่ารักไปเลย คำเดียวสั้นๆง่ายๆ
พูดยาวไปน้องแก้วไม่เข้าใจ 5555
รักก็รักสิว่ะฝิ่น จะอมเอาไว้ทำไมบอกออกไปสักครั้งให้คนฟังเขาชื่นใจ
อย่างน้อยแก้วจะได้รู้ว่าไม่ได้รักอยู่ฝ่ายเดียว
พี่ซีซั่นค่ะ อยากรู้ว่าพี่ฝิ่นกับน้องแก้วอิมเมจประมานไหนอ่ะ
พยายามจะจิ้นแล้วนะ แต่ไม่รู้จะจิ้นใครดี
เรื่องงานสู้ๆนะคะ ^^
-
และแล้วฝิ่นก็ได้รู้ว่าแก้วเป็นอะไร และแล้วแก้วก็ได้รู้ว่าฝิ่นคิดยังไง :mc4:
"ไม่ได้ไม่รัก" <<< ก็ยังปากแข็งอยู่ดีนะ 555 รักแบบไหน เอาเคลียร์ๆ น้องแก้วจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน :o8:
ขอบคุณนะค้า :L1:
-
ฝิ่นดูแลแก้วดีๆนะจะได้หาย
:bye2:
-
"กูไม่ได้ไม่รักมึงซะหน่อย"
คำพูดธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
-
ฝิ่น...รักแก้วแล้วใช่มั๊ยย~
อ๊ากกก เขิลล~ >////<
-
ตกลงฝิ่้นจะบอกว่ารักแก้วใช่ม่ะ
แก้วมันคงจะเข้าใจได้น่ะ ขนาดนี้แล้ว
แต่ฝิ่นมันก็ยังคงรักแบบเถื่อนๆ อยู่แบบนี้
เป็นกำลังให้คนเขียนนะคะ
-
+1 ให้จ้า
สงสารแก้วนะ ถ้าคิดแล้วเครียด เจ้ว่าปล่อยมันไปตามกรรมเถอะแก้ว :เฮ้อ:
ฝิ่น รักแก้ว ก็บอกแก้วซิ ปล่อยให้เครียดอยู่ได้ :n1:
รอจ้า :call:
-
เห้ย เดี๋ยวก่อน
ไอ้ประโยคก่อนก่อนบรรทัดสุดท้ายนั่นมันอะไรกันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
ฝิ่นมาเคลียร์ด่วน ทำให้มันชัดเจนนนนน
..นี่ขนาดเกินครึ่งเรื่องมาไม่กี่ตอน ทำไมมันหวานอย่างนี้
วานแบบเถื่อน ๆ อั้ยยั้ย :-[
รอตอนต่อไปจ้า
-
บทจะพูดก็พูดตรงซะเอาคนอ่านเตรียมตัวไม่ทันเลยนะฝิ่น
-
...พี่ขวัญมาทำไมเนี่ย หรือว่าเป็นห่วงแก้ว หรือมาหาพี่ไม้555
...คุณฝิ่น สารภาพ รักซะแล้ว ไม่แน่จริงนี่หว่า :laugh:
-
มาอีกนะครับ
-
หน้าบานแทนแก้ว :o8:
-
หนุกมากครับ รีบมาต่อน้า o13
-
ชอบฝิ่นมาตลอดตั้งแต่ตอนแรกเลยยย
ฝิ่นเอ้ยยย ปากก็ร้ายพอดู แต่เอาเข้าจริงๆ ดูและดีซ้าา
อย่างฝิ่นนี่ต้องดูที่การกระทำจริงๆๆๆ
-
ฝิ่น อยากฟังแบบตรงๆ ชัดๆ ดังๆกว่านี้ ฮ่าๆๆ
แต่แค่นี้ก็น่ารักละ รักแก้วมากๆนะฝิ่น ^^
-
^^
-
อิฝิ่นนนน..............มาจูบทีนึงสิ :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:
:pig4: :pig4:
-
เราว่าแก้วมันแพ้ท้องว่ะฝิ่น ตรวจผิดโซนแล่วว เดินเลี้ยวไปแผนกฝากครรภ์เหอะ :laugh:
กอดดดดดดดคนแต่ง ....รู้ตัวมั๊ย ??
ตัวเองเขียนบทเรียกน้ำตาได้ทะลักมากๆ
เวลาแก้วมันน้อยใจนะ คำพูดแต่ละประโยคเนี่ย เรียกน้ำตาคนอ่าน โฮกๆ
ส่วนคำพูดฝิ่นเวลาเชือดแก้วแต่ละที ...ขอบอกว่ามันเรียกteenzคนอ่านสุดๆ
เกิดอาการเส้นกระตุก อยากเอารองเท้าเขวี้ยงหัวพระเอกแรงๆสักสิบคู่ :angry2:
แต่พอบทจะหวาน.......
เล่นเอาเราปรับโหมดไม่ทัน รีบคว้าผ้าห่มมากัด งืดๆๆๆ (<< แน่ใจว่าเอ็งเขิน ??)
ชอบเรื่องนี้ตรงที่หวานแอบเถื่อน ไม่เอียนไม่เลี่ยนนี่แหละ
อ่านแล้ว มัน กรี๊ดอ่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดๆๆๆ !!!
บวก โลด จัดไป มาต่อ ไวๆน๊า จุ๊บส์ :L2:
-
รักก็พูดให้มันชัดเจน ลีลาอยู่ได้ เวลาไม่คอยใครนะ
ขอบคุณมากค๊า :กอด1: :กอด1:
-
ชีวิตรันทดมากนู๋แก้ว เฮ้อออ
-
น่ารักอ่ะ
-
ประโยคสุดท้ายอย่างโดนนนนนนน
กูไม่ได้รักมึงซักหน่อย
คนอ่านคนี้ก็เริ่มรักฝิ่นกะแก้วขึ้นเรื่อยๆละ อิอิ
-
ฝิ่นสับสนกับตัวเองบ้างไหมเนี่ย บางทีก็พูดจาร้ายกาจ บางทีก็พูดจาน่ารักเนี่ย สงสารแก้ว ขวัญอะไรกับแก้วนักหนา แล้วพงษ์ทำอะไรอยู่กันแน่เนี่ย
-
“กูไม่ได้ไม่รักมึงซะหน่อย”
“ห๊ะ?”
“ให้มึงซื่อบื้อต่อไปละกัน”
กรี๊ด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ขอพรกับคนเเต่ง ตอนหน้าขอไม่มีมาม่า!!! เพี้ยง!
เเก้วน่าฮักขนาดอีกตามเคยงุงิ เเบนมาม่า เเต่ก็ยังอ่าน งุงิ
ฝิ่นนายมันซึนเดระ งุงิ
ขอบคุณที่มาเเต่งมาให้อ่านนะค่ะ :กอด1:
-
ฝิ่นอ้อมโลก แต่น่ารักเว้ยเฮ้ยยยยยยยยยยยยย แอร๊ยย :-[ :-[ ต้องให้นุ้งแก้วแปลไทยเป็นไทยอีกแล้ว หวังว่าคงจะเก็ทแล้วอาการป่วยคงดีขึ้นเนาะ :กอด1:
อาการป่วยแก้วน่ากลัวนะ ควบคุมร่างกายไม่ได้เนี่ย เราก็เป็นนะ ปวดหัวไมเกรนที เอาหัวโขกกำแพงหรือผนังทีให้ตายกันไปข้าง
สองคนนี้เค้าเถียงกันเรื่องคำว่า "ไม่มีความหมาย" แต่เราว่ามันมีความหมายมากเลยล่ะ แต่สองคนนี้เค้าเข้าใจคนละอย่างละซี่
แก้วเข้าใจว่ามีความหมายในเรื่องความรัก ขอมีความหมายในสายตาฝิ่นบ้าง แต่ฝิ่นมันหมายถึงเรื่องพงษ์-เป้ง ไม่อยากให้แก้วมีความหมายในเรื่องนี้ เฮ้อ จะเคลียร์กันไหมคะเนี่ย :3123:
ปล. คุณพี่ลูกขวัญมาทำหยังละเนี่ย :really2:
-
ไม่เกินตอนที่ 60 นี่ แสดงว่าใกล้จบแล้วใช่ป้ะ??
โอ้ยยๆๆ ปมต่างๆจะคลี่คลายแล้วดิ ><
มาต่อเร็วๆนะคะ มาช้าเราก็รอ อิอิ
-
:-[ ฝิ่นนี่ก็แอบน่ารักนะ อิอิ ไม่รู้ถ้าคนที่อยู่เมืองนอกกลับมา จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง สงสารแก้วววววววววววววววววว
-
ฝิ่นรักแก้วแล่ว
:L1:
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ ^^
-
หวังว่าฝิ่นคงรู้ตัวดีนะคะว่าพูดอะไรออกไป อิอิ :o8:
-
อ๊ากกกกกก ประโยคทิ้งท้ายนี่ทำเอากรี๊ดเลยนะคะ
ดูๆอยู่ว่าแม่จะตื่นขึ้นมาด่ามั้ย ฮ่าๆ
-
ไม่ได้เข้าบอร์ด(เกือบ)นาน
มาดูเรื่องนี้ที ไปไกลหลายตอนเลย กรี๊ดกร๊าด
ฝิ่น เราอยากบวกเป็ดให้นายว่ะ โดนอ่ัะ ประโยคสุดท้ายอ่ะ
(หวังว่า)นายคงจะรู้และเข้าใจตัวเองซักที
ส่วนพงษ์ที่เฝ้าหวังมานาน ทำไมจึงทำกับนุ้งแก้วเช่นนี้
รอแกมาเคลียร์นะเฟ้ยยยย
:L2: :L2:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เชียร์พี่ฝิ่นสุดใจขาดดิ้น...
ถึงจะตรรกะป่วยๆ ช่วงแรกๆ แต่ตั้งแต่ลากนายเอกมาอยู่ในปกครอง ก็ไม่เคยทำตัวไม่น่ารักใส่นายเอกเลย ปลาบปลื้มจุดนี้มากค่ะ
ส่วนนายพงษ์ ชิส์!!
ผิดตั้งแต่นับถือไอ้รุ่นพี่ดิวนั่นละ ไร้รสนิยม ชิส์ๆๆๆๆ :z6:
-
เฮ่ยยยยยย,,,,,บอกรักกันอย่างงี้ก็เขิลแย่อ่ะดิ
เขิลลลลลลลล ,,,ฮิ้ว!!!!!
-
"กูไม่ได้ไม่รักมึงซะหน่อย"
หึหึ ฝิ่นแปลหน่อยเร็ว แก้วยังงงอยู่ o18 o18 o18
-
ก็หวานในแบบฝิ่นล่ะนะ
-
รัก แล้ว....
แสดงออกให้มันดีดีหน่อยสิ เพ่
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๖
“จะเอามันไปด้วยทำไม” เขาฟังคำพูดเชิงค้านของพี่ไม้พลางมองไปหาไอ้แก้วซึ่งยืนคุยกับไอ้โจ้อยู่ที่โรงรถ
“มันไม่สบาย” ตอบหน้าตาย
“งั้นมึงควรจะให้มันอยู่บ้าน ไม่ใช่ลากมันไปด้วยทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าวันนี้จะเกิดอะไร”
“แต่...”
“มึงจะเอายังไงกันแน่ กูเคยบอกให้มึงปล่อยมันไปแล้วไม่ใช่เหรอ กูเตือนมึงแล้ว เตือนมึงแล้วแท้ๆ” พี่ไม้ต่อว่าด้วยความหน่ายใจอย่างคนที่รู้จักเขาดี
เห็นสภาพมันแล้วเขาก็อด....
เขาไม่ได้เป็นห่วงแต่เกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายอ่อนแอเลยแค่รู้สึกแปลกตา
“ผมหยุดไม่ได้”
“ทำไม แค่มึงหยุด ทำไมจะทำไม่ได้ คนอย่างมึง ไม่เคยมีคำว่าไม่ได้ไม่ใช่เหรอวะ”
ก็เพราะอย่างนั้นไง
“เอาตามนี้แหละ อะไรจะเกิดก็ช่างแม่งมัน”
กูไม่ได้ไม่รักมึง คำพูดที่กูไม่ได้หลอกให้มึงสบายใจ ที่พูดไปก็มาจากความรู้สึกทั้งนั้น
แต่จะให้พูดออกไปตรงๆได้ยังไงในเมื่อกู...
...กูรักมึงไม่ได้!
ยังไงชีวิตเพื่อนเขาก็ต้องสำคัญที่สุด
จะให้ผู้ชายคนแรกที่เอาเป็นเมีย มาอยู่เหนือใจเขาไม่ได้
ก็แค่ไม่คุ้น ก็แค่ไม่เคย มันจึงทำให้เขาเกิดความลังเลในความรู้สึก แต่...
เขาทรยศไอ้เป้งไม่ได้ แค่เขามองหน้ามันเขาก็โกรธมากแล้ว แต่อีกใจเขาดันไม่กล้าที่จะแตะต้องมัน ยิ่งนานวัน เขายิ่งคล้ายกับคนแพ้เข้าไปทุกที แค่คิดจะดึงมันออกจากเงื่อนไขเขาก็รู้สึกแย่กับตัวเองพอแล้ว แค่เขาให้ใจมัน เขา...ก็สารเลวกับไอ้เป้งมากไปแล้ว
แต่มันคงทำให้ไอ้แก้วเจ็บน้อยที่สุดเมื่อถึงเวลาที่พวกมันต้องได้รับผลตอบแทน เขาจำเป็นต้องทำต่อ ทำจนกว่าคนที่ฆ่าไอ้เป้งมันจะรู้สึก เอาให้มันตายตามไอ้เป้งไปเลยยิ่งดี
ส่วนไอ้แก้ว เขาจะรับผิดชอบความรู้สึกมันเอง แค่มีเขา ไอ้แก้วมันจะต้องไม่เจ็บปวด ไม่เสียใจ ...เพราะเขาคือคนสำคัญของมัน มันต้องทนเพื่อเขาได้อยู่แล้ว
ฝิ่นเดินนำพี่ไม้ไปยังโรงรถ ไปถึงไอ้โจ้ก็ออกปากบอกมาก่อน
“พี่ไม้ ไอ้แก้วมันหาว่าผมใส่ร้ายพี่มัน ก็ไอ้ขวัญนั่นมันแกล้งโวยให้พี่ล้างรถมันทั้งวันจริงๆนี่หว่า แม่งเกรียนแล้วไม่ยอมรับ”
“ไม่ได้บอกว่าใส่ร้าย แค่บอกว่าพี่ขวัญไม่ได้ตั้งใจแกล้งใครหรอกอย่าถือสาเลย แค่นี้เอง”
“นั่นแหละ มึงเถียงกูอยู่ แล้วอีกอย่างมึงแก้ตัวให้มันรึเปล่าล่ะ โธ่ เจอข้างนอกกูจะโบกให้สักที”
“มึงก็โบกตอนพ่อกูไม่อยู่สิ” เขาสนับสนุนความคิดไอ้โจ้ รำคาญลูกตากับพี่ชายไอ้นี่เหมือนกัน
“พี่ขวัญเขา...”
“หยุด” เขาเบรกคำพูดไอ้แก้ว “ขึ้นรถ” มันมองเขาหน้าบึ้งแล้วเดินเข้าไปนั่งเบาะหลังตามที่เขาสั่งและเปิดประตูรถค้างไว้ก่อนหน้า
แล้วสามคนที่เหลือค่อยตามขึ้นรถกันทีหลัง
จะเป็นห่วงเป็นใยพี่นอกไส้ทำไม ที่วันก่อนกลับมาในสภาพซากคนนั่นไม่ใช่ฝีมือไอ้พี่ตัวดีของมันหรอกเหรอ
อย่าคิดว่าไม่รู้ไปไหนมา แค่ไม่รู้และไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้นเอง
“คนพร้อมนะโจ้”
“ยิ่งกว่าพร้อมพี่” ฝิ่นพยักหน้ารับเมื่อได้ฟังคำตอบของรุ่นน้อง
“เราจะไปไหนกันเหรอ” หืม สนิทกับกูจนใช้คำว่าเราเชียวนะมึง เขาเหวี่ยงสายตามองไอ้แก้วอย่างหมั่นเขี้ยว
“ไปดูความเลวของพี่ดิวมึงไง” ตอบไปอย่างไม่สนใจว่ามันจะรู้เรื่องด้วยรึเปล่า เพิ่งจะดีขึ้นจากอาการบ้าห่าเหวแท้ๆแต่เขาก็ยังจะพามันไปด้วย แต่แล้วยังไง? ต่อให้มันไม่รู้ว่าพี่มันทำอะไรกับอาชีวะxบ้างเพื่อให้ได้หยามเขา เขาก็จำเป็นต้องใช้ตัวไอ้แก้วอีกครั้ง
ก็ในเมื่อไอ้ดิวอยากเจอจุดจบไวๆ เขาก็จะช่วยสงเคราะห์ให้ โทษของคนหักหลังมันไม่แรงเท่าคนที่กระทำ แต่ในเมื่อไอ้ดิวยังคอยตอดเล็กตอดน้อยเขาไม่เลิก มันก็ต้องสั่งสอนกันบ้าง
มึงไม่มีอะไรเทียบกูได้เลยไอ้ดิว ทั้งอำนาจ ทั้งไอ้แก้ว กูอยู่เหนือมึงทุกเรื่อง
“แยกกันตรงนี้นะ” ลงจากรถกันพร้อมหน้าพี่ไม้ดันเอ่ยปากขอแยกทาง
“พี่จะไปไหน?” เขาถามเสียงห้วน ไม่ชอบใจ
“นัดเพื่อนไว้ แค่อาศัยติดรถมาด้วยเฉยๆ”
“อืม” เขาจำต้องพยักหน้าเข้าใจ “โจ้ไปกับพี่...”
“ไม่ต้อง” จะสั่งไอ้โจ้ให้ตามแต่พี่ไม้กลับปฏิเสธ
“แต่...”
“กลับไปเจอกันที่บ้านฝิ่น”
“เออ...ก็ได้วะ” รู้ว่าพี่ดูแลตัวเองได้และไม่ชอบให้คนติดตาม แต่เขาเป็นห่วงพี่นี่หว่า “โจ้โทรบอกเด็กตามพี่ไม้ห่างๆสักสามสี่คน” จึงกระซิบบอกไอ้โจ้เมื่อพี่ไม้หันหลังให้อย่างคนไม่แยแสต่อความหวังดีของเขา
หันมองไอ้แก้วที่หน้าถอดสีเมื่อเขาพามันเดินเข้าไปในร้าน กลัวอะไรนักหนากะแค่ถิ่นเทคโนT ถ้าไม่ตั้งใจมามีเรื่องคิดเหรอว่าจะเหยียบมาแถวนี้ให้เป็นเสนียดตีน
เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปในร้านเพื่อนร่วมสายต่างพากันเดินออกมาคนละทิศคนละทางจนรวมตัวกันได้กลุ่มใหญ่ เขาผลักไอ้แก้วไปให้ไอ้โจ้ดูแลอยู่ข้างหลังแล้วเดินล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างเดินนำอย่างชิวๆมุ่งหน้าไปยังโต๊ะคู่อริ
พลั่ก! ฝ่าเท้าถีบเข้ากลางลำตัวลูกกระจ๊อกโนTที่ออกหน้ามารับแทน
ฝิ่นเบ้ปากพลางแสยะยิ้มให้กับพวกไร้ฝีมือ
“เก่งแต่ลอบกัดนะพวกมึง” เขาจ้องเขม็งไปยังไอ้แชมป์ประธานสาย๓Tที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ท่ามกลางฝูงหมาลอบกัดกลุ่มใหญ่ แต่ยังเล็กกว่าพวกของเขาที่ตั้งใจยกมาเท่าตัว
“กูขอเวลา” ไอ้แชมป์ลุกขึ้นยืนด้วยฟอร์มประธานสายที่มักจะถอยมากกว่าชน มันไม่ใช่คนไร้ฝีมือหรอก แต่มันรู้ดีว่าถ้าเดือดร้อนมันก็เดือดร้อนกันยกสาย ไม่ก็ทั้งโรงเรียนเอกชนต๊อกต๋อยของมันนั่นแหละ
“ถุย! ขอเวลาหรือรอเวลาให้สายกูตายไปอีกคน ตอนยิงเด็กสายกู ไม่เห็นรอให้พวกกูรู้ตัวเลยเหี้ย” จะรู้ก็เมื่อกลับถึงบ้านหลังจากพาไอ้แก้วไปโรงพยาบาล และไอ้คนที่ยิงก็ไม่ใช่ใคร... “ส่งตัวไอ้ดิวมา กูจบทันที” ฝิ่นยื่นข้อเสนอ
“มึงเห็นกับตาว่ากูทำรึไงถึงได้มั่นใจซะ” ไอ้ดิวลุกขึ้นยืนข้างไอ้แชมป์ยักคิ้วมองหน้าเขาชวนกวนส้นตีน
“อย่าหน้าตัวเมียให้มันมากไปเลยว่ะ มึงทำพวกกูเจ็บ มึงก็ควรกล้าแลก” เขาท้าทายมันทั้งคู่ เคลียร์ก่อนค่อยเล่นงานนี่ก็ยอมให้สุดๆแล้ว “งานนี้มีคนนอกเห็นเหตุการณ์มึงจะว่าไง” พลางส่งคำถามไปที่ไอ้แชมป์เพื่อจี้เอาคำตอบ
“กูให้คนอื่น” ถุย พูดได้เหี้ยมาก
“ไม่!” เขาสวนตอบด้วยอารมณ์โมโห เพราะเขาจะเอาตัวคนที่ทำเท่านั้น “อ้นลากคอไอ้เหี้ยดิวมา!” สั่งไอ้อ้นเพื่อนในสายแล้วก้าวเท้าเข้าประชิดตัวไอ้แชมป์ “มึงจะขวางกูก็ได้นะแชมป์” สายตาเด็ดเดี่ยวบ่งบอกถึงความเอาจริง ถึงงานนี้จะไม่เสียหายอะไรมากมายแต่เขาจะรวบยอดกับไอ้ดิวมันคราวเดียวนี่แหละ ใครจะทำไม?
ไอ้อ้นตะโกนกร้าว ...ใครขวางมันเอาตาย...แต่ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกที่พอพูดออกไปแล้วแม่งจะส่งตัวประธานปีสามมาให้ง่ายๆ
ต่างฝ่ายต่างจึงมองหยั่งเชิงกันไปก่อนทำให้แขกในร้านคนอื่นๆเริ่มระแวงว่าจะมีเรื่อง และมันไม่ทันใจเขาเหลือเกิน
“โจ้” เขาเสียงดังเรียกชื่อรุ่นน้องคนสนิท
ไอ้โจ้เดินออกมาจากกลุ่มพร้อมกับกอดคอไอ้แก้วออกมาด้วย เห็นอย่างนั้นเขาจึงดึงไหล่ไอ้แก้วออกจากโจ้มายืนอีกฝั่งเพื่อพักแขนเขาแทนพลางส่งสายตาปรามๆไปให้ลูกน้องตน
พอเห็นไอ้แก้วไอ้ดิวถึงกับอึ้ง หึ ยังไม่ชินอีกเหรอมึง แต่คนออกอาการมากกว่ากลายเป็นไอ้ประธานสาย
“ไอ้แก้ว” แก้วมันก้มหน้าเล็กน้อยหลังไอ้แชมป์เรียก “กูเจอมึงอยู่กับ๕xสองรอบแล้วนะ”
เขาไม่สนใจหรอกว่าไอ้แชมป์จะคิดอะไร
“ว่าไงดิว ถ้ามึงไม่รับผิดชอบ จะให้น้องมึงรับแทนก็ได้นะ” พูดพลางใช้ปลายนิ้วช้อนคางไอ้แก้วให้เงยหน้าสบตากับพี่ดิวของมัน
มันเงยหน้าจริงแต่กลับหันมองมาที่เขา ...อย่ามามองกูแบบนี้นะ!
“ถ้าอย่างนั้นก็กลับเถอะ”
“ใครใช้ให้มึงออกความเห็น” เขากัดฟันพูดเบาๆให้ได้ยินกันสองคนเมื่อไอ้แก้วพูดกับเขาเสียงเรียบ
“เมื่อวานเด็กสายกูโดน๕xดักเล่นกลางห้าแยก มึงรู้ไหมใครคุม? แล้วคนที่โดนยิงมันก็เห็นด้วยว่าใครทำมัน” ดีที่มันไม่ตายไม่อย่างนั้นคงต้องหาตัวกันให้วุ่นอีก เขาเอ่ยถามไอ้แก้วที่มองมาอย่างกับว่าเขาเป็นคนผิดซะเอง ฮึ่ย! “ว่ายังไง? กูมีเวลาไม่มากหรอกนะ” แล้วเอ่ยปากกดดันไอ้แชมป์ไอ้ดิวเข้าไป
หมาลอบกัดอย่างไอ้ดิวลังเลครู่เดียวแล้วโพล่งออกมา
“กูยอม!”
“หึ” เขาหัวเราะในลำคออย่างชอบใจนึกไว้แล้วไม่มีผิด คนที่แอบรักมันก็ต้องอยากเป็นฮีโร่ในสายตาของคนที่มันรักอยู่แล้ว แต่ไอ้แก้วจะมองมึงยังไงกูไม่สน เพราะมึงทำของมึงเอง มึงไม่ได้ออกรับผิดแทนใครเขาที่ไหนถ้าไอ้แก้วโง่ขนาดมองมึงเท่ก็เอาสิ “สิบต่อหนึ่ง ไม่รุม รอดก็รอดตายก็ตาย จบไหมแชมป์”
“.............”ไอ้แชมป์พยักหน้าส่งๆแล้วเดินนำออกไปนอกร้านพร้อมไอ้ดิวที่มองหน้าน้องมันไม่ละสายตา
“ถ้าตุกติกมึงจัดการให้หมอบ” เขาปล่อยให้ไอ้อ้นกับไอ้โจ้เป็นคนจัดการเพราะเด็กที่โดนเล่นงานเป็นคนในความรับผิดชอบของมันโดยตรง เขาแค่เคลียร์ทางให้ก็หมดหน้าที่แล้ว
อีกอย่าง ตั้งใจทิ้งไอ้โจ้ไว้ด้วยข้อหาที่มันกวนส้นตีนเขาดีนัก
.
“เป็นอะไร” ถามคนที่นั่งข้างๆที่เอาแต่นั่งเป็นใบ้ตั้งแต่ออกจากร้าน เขาจอดรถข้างทางพลางเอามืออังหน้าผากเจ้าตัว
ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นอะไรขึ้นมาอีกเมื่อไหร่
“มึงใช้กูล่อพี่ดิว” ฝิ่นชะงักมือค้าง คำพูดต่อว่าที่ไม่ได้รุนแรงแต่กลับทำเอาใจกระตุก
“มันทำเด็กสายกู ทำไมเมื่อกี้มึงไม่ว่าพี่มึงบ้าง” เขาเองก็ตอกกลับเช่นกัน ยังมาทำหน้าบึ้งใส่อีก
“แต่สิบรุมหนึ่ง” ไอ้แก้วหันมาต่อว่าเขาทั้งคำพูดทั้งสายตา
“กูพูดว่ารุมรึไง?”
“ต่อให้ไม่รุมแล้วใครจะสู้ไหว”
“นี่มึงต่อว่ากูเพราะเป็นห่วงมันใช่ไหม?” มันมองเขาตาแข็งก่อนจะขยับตัวหันไปมองทางข้างหน้า
“.......................” เงียบ ให้มันได้อย่างนี้สิวะ
“สวมเขาให้กู กูเอามึงตายแน่” ฝิ่นออกรถอย่างเร็วด้วยความโมโห ทำไมไม่เห็นว่าพวกมึงทำพวกกูยังไง ทำไมถึงเอาแต่จะให้กูผิดๆอยู่ฝ่ายเดียว
“.........................” เงียบอีกแล้ว! เงียบให้ตลอดทางเถอะคิดว่ากูสนใจมึงมากรึไง?
รำคาญโว้ย!
เอี๊ยดดด!!
เป็นเขาซะเองที่ทนไม่ไหว ขืนมันยังเงียบอยู่อย่างนี้มีหวังเขาได้ขับรถพามันไปตายข้างทางแน่
เกลียดจริงๆนิสัยนี้ของมัน
ฝิ่นเบรกรถพร้อมตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทางอีกครั้ง
“มึงคิดอะไร คิดว่ากูจะทำอะไรมึงแทนไอ้ดิวจริงๆน่ะเหรอ เอาสมองส่วนไหนมึงคิด ห๊ะ” เขารู้ว่าไอ้ดิวคิดยังไงกับมันก็แค่เอามันมาอ้างแค่นี้เอง
“ถึงมึงจะใช้กูเป็นเครื่องมือเอาคืนพี่ดิวกูก็ไม่กล้าว่าอะไรมึงหรอก”
“ก็กูไม่ได้ใช้มึง กูแค่ยั่วมันไปงั้นเอง เข้าใจไหม?”
“ไม่ต่างกัน ไม่ใช่เหรอ”
“กูบอกไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิโว้ย!” ให้เข้าใจตามที่เขาพูดมันยากตรงไหนวะ
ฝิ่นโวยวายแทบอยากจะหาที่ลงไม้ลงมือเพื่อระบายอารมณ์แม่งโคตรงี่เง่าเมื่อได้ฟังคำพูดงี่เง่ากว่าจากปากไอ้แก้ว แต่แล้วเขากลับดึงตัวแก้วเข้ามากอดแทน
เขาหายใจเร็วและแรงด้วยความโกรธแต่ต้องการระงับอารมณ์ตัวเองเพราะเขาเองก็พาลไม่น้อย
“ต่อไปมึงห้ามคิดเองเออเองเข้าใจไหม? เอาแค่ที่กูพูดก็พอ” เขาพยายามพูดเสียงเบากับมัน
“.......................” มันพยักหน้าแทนคำตอบว่าจะทำตามที่บอก
แต่เขารู้สึกกลัว กลัวอะไรวะฝิ่นคนอย่างมึงจะต้องกลัวอะไร เหี้ย!
หาคำตอบไม่ได้ก็ด่าตัวเองไปก่อนเพราะเขาไม่ชอบเลยความรู้สึกแบบนี้
ความรู้สึกเหมือนวันที่เห็นพี่ไม้กับไอ้เป้งทะเลาะกันบ่อยๆ จน...
เพราะมึงคนเดียว เพราะไอ้คนที่กอดเขาแน่นอยู่นี่คนเดียว
“แต่กูไม่อยากรู้สึกเหมือนโดนมึงหลอกใช้” ฉึก!
“พูดบ้าอะไรของมึง”
“กูหมายความว่า มึงบอกกูก่อนก็ได้ว่าจะให้กูทำอะไร” กูบอกไปหมดแล้วนะสิ่งที่กูต้องการจากมึง บอกโดยที่มึงไม่รู้ตัว และทำตามโดยไม่รู้ตัวนั่นแหละ
“มึงอยู่เฉยๆก็พอ”
“ฝิ่น...กูรักมึง” เฮ้อ ปวดใจหนึบๆเว้ย
เขาจับไหล่แก้วทั้งสองข้างผละออกจากอ้อมกอดสายตาทั้งสองคู่มองสบประสานกัน
ไม่ได้ปฏิเสธที่จะฟังแต่...
“มึงพูดบ่อยเกินไปแล้ว”
“...........” มันส่ายหน้า “ไม่มีใครรู้วันพรุ่งนี้หรอก ตอนนี้พูดได้ กูก็ควรพูดไม่ใช่เหรอในเมื่อกูรู้สึกของกูอย่างนั้น”
“แต่กูจะบอกมึงครั้งเดียว”
“อืม นั่นกูก็นึกว่าฝันแล้ว”
“มึงกำลังกวนตีนกูอยู่” เขาจับไหล่มันพิงตรงแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยให้ พลางออกรถเพื่อจะได้เดินทางกลับบ้านกันสักที
มึงบอกรักกูมันก็ดีอยู่หรอก แต่มึงจะรักกูได้ตลอดรึเปล่านี่สิ
“แม่ทำไมป่านนี้ยังไม่นอน” ฝิ่นถามเมื่อเห็นแม่มายืนรออยู่หน้าบ้าน
“มีเพื่อนมารอตั้งแต่สองทุ่มแล้ว”
“เพื่อน?” ใครวะ ไม่เคยมีใครมารบกวนที่บ้านดึกดื่นเลยนี่หว่า “ใครแม่”
“เขาบอกแค่จะรอไม่ยอมบอกชื่อแม่ก็ไม่เคยเจอหน้า หนูไปดูเองละกันพ่อเช็ดปืนคอยแล้วโน่น” เขาขมวดคิ้วพลางพยักหน้าให้แม่อย่างงงๆ
“ลูกแก้วรีบไปนอนได้แล้วลูกเพิ่งจะหายก็กลับบ้านดึกๆดื่นๆกัน” ไอ้แก้วรับคำแม่ด้วยใบหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่
หึ มีความสุขจังนะมึง
ฝิ่นส่ายหน้าอมยิ้มให้กับท่าทางของแก้วพลางเดินนำเข้าบ้านเพื่อไปดูว่าใครที่มารบกวนพ่อแม่เขาเอาป่านนี้
................................
พี่ซีซั่นค่ะ อยากรู้ว่าพี่ฝิ่นกับน้องแก้วอิมเมจประมานไหนอ่ะ
พยายามจะจิ้นแล้วนะ แต่ไม่รู้จะจิ้นใครดี
เรื่องงานสู้ๆนะคะ ^^
...เจอคำถามนี้คนเขียนขอเอาหัวโขกคีย์บอร์ดก่อนอันดับแรก เอาเป็นว่าที่จะบอกต่อไปนี้ให้คนอ่านเอาเป็นไกด์พอนะคะ ไม่อยากให้ติดภาพ จริงๆอยากให้มองที่การกระทำมากกว่า (แหนะ บรรยายไม่เป็นแต่ก็แถไปนะ ฮ่าๆๆๆ) (แต่พี่ไม่ได้ไม่สะดวกตอบนะ จริงๆพี่ก็มีอิมเมจไว้อยู่แล้วค่ะ) ฝิ่นนี่มาจากพี่สิงห์ในเรื่องตะวันเดือดตอนที่พี่สิงห์ร้องไห้น่ะค่ะ (พี่สิงห์คือใคร พี่สิงห์รับบทโดยโป๊บ ค่ะ ชื่อจริงไรก็ไม่รู้-*-) เห็นแล้วมันใช่เลย อิฝิ่นชัดๆ ส่วนแก้ว อิมเมจแรกที่คิดไว้ไม่ใช่คนนี้แต่ถ้าบอกไปคนอ่านจิ้นไม่ออกแน่ๆเพราะตอนนี้ฮีหัวเกรียนสมกับความเกรียนของฮีเหลือเกิน ตอนนี้ก็เหลือแต่คชา เอเอฟอะค่ะที่คล้ายแก้วที่สุด คนที่มองไว้ว่าเป็นแก้วก็สองคนนี้อะค่ะ คนแรกปล่อยมันไปเถอะ ฮ่าๆ(ขออนุญาตแฟนคลับชาชาตัวน้อยด้วยนะคร๊าบบบ)
น้องก็สู้ๆนะคะ คนเขียนก็แอบอู้งานเขียน คนอ่านก็อู้งานอ่าน เอากับเขาสิเรื่องนี้ กร๊ากกกก
เราว่าแก้วมันแพ้ท้องว่ะฝิ่น ตรวจผิดโซนแล่วว เดินเลี้ยวไปแผนกฝากครรภ์เหอะ :laugh:
กอดดดดดดดคนแต่ง ....รู้ตัวมั๊ย ??
ตัวเองเขียนบทเรียกน้ำตาได้ทะลักมากๆ
เวลาแก้วมันน้อยใจนะ คำพูดแต่ละประโยคเนี่ย เรียกน้ำตาคนอ่าน โฮกๆ
ส่วนคำพูดฝิ่นเวลาเชือดแก้วแต่ละที ...ขอบอกว่ามันเรียกteenzคนอ่านสุดๆ
เกิดอาการเส้นกระตุก อยากเอารองเท้าเขวี้ยงหัวพระเอกแรงๆสักสิบคู่ :angry2:
....ตอบว่าไม่รู้ตัวจ้า ฮ่าๆๆๆ รู้แต่ว่าเขียนในอารมณ์ฮาเฮไม่เป็น เล่นมุกตึ่งโป๊ะไม่ได้ด้วย เคยพยายามลองเขียนเรื่องอื่นให้คอมเมดี้นะคะ แต่ไม่สามารถจริงๆ ต่อไปก็จะยึดสไตล์นี่แหละเป็นหลัก ฮ่าๆๆๆ
ปล.ขำกร๊ากตรงแพ้ท้องมาก ฮ่าๆ
กอดๆ ม๊วฟฟฟ
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ ^^กอดๆ จุ๊บ
ได้เวลาเลิกงานพอดี ฮ่า
-
ดีใจมากกก เห็นเรื่องนี้มาอัพ
วันนี้กดรีเฟรชเป็นสิบรอบบบ รอเรื่องนี้มาต่อ ^^
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
สงสารแก้วอะ :m15:
ความแค้นเยอะจริงๆเลยเรื่องนี้
-
เชรี่ยพงษ์หรือเปล่า
-
:impress2: ฝิ่นรักแก้วแล้ว ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าฝิ่นยิ่งกว่ารักแล้วล่ะ
ฝิ่นดูอบอุ่นไงไม่รู้
แต่ใครมา ขอเดาว่าพงษ์แน่นอนๆ
-
...ฝิ่นก็เอาแก้วเป็นตัวล่อ เพื่อกำจัดดิวจริงๆๆนี่หว่า
...แม่ฝิ่น ถ้าจะปลื้มลูกสะใภ้ ลูกสะใภ้ก็ปลื้มแม่สามี
...ว่าแล้วว่าอิพี่ขวัญมันต้อง คิดอะไรกับพี่ไม้แน่ๆๆไม่งั้นไม่มากลั่นแกล้งถึงปั๊มหรอก :laugh:
-
ใครเนี่ย พ่อมีเช็ดปืนรออ่ะ อย่าเป็นยัยมิวละกัน -*- ชอบแก้วมากอ่ะ รู้สึกยังไงก็บอกออกไปตรงๆผิดกับฝิ่น :เฮ้อ:
-
เครียดมากตอนนี้ มาหลุดฮาตอน "สวมเขา" เนี่ยแหละ กร๊ากกกกกกก ตาฝิ่นเนี่ยนอกจากเป็นพระเอกซาดิสม์แล้ว ยังเป็นสามี(?)ขี้หึงด้วย 5555 โจ้เอ๊ยโจ้ อย่ากวนตีนฝิ่นนะ แม้แต่ปลายเล็บก็อย่าได้แตะแก้วเชียว เพราะอิฝิ่นหวงมว้าก!
สวดมนต์ให้พี่ดิว -/\- ขอให้ครบ 32 นะพี่นะ แต่ถ้าแก้วไปเยี่ยมพี่ดิวล่ะก็ สงสัยอิฝิ่นคงเอาปืนตามไปยิงพี่ดิวแน่ๆ
ถึงจะตึงเครียดแต่ก็แอบมีหวานๆ ชอบจังเลยเวลาอิฝิ่นมันประสาทกิน(เพราะแก้ว)เนี่ย 555
ขอบคุณนะค้า รอตอนต่อไป ใครมาหนอ ทำไมคุณพ่อต้องเช็ดปืนรอ
ปอลิง นึกถึงเรื่องพี่ไม้กับเป้ง และก็มาคิดว่าเป้งตายไปแล้ว รู้สึกโหวงๆไงไม่รู้
-
ดูแกจะแคร์แก้วเหมือนกันนะนี่ฝิ่น :z1:
เรื่องพงษ์ยังไม่เคลียร์เลยอ่ะ อยากรู้ว่าทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย
แล้วพี่ดิวจะเป็นอะไรไหมนี่ :เฮ้อ:
-
แก้วเริ่มเป็นผู้เป็นคนบ้างแล้ว ฝิ่นยังลูกผีลูกคนอยู่เลย แล้วใครมันมาค่ำๆมืดๆวะ
-
ใครมาแวร๊!!!!!!!! :serius2: :serius2: :serius2:
:pig4: :pig4:
-
ขอให้เป็นพงษ์ส่วนฝิ่นขอให้แก้วหมดรักนายไวไว หลอกใช้แก้วตลอดใจร้ายมาก
-
ชอบจริงเวลาอีพี่ฝิ่นมันสับสนในตัวเอง
ก็รู้ตัวนะว่าทิฐิตัวเองแรง แต่มันจะสู้ความรู้สึกได้รึ
ความรักเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ห้ามอยากนะเออ ฝืนไปก็มีแต่เจ็บ
ไอ้รักเพื่อนก็เข้าใจ แต่ทำแบบนี้ไปคิดว่าจะได้อะไร
ถึงจะแก้แค้นพงษ์สำเร็จ แต่เป้งก็ไม่กลับมาใช่มั้ยหล่ะ
สู้เลิกคิดเลิกแค้นแล้วมารักกันดีกว่า เอิ๊กส์ๆ
น้องแก้ว ทำไมหนูพูดเป็นลางอย่างนั้นหล่ะ
จะมีอะไรเกิดขึ้นหรอ จะมีใครพรากหนูไปจากพี่ฝิ่น
ม่ายยยยยนะ (ขอโวยวายไว้ก่อน 5555)
หรือว่าพงษ์จะกลับมาแล้วพาแก้วไป
ทำงานมันเครียดค่ะ ต้องหาอะไรทำผ่อนคลาย 5555
บางทีก็ว่าจะเอาไว้อ่านตอนเลิกงานแล้ว
แต่พอเห็นว่าอัพก็อดเปิดอ่านไม่ได้
รอตอนต่อไปค่ะ ^^
-
ชอบตอนนี้จัง
ฝิ่นดูอบอุ่นมากๆๆๆ
แก้วก็ยังน่ารักเหมือนเดิม :-[
-
ใครมากันหว่า
พี่แก้วหรือว่า...ไอ้...
-
ใครมาหาฝิ่นกันนะ มีการบอกพ่อเช็ดปืนรอด้วย หรือว่าจะเป็น... :a5:
-
คาดว่าเป็นพงษ์
ปล.แอบอยากกระตืบฝิ่นใช้แก้วเป็นตัวล่อหรอ ชิชิ
-
ใครอ่ะ?
ไม่ใช่ชู้แก้วอีกคนหรอกใช่ป้ะ? ๕๕๕๕๕
ตอนนี้ฝิ่นแมนมาก ยอมรับอย่างแมนๆเลย ๕๕๕๕๕..
ชอบอะไร เหมือนหวานปนขมขื่นตลอดเลยคู่นี้
:-[
-
ใครมาเนี่ยยยยย อยากจะรู้ๆๆๆ มาต่อไวไวน้าาาาา
ฝิ่นเอ้ย หลงแก้วซะแล้วล่ะ อิอิ น่ารักแบบนี้ใครจะทนไหว
ขอบคุณมากค๊า่ :กอด1: :กอด1:
-
ไม่ว่าใครก็อยากเป็นฮีโร่ในสายตาคนที่รัก
เห็นด้วยอย่างแรง
แต่ที่ฝิ่นทำตอนนี้ อดสงสารน้องแก้วไม่ได้
เหมือนโดนหลอกใช้
เป็นเครื่องมือทำร้ายอิพี่ดิว
แคร์น้องแก้วมากกว่านี้สักนิดใด้ไหมพี่ฝิ่น
สงสารน้องแก้วมากกกกกกก
อินมากสนุกดีค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ
-
ฝิ่น+แก้วช่างน่ารัก หวานแหวว(?)อะไรอย่างนี้...>///<
เรื่องนี้สนุกมากๆคะ
ตามอ่านมาได้ซักพักแล้ว(แต่ไม่ได้แสดงตัว-o-)
ตอนแรกไม่รุ้สึกชอบใครเลย
ทั้งแก้ว ทั้งฝิ่น แบบว่ามันไร้เหตุผลกันเกินไป -"-
แต่อ่านไปอ่านมา....แบบว่า
รู้สึกว่าเรื่องนี้มันน่ารักขึ้นเรื่อยๆ อิอิ
เหตุผลที่เคยพยายามหาในช่วงแรกๆเริ่มหายไป
ตอนนี้กลายเป็นว่า ต่อให้พวกนี้เป็นพวกบ้าศักดิ์ศรีหรืออะไรก็ตาม
คิดว่ารับได้หมดแหละ ^0^555+
ตอนนี้อยากบอกว่าชอบแก้วกับฝิ่นมากๆๆๆๆ
แม้ว่าแก้วจะน่าสงสาร...แต่แบบว่ายังไงดีละ
มันดูน่ารักไปอีกแบบที่ฝิ่นทำกับแก้วแบบนี้(แม้บางครั้งจะอยากให้ฝิ่นรักกับแก้วซะทีก็เหอะ)
แต่เวลาแก้วถูกทรมานมันน่ารักว่าเยอะ อิอิ
ปล.อ่านตอนนี้แล้วชักอยากให้พี่ไม้คู่กับขวัญซะแล้วซิ หุหุ^^
-
ใครเนี่ยพงษ์หรือพี่ขวัญกันน้า พ่อฝิ่นนี่ดีจังมีการเช็ดลูกปืนรอด้วย
พ่อขา ถ้าเป็นมิวมาละก็หนูฝากยิงทิ้งเลยนะพ่อ ไม่ต้องลังเล (ล้อเล่น) :m31:
-
พงษ์?
พงษ์ก็คงไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกมั๊ง อาจจะแค่ทำอะไรด้วยเหตุผลที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุด
ดีสำหรับคนที่ตัวเองรัก มากกว่าดีสำหรับตัวเอง โดยลืมคิดไปว่าคนที่เรารักจะรู้สึกยังไง
เพราะแก้วเองก็กำลังทำแบบนั้น เพียงแต่เรารู้ความเคลื่อนไหวของแก้ว รู้ถึงการเสียสละของแก้ว เขาก็เลยเอาใจช่วยแก้วเท่านั้น
และผลที่แก้วทำมันก็ออกมาค่อนข้างจะดีอ่ะนะ
-
สงสารแก้วจัง
-
กรี๊ดด พี่ไม้ทำไมพี่เท่แบบนี้ 55
ชอบโจ้ กับแสน สองคนนี้ดูไปดูมาน่ารักมาก
ฝิ่นแกรู้ตัวไหมว่้าน่ารักขึ้นมาก เอาใจไปเลย
ทำไมแก้วถึงโชคร้ายอย่างนี้คนแต่งแกล้งกันหรือเปล่าเนี้ย
-
อิพี่ฝิ่นค่อยสมเป็นพระเอกขึ้นมาบ้างแล้ว
โมโหฮึดฮัดก็คว้าแก้วมากอด ดีมาก...
เดามั่วว่าพงษ์กลับมา
-
เพื่อนที่มาหาเป็นใครอะอยากรู้จัง
คำพูดแก้วแต่ละคำเล่นเอาฝิ่นสะอึกได้ดหมือนกัน
+1 นะคะ
-
อย่าบอกนะว่า พงษ์มาอ่ะ งานเข้าแน่
-
เป้ง รีเทินร์ อุว่ะฮาฮ่า!!! เป้ง เป้ง เป้ง :laugh:
บทนี้เกือบร้องเเล้วพี่ซี เอาซะทุกตอน :a5:
ปวกหนึบที่ท้องนี่เเหละพี่ :z3:
เรารอเป้งรีเทิรน์ กับพงษ์รีเทิรน์ นะฮ๊าฟ ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
-
พะ พะ พงษ์ หรือเปล่า.... :z10:
แอร๊...ลุ้น
-
นี่ว่า คนแต่ง ต้องมีมุมเก็บกดอะไรซักอย่าง
สรรหาคำพูดมาเสียดแทงคนอ่านได้ดีมาก
แก้ว พูดน้อยแต่ต่อยหนัก ฝิ่น สะอึกเลยทีเดียว
ขอหนักๆกว่านี้อีก คนอ่านมาโซ
ปล.ชอบที่ได้ลุ้นตอนต่อไปทุกตอน :']
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
:-[ ตอนนี้กำลังดี ฝิ่นนน่ารัก?มากกกกก??
แต่ว่านะจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกเนี่ย และดูมีลาง :เฮ้อ:
ที่สำคัญใครมาหว่า?? มาดีมาร้ายเนี่ย รึอิพี่ดิว ยังไม่ตายเรอะ?
:pig4: คนแต่งจ้า
-
แก้วทำไมถึงพูดอะไรแบบนั้นนะ ฝิ่นจะทำอะไรก็คิดให้ดีนะ
-
พงษ์ พงษ์ชัวร์ พงษ์มาเคลียร์
หึหึหึหึหึ ถ้าแก้วใจอ่อน นี่ไอ้ฝิ่นได้เครียดอีกแน่ :z2:
รอตอนต่อไปจ้ะ
-
ใครอ่ะๆ พงษ์แน่เลย
:z3:
-
ใครโผล่มาอีกล่ะนั่น
-
ฝิ่นก็หลอกใช้แก้วอยู่ดี
-
มีแต่คนสงสารแก้ว แต่เจ๊อยากฆ่าฝิ่น แล้วให้พระเอกเป็นพี่ไม้แทน กรี๊ดดดดดดด บรรเจิด! :laugh:
-
“สวมเขาให้กู กูเอามึงตายแน่” ...........ชอบตรงนี้มากๆเลยยย
ว่าแต่ใครมาหานะ พงศ์เหรอ
-
ฝื่นทีหลังก้บอกแก้วด้วยจี้เวลาจะทำอะไรน่ะ
แก้วมันยอมอยู่แล้วแหละ มันรักแกนิ :impress2:
แต่ว่า เพื่อนที่ว่าคงไม่ใช่พงษ์หรอกนะ :sad4:
อย่ารีบกลับมาเลย :z3:
-
"กูไม่ได้ไม่รักมึงซะหน่อย"
Me // go insane
ว่าแต่ใครโผล่มาล่ะนั่น! :a5:
-
ปัญหาเกิดเรื่อย ๆ จริง :z3:
-
ใครมาอ่ะ :serius2:
นายฝิ่นเดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะนะ
แต่ไม่เข้าใจทำไมรักแก้วไม่ได้
ส่วนลูกขวัญกับพี่ไม้ก็น่าจิ้นหรอกนะ :o8:
-
พงษ์ มา !!!
-
อร้ากกก อิมเมจแก้ว เราคิดไว้ตรงกับที่คุณคนเขียนบอกด้วยล่ะ
มันขาชาชัดๆ หะหะ ฟิน
ตามอ่านมาตั้งแต่ช่วงที่แก้วย้ายไปอยู่บ้านฝิ่นน่ะ ช่วงแรกๆ จะงงๆ กับการลำดับสายหน่อยเลยไม่ค่อยได้ตามจ้า
คุณคนเขียนลงวันธรรมดา เรามาตามเก็บอ่านวันหยุด เลยไม่รู้จะเมนท์อะไรดี
-
ไม่ได้เข้ามาอ่านนานแล้ว ก็ยังคงคลุมเครือในความสัมพันธ์ของฝิ่นกับแก้วอยู่เลยเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะครับ
-
อย่าบอกนะว่าอีพงษ์มา :z6:
-
สงสัยพงมาแน่เลย 0.0
ใช่ไหมน้ออ สนุกมากกๆๆๆๆ :serius2:
อยากอ่านต่อเว่อๆค่ะ!!!
-
อ๊ะ! อ่านมาทั้งวนกว่าจะถึงตรงนี้ T^T
สนุกมากค่ะ ชอบตัวแก้วเองที่คิดอะไรได้แบบรักเพื่อนสุดๆ
ถามว่าเกลียดฝิ่นหรือเปล่าก็บอกเลยว่าพอสมควรค่ะ ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อดีบ้าง
พงษ์เองมีเหตุผลอะไรหรือเปล่าที่พูดแบบนั้นใส่แก้ว... แล้วขวัญทำไมต้อทำแบบนั้นกับแก้วด้วย
...ไม่เข้าใจจริงๆค่ะ...
-
ใครอ่า?????
-
คนที่มา คือ พงษ์หรือเปล่า
อ่านรวดเดียวถึงนี่แล้วครับ เพิ่งอ่านเมื่อเย็น ๆ นี่แหละ สนุกมาก ลุ้นมาก
-
ไม่ใช่พงษ์หรอก. อีพี่ขวัญแน่ๆ
-
ใครมาหว่า.. :เฮ้อ: :เฮ้อ:
แต่สงสารน้องแก้วจริงๆเลย :sad4: :sad4:
-
พงษ์มาแน่เลยอ่ะ
แล้วฝิ่นจะทำยังไง
รอๆๆๆๆ
-
มารอออ :z2: :z2:
-
ขอเข้ามาท่วงฟิคบ้างได้มั้ยอ่ะ
ไม่เคยท่วงเรื่องไหนเลยนะ
เรื่องนี้เรื่องแรก ชอบเรื่องนี้จริงๆ อยากรู้ด้วยว่าใครมา :sad4:
มาต่อเร็วๆนะค่ะ รออยู่ o13
-
หวังว่าคงไม่เปงอย่างที่คิด ไม่อยากจะร้องไห้
มันเร็วไปมั้ยน้อ
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่อนะคับ
รอรอน้าา
-
วัวพันหลักละงานนี้
-
เฝ้ารอคอยตลอดๆ
-
วันนี้ยังไม่ได้อัพนะคะ งานเยอะจัด ยังไม่ได้ต่อเลย :sad4:
ชะแว๊บมาบอกก่อน จะได้ไม่ต้องคอยเพราะปกติต้องอัพวันนี้แล้ว แต่ไม่ทันจริงๆเน้อ เหนื่อยจัด
ปล.ทวงได้ค่ะ แต่จะมาเมื่อต่อเสร็จแล้วอยู่ดี ฮ่าๆๆๆ :กอด1:
-
รอๆๆนะครับ
-
รอได้คร้า :L2: :L2: :L2:
-
วันนี้งานเยอะเหมือนกันเลยค่ะ
แอบแว้บมาเพราะระบบไม่ดี 5555
เราไม่ได้อู้งานกันใช่มั้ย? ทั้งคนเขียนทั้งคนอ่านเลย
วันนี้ไม่มาไม่เป็นไรค่ะ รอได้ๆๆ
พักผ่อนเยอะๆนะคะ
:กอด1:
-
ความรู้สึกแบบไม่มีความสำคัญมันยาก มันเดียวดายที่สุด
-
อยากรัก แต่รักไม่ได้
-
ไหนงะ
-
มารออ่านทั้งวันเลยอ่ะ...รีบๆมาต่อนะคะจะรอต่อไป...สู้ๆค่ะ :bye2:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๗
“จบกันดีๆ ถ้าดีไม่ได้ก็จบด้วยลูกปืน” พ่อฝิ่นทำหน้าเข้มเดินมาทางเขากับลูกชาย แต่ก่อนไปพ่อมันดันฝากปืนไว้กับมือเขา เล่นเอามือร่วงเลยทีเดียว
มีพ่อที่ไหนส่งเสริมลูกอย่างพ่อบ้านนี้เนี่ย
ผู้ใหญ่เถื่อนๆตีคิ้วใส่เขาแล้วเดินออกจากห้องรับแขกไปไอ้ฝิ่นจึงจับปืนสั้นของพ่อมันออกจากมือเขาไปวางไว้หลังตู้หนังสือใกล้ๆ
“ปืนไม่มีลูกก็เอามาเล่นจัง” มันว่าพ่อมันตามหลัง
แขกยามวิกาลลุกขึ้นยืนเบื้องหน้าโดยหันหลังมาทางเขา แต่...ช่างเป็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยเหลือเกิน สมองและลำคอคล้ายตีบตันขึ้นมาดื้อๆทั้งที่เมื่อครู่ยังรู้สึกโล่งโปร่งดีอยู่แท้ๆ ใบหน้าซึ่งสวมทับด้วยแว่นตาดำไม่ได้สวมไว้กันแดดแต่มันสวมเอาเท่ได้ทุกเวลาหันมาเผชิญหน้ากันจะๆแบบไม่ต้องรอให้ตั้งตัวใดๆ และใจของเขากำลังเดินเข้าไปหาคนไร้มารยาทที่มาบ้านคนอื่นเอาดึกดื่นป่านนี้ เว้นแต่ขาที่ก้าวไม่ออกและได้แรงบีบจากหัวไหล่ที่เตือนสติว่าไม่ได้อยู่แค่สองคนหากแต่ยังมีไอ้ฝิ่นที่เขาเผลอลืมมันไปชั่วขณะยืนอยู่ข้างๆนี้ด้วย
“เอามือออกจากไหล่ไอ้แก้ว” เสียงทุ้มห้าวพูดอย่างไม่เกรงใจอาวุธในมือเจ้าของบ้านและตัวเองกำลังเหยียบถิ่นมันอยู่
“หึ กลับมาไวจังนะ” มีเหรอที่คนอย่างไอ้ฝิ่นจะทำตาม ยิ่งสั่งมันด้วยแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ แก้วจึงใช้มือซ้ายจับมือฝิ่นหมายจะยกอออกจากไหล่ด้วยความกลัวพงษ์จะจับได้ แต่...นอกจากมันไม่ยอมเอาออกยังบีบมือเขาจนเจ็บอีกด้วย “อยากได้คืนเหรอ หึ” ไอ้ฝิ่นพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน และนั่นเป็นการกระตุ้นให้พงษ์เดือดเขารู้ดี
แก้วหันมองหน้าฝิ่นด้วยความอึดอัดใจแต่มันกลับยักคิ้วให้แล้วกอดไหล่เขาพาเดินหันหลังให้พงษ์
“ไปคุยกันข้างนอก”
“ไม่จำเป็น กูแค่มาเอาตัวไอ้แก้วกลับ” พงษ์พูดแทรกแล้วเดินอ้อมมายืนตรงหน้าพร้อมกับถอดแว่นเก็บไว้ที่คอเสื้อแล้วคว้าข้อมือข้างขวาเขาหมับ “กลับบ้าน” มันย้ำน้ำเสียงหนักแน่น
แก้วได้แต่หลบตาพงษ์ ไม่ใช่ไม่อยากกลับนะแต่...
“เอาไง ถ้าพ่อกับแม่กูลงมาอีกรอบกูเอาเรื่องแน่”
“พงษ์ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ” เขามองหน้าพงษ์ด้วยความอ้อนวอนขอร้องให้เข้าใจกันบ้างพลางมองที่ข้อมือตัวเอง แต่พงษ์กลับมองเขาด้วยสายตาตำหนิอย่างไม่คิดจะปกปิด
ขนาดมันทิ้งเขา เขายังยกโทษให้มันตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นหน้า แต่มันล่ะ ขอแค่เวลานิดเดียวมันกลับไม่ยอม
“ปล่อยก่อนได้ไหม?” เขารู้ว่าไอ้ฝิ่นเกรงใจพ่อกับแม่มันมากจึงไม่อยากมีปัญหา และเขารู้ว่าพงษ์กำลังข้องใจที่เห็นเขาอยู่กับไอ้ฝิ่นมันเลยไม่ยอมก่อนง่ายๆ เพราะฉะนั้นเขาจึงลองบอกไอ้ฝิ่นให้เอามือออกจากไหล่เขาก่อนบ้าง ไอ้พงษ์จะได้ยอมออกไปข้างนอกง่ายๆสักที
แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการเลยให้ตายเถอะ
ฝิ่นปัดมือพงษ์เสียงดังจนหลุดออกจากข้อมือเขา แต่ตัวมันเองดันลากคอเขาให้เดินตามมันไปข้างนอก
“ปล่อยก่อน” เขาเดินตามแรงลากแต่ก็พยายามจะเอาตัวเองออกจากท่อนแขนมันให้ได้ซึ่งก็ดูท่าว่าไม่เป็นผลเลย ในขณะเดียวกันก็หันมองไอ้พงษ์ไปด้วย มันกำหมัดแน่นแต่เดินตามออกจากบ้านด้วยความอดกลั้น
แล้วกลับมาทำไมตอนนี้นะ...แล้วเขาจะทำยังไงต่อไป
“ไม่คิดว่าจะได้เจอมึงที่บ้านกู ทั้งที่กูเคยตามหามึงให้ทั่ว” ฝิ่นจับต้นแขนเขาไว้พูดกับพงษ์ด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระอะไรเลย
“ไม่ต้องพล่ามหรอก ถ้ามึงไม่ปล่อยเพื่อนกู กูเอาตำรวจมาลากคอมึงเข้าตารางแน่”
“ลากคอไอ้คนที่ฆ่าเพื่อนกูก่อนดีกว่าไหม?”
“ยังไม่จบเหรอ แก้ว?” พงษ์ถามเขาแล้วเขาจะตอบยังไง แก้วได้แต่มองหน้าพงษ์เพื่อขอให้มันรอฟังคำอธิบาย
...เขาขอเวลาคิดหาคำอธิบายดีๆสำหรับเรื่องนี้ก่อน
“มึงปล่อยก่อนได้ไหม” แก้วปัดๆมือฝิ่นแต่ก็นั่นแหละ เฮ้อ ดูเหมือนว่ามันยิ่งจะมีอารมณ์มากขึ้นซะอีก
“จบ? ชีวิตเพื่อนกูทั้งคนมึงจะให้จบง่ายๆ?”
“แล้วยังไง กูก็ชดใช้ให้ไปตั้งเยอะ ถือซะว่ากูซื้อชีวิตเหี้ยๆของเพื่อนมึงละกัน”
“เอ่อ พอก่อนได้มะ...”
“งั้นก็แลกกัน ชีวิตเพื่อนกู กับชีวิตเพื่อนมึง” พูดยังไม่ทันจบไอ้ฝิ่นก็พูดแทรก แก้วหันควับมองหน้าฝิ่นซึ่งเจ้าตัวไม่ได้สนใจเขาเลย มันมัวแต่แสยะยิ้มมุมปากตาก็จ้องหน้าพงษ์ด้วยแววตาอาฆาตทั้งมือยังบีบต้นแขนเขาแรงขึ้นๆเรื่อยๆ
แก้วกลืนน้ำลายลงคอเฮือก มันจะเอาชีวิตเขาอย่างนั้นเหรอ?
“ไอ้แก้วมีค่ากว่านักเลงข้างถนนอย่างพวกมึง”
ผั่ว!! พงษ์เดินอาดเข้ามาดึงมือไอ้ฝิ่นออกจากแขนเขาทั้งยังเหวี่ยงกำปั้นเข้าที่ใบหน้ามัน
“พงษ์อย่า...นี่บ้านมันนะ” เหมือนเป็นข้ออ้างที่เขาเข้าไปกอดตัวพงษ์ไว้ไม่ให้มันทำร้ายไอ้ฝิ่นอีกรอบ
“แล้วยังไง? มึงก็เลยจะยอมให้มันทำร้ายมึงที่นี่อย่างนั้นเหรอ!”
“ก็ถ้าเราไม่ทำเขาก่อนกูจะยอมไหม!” แก้วพูดสวนทันควัน เขากำมือแน่นเพื่อระงับความรู้สึก ไม่ใช่เพราะมึงทำเขาก่อนหรอกเหรอ แล้วไม่ใช่เพราะกูให้ท้ายมึงหรอกเหรอ เขาถึงต้องยอมรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งที่รู้ว่ามันแทนความสูญเสียไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่าผิดยังไงก็คือผิด ผิดที่กูไม่อยากยอมรับความเป็นจริงแต่ขอแค่ให้ความผิดที่มีในใจของมึงกับกูลดลงไปบ้าง แค่ที่โดนมานี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ และอีกอย่าง มันไม่ได้ทำร้ายกูแล้วด้วย นอกเสียจากว่ากูกำลังทำร้ายความรู้สึกตัวเองอยู่ ด้วยใจที่เอนเอียงให้มันมากไปเท่านั้น
“กลับไปคุยกันที่บ้าน” พงษ์ดึงเขาออกจากตัวทั้งที่มันควรจะปลอบเพราะเขากำลังสั่นในอกอยู่แท้ๆ แล้วเขาก็คิดถึงมันมาก อยากจะให้มันกอดปลอบเขามากๆแต่มันกลับไม่ทำ ฮึก แก้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อปลอบตัวเอง
“ถ้ามึงไปก็ไม่ต้องกลับมาอีก” แก้วเบนความสนใจไปที่ฝิ่นซึ่งสายตามันไม่ได้ลดละที่จะเอาเรื่องเลย
และอีกครั้งกับคำพูดที่คล้ายกับโดนผลักไส
“ที่แล้วมากูจะถือว่าเป็นโมฆะ”
“โมฆะ?” เข้าย้ำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ใช่ ในเมื่อเจ้าตัวมันมาถึงนี่แล้วกูจะเก็บมึงไว้ทำไม” ทั้งคำพูดทั้งสายตาต่างเหวี่ยงมาที่เขาเหมือนกับเป็นแค่เพียงอากาศที่ล่องลอยอยู่ข้างๆตัวมันแค่นั้น
“หมายความว่า...”
“กูจบกับมึง แต่กูจะเริ่มกับมัน” ไอ้ฝิ่นพูดออกมาหน้าตาเฉยพลางชี้มือไปทางพงษ์ มันไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาสักนิด ไม่แม้แต่จะรับรู้ว่าเขาคิดยังไงกับคำพูดนี้
หมายความว่ามันยังไม่เลิกแค้นไอ้พงษ์อย่างนั้นเหรอ?
“ได้ยังไง?!” แม้ไม่ย้ำเงื่อนไขแต่เราสองคนก็รู้อยู่เต็มอกว่ามีข้อแลกเปลี่ยนกันยังไง อยู่ๆจะมาล้มเลิกเพราะไอ้พงษ์กลับมาแล้วอย่างนี้เขาไม่ยอมหรอกนะ
ที่รักมันก็เพื่อหวังให้มันจบ แล้วเขาก็รักมันไปแล้ว มันก็ควรจบน่ะใช่ แต่มากกว่านั้นคือหัวใจของเขาไม่ใช่รึไง มันไล่เขาง่ายๆอย่างนี้นี่นะ
และมันเองก็คิดไม่ต่างจากเขาไม่ใช่เหรอ?
ไม่ได้ไม่รักกูมันก็คือมึงรักกูไม่ใช่รึไง? เรื่องนี้กูยอมไม่ได้หรอก!
“ดี ในเมื่อกูก่อเองกูก็จะจบเองแต่ไม่ใช่วันนี้ ไปแก้ว” พงษ์คว้าแขนดึงเขาออกไป แต่เขาขืนตัวไว้
“แต่กูรักมึง” เขาโพล่งออกไปด้วยความรู้สึกของคนที่กำลังจะถูกทิ้ง พูดออกไปด้วยต้องการที่จะรั้งมันสักนิดให้ได้ “กูรักมึงจริงๆ ฮึก ฮึก” เขาไม่ยอมหรอก ไม่ยอม... ไม่ยอมถูกไล่ง่ายๆนะ
“ไอ้แก้ว! อะไร เกิดอะไรขึ้น?”
“ฮึก ฮึก พงษ์ กูรักมัน”
“ยะ อย่า อย่าร้อง” พงษ์อ้าปากค้างตาแทบไม่กระพริบจับไหล่เขาทั้งสองข้าง ก็เขา... เขาอยากให้ฝิ่นจบเรื่องไอ้พงษ์แต่เขาไม่อยากถูกมันทิ้ง “แก้วเงียบเลยนะ” ฮึก ฮึก เขาเม้มปากแน่นแต่น้ำตาก็ยังคลอทั้งยังสะอื้นไม่หาย ถ้าเป็นไอ้ฝิ่นมันคงไม่สั่งเขาอย่างเดียวแต่มันจะกอดเขาด้วย แต่นี่มันไอ้พงษ์เขายิ่งกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ อยากให้เขาหยุดแต่ไม่ทำอะไรนอกจากพูดบอกเนี่ยนะ ฮึก
“ตอนไม่มีมึงกูก็มีแต่มัน” ถึงชีวิตจะไม่ได้ราบรื่นเหมือนตอนที่อยู่กับพงษ์แต่เขาก็มีความสุขไปอีกแบบ ถึงจะขาดๆ แต่ก็เต็มได้ในเวลาเดียวกัน
แก้วมองไปที่ฝิ่นซึ่งยืนอยู่ตรงกันข้ามห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว มันเหมือนจะเดินเข้ามาหาแต่แล้วก็ชะงักไป
ทำไม?
“แต่มัน ...” พงษ์จิ๊ปากอย่างกับไม่อยากจะพูด “มันจะเป็นไปได้ยังไง” สายตาไม่เชื่อหากแต่มีแววสั่นไหวของพงษ์ทำเอาเขาอยากจะย้ำคำเดิมอีกล้านรอบ
“ฝิ่น...” มึงช่วยย้ำกับไอ้พงษ์ให้กูที
“ถ้าไม่อยากไปมึงก็เลือกเอาละกัน กูกับมันมึงจะเลือกใคร” แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากกดดันเขาอีกคน
ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปกับไอ้พงษ์ แต่เขาไม่อยากไปจากไอ้ฝิ่น ไม่ว่ามันจะเอาเรื่องไอ้พงษ์อีกรึไม่ก็ตาม เขาไม่อยากไป...
...แล้วทำไมเขาต้องเลือกด้วยวะ
“มึงกำลังสับสนอยู่ใช่ไหม ไม่เป็นไรนะ กูจะจัดการเอง” ไอ้พงษ์กัดฟันพูดกับเขา
“แต่พงษ์ กูกับมันรักกัน”
“แก้ว ไว้กูจะบอกมึงเอง ตอนนี้เรากลับบ้านกันนะ กลับบ้านเรากัน”
“ฮึก ฝิ่นมึงพูดอะไรบ้าง” ให้กูรู้สึกว่าไม่ได้คิดไปเอง “มึงลืมได้ไหม มึงเลิกได้ไหม ไหนบอกว่ามันจะจบยังไงล่ะ ทำไมมึงไม่รักษาคำพูด”
“ก็เพราะมึงมีเงื่อนไขกับกูไง”
“อะ....?” มึงเป็นคนตั้งเงื่อนไขเอง ...ไม่ใช่เหรอ? แก้วชะงักมองฝิ่นตาค้าง
“หึ มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ว่าทุกอย่างมันคือเกม”
“เกม? ...ไม่ จริง”
“อย่าลืมว่ามึงอยู่กับกูเพราะอะไร”
“แต่มึงเป็นคน...”
“มึงนั่นแหละเรียกร้องเอง” เหมือนกับตัวเองยืนอยู่บนหน้าผาแล้วหน้ามืดจนหล่นวูบลงไปข้างล่างยังไงอย่างนั้น
“พงษ์...” เขาจับแขนพงษ์ไว้เพื่อเป็นหลักยึดไม่ให้ตัวเองล้มลงไปจริงๆ
“กูให้โอกาสมึงเลือก...แก้ว” ฝิ่นยื่นมือมาหาเขา หากเพียงเขายื่นมือออกไปจับมือนั้นไว้เขาก็ไม่ต้องไปไหน “เลือกกู มันเจ็บ เลือกมัน มันตาย”
แต่ข้อเสนอไม่มีทางไหนให้เขาตัดสินใจได้ง่ายๆเลย
สักนิดที่มึงย้ำให้กูได้มั่นใจในความรู้สึก ขอสักนิดแต่ไม่มี นอกจากกูคิดเข้าข้างตัวเองแล้ว มีอะไรบ้างที่มันคือความจริง
อ้อมกอดที่โหยหาจะได้สัมผัส อ้อมกอดที่เคยอิ่มเอมใจ แต่สุดท้าย มันคือภาพลวงตา มันคือการแสดง มันคือการหลอกลวงเพื่อให้ได้สิ่งที่มันต้องการ
มันต้องการอะไร...หึ รู้ตั้งแต่แรกแล้วแท้ๆ
แต่หัวใจของเขายังหลงระเริงไปกับสัมผัสปลอมๆนั่นมาโดยตลอด
ไม่ต้องรอให้ใครมาบอกเขาก็รู้แล้ว รู้มาตลอดเพียงแต่หลอกตัวเองว่าเผื่อมันจะดีขึ้น... เผื่อจะดีขึ้นจนถลำลึกลงไปเอง
รักมันแล้วเรื่องจบมีที่ไหน นอกจากรักมันแล้วเขาเจ็บต่างหากละ
จริงอยู่ ทุกอย่างสองเรานั้นรู้ไม่จำเป็นต้องบอก
แม้มีเส้นของความบาดหมางกั้นอยู่
ฉันเชื่อ คุณค่าจิตใจนั้นเหนือกว่าสิ่งใด
แต่เขาก็อยากจะลบมันออกไปด้วยการใช้หัวใจเข้าแลก
รู้ดี และไม่ต้องการพิธีอะไรที่มากมาย
เพราะทุกอย่างมันเริ่มต้นทีละนิด ทีละนิด จนหล่อหลอมมาเป็นความรู้สึกจนได้
เพราะเข้าใจ มั่นใจในเธอทุกครั้งตลอดมา
ขอแค่ให้มันค่อยๆรับรู้ความจริงใจจากเขาบ้าง เขาเชื่อว่ามันรู้สึก เขาเชื่อว่ามันสัมผัสได้ และเขาเชื่อว่ามันจะทำตามคำพูดที่มันเคยลั่นเอาไว้
แต่ว่าวันนี้ สิ่งที่ฉันเป็นช่างต่างจากวันนั้น
ทั้งที่จิตใจฉันเองอยากจะเข้มแข็ง
แต่ว่าเรี่ยวแรง บอกว่าฉันคงทนเข้าใจเธอไม่ได้
รู้สึกอ่อนล้า จนใจฉันกลัวจะทนไม่ไหว
ทุกอย่างสูญเปล่า ความจริงเฉลย เงื่อนไขที่เขาบ้าวิ่งตามอยู่ฝ่ายเดียว ต่อให้ขอร้องอ้อนวอนมันจนตาย มันก็ไม่มีทางรู้สึกไปในทางเดียวกับเขาได้
โปรดเถอะนะ แสดงว่าเธอรักฉันอีกครั้งหนึ่ง ให้ฉันได้ซึ้งถึงความรักบ้าง
กอดจูบฉัน เบาๆเหมือนที่เธอเคยเมื่อก่อน
โปรดช่วยย้อนให้ฉันจำ และช่วยย้ำให้ฉันมั่นใจอีกที
เขารักมันเพื่อลดโทษให้ไอ้พงษ์อย่างนั้นเหรอ? แต่แท้จริงแล้วรักมันก็คือรัก รักก็เพื่อรัก เขาไม่สามารถบังคับให้ตัวเองรู้สึกกับมันได้เพียงแค่คำพูดของมัน แต่เขาสามารถรักมันได้ เพราะเขา...รู้สึกรักมัน
ความรักไม่สามารถชดใช้ความผิดให้ใครได้ แต่ความรักเมื่อได้รักไปแล้วไม่ได้รับอีกใจตอบ มันก็เจ็บสิ้นดี
ร้องไปเถอะ อ้อนวอนเข้าไปเถอะ อ้อมกอดจอมปลอม จูบจอมปลอม หึ ความรู้สึกปลอมๆ อยากได้จากแค่ใครสักคนจนหลับหูหลับตาหลอกตัวเองมองข้ามความจริงไปเถอะ
โปรดช่วยย้อนให้ฉันจำ และช่วยย้ำให้ฉันมั่นใจอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกกูตายคู่เลยดีกว่า” เขาหลับตาแล้วโอบกอดพงษ์ไว้ในขณะที่พงษ์เองก็กอดตอบและลูบหลังเขาเป็นครั้งแรกที่อยู่ต่อหน้าบุคคลที่สาม
เขายอมฝิ่นได้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องของพงษ์
“โธ่เว้ย! มึงเลือกเองนะ มึงเลือกเอง!”
“หึ แล้วกูจะกลับมาเคลียร์กับมึงวันหลัง” พงษ์พูดบอกแล้วพาเขาออกจากตรงนี้
ถ้าเป็นเมื่อก่อนฝิ่นมันคงจะโวยวายฟาดงวงฟาดงาลงกับของใกล้ตัวเมื่อโดนขัดใจ
แต่เขาขัดใจมันในครั้งนี้ เขาไม่ได้หันกลับไปดูด้วยซ้ำว่ามันจะอยู่ในอารมณ์ไหน
ตอนนี้...เอาความรู้สึกตัวเองให้รอดก่อนแล้วกัน
...................................
http://www.youtube.com/watch?v=aTVCACpg4jw
เครดิต เพลง โปรดเถอะ : โป้ โยคีย์เพล์บอย
(ช้าเพราะหาวิธีลงเพลงนี่แหละY^Y อ่านแล้วยิ่งมึน อยากจะลงเพลงแต่ลงไม่เป็น)
รบกวนใครลงเพลงเป็นลงให้คนเขียนที ง่อยมากอะไรมาก :o12:
นี่ว่า คนแต่ง ต้องมีมุมเก็บกดอะไรซักอย่าง
สรรหาคำพูดมาเสียดแทงคนอ่านได้ดีมาก
...จ๊ากกกก ฮ่าๆๆๆ ตามนั้นเลยคนอ่านจ๋า คนเขียนเป็นคนหลายบุคลิกค่ะ เอาแน่เอานอนไม่ได้ อิอิ
สัปดาห์นี้เหนื่อยจริงๆค่ะ ไม่ไหวๆ ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ กอดๆจุ๊บ
สวัสดีนักอ่านหน้าใหม่ด้วยนะคะ ^^
ปล.ใครเม้นท์ตัดหน้า อัพไม่ได้เนี่ย บ่นๆ ฮ่าๆๆๆๆ
-
:sad11: มาม่าเต็มชาม
แก้วน่าสงสารมากกกกก
ฝิ่นแกไม่ทำให้แก้วมั่นใจเอง
พงษ์ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
ปวดใจแทนแก้วมันเลยอะ :m15:
ฝิ่นแกก็ชอบทำร้ายจิตใจแก้วมันเหลือเกิน :เฮ้อ:
+1 นะคะ
-
โอ้โหหห คราวนี้ฝิ่นทำเจ็บจริงอะไรจริงง
สงสารแก้ว ไปต่อไม่ถูกเลย TT
-
ทั้งสามคนตกลงใครเชรี่ยกว่าใครกันแน่
-
สมควรละฝิ่น แต่ยังไงก็สงสารแก้วอยู่ดี
จะมีใครตายอีกรึเปล่าเนี่ย ถ้าไม่พงษ์ก็ฝิ่นเหรอ
ไม่นะๆๆๆ :serius2:
-
อ่านจบแล้วจุกอก ให้ตายเถอะๆ ฉันจะสงสารใครดีเนี่ย
ดูท่าแล้วฝิ่นกับแก้วคงเจ็บพอๆกัน
แต่น้องแก้วน่าสงสารสุด อ่านไปฟังเพลงไปด้วย
เข้าถึงอารมณ์น้องแก้วดีแท้ เกือบจะเสียน้ำตาเบาๆ
ฝิ่นถ้าแกรักแก้วก็หยุดคิดเรื่องแก้แค้นเหอะ
มาทำน้องแก้วเจ็บ ฉันยอมไม่ได้ T_T
คือ ณ จุดๆนี้ อยากจะถามพงษ์ว่า
"กลับมาทำไม ฉันลืมเธอไปหมดแล้ว" 5555
ตอนนี้พงษ์ต้องเตรียมตัวโดนฝิ่นเอาคืนใช่มั้ยเนี่ย
ก็จะได้รู้แล้วสิว่าพงษ์ฆ่าเป้งทำไม
ว่าแล้วว่าพี่ซีซั่นจะลงวันนี้
เขาแอบมาส่องทุกวัน 555
พักผ่อนเยอะๆนะคะ ^^
-
ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกที่มีตอนนี้ว่ายังไง
แต่รู้สึกสะใจลึกๆที่แก้วเลือกแบบนี้ หึหึ
ยกนิ้วให้คนแต่ง o13
-
ฝิ่นใจร้ายมากกกกก ทำไมทำกันได้ลงคอว่ะ???
เริ่มหยาบ เพราะไม่อยากทนรับกับดราม่า 55555
พูดเล่นอะค่ะ สงสารแก้วมาก
-
พงษ์มาเร็วไปนะ หวานได้กี่ตอนเนี่ย สองถึงม่ะ ? 55555
-
ค้างมากค่ะ มาต่อด่วยเลย ตกลงใครผิดกันแน่เนี่ย งง มาก
เดาว่าฝิ่นคงจะเจ็บน่าดู เหอะๆ สมน้ำหน้าแล้ว :beat:
-
อ่านตอนนี้แล้วมีแอบน้ำตาคลออะ :m15:
-
ขอบอกเลยว่าร้องไห้เลยอ่ะ
สงสารแก้ว แต่ไม่รู้สิรุ้สึกสงสารฝื่นมากกว่า
เหมือนฝื่นอยากจะให้แก้วได้เลือกรักมันอย่างไม่มีเงี่ยนไข
แก้วก็เข้าใจมันค่อยสิ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะที่จะบอกออกมาแม้จะรักมากก็ตาม
โอ็ย ไม่ไหวแล้ว เศร้า อิพงษ์แกรีบกลับมาเกิ้น :sad4: :z3:
ต่อจากนี้ฝื่นคงต้องร้ายกับแก้วแน่เลย
ทำไมแก้วทำแบบนี้(อ้าว อินี้5555. ไม่ค่อยออกตัวเลยค่ะว่าชอบพี่ฝื่น :-[)
สู้ๆค่ะคนแต่งเป้นกำลังใจให้ o13
-
โอ้ยยยย เครียดดดดดดด :z3:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
มีแต่เรื่องงงงง
แต่พงษ์กลับมาก็ดีนะอะไรๆมันจะไดชัดเจนซักที
-
สงสารแก้ว...มันเจ็บน่าดูเลยหากต้องเลือกโดยที่ต้องเจ็บเมื่อเลือกทางใดทางหนึ่งรีบๆมาต่อนะคะ...เศร้า :sad4:
-
T^T ไหงเป็นแบบนี้อ่ะ ไม่ยุติธรรมสุดๆ
แก้วน่าสงสารเกินไปแล้วนะ :z3:
-
ไม่เข้าใจฝิ่นว่ะ จะพูดแบบนั้นทำไม แก้วเลยต้องลำบากใจและน่าสงสารแบบนี้
แล้วเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่ เห้ออออ
เพลงเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้มากๆ
ขอบคุณมากค่ะ :กอด1: :กอด1:
-
ปล่อยให้ผู้ชายบ้าสองคนจัดการกันเองเถอะแก้ว ปวดหัว ปวดใจ
-
ท้องอืดเลยจ้า...
-
ดีใจที่พงษ์กลับมาแล้ววววว...
แก้วจะได้มีเพื่อนซักที...คราวนี้จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวบ่อยๆอีก...
รู้สึกว่าฝิ่นดูแลไม่ค่อยได้เรื่องอะคะ...55+
-
มันช่างเจ็บปวดใจ :z3:
สงสารแก้วมากกกกกกกก
โดนทำร้ายจิตใจจากผูชายทั้งสองคน
-
เครียดดดดด
ตกลงยังไง
รักแบบมีข้อแม้
แล้วแก้วรักจริงไหม ฝิ่นจริงไหม
คนอ่านงง
-
...ตอนนี้พี่สะใจมากๆๆ..........สมน้ำหน้าฝิ่น
...ประชดประชัน ไม่รับความจริง เป็นไงล่ะเค้ากอดกัน และจะยอมตายคู่ แล้ว :laugh:
-
เลิกเถอะ เลิกเถอะ
เปงรักที่น่าเกลียดมาก
เลิกรักไปเถอะ
:m31: :m31: :m31:
-
โถ....พ่อคุณ :กอด1:
-
^^
-
อิฝิ่นนนนน :z6: :z6:
แกทำร้ายจิตใจแก้วอีกแล้วนะ :beat: :beat:
ชั้นไม่ให้แกเป็นพระเอกแล้วววววว :angry2: :angry2: :angry2:
-
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกกูตายคู่เลยดีกว่า” สะใจ
-
นั้นเป็นไง แก้วไปแล้ว ไล่มันไปเองแล้วเจ็บไหมล่ะ
-
รักที่มีเงื่อนไข :เฮ้อ: ตอนนี้แก้วรับเละ แล้วทำไมพงษ์ถึงกลับมาล่ะเนี่ย
เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่(ทั้งคู่)วางไว้ ทั้งที่พี่ไม้ก็พูดปากแทบฉีก งานนี้เลยเจ็บกันระนาว
รอตอนต่อไป ^^ ขอบคุณค่ะ
-
ตกลงฝิ่นอยากให้พงษ์เจ็บ หรือแก้วเจ็บเนี่ย
อ่อ แต่ฝิ่นก็กะจะลงโทษแก้วแต่แรกด้วยเหมือนกันนี่นะ
อีที่เกินความคาดหมายคือตัวเองก็เจ็บ ชิมิจ๊ะ พี่ไม้เตือนแล้วเน้.... :beat:
-
โอ้ย จะทรมานแก้วไปไหนกานนะ
น้ำตาไหลไม่หยุดเลย สงสารแก้วจัง!!
แอบมีโรคคล้ายๆแก้วอีกด้วย ดีกว่าหน่อยตรงที่ไม่มีเลือดกำเดาไหล :a5: :a5:
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกนะคับ
รอรอน้า T^T
-
บอกฝิ่นว่า ไปตายซะไอ้งั่ง!!
-
สมน่ามึง กำหนดตั้งแต่แรกเอง
-
อ่านตอนนี้แล้วเจ็บตับโฮก
คนเขียนทำร้ายจิตใจผมอย่างรุนแรง :z3: :z3:
-
เจ็บปวดใจแทนแก้ว
-
:เฮ้อ: อิฝิ่น :beat:
แก้วน่าสงสารมากอ่ะ อยู่ๆจะให้เลิกรักง่ายๆหรอไง อิบ้าฝิ่น :monkeysad:
:pig4: คนแต่งนะคะ
-
มันหนึบๆที่หัวจายย :z3:
ปล.เจ็บกันทั้งหมดแต่สมน้ำหน้าฝิ่นเพราะมันทำตัวเอง ปล่อยวางบ้างไรบ้างดิ
-
โอยย เข้มข้น ฝิ่นนะฝิ่น น่าสงสารแก้วที่สุด
-
ไม่เข้าใจพงษ์เท่าไหร่
ก่อนหน้านี้ทำไมมันหายไปจากชีวิตแก้ว
จู่ๆก็กลับมา
แก้วเอ้ย น้องรักเจอศึกหนักแล้วล่ะ
สามีที่รักกับเพื่อนรักไม่ถูกกันอย่างแรง
สงสารน้องแก้วมาก
หนูจ๋ามาอยู่กับพี่มาลูกมา
พี่ซีซั่นใจร้ายกับน้องแก้วมากกกกก
กำลังเข้มข้น รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
-
เมื่อมีลมเย็นฉ่ำมากเท่าไรพายุก็อยู่ใกล้เท่านั้นแล้วมันก็มาถึงโดยไม่ได้เตรียมใจจริง ๆ
-
เอาเข้าไป :z3:
-
ร้าวรานใจสุดๆเลย
-
รักแบบมีเงื่อนไข เรียกร้องเอง เจ็บดีมั้ยล่ะแก้ว
อ่านแล้วสะใจจริงๆ(คนอ่านซาดิสต์) o18
อิฝิ่นแกจะแก้ปัญหาเรื่องเมียและใจแกเองยังไงน้อ
ส่วนพงษ์ก็รีบๆพูดความจริงมาซะทีเถอะ
-
โหยยยยยยยยยยย
ฝิ่นก็นะ....ทำร้ายจิตใจแก้วซะ
แก้วกับฝิ่นจะทำยังไงต่อละนี่
แล้วพงษ์.......
จะกลับมาเพื่ออะไร
ในเมื่อเป็นฝ่ายไปเองแท้ๆ
รอฝิ่นตัดสินใจ....อิอิ
-
อ๊ายยยย
อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยอ่ะะ *เหวี่ยงฝิ่นไปนอกโลก
ทำไมมันพูดอย่างงี้ยะ? แล้วที่แล้วๆมามันคืออะไร???? :angry2:
โกรธที่สุดด!! *กอดแก้ว แก้วน่าสงสารมากๆ
โดนบังคับขู่เข็ญทุกอย่าง
:เฮ้อ: เฮ่อออ.. เป็นนายเอกเรื่องนี้ต้องทำใจสินะ
-
:sad4: :sad4: :sad4:
-
ฝิ่น ทำไมแกทำงี้เนี่ย
อย่ามาเสียใจทีหลังนะเอ้อ :เฮ้อ:
-
ดูท่าจะมีการอิงกระแสนิยายน้ำเน่า คิอ ต้องมีคนคอยยุแย่พงษ์แน่ ๆ งั้นจะกลับมาทำไมตอนนี้
ผู้ต้องสงสัยอันดับ1 คือ พี่ขวัญ อันดับ 2 คือ ดิว
ช่วยกันสืบสวนด้วยครับ
-
ฝิ่นคิดอะไรอยู่เนี่ย แต่ละคำที่พูดออกไป กดดันแก้วสุดๆ พงษ์มาแล้วก็ดีเหมือนกัน ข่าวเร็วดีเนอะ
แล้วเราจะเชียร์ใครดีล่ะเนี่ย แต่พงษ์กลับมาพี่ไม้เราจะตบะแตกมั้ยเนี่ย กลัวใจจริงๆ :a5:
-
พงษ์มีปัญหาอะไรกับเป้งกันแน่ สงสารทั้งแก้วและฝิ่น
-
สงสารทั้งแก้ว พงษ์ และ ฝิ่น น่าสงสารไปคนละแบบ :เฮ้อ:
-
โอ๊ย ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
นํ้าตาไหลพรากๆ ดราม่าได้อีกไหมเนี่ย :o12:
เเก้วสู้ๆนะลูก เป็นกำลังใจเสมอ ฝิ่นเเกทำอะไรบ้างเซ่ :z3:
จะเป็นไงต่อฟะเนี่ย ยยยยยย :a5:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๘
แก้วเดินออกจากห้องน้ำในชุดนอนสีขาวครีมกางเกงขายาวเสื้อแขนสั้นมานั่งลงขอบเตียงข้างๆกับพงษ์ที่ยังอยู่ในชุดเดิม
“ดีขึ้นรึยัง” มันถามออกมานี่ไม่ได้ดูหน้าเขาเลยใช่ไหม?
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทั้งที่ทุกอย่างมันไปได้สวยแล้ว แต่ทำไมยัง...” เขามองหน้าไอ้ตัวต้นเหตุพลางบ่นหน้าเครียด
“อะไรที่ว่าสวย?”
“ก็... ไม่คุยกับมึงแล้ว” แก้วเฉไฉเปลี่ยนเรื่องพลางล้มตัวนอนทันทีพร้อมกับดึงผ้าห่มมาคลุมโปง
“ขอบใจ แต่กูอยากให้มึงอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรเพื่อกูนั่นเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว”
“มึงจะบ้ารึไง กูทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก” เขาโผล่หน้าออกจากผ้าห่มมาโวยไอ้พงษ์ ที่ชอบพูดอะไรเห็นแก่ตัว เออ เห็นแก่ตัวไอ้แก้วนี่แหละ
นั่นเป็นเรื่องที่เขาโดนมันสบประมาทมาตลอด แล้วเรื่องอะไรที่เขาจะงอมืองอเท้าอยู่เฉยๆได้ล่ะ อะไรที่ทำแล้วเป็นการช่วยลดความผิดพงษ์ได้ เขาก็ทำทั้งนั้นแหละ แต่...มันไม่สำเร็จเท่านั้นเอง
“เฮ้อ ก็เลยให้กูหนีแล้วมึงจะจัดการเองน่ะนะ โคตรเท่เลยมึงเนี่ย”
“พงษ์!จะประชดทำไม?”
“เออๆ ไม่พูดแล้วๆ”
“แล้วมึงกลับมาทำไม เพิ่งไปได้เดือนกว่าเองนะ” เขาลุกพรวดนั่ง ตั้งหน้าตั้งตาคุยกับมันอย่างจริงจัง
“...ก็เพราะใครล่ะ?” พงษ์ยิ้มน้อยๆจับศีรษะแก้วขยี้เส้นผมเขาจนยุ่ง แต่สีหน้าเหมือนกับกลุ้มใจอะไรอยู่
“...กู ...เหรอ?” เขาถามมันเสียงขาดๆ อย่างไม่แน่ใจ
แต่...จะมีเหตุผลอะไรนอกจากนี้ได้ ในเมื่อกลับมาแล้วมันไปหาเขาที่บ้านไอ้ฝิ่นเลย มันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่
“ตัวเล็ก ต่อไปจะเป็นยังไงช่างมันนะ กูเลือกที่จะผิดสัญญาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเอง แต่ก็ช่างแม่ง ไม่เห็นต้องสนใจใครเลยในเมื่อไม่มีใครยอมรับในตัวเราสักคน ทำไมกูจะต้องทำเพื่อคนอื่นด้วยวะ”
“พูดเรื่องอะไร?”
“...ก่อนไปกูรับปากพ่อกับแม่ไว้ว่าจะไม่ติดต่อกับมึงจนกว่ากูจะเรียนจบ” ได้ฟังประโยคนี้จากพงษ์แล้วแก้วก็หงอยลงไปทันตา เขาก้มหน้ารับฟังอย่างไม่อยากจะฟัง “แต่กูทำได้ที่ไหนมึงก็รู้”
ก็แหงล่ะ พ่อแม่ไอ้พงษ์คิดว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลูกเขาเสียผู้เสียคนหนิ
“หึ แต่มึงก็ทิ้งกู” ว่าแต่ไอ้พงษ์ตัวเขาเองก็ไม่พ้นประชดมันเหมือนกัน
บอกกันหน่อยก็ได้ ว่าจะทำอะไรยังไง นี่เล่นตัดสินใจไปคนเดียวหมด เขาก็เสียความรู้สึกนิดๆนี่หว่า
“ไม่ใช่อย่างนั้น ...ไอ้ขวัญมันรู้ว่าเรายังติดต่อกันอยู่น่ะสิ เหี้ย กูยังเคืองไม่หายต้องเป็นวันที่มันรับโทรศัพท์มึงแน่เลย เออ แล้วมือถือมึงไปอยู่กับมันได้ไง” พี่ขวัญ ...อ๋อ อ้อ วันที่เขาไปผับกับพี่ขวัญแล้วทำโทรศัพท์มือถือหล่นไว้ในรถพี่นั่นเอง
แต่วันนั้นก็มีอีกเรื่องที่เขาจำไม่เคยลืม
“เรื่องมันยาว” แก้วตอบพลางหรุบสายตาลงต่ำ
“เรื่องไอ้เหี้ย๕xด้วย”
“เอ่อ...มันยาวจริงๆนะพูดไปสามวันเจ็ดวันก็ไม่จบหรอก” แก้วลุกลี้ลุกลนบอก
“...งั้น เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน แล้วจะกลับมานอนฟังนะ”
“อ๊ะ เดี๋ยว...เฮ้ย” จะร้องบอกว่ายังไม่พร้อมเล่าเขาอยากรู้เรื่องของมันก่อนแต่มันดันวิ่งฉิวออกจากห้องไปจนกระทั่งได้ยินเสียงเปิด-ปิดประตูเสียงดังจากห้องข้างๆนั่นแหละ
บางเรื่องที่เราทำ เราไม่ต้องบอกเจ้าตัวก็ได้ถูกไหม? ถ้าคิดว่าเราทำคนเดียวมันจบง่ายกว่า และอีกคนจะรู้สึกด้วยน้อยกว่า จนเกิดเป็นความลับเล็กๆขึ้นมา แต่ไม่เลย มันไม่ใช่อย่างนั้น เขาทำเพื่อไอ้พงษ์ทางนี้ ไอ้พงษ์เองก็ทำเพื่อเขาอยู่ทางนั้นด้วยเหมือนกัน ถึงจะเคืองกันบ้างแต่เราสองคนก็เข้าใจกันได้ง่ายๆเพราะต่างรู้ดีไม่มีใครอีกแล้วที่อยู่ข้างเราได้นอกจากพวกเราเอง
มลทินของไอ้พงษ์ ความผิดที่เขาไม่อยากให้เพื่อนผิด จะเป็นไรไปถ้าเขาจะรับผิดชอบแทน
แต่แค่ลบล้างความผิดเท่านั้นก็คงไม่มีอะไร ถ้าหากหัวใจที่ไร้น้ำหนักมันไม่เฉไปตามแรงลมที่เพียงกระทบผิวกายเพียงชั่วครู่หากกลับโอนเอนไปได้อย่างง่ายดาย
เพราะต้องการความรัก ต้องการใครสักคนที่อยู่ข้างๆเราได้ มันก็อ่อนไหวไปตามเพียงความใกล้ชิดที่ย้อนกลับไปมองมันก็ไม่เห็นมีอะไรให้เขาได้ชุ่มชื่นหัวใจได้เลย
ทั้งคำพูดเสียดสีว่าร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งการกระทำที่คอยจะเล่นงานให้เขาเจ็บตัวได้ทุกเมื่อ
แต่กลับมอบสัมผัสแทนการปลอบโยนเขาอยู่ทุกครั้ง
ฝ่ามือที่เคยกุม อ้อมกอดที่ไว้ปลอบ สัมผัสรักไปทั่วร่างกาย โดยไม่ต้องมีคำหวานเพียงสักคำ
ไม่เห็นมีอะไรดีเลย ไม่เห็นมีเลย...
“ไม่...เป็นไร ใช่ไหม?” พงษ์ถามตะกุกตะกักด้วยท่าทีเป็นห่วงพร้อมกับสีหน้าเหมือนแบกอะไรไว้อยู่ของมัน
“เจ็บน่ะพงษ์ ฮึก มันเจ็บ”
ไม่พร้อมเล่าแต่แน่นอนว่าเขาเล่าให้พงษ์ฟังทุกเรื่องที่เกี่ยวกับฝิ่น ในเมื่อเขาทำไม่สำเร็จ เขาก็ควรจะบอกพงษ์ให้รู้ถึงความไม่เอาไหนของตัวเอง แต่กลับได้ของแถมที่ปวดใจสิ้นดี
รักมันเจ็บปวดขนาดนี้เลยเหรอ ทั้งที่กูถอยออกมาจากชีวิตมึงแล้วแท้ๆ
ไม่สิ เขาโดนผลักไสมากกว่า ในวันที่เขาไม่มีข้อแม้สำหรับไอ้ฝิ่นอีกต่อไป ก็เหมือนกับคนไร้ประโยชน์คนนึงเท่านั้นเอง ใครจะอยากเก็บไว้ให้รกหูรกตาล่ะ
ทั้งที่เคยคิดไว้แล้วนะว่าต้องมีวันนี้เข้าสักวัน แต่เขา...ก็ยังตั้งรับไม่ทัน
“พงษ์ ...กอดได้ไหม” เขาถามด้วยความไม่กล้า ความอ่อนแอคือสิ่งที่พงษ์ไม่ชอบ แต่เขากำลังเป็น หรือเขาอาจจะอ่อนแอมาโดยตลอดแต่ไม่กล้าแสดงออกมาให้พงษ์เห็นเท่านั้นเอง เขาจึงเอ่ยปากขอ ขอสัมผัสอุ่นๆพอให้ใจเขามีแรงบ้าง
“เก่งแล้ว” และครั้งนี้พงษ์ไม่ปฏิเสธและไม่ต่อว่า กลับเอ่ยปากชมเรื่องล้มเหลวของเขาซะอย่างนั้น
แก้วโผกอดพงษ์อย่างเต็มแรง เหนื่อย ล้าเหลือเกิน พยายามมองข้ามทุกสิ่งแล้วแต่กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลย คนขี้ขลาด คนไม่เอาไหน จะทำอะไรได้มากกว่าการทำร้ายตัวเองและคนรอบข้างล่ะ
“ว่าแต่ ทำไมรีบกลับมา?” เขาถามบ้าง ทั้งที่หายหัวไปตั้งนานแล้วแท้ๆ
แก้วสูดน้ำมูกแล้วทำเป็นสดชื่นพร้อมกับตั้งหน้าตั้งตาสนใจเรื่องของพงษ์
“กูทำมึงเสียใจ...กูรู้ กูกลัวมึงคิดมากเลยรีบบินมาหา”
“พงษ์! มึงนี่นะ เฮ้อ!” กะแค่เขาเครียดไม่ถึงกับตายหรอกน่า แต่ก็นะ พงษ์มันรู้จักเขาดีนี่นา “แล้วพ่อแม่มึง?”
“อยู่โน่นกูมีคนคอยคุมความประพฤติ นี่คงโทรมารายงานแล้วมั้ง” พงษ์ตอบแล้วดันตัวเขาออกจากตัวมัน
ยังไม่หายคิดถึงเลย ยังไม่หายเจ็บด้วย...
กอดของพงษ์มันไม่ทำให้เขามีแรงขึ้นเต็มที่หรอก แต่ก็ดีกว่าไม่มีใครกอดเลย
เวลาหนาว แม้ไม่มีเสื้อแขนยาวแค่ได้เสื้อกล้ามสักตัวก็คงดีกว่าไม่ได้ใส่อะไร ถูกไหม?
เอาเถอะ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น...
“แต่มึงดันไม่อยู่บ้าน ยังดีที่ไอ้ขวัญบอกกูได้บ้างแต่กว่าจะง๊างปากได้ตีนกูก็ง๊างรอแล้วเหมือนกัน” เขาพยักหน้าฟัง ถึงว่ามันจึงไปหาเขาที่บ้านไอ้ฝิ่น “มึงไม่ได้คิดมากเรื่องกูใช่ไหม?”
“น้อยไปสิ!” เขาต่อว่ามันแล้วเอนตัวลงนอนอีกครั้ง “แล้วพี่ดิว” นึกขึ้นได้เลยถามพงษ์ต่อ
“พี่ดิวทำไม? กูไม่ได้คุยกับเขาเลยตั้งแต่ไป”
“เปล่า ไม่ทำไมหรอก” แล้วเอาไอ้พงษ์มาข่มเขาตั้งนาน เฮ้อ พี่ดิวนี่นะ รักของพี่เขาคิดถูกแล้วล่ะที่ไม่เรียนรู้มัน
แต่ป่านนี้พี่ดิวจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ตัวใครตัวมันนะพี่ อย่างที่บอกลำพังเขาเองยังเอาตัวไม่รอดเลย
“จะสว่างอยู่ละ แล้วจะตื่นกี่โมง” พงษ์ถามพลางดึงผ้าห่มขึ้นให้ดีๆ
“ขอนอนทั้งวันเลยได้ไหม?”
“ได้ ถ้าไม่มีใครมารบกวนเรานะ”
แก้วมองฝ้าเพดานเหม่อๆตาลอยๆ เพดานมีอยู่แค่นี้ แต่แววตาของแก้วอย่างกับมองทะลุฝ้าเข้าไปอีก
เฮ้อ ...ใต้ฝ้าก็คงจะมีแต่ความมืด
“พี่...”
“หืม?”
“นอนด้วยกันไหม?”
“หึ ไปหัดอ้อนมาจากหนะ...” พงษ์ชะงักคำพูดทั้งที่ยังพูดไม่จบคำ
เขาข้องใจว่ามันจะพูดอะไรแต่มันก็เงียบไปเฉยๆ
“แล้วเรื่องนี้จะจบยังไง เราหนีไปทั้งคู่เลยดีไหม?” เขาไม่เหลือแรงแล้ว ไม่อยากทำอะไรแล้ว ใครอยากจะตราหน้าว่าเราทั้งคู่มีส่วนทำให้เพื่อนมันตายก็ช่างมันสิ
“ที่กูไปเพราะกูคิดว่าจบแล้ว แต่ถ้ายังไม่จบกูก็จะเผชิญหน้ากับมันเอง จะสักเท่าไหร่เชียวกะแค่คนตายคนเดียว”
“พี่!”
“ให้เรียกครั้งเดียว” เฮอะ ตัวเองเป็นพี่แต่กลับไม่อยากให้เขาเรียกพี่ แปลกคน “กูรู้ มึงไม่ต้องพูดหรอก” รู้ทุกเรื่องแต่ยังพูดอยู่นั่น
ชีวิตพงษ์เอาตามจริงมีต้นทุนสูงกว่าเด็กช่างคนอื่นๆอยู่แล้ว แต่ก็ไม่จำเป็นต้องดูถูกชีวิตใครนี่นา
และคำพูดพวกนั้นก็ไม่ใช่นิสัยของพงษ์ด้วย
“ถ้าแลกกัน เรื่องคงจบง่ายกว่านี้ใช่ไหม?” เขาพึมพำเบาๆ
“แลกได้ แต่ต้องไม่ใช่มึง และไม่ใช่กู” มันพูดอย่างไม่สนใจอะไรเลย
“จะให้คนอื่นมาตายแทนกูทำไม่ได้หรอก”
“ไม่ ถ้าคนผิดมันคือกูคนเดียว จะต้องไม่มีใครตาย” นี่ขนาดมันรู้ตัวว่าผิดยังพูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเนี่ยนะ
“แล้วมันจะยอมเหรอ” พนันกันได้เลยว่าไม่ ไม่มีใครตายน่ะอาจจะใช่ แต่แค่ในวันที่ไม่มีพงษ์นะ
แต่วันนี้ไอ้พงษ์ดันเสนอหน้ามาอยู่ใกล้ๆมัน คิดเหรอว่ามันจะปล่อย
“แก้ว เพื่อนมันทำมึงก่อน แล้วตอนนี้ตัวมันก็กำลังทำร้ายมึงอยู่ มึงคิดว่ากูจะยอมไหม?”
“พงษ์!” เขาต้องลุกพรวดมาอีกทีเพื่อมองหน้าพงษ์อย่างตำหนิ
“แต่ทั้งหมดก็เพราะกูดูแลมึงไม่ดี ถึงจะอย่างนั้นแต่ถ้ากูรู้ กูก็จะเอาคืน”
“มันเป็นใคร ทำอะไรกูนักหนา ทำไมมึงต้องเล่นแรงขนาดนั้นด้วย กูเคยโดนตบฉ็อปมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ทำไมมึงต้องฆ่าเขา” เขาโวย
“กูมีเหตุผลของกู” เหตุผลๆที่ไม่บอกอะไรเขาเลย ทั้งที่คนพวกนั้นก็พูดกล่อมเขาทุกวันว่าเขาคือต้นเหตุ
“กูไม่สน ยังไงวันนี้กูต้องรู้ให้ได้”
“อย่าเอาแต่ใจ”
“มึงต่างหากที่เอาแต่ใจ”
“ตัวเล็ก...” พงษ์เรียกเขาเสียงอ่อย คงอ่อนอกอ่อนใจ แต่เขาไม่ยอมหรอก แก้วมองหน้าพงษ์อย่างคาดคั้น “เวลามีคนมาดักเอาฉ็อปมึง มึงทำยังไง”
“ก็ถอดให้เลย อยากได้ก็เอาไป กูซื้อใส่ใหม่ได้”
“นั่นไม่ใช่ให้มึงไม่รักศักดิ์ศรี แต่กูกลัวว่ามึงจะโดนคนอื่นทำร้าย กูถึงได้ให้มึงยอม” รู้แล้ว...
“กูก็ไม่ได้คิดอะไร ศักดิ์ศรีกูไม่ได้อยู่ที่ฉ็อปสถาบัน” แก้วพูดหน้ามุ่ย
“แล้วใครที่เอามีดจี้ฉ็อปมึงจนเอวได้แผล?” พงษ์พูดพลางดึงชายเสื้อเขาขึ้นแต่เขาก็ปัดลงทันทีเหมือนกัน
“...นอกจากโดนมีดเฉี่ยวบ้าง กูก็เคยโดนตบจนเลือกกบปาก” ที่แน่ๆไม่ใช่แค่ครั้งเดียว
“แล้วอะไรอีก”
“ก็ ปกติไม่ใช่เหรอ กูไม่ได้อะไรอยู่แล้ว มึงยังไม่เห็นว่าอะไรเลย”
“กูทำแล้วกูจะบอกมึงทำไม?” พงษ์พูดหน้าตาเฉย มันขยับตัวพิงหัวเตียง กอดอก นั่งเหยียดขาตรง
“เฮ้ย นี่มึง”
“เออ กูเอาคืนแม่งหมดแหละแต่ไม่ถึงกับตาย” ...เฮ้อ แก้วถอนหายใจ หลังงอห่อไหล่ เวรกรรม
“แล้ว...เพื่อนไอ้ฝิ่น?”
“ก็...ถึงคราวซวย”
“มึงพูดอะไรง่ายๆ ถามจริงเถอะมึงรู้สึกผิดสักนิดไหมพงษ์ มึงรู้ไหมกูหลับไม่เต็มตาสักคืน มันแย่ มึงเข้าใจไหม กูรู้สึกแย่มาก ทั้งยังรู้สึกผิดที่ต้องมารู้มาเห็นความรู้สึกของคนฝั่งนั้น กูโคตรอยากจะตายๆไปซะทุกคนจะได้พอใจแล้วเลิกแล้วต่อกันสักที” เขาต่อว่ามันและตัวเองรัวด้วยความอึดอัดใจ ถ้าหาที่จบกันไม่ได้ ยังไงมันก็ต้องมีสักทาง เริ่มที่ชีวิตก็เอาเป็นว่าจบที่ชีวิตไปเลยแล้วกัน
“นอนนะ ...แล้วก็นอนห้องใครห้องมัน โตแล้วไม่ใช่เด็กที่ต้องมาโอ๋กันตลอด”
“..............” เขามองพงษ์ที่ลุกออกจากเตียงตาขวางที่ไม่คิดจะพูดอะไรให้เขาเย็นลงเลยกลับตัดปัญหากันดื้อๆอย่างนี้
“...ขอโทษ” มันบอกเขาเสียงละห้อย
“ไม่ต้อง” เขาหันหน้ามองตรงไม่ยอมมองหน้าพงษ์อีก
“กูทำทั้งที่กูรู้ กูขอโทษ แต่กูอยู่ตรงนี้แล้ว มึงไม่ต้องกังวลอะไร ทั้งเรื่องของกู ทั้งเรื่องของมึง จะไม่มีใครทำร้ายเราได้อีก”
เจ้าตัวนั่งลงอีกครั้งจับไหล่เขาทั้งสองข้างให้หันไปมองหน้ามัน แววตาที่แสนเศร้าหากแต่ก็ยังยิ้มให้และขยี้เส้นผมเขาเบาๆก่อนที่มันจะเดินไปปิดไฟและออกจากห้องไป
ทุกคืนต้องมีคนนอนกอดนี่นา แต่วันนี้ต้องนอนคนเดียวทั้งที่จิตใจยังไม่สมประกอบอย่างนี้เนี่ยนะ
ไหวไหมไอ้แก้ว? เฮ้อ...
แก้วลุกนั่งมองไปยังประตูห้องซึ่งถูกปิดสนิท ความมืดมิดกับสิ่งมีชีวิตเพียงตัวเขาคนเดียว
“อยู่เป็นเพื่อนกันหน่อยก็ไม่ได้” เขาต่อว่าพงษ์ทั้งที่เจ้าตัวคงไม่ได้ยินด้วยหรอก อยากให้เขาเข้มแข็งแต่พงษ์กลับทิ้งให้เขาเผชิญมันด้วยตัวเอง
แล้วเขาจะผ่านมันไปได้ยังไงให้ใจไม่เจ็บล่ะทีนี้
แก้วก้มหน้าซุกลงกับเข่าที่ชันขึ้นมาด้วยความเหงาใจ ทั้งที่อีกคนก็อยู่ห้องติดกันแค่นี้ แต่มันก็เหงามันก็เคว้ง เพราะขาดอีกคน
...........................
พงษ์แกบอกอะไรคนอ่านได้บ้างเนี่ย! แฮ่ โทษมันจนกว่าจะถึงตอนที่มันแสดงเอง กร๊ากกก
ช้า แว๊กกกก ช้าก็คือช้านะคะ ไม่มีข้อแก้ตัวแต่จะบอกว่าพิมพ์ไม่ไหวจริงๆ (นี่ไม่ได้แก้ตัวเลย?) ฮ่าๆๆ
คนอ่านรู้จัก กรดเกลือไหมคะ? คนเขียนไม่รู้จักอะ
แม่บ้านคนใหม่ยกมาให้ดูถามว่ามันคืออะไร ข้างๆแกลอนเขียนว่า กรดเกลือ แต่เราไม่รู้จักก็เลยเปิดฝาแล้วสูดเข้าเต็มปอด เฮือกกก หงายเงิบเลย
ตกกลางคืนก็เพลียแสนเพลีย น้ำมูกเริ่มไหล แต่ก็คิดว่าคงเปิดพัดลมแรงไป ตอนเช้ามาน้ำมูกไหลทั้งวัน ปวดหัว คันคอ จะอาเจียน ง่วงนอนมาก นั่งรถกลับบ้านก็จะไม่ไหวจะหลับมิหลับแหล่ ปวดหัวจนอยากร้องไห้ (คิดว่าร้องแล้วมันจะหาย?) จนต้องโทรตามน้องให้รีบกลับบ้านมาพาไปหาหมอด่วน (ไม่สบายค่อนเดือนฉันยังไม่พึ่งหมอเลย) คุณหมอก็นะ ให้อ้าปาก เอาเครื่องมือแหย่ปาก แหย่จมูก ถามว่ามีโรคประจำตัวอะไรบ้าง เป็นภูมิแพ้ไหม ก็ตอบว่าไม่เป็น หมอบอก ครับ เป็นแล้วล่ะ ป๊าดดด หมอพูดคล้ายๆยินดีด้วยคุณเป็นภูมิแพ้แล้ว เย้ เอิ่ม คิดไปโน่น ฮ่าๆๆ
ก็คือ ถ้าไหวซีซั่นก็พิมพ์ได้เรื่อยๆอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ไหวก็พูดกันตรงๆว่าไม่ไหวนะคะ ขอโทษด้วยเลยลงช้าเลย แถมลดเวลตัวเองอีก แง๊ สองตอนเอง ตอนต่อไปขอดูอาการตัวเองก่อนนะคะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงกันนะแค่เล่าให้ฟังเฉยๆ เค้ากินยาอยู่เดี๋ยวก็หายแล้ว
ปล.เกร็ดทอล์ควันนี้ อย่าริดมกรดเกลือกันนะจ๊ะ (จ๊ากก ใครเขาจะโง่เหมือนแก!!)
กรดเกลือคือส่วนผสมของน้ำยาขัดห้องน้ำ ซึ่งกลิ่นแรงกว่าน้ำยาขัดห้องน้ำ มากกกกกก มันสามารถทำลายเยื่อจมูกจนทำให้คนเขียนได้โรคเพิ่มมาอีกโรคแหนะ เย้! -*-
อ้อ ถ้าเผลอชิมนิดเดียวนี่ตายได้เลยนะ อันตรายมาก
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์จ้า ^^ กอดๆจุ๊บๆเน้อออ
-
:z13: ไว้ก่อน
คุณดิสค่ะ
พงษ์เอ๋ย คิดไรอยู่ว่ะบอกกันบางดิ มันน่าอึดอัดนะโว้ย :เฮ้อ:
-
พงษ์มาพร้อมกับความหดหู่ เฮ้อ
-
มันยังไม่กระจ่างชัด รอตอนต่อไป
-
ตอนนี้บรรยายไม่ถูก แต่อิพงษ์ก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ไม่ยอมพูดความจริงสักที :เฮ้อ:
:pig4: นะคะ
กรดเกลือ o22 แรงมากเลยนะคะ ถ้ากินก็คอพังแน่ๆค่ะ ยังไงก็หายไวๆนะคะ ^^
-
แก้วเหงา แต่ ไอ้บ้าฝิ่นแห้งตายคาห้องไปแล้วม้าง
-
อยากรู้ว่าฝิ่นเป็นไงบ้าง
:z2: :z2: :z2:
-
^^
-
:กอด1:
-
เหตุผลที่พงษ์ฆ่าเพื่อนผิดมันคืออะไรกันแน่อ่ะ แก้วเป็นต้นเหตุยังไง :z3:
-
พงษ์กลับไปเรียนต่อเห้อะ T^T
-
ไม่ได้ทำให้รู้อะไรมากขึ้นกว่าเดิมเล้ย เซ็ง
-
โถ สงสารแก้วจัง นั่นก็เพื่อน อีกคนก็คนรัก แล้วสองคนนั่นก็ท่าทางจะลงรอยกันไม่เป็นซะด้วย
ป่านนี้ฝิ่นคลั่งไปยังไม่รุ คิดถึงแก้วตายไปแล้วมั้ง...หรือไม่อาจหาวิธีฉกตัวอยู่ :m16:
ขอบคุณค่ะ
-
หวัดดีครับผมเป็นอีกคนที่ชอบอ่านเรื่องของพี่นะครับ :laugh: แต่บอกเลยว่ารอพี่ลงใหม่ไม่ทันใจ :seng2ped: :serius2:อิอิ แล้วพี่มีแบบพิมพ์เป็นเล่นจำหน่ายไหมครับ อยากอ่าน และที่สำคัญอยากเก็บไว้ด้วยครับ :call:
-
เห้อ...........
-
เข้มแข็งนะแก้ว อย่างน้อยแม้จะไม่ได้รับความรักอย่างคนรัก
แต่ยังมีรักอย่างพี่น้องจากพงษ์ก็ยังดี(ฟระ) :z3:
ปล.สรุปเรื่องยังคลุมเครือต่อ 5555
-
อิฝิ่นเป็นไงบ้างล่ะเนี่ย :m28: :m28:
ลงแดงตายแล้วมั้ง555 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
-
:z3: กลับมาทำไม
-
งงกันพอดี
-
ยังคงงงกับพงษ์ต่อไป
-
อยากรู้ว่าฝิ่นเป็นยังไงบ้านอะ เหมือนพงษ์จะเปลี่ยนไป??หรือป่าว :เฮ้อ:
-
ต้องเอาอะไรมาง้างปากพงษ์ดีหล่ะเนี่ย
เก็บอะไรอยู่ ไปรู้อะไรมา ไม่ยอมบอกเลย
ทั้งแก้วทั้งคนอ่านอึดอัด 5555
เป้งไปทำอะไรมากกว่านั้นหรอ บอกมาเถอะพงษ์ เราอยากรู้
ตอนนี้พี่ฝิ่นไม่โผล่มาเลย สงสัยกำลังวางแผนอยู่
จริงๆอยู่ห่างกันก็ดีนะ จะได้กูปฏิกิริยาของฝิ่นด้วย
เวลาไม่มีแก้วอยู่ข้างๆจะเป็นยังไง
มันคงจะกระวนกระวายไม่น้อยแหละ แต่สมน้ำหน้ามันดันผลักแก้วไปเอง
สงสารก็แต่แก้ว พงษ์ไม่ยอมอธิบายให้เข้าใจเลย
ไหนจะความรู้สึกที่มีให้ฝิ่นอีก
หนีไปเลยลูก ปล่อยให้สองคนนั้นมันเคลียร์กันเอง
พอมันเคลียร์เสร็จเดี๋ยวก็มีใครสักคนออกตามหาหนูเอง 555
หายไวไวนะคะ ^^
-
สงสารแก้วอ่ะ :sad4:
-
:m15: อ่านตามจนทัน น่าสงสารแก้ว ทุกอย่างที่แก้วทำลงไปไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แถมเรื่องกำลังจะรุนแรงขึ้นต่อไปอีก :m15:
:L2:มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจคนเขียน :L2:
-
มันหน่วงในใจ :เฮ้อ: :sad4:
พงษ์กลับมาพร้อมกับความเศร้า
มาเร็วเกินพงษ์ แง้ :o12:
-
เหตุผลของพงษ์มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ
สรุปกลับมาก็ยังไม่กระจ่างอยู่ดี :z3:
ป.ล. กรดเกลือ คือ กรดไฮโดรคลอริก (HCl) ค่ะ มันเป็นกรดแก่นะคะ สูดเข้าไปอย่างนั้นอันตรายแย่ o22
ทางที่ดีก็อย่าไปดมอีกนะคะ มันมีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงทีเดียว แอบกลัวเวลาต้องใช้ทดลองทุกที เพราะมีแต่ conc. HCl ให้เจือจางเองตลอด :sad4:
คุณคนเขียนรักษาสุขภาพด้วยนะคะ :กอด1:
-
พงษ์ โอ๊ยย ยิ่งกลับมาแล้วอย่างนี้ ยิ่งมีปมมากขึ้นไปอีก เดาไม่ถูก แต่อยากให้พงษ์บรรยายเร็วๆ จัง
แก้วยังเหงาขนาดนี้ แล้วพี่ฝิ่นคนดี ?? จะขนาดไหนกันล่ะเนี่ย เดี๋ยวไปลงที่โจ้ละแย่เลย แต่คาดว่าพี่ไม้คงไม่โดนเหวี่ยงร๊อก
แต่พงษ์นี่ถือว่ารักแก้วมากนะเนี่ย ไม่ให้แก้วตอบโต้ แต่ไปล้างแค้นให้เอง แต่เอ็งกลับมานี่ทำให้เรื่องมันยิ่งอึดอัด (เพราะเราไม่รู้อะไรซักอย่าง เดาไม่ถูกจริงๆ )
พงษ์ขา หนูดูถูกคนไปหน่อยนะลูก แล้วเป้งก็มีค่า สำหรับฝิ่นกับพี่ไม้มากๆ เลยนะจ๊ะ รู้ไว้ :beat:
:กอด1: :กอด1: รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ ได้ความรู้เรื่องกรดเกลืออะไรนี่ด้วย หนูก็ไม่รู้เหมือนกันมันคืออะไร แต่เป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าอย่าดมของแปลกๆ ยกเว้นของกิน เนอะ :3123:
-
เพิ่งอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืนรวดเดียวยาวถึงตอนล่าสุด
อ่านแล้วหยุดไม่ได้เลย สนุกมากๆๆๆเลยอะ o13 รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ
อยากรู้จริงๆว่าฝิ่นมันจะรู้สึกยังไงพอแก้วไปแล้วแบบนี้ :pig4:
-
จริงที่สุดจ้า
พงษ์กลับมาแล้ว ก็ไม่ได้ทำให้เราเข้าใจอะไรขึ้นเร้ย
อิพี่ฝิ่นมันจะคิดถึงน้องแก้วใหมน้อ
น้องไม่มีคนนอนกอดเลยอ่ะ
>_____________<
ขอให้พี่ซีซั่นหายป่วยเร็วๆนะคะ
กอดจ้าาาาาาาาาา
-
เบื่อพงษ์เรื่องมากไม่ยอมพูดสักที :เฮ้อ:
กลับไปเรียนเหอะนะ
เอาฝื่นคืนมาาาา :laugh:
-
งง งงไปหมด
ยิ่งอ่านยิ่ง งง
ทบต้นทบดอก
บรึ๋ย!!! :really2:
ขอตอนหน้ายาวๆ เคลียร์ๆ
ปล.ขอดราม่าหน่อยสิ คนอ่านมาโซ กร็ากกกกกก
:z2: :z2: :z2: :z2:
-
...พงษ์นี่เค้ายังรู้ความลับของแก้วอีกนะ ว่าแก้วโดนกระทำอะไรมาบ้าง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เป้ตาย
...พงษ์เค้าเป็นพี่ที่ดีนะ เลี้ยงน้องแบบต้องการให้น้องโต แต่น้องกลับเหงาาาาาาา เพราะคิดถึงคนเถื่อนนนน :laugh:
-
พงษ์กลับมาจะมีอะไรดีขึ้นบ้างมั้ยเนี่ย เห้ออออ
ขอบคุณมากจ้ะ :กอด1: :กอด1:
-
ยังมีปมอีกเยอะ
-
:3123:
-
ถึงพงษ์กลับมาแต่ปัญหาก็ยังไม่เคลียร์
หายไวๆนะครับ เปิดมารออ่านทุกวันเลย ^_^
-
โอ้ว อันตรายมากเลยที่ไปสูดดมอะไรที่เราไม่รู้จัก
แล้วกรดเกลือนี่ทำให้คนเขียนเป็นโรคภูมิแพ้ได้เลยเหรอค่ะ
-
เคยดมคลอรีน สูดเต็มปอด ฮ๊า... เล่นเอาแสบจมูกไปหลายวัน TvT
๕๕๕๕๕๕
แง้.. เป็นห่วงนะคะ นอนหลับพักผ่อนดีดีน๊าา
แต่แบบ.. เอิ่ม พงษ์ เฮ้ออออ.. ทำไมพงษ์เป็นแบบนี้ห๊ะะะ
แก้วนะ ตอรอยู่กับฝิ่นแล้วดูอ่อนปวกเปียกมาก
นึกว่าอยู่กับพงษ์มันจะดูแลดี โอ๋ตลอดไรงี้
แต่นี่..! ฮึ่ม
แถมยังพูดอะไรง่ายๆแบบนั้น ชิชะ.. ไปอยู่กับฝิ่นยังจะดีซะกว่า เชอะ งอนน..
-
เหมือนพงษ์ไม่ได้คิดอะไรกับแก้วใช่ไหม
แต่ถึงกับฆ่าคนที่มันเคยหาเรื่องแก้ว
เป็นปริศนาดำมืดต่อไป
-
พงษ์ เราผิดหวังกับนายนิดนึงนะ (แต่ยังชอบอยู่ ฮาา)
ทำไมนายทำอย่างเน้ นุ้งแก้วมันเสียใจอยู่นะเฮ้ยย
ตอนนี้แอบคิดถึงอิฝิ่นเบาๆ แอบลุ้นตอนฉากท้ายๆมันจะบุกบ้านมั้ย :laugh:
ปล. คนเขียนซนเนอะ ของขวัญรับวาเลนไทน์มั้ง(คิดในทางที่ดี อิอิ) - โดนถีบ :z6:
-
เชี่ยฝิ่น...
-
พงษ์เเกมันเกรียน ทำให้ดราม่าไม่พอยังทำให้งงอีก :z6:
จะเป็นยังไงต่อไปฟร้า าาาา :a5:
:กอด1:มาต่อเร็วๆนะค่ะ เด็กช่างงุงิ
-
พงษ์กลับมาเหมือนจะดีนะ แต่ฝิ่นมันน่านักพูดไม่คิด :m16:
-
ปากหนักกันดีนัก เอาให้ช้ๆใจตายกันไปเลย
-
หายไปไม่ได้เม้นท์หลายตอน จนชักจะลืมๆ ความรู้สึกที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้ไปเลยแฮะ
ไม่รู้ว่าจะต่อติดหรือเปล่า...
มีหลายประโยคของฝิ่น แก้ว พงษ์ ที่อ่านแล้วยังติดใจสงสัยอยู่
คำว่า “ความหมาย” ของฝิ่น ที่บอกว่า...แก้วเคยมีความหมาย แต่บางทีแก้วอาจจะไม่มีความหมายแล้วก็ได้...
และยังบอกให้แก้วอยู่กับมันแบบที่แก้วไม่มีความหมายนั่นแหละ ไม่ต้องมีความหมายอะไรเลย....
คำนี้ของฝิ่นน่าคิดแฮะ... “ความหมาย” ที่ว่า อาจหมายถึงเดิมทีแก้วเป็น “สิ่งแลกเปลี่ยน” หรือเป็น “ตัวประกัน”
แต่ตอนนี้ สำหรับฝิ่น แก้วไม่ได้อยู่ในฐานะนั้นแล้ว และฝิ่นมันก็อยากให้แก้วอยู่กับมันแบบที่ไม่ใช่ตัวประกัน อยู่กับมันแบบที่ไม่ต้องมีความหมายอะไรเลย...(หรือเปล่าคนเขียน? เง้อออ ซ่อนปมซ่อนคำไว้ตลอดแหละ :z3: )
ไม้พูดให้ฝิ่นปล่อยแก้วไป แต่ฝิ่นบอกว่ามันหยุดไม่ได้ แม้มันจะยอมรับกับตัวเองว่ามันคิดที่จะดึงแก้วออกจากเงื่อนไข เนื่องจากมันก็เริ่มมีใจให้แก้วไปแล้วเช่นกัน
แต่ก็เพราะความละอายใจที่มีต่อเป้ง ทำให้ฝิ่นมันจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป
โดยหากจะมีความเสียใจใดๆ ที่จะเกิดกับแก้วหลังจากนั้น มันจะขอรับผิดชอบรักษาใจให้แก้วเอง
จุดนี้ถือว่าไอ้คุณฝิ่นมันมั่นใจในตัวเองมากกกกกกกค่ะ ชิชะคนมาทีหลังบังอาจสำคัญตัวผิดขนาดนั้นเชียว
อะไรให้มันมั่นใจขนาดนั้นว้า :angry2:
มาที่คำพูดที่แสนจะน่ากระทืบของฝิ่น ที่บอกแก้วว่า..
“ถ้ามึงไปก็ไม่ต้องกลับมาอีก”
“ที่แล้วมากูจะถือว่าเป็นโมฆะ”
“ในเมื่อเจ้าตัวมันมาถึงนี่แล้วกูจะเก็บมึงไว้ทำไม”
“กูจบกับมึง แต่กูจะเริ่มกับมัน”
“ถ้าไม่อยากไปมึงก็เลือกเอาละกัน กูกับมันมึงจะเลือกใคร”
“ก็เพราะมึงมีเงื่อนไขกับกูไง”
“หึ มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ว่าทุกอย่างมันคือเกม”
“อย่าลืมว่ามึงอยู่กับกูเพราะอะไร”
“มึงนั่นแหละเรียกร้องเอง”
“กูให้โอกาสมึงเลือก...แก้ว...เลือกกู มันเจ็บ เลือกมัน มันตาย”
....คำพูดทั้งหมดนี่ของฝิ่น เดาไม่ถูกเลยว่าตอนนี้ฝิ่นมันคิดยังไงกันแน่
ที่แน่ๆ คิดว่าตอนนี้ฝิ่นมันเริ่มเดินตามบทที่วางไว้ คือ ให้แก้วเลือกที่จะอยู่หรือจะไป
ซึ่งเดิมทีมันคงไม่สนใจว่าแก้วจะเลือกแบบไหน จะอยู่หรือไปมันก็เอาคืนพงษ์แน่
แต่หากแก้วเลือกที่จะอยู่กับมัน มันก็จะได้ประโยชน์มากขึ้น เพราะพงษ์คงโกรธและฝิ่นก็คงเอาแก้วมาเป็นตัวยั่วยุอารมณ์ให้พงษ์สติแตกขึ้นไปอีก
แต่ตอนนี้ดูเหมือนฝิ่นมันแคร์การเลือกของแก้ว มันไม่อยากให้แก้วไป เพราะตอนที่แก้วเลือกที่จะไปกับพงษ์ ฝิ่นมันดูโกรธๆ
แต่ก็งงๆ แฮะ พูดกับแก้วซะขนาดนั้นใครไม่ไปก็แปลกไปหน่อยละ รักแค่ไหนก็อยู่ด้วยไม่ได้หรอก
ฝิ่นมันก็คงกังวลเหมือนกันว่าแก้วคงไปจากมันแน่ถ้ารู้ความจริง ฝิ่นมันถึงชอบถามแก้วนักว่าถ้ามันทำแก้วเจ็บ แก้วจะทนเจ็บ และยังจะรักมันอีกมั้ย
คนเขียนปล่อยตอนล่าสุดออกมาเนี่ย ไม่รู้อะไรเพิ่มเลยคับผม
พงษ์ก็ยังแทงกั๊กต่อไป แซ่กั๊กหรือเปล่าวะเนี่ยแก :angry2:
จนมันมาให้เห็นหน้าขนาดนี้ อิคนอ่านก็ยังไม่รู้ว่าเป้งไปทำอะไรแก้วไว้ ทำไมพงษ์มันต้องฆ่าเป้งถึงตายด้วย
แต่ก็ขำพงษ์เล็กๆ ที่จะพูดว่าแก้วมันไปหัดอ้อนมาจากไหนแล้วอยู่ๆ มันก็เงียบไป
หุหุหุ คิดล่ะสิว่าไอ้แก้วเวลามันอยู่กับฝิ่นแล้วมันจะงุ้งงิ้งขนาดไหนอะ
คิดไม่ผิดหรอกคุณชาย น้องชายนายอะ แรดขึ้นทุกวันขอบอก :laugh:
ตามต่อว่าพี่ไม้จะทำอย่างไรต่อไป อิคุณชายพงษ์มันเสด็จกลับมาแล้วแบบนี้
พี่จะจบเวรจบกรรม หรือพี่คิดสั้นแบบอิคุณน้องชายสร้างเวรกรรมขึ้นมาใหม่ ก็คงต้องวัดใจกันหน่อยแล้วนะพี่ :z10:
-
ฆ่าคนไปทั้งคน แต่เหมือนไม่รู้สึกสำนึกผิดเลยนะ :เฮ้อ:
ว่าแล้ววว่าพงษ์ไม่ทิ้งแก้วหรอก ^^ แต่แบบนี้.... -*-
นอกจากมีดจี้เอว กับโดนตบเลือดกลบปาก มันมีอะไรที่ร้ายแรงขนาดต้องรุนแรงจนพลั้งมือฆ่าคนตายล่ะเนี่ย (อิตาพงษ์ก็ไม่ได้ให้ความกระจ่างเล้ย :serius2:)
:pig4: :กอด1:
ปอลิง o22 ช็อคตอนสูดกรดเกลือ หายไวๆน้าคะ
-
:sad4: :sad4: :sad4:
อ่านแร้วใจจะขาดดดด
สงสารแก้วววอ้ะ !!!
รอติดตามอยู่นะค่ะ
-
เรื่องพงษ์ทิ้งแก้วพอกระจ่างนะ
แต่เรื่องอื่นยังไม่ค่อยเคลียร์
นายฝิ่นมาหาแก้วหน่อยสิ สงสารแก้วอ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนอ่าน รักษาสุขภาพด้วยนะคะ :L2:
-
ทำไมเรื่องพงษ์มันซับซ้อนจังอ่ะ
ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ตอนนี้...แก้วน่าสงสารที่สุด
เพราะดูแล้วแก้วจะเป็นคนเดียวที่ไม่รุ้อะไรเลย เหอๆ
ทางฝิ่นก็นะ...ซึนได้อีก
ฝิ่นรีบมาง้อแก้วเร็วๆสิจ๊ะ
^^
-
สับสนเอ่าะะ
-
มารอครับ
-
เมื่อไหร่จะแวะมาลงครับ รออยู่นะครับ
-
:m15: อ่านแล้วอยากให้แก้วหนีไปไกลๆ ไกลจากทุกคน จะได้เลิกบ้ากันสักที
แล้วพี่ไม้จะทำยังไง พงษ์กลับมาแล้ว :เฮ้อ:
เรื่องมันมาม่าจริง ๆ
-
เมื่อไหร่จะมาหว่า กลายเป็นคนว่างไปเลยไม่มีไรทำ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๙
“พี่ดิว ผมจะเล่นไอ้เหี้ยฝิ่น” พงษ์กรอกเสียงเรียบๆใส่โทรศัพท์มือถือหลังกลับจากห้องของแก้ว
“ไอ้พงษ์?!” แต่พี่ดิวทักกลับมาด้วยน้ำเสียงดูแปลกใจ
“เออผมเอง ตกใจทำไมเนี่ย”
“เปล่า! เปล่า...ตกใจเหี้ยอะไรวะ มึงอยู่ไทยเหรอ? กลับมาเมื่อไหร่? กลับมาทำไม?” โว๊ะ อะไรของพี่ดิววะเนี่ยคนยิ่งมีเรื่องต้องคิดอยู่ แล้วโทรหานี่ก็อยากจะปรึกษา ไม่ได้โทรมารายงานสถานะความเป็นอยู่ให้ใครทราบนะเว้ย
“เฮ้ยพี่ เอาธุระผมก่อน ผมจะเล่นไอ้ฝิ่น พี่จะเอาด้วยไหม?” ต้องชิงพูดก่อนไม่งั้นเดียวไอ้พี่ดิวมันแย่งพูดอีก
“เมื่อไหร่?” เออ ถามถูกจังหวะละ
พงษ์คิดครู่นึงพลางนับนิ้วจัดตารางงานไปด้วยก่อนจะตอบ
“พรุ่งนี้ผมไม่ว่าง มะรืนนี้เลยละกัน”
“เออ ยังไงก็ได้ ว่าแต่มึงกลับมาทำไม” นั่น กลับมาเรื่องเดิมจนได้
“ธุระส่วนตัว แล้วพี่สบายดีรึเปล่า”
“อืม แล้วมึงจะกลับวันไหน”
“เออน่า ผมไม่ให้เดือดร้อนถึงพี่หรอก” จะป๊อดมากไปละ ตัวเขาเองยังไม่เห็นต้องสนใจอะไรเลย ...นอกจากความรู้สึกและความประพฤติที่อยากจะเก่งของไอ้ตัวเล็กคนเดียว
เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปสิวะ ที่เหลือตอนนี้คือเรื่องใหม่ที่ต้องจัดการต่างหาก
“กูไม่ได้ว่าอะไร” ไอ้พี่ดิวแถข้างๆคูๆกูโคตรเชื่อมึงเถอะครับ
“งั้นแค่นี้นะไว้ค่อยคุยกัน”
“เดี๋ยว”
“มีอะไร”
“เรื่องไอ้แก้ว”
“ผมไม่โทษพี่หรอก ผมรู้จักเพื่อนผมดี แค่นี้นะง่วงฉิบหาย” เขาพูดตัดบทพลางกดตัดสายพี่ดิว
รู้จักดีแต่ไม่นึกว่าจะบ้าระห่ำไปได้ขนาดนี้นี่หว่า นึกว่าพี่ดิวจะเอาอยู่ ที่ไหนได้ที่สุดไอ้แก้วมันก็ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ดี
ทั้งที่พาออกมาจากวังวนของการถูกทำร้ายร่างกาย ทำร้ายจิตใจแล้วแท้ๆ แต่เจ้าตัวดันวิ่งเข้าใส่โดยไม่นึกถึงผลที่จะได้รับเลย เมื่อไหร่จะเข็ดสักที ไอ้การเอาความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้งเนี่ย ดื้อเงียบไม่มีใครเกิน แล้วทีนี้เขาจะพาแก้วหนีไปทางไหนดี ในเมื่อวันนี้ไอ้แก้วมันถลำลึกเกินกว่าที่เขาคิดไว้มาก
...เพราะกูคนเดียวแท้ๆ
เขารู้ว่าเขาตัดสินใจพลาดมากจนทำให้ไอ้แก้วต้องมาโดนหางเลขไปด้วย ทั้งที่มันเป็นคนรับอะไรไม่ค่อยได้ แต่ก็ยังพยายามยอมรับแม้แต่เรื่องเลวๆของเขา
แววตาแดงกล่ำคลอไปด้วยน้ำตาเป็นเวลาหลายชั่วโมง คงไม่เท่าความรู้สึกข้างในหัวใจของมึงใช่ไหม
เหตุผลบ้าบอที่เขายกมาบอกไอ้แก้วก็เพื่อปัดที่จะตอบ มันเป็นเพียงข้ออ้างน้อยนิดที่ทำให้เขาตัดสินใจชั่ววูบเท่านั้น ทว่าเขาทำลงไปเพราะต้องการให้มีเกราะป้องกันไอ้แก้วมันต่างหากเป็นสำคัญ แต่เรื่องราวกลับมักไม่เป็นอย่างที่ใจคิด แถมไอ้คู่อริก็ดันพาลกัดไม่ปล่อยตามที่ควรจะเป็น นี่ถ้าเขาอยู่อเมริกาจนเรียนจบ ไอ้แก้วไม่ต้องเคี้ยวหญ้าไปจนแก่ตายเลยเหรอ
แต่ช่างมันเถอะ คิดไปก็เท่านั้น วันนี้เขาอยู่ตรงนี้แล้ว เคยปกป้องคนที่เป็นทั้งน้องทั้งเพื่อนมายังไง วันนี้เขากลับมาทำหน้าที่สำคัญของเขาตามเดิมแล้ว ขนาดพ่อกับแม่เองยังขวางเขาไม่ได้ แล้วคนอื่นใหญ่โตมาจากไหน กะแค่ลูกเจ้าของร้านซ่อมรถกระจอกๆ กล้าทำให้คนของเขาเจ็บช้ำน้ำใจ จะเอาให้เปิดร้านไม่ได้อีกเลย คอยดู!
.
.
.
ก๊อก ก๊อก
“พงษ์ๆ พงษ์”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“พงษ์ๆๆๆ”
“ฮ๊าว อะไรแต่เช้าแก้ว” เขางัวเงียลุกนั่งบนเตียงพลางขยี้ตา
“พงษ์เปิดประตูเร็วๆ” หน้าห้องก็ยังทุบประตูรัวไม่เลิก พงษ์อ้าปากหาวอีกรอบก่อนจะเดินหลับตาไปเปิดประตูให้
“อะไร เป็นอะไร”
“ข้างล่างน่ะข้างล่าง” ไอ้แก้วลุกลี้ลุกลนบอก อะไรของมัน?ในขณะที่เขายังขยี้ขี้ตาอยู่
“ข้างล่าง?” พงษ์ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าแก้วจะสื่ออะไรเลยเดินไปแหวกผ้าม่านสีขาวตรงหน้าต่างบานปลายเตียงเพื่อจะดูว่ามีอะไรนักหนาคนที่บอกอยากจะนอนทั้งวันถึงได้ตื่นมาทำหน้าบอกบุญไม่รับใส่กันตั้งแต่เช้า
“อย่าๆ!”
“ไม่เปิดแล้วจะรู้เรื่องไหม?” เขาปรามแก้วจึงเงียบไป หงอยกว่าเมื่อคืนอีกแฮะ สงสัยเวลาทำใจยังน้อยไป
เขาไม่อยากจะดุหรอกนะแต่เป็นผู้ชายจะมาทำอะไรเก้ๆกังๆได้ยังไง แล้วเรื่องร้องไห้เพราะผู้ชายทิ้งอีก แถมไอ้ผู้ชายคนนั้นมันก็เป็นศัตรู ไม่มีวันที่จะรักกันได้หรอก แล้วตอนนี้ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันก็พาพวกมารออยู่ข้างล่างแล้วด้วย เขาไม่ห่วงหรอกกว่าตัวเองจะรอดไหม ยังไงเขาก็สู้แค่ตาย ห่วงก็แต่คนหงอยๆที่ยืนหลบอยู่หลังผ้าม่านนี่แหละ
“กลัวอะไร?” เขาจับศีรษะแก้วเบาๆ คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับตาแดงๆอีกรอบ เฮ้อ...
“...ไม่อยากเจอมัน”
“ก็ไม่ต้องเจอเดี๋ยวเคลียร์เอง” เขาบอกพลางมองลงไปข้างล่างเจอะเข้ากับสายตาของพวกนั้นมองขึ้นมาพอดี
...ให้เวลากูปรับตัวกับเมืองไทยสักวันสองวันหน่อยก็ไม่ได้
พงษ์รูดผ้าม่านปิดแล้วรุดเดินไปย่อเข่าก้มตัวหยิบเอาของออกมาจากใต้เตียงนอน
“เฮ้ย ไม่เอาๆวางเลย” ไอ้แก้วรีบเดินเข้ามาห้ามพลางยื้อแย่งของออกจากมือเขาจึงทำให้เขาต้องยกขึ้นสูงเหนือหัว
“ไม่เอาไปด้วยจะให้พวกมันรุมกูรึไง”
“ไม่เอาไม่ให้ใครรุม ไม่ให้ไปด้วย ไม่ไปนะพงษ์มึงไม่ต้องลงไปอยู่นี่แหละกูล็อกบ้านปิดหน้าต่างทุกบานแล้ว ไม่มีใครเข้ามาได้หรอก พวกนี้มันรอได้ไม่นานหรอกเชื่อกูสิ เชื่อกู” เวรกรรมเมื่อไหร่จะโตวะเนี่ย บ่นเรื่องเขาชอบเหลวไหลว่าเยอะแล้วนี่ยังจะง๊องแง๊งอีก
พงษ์จับมือแก้วที่เกาะแขนตัวเองออก
“แก้ว คนที่หนีคือคนขี้ขลาด มึงอยากให้กูเป็นไอ้ขี้ขลาดไปตลอดชีวิตรึไง” แค่เขาทิ้งให้มันเผชิญอยู่คนเดียวนานสองนานก็โคตรแย่แล้วนะ ไหนๆศัตรูมันก็มาหยามกันถึงหน้าบ้านแล้ว จะรออะไรอีก
“ไม่เห็นต้องสนใจเลย”
“ใช่ ไม่เห็นต้องสนใจเลย” งั้นต้องจัดไปอย่าให้เสีย
ไอ้แก้วกำลังทำตาใสดีใจเมื่อเขาพูดจบ แต่แล้วมันก็ต้องอึ้งไปเพราะเขาสบตามันครู่เดียวแล้วเดินออกจากมันในทันที
เขาไม่ห้ามถ้าไอ้แก้วจะรักใครชอบใคร ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาไม่ห้าม
อาจจะรู้สึกขัดใจไปบ้างเวลามีคนมาเกาะแกะเจ้าตัวเล็กแต่ก็ไม่เคยเข้าไปวุ่นวายสักครั้ง
แต่กับไอ้ฝิ่น...
มันมีแต่ความแค้นที่รู้สึกให้เขาแล้วคนอย่างนี้จะมารักมาชอบไอ้แก้วได้ยังไง
และยิ่งได้ยินกับหูว่ามันหลอกใช้ไอ้แก้วด้วยแล้ว ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตามแต่นั่นแหละคือความจริง
ความจริงที่ทำให้เพื่อนรักของเขาคนนี้ต้องเสียน้ำตา
เขาเลี้ยงของเขามาโดยหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอ้แก้วต้องเสียความรู้สึกในทุกๆเรื่อง
น้อยครั้งที่ไอ้แก้วจะเสียใจกับเรื่องที่เขาทำ แต่นั่นเขาก็รู้ว่าต้องทำยังไงให้มันไม่คิดมากไปกว่าสิ่งที่เป็น อย่างเช่นขัดคำสั่งของพ่อกับแม่เพื่อมาหามันในวันที่เขารู้ว่าแก้วกำลังน้อยใจในเรื่องที่เขาปกปิดไว้ แค่มาให้เห็นหน้าให้รู้ว่ายังมีกันเท่านั้นเขาก็รู้แล้วว่าแก้วต้องเข้าใจ
แต่ครั้งนี้นี่สิ มันเสียใจเพราะคนอื่นอีกแล้ว คนอื่นที่มันไม่ควรจะให้ค่าเลยด้วยซ้ำ
...ทิ้งไว้ไม่ได้ ต่อให้เป็นคนที่ไอ้แก้วให้ความสำคัญแค่ไหนแต่กลับคิดจะทำร้ายมัน ไอ้คนนั้นก็ไม่ควรจะได้เข้าใกล้ไอ้แก้วอีก
ผ่านตรงนี้ไปได้มึงจะต้องเข้มแข็งมากขึ้น... เพื่อที่มึงจะได้ไม่ต้องเจ็บอีก
ชีวิตที่เกิดมาโดนทิ้งแล้วโดนทิ้งเล่า จะเป็นประสบการณ์ให้มึงอย่างดีเชียวล่ะ
พงษ์ออกจากห้องทั้งในชุดนอนที่เพิ่งสวมใส่ได้ไม่กี่ชั่วโมง ด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ไม่ได้นอนด้วยแล้ว มันก็พร้อมมีเรื่องได้ง่ายๆ ไหนๆก็มารอกันขนาดนี้แล้วจะปล่อยให้แขกรอเก้อได้ยังไงล่ะ มันเสียมารยาทผู้ดีน่ะรู้ไหม พงษ์จึงยกมีดสปาต้าเล่มยาวพาดบ่าแล้วเดินอาดลงไปยังชั้นล่างด้วยความนึกคึกขึ้นมา
ออกกำลังกายแต่เช้าเขาไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ถือว่าเป็นคณะต้อนรับการกลับบ้านของเขาเลยละกัน
ตามด้วยเสียงวิ่งลงบันไดมาติดๆ พงษ์หันกลับไปมองเจ้าตัวก็ชะงักกึกแต่ยืดตัวตรงไม่ให้มีพิรุธว่ากำลังตื่นตูมอยู่เลยสักนิด
“เป็นห่วงใคร พงษ์กับมัน แก้วเป็นห่วงใคร?”
“...ถาม อึก ถามอะไรอย่างนั้น” แววตาสั่นระริกแต่จ้องมองไม่ยอมหลบไปไหนเพื่อบ่งบอกถึงความมั่นใจในความคิดตัวเอง
แต่สายตาของมึงมันไม่มีความมั่นใจเลยรู้รึเปล่า
“รออยู่ตรงนี้นะ” เขาบอกก่อนจะหันหน้าออกจากบ้าน
พงษ์เปิดประตูออกไปหากลุ่มคนน่าจะสักสิบคนได้ซึ่งยืนรออยู่หน้ารั้วบ้าน เขาไม่ปล่อยให้แขกต้องรอนานรุดเดินตรงไปเปิดประตูรั้วในทันที
สปาต้าพาดบ่า เอ่ยปากถามแขกด้วยน้ำเสียงติดกวนเบื้องล่าง
“มาข่มขู่ถึงที่เลยเหรอวะ? อย่าคิดว่ากูจะกลัว ถ้ากูเป็นอะไรไปพวกมึงก็จะอยู่ไม่ได้เลยสักคน”
“ถุย คิดว่าใหญ่มากจากไหนวะ รวยกว่ามึงก็ตายมาแล้ว สำนึกซะบ้างก็ดีนะไอ้ลูกคนรวย” คนในสายมันสวนกลับ พวกปลาซิวปลาสร้อยเขาไม่รู้จักหรอก เว้นก็แต่ไอ้ฝิ่นกับไอ้ไม้ประธานสายเท่านั้นที่ยืนจังก้าเป็นยักษ์วัดโพธิ์กับวัดแจ้งข่มเขาด้วยสายตาอยู่เนี่ย
“เสียเวลานอนว่ะ จัดมาเลยดีกว่าอย่ามาพูดมากให้น้ำลายเปื้อนหน้าบ้านกูเลย” พงษ์ยืนแคะหูแล้วมองไปยังคนที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มด้วยสายตาเฉียบดุ พร้อมที่จะมีเรื่อง
แต่ก็กำลังจะไม่พร้อมเพราะไอ้คนที่มาเกาะแขนไว้นี่ล่ะ
“จิ๊ แก้ว!” เขากัดฟันดุมันเบาๆ
“ฝิ่น... เอ่อ พี่ไม้ ผมขอได้ไหมพี่ ให้พวกเราทำอะไรก็ได้แต่อย่าลงไม้ลงมือกันเลยนะ” โถ่ ไอ้เพื่อนรักจะไปขอร้องมันทำไมมึงมีอภิสิทธิ์อะไรขนาดนั้น อีกอย่างกูอยากลงไม้ลงมือกูไม่อยากทำอะไรก็ได้ ในเมื่อกูเลือกจะผิดกูก็พร้อมจะแก้ปัญหาแบบผิดๆนี่แหละ
“อยู่เฉยๆไม่ต้องพูด” เขาว่าแก้วอีกรอบแต่เจ้าตัวกลับถลึงตากลับมาพร้อมกับเอานิ้วจิกแขนเขาด้วย
ดีที่มันไม่ชอบไว้เล็บยาว แต่...
...ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาไอ้แก้วไม่เคยต่อต้านเขาแรงขนาดนี้เลยนะ
“แต่เพื่อนมึงแบกสปาต้ามาทักทายกันขนาดนี้ มึงยังคิดจะต่อรอง?” ไอ้ไม้พูด แต่สายตาไม่วางจากหน้าเขาเลย
เอาสิ จ้องมาเขาก็จ้องกลับ แค่นี้ถ้าต้องกลัวก็คงไม่เรียนหรอกโรงเรียนเด็กช่างน่ะ
“พงษ์...วางมีดก่อนเห็นไหมพี่ไม้ไม่มีอาวุธมาด้วยสักหน่อย พวกเขาคงมาคุยด้วยดีๆ” ...พงษ์หันข้างไปมองหน้าแก้วขวับ จากที่สะกิดแขนเขาอยู่ก็ถึงได้หยุดไป
“โอ๊ะ” ตายๆ ใครสั่งใครสอนให้มึงมองโลกในแง่ดีขนาดนั้น หรือไอ้การที่เขาบอกให้ไอ้แก้วคิดทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองสบายใจทำให้มันคิดไปได้ขนาดนี้วะ เฮ้อออ...พงษ์ถอนหายใจเสียงดังพลางทำหน้าเหวี่ยงใส่แก้ว “ถ้าพวกมันฆ่ากู มึงยังจะไปพูดดีกับพวกมันไหม? มึงจะไปพูดว่าขอบคุณครับที่ฆ่าเพื่อนผมและยินดีมากๆที่เพื่อนผมตายมึงจะพูดอย่างนี้กับมันเหรอ? ห๊ะ”
“ตามสบาย ถ้าคิดว่าสปาต้าเล่มเดียวจะมาสู้ปืนสิบกระบอกได้ก็ลองดู” ไอ้เหี้ยฝิ่นพูดแถมชักปืนออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง พร้อมหันกระบอกปืนมาตรงหน้าเขา
พงษ์หันไปมองแก้วที่ไม่ได้สนใจมองตนเลย กะจะถามว่ามึงเห็นไหม?แต่คงไม่ต้องแล้วเพราะมันเองก็มองหน้าไอ้ฝิ่นตาไม่กระพริบอยู่เช่นกัน
“กูไม่ได้มาหาเรื่อง ชัดไหม?”
“แล้วพวกมึงจะมาทำไม” เขาถามไอ้ไม้กลับ มันจับแขนไอ้ฝิ่นให้เอาปืนลงแล้วตามด้วยเก็บปืนไปเหน็บกระเป๋าหลังตามเดิม
ถึงจะทำอย่างนั้นก็เถอะ จะให้เชื่อว่าแวะมาเยี่ยมเฉยๆเนี่ยนะ?
“กูอยากรู้ ทำไมมึงต้องทำมันขนาดนั้นด้วย”
“เรื่องมันก็ผ่านมาแล้วมึงจะอยากรู้ไปทำไม ก็แค่เพื่อนร่วมสถาบันตายมันไม่ได้ทำให้พวกมึงเรียนกันไม่จบนี่หว่า เอาไว้กูไปฆ่าลูกฆ่าเมียมึงตายเมื่อไหร่ แล้วค่อยมาตามสอบสวนกูละกัน”
“เหี้ย จะเอาให้ได้เลยใช่ไหม!” ไอ้ฝิ่นสบถแล้วเดินมาทางเขาแต่คนพวกนั้นดึงแขนมันไว้ก่อน
แล้วเขาล่ะ มาก็มาสิพงษ์ยกสปาต้าชี้ไปที่หน้าไอ้ฝิ่นกะว่าได้เรื่องแน่
แต่ต้องเอาไอ้ตัวที่เกาะเอวอยู่นี่ออกไปก่อนนะ
“พอได้แล้วพงษ์” มันไม่พูดเปล่าแต่ดึงยื้อจะเอามีดเล่มยาวออกจากมือเขาด้วย
“กูทำกูก็ยอมรับว่ากูทำ แถมมอบตัวกับตำรวจแล้วด้วย แล้วพวกมึงยังจะเอาอะไรอีก ห๊ะ?”
พงษ์บอกพวก๕x แต่มองไอ้แก้วที่เอามีดสปาต้าของเขาไปถือแล้วแทรกตัวมายืนข้างหน้าเขาแทนการยืนเกาะแขนอยู่ข้างๆ
“กูอยากฆ่ามึงมากแต่กูทำได้แค่ให้มึงไปไหว้กระดูกน้องกู”
“เหอะ”
“ตกลง! ไอ้พงษ์จะไปไหว้กระดูกรุ่นน้องของพี่”
“เฮ้ย!” เขายังไม่ได้ตกลง “แก้วมึงอยู่เฉยๆ เฮ้ย!” เขาปรามเพื่อนแต่ต้องอุทานเสียงดังเมื่อไอ้เหี้ยฝิ่นมันไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่ดึงแขนไอ้แก้วพาเดินออกไปต่อหน้าต่อตาแถมเขาจะคว้าแขนเพื่อนจะเดินตามแต่ดันโดน๕xขวางทางไว้อีก
“เออๆไปไหว้ก็จบใช่ไหม กูตกลงตามนั้น” แต่ตอนนี้ขอทางให้กูออกจากบ้านก่อน เขาตอบตกลงส่งๆพลางชะเง้อคอมองตามหลังคนทั้งสองที่เดินตามกันไปอย่างไม่สนใจกลุ่มคนตรงนี้เลย
แถมไอ้แก้วก็เดินตามไอ้เหี้ยฝิ่นไปอย่างว่าง่าย ไม่ขัดขืนอะไรซะด้วย
..............................................
ตอนหน้า ๓๙.๒ ขอเวลาปั่นๆๆด้วยจ้า
อั๊ยยะ!
หวัดดีครับผมเป็นอีกคนที่ชอบอ่านเรื่องของพี่นะครับ :laugh: แต่บอกเลยว่ารอพี่ลงใหม่ไม่ทันใจ :seng2ped: :serius2:อิอิ แล้วพี่มีแบบพิมพ์เป็นเล่นจำหน่ายไหมครับ อยากอ่าน และที่สำคัญอยากเก็บไว้ด้วยครับ :call:
...เอาไว้ให้พี่ลงจนจบเรื่องก่อนนะคะ ถึงตอนนั้นอาจจะไม่อยากได้หนังสือแล้วก็ได้ (กรี๊ดดด นะเนี่ยมีถามถึงเนี่ย ฮ่าๆๆ) แต่ก็คิดอยากจะทำเก็บไว้เหมือนกันค่ะ ด้วยความที่ลองเขียนแล้วรู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมเราใส่ใจในทุกประโยคของตัวละครขนาดนี้ แล้วทุกอย่างมันต้อง คิดๆๆ ซึ่งพี่เป็นคนขี้เกียจมาก พี่ก็นะ... อยากเก็บไว้ให้คนที่บ้านมันชื่นชมบ้างว่าเอ้อ ทำอะไรสำเร็จแล้วนะ ไม่ใช่สักแต่ว่าอยากๆๆทำไปครึ่งๆกลางๆแล้วก็เหลวทุกที รู้ตัวนะว่าเขียนไม่สมบูรณ์แบบ คือเห็นเลยว่าตัวเองผิดพลาดตรงไหนบ้างแต่เลือกจะเดินเรื่องมาอย่างนี้ตั้งแต่เริ่มเปลี่ยนแบบการเล่าเรื่องไม่ได้แล้วด้วย แต่กะว่าเขียนเสร็จจะกลับไปรีไรท์สักรอบอยู่เหมือนกัน ลองปริ้นมาอ่านเจอคำผิดคำตกใช่น้อยๆ ถ้าจะทำเป็นหนังสือ ไว้ให้พี่พอใจในผลงานตัวเองมากกว่านี้อีกสักนิด ให้พี่มั่นใจว่าจะมีคนซื้อโดยไม่เสียดายเงินไปกับมโนของพี่แล้วพี่จะบอกอีกทีเนอะ ขอบคุณนะคะ^^
อัพเดทอาการคนเขียนบ้าง...ตอนนี้น้ำมูกไม่มีแล้ว แต่หายใจไม่ค่อยออกง่ะ เหนื่อยง่ายกว่าแต่ก่อนด้วย ไว้ดูอาการกันอีกทีละกัน
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ขอบคุณทุกคนอ่านจ้า^^กอดๆจุ๊บ
ขอบคุณจริงๆมีหลายสิ่งอยากจะพูดให้ฟังแต่เดี๋ยวจะหาว่าเราเวิ่น(กว่าเดิม) ไว้ถ้ามีโอกาสเหมาะจะเล่าให้ฟังนะ รักคนอ่าน ซึ้ง Y^Y (อารมณ์ไหนของมันหว่า? ฮะๆ)
ปล.มัวแต่อัพนิยายเลยเวลากลับบ้านแล้ว แว๊กกกก
-
ฝิ่นพาแก้วไปไหนนนนน พงษ์ก็ไม่ยอมบอกสาเหตุอยู่ดีนะ
ขอให้หายป่วยไวๆนะคะ^^
-
ทำไมตอนนี้มันสั้นอะ
เราอยากอ่านต่อแล้วววววว
อยากอ่านๆ
รีบๆมาต่อน้า
ปล. Happy valentine'sday จ้า :L1: :L1: :L1:
-
:เฮ้อ: ชั้นไม่สนแกอิพงษ์
ฝิ่นแก้วเท่านั้นย่ะ
-
ที่ยกพวกมาหาเรื่องพงษ์แต่เช้า
เพราะคิดถึงแก้วรึป่าวพี่ฝิ่น
ให้มันได้ยังงี้
ดีแล้วที่มาตาม ไม่งั้นแก้วนอนร้องไห้ต่ออีกแน่
อยากเข้าใจพงษ์มากกว่านี้
เผยความลับออกมาเดี๋ยวนี้นะ
สนุกค่ะ รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
-
พงษ์เหมือนป๊ะป๋าหวงลูกสาวเลยอะ ชอบจัง :กอด1:
ไม่อยากให้พงษ์กะฝิ่นฆ่ากันอะ ไงก็พ่อตาลูกเขยนะ ตกลงกันดีๆ ชอบใจร้อนกันจริงๆวัยรุ่น
ต้องดูพี่ไม้สุดเท่หืเป็นตัวอย่าง (กริ๊ด!?)
ปล. ซีซั่นซังได้โปรด มาลง .2 เร็วๆเถอะนะ เราค้างง๊ะ มากๆ :sad4:
-
เรื่องมันจะจบลงง่ายๆ มั้ยเนี่ย เฮ้อออ ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา สงสัยต้องให้แก้วได้เลือดก่อนล่ะมั้ง ถึงจะคิดได้
-
:เฮ้อ: เซงพงษ์ เซงฝิ่น เบื่อมันจัง ชิชะ แก้วมองโลกในแง่ดีแล้วไม่ดีไงยะ จิ๊ :angry2:
:pig4:นะค้า หายไวๆนะคะ :L2: ดอกไม้วันแห่งความรักค่ะ
-
อยากได้ยาวๆ เป็นของขวัญวาเลนไทน์อีกสักตอน หุุหุ
-
ไม่ไหวค้าง :m16: :angry2: :m31:
-
ทำไมพงษ์ถึงพูดถึงชีวิตคนอย่างนั้นล่ะ
เหมือนอย่างกันมันไม่มีค่าเลยเน๊อะ
ฝื่นพาแก้วไปไหนก็ได้ไกลๆเลย
ไปไกลๆจากอิพงษ์
-
สั้นอะตัวเอ๊ง :z3:
-
อร๊ายยยยยๆๆๆๆ
นี่ฝิ่นมาง้อ(?)แก้วแล้วใช่มั้ย?
>o<
พงษ์ก็นะ...น่าจะบอกๆไปเลยว่าทำไปเพราะอะไร
นี่ขนาดพงษ์มาบรรยายเองแล้วยังไม่ช่วยให้เข้าใจอะไรมากขึ้นเลย ='=
รอตอนต่อไป......
-
มาแล้ว มาแล้ว เร็วๆนะ
-
รีบๆมาต่อนะค่ะ :mc4:
-
อยาก อ่าน ต่อ :กอด1: :กอด1:
-
เออเนอะๆ ปวดหัวแทนพ่อพงษ์ ดูเหมือนจะดุ แต่ลึกๆก็ตามใจแก้วทุกอย่างนั่นแหละ
พระเอกเรื่องนี้มันนึกจะฉุดก็ฉุดเนอะ มาวันนี้ได้จังหวะก็ลากลูกเค้าไปแบบเนียนๆ again and again
แก้วมันก็ยอมเดินตามไปแบบมึนๆนะ +1 คือมันไม่ควรขำ แต่เราขำ ตลกอ่ะ :laugh: :laugh:
พอกันทั้งคู่ บอกไม่ถูกเลยว่าใครซึนกว่ากัน
-
ใจหายนึกว่าจะเลือดตกยางออกซะแล้ว
พงษ์ก็กรางไม่ใช่เล่น ไม่ได้สำนึกเลยว่าแก้วทำอะไรให้ตัวเองบ้าง
จนแก้วมันต้องมาทุกข์แบบนี้
เหมือนพงษ์จะรักแก้วไม่อยากทำให้แก้วเจ็บ แต่พงษ์นั้นแหละทำให้แก้วเจ็บที่สุด
อึดอัดนะเนี่ย อยากให้ฝิ่นจับพงษ์ไปถ่วงน้ำทิ้ง 55555
แล้วฝิ่นลากน้องแก้วไปไหนอ่ะ
อย่ารุนแรงนะ นึกถึงใจแก้วบ้าง
แค่นี้แก้วก็รู้สึกเจ็บมากพอแล้ว
ให้เวลาไปปั่นตอน39.2นะคะ รอๆ
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ เป็นห่วงค่ะ ^^
-
:sad4: :sad4:
ค้างมากกกกกกกก
มาต่อเถอะน้าา :call: :call:
-
หึ ไปหัดอ้อนมาจากไหนนะ....
-
คนตายทั้งคน มันต้องมีเหตุอันควรสิ จะอมพะนำไปถึงไหนหือนายพงษ์
หวังว่าแก้วจะทำหน้าที่กาวใจได้สำเร็จ
สุขสันต์วันแห่งความรัก :L1:
-
กรี้ดดดชอบที่พี่ไม้พูดมากค่ะสมแล้วที่ได้บวชเรียนมาแล้ว นับถือๆ :call:
ฝิ่นขโมยตัวน้องแก้วซึ่งหน้าเลยเว้ยแมนมากเค่อะฝิ่น..
ตอนนี้แม้จะยังไม่รู้เหตุผลของพงษ์แต่ก็ได้รู้ว่าพงษ์เค้าแคร์แก้วมั่กๆ พี่ชายที่แสนดี o13
-
สั่้นไปไหมคนเขียนจ๋า
-
แฟนเขามาตามกันกลับไปแล้วววว
ฝิ่นนายแน่มาก มันต้องงี้สิ
ถ้านายไม่มาตามแก้ว เราจะเคืองมาก
-
ไปไหนกันอ่ะ?
-
ตกใจกับบางความคิดของแก้ว(คิดในแง่ดีเกินไปแล้ว หรือความรักมันบังตา?) ส่วนพงษ์ก็เป็นคุณแม่ เอ๊ย! ปะป๊าหวงลูกสาวชัดๆเลย เลี้ยงมากับมือ ก็น่าจะรู้นะว่าแก้วเป็นงี้เพราะใคร :laugh:
ส่วนฝิ่นนี่ ทนคิดถึงแก้วไม่ไหวรึไง คราวนี้จะฉุดเรอะ :beat:
สุดท้ายเหตุผลที่พงษ์ฆ่าเป้ง ก็ยังไม่กระจ่าง รอเจ๊ซีมาเฉลยในเร็ววัน ^^
ปอลิง ชอบอ่านเจ๊เวิ่นอ่ะ เวิ่นเยอะๆก็ได้น้า :กอด1: :pig4:
-
ปะป๊าหวงลูกสาว(?)แก้วเหรอคะ :laugh:
ส่วนฝิ่นนี่ก็มาฉุดลูกคนอื่นต่อหน้าเลยเว้ยเฮ้ย o13
จะปรับความเข้าใจกัน หรือว่าจะทำอะไรน้อ :z1:
-
จิ้มก่อนอ่าน
-
...พงษ์ลุคนี้ บ้าดีเดือดดีแท้
...แต่ไหงมันหักมุมงี้หว่า นึกว่าจะซัดกันซะแล้ว ดันจูงมือนายเอก เดินออกไปเฉยๆๆซะนี่
...ตูละงง กับพวกมันจริงๆๆ บทจะง่ายก็ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากซะอีก :laugh:
-
เค้ามาตามกันกลับบ้านแล้ว :laugh:
-
มาต่อด่วน!!!! นี่คือการปล้น...ไม่งั้นจะโดนสปาต้านะ...อิๆๆๆๆๆๆ ล้อเล่นนนนนนน
ตอนนี้มันก็ค้างอีกแล้วอ่าาาาา
-
ฝิ่นจะพาแก้วไปไหน
พาไปแล้วก็ห้ามทำอะไรรุนแรงกับแก้วนะ แค่นี้ก็สงสารแก้วจะแย่อยู่แล้ว
-
อ้ากกกกกกก ค้างงี้ ฆ่ากันเห๊อะะะ
ดูๆแล้ว เหมือนพงษ์จะไม่ได้ชอบแก้วแบบชู้สาวเลยนะ
ออกจะรักแก้วเหมือนน้องชายคนนึง คนสำคัญคนนึง อะไรเทือกนั้น
แล้วฝิ่น! แกทำอะไร๊ ทำแบบนี้มันดีมากกกกกก วะฮะฮะฮะ
อยากรู้จริงๆว่าไอ้ฝิ่นจะทำอะไร หึหึหึหึ
สงสารก็แต่หนุแก้วนี่น๊อ
-
^^
-
:เฮ้อ:เชรี่ยแก้ว
-
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าไม่ชอบพงษ์อ่ะ
=,= :z2:
-
ฝิ่นมาตามแก้วแล้ว คิดถึงอ่ะเซ่ เกิดเป็นแก้วนี่ลำบากจริงงิ นี่ก็เพื่้อนรักแล้วยังเหมือนพี่ชาย
อีกคนก็คนรัก เฮ่ออออ เหนื่อยใจจริงจัง...อยากให้ความแค้นมันจบ ๆ ลงจริง
ขอบคุณค่ะ รอมาต่อนะคะ
-
แก้วใจง่ายยยยยย ขัดขืนพอเป็นพิธีบ้างสิลูก โธ่ เดี๋ยวฝิ่นมันได้ใจหมด
พงษ์เหมือนเป็นพ่อของแก้วเลยอ้ะ ดูแลทั้งร่างกายและก็ความรู้สึก แต่คงอดอ่อนใจกับแก้วไม่ได้ เลี้ยงมาดีเกิ๊นนนน
แต่ก็ถูกของพงษ์นะ ชีวิตที่โดนทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้คนเข้มแข็งขึ้นได้จริงๆ เหมือนเป็นข้อคิดเลยเนอะ :กอด1:
แต่อ่านเจออีกแล้ว ไอ้ประโยคดูถูกคนของพงษ์เนี่ย อะไรก็ดีแต่ข้อนี้แม่ไม่ปลื้ม :m31:
ทำไมฝั่ง ๕X ถึงถามเรื่องเหตุจูงใจในการฆ่าล่ะ ก็ไหนบอกว่าเป็นเพราะแก้วไง อะไรๆ กันค้า
:กอด1: :กอด1:
-
ถ้าพงษ์รู้ว่าดิวกับพี่ของดิวมันทำอะไรแก้วบ้าง
พงษ์จะทำยังไง ฝิ่นซะอีกที่ไม่ได้ทำอะไรแก้วเลยทำแคอย่างเดียวเอง
คือทำให้แก้วรักฝิ่น :-[
-
:m31: ทรมานมาก ไม่รุว่าสาเหตุคืออะไร ไอ่พงษ์ก็ไม่เฉลยซะที
:m31: ไอ่คนตายเป็นชู้เหรอ หรือว่า ท้าทายเพระาไปสักมา
:m31: ไอ่พระเอกนางเอก ก็มัวแต่คิดในใจ ไม่พูดกัน โอ๊ยยยย อึดอัด
-
:กอด1:
-
ไม่เคลียซักทีนะจ่ะ
ขอตอนละ "ปม" ก้อยังดี
ให้ติดตามทุกตอนเลย
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
เห้อ แค่นี้ก้อทำเอาน้ำตาแตกแระ
ไม่อยากรับรู้อะไรเลย ยิ่งอ่านยิ่งทำให้น้ำตาแตก
แต่ก้อจะรออ่านน้า ชอบจิงๆ
-
ค้างหนอ เหมือนพงษ์เป็นพี่ชายหวงน้องเลยนะเนี้ย
แล้วตกลงจริงๆฝิ่นมาตามเมียหรือมีแผนอะไรอีกกันแน่เนี้ย
-
มันจะจบจริงเร้อ
แต่ที่แน่ๆ ฝิ่น แก้ว พงษ์ ยังมีเรื่องที่ต้องชำระกันอีกยาว :เฮ้อ:
-
รออออ
-
รอครับ ผมว่าถ้าคุยกันดีๆเรื่องคงง่ายกว่านี้
-
เมื่อไหร่พงษ์จะบอกสาเหตุน๊า รอต่อไปครับ :mc4:
-
พงษ์เมื่อไรจะพูดออกมาสักที ว่าทำไปเพราะอะไร
-
อยากอ่านต่อ T^T จะลงแดงตายแล้วนะเออ
มาไวๆ นะคะ มาม่าก็ได้ ฮา...
-
อยากรู้สาเหตุอะ เกี่ยวกับแก้วหรือเปล่า พงศ์จึงไม่ยอมบอก ไม่อยากให้เรื่องมันดราม่ามาก สงสารแก้ว
-
เป็นอีกวันที่รู้สึกว่าตัวเองรอเก้อ :m15: :monkeysad:
-
กรี๊ดดดดดดดดด ด ... อ่ะ
ฮืออออ ค้างเลย แง้ๆๆ
ตกลงฝิ่นลากแก้วไปทำอะไร? ทบทวนความหลังเปล่า?(จากที่ไม่ได้เจอกันเพียงหนึ่งคืน.. -_-)
พงษ์ก็นะ.. รักนะแต่ไม่แสดงออกอ่ะดิ่ ๕๕๕๕๕
-
อ้าวฝิ่น
เอาแก้วไปทำไม
จะหลอกใช้แก้วไม่ใช่เหรอ ฮึ้ยยย :angry2: :angry2: :angry2:
แล้วที่ยกพวกมาเยอะพร้อมปืน
เพื่อมาชิงนาง? o18
-
สรุปก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าทำไมพงษ์ต้องฆ่าเป้ง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก้ว ค้างคาใจมากกกกกกกก
แก้วก็ยังเหมือนถูกหลอกใช้ถูกทำร้ายเหมือนเดิม
เมื่อไหร่ฝิ่นจะวางทิฐิซะที เฮ้อ
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ ไม่รู้ที่ว่าไปไหว้กระดูกแล้วจบนี่จะจบแบบไหน รอๆ
-
อ๊ากกก ค้างอ่ะ ค้างงงง
โหยพงษ์ เหมือนคิืดว่าตัวเองเป็นเจ้าชีวิตแก้ว ยังไงล่ะ
แบบคิดแทนทุกเรื่องอ่ะ จัดการโน่นนี่ ก็ดูจะดี แต่นี่มันชีวิตแก้วนะ
หึ่ย! หมั่นไส้! :z6:
-
พงษ์คิดกับแก้วอย่างพี่ชายที่ปกป้องน้องที่โดนทำร้ายจริงๆใช่มั้ย ถ้าอย่างนั้นก็โล่งใจ
อิฝิ่นก็ดาย ไปตามเมียกลับบ้านทียกกับไปทั้งสาย จะเอาไปขู่เค้ารึจะพากันไปแห่นางแมว
แล้วไอ้พี่ดิวมันก็จะมาป่วนอีกใช่มั้ยเนี่ย ยังไม่เห็นว่ามันจะคลี่คลายอะไรซักเรื่องเลย
-
โธ่เอ้ยไอ้ฝิ่น แล้วทำเป็นไม่สนใจ แหกขี้ตามาได้ก็รีบมาตามเมียกลับบ้านเชียวนะ :laugh:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๙.๒
ไม่ถามหรอกว่ามาทำไมในเมื่อรู้ๆกันอยู่ แต่ที่ไม่รู้คือจะจูงแขนไปไหน
ฝิ่นจับมีดสปาต้าออกจากมือแก้วแล้วส่งให้คนในสายก่อนจะพาเขาเดินออกไปจากหน้าบ้าน
เป็นห่วงพงษ์ก็เป็นห่วง ไม่อยากเห็นหน้าฝิ่นก็ด้วยและไม่พร้อมรับการตอกย้ำใดๆทั้งนั้น แต่ขาดันก้าวตามฝิ่นไปอย่างกับยินดีซะเต็มที่ นี่ถ้ากล้าเดินนำหน้ามันเขาคงทำไปแล้ว
พยายามไม่สนใจไม่มองหน้ามันเพราะกลัวจะคิดถึงเรื่องที่แล้วมา ไหนๆมันก็เล่นสนุกกับเขามาตั้งนาน ในเมื่อเฉลยออกมาด้วยตัวเองขนาดนี้แล้ว เขาก็ควรจะให้มันจบตามใจมันไปเลยถึงจะถูก
ถ้าการที่เขาเจ็บปวดเป็นสิ่งที่ฝิ่นมันพอใจ เขาก็เจ็บปวดสมใจมันแล้วล่ะ
แต่ความรู้สึกตอนนี้กลับคัดค้าน เพราะชอบหรือเป็นเพียงความเคยชินที่ได้ถูกสัมผัส แม้จะเป็นสัมผัสที่เจ็บเฉกเช่นตอนนี้ที่ข้อมือกำลังถูกบีบแรงขึ้นๆเรื่อยๆตามระยะทางที่ก้าวเดิน แต่เขากลับไม่ปฏิเสธอะไรออกไป หากแต่กลับยินดีที่ได้รับความสนใจจากมันอยู่เหมือนเดิม
จากหน้าบ้าน ขวามืออีกสองร้อยเมตรมีตลาดก่อนจะถึงทางออกไปถนนใหญ่ ซ้ายมือถ้าจะเรียกว่าซอยตันก็ไม่เชิงเพราะมันเป็นป่าล้วนๆต่อให้ไม่ตันก็ไม่มีทางเดินไปไหนได้ ทางนั้นมีบ้านเดี่ยวอยู่สี่ห้าหลังตั้งอยู่ห่างๆกัน แล้วไอ้ฝิ่นก็พาเขาเดินไปทางซ้ายมือและหยุดด้วยการผลักหลังเขาชนกับกำแพงบ้านหลังหนึ่ง
ฝิ่นไม่ได้พูดอะไรนอกจากหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ๊ตแล้วจุดไฟแช็คก่อนจะคาบไว้แล้วพ่นควันออกมา พลางเดินมายืนพิงกำแพงอยู่ข้างเขา
แก้วใช้มืออีกข้างจับลูบข้อมือตัวเองที่โดนมันบีบมาก่อนหน้านี้ ไม่ได้โกรธมันแม้แต่นิดแต่เขาก็พูดอะไรไม่ออกนอกจากก้มหน้ามองเท้าตัวเอง
ควรจะรู้สึกแย่แต่กลับไม่ได้แย่มากมายอย่างที่นึกไปก่อนด้วยสิ
“อ่ะ” เขาหันข้างไปมองฝิ่นซึ่งยกแขนข้างที่คีบบุหรี่ขึ้นคงจะให้เขาแต่มันเพิ่งดูดนี่นา
แก้วจึงจะหยิบบุหรี่จากมือฝิ่นเพราะคิดว่ามันคงอยากให้เขาสูบแต่มันกลับปัดมือเขาหลบ พร้อมกับสายตาดุๆของมันหยุดมือเขาไว้ แล้วมือที่คีบบุหรี่ของมันก็มาจ่อที่ปากเขาแทน
การสูบบุหรี่ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นหรอกแต่เขาชอบมองควันที่ลอยออกจากปากมากกว่า มันคือการล่องลอยและค่อยๆจางหาย ให้ความรู้สึกคล้ายกับได้ปลดปล่อยเรื่องที่กำลังคิดให้หลุดออกจากสมอง แต่ทางระบายออกมันมีมากกว่าแค่สูบบุหรี่แล้วมองควันอยู่ดี
...แก้วดูดสารก่อมะเร็งเข้าปอดช้าๆแล้วพ่นควันออกมาเมื่อฝิ่นชักมือกลับแล้วเอาบุหรี่ไปดูดต่อ
เพื่อนผู้ชายทั่วไปสูบบุหรี่มวนเดียวกันไม่ใช่เรื่องแปลกอยู่แล้ว แต่นี่เขา... อยากจะยิ้มแต่ไม่รู้ว่ายิ้มไปทำไม แก้วจึงกัดริมฝีปากตัวเองไว้แล้วก้มหน้าด้วยความรู้สึกข้างในมันเต้นกระตุกแปลกๆเหมือนตลอดเวลาที่ได้อยู่ใกล้ฝิ่น
และเขาก็รู้ตัวดีว่าที่เป็นอย่างนี้เพราะอะไร พลางแอบช้อนตามองใบหน้าของฝิ่นซึ่งมันมองตรงไปข้างหน้าอย่างที่เขาเดาอารมณ์ไม่ถูก
เขาเอาแต่มองมันอยู่เงียบๆจนกระทั่งมันสูบบุหรี่หมดมวน
“หลับสบายดีไหม?” คำพูดห้วนๆพร้อมกับหันมามองหน้าเขาทันทีจนไม่ทันตั้งตัว กะจะรีบหลบสายตาคู่นั้นแต่กลับโดนมองอย่างกับรู้ทันว่าเขามองมันอยู่นานแล้วอย่างนั้นล่ะ
“นอนไม่หลับ” ตอบไปอย่างที่ใจคิดแม้จะไม่ตรงคำถามแต่เขาก็พูดความจริง ไม่ได้เรียกร้องความสนใจแต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องประชดอะไรเพียงเพราะมันไม่ได้รักเขาหนิ
...อย่างน้อย มันไม่ต้องการเขามันก็พูดออกมาตรงๆแล้ว และเขาก็เลือกในทางที่มันต้องการ คือการเดินออกจากชีวิตมันเป็นเรื่องดีที่สุด
“หึ สมควร” มันว่าแล้วหันกลับไปมองต้นไม้ใบหญ้าข้างหน้าตามเดิม
เงียบ
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง อย่างนี้เขาทำตัวไม่ถูกนะ
ยืนข้างกันแต่ไม่พูดอะไรเลยทั้งที่เขาอยากได้ยินเสียงมันแม้จะเป็นน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เขาก็อยากฟัง แต่นี่ไม่มีเลย
มือก็แทบจะชนกันอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่กล้าเรียกร้องให้มันสัมผัส อยากรู้สึกดีอีกครั้ง ไม่อยากรู้สึกเคว้งคว้างแบบนี้ ทั้งที่เลือกเดินจากมาเองแท้ๆ ก็เถอะ
อืม ...แต่ถ้าเขาจับเอง ฝิ่นจะโกรธไหมนะ
ไวเท่าความคิดแก้วก็จับหมับเข้ากับมือของฝิ่น หากแต่ไร้เสียงด่าทอกลับมาดั่งที่ใจคิดไว้ล่วงหน้า
มีเพียงมือที่กุมตอบเท่านั้นที่ได้รับจากอีกคน
...หึ ฮะๆ อยู่ดีๆก็เผลอยิ้มออกมาซะอย่างนั้น แสดงว่ามันไม่ได้โกรธอะไรเขาสินะไม่งั้นคงทำแบบนี้ไม่ได้
“มึงนี่นะ”
เขามองหน้าเหวี่ยงๆตาคมดุของฝิ่นแล้วอดยิ้มไม่ได้ ...ก็เขาดีใจนี่นา
คนทุกคนมันก็เห็นแก่ตัวทั้งนั้นแหละแล้วเขาก็เป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากๆอยู่แล้ว จะเป็นไรไปถ้าเขาจะมีความสุขเล็กๆน้อยกับการได้ใกล้ชิดกับคนที่เขารักอย่างนี้ด้วยล่ะ
“ว่าไงพี่” ฝิ่นกดโทรศัพท์มือถือรับสายที่โทรเข้ามา
“...................”
“อยู่แถวนี้แหละ เออๆ”
“ไม่ต้องมาทำหน้าระรื่น มึงทำอะไรไว้น่ะหัดจำซะบ้าง” มันว่าทันทีที่กดวางสาย เขาเองก็เปลี่ยนสีหน้าแทบไม่ทัน จากที่เหมือนกำลังได้กระโดดโลดเต้นอยู่ก็เหมือนโดนผลักให้ล้มโครมซะอย่างนั้น
“มึงอยากอยู่กับเพื่อนมึงก็อยู่ไป แต่มึงเจอกูแน่”
“ก็ไหนพี่ไม้บอก...”
ฝิ่นปล่อยมือแล้วจับไหล่แก้วทั้งสองข้างดึงตัวออกจากกำแพงให้มายืนตรงหน้ามัน
“แล้วกูได้บอกเหมือนพี่ไม้ไหม?”
“เอ๊ะ...” คำพูดเย็นๆกับสายตาที่แน่วแน่ของมัน “แล้วจะให้ทำยังไง ไอ้พงษ์กับกูพร้อมทำตามข้อเสนอของพวกมึงอยู่แล้ว แต่มึงจะให้ทำยังไงขอให้จบสักทีได้ไหม?” เขาร้องขอ
ไอ้พงษ์อาจไม่ได้รู้สึกอย่างที่เขาพูดแต่มันก็พร้อมทำตามข้อตกลงทุกอย่างเพื่อให้เรื่องมันจบอยู่แล้ว เขาแน่ใจ
และเขาอยากให้มันจบเผื่อว่าเรื่องระหว่างเขากับฝิ่นจะดีขึ้น นั่นคืออีกเรื่องที่เขาเห็นแก่ตัว
“ง่ายไปไหมที่มึงขอ คนไม่เคยโดนไม่รู้สึกหรอก”
“ถ้าเพื่อนตายน่ะกูไม่เคย แต่ถ้าคนที่รักตายน่ะ กูโดนมามากกว่ามึงอีก” แก้วพูดสวนด้วยอารมณ์น้อยใจล้วนๆ
ถ้าไอ้พงษ์ตายเขาก็รับไม่ได้หรอก แต่เขามีเหตุผลมากกว่าจะล้างแค้นแน่นอน
“ใคร! มันเป็นใคร?!” แต่ไอ้ฝิ่นดูท่าจะอารมณ์แรงกว่าเขาซะอีก
“มันไม่เกี่ยวกับมึง” พูดจบแล้วหันหน้าไปทางอื่น
“มึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้นะ!” ฝิ่นตะคอกพร้อมกับปล่อยมือจากไหล่เขาแต่กลับบีบแก้มเขาอย่างแรง
ไม่ได้เจ็บขนาดต้องร้องไห้ แต่มันเจ็บ...เจ็บที่ใจ เมื่อไม่ว่าจะหาทางออกยังไงฝิ่นมันก็ไม่เปิดใจยอมรับสักทางเลย
แก้วมองเข้าไปยังนัยน์ตาคาดคั้นของฝิ่น แววตาปวดร้าวจากเขามันคงไม่รับรู้ เขาไม่อยากเอ่ยถึงแต่ก็เหมือนคนจนตรอกเลยจำต้องเสียงดังตอบกลับไป
“แม่กู! แม่กูไงล่ะ! เจ็บพอไหม เสียใจได้เท่ากับมึงเสียเพื่อนรึเปล่า หรือถ้าไม่เท่ากัน มึงอยากจะทำยังไงต่อไปก็เชิญ เก็บไอ้พงษ์ก็ได้ถ้ามึงอยากให้กูรู้สึกได้เท่ากับมึง หรือถ้า...มึงอยากให้ไอ้พงษ์รู้สึก ก็แค่เก็บกู...”
เขาพูดออกไปทีเดียวจบก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นพลางกลืนก้อนที่จุกในลำคอ
ไม่อยากเห็นสายตาเยาะเย้ยจากมัน ถ้ามันยังจะใจร้ายไม่ยอมจบต่อไป เขาจะทำอะไรได้
“อึก!” ไม่มอง เขาจะไม่มองหน้ามัน ถึงมันจะดึงเขาเข้าไปกอดแต่มันก็สะกิดแผลเขาแล้ว!
แก้วทุบหลังฝิ่นทั้งยังดันมันให้ออกห่างพร้อมปากบอกให้มันปล่อย
ไม่ต้องมาทำอย่างนี้ ปล่อยให้ภาพที่แม่เดินลงน้ำเพื่อจะจากเขาไปมันเกิดภาพชัดเจนอีกครั้งไปเลย
“จะหาพงษ์ จะไปหาพงษ์ ฮือๆ” ภาพที่แม่หายไปต่อหน้าต่อตามันไม่น่าจดจำใช่ไหมล่ะ
ส่วนพ่อที่เหลืออยู่ ใจก็ห่างกันเหลือเกิน มีก็เหมือนไม่มี ยิ่งพี่ชายและแม่เลี้ยงยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แล้วจะเหลือใครล่ะที่ทำให้เห็นว่ามีเขาได้ตลอดเวลา ...ถ้าไม่ใช่พงษ์
“แก้ว...กูไม่รู้”
“รู้แล้วยังไง ไม่รู้แล้วยังไง ฮึก ฮือ” เขาทุบหลังฝิ่นอย่างไม่ยอมในเมื่อมันไม่ยอมปล่อยเขาก็จะทุบจนกว่ามันจะเจ็บแล้วยอมจนได้
เขาอยากเกลียดมัน เขาอยากจะเกลียดไอ้ฝิ่นมากๆ เกลียดที่มันอาฆาตแค้นเพื่อนเขาไม่เลิก เกลียดที่มันกอดเขาไม่ปล่อย เกลียดที่มัน...ฮึก ฮึก ทำให้เขากลายเป็นคนขี้แย เกลียดที่มัน... ทำเหมือนกับว่ารู้สึกผิดที่คาดคั้นเอาคำตอบจากเขา เกลียดที่มัน...ทำให้เขาไม่กล้าทำร้ายมันต่อจึงต้องจับชายเสื้อเชิ๊ตมันเอาไว้ เกลียดมัน...
“แล้วจะให้กูทำยังไงวะ!”
“ฮึก ฮึก ก็แล้วแต่มึงสิ” ตอบทั้งที่รู้ว่ามันไม่ได้ถามหรอก
“มึงทำให้กู ...แม่ง เหี้ยเอ้ย!”
จะมีสักคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วทำให้เขารู้สึกแย่และรู้สึกดีในเวลาเดียวกันได้บ้าง
มันโวยวายแต่ยังกอดเขาไม่ปล่อย จนเขาเลิกต่อต้านมันก็ยังกอดเขาแน่นอยู่เหมือนเดิม
ใช่ มึงเหี้ย มึงมันเหี้ยสุดๆ และรักเหี้ยๆของเขาด้วย
“มึงห้ามเลิกรักกูนะ” คำพูดห้วนๆที่แสนเอาแต่ใจ จะห้ามทำไมเขาทำไม่ได้อยู่แล้ว
ถึงมันจะร้ายแต่ก็รักไปแล้ว ให้ไปแล้วทุกอย่างที่แทนค่าของหัวใจ มันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากคนอื่นๆ เขาเอาคืนมาไม่ได้หรอกนะ เพราะมันมากเหลือเกิน
เพียงแต่อยากให้มันอ่อนให้เขาบ้าง คนก็ตายไปแล้วจะเอาอะไรกับคนที่อยู่มันถึงจะเสมอกันได้ล่ะ
ไม่มีหรอก ให้ตายไปเลยก็ปลุกเพื่อนมันขึ้นมาอีกไม่ได้
แค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวที่ทำให้เขาไม่กล้าเรียกร้องอะไรกับมัน
เส้นบางๆที่บางเหลือเกิน บางจนเขาไม่กล้าหายใจแรงกลัวมันจะขาดเอา
ต้องแลก ต้องลงทุน ต้องทำทุกอย่างโดยไม่เกี่ยงวิธีหรือผลตอบแทน
เพราะเขารักษาใจตัวเองได้ ถึงจะได้แค่วันๆก็เถอะ
ส่วนฝิ่น...ก็คงต้องแล้วแต่มัน มันจะสนอะไรกะแค่เขาไม่มีใครอีกแล้ว
แก้วเดินกลับบ้านหลังจากเลิกบ้าโดยมีฝิ่นเดินตามมาข้างหลังห่างๆ
อะไรก็ได้แค่ไม่ต้องเสียพงษ์ไปอีกคน
แต่ถ้าฝิ่นจบได้ มันก็ดีกับทุกคนไม่ใช่หรือ
.........................
คาดว่าจะมี ๓๙.๓ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ เพราะยังอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
ทำไมตอนที่แล้วสั้นง่ะ โอเค สั้นก็สั้นตามใจคนอ่านก็ได้ (ใช่เรื่องไหม ฮะๆๆ) เค้าถึงได้แยกออกมาเป็นจุดๆนี่ไงจ๊ะ เพราะคนเขียน เขียนออกมาบทเดียวไม่ได้ค่ะ ตอนนี้มันจะต้องแยกพาร์ทแต่ละคนอีกง่ะ เลยต้องสั้นๆ เหมือนจะค้างๆไปบ้าง (คนอ่านบอก ไม่เหมือนละ ค้างเลย ว๊ากกก)
ที่พงษ์ไม่พูดก็เพราะ... แอร๊ยยย โดนตบ
ส่วนตอนล่าสุดที่ลงช้าเพราะวันนี้ทั้งวันเวิ่นกับมิ้วๆในเฟซนะคะ คนอ่านประณามมิ้วๆได้เลย ปู่ เอ้ย พี่เขาอ่านนิยายเรื่องนี้ด้วยแต่เม้นท์ไม่ค่อยเก่ง (แต่เค้าก็รักพี่นะ ม๊วฟ) ...ชิงฟ้องก่อน พี่ว่าเค้าไม่ได้แล้วนะมิ้วๆ กร๊ากกก แถมเค้ายังลงวันนี้ตามที่รับปากพี่ไว้แล้วด้วย
//หอบงานมาทำที่บ้าน คืนนี้จะได้นอนไหมเนี่ย
บ่นเสร็จเราก็จะไปพิมพ์งานละ ฮ่าๆๆ
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์เจ้าาา ^^ กอดๆจุ๊บๆ
-
:z13: :z13: เบาๆค่ะ
อิฝิ่น :beat: ทำร้ายจิตใจลูกแก้วดีนัก !!
:pig4: นะคะ
-
ไม่รู้เป็นไรอ่านไปอ่านมาแล้วเริ่มชอบฝ่ินมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนพงษ์...เอาเก็บไว้ก่อนละกานน
-
ไม่ต้องนอนกันเลยเดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน อิอิอิ ตกลงตอนนี้จะสงสารใครดีน้อ สงสารตัวเองดีกว่านะวาเลนไทน์โดนทิ้งสัสสัสเลย :L2: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ค้าง..... แต่ก็ต้องรอ ......ก็ชอบอะ
-
“มึงห้ามเลิกรักกูนะ” ฝิ่นเอ้ยยยยยยย เอาแต่ใจที่สุดอ่ะ
แต่ชอบนะ อิอิ :-[
-
ไม่ต้องนอนกันเลยเดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน อิอิอิ ตกลงตอนนี้จะสงสารใครดีน้อ สงสารตัวเองดีกว่านะวาเลนไทน์โดนทิ้งสัสสัสเลย :L2: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
...กอดนะตัวเอง
อยู่คนเดียวน่ะดีแล้วค่ะ การมีคนรักใช่ว่าจะดีไปซะทุกเรื่อง นี่เบื่อ เซ็ง เป็นไปได้จะไม่มีเลย สุุดๆอะ อยากมีอิสรภาพ อยากโบยบิน :serius2: เพ้ออีกละ ไปดีกว่า
-
ฝิ่นเอาชนะตัวเองให้ได้นะคะแก้วรออยู่นะตัวเธอ :กอด1:
-
:sad4: :o12:
ฝื่นแก้ว สู้กันต่อไปอีกนิด(ชะที่ไหน)ลูก
แล้วก็จะได้รักกันแบบสบายใจแล้ว(จะมีวันนั้นใช่มั้ย?)
:laugh: :laugh: :laugh:
-
ฝิ่นเอ้ยยยยยยยยย
แก้วก็หน๊ออ แต่ก็เข้าใจแก้ว คนมันรักไปล้วอะเนาะ
-
ฝิ่นซึน!!
ตกลงพงษ์ไม่ได้คิดชู้ชายกับแก้วใช่มั้ย 555
แต่เรื่องดิวยังไม่ให้อภัยหรอกนะ!!
-
เข้าใจเหตุผลแล้วว่าทำไมถึงสั้นและค้าง
รอตอนต่อไป
-
สั้นๆเเต่ก็ดราม่านะเออ เเอร้ย ยยยยยยยยย
ตอนหน้าขอพี่ฝิ่นเราพูดนะคร่า เพิ่งอ่านมาอ่าน
เจอมุมมองพงษ์ไป... เเก้วดูน่ารักสดใสมากเลยคร่า าาาา :z3:
ต่อๆๆๆๆด้วยนะค่ะคนเเต่ง มีให้เก็บเป็นหนังสือก็เอาอ่ะ สนุกจริงอะไรจริง
-
...อารมณ์ฝิ่นมันเหมือนผู้หญิงวัยทองจังวะ
...แก้วมันน่าจะสับสนอยู่นะนี่กับอารมณ์คนแบบนี้ :laugh:
-
อ่านเรื่องนี้เท่าไหร่ก็ไท่เคยรู้สึกพอซักที
อยากอ่านต่อเรื่อยๆอะชอบๆๆๆๆๆ
ฝิ่นก็ปากแข็งสุดๆ ระวังแก้วเลิกรักนะ
รอตอนต่อไปจ้า
:กอด1: :กอด1: คนเขียน
-
ตอนนี้แก้วคงจะทั้งสุขแล้วก็ทุกข์ในเวลาเดียวกันเลยซิเนี่ย
อดีตที่ไม่อยากจำดันโดนอีพี่ฝิ่นคาดคั้นจนต้องนึกถึง
หนูแก้วน่าสงสารตลอดอ่ะ
ฝิ่นรู้งี้แล้วยังอยากจะทำให้แก้วเจ็บอีกมั้ย
ถ้ายังไม่เลิกเนี่ยจะให้พงษ์เอาสปาต้ามาฟันนะ 5555
แหม แล้วพูดมาได้ "อย่าเลิกรักกูนะ"
คนไรวะ เอาแต่ใจว่ะที่ตัวเองยังไม่เคยบอกรักแก้วเลย
แล้วยังจะมาเรียกร้องอีก
ว่าแต่ถ้าพี่ไม้จบ ฝิ่นจบ พงษ์จบแต่อีพี่ดิวไม่จบ
จะมีปัญหาอีกมั้ย คนนี้ยิ่งปัญหาเยอะกว่าชาวบ้านเขาด้วย
มายาวๆแบบนี้สะใจดีค่ะ
รอ39.3ต่อไป
เรื่องงานสู้ๆนะคะ พักผ่อนเยอะๆจะได้มีแรงปั่นนิยาย
-
แก้วเข้มแข็งไว้ ,,,,เดี๋ยวฝิ่นก็กลับมาเองแหละ เชื่อดิ!!!
-
สงสารแก้ววว T^T
-
เมื่อไรฝิ่นจะบอกรักแก้วนะ มัวแต่ทะเลาะกัน
-
ยิ่งอ่านยิ่งติดจริงๆเลย ชอบฝิ่นมากๆ รักแบบเถื่อนๆ รักเค้ามากแต่วางมาดไปงั้นแหละ ห้าๆๆๆ
ปล.เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะครับ และอย่าเอาเวลาไปโม้มากเกินนะครับ ตั้งหน้าตั้งตาเขียนหน่อย แฟนคลับรออยู่ อิอิ
-
ยังดีที่แก้วเองไม่ดราม่าทำประชดฝิ่น ไม่งั้นแย่กว่านี้แน่ๆ
ขอบคุณมากจ้ะ :กอด1: :กอด1:
-
จะร้องไห้อ่ะ
แก้วน่าสงสาร ฝิ่นจะเอาแต่ใจไปถึงไหน
-
ขำฝิ่น หึงกระทั่งคนตาย แกคิดว่าคนที่แก้วรักเป็นแฟนเก่าหรือไงฮะ o18
....ก็ตามดูต่อไปว่าฝิ่นมันจะหาทางออกให้ตัวเองอย่างไร
แล้วพงษ์จะร่วมมือกับไอ้พี่ดิวเล่นงานฝิ่นอยู่อีกหรือเปล่า
อ้อ...เรื่องเหตุผลที่พงษ์ทำร้ายเป้งถึงตายเนี่ย คุณคนเขียนที่รักจะกั๊กอีกนานมั้ยยยยยย :serius2:
-
อิฝิ่น :beat: :beat: :beat: :beat: นี่แน่ะๆๆๆๆๆๆ
-
ปากแข็ง :z6:
-
วันๆไม่ต้องทำอะไรมานั่งเฝ้าเรื่องนี้ เมื่อไหร่จะมาต่อๆๆๆๆ ติดขั้นรุนแรง อ่านเท่าไหร่ก็ไม่พอ
ก็คนแต่งชอบทำให้ค้างงะ TAT เราแอบเข้าใจแก้วนิดนึง ชีวิตแก้วมันก็น่าสงสารจริงๆ แม่ทิ้ง พ่อทิ้ง
แม่กับพี่เลี้ยงก็ไม่ชอบ ก็มีแต่พงษ์งะ ฝิ่นก็วัยทอง ผีเข้าผีออกมัวแต่ซึน
-
:impress2: อิฝิ่นปากแข็งงงงงงงงงงงงง
เมื่อไหร่จะรักกันสักที
-
น่ารักแบบเถื่อนๆ อร๊ายย กิ๊กๆๆกิ๊ววว
หลุดภาษาเอเลี่ยน อ่านแล้วยิ้ม ทำตัวไม่ถูก
:laugh: :laugh: :laugh:
-
เหนื่อยใจกับฝิ่นมันจริงๆ
-
อิพี่ฝิ่นแพ้น้ำตาแก้วจนได้
แหม ๆ ที่สำคัญมีมาสั่งห้ามเลิกรักซะด้วย
-
รอตอนต่อไปจ้า
-
จูบทางอ้อม !!!
เคยแต่เห็นแบบกินน้ำแก้วเดียวกัน คู่นี้ดูดบุหรี่มวนเดียวกัน แหม หวานแบบฝิ่นมันล่ะ :o8:
-
อ่านตอนล่าสุดแล้ว.... บอกได้แค่ว่า อึ้มมมมม ดีขึ้น!!
-
:m15: แก้วน่าสงสารที่สุดแล้ว เจ็บทุกทางเลย
เบื่อฝิ่น ทำไมไม่ยอมรับว่าชอบแก้วสักที
-
โดยส่วนตัวเราชอบดราม่าแบบนี้อะ
มันแบบหวานขมปนกันไป อ่านแล้ว มันเลยไม่น่าเบื่อ :z2:
รอตอนต่อไปจ้ะ
-
หึงแก้วก็บอก
ยังลังเลระหว่างรักกับศักดิ์ศรีก็บอก
แก้วใบนี้มันจะแตกหมดแล้วนะเห็นมั้ย :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
อร๊ายยยยยยยยย :beat:
-
ทำไมเราหมั่นไส้พงษ์มากกว่าฝิ่นก็ไม่รู้
พงษ์มันเหมือนคนพูดไม่รู้เรื่องอ่ะ เหมือนคนหัวดื้อที่ไม่สนใจความคิดคนอื่น
แต่ฝิ่นยังพอเข้าใจมันว่าที่ทำเพราะอะไร ไม่รู้สิ เห็นที่มันทำโน่นนี่ก็มีเหตุการณ์มาก่อน
ที่มันซึนเดเระอยู่นี่ก็ดูเป็นนิสัยจริงๆ คือ เหมือนเข้าใจอ่ะ ว่าอยู่ดีๆ จะให้มารักกก ~ มาหวาน ~ ก็แปลกๆอยู่นะ
ถึงไม่พูดว่ารัก แต่ก็ดูเป็นห่วงมากอ่ะ o13
-
ฝิ่นก็น่ารักแบบฝิ่นเหมือนเคย แต่ปากแข็งชะมัด จะให้แก้วรู้สึกได้เองถึงความรู้สึกตัวเองใช่มั้ย แต่บางครั้งคำพูดก็สำคัญนา ชอบอารมณ์แบบฝิ่นอ่อนใจกับความน่ารักของแก้วมาก แก้วมันน่ารักจริง ๆ เป็นผู้ชายที่น่ารักมาก ๆ ฝิ่นใจอ่อนเถอะนะ...จบความแค้นซะที...
รอตอนหน้านะค้า... :L2:
-
ฝิ่นครับเลิกปากแข็งได้แล้วลูก
-
น้ำตาไหลตามแก้วอีกแล้ว เห้อ!!
เมื่อไหร่กานนะที่แก้วจะหลุดพ้นสักที สงสารแก้วจัง
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้า้ค๊าฟฟ
รอรอเหมือนเดิมน้า++
-
สั้นจริงอะไรจริง
แต่ ก็ดีใจที่ได้อ่านจ้า จะมาน้อยมาเยอะก็เถอะนะ
แค่มาบ่อยๆไม่หายไป ก็พอแล้วจ้า
-------------
พี่ฝิ่นเป็นเด็กมีปัญหาว่ะ
ชอบทำน้องแก้วเสียใจ
แล้วยังเอาแต่ใจตัวเองอีก
ไม่เคยเล๊ยยยยยยย
จะคิดถึงใจคนที่รัก
ชิส์.........
-
เรื่องมันเศร้า แถมยุ่งจนไปหมด
-
:o12:
-
ตอนนี้น่ารักจัง....
ฝิ่นมาง้อแก้วแล้ววววว(?)
ดูเหมือนว่ามันยังงงๆอยู่อะ
ตกลงฝิ่นมาลากแก้วไปทำไมหว่า
เพราะไม่เห็นจะตกลงอะไรกันได้เลย
แต่เอาเป็นว่า...ได้เห็นฝิ่นแคร์(?)แก้วนิดๆก็โอเคแล้วแหละ
^^
-
จะเป็นยังไงต่อนะ ลุ้น ๆๆ
-
อยากให้ฝิ่นคิดได้เร็วๆจังครับ
ของชื้นเล็กๆ ถ้าเราถือไว้นานๆมันก็ทำให้เราหนักและสักวันเราก็ต้องปล่อยมือเพื่อวาง พอเราปล่อยวางแล้วเราก็จะรู้สึกดี
-
บางทีก็อยากใหฝิ่นเข้าใจแก้วซักนิดก็ยังดี รู้สึกมันจะเอาแต่ใจมากไปแล้วอ่ะ
(จริงๆมันก็เอาแต่ใจมาตั้งแต่แรกแล้วนี่เนอะ :laugh:)
เรื่องครอบครัวนี่ละเอียดอ่อน อย่างเค้าก็รับไม่ได้เหมือนกัน ถ้าจะมีใครในครอบครัวจากไป ทำใจไม่ได้ :o12:
แต่ฉุดเค้ามาดูดบุหรี่นี่ไม่ไหวเลยนายฝิ่น :m16:
-
อ่านเรื่องนี้แล้วหัวใจเต้นแรงเลยอ่ะ ลุ้นกับฝิ่นมันมากเลย
ฉากกดกำแพง จูบเลยดิ ให้จูบทางอ้อมทำไม
และก็ห้ามเลิกรักฝิ่น แล้วฝิ่นเคยบอกรักแก้วบ้างไหมอ่ะ เคลียๆหน่อย
-
ชีวิตเด็กช่างมัน
จะมีความสุขไหม
เนี่ย :z10:
-
สุดยอดไปเลย เรื่องนี้ทำให้ผมเป็นคนรักการอ่านไปเลย :impress2:
-
พูดมาได้"มึงห้ามเลิกรักกูนะ" จะเอาอะไรอีกว่ะฝิ่น
ทำให้แก้วร้องไหเยังไม่พออีก ยังจะมาเอาอะไรอีก
อยากให้ฝิ่นเจ็บมากๆ หมั่นไส้ กรี๊ดพงษ์กับพี่ไม้ น่ารักมากกกกก
ฝิ่นเอาแต่ใจตัวเองแก้วเลิกรักแลเวจะรู้สึก แต่แก้วคงทำไม่ได้ 55
-
เม้นท์อีกรอบ
จากที่อ่านๆ คอมเม้นท์มา พบว่า
คนที่ชอบฝิ่นและคนที่ชอบพงษ์มักเป็นคนละกลุ่มกัน (แยกกันค่อนข้างชัดเจน)
ใครชอบฝิ่น มักไม่ชอบพงษ์ และ
ใครชอบพงษ์ ก็มักจะไม่ชอบฝิ่น
แต่....คนส่วนใหญ่ไม่เกลียดพี่ไม้ กรี๊ดดดดดดดดด....สรุป พี่ไม้เป็นพระเอก :laugh:
-
พูดไม่ออกบอกไม่ถูกจุกอกจัง
-
ฝิ่นเอาแต่ใจนะเนี่ย
-
อิฝิ่น -*- อิตาซึนเดเระ... แต่หึงโหดชัดๆเลยนี่ 555 (ชอบเวลาฝิ่นเอะอะอะไรก็กอด น่ารักดี แต่แก้วสิช้ำ ><)
ขอบคุณค่ะ ^^
-
:sad11:
อ่านแล้วน้ำตาจะไหลล
สงสารแก้วสุดใจอ่ะ
-
:m15: แก้วน่าสงสารอะ ส่วนฝิ่นเมื่อไรจะยอมรับซะทีว่ารักแก้วนะ ส่วนพงษ์ก็บอกให้แก้วรู้เสียทีว่าเพราะอะไรถึงต้องทำร้ายเป้ง :m15:
-
เห้อ!!~..แก้วน่าสงสารอะ
-
ทั้งแก้ว พงษ์ ฝิ่น คงว้าวุ่นอ่ะ
-
กรี๊ดดดดดดดดด ด อ่านตอนนี้แล้วแบบ.. ตื้นตันใจสุดๆๆ!
ฝิ่นน่ารักเป็นครั้งแรก! หลังจากผ่านมาสามสิบเก้าตอนน 555555555
ฮืออออ อ .. คนมันน่ารักอ่ะ! คนไรฟะะ มีงี้ด้วย ปากก็ทำเป็นด่าเค้า
แต่พอเค้าพูดหน่อยเดียวว่ามีคนที่รัก ตะโกนบ้านแตก 555555 โอ๊ยยยยย..
ชอบอ่ะค่ะ ผู้ชายเถื่อนๆ แต่ก็นะ มีอารมณ์หวงของ เหมือนเด็กๆเลยอ่ะ
แถมยังสั่งแก้วอย่างเอาแต่ใจอีกว่าไม่ให้เลิกรัก โธ่เอ้ยยยย.. น่ารักจริงๆ
:laugh:
แล้วตอนแก้วพูดว่าจะหาพงษ์อ่ะ น่ารักน่าฟัดที่สุดในสามโลกกก!!
วันนี้พระ-นายมันจะมาประชันความน่ารักน่าหยิกกันใช่ม๊ายยยย..
แต่เอาเตอะ ไม่ว่ายังไง วันนี้ฝิ่นก็น่ารักที่สุดละ 555555555
:กอด1:
ตอนแรกนึกว่าฝิ่นจะจับแก้วขึงฝืดแล้วปล้ำซักที กร๊ากกกกกกกก ก..
แล้วก็นะ ไปถามเค้าว่าหลับสบายมั๊ย แกก็นอนไม่หลับอ่ะดิ่ ทำมาเป็นน..
o18
แล้วสรุป.. ไม่ใช่ว่าพงษ์ได้กับพี่ไม้หรอกนะ o22
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๙.๓
“กูจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าเพื่อนกูจะมา” มันลุกยืนเอ่ยเสียงแข็งใส่หน้าเขาก่อนจะทิ้งก้นลงที่เดิม
“ตามสบาย กูก็จะเฝ้าอยู่นี่จนกว่ามึงจะยกตูดออกจากตรงนี้เหมือนกัน” ไอ้โจ้ตอบก่อนจะทิ้งตัวอย่างแรงนั่งลงข้างไอ้พงษ์
ไม้บอกให้คนในสายคนอื่นๆกลับกันไปก่อน มาเยอะก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี สุดท้ายมันก็แค่คนที่รักเพื่อนมากเกินเหตุบวกกับนิสัยอันธพาล เมื่อไอ้เป้งไปแตะเข้าเลยมีเรื่องกันจนพลาดพลั้ง ทำให้ไอ้เป้งต้องจากไป...
“แต่ถ้าคนไม่เคยโกรธอะไรกันมาก่อนมันคงไม่แทงหลายแผลขนาดนั้น” เขาไม่ติดใจเอาความอะไร เพราะเขารู้...ว่าเอาอะไรกลับคืนมาไม่ได้แล้ว แต่ที่เขาสนใจคือบาดแผลตามร่างกายของน้องเขาต่างหาก ร่องรอยของมีดจ้วงแทงนับสิบแผล มันมากกว่าแค่การหมั่นไส้ มากเกินกว่าการเอาคืนแทนเพื่อนรึเปล่า
...หรือว่าเขาลืมความเลวของตัวเองไปแล้วจึงมองหาสาเหตุเองไม่เจอวะ
“เอ้า มึงนี่ข้องใจไม่เลิกนะ แล้วตกลงมึงจะจบไหม? ถามกูก็ตอบให้แล้ว ยังจะหาเรื่องให้ได้ใช่ไหม? หรือถ้ายังข้องใจอีกก็ตัวๆเลยดีกว่า”
“ไร้สาระ” เขาว่าไอ้พงษ์แล้วเดินไปนั่งโซฟาตัวเดียวที่อยู่ชิดผนังบ้านพอดีกับไอ้แก้วเดินเข้ามาแล้ววิ่งไปนั่งข้างๆเพื่อนมัน
“ไปไหนมา?” ไอ้พงษ์ถาม
“แถวนี้ แล้ว...ไปไหนกันหมดแล้วล่ะ” ไอ้แก้วตอบและถามกลับด้วยน้ำเสียงฟังดูเหนื่อยๆ ไม้จึงหันไปมองฝิ่นที่เพิ่งเดินตามเข้ามาแต่หยุดยืนพิงที่บานประตู
มันมองมาที่ไอ้แก้วด้วยสีหน้าเนือยๆ ไม่ต่างกันเลยไอ้คู่นี้
“ช่างแม่ง แต่มันจะให้เราไปสารภาพบาปวันนี้”
“อ้อ ...เหรอ”
“เป็นอะไรรึเปล่า ตาแดงๆด้วยเนี่ย” ไอ้พงษ์จับหน้าเพื่อนมันพลางมองไปทางไอ้ฝิ่น
“เปล่าๆ ว่าแต่ไปตอนนี้เลยเหรอ”
“พวกมันรีบก็รีบให้แม่งหน่อย”
“อืมๆ ไปอาบน้ำก่อนนะ” ไอ้แก้วพยักหน้าแล้วลุกเดินขึ้นบันไดไป
“อ้าว อะไรวะคนอุตส่าห์รอ” ไอ้พงษ์ยกมือค้างก่อนรีบวิ่งตามขึ้นไปอีกคน
ไอ้ฝิ่นจึงได้เดินเข้ามานั่งข้างในได้สักที
“พี่ฝิ่น”
“หยุด” มันปรามเมื่อไอ้โจ้เริ่มมีอาการอยากจะซัก “กูอยากอยู่เงียบๆ”
“แค่ให้คนทำไปกราบไอ้เป้งก็พอแล้ว เอาคืนก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก มึงจบให้กูได้ไหมฝิ่น” เขาจึงพูดบ้าง ในเมื่อมันไม่ได้ห้ามเขา
“แต่ไอ้เป้ง...”
“กูรักมันไม่ต่างจากมึงเลย ชีวิตมันมีค่ากับกู” ถึงแม้ไอ้เป้งมันไม่เคยคิดอย่างนั้นก็ตาม “มีค่ามากกว่าที่กูจะลดตัวไปฆ่าใครเพื่อเอาคืนแทนมัน เพราะถ้าทำอย่างนั้น กูจะกลายเป็นคนที่ดูถูกไอ้เป้งซะเอง”
“..................” ไอ้ฝิ่นหันหน้าไปทางอื่นเหมือนไม่รับฟังสิ่งที่เขาพูด
“ให้มันจบ แล้วทางใครทางมัน คิดซะว่าคนพวกนี้ไม่มีตัวตน ไม่เคยเดินมาเจอกันไปเลยยิ่งดี” ถ้ามึงทำได้
“ผมว่าพี่ฝิ่นทำไม่ได้หรอก” ไอ้โจ้เสริม มึงไม่ต้องคิดว่ากูก็รู้แล้วล่ะ
“ผมโกรธมัน เห็นหน้ามันผมก็นึกถึงไอ้เป้ง ผมไม่อยากเห็นหน้ามันพี่เข้าใจไหม! แต่ถ้ามันนอนในโลงเหมือนไอ้เป้งเมื่อไหร่ ผมจะอาสาไปล้างหน้าศพให้มันเอง” ไอ้ฝิ่นกำหมัดแน่นกัดฟันกรอด
“เฮ้อ...มึงมีเหตุผลมากกว่าอารมณ์หน่อยได้ไหม”
“เอาไงก็แล้วแต่พี่ละกัน ผมไปรอที่รถนะ ไปโจ้!”
“อ้าว ด้วยเหรอ?”
“มึงจะมาหรือไม่มา” มันพูดเสียงแข็งในขณะที่เดินออกไปนอกบ้าน
“ครับๆ” ไอ้โจ้ถึงต้องรีบตามออกไป
ถ้าจะเอาคืนน่ะไม่ใช่เรื่องยากหรอก แต่เป็นวิธีไร้ค่าไปไหมกับคนที่ผิดแต่ไม่รู้ตัวว่าผิด
เขาอยากให้ไอ้พงษ์ไปสำนึกผิดต่อหน้าเป้งมากกว่า เพื่อให้ไอ้เป้งหมดห่วงไม่ต้องอาฆาตแค้นต่อกันเหมือนเมื่อตอนมันมีชีวิต
อีกอย่าง เผื่อให้มันดลใจไอ้ฝิ่นให้ปล่อยวางซะบ้าง กูล่ะหนักและเหนื่อยแทนมึงจริงๆ จะพูดมากก็เปลืองน้ำลายคนอย่างมันต้องเรียนรู้เอาเอง ให้เขาบอกแต่มันไม่ฟังก็เหมือนพูดใส่อากาศนั่นล่ะ
เขาเบื่อวงจรเด็กช่างที่วนเวียนซ้ำซากอยู่แต่กับการกู้ศักดิ์ศรี
คนทุกคนมันมีศักดิ์ศรีทั้งนั้นแหละ แต่เราเลือกรักศักดิ์ศรีกันด้วยวิธีอื่นที่ไม่ต้องสูญเสียก็ได้ไม่ใช่รึไง
การพ้นจากตำแหน่งประธานสาย๕xเป็นเรื่องที่เขารู้สึกปลอดโปร่งที่สุด ถึงแม้วันนี้ตำแหน่งที่เรียกขานจะยังเป็นที่นับถือและคนในสายจะยังยึดเขาเป็นแบบอย่างเรื่องท้าชนตามเคย แต่ข้างในจิตใจมันเหมือนได้ปลดแอกที่คล้องคอออกไปได้อย่างมากเลยทีเดียว
จากที่ต้องรับผิดชอบชีวิตเพื่อนร่วมสาย จากที่เชิดชูคำว่าศักดิ์ศรีสถาบันและตัวกูแบบลอยๆ
ถึงมันจะเป็นอดีตแต่มันก็ส่งผลมาถึงปัจจุบัน เมื่อสิ่งที่ได้กลับมาคือการไม่เหลือคนข้างกาย
ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรก...เขาขออยู่อย่างคนไม่มีศักดิ์ศรียังจะดีซะกว่า
ถึงแม้วิถีทางจะยังดำเนินไปตามแบบที่รุ่นพี่ได้เคยทำๆมา แต่สุดท้ายการตัดสินใจของตัวเราก็เป็นคำตอบในการเลือกจะกระทำอยู่ดีไม่ใช่เหรอ
.
ไอ้โจ้จอดรถหน้าวัด ไม้เปิดประตูด้านหลังลงจากรถก่อนเป็นคนแรก ตามด้วยไอ้แก้วที่นั่งคั่นกลางและไอ้พงษ์ ไอ้โจ้ ส่วนไอ้ฝิ่นคงต้องนั่งเรียกสงบสติตัวเองสักพัก ปล่อยมัน...
“วัดบ้านนอกชะมัด”
“พงษ์!” ไอ้แก้วสะกิดแขนเพื่อนมันเมื่อปากไอ้พงษ์เริ่มทำงานพร้อมกับสายตาที่กวาดมองไปรอบๆวัดแห่งนี้อย่างเหยียดๆ
“ก็พูดตามที่เห็น”
“เอ๊ะ!”
“จิ๊ ไปทางไหนก็นำสิ!” มันจิ๊ปากขัดไอ้แก้วแล้วหันมาว๊ากใส่เขากับไอ้โจ้
“โอ๊ย กูคันตีน ไหนๆก็ถึงวัดแล้วฝังเลยก็ไม่ยากนะเว้ย” ไอ้โจ้เดินไปหยุดยืนมองหน้าไอ้พงษ์ก่อนจะเดินนำไปทางที่ไอ้เป้งอยู่
วัดเล็กๆชานเมืองที่เขาเคยมาบวชเพื่อสงบจิตสงบใจตัวเองพร้อมกับการอยู่ด้วยกันครั้งสุดท้ายของเขากับน้อง
กอดที่ไม่แน่นพอ แต่ไม่เคยคิดจะปล่อยมือ หากแต่สิ่งที่ทำให้กันในวันสุดท้ายมันกลายเป็นว่าต้องปล่อยไปทั้งชีวิต
สุดท้ายเหลือเพียงเถ้ากระดูกที่เขาต้องพามันเข้าเจดีย์ แต่เขาก็ขอให้ได้สัมผัสกันจนมันเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ
ไอ้แก้วหยิบธูปจากมือไอ้โจ้ที่จุดเรียบร้อยแล้วส่งให้ไอ้พงษ์ มันพนมมือแล้วจ้องไปที่รูปถ่ายหน้าเจดีย์เหมือนคิดอะไรในใจ
“กูขออโหสิ” แต่แล้วก็พูดออกมาห้วนๆเท่านี้
ไม้ส่ายหน้าอยู่ข้างหลังด้วยความหน่ายกับคนไม่มีสำนึก ต่างจากไอ้แก้วที่ไม่ได้เป็นคนทำกลับพูดซะยาวเหยียดจนขี้เกียจจะฟัง
“เจดีย์ตั้งอยู่ใต้ต้นฉำฉาริมสระน้ำมันร่มรื่นดีจัง” ไอ้แก้วพูดพร้อมกับสายตาเศร้าๆที่หันไปหาไอ้พงษ์ มันไม่ได้เพิ่งเห็นเจดีย์นี้เป็นครั้งแรก แต่ไอ้แก้วมันเพิ่งจะรู้ว่ามีกระดูกของใครอยู่ในนั้น สายตาที่มองวันนั้นกับวันนี้จึงต่างออกไป “พงษ์ถ้ากู...”
“ไม่! มึงอย่าได้คิดออกมาเชียว”
“กูคิดถึงบ้าน”
“กลับกันได้แล้ว” ไอ้พงษ์ไม่ได้พูดต่อจากความต้องการของไอ้แก้วแต่หันหลังเดินออกจากที่นี่ทันที ไม้จึงลุกจากม้าหินอ่อนแล้วจุดธูปบอกน้องก่อนจะเรียกไอ้แก้วและไอ้โจ้ชวนกันกลับ และสวนทางกับไอ้คนที่เพิ่งก้าวขามาถึง
“อย่านานนะ” เขาบอกฝิ่น
“กลับกันไปก่อนเลย เดี๋ยวกลับเอง”
ไม้พยักหน้าให้โจ้ดึงไอ้แก้วออกไปก่อน มันก็เดินไปแต่โดยดีแต่ก็หันกลับมามองไอ้ฝิ่นเป็นระยะ
“ไอ้เป้งน่ะมันเป็นคนของเราเอง จะจบเรื่องยังไงมันก็ขึ้นอยู่ที่กูกับมึง ถ้าการปล่อยวางมันยากนักมึงก็โยนทิ้งไปเลยละกัน”
ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้ ถ้าเราผูกพันกันด้วยใจอยู่แล้ว ไม่ว่ายังไง...ไอ้เป้งมันก็รู้ว่าไม่เคยทิ้งมันหรือไม่เห็นความสำคัญของมันแน่
ที่สุดของเพื่อน...ที่สุดของคนรัก ยังไงก็ยังเป็นมึง...เป้ง
ไม้ตบไหล่น้องชายแล้วเดินกลับไปที่รถพร้อมรับกับสายตาที่มีแต่คำถามจากไอ้แก้ว
รอได้ก็รอ รอไม่ได้ก็หันหลังให้กันซะ รักที่เริ่มต้นด้วยโทสะ เขายังมองหาหนทางที่พวกมันสองคนจะจูนกันได้ไม่เจอเลย ...และไอ้ฝิ่นมันปีนขึ้นไปสูงเกินกว่าจะลงมาง่ายๆ ได้
พ่อก็เด็กช่างเก่า เกิดมามันก็อยู่แต่กับความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจมันไม่เคยอ่อนให้ใคร
แต่ใช่ว่ามันจะลงไม่เป็นซะทีเดียว ถ้าไอ้แก้วมีเวลาให้มันได้ทบทวนบทเรียนอีกสักหน่อย
เขาเชื่อว่า ไอ้ฝิ่นมันจะลงมาเองเป็น
...........................
คนอ่านจ๋า ทำไมคนอ่านค้างง่ะ เราพยายามปิดทุกตอนแล้วนะ ทำไมถึงยังค้างกันหรือ Y^Y
ตอนต่อไปขออีกสักจุดนะคะ จบจุดหน้าก็เดินเรื่องต่อได้แล้วค่ะ //หลบหน่อยพระเอกมา ... เอิ่ม บอกอายุมาก
จริงของคุณเฉาก๊วยนะ แต่มีอีกอย่างคือ คนอ่านมีด่าฝิ่น ด่าแก้ว ด่าพงษ์ ด่าดิว ด่าขวัญ ด่าตัวประกอบแทบทุกตัว แต่...เอ่อ ทำไมไม่ด่าพี่ไม้บ้างล่ะ ขอความเป็นธรรมให้พี่ไม้ด้วย กร๊ากกก
อัพแล้วนะมิ้วๆ เสร็จพอดีหลังจากออฟจากตัวเองเมื่อช่วงบ่าย (มาบอกในนี้จะตามมารึยังเนี่ย)
เวิ่นได้น้อยมีคนตาขวางใส่ ชิ!
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์จ้า ^^ กอดๆจุ๊บๆ
-
มาแย้ว มาจิ้มก่อนอ่านคะ อยากให้บวก 1 แต่ไม่รู้ให้ตรงไหน แต่ขออ่านก่อนแล้วกันคะ
-
มันก็เหมือนจะไม่ค้าง แต่ก็ค้างอยู่ดี
เค้าอยากรู้เรื่องระหว่างฝิ่นกับแก้ว??? เป็นไงต่อ
เราว่ามันไม่ใช่ว่าคนเขียนๆ ครึ่งๆกลางๆหรอก แต่เป็นเพราะคนอ่าน
ใจร้อนอยากอ่านต่อไง? ส่วนพงษ์ ไม่เข้าใจว่าเป็นอะไร?? มากรึป่าว??
เฮ้อออ
-
จะด่าไม้ แต่ไม่มีเรื่องให้ด่าอ่ะ ไม้เอฟซี
-
รอวันฝิ่นลง...จะได้มีความสุขกัน
ขนาดไม้ยังปล่อยวางเลย ฝิ่นปล่อยวางมั่งเหอะ สงสารแก้ว
ขอบคุณค่า
-
จิ้ม ก่อนใคร อิอิ :m16:
-
เราๆ ทุกท่าน ก็ยังรอให้ฝิ่นมาปีนลงมาอยู่ตลอดนั่นแหละ แต่ว่าแก้วจะไหวถึงตอนนั้นรึเปล่า แต่ฝิ่นก็ตบะแตกให้เห็นหลายครั้งแล้วนะ แก้วคงมีกำลังใจอยู่บ้าง
พงษ์ตลอดแหละแก โดนพี่ไม้คนดีด่าว่าไม่มีสำนึก ไม่สลดจริงๆ แต่ทุกการกระทำมันมีเหตุผล เหมือนอย่างที่ไม้คนดีเค้าสงสัยว่าทำไมถึงเป็นขนาดนั้น พงษ์ยังไม่เฉลยซักที แต่ว่าพงษ์ฝ่ายเดียวไม่ได้นะเรื่องนี้ เป้งเองก็ดูใช่ย่อย จนน่า :m16:
-
อิฝิ่นน เก๊กอ่าาา :a14: :a14:
-
โธ่....!!!
เป็นซะอย่างงี้ เมื่อไหร่จะเข้าใจกันเนี้ย
กลัวน้องแก้วรอพี่ฝิ่นไม่ได้
เมียน่ะ ต้องการความรักเหมือนกันนะพี่ฝิ่น
จะมาทิ้งขว้างน้องแก้วบ่อยๆ ระวังหมาคาบไปแดกนะเพ่
~~~~~~~~~~~~~~~~~
กอดดดดดดดดดด
รออีกจุดนะคะพี่ซีซั่น
-
:z10: :z10: :z10:
-
เราก็ยังสงสัยตามพี่ไม้แหละว่า ทำไมเป้งถูกแทงยับยังกะแค้นมากมาย
แล้วพงษ์ก็อมพะนำต่อไป
หนูแก้วอย่าคิดอะไรที่ไม่เป็นมงคลนะลูก ป้าไม่ไหวจะสงสารนะหนู
-
^^
-
ไอ้ที่ไม่สำนึก มันเกี่ยวอะไรกับแทงยับมั๊ย เห็นพงษ์ทำตัวแบบนี้มันน่าโมโหอ่ะ ฆ่าคนตายทั้งคนยังทำตัว...แถมยังอยู่ต่อหน้าคนสูญเสียด้วยนะ >< มีอะไรก็พูดออกมาสิฟะ มากวนติงพี่ไม้(ของคนอ่าน)ทำไม! :angry2:
สาธุพี่ไม้ พี่แกบรรลุเรียบร้อย อายุไม่ได้เยอะแต่ก็ผ่านอะไรมาโชกโชน ทำหน้าที่เตือนสติน้องๆ (ซึ่งก็ไม่ฟังกันเล้ยยยยย)
ส่วนแก้ว ....ในมุมมองของแก้ว ตอนนี้แก้วช้ำเลือดช้ำหนองสุดๆแล้ว เศร้าแทนน้องแก้ว ส่วนฝิ่น...ขอให้ตกลงมาขาหัก เชอะ!(งอน เดี๋ยวให้พี่ไม้เป็นพระเอกซะหรอก)
ขอบคุณค่ะ :กอด1: รอจุดต่อไป (^_^)/ (ไม่ค้างจ้าไม่ค้าง ตอนนี้ไม่ค้างแล้ว แต่คาใจมว้าก! :laugh: มาต่อไวๆนะตะเอง ><)
-
พี่ไม้ดูเป็นคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ที่สุด แล้วก็เท่มากๆ อิอิ
-
ฝิ่นจะทำอะไรก็คิดให้ดี ๆ นะ
-
มันยังมีหลายเรื่องที่ค้างคาใจอยู่เหมือนเดิม ต้องตามต่อไป
-
ไม่รู้จะหาอะไรมาด่าพี่ไม้ เพราะพี่ไม้เป็นคนมีเหตุผลที่สุด
ไม่มีข้อเสียที่ทำให้หมั่นไส้เลย (ลำเอียงหรือเปล่า 5555)
ปริศนาเรื่องพงษ์ฆ่าเป้งยังคงคิดกันต่อไป
มันต้องมีอะไรมากกว่าแค่เอาคืนแทนแก้วแน่ๆ
แต่พงษ์ก็ไม่ยอมพูดเลย
ตอนนี้แอบจิ้นพงษ์โจ้เบาๆ เชียร์คู่นี้ได้มั้ย
เอิ๊กส์ๆ รอ39.4ค่ะ
-
พี่ไม้หล่อ เท่ สุภาพ เเละเรียบร้อย (?)
ไม่มีคนด่าพี่ไม้เเน่นอน o13
เเต่กว่าไอ้ฝิ่นมันจะเดินลงมานี่ น้องเเก้วคงคิดไปไกลเเล้วนะเซ่ :z3:
หนูเเก้วคิดถึงบ้าน งุงิ
ตอนหน้าจะใกล้จบเเล้วเหรอค่ะ? สู้ๆค่ะ :กอด1:
-
ทำไมพงษ์ขอขมาแหม่งๆหว่า :confuse:
ตอนนี้พี่ไม้มาเล่าเรื่องล่อเป้าชิมิๆ แต่ก็ไม่มีไรจะว่าพี่แกจริงๆค่ะ 555+
-
อ่านไปอ่านมา อยากให้พี่ไม้เป็นพระเอกแทนซะแล้ว พ่อพระเหลือเกิน
-
ตื่นเต้น ระทึกใจ รออ่านต่อครับ
-
พงษ์ นี่ เห็นตั้งแต่ตอนที่แล้วละ
ชอบดูถูกคนจัง หรือดูถูกเฉพาะฝ่ายที่เกลียด
ทั้งว่าชีวิตของพงษ์มีค่ากว่า เพราะประมาณ ที่บ้านมีตังค์
ตอนนี้อีก วัดบ้านนอก ไม่รู้ดิ ไม่ชอบบบบบบ
-
รอจุดต่อไปนะครับ อยากรู้ว่าฝิ่นจะทำอย่างไรต่อไป :impress2:
-
บร๊ะจ้าว จัดบวกให้คนแต่ง !!
พงษ์ทำตัวชิลเว่อออออ ฟิลเหมือนมันแวะไปวัดซื้อหนมครก 10 บาทในวัดแล้วกลับบ้าน
ถามจริง นี่ตกลงเอ็งแทงเค้าจริงๆป่ะเนี่ย
แต่ชอบอ่ะ ไม่ว่าจะสวมรอยหรืออะไรก็ตามแต่
เหตุผลทั้งหมดก็คงเพื่อปกป้องแก้ว ชาบูๆ
ปล. เอี้ยยยฝิ่น !! เอ็งจะลงมาดีๆ หรือให้คนอ่านกระชากลงมาให้หัวทิ่มดีคะ ? o18
-
หายใจคล่องขึ้นมาหน่อยนึงแล้ว :เฮ้อ:
เหมือนจะเห็นช่องเล็กๆแสงรอดมารำไร สำหรับคู่ฝิ่นกับแก้ว :กอด1: :man1:
-
ก็ยังค้าง...
-
เห้อ แก้วรับเต็มๆเลยสิน้า!!
ไม่สงสารแก้วกานเลยรึไงนะ
ไม่ไหวๆ อารายก้อไม่รุ็จะบ้าตาย T^T แต่ก้อเรียกนำตาได้ตลอดจิงๆ
รอรอนะค๊าฟฟ^^!!
-
มันค้างตรงที่ไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดสักทีเนี่ยแหละ :serius2:
:L2:
-
ฝิ่นให้อภัยเถ๊อะ
สงสารแก้วว
-
:กอด1:จบๆกันทีเถอะ สงสารแก้ว
-
เมื่อไรจะเข้าใจกันนะ
-
กุขออโหสิ อืม...คำขอขมาของพงษ์นี่...ท่าทางจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอีกอ่ะสิเนี่ย
อยากรู้อ่าาาาาาาาาา
รอวันที่ต่างคนต่างลดทิฐิ สงสารแก้วอ่า ฝิ่นใจร้ายยยยยยยยย
-
ลงแดงตาย... T^T
ค้างอีกแล้วขอรับท่าน
-
อืม อารมณ์เรื่องไม่จบกันซักที :z3:
ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลย ว่าพงษ์ฆ่าเป้งทำไม
สงสารแก้วจัง แต่ก็ยังดีฝิ่นนั้นอ่อนลงกว่าเดิมเยอะ
-
:impress3: อ่านตอนนี้แล้วแทบอยากจะเชียร์พี่ไม้เป็นพระเอก
พงษ์กับเป้งต้องมีอะไรมากกว่าที่คิดแน่
ฝิ่นแก้ว สักวันต้องรักกันได้
-
เหนื่อยใจกับฝิ่นมันจริงๆ
+1 นะคะ
-
แต่ละตอนหลังๆ มาเนี่ย มันไม่ค้างหรอกค่ะคุณคนเขียนขา
ไอ้ที่ค้าง มันค้างเรื่องเดิมๆ ที่คุณคนเขียนกั๊กไว้อะค่า
แบบว่าอ่านจบแต่ละตอนแล้วต้องร้องเพลง....."ไม่รู้ต้องรออีกนาน..แค่ไหน......" ของมาช่าเลยอะคร้าบ เง้ออออออออออ :sad4:
-
อยากรู้จังว่า ไอเป้งกะ ไอพงษ์มันมีอะไรกันแน่
-
พี่ไม้ไม่มีอ่ะไรให้ว่า เหมาะเป็นพระเอกสุดๆ
แอบจินพงษ์กับโจ้ เบาๆเหมือนกัน
ส่วนฝิ่น แก้วนิ่งไว้เดี๋ยวฝิ่นมันก็มาเองแหละ
-
กว่าฝิ่นจะลงมาได้ เวลาของแก้วคงหมดลงก่อน
ฝิ่น รีบคิดให้ได้นะ ก่อนจะเสียแก้วไป
พงษ์กรี๊ด แอบชอบพงษ์โจ้(?)อ่ะ
ครจะกล้าว่าพี่ไม้ คนอะไรดูดีไม่มีที่ติ นิสัยก็ อ๊ายยย :-[
-
:เฮ้อ: :z3: :z6: :angry2: :serius2:
-
ไม่ค่อยชอบนิสัยพงษ์เลยอ่ะ
-
อยากบอกว่าพงษ์น่ากระตืบจริงๆ ทำตัว...
ส่วนแก้วอย่าไปสนใจฝิ่นมันมากนัก ฝิ่นมันซึน ต้องปล่อยไป เดี๋ยวก็กลับมาหาเอง อย่าไปวิ่งตามมันนะ
เรื่องนี้รักพี่ไม้สุดๆแล้วค่ะ คนอาไรดีเลิศประเสริฐทั้งหน้าตาและความคิด
-
ตกลงเรื่องนี้จะจบยังไงเนี่ย ยิ่งอ่านยิ่งงง. .... ฮุ้ย
-
รัก กัน หวานๆ สักที เถอะ รอใจจะขาด แล้วๆๆ
-
จะจบยังไงเนี่ย :z3:
-
แก้วเอาบันไดลิงไปพาดซะ
-
:เฮ้อ: เมื่อไหร่ฝิ่นจะคิดเหมือนพี่ไม้บ้างเนี่ย
พงษ์นี่ก็ไม่สำนึกเลยยยย ชีวิตคนทั้งคน :เฮ้อ:
:pig4: นะคะ
-
ต้องการความอบอุ่นๆๆ
หมดเรื่องได้ซักทีนะฝิ่น
นะนะนะ
-
:เฮ้อ: รู้สึกอึนๆ จัง
ฝิ่นแกปล่อยวางซะเถอะ
-
แก้วจะรอหรือว่าเลิกรอกันน้า :z2:
-
กรี๊ดดดดดดดด ด .. พี่ไม้.
5555555 พี่ไม้เป็นผู้มีสิทธิพิเศษค่ะ
คือหล่อ เท่ห์ ดูดี มีสไตล์ที่สุด อร๊างงงงง ง..
ชอบมากกกกก..
แต่แอบอยากรู้อ่ะะะ สรุปคือ แค่เป้งตบหน้าแก้วแค่นั้นใช่มั๊ยถึงเกิดเรื่องขึ้น..
ถ้าเป็นแบบนั้นเราคงโกรธพงษ์มากกก ทำผิดแล้วยังไม่สำนึกอีก *ฟาดๆๆๆ(ด้วยปาก) กร๊ากกกกกก ก..
-
วันนี้มามั้ยเอ่ย? คิดถึงพี่ฝิ่นน้องแก้ว
-
I just need you now :sad4:
-
ยอมลงบ้างนะพี่ฝิ่น น้องแก้วไม่เลิกรักอยู่แล้วแหละ :-[
ยิ่งอ่านยิ่งค้าง พงษ์ไม่ยอมบอกอะไรเลย :m16:
ยากอ่านฉากหวิวๆ เอ้ย!! หวานๆพี่ฝิ่นับน้องลูกแก้วจังเลย :impress2:
FC พี่ไม้ *ชูป้ายไฟ
-
สมัครเป็นแฟนนิยายเรื่องนี้ด้วยครับ ชอบๆ เข้มข้นดี คนแต่งเก่งนะครับเนี้ยทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักกับชีวิตเด็กช่างอย่างผมได้เห็นอีกมุมๆหนึ่ง รู้สึกอินไปกับเรื่องมากๆๆๆ เป็นกำลังใจให้ครับผม
-
รอ มา 2 คืน ละ ตอนนี้ 23.09 ก้อ ยัง เงียบ อยู่ :z3: :z3:
จงง มา ลง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ :call: :call: :call:
-
มานั่งรอพี่ไม้ พี่ไม้จงมา พี่ไม้จงมา :call:
-
เย้ๆ อ่านตามทันสะที อ่านไปแล้วก็อึดอัดปนมีความสุขไปด้วย ชอบมากอ่ะ
เรื่องนี้นี่รสหวานปนขมเลยนะเนี่ยยยย สนุกมากกกกก
ฝิ่นจะยอมลงมาหรือไม่นะๆๆ ฝิ่นแก้วจะเป็นยังไงเป็นกำลังใจให้ :L1:
รอติดตามต่อไป
-
มาต่อเร็วๆนะครับ
-
รีบมารีบมา นะครับ
-
อ้อมกอดเด็กช่างตอนที่ ๓๙.๔
“มึงว่ากูโง่หรือกูบ้าวะ แม่งเสือกมาคิดอะไรตอนนี้” ควันบุหรี่ถูกปล่อยออกจากปากคนที่อาศัยม้าหินอ่อนหน้าเจดีย์เก็บกระดูกของเพื่อนนอนเอนหลัง
ฝิ่นนอนหลับตาหันศีรษะไปทางที่เจดีย์ตั้งอยู่ด้วยลักษณะมือซ้ายก่ายหน้าผาก มือขวาคีบมวนบุหรี่ไว้คอยใช้เป็นเพื่อนช่วยปรับทุกข์นอกจากการพร่ำเพ้อให้ไอ้เป้งฟัง
ถ้ากูเล่นงานมันทุกคนโดยไม่ไว้หน้าใครตั้งแต่วันนั้นก็คงดี
๓Tที่ทำเหมือนไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวกับสิ่งที่เด็กสายมันก่อ
ไอ้ดิวที่กลับกลอกสอพลอทำเป็นให้ความร่วมมือ
ไอ้แก้วที่ตอแหลหน้าซื่อทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
แต่จริงๆแล้ว พวกมันรวมหัวกันตั้งใจจะทำให้เรื่องเงียบไปเอง แล้วคนอื่นๆก็จะลืมว่าเคยมีใครตายเมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไป
มันเป็นเรื่องปกติของคนนอกอยู่แล้ว ก็แค่ข่าวๆหนึ่งที่เคยผ่านหูผ่านตา ไม่มีอะไรให้น่าจดจำสักนิด
แต่จะให้เขาลืมได้ยังไง ในเมื่อคนที่จากไปคือเพื่อนเขาทั้งคน
ฝิ่นลุกนั่งหันหน้าเข้าหาเจดีย์ของเป้ง เขามองรูปเพื่อนที่ยังคงสีสดใสต่างจากอารมณ์ ความรู้สึกของความเป็นจริงที่เขาต้องเผชิญอยู่ ณ ตอนนี้ เขามองควันธูปที่ล่องลอยไปตามแรงลมก่อนจะอัดบุหรี่เข้าปอดอีกครั้งแล้วเงยหน้าพ่นควันออกจากปากอย่างช้าๆ
“กูเกลียดตัวเองว่ะ” ฝิ่นพูดให้เพื่อนฟัง
จะจบได้ยังไงในเมื่อใจมันยังไม่จบ พี่ไม้คิด พูด ทำ อะไรง่ายเกินไปแล้ว
ถ้าเขายังไม่ได้เหยียบขยี้หัวใจพวกมัน แต่จะต้องหันหลังกลับโดยเทกระจาดล้มแผนการณ์ของตัวเองเพียงเพราะลังเลไม่อยากให้ใครในพวกนั้นต้องเสียใจ เขาก็หมาตัวหนึ่งล่ะวะ
รู้แต่แรกแล้วว่าไอ้แก้วมันรักเพื่อนชั่วๆของมันมาก จากที่สืบประวัติมันมาก็มีแค่นั้นถึงได้จะทำให้ไอ้แก้วมันเจ็บปวดที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ไอ้พงษ์คนที่ฆ่าเพื่อนเขา และไอ้ดิวคนหักหลัง ต้องเจ็บปวดตามไปด้วยเพราะไอ้แก้วคือคนที่พวกมันรัก และคนที่พวกมันรักถูกเขาชักนำไปในทางที่เจ็บเจียนตาย
...นั่นคือสิ่งที่เขาตั้งใจ
เขาต้องการเอาคืน เขาต้องการเห็นพวกมันเจ็บปวด ถ้าเล่นมันถึงตายไม่ได้ ก็ขอแค่ให้ได้ความสะใจกลับคืนมา
ในวันที่ไอ้พงษ์ทำร้ายเพื่อนเขา วันที่ไอ้เป้งดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด พวกมันคงกำลังหัวเราะชอบใจ เขาต้องการให้พวกมันตกอยู่ในความรู้สึกนั้นบ้าง ความรู้สึกของคนใกล้ตาย ...ความรู้สึกของผู้แพ้ ผู้แพ้ที่ต้องเป็นฝ่ายจากไปแต่เขาต้องการให้พวกมันแพ้แต่ยังมีลมหายใจอยู่ มันจะต้องกอดความเจ็บปวดไปตลอดชีวิต แต่มาวันนี้ ความที่ต้องการเอาคืนแทนเพื่อนมันกลับมีข้อโต้แย้ง ความเจ็บปวดความเสียใจจากใครคนหนึ่ง กลับเป็นสิ่งที่เขาทนดูไม่ได้...
เขามั่นใจว่าทำให้ไอ้แก้วเจ็บได้ เพียงแค่คำพูดเขามันก็เจียนตายได้แล้ว
แต่...เขาเริ่มไม่มั่นใจว่าจะทำให้มันหายเจ็บได้รึเปล่านี่สิ
ทั้งที่ยอมให้แล้ว ยอมตัดมันออกจากปัญหาไปคนนึงแล้วแท้ๆ แต่ไม่ว่าจะทำอะไรตอนนี้ทุกอย่างมันก็คงได้ผลลัพท์แบบเดิม
ถ้าเขายังจะเอาคืนไอ้พงษ์อยู่ดี ก็ไม่พ้นไอ้แก้วต้องรู้สึกตามอยู่วันยังค่ำ
ทว่า...หากเขายอมถอยทุกอย่างตอนนี้ คนที่แพ้คงหนีไม่พ้น...เขาเอง
และไอ้เป้งก็คง...ตายเปล่า
ฝิ่นทิ้งก้นบุหรี่ก่อนจะลุกยืนพลางใช้ปลายรองเท้าบดขยี้เพื่อดับไฟ แต่ไฟในใจที่ยังร้อนรุ่มไม่จางหายเขาต้องใช้วิธีไหนมาดับมันวะ
“เหี้ยเอ้ย!” ฝิ่นตะโกนเสียงดังลั่นไม่สนใจว่าที่นี่คือที่ซึ่งต้องสงบเงียบซ้ำยังฟาดฝ่ามือทั้งสองข้างรัวใส่ต้นฉำฉาที่อยู่ใกล้ๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นกำหมัดแน่นแล้วเหวี่ยงฟาดเข้าใส่กับต้นไม้ใหญ่เต็มๆแรงอย่างไม่ยั้ง
เจ็บ มันเจ็บ และยิ่งรู้สึกเจ็บเพิ่มมากขึ้นเมื่อผิวหนังถลอกจนเลือดไหลอาบมือทั้งสองข้างแต่เขากลับไม่ยอมหยุดเพราะเหมือนกำลังได้ลงโทษให้กับความขี้ขลาดของตัวเองอยู่ หยดน้ำตาค่อยๆไหลออกมาแทนความอึดอัดคับแค้นในใจหากแต่ไร้เสียงสะอื้นของหมาจนตรอกเช่นเขา
จบไม่ได้ ยังไงๆก็ไม่มีทางจบง่ายๆอย่างนี้แน่ นี่คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ฝิ่นยกแขนเสื้อขึ้นปาดเช็ดหยดน้ำใสๆข้างหางตา ความอ่อนแอ... นี่มันวิสัยคนแพ้ชัดๆ ไม่มีทาง! เขาจะต้องไม่แพ้!คนที่เจ็บปวดจะต้องไม่ใช่เขา
ไอ้ดิวยังพ่ายแพ้เขามาแล้วเลย เหลือก็แต่ไอ้เหี้ยพงษ์ที่ต้องเป็นรายต่อไป ใครทำอะไรไว้กูจะคิดบัญชีให้หมด!
ส่วนไอ้แก้ว ร้อยวันพันปีเขาไล่ไม่ยักไป แต่พอไอ้เหี้ยนั่นกลับมามันก็ทิ้งเขาไปได้อย่างง่ายดายทั้งยังปฏิเสธอ้อมกอดของเขาที่มันเคยออดอ้อนนักหนา หึ! แต่อย่าคิดว่าเขาจะปล่อยไปง่ายๆตามใจมัน ไล่ไปได้ เขาก็เอากลับคืนมาได้เหมือนกัน คนของเขา ของๆเขา จะให้ไปอยู่กับคนอื่นมันก็ย่อมไม่ถูกที่ไม่ถูกทาง
เขาจะต้องเอามันกลับมาให้ได้ แล้วจะไม่ให้หลุดไปไหนได้อีกเลย ในเมื่อแค่ความเสียใจของไอ้แก้ว ไอ้พงษ์มันยังลอยหน้าลอยอยู่ได้เพราะไอ้แก้วดันเลือกมัน เขาก็จะแยกมันออกจากกันอีกครั้ง แยกมันซึ่งๆหน้า ให้ห่างโดยที่ไอ้แก้วไม่ต้องรู้สึกอะไร แต่ยังไง คนสูญเสียจะต้องไม่ใช่แค่เขาฝ่ายเดียว
“ไอ้เหี้ยเป้ง มึงเห็นไหมว่ากูเจ็บมือ เหี้ยเอ้ย” ฝิ่นสบถพลางสะบัดมือที่เต็มไปด้วยเลือดก่อนจะใช้เท้าถีบต้นไม้แทน
ถ้าไม่ได้ระบายออกก็คงไม่มีความคิดอะไรเข้ามาในหัว แต่อย่างว่าคนอย่างไอ้ฝิ่นทำอะไรต้องไม่สูญเปล่า ไหนๆก็ได้เลือดมาแล้วก็ควรใช้ให้เป็นประโยชน์สักหน่อย
“...กลับมารับกูด้วย” เขากดโทรศัพท์มือถือโทรออกแล้วพูดบอกเสียงห้วนสั้นก่อนจะกดวางสายทันทีเมื่อพูดจบประโยค
ไม่รู้ว่าพวกนั้นออกไปกันถึงไหนแล้วแต่เขาก็เลือกโทรหาไอ้แก้วเพราะ...เขาไม่อยากเจ็บฟรี
ฝิ่นทอดสายตามองยาวไปยังสระน้ำ เขารอ...รอมันกลับมาหานั่นจะหมายความว่าไอ้แก้วมันไม่ได้ไปไหนไกลจากเขาเลย
สิ่งที่ต้องทำกับสิ่งที่ไม่อยากทำในเมื่อมันสลัดจากกันไม่ออก เขาก็ต้องดำเนินต่อไป เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้กระทบกับไอ้แก้วมากที่สุด
เมื่อเครื่องมือในการเอาชนะคนอื่น ดันเป็นเครื่องมือที่มีชีวิต ถ้าไม่มองมันตั้งแต่แรก เขาก็คงลงมือเอาคืนโดยไม่ต้องคิดอะไรแล้ว แต่ในเมื่อพลาดเอง ดันไปเอามันมาอยู่ในชีวิตประจำวันของตัวเองจนเคยตัว ก็ให้มันเหลือเพียงความลังเลเถอะ
“ฝิ่น!...ทำอะไร” คนนัยน์ตาเศร้าสีหน้าหวั่นวิตกปนเจ็บปวดอย่างกับเป็นมันซะเองที่มือแตก ไอ้แก้วจับข้อมือเขายกขึ้นทั้งสองข้างเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิด
“กลับกันมาไวจังวะ”
“ก็ยังไม่ได้ไปไหน ก็รอกันอยู่หน้าวัด”
“อืม” เขารับรู้ในขณะที่ไอ้แก้วยังคงจ้องมองแต่แผลที่สองมือ เมื่อเช้ามึงไม่อยากจะพูดกับกูด้วยซ้ำ แต่มึงก็ปิดอาการตัวเองไม่เคยอยู่เลย นั่นมันทำให้กูได้ใจรู้ไว้ “มึงเป็นห่วงกูล่ะสิ”
“..............” มันหน้าบึ้งช้อนตาขึ้นมองเขาทันที เกือบจะโมโหเพราะนึกว่ามันไม่เป็นห่วงแต่แล้วมันก็เอาชายเสื้อสีขาวของตัวเองมาห่อซับเช็ดเลือดออกจากมือเขาซะก่อน
“เหี้ย เบา”
“...มึงทำใจไม่ได้ใช่ไหม?” มันถามเสียงอ่อน คิ้วขมวดเป็นปม
“เฮอะ” เขาแค่นหัวเราะหลังไอ้แก้วพูดประโยคนั้นออกมา มันเป็นบทสรุปที่ดีสำหรับฝั่งมึง แต่มันโคตรแย่สำหรับกู แล้วใครจะรับได้วะ
“ถ้ามึงยังยอมรับไม่ได้ กูว่า...” มันเงียบ มองหน้าเขาอย่างลังเล “ให้กูกับไอ้พงษ์ ไปไกลๆจากสายตามึงก็ได้นะ ถ้าไม่ต้องเจอกันมันอาจจะดี”
“ส้นตีนเถอะ!” เขาพูดแทรกแถมเอามือที่ถูกซับเลือดออกหมาดๆตบหน้าผากไอ้แก้วไปที มันมองหน้าเขาก่อนจะหรุบตาลงต่ำพลางเม้มริมฝีปากเข้าหากัน
ไม่ต้องมาทำเป็นสำนึกผิด เพราะแค่มึงคิดจะไปจากกูนั่นก็โคตรผิดแล้ว แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือมึงเลือกมัน เลือกไอ้พงษ์แทนที่จะเป็นกู
“กลับเถอะ”
“แล้วแผลมึง?”
“หรือมึงจะไม่ทำแผลให้กู” เขาพูดบอกแล้วหันหลังเดินออกมาก่อน
เกมยังไม่จบง่ายๆหรอก ในเมื่อพี่ไม้ก็บอกแล้วว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราเอง
ไอ้แก้วเองก็คงรับไม่ได้ถ้าจะเห็นไอ้เหี้ยพงษ์โดนทำร้ายต่อหน้าต่อตา
งั้นกูก็ต้องทำอะไรสักอย่าง โดยที่ไม่ให้มึงรู้ไม่ให้มึงเห็นสินะ
........................................
งอแงๆ //ดิ้นๆๆๆๆๆ :serius2:
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ^^ กอดๆจุ๊บเหม่งคนอ่าน
-
ฝิ่นแคร์แก้วมากเลยนะนั่น แล้วแก้วพูดอะไรออกมา ฝิ่นยิ่งมีปมเรื่องพงษ์อยู่ด้วย
-
เห้อ!!........ไม่อยากให้เปงแบบนี้แต่ก้อไม่ได้สินะ
ถ้าเรื่องมันเคลียแค่นี้มันก้อคงจบ เอานะยอมน้ำตาไหลเพราะจะได้อ่านิีกเนอะ
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกนะคับ รอรอน้อ^^
-
ยิ่งนับวันฝิ่นยิ่งน่ารัก คงแคร์ความรู้สึกแก้วมากๆแล้วสินะ จะทำแก้วเจ็บแต่ตัวเองก็เจ็บปวดซะเอง
-
ฝิ่นเอาแต่ใจโคตรๆๆๆๆ
:angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
-
อึดอัด เหมือนจมอยู่ในบ่อน้ำ หาทางออกไม่เจอ เห้อ :เฮ้อ:
-
สุดท้ายคนที่แพ้ก็คือฝิ่นนั่นเอง
-
ถ้าแก้วไม่รู้ก็ไม่เป็นไรหรอก
กลัวแก้วรู้นี่สิ มาม่าเต็มจอแน่ :sad4:
-
สั้น สั้น สั้น แงแง
-
เป้ง ช่วยล่องลอยมาบอกมันที
มันอยากได้แก้วคืนจนหน้ามืดหมดแล้วนี่ :z3: :z3:
-
สั้นได้อีกกกก :a5: :a5:
-
ฝิ่นเอาแต่ใจไม่เปลี่ยน ปลงๆซะบ้างเถอะ
-
แก้วก็ต้องเลือกพงษ์อยู่แล้ว ของมันแน่ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ฝิ่นจะโกรธทำไมเนี่ย? ตัวเองยังเลือกเป้งเลยนิ
เฮ้อ...แต่พอเห็นฝิ่นพูดกับเป้งแล้วก็เห็นใจนะ เพื่อนรักเพื่อนซี้ตายแบบทารุณขนาดนั้นก็คงทำใจยากหน่อย ยิ่งพอมาเห็นพฤติกรรมที่โคตรกวนตีนของพงษ์ด้วยแล้ว ยิ่งเชียร์พงษ์ไม่ขึ้นเลยจริงๆ
ว่าแต่พงษ์มันฆ่าเป้งทำไมวะ เง้ออออออออออออออ :เฮ้อ:
-
จากก็เจ็บอยู่ก็เจ็บ เห้อกรรม :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ถึงแก้วเลือกพงษ์ก็ใช่ว่าแก้วจะไม่แคร์ฝิ่นนี่
แก้วเลือกที่จะให้พงษ์และตัวเองอยู่ห่างจากฝิ่น
เพราะคิดว่าเวลาจะทำให้ฝิ่นเลิกแค้น
แต่ประเด็นคือ ต่อให้แก้วจะเลือกทางไหน
จะอยู่หรือจะไป ก็คงไม่ถูกใจฝิ่นสักอย่าง
จริงๆถ้าพงษ์อ่อนลงและสำนึกผิดบ้าง
ฝิ่นอาจจะรู้สึกดีขึ้นกว่านี้(มั้ง?)
ที่ฝิ่นยังคิดจะแก้แค้นอยู่ เพราะพงษ์มันไม่ได้สำนึกอะไรเลย
แล้วแก้วก็ยังไปอยู่กับพงษ์อีก
ฝิ่นจะทำไงหล่ะ อีกฝ่ายก็เพื่อนรัก อีกฝ่ายก็หัวใจตัวเอง
-
:เฮ้อ: ฝิ่นรักแก้ว แต่ผิ่นก็แค้นพงษ์เหมือนกัน
-
เอ่อ..........
มีจุดห้าอีกป่ะคะ
คือมันแอบค้างนิดนึง
ถ้าฝิ่นจะคิดว่าตัวเองแพ้
เราว่าไม่นะ
ที่แพ้คงแพ้ใจตัวเองมากกว่าเนอะ
--------
กอดน้องแก้ว
แหม.....นานๆมานิดนึง
คิดถึงน้องแก้วจ้าาาาา~
จัดบวกให้พี่ซีนะคะ
ตอนหน้าขอยาวๆค่าาาาาาา
-
ฝิ่นรั้นจริงๆ :เฮ้อ:
-
ทำลับหลัง แก้วรู้ ฝิ่นก็จบอยู่ดี เชอะ
-
เซงกะฝิ่น
:seng2ped:
-
ยอมแพ้ให้กับใจตัวเองซะทีเถอะฝิ่น
ขอบคุณมากจ้ะ :กอด1: :กอด1:
-
คนน่าสงสารที่สุดคงไม่พ้นแก้ว :เฮ้อ:
ทำก็ไม่ได้ทำ ต้องมาพัวพันยุ่งเหยิง :o12:
:pig4: นะคะ
-
ฝิ่น อย่าทำอะไรพงษ์ของเค้านะเว่ย
หัดเอาอย่างพี่ไม้มั้งดิ
-
ว้าว!!ฝิ่นเริ่มหึงแก้วแล้วใช่ไหมเนี่ย o18
-
เอิ่มมม.. ตอนนี้สั้น.. แต่ก็ยาว เอ๊ะ! ยังไง? ๕๕๕๕๕
คือพาร์ทนี้สั้น แต่ตอนนี้อย่างยาววว 55555555
ตกลงฝิ่นมันยอมรับแล้วใช่มะ?
แหม.. ทำมาเป็น แค่ก็เป็นห่วงเขาอ่ะดิ่
ไม่รู้ว่าทำไม ช่วงเวลาที่แก้วเศร้าๆ มันช่างยาวนาน =_=;;
-
ถ้าความคิดมันเปลี่ยนกันได้ง่ายๆก็คงดี :เฮ้อ:
ไม่รู้ว่าฝิ่นจะทำยังไงต่อไป แต่ว่าคงไม่ปล่อยแก้วให้ห่างกายอีกแล้วสินะเนี่ย :z1:
-
จะทำอะไรก็คิดให้ดีนะฝิ่นนะ o18
-
อยากให้เป้งมาหาฝิ่นมาก บอกทีว่าเรื่องมันเป็นมายังไง ยังคงคาใจทั้งเราทั้งฝิ่น
รู้สึกว่าตอนนี้ฝิ่นแคร์แก้วมากขึ้นอ่ะ สงสารฝิ่นเบาๆ
-
ถ้าบอกว่าอึดอัดไม่แพ้ไอฝิ่นจะผิดไหมครับ :o12: :serius2:
-
สองคนนี้ย่อมน่ารักเสมอ :-[
-
ฝิ่นไม่ยอมๆบ้างอะ
เมื่อไหร่จะได้รักกับแก้วซักที
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
ไม่ว่าฝ่ายใดจะสูญเสียก็เป็นทุกข์ทั้งนั้น
-
ฝิ่นจะเอายังไงเนี่ย ซักทางเหอะ แก้แค้นก็จะทำ แก้วก็จะไม่ให้ไปไหน ทั้งฝิ่นทั้งพงษ์ดื้อมาก จะรอให้เสียแก้วไปหรือไงถึงจะเลิกคิดแค้นได้ เฮ้อๆๆๆ ปวดใจพวกผู้ชายเจงๆ :serius2:
ขอบคุณค่ะ
-
ใจจริงก้ออยากให้พงศ์สำนึกผิดกว่านี้อะ ทำคนตายทั้งคน ถึงมันจะมีเหตุผลอะไรก้อน่าจะสำนึกมากกว่านี้ ไม่อยากให้แก้วเกี่ยวข้องด้วยยเลย สงสารอะ คนหนึ่งก้อพี่ คนหนึ่งก้อคนรัก ตัดไม่ขาดอะ :กอด1:
-
ฝิ่นมันอยากทำพงษ์แต่ไม่อยากเห็นแก้วเจ็บ
-
ฝื่นแคร์แก้วมากเลยล่ะเนีย :o8: :-[ :impress2:
เรื่องมันจะไม่จบแค่นี้สินะฝื่น :sad4:
-
:เฮ้อ:
-
ฝิ่นปัญญาอ่อนหว่ะ ไอ้ขี้หวง
-
สั้นอ่า :sad4:
-
ฝิ่นอ่ะ :เฮ้อ:
ตัวเองเป็นคนทำให้แก้วเลือกเองนะ เพราะเกมบ้าๆของแกรไง
แล้วนี่ยังจะไม่เลิกอีก กรรมเวง :z3:
-
เหวย.............. =[]=!!!
ขออีกหน่อยได้ไหม... ขออีกนิดนะตัวเธอ อ่านยังไม่จุใจเลย
แต่สงสารแก้ว...
-
ถามจริง !! พี่ดิวโดนสอยร่วงไปแล้วหนึ่งราย
แสบกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ช่างคิดนะเอี้ยยฝิ่น =[]=
แต่อย่าลืมว่าพ่อพงษ์เราเค้าก็เก๋านะคะ
แหม๊ ! จัดบวกโลด มันส์อ่ะ อยากอ่านอีกๆ :L2: :L2:
-
แก้วจ๋า...
-
ฝิ่นจะทำอะไรน่ะ????
-
ฝิ่นรั้นนะ แต่ก็น่ารัก ถ้าเป้งตอบได้ จะตอบเพื่อนว่าไงดีละเนี่ย :z3:
-
รออยู่เน่อ :oo1:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
บีหนึ่งเธอว์แต่งเรื่องเด็กช่างเหรอ แอร๊ยยยย ๕๕๕๕๕๕๕๕
เราอ่านไปสามสี่ตอนแล้ว ได้ความรู้เรื่องช่างกลมากอ่ะ
เราไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าเธอว์เป็นเด็กช่าง กรี๊ดดด !!!!
สู้เค้านะ มาตั้งสามสิบกว่าตอนนี่ถอยไม่ได้ละ คนตามอ่านก็รออยู่ด้วย >__< สวดยวดอ่ะ !
เดี๋ยวเราไปแก้เรื่องอันเก่าของเราก่อนแล้วจะเอามาลงมั่ง (ใช้ของเก่าหากินเพราะหมดมุข)
-
โอ้ยยยยย พี่แก
เเค้นไรนักหนาว่ัะ
นี่เพื่อนตายนะนี่
แต่ยังดีหน่อย ที่คิดถึงแก้วบ้างแล้ว
-
โถ...ฝิ่น
จะทำยังง้ายย ความลับมีในโลกเร้อ
ขัดแย้งภายในตัวเองไม่รู้จบก็ชกนั่นนี่ต่อไปเถอะ จนกว่ามือจะพังไปข้าง
ว่าแต่...ที่แก้วเลือกพงษ์ เพราะแกไม่บอกว่ารักมันไม่ใช่หราาาาา
-
อ้อมกอดเด็กช่างตอนที่ ๔๐
“ไม่เป็นไรๆเบื่องานที่ทำกับเพื่อนก็กลับมาดูงานที่โรงแรมเราก็ได้” คุณพ่อพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อพงษ์พาเขามาเจอพ่ออีกครั้ง
แต่เขานี่สิ ต้องนั่งทนกับสายตาพี่ขวัญที่นั่งอยู่โซฟาข้างห้อง ...อึดอัดชะมัด
“แล้วเรากลับมา บอกคุณพ่อคุณแม่รึยัง?” พ่อถามพงษ์ด้วยความเคยชินกับนิสัยมัน
“ไม่ได้บอกครับ แต่คิดว่าคงรู้แล้ว”
“อืม โทรหาเขาหน่อยก็ดีนะ ไปไหนมาไหนก็บอกๆเขาบ้าง พ่อแม่ไม่มีอะไรหรอกนอกจากความเป็นห่วงลูก”
“ครับ” พงษ์รับคำอย่างไม่ค่อยสนใจจะทำตาม ก่อนจะขอตัวออกไปนอกห้องเมื่อโทรศัพท์มือถือมันดัง
ฟู่วว แก้วถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กับบรรยากาศมัวๆรอบตัว ความห่างไกลมันทำให้ความรู้สึกผูกพันเหลือน้อยจริงๆ ถ้าต้องกลับมาฝึกงานที่นี่ตามใจพงษ์ก็คงต้องทำเพราะเขาคงหาข้ออ้างไปเจอไอ้ฝิ่นไม่ได้แล้วล่ะ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็คงต้องถือซะว่าทำงานแลกกับค่าเลี้ยงดูที่พ่อโอนเข้าบัญชีให้ทุกเดือนไปแล้วกัน
“สบายดีไหมลูก” พ่อน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเขาสบายดีไม่อย่างนั้นคงโทรถามสารทุกข์สุกดิบเขาแทนถามต่อหน้าเมื่อเขาไม่มีที่ไปอย่างนี้แล้วล่ะ
“ครับ” แก้วตอบก้มมองโต๊ะ ในขณะที่พ่อลุกออกจากเก้าอี้ทำงานเดินมายืนข้างเขา
“ลูกแก้ว พ่อคิด.” ฝ่ามือของผู้เป็นพ่อแตะวางเหนือศีรษะทำให้แก้วกำลังจะมีรอยยิ้มน้อยๆด้วยใจคิดไปว่าพ่อแสดงความรัก
แต่กลับต้องยิ้มค้างเมื่อพี่ลูกขวัญเดินมาพูดแทรกแถมจับมือของพ่อออกไป
“คุณพ่อครับ”
“ครับ ว่ายังไงลูก” คุณพ่อหันไปสนใจพี่ขวัญที่จับมือพ่อแกว่งเล่น
“ทริปเที่ยวเกาะที่เราจะไปกัน ตกลงขวัญจองไปแล้วนะ”
“อ้อ พ่อเกือบลืมแหนะ อืม ดีเลย เดี๋ยวจองเพิ่มให้น้องกับพงษ์ด้วยนะลูกจะได้ไปเที่ยวกันครบทีม” พ่อบอกพี่ขวัญพลางก้มมองเขาเป็นระยะ แต่พ่อคงไม่สังเกตว่าพี่ลูกขวัญมองจิกเขาด้วยหางตาอยู่ตลอดเวลา
“หือ ไม่ได้แล้วล่ะครับทัวร์เต็ม! อีกอย่างขวัญจองไปล่วงหน้าไว้แค่สามคน พ่อ แม่ ลูก”
“เราน่ะ พูดอะไรอย่างนั้น”
พ่อ แม่ ลูก เฮอะ!
แก้วแค่นหัวเราะในใจก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“อ้าว มีธุระเหรอลูก พ่อยังไม่ได้คุยด้วยเลยวันนี้อุตส่าห์ว่างแล้วเชียว” คุณพ่อหันมาสนใจเขาอีกครั้ง และพี่ขวัญยังเกาะแขนคุณพ่ออยู่ไม่ปล่อย
แก้วมองดูความใกล้ชิดสนิทสนมของพ่อลูกคู่นี้แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินหนักขึ้นทุกวินาที
“ครับ มีธุระ” แก้วตอบแล้วเดินหันหลังให้พ่อทันที
“วันนี้ไม่ได้ ก็บอกว่าเลื่อนออกไปก่อนไง” พงษ์ยังยืนคุยโทรศัพท์อยู่แต่คงไม่รู้ว่าเขาออกมาแล้วเพราะมันหันหลังให้ประตู
“..............................”
“เมื่อไหร่ผมจะโทรนัดพี่เอง โอเคนะ”
“..............................”
“เจอแล้ว เมื่อวาน”
“..............................”
“เออๆ”
“..............................”
“อะไรของพี่วะเนี่ย” เหมือนมันกำลังหงุดหงิดกับคนที่มันคุยด้วยอยู่ แต่เขาก็เดินไปสะกิดไหล่ให้มันรู้ตัวว่าเขาออกมาแล้ว และไม่อยากอยู่ที่นี่นาน
“แค่นี้ก่อนนะ ไว้จะโทรหาอีกที” กะว่าให้มันเดินไปคุยไปก็ได้แต่ไอ้พงษ์ดันวางไปแล้ว
“อ้าว วางทำไม?” แก้วถาม
“จะไปไหน?” แต่โดนพงษ์ถามกลับด้วยท่าทางและน้ำเสียงตำหนิ...ตลอดเถอะ
“คุยเสร็จแล้ว กลับกัน” แก้วยิ้ม ตีหน้าซื่อบอก
“กลับไปไหน ไม่ทำงานเหรอ”
“เออ...นั่นสิ” แก้วไหล่ตกทันที นี่เขาลืมไปเลยจริงๆนะ คิดแต่จะหนีจากสองคนที่อยู่ในห้องท่าเดียว
“กลับก็กลับ ให้กูนอนเต็มที่สักวันหน่อยก็ดี”
“หึ อืม”
“ไม่ต้องยิ้ม ไม่ได้เห็นดีด้วยเลย” มันว่าเมื่อเขาคลี่ยิ้มดีใจ ยังไงพงษ์ก็รู้ใจเขาที่สุดแหละน่า
.
“แวะกินข้าวร้านป้าก่อนนะ ไม่ได้กินนานคิดถึงฝีมือป้าแก” ไอ้พงษ์บอกแต่รถแท็กซี่จอดหน้าป้ายรถเมล์แล้ว
“พูดอย่างกับไปอยู่นอกมาเป็นปี”
“วันสองวันก็คิดถึงได้” มันเถียง แก้วส่ายหน้าอย่างระอา แล้วพากันลงจากรถเดินเข้าไปตรงหัวมุมจะมีร้านอาหารตามสั่งซึ่งจริงๆเป็นรถเข็นแล้วตั้งโต๊ะไว้เพียงสามโต๊ะเท่านั้น ที่นี่เป็นร้านโปรดของพวกเรา๓Tไม่เฉพาะแต่เขากับพงษ์เพราะตรงนี้มันเป็นป้ายรถเมล์ที่พวกเรามารอรถไปโรงเรียนทุกเช้า
แต่เมื่อเดินไปถึงแก้วก็ต้องชะงักหยุดฝีท้าวกึก
“มากินข้าวเหรอ” ไอ้พงษ์ถามคำถามที่... ก็เห็นๆอยู่ว่ามิวกำลังกินข้าว
“อืม มิวเพิ่งกลับจากโรงเรียนไปคุยกิจกรรมกับอาจารย์มา”
“อืม” ไอ้พงษ์พยักหน้าแล้วหันไปสั่งข้าว “กระเพราหมูไม่ใส่ผักกับผัดคะน้าเปล่าๆเอาเผ็ดๆราดข้าวอย่างละจานป้า” แล้วพยักหน้าเรียกเขาให้ไปนั่งโดยที่เขาหันหลังให้มิวแต่พงษ์หันหน้าไปทางนั้น
“พงษ์กลับมาเมื่อไหร่” มิวถามข้ามโต๊ะ
“วันก่อนน่ะ” ไอ้พงษ์ตอบยิ้มๆ ...โปรยเสน่ห์
“...เหรอ?”
“มิว สบายดีเหรอ ไม่ได้คุยกันตั้งนาน”
“ก็เรื่อยๆ เอ่อ พงษ์ ขอมิวคุยด้วยได้ไหม?”
“มานั่งนี่สิ” ไอ้พงษ์ชวน
“ไม่ใช่ คุยแบบ...ส่วนตัว”
“...........” พงษ์มองหน้าเขา เขาจึงทำเป็นมองไปทางอื่น เหมือนไม่ได้ยินดียินร้ายกับคำพูดของมิว “มิวทำอย่างกับแก้วเป็นคนอื่นไปได้ ก็คนกันเองแท้ๆ”
“เหอะ จนป่านนี้พงษ์ก็ยังคิดอย่างนี้เนอะ ถ้าอย่างนั้นมิวไปก่อนละกัน ป้าเก็บตังค์ด้วย”
“ไปเถอะ กูรู้มึงคิดถึงมิว” เขาบอกพงษ์เบาๆก่อนที่มิวจะทันได้ลุกออกไป
“งั้น...เดี๋ยวมานะ กินข้าวไปก่อนเลยไม่ต้องรอ” แก้วพยักหน้าให้พงษ์ เมื่อพงษ์เดินพ้นโต๊ะแก้วก็ได้แต่ก้มหน้ามองจานข้าวที่ป้าเพิ่งเอามาเสิร์ฟ
มิวจะยังสนิทกับไอ้ฝิ่นอยู่รึเปล่านะ หลังจากวันนั้นไอ้ฝิ่นก็ไม่เคยเอ่ยชื่อมิวหรือผู้หญิงคนไหนให้เขาได้ยินเลย แต่... ฝิ่นมันไม่มีทางเห็นเขาดีกว่าผู้หญิงแน่ เพราะฉะนั้น ถ้ามิวกลับมาคบกับพงษ์อีกครั้ง ก็คงดี...
มึงโคตรเห็นแก่ตัวเลยไอ้แก้ว ...เขาต่อว่าตัวเองในใจ
.
พงษ์เดินตามมิวไปจนถึงป้ายรถเมล์ฝั่งตรงกันข้าม เขาไม่ได้คิดถึงมิวอย่างที่ไอ้แก้วเข้าใจหรอก แต่...ของมันเคยๆนี่หว่า กลับมาก็เจอแต่เรื่องเครียดๆไม่มีเวลาไปเที่ยวไหนสักวัน
“ก่อนไปพงษ์ก็ติดต่อมิวไม่ได้” เขาเริ่มพูดก่อน พลางจุดบุหรี่สูบ
“ไม่ใช่ว่าพงษ์ทิ้งมิวก่อนเหรอ พงษ์ถึงติดต่อมิวไม่ได้น่ะ”
“น้อยใจเหรอจ๊ะ” เขาพูดหันไปมองหน้าบึ้งติดงอนของหญิงสาวก่อนจะยกมือขึ้นโอบไหล่เธอ
ถึงจะเป็นป้ายรถเมล์คนยืนรอเยอะแยะเขาก็ไม่ถือหรอก
“ก็พงษ์ทำเหมือนไม่รักมิวเลย”
“หืม ใครบอก พงษ์ก็รักเมียพงษ์ทุกคนนั่นแหละ” เขาเชยคางมิวให้หันมามองหน้า แล้วยักคิ้วให้
“บ้า พูดอะไร อายคนอื่นเขา”
“หึ” มิวฟาดมือลงที่ขาเขาเบาๆอมยิ้มแก้เขิน
อายเหรอ? แต่เขารู้ว่ามิวชอบ ยิ่งได้เป็นเป้าสายตาใครต่อใคร มิวยิ่งชอบใจ พงษ์คิดพลางเหล่ตามองกระโปรงนักศึกษาปวช. ที่สั้นเพียงครึ่งน่องของมิว
“เออ พงษ์เปลี่ยนเบอร์แล้วนะ ขอเบอร์มิวหน่อยสิ” มิวบอกเบอร์โทรศัพท์จนพงษ์เมมไว้ในเครื่องเสร็จ “เดี๋ยวพงษ์นั่งรอรถเมล์เป็นเพื่อนนะ เดี๋ยวคืนนี้โทรหา”
“ตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ?”
“ต้องไปส่งไอ้แก้วก่อน” เขายิ้มบอกเพราะรู้ความต้องการของมิว ก็ทำหน้าอ้อนซะขนาดนั้น
“อะไรๆก็แก้ว แล้วจะไม่ให้มิวน้อยใจได้ยังไง”
“โอ๋ๆนะ” เขาลูบมือมิวเล่นก่อนจะลุกยืนแล้วจับมือเจ้าหล่อนไว้
“ถ้าพงษ์คิดถึงมิว ก็ให้แก้วกลับบ้านเองสิ หรือเอางี้...โทรตามพี่ดิวมารับก็ได้ พี่ดิวมาอยู่แล้วคนนั้นน่ะ”
“เอางั้นเหรอ?” เขาถาม มิวก็รู้ว่าเขาต้องไปส่งไอ้แก้วกลับบ้านก่อนทุกครั้ง ที่แล้วมาก็พูดอย่างนี้ประจำเขาก็ไม่เคยทำตาม ยังไงๆเพื่อนเขาก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน แต่มิวก็ยังคงงอแงอยู่เรื่องเดิม
“มิวมีอะไรจะบอกพงษ์ด้วย”
“หืม? สำคัญรึเปล่า” ถึงไม่ได้ปล่อยมาเป็นอาทิตย์แต่เขาก็อยากเห็นไอ้แก้วเข้าบ้านกับตาก่อนที่จะแว๊บไปหาความสุขใส่ตัวอยู่ดี
“มิวไม่เคยอยากเล่าอะไรให้พงษ์ฟังขนาดนี้เลย”
“ถ้างั้นก็บอกตอนนี้สิ” เขาช่วยให้มิวตัดสินใจพูดเรื่องที่อยากบอกเขามากขึ้น
“หึ ไม่ได้” มิวส่ายหน้าและยิ้มอย่างมีเลศนัย
“อะไรจะขนาดนั้น” พงษ์ส่ายหน้าตอบกลับแต่ด้วยความอยากรู้ว่าไอ้เรื่องสำคัญที่ว่าจะสำคัญสักแค่ไหน “บอกใบ้นิดนึงสิที่รัก”
“หนึ่งเดือนที่พงษ์ไม่อยู่”
เขาย่นคิ้วข้องใจในคำพูดมิว ก่อนตัดสินโทรหาแก้ว
“กินข้าวรึยัง?”
“อิ่มแล้ว”
“อย่างนี้นะ คือกู”
“ไม่เป็นไร กูกลับเองได้” มันพูดขึ้นมาอย่างกับรู้ว่าเขาจะบอกอะไร
“เดี๋ยวให้พี่ดิวมารับนะ รอเดี๋ยว เดี๋ยวกูโทรหาพี่ดิวก่อน”
“เฮ้ยๆๆ ไม่ต้องๆ กูกลับเองได้” ไอ้แก้วขัด
ไม่เข้าใจว่ามันจะตั้งแง่กับพี่ดิวอะไรนักหนา
“รอพี่ดิวนะ ถือว่ากูบอกแล้วนะ”
“มึงน่ะ” มันท้วงแต่เขากดวางสายทันที แล้วจึงโทรหาไอ้พี่ดิวอีกต่อ
“พี่มารับไอ้แก้วไปส่งบ้านหน่อย”
“ที่ไหน?”
“ร้านป้า”
“อืม กำลังจะพักเที่ยงพอดี”
“ฝากด้วยนะ”
“ไม่ต้องห่วง แล้วเย็นนี้กินเหล้ากัน” ไอ้พี่ดิวรับปากแถมชวน ยังไงก็ต้องรีบเจอให้ได้ใช่ไหม?
“ตอนนี้อยู่กับมิว ไม่รับปากละกัน” เขาพูดบอก
“อ้อ เออดี งั้นคืนนี้เดี๋ยวกูดูไอ้แก้วให้” มันพูดเมื่อได้โอกาส
“ไม่ต้องๆ ไปส่งแล้วก็แค่นั้นล่ะ มันโตแล้วอยู่คนเดียวได้” ยังไงก็ต้องนึกถึงใจไอ้แก้วมากกว่าจะเกรงใจพี่ดิวอยู่แล้ว ถ้ามันอึดอัดก็คืออึดอัด นี่ก็บังคับมันมากไปแล้วด้วย
“ไม่ใช่ว่าเปิดโอกาสให้ไอ้ฝิ่นมาเจอเพื่อนมึงนะ” จิ๊
“เอ๊ะ จะพูดทำไมวะ”
“เออๆแค่นี้แหละ” ไอ้นี่!...มันกวนประสาทเสร็จก็วางสายไปเลย ทีใครทีมัน...หรือมันจะเอาคืนที่เขาวางสายมันก่อนเมื่อช่วงสายวะ
ไอ้พี่ดิวมันก็ดีทุกอย่างน่ะนะ ยกเว้นชอบบีบเขาเหลือเกิน บอกว่ายังไงก็ให้ว่าตามนั้นสิ แต่ละคนแม่งโคตรเซ้าซี้
ตัดห่วงที่ยังไงก็ยังห่วงได้แล้วพงษ์จึงขึ้นรถเมล์เพื่อไปส่งมิวที่ห้อง
หรือพูดให้ถูกก็คือส่งตัวเองรำลึกความหลังนั่นเอง
“พี่ฝิ่นน่ะ เขาก็แค่อยากลองอะไรแปลกๆ ไม่มีทางที่พี่เขาจะชอบแก้วจริงๆหรอก”
“มิวรู้จักมันเหรอ? แล้วรู้เรื่องอะไรมา” เขาอารมณ์เสียหลังจากได้ปลดปล่อย ฉิบหายเถอะ อะไรวะเนี่ย
“...รู้จักสิ รู้จักดีด้วย...มิวกับพี่ฝิ่นเราไม่มีความลับกันหรอก”
“นอนกับมันมาแล้วสิ”
“............................” มิวไม่ตอบแต่ลอยหน้าลอยตาใส่
“เฮ้อ ถ้ารู้ว่ามิวจะกลับไปมั่วอีกเหมือนตอนก่อนจะคบกับพงษ์ล่ะก็ พงษ์คงไม่เสียเวลาด้วยหรอก” ก็แค่ผู้หญิงหาที่ไหนก็ได้ไม่ได้จำเป็นต้องง้อมิวเลยสักนิดคิดแค่ว่าแฟนเก่ามันก็ติดได้ง่ายกว่า แต่ก็อย่างว่านั่นแหละของมันเคยๆมันก็ต้องกลับไปทำตัวแบบที่มันเคยน่ะถึงจะถูก
เลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ
“พงษ์! ใช่สิ เวลาของพงษ์มีแต่แก้วหนิ จนมิวคิดนะว่าจริงๆแล้วมิวกับแก้ว ใครเป็นเมียพงษ์กันแน่”
พงษ์ลุกออกจากที่นอนด้วยความไม่พอใจและไม่สนใจคำพูดมิว นี่เหรอเรื่องสำคัญ มันไม่ได้ต่างไปจากที่เขาคิดไว้เลย เขาหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ก่อนจะวางเงินไว้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งสามพันบาท ถึงมิวไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวแต่เขารู้ดีว่าอดีตแฟนเขาน่ะจำเป็นต้องกินต้องใช้ ให้นอนด้วยกันอย่างเดียวโดยที่ไม่ให้อะไรเลย มันก็จะเป็นการเอาเปรียบผู้หญิงเปล่าๆ ทำอย่างนี้น่ะ แฟร์ๆกันทั้งคู่แล้ว
“ช่างเถอะ ขอบใจนะ”
............................
เดาพฤติกรรมมิวกันออกไหม? ยัง มันยังไม่จบหรอก หึหึ
อีกอย่าง ตอนนี้ค้างกันรึเปล่า ฮึก ฮึกY^Y (คนเขียนหลากหลายอารมณ์ดีแท้)
jeeu ไม่มีจุดห้าแล้วจ้า (มาบอกอะไรตอนนี้ ฮ่าๆๆๆๆ แต่น่าจะมี ๔๐.๒)
อย่าว่าแต่คนอ่านค้างเลย คนเขียนบางตอนก็รู้สึกว่าเขียนไม่จบเหมือนกัน งั้นต่อด้วยจุด ๒ เนอะๆ
กลับดาวละนะ ขอบคุณที่มาเจิมเรื่องของเค้าเป็นเม้นท์แรกนะตัวเอง (หน้าม้าเรามาแล้ววววว...ไม่มาซะตอนสุดท้ายของเรื่องเลยล่ะ!) ในเรื่องก็แต่งมาจากสิ่งรอบตัวที่เคยผ่านมาแล้วแหละ ไม่งั้นก็คงจินตนาการยาก
...บางเวลาเราก็อยากกลับดาวบ้าง แต่ก็เพราะมีคนอ่านนี่แหละถึงทำให้เรามีความรับผิดชอบขึ้นมาบ้าง ...เราขี้เกียจ ขี้เบื่อ อารมณ์ขึ้นๆลงๆเธอเคยเจอแล้วหนิ...พอมีอารมณ์นั้นเมื่อไหร่ สิ่งที่ทำได้คือระบายใส่ตัวเองกับมิ้วๆ กร๊ากก คิดจะเขียนก็ต้องเขียนให้จบแหละน่าเราไม่ให้เรื่องของเราค้างแน่ (นี่ไม่ใช่การถักนิตติ้งนะ ฮ่าๆๆๆ) v
อ้อ เรารอ(กดดัน)เรื่องของเธออยู่นะบีสอง ม๊วฟๆ
ปล.มิ้วๆบอกว่า ให้ลงเรื่องให้จบ...จบแล้วอยากไสหัวไปไหนก็เชิญ (ประโยคหลังนี่ต่อเอง -*-)
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ ^^กอดๆจุ๊บ
จริงๆเขียนมาได้ขนาดนี้ก็เพราะมีทุกคนนี่แหละค่ะ รักนะ คนอ่าน (เขิน><)
-
:z13: :z13: :z13: จิ้มๆๆ ทันมั้ยๆๆๆ
-
เจ้มิวกำลังจะทำอะไรอะ :beat: :beat: :beat:
-
บร๊ะ......~
อิน้องมิวยังคงจะมีบทบาทต่อ
ง่ะ~ เอาไปเก็บเลยไม่ได้เหรอ
แค่พี่ฝิ่นคนเดียว น้องก็แย่แล้ว
พ่อก็เหมือนกัน แทนที่จะดูแลแก้วบ้างไรบ้าง
ย๊ากกกกกกกกกกกก~~~~~~
สนุกมากค่ะ
อ่านที่ไรอินทุกที
ขอบคุณพี่ซี รอตอนต่อไปนะคะ
-
ผู้หญิงคือตัวปัญหาจริงๆ
พงษ์นี่ก็นะ ก็รู้ว่าห่วงเพื่อนแต่บางทีแก้วก็ทำอะไรๆ เองเป็น ไม่เห็นต้องขนานนั้นก็ได้
ส่วนพี่ดิวนี่ก็แมวคอยจ้องจะกินปลาซะเหลือเกิน
-
อ้าว ปล่อยแก้วไว้กับดิว เดี๋ยวก็รังแกแก้วอีก
-
เบื่อไอ้พงษ์ ไอ้ดิว
อีขวัญ (ขอเรียกแบบ
นี้นะ) มารจริง ๆ ไอ้
พวกนี้ :z3:
-
มิวนี่ร้ายได้อีก
-
สงสารแก้ว :เฮ้อ:
คนรอบตัวแก้วสงสัยโง่กันหมด แก้วน่าจะดัดจริตอีกนิดนะ อ้อนๆอ่ะ รับรอง หึหึ
หรือไม่แก้วก็ทิ้งแม่งทั้งหมดเนี่ยแหละ หายไปเลยจะได้เสียใจกันให้เข็ด :m16:
:pig4: นะคะ
-
แก้วโดดเดี่ยวอีกแล้ว
พงษ์ก็พึ่งพาไม่ได้ ผลักไปให้พี่ดิว นั่นมันหมาป่าชัด ๆ
อิฝิ่นก็มัวแต่จะแก้แค้นไม่ลืมหูลืมตา
มิวคงไม่ชอบแก้วแน่ ๆ คงเห็นเป็นมารหัวใจ
-
นางมิวแกจะเอายังไงเนี่ย
-
พี่ชายแก้วไม่ไหวเลยเกรียนจริงอะไรจริง :beat:
ส่วนมิวมาตามคำสั่งพ่อพระเอกเรารึเปล่านิ o18
-
หยี่ อีผู้หญิงโซโครกสกปรกที่สุด เกลียดๆมัน!!
แก้วก้อเจอแต่เรื่องแย่ๆตลอด น้ำตาไหลได้ตลอดจิงๆอ่านเรื่องแก้วเนี่ย
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้า รอรอค๊าฟฟ^^!!
-
เห้อ อึดอัดมากมายไม่มีอารายคืบหน้า รออยู่นะครับ :m15:
-
ค้างมากๆเลย
-
แอบเห็นใจคุณพ่ออะ ท่านก็รักลูกนั่นแหละ เห้อ
ขอบคุณมากจ้ะ :กอด1: :กอด1:
-
ความเคลื่อนไหวยังไม่คืบหน้า อิอิ รอรอรอ
-
แก้วน่าสงสารอ่ะ. :sad4:
-
เฮ้อสงสารแก้ว ไม่จบไม่สิ้นจริงๆสินะ :z3:
-
ปล่อยแก้วไว้กับพี่ดิวจะดีเหรอพงษ์ :z3:
เดี๋ยวก็เกิดเรื่องยุ่งๆอีก แต่คุณพ่อไม่ไหวเลยนะคะ รักลูกแก้วจริงหรือเปล่าเนี่ย :m16:
-
ดิวจะวุ่นวายไปถึงเมื่อไร มิวตั้งใจจะทำอะไรเนี่ย แล้วพงษ์จะอะไรนักหนา ขวัญก็เหมือนกัน
-
เกลียดมิว :z6:
-
นี่ตกลงมิวเป็นแฟนพงษ์จริงหรือเปล่าเนี่ย =_=;;
มิวนอนกับใครก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยนะ..
..แต่ก็จริงอย่างที่มิวพูดอ่ะ ทุกคนดูอะไรๆก็แก้วหมด จนรู้สึกไปเองว่า ทุกคนมีแก้วเป็นเมีย.. กร๊ากกกกกกกกก
คือไอ้พี่ดิวกำลังจะกลับมาแล้วใช่มั๊ยยย?? กรี๊ดอ่ะ อยากให้พงษ์มันรู้ธาตุแท้ของพี่ดิวเร็วๆจัง ว่าคิดอะไรกับแก้ว
แล้วมันยังจะยัดเหยียดแก้วให้กับอิพี่ดิวอยู่มั๊ย? =..=
-
ไม่ต่างจากอีตัวเลยมิว
-
:เฮ้อ: เซ็งนังมิว
-
ชะนีอีก...เซ็ง
-
พงษ์แกต้องการอะไรจากสังคมฟ่ะ!
กลับมาแล้วทำให้เรื่องมันยุ่งขึ้นแบบนี้
ไม่อยากจะคิดเลยว่าแก้วไปกับพี่ดิวแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
หวังว่าพี่ดิวคงไม่คิดจะทำอะไรแก้วอีกนะ
หรือถ้าทำก็ขอให้ฝิ่นมาเจอเข้าพอดี
แล้วจัดการพี่ดิวจากนั้นก็ลากแก้วกลับไปอยู่ด้วยกัน
55555 น้องแก้วเนี่ยน่าสงสารตั้งแต่ตอนหนึ่งยันตอนสี่สิบเลยอ่ะ
จะมีสักตอนมั้ยที่แก้วจะมีความสุขแบบจริงๆจังๆ
-
:z13: :z13: :z10:
-
สงสัยฝิ่นใช่มาแยกแก้ว
-
:z3: :z3: :z3:
-
พงษ์ทิ้งแก้วไว้กับดิวได้ไง
โอ้ยย รีบกลับไปหาเดี๋ยวนี้เลยนะ
-
มีพ่อโง่ มีพี่เลี้ยงขี้อิจฉา มีแม่เลี้ยงเลว แถมเพื่อนรักไม่เฉลียว ..เฮ้อ..ขอบอกชีวิตลูกแก้วน้ำเน่ามาก.... จะรอดไหมล่ะนั่นน่ะ
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
ตอนนี้หมั่นไส้อิพี่ขวัญกับยอดคุณพ่อม๊ากมาก อย่างพี่ขวัญต้องให้พี่ไม้จัดการ :m16:
คนมีปมเท่านั้นแหละ ถึงได้ขี้อิจฉาริษยาขนาดนี้นะ เฮอะ
พงษ์จะฝากแก้วไว้กับดิวทำไม ไปกับยัยมิวทำไมล่ะเนี่ย มิวแมร่ง เหลือแค่พี่ไม้ ฝิ่น แก้ว ขวัญ ใช่มั้ยเนี่ยที่ยังรอดพ้นหล่อนได้อยู่นะ มันน่า :beat: :beat:
-
อ่านแล้วเหมือนมิวจะโดนสาดอยู่คนเดียว ที่เป็นผู้หญิงแบบนี้
แต่อย่าลืมตบมือข้างเดียวยังไงก็ไม่ดัง ไำอ้พวกที่เอาไม่เลือกแบบพวกแม่งดีกันนักหรือ?
-
ฝากปลาย่างไว้กับแมวซะงั้น :o10:
-
นังคุณมิว แกจะทำให้วงการปั่นป่วนเหรอ มีสามีมากี่คนแล้วแฮดจริง ๆ (อุ๊บบบส์ แรงไปมั้ยอ่าลืมตัว)
ก็อีนี่ทำวุ่นวายตลอด ทำเป็นรู้เยอะนู่นนี่ ตั้งใจจะบอกอะไรพงษ์เหรอ รู้ไว้ซะไม่ว่าพงษ์หรือฝิ่น แก้วก็สำคัญที่สุดแหละยะ
สงสารแก้วที่ต้องไปเจออิีพี่ดิวที่แสนจะน่าอึดอัดเวลาอยู่ด้วย เฮ้อ
พี่ขวัญใจร้ายกับน้องไปมั้ยอ่า นาน ๆ แก้วกับพ่อเจอกันทีก็แด่นมาขโมยซีนอีก อยากจะได้ไปถึงไหน ไม่เข้าใจ แย่ๆ
ขอบคุณนะค้า
-
อิจฉานังมิวว่ะ อิอิ
-
พงษ์ฝากแก้วไว้กับพี่ดิวได้ไงอ่ะ กลัวพี่ดิวจะทำอะไรแก้วจังเลย
อ่านแล้วสงสารแก้ว ไหนจะเรื่องเพื่อน ไหนจะเรื่องครอบครัว
แก้วหนูหนีไปดีไหม จะได้ไม่ต้องรับรู้อะไร สงสารมากๆ
-
สงสารแก้วจัง ช่วงนี้ :monkeysad:
-
^^
-
อ่อก นึกว่าพี่ดิวจะไม่มีบทแล้ว พงษ์จะลากมันมายุ่งกับแก้วทำไมเนี่ย
-
มาต่อเร็วๆนะครับ
-
เมื่อไหร่หนอที่เทอจะกลับมา
-
ไอ่พี่ดิวจะทำอะไรแก้วรึเปล่า :m31:
-
โอ็ย ยึ่งอ่านกูก้ยึ่งอยากกรื้ดโว็ย :z3:
นี้มันอะไรกันเนีย อิพงษ์คุณมุงจะฝากแก้วไว้กะอิพี่ดิวทำม่าย ยย :dont2:
ตอนนี้ฝื่นฉันหายไปไหน :o12: แก้วกลับไปหาสุดที่รักเร็ว :sad4:
-
แก้ว ชั่งอาภัพนัก
ชีวิตน่าสงสารจิงๆ
ถ้าเป็นชีวิตจิง คงไ่ด้ฆ่าตัวตายไปนานแล้ว
สุ้ๆ นะ
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
พงษ์ไว้ใจคนผิดละ
พี่ดิวมันจ้องจะงาบแก้วอยู่ทุกวัน
-
พี่ขวัญโคตรอิจฉาแก้ว(ไปลากพี่ไม้มาเทศน์!) มิวก็คงอิจฉาแก้วเหมือนกัน ส่วนพงษ์ก็เป็นผู้ชายที่ :เฮ้อ: ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ถ้าผู้ชายไม่เล่นด้วย ถึงผู้หญิงจะ...ขนาดไหน มันก็ไม่เกิดไรขึ้นหรอก
แล้วก็พงษ์เอ๊ยฝากปลาย่างไว้กับแมวแท้ๆ ปลาแซลมอนกับแมวหิวโหยด้วยนะ 555 ไม่อยากจะคิด
เชียร์ฝิ่น(แล้ว)น้าาาาาา :oni3:
:pig4: :L1: จุ๊บๆน้า ^^
-
มารอครับ :L2: :L2: :L2:
-
:เฮ้อ:
ละมันจะลงเอยยังไงกันละนี่ :z3:
-
อยากรู้เหตุผลจริงๆ ที่พงษ์ฆ่าเป้ง
แต่ถ้ารู้เรื่องมันก็จะจบนะซิ
ยังไม่อยากให้จบเลย สนุกมาก
ชอบพระ-นายคู่นี้
-
งืดดด อิเจ๊มิวเค้าไงเนี่ยยย :angry2: :angry2:
-
พงษ์ต้องมีอะไรในใจอีกแน่ๆ
-
ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ
:a5: :a5: :a5: :a5:
อีพงษ์!!! :z3: :z3: :z3:
-
แวะมาส่องจ้า :z2:
-
กำลังอินได้ที่เลย มึนๆเรื่องของมิวอยู่ว่าตกลงยังไงกันแน่?
สรุปว่าเป็นคนแบบไหน?
-
ทำไมแก้วไม่บอกเรื่องไอ้พี่ดิวกับพงษ์ซะทีอ่ะ
-
ปวดเครื่องในอย่างแรง
-
มารออออออ
:call: :call: :call: :call:
-
อ้อมกอดเด็กช่างตอนที่ ๔๐.๒
“ขอบคุณครับ” เขายกมือไหว้พี่ดิวเมื่อพี่ขับรถมาส่งถึงหน้ารั้วบ้าน
“หึ ไอ้เราก็รีบไปรับ” พี่พูดหันข้างมามอง “ขอพี่เข้าไปนั่งพักในบ้านหน่อยละกัน กว่าจะเข้างานก็อีกครึ่งชั่วโมงแหนะ” พี่ดิวส่ายหน้าอย่างกับรู้ว่าเขาต้องการอะไรพลางดับเครื่องรถยนต์แล้วเปิดประตูรถลงไป
ถ้าพี่ดิวเป็นพี่คนเดิมจะไม่กังวลอย่างนี้เลย หรือถ้าตัวเขาไม่รู้อะไรมาก่อนก็คงทำตัวเป็นปกติได้ดีกว่านี้ แต่นี่รู้อยู่แก่ใจว่าพี่ดิวคิดยังไงกับตัวเอง ทั้งยังเรื่องที่เขาเคยทำไว้กับพี่ ถึงจะโดนพี่ดิวสั่งสอนไปแล้วก็เถอะแต่ก็ดูเหมือนว่ารุ่นพี่คนนี้จะยังไม่ลืมซะด้วย
เฮ้อ...แต่พี่ดิวเดินมาเปิดประตูรถให้เขาแล้ว แก้วก็คงไม่ต้องคิดอะไรมากนอกจากลงจากรถแล้วพาพี่ดิวเข้าบ้าน
“นานแล้วนะที่เราไม่ได้กินข้าวด้วยกัน” พี่ดิวชวนคุยเมื่อเขาวางแก้วน้ำไว้ให้ที่โต๊ะตรงหน้า
“เรื่องมันผ่านมาแล้วพี่” เขาตอบแต่สายมองไปหน้าบ้าน ไม่ได้รอใครหรอกรู้อยู่แล้วว่าไอ้พงษ์ไปอย่างนั้นมันไม่กลับมาเร็วแน่
แต่พี่ดิวจะอยู่นี่อีกนานไหม? เขาประหม่าไปหมดแล้ว
“หึ แต่เมื่อกี้เป็นข้าวกลางวันที่กินแล้วพี่มีความสุขที่สุดในรอบเดือน” พี่มีความสุขแต่เขาต้องนั่งมองตึกมองอาคารรอเพราะไม่อยากเจอกับสายตาที่เอาแต่จ้องของพี่น่ะนะ
“ครับ” แต่เอาเถอะอยากคิดยังไงก็ตามสบายเลย
แก้วเดินไปเปิดลิ้นชักหยิบสมุดกับดินสอออกมานั่งที่โซฟาตัวเดียว เขาวาดรูปวางระบบโปรแกรมอะไรไปเรื่อย
“เออ แล้วนี่ไอ้พงษ์กลับมาทำไม?”
“ไม่รู้เหมือนกัน” เขาเงยหน้ามาตอบพี่ดิวก่อนจะก้มหน้าใส่สมุดอีกครั้งแล้วพูดต่อ “แต่เมื่อวานพงษ์มันไปขอขมากระดูก๕xแล้วนะพี่ ต่อไปพี่ก็ไม่ต้องเดือดร้อนอีกแล้ว”
“หืม? ไปขอขมา?” พี่ดิวลุกย้ายมานั่งขอบโซฟาตัวที่แก้วนั่ง ถึงไม่เงยหน้าดูก็รู้สึกได้ว่ากำลังถูกจับตามอง
“ครับ ทางนั้นก็ยอมจบแล้ว อะไรๆคงจะดีขึ้น” เขาก้มหน้าก้มตาอยู่กับกระดาษทำเหมือนไม่รับรู้ว่าพี่ดิวกำลังทำอะไร
“จบเหรอ? หมายถึงว่าดีกันแล้ว?”
“.....................” แก้วพยักหน้าแต่จริงๆอยากจะตอบว่า...มั้ง แต่คิดว่าคงไม่จำเป็น แค่พี่ดิวรู้ว่าเรื่องที่ไอ้พงษ์เคยสร้างแล้วทำให้พี่กับคนในสายต้องเดือดร้อนไปด้วยยุติแล้วก็พอ
“แล้วไอ้ฝิ่น?”
“ครับ?”
“มันจบด้วยรึเปล่า?” เป็นคำถามที่ทำให้แก้วต้องวางดินสอแล้วหันข้างเงยหน้ามองพี่ดิวแบบไม่เต็มสายตาก่อนจะขยับตัวออกห่างจากพี่นิดนึงเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียด ...แต่คงห่างไม่ได้ไกลกว่านี้ “พี่ว่ามันคงจะญาติดีกับไอ้พงษ์ตั้งแต่ยังไม่ไปขอโทษขอโพยล่ะมั้ง”
“เป็นไปไม่ได้หรอกพี่ ถึงเรื่องจะผ่านมาแล้วแต่คนพวกนั้นเขาก็ไม่ลืมง่ายๆหรอก อะไรที่ทำแล้วดีกับทั้งสองฝ่าย ก็ให้มันทำๆไปเถอะ” เขาตอบจริงจัง ถึงแม้จะไม่มีอะไรดีขึ้นเลย อย่างน้อยๆให้ต้นเหตุอย่างเขาและคนกระทำอย่างไอ้พงษ์ได้แสดงความจริงใจและสำนึกผิดต่อหน้าคนตายก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง...ถึงมันจะช้า แต่ก็คงไม่สายไป
“ที่ดีไม่ใช่เพราะมันให้อภัย แต่เป็นเพราะไอ้พงษ์เป็นเพื่อนเมียมันรึเปล่า” พี่ดิวเหยียดแขนวางพาดโซฟามาจับไหล่เขาทำเอาสะดุ้ง
“พี่ดิว!” แต่ดันรู้สึกหน้าชาๆเมื่อพี่ดิวพูดเรื่องจริง เขาเรียกชื่อพี่เสียงห้วนก่อนจะจับแขนพี่ดิวออกแล้วลุกยืน
“โมโห?ไม่ชอบใจ?” พี่ดิวลุกตามยักคิ้วถามอย่างกวนอารมณ์
จะไม่ให้โมโหได้ยังไงในเมื่อกำลังพูดเรื่องที่จริงจังกันอยู่แต่พี่ดิวก็ยังเอาเรื่องนั้นมาพูดประชดเขา
“................” แก้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อการควบคุมอารมณ์ “กลับได้แล้วมั้งพี่ เดี๋ยวเข้างานช้านะ” แล้วพูดกับพี่ดิวดีๆ
“ไล่พี่จังนะ ถามหน่อยเถอะถ้าไม่ใช่พี่วันนี้แก้วจะกลับบ้านยังไง แก้วเองก็รู้ว่าทุกวันนี้เด็กช่างมันตีไม่เลือกหน้า ถ้าไม่ใช่พี่ ป่านนี้แก้วก็คงโดนเล่นงานอีกตามเคย”
“ผมก็ขอบคุณพี่ไปแล้ว” แก้วตอบก่อนจะเลี่ยงพี่ดิวเดินนำออกไปนอกบ้าน
“บางที คนเราก็ไม่ได้ต้องการแค่คำขอบคุณหรอก น้ำใจ...ถ้าทำด้วยใจมันก็อยากได้ใจตอบแทน” พี่พูดเดินตามหลังออกมา “แต่ถ้าทำไปแล้วไม่ได้อะไร ใครเขาจะอยากทำให้ฟรีๆ”
“พี่” แก้วหันขวับตามแรงกระชากกลับไปสบสายตากับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่พี่ดิวมองมาแต่พอหายตกใจเขาก็พยายามดันหน้าอกพี่ดิวออกเมื่อพี่ดึงเอวเขาเข้าไปชิดตัวเองมากขึ้น
“หึ หวงตัวไปทำไมในเมื่อไม่เหลืออะไรไว้ให้หวงแล้ว”
“นั่นมันเรื่องส่วนตัวผมแล้วพี่” แก้วกระชากเสียงพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดแต่พี่ดิวกลับตอบมาด้วยน้ำเสียงสุดแสนจะเย็นเฉียบและสายตาดูถูกดูแคลน
“หึ พี่ไม่น่าถนอมแก้วเลย ไอ้ดีก็บอกแล้วเชียวว่าแก้วชอบอ่อย สงสัยที่เมินพี่คงเพราะพี่สนองเราช้าไปใช่ไหม?”
พี่ดิวโน้มใบหน้าเข้ามาพูดใกล้ในขณะที่เขาเองก็เบี่ยงตัวหลบทั้งที่ยังอยู่ในวงแขนของพี่
“พี่ดิว! เรื่องพี่ดีน่ะมันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดเลยนะ แต่ถ้าวันนี้พี่จะเกลียดผมแล้วก็อยู่ห่างๆกันไปดีกว่า อย่าทำให้ผมรู้สึกแย่กับพี่ไปมากกว่านี้เลย” แก้วหลุดพูดก่อนจะเม้มปากแล้วหรุบตาลงต่ำ
“แย่เหรอ! พี่ทำอะไรให้แก้วรู้สึกแย่นอกจากที่พี่คอยดูแลแก้วเหรอ เหอะ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ”
ทำไมพี่ดิวถึงเป็นคนชอบลำเลิกบุญคุณนักหนานะ แก้วนิ่ง ถอนหายใจให้กับความคิดพี่ดิวแล้วพยายามพูดหาข้ออ้างหวังให้พี่ใจเย็นลง
“ปล่อยผมเถอะพี่ นี่มันหน้าบ้านผมไม่อยากเป็นขี้ปากใคร” ...บางทีเขาคงพูดกับพี่แรงไป
“ปล่อยเหรอ? สงสัยว่างานนี้พี่จะไม่ได้อะไรเลยว่ะ เพราะงั้นพี่คงปล่อยเราไม่ได้” พี่ดิวมองเขาตาเขม็งก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น
แก้วตัวแข็งทื่อ กลั้นหายใจโดยอัตโนมัติด้วยความกลัว...
กลัวจะต้องสัมผัสกับคนอื่น
ไม่ได้... ใกล้กว่านี้ไม่ได้ ลูกผู้ชายถ้าลองได้รักใครไปแล้วเราควรจะซื่อสัตว์กับคนที่เรารักไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง ไม่ว่าคนๆนั้นจะรักเราหรือไม่ก็ตาม ถ้าต้องมาทำอะไรกับคนอื่นแบบเดียวกับที่ทำกับไอ้ฝิ่น...เขาคงต้องกัดลิ้นตัวเองตายตามทันที เพราะนั่นมันเท่ากับการหักหลังหัวใจตัวเองเลยนะ
“ฮื่อ! พี่ดิวผมไม่เล่นด้วยนะ!” แก้วฮึดสู้
ในเมื่อผลักแล้วไม่ยอมถอย ในเมื่อสองมือเขายังว่างแก้วจึงจัดการใช้สองมือนี่แหละบีบคอพี่ดิวอย่างสุดแรง
“อ๊อก แก้ว ...ฮึ่ย เหี้ย!” พี่ดิวปล่อยมือจากการกอดรัดเอวเขาหันมาจับมือทีบีบคออยู่ออกหลังจากที่เขาบีบเพียงครู่
แก้วถอยห่างมองพี่ดิวตาขวาง เมื่อถึงทางตันใครก็ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละเพื่อให้ตัวเองรอด
“กลับไปเลยนะพี่ดิว เป็นไปได้ก็อย่ามาเจอกันอีกเลย ทั้งพี่และพี่ดีผมเข็ดจริงๆว่ะ”
“ทำไม! ทำไมถึงได้รังเกียจพี่”
“ผมไม่ได้รังเกียจพี่” แก้วตอบทันที “ถ้าพี่ไม่ได้คิดกับผมแค่รุ่นน้องพี่ก็น่าจะรู้ว่าผมชอบอะไรไม่ชอบอะไรแต่พี่ทั้งทำทั้งพูดมันตลอดเรื่องที่ผมไม่ชอบน่ะ และการที่ผมปฏิเสธพี่ไม่ใช่เพราะผมรังเกียจหรือไม่ชอบใจ แต่เป็นเพราะ...เพราะผมเลือกแล้ว” ประโยคสุดท้ายแก้วพูดออกไปด้วยเสียงแผ่วเบา ไม่ว่ามันจะผิดหรือถูกอีกสักกี่ครั้ง แต่อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจด้วยตัวเอง
บางทีที่พี่ดิวเปลี่ยนไปคงมาจากเขาทำให้พี่ผิดหวังก่อน เขาพยายามเข้าใจ พยายามเข้าใจทุกคนที่อยู่รอบตัวให้มากขึ้นทั้งยังพร้อมจะให้โอกาสเสมอไม่เพียงแต่เฉพาะพี่ดิว แต่ก็นั่นล่ะสิ่งที่เขาพยายามมันไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นต้องการ ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
“ครับพี่ภู” แก้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกางเกงมารับสาย
“ถ้าพี่หมดความมั่นใจเมื่อไหร่ บีบคอก็บีบคอเถอะ เหอะ!” พี่ดิวทิ้งแววตาเคืองโกรธปนสั่นไหวมาที่เขาก่อนจะเดินออกจากบ้านไป
เหมือนพี่จะเข้าใจ
แต่...ก็แค่เหมือน
“อยู่กับใคร?” พี่ภูเอ่ยถามมาตามสัญญาณโทรศัพท์เมื่อพี่ดิวพูดจบ
“พี่ดิวครับ แต่กลับไปแล้ว” เขาตอบพี่ภูแล้วเดินเข้าบ้านอย่างเหนื่อยใจ
แววตาเอาเรื่องของพี่ดิวไม่ได้ดูลดน้อยลงเลย ในคำพูดทิ้งท้ายบ่งบอกว่าต่อให้เขาต่อต้านแต่ถ้าพี่ดิวจะทำอะไรขึ้นมาอีกก็คงทำได้ทุกเมื่อ คงไม่ใช่แค่เกรงใจที่พี่ภูโทรมาแน่
“อืมๆดีแล้ว เออไอ้พงษ์กลับมาแล้วเหรอ?”
“ครับ รู้ได้ไง”
“มีคนเห็นอยู่กับนัง... เออ ผู้หญิงคนนั้น บอกมันด้วยว่าต้องการเจอตัว” พี่ภูเลี่ยงที่จะบอกชื่อผู้หญิง แต่เขาก็รู้แล้วล่ะ
“เมื่อไหร่พี่”
“วันศุกร์นะ ไปดื่มกัน”
“ครับๆแล้วเจอกัน” เขาไม่ต้องรอถามไอ้พงษ์แต่เขาต้องรับปากพี่ภูในทันที
.
.
.
“เป็นไปไม่ได้” พงษ์เอ่ยค้านหลังแก้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่ดิวเมื่อตอนเที่ยงให้ฟัง
“ถ้าคิดว่าโกหกต่อไปจะไม่พูดอะไรให้ฟังแล้ว” แก้วชักสีหน้าใส่ทั้งยังลุกยืนมองหน้าพงษ์อย่างจริงจัง
นึกอยู่แล้วว่าพี่ดิวในอุดมคติของมันไม่มีวันเป็นอย่างที่เขาเล่าได้หรอก
นี่ถ้าบอกเรื่องพี่ดีมันยิ่งไม่เชื่อใหญ่ ทำไมวะ คนในตำนานคิดจะปล้ำผู้ชายไม่ได้รึไง? ถึงจะเพิ่งเคยพบเคยเจอก็เถอะ แต่พูดออกไปไอ้แก้วได้เป็นคนชอบกุเรื่องอีกแน่
“กูรู้ว่ามึงรำคาญที่มันชอบทำเป็นวุ่นวายกับเราอยู่ตลอด แต่ยังไงไอ้พี่ดิวมันก็ข้างเดียวกับเรานะเว้ย มึงอย่ามองมันในแง่ร้ายไปหน่อยเลย”
“ฮึ!” แก้วย่นจมูกใส่อย่างขัดใจแล้วเดินเข้าห้องนอน
“โอเคมันเลว แต่มึงอย่ามีอคติกับมัน แค่นั้น จบ” ไอ้พงษ์พูดเดินตามหลังมา
“มึงก็อย่าให้กูไปไหนมาไหนกับพี่ดิวอีก” แก้วหันไปยืดคอเถียง ทำให้พงษ์ชะงักอยู่หน้าประตูห้อง
นับวันพี่ดิวยิ่งอันตรายเปิดเผย เขาเบื่อชีวิตกระเด็นกระดอนเต็มที จบจาก๕xได้ก็อยากกลับไปเดินตามทางเรียบๆเหมือนเดิมแล้ว!
“ถ้าไม่จำเป็น” เฮอะ? มันกอดอกตอบพลางหันหน้าไปทางอื่น
“ถ้าบังคับกูมากๆนะกูจะ....”
“ทำไม?” ไอ้พงษ์พูดขัดหันมาจ้องตา “เดี๋ยวนี้ขัดใจไม่ได้? ตั้งแต่หลงไอ้ฝิ่นนี่พงษ์พูดอะไรไม่ได้แล้วใช่ไหม?”
“อะ อะไร?”
“พงษ์สั่ง! ต่อไปห้ามติดต่อ ห้ามไปเจอ ห้ามคิดถึงมัน ที่ผ่านมาพงษ์ไม่สนใจหรอกนะว่าไปหลงกันอิท่าไหน แต่พงษ์รู้ดีว่าอะไรที่แก้วควรทำและไม่ควร เพราะฉะนั้น ทำตามที่พงษ์บอกด้วย”
“อะไรของมึง? ไปอารมณ์เสียอะไรมาก็อย่ามาลงที่กูสิ” เขาต่อว่ามันจากรับฟังคำพูดเสียงดังของเจ้าตัว
“...................” พงษ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินเข้ามาจับสองไหล่แก้ว “ขอโทษถ้าพูดแรงไป กูไม่ได้บังคับมึงนะ แต่ไอ้เหี้ยนั่นมันไม่มีทางรักมึงหรอก ถ้ามึงตัดมันได้ มึงจะไม่เสียใจเลย”
แก้วมองหน้าพงษ์ด้วยเครื่องหมายคำถามเต็มหัว ในขณะที่พงษ์มองมาอย่างจริงจังและมั่นคงในคำพูด
“มึงก็รู้แล้วว่ากูรักมัน กูรัก...กูก็อยากอยู่ใกล้มัน แต่นี่กูเลือกมึงที่ไอ้ฝิ่นมันไม่มีทางญาติดีด้วย ...แค่ให้ใจกูได้คิดถึงคนที่รักบ้างก็ไม่ได้เลยเหรอ ยังจะให้กูฝืนใจตัวเองอีกเหรอ” แค่ทุกวันนี้ไม่เอ่ยถึงมันก็หนักๆในใจตลอดแล้ว แต่พงษ์ก็ยังไม่พอใจใช่ไหม?
“แรกๆก็ต้องใช้เวลาอย่างนี้แหละ” อันนี้เขารู้...เมื่อครั้งที่ออกนอกสายตาคนในครอบครัว พงษ์ก็บอกเขาประโยคนี้ “ที่สำคัญ กูอยู่นี่แล้วมึงก็ไม่จำเป็นต้องมีมันแล้ว ใช่ไหม?”
“...มันไม่เหมือนกัน” แก้วพูดเสียงอ่อย เอามือพงษ์มาจับไว้พลางก้มมองดูหน้ามือ หลังมือของพงษ์คล้ายกำลังหาข้อแตกต่าง
“ไม่เหมือนยังไงวะ หรือว่ามึงไม่รักกู? ...ตอนนี้มึงน่ะเอนเอียงไปทางมันเองมากกว่า อย่าว่าแต่พี่ดิวเลยที่คิดไม่ดีกับมึงต่อไปก็คงจะเป็นกูนี่ เพราะกูวุ่นวายกับชีวิตมึงมากกว่าใครทั้งหมด!” ดูมันพูดเข้า
เขารู้ว่าพงษ์กลัวเขาเสียใจ ไม่อยากให้เขาเป็นคนไร้ค่าในสายตาคนอื่น แต่เขาชินกับสิ่งเหล่านั้นหมดแล้ว อีกสักครั้งจะเป็นไรไป และพงษ์คงไม่รู้ว่าไอ้ฝิ่นมันให้เขารักได้ เพียงคำสั่งที่เอาแต่ใจของมันในยามที่เขากำลังอ่อนเรี่ยวแรง พงษ์ไม่รู้หรอกว่า มันทำให้เขามีพละกำลังเพิ่มขึ้นมาอย่างมหาศาลเชียวล่ะ
“มึงไม่อยากให้กูรักไอ้ฝิ่น หรือมึงกำลังน้อยใจ?”
“กูเนี่ยะน้อยใจ? ไม่ได้แต๋วขนาดนั้น” ถ้ามึงไม่น้อยใจแต่ไม่พอใจกูก็คงทำอะไรไม่ได้ “มึงเลือกอยู่กับกู กูที่เป็นทุกอย่างของมึง แต่หัวใจมึงอยู่ที่มัน มึงเลยไม่สนจะฟังกูแล้วสิ”
“ขนาดที่ว่ากูเลือกมึงมากกว่าหัวใจตัวเองน่ะเหรอ” แก้วตั้งคำถามให้พงษ์ได้คิดบ้าง
บางทีสิ่งที่ทำกับสิ่งที่คิดอาจเดินสวนทางกันบ้าง
เขาเดินจากไอ้ฝิ่นแต่ใจอยากอยู่กับมันถึงมันจะขับไล่ไสส่งยังไงก็ยังตามนั้น
ถึงที่ผ่านมา เขาจะคิดเข้าข้างตัวเองซะส่วนใหญ่ แต่ใครหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เรารู้สึกเป็นสุขได้ ก็อยากจะยึดติดมันไว้เป็นธรรมดาไม่ใช่หรือ
“มึงอย่ามาทำท่าอ้อนแอ้นใส่กูนะ ...ไม่รู้ล่ะ อยากจะรักชอบผู้ชายกูก็ไม่ว่าอะไรแต่กูไม่สนับสนุนกับคนนี้ ศัตรูก็คือศัตรูวันยังค่ำ คนที่คิดจะทำร้ายเราไม่ใช่คนที่เราสมควรรัก!”
นั่นกูคิดเองได้ตั้งแต่วันแรกๆแล้ว
“แต่รักก็คือรักมึงไม่เข้าใจหรอก คนที่ใช้ความรักฟุ่มเฟือยอย่างมึง ไม่มีวันเข้าใจ” แก้วตอบด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงๆแล้วยื่นมือไปจับลูกบิดประตูแต่พงษ์ตีมือเขาทันที
แก้วไม่อยากคุยกับพงษ์แล้ว ในเมื่อจะปิดประตูไล่แต่ไอ้คนใจร้ายรู้ทันเขาก่อนแก้วจึงหันหน้าเดินเข้าห้องแล้วกระโดดขึ้นเตียง
นอนคว่ำหน้ากับหมอนใส่เลยด้วย
“เฮ้อ ตัวเล็กอย่างอนสิวะ”
“...............................” เตียงนอนยุบฮวบพร้อมกับเสียงถอนหายใจและข้อหาที่มันว่าเขา แต่เขาไม่สนจะตอบหรอก
“มันตั้งใจทำให้มึงรักมันเพื่อจะได้ทำร้ายกู แต่มันไม่สนใจมึงเลยด้วยซ้ำ แล้วมึงไม่รู้หรอกว่ามันเอามึงไปพูดลับหลังยังไงบ้าง ...กูให้มึงโตมาอย่างลูกผู้ชาย งานอะไรนิสัยอะไรของผู้หญิงกูไม่เคยให้มึงเฉียด แต่กลับโดนไอ้เหี้ยที่ไหนเอาไปพูดว่าได้มึงเป็นเมีย หึ ไม่ใช่สิ ที่ระบายความใคร่ถึงจะถูก พูดแล้วแม่งเจ็บใจเหี้ยๆ เป็นอย่างนี้มึงยังจะดื้อตื้อจะรักมันอยู่ไหม?”
...
ไอ้ฝิ่นไม่ใช่คนอย่างนั้น
...
มันไม่มีทางเอาเรื่องอย่างนั้นไปพูดให้ใครฟังหรอก
“ใคร...บอกมึง” แก้วถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่น และเบาหวิวอย่างกับหัวใจตัวเองในนาทีนี้
“มิว”
...
แต่คงยกเว้นผู้หญิงของมันสินะ ผู้หญิงที่เขาพยายามมองข้าม
“ทุกอย่างมันคือการหลอกลวง ยอมรับความจริงแล้วเชื่อพงษ์นะ” ฝ่ามืออุ่นลูบศีรษะอย่างปลอบโยน
“แต่...” ความรักที่มันผูกรั้งเขาไว้ล่ะ มันคืออะไร? “โง่เนอะ” เขาลุกนั่งหันไปพูดบอกพงษ์ด้วยมีน้ำใสๆกำลังคลอเบ้าตา
“คนโง่และคนอ่อนแออยู่บนโลกนี้ไม่ได้หรอกนะ” พงษ์พูดและเอามือมาเช็ดน้ำตาให้ “อย่าร้อง กูรู้ว่ามึงเจ็บปวด แต่ขอให้มึงเจ็บแค่วันนี้วันเดียว”
เจ็บวันเดียวจริงๆเหรอ
แล้วใจล่ะ...ใจแหว่งๆของเขาควรจะเลือกไปทางไหน
เชื่อไอ้ฝิ่น เชื่อตัวเอง หรือเชื่อไอ้พงษ์
................................
ไม่พูดเรื่องนิยาย ฮ่าๆๆ
คุณยาย(แม่เจ้านาย)เสียเมื่ออาทิตย์ก่อนค่ะ พองานศพคุณยายเสร็จเจ้านายก็ป่วยนอนโรงพยาบาลคืนนี้เป็นคืนที่สองแล้ว ก็เลยรัดตัวทั้งงานศพ เสร็จจากงานศพก็มาดูแลเจ้านาย บัญชีลูกค้าก็ยังไม่เสร็จ เมื่อยตัวมาก
มีน้องบอกว่าเราเขียนเสื้อฉ็อปผิด จริงๆต้องเป็นช็อป แต่เอ่อ แก้ไม่ทันละอยู่ตอนไหนบ้างก็ไม่รู้ ถ้าเกิดว่าเจอซีซั่นเขียนคำไหนผิดบอกกันได้เลยนะคะ โดนประณามเลย Y^Y เอิ๊กกกก
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ^^กอดๆจุ๊บ
-
แวะมาจิ้ม :z13:
-
แก้วอย่าเชื่อคนง่ายนะ ไอ้พี่ดิวนี่ก็เหลือเกินเค้าไม่ชอบก็ตื้ออยู่ได้อ่ะ รำคาญพงษ์ด้วย
-
อ้าว~~~~~~
ตกลง นี่พงษ์เชื่ออิน้องมิวเหรอ
ตอนแรกนึกว่าพงษ์ไม่สนใจ
ยังจะเก็บมาคิด แล้วเอามาด่าน้องแก้วอีก
พงษ์บ้าว่ะ
ชิส์~
-
แวะมาจิ้ม :z13:
....อุ่ย!! ออนอยู่เหรอตัวเอง ไวมาก ฮ่าๆๆๆ กอดก่อนนอน
-
:serius2: :serius2: :serius2:
หนักใจแทนแก้วเหลือเกิน นั่นก็เพื่อนที่เหมือนเป็นพ่อ (เอ๊ยพี่) นี่ก็คนรัก แ้ล้วแต่ละคนแรง ๆ ทั้งนั้น
แต่เข้าใจพงษ์นะ พงษ์ก็รักก็ห่วงของพงษ์แหละ...แต่อิพี่ดิวนี่แบบ ชริๆๆ ชั้นไม่ไหวจะเคลียร์กับเธอ unlike อ่ะ
ผู้ชายคนนี้น่าเบื่อไม่ทน ชิชะ...ตอนหน้าได้เจอฝิ่นมั้ยคะ แอบคิดถึงเล็ก ๆ
ขอบคุณค่ะ
-
ชัดเจนได้แร้วน่ะฝิ่น
-
เรื่องนี้อ่านกี่ทีๆ ก็มีปมให้ต้องรู้สึกอยากมาติดตามอ่านตอนต่อไปทุกทีเลย
รออ่านมาหลายวันแล้ว นึกว่าจะไม่ได้มาอ่านก่อนไปเสม็ดแล้วซะอีก ^0^
-
ฝิ่นหายหัวไปอยู่ที่ไหน จะลงแดงละเนี่ย มาหาแก้วเซ่
-
นิยายเรื่องนี้เหมือนอยู่ในสนามรบ
อยู่ในศึกรบ และศึกรัก
เง้อ ทำอย่างอื่นกันบ้างไหมเด็กๆ
-
อ่านแล้วปวดใจนะเนี่ย
-
ทำไมใคร ๆ แย่งกันเป็นตัวร้ายกันนักนะ
สงสารแก้ว จะหันหน้าไปทางไหนได้
อิฝิ่นถ้ายังอยากเป็นพระเอกอยู่ละก็ โผล่หัวออกมาได้แล้ว
-
มิวนี่ก็เหลือเกิน
ตกลงอยากได้ใคร ฝิ่นกับพงษ์
หรือยังเลือกไม่ได้เลยทำแบบนี้ :angry2: :angry2: :angry2:
หรือเกลียดแก้ว :z6:
-
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
:เฮ้อ: สงสารแก้ว ปัญหารุมเร้า
-
ฝิ่นก็ไม่ชัดเจน ทำให้แก้วไม่มั่นใจ สงสารแก้ว
-
เมื่อไหร่ฝิ่นกับแก้วจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันอีกนะ
สงสารแก้ว ร้องไห้เยอะ เครียดมากๆ เดี๋ยวอาการกำเริบ :เฮ้อ:
-
แก้วมาเชื่อเจ๊นี่ ไปตบยัยมิวซะ แล้วไปหักคอไอ้พี่ดิวต่อเลยเธอ
อย่าเชื่อคนง่ายนะรู้มั้ย หืมมม :L2:
-
เชื่อตัวเอง...
-
:L2: :L2: :L2:มารอตอนต่อไปครับ
-
ไปเชื่ออะไรกะมิว :beat:
-
พงษ์เรื่องบางเรื่องให้แก้วตัดสินใจด้วยตัวเองจะดีกว่านะ เพราะพงษ์ฺไม่ได้อยู่กับแก้วตลอด สิ่งที่ดิวกับพี่ของดิวทำกับแก้ว พงษ์ไม่ได้พบไม่ได้เห็น สิ่งที่ฝิ่นทำให้แก้ว พงษ์ก็ไม่ได้รับรู้ พงษ์อย่ามาคิดแทนแก้วเลย คิดเรื่องของตัวเองจะดีกว่าไหมพงษ์
-
เหนื่อยจิตเหนื่อยใจ ทำไมมันเป็นอย่างนี้ล่ะแก้ว :เฮ้อ:
-
โอ้ยยยยยยยยย
เครียดจริงๆ...><
ทำไมพงษ์เป็นคนแบบนี้นะ
ไม่มีเหตุผลเลย
เอาแต่ความคิดตัวเอง
ไม่คิดถึงแก้วบ้างเลย
ถ้ากลับมาแล้วเป็นแบบนี้ก็อย่ามาซะดีกว่า
บอกตามตรงว่าตอนนี้...ไม่ชอบพงษ์มากๆ
คิดว่าตัวเองคิดถูก ทำถูก ดีกว่าคนอื่นหรือไง
ยังงี้ตอนแก้วอยู่กับฝิ่นยังดูมีความสุขมากกว่าซะอีก
ฝิ่นรีบกลับมารับแก้วไปเร็วๆสิ...>O<
-
คนพวกนี้นี่อะไร ....... ปากก็บอกว่ารักแก้ว
แต่มองไปรอบด้าน สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ คือ ทุกคนเอาแต่บีบคั้นแก้วด้วยเหตุผลของตัวเอง
แล้วเหตุผลของแก้วล่ะ จะด้วยอะไรก็ช่างสินะ !!
เคยคิดจะใส่ใจกันบ้างรึเปล่า ?
ล่าสุดนี่ก็พงษ์ เจอแบบนี้หนักๆเข้า แก้วบางๆที่ร้าวอยู่แล้ว คงไม่แคล้วระเบิดและแตกสลายไปในที่สุด
ไม่เจ็บไม่สำนึกกันสินะ ก็ดี คนอ่านจะได้รอสมน้ำหน้า
:L2: รัก เพราะ ทิฐิ ฝืนจิต จำต้องร้าย
:L2: รัก เพราะ ผูกพันธ์ ฝืนร้าย จำต้อง รั้ง
:L2: รัก เพราะ ปรารถนา ฝืนรั้ง จำต้องทำลาย
:L2: รัก คือ รัก คิดมากไปทำไม ??
กริ้วแล้วนะ เดี๋ยวแม่ตบเรียงตัว :angry2: :angry2:
-
พงษ์แม่งจะโง่อะไรนักหนาวะ ทำไมไม่เชื่อเพื่อน
ไอ้ดิวแม่งจะปล้ำเพื่อนมึงอยู่แล้วนะ ฟายเอ้ยยยย :fire: :fire:
ขอบคุณมากจ้าาา :กอด1: :กอด1:
-
พงษ์แม่งโง่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
:เฮ้อ: เริ่มรำคาญพงษ์มากอะ
-
อ่านตอนนี้แล้วผมฟุ้งซ่านแฮะ
พงษ์-แก้ว พงษ์-แก้ว
อ๊าก เขินนน :-[
-
เราคิดว่าพงษ์จะฉลาดกว่านี้
แก้ว..ถ้าจะรักต้องอย่าหูเบานะ
-
คนโง่ก็ต้องเป็นเหยื่อ
คนฉลาดอย่างอีมิวสิดี
-
พงษ์ ฉลาดหน่อย
เฮ้อออ สงสารแก้วจัง
แต่ละคน ไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเองเลย :เฮ้อ:
:call: :call: :call: :call: :call:
-
นับวันน้องแก้วเริ่มจะกดดันมากขึ้น
พงษ์นี้ก็พูดอะไรง่ายๆคิดอะไรง่ายๆนะ
เป็นเพราะพงษ์ยังไม่เคยรักใคนหรือเปล่า
เลยไม่เข้าใจความรู้สึกที่แก้วเป็นอยู่ตอนนี้
เพียงแค่คิดว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วจะตัดใจได้
มันก็คงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
แล้วยิ่งฝิ่นเองก็ไม่ได้คิดจะปล่อยแก้วด้วย
มิวเธอก็ปากมากไปนะ คืออยากรู้ว่า
ฝิ่นเล่าเรื่องแก้วให้มิวฟัง หรือมิวเอาเรื่องที่รู้
มาปะติปะต่อแล้วมาเล่าให้พงษ์ฟังเอง
พี่ซีซั่นไม่อยากเห็นน้องแก้วเป็นแบบนี้เลย
มันเหมือนถูกกดกันทั้งความคิดความรู้สึก
แล้วก็พูดให้ใครฟังก็ไม่ได้
ให้น้องแก้วหนีไปอยู่กับพี่ฝิ่นสองคนได้มั้ยยยยยย
:o12:
บวกเป็ด พร้อม :กอด1: พี่ซีซั่นค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
-
เกลียดอิพงษื ไปตายซ้าาาาาาาาาาา
หูเบาพ่องงงงงง
ไม่ใช่เคยจะรู้อะไร เสือกมาเป่าหูมายัดเยียดให้แก้วอีก
ทั้งอิพี่ดิว ทั้งเรื่องฝิ่น
ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกส์
ตายซ้าาาาาาาาาา!!!!!!
-
ฝิ่นแกรีบๆเลยนะ มารเยอะจริงๆ :serius2:
-
เป็นแก้วก็ลำบาก ปัญหามากมาย เชื่อใครไม่ได้เลยอ่ะ
-
มาต่ออีกไวไวนะครับ รอรอรอรอรอ
-
สงสารแก้วที่สุดเลย :m15:
-
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
ถ้าเป็นแก้วนะ
จะพูดว่า " พวก
มึงอย่ามายุ่งกับ
กูเลย " :z3:
-
เครียดมาทั้งตอน มาฮาตอนทอล์ค 555
เห็นใจพี่ดิวนะ พี่แกไม่เข้าใจว่าจะทำไง อารมณ์คนสมัยนี้ รักแฟนมาก แต่แฟนไปมีคนอื่น ฆ่าแฟนเลย อารมณ์ว่าเราไม่ได้คนอื่นก็ไม่ได้ -*-
ส่วนพงษ์ก็คงหวังดี เป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรเล้ยยยยยยยยย พี่ภูเอามันไปเคลียร์ด่วน!
ส่วนสาวมิว อย่าให้ฝิ่นรู้นะว่าพูดอะไร ประเดี๋ยวจะโดนมีดเฉาะ 555
สู้ๆน้องแก้ว สู้ๆเจ๊ซี ><Q
-
โอ้ย อึดอัดๆๆ
อ่านเรื่องนี้แล้วชอบเก็บไปคิดเปงวันๆๆ
รออ่านรวดเดียวดีไหมเนี่ย
ปล.คนแต่งซาดิส แต่คนอ่านก้อชอบ
:laugh: :laugh: :laugh:
-
อ่านในมือถือไปแล้วแต่ขอแวะมาจิ้มหน่อยค่า
:z13: :z13:
-
รำคาญพงษ์ให้ฝิ่นมาจัดการสักทีเถอะ
แก้วเชื่อใจตัวเองนะลูก
ปล.อยากกระทืบไอ้พี่ดิว
-
พงษ์เหมือนพี่ใหญ่อ่ะ ไม่ชวนจิ้นเลย ฮ่าๆๆๆ
ยกเว้นแต่สาย incest นะ
-
พงษ์จะไม่คิดอะไรกับแก้วเกินเพื่อนเลยหรอ? T T
เป็นไปไม่ได้น่าาาาาาาาา
เป็นกำลังใจให้อยู่นะคะ สู้ๆ
-
รอว่าพี่ภูจะช่วยแหกตาแหกสมองอิพงษ์ได้บ้างหรือเปล่า
:pig4:
-
สงสารแก้วจัง
-
พงษ์แกไปเชื่อนางมิวมันทำไม
ดิวมันคิดจะทำอะไรแก้วอีก
เมื่อไหร่แก้วจะมีความสุขกับเขาสักที
+ 1 นะคะ
-
^^
-
อ้อมกอดเด็กช่างตอนที่ ๔๑
“จะได้เวลากลับบ้านแล้วนี่มึงยังแยกอะไหล่ไม่เสร็จอีกเหรอ ไอ้โจ้!” พี่ไม้เดินหัวเสียมาต่อว่าไอ้โจ้ที่ทำหน้าเบื่อโลกใส่กล่องอะไหล่รถยนต์
“โถ่พี่ นี่มันน่าเบื่อจะตาย ตาจะปิดแล้วด้วย”
“ทำๆไปเถอะ เอาในกล่องให้เสร็จนะวันนี้” พี่ยืนเท้าสะเอวสั่ง ในขณะที่เขานั่งชันเข่าดูดบุหรี่อยู่บนม้าหินอ่อนใกล้ๆรุ่นน้อง
“ครับ” มันรับคำพี่ไม้ตาละห้อย “...นี่ถ้าไอ้แก้วอยู่คงดี ผมจะได้ไม่ต้องมาทำหน้าที่นี้ เออ พูดแล้วก็คิดถึงมันเนอะพี่ฝิ่น”
แค่กๆ เหี้ย! ไอ้โจ้หันมาพูดกับเขาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“คิดถึงเหี้ยมึงสิ!” ฝิ่นสำลักควันบุหรี่ก่อนจะตวาดไอ้รุ่นน้องเวรแล้วหยิบเสื้อช็อปพาดบ่าเดินออกจากตรงนี้
เขากำลังหาทางจะเอาตัวแก้วกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม แต่จะเอามันมายังไง ไล่มันไปเองแล้วมันก็เสือกไป แถมไปอยู่กับไอ้เหี้ยพงษ์ จะให้เข้าไปขอตัวไอ้แก้วกลับมาอย่างญาติดีนั่นน่ะไม่มีทาง
ให้ไปดักฉุดง่ายกว่าไหม แต่ติดตรงที่...อยากให้มันเดินมาหาเขาเองคงจะสะใจกว่าว่ะ
อืม...ทำยังไงให้ไอ้แก้วเห็นว่าเขาสำคัญกับมันวะ เอาให้ไอ้เหี้ยพงษ์ชักกระตุกเล่นๆเป็นออเดิฟ แถมต้องได้ตัวไอ้แก้วกลับมาด้วย
“เหี้ย ตกใจหมด” ฝิ่นอุทานทั้งปากยังคาบบุหรี่ไว้อยู่แล้วหันกลับไปมองคนที่เดินมาจับไหล่อย่างเงียบๆ
“ขวัญเอ้ยขวัญมา” พี่ไม้ทำหน้าทำตาพูดจายียวนพลางลูบหลังเขา
“พูดถึงขวัญ เดี๋ยวขวัญก็มา” เขาคีบมวนบุหรี่ออกจากปาก จะได้ต่อปากต่อคำกับพี่สะดวกขึ้น จากมือที่ทำเป็นลูบหลังเรียกขวัญจึงเปลี่ยนมาตบกะโหลกเขาแทน
“เงียบเถอะ ยิ่งเหี้ยนกว่าผีอยู่” พี่ไม้พูดทำท่าทำทางขนลุกไปด้วย หึ พี่เอ้ย งานนี้ตัวใครตัวมันเถอะ ช่วยได้อย่างเดียวคือซ้อมมันให้ตายเท่านั้นล่ะถึงจะเลิกยุ่งกับพี่ได้
“ว่าแต่มีอะไรรึเปล่า?” ฝิ่นเปลี่ยนเรื่อง เดินไปหาที่นั่งคุยดีๆหน้าอู่
“มึงยังนับถือกูอยู่ไหม?”
“เฮ้ย ถามอะไรอย่างนั้น” เขาทิ้งก้นบุหรี่พลางใช้ปลายรองเท้าขยี้ให้ไฟดับเพราะดูแล้วพี่กำลังเข้าเรื่องจริงจังแน่
“ตอนแรกกูกะจะเล่นงานมันสักหน่อยถ้าได้เจอตัว แต่กูก็ต้องกลับคำเพราะมึง” พี่ไม้นั่งลงข้างๆ
“เกี่ยวอะไรกับผมวะ”
“หรือมึงทำร้ายมันได้ ...กูถึงได้บอกว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้แก้วไง อย่าไปใกล้ชิดกับมัน มึงก็ไม่เคยเชื่อกูเลย” ก็ใครแม่งจะรู้ว่าพออยู่กันไปแล้วความคิดจะเปลี่ยนวะ
“...ถึงเป็นเรื่องที่ผมใจร้อนทำให้ตัดสินใจพลาด แต่ผมก็ไม่เสียดายเวลาว่ะพี่”
“คิดว่าได้มาแล้วคุ้มไหมล่ะ” พี่ไม้ทับถม
แน่นอนพวกเราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้กันฟังทุกเรื่อง แต่กลับสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของอีกคน
ขอบคุณว่ะพี่ นอกจากไอ้เป้งก็มีพี่นี่แหละที่มองตาแล้วรู้ใจกัน
“พี่ยอมจบเพราะผม แต่ผมทำใจไม่ได้”
“ฝิ่นมึงอย่ายึดติดเลยว่ะ มึงคิดว่ารักคืออะไร ยิ่งใหญ่ขนาดมึงจะรั้งเขาไว้ด้วยการทรมานใจกันเนี่ยนะ? มึงอย่าลืมมองอีกด้าน ความรักน่ะมันเป็นอะไรที่เปราะบางมาก รักได้ก็เลิกรักได้ตัดง่ายกว่าการผูกพันซะอีก ไม่มีใครสนุกกับการทุกข์ใจได้นานหรอกนะ”
รู้แล้ว
“แต่ใจผม...”
“โอกาส ไม่ได้มีบ่อยๆหรอกนะ ถ้ามันเหลือเฟือขนาดนั้นเขาก็คงไม่เรียกว่าโอกาส ...กูให้พวกมึงแล้วนะไป จัดการกันเอาเอง แค่อย่าเอาคนอื่นมาเป็นประเด็น เชื่อกูบ้าง”
“ขอผมเล่นงานมันก่อนได้ไหม ไม่งั้นผมคงลงแดงตาย เห็นหน้ามันผมก็เห็นความเจ็บปวดของไอ้เป้งซ้อนทับจริงๆว่ะพี่ ผมรับไม่ไหวถ้าจะต้องมาดีกันเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง”
“ตกลงคือมึงไม่จบ?” พี่ไม้ลุกยืนค้ำหัวเขา
“แต่คนของผมก็ยังเป็นของผมวันยังค่ำ”
“ทะนงตัวเข้าไปเถอะ”
อย่ากังวลว่าเขาจะเสียไอ้แก้วไปเลย โอกาสของพี่เขาก็อยากรับไว้ แต่เขาก็อยากให้พี่รู้เหมือนกันว่าบางครั้ง ...โอกาสก็ไม่จำเป็น
ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่ที่เราเชื่อมั่นในตัวเองมากน้อยแค่ไหนว่ะพี่
เขาจะต้องเล่นงานไอ้พงษ์ และเอาไอ้แก้วกลับมาให้ได้ เขาสามารถทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกันได้ พี่คอยดูแล้วกัน
“ผมรับปากไอ้เป้งไว้แล้ว ขอให้พี่เข้าใจผมด้วย” พี่ไม้ลุกขึ้นยืนส่ายหน้าให้แล้วเดินออกไปหาลูกค้าเมื่อพ่อกวักมือเรียกตัว
.
.
.
“.............................” แก้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่เอามือวางไว้เหนือศีรษะตน
“มีอะไรภู?” พงษ์ไม่ได้พูดอะไรนอกจากนั่งลงข้างๆแล้วหันไปสนใจไอ้ภูที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“เป็นอะไร?” ไอ้ภูกลับถามไอ้แก้วแทนที่จะตอบเขาก่อน
คนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆส่ายหน้าพลางยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบเลี่ยงจะตอบ
ก็เห็นใจอยู่ไม่ใช่ว่าอยากปล่อยให้อมทุกข์อยู่อย่างนี้ แต่ถ้าไม่ออกปากพูดมันก็จะไม่ยอมหันกลับมามองตัวเองสักที
ไม่ต้องไปฟังใครเป่าหูแค่ดูก็รู้แล้วว่าไอ้เหี้ยฝิ่นมันต้องการอะไร ของมันชัดเจนอยู่แล้ว ในเมื่อรู้แล้วก็ตามใจแก้วอีกไม่ได้หรอกนะ เนื้อร้ายเก็บไว้ใช้เยียวยาอะไรได้บ้าง นอกจากยิ่งเก็บ ยิ่งหลอกตัวเองไปวันๆก็จะยิ่งทำร้ายตัวเองมากยิ่งขึ้น ถึงเวลา เมื่อควรตัดก็ต้องตัด จะหาว่าเผด็จการก็เอาเถอะ แต่ถ้าไม่เริ่มวันนี้แล้วเมื่อไหร่มันจะลืมได้ ทนหน่อยนะ...
“ทะเลาะกันมา” พงษ์บอกภูรัก
“เปล่าทะเลาะเถอะ” ไอ้แก้วพูดสวนแต่ตายังจ้องที่แก้วเบียร์บนโต๊ะ ผ่านมาตั้งหลายวันทำไมยังทำใจไม่ได้วะ
“เออๆช่างพวกมึงเถอะ แล้วนี่มึงกลับมาทำไม” ไอ้ภูขี้รำคาญจึงปัดชวนคุยเรื่องอื่น
“ตอนแรกก็เป็นห่วงมัน แต่พอมาแล้วดันเกิดเรื่องเยอะแยะว่ะ”
“อืม...รู้แล้วเหรอ”
“นี่มึงรู้? แต่มึงไม่ห้ามมันเนี่ยนะ!” พงษ์ขึ้นเสียงใส่เพื่อนจนไอ้คนที่นั่งข้างมันหันมาถลึงตาใส่
“เบาๆเหี้ย” แต่ไอ้แสนคนที่ติดสอยห้อยตามลูกพี่มันมาออกปากปรามเขาแทน... เสียงเพลงมันดังนี่หว่า
“กูก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรร้ายแรง ไอ้แก้วก็อยู่ดีกินดี อีกอย่าง พูดอย่างกับน้องมึงห้ามได้”
“เฮ้อ เวรกรรมแล้วมึงก็ว่าแต่กูตามใจมัน มึงเองน่ะโคตรตามใจโคตรสนับสนุนกันทุกเรื่อง แต่กูขอได้ไหมวะ คิดก่อนว่าอะไรปล่อยได้อะไรไม่ควรปล่อย”
“ครับ...เชิญมึงคิดมากไปคนเดียวเถอะ” มันตอบอย่างไม่ใส่ใจไอ้ประโยคยาวเหยียดของเขาเลย “แก้วไปยืดแข้งยืดขากัน” แล้วลุกยืนโน้มตัวข้ามโต๊ะมาดึงแขนไอ้แก้วให้ลุกตาม
ช่างไม่ดูหน้าหงอยๆของไอ้ตัวเล็กเลย ...พงษ์ส่ายหน้ากับพฤติกรรมไอ้ภู เพราะมีตัวอย่างไม่ดีแบบนี้ไงไอ้แก้วถึงได้ดื้อด้านตาม
ไอ้แสนรีบชงเหล้าให้ลูกพี่มันก่อนจะลุกลี้ลุกลนวิ่งตามไอ้สองคนไปที่ฟลอร์ด้านล่าง
ดนตรีจังหวะแดนซ์ชวนโยกทำให้พงษ์โยกหัวตามแถมยักคิ้วกวนเบื้องล่างไอ้คนขี้เก๊กตรงหน้าด้วย
มลภาวะจริงๆ เพื่อนเขาจะคุยกันเสือกมานั่งขัดบรรยากาศ
“สบายใจจริงนะทำให้เพื่อนซวยได้”
“หืม?” แม่งขัดอารมณ์กูจริงๆ
“หรือมึงจะสอนเพื่อนให้โตด้วยวิธีให้เรียนรู้วิบากกรรมเอาเอง”
“มึงมีปัญหาอะไร?” พงษ์วางแก้วเบียร์แล้วยกขาไขว้ห้างเอนหลังพิงพนักโซฟาพลางกอดอกมองหน้าโซ่
“หึ คนที่มีปัญหาน่ะเป็นมึงมากกว่ามั้ง โง่จนไม่รู้จะเปรียบกับอะไรได้ โดนหลอกใช้แล้วยังไม่รู้ตัว” มันเบ้ปาก ส่ายหน้า เห็นแล้วโคตรกวนตีนเถอะไอ้โซ่ “อ่อนด้อยจริงๆ”
“มากไปแล้วนะโซ่!”
“หึ อืม...ได้ยินเขาพูดกันว่าจบกับอาชีวะxแล้วเหรอ ยินดีด้วยนะที่ทำสำเร็จจนได้ แต่งูเห่าอย่างไอ้ดิว พอใจด้วยรึเปล่าล่ะ”
“มึงจะพูดอะไรพูดมาเลยดีกว่า อ้อมแอ้มหาป๊ามึงเหรอ” ไม่ได้ไว้ใจเชื่อใจใครมากกว่าตัวเองทั้งนั้น แม่งพูดอย่างกับรู้ดี สายเยอะนักนี่ มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆเลยดีกว่า
“มึงไม่มีมีดสั้นนี่ แล้วเอามีดที่ไหนไปแทงคนตาย?”
อึก!!
ไอ้โซ่เปลี่ยนจากสีหน้ากวนตีนเข้าสู่โหมดจริงจัง มันหันไปมองพวกที่อยู่ด้านล่างก่อนจะหันกลับมามองพงษ์ ออกแนวเคร่งเครียดอีกต่างหาก
แต่กูเครียดกว่าไหม?...
“ของมันหายากซะเมื่อไหร่ล่ะ” พงษ์ตอบ ขยับตัวนั่งตรงก้มหน้ามองแก้วเบียร์ที่คว้ามาถือไว้เมื่อครู่
“แค่ชื่อเสียง ไม่พอที่จะดูแลใครได้หรอก กว่าคนที่เหลือแค่ชื่อจะเป็นที่น่าเกรงขามใช่ว่าจะมีวีรกรรมฆ่าอริตายทุกคน ... ฝีมือ มันแรงกว่าแค่เสียงร่ำลือ ไม่รู้ว่าสายมึงสอนกันมายังไงถึงได้ล้มเหลวกันขนาดนี้ได้”
พงษ์ยกมือปาดเหงื่อทั้งที่ตรงนี้ไม่มีไอร้อนแทรกผ่านสักนิด
“อยู่กันคนละสายก็อย่ายุ่งเรื่องของอีกสายสิวะ”
“ก็พวกมึงชอบทำอะไรให้กูเห็นประจำ อย่างนี้เรียกว่ากูเสือกหรือพวกมึงนำเสนอวะ?”
“มึงเห็น?!” ถามทั้งที่แน่ใจแล้วว่าชัวร์ อย่างไอ้โซ่มันไม่พูดอะไรตามน้ำแน่
“ทางที่ดีคืออย่าไปยุ่งกับเรื่องนี้อีก จนตรอกก็ให้พูดความจริง ไม่อย่างนั้นมึงจะเป็นคนที่โดนเล่นงานเอง... ที่กูเตือนเพราะพวกมึงเป็นเพื่อนภูรัก ถ้าเป็นคนอื่นกูจะไม่พูดให้เมื่อยปากเลย”
“พะ พอเถอะ” พงษ์เอ่ยห้าม ให้มันหยุดทุกคำพูดไว้แค่นี้
“อีกอย่าง ...ตอนนี้ไอ้แก้วเป็นคนของไอ้ฝิ่น มึงน่าจะพอรู้ประวัติมันมาบ้างและการที่มึงไปแยกมันออกจากกัน เตรียมตัวเตรียมใจไว้รอได้เลย กับไอ้ฝิ่นมึงอย่าไปคิดจะต่อกรเชียว ทางเลือกเดียวมึงทำได้แค่ยอมเท่านั้น ช่วยไม่ได้จริงๆว่ะมึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้เอง”
นี่สินะคำพูดของคนประสบการณ์สูงกว่า
“มีใครรู้เรื่องนี้อีกรึเปล่า?” มันส่ายหน้า
“ไอ้ภู?” ไอ้โซ่ก็ยังส่ายหน้าอีก
“ภูรักแค่วานกูมาเตือนมึงเพราะมันสงสารไอ้แก้ว”
“อืม...” พงษ์พยักหน้าเข้าใจ ถึงไม่ได้สนิทกับไอ้ภูมากมายแต่ก็รู้ว่ามันหวังดีกับไอ้แก้วไม่ต่างกัน
ไม่ให้ยุ่งกับไอ้ฝิ่นอีกน่ะได้อยู่แล้วเพื่อจะได้ไม่ต้องสานต่อเรื่องราวกันอีก ในเมื่อมีคนรู้เห็นเพิ่มขึ้น เขาก็ชักไม่มั่นใจว่าความลับมันยังจะเป็นความลับได้อีกนานแค่ไหน ถ้าถอยแล้วมันยังจะเป็นไปตามเรื่องราวของอดีตต่อไป จะเอาอย่างนั้นเลยก็ได้วะ
แต่ไอ้แก้ว...
จะให้ไอ้แก้วกลับไปเผชิญหน้ากับไอ้เหี้ยนั่นได้ยังไง
...คนของมัน... คำนี้เอาอะไรมาวัด ไอ้แก้วน่ะมันคนของกูมาตั้งนานกูยังไม่เคยเรียกร้องหรือผูกมัดอะไรมันเลย
...คนของมัน...ที่มันหลอกใช้ ใครจะไปยอมคืนให้วะ
“ไหนๆมึงก็เก็บมาได้ขนาดนี้ ก็อย่ายุ่งเรื่องนี้ต่อไปแล้วกัน” เขาขอไอ้โซ่
“ไม่รับปาก ดูความพอใจของเมียก่อน”
“เฮอะ” พงษ์แค่นเสียงในลำคออย่างหมดคำจะเอ่ย
ถอยได้ แต่มีตัวดึงดูดไอ้ฝิ่นให้มาเอาเรื่องอยู่ดีนี่หว่า
อีกอย่าง ถ้ากูถอย ไอ้พี่ดิว มึงจะถอยพร้อมกูไหมวะ?
................
ไม่ค้าง //สะกดจิตคนอ่าน :laugh:
LEksUp ไม่ดีแน่นอน เชื่อเราๆ o18
ที่จะไปเสม็ดเดินทางปลอดภัยนะคะ
ขอบคุณที่เป็นห่วงสุขภาพกันนะคะ อย่างวันนี้ก็พอดีเสร็จไวคืนนี้จะได้นอนเร็วหน่อย (โดนมิ้วๆไล่Y^Yฮีไม่ยอมให้คุยด้วย...เมาท์ตลอด ฮ่าๆๆ)
ปล.ที่เรียกย่อๆกันพี่ซี เจ้ซี เนี่ย ย่อมาจากซีเรียสไม่ใช่ซีซั่นใช่เปล่าY^Y
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะ ^^กอดๆจุ๊บ
แฮ่ ขอบคุณคุณ malula จ้า คิดถึงต่อกลอนเต้ยโศกอยู่ แว๊กกกก ลืมถามอากู๋ ผิดไปแล้วค๊าบบ
-
อา.... พงษ์ไม่ได้ทำสินะ
ตอนนี้ไม่มีแก้วเลย คิดถึงแก้วจัง >,<
-
เป็นไปได้ค่ะ เจ้ซี,,,ซีเรียสมากกกกกกกกกกกกกกก
แล้วก็สนุกมากกกกกกกกกก :laugh:
สรุปใครแทงเป้งกันแน่ ?
แงๆๆ :sad4:
ปมเยอะจริง,,,อยากรู้จะแย่แล้ว :serius2:
:กอด1:
-
เรื่องเริ่มคลี่คลายแล้ววว ลุ้นๆต่อไป
:L2: :L2: :L2:
-
รออ่านนะ... ตกลงยังไงกันแน่
พงษ์กับดิวนี่ยังไงกัน ตกลงพงษ์รักแก้วแบบไหน? แล้วแก้วจะจบกับฝิ่นหรือเปล่า? งงจริงๆนะ
-
5555 “ไม่รับปาก ดูความพอใจของเมียก่อน” ขำมาก
ลิทธิบูชาเมีย
-
พงษ์ไม่ได้เป็นคนแทงแค่อยากได้ชื่อเสียง เป็นงี้ฝิ่นเอาคืนให้หนักๆ หมั่นไส้มาก :m16:
-
เห็นด้วยกับภูและโซ่ พงษ์โง่จริงๆนั่นแหละ
-
อ้าวพงษ์
ไปรับผิดแทนใครน่ะ ? :z3: :z3:
ฝิ่นนี่ก็เหลือเกินนน
แค่เดินอาดๆเข้าไปแล้วสั่งให้แก้วเดินตามมันก็ตามแล้ว
ทะนงเกิ๊นนน อย่างที่พี่ไม้บอกจริงๆ :z6:
-
:z13: :z13: :z13:
-
อืม...พงษ์ไม่ได้เป็นคนทำใช่ไหมเนี้ย งั้นคนที่ทำคือ ดิว หรอ :a5:
-
ถ้ารักแก้วก็ต้องอยากเห็นแก้วมีความสุขสิพงษ์ :เฮ้อ:
แต่ที่ทำนี่มันอะไรกัน :เฮ้อ: อีกรอบ
ฝิ่นก็รีบมาเอาเมียกลับไปได้แล้ว :laugh:
-
พงษ์...ดิว...ยังไง?
-
งง กับพงษ์
เซง ฝิ่นมากๆๆๆๆๆๆ
สงสาร แก้ว
:sad4: :sad4: :sad4:
-
พงษ์รับผิดแทนดิวสินะ แล้วก็ยังไม่รู้ว่าดิวเป็นงูพิษไว้ใจไม่ได้
อยากให้โดนหักหลังซะให้เข็ด แต่กลัวแก้วถูกลูกหลงไปด้วยนี่สิ
พี่โซ่เป็นผู้ชายในดวงใจจริง ๆ ทุกอย่างแล้วแต่เมีย คิคิ
ฝากนิดนึง ต่อกลอน ที่ถูกคือ ต่อกร
-
^^
-
:เฮ้อ: อ่านตอนนี้แล้วปวดตับกับอิพงษ์และอิฝิ่น
แก้วหนูน้อยผู้น่าสงสาร :o12:
-
ว่าแล้ว...
แล้วที่แก้วมันยอมชดใช้ทุกอย่างไปเนี่ย
มันเพื่อใคร...
-
โอ๊ย!! เอาอีกแล้ว เรื่องนี้ อ่านแบบสนุกสบายๆชิลๆ แต่ติดตรงที่ทุกตอนมันต้องมีปริศนาให้ข้องใจไว้ตลอดเลย
-
พงษ์ไม่ได้เป็นคนฆ่าเป้ง
แล้ว มันรับผิดทำซากด๋อยอะไรเนี้ย
อืม~~~~~~~
เดาว่าเป็นพี่ดิว
555555555555555+
อยากให้พี่ฝิ่นมารับแก้วกลับซะที
สงสารหน้าหงอยๆของน้องอ่ะ
กอดดดดดดดดดดดดดดดด
กด(บวก)พี่ซีด้วยจ้าาาา
-
ปมของเรื่องเริ่มคลายแล้ว เย้ว พงษ์ไม่ได้ทำใช่มั้ย o7
:กอด1:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
อ้าวๆๆๆ พงษ์ศักดิ์เธอมีอะไรเบื้องลึกเบื้องหลังนะเนี่ยคายมาซะดีๆ :z6:
เรื่องนี้ต้องมีอะไรเกี่ยวกับพี่ดิวแน่รุยอะ ใครเป็นฆาตรกรตัวจริงเนี่ย :m31:
-
อยากให้ฝิ่นมาง้อแก้วเร็วๆจัง คริคริ
-
แล้วใครแทงเป้งอ่ะ ปมค่อยๆคลายแล้ว ลุ้นๆ
แต่อยากบอกว่าพงษ์โคตรโง่ เฮ้อออ...
ปล.พี่โซ่นี่ รักเมีย หลงเมีย บูชาเมียมากอ่ะ ฮ่าๆๆ
-
หรือคนทำคือ ดิว โอ้ถ้าใช่ก้อเลยโครตอะ :z3:
อย่างนี้แก้วก้อเสียสละ ฟรี แต่ได้ความรักกลับมาแทน :o8:
อยากให้ฝิ่นรู้เรื่องเร็วๆ ก่อนที่มันจะกลายเป็นโศกนาฎกรรม :z6:
-
:กอด1:
-
มันซับซ้อนมากกว่าที่คิดไว้
-
พงษ์ไม่ได้เป็นคนทำเป้งใช่มั้ย เป็นฝีมืองูเห่าอย่างดิวใช่มั้ย ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ก็ดีนะ เวลากินดองกันจะได้ไม่ตะขิดตะขวงใจ
(รึเปล่า???) :laugh: :laugh:
คนก็ตายไปแล้ว จะไปถามยังไงล่า ว่าใครทำ โถ่ :เฮ้อ:
"คนของกู" แหมพูดกันจัง ถามคนกลางเค้าก่อนดีกว่ามั้ย :impress2: (หลบตีนแก้ว :m20:)
-
ยังจะถามความเห็นไอ้ดิวอีกหรอ มองโลกกว้างๆหน่อยเหอะพงษ์ :z6:
-
เห้อ แก้วจะเจอเรื่องแบบนี้ไปนานแค่ไหนกานเนี่ยT^T
โหดร้ายก่ะแก้วจิงๆเล๊ย ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกนะค๊าฟ
รอรอน้อ^^
-
เรื่องนี้ต้องมีไอ้ดิวมาเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ
ทำไมพงษ์ถึงเชื่อใจอิดิวนี่มากนักนะ เห้อ สงสารแก้ว
ขอบคุณมากน้า :กอด1: :กอด1:
-
โอ้ย ยิ่งอ่าน ยิ่งเดาทางไม่ถูก
-
ปริศนาค่อยๆ คลี่คลาย แต่ยังไม่กระจ่าง :laugh:
และถึงแม้ไอ้พี่ดิวอาจจะเป็นคนทำ แต่ทำไมต้องแทงเป้งให้ถึงตาย หรือว่าต้องการให้ตายเพื่อให้เป็นตำนาน?
แต่ตัวไอ้พี่ดิวเองมันก็ไม่ได้รับชื่อเสีย (ง) นั้นเองนี่หว่า เพราะพงษ์เป็นคนรับแทน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ารับแบบเต็มใจหรือไม่เต็มใจ
แต่ที่แน่ๆ คนอ่านเห็นสันดานเสียของไอ้พี่ดิวมาหลายตอนแล้ว เล่นทั้งวิธีเลวๆ เล่นทั้งวิธีลอบกัดตลอดๆ
งงๆ อีกเล็กน้อยว่าถ้าไอ้พี่ดิวฆ่าเป้งจริง ทำไมมันไม่มีซักนิดที่จะดูเกรงใจพงษ์หรือกลัวว่าความลับจะเปิดเผย
พงษ์เสียอีกที่ดูเกรงใจไอ้พี่ดิวเล็กๆ เหมือนทั้งคู่มีข้อตกลงอะไรกันบางอย่าง
ซึ่งถ้าไอ้พี่ดิวทำจริง ก็ยังสงสัยว่าทำไมมันถึงทั้งกร่างทั้งยโสโอหังได้ขนาดนี้วะ (เห็นไม่กล้ายุ่งกับโซ่และเมียโซ่แค่นั้นเอง)
รอตอนต่อไปคร้าบ
( อีกนิด....พี่ไม้พี่โซ่เท่มากกกกกกกกกกกก เท่ตลอดๆๆๆๆๆ ส่วนไอ้คุณฝิ่นก็เพิ่มดีกรีความเท่มานิดนึง (ตรงที่หวงเมียคิดถึงเมียเนี่ยแหละ :laugh: ) )
-
แก้วอย่าอยู่กับทั้งสองคนเลย หนีไปอยู่คนเดียวเหอะ
-
เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะอิพี่ดิวรึปล่าว
สรุป พงษ์ไม่ได้เป็นคนทำใช่มั้ย
:เฮ้อ:
แก้วน่าสงสารสุด จบ
-
ค้างงงงงงงงงง T^T มาต่อเดี๋ยวนี้~/สะกดจิตเจ๊ซี
ความจริงค่อยๆมาทีละน้อย(น้อยม๊ากกกกก) พงษ์ นายไม่ได้ทำใช่มั๊ย >< แล้วพี่ดิวล่ะ ทำทำไม ><"(มาอีกปม)
ขอสนับสนุนให้ฝิ่นใช้กำลังฉุดแก้วมาล่ามโซ่ขังไว้ กร๊ากกกก ไม่งั้นจะขอเปลี่ยนคู่พระ-นายคู่ใหม่ คือพี่ไม้กับพี่ขวัญ คู่นี้ดูดุเดือดดี ^[]^
ปอลิง เพิ่มบทให้โจ้หน่อยน้า ชอบเวลาพูดแทงใจฝิ่น ฉึกๆ 555
ขอบคุณคร้าบบบบ (/เผ่นกลับไปอ่านหนังสือสอบ)
-
โซ่น่ารักนะเนี่ย พงษ์อะไรนักหนาเนี่ย เรื่องของแก้วให้แก้วตัดสินใจเองสิ
-
จ้าๆ ไม่ดีก้ิอไม่ดี
เหงม่ะ มีปมมาอีกเละ
โอ้ย ขี้เกียจเดาเละ
ปล.ปล่อยใจให้สบาย หายใจเข้าลึกๆ (ก่อนอ่าน)
:z13: :z13: :z13:
-
แอบชอบโซ่นะ รักเมียดี เดี๋ยวนี้หายาก เจอแต่พวกหลอกลวง
-
พงษ์ไม่ได้เป็นคนทำเป้ง
แต่คนที่คือ "ไอ้ดิว" ใช่ไหม
ฝิ่นแกมารับตัวแก้วไปไวๆนะ
-
ดูเหมือนพงษ์ไม่ได้เป็นคนทำ
แล้วสารภาพทำไม???
เพื่อชื่อเสียง???
ไม่เข้าใจความคิดของพงษ์
ตัวกลางอย่างแก้ว..ซวยไป :เฮ้อ:
-
เรื่องมันชักยังไงแล้วเนี่ย
-
อ้าววววว พลิก ซะงั้น
:a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
-
ไม่ค้าง. ..ชะที่ไหนกันล่ะนี้
ตกลงพงษ์ไม่ได้เป้นคนทำใช่มะ?
งื้มๆหรือว่าอิพี่ดิวเป้นคนทำ :a5:
ลุ่นๆ รอๆ ตอนต่อไป
-
...มีความลับ ที่ต้องคลี่คลายอีกเยอะนะเนี่ย ดูเหมือนพงษ์ไมได้เป็นคนฆ่าเป้ ด้วยนะแล้วใครฆ่าล่ะ
...น้องแก้วของฉัน เหงาหงอยไปเลย ฝิ่นมันก็จมอยู่กับการแก้แค้น ไม่รู้จักคำว่า..อภัยเลยจะรอให้เกิดการสูญเสียอีกครั้งหรือไง :เฮ้อ:
-
ชาบู รุ่นเดอะ ไม้ - โซ่ - ภู สามชื่อนี้ THiiCHA ขอยกขึ้นสถิตบนหิ้ง จุดธูปบูชา วันละสามเวลา
จะมีก็แต่รุ่นเด็กนี่แหละ ทะเลาะแย่งลูกอมกันอยู่ได้ ฮ่วย กุมขมับ 5555+
แก้วของเจ๊ เครียดใช่มั๊ยลูก??
งั้นดื่มไปเลยลูก จัดหนักๆ ออกไปแร่ด เอ้ย แดนซ์ให้หลุดโลกเจ๊อนุญาต :laugh:
ปล. ตบหัวพงษ์ เรื่องโง่ขอให้บอก งี่เง่าไม่มีใครเกิ๊น
ปล. ตบหัวฝิ่น มารับเมียได้แล้ว เรเร้วววววว :angry2:
ปูเสื่อรอตอนต่อไป :L2:
-
สรุปว่าพงษ์โง่สุดซินะ ,,,,,
-
นี่ ถ้าแก้วเปงคน ฆ่า
จะฮาให้
เอ๊ะ หรือว่าใช่แก้ว จิงๆ
:laugh: :laugh: :laugh:
-
ใครจะฆ่าเป้งก็ฆ่าไป แต่อย่าเป็นแก้วเด้อ
แบบ ประมาณสิตไม่อยูกับตัว ลืมไปชั่วขณะไรงี้
ขอให้เป็นไอ้พี่ดิวละกัน จะได้โดนเต็มๆ
-
สรุปว่าพงษ์รับผิดแทน ไอพี่ดิวหรอ? :เฮ้อ:
-
อ่านสองตอนรวดดด
เซงกะอิพงษ์? :m16: ไม่ได้รู้ใจแก้วเลย
ฝิ่นก็ชื่อหย้าดีกว่าไหม กินบ่อยดี ชิชะ
สู้พี่ไม้ก็ไม่ได้ รู้ไปหมด เข้าใจทุกเรื่อง :impress2:
:pig4: คนแต่งมากๆค่ะ
-
อ้อมกอดเด็กช่างตอนที่ ๔๒
เส้นของความเป็นส่วนตัวที่ถูกขีดเอาไว้เพื่อกันตัวเองให้ออกห่างจากคนอื่น ไม่ใช่อะไรนอกจากนิสัยขี้เหงาและต้องการใครสักคนมาอยู่ข้างๆ
ใครสักคน...ที่ให้ความสำคัญกับคนอย่างมัน ...ที่มันคิดเองว่ามันเป็นเด็กมีปัญหา
นิสัยอย่างนี้โคตรอันตราย
ด้วยความเป็นคนขี้เหงา น้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง บวกกับความเข้มแข็งที่ถูกเขาเทถมให้มันแสดงออกมาได้เท่านั้น นั่นจึงทำให้มันต้องอวดเก่งเรื่องไม่จำเป็นอยู่บ่อยๆ
คงไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากอยากทำให้เขาภูมิใจ
เหมือนอย่างที่เขาต้องการดูแลไอ้แก้วเพื่อให้พ่อแม่เห็นว่าเขาโตเป็นผู้ใหญ่ สามารถดูแลปกป้องชีวิตคนอื่นได้สินะ
...ทั้งที่จริงมึงอยู่ในโอวาทกูเฉยๆ กูก็โคตรภูมิใจแล้วกับการเชื่อฟังคำบอกคำสอนจากกูน่ะ
ถอยดีไหม? คำถามที่ลังเลอยู่ในหัว
ควรจะไม่โกรธเคืองไอ้เหี้ยฝิ่นเพื่อรักษาตัวและใจของไอ้แก้ว ถ้าทำอย่างนั้นไอ้ตัวเล็กมันก็คงจะสบายใจ...
หรือจะชนแม่งไปเลย เพื่อเอาคืนกับสิ่งที่มันทำให้ไอ้แก้วต้องเสียใจในช่วงเวลาที่ไม่มีเขา
ไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องแย่งชิงกับใคร แต่เขาคือคนที่หวังดีและจริงใจกับมันที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ
จริงๆก็ชีวิตใครชีวิตมันนั่นแหละ ถ้าไอ้แก้วมันตัดสินใจเลือกเดินถูกทาง เขาก็คงไม่ต้องตัดสินใจแทน
ไม่สนหรอกว่าไอ้เหี้ยฝิ่นมันจะหลอกล่อไอ้แก้วยังไง ในเมื่อแก้วมันต้องการความรักอยู่ตลอดเวลาเมื่อเข้าใกล้ใครมันก็รักคนนั้นง่ายๆได้อยู่แล้ว
แต่ในเมื่อเป็นรักที่ทำร้ายกัน...เขายอมให้มันตกอยู่ในวังวนอย่างนั้นอีกครั้งไม่ได้หรอก
ภาพที่มันโดนแม่กับพี่เลี้ยงเอาเปรียบและทำร้ายสารพัดเพื่อแลกกับเศษตาที่พวกนั้นจะแลมันบ้าง ยังคงจดจำได้มาตลอด
แล้วคนที่ใช้ความรักเป็นตัวประกันอย่างไอ้ฝิ่น จะต่างอะไรกับสองแม่ลูกนั่น...
เพราะฉะนั้น ไม่ว่ายังไงไอ้แก้วก็ต้องเดินออกจากไอ้ฝิ่นให้ได้เหมือนที่เคยเดินออกจากบ้านหลังนั้น
และการตัดสินใจครั้งนี้ เขาจะต้องคิดให้รอบคอบที่สุด ไม่ยอมอีกแล้ว จะให้ไอ้แก้วมันเจ็บปวดซ้ำๆไม่ได้อีกแล้ว
จะโดนว่าไม่มีศักดิ์ศรีอีกสักครั้ง หน้าหนาๆอย่างมึงคงไม่เป็นปัญหาใช่ไหม?พงษ์
ตั้งเป้าหมายไว้ดิบดีจะดูแลเด็กคนนี้ให้ดีที่สุดจะไม่ให้เหมือนเมื่อวัยเด็กเป็นอันขาด
สัญญาลูกผู้ชายที่บอกแม่มันเอาไว้ก่อนออกจากบ้านสวน...ว่าจะรักและดูแลมันให้ดี น้ำตาแม้สักหยดก็ให้มีไม่ได้
สัญญาลูกผู้ชายที่รับปากพ่อแม่ไว้...ว่าไอ้แก้วไม่ใช่ตัวปัญหาแต่เป็นคนที่ผลักดันให้เขาเป็นคนมีความรับผิดชอบมากกว่า และเขาจะทำให้ทุกคนเห็นคุณค่าของมัน
สัญญาลูกผู้ชายที่ตกลงรับข้อเสนอเรื่องเลวๆเพียงเพื่อให้ได้มีชื่อเสียงเอาไว้ปกป้องคนๆนี้ในระยะยาว
แต่แล้วก็ทำไม่ได้...สักเรื่องเดียว
เก่งแค่วิชาการ แต่การใช้ชีวิตติดลบอย่างที่พ่อปรามาสไว้จริงๆ
แต่ถึงขนาดนี้ ไอ้แก้วก็ยังคงอยู่ข้างๆไม่ได้ตีจากไปไหน...แม้เขาจะรักษาคำพูดไม่เคยได้ก็ตาม
“เมื่อไหร่มึงจะกลับ” ไอ้พี่ดิวทักทายมาคำแรกหลังจากเดินมานั่งในร้านกาแฟหน้าโรงแรมพ่อไอ้แก้ว
“ไม่แน่ไม่นอน” พงษ์ตอบ
“แล้วมึงจะอยู่นานทำไม ...ที่จริงมึงไม่ควรกลับมาเลยด้วยซ้ำ”
“คดีความก็จบตั้งแต่ก่อนไปแล้ว พี่จะกลัวอะไรวะ แถมเมื่อไม่กี่วันผมก็ไปจบกับพวกนั้นมาแล้วด้วย” พงษ์ตอบด้วยความไม่ค่อยชอบใจเมื่อไอ้พี่ดิวแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่เขาก็เคลียร์ไว้เรียบร้อยแล้วทุกอย่าง
“หึ ดีกันแล้วก็หวังว่าจะไม่แว้งกัดกู”
“จะเป็นเรื่องเพราะพี่พูดมากนี่แหละ” เขาพูดสวนมองหน้าไอ้พี่ดิวตาขวาง แต่ไม่คิดจะบอกเรื่องที่ไอ้โซ่รู้เห็นด้วยอีกคน เพราะเขามีทางออกสำหรับเรื่องนี้แล้ว
“แล้วนี่มึงจะเอายังไง จะเล่นงาน๕xเมื่อไหร่?” พี่ดิวสงบปากสงบคำคุยเรื่องอื่น
“เออ ว่าจะมาคุยเรื่องนี้แหละ ...พี่ดิว ผมไม่เอาแล้วว่ะ ไม่อยากให้ไอ้แก้วคิดมาก”
“อะไรนะ?! วันก่อนมึงเลื่อน วันนี้มึงยกเลิก ไอ้พงษ์!”
“อย่าเพิ่งขึ้นเสียงใส่กูได้ไหม!” พงษ์เผลอเสียงดังใส่ดิว “เออ โทษๆลืมตัว ยอมรับว่ากลับคำแต่ผมไม่อยากยุ่งกับไอ้เหี้ยฝิ่นอีกแล้วนี่หว่า ยิ่งไอ้แก้วอยู่ด้วย ดูท่าว่ามันคงไม่ปล่อย" ใครจะหาว่ากลัวก็ไม่สนใจแล้วงานนี้
“ไอ้แก้วรักมัน”
“อืม” พงษ์พยักหน้าส่งๆเออออตาม
“กูก็ดูได้แค่ที่โรงเรียน แต่ทำไงได้เพื่อนมึงไม่เคยจะให้กูเข้าใกล้เลย อีกอย่าง...หนีกูไปอยู่กับไอ้ฝิ่นเองด้วย” พงษ์พยักหน้าอีกครั้งให้พี่ดิว เขาเข้าใจและรู้เหตุผลของเพื่อนหมดแล้ว
“ช่างเถอะ เอาเป็นว่าตามนี้ละกัน ผมรับปาก...ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม พี่ก็ต้องคุ้มครองไอ้แก้วเหมือนเดิมด้วย”
“ไม่ต้องห่วงหรอก...แค่ชื่อมึงก็ไม่มีใครกล้าแหยมไอ้แก้วแล้ว” ไอ้พี่ดิวบอกพร้อมรอยยิ้มร้ายๆของมัน
รองจากพี่แชมป์ก็มันนี่แหละที่ใหญ่สุดในสาย เพราะสนิทกันเลยกล้าที่จะไว้ใจ
ในโรงเรียน... ไอ้แก้วต้องอาศัยบารมีไอ้พี่ดิวในการอยู่รอด เขาจึงได้คิดอะไรตื้นๆ เพื่อหาเกราะกำบังให้มันอีกชั้นหนึ่ง ด้วยการเอาชื่อเสียงตัวเองเข้าแลก เพื่อให้ได้มา ซึ่งบารมีไม่ต่างกัน
แต่มาพลาดที่พ่อแม่รู้เรื่อง เขาเลยต้องทำตามใจบุพการีเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ไอ้แก้วอีกครั้ง...
และเขาก็ทำไม่ได้อีกตามเคยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นการทำร้ายมัน...
“ผมคงอยู่ไทยอีกสักพักใหญ่ๆ จะรอไอ้แก้วเรียนจบแล้วจะพาไปอยู่เมืองนอกด้วยกัน” ...เหลือแค่นี้ใช่ไหมที่กูจะรักษามึงได้
ไอ้พี่ดิวเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบเฉยขึ้นมาจนดูเหมือนดุ ถ้าเป็นคนอื่นคงกลัวมันไปแล้ว แต่ไม่ใช่เขาที่มองจ้องมันเหมือนกัน
“ไม่ได้!”
“พี่มีปัญหาอะไร?” พงษ์พูดสวนทันควันเพราะมันพูดเหมือนจะไม่พอใจ
“กูว่า...แก้วมันอยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว ต่อไปกูจะดูแลมันแทนให้ดีกว่าเดิม มึงก็แค่รีบกลับไปเรียนให้จบก็พอ ไม่ต้องห่วงอะไรหรอก” ไอ้พี่ดิวพูดรัวแจกแจง แต่ไม่ต้อง เมื่อก่อนเขายังดูแลมันได้ ช่วงที่ไม่อยู่ก็ยืนยันได้แล้วว่าไม่มีใครที่ไอ้แก้วจะเชื่อฟังมากไปกว่าเขา เพราะฉะนั้น เขาจะจัดการชีวิตมันเองเพียงคนเดียว
“ไม่รบกวนพี่หรอก”
กรุ๊ง กริ๊ง เสียงกระดิ่งจากร้านดังขึ้นเมื่อมีลูกค้าคนใหม่เปิดประตูเข้ามา ใครจะไปใครจะมาก็ไม่สำคัญ แต่เป็นคนนี้บทสนทนาอันเคร่งเครียดของเขากับรุ่นพี่จึงต้องหยุดไปโดยปริยาย
ไอ้แก้วยืนอยู่หน้าประตูร้านด้วยใบหน้าบึ้งตึง ก็เห็นแล้วทำไม่ไม่ยอมเดินเข้ามาหาที่โต๊ะ พงษ์จึงลุกยืนกะจะเดินไปพามันมานั่งเอง
“กูยังไว้ใจมึงได้นะ?” แต่ไอ้พี่ดิวลุกตาม
“อืม” พงษ์พยักหน้า “ถ้าพี่ยังรักษาคำพูด”
“มึงก็ทำให้กูเชื่อใจละกัน”
“เฮอะ!” พงษ์ส่ายหน้าหันไปทางแก้วอีกครั้ง ในขณะที่พี่ดิวเอื้อมมือมาตบไหล่เขาเบาๆแล้วเดินออกจากโต๊ะสวนทางกับไอ้แก้วที่เดินเข้ามาโดยไม่มองหน้าไอ้พี่ดิว
ไอ้ดิว...ถ้ามึงไม่ไว้ใจกูแล้วมึงจะทำอะไรได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่กูลืมไปแล้วรึไง?
“คุยอะไรกับพี่ดิว?”
“เรื่องของผู้ใหญ่ กินอะไรก่อนไหม?” ไอ้แก้วยู่หน้าอย่างไม่พอใจแล้วส่ายหน้าให้ พงษ์จึงเดินไปจ่ายค่ากาแฟที่เคาเตอร์แคชเชียร์โดยมีแก้วเดินตามหลัง
“วันนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรเหมือนเดิม นั่งเล่นเกมทั้งวัน” ไอ้แก้วรายงานคงพยายามจะใช้น้ำเสียงปกติ แต่แววตาดันเศร้าเหมือนเดิม
เฮ้อ...
“เบื่อมากไหม?”
“มาก”
“ซื้อใบประกาศเลยไหม จะได้รีบไปจากที่นี่สักที” เขาไม่อยากเห็นแก้วมีความรู้สึกอย่างนี้เลย ถ้าไปอยู่ในที่ใหม่ๆ มันอาจจะกลับมาเป็นคนเดิมได้ไวกว่านี้ก็ได้ อดีตผ่านมาแล้วก็ควรให้มันเป็นแค่เรื่องที่ผ่านมา
บางเรื่องก็ไม่ควรจดจำ
“หืม?”
“เพื่อมึงกูจะลบทุกอย่างออกไป แล้วมึงล่ะ เพื่อเรา...มึงทำได้ไหม?” ใช่...เรื่องที่เขาลบนะมันง่ายมาก ต่างจากเรื่องของแก้วที่ทุกครั้งต้องใช้วิธีหักดิบเอา
ไอ้แก้วมองมาด้วยความลังเล หรือไม่กล้าที่จะพูดเพราะมันรู้ว่าเขาต้องการอะไรที่สุดตอนนี้
ทำไม่ได้สินะ
“กูพยายามอยู่”
“มึงต้องทำได้เข้าใจรึเปล่า แล้วเดี๋ยวกูจะคุยเรื่องไปอยู่ที่โน่นกับพ่อมึงเอง” เขาบอกแก้ว
“พงษ์ คุยกันหน่อยสิ”
“........................” พงษ์ทำหูทวนลมกับเสียงที่ได้ยินและทำเป็นตาบอดกับคนที่ยืนเข้ามายืนใกล้ๆ เขารับเงินทอนจากแคชเชียร์แล้วจึงคว้าข้อมือของแก้วเดินจูงกันออกไปนอกร้าน
“พงษ์ ไอ้พงษ์!”
“พงษ์หันไปคุยกับพี่ขวัญก่อนก็ได้” ไอ้แก้วฉุดแขนไว้เมื่อเดินออกมาได้ไม่เท่าไหร่
“ไหนบอกจะเมินมันแล้วไง?”
“ก็...” แต่ก็ยังตัดไม่ขาดอยู่ดีใช่ไหมกับไอ้ขวัญเนี่ย! พงษ์ดุแก้วด้วยสายตาก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วหันขวับกลับไปที่ขวัญ
“มึงจะเอาอะไรอีกขวัญ นี่มึงยังสร้างปัญหาให้พวกกูไม่พออีกรึไง?” ไอ้ขวัญตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้ทั้งยังมองอย่างกับเขาไปทำอะไรให้มันเจ็บช้ำน้ำใจอะไรนักหนา
ไม่ใช่มึงรึไงที่เข้ามายุ่งจนทำให้ไอ้แก้วพลอยเข้าใจผิดไปน่ะ
“กูอยากคุยกับมึง มึงจะต้องอยู่คุยกับกู!” เฮอะ ร้องไห้? อย่างไอ้ขวัญเนี่ยนะจะร้องไห้ เมื่อเขายอมหันมาพูดกับมัน ไอ้ขวัญจึงประกาศกร้าวขึ้นเสียงสั่ง
“กูใช่คนที่มึงสั่งได้เหรอ? เพราะนิสัยนี้ของมึงที่ทำให้กูไม่อยากรู้จักมึงเลยขวัญ ถ้าอยากได้อะไรมึงก็ไปฟ้องพ่อฟ้องแม่มึงโน่น อย่ามาชี้นิ้วสั่งกู”
“กูจะพูดกับมึงดีๆแล้วนะพงษ์ ทำไมมึงไม่ฟังกูบ้าง”
“หึ อะไรที่สื่อว่ามึงจะพูดกับกูดีๆ อ้อ อีกอย่าง ต่อให้มึงพูดดีกูก็ไม่สนใจจะฟังคำพูดของคนนิสัยตกต่ำวันๆไม่คิดอะไรนอกจากจะทำร้ายน้องอย่างมึงหรอก”
“แรงไปแล้ว พอเถอะพงษ์ ไม่คุยก็ไม่คุย ไปกันเถอะ” ไอ้แก้วสะกิดแขนเตือน
ถึงได้ไม่อยากคุยกับไอ้ขวัญไง พูดแล้วอดจะด่ามันไม่ได้เลยจริงๆ
“มึงเลิกทำให้ไอ้พงษ์คิดว่ากูเลวสักทีได้ไหมแก้ว!”
“มึงเลวโดยสันดานต่างหาก สันดานจากแม่มึงน่ะ” พงษ์ตอกกลับเมื่อขวัญต่อว่าแก้ว
ไอ้แก้วยืนนิ่งทำให้พงษ์ต้องกระตุกข้อมือแล้วพามันเดินออกจากไอ้ขวัญ
ทำร้ายกันไม่รู้จักพอ ทำให้เจ็บตัวไม่ได้ก็ต่อว่าด้วยคำพูดให้น้องรู้สึกแย่ ใจคอมันทำด้วยอะไร พ่อก็พ่อเดียวกันแท้ๆแต่ไอ้แก้วยังไม่เห็นมีความคิดว่าร้ายคนอื่นเหมือนพี่มันเลย
“มึงไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น” เขาบอกแก้วที่นั่งเงียบเมื่อขึ้นรถแท็กซี่มาได้สักพัก
เพราะคนรอบข้างคอยแต่จะยัดเยียดความผิดให้มันนี่ไง คนที่อยู่ข้างมันถึงต้องเป็นเขา
“รู้”
“รู้ก็ห้ามนอยด์” เขาบอกมัน ในขณะที่มันเงยหน้าขึ้นมาด้วยสายตาเว้าวอน
พงษ์จึงรีบกอดอกแล้วมองออกไปนอกกระจกรถทันทีเหมือนเมื่อกี้ไม่เห็นสายตาของมัน
เขาก็รู้เหมือนกันว่ามันกำลังอ่อนแอ
แต่เขาไม่โอ๋มันในที่สาธารณะเด็ดขาด
มึงควรควบคุมตัวเองให้ได้ ไม่ใช่เอะอะก็ให้ปลอบๆ ผู้ชายเขาไม่กอดกันบ่อยๆหรอกนะ
.....................................
กรี๊ดดดด เลยเวลาเลิกงานแล้ว
ตอนหน้าแก้วควรจะมาได้แล้วใช่ไหม แต่ตอนนี้ฉันควรจะรีบไปเพราะที่นี่ไม่มีโอที กร๊ากกก
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ^^กอดๆจุ๊บ โอยยย มือสั่น รีบ! ฮ่าๆๆ
-
นี่ไงความแตกต่าง ระหว่างฝิ่นกับพงษ์
สมมติว่าตอนนี้คนข้างๆเป็นฝิ่น ถึงมันจะปลอบไม่เป็น อย่างน้อยแก้วก็มีไหล่เถื่อนๆไว้ให้ซบ
:z3: :z3: :z3:
-
ตกลงดิวนี่มันตั้งใจเลวมากเลยนะ กะงาบน้องสุดๆ :z6: :z6: :z6:
-
สิ่งที่พงษ์คิดว่าแก้วต้องการ กับสิ่งที่แก้วต้องการมันไม่เหมือนกันอ่ะ
แก้วก็แค่อยากมีใครสักคนให้กอด 55555555'
ปล.ตกลงคนแทงเป้งคือพี่ดิวสินะคะ
ไอ้นี่นี่เลวของจริงอ่ะ กระจอกว่ะดิว ;$
-
มาต่อเร็วๆนะ ^^
-
เริ่มเข้าใจพงษ์แล้วนะ
ที่สวมรอยฆ่าเป้ง เพราะอยากมีบารมีไว้คุ้มครองแก้ว
อะไรแบบนี้รึป่าว
ลงทุนจังอ่ะ แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะ
คนรับกรรม น้องแก้วนู้น
ไว้ใจคนผิดอีก เบื่อพงษ์ว่ะ
-
อยากให้พงษ์ตาสว่างซะที ไอ้พี่ิดิว ไม่ได้ีดี อย่างที่คิด มั๊ยไม่เชื่อแก้ว ถามเหตุการณ์ย้อนหลังดิ ใครสั่งคนกระทืบแก้ว อะ
ฝิ่นก้อรีบๆๆทำซะอย่าง เดี๋ยวพงษ์พาแก้่วไปอยู่เมืองนอก อยากจะง้อก้อไปไม่ได้แล้วนะ
กอดแ้ก้ว :กอด1:
ขอกระทืบไอ้พี่ดิว:z6:
-
ฝิ่น จะทำไรก็ทำเร็วเข้า
-
^^
-
เฮ้อ สิ่งที่พงษ์คิดว่าทำเพื่อแก้ว กลับสร้างปัญหาให้ไม่รู้จบ
เลิกคิดเอง เออเองได้แล้ว ถามกันหน่อยว่าเขาต้องการอย่างนั้นไหม
-
คิดถึงช่วงเวลาที่แก้วกับฝิ่นได้อยู่ด้วยกันจัง
เมื่อไหร่จะได้กลับไปอยู่ด้วยกันอีกนะ :n1:
-
คิดถึงฝิ่น อยากกระทืบดิว :z6: รำคาญพงษ์ :beat: :beat:
-
o13 o13 o13 o13
:call: :call:
-
ถ้าดิวเป็นคนฆ่าเป้ง ใครเป็นคนเสนอให้พงษ์รับแทน?
ซึ่งหากดิวเป็นคนเสนอหรือหว่านล้อมพงษ์ ก็แสดงว่าไอ้พี่ดิวมันแผนสูงมาก เพราะถ้าพงษ์รับสมอ้างเป็นฆาตกร พงษ์ก็มีสิทธิ์จะเข้าคุกหรือไม่ก็ต้องหนีไปที่อื่น
ซึ่งมันก็ทำให้ดิวมีโอกาสเข้าใกล้แก้วได้มากขึ้น แถมยังอาจเป็นคนสำคัญแทนพงษ์ได้ง่ายๆ ด้วย
ไอ้พี่ดิวมันไม่เลือกวิธีการจริงๆ แฮะ ยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งให้รุ่นน้องซ้อมแก้วเพื่อให้แก้วคิดว่ามีมันเท่านั้นที่คุ้มครองแก้วได้
นี่มันรักแบบไหนกันวะเนี่ย...โคตรๆ โรคจิตอะ ไอ้พี่ดิว
ดูเหมือนไอ้พี่ดิวกับฝิ่นจะมีแผนการอะไรที่จะทำต่อไป ต้องรอดูว่าคู่นี้มันจะปะฉะดะ กันขนาดไหน :เฮ้อ:
-
ดิวร้ายได้อีกอ่ะ
-
พงษ์ที่แกว่าทำเพื่อนแก้วนะ
นั้นแหละมันจะทำให้เรื่องมันไม่จบสักที :sad4:
สงสารแก้ว
เฮ้อ~พงษ์ถ้าคิดแต่จะให้แก้วเข้มแข็งด้วยตัวเองเลย
โดยที่ไม่คิดจะพูดหรือปลอมโยนเลยมันเป้นไปไม่ได้หรอกนะ
นี้ถ้าฝื่นอยุ่นะ คงกอดแก้วไปแล้ว :sad4:
สู้ๆๆค่ะ รอตอนต่อไปอยุ่ :z6:
-
:z3: สรุปไอเหี้ยดิว ชั่วสุด
พงษ์โง่ยังอวดฉลาดอีก :เฮ้อ:
-
ฝิ่นไปใหน!!
-
ปากบอกว่าหวังดี แต่ประสงค์ร้ายกันทุกคน
ถามอีแก้วมันสักคำหรือยังว่ามันต้องการสิ่งที่พวกมึงยัดเยียดให้มันหรือเปล่า
-
สัญญาลูกผู้ชายที่ตกลงรับข้อเสนอเรื่องเลวๆเพียงเพื่อให้ได้มีชื่อเสียงเอาไว้ปกป้องคนๆนี้ในระยะยาว
โอย ตูว่าแล้ว พงษ์ไปยอมทำไมเนี่ย ไอ้พี่ดิวเลวเกิน ตั้งใจจะงาบแก้วให้ได้เลยใช่มั้ย สันดานก็ไม่ต่างไปจากไอ้พี่ดีหรอกนะ ฮึ
อะไรกันพี่ขวัญ ทำตัวเองแล้วยังมาว่าแก้ว นิสัยอะ :m31:
-
อยากกระทืบไอ้เชี่ยดิวอ่ะ เลวโคตร
พงษ์ก็โคตรโง่ แถมยังไม่ยอมเข้าใจอะไรสักที
เราก็ได้แต่สงสารแก้วต่อไป หนีไปอยู่กับฝิ่นเลยไหมลูก
-
เกลียดไอ่เหี้ยดิว !!! :z6:
ไอ่ตัวปัญหาาาา
-
นี่ไงความแตกต่าง ระหว่างฝิ่นกับพงษ์
สมมติว่าตอนนี้คนข้างๆเป็นฝิ่น ถึงมันจะปลอบไม่เป็น อย่างน้อยแก้วก็มีไหล่เถื่อนๆไว้ให้ซบ
:z3: :z3: :z3:
โป๊ะเช๊ะเลย คิดเหมือนกันเดี๊ยะ o13
-
อืมมมมม สวมรอยว่าฆ่าคน เพื่อสร้างบารมี ความคิดเด็กช่างเนี่ย มันช่างล้ำลึกเกินหยั่งถึงจริงๆ :really2:
-
แก้วเข้มแข็งไว้นะ
-
แค่นี้ยังไม่รู้หรอว่าไอ้ดิวมันชั่ว :beat:
-
ยังไงก็ดีใจที่มีคนรักแก้วที่สุดคือพงษ์นี่แหละ รักยังกับเป็นพี่แท้ ๆ เลย
แต่แก้วจ๋าจะเอาไงกับหัวใจตัวเองดี กลุ้มใจโนะ...
อิพี่ขวัญนี่คิดซัมติงกับพงษ์แหงมๆ
ขอบคุณจ้า
-
ดิวรักแก้วหรือแค่อยากได้กันแน่
วิธีการที่จะให้แก้วชอบก็คิดแปลก ๆ
พงษ์อยากปกป้องแก้ว
แต่คิดแค่ด้านเดียว ไม่มีคิดเผื่ออนาคต
ถ้าพงษ์ไม่ได้ฆ่าแต่แค่รับสมอ้างเพื่อชื่อเสียง
แล้วคิดว่าชื่อเสียงที่มีจะปกป้องแก้วได้
โอย.. ถ้ามีคนคิดแบบนี้เยอะ ๆ
รับรองต้องมีฆ่ากันไม่มีเว้นวันกันแน่
ฮืออออ ปวดหัวอ่ะ :เฮ้อ:
-
ฝิ่นหายไปไหน
-
เด๋วก่อนๆ
จะไปเรียนจิตวิทยา
แล้วมา วิเคราะห์เนื้อเรื่องนี้
ชักจะมึนๆ กับ พฤติกรรม ของตัวละคร
:z2: :z2: :z2:
-
รำคาญพงษ์มากกกกกก
ไม่ฟังคนอื่นเลย เกลียดแมร่งหว่ะ
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
พงษ์เอ๊ยยยย :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ขอบคุณมากจ้ะ :กอด1: :กอด1:
-
พี่ขวัญนี่มันอะไรวะ
หรือว่าชอบพงษ์เนี่ย เฮ้ย!
-
ฝิ่นมารับแก้วไปปลอบทีสิ
+ 1 นะคะ
-
โอย ไม่รู้จะต่อว่าใครก่อนดี :m16:
แม่งมัน ฮึ้ยย :beat: :beat:
-
ชอบตอนพงษ์บรรยายอ่ะ
ไม่มีเหตุผล...แค่ชอบ
-
แก้วผิดที่อ่อนแอ จะไปยากอะไร ตัดใจไม่ได้ ก็กลับไปหามันซิไอ้ฝิ่นหน่ะ จะเอายังไงต่อก็ว่ามาตรงๆ
-
ปล่อยแก้วกลับไปหาฝิ่นเถ๊อะ
หักดิบยังไงก็ไม่มีประโยชน์หรอกพงษ์
คนเค้ารักกันนน
:z3: :z3: :z3:
-
เมื่อไหร่ฝิ่นจะคิดแผนออกนี้ แก้วจะได้กลับไปหาซักที
-
กอดหน่อยก็ได้นะพงษ์ คนอ่านอยากเห็น :z3: :z3:
คนเขียน คนอ่านขอเซอร์วิส พงษ์-แก้วมั่งสิครับ นะ นะ
:กอด1:
-
ไม่ได้อยากจะว่าพงษ์หรอกนะ รู้ว่ารักแก้วมาก แต่บื้อแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ :เฮ้อ:
แล้วเมื่อไหร่ฝิ่นจะมีบทง่ะ :z3: หายไปไหนยะ แก้วรอนานละ
ปอลิง อิพี่ขวัญต้องเป็นประสาทแน่ๆ ชอบแย่งของๆน้อง :m16:
:pig4: นะคะ
-
เป็นความหวังดีประสงค์ร้ายจริงๆเลยพงษ์ :z3:
แต่แกอยู่ไหนอ่ะฝิ่น แก้วจะหนีไปเมืองนอกแล้ว รู้เรื่องบ้างป่ะเนี่ย ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน :m31:
-
อ่านสองตอนรวดเลย
จะว่าเข้าใจพงษ์ก็เข้าใจนะ แต่ก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี
พงษ์เป็นเหมือนเด็กที่มั่นใจในตัวเองเกินไป
คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง พยายามทำทุกอย่างให้คนอื่นยอมรับ
อาจจะเพราะอยากปกป้องแก้วด้วย
แต่บางครั้งความคิดกับการกระทำของพงษ์ก็ดูขัดๆกันยังไงไม่รู้
สงสารแต่น้องแก้ว(เหมือนเดิม) ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
แต่ต้องโดนกดดันจากทุกคนทั้งพงษ์ พี่ดิว แล้วก็ฝิ่น
น้องแก้วจ๋า หนีไปเถอะลูกปล่อยให้เขาแก้แค้นกันไป
เขาหายแค้นเมื่อไหร่หนูค่อยกลับมาอยู่กับพี่ฝิ่น
เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมค่ะ
-
พงษ์เกงแกตัว ทำอารายไม่สงสารแก้วเลย นิสัยไม่ดี
สงสารแก้่วจังT^T
-
ไปตายซะไอ้ดิว
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
เห็นแก่ตัวสุดติ่ง
-
พงษ์ก็รักแก้ว แต่แบบนี้ไม่ดีนะ T^T
ถึงจะหมั่นไส้ฝิ่นบ้างก็เถอะ
-
มารอตอนต่อไปครับ
-
ขอโทษนะคะ
หนูโคตรชอบเรื่องนี้อ่ะ !!!
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ติดตามๆ (':
-
พงษ์ กระทืบขวัญให้หน่อยดิ แม่งน่ารำคาญว่ะ
5555,,,,,อินไปหน่อย
-
อ่านแล้วรำคาญดิวสุดๆ
จะอะไรนักหนาก็ไม่รู้ :เฮ้อ:
-
ยิ่งอ่านยิ่งมันส์อ่ะ หยุดไม่ได้ อยากอ่านต่อมาก ๆ อ่ะคับ ><
-
โอ้ยยย ยิ่งอ่านอกอีแป้นจะแตกค่าา :serius2:
มันทั้งอยากรู้ ทั้งอัดอั้น!!! บทสรุปมันจะเป็นยังไงนี่!!
แอบเชียร์พงอ่ะ ด่าไอพี่ขวัญเจ็บดี กร๊ากกกก!!
-
พงษ์ปล่อยให้แ้ก้วคิดตัดสินใจเองได้หรือเปล่าเนี่ย
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๔๓
“กูต้องเข้าบ้านหน่อยนะ พ่อกับแม่จะไปต่างประเทศอีกยาวเลยโทรตามตัวตั้งแต่ไปส่งมึงเสร็จแหนะ ก็กะว่าเดี๋ยวจะเอารถออกมาไว้ใช้ด้วย”
“อืมๆ” แก้วรับคำพงษ์สั้นๆผ่านสัญญาณโทรศัพท์มือถือแล้วกดวางสายไป ก่อนจะหันมาคลิกเมาส์ส่งงานให้ลูกค้าผ่านทางe-mail
ในเมื่อมาฝึกงานแต่กลับต้องนั่งดูอย่างเดียวหรือไม่ก็เดินไปเดินมาให้พนักงานในโรงแรมหลบสายตาเล่น ไม่รู้จะเกรงใจอะไรทั้งที่เขาว่า ...เขาไม่เคยไปทำตาดุใส่ใครนะ แก้วจึงเอาเวลาที่ว่างๆนี่แหละรับงานของลูกค้าที่เคยติดต่อค้างเอาไว้เมื่อช่วงเรียนอยู่มาทำ จะเป็นประเภทเขียนโปรแกรม ออกแบบเว็บไซด์ประมาณนั้น ถึงจะมีเงินเดือนจากพ่อทุกเดือนแต่แก้วก็ไม่อยากเป็นภาระให้คนในครอบครัวนั้นหรอกนะ เคยปฏิเสธคุณพ่อไปแล้วว่าไม่ต้องการแต่ท่านก็ยืนยันและยังคงโอนเงินเข้าให้อย่างสม่ำเสมอ แต่หลังจากขึ้น ปวช.ปีสองแก้วก็แทบไม่ได้ใช้เงินในส่วนนั้นเลย คงมาจากการใช้เงินด้วยความเกรงใจแม่เลี้ยงมาแต่ไหนแต่ไร บวกกับพงษ์พาใช้ชีวิตอย่างติดดินสุดๆ แต่ก็ไม่เคยลำบากอะไรเลยกลับเป็นการสอนให้ยืนด้วยตัวเองต่างหาก
“ไปกินข้าวกัน” น้ำเสียงไม่เป็นมิตรเปิดประตูห้องของแผนกโปรแกรมเมอร์เข้ามาโดยไร้เสียงเคาะประตู แทนที่คนเปิดเข้ามาจะละอายแต่กลายเป็นพนักงานในแผนกพากันก้มหน้าก้มตาตั้งใจกับงานตรงหน้าแทน
“เพิ่งสิบเอ็ดโมงเองครับ” แก้วตอบพลางแหงนมองนาฬิกาซึ่งแขวนติดกับผนังอยู่เหนือศีรษะตน
“ใครมีปัญหา?”
“เฮ้อ...” แก้วกดพักงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ก่อนจะลุกหยิบโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าตังค์ยัดใส่กระเป๋ากางเกง
ไม่มีใครในที่นี้มีปัญหาหรอก ...นอกจากพี่
วันนี้พี่ขวัญเปิดประตูเข้า-ออกห้องนี้แทบทุกห้านาทีได้
เขาไม่ได้สนหรอกว่าพี่กำลังเล่นอะไรอยู่ แต่เขาเกรงใจพนักงานอีกสามคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าต่างหาก
แค่ทานข้าวเที่ยงพี่คงไม่มีเวลาเล่นอะไรแผลงๆกับเขาได้หรอกน่า...แก้วคิดก่อนตัดสินใจ แล้วจึงเก็บของเพื่อจะไปกับพี่...และไม่ลืมส่งข้อความบอกพงษ์ไว้ด้วย
“พี่ขวัญเราหาอะไรกินแถวนี้ก็ได้” แก้วบอกเมื่อเห็นว่าพี่ลูกขวัญขับรถออกมาไกลจากโรงแรมมากแล้ว และไม่มีทีท่าว่าพี่จะแวะทานข้าวร้านไหนทั้งแถวโน้นและแถวนี้เลย
“จองร้านไว้แล้ว” พี่ตอบอย่างคนไม่สนใจกัน
เอ่อ...เอาเถอะ จะไปไหนก็ไป เป็นคนชวนเองแท้ๆแค่แสดงออกว่าอยากให้มาด้วยหน่อยก็ไม่ได้
...เสียแรงที่ตามใจ
การตั้งใจจะเมินพี่ขวัญไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะพี่ขวัญไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเขาจะแกล้งทำเป็นเฉยใส่ยังไง
พี่ขวัญก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม พูดอะไรทำอะไรที่กระทบเขาได้ พี่ก็ยังคงทำ รวมไปถึงการเซ้าซี้ที่พี่ขยันซะเหลือเกินเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ...นั่นคือการตามใจจากเขา
“ไอ้พงษ์จะตามมารึเปล่า” พี่ขวัญถามขณะที่กำลังทานข้าวมื้อเที่ยงกัน
“พี่พงษ์อยู่บ้าน” แก้วตอบไม่ตรงคำถาม
“กูรู้แล้ว กูถามว่ามันจะตามมารึเปล่า?”
“ไม่รู้ครับ พี่เขาไม่ได้ตอบมา” ส่งข้อความไปบอกแล้วมันก็เงียบไป สงสัยยังไม่ได้เปิดอ่าน ถ้ารู้ว่ามาทานข้าวใกล้บ้านมัน พงษ์มันคงรีบมาแล้ว
“ไม่บอกตั้งแต่แรกวะ”
“อ้าว...” ก็ไม่ได้ถามนี่หว่า
แก้วชะงักมือที่ตักข้าวค้าง มองหน้าพี่ขวัญแล้วตำหนิในใจ พี่เสมองไปทางอื่นก่อนหันกลับมายักไหล่แล้วพูดจุดประสงค์ของวันนี้ออกมา
“...กูอยากคุยกับมันบ้าง”
“พี่พงษ์เขาไม่คุย”
“มึงก็ไปบอกมันสิ” แหนะ!
“ไม่เอาหรอก ถ้ามีธุระเดี๋ยวเขาก็มาคุยกับพี่เอง การเลี้ยงข้าวผมมันช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะพี่พงษ์เขาตัดสินใจเองหมด”
พี่ขวัญก็ยังยืนยันว่าเขาเป็นตัวทำลายมิตรภาพของพี่กับพงษ์อยู่ดี ถึงเขาไม่เคยสั่งอะไรพงษ์สักครั้ง ทุกคนก็ยังคงยัดเยียดให้เขาเป็นคนชักจูงพงษ์ได้เพียงคนเดียวเหมือนกันหมด
แก้ววางช้อนวางส้อมพร้อมๆกับคำพูดที่ไม่ได้ช่วยอะไรพี่ขวัญเลย
“กินๆไปเถอะ หมดธุระแล้วมึงจะกินข้าวกับกูไม่ได้เลยรึไง”
“อิ่มแล้ว” จริงๆคือทานไม่ลงแล้วต่างหาก
ความผิดหวังมันเกิดขึ้นได้อย่างไม่มีขอบเขตจริงๆ ถ้าพี่ขวัญไม่อยากให้เขาช่วยหว่านล้อมพงษ์ พี่ก็คงไม่ชวนเขาทานข้าวสินะ
“ป่านนี้คงโดนเฉ่งยับ” พี่ขวัญพูดแขวะเมื่อขับรถกลับมาจอดที่หน้าโรงแรม
“ไม่รู้สิ” แก้วไม่ได้ตั้งใจตอบแต่พูดออกไปให้เหมือนคนไม่ใส่ใจคำพูดพี่ขวัญเท่านั้น เขาคิดว่าพ่อแม่ของพงษ์ต้องไม่พอใจแน่ๆล่ะที่มันขัดใจท่านอีก แถมเลี่ยงจะเจอหน้าได้เป็นสัปดาห์ แต่ยังไงซะ ไอ้พงษ์มันปลาไหลเรียกพ่ออยู่แล้ว คนที่กลุ้มใจคงต้องเป็นพ่อแม่มันมากกว่าที่เฉ่งยังไงก็คงไม่เข้าหูมัน...
“วันนี้คุณพ่อมีประชุมทั้งบ่ายมึงคงไม่มีโอกาสประจบท่านละ งั้นกูไม่เข้าดีกว่า มึงลงไปเถอะ” พี่ขวัญหันข้างมาแขวะอีกรอบก่อนไล่เขาลงจากรถ
เหอะ คิดมาได้ว่าจะประจบคุณพ่อ เจอหน้ากันนับเป็นนาทีได้เลย
แก้วเปิดประตูรถออกไป แล้วปิดประตูกลับเสียงดัง ปึ๊ก!!
...พี่เห็นเขามีตัวตนก็ต่อเมื่อกลัวว่าเขาจะเข้าใกล้คุณพ่อ พี่เห็นเขามีตัวตนก็ต่อเมื่อต้องการใช้งานเขา เหมือนกับ...
“อื่อ!” แก้วร้องด้วยความตกใจแต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเมื่อปากของเขาถูกมือของใครบางคนที่กำลังฉุดลากเขาจากด้านหลังปิดเอาไว้แน่น มืออีกข้างของมันก็โอบรวบแขนเขาไว้ไม่ให้ต่อต้านได้ง่ายๆ
นี่มันหน้าโรงแรม ทำไมถึงมีคนกล้าทำอะไรอุกอาจขนาดนี้ ถึงคนเดินผ่านไปผ่านมายังน้อยอยู่แต่ใช่ว่าไม่มีใครเดินไปเดินมาเลย แล้วรปภ.ของโรงแรมก็ยังยืนดูอยู่ห่างๆทั้งที่เขากำลังโดนทำร้ายเนี่ยนะ!
“โอ๊ะ!” แก้วร้องอุทานเมื่อร่างถูกผลักเข้าไปในรถยนต์คันหนึ่งซึ่งจอดที่เดียวกับรถพี่ขวัญเมื่อกี้แล้วรีบหันไปดูหน้าไอ้คนที่ลากเขามากลางวันแสกๆอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
“โจ้!” และเขาต้องอุทานเสียงดังขึ้นอีกเมื่อเห็นหน้ามัน หากแต่พอหันไปทางเบาะหน้ากลับพูดอะไรไม่ออกเมื่อใครที่กำลังนึกถึงมันนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ
“แหะๆ” ไอ้โจ้เกาหัวแกรกๆยิ้มแหย แก้วต้องส่ายหน้าตามมันที่กำลังเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งคนขับเข้ามานั่ง
“เล่นอะไร ใจหายหมด” ต่อว่าโจ้เบาๆแต่สายตามองไปที่คนนั่งหันหลังให้
“เอ้า ถ้าไม่เล่นอย่างนี้จะได้เจอมึงเหรอ ใช่ไหมพี่ฝิ่น?” ไอ้โจ้พยักเพยิดหน้าไปทางฝิ่นซึ่งคำตอบก็หนีไม่พ้นฝ่ามือที่ฟาดลงหัวไอ้คนถาม
“อันตรายไปหน่อยรึเปล่า เกิด รปภ.วิ่งเข้ามาจะทำไง”
เขายังนึกแปลกใจไม่หาย ทำไมถึงไม่มีใครช่วยทั้งที่เห็นกันเต็มตาอย่างกับว่าเขาโดนลักพาตัวแหนะ
“อ๋อ เคลียร์กับ รปภ.แล้ว เขาคุ้นหน้าพวกกูดี ก็พอดีว่าพี่กูเดินไปหามึงดีๆไม่ได้ก็เลยต้องเล่นอะไรนิดหน่อย ฮะๆ”
“หมดธุระมึงแล้วโจ้” ไอ้ฝิ่นปรามรุ่นน้องมัน
“โธ่พี่”
“ทำเกินหน้าที่อีกแล้วนะมึง เตรียมโดนซ่อมไว้เถอะ” ฝิ่นกัดฟันพูดบอกโจ้ แต่เขาได้ยิน ก่อนที่โจ้จะเปิดประตูแล้วลงจากรถไปพร้อมๆกับฝิ่นเปิดประตูออกไปแล้วไปทำหน้าที่คนขับแทน
“มานั่งข้างหน้า” ตามนั้น
ฝิ่นขับรถออกจากหน้าโรงแรมในขณะที่ทิ้งโจ้ยืนอยู่ริมฟุตบาท เขามองผ่านกระจกข้างก็เห็นถึงรอยยิ้มอย่างกับคนทำอะไรได้น่าภูมิใจนักหนาของเจ้าตัวที่มองตามหลัง ...ขอบใจนะโจ้
เหลือกันอยู่สองคนท่ามกลางเสียงแอร์ของเครื่องยนต์ที่ดังบ้างเบาบ้างบางจังหวะ
จริงๆถ้าเปิดวิทยุให้มีเสียงเพลงหรือเสียงคนพูดบ้างบรรยากาศมันคงดีขึ้นกว่านี้
แต่คงเป็นเรื่องแย่สำหรับฝิ่น เพราะต่อให้คนข้างๆรู้สึกกดดันขนาดไหนมันก็ยังชอบที่จะอยู่กับบรรยากาศเช่นนั้นมากกว่า เพราะเสียงบันเทิงต่างๆของคนอื่นมันคือเสียงรบกวนของมัน
และต่อให้บรรยากาศเงียบงันชวนกดดันให้อึดอัดแค่ไหนก็ไม่เป็นไร ถ้าคนข้างๆเขาคือมันคนนี้
แก้วลอบมองใบหน้าที่มุ่งมั่นอยู่แต่กับถนน จนเริ่มท้อ...
เรื่องระหว่างเขากับฝิ่นเป็นเรื่องที่เชื่ออะไรใครไม่ได้เลยสักคน และสักอย่าง มันทำเรื่องราวให้เขาผูกพันแต่กลับเป็นเรื่องเล่นๆของมัน จนเขาอยากจะตัดพ้อทุกครั้งที่เห็นใบหน้าซึ่งปั้นไว้อย่างคนมีจุดประสงค์และไร้ความผิดให้ตำหนิได้เสมอ...
แต่ก็พูดไม่ออก เพราะสำคัญที่เขาก็เต็มใจตั้งแต่เริ่มเอง
แก้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกงหมายจะส่งข้อความไปหาพงษ์จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ก็เปลี่ยนใจกดปิดเครื่องแทนทั้งที่ฝิ่นไม่มีทีท่าว่าสนใจด้วยซ้ำ
นอกจากเดินมาเปิดประตูรถให้เขาเมื่อมันนำรถเข้าจอดที่โรงรถเรียบร้อยแล้ว
“แม่ยังไม่ไปนี่หว่า” เหมือนมันพูดกับตัวเองแต่ก็คว้าข้อมือเขาไปจับแล้วพาเดินเข้าบ้านหลังที่เขาอาศัยอยู่มาเป็นเดือน “แม่ แม่ อยู่ไหน?” มันพาเขาเดินไปเข้าไปในบ้านแล้วตะโกนเรียกแม่ จนแม่มันเดินออกมาจากห้องครัว
“อะไร? อ้าว! ลูกแก้ว” แม่ฝิ่นเสียงดุก่อนจะเห็นว่าเขาอยู่ด้วย
แก้วจะยกมือไหว้แต่ก็เก้ๆกังๆเพราะมือไม่สะดวกจนกระทั่งไอ้คนที่จับไว้มันปล่อยแล้วมองหน้าเชิงบอกว่ามึงจะทำอะไรก็ทำ
“คิดถึงจังเลยลูก” แม่ฝิ่นยิ้มให้พร้อมกับเข้ามากอดและมืออุ่นๆลูบศีรษะอย่างเอ็นดู
“คิดถึง?” แก้วรู้สึกตันๆในอกและกอดเอวแม่ฝิ่นแน่น
“จ๊ะ บ้านนี้คิดถึงหนูกันทุกคน...ใช่ไหม? ฝิ่น”
“จ๊ะแม่” ไอ้ฝิ่นตอบรับแล้วอยู่ๆมันก็เข้ามากอดและหอมแก้มแม่มัน...รวมถึงโอบเขาไว้ในอ้อมกอดเดียวกัน
ครอบครัว... มันคือความรู้สึกอบอุ่นอย่างนี้ใช่ไหม?
“พอๆอย่าเนียนเจ้าฝิ่น”
“หึ”
“เดี๋ยวแม่ต้องเข้างานช่วงบ่ายแล้วนะ” แม่ฝิ่นไล่ลูกชายตัวเองแก้วจึงผละออกมาด้วยน้ำตาคลอหน่วย ไม่รู้สิไม่ใช่ว่าอยากร้องไห้ แต่มันตันๆบอกไม่ถูก “แก้วจะค้างไหมลูก พ่อก็ถามถึงทุกวัน”
“เอ่อ...” แก้วมองไปทางฝิ่น แต่มันกลับผิวปากหันไปทางอื่น
“จ๊ะๆลำบากใจก็ไม่เป็นไร”
“ไม่ใช่นะครับ” เขาไม่อยากให้แม่มันคิดอย่างนั้น เพราะเขาไม่ได้ลำบากใจที่จะกลับมาบ้านนี้เลย
“แม่เข้าใจ...พี่ชายเราคงยังทำใจไม่ได้ ตามสบายนะลูกนะแม่ไปทำงานแล้ว”
“...? ครับ” แก้วรับคำอย่าง งงๆแล้วมองตามหลังแม่ฝิ่นที่เดินออกไป จนไอ้ฝิ่นมันใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำใสๆที่คลอเบ้าตาให้ถึงได้หันกลับมาที่มันอีกครั้ง
ห้องเล็กๆใต้ดินแต่กลับมีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างกลายเป็นภาพที่เขาโหยหามาตลอดสัปดาห์
ก็คงเป็นแค่ห้องๆหนึ่งธรรมดาที่คนส่วนน้อยอยากจะอยู่ ถ้าไม่ใช่ว่าเจ้าของห้องเป็นใคร
“ถ้ากูไม่พามึงมา มึงยังจะมาไหม?”
ถ้ามาแล้วไม่รู้สึกผิดต่อพงษ์เขาก็อยากมาที่สุด แต่พงษ์ไม่ต้องการให้เขายุ่งเกี่ยวกับฝิ่นอีก เขาจะตอบคำถามฝิ่นได้ยังไงในเมื่อ...คำตอบกับสิ่งที่ทำ มันไปคนละทาง
แก้วเดินตามเจ้าของห้องเข้าไปแล้วโอบกอดเอวมันไว้จากด้านหลังแทนคำตอบ เมื่อปะทะเข้ากับแผ่นหลังเพียงวินาทีเจ้าตัวมันก็หันกลับมาจ้องตาเขาในทันใด
ไม่มีทางที่จะอยู่กับคนที่รักได้พร้อมกันทั้งสองคน ในเมื่อคนทั้งคู่เดินอยู่บนเส้นทางที่มันขนาน
รักที่ไม่ลงตัว รักที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางโดยมองแต่ความรู้สึกของตน ทั้งที่จริงแล้วมันอาจจะใช่หรือไม่ใช่อย่างที่คิดเลย
อย่าว่าแต่คนรอบข้างต้องการให้แก้วทำตามใจพวกเขาเลย ตัวแก้วเองก็คิดและทำทุกอย่างเพื่อความต้องการของตัวเองไม่ต่างกัน
แต่อย่างน้อยกูก็ดีใจที่เคยได้สัมผัสความรู้สึกเหล่านั้น...กับมึง
“กูจะไม่บังคับให้มึงเลือกกูอีก ...เพราะยังไงมึงก็ต้องเลือกกูอยู่ดี” ถ้อยคำเข้าข้างตัวเองที่มันคิดไม่ผิดหรอก แต่เขาก็ยังเป็นสิ่งทิ่มแทงเรื่องราวในอดีตไม่ใช่เหรอ ถ้าเขาไม่ผูก เรื่องราวก็คงต้องจบ เงื่อนปมมันเหลือที่เขาเพียงคนเดียว ก็ควรจะคลายที่ตรงนี้...แม้ว่าไม่อยากจะปล่อยไปเลยก็ตาม
รัก...สุดท้ายจากกู
มือเรียวถือดีคว้าดึงปกเสื้อช็อปคนตรงหน้าให้โน้มเข้าหาตัวก่อนจะแนบริมฝีปากตัวเองเข้าประกบชิดกับคนตรงหน้า
“แก้ว”
“หืม?” แก้วหลับตาฮึมฮัมเมื่อฝิ่นพยายามหลบสัมผัส
“มึงไม่มีลีลาเอาซะเลย” มันต่อว่าทำเอาเขาต้องลืมตามามองมันอย่างไม่ชอบใจ “กูไม่ได้พามึงมาเอากูก็แค่...” ฝิ่นรวบเอวพาเขาเดินไปหยุดข้างเตียง “ช่างเถอะ”
ก่อนจะกดไหล่เขาให้นั่งลงที่ขอบเตียงแล้วมันก้มมาจูบปากเขาเอง
เขาเลือกฝิ่น แต่ก็เลือกพงษ์เหมือนกัน
เป็นไปไม่ได้ใช่ไหมล่ะความคิดเขา...แต่คนที่จับต้องได้ทุกอย่าง กับคนที่ฝันเอาว่าจับต้องได้
จึงต้องเหลือทางเลือกไว้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
“ทุกพฤติกรรมมึง จับได้โคตรง่ายเลย” ฝิ่นก้มจูบที่ซอกคอขณะที่เขานอนเปลือยกายมีเพียงผ้าห่มที่คลุมตัวและฝิ่นที่นอนซ้อนอยู่ด้านหลัง มันกระซิบเบาๆให้เขารู้ตัวก่อนจะกอดเขาไว้และหลับไปพร้อมๆกัน
................................................
ไม่เน้นNC (เพราะเขียนไม่เป็น กร๊ากกก) เดากันเอาว่ารักสุดท้ายของแก้วที่ให้ฝิ่นแปลว่าอะไร ฮ่า //โดนคนอ่านโบก
งานเยอะมาก นี่ก็เพิ่งได้เขียนก็วันหยุดนี่เอง ไหนจะบัญชีไหนจะภาษี ที่ต้องเสร็จก่อนเมษาอีก โฮกกก
ปล.เรามีFanpageแล้วนะ search ชื่อ หลงใหลในม่านหมอก ได้เลย เอาไว้เวิ่นเว้อโดยเฉพาะเพราะก
ลัวตัวเองคุยเยอะจะทำให้นิยายกลายพันธ์ซะเองเกรงใจเล้าด้วย
ลืมเรื่องเซอร์วิส พงษ์ แก้ว ...-*-แต่พงษ์ไม่ได้คิดรักแก้วมากกว่าคนที่อยากเลี้ยงดูนะ ซีซั่นคงเซอร์วิสไม่ได้(เร็วๆนี้)อะค่ะ แต่...แอร๊ จุดไว้ทำไม? :z2:
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ^^กอดๆจุ๊บ
-
:z13:จิ้ม
อยากให้พงษ์เข้าใจแก้วจัง
ฝิ่นกับแก้วมันก็ดีกันอยู่แล้ว เลิกแยกสองคนนี้ออกจากกันซักที
รอดูว่าแก้วจะตัดสินใจยังไง
-
ในที่สุด ก็ไปฉุดกลับมา :m20: :m20:
-
จุด จุด จุด
-
ฉุดมาแล้วววววว !
:เฮ้อ: เมื่อไหร่รักจะลงตัวซะที แต่ละคนคิดเยอะกันทั้งนั้น
:pig4: นะคะคนแต่งที่น่ารัก
-
เมื่อไหร่แก้วจะมีความสุขสักที
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ก็ยังเป็นแก้วที่น่าสงสารอีกเช่นเคย...
-
เชียร์ให้แก้วเลือกพงษ์มากกว่าอ่ะ
ถ้ามองในระยะยาว พงษ์คือคนที่จะปกป้องแก้วได้มากกว่าฝิ่นจริงๆ
เพราะ ฝิ่นทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง แต่อย่างน้อย พงษ์ยังทำอะไรเพื่อแก้วบ้าง :เฮ้อ:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เมื่อไหร่ฝิ่นกับแก้วจะได้อยู่ด้วยกันนน
-
:-[ :-[ :-[
สองคนเจอกันแล้ว ดีใจจัง เบื่อคนปากแข็งว่้ะ คิดถึงเค้าก็บอกเค้าบ้างเซ่ ไม่บอกแก้วจะรู้มั้ย
ยิ่งเป็นคนไม่ถามอยู่แล้วด้วย...ฝิ่นน่ารักดีอ่ะ...ชอบตอนแม่ฝิ่นมากอดแล้วแล้วกอดกันสามคน แก้วคงอบอุ่นเนอะ
ฝิ่นบอกรักแก้วมั่งได้ป่ะ ระวังจะสายไปนะ
ขอบคุณค่า... :L2:
-
อุปสรรคเยอะมาก
-
ดูแลดีดีด้วยเน้ิอ
เชื่อว่าเรื่องต้อง ดราม่า มากกว่านี้
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
รักแก้วก็ต้องฉุดมาทุกครั้ง 5555
-
:impress2: เมื่อไหร่แก้วจะได้มีความสุขสักที
-
:กอด1:
-
พากันกลับมาขนาดนี้น่าจะปรับความเข้าใจกันนะ
-
ฉุดมาแล้วก็... :haun4:
ยังไงก้หนีกันไม่พ้นหรอกคู่นี้ :z1:
-
อิพี่ลูกขวัญชอบพงษ์รึป่าวน๊า
ที่พี่แกทำกับน้องแก้วมันส่อสุดๆ
ดีใจกับน้องแก้ว
ในที่สุดพี่ฝิ่นก็มาฉุดถึงหน้าบริษัท
แต่ มันก็ยังอึมครึมอยู่
อยากให้น้องแก้วสมหวังบ้างไรบ้าง
-
ก็ยังมาม่ากันต่อไปซินะ ฉุดมาเเล้วเว้ย ยยยย :a5:
เเก้วนายเลือกฝิ่น หรือ พงษ์กันเเน่
เชียร์หนูฝิ่น อิอิ มาต่อเร็วๆนะค่ะ o13
-
คิดถึงจังเลยค่ะคนแต่ง ♥
สงสารแก้ว สงสารฝิ่น
รักครั้งสุดท้าย... แต่ไม่ท้ายสุดใช่มั้ย ! ใช่มั้ย !!
(บังคับให้ตอบว่าใช่ 55555555555555)
พี่ซีซั่นสู้ๆ นะคะ ขอให้ทำงานผ่านไปได้ด้วยดีทุกประการค่ะ
-
ฝิ่นน่ารักอ่ะ
-
รักสุดท้าย ของให้หมายถึง
อยุ๋ด้วยกันไปตลอดเถอะนะ :sad4:
-
:z13: :z13: :z13:
-
แก้วกำลังคิดอะไรอยู่
-
ขวัญก็ยังทำตัวน่าถีบเหมือนเดิม
-
สะ สะ สุดท้าย อะไร หรอแก้ว เค้าค้างงงง T.T
ทางเลือกที่หนึ่ง or ทางเลือกที่สอง ถ้ามันลำบากใจนัก
เอาแต่ใจอีกสักหน่อย...
สร้างทางที่สามพิสูจน์ตัวเอง แจกแห้วดัดนิสัยแมร่งทุกคนนั้นแหละ คิดแล้วสะใจ อร๊ายยย o18
-
แก้ววว
เลือกฝ่ินเหอะ
-
ตอนนี้เป็นตอนที่สมกับชื่อเรื่องที่สุดแล้ว แก้วอยู่ใน"อ้อมกอดเด็กช่าง"แล้วจริงๆ อิอิ
-
เรื่องนี้เหมาะกับ user name คนเขียนมากค่ะ
น้องแก้วของเรา ชีวิตหนูเนี่ยมัน... :m15:
-
พี่ขวัญน่าตบมากค่ะ
แก้วถ้าพงษ์มันยังโง่ขุดไม่ขึ้นอยู่แบบนี้ เลือกฝิ่นเถอะลูก
-
รัก..สุดท้าย หรือแก้ว? :เฮ้อ:
ก็ได้แต่หวังว่าฝิ่นมันจะอ่านพฤติกรรมของแก้วออกอย่างที่มันคิดไว้จริงๆ ไม่งั้นแกกับแก้วได้เป็น..สุดท้าย กันแน่ๆ :เฮ้อ:
-
น้องแก้วจะทำอะไรค้า
อะไรสุดท้ายๆฟังดูเศร้าๆพิกลๆ :serius2:
-
ถ้าให้แก้วเลือกจริงๆก็คงเลือกยากนะ
อีกคนหนึ่งก็เป็นเหมือนคนในครอบครัว
ที่ดูแลกันตั้งแต่เด็กๆและก็ทำทุกอย่างให้
แต่อีกคนก็เป็นเหมือนส่วนหนึ่งที่ขาดแล้วได้มาเติมเต็ม
ถ้าเลือกคนใดคนหนึ่งก็คงจะรู้สึกผิดกับคนที่ไม่ได้เลือก
เพราะฉะนั้นไม่ต้องเลือกสักคน 55555
ว่าแต่พี่ฝิ่นมันจับอะไรน้องแก้วได้อ่ะ
-
อยากให้แก้วมีความสุขกับเขาบ้าง
พงษ์ให้แก้วได้อยู่กับฝิ่นมันเถอะ
-
เหมือนแก้วกำลังเตรียมตัวไปจากผิ่นเลยอ่ะ
-
ดีใจกับแก้ว อย่างน้อยก็ทำให้หายคิดถึง ฝิ่น
-
พงษ์แกไปอยู่
กับลูกขวัญซะ
เถอะ :3125:
-
โอ้ยยย.........ทำมั้ยแก้วเจอแต่ออารายก้อไม่รู้น้า สงสารแท้
ให้แก้วหลุดพ้นที่เถอะนะ แต่หลุดพ้นแล้วห้ามจบนะ แหะๆ
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้อ^^
-
รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยที่แก้วกะฝิ่นได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง
-
จริงๆ ถ้าไม่คิดเยอะอาจมีทางออกที่ดีกว่าที่ทำอยู่ก็ได้ :z10:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๔๔
“มิวเบื่อตามพี่ฝิ่นแล้วนะพี่ดิว” มิวหน้ามุ่ยเดินเข้ามานั่งในบ้าน
“ทำไม? ไม่อยากได้แล้วเหรอ?” ดิวนั่งลงข้างๆถามด้วยน้ำเสียงยียวน เห็นใครมีชื่อหน่อย ไม่ก็รวยเป็นต้องเข้าไปตีสนิทด้วยทุกคนไม่ใช่เหรอ
“มิวมีแฟนใหม่แล้วเป็นนักศึกษาแพทย์ ดูดีกว่ามาเฟียเด็กช่างตั้งเยอะ”
“อืม...แล้ววันนี้ว่าไง?” เขาไม่สนคำคุยโวของคนที่อยากติดปีกให้ตัวเองตลอดเวลาอย่างมิว แต่ถามถึงเหตุการณ์ที่ให้คนคอยดูแก้วกับไอ้พงษ์แทน ช่วงนี้เป็นระยะที่ไว้ใจมันไม่ได้ ต่อให้มันรับปาก เขาก็ไม่อยู่เฉยๆหรอก
“ไม่เกินพรุ่งนี้พี่ฝิ่นคงได้เดือดอีกรอบ เพราะมีพงษ์อยู่แก้วไม่มีทางค้างด้วยแน่นอน” รุ่นน้องพาณิชย์บอกด้วยความมั่นใจ ซึ่งเขาก็คิดว่าอย่างนั้น...
แต่ถ้าไอ้แก้วยังติดต่อกับไอ้ฝิ่นอยู่ ไม่แน่ไอ้พงษ์อาจจะใจอ่อนเร็วๆนี้ก็ได้
ไอ้เหี้ยพงษ์อยู่เมืองนอกก็ดีอยู่แล้ว มึงจะกลับมาทำไม
“แล้วไอ้แก้วมันจะเอายังไงกันแน่”
“เฮอะ! ทำไมต้องเป็นแก้ว ถ้าพี่ดิวอยากได้ผู้ชาย คนในโรงเรียนก็มีเยอะแยะทำไมไม่เอา มิวไม่เข้าใจจริงๆ พงษ์ก็อีกคน ตอนคบกับมิวอะไรๆก็มีแต่แก้วอยู่ในหัวตลอด แหวะ ยิ่งพี่ฝิ่นยิ่งชัดเจน” เขาถลึงตาใส่ยัยมิว
“เธอไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นเรื่องนี้ ทำหน้าที่ของเธออย่างเดียวพอ”
“มิวไม่อยากยุ่งแล้ว ถ้าพี่ฝิ่นจับได้คงเอามิวตาย”
“หรือมึงกล้ากับกู?”
“อึก...พี่ดิว” มิวหน้าถอดสีเมื่อเจอคำพูดเขา ไม่ได้อยากขู่มันหรอก แต่ผู้หญิงคนนี้เขายังใช้งานได้อยู่โดยที่ไม่มีใครระแวงเพราะความเป็นผู้หญิงของมันนี่แหละ
“ถ้ามึงหักหลังกูอีกคน มึงจะโดนหางเลขด้วย จำไว้”
“ไม่เกี่ยว! มิวไม่ได้ทำอะไรเลย แค่พี่ถามว่าบ้านเป้งอยู่ไหนมิวก็แค่บอก แต่พี่กับพงษ์ทำอะไรกันโดยที่มิวไม่รู้ไม่เห็นด้วยเลย” มิวปัดความผิดพัลวัน
เขาไม่สนใจหรอกถ้าคิดจะทำงานเขาล่ม เขาไม่ปล่อยแน่
“อย่างกับมึงไม่ดีใจที่มีผู้ชายฆ่ากันตายเพื่อแย่งมึง” ดิวจับหมับที่ปลายคางมิว เขาบีบเล็กน้อยให้มันได้รู้สึกเจียมตัว
“พี่...มิวเจ็บ”
“หรือมึงจะไม่ทำแล้ว?” เขาให้โอกาสมิว พลางปล่อยมือออกจากปลายคางมันและจ้องหน้ามันไม่วางตา
“อึก ...เอ่อ งะ งั้นมิวจะตามคนพวกนั้นให้พี่ถือซะว่าตอบแทนที่พี่แนะนำพงษ์ให้มิวรู้จัก ถ้าพวกนั้นเลิกติดต่อกันได้ มิวหมดหน้าที่เลยนะ” มิวใช้สองมือบีบนวดใบหน้าตัวเองพลางพูดเร็วและรัวให้เขารับฟัง
“เออ!”
ไม่มีใครเข้าใจหรอก การได้ขึ้นเป็นประธานรุ่นเพราะชื่อเสียงของไอ้ดีมันไม่ได้ทำให้เขาภูมิใจเลยแม้แต่น้อย เขาพยามสร้างชื่อขึ้นมาใหม่ ทั้งลงมือเล่นงานคู่อริเองทั้งยืมมือคนในสายมาผลักดันตัวเอง พยายามแสดงฝีมือให้คนอื่นๆในสายได้เห็นมากกว่าให้รับรู้กันมาเพียงแค่ว่าเขาใช้เส้นมาเป็นใหญ่ เพราะนั่นไม่มีใครที่นับถือเขาจริงๆสักคน
แต่พอไอ้พงษ์ ทั้งที่มันไม่มีอะไรมาก่อนเลย ชื่อเสียงเหรอ ก็ไม่มี ฝีมือเหรอ ก็ทำตามคำสั่งเขาทั้งนั้น แต่ไอ้แก้วกลับยกย่องเทิดทูนมันทุกวินาที แม้แต่ไอ้พงษ์ทำเรื่องเลวๆก็ยังเชิดชูมันไว้สูงกว่าเขา ทำไม ทำไม! ทั้งที่มันไม่ได้เป็นผู้นำ แต่ทำไมถึงได้มีคนนับถือมันด้วยความจริงใจขนาดนี้ แต่ทีพี่...พี่ที่เป็นใหญ่และใกล้ชิดกันแท้ๆ พี่ที่ให้มึงพึ่งพาได้ แต่มึงแทบไม่รู้จักพี่ด้วยซ้ำถ้าไอ้พงษ์ไม่พามึงเข้ามา
แล้วยิ่งกับไอ้ฝิ่นที่มารู้จักกันทีหลัง มึงกลับเลือกมันมากกว่าพี่ เหอะ กับกูหลบได้เป็นหลบ หนีได้เป็นหนี ทั้งที่เราสามารถไปกันได้ดีกว่าไอ้พวกคู่อริอยู่แล้ว
แค่มึงเปิดโอกาสให้พี่บ้าง...แก้ว แต่ไม่มีเลย
.
.
.
“พงษ์ เป็นอะไรรึเปล่าลูกเข้าห้องน้ำบ่อยจัง”
“ปวดท้องนิดหน่อยครับ” พงษ์เฉไฉตอบแม่และนั่งลงที่โต๊ะอาหารอีกรอบ
ความจริงแล้วเขาพยายามโทรหาไอ้แก้วต่างหาก แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ไม่รู้ว่าไม่มีสัญญาณหรือว่าปิดเครื่อง แต่น่าจะไม่มีสัญญาณมากกว่าเป็นไปไม่ได้ที่มันจะปิดเครื่องเพราะยังไงมันกับเขาจะต้องส่งข่าวหากันให้ได้ตลอดเพื่อจะได้รู้ว่าอีกคนอยู่ไหน ปลอดภัยดีรึเปล่า
“ปวดท้องหรือไปแอบโทรศัพท์” คนไม่กินข้าวแต่เสนอหน้านั่งร่วมโต๊ะแทรกขึ้นมา พงษ์ไม่อยากต่อปากต่อคำด้วยจึงหันไปแยกเขี้ยวใส่มันพลางหันไปปั้นหน้ายิ้มใส่พ่อกับแม่แทน
“แล้วแกจะเอายังไงเรื่องเรียนแกน่ะ” พ่อเสียงเข้มถาม
“รออีกสักสามเดือนครับคุณพ่อ” ต้องรอแก้วฝึกงานทั้งที่ไม่ฝึกก็ได้อีกสองเดือนเสร็จ แล้วต้องกลับไปเรียนอีกหนึ่งเดือนถึงจะจบปีสาม
“อายุแกก็ ๒๐แล้ว เรียนมอปลายก็ไม่จบ เรียนอาชีวะที่อยากเข้านักหนาก็ไม่จบ ส่งไปเมืองนอกก็หนีกลับมา แกกำลังทำให้พ่อกับแม่ขายหน้านะเจ้าพงษ์”
“นั่นสิครับ อย่างผมก็เรียนอีกแค่สองปีก็จบปริญาตรีให้คุณพ่อคุณแม่กับคุณลุงคุณป้าชื่นใจแล้ว”
“อย่าสอดได้ไหมวะ”
“พงษ์!” แม่เรียกปราม “ก็ผมไม่อยากเรียนแล้ว” เขาตอบพ่อ เรียนในเรื่องที่รู้อยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องไปเสียเวลาในห้องเรียนเลย แต่ก็เข้าใจว่าทุกอย่างต้องใช้ใบประกาศ นี่ก็กำลังหาที่เก็บหน่วยกิตอยู่แค่ไม่ได้รายงานใครแค่นั้น
“ก็เป็นซะอย่างนี้ ถ้าคบกันแล้ว...”
“คุณแม่ครับคราวนี้จะไปนานไหม?” เขาเปลี่ยนเรื่องที่พ่อกำลังจะพูดเป็นชวนแม่คุย ด้วยหน้าที่การงานของคุณพ่อที่ต้องบินไปประเทศโน้นทีประเทศนี้ทีทำให้เราไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาสักเท่าไหร่ แต่เขาไม่ค่อยอะไรมากหรอกไม่ได้อยากกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับพ่อแม่ทุกวินาทีเหมือนไอ้แก้ว กลับสบายใจที่ได้เป็นอิสระด้วยซ้ำ
“สองสามเดือนค่ะลูก”
“ว๊า ผมคิดถึงคุณแม่แย่เลย”
“คิก คิก ปากหวานนะลูกคนนี้” แม่หัวเราะด้วยความชอบใจ เหอะๆ
“เฮ้อ...” แต่คุณพ่อถอนหายใจซะเสียงดัง และไอ้ขวัญนั่งเบ้ปากอยู่ข้างพ่อ
รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหางว่ะ เรื่องอะไรจะให้พ่อเอาเรื่องไอ้แก้วขึ้นมาคุย
กว่าจะหมดเวลาที่ต้องปั้นหน้าเป็นผู้ดีเวลาอยู่กับพ่อแม่ก็เล่นเอาโคตรเบื่อและโคตรเซ็ง และยิ่งเซ็งมากขึ้นเมื่อมีคนคอยตามติดทุกฝีก้าว
“มึงไม่มีอะไรทำแล้วรึไงตามกูอยู่ได้”
“ใครตามมึงที่ไหนนี่มันโรงแรมพ่อกู”
“.......................” เขาด่ามันในใจยาวยืดเพราะพูดออกไปก็ไม่เข้ากะโหลกมันหรอก
พงษ์กดลิฟท์ไปที่ชั้น ๘ ซึ่งเป็นชั้นที่ตั้งของแผนกโปรแกรมเมอร์ ไอ้ลูกเจ้าของโรงแรมมันก็ยังตามเข้ามา
กับไอ้ขวัญก็คิดซะว่ามันเป็นเศษดินเศษอากาศไปอย่างเดียว ขืนเผลอตัวไปพูดกับมันเข้าก็จะพาแต่สมองตกต่ำเมื่อนั้น
“พงษ์...กูเป็นเพื่อนมึงนะ” เรียกร้องเอาอะไร กูรังเกียจมึงมาตั้งนานแล้วยังไม่สำนึกอีกเหรอ
“....................................”
“พงษ์...”
“เฮ้อ...ลิฟท์ช้าไปไหนวะ” เขาบ่นอยู่คนเดียวพลางยืนพิงกับผนังลิฟท์แต่ไม่ลืมกดโทรศัพท์หาไอ้แก้วเรื่อยๆโดยไม่สนใจไอ้ขวัญที่เสียงเล็กเสียงน้อยอยู่ตรงหน้าก่อนที่มันจะโวยวายขึ้นมาอีก
“กูชักจะหมดความอดทนแล้วนะ”
“.................................”
“ไอ้พงษ์!มึงก็รู้ว่ากูชอบมึงแต่มึงยังทำแบบนี้ใส่กูได้ยังไง!”
“เฮอะ...” พงษ์ส่ายหน้า “กูรู้พอๆกับมึงรู้ว่ากูไม่ชอบมึง กูไม่ได้วิปริตผิดเพศอย่างมึงหนิที่ต้องชอบผู้ชายตอบ” เขาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วมองหน้าตั้งใจพูดกับมัน ...อย่างเลี่ยงไม่ได้
ความเป็นเพื่อนที่ผู้ชายมีให้กันกับคนที่คิดเป็นอย่างอื่นมันก็คงไม่ต่างกันนักหรอก แต่ไอ้ขวัญมันเกาะแกะเขาชัดเจนเกินไปทั้งที่คนอย่างมันไม่เคยเห็นหัวเพื่อนคนไหนด้วยซ้ำ แต่นี่เขายิ่งเมินมันยิ่งตาม เขายิ่งเอาตัวออกห่าง มันยิ่งวิ่งเข้าใส่ ตื้อได้ยันโลกแตกเลยมันล่ะ
“พูดอย่างกับไอ้แก้วมีดีกว่ากู มันก็เมียผู้ชายเหมือนกันละวะ”
“ไม่เหมือน!”
“ไม่เหมือน? หึ มันหลงผู้ชายหัวปักหัวปำ มึงยังแกล้งไม่รู้ไม่เห็นอีกเหรอ” พงษ์กำหมัดแน่นเมื่อลูกขวัญพูดแทงใจดำ
“เรื่องของพวกกู มึงไม่ต้องเข้ามายุ่งย่าม!” พร้อมทั้งตวาดมันเสียงดัง
“ก็กูจะยุ่ง กูจะยุ่งๆๆๆๆกับมึงจนกว่ามึงจะคบกับกู”
“หน้าด้าน!”
“อะ ไอ้พงษ์”
“กูพูดความจริงทำเป็นรับไม่ได้ มึงเป็นผู้ชายนะขวัญไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องทำท่าดัดจริตรับไม่ได้กะแค่คำพูดตรงๆจากกู”
ปึ๊ก!
“โอ๊ะ”
“หึ” เอามือตบผนังลิฟท์แล้วก็เจ็บเอง อย่างนี้มันน่าสมน้ำหน้านัก
เขายืนพิงผนังอยู่ฝั่งหนึ่ง ไอ้ขวัญก็อยู่อีกฝั่งมันมองมาอย่างไม่ลดละสายตา
เพราะการที่มึงได้คบกับกูไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือเป็นคนที่ชอบมันเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้น้องมึงเสียใจและรู้สึกเหมือนไม่มีใครใช่ไหมล่ะ มึงถึงได้เลือกตามตื้อกูมาตลอด
ประตูลิฟท์เปิดที่ชั้น ๘ ไอ้ขวัญรุดเดินไปเปิดประตูห้องที่อยู่เยื้องกับลิฟท์ทันที
“คุณลูกแก้วไปไหน?” มันถามพนักงานก่อนเสร็จสรรพ พงษ์จึงโผล่หน้าเข้าไปในห้องตาม
“ออกไปกับคุณยังไม่เข้ามานี่ครับ” พนักงานคนหนึ่งตอบ
“บ้าเหรอ ผมมาส่งตั้งแต่เที่ยงแล้ว” ไอ้ขวัญเหวี่ยงใส่คนนั้นทันที เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู นี่มันบ่ายสี่โมงเย็นแล้ว
“ไปเถอะ” เขาเรียกมัน
“ไปไหน? กูต้องรู้ให้ได้ว่าไอ้แก้วมันหายไปไหน” ไอ้ขวัญเปิดประตูเข้าไปยืนกลางห้อง พนักงานก็ไม่เป็นอันทำงานกันจนเขาต้องเข้าไปฉุดแขนมันออกมา
“แล้วมึงอยู่นี่จะรู้ไหม มึงเอาน้องไปทิ้งไว้ที่ไหนอีก อย่ามาโกหกกู”
“ไอ้พงษ์...” มันเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง
“มึงเอาน้องไปส่งที่ไหน?” เขาจึงต้องย้ำถามอีกครั้ง
ไอ้แก้วไม่ใช่คนที่จะไปไหนไม่บอก ไม่ใช่คนที่ชอบไปไหนคนเดียว ยิ่งที่ๆไม่เคยไปมันยิ่งไม่ย่างกรายใหญ่ และไอ้ขวัญก็รู้ดีจึงชอบแกล้งทิ้งน้องไว้โน่นไว้นี่ตลอดเพื่อให้มันกลับบ้านเองไม่ถูก เพื่อให้มันเคว้งแล้วตัวเองสะใจ คนอย่างไอ้ขวัญมันทำร้ายไอ้แก้วได้ทุกทางนั่นแหละ
“กูมาส่งมันหน้าโรงแรมก่อนไปหามึงจริงๆ” แต่มันยืนยันคำเดิมเสียงแข็งเหมือนที่บอกก่อนจะมาถึงนี่
“ถ้างั้นแล้วตอนนี้มันอยู่ไหน!” เขาหัวเสียเมื่อโดนมันกวนประสาท
“ไอ้เหี้ยแก้ว!”
เพี๊ยะ!!
“มึง...” มันเอามือกุมแก้มตัวเองหลังโดนฝ่ามือจากเขา นี่แค่เบาะๆกับคนอย่างมัน
“อย่าโทษน้อง! น้องไม่เคยทำอะไรมึงเลย เพราะถ้ามึงไม่ทำน้องกูก็จะไม่โทษมึงเหมือนกัน”
“หึ” มันแสยะยิ้มกัดฟันจะเดินหนี แต่เขาคว้าแขนมันเข้าไปในลิฟท์ซะก่อน
“คราวนี้มึงต้องตามหามัน”
“ไม่!”
“มึงขัดกูไม่ได้หรอกขวัญ”
“ก็กูมาส่งมันถึงนี่แล้วมึงจะให้กูไปหาที่ไหน รู้ใจกันดีไม่ใช่เหรอ งั้นเชิญมึงไปตามคนเดียวเถอะ” มันกระแทกเสียงใส่ตอบกลับมาหน้าตาเฉย
“งั้นกลับไปดูที่บ้าน” เขาคิดว่ามันอาจจะไม่สบายแล้วแบตโทรศัพท์คงหมดโดยไม่รู้ตัว
พงษ์ให้ขวัญทิ้งรถไว้ที่โรงแรมแล้วลากมันมาด้วย คงต้องสอนเรื่องความรับผิดชอบให้มันอีกคน น้องยอมไม่ใช่ว่าจะทำอะไรก็ได้ จะปล่อยปะละเลยยังไงก็ทำไป ไอ้แก้วเป็นคนที่ควรใส่ใจมากกว่าเรื่องใดๆทั้งหมด เป็นคนที่...ยังไงก็ให้อยู่คนเดียวไม่ได้ ถึงไม่มีเขาอยู่ข้างๆ แต่รอบข้างมันต้องมีคนอยู่ด้วยเสมอ
เพราะการที่มันอยู่คนเดียว ความคิดของมันจะดิ่งลึกลงไปเกินกว่าที่เขาหรือใครจะเข้าถึงได้เมื่อพบเจอมันอีกครั้ง
เขาถึงได้คิดและตัดสินใจแทนมันในหลายๆเรื่องยังไงล่ะ พยายามให้มันคิดเองน้อยที่สุด
“ผิดคาดแฮะ” ไอ้ขวัญแขวะเมื่อมาถึงบ้านและยังไม่เห็นแม้แต่เงาของไอ้แก้ว
เขาไม่คิดว่าแก้วจะ...
พงษ์ปิดประตูห้องของแก้วแล้วรีบวิ่งลงบันไดเพื่อกลับไปที่รถ
ห้ามแล้วนี่ มันไม่ทำแน่เพราะมันรู้ว่าเขาไม่เห็นด้วย เขาออกรถโดยลืมไอ้คนที่วิ่งมาทุบรถตามหลังเสียสนิท
“จะตามมาทำไม?”
“อ้าว ไอ้นี่”
“เฮ้อ” พงษ์ถอนหายใจแล้วพยายามจะไม่ร้อนรน
...บอกให้มันตามมาเองนี่หว่ากู
บ้านไอ้ฝิ่นคือที่ๆเขานึกถึง ข้อห้ามที่ทำยากเขารู้ดี แต่ในเมื่อเขามีเหตุผลให้ไอ้แก้วแล้ว มันก็ควรจะเข้าใจ
“มึงลงไปกดกริ่งสิ”
“เรื่อง?” พงษ์หันขวับมองหน้าขวัญ
“ไม่เคยทำตัวมีประโยชน์จริงๆ” เขาว่ามันแล้วเปิดประตูรถพลางปิดกระแทกเสียงดังใส่มันด้วย
กดกริ่งรออยู่หน้าบ้านไม่นาน ไอ้ฝิ่นก็เดินออกมาด้วยสภาพหัวเหอยุ่งเหยิงอย่างกับคนเพิ่งตื่นนอน ใส่แค่กางเกงยีนส์เก่าๆขาดๆและมีเสื้อยืดพาดบ่ามาด้วย
เขามองมันอย่างเหยียดๆ
“หืม? มาถึงบ้านอีกแล้ว” มันทักทาย กวนส้นตีน
“ไอ้แก้วอยู่ข้างในใช่ไหม?” เขาถาม น้ำเสียงเรียบ แต่ใจนี่ถีบประตูบ้านเข้าไปแล้ว
“ไม่อยู่” ไอ้เหี้ยฝิ่นตอบเสียงห้วนหน้าตาไร้อารมณ์
“กูไม่เชื่อ!”
“เรื่องของมึงแล้วอย่าคิดว่ากูจะให้เข้ามาเป็นเสนียดบ้านอีกรอบ”
“ไอ้เหี้ย!” พงษ์ด่ากราดมือจับประตูเหล็กเขย่าด้วยอารมณ์โมโห
“กูไม่มีอารมณ์มาเหยียบหน้ามึงตอนนี้ อีกสามวันมึงไปเคลียร์กับกูที่ผับหลังมหาลัยTค่อยเจอกัน” มันพูดเสียงเข้มแล้วเดินหันหลังกลับเข้าบ้าน ทำอย่างกับเขาไม่อยู่ในสายตามันอย่างนั้น
นึกว่ากูกลัวรึไง? โถ่!
“เหี้ย มึงแน่ก็มาตอนนี้เลยสิ!” พงษ์ตะโกนตามหลังและเสียงแตรรถดังขึ้นขัดจังอารมณ์
ปิ๊น ปิ๊น ปิ๊นนนน
“เฮ้ย มึงจะบีบเรียกแม่มึงรึไง”
“มึงด่าแม่กูอีกแล้วนะพงษ์”
“ก็เออสิ!” พงษ์เปิดประตูรถเข้ามานั่งพร้อมเอาเรื่องกับไอ้คนข้างๆ
“กลับบ้านได้แล้ว มันรออยู่บ้านนั่นแหละ”
“อะไรนะ?” เขาหันไปหาไอ้ขวัญเพื่อความแน่ใจอีกที
“ไอ้แก้วโทรมาบอกว่าอยู่บ้าน” มันตอบ ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาด
“แต่เมื่อกี้...” แล้วมันไปไหนมาถ้าไม่ได้มาที่นี่ อีกอย่าง “เดี๋ยวก่อน... โทรมา?”
“มันโทรเข้าเครื่องมึงเมื่อกี้ เห็นมึงกำลังบ้ากูเลยไม่อยากรบกวน” ไอ้ขวัญตอบหน้าตาเฉย “เอ้า ออกรถสิครับ”
“มึงยุ่งกับมือถือคนอื่นได้หน้าตาเฉยอีกแล้วนะ”
“คนอื่นที่ไหน” พร้อมยักคิ้วใส่
เวรกรรม... ไอ้แก้วนะไอ้แก้ว ไปไหนมาไหนไม่บอกกันก่อน
และยังทำให้มีตัวเวรตามติดกูทั้งวันอีกด้วย
..................................
งานนางเพียบ แต่นางยังอัพได้อีก ฮ่าๆๆๆ เชิ๊บ เชิ๊บ นานๆสมองจะแล่นที
แต่เอ่อ ไม่ได้ตั้งใจขัดจังหวะนะคะ แต่ยังไม่ถึงเวลาของสองคนนี้จริงๆY^Y
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์เจ้าาา ^^ กอดๆจุ๊บ
เพจข้าเจ้า (http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%81/324322744281783/)
ตอนนี้มีสามชีวิตที่โดนบังคับให้กด อนาถจิต ไม่มีใครคุยด้วย :z3:
-
เกลียดขี้หน้าขวัญขึ้นทุกทีๆ
ไม่รู้ทำไม....
-
อ่า...อยู่ๆก็เชียร์ขวัญ
-
อย่าให้ขวัญได้สมหวังเลยย
ทำกับแก้วไว้เยอะ
:beat: :beat:
-
ไอ้ดิว โคตรเหี้ยอ่ะ สัส
:z6: :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31:
-
ว่างั้นแหละ อยู่ๆก็อยากเชียร์ขวัญกับพงษ์ซะงั้น
-
ไม่ชอบขวัญเลยให้ตายสิพ่อแม่รังแก(ขวัญ)ตามใจจนเสียคน ฮึ :m16:
พี่ดิวนี่เองผู้อยู่เบื้องหลังนางมิว :beat:
-
:-[ :impress3:
-
ขวัญนี่ดูเรียกร้องความสนใจอ่ะ ไม่ปลื้ม !! :m16:
:pig4: นะคะ
-
ขวัญ แม่มม น่ารำคาญ
-
ไม่ชอบขวัญเหมือนกัน ไม่แปลกใจที่ไม่มีใครอยากคบ มันทำตัวน่ารำคาญจริง
คุณพ่อพงษ์เฮียบจริงๆ หวงลูกแก้วตลอด ชอบพงษ์นะ ถึงมันจะโง่ก็เหอะ :laugh:
-
เห้ยงงกะมัน จะเอาใครเลือกเลยพี่รึน้อง ติดเป็นปลิง
-
อ่านตอนนี้แล้วขำกิ๊ก พงษ์กับขวัญมันสมน้ำสมเนื้อกันจริง
เสียแต่พงษ์ไม่ชอบผู้ชายนี่สิ คนเขียนหาคู่ให้พี่ลูกขวัญด้วย
เอาแบบโหด ๆ มาปราบคนเอาแต่ใจให้อยู่ในโอวาทซะที
เรื่องทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอิพี่ดิวคนเดียว
อยากได้แก้วแล้ววางแผนมั่วซั่วอะไรเยอะแยะไปหมด
-
แก้วคิดอะไรอยู่เนี่ย อยากรู้จริงจัง เมื่อไหร่กรรมจะตามสนองไอ้พี่ดิวนะ
-
ขวัญน่ารำคาญ..น่ารังเกียจ..ยิ่งกว่าเห็บเหา
-
เชียร์ขวัญให้โดนกดเร็วๆ ฮ่าๆๆๆ
-
เอาอีพี่ดิวกับนังมิวไปเก็บด่วน!
สองคนนี้เอาเรื่องให้แก้วกับฝิ่นไม่หยุดไม่หย่อน
โดยเฉพาะอีพี่ดิว แกนิสัยแบบนี้น้องแก้วเขาไม่ชอบหรอกย่ะ
น้องเขาไม่ชอบก็ยังไม่หยุดอีก หาเรื่องให้ตลอด
จริงๆแอบอยากให้พงษ์กับขวัญคู่กัน
แต่แลดูจะยากนิดนึง 555
ขวัญชอบพงษ์จริงๆ หรืออยากจะแย่งสิ่งที่แก้วมี
เพราะตามนิสัยแล้ว ดูขวัญจะต้องได้ทุกอยาก
แต่ยังไงก็เชียร์พงษ์ขวัญนะ
ช่วงนี้พี่ซีซั่นฟิตอ่ะ ชอบๆ
-
อิดิทร้ายได้อีกอ่ะ จับู่ขวัญกะพี่ไม้ น่าจะเหมาะกันนะ
-
ชวัญกะพงษ์นี่น่าคิดอ่ะ :laugh:
แต่ฝิ่นเอาน้องแก้วเค้ามาซ่อนแล้วไม่ยอมบอกนะเนี่ย :m12:
แต่สภาพฮีตอนออกมาเปิดประตูนี่ไม่ไหวจะเคลียร์ ทำให้ต้องนึกสภาพแก้วไปด้วยเลยอ่ะ :haun4:
-
ขวัญ พงษ์ ดิว ใครก็ได้ลากไอ่สามตัวนี้ไปเก็บที เพลีย -_-
ไอ้พี่ดิวเลวมาก ฝิ่นมาจัดการมันทีซิ
-
ส.. สอง ตอน ติด !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! :mc4: :mc4: :mc4:
ดีใจจังเลยอ่ะ
ไม่คิดว่าจะได้อ่านสองตอนติด T T'
ปล. คิดถึงฝิ่นจังเลย 55555
(ตอนนี้เม้นท์ยาวไม่ได้เล่นในมือถือพิมพ์ลำบ๊ากลำบาก tt)
-
นั่นไง ขวัญชอบพงษ์จริงด้วย ถึงตืี๊อหนัก พงษ์ก็แรงเนอะ ขวัญก็ไม่มีย่อท้อ
ที่เบื่อน้องตัวเองนักคงเพราะพงษ์ดูแล้วอย่างดีสินะ...ไม่รักน้องบ้างเหรอไง จริง ๆ คงรักแต่อิจฉาอ่ะนะ
อิพี่ดิวนี่ผู้ชักใยเหรอ ใช้คนอื่นเพื่อทำให้ตัวเองยิ่งใหญ่ แล้วนังมิวนี่ยังไง แกจะกวาดผู้ชายทุกคนในเรื่องเลยเหรอไงยะ
แต่ขอโทษ ไม่มีใครเอาเธอจริงซักกะคน หึๆๆ :m31:
ขอบคุณจ้า
-
เฮ้อ~
น้องแก้วจ๋า กลับบ้านตอนไหนคะ
กลัวพงษ์เข้าไปตามแล้วมีเรื่องกับพี่ฝิ่น
ส่วนพี่ดิวกับอิน้องมิวมันพวกเดียวกัน
นิสัยคล้ายกันเนอะ
+1+เป็ดจ้า
-
ึคู่ พงษ์ ขวัญ
มันต้อง มัน มาก จิงๆ
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
คุณพี่ขวัญ มันแปลกจริงๆ
ไอ้พี่ดิว เมื่อนไหร่จะไปผุดไปเกิดสักที
คุณมิว ผู้หญิงที่เลวที่สุดในเรื่อง
:fcuk:
-
เชิ๊บ เชิ๊บ กอดนางแน่นๆ 555555
สงสารพ่อพงษ์ ปวดหัวเพราะลูกหาย
ยังต้องมาเจอสิ่งมีชีวิตหลอนๆที่ชื่อ ขวัญอีก
ทำตัวกวนประสาทสุดๆอ่ะ กับน้องยังแกล้งได้ กุมขมับ
ปล.ห่วงแก้ว เหมือนกัน ป่านนี้ไม่รู้จะดิ่งท้านรกไปถึงไหนแล้ว
-
มิว ดิว หญิงร้ายชายเลวจริงๆ
-
กรื้ดด ด ด :m31:
อยากอ่าน ฝื่น แก้ว ที่สวด :sad4:
อิพี่ดิวมึงเลวได้อีกคร้า
เพราะมึงสันดานไม่ดีน่ะสิ คนอื่นเค้าเลยไม่ชอบมึง
ไม่รุ้ตัวอีก
ตกลงขวัญจะคุ่กับใครเน้อ
อยากให้คุ่กับพี่ไม้ด้วย และก็อยากให้คุ่กับพงษ์ด้วย
5 5 55 5 55 .
ฝื่นขอถามอย่างดิ้ แก้วไม่อยุ๋ด้วยจริงอ่ะ?
หรือขวัญโกหก? เอ๋ หรือเราสงสัยไปเอง
5 5 555 .
สุ้ๆๆค่ะ o13
-
...ตัวปริศนา ที่เป็นเหตุการตายของเป้ง นี่คือพวก สะระอิว เหรอ ทั้งดิว ทั้งมิว
...ตายๆ คุณขวัญ แกตามจีบพงษ์นี่เอง นึกว่าจะไปตามจีบพี่ไม้ซะอีก
...แล้วคุณน้องนายเอกนี่ ชึล่องหน ได้หรือไง แว๊ปไปแว๊ปมา ให้หากันซะวุ่นเลย
...แต่แปลกฝิ่นทำไม ไม่ตกใจวะ ที่แก้วหายไป หรือว่าเป็นเพราะพึ่งกลับออกไปจากบ้านฝิ่น :laugh:
-
ดิวเป็นคนแบบนี้เองเหรอ
-
เดี๋ยวก็ยุให้พี่ไม้จับกดขวัญซะนี่ :m16:
ยังคงรอฝิ่นกับแก้ว ง้อกันต่อปายยยยยย :sad4:
-
พงษ์วุ่นวายน่าดูนะเนี่ย ดิวร้ายมาก ๆ เลยนะ ดิวจะอะไรกับแก้วนักหนาเนี่ย
-
:เฮ้อ:อีขวัญ
:z6:
-
.
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
โอ้ ยังคงต้องหลงไหลในม่านหมอกกันต่อไป
แม้แสงขอบฟ้า ณ อรุณรุ่งกำลังจะเข้ามาเยือนบ้างก็เหอะ
แต่คนอ่านยังงัวเงียขี้ตาตามน้องแก้วอยู่เลย
อยากอ่านต่อๆๆๆๆๆ
ไอ้เห้ฝิ่นนี่มัน :z6:
อุตส่าห์กอดก่อน ยอมให้ (จุด)(จุด)(จุด) ขนาดนี้
ไม่รักก็อย่ามาฟิชเจอร์ริ่งด้วยซิวะ แง่ม~~~
-
โอ้ยเพลียก่ะอีลูกขวัญ.........จิงหรือตอแหละเนี่ย - -!!
ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้า รอรอนะค๊าฟ ^^
-
มิวกับดิวเหมาะสมกันจริง ๆ
แก้วกลับบ้านแล้วจะเป็นยังไงต่อ
-
^^
-
อ่านทันจนได้ :mc4:
ขวัญนิสัยโคตรน่ารำคาญเลย แบบนี้จะหวังให้คนชอบท่าจะยากนะ :beat:
-
:sad4:มาต่อเร็วๆละคราบ รออออ
อ่านตั้งสองคืน กว่าจะถึงล่าสุด เหนื่อยมาก ชอบๆๆๆ เร็วๆนะคราบ :z1:
-
แก้วคิดจะตัดใจจากฝิ่นหรอเนี้ย :a5:
-
ขวัญนิสัย สาว มากกก เเลดูจะคิดว่าตัวเองเป็นสาวน้อยน่ารัก
-
ขวัญ น่ารําคาญจริง :m16:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: อ่านๆไปยังคาใจเรื่องการตายของเป้งอยู่ดี...จะมีบทสรุปเมื่อไหร่เนี้ย มันซับซ้อนซ้อนเงื่อนอะไรขนาดนั้น พลิกไปพลิกมาตลอดเลย อย่างไงก็เป็นกำลังใจให้กับเรื่องนี้นะครับ ชอบๆๆ o13 o13
-
:serius2:
ยุ่งเหยิงดีเหลือเกิน... :เฮ้อ:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๔๕
“มึงแน่ใจนะว่ามันจะมา” ไอ้อ้นเดินมาแตะไหล่ถามก่อนจะนั่งลงข้างๆแล้วรินเบียร์ใส่แก้วยื่นให้
“กูให้เกียรติมาถึงถิ่นขนาดนี้ ถ้ายังปอดอยู่ กูก็คงไม่ต้องลงแรงแล้ว” ฝิ่นกระดกแก้วเบียร์เข้าปากด้วยอารมณ์เบื่อหน่าย
เบื่อเสียงเพลง เสียงผู้คนรอบตัว รวมทั้งเบื่อที่ต้องรอ...
...รัก...
ฝิ่นขยำกระดาษที่เขียนด้วยดินสอซึ่งเขาหยิบมาจากที่มันวางไว้ข้างเตียงแล้วโยนไปปะทะกับตู้เสื้อผ้า
กูไม่น่าเผลอหลับเลยให้ตาย! ทั้งที่เดาไว้แล้วว่ามึงจะทิ้งกูแต่ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้ เพิ่งมีอะไรกันไปไม่กี่ชั่วโมงแท้ๆ ทั้งที่มึงรักกูแท้ๆ
...แต่วันนี้มึงจะไปก็ไปเถอะ เพราะมึงไม่ใช่คนที่จะเดินจากกูได้
ฝิ่นเดินไปหยิบกระดาษที่ยับย่นคลี่ออก
กูมั่นใจว่ายังไงมึงต้องเลือกกู ทั้งคำพูด การกระทำ สัมผัสของมึงมันบ่งบอกว่าขาดกูไม่ได้ และกูก็คงไม่ต้องรออีกต่อไป คอยดูเถอะ...มึงจะต้องเดินมาหากูเมื่ออยู่ต่อหน้าไอ้เหี้ยพงษ์!
เขาใช้มือรีดกระดาษให้เรียบซึ่งทำยังไงมันก็ไม่เรียบเท่าเดิม จึงได้แต่เปิดลิ้นชักหัวเตียงแล้วเก็บกระดาษแผ่นนั้นไว้อย่างดี
“พี่ฝิ่น พี่เอาตามนี้แน่นะ?”
“อืม มึงดูสถานการณ์ให้พอดีละกัน”
“แต่ผมว่า...” ฝิ่นยกมือขึ้นท้วงไม่ให้รุ่นน้องพูดต่อ
ไม่มีอะไรอันตรายในเส้นทางนี้หรอก ถ้าอยากได้ก็ต้องเสี่ยง ยิ่งอันตรายยิ่งหมายถึงความทุ่มเท
“พี่ไม้ล่ะ” เขาถามหาเมื่อไม่เห็นเงาของพี่
“เอ่อ...”
“หืม?” ฝิ่นมองหน้าโจ้อย่างข้องใจ
“ไอ้พี่ขวัญลากไปแล้ว”
“ฉิบหาย” มันรู้ว่าจะมานี่ตอนที่เขาบอกไอ้พงษ์สินะ
“พี่...ผมไม่ได้ให้ใครตามนะคราวที่แล้วโดนซ่อมกันถ้วนหน้า”
“จมูกดีเกินไปแล้ว” ฝิ่นพยักหน้าพูดเสริม ไอ้โจ้ลนๆนั่งไม่ติดเก้าอี้คงจะอยากตามพี่ไม้แต่ก็เลี่ยงทางนี้ไม่ได้เหมือนกัน เขาเองก็ต้องพึ่งมันด้วยนี่หว่า
“...ไม่มีอะไรหรอก คงไม่พ้นเพื่อนนั่งดื่มอีกตามเคย”
“อืม ครับ ไอ้แก้วมาแล้ว!”
“มึงจะลนทำไมวะ?” เขาว่าไอ้โจ้ที่ทำท่าชะเง้อคอมองด้วยท่าทางตื่นเต้นซะเกินเหตุแล้วพยักพเยิดหน้าให้เพื่อนเขาเดินไปพามันสองคนมาที่โต๊ะ พลางเทเบียร์ใส่แก้วให้ตัวเองจนหมดอีกขวด
“ตรงนี้เหรอ?” ไอ้พงษ์มาถึงก็ยืนค้ำหัวแล้วพับแขนเสื้อทันที ถุยเถอะ เก่งเหลือเกิน
“กูไปรอข้างนอกนะ” ไอ้แก้วพูดบอกเพื่อนมันเสียงเรียบ มีอะไรรึเปล่า? ถ้าปกติมันคงไม่ปล่อยให้ไอ้พงษ์อยู่ในวงล้อมอย่างนี้แน่
ฝิ่นเงยหน้ามองแก้วแต่เจ้าตัวไม่ยอมสบตาด้วยนอกจากมองแต่ไอ้พงษ์ไม่ก็หันมองคนไปทั่วร้าน
แต่ก็ดี...ไอ้โจ้จะได้ไม่ต้องลนไปเยอะกว่านี้
“ไปสิ เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” โจ้ชวนมันด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นทำเอาฝิ่นแทบต้องกุมขมับ
“ฮึ่ม!” เขากระแอมเตือนรุ่นน้องมันจะกังวลเกินไปละ ไอ้โจ้จึงพยักหน้าให้เป็นเชิงว่าเข้าใจแล้วจึงพาไอ้แก้วออกไปข้างนอกท่ามกลางเสียงแย้งจากไอ้พงษ์
“นั่งสิ”
“ไม่จำเป็น” หึ
“พูดกันตรงๆ... เพื่อนมึง กูจะเอา” เข้าประเด็นเน้นๆโดยไม่ต้องเสียเวลาเกริ่น
เขาไม่สนหรอกว่าไอ้แก้วคิดอะไรอยู่กับพฤติกรรมของมันเมื่อวันก่อน เพราะยังไง มันก็ไม่ใช่คนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจ เขาเท่านั้นที่ตัดสินใจให้มันอยู่หรือไป ไม่ใช่มาทำเป็นรัก ทำเป็นคิดถึง แต่ก็เพื่อจะตีจากอย่างที่พูดไว้วันนั้น
“กูไม่ให้!” ไอ้พงษ์พูดสวนทันควัน กูก็รู้ว่ามึงต้องไม่ให้
“แลกกับที่มึงทำเพื่อนกูละกัน กูจะไม่เอาเรื่องอีก” ฝิ่นพูดบอกหน้าตาเฉย คนอื่นมีหน้าที่แค่รับข้อเสนออย่างเดียวพอ
“แต่กูอยากมีเรื่องว่ะ”
“พรากผัวพรากเมีย..”
“มึง!” มันเสียงดังเอื้อมมือข้ามโต๊ะมากระชากคอเสื้อเขาอย่างไม่เกรงใจคนในสายนับสิบที่ยืนล้อมมันอยู่
“ไม่ต้อง” ฝิ่นบอกลูกน้องที่จะเข้ามาแยกพลางลุกยืนจับมือไอ้พงษ์ออกเอง ยั่วขึ้นอย่างนี้สิที่กูต้องการ “กูเป็นคนแรกของเพื่อนมึงสินะ” เขาตีคิ้วใส่มันและผลักมันออกจากตัว
เพื่อนรัก...ตำแหน่งนั้นมึงเอาไปเถอะ แต่แค่เพื่อนจะมาเทียบกับกูได้ยังไง
“มึงอย่าเห่าเลย เรื่องมันจบไปแล้วกูไม่จำเป็นต้องฟัง ถ้ามึงอยากเอาคืนก็มาเลยดีกว่า กูพร้อมทุกเมื่อ!” เฮอะ กร่างจริงๆ จนถึงตอนนี้มันยังไม่ยอมนั่งให้กู ท่าจะอยากโดนของจริงจนได้
ฝิ่นปรายตาลงมองไปยังขวดเบียร์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะและเหมือนไอ้พงษ์จะรู้ตัวมันรีบคว้าขวดที่เขาเทหมดไปถือไว้ในมือทันที
ใจเย็นไว้ฝิ่น เขาได้แต่เตือนตัวเองก่อนจะเอื้อมมือไปแตะปากขวดเบียร์อีกขวดอย่างช้าๆ
“เพื่อนกูไม่ได้มีไว้ให้ดูถูก ถ้ามึงไม่ยอมจบกูก็จะสานต่อให้เอง!” ไอ้พงษ์เสียงดังทั้งยังฟาดขวดใส่หัวเขาอย่างแรง
เพล๊งงง
...แตกทั้งขวดทั้งหัวคน
“................” ฝิ่นกัดฟันด้วยความโมโหแต่ต้องข่มไว้ อย่างมากก็แค่มองไอ้พงษ์ตาขวางก่อนจะเอามือแตะเลือดที่กำลังหยดจากหัว
...รู้สึกมึนหัวเหมือนกันว่ะ
“มีอะไรกันรึเปล่าครับ” เด็กเสิร์ฟเดินเข้ามามองหน้าฝิ่นกับพงษ์เลิ่กลั่ก
“ไม่มีตารึไง! เชี่ย ไปไกลๆเลยไป” ถามมาได้ เขาผลักไหล่เด็กเสิร์ฟแล้วรับเสื้อนักศึกษาจากเพื่อนในสายที่ถอดฝากมันไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าร้านมาซับเลือด
มึงทำกูก่อนนะ!
มือซ้ายฝิ่นถือเสื้อกดซับเลือดที่หัว มือขวากระชากคอเสื้อไอ้พงษ์เข้าหาตัวด้วยแววตาวาวโกรธ
“ไง? จะรุมกูเลยไหม?” มันมองหน้าเขาอย่างไม่ลดละ
“ไม่จำเป็น” อย่างมึงมันต้องเจอกูคนเดียว ฝิ่นกระซิบบอกก่อนจะผลักไอ้พงษ์ไปให้พ้นตัวแล้วตามด้วยฝ่าเท้าเน้นๆไปที่หน้าท้องมันก่อนที่เพื่อนในสายจะล็อกตัวมันไว้
แต่ตัวเองดันเซตาม
เป็นเพราะดื่มไปเยอะ หรือเป็นเพราะโดนขวดกระแทกหัวก็ไม่ได้ใส่ใจมากไปกว่าสายตาของคนที่มองเหตุการณ์เมื่อกี้อยู่พอดี
เขาเดินตามเด็กช่างร่วมสายที่ลากไอ้พงษ์ออกไปให้ทางหลังร้าน
มึงเห็นแล้วนะว่าเพื่อนมึงทำกูก่อน... ถึงกูจะเป็นฝ่ายยอมโดนเองก็เถอะ
แต่อย่างนี้มันมีเหตุผลที่ให้เอาคืนมึงก็รู้ดี
กูไม่อยากทำให้มึงคิดว่ากูไม่จบเรื่องไอ้เป้ง และนี่ ก็ไม่ใช่เรื่องไอ้เป้งแต่เป็นเรื่องที่เพื่อนมึงตีหัวกู
มึงจะมาเสียใจและโกรธกูไม่ได้แล้วนะแก้ว กูไม่ได้แตะต้องเพื่อนมึงในเรื่องที่มึงอยากให้จบแล้วนะ เพราะฉะนั้นวันนี้คือวันที่มึงต้องกลับมาหากูได้แล้ว!!
“พี่ฝิ่นไหวไหม?” ไอ้โจ้รีบตามออกมาที่หลังร้าน “พี่เล่นแรงไปแล้วผมใจไม่ดีเลย” มันจับแขนเขาพาดไหล่และหยิบเสื้อที่เคยเป็นสีขาวแต่ตอนนี้เต็มไปด้วยเลือดสีสดออกจากมือเขาเอาไปถือและเช็ดเลือดที่หัวให้แทน
“มึงตามมาทำไมกูบอกให้พาไอ้แก้วออกไปตอนนี้ทำไมไม่ฟัง” ให้แค่มันรู้เห็นว่าเพื่อนมันทำร้ายกูก็พอ ฝิ่นต่อว่ารุ่นน้องและขืนตัวออกจากโจ้
“ผมตามไอ้แก้วมาต่างหาก” โจ้ตอบ
สายตาคมเฉียบของเขาจึงเหวี่ยงไปหาไอ้พงษ์ในขณะที่ไอ้แก้วเดินไปถึงตัวเพื่อนมันพอดีและแน่นอนว่าคนในสายไม่มีใครกล้าแตะมันอยู่แล้ว
“มึงเห็นไหมว่ากูโดนอะไรแล้วมึงยังจะห่วงมันมากกว่ากูอีกเหรอ?!” ฝิ่นเย็นต่อไม่ไหวเดินเซเข้าไปผลักตัวแก้วให้ออกห่างจากไอ้พงษ์
“ถือว่าหายกัน...กับที่มึงทำไว้กับกูแล้วกัน”
ประโยคห้วนๆ น้ำเสียงเย็นชาที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากมัน
แก้วไม่มองหน้าเขาที่ครึ่งหนึ่งมีเลือดจากฝีมือเพื่อนมันติดอยู่ด้วยซ้ำ
ถ้ากูบีบคอมึงตอนนี้มึงจะเปลี่ยนคำพูดไหม?
มือเอื้อมไปจับข้อมือคนตรงหน้าด้วยสัญชาตญาณอะไรบางอย่างแต่กลับถูกแกะออกในทันทีโดยไร้คำพูด ไร้ความรู้สึกอะไรให้จับได้เหมือนอย่างทุกครั้งที่ผ่านมา
มันเดินไปจับแขนไอ้พงษ์ออกจากคนของ๕xต่อหน้าเขาทำเอาเรี่ยวแรงที่ขาของเขาอ่อนวูบตาม
สมองเบลอจากแรงกระแทกหรือจากการกระทำของใครที่มันไม่ใช่...มันต้องไม่ใช่แบบนี้
มึงต้องเลือกกูสิ กูต้องสำคัญกับมึงมากกว่าไอ้เหี้ยนั่น มึงทำไม่ได้หรอก ใจมึงอยู่ที่กูมึงจะห่างจากกูได้ยังไง เป็นไปไม่ได้!
แต่ตอกย้ำด้วยใบหน้าไอ้พงษ์ที่แสดงออกถึงการเยาะเย้ยด้วยคำตอบที่เหนือกว่าของคนกลาง
กูคิดผิด?...
“พี่ฝิ่น...”
“ปล่อย” เขาปัดมือไอ้โจ้ที่ยื่นเข้ามาจะพยุง
ขายืนแทบไม่อยู่ แต่สายตายังมองตามหลังสองคนนั่นไม่วางตา
“อ้น... เล่นมัน” เสียงสั่นบอกไอ้อ้นด้วยอารมณ์ที่ต้องกำหมัดแน่น
เมื่อไม่มีอะไรจะเสียมากไปกว่ากูเสียมึง กูก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้ามึงแล้ว!! จะเป็นจะตายยังไงก็ช่างมึง
ฝิ่นเอ่ยปากสั่งเพื่อนในสายให้ตามไอ้แก้วกับไอ้พงษ์ไปส่วนเจ้าตัวก็เดินเซไปอีกทาง
“โจ้ ปล่อยกู” เขาออกปากสั่งไอ้โจ้อีกครั้งเมื่อมันยังตามเอาเสื้อมาซับให้ไม่เลิก
ปล่อยให้มันไหลไปเถอะ คนที่กูทำให้เห็นมันยังไม่แลตาดู ถ้ากูจะเลวในสายตามันขนาดนั้นก็ตามใจมันเถอะ
“พี่ฝิ่นให้ผมพาไปโรงพยาบาลนะ”
“ไม่ต้อง! กูบอกว่าปล่อยไง กูอยากอยู่คนเดียว” เขาตวาดมันแล้วฉกเสื้อออกจากมือมันมา “มึงไปจัดการไอ้พงษ์ เล่นมันต่อหน้าไอ้แก้ว เอาให้มันรู้สึกเหมือนที่กูเป็นอยู่ตอนนี้ ถ้าทำไม่ได้มึงไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้า ไป!”
เอาให้มันเจ็บ เอาให้มันจำ เขาเป็นใครต้องยอมมันไหมแต่ทำไมเขาถึงยอม...เพราะกลัวเสียมันไปยังไงละวะ
แล้วดูที่มันให้เขาสิ กล้ามากนะที่ทิ้งเขา กูอนุญาตให้มึงทิ้งกูได้รึไง ทำไมมึงเหี้ยอย่างนี้ไอ้แก้ว!
แววตาสั่นระริกจากคนแข็งแกร่งที่เจ้าตัวเองก็รับไม่ได้ ฝิ่นทรุดตัวนั่งริมฟุตบาทเขาต้องเงยหน้าขึ้นฟ้าเพื่อห้ามสิ่งที่กำลังจะแสดงออกมาเพื่อตอกย้ำว่าตน...แพ้
“ถ้ามึงยังยอมรับไม่ได้ กูว่า...ให้กูกับไอ้พงษ์ ไปไกลๆจากสายตามึงก็ได้นะ ถ้าไม่ต้องเจอกันมันอาจจะดี”
แล้วทำไมมึงไม่เลือกกูแล้วหันหลังให้มัน...
...........................................
อย่าแซวยูสเค้าสิ >w<
โอยยย ไม่อยากบอกเลย แต่คาใจกันก็จะบอกให้ก็ได้ เรื่องของเป้งเดี๋ยวมันก็แดงขึ้นมาแล้วค่ะ ไม่เกินตอนที่ ๖๐ (กร๊ากกก)
//ไปโอ๋ไอ้ฝิ่นดีกว่า :z2:อิอิ
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ^^ กอดๆจุ๊บ
-
แวะมาจิ้มตรูดเป็ด :z13: :z13: :z13:
-
อึดอัดเนอะ :เฮ้อ:
-
อ่านตอนนี้สองรอบติดกันไปเลย เอาให้ซึ้งในรสชาติ (อินเกินไปแล้ว)
ทำไมแก้วทำอย่างนี้น้า สงสารฝิ่น คนเขียนเขาอยากอ่านต่ออีกหน่อย
มาต่อให้ไวที่สุดเลยน้า
-
ทำไมไม่เลือกฝ่ิน T^T
-
ต่างคนต่างยังเข้าใจผิดกันนะ :m15: สงสารฝิ่นเป็นครั้งแรก T^T
แต่ทำไมต้องให้แก้วหันหลังให้พงษ์ด้วยล่ะฟะ -*- เอาแต่ใจไปมั๊ยฝิ่น
:pig4: :กอด1:
-
จะร้องไห้ ทำไมแก้วทำแบบนี้
:sad4: :sad4: :sad4:
สงสารฝื่นอ่ะ พงษ์แม่ง
ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าอะไรทำให้แก้วเป็นแบบนั้นT,T
-
รู้สึกสะใจเล็กๆ 555
จริงๆจะแยกแก้วออกจากพงษ์นี่มันยากนะ
เพราะอะไรก็รู้กันอยู่ ยังไงพงษ์ก็เหมือนครอบครัวแก้วไปแล้ว
ฝิ่นนี่ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
-
นั้นด ไมไม่เลือกฝิ่นนนนนนนนนน
สามีออกจะรัก ดูแล ขนาดนี้
อยากให้แก้วมาอ้อนฝิ่นเหมือนเดิม o9
-
แก้วใจแข็งกว่าที่คิดนะ สงสารฝิ่น
-
มาโอ๋พี่ฝิ่นจ้า
ไม่เป็นไรนะพี่
บางทีเมียมันก็เข้าใจยาก
พี่ฝิ่นต้องพยายามทำใจให้ได้นะจ๊ะ
คึคึ~
-
แก้วคิดอะไรอยู่ จะทำอะไรกันแน่แก้ว ฝิ่นทำไมไม่ไปหาหมอ
-
:m15: ทามมายทามร้ายฝิ่นแบบนี้อ่ะแก้วว ฮือๆๆๆ
โอ๋ๆๆๆ ฝิ่นม่ะเป็นไรน่าาาา เจ็บม้ายย อย่าร้องนะๆ เพี้ยงง หายเจ็บนะ :กอด1:
-
ตอนจบ..พงษ์กับฝิ่นจะได้ญาติดีกันมั้ยเนี่ยคนเขียน เหอๆๆๆ
ตอนนี้แก้วใจแข็งมาก ไม่มีหลุดไม่มีตกใจเลยแฮะ อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ โดนใครเป่าหูมาหรือเปล่าหว่า ถ้าไม่ได้โดนเป่าหูมา ก็แสดงว่าต้องข่มใจมากๆ เลยนะนั่น :เฮ้อ:
อ้อ..แปลกใจกับพี่ไม้ด้วยที่ยอมโดนไอ้พี่ขวัญลากไปลากมาได้ยังไง :เฮ้อ:
ตั้งแต่อ่านเรื่องนี้มา มีเรื่องให้แปลกใจได้เกือบทุกตอนเลยนะคนเขียน :a5:
:pig4:
-
พี่ไม้ก็เคยเตือนแล้ว ว่าอย่าเล่นกับความรู้สึกคน
เจ็บแบบนี้ก็คงได้แต่โทษตัวเองไปแล้วกัน :เฮ้อ:
แล้วไอ้คนที่ว่าตัดใจได้น่ะ มันได้แค่ไหนว๊า
เดี๊ยวก็นอนน้ำตานองอีก :m15:
-
โอยยยยยยยยย
เมื่อไหร่2คนนี้จะได้สมหวังซะทีน้ออออ
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
มึนตึํบว่ะ
-
แก้วคิดไรอยู่เนี่ย ทำไมไม่เลือกฝิ่นอ่าาาาา
-
เหมือนพี่ไม้จะเคยเตือนฝิ่นว่าอย่าเล่นกับความรู้สึกคนอื่น
ไม่งั้นคนที่เจ็บจะเป็นตัวเอง
จะแยกแก้วออกจากพงษ์คงอยาก เค้าเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันเเล้ว
ทำใจซะเถอะฝิ่น (แอบสะใจเล็กน้อย 55 :laugh:)
-
ฝืนให้มันมาถึงจุดนี้ดีนัก รับไหวไหมล่ะ
-
ฝิ่นที่ทุ่มเททุ่มทิ้งจริงเลย ยอมหัวแตกเลยนะนั่น
แต่แก้วก็ต้องมีเหตุผลของแก้ว แก้วหนักใจนะเออ...
แต่ที่พูดตอนท้่ายมันเย็นชาพิลึก แก้วไปรู้อะไรมารึป่าว...
ขอบคุณค่า
-
สงสารฝิ่น
-
อึดอัด :เฮ้อ:
-
แอร๊ยยยยยยย ทำไมตอนนี้มันสั้นแล้วก็ค้างแบบนี้
พี่ฝิ่นเป็นอะไรมากมั้ย ตอนนี้ขอไม่สมน้ำหน้าแล้วกัน
สงสารแทน นี้โดนน้องแก้วทิ้งเข้าแล้ว โถ่ๆ
คิดมาตลอดว่าแก้วจะเลือกตัวเอง พอไม่เป็นอย่าที่คิดก็เจ็บหนักเลยล่ะสิ
ว่าแต่แก้วคิดดีแล้วใช่มั้ยที่เลือกพงษ์
กลัวว่าเรื่องจะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่ พี่ฝิ่นต้องไม่ยอมปล่อยหนูแน่ๆ
หนีไปกับพงษ์ก่อนก็ได้ แล้วปล่อยให้อีพี่ฝิ่นมันคลั่ง
พอหนูหายสะใจแล้วค่อยกลับมา 555
ไม่เกินตอนที่หกสิบเรื่องของเป้งจะแดง - -"
ต้องรอลุ้นกันต่อไป
ค้างมากอ่ะพี่ซีซั่น แต่แอบชอบน้องแก้วตอนนี้ เด็ดขาดดี
รอตอนต่อไปค่ะ
-
สงสารฝิ่นอ่ะ
-
โอ๋ๆฝิ่นคะไม่งอนน้า แต่ช้าแต่ :กอด1:
ฝิ่นบอกแก้วว่ารักคำเดียวเอาแบบแมนๆเลย
เดี๋ยวแก้วจะเดินมาหาตะเองต่อหน้าพงษ์เองละน่า o18
-
เกิดไรขึ้น? ทำไมไม่เลือกฝิ่น
:a5:
-
มีแต่ปมปริศนา
-
คนที่เหี้ยสุดกลายเป็นอีแก้ว :z6: :z6:
-
ใครมาพูดไรกับแก้วอีกหล่ะ
:beat: :beat: :beat:
-
เฮ้อ... หนักหน่วง :เฮ้อ:
ที่จริงถ้าอย่างฝิ่นหรืออย่างอีตาพี่ดิวคิดได้ว่า>>>
พงษ์=คุณป๊ะป๋าของแก้ว
แค่นี้ก็จะเข้าใจและไม่ทำอะไรพลาดละ
-
แก้วเป็นอะไร.. สงสัยมีปัญหากันสักอย่าง =___=;;
รอติดตามตอนต่อไป
-
เหมือนจะดีขึ้น แต่กลับแย่ลงซะอย่างนั้น :เฮ้อ:
-
ตอนนี้สงสารฝิ่นจัง
-
แก้วต้องมีเหตุผลสักอย่างที่ไม่เลือกฝิ่น ลูกแก้วสู้ๆนะจ๊ะ
ฝิ่นอย่าเพิ่งเกลียดแก้วนะ :monkeysad:
เบื่ออิพงษ์!! :angry2:
:pig4: คนแต่งค่ะ
-
+1
แก้ว ไม่รักฝิ่นแล้วรึ :z3:
พงษ์ น่า :z6:
:call:
-
โอมเพี้ยง..หายไวๆนะฝิ่น
-
ฝิ่น
-
ฝิ่นเอ้ยยยยยยยย
-
สรุปใครระยำ?
-
ยืดเยื้อ....ยืดเยื้อสุดๆ 5555
แก้วไม่มีวันเลือกฝิ่นเพราะคิดว่าฝิ่นไม่รัก
ส่วนฝิ่นก็ไม่มีทางพูดคำนั้นแน่ๆ แอร๊.... :z3:
-
เหมือนที่ไม้เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ไงฝิ่นว่าอย่าเล่นกับความรัก
-
จะได้รู้สึก ความรักมันไม่ได้มาจากอำนาจ บีบบังคับ หรือการเล่นเกม แต่มันต้องออกมาจากหัวใจล้วน ๆ ผู้ชายทางกายเมื่อไรก้เมื่อนั้น แต่สิ่งที่ผู้ชายรักผู้ชายโหยหาและยากมากคือรักด้วยหัวใจ
-
...อ่านตอนนี้จบแล้ว บอกได้คำเดียว..กระทืบมันทั้งสองคนเลยทั้งแก้วและพงษ์ :laugh:
-
= =" เรื่องนี้ปมเยอะมาก
ไม่เป็นไรรออ่านไปเรื่อยๆ นะ
-
มาม่าอีกเเว้ว วววววววววววววววว :o12: :o12: :o12:
ฝิ่นไปทำเเผลเซ่!!! เดี๋ยวก็ตามหรอก
หนูเเก้วเป็นอะไรอ่ะ เย็นชาโค_ร :a5:
-
แง ปวดจายยยย สงสารฝิ่น
-
แก้วเริ่มใจแข็งแล้วแฮะ
-
แก้วมันต้องมีเหตุผลแน่ๆที่แก้วไม่เลือกฝิ่นอะ
รอแก้วออกมาพูดในพาสของแก้วดีกว่า
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
อ่านแล้วเครียดจริงๆ
-
หยำฉา แก้วหล่อนทำให้ผู้ชายตีกันนนนนนนนนนนน
-
ทำไมรู้สึกสมน้ำหน้าฝิ่นจัง อยากมั่นใจความคิดตัวเองดีนัก สมควรผิดหวังซะบ้าง :a14:
-
ค้างมาก
-
มาม่า อร่อย!!
-
มันต้องอย่างนั้น
ฝิ่น เมื่อเมียไม่เลือก
เราก็อย่าเอาไว้ :z6:
-
รอการคลี่คลายปม
-
.
:เฮ้อ:
-
ฟู่ววววว :เฮ้อ: อ่านทันแล้ว
แก้วคิดจะทำอะไร?
จะทิ้งฝิ่นจริงๆเหรอ
กลัวอะไรไม่เท่ากลัวใจลูกแก้ว :sad4:
-
ฝิ่นอย่าร้องนะ :m15:...ดราม่าจริงๆเรื่องนี้ o13
-
อะไรอะ
-
โอ้ยยย........พระเอกจะกลับใจแล้วไง แต่ทำมั้ยกลายเปงแบบนี้ละ
เห้ออะไรกานนะ ทำมั้ยกานนะ
แต่ถ้ามันจบง่ายๆก้อไม่ดีจิงมั้ย
ยังไงก้อมาต่ออีกนะค๊าฟฟ
-
เจ็บดีมั้ยล่ะฝิ่นเอ๊ย
-
แก้วเป็นอะไร ทำไมทำแบบนั้น
หรือโดนใครไปเป่าหูอะไรมา T T'
-
เข้ามาฝากเนื้อฝากตัว เพิ่งได้อ่านกับเค้า
สนุกน่าติดตามมากสำหรับเนื้อเรื่อง
สิ่งที่แก้วทำมันมาจากการขาดความรักแน่ๆเลย
คิดว่าไม่มีใครรักไม่มีใครต้องการแม้แต่แม่จริงๆ
ในที่สุดความคิดนี้ก็ทำให้แสดงออกมาในตอนล่าสุดของเรื่อง
เพราะแก้วคงจะคิดว่าพงาเป็นเหมือนชีวิตทุกอย่าง
ไม่มีใครรักและดูแลห่วงใยตัวเองได้เท่าคนๆนี้อีกแล้ว
จึงไม่น่าแปลกที่จะยอมตัดขาดกับฝิ่นที่เห็นความรักของตัวเองเป็นแค่เกมส์
เหมือนที่พี่ไม้(สุดเท่ห์)เคยบอกไว้
ว่าฝิ่นเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นแล้วตัวเองก็จะได้รับผลตอบแทนแบบนั้น
รอตอนต่อไปนะคะลุ้นจนตัวโก่งอยากรู้ที่มาที่ไปและทางทั้งสองว่าจะบรรจบลงได้ไหม
-
อ่านตอนนี้แล้วสงสารฝิ่นจัง :m15:
แต่สั่งคนไปทำร้ายพงษ์อย่างนั้นมันจะดีหรอฝิ่น
-
ฮือออออ,,,,,เศร้าเลยอ่ะ
-
อ่าว ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ งงๆ
-
ฝิ่น สงสารฝิ่นมากเลยอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ทำไมแก้ว ง่าาาาาาาาาาาาาาาาา
-
ถึงจะ เป็นตอนที่ 70 ก็จะตามอ่าน
o13 o13 o13
ปล. สงสารฝิ่น :กอด1:
-
:sad4: :sad4:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๔๖
“โอ๊ยยย! เบาได้ไหม” เขาปรายตามองหญิงในชุดพยาบาลที่หน้าบูดหน้าบึ้งเอาสำลีม้วนแล้วม้วนเล่าชุบแอลกอฮอล์มาราดหัวเขา
“สิ้นคิด!” นี่ก็ไม่ได้สนใจเลยว่ากูเจ็บ พี่ไม้นั่งด่าอยู่ข้างๆ
ดีที่แค่ด่า ไม่ได้โบกหัวเขาด้วย ซี๊ดดด เหี้ย กูเจ็บ แสบด้วย!
“เบาๆพี่อายพยาบาลบ้าง” ไอ้โจ้ที่ยืนอยู่ข้างๆจุ๊ปากบอกพี่
“สมน้ำหน้า มันน่าจะแตกให้เยอะกว่านี้ เอาให้สมองไหลไปเลยไหมถึงจะพอใจ”
“คือ...อูยยย” พี่ไม้แม่งไม่ได้เบาตามที่ไอ้โจ้ปรามเลย แล้วพอเขาจะอธิบาย...
ปึ๊ก!!
“เงียบไปเลย แม่ง กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดกับมึงแล้วฝิ่น ผ่านอะไรมาก็เยอะทำไมมึงคิดได้แค่นี้” พี่ไม้กัดฟันพูดเหมือนข่มอารมณ์โมโหแต่เอามือทุบโต๊ะที่พยาบาลกำลังเช็ดเลือดออกจากหัวให้เขาอยู่จนหญิงวัยกลางคนในชุดขาวสะดุ้งตาม
“บางทีพี่ฝิ่นคงลืมคิดไปบ้างแหละ พี่ก็อย่าซ้ำเติมกันเลย”
“ไอ้โจ้”
“ครับ?”
ไอ้เหี้ย... ฝิ่นมองโจ้ตาเขียวปั๊ดทำปากขมุบขมิบด่ามันไม่ให้มีเสียง
มันก็ทำหน้าซื่อเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้กัดเขาอย่างนั้นแหละ ทั้งที่รู้ทุกอย่างว่าเขาจะทำอะไรยังไง โอเค...ตอนที่อยู่ในผับโจ้มันระแวงคงกลัวเขาจะพลาดมากกว่านี้ แต่พอโดนพี่ไม้ด่ามึงก็คล้อยตาม มึงเป็นห่วงกูมากโจ้!
“คือ พี่ครับ จะด่าจะว่าอะไรผมจะไม่ขัดพี่เลย แต่ช่วยให้พยาบาลฉีดยาชาให้ก่อนได้ไหม?” ฝิ่นยกมือเบรกพยาบาลพลางบอกพี่ไม้เมื่อเห็นว่าพยาบาลคีบเข็มกับไหมขึ้นมาพร้อมจะจิ้มสอดหัวตนแล้ว
พี่บอกพยาบาลให้ตามสบายหลังจากก่อนหน้าบอกให้เย็บสดไอ้ฝิ่นจะได้เจ็บสมใจอยาก ...อืม!
ไม่ต้องมาทดลองเจ็บกับการเย็บแผลหรอกเพราะก่อนที่จะหน้ามืดตรงฟุตบาทหน้าผับเขาก็รู้สึกได้แล้วว่าความเจ็บมันเป็นยังไง
แผลที่หัวนี่ถือว่าอนุบาลไปเลยเมื่อเจอไอ้แก้วพูดคำนั้นใส่
ไม่ใช่การจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์เหมือนครั้งก่อน แต่มันเป็นการจากไป ด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวทำเอาเขวไปเลยว่ามึงไม่ได้รักกูแล้วใช่ไหม?ที่กูโดนตีหัวก็เพราะมึงไม่ใช่รึไง แต่มันกลับไม่ใยดี
...กูไม่ควรมั่นใจในตัวเอง และไม่ควรมั่นใจในตัวมึงเลยไอ้แก้ว
“นอนโรงพยาบาลเลยไหมพี่ ไหนๆอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว” ไอ้โจ้เสนอ ถ้าไม่ได้มันตามมาดูป่านนี้เขาก็เดาไม่ถูกว่าจะตายตรงนั้นเลย หรือจะโดนคู่อริกระทืบอีกสักรอบแล้วค่อยตายดี
“ไม่...” ฝิ่นตอบโดยไม่ต้องคิด พลางมองพยาบาลอย่างขัดใจ “เย็บเร็วๆด้วยครับ ผมรีบกลับบ้าน” แล้วพูดบอกอย่างสุภาพ ยุ่งกับหัวเขานานไปแล้ว
“เฮ้อ...” พี่ไม้ถอนหายใจเสียงดัง ...ตั้งใจประชดเขา แล้วลุกเดินไปดูไอ้คนที่นอนขดตัวอยู่ที่เก้าอี้ตัวยาวซึ่งเอาไว้ให้คนไข้นั่งรอต่อคิว
เรื่องอะไรจะอยู่นานให้พยาบาลมันสมน้ำหน้า พวกนี้ต่อหน้าก็ทำสงบปากสงบคำ แต่พอลับหลังมันก็ทั้งนินทาทั้งใส่ไฟเด็กช่างที่มันทำแผลให้ซะจนไม่มีอะไรเหลือ ...ทั้งที่ไม่รู้อะไรเลย พอๆกับพวกตำรวจนั่นล่ะ
แล้วต่อให้เขาจะอันธพาล จะเลือดตกยางออกยังไงมันก็ตัวเขา ไว้คนอื่นโดนลูกหลงแล้วค่อยมาสาปแช่งตามหลังจะไม่ว่าอะไรเลย
“สรุปตอนนี้เดินคนละทางจริงๆแล้วว่างั้น” พี่ไม้ถามมาจากเบาะหลัง โดยมีอีกคนนั่งคอพับคออ่อนอยู่ด้วย
“ไอ้แก้วท่าทางจะเอาจริงพี่ ขนาดผมยังไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย”
“................................” ฝิ่นพูดอะไรไม่ออก งั้นก็เอาตามที่ไอ้โจ้รายงานพี่เลยละกัน
“ก็ดี อยู่ใครอยู่มัน ถือซะว่าไม่เคยได้พบได้รู้จักกัน มึงก็จะได้สบายใจขึ้นบ้าง”
“ทำไมพี่คิดอย่างนั้นวะ” แทงใจเขาฉิบหาย
“ก็บรรลุเป้าหมายมึงแล้วนี่ ไอ้แก้วเจ็บ คนรอบข้างมันก็เจ็บตาม เหมือนที่มึงเจ็บปวดเพราะพวกมันทำเพื่อนมึง หึ โดนกันไปถ้วนหน้า โนT ไอ้ดิว ไอ้พงษ์ ไอ้แก้ว มันทุกคนโดนมึงเอาคืนหมด ทั้งเจ็บตัวเจ็บใจไปตามๆกัน ถ้ามึงไม่โล่งปลอดโปร่งใจก็คงไม่ได้แล้ว ขนาดกู กูยังโคตรมีความสุขเลยที่เห็นมึงเอาคืนได้สำเร็จ” ถ้าพี่ไม้เห็นดีด้วยกับเรื่องนี้เขาคงคิดว่าพี่ชื่นชม แต่นี่พี่ไม่เคยเห็นด้วยมาตลอด คำพูดนี้ของพี่จึงเป็นเหมือนมีดที่ค่อยๆแซะกลางอกพร้อมทั้งเอามือตามมาแหวกแหกเล่นซะมากกว่า
...ร้ายกว่าพี่กูไม่มีแล้วล่ะ
ฝิ่นกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบพลางเสมองออกไปนอกกระจกรถยังป่าสองข้างทางที่มืดสนิทแทนการจดจ่อกับความคิดของตัวเอง
“พี่คิดถูกแล้วล่ะ ...ผมทำสำเร็จแล้ว”
เป้ง...มึงพอใจกับฝีมือกูไหมเพื่อน?
แต่กูกลับไม่ได้ดีใจเลยกับสิ่งที่ตัวเองตั้งโจทย์ไว้แล้วทำมันได้...
แล้วอยู่ใครอยู่มันตามที่พี่สรุป มันใช่เรื่องไหมที่ต้องทำตามนั้นไหม?
“ค้างนี่นะ” เมื่อโจ้จอดรถถึงหน้าบ้านฝิ่นก็ออกปากชวนพี่ไม้กับไอ้โจ้ทันที นาทีนี้เขาอยากมีเพื่อนดื่ม
“ป่านนี้พ่อพี่เตรียมของไว้รอแล้วมั้ง” ไอ้โจ้เสริมความคิด
พ่อก็คงเตรียมน้ำเตรียมท่าไว้ให้เขากินกับยาเพื่อรักษาแผลอีกตามเคย ตามจริงมีพ่อที่เข้าใจมันก็ดีวะ แต่พ่อก็เข้าใจเขาเกินไป เล่นจับกันได้ทุกเรื่องจนเขาไม่มีความลับอะไรให้ปิด และซ้ำเติมกันแบบสุดๆอีกคน
“อืม...แต่เดี๋ยวกูต้องไปส่งไอ้นี่ก่อน” ฝิ่นมองไปยังไอ้คนที่พี่กำลังจับตัวมันนั่งให้ตรง เขาลืมมันไปเลย
“พี่จะไปเข้าใกล้มันทำไมวะ” อดน้อยใจไม่ได้ ทุกทีเวลาเขาหรือไอ้เป้งเจ็บตัวพี่จะเป็นคนแรกที่อยู่ด้วยกันตลอด แต่คราวนี้พี่ดันจะเอาคนอื่นมากกว่า ไม่รู้ว่ามากพอที่จะให้ค่าเท่ากับไอ้เป้งด้วยรึเปล่า
“มึงไม่ต้องมองจับผิดกู มันเข้าใกล้กูเองต่างหาก...” พี่ไม้แก้ตัว “แต่...ก็ได้รู้อะไรหลายอย่างที่มึงไม่รู้”
“เหอะ ผมไม่สนไอ้นี่หรอก ขี้อิจฉาก็เป็นที่หนึ่ง แล้วมันยังเกลียดไอ้แก้วด้วย”
“มึงก็เลยเกลียดมัน”
“ก็...”
“ผมเห็นด้วยกับพี่ฝิ่น” ไอ้โจ้มองผ่านกระจกออกความเห็น มันยังไม่ได้ดับเครื่องเพราะรอคำสั่งจากเขาอยู่ แต่ดูท่าว่ามันก็คงไม่ค่อยพอใจที่พี่ไม้ไปยุ่งกับไอ้ขวัญเหมือนกัน
พี่ไม้ตวัดสายตามองไอ้โจ้ก่อนเปิดประตูรถด้านหลังออกแล้วเดินมาที่เขา
“ถ้างั้นมึงควรเกลียดตัวเองด้วย กูเคยบอกให้มึงมองอะไรรอบตัวแล้ว มึงก็ลองๆทำซะบ้างนะฝิ่น”
“ผมไม่ได้อาศัยใครในโลกนี้ทำไมผมต้องมองต้องเข้าใจทุกอย่างเหมือนพี่ด้วย”
“เฮ้อ ไปอยู่คนเดียวสักพักเถอะมึง” พี่ไม้ส่ายหน้าให้กับความคิดเขาแล้วก้มหน้าเข้าไปในรถบอกไอ้คนขับ “โจ้ไปกับกู”
“ไม่ต้องบอกก็ไปอยู่แล้ว” ไอ้โจ้ยิ้มกวนๆให้พี่ไม้ พี่พยักหน้าแล้วหันมาหาเขาอีกรอบ
“คิดดูว่าอยากจบอย่างนี้แน่รึเปล่า แต่ถ้าไม่กูช่วยมึงได้ แค่มึงฟังและทำให้ได้อย่างที่กูบอก กูจะช่วย” แล้วพี่ก็กลับเข้าไปในรถแต่เปลี่ยนมานั่งข้างคนขับก่อนที่ไอ้โจ้จะออกรถและพากันออกไปจากบริเวณบ้าน
แน่นอนเขาไม่ยอมจบอย่างที่ไอ้แก้วมันต้องการหรอก ฝันไปเถอะถ้าคิดจะไปจากกูน่ะ
ที่มันทำมันคงไม่รู้ตัวว่าเป็นการหยามเขาเกินไป แต่ที่มากกว่าหยามน้ำหน้า คือมันทิ้งเขา ...เขาที่เลือกมัน!
...โดนทิ้งเหรอ เหอะ อยากจะหัวเราะกลั้วขำ เพราะมันเป็นเรื่องตลกที่สุดที่เคยเจอ เกิดมาทั้งชีวิต ไม่เคยโดนใครตีจากเลยให้ตาย
แต่ก็แค่นเสียงหัวเราะออกมาไม่ไหว
ฝิ่นนั่งชงเหล้าให้ตัวเองพลางแกะยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบมาอย่างละสองเม็ดแล้วโยนเข้าปากก่อนดื่มเหล้าตาม
“ไอ้หนู พ่อว่ามึงทิ้งเรื่องของไอ้เป้งดีไหม แล้วไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง” แม่ขึ้นไปนอนแล้วเพราะกลัวรับไม่ได้กับสภาพลูกตัวเองหลังจากรู้ข่าว ส่วนพ่อนี่ไม่ว่าจะแผลใหญ่แผลเล็กถ้ารู้ว่าลูกไปมีเรื่องต้องคอยดูให้เห็นกับตาทุกที เพราะพ่อจะคอยต่อว่าและให้คำปรึกษาซึ่งส่วนใหญ่จะออกแนววิจารณ์มากกว่าว่าคนอื่นเก๋าไม่เท่ากับตัวเอง
“เริ่มต้นใหม่ มันทำได้หลายครั้งที่ไหนล่ะพ่อ อีกอย่าง...มันคงไม่เอาหนูแล้ว” ฝิ่นตอบ
“เฮ้ยนี่ลูกกูให้คนอื่นอยู่เหนือตัวเองได้ด้วยเหรอวะ” พ่อเย้าอย่างกับชอบใจซะนี่
“เปล่าพ่อ” เขาขัดพ่อเสียงแข็ง “แต่กำลังคิดอยู่ คนจะไปก็ให้ไป หรือจะเอาแต่ใจตัวเองดี”
“อยากช่วยว่ะ แต่พ่อคงตอบแทนไม่ได้ แต่ครั้งนี้พ่ออยากให้มึงเย็นลงสักหน่อยนะ ใจมึงน่ะ คิดไปทางไหนกันแน่เอาให้ชัวร์ ส่วนคนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างมัน แต่ถ้ามึงไม่เห็นด้วย ก็ชนแม่งเลย”
“นี่พ่อสนับสนุนหนูรึเปล่าเนี่ย?”
“ฮ่าๆๆ”
“หึๆ สนุกมากไหมพ่อ” พ่อหัวเราะแทนคำตอบ แปลว่าอะไรวะ?
“สุดๆ” พ่อบอกแล้วลุกยืนตบไหล่ “ไปง้อเมียก่อนนะ งอนลูกชายที่หาเรื่องเจ็บตัวอีกแล้ว ผู้หญิงนี่ไม่แนวเลย ลูกผู้ชายถ้าไม่โลดโผนก็เสียชาติเกิดสิวะ”
“ฝันดีพ่อ”
“อ้อ แต่ใช่ว่าผู้ชายมันจะเข้าใจกันทุกเรื่องนะเว้ย แต่ทางแก้มันไปด้วยกันได้ว่ะ แข็งมาก็อ่อนไป ถ้าอยากได้ต้องทำเอง เราน่ะแข็งมาเยอะแล้ว ยอมๆบ้างจะเป็นไรไป” พ่อหันมาอีกครั้งพูดบอกก่อนจะขึ้นไปข้างบนจริงๆ
ฝิ่นมองตามหลังพ่อแต่ก็ยังคิดไม่ตก...ระหว่าง อยากไปก็ไปสิ ทำไมต้องง้อ กับ ทำไมต้องปล่อยไป
อยากได้ต้องทำเอง...หึ ตลกแล้วพ่อ ให้ง้อคนเนี่ยนะ? อย่างยอมก็คงให้ไอ้โจ้ไปพากลับมาเหมือนเก่าเท่านั้นแหละ
แต่...ความกลัวมันครอบงำเขาหมดแล้วว่ะ
ที่ผ่านมา ไม่เคยกลัวที่จะทำอะไร เพราะมั่นใจว่าจะเอามันกลับมาได้
แต่วันนี้ จะมีอะไรให้ตัวเองมั่นใจได้อีก ในเมื่อมันหันหลังให้เต็มตาขนาดนี้
กูตั้งใจเอาคืนแค่นี้จริงๆ แค่ให้กูมีเหตุผลอ้างกับมึงได้ก่อนที่กูจะเล่นงานมัน ถ้ามึงเลือกกูเรื่องก็จบแล้ว ถ้ามึงเลือกกู... กูจะได้โอบกอดมึงไว้จากใจกูจริงๆสักที กูพยายามทุบทุกกรอบกั้น แล้วดูมึงทำสิ
แต่มึงมันโง่! โง่มาแต่ไหนแต่ไรไม่เปลี่ยน
ฝิ่นเอนหลังพิงโซฟาพลางหลับตาลงช้าๆ
...ไม่ปล่อยแน่ ไม่มีวันนั้นแน่ มือซ้ายกำแน่นที่แก้วเหล้าแทบจะให้มันแตกคามือเผื่อจะดึงความคิดตัวเองให้กลับมามั่นใจได้ดังเก่าทั้งที่ก็รู้ว่ามันคงไม่ช่วยอะไร
ถ้ามึงรักกู กูยังพอหาคำตอบได้ว่าจะทำอะไรต่อไป แต่นี่มึงเหมือนไม่เหลือแม้แต่เยื่อใยให้กู ...แล้วจะฉุดจะรั้งมึงไว้ได้ยังไงวะ
อย่างกับว่า ที่แล้วมากูซื้อใจมึงไม่ได้อย่างนั้น ทั้งที่เขาดิ้นรนไปกับมันตั้งมากมายแต่ต้องควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ให้เขวตลอด มันยากแต่มึงไม่เคยเข้าใจเลย
มึงกลับมองแต่ตัวเองและเพื่อนมึงโดยไม่สนใจเหตุผลของกูวันยังค่ำสินะ
สุดท้าย...ไม่ยอมแล้วยังไง ไม่ยอมแล้วได้อะไร ในเมื่อวันนี้อีกคนมันไม่เล่นด้วย
ต่างอะไรกับเหล้าแก้วนี้วะ
...ฝิ่นลืมตาพลางชูแก้วเหล้าขึ้นมาตรงหน้า
ไม่มีเหล้า ก็แค่แก้วเปล่าธรรมดาที่ไร้ราคา
กูที่มีจุดยืนอย่างนี้ตั้งแต่แรก มึงก็รู้ตั้งแต่แรก แต่มึงดันเข้ามาทำกูสับสนในจุดยืนของตัวเอง แต่แล้วมึงก็เดินกลับไปยังจุดของมึงซะดื้อๆ
กูก็คงเป็นแก้วเปล่าที่ถูกเทเหล้าคาไว้โดยไม่มีใครสนใจสินะ
เขาคิดไม่ออกหรอกว่าต่างหรือไม่ต่างตรงไหน แต่แค่อยากให้ความสนใจอย่างอื่นมากกว่าอาการเพ้อๆของตัวเอง
แม่ง กูไม่ได้อกหักใช่ไหม?
“นะพี่ไม้ นี่ถ้าไม่หลับก็คงดื่มไม่หยุดแน่เลย” เสียงไอ้โจ้
“ให้มันคิดเอง” เสียงพี่ เซ็งอะไรรึเปล่าวะ
“โธ่พี่...ผมกลัวพี่ฝิ่นจะดื่มจนอ๊วกออกมาเป็นเลือดเหมือนคราวพี่เป้งก่อนน่ะสิ มันไม่ยากไม่ใช่เหรอ แค่พี่ทำน่ะ นะ”
“ไว้ให้มันตื่นก่อน แล้วค่อยคุยกันอีกที”
“คุยตอนนี้เลยก็ได้ ฟังอยู่!” ฝิ่นตะเบงด้วยน้ำเสียงยานคาง อยากจะหลับแต่กลับไม่หลับ
“อ้าว พี่ตัวร้อนนะ งั้นลุกมากินยาเลย” ไอ้โจ้เข้าถึงตัวเขาทันทีทั้งที่ยังไม่ทันได้ลืมตา
“อืม...”
“คุยก็คุย ฝิ่น” พี่ไม้เดินมาหยุดตรงหน้า เอามือถ่างตาเขาที่ลืมไม่ค่อยจะขึ้นให้มองหน้าพี่แก ขนาดกินยากูยังหลับตากิน แค่ฟังกูหลับตาฟังก็ได้เถอะ “มึงรักมันใช่ไหม?”
“พี่อย่าพูดเลย” เขาปัดมือพี่ออกเมื่อรู้แล้วจะพูดเรื่องอะไรกันพลางทิ้งตัวนอนลงกับโซฟาอีกครั้ง แต่ใครอย่ามาว่ากูท่าทางเหมือนหมดอาลัยตายอยากนะ กูไม่ใช่!
“เฮ้อ กูต้องอดทนกับการเป็นพี่มึงมากนะไอ้ฝิ่น อย่าให้กูตบะแตกเลยว่ะ”
“เออๆๆ ไม่ต้องขู่หรอกว่ะ มันไม่เอาผมแล้วพี่ไม่เห็นใช่ไหมล่ะ มันเคยรักผมจริงรึเปล่า ผมยังไม่แน่ใจแล้วเลย แล้วพี่จะให้ผมตอบว่าไง? รักไม่รักแล้วยังไง? มันไม่ใช่คนเดิมล้ว พี่เข้าใจไหม!”
“มึงไม่รักมัน มึงก็มีเหตุผล แล้วทำไมมึงไม่คิดว่ามันก็มีเหตุผลบ้าง”
“เหตุผลคือผมไงล่ะ!”
“โจ้มึงเอาอะไรอุดปากมันไว้ที” พี่ไม้หักนิ้วเตรียมพร้อมอย่างไม่ห่วงว่าเขาเจ็บอยู่เลย เฮอะ!
“เอ่อ...”
“มึงพร้อมจะฟังกูได้รึยัง” ขู่ซะขนาดนี้...
ฝิ่นลุกนั่งชันขาขึ้นข้างหนึ่งพลางยกแขนท้าวแล้วเอามือลูบหน้าลูบผ้าพันหัวตัวเอง
“...ขอโทษ!” เขาบอกพี่เสียงห้วนอย่างไม่กล้าสบตา “พี่จะให้ทำยังไงว่ามาเลย” แล้วตามด้วยเสียงเบา
เพราะไอ้แผลที่หัวนี่แหละ ทำให้เขาคิดอะไรไม่ออก! แต่ไม่ว่าจะรักหรือไม่รัก มันคงลืมอีกอย่างว่ามันคือคนของเขา
ตัวมันก็ของเขา ใจมันก็ของเขา...เออ วันนี้ไม่ใช่ก็ช่างแม่งมัน กูจะเอาคืนซะอย่าง
ปล่อยไปง่ายๆก็มาเรียกกูว่าควายเถอะ
...................................
ไอ้ฟายยยยย (เอ่อ ลืมตัวว่าเขียนเอง -*-)
คอมดับไปสองรอบไม่รู้ว่าขาดหล่นตรงไหนรึเปล่า หวังว่าจะไม่มี (บ่นกับตัวเอง ฮ่า)
ตอนหน้าเจอแก้วจ้า
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ^^กอดๆจุ๊บ
-
แก้วหายอีกแล้ววววว
-
ปกติเราคอดหมั่นใส้อิพี่ฝิ่น
แต่
ตอนนี้ ทำไมอดที่จะสงสารอาเฮียแกไม่ได้
ลงทุนเจ็บตัวก็แล้ว
เมียก็ยังเมินซะขนาดนี้
อย่างน้อย น้องแก้วน่าจะมาเยี่ยมพี่ฝิ่นบ้าง
+1+เป็ด ให้พี่ฝิ่นจ้า
-
อื้ม......ดีขึ้น ผิ่นเอ้ย
-
ถ้าไม่ไปตาม จะเรียกว่า ฟาย แทน ฝิ่น นะเฮ้ย :angry2:
ยอมบ้างจะเป็นไรไป ดีกว่าต้องมาเสียใจเพราะยอมหักไม่ยอมงอ :เฮ้อ:
ขอบคุณค่า :กอด1:
ปอลิง พี่ไม้กับพี่ขวัญมีซัมติงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :m3:
-
คุณพ่อวันหลังสอนอีพี่ฝิ่นง้อเมียบ้างสิค่ะ 5555
จะว่าสงสารฝิ่นก็สงสารนะ จะว่าสมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า
ความผิดใครหล่ะนั่นของตัวเองทั้งนั้น
ไม่เคยให้ไม่เคยแสดงออก แต่เรียกร้องเอาจากแก้ว
พอแก้วมันไม่ให้ก็มานั่งเสียใจ ง้อสิพ่อคุณ
ปล่อยไปแบบนี้น้องแก้วมันคงกลับมาหาอยู่หรอก
ต้องให้พี่ไม้สอน ว่าแต่พี่ไม้ไปรู้อะไรมาบ้าง
รอตอนหน้าน้องแก้วมา เป็นกำลังใจให้ค่ะ
-
สงสารก็สงสาร สมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า
-
ไม่รู้จะสงสารฝ่ายไหนดี
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
แ้ก้วรู้สึกยังไงบ้างนะ สงสัยจัง ฝิ่นฟังคำแนะนำของพ่อของไม้บ้างก็ดีนะ
-
เอาเลือดหัวออกคงพอมีสติคิดได้ รู้จักฟังที่พี่ไม้เตือนบ้าง
-
พี่ไม้ต้องอย่างนี้เซ่ :man1:
ฝิ่นเเกรูเเล้วใช่ไหมว่าเเก้วสำคัญมากเเค่ไหน ว่ะฮ่ะฮ่า
-
ก็อยากจะด่าฝิ่นมันด้วยคนน่ะนะ
แต่รอให้ไอ้พี่ไม้มันบอกเล่าเรื่องที่ฝิ่นยังไม่รู้ให้มันได้รู้ก่อน
แล้วมาดูกันต่อไปว่ามันจะยัง...ต่อไปอีกมั๊ย o12
-
จะคิดได้กันเมื่อไหร่นะ
เฮ้อ...
-
ฟาย ฝิ่น เอร้ยยยย ต้องให้พี่ไม้แจกหญ้าตลอด ตลอด
-
หา!!! ไม้ขวัญเหรอ...
ไม่น้าาาา :serius2:
-
ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดีนะรอบนี้
-
่งานนี้ต้องมีกาวประสานรอยร้าวแก้วกับฝิ่น
พี่ไม้คงต้องรับหน้าที่เป็นกาวซะแล้ว o13
-
จะสงสารหรือสมน้ำหน้าฝิ่นดีว่ะ แต่ไม้นี่คู่กะขวัญใช่ม่ะ น่าสนจังคู่นี้ อิอิ
-
ฝิ่นไปตามแก้วกลับมานะ
-
แก้วทำดีมาก ทนๆ ไว้ ไปเอาอะไร กะไอ่ฝิ่น แมร่ง ทำเราอย่างกะ ผ้าขี้ริ้ว
ไม่รักแล้วมาซ้ำเติม อย่างนี้ต้องทำร้ายจิตใจให้มันหมด อาลัยตายอยากไปเลย
5555 _ _@ แค้นนี้ ต้องชำระ แก้ว ทำมานนนเลย
-
อยากอ่านตอนง้อไวไวแระ :impress2: :impress2:
-
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าพระเอกของเรื่องจริงๆ คือ พี่ไม้
ฝิ่นอะเป็นแค่หุ่นที่ถูกชักใยอยู่เบื้องหลัง 555
เพราะมีพระเอกที่ไหนไม่เคยรู้เรื่องอะไรกับเค้าสักอย่าง
ยอมรับเหอะฝิ่น ว่าเป็นแค่ พระเอกหลอกๆ คริคริ
รอดูว่าพี่ไม่ไปสืบอะไรจากพี่ขวัญมาได้บ้าง พอที่จะทำให้แก้วเปลี่ยนใจได้ไหม
-
อืมพี่ไม้นอกจากจะบังคับให้ฝิ่นฟังแล้ว พาลูกขวัญไปดัดสันดานด้วยจะดีมาก
-
ฝิ่นโคตรดื้ออ่ะ แต่เรื่องเสียแก้วไปไม่ยอมแน่ ๆ ขำว่ะ คนมั่นใจความมั่นใจถึงกะหายหดตอนเจอแก้วหันหลังให้
ง้อเค้าบ้างเห้อพ่อคุณ แก้วง้อมาทั้งเรื่องแระ...แต่ฝิ่นก็น่ารักแบบแปลก ๆ ดีนะ เราชอบ 555
ขอบคุณค่ะ
-
ถึงจะปล่อยแก้วไปหรือไม่ปล่อยก็ตามยังไงก็จะด่าฝิ่นอยู่ดี
ไอ้ฝิ่น ไอ้ควายยยยย
-
จะสมน้ำหน้าดีไหม
:เฮ้อ:
-
ไอ้ฝิ่น :beat: :beat: :beat: :beat: :z6: :z6: :z6: หมันไส้แมร่งงง
:m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:
-
นี่สิ ลุกผู้ชาย ตัวจริง
พุ่งชน แมร่ง ไปเลย
o13 o13 o13
-
ยังคงคลุมเครือ :o12:
:pig4: นะคะ
-
ถ้าเอาคืนมาไม่ได้ มึงก็ควายจริงๆ แหละฝิ่น
ฉะนั้นเอาคืนมาให้ได้ ถึงคนอ่านจะไม่ชอบมึงเยอะก็เหอะ :laugh:
-
มันบ้าปล่อยมันไปเถอะ
ตั้งตัวเองไว้สูงเกินไปไหม อะไรๆกูก็จมไม่ลงว่างั้น :z6:
-
ทำไมไม่ซื่อตรงไปเลยล่ะ :z3:
-
= = เพลีย อิฝิ่่น
-
:เฮ้อ: :z3:
-
ให้สองคำ งง กับ อึดอัด :pigha2:
-
เฮ้อ สงสัยอีกนานกว่าจะเข้าใจกัน :เฮ้อ:
-
ลุ้นจนเหนื่อย เมื่อไหร่จะเปิดใจกัน
-
ทั้งสงสารและสมน้ำหน้าฝิ่น
-
แต่ละคนต่างก็ทำตามความคิดและเหตุผลของตัวเอง ถ้าไม่มีใครยอมใคร ก็คงยากที่จะเดินบนทางเดียวกัน :เฮ้อ:
พงษ์ห่วงแก้ว ไม่อยากให้กลับไปคบฝิ่น ซึ่งพงษ์จะคิดแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะฝิ่นมันก็ตั้งใจจะหลอกใช้แก้วในตอนแรกจริงๆ แหละ และถ้าหากพงษ์ยอมให้แก้วกลับไปคบฝิ่น พงษ์จะมั่นใจได้อย่างไรว่าแก้วจะไม่ถูกฝิ่นมันทิ้งภายหลัง
แก้วเลือกพงษ์ และตัดใจหันหลังให้ฝิ่น ซึ่งถ้าเราเชื่อว่าพงษ์เป็นคนสำคัญที่สุดของแก้วแล้ว เหตุผลนี้ก็สามารถอธิบายทุกสิ่งที่แก้วทำตอนนี้ได้ (แต่ก็แปลกใจนิดนึงว่าแก้วมันใจแข็งจริงๆ แฮะ ถึงไอ้คุณฝิ่นจะหัวแข็งซักแค่ไหน แต่เลือดอาบขนาดนั้นจะไม่มีห่วงสามีบ้างเชียวหรือ)
ไอ้คุณฝิ่น คนที่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองมอง คิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดเป็นสิ่งที่ถูกที่ควร และทำทุกอย่างตามใจตัวเอง คนแบบนี้คงยากที่ยอมลงให้คนอื่น ก็คงต้องตามดูว่าอะไรที่จะมาเปลี่ยนความคิดของคนแบบนี้ได้
พี่ไม้...เพราะความที่พี่ไม้เป็นคนนอกวง เป็นคนที่คอยมองคอยสังเกตคนอื่นๆ แถมยังได้ใกล้ชิดและรู้ข้อมูลจากไอ้พี่ขวัญเพิ่มเติมอีกต่างหาก ฉะนั้น พี่ไม้ ณ ตอนนี้เลยดูเหมือนจะเป็นคนที่รู้พฤติกรรมและความคิดของคนในวงพวกนี้มากสุดแล้ว (หรือเปล่า)
ว่าแต่...อยากรู้จังว่าพี่ไม้รู้อะไรมาจากไอ้พี่ขวัญ แต่ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีของแก้ว เพราะถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ดี พี่ไม้คงไม่เชียร์ให้ไอ้คุณฝิ่นกลับไปง้อแก้วหรอกเนาะ
ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า :pig4:
-
ฝิ่นง้อแก้วด่วนๆๆ ก่อนที่อะไรๆจะสายเกินแก้
ขอเตือนด้วยความหวังดี :laugh:
-
ตอนนี้ให้ใจพี่ไม้ไปโลด o13 :L2:
-
^^
-
สงสารฝิ่นจังเลยยย แก้วนะแก้ว!!! :กอด1:
-
โอเคงั้นขอเรียกมั้งนะ ฟาย
-
วันนี้ไม่มาต่อหรอคับ
-
แก้วมันยอมมาตั้งเยอะ
แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ยอมแก้วมันบ้างเถอะฝิ่นเอ๊ย
-
ไม้ ขวัญ???? :jul3: o22
รอความเป็นมาจากแก้ว รอตอนต่อไป สู้ๆ
-
o13 o13 ตอนนี้เข้าใจนายฝิ่นนะ อิอิ แต่ตกลงการตายของเป้งมีที่มาที่ไปอย่างไงอ่ะ...ยังไม่เคลียร์ มาเคลียร์ให้ตาสว่างหน่อยเถอะครา้บบบ :z3: :z3: :z3: :z3:
-
เอาเลย ฝิ่นน ลุยเต็มที่
-
มาแปะ เดียวมาอ่านๆๆๆๆ
-
สู้เต็มที่เลยฝิ่นจัดปายย.... :laugh:
-
สงสารฝิ่นอ่ะ
เมียเมินซะแล้ว
:a14:
-
รีบไปง้อเมียซะคุณฝิ่น
เดี๋ยวหมาคาบไปแดกก่อนนะ ก๊ากกกก
มีไม้จะมีคู่กับเขารึเปล่าเน้อออ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๔๖.๒
แผ่นหลังได้เวลาแตะที่นอนหลังจากนั่งนิ่งให้ใจสงบอยู่ในความมืดมานานเกินควร
หลังมือถูกยกขึ้นปาดจมูก ของเหลวข้นติดเหนอะตามมาให้ได้สัมผัส
แน่นอน... ไม่ใช่น้ำตาเพราะเขาไม่ได้ร้องไห้ และแน่นอน...ไม่ใช่น้ำมูกเพราะเขาไม่ได้เป็นหวัด
แก้วไม่ได้ตื่นเต้นกับปฏิกิริยาทางร่างกายของตัวเองนักหรอก แค่นี้ไม่ตายแน่เขารู้ดี แต่คนที่โดนขวดตีหัวจนแตกเลือดอาบยับ...
...คนของสายมันก็คงไม่ปล่อยให้ตายเหมือนกัน
...แต่ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็สุดจะเดา
“หึ หึหึ ฮะฮะ” เสียงหัวเราะที่มาพร้อมหยดน้ำใสๆข้างหางตากับปากที่เม้มเบะแทนที่จะคลี่ยิ้ม
ผูกตัวเองไว้กับอริเพื่อให้ความผิดของเพื่อนลดลงเหมือนเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ให้ต้องฝ่าฟัน...แต่กลับไม่ได้ช่วยอะไร
ดันแก้ไขง่ายมากเพียงแค่การขอขมา และคำว่าจบจากปากของคนอีกฝั่ง
จบลงด้วยดีชะมัด!
แต่ก็มีคนที่ไม่ยอมรับข้อยุติที่ง่ายดายอย่างนั้น และไม่ใช่แค่คนเดียว แต่เพิ่มเป็นสอง...
คนหนึ่งผูกใจเจ็บซึ่งถ้าไม่ได้เอาคืนด้วยการให้เจ็บตามความแค้นก็คงไม่จางหาย
ส่วนอีกคนยอมรับว่าผิดแต่กลับไม่เคยสำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำ
ไม่แปลกถ้าฝิ่นหรือพี่ไม้จะไม่ให้อภัย แต่ไอ้พงษ์ดันไปอาฆาตพวกนั้นกลับเพียงเพราะเขาต้องการชดใช้ความผิดให้มันด้วยความเต็มใจ แต่นี่ก็ไม่แปลกเหมือนกัน เขาเข้าใจพงษ์ดี
แต่มันสวนทางกันน่ะสิ ยิ่งตัวเขาเข้าข้างฝั่งหนึ่งแต่ใจเขาไปเข้าข้างอีกฝั่ง
คาราคาซังดีไหมล่ะ
ทางออกที่ดีที่สุด ทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย ทางที่เขาต้องจัดการเองคนเดียว...อีกครั้ง
ในเมื่อฝิ่นยังไม่ยอมลบเรื่องคราวนั้น ในเมื่อพงษ์ก็ไม่ยอมให้เขาสานต่อความรู้สึก...กับคนที่ทำร้ายเขา
งั้นก็หยุดมันตรงนี้แหละ ทุกอย่างจะได้สงบด้วยดีทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องพบเจอ ไม่ต้องรัก ไม่ต้องรู้จักอีกต่อไป
ฝิ่นมันก็คงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่... นอกจากเสียหน้า
ตัวเขาเองก็คงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่... นอกจากเสียใจ หึ
ต้องทำเป็นไม่เห็นทั้งที่ภาพมันอยู่เต็มทุกโสตประสาทไม่ว่าจะตัวตนจริงๆหรือในภาพของความทรงจำ
แต่พอเถอะ เดินหน้าย่อมดีกว่าถอยหลังหรือย่ำอยู่กับที่ไม่ใช่เหรอ
เจ็บเมื่อไหร่ก็เจ็บวันยังค่ำ เลิกเข้าข้างตัวเองได้แล้วแก้ว ...เขาฝืนยิ้มทั้งน้ำตาให้กับการตัดสินใจของตัวเอง
ปึ๊ก!!
“ถ้ามึงไม่ออกมา กูจะนอนหน้าห้องมันตรงนี้นี่แหละ” เสียงตะโกนดังเข้ามาในห้องหลังจากเสียงฝ่ามือทุบประตูเป็นรอบที่ร้อยแล้วมั้ง แต่เขาก็ยังไม่มีเสียงตอบรับใดๆให้
ทั้งที่มันก็รู้ว่าเขาอยากอยู่คนเดียว
“แก้ว แก้ว”
แต่ไอ้พงษ์คงไม่เข้าใจคำว่าไม่พร้อม ทั้งน้ำตา ทั้งกำเดาที่เกิดจากความเครียด สภาพเขาตอนนี้เป็นสิ่งที่พงษ์ไม่ชอบใจ และเขาก็ไม่กล้าสู้หน้าพงษ์ด้วย ในเมื่อเลือกตามทางที่พงษ์ต้องการ แต่ยังตัดใจไม่ขาดจนตัวเองต้องเป็นแบบนี้ เผลอๆมันคงโกรธเขาไปอีกคน
แกร๊ก!
และไอ้พงษ์มันเป็นคนไร้มารยาทอีกคนที่ไม่จำเป็นต้องรอให้เขาลุกไปเปิดให้
แสงสว่างจากนอกห้องส่องเข้ามาเมื่อประตูถูกเปิดออกกว้าง ก่อนที่แสงไฟจะติดพรึ่บขึ้นตามมา
แก้วเด้งตัวลุกนั่งทันที เขารีบใช้มือปาดเช็ดเลือดกำเดารวมทั้งน้ำตาที่เริ่มปริ่มๆหมายจะไม่ให้หลงเหลือหลักฐานใดๆมัดตัว...แต่ก็ไม่ทันแล้ว
ฝ่ามือถลอกที่เกิดจากใช้ยันตัวเมื่อช่วงชุลมุนจับสองมือแก้วให้หยุดได้แล้ว
แม้จะเลือกมึง แต่มึงก็ยังเจ็บตัว และกูก็เจ็บใจ แถมยังทำตัวอ่อนแออย่างนี้อีกต่อหน้ามึงอีก
มึงผิดหวังในตัวกูมากใช่ไหมถึงได้มองกูด้วยแววตาเศร้าใจขนาดนี้
“เราจะไปอเมริกากันนะ พรุ่งนี้ไปทำพาสปอร์ตกันเลย ไม่ต้องรอแล้ว” พงษ์วางสองมือเขาไว้บนตัก มันพูดพลางเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนสีขาวจากตู้เสื้อผ้าแล้วเดินเข้าเดินออกห้องน้ำก่อนจะเอาผ้าที่ชุบน้ำเรียบร้อยยื่นมาจะเช็ดหน้าเขา “ไปดูที่อยู่ ไปดูที่เรียนก่อน อีกสองเดือนค่อยกลับมาเรียนแล้วรับใบประกาศจบทีเดียว”
“อย่า” แก้วเอามือเปื้อนๆจับข้อมือพงษ์
“หืม?”
“เดี๋ยวกูทำเอง ไปทำแผลมึงเถอะ” ตั้งแต่กลับมาแล้วเขารีบเข้าห้อง พงษ์มันก็รออยู่หน้าห้องเป็นชั่วโมงไม่ได้ไปไหน
แก้วเงยหน้าห้ามเลือดกำเดาไม่ให้ไหลก่อนลุกไปเปิดลิ้นชักหัวเตียงแล้วหยิบกล่องพยาบาลออกมาวาง
ถ้าจะรอให้เขาทำให้เหมือนทุกที วันนี้คงไม่ได้...เพราะเขาก็ไม่ได้ดูดำดูดีอีกคนเช่นกัน เพราะฉะนั้นทุกอย่างควรจะเสมอตัว ...ตัวใครตัวมัน
“ก็เดี๋ยวกูทำให้มึงก่อน เสร็จแล้วจะได้กินยานอนนะ” มันยังเซ้าซี้ แต่สายตาหรุบต่ำวุ่นพับผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้พอเหมาะแต่ไม่ยอมมองหน้าเขา
“กูคิดดีแล้ว มึงอย่ากังวลเลยพงษ์ เมื่อก่อนไม่รัก ก็ยังรักได้ พอรักแล้ว ทำไมจะเลิกไม่ได้...บางทีที่ผ่านมากูอาจคิดไปเองทั้งนั้น ขอบใจนะที่มึงเตือนกู ต่อไปกูจะได้ไม่ต้องอึดอัดใจอีก มึงก็ดีใจใช่ไหมที่กูคิดได้” แก้วใช้หลังมือปิดจมูก เขายิ้มเจื่อนๆตาแดงๆพลางเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อพูดจบ
อย่าร้องตอนนี้นะ...เขาไม่อยากให้พงษ์รู้ว่าเขายังทำไม่ได้ถึงที่สุด
“งั้น...เดี๋ยวกูลงไปทำแผลข้างล่างนะ แล้วจะขึ้นมานอนด้วย” พงษ์เอาผ้าขนหนูใส่มือเขาแล้วคว้ากล่องพยาบาลไปถืออย่างไว
“ไม่ต้องหรอก” แก้วปฏิเสธ ทำให้พงษ์เงยหน้ามามองเขาได้สักที
“มึงอย่าทำแบบนี้เลยแก้วกูใจไม่ดี...มึงตัดมันได้น่ะกูดีใจ แต่กูไม่ได้ต้องการให้มึงเป็นแบบนี้ ...กูให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวจะขึ้นมาหานะ” พงษ์บอกด้วยสีหน้าเรียบๆแต่ในนั้นเขารู้ว่าพงษ์เป็นห่วงอยู่
ไม่อยากให้ห่วงเลย ทั้งที่มึงเดือดร้อนเพราะกูมาตั้งเยอะแล้วนี่กูทำให้มึง มึงยังจะทุกข์ใจอะไรอีก
“ไปอเมริกาก็ไป แต่คืนนี้ขอนอนคนเดียว” แก้วบอกเมื่อพงษ์หันหลังให้แต่ยังออกไปไม่พ้นห้อง เมื่อได้ยินอย่างนั้นพงษ์จึงหันกลับมา
“ตัวเล็ก...พี่รักมึงนะ พี่ไม่อยากเห็นมึงเป็นอย่างนี้แต่พี่จะอดทน ทนไปพร้อมกับมึง เพื่อชีวิตใหม่ของเรานะ”
“...ครับ”
แก้วเก็บผ้าขนหนูชุ่มน้ำไปผึ่งไว้นอกระเบียง
ของสิ่งเดียวที่ไม่ใช่ของตัวเอง
ผ้าขนหนูที่ไอ้ฝิ่นมันให้เขาใช้ตอนอยู่บ้านนั้น จะเอามาเปื้อนเลือดได้ยังไง
...นี่มันของที่ขโมยมาเลยนะ
.
.
.
“พงษ์ ทำอะไร?” เขาเดินลงมาข้างล่างแล้วเข้าไปหาพงษ์ในครัว
“เสร็จแล้วๆ อ่ะ” มันยื่นแก้วชามะนาวมาให้ พลางเอามืออังหน้าผาก “โอเคตัวไม่ร้อน ปวดหัวไหม” แก้วพยักหน้า “งั้นกินข้าวเลยจะได้กินยา”
“อืม” ก็อุตส่าห์ลุกมาทำให้จะปฏิเสธได้ยังไง
“วันนี้หยุดเลยนะไปก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้วนี่”
“ไม่เป็นไรไม่อยากเป็นเด็กเส้น” แก้วตอบนิ่งๆ ออกจะดูเหม่อๆด้วยซ้ำแต่เจ้าตัวกลับไม่ได้คิดว่าตัวเองไม่เป็นปกติจนไอ้พงษ์ส่ายหน้า
“งั้นก็ไปทำพาสปอร์ตเลยแล้วกัน กะว่าจะให้พักซะหน่อยบ่ายๆค่อยออกจากบ้าน ก็ถ้าอยากออกตอนนี้ก็ไปเลยละกัน”
“หืม...ก็ได้” เขามองพงษ์ครู่หนึ่งด้วยสีหน้าเป็นเครื่องหมายคำถาม ...ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ?
แต่เออ เมื่อคืนพงษ์มันก็บอกไว้แล้วนี่ อืม...แต่จะวันนี้หรือพรุ่งนี้ยังไงก็ต้องไปทำอยู่แล้ว ...คงถึงเวลาที่จะได้พักกายพักใจจริงๆแล้วสิ
จะได้ไม่ต้องอยู่ในสถานะครึ่งๆกลางๆของใคร จะได้ดำเนินชีวิตใครมันเหมือนก่อนหน้านั้น
เป็นเรื่องน่ายินดีที่สุดในรอบห้าสิบวัน
ไชโย!
...
อึก
...
...ไชโย
แต่คงเป็นเสียงไชโยที่มาพร้อมเสียงสะอื้นถ้าเขาตะโกนคำนี้ออกไปจริงๆ
“ยืมนะ แสงแยงตา” แก้วคว้าเอาแว่นดำของไอ้พงษ์ที่ห้อยอยู่คอเสื้อมันมาสวมแล้วหลับตานิ่งปล่อยให้พงษ์เป็นคนขับรถพาไปไหนก็ไป
ใจหวิวๆ โหวงๆอีกแล้ว คราวก่อนเหมือนคนไม่มีหลักยึด แต่คราวนี้เหมือนหัวใจตัวเองมันปลิวว่อนอย่างกับว่าวขาดๆที่ลอยลิ่วอยู่บนอากาศจะตกไม่ตกแหล่ มันโหวงเหวงกว่าครั้งก่อนมาก
ทั้งที่หัวใจควรจะกระโดดโลดเต้นเพื่อต้อนรับสิ่งใหม่ๆที่จะเข้ามาในชีวิตสิ
มีทางไหนที่เขาจะลบคนๆหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเพียงแค่เวลาสั้นๆไหม เขาคงรู้สึกดีกว่านี้ถ้าทำมันได้
.......................................
สั้นใช่ไหมคะ? (ยังมีหน้าถาม) แต่ดีกว่าค้างเนอะ เพราะถ้าต่อยาวกว่านี้ได้ค้างแน่นอน เราชอบให้คนอ่านจับได้ทีละประเด็นน่ะ (ข้ออ้าง:P)
ฝันดีนะคะทุกคน
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์เจ้าค่ะ^^กอดๆจุ๊บ
-
ยังจะเอาคืนอีกเนอะ ตัวเองจะตายแระอยุ๋แระเพราะรักเค้า
เด๋วเถอะฝิ่น ชิ
-
มันก็แค่คนที่ไร้ความคิดมาตั้งแต่ต้น
ใครจะจูงจมูกไปทางทิศไหนก็ได้ ไม่ได้สายขาด แต่เป็นสิ่งที่ตัวเองไม่ยอมรับมาตั้งแต่ต้นแล้วละอีแก้ว
อย่าโทษใครเลย
-
เอาความจริงนะ อยากให้แก้วกลับไปหาฝื่นจริงๆนะ
แก้ว แก้วรุ็ได้ยังไงว่าฝื่นคงไม่รุ้สึกอะไรนอกจากเสียหน้า
อย่าคิดอะไรไปเองคนเดียวสิ :sad4: :z3:
อิพงษ์มึงปล่อยแก้วไปได้แล้วน๊า~
-
จะหนีใจตัวเองพ้นเหรอแก้ว
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
รอลุ้นกันต่อไป
-
อื้ม......~
น้องแก้ว
ที่เป็นแบบนี้เพราะใครนะ
อยากให้แก้วมีชีวิตปกติอย่างเขาบ้างไรบ้าง
กอดดดดดดดดพี่ซี
+1+เป็ดจ้า
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
นกพิราบตัวไหนจะบินไปส่งข่าวไอ้ฝิ่นบ้างนะ แก้วจะไปแล้วจริงๆ อเมริกาไกลนะฝิ่น ทนได้เหรอ ไม่รั้งไว้แล้วจะเสียใจนะ
-
อาการหนักไม่ต่างกันเลย
แต่ยังไงแก้วก็เจ็บสุด
แล้วตัวกับใจมันแยกกันได้ด้วยเหรอ
จะทำอะไรก็รีบทำซะเลยฝิ่น อย่าช้า :angry2:
-
น้องฝิ่น !!รู้รึยังยอดดวงในของเราจะไปอเมริกา !!
ถ้ายังเก๊ะท่าอาฆาตอยู่เขาจะขอให้แก้วไปอเมริกาไม่กลับเลยเอา !!
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เบื่อออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
:seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
-
ลุ้นๆ
-
คนที่ทำให้ชีวิตแก้ววุ่นวายที่สุดก็คือตัวแก้วเองนั่นแหละ ในเมื่อแ้ก้วเอาแต่คิดเองเออเอง สงสัยไม่ถามไม่พูดไม่คุยให้รู้เรื่องกันไป แล้วก็ปล่อยให้ตัวเองถูกคนนั้นคนนี้พาไป ปล่อยเรื่องของตัวเองให้เป็นการตัดสินใจของคนอื่นแบบนั้นทั้ง ๆ ที่คนที่น่าจะรู้อะไรดีที่สุดคือตัวแก้วนั่นแหละ
-
เซ็งว่ะขัดใจมากมายที่มันสั้นๆแบบนี้ เห้อ แก้วร้าวแล้วจะให้หลอมใหม่มันจะเหมือนเดิมได้รึ้
-
พงษ์นี่อารมณ์หวงน้อง เลยไม่อยากให้ออกเรือนกะคนไม่รักน้องสินะ
เค้าจะไปอเมริกากันแล้วฝิ่นอยู่หนายยย :z3:
-
ที่จริงมาถึงขั้นนี้แล้ว พงษ์น่าจะยอมบอกความจริงนะ ว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่
คาใจอ่ะ
-
พงษ์แกจะพาแก้วชิ่งไปอยู่เมกาสองคน ง่ายไปไหม หมั่นไส้พงษ์
-
:z13: :z13: :z13:
-
+1
แก้ว :z3:
ฝิ่น :z6:
พงษ์ :beat:
รอ :call:
-
ทิ้ง ไอ่ฝิ่น ซะ แมร่ง ปากแข็ง ไปเลย เมกา ไปให้ เร้วๆ 5555_ _ o18
-
:z10:
-
ค้างอย่างเเรง555 ฝิ่นมาง้อด่วนเลย
-
สงสารแก้วนะ
ทำใจลำบาก
จะเลือกใครระหว่างคนของหัวใจหรือคนที่เป็นเหมือนชีวิต
ถ้าเป็นเราก็คงเลือกไม่ได้
-
ลุ้นกันต่อไปครับ
-
แก้ววววววววววววว สู้ๆนะลูก
-
พงษ์ลืมมองไปหรือเปล่าว่าแก้วต้องการอะไร
แก้วลืมไปหรือเปล่าว่าหังใจเป็นของใคร
แล้วฝิ่นลืมไปหรือเปล่า...กระดาษที่เขียนว่า "รัก"
-
ฝิ่นมันก็คงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่... นอกจากเสียหน้า
ตัวเขาเองก็คงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่... นอกจากเสียใจ
อ่านแล้ว สุดจี๊ดดดดด แก้วเอ้ยย น่าสงสารที่สุด
บอกเลยว่าเป็นห่วงมากๆ
เครียดขนาดนี้ ร่างกายจะไหวมั๊ยละนั่น
อ่านแล้วไม่ค้าง แต่...มึนไปต่อไม่ถูกเลยตู สงสารแก้วจับใจ
จัดบวก มาต่อเร็วๆนะจ้ะ
-
:sad4: :sad4:
-
ฮึ่มๆ... ชักจะหงุดหงิดพงษ์ซะแล้วว :angry2:
ฝิ่นจะทำอะไรก็รีบๆทำทีเถอะ :z3:
เป็นกำลังใจให้นะ มาต่อไวๆนะคะ
-
:เฮ้อ:
ง่า...มันหน่วงมาก...อยากให้ฝิ่นรู้ ที่ฝิ่นคิดว่าตัวเองเสียใจเสียหน้าอ่ะมันน้อยกว่าที่แก้วรู้สึกเยอะ...
ดูดิต้องพยายามตัดใจ คิดว่าเค้าไม่รัก เจ็บปวดป่ะล่ะ ถ้าฝิ่นคิดจะทวงแก้วคืนก็ให้รีบเลยนะ
เดี๋ยวจะไปไกลแ้ล้ว
ชอบพงษ์เรียกแก้วว่าตัวเล็กจัง รู้สึกอบอุ่น...
ขอบคุณค่ะ
-
รู้สึกหน่วงๆ
:เฮ้อ: ต้องเป็นอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่
-
^^
-
สั้นเหนือคำบรรยาย แต่อภัยให้เพราะมาบ่อย ลุ้นมาก ว่าพี่ไม้มีแผนอะไรให้ฝิ่นอะ
-
เป็นผม ผมก้อจะหนีไปไกลๆ เหมือนกัน
แต่จะไปคนเดียวนะ
สบายใจแฮ :เฮ้อ:
-
แก้วก็แค่คนที่พยายามจะเข้มแข็งทั้งๆที่โคตรจะอ่อนแอ
-
คิดดีแล้วเหรอแก้ว
อย่าไปเลย :sad4:
-
มาต่อเร็วๆนะครับ
-
ฝิ่น - รัก แต่ปากแข็ง ฟอร์มจัด
แก้ว - รัก แต่ไม่มั่นคงในอารมณ์ โอนเอนไปตามสถาณการณ์
พงษ์ - รักน้อง เอาแต่ใจ คิดอะไรตื้น ๆ
:เฮ้อ:
-
อ่าง่า. . . พงษ์จะรีบพาตัวไปเร็วงั้นเชียว
แล้วแก้วจะไหวเหรอเนี่ย
แล้วอีกคนล่ะ จำทำไงดี
-
ฝิ่นอยู่ไหน แก้วจะไปแล้ว
-
เศร้าอ่ะ,,,,น้ำตาไหลเลย T____T
-
สงสารแก้ว ฝิ่นมาง้อด่วน
-
มาต่ออีกเร็วๆ นะครับ อยากรู้ความรู้สึกของฝิ่น
-
แก้วทำตามใจตัวเองเถอะ
-
ฝิ่นแกรีบไปง้อแก้วด่วนเลย :angry2:...ไม่งั้นแกจะโดน :z6:
:pig4: :pig4:
-
ฝิ่น...แกจะโดนเมียทิ้งแล้วนะ
อย่ามามัวฟอร์มจัด รักก็บอกว่ารักไปเลย
-
ขอให้ฝื่นมาง้อแก้วได้ทันเวลาทีเถอะ จะได้ไม่เจ็บไปมากกว่านี้ทั้งสองฝ่าย :เฮ้อ:
-
หลอกตัวเองกันเข้าไป
มีความสุขไหมแก้ว :z10:
-
พงษ์กับดิวนี่ตัวแปรสำคัญเลยอ่ะ 555555555
-
ทันแล้วว
รอ ร้อ รอ
:call: :call: :call: :call:
-
เจออย่างนี้ไปฝันดียากแล้วละ :z3:
ฝิ่นรีบเข้าแก้วจะไปแล้วนะ :z6:
-
ก็คนมันไม่แน่ใจ ยิ่งรักมากก็ยิ่งไม่แน่ใจมาก ป้องกันตัวเอง
อาจเพราะเป็นคนเจียมตัวขาดความมั่นใจมาตั้งแต่ต้น
คิดแต่จะทำเพื่อคนอื่นเสมอ คิดว่าทำแล้วสบายใจแต่ใจมันก็ยิ่งร้า่วราน
-
อึ้ก!
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๔๗
“เอาไว้คุยตอนเย็นได้ไหมกูมีเรียนเช้า” ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาผูกเนคไทด์มหาวิทยาลัยเอกชนเปิดประตูออกมาเจอหน้าเขาแล้วเผลอสะดุ้งนิดหน่อย ก่อนที่มันจะเชิดหน้าใส่แถมพูดเสียงลากยาวอย่างใส่อารมณ์เหมือนว่าเขาจะทำให้มันเสียเวลานักหนา
อย่าบอกว่าตั้งใจจะหลบนะทั้งที่เมื่อคืนก็บอกไว้แล้วว่าสร่างเมามีเรื่องจะคุย
“งั้นกูไปส่ง”
“จิ๊ จะคาดคั้นเอาให้ได้เลยใช่ไหม ก็กูไม่อยากพูดมึงไม่เข้าใจรึไง อย่าคิดว่ากูจะกลัวนะกะแค่เด็กช่างกิ๊กก๊อก ถุย” ไม้ข่มอารมณ์ด้วยการถอนหายใจแล้วหันไปเจอคนที่เพิ่งเปิดประตูออกมาจากห้องข้างๆพลางโค้งศีรษะให้เป็นเชิงขอโทษที่เสียงดังรบกวน
“ลำบากตรงไหน ทีกูช่วยมึง กูยังไม่เคยจะขัด” ...ได้
สมแล้วที่ไอ้ฝิ่น ไอ้โจ้มันไม่ชอบขี้หน้า เห็นแก่ตัวเป็นที่หนึ่ง เรื่องของตัวเองไม่เคยถามคนอื่นเลยว่าอยากยุ่งด้วยไหม พอขอความช่วยเหลือหน่อย กะชิ่งเข้าไปเถอะ
“มึงรำเลิกเหรอ? กูก็บอกขอบใจไปแล้วไง”
“แต่กูไม่รับ กูถือว่าเป็นบุญคุณ” ไม้ตอบหน้าตาเฉย
การที่ต้องเล่นละครเป็นแฟนกับไอ้ขวัญ ผลตอบแทนมันควรจะมากกว่าแค่คำพูดสิ ไม่รู้ว่าโคตรบังเอิญอะไรนักหนาทำให้เขาต้องเจอะเจอมันทุกครั้งเวลาที่มันบอกเลิกผู้ชาย แล้วมันก็คบไม่ใช่แค่คนสองคนซะด้วย เขาก็ควรจะทบต้นทบดอกเป็นธรรมดา ถึงจะแค่ไปยืนเล่นละครใบ้ก็เถอะ
“ไป ถ้ามึงรีบเดี๋ยวคุยไปเดินทางไปก็ได้” ดึงแขนมันออกจากห้องได้ก็หยิบกุญแจจากมือมันมาล็อคประตูทันที ไอ้ลูกผู้ดีเบอร์สองขมวดคิ้วถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ เขาก็ไม่สนใจเหมือนกัน... ทีใครทีมันเถอะ
“กูก็เล่าให้ฟังตั้งเยอะแยะมึงจะอยากรู้อะไรอีก นี่มึงก็แทบเข้าไปอยู่ในวัยเด็กพวกกูหมดแล้วนะ” มันทำหน้าบูดบึ้งแต่ร่ายยาวเมื่อขึ้นรถได้
ก็รถมันนั่นแหละ เมื่อเช้าเขาให้ไอ้โจ้ขับมอเตอร์ไซด์มาส่งที่หน้าคอนโดมัน แล้วก็เพิ่งแย่งกุญแจรถไอ้ขวัญมาได้เมื่อกี้ ไม้ยอมเข้างานสายวันนึงยังไงวันนี้ก็ต้องได้เรื่องหน่อย ขอแบบเต็มๆตอนมีสติ ไม่ใช่ฟังมันเพ้อเจ้อตอนเมาแล้วจับต้นชนปลายไม่ถูกสักที
“แล้วทำไมมันถึงเห็นไอ้พงษ์ดีกว่าคนอื่น” เขาถามในเรื่องที่ข้องใจ
เคยให้คนตามสืบประวัติก็รู้แค่ว่าพ่อแม่ไอ้แก้วเป็นใครรวมถึงเป็นลูกคนละแม่กับไอ้นี่ด้วย และเป็นเพื่อนรักไอ้พงษ์ที่สุดเท่านั้นที่รู้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ยอมรับโทษจากความผิดแทนกันซะทุกอย่าง มันมากไปที่เพื่อนจะทำให้กัน ถ้าไอ้ฝิ่นไม่ยืนยันเขาก็คงคิดว่ามันเป็นอะไรที่มากกว่านั้นแน่
“คนอื่น? เฮอะ มันเห็นกันดีกว่าพี่แท้ๆอีกอย่าว่าแต่คนอื่นเลย ขนาดตอนเรียนโรงเรียนประจำ หยุดเสาร์-อาทิตย์ไอ้แก้วยังไม่เคยจะโผล่หน้ากลับบ้าน แล้วไปไหนรู้ไหม? ไปค้างบ้านไอ้พงษ์...แม่งเลวทั้งคู่”
“เลวยังไงวะ” ถามอีกด้วยความข้องใจ
“กูบอกว่าเลวก็คือเลวสิ มึงจะฟังต่อไหม?” แต่โดนมันเหวกลับ
“ก็พ่นมาสิ” ยักคิ้วให้แล้วหันหน้ากลับไปสนใจกับจราจรบนท้องถนนต่อ พยายามไม่ขัดอารมณ์คนเล่าให้มากนักเพราะขึ้นๆลงๆอย่างกับประจำเดือนมาซะขนาดนี้
มันเคยมองตัวเองรึเปล่าวะว่าทำไมคนอื่นถึงไม่อยากเข้าใกล้ ...นอกจากผู้ชายที่มึงไปหว่านเสน่ห์มานะ
“ทำใจเถอะถ้าจะให้มันไปอยู่กับรุ่นน้องมึงน่ะ ฆ่ามันให้ตายง่ายกว่าเยอะ”
“อาจจะมีช่องโหว่ที่มึงมองข้าม” ทุกอย่างมีทางออกเสมอ ไม่ต่างจากที่เขายอมจบง่ายๆทั้งที่ควรเอาเรื่องไอ้พงษ์ให้หนักกว่าใคร แต่เพราะน้ำใจของไอ้แก้วที่แสดงสปิริตต่อคนรักมาตลอด ไม่ว่าจะรักด้วยความหมายไหน แต่เขาก็ชื่นชม ถึงล้มไม่เป็นท่า แต่มันก็ยังยึดถือจะทำ ...เพราะเขาไม่สามารถทำได้เท่ามัน
น้ำใจคือสิ่งที่นักเลงใฝ่ฝัน แต่จะได้พบเจอสักกี่ครั้งล่ะในชีวิต
“มึงยอมกราบตีนไอ้พงษ์รึเปล่าล่ะ หรือถ้ามึงทำให้ไอ้พงษ์เชื่อใจได้ โอกาสอาจขึ้นมาศูนย์จุดศูนย์หนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่ไอ้แก้วจะเปลี่ยนใจ” ไอ้ขวัญก็ยังคงพูดจากวนโมโหอยู่ดี
“...น้อยจังวะ”
“ไอ้แก้วน่ะถ้าได้ตัดสินใจทำอะไรแล้ว มันไม่หันหลังกลับหรอกนะ ความโลเลของมันนั่นแหละคือเรื่องที่มันอยากวิ่งหนี เพราะฉะนั้นมันจะไม่กลับไปคิดใหม่กับสิ่งที่มันตัดสินใจ ยิ่งโลเลมันยิ่งจะเดินหน้า ต่อให้ข้างหน้าเป็นเหว มันก็จะเดินไป ...โง่ๆอย่างนั้น”
“มึงแค้นใจอะไรมันรึเปล่า” เขาฟังจากน้ำเสียงเหมือนมันคับแค้นใจยังไงอย่างนั้น
“บ้าสิ กูแค่จะบอกว่าคนมันขาดความอบอุ่น จะอยู่ไหนกับใครก็เป็นปัญหาได้ทั้งนั้น” มันบ่นส่งท้าย
“กูว่าคนที่ขาดน่าจะเป็นมึงมากกว่า” เขาจึงเปรยตามหลังมันบ้าง
“...ก็!” ไอ้ขวัญหันขวับมามองเขาก่อนจะหันไปมองท้ายรถคันข้างหน้า “ก็ถ้ากูขาดมึงจะเติมให้กูรึเปล่าล่ะ”
“หึ” ขวัญเอยขวัญมา ไม่พอใจจนขวัญเตลิดเลยสิท่า
“ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงหรอก ...ต่อให้พลัดหลงไปอยู่กับใครต่อใคร แต่ที่จงรักภักดีที่สุดก็คือเจ้านายคนเดียว”
ประโยคลอยๆที่ดูมีอะไรให้คิดตาม
.
.
.
“มึงอยู่ไหน”
“ใครวะ?” พงษ์เอ่ยถามปลายสายอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อไม่รู้ว่าตัวเองรับโทรศัพท์จากใคร เบอร์ไม่คุ้น เสียงไม่คุ้น
“๕x” ปลายสายตอบห้วนๆ เหมือนไม่อยากจะพูด แล้วเสือกโทรมาทำไม?
“เหี้ย” เหี้ยจริงๆนั่นแหละ เรื่องเก่ายังไม่เคลียร์เขาก็ดันไปก่อเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก นี่คงจะเอาคืนล่ะสิ หรือยังจะเอาไอ้แก้ว? เหอะ ฝันถึงขวดเบียร์อีกรอบได้เลย แล้วแม่งไปเอาเบอร์กูมาจากไหนวะ
พงษ์มองไปยังคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆดูมันไม่ได้สนใจอะไร...เรียกว่าไม่สนใจอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ จะว่าดีหรือร้ายวะ ชวนคุยให้สนใจเรื่องอื่นบ้างก็พูดไปเถอะสุดท้ายก็เงียบจมอยู่กับตัวเองตามเคย
“มึงอยู่ไหน กูขอเจอ”
“หืม? มีธุระอะไร” พงษ์ตอบเสียงแข็ง
“ไอ้เหี้ย ถ้ามึงไม่มาเจอดีแน่/เฮ้อ มากูคุยเอง” เหมือนมือถือถูกเปลี่ยนมือรึเปล่า
“ไม้ ๖๗” อ้อเปลี่ยนคนคุยจริงๆด้วย ไอ้ประธานสายเก่ามันเอาไปคุยนี่เอง บอกชื่อบอกรุ่นขนาดนี้แต่จะไม้จะหญ้า กูสนไหม?
“มีอะไรวะ”
“มาเจอกูที่วัดเดิมที่เคยพาไป หวังว่ามึงจะใจกล้าพอนะ เอาไอ้แก้วมาด้วย”
“เรื่องอะไรวะ” เรื่องอะไรต้องไป ไม่ใช่อยากรู้ว่าจะคุยด้วยเรื่องอะไร
พงษ์ตอบพลางเลี้ยวรถเข้าไปจอดในโซนที่จอดรถของโรงแรมหลังจากพาแก้วไปทำเรื่องขอพาสปอร์ตเรียบร้อยเอาบ่ายแก่ๆแล้ว
“กูไม่อยากคิดว่าไอ้แก้วมันจะเหลือแต่ซากรึยัง กูคงไม่ได้รู้จักมันดีไปกว่ามึง แต่มึงกับกูก็ต้องเลือกสิ่งสำคัญที่สุดให้คนใกล้ตัวไม่ต่างกันไม่ใช่เหรอ” เฮอะ! สิ่งสำคัญ? ตัวล่อที่สำคัญสิไม่ว่า
“แก้วขึ้นไปหาคุณพ่อนะ กูไปธุระแล้วจะกลับมารับสักหกโมงเย็น” เขาวางมือถือบนตักแล้วบอกไอ้แก้ว มันพยักหน้าส่งๆให้แล้วเปิดประตูรถออกไปเลย เฉยเมยได้อีกครับมึง นั่น เอาแว่นกูไปด้วยอีก
พงษ์บอกแก้วไปอย่างนั้นเพราะไม่คิดว่าจะต้องคุยอะไรกันนาน ท้ามา...ถ้าไม่กล้าก็คงดูแลใครไม่ได้แล้ว
“มีอะไรพี่ดิว?” เขาขับรถออกจากโรงแรม รับสายที่เพิ่งโทรเข้ามาใหม่ไปด้วย
“มึงอยู่ไหน?” อีกคนละ กูจะอยู่ไหนทำไมทุกคนต้องอยากรู้นักหนาด้วยวะ
“ลอยไปลอยมาแถวนี้ พี่มีอะไร”
“เมื่อคืนมึงไปมีเรื่องเหรอ”
“ไวจริงนะพี่”
“มีอะไรรอดหูรอดตากูได้ ตกลงมึงไปมีเรื่องกับใคร” มันย้ำถาม
“ไม่มีอะไรพี่ ไอ้ฝิ่นมันกวนตีนเลยจัดให้สักหน่อย” คนมันระแวงอยู่แล้ว รู้อะไรมามันก็ระแวงต่อไปเรื่อย เขาจึงบอกมันไปตามตรง จะได้เลิกฟุ้งซ่านกลัวเขาจะหักหลังมันซะที ถึงจะไม่ต้องพึ่งมันอีกแล้วก็ตาม แต่ทางใครก็ทางมันเถอะ ยุติได้ ประโยชน์ก็ตกเป็นของทุกคนอยู่แล้ว
“อืม แต่แปลกนะ มันทำไอ้แก้วแรงกว่าคนอื่นมึงเอาคืนได้แค่นี้เหรอ?”
“...หรือจะเอามันตายอีกคน หึ แต่อย่าเลยว่ะ ผมไม่อยากให้ไอ้แก้วแย่ไปกว่านี้แล้ว”
อย่ามายุกูอีกเลย พลาดก็ให้พลาดครั้งเดียวเถอะเรื่องนี้ ที่ผ่านมาก็เป็นบทเรียนได้แล้วว่าเขาไม่ควรคิดอะไรไกลตัว เอาแค่ใกล้ๆจับต้องได้ แค่เขาอยู่กับมัน ไอ้แก้วมันก็จะไม่เป็นไรแล้วแค่นั้นพอ
“ทำไม? ไอ้แก้วเป็นอะไร?” เสียงอยากรู้ขึ้นมาเชียว
“เปล่าหรอก” พงษ์นึกได้ว่าแก้วคงไม่อยากให้ไอ้พี่ดิวรู้เรื่องจึงเลี่ยงที่จะพูดตรงๆ “เออโทรมาก็ดีแล้ว เดี๋ยวกินเหล้าส่งท้ายกันหน่อยนะ สัปดาห์หน้าพาสปอร์ตกับวีซ่าไอ้แก้วคงเรียบร้อยละ”
“หมายความว่าไง”
“ผมจะพามันไปอยู่โน่นกัน อ้อ พี่แค่ก่อนนะ จำทางไม่ได้ว่ะ” พงษ์วางสายจากพี่ดิวทันทีที่พูดจบ
จำได้ว่าแถวๆนี้นี่หว่า อ้อ นั่นไงป้ายชื่อวัด แถวชานเมืองทางเข้าวัดมีแต่ป่าอย่างนี้หมดรึเปล่าวะ กันดารชะมัด ไม่คิดเลยว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ในพื้นที่ กทม.ด้วย แต่เอาเถอะ ยอมลุยถนนลูกรังเพื่อคุยเรื่องคนสำคัญของเขาเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ จะคอยดูว่ามันจะมาไม้ไหน หลอกไอ้แก้วได้ แต่หลอกไอ้พงษ์ไม่สำเร็จหรอกจะบอกให้
.
“อยากคุยกับไอ้แก้ว? เฮอะ!” พงษ์เอ่ยถามด้วยหน้าตายียวนหลังไอ้ประธานรุ่น ๖๗ ที่นั่งอยู่โต๊ะม้าหินอ่อนเอ่ยปากบอกความต้องการ ... แล้วให้กูถ่อมาถึงนี่?
“ให้มันจบกันเองดีกว่าคนนอกจะไปยุ่ง” มันตอบมาเรียบๆหน้าตาเฉย
“ก็ถ้าไม่เหี้ยใส่เพื่อนกู กูคงยอมให้ได้หรอก แต่นี่พวกมึงแม่งเล่นสกปรก พวกมึงเอาความรู้สึกไอ้แก้วมาล้อเล่น ต่อให้มึงอ้อนวอนกูให้ตายก็อย่าหวังว่าจะเปลี่ยนอะไรได้ ถ้ากูไม่ ไอ้แก้วก็ไม่เหมือนกัน”
“ก็ถ้ากูจะเอาคืนใครก็ขวางไม่ได้เหมือนกัน!” ไอ้เหี้ยฝิ่นเดินมาจากข้างหลังซึ่งก็คือทางเข้าวัดนั่นแหละ ถ้าไม่เพิ่งมาถึงก็คงโดนลอบกัดแล้วกู
“อ๋อนี่จะเล่นกู?” ถามออกไปด้วยใจวิตกแต่ก็ปลงซะแล้วแม่งดวงคนจะเจ็บตัว
“ฝิ่นเงียบ” ไอ้ไม้บอกรุ่นน้องมัน ไอ้ฝิ่นเลยเงียบแบบจำใจ
“มึงรู้จักไอ้แก้วมากกว่าพวกกู ถ้ามึงคิดถูกแสดงว่าตอนนี้เพื่อนมึงมีความสุขดีสินะ”
“อึก” แม่งไอ้เหี้ยพูดกระทบกูได้อีก “ไม่เกี่ยวกับพวกมึงเหอะ” เขามีวิธีจัดการไอ้แก้วเองน่า
“อย่าพูดมากเลยพี่ไม้ จริงๆเราไม่จำเป็นต้องมาคุยกับมันด้วยซ้ำ” ลูกสมุนมันเสริม สนับสนุนกันกับไอ้ฝิ่นเข้าไป
“โจ้เงียบ ...ฝิ่นตกลงมึงจะเอาไง กูทำให้ครั้งเดียวนะ” โอ้โห เอาไงก็เอาเลยสิวะ พงษ์มองหน้าคู่อริสามตัวที่เดินไปยืนเรียงกันแล้วเริ่มเตรียมใจ เฮ้ย เตรียมตัวสิ
มันจะเดี่ยวหรือจะหมู่วะ
“.................” ไอ้ฝิ่นก้าวออกมาข้างหน้า มันยืนฟาดฟันสายตากับเขา “กูยอม!” สั้น ห้วน กระชากเสียง
“ห๊ะ? ยอม?”
“กูยอมจบเรื่องเหี้ยๆพวกนั้น กูยอมผิดคำพูด กูผิดสัญญาต่อเพื่อน กูไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรี แต่กูยอม...ยอมเพื่อให้มีมัน” ประโยคท้ายๆมันพูดเสียงเบา “และเพื่อให้ได้ไอ้แก้วกลับคืนมา มึงจะให้กูทำอะไร กูจะยอมทุกอย่าง...อ้อ ยกเว้นกูไม่กราบตีนมึงแน่”
“ฝิ่น” ไอ้ไม้กัดฟันพูด แต่ไอ้เหี้ยฝิ่นมันไม่ลดละสายตาแข็งๆของมันเลย
นี่คือท่าทีของคนยอมเหรอวะ?
“ง่ายไป... ที่แล้วมามึงหลอกใช้เพื่อนกูมาตลอด มึงหลอกในเรื่องที่มันต้องการ มึงทำร้ายมันซึ่งกูไม่มีวันให้อภัย”
“กูไม่จำเป็นต้องบอกรักมันต่อหน้าคนอื่น” ไอ้ฝิ่นพูดแทรกทันที “แต่กูรักมัน...กูรักไอ้แก้ว”
“......................” ผู้ชาย ...บอกรักไอ้แก้วต่อหน้ากู!!
“ขะ ขออีกที” กูฟังผิดแน่ๆ มันโกหกเพราะจะให้ไอ้แก้วให้ทุกข์ใจกว่าเดิมล่ะสิ เป็นไปไม่ได้หรอก คงเห็นไอ้แก้วเป็นแค่ของเล่นของมันนั่นล่ะ ความผิดของเขาไม่มีวันที่จะจบลงง่ายๆได้หรอก ไอ้แก้วจะแลกกับศักดิ์ศรีอันสูงส่งของอาชีวะxได้ยังไง
กูหูแว่วชัวร์
“ให้กูพิสูจน์ กูรู้มึงไม่เชื่อกู พอๆกับเพื่อนมึงนั่นแหละ” อย่ารุกกู บอกมาว่ามึงไม่คิดอะไรกับไอ้แก้วแล้วซ้อมกูก็ได้ กูยอมเหมือนกัน ไม่ต้องมาพิสูจน์ให้เสียเวลา กูไม่ว่าง!
มือขวายื่นมาตรงหน้าบวกกับสีหน้าแววตาที่มุ่งมั่น
จะเชื่อมันได้ยังไง แล้วไหนจะที่เคยได้ฟังมาล่ะ
“ลูกผู้ชาย...ถ้ามันจะไม่เหลืออะไรเลย ก็ให้กูได้หัวใจกูคืนเถอะ” เหี้ย น้ำเน่าเรียกพ่อเถอะ
“ก็ได้” มือขวายื่นออกไปจับมือรับคำท้าจากประธาน๕xคนปัจจุบัน “มึงพิสูจน์มา แต่ถ้าเพื่อนกูว่ายังไงก็ว่าอย่างนั้น” ถ้ามันทำให้ไอ้แก้วมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งได้
เขาจะยอมมันเหมือนกัน
“ก็แค่นี้ ...พวกมึงยังมีโอกาส อะไรที่แก้ไขทันก็ทำๆเถอะ” ไอ้ไม้ตบไหล่เขากับรุ่นน้องมัน ขณะที่ไอ้ฝิ่นเริ่มบีบมือเขาแรงขึ้นเรื่อยๆ...จนพงษ์ต้องบีบมันคืนบ้าง
คงอย่างที่ไอ้ไม้บอก ให้พวกมันสองคนตัดสินใจเอง จะเริ่มหรือจะจบ ก็เลือกกันเอง ก็เพราะรู้จักแก้วดี ถึงได้ยอมให้ในครั้งนี้
พงษ์ไม่ได้อยากเปิดโอกาสให้ใคร แต่...เขาสงสารไอ้คนที่เหมือนเหลือแต่ร่างไร้วิญญาณต่างหาก
คนนั้นรับประกันไม่ได้หรอกว่าไปอยู่ไกลๆแล้วจะลืมเรื่องทุกอย่างได้รึเปล่า และคำพูดไอ้ฝิ่นเชื่อได้ไหม ...เขาก็ตอบไม่ถูก
แต่คนที่ไอ้แก้วรัก...มันต้องมีอะไรที่มากกว่าแค่หลอกลวง...แต่เขาอยากให้เป็นเรื่องจอมปลอมอย่างที่เข้าใจมากกว่า
มึงพิสูจน์ออกมาแล้วกัน แต่ทำให้ไอ้แก้วเห็นนะ ไม่ใช่ทำให้กูดู
แต่มีเวลาจำกัดหน่อยว่ะ ใครจะอยู่ ใครจะไป ที่แน่ๆไอ้แก้วมันจะไปเมืองนอกกับกูแล้ว
แค่ไม่อยากให้แก้วมีเรื่องคาใจเท่านั้นที่เขาหวัง
“แม่งกูนอนคิดประโยคเชื่อใจมาทั้งคืนจนไหมที่เย็บหัวจะปริอยู่แล้ว”
“ผมบอกพี่แล้วคำนี้ได้ยินแล้วสยบทุกราย อยากให้ไอ้แก้วได้ฟังว่ะพี่”
“ก็กูกำลังจะไปบอกมันอยู่นี่ไง” มันโอ่กันสองคนแล้วเดินนำออกไปก่อนหลังจากจุดธูปไหว้เจดีย์เพื่อนมันเสร็จ
“กูว่าเราก็พูดกันดีๆได้นี่หว่า” ไอ้ไม้ยืนรั้งท้ายพูดขึ้นมา
“ใช้คำว่ากูกับพวกมึงดีกว่า” อย่าให้กูขนลุกบ่อยเลย
“...แล้วแต่” มันยักไหล่ให้อย่างไม่ยี่หระก่อนมองซ้ายมองขวารอบวัด “กูรู้สึก...เหมือนมีใครมองอยู่”
“ตลกละ กูไม่กลัวผี” เขาตอกหน้ามันแล้วรุดเดินตามไอ้สองคนข้างหน้าเพื่อจะไปเอารถที่จอดไว้หน้าวัด
แม่งรอบตัวมีแต่เจดีย์กับพระ รู้สึกมาได้ไม่ดูสถานที่เลย
......................
โอ๊ะ เบาที่สุดตั้งแต่เริ่มเรื่องมารึเปล่าเนี่ย
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ ทั้งที่สำนวนการเขียนก็ยังคงเดิม ออกแนวถดถอยด้วยซ้ำ
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะ ^^กอดๆจุ๊บ
ดิทแก้สาย คนเขียนมันมั่ว ฮ่าๆ
v
v
อัยยะพี่ทิว จัดมายาวๆ
-
:z13: :z13: :z13:
อยากบอกว่าตามอ่านเหมือนกันนะจ๊ะ
เอาไว้ว่างๆ จะมาร่ายยาวเน้อ
o13 :bye2:
-
ใครที่แอบมองดูอยู่?
-
ก็น่าจะทำงี้มาตั้งนานแล้ว ทั้งพงษ์ทั้งฝิ่น
ความรักเปลี่ยนคนได้จริง ๆ
อยากให้แก้วได้ยินตอนฝิ่นบอกรัก
-
ฝิ่นเท่มากตอนนี้ อย่างนี้ดิเด็กช่าง ใจใจไปเลย
นุ้งแก้วยอมเค้าเหอะ
-
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ดีกันแล้วๆ รอบอกรัก อ๊ากๆๆๆๆ รอๆๆๆ กรี๊ดๆๆๆ วู้วๆๆๆ (บ้าไปแล้ว กร๊ากกกกส์) ลุ้นจัดเกิ๊นนน
-
ไอ้พี่ดิวมันคงไม่ยอมให้จบง่ายๆ แบบนี้แน่
ยิ่งรู้ว่าแก้วจะไปเมืองนอกอีก
เร่งทำคะแนนเข้านะนายฝิ่นมีเวลาอีกอาทิตย์เดียวแล้ว
แสดงด้านหวานๆ มาให้ดูหน่อยดิ :m12:
-
จะบอกรักแล้ววว ฝิ่นสู้ๆ
-
จิ้มๆๆๆ
:z13: :z13: :z13:
-
พี่ฝิ่นรักน้องแก้ว
อ่านประโยคนี้หลายรอบมาก
แล้วก็ยิ้มแก้มแตกเลย~
อยากให้น้องแก้วอยู่กับพี่ฝิ่น
ตอนที่อยู่ด้วยกัน ถึงจะโดนบังคับแต่น้องก็มีความสุขดี
รักน้องแก้วจ้า
พี่ฝิ่นเท่ห์ได้อีกนะ
-
น่ารักอ่ะ ,,,,,ฝิ่นเท่ห์มากกกก ถึงแม้ว่าจะเสี่ยวไปหน่อย ;)
-
แบบนี้ค่อยมองเห็นทางเดินให้แก้วเดินหน่อย ฝิ่นทุ่มสุดตัวงานนี้ วางศักดิ์ศรีเพื่อหัวใจเลย
-
ฝิ่นบอกว่ารักแก้วด้วยอ่า อยากให้แก้วเข้ามาได้ยินจังเลย :impress2:
-
เย้ๆๆๆๆ ในที่สุดฝิ่นก็ยอมเลิกเพื่อแก้ว...แก้วรู้จะดีใจแค่ไหนเนี่ย
อยากให้เจอกันเร็ว ๆ จัง อิพี่ดิวอย่าเข้ามาสอดตอนนี้นะยะ เึ้ค้าเกือบเคลียร์กันได้แล้ว
ชอบตอนฝิ่นบอกไม่จำเป็นต้องบอกให้คนอื่นฟัง ฮิ้ววววว ฝิ่นน่ารัก...
แอบปลื้มพี่ไม้ เป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายจริงพี่ ถ้าไม่ได้พี่ฝิ่นเตลิดไปไหนแล้วไม่รุ
ขอบคุณค่ะ
-
กร้ากกกพงษ์ถึงกับ "ขออีกที" นายแมนมากฝิ่น!!! :m12:
ตอนนี้สวมบทพระเอกลิเกตามอ้อนคนรักได้แล้วพ่อพงษ์อนุญาติเอง เอิ้กๆมีความสุข
ส่วนไม้กะขวัญเป็นเช่นนี้นี่เองไอ้เราก็คิดไปซะไกลแล้ว :pigha2:
-
ใครมองอยู่ เราหลอนนะ :m15:
“ตลกละ กูไม่กลัวผี” จริงๆก็กลัวอยู่ลึกๆใช่ไหม 555
-
:angry2: นายดิวต้องหาเรื่องอะไรเพิ่มอีกแน่เลยอ่ะ :z3:
รักหนูแก้วจัง :กอด1:
-
เฮ้อ . . อยากเจอแก้วจัง :)
-
ตั้งใจจะอ่านแบบเครียดๆ ไอ้พงษ์ไอ้บ้า พาฮาทำไมฟร่ะ
-
ฝิ่นไปบอกกับแก้วเลย
ว่าแกรักแก้วอะฝิ่น
ขอเดานะคนที่แอบดูเป็นไอ้ดิวใช่ไหมหรือจะเป็นขวัญ
+ 1 นะคะ
-
ใครแอบมองฟะ :angry2:
-
.....เริ่มต้นมาเหมือนจะ..โหดๆๆ กลางๆเรื่องก็มันๆๆๆ ตอนท้ายดัน ฮาาาาาา ซะนี่
.....แต่ก็ดีนะ คำว่ารักที่ใครบอกว่าต้องพูดเบาๆๆ จริงๆๆแล้วคนที่อยากได้ยิน ก็อยากได้ยิน ดังๆๆ แล้วก็ บ่อยๆ :laugh:
-
ทำเวลาหน่อยนะ ฝิ่นนนน แก้วจะไปแล้วว :m16:
ขวัญพี่ไม้นี่ยังไง ไปสปาร์คตอนไหนอ้า อยากรู้เพิ่มอีกแล้ว ซีซั่น สู้ๆ มาต่อไวๆนะคะ :serius2:
ปล. เขินกับประโยคที่ฝิ่นพูดจริงๆนะเนี่ย แมน มาก กรี๊ดดดดดดดดดดดด :z3:
-
ใคครมองอยุ่ฟร่ะ
ถ้าเป็นแก้วจะดีใจมากเลย แต่จะใช่ชะที่ไหนล่ะฟร้ะ- -+
แต่ถ้าเป้นอิพี่ดิว จะขอเอาติงถีบหน้ามันเลย ฮ่าๆๆ
รอตอนต่อไปนะค่ะ ตามๆๆ>.<
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :L2: :L2: :L2: :L2: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
มาอีกเร็วๆ นะ...
-
ถ้าไม่มีกามเทพชื่อไม้ แล้วแกสองคนจะได้ร่วมหอลงโลงกันมั้ยเนี่ย อิฝิ่น/น้องแก้ว :เฮ้อ:
อิพี่ดิวมันจะใช้วิธีลักพาตัวแก้วมั้ย ชั้นล่ะหวั่นใจเหลือเกิ๊น :serius2:
-
วู้ววว ตามอ่านวันนี้ทั้งวันจนทัน
รีบๆกลับมาต่อนะคะ สนุกมากเลย ^^
ตั้งแต่อ่านมาทั้งเรื่องอยากบอกว่าชอบแสนที่สุด 55555
-
ใครมองอยู่นะ หลอนได้อีก แต่ก็มีฮา
-
แอบฮาพงษ์555
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกดีใจ ในที่สุดก็ยอมกันซะที >< ฝิ่นน้ำเน่ามาก 555 แต่อยากให้แก้วได้ยินสุดๆเลยอ่า ส่วนพงษ์ก็เป็นปะป๋าผู้แสนดี >< ตอนนี้เหลือแค่ฝิ่นจะทำให้แก้วเชื่อใจยังไงแล้วล่ะ สู้ตาย!
สาธุพี่ไม้หนึ่งที พี่คนนี้สุดยอดจริงๆ แล้วก็จิ้มเจ๊ซีอีกฉึก ตอนแรกนึกว่าพี่ไม้มีซัมติงกับพี่ขวัญ(ก็มีจริงๆอ่ะแหละ) อยากให้2คนนี้คู่กันเหมือนกันนะ บางทีเราก็อดรู้สึกสงสารพี่ขวัญไม่ได้ ถ้ามีพี่ไม้อยู่ด้วย ก็คงมีคนดึงพี่ขวัญไว้ได้นะ
ส่วนใครแอบมองเนี่ย จะว่าหลอนก็หลอนได้ แต่จะหลอนกว่าถ้าเป็นเฮียดิวมาแอบมอง บรึ๋ย -*-
ขอบคุณคร้าบบบบ
-
:mc4: ใกล้ลงเอยกันแล้ว 555
-
พงษ์ไปโยนระเบิดไว้แบบนั้น พี่ดิวต้องวางแผนชั่วอีกชัวร์ๆ
-
ฝื่นน่ารักขึ้น
-
เรื่องมันใกล้จะดีแล้วใช่ไหม๊?
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
เฮ้ย ตามทันแล้ว ชอบจัง ต่อบ่อยดี ไม่ค้างนาน
-
แก้ว เดาใจแก้วไม่ถูก จิงๆ
น่ากลัวที่สุดในเรื่องเละ
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
คาใจที่สุดตรงมีคนแอบมอง
หรือว่าจะเป็นพี่ดิวหว่า
ถ้าไม่ใช่แปลว่า ไอ้เป้งมันอยากจะส่งข่าวอะไรบางอย่างซะแล้ว
รอตอนหน้านะคะ
-
มีตอนนี้นี่แหละที่ฝิ่นพูดเข้าหูคนอ่าน
แถมยังดูเป็นพระเอกขึ้นมาฟลายเท่า
ตอนท้ายถ้าไม่ใช่ผี ก็น่าจะเป็นไอ้เลวดิวนะที่มาแอบดู
-
ผมชอบฝิ่นนะตอนนี้ o13
เด็ดขาดครับ!! ผมว่าเรื่องไม่จบแล้ว คนที่แอบมองคือพี่ดิว?
ไม่ก็แก้ว (ไม่น่า์?) ผมเซ็งพี่ดิวมาก ถ้าพวกฝิ่นรู้ว่าพงษ์ไม่ได้เป็นคนฆ่า
คงดีกว่านี้สถานการณ์ ? และรู้ว่าดิวกับดีจะข่มขืนแก้วน่ะ?
ผมลุ้นต่อ รอต่อครับผม :) :monkeysad: :monkeysad:
-
บร๊ะ ไอ้ฝิ่นโคดเท่เลย
พระเอกสุดๆ
ตามหัวใจคืนมาให้ได้นะ o13
ว่าแต่ใครมองมา อิพี่ดิวรึป่าว แม่ม ตัวปัญหา :z6:
-
อย่างนี้สิฝิ่น ได้ใจไปเลย :laugh:
พงษ์ถึงกับอึ้งไปเลยอะ ที่มีผู้ชายมาบอกรักน้องตัวเองง ><
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:.
-
ตอนหน้ามาไวๆนะ ลุ้นโคตร o18
-
อิดิวมาแอบฟังเค้าด่ากันแน่เลย
พงษ์ แกมีแววจะได้เจ็บตัวเพราะอิดิวมันแล้วแหละนะ :เฮ้อ:
แต่ไม่แปลกใจเท่าไรนะ ที่แก้วเลือกพงษ์มากกว่าฝิ่น
เพราะ พงษ์ คือ "ครอบครัว" สำหรับแก้ว แต่ฝิ่น มันยังเป็นแค่ "คนอื่น" อยู่ เลยไม่แปลกใจเลย ที่จะเลือกครอบครัวมากกว่าคนอื่น แบบนี้
-
:-[ :o8: พี่ฝิ่นเท่ห์ระเบิดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
-
เห้ย..อ่านทันจนได้ าชอบเรื่องนี้มากนะ เพราะเป็นเด็กอาชีวะเหมือนกัน
-
ในที่สุดก้อ อ่านทันจนได้ o13 o13 o13
-
อ่าน 2 วันรวดจนถึงตอนล่าสุด
แรกๆแก้วก็ดูแมนๆดีอ่ะนะ หลังๆชักเริ่มเคะเข้าไปทุกที
ฝิ่นเท่ห์โคตรๆอ่ะ ตอนที่ 47 พี่ฝิ่นเสี่ยวได้อีก อยากให้แก้วมาให้ยินคำนี้จริงๆ
เราว่าดิวแอบมองอยู่แน่ๆอ่ะ เรื่องนี้ดิวเลวสุด จบ!
-
:กอด1:
-
ยอมรับซะทีนะฝิ่น :เฮ้อ: ลุ้นอยู่นาน
ทีนี้ก็รีบไปบอกแก้วนะ ก่อนจะเกิดเรื่องร้ายๆ อะไรอีก
:pig4: นะคะคนแต่ง
-
มารอครับ :L2: :L2: :L2:
-
เฮียไม้จัดการแล้วได้เรื่องขึ้นมาทันใด o13
ฝิ่นจะได้แก้วคืนแล้วใช่มั้ยยยย
บอกความรู้สึกแก้วไปเลยยย แม้จะเน่าไปนิดด :laugh:
-
:z13: :z13: :z13:
-
อยากให้ไอ้ดิวถูกทรมานจัง เป็นคนที่น่ารำคาญมาก :z6:
-
โอ้ยฝิ่นนนนนนนนน เท่ที่สุดดดดดดดดดด ><
:o8: :-[
-
อ่ะ ฝิ่นตอนนี้แกน่าเชียร์มาก
-
เกลียดอีพี่ดิว :fire: ขอแบบจัดเต็มซักตอนได้มะ
ไม่ต้องให้แก้วคืนดีกับฝิ่นเร็วๆหรอก แต่แบบอยากให้อยู่ใกล้ๆกันก็พอและ
เอ๊ะ ยังไง 555555
ปล.เป็นกำลังใจให้คนเขียนเสมออออออ
มาต่อแบบไม่ให้ค้างด้วยน้าาาา เราชอบมากกกก :3123:
-
โอ๊ะ ใครมายืนมองนะ ใครกาน!!
หวังว่าคงไม่ช่ายแก้วนะ หรือขวัญ หรือดิวใครฟระ
สับสน รีบๆมาต่อน้า แต่อย่าเพิ่งจบก้อพอ แง๊ๆ T^T
-
^^
-
อย่าได้มีเรื่องมีราวอะไรอีกเลย
ฝิ่น. เราเชียร์นายอยู่นะ. o13
-
วันนี้มามั้ย วันมามั้ยยยย รอคับรอ ด้วยความหวัง
-
ได้เวลาไปง้อแก้วสักที
ไม่อยากจะกินมาม่าแล้ว
-
ไอ้พี่ดิวป่ะ o18
-
แก้ว มา ชัด ๆ เชื่อ ดิ กิกิ
-
สารภาพแต่โดยดีว่าเพิ่งมาอ่าน...สนุกมากกก(เติมก.ไก่ แบบอินฟีนีตี้)
ชอบฝิ่น...มันเกรียนและเถื่อน โหด...หนูไม่ได้เป็นมาโซส์นะคะ
คือชอบพฤติกรรมที่ถึงแม้จะกระโดดถีบแล้วลูบหลัง
แต่อย่างน้อยๆสิ่งที่ฝิ่นทำก็ด้วยใจซะส่วนใหญ่
ฝิ่นเนี้ย...เป็นคนอบอุ่นนะ...ดูจากครอบครัว...
อย่างแก้วไม่สบาย...แก้วโดนทำร้าย...ฝิ่นก็จะรีบมา
แล้วก็ชอบอ่ะ นึกภาพผู้ชายทำหน้าโหด
แต่แทนตัวเองว่า "หนู" ฮ่าาาาาา..(โดนพระเอกเรื่องนี้ถีบตกเก้าอี้)
น้องแก้ว...ผู้น่ารักสงสาร..คือเค้าใจน้องนะ...เค้าขาดรักไง
พอมีคนมาเติมให้..เค้าก็จะอยากอยู่กับคนนั้น..
อยากให้คนมีมาเอาใจใส่เติมช่องว่างให้เต็ม..
น่าสงสารคะ..หลังจากอ่านจบ47ตอน..
ก็ภาวนาให้น้องแก้ว....เลือก...คนเคียงข้างได้สักที
สู้นะคะ...ทาเคชิ เอ่อไม่สิ่! คุณคนแต่ง...น้องแก้วและฝิ่น
กวาดพื้น ปูเสื่อ ป๊อบคอร์น นั่งรอออ
-
มาหรือยังๆๆ รออยุ๋น๊า
คิดถึงแก้ว กับฝื่นแล้ว>.<
-
มาปูเสื่อรอดู
ว่าเมื่อไหร่จะมาเข้าฉายต่อ
-
.
มาเร็ว ๆ นะ
-
:z3: วันนี้มาไหม????
รออยู่นะคนเขียน o13
-
แ้ก้วสำคัญกับฝิ่นมากจริง ๆ นะเนี่ย ฝิ่นคุยกับแก้วให้เข้าใจนะ
-
:impress2: โคตรเท่ ๆๆ
-
พี่เป้งเเอบดูอยู่เเน่เลย อ่ะ o22
เเละเเล้วฝิ่นก็ยอมรับซะที
เหลือเเต่เเก้วสินะ ขอให้ไม่มาม่าทีเถอะ :เฮ้อ:
:กอด1:มาต่อไวๆนะค่ะ
-
เข้ามารออีกครั้งด้วยการเม้น
:really2: :really2: :really2:
น่ารักดี 55555
-
มารอด้วยคน
รอๆๆๆๆๆๆ
:call: :call: :call:
-
5วันแล้วนะครับ คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว
-
มารอค๊าาาา..มาต่อไวๆน๊าาา :call:
-
ในที่สุดฝิ่นก็ยอมอ่อนลงแล้ว
แต่ว่ามันจะยังทันมั้ย?
หวังว่าแก้วจะใจอ่อนนะ
แล้วก็อยากให้สันดานของพี่ดิวถูกเปิดเผยจัง
รอตอนต่อไปคร้าาาา
-
รออยู่นะครับ รีบมาต่อนะครับ
-
ก็มันคิดถึงงงงงงงงง และยังคิดถึง :-[
รอฝิ่นไปง้อแก้ว :z2:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๔๘
“รอเดี๋ยวนะลูก” คุณพ่อบอกเมื่อเขาเข้ามายืนตรงข้ามกับโต๊ะทำงานท่าน “พ่ออยู่กับน้องครับ พ่อเพิ่งประชุมเสร็จ”
“...........................”
“ได้ แต่ไหนว่ามีนัดกับเพื่อนไง”
“.........................”
“อ้อ ขับรถดีๆนะ”
บทสนทนาที่ไม่ต้องเดาก็รู้แล้วว่าใครโทรเข้ามือถือพ่อ แก้วมองไปรอบห้องอย่างเบื่อๆ นี่พี่ขวัญตามติดกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่รอบห้องทำงานนี้ หรือว่าแอบฝังชิพไว้ตามตัวเขารึเปล่าถึงได้รู้ในทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในห้องนี้ทุกครั้งไป
“แล้วเจอกันลูก”
“เฮ้อ...” คงต้องรีบคุยแล้วใช่ไหมก่อนที่พี่ขวัญจะมาขัดจังหวะ แก้วถอนหายใจอย่างเซ็งๆจนคุณพ่อเองก็สังเกตเห็น ...ก็เขาเบื่อนี่
คุณพ่อวางโทรศัพท์ไปแล้วแก้วจึงถอดแว่นกันแดดสีดำของไอ้พงษ์มาเหน็บที่กระเป๋าเสื้อเชิ๊ตสีขาวแทน ก่อนจะนั่งที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามกับที่พ่อนั่ง
“วันนี้ผมไปทำพาสปอร์ตและยื่นขอวีซ่าไปอเมริกา ถ้าผ่านเมื่อไหร่ผมคงจะมาทำงานกับคุณพ่อไม่ได้แล้ว แต่อีกสองเดือนผมจะกลับมาเรียนให้จบครับ” แก้วบอกถึงสิ่งที่ควรบอก และให้รับรู้ว่าเขายังรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองอยู่
คุณพ่อคิ้วขมวดกันจนเป็นปมตั้งแต่คำแรกที่เขาเอื้อนเอ่ย ก่อนจะตอบกลับมา
“พงษ์บอกพ่อแล้ว แต่อเมริกาเลยนะลูก ลูกพูดง่ายๆอย่างกับขอพ่อไปค้างบ้านพี่พงษ์ หรือย้ายไปอยู่กันสองคนอย่างนั้นแหละ”
“ผมเพียงแต่บอกให้คุณพ่อทราบครับ” แก้วจึงบอกย้ำผู้เป็นพ่ออีกครั้ง
“พ่อก็ไม่เคยขัดอะไรอยู่แล้ว แต่คราวนี้พ่อขอเหตุผลหน่อยได้ไหมครับ ทั้งที่รออีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบอยู่แล้ว ...เป็นพงษ์คนเดียวก็ว่าไปอย่าง” แก้วรู้สึกหน้าชา ใจแป้ว ใช่คุณพ่อไม่เคยขัด เพราะคุณแพรวพรรณสนับสนุนที่เขาจะไปไกลๆ แต่นี่เพราะเขาบอกพ่อเอง เลยไม่เห็นด้วยสินะ
“ถ้าเป็นภรรยาคุณพ่อเขาคงเห็นดีเห็นงามตามที่ผมตัดสินใจแล้ว”
“ลูกทำไมคิดอย่างนั้น ไม่มีใครอยากให้ลูกไปอยู่ไกลๆหรอกนะ แต่ที่ทุกคนยอมเพราะคิดว่าลูกมีความสุขกับสิ่งที่เลือกเดินจึงไม่มีใครห้าม แต่ครั้งนี้พ่อว่าไกลไปรึเปล่า งานพ่อก็เยอะจะมีเวลาไปหารึเปล่าก็ไม่รู้”
เขาอยากเป็นผู้ใหญ่ จะได้ไม่ต้องเป็นภาระใคร แต่ถ้าพ่อบอกว่าเป็นห่วงสักนิดแทนที่จะพูดซะยืดยาว เขาคงรู้สึกดีกว่านี้
“คุณพ่อคงไม่ต้องลำบากหรอกครับ ผมดูแลตัวเองได้ และพี่พงษ์...”
“พ่อรู้พงษ์ดูแลลูกได้ คงทำได้ดีกว่าพ่อซะด้วย” พ่อลุกจากเก้าอี้เดินมาจับไหล่เขา
“แต่...” แก้วแหงนหน้ามองเจ้าของมือนี้ด้วยใจคาดหวัง
“คุณพ่อครับ!” เฮ้อ...แต่เขาต้องรีบก้มหน้าพลางหยิบแว่นตาดำมาสวมทับตาแดงๆของตัวเองแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้เมื่อเสียงพี่ลูกขวัญดังมาตั้งแต่หน้าประตูห้อง
...แต่ยังไงผมอยากให้คุณพ่อดูแลผมมากกว่าใคร
และผมคงไม่พูดอีกแล้ว
“ผมขอตัวนะครับเดี๋ยวพี่พงษ์คงมารับแล้ว” แก้วให้ข้ออ้างและเขาก็ไม่มีธุระอะไรในนี้แล้ว เอาเป็นว่าคุณพ่อรู้แล้วว่าเขาจะไปแค่นี้ก็พอ
“พี่มาแล้วรีบเลยนะ ทำตัวห่างเหินไปไหน”
“อย่าแกล้งน้องสิลูก” คุณพ่อปราม “ถ้าอย่างนั้นก่อนเดินทางไปค้างกับพ่อที่ไร่ก่อนไหม นานๆพ่อจะได้กลับเหมือนกัน” แล้วเดินออกมาส่งเขาที่หน้าห้องเมื่อหมดธุระแล้วเขาจึงไม่รีรอที่จะไป
“ใครจะไปไหนครับ?” พี่ขวัญที่เกาะแขนพ่ออยู่ชะงักกึกนิ่วหน้าถาม
“น้องจะไปหาที่เรียนต่อที่อเมริกาเร็วๆนี้”
“อะ อเมริกา”
“ลูกคงไม่คิดถึงน้องจนขอตามไปด้วยอีกคนหรอกนะ”
“....ไม่หรอกครับ ...ขวัญอยากอยู่กับคุณพ่อมากกว่า” คำพูดปกติของพี่ขวัญที่คิดไว้แล้วว่าต้องมาแนวนี้ แต่ครั้งนี้กลับฟังดูนิ่งกว่าทุกที พร้อมสายตาเย็นๆส่งมาให้เขา
รักกันเข้าไปเถอะ ต่อไปจะไม่มีเขาคอยอิจฉาแล้วล่ะ
หกโมงเย็นเศษๆเขาพาตัวเองเข้าไปอยู่ในลิฟท์หลังจากปลีกตัวออกมาได้
พ่อ...คนเดียวในชีวิตที่อยู่ในฐานะนี้ มีใครบ้างไม่รักและไม่อยากได้รับความรักตอบ แต่เพราะเกิดมาจากผู้หญิงที่พ่อไม่ได้รักก็เลยไม่กล้าไปเรียกร้องเอาอะไร และถ้ามันจะห่างไกลกันไปทุกวัน เขาก็ขอเก็บพ่อไว้ในใจข้างๆกับแม่ที่ตายไปแล้วคงดีเสียกว่า
“หนีเหรอ!” ฝ่ามือจับประตูลิฟท์ไม่ให้ปิดตามด้วยเจ้าของน้ำเสียงขัดใจ พี่ลูกขวัญมองเขาตาขวางก่อนเดินเข้าแล้วจับหมับที่ไหล่ทั้งสองข้างดันเขาถอยหลังจนไปชนผนังลิฟท์
“พี่จะเอาอะไร?” แก้วถามน้ำเสียงเรียบ
“กู...” พี่จ้องหน้าเขาไม่วางตา แต่ตะกุกตะกักทำท่าเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่พูด “จะไปอเมริกาเหรอ?”
“พี่รู้แล้ว” เขาเตือนความจำพี่ชาย
“ไปเลย ไปให้พ้นๆจากชีวิตคุณพ่อยิ่งดี ไปให้ไกลแล้วไม่ต้องกลับมานะ”
“พี่ไม่ต้องบอกหรอก ครั้งนี้ผมไปจากทุกคนแน่” ผิดที่กลับมาให้พี่ตามตัวได้ก็เป็นสิ่งเตือนความจำได้แล้ว ว่ามันเลวร้ายไม่ต่างจากเดิมเลย ความรักที่พี่กับพ่อแสดงออกต่อกันอย่างโจ่งแจ้งมันทำเอาเขาทรมานเล่นทุกวัน แต่ไม่มีใครทนเป็นส่วนเกินได้ตลอดชีวิตหรอกนะ
“...แน่จริงมึงไปจากไอ้พงษ์อีกคนสิ! ถ้าไม่มีมึง...กูคงเป็นคนดีกว่านี้ หรือไม่มีที่ไป? ผัวมึงไง กลับไปหามันสิ ไปให้พ้นใจกู หรือแน่กว่านั้นมึงก็ตายๆไปเลยยิ่งดี กูโคตรเกลียดมึงเลย ไอ้ลูกไม่มีแม่!”
อึก
คำขับไล่ คำสาปแช่งด้วยอารมณ์พร้อมแรงเขย่าจากหัวไหล่ไม่ได้ทำให้เขามีอะไรโต้ตอบพี่ได้เลย
พี่ไม่ชอบใจอะไรสักอย่างเขาคิดว่าอย่างนั้น ทั้งที่เขาเป็นคนเดินออกจากสายตาพี่ทุกครั้ง แต่พี่ก็คงยังไม่พอใจเพราะเขายังมีที่พึ่งพิง ...ที่นั่นไม่ใช่ไอ้ฝิ่นแน่นอน ...นี่พี่คงกะให้เขาอยู่คนเดียวบนโลก หรือให้หายไปเลยสินะถึงจะพอใจ
“พี่ขวัญพอเถอะ ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว พี่มีทุกอย่างพร้อม แล้วผมมีอะไร...นอกจากพี่พงษ์” แก้วยืนพิงผนังลิฟท์อย่างเหนื่อยหน่าย “ผมไม่สนใจคำพูดพี่เลยบอกตรงๆเพราะจะทำอะไรผมตัดสินใจไปหมดแล้ว”
“ไอ้แก้ว!”
“โอ๊ย!” แผ่นหลังกระทบผนังลิฟท์ตึงตังทำเอาเจ็บเมื่อพี่ชายเกิดไม่พอใจคำพูดเขาอีกแล้ว
ติ๊ง!! ประตูลิฟท์เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นหนึ่ง แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากคนตรงหน้า
“เจ็บใช่ไหมล่ะ ดี มึงเจ็บไปเลยจะได้สำนึกว่าอย่ามาปากดีใส่กู” ตัวไม่ใช่ว่าใหญ่โตกว่ากันจนเขาจะผลักพี่ออกไม่ได้ ...แต่เขาไม่อยากทำ
“ผมไม่กลัวเจ็บ ...พี่จะบีบแรงกว่านี้ก็ตามใจ” ปากบอกอย่างนั้นแต่มือกลับจับมือพี่ขวัญที่บีบหัวไหล่หมายจะเอามันออก “แต่ผมเหนื่อย... ผมเหนื่อยแล้วจริงๆพี่ เหนื่อยจนอยากจะหยุดหายใจแล้วจริงๆ”
“กู... กูไม่ได้อยากให้มึงตายจริงๆกูแค่...”
“ต่อให้พี่คิดจริงผมก็ไม่เคยโกรธพี่เลย เราไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆนี่เนอะ พี่จะคิดยังไงผมจะว่าอะไรพี่ได้” แก้วเสหน้ามองตัวเองจากกระจกลิฟท์แทนการจ้องหน้าพี่
พูดแทบไม่ออกแต่ก็อยากพูดบ้าง
น้อยใจเหรอ...ไม่ใช่หรอกน่า เขาไม่ได้ผูกพันกับพี่ขนาดนั้น แต่ก็ทำให้พี่ขวัญชะงักไปหลังคำพูดเขาเหมือนกัน แก้วจึงจับมือพี่ออกได้ง่ายดาย
“จะเป็นไม่เป็นแต่มึงก็น้องกู”
แก้วจึงเดินผ่านพี่ขวัญออกมาจากลิฟท์ เขาขยับแว่นกันแดดให้เข้าที่ ...ก็เพราะเป็นน้องไงถึงได้ยอมพี่ทุกอย่าง และที่ไม่อยู่บ้านก็เพื่อความสบายใจของพี่กับแม่พี่อีกนั่นแหละ
แต่ไม่พ้นโดนพี่ขวัญดึงแขนไว้อีกจนได้
“พี่ขวัญ” เขาไม่อยากคุยแล้ว ความอ่อนแอมันมักจะปะทุขึ้นมาได้ง่ายๆช่วงนี้ แก้วหยุดยืนไม่ได้หันไปมองพี่ แต่เรียกชื่อพี่ชายด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
“ทำไมมึงไม่กลับไปหาไอ้นั่น ตอนไม่มีไอ้พงษ์มึงก็อยู่กับมันไม่ใช่เหรอ ถึงเวลาที่มึงจะไม่เป็นภาระไอ้พงษ์ได้รึยัง?”
“ก็ถูกของพี่นะ ...แต่พี่ไม่เข้าใจผมหรอก” เขาไม่ได้อยากเป็นภาระใคร ถึงคนๆนั้นพร้อมจะให้พึ่งพิงทุกเมื่อก็ตาม แต่เขาเลือกได้ไม่มากนักหรอก ขนาดเคยไม่ชอบการหันหลังให้คนที่รักเหมือนพี่ขวัญทำ แต่ก็รู้แล้วว่าบางครั้งเราก็ควรทำอะไรที่ไม่จำเป็นต้องถูกต้องก็ได้...เอาแค่วิน-วินกันทั้งสองฝ่าย ทุกคนจะได้ไม่มีปัญหาอีก เพราะเขา...อยู่คนเดียวไม่ได้
“ถ้าพวกเหลือขอนั่นรู้มันไม่ปล่อยมึงไปแน่”
“เหลือขอ?” จนแล้วจนรอดแก้วก็อดจะหันไปถามพี่ไม่ได้
“ก็ไอ้พวกเด็กช่างนั่นไง” พี่ขวัญอธิบายหน้าตาเฉย เฮ้อ นิสัยจริงๆเลย
“ไม่มีใครสนใจผมหรอก...” แก้วตอบพลางจับมือพี่ออกจากแขน “ถ้าพี่อยากอยู่ทะเลาะกับพงษ์ก็ตามไปโซนจอดรถละกัน”
“ไม่เห็นจะสนใจเลย!” แก้วเองก็ไม่สนใจเสียงพี่ที่ตะโกนตามหลังมาเหมือนกัน
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลาหลังจากหันกลับไปมองแล้วพี่ขวัญแยกไปอีกทาง หกโมงสิบห้านาทีแดดกำลังหมด...เขาเองก็กำลังจะหมดแรงเช่นกัน ฝืนยืนมาทั้งวันแต่ก็รู้ตัวดีว่าขาสั่นและล้าแค่ไหน อยากพัก...พักทั้งกายพักทั้งใจเพราะยังรู้สึกมืดมัวไม่จางหายสักทีชีวิตนี้ หรือถ้าทิ้งตัวเองได้ เขาก็อยากทำเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าหันหลังให้อีกคนแล้วเขาลบอีกคนไปได้ง่ายๆซะที่ไหน คำว่าฝังใจ เพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ก็วันนี้เอง
แต่เอาน่า...ทุกอย่างต้องมีก้าวแรกก่อนเสมอ
“จะถึงรึยัง?” กรอกเสียงผ่านสัญญาโทรศัพท์ไปตามคนที่รับปากไว้ว่าจะกลับมารับ
“เสร็จแล้วๆ กำลังไป”
ต้องรอใช่ไหม...อยู่คนเดียวอีกแล้วใช่ไหม...ก็ดีอ้างว้างซะสนุกสนานเชียว
เขาเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าหลังของกางเกงพลางหันหลังให้ลานจอดรถเพื่อจะเข้าไปรับแอร์เย็นๆในโรงแรมรอเมื่อแน่ใจแล้วว่าจะไม่ต้องเจอกับพี่ขวัญอีก
“อุ๊บ!” ฝ่ามือปริศนาตะปบปิดปากจากด้านหลังในไม่กี่วินาทีที่เขาหันหลังกลับ
เฮ้อ...อีกแล้ว
แก้วไม่ได้ตกใจอะไรนอกจากต้องการบอกเจ้าของมือสากๆนั้นว่าเลิกเล่นได้แล้ว เขาไม่ได้ดิ้น ไม่ได้โวยวาย มองหา รปภ.เพื่อดูปฏิกิริยาก็พบว่ายืนมองเหตุการณ์อย่างรู้เห็นเป็นใจอีกตามเคย
“โอ้ อ่อย” พยายามแกะมือนั้นออกอย่างใจเย็นพลางบอกไอ้โจ้ให้ปล่อย
จะเล่นตลกอะไรอีก จบๆไปแล้วไม่ดีตรงไหน คราวนี้ไม่ขัดก็จริงแต่ก็ไม่ไปด้วยหรอกนะ ถ้าตัดแล้วไม่ยอมขาด จะตัดให้ใจแหว่งเล่นทำไม ถึงต้องเจ็บก็ยังมีเวลารักษา ไม่เอาแล้ว ไม่อยากยืดเยื้ออีกแล้ว เวลาที่ไร้ค่า ...อย่าซื้อมันเลยคงดีที่สุด
แก้วไม่ขัดขืนแต่ก็ยื้อตัวไม่ให้ปลิวตามแรงลากจากคนข้างหลังที่ใช้อีกมืออ้อมมาล็อกแขนเขาไว้
มุขเดิมน่าโจ้ ทั้งที่เขารู้ทันแต่มันไม่ยอมฟังเขาพูดเลย ไอ้โจ้ยังคงเล่นไม่เลิก มันดึงลากเขาให้ก้าวถอยหลังตามแรงมันเข้าไปอีกจนเขาเองชักจะโมโหแล้วนะ
แก้วขยับข้อศอกเป็นเชิงขัดขืนให้มันรู้ตัว แต่มันยิ่งเพิ่มแรงลากขึ้นกว่าเดิมจนเขาก็ต้องเพิ่มแรงขยับขัดขืนตามทำเอาแว่นตากันแดดของไอ้พงษ์ที่สวมอยู่หล่นลงพื้นจนได้ ...บอกว่าไม่เล่นๆไง! ฝ่าเท้ายกขึ้นสูงก่อนทิ้งน้ำหนักเหยียบเท้าไอ้คนเล่นไม่เลิก... ไม่ปล่อยใช่ไหม จะเอาแต่ใจกันทั้งสายใช่ไหม งั้นเอาไปเลยเต็มๆแรง
“โอ๊ย เหี้ย!”
เสียงนี่...
“กูทำเบาๆเงียบๆนี่ไม่ชอบใช่ไหม”
“ไอ้ อุ๊ก!” กำปั้นหนักๆซัดเข้าเต็มท้องเมื่อแก้วหันไปดูหน้ามัน “อุ๊ก!” และอีกหมัดจนแก้วล้มลงไปคู้ตัวยังพื้นไม่เหลือแม้แรงจะเรียกชื่อเจ้าของมือปริศนา
เด็กช่างกลยิ้มเยาะคนที่กองอยู่กับพื้นก่อนจะเข้าไปหามปีกและพายัดใส่รถกระบะ
แก้วทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านอนคู้ตัวกุมท้องด้วยความจุก
เมื่อก้าวเข้าไปยุ่งกับพวกชอบใช้กำลังนี่มันไม่มีวันจบสิ้นจริงๆ
..........................................
ค้างหน่อยนะคะ น้อยครั้งจะตั้งใจให้ค้าง ขอทีเถอะ อิอิ (รู้สึกแกก็ค้างตลอดแหละนังซี(เรียส) ฮ่าๆๆ เฮื๊อกกก)
ตอนหน้าอยู่ในช่วงทุลักทุเลเหมือนเดิมจ้า สุขภาพก็เรื่อยๆมาเรียงๆ ไม่เป็นปัญหา งานก็ค้างบ้างตามปกติ นิยายก็ไม่ได้อู้แต่ไม่มีเวลาและสมาธิเพราะต้องคอยตอบคำถามเด็กเจ้าปัญหาทุกวินาที
ยังยืนยันว่าไม่ทิ้งกันแน่นอน
แต่ช่วงนี้ต้องให้เวลาเด็กน้อยที่บ้านมากหน่อย ฮ่าๆๆ โดนแย่งเล่นคอมด้วยต่างหาก
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ^^ กอดๆจุ๊บ
สวัสดีเจ้า... คนที่หลงเข้ามาใหม่ด้วยเด้อ ...//ลงคาถา รักเราหลงเรา ฮ่าๆ
-
:z13:
ตามมาจิ้ม
-
ใครกันเนี่ย
-
:angry2:จะมีใครที่กล้าทำอย่างนี้
-
ใครลักพาแก้วไปอ่ะ คงไม่ใช่พวกพี่ดิวนะ ม่ายๆๆๆๆ :z3:
-
ใครจับแก้ว ไอ่ดิวใช่ไหม
แล้วนี่ใครจะไปช่วย
เด็กน้อยที่บ้านนี่ใครเอ่ย
-
คายย ยย มันคือคาย
ใครว่ะ ทำแบบนี้กับแก้วกู(โดนฝื่น :z6:)
อีกพี่ดิวแน่เลย ไม่น๊าTmT
คิดว่าจะได้อ่านแบบฝื่นง้อแก้วแล้วขะอีก
ไม่น๊า แง้ๆ ฝื่น พงษ์ ไปช่วยแก้วเร็วๆ
-
แค่นี้? งงเลย รอมาตั้งหลายวัน
ช่างเหอะ เป็นกำลังใจให้คนแต่ง รีบๆเอามาลงอีกละกัน อยากอ่าน
รู้สึกเกลียดขวัญจังเลยว่ะ
-
ค้างได้ครับ แต่อย่าให้รอนานนะ แงแงแงแง
-
มุมหนึ่งจะเห็นว่าจริงๆแล้ว
ขวัญก็ไม่ได้เกลียดอะไรแก้วมากมายนัก
(หรือเปล่า?) อย่างน้อยขวัญก็ยังเห็นว่าแก้วเป็นน้อง
เพียงแต่ขวัญอาจจะเป็นคนเอาแต่ใจ
แล้วก็ถูกสปอยจากแม่แต่เด็กๆ
แหม อยากจะให้น้องแก้วกลับไปหาพี่ฝิ่นเหมือนที่ขวัญเสนอ
แต่เจ้าตัวก็ดูจะเด็ดเีดียวที่จะไม่กลับไป
ถ้าเกิดอยู่ดีๆพี่ฝิ่นมาตะโกนบอกว่า
"แก้วกูรักมึง กลับมาอยู่ด้วยกันเถอะ"
น้องแก้วจะใจอ่อนยอมรับรักมั้ยนะ 5555
ว่าแต่ใครจะมาลักพาตัวน้องแก้วเนี่ย
กลิ่นตุ๊ๆ ดูท่าว่าจะไม่ใช่พวกฝิ่น
หวังว่าจะไม่ใช่พวกอีพี่ดิวนะ
พี่ซีมันค้างอ่ะ ขอตอนต่อพรุ่งนี้เลยได้มั้ย 55555
เป็นกำลังใจให้ค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะ ^^
-
ใครตามมาจับตัวน้องแก้วอีกกกกกก~
เจอพาสน้องแก้วทีไร
หดหู่ทุกทีจริงๆ
สงสารน้องอ่ะ
กอดดดดดดดจ้าาาาาาาา
+1+เป็ดให้นะจ๊ะ
-
วิบากกรรมของแก้วเมื่อไหร่จะหมดซะที
มีครอบครัวก็เหมือนไม่มี มีเพื่อนก็เป็นตัวปัญหา
แฟนไม่ต้องพูดถึง เฮ้อ...
-
อย่าปล่อยให้กันรอนานน
ใครฟ่ะ? มาลากตัวนายเอกของ(ฟิ่นและ)เค้าไปป
ชิชะ! ระวังนะผัว เอ้ย!สามีน้องแก้วจะไปยำตีน
หรือว่า...คือพระเอกของเรื่อง...แต่มันต่อยท้องน้องแก้วด้วย
ฮ่วยยย...งงเด้นิ่???
มาต่อเร็วๆนะค๊า...เอาใจช่วยคุณคนแต่งค่ะ ^^
-
ค้างงงงงหนักครับ!!!
ดิว??? ดิวแน่ๆ =________= ไม่จบไม่สิ้นแก้วไม่ได้ไปอเมริกาแน่ๆครับ... ????
รออออออออออออ
-
ง่ะ ใครอีกกกกกกก
เรื่องเยอะจริงๆ
:z3: :z3: :z3:
-
ไอ้พี่ดิววววววววววววววววววววว
แน่นอนเลยอะ!!
-
ไอ้ดิวแน่เลยยยยยยยยยยยย :m31:
ไอ้ชั่ววววววววว อย่าทำแก้วนะ :m16:
:pig4:นะคะ
-
ใครมันมาเอาตัวแก้วไปอีกกกก
เจ๊กลากไปไทยลากมาจริงๆวุ๊ย
-
ไม่จบไม่สิ้น
-
ย้ารัยกันอีกนะ ฝีมือไอ้ดิวสินะ
-
ใครเลว?
-
:a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
-
สงสารแก้วจังเลยอะ
รักจริงพูดกันดีๆสิครับ
แต่ก็ดีละเร้าใจดีอิอิ o13 o13 :bye2: :bye2:
-
สะบักสะบอมสุดๆ ไปเลยแก้วเอ๊ย
:sad4:
-
สงสารแก้วอ่า :m15:...เมื่อไหร่จะมีเรื่องดีๆบ้างอ่ะ :z3:
-
ใครทำแบบนั้น ดิวหรือเปล่าเนี่ย ถ้าดิวเป็นคนจับแก้วไป ฝิ่นรีบไปช่วยแก้วนะ แล้วถ้าดิวเป็นคนจับแก้วไป พงษ์น่าจะยอมเฉลยความจริงเรื่องเป้งได้หรือยังนะ แต่ถ้าฝิ่นจับแก้วไป แต่ก็ไม่น่าจะใช่เพราะฝิ่นก็ไม่น่าจะทำร้ายแก้วนะ ฝิ่นคุยกับแก้วให้เข้าใจนะ ที่จริงขวัญก็ดูเหมือนจะห่วงแก้วนะ แต่ก็หวงพงษ์กับพ่อ
-
น่าสงสารแก้วนะ
เหมือนที่ที่ให้ทุกคนทำร้าย
มีแต่เรื่องทำให้จิตใจเศร้าหมอง
ถ้าไม่มีคนที่คอยพยุงหรืออยู่เป็นเพื่อนเพื่อให้จิตเข้มแข็งพออาจจะคิดสั้นไปแล้วก็ได้
-
ถ้าไม่มีกามเทพชื่อไม้ แล้วแกสองคนจะได้ร่วมหอลงโลงกันมั้ยเนี่ย อิฝิ่น/น้องแก้ว :เฮ้อ:
อิพี่ดิวมันจะใช้วิธีลักพาตัวแก้วมั้ย ชั้นล่ะหวั่นใจเหลือเกิ๊น :serius2:
^
^
กรี๊ดๆๆๆๆ ถ้าอิชั้นเดาถูก คนเขียนต้องมาต่อหลายๆ ตอนติดกันเป็นรางวัลให้อิชั้นด้วยนะเจ้าคะ
-
แว้กกกกกก น้องแก้วโดนอุ้มไปแล้วอ่า T^T ที่จริงอารมณ์แบบสมยอมนิดๆนะ ไม่ขัดขืน จะโทษแก้วหรือโทษโจ้ดีนะเนี่ย -*- ฝีมือพี่ดิวใช่มั๊ยเนี่ย ส่วนรปภ.ที่นี่ก็........= ="
งานนี้เราอาจจะได้เห็นปะป๋าพงษ์และพระเอกฝิ่นร่วมมือกันไปช่วยหนูแก้ว 555
ส่วนพี่ขวัญ เหมือนจะคิดร้าย แต่ก็เหมือนไม่ร้าย ดูเป็นพวกเอ่แต่ใจ ปากแข็ง ปากหนัก หึงพงษ์บ้างเป็นบางเวลา -*- แต่ก็ห่วงน้องบ้างใช่ไหม (ไปเอาพี่ไม้มาจัดการ)
ค้างมากเลยเจ๊ซี(เรียสมาก) ถ้าจะค้างซะขนาดนี้เอามีดมาจิ้มเถอะ 555 มาด่วนๆๆ ไม่งั้นจะโป้งน้า ><
-
แก้วเมื่อไหร่หนูจะมีชีวิตที่ปกติสุขแบบชาวบ้านเค้าสักทีอ่ะ อ่านแล้วหดหู่ + สงสารมากๆ
พวกไอ่ดิวรึเปล่าเนี่ย ไม่เอานะ
-
ดิวชัวร์ :เฮ้อ:
-
:เฮ้อ: เหนื่อยอกเหนื่อยใจ
-
พวกพี่ดิวแน่เลยยย
จับตัวน้องแก้วไป ฮึ่มๆ
เมื่อไหร่จะมีความสุขสักทีน้าาาาา
-
ใครจับแก้วของเราไปฟระคะ พวกอิพี่ดิวป่าว หรือใคร
ถ้าเป็นพวกฝิ่นต้องไม่ทำให้แก้วเจ็บตัวดิ
อิพี่ขวัญนี่เข้าใจยากจริงจัง...แก้วก็น้อยเนื้อต่ำใจตัวเองเกินไปนะคะ
ร้ักตัวเองมากกว่านี้อีกนิดสิ คนเค้ารักแก้วเยอะแยะน้า
ค้างค่ะค้าง รอคอยตอนหน้านะคะ
ขอบคุณค่ะ
-
เริ่ม จะโกรธคนเขียนหน่อย ๆ ละ....
-
มันเป็นใคร?? บังอาจมาต่อยแก้ว :sad4: :sad4:
-
คนแต่งเริ่ม ฮาร์ดคอ อีกเละ
ขอหนักๆ นะตอนหน้า
ปล. ฟ้าหลังฝนมันสวยนะเอ้อ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี :กอด1:
-
ต้องเป็นไอ้ดิวแน่ๆเลย
ฝิ่นตามไปช่วยแก้วให้ได้นะ
-
ไม่หน่อย ค้างมากกก 555
ใครก็ได้ อย่าเป็นดิวพอ...กลัวแทน
ส่วนน้องขวัญ...เมื่อไหร่จะหายซึนคะลูก อ้อนพ่อได้ ทำไมไม่อ้อนน้องอ้อนเพื่อนบ้าง
-
ใครทำว่ะ !!! :angry2:
-
ไอ้พี่ดิวแน่เลย ฝิ่นรีบมาช่วยนางเอกเราเร็วๆๆนะ :z3:
-
ใครกันเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย :serius2:
อย่าบอกนะว่าเป็นไอ้พี่ดิว
ไม่น้า.............เป็นฝิ่นเห๊อะะะ
รอๆตอนต่อไป^^
-
ฝิ่นใช่มั้ยยยยย
ขอให้ไม่ใช่ไอดิวเห๊อะ
-
ไม่รู้ทำไม ยังไงๆเราก็คิดว่า แก้วอยู่กับพงษ์ แล้วมีความสุขกว่าไปอยู่กับฝิ่นแน่ๆอ่ะ
ถ้ามองในระยะยาวนะ
-
ใช่ๆขอให้เป็นฝิ่น ยังดีซะกว่าเป็นพี่ดิวนะ :m16:
-
ค้างได้อีก หวังว่าคนที่จับตัวแก้วไปคงไม่ใช่ไอ้ดิวหลอกนะ
-
มันค้างสองรอบแล้วนะ ไม่ควรนะ T^T
-
ในใจคิดไว้อย่างเดียวว่าฝิ่นมาจับตัวแก้วไปอีกรอบ
แต่ตกใจว่า อิฝิ่นมันต่อยแก้วซะตัวงอเลยนะ ไม่คิดว่ามันจะกล้าทำ
พอเห็นความเห็นคนอื่น เอ๊ะ อาจจะเป็นอิพี่ดิวก็ได้นะเนี่ยยย
-
วันหลังต้องพาแก้วไปวัดอาบน้ำมนต์ล้างซวยซะหน่อย ทำไมมันเจอแต่เรื่องแบบนี้ :z3:
จะร้องไห้ตามไปด้วยเลยตอนแก้วคุยกับพ่อ :monkeysad:
ส่วนไอ้พี่ลูกขวัญ ถ้าแกคิดว่าแก้วเป็นน้องจริงๆ แกไม่พูดจาทำร้ายจิตใจน้องแบบนี้หรอกเฟ้ย คนรักน้องอย่างฉันรับไม่ได้ :serius2:
-
:serius2: ใครมาจับตัวแก้วอีกละเนี้ย
พงษ์รีบ ๆ พาไปอยู่เมกาเหอะ :เฮ้อ:
-
:z3: ค้างมากๆๆๆๆๆ. รีบๆมาต่อนะคะ :z2:
-
:a5: ค้าง!
-
ใครมาฉุดตัวแก้ว
-
ใคร เป็นคนพาแก้วไปเนี้ยยย
ใช่กลุ่มไอ้พี่ดิวปาวเนี้ยย
-
มารอแก้วฝิ่นคร้าบบบบบบ
-
ฮือออออออออออออออออออออ TT
-
ไอ้พี่ดิว ชัวร์
ชั่วจริงๆ :beat:
-
ไอ้สันดานดิวแน่เลย ชั่วจริงๆเลยมัน :beat:
-
มารอคร้าบบบบ
-
แก้ววววววววว นายโดนอีกแล้ว :a5: :a5: :a5: :a5:
-
ใครอ่ะ????
-
:serius2:
ไอ้พี่ดิวเหรอ..งานนี้ทั้งพงษ์ทั้งฝิ่นเอาให้อ่วม :z6:
-
สาธุ ขอให้เป็นฝิ่น
ถ้าไม่ออกโรงตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วพ่อคุณเอ๊ยยยย :z3:
-
มารออีกวันคร้าบบบบบ
สู้ๆนะ :)
-
ชอบเรื่องนี้ มารอทุกวันเลย
อยากใ้หฝิ่นเป็นพระเอกแห่งปี เข้าชิงก็ยังดีจะได้โหวตให้ 555
-
:z13:
-
หายไปไหนหลายวันแล้ววจ๊ะ มารอทุกวันเลยยย ใจจะขาดรอน ๆ
-
ไอดิว เองใช่ม๊ายยยยยย!!!!!!!!
-
^^
-
มันค้างงงงงงงงงงงง
ตอนนี้เริ่มชอบขวัญขึ้นมาแล้วอ่ะ เราว่าความจริงก็ไม่ได้เลวอะไรมากมายหรอก
ใครมาจับแก้วไปปปป คงไม่ใช่พวกฝิ่นแน่ๆ ตะงิดๆว่าจะเป็นพวก ดิว
-
ตามอ่านทันแล้ววว แต่ค้างมากเลย :z3:
ไอ้คนที่ลากแก้วขึ้นรถนี่ไอ้ดิวใช่มั๊ย! :m31:
ขัดขวางความรักคนอื่นซะจริง เดี๊ยะๆ!(โมโหแทน)
เดี๋ยวเอามีดทิ่มพุงแตกเลย o18
-
พี่ซีซั่นนนนนนนน~ หายไปไหนง่อ
คิดถึงพี่ฝิ่นน้องแก้วเบาๆ รออยู่เหมือนเดิมนะคะ ^^
-
รออยู่นะค่ะ
-
เห็นในเฟซบุคแล้วคะ..
เป็นกำลังใจให้กำลังครอบครัวคุณซีซันนะคะ..
ยังไงก็รอคนแต่งเสมอคะ...
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
เป็นกำลังใจให้ผ่านเรื่องร้ายๆไปได้นะค่ะ
เพิ่งเห็นในfacebook
ยังไงก็สู้ๆจ้ารอเสมอ
-
สู้ ๆ นะจ๊ะคนเขียนเป็นกำลังใจให้
-
ในที่สุดก็ตามอ่านจนทัน :L2:
ชอบวิธีการดำเนินเรื่องแล้วก็ภาษาที่ใช้มากๆ เลยค่ะ
คือไม่บอกอะไรโจ่งแจ้ง แต่มีนัยยะแฝงไว้ทุกตอน
เหมือนคุณซีต้องการให้คนอ่านคิดเอง
อ่านแล้วสนุกมากๆ นิยายแบบนี้แหละค่ะที่ตามหามานาน
แต่ตอนนี้คุณซีหายไปนานแล้วนะคะ
เมื่อไหร่จะมา...
เป็นกำลังใจให้นะคะ :bye2:
-
เมื่อไหร่จะมาน้อ :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
-
อ่านมา 2 วันกว่าจะตามทัน สนุก อยากบอกคนเขียนว่า ตอนอ่านนิยาย พออ่านชื่อลูกแก้วทีไร ก็เห็นแต่หน้าคชาลอยมาตลอดเลย :กอด1: ไม่คิดว่าจะใจตรงกันกับคนเขียน มาต่อไวไว สนุกมาก
-
มาแอบส่องตอนต่อไปครับ :mc4:
-
โอ๊วววววว หลงไหลในม่านหมอก
คุณทำพวกเราหัวปั่น
อยากทวงใจจะขาดยิกๆ
:z3:(ทุบผนังรอ) ไอ้ฝิ่นอยู่หนายยยยย !
มาช่วยแก้วด่วน!!!
-
อะอ้าววว โดนอุ้มไปซะแล้ว
ญาติฝ่ายไหนอีกละเนี่ย
-
ตามอ่านเป็นเงาอยู่ตั้งนาน ขอโทษคนเขียนด้วยนะ เลยมาเม้นเป็นการขอโทษ จะบอกว่าชอบเรื่องนี้มาก ชอบแก้วที่สุด ถึงจะน่ารำคาญบ้างในบางเวลา แต่ก็ชอบอยู่ดี ชอบความซึนของฝิ่นด้วยเหมือนหลังๆจะเริ่มแสดงออกมั้งแล้วหล่ะ แต่ดูเหมือนแก้วจะไม่ค่อยรู้เท่าไร ว่าแต่ใครจับตัวแก้วไป
-
:call: :call: :call: :call: :call:
-
ขอเม้นรวบรัดตัดตอนตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้ายเลยแล้วกันนะคะ
เราเรียบเรียงประโยคไม่เก่ง ฟินอะไรก็พิมพ์เลย ขอโทษนะคะถ้าอาจจะงงไปบ้าง (คงไม่บ้าง 555555555)
ตอนแรกๆที่พี่ซีถามประมาณว่า "คิดว่าแก้วเป็นคนแบบไหน" ทำเอาเราคิดมากตลอดเลยนะรู้หรือเปล่า 55555555555555555555555555
เราคิดว่าแก้วไม่น่าจะเป็นคนที่นิ่งเงียบเหมือนในที่พี่ซีอธิบายมา มันทำให้เราขัดใจตลอดเรื่องเพราะเดานิสัยไม่ออก
แต่แก้วซึนดีค่ะ เราชอบแบบนี้ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยยยยยยยย ~~~~ ว่าผู้จายหมู่นี้กำลังหลงรักเธอคนหนึ่ง ~~~
โอ้ยอยากจะบ้าตาย 555555555555555555555
เราว่าเราต้องคิดมากไปแน่ๆ :z3:
แต่เราชินกับเรื่องที่มันมีปมให้คิดเยอะแยะไปหมด (อนึ่งก็คือเรื่องหักมุม โดนหักมุมจนกลายเป็นโรคจิต :m31: )
แล้วตอนที่ฝิ่นบอกประมาณว่าให้แก้วรักเขาไรงี้ เรานี่แบบ TOT พี่ฝิ่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน /วิ่งไปฟิน
กรี๊ดมากอ่ะ ฮืออออออออ
แล้วแก้วนี่ผอมมากเลยนะ เราอิจฉาอ่ะ คนบ้าอะไรหนัก 45 สูง 172 ทำร้ายจิตใจเรา ฮรึก...... :o12:
ตอนนี้ไม่ชอบใจพงษ์มากค่ะ - _ -
พี่ดิวด้วย เบื่อมากกับคนนิสัยแบบนี้
ปล. มาต่อเร็วๆนะคะ :z13:
-
รออ่านอยู่นะครับ อิอิ
-
รอๆ
-
รออยู่น้าาา ><
-
เข้ามารอจ้าาาาาา..อิอิ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๔๙
เอี๊ยดดด!!
“โหพี่! เดี๋ยวก็ได้ถอดวิญญาณไปบอกรักกันหรอก”
“มึงเงียบเลย” หันไปแหวใส่ไอ้โจ้แล้วดึงเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวก่อนเปิดประตูรถแล้วลงไป
“รู้ว่าใจร้อนแต่พี่หัดระวังเอาไว้บ้างก็ดีนะขับอย่างนี้ผมถึงไม่อยากให้พี่ขับเองไง” มันเปลี่ยนน้ำเสียงกลั้วขำเป็นจริงจังทั้งตามลงมาจากรถ
ต้องทำใจนี่หว่า ง้อคนเลยนะที่ต้องทำน่ะ แล้วอีกอย่าง...ฝิ่นจับผ้าพันหัวที่ตัวเองเล่นพิเรนทร์มาเพื่ออะไรวะ? เพื่อให้ไอ้แก้วทิ้งเขาไป?
แต่ไม่ยอมให้ไปหรอกโว้ย
“กูแสลงใจว่ะ พี่ไม้ก็ขู่ซะกูเป็นหมาต่อหน้าไอ้เป้งจนได้ ทีนี้กูจะเหลืออะไรวะเหี้ย” พูดและมองหน้าไอ้โจ้ที่เดินมาเสมอกันเหมือนขอคำตอบ แต่เปล่า...กูบ่นเฉยๆ
“เพื่อนมึงพูด ...โดยไม่สนใจจะฟังคำตอบจากกูด้วยซ้ำ และถ้ากูมีโอกาส กูก็อยากจะพูดโดยไม่สนใจคำตอบจากมันเหมือนกัน” ไม่ว่าจะทำอะไรพี่ไม้เป็นต้องนึกถึงเรื่องไอ้เพื่อนตายของเขาทุกครั้งสิน่า
“เพื่ออะไรวะ?” ฝิ่นส่ายหน้าไม่อยากให้พี่พูดถึงเรื่องไอ้เป้งอีก พลางนั่งลงข้างไอ้โจ้ที่นั่งหันหลังให้พวกอยู่ที่ม้าหินอ่อนข้างเจดีย์เก็บกระดูก
“เพื่อคนที่กูรัก” ฝิ่นถอนหายใจให้กับคำตอบ พร้อมกับพี่ไม้ที่กระพริบตาหนีจากการจ้องกรอบรูปสีเหลี่ยมสีเริ่มหม่นที่ติดอยู่หน้าเจดีย์เพื่อบ่งบอกว่าใครคือเจ้าของเถ้ากระดูกที่บรรจุอยู่ข้างในแล้วมองทอดสายตาไปกลางสระน้ำที่กระเพื่อมตามแรงลมแทน “ไม่ว่าความคิดมัน กูจะเป็นได้แค่พี่...หรือ...หรืออะไรก็ตามที่ไม่ว่าเมื่อก่อน ตอนนี้ และวันข้างหน้ากูก็ไม่มีวันได้คำตอบแน่ แต่...ถ้าได้พูดในสิ่งที่รู้สึก กูว่าคงเป็นการให้เกียรติตัวเองสุดๆว่ะ”
“ความรู้สึกดีที่มีให้ศัตรูมันควรเปิดเผยด้วยเหรอ”
ความรู้สึกของพี่กับเขาไม่ต่างกันหรอก
แต่ที่ต่างคือสถานะของอีกคนนะสิ
“ทุกคนมีหัวใจ ...มึงเองก็มีหัวใจเหมือนกัน”
“แต่นอกจากหัวใจ ผมยังมีกำลัง” เขาเถียง
ไม่ต้องเสียเวลามาประมวลความคิดในสมอง ไม่ต้องเสียเวลามารวบรวมความรู้สึกเพราะความรู้สึกของเขามันเป็นเรื่องที่นำพาความล้มเหลวมาให้ทั้งนั้น
“มึงจะให้ใครมาอยู่กับมึงเพราะความจำยอมต้องเต็มใจอย่างนั้นเหรอ? ฝิ่น มึงรู้ตัวดีว่าจะทำอะไรต่อไป แต่อีกคนเขาไม่รู้ด้วยกับมึงหรอกนะ ไม่มีใครเข้าใจด้วยการกระทำหรอก ...มึงหัดดูเรื่องของกูกับ...”
“พี่เลิกพูดเถอะ” ฝิ่นพูดแทรกก่อนที่พี่ไม้จะพูดเรื่องเดิมๆอีก
“คำพูดที่ตรงกับใจคิด มันไม่ใช่เรื่องที่ควรเก็บไว้คนเดียวเลยว่ะ ถ้าความคิดมึงมีเขาอยู่ในนั้น”
“แต่ไอ้เป้ง” ไอ้เป้งจะตายฟรีได้ยังไง ให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้หรอก ฝิ่นคิ้วขมวด กำสองมือแน่น เขาปฏิเสธทุกคำพูดของรุ่นพี่ “คนที่ทิ้งเพื่อนก็ไม่ต่างจากหมาที่ไม่มีใครเอาแล้วโดนปล่อยทิ้งข้างถนนหรอก”
“เป้งมันไปแล้ว เมื่อไหร่มึงจะยอมรับความจริงสักที”
“ผมรู้อยู่แล้ว” ไม่อยากยอมรับความจริง แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ใช่สักหน่อย
“ศักดิ์ศรีที่เหลือแต่ขี้เถ้า แม้แต่คนที่มึงพล่ามว่าเป็นของมึงสักวันก็จะเหลือแค่นั้นเหมือนกัน...ไอ้แก้วมันตั้งใจเหมือนเพื่อนมึง... ที่ตั้งใจรักกูไม่ว่าจะเพื่ออะไรก็แล้วแต่ ...แต่สำคัญที่มึงคิดยังไงมากกว่า” พี่ไม้ร่ายยาวจนเขาอยากจะยกมือขึ้นมาพนมรับโอวาทถ้าไม่ติดสายตาคมๆของพี่ท่านที่หันมากดดันอีกแรง
“ผมกำลังหาทางช่วยกันอยู่” ไอ้โจ้จึงลุกขึ้นมาพูดแทรก
“คิดกันแต่ตื้นๆ ผลลัพธ์ก็จะตื้นเขินและเบาตามสมองพวกมึง”
“โธ่พี่ไม้ ศักดิ์ศรีมีไว้เพื่อแบกไม่ได้มีไว้ให้กอง เราเหนือกว่าทุกอย่างอยู่แล้ว ไอ้แก้วไปไหนไม่รอดหรอก ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องใช้กำลัง พี่ฝิ่นจะเอาซะอย่าง พวกผมจัดให้ได้อยู่แล้ว”
“โจ้กูว่ามึงอยู่เงียบๆน่ะดีแล้ว” เขาปรามหลังจากไอ้โจ้ออกตัวเข้าข้างเขาสุดๆ
...แต่กูว่ามึงเป็นใบ้ไปเถอะถ้าจะพูดอย่างนี้
“อยากได้ก็ให้ยื่นมือไปเก็บและเอามารักษาต่อเอง กูไม่ได้ให้ความสนใจไอ้แก้วมากกว่าความรู้สึกของมึงเลย ...ฝิ่น พี่จะให้โอกาสมึง โอกาสที่พี่เคยหันหลังให้ มึงแข็งแกร่งได้ สูงส่งได้ แต่ควรปีนลงมาพักบ้างเพื่อยังรักษาความสูงให้อยู่ในระดับเดิม หรือเพื่อเก็บแรงจะได้เพิ่มระดับให้สูงขึ้นกว่าเดิมไงล่ะ”
“ถ้าไม่คิดว่ามันเป็นสะพานผมจะเล่นมันแทนพี่เอง”
“...กูไม่จำเป็นต้องให้ใครมาออกหน้าแทน”
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น”
“อืม” ถ้าไม่ยอมก็คือไม่ยอม จะเล่นงานมันต่อหน้าไอ้แก้วหรือต่อหน้าพี่ไม้ก็ไม่ได้คิดเกรงใจใคร แต่เพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเรียกของรักกลับมาได้ด้วยอำนาจที่มีเลย ฝิ่นถึงได้ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้...มันคืนมา
แม้ให้เป็นหมา ก็ต้องทำ
เพราะเขารู้ตัวดีว่าไอ้แก้วมันคือใคร...ถ้าเพียงแต่เขาให้มันเป็นตัวมันเอง ไม่ใช่ไอ้แก้ว ที่เขายัดเยียดให้มันเป็นไปตามความคิดหลอกๆที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับอารมณ์แห่งการสูญเสีย...
ภาพของมันกับไอ้พงษ์ที่ซ้อนทับการจากไปของไอ้เป้ง
ถ้าเพียงแต่เขาแยกมันออกจากกัน...
ไอ้เป้งที่ตายไปแล้ว กับไอ้แก้วที่ยังมีชีวิตอยู่
คนตายจะมีเงาหลงเหลือได้ยังไง...
เหนือคน...คือคำที่ถูกสรรเสริญเยินยอจากเพื่อนพี่น้องร่วมสถาบันเมื่อขึ้นมาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสายได้ ถึงไม่เหนือเท่าประธานใหญ่ในสถาบัน แต่ก็ถูกยกย่องเชิดชูในชื่อเสียงมากพอตัว แต่ก็แค่เหนือกว่า สูงกว่าคนอื่นๆ หากแต่ไม่ใช่เหนือใจคน เขาไม่สามารถให้ใครเดินเข้าหาหรือตีจากได้เพียงแค่ลั่นวาจา แต่ที่ทำได้ผ่านๆมาเพราะการให้ใจจากเพื่อนร่วมสายทุกคนต่างหาก และถ้าเขาอยากได้ใจใคร เขาก็อาจต้องยอมลดตัวลงไปยื่นใจให้คนอื่นบ้าง
...ยากว่ะ เคยเป็นแต่คนได้รับสิ่งเหล่านั้น
...แต่เขาก็กลั้นใจทำได้แล้ว
เพราะมีสิ่งตอบแทนที่ต้องได้กลับคืนรออยู่
.
“ทำไมไม่รับสายวะ” ไอ้พงษ์กับพี่ไม้ตามมาถึงทีหลัง มันถือโทรศัพท์มือถือแนบหูพลางบ่นงึมงำ จากนั้นก็เปิดประตูกระจกที่กั้นระหว่างลานจอดรถกับโรงแรมเดินเข้าไปภายในไม่พูดห่าอะไร ฝิ่นจึงไม่รอช้ารีบเดินตามไอ้พงษ์เข้าไป
วันนี้เขาตั้งใจมารับไอ้แก้ว ถ้ารู้ว่าเขายอมลดระดับความชั่วให้เพื่อนมัน ความเย็นชาที่มันโยนให้เขาเมื่อวันก่อนคงหดหายไปทันที
ถ้ารู้... มันคงโผกอดเขาก่อนเป็นอันดับแรก หึ ของมันแน่อยู่แล้ว มึงรักกูนี่หว่า
“เหี้ย ปิดเครื่องได้ไง”
“มีอะไร?” ฝิ่นถามพงษ์ที่ทำหน้านิ่วอยู่แต่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
“..............................” แต่มันไม่ตอบ
“หูหนวกรึไงวะ” เขาถามมันดีๆ...ก็แค่เสียงเข้มเล็กน้อยเพราะไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แต่โดนพี่ไม้เอามือมาขวางหน้าอกทันที
ฝิ่นจึงหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่โทรหาไอ้แก้วตั้งกี่ครั้งก็ไม่เคยรับสายออกมากดโทรหามันอีกครั้ง
“มีอะไรรึเปล่า?”
“........................” พี่แกออกปากถามเอง แต่ไอ้เหี้ยพงษ์กลับเงยหน้าแล้วเดินปรี่ไปตรงเคาว์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“มนุษยสัมพันธ์แย่มาก” ไอ้โจ้พูดตามหลัง
“ยังต้องพึ่งมันรึเปล่าล่ะ”
“เฮอะ” โจ้แค่นเสียงใส่พี่ไม้ตามหลังเมื่อพี่เดินไปประกบไอ้พงษ์ก่อน
แต่เขาไม่ตามหรอก ยังไงก็รู้เรื่องอยู่ดี
หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ คือเสียงที่ได้ยินจากปลายสาย
“พี่ฝิ่นๆนั่นเพื่อนไอ้แก้ว” ไอ้โจ้สะกิดแขนยิกๆเมื่อเห็นเพื่อนไอ้แก้วที่เคยเจอเดินปรี่มาที่เคาว์เตอร์ประชาสัมพันธ์เหมือนกัน เขาจึงเปลี่ยนใจรีบก้าวขาเดินไปสมทบกับพวกมันโดยไม่พ้นมีไอ้โจ้เดินตาม
“มึงมาทำอะไรที่นี่?” ไอ้พงษ์
“พงษ์ ...ไอ้แก้วอยู่ไหน?” เขาจำได้แล้วมันชื่อไอ้แสน มันถามไอ้พงษ์กลับด้วยหน้าตาเครียดๆแต่พอเห็นหน้าเขามันกลับมีท่าทีลังเล
“กูหาอยู่”
“มึงรีบหาเร็วๆสิกูใจไม่ดี”
“ทำไม? มึงเป็นอะไร”
“ก็...” ไอ้แสนเหล่ตามามองเขาที่เงียบฟังอย่างเดียว “มีคนเห็นไอ้เป้มาที่นี่ พี่ภูว่ามันทะแม่งๆเลยให้กูมาดู”
“ไอ้เป้? แล้วยังไงเกี่ยวอะไรกับไอ้แก้ววะ”
“เป้? ใคร?” เขาทวนชื่อที่ถูกเอ่ยถึงตามพลางจ้องหน้าคนมาใหม่เพื่อรอเอาคำตอบ ไอ้แสนมองหน้าเพื่อนเลิ่กลั่กก่อนจะหันมาตอบเขา
“มันคือคนที่ซ้อมไอ้แก้วคราวที่แล้วไง”
“ซ้อม! โดนซ้อมได้ยังไงมึงบอกมาเดี๋ยวนี้นะ” ไอ้พงษ์กระชากคอเสื้อไอ้แสนเข้าไปถาม
“นี่มึงไม่รู้เหรอ?” ฝิ่นถามไอ้พงษ์บ้าง เรื่องนี้มันควรจะรู้ไม่ใช่เหรอ
“รู้แล้วกูจะถามหา... เหี้ยเอ้ย!” มันสบถด่าเขาไอ้โจ้จึงปราดเข้าไปหาไอ้พงษ์อีกคนแต่ถูกกรรมการชั้นดีคั่นกลางเอาไว้
“ให้รู้เรื่องก่อนไหม” พี่ไม้แขวะทุกคน “ไอ้แก้วอยู่ไหนครับ?” แล้วเดินเข้าไปถามประชาสัมพันธ์สาวที่ยืนทำหน้าตาตื่นมองเหตุการณ์อยู่
“คุณลูกแก้ว” ไอ้พงษ์บอกเสริม ประชาสัมพันธ์จึงทำหน้าอ๋อขึ้นมาทันที
“ออกไปแล้วนะคะ”
“ไปไหน!” ไอ้พงษ์ถามอีกครั้ง
“อะ เอ่อ ...ออกไปตรงลานจอดรถสักพักแล้วค่ะ เห็นคุณลูกขวัญลงมาส่งแต่แยกกันตรงนี้ดิฉันก็ไม่ทราบแล้วค่ะ”
“ไอ้ขวัญเหรอ?” ไอ้พงษ์พึมพำแต่พนักงานคนนั้นหงอไปแล้ว
“เอ่อ รปภ.ๆเชิญทางนี้หน่อยค่ะ” ประชาสัมพันธ์สาวเดินไปเปิดประตูเรียก รปภ.ที่ตรวจตราอยู่ ทุกคนตามออกไป
“อ้น” ฝิ่นกรอกเสียงใส่โทรศัพท์มือถืออีกครั้งหลังจากกดเบอร์โทรออกไปยังจุดหมายใหม่ และเริ่มก้าวเท้าออกจากตรงนี้ไปยังรถที่ตัวเองจอดไว้ “ตามหาไอ้แก้วให้เจอภายในสามสิบนาที”
“อะไรนะ?”
“เริ่มจากโรงแรมพ่อมัน”
“เดี๋ยวๆๆ”
“ด่วน”
เขาไม่รอฟังเสียงไอ้อ้นให้เสียเวลา สั่งงานจบฝิ่นก็เปิดประตูแล้วพาตัวเองเข้าไปนั่งในรถพร้อมทั้งสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที
“รีบไปไหนพี่?” ไอ้โจ้ตามเข้ามานั่งเบาะข้าง
“ขอให้ลางสังหรณ์กูอย่าเป็นจริงเลย”
คนเคยทำอะไรไว้ มันย่อมได้กลิ่นคล้ายกับที่ตัวเองทำเป็นธรรมดา
แต่ขอให้จมูกกูพัง
บางทีมึงคงไปเดินเล่นหรือหาอะไรกินแถวๆนี้
หรือบางทีมึงคงนึกครึ้มหนีไอ้พงษ์ไปหากูที่บ้านเหมือนทุกทีก็ได้
“โจ้มึงรับโทรศัพท์สิ” เขามองสองข้างทางในขณะที่มือก็จับพวงมาลัยรถไปด้วย ไม่อยากเสียเวลาที่มองหาไอ้แก้วเพื่อคุยกับใคร
“พี่! พี่ไม้โทรมา รปภ.บอกว่ามีคนเล่นเหมือนเรา เห็นแต่งตัวเหมือนเรียนที่เดียวกับไอ้แก้วเลยไม่ได้เอะใจอะไร...ฉิบหายละใครวะ”
“เหี้ยเอ้ย!” เขาสบถเสียงดังลั่นรถทั้งยังเร่งเครื่องให้เร็วขึ้นอีก
“เบาๆพี่” ไอ้โจ้เตือนสติ “ครับ ครับ แล้วไปเจอกันที่ไหน...ได้พี่” มันวางสายแล้วพูดบอก “พี่ไม้กับไอ้พงษ์จะไปหาไอ้ขวัญ ส่วนไอ้แสนเห็นว่า๙Tจะช่วยตาม”
“อืม”
“ผมไม่น่าไปขอความร่วมมือพวก รปภ.เลย แล้วไอ้แก้ว...นี่มันโดนลักพาตัวเหรอวะพี่”
“...ไม่ใช่หรอก”
เขารู้สึกเหมือนโดนเอาคืน
...อย่าให้ต้องรับรู้ว่ากูเคยทำอะไรไว้กับมึงเลย
ขอให้ทุกคนเข้าใจผิดไปเอง
แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหนวะ!
....................................................
//นั่งพับเพียบ กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์
ขอโทษที่หายเฮดไปหลายๆๆๆวันนะคะ พอมาก็มาซะอย่างนี้
แจ้งไว้ในเฟซบุ๊คด้วยแล้วว่าญาติฝั่งอดีตเด็กช่างเสีย เผาเสร็จวันพฤหัสฯ ที่ไม่เข้ามาแจ้งในนี้เพราะไม่อยากให้เป็นการปั่นกระทู้ตัวเองน่ะค่ะ ขอขอบคุณทุกกำลังใจจากคนอ่านที่มีให้ครอบครัวคนเขียนด้วย กอดๆ แม่แฟนก็ดีขึ้นกว่าวันแรกๆแล้ว มีแพลนเที่ยวแล้วด้วย เวลาคงทำให้ทุกคนทำใจได้
ตอบคำถามว่าเด็กน้อยคือใคร...เด็กน้อยคือลูกสาวคนเขียนเองค่ะ เพิ่งจะพาไปเที่ยวเขาดินมาเมื่อวันอาทิตย์ กลุ่มเพื่อนวายของคนเขียนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านางอเลิร์ทมากมาย คงพอนึกภาพได้แล้วเนอะว่าคนเขียนจะมีเวลาและโอกาสพิมพ์นิยายไหม? แต่ก็ได้นางนี่แหละ แม่เขาถึงได้ดีขึ้น(เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น)
สวัสดีนักอ่านหน้าใหม่ของอ้อมกอดเด็กช่างด้วยจ้า
มิ้วๆเคยบอกว่าคนอ่านแต่ละคนเข้าถึงอารมณ์มาก ฮีไม่กล้าจะเม้นท์เลยเชียว
แต่เม้นท์น้อยเม้นท์มาก คนเขียนทุกคนยินดีทั้งนั้นแหละค่ะ
คิดถึงนะมิ้วๆ ไม่ว่างคุยกันเลย (อันนี้ไม่เกี่ยวละ อยากบอกเฉยๆ ฮ่าๆๆๆ)
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ขอบคุณที่เข้ามาดันให้กัน รักจัง กอดๆ^^จุ๊บๆ
-
หาแก้วให้เจอ อย่ามัวทะเลาะกันเอง พงกับฝิ่นต้องร่วมมือกัน
-
:monkeysad:
-
คงไม่ใช่อิพี่ดิวหรอกนะ โอ้ยอึกอัด
แอบกรี๊ดดดด มีให้จิ้นเยอะมาก พงษ์แสน โจ้แสน โจ้พงษ์ (มันน่าจิ้นตรงไหน)
คิดถึงพี่ไม้ที่สุดในโลกกก
-
:m16: :3125: :m16: :m16: :m15: :monkeysad:
-
ขออีกซักตอนนะครับ ให้หายค้างกว่านี้หน่อยอ่า
-
จะได้รู้ซะทีว่าแก้วสำคัญ ให้เป็นอะไรไม่ได้ ยกพวกไปกันเยอะขนาดนี้ อิคนลักพาตัวอ่วมแน่
-
เอ้าเวร นึกว่า แก้ว ไปกับฝิ่น งานนี้ ไอ้ดิวสั่งไอ้เป้มาแหงๆ
-
เง้อออออ ขอให้หากันทันนะ อย่าให้แก้วเป็นอะไรเลย
ขอบคุณมากๆ :กอด1: :กอด1:
-
แกเป็นพระเอกนะเว้ยไอ้ฝิ่นนนนนนนนนนนนนนนน
ตามหาแก้วให้เจอเดี๋ยวนี้นะเฟ้ย!!!!!!!!!!! :z3:
-
ฝิ่นรีบตามหาแก้วด่วน
อย่าเป็นอะไรไปน้า :serius2:
-
หาแก้วให้เจอนะอิพี่ฝิ่น :angry2: :angry2:
-
มาต่อซะที รออ่านนานแล้ว T^T คราวนี้โดนจับไปอีกแล้ว เฮ้อ
-
เมนไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะให้หาเจอดีไหม
-
อะไรยังไง มาต่อไวๆเลยยยย ลุ้นๆๆๆๆๆ :z3: :z3: :z3: :z3:
-
น้องแก้วหายไปไหนอีกน้อ
พี่ฝิ่นกำลังจะไปรับอยู่แล้ว
++++++++++++++
+1จ้า
-
:เฮ้อ: สงสารแก้ววววววว
-
ขอให้หาแก้วให้เจอด้วย :call:
-
เฮ้ย... แก้วจะโชดเลือดไปไหนเนี่ย เจ้าฝิ่นก็กว่าจะรู้ตัวนะ เฮ้อ
-
แก้วจะเป็นอะไรไหม
ไอ้เป้มันจะทำร้ายแก้วไหมไอ้ดิวมันต้องเป็นคนสั่งให้
ไอ้เป้ไปจับแก้วแน่ๆ
ฝิ่นจะตามไปช่วยแก้วทันหรือเปล่า
ขอให้ทันด้วยเถอะไม้อยากให้แก้วเจออะไรที่ไม่ดีอีกแล้ว
-
หาแก้วให้เจอไวๆ แล้วหวังว่าแก้วคงไม่เป็นไร
อย่าให้มีใครเป็นอะไรเลยยยยยยยย!!!!!!!!!
รอติดตามครับ ลุ้นๆ แบบว่าค้างอ่ะ ^^
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
มาแล้ววว
ขอ :กอด1: :กอด1: :กอด1: ให้หายคิดถึง
ใกล้จะดีกันแล้วแท้ๆมีเรื่องอีกจนได้ แก้วนะแก้ว
:z3: :z3: :z3:
-
กลัวว่าจะเป็นไอ้พี่ดิวที่เอาตัวแก้วไป
ฝิ่นกับพงษ์อย่ามัวทะเลาะกัน หาตัวแก้วให้เจอ
เฮ้อ.. เป็นห่วงลูกแก้วอ่ะ
** เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ ** :L2:
-
ตามทันแล้วววววววว แต่...
อ่ะฮึก ค้างงงงงงงงงมากกกกกกกกกกกกก TT
เสียใจอ่ะ ชอบตอนนี้นะร่วมมือกันดี
แต่...ค้างงงงงงงงงงงงงงง
-
จะมีใครที่อยากได้ไอ้แก้วมาก
นอกจากพวกไร้สมองพวกนี้ที่ดีแต่แย่งกัน แต่ไม่ทำอะไรให้ชัดเจนสักอย่าง
-
แก้วหายไปกับใครน่าเป็นห่วงมาก ๆ
แต่ฝิ่นรู้แล้ว ขอให้หาเจอเร็ว ๆ เถ้อ
ขอบคุณค่ะ
-
เชื่อมั้ยเปิดเล้าเป็ดา
เจออ้อมกอดเด็กช่างอัพแล้วแทบกรื้ด
(เพราะตอนนี้ตามเรื่องนี้แบบสุดๆเรื่องอื่นถึงกับปล่ยเลย)
กรื้ด ด ใครเน้อที่ทำแบบนี้กับแก้วน้อย คำตอบอีพี่ดิวใช่มั้ย- -+
ห่าลากๆ กรื้ด ด ด ฝื่นไปช่วยแก้วเร็วๆ แง้ๆ
อย่าให้แก้วเป้นอะไรเลย ขอร้องล่ะT,T
-
เป้ใช่พวกเดียวกับดิวหรือเปล่า แล้วจะทำอะไรแก้ว ฝิ่นช่วยแก้วให้ได้นะ
-
คนช่วยหาเยอะขนาดนี้ตอนเจอตัวไอ้คนทำคงโดนยำตีนหนักแน่ๆ
-
เย้ ตอนใหม่มาแล้ว อิอิ ช่วงนี้ก็รออ่านพร้อมๆกับรอสอบ(เสร็จ) :z10:
ตอนนี้แก้วจะเป็นไงบ้างเนี่ย ไอ้เป้แม่ง อิพี่ดิวด้วย :z6:
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้หลายๆเรื่องของคนแต่งนะคะ :L2:
:pig4: นะคะ
-
อิพี่ดิวนี่ถ้ามองในแง่ดีมันก็คงจะรักแก้วจริง ๆ แต่ช่วยเลือกวิธีการหน่อยได้ม๊ายยยยยยยยย :angry2: :angry2:
-
:L2: :L2: :L2:มารอครับ
-
ต้องเป็นไอ้พี่ดิวแน่เลย
ฝิ่น พงษ์ฆ่ามัน ๆ ๆ
:angry2: :serius2:
-
รีบๆ เข้าล่ะ
ไม่รู้แก้วเราจะเป็นไงบ้าง :monkeysad:
-
เห้ยลูกแก้วหายไปไหน
ไอ้ พี่ ดิว แน่นอนเลยว่ะ T T'
-
อย่าให้แก้วเป็นอะไร :z10:
-
ตื่นเต้นแล้ว
เย่ๆ
ถ้าจบเรื่องนี้ก็มีความสุขซักทีนะสิเนี้ย^^
-
แก้ววววววว
อยู่ไหนอ่าาาา
ฝิ่นรีบหาแก้วให้เจอนะ รีบบอกรักสักที
-
พี่ฝิ่นนน ตามหาตัวแก้วให้เจอโดยด่วน!!!
ไม่งั้นแก้วอาจจะถูกลวนลาม กักขัง หน่วงเหนี่ยว อีกสารพัด โอยยย
>[]<!!!
-
ให้ไวเลยฝิ่น
:m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:
-
แก้ววววววววว
:sad4:
-
โอย ลุ้นอ่ะค่า
-
กอดเทออ เทอกลับมาแร้ววว
-
ไอ้เป้ก็ลูกน้องของไอ้พี่ดิวอะสิ
แต่ก็ไม่รู้ว่าไอ้เป้มันทำตามคำสั่งไอ้พี่ดิว หรือว่ามันอาจจะมาแก้แค้นไอ้คุณฝิ่นก็ได้ (เพราะตอนที่เป้ซ้อมแก้ว ฝิ่นมันเองก็แค้น ไม่รู้ว่าฝิ่นแอบไปซ้อมไอ้เป้หลังจากนั้นหรือเปล่า แม้ว่าภูกับแสนจะขอเคลียร์เองก็เหอะ)
คิดว่าตอนหน้าต้องสนุกแน่ๆ หวังว่าภูโซ่จะได้ออกมาเป็นแขกรับเชิญบ้างนะจ๊ะคนเขียน
อิพี่ดิว!!! งานนี้แกตายแน่นอน โซ่เตือนแกแล้วนะว่า ถ้ามีเรื่องใดมาทำให้เมียกังวลล่ะก็ โซ่ไม่เอาไว้แน่ๆ อะ
เพราะฉะนั้น แกเตรียมตัวถูกแฉได้เลย อ๊ากกกกกกกก :z6:
-
ชาติที่แล้วทำบาปอะไรไว้เนี่ยแก้ว
มะรุมมะตุ้มเหลือเกิ๊นนนน
-
แก้ววววววว :m15:...เธออยู่ไหนนน :serius2:
-
ขัดใจพงษ์จริงๆ หลับหูหลับตาเชื่อคนเลวอย่างไอ้ดิว
ยังไงรีบๆช่วยกันหาแก้วนะ
ห่วงมากกกก
-
อ้าว....ไม่ใช่พระเอกจับตัวไป...
มันคือไอ่เป้คนซ้อมน้องแก้ว..
แย่แล้ว แย่แล้ว...เมย์เดย์ เมย์เดย์สุดๆ(หันไปตะโกนบอกพระเอก)
ฝิ่นนนน...ไปช่วยน้องเร็ว...หาให้เจอทีเถ้อออ...
ไม่อยากให้น้องต้องช้ำทั้งกายแล้วใจอีกแล้วอ่ะ
อ๊อยยย...ลุ้นอ่ะ เมื่อไหร่จะหมดเคราะห์หมดโศกสักที๊
ฝิ่นแก้วเนี้ยยยย อ๊ากกกก
มาต่อไวๆนะคะ จะรอด้วยรัก
-
เกิดอารายขึ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
ไม่น๊าาา........ทามแบบนี้ไม่ได้น้าาาาาา
-
ไปช่วยแก้วให้ได้นะฝิ่น
-
แหม พี่ฝิ่นขนาดโดนสั่งสอนอยู่ยังรั้นเลยนะ
ฟังที่พี่ไม้พูดไว้บ้าง ระวังจะเป็นเหมือนกัน
เสียเขาไปทั้งที่ยังไม่ทันได้บอกความรู้สึก
ไม่ใช่แค่เราหรอกนะที่เจ็บปวดแต่อีกฝ่ายก็คงเจ็บไม่น้อย
ทิฐิที่มีอยู่ลดลงซะบ้าง ใช้ความรู้สึกส่วนลึกมากกว่าอารมณ์
ว่าแต่เป้ที่จับน้องแก้วไป ลูกน้องอีพี่ดิวนี่
เป็นอีพี่ดิวที่ทำแบบนี้หรือเปล่า
อยากให้พี่ฝิ่นไปถล่ม 5555
รอตอนต่อไปค่ะ ^^
-
:z13: :z13: :z13:
-
พงษ์เอ้ยย เคยรู้อะไรมั่งเนี้ย
ตามเจอแก้วโดยสวัสดิภาพเร็วๆ
โอย เป็นห่วงง
ปล. ในที่สุดก้กลับมาแล้วววว :L2: :L2:
-
ค้างงงงงงงงอีกแล้ววววว :a5:
-
เป็นห่วงแก้วจริงๆ..
ฝิ่นแกตามแก้วให้เจอไวๆด้วยนะ..นี่คือคำสั่ง!!~
-
อะฮ้า สองหนุ่มจะร่วมมือกันแล้วหรอ >,<~
-
โถ ลูกแก้ว
ตามหาแก้วให้เจอเร็วๆ ด้วยนะ คุณฝิ่น
แผนไอ้พี่ดิวรึเปล่า ไอ้เป้:z6:
-
:serius2:
ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งนาน...ยังตามหาแก้วไม่เจอกันอีก :beat:
-
ลุ้น ลุ้น ลุ้น
-
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะครับ มารอทุกวันแต่ถ้ามาเงียบๆเดี๋ยวไม่มีกำลังใจ เลยแวะดันแล้วกัน
o18 o18
ขอให้ ฝิ่นแก้ว จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งนะ
ไม่งั้น
:z3: :z3: :serius2: :serius2:
-
มารอครับบบบ :)
-
ได้โปรดดดดดดด กลับมาต่อเทะน๊าาาาา เรารอนายทู๊กกกกวันเลยยยย :z10:
-
เหมือนพอเริ่มจะทำอะไรที่ถูกต้องก็โดนกรรมตามทันเลย เหอๆๆ
-
:call: :call:
-
แวะมาดัน รออออ
-
เพิ่งเข้ามากว่าจะตามอ่านทันเล่นเอาแทบแย่
แม่ด่าไปหลายรอบ
ไม่อยากบอกว่าสนุกมากอ่ะ><
วันไหนไม่ได้อ่านแทบนอนไม่หลับ เหอะๆๆ
สู้ๆนะคนเขียน จะรอแทบขาดใจ
-
:really2: :sad4:
-
รอตอน 50 อยู่นะจ๊ะ
-
:เฮ้อ: โดนตลอดเลยแก้วเอ้ย
พงษ์กะฝิ่น ใครจะหาแก้วเจอก่อนจะยกให้เป็นพระเอกแล้วยกแก้วให้เลย :laugh:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๐
รุ่นพี่ที่ไม่เอาไหน...สมควรแล้วถ้าจะโดนรุ่นน้องดูถูกและปีนเกลียวใส่
แต่รุ่นน้องในเทคโนTที่กล้าเล่นงานรุ่นพี่ก็มีแต่โดนใบสั่งเท่านั้น
แก้วข้องใจตั้งแต่ครั้งแรกที่มีเรื่องแล้ว ไม่ประธานปีใดก็ปีหนึ่งที่สั่งไอ้เป้ให้เล่นงานเขา
...แต่ก็คิดตลอดว่าคงไม่ใช่พี่ดิว คิดเข้าข้างรุ่นพี่ตัวเองตลอดเพราะอย่างน้อยๆพี่ดิวก็หวังดีกับเขาและพงษ์
คิด...ทั้งๆที่ไม่มีทางเป็นใครอื่นได้เพราะแต่ละสายแต่ละปีจะไม่มีการล้ำเส้นกันโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด
และเพื่อตัดปัญหาที่จะตามมาถึงคนอื่นๆในเทคโนTที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยจากอาชีวะxในคดีไอ้พงษ์ เขาก็ถือโอกาสตัดขาดกับพี่ดิวไปแล้วจนทำให้พี่ดิวเปลี่ยนไปกลายเป็นคนละคนจากที่เขาเคยรู้จัก
และความรู้สึกดีๆจากพี่ เขา...ก็ไม่ต้องการรับรู้มานานแล้ว
“เจ็บรึเปล่า”
และเราควรจะทางใครทางมัน...ไม่ถูกต้องเหรอ ?
อาการจุกที่ท้องหายไปแล้วแต่เขาไม่ยอมลุกทั้งที่ลุกขึ้นนั่งได้แม้จะโดนเชือกมัดที่ข้อเท้าก็เถอะ
พี่ดิวที่เปิดประตูรถด้านหลังมาถามไถ่อาการพลางยื่นมือมาจับหน้าท้องเขาที่นอนงอตัวอยู่ แก้วที่โดนเชือกมัดสองมือไขว้หลังมองรุ่นพี่ตาขวาง และปากที่ถูกสก๊อตเทปสีดำปิดอยู่จึงไม่สามารถตอบคำถามพี่ได้ แต่สายตาและท่าทีขยับตัวต่อต้าน ...พี่ดิว น่าจะรู้คำตอบได้เอง
“ฮึก ฮึก”
“มันขัดขืน” ไอ้เป้ที่ยืนอยู่ข้างหลังพี่ดิวพูดบอกทำให้พี่ดิวหันกลับไปหามัน
“ไม่มีใครสงสัยใช่ไหม?”
“ไม่มีครับ”
“ฮึก ฮือ”
“หมดหน้าที่มึงแล้ว กลับไปได้ละแล้วอย่าทำตัวมีพิรุธให้ใครจับได้เชียว”
“แล้วรางวัลผมล่ะ”
“...ปีหน้า กูจะให้เป็นประธานปีสอง”
“ยังไงก็ได้” น้ำเสียงไอ้เป้พูดอย่างไม่ยี่หระ “พี่อย่าลืมสั่งคนไปเล่น๙Tแทนผมด้วยล่ะ”
“เออน่า”
“ฮึก ฮึก”
“เลิกร้องได้แล้ว” พี่ดิวบอกเจ้าของเสียงสะอื้นที่เขาได้ยินตั้งแต่มาถึงอย่างห้วนๆ
“ฮึก มิวกลัวนี่”
มิว...มาทำอะไรที่นี่?
แก้วเลิกต่อต้านคนที่จับตัวมาและคนต้นตอด้วยการใช้มือที่ถูกมัดไขว้หลังอยู่ดันตัวเองขึ้นนั่งเพื่อจะมองหามิว
อดีตแฟนของเพื่อน คนที่เคยผ่านช่วงของการโดนอริกดดันมาด้วยกัน และ ผู้หญิงของอดีตคนที่เขารัก
เขาสบตามิวผ่านพี่ดิวแต่หญิงสาวรีบเบือนหน้าหลบตา
“กลัวทำไม รำคาญไอ้แก้วไม่ใช่รึไง มิว...เธอควรจะขอบใจพี่ ที่ช่วยทำให้ไอ้แก้วออกห่างจากผู้ชายของเธอมากกว่านะ”
“พี่จะทำอะไรแก้วรึเปล่า”
“ทำไม เกิดอยากเป็นนางงามขึ้นมา? อย่าลืมสิก็ถ้าไม่ได้มารยามิวพี่จะได้ตัวมันเหรอ อย่ามาตีสองหน้าตอนนี้เลยน่า” นี่มิว...รู้เห็นกับพี่ดิวอย่างนั้นเหรอ ที่โดนจับมานี่ก็ไอ้เป้ที่ใช้วิธีเดียวกับไอ้โจ้ไม่ใช่เหรอถึงทำให้เขาชะล่าใจ
“ฮึก พี่ดิว พี่บังคับมิว มิวไม่ชอบแก้วก็จริงแต่ไม่ได้อยากให้พี่ทำร้ายแก้วเลยนะ”
ไม่ชอบ...
เขาทำอะไรให้มิวไม่ชอบ?
แก้วมองหน้ามิวอย่างต้องการคำตอบแต่เจ้าตัวนอกจากจะหลบตาตอนนี้ยังเดินหนีไปทางอื่นแล้วด้วย
“ถ้าพี่ฝิ่นรู้เรื่องล่ะก็...”
หรือไม่ชอบที่เขายุ่งกับไอ้ฝิ่น?
“กลัวทำไม พี่มีแก้วทั้งคน ไม่มีใครกล้าทำอะไรพี่อยู่แล้ว” เฮอะ!
“มิวไม่รู้ไม่เห็นเรื่องนี้ด้วยนะ พี่ทำเองคนเดียวทั้งหมด” มิวหันหลังให้พี่ดิวแต่พี่ดึงแขนไว้
“ถ้าหักหลังกูล่ะก็...”
“โอ๊ย พี่ดิว มิวเจ็บ คนอย่างพี่ไม่เคยเชื่อใจใครอยู่แล้ว คงไม่ต้องรอให้ใครหักหลังแต่พี่นั่นแหละจะแพ้ภัยตัวเอง”
“นังมิว!”
“มีอะไรกัน?” พี่ดี! “อะ อ้าว...” พี่ดีในชุดนักศึกษาเดินมาจากไหนไม่รู้แต่ก็มาชะงักผุดยิ้มและเดินตรงมาที่เขาซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังของรถกระบะ
“ปล่อยมิวนะ!” พี่ดิวลากแขนมิวกลับมาทางพี่ดีที่ยืนมองหน้าเขาอยู่ จนแก้วต้องก้มหน้าหลบ “ถือว่ามิวตอบแทนน้ำใจพี่หมดแล้วนะ ต่อไปไม่ต้องมายุ่งกับมิวอีก ชีวิตมิวกำลังจะดีขึ้นเพราะจะไม่รู้จักพวก...พวกพี่อีกต่อไป”
“หึ มีอะไรกันวะถึงโดนผู้หญิงด่าได้”
“จัดการนังนี่ให้กูที”
“อะ อะ พี่ดิว” แก้วเงยหน้ามองพี่ดิวก่อนจะเห็นมิวอ้าปากค้างเมื่อพี่ดิวยื่นแขนเจ้าตัวส่งให้พี่ดี
“เมื่อกี้ว่าไงนะ ไม่รู้จักกูแล้วชีวิตจะดีขึ้นงั้นเหรอ งั้นก็ตกต่ำอีกครั้งก่อนจากหน่อยละกัน”
“โอ๊ะ พี่กับน้องใช้ของร่วมกันอีกแล้ว” พี่ดีใช้มือปิดปากมิวที่กำลังอ้าปากจะพูด “แล้วนี่...” พยักพเยิดหน้ามาที่เขา
“ไม่ใช่ทุกคน”
“อื่อ!” พี่ดิว...ทำไมถึงเป็นได้ขนาดนี้
แก้วส่งเสียงไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พี่น้องสองคนกำลังจะทำ เขาไม่รู้หรอกว่ามิวจะคิดร้ายกับเขารึเปล่า แต่มิวกำลังจะโดนรังแก
“หืม?” พี่ดิวหันมาหาเขาก่อนหันกลับไปพูดกับพี่ดี “มึงกกมันตามสบาย เอาให้สำนึกว่าอย่ามาทำชิ่งใส่กู ใครสูงใครต่ำให้มันจำให้ขึ้นใจ”
“แล้วมึงล่ะ เล่นอย่างนี้ระวังจะไปไม่รอด”
“...ไม่รอดก็ไม่รอดสิ ก่อนตาย...แค่ให้ได้ชนะกูยอม” พี่ดิวยืนมองหน้าเขาก่อนจะปิดประตูรถ
“กูขออวยพรให้มึงโชคดี ถ้างานนี้มึงรอด กูให้มึงชนะไอ้น้องชาย หึหึ” เสียงพี่ดีเอ่ยตามหลังเมื่อพี่ดิวเดินอ้อมมาเปิดประตูข้างหน้าขึ้นมาสตาร์ทรถ
“พี่ไม่เคยคิดทำร้ายแก้วเลย ไม่เคยเลย...แต่ไอ้พงษ์มันหักหลังพี่ อีกไม่นาน พี่ก็คง...”
หักหลัง?
พี่ดิวพูดกับเขาโดยการมองผ่านกระจก ไอ้พงษ์ไปทำอะไรพี่ดิว? แล้วการได้ตัวเขามาอย่างนี้ คือโทษของการหักหลังอย่างนั้นสิ?
...มึงคอยจัดการคนที่เล่นงานกู คราวนี้กูต้องตามรับโทษแทนมึงอีกเหรอ
เจ็บครั้งเดียวพอแล้วนะพงษ์ กูสู้ไม่เก่งขนาดรับอะไรได้พร้อมๆกันหรอกนะ
..........................................................
สั้นเนอะ เหอะๆๆๆ อย่างที่คนอ่านรู้อะค่ะ แต่ละตอนเราจะบอกคนอ่านทีละประเด็นมันจึงสั้นบ้างยาวบ้างอะนะ (แถเนอะ) //โดนตื๊บ
คิดถึงทุกคนน๊า
แต่...
ไม่มีเวลาจริงๆจ้า ใครก็ได้มาเอาเด็กไปเลี้ยงทีY^Y
อ้อ อย่าเพิ่งคิดมากเรื่องมิวกันนะคะ กลัวจริงๆเดี๋ยวจะหาว่าคนเขียนไม่ยุติธรรมกับผู้หญิง ยังไงข้าเจ้าก็ผู้หญิงเน้อ
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์เจ้า กอดๆ^^จุ๊บ :กอด1:
-
:mc4: ได้อ่านแล้ว
:pig4: สู้ ๆ ค่ะ ^ ^
-
พี่ดิวอีกแล้ว
ชีวิตน้องแก้วเมื่อไหร่จะรอดพ้นจากพี่ดิวอ่ะ
พี่ฝิ่นกับพี่พงษ์รีบตามไปช่วยเร็วๆเลย
++++++++++++++
สั้น แต่ดีใจที่มาจ้า
ขอบคุณมากๆ กอดดดดดดด
เป็นกำลังใจให้พี่ซีจ้า
-
:z3: อีพี่ดิวจริงๆล่วยยยยยยยยยยยยยยยยย
ฝิ่นมาช่วยตะเภาแก้วเร็วๆนะ เอ๊ย ผิดเรื่องแหล่ว :laugh:
กลัวๆยังไงไม่รุ เหมือนจะต้องมีใครตายอีก... ความแค้นเรื่องนี้ถึงจะได้หยุดลงจริงๆ
อยากให้เป็นแก้วอ่ะ จะได้สำนึกกันทุกฝ่าย แบบเข้าใจว่าตายก็พอนะ ช่วงนี้อยากงดมาม่าง่ะ
-
มาแล้วว วว :sad4:
สั้นสักนิดก็ไม่เป็นไร
เบื่อดิวแล้ว ว :z3: อยากให้แก้วมีความสุขสักที
-
แงงง สั้นอ่ะ ค้างด้วย :sad4:
แต่เราก็จะรอต่อไปค่ะ :L2:
พี่ดิวนี่ รู้ว่ารัก แต่รักคือการเห็นคนที่รักมีความสุข ไม่ใช่การแย่งชิง ไม่เข้าใจหรือไงยะ :เฮ้อ:
:pig4:นะคะ
-
ศักดิ์ศรี อำนาจ ความรัก :เฮ้อ:
-
พี่น้องคู่นี้เลวจริงๆนะ
ทำไมไม่มีการห้ามปามเลย
เฮ้อ สงสารแก้วนะ
ต้องมารับผลกรรมที่พงษ์ไปหลงผิดไว้ทั้งหมด
ถ้าฝิ่นยังไม่รีบมาช่วยนะ
เค้าจะส่งเสริมให้พงษ์พาแก้วไปอยู่เมืองนอกไม่ต้องกลับมาและ
-
อี่พี่ดิวตลอดดดดดด
:z6: :z6: :z6:
-
ขัดใจซะมากมาย
-
ดิวตายยากจริง
-
ตบเข่าฉาด!!!!! แอบคิดแล้วว่าต้องเป็นพี่ดิว
บัดซ_ที่สุด...ทั้งเกลียดทั้งรักเนี้ย...
จะทำร้ายน้องแก้วให้เจ็บไปเลยเหรอดิว..
ชีวิตน้องแก้วแ_'งมีแต่มารขัดตล๊อดตลอด
แอร๊ยยยยย....สั้น...แต่ก็ปูเสื่อรอตอนหน้านะคะ
-
ฝิ่น รีบมาจัดการดิวเร็วๆร้ายกาจที่สุดพี่ดิวเป็นไปได้ขนาดนี้เชียวว !!!!
รอลุ้นตอนต่อไปครับบ เป็นห่วงแก้วววว บวก บวก ครับ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
อั๋ยย่ะ อิพี่ดิวจะมีจุดจบเช่นไรกันเนี่ย สงสัยพี่แกจะอยากตายเอามากๆ แฮะ
เป็นศัตรูกับ 3 ฝ่ายแบบนี้ ไอ้คุณพระเอกฝิ่น ไอ้คุณเพื่อนพงษ์ และไอ้คุณพี่ภูโซ่ 9T ไม่เอาแกไว้แน่
ว่าแต่ไอ้เป้มันคิดจะเล่นพวกเดียวกันเองด้วยหรือ แมร่งเป็นกบฎ T หรืองัยฟะ มีบอกให้เล่น 9T ด้วยอะ
เดาว่าที่ไอ้พี่ดิวมันบอกว่าพงษ์หักหลังมันเนี่ย อาจหมายถึงที่พงษ์จะพาแก้วไปอยู่เมกา หรือไม่มันก็เห็นพงษ์ไปหาพวกฝิ่นที่วัด (ที่พี่ไม้บอกว่าเหมือนมีใครแอบมองอะ)
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า.....และหากช่วงนี้คนอ่านด่าตัวละครไม่ค่อยมันส์เหมือนเมื่อก่อน ก็โปรดให้อภัยเราด้วย แบบว่างานเข้าคือกั๋น อยากจะเม้นท์ยาวกว่านี้แต่ก็นึกประเด็นบ่ค่อยออกเลยเจ๊า
:pig4:
-
อีพี่ดิวจริงด้วย นิสัยว่ะค่ะ เซ็งมันโครต ๆ อ่ะ อยากเอาชนะอ่ะดิ นิสัยทั้งพี่ทั้งน้องอ่ะ
หวังว่ามันจะไม่ทำอะไรแก้วนะ...โฮก ใครก็ได้มาช่วยเร็ว ๆ
ขอบคุณค่ะ
-
แม่งงงงงง
เกลียดอีพี่ดิว
พงษ์ไม่น่าไปบอกมันเลยว่าจะพาแก้วไปนอก โดนเล่นเลยเป็นไง
ฝิ่นมาเร็วๆเหอะ!!
-
น้องแก้วเลิกเข้าใจผิดได้แล้ว สงสารฝิ่นอ่ะ
ฝิ่นเค้ารักเค้าหลงแก้วจนจะตายห่าแล้วนั่น (เว่อร์ไป)
อย่ายอมไอ้ดิวนะเว้ย
ไม่งั้นเราจะตัดไอเนั่นของดิวให้เป็ดกิน
คนแต่งสู้ๆ นะคะ
สั้นไม่เป็นไรค่ะ เราเข้าใจเหตุผล
แค่มาให้เห็นหน้า(?) ก็ดีใจแล้ว > <
-
ฝิ่นจะมาช่วยแก้วทันไหมเนี่ย
-
อ่า สั้นไปไหม
ยัง งงๆ อยุ่
-
พี่ดิ๊ววววว :serius2:
ขอร้องล่ะ ฝิ่นมาช่วยแก้วให้ทันทีเถอะ :z3:
-
โอ๊ย ไอ้ดิว จะเลวไปถึงไหน
:beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
-
นั้น ไอ้เหี้ยพี่ดิวจริงๆด้วยT,T
ไอ้แสรด ด ด ทำไมดีแต่โทษคนอื่นว่ะ
ทำไมมึงไม่มองกลับมาที่ตัวเองบ้าง ว่ามึงทำตัวเลวแค่ไหน
ไอ้หน้าสัน... แม่ง แล้วมาบอกว่าไม่เคยคิดจะทำร้ายแก้ว
แค่มึงคิดอย่างจะให้เค้าเป้นของมึงคนเดียวมึงก็ทำร้ายเค้าแล้วโว็ย
ไอ้หน้าโง่ ไอ้ปลาทูตากแดด ฝื่น พงษ์ มาช่วยแก้วเร้วๆนะ
โอ็ย โทษทีเถอะค่ะ
อ่านแ้ล้วมันอินจริงๆ ชอบเรื่องนี้จริงๆจังๆ
ขอบคุณที่มาอัพให้อ่านค่ะ
แล้วจะรอตอนต่อไปนะค่ะ
-
พี่น้องสอง D นี่ท่าจะศพไม่สวย
รอพระเอกออกโรง
-
บรรยายมาแต่ละคนหาคนดีๆไม่ได้สักคน
มีแต่เชรี่ยๆทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่อีแก้ว
-
จุดจบอีกพี่ดิวจะมาเร็วๆนี้ พงษ์กะฝิ่นมาเร็วๆนะ :z3:
-
ช่วงนี้ติดเกมอาการหนักค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้แวบเข้ามาเลย :m29:
เป็นพี่ดิวจริงๆซะด้วย รู้สึกเหมือนพี่ดิวจนตรอกจนเล่นไม่เลือกวิธี ทำเพื่อสิ่งที่ตัวเองรักแท้ๆ แต่กลับทำให้มันแย่ลงเรื่อยๆ
ส่วนมิว ถึงจะไม่ค่อยชอบหล่อนเท่าไหร่ แต่ถ้าโดนจริงๆก็น่าสงสารนะ สารเลวจริงทั้งพี่ทั้งน้อง -*-
ขอบคุณค่ะ ^^
ปอลิง มีลูกแล้วเหรอคะเนี่ย :m3: คุณลูกจะรู้มั๊ยน้อ~ ว่าคุณแม่แต่งนิยายซีเรียสมากกกกกก :laugh: สู้ต๋ายค่ะ!
-
สองพี่น้องบ้านนี่นี้นิสิยแย่พอกัน :angry2:
-
แก้วซวยอีกจนได้ รีบมาช่วยแก้วเร็ว
-
โอ้ ยอารายเนี้ยอยากรู้ ว่า อะไรเป็นยังงัยแล้วเริ่มงงมาต่อเร็วๆนะจ๊ะ
-
:z3:
-
อิดิวอีกแล้วววว ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดซะแล้ววววว
-
เกลียดอิพี่ดิวววว
คอยดูนะ ถ้าพงษ์รู้ไม่ปล่อยแกไว้แน่
แก้ว อดทนหน่อยนะลูก :z3: :z3: :z3:
-
รออ่านจุดจบของพี่ดิวอยู่นะ :impress2:
เป็นกำลังใจให้คนแต่งครับผม
-
พงษ์กับดิวเรื่องอะไรเนี่ย เรื่องแก้วอีกหรอ หรือเรื่องเป้ง
-
:angellaugh2: แวบมาอีกรอบ มาฉลองหน้าที่ 100 นะจ๊ะคนเขียน :angellaugh2:
-
ลูกแก้วซวยอีกแล้วววววววววววววว :monkeysad:
ใครก็ได้รีบไปจัดการไอ้พี่ดิวที่ :m31:
-
งงไปหมด พงษ์ทำอะไรเนี่ยยย
รอตอนต่อไปจ้า
-
คนแต่งยังปรุงยำตีนไม่เสร็จอีกเหรอจ๊ะ
ไอ้ดิวมันรอยำตีนนานเกินไปแล้วนะ
รีบเอายำตีนจานใหญ่ๆมาเสริฟให้มันกินซะทีสิ
-
คนเลวย่อมเลวอยู่วันยันค่ำ ความคิดสกปรกแบบนี้คงไม่ได้กลั่นมาจากสมองแล้วล่ะ มาจากสันดานแกเลยไอ้ดิว
ฝิ่น...ถ้าตามมาเจอ เอามันให้เข็ดหลาบ ตายไปเลยมันง่ายไป เอามันให้พิการดีมั้ย? โมโหจังเลย :z6:
-
มาอีกนะครับ
-
สั้นเกิ๊น!!!!!
อ่านแล้วหงุดหงิด อยากอ่านต่อ
-
ไปบวชเถอะแก้ว
ชีวิตโคตรรุ่งร่วงเลย :m15:
-
เง้ออออ แก้วหนอแก้ววววว :เฮ้อ:
ขอบคุณมากค่ะ :กอด1: :กอด1:
-
ทำร้ายกานเหงๆ ทำมั้ยถึงทำกานเช่นนี้T^T
มาต่อเลยน้า แง๊ๆ
-
พี่ดิวรักแก้ว พงษ์รักแก้ว ฝิ่นรักแก้ว ใคร ๆ ก็รักแก้ว
แต่ใครกันที่แก้วรัก และทำให้แก้วมีความสุข???
-
ดัน
ดัน
-
อีพี่ดิวววว แกมันเลว ทำแบบนี้กับน้องแก้วได้ไง
พี่ฝิ่นอยู่ไหนมาถล่มมันเร็ว
หวังว่าพี่ดิวจะยังไม่ทำอะไรแก้วนะ
ทำไมต้องทำกันขนาดนี้หนอ
แล้วที่ว่าพงษ์หักหลังตัวเองยังไม่ไม่ทราบ
เรื่องแก้วใช่มั้ย? สมควรแล้วที่จะไม่ได้แก้วไป
มาสั้นๆแต่ลุ้นจริงจัง อยากให้พี่ฝิ่นมาช่วยแก้วเร็ว
-
สั้นได้จ๊ะ
แต่ลงบ่อยๆ หน่อยนะคะ
ลุ้นจะแย่แล้ว :z3:
-
:เฮ้อ:
-
สั้นไปนะ T T มาต่อเร็วน้า รออยู่
-
ว่าแล้วว่าเป็นอิดิว (ไม่อยากเรียกว่าพี่แล้ว)
กรี๊ด พี่ไม้อยู่ไหนคิดถึงพี่ไม้ 55
-
กว่าจะอ่านทัน 555+
-
ฝิ่นมาช่วยแก้วเร็วๆๆ
-
^^
-
เยซ!! ในที่สุดก็อ่านทัน!!><
อยากเขียนมานานละว่า เกลียดอิพี่ดิว ว วววว เกลียดมาตั้งแต่เริ่มอ่านละ คนอะไรน่าต่อยชะมัด ฝิ่นมาจัดการมันเลยนะ!
เร็วซิๆแกเป็นพระเอกนะ ยังไงก็มาต่อเร็วๆนะคะ เรื่องนี้สนุกมาก ติดงอมแงมเลย><
-
:call: :call:
-
ไอ้ดิว :angry2: :angry2:
อยากอ่านต่อเเล้วรีบมาต่อเร็วๆนะค่ะ
-
ฉลอง 100 หน้า แล้ว :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน ยังตามไม่ทันแต่อยากแว๊บมาให้กำลังใจคนเขียนก่อน สู้ๆนะคั
-
อ่านได้ 60 หน้าแล้ว กะว่าจะรอให้จบก่อน
แต่อีกนาน สงสารแก้วมากๆเลย เห้ออออออออ
-
...ซับซ้อนซ่อนเงื่อนดีแท้ เรื่องนี่กว่าจะกระจ่าง นายเอกคงน่วม หรือไม่ก็..
...น้องมิว ของช้านนนนนน มีสะมีรอบเองได้หรือยังวะนี่ ทั้งเต็มใจ และไม่เต็มใจ
...ไอ้ที่อยากได้เค้า เค้าก็ไม่เอา ไอ้ที่ไม่อยากได้เค้า เค้าก็จะเอาเธอ ไม่รู้จะสงสาร หรือสมเพจ ดี เขียนถูกไหมว่าเหมือนจะผิด
...คุณน้องคนเขียน มีสาวน้อยให้ดูแลซะแล้ว เลี้ยงไปเถอะยิ่งเลี้ยงยิ่งมีความสุข จริงๆๆนะ :laugh:
-
ชูแว๊บ~~ เข้ามาส่องอีกรอบนึง
รอมาอัพอยู่นะคะ TT TT
(เริ่มสงสารฝิ่นบ้าง //ผิดไหนเนี่ยTT TT)
-
:serius2:
แล้วไอ้คุณพระเอกพระรองหายไปไหนกันหมดดดดดดด :angry2:
-
อ่านไปอ่านมาจนจับจุดได้แล้วว่าคนที่สำคัญคนที่ตัวร้าย
คนที่ทำร้ายหัวใจตัวเองั้นคือใคร แก้วคือเด็กชายที่น่าสงสารมากที่สุด
ไม่ว่าจะอะไร ไม่เคยเลยที่ใครจะเห็นใจแต่เมื่อเห็นก้อเมื่อสายไปแล้ว
เจ็บตั้งแต่เด็กจนโต โตยังเจ็บกว่า หัวใจถูกย่ำยี ยอมแลกรักเอาความรู้สึก
ของตัวเองมาแลกและเพื่อวัดใจ แต่สุดท้ายไปไม่รอด ฝิ่นจะช่วยแก้วได้ไหม
หรรือว่าเรื่องนี้คือซีรี่เกาหลียาวๆๆเรื่องหนึ่ง ที่ให้คนอ่านติดตามกันงอมแงม
แต่ต้องบอกเลยคนเขียนเก่งมากๆๆ เพราะยกตัวละครมามากมาย แต่ละคน
มีจุดหมายปลายทางที่ต่างกัน
ความแค้นคือไฟที่เผาตัวเองและทำร้ายคนที่เรารัก
**แก้วคือตัวแปรที่สำคัญสำหรับใครหลายคน เช่น ฝิ่น พงษ์ ดิว และไม้
***ฝิ่นความแค้นทำลายทุกอย่างนะ จงลดความแค้นและทำตามใจตัวเองแล้วชีวิตจะมีความสุข
รักแก้วให้มากๆๆดีกว่าจะไม่มีคนรักเราแล้ว
***พงษ์คือคนที่เคียงข้างแก้วมาตลอด
***ดิวคนที่ต้องการให้แก้วมารักและทำร้ายคนทุกๆคนได้อย่างเลือดเย็น
***ไม้คือคนที่อยากให้ชีวิตผ่านความวุ่นวายนี้ไปได้
***ขวัญคือคนที่ชอบพงษ์และทำร้ายน้องโดยไม่มีเหตุผล
-
แก้ว โดนทุกทีเลย
ทั้งพี่ดี พี่ดิว แม่งชั่วทั้งคู่ พ่อแม่มันคงภูมิใจ
ใครก็ได้รีบมาช่วยแก้วที
แอบสงสารมิวเหมือนกัน
-
เมื่อไหร่คนเขียนจะมาจ๊ะ งุงิงุงิ :z13: คนอ่านจะลงแดงแล้ววว :z3:
แอบหนีลูก หนีอดีตเด็กช่างมาโพสบ้างเต๊อะ :serius2:
ตอนหน้าสงสัยจะยังไม่เจอแก้วกันแหงเลย คงยกพวกไปหาไอ้คุณพี่ขวัญกันหมด
กว่าจะหาแก้วเจอ ไอ้พี่ดิวคงตอดเล็กตอดน้อยแก้วสมใจมัน (ก่อนจะโดนยำตรีน :laugh: )
-
ต..ตามทันซะที :jul1:
ได้มาชมแล้วว่าสนุกมาก 5555555 5
ทำให้เราอินกีับเรื่องมากๆ
ชอบบฝิ่นมาตั้งแต่เริ่มเรื่องแล้วค่า ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบ ชอบผู้ชายแนวนี้ โหดๆแต่ก็อบอุ่น
แต่เกลียดพี่ดิวกับขวัญสุดๆเหอะ!
ชอบเรื่องนี้มากๆ มีหลายอารมณ์สุดๆ บทจะฮาก็ฮาแตก บทจะเศร้าก็เศร้า บทจะดราม่าก็แทบขาดใจ
ว่าแต่พี่ไม้จะได้คู่ใหม่มั้ยหนอ -..- แอบอยากให้คุ่กะพงษ์ (เข้ากันเรอะ - -)
แต่อ่านแล้วอยากเป็นแก้ว มีผู้ชายมารุมเร้า 5555555 แต่ชีวิตก็น่าสงสารนะ T_T เป็นแก้วจริงคงอกแตกตาย
ยิ่งอ่านยิ่งอิน
งันบัทเตะ คุดาไซ!! (สู้ๆ55555)
-
ฝิ่นรีบมาช่วยแก้วไวๆ
เกลียดไอดิว น่าจะตายๆ ไปซ่ะ
(http://sv6.postjung.com/picpost/data/132/132249-17-9005.gif)
-
เฮ้อออ กว่าจะอ่านตามมาทัน ชอบมากกกกกก ว๊ากกกกกกกกกกกกก :-[
-
หลังจากโดนท้วงเลยต้องรีบมาเม้ม 5555
แต่ความจริง
สารภาพเลยนะ :m17:
อ่านตามทัน แต่ดันลืมตอนต้นเลยต้องย้อนกลับไปอ่านอีกที แฮะๆ :m23: แบบจำเนื้อเรื่องได้ ตามอารมณ์ได้ แต่ .......จำชื่อคนบางคนในเรื่องไม่ค่อยได้ จำได้หมดว่าไอ้คนนี้มีนิสัยแบบนี้แต่จำชื่อไม่ได้ อันนี้เป็นความสามารถเฉพาะตัวเป็นไปได้ก็กรุณาอย่าลอกเลียนแบบ แถมไม่ใช่โรคคนแก่ประเภทได้หน้าลืมหลัง (เพราะทุกวันนี้ก็เอามันข้างหลังอยู่ทุกวันล่ะ) เพราะเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว ประเภทจำหน้าได้แต่จำชื่อไม่ค่อยได้ จำภาพได้แต่จำนิคเนมไม่ได้ เพราะงั้นซีซั่นห้ามถือเรื่องนี้เด็ดขาดเลยนะ ไม่งั้นไม่ถือว่ารักกันจริงนะเอ๊า
นอกเรื่องมากล่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า เห็นถามพี่ว่านิยายของซีซั่นเป็นยังไง บอกตรงๆ ว่า ตอนที่คลิกเข้ามาอ่านเรื่องนี้พี่ไม่ได้มองชื่อคนเขียนด้วยซ้ำ (ปรกติทุกเรื่องก็แบบนั้นแหละ) มารู้ก็ตอนที่ไปเอะใจที่ไปเห็นเม้มของซีซั่นในเรื่องสักเรื่องหนึ่ง แล้วก็เอะ? หลงไหลในม่านหมอกเนี่ย ใช่คนเดียวกันกับที่กูเคยอ่านเรื่องของเขาหรือเปล่าหว่า? แล้วใช่คนที่ไปเม้มให้เรื่องของกูหรือเปล่าวะ? 555 เอ๋อ ขนาดนั้นเลยน่ะ ยิ่งแน่ใจจนไปเจอกันในเฟสนี่แหละ เลยอ๋อ ใช่เลย~~~~~~(ความจริงเห็นเม้มของซีซั่นในหลายเรื่องเลยนะ แล้วแต่ละเรื่องก็มักจะเป็นแนวเรื่องเล่าหรือสไตล์ผู้ชายๆ เหมือนๆ กันเลย นี่แสดงว่าสไตล์การอ่านของเราใกล้เคียงกันมากเลยนะเนี่ย) คือปรกติพี่ก็จะไม่ค่อยรู้ว่าใครเป็นนักเขียนในเล้าบ้าง เพราะพี่ก็ไม่ใช่นักเขียนน่ะนะ ไม่ค่อยจะได้ปฏิสัมพันธุ์กับคนเขียนในเรื่องอื่นๆ เท่าไหร่ หรือก็คือถ้าไม่ติดตามจริงๆก็ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนเขียนบ้าง เมื่อก่อนไม่มีเวลาขนาดนั้น แค่เข้ามาอ่านให้หายอยากแล้วก็จากไป จะเม้มให้ใครก็เพราะถูกใจเนื้อเรื่อง หรือตามเรื่องจริงๆ ไม่ใช่ตามนักเขียน แบบถ้าเรื่องนี้หนุกก็อ่านต่อ ไม่ค่อยสนว่าใครจะเป็นคนเขียนเท่าไหร่ จะจำได้ก็คนที่เขามีสไตล์ชัดเจนแล้วเราอ่านบ่อย คือถ้าเขาไม่มาทักเนี่ย บ้างทีก็เอ๋อไปนานเลยแหละ กว่าจะรู้ว่าเขาเป็นนักเขียน แล้ว “เฮ้ย! นักเขียนคนนั้นมาอ่านเรื่องของกูเหรอเนี่ย?!” ก็ผ่านไปเป็นชาติแล้ว อย่างน้องต่ายนั่นแหละ ความรู้สึกช้าเนาะ แต่ไงๆ ก็รู้จนได้แหละนะ 555
เข้าเรื่องอีกรอบดีกว่า เดี๋ยวจะโดนติงว่าพากระทู้ออกนอกโลก
เรื่องนี้! เริ่มล่ะนะ
อะแฮ่ม! ขอพูดถึงแนวของนิยายกับการเขียนก่อนละกันยังไม่พูดถึงเนื้อเรื่อง (เหมือนจะเป็นคนมีภูมิมากเลยนะมึง) แต่บอกก่อนนะว่านี่พูดตาม “ความรู้สึกส่วนตัว” กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านเน้อ
ตอนที่อ่านเรื่องนี้แรกๆ ไม่คิดอะไรเลย กดมาเพราะคำว่าเด็กช่างล้วนๆ ก็คิดว่ามันก็คงจะแมนๆ และหวังว่ามันจะไม่ใช่สไตล์เดิมๆ ที่เน้นมุ่งเสนอแต่เซ็กส์ ความรุนแรง ความหมกมุ่นของตัวละคร และฉากสะเทือนอารมณ์ที่จงใจให้ตัวละครน่าสงสาร ทั้งๆ ที่บางครั้งก็ไม่จำเป็นเลย (ประเภทรุมโทรม ข่มขืน หรือตัวร้ายพระเอกหื่นกะเอากันอย่างเดียว มาโซ ซาดิสต์ ติสแตก (อันนี้ไม่เกี่ยวแค่ปากพาไป) ซึ่งบางครั้งก็ไม่สมเหตุ แถมยังไม่สมผลที่ได้รับด้วย ถ้าเจอพี่จะข้ามฉากแบบนี้ไปเลย รอให้เนื้อเรื่องถึงบทสรุปแล้วค่อยเข้าไปอ่าน)
สิ่งแรกที่พี่สัมผัสได้จากเรื่องนี้คือความเรียวริตี้(ไม่รู้เขียนถูกป่าว แก้ให้ทีนะ ไม่ถนัดทับศัพท์ภาษาปะกิตเลยน่ะ)นั้นก็คือความสมจริงของเรื่องราวและเหตุการณ์ ตอนแรกๆ ก็คิดว่าคนเขียนรู้อะไรละเอียดชัดเจนขนาดนี้ ถ้าไม่ค้นข้อมูลมาแบบสุดๆ ก็ต้องเคยสัมผัสหรือมีคนใกล้ชิดเป็นเด็กช่างบ้างแหละ เพราะขนาดเราเคยมีเพื่อนเป็นเด็กช่างยังไม่รู้ลึกขนาดนี้เลย ซึ่งมันก็จริง แต่จุดสำคัญอยู่ที่ว่าการเสนอ “ความเป็นจริง” ในนิยาย หากเสนอดีก็ดีไป แต่ถ้าเสนอแล้ว “ไม่ถึง” หรือคนอ่านรู้สึกติดขัดในอารมณ์หรือคนที่เขาเคยมีประสบการณ์มาก่อนมาอ่านเจอ มันก็จะได้แค่ “เสมอตัว” ถ้าเป็นคอเหล้าก็ต้องบอกว่า “กับแกล้มน่ากินแต่รสไม่ถึงใจ” ดีไม่ดีจะทำให้โดนติติงและคนอ่านเลิกอ่านไปเลย แต่ซีซั่นเองทำได้ดีตรงจุดนี่นะ อย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่ซีซั่นนำเสนอในเรื่องก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้บิดเบือนมากนัก มันถึงทำให้คนอ่านรู้สึกว่า เออ มันเป็นจริงและน่าเชื่อถือ และนำเสนอออกมาแบบไม่มีชั้นเชิง เรียกว่าไม่ต้องกลั่นกรองอะไรมาก บางอย่างก็บอกแบบทื่อๆ มันเลย แต่เนี่ยแหละที่กินใจ และคนอ่านเขา “เชื่อ” และทำให้อินโดยไม่รู้ตัว มันคือ “ความชัดเจนที่จริงใจ” ที่คนอ่านจะสัมผัสได้ แม้บางอย่างจะตั้งใจให้มีปม แต่ก็เป็นปมที่ไม่สลับซับซ้อนคนอ่านไม่ต้องคิดมาก แค่ เอะ? สงสัย แล้วรอดูต่อไป เพราะแน่ใจว่ายังไงก็ต้องได้รู้ แบบนี้แหละที่ทำให้เรื่องนี้น่าติดตามแบบซึมลึกไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อนดิ้นรนอยากจะรู้มาก แต่มันก็ยังอยากรู้อยู่ดี นี่แหละความรู้สึกตอนอ่าน เหมือนดูละครที่มันก็ฉายไปแล้ว เราลืมไปพักหนึ่งแล้ว แต่พอเขาเอามาฉายซ้ำเราจำไม่ได้บางตอน แต่มันก็ยังอยากดูอีกอยู่ดี เพราะก็ยังอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง เพราะเรื่องของเด็กช่างที่นำเสนอในทำนองนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยมี อยู่ที่ใครจะเอามานำเสนอแบบไหน สไตล์ใครเท่านั้น แต่นี่คือเด็กช่างสไตล์ซีซั่นที่ชัดเจนในตัวเองที่สุด ตบมือให้ตัวเองหน่อย
:m4: :m4: :m4:
มีเรื่องหนึ่งที่พี่ไม่รู้ว่าซีซั่นจะรู้ตัวหรือเปล่าว่า เรื่องนี้แม้ซีซั่นจะนำเสนอในแบบบุคคลที่สาม คือเป็น “คนเล่าเรื่อง” แต่ในความรู้สึกของพี่ตอนอ่านมันก็เหมือนจะยังเป็นการเล่าโดยเจ้าตัวอยู่ดี งงมะ? คือไงล่ะ พี่ไม่แน่ใจว่าซีซั่นจะตั้งใจนำเสนอแบบไหน แต่การเขียนนิยายโดยการที่คนเขียนเป็นบุคคลที่สามมาเล่าเรื่องของตัวละครให้ฟัง ถ้าไม่มีการบรรยายหรือพรรณนาประกอบพอควร มันก็จะไม่ต่างจาก “เรื่องเล่า” เลย ตอนแรกๆ ที่อ่านพี่ยังแยกไม่ค่อยจะออกว่าตกลง “ตัวละครตัวไหนกำลังเล่าเรื่องอยู่” หรือ “ตอนนี้เรากำลังเป็นคนมองเห็นเหตุการณ์อยู่เหมือนกับสายตาของคนเขียน” หรือเปล่า? หรือ “คนเขียนอยากให้เรารู้ คิด และรู้สึก แบบไหน กับตอนนี้กันแน่?” อันนี้ในความรู้สึกนะ เพราะถึงแม้คนที่ซีซั่นตั้งใจเขียนให้เป็นตัวเอกในตอนนั้นๆ หรือเมนของเรื่องในตอนนั้น ถึงได้เขียน “ความคิดและความรู้สึก” ของตัวละครนั้นออกมา แต่บางครั้งที่อ่านพี่ก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นการ “เล่าเรื่องของตัวเอง” ของตัวละครเพียงคนเดียวอยู่ดี พี่ไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าไง แต่ตอนแรกๆ ที่อ่านพี่รู้สึกอย่างงั้นจริงๆ มันเหมือนอ่านเรื่องเล่าจากตัวละครตัวเดียวหรือคนๆ เดียว ถึงแม้จะมีตัวละครหลายตัวก็ตาม ไม่เหมือนนิยายที่ถูกเล่าโดย “บุคคลที่สาม” ไม่ใช่ที่คำพูด ไม่ใช่ที่คำบรรยาย แต่เป็นที่ “ความรู้สึก” น่ะ หรือเพราะพี่ชอบและเคยชินกับการอ่านเรื่องเล่ามาก็ไม่รู้นะ หรือว่าซีซั่นจะเคยชินกับการอ่านหรือเขียนแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า(ขอโทษที่ต้องถาม เพราะถ้าเป็นเรื่องเก่าๆ พี่ก็ลืมไปแล้วล่ะว่าใครเขียนเรื่องไหนบ้าง) แบบมักจะเขียนตัวเองเป็นตัวเอกของเรื่องมาเล่าเรื่อง คือแบบเป็นพระเอกนางเองเสียเองแล้วมาเล่า/ ประเภทแทนตัวเอกของเรื่องเป็น “ผม”หรือ “ฉัน” ไปเองซะเลย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่แปลกที่จะติดมาบ้าง และมันจะเกิดปัญหาเวลามาเขียนเป็นบุคคลที่สามหรือเขียนแบบพรรณนาหรือบรรยาย (ซึ่งพี่ก็เคยรู้ซึ้งถึงความลำบากของมันมาแล้ว เหอๆ เล่นเอาหืดขึ้นคอเหมือนกัน) ซึ่งมันจะทำให้แยกความรู้สึกไม่ค่อยออกว่า “ตอนนี้คนเขียนกำลังเล่าอยู่” หรือ “ตัวละครเป็นคนเล่า” กันแน่? งงปะ? ซึ่งมันจะเป็นมากกับคนเขียนบางคนที่อินกับตัวละครที่ตัวเองเขียนมากจนแยกความเป็นตัวเองกับตัวละครไม่ออก หรือ ใส่ความรู้สึกลงไปในตัวละครนั้นมากๆ จนเขียนจบบทแล้วก็ยังตัดความรู้สึกนั้นไม่ได้ ซึ่งถ้ามันเป็นเรื่องเล่าของตัวเองมันจะไม่แปลก แต่ถ้าเป็นการเล่าโดยที่เราเป็นบุคคลที่สาม การนำเสนอทางด้านของอารมณ์มันก็จะแม่งๆ เหมือนมันกระจายความรู้สึกไม่ทั่วถึงน่ะ เวลาอ่าน ถามว่ารู้ว่าแก้วคิดยังไง ฝิ่นคิดยังไง เข้าใจนะ รู้นะ อินมั้ยก็อิน แต่อารมณ์มันก็จะกั๊กๆ เหมือนจะเศร้าก็ไม่เศร้า จะซึ้งก็ไม่ซึ้งมาก พออ่านจบแล้ว “มันไม่อิ่ม” ในอารมณ์น่ะ (อันนี้ไม่เกี่ยวกับความหื่น เรื่องนั้นต้องพูดกันอีกที 55)
แต่นั้นก็จะเป็นเฉพาะตอนแรกๆ พอตอนหลังๆ มา “ความอิ่มในอารมณ์” ถึงจะเริ่มมา แล้วทำให้รู้สึกว่า อารมณ์ของตัวละครแต่ละตัวถูกนำเสนอออกมาอย่างชัดเจนมากขึ้น ไม่เหมือนตอนแรกๆ ที่อยากบอกว่าตัวละครนี่เศร้าแต่มันก็ไม่ชัดเจน เหมือนจะไม่เศร้าจริง ตัวละครนี่เจ็บแต่ก็เหมือนยังนำเสนอออกมาได้ไม่เจ็บพอเท่าที่ตัวละครรู้สึก (หรือที่ซีซั่นอยากบอกให้รู้) ตอนแรกๆ เลยยังรุ้สึกเฉยๆ เวลาอ่าน ตอนหลังๆ นี่แหละที่เริ่มมีอะไรมา “กระแทกอารมณ์ความรู้สึก” ในการอ่าน ให้ได้ “อิ่ม” บ้าง อันนี้ก็เป็นการพัฒนาที่เป็นไปอย่างนิ่มนวล เรื่อยเอื่อยและเห็นได้ชัดอีกอย่างเลยนะ อะ! ตบมือให้ตัวเองอีกครั้งหนึ่ง :m4: :m4: :m4:
ส่วนเรื่องของคำที่ใช้ ลักษณะการนำเสนอ หรือการดำเนินเรื่องพี่ไม่พูดถึงหรอก เพราะเรื่องพวกนี้มันสไตล์ใครสไตล์มันอยู่แล้ว แล้วแต่ความชอบ ความตั้งใจ ความถนัด และ “ความเป็นตัวเอง” ของใครของมัน นำเสนอในแบบตัวเองนั่นแหละดีที่สุดแล้ว แล้วในความเป็นตัวเองในเรื่องนี้ของซีซั่น ก็ “มีความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ในตัวเองเรียบร้อยแล้ว” ไม่ต้องปรับปรุงมากมาย แค่เขียนไปเรื่อยๆ ก็ดีไปเรื่อยๆ เองนั่นแหละน่า น้องพี่คนนี้เก่งอยู่แล้วแหละเนาะ ป่าวยอนะ แต่ยุส่งเลยแหละ
เอาไว้แค่นี้ก่อน นี้ยังไม่ได้พูดถึงเนื้อเรื่องกะตัวละครที่ชอบเลยนะ ยังยืดขนาดนี้ ถ้าร่วมเนื้อเรื่องไปด้วยคงยืดเป็นทางด่วน 555 พอก่อนดีกว่า เอาไว้จะแวบมาเม้มเนื้อเรื่องอีกที ไปล่ะ แล้วเจอกันในเฟสนะจ๊ะ
ความจริงว่าจะส่งเม้มนี้ทางข้อความส่วนตัว
“แต่กูอยากป่าวประกาศความเก่งของน้องกูมีไรมะ?” 5555 :o10:
พล่ามมาก เดี๋ยวคนไม่มักจี่จะหมั่นไส้
มาตบน้ำคำแล้วก็เปิดตูดจากไป :m7:
หลบสหบาทาเด็กช่างแถวนี้ ไปละ :m32:
พี่ทิว
:bye2: :กอด1: :L2:
-
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง :m31:
-
เกลียดอีพี่ดิวจริงๆเลยอ่ะ น่าสงสารแก้วมากๆอ่ะ
ฝิ่นต้องรีบมาช่วยแก้วนะ
-
ตอบเม้นท์ฉลองหน้า ๑๐๐ (เหรอ?) ข้ออ้างชัดๆ
ไม่คิดว่าจะมาถึงหลักร้อยได้ //ปลาบปลื้ม ขอบคุณที่ช่วยผลักช่วยดันกันนะคะ
หลายคน (มากกว่าหนึ่งเราเรียกว่าหลาย) มาส่องบ่อยๆ แต่คนเขียนไม่ได้กดดันเลยขอบอก ฮ่าๆ
FanJKi สู้ๆเจ้า
jeeu จะทึกทักว่าสั้นก็ไม่ว่ากันนะ ฮ่าๆๆ ขอบคุณจ้า
whipcream รับปากคนอ่านไปแล้วนะว่าจะไม่มีใครตายอีก เบาใจได้ แว๊กก บอกหมดอีกแล้วอะ
aloney สักวันเดี๋ยวก็สุขเองแหละ คนเขียนคิดว่าความสุขเป็นอะไรที่เรียบๆมาก ประการฉะนี้แล ฮ่าๆๆ
Pupay ยาวก็ค้างอย่ามาบอกว่าทั้งสั้นทั้งค้างเลยเหอะ ...นี่แก้ต่างให้ตัวเองแล้วนะ (?)
beery25 ลองเลือกเล่นๆดูสิว่าจะเอาอะไรมาอยู่อันดับหนึ่ง ถ้าเกิดโดนเหมือนฝิ่น
kikumaru พรากผัวพรากเมีย
PBOBP ฮ่าๆๆๆๆๆ
naiin อะไรๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ (ไม่สำนึก)
i love u {knt} พี่ดิวเป็นตัวอย่างของพงษ์นะ พงษ์ไม่ยอมให้พี่ดิวตายง่ายๆหรอกน่า
Nannie สมน้ำหน้าแก้วนัก ฮึ!
Running ขอบคุณจ้า
เฉาก๊วย มาบ่อยจัง ตอนละเม้นก็พอแล้ว รู้ว่าทำให้ค้าง รู้ว่าปล่อยให้รอ แต่ไม่ต้องมาบ่อยก็ได้ กดดันทั้งนั้น ฮ่าๆๆๆ (พอไม่มาก็ตามเขา เอิ๊กกก)
่patsaporn พี่ดิวเนี่ยนะจะไม่ทำอะไรแก้ว หึหึ
cocoaharry พงษ์ผิดตลอด
•PIKACHU• ถ้าไม่อัพเราก็ไม่กล้าเสนอหน้าหรอกค่ะ (เหรอ?)
tuek ไม่รู้ไม่ชี้
LEksUp ... คนเขียนกลิ้งไปกลิ้งมา
BeeRY เหอๆ
Bowbonk กรี๊ดดด อย่าทำร้ายพี่ดิวเยอะสิ เดี๋ยวเค้าสงสารมันนะ
onlypleng คนมีหลายประเภทนี่นา และบางประเภทก็จะไม่เคยมองตัวเองเลย เรื่องอะไรทที่จะให้คนอื่นได้ดีในขณะที่ตัวเองต้องพ่ายแพ้ อุ่ย นี่ก็เม้นท์อิน พอละเดี๋ยวนิยายรั่วไหล อิอิ
malula ฮ่าๆๆ แต่เราชอบพี่ดีนะ เลวดีอะ (ยังไงเนี่ย)
roseen อุ่ย สะดุ้ง ฮ่าๆๆๆ ไม่มีใครดีและเลวไปหมดทุกอย่างหรอกค่ะคุณโรส
Sofa ของมันแน่อยู่แล้ว
ratnalin ก่อนอื่น//ตบๆๆๆ น้องรัตน์ ไปติดเกมอะไรมาห๊ะ ถ้าปังย่าเวอร์ชั่นใหม่มาพี่หายไปบ้างล่ะ เชอะ ส่วนเรื่องลูกมันจะรู้อะไร๊(เสียงสูงๆไปเลยก็ดี) วันๆเอาแต่แย่งแม่เล่นคอมเท่านั้นล่ะ ไม่เคยสนใจหรอกว่าแม่ต้องการเขียนนิยายทุกวินาที ฮือๆ
Acacha เลวมาตั้งแต่เกิดว่างั้น ฮ่าๆ
Karn12 ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง ...แค่ร้องเพลง ไม่มีอะไร จริงจริ๊งงง
bebe งงอีกคนแล้ว แง๊ กลิ้งไปมาอีกรอบ
NiNJA เป็นอะไร หืม? (ไม่รู้ตัว)
Crazily Pretty เห็นใจดิวบ้าง
KanomPhing แก้วสู้ๆ
Satanza321 ทำไมทุกคนอยากเห็นจุดจบพี่ดิวจัง เรื่องยังไม่คลายเลยนะทำไมรีบเกลียดพี่ดิวกันจัง //โอ๋ดิว
maru นั่นสิๆ รู้สึกว่าผูกไว้เยอะนะจะจบแล้วยังแก้ไม่หมดเลย แง๊ๆ
arun do d เวทอะมินิท รอหน่อยๆ
Scream งงอีกคนแล้ว คนเขียนตีลังกากลับหลังดีกว่า
sam3sam ฮ่าๆๆๆ ก็ถ้ารีบๆมันจะลวกๆไง ...เปล่าแก้ตัว (เหรอ?)
สมุนไพร ใจเย็นๆสิตัวเอง พี่ดิวก็มีส่วนดีอยู่นะ (ดีแบบเลวๆ)
anukul จ้า (ไม่ได้สำนึกเลย? ฮ่าๆๆๆ ขำกลบเกลื่อนดีกว่า)
ever-never หืม...อย่าหงุดหงิด คนเขียนกลัวโดนลูกหลง แหะๆ
sirikanda28 ให้ฝิ่นเป็นหม้ายเหรอ ไม่ดีหรอก เดี๋ยวไอ้ฝิ่นเตะคนเขียนเอา
kazhiki ขอบคุณเช่นกันจ๊ะ
•♀NoM!_KunG♀• โอ๋ๆ อย่างอแงสิ เด๊ยะๆ (จะทำอะไรเขาได้ ฮ่าๆๆๆๆ)
~NeMeSiS_PURE~ ถามแก้วรึ แล้วคนอ่านรู้รึเปล่าว่าแก้วรักใครและใครคือความสุขของแก้ว
dandelion ตอนหน้าพี่จะยังไม่เฉลยนะจ๊ะ //แอร๊ยยย โดนตื๊บ
nunamicky อยากมาลงบ่อยๆนะY^Y เดือนหน้าโน่นกว่ากิจวัตรจะกลับมาเป็นปกติ รอเค้าด้วยน๊า
TanyaPuech กอดๆ
shoi_toei ยังไม่มีเวลาต่อเลยง่า
p.spring บ่นพี่ดิวอยู่ดีๆไหงไปหาพี่ไม้จนได้ =*=
northern นิดเดียวเอง
greensoda จะทันไหมน๊า
SoN ^^
ammamooty ฮ่าๆๆๆ เซ้นจ์แรงนี่นา
hahaae จ้า^^ พยายามอยู่
HEROGOLF เย้ๆ คนเขียนมาไม่ทันหน้า ๑๐๐ ง่ะ
mro ขอบคุณนะคะ^^
StillLoveThem มิว รับบทโดยน้องเอง ฮ่าๆๆๆ เอาให้คุ้ม เอิ๊กกก แต่มีลูกกวนตัวมีผะ ...สามีกวนใจ (แย่งเล่นคอมทั้งคู่Y^Y)
LifeTime ใจเย็นๆ
โดดเดี่ยวแต่ไม่ ขอบพระคุณเจ้า ทุกอย่างก็ต้องมีที่มาที่ไป ทุกอย่างก็ต้องมีเหตุมีผล ไม่อย่างนั้นคงเป็นนิยายที่ฉาบฉวย ซึ่ง
เราไม่ชอบ และถ้าทำอย่างนั้น เราคงเขียนออกมาไม่ได้หรอกค่ะ ดูเป็นอะไรที่ไร้คุณค่าไม่น่าเข้ามาอ่านเกินไป ถึงนิยายของเราเป็นนิยายที่ไม่ได้ดีเด่อะไร พล็อตก็เดิมๆซ้ำคล้ายๆกับเรื่องอื่นๆ แต่เราก็เป็นคนอ่านเหมือนกัน เราขอพูดแค่ในส่วนของเรานะคะ สิ่งสำคัญที่ตั้งใจไว้คือจะไม่ดูถูกคนอ่านเด็ดขาด เราเองก็เพิ่งได้คำตอบว่าทำไมเราต้องคิดตามทุกคำพูดของตัวละครเมื่อไม่นานมานี้เองแหละค่ะ คำตอบก็คือ เราอยากเขียนนิยายให้คนอ่านนั่นเอง (เขินว่ะ พูดสร้างภาพทีไรเป็นงี้ทุกที อิอิ)
ลู่เคอOlive♥ ทุกคนทำตัวเองทั้งนั้น
cinqchaozza ขอบคุณค่ะ ^^ ส่วนพี่ไม้ก็... เอาไว้ให้เป็นเรื่องของอนาคตนะคะ คนเขียนเคยคิดมากเรื่องพี่ไม้เหมือนกัน ซึ่งคิดไปคิดมา คำตอบก็คงต้องเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก หุหุ
jimmyFG แอร๊ สงสารพี่ดิวY^Y
moouan ขอบคุณมากเจ้า
nara555 ฮ่าๆๆๆ ตอบในเฟสละนะ ขี้เกียจก๊อปมาวางมันยาวพอๆกับพี่เม้นท์ให้น้องเลย แต่จะพูดเรื่องคนเล่าเรื่องละกัน ตั้งใจว่าจะเขียนเล่าในมุมมองของบุคคลที่สามเล่าผ่านตัวละครตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งรู้ทุกความรู้สึกนึกคิดของเมนที่ยกมาในแต่ละตอน จริงๆน้องไม่เคยอ่านนิยายในลักษณะนี้หรอกค่ะ แต่ก็เอามาเขียนแบบฉบับนี้ ซึ่งมันก็จะออกมาคล้ายๆบุคคลที่หนึ่งเล่าเรื่องตัวเองนั่นแหละ แต่แล้วยังไงล่ะ ถ้าน้องจะเล่าผิดแปลกไปจากแนวการเขียนนิยาย แล้วยังไง ห๊ะ? //โดนพี่เบิ๊ดกะบาล แอร๊ ...อย่างที่พี่บอก นี่มันแบบฉบับของซีซั่น (จริงๆมันมั่วเขียนแนวที่มันอยากอ่านนั่นเอง ฮ่าๆๆๆ)
ขอบพระคุณคุณป้าข้างบ้านมากเจ้าค่ะ //แว๊กก โดนเบิ๊ดอีกรอบ
MAKWAN ทราบแล้วเปลี่ยน แฮ่ๆ
nu-tarn จะช่วยทันเร้อ...
ได้เวลากลับบ้านแล้ว ไอ้เด็กข้างๆถามทุกนาทีเมื่อไหร่จะเสร็จ จะเล่นบ้างT^T ไปละนะ ฮือๆ
ขอบคุณทุกคนมากนะคะ เราไม่มีเวลานั่งพิมพ์เลยจริงๆ งานก็ทั้งราษฎ์ทั้งหลวง แล้วเจอกันเมื่อฉันพร้อม ฮ่าๆๆ บายยยย กอดๆจุ๊บ^^
-
:z13:แถม :z6:
บังอาจว่าพี่คุณป้า สาไม่ธุ ขอให้ดาบนั้นคืนสนองซีซั่นเร็วๆ ความหย่อนคล้อยไม่เคยปรานีใครนะ พี่ซีซั่น
o18
-
:กอด1: :กอด1:
รอได้จ้าาา
แต่จริงนะยาวก็ค้างงง :laugh:
-
:serius2:
คิดถึงเทอแร้วน้าาาาา
-
รออยู่นะคะรีบมาลงได้แล้ว
-
:call: :call: :call: จงมาจงมา
-
หลับไปหลายตื่นยังยัง ไม่มาต่ออีก ป๊าดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :z13: :z13: :z13:
-
รอค่ะ
-
:call: :call: :call:
รออยู่เสมอออออ
-
รอจ้า :call:
-
เฉาก๊วย มาบ่อยจัง ตอนละเม้นก็พอแล้ว รู้ว่าทำให้ค้าง รู้ว่าปล่อยให้รอ แต่ไม่ต้องมาบ่อยก็ได้ กดดันทั้งนั้น ฮ่าๆๆๆ (พอไม่มาก็ตามเขา เอิ๊กกก)
รู้มั้ยว่าความหมายของ "กดดัน" คืออะไร
มันคือ "กด" กระทู้เข้ามาเพื่อ "ดัน" กระทู้ให้ไม่ตกเฟ้ย
ต่อไปจะไม่โผล่แล้ว งอลๆๆๆ (หนีไปซบอกพี่ไม้ดีกว่า :กอด1: )
-
รอด้วยคน
-
แก้วววววววววววววววววววววว ของเจ้ โฮๆๆๆๆๆๆๆๆ
แก้วววววววอยู่ไส
แก้วววววว
กรี๊ด !!!
-
รอ นะ -..-
-
รออยู่นะคะ
เเต่ถ้ามาอีกครั้ง ต้องเขียนเพิ่มยาวพิเศษเลยนะ(เรียกร้องๆๆ)
-
รอด้วยคนครับ คิดถึงแก้ว เป็นห่วงแก้วไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ก็โดนพี่ดิวจับตัวไปนี่นา :sad4:
-
บร๊ะเจ้า
นึกว่าไปตามหาฝัน
นานแล้วน้า
มาต่อมาต่อเร็วๆเลยน้า
ปล. คิดถึงคนแต่งเว่อ :z3:
-
อ่าน 50 ตอนจบ ใน1อาทิตย์
รอต่อนะค่ะ จุดจบของไอ้พี่ดิว อยู่ตรงไหน
-
มาเฝ้ารอนะครับ
-
เข้ามาแต่ไม่อัพตอนใหม่ ชิ!
-
รอมาสักพักแระ รออีกหน่อยจะเป็นไรไป ยังไงก็รอ
-
มาต่อได้แล้วคร้าบบบบ ^^
-
ไมไ่ด้เข้ามาอ่านตั้งนาน
ตั้งแต่หน้า 46 อ่านจนตามทัน
กะดอกไว้จะได้อ่านที่เดียวยาวๆ
คราวนี้ได้ยาวสมใจเงิปๆ
อ่านกันจนเช้าเลยทีเดียว
ตกลงเรื่อง ความลับระหว่างพี่ดิว-พงษ์
คือไรกันแน่ ทำไมพี่ดิวถึงเป็นได้ขนาดนี้
ความรักทำไห้คนตาบอดจริงๆเหะ
ไงก็มาต่อเร้วๆนะ
รอๆ
-
เมื่อไหร่จะมาอัพต่อสักทีอยากอ่านมากๆๆๆๆแล้วนะคะ
-
:z10: :z10: :z10: :z10:
อยากบอกว่านิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ผมรออ่าน
-
ยังไงก้อเข้ามาลุ้นและรออ่านตอนต่อไป
-
สงสัยต้องหาคนช่วยเลี้ยงลูกแล้ว ><
-
มาต่อเถอะคะ ได้โปรดดดด
-
ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ปวดใจ
-
อ๊ากกก ก ยังไม่เข้ามาต่ออีกหรอค้าา า ป่านนี้แก้วถูกทารุณกรรมแล้วเรียบร้อย(เวอร์ไป55+)
ยังไงก็รอเสมอนะค้า าาTT TT
-
เป็นห่วงแก้วแล้วนะคะ
หายไปนาน
พี่ดิวเอาแก้วไปซ่อนไว้ที่ไหน :z10: :z10:
-
ได้โปรดดดดดดดดดด หายไปนานละอะ คิดถึงแก้ววววววว ... ฝิ่นนิดๆ :o8:
-
รอคะ :3123:
-
มาอรตอนต่อไปนะครับ :L2: :L2: :L2:
-
เมื่อไหร่จะมาต่อคร้าบ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๑
“ไปดูบ้านไอ้ดิวแล้วจะรีบตามไป ดูพี่มึงด้วย” ประโยคสุดท้ายก่อนที่มันจะวางสายและถึงคราวที่เขาจะได้พูดสักที
“มึงจะตามคุมกูอีกนานไหม?” มือขวาเปิดลิ้นชักแล้วยัดแว่นตากันแดดของตัวเองที่เก็บได้ระหว่างลานจอดรถกับประตูทางเข้าด้านหลังของโรงแรมเข้าไปเก็บด้วยใจไม่สู้ดี ไอ้คนข้างๆนี่ยิ่งชวนตอกย้ำให้เดือดเข้าไปใหญ่ เขาท้าวพวงมาลัยรถพลางหันไปมองหน้าคนที่นั่งอยู่เบาะข้างที่ทำท่าทางใจเย็นคอยตามตูดต้อยๆไม่เลิก
ของมันแน่ มีแต่เขานี่แหละที่เป็นเดือดเป็นร้อน แยกกันแทนที่จะตามพวกมันไปแต่กลับตามเขาแทน เพื่อ?
“มึงจะไปไหนก็ไป จะทำอะไรก็ทำ แล้วก็ทำเป็นมองไม่เห็นกู”
“เหอะ ตลกละ ตัวโตเท่าควายซะขนาดนี้ แล้วถ้าอยากทำคะแนนควรจะรีบตามตัวเพื่อนกูให้เจอ ไม่ใช่มาทำตัวเป็นภาระ”
“......................” มันยักคิ้วอย่างกับคำพูดของเขาไม่เข้าหู แถมดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดแล้วมองหน้าเขานิ่ง
ก่อนที่จะยื่นมือมากดเปิดวิทยุฟังเพลงอย่างถือวิสาสะอีก
ส้นตีน ... แม่งไม่คิดจะช่วยอะไรแล้วยังเสือกกินแรง
“ได้เรื่องรึยัง” พงษ์กรอกน้ำเสียงดุๆใส่คู่สนทนาที่อยู่ในสาย
“เอ่อ ผมต้องย้อนดูรถเข้า-ออกทุกคันครับคุณพงษ์ ขอเวลาอีกนิดนะครับ” หัวหน้า รปภ.บอกอย่างละล่ำละลักหลังจากได้รับมอบหมายงานเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว
“ก็ถ้าพวกคุณทำงานกันเป็นก็ไม่ต้องมานั่งย้อนดูกะแค่รถเข้าออกโรงแรมหรอก ถ้าลูกชายท่านประธานเป็นอะไรไปพวกคุณจะรับผิดชอบไหวเหรอ สะเพร่ากันจริงๆ”
“คือ รปภ.เวรเห็นว่าเป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกับคุณลูกแก้วครับและเคยมีเพื่อนท่านเล่นกันอย่างนี้เลยไม่ได้สงสัยอะไร”
“แก้ตัว! รีบเช็ครถต้องสงสัยให้ได้เร็วๆแล้วโทรมาบอก อ้อ อย่าลืมรายงานท่านประธานถึงการละเลยในหน้าที่ของพวกคุณด้วย”
กดวางสายด้วยความโมโหแล้วขับรถออกจากโรงแรม เขาไม่อยากเสียสติเพราะไม่รู้ที่มาที่ไปแต่ก็อดโมโหกับท่าทีใจเย็นของไอ้คนข้างๆที่เหมือนจะห่วงไอ้แก้วแต่ก็ไม่ทำอะไรมากกว่าการขัดขาเขามันยิ่งทำให้พาลเข้าไปอีกแถมยังต้องกดโทรศัพท์มือถือหาคนที่อยากเจอ ...คนที่อยู่กับน้องมันเป็นคนสุดท้ายก่อนจะหายตัวไป
“ไหนว่าสนิทกันไงแต่ทำไมเกิดเรื่องอะไรแล้วมึงไม่รู้”
“เหี้ย...”
“อีกหลายเรื่องสิท่า” มันหันข้างมาพร้อมๆกับเขาหันไปหาเลยโดนมันมองเฉียบอย่างจับได้เข้าให้ก่อนที่มันจะเฉไฉหันไปมองทางข้างหน้าอย่างกับเหมือนไม่เคยพูดอะไรแทงใจดำกัน
“เสือกมากไปแล้วมึง”
ไม่เคยสอนให้มีความลับต่อกัน ที่เขามีบ้างก็เพราะมีเหตุผลและเขาสามารถแก้ไขมันได้ แต่ไอ้แก้ว...มันไม่ควรมีความลับต่อเขาเพราะมันไม่สามารถแยกแยะความคิดและการกระทำได้เลยว่าอย่างไหนควรแก้ไขด้วยวิธีใด
เขากลัว...ความคิดมัน
นอกจากเรื่อง๕xที่โดนตามรังควาญแล้วยังมารู้ว่ามีเรื่องกับเด็กในสายอีก ที่ไม่บอกให้รู้เพราะไม่อยากให้เขาเอาคืนสินะ แต่ไม่คิดบ้างเลยว่าคนที่เดือดร้อนน่ะตัวเองทั้งนั้น
มือซ้ายวางแตะพวงมาลัยเพื่อบังคับรถพลางกดเบอร์โทรไอ้ขวัญย้ำๆ มือขวาขยับสมอลทอล์คให้พอเหมาะกับใบหู รอสายนานแล้วนะเว้ย ทำบ้าอะไรอยู่ไม่รับสายวะ!
“อยู่ไหน?”
“...............................”
“เมาเหรอวะ”
“..............................”
“เออ ก็กำลังจะไปหา” พงษ์หันขวับไปมองไอ้คนข้างๆแล้วรีบหันกลับมาดูทาง
“.............................”
“เฮ้อ...เอาเพื่อนมึงมาคุยเลยกูมีธุระด่วน” หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินแต่เสียงมัน อืม...อืม...แล้วก็อืม ในขณะที่เขาก็มองมันและกดโทรศัพท์มือถือออกหาไอ้ขวัญเรื่อยๆแต่ไม่มีคนรับสาย
“ไปxx” อดีตประธานสาย๕xบอกชื่อซอยหนึ่งย่านแหล่งวัยรุ่นในกรุงเทพฯขึ้นมา
“อยากไปก็ไปเองกูไม่ว่างขับรถให้ใคร” ไม่รู้เลยรึไงว่าเขาเป็นห่วงไอ้แก้วขนาดไหน พงษ์ตบไฟเลี้ยวรถเพื่อเข้าจอดข้างทางให้มันลงทันทีพลางเคาะพวงมาลัยรอด้วยแก้ความร้อนใจ
“ไปหาไอ้ขวัญ” มันไม่ยอมลงแต่เอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบ
ห๊ะ?
“ไอ้ขวัญ! อย่าบอกนะเมื่อกี้มึงโทรหา.”
“เออ”
เวร! เขาตบพวงมาลัยรถอย่างหัวเสียพลางมองไม้เขม็งตั้งแต่หัวจรดเท้า ไอ้นี่น่ะเหรอที่ไอ้ขวัญเลือกคบ
กูโทรตั้งนานไม่รับแต่ดันรับสายไอ้นี่น่ะนะ?
“แล้วทำไมมึงไม่ถามว่าไอ้แก้วอยู่ไหน” เขาถามมันด้วยอารมณ์ คนหายทั้งคน แทนที่จะรีบๆช่วยกันหาเบาะแส
“อยากรู้? กูก็บอกให้มึงไปบ้านไอ้ดิว แล้วทำไมมึงไม่ไป” พงษ์มองไม้ตาขวางแล้วรีบเร่งเครื่องยนต์เพื่อออกรถต่อไป
“...ไม่ใช่หรอก” ไอ้พี่ดิวไม่เกี่ยวแน่ๆ ตั้งแต่รู้จักกันมามันเข้าข้างเขาตลอดจะว่าช่วยเหลือกันได้ทุกอย่างก็มันนั่นแหละที่มากกว่าใคร แถมเรื่องนั้น...เขายังทำตามที่รับปากไว้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่มันจะหาเรื่องใส่ตัว ไอ้เหี้ยเป้คงตามมาเอาคืนหลังโดนไอ้แสนเล่นงานกลับต่างหาก แล้วไอ้เป้มันจะพาไอ้แก้วไปที่ไหนได้ ...ป่านนี้ไอ้แสนตามตัวมันเจอรึยังวะ แล้วเขาโทรหาไอ้พี่ดิวสลับกับโทรหาไอ้ขวัญทำไมไม่มีใครรับสายเขาสักคน!
“อย่างพวกมึงนี่บอกไม่ได้เลยจริงๆ ต้องให้เจอเองถึงจะรู้สึก”
.
รถยนต์แล่นเข้าจอดหน้าบ้านหลังใหญ่กลางใจเมืองกรุง พงษ์ไม่แปลกใจเลยถ้าลูกขวัญจะมีเพื่อนอยู่ที่นี่ตามมาตรฐานคนระดับมัน พวกคบแค่เปลือกนอก
พวกเขาถูกแม่บ้านเชิญให้เดินตามขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน เคาะประตูเพียงไม่กี่ที เจ้าของห้องก็มาเปิดให้อย่างทันใจ
ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาเสื้อผ้าหลุดลุ่ยในแบบฟอร์มมหาวิทยาลัยเดียวกับไอ้ขวัญเปิดประตูห้องพร้อมพยักหน้าให้คนที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
ทั้งสองเดินตามเข้าไปในห้องนอนขนาดโอ่อ่ากว้างขวางสมกับฐานะ แต่ไม่มีความสนใจใดๆให้เฟอร์นิเจอร์สุดหรูเหล่านั้นสักนิดเพราะไอ้คนที่นอนหลับสบายอยู่บนเตียงดึงดูดให้พงษ์เดินเข้าไปเขย่าคอเสื้อมันอย่างฉับไว ...ไอ้ลูกขี้อิจฉา
“ไอ้แก้วอยู่ไหน?! มึงเห็นใช่ไหมว่าใครพามันไปถึงได้หลบหน้ากูแบบนี้!”
“กรรม” ไอ้อดีตประธานสายพูดลอยๆมาเข้าหู ก็นี่มันนิสัยไอ้ขวัญจะให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้หรอก ทั้งพนักงาน ทั้ง รปภ.ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไอ้ขวัญอยู่กับน้องมันเป็นคนสุดท้าย อีกหนึ่งต้นทางที่จะตามก็ต้องจากมันนี่แหละที่เขานึกขึ้นได้
“หื๊อ มึงมาหากูเหรอ” ลูกขวัญลุกขึ้นงัวเงียมองหน้าเขาคิ้วขมวดชนกันด้วยความข้องใจ “หึ ไม่ใช่สินะ” ก่อนจะมองเขาเขม็งคล้ายคนโกรธเคืองกันพร้อมน้ำเสียงแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างแล้วหันไปสนใจไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างๆแทน “...เมา”
กลายเป็นพงษ์ที่คิ้วชนกันขึ้นมาทันที อะไร? มองหน้าไอ้ไม้แล้วบอกว่าเมา ทีเขาถามแล้วไม่ตอบ
ลูกขวัญปัดมือพงษ์ให้หลุดจากคอเสื้อแล้วลุกลงจากเตียงนอนเดินโซเซไปหาไอ้ไม้จนมันต้องจับไหล่ไอ้ขวัญไว้ให้ยืนตัวตรง
“เดี๋ยวเปิดอีกห้องให้นะจะได้คุยกันสะดวก” เจ้าของบ้านบอก
“ไม่ต้อง เดี๋ยวจะกลับห้องเลย” เพื่อนไอ้ขวัญมองหน้าเขาสลับกับมองหน้าไอ้ไม้หลังจากโดนปฏิเสธ
“...ตามใจ ฝากด้วยนะไม้”
“อืม”
หืม รู้จักกันด้วย? แต่เขาไม่สนใจความสนิทสนมของพวกมันหรอก พงษ์จับไหล่ขวัญหวังให้มันหันมาคุยกันให้รู้เรื่อง
“ขวัญ!มึงบอกมาเลยนะ...”
“ไปคุยต่อบนรถ”
“เฮอะ!” เขาแค่นเสียงค้านคำสั่งไอ้ไม้พลางกำหมัดแน่นเมื่อมันเดินออกจากห้องไปอย่างไม่รอให้เขาได้คำตอบก่อนโดยมีไอ้ขวัญพยายามยกแขนพาดไหล่ไอ้๕xนั่นเพื่อเป็นหลักยึด “นี่เหรอ การพิสูจน์ว่าจริงใจต่อเพื่อนกู” พงษ์พูดเสียงดังไล่หลังอย่างไม่สนว่าที่นี่มีคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องอยู่ด้วย
ให้โอกาสคนรักกัน... หึ ก็แค่ข้ออ้างสวยหรูเพื่อจะเข้าถึงไอ้แก้ว
ศัตรูก็คือศัตรู เชื่อใจศัตรูก็เหมือนเอามีดมาจี้คอตัวเอง ...รอแค่เวลา ปลิดชีพตัวเองเมื่อสำนึกได้ว่าพลาดก็แค่นั้น แต่ไม่มีวันที่เขาจะทำร้ายตัวเองจากสิ่งที่ผิดพลาด เมื่อรู้ว่าพลาดก็เพียงแค่ตัด! ...บ่อเกิดของความผิดพลาดทิ้งก็แค่นั้น
ไอ้ไม้จับแขนไอ้ขวัญออกจากไหล่ไปจับไว้ มันหยุดเดินแต่ไม่หันกลับมา
“เราเสียเวลามากพอแล้ว” มันตอบกลับมาแล้วหันไปพูดกับไอ้ขวัญ “เดินเอง”
“ฮะๆ โดนทิ้งอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไร กูมีที่ไป ...มีที่ไป” ลูกขวัญเสยผมโงนเงนพูดจาอ้อแอ้และยังพยายามเดินเกาะแขนไอ้อดีตประธาน๕xเพื่อพยุงตัวเองลงไปข้างล่างทิ้งให้พงษ์มองตามด้วยความขุ่นเคือง
ถ้าไม่เสียเวลาไปกับพวก๕xไอ้แก้วก็คงไม่หายไป
ถ้าลองให้๕xได้เจอกับไอ้แก้วอีกครั้ง ลูกแก้ว...อาจมีชีวิตชีวาขึ้นบ้างคงดีกว่าการเสแสร้งแกล้งทำว่าสบายดีที่มันทำให้เขาเห็นเพื่อหลอกตัวเองและหลอกเขาว่ามันไม่เป็นไร
...ใช่ ไม่อยากให้แก้วไปยุ่งเกี่ยวกับคู่อริอีก แต่ก็ทนดูมันเลื่อนลอยไม่ได้ ชีวิตที่แต่งแต้มสีสันให้มันเองกับมือทนไม่ได้หรอกถ้าจะเหลือแต่ความหม่นหมองที่มันพยายามซ่อนเอาไว้
ถึงได้ยอม ถึงได้เสียเวลาไปฟังคำพูดเพ้อเจ้อที่ใครก็พูดให้ดูดีได้จากพวกมัน!
พอที! โอกาสพวกมึงจบแค่นี้พอ!
พงษ์เดินลงบันไดอย่างไวเพื่อแซงลูกขวัญและกระแทกไหล่ไม้ด้วยความตั้งใจ
“เมีย! อึก แฟนมึง...แฟนมึงมาทำอะไรที่โรงแรม”
“ห๊ะ?” พงษ์หันกลับไปมองหน้าขวัญ ไอ้ไม้ก็เช่นเดียวกัน
“กูไม่อยากเจอผู้หญิงคนนี้ ที่ของกู โรงแรมพ่อกู มึงให้มันมายุ่งทำไม”
“มึงพูดให้รู้เรื่องหน่อยสิวะ” เหมือนลูกขวัญกำลังโวยวายมากกว่าต้องการบอกเล่าหรือต้องการคำตอบ
เขารำคาญเพราะมันจับใจความไม่ได้
“กูจำได้ว่ามันเป็นแฟนมึง ไม่เห็นอยากจะเสวนาด้วยเลย ตื้อชะมัด คิดว่าสวยรึไงวะ ชิ”
“มิวเหรอ?” คำถามผุดขึ้นมาในหัวกับประโยคบอกเล่าที่มีท่าทีหมั่นไส้เขาซะมากกว่าเพราะแฟนคนสุดท้ายที่คบที่นี่ก็มีแต่มิว และไอ้ขวัญก็เคยเจอกันมาแล้วโดยบังเอิญ...ที่ม่านรูด
“ก็เออสิ!แล้วไอ้แก้วอยู่ไหน? ฮื่อ มึนหัวว่ะถามกูทำไมเนี่ย”
“ถ่วงเวลาพอรึยัง? ถ้ายังมึงก็คุยกับมันต่อ กูจะไปบ้านไอ้ดิว”
“ไม่ๆพากูไปด้วยๆ” ไอ้ขวัญยังคงพยายามใช้ไอ้ไม้เป็นที่เกาะต่อไป
“กูจะตามมิว”
“ตามมิว? หึ งูเห่านั่นน่ะเหรอ”
“พูดอย่างกับมึงรู้จักแฟนเก่ากู” เขาหันไปทางไอ้ไม้ที่มีท่าทีครุ่นคิดอย่างเห็นได้ชัดจากคำพูดของไอ้ขวัญ
“พวกกูรู้ว่าทำยังไงมึงถึงจะออกมาจากที่ซ่อน” มันมองเขาอย่างกับต้องการย้ำความผิดพลาดที่เคยเกิด “เพราะใคร...มึงนึกออกรึเปล่า”
“ไม่มีทาง!” เขาไม่เคยให้มิวเข้ามาเกี่ยวข้องกับการตีรันฟันแทง ปัญหาของลูกผู้ชายเขาไม่เคยเอามิวเข้ามาร่วมเดือดร้อนด้วย จริงๆก็ไอ้แก้วด้วยที่เขาให้อยู่ข้างหลังเสมอ ยกเว้นครั้งล่าสุดที่โดนหางเลขแบบไม่ทันตั้งตัว แต่เป็นไปไม่ได้ที่อดีตแฟนเขาจะชี้โพรงให้ศัตรู เขามั่นใจว่าคบกับใครแล้วเขาทำหน้าที่แฟนได้อย่างดีที่สุดทุกครั้ง ให้ทุกอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ น้ำใจเขาให้คนที่เขารักทุกคนมากกว่าคำว่าเต็มที่ ไม่มีทางที่จะโดนหักหลังแน่นอน
“เสียเวลาจะมาพูดถึง กูว่าเรารีบไปกันดีกว่า ฝิ่นเอ้ยกูเตือนมึงแล้วว่าอย่าให้มันยุ่มย่าม พลาดจนได้”
“อ้อ นึกออกแล้ว! แฟนมึงก็มาถามหาไอ้แก้วเหมือนกันทั้งที่ไอ้นั่นมันก็ยืนอยู่ข้างหลังกูแท้ๆ ถ้าตาไม่บอดกูว่ายังไงก็เห็น แล้วทำไมต้องถามด้วยวะ ตาก็ไม่บอดนี่หว่า” กำลังก้มหน้าครุ่นคิดก็ต้องเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อไอ้ขวัญโพล่งแทรกขึ้นมาและร่ายยาวเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
บังเอิญที่มิวไปที่นั่น หรือเพราะ...
“แผนไงล่ะ ไปกันเถอะ” ไอ้๕xพูดสิ่งที่เขาคิด
แผน? มิว ไอ้เหี้ยเป้ เพื่ออะไร?
ไอ้เป้น่ะพอรู้สาเหตุบ้างแล้ว แต่มิว ทำทำไม? โกรธอะไรเขามากมายนักเหรอถึงได้ร่วมมือกับไอ้เป้อย่างนี้ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อแล้วใช่ไหมเมื่อไอ้ขวัญมันพูดมาขนาดนี้
“แผนอะไร? ฮือ แล้วไอ้แก้วอยู่ไหนกูง่วงนอนแล้วเนี่ย พงษ์...ฮึ! ไอ้ อะ...ไม้! ไปส่งกูด้วย”
ต่อให้ลูกขวัญไม่เปลี่ยนใจ เขาก็ไม่มีทางเสียเวลาไปส่งมันแน่ ยังดีที่เสียเวลามาหามันแล้วได้ข้อมูลเรื่องมิวบ้างเพราะข้อมูลจากไอ้ขวัญก็เป็นคำตอบได้แล้วว่ามิว...มีส่วนรู้เห็น
มิว...มึงเจอดีแน่!
แต่เขายังคงติดต่อไอ้พี่ดิวเพื่อจะให้ช่วยตามตัวไอ้เป้ไม่ได้ตามเคย มึงเป็นที่พึ่งของกูแล้วตอนนี้มึงหายหัวไปไหนวะดิว ไอ้พวก๕xก็ไม่รู้จะท่าดีทีเหลวรึเปล่าแต่ที่แน่ๆเขาไม่หวังพึ่งพวกมันเลยแม้แต่น้อยพลางควักโทรศัพท์มือถือมารับสายเบอร์ไอ้แสนที่โทรเข้ามาด้วยความหวังว่าจะได้ข่าวคืบหน้าขึ้นมาบ้าง
...............................
จบเท่านี้นะคะ ที่เหลือมิอยู่ในส่วนที่จะบอกได้ รู้นะว่าอยากให้ต่อช่วงไหน ฮ่าๆๆๆ (ใครว่าคนเขียนกวนเบื้องล่าง ห๊ะ? เปล่าซะหน่อย)
ตอนนี้ ซีซั่นต้องการสื่อกับคนอ่านว่า ...นังซีซั่นยังไม่ให้เจอแก้วหรอก แบร่ อิอิ อืม จริงๆก็มีบอกด้วยนะแต่ก็นั่นแหละอยู่ที่ว่าจะจับได้รึเปล่าคนเขียนชอบเล่นซ่อนแอบ ...มุมของพงษ์
ปล.พี่ไม้มิใช่พระเอกนะ ฮ่าๆ
แต่เอ...มีคนนึงที่บทเขาน้อยมากมาย ไม่แน่ใจว่านิสัยคล้ายกับพงษ์รึเปล่า?? (ชี้โพรงอย่างไม่กลัวผลตอบรับใดๆและไม่บอกจุดประสงค์ที่ชี้ด้วยเอ้า)
พื้นที่โฆษณาไว้ตามตัวคนเขียน(ถ้ามันไม่ล่องลอยก็เจอ)นะจ๊ะ
หลงไหลในม่านหมอกเพจเจ้า (http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%81/324322744281783/)
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ขอบคุณที่รอกันนะคะ สัปดาห์หน้าจะไปส่งเจ้าตัวเล็กแล้ว ใกล้ได้เจอกันเหมือนเดิมสักทีนะเรา กอดๆ^^จุ๊บ
ปล๒. มีจุดนะคะ เพื่อความครอบคลุม อย่างที่บอกว่าเขียนแนวนี้มีข้อเสียก็ตรงที่พาเดินดูเรื่องราวทั้งหมดในตอนเดียวไม่ได้ซึ่งคาดว่าตอนนี้คนอ่านอยากรู้แล้วว่าแก้วเป็นยังไง แต่เราก็เอาออกมาทีละพาร์ทได้เท่านี้เอง โซซอรี่ๆ
-
คือเบาะแสอย่างเดียวคือ ยัยมิว...
อืมมม...จะเจอมั้ยเนี้ยยย...กลัวน้องเป็นอะไรไป
ลูกขวัญกับพี่ไม้เนี้ย...มีซัมติงกันจริงจัง..
ไม่เรียกหาพงษ์เลยละ..เอะอะะไรก็ไม้
มันสั้น...แต่ก็ยังดีกว่าไม่มาต่อ...
เก็บเสื่อ กลับบ้านคุณพี่ซีซั่นมาต่อช้า...งอน...
แต่
ก็ยังรอพาร์ทหน้า...ฮ่าๆ
-
สั้นง่าาา :sad4: :sad4:
สั้นไม่เปงไร แต่มาบ่อยๆนะคะ คิดถึงแก้ว :o8: :o8:
-
หายไปนานกลับมาขยันสั้นได้อีก กรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรม :m16: :m16: :m16:
-
เมื่อไหร่จะตามแก้วเจอซะที ป่านนี้จะโดนอะไรไปบ้างก็ไม่รู้
-
เรื่องราวยังกะเขาวงกต พงษ์ก็นะเชื่อใจไอ้พี่ดิวเกิน อย่างนี้ต้องเจอกับตัว
สาธุรีบไปช่วยแ้ก้วไวๆๆ
-
พงษ์ยังคิดจะเชื่อดิวอยู่นั่น
-
พงษ์ เเกอย่าอคติ นักเลย
เหงคนเลวอยู่ข้างหน้ายังจะบอกไม่ใช่อีก
เห้อ!!! :เฮ้อ:
-
พงษ์ไว้วางใจคนมากเกินไป เชื่อใจมากเกินไป :z10:
-
ใช่ๆพงษ์ไว้ใจเชื่อใจไอ้พี่ดิวมากเกินไปจริงๆ
แก้วจะเป็นยังไงบ้างน้าาา
:z3: :z3: :z3:
-
แล้วเมื่อไหร่จะเจอแก้วละเนี่ยนานแล้วนะ
-
แงงงงงงง ยังไม่ทันรู้อะไรเลย
อยากเจอแก้วอ่ะ :sad4:
:pig4:นะคะ :o12:
-
คิดถึงพี่แชมป์!!!! (?) คิดถึงพี่โซ่ คิดถึงพี่ภู (แสนกับโจ้อยู่ในใจ :-[)
แต่คิดถึงพี่ซีซั่นที่สุดเลย
พงษ์จะเชื่อใจอิดิวมากไปแล้วนะเนี้ยยย
-
สรุปว่าคนที่โง่สุดคือพงษ์
ที่ยังคงคิดว่าดิวดีมากเหลือเกิน
แต่ตัวเองต่างหากที่โดนหลอก
ห่วงแก้วมากคะไม่รู้ว่าจะเป็นไงหวังว่าคงไม่ได้รับอันตรายนะ
-
พงษ์ แกมีเขาอยุ่บนหัวรึไง
ตอนส่องกระจกไม่เห็นเหรอ
รีบตามหาแก้วให้เจอนะ
-
ใครจะช่วยแก้วได้ทันเนี่ย
-
D :z3: :z3:
-
โอ้ อุปสรรคมายมาก :pig4:
-
พงษ์หนอพงษ์
ฝิ่นไม่เผ่นไปบ้านดิววะ
อ้อล้อลูกแก้วกับพงษ์ที่หัวหมุนเป็นบ้าอยู่
แก้วจ๋าาาาาาา เป็นไงมั่งหนอ!?
-
พงษ์ ตาสว่างซะที ไอ้พี่ดิวมันเลว
-
^^
-
ถ้าพงศ์เชื่อพี่ฝิ่นซักนิด
ป่านนี้คงหาน้องแก้วเจอแล้ว
รอตอนต่อไปนะคะ
เป็นกำลังใจให้พี่ซีค่ะ
-
โอ๊ะ มานิดเดียวเองงอลลลลลลล!!
ปล...ไม่กลัวด้วย 555++
-
มิว ตายซร๊า า าา า :z6:
พงศ์ ตาสว่างแล้วใช่ไหม ฆ่า มันๆๆๆ (เวอร์ไป = =)
รีบๆมาต่อนะคะ จะรอ
-
อ่านทันถึงตอนปัจจุบันจนได้
ตั้งแต่เริ่มต้นอ่านมา ทั้งเรื่อง ตัวละครทุกคน น่าค้นหาเอามาก
รวมไปถึงสาเหตุที่แท้จริงของเรื่องด้วยว่าที่ว่า แท้จริงแล้วใครกันแน่ที่เป็นคนทำ
แต่เรื่องนี้น่าสงสารแก้วเป็นที่สุด ที่ต้องรับกับบทบาทที่ถูกกระทำตลอด. .......
แม้กระทั่ง หัวใจของตัวเอง ยังต้องตัดใจ
แต่ตอนนี่ต้องตามหาแก้วให้เจอโดยเร็ว ก่อนที่อะไรมันจะสายไปมากกว่านี้
เอาใจช่วยให้ฝิ่น ตามไปช่วยให้ทัน
เพิ่งเข้ามาอ่าน ขอเป็นแฟนคลับด้วยคนนะครับ
-
:serius2: :serius2: :serius2:
-
ตอนแนกนึกว่า อ่าน ผิด ดูอีกที่
v
v
v
มาต่อแล้วจริงๆ ด้วย เย้้้้ๆๆๆ
-
สั้นๆดีกว่าไม่มาเนอะ ^^
ยังไม่เจอแก้วเลยอ่า คิดถึงน้องแก้วแล้วน้า T^T จะเจอกันได้ไงหนอ :serius2:
ขอบคุณค่า
-
มิวโดนพี่ดีลากไป...ซะแล้ว
ก็เหลือแต่ต้องตามหาตัวการซินะ ขอให้ตามเจอด้วยเถิด :m15: พงษ์ ฝิ่นสู้ๆนะ พยายามเข้า
-
:z3: :z3:
ค้าง ค้่างอย่างแรงงงงงง
ไม่ได้รู้อะไรไปมากกว่าแค่มิวมีส่วนเกี่ยวข้อง
ป่านนี้น้องแก้วของพี่ฝิ่นจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย
คลุมเครือกันต่อไปเน้อ
พงษ์ก็ตามน้องแก้วต่อไป
ถ้าความจริงถูกเปิดเผยนี่
เราแอบสงสารพงษ์เหมือนกันนะ
ดูพี่แกให้ใจกับพี่ดิวมาก
แต่หารู้ไม่ว่าอีพี่ดิวมันร้ายกาจ
อยากอ่านตอนต่อเร็วๆ กดดันๆ กดดันเบาๆ 5555
-
รอ เชียร์
ช่วยแก้วด้วย เหล่าฮีโร่ทั้งหลาย55
ยัยมิวโดนบ้างซะก็ดี
อากาศร้อนอย่างงี้ แต่งนิยายต่อดีที่สุดค่ะพี่
รอ รอ รอ
-
:z3: :z3: :z3: :z3:
-
เห็นมั้ยล่ะ อิชะนี นี่ พางานเข้าตลอดตั้งแต่ต้นเรื่อง
-
ตามอ่านทันแล้วววว ;)
ครอบครัว ดี ดิว แม่งเลว ไม่มีความกล้าหาญ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย อย่างที่คนเป็นผู้นำพึงมี
บารมีสร้างขึ้นมาด้วยอะไรอะ ความหน้าตัวเมียสินะ :13223: ...พวกแม่งทั้งสาย
ก็นับถือกันเข้าไป...(รวมทั้งมึงด้วยไอ้พงษ์)..
อิอิ อินจัด :z1: รออ่านตอนต่อไปคราบ ว่าลูกแก้วจะเป็นไงต่อไป ถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า... :เฮ้อ:
-
มานั่งรออีกวันคะ....รีบๆมาต่อน้าาาา♡O(∩_∩)O
-
แก้วเอ๋ยช่างน่าสงสารเหลือเกิน
-
กว่าจะหาแก้วเจอ
ป่านนี้ไม่รู้จะโดนอะไรบ้าง
-
โอ๊ยยยย ป่านนี้แก้วจะเป็นยังไงบ้าง
หวังว่าฝิ่นจะหาเจอและช่วยแก้วทันนะ :sad4:
-
มาช่วนให้ไวเลยนะ คุณฝิ่น อย่าให้มีใครตายอีก :call:
ถ้าจะมีคนตายก็ไอ้ดิวเลย o13
-
รอรอ
-
งงอ่ะ :seng2ped:
-
รีบๆมาต่อนะคับ
-
แง่มๆ มาต่อให้เค้าด้วยจิ๊
-
:z3: รอๆๆๆๆๆ ตอนต่อไปนะค่ะ
-
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
แก้วเอ๋ย ป่านนี้จะเป็นไงบ้างเนี้ย :เฮ้อ:
-
.....................................................................เห้อ
-
คิดถึงแก้ว คิดถึงฝิ่น
จะ 2 เดือนแล้ววว
แก้วจะเป็นยังไงบ้างน้าา
-
รอๆๆ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๑.๒
“ให้มากินยำตีนรอเหรอวะเนี่ย” ไอ้โจ้เสนอความคิดเมื่อเขาหยุดรถจอดตรงข้ามหน้าบ้านไอ้ดิว “พี่”
“หยิบปืนแล้วตามมา”
“ไหวเหรอพี่ฝิ่น ผมว่ารอพวกเราก่อนไม่ดีกว่าเหรอ” มันค้านหน้าเครียด
“กูไม่อยากให้พวกมันรอนาน”
ตัดกันไม่ขาดอย่างที่เข้าใจไปเองสินะ
ถึงพี่ไม้ไม่บอกแต่ที่แรกที่จะตามหาตัวไอ้แก้วก็จากไอ้ดิวอยู่แล้ว
มันโกรธ มันแค้นที่เขาเอาเป้าหมายของมันมาครอบครอง ผลตอบแทนจากการหักหลังที่ไม่ยอมส่งตัวไอ้พงษ์ให้เขาตั้งแต่แรก ของสำคัญหลุดมาอยู่ในมือศัตรูอย่างเขา ความรู้สึกเมื่อของรักของตัวเองกลายเป็นของรักของคนอื่น
อยู่ไม่สุข ทุรนทุราย เหมือนคนใกล้ตายไปเลยยิ่งดี
นั่น...คือความสำเร็จที่ตั้งใจตอบแทนให้คนที่ยืนอยู่คนละฝั่งให้ได้สำนึกในการกระทำของตัวมัน
เจ็บตัวหรือจะสู้เจ็บใจ!
แต่ไอ้ดิวไม่เคยระคายเลยสักอย่างหนำซ้ำยังตบตาว่าตัดขาดกับไอ้แก้วได้แล้วอีก
...คาดไม่ถึงเลยจริงๆว่าจะโดนมันย้อนรอยเข้าให้
ของรักมึง แต่วันนี้มันของรักกู กูไม่ยอมให้มึงทำตามอำเภอใจได้หรอก จะเอาคืนอีกกี่แผลก็ไม่ว่ากัน แต่ตัวประกันต้องไม่ใช่คนนี้!
ฝิ่นคว้าปืนสั้นจากมือโจ้ที่มันหยิบออกมาจากคอนโซลหน้ารถแต่ยังมีท่าทีลังเลมาเก็บไว้ที่กระเป๋ากางเกงตัวเอง ก็ในเมื่อไอ้พวกข้างในบ้านนั่นพร้อมแล้วจะต้องให้พวกมันเสียเวลารออีกทำไม
“ใครเลวใส่กู กูตอบแทนให้ไม่อั้น”
“ผมรู้ แต่พี่ใจเย็นก่อนนะ”
“...ไม่!” ตอบรุ่นน้องแล้วเปิดประตูรถออกไปอย่างทันใจเพื่อไอ้โจ้จะได้ไม่ต้องมีเวลากังวลอีก จุดหมายมีอยู่แล้วแต่ทางเลือกมีไม่มากนักหรอก ฝิ่นก้าวเท้าไปหยุดที่หน้าประตูรั้ว สอดส่องสถานการณ์ภายในที่เด็กช่างกลุ่มใหญ่ต่างพากันลุกฮือมาเรียงหน้ากระดานเพราะรอต้อนรับแขกคนนี้อยู่แล้ว หึ กลัวมากเลยล่ะ
“ไปบอกไอ้ดิวว่ากูมาแล้ว” คนข้างในมองมาอย่างหยั่งเชิงก่อนตอบ
“ไอ้ดิวไม่อยู่”
“ไม่อยู่?”
“พวกมึงมีอะไรถึงบ้านเพื่อนกูเชียว” มันยืนประจันหน้าถาม น่าจะรู้ว่าเขามาทำไมมากกว่าไม่รู้?
“ไม่ใช่ว่ากำลังซ่อนอะไรไว้หรอกนะ”
“อะไรของมึง”
“เอ่อ พี่ฝิ่นใจเย็นนะ แล้วพวกมึงมาทำอะไรที่นี่ถ้าไอ้ดิวไม่อยู่” ไอ้โจ้ถามในสิ่งที่เขาสงสัย คิดว่ามันส่งคนมาขวางทางเขาซะอีก
“เหอะ เรื่องอะไรที่พวกมึงต้องรู้ด้วยวะ ไม่มีธุระก็ไสหัวไปได้แล้ว เสียเวลาพวกกู”
“เปิดประตู” ด้วยสัญชาตญาณที่รู้สึกเหมือนกับว่าพวกนี้ปิดอะไรไว้อยู่ จะให้เชื่อว่าไอ้แก้วไม่ได้อยู่ที่นี่ง่ายๆอย่างนั้นเหรอ หลักฐานล่ะ แค่ยืนอยู่หน้าบ้านมันทำให้เขาถอยกลับไม่ได้หรอก
“อย่ามากร่างแถวนี้”
ควับ!!
“ถิ่นใครกูไม่สน ถ้า กู จะ เข้า กู ต้อง ได้ เข้า” เขาชักปืนขึ้นจ่อหน้าคนฝั่งตรงข้ามเอ่ยเน้นความต้องการทั้งเบนองศาปืนไปให้ครบทุกคน
“เหอะ เข้าข้างในกันเถอะว่ะ” แต่พวกนั้นไม่ยี่หระกลับแสยะยิ้มพลางยักไหล่แล้วหันหลังให้เขาเดินเข้าไปข้างใน
“พี่ฝิ่นเอาไงดีขืนเราช้ามีหวังตามไม่เจอแน่”
ปัง!!!
“เวรเอ้ย!”
“เดินอีกก้าวกูส่องหัวคนแน่” ฝิ่นขู่ตามหลัง หลังจากพวกมันสะดุ้งจนหยุดเดินเพราะเขาลั่นไกปืนลงพื้น “คิดว่ากูไม่กล้าก็ได้นะ ปืนกูมีใบอนุญาต กูพวกน้อยกว่า กูป้องกันตัว”
“นั่นไงพี่กู”
“ไอ้ฝิ่น!”
“ก็รู้จักกูนี่” เขาเก็บปืนเข้ากระเป๋าเมื่อไอ้คนนั้นหันกลับมาหน้าซีดใส่ แน่นอนพวกนั้นมีอาวุธแน่ แต่คนจริงที่กล้าแลกไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนพวกนี้
“ที่นี่ไม่มีไอ้ดิว มันไปไหนไม่รู้ พวกกูแค่มากินเหล้าบ้านไอ้ดี”
“แต่เพื่อความแน่ใจของพวกกู” ไอ้โจ้ย้ำบอกในขณะที่พวกมันก็ย้ำบอกเหมือนกัน
“มึงเข้าไปถามไอ้ดีว่าให้มันเข้าไหม” คู่อริสั่งคนข้าง ๆ
“ไม่ต้อง กูไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น”
“.......................”
“คนของกูหาย”
มันคิดไม่กี่วินาทีหลังได้ฟังเหตุผลจากเขา
“...ก็ได้ ๆ ” ในเมื่อไอ้คนนี้มันรู้จักเขาก็น่าจะรู้ว่าเขาเอาจริง ประตูเล็กถูกหนึ่งในพวกเปิดออกให้ด้วยสีหน้าของคนข้างในที่แต่ละคนที่ต่างไม่มีใครยินดีให้เขาเข้าไปสักคน
ไม่ได้ใจเย็นขนาดจะค้นทั้งบ้าน แต่มันน่าแปลกที่มีศิษย์เก่าศิษย์ใหม่๓Tเฝ้าอยู่หน้าบ้านในวันที่มีเรื่องไม่ชอบมาพากลอย่างวันนี้
.
“ไม่! ไม่!”
“จะเล่นตัวทำไมทำอย่างกับมึงเป็นสาวบริสุทธิ์นักล่ะ”
“ฮือ ๆ พี่ดี อย่าทำอะไรมิวเลย ตอนนี้มิวมีแฟนแล้ว ปล่อยมิวเถอะพี่ดี”
“หึ งั้นเดี๋ยวพี่สอนลีลามัดใจผัวใหม่ให้นะน้องมิว จะได้ไม่โดนทิ้งอีกไง”
“ฮือออ พี่ดีขอร้องนะมิวผิดไปแล้วมิวขอโทษมิวจะไม่พูดอย่างนั้นอีกมิวขอโทษ”
“ช้าไปแล้วล่ะมิวจ๋า พี่อยากชิมเราตั้งแต่ตอนเป็นเมียไอ้ดิวแล้ว”
“ฮึก ๆ ฮือ ผิดไปแล้วอย่าทำมิว อย่า!”
ปึง ๆ ๆ ๆ
“ดี! มึงทำอะไรวะ”
“จิ๊ พวกมึงมีเหี้ยอะไรวะเนี่ย”
ปึง ๆ ๆ
“เปิดประตูก่อน ไอ้ดี”
“มีอะไร?!” คนข้างในเปิดประตูออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดแต่ต้องชะงักค้างเมื่อเห็นแขกไม่ได้รับเชิญเข้า
“อ้าว ไอ้มิวเองเหรอกูนึกว่าใครที่ไหน” ๓T
“ฮือ ๆ ไม่เอา ๆ ช่วยด้วย อ๊ะ! พี่ฝิ่น! พี่ฝิ่นช่วย...”
“เงียบ” ทันทีที่หน้ามิวโผล่ออกมาไอ้ดีก็รวบมิวไว้และใช้มือปิดปากเธอ “มึงมีอะไร?” ก่อนที่จะถามเขา
“นั่น กูรู้จัก”
“แล้วไง?”
“เฮ้ยดีกูว่า...” คนต่างสายมองดูสถานการณ์แล้วคงพอมองอะไรออกบ้าง แต่ถูกได้ดีขัดความคิด
“มึงหุบปากไปเลย กูให้มาแดกเหล้ารอเล่นงานไอ้เหี้ยนี่แต่เสือกพามันขึ้นมาถึงห้องกู แม่งโง่กันทั้งฝูง” ไอ้ดีต่อว่าคนที่พาเขาเข้ามาถึงชั้นสองของบ้าน
“นี่พี่ดี...”
“เด็กอยู่ส่วนเด็ก หรืออยากลองดีกับกู” แล้วหันไปชี้หน้าขู่คนของมันอีกคน
ฝิ่นมองไปทั่วชั้นสองของบ้านไม่ต่างจากชั้นล่างที่เพิ่งผ่านขึ้นมา
ไร้วี่แววบุคคลอื่น แม้แต่ไอ้ดิวก็ไม่เห็นเงา แต่มันเตรียมคนตั้งท่าไว้รออยู่แล้ว หรือว่า...
“เราหลงทางรึเปล่าพี่” ไอ้โจ้สะกิดแขนเอ่ยถาม
กูก็คิดเหมือนมึงโจ้ คาดว่าโดนพวกมันถ่วงเวลาเข้าแล้วล่ะ
ฝิ่นมองใบหน้าที่ลอยไปลอยมาอย่างกวนเบื้องล่างของไอ้ดีแล้วมองมิวที่โดนมือมันปิดปากไว้แต่เจ้าหล่อนส่ายหน้าทั้งน้ำตา
ไม่เต็มใจแล้วมาที่นี่ทำไม
เขาสูดลมหายใจเข้าเพื่อให้อารมณ์เย็น มิวเหมือนไม่เต็มใจแต่นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ที่ทำให้มาที่นี่ เรื่องสำคัญกว่ายังคงหาทางเดินต่อไม่เจอเลย
“ไอ้แก้วอยู่ไหน?”
“อยู่ไหน? หึ ถามกูทำไม กูเป็นผัวมันรึไง” สุดจะทน! ฝิ่นกระชากคอเสื้อมันเข้าหาตัวแล้วยกหมัดขึ้นหมายจะต่อยให้มันปากแตกแต่โดนคนของมันจับแขนเขาไว้ก่อน
“พี่ฝิ่น ๆ พี่อ้นโทรมา” เขาจำต้องผลักหน้าอกไอ้ดีให้ออกห่างจากตัวและมิวก็พลอยหลุดออกจากวงแขนมันพร้อม ๆ กันทำให้ไอ้โจ้กระชากแขนมิวดึงมาทางตัวเองโดยที่เขาไม่ได้สั่ง
รับโทรศัพท์มือถือมาถือไว้แล้วสั่งห้ามไอ้ดียุ่งกับไอ้โจ้ทางสายตา ไม่คิดว่าจะรอดจากตีนพวก๓Tที่เยอะกว่าหรอก แต่มาที่นี่ไม่ได้มาตี มาเพื่อค้นหาคน รอดมาถึงนาทีนี้ได้ต้องยอมรับใจไอ้พวกที่อยู่ตรงนี้เหมือนกัน
ยกเว้นไอ้เหี้ยดี
“รปภ.ที่โรงแรมบอกว่าน่าจะเป็นกระบะคันสีขาวน่าสงสัยที่สุด แม่งระบบรักษาความปลอดภัยแม่งเหี้ยจริง ๆ กว่าจะระบุมาได้กูต้องนั่งรีดูแล้วรีดูอีกสิบกว่ารอบ เออ ไอ้รถคันนั้นน่ะ กูสั่งเด็กตามทุกเส้นทางแล้วปรากฏว่าไปเจอจอดทิ้งไว้ที่ตลาดรังสิต แล้วรถใครมึงรู้ไหม?”
“รถใคร?” ฝิ่นถาม หันไปมองหน้าไอ้ดี
“รถเช่า”
“เหี้ย”
“เฮ้อ ฝิ่นกูไม่รู้จะตามยังไงแล้วว่ะ” ปลายสายพูดต่อด้วยน้ำเสียงของคนท้อ มันเหนื่อยกับแต่ละงานที่ให้ทำ เขารู้ ไม่ต่างจากเขาหรอก ขนาดแน่ใจว่าไอ้ดิวมีส่วน แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงในเมื่อหาตัวไอ้ดิวไม่เจอเหมือนกัน
“อ้น...”
“แต่เดี๋ยวกูจะไปถามคนแถวนี้ดูก่อนเผื่อเห็นใครมีพิรุธผ่านมาบ้าง แล้วนี่มึงอยู่ไหน”
“กู...” สะอึกกับน้ำใจของมันอีกคน ทุกทางจริงๆสินะที่มึงจะช่วยกู “อยู่บ้านไอ้ดิว”
“ได้เรื่องไหม?”
“ใกล้ได้เลือดละ” กัดฟันตอบเพื่อนพลางเหล่ตามองหน้าไม่รู้ไม่ชี้ของไอ้ดี
“เออ ๆ กูรอที่นี่นะ จะทำอะไรส่งข่าวกูด้วย”
“เดี๋ยวกูรีบไป” ส่งโทรศัพท์มือถือคืนไอ้โจ้ด้วยความตื้อตัน เบาะแส มีเหรอ เหอะ แทบไม่มีมากกว่า
...แต่ขอบใจว่ะอ้น มองอะไรไม่เห็น แต่กูจนหนทางไม่ได้
กริ๊ก! เขาหยิบปืนออกจากกระเป๋ากางเกงขึ้นจ่อหน้าไอ้ดีพร้อมกับขึ้นไกรอ
“น้องมึงอยู่ไหน?”
“หึ กูก็ไม่คิดว่ามึงจะโง่ขนาดมาถามจากปากกูเองนะ” กูไม่ได้ตั้งใจมาถามจากใครอยู่แล้วแต่ในเมื่อมาไม่เจอตัวก็มีแค่พี่อย่างมึงเท่านั้นที่จะต้องให้อะไรกูบ้าง
“ถ้ามากกว่านี้กูไม่ไว้หน้าแล้วนะ” คนของ๓Tพูดขึ้นมา
ไม่ไว้ก็ไม่ไว้สิวะ ไอ้แก้วอยู่ไหนใครตอบเขาได้บ้าง! ไม่มีเลย ไม่มีใคร! ถ้าเดินเข้ามาบ้านนี้แล้วโดนพวกมึงยำตีนแต่ได้เบาะแสของไอ้แก้ว พวกมึงก็อย่าไว้หน้ากะแค่กูเป็นพี่ใหญ่ของ๕xเลยเถอะ
“พี่ฝิ่นไม่มีใครรู้หรอก” มิวพูดขัด ทำให้ใบหน้าระรื่นของไอ้ดียิ่งผยองขึ้นไปอีก
“ไม่บอกก็ได้ มึงรอเก็บศพไอ้ดิวได้เลย” เสียเวลามาก เสียเวลาตั้งแต่ทำใจเพื่อให้อภัยไอ้พงษ์ให้ได้แล้ว ถ้าใจไม่ยึดติด เรื่องวันนี้ก็คงไม่เกิด เพราะเวลาที่เขาจะยุติกับไอ้พงษ์ ควรเป็นเวลาที่เขากับไอ้แก้วเปิดใจให้กัน ไม่ใช่เวลาที่ไอ้ดิวมาลอบกัดเขาอย่างนี้
“พี่ฝิ่นเดี๋ยวผมขับให้เองนะ”
“ไม่ต้อง”
“นะพี่ เชื่อใจผมเถอะ”
โจ้มันคงเห็นอารมณ์ร้อนๆของเขาเลยอาสาขับรถให้เอง แต่เขากลัวไม่ทันใจ
“ไอ้อ้นรอที่รังสิต” โยนกุญแจรถให้มันอย่างจำยอมเพราะไม่ค่อยไว้ใจตัวเองเหมือนกัน ไม่รู้จะตามไอ้แก้วเจอก่อนหรือตัวเองจะต้องไปนอนรอฟังข่าวที่โรงพยาบาลก่อน
“พี่ฝิ่น”
“มิวเดี๋ยวพี่ไปส่งหน้าปากซอยแล้วต่อแท็กซี่กลับเองนะพี่รีบ” บอกหญิงสาวพลางเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ
“พี่ฝิ่น มิว...”
“มีอะไร?” ข้องใจกับน้ำเสียงสั่นเครือของอดีตแฟนเพื่อนจึงหันไปคุยกับมิวที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“พี่ฝิ่น...มิวคบกับพี่ดิวก่อนที่จะคบกับพี่เป้ง”
.......................................
เรื่องส่วนตัวไม่ยุ่งแล้วค่ะ แต่งานยุ่งมากมายไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรจะมะรุมมะตุ้มขนาดนั้น
และตอนล่าสุดนี้ถ้าค้างก็ขอติดไว้ก่อนนะคะ เพราะมันจะไคลแม็กซ์แล้ว เอิ๊กกกก แต่คงพอมองอะไรออกอีกบ้างแล้ว
แก้ตัว...อาจจะเห็นว่านิยายบางตอนที่อัพทำไมไม่ได้เห็นอะไรเพิ่มขึ้นเลยจะยื้อเวลาทำไม ตัวซีซั่นเองเลยมาแก้ต่างให้ตัวเองว่า เพราะบางตอนไม่ได้ต้องการจะไขอะไร แต่ต้องการเติมเต็มอะไรบางอย่างเท่านั้นก็เป็นได้ค่ะ อิอิ ส่วนเรื่องยื้อ...ไม่มีในนิยายเรื่องนี้แน่ค่ะเพราะคนเขียนอยากจบเต็มที่แล้ว-*- อยากกลับไปเกลานิยายใหม่ให้เต็มกว่าเดิมแล้วอะ
ช่วงนี้คงได้สัปดาห์ละตอนเท่านั้นนะคะ (ต้องทำให้ได้ ฮึ๊บ!!) //เร่งปั่นตอนต่อไปให้ทัน
อ้อ ตอนหน้าแก้วก็ยังไม่มานะคะ (บอกเพื่อ?)
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นค่ะ กอดๆจุ๊บ^^
ปล.คุณเฉาก๊วย ดีกันๆ //เกี่ยวก้อยหมับ ๆ
-
แอร๊ยยยย...มาต่อแล้ววว...อ๊ากกกก...
ไม่ได้ฝันใช่มั้ยคะพี่ซีซั่น....
แ_'งพี่ฝิ่นยังตามเมียไม่เจอ...ลุ้นๆด้วยทุกวินาที
มาที่บ้านไอ่พี่ดิวก็แล้ว...ไอ่(เอี้ย)พี่ดี...กำลังจะปล้ำยัยมิว
แต่ยัยมิวบอกเรื่องคบกับดิวทำมั้ย...งื้อออออ...
มาต่อ...มาต่อเร็วๆนะคะ...ไม่ได้เร่ง...แต่ค้างเว่อร์ๆๆ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ......คิดถึงๆ
-
ฮือออออออออ อัพแล้ววว
ฝิ่นหาแก้วให้เจอนะ !!!
-
แก้วจะเป็นยังไงเนี่ย
-
เมื่อไหร่จะหาแก้วเจอ :z3:
-
แก้วจัเป็นไงบ้างเนี่ย....ขัดจิตๆ :z3:
-
ดีค่ะ อย่าพึ่งให้เจอเลย แกล้งให้ฝิ่นทรมานเล่น ๆ (กัดฟันพูดหรอกนะ)
-
เกลียดมิวหว่ะ นังงูพิษจริงๆ
อินกหลายหัว :z6:
-
แก้ว อยู่ไหน???
:o12: รีบตามหาแก้วให้เจอนะ
นังมิวแกควรจะพูดความจริงได้แล้ว
-
อ๊าก กก ในที่สุด ในที่สุดก็ได้อ่าน :o12:
ใกล้ถึงเวลาแห่งความจริงแล้ว!
รอๆตามๆลุ่นๆค่ะ
-
มาแล้วววววววววว
นั่นไง!! อิมิวตัวดี ต้นเรื่องทุกอย่าง หึ :beat:
คิดถึงแก้วจัง :sad4:
ฝิ่นรีบๆมาช่วยแก้วนะ
:pig4:นะคะ มาต่อแล้ว อิอิ
-
คือไม่ขอพูดอะไรนอกจาก เกลียด อีมิวชอคกะรีแท้ๆ
รอๆนะค๊าฟ ยังไงก้อรอ!!
-
ใกล้แล้ว :z10:
-
อรั๊ยยยยยย อัพแล้ว :mc4:
และแล้วความจริงก็ปรากฏ มายก๊อดมิวจ๋า ทั้งดิว ทั้งเป้ง ทั้งพงษ์ เลยเหรอ น่าอิจฉาเกินไปแล้ว!!! เอ๊ย ไม่ใช่สิ :z6: เฮ่อ ถึงเธอจะเป็นคนอย่างนี้ แต่ก็ดีใจที่มิวไม่โดนไอ้พี่ดี....ล่ะนะ
คิดถึงแก้วอ่าาาาาาา ตอนหน้าก็ไม่มีหรอ T^T เอาไว้จะกลับมาอ่านตอนแก้วมาแล้วกันนะ 555 (/โดนเจ๊ซีโบก :beat:)
:pig4: :กอด1: รออยู่น้าๆๆๆๆ
-
มาต่ออีกหน่อยสิ
กำลังได้ที่เลย
:z3: :z3: :z3:
-
นานซะคิดว่าทิ้งทวนทิ้งสมอถาวรซะแล้ว
-
ยังรบกันต่อไป
-
มิวแม่งงง :beat: :beat: :beat:
รีบหาแก้วให้เจอนะฝิ่นน
:m31: :m31: :m31:
-
มืดมนอย่างมาก ฝิ่นจะหาแก้วเจอมั้ยเนี่ย
อิพี่ดิวอย่าทำอะไรแก้วนะ...
มิว มิ้ว มิว หล่อนนี่ผู้ชายเยอะนะยะ
อยากอ่านต่อค่ะ
ขอบคุึณค่ะ
-
อ่านตามทันแล้ว กำลังตื่นเต้นเลย
แม้ไม่เต็มใจช่วยก็ได้ช่วยละนะ มิวหวังว่าจะตอบแทนในส่วนนี้ได้
เอาใจช่วยทุกฝ่ายให้ตามหาแก้วเจอเร็วๆ :m15:
ตอนนี้คนร้ายลึกที่สุดกำลังเปิดเผยตัว
หวังว่าพงษ์คงจะเอาเหตุการณ์ต่างๆมาประมวลได้เหมือนนะว่าใคร
สุดท้ายขอบคุณคนเขียน สำหรับนิยายสนุกๆ น่าติดตามค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ :pig4: o13 :L2:
-
โธ่....ยังหาน้องแก้วไม่เจออีกเหรอ~~
เค้าคิดถึงน้องอ่ะ งอแง
เอาใจช่วยพี่ฝิ่น ให้ตามน้องแก้วเจอเร็วๆนะคะ
-
ต่อๆๆๆๆ
ค้างงงงงงงงงงงง
-
ใกล้ได้ความจริงแล้ว
ลุ้น
-
ตามหาตัวแก้วกันต่อไป...T_T
-
โอ้ยยยย บีบจิตมาสามตอนแล้ว
แก้วก็ไม่รู้เป็นไงมั่ง
ดิว-ดี เลวทั้งพี่ทั้งน้อง
ฝิ่นเอาคืนให้สาสมเลยนะ
แต่ก่อนอื่นตามหาแก้วให้เจอก่อน
ภาวนาอย่าให้แก้วเป็นอะไรเลย
ขอให้ฝิ่นไปช่วยแก้วจากคนชั่วๆ อย่างใอ้ดิวทัน
:call: :call:
อยากให้รวมเล่มอ่าค่ะ
จะมีโอกาสไหมหนอ
-
ในที่สุดก็ได้อ่านนนนนน
แต่ปล่อยค้างงงงงงงง แง้ !!!
-
อีมิว...ไม่อยากใช้คำนี้ แรดมาก นี่คงเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมด
หาลูกแก้วให้เจอนะ เค้าไม่อยากดราม่าอะ :z3:
-
เครียดโว๊ย ป่านนี้แล้วยังไม่เจอแก้วอีก
-
เครียดโว๊ย ป่านนี้แล้วยังไม่เจอแก้วอีก
-
โอ้ย :m31: ใครก็ได้ช่วยหาแก้วให้เจอสักทีเถอะ :เฮ้อ:
-
:เฮ้อ:
เหมือนจะยังไม่คืบหน้า
-
แมร่งเลวได้ใจจริงๆอีมิว
-
แต่น้องว่ากำลังดีนะคะ ถ้าเราเร่งไปก็จะทำให้นิยายขาดรสชาติ ค่อยๆไป แต่ไม่ช้าเกิน ^^
-
โอ้ยยย สะใจ
เอาให้ฝิ่นมันดิ้นตายไปเลยยยย
อกจะแตกแล้วมั๊งนั่นน สมน้ำหน้า !!
กว่าจะรู้ตัวว่าเขาสำคัญ พอคิดจะแสดงออกทั้งทีก็ต้องให้หลั่งเลือดก่อน
โอ้ยย ยิ่งอ่านยิ่งมัน คึคึคึ รออ่านตอนต่อไปน่อ
ปล. หายไปนานอ๊ะ คิดถึง กอดเจ้าค่ะ : )
-
สุดท้ายฝิ่นก็ยังตามหาเมียไม่เจอ
แถมตอนนี้ไม่มีแสนนน
ดีใจที่มาต่อสักทีคิดถึงพี่ไม้อ่ะ :กอด1:
-
โถ่....มิว......
เมื่อไรจะเจอแก้วน๊า...
-
อยากอ่านต่อว่าจะทันช่วยแก้วมั้ยอ่ะ
-
ไว้อาลัยให้แก้ว :เฮ้อ:
-
ดิวพาแก้วไปไหนกันแน่ ดิวจะทำอะไรแก้วไหม แล้วถ้าดิวทำ ฝิ่นจะทนไหวไหมนั่น ฝิ่นใจเย็น ๆ นะ พงษ์เมื่อไรจะรู้สักทีว่าดิวไม่ใช่คนที่ควรไว้ใจ
-
ใจจะขาดแล้ววววเอย :a5:
คิดถึงนู๋แก้วววว :z3:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: รีบมาต่อนะครับ รออ่านนานแล้วนะครับ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
ฝิ่นพยายามเข้า o13
เอ่อ มิว จะสื่ออะไร ทำไมต้องทิ้งให้ค้างอย่างนี้ :sad4:
-
หายไปนานเลย เป็นห่วงแก้วนะเนี่ย หุหุ
-
อยากอ่านต่ออออออออ T^T
-
อ๊ากกก
:z3: :z3: :z3:
มันค้างมากเลยอ่าาา
ใกล้จะไคลแม็กแล้ว ก็มาเร็ว ๆ ดิ๊
คนอ่านจะรอไม่ไหวแล้วน้าาา
:serius2: :serius2:
-
พี่ค่ะ ทำหนังสือรวมเล่มมั้ยอ่ะ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๑.๓
“รอข้างนอกนี่แหละ อย่าเข้าไปเลย”
“ทำไมต้องห้าม นี่มันบ้านเพื่อนกูนะ”
“ก็ใช่ไงถึงไม่อยากให้เข้าไป เดี๋ยวก็ไปโวยไอ้แชมป์อีก”
“ไม่ ๆ กูบอกไอ้แชมป์จัดการให้ได้ บางทีเราอาจไม่ต้องเมื่อยปากเลยก็ได้”
“ไม่ได้ รักไม่เข้าใจหรอกว่าไอ้แชมป์ทำอย่างนั้นไม่ได้ นั่นเด็กสายมัน มันไม่มีทางส่งคนในสายให้เราง่ายๆหรอก อย่าลืมว่าเราไม่มีหลักฐานอะไรมาให้มันเลย”
“ลูกน้องมึงไง หลักฐาน”
“รัก...นั่นพยานครับ” มันพูดอย่างเซ็ง ๆ
“เฮอะ! งั้นก็ไม่เค้นแม่งละ ลากมันออกมานอกบ้าน กระทืบ ๆ ๆ เดี๋ยวมันก็คายความชั่วออกมาเองแหละ”
“ไอ้แชมป์จะเสียหน้าไหม? ไปสั่งมันต่อหน้าคนในสาย ไปลากเด็กมันมายำต่อหน้าต่อตาน่ะ ถ้ารักคิดว่าไม่ โซ่จะทำให้ตามที่บอกทันที”
“ก็...” ก็ถูก เป็นถึงพี่ใหญ่ที่มีหน้าที่สั่งเท่านั้น จะให้มาฟังเขาได้ยังไง แต่... “แล้วเมื่อไหร่จะได้เรื่อง ทางโน้นก็ไม่ได้อะไร ทางนี้ก็ยังไม่ได้อะไรอีกเนี่ยนะ” แล้วอย่างนี้จะแยกย้ายกันตามไปทำไม นั่งรอให้ข่าวลอยเข้าหูเองไม่สบายกว่าเหรอ
“โซ่จะจัดการไอ้พงษ์ให้”
“มึงก็พูดแต่อย่างนี้ ตกลงมีเรื่องอะไรกันแน่ทำไมถึงบอกไม่ได้ ไม่เข้าใจ ทำไมต้องทำให้เป็นความลับด้วยวะ แล้วนี่ไอ้แก้วหายไปใครจะรับผิดชอบ ไอ้พวกที่มีลับลมคมในกันน่ะ รับผิดชอบไหวรึเปล่า จะตามหามันเจอไหม ถ้าเจอจะทันรึเปล่า ไอ้ดิวเลยนะโซ่ นั่นมันไอ้ดิวเลยนะ!” ภูรักมองหน้าโซ่ด้วยแววตาตัดพ้อจนถึงขั้นโกรธ เขาใช้สองมือกระชากคอเสื้อช็อปสีเลือดหมูเขย่า ๆ เพื่อให้เจ้าตัวบอกอะไรออกมาบ้าง
“พี่ภู พี่ภูเบา”
ความลับอะไรกันนักหนาไหนว่าจะไม่มีความลับต่อกันแต่ทำไมแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวถึงไม่ยอมปริปากพูดให้รู้บ้าง นอกจากบอกว่าไม่ใช่เรื่องของโซ่ ทั้งที่ก็ทำตัวเหมือนรู้...แต่บางครั้งกลับเฉไฉบอกไม่รู้ แล้วมึงจะเอายังไงกันแน่!
ไอ้แก้วหายตัวไปด้วยฝีมือคนที่เคยทำร้ายมัน คนทำร้ายไอ้แก้วที่เป็นลูกน้องไอ้ดิวแถมยังหาหัวไอ้ดิวไม่เจอในวันที่ไอ้แก้วหายตัวไปอีก จะให้คิดว่าไม่เกี่ยวข้องกัน ใครคิดได้วะ และไอ้ดิวน่ะ คาดเดาใจมันได้ซะเมื่อไหร่ คนที่ทำอะไรก็ได้ ไม่ได้ก็ต้องไม่เสีย ไม่งั้นมันคงไม่เอาเมียตัวเองมาถวายไอ้พงษ์เพื่อให้ได้เข้าใกล้ไอ้แก้วโดยที่มันจะได้ไม่มีก้างขวางคอหรอก ...ถึงได้เกลียดผู้หญิงคนนี้ นี่ไม่รวมไอ้โซ่คิดไปคั่วอีกนะ พูดถึงแล้วของขึ้น!
“รัก ...ภูรัก” โซ่ต้องรวบมือทั้งคู่ไว้ให้หยุด แต่มันอ่อนโยน อ่อนโยนต่อเขามากทั้งที่เขาแทบจะต่อยหน้ามันอยู่แล้ว ก็คนมันโมโห ทั้งไอ้พงษ์ที่กลับมารับผิดชอบน้องมันตามเดิมก็แล้ว ทั้งไอ้ฝิ่นที่คิดว่าน่าจะดูแลไอ้แก้วได้ “มันไม่ใช่เรื่องของเรา เราทำได้แค่บางอย่าง ไม่ใช่ทั้งหมด โซ่ถึงพูดอะไรไม่ได้ถ้าเจ้าตัวเขายังไม่ยอมรับไงล่ะ แต่โซ่ช่วยได้ ช่วยได้ในส่วนของรักที่จะช่วยน้อง กรอบของเราเท่าไหร่ก็เท่านั้น...นะ” โซ่ก็เป็นซะอย่างนี้! ชีวิตใครก็ชีวิตมัน ไม่เข้าไปยุ่ง แม้การเข้าใกล้กันของทั้งสองคนจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่เราตัดสินใจแทนพวกมันที่กระทำกันเองไม่ได้ แล้วยังไง? แต่กลับมีเรื่องขึ้นมาได้ยังไง? เพราะกรอบของคนนอกสินะ ที่ทำได้แค่นั่งดูเฉยๆ เฮอะ!
“โธ่เว้ย!” ยังไง ๆ เขาก็ไม่เข้าใจความคิดของเด็กช่างวันยังค่ำเหอะ
“ตีก็ได้ถ้ารักจะเย็นลง” มันคลายมือเขาออกให้วางแหมะกับหน้าอกมัน “ชกไหม? ชกหน้าเลยก็ได้”
“ไม่เอา รีบไปเลยไป อ้อ แล้วต้องได้เรื่องนะ”
“ครับผม ได้ครับ” มันปล่อยมือเขาแล้วทำมือตะเบ๊ะให้พร้อมรอยยิ้มที่ดูพึงพอใจ
เฮ้อ ทำเป็นเล่นได้ทุกเรื่อง
“พี่น่ะ เขย่าคอเสื้อเฮียซะแรงเลย” ไอ้แสนตอกย้ำ
“รู้แล้วน่า รีบตามเข้าไปเถอะ”
“แสนจะยุให้เฮียเอาคืน” มันยกนิ้วชี้ขึ้นมาทำท่าปาดคอแต่แววตาโคตรจะเจ้าเล่ห์
“เพื่อนเล่นเหรอ?”
“อุ้ย!” ไอ้น้องบุญธรรมที่ได้มาโดยการถูกยัดเยียดถึงได้กระเถิบจุดยืน แต่แล้วมันก็เดินวนกลับมาอีกเอาหน้านิ่ว ๆ ของมันมองเขาพร้อมกับจับหมับที่ต้นแขนเพื่อให้รับรู้ว่ามันกำลังปลอบใจ “พี่ไม่ต้องห่วงนะ ยังไงมันก็ต้องปลอดภัย”
“ไอ้แสน!” โซ่หันกลับมาเรียกมันเสียงเข้มมันถึงได้เดินตามลูกพี่เข้าไปในบ้านประธานสาย๓T ได้สักที
ได้แต่ภาวนา...อย่าให้มีอะไรมาบีบคั้นคนอย่างไอ้แก้วอีกเลย
“พงษ์มึงถึงไหนแล้ว” รออยู่หน้าบ้านพร้อมกับคนสาย๙Tอีกส่วนหนึ่งจึงโทรหาไอ้พงษ์เพื่อหาความคืบหน้ามากกว่าไปเจอพี่ชายไอ้แก้วที่เมาและไร้ประโยชน์
“กำลังตามไปสมทบที่รังสิต”
“ได้เรื่องอะไรบ้าง”
“เจอแต่รถเช่า ...เจ้าของบอกว่าไอ้เป้เป็นคนเช่าแล้วนัดให้มารับรถที่นั่น” มันพูดน้ำเสียงนิ่ง ๆ ดูเหนื่อย ๆ
“แล้วเราจะเอาไงต่อ” ถ้าได้เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะตามกันยังไงต่อ
“ภู...”
“อะไร” พูดสวนไปทันทีเมื่อรู้สึกถึงความลังเลจากอีกฝ่าย
“กูตามไอ้ดิวไม่เจอ ๕xไปบ้านมันก็ไม่เจอ ทั้งที่เวลานี้มันน่าจะรู้แล้ว แล้วถ้ามันรู้ว่าไอ้แก้วเกิดเรื่องมันต้องรีบเข้ามาเสนอตัวเพื่อช่วยเหลือ แต่นี่ ภู...กู”
“กูคิดว่าที่เราคิดกันอยู่ไม่น่าผิด มึงโอเคนะ ขับรถไหวรึเปล่า จอดรอก่อนก็ได้เดี๋ยวกูรีบไปหา” ความเชื่อถือที่มันมีให้ไอ้ดิว ไม่มีใครสามารถล้างสมองมันให้เปิดหูเปิดตามองเห็นถึงพฤติกรรมของไอ้ดิวจริง ๆ ได้เลย เขาก็ผิดที่บังคับไอ้พงษ์ไม่ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นวันนี้มึงคงไม่ต้องรู้สึกผิดหวังในตัวคนที่มึงเคารพ และมึงก็อาจจะไม่ไว้ใจมันมากขนาดนี้ก็เป็นได้
“ไม่...ไม่เป็นไร กู...ควรจะโอเค” แต่น้ำเสียงมึงไปแล้ว
“ดี กูรอโซ่ก่อนเดี๋ยวรีบตามไป เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว”
.
ทาวน์เฮาส์สองชั้นขนาด...เล็ก ไม่ได้เต็มใจมาที่นี่เลยแต่เพราะคนรักของเขาต้องการต่อให้เป็นเรื่องแสลงใจ เออ จำใจแค่ไหนก็ต้องทำตาม
“หนึ่งมึงไปคุยกับไอ้แชมป์นะ”
“อ้าว? ไหนมึงไม่พูดอย่างนี้ต่อหน้าภูวะ”
“ใครคุยก็เหมือนกันแหละน่า กูอยากได้เรื่อง กูไม่อยากอารมณ์เสีย”
“ถ้าใครคุยก็เหมือนกัน ทำไมมึงไม่คุยเองละครับ?” หืม ไอ้นี่
“กูเชื่อใจมึง จบไหม?” ให้อำนาจมึงออกโรงแทนทุกอย่าง จบรึเปล่า กูมีเหตุผลที่มึงก็รู้อยู่แล้วแต่กูไม่อยากย้ำ มึงควรพอใจแล้วเลิกย้อนกูได้รึยัง?
“อ้าว มาทำอะไรกันวะ?” ประธานสาย๓Tเปิดมุ้งลวดออกมาทักทาย โซ่มองผ่านรูเล็กๆของประตูเข้าไป เด็กสายมันตรึม
“ที่มานี่ไม่ได้มีเรื่องให้ช่วยหรอกนะ แต่ไอ้เป้ปีหนึ่งอยู่ที่นี่รึเปล่า พวกกูไปหาที่บ้านมันไม่เจอ” โซ่กับหนึ่งต้องหันหน้ามองกันด้วยความหน่าย
“ใครให้มึงพูด” ไอ้หนึ่งกัดฟันพูดใส่มัน
“ก็...ก็เห็นเกี่ยงกัน”
“แล้วกูเกี่ยงกับมึงเหรอ” โซ่เสียงเรียบใส่อีกคน
“ผิดอีกแล้ว อะไรวะ” ถุย มึงจะสลดได้กี่วินาทีวะ ที่ไม่อยากให้ยุ่งเพราะนี่มันเรื่องจริงจัง ถ้าพลั้งขึ้นมาจะมีปัญหาระหว่างสายอีก เบื่อจะเข้าพิธีปรองดอง แล้วตัวไอ้แสนน่ะเก่งแต่หาเรื่อง ที่แถวบ้านเรียกว่าเก่งแต่ปากนั่นล่ะ เงียบได้มึงก็เงียบไปเถอะถึงเวลากูจะเรียกใช้เอง
“เอ้า ไม่ว่างยืนสบตานานนะครับ พวกมึงมีอะไรแห่มาถึงบ้านกูเนี่ย”
“ไอ้แก้วอิเล็กฯหายตัวไป ก่อนหน้านั้นพวกกูเห็นไอ้เป้อยู่แถวนั้นแค่อยากจะคุยด้วยหน่อย” ถึงคิวไอ้หนึ่งพูดสักที สองมือโซ่ที่ว่างอยู่จึงล้วงกระเป๋าพลางมองหน้าเจ้าของบ้านรอ ไม่ชอบคนมองหน้า แต่เขาจะมอง หึ
“ไอ้แก้ว...อ๋อ แน่ใจนะว่าหาย ไม่ใช่ไปไหนแล้วไม่บอกอีกตามเคยนะ”
“ก็หายสิวะพูดอยู่โต้งๆ”
“แสน” ไอ้หนึ่งปราม แต่เหมือนจะเปล่าประโยชน์ คนมันเกิดมายุ่ง มันก็ยุ่งยันตัวตาย
“มึงเป็นประธานสาย พวกกูมาส่งข่าวมึงพูดอย่างนี้ได้ไงวะ นั่นเด็กสายมึง มึงไม่ดูดำดูดีเหี้ยอะไรเลย ถอย ๆ กูว่าไอ้เป้อยู่ข้างในแน่ แหมก่อเรื่องแล้วเสือกหาที่กำบัง ทำกูกูไม่ว่าทำเพื่อนกูกูไม่ปล่อยเว้ย”
“บ้านกู ...กูเคลียร์ให้เอง” ไอ้ท่าทีจะแทรกตัวเข้าไปในบ้านเขาเป็นอันต้องหยุดเพราะไอ้แชมป์เอามือเกี่ยวปกเสื้อด้านหลังมันเอาไว้ “ไม่ใช่ว่าหายไปอยู่กับ๕xแล้วมาหาเรื่องให้กูหรอกนะ”
“ไอ้เป้เลย ส่งมันมาเดี๋ยวได้เรื่อง”
ไอ้หนึ่งเอามือตบหน้าผากตัวเองไปที ฝากตบอีกทีเผื่อกูด้วย ไม่ให้ภูรักเข้ามาเพราะยังไว้หน้าไอ้แชมป์อยู่ ต่อให้มีเรื่องส่วนตัวกันยังไงแต่ภาพลักษณ์ของมันและเขาก็ต้องสำคัญ แต่ทางที่ดีควรจะให้ไอ้แสนรออยู่ข้างนอกกับภูรักน่าจะเข้าท่ากว่าว่ะ
ไอ้แชมป์กลับเข้าไปในบ้านไม่นาน ร่างไอ้เป้ก็กระเด็นออกมาหน้าประตูบ้านตรงที่พวกเขายืนกันอยู่ นี่สิไอ้แชมป์ มันจัดการเด็กมันได้อยู่แล้ว แค่ใจเย็นรอมันหน่อยเท่านั้นเอง
“พี่แชมป์พี่ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ไอ้เป้ยกมือไหว้พี่มัน ในขณะที่คนสาย๓Tออกมาจากบ้านกันแทบทุกคน
เป็นเรื่องปรกติอยู่แล้วที่เด็กในสายมักจะมาสังสรรค์ที่บ้านประธานสาย สาย๙Tของเขาก็เหมือนกัน และเป็นเรื่องปกติที่เวลาใครไปสร้างเรื่องอะไรไว้มักมารวมอยู่กับกลุ่มตัวเองให้เยอะคนไว้ก่อนเพื่อเลี่ยงการโดนเอาคืน
แต่ก็ไม่รอดเสมอไป...
“อุ้มพี่ร่วมสายนี่นะไม่ได้ตั้งใจ บอกกูมาว่าทำทำไม”
“เอ่อ เอ่อ”
“ขัดคำสั่งกู?”
“ไม่พี่ พี่ดิว พี่ดิวบอกจะให้ผมคุมสายปีหน้าเป็นข้อแลกเปลี่ยน ผมไม่มีทางเลือกถ้าผมไม่ทำพี่ดิวก็จะเล่นงานผม พี่แชมป์ ผมไม่ได้ตั้งใจนะพี่ ยกโทษให้ผมด้วย พี่แชมป์” มันยกมือไหว้ปลก ๆ
“เรื่องนั้นพวกมึงไว้เคลียร์กันทีหลังเถอะ ไอ้เป้มึงเอาเพื่อนกูไปไว้ไหน” โซ่ต้องถอนหายใจพลางตบไหล่ไอ้แสนให้มันหยุดพูดสักแป๊บ
“เป้!” ไอ้แชมป์เสียงเหี้ยมอีกแรง
“ผมไม่รู้ ผมไม่รู้จริง ๆ พี่ผมสาบานได้ ผมกับพี่มิวมีหน้าที่พาพี่แก้วไปส่งที่บ้านพี่ดิวไม่กี่นาที จากนั้นพี่ดิวไม่ได้บอกอะไรใครไว้เลย”
“ฉิบหาย” โซ่อุทาน ไม่ได้เรื่องอีกตามเคย มองออกไปหน้าบ้านคนที่ชะเง้อคอมองอยู่ด้วยความหวังไม่แหกอกเขาเหรอวะเนี่ย
“ไอ้ไฟอยู่ไหน” ประธานสาย๓Tถามหามือขวามันกับเด็กในสาย “ตามมันให้ด้วยกูคงต้องไปตามไอ้แก้ว”
“พี่ไฟโดนพี่ดีเรียกครับพี่”
“พี่ดี? ...แม่งเอารุ่นน้องไปเป็นกำบังแน่ มีเหรอที่มันจะไม่รู้เรื่องที่น้องมันทำ มึงตามมันให้กูด่วน ใครมีปัญหาให้มันมาเคลียร์กับกูเอง”
“ครับ”
แล้วทำไมมันไม่ตามเองวะ
อ้อ ไม่ใช่เรื่องของกู
.
แผนที่ประเทศไทยถูกกางออกวางแหมะข้าง ๆ กับกระดาษไซด์ใหญ่สีขาว ปากกาเมจิสีดำถูกใช้ลากเป็นแผนที่ย่อม ๆ ให้เข้าใจง่ายตามความเข้าใจของทุกคนว่าจากตรงนี้ แยกออกไปทางไหนได้บ้าง เด็กช่างในชุดนักศึกษาสองสถาบันสามแก๊งค์ ตัวเป้ง ๆ ของแต่ละสายร้อยกว่าชีวิตยืนประปรายอยู่รอบ ๆ บริเวณ ผู้คนทั่วไปคงต่างพากันหวาดระแวงถอยห่างได้ไกลเท่าไหร่พวกเขาก็พากันเลี่ยงไปทางนั้น ขอโทษครับ วันนี้พวกกูงดตีกัน
ไอ้ดิวฉลาดมากที่ไม่หลงเหลือร่องรอยอะไรไว้เลย ทั้งหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล ล้วนแต่เป็นเครื่องมือและทางผ่านให้มันเท่านั้น
“ไปปทุมฯ ไปอยุธยา ไปนครนายก หรือกลับเข้ากรุงเทพฯ” ๕x คนที่วาดแผนที่มันชี้ไปยังแต่ละแยกที่สามารถไปได้แล้วเงยหน้าถามความเห็นจากทุกคน
“จริงสิ บ้านไอ้ดิวอีกหลังไงพงษ์ ไอ้พงษ์!” ภูรักที่นั่งล้อมวงอยู่เหมือนดีใจที่นึกขึ้นมาได้ก่อนจะหน้าบึ้งเพราะคนที่ถามเหมือนไม่ได้ฟังที่ตัวเองพูด
“ห๊ะ ว่าไงนะ”
“มึงจะลอยเมื่อไหร่ก็ได้นะแต่ไม่ใช่ตอนนี้!”
“เออ ๆ มึงว่าอะไรนะ”
“บ้านไอ้ดิว อีกที่นึง อยู่ไหน?” เป็นไงล่ะคำถามชัดเจนพอไหม เขาได้แต่ยืนเอาใจช่วยอยู่ห่าง ๆ
“คลอง ๑๑”
“งั้นมึงไปคลอง ๑๑ อีกที่นึง”
“แต่กูคิดว่าไม่ บ้านนั้นพ่อกับแม่ไอ้ดิวอยู่มันพาไปซ่อนที่นั่นไม่ได้หรอก” ไอ้แชมป์ออกความเห็น
“แต่ไปดูก็ไม่เสียหายนี่หว่า” ไอ้แสนซึ่งนั่งข้างภูรักเสนอ
“ไม่เสียหายแต่เสียเวลาต่อให้แบ่งคนไปก็เสียเวลาส่วนที่แบ่งไปอยู่ดี แล้วเวลาที่เสียไปก็หมดแล้วด้วย อ้นเอาที่มึงวาดมาดูอีกทีซิ” ไอ้ฝิ่นประธานสาย๕xหยิบกระดาษจากคนของสายมันไปดู
“อย่ารู้ดีไปกว่ากู” ไอ้แชมป์ต่อว่าไอ้แสนมันจึงได้ลุกพรวดออกจากกลุ่มเดินออกมาหาเขา
“เป็นไงล่ะ” เขาสำทับมันอีกแรง
“ทำไมวะพี่ คนตั้งเยอะแยะจะแยกไปตามอีกสักที่จะเป็นไรไป เฮ้อ แก้วเอ้ย เออเฮียถ้าวันนึงผมหายไปเฮียอย่าทำกับผมแบบไอ้แชมป์นะ ผมไม่ยอมจริง ๆ ด้วย” เหรอ ?
“มันคงมีเหตุผล แล้วอย่างที่มันบอก ไอ้แชมป์รู้จักไอ้ดิวมากกว่าพวกเรา อีกอย่างไอ้ดีก็ถือว่าศิษย์พี่มันนี่”
“กว่าจะหาเจอไอ้แก้วไม่ขาดใจตายซะก่อนเหรอ”
“หืม?” ไอ้ฝิ่นหันมองทางนี้ตาขวาง “ขาดใจตาย” ดันหูดีอีก
“แก้วมันอยู่ไหนไม่ได้หรอก ถ้า...” ภูรักพูดขึ้นแต่ไอ้พงษ์ส่ายหน้าห้าม
“ถ้าอะไร พูดให้จบ”
“ถ้ามันไม่เต็มใจ” มีเหรอที่ภูรักจะฟังใคร ถ้าเจ้าตัวจะพูดซะอย่าง “มึงเลิกกั๊กได้แล้วพงษ์ มีอะไรตอนนี้มึงไม่ควรเก็บแล้วยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ถ้าน้องมีอันตรายนะก็เพราะมึงนั่นแหละ รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นยังไงแต่มึงก็เอาแต่เงียบ มึงคนเดียวเอาไม่อยู่แล้ว รู้ตัวซะบ้างนะ!” คราวนี้มันลุกขึ้นโวยเสียงดังไม่สนใจใครเลย เอาไงดีวะกู โซ่ต้องเดินเข้าไปตบไหล่ภูรักเบา ๆ
“ก็เพราะรู้ไงกูถึงคิดอะไรไม่ออก!” ไอ้ตัวต้นเรื่องก็เอาแต่เครียดตาแดง
“มึงคิดว่าไอ้แก้วเต็มใจไปกับไอ้ดิวเหรอ มึงใช้อะไรคิดห๊ะ?” ไอ้ฝิ่นมองภูรักอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาจึงกอดไหล่ภูรักไว้แล้วจ้องหน้าประธานสาย๕xแทนคำตอบ
ไอ้พงษ์ลุกขึ้นยืนแต่ไม่ยอมสบตากับใคร
“ถ้ามันไม่ยอม ซ้อมมันให้ตายมันก็ไม่ยอม ...แต่กูไม่คิดว่าไอ้ดิวจะกล้าทำมัน กูขอให้ความเชื่อนี้ยังมีผล”
“ถ้ามันอยากเอาไอ้แก้วไปด้วยทางเดียวคือมันต้องยอมไอ้แก้วอย่างนั้นสิ?” คนสาย๕xพูดขึ้น เขาไม่รู้ว่ามันเป็นใคร
“กูมองเหมือนไอ้โจ้ ทีนี้เราต้องมาเดาใจไอ้แก้วเอา” ไอ้ไม้มองหน้าไอ้ฝิ่น
“พงษ์ มึงรู้” ภูรักบีบให้มันพูดอีกครั้ง
“กูไม่คิดว่ามันจะพาคนอื่นไปที่นั่น”
“ที่ไหน?/ ที่ไหน?/ ที่ไหน?”
“ที่ ๆ พวกมึงตามกูไม่เจอ”
ไอ้ฝิ่นถึงกับขยำกระดาษโยนใส่หน้าไอ้พงษ์
อย่าว่าแต่ไอ้ดิวฉลาดเลย ถ้าเป็นอย่างที่ไอ้พงษ์คิด ไอ้แก้ว...ก็คงฉลาดไม่แพ้กัน
ความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นภัยได้ทุกเมื่อจริงๆ
........................................
แหนะ นังซีฯมันเล่นคำไม่เลิก ฮ่า ๆ ๆ ก็พยายามมีเหตุผลของมันอะนะ
ตอนนี้ ดีที่ปั่นไว้ยาวแล้ว ไม่อยากให้มืดมาก วันนี้คนเขียนอกเดาะ โซ่แอนด์ภูช่วยแม่ได้จริงๆ (เหรอ?)
วันนี้นางอึนมาก ไม่มีอะไรจะคุยด้วย ฮ่า ๆ ตอนหน้าจะพาไปที่อื่นละจ๊ะ
ฮ่วย ลืม เห็นไหมอึนจริงๆ
เรื่องการรวมเล่มนั้น คนเขียนขอต่อนิยายให้จบก่อนนะคะ ถ้าจบแล้วจะลองไปศึกษาดูว่าเขารวมเล่มกันยังไง อย่างต่ำเขารับพิมพ์กี่เล่มงี้ แล้วเราค่อยมาคุยกันอีกทีว่าจะทำหรือไม่ทำ ขอบคุณจริงๆที่ถามไถ่กันมามากมาย (มากกว่าหนึ่งคนเขียนเรียกว่าเยอะมาก ฮ่าๆ) แต่คนเขียนไม่อยากทำเรื่องที่ไม่ถนัดหลายอย่างไปควบคู่กัน เรื่องที่คนอ่านอยากได้เก็บเป็นหนังสืออยู่เหนือเป้าหมายของคนเขียนมาก อยู่เหนือเป้าหมายแต่ไม่ได้อยู่เหนือความฝัน แต่ตอนนี้ขออนุญาตทำนิยายให้บรรลุจุดประสงค์ของตัวเองก่อน นั่นคือเขียนให้ดี(ตามแบบฉบับของตัวเอง)และให้จบ ไม่อยากรับปากในเรื่องที่ไม่แน่ใจจริง ๆ ค่ะ ถ้ายังไงก็เก็บตังค์ไว้รอก่อนก็ได้ แต่ไว้มาดูความน่าจะเป็นกันอีกทีนึง ได้หรือไม่ได้ก็ไม่เสียหลายอะไร ถ้าถึงวันนั้นคนเขียนไม่สามารถรวมเล่มออกมาได้
...เราก็สัญญาว่าจะเอาสิ่งที่อยู่ในใจ ที่กะว่าถ้าได้รวมเล่มจะใส่ไว้ในนั้น แต่ถ้าไม่ได้ทำก็จะเอามาให้คนอ่านได้อ่านกัน เป็นการตอบแทนน้ำใจที่คนอ่านมีให้ตลอดมา ...(นางสวยมาก)
ฮ่า ๆ บ่งบอกว่าฉันก็อยากทำหนังสืออยู่นะแต่ยังไม่มีปัญญา >w<
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ^^ กอด ๆ จุ๊บ
-
หวังว่าแก้วยัง
ปลอดภัยนะ :เฮ้อ:
-
ถึงจะคึบหน้านิดหน่อย แต่มาต่อเยอะอยู่ให้อภัย จุ๊บๆ :กอด1:
คิดถึงแก้วมากๆแล้วอ่าาา อยากอ่านบทของแก้วววววววว
-
ยังไม่เจอแก้วอีกเหรอ
-
คิดถึงแก้วจังอ่า :เฮ้อ:
-
:call:
-
ใกล้เข้ามาอีกนิดละ รวมตัวกันขนาดนี้เจอเมื่อไหร่ ไอ้ดิวเละ
เรื่องหลักคลี่คลายเมื่อไหร่ขอสเปโซ่-ภูด้วยนะคะ ขวัญใจอิฉันเลย
-
อ๊าก ก ก :z3:
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วๆ
คิดถึงแก้วแบบจริงจัง
-
เฮ้อ เมื่อไหร่จะเจอแก้วล่ะเนี่ย :เฮ้อ:
-
วกไปวนมากันอยู่นั่นล่ะ :เฮ้อ:
แล้วเมื่อไหร่จะเจอ
เริ่มเซ็งละ แก้วได้กะดิวเลย จบเรื่อง ไม่ต้องตามหาละ ไม่เจอซะที :m16:
-
ตอนหน้าจะได้เจอแก้วมั๊ย
ตกลงดิวพาแก้วไป หรือแก้วพาดิวไป
แล้วเพื่อจุดประสงค์อะไร
รีบมาเฉลยนะซีซั่น
-
งง... สงสัยต้องรอ ไอ้แก้วปรากฎตัวแล้วเฉลยเหตุการณ์ทั้งหมด แล้วพงษ์ที่จะเฉลยว่าใครกันแน่....ที่เป็นต้นเหตุฆ่าเปงตัวจริง...เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้จริงในชีวิตจริงของเด็กช่าง เหมือนย้อนวันวานกลับไปเรียนอีกรอบเลย (ใครบอกเด็กช่าง-อาชีวะ...เก่งแต่ต่อยตี เราฉลาดกว่าที่คุณคิดนะ วางแผนกันสุดยอดนะจะบอกให้ ^^)
-
^^
-
เฮ้ออออออออออ ~ เมื่อไรจะเจอ
-
ใกล้แล้วสินะ
ที่ทุกอย่างจะเปิดเผย
เอ๊ะ หรือว่ายัง
:z2:
-
:เฮ้อ:แก้วจะเป็นยังไงบ้าง
-
ชอบภูรักกับโซ่อ่ะ :-[
รอแก้ว คิดถึงแก้วมากกก :monkeysad:
ฝิ่นเร็วๆน้า แก้วรออยู่
:pig4:นะคะ
-
กรี๊ดดด มาแล้ววว...
ได้เบาะแสแล้ว..นี่แหละที่ดีใจ...
ขอให้เจอน้องแก้วสักทีเถอะ...
อยากรู้ปริศนาที่ พงษ์กับดิวทำไว้ด้วย...
โอ้ยยยย....มาต่อเร็วๆนะคะ
คราวนี้ขอพี่ซีซั่นแต่งนิยาย "ในโลก" ทีนะคะ..อยากอ่านจริงๆๆๆๆ
-
คิดถึงมากๆคนแต่งมาต่อแล้ว
ขอให้ตามตัวแก้วเจอไวๆนะ
-
จะเจอกันมั้ยเนี่ยยยย
-
มาต่อแล้วววว
แต่ยังแบบค้างงงง TT แก้วอยู่ที่ไหนนะ ..
-
แก้วยังไม่เป็นอะไรใช่ไหมอ่ะ
-
บางจังหวะอ่านแล้วอึน ไม่รู้ว่าใครพูดกันแน่ อาจเป็นเพราะอ่านในมือถือก็ได้มั้ง
ตอนนี้มีแต่รังสีโซ่ภูกระแทกตา น่ารักอ่ะ :-[
ยังตามแก้วไม่เจอเลย แต่เราว่าพี่ดิวไม่น่าจะทำอะไรแก้วหรอก(............มั้ง) เหมือนจะเบาะแสเพิ่มขึ้น แต่ความมึนก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน *กลับไปอ่านอีกรอบ*
รอตอนหน้าน้าๆๆๆตัวเอง เฉลยด่วน :กอด1:
-
เหมือนนิยายสืบสวนเลย 5555555555555'
อยากให้เจอแก้วเร็วๆ
-
อ๊ากกก
:z3: :z3:
รู้สึกขัดใจอ้ะ
ตามหาไม่เจอสักที
สงสารลูกแก้วด้วยอ้ะ
คนที่ต้องตามหา ก็ยังจะมาเถียงกันอีก o22
-
:really2:
มันออกแนวมึนๆ งงๆ สับสนวุ่นวาย มันอะไรกันเนี่ยยยยย :เฮ้อ:
-
:call: :call: :call:
-
พงษ์รู้อะไรก็ไม่พูดให้หมด ๆ นะ เมื่อไรจะพูดสิ่งที่ปิดไว้สักทีพงษ์ ฝิ่นคงห่วงแก้วมากนะนั่น
-
เห้ออออ............รอตอนต่อไป พูดไม่ออก
-
มัวแตไว้เชิงกันอยู่นั้นแหละ
-
พี่รัก ออกมาตอนเดียวชนะเลิศเลยพี่
ชอบที่ด่าอิพี่พงษ์อ่ะ ด่ามันอีกเลย โง่แล้วโง่อีก
นิสัยเนอะ
อยากให้ตามน้องแก้วเจอเร็วๆ
คิดถึงแล้วเน้ออออออ อ
-
ลุ้นๆ
อ๊ากกกก ค้างอ่า
-
ขอบคุณพวกมรึงๆ เด็กช่างทั้งหลายที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มได้ซักที :call:
เรื่องมันจะได้โยงกลับไปกลับมาอยู่แค่ 2 ฝ่าย เอาแค่ฝ่ายที่ตามหา และฝ่ายที่ถูกตาม ก็พอละ
เพราะถ้าหากพวกมรึงแยกกันตามหาอีกนะ เรื่องคงไม่ไปถึงไหนกันหรอก ชิ่งกันไปชิ่งกันมาอย่างกับลูกสนุกเกอร์อยู่แบบนี้แหละ
คนอ่านอ่านแล้วก็แทบอยากจะมุดเข้าไปในเรื่องแล้วจับพวกมรึงมารวมกันซะที :เฮ้อ:
-
:really2: บางทีก็งงๆ ว่าใครพูดกันแน่ แต่ก็พอสรุป ๆ ได้อยู่
แล้วตกลงว่าแก้วยอมไปเองเหรอ :m28:
ที่สำคัญ ภูรักกับโซ่ อ่ะ น่ารักมากกกกกกกก :impress2: เอามาเปิดเป็นเรื่องใหม่เลยก็จะดีมาก ^ ^
สุดท้าย !!! หากันเจอสักทีเหอะลุ้นจนปวดตับแล้วเนี้ย :z3:
-
มะไหร่จะมาอีกครับ มาทุกวันเลยได้ม้าย
-
โอ้ยยยยยยย อยากอ่านต่อแล้วอ่า,,,,
-
อร๊ายยยยยยยยย
อยากจะตายยยยยอ่ะ มันลุ้นมากกกก
หายใจหายคอแทบไม่ทัน
ในที่สุดก็ได้รู้ว่าคนที่ชั่วช้าสามานย์ที่สุดคือไอ้ดิว
นี่แก้วต้องดีใจมั๊ยที่มันสละได้แม้กระทั่งเมียเพื่อเข้ามาใกล้ชิด
แต่คนที่โง่บรมนี่สิ โง่ตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง
แล้วยังคิดที่จะมาปกป้องแก้วอีก เฮอะ
เอาหัวแม่เท้าคิดหรือไงว่าไอ้ดิวไม่มีทางทำร้ายแก้ว
โอ๊ยยยยย หงุดหงิดพงษ์จริงๆ *ทึ้งหัวตัวเอง*
:z3: :z3:
ซึ้งน้ำใจภูรักกับโซ่จริงๆ แล้วก็นับถือน้ำใจของแชมป์ด้วย
ปล. สนับสนุนเรื่องรวมเล่มค่ะ จองเลยได้ไหมอ่ะ แบบว่าอยากได้มว๊ากกกกก
-
ตามทันแล้วววว ฮูเล่!!! :z2: :z2:
น้องแก้วผู้น่าสงสารรร T T
เอาใจช่วย สู้ สู้
ปอลิง ชอบคู่ ภูรักกับเฮียโซ่มากกกก :กอด1:
-
แก้วรอพี่.....
-
ตอนหน้าจะหาแก้วเจอมั้ยนะ...รอตอนต่อไปครับ :impress2:
-
การรู้ใจกันและกันของแก้วกับพงษ์นี่เริ่มมีประโยชน์แล้ว
หวังว่าคงจะเป็นดังคาดนะ ไปช่วยแก้วเร็วๆ เน้ :sad4:
-
นู๋แก้ว คงจะขาดใจตายไปแล้วจริงๆ :sad4:
-
ลุ้นเรื่องเเก้วกับฝิ่น เเต่ก็อยากอ่านเรื่องโซ่กับภูรัก ไม่ทราบว่พี่จะเเต่งเรื่องของ 2 คนนี้รึเปล่าค่ะ ^^
-
ขอให้หาแก้วเจอเร็วๆ
ขอให้แก้วปลอดภัย
-
แอบฮา ท้ายๆ เอิ๊กกกก
ตอนหน้าอยากไปหาแก้วอ่ะ แก้วน่ารักสุดแล้วในเรื่อง โฮะๆๆๆๆ คิดถึงมากกก
-
เด๋วนี้นักเขียนเริ่มไม่ว่างกานอีกแล้วช่ายม๊า แต่ก้อจะรอน้าT^T
-
เย้ อ่านทันแล้วว
อ่านรวดเดียวแบบว่าติดมากกก555555
พอจะลงเอยกันที่ไร มีเรื่องดราม่าเข้ามาตลอดเลย (ชอบๆ)
รอค่ะรอ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๒
สามทุ่มเศษ
“ไม่ใช่ทางนั้นเหรอ” พี่ดิวหยุดเดินเขาจึงต้องหยุดตามพลางหันข้างไปมองสีหน้าข้องใจของพี่
คิดว่าเขาหลงทางรึยังไง?
“ทางนี้ถูกแล้วครับ” บอกเสียงเรียบและก้าวเท้าเดินนำต่อไป
รถสองแถวจอดส่งหน้ารีสอร์ตแห่งหนึ่ง พ้นตรงนี้ไปก็เข้าได้เฉพาะรถของลูกค้าเท่านั้น ป้ายชื่อรีสอร์ตคงทำให้พี่ดิวหวั่นในความปลอดภัยอยู่ไม่น้อย เพราะมันเป็นชื่อเดียวกับโรงแรมในกรุงเทพฯ ที่เขาไปฝึกงานนั่นเอง
ตรงเข้าไปตามแสงไฟและสองข้างทางที่ถูกตกแต่งจัดระเบียบอย่างสวยงามอีกหนึ่งร้อยห้าสิบเมตรก็ถึงบ้านรับรองแขกที่เปิดไฟสว่างไปทั่วบริเวณ แต่เขาไม่ไปที่นั่น แก้วพาพี่ดิวเดินไปอีกทาง ซอยที่แยกเข้าไปด้านซ้ายมือเมื่อเดินเลยป้ายรีสอร์ตเข้ามาเพียงเล็กน้อย ซึ่งคล้ายป่าหากแต่ยังพอมีถนนคอนกรีตให้เดินได้สะดวกอยู่บ้าง สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ แล้วแสงไฟก็ค่อย ๆ จางหายเมื่อเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ
ไม่ใช่ไม่มีเสาไฟฟ้า แต่ทว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเปิดต่างหาก
เหล่ตามองพี่ดิวท่ามกลางความมืด ทางนี้พี่ก็คงข้องใจอีกตามเคยว่ามันจะปลอดภัยได้จริงรึเปล่า แต่สำหรับคนที่ทำผิดแล้วต้องการหลบหนี เขาคิดว่า ที่นี่แหละ ปลอดภัยที่สุดแล้ว และปลอดภัยสำหรับตัวเขาเองด้วย
“ต่อให้มีคนมาตาม ที่นี่ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าผมมา” บอกอีกครั้งให้พี่มั่นใจ “...พี่คิดว่ามีใครเห็นผมรึเปล่า?”
“แต่ไอ้พงษ์...”
“ก็แล้วแต่พี่นะ เพราะที่นี่คือบ้านผม ถ้าพี่อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมจริงๆ ก็มีแค่ที่นี่ แต่ถ้าพี่จะไปที่อื่น...” แก้วแสยะยิ้มอย่างไม่แคร์
“พี่เชื่อใจแก้ว” พร้อมฝ่ามือที่แตะสัมผัสข้อศอกก่อนจะเลื่อนลงมากอบกุมมือเขาไว้
แก้วไม่ต่อต้านเพราะเห็นว่าพี่ดิวคงไม่ชินกับที่นี่
ทางที่ไร้แสงไฟนำทาง ทางที่อาศัยเงาจันทร์และความคุ้นเคยเท่านั้นในการเข้าไปให้ถึงจุดหมาย
เพราะที่นี่ คือที่ ๆ เป็นชีวิตของเขา
แม้จะมาโดยไม่ทันตั้งหลัก แม้จะมีอีกคนที่ไม่ได้เต็มใจให้มาด้วย แต่...จังหวะมักมาโดยที่เราคาดไม่ถึงเสมอไป อย่างน้อยพี่ดิวก็เป็นข้ออ้างของการกลับมา
“เห็นใจพี่หน่อย” พี่ดิวค่อย ๆ แกะเทปกาวออกจากปากเขาอย่างเบามือหลังพูดบอก บอกให้เข้าใจหรือแค่พูดให้ฟังเฉย ๆ แต่เขาไม่เข้าใจและไม่อยากฟัง “พี่จะแกะมัดให้ แต่แก้วต้องสัญญาว่าจะไม่ต่อต้านพี่”
“ถ้าผมไม่สัญญา?”
“แก้วต้องสัญญา”
มือที่ไขว้หลังซึ่งโดนพันธนาการด้วยเชือกถูกพี่ดิวแกะออกให้ และก่อนที่พี่จะก้มแกะเชือกที่มัดตรงข้อเท้าอยู่เขาจึงรีบก้มลงไปจัดการเอง
“ลงมา”
“จะพาผมไปไหน?”
“.....................”
“พี่ดิว”
“ยังไม่รู้” พี่ดิวตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ไม่รู้? แล้วพี่คิดจะทำอะไร”
“ที่จริงไปไหนก็ได้ โรงแรมใกล้ ๆ นี่ยังได้”
“เหอะ”
“แก้วเป็นสิ่งเดียวที่พี่ต้องการ” อึก ไม่ได้ดีใจที่ได้ยินคำนี้เลยจริง ๆ
พี่ดิวถอดซิมโทรศัพท์ทั้งของเขาและของพี่ออกมาหักแล้วโยนลงพงหญ้าข้างทาง แล้วจับหมับที่ข้อมือเขา
“แต่ที่รู้ ๆ เราอยู่ที่นี่นานไม่ได้แล้ว ไปเถอะ”
“ไม่ไป” แก้วดึงรั้งข้อมือตัวเองไว้
“แก้ว ...อย่าให้พี่ต้องทำเราเจ็บ” แรงบีบที่ข้อมือทำเอาเขานิ่วหน้าด้วยความเจ็บเพื่อให้ได้สำนึก
“ที่พี่ทำอยู่ผมก็ไม่ได้ซาบซึ้งหรอกนะ ไหนพี่บอกว่า...” จะรำเลิกคำพูดของรุ่นพี่แต่อีกใจก็รู้สึกว่าจะพูดไปเพื่ออะไรในเมื่อตัวเองไม่ได้ต้องการสิ่งนั้น
“ก็ถ้าหลังจากวันนั้นพี่ไม่ทำตัวเป็นคนดี มันก็คงจบตั้งแต่วันนั้นแล้ว”
“ผมเป็นผู้ชาย พี่จะให้ผมรักพี่ได้ยังไง!”
“เหรอ?” เขาจำต้องสงบปากสงบคำพลางกดสายตาลงต่ำเมื่อพี่ดิวเอ่ยประโยคสั้น ๆ
ประโยคที่คล้ายถามว่า เขามั่นใจกับคำพูดเมื่อกี้แค่ไหนเชียว ในเมื่อตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว
“ทำไม?” เขาถาม ขณะที่ยังก้มหน้าอยู่ภายในเบาะหลังของรถกระบะ
“หืม?”
“ทำไมพี่ถึงอยากให้ผมรัก”
เงื่อนไขคำว่ารักของพี่ดิว คืออะไร?
“เพราะหัวใจของแก้ว เต็มไปด้วยความศรัทธา”
สายตาที่มองพงษ์ตั้งแต่ไหนแต่ไร เต็มไปด้วยความปลาบปลื้มและภาคภูมิใจ แม้มีเรื่องให้เหนื่อยหน่ายไม่เว้นแต่ละวันกับพฤติกรรมที่พงษ์สร้าง แต่ในความเหนื่อยอ่อนนั้น ก็ยังเจือไปด้วยความรัก ...ไอ้พงษ์ไม่เคยทำอะไรให้เขาผิดหวังเลย
แต่เมื่อไม่มีพงษ์ ความรู้สึกเหล่านั้นกลับไปมีให้ไอ้ฝิ่น ศัตรูที่แม้แต่จะเอาชีวิตเขา มันก็เคยคิดทำ
แม้ไม่มีพงษ์ แต่พี่ดิวก็ยังไม่อยู่ในสายตาเขาวันยังค่ำ
ถ้อยคำสารภาพที่น่าเห็นใจจากพี่ดิว แต่เปล่า...เขาเจ็บปวดกับเรื่องราวเหล่านั้นต่างหาก
“พี่รู้...มันไม่ได้มีให้กันง่าย ๆ และไม่ใช่จะได้จากใครง่ายๆ แต่แก้วมี พี่ถึงพยายามเข้าใกล้เราให้มากที่สุด อยากจะค่อย ๆ หล่อเลี้ยงความรู้สึกกันไป แต่ดันโดนหมาคาบไปแดก แก้ว เป็นอะไร!” รุ่นพี่อุทานด้วยความตกใจเมื่ออยู่ ๆ เลือดกำเดาเขาก็ไหล
“อ๋อ ไม่เป็นไร” เมื่อไม่ยอมรับอะไรสักอย่างเขามักจะเป็นอย่างนี้เสมอ แค่ปฏิกิริยาต่อต้านสิ่งที่ได้ฟังและพาลย้อนให้นึกถึงช่วงที่ผ่านมาเท่านั้น
แก้วปฏิเสธ ใช้หลังมือเช็ดเลือดกำเดาพลางเงยหน้า พี่ดิวมีสีหน้าวิตกกับอาการของเขาอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้พูดถึงอีก นอกจาก...
“การแยกกัน พวกมันควรจะรู้สึกซะบ้าง ไม่ใช่ลอยตัวแล้วคิดจะลอยแพพี่ พี่ไม่รอรับอย่างเดียวเด็ดขาด”
“............................”
“พี่ไม่ให้แก้วไปกับใครทั้งนั้น ทั้งไอ้พงษ์ ทั้งไอ้ฝิ่น” ใครจะบังคับใครได้ ใครจะแยกใครออกจากกันได้ ถ้าคนนั้นไม่เต็มใจ หรือต่อให้เต็มใจ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องจาก เขาก็ควรจาก
“ในเมื่อพี่ไม่มีที่ไป แต่ผมมี” แก้วเสนอ
“หืม?”
“ผมตั้งใจจะไปอยู่แล้ว ทำให้ผมเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม?” เขาจ้องมองพี่ดิวพยายามมองให้ได้อย่างเคย พี่ที่เชื่อใจได้ สายตาของน้องที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร มากไปกว่า อ้อนวอน...
“หึ พี่ไม่โง่นะแก้ว...เราต้องไปในที่ ๆ ไม่มีใครหาเราเจอ พี่ต้องการไปในที่ ๆ มีแค่เราสองคน ถ้าพี่มีแก้ว ทุกอย่างจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป” เขาไม่รู้ว่าพี่ดิวมีปัญหาอะไรมากมายแค่ไหน แต่ที่รู้ เขาไม่ได้อยากมีพี่ดิว และ ไม่ได้อยากมีใครอีก...
“มันเป็นที่ ๆ พี่ต้องการ” แม้ไอ้พงษ์จะรู้จักดี แต่เขาไม่คิดจะหลอกล่อให้พี่ดิวไปติดกับ เพียงแต่...โอกาสของเขามาถึงแล้วต่างหาก “พี่บอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าแค่มีผม” ทีใครทีมัน ถึงทีเขาแล้วใครอย่ามาเรียกร้องอะไรละกัน
“หึ เอางั้นก็ได้ แค่แก้วเป็นของพี่ ยังไงก็จบสวย”
แววตาของพี่ดิวเริ่มมุ่งมั่นขึ้นมาอีกครั้ง
เดินเท้าเข้ามาไกลพอสมควร ให้กะระยะก็คงเกือบหนึ่งกิโลเมตรได้อาศัยว่าเดินอย่างมีจุดหมายก็ไม่เหนื่อยเท่าไหร่นัก ผ่านต้นไม้ใหญ่สองข้างทาง ตรงหน้าคือสวนมะพร้าวน้ำหอมที่เห็นเพียงเงาดำทึบสูง ๆ แต่แล้วแก้วกลับเดินลงไปที่คันร่องข้างทางซึ่งมีไว้เพื่อปลูกต้นมะพร้าวโดยลืมบอกกล่าวคนที่มาด้วยกัน
ถนนที่ว่าเดินสะดวกกลายเป็นผิวดินขรุขระให้รองเท้าได้สัมผัสกับไอเย็น แก้วนึกยิ้มเพียงคนเดียว คิดถึง...คิดถึงที่นี่เป็นที่สุด
กลิ่นหอมเย็นของดอกลดาวัลย์ที่ปลูกไว้ริมกำแพงซึ่งสูงกว่าต้นมะพร้าวทำเอาแก้วเร่งฝีเท้าจนลืมว่าพี่ดิวส่งเสียงเรียกตามหลังอยู่ตลอด จนกระทั่ง
“พี่มีไฟแช็ครึเปล่า”
“เออ จริงด้วย พี่มัวแต่เดินตามเรากลัวว่าจะตกคันร่องจนลืมจุดดูทาง” พี่ดิวบอกและล้วงไฟแช็คออกจากกระเป๋ากางเกงมาจุดโชว์
แก้วรับไฟแช็คจากมือพี่ดิวมาอย่างหน้านิ่ง ๆ แล้วจุด ความสว่างมีวงกว้างแค่จำกัด แต่ก็เพียงพอ
“หาอะไร?”
“....................”
แก้วยังคงใช้ฝ่ามือข้างที่ว่างลูบคลำตามเถาลดาวัลย์เหมือนไม่ได้ยินเสียงอีกคนเอ่ย เขานึกถึงจำนวนต้นมะพร้าวที่เดินผ่านมา ๔๔ ต้น ตัวเลขที่แม่ชอบ ก็ถูกแล้วนี่นา เขาลูบ ๆ กำแพงอีกครั้งก่อนจะแหวกมันออกพุ่มใหญ่แล้วดับไฟแช็คพร้อมผลักประตูไม้บานเก่า ๆ เข้าไป
หลังกำแพงลดาวัลย์ บ้านไม้ทรงไทยชั้นเดียว พื้นที่ส่วนตัวที่ถูกสร้างขึ้นมาหลังจากเราต้องต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยความจำยอมที่เดินเข้ามาในครอบครัว แม่ย้ายจากบ้านหลังใหญ่แถบที่ตั้งของรีสอร์ตมาอยู่ที่นี่ ความเงียบ ความสงบ ธรรมชาติที่ร่มรื่นร่มเย็นคงพอรักษาหัวใจที่บอบช้ำของเราสองแม่ลูกได้บ้าง แต่แม่กลับอาศัยอยู่ที่นี่ได้เพียงไม่นาน เพราะความสุขของพวกเราได้หายไปแล้วจริง ๆ พื้นที่ส่วนตัวที่ถูกก้าวล้ำอย่างไม่ไว้หน้าและไร้ความเห็นใจ ก่อนที่แม่จะยอมอีกครั้ง
...แม่ยอมแพ้
และหนีไปในที่ ๆ ไม่มีใครรบกวนท่านได้อีก
กว่าคุณพ่อจะสั่งห้ามโดยเด็ดขาดว่าอย่าให้ใครหน้าไหนเข้ามาที่นี่ ก็สายไปแล้ว
“นอกจากแก้วก็คงมีไอ้พงษ์สินะที่จะตามมาได้” พี่ดิวเอ่ยเมื่อเขาไขกุญแจบ้าน
แก้วจุดไฟแช็คใช้แสงสว่างเพื่อมองหาตะเกียง ก่อนจะหยิบตะเกียงที่ไอ้พงษ์วางไว้ข้างประตูบ้านอย่างเคย มาเขย่าคาดปริมาณน้ำมัน และทำการจุดเมื่อคิดว่าน้ำมันยังมีมากพอ แล้วเดินเอาไปวางที่โต๊ะซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่น เขามองไปยังเตียงนอนที่ถูกผ้าสีขาวคลุมไว้อย่างดี แต่หากเดินไปจับผ้าผืนนั้นออก ก็คงเป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองไม่ต่างกัน
“ถ้ามันจำได้” เขาคิดว่าพี่ดิวคงมั่นใจถึงความปลอดภัยของตัวเองขึ้นมาเล็กน้อยบ้างแล้วล่ะ
“พี่คงไม่รอให้มันจำได้หรอก มาถึงนี่ พี่ก็ตามใจแก้วมากแล้ว การรอของพี่เป็นอันสิ้นสุด”
เขาหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อพี่ดิวกอดเขาจากข้างหลัง
“ดะ เดี๋ยวพี่” ทั้งที่เตรียมใจไว้แล้วว่าพี่ดิวคงไม่ปล่อยเขาไว้นานแต่พอเอาเข้าจริงใจเขาก็ไม่กล้าพอที่จะเผชิญมัน
“เมื่อแก้วเป็นของพี่ สายตาแห่งศรัทธาคู่นี้ ก็จะมองพี่เอง เมื่อแก้วเป็นของพี่ ใครหน้าไหนก็หมดสิทธิ์โต้แย้ง หึ”
หมดสิทธิ์โต้แย้ง
รวมถึงเขาด้วย!
ซอกคอถูกสูดดมเสียงดังคล้ายว่าพอใจที่ได้สัมผัสมันมากมาย กลิ่นเหงื่อที่ติดกายมาทั้งวันไม่ได้ทำให้พี่ดิวอิดออดเลยแม้แต่น้อย
“พี่ดิวผมว่าเราไม่ต้องรีบก็ได้”
ข้ออ้างที่จะกลับมาโดยไม่ถูกแม่เลี้ยงและพี่ชายประณาม พี่ดิวเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นว่าโดนลักพาตัวมาโดยไม่เต็มใจแต่ไม่มีที่ไหนที่เขาจะรอดได้ถ้าไม่ใช่ที่นี่ หากถูกคนที่รีสอร์ตพบเจอ
“คนมากมายที่บอกว่านับหน้าถือตาตามระบบ สู้คนเพียงคนเดียวที่ศรัทธาในตัวเราจริง ๆ ไม่ได้หรอก”
พี่ดิวได้กลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกันไปแล้ว การที่พี่ดิวยอมมาที่นี่กับเขา ก็คงมีประโยชน์ไม่น้อยถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครมา
“ไอ้ฝิ่นก็ไอ้ฝิ่นเถอะ” พี่ดิวยิ้มเยาะได้ใจจับไหล่เขาสองข้างให้หันไปหา แววตาคมเฉียบจดจ้องมายังดวงตาของเขา ข้อมือถูกรวบไว้แน่นทั้งสองข้าง ใบหน้าที่เคยหลีกหนีโน้มเข้ามาใกล้ ริมฝีปากที่เคยสัมผัสกับผู้ชายด้วยกันเพียงคนเดียวถูกอีกคนล่วงล้ำโดยยากจะขัดขืน เท้าที่ถอยหลังจากแรงดัน เขารู้ดีว่าเบื้องหลังคือเตียงนอน เกร็งแขนต่อต้านก็ไร้ผล จะอ้าปากด่าทอก็จนปัญญา ความรุนแรงถาโถมโหมกระหน่ำเข้าทาบทับตัวหลังจากเสียหลักหงายหลังลงเตียงที่เต็มไปด้วยฝุ่น
ไม่ได้หลอกให้พี่ดิวมารอไอ้พงษ์ เขาไม่ได้อยากให้มีเรื่องขัดแย้งอะไรเกิดขึ้นอีก
แต่เขาหลอกพี่ดิวมา เขาหลอกเพื่อจะขังพี่ดิวไว้ในบ้าน แล้วหายไปตามทางของเขา แต่เร็วไป พี่ดิวจู่โจมเขาเร็วเกินไป...สิ่งที่เขาวางไว้มันต้องไม่ใช่ตอนนี้
นี่เขา...พลาดอีกแล้วสินะ
.
.
.
นั่งยอง ๆ กวักน้ำขึ้นล้างคราบกำเดาก่อนลุกยืนอย่างโงนเงน เขาซี๊ดปากเพราะแสบแผลสด ๆ ตรงมุมปาก แต่ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าความเย็นของอากาศที่ต้องยกแขนขึ้นกอดอกตัวเอง แต่กลับต้องสัมผัสกับเสื้อเชิ้ตขาดเวิ่นที่ยังพยายามสวมใส่อยู่
“หึ” เขานึกสมเพชตัวเอง
ทอดสายตาไปกลางลำธารที่สายน้ำไหลเอื่อย เงาของพระจันทร์ช่างดึงดูดความเคว้งได้ดีเหลือเกิน สองเท้าก้าวลงธารน้ำด้วยความเหม่อลอยของเจ้าตัว
“แม่ แม่! อย่าไป!” เสียงเล็กตะโกนก้องลำธารตามหลังแม่ที่เอาแต่เดินหน้า
สายน้ำค่อย ๆ กลืนกินแม่หายไปครึ่งค่อนตัว
“แม่ครับ รอแก้วด้วย ฮือ อย่างทิ้งแก้วไป แม่!”
เขาวิ่งลงน้ำตามหลังแม่ไป แต่แล้วแม่กลับจมหายไปต่อหน้าต่อตา แขนขาเขาแข็งทื่อชั่วขณะ รู้สึกตัวอีกทีก็ต้องตะเกียกตะกายให้ตัวเองขึ้นโผล่พ้นเหนือน้ำเพื่อหาอากาศหายใจ
แต่แม่ หายไปจากสายตาเขาแล้ว...
เหนื่อยอะไรเช่นนี้ เหนื่อยที่พอทนไหว วันนี้เริ่มหมดแรงซะแล้ว แข้งขามันล้าเกินไป ใจที่คิดหนี มันไม่ได้หนีดังใจเอาเสียเลย
สัมผัสของพี่ดิวยิ่งทำให้นึกถึงไอ้ฝิ่น ความผิดที่เขากำลังจะหนีไปและทิ้งให้มันจมปลักอยู่ตามลำพัง
ถ้าเขาไป...มันคงโกรธไม่น้อย แต่ถ้าเขาไป แล้วทิ้งให้พงษ์อยู่ในสถานะเดียวกับฝิ่น มันคง พอใจขึ้นมาบ้าง
ลองสูญเสียบ้างนะพงษ์ ... เพราะกูพาพี่ดิวมาที่นี่ วันนี้มันจึงเร็วขึ้นเท่านั้น แต่กูก็ตั้งใจจะทำอย่างนี้แต่แรก อยากให้มึงได้รู้สึกเห็นใจคนอื่นบ้าง โลกนี้ไม่ได้มีแค่มึงกับกู
และเขาหวังว่า...ฝิ่นและคนที่ยังอยู่ข้างหลังจะเริ่มต้นหนทางใหม่ที่ไม่แค้นเคืองต่อกันอีกต่อไป
รัก...ที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยรัก
รัก...ที่ต้องตัดใจเมื่อเรายังเดินทางใครทางมัน
มันย่อมเจ็บปวดเสมอ
แต่ทางเดียวที่จะตัดความรู้สึกค้างคาในใจออกไปจนหมดสิ้น เขาจะได้ไม่รู้สึกอะไรอีกและไม่ต้องสนใจความรู้สึกของใครอีก ไม่ต้องรู้สึกผิดกับพงษ์ที่เขารักฝิ่น ไม่ต้องรู้สึกผิดกับฝิ่นที่เขาเลือกพงษ์ และพี่ดิวจะไม่มีวันเหนือฝิ่นมันได้ นั่นคือลมหายใจของเขาต้องหยุดลง
“แม่ครับ...แก้วจะไปหาแม่นะ”
..........................................
ราตรีสวัสดิ์นะคะ หาวววว ไม่ไหวแล้ว ผิดพลาดตรงไหนคนเขียนก็มองไม่เห็นแล้ว เดี๋ยวบางคอมเม้นท์ไว้กลับมาตอบพรุ่งนี้นะคะ
๑๑.๕๕ มาตอบคอมเม้นท์เดียว ฮ่า ๆ ๆ ๆ
ลุ้นเรื่องเเก้วกับฝิ่น เเต่ก็อยากอ่านเรื่องโซ่กับภูรัก ไม่ทราบว่พี่จะเเต่งเรื่องของ 2 คนนี้รึเปล่าค่ะ ^^
....เขียนค่ะ อยากเขียน แต่ยังไม่มีกำหนด โซ่ที่รักกับเจ้าภู เป็นอาชีวะคู่แรกที่คนเขียนแต่งเลยค่ะ แต่หายไปกับไวรัสนานมากแล้ว ไว้ดูโอกาสอีกทีว่าคู่นี้จะมาได้เมื่อไหร่ ขอบคุณทุกคนที่ชอบ โซ่+ภูรัก นะคะ^^
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ กอด ๆ จุ๊บ ฝันดีเจ้า^^ [/color]
-
แปะไว้ก่อน
-
ตลกล่ะ.... o22
ไม่ขำนะมุกนี้ แก้วของฉานนนนน คิดสั้นหรอเนี่ย ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ไอ้ฝิ่นอยู่ไหนนนนนนนนนนนนนนนน ว่องเลยหล้า เมียมึงจะไปแล้วววว :z3:
-
แก้วโดรไอ้ฝิ่นทำร้ายอีกแล้ว
จัดการมันแล้วใช่ม่ัะ
แต่อย่าคิดสั้นสิ
:sad4: :sad4:
-
ดิวทำอะไรแก้ว ดิวสิ่งที่ดิวทำเห็นแก่ตัวมาก ๆ อยากได้ความรักความศรัทธาจากคนอื่น แต่ดิวทำแบบนั้นใครจะอยากให้ แก้วคิดอะไรอยู่ ทำแบบนั้นทำไม แก้วคิดจริง ๆ หรือไงว่าฝิ่นจะพอใจสิ่งที่แก้วกำลังจะทำ รู้บ้างหรือเปล่าว่ากำลังทำร้ายคนที่รักแก้วมากแค่ไหน พงษ์ควรจะเปลี่ยนแปลงความคิดก็ใช่อยู่ แต่มีวิธีอื่นไม่ใช่หรือที่จะทำให้พงษ์ค่อย ๆ เปลี่ยนได้ ที่จริงพงษ์ก็เหมือนจะเริ่มเปลี่ยนแล้ว ฝิ่นก็เช่นกัน แก้วอย่าทำอะไรแบบนั้นนะ พงษ์อย่าปิดเงียบอีกเลยรู้ืที่อยู่แก้วก็บอกฝิ่น บอกคนอื่น ๆ มาช่วยแก้วให้ได้นะ
-
แก้วเลือดกำเดา? :a5:
มันเกิดอะไรที่ร้ายแรงใช่มั้ย
มันไม่ใช่การข่มขืนใช้ม้ายย :z3: :z3: :z3:
-
แง้ แก้วอย่าทำอย่างงี้สิ ทำแบบนี้ฝั่นไม่ดีใจหรอกนะTT
ฝั่นมาเร็วๆ พงษ์ช่วยฆ่าไอ้เหี้ยพี่ดิวทีเถอะ ข้อร้อง
เกลียดแม่งว่ะ ตกลงมันได้ทำอะไรแก้วมั้ยเนียTT
-
สงสารแก้วมาก เหมือนชีวิตไม่ค่อยได้เจอเรื่องที่สมหวังเลย
ปัญหาใหญ่ๆ เหมือนเป็นปัญหาที่คนอื่นเอามาให้เองงะ และเพราะแก้วรักก็เลยรับปัญหานั้นไว้
ชาวแก็งแกรีบๆมาช่วยสักทีได้ไหม แก้วอย่าตายนะ :sad4: :sad4: :sad4:
-
ปมมันจะเยอะไปไหน ลุ้นจนตัวโก่งหมดแล้วเนี่ยะ
-
จะมีปาฏิหาริย์ไหมเนี่ย...
มันเรื่องอะไรที่ต้องมาตายสังเวยเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
ถึงยังไงพวกที่ไม่สำนึกมันก็ไม่สำนึกวันยังค่ำ
-
สงสารน้องแก้ว :sad4: ตอนนี้อ่านแล้วน้ำตาไหลไม่หยุด ปัญหาก็ไม่ใช่ฝีมือตัวเองก่อซะด้วยซ้ำ ทำไมถึงต้องมารับกรรมที่คนอื่นก่อ คนรอบข้างก็เหมือนจะทำให้เรื่องความรู้สึกยิ่งแย่ลงไปอีก มันคงทำให้เหนื่อยมาก ทำให้ล้ามาก จนไม่อยากอยู่ในโลกนี้อีกแล้ว
ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมารั้งแก้วได้(ต้องลากขึ้นจากน้ำมาผูกไว้กับเตียงอย่างเดียว) คนที่มาถึงขั้นนี้มีสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถเข้าใจได้นอกจากจะเจอกับตัวเอง หวังแค่ว่าฝิ่นจะมาทัน(และลากแก้วขึ้นมาจากน้ำ และอะไรก็ตามที่มันดำมืดทับถมจิตใจแก้วอยู่ตอนนี้ซะที ฮือออออออ ) :o12:)
:serius2: :serius2: :serius2: :pig4: รอตอนหน้า ฮือออออ
-
สับสน และเจ็บปวด T^T
รอนะ
-
นึกแล้วเชียว ว่าแก้วต้องทำแบบนี้ ฝั่งนั้นก็ช้ากันเหลือเกิน มัวทำอะไรกันอยู่เนี่ยะ !!
-
บีบหัวใจสุดๆ น้องแก้วมาอยู่กับเจ้ค่ะหนู
ตกลงพี่ดิวทำอะไรแก้วไหมน้อ
แค่ต้องการให้คนศรัทธา มันต้องสร้างเรื่องขนาดนี้เลยเหรอ
พี่ฝิ่นรีบมา แล้วช่วยน้องแก้วให้ได้นะคะ
-
แก้ว แก้วจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวใช่ไหม :monkeysad:
ว่าแต่คนจะช่วยตามมาถึงไหนแล้ว จะมาถึงกันหรือยัง
-
+1 จ้า คิดถึงๆ
-
:serius2:
-
คิดว่าแก้วนี่เข้มแข็งมากจริงๆ
ที่มีชีวิตอยู่มาได้จนถึงตอนนี้
ก็อยู่ที่ว่าฝิ่นกับพงษ์จะหาแก้วทันเวลารึเปล่า
ทันทีเท้อ :call:
-
เอาเลยจ้ะ....(อินี่สายs)
-
แก้ว
-
ถ้าเป็นเรา ยังไม่รู้เลยว่าจะเข้มแข็งได้อย่างแก้วไหม
-
ขออย่าให้แก้วเสร็จดิวเลย แงๆๆๆ
-
มาช่วยกันให้ทันนะ :call: :serius2:
-
:serius2:
โว้ยยยยอ่านแล้วหงุดตงิดคร้าบบบ
มาต่อไวไว อยากรู้ต่อไม่ไหวเเร้ววววว
-
แก้วคงอารมณ์ประมาณโดดเดี่ยว ไร้ที่พักพิงแล้วอ่ะ :เฮ้อ:
แก้วคงเหนื่อยมาก อยากพัก ไม่ต้องมารับรู้อะไรเรื่องเวรๆบ้าๆของคนอื่นอีกแล้ว :เฮ้อ:
-
ม่ายยยยยยยยยยยยยย :sad4: :sad4:
-
ขออีกครับ มันขาดตอน
-
"ไม่ต้องรู้สึกผิดกับพงษ์ที่รักฝิ่น ไม่ต้องรู้สึกผิดกับฝิ่นที่เลือกพงษ์"
เอ๊ะ อะไร ยังไง เค้างงอ่า น้องแก้วคิดเอาเอง หรือพลาดอ่านตอนไหนไปรึเปล่าเนี่ย :m28:
-
ซีเครียดดดด โอ๊ยยยย :really2: :really2: :really2: :really2:
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
-
o6 :confuse:
-
ไม่เอานะแก้ววว
อย่าตามแม่ไปเลยย
:m31: :m31: :m31:
-
สงสารแก้วจังเลย
ปัญหาที่มันเกิดอยู่นี่แก้วไม่ใช่คนก่อสักหน่อย
แต่ต้องมารับแทนซะงั้น
แก้วไม่โดนไอ้ดิวมันทำอะไรใช่ไหม(สาธุอย่าเป็นอย่างที่คิดไว้เลย)
ฝิ่นมาช่วยแก้วเร็วๆเลย
แก้วอย่าคิดสั้นนะ
+ 1 นะคะแล้วมาอัพต่อนะคะมาไวๆก็ดีนะคะเพราะอยากรู้ว่า
ฝิ่นจะเจอแก้วไหม
-
เวลาแบบนี้ อิฝิ่นไปทราฟฟิคแจมอยู่แถวไหน
ถ้าไม่อยากถูกปลดจากตำแหน่งพระเอก
มาช่วยแก้วเดี๋ยวนี้ ...คนอ่านบัญชา !!!!
-
โอยยยยย ค้างงงง สุดๆไปเลยม
อ่านตั้งแรก ตาแฉะไปหมด
ตอนแรกก็นึกว่าพี่ไม้จะเป็นพระเอก ล้วก๊รำคาญแก้ว มีไรก็ไม่พูด เพื่อนฆ่าคนตายก็ยีงเข้าข้างอีก
แถมคิดอะไรโง่ๆว่าตัวเองจะทดแทนได้ สำคัญตัวมากเลยเหอะ
ส่่วนฝิ่นอารมณ์เยอะจริงๆ ใช้แต่อารมณ์ล้วนๆ
พอมาดิวแม่งตอนแรกก็ว่าดี แต่พอเจอดีกับดิวพร้อมกันก็รู้แล้วว่าคงไม่ดีแน่ๆ
เหี้ยทั้งพี่ทั้งน้อง
มิวอีก ผู้หญิงคนเดียว แค่หอยอันเดียว วุ่นวายไปหมด
พอแก้วเริ่มดี พงษ์กลับมาอีก พงษ์ก็นะ ไม่เคยสำนึก อาจจะเพราะไม่ได้ทำ ก็ได้มั้ง แต่มันก็เกินไป
ลูกขวัญ ตุ๊ดมากกกก ตามผู้ชายไปเรื่อย ขี้อิจฉา น่ารำคาญ
สุดท้าย ขอให้ช่วยแก้วไม่ทัน เอาให้ทันแบบฉิวเฉียดอ่ะ กว่าจะหากันเจอ นานขนาดนี้
ถ้าช่วยทันก็ฟิคหล่ะ ( เอ๊ะ นี่ก็ฟิคนิหว่า 555)
ปล. รักคนอ่านนะค่ะ *กอด*
-
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย แก้ว TToTT
-
เห้ยยยย
อาไรอ้าาาา
งง ไปหมดแล้ววว
ทำไมอ่ะ???
:z3:
กลับมาต่อเลยนะ
ไม่ชอบแบบนี้เลยอ่าา
-
หงุดหงิดอย่างเชี้ยๆ
ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยเนี้ยไม่เข้าใจ
แก้วคิดไรของแก้วอ่ะ ยอมดิวมันไปแล้วเหรอ รับไม่ได้เลยนะ รับไม่ได้มากๆด้วย
หงุดหงิดคนเขียนด้วย คือ ไม่ชอบเลย ที่แก้วต้องไปเป็นของคนอื่น
แค่ที่ผ่านมาแก้วยังน่าสงสารไม่พอใช่ไหม ยังต้องเพิ่มความทุเรศ ความอดสู เพิ่มเข้าไป
อ่วย แล้วแก้วนะแก้ว ทำไมตัดสินใจทำอะไรไปแบบนี้หล่ะ เอ้ย ไม่รู้จะร้องเป็นภาษาอะไรแล้วเนี้ย
ใอ้พ่อพระเอก ฝิ่น กับใอ้เจ้าพงษ์ก็ห่วย หาน้องอยู่ยังไง ไร้ความสามารถสิ้นดี ไหนบอกมีทีมงานเยอะแยะ
แต่แค่นี้ยังตามน้องยังไม่เจอ ใอ้พวกห่วยแตกเฮ้ย
-
^^
-
เห้อ อะไรกันนี่...........
-
:pig4: :pig4:
-
:o12: :o12: :o12: มันจะจบสิ้นแบบนี้...จิงๆเหรอ ไม่เอานะ :o12: :o12: :o12:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
คิดถึงฝิ่นก็ต้องกลับไปหาฝิ่นสิแก้ววววววว
-
เหมือนว่าคนอ่านต้องถอยหลังกลับไปทำความเข้าใจในตัวของแก้วใหม่อีกสองสามก้าว
แค่แก้วพาดิวไปสถานที่ลับของตัวเองแบบนั้นก็ว่างงแล้ว แต่นี่ยังคิดอะไรโน่นนี่มากมายเพิ่มมาให้คนอ่านเซอร์ไพรส์อีก... :เฮ้อ:
ถ้าพยายามเข้าใจแก้ว...ก็เหมือนกับว่าก่อนหน้าที่แก้วจะโดนดิวจับตัวมานั้น แก้วมันอึดอัด ทุกข์ใจ และมีความคิดที่จะจบปัญหาต่างๆ ด้วยวิธีการแบบตอนนี้
แต่เพราะแก้วมันมาเองไม่ได้ (ถึงมาได้ก็ไม่ได้อยากมาด้วยตัวเอง) มันก็เลยไม่ได้กระทำการอะไรตามใจอย่างที่มันคิด
ดิวมันเข้ามาได้จังหวะพอดี มาเป็นเครื่องมือให้แก้วได้ทำอะไรอย่างที่มันอยากทำ
แต่แก้วก็ประมาทดิวไปนะ คนกำลังหน้ามืดตามัวแบบนั้น คิดหรือว่าตัวเองจะสามารถควบคุมได้
น่าเสียดายที่แก้วไม่รู้ว่าปัญหาของฝิ่นและพงษ์มันเริ่มคลี่คลายแล้ว แก้วไม่รู้ แต่คนอ่านรู้....คนอ่านก็เลยมานั่งหงุดหงิดกับสิ่งที่แก้วทำ
ไม่รู้เหมือนกันว่าแก้วจะทำอะไรต่อไป จะเลวร้ายอย่างที่คนอ่านนึกอยู่ตอนนี้หรือเปล่า
ซึ่งคนอ่านก็งงๆ ในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะนั่นแสดงว่าแก้วรักฝิ่นมาก มากจนรู้สึกทรมานสุดๆ กับการที่ทำให้ฝิ่นต้องผิดหวังและเสียใจ
แก้วเลือกพงษ์ก็จริง แต่ใจของแก้วต่อต้านพงษ์ตลอดเวลา
แล้วจะเลือกพงษ์มันทำไมว้า...เลือกมาอยู่กับเขา แล้วมาทำร้ายจิตใจเขา สั่งสอนเขาโดยวิธีการแบบนี้อะนะ
ทุกอย่างมันจะจบได้ยังไง ในเมื่อคนที่พงษ์กับฝิ่นแคร์ มันคือแกคนเดียวอะแก้ว
พงษ์คงเสียใจและอาจสำนึกผิดอย่างที่แกคิด
แต่ฝิ่นล่ะ...คนที่แกรักและรักแก เขาจะรู้สึกดีที่แกเป็นอะไรอย่างนั้นหรือ เขาคงรู้สึกดีขึ้นกระมังจากที่เคยเสียใจกับการที่แกเคยเลือกพงษ์?
สรุป...แกมันก็แค่เหนื่อยที่จะอยู่ต่อไป เหนื่อยกับการที่ต้องเข้ามาอยู่ในวงจรอุบาทว์นี่ เท่านั้นแหละ :เฮ้อ:
ส่วนแก...ไอ้ดิว
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าทำไมแกถึงอยากได้ไอ้แก้วนัก แกนี่มันมีปมด้อยซะจริงๆ อะไรทำให้แกโตขึ้นมาโดยมีความรู้สึกแบบนี้กัน
อยากได้รับความรู้สึกแบบที่แก้วมีต่อพงษ์....ก็แล้วทำไมแกไม่หาคนของแกเอง แกนี่มันน่า..... :beat:
ตามความคิดของคนอ่าน เรื่องนี้มีแค่ความรู้สึกของคนสามคนนะ...คือ...พงษ์ แก้ว ฝิ่น
คนอื่นเป็นแค่คนนอก แต่คนนอกบางคนก็มีผลมากมายกับสามคนนั้น อย่างไอ้พี่ดิว นี่แหละ :เฮ้อ:
// คนเขียนอ่วมแน่ถ้าแก้วถูกไอ้พี่ดิวทำอะไรแบบนั้นจริงๆ...มันแบบ... :เฮ้อ:
อ้อ...คนอ่านท่านอื่นไม่ต้องตื่นเต้น คนเขียนเขาเคยลั่นปากไว้แล้วว่าจะไม่มีใครตายอีก
แต่เขาไม่ได้รับปากนะว่าแก้วจะโดนอะไรบ้าง....(มันจะยิ่งแย่กว่าตายมั้ยนะ :เฮ้อ: )
-
นั่นเต๊อะ !
แก้วทำไมมาคิดสั้นแบบนี้เล่าา คิดยาวๆ หน่อยคุณน้องขาาา
ถ้าคุณน้องเป็นอะไรไป แล้วพี่ฝิ่นจะทำยังไง คนข้างหลังยังเหลืออีกเยอะที่จะเสียใจ
ส่วนนายดิว ... นายโคตรเห็นแก่ตัว
แต่คาดว่าคงไม่ได้ทำอะไรแก้ว (รึเปล่า) อาจจะต่อสู้กันแล้วแก้วหนีออกมาได้งี้ -0-
ลุ้นต่อไป ... ยังดราม่าต่อได้อีก...
-
ไม่คิดจะทำจริงๆใช่ไหมแก้ว ฝิ่น พงษ์ รีบหาตัวแก้วเจอไวๆทีเถอะ :sad4:
-
การฆ่าตัวตายไม่ใช่การแก้ปัญหาของอะไรทั้งสิ้น แต่เป็นการหนีปัญหาและก่อปัญหาต่างหาก
ปล แอบจิ้นพงษ์กะพี่ไม้แหละ 5555 ขอคู่นี้ได้ไหมอ้ะ :z1:
-
ไอ้แก้ว มึงเยอะ แค่นี้ก็จะตายหรอ ชีวิตง่ายไปมั้ย
-
ตัดสินใจผิด
หรือปล่าวแก้ว :z3:
-
แก้ว :z3: :sad4:
-
อ่านทันแล้ว บีบหัวใจมาก ๆ
-
แก้ว ขำไม่ออกนะเห้ย !!
-
เรื่องจริงหรือฝัน เฮ้ย!! อะไรอย่างไง
ไม่นะ ไม่!!!!!!!
-
ตามอ่านทันแล้ว ><
ทำไมมันบีบหัวใจเช่นนี้หนอ
สงสารแก้วที่สุดแล้ว เซ็งอิพี่ดิวมากก
แก้วอย่าเป็นไรไปนะ TT
-
แก้ว อย่าทำแบบนี้เลย
ก็รู้ว่าคนที่ยังอยู่จะทรมานขนาดไหน
เศร้า :monkeysad:
พี่ดิว แกเป็นเอามาก แลดูโรคจิต
-
รอ รอ รอ แก้วฆ่าตัวตายใช่มั้ย
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๓
“พี่ฝิ่น...มิวคบกับพี่ดิวก่อนที่จะคบกับพี่เป้ง”
เอี๊ยดดด!!
หันข้างไปดุไอ้โจ้ด้วยสายตาเพราะมันเสือกเบรกรถกะทันหันทำเอาหัวทิ่ม เข็มขัดนิรภัยก็ยังไม่ได้คาด
“จอดรถทำไม?”
“ครับ ๆ” ไอ้โจ้ผงกหัวรับคำแล้วเหยียบคันเร่งออกรถต่อ เขาจึงหันไปคุยกับคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“มีอะไรจะพูดก็พูดมา”
“มิวรู้จักพี่ดิวดี มิว...เป็นห่วงแก้ว”
“เฮอะ!” ไอ้แก้วน่าห่วงน่ะจริง แต่ว่า ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะห่วงใครเป็นนอกจากตัวเอง และมิวก็แสดงออกให้เห็นตลอดว่าไม่เคยชอบใจกับการที่เขาให้ตามดูและคอยรายงานความประพฤติของไอ้แก้วให้เลย
“คือ...” หญิงสาวก้มหน้าถอนหายใจเบา ๆ “มิวคบกับพี่ดิวตั้งแต่อยู่ ม.๓ ตอนนั้นพี่ดิวเรียน ปวช.ก่อนจะดรอปไป ช่วงที่พี่ดิวดรอป มิวก็...เอ่อ เจอพี่ฝิ่น แต่พี่ฝิ่นไม่เฉียดตามองมิวเลย” หล่อนพล่ามก่อนเงยหน้ามองฝิ่นอย่างเคือง ๆ
ผู้หญิงสำหรับเขาหาที่ไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่จากสถาบันคู่อริ การคบคนโรงเรียนคู่อริสำหรับเขา นอกจากจะกลัวความลับของสายรั่วไหลยังถือเป็นการลดเกียรติของตัวเองด้วย
นี่ถ้าเขาปฏิญาณถึงผู้ชายโรงเรียนคู่อริด้วย คงต้องกลืนน้ำลายตัวเองเป็นกะละมัง
“ยกเว้นตอนนี้” เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับประโยคสุดท้ายที่เหน็บแนมมาเลย ในเมื่อหญิงสาวทำประโยชน์ให้เขาได้ แค่แลกกับการให้มิวได้พูดคุย ได้เข้าใกล้เขานิดหน่อย
...แต่มั่นใจได้เลยว่าเขาเปล่าหลอกใช้ใคร เพราะมิวสมัครใจเองต่างหาก
“เพื่อนมิวน่ะ ถ้าใครได้ควงกับเด็กช่างจะเป็นจุดเด่นมาก ยิ่งเป็นคนมีชื่อยิ่งเท่ ยิ่งถ้าได้ควงกับเด็กช่างต่างสถาบันยิ่งเด่นกว่า ไม่มีใครไม่อยากเป็นจุดเด่นหรอก ในเมื่อพี่ฝิ่นไม่สนใจ มิวเลย...เอาพี่เป้งก็ได้ พี่เขาก็กร่างไม่น้อย...”
“พี่ผมได้กลิ่นแปลก ๆ ว่ะ”
“เธอจะบอกอะไร” กลิ่นแปลก ๆ ที่ว่า เขาได้กลิ่นตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่า หลักฐานและพยานมันมีอยู่ก่อนแล้ว
“มิวไม่ใช่คนดี ทุกวันนี้มิวก็ไม่ดี แต่แก้วดีกับมิว” แววตาจดจ้องหน้ามิวอย่างจริงจัง เตรียมตั้งรับสิ่งที่จะได้ยิน “วันที่พี่เป้งตาย มิวเป็นคนบอกพี่ดิวเองว่าพี่เป้งอยู่ไหน แล้วตอนนั้น...มิวคบพี่เป้งพร้อมกับคบพงษ์ แน่นอนมิวอยากให้พงษ์หึงเลยตั้งใจบอกพี่ดิวต่อหน้าพงษ์ ...ผู้ชายต่อยกันแย่งเรา มันน่าภูมิใจจะตาย” มิวแค่นหัวเราะแต่นัยน์ตาเศร้า “ใครรู้เขาก็อิจฉามิวทั้งนั้นแหละ แต่ไม่นึกว่าพงษ์จะเล่นกันจนถึงตาย...”
“เธอมั่นใจว่าเป็นไอ้พงษ์?”
“ก็...พี่ดิวไม่ได้รู้สึกอะไรกับมิวแล้วหนิ”
“เธอบอกพี่ทำไม” นิ้วแกร่งกำเข้าหากันแน่นเกร็ง ภาพของคนที่ฆ่าเพื่อนลอยชัดในหัว แต่ภาพของคนที่เป็นห่วงแทบตายเด่นชัดมากกว่า
“พี่ตามติดแก้วทุกวันนี้เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ ...พี่ควรจะรู้อะไรบ้าง”
“เหมือนเธอจะรู้ดี”
“ไม่หรอก” หญิงสาวหน้าสลดยกมือไหว้ “พี่ฝิ่นมิวขอโทษ”
“บอกตอนนี้มันไม่ทำให้พี่รู้สึกดีขึ้นเลยมิว!” เขาเสียงดังใส่แล้วเอี้ยวตัวกลับมานั่งอย่างไม่สนใจจะฟังอีก ตอนหาเบาะแสกลับไม่ให้ความร่วมมือ ผ่านไปเป็นเดือนมาพูดตอนนี้ให้ได้อะไรขึ้นมา! หรือถ้าอยากตอบแทนที่ช่วยเมื่อกี้ก็ควรเงียบไปเลย
“พี่คง...รักแก้วสินะ ไม่ผิดจากพี่ดิวคาดไว้ทุกอย่างจริง ๆ หึ อย่าว่าแต่พี่เลย มิวเองยังเผลอชอบแก้วบ่อย ๆ ทั้งชอบ ทั้งเกลียด และมิวก็รู้ว่าพี่โกรธพงษ์...แต่แก้วน่ะ ทำได้หมดแหละแค่ให้พงษ์ไม่ผิด พี่เห็นไหม มิวควรจะหมั่นไส้ใช่ไหมล่ะ เหตุผลไม่ต่างจากพี่เท่าไหร่หรอก มิวเองมีส่วนแท้ ๆ ยังไม่เคยช่วยใครเลยทั้งทั้งผัวเก่าผัวใหม่”
“หยุดซ้ำเติมตัวเองเถอะ” เขาก็ไม่อยากย้ำสิ่งที่เคยคิดเหมือนกัน
“เปล่า มิวไม่ได้มีสำนึกขนาดนั้น มิวแค่อยากให้พี่รู้ว่าหัวใจของแก้วที่มีให้พงษ์ ใครก็เอาชนะไม่ได้หรอก ไม่ว่าพี่ดิว หรือแม้แต่พี่” หึ!
“ไอ้พงษ์ก็ส่วนไอ้พงษ์ ไอ้แก้วก็ส่วนไอ้แก้ว ...พี่ก็ยังเหมารวมอยู่ แต่พี่กำลังพยายาม” แม่ง ตอกย้ำตัวเองอีกแล้วกู
“รู้อะไรก็บอกมาเถอะ ไม่ได้ลำเลิกนะ แต่ถือว่าช่วย ๆ กัน” โจ้
“มิวเข้าใจ มิวเองก็อยากช่วย แต่ไม่รู้พี่ดิวพาไปไหนน่ะสิ พี่ดิวน่ะ อันตราย อันตรายสุด ๆ เขาไม่เคยให้ใจใครจริง ๆ เลย แต่แก้วไม่กลัวเลย แววตาของแก้วบอกว่าพร้อมเผชิญได้สบาย มิว...ไม่ชอบแก้ว แต่ก็ไม่อยากให้พี่ดิวทำร้ายแก้ว เหมือนมิวโดน...คนเคยรักกันยังทำกันได้ อะไรที่ไม่เต็มใจ มิวเข้าใจแล้ว...” หญิงสาวพูดคล้ายเยาะเย้ยตัวเองก่อนจะเม้มปากนั่งเงียบนิ่งไปจนถึงป้ายรถเมล์ที่มิวบอกว่าให้แฟนใหม่มารับที่นั่น
ใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมงกว่าก็ถึงสถานที่ที่ ไอ้พงษ์ไม่แน่ใจแต่ไม่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นที่อื่น หึ รู้ใจกันดีจริง ๆ
รีสอร์ตxx นามสกุลไอ้แก้ว
เขาหยิบยาแก้ปวดและยาพาราฯมากินเพราะรู้สึกปวดแผลขึ้นมา และป้องกันไข้ขึ้นหลังจากได้แผลเหมือนทุกทีก่อนส่งขวดน้ำคืนพี่ไม้
ถ้าเดาไม่ผิด ...น่าจะเป็นบ้านไอ้แก้วที่ให้เพื่อนมันซ่อนตัว เพราะตอนไอ้พงษ์มอบตัวกับตำรวจมันโผล่ไปเองจึงไม่มีใครรู้ว่ามันหนีไปอยู่ไหนมา
พอรถจอดไอ้พงษ์ก็ก้มหน้าเดินฝ่าความมืดไม่พูดไม่จากับใคร คนอื่น ๆ หยิบไฟฉายที่ติดมากับรถแทบไม่ทัน แต่ส่วนใหญ่ต้องตั้งท่าปรับสายตาให้เข้ากับความมืดก่อนถึงเดินตามมันไปได้
เขาแปลกใจ ทำไมไม่ไปอีกทางที่ดูจะมีคนอาศัยอยู่มากกว่า นี่ถ้าไม่ติดว่าสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นมะพร้าว ที่นี่ก็ป่าช้าดี ๆ นี่เอง
ไอ้พงษ์และพวก ทั้ง๓T ทั้ง๙T เดินนำหน้าลงไปที่คันร่องสวนมะพร้าวก่อน ส่วนอริอย่างเขาต้องรั้งท้ายทั้งที่ใจเดินนำพวกมันไปถึงจุดหมายที่ก็ไม่รู้ว่าที่ไหนแล้ว
“แก้ว แก้วโว้ย” ไอ้แสนตะโกนลั่น
“แหกปากไปก็ไม่มีใครตอบหรอก” ไอ้พงษ์ตะโกนตอบ
“อ้าว เหี้ย ถ้ากูไม่ตะโกนจะเจอไหม วังเวงฉิบหาย มืดก็มืด เงียบก็เงียบ”
นอกจากเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มใหญ่ แสงไฟจากมวนบุหรี่กับเสียงพูดคุยกันเบา ๆ แต่กลายเป็นเสียงดังไปโดยปริยายเมื่อบรรยากาศรอบตัวมีแต่ความเงียบ
“ที่นี่เองเหรอ” ภูรักพูดขึ้นมา ฝิ่นเองก็อยากรู้ว่ามันคุยอะไรกันแต่ทำได้แค่เงี่ยหูฟังเพราะเดินห่างเกิน
“พี่ภูพูดเหมือนรู้จักบ้านไอ้แก้วเลย” ไอ้แสน
“มันเคยพูดเปรย ๆ”
“ไม่เห็นมันเคยเปรยให้ผมฟังเลย อะไรวะ” หึ กูด้วยอีกคน ฝิ่นอดเห็นด้วยกับไอ้แสนไม่ได้
เขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับไอ้แก้วเลย อาจไม่รู้เพราะปิดหูปิดตาแต่แรก แต่มันก็สามารถเล่าอะไรให้เขาฟังได้นี่หว่า
...แต่มันไม่เล่า
“บางคนไม่พูดกันทุกเรื่องก็ไม่ได้แปลว่าไม่ให้ความสำคัญ... บางเรื่องก็สะดวกกับบางคนเท่านั้น มึงอย่าน้อยใจเลย”
“น้อยใจ? แสนเนี่ยนะน้อยใจ ตลกว่ะพี่ภู มันคบแสนก็ดีถมแล้ว”
“เออ กูก็คิดอย่างนั้น งั้นมึงก็ควรตอบแทนมันมากกว่าบ่นได้แล้ว” ไอ้ภูตัดบท
น้อยใจ?
ไอ้เหี้ย... ฝิ่นทำปากขมุบขมิบขืนเปล่งเสียงออกไปคนรอบตัวต้องข้องใจว่าอยู่ ๆ เขาชมไอ้ภูเลื้อยทำไม
...เออ เขายอมรับว่ากำลังคิดมาก
แต่เขาไม่ได้น้อยใจ แค่อยากรู้ทุกเรื่องของมันเพราะประวัติมันเขาสืบจากไหนไม่ได้เลยนอกจากปากไอ้แก้วกับไอ้พงษ์เท่านั้น แล้วมันคิดไหมว่าเขาจะไปสืบจากไอ้เหี้ยพงษ์? ทั้งที่เคยสั่งไอ้แก้วแล้ว แต่มันยังไม่เคยเล่าเลย
เขาต้องตามหามันให้เจอและจะต้องรับรู้ทุกเรื่องราวในชีวิตมันให้ได้ จะต้องรู้มากกว่าใครด้วย!
“พี่ฝิ่นคิดยังไงเรื่องที่มิวมันพูด” ไอ้โจ้กระซิบขัดสิ่งที่เขากำลังปฏิญาณเลยต้องถอนหายใจแล้วมาคุยกับมัน
“ไม่ได้คิดอะไร มันคงรู้สึกผิดที่พาไอ้เป้เข้าไปในโรงแรมนั่น” พูดไปตามที่เจ้าตัวสารภาพ มิวอาจรู้สึกผิดเลยตอบแทนเขาด้วยการเห็นอกเห็นใจไอ้แก้ว แค่นั้น
“ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น ผมหมายถึง...”
“เรื่องอะไร?” พี่ไม้ดันถามอีกคน
“ไอ้โจ้สงสัยว่าไอ้พงษ์ฆ่าไอ้เป้งจริงรึเปล่า” ฝิ่นบอกรุ่นพี่เอง
“ทำไมวะ?” พี่ไม้
“มิวบอกว่าไอ้ดิวเคยเป็นแฟนมัน เป็นไปได้ไหมที่ไอ้ดิวจะมีส่วนมากกว่าแค่ประธานสายที่ควรรับผิดชอบพฤติกรรมคนของมัน” ไอ้โจ้บอกสิ่งที่มันคิด
“กูก็คิดมาแต่แรก”
“อะไรนะ?” ทั้งเขาทั้งไอ้โจ้หยุดชะงักกับคำพูดพี่ไม้ แต่ก็ต้องรีบเร่งฝีเท้าตามพวกข้างหน้าต่อ
“อย่าว่าแต่มีส่วนเลย มันเป็นไปได้ทั้งสองคนนั่นแหละ ที่ไอ้เป้งโดนกูว่าคงเป็นคนที่โกรธแค้นกันมาก แต่กูไม่มั่นใจว่าจะเป็นไอ้ดิวร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะตำรวจมีหลักฐานทุกอย่าง ทั้งลายมือจากมีด ทั้งพยานบุคคลที่บอกว่าเห็นทั้งสองคนในเหตุการณ์”
“พี่สงสัย แต่ยังไปขอให้ไอ้ดิวช่วย” ไอ้โจ้
“อืม และมันก็ยืนอยู่ฝ่ายเราเหมือนเต็มใจช่วย แต่ไอ้พงษ์ก็มอบตัวและรับสารภาพ” นั่นแหละที่ทำให้เขามั่นใจ
“ที่สำคัญ ไอ้ฝิ่น”
“อะไรวะ?”
“มึงไม่ฟังใครเลยช่วงนั้น มึงตัดสินความผิดไปเรียบร้อย” นึกแล้วว่าพี่ไม้ต้องพูดอย่างนี้
“ใครก็เชื่อตามที่เห็นพี่” ไอ้โจ้เสริมฝั่งเขา
“ผมอยากให้เป็นไอ้เหี้ยดิว”
“มันก็แค่ข้อสงสัยของเรา มึงอย่าเพิ่งคิดตามเลย จะยังไง วันนี้มันก็เท่าเดิม” ใช่ เท่าเดิม...เขาเคยเลวใส่ไอ้แก้วยังไง มันก็เลวไปแล้ว
แต่ตอนนี้เขาอยากยกเรื่องนี้ออกจากหัวแล้วโยนไปไกล ๆ เพราะมันเป็นเรื่องเดียวที่เป็นต้นเหตุให้เขาห่างกับไอ้แก้วจนเกิดเรื่องขึ้นมาอย่างนี้ เป็นห่วง...ห่วงจนไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรมาอภัยให้พวกมันแล้ว เขาไม่เคยคิดยอมอ่อนข้อให้ใคร ไม่เคยคิดจะให้ใครมาเป็นภาระ แต่อยู่ ๆ ดันเกิดขึ้นกับผู้ชายคนที่เขาไม่เคยอยากจะดีด้วย มันเหี้ยเกินไปแล้ว
“หลงทางรึเปล่ามึง” เสียงไอ้แสนยังแว่วมาเป็นระลอก นอกนั้นก็ไม่รู้แล้วว่าใครเป็นคนพูดบ้าง
“ถ่านไฟฉายจะหมดแล้วด้วย”
“เหี้ยหมดไวขนาดนี้มึงจะพกมาทำไม”
“บ้านมันอยู่ตรงไหนวะ กูเห็นแต่ต้นมะพร้าว”
แต่ไม่มีการตอบกลับจากไอ้พงษ์
“กูบอกแล้วให้ไปดูบ้านไอ้ดิวที่คลองสิบเอ็ด” ไอ้แสน
“แสน ไฟ พวกมึงเงียบเลย กูงงแล้วเนี่ย...สามสิบสาม” มันพูดเหมือนไม่เต็มใจพูดแล้วบ่นพึมพำต่อ
มันสงบปากไปมากทีเดียวหลังจากไปกับพี่ไม้มา พี่บอกปล่อยให้มันได้คิดทบทวนบางอย่าง ไม่จำเป็นก็อย่าใจร้อนกับมันให้มาก เขาจึงทำตามที่พี่ไม้บอกเพราะตอนนี้ต้องอาศัยมันคนเดียว
“ไฟ? มึงเรียกชื่อกูห้วน ๆ อย่างนี้เลยเหรอ”
“กูไม่มีอารมณ์มาพูดกับมึง ...สามสิบห้า” แต่พวกมึงยังมีอารมณ์กัดกันนะ
“เอาไว้จบงานนี้มึงได้งัดข้อกับกูแน่”
“เอาเวลาของมึงไปตามตูดไอ้ดีเถอะ”
“เฮ้ยไม่เอาน่า” เหมือนไอ้แชมป์จะเป็นกรรมการหลังจากไอ้พงษ์มันบอกถึงสิ่งที่ไม่พอใจ
เขาให้เวลาไอ้พงษ์คิดแต่เขารำคาญลูกตาที่ต้องจดจ้องว่าพวกมันมองหน้ากันเพื่อหาอะไรจึงเดินไปหาไอ้พงษ์
“บอกที่อยู่ไอ้แก้วมากูจะไปหาเอง แล้วมึงอยากกัดกับใครก็เชิญ” ฝิ่นเอ่ยปาก
แต่มันไม่สน
...โว๊ย! ทำไมต้องมาง้อมันด้วยวะ
“มึงให้กูมาเพื่อให้ไอ้พงษ์มันดูถูกกูเหรอ” พอเข้าไปใกล้จึงเห็นหน้าคนที่เถียงกับไอ้พงษ์ลาง ๆ แต่จำเขาได้ มันคือไอ้คนที่เจอที่บ้านไอ้ดิวเมื่อตอนหัวค่ำ และมันยังไม่ยอม
“ครั้งนี้กูให้พี่แชมป์ กูไม่คุยแล้ว”
“พวกมึง๓Tฟังนะ รุ่นพี่จบไปแล้วก็คือจบไป ไม่ได้สำคัญอะไรกับพวกมึงนักหนาหรอก กูไม่ได้ให้พวกมึงลามปามแต่ถ้าใครให้พวกนั้นสำคัญกว่าประธานคนปัจจุบัน เวลามีเรื่องก็ไปตามรุ่นพี่โน่นแล้วกูจะไม่ยุ่งเลย ต่อไปเอาตามนี้” ไอ้แชมป์สั่งสอนคนของสายมัน
“สามสิบ... เหี้ยเอ้ย!เท่าไหร่แล้ววะแสน”
“สามสิบห้า” ไอ้แสนตอบห้วน ๆ เขาไม่รู้มันนับอะไรไร้สาระตอนนี้
“กูรอไม่ได้แล้วนะ!”
“รอไม่ได้? แล้วมึงทำอะไรได้” มันมองหน้าเขาอย่างที่เขาไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้แล้วเดินเลยเขาไป
“ทุกคนกำลังทำเต็มที่” พี่ไม้แตะไหล่พูดบอก เขากัดฟันพยักหน้าจำต้องเข้าใจแล้วมาเดินอยู่กลุ่มหน้า ๆ พร้อมกับพวกเทคโนT
“ดอกอะไรวะหอมว่ะ” ไอ้แสน
“ดอกลดาวัลย์” ไอ้พงษ์ตอบ “สามสิบห้า สามสิบหก สามสิบเจ็ด สามสิบแปด สามสิบเก้า สี่สิบ”
หอมแต่รก เครือลดาวัลย์พุ่มหนาเต็มกำแพงยิ่งเพิ่มความมืดทึบ ความวังเวงให้กับที่นี่เข้าไปอีก
“รีบเดินให้พ้น ๆ เถอะกูไม่ชอบดอกไม้” ไอ้ประธาน ๙T
“อืม หอมเย็น ๆ ถึงว่าไอ้แก้วชอบที่นี่มาก” ไอ้ภู
“เอาไปปลูกที่บ้านโซ่ก็ได้นะ”
“ไม่
“ลดาวัลย์ ชื่อเหมือนผู้หญิงเลยว่ะ” ไอ้แสนยังขี้สงสัยไม่หยุดในขณะที่เขาจะประสาทเสียอยู่แล้ว
“ชื่อแม่ไอ้แก้ว” ไอ้พงษ์เหมือนแค่บอกปัด ๆ แล้วบ่นอะไรของมันต่อ
“เฮ้ย! ผมขอโทษครับผมเพิ่งเคยได้ยินครั้งแรก” ไอ้แสนถึงกับยกมือไหว้ปลก ๆ
อีกสิ่งหนึ่งที่เขารู้คือแม่ไอ้แก้วตายไปแล้ว...ฝิ่นมองกำแพงลดาวัลย์ที่สูงเกือบเท่าต้นมะพร้าวและยาวไปสุดสายตาที่พอมองเห็นจากความมืดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงต้องปลูกให้มันรกขนาดนี้
ตัวตนของไอ้แก้วต้องใช้เวลาเพื่อจะเข้าใจจริง ๆ
“สี่สิบเอ็ด สี่สิบสอง สี่สิบสาม สี่สิบสี่ เอาล่ะ กูท่องตั้งแต่ขึ้นรถผิดอีกก็ไม่ใช่กูแล้วล่ะ”
หลังกำแพงลดาวัลย์
บ้านหลังเล็กริมลำธารของไอ้แก้ว ที่ ๆ ไม่มันเคยเอ่ยถึงเมื่ออยู่กับเขา โลกอีกใบของมันที่เขาไม่เคยรู้จัก
คำพูดจากปากไอ้พงษ์ ทั้งจากสถานที่ตั้งก็คาดว่าคงมีความสำคัญกับมันมาก แล้วจะพาไอ้ดิวมาที่นี่เหรอ?
“พี่ฝิ่นมีแสงไฟ” เขามองตามมือไอ้โจ้ที่ชี้บอกในทันทีพร้อมกับขาที่ก้าวเดินอย่างทันใจ
“แก้ว! /ไอ้แก้ว!” ทุกเสียงตะโกนแข่งกันรียกชื่อมันแต่เมื่อวิ่งผ่านประตูหน้าบ้านที่เปิดทิ้งไว้เข้ามาข้างในก็เห็นเพียงตะเกียงที่ตั้งอยู่กับพื้นไม้ และ...ความเงียบ
ฝิ่นกับพงษ์ก้าวเดินช้า ๆ ด้วยความลังเล ไปที่เตียงนอนซึ่งถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาว มีบางสิ่งเรียกให้พวกเขาเข้าไปให้ใกล้ที่สุดเพื่อให้แสงไฟจากตะเกียงที่ส่องสว่างอยู่ข้างเตียงนั้นช่วยให้เห็นชัด ๆ ว่ามันคืออะไร
“เลือดกำเดา?” ไอ้ภูที่ตามมาติด ๆ มองหน้าเขาที มองหน้าไอ้พงษ์ทีแล้วหยิบเสื้อนักศึกษาที่ถูกทิ้งอยู่บนเตียงยกขึ้นกาง
แค่มองดูก็รู้ว่าไม่ใช่ของไอ้แก้ว
คราบเลือดตามผ้าคลุมที่ยับย่น ไม่ใช่หยดหรือสองหยุดแต่มันเปื้อนป่ายไปทั่วเตียง หากว่ามันคือเลือดกำเดาเจ้าตัวคงไม่สามารถใช้จมูกหายใจได้อีกแล้ว ถ้าว่าเป็นจมูกแตกหักน่าจะใกล้เคียงมากกว่า แต่ใกล้เคียงกว่านั้นคงเป็นร่องรอยของการต่อสู้...
“โอ๊ะ เหี้ย ๆ” ไอ้แสนวิ่งผ่านเตียงไป คาดว่ามันน่าจะไปดูที่ห้องน้ำแต่ดันล้มโครมซะก่อน “เฮ้ย! มีคนอยู่ตรงนี้ แก้ว! มึงรึเปล่าวะ”
เขาหยุดความคิดรีบวิ่งอ้อมเตียงไปอีกฝั่งที่ไอ้แสนกำลังคลานไปหาร่างที่นอนคู้อยู่นั่น แต่ไม่ทันไอ้พงษ์ที่หยิบตะเกียงมาส่องทุกคนถึงกับต้องชะงักหยุดไปตาม ๆ กัน
“ไอ้ดิว/ดิว/พะ พี่ดิว...”
“ไอ้เหี้ย!ไอ้แก้วอยู่ไหน” ฝิ่นก้าวฉับไปหาไอ้คนที่นอนไม่รู้เรื่องด้วยความโกรธ เขาใช้เท้าเขี่ยตัวที่เหลือแต่กางเกงยีนส์สวมใส่ให้มันพลิกกลับมาทางเขาก่อนจะหยุดปลายเท้าที่ใบหน้าของมัน “เดี๋ยว” ฝิ่นเอ่ยปากห้ามไอ้ภูที่ง้างเท้าเตรียมเตะ
ใบหน้าที่อาบไปด้วยเลือดตั้งแต่หัวลงมายันไหปลาร้าของไอ้ดิว และเขาเพิ่งเห็นเศษแจกันที่แตกเกลื่อนอยู่รอบตัวมันกับใต้ฝ่าเท้าเขา
“แจกัน...กู” ไอ้พงษ์พูดเสียงเบา “ไปเถอะ” แล้วหันมาชวนเขาก่อนที่มันจะเดินนำหน้าออกไปนอกบ้าน
ต้องยอมรับว่ามันคงรู้อะไรมากกว่าที่เขารู้จริง ๆ
“ภูมึงรอที่นี่” ไอ้พงษ์หันกลับไปบอกคนที่กำลังตามหลัง
“ไม่”
“จัดการไอ้ดิวรอกู”
“กูอยากหาไอ้แก้ว ...แต่...พวกมึงรับปากว่าจะหาไอ้แก้วเจอใช่ไหม?”
“มึงไม่น่าถาม” ไอ้พงษ์ตอบ ไอ้ภูจึงหันมามองหน้าเขา เขาพยักหน้าให้
“งั้นก็ได้”
ทิ้งคน๙Tบางส่วนไว้ในบ้านเพื่อจัดการกับไอ้ดิวให้ฟื้น
ฝิ่นกับพวก๕Xตัดสินใจเดินตามไอ้พงษ์พร้อมพวก๓Tโดยไม่ซักไซ้อะไร
“คุณน้าครับ คุ้มครองน้องรอผมด้วยนะครับ” มันพนมมือพูดกับความมืด “พี่แชมป์ไฟฉายเหลือรึเปล่า” มันถามพี่มัน
“สองอัน”
“อืม ฝิ่น...” เขารอฟังอย่างใจจดใจจ่อเมื่อสีหน้าไอ้พงษ์เริ่มซีดไปตั้งแต่เห็นสภาพบ้านและสภาพไอ้ดิว “กูคิดว่าไอ้แก้วจะฆ่าตัวตาย...ในน้ำ” มันบอกด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจัง
...
เพราะอะไร?
...
จะอ้าปากถามแต่กลับเค้นเสียงออกมาไม่ไหว...
...
“ตามสิ! เริ่มจากไหน ตรงนี้เลยใช่ไหม?” พี่ไม้ใช้ความมีสติของตัวเองเรียกสติเขา
ใช่ เขาไม่ควรมืดตามท้องฟ้าในขณะนี้
“พี่แชมป์เดินขึ้นไปเรื่อย ๆ จะมีสะพานข้ามไปอีกฝั่ง ฝากด้วยนะ” ไอ้แชมป์รับปากแล้วแยกคนออกไป “ตรงนี้น้ำลึกมาก”
“ข้ามไปฝั่งโน้นได้ไหม?” เขาถามเมื่อต้องเริ่มต้นการค้นหา
“ได้ แต่ต้องเดินลงไปอีกกิโลฯ”
“จะลึกสักแค่ไหนเชียว งั้นเริ่มจากตรงนี้” ฝิ่นมองหน้าพงษ์พลางแกะผ้าพันแผลที่หัวออก
“พี่ฝิ่น” ไอ้โจ้ร้องทักฝิ่นเลยโยนผ้าพันแผลไปที่มือมัน
เขาถอดรองเท้าผ้าใบออกลำดับถัดไปก่อนจะเดินลงไปในลำธารเบื้องหน้า
ถึงต้องสู้กับความมืดกูก็ต้องชนะเพื่อหามึงให้เจอ มึงหนีกูไม่พ้นหรอกไอ้แก้ว
“มึงแม่งบ้า” ไอ้พงษ์ด่าเขาแต่มันก็ทิ้งรองเท้าแล้วเดินตามลงมาอีกคน
ผ่านพ้นเที่ยงคืนแสงจากพระจันทร์ยังพอช่วยให้เห็นอะไรขึ้นบ้าง พวกเขาต้องดำผุดดำโผล่กันก็ต้องทำ หัวที่แตกอยู่จะไม่หายก็ช่างแม่ง
“ฝิ่น ไอ้ฝิ่นอย่าดำน้ำ!” พี่ไม้เดินลุยน้ำจากอีกทางตรงมาหาเขา ฝิ่นจึงรีบเดินหนีอย่างคนหมดแรงไปหาที่ตื้น เขารู้สึกใต้ฝ่าเท้าเริ่มจะเปลี่ยนจากโคนตมเป็นเศษหินบ้างแล้ว
เด็กช่างครึ่งร้อยต้องค่อย ๆ ต้อนพื้นที่ไปเรื่อย ๆ อีกส่วนให้เดินส่องไฟฉายที่แสงสว่างเริ่มเป็นสีแดงเพราะถ่านไฟฉายใกล้หมดเต็มทีตามเลียบฝั่ง ถามไอ้พงษ์ว่ามั่นใจแค่ไหน คำตอบคือมันมั่นใจว่าไอ้แก้วจะทำอย่างนี้แต่ไม่มั่นใจว่าเราจะเจอไอ้แก้วในสภาพไหน ถามเยอะก็ไม่ได้ สีหน้ามันดูไม่ไหวจะตอบอะไรแล้ว ทางเดียวคือต้องทำอย่างนี้ วิธีการตามหามันช่างล่าช้าอย่างที่เขาไม่เคยรอได้ แต่ครั้งนี้ต่างกันที่ไม่ใช่เสียเวลาแม้การแช่น้ำเย็น ๆ จะปาไปชั่วโมงกว่าก็ตาม
“ไอ้แก้ว! แก้ว” เสียงตะโกนก้องไปทั่วผืนป่าผืนน้ำทั้งจากชุดนี้และจากพวกไอ้แชมป์ที่กำลังไล่ตามลงมาเผื่อเจ้าของชื่อจะตอบกลับมาบ้าง
ไม่เคยต้องหวังอะไรเท่านี้มาก่อน แต่ก็จะหวัง ช่วงเวลาที่ผ่านมา...เขาเข้าใจการสูญเสียเป็นอย่างดี
แม้เข้าใจแต่เขาจะไม่ยอมสูญเสียใครไปอีกเด็ดขาด
“แก้ว!! มึงอยู่ไหน” ทิ้งกูครั้งเดียวมันมากไปนะมึงรู้รึเปล่า
ครั้งนี้เขาไม่ยอมอีกแน่ ออกมาเดี๋ยวนี้ ออกมาเดี๋ยวนี้นะเว้ย! ถ้ามึงทิ้งกูมึงจะเสียอะไรไปมึงรู้ไหม การรักใครสักคนแล้วได้รักตอบมันเป็นยังไง ...มึงไม่อยากรู้ ไม่อยากได้ ไม่อยากรู้สึกดีแล้วรึไง
มึงต้องอยากรู้สิ!
อย่าหนีอีกเลย อย่าหนีเขาอีกเลย เขาไม่ถือโทษโกรธไอ้พงษ์แล้วก็ได้ เขาจะไม่เก็บไว้อีกแล้ว จะไม่ปิดบังความรู้สึกอีก ถ้าให้รู้ว่ารักแล้วกูไม่ต้องหลับตาตามหามึงอย่างนี้ ถึงต้องเสียหมาก็ยอมหมดเลย
“ไอ้แก้ว! พงษ์ ๆ ทางนี้!”
ฝิ่นกวักน้ำใส่หน้าเพื่อกันคนอื่นจะรู้เห็นความรู้สึกที่ไหลผ่านม่านตาเมื่อครู่แล้วรีบเดินฝ่าธารน้ำไปทางแสงไฟฉายที่ส่องล็อคเป้าหมายไว้ให้ด้วยใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ
ร่างหนึ่งนอนคว่ำหน้านิ่งที่โขดหินซึ่งติดกับรากของต้นไม้ริมตลิ่งนั่น ไอ้พงษ์ขึ้นไปนั่งคุกเข่าบนโขดหิน ในขณะที่เขายืนแช่น้ำมองร่างที่ยังนิ่งอยู่นั่นอย่างหวั่นใจ
เมื่อตั้งหลักไหวแล้วจึงปีนขึ้นตามไอ้พงษ์
เหลือบมองใบหน้าเครียด ๆ ของไอ้พงษ์นัยน์ตามันก็แดงกล่ำไม่ต่างกันแต่ที่ต่างคือมันกล้าที่จะจับตัวไอ้แก้วพลิกขึ้นให้พิงกับหน้าอกมันที่มันเปลี่ยนท่านั่งใหม่แล้ว ถึงได้เห็นว่าหน้าผากไอ้แก้วมีแผลสด ๆ ...หัวแตก เลือดยังไหลซึมอยู่ กับมุมปากซีดที่ยังเห็นเป็นร่องรอยว่าเคยได้เลือด ฝิ่นจึงยื่นมือไปเช็ดเลือดตรงหน้าผากให้ พร้อมนิ้วชี้สั่น ๆ ของไอ้พงษ์ที่ยื่นมาจ่อจมูกไอ้แก้ว
ฝิ่นมองลุ้นด้วยความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ อีกครั้ง
“หึ ยังหายใจ ตัวเล็ก ตัวเล็กได้ยินพี่รึเปล่า” ไอ้พงษ์ยิ้มดีใจกระซิบเรียกเจ้าตัว
ฟู่วว...เขาเองก็โล่งอกรีบจับมือไอ้แก้วมาบีบนวด แต่พี่ไม้ก็กำลังเอาผ้าที่เขาฝากไอ้โจ้ไว้มาเช็ดแผลให้เขาอีกทอด
ถึงตอนนี้ฝิ่นรู้แล้วว่าความขี้ขลาดของเขายังไม่หายไป ไม่ต่างจากตอนที่เฝ้าไอ้เป้งหน้าห้อง ไอ ซี ยู เลย
“พงษ์...”
“อยู่นี่ กูอยู่นี่” มันกอดไอ้แก้วจากด้านหลังไว้แน่น
“เหนื่อย...” เสียงเบาเปล่งออกมาทั้งตายังหลับอยู่
“อยากเล่นน้ำทำไมไม่บอก ไอ้ฝิ่นเป็นห่วงน้องมากรู้รึเปล่า” เขามองหน้าไอ้พงษ์ที่น้ำตามันกำลังไหลอย่างไม่อายใคร
ไม่มีอะไรตอบกลับมา ...มันคง...เหนื่อยมาก
แต่อยู่ ๆ ไอ้แก้วกลับบีบที่มือเขาแทน
แค่นี้ แค่นี้ก็ดีแล้ว ขอบใจ ...ขอบใจที่ไม่ทิ้งกูไปจริง ๆ
“ฝิ่น...”
“หืม” เขารีบกลืนก้อนแข็ง ๆ ในลำคอแล้วขานรับทันควันก่อนที่ไอ้แก้วจะลืมตาขึ้นมาสบสายตากันพอดี ไอ้พงษ์เห็นจึงได้ปล่อยแขนมันออกจากรอบอกไอ้แก้ว
“แผลมึง...” หึ ไอ้ฝิ่นยิ้มทั้งน้ำตาที่บังคับให้ซ่อนอยู่ในที่ ๆ มันควรอยู่ไม่พ้น
ขายหน้าก็ช่างสิ เขาดีใจ!
คนเพิ่งฟื้นขยับตัวนั่งโดยไม่ต้องอาศัยเพื่อน มันมองแผลเขาอย่างกับเจ็บปวดซะมากมาย แล้วหน้าผากตัวเองล่ะ ไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง
“เจ็บมากไหม?” เขาถาม ยื่นมือไปแตะมุมปากคนตรงหน้าก่อนจะเลยขึ้นไปที่แผลตรงหน้าผากอย่างไม่สนใจสิ่งเหนียวเหนอะบนหัวตัวเองที่พี่ไม้เช็ดยังไงมันก็ไม่แห้ง
“เจ็บ...ที่สุดในโลกเลย”
เขายิ้ม ยิ้มที่ไม่ได้สาแก่ใจกับความเจ็บปวดของคน ๆ นี้
ไอ้แก้วมองหน้าเขาซื่อก่อนที่เขาจะดึงตัวมันเข้ามากอดแล้วจับแขนเรียวเล็กของเจ้าตัวมาพักไว้รอบเอวเขา
ถึงเวลาที่เขาจะได้ทำตามที่เคยบอกตัวเองสักที
..........................................
โอ๊ย ความเลี่ยนบังเกิด ว่าจะอัพตั้งนานแล้วก็ต่อไม่สมบูรณ์สักที คนเขียนทำงานทั้งกลางวันกลางคืนเลยทั้งสัปดาห์ด้วย ฮึก ฮึกY^Y
คนอ่านคงมีเรื่องคาใจกับหลาย ๆ อย่าง ไม่เคยคิดเหมือนกันค่ะว่าเราจะมีปมเยอะขนาดนี้ ฮ่าๆๆๆ
//นางหนีไปปิดบัญชีต่อละ
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคนทุกคอมเม้นท์นะคะ กอด ๆ ^^จุ๊บเจ้าา
-
:z13: :z13: :z13:
-
"ไม่ต้องรู้สึกผิดกับพงษ์ที่รักฝิ่น ไม่ต้องรู้สึกผิดกับฝิ่นที่เลือกพงษ์"
เอ๊ะ อะไร ยังไง เค้างงอ่า น้องแก้วคิดเอาเอง หรือพลาดอ่านตอนไหนไปรึเปล่าเนี่ย :m28:
... คนอ่านไม่พลาดหรอกค่ะ คนเขียนพลาดเอง เดี๋ยวจะไปแก้ไขประโยคนะคะ^^
-
เย่ๆดีใจที่แก้วไม่เป็นอะไรมาก
สมน้ำหน้าไอ้พี่ดิว
ต่อจากนี้ผิ่นต้องดูแลแก้วดีๆน่า
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
สวีทท่ามกลางเด็กช่างเกือบร้อย :man1: :man1:
โอ้ยย
เจอกันซะที
กลัวว่าแก้วจะตายจริงๆ :เฮ้อ:
-
โฮกกกกกก ดีใจอ่ะ น้องแก้วยังอยู่ มามะ :กอด1:
งานนี้ต้องขอบคุณผีคุณแม่รึเปล่าหนอ ^^
ตอนหน้าความจริงทั้งหมดจะเฉลยแล้วใช่ไหม รอค่ะ :L2: :pig4:
-
พงษ์กับฝิ่นยอมร่วมมือกันเพื่อตามหาแก้ว แก้วจะรู้ไหมว่าแก้วสำคัญกว่าพงษ์กับฝิ่นมากมายแค่ไหน ถ้ารู้แล้วก็อย่าทำเรื่องที่ทำจะทำให้คนที่รักแก้วต้องเสียใจอีกนะ พงษ์ดูแลห่วงใยแก้วอย่างกับพี่ชายเลยนะเนี่ย พงษ์ทำไมถึงรู้ได้ว่าแก้วคิดจะทำอะไร แล้วแก้วไม่ถูกดิวทำอะไรใช่ไหมนั่น จากสภาพดิวคงทำไม่ได้ แล้วใครเป็นคนทำร้ายเป้งกันแน่นะ พงษ์พูดความจริงให้หมดสักทีเพื่อตัวเอง และเพื่อแก้วด้วย
-
เจอสักทีสินะ โอ้แก้วปลอดภัยแล้วลูก
กลับสู่อ้อมอกของฝิ่นแล้ว
-
อ่านแล้วเครียดดด ลุ้นจนลำไส้จะบิด เหอ เหอ
-
แก้วน่ารักเสมอ เป็นคนเรียบๆ แต่เป็นเหมือนดอกไม้กลางดงช่างที่ทุกคนถนอม
อ่านแล้วน้ำตาไหลตอนแก้วฟื้น
ไม่ต้อง'เหนื่อย'แล้วนะแก้ว อยากกอดแก้วบ้าง ฮืออออออออออออ
ปล. ดิวมันทำอะไรกับใครเค้าไม่ว่า แต่นี่มาทำกับแก้ว เช็คบิลให้เรียบ !!!
-
อ้ายยยยยยย เจอลูกแก้วเสียที :monkeysad:
ต่อไปฝิ่นต้องทำดีๆกับแก้วมากๆนะ :m16:
:pig4:นะคะ
-
โล่งอก~
แก้วทำใจหายใจคว่ำหมด
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
ดีใจอ่ะ แก้วไม่เป็นไร
:m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
-
ทุกคนหลงรักในความบริสุทธิของแก้วสินะ รัก เอ็นดูพร้อมกันก้อคือไม่เข้าใจ
รักในหลายๆรูปแบบ อยากปกป้อง
อย่าให้มันมีเรื่องร้ายๆอีกเลย เพราะร้องไห้มาเยอะแล้วน้าTT
รอรอต่อไปไม่ว่าจะนานแค่ไหน
-
อยากจะหัวเราะ แต่มันกลับร้องไห้ :m15:
เจอแก้วสักที ที่ผ่านมาจะอะไรก็ช่าง แค่แก้วมีชีวิตอยู่ต่อ...ก็สุขที่สุดแล้ว
-
รอรอฟังแก้วเล่า
-
จะร้องไห้จริง ๆ TT
หวานบ้างก็ดีแล้วนะะ
หลาย ๆ ตอนที่ผ่านมาอึดอัดมากเรย ฮือออออออออ
เจอแก้วแล้ว TT
-
ต้องเริ่มอ่านใหม่อีกรอบละ เครียดเลย
-
เจอกันซะทีนะ อึดอัดมาหลมยตอน
:pig4:
-
อึด อัด มานาน แล้ว ในที่สุด ก็ หายใจคล่องได้ซะที เฮ้ออออ
-
ดีใจเหลือล้ำ ตามหาแก้วเจอซะที
ฝิ่นยังช้ากว่าพงษ์ก้าวนึงตลอด
เลิกทิฐิ เลิกปากแข็งเสียที
พยานมากันเยอะขนาดนี้ อิพี่ดิวตายแน่
-
ดีใจที่ตามหาแก้วจนเจอ ใจหายหมดนึกว่าจะเป็น
อะไรไปแล้ว ฝิ่นเลิกปากแข็งได้แล้ว
-
สนุกมากๆเลยค่ะ เถื่อนนิดๆแ่ก็มีมุมน่ารักๆบ้าง ><
-
แก้วปลอดภัย ลุ้นไปกับทุกคนที่ช่วยกันหาแก้วจริงๆ :เฮ้อ:
ตอนหน้าเรื่องราวคงจะคลี่คลายไปมากกว่านี้เนอะ
ขอบคุณค่ะ :L2:
-
ดีจังที่ทันเวลา :3123:
-
จะร้องไห้จริงๆนะเนี๊ย วันหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะแก้ว :sad4:
รีบๆเข้าใจกันสักที ทั้งพ่อพงษ์ ทั้งลูกเขย จำไว้เป็นบทเรียน เลิกทิฐิใส่กันได้แล้ว
-
โอ๊ยยยยย~
อ่านไปลุ้นไป บีบหัวใจคนอ่านมาก งุงิ
แต่ ดีใจนะที่น้องแก้วไม่ตาย
ต่อจากนี้ ปมจะเริ่มคลายใช่ใหมคะ
^^
กอดดด ด พี่ซี หายไปนานเลย ดีใจที่กลับมานะคะ
-
กว่าจะเจอแก้ว บีบใจสุดๆ
-
คนช่วยกันตามหาเยอะ เพราะเป็นที่รัก เพื่อนรัก น้องรักของตัวเป้งของแต่ล่ะแก๊งค์อะสิ ไม่ว่าจะฝิ่น ไม้ พงษ์ ภูรัก หรือว่าแสน...แกมันโชคดีจริงๆ ไอ้แก้ว
ปมเริ่มคลี่คลาย จะรอก็แต่ประเด็นที่ว่าทำไมดิวต้องทำเป้งถึงตาย
ไม่ใช่เพราะมิวแน่ๆ เพราะดิวเป็นคนแนะนำมิวให้พงษ์เอง เพราะหวังจะแยกพงษ์ออกจากแก้ว ฉะนั้นดิวก็ไม่ได้หึงได้หวงมิวแล้ว
หรือดิวจะทำเพราะเป้งเคยทำร้ายแก้ว จากที่พงษ์เคยอ้างกับแก้วก่อนหน้านี้ว่าเป้งเคยทำร้ายแก้วมาก่อน (แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องจริงมั้ย) ส่วนข้อเสนอในการสลับตัวคนฆ่านั้นเพิ่งจะมาเกิดภายหลัง
หรือว่าดิววางแผนทุกอย่างไว้หมด คือจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรกับเป้งหรอก แต่เป้งต้องตายเพื่อให้พงษ์มารับสมอ้างเป็นฆาตกร เพื่อจะแยกพงษ์ออกจากแก้ว
ก็เดาๆ กันไป สุดท้ายอาจโอล่ะพ่อ ว่าเป้งอาจเป็นจุดเริ่มต้น ไม่ใช่แก้ว อ๊ากกกกกกกกกกก อันนี้ก็จะหักมุมเกินไป
อ้อ...อีกอย่างที่งงก็คือ พงษ์คิดยังไงถึงยอมรับแผนของดิวง่ายๆ
ถ้าพงษ์รับสมอ้าง พงษ์ได้เป็นตำนานก็จริง แต่จะมีประโยชน์อะไรที่ไม่ได้ดูแลแก้วอย่างใกล้ชิด หรือว่ามันคิดว่าพ่อแม่มันจะทำให้รอดพ้นความผิด และไม่ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ
พงษ์เรียนอยู่ปีเดียวกับแก้ว น่าจะจบพร้อมแก้ว ฉะนั้นก็ไม่เห็นจะต้องห่วงว่าเมื่อตัวจบไปแล้วแก้วมันจะโดนแกล้ง
แล้วทำไมมันต้องสร้างตำนานอะไรให้คนยำเกรงด้วยวะ งงๆๆๆๆ
(เหมือนคนเขียนจะอธิบายความคิดของพงษ์เรื่องการรับสมอ้างในตอนหนึ่งไว้แล้ว แต่คนอ่านก็ยังไม่เคลียร์ว่าพงษ์มันคิดอะไรของมัน)
ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพงษ์กับแก้วมันช่างเป็นที่ตระหนักของทุกคน ( ยกเว้นพวก X ) ซะจริงๆ
เหมือนทุกคนจะรู้ว่าแก้วไม่เอาใครนอกจากพงษ์ และพงษ์มันก็ไม่เอาใครนอกจากแก้ว
ความรู้สึกความผูกพันที่ไว้เนื้อเชื่อใจ ภักดี และซื่อสัตย์ต่อกันแบบนี้ ทำให้คนที่แสวงหาความรักและขาดความอบอุ่นพากันอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นดิว มิว หรือว่าขวัญ
ซึ่งแต่ละคนก็แสดงออกแตกต่างกันไป...เพราะอิจฉาจึงหมั่นไส้ เพราะอิจฉาจึงทำร้าย หรือว่าเพราะอิจฉาจึงอยากแย่งมาครอบครอง
ก็คงต้องติดตามตอนต่อไป คนเขียนเคยบอกว่าว่าอาจจะถึงซัก 60 ตอน ไม่รู้ว่ายังประมาณการไว้เหมือนเดิมหรือเปล่า???
-
ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว
:เฮ้อ:
-
ลุ้นมาก ในที่สุดก็เจอแก้ว เฮ้อโล่งอกไปตาม
-
:o12: :o12: ไปไม่ถูกเลย ดีใจกับฝิ่น พงษ์ และก็ทุกๆคนที่ไม่มีใครต้องเสียใจไปมากกว่านี้ o13 o13
-
ขอบคุณสวรรค์ T^T
ฝิ่นต่อไปก็ต้องดูแลน้องดีดีนะ
น้องน่ารักขนาดนี้ ช่วยคุ้มครองน้องอย่าให้ใครมารังแกได้อีกเลย
-
กรี๊ดดดดดด ในที่สุดก็หาแก้วเจอแล้วก็ทันเวลาด้วย :เฮ้อ:
ขอให้ความจริงทุกอย่างคลี่คลายไวๆ ด้วยเถอะ :serius2:
-
:กอด1:
-
:เฮ้อ: โล่งอกที่แก้วไม่เป็นไรมาก
-
รอนะรอ รอจ้ารอๆ
-
ดีใจเจอแก้วล้ำค่าแล้ว
เหนื่อยลุ้นมากๆ
-
โอ้ย....ใจหายใจคว่ำหมดน้อ นึกว่าจะเป็นอะไรไปซะแล้ว แก้วเอ้ย.. ดีนะแม่รักษา
-
:mc4:เจอแก้วเสียที
-
กว่าจะมาถึงฉากนี้ อ๊ากกกกกกกกกกกก
แก้วจ๋า TToTT
-
ค่อยยังชั่วที่เจอแก้วทันเวลา :เฮ้อ:
ตอนนี้ฝิ่นกับพงษ์ร้องไห้ด้วย ซึ้งๆ
แล้วฝิ่นจะกล้าบอกรักแก้วมั้ยน๊า...รอติดตามครับ
-
นึกว่าไม่รอดซะแล้ว :เฮ้อ:
-
ในที่สุด 2 คนนี้ก็จะหวานๆกันแล้วชิมิๆ
-
ดีน่ะที่แก้วปลอดภัย Y_Y
ต่อจากนี้ก็ขอให้เข้าใจกันสักทีน่ะ
-
ฝิ่นกับแก้วเจอกันแล้ว ดีใจที่สุด
เจ็บทั้งคู่ แต่เดี๋ยวก็คงหาย อิพี่ดิวแกทำอาไร๊
ขอบคุณค่า
-
ตอนเจอแก้วต้องร้องเพลงนี้เลย '... แต่เราก็หากันจนเจอ ...' :laugh:
เจอแก้วแล้วก็รอจัดการกับไอ้ดิวสินะ
รอรู้ความจริงและสาเหตุของเรื่องราวอึมครึมทั้งหมดขอเรื่องจ้า :bye2:
-
อูยยยย สุดท้ายก็เข้ามาอ่านเรื่องนี้จนได้ ชั่งใจอยู่นานกับพล๊อตเรื่องที่เขียนโต้ง ๆ ว่า "Drama story"
เรื่องของเรื่องคือกลัวเหนื่อยที่จะอ่าน แต่สุดท้ายจนแล้วจนรอดก็เข้ามาอ่านจนได้
คือ ..เออ..แบบว่า...อ่านแบบหยุดไม่ได้อ๊า~~~ อ่านแบบรวดเดียวจบกันเลยทีเดียว o17
สนุกดีอ่ะ เลือดสาด น้ำตากระเซ็น Drama กันสุด ๆ :sad4:
ถึงจะอ่านเรื่องนี้ช้าไปหน่อย แต่ก็อ่านด้วยความตั้งใจนะ :m1:
เค้าจะตั้งตารอตอนใหม่นะค๊าบ :bye2:
-
ดีใจอะที่เจอกันสะที..ต่อไปก็อยากให้ฝิ่นทำตามหัวใจตัวเองไปเลย.. :m26:
รักก็บอกไปเลย..ส่วนแก้ว ก็ควรทำตามหัวใจตัวเองมั่งน๊า.. :m5:
อยากให้มีแต่เรื่องดีๆแล้ว.. :m13: :m13:
ส่วนอีพี่ดิว..เอามันให้ตาย :pigangry2: :pigangry2:
-
เจอแล้ววววว...พี่ฝิ่นเจอน้องแก้วที่รักแล้ว
โฮกกก...มันลุ้น...มันระทึก...กลัวแทนด้วย
หาเจอแล้ว..ก็เหลือแค่ให้สองคนนั้นกลับไปรัก
กับไปสู้กับปัญหา...แอร๊ยยยยย...พี่ซีชั่นมาต่อพรุ่งนี้เลยได้มั้ยคะ(โดนโบก)
ปูเสื่อรออออออ
-
+1 ให้คร้าาาาาาาาาา
ลุ้นจนปวดตับแล้วเนี่ย :z3:
เจอซะที่ไม่งั้น คงต้องมีใครตายเป็นแน่ :beat:
รอตอนต่อไปจ้าาาาาาาาาาาา :call:
-
โห้ยยย
ลุ้นนาน ในที่สุดก็รอด
:เฮ้อ:
หลังจากนี้ ก็คงจะไม่มีดราม่าแล้วนะ
อยากให้มีโรแมนติกเยอะ ๆ อ้ะ
-
เจอแก้วแล้ว
แก้วปลอดภัยแล้วดีใจสุดๆ
-
เจอแก้วแล้ว... ฝิ่นพงษ์ ดูแก้วให้ดีนะ
ปล.ไม่รู้ทำไม รู้สึกชอบแสนจัง
-
บอกได้คำเดียว ว่า ซึ้งจนน้ำตาไหล :monkeysad:
รักฝิ่นกับแก้วมากนะคร้าฟ :กอด1: :กอด1:
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
โอ๋ย บีบหัวใจ ตับไตไส้ม้าม
เฮือก---หยั่งโล่งก็ตอนแก้วลืมตามองฝิ่น
ไอ้เหี้ยพงษ์ แม่มมมมม ขโมยซีน
เป็นพระเอกหลักทั้งตอนเลยว่ะ
แต่ชอบบบบบ^^
ที่ฮาคือตอนที่ คนเขียนถึงคำนี้
'ไอ้เหี้ยพงษ์' ฮาความคิดไอ้ฝิ่นก๊ากเลย
เออหนอ แทนที่จะคิดวิตกจริต ห่วงกังวลถึงแก้วจนเสียหมา ไม่เป็นคน
กลับคิดถึงประเด็นเรื่อง ไม่เอาผู้หญิงจากคู่อริ
แล้วผู้ชายล่ะ
555 สนุกมาก
คนเขียนทำให้เราหลงไหลเรื่องนี้ยกใหญ่แล้ว
มาต่อให้ไว
อยากบีบหัวใจอีก หุหุ
ปล. แชมป์กับแสนฮามั่ก เราชอบนายว่ะ :impress2:
-
ย้ากกกกกกกกก เจอแก้วแล้วววว
ดีใจๆ ต่อไปนี้ดูแลแก้วให้ดีๆนะฝิ่น
ไอ้พี่ดิว ตายๆไปซะเหอะ - -
-
ฮ้า ดีใจจัง โล่งอก .. No Drama story นะคับ อิอิ :กอด1:
-
อยากอ่านฉากเลี่ยนๆ เต็มทีแล้ว
ปิดบัญชีเสร็จรีบกลับมาต่อให้หน่อยนะสุดสวย :m13:
-
เห้ย...สุดท้ายก็เจอกัน ฝิ่นเอ็งจงรักษาแก้วไว้ในมั่น แก้วพ้นเคราะห์พ้นโศกสักทีนะ พงษ์หวังว่าคงจะเฉลยทุกอย่างนะ
-
พึ่งเข้ามาอ่าน สนุกมากๆอ่ะ อ่านรวดเดียว
ชอบโครงเรื่องมากๆจ๊า
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
อ่านไป ก็หายใจติดขัด
ว่าแต่ว่ามาตัดฉับ กันแบบนี้
น่าจะต่อให้หน่อยก็ไม่ได้ว่า จะพูดอะไร :m31: :m31: :m31:.
-
กว่าจะหาเจอ เล่นเอาใจหายใจคว่ำ รีบมาลงต่อน๊าาาา รออยู่ :pig4: :pig4:
-
รีบๆมาต่อน้าา :call:
-
ใช้เวลา2วันในการอ่านนิยายเรื่องนี้ อ่านแล้วมันหยุดไม่ได้จริงๆ
น้ำตาหล่นไม่รู้กี่ปี้ป ตาปูดตาบวมไปแล้วฉัน
หวังว่าชีวิตน้องแก้วคงจะมีความสุขได้แล้วนะ :sad4:
-
ปลื้มโครตๆ เลย
-
คนเถื่อน เวลามันจะรัก มักกินใจเสมอ :-[
-
โอยยย ตัวเล็ก
เกือบหัวใจวาย ถ้าไม่หายใจแล้วหล่ะ คนอ่าน(?)จะเป็นยังไง
เห้ออออ เหมือนจะลืม ตอนที่แล้ว ขอกลับไปอ่านก่อนนะค่ะ แหะแหะ
-
T_______T
-
ในที่สุดก็เจอกันแล้วววววว
ใจหายวาบเลยน้องแก้วว
ดีนะที่พงษ์กับฝิ่นไปทัน :เฮ้อ:
ตอนหน้าขอสวีทน้า :impress:
-
:m15: :monkeysad: :sad11:
ไม่รู้จะเริ่มยังไง ตลอด 111 หน้าที่ผ่านมา อ่านรวดเดียวจบ
คนแต่งทำให้เราเหมือนคนบ้า เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวหงุดหงิด เดี๋ยวโมโห เดี๋ยวอึดอัด
โดยเฉพาะตอนล่าสุด คุณทำเราเสียน้ำตาตอนตี 5 อ่ะ
พอร้ว่าแก้วปลอดภัย รู้ว่าพงษ์ยอมให้แก้วรักฝิ่นแล้ว
มันเหมือนทุกอย่างมันหลุดออกจากอก
คุณคนแต่งจ๋า เรารักเธอจัง ^^
-
:monkeysad: :monkeysad:
-
:z2: :z2: :z2:
-
หวังว่าเรื่อง ร้ายๆจะผ่านไป
-
แก้วทำเอาตกอกตกใจหมดเลย
-
แก้ว น่าจะตาย ((ทุกคนจะได้จดจำไปตลอด)) :z3: แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน Happy
-
อ่านจนถึงตอนนี้ วันนึงเต็มและรู้สึกไม่ผิดหวังที่ตั้งใจอ่านเลย
ชอบมากคะ หน่วงมาก แบบน้ำตาคลอเลย
รออ่านตอนต่อไป
อยากเห็นความสุขของแก้วกับคนที่รักแก้ว
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๔
“หนาวเนอะ เข้าบ้านกันเถอะ” พงษ์แตะบ่าไหล่จากด้านหลังทำให้เขาต้องผละออกจากอ้อมกอดของคนตรงหน้า มือที่ถูกอนุญาตให้กอดได้โดยไม่ทันร้องขอ ยังไม่อยากปล่อยจากชายเสื้อมันด้วยซ้ำ
แต่นี่พงษ์กำลังเกลี้ยกล่อม...เหมือนทุกครั้ง...ที่เขาแอบมันลงน้ำ เขาจึงต้องทำตามใจมัน เพราะเขาเป็นคนก่อเรื่องให้มันต้องไม่สบายใจ
แก้วมองแผลแฉะ ๆ ที่หัวคนตรงหน้าอีกครั้ง พลางเงยหน้ามองพี่ไม้ที่เอาแต่ถอนหายใจและส่ายหน้า ในมือพี่ไม้ยังถือผ้าที่ใช้เช็ดหัวมันอยู่เลย
...ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย แค่รู้ว่ามึงเป็นห่วง กูก็ละอายใจจะแย่แล้ว นี่แผลมึงยังสดอยู่แท้ ๆ
พงษ์พยุงตัวเขาให้ลุกขึ้นยืนก็แทบทรุดลงที่เดิม ใจที่หมดแรง พละกำลังที่ใช้ไปกับการไขว่คว้าหาทางรอด เมื่อรอดมาได้แม้จะเหนื่อยกายเหนื่อยใจแค่ไหนก็ต้องฮึดยืนหยัดให้ได้เพื่อไม่ให้ใครต่อใครที่ยืนล้อมอย่างกับลุ้นอะไรอยู่เป็นกังวลกัน
“ขี่หลังกูดีกว่า” ฝิ่นหย่อนขาลงน้ำแล้วตบบ่าตัวเอง ปุ๊บ ๆ
“ไม่ต้อง” พงษ์บอกฝิ่น “มึงไหวรึเปล่า?” แล้วหันมาถามเขา
“”อืม” แก้วพยักหน้า เพราะรู้ดีอีกว่า เวลานี้เขาควรทำตัวยังไง เมื่อพงษ์ถามว่าไหวรึเปล่า แทนพูดว่า ไหวนะ
แต่ความจริงแล้วเขาต้องไหวไม่ว่าประโยคคำถามจะคือแบบไหน
“มึงจะขัดกูทำไมเมื่อกี้ยังพูดเอาหน้าให้กูอยู่แหมบ ๆ” ฝิ่นลุกขึ้นยืนอีกครั้ง มองพงษ์ด้วยสายตาไม่พอใจ
พงษ์จ้องหน้ามันกลับเพียงครู่พลางมองไปรอบ ๆ ตัว
ก็นี่เราอยู่ท่ามกลางเด็กช่างที่ไม่สนิทเพียบ พงษ์ไม่ยอมให้ใครคิดว่าเขาอ่อนแออยู่แล้ว
“มึงจะให้คนอื่นรู้เห็นมากกว่านี้รึไง”
แต่ฝิ่นคงไม่รู้
“ก็แล้วยังไง?” มันมองไปรอบ ๆ อย่างไม่ยี่หระกับอาการกัดฟันพูดของพงษ์ แล้วมองหน้าพงษ์อย่างเอาจริง “แก้ว มานี่”
เขาต้องตื่นขึ้นมาเผชิญกับการไม่ลงรอยกันของทั้งคู่อีกครั้ง เพื่ออะไร?
ถ้าชีวิตจบ ทุกอย่างก็จบไปด้วย ในเมื่อตัวเองเป็นตัวปัญหามากกว่าที่เคยคิด ก็ควรจะตัดปัญหานี้ออกไปซะเพื่อที่ใครจะได้ไม่มีประโยชน์จากการแค่ ได้มีเขา...
คนทุกคนมีความสำคัญในตัวเองเสมอ ...พงษ์บอกเขาอย่างนั้น
แต่ความสำคัญกับเครื่องมือ บางครั้งมันก็ยากที่จะแยกความหมายให้ห่างจากกันจริง ๆ
ความเหนื่อยล้าในใจทำให้ทางออกของเขาถูกปิดตาย
เมื่อต้นตอของปัญหาหายไป ปัญหาก็คงจะยุติ
จะมีความสำคัญกับใครหรือไม่ แต่ก็ถูกเอามาใช้เป็นข้ออ้าง ข้อแลกเปลี่ยน ข้อตกลงที่จะชนะคนอื่น อยู่ดี
เมื่อตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง ร่างก็พร้อมจมและลอยไหลไปตามแต่กระแสน้ำจะพัดพา
“แต่เอาเข้าจริง...น้ำท่วมหัวไปแล้วมันไม่ได้ตายทันทีน่ะสิ หึหึ”
“สนุกตรงไหน?”
“อึก รู้แล้ว” แก้วตอบเจ้าของแผ่นหลังที่แบกเขาอยู่เสียงหงอย
...ก็แค่ไม่อยากให้เครียดกัน ดูหน้าตาแต่ละคนสิ
หมายจะจมดิ่งลงไปนอนใต้น้ำอย่างสงบสุข หลีกหนีความวุ่นวายรอบตัวให้หมด เหมือนแม่...ที่ความสุขของแม่ก็คงเป็นที่ตรงนี้ถึงได้เดินหันหลังให้เขาอย่างไม่ใยดีต่อกัน แต่เพียงแค่ชั่ววูบของช่วงขาที่เดินอย่างเบลอ ๆ สู่กลางธารนทีที่ลึกเกินกว่าศีรษะตนจะโผล่พ้นได้ กระแสน้ำดันกระชากเอาตัวเขาอย่างแรงเกินกว่าจะตั้งหลักทัน ...ตกใจจนสติฟุ้งซ่านเมื่อครู่หายวับไปจากสมองทันที ทั้งที่อยากสงบแต่กลับต้องดิ้นรนตะกุยตะกายกับสายน้ำรอบตัวเพื่อหาอากาศหายใจ
ทรมาน! ทรมานจัง แม่หายไปในน้ำด้วยความทรมานอย่างนี้ใช่ไหม?
“ช่วย...”
ช่วยด้วย...
ใคร?! เรียกหาใครให้ช่วย จะหนีปัญหาอีกแล้วไม่ใช่เหรอแล้วยังร้องเรียกหาใครอีก ใครเขาจะเวทนาคนเห็นแก่ตัวคนนี้ได้ตลอดเวลา
แม่ ที่ทิ้งไปเพราะลูกชายรับไม่ได้หากต้องเป็นลูกเมียน้อย แม่เลย...ไม่อยู่เป็นเมียน้อยให้ใครต่อว่าอีก
ไอ้แก้วจะได้สมใจที่ไม่ได้มีแม่เป็นเมียน้อยใคร ...แต่ไม่มีแม่อีกแล้วแทน
พงษ์ ที่เขาเอาแต่ทำให้มันเดือดร้อน เป็นตัวถ่วงในชีวิตมันทั้งที่เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยทางสายเลือด แม้แต่จะตอบแทนน้ำใจของมันเขายังทำไม่สำเร็จ
ฝิ่น ที่มีเขาเป็นตัวปัญหา รักของเขาคือตราบาปของมัน คือแผลเป็นที่มองไม่เห็นแต่ยังมีอยู่ เขารู้...เมื่อเห็นหน้าเขาก็เหมือนไปกระตุ้นความตายของเพื่อนมัน และอีกสิ่งหนึ่งที่เพิ่งรู้ ...รักของเขาจะทำให้ฝิ่นถูกเหยียบย่ำ
เพราะฉะนั้น...
เขาไม่ควรตะเกียกตะกายอีกต่อไป ...ถ้าเขาไม่หายไปสักที คนสำคัญในชีวิตไม่ว่าจะใครก็ตาม ก็คง...พัวพันกันยุ่งเหยิงไม่จบไม่สิ้น
“ตัวเล็ก...”
“ขะ ครับ” เขาซบหน้าเข้ากับไหล่พงษ์
“พี่เสียใจที่ทำให้น้องต้องหาทางออกแบบนี้ โอเค!...ตัวเล็ก มึงคงมีบางอย่างที่บอกพี่ไม่ได้ เหมือนบางอย่างที่พี่ก็ต้องปิด แต่พี่ไม่ฟังเลยเหรอ น้องคิดว่าพี่เผด็จการขนาดนั้นเลยรึไง พี่ไม่อยากให้น้องเป็นทุกข์เพราะคนอื่น แต่พี่ทำให้น้องเป็นทุกข์ได้เหรอ น้องว่าพี่ชอบใจเหรอลูกแก้ว”
“ไม่ ๆ” เขาจึงเอามือปิดปากมันไว้ ให้มันหยุดพูด
“...พี่จะปกป้องน้องได้ยังไงในเมื่อใจน้องเห็นพี่เป็นศัตรู...” มันไหล่สั่น เงยหน้าขึ้นเพื่อไล่น้ำตาที่กำลังหยดใส่มือเขา คำต่อว่าที่เจือด้วยความห่วงใย เขา...คิดทำโทษมันไปได้ยังไง
“ไม่ใช่ ไม่จริง ผมไม่เคยคิดอย่างนั้น พี่พงษ์ดีที่สุดแล้ว ผมขอโทษ ผมไม่เข้มแข็งเอง ฮือ... ฮึก” และเขาต้องเก็บอาการสะอื้นของตัวเองเหมือนกัน
ตั้งแต่ชีวิตมีพงษ์ มันไม่เคยให้เขาเผชิญกับอะไรที่ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจเลย มันคอยปกป้องเขาตลอด มันอยากให้เขาเข้มแข็ง อยากให้ใจเขาแกร่ง จะได้ไม่โดนเล่นงานจากคุณแพรวพรรณกับพี่ลูกขวัญ
เขา...ก็อยากเป็นคนเข้มแข็งให้พงษ์ภูมิใจ เขาไม่เคยคิดต่อต้านเพราะสิ่งที่พงษ์อยากให้เป็นนั้นล้วนแต่เป็นความหวังดีล้วน ๆ แต่...มันยากเหลือเกิน
ช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่วันนี้เขาปิดพงษ์ไม่มิดซะแล้ว
“จะทำแบบนี้อีกไหม?”
“ไม่แล้ว”
“รับปากแล้วนะ”
“พี่เป็นห่วง ผมไม่ควรทำให้พี่เสียใจ”
“กูสิไม่ควรทำมึงเสียใจ ทั้งที่รู้อยู่แท้ ๆ นี่ถ้าเกิดมึง...เป็น...อะไรขึ้นมา” สรรพนามถูกเปลี่ยน หลังมันพูดในสิ่งที่อยากให้เขารู้สึกผิดจบแล้ว
“ก็...”
ถ้าเกิดเขาเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวอย่างที่พงษ์พร่ำสอน เขาคงไม่ได้มาพูดกับพงษ์อย่างนี้อีกหรอก
เขาหลับตา ไม่หือไม่อือ ไม่ตะเกียกตะกายแล้วแท้ ๆ แต่กระแสน้ำกลับพาเขาไปจนถึงช่วงน้ำวนที่เต็มไปด้วยโขดหิน ตรงนี้ ที่ ๆ เคยล่องเรือเล่นกัน มันมีทั้งช่วงน้ำลึกและน้ำตื้นอยู่บริเวณเดียวกัน ตัวเขาถูกกระแสน้ำเหวี่ยงให้กระแทกกับโขดหินไปมา ต้องกลับมาตะเกียกตะกายโผล่หัวขึ้นเหนือน้ำเป็นระยะอีกครั้ง จนกระทั่งศีรษะโขกเข้ากับโขดหินแถวนั้นอย่างแรง ทุกอย่างถึงได้หยุดลง...
เขาเขย่งเท้าให้หัวเหนือน้ำไปแค่ก ๆ อาศัยเกาะหินก้อนยักษ์ที่ทำให้เจ็บกำบังตัวไม่ให้ไหลไปฟาดฟันกับกระแสธารน้ำอีกระรอก
เจ็บ...และเหนื่อย
ทำไมชีวิตเขาถึงได้ลำบากยากเข็นขนาดนี้ แม้แต่จะตายยังต้องต่อสู้อีก
แก้วอาศัยแสงจันทร์ที่ช่วยให้มองเห็นพอลาง ๆ เขาหาทางปีนขึ้นไปบนโขดหิน เขาเหนื่อย เขาท้อที่จะไปต่อ เอามือจับหัวที่คาดว่าคงปวมปูด กลับสัมผัสได้กับน้ำเหนียว ๆ และกลิ่นคาวเลือดเมื่อเอามือมาดม
หาทางขึ้นบนบกก็กลัวจะพลัดตกลงไปในน้ำอีกรอบ ความคิดชั่ววูบเกิดขึ้นได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น จะให้เกิดอีกรอบ เขาก็มีสติจนเกินไป จึงเกาะโขดหินจนผล็อยหลับไป
ความล้มเหลวของตัวเองมันไม่น่าภาคภูมิใจหรอกนะ แต่วันนี้กลับเป็นความล้มเหลวครั้งแรกที่ทำให้เขายิ้มได้
...เพราะไหล่ของพี่ชายที่ยังอยู่ตรงที่เดิม ...และยิ้มได้เพียงแค่ได้เห็นหน้าเจ้าของฝ่ามือที่ลูบปลอบตรงแผ่นหลังอย่างเงียบ ๆ หลังจากที่เขาให้พงษ์เป็นคนแบก
.
“บัดดี้! พี่ภู พี่ภู!” เขายิ้มเนือย ๆ ให้ไอ้แสนที่วิ่งมาจับแขนเขาเขย่า ๆ ก่อนที่พี่ภูจะวิ่งเข้ามากอด
“เปียกหมดเลย ทำทำไม ห๊ะ? แล้วเสื้อ?” พี่ภูมองเสื้อเปียกที่กระดุมขาดเป็นช่วง ๆ ของเขาแล้วคิ้วขมวดกันแน่น
“จะยืนอยู่นี่อีกนานไหม?” ฝิ่นที่ยืนห่างสองสามก้าวพูดขึ้น
“หมดเรื่องแล้ว เดี๋ยวพวกกูกลับกันเลยละกัน” พี่แชมป์มองหน้าเขาอย่างหาคำตอบเมื่อเดินกันมาถึงหน้าบ้าน
“ไปพักรีสอร์ตของบ้านผมก็ได้ นอนกันได้หมดอยู่แล้ว แล้วเดี๋ยวจะโทรไปเปิดอีกสองหลังให้๙T กับพวกไอ้ฝิ่น” พงษ์บอก
พี่แชมป์กับเพื่อนร่วมสายอีกประมาณ ๕๐ กว่าคน เข้าพักรีสอร์ตหลังใหญ่ของครอบครัวพงษ์ได้สบายแน่เพราะปกติก็นอนเบียดกันที่บ้านพี่แชมป์ บ้านพี่ดิว ประจำ
แล้วพงษ์เอง จะใช้บริการรีสอร์ตของที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องทำตามกฎทำตามเวลาที่ใครกำหนด
“ไม่ละว่ะ ขับรถกลับก็เช้าพอดี กูกะจะเข้าไปคุยกับพวกปีสองหน่อย”
“อืม ถ้าใจร้อนก็เอา” พงษ์ไม่ได้ค้านอีก ส่วนเขาอยากตอบแทนน้ำใจพี่แชมป์แต่ก็เอ่ยปากพูดไม่ออก...
“มึงไม่ได้ทำกูลำบากใจ มึงก็คนในสาย กูต้องรับผิดชอบชีวิตมึงเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว” พี่แชมป์ตบไหล่เขาเบา ๆ คนอื่น ๆ พยักหน้าให้เขาตามที่พี่แชมป์พูด
“ขอบคุณครับ” เขายกมือไหว้ประธานสายและรุ่นพี่คนอื่น ๆ
ถึงยัง...รู้สึกไม่ดีนักที่ต้องให้คนอื่นมาตามหาเพราะความคิดของตัวเองที่อยากหายไป แต่มันก็คงไม่เลวร้ายนักเพราะทุกคนดูไม่ได้ลำบากใจกันจริง ๆ อย่างที่พี่แชมป์บอก
“เออ แล้วไอ้ดิว” พี่ไฟพูดขึ้น
นั่นสิ! พี่ดิวล่ะ เขาตาเบิกโพลงด้วยความตกใจพร้อมทั้งความกังวลใจที่ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งกับเรื่องที่เพิ่งนึกได้ก่อนจะสะดุดกับสายตาคมดุของไอ้ฝิ่น แล้วมันก็เดินอาดแซงหน้าเขาเข้าไปในบ้านแล้ว
“ไม่อยู่รอตีนหรอก” ฝิ่นหยุดกึกหน้าประตูบ้าน หันหน้ามาหาไอ้แสน “เฮียโซ่พาไปอนามัยใกล้ ๆ นี่ เห็นว่ารอนานแล้วมันยังไม่ฟื้นเลย”
“ไม่ฟื้นก็ดีแล้ว ตายไปได้ยิ่งดี” พี่ภูสำทับ
“เออ แล้วไอ้ดิวอยูในสภาพนั้นได้ไงวะ? หืม?” โจ้มองหน้าเขาคล้ายข้องใจแต่ก็เหมือนไม่มั่นใจ แก้วรู้สึกสั่นไปทั้งตัวทั้งยังหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อย้อนกลับไปคิดว่าทำลงไปได้ยังไง
.
เขา...ถ่วงเวลารอพงษ์ตามมาไม่ไหวแล้ว คนที่ทาบทับตัวอยู่ด้านบนก็เอาแต่บดเบียดตัวเขาทั้งข้างบน ทั้งข้างล่าง
ริมฝีปากชวนขยะแขยงมันแตกต่างจากที่เคยสัมผัสโดยสิ้นเชิง มันไม่น่าเย้ายวนให้คล้อยตาม มันไม่น่าจะได้ล่วงล้ำเข้ามาในปากเขาด้วยซ้ำ
เขาไม่อยากใกล้ชิดกับใครอื่น เขาไม่อยากรับสัมผัสเหล่านี้จากใครอื่น แต่ยิ่งเขาขัดขืนมากเท่าไหร่ พี่ดิวยิ่งแสดงความป่าเถื่อนออกมามากเท่านั้น
แคว่ก!!
เสื้อเชิ้ตโดนดึงจนกระดุมขาดออกจากกันด้วยมือข้างเดียวของพี่ดิว ก่อนที่ริมฝีปากจะถูกเม้มเพียงเบา ๆ คล้ายหยอกล้อ และแววตาที่แสนสนุกและพึงพอใจของพี่ดิวที่จ้องมองเขาอยู่
“แก้วควรเป็นของพี่ก่อนไอ้ฝิ่น”
อึก ...พูดขึ้นมาอีกแล้ว
“แต่ไม่เป็นไร ได้ทีหลังก็หยามหน้ามันไม่น้อยเหมือนกัน หึ” มือข้างที่ว่างของพี่ดิวลูบไล้ไปทั่วแผ่นอก และกลางลำตัวเขา ลูบวนไปวนมาทำเอาเขานึกรังเกียจตัวเองที่ต้องมาโดนกระทำอย่างนี้ “คิดดูว่าประธานแกร่ง๕xโดนเมียเขี่ยทิ้งแล้วหันมาซบคนที่เป็นแค่ประธานรุ่น มันจะเสียหน้าแค่ไหน ดีไม่ดีคิดว่าโดนหลอกใช้ได้อีก หึ ๆ ฮ่า ๆ” มือที่เคยลูบไล้เรือนร่างหันไปแกะกระดุมเสื้อตัวเองออกแล้วโยนทิ้งไว้แถวนี้
รู้สึก...เหมือนสิ่งที่ฝิ่นเคยทำกับเขาเพื่อลงโทษพงษ์ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“พี่มีอะไรกับมันรึเปล่า” เขาออกปากถาม
ต่างกันที่ กับฝิ่น...เขาเต็มใจ
มือที่โดนรวบไว้เหนือหัวถูกพี่ดิวจับขึ้นมาจุมพิตข้างหนึ่งพร้อมกับละเลงน้ำลายที่หลังมือ
“ดูสิ...ว่าพี่รักแก้วมากแค่ไหน” พี่ดิวจับมือเขาไปแตะแก่นกายของตัวเองที่มันพองตัวรอก่อนที่มือเขาจะสัมผัสด้วยซ้ำ “ไม่ใช่แค่ตีกันหรอกนะที่มีแพ้มีชนะ แก้วคงต้องให้พี่สอนอีกเยอะ”
“พี่รู้ไหม ความรัก ความภักดี มันสร้างกันได้ ตัวพี่เองเด็กในสายที่คลั่งพี่ก็มากมาย”
“หึ คิดจะกล่อมเหรอ”
เขามองแสงสว่างของตะเกียงที่ส่องขึ้นไปยังฝ้าเพดานแทนนัยน์ตาเยิ้มของพี่ดิว
“แต่เหตุผลของความศรัทธาของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน พี่เคยทำดีกับผม...แต่พี่ไม่ใช่ไอ้พงษ์ หรือพี่จะเลวใส่ผม หรือ...จะเอาผมทำเมีย แต่พี่...ไม่ใช่ไอ้ฝิ่น”
“หึ หาทางเอาตัวรอดยันวินาทีสุดท้ายเลยนะเรา ใช่ เหตุผลที่จะยกใครให้เหนือหัวน่ะมันต่างกัน แล้วมึงก็รู้ว่ากูน้องใคร! กูน้องไอ้ดี ไอ้ดีที่เป็นตำนานอีกคนของ๓T! ถ้าพวกมันไม่ตามกูแล้วมันจะรอดได้ยังไง”
แก้ววกมามองพี่ดิวด้วยสายตาแข็งขืน เขาปฏิเสธสิ่งที่พี่ดิวบอก แต่กลับยิ่งทำให้พี่ดิวยิ้มเยาะและบดเบียดสิ่งที่อยู่ภายใต้กางเกงนั่นเข้ากับมือเขาก่อนก้มหน้าลงดูดเลียยอดอกของคนที่ยากจะขัดขืน
สอนเหรอ!
เขายอมให้พี่ดิวไม่ได้หรอกถ้าจะทำให้ไอ้ฝิ่นโดนเหยียบเพราะเขาเป็นสาเหตุ
ถึงแม้...หัวใจของเขาจะเป็นเรื่องล้อเล่นสำหรับมัน แต่เขาจะไม่เอาคืนมันด้วยวิธีนี้เด็ดขาด
ลำพังเข้าข้างพงษ์ทั้งที่มันทำผิดก็รู้สึกแย่กับฝิ่นมากพอแล้ว
“โอ๊ย!!” เสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บ ...คิดว่าคงจุกด้วย ทำให้แก้วพลิกตัวออกจากการถูกคร่อมได้สำเร็จเมื่อพี่ดิวกุมตรงเป้าของตัวเองแล้วหงายตัวนอนกับเตียง
อยากให้สัมผัสเขาก็สัมผัสให้ แต่แค่เพิ่มน้ำหนักมือมากหน่อยเท่านั้นเอง
แก้วพลิกตัวคลานหนีแต่พี่ดิวเร็วพอกันจับไหล่เขาขึ้นแล้วผลักให้เขาหงายหลังลงเตียงอีกรอบ
“กูไม่อยากทำมึงเจ็บแท้ ๆ หึ จริงสิกูลืมไปว่ามึงไม่ชอบ อย่างมึงต้องเจอแบบนี้ถึงจะสะใจสินะ”
ผั่วะ!! ผั่วะ!!
กำปั้นหนัก ๆ กระแทกเข้าที่มุมปากข้างขวาสองครั้งจนรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดในปาก แล้วไอ้กำเดาที่มักเกิดขึ้นเมื่อเขาจนตรอกก็ดันไหลออกมาเปื้อนหน้าให้พี่ดิวได้ชะงัก
“กะ แก้ว...”
หลังมือยกขึ้นปาดเช็ดจมูกจนเลือดเลอะหน้าเลอะตาเลอะเต็มผ้าคลุมเตียงไปทั่ว พลางยันตัวลุกนั่ง มองหน้าพี่ดิวนิ่ง
...ทำยังไงก็ได้ แค่คนที่เขารักไม่โดนคนอื่นดูถูก เหยียดหยาม
คนอย่างฝิ่นอยู่สูงเกินกว่าที่พี่ดิวจะเทียบเท่า
มันต้องแข็งแกร่ง มันต้องเหนือคนให้ไปตลอด แม้เขา...จะไม่ได้อยู่เคียงข้างมันก็ตาม
“ต่อให้พี่ได้ผม ผมก็ไม่มีวันรักพี่”
น้ำเสียงหนักแน่นบอกรุ่นพี่แล้วผลักให้ออกห่าง เขารีบลงไปยืนข้างเตียงแต่ดันลงผิดทางที่ไม่ใช่ทางออก กลับเป็นทางตันเมื่อพี่ดิวแสยะยิ้มให้แทนแล้วลุกมาดักหน้าเขาอย่างไม่รีบร้อน
“รัก? หึ ไม่ต้องแล้วก็ได้ แค่กูได้มึง กูก็ชนะแล้ว”
รุ่นพี่เดินเข้ามาใกล้ยิ่งทำให้เขาถอยหลังจนมุม
รัก...ของพี่ดิว คือไม่ต้องรักก็ได้สินะ
“พี่เข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ใช่คนที่จะทำให้พี่ชนะใครได้หรอก”
“กูไม่มีอะไรจะต้องเสียมึงเข้าใจไหม คนของมึงกำลังตามมาสินะ หึ แต่ก็คงมาทันตอนมึงเป็นเมียกูพอดี แล้วยังไง? จะรักหรือไม่รักแล้วยังไง ในเมื่อกูเอาเมียไอ้ฝิ่นมาเป็นเมียกูได้แล้ว ต่อให้กระทืบกูให้หายเจ็บใจ แต่กูนี่จะสะใจมากกว่า ฮ่า ๆ ๆ ๆ ไอ้ฝิ่นเชียวนะ ศัตรูหมายเลขหนึ่ง๓Tเลยนะ ไอ้ดียังทำไม่ได้เท่ากูเลย”
“ต่อให้ตายผมก็ไม่ยอมพี่!” เขาตะโกนเสียงดัง
อุ๊ก!! พี่ดิวซัดกำปั้นเข้ากับท้องเขาอย่างไม่ออมแรงจนเขาต้องคู้ตัวลงเกาะตู้ข้างหัวเตียง
“หึ...เหรอ? งั้นกูควรกระแทกมึงให้ตายเลยใช่ไหม?” นิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกกระชากหนังศีรษะให้เงยหน้าขึ้นมอง
“ผม...จะทำให้พี่...แพ้” เขากัดฟันพูดบอก
เขาเอง...ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วเหมือนกัน
“โอ๊ย!!”
โทรศัพท์บ้านที่ถูกวางไว้เฉย ๆ ไม่เคยมีสัญญาณเพื่อให้ติดต่อกับใครได้บนตู้ข้างหัวเตียงถูกคว้าติดมือมาฟาดใส่หัวพี่ดิวสุดแรงเท่าที่เขาจะฝืนตัวเองจากอาการจุกท้องได้...
“เหี้ยเอ้ย!” พี่ดิวสบถเอามือกุมหัว ล้มลงข้างตัวเขาแล้วมองมาตาขวางอย่างโกรธจัด
ก่อนที่พี่ดิวจะปรี่มาถึงตัวเขาอีกครั้ง เขาก็ยันตัวลุกแล้วคว้าเอาแจกันใบโตที่ไอ้พงษ์ซื้อมาไว้ให้ปักดอกไม้ซึ่งวางบนตู้ข้างหัวเตียงเดียวกับโทรศัพท์ฟาดใส่หัวพี่ดิวอีกรอบ
เพล้ง!!
พี่ดิวนิ่งไป...
เลือดกำเดาไหลไม่หยุดแต่เขาไม่สนใจ
พี่ดิวนิ่งไป...
เลือดไหลอาบตัว
เขาเดินออกจากตรงนั้นมาหยิบตะเกียงที่วางอยู่บนโต๊ะมาถือในมือ...ถ้าฟาดพี่ดิวด้วยไอ้นี่...น้ำมันคงจะหกรดตัวพี่ดิว รวมทั้งไฟอาจจะติด หึ!
แต่บ้านนี้ก็คงจะถูกเผาไปด้วย แก้วจึงวางตะเกียงไว้กับพื้นแล้วหันไปสนใจอย่างอื่น
เขาเดินเซไปหยิบแจกันที่ไอ้พงษ์ซื้อมาให้อีกใบซึ่งวางอยู่บนตู้ข้างหัวเตียงอีกฝั่งมาฟาดย้ำใส่หัวพี่ดิวอีกรอบ
...พี่ดิวจะได้ไม่มีแรงลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อเอาชนะไอ้ฝิ่นได้
สายตาว่างเปล่ามองร่างที่นอนนิ่งของรุ่นพี่เฉย
เขา...ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
แต่ถ้าเขายอม นั่น...ไอ้ฝิ่นเสียแน่
มีต่อจ๊ะ><
-
เขาไม่ได้เล่าทั้งหมดให้พี่แชมป์ฟัง ใครจะอยากให้คนอื่นรู้ว่าจะถูกผู้ชายข่มขืนเพื่อความสะใจเพียงแค่ได้ขึ้นชื่อว่าหักหน้าประธานสายคู่อริได้
พี่แชมป์ดูท่าคิดหนักกับการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวของเขา แต่ก็บอกว่า...”จะจัดการให้อย่างไม่ไว้หน้าใคร” แล้วประธานสาย๓Tก็กลับไป
เขาเข้ามานั่งทำแผลในบ้าน เสื้อผ้าก็ค้นจากในตู้มาเปลี่ยน แต่กลับไม่มีใครยอมเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าเขาสักคน
ไอ้พงษ์เดินออกไปส่งพี่แชมป์แต่ยังไม่กลับเข้ามา แล้วพี่ไม้ก็หายไปอีกคน
“มันมากกว่าที่บอกไอ้แชมป์ใช่ไหม?!” พี่ภูเสียงแข็งใส่
“ก็...ครับ” เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก้มหน้า แต่ก็ถูกคนที่กำลังทำแผลที่หน้าผากให้ช้อนคางให้เงยตามเดิม
“กูบอกแล้วว่าอย่าไว้ใจมันก็ไม่เชื่อ แม่ง กูเดาได้ตั้งแต่เห็นสภาพมันแล้ว มึงไม่น่าขวางกูเลยฝิ่น”
“แล้วเมื่อไหร่มึงจะไปที่อื่นสักที” ฝิ่นพูด ไม่ได้มองหน้าใคร ไม่ได้มองหน้าเขาซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้ามันด้วย
“เอ่อ พี่ภู ให้ไอ้แก้วพักเถอะนะ เราไปนั่งดูน้ำ เอ่อ จะเห็นอะไรวะ เอ้อ ไปนั่งเล่นข้างนอกดีกว่า ก่อกองไฟ นั่งตบยุงเล่น ไปเถอะพี่”
พี่ภูจิ๊ปากใส่ไอ้แสนแต่ก็เดินออกไปนอกบ้าน
“แป๊บนึงนะพี่” ไอ้โจ้พูด
“ไม่ต้องเดี๋ยวให้หมอเย็บใหม่”
“...ครับ” โจ้ที่เช็ดแผลให้ฝิ่นอยู่ถึงได้เดินตามพี่ภูกับไอ้แสนออกไป
คนทำแผลก็เงียบ คนถูกทำแผลก็เงียบจนเทปปิดแผลแผ่นสุดท้ายถูกแปะไว้ที่หน้าผาก
ได้ยินแต่เสียงถอนหายใจของฝิ่น
ไม่ได้อยากเป็นคนที่ทำร้ายฝิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเลย แต่พอตื่นขึ้นมาเจอหน้ามันก็อดดีใจไม่ได้ทั้งที่ไม่รู้ว่ามันมากับพงษ์ได้ยังไง
“กูไม่รู้เหมือนที่ไอ้พงษ์รู้ใจมึง แต่กูอยากรู้” มันพูดห้วน ๆ แต่จับ...แต่ประคองใบหน้าเขาอย่างแผ่วเบาด้วยมือทั้งสองข้างของมัน
...ให้สบตากัน
“พงษ์ไม่ได้รู้ใจกูทุกเรื่องหรอก มันแค่รู้...เพราะกูเคยทำ” เพราะเขาไม่ทำ สิ่งที่ไม่เคย
เรื่องไอ้ฝิ่นเป็นครั้งแรกที่เขานอกกรอบตัวเอง
“แล้วไอ้ดิวมันทำอะไรมึง กูไม่รู้หรอกนะเรื่องที่พวกมึงรู้กันน่ะ”
“...กูคิดว่ามึงน่าจะรู้ หรือจะให้บอก”
“มึงย้อนกู” อึก... “งั้นไม่ต้องก็ได้ กูเชื่อความคิดตัวเอง” ที่มันสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าเรียบร้อยแล้ว ตอนถือตะเกียงส่องไฟให้เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ
“...กู กลัว กูไม่ได้รู้สึกว่าที่ทำกับพี่ดิวเป็นเรื่องปกติเลย กูไม่ได้เคยชินกับความรุนแรงที่เห็นประจำใช่ไหม?” เพราะตอนนั้นเขาไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่ได้สงสาร ไม่ได้คิดจะยั้งมือ และเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองเลวก็ตอนรู้ว่าพี่ดิวยังไม่ฟื้น
“ไม่นี่ ถ้าใครทำร้ายมึงสิ่งที่ควรทำคือมึงต้องทำร้ายมันให้หนักกว่าที่ตัวเองโดน”
“กูควรหนี”
“คิดโง่ ๆ” มันสวนทันควัน “ ใครสั่งใครสอนมึง ทำอย่างที่ทำกับไอ้ดิวน่ะถูกแล้ว ใครทำร้ายมึงมันต้องโดนให้หนักกว่า แต่จะบอกอะไรให้อย่าง นักเลงเขาไม่ทำกันถึงตายหรอก เอาแค่เจ็บและให้อายพอ อ้อ ยกเว้นห้ามทำกับกู”
“กู...” อยากขอโทษแต่ก็กลัวความผิด เขาไม่เก่งกาจที่จะเผชิญหน้าถึงได้เอาแต่หนี
“กู...ขอโทษ”
“ห๊ะ หา? ขอโทษเรื่อง?” เขากับไอ้พงษ์ผิดแท้ ๆ ยังไม่เคยเอ่ยปากขอโทษมันเลย ...แถมหนีความผิดอีกต่างหาก
“ขอโทษที่ไม่จบ ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรเริ่มด้วยซ้ำ ถ้าเกิด...กูต้องเสียมึงไปอีกคน พี่ไม้คงสมน้ำหน้ากูตาย หึ”
“หมายความว่า? ...ตอนนี้มึงจบเหรอ?” คิดเข้าข้างตัวเองอีกครั้ง อยากจะดีใจแต่ก็ดีใจได้ไม่เต็มอกจึงต้องออกปากถามมัน
“ยัง...” มันพูดเสียงนิ่ง ละมือออกจากหน้าเขาเอาไปกอดอก พร้อมกับสายตาไม่แยแสที่มันเคยมอง
“.....................” ก็...ก็เท่านี้สินะ สองมือกำแน่นบนตัก เขายังอยู่ ชีวิตยังไม่ได้แลกชีวิต คนไม่เอาไหนที่แม้แต่จะฆ่าตัวตายยังเปลี่ยนใจหาทางเอาชีวิตให้รอดจนได้
แม้แต่จะปกป้องไอ้ฝิ่นมัน เขายังกลับคำเลย
แล้วเขาจะเรียกร้องให้มันยอมเขาได้ยังไง
“กูไม่จบ กูไม่อยากเริ่มต้นใหม่ แต่กูจะสานต่อ ...เรื่องของเรา หึ” อยู่ ๆ มันก็หัวเราะชอบใจ สายตาที่ดูไม่แยแสนั้นกลายเป็นความพึงพอใจและดูสนุกซะมากมาย
“สานต่อ...?”
“กูชอบหน้าตาหงอย ๆ ของมึงว่ะ เหมือนหมา...ตัวน้อย ๆ ที่อยากให้เจ้าของอุ้ม”
“ฝิ่น...” มันต้องการจะบอกอะไรกันแน่
ถ้าจะสานต่อแล้วเขาจะยืนดูเฉย ๆ ได้เหรอ ทำไมถึงต้องมาหนักใจกับเรื่องเดิม ๆ ที่แก้ไม่หายนะ
“กูน่ะ ต้องพยายามตั้งเท่าไหร่กว่าจะยอมรับได้ว่าหักหลังเพื่อน หักหลังตัวเอง ...กูไม่ยอมให้เวลาที่ผ่านมาสูญเปล่าแน่ กูจะไม่ยอมช้ากว่านี้อีกสักวินาที มึงเป็นของกู กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนะ ข้อตกลงที่กูเคยให้มึงทำ มึงต้องทำต่อไป ตกลงนะ”
“หึ นี่มึง กูอยากคิดว่ามึงรู้สึกเหมือนกู แต่บางครั้งกูก็รู้สึกว่าไม่ใช่” ไม่ผิดใช่ไหมที่ดีใจและลังเลใจในเวลาเดียวกัน
“รู้สึกยังไง?” มันจ้องตาเขาจน...พูดแทบไม่ออก
แต่เขาอยากพูด
“รู้สึก...รัก”
“มึงคิดว่ากูไม่รู้สึกเหรอ ถ้ามึงคิดว่าไม่เราคงต้องเรียนรู้กันใหม่ตั้งแต่สเต็ปแรก” มันต่อว่าเขา แต่เขาโคตรรู้สึกดี
“ฝิ่น...”
“เหี้ย อย่าเรียกกูแบบนี้ มันทำให้กู...อยากปิดปากมึงซะตอนนี้” มันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบพลางใช้นิ้วโป้งแตะเล่นที่ริมฝีปากเขา สายตาแข็งแกร่งมั่นคงมองมายังเขา นั่นทำให้เขาตัดมันไม่ขาด
หรือเป็นเพราะ...ใจเขายึดติดกับมันอยู่ตลอดมา
...ความรู้สึกดี ๆ ที่ได้อยู่ใกล้ใครสักคน ใครที่เราอยู่ในสายตาเขาคนนั้นตลอดเวลา จะสุข จะเศร้า จะเลว จะร้ายยังไง แต่เมื่อใจฝักใฝ่ให้ไปแล้ว ใจ...ก็ยังอยู่กับคนนั้นตลอดไป
เขาจับมือที่เล่นกับริมฝีปากเขาอยู่มากอบกุมไว้บนตัก ก้มหน้าพูดบอก
“ฝิ่น...กูรักมึงมากนะ “ จะสุข จะเศร้าใจก็คิดถึงแต่มึง “ฮึก กู...ไม่คิดว่าตัวเองจะรักมึงมากขนาดนี้ พี่ดิวทำกู กูยังไม่เจ็บปวดเท่าเขาจะทำร้ายมึง กูรักมึงนะ กูรักมึง”
“กูรู้” อย่าฝันว่าจะได้ยินมันบอกรักตอบ แต่ไม่เป็นไร เขาควรจะชิน “แต่ไอ้ดิวทำอะไรกู”
“อึก...เอ่อ” หลุดปากจนได้ แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับมันหนิ “เล่นฝาก...มั้ง” เขาไม่แน่ใจเพราะการเล่นฝากมันน่าจะใช้กับคนที่สนิทกับไอ้ฝิ่นมากกว่า อย่างพี่ไม้ อย่างไอ้โจ้ คนสาย๕x แต่ที่พี่ดิวทำไม่ได้ต่างกันเลย
“อืม เอาไว้ให้มันรอดคราวนี้ก่อนละกัน” ดูเหมือนมันไม่ค่อยสนใจพี่ดิวเท่าไหร่ “ส่วนมึง...อย่าได้คิดจะไปจากกูอีก เพราะกูไม่ยอม กูจะตามมึงไปทุกที่ หนียังไงก็ไม่พ้นกูหรอก จำไว้”
“...ถ้ามึงกับพงษ์ไม่เอาเรื่องกันอีกกูก็ไม่ไปไหนหรอก” เขาพึมพำเบา ๆ พลางมองพงษ์ที่เพิ่งเดินเข้ามา
มันยืนนิ่งไม่พูดไม่จา
“แฮ่ม!” เสียงกระแอมไอจากพี่ไม้ที่ยืนอยู่ตรงประตูบ้านทำให้พงษ์มีอาการหงุดหงิดไม่น้อย
“กู...กูขอเวลา” พงษ์พูดขึ้นมาโต้ง ๆ แล้วหันหลังกลับ เขากับไอ้ฝิ่นยังไม่ทันรับรู้อะไรเลย
“ถ้าพูดได้แค่นี้ก็อย่ามาถามความเห็นกู” พี่ไม้พูด
“กูไม่มีปัญหา แต่กูขอเวลา จบนะ” พงษ์ยังคงหันหลังให้ เมื่อพูดจบแล้วมันก็เดินชนไหล่พี่ไม้ออกไปข้างนอกอีกครั้ง
....................................
สลับไปสลับมาหลายตลบ คนอ่านไม่มึนเนาะ (...มันไม่ถามว่ามึนไหมด้วยนะฮ่า ๆ ๆ )
เพราะเดี๋ยวมีสลับอีกตลบ ก็กระจ่างแล้วค่ะ
ยังคงประมาณไว้ตอนที่ ๖๐ จบเช่นเดิมจ๊ะที่รัก ไม่รวมตอนพิเศษนะ
รักคนอ่านเหมือนกันค่ะ >< คนอ่านทำให้เขียนมาได้ถึงขนาดนี้ไม่รักก็ไม่รู้จะยังไงแล้ว
//โอย น้ำมูกไหลไม่หยุดเลย ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะคะ
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะ ^^ กอด ๆ จุ๊บเจ้า...
โอ๊ยยย ลืม ๆ ๆ เดี๋ยวจะมาอธิบายคำว่า"เล่นฝาก" สำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินนะคะ แต่รอพงษ์ก่อนนะ :z2:
หลงใหลในม่านหมอกเพจ (http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%81/324322744281783/)
-
ดิวร้ายมาก ๆ เลย ที่ทำไปทั้งหมดเพียงแค่อยากจะเอาชนะฝิ่นงั้นหรือเนี่ย หรือที่จริงแล้วดิวเองก็อิจฉาพี่ชายตัวเองด้วยนะ แก้วคิดได้ก็ดีแล้ว อย่าทำแบบนั้นอีกนะ อย่าทำให้คนที่แก้วรักและรักแก้วต้องเสียใจแบบนั้นอีก ฝิ่นก็ปากหนักมาก ๆ เลยนะนั่น แต่ยังไงการกระทำของฝิ่นก็บ่งบอกนั่นแหละว่ารู้สึกยังไงกับแก้ว พงษ์จะพูดแล้วใช่ไหม
-
เหมือนจะแฮปปี้แล้ว .....รึป่าว :laugh: :laugh:
ติดตามต่อไปค่ะ :L2: :L2:
-
ตกลงพงษ์มีคู่มั๊ยนี่
ถ้ามี ขออย่าให้คู่นังขวัญเลยนะ ไม่ชอบอย่างแรงงงงงง -*-
-
เลวสุดคือดิวสินะ เห้อ!!
รักฝิ่น ชอบพงษ์ แค่พี่ไม้55555
เฝ้ารออีกเหมือนเดิม ครั้งนี้เขิลๆ>< แบบเจ็บๆ o22 o22
-
อีกนิดเดียวแล้ว
พี่พงษ์ขอเวลาทำใจ 555+
แก้วนี่บทจะโหดก็มีเว้ย นึกว่าทุบพี่ดิวแค่ครั้งเดียว
น้องล่อซะแจกันแตกสองใบ สะใจวุ้ย
-
ขอบคุณคะ รอตอนต่อไปคะ ใกล้จบแล้วเหรอเนี๊ยะ
-
o13
-
ใกล้จะได้รู้แล้วว่าใครฆ่าเป้ง และฆ่าเพราะอาไร
-
:L2:
-
กระจ่างและคลี่คลาย
ฝิ่นนนนแก๊
รักแก้วเกิ๊นนนน
ขอบคุณนะคะ
-
คุยกันได้สักทีเย้ๆ
-
อีดิวเลววววววมาก :z6:
ปล.ฝิ่นบอกรักแก้วสะทีนะ :-[
-
แสดงว่าตอนแรกๆก็ไม่ได้รักแก้ว แค่อยากเอาชนะพงษ์มาตอนนี้ก็แค่อยากเอาชนะฝิ่นสินะ แก้วนี่เหมือนอยู่ผิดที่จริงๆเลย :เฮ้อ:
-
จบซักทีเหอะ อยากหวานบ้างอ่าาาาา
:L2: :L2: :L2:
-
หนูแก้วก็ยังเป็นหนูแก้ววยันยังค่ำ
คิดไปเรื่อย ๆ แต่พอเป็นเรื่องฝิ่นแล้วสู้ไม่ถอยเลยวุ้ย :-[
ก็เหลือเรื่องไปอเมริกาสินะ จะมีปัญหามั้ยเนี่ยะ
แต่พงษ์ก็เห็นแล้วนะว่าสองคนรักกันแค่ไหน แล้วฝิ่นก็ดูแลแก้วได้แน่ ๆ
จะพรากผัวเมียเค้าได้ลงคอเหรอพี่พงษ์ :o8:
-
ฮื่ออออออ ฝิ่นแก้วน่าร๊ากกกกกกก ><
ตอนนี้ยาวมากกกกก
-
บอกตรงๆ ว่าอึ้ง แก้วมันรักไอ้ฝิ่น มากขนาดยอมแลกตัวเอง แก้วเป็นคนที่ใจเด็ดเดี่ยวมาก คงต้องรอพงษ์ซินะ...แล้วคนอ่านจะรอเฉลยอีกตลบนะจ๊ะ ^^ ฝิ่นแกพูดมาเถอะ บางครั้งแค่การกระทำมันก็ทำให้แค่ดีใจ แต่ถ้าได้ยินคำว่า"รัก" ไอ้แก้วมันอาจจะทั้งดีใจ มั่นใจ มันเหนื่อยมามากแล้วให้มันได้ยินสักครั้งเถอะ ^^ (ปล.พงษ์จะคู่พี่ไม้ไหม เอ๊ะหรือโจ้ *คนอ่านเพ้อ*)
-
ในที่สุดก็รู้ซะทีว่าใครเป็นพระเอก อิตาฝิ่นนี่เอง! 5555
เรื่องพี่ดิว อุตส่าห์หลงเห็นใจ นึกว่าทำไปเพราะรัก ที่ไหนได้รักตัวเองนี่หว่า! แต่ทั้งโดนน้องแก้วบีบ... ตีหัวตั้ง3รอบ ไม่รู้จะรอดมั๊ยเนี่ย -*- น้องแก้วเราก็โหดเกิ๊นนนนนนน
ฮาภูกับฝิ่น ตีกันตลอด 5555
พงษ์เหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ไม่พูด พูดหน่อยสิ อยากรู้อ่าาา (/ผีเจือกเข้าสิง)
อ่านแล้วไม่งงค่ะ แต่คงต้องให้อธิบายคำว่าเล่นฝากหน่อยนนะ ^^" (อารมณ์ประมาณเล่นเส้นป่ะอ่ะ มั่วๆ ออกทะเล ><)
-
หึ สมน้ำหน้าไอ้ดิว สะใจ :laugh:
แก้วกับฝิ่นจะได้สวีท?กันแล้วสินะ คิคิ :oo1:
:pig4:นะคะ
-
ขอให้ปัญหามันจบสักทีเถอะ :กอด1:
-
อีพี่ดิวโคตรโรคจิต มันน่าให้เจ็บให้หนัก คนแบบนี้ ฮึ่มมม!!!
แก้วจ๋าไมน่ารักงี้อ๊า รักก็บอกว่ารัก ฝิ่นเหอะ ทำปากแข็ง
รู้่ตัวบ้างมั้ยว่าตัวเองโชคดีมาก ที่ได้ใจแก้วมา แต่ฝิ่นก็รักแก้วมากแหละเนอะ
เป็นรักสไตล์ฝิ่นเอง...น่าร้อกอ่ะ
ขอบคุณค่ะ
-
เฮ้ออออ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
กว่าทุกๆอย่างจะดีขึ้นมาได้
เอาใจช่วยหนูแก้วต่อไป
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
คิดว่าแก้วจะโดนข่มขืนจริงๆ :a5: :a5: :a5:
เจ็บปวด :m15:
แต่ก็โล่งใจ ที่ไม่มีอะไร :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
หวานกว่านี้หน่อยได้มั๊ยนายฝิ่น
แก้วบอกรักอยู่ตลอด เมื่อไหร่จะได้ยินจากปากฝิ่นบ้างน๊า~
-
ยังคงไม่เฉลย ความยังไม่กระจ่างอีกเหมือนเดิม
แต่ดีแล้ว ที่รู้ว่าแก้วก็ช่วยตัวเองอยู่ จนพงษ์ตามเจอ
รอตอนต่อไปค่ะ :กอด1:
-
กรี๊ดดดด พงษ์มีเดินชนไหล่พี่ไม้ด้วย :o8:(??? จิ้นไปไกล)
-
ดีใจอ่าที่ฝิ่นกับแก้ว รู้สึกดีดีต่อกัน ><
อ่านไปยิ้มไป ขอให้ต่อจากนี้มีแต่เรื่องดีดี
และสุดท้าย ไอ้พี่ดิว อว๊กกกก
-
happy ending รึปล่าว
แอร๊ยยยยยยยยยยยยย
:-[ :-[
-
งงพงษ์อะ คนที่ต้องพูดว่า "ขอเวลา" น่าจะเป็นฝิ่นมากกว่ามั้ง เพราะคนที่เสียเพื่อนไปไม่ใช่แกนะโว้ย
หรือว่ามันจะทำใจไม่ได้ที่น้องรักได้สามีแทนที่จะได้เมีย :เฮ้อ:
หรือว่ามันเคืองแทนแก้วที่เคยถูกฝิ่นทำร้ายร่างกาย/จิตใจ :เฮ้อ:
งงกับแกจริงๆ ไอ้คุณชายพงษ์ :เฮ้อ:
ส่วนไอ้คุณพระเอก แกมันพิการร่างกายไม่ครบ 32 ประการแหงๆ ปากแกมันถึงทำงานไม่เหมือนคนอื่นเค้า มีปากก็เหมือนไม่มี
เซ็งกับแกเหลือเกิน ไอ้คุณพระเอกท่ามาก :เฮ้อ:
พี่ไม้ยังคงความน่ารักเหมือนเดิม คนอะไรน่ารักดีแท้ เสียดายที่คงอีกนานกว่าพี่จะลืมเป้งได้ ขอให้มีคู่ไวๆ นะพี่ :กอด1:
ส่วน โจ้ แสน ก็น่ารักอะ เป็นน้อง เป็นเพื่อน ที่น่ารักมากกกก เลิฟๆ คู่นี้ :กอด1:
ภูรักก็เป็นพี่ที่ดีมากๆเหมือนกัน ช่วงแรกๆ เคยสงสัยนิดๆ ว่าภูรักเป็นพี่คนละสายกับแก้วและพงษ์ แต่ทำไมดูสนิทกับแก้วจัง หรือว่าสนิทผ่านมาทางแสนที่เป็นบั๊ดดี้แก้ว แต่ก็นะ คนเราก็คงไม่ได้คบแต่คนในสายล่ะมั้ง สรุป..จะสนิทกันเพราะอะไรก็ช่างมันเถอะ ไม่อยากจะรู้ละ
ส่วนสามีภูรักตอนนี้มาแค่ชื่อ รอช่วงที่เคลียร์เรื่องดิว/เป้ง/พงษ์ ว่าเฮียโซ่จะมีบทบาทมากแค่ไหน แต่เฮียบอกว่าจะไม่ยุ่งถ้าหากไม่ทำให้เมียไม่สบายใจนี่นะ :เฮ้อ: ก็ได้แต่หวังว่าเฮียจะไม่พิการปากเหมือนไอ้คุณพระเอกของเรื่อง
และสุดท้าย...ไอ้ตัวร้ายดิว ชั้นเบื่อแกละ เซ็งกับแกจนไม่อยากจะวิเคราะห์ ไม่อยากจะทำความเข้าใจกับนิสัยและอารมณ์ของแกอีกต่อไป
ความต้องการของแกมันเปลี่ยนเลเวลอยู่ตลอดเวลา สรุปสุดท้าย แกมันก็เป็นพวกบ้าอำนาจ อยากเป็นที่หนึ่ง เท่านั้นแหละ
เป็นตำนานแล้วงัยวะ ขนาดไอ้พี่ดี พี่ชายเฮงซวยของแกที่เคยเป็นตำนาน ยังโดนยำตีนของไอ้พระเอกฝิ่นมาแล้วเลย ถุย...ไม่อยากจะด่าให้เปลืองน้ำลายคนอ่าน :angry2:
รอไอ้ชั่วดิวฟื้นตอนหน้าค่ะ :call:
-
ช่วงบรรยายตอนไอ้ดิวทำอะไรๆแก้ว อ่านแล้วอินรู้สึกขยะแขยงตามแก้วเลยว่ะ
ความคิดของผู้ชายคนนี้ไม่สร้างสรรเอามากๆ อ่านแล้วรู้สึกว่ารังเกียจไอ้เลวดิวจริงๆ
-
เขาบอกรักกันแล้ว วุ้ยๆๆ
-
เริ่มคลี่คลายแล้ว เย้ๆๆ :mc4:
ขอให้จบด้วยดีทุกฝ่ายเห้อ เพี้ยงๆๆ :กอด1:
-
สรุปแก้วแมนที่สุดในเรื่อง
ไม่ใช่ปัญหาของตัวยังเอาตัวไปพัวพัน จนได้ซะมีมาหนึ่งคน
ทำให้เรื่องที่เคยบาดหมางต่างสถาบันมีหวังว่าจะคลี่คลาย
ตอนถูกจับรอบรรดาบิ๊ก ๆ มาช่วย กลายเป็นว่าต้องโชว์เดี่ยวซะเอง
ฝิ่นกะพงษ์อย่ามาง้องแง้งอีกนะ เดี๋ยวให้แก้วฟาดหัวคนละทีเลยนี่
อิฉันแฟนคลับพี่ไม้ค่ะ อิอิ
-
อีดิวน่าจะพิการไปเลยนะ :z6:
-
...ทำยังไงก็ได้ แค่คนที่เขารักไม่โดนคนอื่นดูถูก เหยียดหยาม
คนอย่างฝิ่นอยู่สูงเกินกว่าที่พี่ดิวจะเทียบเท่า
มันต้องแข็งแกร่ง มันต้องเหนือคนให้ไปตลอด แม้เขา...จะไม่ได้อยู่เคียงข้างมันก็ตาม
แม่ยกคนนี้เทใจให้ล้านบวก กับความคิดของแก้ววววว
มีคนที่รักเราได้ขนาดนี้ ภูมิใจซะนะฝิ่นเอ้ยยยยยย
จากนี้ก็ดูแลแก้วดีๆหน่อยได้โปรด อนุญาตให้หวงมากกว่าเดิม สิบล้านเท่า 555
ปล. ตลกพี่พง กะ ไม้ > <
-
เข้มข้น งวดลงเต็มที่กำลังสนุกเลย
-
พี่ฝิ่นจะสานต่อแย้ววว
น้องแก้วไม่ต้องอึดอัดอีกต่อไปแล้วนะ
-
:sad4:
เย้ๆ
นี่เค้าบอกรักกันแล้วใช่มั้ย?
รู้สึก เหมือน จะคุยกันเฉยๆ แบบว่า นิ่งเกินไปมั้ย???
:o8: :o8:
ในที่สุด ก็แฮปปี้ๆ กันสักที
ตอนต่อไป อยากให้เรื่องคลี่คลายสักที
ลุ้นสุดๆล้ะ
:z3:
-
เย้ เย้ เรื่องใกล้กระจ่างแล้ว :pig4: :pig4:
-
จะกระจ่างแล้ว แต่เรื่องก็จะจบแล้ว ไม่นะ คนเขียนทำร้ายจิตใจคนอ่านอ่ะ
ยังอยากอยู่กะแก้ว ฝิ่น พงษ์ ไม้ ต่ออ่ะ ไม่อยากจากไปไหนเยย อ่านแล้วมีความสุขที่สุ้ดเยย
:กอด1: :กอด1:
-
น้องแก้วบอกรักตั้งหลายครั้งหลายครา ว่า "กูรักมึงมากนะฝิ่น"
ช่วงเวลาที่ผ่านเรื่องเลวร้ายสุดๆแบบนี้ มึงก็ตอบกลับน้องแก้วไปบ้างเห๊อะฝิ่น
ว่า "กูก็รักมึงมากเหมือนกัน"... แทนที่จะเป็นคำว่า.."กูรู้" :oo1:
รออ่านตอนต่อไปน๊า :L2:
-
สารภาพตามตรง อ่านบางประโยค
ก็จินตนาการ ไม่ออกว่าความคิด แก้วคืออะไรยังไง
แต่ก็ติดตามมาตลอด หลังจากนี้อยากให้มี บทกุ๊กกิ๊ก หวานๆ กันบ้าง 55
-
เรื่องใกล้กระจ่างแล้ว แต่ยังไม่อยากให้จบเลย...
ปล.อยากให้แสนมีคู่อ่ะ
-
ฝิ่นกับพงษ์ดีกัน แก้วก็มีความสุขแล้วสิ o13
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๕
ไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าตรู่ ไม่มีใครไปพักบ้านที่พงษ์เสนอเลยสักคน เพราะต่างรู้ดีแก่ใจว่าไม่มีใครอยากขึ้นชื่อว่ารวมกลุ่มกันนาน ถึงแม้๙Tกับ๕x ไม่ใช่อริโดยตรง แต่อริก็คืออริ มีจังหวะเมื่อไหร่ก็ฟันกันได้ทุกเมื่ออยู่วันยังค่ำ จึงต้องจำใจนั่งคุยอยู่ใกล้ ๆ กันสายใครสายมัน รอจนกว่าพระอาทิตย์ขึ้น
พวกเขาเดินทางออกจากบ้านสวนเพื่อไปอนามัยซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ตมากนัก ส่งคนของฝิ่นเสร็จก็เหลือแต่คนของ๙Tที่ยังรอประธานของสาย
“เป็นไงบ้าง?” พี่โซ่เดินมานั่งข้างพี่ภูหน้าห้องตรวจที่ฝิ่นเข้าไปทำแผลและวัดไข้ เพราะเขารู้สึกว่าตัวมันร้อน ๆ ตั้งแต่ก่อนฟ้าสาง
“มันก็ปลอดภัย ยืนอยู่เนี่ยไม่เห็นรึไง?” พี่ภูตอบหน้าบึ้ง ๆ เหล่มองมายังเขา
“เฮ้อ ก็รู้ว่าหมายถึงใครยังเฉไปอีก”
“แล้วภูต้องเป็นอะไรเหรอโซ่?” เจอพี่ภูจ้องด้วยสีหน้าเรียบเฉยพี่โซ่คงไม่อยากถามแล้วล่ะ “เอาทางมึงดีกว่า ไอ้ดิวเป็นยังไงบ้าง?”
“เกือบตาย ดีที่เลือดไม่คั่ง เห็นไอ้แชมป์บอกพี่ดีจะมารับกลับเอง” พี่โซ่บอกแต่สายตามองผ่านไปที่พงษ์
“ฟู่ววว” ค่อยหายใจทั่วท้องหน่อย รู้จากโจ้ว่ามิวไม่โดนพี่ดีทำอะไร และมารู้ว่าพี่ดิวก็ไม่เป็นอะไรแล้ว เขาก็โล่งอก “พงษ์ ไม่ไปดูพี่ดิวหน่อยเหรอ” ไม่ได้อยากสงสารคนที่มีความคิดจะทำร้ายตนและคนข้าง ๆ แต่ถ้าพลาดทำพี่ดิวตายขึ้นมาล่ะ? ...ไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงไม่ใช่คนแล้ว
บางทีมันก็จวนตัวจนไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง เคยแต่ต่อว่าพงษ์ว่าไม่มีสิทธิ์ลงโทษใครถ้าแค่คนนั้นทำอะไรให้เราไม่พอใจ...แต่ดันมาเป็นซะเอง
“ยังไม่อยากเห็นหน้ามัน...มึงก็ไม่ต้องด้วย” พงษ์ตอบหน้าตายแถมบอกห้ามแล้วลุกขึ้นยืนเสมอแก้ว
“เดี๋ยว” พี่โซ่ดึงแขนพงษ์ไว้ก่อนที่มันจะเดินไป “คุยกันหน่อย” ไอ้พงษ์ก้มหน้าครุ่นคิด แต่ก็พยักหน้าแล้วเดินไปกับพี่โซ่
“มีอะไรกัน?” พี่ภูลุกยืนเอ่ยถามตามหลัง
“นั่งรอดีกว่าพี่” แต่ไอ้แสนก็ดึงพี่นั่งลงตามเดิม
ภายใต้สายตาของพี่ไม้กับโจ้ที่มองดูเหตุการณ์อยู่ตลอด
เขาก็...อยากรู้เหมือนกันว่าจะไปคุยเรื่องอะไร มองตามหลังสองคนนั้นจนเลี้ยวไปทางอื่น เกือบจะหันกลับมาแต่กลับมีร่างของบางคนเดินสวนมาพอดี
“ไม่เป็นอะไรหนิ” พี่ลูกขวัญที่หน้าตาดูไม่จืดเหมือนคนยังไม่ตื่นนอนด้วยซ้ำเดินมาหยุดตรงหน้าเขา เสื้อนักศึกษายับ ๆ กับกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ติดตามตัวมาคงเป็นคำตอบได้ดี
พี่ภู ไอ้แสน ลุกมายืนข้าง ๆ เขา พี่ไม้ที่ยืนอยู่ห่าง ๆ ก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับไอ้โจ้
“ครับ...” ไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่พี่อยากให้เป็น “หน้าพี่ไปโดนอะไรมา?”
รอยนิ้วมือบนใบหน้าที่เห็นได้ชัดบนแก้มพี่ลูกขวัญ ใครทำ?
“หึ” แต่กลับโดนพี่ลูกขวัญแสยะยิ้มใส่แทนคำตอบ พร้อมกับสายตาที่หันไปมองพี่ไม้ตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนเสมองไปอีกทาง
“พี่ฝิ่นเสร็จแล้ว” ไอ้โจ้บอกขณะที่ฝิ่นเดินออกจากห้องตรวจพอดีเขาจึงเลิกให้ความสนใจพี่ชายอีก
“อ้าว?” เหมือนมันข้องใจที่มีใครอีกคนยืนอยู่ตรงนี้
“คุณพ่อเขารู้เรื่องแล้ว แต่ต้องบินด่วนไปญี่ปุ่นพร้อมพ่อไอ้พงษ์ เขาอยู่ในฐานะพ่อต่อหน้าคนอื่นเขาก็คงต้องเป็นห่วงหน่อย แต่ติดต่อมึงไม่ได้ ติดต่อไอ้พงษ์ก็ไม่ได้ พี่ชายที่ดีอย่างกูเลยลำบากมาดูให้แทน” พี่ลูกขวัญยักไหล่ให้ เป็นท่าทีว่าไม่ได้สนใจจริง ๆ
“เห็นแล้วนี่ว่ามันสบายดี เสียใจด้วยที่ไม่มีใครยอมให้มันเป็นอันตราย” ฝิ่นเดินมาจับข้อมือเขา ...มือร้อนกว่าตอนมาด้วยสิ
“ใครสน?”
ใช่...ใครสน แต่ไอ้ฝิ่นที่จ้องหน้าพี่ลูกขวัญเขม็งก่อนแล้วก็ผลักหน้าอกพี่เขาทันที แก้วจึงรีบกุมมือฝิ่นแน่นพลางมองหน้ามัน
“อย่า...ถ้าเสร็จแล้วก็กลับกันเถอะ” แก้วพูดรัวบอก
“เลวว่ะ” พี่ภู เฮ้อ เขาลืมไปว่ายังมีอีกคนที่เห็นอะไรไม่ชอบใจก็กล้าต่อว่าซึ่งหน้าอยู่ด้วย
“มึงไม่เคยเห็นลูกอิจฉาใช่ไหม งั้นมึงก็มึงดูไว้” ฝิ่นบอกพี่ภูที่ไม่เคยกินเส้นกัน
“ถ้ามาแล้วทำให้คนอื่นเสียบรรยากาศ ก็ไม่ต้องมา จริง ๆ ข้อนี้มึงน่าจะรู้ตัวนะ อ้อ แล้วถ้ายังไม่สร่างก็กลับไปนอนซะ” พี่ไม้บอกพี่ลูกขวัญด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ไม่ได้มีอารมณ์ตามฝิ่น
“....................” พี่ลูกขวัญจึงคว้ามือพี่ไม้ขึ้นมาแล้วเอากุญแจรถวางใส่มือ
“รถจอดหน้าอนามัย” ทันทีที่พี่ลูกขวัญหันหลังให้ ไอ้โจ้ก็คว้ากุญแจรถออกจากมือพี่ไม้แล้วเขวี้ยงใส่หลังพี่เขา
ปุ๊!!
“โจ้!” อย่าใช้ความป่าเถื่อนที่อยู่ในสายเลือดพวกมันมาทำกับพี่ชายเขา ...อยากจะตะโกนต่อว่าแต่ติดที่สายตาฝิ่นข่มคำพูดเขาไว้หมด
“อยากไปไหน เชิญคุณพี่คนดีคนเดียวเลยครับ พี่ผมไม่ใช่ขี้ข้าใคร อย่าโง่สุ่มสี่สุ่มห้า” ไอ้โจ้พูดไล่หลัง
พี่ลูกขวัญหันมาก้มเก็บกุญแจรถเงียบ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น สายตาแข็ง ๆ กับรอยยิ้มคล้ายกับสมน้ำหน้าอะไรสักอย่าง ...ได้ถูกส่งไปยังพี่ไม้
.
.
.
แก้วหยิบซองสีน้ำตาลที่พงษ์วิ่งเข้าไปเอาในบ้านตอนก่อนจะออกไปอนามัยขึ้นมาเมื่อเห็นว่าพงษ์ลืมไว้เบาะหลัง
“อะไร? ทำไมต้องหวงด้วย” แต่มันเดินกลับมาแย่งไปจากมือเขา
“เปล่า! หวงอะไร?”
เปล่าซะเสียงแข็งเนี่ยนะ เออ ไม่รู้ก็ได้ เมื่อกี้ที่จับดูมันก็เบา ๆ นุ่ม ๆ เหมือนเสื้อ หรืออะไรที่ไม่น่าจะมีอันตราย
ถึงจะขอไว้แล้วว่าเขาก็ทำพี่ดิวหนักเอาการไม่อยากให้ไปเอาคืนอีก แต่ก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี แต่...พงษ์คงไม่ใจร้ายพอที่จะทำอะไรพี่ดิวตอนนี้หรอกมั้ง ...ถึงมันจะเคยใจร้ายมากก็เถอะ
“ข้องใจอะไร?” ฝิ่นมองหน้าพงษ์แล้วยักคิ้วถามหน้าซื่อ
“ใครอนุญาต” อีกคนก็กอดอกถามกลับสีหน้าบึ้งตึง
“กูมาอยู่บ้านเมีย เอ้ย! โทษทีว่ะ ต้องบอกว่ากูมาอยู่บ้านแฟน”
“มึงเงียบปากเลยถ้าไม่อยากมีเลือด” พงษ์ชี้หน้าพูดแทรกทันทีแต่ฝิ่นแค่ยักไหล่และเดินตามเขาเข้ามาในบ้านแล้ว
“...แล้วยังไง? กูต้องขออนุญาตใครด้วยเหรอ คิดว่าไม่นะ ไปแก้วพาพี่ไปดูห้องนอนของเราสองคนหน่อยสิ”
“เอ่อ...” ไม่ขออนุญาตใครและไม่ได้บอกอะไรเขาก่อนด้วย
ออกจากสระบุรี... ฝิ่นกับแก้วก็แยกรถกันกลับโดยที่แก้วต้องกลับมาพร้อมพงษ์ แต่เหยียบบ้านได้ไม่กี่นาที ฝิ่นมันก็สะพายกระเป๋าเป้เดินเข้ามาในบ้านด้วยเสื้อตัวใหม่แต่กางเกงยังเป็นยีนส์เก่า ๆ ตัวเดิมที่มันใส่ลงน้ำเมื่อคืน และตอนนี้แก้วก็เดินตัวลอยตามแรงโอบที่ไหล่จากฝิ่นขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้
...จะเลี่ยงทำไมในเมื่อเขาไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่ฝิ่นทำนี่นา
เปิดประตูห้องได้มันก็ทิ้งกระเป๋าลงพื้นแล้วเดินตัวปลิวไปทิ้งตัวนอนแผ่บนเตียงนอน เป็นเขาที่ต้องเก็บกระเป๋ามันขึ้นไปวางหน้าโต๊ะคอมฯเพื่อไม่ให้เกะกะ
“ล็อกห้องด้วยนะ”
“อืม” พงษ์คงไม่ตามมาแล้วมั้ง ...แก้วเดินกลับไปกดล็อกลูกบิดประตู
“อยู่กันสองคนสักทีกูโคตรอึดอัด ...มานี่สิ ใกล้ ๆ นี่” มันนอนหลับตาแต่เอ่ยปากเรียก
“จะ...จะอยู่นี่เหรอ?” เขาก็ว่าง่ายเดินไปนั่งขอบเตียงข้างตัวฝิ่น
“ถามใคร”
“ถามมึง...” เขาตอบเสียงอ่อยอย่างไม่ค่อยมั่นใจทั้งที่ในห้องก็อยู่กันแค่สองคนเมื่อฝิ่นลืมตามามองหน้าเขานิ่ง
“มึงกับใคร?” เขา...ผิดตรงไหนรึเปล่ามันถึงได้จ้องเขาตาดุอย่างนี้ “ต่อไปต้องพูดกับพี่ฝิ่น ตามนั้น”
ใบหน้านิ่ง ๆ ติดดุพูดบอก มันเปลี่ยนท่านอนเอามือประสานกันที่ท้ายทอยมองหน้าเขาอยู่อย่างนั้น
“อะ...?”
“กูเคยบอกให้มึงเรียกกูพี่แล้วครั้งนึงแต่มึงก็ลองดี ไม่เรียก” มันยัง...จ้องหน้าเขา...จนเขารู้สึกว่าอาจจะเป็นความผิดจริง ๆ มันถึงได้พูดขึ้นมา
เขาไม่ได้ลองดี แต่…
“พูด!”
“ห๊ะ อึก” สะดุ้งทันทีเมื่อโดนมันย้ำและโดนจับที่ข้อมือ
“กูว่ากูเดาทางมึงได้ แต่บางทีกูก็เดาไม่ได้ ...กูไม่ได้ชอบที่จะค้นหาตัวตนใครหรอกนะ เพราะมันเป็นเรื่องน่ารำคาญ ...อีกอย่าง เสียเวลาด้วย”
เฮ้อ...เขาจำได้ว่าควรจะพูดทุกอย่างกับมัน
“...ไม่ได้ลองดีแต่ไม่ได้นับถือ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกัน เลยเรียกไม่ได้” พี่ร่วมสถาบันก็ไม่ใช่ ทำตัวให้รักษาน้ำใจอย่างพี่ไม้ก็ไม่เคย
“แล้วตอนนี้เกี่ยวรึยัง?!” มันเด้งตัวลุกนั่งจนเขาผละหลบแทบไม่ทันทั้งที่ฝิ่นก็แค่ลุกขึ้นมานั่งคุยกันเฉย ๆ
ตอนนี้ก็...ไม่ได้นับถือมันสักหน่อย แล้วจะเรียกว่าเกี่ยวได้เหรอ?
“..........................”
“อย่าหลบตากู”...เขาจำต้องเงยหน้าขึ้นมองมันอีกครั้ง “พี่พงษ์มึงยังเรียกได้แล้วทำไมจะพี่ฝิ่นบ้างไม่ได้ นี่กูไม่เคยต้องสอนให้ใครเรียกเลยนะให้ตายเถอะ!” ฝิ่นพูดอย่างเบื่อหน่ายแต่น้ำเสียงหนักเชิงตำหนิ
“ฝิ่น...มึงต้องการอะไรกันแน่? มึงแน่ใจแล้วเหรอที่เราจะ...”
“หยุด...นี่ไอ้พงษ์สอนให้มึงเป็นคนคิดมากไม่จบอย่างนี้เหรอ?” มันสั่งแกมต่อว่า เขาจึงต้องหยุดคำพูดไว้แค่นั้น มันบอกว่ามันยอมรับ แต่ข้างในใจของมัน ยอมรับเรื่องที่ผ่านมาได้มากน้อยแค่ไหน มัน...ไม่ได้คิดจะทำอะไรอีกแน่นะ เขาดีใจที่ฝิ่นอยู่กับพงษ์โดยที่พงษ์ยังปลอดภัย แต่เขาจะแน่ใจว่าต่อไปจะราบรื่นได้จริงเหรอ ...เขาจะเอาอะไรมายืนยันให้รู้สึกปลอดโปร่งจริง ๆ “กูคือคนสำคัญของมึง อะไรก็ตามที่มันสำคัญกว่าคนอื่น มึงควรทำกับกู”
“แล้ว...พงษ์”
“อ๋อนี่มึงไม่เคยเชื่อใจกูเลยใช่ไหม?” ที่แล้วมาคำตอบก็คือใช่ แต่เรื่องอะไรที่เขาจะตอบมัน “คนที่ควรตอบว่าแน่ใจหรือไม่แน่ใจตอนนี้กูว่าควรเป็นมึงมากกว่า...กูไม่อยากกลับไปคิดทบทวนอีก”
“ตกลงเลย แน่ใจ กูแน่ใจมาก” เขารีบพยักหน้าบอกมันมือก็ไวไปเขย่าแขนมันจนได้
แอบเห็น...มันยิ้มมุมปากเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะหน้านิ่งเหมือนเดิม หึ เขาจะพยายามไม่คิดมาก จะพยายามเชื่อใจฝิ่น ในเมื่อมันเป็นทางออกที่ดีสำหรับเรา ทางออกที่เขามองหาคนเดียวไม่เจอ
“ลูกผู้ชายน่ะ ข้อแรกคือต้องรักษาสัจจะ แต่มึงรู้รึเปล่าว่าไม่มีสัจจะในหมู่โจร”
“กูแค่ไม่อยากระแวง”
“แต่มึงบอกแล้วว่าจะอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม” ...นั่นมันมึงพูดเองไม่ใช่เหรอ แค่เขาไม่ได้ปฏิเสธอีกนั่นแหละ “ถึงกูไม่ใช่โจร แต่ถ้าสัจจะมันทำให้กูเสียผลประโยชน์ กูก็กลับคำได้ มึงเลิกคิดมากได้ละ กูไม่สนุกแล้ว แล้วกูก็ไม่มีปัญหาที่จะอยู่นี่เพราะไอ้เหี้ยนั่นมันคงไม่ยอมให้มึงไปนอนกับกู”
ก็ถูกของฝิ่น แต่มันไม่คิดจะรอบ้างเหรอ เพิ่งจะได้คุยกันมันก็ตัดสินใจทันทีทันใดเอาเอง
เดี๋ยว อะไรนะ?
“แล้วมึงจะไม่กลับคำไปมาอีกเหรอ?”
มันส่ายหน้าให้ ดูท่าไม่อยากตอบ
“กูให้มึงเป็นตัวตั้ง สัจจะของกูต่อไปจะขึ้นอยู่มึง”
หัวใจพองโตจนกลัวว่ามันจะแตกเอา ...หัวใจเขากระโดดโลดเต้นจนมันจะหลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้ว
ความแน่ใจของเขาก็มาจากมันเช่นกัน
“หึ จริงนะ”
“อืม” มือหนาจับท้ายทอยเขาให้โน้มใบหน้าเข้าไปหาเจ้าตัว มีเพียงเสียงฮึมฮัมในลำคอให้ได้ยินเพราะปากมันไม่ว่างตอบแล้ว เขาหลับตาพริ้มรับรสสัมผัสจากปลายลิ้นที่ชวนให้ทักทายอย่างไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งอื่นใด มากกว่าจูบแต่มันคือการให้ใจของเราสองคน “เออ กูลืม”
“หืม?” แก้วใช้หลังมือถูเช็ดปากเมื่อผละออกจากกัน แต่มือฝิ่นยังจับท้ายทอยเขาอยู่ มืออีกข้างก็วางขวางตัวเขา แถมหน้ายังห่างกันไม่ถึงคืบ
“มึงรู้สึกดีใช่ไหม?”
“ก็...” เขาเม้มริมฝีปาก ก้มหน้างุดหลบสายตามัน
ถ้าไม่คิดถึงเรื่องบาดหมาง เขาก็รู้สึกโดยไม่ต้องเข้าข้างตัวเองได้ว่าเราใจตรงกัน อาจจะเป็นความรู้สึกที่เข้าข้างตัวเอง แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดี
“รักที่มึงอยากได้ มึงรู้สึกดีที่สุดในโลกรึยัง”
น้ำเสียงจริงจัง แววตาเอาเรื่องน่ะคือฝิ่นแน่ แต่คำพูดแบบนี้มันทำให้เขาตัวแข็งทื่อ
เขาแอบเห็นความลังเล ดูมันต้องคิดที่จะพูดออกมา ...เป็นสิ่งที่เขาไม่ค่อยเห็นจากคนเด็ดเดี่ยวอย่างมัน
“คำว่ารัก... กูไม่มีให้มึงหรอกนะ”
อึก!
หัวใจ...ที่กำลังตื่นตัวเมื่อกี้ หมดแรงไปแล้วเหรอ...ทำไมถึงได้รู้สึกว่ารอบตัวมันเงียบจนแทบไม่ได้ยินอะไร อย่างกับ...เครื่องเล่นดนตรีที่ถูกเตะปลั๊กไฟหลุดกะทันหัน
อะ...อะไร?
ใบหน้าชาวาบจนแทบไม่มีความรู้สึก
เมื่อกี้ฝิ่นพูดอะไรนะ? แต่เดี๋ยวก่อน เขาขอหันหน้าไปทางอื่นเพื่อตั้งหลักก่อนแล้วจะกลับมาทำความเข้าใจ
“มึงหันหน้ามาหากูเดี๋ยวนี้” ทั้งน้ำเสียงเข้ม ทั้งมือที่จับท้ายทอยอยู่ก็ออกแรงดันหน้าเขาให้หันกลับไปหามัน
“........................”
“คำว่ารัก กับความรัก มึงจะเอาอย่างไหน”
“......................”
“ช้า... กูตอบให้เอง คำว่ารัก กูบอกคนอื่นไปแล้ว”
ความสะเทือนจากข้างในส่งมาถึงหน่วยตาจนพร่ามัว
“พะ...พอแล้ว”
มันไม่ทำตามที่เขาบอกแน่ แม้แต่มือที่เขาผลักตัวมันให้ออกห่างมันยังไม่สนใจแต่ยิ่งขยับตัวเข้ามาใกล้เขามากขึ้น
มุมปากคนตรงหน้าที่ไม่อยากมองเห็นอมยิ้มก่อนจะเป่าลมใส่หน่วยตาเขาแล้วเอ่ยย้ำอีกครั้ง
“ส่วนความรักกูให้มึง หึ ฮ่า ๆ ตามนั้น”
เดี๋ยว!
จากหน้าชาเขาว่าหน้าเขามันเริ่มร้อน ๆ ชอบกล หรือความร้อนจากตัวฝิ่นจะแผ่มาโดนเขากัน
“เมื่อกี้มึงว่าไงนะ?”
“กูพูดจบแล้ว” มันเปลี่ยนสีหน้าได้ไวมากอย่างกับเมื่อกี้ไม่เคยหัวเราะชอบใจอย่างนั้นล่ะ
“มึงทำกูใจสั่นตลอด” หวิว ๆ กับคำว่ารักที่ให้คนอื่นไปแล้วด้วย แต่อะไรก็ไม่เท่าที่มันบอกเขาหรอก มันดังกลบความคิดแย่ ๆ ไปซะมิด มือที่เคยผลักไล่ก็เปลี่ยนเป็นดึงเสื้อมันไว้แก้เก้อ เขาหันมายิ้มให้ฝิ่นพลางหัวเราะน้อย ๆ กับประโยคที่ยังก้องอยู่ในหัว เกือบจะบ้าต่อมน้ำตาแตกอีกซะแล้วทั้งที่เรียกความมั่นใจให้ตัวเองหลายต่อหลายที กลับยังตั้งรับกับฝิ่นไม่เคยทัน
“ไม่ต้องดีใจหรอกน่า ...กูจริงจัง” มันยังหน้าตายแต่เลิกมองหน้าเขาได้สักที เพียงแต่สายตามันตอนนี้มาสนใจที่ผ้าก๊อตบนหน้าผากเขาแทน มือที่เคยจับท้ายทอยก็หันมาลูบ ๆ ผ้าก๊อตปิดแผลอยู่นั่น ทั้งที่ไม่มีอะไรให้น่าสนใจสักนิด
“กูไม่อยากให้มึงอยู่คนเดียว ในชีวิตมึงควรมีกูอยู่ด้วย ...ที่กูพูดเนี่ย มึงมั่นใจขึ้นบ้างรึเปล่า?”
ฝิ่น...คือคนที่นำความทุกข์ใจมาให้เขาตั้งแต่แรก ถึงจะไม่ใช่คนเดียวก็เถอะ ความทุกข์ที่ยังคงมีอยู่จนถึงวันนี้ แต่ในความทุกข์ มันเป็นคนเดียวที่ยื่นความสุขมาให้เขาควบคู่กันเสมอ
เขาย่อมยินดีที่จะโอบกอดความรู้สึกนี้ไว้เป็นหลักยึด ความรู้สึกดี ที่คิดว่าคงดีถ้าได้รับความรู้สึกแบบเดียวกันตอบแทน
แต่หัวใจเขาตอนนี้มันลอยสูงกว่าคำว่า...รู้สึกดี...ไปอีกร้อยเท่าเลยล่ะ
“พี่ฝิ่น...”
ไม่ได้เรียกเพราะนับถือ ไม่ได้เรียกตามมารยาท ไม่ได้เรียกเพราะเกิดก่อน และไม่ได้อยากให้เป็นพี่ตามสรรพนาม แต่ก็เต็มใจเรียก
ไม่ได้เรียกเพราะให้มันดูสำคัญอย่างที่มันต้องการ
แต่เรียกได้...เพราะมันคือคนสำคัญ มันอยู่เหนือเหตุผลที่เขาเคยตั้งไว้
“เรียกแบบนี้ระวังจะติดไข้จากกู เฮ้อ...” ท่าทีหัวเสียของฝิ่นแต่ไม่ได้ทำให้เขาใจเสียตามไปด้วยอีกครั้งเพราะริมฝีปากของมันเล่นมาคลอเคลียกับริมฝีปากเขาคล้ายหมั่นเขี้ยวกันมานาน “มัดจำ แต่ถ้ามึงอยากติดกูก็ต่อได้เลย” สายตาเฉียบคมของฝิ่นมักทำให้เขาหยุดเคลื่อนไหวเป็นอันดับแรก แต่ยิ่งโดนจับจ้อง ยิ่งเหมือนถูกสั่งด้วยสายตา
และมักทำให้เขาคล้อยตามเสมอ...
.....................................................................
เอ่อ ขอกระโถนหน่อย -*- สงสัยคงต้องพาพงษ์มาดับแล้วล่ะ โหมดนี้มันไม่ใช่อะ ดาวรับไม่ได้ ดาวเอียน เฮ้อออ
ปล.ไม่แปลกใจค่ะถ้าคนอ่านจะไม่เข้าใจแก้วในบางครั้ง บ่อยครั้ง หลาย ๆ ครั้ง (พอเหอะแก) เพราะก็คิดว่า ...ควรจะออกมาอย่างนี้อยู่แล้ว ลูกแก้วคือคนที่คนอ่านเข้าใจและไม่เข้าใจนั่นแหละค่ะ^^
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ กอด ๆ จุ๊บ^^
หลงใหลในม่านหมอกเพจเจ้า (http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%81/324322744281783/)
-
โอ๊ยยยย ตอนนี้น่ารักอ่ะ ฝิ่นโดนใจมากกก
-
ฝิ่น หวานเวอร์อ่ะ
ขอให้เป็นอย่างนี้ตลอดไปล่ะ o13
-
ใช่! ใช่เลยโมเม้นท์นี้ที่รอคอย...
ไม่ต้องเอากระโถนมา...ไม่ต้องเอาพี่พงษ์มา...
เอาแค่พี่ฝิ่นและน้องแก้ว...พอ...
พอแล้วพี่ซีซั่น...หนูเปรมตอนนี้เว่อร์ๆ....กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
น่ารักเถอะ...ไม่หวานล้นโลก...แต่ทั้งหมดมาจากใจ...
แ_'งเอ้ย!!! บทจะหวานเนี้ย...ไม่ต้องน้ำอ้อยน้ำตาลหรอก
แค่ประโยคที่ว่า “กูให้มึงเป็นตัวตั้ง สัจจะของกูต่อไปจะขึ้นอยู่มึง”
ลูกแก้ว..ถ้าเป็นผู้หญิงนะ...ไอ้ประโยคนั่นน่ะ..ขอแต่งงานดีๆนี้เอง..
กรี๊ดดดดดดดดดดด....ขอสกรีมอีกรอบ...ไปล่ะ...ฝันดีคะ...พี่ซีซั่น
กอดกันให้อุ่นนะคะ...ฝิ่นแก้ว....เพ้ออออ....
-
หวานแล้ว
-
:pig4: :pig4:
-
เย้ๆ
ในที่สุดสองคนนี้ก็มีฉากสวีตหวานกับเค้าซักที
ไม่ได้อ่านฉากหวานๆในเรื่องนี้มานานพอมาอ่านแล้วแปลกยังไงไม่รู้ 555
รอตอนต่อไปจ้าาา :z2: :z2: :z2:
-
โอ้เนาะ มุมแบบนี้ก็มีด้วย เขินเว้ย
-
“คำว่ารัก... กูไม่มีให้มึงหรอกนะ” <<< อิฝิ่น แกล้งแก้วทำไม! ใจตกไปตาตุ่มเลยฮ่วย! นึกว่าจะหักมุมซะแล้ว :serius2:
เรื่องเป้งกับพงษ์ยังไม่เคลียร์ เรื่องพี่ไม้กับพี่ขวัญก็ยังไม่เคลียร์ แต่เรื่องหวานเลี่ยนเคลียร์แล้ว โอ๊ยยยยย มดไต่ :m2: ฟินสุดยอดล่ะตอนนี้
รอตอนหน้า อย่าเพิ่งรีบจบน้า ขออีกสักสิบยี่สิบตอนละกัน o13
-
ฝิ่นก็ช่างพูดให้แก้วคิดมาก ชอบแกล้งแก้วจริง ๆ นะนั่น ฝิ่นพูดความรู้สึกออกมาแบบนั้นก็ดีแล้ว แก้วจะได้ไม่ต้องคิดมากอีกนะ
-
โฮกฮากกกกกกกก อ่านแบบเหนื่อยๆลุ้นๆมาตั้งนาน ได้อ่านตอนนี้แล้วฟินนนนน
ฝิ่นน่ารักอ่ะ !
-
จริงที่สุดดดด
ในชีวิตแก้วต้องมีพี่ฝิ่นอยู่ด้วย
อ่านตอนนี้แล้วตัวลอย เคลิ้มกับความหวานนน
เรารับได้ เราต้องการแบบเน้!!! กร๊ากกกก~
-
ปล่อยให้สองคนนี้อยู่ในห้องตามลำพัง ห้ามใครรบกวนซักคืนสองคืนเถอะค่ะ
มันมีอะไรต้องปรับความเข้าใจ ต้องคุยกันอีกเยอะ อิอิ
-
หวานกันบ้างก็ดีออก :-[
-
:-[ :o8:
-
ในที่สุดฝิ่นก็มอบความรักให้แก้วแล้ว ดีใจด้วย o13
ขอบคุณค่ะ :pig4:
-
:-[ :-[ :-[ อร๊ายยยยยยยย........ไม่อยากจะคิด ฟินจ๊ะ5555
เขิลอ่ะ หน้าร้อนเลย><
เฝ้ารอๆ อีกช่วงหนึ่ง!!
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ต๊กกะใจ :o
ทำไมมันหวานได้เนี่ย!!!!! :laugh:
ฝิ่นเปลี๊ยนไป๊! o22 แต่ชอบนะ อิอิ :o8:
-
ฝิ่นมันก็หวานเป็นเหมือนกันนะเนี่ย
น่ารักอะเขินแทนแก้วอะ
-
:z2:
-
ดีใจที่ฟินพูดออกมา แก้วดีใจด้วย
-
โหมดนี้แหละอยากได้มานาน เห้อแก้วนี่คิดมากตลอด
-
ฝิ่น น่ารักว่ะ
:L2: :L2: :L2:
-
สุดสวยอย่าเพิ่งเอียนดิ
มันเพิ่งจะหวานกันได้ตอนเดียวเอง
-
หวานว่ะ :impress2: :กอด1:
-
เป็นฉากที่รอมานาน ฝิ่นหวานมาก ๆ
-
มดขึ้นนน
พงษ์ไปเอาฝิ่นออกจากแก้วด่วน :angry2:
อิจฉา :man1: :man1: :man1:
-
:a5: ฝิ่นตัวปลอม ... ฝิ่นโดนผีเข้า(ออก) ... ฝิ่นโดนตีหัวจนสมองได้รับความกระทบกระเทือน ...
แต่จะอะไรก็แล้วแต่ เราชอบนายโหมดนี้ว่ะฝิ่น o13
เอาอีก ๆ ๆ 555+++
:pig4: คนแต่งจ้า ^^
-
ก็หวานอยู่นะ แต่.. ยังไม่พอ :oo1:
-
รอ ตอน ต่อ ไป คะ
-
ฝิ่นน่ารักอ่ะที่บังคับแก้วให้เรียกตัวเองว่าพี่ อยากเป็นคนสำคัญว่างั้น
พงษ์นี่ถือเป็นเสี้ยนหนามหัวใจ ในความคิดฝิ่นตลอด เพราะเป็นคนที่แก้วรักมาก
คำว่ารักไม่มีให้ แต่มีความรักให้ ฮิ้ววววววววววววว :impress2: มีหวานกับเค้าเหมือนกันวุ้ย
ขอบคุณค่ะ
-
กรี๊ดดดด อิฝิ่นหวานไม่เกรงใจเรยนะยะ
อิจฉาาาาาา
-
รู้สึกดีที่มีคนไม่เข้าใจแก้วเหมือนเรา อิอิ
ฝิ่นแม่ม เล่นลิ้นจริง ๆ อ่ะ ทั้งลิ้นตัวเองทั้งลิ้นไอ้แก้ว 5555
เกือบทำแก้วน้ำตาแตกอีกละนะ แต่หวานขนาดนี้ให้อภัยก้ได้ :laugh:
-
หวานเวอร์ๆๆๆ
-
อยากให้แก้วติดไข้ 5555
-
+1 ให้จร้าาาาาาาาาาา
น้องดาวรับไม่ได้ แต่พี่รับได้ชอบอะ :oo1:
มันเวอร์ เวิ่นเว้อ ดีอะ :-[
ห้ามให้พงษ์เข้ามานะ ไม่งั้น :beat:
รอจร้าาาาาาาาาาาาา :call:
-
ตอนที่ 7 แล้ว เฮ้อ ทรมานจิตใจ
-
ตบจูบได้ไหม แอร๊ยยยย ล้อเล่น
ฝิ่นชอบความรุนแรง แก้วมาโซ
5555
ปล. ล้อเล่นอีกที :laugh:
-
:-[ :-[ :-[
:o8: :o8: :o8:
-
อ๊างงงงง >< ชอบบบ สวีทหวาน
ดูไม่เข้ากะพระเอกเท่าไรแต่ชอบบ ฮ่าๆ
-
กว่าจะหวานกันได้ เข้าใจกันซักทีนะ :o8: :-[
-
เขินแทนลูกแก้ว :-[
-
หน้า ยี่สิบแล้ว อีกยาวไกล
-
หน้า 36 แล้ว อีกยาวไกล
-
อึดอัดมาทั้งเรื่องพอมาเจอตอนสวีทแล้วเป็นปลื้ม :-[
-
อดหลับอดนอนมทั้งคืนในที่สุดก็ตามทัน
นั่งลุ้นทั้งเรื่องจนฉี่เหลือง มาถึงตอนล่าสุดถึงได้อ่านฉากหวานๆจริงซ่ะที
ตอนแรกแอบเชียร์พงษ์นะชอบเวลาพงษ์เรียกแก้วว่าตัวเล็ก :impress2:
แต่ก็ดีใจที่ฝิ่นเป็นพระเอ(อ้าวอะไรของมัน)
เป็นกำลังใจให้ครับ :L1:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๖
“ตามติดกันมากไปรึเปล่า?” เดินเข้ามาถึงอู่ เพิ่งจะได้หย่อนก้นลงที่ม้าหินอ่อนก็โดนแขวะทันทีทั้งที่เจ้าตัวไม่เงยหน้าจากเครื่องยนต์ด้วยซ้ำ
“ไม่ปล่อยปะละเลยเหมือนใครหรอก” ถึงไม่มีท่าทีนอกลู่นอกทาง แต่ก็รู้แล้วว่าปล่อยให้ไกลหูไกลตาไม่ได้เลยจริง ๆ ให้โดนแขวะว่าตามติดยังดีกว่าต้องตามหา...ไม่อยากต้องอยู่เหมือนที่พี่เป็นตอนนี้หรอกว่ะ
“ปากน่ะ!” พร้อมกับผ้าขนหนูที่เมื่อกี้พาดไหล่พี่อยู่ถูกโยนมาใส่หน้าเขา
...พูดถึงไม่ได้เลย ว่าแต่เขาพี่เองก็ลืมไม่ลงเหมือนกันล่ะวะ
“ไอ้โจ้ไปไหน?”
“ไปบ้านลูกค้ากับพ่อ” พี่ไม้ปิดกระโปรงรถแล้วเดินไปล้างมือฝิ่นเลยลุกขึ้นเพื่อยืนรอ “...แล้วไอ้แก้วล่ะ”
“วันนี้ไอ้พงษ์ไปรับ”
ไอ้เหี้ยนั่นอยู่ว่าง ๆ อยู่แล้วนี่ พอรู้ว่าพี่ไม้โทรตามเขา มันเลยถือโอกาสแทรกตัวไปรับไอ้แก้วที่โรงแรมจนได้ ทั้งที่เขาไปรับ-ไปส่งมันฝึกงานมาทั้งสัปดาห์โดยไม่เคยมีปัญหาแท้ ๆ แม่งยังชอบขัดไม่เลิก
“ให้คนไปดูให้แล้วนะ ไอ้ดิวยังไม่ออกจากบ้าน แล้วมึงก็ไม่ต้องเสือกไปเล่นมันถึงบ้านอีกล่ะ เหี้ยสร้างปัญหาแล้วหนี แล้วพ่อมึงก็มาบ่นกูเนี่ย กูบอกให้ไปดูเฉย ๆ ไม่เคยจะฟัง”
“เออ ๆ” ฟังผ่าน ๆ แล้วลากคอรุ่นพี่มากอดพร้อมส่งบุหรี่ที่จุดแล้วส่งเข้าปากให้เดี๋ยวจะต่อว่าเขายาวยืดอีก อีกอย่างหลบไปอยู่บ้านไอ้แก้วเพราะขี้เกียจฟังพ่อด่าก็ไม่ได้หมายความว่าต้องมาฟังพี่ไม้แทนนะ
“แล้วทางนั้นไม่เดือดร้อนอะไรเลยรึไง” พี่ไม้ถามมาอีกหมายถึงไอ้พงษ์
“มันก็เงียบ ๆ ไอ้แก้วยังบอกว่าเหี้ยนั่นดูแปลก ๆ จากทุกทีที่เคยมีเรื่อง” คนเคยนับถือกัน มันจะเอาคืนได้รึเปล่าเขาไม่สนใจหรอก ยังไง...งานนี้เขาต้องเล่นไอ้ดิวให้ไม่เหลือที่ยืนให้ได้ คิดจะเล่นไอ้แก้วเพื่อให้กระทบเขา...งานนี้มันต้องจมและดับสถานเดียว
“แล้วมึงล่ะ”
“ออกจากบ้านมาให้เจอเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละ”
“กูหมายถึงเรื่องไอ้แก้ว” เขาปล่อยมือจากไหล่รุ่นพี่แล้วจุดบุหรี่มาสูบเอง
“ผมปล่อยอย่างที่พี่แนะนำแล้วยังไม่ดีอีกเหรอ หึ” แค่นหัวเราะให้ตัวเองก่อนจะคีบบุหรี่ขึ้นมาดูดควันเข้าปอดอีกครั้งแล้วเสียบกุญแจรถมอเตอร์ไซด์พี่ไม้ พลางพ่นควันออกจากปากด้วยอารมณ์หนักหน่วงใจ
โอกาสที่พี่ยื่นให้ทั้งที่เขาสร้างเองก็ได้ แต่จะให้ลืมเรื่องไอ้เป้งไปเลย...มันก็ยากว่ะ
“กูกลับเองได้ แค่อยากเห็นสารรูปมึง เห็นว่าต้องเลื่อนตัดไหมนี่”
“อีกอาทิตย์มั้ง มันเพิ่งแห้งเนี่ย” เขาบอกเรื่องแผลที่หัว พลางสตาร์ทมอเตอร์ไซด์ ก่อนจะทิ้งบุหรี่ที่เพิ่งดูดไม่ทันไรลงพื้นแล้วเอาเท้าขยี้ตาม “...งั้นไปหาไอ้เป้งกัน ไหน ๆ ก็มาแล้ว”
“สมควร”
“เออ ๆ” เขาจะทำอะไรได้ถ้าพี่ไม้จะต่อว่าในเมื่อไม่เชื่อที่พี่บอกสักอย่างเองนี่หว่า
...พ่อมักจะบอกตลอดว่าโอกาส อย่าร้องขอ อย่ารอจากใคร ให้เขาก่อร่างสร้างโอกาสขึ้นมาเอง
ทันทีที่มีโอกาสเอาคืนให้ไอ้เป้ง ไม่ว่าจะทำวิธีไหน เขาก็พร้อมทั้งนั้น
เพื่อนที่มีแต่ความรักความผูกพันมอบให้กัน เพื่อนที่ทำทุกอย่างให้กันโดยไม่มีข้อแม้ เพื่อนที่สายตาคู่นั้นมองกันเหมือนพี่ไม้มองไอ้เป้ง สายตาที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยว่าโดนคนอื่นจับต้องความรู้สึกได้
นี่แหละ...ถึงจะเสมอกัน หัวใจที่ภักดี...ความเด็ดเดี่ยวที่มันยอมทำทุกอย่างเพื่อกันและกัน ยิ่งทำให้ความคุกรุ่นในใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น
เด็ดเดี่ยว ดื้อรั้นหัวชนฝาแบบเงียบ ๆ จากผิดก็จะทำให้กลายเป็นถูก...โดยที่เจ้าตัวไม่มีอะไรมาสู้กับเขาได้เลยสักนิดเดียว
แน่นอน คนแบบนี้ไม่มีวันที่เขาจะเห็นใจหรือสงสารได้แค่เพราะความใกล้ชิดหรอก
เขาไม่มีวันใจอ่อนให้กับความมุ่งมั่นจากคนอ่อนด้อยได้แน่
ไม่มีวัน...
“คนอย่างไอ้แก้วไม่ได้มีคนเดียวในโลก แต่บังเอิญว่าเราเจอมันเท่านั้นเอง” พี่ไม้ลงจากท้ายรถมอเตอร์ไซด์แล้วเดินนำไปก่อน
ยกเว้น...นัยน์ตาลูกหมาของมัน
“พี่ก็อยากได้ใช่ไหมล่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่เอาแต่ห้ามผม”
“หึ ให้พูดจริง ๆ ใครก็อยากได้...แต่กูก็ไม่อยากยุ่ง” สิ่งที่พี่เคยได้ แต่ได้ไม่ทั้งหมด “มันยืนอยู่คนละฝั่ง...พวกเรากับมันจะข้ามไปหากันได้ก็ต่อเมื่อจะเล่นงานกันเท่านั้น”
คนซื่อสัตย์ ใครจะไม่ต้องการ มีใครบ้างไม่อยากเอามาเป็นเจ้าของ แต่มันเป็นคน ไม่ใช่ลูกหมา จะเป็นเจ้าของมันได้ จึงต้องให้มากกว่าการให้อาหารล่อ
วิถีเด็กช่าง ล้วนแต่ต้องกล้าเป็นกล้าตายกันทุกคน แต่จะมีสักกี่คนที่ยอมตายแทนพวกพ้อง สักกี่คนที่ผลักเพื่อนออกไปให้พ้นคมมีดแล้วตัวเองพุ่งเข้าใส่แทน
คนแบบนี้...ใครก็อยากได้
แต่ติดที่เราอยู่คนละฝ่าย...แค่นั้น
“ไหน ๆ ก็เล่นงานมันแล้ว” และเคยหลุดมือไปแล้วรอบนึง “แล้วจะปล่อยมันไปง่าย ๆ ผมทำไม่ได้” โอกาสที่เขาสร้างให้ตัวเองได้เสมอ แต่วันที่ไอ้แก้วหันหลังให้ เหมือนเขามองไม่เห็นอะไรอีกเลย
ไม่กล้าที่จะรั้ง ไม่กล้าที่จะสั่ง ไม่กล้าที่จะฉุด ไม่กล้า...ที่จะยึดหัวใจมันให้ติดอยู่ที่เขาอีกเพราะรอบตัวเขามีแต่ความเจ็บปวดที่ต้นเหตุ มาจากมัน...และเพื่อนของมัน
มีด...ที่จะใช้แทงศัตรูกลับเบนทิศทางมาทิ่มแทงตัวเอง
ไม่อยากให้มันรับรู้ความเจ็บปวดจากเขา แต่กลับดึงมันเข้ามาร่วมด้วยไม่ยอมปล่อย
เขาถึงไม่อยากพลาดที่เคยทำร้ายมัน แต่จะเอาความผิดพลาดนั้น มาทำให้เกิดประโยชน์อีกครั้ง
โอกาส...ที่ไม่ต้องอาศัยความมั่นใจ ถือเอาใจตัวเองเป็นใหญ่เท่านั้นพอ
ต่อให้มันไม่กลับมา เขาก็จะยัดเยียดโอกาสให้ตัวเองต่อไป ยังไง...เขาจะเอาไอ้แก้วมาเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ให้จนได้
แม้จะกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่ต่างจากพี่ไม้ แต่เขาอยู่ในตำแหน่งที่ต้องตัดสินใจ
ไม่ใช่ตำแหน่งประธานสายคนปัจจุบัน
แต่เป็นตำแหน่งของคนรัก ที่เขาต้องการไปถึง
“อีกอย่าง” เขาหันข้างไปมองพี่ “คนอย่างไอ้แก้วตายไปแล้วคนนึง เมื่อไอ้แก้วหลุดมาให้เจออีกคนก็มีแต่ต้องคว้าไว้” อย่างที่พี่อยากทำ แต่ในเมื่อเขาลงเล่นเอง พี่เลยมากดดันให้เขาทำแทน เขาซึ่งกว่าจะรู้ตัวว่าต้องคว้า มันก็เกือบลอยไปจนพ้นปลายนิ้ว
“ต่างกันตรงที่ไอ้แก้วมันคิดที่กูพูด กูก็ยังเอาแต่คิดถึงมัน” พี่ไม้มองรูปเจ้าของเจดีย์ด้วยสายตาเรียบเฉย ยากจะเดาอารมณ์ แต่ที่ไม่ต้องเดาคือความเสียใจของพี่ ที่ไม่เลือนรางตามวันเวลา
ไม่ต่างจากเขาเช่นกันที่ต้องเก็บความรู้สึกนี้ ซ่อนมันไว้ให้ลึกที่สุด เพื่อที่ไอ้แก้ว จะไม่ต้องเจ็บปวดตาม
“เป้งมันก็ฟังที่พี่พูด แต่มันไม่เคยทำตาม” ความสุดโต่งของมัน มีมากกว่าเขา ยิ่งได้พี่ไม้คอยเป็นห่วง มันยิ่งไม่สนใจใครหน้าไหน
“นั่นแหละที่คล้าย ...แม่งทำเป็นคิดตาม แต่ไม่ยอมทำตามที่กูบอกสักคน มึงเองก็ด้วย”
“ประสบการณ์ของพี่ มีไว้ให้เรียนรู้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องทำตาม”
“กูจำทุกคำที่บอกพวกมึงได้ ไม่ต้องมาย้ำ กูรู้ว่าต้องปล่อยให้พวกมึงเผชิญเอง” แต่ด้วยการที่ผ่านอะไรมาเยอะของพี่ เลยไม่อยากให้คนอื่นเจริญรอยตาม ทั้งที่รู้ แต่ก็ยังชอบขีดเส้นให้คนอื่นเดินตามความคิดของตัวเองอยู่เสมอ
“พี่อย่าห่วงน่า ”
เพราะเพียงแค่เขายอมอ่อน ไอ้แก้ว...มันก็อ้าแขนรอให้เข้าไปหาอยู่แล้ว
เพราะเขาไม่เคยให้อาหารล่อลวงมัน หากแต่เขาใช้การแลก ...แลกในสิ่งที่มันขาดหายจากคนรอบข้าง และ แลกในสิ่งที่มันจะยิ้มได้
เขาจึงได้มา!
“คนตายก็ตายไปแล้ว ใช้ชีวิตของมึงที่ยังหายใจอยู่ ต่อไป” พี่ไม้เงยหน้าพลางหลับตา
“เป้ง กูขอโทษว่ะเพื่อน”
ขอโทษที่กูยิ่งใหญ่เหนือใจตัวเองไม่ได้ ที่เขาแพ้วันนี้ถ้าไอ้เป้งอยู่มันคงเอาด้ามปืนมาฟาดหัวเขาแน่ ทั้งที่สัญญาว่าเราจะไม่ทิ้งกันจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจนวันตาย แต่วันที่เพื่อนตายเขากลับเลือกตัวเองมากกว่าความเป็นเพื่อนที่มีให้กันตลอดชีวิต
“มึงจะขอโทษมันอีกกี่ร้อยรอบฝิ่น ถ้าเป้งมันรับรู้ กูแน่ใจว่ามันไม่โกรธมึงแน่”
…………………………………..
เอ่อ...สั้นไปไหม? ไม่เป็นไรเนอะ ๆ :-[
ตอนหน้าเจอพงษ์พร้อมกับขยายความคำว่า เล่นฝาก ให้ชัดเจน
...ในตอนนี้มีบอกเล็กน้อยด้วยนะ > <
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ ^^ กอด ๆ จุ๊บ
ลืม -*- คนเขียนสวย เอ้ย! >< นางป้ำ ๆ เป๋อ ๆ โปรดเห็นใจ สวัสดีนักอ่านที่เพิ่งตามทันด้วยนะคะ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ให้โอกาสนาง
กลับมาแก้ ซื่อสัตว์ เป็น ซื่อสัตย์ ...ทั้งที่เราไม่น่าจะเขียนผิด ฮืออออ //จูนสมอง
ขอบคุณ paradoxxx นะคะ หากคนเขียนมั่วตัวไหนอีก คนอ่านแนะนำได้เลยค่ะ
-
:z13: จิ้มคนเขียนทันมั้ยเนี่ย
อ่านแล้วรู้สึกอึนๆมึนๆงงๆ(หรือเพราะกรูเมาค้าง)
นึกว่าเข้ามาแล้วจะเจอฉากหวานๆ (แอบผิดหวัง) :impress3:
แต่ก็ดีใจที่คนเขียนเข้ามาต่อนิยายให้อ่าน
เป็นกำลังใจให้คร้าฟฟฟฟ
ปล.เม้นต์แบบแฮงค์ๆ
-
มาแล้วววว
จิ้มก่อนอ่าน
:z13: :z13: :z13:
-
แปะไว้เดี๋ยวมาค๊าา
........................................
ดีแล้ว...ดีแล้วที่ทิ้งสิ่งไม่ดีไว้ข้างหลัง
ดีใจที่"ความรัก"ที่พี่ฝิ่นมีให้น้องแก้วมันยิ่งใหญ่พอ
ดีใจที่พี่ไม้มีความสุขมากขึ้น...
รอตอนหน้าด้วยคนนะคะ
-
เห้อ สั้นแต่ก้อดีที่ได้อ่าน
เมื่อไหร่มันจะสว่างสักทีนะ
เอาแบบสว่างเลย ไม่ช่ายแบบว่าฟ้ากำลังจะรุ่ง
แบบว่ามันแน่นในอก แฮ่ๆ รอรอตอนต่อไปเลยแล้วกาน
-
มันยังมีต่อหรือนี่ :เฮ้อ:
-
ถ้าบอกว่าเป็นไรตอนหน้าจะมายาวๆมั๊ยอ่า ><
พี่ไม้เหมือนแก่กว่าฝิ่นเป็น10ปี แลดูประสบการณ์เยอะ ทำอะไรก็ใช้สติกว่าใครๆ ส่วฝิ่นในที่สุดก็ เย้ๆๆๆ ตัดได้เสียที เป้งไม่โกรธฝิ่นหรอกนะ เพื่อนกันไม่อยากให้เพื่อนเป็นทุกข์หรอก
ตอนหน้าจะเคลียร์รึยัง ยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะ T^T
-
ทำไมตอนนี้อ่านแล้วแอบงงๆ -*-
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
:กอด1:
-
พี่ฝิ่นตามไปอยู่กับแก้วที่บ้านจริงๆ
ดีใจอ่ะเนอะ
ตามไปรับส่งน้องด้วย อยากให้เป็นแบบนี้มานานแล้วจ้า
พี่เป้งไม่โกรษพี่ฝิ่นหรอก
คิดว่าคนฆ่าพี่เป้งคงไม่ใช่พี่พงษ์ด้วย
555++ เดาล้วนๆ
รออ่านตอนหน้านะคะ
+ขอบคุณพี่ซีด้วยจ้า
-
สั้น แต่ก็ยังดีที่มาลง รีบมาต่อไวๆนะ :pig4:
-
งงหน่อนนะ สงสัยคงต้องอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น เริ่มลืมล่ะ 555 (พวกความจำสั้น) แต่ไม่เป็นไร เรารอไอ้แก้วมานอนกอดที่บ้านดีกว่า
-
ปล. ซื่อสัตย์ เขียนแบบนี้นะ
-
:กอด1:
-
การแก้แค้นโดยไม่ถามคนกลางอย่างแก้วเลย มันจะจลบมั้ยแค้นนี้
-
แล้วจะยังไงกันนะั่นั่น ดิวท่าทางจะแย่นะเนี่ย ก็เล่นทำแต่ละอย่างนี่นะ
-
ได้ใจมากมากเลย ขอคาระวะเลยพี่ท่าน
-
อื้มมมมมมม (นั่งวิเคราะห์สถานการณ์)
คนเขียนสู้ๆ
-
ถ้าเข้าใจไม่ผิด น่าจะเป็นการปูเพื่อเตรียมเรื่องการไปจัดการดิวรึเปล่า
ไม่รู้อ่ะ เพราะตอนนี้ดูเรื่อย ๆ แบบว่าเรื่องที่ฝิ่นมันปล่อยพงษ์ไป แต่คราวนี้มันจะไม่ปล่อยดิวไปอีก
รึเปล่าน้อ..... ไม่รู้อ่ะ
-
ตอนนี้มันเหมือนจะงงๆนะ
-
มาแล้วววว
-
ยังไม่มีความคืบหน้าต่อไป รอขยายความตอนหน้า
ขอบคุณค่ะ
-
ตกลงเรื่องดิวนี่กระจ่างรึยังหนอ หรือเราอ่านข้ามตรงไหนไปรึเปล่า รู้สึกว่างงๆยังไงไม่รู้ :m29:
-
รอจ้ารอๆ :t3:
-
น้ำตาไหล T T
-
รอ รอ รอ ,,,,รออ่านตอนต่อไป ^^
-
อื้มม
ยัง งง ๆ อยู่
อยากได้ฉากหสีทหวานแหว่วมากกว่านี้อ่ะ
แต่เหมือนเนื้อเรื่องยังไม่คลี่คลายเท่าไหร่
จะรอตอนต่อไปเด้อ...
o13
-
อ่านแระครับ สนุกมากเลย แต่ก็รู้สึกเหนื่อยยังไงไม่รู้ ที่จะแก้แค้นเอาคืนกันไม่จบ ดูท่าจะจบเศร้าว่ะ
-
ตอนก่อนหน้าเหมือนจะคลี่คลาย มาตอนล่าสุด กลับมามึนๆอีกครั้ง
เป็นเพราะเรื่องมันยังไม่จบนี่เนอะ ต้องติดตามกันต่อไปๆ :z10:
ขอบคุณที่มาต่อให้น๊า :L2:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๗
ตั๊บ! ตั๊บ! ตั๊บ! ตั๊บ! ตั๊บ! ตั๊บ! ตั๊บ! ตั๊บ!
“เอส! เอส! เอส!”
ทั้งแข้ง ทั้งขา ทั้งหมัด ทั้งศอก ถูกฟาดเข้าใส่กระสอบทรายซึ่งแขวนทิ้งไว้กับต้นไม้หน้าบ้านอย่างไม่ยั้ง หลังจากไม่ได้แตะมานาน กลับมาสะกิดอีกครั้งมันเลยเจ็บแข้งเจ็บขาไปบ้าง
แต่นี่แหละ ยิ่งเจ็บ...ยิ่งดี ยิ่งเหนื่อย...ยิ่งจะเข้าที่เข้าทางได้เร็วขึ้น เขาจึงต้องเตะ ๆ ต่อย ๆ เสียงดังตุบตับอยู่กับไอ้กระสอบทรายนี่ยันมืดค่ำจนเหงื่อไคลไหลท่วมตัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแม้จะมีรถยนต์วิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านแล้วก็เถอะ
“ซ้อมไปขึ้นชกเหรอวะ” ไอ้คนอาศัยกำลังเดินเข้าบ้านไม่พ้นปรายตามองมายังเขาซึ่งเป็นทางผ่าน แต่เขาไม่ว่างพอจะหยุดฟังมันพล่ามหรอก
เจอทุกวัน เสือกทุกวัน
ตั๊บ! ตั๊บ!
“เอส! เอส!”
“ฝีมืออย่างนี้ สายกูเรียกเหยาะแหยะว่ะ” ไอ้เหี้ยฝิ่นมันยังไม่เลิกกวนประสาท แถมยังเดินมาจับกระสอบทรายที่เขากำลังเตะมันส์ ๆ ให้หยุดแกว่ง พงษ์จึงต้องหยุดหอบหายใจ พลางมองหน้ามันกลับ “หึ เถียงไม่ออกเลย”
กูเหนื่อย!
“เห่าพอก็ไปได้แล้ว”
“หึ ซ้อมไว้เอาคืนใครน้อ? ว่าแต่กล้าด้วยเหรอวะ?” มันมองหน้าเขาด้วยสายตาดูถูกสุด ๆ
“ลืมไปแล้วเหรอ ว่ากูเคยทำอะไร?” ชีวิตเพื่อนมึงไง เขาโต้ตอบมันทั้งคำพูดทั้งแววตาที่ไม่ได้ลดละจากการโดนดูถูกดูแคลนเลย
มันสะอึกไปสิ เหี้ย อยากแกว่งปากหาเรื่องเขาดีนัก เขาเลยพูดแทงใจดำมันขึ้นมา ถึงไม่ได้พูดตรง ๆ แต่ไอ้นี่มันไม่โง่หรอก แต่ที่มันโง่คือจบเรื่องบาดหมางไม่ได้ แต่ทำเป็นจบไปแล้วต่างหาก ทุกครั้งที่มีโอกาส มันก็พูดจาหาเรื่องเขาทุกที เพื่อลบปมให้ตัวเอง แต่มันก็ไม่เคยใช้กำลังเหมือนก่อนหน้า ถึงแม้ความโกรธในใจมัน จะยังอยู่ก็ตาม
“พี่ฝิ่น!” ไอ้ตัวเล็กตะโกนพลางวิ่งออกมาทางนี้ พงษ์เบนสายตาแข็ง ๆ ที่ฟาดฟันกับคู่อริเมื่อครู่ไปทางอื่นแล้วค่อยหันกลับมาหาเจ้าตัวด้วยแววตาที่ไร้อคติสุด ๆ “พงษ์ มีอะไรกันรึเปล่า?”
“กำลังจะชกกันเลย ถ้ามาช้ากว่านี้นิดเดียวนะ” ไอ้ฝิ่นพูดเน้นเสียงจริงจัง ยิ่งตอกย้ำนัยน์ตาหลุกหลิกของไอ้แก้วให้สั่นไหวเข้าไปอีกจนเขาอดแยกเขี้ยวใส่ไอ้เหี้ยนี่ไม่ได้
“ไม่มีอะไรหรอกน่า” พงษ์ถอดนวมแขวนไว้กับกระสอบทราย ถ้าบอกไอ้แก้วแค่นี้ มันจะตายรึยังไง
“หึ เชื่อใครล่ะ?” ไอ้ฝิ่นจ้องหน้าไอ้แก้วอย่างคาดคั้น “ก็ตามใจนะ ทำให้เห็นแล้วถ้ายังคิดมากอยู่ก็ไม่รู้จะว่ายังไงละ”
“เชื่อสิ! ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย นอกจากคิดว่าทำอะไรกันแค่นั้น...” ไอ้นี่ก็รีบแก้ตัวพัลวัน ต่างจากไอ้ฝิ่นที่ดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลยถ้าไอ้แก้วจะคิดหรือไม่คิดมันก็คงไม่สนใจ หน้าด้านมาอยู่บ้านเขาแล้วนี่
“หึ ไม่มีอะไรน่า แค่แวะทักทายตามประสาคนอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน” ถุย...ไอ้ทาก
“กู เอ่อ ผมได้ยินเสียงรถเลยออกมาดู แค่นั้น...”
“อ๋อ งั้นที่วิ่งออกมานี่คือมารับพี่ฝิ่นใช่ไหม?” มันเอื้อมมือลูบผมไอ้แก้วพลางเหล่ตามองเขา
“เข้าบ้านไปได้แล้วแก้ว มืด ๆ ยุงมันเยอะ” เขาพูดแทรกก่อนที่อีกคนจะตอบหลังจากมันสองคนมองไม่เห็นหัวเขาเลย
“มึงก็เข้าบ้านได้แล้วนะ” ไอ้แก้วย้อนทั้งที่ไอ้ฝิ่นกอดคอพร้อมลากมันละ
อยากจะขัดขาไอ้ฝิ่นจริง ๆ แต่ติดที่ไอ้แก้วอยู่ตรงนี้แถมนัยน์ตามันยังมีความสุขมากซะด้วย แล้วเขาจะทำอะไรได้
“ขอดูดบุหรี่แป๊บนึง” เขาเลี่ยงจะเดินเข้าบ้านพร้อมกันแต่เลือกมองตามหลังพวกมันมากกว่า
เพราะในความไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วยังมีอะไรอยู่ต่างหาก
ทั้งที่เราสามคน ต่างรู้ดีแก่ใจว่าไม่เชื่อใจใครสักคน แต่ทุกคนก็เลือกแสดงออกเพื่อให้...คนที่เรารัก สบายใจ
ถ้าไม่ติดที่ไอ้ฝิ่นเคยเลวกับไอ้แก้ว คนที่จะดูแลไอ้แก้วได้ดีกว่าเขา ก็คงจะเป็นมัน
เขาควรจะเก็บกวาดกองขยะที่เป็นคนเอามาเทใส่ใจพวกมันด้วยตัวเองแล้วสิ
ชีวิตเด็กคนหนึ่งที่เขาปูทางมาให้ตลอด จะได้เดินต่อไปอย่างมั่นคงสักที... ถึงแม้...จะไม่ใช่ทางที่เขาวางไว้ให้ก็ตาม
โถ...เด็กน้อยผู้เข้มแข็งของกู ความเป็นชายที่เขาพร่ำสั่งพร่ำสอนให้มันปฏิบัติ แต่ตอนนี้โดนไอ้ฝิ่นบีบบังคับให้เขายอมรับว่าเด็กคนนั้นออกนอกเส้นทางไปไกลแล้วอยู่ทุกวี่วัน
...จบกัน
“คุณพ่อครับ ตกลงว่ายังไง?” เขาเมินการกินข้าวเย็นร่วมโต๊ะกับไอ้ฝิ่นจนเป็นกิจวัตรประจำวัน เข้าห้องนอนได้เขาก็กดปุ่มโทรศัพท์โทรออกไปหาพ่อ ตามเรื่องที่ได้สอบถามไปเมื่อหลายวันก่อน
“ไม่มีปัญหา แกไปพบสารวัตรสอบสวนได้เลย พ่อให้เพื่อนสั่งลงมาแล้ว ฮ่า ๆ พ่อนึกแล้วว่าแกต้องไม่ได้ทำ” เหอะ มาหัวเราะชอบใจ พ่อเป็นคนแรกที่ด่าเขาเลยไม่ใช่รึไง
“แล้วถ้าไม่มีหลักฐาน?”
“เจ้าพงษ์ แกมันชอบทำอะไรไม่คิด แล้วทีตอนแกรับสารภาพแกไม่เห็นปรึกษาพ่อสักคำ แต่แกก็รอดคุกมาได้ไม่ใช่รึไง” ก็แค่ถามดู เพราะป่านนี้หลักฐานอะไรก็คงไม่เหลือร่องรอยแล้วล่ะ
แต่ก็นะ...เรื่องนี้ไม่เคยมีหลักฐานจริง ๆ มาก่อนนี่ พยานที่ชี้ตัวก็ล้วนแต่เดาเอาล้วน ๆ มืดขนาดนั้น หากอาวุธอยู่ในมือใคร มันคนนั้นก็คือผู้กระทำอย่างเลี่ยงไม่ได้
ยกเว้นคนที่รู้ และบังเอิญเห็นเท่านั้น
เคยคิดว่าไอ้โซ่เป็นตัวซวยที่รู้เรื่องนี้เข้า แต่เมื่อคนที่เชื่อใจเล่นไม่ซื่อ ตัวซวยก็ต้องมาเป็นตัวช่วยล่ะวะ
“ครับ ๆ ๆ ตกลงว่าพ่อจัดการให้ผมรอละกัน แต่ขออย่างนึงนะพ่อ อย่าเพิ่งบอกใคร เรื่องนี้ให้เป็นความลับ จนกว่าผมจะพร้อม”
“อืม ได้ยินข่าวดีพ่อก็ชื่นใจแล้ว สัญญาลูกผู้ชายเลยพงษ์”
“ครับ...สัญญาลูกผู้ชาย”
ลูกผู้ชายที่ไม่รู้ว่าศักดิ์ศรีของตัวเองคือทางไหนกันแน่ แต่แค่ไม่ทำร้ายไอ้แก้ว มันก็คือทางเดินของเขาแล้ว
.
.
.
“มาเยี่ยมไอ ...พี่ดิว” พงษ์บอกพวกเด็กปีสองที่เฝ้าอยู่หน้าบ้านไอ้พี่ดิว โดนไอ้ดีเรียกมากล่อมประสาทเพื่อรับอุดมการณ์ของสถาบันอีกตามเคยไอ้พวกโง่
วันนี้ธุระของเขาไม่สะดวกที่จะขับรถมาจึงต้องนังรถเมล์แล้วเดินเข้าซอยมาเอง
“................................”
“เปิดประตูสิวะ”
“เอ่อ พี่พงษ์”
“มองอะไร?” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแข็ง ๆ เมื่อพวกข้างในยังไม่ยอมเปิดประตูให้ทั้งยังมองหน้าเขาเลิ่กลั่ก “อ๋อ ช็อปรุ่น๖๘ เจ้าของมันตายไปแล้ว” พงษ์โม้ถึงช็อปสีเทาตัวที่เขาสวมทับเสื้อยืดอยู่ ไอ้พวกข้างในซุบซิบถึงเรื่องที่เคยได้ยินข่าวเมื่อเดือนก่อน กว่าจะเปิดประตูให้เข้าได้
ที่ไอ้ดิวบอกไว้มันเป็นไปได้จริง ๆ ถ้าเขาไม่ใช่ฆาตกรก็ไม่ได้เบ่งอย่างนี้สินะ
“พี่พงษ์เจ๋งว่ะพี่ นี่ถ้าพี่ยังอยู่โรงเรียนนะผมยอมตามพี่เลย” หนึ่งในห้าคนที่เดินล้อมหน้าล้อมหลังพูดชื่นชมถึงฝีมือที่ได้ช็อปตัวนี้ขึ้นมา
“ได้เจ๋ง แลกกับโดนหักหลัง มึงยังจะเอารึเปล่า?” เขาหยุดเดิน พูดขึ้นมาลอย ๆ ซึ่งพวกมันก็คงไม่รู้อะไรอยู่ดี
พวกเด็กอ่อนหัด ความรุนแรงคือความเท่สำหรับเด็กช่าง แต่พวกมันไม่รู้เลยว่าไอ้ที่ชื่นชมกันมีเบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นมายังไง เพราะไม่เคยเจอกับตัว มันเลยมองเห็นเฉพาะที่ภาพเห็น
เพราะพวกมัน...ไม่เคยติดกับดักของชื่อเสียงอย่างที่เขาเคยนี่ไง
ไอ้พวกนี้มันก็เป็นแค่รุ่นน้องโง่ ๆ ที่พร้อมเจริญรอยตามรุ่นพี่ แต่หากจะว่าพวกมันโง่ เขาเอง ก็เคยโง่เหมือนกัน
“น่าเสียดายว่ะพี่ ถ้าพี่ไม่หนีนะโดนเรียกตัวขึ้นเป็นประธานสายชัวร์”
“กูไม่เคยอยากเป็น”
“โม้รึเปล่าวะมีใครบ้างเล่นตัวบิ๊กไปงั้น ๆ ถ้าไม่คิดถึงผลประโยชน์นะกูว่าไม่มีใครทำหรอก” มันพูดกันเบา ๆ แต่เขาได้ยิน
“แล้วพี่ดีไม่อยู่เหรอวะ กูยังไม่เห็นเลย” เดินเข้ามาในบ้านก็แล้ว เห็นแต่รุ่นน้องปีหนึ่ง ปีสองราวสิบกว่าคนนั่งตั้งวงเหล้ากันอยู่
“ไม่อยู่ครับ” อ้าว?
“แล้วพวกมึงมาทำอะไรที่นี่ แค่แดกเหล้ากูว่าบ้านพี่แชมป์ก็ได้นะ”
“กลัวว่าใครจะมาเล่นงานพี่ดิวถึงบ้านน่ะสิพี่พงษ์ นี่ก็ไม่รู้ว่าไปทำอิท่าไหนให้โดนเล่นมาขนาดนี้ อ่ะ พี่พงษ์สักกรึ๊บ”
“ขอบใจว่ะ” เขารับแก้วเบียร์จากรุ่นน้องมากระดกเหล้าเข้าปากอึกเดียวหมดแก้ว
คนมันเลวถ้าบอกกับคนอื่นว่าเลวแบบหน้าตัวเมียยังจะมีสักกี่คนที่มาดาหน้ามาออกรับแทนไหมอยากรู้จริง ๆ
พี่ดีแม่งเป็นรุ่นพี่ที่มีรุ่นน้องได้คุ้มเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่มีความน่าเชื่อถือพอจะบอกไอ้พวกนี้ได้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร รอก็แต่พี่แชมป์จะเปิดเรื่องนี้เมื่อไหร่เท่านั้นเอง
“อืม...งั้นเดี๋ยวกูขึ้นไปหาพี่ดิวนะ” ทำทีว่าเป็นห่วงสักหน่อย ตามประสาคนสนิทของเพื่อนรุ่นเดียวกันซึ่งนับถือจนถึงขั้นเรียกมันว่าพี่ ทั้งที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน แถมไอ้ดิวยังเกิดทีหลังเขาอีกด้วย ...นับถือในน้ำใจที่คนประวัติอย่างมันมีให้เขากับไอ้แก้วโดยไม่มีอิดออด ตัวบิ๊กของสถาบัน เมื่อยื่นความสนิทมาให้เขาก็ควรให้เกียรติ เคารพ และเชื่อ! มันทุกอย่าง
“ตามสบายพี่”
ทางจะได้โล่ง
“เดี๋ยวผมพาไป”
“.........?.........”
“พี่พงษ์มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ”
“ไม่ เปล่า ๆ” ผิดแผน! พงษ์รีบเปลียนสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อโดนทัก
“เอาน่าพี่พงษ์ ถือว่าช่วย ๆ กัน ถ้าผมปล่อยให้พี่ขึ้นไปเจอพี่ดิวตามลำพัง พี่ดีรู้เอาผมตาย ถึงเป็นคนกันเองก็เถอะ”
เหี้ย จริง ๆ
เขาจำใจพยักหน้าให้รุ่นน้อง
พลันสายตายังคงมุ่งมั่นจดจ่อไปยังชั้นสองของบ้าน จะตามขึ้นมาทั้งหมดก็เอาเถอะ!
ทั้งที่กูรักษาสัญญาทุกคำ แต่มึงยังแทงข้างหลังกูได้ สมน้ำหน้าความศรัทธาที่ตัวเองมีให้คนอย่างมึงจริง ๆ มีอะไรที่กูผิดกูพลาด กูยอมโดนมึงเล่นงานเองในเมื่อกูเชื่อมั่นมึงเอง
แต่มาทำไอ้แก้วทำไม...
มารังแกคนที่กูต้องการให้เติบโตอย่างสมบูรณ์แบบให้มีความทรงจำเหี้ย ๆ
มึงใช้ความเชื่อใจของกูทำร้ายมันได้ยังไง!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“พี่ดิวเข้าไปได้รึเปล่า” รุ่นน้องเคาะประตูพลางจับลูกบิดหมุนเมื่อไม่มีเสียงตอบกลับมา
แกร๊ก!!
ปั๊ก!!
ผั่วะ!
แต่ข้างในก็มีคนยืนอยู่หน้าประตูพอดี
ทันทีที่ประตูห้องแง้มออกเขาก็ถีบประตูบานนี้ทันที รอมึงจนรอไม่ไหวแล้วไอ้เหี้ย เจอหน้ามันจัง ๆ เขาเลยกำปั้นฟาดหน้าทักทายไอ้ดิวไปหนึ่งหมัดก่อนที่ไอ้รุ่นน้องปีหนึ่งจะมาล็อกแขนเขาไว้จากด้านหลัง
“พี่พงษ์ ๆ ทำบ้าอะไรวะ” มันเสียงดังทำอะไรไม่ถูก แต่ระหว่างเขากับไอ้ดิว มันก็ยังเลือกไอ้ดิวซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและชื่อเสียงยาวนานกว่าเขาซึ่งเพิ่งมีเรื่องเลว ๆ ให้ร่ำลือเพียงเรื่องเดียว
“ปล่อยกูนะเหี้ย มึงไม่รู้หรอกว่ามันทำอะไรกูไว้บ้าง”
“เฮ้ยพี่ แต่ที่ผมเห็นคือพี่กำลังเล่นพี่ดิวอยู่คนเดียวนะ มันไม่ถูกนะพี่พงษ์”
“ถุย! ไอ้เด็กอมมือ! ปล่อยกู!” ทั้งสะบัดแขนทั้งศอกใส่มันแต่ก็พลาดหลุดได้เพียงครู่เดียวก็โดนรวบลงไปนอนที่พื้นให้ไอ้เด็กปีหนึ่งขึ้นมาทับตัวล็อกแขนอีกจนได้
“มาหากูถึงบ้าน” ไอ้ดิว
“หึ สมองไม่ได้เสื่อมจนลืมว่าเคยทำอะไรไว้หรอกนะ” เขาตั้งใจจะรอให้มันหายดี ให้ไม่เหลือผ้าพันหัวมันเหมือนตอนนี้ด้วยซ้ำ แต่ใจเขามันร้อนรุ่ม ความรู้สึกผิด มันกดดันเขาอยู่ทุกนาที เขารอจนมันหายเป็นปกติเพื่อจะได้เอาคืนอย่างเท่าเทียมกันโดยที่เขาไม่ได้เอาเปรียบคนเจ็บ แต่มันรอไม่ไหว! ยิ่งนาน เขายิ่งสงสารไอ้แก้วมากขึ้นจนตัดสินใจบุกมาวันนี้ เรื่องจะได้จบ ไอ้แก้ววกับไอ้ฝิ่นจะได้ไม่มีเรื่องแคลงใจกันอีก
“มึงทำกูได้แค่นี้แหละไอ้พงษ์ กูจะสอนมึงอีกทีว่านักเลงเขาทำกันยังไง” ไอ้ดิวเช็ดเลือดที่มุมปากจิกผมเขาให้เงยมองหน้าชั่ว ๆ ของมัน แล้วสั่งไอ้คนที่ล็อกแขนเขาไว้ “มึงไปเรียกพวกข้างล่างให้ขึ้นมาให้หมด”
“หึ มาเลย ยกมาทั้งฝูงเลย จะได้รู้ว่ามึงตัว ๆ กับกูไม่สู้ ไอ้หมาลอบกัด!”
“ลอบกัดอะไร? อ๋อ ที่มานี่ตั้งใจมาเอาคืนใช่ไหม ได้! มึงปล่อยมัน ให้มันมาดวลกับกูในเมื่อมันต้องการ” ไอ้ดิวสั่งรุ่นน้อง
ไอ้เด็กปีหนึ่งวิ่งออกไปข้างนอกคงไปตามคำสั่งไอ้ดิว เมื่อเป็นอิสระเขาลุกขึ้นยืนแล้วโยนช็อปใส่หน้ามัน
“กูเอามาคืน” ก่อนตั้งการ์ดอย่างเตรียมพร้อม
กูลุกมาเตะกระสอบทรายอีกครั้ง เพราะงานนี้แหละ
ก่อนที่มึงจะเข้าไปอยู่ในตะราง มึงต้องโดนตีนกูก่อนไอ้ดิว
ความนับถือ ความเชื่อใจที่กูให้มึง
เอาคืนมา!
“โกรธกูเหรอพงษ์ แต่ไม่มีใครทำดีกับคนอื่นฟรี ๆ หรอกว่ะ” ไอ้ดิวจับเสื้อช็อปรุ่น๖๘ ของสาย๕x ก่อนทิ้งลงพื้นแล้วเหยียบขยี้ มันมองหน้าเขาไม่วางตาพลางเดินไปกดล็อกลูกบิดประตู “จะรุมก็สมเพชมึงว่ะ”
“มี! กูนี่ไง กูให้ไอ้แก้วฟรี ๆ กูให้มึงฟรี ๆ แต่มึงหักหลังกูได้ยังไงดิว?”
“ให้กูฟรีอย่างนั้นเหรอ? มึงแน่ใจว่าไม่ได้ใช้ประโยชน์จากกู? อยากเป็นเกราะให้ไอ้แก้วไม่ใช่เหรอ กูก็จัดการให้มึงได้เป็นสมใจแล้วไง แต่มึงให้กูเชื่อใจแล้วไปเข้าข้างไอ้พวก๕xเพื่อตลบหลังกูสิไม่ว่า” มันหน้าเหี้ยมแต่ยังพูดจาหยั่งเชิงเขาอยู่
“กูไม่เคยเข้าข้างพวกมัน! กูตกลงกับมึงว่ายังไง กูก็ยังรักษาคำพูด”
“เหอะ กูจับตามองมึงทุกฝีก้าว” อย่างนั้นก็เถอะ ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะเอาเรื่องนั้นไปบอกคนอื่น...ตราบใดที่เขายังแก้ปัญหาให้ไอ้แก้วได้ เขาก็ยอมทุกอย่างที่๕xมันต้องการ
“คนมีชนักติดหลัง จะเชื่อใจใคร” ขนาดมิวเป็นผู้หญิงยังคิดทำร้ายได้
ผัวะ! หมัดขวาพุ่งไปเบ้าตามัน แต่พลาดโดนโหนกแก้ม ...แถมเหี้ยดิวตีนไวถีบเข้าที่หน้าท้องเขาคืนแล้วยิ้มเยาะอีก
เขาเซเล็กน้อยแต่ก็ตั้งหลักได้อยู่
“อย่าปากดีเลยพงษ์ อะไรที่มึงทำให้ไอ้แก้วได้ มึงก็ทำ เพราะงั้นกูถึงเลิกเชื่อใจมึงไง”
“แต่มึงควรเล่นงานกูถ้าคิดว่ากูตุกติก”
“แล้วที่กูจะเอาไอ้แก้ว กูไม่ได้เล่นงานมึงตรงไหน?”
...
ใช่!
ไอ้ดิวมันใกล้ชิดกับพวกเขามาตลอดสามปี จุดอ่อนของเขา...โธ่เว้ย!!
เขาซัดมันไปอีกหมัดแต่มันก็ซัดหมัดกลับเข้าที่ใบหน้าเขาพอกัน ก่อนตะลุมบอลกันกลางพื้นห้อง ไม่มีใครได้เปรียบ ไม่มีใครเสียเปรียบ ต่างได้แผลและเจ็บตัวกันทั้งคู่ ไม่เว้นหัวที่มีผ้าพันแผลของดิว เมื่อมีโอกาสพงษ์ก็จับโขกกับพื้นด้วยอารมณ์ล้วน ๆ หากแต่ไม่มีใครยอมผละออกจากใครก่อน แม้มีเสียงตะโกนและเสียงเคาะประตูห้องเสียงดังจากรุ่นน้อง ยังไม่มีใครยอมถอย จนกระทั่งดิวขึ้นคร่อมข้างบนได้สำเร็จ
“กูเล่นงานทุกคนที่ทำร้ายไอ้แก้วได้ ไม่ต่างจากมึง แต่กูต้องได้สิ่งตอบแทน ...มึงคิดว่ากูให้มึงฆ่าไอ้เป้งเพื่ออะไรว่ะ หน้าโง่!”
ผั่วะ ผั่วะ ผั่วะ กำปั้นหนัก ๆ รัวใส่หน้าโง่ ๆ อย่างเขาไม่ยั้ง กลิ่นคาวเลือดปนกับน้ำลายคลุ้งเต็มปาก ไม่นับรวมปวดแสบไปทั่วใบหน้าอีก เรี่ยวแรงที่พอมีก็ปัดป่ายมืออย่างสะเปะสะปะเพื่อหาช่องทางหลบหลีกไอ้ดิว
“เล่นกับกู อย่าพลาด ถ้ามึงพลาดหมายถึงชีวิตมึงด้วย” มันปล่อยเขาให้นอนกลิ้งอยู่กับพื้นแล้วผละออกไป เป้าหมายมันคือใต้หมอนใบที่วางอยู่บนเตียงนอน
พงษ์ตาโตด้วยความตกใจ
“เพื่อนสนิทประธานสาย๕x” ไอ้พี่ดิวบอก ไอ้นี่มันคงแน่ไม่เบา ขนาดเดินผ่านหน้าวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ที่นั่งกินเหล้าหน้าปากซอยมันยังกล้าใส่ช็อปรุ่นเดินผ่านอย่างกับพวกที่นั่งเมาอยู่นี่ไม่มีตัวตนสักคน
“จะสนิทกับใครผมไม่สน” สนแค่ว่ามาทำไอ้แก้วเจ็บแค่นั้น
“เดี๋ยว...ยังไม่หมด” ไอ้พี่ดิวดึงแขนไว้เมื่อเขากำลังจะลุก
“อะไรวะ”
“มันเล่นชู้กับเมียมึงอยู่ด้วย” มันบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ พลางยื่นแก้วเหล้ามาให้เขา
“ห๊ะ?” ตกใจที่ได้ฟังต่างจากคนบอกที่เหมือนพูดขึ้นมาลอย ๆ แต่ถ้าพี่ดิวบอกนั่นหมายความว่ามันสืบมาดีแล้ว “เหี้ยเอ้ย!” ความโกรธยิ่งเพิ่มขึ้นอีกเป็นสองเท่า เหล้าห่าอะไรไม่สนแล้ว
สองกระทงเลยนะมึง
เขาลุกพรวดออกจากกลุ่มรีบเดินตามไอ้๕xที่เดินเข้าไปในซอยซึ่งสองข้างทางล้วนแต่เป็นบ้านคนแต่ด้วยความที่ดึกสงัดจึงเงียบและออกจะดูเปลี่ยวมากกว่า จนมันชะลอฝีเท้าและหยุดยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง
ผลั่ก! เขากระโดดถีบหลังไอ้๕xจนมันล้มไปกองที่พื้นคอนกรีต อย่ารอให้มันลุก พงษ์รีบกระหน่ำเตะมันทันทีแต่โดนไอ้๕xเตะขาจนเขาล้ม เลยกลายเป็นเขาที่โดนมันต่อยเอง
“เหี้ยเอ้ย กูยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่” มันว่า
“เล่นกับไอ้นี่ คนเดียวเอาไม่อยู่หรอก” ไอ้พี่ดิวตามมาล็อกคอคู่อริแล้วล็อกแขนมันไว้จากด้านหลัง “เอาสิ! พงษ์ มึงอย่าปล่อยโอกาสไปเชียว เล่นไอ้นี่ มือขวาประธานสายเลยนะเว้ย” มือขวามือซ้ายเขาไม่สนหรอก เขาไม่ได้ต้องการเล่นฝากใคร แต่อยากเล่นตัวจัง ๆ มากกว่า
ผั่วะ! ทำไอ้แก้ว
ผั่วะ! เอาเมียกู
เขาทั้งชกหน้าและชกท้องมันที่ไม่มีทางสู้ด้วยความฮึกเหิม เอาให้มันหลาบจำที่ทำคนไม่สู้อย่างไอ้แก้ว จนไอ้ดิวปล่อยตัวไอ้เหี้ย๕x มันถึงต้องทรุดกองลงกับพื้น
“ไปเหอะพี่ดิว แค่นี้มันก็ปางตายละ” เขาบอกพลางหันหลังให้อริที่โดนรุมเมื่อกี้อย่างไม่แยแส
ถ้าเอาตัวบังไอ้แก้วจากอันตรายไม่ได้ ก็ต้องมาเอาคืนโทษฐานที่มันทำไอ้แก้วเจ็บ
จากคนที่แค่อยากดูแลเด็กที่ไม่มีใคร กลายมาเป็นอยากปกป้อง และ อยากยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อระวังภัยให้ และโรงเรียนเด็กช่าง ก็สอนให้เขารู้ว่าต้องเรียกความเป็นคนให้ไอ้แก้วได้ยังไง
เขาให้มันรู้ ให้มันเห็นว่าชีวิตคนเรามันต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างนี้แหละ เมื่อมันพบเจออะไรที่ร้ายแรงกว่า เผื่อว่ามันจะเอาตัวรอดเองได้
แต่เขาใจไม่แข็งพอที่จะให้ไอ้ตัวเล็กมันทดลองเอง เขาให้มันหลบ ให้หลีกเลี่ยง ในขณะที่เขาจะจัดการให้เอง
เพราะเขาภูมิใจในตัวเองที่ได้ดูแลมันมาตลอด
“เดี๋ยว”
“อะไรอีกวะ” เขาหันกลับไปหาไอ้ดิวตามแรงดึงจากบ่าไหล่
มันยื่นมีดสั้นขนาดสิบนิ้วมาทางเขา
...พงษ์ไม่ได้คิดว่าดิวจะแทงตัวเขา หรือตัวไอ้ดิวเอง
“ฆ่ามัน” ไอ้พี่ดิวสั่งทั้งแววตาเอาจริง แววตาที่...กดดันให้เขาต้องทำตาม
“ทะ ทำไม แค่นี้มันก็เจ็บพอแล้ว” และเขาพอใจแล้ว
“ถ้ามึงไม่ฆ่ามัน มันนั่นแหละจะกลับมาฆ่ามึง ระดับนี้มันไม่ปล่อยมึงแน่”
เขาใจสั่นมือสั่นเมื่อได้ฟัง แต่นี่ไอ้พี่ดิวที่เรียนกับเขามาสามปีและคุ้นเคยกับระบบนี้มากกว่าว่ามา...
“มึงจะเป็นคนฆ่าไอ้เป้ง รุ่น๖๘ เท่ากับเหยียบหน้าประธานสายมัน ชื่อของมึงจะมีแต่คนยกย่อง ต่อให้มึงไม่มีตัวตน แค่ชื่อมึงก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ไอ้แก้วแล้ว ...เชื่อกูสิ”
“แต่โทษฆ่าคน”
และเขาไม่ได้อยากฆ่าใคร แต่ถ้าไม่ทำมัน ถ้าเกิดมันย้อนกลับมาเล่นงานเขาคืนล่ะ
“พ่อมึงใหญ่ไม่ใช่เหรอ แค่มึงหลบไปสักพัก ปล่อยให้ชื่อมึงปกป้องเพื่อนมึงไปพลาง ๆ อ้อ ยังมีกูที่หวังดีกับไอ้แก้ว มึงไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกน่า ไม่นานเรื่องก็ซา ต่อให้โดนมันตามเล่นงาน กูนี่แหละอยู่ข้างมึงเสมอ”
ฉึก!!
มีดสั้นเล่มนั้นถูกปักเข้าที่ท้องเขา จุก...จนพูดไม่ออกได้แค่อ้าปากค้างค้านเรื่องในอดีต
“ชื่อเสียงจะปกป้องไอ้แก้วได้จริงเหรอวะ” เขาคิดหนัก พลางถามไอ้พี่ดิวให้แน่ใจทั้งที่เขาไม่เคยฟังใครเลย
“แล้วมีใครกล้ายุ่งกับกูไหมล่ะ กูนี่แค่เป็นน้องไอ้ดีก็ไม่ต้องมีฝีมืออะไรแล้ว ไอ้แชมป์อีก มึงเห็นใครทั้งในทั้งนอกโรงเรียนกล้าเข้าใกล้ไหม?”
เสื้อช็อปของคนที่นอนกองกับพื้นถูกไอ้พี่ดิวถอดออกแล้วโยนมาให้เขารับไว้
ไอ้เป้ง๕x มันยังรู้สึกตัวอยู่ แต่ไม่มีแรงพูด ไม่มีแรงหนี
อะไรก็ตามที่เขาจะปกป้องไอ้แก้วได้ ...เขาพิสูจน์มาตั้งเจ็ดปี ถ้าปล่อยไอ้นี่ไป เขาอาจ...ไม่ได้อยู่ปกป้องไอ้แก้วอีกต่อไป ถ้าชื่อเสียงสามารถเป็นตัวแทนของเขาได้...
“กูไม่ทิ้งไอ้แก้วแน่และกูนี่แหละจะดูแลไอ้แก้วได้ดีกว่ามึง แค่มึงหลบไปสักพัก...นะเพื่อนพิสูจน์ว่ามึงเป็นคนจริง”
“มึงมันขวางทางกูตั้งแต่แรก กูอุตส่าห์ปูทางไปให้มึงดี ๆ สุดท้ายก็หาที่ตายจนได้”
“อ๊ากกก!!”
หน่วยตามีน้ำใส ๆ กำลังเอ่อด้วยความเจ็บปวด แค้นเคืองตัวเอง และเสียใจในตัวไอ้ดิวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยผ่านมา มือที่มีแค่แรงคลำ จับเข้าที่ด้ามมีดทับมือไอ้ดิวที่กดลงมาย้ำหมายจะหมุนบิดปลายมีดให้เขาได้ตายคาที่
“กูดีด้วยแม่งไม่รับกัน เวลานี้ แม้แต่ไอ้แก้วกูยังอยากฆ่าทิ้งด้วยมือกูเอง หึ ไม่ได้ กูก็ไม่เอา แต่อย่าฝันว่ากูจะปล่อยให้สุขสบายกันสักคนเดียว!”
............................................................
**เล่นฝาก** (ศัพท์เฉพาะรึเปล่า ไม่แน่ใจค่ะ) คือการกระทำคนหนึ่ง เพื่อให้ส่งผลกระทบไปยังอีกคนหนึ่ง ตัวอย่าง ถ้าคนเขียนซ้อมคนอ่าน จ๊ากกก ไม่เอาตัวอย่างนี้Y^Y ฮ่าๆๆๆ //ขยับแว่น จริงจังละนะ เช่นสมมติ ดิวอยากเล่นงานเป้ง เพื่อให้กระทบฝิ่น ถ้าไม่ถึงตาย ก็อาจจะมีประโยคเช่นว่า”ฝากไปบอกไอ้ฝิ่นด้วยถ้าจะเอาคืนให้มาเจอกู” ถามว่าทำไมถึงต้องเล่นฝาก แหม๋ ก็เล่นเจ้าตัวไม่ได้เลยต้องเล่นคนรอบข้างไงคะ แล้วการเล่นงานคนรอบข้างนี่ มันถือเป็นการหยามคนถูกฝากมากกว่าโดนเองอีกค่ะคุณ “ทำกู กูไม่ว่า ทำเพื่อนกู มึงตาย” อร๊ายย เลวมาก ศักดิ์ศรีอะศักดิ์ศรี กินไม่ได้แต่เท่! (ตรงไหนฟะ?) พูดแล้วจะยาว ซึ่งนิยายเรื่องนี้มีการเล่นฝาก ตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วค่ะ บ่นพอละ ติดใจตรงไหนทิ้งคำถามไว้ละกันค่ะ ตอบได้จะตอบทันที ตอบไม่ได้จะไปถามคนที่รู้กว่าเพื่อมาตอบให้อยู่ดี
การตีรันฟันแทงไม่เคยมีเหตุผลหรอกค่ะ หากจะมีมันก็แค่ข้ออ้าง
....................................................
ตอนที่แล้วที่มึนกันเป็นแถว ๆ ข้าเจ้ามิได้เพิ่มปมหรือม้วนปมแต่อย่างใด เพียงแต่อยากบอกแค่ว่า ณ ตอนนี้ ฝิ่นเป็นยังไงเท่านั้นเอง เห็นคนอ่านมึน ซีซั่นก็ย้อนอ่านตอนที่แล้วตั้งแต่วันแรกที่ลงจนวันนี้นะ แต่ก็ยังไม่ได้ทำการรีไรท์ใหม่ ฮ่า ๆ ๆ แต่กำลังเพิ่ม - ลดอะไรที่กำกวมอยู่นะ ไม่ได้ปล่อยผ่าน แต่ไม่รีไรท์ในตอนนี้เท่านั้นเอง
...ผิดเป็นครู ทิ้งไว้ให้เห็นว่าผิดพลาดยังไงไว้เตือนตัวเอง คนอ่านอาจจะสะดุด อันนี้สวย(?)ก็ขออภัยด้วยนะคะ ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ
ตอนนี้กำลังทยอยคลายปมอยู่นะคะ ไขในตอนเดียวไม่ไหวจริง ๆ อึดอัดถึงตอนหน้าก็แกะออกหมดแล้วค่ะ (น่าจะหมดนะถ้าไม่ยาวมากอีก...แกมั่นใจหน่อยสิ! กร๊ากกก)
อ้อ...ไม่มีใครตายนะคะ เลือดตกยางออกเป็นเรื่องปกติของเด็กช่างอย่างเรา ๆ เหมือนกินข้าวต้องใส่น้ำปลาอะนะ (เหรอยะ?)
คนเขียนมีเพื่อนแวะมาเยี่ยมอีกแล้ว ...ถ้าจะว่าภูมิแพ้กำเริบก็ตัวร้อนด้วยนะ แต่คนเขียนชิล ๆ ค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมากมายแค่รำคาญน้ำมูกตัวเองกับรำคาญคนข้าง ๆ ที่ไม่ให้จับคอมฯตอนไม่สบายเฉย ๆ ปกติถ้าไม่สบายก็ยังเขียนได้เพราะอยู่คนเดียว (ทั้งตอนนี่ก็ใช้คอมฯที่ทำงาน >w<)
ผิดพลาดตรงไหน ติติง แนะนำ ได้เลยนะคะ เหมือนสมองข้าเจ้ายังไม่สมประกอบ อ๊ากกกกกT^T
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะ กอด ๆ (ติดไข้)^^ จุ๊บ
-
สุดยอดมากพงษ์!!!
ตอนนี้นายได้ใจเราไปเต็มๆ
พระเอกสัดๆ 555
อ้อ ฝิ่นยังบ้าสะใจจ๊อดอยู่คงเดิมไม่เปลี่ยน
ขอบคุณที่มาต่อ สนุกมาก :o8:
:a5:ปล. อ่านซ้ำอีกครั้งตรง ฉึก!
อ๊าซซซซซ!!! ไอ้เวรดิว! เมิงงงงงงงง
หลงไหลในม่านหมอก คุณทำอะไรเรา งื้ดดดดด :z3:
-
ไม่อยากให้พงษ์ตายอะ :sad4: ไอ่ดิวดิต้องตาย ให้มันตายๆๆๆๆๆๆ
พงษ์อย่าตายนะ พงษ์เป็นเหมือน พ่อ เหมือนพี่แก้ว ไอ่ดิว #%$##!&#$ :z6: :beat: :z6: :beat:
-
o13 o13 o13
-
เราว่า ที่งงเนี่ย ไม่ได้งงปมเลยนะคะ -*-
แต่คือ คนเขียนบรรยายได้งงมาก สลับแว่บไปแว่บมา บางทีไม่เข้าใจว่านี่ใครพูด นี่ใครทำอ่ะค่ะ
มันไม่ได้เร็วเกินไปนะ แต่เราว่ามันค่อนข้างตัดเกินไป ห้วนเกินไปค่ะ
เนื้อเรื่องอ่ะอ่านคร่าวๆก็พอเข้าใจ
แต่การบรรยาย มันค่อนข้างทำให้มึนอย่างมากกกก o2
(เฉพาะตอนที่แล้ว กับตอนนี้นะคะ ที่อ่านแล้วงงๆ)
-
ยังอิลุงตุงนังพันกันไปเรื่อยๆ
-
เราว่า ที่งงเนี่ย ไม่ได้งงปมเลยนะคะ -*-
แต่คือ คนเขียนบรรยายได้งงมาก สลับแว่บไปแว่บมา บางทีไม่เข้าใจว่านี่ใครพูด นี่ใครทำอ่ะค่ะ
มันไม่ได้เร็วเกินไปนะ แต่เราว่ามันค่อนข้างตัดเกินไป ห้วนเกินไปค่ะ
เนื้อเรื่องอ่ะอ่านคร่าวๆก็พอเข้าใจ
แต่การบรรยาย มันค่อนข้างทำให้มึนอย่างมากกกก o2
(เฉพาะตอนที่แล้ว กับตอนนี้นะคะ ที่อ่านแล้วงงๆ)
...จะพยายามแก้ไขนะคะ เข้าใจว่าคนอ่านงงตรงส่วนบรรยายเหมือนกัน เพราะได้รับคำแนะนำตรงนี้มาเรื่อย ๆ (แต่มันก็ยังทำให้งงได้อีก)แต่เห็นพูดเรื่องปม เลยนึกไปว่าคนอ่านจะมึนปมเพิ่มรึเปล่างี้ เพราะปกติตัวเองก็สื่อสารไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่แล้ว แต่ตรงไหนติได้ก็จัดมาเลยค่ะ จะได้แก้ตรงจุด
-
โอ๊ะ เลวT^T
เำห้อ.......หวังว่าพงษ์คงไม่เปงอะไรนะ ขอเถอะให้ไปเชี่ยนั้นคนเดียวก้อพอ
แต่พงษ์ก้อใจร้อนเกินไป
-
เฮ้อ...พงษ์ :เฮ้อ:
-
รู้อยู่แล้วว่าดิวมักจะเล่นไม่ซื่อ ไม่น่าเดินไปให้เขาฉึกถึงที่
แต่คนเขียนรับปากว่าไม่มีใครตายอีกแล้ว ก็สบายใจ
-
เลือดตกยางออกเป็นปกติของเด็กช่าง
อะนะ แต่ห่วงพงษ์จัง โดนไอ้พี่ดิวแทงด้วยอ่ะ
เกลียดไอ้พี่ดิวว่ะ นิสัย!!!!!
แก้วเรียกพี่ฝิ่นว่าพี่ด้วยล่ะ หวานๆของคู่นี้เมื่อไหร่จะมาเต็มบทน้อ~~
-
ในเมื่อคนเขียนบอกว่าไม่มีใครตายก็ค่อยสบายใจหน่อยไม่อยากให้พงษ์ตายแต่อยากให้คู่พี่ไม้อ่ะ :z1:
-
:m15:
-
ไม่อยากให้คนเขียนรับปากว่าไม่มีใครตายเลยอะ
เพราะตายไปหนึ่งคือเป้ง คนที่สมควรตายคนต่อไป
คือไอ้ดิว o18 อิอิ โหดไปไหม
พงษ์จะใจร้อนมาทำไม วางแผนกับพ่อไว้ซะดิบดี
มาถึงบ้านให้ไอ้ดิวมันแทงฉึกซะงั้น :z3:
รออ่านตอนต่อไปจ้า :L2:
-
พงษ์จะตายไหม
สงสารแก้วอะถ้าพงษ์ตาย
คนที่ตายน่าจะเป็นไอ้ดิวมากกว่า
-
พงษ์คิดอะไรของพงษ์ถึงทำแบบนั้น พงษ์คิดบ้างหรือเปล่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพงษ์ แ้ก้วจะรู้สึกยังไง ทำไมพงษ์ไม่พูดความจริงกับคนอื่น เลือกเข้าไปหาดิวแบบนั้นทั้ง ๆ ที่รู้ว่าดิวร้ายกาจขนาดไหน ถ้าฝิ่นกับไม้รู้ความจริงเรื่องเป้ง ฝิ่นกับไม้จะทำยังไงนะ
-
เง้อออออออ
:z3: :z3: :z3:
-
เฮ้ย...พงษ์จะเจออะไรบ้างเนี่ย (คนเขียนเวลาเปลี่ยนสถานที่ หรือย้อนกลับไปมาเนี่ย งงอ่ะ หน้าจะมีอะไรมาคั่น เช่น......... จะได้รู้ว่าเปลี่ยนบทไปอีกที่หนึ่งอ่ะ หรือเว้นบรรทัดเยอะ) คงใกล้จบแล้วใช่ไหม รอแก้วมากอดไม่ไวแล้ว อิอิ
-
พงษ์อย่าตายนะ ฝิ่นมาช่วยพงษ์ด้วยสิ
-
อะไรอีกเนี่ย!!!!!!!!!!!!! :z3:
แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้จับไอ้ดิวเข้าคุกซะเลย o8
-
พงษ์ อย่าเป็นไรนะ อ้ายพี่ดิว เองซวย
-
อ๊ากกก พงษ์ต้องอยู่ดูแลแก้วเน้อ อย่าเป็นไรไปหละ
ขอให้มีดที่แทงเป็นมีดแกะสลัก
-
พงษ์ไม่นะะะะะะะ
ฆ่าฉันให้ตาย้สียยังดีกว่าาา มาทรมาน~
-
พงษ์จะไม่ตายจริง ๆ ใช่มั้ยครับ อันนี้ขอโล่งอกล่วงหน้า
พงษ์เอ๊ย!! เพื่อแก้วแกทำได้ขนาดนี้เลยอ่ะ โคตรพระเอกเหอะ เจ๋งว่ะ
ส่วนไอ้นรกดิว ให้คนเขียนทำไงก้ได้อ่ะ เอาให้มันได้รับผลแบบสาสมซักทีนะ
เลวขนาดนี้ ไม่ไหว ๆ
-
ดีแล้วพงษ์ มาทำให้มันเคลียร์ซะจะได้ไม่มีะไรค้างคากันต่อไปอีก แก้วก็จะได้ไม่ต้องอึดอัดเพราะเป็นคนกลางด้วย
สรุปแล้วพงษ์ไม่ได้เป็นคนทำสินะ แต่แอบสงสารเป้งนิดนึง(จะไม่พูดเรื่องไปทำคนอื่นมาเยอะ) คนเรากลัวตายทั้งนั้น แล้วยิ่งมีหนีไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ แถมยังมีห่วง อารมณ์ตอนนั้นคงแย่มากๆ เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครสมควรตายจากเรื่องพวกนี้เลยด้วย
รอตอนหน้าค่ะ เจ๊พาค้างอีกแล้ว แง่งๆๆ เดี๋ยวกัดเลย!
ปอลิงเข้าใจคำว่าเล่นฝากแล้วค่า พอมีบริบทแล้วเข้าใจง่ายทีเดียว
-
อิพี่ดิวมันยังเลวได้อิก :z6: :beat: :fire:
-
:กอด1:
-
:z6:
ไม่สำนึกเลยจริงๆ ไอ้ดิวนี่
-
พงษ์!!!!!!!!!!!!
ไม่นะๆๆๆๆๆๆๆ ม่าย!!!!!!!!!!!!!!!!
-
พงษ์ เอาใจไปเลย พระเอกยิ่งกว่าฝิ่นอีก ฮือออออ
อย่าตายนะ !!~
-
คนชั่วนี่อายุยืนอยู่ได้นะ :z6:
-
ไอ้พี่ดิวนี่มันไม่เคยสำนึกอะไรเลยเนาะ :angry2:
บอกได้คำเดียวว่าเลว!!!
-
เห็นชื่อเรื่องว่า drama story เลยเก็บไว้ก่อน
ตั้งใจว่าจะอ่านตอนที่เรื่องถูกเขียนจบ
กลัวทนอึดอัดไม่ไหว แต่เกือบพลาดเรื่องดีๆ
เข้ามาอ่านแล้วสนุกดีนะ อ่านรู้เรื่อง ;)
พลอตรักต่างสถาบัน อะไรก้อเป็นไปได้ในนิยาย
เชียร์ฝิ่นแก้วนะ อย่าแค้นกันเลย คนรักเพื่อนตัวเองทั้งคู่
ยังอ่านไม่จบแต่เข้ามาให้กำลังใจคนแต่งก่อนล่ะกัน
สงสารเพื่อนแสน อิ่มยำตืนยังไม่รู้
-
พงอย่าตายนะ
ใครก็ได้รีบมาช่วยที
:sad4:
-
ยังไงก็รีบมาต่อนะ ค้างมากมาย :z3: :z3:
-
เปรี้ยวว่ะพงษ์ ไปลุยเดี่ยวถึงถิ่น แต่ประมาทไอ้พี่ดิวไปแล้ว
ตอนหน้าลุ้นว่าใครจะมาหามมันไปหาหมอ อย้าเพิ่งเป็นไรนะ
ถ้ารู้ความจริง จะญาติดีกันมากขึ้นไหม
ปล ขอเม้นย้อนหลังนิดนะซี
แอบซึ้งตอนสองหนุ่มลุยน้ำลงไปช่วย
ชอบที่พี่ไม้สอนน้อง อย่าให้มีใครต้องเสียใจอีกเลย
-
กรี๊ดดด นี่มันอะไรกันน
พงษ์อย่าเป็นอะไรนะ ใครก็ได้ช่วยที!!
-
อ่านรวดเดียวจนถึงตอนนี้ สนุกค่ะ น่าติดตาม เพราะรู้สึกว่า มันไม่ใช่แค่ที่เห็น
เรื่องมันซับซ้อนมากกว่าคู่อริสองสถาบันล้างแค้นกันไปมา เพราะเริ่มจากที่พงษ์ไปแทงเป้ง
แต่แก้วน่าจะเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ไม่รู้ว่าทำให้เกิดเรื่องได้ยังไง
ตอนนี้เดาได้แค่พงษ์กับแก้ว มีเบื้องหลังต่อกัน ที่เป็นสาเหตุทำให้แก้วต้องทำเพื่อพงษ์เช่นกัน
และก็เดาว่าพงษ์น่าจะเป็นคนที่คอยกันใครต่อใครให้แก้วด้วย เช่น ดิว
แต่ไปจนถึงเรื่องเป้งยังไง ยังรอติดตามอยู่ และตัวพี่ไม้เองก็พยายามจะกันแก้วออกแล้ว พยายามจะเืตือนแล้ว
พี่ไม้คงรู้เรื่องทั้งหมด รวมทั้งความคิดของฝิ่นด้วย
-
คอมเม้นจากตอนที่ ๒๓
ยิ่งอ่านก็เหมือนจะยิ่งเข้าใจว่าทำไมชื่อของพงษ์ ถึงใช้กับแก้วได้เสมอ
เพราะพงษ์ดูแลแก้วมาตลอดสินะ แล้วเหตุที่เกิดวันนั้น พงษ์ทำไปเพราะแก้วสินะ
จนถึงป่านนี้ถึงยังไม่ยอมปริปากเล่าออกมา
อยากโดดถีบฝิ่น แต่ก็กลัวตายเหมือนกัน ฮ่า ฮ่า
เข้าใจอยู่นะ มันคงเป็นอคติในใจ ที่มันฝังอยู่
คิดออกมาแต่ละอย่างถึงได้ยัดเยียดแต่พฤติกรรมร้าย ๆ ให้แก้วอยู่เสมอ
ทั้งที่แก้วก็ทำขนาดนี้แล้ว ทั้งที่พี่ไม้ก็เตือนแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะแก้วตัดสินใจจะทำ แก้วก็คงไม่เดินกลับไปหาฝิ่นเองในวันนั้น
อย่างว่าแหละ ถ้ายังไม่ถึงเวลา บางทีคนเราก็ยากจะเข้าใจ
โดยเฉพาะตอนนี้ฝิ่นเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าน่าจะเริ่มมีความรู้สึกบางอย่างกับแก้วไปแ้ล้วเช่นกัน
แก้ว เราอยากเห็นหน้าแก้วมากเลย ทำไมถึงได้ดึงดูดใครๆ จนดึงเหตุการณ์ร้าย ๆ มาใส่ตัวเสมอ
บางทีก็สงสาร แต่เพราะแก้วเองก็เป็นผู้ชาย บางครั้งถึงได้ไม่คิดกลัวผลที่จะตามมา
จนโดนวางยา เกือบไม่รอดไปแล้ว ..
:z6:<< -- แด่พี่ดี
-
อย่าตายนะพงษ์ :m15:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๓๒ <------------ ชอบค่ะ
รู้สึกเหมือนกำลังดูเด็กผู้ชายคนนึง ที่ปากแข็ง เอาแต่ใจ มุทะลุ ชอบใช้กำลังเป็นที่สุด
และไม่ยอมรับ ไม่ยอมทำความเข้าใจสิ่งที่ตัวเองเผลอแสดงออกมา
ใครว่าเรตติ้งพระเอกตก ยิ่งหลายตอน เราก็ยิ่งชอบฝิ่น แม้บางทีจะแอบหมั่นไส้เล็ก ๆ ฮ่าฮ่า
และยิ่งหลายตอนไป ก็ยิ่งชอบความเป็นแก้ว สงสัย ก็ถามมันตรง ๆ แต่ดันไม่กล้าสบตาซะอย่างนั้น
เหมือนเด็กกลัวจะโดนจับได้ว่าทำผิด แต่ก็ไม่หนี พร้อมจะยืนรับผล
บางทีดูน่ารำคาญสำหรับคนรอบข้าง แต่เราว่าเพราะเค้าคิดตรง ๆ
มิวววว เราจะรอดูต่อไป ว่าจะเป็นตัวแปรอะไรอีกบ้าง
พี่ไม้-เป้ง อยากจะร้องไห้ T__T
-
ตามมาให้กำลังสุดที่รัก อิอิ๊ :z2:
-
ตอนที่ ๓๕ <<< กลัวดราม่าตอนต่อ ๆ ไปอย่างมาก
แต่ตอนนี้ขอลาไปนอนยิ้ม
"กูไม่ได้ไม่รักมึงสักหน่อย" :กอด1: พ่อพระเอกสุดเถื่อน
-
พงษ์ทำร้ายเป้งแบบเหตุการณ์พาไป โดนไอ้ดิวยุแยงเข้าหน่อย สติในการคิดทบทวนในสิ่งที่ไอ้ดิวโป้ปดมดเท็จก็หายหมดเลยนะ
ส่วนไอ้ดิว แกจะฆ่าเป้งทำไมฟะ แค่ต้องการให้เป็นไปตามแผนแค่นั้นหรือ...แค่อยากให้พงษ์รับผิดแทน แล้วหนีไปอยู่ที่อื่น แล้วตัวมันจะได้สวมรอยดูแลไอ้แก้วนี่นะ
ถ้าไอ้ดิวมันไม่ได้แค้นเป้งหรือฝิ่นเป็นการส่วนตัว มันจะถึงกับฆ่าคนๆ หนึ่งอย่างกับผักปลาเลยเชียวหรือ
ถ้าเป็นอย่างนั้น ไอ้ดิวก็ถึงขั้นโรคจิตเลยแหละ เพราะฆ่าโดยไม่มีความแค้นโดยตรง แต่ฆ่าเพราะเป็นแค่หมากตัวหนึ่งในเกม
พงษ์โดนไอ้ดิวแทงคราวนี้คงหายโง่ไปอีกนาน เชื่อใจไว้ใจคนผิดจนมันมาทำร้ายตนเองและคนที่รัก
ก็อยากเป็นตำนานดีนัก เจ็บเพราะโง่คราวนี้คงได้เป็นตำนานสมใจ ตำนานของคนโง่ๆ อะนะ
(โง่เพราะโดนหลอกยังไม่พอ ยังโง่ลุยเข้าไปให้ศัตรูเสียบถึงถิ่นอีกต่างหาก โง่ซ้ำโง่ซ้อน โง่ๆๆๆๆๆๆๆ :angry2: )
สุดท้าย......กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด คำว่า "พี่ฝิ่น" ของไอ้แก้ว มันช่างฟินซะจริงๆ :o8:
-
ต่างคนต่างมีเหตุผลในตัวเองมากมาย
เราแอบหวังมาในทุก ๆ ตอน ว่าขอให้พงษ์ ไม่ได้เป็นคนทำ
ขอให้ดิวเป็นคนทำให้เป้งตาย เพื่อที่ว่าเรื่องราว มัน "อาจ" จบได้จริง ๆ
เพราะคนที่รับผิด จะไม่ใช่พงษ์ และจะำทำให้ทุกคน หายใจได้โล่งมากกว่านี้ ถ้าคนผิดตัวจริงต้องเจ็บตัว
นับถือใจของแก้วนะ เหมือนจะบอบบาง เหมือนจะคุณหนู คิดมาก
แต่ถ้าถึงเวลาต้องปกป้องคนที่ตนรัก ทั้งพงษ์ และฝิ่น แก้วก็กล้าที่จะทำโดยไม่ลังเล
แม้ว่าบางอย่างที่ทำ มันจะโดนคัดค้าน และอาจจะไม่ได้ผลด้วยซ้ำในสายตาคนอื่น
และดิว มันคงเจ็บน้อยไปจริง ๆ นี่แก้วตีซ้ำสองรอบแล้วนะ ยังเป็นงูพิษ กลับมาเล่นงานคนที่แก้วรัก
ยังกลับมาแทงพงษ์อีก ... จะมีใครมาช่วยพงษ์ทันหรือเปล่านะ ลุ้นมาก
พงษ์ไม่น่าใจร้อน แต่อย่างว่า ถึงมือตำรวจ ก็ใช่ว่าจะสะใจเท่ากับได้แก้แค้นเอง
หลอกใช้ความรู้สึกพงษ์ ทั้งเรื่องมิวทั้งเรื่องแก้ว เหมือนจะสนับสนุนปูทางให้พงษ์เป็นเกราะให้แก้ว
จริง ๆ แล้ว แค่จะหลอกให้พงษ์ต้องออกห่างจากแก้วเหรอ ....
ถ้าดิว รู้ว่าพี่ดี ทำแบบนั้นกับแก้ว จะฆ่ากันเองหรือเปล่านะ?
ถ้าแก้ว รู้ว่าดิว ทำพงษ์ขนาดนี้ (หวังว่าจะปลอดภัย) แก้วจะเป็นคนลงมือเรื่องดิวเองหรือเปล่านะ
แต่ อย่าเลยนะแก้ว เป็นห่วง เจ็บช้ำมาเหลือเกินกับชีวิต ให้รุ่นขาโหดเค้าไปเคลียร์เถอะนั :sad4:
-
ถ้าพงษ์ตาย เราจะไปฆ่านักเขียนนนน
มาต่อเร็ว ๆ นะ
-
อ่าน...ทัน...แล้ว ฟู่วววววววววววววววว
คนเขียน...เราชอบพี่ไม้!! อ๊าก!! แบบ...ฝันไว้ไกลมากกับผู้ชายคนนี้
ส่วนฝิ่นแม่ง...ซึน มึน อึน 55555555555 ชอบๆๆๆ
อ่อๆๆ แล้วไม้กับขัวญมีซัมติงกันปร้ะ! อยากให้มีอ่ะ >/////////<
แล้วตอนล่าสุดนี่พงษ์จะตายมั้ยอ่ะ T[ ]T
อย่าตายนะไม่งั้นแก้วคงร้องตายแน่ๆ
ส่วนไอ้ชั่วดิว(แม่งเกลียดคนชื่อนี้ เกลียดๆๆๆ เกลียดแฟนมันด้วย แม่งหมั่นไส้ อิแรด!!<<นอกเรื่องแหละ = =")
ขอให้มันตายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่คนเขียนบอกเรื่องนี้ไม่มีใครตาย ._.
แต่ช่วยจัดหนักๆให้ไอ้ดิวที หมั่นไส้แม่ง!!
ปล.มาต่อได้แหละค่าาาาา
-
อ๊ากกก
พงษ์ไม่น่าใจร้อนเลย
ไม่อยากให้ตายด้วย
:z3:
เกลียดไอดิว
เมื่่อไหร่มันจะได้รับกรรมที่มันทำซักที
-
ไอ้พี่ดิวนี่เลวจริงๆ
เมื่อไหร่มันจะได้รับโทษของมันสักที
-
ลูกแก้วหายไปนานเลย
-
ในที่สุดก็ตามทัน และค้นพบว่าตัวเองชอบนิยายแนวนี้มากกกกก อ่านแล้วหน่วงทั้งเรื่อง ชอบพงษ์อะ ชอบๆๆ รอ รอ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๘
“ญาติคนไข้ค่ะ” พยาบาลเปิดประตูออกมาถามหา
“ผม ผมครับ พงษ์เป็นยังไงบ้างครับคุณพยาบาล แผลลึกรึเปล่าครับ? เลือดออกเยอะไหม? มีเลือดออกเยอะรึเปล่า ละ แล้ว เป็นอันตรายมากไหมครับ” แก้วรีบยกมือแสดงตัวและถามไถ่อาการพงษ์ทันที
“เอ่อ...เป็นญาติฝ่ายไหนคะ” พยาบาลเอ่ยถามด้วยท่าทางข้องใจพลางมองหาคนอื่น ๆ ที่ดูจะเป็นญาติมากกว่าเขา
“อะ เอ่อ...เป็นเพื่อนครับ แต่ก็เป็นญาติเหมือนกัน มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ คือ คือ ผมหมายถึง เพื่อนผมที่บาดเจ็บมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นรึเปล่าครับ” แก้วพูดกับพยาบาลอย่างลนลาน ห่วงก็แต่อาการคนข้างใน ถ้าไม่เป็นอะไรมากคงไม่มาถามหาญาติพี่น้องใช่ไหมล่ะ
“สักครู่นะคะ” พยาบาลสาวบอกเร็ว ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกครั้งยิ่งทำให้เขากังวลใจเข้าไปอีก
“พี่โซ่ พงษ์ถูกแทงได้ยังไง? มันไปบ้านพี่ดิวทำไม? แล้ว แล้ว ทำไมพี่ดิวต้องทำมันด้วย?” แก้วหันไปทางโซ่ที่นั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
“...........................” เงียบ
“พี่โซ่!”
“ชู่วว แก้ว” ฝิ่นที่ยืนซ้อนหลังอยู่จับต้นแขนแก้วไว้เหมือนปราม ๆ ในขณะที่แก้วกำลังคาดคั้นรัวเอาคำตอบจากประธานสาย ๙T ที่นั่งเหยียดแขนพาดกับพนักพิงเก้าอี้ ปากก็คาบบุหรี่ซึ่งไม่ได้จุดเพราะโดนพยาบาลเตือนไปตั้งแต่เห็นหยิบไฟแช็คขึ้นมาแล้ว
และนอกจากเขาที่ยืนทำตาแข็งใส่พี่โซ่ ยังมีพี่ไม้ที่ยืนค้ำหัวพี่โซ่อีกคน
แต่เจ้าตัวไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยให้ตาย
“น้องคะ” พยาบาลเปิดประตูออกมาอีกรอบเขาจึงเลิกสนใจประธานสาย๙Tชั่วคราว “น้องพอจะติดต่อผู้ปกครองของคนไข้ได้ไหมคะ คือหมอต้องทำการผ่าตัดด่วนค่ะ”
“ผ่าตัด?” เขายืนอึ้งทวนคำพยาบาล จนฝิ่นสะกิดบอก
“มันต้องผ่าเอามีดออกและเย็บแผลปกติอยู่แล้ว”
“อ้อ อ๋อ ครับ ๆ ”
เขารับรู้ตามที่ฝิ่นบอกแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมากดเบอร์โทรออกไปต่างประเทศ บอกข่าวเรื่องพงษ์ให้คุณลุงทราบเพียงไม่กี่คำก็ส่งมือถือให้พยาบาลคุยต่อ พยาบาลสาวเดินถือโทรศัพท์เขาเข้าไปในห้อง ก่อนจะเดินออกมาพร้อมเอาเอกสารยินยอมให้ไอ้พงษ์เข้ารับการผ่าตัดให้เขาเซ็น
แต่ฝิ่นกระซิบบอกว่า
“หมอเขาผ่าไปก่อนที่จะถามหาพ่อแม่แล้ว”
“พี่โซ่ พี่ไปบ้านพี่ดิวได้ยังไง มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม? แล้วพี่ให้ไอ้ดิวทำร้ายไอ้พงษ์ได้ยังไง?” คล้อยหลังพยาบาล เขาก็ต่อว่าประธานสาย๙Tที่ยังนั่งเฉยต่อ พลางลูบไม้ลูบมือตัวเองเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาพร้อมกับอาการมือสั่น ใจสั่น เพราะไอ้โจ้บอกว่าโซ่กับตำรวจเป็นคนไปพาตัวพงษ์ออกมาจากบ้านดิว เพราะฉะนั้นในความคิดของแก้ว โซ่ก็ต้องรู้เรื่องด้วยสิ “พี่ไม้...” แต่ในเมื่อโซ่ยังเงียบทำหูทวนลมแก้วก็หันไปถามอีกคน “ตอบผมสักคนสิทำไมพงษ์ถึงโดนแทง แล้วโดนแทงตรงไหน? แล้วมันเป็นอะไรมากรึเปล่า? แล้ว...”
“แก้ว พอเถอะ! มึงถามไปก็ไม่มีใครเขาตอบได้หรอกนอกจากไอ้คนที่อยู่ในห้องนั่น” อึก ไอ้พี่ฝิ่นมันดึงไหล่ให้เขาหันหน้าไปหามันแล้วตวาดพร้อมชี้นิ้วส่ง ๆ ไปที่ห้องฉุกเฉิน
“ผมเป็นห่วงมันหนิ!”
“กูรู้ กูก็เคยเป็นห่วงไอ้เป้งหน้าห้องฉุกเฉินยันห้องไอซียูโน่น!” ฮึ!...แก้วยกมือขึ้นปาดน้ำตาพลางมองหน้ามัน ยิ่งฝิ่นตะคอกใส่ เขายิ่งรู้สึกไม่ดี เขาไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย แต่ไม่ห้ามน้ำตาที่ไหลเพราะความเป็นห่วงพงษ์หรอกนะ ต่อให้คนตรงหน้าขุดเรื่องเพื่อนตัวเองขึ้นมา เขาก็ยังยืนยันที่จะเป็นห่วงพงษ์! “เฮ้อ...กูจะไม่พูดเรื่องนี้อีก แต่มึงอย่าเพิ่งคิดไปก่อนสิวะ ถึงมือหมอแล้วยังไงก็ปลอดภัยน่า” ฝิ่นเสียงเบาลงแต่น้ำเสียงก็ติดไม่ชอบใจเหมือนเดิม แต่มือยังบีบไหล่เขาเบา ๆ พร้อมกับแววตามุ่งมั่นส่งมาให้เขาเชื่อตามนั้น
แก้วมองหน้าฝิ่นอย่างเคือง ๆ แล้วเดินเลี่ยงไปชะเง้อคอรอที่หน้าประตูห้องฉุกเฉิน ใจก็เต้นระส่ายกังวลแต่ว่าคนข้างในจะเป็นอะไรมากแค่ไหน
...ขนาดพี่เป้ง เพื่อนของพี่ก็เคยอยู่ในมือหมอ แต่ก็ตายอยู่ดีไม่ใช่เหรอ
แก้วเถียงในใจ ในขณะที่ฝิ่นเดินตามมากอดไหล่เขาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้เขารู้ว่ามันโคตรหนักใจ
“เฮ้อ...กูอยู่ตรงนี้นะ” ฝิ่นพูดด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ ก่อนจะใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาให้โดยไม่พูดอะไรต่อสักคำแล้วมันก็ถอยออกไปทันที
มึงต้องปลอดภัยให้เหมือนที่พี่ฝิ่นบอกกูนะพงษ์...
แก้วอธิษฐานผ่านช่องกระจกของบานประตูที่มองเข้าไปก็ไม่เห็นอะไรนอกจากผ้าสีฟ้ากั้นระหว่างห้อง
แก้วออกจากบ้านตั้งแต่เช้าโดยมีฝิ่นไปส่งที่โรงแรมของพ่อเหมือนเคยเพราะยังไงแก้วก็อยากไปเรียนรู้งานมากกว่านั่งรอให้ครบกำหนดจบการฝึกงานเฉย ๆ แม้จะไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั่งดูก็ตามเถอะ
นั่งดูงานยังไม่ถึงสิบเอ็ดโมงฝิ่นก็โทรตามให้เขาลงไปหาพร้อมลากเขาขึ้นรถแล้วพามาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ...ถึงได้รู้ว่า พงษ์ถูกพี่ดิวใช้มีดแทง
รู้...จากปากไอ้โจ้ที่อยู่พร้อมกับตำรวจ อ้อ มีพี่โซ่ พี่ไม้ แล้วก็คนของ๕xอีกสี่-ห้าคน ที่ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินที่พงษ์กำลังถูกรักษาตัวอยู่ข้างในก่อนตำรวจจะไปเฝ้าพี่ดิวซึ่งกำลังทำแผลอยู่อีกห้องหนึ่ง
“ช็อปไอ้เป้ง” เขาหันกลับไปทางฝิ่นเมื่อได้ยินเจ้าตัวเอ่ยออกมาจึงเห็นว่าในมือฝิ่นตอนนี้กางเสื้อช็อปสีเทาที่เมื่อกี้พาดบ่าประธานสาย๙Tอยู่ เลยไม่รู้ว่าโซ่ที่นั่งอยู่ท่าเดิมยื่นให้เอง หรือฝิ่นเป็นคนฉกมา
ก่อนช็อปช่างยนต์ของ๕xจะถูกส่งต่อไปให้พี่ไม้
“เด็กโทรบอกว่าไอ้พงษ์ใส่ช็อปตัวนี้เข้าไปในบ้านไอ้ดิว พอกูตามไปถึงก็มีกู้ภัยแบกไอ้พงษ์ออกมาจากบ้านแล้ว” ไม้รับเสื้อช็อปของเป้งจากมือฝิ่น แล้วม้วนเก็บไว้ในมือขวา ใบหน้าเรียบเฉยนั่น มองไปยังประธานสาย๙Tซึ่งนั่งอยู่เบื้องหน้าอย่างต้องการคำอธิบาย “และไอ้โซ่ ก็ออกมาพร้อมตำรวจและไอ้ดิว”
แน่ล่ะ คนข้างในห้องฉุกเฉินบอกอะไรในตอนที่ทุกคนต้องการคำตอบไม่ได้ จะมีก็แต่คนที่เหมือนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่นั่งอยู่ตรงนี้นี่แหละ
“ไอ้พงษ์มีช็อปพี่เป้งน่ะของมันแน่ ทั้งที่เราตามหากันแทบตาย แต่สุดท้าย ไอ้เหี้ยพงษ์มันก็เอาออกมาเหยียบเราอีกรอบ” ไอ้โจ้ที่ยืนพิงผนังอยู่พูดแทรกขึ้นมาด้วยอารมณ์
“ไม่มี พงษ์ไม่เคยมีช็อป๕xสักตัว ถึง...ถึง” เขาเม้มปากเก็บกลืนคำพูดที่อยู่ในความคิดของตัวเอง
ถึงพงษ์จะทำร้ายคนของ๕xมาแล้วก็ตาม แต่เขาก็ไม่เคยเห็นว่าพงษ์จะตบช็อป ตบหัวเข็มขัด หรืออะไรของคู่อริกลับมาสักครั้ง
“ไม่เคยเห็นแล้วมึงมั่นใจว่าไม่มีเหรอ?” พี่โซ่พูดขึ้นมาจนเขาไปต่อไม่ถูก “ถึงไอ้พงษ์มันดูโง่ ๆ แต่ยังดีที่รู้จักวางแผนบ้าง เวรกรรมของกูที่ต้องมายุ่งด้วยจะได้ยุ่งน้อยลงหน่อย”
“หมายความว่ายังไงพี่โซ่?” เขาถามโซ่ซึ่งนั่งกระดิกเท้าอยู่ม้านั่งตัวเดิม
“ไม่ใช่หน้าที่กู ที่ต้องพูดกับมึง” ประธานสาย ๙T ผู้ไม่เคยเดือดเนื้อร้อนใจเรื่องคนอื่นยังไง ก็ยังคงแล้งน้ำใจได้ตลอด
“มึงรู้อะไรใช่ไหม?” พี่ไม้ถาม แต่แก้วก็พูดแทรก
“หรือว่า พี่รู้ว่าไอ้พงษ์จะไปบ้านพี่ดิวตั้งแต่แรกแล้ว?” แก้วเดินปรี่เข้าไปหาประธานสาย๙T ขอบคุณในน้ำใจที่พี่โซ่เคยออกตามหาตน นั่นมันก็ส่วนขอบคุณ แต่นาทีนี้ พี่โซ่ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนี้ยังมีหน้ามาทำมึนอยู่ได้
“ต่อให้เป็นคนโง่ ก็ไม่มีคนโง่ที่ไหน เดินไปหาความตายหรอก” ประธานสาย๙Tลุกขึ้นยืนพร้อมจ้องมองเข้ามายังนัยน์ตาเขาเขม็ง “ถ้าได้ไม่คุ้มเสีย หรือถ้าจะเสียก็ต้องได้กลับคืนมาบ้าง แม้แต่มึงเองก็ด้วย ถูกไหม? ไอ้แก้ว!” ด้วยความสูงที่มากกว่า บวกแววตาของประธานสายที่ใหญ่ที่สุดในเทคโนT ทำให้แก้วนึกหวาด ๆ ที่อาจหาญเดินเข้ามาท้าทายคน ๆ นี้เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบเมื่อครู่ แก้วจึงต้องถอยหลังไปยืนข้างฝิ่นซึ่งยืนมองเขาอยู่ตลอดแค่นั้น
อึก...แก้วหลบตาโซ่พลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ส่วนฝิ่นไม่ช่วยอะไรเลย นอกจากเสียง “หึ” เบา ๆ ที่เขาแอบได้ยิน
ไม่ว่าใครก็คิดคำนวณผลของการกระทำไว้ล่วงหน้าทั้งนั้นล่ะ แต่อยู่ที่ใครจะได้หรือเสีย มากน้อยกว่ากันเท่านั้นเอง
เพราะเขาก็เคยคิดอย่างนี้ ไอ้พี่ฝิ่น และพี่ดิวก็คิดอย่างนี้กับเรื่องที่เราลงมือทำมาทั้งนั้น
แต่พงษ์ถูกแทงมา เขาไม่รู้ว่าเจ้าตัวมันได้อะไรตอบแทนมาเหรอ ถึงได้คุ้มกับชีวิตมันที่เอาไปเสี่ยงขนาดนี้
บอกให้เขารักตัวเอง ให้ได้อย่างที่มันหวงแหนชีวิตเขา แล้วทำไมมันไม่คิดว่าเขาก็รักและหวงชีวิตมันเหมือนกัน!
หรือเวรกรรม...ที่พวกเขาเคยทำกับเป้ง๕x กำลังตามสนองแล้ว
คนหนึ่งทำลายชีวิต อีกคนปกปิดความผิดนั้นจนเหมือนเพื่อนทำเรื่องที่ถูกที่ควร ไม่สนใจว่าคนที่จากไป และคนข้างหลังที่ยังอยู่ จะรู้สึกอย่างไร ที่ต้องเฝ้ารอ รอด้วยความหวัง ว่าคนของตน จะมีชีวิตรอดหรือไม่...
“พูดได้เลย” โซ่บอกกับตำรวจที่เดินเข้ามาหา
“คนเจ็บเป็นเพื่อนร่วมสถาบันกับเจ้าของบ้านซึ่งก็มีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะอยู่ก่อนแล้ว เห็นว่าเข้าไปหาเรื่องเขาน่ะ มีการต่อสู้กัน ไอ้นั่นเลยคว้ามีดมาแทงเมื่อได้จังหวะ มันว่าป้องกันตัว เด็กช่างคนอื่นก็อยู่นอกห้องหมด รู้ว่ามีเรื่องก็ตอนที่เราพังประตูเข้าไปนั่นล่ะ” ตำรวจบอกประธานสาย๙T ซึ่งแก้วกับคนอื่น ๆ ได้แค่ยืนฟัง
“พยายามฆ่า” โซ่บอกตำรวจหน้าตาเฉยพลางเอามือล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “คนเจ็บไปเยี่ยมเจ้าของบ้านซึ่งเป็นเพื่อนรักกันมาก แต่คนเจ็บรู้ว่าเจ้าของบ้านเคยฆ่าคนตายเมื่อสองเดือนที่แล้ว ซึ่งตอนนี้ไม่มีหลักฐานอะไรหลงเหลือนอกจากคำให้การของคนเจ็บเอง อ้อ มีดที่ใช้ก่อเหตุวันนี้ยังอยู่สินะ และตอนนี้มันสองคนก็กำลังแตกคอกัน ไอ้เจ้าของบ้านกลัวว่าคดีเก่าจะพลิกจึงพยายามฆ่าคนเจ็บเพื่อปิดปาก”
“อย่างนั้นก็ได้”
“อ้อ รบกวนเอาตัวอย่างมีดไปพิสูจน์หลักฐานกับเรื่องเก่าให้ผมด้วยนะ อันนี้ขอเป็นความลับ”
“ได้ครับ”
“ขอบคุณมากครับหมวด” ประธานสาย๙Tโค้งหัวให้นายตำรวจก่อนที่ผู้หมวดคนนั้นจะเดินออกไปพร้อมตำรวจอีกสองคน
“พี่โซ่?” แก้วมึนงงกับคำพูดโซ่
“จะรื้อคดีมันก็รื้อได้ แต่คนเอาเงินยัดเพื่อให้ลูกตัวเองไม่ต้องรับโทษ ก็ควรเห็นใจตำรวจบ้าง ไม่ใช่ว่าลูกตัวเองพ้นผิด แต่ตำรวจต้องมารับเคราะห์โทษฐานรับเงินใต้โต๊ะแทน ทั้งที่ไม่รับก็ไม่ได้ หึ”
ประธานสาย๙Tเป็นลูกตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แก้วรู้ แต่ไม่รู้ว่าโซ่สามารถสั่งตำรวจได้เหมือนพ่อพงษ์ด้วยเหรอ? แล้ว...คนไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นอย่างโซ่ ยุ่งเรื่องนี้ได้ยังไง?
ถ้าเขาเข้าใจไม่ผิดจากคำพูดโซ่...ดิวเคยฆ่าคนตาย และพงษ์ก็ดันรู้เรื่องนั้นด้วย ดิวจึงทำร้ายพงษ์เพื่อจะปิดปาก
เมื่อสองเดือนที่แล้ว...
“พี่ฝิ่นอย่า!” แก้วดึงแขนฝิ่นไว้เมื่อมันกระชากคอเสื้อโซ่ด้วยสองมือ ก่อนจะแกะมือประธานสาย๕xออก นาทีนี้ ใครก็งงเป็นไก่ตาแตกทั้งนั้น
“แพะ” โซ่มองหน้าฝิ่นพูดขึ้นมาเฉย ๆ “พบเห็นได้บ่อยในหมู่เด็กช่างที่ด้อยประสบการณ์”
สิ้นเสียงโซ่ ไม้ก็เดินหันหลังให้พวกตามด้วยโจ้
“ไอ้โจ้ มึงไม่ต้องตาม” โจ้หยุดกึกตามคำสั่งฝิ่น
“แต่พี่ไม้”
“ปล่อยเขา” ฝิ่นบอก
“หมายความว่า พงษ์ไม่ได้ฆ่าพี่เป้งเหรอพี่โซ่” ใบหน้าที่ยังกังวลใจตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อย “ใช่ไหมพี่โซ่ ผมเข้าใจถูกใช่ไหม?” มือเผลอจับแขนฝิ่นซะแรงเพื่อเค้นเอาคำตอบ แล้วฝิ่นก็แกะข้อมือเขาเอาไปจับไว้แทน
“มึงรู้แล้วนะว่ากูพูดอะไร แต่กูยืนยัน ว่าไม่ได้อยากยุ่งเรื่องพวกมึงเลย” โซ่มองฝิ่นแววตาเฉียบคม
“พี่ฝิ่น พงษ์ไม่ได้ฆ่าเป้ง พงษ์ไม่ได้ทำร้ายใคร พี่ฝิ่น ผม...” ดีใจโคตร ๆ
อยากจะยิ้มแสดงความดีใจที่เพื่อนพ้นมลทินแต่เมื่อหันมองหน้าคนข้าง ๆ ที่ยังดูตึงเครียดก็ต้องหุบยิ้มและเบรกคำพูด เบรกความรู้สึกของตัวเองไว้เท่านั้น
“เออไอ้แก้ว มึงไม่ต้องบอกเรื่องนี้ให้ภูรักรู้นะ ไม่งั้น กูเล่น๕Xแน่” แล้วประธานสาย ๙T ก็เดินกดปุ่มมือถือออกไปจากตรงนี้อีกคน
ขอให้พงษ์ปลอดภัย ขอให้ปลอดภัย นาทีนี้เขาโล่งใจยิ่งกว่าไหน ๆ ที่ความเชื่อใจของเขาที่มีต่อพงษ์ยังคงเชื่อถือได้ พงษ์ไม่ใช่คนไม่ดี พงษ์คงมีเหตุผลอะไรที่ต้องออกรับแทนดิว แต่ในเมื่อพงษ์ไม่ได้ทำร้ายเป้ง เขาก็สบายใจที่จะยืนลุ้นรอพงษ์อยู่ตรงนี้ ด้วยมือที่เปลี่ยนเป็นฝ่ายกอบกุมฝ่ามือฝิ่นที่ตอนนี้คงไม่ต่างจากโดนไม้หน้าสามตีหัว
เขาโล่งใจแม้มันจะเป็นเรื่องดี แต่ก็อยากให้กำลังใจคนข้าง ๆ เช่นกัน
ต่อให้ไม่ใช่พงษ์ แต่...เพื่อนฝิ่นก็ไม่มีวันกลับมา
แม้จะดีใจที่พงษ์ ไม่ใช่ฆาตกร แต่ถ้าพงษ์ไม่ออกรับแทนดิว ๕xคงไม่เจ็บซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า...
.
.
.
“ปลอดภัยแล้วครับคุณลุง แต่ต้องนอนที่โรงพยาบาลไปก่อนให้แน่ใจว่าจะไม่ติดเชื้อครับ” แก้วรายงานผู้ปกครองของพงษ์ โชคดีที่แผลไม่โดนเส้นเลือดใหญ่
“...ลุงกับป้า ฝากดูแลพี่ด้วยนะลูกแก้ว อีกสามชั่วโมงลุงเสร็จงาน แล้วจะรีบบินกลับ”
“ครับ”
“ขอบใจนะลูก” แก้วตัดสายจากพ่อของพงษ์ก็ต้องกดรับอีกสายที่เพิ่งโทรเข้ามาติด ๆ กัน
“ครับคุณพ่อ”
“พ่อเพิ่งรู้จากคุณลุง พี่พงษ์เป็นยังไงบ้างลูก” ปลายสายเอ่ยถาม
“ปลอดภัยแล้วครับ ตอนนี้หมอให้น้ำเกลือ แล้วก็หลับอยู่ครับ” และเขาก็นั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ เตียง ไม่ปล่อยให้ไอ้พงษ์คลาดสายตาได้เลย
“ลูกดูแลพี่ไหวไหม? โทรให้พี่ลูกขวัญมาอยู่เป็นเพื่อนก็ได้นะครับ”
“ไม่เป็นไรครับผมไม่ได้อยู่คนเดียว” เป็นข้อเสนอที่ต้องรีบปฏิเสธ เขาว่า ให้มีแค่เขากับพวกของฝิ่นก็ดีแล้ว
“มีเพื่อนอยู่ด้วยเหรอ?” พ่อถามอย่างแปลกใจ พ่อเคยรู้รึเปล่าว่าต่อให้ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน เขาก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้
“ครับ คุณพ่อไม่ต้องลำบาก เอ่อ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับผมดูพี่พงษ์เองได้”
“พ่อต้องเข้าไซด์งานที่ลำปางยาวเลย” โรงแรมที่พ่อกำลังจะขยายสาขา ย่อมสำคัญกว่าความรู้สึกของเขาเป็นไหน ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ พรุ่งนี้คุณลุงกับคุณป้าก็น่าจะมาถึง คุณพ่อทำงานเถอะครับ”
“เก่งมาก ดูแลตัวเองด้วยนะลูก”
“สวัสดีครับ”
พ่อ...ทำงานของพ่อไปเถอะ เรื่องของเขาและเพื่อนของเขา ไม่มีความสำคัญขนาดที่พ่อต้องหยุดงานเพื่อมาเยี่ยมเลย
“มึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหมเดี๋ยวกูเฝ้าให้” โจ้บอกหลังจากที่เขาวางโทรศัพท์แล้วนั่งเฝ้าดูหยดน้ำเกลือที่ค่อย ๆ หยดทีละนิด ทีละนิด ไหลเข้าสู่หลังมือพงษ์
“..............................” แก้วส่ายหัว
“กลัวกูเอาหมอนกดหน้ามันรึไงวะ?” ไอ้โจ้เย้า มันวางกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ที่เตียงนอนญาติ แล้วเอาถุงกับข้าวไปวางไว้บนโต๊ะทานข้าวของญาติผู้ป่วยซึ่งอยู่ปลายเตียง
“มึงไม่ทำหรอก” พงษ์ไม่ได้มีความผิดอะไรแล้วนี่ เว้นแต่ว่าโจ้มันจะหมั่นไส้แค่นั้น
“เหอะ”
“พี่ฝิ่น พี่ไม้ล่ะ” ถามหาเพราะหลังพงษ์ย้ายจากห้องพักฟื้นคนไข้มาแอดมิดห้องนี้ ฝิ่นก็หายตามไม้ไปเลย ปล่อยให้เขาอยู่กับพงษ์ตามลำพังก่อนที่โจ้จะกลับมาเมื่อกี้
“เคลียร์ทางอยู่ เสียดายที่กูต้องไปเอาเสื้อผ้ามึงกับพี่ฝิ่น”
“พี่ดิวน่ะเหรอ” ถามทั้งที่รู้ ฝิ่นมันไม่ปล่อยง่าย ๆ อยู่แล้ว “แต่เดี๋ยวตำรวจก็จัดการแล้วนี่”
“จัดการแต่เรื่องไอ้พงษ์น่ะสิ เรื่องเก่า ต้องใช้ตีนสะสาง” งั้นฝากเอาคืนหนัก ๆ ให้ด้วยละกัน
แก้วยักไหล่ให้ในเมื่อมันก็ต้องเป็นไปตามนั้น แต่ทำไมพี่ดิวถึงทำกันขนาดนั้นด้วย ในเมื่อโทษของเด็กช่างที่ทำร้ายคู่อริจนตาย ก็ต้องโดนเอาคืนแบบเดียวกัน ไม่ก็น้อยลงมาหน่อย คือเจ็บปางตาย
“โจ้” แก้วหันหลังให้พงษ์ไปคุยกับโจ้ซึ่งนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟา
“อะไร จะพูดอะไรก็พูด” แต่โจ้ไม่เงยหน้าขึ้นมามองเขาเลย
“ตอนที่...ตอนที่พี่เป้งเสีย พวกมึง...คงแทบบ้าเลยใช่ไหม?” เขาถามออกไปพลางหันกลับมาเอามือลูบเข็มน้ำเกลือที่แทงหลังมือพงษ์เบา ๆ
“...พี่เป้ง เป็นเพื่อนสนิทพี่ฝิ่นมานาน เขาเคยกรีดเลือดสาบานเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขร่วมตายกันมา ถ้าไม่คิดว่าจะต้องเอาคืนให้พี่เป้งตามคำพูดของพี่ไม้ที่แค่คิดจะดึงสติพี่ฝิ่นไว้ พี่ฝิ่น...คงมากกว่าบ้า คง...ตายตามกันไปเลยล่ะ” โจ้ตอบเหมือนกำลังพูดเรื่องปกติกันอยู่ เหมือนไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องบาดหมางของพวกเราอย่างที่เคยเป็น นี่ถ้าเขายังอยู่ในสถานะเพื่อนของฆาตกร เราคงไม่มีวันพูดกันอย่างนี้
“แล้วพี่ไม้ กับคนอื่น ๆ ?”
“กูน่ะไม่เท่าไหร่หรอก คนอื่นก็ด้วย ยังไงพี่เป้งก็อยู่ในใจพวกกูเสมอ แต่คนละความสำคัญกับพี่ฝิ่นและพี่ไม้ ...พี่ฝิ่นโวยวายอย่างกับคนบ้า กินเหล้า ดูดเนื้อข้างโลงเป็นเพื่อนพี่เป้งทุกคืนหลังสวดศพ แต่พี่ไม้ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลย ไม่คิดจะเอาคืนอย่างที่ปากบอกพี่ฝิ่นด้วย ชื่อเสียงที่เคยมีมา เรียกว่าตกม้าตายงานนั้นแหละ รัก...จนไม่กล้าคิดทำอะไร เพราะรู้แล้วว่าเป็นยังไงเมื่อต้องเสียคนที่ตัวเองรักไป” น้ำเสียงโจ้ฟังดูแผ่วไป เขาไม่กล้าหันไปมอง
“รักยังไง?”
“รักก็คือรัก ไม่มีอย่างไหนยังไงหรอก” ฝิ่นเดินเข้ามาในห้อง พูดด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงนิด ๆ คงได้ยินที่เขาคุยกับโจ้แล้วไม่ชอบใจ อาจเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว
แต่ไอ้ที่ฝิ่นตอบ นั่นมันคือรักที่เขาให้ความหมายมาตั้งนานแล้ว ที่ถามน่ะหมายถึงพี่ไม้มีอะไรกับพี่เป้งรึเปล่าต่างหาก ความรู้สึกของพี่ไม้น่ะ นิ่งเฉยแต่ก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดทุกครั้งที่เอ่ยเรื่องพี่เป้งขึ้นมา
“เป็นยังไงบ้างพี่” โจ้ถามแล้วขยับให้ลูกพี่มันนั่ง
“เสียค่าปรับคนละห้าร้อย กูกับพี่ไม้ จบ ไอ้ดิวนอนอยู่ชั้นสาม”
“จบเลยเหรอพี่”
“ฆ่ามันให้ตาย ไอ้เป้งก็ไม่ฟื้นขึ้นมา” ฝิ่นบอกโจ้ แต่มองหน้าแก้ว “มึงกลับบ้านไปได้ละโจ้ เขาให้เฝ้าแค่สองคน” ออกปากไล่โจ้พลางแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาของตัวเอง
“พี่ไม้ล่ะ”
“กูไปส่งบ้านแล้ว”
“อ้าว แล้วไม่บอกตั้งนานวะ งั้นตามสบายนะพี่ ผมเช็คทั่วห้องแล้วไม่มีกล้องวงจรปิดหรอก”
“ไอ้เหี้ย” ฟุ่บ!! เสื้อตัวนอกที่ฝิ่นเพิ่งถอดถูกโยนตามหลังโจ้ที่เดินหัวเราะแหะ ๆ ออกจากห้องไป แก้วเลยต้องลุกไปเก็บมาให้
“หืม? มีอะไรรึเปล่า?” แก้วเลิกคิ้วถามคนที่นั่งมองหน้าเขาอยู่
“ถ้าไอ้พงษ์ทำให้มึงเกาเดาไหลนะ” ฝิ่นมองหน้าอย่างหาเรื่อง พลางเอื้อมมือมาดึงแขนเขาจนเขาต้องนั่งลงข้าง ๆ
ทำไม ถึงไม่พูดเรื่องเป้งนะ?
แต่ก็ดีแล้ว ไม่พูดถึงก็ดีแล้ว ในเมื่อมันไม่ใช่ความผิดของพงษ์ แก้วยินดีที่ฝิ่นจะเลิกคิดเรื่องนี้อีก
“หึ โทษไม่หนักใช่ไหมล่ะ ถ้าไม่หนักมากผมจะยอมให้พี่เล่นงานมันได้” โทษฐานที่พงษ์ ทำให้ฝิ่นเป็นคนเลวร้าย ทั้งที่จริง...เขาไม่กล้าคิดว่าฝิ่นไม่เลว เพียงแต่ว่า...ที่มันเลวกับเขาเพราะมันมีสาเหตุ ถ้าหากฝิ่นจะสั่งสอนพงษ์นิด ๆ หน่อย ๆ เขาก็พอรับไหวน่า
“กูหมายถึงแค่ ถ้ามันทำให้มึงเลือดกำเดาไหล เรื่องอื่นช่างแม่งเถอะ”
“ผมใจคอไม่ดีถ้าหากว่าพงษ์อาการแย่ แต่ความเครียดของผมมันก็น้อยมาก เพราะมีพี่อยู่ด้วย” เขาพูดความจริง ก่อนหน้านี้เขากระวนกระวายใจอยู่ก็ไม่เป็นสุข แต่เพราะรู้ว่ามีฝิ่น อีกด้านที่แย่ก็ยังมีคนคอยถ่วงน้ำหนักไว้
“เฮ้อ มึงนี่นะ” ฝิ่นเอามือปัดปอยผมที่ปิดตาเขาออกให้ “กูไม่เคยพลาด และกูก็ไม่อยากพลาดที่สุดในชีวิต แต่มึง แม่งทำให้กูพลาด และสุดท้ายกูก็พลาดเอง...จนได้”
“......................” เขาก้มหน้าหรุบสายตาลงต่ำ ไม่กล้าจริง ๆ ไม่กล้าสบตาฝิ่นทุกทีสิน่า นัยน์ตาที่สะกดให้คล้อยตาม นัยน์ตาที่เด็ดเดี่ยว จริงจังแกมบังคับ ทุกเรื่องต้องตามนั้นเสมอ ยิ่งมันพูดจาด้วยท่าทีจริงจังปนดุทีไร เขาแทบอยากหายตัวไปซะตอนนั้น
เหมือนมันกำลังจะโยนความผิดมาให้
แต่ทำใจเขาเต้นตึกตักทุกที
“แต่วันนี้กูรับความผิดพลาดของตัวเองได้ เพราะอะไรมึงบอกกูได้ไหม?” น้ำเสียงเข้มแต่ไร้แววดุเอ่ยออกมา มือมันคงว่างเกินไปจึงได้เชยคางเขาขึ้นจนเขาต้องจำใจมองหน้ามัน
“...ผม” ปากบางเม้มเข้าหากันด้วยความไม่กล้าออกความคิดเห็น
“เพราะมึงไง” คนตรงหน้าโอบกอดเข้ามาจนกระดูกเขาอยากจะหักเสียให้ได้ แต่ไม่ยักอยากผลักหน้าอกมันออกแฮะ แก้วซบหน้าลงที่บ่าไหล่ฝิ่น สองมือเอื้อมโอบคนตรงหน้าตอบพร้อมรอยยิ้ม “พลาด แต่ได้มึงมา บอกไว้รอบที่ล้านเก้าเลยนะ กูไม่ยอมให้มึงรักใครหน้าไหนที่ไม่ใช่กูเด็ดขาด”
“ฮึก ผมอยากกอดกับพี่อย่างนี้มานานแล้ว กอด...โดยที่ใจของเราไม่มีอะไรมาถ่วง” สุดท้าย วันนี้ก็มีจริง
ฝิ่นลูบผมพลางโยกตัวเขาเชิงปลอบ ก่อนค่อย ๆ ผละออกไป
“เมื่อก่อนร้องไห้บ่อยอย่างนี้รึเปล่าวะ ลูกผู้ชายเขาห้ามร้องไห้เกินสามครั้งหรอกนะ”
แก้วส่ายหน้า “พงษ์มันบอกมาตั้งนานแล้ว แต่ผมไม่เห็นด้วยหรอก พี่ฝิ่นก็...อย่าห้ามผมเลยนะ”
ถ้าเราจะซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง จะแสดงออกมาอย่างไหน ก็ได้เมื่ออยู่กับคนนี้ เพียงแต่ว่า เมื่ออยู่กับพงษ์เขาต้องเข้มแข็งให้ได้ต่างหาก น้ำตาที่ควรจะไหลบ้างเพื่อให้ได้ปลดปล่อย จึงถูกเก็บกักไว้แทน
“หึ มึงก็สั่งกูจัง” ฝิ่นคลี่ยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ แล้วเขาไปสั่งอะไรตอนไหน?
“อยู่กับพี่ ผมสามารถทำอะไรก็ได้ที่เป็นผม” ทำอะไรก็ได้ ที่ตรงกับความรู้สึกของตัวเอง ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ หรืออยากจะจองหอง...เขาก็ทำได้ เหมือนที่เคยโดนว่า ว่าอวดดีทั้งที่ไม่มีอะไรให้อวด ก็เพราะว่าทำได้ ด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ ติดเกรงใจจนเคยชิน
ไม่ใช่ว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ไม่ดี แต่พงษ์เป็นพี่ที่ต้องการให้เขาเข้มแข็งเพื่อที่จะยืนหยัดอยู่ให้ได้ แต่ในบางครั้ง เขาก็อยากแสดงความอ่อนแอออกมาบ้าง แต่ต่อหน้าพงษ์มันทำไม่ได้
“ก็ตามสบายสิ” คนตรงหน้าดูเหมือนจะชอบใจถึงกับโน้มใบหน้าเข้ามาคลอเคลียใกล้ใบหู มือหนึ่งกอดเอวอีกมือพลางจับหน้าเขาไว้เมื่อเขาจั๊กจี้กับไรหนวดของฝิ่นและไอร้อนที่ปะทุขึ้นมาทั่วตัวจนอยากเบี่ยงตัวหลบหนีแต่กลับยังนั่งเอียงคอน้อย ๆ ให้ฝิ่นคลอเคลียไล่เลียเล่นจนเลยเถิดให้ริมฝีปากฝิ่นจูบแผ่วเบาเข้ากับริมฝีปากตน แต่ดูดเม้มเหมือนแกล้งเล่นเพียงแค่ริมฝีปากเขาเท่านั้นพอเขาจะสัมผัสตอบ มันดันผละออกซะอย่างนั้น “อยากจูบใช่ไหมล่ะ อยากจูบก็จูบกูก่อนสิ” คำท้าทายที่ช่างฟังดูเชิญชวนจนเครื่องปรับอากาศที่โรงพยาบาลนี้ไม่ช่วยอะไรเลย
หน้าผากของทั้งคู่ยังคงชนกัน ประธานสาย๕xยักคิ้วให้เชิงถามว่าจะเอายังไง แก้วจึงประกบริมฝีปากตนเข้ากับริมฝีปากฝิ่นเอง ก่อนจะดุนลิ้นไปสัมผัสกับเรียวลิ้นของคนตรงหน้า
“แค่ก! แค่ก แค่ก”
แก้วหยุดชะงักเมื่อหูได้ยินเสียงไอ
แต่ฝิ่นยังไม่หยุด มันยังตวัดเรียวลิ้นเล่นทั้งดูดดุนอย่างไม่สนใจโลก
“แค่ก! แค่ก!”
“อืม...พี่ฝิ่นพอก่อน” จับมือที่ประคองหน้าตัวเองออกแล้วดันหน้าฝิ่นออกก่อนหันไปหาต้นเสียงที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้แล้วรีบผละออกจากฝิ่นไปยืนข้างเตียงด้วยใบหน้าที่ยังร้อนฉ่า
“รู้สึกตัวแล้วเหรอ หิว หิวน้ำไหม? เจ็บแผลรึเปล่า” ถามตะกุกตะกัก มือไม้ไม่รู้จะหยิบจับอะไรก่อนดี
“.........................”
“หา?” พงษ์พูดอะไรไม่รู้
เขาได้ยินไม่ถนัดจึงเอียงหูเข้าไปใกล้ ๆ ฟังเสียงพงษ์ที่เปล่งออกมาให้ได้ยินแค่เสียงกระซิบ
“...อย่าดูดปากกันต่อหน้ากู”
“เอ่อ...”
เขาคงต้องซื้อเครื่องปรับอากาศมาติดให้โรงพยาบาลนี้แล้วล่ะ
....................................
ขอโทษที่ช้านะคะ
อ้อ ถ้ามึนอีกก็บอกมาได้เลยนะคะ คนเขียนจะได้รู้ว่า ปรับปรุงไปได้หรือยังไม่ได้ เท่าไหร่แล้ว
โอยย ในที่สุดพงษ์ก็ยังไม่มีแรงพูดอะไร(มาก) ขอยกยอดไปตอนหน้าสำหรับที่ยังค้างอีกนิดหน่อยในส่วนขยายก้อนเมฆที่อึมครึม คงให้ใครพูดแทนไม่ได้ รอพี่พงษ์สมประกอบหน่อยนะจ๊ะ ฮ่า และรู้ว่าต้องขยายในส่วนของพี่โซ่สุดที่รักของคนเขียนด้วย คนเขียนมันเก็บกวาดช้าเหลือเกิน :-[ ...<<<ยังจะกล้าเขินอีก
สวัสดีคนที่เพิ่งตามทันด้วยค่ะ
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงวันนี้ (พูดอย่างกับจะไปประกวดนางสาวไทย) กอด ๆ จุ๊บ^^
-
จะเอาใจคนป่วยหรือเอาใจคนมาเฝ้าคนป่วยดีแก้ว
-
อยากให้มีฉากกุ๊กกิ๊กแบบนี้อีกอ่า น้องแก้วกับพี่ฝิ่นน่ารักอ่าา :o8: :o8:
ดูดปากกันในที่ลับก็ได้ แหม อิพี่พงษ์ ปล. หวังว่าคนเขียนจะช่วยไขความกระจ่างให้กับคู่ ไม้ ขวัญ ด้วยน้า :impress2: :impress2:
-
ฮิ้วววววว
เพราะอย่าดูดปากต่อหน้ากู มันได้ใจมั่ก
โฮยยยย ไม่ไหวท้องแข็งด้วยความสุขและฮา ชอบๆๆๆๆๆ
โจ้ตัวดี คนป่วยล้นจะตายมิตาย เหตุการณ์ตึงเครียดขนาดดันบอกไม่มีวงจรปิด
เรารักนายว่ะโจ้ 555 o13
-
อย่างงี้เค้าเรียกช้าแต่ชัวร์ของเค้าดีจริงๆ
"อย่าดูดปากกันต่อหน้ากู”
คาดว่าถ้าดีกันแล้วและอยู่ไปนานๆคงมากกว่านี้ที่จะเห็นนะพี่พงษ์5555555555
เมื่อทุกอย่าคลีคลาย
ขอให้รักกันไปนานๆนะคะ
-
:o8:ชอบตอนหวานอ่ะน่ารัก
-
ฮิ้ว!!!!~
ประโยคสุดท้ายตกม้าตายกันเลยทีเดียว
เขิน~~~~~~ กรี๊ด!!~
ชอบๆๆๆๆ :-[
-
"...อย่าดูดปากกันต่อหน้ากู"
อร๊ายยยยยยยยย~~
กรี๊ดคำนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เค้ากำลังหวานกันอยู่แท้ๆเชียว
พี่พงษ์จะมาฟื้นอะไรตอนนี้เล่า
พี่โซ่ คือมหาบุรุษผู้กุมความลับ เข้มได้อีกเพ่!!!!
ดีใจที่พี่พงษ์ไม่ได้ฆ่าพี่เป้ง ดีจังเนอะแก้วเนอะ
-
ไม่ไหวแล้ว
ต้อง
ไป
ซื้อเครื่องปรับอากาศ
มาติดเพิ่ม
ที่บ้านด้วยเหมือนกัน โฮกกกกกกกกกกกกก เขินแทน 5555555555555555555555
อ่านคอมเม้นต์ทุกคนแล้ว
พบว่าตายกันเป็นหมู่คณะด้วยประโยคนี้จริงๆ "อย่าดูดปากกันต่อหน้ากู"
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกส์ ดิ้นๆๆๆๆ เค้าชอบจังเลยอ๊ะ!!!!
-
:laugh: :laugh: :laugh:
พงษ์อิจฉาเหรอ
-
“...อย่าดูดปากกันต่อหน้ากู”
:m20: :m20: :m20: :m20: :m20:
พงษ์แม่งได้เห็นของดี
อิจฉาๆๆๆ
-
5555
โคดชอบประโยคของพงษ์
-
อยากได้ฉากที่แบบว่า แบบว่า แบบว่า ..... :-[
กระทืบไอ้ดิวน่ะ :laugh: :laugh: :laugh:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดด
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อยากจูบก็จูบก่อนสิ
ชอบมากกกกกกกกกก แล้วตอนที่พงษ์ไอแล้วฝิ่นยังไม่หยุดนี่ก้ยิ่งเท่ห์ไม่ไหวแล้ว
จัดซะเต็มหน่วย คนอ่านเขินเองเลยจ้ะ
-
พงษ์ไม่ชอบดู...แต่เราอยากเห็น 555
-
อร้ายยยยยยยยย
เขินแทนแก้ว แหมฝิ่นก็ประกาศซะขนาดนั้น
พงษ์คงจะฉุนน่าดูนะที่ฝิ่นจูบลูก(สาว)ต่อหน้า 555555
-
พงษ์จะรีบฟื้นมาทำไมตอนนี้
อร๊ายยยย เขินแทนลูกแก้ว :-[
-
พงษ์ ไม่ให้ดูดปากต่อหน้า แต่ทำอย่างอื่นได้ใช่ป่ะ
:z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
-
ดีจัง พงษ์ไม่เป็นไร :mc4:
-
:L1:
-
บอกได้คำเดีียวว่า "ชอบมาก" :bye2: :bye2: :bye2:
-
พงษ์อะทำไมต้องตื่นขึ้นมาเจอฉากเด็ดด้วย แถมพูดซะ เขินเลย~ ^///^
-
กรี๊ดดดด..... ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่คนแต่งมาต่อ
เอ๊ย!! ไม่ใช่ วันที่สองคนกอดกันได้อย่างสนิทใจต่างหาก อิอิ
ชอบมากโมเมนต์ที่ที่กอดกันแล้วสองคนสบายใจ ไม่มีความเคลืองใจอะไรอีก
แต่ก็ต้องมีพงษ์อีก ยังไงก็ต้องคุยให้รู้เรื่อง
แต่ประโยคของพงษ์อ่ะ ชอบนะ อิอิอิอิ
-
พี่โซ่กำความลับอยู่ตั้งนาน ไม่บอกกันบ้าง
ฝิ่นเวอร์ชั่นหวานแม้แต่พงษ์ยังอิจฉา อิอิ
-
พงษ์ก็ ไม่น่าขัดจังหวะเลย
-
คนป่วยรีบหายไวๆนะ จะได้มาเป็นคู่กัดกับพระเอกของเรา
-
น่ารักที่ซู๊ดดดดดดดด
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
มาต่ออีกเร็วๆนะคร้าบบบบบบบ
-
พงษ์ที่ไอขึ้นมาเนี่ยเพราะอะไร เพื่อจะบอกว่าฟื้นแล้ว หรือเพื่อขัดจังหวะเนี่ย ดีแล้วที่พงษ์ไม่เป็นไร
-
ดีใจจัง พงษ์ไม่เป็นไร พี่โซ่มาทีไรประมาณทุกๆคนต้องหลบ คนขโมยซีนของแท้มาเอง :m20: อยากอ่านตอนพิเศษของพีโซ่กับพี่ภูจังค่ะ แต่พระเอกแท้ๆจริงต้องพี่ไม้ค่ะ พระเอกตลอกเรื่อง o13 ประมาณเท่ห์สุดๆ หาแฟนให้พี่ไม้เถอะค่ะ อย่าปล่อยให้เศร้านานเลยค่ะเดี๋ยวเฉา พงษ์สนใจอยากเป็นแฟนพี่ไม้ป่ะ (พี่ฝิ่น:z6: ข้อหาหมั่นไส้ เนื่องจากชื่นชมคนอื่นมากไป)5555
-
แอบหวานกันตอนท้าย
แหม...พงษ์ก็ดันตื่นขึ้นมาขัดจังหวะอีก :m16:
-
โอ้วว กว่าจะหวานกันได้ :impress2: :-[
-
โด่ พงษ์ :m12:
อิจฉาดิ
:m20:
-
ไม่ทราบว่าคนแต่งสนใจจะให้ไม้คู่กับพงษ์บ้างไหมคะ อยากให้คู๋กันจังเลย แล้วอย่าเอาพงษ์หรือไม้ไปคู่กับนังลูกขวัญนะเสียของหมด ฮิๆๆๆ
-
จะมีฉากฝิ่นกะพี่ไม้ไปกระทืบดิวมั้ย เค้ารอฉากนี้อยู่นะ o18
-
:pig4: :pig4:
-
ขออนุญาตฮา
เรื่องราวกำลังเข้มข้นและค่อยๆ คลี่คลาย ขอขำตอนท้ายนิดนึงกับพงษ์
"....อย่าดูดปากกันต่อหน้ากู"
ดีใจมากกกก พงษ์ปลอดภัย และดิว ก็ได้รับการชำระความก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
หวังว่าจะสามารถรื้อจนถึงคดีเก่าได้ เคลียร์แค่ใจมันไม่พอ อยากให้เคลียร์ไปจนถึงคดี
แต่ก็ไม่รู้อีกน่ะแหละ ว่าตำรวจไทย จะสาวไปถึงไหนกันละหนอ
อ่านแล้วรู้สึกดีมากค่ะ ที่แก้วบอกว่าสามารถกอดได้โดยไม่ต้องมีอะไรในใจ
และฝิ่นก็พูดความในใจออกมาได้เต็มปากเต็มคำแล้ว
ที่เหลือคงต้องให้กำลังใจพี่ไม้ ไม่ว่ายังไง เป้งก็ไม่กลับมา
แต่ก็จะรอลุ้นค่ะ ว่าใครที่จะมาดูแลพี่ไม้ :กอด1:
ปล. ฝิ่นแก้ว หวานกันสักทีนะ ^ ^
-
อ่านมา 3 วันเต็มๆในที่สุดก็ตามทันสนุกมาก o13 o13 o13 o13
-
และแล้ว แก้วก็มีความสุขกะเค้าซักที แม้จะยังไม่มากเพราะพงษ์ยังเจ็บอยู่ แต่ก็ได้เคลียร์ในสิ่งที่ค้างในใจของตัวเองและฝิ่นไปแล้ว
รอว่าพงษ์จะบอกคนอื่นว่ายังไงต่อไป และไอ้ดิวจะตามล้างแค้นอะไรต่ออีกมั้ย คนอย่างมันไม่น่าจะยอมจบง่ายๆ นะ
-
“...อย่าดูดปากกันต่อหน้ากู”
:m20: :m20: :m20:
-
งานนี้บุคคลแล้งน้ำใจก็ต้องออกโรงช่วย
พี่โซ่ทำมั้ย?ถึงไม่อยากให้พี่ภูรู้นะ อยากรู้จังเลย ฮ่าๆ
แต่ก็ดีที่พงษ์ไม่ได้ฆ่าเป้ง ดีที่แก้วไม่มีอะไรถ่วงในอกอีก
พี่ฝิ่นคะ? ตอนนี้น่ารักไปมั้ย แอร๊ยยย เขินแทนน้องแก้ว
แต่พงษ์น่ะสิ่มาขัดจังหวะ ฮึ้ย!!
อยากอ่านต่อแล้วค๊า พี่ซีซั่น กรี๊ดดด ฟินมากๆ
-
พงษ์ ที่ไอ ก็เพื่อขัดจังหวะนี่เอง หุหุ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดด
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อยากจูบก็จูบก่อนสิ
ชอบมากกกกกกกกกก แล้วตอนที่พงษ์ไอแล้วฝิ่นยังไม่หยุดนี่ก้ยิ่งเท่ห์ไม่ไหวแล้ว
จัดซะเต็มหน่วย คนอ่านเขินเองเลยจ้ะ
:impress2: :impress2: บึ๋ยยยยยยยยยยย :man1: :man1: อั๊ยย๊ :z13: :z13:
(http://www.sportzeed.net/webboard/Smileys/default/fw20.gif) (http://www.sbothailand.net)(http://www.sportzeed.net/webboard/Smileys/default/fw20.gif) (http://www.sportzeed.net)(http://www.sportzeed.net/webboard/Smileys/default/fw20.gif) (http://www.newsportpro.net)sports
-
อ่านมาตั้งนานมีตอนนี้แหละที่น้่ารัก :impress2:
-
ของฉากหวานได้ไหม
อยากให้ฝิ่นกับแก้วหวานใส่กันอะ
อยากอ่าน nc ด้วยอะ
-
ช็อกตายประโยคสุดท้ายอ่ะ วะฮะฮะฮ่า 5555 ตื่นมาก็ขโมยซีนเลยนะพงษ์ แต่ดีใจนะที่ไม่เป็นอะไร ^_^ และดีใจที่พงษ์ไม่ได้ฆ่าเป้ง แค่นี้ฝิ่นกับแก้วก็ไม่มีอะไรในใจต่อกันแล้ว
แต่รู้จะหวานผิดที่ไปหน่อยนะ สงสัยคนป่วยมดโดนมดกัด เลยรีบฟื้นมาห้ามเลย 555
ชอบหวานๆแบบนี้อ่า >< รอตอนหน้าค่า
-
พงษ์หวงน้องใช่ไหมล่ะ
งานนี้อีพี่ดิวรับเละ สม
น้ำหน้าจริง ๆ o22
-
อย่าดูดปากกันต่อหน้ากู นว่ออออออ ประโยคนี้เป๊ะอ่ะ 5555
ยิ่งอ่านยิ่งซึ้งยิ่งน่ารักกันทุกคนเลย แอร๊ยยยย ><
-
พงษ์หวงน้องอีกละ
แต่หวานกันจริงนะสองคนนั้น
-
กรี๊ด~~~~!!!
น่ารักอ่ะ ตอนนี้
แล้วก้อดีแล้วที่พงศ์ยังไม่ตาย
^_____________^
-
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย
กรี๊ด เขิน!! อ๊ากกกกกกก
คีย์บอร์ดแทบพัง!! พงษ์เอ๊ย! ถ้านายช้ากว่านี้อาจจะต้องเปลี่ยนประโยคเป็น
"อย่ากดกันต่อหน้ากู"
แน่ๆอ่ะ โฮกกกกกกกกกก ฝิ่น แก้ว ร้อนแรงไปๆๆ
:oo1: :oo1: :oo1:
-
ชอบตอนนี้มากที่สุดเลย :laugh:
-
กรี๊ดๆๆ..อยากไปสิงในห้องนั้นมั่งจัง เผื่อได้เห็นอะไรดีๆแบบพงษ์..
น้องแก้วกับพี่ฝิ่นน่ารักมากๆ
-
เพิ่งตามทันฝากตัวด้วยนะคะ
.
.
ตอนนี้หลายอารมณ์ เปิดฉากมาเศร้าเลย T.T กลางๆเรื่อง เขิน >///<
เกือบจะจบฮาตรงเสียงไอนี่แหละ กรั่กๆๆ
ปิดท้ายด้วยประโยคเด็ด 555
ชอบ o13
-
เพิ่งตามทันฝากตัวด้วยนะคะ
.
.
ตอนนี้หลายอารมณ์ เปิดฉากมาเศร้าเลย T.T กลางๆเรื่อง เขิน >///<
เกือบจะจบฮาตรงเสียงไอนี่แหละ กรั่กๆๆ
ปิดท้ายด้วยประโยคเด็ด 555
ชอบ o13
-
ในที่สุดเรื่องก็คลี่คลาย ฝิ่นกะพี่ไม้ก็ขอยำ :z6: ส่งท้ายแล้วหายกันไป
:o8: กำลังหวาน คนป่วยก็ฟื้นขึ้นมาให้ดูแล แถมด้วยประโยคเด็ด
"อย่าดูดปากกันต่อหน้ากู" ถ้าไม่ต่อหน้านี่ได้ใช่ปะ o18
-
เอ่อ...ขอโทษขอโพยคนอ่านล่วงหน้าก่อนนิดนึงนะคะ แหะ ๆ ...ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะเลวอย่างนี้T^T
แต่นิยายเราเฮฮาปาจิงโกะใช่ไหมคะ อ่านจบแล้วอนุญาตให้เบิ๊ดหัวนางได้ กร๊ากกก
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๙
แก้วลุกไปกดปุ่มปรับระดับเตียงเพื่อให้พงษ์สามารถลุกขึ้นมาทานข้าวได้
“ซี๊ด พอ ๆ” พงษ์ยกมือบอกให้หยุด
“เจ็บแผลเหรอ เอายาชาอีกไหมพยาบาลบอกว่าขอได้นะ” แก้วบอก เห็นว่าพงษ์หน้าตาดูเหยเก
“ไม่เจ็บหรอก ไหนดูซิเขาเอาอะไรมาให้กูกินบ้าง” มันตอบหน้าบูดหน้าเบี้ยวแล้วเอามือออกจากแผลก่อนหยิบฝาที่ปิดภาชนะใส่อาหารของโรงพยาบาลเปิดออก พลางเบ้หน้า “แหวะ”
“ฮะ ๆ” แก้วหัวเราะ จนพงษ์แยกเขี้ยวใส่
“อาหารหมายังดูน่ากินกว่า นี่กูจ่ายค่าห้องคืนละร้อยห้าสิบเหรอวะ”
“เลือกไม่ได้ว่ะยังไงก็ต้องกิน ทนกินจืด ๆ ไม่กี่วันหรอกน่า” พงษ์ไม่ชอบอาหารรสจืด แต่ที่เปิดมานี่มีแค่ข้าวต้มปลาซึ่งไม่มีซองเครื่องปรุงติดมาด้วยเลยสักห่อ
“เออ ๆ ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว น้ำล้างจานยังกินมาแล้วเลย”
“พูดไปโน่น” แก้วส่ายหน้าให้กับความขี้โม้ของพงษ์แล้วหยิบช้อนมาตักข้าวต้มที่ไร้เครื่องปรุงแล้วเป่า
“กินเอง ๆ” พงษ์บอกพลางเอามือแตะข้อมือเขา เขาจึงส่งช้อนให้เจ้าตัวแล้วถอยไปนั่งที่เตียงมองมันกินอาหารมื้อเช้าที่ปาไปเก้าโมง
ยาชาน่าจะหมดฤทธิ์แล้ว ตอนหน้าผากกระแทกโขดหินได้แผลมานิดเดียวยังเจ็บจี๊ดเลย แล้วนี่ทั้งโดนผ่าทั้งโดนเย็บทั้งแผลภายในภายนอก ...ไม่เจ็บเลยจริง ๆ เหรอ?
“เฮ้อ...” แก้วส่ายหน้าให้คนชอบหนีความจริง
“ไอ้ฝิ่นล่ะ?” พงษ์ถาม มือตักข้าวต้มเข้าปาก ตามองโทรทัศน์
“ไปวิทยาลัยตั้งแต่เช้า”
“อืม”
“...อืม?” เขาทวนคำของพงษ์ “มีอะไรรึเปล่า” ปกติไม่เคยถามถึงนี่
“เปล่า!” เปล่า แต่ขึ้นเสียง...
“เอาล่ะ น่าจะตื่นดีแล้ว ข้าวก็กินเองได้ งั้นอธิบายได้รึยังพงษ์” ไม่มีใครรู้ดีและเขาซักได้ทุกคำเท่ามันแล้ว ในเมื่อเรื่องมาเกิดอย่างนี้ ยังไง ๆ ต้องบังคับเอาคำตอบจากมันให้หมดให้ได้
“ไอ้โซ่มันว่ายังไงบ้างล่ะ?” ถาม? นี่เขาถามมันก่อนนะ
“พี่ดิวฆ่าพี่เป้ง” แก้วตอบเสียงห้วน มือกอดอก มองไอ้คนที่กำลังกินข้าวตาขวาง
“เอาไว้พูดกันทีเดียว”
“เฮอะ? ไม่เอา บอกมาเลย ยังไง ๆ เขาก็รู้กันหมดแล้ว แค่...แค่ยังคาใจเล็ก ๆ เอง” แก้วโวย แต่ไอ้พงษ์ยังดูโทรทัศน์อยู่อย่างนั้น ฟังรึเปล่าก็ไม่รู้
ฟึ่บ!
หยิบรีโมทมากดปิดซะเลย
“ตัวเล็ก กูไม่ใช่ผู้ชายสมบูรณ์แบบอย่างที่ลูกผู้ชายควรจะเป็น มึง...” โอเคมันเลิกดูโทรทัศน์แล้ว เพราะเขาปิดไปแล้ว แต่มันมองถ้วยข้าวต้ม มองช้อนแทนแล้วก็พูดน้ำเสียงนิ่ง ๆ
“กูมีมึงอยู่คนเดียว” เขาพูดสวน
พงษ์ไม่จำเป็นต้องเป็นวีรบุรุษกู้โลก แค่มันเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นส่วนสำคัญในชีวิตเขาเหมือนเก่า แค่นั้นก็มากพอแล้ว
“มีกูสองคนก็แปลกแล้วล่ะ”
“พงษ์...” น้ำเสียงยาน ๆ ของเขาบวกกับลุกไปยืนท้าวเตียงคนไข้ทำให้พงษ์ตลกไม่ออกอีก “ถ้ากูเดาไม่ผิด มึงออกรับแทนพี่ดิวมันเกี่ยวกับกูใช่ไหม?”
“..............................” เงียบ
“นั่นไง” มีไม่กี่เหตุผลที่พงษ์จะทำอะไรแต่ละอย่าง “พี่เป้ง เคยทำกูยังเป็นเรื่องจริงสินะ” ถามเพราะไม่มั่นใจ เขาไม่เคยจดจำใบหน้าว่าใครเคยตบช็อปเขาเลย เพราะมันไม่ใช่เรื่องจำเป็นในชีวิตขนาดนั้น
“ไม่ว่ากูจะเหลวไหลยังไงมึงก็เข้าข้างกู” มันพูดในสิ่งที่มันแน่อยู่แล้ว
“ไม่ใช่เหตุผลเลยพงษ์ กูไม่ดีใจหรอกนะถ้ามึงจะชั่วเพราะกูน่ะ แต่กูจะโทษมึงได้ยังไงในเมื่อมึง...แม่งเว้ย!” พูดไปก็เข้าตัว
“เลิกพูด ไปล้างหน้าไป”
“พงษ์?!”
แต่มันก็ไม่ยอมพูดอะไรต่อ
แก้วเดินฟึดฟัดเปิดประตูกระจกออกไประเบียง หยิบผ้าขนหนูที่ตากไว้เมื่อคืนแล้วเดินกลับเข้าห้อง
“งั้นกูอาบน้ำเลยนะ” สะบัดน้ำเสียงบอกมัน เห็นไอ้พงษ์พยักหน้าให้ แก้วจึงเดินเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่อีกด้านของเตียงและปิดประตูเสียงดังใส่ ปัง!
หวังว่าที่พี่ดิวฆ่าพี่เป้ง คงไม่ใช่สาเหตุเพราะพี่เป้งทำเขาหรอกนะ
สายน้ำจากฝักบัวไหลรดศีรษะลงไปตามร่างกายจรดปลายเท้า ถ้ารอจนกว่าฝิ่นกลับมาแล้วพงษ์จะเปิดปากพูดทุกอย่างที่ปิดไว้ไหมนะ แล้วเขา...จะมีส่วนต้องรับผิดชอบอีกรึเปล่า ถ้าต้นเหตุยังมาจากเขาที่ทำให้พงษ์ต้องออกรับแทนพี่ดิว แล้วเขา...ยังจะมีความผิดเกี่ยวกับการตายของพี่เป้งรึเปล่า หากยังเป็นอย่างนั้น เขาจะมองหน้าพี่ฝิ่นติดเหรอ
...สบายใจได้แค่ข้ามคืนเท่านั้นเองเหรอ?
เคร้ง!!
แก้วปิดฝักบัวเพราะได้ยินเสียงดังผิดปกติเหมือนมีอะไรหล่นลงพื้น
แต่พอไร้เสียงน้ำกระทบพื้นกลับไม่ได้ยินเสียงอะไร
บางทีเขาอาจหูแว่วไปเอง แก้วจึงเปิดฝักบัวอีกครั้งเพื่อล้างยาสระผมออกให้หมด
“แก้ว! แก้ว!”
“มีอะไร!” แก้วตะโกนถามพงษ์หลังปิดฝักบัวเป็นครั้งที่สองเพราะอาบน้ำเสร็จแล้ว
“อย่าออกมา อย่าออกมา!”
อะไร?!
“อ๊าก!! อย่าออกมานะ อย่าออกมา!” เสียงตะโกนสั่งห้ามคล้ายคนเจ็บปวด เขาร้อนใจเกินกว่าจะทำตามที่มันสั่ง แก้วรีบหยิบผ้าขนหนูมาพันเอวแล้วเปิดล็อกกลอนประตูห้องน้ำออกอย่างเร็วเพราะไม่รู้ว่าพงษ์เป็นอะไรไปแต่ฟังจากน้ำเสียงดูท่าจะไม่ดีเอาซะเลย
“เป็นอะไรรึเปล่าพงษ์! อ๊ะ!”
“หึ!”
“พี่ดี...” แก้วตาเบิกโพลงเมื่อเห็นมันท้าวแขนกับประตูห้องน้ำมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าพลางยิ้มเหยียด
“รีบจัดการเลยดี!” เสียงดิวดังออกมาจากฝั่งแถวเตียงคนไข้ซึ่งเขามองไม่เห็นว่ามันทำอะไรพงษ์รึเปล่า
“แก้ว!หนีไป!หนี!”
“ไม่ทันแล้วล่ะ” ไอ้พี่ดีกระชากลากแขนเขาไปโยนใส่โซฟา เขาถึงได้เห็นว่าพงษ์โดนดิวซึ่งหัวยังมีผ้าพันที่หัว และแขนข้างซ้ายยังเข้าเฝือก แต่ข้างขวาดิวซึ่งปกติดีกำลังกดฝ่ามือเข้าที่แผลตรงหน้าท้องของพงษ์จนเห็นเลือดสีแดงซึมออกมาที่เสื้อคนไข้และที่ฝ่ามือดิว
“พงษ์!” ร้องเรียกออกไปทั้งน้ำตากำลังเอ่อ
“อย่าทำไอ้แก้ว” พงษ์กัดฟันพูดในขณะที่ดีจับสองแขนเขาขึงพืดกดกับโซฟา
ภาชนะใส่อาหารรวมทั้งข้าวต้มเทคว่ำเลอะเปื้อนเตียงยันพื้นห้อง
“เอาอะไรมาสั่งกู ห๊ะ มึงเอาอะไรมาสั่ง ฮ่า ๆ ๆ” ซ้ำมือข้างที่มีเข็มน้ำเกลือของพงษ์ ไอ้เหี้ยดิวมันยังยกเข่าขึ้นกดทิ่มเข็มให้แทงหลังมือพงษ์จนสายน้ำเกลือเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลย้อนขึ้นไป
“ดิว! มึงจะทำอะไรกูก็ได้ แต่อย่าทำมัน กูขอ กูขอ!”
“ขอ...? ทั้งที่ทำมัน กูสะใจกว่า? คนไม่รักษาสัญญาอย่างมึง สมควร...เอาให้ตายทั้งเป็น” สายตาไม่เป็นมิตรของไอ้ดิวมองไอ้พงษ์อย่างสะใจ
“อ๊าก! อือ” พงษ์พยายามปิดปากไม่ร้องแสดงความเจ็บปวดออกมา มืออีกข้างจับมือดิวที่ยังกดลงที่แผลไม่ลดละและดูจะเพิ่มแรงกดไปทั้งตัวด้วยซ้ำ
“อย่าสนใจคนอื่นเลย ในที่สุด พี่ก็ได้กินมึงจนได้” ดีกระซิบข้างหูแล้วขานั่นก็แทรกเข้ามากลางหว่างขาที่กั้นไว้เพียงผ้าขนหนูผืนเดียว
“แก้ว! อึก เหี้ย ๆ อย่างมึงกูอุตส่าห์เชื่อใจให้ดูแลไอ้แก้ว แต่นี่เหรอวะข้อแลกเปลี่ยนที่กูได้ ทั้งที่เรื่องมันไม่เคยแดงเลยถ้ามึงไม่ทำพวกกู อ๊าซ”
“มึงผิดสัญญาแต่แรกมึงลืมไปแล้วเหรอ!” ไอ้ดิวเปลี่ยนเป็นกดกำปั้นเข้าที่แผลพงษ์อีกรอบ แก้วที่เบือนหน้าหนีจากไอ้ดีแต่เห็นภาพบนเตียงคนไข้ได้ชัดเจน เขาเจ็บ เจ็บปวดแทนพงษ์เหลือเกิน ทำไมถึงได้โหดร้ายกับเราขนาดนี้ “มึงกลับมาตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่อง นั่น! มึงผิดสัญญากับกูแต่กูยังใจดี เฝ้าดูแลมันตามที่รับปากทั้งที่มันไม่ใยดีกูเลย จนมึงจะเอามันหนีกูไปอีกรอบ นอกจากเป็นขี้ข้าไอ้เหี้ยฝิ่นแล้ว มึงยังหักหลังกูซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
“กูไม่เคย!”
“หึ อย่าพล่ามอีกเลยเพื่อน ถ้าจะตายก็ตายมันไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ ในเมื่อกูจะไม่รอดอยู่แล้ว มึงและมึง” ไอ้ดิวมองเขาสายตากร้าว “ดี ขย่มมันให้ตาย”
พี่ดิว...
เหมือนที่มันเคยสั่งไอ้ดีให้ทำกับมิว...
อึก
“ไอ้ดิวเคยหวงมึงมาก แต่ถ้ามันไม่เอาแล้วก็เสร็จกูทุกราย ฮืมมม...ตัวมึงหอมจริง ๆ เอ...หรือวันนี้มีผัวพร้อมกันสองคนเลยเป็นไง?” ไอ้ดีคลอเคลียสูดดมไปทั่วหน้าทั่วตา
“เป็นความคิดที่ดีมาก”
แก้วเกร็งแขนเพื่อรวบรวมแรงจะดันแขนคนด้านบนออก ในขณะที่ไอ้ดิวมันดึงสายน้ำเกลือออกจากขวดแล้วเอาไปพันข้อมือพงษ์ทั้งสองข้างที่มันเอาไขว้หลังไว้แล้ว
“พงษ์ ฮึก พี่ดิวพอเถอะ อย่าทำพงษ์ พงษ์เจ็บ อย่าทำ อย่าทำ”
“พอแล้ว พี่พอแล้วนี่ไง” ไอ้ดิวละมือออกจากหลังพงษ์เมื่อมันมัดมือพงษ์ไขว้หลังเสร็จด้วยสายน้ำเกลือ มันยิ้มอย่างน่ารังเกียจแล้วเดินมาดันหลังเขาให้ลุกขึ้นนั่งทั้งข้อแขนเขาซึ่งโดนไอ้ดีกำอย่างแรงทั้งสองข้าง เขาดิ้นขลุกขลักแต่ก็นั่นแหละ ... “พี่ใจดีกับมึงเสมอ เห็นไหม?” สุดท้ายก็โดนประกบหน้าประกบหลัง
“ถุย!” เขาถุยน้ำลายใส่หน้าไอ้ดิวที่มันวนเวียนอยู่ข้างแก้ม “กูไปทำอะไรให้มึงโกรธแค้นนักหนาทำไมต้องทำกันขนาดนี้”
“หึ อยากตายเร็วขึ้นงั้นสิ” ไอ้ดิวล็อกแขนเขาไว้จากข้างหลัง ไอ้ดีถอดเข็มขัดออกจากกางเกงมันแล้วกระตุกผ้าขนหนูออกจากเอวเขาโยนทิ้ง
ผลัก!
สู้แค่ตาย...
แก้วยันสองเท้าใส่ไอ้ดีเต็มแรงแต่มันแค่หงายหลังไปเท่านั้นแล้วลุกมามองหน้าเขาเหี้ยม
“แก้ว!” ตุ๊บ!
พงษ์กลิ้งตกจากเตียง ...สองแขนมันไร้อิสระ ตัวก็คู้งอด้วยความเจ็บแผลแต่มันยังจะช่วยเขา
“เรียกพยาบาลพงษ์ ฮึก เรียกพยาบาล” คนร่างเปลือยเปล่าตะโกนบอก แต่ไอ้สองพี่น้องหัวเราะชอบใจ และพงษ์ไม่ยอมทำตามที่เขาบอก มันกลับคลานเพื่อจะเข้ามาหาเขาให้เร็วที่สุด
“เข้าเลยดี สงสัยไอ้เพื่อนรักอยากเห็นให้เต็มตา” ไอ้ดิวล็อกแขน แล้วเอาขามาเกี่ยวขาเขาทั้งสองข้างให้อ้าออก ไอ้ดีมองส่วนกลางลำตัวเขาด้วยใบหน้าสาแก่ใจก่อนเอื้อมมือมาเขี่ย ๆ และจับรูดขึ้นรูดลงหากแต่เขาไม่มีอารมณ์ร่วมจะมีก็เพียงความขยะแขยง ก่อนแหย่นิ้วที่มันถุยน้ำลายใส่เข้ามาที่ช่องทางด้านหลังของเขาพรวดเดียวสองนิ้ว
“โอ๊ย! ฮึก” น้ำตาแตกด้วยความเจ็บ แสบ อึดอัด รังเกียจ ฮือ
“แก้ว...” พงษ์นอนตัวงออยู่ที่พื้นมองมายังเขา และน้ำตาของมันที่ชัดเจนกว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด
“โอว อีกนิดเดียว อีกนิดพี่จะได้เข้าแล้ว ไม่ต้องร้อง ยังไงกูก็จะเอามึงให้ตายกันไปข้าง หึหึ” ไอ้ดีพูดบอกเสียงกระเส่า
ฮึก...
เขาส่ายหน้ารัวในขณะที่ไอ้ดีสอดนิ้วเข้า ๆ ออก ๆ มาในตัวเขาปนกับเสียงหัวเราะของมันทั้งสองคน ปนกับเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาที่ดังลั่นขึ้นมา
“ฝิ่น พี่ฝิ่น ฮือ” ร้องเรียกออกไปหวังว่าคนที่โทรมาคงเป็นมัน ทั้งที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ในเมื่อฝิ่นไม่สามารถได้ยินคำร้องขอของเขาได้
“เหี้ยเอ้ยของกูขึ้นแล้ว พอเลยดี กูก่อน กูขอโชว์เพื่อนมันหน่อยเถอะ” ไอ้ดิวกำแขนเขาไว้ด้วยมือเดียวแล้วลุกยืนดันไหล่พี่มันให้ถอยออก
แต่...
มีต่อ
-
ผลั่ก!!
“ว้ายตายแล้ว!” พยาบาลสาวยืนเอามือซึ่งถือพวงกุญแจอยู่ปิดปากอยู่หน้าห้อง
ผลั่ก! ผั่วะ!
ไอ้ดีกระเด็นออกจากแก้วเป็นคนแรก
ตามด้วยอีกตีนที่ถีบไอ้ดิวไปอีกทาง
ผ้าขนหนูถูกคนนัยน์ตาเหี้ยมหยิบมาพันให้รอบเอวก่อนผละออกไป
แก้วรีบเข้าไปแกะสายน้ำเกลือออกจากมือพงษ์พร้อมกับโจ้ที่ทิ้งอาหารถุงไว้หน้าห้องแล้วเข้ามาช่วยดึงเข็มที่หักออกจากหลังมือมัน
“พยาบาล!ยืนบ้าอะไรอยู่” แก้วเสียงดังลั่นห้อง พยาบาลที่ยืนตะลึงอยู่ถึงได้ลุกลี้ลุกลนเข้ามาช่วยหลังจากที่เขากับโจ้พยุงพงษ์ขึ้นเตียงเพื่อให้พยาบาลถอดเสื้อดูแผลที่หน้าท้องพงษ์
“ไม่เป็นไรแล้ว” ไอ้พงษ์ยิ้มบอกมือก็ลูบข้างแก้มเขาที่น้ำตาไหลไม่หยุดเพราะสงสารพงษ์
“ไม่ตายนี่จะไม่หยุดใช่ไหม?!” คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบของฝิ่นโพล่งขึ้นพร้อมตีนที่กระหน่ำกระทืบไอ้ดี แต่พอไอ้อดีตรุ่นพี่ลุกขึ้นตั้งหลักได้มันก็เหวี่ยงกำปั้นใส่ฝิ่นไปเหมือนกัน ก่อนจะโดนฝิ่นขึ้นคร่อมตัวแล้วรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง
อีกฝั่ง ไอ้ดิวถูกพี่ไม้เหวี่ยงใส่ผนังห้องก่อนยกเท้าไปรับเต็มแรงเมื่อมันเด้งตัวออกมา
ฟึ่บ!
ปืนปากกาสองด้ามจ่อไปที่คอไอ้สองคนพี่น้อง
“ไอ้เหี้ยดี” ดิวสบถมองไปทางพี่มันตาขวาง
“ว้าย! น้องอย่ายิงกันในโรงพยาบาลนะคะ” พยาบาลบอกห้ามรัวด้วยท่าทีเกรง ๆ
“ไม่ต้องไปสนใจหรอกน่า!” โจ้ออกปากก่อนเขาจนพยาบาลต้องสะดุ้ง
“แผลเปิดนะคะ ต้องเย็บใหม่นะคะ” พยาบาลบอกพลางหยิบปุ่มที่ใช้กดเรียกพยาบาลที่อยู่นอกห้องขึ้นมาแล้วส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าสายมันขาดแล้วจึงรีบวิ่งออกไปนอกห้อง
“หึ คิดว่ากูกลัวเหรอในเมื่อกูไม่เหลืออะไรแล้ว กูจำเป็นต้องร้องขอชีวิตไหม?” ไอ้ดิวนั่งทรุดข้างผนังห้องมองหน้าพี่ไม้
“เสียแรงที่กูเคยช่วยมึง” พี่ไม้พูดแต่ไอ้ดิวเพียงแค่แค่นยิ้ม
“ช่วยกูหรือช่วยใครไอ้พี่ไม้ มึงช่วยให้กูไม่ตายแต่ให้ตำรวจจับอย่างนั้นเขาเรียกว่าช่วยเหรอวะ ถุย!”
“อะไรพี่ไม้” ฝิ่นเอานิ้วโป้งเช็ดเลือดตรงมุมปากแล้วถีบไอ้ดีอีกทีก่อนวางเท้าไว้ที่หน้าอกไอ้รุ่นพี่เฮ็งซวย
“ฆ่ามัน!” แก้วโพล่งออกไปเสียงดังลั่น จะอะไรก็ช่างแต่มันทำพงษ์ มันทำเขา เขาไม่อยากเห็นหน้ามันทั้งสองคน ไม่อยากได้ยินแม้แต่เสียง ไม่อยากแม้แต่หายใจร่วมโลกกับพวกมัน “ฆ่ามันเลยพี่ฝิ่น ฆ่ามัน ถ้าพี่ไม่ทำผมทำเอง เอามานี่” แก้วผละออกจากพงษ์ไปแย่งปืนปากกาจากมือฝิ่นแต่โดนฝิ่นรวบตัวไว้ในอ้อมกอดก่อน
“กูจัดการเอง” ฝิ่นบอกเสียงเหี้ยม นาทีนี้แม้เขามั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ยังอดกลัวมันไม่ได้
“ไอ้ฝิ่นอย่า!” เสียงพงษ์ร้องตะโกนห้ามเมื่อฝิ่นกระทืบเท้าใส่หน้าอกไอ้ดีอีกครั้งแล้วก้มลงเอามือไปบีบปากมันพร้อมกับยัดปืนปากกาด้ามนั้นเข้าไปในปากอดีตรุ่นพี่ของเขา
ไอ้ดีโวยวายเสียงอู้อี้มือก็ดันมือฝิ่นอยู่อย่างนั้น
“จะมือซ้าย มือขวา หรือมือหนึ่ง สุดท้ายก็เหลือแค่ศพอยู่ดี” ไม้พูดกับดิวน้ำเสียงเรียบเย็น
“กูขอเถอะว่ะ กูจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว ถึงเรื่องเหี้ย ๆ นี่จะอยู่เหนือหัวสมองกู แต่กูก็มั่นใจว่าโทษของมันสาสมแน่”
บุรุษพยาบาลเข็นเตียงเข้ามาพร้อมกับพยาบาลอีกคนพร้อม ๆ กับที่พงษ์บอกทุกคนในห้อง
“คนไข้ไปทำแผลก่อนนะครับ ส่วนเรื่องในห้องก็อย่าให้พวกพี่เดือดร้อนแล้วกัน” บุรุษพยาบาลช่วยประคองพงษ์ย้ายไปนอนที่เตียงใหม่
“แก้ว โทรเร่งไอ้โซ่ให้มาจัดการได้เลย” พงษ์สั่งเขาก่อนจะถูกเข็นออกไปนอกห้อง
เสียดาย...
แต่เมื่ออารมณ์เย็นลงเขาก็เห็นด้วยกับพงษ์
โทษที่ไม่ต้องถึงตาย ก็ได้...เอาแค่ตายทั้งเป็นก็ได้
ฝิ่นกับไม้มองหน้ากันแล้วต่างพยักหน้าทั้งคู่ แก้วเห็นว่าทุกคนคงจะถือตามคำพูดพงษ์จึงหยิบโทรศัพท์ของพงษ์ขึ้นมาแล้วหาเบอร์ประธานสาย ๙T แต่หายังไงก็ไม่มีเบอร์ไหนชื่อโซ่เลย เขาจึงเปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์มือถือของตัวเองโทรออกไปยังเบอร์ของภูรักแทน เขาฝากให้รุ่นพี่บอกประธาน๙Tให้โทรกลับเพราะยังไม่ลืมว่าเรื่องนี้ประธานสาย๙Tไม่ต้องการให้พี่ภูเขารู้
แต่กว่าโซ่จะโทรกลับ กว่าตำรวจจะมาถึง เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานั่งดู๕x เล่นงานอดีตรุ่นพี่ที่เขาเคารพทั้งสองคนนานพอควร
ไม่เคยชอบการใช้กำลังเลย แต่กับภาพตรงหน้า ...ก็สะใจดีนะ
///////////////////////////
“จะนั่งมองตากันอีกนานไหม?” พงษ์นอนหน้าซีดอยู่บนเตียง พูดด้วยน้ำเสียงเบื่อ ๆ หลังจากไปเย็บแผลมาใหม่และเข้าน้ำเกลือใหม่อีกรอบ
“จะพูดห่าอะไรก็พูดมา อย่าต้องให้เอาปืนง้างปากดีกว่า” ฝิ่นตอบพงษ์...มั้ง แต่ตายังมองเขาอยู่
มองเฉย ๆ เหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่างเพราะคิ้วมันขมวดกันแน่นเชียว แต่ไม่ยักไต่ถามอะไรจากเขา
“ไอ้ดีมัน...” เขาเลยพูดขึ้นมา
บางที มันอาจไม่พอใจ ที่ปล่อยให้อดีตรุ่นพี่ทำ...แบบนั้นกับเขา
“กูไม่ได้คิดอะไรมึงก็ไม่ต้องพูด” ฝิ่นรีบพูดแทรกเสียงห้วน ๆ
ไม่ได้คิดอะไรแล้วทำไมหน้าบูดหน้าบึ้งอย่างกับจะลุกมาต่อยเขาขนาดนั้น
แต่สำหรับเขาแล้ว เขารู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัยเป็นที่สุด จึงหงายมือไว้ที่ตักมันและเอามืออีกข้างจับมือฝิ่นมาวางทับพร้อมจ้องหน้ามันกลับ เลิกคิ้วยิ้ม ๆ ให้มันด้วย
ฝิ่นบีบมือเขาแล้วหันหน้าไปทางพงษ์
“แต่ผมข้องใจมาก พี่ไม้เคยช่วยอะไรไอ้ดิวเหรอ?” โจ้ถามไม้ซึ่งนั่งอยู่ที่โซฟาด้วยกัน
“เคยดึงไอ้เป้งที่เอาปืนจ่อหน้าไอ้ดิวอยู่หนีตำรวจ ถ้าจำไม่ผิดงานนั้นมันน่าจะโดนพักการเรียนเพราะไม่เจอมันเลยช่วงนึง” ไม้ตอบ
“อ้อ มันถึงได้ตอบแทนพี่ด้วยการแสดงความบริสุทธิ์ใจในการตามหาตัวไอ้พงษ์” โจ้ออกความเห็นอย่างแค้น ๆ
“ไอ้เป้งคงทำมันเสียหน้า แต่...กูไม่เคยคิดจะเล่นใครให้ถึงตายเลยนะเว้ย” ไม้ก้มหน้านิ่ง สองมือประสานกันที่หน้าตัก
“ใจคนมันไม่เหมือนกัน ถ้าเราอ่อนเราก็ตายผมเคยบอกพี่แล้ว” ฝิ่นแย้งทันควัน แต่ฟังดูจะเป็นการซ้ำเติมไม้ซะมากกว่า แต่เขาคิดว่า ไม้คงชินกับคำพูดฝิ่นแล้วล่ะ
“แต่บางครั้งก็มีเหตุผลที่เราต้องยอมอ่อนข้อนี่พี่ฝิ่น” โจ้เถียงแทน “พี่เองยังเคย”
“ไอ้โจ้!”
“ผมไม่ได้ว่าพี่ ผมแค่จะบอกว่ามันก็มีทั้งดีและไม่ดี”
“แต่มึงควรเงียบดีกว่า” ฝิ่นทิ้งมือเขาตั้งท่าจะลุกไปหาโจ้
“ถ้ากูเป็นฆาตกร” พงษ์พูดแทรก ฝิ่นจึงเปลี่ยนใจนั่งหย่อนขากอดอก ส่วนเขานั่งก้มหน้าตั้งใจรอฟังความจริงที่เราทุกคนต่างหลีกหนีมาตลอด “กูจะมีชื่อเสียงขึ้นมาทันที แล้วยิ่งคนที่กูเก็บ เป็นคนระดับหัวแถว กูยิ่งแกร่ง ยิ่งมีคนพูดถึง และไอ้แก้วที่เป็นเพื่อนสนิทกู ก็จะไม่มีใครยุ่ง”
“มึงมันโง่”
“พี่ฝิ่นฟังก่อนได้ไหม?” ฝิ่นจิ๊ปากใส่แก้วเมื่อเขาขัดมัน ก็เพราะว่ามันขัดพงษ์
เขากลัวว่าพงษ์จะเลิกพูดเอาดื้อ ๆ ถ้าโดนขัดน่ะสิ
“กูไม่กลัวเรื่องคดี” ดีที่พงษ์ไม่สนใจและพูดต่อ “ต่อให้โดนจับได้กฎหมายก็ไม่สะกิดขนแขนกูหรอก แต่ถ้าเรื่องถึงหูพ่อกู เขาต้องจับกูแยกกับไอ้แก้ว กูเลยเลือกหนีตามคำแนะนำของไอ้ดิว หนีไปในที่ที่พวกมึงตามกันไม่เจอ ...เมื่อก่อน พร้อมช็อปรุ่นของ๕x เพื่อให้มองว่าเป็นการตบช็อปไม่ใช่การเอาคืน” แหล่งกบดานที่ปลอดภัยที่สุด จากคนสนับสนุนให้เพื่อนเลว
“ทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่อง” เขาเงยหน้าขึ้นถามพงษ์
“กูเพิ่งเอากลับมาหลังจากไปตามมึงนั่นแหละ” พงษ์ตอบ
วันนั้น วันที่พงษ์อยู่ในฐานะฆาตกร เขาจัดแจงวางแผนให้พงษ์ไปอยู่ที่บ้านสวน ...โดยที่เขานอนขังตัวเองไว้ในห้องตอนที่มันออกจากบ้าน
เฮ้อ...
“แล้วมีด?” ไม้พูดขึ้นมา คงสงสัยตามสันชาตญาณ แต่สำหรับเขาแล้ว ไอ้พงษ์บอกทิ้งมีดลงไปในเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ระหว่างหลบหนีเขาก็ไม่เอะใจอะไรแล้ว
“มีดไอ้ดิว เล่มเดียวกับที่มันแทงกู”
“สมควร” โจ้เหน็บ
“ตรงนั้นมันค่อนข้างมืด พยานวันนั้นที่บอกว่ากูเป็นคนทำ ก็เพราะกูเป็นคนถือมีดเดินออกมา ในซอยนั้นก็สายพวกมึงล้วน ๆ มันเลยไม่ยาก ถ้าทุกคนจะเข้าใจตรงกัน ...ยกเว้นประธาน๙T ที่เห็นตั้งแต่กูกับไอ้ดิวเดินตามไอ้เป้งนั่นเข้าไปในซอยแต่เสือกรู้ดีว่ากูไม่พกมีดสั้น”
“พี่โซ่ไม่ได้เห็นจะ ๆ หรอกเหรอ?” เขาถาม
“มันเจ้าเล่ห์จะตาย หลอกซักกูน่ะสิไม่ว่า นี่ถ้าไอ้ภูไม่เป็นพี่มึงอีกคน มันก็ไม่สนเรื่องนี้หรอก”
ถึงได้ถามไงว่าพี่โซ่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์เองเหรอถึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยในวันที่เขากับพงษ์โดนพี่ดิวเล่นงาน ทั้ง ๆ ที่ พี่โซ่ก็เห็นตลอดว่าเขาอยู่กับ๕xในสถานะการณ์แบบไหน ถ้าเห็นว่าเขาเป็นน้องพี่ภูจริง ทำไมไม่พูดความจริงตั้งแต่วันแรก
“มันไม่ใช่เรื่องที่มันต้องยุ่ง แค่ที่มันช่วยเราเนี่ย ก็เกินมาตรฐานไอ้นั่นละ!” พงษ์สั่งสอนอย่างกับรู้ว่าเขากำลังโทษประธานสาย๙Tในใจ
“เป็นกู กูก็ไม่ยุ่งเรื่องของสายอื่น” ฝิ่นเอ่ยเสียงเรียบ
แก้วได้แค่ทำปากขมุบขมิบตามหลัง
“ไอ้ดิวมันเป็นประธานรุ่น และปีหน้า มันก็มีโอกาสขึ้นเป็นประธานสาย กูเชื่อใจมัน ว่าชื่อเสียงและกำลังของมัน จะดูแลไอ้แก้วแทนกูได้ในระยะหนึ่ง แลกกับการสร้างชื่อเสียงของกูที่...ต้องใช้เวลา ไอ้แก้วยังอยู่ในสายตากูแค่เปลี่ยนเป็นรับข่าวจากไอ้ดิว กูคิดว่าไม่น่าจะมีผลเสีย ไอ้ดิวมันก็ไม่ได้ไม่เสียอะไรกูเลยคิดว่ามันคงอยากให้กูมีชื่อจริง ๆ แลกกับการปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แล้วในสถานการณ์ตอนนั้น ถ้ากูไม่ตกลงตามที่มันเสนอ มันเล่นงานกูไม่ต่างจากไอ้เป้งแน่ ” พงษ์เล่าต่อซะยืดยาว “และอีกอย่าง เพื่อไอ้แก้ว ไอ้ดิวมันสามารถโกรธแทนถึงขั้นฆ่าคนที่ทำร้ายไอ้แก้วได้ ถ้ากูไม่เชื่อใจมัน กูก็ไม่รู้จะเชื่อใครได้กว่านี้แล้ว”
“เชื่อใจ? เหอะ ถ้าพวกกูจับมึงได้มึงก็ตายทันที ไม่มานั่งสอบปากคำให้เสียเวลาหรอก” ไม้เสริม
“วินาทีนั้นกูไม่ได้คิดอย่างนั้น กูคิดแค่หนีแล้วรอเรื่องเงียบเพราะต่อให้ตำรวจจับกู กูก็รอด กูมีอะไรเสี่ยงบ้างวะ ไม่มีเลยเถอะ! แล้วก็แค่ให้ไอ้แก้วมันมีคนดูแล ไม่ใช่ให้ไอ้ดิวมางาบมัน ไม่ทันได้คิดว่าถ้าพวกมึงจับได้ก็คงฆ่ากูเหมือนกัน ไม่คิดด้วยว่าไอ้แก้วจะโดนหางเลขตามกัน กูไม่เคยฆ่าใครตายนี่หว่า!” พงษ์พูดอย่างหัวเสีย
“มึงนี่...โง่กว่าที่กูคิดไว้เยอะเลยล่ะ” ฝิ่นลุกไปยืนอยู่ข้างเตียงพงษ์ แก้วเลยลุกไปยืนอยู่ข้างกัน “มึงก็แค่หมากตัวนึงที่ถูกไอ้ดิวใช้ความเชื่อใจมาเป็นเครื่องมือ มันคงไม่สนใจอยู่แล้วว่ามึงจะฆ่าไอ้เป้งรึเปล่า ถ้ามึงลงมือเอง ไอ้ดิวมันก็รอดได้สบาย แต่นี่มึงปอด แต่ก็นั่นล่ะ ไม่ใช่เรื่องที่มันจะปล่อยไอ้เป้งไปหรอก ในเมื่อคนมันรอจังหวะอยู่แล้ว หึ ถ้าแค่ตบช็อปกันไม่มีใครเล่นกันถึงตายหรอก แต่นี่...ไอ้มิวเมียมึง ดันเคยเป็นเมียเพื่อนกูนี่สิ” ฝิ่นพูดขึ้น แก้วจึงมองหน้าฝิ่นทันทีทันใด แต่เจ้าตัวเหมือนจะแค่ปรายตามอง
“เหรอ?” พงษ์ตอบอย่างไม่ใยดี “กูรู้อยู่แล้ว”
“หายากขนาดนั้นเลยเหรอวะ ถึงขนาดต้องใช้ผู้หญิงคนเดียวกับคนที่มึงเชื่อใจเนี่ย” โจ้แทรกขึ้นมาอย่างเหยียด ๆ
“มึงว่าอะไรนะ! โอ๊ย เหี้ย” พงษ์กระเด้งตัวลุกแต่ต้องนอนลงตามเดิม
“อะ อะ อะไรนะ?” แก้วมองหน้าโจ้ ไม้ รวมทั้งฝิ่น
“มันคงเสียหน้าที่มิวมาคบพี่เป้ง ต่อให้หลังจากคบมันก็เถอะ แต่มึงเข้าใจคำว่าหยามไหม?” โจ้มองหน้าเขาตอบ
หยาม?
เขารู้จักตั้งแต่เรียนสายนี้แล้ว ต่อให้พงษ์คบมิวได้ แต่เรื่องที่เป้ง คู่อริ เอาผู้หญิงของตัวเองไปควงได้ คนโดนหยามมันคงจำฝังใจ
เหมือนที่เกิดกับตัว คือเขาไม่อยากให้ฝิ่นโดนหยามไง
“พอเถอะ จะเหตุผลไหนผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยนหรอก” ไม้ควักบุหรี่ออกจากกระเป๋าเสื้อช็อปก่อนลุกเดินไปเปิดประตูกระจกออกไปตรงระเบียงห้องแล้วยืนสูบบุหรี่อยู่คนเดียว
“ถ้าอย่างนั้น จะเหตุผลไหนกูก็ไม่รู้แทนไอ้ดิวหรอก แต่ในส่วนของกู กูกับไอ้แก้วไม่ได้เป็นผู้บริสุทธิ์ล้านเปอร์เซ็นต์ของเรื่องที่พวกมึงสูญเสีย และกูเพิ่งรู้ว่าปัญหา...ไม่ใช่ว่ามองข้ามแล้วมันจะจบ” พงษ์มองหน้าฝิ่น “กูขอโทษพวกมึงด้วยกับความผิดส่วนหนึ่งของกูและไอ้แก้ว”
“พงษ์...” เขาท้วง
“เราผิดแก้ว ไม่ใช่คนทำโดยตรง แต่เราก็ผิด” พงษ์มองหน้าเขาเข้ม เขารู้ว่าพงษ์จะบอกอะไร
“พี่ฝิ่นผมขะ...”
“ไม่พูดเพราะไม่ยอมรับผิดสินะ ขนาดผิดยังไม่อยากจะพูดเลย” ดูไอ้พี่ฝิ่นมันว่า ตัวเองพูดสวนคำเขาเองแท้ ๆ “กูจะถือว่าเรื่องแย่ ๆ มันทำให้กูได้เจอมึง เคลียร์ไหม?” ตบหัวแล้วลูบหลังของแท้ แล้วมันบอกผนังห้องเหรอ เขายืนอยู่นี่แท้ ๆ
“จากนี้ กูคงต้องเชื่อใจมึงอย่างเลี่ยงไม่ได้” พงษ์เบ้ปากหันหน้าไปทางอื่น
“มึงเชื่อใจถูกคนแล้วล่ะพวก” ฝิ่นเอื้อมมือซ้ายข้ามไปจับมือขวาพงษ์ขึ้นมาเขย่า ๆ แววตามุ่งมั่นของฝิ่นทำให้พงษ์หันกลับมาถลึงตาใส่ก่อนจะจิ๊ปากส่ายหน้าอย่างเอือม ๆ แต่ก็ไม่ปฏิเสธไมตรีที่ฝิ่นยัดเยียดให้ซะนี่
“เจ๋งว่ะลูกพี่ เดี๋ยวลงไปซื้อเบียร์มาฉลองก่อนนะ” โจ้ลุกขึ้นปรบมือแปะ ๆ แล้วออกไปคุยอะไรกับไม้ตรงระเบียงก่อนจะออกไปข้างนอกด้วยกัน
..............................
ใครขออะไรไว้เมื่อตอนที่แล้วน่ะ อย่าลืมสิ ทั้งฉากกระทืบ ทั้งNC หืม ครบเลย
คนเขียน>>> //สลบเพราะโดนถีบไปแล้ว
ไม่มีเวลาตรวจทานไม่มีเวลาขัดเกลาเลย ยกโทษให้เค้าด้วยนะ>< กว่าจะอัพได้แต่ละตอน ต้องเอาไฟมาสุมงานให้มอดก่อนถึงจะโผล่หัวออกมาได้
รู้สึกแย่นะที่ตัวเองเหลวไหลไม่เหมือนช่วงแรก ๆ ที่ลง รู้ว่าตัวเองลงช้า เลยมายาวขึ้นอีกหน่อยเป็นการไถ่โทษ ฮ่า (ตัดสินใจเองทั้งนั้น)
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ กอด ๆ จุ๊บ
Countdown.
-
ตกใจหมดเลยตอนไอ่พี่น้องทะลุถุงยางมาเกิดเข้ามาซ้อมพงษ์ โหย ตายๆไปก็ดีนะ โรคจิตได้อีก สมเป็นพี่น้องกัน
อยากให้มีอีกสัก 10 ตอน เอาแบบพ่อเมียกับ ลูกเขยกัดกัน :laugh:
-
:a5: เล่นทีเดียวมึนเลย
-
เป็นnc ที่ทำให้คนอ่านเงิบมากค่ะ =w=
-
โอ๊ยใจหายใจคว่ำแทนแก้ว เกือบไปแล้ว :m15:
-
ใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาเลย ตอนที่ไอ้พี่ดีมันใส่นิ้วเข้าไปTT'
ไอ้เลวเอ๋ย ดีใจจังที่พวกฝั่นมาทัน เรื่องมันเคลียร์หมดแล้วใช่มั้ยเนีย
ดีใจจัง^ ^ สู้ๆนะค่ะ รออ่านตอนต่อไปค่ะ
-
:z1: :z1: :z1: :z1:
-
:เฮ้อ: โล่งอก มาช่วยแก้วทันท่วงที o22
-
ไอ่พี่น้องนรกน่าจับไวอากร้ายัดปากแล้วให้แม่งเอากันเอง
ห่านน เลวเชรี่ยยย 555 อินจัด ๆ
ในที่สุดก็เข้าใจกัน รออ่านจร้าา
-
ใจหายหมดเลย 555
-
:เฮ้อ:เกือบไป
-
ใจหาย คิดไม่ออกเลย ว่าถ้าไอ่พี่น้องชั่วทำสำเร็จ ทำร้ายแก้วต่อหน้าพงษ์
เหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นยังไง เหมือนแก้ว กับพงษ์ ตายทั้งเป็นเลยนะ
แล้วฝิ่น ... คงมากกว่าคลั่งอ่ะ
คุณพระเอกมาทันพอดี โล่งงงงงงงงงงง
อยากรู้อยู่นะ ว่าสองพี่น้อง โดนจัดการอีกด้วยวิธีไหน
จะจบแล้วเหรอคะ ยังอยากอ่างฝิ่นกับแก้วอยู่เลย
ชอบความหวานแบบห่าม ๆ ของคู่นี้จริง ๆ เลยค่ะ
บอกใครอ่ะฝิ่น บอกฝาผนังจริงอ่ะ 555
-
กระทืบคนเขียน...แง่ง!!!(ล้อเล่น)
เค้าอยากได้ NC ฝิ่นกับแก้วไม่ใช่แบบเน้ๆๆๆ
อ่อย...แต่แก้วนี่นะ เห้อ...พูดยาก ซื่อ+บื้อ+โง่เลย
ส่วนพงษ์....เอาเป้นว่า...ได้กันเลยง่ายๆ จบ!!
ดูเหมือนฝิ่นมาแค่คั่นเวลาอ่ะแต่ท้ายสุดพงษ์กับแก้วก็ได้กัน(อินจัดมาก)
รักฝิ่น = ='
-
พงษ์แมนมาก :man1:
ดิว-ดี นี่แค้นรุนแรงจริง
**ตอนดีจะข่มขืนแก้วนี่กลัวจริงๆ o22 o22 o22
-
เกือบเเล้วเกือบเเล้ว เเมร่งพี่น้องคู่นี้โคตรเลวเลยวะ :เฮ้อ:
เกือบเเล้วแก้ว
-
เหี้ยสองพี่น้อง ชื่อดีแต่เลว โถถถถ..พงษ์เจ็บมากมั้ย? น้ำตาหยดแหมะๆตามเลยอะ ถึงคนเขียน เจ็บกว่านี้มีอีกมั้ย?
-
ทำไมตอนนี้ฝิ่นออกไม่มากตอน แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าฝิ่นน่ารักจัง
55555555555555เค้าตีกันแทบตายมันมองอย่างเดียวว่าฝิ่นน่ารัก
-
โอยๆๆๆๆ
ลุ้นเกือบตาย ><"
ดีที่แก้วยังรอด
ส่วนพวกวรนุชที่เหลือ (ไอดิว ก๊ะื ไอดี)
จิงๆก้อไม่น่ารอดนะเนี่ย :m31:
-
รักตอนนี้อ่ะ
ไอ้ดีไอ้ดิวพี่น้องนรกส่งมาเกิด น่าจะตาย ๆ ไปซะ แต่ไม่ให้พวกฝิ่น พงษ์ ไม้ โจ้ และอื่น ๆ ฆ่านะ
เอาไงก็ได้ให้มันตาย 5555 โรคจิตว่ะตรู
ใกล้จบแล้วสินะ ยังอยากได้ฉากหวาน ๆ แบบหวานเลี่ยนของฝิ่นกับแก้วนะ
ไม่เอา NC ก็ได้ แต่อยากเห็นฝิ่นมันหวานอีกนิดอ่ะ
อิอิ
-
เลวทั้งพี่ทั้งน้อง ดี โดนยำซะเละ ฮุฮิ
-
กรี๊ดดดดดดดดด รอดไปนะหนูแก้ว โชคดีพระเอกมาช่วยทัน เจ๊อ่ะ ใจร้าย(?) ทำแก้วทำพงษ์ทำไม T^T (สองพี่น้องกระทำ แต่เจ๊ซีอ่ะคนบงการ!)
สุดท้ายความจริงก็เปิดเผยออกมาแล้ว หลังจากนี้ฝิ่น แก้ว พงษ์จะเป็นไงต่อ พี่ไม้จะเท่ไปไหน(<<นี่ไม่เกี่ยว) แล้วเอ็นซีที่แท้จริงล่ะ(/โดนโบก)
รอตอนหหน้านะค้า
-
โห เลวทั้งพี่ทั้งน้องอ่ะ
-
:pig4: :pig4:
-
มึงตายไอ้ดี(แต่เลวววววววววววววววว) มึงตายไอ้ดิว(แม่งตัดให้ด้วนเลย)
-
หูยยยย ใจหายใจคว่ำแทนแก้วจริงๆ รู้ว่าฝิ่นต้องมาช่วยทันแน่ๆ แต่ก็ลุ้นตาม :serius2:
ในที่สุดฉากไอ้ดิวโดนกระทืบก็มาถึงซักที มีตัวแถมอย่างไอ้ดีด้วย สะใจจริงๆ o18
ทั้งเลวทั้งโรคจิตทั้งพี่ทั้งน้อง :z6:
-
ลุ้นมาก ฮ่าฮ่า พึ่งรู้ว่ากลั้นใจอ่านอิพี่ดีกับอิพี่ดิว
นิสัยไม่ดีเนอะ จะซั่มน้องแก้วด้วย ดีที่พี่ฝิ่นมาทัน
พี่พงษ์เจ็บซ้ำเจ็บซ้อนเลย เห็นด้วยกับพี่ฝิ่น
ฝากแก้วไว้กับพี่ฝิ่นดีสุดแล้ว ^________^
-
ดิวกับดีนี่ร้ายจริง ๆ พงษ์ก็คิดอะไรอยู่ตอนนั้นนะคิดได้ยังไงกัน
-
ฮาร์ดคอร์ได้ใจ
-
o13 o13
-
:monkeysad:พงษ์น่ารักจังถึงเจ็บตัวก็ยังห่วงแก้ว :เฮ้อ:แก้วน่าหวาดเสียวมากอ่ะ ดีนะเนี่ยฝิ่นมาทัน ส่วนสองพี่น้องตัว"ด"นั้น :m16: :m31:เลวมากกกก อยากตอนของพี่โซ่กะพี่ภูจังค่ะ
-
:sad4: :sad4: :sad4:
-
เดี๋ยวนะ ขออ่านอีกรอบ
จูนข้อมูลแป๊บ
:a5: แก้ว!!!
ก็ดีที่ฝิ่นบอกไม่ถือ นายแมนใช้ได้
แว่วๆ ว่าวางแผนไว้รึเปล่าน่อ
ทำไมเข้าชาร์ทได้ไวขนาด ซ้ำพาพี่ไม้มาด้วยได้
พงษ์ เรื่องเคลียร์ซะที ชีวิตต้องสู้ ดูกันต่อไปนะพงษ์นะ
เรียกพี่ลูกขวัญมาพยาบาลพงษ์ได้แล้ว
อ้อ ชูป้ายไฟ ฝิ่น!!! แก้ว!!! จุด จุด จุด ฮิ้วววววว!!!
-
:a5: NC แบบนี้ไม่ดีเลยอ่ะคุณนักเขียน :เฮ้อ: ดีนะมีพวกฝิ่นมาช่วยทัน o13
-
หัวใจจะวายเพราะไอ้พี่น้องคู่ชั่ว
หวังว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดีสักทีนะ
สงสารแก้ว ห่วงพงษ์ รักฝิ่น กรุ่มกริ่มไม้ ปลื้มโซ่
-
จนจะจบเรื่อแล้ว ยังไม่มีเอ็นซี ฝิ่นแก้ว ให้เลือดพุ่งกันเลยยย
ยังเหลือ ไม้ขวัญอีกกก
-
NC ระทึกใจ 555
-
นึกว่าแก้วจะไม่รอดซะแล้วดีนะที่ฝิ่นมาช่วยไว้ได้
เกลียดไอ้สองพี่น้องเวรนี่จริงๆ
เขาไม่อยากได้ nc แบบนี้
-
สองพี่น้องจะเลวไปไหน ชั่วจริงๆเลย
-
ตาย ๆ เป็น NC ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดเลยตั้งแต่อ่านนิยายมา :z3:
-
เคลียร์ทุกอย่างจริงๆค่ะ
ไอ่พี่ดีและดิวมันเอี้ยสุดๆ
โดนตรีนขนาดนั้นยังกล้ามากลับมาขืนใจแก้ว ทำร้ายพงษ์
ดีนะ ฝิ่น พี่ไม้มาช่วยทัน
แอร๊ยยย อยากอ่านต่อมากๆค่ะ
-
พวกมันไปอยู่ในคุก
ก็โดนคนในคุกจับทำ
เมียอยู่แล้ว สมน้ำหน้า o22
-
โล่งอก....นึกว่าจะไม่มีใครมาช่วยซะแล้ว
:fire: บูีแหลกกันไปข้างแหละ
คราวนี้ก็เคลียร์กันได้จริงๆ ละนะ
-
นึกว่าแก้วจะโดนซะแล้ว
-
พวกมันไปอยู่ในคุก
ก็โดนคนในคุกจับทำ
เมียอยู่แล้ว สมน้ำหน้า o22
งั้นเราต้องไปอ่านเรื่อง Oh bad guys รักร้าย ๆ ของผู้ชายในคุก
ตอนพิเศษ ไอ้ดีกับไอ้ดิวโดนปล้ำ !!!!!!! :laugh: :laugh:
-
พี่ค่ะ พี่ทำรวมเล่มมั้ยค่ะ :monkeysad:
-
ในที่สุดเรื่องทุกอย่างก็ลงตัว
แก้วหมดเคราะห์สักที
o13
-
โห้ววว
เมื่อไหร่ พี่น้อง คู่นั้น
แม้งจะตาย ๆ ไปซะที
เมื่อไหร่จะได้รับโทษรับกรรมที่ก่อไว้
ชักจะไม่พอใจล้ะนะ
แล้วยังไม่เห็นฉากสวีทหวานแหววของฝิ่นกับแก้วอีก
:z3:
-
:เฮ้อ: เกือบไปแล้วมั๊ยยย??!!
I-here สองพี่น้องตระกูล ด
แม่มเลวยันชาติหน้า :fire:
-
เสียวว่าแก้วจะโดนแล้วละคะ แต่ขอบอดเลยว่าตอนนี้สะใจอะ น่ามีฉากดิวกะดีโดนกระทืบเยอะ
มาทำน้องแก้วเจ็บตั่งหลายครั้งแล้ว
-
หลงไหลในม่านหมอก มารอด้วยความคิดถึง
ชูป้ายไฟเชียร์ฝิ่น
อ้อ พงษ์อีกคน พี่ลูกขวัญใจร้ายปากแข็งจะแจ้นมาหาข้างเตียงรึเปล่า อุอุ
กดบวกเร็วไว^^
-
คิดถึงน้องแก้วแล้วน๊าาา ^^
:call: :call: :call:
-
รอไอ้พี่ดีกะไอ้พี่ดิวโดนกระทืบอีกสักที
มาน๊าเค้ารออยู่ :-[
-
อ้อมกอดเด็กช่างตอนที่ ๖๐ จบ
“จะไปไหน นอนต่อ” คำถามมาพร้อมคำสั่งและมือที่โอบเอวเขาให้ล้มตัวลงไปนอนทับแขนอีกข้างของมันตามเดิม ก่อนคนข้างหลังจะขยับตัวที่เปลือยเปล่าเข้ามาแนบชิดจนติดกับแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าของเขาเช่นกัน ลมหายใจอุ่น ๆ เป่ารดต้นคอ มือขวาที่เคยกอดเอวเปลี่ยนมาสะกิดหัวนมเขาเล่นแทน
“หลับไปก่อนก็ได้ขออาบน้ำก่อน”
มือข้างที่สะกิดหัวนมเขาเมื่อครู่เลื่อนลงไปเขี่ยสะดือเขาเล่นแล้ว
เฮ้อ...คำพูดไอ้แก้วไม่เคยเข้าหูมันเลยจริง ๆ
“รีบไปไหนวะ หืม?” ฝิ่นขยับพลางจับพลิกตัวเขาให้นอนหงาย แล้วมันก็ขึ้นมาทาบทับด้านบน ตาปรือ ๆ ที่ไม่อยากตื่น พยามยามลืมตามองหน้าเขาแว๊บเดียว แล้วมันก็ซุกหน้าลงมาที่ข้างแก้มเขา
ท่าทางเพลียจนน่าหมั่นไส้
“พี่ยังบ่นว่าร้อนเลย แล้วผมที่ทั้งร้อนทั้งเหนอะล่ะ” เขากล้าบ่น
ร้อนจนต้องถอดเสื้อผ้าโยนไปทั่วห้อง ไม่ใช่ถอดของตัวเองคนเดียว ถอดของเขานี่ด้วย จน...เอ่อ เขาเหนียวเหนอะไปทั้งตัวมันก็ยังไม่ให้เขาลุกออกจากเตียงตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อช่วงบ่ายจนตอนนี้มืดมากแล้ว
“ลบรอยไอ้สองพี่น้องนั่นให้แล้วมึงก็รีบชิ่งกูเลย” มันพูดเสียงงัวเงีย
แต่มันมีบุญคุณมากเลยเถอะ ไหนว่าไม่ได้คิดอะไรไง!
“หนัก” บ่นอุบแล้วก็นอนนิ่ง ๆ ไป เดี๋ยวมันหาว่าลืมบุญคุณอีก
“ว่าไงพี่” ฝิ่นหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ใต้หมอนมาคุยเมื่อมีสายเรียกเข้า ตามันยังไม่ลืม ข้อศอกมันก็วางขวางคอเขาไว้ “อืม ฝากด้วยละกัน คืนนี้จะนอนบ้าน เออน่าแค่นี้นะ”
มันพาดแขนข้ามคอมาสอดโทรศัพท์มือถือเข้าใต้หมอนใบที่หนุนกันอยู่
“พี่ไม้เหรอ?” จนต้องเอ่ยปากถาม เขาเดาเอาจากบทสนทนาที่ไม่กี่ประโยคและเสียงแว่ว ๆ จากสัญญาณโทรศัพท์
“พ่อแม่ไอ้พงษ์กลับไปแล้ว คืนนี้พี่ไม้กับไอ้โจ้จะเฝ้าให้” มันพูดปัด ๆ เหมือนขี้เกียจพูด
พ่อกับแม่พงษ์มาเยี่ยมมันหลังจากไอ้พงษ์ทำแผลใหม่เสร็จไม่นาน แต่เขาไม่ได้อยู่พบเพราะพงษ์มันไม่ให้อยู่ ...เขารู้เหตุผลดี
พี่ฝิ่นจึงพากลับมาที่บ้านของเขาก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ซึ่งอาจจะถูกตำบ้าง แต่จะว่าไปเขาก็พร้อมถูกตำหนิเพราะที่พงษ์เป็นอย่างนี้ก็มาจากเขาทั้งนั้น ชีวิตลูกชายคนอื่นต้องเป็นอันตราย จะหนีความจริงยังไงก็ไม่พ้นหรอก
แต่สองคนนั่นบอกจะเฝ้าให้หรือไปไหว้วานเองกันแน่
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จก็กลับไปเฝ้ามันได้แล้ว” เขาไม่อยากรบกวนคนอื่น ต่อให้ไม่มีอะไรคาใจในเรื่องของพี่เป้ง แต่ใช่ว่าสาย๓T กับ ๕x จะเป็นมิตรกันซะเมื่อไหร่ พงษ์เองก็ไม่ได้ญาติดีกับพี่ไม้หรือไอ้โจ้เพิ่มขึ้นเลย
“ให้เฝ้ากันเองแล้วเป็นยังไงล่ะ?” อยู่ ๆ มันก็ลุกออกจากตัวเขาแล้วเดินล่อนจ้อนไปเข้าห้องน้ำกะทันหันพร้อมกับคำพูดเชิงตำหนินั่น ...จนเขาใจหวิว
แก้วลุกขึ้นนั่งมองตามหลังคนอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แล้วหยิบผ้าห่มมาปิดส่วนล่างกันอุจาด แม้จะนั่งอยู่นี่คนเดียวก็เถอะ
รู้ว่าตัวเองไม่สามารถดูแลพงษ์คนเดียวได้เลย เมื่อเกิดเหตุการณ์เมื่อเช้า ยิ่งตอกย้ำว่าเขาไม่เอาไหนสักอย่าง แล้วพงษ์ที่เคยออกหน้าให้ตลอดอยู่ในสถานะที่แค่ช่วยเหลือตัวเองก็ลำบาก เมื่อถึงคราวซวยอย่างนี้ก็เอาตัวไม่รอดกันสิ
ถ้าไม่ได้โจ้ที่ซื้อข้าวเช้าเข้ามาให้พอดี กับฝิ่นที่ไม่ไว้ใจว่าดิวจะแว้งกัดอีกรึเปล่าในเมื่อยังนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน มันเลยแค่ไปส่งคนในสายเข้าวิทยาลัยพร้อมกับให้พี่ไม้มาดูให้ก่อน แต่กว่าจะเข้าห้องได้ก็ต้องรอพยาบาลไปค้นกุญแจห้องอีกหลายนาที
“จะอาบไหมน้ำน่ะ!” เสียงตะโกนดังมาจากห้องน้ำที่ไม่ปิดประตู เรียกความสนใจเขาให้ออกจากความคิดทันที
แก้วรีบหยิบผ้าขนหนูมาพันตัวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำมายืนกัดปากตัวเองพลางช้อนสายตามองหลังคนที่อาบน้ำอยู่อย่างกล้า ๆ เกรง ๆ
“แต่คืนนี้มีพี่อยู่ด้วย...” เขาเว้นวรรคเพื่อรวบรวมคำพูด “ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วใช่ไหมล่ะ”
คนตรงหน้ายังคงหันหลังให้พลางอาบน้ำถูสบู่เหมือนไม่ได้ยินที่เขาพูด ทั้งที่เรียกให้เข้ามาเองแท้ ๆ สนใจกันสักนิดสิถึงจะไม่พอใจอยู่ก็เถอะ หรือว่าน้ำฝักบัวเสียงดังไป?
“พี่ฝิ่น...” แก้วยื่นมือฝ่าสายน้ำเข้าไปจับแขนฝิ่น หวังจะให้ฝิ่นได้ยินสิ่งที่ตัวเองพูดบอก
ฝิ่นปิดฝักบัว เอามือลูบหน้าแล้วขยี้ผมตัวเองก่อนหันมามองเขาตาดุ
“กูอยากอยู่กับมึงสองคน มึงเข้าใจคำว่าสองคนรึเปล่า?” ฝิ่นจับมือแก้วออกจากแขนแล้วถอยไปยืนพิงผนังห้องน้ำ กอดอก จ้องหน้าเขา “แม่ง ถึงว่าทำไมไอ้พงษ์มันเลี้ยงมึงอย่างกับไข่ในหิน”
“ครับ?”
“ถ้ามึงเป็นผู้หญิง กูคงปลอบมึงต่อหน้าคนอื่นได้โดยไม่แคร์สายตาใคร แต่นี่มึง...”
เป็นผู้ชาย
“กูโคตรโมโห โมโหทั้งมึงทั้งตัวกูเอง!”
อึก
อยากขอร้องให้มันอย่าโมโหก็พูดไม่ออก ได้แต่ยืนเข่าอ่อนรับฟังถ้อยคำต่อว่าต่อขาน
ความรักที่บังเอิญเกิดขึ้นมาท่ามกลางความขัดแย้งคงเป็นอะไรที่ลำบากใจคนตรงหน้าไม่น้อยสินะ แม้เขาไม่คิดว่าตัวเองจะรักฝิ่นได้ เขาก็รักไปแล้วโดยไม่เคยมองอะไรรอบตัวนอกจากคนใกล้ชิดซึ่งก็แค่พงษ์ แล้วตัวฝิ่นเอง ก็ไม่ได้ปฏิเสธความรู้สึกนี้มาตั้งแต่ตั้งเงื่อนไขแล้วนี่
แต่รักที่ว่าผิดที่ผิดเวลา ก็คงไม่เท่า...รักที่สังคมมองว่าผิดปกติสินะ
“คิดอะไรก็พูดออกมา” มันสั่งอีกแล้ว
“ไหนว่าผมเป็นของพี่ หรือวะ...หรือว่า ตอนนี้พี่เปลี่ยนใจ ผมไม่ใช่คนที่พี่จะสานต่ออีกแล้ว” บอกอย่างตะกุกตะกัก ตาก็อยากจะมุดลงต่ำ หรือมากกว่านั้นอยากจะไปจากตรงนี้ซะเลย แต่คนตรงหน้าก็จ้องซะไม่กล้าเบนสายตาไปทางอื่นได้
“อยู่อย่างนี้ มึงจะเป็นอะไรก็ได้ที่มึงอยากเป็น เหมือนที่มึงเคยบอกกู นั่นกูไม่ว่า แต่อยู่ต่อหน้าคนอื่น มึงเจ็บ มึงเสียใจ กูก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าแค่ยืนมองทั้งที่กูเคยคิดว่าสามารถทำให้มึงรู้สึกดีขึ้นได้! เหอะ แต่เอาเข้าจริงกูทำได้แค่ยืนดู แม่ง...รักแล้วเป็นเหี้ยอย่างนี้เหรอวะ จะกอดก็ไม่ได้ จะปลอบก็ไม่ได้” มันโวยวายเสียงดังลั่น
“ระ รัก” แต่เขาสะดุดอยู่คำเดียว
ฝิ่นเลิกคิ้วเชิงข้องใจแล้วดึงเขาเข้าไปหาก่อนจับมือเขาทั้งสองข้างไปคล้องคอมัน
“หึ” มันยิ้มมุมปาก สองมือเลื่อนลงต่ำลูบไล้สะโพกเขาไปมา ซึ่งเขาไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว...นอกจากร้อนผ่าวที่ใบหน้าขึ้นมาอีกหนเมื่อถูกมองด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
“ไม่ได้อายที่ผมเป็นผู้ชายหรอกเหรอ?”
“กูต้องอายด้วยเหรอ? ...แต่มึงเป็นผู้ชาย จะเจ็บจะตายยังไง ผู้ชายเขาก็ไม่อ่อนแอให้ใครเห็นหรอก กูเลยทำตัวไม่ถูก ถึงว่าไอ้เหี้ยพงษ์มันขัดกูจัง แล้วก็ไม่คิดว่าจะมีผู้ชายที่โดนปลูกฝังให้เป็นลูกผู้ชายที่เจ็บตัวไม่ได้ เจ็บใจก็ไม่ได้ ไม่มีประสบการณ์ชีวิตแล้วมันจะแข็งแกร่งได้ยังไงวะ”
พงษ์มันก็เห็นว่าดีสำหรับเขาแล้วทำยังไงได้
แล้วตรรกะแปลก ๆ ของทั้งพงษ์ทั้งฝิ่น ทำไมผู้ชายจะอ่อนแอไม่ได้ ในเมื่อทุกความรู้สึกไม่ว่าจะแข็งหรืออ่อนที่ใครสักคนจะแสดงออกมา มันคือตัวตนของคนนั้นจริง ๆ
“ผมไม่ได้อ่อนแอต่อหน้าคนอื่นสักหน่อย”
“มึงไม่ร้องไห้ไม่ฟูมฟายก็ไม่ทำให้กูสบายใจขึ้นหรอก!” มันเริ่มหน้าบึ้งเสียงแข็ง
หึ เป็นห่วงเขาสินะ
แก้วแอบอมยิ้มน้อย ๆ มองสีหน้าเคร่งเครียดของฝิ่นตาใส
“แต่ตอนนี้แค่มีพี่ ผมก็ไม่กลัวอะไร” เขามองหน้าฝิ่นจริงจังพูดบอกให้มันเชื่อตามนี้ “พี่จะอยู่กับผม จะดูแล จะปกป้องเหมือนที่พงษ์เคยทำ” เหมือนที่มันเคยพูด และที่มันรับปากพงษ์ด้วย เขาไม่ตั้งสถานะว่าให้ตัวเองมีสิทธิ์แค่ไหนในตัวมันแล้ว แต่ที่มันประกาศกร้าวมาหลายครั้งหลายครา เขาก็จะใช้สิทธิ์จากคำพูดมันเหมือนกัน
“ไม่เหมือน” สองมือหลุดผล็อยวางแหมะที่ไหปลาร้ามัน ก่อนโดนรวบตัวเข้าไปชิดกัน นัยน์ตามันจ้องเขาให้มองหน้ามันอยู่อย่างนั้น มองสีหน้าแววตาที่เปลี่ยนจากเคร่งเครียดเป็นอารมณ์ชอบอกชอบใจ “แต่กูเป็นให้มึงได้มากกว่าไอ้พงษ์ เพราะกูเป็นผัว ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่พี่”
อ้าปากจะประท้วงก็ต้องรีบหุบ
“ละ ลูกผู้ชาย...เสียชีพอย่าเสียสัตย์” เขายิ้มให้คนตรงหน้า พลางยกแขนโอบรอบคอฝิ่นอีกครั้งแล้วรีบซุกหน้าเข้ากับหน้าอกของมัน
“ปากเก่งจริง ๆ แล้วกูจะสอนมึงเองว่าลูกผู้ชายของจริงต้องเป็นยังไง” มันยีหัวเขาเล่นแล้วเปิดน้ำจากฝักบัวอีกรอบ
แต่ครั้งนี้เราอาบด้วยกัน
และเขาก็เชื่อใจฝิ่นโดยปล่อยให้พี่ไม้กับโจ้เฝ้าคนป่วยแทน
.
.
.
รุ่งเช้าเขากับฝิ่นออกเดินทางจากบ้านไปหาพงษ์ที่โรงพยาบาล เปิดประตูห้องพักเข้าไปปุ๊บก็ได้ยินแต่เสียงหัวเราะของโจ้ดังลั่น
“อะไรวะ?!” เดินเข้าไปถึงปลายเตียงก็อะไรบางอย่างลอยหวือผ่านหน้าฝิ่นให้ได้ทักพอดี
ฟึ่บ!!
“อาลัยรัก” แก้วอ่านตัวหนังสือสีขาวที่ติดอยู่กับกระดาษสีดำซึ่งคาดบนหรีดพวงใหญ่ที่เมื่อกี้เกือบจะโดนหน้าเขากับฝิ่นเข้าให้ “ฮะ ฮะ ฮ่า ๆ ๆ”
“เงียบเลยไอ้แก้ว เหี้ย บอกให้เงียบ ไม่ก็ไปหัวเราะไกล ๆ เลยไป” พงษ์นั่งอยู่บนเตียงคนไข้หน้าบึ้ง มันต่อว่าแถมไล่เขาอย่างอารมณ์เสียที่ร่วมหัวเราะไปกับโจ้ ในขณะที่ฝิ่นส่ายหน้าแล้วเดินออกไปหาไม้ซึ่งยืนอยู่นอกระเบียงห้อง
“ฮะ ๆ อุ๊บ” เขาทำทีเป็นกลั้นหัวเราะจะได้ถามไถ่ “มาเมื่อไหร่ล่ะ” เขาวางพวงหรีดพวงใหญ่สีสันของดอกไม้สดใสเชียวไว้ข้างล่างข้างโซฟาแล้วเดินไปหาพงษ์ที่เตียง
“ส่งพวงหรีดมาแล้วถ้ากล้าเสนอหน้ามาก็ลองดูสิ แม่งกวนประสาทกูจริง” มันโวยกลับหน้าตาเอาเรื่อง
พี่ลูกขวัญคงรู้เรื่องจากคุณลุงคุณป้าแล้ว เลยไม่วายส่งพวงหรีดมาอวยพรไอ้พงษ์ เขาบอกปฏิเสธพ่อไม่ให้พี่ชายมาช่วยเฝ้าพงษ์ก็เพราะเจอกันก็จะเอาเรื่องกันอย่างนี้แหละ แต่ก็นะ...ยังไงสองคนนี้ก็เป็นเพื่อนกันนี่นา
ก๊อก ก๊อก
“อ้าวพี่แชมป์ สวัสดีครับ” แก้วหันไปมองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องหลังเคาะประตูเพียงครู่แล้วยกมือไหว้ ประธานสาย๓T ที่วันนี้มาเดี่ยว
ไอ้พงษ์กล่าวทักตามหลังแต่แค่พยักหน้าและยกมือขวาข้างเดียวขึ้นทำท่าไหว้เพราะอีกข้างโดนเจาะน้ำเกลืออยู่
แต่ก็คงไม่ได้ยกลำบากขนาดนั้นหรอกมั้ง?
โจ้สาย๕xลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเรียบตึงแล้วเดินออกไปสมทบกับอีกสองคนที่เฝ้ามองจากตรงระเบียงห้อง
“เป็นยังไงวะ?” ประธานสายเดินมาหยุดยืนข้างเตียงฝั่งตรงข้ามแก้ว เอ่ยถามพลางตบไหล่พงษ์
“สบายมาก” ไอ้คนโดนเย็บแผลไปสองรอบยิ้มตอบอย่างกวน ๆ
“นึกว่าจะได้กินข้าวต้มฟรี”
“อย่ามาทำวิดิโอภาพความประทับใจเพื่ออาลัยผมละกันพี่” ไอ้พงษ์ตอบก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาพร้อมกัน
“กูรู้เรื่องเมื่อวานแล้วนะ แต่มึงสองคนไม่ต้องห่วง มีรู้แค่กูกับไอ้โซ่แค่นั้น” เขาพยักหน้าฟัง ถ้าพี่แชมป์บอกก็คือรู้กันเท่านี้จริง ๆ ...ก็ยังดี จะได้ไม่ต้องอับอายไปมากกว่านี้ “กูไปคุยกับปีสองเรื่องตัดไอ้ดิวออกจากสายตั้งแต่กลับจากสระบุรีแล้ว ตกลงว่าไม่มีใครค้าน ไอ้ดิวมันก็รู้เรื่องตั้งแต่พี่ดีไปรับกลับมาละ แต่เสือกมาสร้างเรื่องอีก แต่งานนี้เรื่องพี่ดีต้องให้พวกศิษย์เก่าเขาจัดการว่ะ กูไม่ถึงจริง ๆ”
“ไอ้ดิวโดนข้อหาพยามฆ่า ไอ้โซ่มันช่วยแค่นั้นมันไม่ให้ผมรื้อคดีเพราะเห็นว่าผลเสียคงตามมาแน่ เอาแค่เคลียร์กับไอ้ฝิ่นเข้าใจก็พอ ส่วนไอ้ดี...มียาเสพติดไว้ในครอบครอง” พงษ์บอกประธานสายโดยไม่หันมองหน้าแก้ว
“พี่ดีมันพกของจนโดนจับได้เนี่ยนะ?” พี่แชมป์พูดอย่างไม่เชื่อ
“เปล่า ...ผมยัดเอง”
เรื่องยาเสพติดไม่ใช่เรื่องไกลตัวของพวกเขา เพียงแต่จะเอามาพูดหรือไม่เท่านั้นเอง
คนรอบตัวเขามันก็ลองกันทุกคน ต่างแค่ใครเล่นมาก เล่นน้อย ใครปล่อยด้วย ตรงนี้จะไม่มีปัญหาเรื่องแหล่งซ่อมสุมหากว่าไม่มีเรื่องขัดใจกันตำรวจก็ไม่มีวันหาเจอ แต่พงษ์ก็เลือกจัดการกับพี่ดีด้วยวิธีนี้ เพราะมันเคยไปลองที่นั่นมาแล้ว
“จะไม่หลุดเหรอวะ พ่อแม่มันก็เอาเรื่องอยู่”
“เลี้ยงลูกด้วยเงิน อย่างมากก็แค่หาทางประกันตัว แต่คนดูคดีเป็นลูกน้องพ่อผม อย่างน้อย ๆ ต้องเอามันไปโลดแล่นในคุกสักปีก่อน” พงษ์ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“คนอื่นรู้เรื่องแค่บางส่วนก็บอยคอตต์ไปบ้างก็มี แต่มึงก็ต้องทำใจและหาทางเตรียมรับมือเอาไว้ด้วยเพราะคนนับถือมันก็ยังมีอยู่” ประธานสายเตือน มองหน้าให้เขาและพงษ์เข้าใจ
“อืม...พี่แชมป์ ผมขอโทษนะ” พงษ์เอ่ย ประธานสาย๓Tดูงง ๆ แก้วเองก็ด้วย “ที่ให้ไอ้โซ่มันช่วยน่ะ แทนที่จะเป็นพี่ว่ะ”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร กูไม่ถือ เรื่องอย่างนี้ไม่ใช่ว่าเพิ่งเกิดซะที่ไหน กูเจอมาเยอะละ เรื่องนี้แค่พวกมึงรอดกันกูก็ยินดีด้วย จะใครเคลียร์ให้ก็ไม่เสียหายหรอก”
“ขอบคุณที่เข้าใจครับพี่” แก้วยกมือไหว้แชมป์อีกครั้ง ส่วนพงษ์แค่พยักหน้าเออออตามคำตอบของประธานสายที่ไม่ถือสาเอาความอะไรที่พวกเขาข้ามหน้าข้ามตาไปให้ประธานอีกสายช่วยเหลือ
“กูจะเข้าโรงเรียนแล้วนะ แค่แวะมาเยี่ยมเฉย ๆ พวกข้างนอกรอกันทุกตัว หายไว ๆ ล่ะ ไอ้พงษ์” พงษ์พยักหน้าให้ แก้วจึงเดินมาส่งประธานสายหน้าห้อง “ตกลงมึงเป็นญาติกับ๕xเหรอไอ้แก้ว” แชมป์กระซิบถามเบา ๆ เหล่ตามองข้ามหัวเขาไปที่ระเบียงห้อง
“เอ่อ...”
ต่อด้านล่าง
-
“ญาติมึงนะไม่ใช่ญาติกู อย่าให้เจอข้างนอกละกัน”
“ครับ” รับคำขู่ประธานสายแล้วเป่าปากอย่างอึดอัดตามหลังแล้วเดินกลับไปยืนข้างเตียงพงษ์
“เป็นอะไร?” พงษ์ย่นคิ้วถาม คงสังเกตหน้าบูดบึ้งของเขา
“ทำไมเด็กช่างต้องตีกันด้วยพงษ์” ไม่ได้ไม่รู้ แต่แค่บ่น
“ถามอย่างนี้?” มันมองหน้าเพราะต้องการคำอธิบายว่าทำไมเขานึกถามขึ้นมา
“เฮ้อ ทำไมมึงต้องพากูมาเรียนโรงเรียนอาชีวะด้วยเนี่ย” แต่เขายังบ่นไม่เลิก หงุดหงิดนี่หว่า ทำไมโรงเรียนเขากับวิทยาลัยของฝิ่นถึงต้องเป็นศัตรูคู่อริกันด้วย
“หึ นี่มึงมาคัดค้านกูตอนจะจบ ปวช.เนี่ยนะ?”
“เปล่า”
“เปล่า ๆ” ไอ้พงษ์ล้อเลียน เขาต้องถลึงตาใส่ “ตีกันมันก็แค่ส่วนหนึ่งของการโชว์พลัง เด็กช่างน่ะไอ้เรื่องใช้กำลังมันเป็นเรื่องปกติ ถ้าไปเรียนที่อื่นกูก็เป็นอันธพาลสิวะ”
“เรียนที่นี่มึงก็อันธพาลเหมือนกัน”
“อ้าว ๆ แล้วไอ้คนตรงระเบียงห้องไม่อันธพาลเลยรึไง?”
“พ่อเดียวกันแท้ ๆ” แก้วบ่นงึมงำต่อไปคนเดียวแต่ยอมรับว่าตั้งใจตำหนิมันด้วย
“กูอยากปกป้องมึงแบบแมน ๆ ไม่ใช่แค่ไปรับไปส่งหรือเป็นเพื่อนคุยกับมึง แต่ที่กูต้องการคือการได้ปกป้องใครสักคน กูว่ากูดูดีมากเลยนะ ดูเป็นผู้ใหญ่ ทั้งที่กูอายุแค่นี้ ทำให้พ่อแม่ได้ภูมิใจก่อนตาย...เท่ใช่ไหมล่ะ?”
“เรื่องอย่างนี้ ต้องให้คนอื่นบอกรึเปล่าวะ” ฝิ่นเปิดประตูกระจกเดินเข้ามาและพูดแทรกก่อนนั่งลงที่โซฟาแล้วยกนิ้วชี้ขึ้นมากระดิก “มานั่งนี่” เรียกเขาให้ไปหา
โจ้ส่งเสียงเหอะ ๆ ดูท่าคงเอือมอะไรสักอย่างไม่เอือมไอ้พงษ์ก็คงเอือมลูกพี่มัน แล้วเดินมานั่งขนาบเขาอีกข้างหลังจากเขานั่งลงข้างฝิ่นด้วยสีหน้าเซ็ง ๆ ส่วนพี่ไม้ที่ยืนพิงราวระเบียงอยู่ด้านนอกส่ายหน้าให้ทั้งที่ปากคีบบุหรี่อยู่ด้วย
“คุณลุงคุณป้าคงภูมิใจมากกว่านี้เนอะ ถ้าคนที่มึงปกป้องไม่ใช่กู” แก้วหรุบตาลงมองเท้าตัวเอง ถ้าไม่ใช่เขาที่ทำให้พงษ์เสียคน ความคิดที่จะเป็นผู้ใหญ่ของพงษ์คงน่าภาคภูมิใจกว่านี้
“พอ ๆ เลิก มีแค่กูนี่ที่มึงควรแคร์ว่าจะรู้สึกยังไง คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างเขา ไม่มีใครรู้จักมึงดีเท่ากูแล้วมึงต้องสนใจทำไมวะ” พงษ์เอ่ยเสียงแข็งขณะที่เขาชำเลืองมองหน้ามันไปด้วย
“ก็คิดซะอย่างนี้” ฝิ่นพูดเสียงเบาเหมือนต้องการแค่ให้เขาได้ยิน เขาจึงหันควับไปมองเจ้าตัว
“ไม่ต่างจากพี่เท่าไหร่หรอก” เอาตัวเองเป็นที่ตั้งไม่ต่างกัน สีหน้าเรียบเฉยกับคำพูดเรียบ ๆ ย้อนคนข้าง ๆ เข้าให้เมื่อได้โอกาส
“เหรอ?” ฝิ่นยักคิ้วถามกลับ แต่มือมันอ้อมมากระชับเอวเขาเข้าให้แล้ว นี่มันตีมึนสินะ เฮ้อ...
“ไม่สนใจว่าใครจะมองเรายังไงมันก็ดี แต่จะไม่สนใจซะทุกเรื่องก็ดูไม่เข้าท่า” พี่ไม้เดินเข้ามาแล้วปิดประตูกระจกพลางพูดเหน็บพงษ์และเดินไปหยิบกระเป๋าเป้ซึ่งวางอยู่ที่เตียงนอนของญาติผู้ป่วยขึ้นมาสะพาย
เขาเห็นด้วย เมื่อคืนไอ้พี่ฝิ่นยังบอกว่าไม่อยากให้คนอื่นเห็นด้านที่อ่อนแอของเขา แสดงว่ามันก็ยังแคร์คนรอบข้างบ้าง ...แม้บ้างไปทางน้อยก็เถอะ แต่ไอ้พงษ์มันไม่ได้สนใจใครมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่คบกับเขามาตั้งหลายปีทั้งที่คนรอบข้างคัดค้านหรอก
“เรื่องของกูเถอะครับ สวัสดี ลาก่อน” พงษ์ตอบพลางยกมือโบกไล่เมื่อเห็นว่าไม้เตรียมตัวกลับแล้ว
“พี่ฝิ่นพ่อพี่บอกให้พาไอ้แก้วไปหาด้วยนะ” โจ้บอกฝิ่นแล้วลุกตามไม้
“รู้แล้วน่า”
“ขอบคุณครับพี่ไม้ ขอบใจนะโจ้” แก้วเอ่ยแต่ไม่มีใครหยุดฟังสักวินาทีเดียว พี่ไม้กับไอ้โจ้สะพายกระเป๋าเป้คนละใบแล้วเดินออกไปทางประตูแต่ประตูห้องกลับถูกผลักเข้ามาพอดีทำให้ทั้งคู่ต้องเบรกฝีเท้ากึก
คนมาใหม่มองหน้าไม้แล้วปรายตามองแก้วแต่ไม่พูดอะไรแล้วเดินเข้ามาในห้องทันที
ขณะที่ทุกคนเงียบกันหมด ขนาดพี่ไม้กับโจ้ที่ไม่มีเวลาหยุดรับคำขอบคุณจากปากแก้วยังหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
“เหี้ย ใส่ชุดดำไปงานศพแม่มึงเหรอ?” จนลูกขวัญเดินมาถึงเตียงคนไข้ พงษ์ถึงได้เห็นว่าเพราะอะไรคนอื่น ๆ ถึงได้เงียบกัน มันจึงออกปากทักทายพี่ชายเขา(?)
พี่ลูกขวัญมาในชุดสูทสีดำอย่างกับเตรียมพร้อมจะไปงานศพใคร
“อ้าว แหม๋ก็กลัวเสียเที่ยวขี้เกียจกลับไปเปลี่ยนชุดไง” ลูกขวัญยิ้มกวนคนบนเตียงพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง “อ้อ อยู่นี่เอง นี่ก็ดอกไม้ที่มึงชอบทั้งนั้น กูไปเลือกเองที่ร้านสำหรับมึงเลย” พี่เขาเดินมาหยิบพวงหรีดที่ข้างโซฟาแล้วเอาไปวางไว้บนตักพงษ์
“เอาไปไว้หน้าโลงศพมึงเถอะ” พงษ์เหยียดปากเอ่ยเสียงแข็งแล้วจับพวงหรีดโยนใส่ตัวพี่ชายเขาพร้อมทั้งออกแรงผลักจนอีกคนเซก่อนที่พงษ์จะกดปุ่มปรับระดับเตียงเพื่อนเอนตัวนอนและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวพลางตะแคงหันหลังให้คนที่เพิ่งมา
แก้วต้องลุกเดินไปหาพี่ชาย
“พี่พงษ์ไม่เป็นอะไรมากแล้ว พี่ขวัญกลับไปก่อนเถอะครับ”
“เสือก!” ทั้งโดนด่าทั้งโดนผลักหน้าอกจนเขาถอยไปชนผนังห้องแต่ไม่ได้แรงจนถึงขั้นเจ็บแค่ชนเฉย ๆ
“อยากมีเรื่องเหรอมึงน่ะ?” ฝิ่นลุกเดินมาดึงแขนเขาแต่ตากลับจ้องหน้าลูกขวัญอย่างคนเอาเรื่อง
“เหอะ กูไม่ได้มาเสวนากับมันแล้วมันสะเออะมาไล่กูเนี่ย ไม่เรียกว่าเสือกตรงไหน ...โอ๋กันเข้าไป” พี่ลูกขวัญแสยะยิ้มยืนยันว่าเขาเสือกจริงแถมเหน็บฝิ่นลงท้าย
“แล้วยังไง? แล้วยังไง?” แล้วไอ้ฝิ่นเนี่ยก็ผลักหน้าอกพี่ชายเขาไปสองครั้งอย่างทันทีทันใด
“อย่าทำพี่ขวัญ” แก้วต้องกระตุกแขนมัน เพราะพี่เขาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ต้องถึงขนาดต้องข่มขู่หรือใช้กำลังด้วยหรอกแค่พี่ชายเขาสบายใจก็ปล่อย ๆ ให้พูดให้ทำไปเถอะ แต่เขากลับโดนฝิ่นหันมาถลึงตาใส่
“ขวัญมึงกลับไปเถอะบอกตรง ๆ กูรำคาญว่ะ” คนป่วยที่นอนหันหลังให้พร้อมหลับตาพูดบอก
“จิ๊ กูแค่เป็นห่วง ทั้งที่เกิดเรื่องมาตั้งกี่วันแต่กูเพิ่งรู้เรื่องเนี่ย”
“ห่วงชีวิตมึงเถอะ”
“เฮ้อ มึงจะทำเรื่องไร้สาระแล้วต้องเจ็บตัวบ่อย ๆ ไปอีกนานเท่าไหร่วะพงษ์” พี่ชายเขายืนกำสองมือแน่นพูดด้วยอารมณ์ต่อว่าพงษ์ หรืออีกนัยหนึ่งก็ต่อว่าเขาด้วย
“กูไม่ตายก่อนมึงหรอก” พงษ์ไม่สนใจคำพูดเหล่านั้นเลยแต่สวนกลับซะจนพี่ชายเขาเลือดขึ้นหน้าจนโพล่งออกมาเสียงดัง
“เพราะไอ้แก้ว!...”
พี่ไม้เดินมาหยุดข้างพี่ขวัญแล้วจับข้อศอกพี่จนเจ้าตัวต้องหันไปมองทั้งที่ยังพูดไม่จบ
“กลับ ทีหลังเป็นห่วงใครก็แสดงออกให้สมกับที่ห่วงก่อน ไม่ต้องหาเรื่องมันซะทุกครั้ง” พี่ไม้บอกพี่ลูกขวัญ
“มึงจะรู้อะไร!”
“แล้วมึงล่ะ รู้แต่ทำไมยังทำซ้ำ ๆ ซาก ๆ” เมื่อความหวังดีถูกสะบัดแขนออกและโดนตะคอกกลับ พี่ไม้ก็สวนกลับเสียงเข้มเหมือนกัน
“.......” พี่ขวัญมองพงษ์จากด้านหลังด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจ ความแข็งกร้าวของนัยน์ตา แต่กลับสัมผัสได้ว่าห่วงใย พี่ไม่ชอบให้พงษ์คบกับเขาเลยหวงแหนตำแหน่งเพื่อนที่ถูกเขาแย่งมา จนสองคนนี้ต้องแตกคอกัน แต่พี่ลูกขวัญก็คงยังแคร์พงษ์ไม่น้อย “เฮ้อ มึงรีบรึเปล่า?” พี่ลูกขวัญเอ่ยถามพี่ไม้ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“รีบ”
“หึ” คำว่ารีบที่ดูออกว่าปฏิเสธ พี่แค่นเสียงในลำคอคล้ายว่ารู้คำตอบอยู่แล้ว “ไว้กูจะมาเยี่ยมอีกละกัน” ก่อนบอกคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง แล้วเดินผ่านพี่ไม้ไป
“ขับรถดี ๆ ล่ะ” พี่ไม้เดินออกไปส่งถึงหน้าประตูท่ามกลางสายตาของทุกคน ...ยกเว้นไอ้พงษ์
“ไม่มีอะไรแย่ไปมากกว่านี้แล้วล่ะ” พี่ลูกขวัญตอบในขณะก้าวเดินผ่านหน้าโจ้ซึ่งยืนอยู่ตรงทางออก
“ทำอย่างกับจะไปส่งเขาเลยนะพี่ ไม่รู้ว่าทำไมต้องไม่อยากให้มันโดนด่าตรงนี้ก็ไม่รู้เนอะ” โจ้ส่งเสียงเหมือนพูดขึ้นลอย ๆ แต่ใครก็ฟังดูรู้ว่ามันแอบเหน็บ
“จะพูดอะไรไอ้โจ้ นี่พี่มึงนะ” ฝิ่นปล่อยแขนเขาแล้วเจ้าตัวก็เดินกลับไปนั่งที่โซฟาคนเดียว แก้วถอนหายใจแล้วเดินตามไปนั่งข้างกัน
พงษ์คงหลับไปจริง ๆ แล้ว ถึงได้ไม่ลุกมาโวยอะไรต่อ
“หรือพี่ไม่คิดล่ะ” โจ้ถามความเห็นฝิ่นซึ่งนั่งขาไขว้กันแล้วกระดิกเท้ามองหน้าพี่ไม้อย่างวิเคราะห์
“เรื่องของพวกมึงเถอะ แต่บอกได้เลยว่าไม่ใช่” ไม้ตัดบทด้วยการกระชับกระเป๋าเป้แล้วเดินออกไปถึงตัวโจ้
“เด็กมีปัญหา หึ”
“ไอ้โจ้!” ฝิ่นเสียงแข็งใส่เมื่อพี่ไม้ยืนอยู่ตรงหน้าไอ้โจ้พอดี “แล้วพี่เป็นอะไรกับมันมากรึเปล่า ถ้าว่าช่วยผมเรื่องผมก็จบแล้วนะ ไม่จำเป็นต้องไปดีด้วยกับคนพรรค์นั้นต่อหรอก” ไอ้พี่ฝิ่นมันหลอกด่าพี่ชายเขาซึ่ง ๆ หน้า ไม่ได้คิดว่าเขาจะรู้สึกยังไงเลย มันด่าพี่ชายเขาแต่มองหน้าเขาไปด้วย!
“แค่เพื่อนกินเพื่อนเที่ยวน่า ไม่ได้เจอบ่อยสักหน่อย พวกมึงนี่อะไรวะ” พี่ไม้ที่คิ้วชนกันมองฝิ่นตาขวาง
“ผมเคารพการตัดสินใจของพี่เสมอ” ฝิ่นลุกขึ้นยืนมองหน้ารุ่นพี่ตัวเอง
แก้วก็นั่งเงียบ เพราะเป็นเรื่องของสายนั้นไม่เกี่ยวกับตัวเอง
“กูยังไม่อยากมีภาระ” ประธานสาย๕xคนล่าสุดกับอดีตประธานสาย๕xเสียงเย็นยะเยือกใส่กัน
“ภาระเลยเหรอพี่?” โจ้แทรก
“ไม่ต่างจากเอาอีกคนมาแขวนคอตัวเอง มึงว่าเป็นภาระไหมล่ะ เดี๋ยวก็หวง เดี๋ยวก็ห่วง หึ กูยังไม่อยากดูแลใคร ไม่อยากเหมือนไอ้ฝิ่นตอนนี้ ไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีกว่ะ”
ฝิ่นล้วงกระเป๋าสองข้างด้วยใบหน้านิ่ง ๆ มองหน้ารุ่นพี่มัน
“ถ้าอย่างนั้น...ให้ผมดูแลพี่นะ”
“หืม?” สิ้นประโยคของโจ้ไอ้ประธานสาย๕xที่หาเรื่องรุ่นพี่ด้วยใบหน้านิ่ง ๆ ก็คิ้วขมวดกันเป็นปมขึ้นมา
“ผมอยู่ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ ผมขอดูแลพี่จนกว่าพี่จะพร้อมดูแลใครละกัน พี่ฝิ่นยังเห็นด้วยเลย” โจ้บอกต่อ
“ถ้ามึงไม่มีนัยยะแอบแฝง...” ฝิ่นหน้าเหี้ยมใส่รุ่นน้องมัน
“โธ่พี่ฝิ่นตั้งแต่มีเมียเป็นผู้... เอ้ย ขอโทษครับผมล้อเล่น” ฝิ่นก้าวเท้าไปหาโจ้พลางเอามือแตะไหล่มัน ไอ้โจ้จึงรีบเปลี่ยนเรื่องพร้อมยกมือไหว้ “พี่บอกให้ผมช่วยดูพี่ไม้ให้ไม่ใช่เหรอ อย่าลืมสิครับพี่”
“เหอะ”
“ไม่ดีกว่าโจ้ ถ้าหวังดีกับกู แค่มึงอยู่ข้าง ๆ กูก็พอไอ้น้อง” พี่ไม้ตบไหล่โจ้อีกข้างและจับมือฝิ่นออกจากบ่าไหล่มัน ก่อนเดินนำออกจากห้องแล้วโจ้ค่อยยกมือไหว้ฝิ่นอีกรอบและวิ่งตามหลังพี่ไม้ไป
ฝิ่นเดินกลับมาแต่ไปยืนข้างเตียงฝั่งที่พงษ์หันหน้าไป
มันมองพงษ์เงียบ ๆ คล้ายพินิจพิจารณาอะไรสักอย่าง
เฮ้อ...ไม่รู้คิดอะไรอยู่แก้วจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยถามเจ้าตัวออกไป
“ผมเป็นภาระให้พี่รึเปล่า?”
“เป็น” ไอ้พี่ฝิ่นตอบทันทีทันใด มันจะใช้เวลากลั่นกรองความคิดก่อนสักหน่อยก็ไม่ได้ อารมณ์จะเชื่อมั่นอะไรสักอย่าง ห่อเหี่ยวลงทันตา ...ไม่น่าอยากรู้เลย
คิดเองเออเองให้ตัวเองมีความสุขไปเรื่อย ๆ ยังดีซะกว่า
“ถ้าลำบาก กูดูแลของกูเองได้” พงษ์ที่คิดว่าหลับแล้วส่งเสียงขึ้นมาแทรก
“หึ กูนึกแล้ว” ฝิ่นหัวเราะในลำคอ ขณะที่พงษ์ขยับตัวขึ้นนั่งเพื่อมาฟาดฟันสายตากับฝิ่นโดยไม่ใช้เครื่องปรับระดับเตียงจนเจ้าตัวเบ้หน้าด้วยความที่ยังเจ็บแผลอยู่
“จะนาทีนี้ หรือนาทีไหน แค่มึงพูดออกมาจากใจจริงของมึงโดยไม่ต้องรู้สึกผิดเหี้ยอะไรจากที่แล้วมา ไอ้แก้วมันรับได้ทั้งนั้นแหละ อยากให้มันอยู่ หรืออยากให้มันไป เอาความจริงมาพูดกัน อย่ามาสร้างฝันลม ๆ แล้ง ๆ ให้มัน!” พงษ์กำหมัดเกร็งคาดคั้นฝิ่นเป็นชุดด้วยเพราะมันได้ยินทุกคำที่ทุกคนในห้องนี้พูดคุยกันมาตลอด
พงษ์ไม่รู้หรอกเวลาเขาอยู่กับฝิ่นมันเป็นยังไง
ความแน่นอนที่ไม่แน่นอนอยู่เป็นพัก ๆ แต่ความมุ่งมั่นของเขามันเหนือกว่าสิ่งที่ได้ยิน ได้ฟัง ได้รู้สึก เสมอ
“กูอยากมีภาระ”
พงษ์ถึงกับพูดไม่ออก
หึ...
ชีวิตบนเส้นทางของนักเลงฝึกหัด แม้ไม่ได้ชอบใจไปซะทุกสิ่งที่ต้องเดินบนหนทางที่เจอะเจอกับมีด หอก คม ดาบ และอีกสารพัดอาวุธที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าจะออกรบ
แต่ความแข็งแกร่งก็เหมือนเกราะกำบังตัวที่ห่อหุ้มนักเรียนนักเลงให้รอดพ้นจากอันตรายเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ไปจนกว่าจะเรียนจบ
...ทุกคนจึงต้องมีความกล้า และแกร่ง ไว้เป็นต้นทุนนอกเหนือจากอาวุธนอกกายที่เอาไว้ข่มคู่อริ
อ้อมกอดเด็กช่าง...อ้อมกอดแข็งกระด้าง ไร้ความอ่อนโยน ไร้ความนุ่มนวล เจ็บบ้าง หายใจไม่ออกบ้าง บางครั้งกระดูกแทบหัก
แต่สำหรับใครบางคน
...นั่นคือความปลอดภัย อุ่นใจ และมั่นคง
- จบ -
แต่อย่าเพิ่งย้ายนะคะ เดี๋ยวมีตอนไม่ค่อยพิเศษ(อีกนานกว่าจะตามมา)
เป็นตอนจบที่ไม่มีอะไรสวยงาม แต่...คนเขียนชอบอย่างนี้จริง ๆ ค่ะ ฮ่า ๆ ๆ (รอตอนพิเศษที่จะมาเก็บ ๆ ช่องโหว่ไปก่อนนะคะ^^)
รวมเล่ม แหะ ๆ “ซีซั่นยังไม่ขอตอบอะไรตอนนี้นะคะ” ...ดูเป็นดารามากจ๊ะ กร๊ากกก
คือพูดก็พูดเถอะ ตอนนี้คนเขียนไม่มีเวลาตรวจทานและแก้ไขตอนก่อน ๆ เลยค่ะ อย่างที่บอกว่าอยากทำ แต่ถ้าทำไม่เต็มที่ก็ไม่อยากทำ ฮ่วย! แต่ภายในปีนี้ คนเขียนยังไม่รวมเล่มแน่นอนค่ะ
ขอบคุณที่ถามไถ่มาเรื่อย ๆ นะคะ ซึ่งนังคนเขียนไม่ได้มีคำตอบดี ๆ ให้เลย ฮ่า นางมีจุดยืนที่ไม่แน่นอนเสมอ :laugh:
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะจ๊ะ กอด ๆ จุ๊บ
-
เฮ้อ ไม่อยากให้จบเลยสนุกมาก
รอตอนพิเศษนะ :pig4:
-
"กูอยากมีภาระ" แมนมากค่ะพี่ฝิ่น อยากมีภาระเพิ่มไหมคะ อิอิ
พี่ไม้กับพี่ลูกขวัญนี่ไปถึงขั้นไหนแล้วหนอ ไม่ธรรมดาซะแล้ว
ถ้ามีตอนพิเศษ ขอพี่โซ่กับพี่ภูด้วยค่ะ ถึงอิพี่ฝิ่นเป็นพระเอก แต่อิฉันเป็นเมนพี่ภูค่ะ
-
ว้าาา! จบซะแล้ว ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
-
จบแล้ว แง๊~~
แม้จะเริ่มต้นรักด้วยเงื่อนไขที่ได้ถูกตั้ง
แต่ก็จบด้วยรักที่เกิดขึ้นจริง
อิพี่ฝิ่นมันชอบดุ ชอบว่า ชอบพาไปหาเรื่อง
แต่ทุกครั้งมันก็ปลอบโยนทุกครั้ง
น้องแก้วที่ชอบคิดว่าไม่มีใครรัก แต่พอมีคนที่รักก็คงสุขล้น
จบแล้วอ่ะ พี่ซีงั่นค่ะ NC แบบ Full HD ทำไมไม่มี๊ ฮือออ
-
จบไปแล้ววววววว
ยังไม่อยากให้จบเลย
เพราะเรื่อวนี้ให้บรรยากาศดิบๆเถื่อนๆแต่มีความสุขดีชะมัดเลย
รอตอนพิเศษนะคะ
หวังว่าเรื่องหน้าจะมีมาให้คนอ่านได้ซึมซับบรรยากาศดิบเถื่อนอีกนะคะ
ให้กำลังใจคนเขียนสู้ๆทั้งงานหลักงานอดิเรก
-
จบแบบหายใจทั่วท้องหน่อย
-
จบแล้ววว
ใจหายจัง
-
โหยยย จบและ !
รอตอนไม่ค่อยพิเศษนะ
-
นิยายคงจบแค่นี้ แต่ในเรื่องแก้วกับพี่ฝิ่นและทุกๆคนก็เพิ่งจะเริ่มต้นกับชีวิตที่ก้าวพ้นอะไรๆหลายๆอย่างเนอะ :กอด1:
รอตอนพิเศษนะคะ :L2:
-
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ :L2: :pig4:
-
พี่ฝิ่นอย่างแมนอ่ะพี่ "กูอยากมีภาระ"ว่างั้น
ภาระอะไรล่ะ นั่นเมียนะพี่ คึคึ~
จบลงด้วยดี เถื่อนบ้างตามประสาเด็กช่าง
เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจ
ขอบคุณพี่ซีมากกกก รอตอนพิเศษนะคะ
-
รอๆๆๆ รอตอนพิเศษจ้า!!!!
-
ยังไม่อยากให้จบเลย ยังเห็นความหวานของไอ้ฝิ่นไม่เยอะเลย 555 น่าจะมีภาคต่อของพี่ไม้กับลูกขวัญนะ ชอบๆ ถ้าไอ้ขวัญมันจะเป็นนายเอกที่ปากร้ายตีนถึงดี 555 พี่ไม้ก็อบอุ่นมั่ก ถ้าเป็นไอ้พงษ์กับไอ้ขวัญคงเลือดสาดจอ แต่ถ้าให้ฮาเราเล่งเห็นโจ้กับแสน 555 (คิดไปได้)//เข้าเรื่อง รักไอ้แก้วมาก มันทั้งน่าเอ็นดู น่าสงสาร น่าหมั่นไส้ในความซื่อของมันด้วย ถ้าเราเป็นฝิ่นคงรักคงหลงไอ้แก้วมาก ขนาดเป็นแค่คนเกาะขอบ 555 ไอ้ฝิ่นเอ้ยขอหวานกว่านี้หน่อยดิ อิอิ
-
:a5:
จบแล้ว จบแล้ว จบจริงงะ? o22 หลังจากติดตามมาแบบเงียบๆ ลุ้นว่าตอนสุดท้ายจะเป็นแบบโศกนาฐกรรมมั้ย ยิ่งตอนไอ้พงษ์เกือบตาย ใจหายแว๊บบบบบบบบบบบบ (ถ้ามันได้ตายจริงจะงอนคนเขียนด้วย) แต่พอจบแบบนี้ เฮ้ย กูโล่ง :laugh: :laugh: ถึงหลายอย่างจะยังไม่เคลียร์ และยังอยากรู้ความเป็นไปของอีกหลายตัวละคร แต่เรื่องห่ามๆ ก็ควรจะจบแบบห่ามๆ แบบนี้ล่ะเนาะ (เหมือนคนเขียน o18) อยากบอกว่าในเรื่องนี้ชอบตัวระครหลายตัวมาก จะแปลกมั้ยถ้าจะบอกว่าชอบไอ้เป้งว่ะ มันถูกใจดี ถึงจะออกมาไม่กี่ฉาก แต่เหมือนเป็นตัวเอกทั้งเรื่อง เพราะถ้าไม่มีเรื่องของไอ้นี่ทุกคนก็คงไม่ได้มาเจอกัน อีกอย่างคือชอบความเป็นอาร์ตตัวพ่อของมันมาก ทั้งความคิดความเอาแต่ใจ มึงโคตรติสต์เลยวะเฮ้ย
อีกคนคือพี่ไม้สุดเท่ห์ o13(แม้มีบางแวบแอบอยากกดพี่ก็ตาม :o8: :-[ :impress2:) ผู้ชายแบบนี้ในชีวิตจริงคงหายากที่สุดในปฐพีแล้ว (แอบเชียร์โจ้ให้คู่กะพี่เขาอยู่นะเนี่ย จะโดนแฟนคลับพี่เขาโบกหัวมั้ย555)
และที่สุด ต้องบอกว่าชอบแก้ว แม้ใครจะมองว่ามันอ่อนแอที่สุด แต่ในความรู้สึกเรามันเป็นคนเข้มแข็งที่สุดในเรื่องแล้ว เจอทั้งความกดดัน ความเจ็บปวด และอีกสารพัด แต่ก็ยังทนมาได้ มึงไม่หล่อ มึงไม่เท่ห์ แต่ใจมึงถึกสุดยอดเลยว่ะ o13
ดีใจที่เรื่องนี้จบลงท่ามกลางความโล่งใจของทั้งคนเขียนและคนอ่าน :เฮ้อ: ดีใจกะน้องสาวคนนี้ที่เขียนนิยายได้ขนาดนี้เลยนะเนี่ย :mc4: o13 o13
-
จบแล้วว
:pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆอีกเรื่องค่ะ
-
หืม สมกับเป็นเด็กช่าง สั้นๆห้วนๆ
อั๊ยยยย รอต่อพิเศษ
-
:L1:
-
เอาใจไปกับ "กูอยากมีภาระ" ยินดีดูแลตลอดชีวิตว่างั้น กริบกริ้วววว ฝิ่นเท่ที่สุด
-
กริซซซซ จบแล้วอ่า :sad4: คงคิดถึงฝิ่นคิดถึงพี่ไม้ แก้วพงษ์อีกนาน
ชอบวิธีแสดงความรักของแต่ละคนจัง ไม่ถึงกับนิ่มหวาน แต่ดูจริงใจ ไอเลิฟยู
เราจะกางเต้นรอตอนพิเสษ ขอหวานๆฮาๆ :laugh:
ปล. ก็อยากให้พี่ไม้คู่กะโจ้นะ อย่าไปคิดสั้นกับขวัญเวรเลย
-
รอตอนพิเศษล่ะตัวว
-
ก็นะ อ้อมกอดเด็กช่าง อาจจะไม่หวาน แต่ก็ปลอดภัยมั่นคง เรื่องทุกอย่างก็เคลียร์กันหมดแล้ว หลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องระหว่างฝิ่นและแก้วแล้วล่ะที่จะต้องดำเนินต่อไป
อยากอ่านพี่ไม้กับพี่ลูกขวัญจัง สองคนนี้ดูเหมาะกันดี เชื่อว่าพี่ไม้เอาอยู่แน่นอน
แต่ตอนที่ โจ้บอกว่า “ถ้าอย่างนั้น...ให้ผมดูแลพี่นะ” เราก็แบบ หืมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม :a5: แต่ไม่มีนัยยะใช่มั๊ยโจ้ 555
ขอบคุณนะคะที่แต่งมาให้เราได้อ่านกัน นี่เป็นเรื่องแรกเลยที่เราได้เม้นตั้งแต่แรกยันจบ ดีใจ :กอด1:
รอตอนพิเศษน้า
-
“กูอยากมีภาระ”
เจอคำนี้เข้าไป ฟินนนเลย :-[
ประโยคเดียว แย่งซีนมากค่ะฝิ่น :laugh:
-
บ๊าย บาย พี่ฝิ่น น้องแก้ว รักกันๆ (แต่ก็ยังรอตอนพิเศษอยู่น้า อิอิ)
-
:pighaun: :pighaun: รู้สึกฟินอย่างบอกไม่ถูก...
-
ดีจัง แฮปปี้เอนดิ้ง ทุกคนเข้าใจกันแล้ว :L2:
-
:seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
-
o18 ยังไม่อยากให้จบเลยอยากให้มีต่อเรื่อยๆ เหมือนหนังเรื่องปอบหรือไม่ก็บุปผาราตรี อ่ะ :laugh:
:impress2: รัก น้องแก้ว พี่ฝิ่น พี่พงษ์ พี่ไม้ ฯลฯ มากมายจนเลือกไม่ถูกเพราะคนเขียนแต่งเก่งมากๆจนแต่ละนายมีความพิเศษน่าค้นหาทุกคน :impress2: :-[
แต่แอบอยากบอกว่าตอนจบน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆ :กอด1:
-
อยากอ่านตอนพิเศษที่ไม่พิเศษของผู้เขียนจังเลยค่ะ
ในทีสุดเรื่องนี้ก็จบลง เราคงคิดถึงฝิ่นกับแก้วน่าดูเลย อิอิ
มานั่งอ่านเรื่องนี้ทีไร ก็คิดถึงวิถีนักเลงนะ โลกนี้ไม่ได้แบ่งแยกขาวดำชัดเจน บางทีเราคิดว่ากลุ่มเด็กช่างเหล่านี้กลับมีความตรงไปตรงมาน่านับถือกับการกล้าชนกับปัญหา ความรักในพวกพ้อง หาน้อยที่จะมาทรยศหักหลังกัน ย้อนนึกถึงกลุ่มคนระดับเบื้องบนที่ประณามการกระทำของคนกลุ่มนี้ว่าไม่ดีทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นพวกเล่นพรรคเล่นพวก หาประโยชน์ใส่ตัวน่ารังเกียจมากกว่าด้วยซ้ำ
ไม่ได้สนับสนุนเรื่องการใช้ความรุนแรงค่ะ แค่มองในมุมว่ามันมีความเลวที่เหนือกว่าการเป็นนักเลงที่ดูจริงใจของเด็กช่างอีกมากมาย
ปล.รักแก้ว หลงฝิ่น ^^
-
จะรอตอนพิเศษนะ
o13
-
แก้วคิดมากนะนั่น แต่ก็คงเพราะการกระทำเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของฝิ่นบางทีก็เลยทำให้แก้วไม่มั่นใจ แต่แก้วทุกสิ่งที่ฝิ่นแสดงออกก็บ่งบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าฝิ่นรู้สึกยังไง ฝิ่นตอนพูดกับพงษ์เท่มาก ๆ ไม้กับขวัญนี่ยังไง ๆ ก็ไม่รู้ รอตอนพิเศษค่ะ
-
ฝิ่นแมนโคตรๆ
รอตอนพิเศษนะคะ
-
o13 o13
จบลงอย่างสวยงามแล้วกับนิยายเรื่องนี้ที่ชอบมากจริง ๆ
รักพี่ฝิ่น รักแก้วมาก ชอบความอบอุ่นแบบแข็ง ๆ ที่ฝิ่นให้แก้ว
อยากมีมั่ง อิอิ
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุก ๆ แบบนี้มาให้อ่านนะจ๊ะ
จะรอตอนพิเศษ และเรื่องใหม่นะ
-
ภาระแบบนี้ มันก็น่ามีอะนะ
-
สนุกมาก o13
อ่านไปน้ำตาก็หยดเเหมะๆ สงสารเเก้วเวอร์ :m15:
กว่าจะรักกันได้เลือดตาเเทบกระเด็น :เฮ้อ:
รอตอนพิเศษอยู่นะคะ :กอด1:
-
"กูอยากมีภาระ"...จบเลยจ้า
ชอบประโยคนี้จริงๆ
ชอบฝิ่น ><
-
อย่าเพิ่งรวมเล่มเลยค่ะ
เพราะเก็บเงินไม่ทัน :เฮ้อ:
-
ขอแสดงความยินดีกับผู้แต่ง o22
เธอได้สำเร็จในสิ่งที่ยากยิ่งไปแล้ว นั่นคือการเขียนจนจบเรื่อง
มันช่างเป็นเรื่องที่ใช้ความสามารถมากมายจริงๆ (หนูไม่สามารถทำได้)
รีบๆรวมเล่ม เค้าอยากอ่านเป็นเล่มง่ะ ไม่ชอบอ่านในเว็บ งุงิงุงิ
-
ว้าจบซะและ ชอบจังตรง "กูอยากมีภาระ" เนี้ย :impress2: รอตอนไม่ค่อยพิเศษครับ
-
จบแล้วเสียดายจัง
สนุกมากเลย
o13
-
จบแล้ว..>.<
พี่ฝิ่นจบประโยคได้สวยมาก.."กูอยากมีภาระ"..ได้ใจสุดๆ.. o13
รอตอนพิเศษนะคะ :pig4:
-
"กูอยากมีภาระ" โดนใจมากประโยคนี้ ดีใจแทนแก้วด้วย :impress2:
รอตอนพิเศษที่ไม่พิเศษด้วยคนเพราะยังอยากรู้อีกหลายเรื่องเลย
:L2: ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องสนุก ๆ เรื่องนี้
-
:a5: ฮะ จบแล้วเหรอ
แล้วพี่ไม้จะคู่กับใคร ยังไม่มีคู่ให้พี่ไม้เลย
-
:L2: :L2: :L2:
-
สนุกมากกกกกก มีหลายความคิดของตัวละครที่อ่านแล้วชอบปนอึ้งจนต้องคิดตามเลยค่ะ
ขอบคุณนะจ๊ะสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ o13
-
อยากให้มีตอนพิเศษ
แบบหวาน ๆ งอน ๆ ง้อ ๆ กัน ริมทะเลไรงี้นะ
สักตอนไม่ได้เหรอ... :-[ :-[ :-[ :impress2: :impress2:
-
เข้ามาอ่านรวดเดียวจบ สนุกมาก
มีงงบ้างที่บางตอนที่ไม่รู้ใครพูด ต้องเดาเอา
สรุปว่าดิวบ้าที่สุด เป็นโรคจิตอยากได้การยอมรับ ขี้อิจฉา
ส่วนดี อ่านแรกๆดูเหมือนเกลียดดิว เบ่งว่าใหญ่กว่า ไหงตอนท้ายดูเหมือนกลายเป็นลูกน้องดิวซะงั้น
-
ชอบมากค่ะ ไม่รู้จะเขียนอะไร
แต่ขอบคุณนักเขียนอ่ะ สนุก
รอพี่ไม้ด้วยคนอ่ะ o13
-
อ่าน จบไปแล้ว ก็รู้ว่าจบ แต่ก็แบบ งง งง
พอรู้ว่าตอนจบมันเป็นยังไง
แล้วกลับมาอ่านอีกรอบ
อืมมม เข้าใจแระ
-
ผมว่าจบแบบนี้ถือว่าสมบูรณ์แล้วสำหรับเรื่องนี้ ชอบครับ
รอตอนพิเศษนะ
-
ชอบอ่ะ น่ารักมากๆๆๆๆ ตอนแรกๆนี้แบบว่าโกรธเค้า ไม่ชอบ แต่สุดท้ายนี้ห๊วงหวงนะฝิ่น 555
อยากอ่านตอนพิเศษแล้วอ่ะ อยากรู้ว่าระหว่างไม้กะพี่ขวัญจะเป็นยังไงต่อไป ???
ปล.ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
:L2: :L2:
-
อ้อมกอดเด็กช่าง Drama Special Part 1
ลงจากรถเมล์สาย ๓T แล้วเดินหิ้วชุดครุยเข้ารั้วโรงเรียนอย่างพะรุงพะรัง พลันหันไปด้านซ้ายยกมือไหว้องค์พ่อ(พระวิษณุกรม)ซึ่งตั้งห่างจากรั้วโรงเรียนไม่กี่เมตรโดยไม่ได้หยุดฝีเท้า
ก่อนหน้านี้หลังจากฝึกงานเสร็จเขาก็ยังต้องมาเรียนอีกหนึ่งเดือนก่อนจบ การเดินทางก็โดยสารรถประจำทางตามปกติ จะเปลี่ยนไปก็แต่นอกจากเพื่อนร่วมสายคนอื่น ๆ ที่คุ้นเคยแล้ว กลับไม่ได้มีพงษ์ ไม่ได้มีพี่ดิว เหมือนก่อนหน้านี้ แต่ไอ้ประธานสาย๕x มันก็ปล่อยให้เขาเดินทางตามลำพัง โดยติดเงื่อนไขเล็ก ๆ ที่ว่า หากมีอะไรไม่เข้าท่าต้องรีบโทรหามันทันที
ตั้งแต่กลับมาเรียนจะมีก็แต่เพื่อนร่วมสายบางคนมองมาอย่างขัดเคืองบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีการกระทบกระทั่งอะไร ส่วนหนึ่งคงเพราะมีคนเดิมอีกคนที่ไม่ได้หายไปไหน ยังนั่งตัวโตอยู่ตรงเบาะหลังสุดของรถทุกวัน
ยกเว้นวันนี้ที่พี่แชมป์พร้อมคนในสายบางส่วนไม่มา และรถเมล์ก็โล่งจนมีที่นั่งเหลือเฟือ...
เมื่อเดินมาถึงซุ้มไม้หน้าตึกบริหารฯ แก้ววางชุดครุยที่เพิ่งได้มาเมื่อวานตอนเย็นลงที่โต๊ะกลางซุ้ม แล้วยกมือไหว้พี่โซ่ ประธานสาย๙T ซึ่งนั่งอยู่มุมโต๊ะคนละฝั่งกับไอ้แสน
ประธานสาย๙T พยักหน้าและชูบุหรี่ที่อัดเข้าปอดแต่เช้าให้เป็นการทักทายตอบ
...วันนี้มีพิธีรับใบประกาศนียบัตรของ ปวช.๓ กับ ปวส.๒ ที่จบการศึกษาในปีนี้
แต่ประธานสาย๙Tซึ่งเทอมนี้เรียนอยู่ปวส.๑ แผนกช่างยนตกรรม มานั่งทำอะไรที่นี่? เวลานี้?
“แสน” ก้าวขาเข้าไปในซุ้มแล้วนั่งลงข้างเพื่อนพลางสะกิดแขนที่มันวุ่นอยู่กับการผูกเนคไทพันรอบคอด้วยสีหน้าเอาเป็นเอาตาย
“บั๊ดดี้มึงผูกเป็นใช่ไหมผูกให้กูบ้างสิ อ้าว” ตอนแรกมันก้มหน้าก้มตาถามแต่แล้วมันก็ดึงเนคไทออกจากคอแล้วเงยหน้ามองเขา ...มองคอเสื้อเขา “เมื่อวานอาจารย์สอนมึงผูกได้แล้วนี่หว่า?”
“ก็ว่าจะซักไง ซักเสร็จค่อยผูกใหม่ก็ได้ ...แต่กลัวชุดครุยไม่แห้งเลยเปลี่ยนใจ” หิ้วชุดครุยกลับเข้าโรงเรียนด้วยสภาพเดิมของเมื่อวาน และเนคไทที่ยังไม่ได้ผูกใหม่
แก้วหยิบเนคไทเส้นสีน้ำเงินที่มีตัวหนังสือปักชื่อย่อของโรงเรียนอยู่ด้วยออกจากกระเป๋ากางเกงเอามาคล้องคอแล้วดึงไขว้ ทับ สอด สลับไปมา อย่างมุ่งมั่น
“ถุยครับมึง” ไอ้แสนคงไม่ได้ชื่นชมเขาเป็นแน่
ต่างกันตายล่ะ...
เหน็บมันในใจแล้วลุกออกจากซุ้มเพื่อยืนเคารพเพลงชาติและเพลงมาร์ชประจำโรงเรียนจบแล้วนั่งลงหันหลังให้แสนเพราะขี้เกียจก้าวเข้าก้าวออก และหันมาวุ่นกับคอใครคอมันต่อจนลืมข้องใจเรื่องพี่โซ่ไปแล้ว
“ไอ้แก้วมานานรึยัง?” หลังจบเพลงมาร์ชไม่กี่นาทีพี่ภูเดินมาจากไหนไม่รู้มาจับบ่าไหล่เขา
“พี่สวัสดีครับ” หันไปยกมือไหว้อย่างที่เคยทำทุกวัน “สักพักแล้ว แล้ววันนี้พี่มาแต่เช้าเลยเหรอ?”
พี่ภูเดินอ้อมไปนั่งฝั่งเดียวกับพี่โซ่ที่ตอนนี้ดับบุหรี่เรียบร้อยแล้ว แก้วหันข้างมองตาม
งานพิธีตอนเช้าไม่มีอะไรเกี่ยวกับรุ่นพี่คนนี้ แต่งานเลี้ยงส่งตอนเย็น ๆ ค่ำ ๆ โน่นถึงเป็นหน้าที่พี่ที่ต้องขึ้นไปร้องเพลงพร้อมวงดนตรีสากลของโรงเรียนไม่ใช่เหรอ?
“กูต้องมาคุมเครื่องเสียงน่ะ เมื่อกี้ก็ด้วย พวกสาว ๆ เขายุ่งแต่งตัวกัน กูว่างสุดแล้วนี่หว่า” พี่ภูหมายถึงเปิดเพลงเคารพธงชาติเมื่อครู่นี้ด้วยซึ่งมันเป็นงานของพวกเด็กกิจกรรม ถ้าอย่างนั้นเมื่อกี้พี่ภูก็คงเดินมาจากตึกบริหารฯข้างหลังเขานี่แหละ
“อ้อ ครับ” รับรู้แล้วก็ผูกเนคไทต่อ
“บั๊ดดี้กูว่าอันนี้มันต้องทับกันรูปนี้ถูกละนะ” ไอ้แสนแนะนำไม่พอมันยังโผมาช่วยจับสายนั้นทับกับสายนี้ช่วยเขา
แต่ทำไมไทมันพันกันเป็นก้อนเลยวะ
“แน่ใจเหรอแสน” ลังเล คิ้วขมวดเป็นปม แต่ก็ทำอย่างที่เพื่อนบอก
ไอ้แสนก็เครียดไม่แพ้กัน
“กะอิแค่ผูกเนคไทนี่เป็นปัญหาระดับชาติของพวกมึงเลยไหม?” พี่ภูจิ๊ปากเสียงดังพลางลุกมาแกะปมเนคไทที่คอเขาออกจากกันแล้วดึงพรวดออกจากคอ
...แสบ เหอ ๆ
แก้วลูบคอตัวเองป้อย ๆ
ไอ้แสนมองเนคไทในมือพี่ภูตาละห้อย
“โห พี่ครับแสนนั่งผูกให้พี่เห็นตั้งแต่อยู่บนรถเมล์ยันผูกต่อที่โรงเรียน แต่ทำไมไม่ช่วยกันบ้างเลย แล้วดูของไอ้แก้วสิ” ไอ้แสนพล่ามขณะที่พี่ภูเอาเนคไทเขาไปคล้องคอตัวเองที่วันนี้พี่ภูก็ยังใส่เสื้อนักศึกษาสีขาวแขนยาว แต่ไม่ได้ผูกเนคไทมาเหมือนทุกวันที่มีเรียน “...นั่น ไม่กี่วินาที สวยงามมาก”
พี่ภูเอาเนคไทที่ผูกเสร็จออกจากคอตัวเองมาสวมเข้าที่หัวเขาหลังจากดึงให้เขาลุกแล้วจัดปกจัดคอเสื้อให้ด้วย
“นั่นครุยมันทับครุยแสนอยู่ สวมให้กันเลยไหมครับพี่” ไอ้แสนยังเหน็บแนมไม่เลิก
ถึงว่ามันตั้งใจจะผูกให้ได้แถมมาตั้งใจหน้าตึกบริหารฯอีกด้วย ที่แท้ก็ทำเอาหน้าพี่ภูนี่เอง
“บั๊ดดี้! กูรู้นะมึงคิดอะไร” มันมองเขาตาขวาง แต่เขายักไหล่ให้เชิงตอบว่า...เปล่า
คนเราก็ต้องเอาตัวรอดกันบ้าง
“ก็จะดูว่ามึงมีความพยายามสักเท่าไหร่ ทีชกต่อยล่ะเก่งนัก แค่จะจบยังไม่มีปัญญาผูกเนคไทตามระเบียบ อนาคตจะไปทำอะไรห๊ะแสน?”
“แรงว่ะ ...อนาคตแสนไม่รับจ้างผูกเนคไทแน่นอน” มันเถียงหน้าตาย
“เถียงตลอด” พี่ภูยืนสองมือเท้าสะเอวมองหน้าไอ้แสนกวน ๆ อย่างกับจะท้าตีท้าต่อย
“ออกความคิดเห็นครับพี่ ใครจะกล้าเถียงพี่ครับเฮียนั่งคุมอยู่เนี่ย อ่ะ” มันลุกออกจากซุ้มนั่งแล้วยื่นเนคไทเส้นของมันให้พี่ภู พี่ส่ายหน้าแต่ก็รับไปผูกให้แล้วกระชาก ๆ คอเสื้อมันตอนที่พี่เขาสวมให้ “ขอบคุณครับ” ไอ้แสนลากเสียงยาวพลางยกมือไหว้พี่ภูแนบอก
แก้วส่ายหน้าหัวเราะ
“เรียนจบไปขั้นนึงแล้วนะ ต่อไปก็เลิกโตแต่ตัวได้แล้วนะมึง” พี่ภูใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากไอ้แสนให้มันออกจากหน้าอกพี่แก
“อย่าสั่งเสีย เทอมหน้าแสนยังต่อที่นี่ตามเดิม เอาไว้ให้พี่ภูเห็นพัฒนาการของน้องคนนี้ต่อไปเองดีกว่า แสนไม่อยากอวยตัวเองว่ะครับ”
“ถุย” เสียงประธาน๙T แทรกมา “โซ่ไปช่วยอาจารย์รันรอนะ ร้อนว่ะ” พี่ภูพยักหน้ารับแล้วพี่โซ่ก็ลุกออกจากซุ้มพร้อมตะโกนเรียกอาจารย์รันซึ่งเดินผ่านซุ้มไปเมื่อครู่นี้ ไปทางหอประชุม
“แล้วมึงล่ะแก้ว” พี่ภูถาม
“...จะลองไปสอบที่มหาวิทยาลัยP ดูครับ”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ต้องคิดเพราะมีคนคิดแทน แต่ในเมื่อทุกอย่างไม่เหมือนเดิม การก้าวไปข้าวหน้า เพื่อออกจากสิ่งที่เราไม่เห็นด้วยจึงเป็นทางเลือกที่ควรทำที่สุด แม้ที่ตรงนี้จะมีเรื่องราวดี ๆ และไม่ดีคละกันบ้าง แต่ก็ให้เหลือไว้เป็นเพียงประสบการณ์ชีวิตละกัน
...ดีกว่ามาฟาดฟันกับสถาบันของคนรักต่อไปอีกตั้งสองปี
“เห็นคนอื่นดีกว่าเพื่อน ดีกว่าพี่” ไอ้แสนต่อว่าหน้าหงิกหน้างอ แต่เขารู้ว่ามันไม่ได้จริงจังเลยยิ้ม ๆ ตอบ
“จะไปต่อที่ไหนกูก็พี่มึงเหมือนเดิม ส่วนเพื่อนบางคน มึงลืม ๆ ไปเลยก็ดี” พี่ภู
“เฮ้ย ๆ ๆ พี่น่ะ! เพื่อนเขารักกันดี ๆ” ไอ้บั๊ดดี้มาสามปีรีบมากอดแล้วเอาแขนเกาะบ่าไหล่เขาแสดงจุดยืนพร้อมสีหน้าระรื่นขึ้นทันตา
ไอ้กิ้งก่า...
“ฮะ ๆ” แก้วหัวเราะทั้งส่ายหน้าพลางจับมือไอ้แสนออกจากไหล่ “เออ แล้วพี่โซ่ญาติดีกับอาจารย์รันตอนไหนเหรอพี่” หยิบชุดครุยมาสวมทับเสื้อนักศึกษาแขนสั้นแต่วันนี้ผูกไทสถาบันพลางถามรุ่นพี่ ปกติเห็นประธานสาย๙T ไม่ชอบหน้าอาจารย์คนไหนสักคน
“ไม่รู้สิ มันอยากทำอะไรก็ทำ” พี่ภูยักไหล่แล้วพูดตอบ
“ถ้าวันนี้ไม่ช่วยงานพี่ภูจะยอมให้เฮียมาโรงเรียนเหรอ นี่เฮียต้องปั้นหน้าอยู่ร่วมกับพวกอาจารย์ พวกชมรมดนตรี ดูท่าว่าคงต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงานตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยล่ะมั้ง” ไอ้แสนทำเป็นกระซิบเขา
“ไอ้แสน! กูได้ยิน นินทาเหี้ยอะไรของมึงต่อหน้าเนี่ย” พี่ภูทำตาดุใส่เขาทั้งคู่ “กูไม่ได้ขอร้องให้มันช่วย มึงเข้าใจใหม่เลย แต่ถ้าทำตัวไม่มีประโยชน์จะต่างจากรออยู่ที่บ้านตรงไหน?”
อืม...เข้าใจแล้ว
“คนใจร้าย... ถ้าเฮียไม่ช่วยพี่ก็ต้องเหนื่อยคนเดียวอีกน่ะสิ” ไอ้แสนมองพี่ภูด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ต่อว่าไปพร้อมกัน แล้วมันก็ฟึดฟัดหยิบชุดครุยมาสวมทั้งหน้าบึ้ง ๆ
“ก็คนอื่นมันไม่ได้ดั่งใจ เอาเสื้อเข้าในกางเกงด้วยแสน”
“นั่นแหละถึงต้องให้เฮียอยู่ด้วย คนเขาเป็นห่วงไม่ดีรึไง”
“พอเถอะแสน มึงจะต่อว่าพี่ภูทำไม” แก้วห้ามทัพ เพราะพอเข้าใจอะไรแล้ว …สำหรับพี่ภู พี่โซ่ประธานสายใหญ่๙T สามารถทำอะไรที่คนอื่นไม่คิดว่าพี่แกจะทำได้เลยจริง ๆ ขนาดเขากับพงษ์ที่เป็นคนอื่น แต่แค่สนิทกับพี่ภู พี่โซ่ยังยอมช่วยเลย “มีพี่โซ่ช่วยก็ดีนะ พี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก” เขาเห็นด้วยกับเพื่อน เพราะพี่ภูเวลาหยิบจับอะไรแล้วต้องเป๊ะ การที่จะไหว้วานคนอื่นทำให้แทน น้อยจนแทบไม่เคย สู้เหนื่อยคนเดียวแต่งานออกมาเป็นที่น่าพอใจ พี่แกก็ทำเองคนเดียวหมด คนที่หวังดีกับพี่ภูก็เห็นไปทางเดียวกันหมดนั่นแหละ เอาเป็นว่าเขาเชื่อมือพี่โซ่ตามไอ้แสนละกัน
“ถ้ามันไม่เอางานกูบังหน้าเพื่อจะได้ตามคุมกูมันจะทำไหมเถอะ” พี่ภูแค่บ่นก็คงรู้ดีที่สุดอยู่แล้ว
“แหม ไม่รักไม่ห่วงเขาจะคุมเหรอครับ” ไอ้แสน
แก้วเผลอพยักหน้าเห็นด้วยกับแสนอีกครั้ง
“เออออ?” พี่ภูถามเขาอย่างหาเรื่อง
“เปล่า ๆ พี่ ...เอ่อ นิดหน่อยมั้ง แหะ ๆ” เขาเกาศีรษะแก้เก้อ
เสียงอาจารย์รันประกาศเรียนทุกคนรวมแถวก่อนเข้าหอประชุมดังขึ้น พี่ภูจึงต้องแยกออกไปจัดเตรียมงานตามหน้าที่พี่แกก่อน เขากับแสนจึงเดินออกจากหน้าตึกบริหารฯไปรวมกับเพื่อนคนอื่นหน้าตึกช่าง เสร็จแล้วก็เดินแถวเข้าหอประชุม ไปนั่งตามลำดับที่อาจารย์ที่ปรึกษาชี้ให้ดู
ปวช.แผนกบริหารธุรกิจ ปวช.แผนกช่างอุตสาหกรรม
- การตลาด - ช่างอิเล็กทรอนิกส์
- คอมพิวเตอร์รธุรกิจ - ช่างไฟฟ้ากำลัง
- การบัญชี - ช่างยนต์
- การประชาสัมพันธ์
และ ปวส. จัดให้นั่งเรียงแถวตามแบบระดับ ปวช.ไม่ต่างกัน
ผู้อำนวยการกล่าวอะไรเยอะแยะมากมายบนเวที
แว่ว ๆ ที่เขาได้ยินเล็ดลอดจากเสียงของนักศึกษาซึ่งดังกลบเสียงจากไมรโครโฟน ก็ประมาณ “โรงเรียนเทคโนโลยีT เป็นโรงเรียนอาชีวะศึกษาเอกชนอันดับหนึ่งของจังหวัดT นักศึกษารวมทั้งโรงเรียนมีหนึ่งพันกว่าคน และที่ร่วมพิธีจบการศึกษาในขณะนี้ก็มีจำนวนสามร้อยกว่าคนรวมภาคปกติ และภาคค่ำ” แผนกนี้ เท่านั้น แผนกนั้น เท่านี้ บลา ๆ
แต่จะดีกว่านี้มากถ้าในสามร้อยกว่าคนที่ว่ามีอีกคนยืนข้างเขาในวันที่เรียกว่าประสบความสำเร็จแม้จะในขั้นอนุบาลก็ตามที
ถึงแม้โรงเรียนและหลักสูตรที่เรียน สังคมส่วนใหญ่จะมองด้วยสายตาหยามเหยียดก็ตาม
แต่คนนอกคงไม่รู้ว่าพวกเราเรียนกันหนักตั้งเท่าไหร่กว่าจะสอบผ่านแต่ละหน่วยกิต บางวิชาทั้งหนักทั้งเหนื่อย ไม่ใช่ใช้สมองอย่างเดียวบางงานต้องลงแรงเข้าไปอีก หามรุ่งหามค่ำทำงานให้เป็นชิ้นเป็นอันกว่าจะผ่านเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเรียนง่ายจบง่ายซะที่ไหน
ถ้าวัยรุ่นบางส่วน จะใช้ชีวิตโลดโผนในช่วงหนึ่งของชีวิต ประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในชั้นเรียน
แต่ในอนาคตพวกเขาก็ยังสามารถเป็นฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจได้ไม่แพ้สาขาวิชาไหน ๆ อาจเป็นแค่ฟันเฟืองตัวเล็ก ๆ แต่หากขาดไปสักตัวเครื่องจักรก็ไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้โดยสมบูรณ์
ขาด ๆ เกิน ๆ บ้าง แต่ทุกคนย่อมยังคือส่วนหนึ่งของสังคมอยู่ดี
ความผิดพลาดก็คือความผิดพลาด ใช่ว่าทุกคนจะรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกหรือผิดตั้งแต่เริ่ม
หากถ้ารู้ว่าผิดแต่ยังทำ นั่นก็ควรหาสาเหตุและทำความเข้าใจกันก่อน ไม่ใช่ตัดสินความผิดไปทันทีทันใด
...คนทุกคน ไม่ว่าจะเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ ล้วนแต่มีเหตุผลของตนเอง
เด็กช่างทุกคนพร้อมรับโทษจากการกระทำ แม้บางครั้ง เราจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แม้บางครั้ง เรารู้...แต่เราก็ทำ
เพราะจุดที่เรายืนเราไม่สามารถอธิบายให้ใครเข้าใจได้และพวกเราก็ไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่คนอื่นอยากให้เข้าใจ
แต่เมื่อถึงเวลาพวกเราจะเข้าใจมันด้วยตัวเอง
และถ้าไม่มีไอ้พงษ์ เขาก็คงไม่เห็นอะไรในด้านนี้
ทั้งที่มึงเป็นคนพาก้าวเข้ามาที่นี่ แต่วันที่ก้าวออกไปมึงน่าจะยืนอยู่ข้างกัน
“ผอ.คงดีใจอย่างน้อยก็มึงคนนึงที่ซาบซึ้งกับเรียงความของท่าน” ไอ้แสนชวนคุยแต่ออกแนวเรียกให้ตบปากมันมากกว่า
“คิดถึงไอ้พงษ์ คนอย่างมันไม่ควรสะดุดอะไรเดิม ๆ ซ้ำ ๆ” จะจบมอหกก็ไม่จบ จะจบ ปวช.ก็ไม่จบ
ไม่ใช่ว่าพอมีฝิ่นเข้ามาในชีวิตแล้วจะทิ้งอีกคนที่เป็นทุกอย่างมาตลอดได้ สามปีที่ผ่านมา ไม่สิ ห้าปีทางการศึกษาของพงษ์ไม่ควรเสียเวลาเปล่า...เพียงเพราะมีเขาเป็นศูนย์กลาง
“หึ”
หึบ้าหึบอ
แก้วปรายตามองแสนอย่างเคือง ๆ แล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับเพื่อนร่วมแผนกคนอื่นเมื่ออาจารย์ประกาศเรียกชื่อแผนกถัดไปที่ต้องขึ้นไปรับใบประกาศ
“ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์”
คนแล้วคนเล่าตั้งแต่หัวแถวจนเกือบท้ายแถวต่างพากันเรียบร้อยผิดปกติเมื่อขึ้นไปรับใบประกาศตามพิธีจากมือ ผอ.ก็ถึงชื่อเขา ตามด้วยชื่อไอ้แสน และชื่อเพื่อนคนถัดไปเรื่อย ๆ
เรื่อย ๆ
“นายพงษ์ศิริ วัชระตระการกุล”
ห๊ะ?
กึก!
“เหี้ยแก้วหยุดทำส้นอะไรวะ”
เพื่อนอีกคนที่เดินตามหลังกัดฟันด่าหลังจากที่เขาหยุดกึกระหว่างเดินกลับเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมจนคนอื่นต้องชนหลังกันเป็นทอด
“แสน มึง มึง” เขาไม่ได้ตอบเพื่อนอีกคน แต่ตามองขึ้นไปบนเวทีดูไอ้คนที่โค้งให้ ผอ.แล้วเดินลงเวทีมายืนต่อแถวซึ่งกำลังยืนเก้ ๆ กัง ๆ กันอยู่แถวยาว
“ก็ไอ้พงษ์ไง มึงตาบอดหูหนวกเหรอ?” ไอ้แสนบอกหน้านิ่งก่อนเดินแซงเขาเข้าไปนั่งที่เก้าอี้
นั่นแหละคำถามที่เขาจะถามมันว่าเขาคิดถึงไอ้พงษ์จนหูแว่วจนตาฝาดไปรึเปล่า
เห?
เดี๋ยวก่อน
มันไม่ได้หน้านิ่งแต่มันกำลังแสดงว่านิ่งอยู่ต่างหาก
“นี่พวกมึงรวมหัวกันปิดกูเหรอ?” เขาก้าวตามไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิม คนอื่น ๆ ถึงได้เดินกันได้ รวมถึงไอ้คนปลายแถวด้วย
“โอ๋ ๆ หึ ฮ่า ๆ ๆ กูไม่เกี่ยวโว้ย มึงไม่ได้ถามว่าเห็นไอ้พงษ์ไหมหรือว่าวันนี้ไอ้พงษ์จะมาไหมนี่หว่า อย่ามั่ว ๆ”
มึงนั่นแหละที่มั่ว! แถไปเรื่อย!
(ต่อด้านล่างจ้า)
-
จบพิธีการก็ปาไปบ่ายโมงกว่า ลำพังมอบใบประกาศน่ะใช้เวลาไม่เท่าไหร่แต่ที่นานเพราะอาจารย์พูดนั่นแหละ
ใครหิวก็ไปที่โรงอาหารกันได้ แต่พวกเขาไม่จำเป็น จากนั้นทุกคน ทุกแผนกต่างรวมกลุ่มกันถ่ายรูปตามแต่ละมุมของสถานศึกษา แก้วและเพื่อนร่วมสาขา เพื่อนร่วมแผนก เพื่อนร่วมสาย ต่างเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกเช่นกัน
หลายชั่วโมงผ่านไป
“ไอ้พงษ์” เขาถอดชุดครุยวางไว้ที่นั่งตรงหน้าห้องเรียนรวมกับของคนอื่นแล้วเสียงห้วนใส่ไอ้พงษ์ซึ่งนั่งทำหน้ากวนเบื้องล่างอยู่
“คุยกันดี ๆ คนบ้านเดียวกัน กูไปช่วยพี่ภูก่อนนะ” ไอ้แสนถอดครุยถอดเนคไทวางเสร็จแล้วชิ่งอย่างเร็ว
“ไม่ดีใจรึไง ที่ทำเนี่ยก็ให้มึงทั้งนั้น” พงษ์ลุกขึ้นยืนเสมอเขาและถอดเนคไทออกจากคอให้ แล้วเอาไปรวมกับของมัน ของไอ้แสน ก่อนรวบชุดครุยสามชุดเข้าด้วยกันพร้อมหอบเข้าไปกองไว้กลางห้องของอาจารย์ที่ปรึกษารวมกับหลาย ๆ ชุดที่กองอยู่ก่อนแล้ว
รอจนมันออกมา
“เขาให้มึงจบจริงเหรอ ได้ยังไง?” แก้วเปิดดูใบประกาศของพงษ์ หรือเขาจะพิมพ์ชื่อให้เฉย ๆ เคยมีอย่างนี้รึเปล่า หรือว่า “มึงเอาเงินจ้างจบมาใช่ไหม?”
“มึงนี่” ไอ้พงษ์ยิ้มอย่างหมั่นเขี้ยวยื่นมือมาจับหัวเขาโยกแล้วกอดไหล่พาเดิน “จบจริง ๆ จบด้วยความรู้ความสามารถล้วน ๆ ตอนไปอเมริกากูไม่ได้ทำเรื่องดร็อป ชื่อกูก็ยังฝึกงาน เสร็จจากฝึกงานเรียนไม่เรียนก็ไม่ต่างกันแค่สอบผ่านก็พอแล้วนี่”
จริงของมันที่ว่าไม่ได้ดร็อปเรียน
“มึงสอบตอนไหนวะ?” เขาซักให้หายข้องใจ แผนกเดียวกัน สาขาเดียวกัน มันสอบจริงก็ต้องเจอสิ
“อันนี้กูขอสอบนอกตาราง” มันตอบ เหล่ตามองเขาอีกต่างหาก
“มึงปิดกูเหรอ? ทั้งที่” เขาหยุดเดิน กัดปากตัวเองพลางก้มหน้า กำมือตัวเองแน่น “ทั้งที่กูต้องดีใจอยู่แล้วที่มึงไม่ทิ้งเรียน” อ้าว กรรม ต้องต่อว่ามันเยอะ ๆ สิ แต่ความตื้นตันที่มันไม่เคยทิ้งเขาเลยท่วมโทษของมันที่เขาคาดไว้ทุกกรณี
“กูอยากให้มึงดีใจสุด ๆ” มันเปลี่ยนจับไหล่เขาสองข้าง เขาเงยหน้ามองไอ้พงษ์ตาพร่าแล้วจับแขนเสื้อเช็ดตาตัวเองทันที “กูไม่ให้มึงผิดหวังตลอดหรอกน่า เพื่อมึงน้อยกว่านี้ได้ที่ไหน มึงดีใจที่เห็นกูเมื่อเช้านี้ใช่ไหมล่ะ"
“ตกใจเถอะ” ค้านเสียงสั่นทั้งที่ไอ้พงษ์มองข้ามอาการของเขา
พงษ์เอามือออกจากบ่าเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือเขาดัง
“เสร็จแล้วเหรอ?” ปลายสายเอ่ยถาม
หลังเสร็จพิธีเขาก็เปิดเครื่องแล้วโทรไปหาแต่มันไม่รับสายและเพิ่งจะโทรกลับมา
“เสร็จสักพักแล้ว” ตอบฝิ่นพลางเดินตามพงษ์ที่นำหน้าไปทางโต๊ะจีนซึ่งตั้งอยู่กลางสนามฟุตบอลของโรงเรียน
หกโมงเย็นแต่ยังมีแดดอยู่เลย
“ซ่อมเด็กที่หาดไม่ได้เอามือถือติดตัวกลัวเปียกน่ะ” อืม เหตุผลของมัน
เมื่อเช้าตอนออกจากบ้านมันบอกไปเลี้ยงฉลองให้รุ่นน้องที่เรียนจบแต่มีซ่อมรุ่นยันวันจบเลยเหรอสายนั้น
“กินเลี้ยงเสร็จกี่ทุ่มแล้วมีเลี้ยงสายต่อรึเปล่า” ฝิ่นถามต่อ
“พงษ์สายเรามีเลี้ยงต่อรึเปล่า?” เขาจึงถามพงษ์ให้แน่ใจเพราะพี่แชมป์ไม่ได้บอกอะไร
“ยัง” มันตอบมาสั้น ๆ
แก้วเลื่อนเก้าอี้พลาสติกสีขาวมานั่งข้างพงษ์ร่วมโต๊ะกับเพื่อนคนอื่น ๆ
“พี่แชมป์ยังไม่ได้นัด งั้นคงกลับไม่ดึกสองสามทุ่มน่าจะเลิกงานแล้วล่ะ”
“อืม กลับบ้านดี ๆ ระวังตัวด้วย”
“เดี๋ยว ๆ เอ่อ...” แอบมองพงษ์ที่ดูไม่ได้สนใจอะไรเขาหรอก “พี่จะกลับเมื่อไหร่?”
“ดึก ๆ ทำไม?”
หันข้างออกนอกโต๊ะแล้วเอามือป้องปากก่อนพูดใส่โทรศัพท์มือถือเบา ๆ
“พี่ฝิ่น...ผมรอนะ”
“หึ ฮึ่ม อืม ๆ แล้วเจอกัน” แล้วไอ้พี่ฝิ่นก็วางสายไป
ในเมื่อวันนี้มันมีความพิเศษ ...เขาย่อมอยากอยู่กับคนพิเศษไม่แปลกนี่นา
.
.
.
บนเวที...พี่ภูนักร้องนำของวงโรงเรียนร้องเพลงที่ล้วนแต่ความหมายดี ๆ เพื่อแสดงความยินดีกับรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบันที่กำลังจะจบออกไป ต้องยอมรับว่าเวลาพี่ภูร้องเพลงช่างดึงดูดผู้ชมให้มีอารมณ์ร่วมด้วยได้ทุกเพลงจริง ๆ ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน จนวันนี้ มาตรฐานพี่ภูไม่เคยเปลี่ยน นับวันมีแต่เพิ่มขึ้นทั้งนั้น อาจเพราะประสบการณ์ที่พี่แกจดจำมาเป็นอย่างดี
เพลงช้า พวกข้างล่างก็กอดคอกันร้องตาม เพลงเร็ว พวกข้างล่างก็กระโดดโลดเต้นกันลืมตายทั้งผู้ชายทั้งผู้หญิง บรรดาอาจารย์ที่ห้ามนักศึกษาเอาเครื่องดื่มมึนเมาเข้ามาในงานคงคิดว่าพวกนี้เมาดิบกันแน่
“พงษ์...”
เสียงยาน ๆ ตาหวานเยิ้มพร้อมใบหน้าที่โน้มมาวางกับไหล่ไอ้พงษ์จนมันสะบัดออกแทบจะตกเก้าอี้
“ฮื่อ หก เสียของ” ไอ้แสนยกแก้วเหล้าผสมเป๊บซี่ออกห่างจากตัวเมื่อไอ้พงษ์ดันไอ้แสนออกแต่เหล้าในแก้วดันหกใส่ตัวจนเปียกมันทั้งคู่
“เสือกเล่นเหี้ยอะไรของมึง” ไอ้พงษ์บ่นพลางแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาแล้วถอดมาเช็ดเสื้อยืดสีขาวที่มันใส่อยู่เพราะมีรอยเปียก
“พงษ์...” ไอ้แสนหันไปเติมใหม่จนเต็มแก้วจากโต๊ะข้าง ๆ แล้วยืนเงียบมองไอ้พงษ์เช็ดเสื้อก่อนโพล่งปากออกมา “มึงคิดอะไรกับกูรึเปล่าเนี่ย”
เท่านั้นล่ะเสียงกร๊ากเฮลั่นลามไปยังโต๊ะข้าง ๆ มีแต่แก้วที่นั่งจิบเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์นิ่ง ๆ คนเดียว
...น่าขำตรงไหน
“หึ” ไอ้พงษ์แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์มองเขาแว๊บเดียวก่อนลุกขึ้นแล้วทิ้งเสื้อลงกับเก้าอี้ “ตอนแรกไม่คิด แต่ตอนนี้คิดละ”
พงษ์เดินอาดแต่สายตากรุ้มกริ่มเหมือนเวลามันมองสาว ๆ เดินเข้าไปหาไอ้แสนที่ถอยหลังจนชนเก้าอี้เพื่อนอีกโต๊ะ
“ว๊าก ไอ้ห่า กูไม่ผสมพันธ์กับควาย” ไอ้แสนโวยวายเอนตัวเอนแขนไปเท้าเก้าอี้ที่เพื่อนนั่งอยู่แล้วยกตีนข้างหนึ่งดันท้องไอ้พงษ์ทั้งที่มันยังไม่ได้ทำอะไร
“เหี้ยเป็นรอยตีนเลย” พงษ์จับขามันออกพลางเบ้หน้าใส่เสื้อตัวเอง
“เล่นกับใครไม่เล่น” ไอ้แสนกระดกเครื่องดื่มในมือเข้าปาก “ขออีกกรึ๊บเพื่อน” แล้วยื่นแก้วไปขอเติมอีก
“ถุย ทำคุย ไม่แน่จริงนี่หว่า โธ่” ไอ้พงษ์พูดปรามาสก่อนหันกลับมานั่งที่เดิมแถมยักคิ้วให้เขา
“บ๊ะ บ๊ะ ไอ้นี่ กูใคร? กูนี่ แสน๙T ไม่ใช่ไม่แน่แต่แค่ไม่อยากเล่น ๆ ถ้ากูจะเหนือชายกูไม่เอาควายอย่างมึง มึง และก็มึงหรอก” ไอ้แสนเดินมานั่งตักเพื่อนเขาอีกคนซึ่งนั่งคนละข้างกับพงษ์แล้วชี้หน้าเรียงตัว “กูน่ะมีรักเดียว แต่ถ้าเศษเสี้ยวกูให้ไอ้แก้วละกัน”
“ไร้สาระ” โอ๊ตเจ้าของตักส่ายหน้าพร้อมตบหัวไอ้แสนแล้วคุยกันในโต๊ะเสียงดังต่อ
แสนเอื้อมแขนข้ามเก้าอี้มาโน้มคอเขาเข้าไปใกล้จนหัวชนกันแล้วมันก็เอาเหล้าป้อนใส่ปากเขา
“แดกตีนกูนี่” ไอ้พงษ์
“ตีนพี่ฝิ่นอีกคู่” เขายิ้มพลางตบแก้มมันสองข้างเบา ๆ ไอ้บั๊ดดี้แสนก็เอาแต่ยิ้มจนตาหยี ก่อนโดนมือไอ้พงษ์จับแยกทั้งสองหัว
.
.
.
พงษ์ขับรถเข้าจอดถึงหน้าบ้าน แก้วมองเวลาหน้ารถเป็นเวลาสี่ทุ่มเกือบห้าทุ่ม บ้านไม่มีไฟเปิดสักดวง สงสัยว่าพี่ฝิ่นจะยังไม่กลับ
“เมารึเปล่า” พงษ์ถาม
“ไม่ แค่โล่ง ๆ หัวนิดหน่อย” เขาตอบ โดนไอ้แสนส่งให้สาม-สี่ แก้วเหมือนกัน แต่ไอ้พงษ์ไม่ดื่มสักแก้วและไม่ห้ามเขาด้วยจนเขาต้องบอกพอเอง
ปลดเข็มขัดนิรภัยได้ไอ้พงษ์ก็พูดขึ้น
“คุยกันหน่อยสิ”
“หืม?” เขามองหน้ามัน
“ตรงนี้แหละ” อย่างกับรู้ว่าเขาจะชวนเข้าไปคุยในบ้าน “อยู่บ้านเคยได้คุยกันจริง ๆ จัง ๆ ด้วยเหรอ?” มันถาม
อืม ความคิดเห็นขัดแย้งกับฝิ่นเสมอนี่
“พี่ฝิ่นยังไม่กลับนะ ว่าแต่เป็นอะไร?” เขาเดาตามสภาพบ้านและถามกลับ มันปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันมาคุย
“เหนื่อยไหม?”
“มะ ไม่” เขาตอบ
“แล้วมือมึง เจ็บรึเปล่า?” มันดึงมือเขาไปแล้วพลิกหลังมือขึ้นมอง
“แรก ๆ ก็เหนื่อยมาก” เขาวิ่งวันละยี่สิบนาที “เจ็บมือ เจ็บหน้าแข้ง เจ็บกระดูกกระเดี้ยว” ชกและเตะกระสอบทราย “แต่ตอนนี้เริ่มชินแล้ว” เขาบอกพงษ์ วางมือแตะมือมันเชิงบอกว่าไม่ต้องห่วง แล้วมันก็ปล่อย
“ถ้าอย่างนั้น ...ต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องมีกู”
“ไอ้พงษ์!”
“หึ” มันเหล่ตามองเขาแล้วยักไหล่หันไปมองหน้ารถเหมือนไม่สนใจสิ่งที่มันพูดเลย
“มึงไม่อยากไปคนเดียวเหรอ?” แก้วเอ่ยเสียงเบา
เขา ฝิ่น พงษ์ คุยกันแล้วว่าเขาจะอยู่ที่นี่ แต่พงษ์ยังยืนยันจะไปเรียนที่อเมริกาตามความต้องการของพ่อกับแม่ของมันโดยไม่สนว่าเขาจะรู้สึกยังไง
“มึงรักกูไหม?”
“ห๊ะ?!”
ไอ้พงษ์หันขวับมาจ้องหน้าเขาจริงจัง ทั้งที่เขากำลังวิตกกังวลกับชีวิตมันอยู่
“กูทำอะไรผิดมึงมักจะยกโทษให้กูเสมอ ทั้งที่หลายเรื่องมันไม่น่าให้อภัย” มันว่า อย่างกับเปลี่ยนเรื่องคุย
“มึงเองก็เหมือนกัน” สิ่งที่ผิดของเขา พงษ์เองก็ไม่เคยคิดโทษเลย
“ถึงกูจะทำผิดอีกมึงก็ไม่โกรธกูใช่ไหม?”
“อ่า...” ไอ้นี่
“แล้วตกลงมึงรักกูไหม?” เวรกรรม มันถามซ้ำ
“มึงไม่ให้กูบอกมึงเอง แล้ววันนี้เป็นอะไรมาถามอย่างนี้วะ?”
...ผู้ชายไม่ต้องบอกรักกันหรอก มันตลกว่ะ ทางที่ดีมึงเก็บไว้ในใจนั่นแหละ
ไอ้พงษ์บอกเมื่อหลายปีก่อน เป็นวันสุดท้ายที่เขาบอกว่ารักมัน
แต่ถ้ามันอยากรู้เขาก็ยินดีบอกเสมอ
“รักสิวะ พอใจรึยัง?” เขาบอกขำ ๆ
“รักกูเหมือนที่มึงรักมันรึเปล่า?” ไอ้พงษ์ถามต่อดูท่าทางจริงจังจนเขาขำต่อไม่ไหว
ฉึก!
“...พี่ถามอะไร จะเหมือนไม่เหมือน...” เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกมัน แต่ยังพูดไม่จบ
“มึงต้องเด็ดขาดแก้ว!” ไอ้พงษ์ตะคอกจนเขาสะดุ้ง ความรู้สึกบอกให้เขาอยู่นิ่ง ๆ ห้ามพูดห้ามเอ่ยอะไรออกไป
เขากับพงษ์มองหน้ากันเงียบ เขาเห็นมันเม้มปากตัวเองพร้อมสีหน้าลังเลก่อนเอื้อมมือมาลูบศีรษะเขาแล้วโน้มใบหน้ามันเข้ามาใกล้จนหยุดเมื่อริมฝีปากมันแตะกับริมฝีปากเขา
“พงษ์!” เขาผลักมันออกทันที
“กลัวเหรอ กลัวอะไร กลัวทำไม?” มันยังมีหน้ามายักคิ้วถาม
“ถ้า...ถ้ามึงเป็นคนอื่นกูจะต่อยมึงให้ฟันร่วง” เขาชูกำปั้นใส่มันแล้วเปิดประตูออกไป
ปึ๊ก!
ไอ้พงษ์เปิดประตูรถตามออกมาทันทีเหมือนกัน
“เป็นกูก็ต่อยได้ ยิ่งวิชาที่ไอ้ฝิ่นสอนมึงยิ่งต้องใช้ในงานนี้ไม่ใช่เหรอ?” ไอ้พงษ์ตะโกนตามหลัง
เขารุดเดินเข้าบ้าน แต่เมื่อไขกุญแจเปิดประตูบ้านและเปิดสวิทช์ไฟซึ่งอยู่ข้างประตูจนบ้านสว่างกลับผงะจนต้องก้าวถอยหลัง
“กูไม่อยากให้มึงรอ...เลยกลับไวกว่ากำหนด” พี่ฝิ่นยืนล้วงกระเป๋าเสื้อช็อปสีกรมท่ารออยู่ในบ้าน มันเอ่ยบอกทันทีเมื่อเห็นหน้าเขา “เมาเหรอ? หน้าแดงมาเชียว” มันมีท่าทีข้องใจแล้วเดินเข้ามาหา ฝิ่นเอามือออกจากกระเป๋าเสื้อข้างหนึ่งแล้วยกขึ้นจะมาจับหน้าเขา
“เอ่อ ขอผมอยู่คนเดียวสักพัก” แก้วเบี่ยงตัวหลบแล้วก้าวเท้าวิ่งขึ้นบันไดเข้าห้องล็อคประตู
แน่นอนมันต้องตามมาด้วยเสียงเหล่านี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“แก้ว แก้ว” ฝิ่นเรียก
ปัง ปัง ปัง
“แก้ว ไอ้แก้ว เป็นอะไรเปิดประตูให้กูเดี๋ยวนี้นะ!” ระดับอารมณ์มันคงครุขึ้นมาแล้ว ในขณะที่เขายืนพิงผนังห้องข้างประตู
“เวลาอย่างนี้มึงเรียกมันก็ไม่เปิดหรอก” เสียงพงษ์
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ลูกแก้วเปิดประตูให้พี่หน่อย” ไอ้พงษ์
เหอะ
เสียงอ่อนโยนแค่ไหนก็อย่าฝันเลย
“ถ้าคิดจะเอากุญแจสำรองมาเปิดกูจะกระโดดออกทางหน้าต่าง” เขาตะโกนบอกสองคนที่อยู่หน้าห้อง เพราะนิสัยไอ้พงษ์มันไม่ให้เขาอยู่คนเดียวนานแน่ ...ตอนนี้คงรวมพี่ฝิ่นอีกคน แต่เขาเอาจริงแน่
ไอ้พี่พงษ์มันเล่นอะไรของมัน ทั้งคำถามที่พี่ฝิ่นเคยถาม ทั้ง...เออ แค่ปากแตะปากแต่มันไม่ใช่เรื่องที่เพื่อน พี่น้องจะทำกันปกตินี่หว่าเขาไม่ได้โง่นะ
เวลานี้เขาต้องการอยู่คนเดียว อยากอยู่เงียบ ๆ เพื่อที่จะคิดทบทวนความรู้สึกของตัวเองตามลำพัง
แม้เสียงข้างนอกจะดังขึ้นเรื่อย ๆ จนเกรงว่าสองคนนั่นจะลงไม้ลงมือกันรึเปล่า
แต่...เขาต้องหาคำตอบให้ตัวเองให้ได้ก่อน ว่าทำไม...ใจเขาโหวง ๆ สมองเขาตื้อ ๆ อย่างนี้
..................................................
ถ้าอ่านแล้วหมั่นไส้คนเขียน ก็อย่าเพิ่งเม้นท์นะคะ ตั้งใจให้ค้างจริง ๆ กร๊ากกก (บอกอย่างไม่กลัวรองเท้าเขวี้ยงเลย) …เอาไว้เม้นท์ทีเดียวก็ได้ เค้าเกรงใจอยู่นะเห็นอย่างนี้ก็เถอะ :-[
ตอนไม่ค่อยพิเศษเหลืออีกสองตอนค่ะ (ยังไม่ได้แต่งต่อสักตัวอักษร -*- บอกเพื่อ?)
คนอ่านคาใจตรงไหนบ้างก็ไม่รู้ เอาที่คนเขียนค้างเติ่งไว้เท่าที่ตัวเองจำได้กำลังตามมาค่ะ
นึกได้พอดี...
เฮียโซ่+พี่ภู หมดงบแล้วจ้า ไว้เจอกันยาว ๆ ทีเดียวเน้อ
พี่ไม้(ที่รัก) ไอ้พงษ์ ไอ้โจ้ ไอ้ขวัญ คงได้มีเรื่องยาว เพราะคนเขียนสนุกมากเกินเหตุ ฮา
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีกำหนดแน่ชัดค่ะ ตอนนี้ทำงานคนเดียวที่บริษัทอื่นคงแบ่งกันทำสัก 5 ตำแหน่ง
แต่เพื่ออนาคตที่ใกล้ได้เป็นไทละ สู้โว้ยยย
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ กอด ๆ จุ๊บ ๆ^^ ฮือออ เหนื่อย
-
พงษ์จะมากวนน้ำให้ขุ่นทำไม๊
แล้วแก้วจะมาเขวอะไรตอนนี้ เดี๊ยะให้ฝิ่นลงโทษเลยนี่
ขอบคุณสำหรับพี่โซ่-พี่ภู มาพอให้ชื่นใจ คู่โปรดในดวงใจ
-
ต้องการอะไรกันแน่
:a5: :a5:
-
ไอ้พงษ์มันเป็นอะไรวะ
คิดอะไรของมัน :z13:
-
อยากจะบอกว่า ค้างอ่าาาา TT^TT
-
สวยงามมากกกก
ค้างกันไปเลยทีเดียว แต่เรื่องแค่นี้พี่ฝิ่นเอาอยู่
พี่พงษ์กลับมากวนให้ขุ่นทำไมน้อ
อยากรู้คำตอบเหมือนกันเน้อ
พี่ภูกับพี่โซ่มีโผล่มาแว๊บๆ
เพื่อนแสนน่ารัก กวนบั๊ดดี้แก้วตลอด
ดีใจกับแก้วแล้วก็เพื่อนๆด้วย
สอบเข้ามหาลัยให้ได้นะ สู้ๆ
-
ค้างแต่ก็อยากเม้นท์อยู่ดี :impress2:
เม้นท์ให้รู้ว่าค้างมากกกกก แก้วจะคิดตกไหมเนี่ย :z3:
พงษ์ทำแบบนี้มีเหตุผลใช่ไหม ถึงมันจะไม่เข้าท่า แต่ก็คงทำเพื่อแก้วล่ะสิ
โอ๊ย ไม่อยากเดา แต่อยากอ่านต่อ :man1:
-
สับสนๆๆๆ พงษ์ทำแบบนี้ทำม๊ายยยยยยยยย :fire:
-
แต่เราอยากให้แก้วตอบว่า "รัก"กับพงษ์ แล้วว่าก่อนหน้านี้แก้วอาจจะคงสับสนมาก พอๆกับพงษ์ที่มารู้ตัวเมื่อสาย แต่ตอนนี้แก้วมีฝิ่นแล้ว เมื่อก็แก้วกับพงษ์อาจจะรักกันในแบบที่มากกว่าพี่น้องที่พงษ์เป็นคนบอกจนมันเกิดเส้นบางมากันระหว่างกันถึงแม้จนอยู่ใกล้กันแค่ไหนก็ตาม เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ แก้วมักเปรียบเทียบความรู้สึกเวลาอยู่กับฝิ่นที่เคยอยู่กับพงษ์เสมอ ถ้ารู้สึกแค่พี่น้องจริง..เขาไม่นำความรู้สึกมาเปรียบเทียบกันหรอ เพราะมันเป็นคนละแบบกัน เราดีใจนะทุกสุดท้ายแล้วพงษ์ก็ยอมรับความรู้สึกตัวเอง แม้คนเขียนจะยังไม่บอกเราสักคำ แต่เรารู้สึกได้ เอิ๊กๆ ใช่ว่าเราจะเชียร์พงษ์นะ ก็ยังอยากให้แก้วกับฝิ่นคู่กัน แต่อยากให้แก้วยอมรับความรู้สึกตัวเอง ว่าเมื่อก่อนเคยรักพงษ์แบบที่ แก้วรักฝินในตอนนี้ แต่ตอนนี้แก้วมีฝิ่นแล้ว และรักที่มีให้พงษ์น่ะไม่แคยน้อยลง แต่เปลี่ยนมาเป็นรักแบบพี่น้องแล้วจริงๆ (ปล.ขอโทษ..ถ้าเดามั่วไปหน่อย แต่เรารู้สึกอย่างนี้จริงๆ ที่เราขอให้แก้วยอมรับความจริงแล้วไม่มึนเนี่ยมากไปเปล่า..ซีซั่น 555)
-
เห้ยอะไรเห้ยยังไงงงง
ไม่ใช่จบ3พีนะ 555555555555
ปล. เชียร์พี่ฝิ่นขาดใจจจจจ
-
ม๊าย มันค้างอ่ะค่ะ
มันค้างจนอยากจะกรีดร้อง
พงษ์ต้องการอะไรกันนะ ทำมั้ยถึงทำอย่างนี้
ฝิ่นก็ใจเย็นๆ หน่อยน๊า ให้เวลาลูกแก้วหน่อยต่อพรุ่งนี้ได้มั้ยคะ?
ได้โปรดดด
-
หรือพงษ์ต้องการให้แก้วเด็ดขาดกับตัวพงษ์ซักที
เพราะตอนนี้ถึงจะมีฝิ่นแต่ในใจแก้วพงษ์ก็ยังมีอิทธิพลอยู่มาก
ถึงจะไม่ได้รักแบบที่รักฝิ่นแต่ก็ไม่อยากให้คลุมเครือรึเปล่า
อันนี้คือเพ้อเจ้อเอง ไม่อยากให้มันดราม่า คิดเข้าข้างตัวเองแบบแฮปปี้ อิอิ :impress2:
-
คนเขียนมาปล่อยดราม่าอีกแล้วอะ ^ ^
แก้วท่าทางจะเครียดนะคะเนี่ย
แต่เราไม่คิดว่าพงษ์จะชอบแก้วแบบนั้นอ่า รอเฉลยความค้างคา
-
พงษ์ส่งท้ายก่อนจากเหรอท :o
-
บ๊ะ ยังไม่จบอ่ะ ค้างขนาดนี้ ฆ่า(เจ๊ซี)เลยเหอะ 55
อ่านไปขำแสนไป เห็นแสนแล้วนึกถึงโจ้ ฮาเหมือนกัน พี่โซ่พี่ภูคู่นี้น่ารักเกินไปแล้ว ชอบพี่ภูมากๆ มิน่าพี่โซ่แกต้องตามมาคุม 555
ส่วนพงษ์ เอ็งทำ...ไรเนี่ยยยยย เดาไว้ แต่รอเจ๊มาเฉลยดีกว่า หุๆ ^^
สุดท้าย เราปลื้มมากที่ฝิ่นมานั่งรออยู่ก่อน ไม่หวาน แต่อร๊ายยยยยยย >\\\<
รอค่า~
-
หนักใจแทนแก้ว เห็นแววดราม่าแต่ไกล
-
พงษ์ทำแบบนี้ต้องมีเหตุผลแน่ :z3:
แอบมีพงษ์แสน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
ไม่ได้เข้ามาอ่านนานมากกกกกกก เฮ้อออ คิดถึงเรื่องนี้มากๆ
-
มันสายไปไหมน่ะพงษ์ :เฮ้อ:
-
พงษ์คิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนั้น แล้วแก้วกำลังคิดอะไรอยู่นั่น ฝิ่นเห็นหรือเปล่านะ
-
ง่ะ!!
-
:z3: :z3: :z3: :z3:
-
อร๊ายยยยยยยยยยยยยย>< แค้คิดว่าจะเปง3Pนู่ก้อฟินแล้วจ้า
ให้ตายเถอะใจเต้นไม่เปงจังหวะเลย
มาต่อลเยนะ ต่อเด่วนี้
อร๊ากกกกกกกกก :-[ :-[
-
อ่าว เฮ้ย พงษ์
จะมาให้เลือกอะไรตอนพิเศษเนี่ย
หรือภาคสองจะตามมา อะหุๆๆ
-
ทำไมพงษ์ทำแบบนี้ละ
แก้วแกอย่าเขวสิ
-
แก้วเอ้ย...ป่านนี้แล้วยังจะสับสนอะไรอีก ถ้าฝิ่นรู้พงษ์คงจะโดนไม่ใช่น้อย หุหุ
ปล. คนอ่านชอบแสนมว๊ากกกก อิอิ บัดดี้ๆ :o8: มันน่ารักจริงๆนะ
-
แง่งกระโดดงับคอคนเขียน
-
ค้างๆๆๆๆๆๆ โอ๊ย!!! ให้ตายเหอะ
รอคอยตอนต่อไป กรี๊ด!!!!!
-
พงษ์จะทดสอบอะไรอีกล่ะนั่น :onion_asleep:
-
:z6: :z6: :z6:
:z6: :z6: :z6:
:z6: :z6: :z6:
-
แก้วอย่าคิดเยอะ
พงษ์มันล้อเล่น? :m28:
-
ตามอ่านทันแล้วค่ะ
ติดสุดๆเลย
แก้วน่าสงสารนะ
ดูเป็นที่รักของใครๆ
แต่แบบพี่ดิวก้ไม่ไหว
เลวร้ายเกินไป
คอนแรกอ่านแล้วโครตเกลียดฝิ่นเลย
แบบว่ามันโหดและเลวร้ายมาก
ทำยังทำร้ายจิตใจแก้วอีก
พี่ไม้ดูเป็นผุ้เป็นคนสุดๆแล้ว
พี่ลูกขวัญเป้นพวกซึนรึเปล่า
ไม่รักน้องจริงๆนะเหรอ
ตอนที่อยู่หน้าบ้านพงษ์ก็ดูเป้นห่วงน้องดีนะ
อยากได้ตอนพิเศษขอวพี่น้องคู่นี้จังเลยค่ะ
-
พงษ์... แกจะทำอะไรของแกนิ !!
แอบมีเฮียโซ่พี่ภูพอหอมปากหอมคอ มีอีกก็ได้นะเราไม่ว่า o18 o18 (สะบัดพู่เชียร์โซ่ภู)
-
เอ๊ะอะไรยังไงเนี้ยพงษ์
-
พงษ์คิดอะไรอยู่ถึงได้ทำแบบนั้น
มาคิดมาพูดเอาป่านนี้มันไม่สายไปแล้วหรือไง
ถ้ารักแก้วจริงๆ เมื่อก่อนทำไมไม่แสดงออกให้ชัดๆ ไปเลย
ความรู้สึกช้าหรือยังไงเพิ่งมารู้สึกตัว
แล้วน้องแก้วสับสนอะไรคะลูก
หนูไม่ได้รักพี่ฝิ่นหรอกเหรอทำแบบนี้ฝิ่นเสียใจนะ
ถ้าเราเป็นฝิ่นนะจะต่อยพงษ์สักหมัด แล้วงอนน้องแก้วยาวเลย
-
พงษ์คิดจะทำอะไร ลองใจแก้ว ลองใจฝิ่น หรือลองใจตัวเอง :เฮ้อ:
ชอบภู+โซ่ น่ารัก :impress2:
-
:a5: ไงกลายเป็นอย่างนี้ละ
-
อยากต่อแล้วคะ...รอ ร๊อ รอ...
-
อ้อมกอดเด็กช่าง Drama Special 2
เหี้ยอะไรวะ!!
ปึง!!
กำปั้นทุบประตูห้องนอนไอ้แก้วเสียงดังอีกครั้งหลังไอ้พงษ์เกลี้ยกล่อมแล้วแต่ไม่สำเร็จ มันหยุดยืนกอดอกหลับตาพิงผนังอยู่ใกล้ ๆ
แต่เขาไม่หยุดง่าย ๆ แน่!
อุตส่าห์รีบกลับจากต่างจังหวัดเพราะไม่อยากให้มันรอเลยมานั่งรอมันแทน จากสองทุ่มต้องรอยันห้าทุ่มเขาก็ยังอารมณ์ดี นั่งรอภายในบ้านที่มืด ๆ เพราะไม่อยากให้มันรู้ตัว กะจะเซอร์ไพรส์เต็มที่ หึ เหี้ยเอ้ย แล้วนี่อะไรวะ เจอหน้าเขาแทนที่จะดีใจแต่กลับเมินกันซึ่ง ๆ หน้า แล้วแถมตอนนี้ขังตัวเองไว้ในห้องอยู่คนเดียวอีก
“เป็นบ้าอะไรวะ!” เสียงดังด้วยความหงุดหงิดพร้อมตวัดสายตามองไอ้เหี้ยที่ลืมตาขึ้นมาพอดี
“...ฟู่ว” มันถอนหายใจก่อนหันมองเขา สองมือมันเลื่อนลงล้วงกระเป๋ากางเกง สีหน้าที่ดูซีดเมื่อครู่เปลี่ยนมามองเขาอย่างคนเหนือกว่า
เขารังเกียจสายตาแบบนี้ของไอ้เหี้ยนี่ที่สุด
“คงต้องปล่อยให้มันอยู่คนเดียวสักพัก ตอนนี้ทำได้มากสุดแค่มึงรออยู่หน้าห้อง”
“กูต้องเชื่อมึงเหรอ?” เขาค้านมัน เรื่องอะไรต้องทำอย่างนั้นอย่ามาสู่รู้ให้มาก
ไอ้พงษ์เดินเข้ามาใกล้ มันหยุดยืนจ้องหน้าเขาแล้วแสยะยิ้มมุมปาก เขากำหมัดแน่น
รู้ทั้งรู้ว่าไอ้แก้วเป็นคนชอบคิดมาก ให้มันอยู่คนเดียวมันไม่เอาความคิดมากองทับหัวตัวเองตายเหรอ
ว่าแต่...มันมีอะไรให้ต้องคิด?
“มีเรื่องอะไรมา?” เขาถามเสียงห้วน ตอนโทรคุยกันน้ำเสียงก็ยังปกตินี่หว่า
“หึ”
“เหี้ยพงษ์!” เขากระชากคอเสื้อดึงมันเข้ามาใกล้แต่มันยังลอยหน้าลอยตามองหน้าเขากลับ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“กูกับมัน อยู่ด้วยกันมานานจนอาจมองข้ามความรู้สึก...บางอย่าง”
“มึงหมายถึงอะไร?!”
“แต่ถ้าได้กระตุ้น คงรู้ว่าอะไรเป็นอะไรมากขึ้นมึงว่าไหม?” มันพูดด้วยน้ำเสียงกวนตีน
“ไอ้เหี้ย มึงพูดเรื่องอะไร!”
“หึ ก็แค่จูบกัน แลกลิ้น ดูดดื่ม ...กูก็เพิ่งรู้ว่ากับผู้ชาย ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อย่างที่คิด เอะ? หรือว่าเฉพาะคนวะ? หึ ไอ้แก้วมันไม่เคยทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง มึงก็แค่เป็นคนแรก” มันตอบอย่างไม่ยี่หระพร้อมจับมือเขาออกจากคอเสื้อตัวเอง “แต่กับกู...”
ผั่วะ!
ไม่ไหวจะยั้งมือ
เขาไม่มีอารมณ์จะฟังไอ้พงษ์พูดต่อได้อีก จุดเดือดในตัวที่สะสมมาตั้งแต่ไอ้แก้วเดินหนีอย่างไม่รู้สาเหตุจนเมื่อได้รู้ว่าเพราะอะไรยิ่งทำให้เขาอยากกระทืบใครสักคนแรง ๆ
“อย่ามากวนประสาทกูให้ยาก ยังไงกูก็ไม่สนใจ”
ไอ้แก้วมันของเขา คนของเขา ของ ๆ เขา เขาสามารถให้มันในสิ่งที่ไอ้พงษ์ไม่เคยให้ มันมีความสุขที่จะอยู่กับเขามากกว่าไอ้เหี้ยนี่ มันรักเขาและเขาก็รักมัน แค่จูบกับไอ้พงษ์ ไอ้แก้วไม่รู้สึกอะไรหรอกน่า!!
“มึงแน่ใจ?” ไอ้เหี้ยพงษ์ใช้หลังมือนวดแก้มตัวเองแต่ยังเลิกคิ้วใส่เขา “ถ้าไอ้แก้วรู้ว่ามึงต่อยกูมันจะว่ายังไงน้า?” มันพูดยิ้ม ๆ
เขากัดฟันกรอดเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อมันอีกรอบ ใจอยากจะต่อยมันอีกหมัด ผลักมันให้ล้มแล้วเอาตีนขยี้ปากมันซะจริง ๆ โว้ย!
แล้วนาทีนี้แล้วเขาจะต้องแคร์อะไรวะ ถ้าไอ้แก้วจะไม่ชอบใจก็เรื่องของมันสิในเมื่อมันทำอย่างนี้กับเขาก่อน มันไม่มีสิทธิ์โกรธ ไม่มีสิทธิ์ต่อว่าอะไรในเมื่อมันกับไอ้พงษ์เป็นคนผิด แล้วแถมตอนนี้มันยังไม่ยอมเจอแม้แต่หน้าเขา เพื่ออะไร มึงคิดอะไรอยู่วะ?!
“คงมีโอกาสได้ว่าหรอกถ้ากูไม่เอาตายทั้งคู่ซะก่อน!” เขาขู่และผลักไอ้เหี้ยพงษ์ออกไปไกล ๆ ตีน
ปึง ปึง ปึง ปึง!
ปึง ปึง ปึง ปึง!
“มึงเปิดประตูให้กูเดี๋ยวนี้เลยนะ! ไม่อย่างนั้น...”
ฝิ่นเคาะประตูเสียงดังลั่นบ้านพร้อมคิดหาคำขู่ที่เอาให้คนในห้องได้ยินแล้วต้องเปิดประตูออกมาทันที
“ไม่อย่างนั้นกูเล่นไอ้พงษ์ตายแน่ หรือมึงคิดว่ากูไม่กล้า มึงก็ลองดู! แล้วอย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังละกัน”
ประตูห้องยังปิดสนิทอยู่เหมือนเดิม
ไอ้เหี้ยเอ้ย!
“มึงออกมาพูดกับกูให้รู้เรื่องนะ ไม่อย่างนั้นกูจะ!...” ไม่มาเหยียบที่นี่อีก
...เปล่งเสียงพูดออกไปไม่จบประโยค
ถ้าเกิดมันไม่เปิดห้องให้ เขาก็ต้องไม่มาเหยียบที่นี่อย่างนั้นสิ
...ไม่มีทาง!
“หึ” ไอ้เหี้ยพงษ์แสยะยิ้มก่อนผิวปากแล้วเดินเข้าห้องมันไป
“แก้ว! ไอ้แก้ว!”
ทำไมมันดื้อด้านอย่างนี้วะ!
“มึงคิดจะลองดีกับกูรึไง เหี้ย!”
ก็เข้าใจว่ามึงควรมีเวลาคิดไตร่ตรอง แต่กูไม่ให้ มึงเปิดเดี๋ยวนี้สิวะ!!
.
.
.
“มึงไหวรึเปล่าฝิ่น”
“ในตัวผมมีอะไรไม่รู้วิ่งพล่านไปหมดว่ะพี่ แม่ง” น้อยครั้งที่เขาจะยอมรับออกไปตรง ๆ
ในเมื่อเจ้าของบ้านไล่ทางอ้อมแล้วเขาจะไปซุกหัวนอนที่ไหนเวลานี้ ขืนกลับบ้านพ่อก็ต้องรู้อยู่ดี ขี้เกียจหาคำตอบ จึงโทรตามรุ่นพี่ให้ไปรับแล้วมานั่งสูบบุหรี่อยู่ม้าหินอ่อนหน้าบ้านพี่ไม้แทน
“ถ้ามันสองคนเป็นอย่างที่มึงคิดตั้งแต่แรกจริง...” พี่ไม้จับไหล่เหมือนปลอบ
“ผมเอาตาย!” เขาพูดแทรกทันควัน
ให้ไอ้เหี้ยพงษ์ตายคนเดียวนะ เขาไม่ปล่อยไอ้แก้วให้ตายตามไปอยู่ด้วยกันหรอก
“มึงคิดว่ามึงแทรกกลางพวกมันได้แล้วเหรอ? กูถามแค่นี้ แล้วมึงก็นั่งคิดเงียบ ๆ ไป เดี๋ยวกูไปหยิบเหล้าให้” เขาพ่นควันบุหรี่พลางถอนหายใจตามหลังรุ่นพี่
เป็นพี่ประสาอะไรวะเอาแต่พูดแทงใจดำ ไม่ก็ซ้ำเติม
…มิตรภาพความเป็นเพื่อน ใครหลายคนมีมากพอที่จะเห็นผิดเป็นชอบ เข้าข้างเพื่อนตัวเองแม้จะเป็นเรื่องที่ผิดก็ตาม เขาเข้าใจ เพราะเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น
การตายของไอ้เป้งเพื่อนรัก ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในเมื่อพวกเขามีศัตรูไม่ใช่น้อย ๆ
อย่าว่าแต่ไอ้เป้งเลย ตัวเขาเองอาจตายวันตายพรุ่งยังไม่ใช่เรื่องแปลก
รู้อย่างนี้แต่เขายังโกรธแค้นไอ้คนที่ฆ่าเพื่อนเขาอยู่ดี แม้ไอ้เป้งจะไม่เคยสร้างโบสถ์สร้างวิหาร แม้จะไม่เคยทำเรื่องดี ๆ ที่คนดี ๆ ทั้งหลายแหล่บัญญัติไว้ แต่มันก็เพื่อนเขา...
วันนั้น การล้างแค้นควรจบที่การเอาคืน ชีวิตแลกชีวิตซะก็สิ้นเรื่องสิ้นราว
แต่ทำยังไงได้ในเมื่อพวกมันเข้ามาอยู่ในสายตาและการจะฆ่าใครให้ตายตามเพื่อนเขาไม่ใช่เรื่องที่เอาแต่ใจตัวเองได้เหมือนทุกที
ในเมื่อ...พี่ไม้ที่เจ็บปวดกับเหตุการณ์วันนั้นซึ่งดูท่าจะมากกว่าใคร ไม่เห็นด้วย
และเพราะพี่ไม้ เป็นพี่ที่เขานับถือจึงต้องเคารพความคิดเห็นของพี่ไว้ด้วย
ไม่อย่างนั้นมันคงจบไปแล้ว
แววตาของความผูกพันที่มากกว่ามิตรภาพของเพื่อนที่ไอ้แก้วมองไอ้พงษ์ที่สนามบินในวันนั้น...จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเอาคืนที่ไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ แต่ต้องเจ็บปวด เสียใจ มากกว่าใครสักคนตาย
...แต่ทั้งหมดควรจบที่แค่เป็นเรื่องเข้าใจผิดเมื่อฆาตกรตัวจริงถูกเปิดเผยเรื่องก็สมควรยุติแค่นั้น แล้วทางใครทางมันไปซะ
ฝันไปเถอะใครจะไปยอม!! ในเมื่อความต้องการของเขามันเริ่มต้นมาก่อนหน้านั้นตั้งเท่าไหร่แล้ว
ความรู้สึกของไอ้แก้ว ไม่ต่างจากพี่ไม้ที่ไม่รู้ตัวเอาซะเลยว่าใครต่อใครเขามองออกว่าคิดยังไงกับอีกคนขนาดไหน
ความห่วงใย อาลัยอาวรณ์ที่มากกว่าเพื่อน เหมือนตอนพี่ไม้มองไอ้เป้งหยิบมีดสปาต้าวิ่งออกจากกลุ่มไปหาคู่อริไม่มีผิด
ความรู้สึกที่ เขาเอามาใช้เป็นเครื่องมือเพราะจับได้ว่ามันพิเศษต่อกันยังไง
ความรู้สึกที่ เขาต้องได้มาเพื่อจะขยี้ให้แหลกคามือ
แต่ยิ่งใส่ใจกับความรู้สึกนั้นมากเท่าไหร่ กลับอยากได้มาครอบครองมากกว่าทำลาย ความซื่อสัตย์ ความศรัทธา วิธีการต่อสู้ของคนไร้ทางสู้ เขาเคยคิดอยากจะเหยียบย่ำ แต่ดันมีความรู้สึกนับถือเล็ก ๆ เกิดขึ้น ความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ในความอ่อนแอ เขาชอบในตัวมัน เขาต้องได้มาครอบครองโดยไม่เกี่ยงวิธี และเมื่อได้มาแล้วก็สุดจะดีใจที่ไม่ได้พลั้งมือพลั้งเท้ากำจัดไปซะก่อน แต่ต้องมาหลอกตัวเองว่าไอ้ความรู้สึกที่ไอ้แก้วมีให้ไอ้พงษ์เป็นเรื่องเข้าใจผิดไปเอง หลอกตัวเองเพราะถือว่าความสัมพันธ์แซงหน้าไอ้เหี้ยพงษ์ไปไกล พยายามทับถมความรู้สึกที่มันมีให้ไอ้พงษ์กระทั่งเขี่ยทิ้งได้เขาก็อยากทำ ทั้ง ๆ ที่...ทุกวันนี้ยังเห็น ๆ กันอยู่ว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวคือ
...พวกมันรักกัน
“ดื่มเพื่อลืมเธอ”
ฟึ่บ!
เขามองไอ้โจ้ที่พี่ไม้โทรตามให้มันมาชงเหล้าให้ตาขวาง
“ไม่ลืมโว้ย!”
“อ้าว?”
“ให้กูเมาได้ที่ เดี๋ยวจะกลับไปพังบ้านมัน” ตอนนี้แค่ถอยมาตั้งหลักเพราะเหมือนโดนโลกเหวี่ยงกะทันหัน แม่ง จนป่านนี้แล้วไอ้แก้วจะรู้รึยังว่าเขาไม่ได้รอมันอยู่หน้าห้อง จะห่วงเขาบ้างไหม ถ้าไม่เห็นเขาอยู่ในบ้าน ...จะห่วงความรู้สึกเขาบ้างรึเปล่า “มันคงรู้ตัวแล้วว่ารักไอ้พงษ์” เขาบ่นลอย ๆ
ห่วงไม่ห่วงก็ช่างหัวมันสิวะ!
แต่ไอ้ที่จะให้ถอยออกจากชีวิตพวกมัน ไม่มีทาง! ... “แค่ตั้งหลัก กูแค่ตั้งหลัก” ไหวแล้วเขาจะกลับไปทวงคืน
แต่ถ้าไอ้แก้วมันไม่เลือกเขา...อีก
เขาจิบเหล้าแกล้มบุหรี่ไปเรื่อย ๆ
...มันจะเสียใจไหมถ้าเขาไม่ยอมปล่อยมันไป เขาจะทนเห็นมันเสียใจได้รึเปล่า แต่เขาไม่ใช่คนใจดี ไม่ใช่คนใจกว้างที่จะเสียสละเพื่อความสุขของคนรักได้หรอก เกิดเป็นมนุษย์มันต้องเห็นแก่ตัวเป็นอันดับหนึ่งสิวะ
“...ครับ ...กินเหล้ากันครับ ...ไม่รบกวนครับแม่ไปอบรมสามวัน หือ? ครับแล้วแต่พ่อเลย” พี่ไม้วางโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งคุยเสร็จลงบนโต๊ะ “พ่อมึงโทรมา” บอกยิ้ม ๆ
“โทรมาทำไมป่านนี้วะ เออ ๆ” เขาไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ ทั้งที่นี่มันเวลานอนของพ่อชัด ๆ แต่ดูจากหน้าตาพี่ไม้ก็ดูไม่เหมือนมีใครเป็นใครตายเลยไม่ได้ข้องใจอะไรต่อ
-
.
.
.
พลิกตัวนอนตะแคงพลางโอบมือไปข้าง ๆ
...ว่างเปล่า
เขาควานฝ่ามือลูบเตียงไปมาทั้งตายังหลับอยู่แต่แค่นี้ก็รู้แล้วว่า ไม่มีอีกคนที่เคยกอดอยู่ทุกวันนอนอยู่ข้าง ๆ
ฝิ่นลืมตาแล้วลุกนั่ง เขามองไปรอบห้องอย่างข้องใจ
“กลับมานอนที่นี่ได้ไงวะ?”
สำรวจตัวเองทั้งตัวก็เหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์ติดตัว จำได้ว่าเมื่อคืนไปเมาที่บ้านพี่ไม้ ไหงตอนตื่นมาตื่นที่บ้านไอ้แก้วทั้งในสภาพอย่างนี้
นี่พี่ไม้ต้องมาดูแลเขาอีกแล้วเหรอ ปล่อยให้นอนทั้งช็อปทั้งกางเกงยีนส์ก็คงไม่ขาดอากาศหายใจมั้ง
ฟู่ว... เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ขึ้นมาพลางยกมือขยี้หัวตัวเองแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ
ไอ้แก้ว...อย่าให้เจอนะ
“พี่ฝิ่น”
เฮือก!! เปิดประตูห้องน้ำออกมาก็สะดุ้งเฮือกเมื่อไอ้แก้วมันยืนตาแป๋วอยู่ตรงหน้า
“อะไร!” ถามมันเสียงห้วน ฮึ่ย! เขาควรพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบากว่านี้รึเปล่าวะ
ฝิ่นซึ่งมีผ้าขนหนูคาดเอวอยู่ผืนเดียวรีบเดินเลี่ยงไปเปิดตู้เสื้อผ้า เขาจับเสื้อตัวนั้นตัวนี้ไปเรื่อย แต่ยังไม่หยิบออกมาสักตัว เมื่อคืนมันหลบหน้าก็อยากเจออยากคาดคั้นเรื่องราวต่าง ๆ จากปากมัน แต่พอเจอหน้ากันจัง ๆ ไหงกูปอดแหกวะ
“คือ คือ...”
ไอ้คนดื้อเงียบเมื่อคืนก็พูดติดอ่างอยู่ข้างหลัง เขายืนลุ้นว่ามันจะพูดอะไร แต่ทางที่ดีกว่านั้นเขาควรชิงพูดตัดบทไปเลยดีกว่า
“กูไม่เลิกกับมึงหรอกนะ!” เขาโพล่งขึ้นพร้อมหันขวับไปจ้องหน้ามัน ดูท่ามันตกใจเล็กน้อย ทำไม? ผิดหวังเหรอ? “กูรู้เรื่องเมื่อคืนหมดแล้ว รู้จากปากชู้มึง หึ เมื่อคืนมึงคงใช้เวลาคิดได้เต็มที่ แต่คนที่ตัดสินใจมีเพียงกู กูนี่ คนเดียว”
“อ่า...พี่ ผมไม่ได้...”
“มาทีหลังกูเรียกชู้ทั้งนั้นแหละ! พูดมาสิ มีอะไรจะพูดก็พูดมา!” เขาจ้องตามันที่พยายามจะหลบเขม็ง แก้ตัวมาสิ! “ถ้ามึงหวั่นไหวกูจะบอกอะไรให้นะ นั่นเป็นเพราะพวกมึงสนิทกันมากไป ที่มึงรู้สึกก็แค่ผูกพันมันไม่ใช่รู้สึกรัก แล้วก็...”
“พี่ก็ฟังก่อนสิ” ไอ้แก้วช้อนตามองเขาพูดบอกเสียงเบา
ปึง! กำปั้นทุบประตูตู้เสื้อผ้าด้านหลัง
กูไม่ฟังตรงไหน?!
“ผมขอโทษ”
...ขอโทษ?
ฝิ่นเบนหน้าหนีกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แม่ง จุก!
“เรื่องคอขาดบาดตายมึงยังไม่เคยขอโทษกู แล้วนี่!” เขากำหมัดแน่นอยากจะเหวี่ยงใส่หน้ามันแต่กลับ...ไม่กล้า
ไอ้คนตรงหน้ามันจะทำให้เขาเป็นคนขี้ขลาดซ้ำซากไปถึงไหน
“พี่อย่าโมโหเลยนะ ผมกลัว...” มันพูดพลางเม้มปากตัวเองไปด้วย
“กลัว? กลัวอะไร? ตอนทำทำไมไม่กลัว อ้อ หรือนี่มึงคิดว่ากูจะทำอะไรมึงเหรอ มึงยังไม่เชื่อใจกูรึไง?”
รู้ตัวว่าชอบใช้กำลังเพราะเหมือนได้ปลดปล่อยอารมณ์ที่ครุกรุ่นได้ดีที่สุด แต่ก็บอกตัวเองเสมอว่าจะไม่ทำกับไอ้แก้วอีก คนที่ทำมันเจ็บปวดจะต้องไม่ใช่เขา แต่นี่เขายังไม่ดีขึ้นในสายตามันอีกเหรอ เอะอะต่อย เอะอะตี เขาไม่ทำกับมันแน่!
“เปล่า...ผมกลัวพี่ไม่รัก อึก...”
อะ...ไอ้เหี้ย
เขามองมันเต็มตา
เขาควรกลัวมากกว่าไหม?
“กูถามมึงอีกครั้ง มึงรักกูรึเปล่า?” เขาเชยคางคนตรงหน้าให้เงยหน้ามามองกันก่อนละมือกอดอกโชว์เหนือ
อยู่ ๆ กลับรู้สึกโล่งใจ
ท่าทางอย่างนี้กูไม่กลัวมึงแล้วว่ะ เหี้ยพงษ์...เขายิ้มเยาะอย่างชอบใจกับท่าทีของคนตรงหน้า
“อื่อ” มันพยักหน้าก่อนถือดีจับสองแขนเขาออกจากอกแล้วมันก็เข้ามากอดแทน หึ เขาจับไหล่มันออกแล้วหมุนตัวไปนั่งที่ขอบเตียง แต่ดึงเอวมันมากอด พลางจ้องหน้ามัน
“ฮื่อบ้านมึงแปลว่าอะไร?” เขาทำเป็นถาม
มีโอกาสเมื่อไหร่มันชอบอ้อนเหมือนไม่ตั้งใจแบบนี้บ่อย ๆ ขัดกับท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ ของมันเหลือเกิน
“พี่หายหงุดหงิดแล้วนะ”
เหรอวะ? หึ
ไอ้แก้วพูดแล้วผละออกจากเขาบ้าง มันหันไปหยิบบ็อกเซอร์ เสื้อยืดสีน้ำเงินแล้วก็กางเกงยีนส์ขาด ๆ ออกมาวางไว้บนเตียงให้
เขาลุกขึ้นเปลี่ยนใส่เสื้อผ้า
“ไปจูบกับมันทำไม กูไม่ชอบไม่รู้เหรอ แล้วอีกอย่าง มึง...” เขากลั้นใจต้องถาม “มึงไม่รู้สึกอะไรใช่ไหม?”
เขาจะไม่เอาใครมาเป็นประเด็นมากไปกว่าใจตัวเอง แต่...ก็อดเสียดแทงใจไม่น้อยเมื่อคนในประเด็นคือคนสำคัญของมัน
“พี่ต้องถามว่าผมรู้สึกอะไรรึเปล่า?” มันแก้ไขประโยคให้
ก็เขาตั้งใจถามแบบนั้นนี่หว่า
“ไอ้พี่พงษ์มันชอบทำอะไรไม่คิด อืม ไม่ใช่หรอก มันคิดแต่มันก็ทำ ...ส่วนเรื่องที่มันเอาปากมาชนกันน่ะ”
“ปากชนกัน?”
ไอ้แก้วพยักหน้าว่าใช่ตามคำที่เขาทวน
“ยังไง?” เขาย่นคิ้วถามอีก ในจังหวะที่ใส่เสื้อใส่กางเกงเรียบร้อย
ไอ้แก้วหยิบผ้าขนหนูไปพาดแขนแล้วเขย่งเท้าเอามือเกาะไหล่เขาพร้อมกับริมฝีปากมันมาหยุดแตะที่ริมฝีปากเขาครึ่งวินาทีก็ไม่ถึง แล้วมันก็เปิดประตูระเบียงเอาผ้าออกไปตาก
“หึ ไอ้เหี้ยพงษ์”
เขาสาวเท้าเดินตามออกไปยังระเบียงคว้าเอวมันจับหมับแล้วเดินไปข้างหน้ามันพร้อมระดมจูบแลกลิ้นมันอย่างหนักหน่วงเอาชนิดที่ลืมริมฝีปากไอ้พงษ์ให้สนิทไปเลย
“ขอโทษกูทำไม?”
“ขอโทษที่หลบหน้าพี่ ขอโทษที่แว่บนึง ผมไม่เข้าใจตัวเอง ผม...ใจไม่ดีเลยตอนเปิดห้องออกมาแล้วไม่เห็นพี่”
“หึ ยังดีที่รู้จักคิด” เขาเอ่ยชมก่อนปิดปากมันด้วยปากตัวเองอีกครั้ง
“อื้อ” ไอ้แก้วกำลังระทวยได้ที่ เสียอย่างเดียว
“เฮ้ย! พวกมึงน่ะ ลงมานี่เลย!” ไอ้เหี้ยพงษ์ตะโกนมาจากหน้าบ้านพร้อมกับพี่ไม้ และไอ้โจ้ที่ถือถุงอะไรมาด้วยเต็มมือ
มารคอหอย...
“หลับเป็นตายอะพี่ฝิ่น อะไรจะขนาดนั้น” ไอ้โจ้มึง ...แต่เถียงไม่ออก
ตั้งแต่เสียไอ้เป้งไปก็มีครั้งนี้แหละที่เขาเมาไม่รู้เรื่องตื่นมาก็บ่ายแก่ ๆ แล้ว และที่มานอนที่นี่เพราะมีรุ่นพี่กับรุ่นน้องที่รู้ดีกันซะทุกเรื่องพาแบกขึ้นห้อง
“อย่าจูบกันตรงระเบียง ถ้าบ้านโน้นเห็นจะว่าไง แล้วถ้าเกิดใครผ่านไปผ่านมาจะทำยังไง?” ไอ้เหี้ยพงษ์หน้าเครียดต่อว่าเขาตาขวาง ทั้งที่บ้านที่พวกมันอยู่ห่างจากบ้านคนอื่นเป็นโยช
“โจ้เข้ามาช่วยหน่อย” พี่ไม้ตะโกนมาจากในครัว
“ครับ” โจ้ขานรับแล้วลุกเดินเข้าไปทันที
พี่ไม้กำลังเตรียมกับแกล้มสำหรับคืนนี้ นึกครึ้มอะไรกันก็ไม่รู้คืนนี้จะฉลองให้ไอ้แก้ว ไอ้พงษ์ แล้วก็ตัวพี่เอง
“มึงไม่ต้องแสดงความเป็นเจ้าของขนาดนั้นหรอก” ไอ้พงษ์ขัดอีกละ
ทำไมวะ ผัวจะดึงเมียมานั่งตักผิดตรงไหน
“อิจฉา?” เขายักคิ้วพูดสำทับมัน
“พี่ฝิ่น ผมว่าผมนั่งดี ๆ ได้นะ”
ไอ้คนบนตักบ่นอุบแต่ไม่ขัดขืน และเสียใจด้วยที่เขากอดเอวมันไว้แน่น
“เออ ๆ กูยอม กูยอมแล้ว มึงนั่งใครนั่งมันได้ละ” ไอ้พงษ์โวยวายดึงเพื่อนมันออกจากตักเขา เขาสนุกพอแล้วจึงปล่อยไปง่าย ๆ
หึ มึงไม่ได้เหนือกว่ากูหรอกพงษ์
ฝิ่นอมยิ้มมองภาพไอ้พงษ์บ่นไอ้แก้วอยู่ข้างกันแต่กลับสบายใจมากขึ้นกว่าทุกครั้งกับภาพความสนิทสนมของมันทั้งคู่
“แล้วขับรถออกไปดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่บอก ถ้าเกิดอุบัติเหตุกูจะตามมึงเจอไหม? ต้องให้กูเดินตามหาไหม?”
สรุปเมื่อคืนก็ไม่มีใครได้หลับสักคน เออ ยกเว้นตอนเขาเมาสนิท
ไอ้แก้วขับรถไปหาเขาที่บ้าน ไปกวนพ่อเขาจนตื่นแล้วโทรมาคุยอะไรกับพี่ไม้ซึ่งถามพ่อแล้วก็ไม่บอกอะไร พอ ๆ กับถามพี่ไม้ แต่ไอ้แก้วที่ไม่รู้ว่าบ้านพี่ไม้อยู่ไหน โทรเข้ามือถือเขาก็ไม่รับสาย...โกรธอยู่นี่หว่า มันก็เลยนั่งให้พ่อเขาทับถมยันเช้าแล้วถึงได้กลับมาเจอเขาที่บ้านตัวเอง
ขณะที่ไอ้พงษ์นั่งรอเพื่อนมันยันเช้าแล้วก็ออกไปตลาดพร้อมกับพี่ไม้และไอ้โจ้ตอนที่แบกเขากลับมาส่ง
“ผมไม่ได้ใจกระตุกเหมือนตอนที่...กับพี่” ไอ้แก้วพูดพลางเม้มริมฝีปากตัวเอง
“ไม่ต้องพรรณนาได้ไหมวะ เอาแค่ว่ากูกับมึงเป็นให้กันได้มากกว่ามึง” ไอ้พงษ์ชี้นิ้วมาที่เขา
“อ้าว ไอ้เหี้ย” เขาลุกทันทีที่โดนไอ้พงษ์หยาม
“พี่ฝิ่นน้า พงษ์มันเป็นทุกอย่างสำหรับผม แต่พี่เป็นมากกว่าทุกอย่าง เฮ้อ จะพูดยังไงดี” ไอ้แก้วหน้ามุ่ยดึงแขนเขานั่ง “ตอนแรกก็ตกใจ พอเห็นหน้าพี่ก็กลับกลัว...กลัวว่าพี่จะรู้ เอ่อ คือ กลัวพี่เข้าใจผิด คือ ผม คือ แต่...มันก็แปลก ๆ บ้างใช่ไหมล่ะ มันไม่ได้รังเกียจ แต่มันคือความรู้สึกไม่เข้าใจมากกว่า สงสัยคงเพราะผมกับพงษ์ผูกพันกันมากไป ความรู้สึกมันเลยไม่ได้ตอบรับและปฏิเสธ แต่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่านี้เลยจริง ๆ นะ” มันพูดไปเหล่ตามองเขาไป
“ผูกพันกันมากจนมองข้ามความรู้สึก”
“พงษ์!!” ไอ้แก้วเรียกขัดเพื่อนมัน “จะยียวนทำไม กูไม่คล้อยตามมึงหรอกน่า”
“แหม ยึดมั่น ถือมั่น”
“หึ” ไอ้แก้วหัวเราะน้อย ๆ กับคำประชดประชันของเพื่อน
“คุยกันมาก่อนแล้วเหรอ?” เขาข้องใจกับคำพูดที่มันคุยกัน ไอ้แก้วพยักหน้า
“พงษ์บอกว่าพี่ไม่เชื่อใจผม พี่บอกให้ผมพูดกับพี่ทุกเรื่อง แต่ทำไมพี่ไม่พูดกับผมตรง ๆ ล่ะ ผมดูโลเลขนาดนั้นเลยเหรอ?” แล้วมันก็หันมาต่อว่าเขา ตาละห้อย
“ของอย่างนี้พูดไปมันก็ไม่เชื่อหรอก ไม่งั้นกูจะต้องลงมือเองเหรอ?” ไอ้พงษ์มองหน้าพูดกับเขา “กูไม่ได้บอกมึง แต่กูให้ไอ้แก้วตัดสินใจเพื่อให้มึงรู้ ต่อไปจะได้ไม่งี่เง่าอคติกับกู เพราะไอ้แก้วต้องอยู่กับมึงอีกนาน”
“ตลอดไป” เขาพูดให้มันถูกต้อง “แล้วมึงรู้เหรอว่ากูคิดอะไร?” แล้วย้อนมันต่อ
“หึ เก่งอยู่คนเดียวว่างั้น? มึงมีเวลาวิเคราะห์พวกกูได้ กูก็มีเวลาวิเคราะห์คนที่เข้ามาตีสนิทไอ้แก้วได้เหมือนกัน ...ถ้ากูเลือกได้ กูจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้มัน แต่ในเมื่อกูเลือกไม่ได้ กูก็ยังจะทำมันให้ดีที่สุด เท่าที่...จะทำได้” ไอ้พงษ์ว่า “...มึงไม่ต้องระแวงหรอก ความรักยังน้อยไปที่กูให้ไอ้แก้ว แต่กูก็เชื่อว่ามึงให้มันได้ไม่น้อยกว่ากูเหมือนกัน” เหมือนจะดีใช่ไหมที่มึงพูด
ก็ถูกแล้วล่ะหากมันจะเหนือกว่าเขา
กล้าจะพิสูจน์กันขนาดนี้ วัดใจในเรื่องที่ถ้าคดีพลิก...ไม่ใครก็ใครคงไม่ได้ตายดี
เอาล่ะ ไม่ว่าเขาจะเข้าใจผิดหรือเข้าใจถูกมาแต่แรก
เขาจะต้องกลัวตัวเองตกกระป๋องไปเพื่ออะไร
ในเมื่อนาทีนี้ไอ้แก้วมันรักเขา
“ที่จริงมึงบอกกูดี ๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย มึงไม่ชอบอย่างนี้ คงลำบากใจแย่” ไอ้แก้วค้านสิ่งที่เพื่อนมันทำ ที่ไอ้พงษ์ไม่ชอบพวกรักร่วมเพศเขาก็รู้จากไอ้แก้วมาบ้าง
“เอาน่า...เพื่อมึง น้อยกว่านี้ได้ยังไง” ไอ้พงษ์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแล้วลุกมาขยี้ผมเพื่อนมัน
เฮอะ! เพื่อมึงน้อยกว่านี้ได้ยังไง ไอ้หล่อ ไอ้พ่อพระ ไอ้พระเอก ไอ้...ไอ้
“ถึงกูไม่เคยทำอะไรเพื่อมึงแต่กูก็รักมึงรึเปล่าล่ะ โธ่” เขาพยักเพยิดหน้าให้ไอ้แก้วพลางวางมือพาดไหล่มัน
ไอ้พงษ์ส่ายหน้าพลางเบ้ปากแล้วหยิบบุหรี่ออกจากกระเป๋ากางเกงเดินออกไปหน้าบ้าน
“ห๊ะ?”
“อะไร?” เขาย่นคิ้วเชิงถามไอ้แก้ว มึงจะทำหน้าตาเหรอหราเพื่อ?
.............................................
ต่างคน ต่างสถานะ สิ่งที่ปฏิบัติต่อกัน ย่อมแตกต่างวันยังค่ำ
แม้ปลายทางจะเหมือนกันก็ตาม...
ขอโทษที่ช้า(ตามเคย)นะจ๊ะ
สำหรับคนอ่านที่ไม่ว่าจะเข้าใจพงษ์ไปทางไหน คุณเข้าใจถูกแล้วค่ะ เพียงแต่คนเขียนมิได้บอกเล่าออกมาทั้งหมดเท่านั้นเอง กร๊ากกก
ไว้คนเขียนจะโม้ยาว ๆ หลังอัพตอนพิเศษตอนสุดท้ายจบนะคะ
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์จ้า กอด ๆ จุ๊บ ^^
-
:z13:
พงษ์ เรารักนาย :-[ :-[ :-[ :-[
-
ฮิ้ว ตลอดไป ใช่เล้ยยยยยย! ฝิ่น
555 หวานๆๆๆ
นายมันพระเอกชะมัด
ชู้ใดหรือจะสู้พระเอกตัวจริง
โฮ้ย มีความสุข
บวกเป็ดให้ไว
-
แก้วกับพงษ์มันคือรักจากความผูกพันธ์ รักของพี่ชายที่ห่วงน้อง
พงษ์เหมือนปีกที่โอบล้อมแก้วจากอันตราย แต่สักวันก็ต้องปล่อยไป
แต่ฝิ่นกับแก้วมันคือความรัก รักที่ปลูกกันมา(ถึงจะบังคับกันก็เหอะ เนอะพระเอก)
จนต้นมันแข็งแรง และรอให้มันเติบ
โอ้ววว จบแล้วเรอะ ขอบคุณพี่ซีซั่นสำหรับนิยายที่ถึงงานท่วมตัวก็ยังมาแต่งให้อ่าน
ขอบคุณจริงๆค่ะ ทำตัวเป้นแฟนคลับ รอเรื่องหน้า ฮ่าๆ
-
:L2: รอตอนสุดท้าย. [แอบอยากรู้เรื่องพี่ไม้ง่ะ :o12: ]
-
:pig4: :กอด1:
-
จิ้ม.....เด๊่ยวกลับมาแก้อย่างยาวววววววววว o13
edit........
ขอโทษที่มาช้าจริงๆนะคะ...
เอาล่ะ....มาว่ากันด้วยสิ่งที่อยากจะบอกของเรื่องนี้นะคะ
เราเป็นเด็กสายสามัญ ไม่เคยเข้าใจความคิดของเด็กช่างเลยค่ะว่าทำไม และเพราะอะไรถึงทำอย่างนั้น
อาจเพราะคำว่าศักดิ์ศรีของเรามีนิยามต่างกันมั้งคะ.........
การที่มาอ่าน ถามว่าเข้าใจเด็กช่างขึ้นมั๊ย ขอตอบว่า...เข้าใจแต่รับไม่ได้.....
คือเข้าใจว่าเค้าทำเพื่ออะไร แต่ก็ขอละไว้เเล้วกัน.....(เฮ่ย!!!! ยิ่งพิมพ์ ยิ่งงงเองวุ้ย)
คิดว่าวิถีชีวิตและความคิดของคนเราต่างกันค่ะ แต่ถ้ามันอยู่ในความพอดีเราก็อยู่ร่วมกันได้
ชอบนะคะที่คุณซีชั่นช่วยเขียนโลกในมุมมองของเด็กช่างให้เราๆท่านๆได้มีส่วนก้าวเข้าไปมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตเหล่านี้ด้วย
รู้สึกเหมือนเป็นเด็กช่างขึ้นมาแวบๆเลย ขำหลายอย่าง.....โดยเฉพาะ.....คำว่า.....ประธานสาย....
คุณซีซั่นรู้มั๊ยคะ...ว่าเเรกๆที่เราอ่าน เรานึกว่าอะไร.....นึกว่าสายรหัส...แบบพี่รหัส ลุงรหัส อะไรเทือกนั้น
แต่เปล่าเลยยยยยยย เราถามพี่ที่ออฟฟิตที่เค้าก็เป็นเด็กช่างเหมือนกัน ได้คำตอบว่า...
......ก็ประธานสายรถเมล์ไง..... :a5:
อะไร...รถเมล์อะไร....ทำไมต้องมีประธาน...เอ้ยยย งง ไม่เข้าใจ เพื่อ?
ทั้งฮาทั้งงงเลยค่ะ.....ถึงว่า ตอนที่อ่านในเรื่อง ทำไมตัวเลขสายมันดูเยอะดีจัง เค้านับรุ่นกันเเบบไหนน๊าาาา?
ตอนนั้นคำถามเยอะมากกกกกก
แต่มีสิ่งนึงที่เรารู้มาตั้งแต่ต้น รู้มาก่อนที่จะมีโอกาสอ่านเรื่องของคุณซีซั่น
นั่นก็คือ เราคิดมาตลอดค่ะ ว่าเด็กช่างเนี่ย เป็นสิ่งมีชีวิตที่รักเพื่อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
พอเข้าใจเล็กๆว่าสิ่งที่พวกเค้าทำส่วนนึงก็มาจากความรักเพื่อนนี่แหล่ะ
แล้วยิ่งได้มาอ่านเรื่องของเป้ง....ชิส์ ไม่อยากจะบอกว่าที่ต้องตายก็เพราะรนหาที่เอง
อยากจะบ้า ตบช็อป....ฮึ่ยยยยยยยย
แต่เราคิดว่าสิ่งที่สะท้อนกลับมามันเกินกว่าเหตุ ตายอนาจเกินไป.....เรานึกภาพวินาทีที่เป้งตายได้เป็นฉากๆเลยค่ะ รู้สึกแย่นะคะ
สงสารพี่ไม้ สงสารเป้งเองด้วยที่มาจบชีวิตด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้
เราชอบความคิดของแก้วมากค่ะ โดนตบช็อปไปแล้ว...ซื้อใหม่ก็ได้(เราเอง ยังมีช็อปตั้งสองตัวแหน่ะ อิอิ)
ของพวกนี้ ไม่ตาย ไม่โดนไล่ออก ก็ซื้อใหม่ได้ สิ่งที่ภาคภูมิคือการได้เป็นลูกพระวิษณุตะหาก มันอยู่ในใจนี่!! เฮ้ออออ :เฮ้อ:
ฝิ่น....เป็นอะไรที่......คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกของคุณพิศาลรึเปล่าคะ
เถื่อน เเต่เร้าใจแม่ยกมากกกกกกกกกกกกกก แม้บางทีโคตรงี่เง่า
ทิฐิบ้าบอค้ำคอ จนทำให้แก้วเดือดร้อนด้วยอ่ะ ชิ
ได้แก้วกลับมาก็ดีเท่าไหร่ สำนึกให้มากๆด้วยนะยะ
แต่ฝิ่นเองก็แอบมีโมเมนต์หวานเล็กๆด้วยน๊าาาา ถึงจะยังดูเถื่อน แต่เราก็ชอบอ่ะ :-[
เราสงสารแก้วค่ะ เราน้อยใจเรื่องพ่อแทนแก้วนะคะ รักลูก แต่ปกป้องลูกไม่ได้
เราคิดว่าคุณพ่อมีอำนาจมากกว่ายัยผู้หญิงคนนั้น แต่กลับทำไม่ได้ เพราะอะไร? ทำไมอ่ะ?
แค่ผู้หญิงคนเดียว ไม่มีปัญญาทำอะไรเลยหรอ? ห่วยว่ะ!!!
ลูกขวัญ....ไม่เข้าใจนะ ดูเหมือนรักน้องแต่ก้พร้อมจะทำร้ายน้องเหมือนกัน
หลายคนอาจเสียดายและไม่แฮปปี้ ถ้าไม้จะมาจบลงที่คนคนนี้
แต่เรากลับมองว่า....เค้าสองคนไปด้วยกันได้
คนอย่างลูกขวัญต้องเจออย่างไม้นี่แหล่ะ เราอยากให้เค้าคู่กันนะคะ......
พงษ์..เราว่าพงษ์...ชอบผู้ชายชื่อแก้วค่ะ....และก็แค่แก้ว...ผู้ชายคนนี้คนเดียวเท่านั้นค่ะ
หากบอกว่ารักเหมือนน้องชาย เราว่ามันดูน้อยไปนะคะ ไม่งั้นตั้งเเต่ต้นจนถึงวันนี้ ...สิ่งเหล่านี้ที่พงษ์ทำให้แก้ว
มันไม่มาถึงขนาดนี้หรอกค่ะ เราชอบผู้ชายคนนี้นะคะ น่ารักดี แก้วโชคดีค่ะที่อย่างน้อย พงษ์ก็เป็นส่วนนึงของชีวิต
ที่ทำให้แก้วมีวันนี้...
แก้ว......อย่าน้อยใจถ้าเราบรรยายตัวละครนี้สั้น
แต่เพราะมันเกินจะบรรยาย....เราชอบตัวละครตัวนี้ค่ะ
เพราะเค้าเป็นศูนย์กลางทางความคิดของทุกคนจริงๆ รวมทั้งผู้อ่านด้วย...ขอกอดหน่อยนะแก้ว :กอด1:
สุดท้าย.......เราขอบอกว่าเราชอบนิยายที่คุณซีซั่นเขียนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เราไม่ได้เข้าใจเด็กช่างมากขึ้น เราเองก็ยังคงความคิดของเราแบบเดิมว่า.......
อะไรที่เกินกว่าเหตุอย่างที่เด็กๆในเรื่องนี้ทำเราก็ไม่คิดจะเห็นด้วย
แต่ขอเป็นเปิดใจรับกับพวกเค้ามากขึ้นดีกว่าค่ะ.......
ขอคุณนะคะที่เขียนนิยายดีๆมาให้เราอ่าน สู้ๆค่าาา
:L2: :L2:
-
นายเจ๋งมากอ่ะพงษ์ ชอบๆ ทำฝิ่นหัวปั่นได้ขนาดนี้ แต่ก็นะ เพิ่มความมั่นใจให้น้องแก้วได้มากโข เพราะฝิ่นแสดงออกมากขึ้นเย้อ~ เห็นโหดๆดุๆ ปากเสีย ติดจะเย็นชา แต่ก็กลัวเมียมีชู้นี่หว่า 555 ถึงแก้วจะมีชู้ตัวเองก็ยืนยันว่าจะฉุดใช่มั๊ยล่ะ
ฝิ่นน่ารักมากๆเลยตอนนี้ >< ยกความดีความชอบให้พงษ์เลย
รอตอนหน้าค่า
-
พี่พงษ์ โหยยย พี่เท่มากก
-
o13 o13 o13 o13 o13 o13
-
:z13: จิ้มก่อนอ่าน
รักกันๆเนอะ
-
"เฮอะ! เพื่อมึงน้อยกว่านี้ได้ยังไง ไอ้หล่อ ไอ้พ่อพระ ไอ้พระเอก ไอ้...ไอ้" ชอบประโยคนี้ 555 ดูเหมือนฝิ่นเป็นตัวอิจฉา //แต่เราก็ยังคิดเหมือนพี่ไม้อยู่ดี เรานับถือน้ำใจพงษ์นะ ^^ แก้วทำดีที่สุดแล้ว เราก็ไม่รู้จะบรรยายยังไง แต่สิ่งที่เรารู้พงษ์กับแก้วมีอะไรที่มากว่าพี่น้อง แต่สิ่งนั้นสำหรับแก้วอาจมีฝิ่นมาเติมเต็มจนล้นใจและทับถมจนพงษ์ตกลงไปก้นแก้วดวงใจ แต่ข้างใจลึกๆแล้วก็ยังมีพงษ์อยู่ และเราก็คิดว่าฝิ่นรับรู้ความรู้สึกนั่นเช่นกัน แต่ที่ฝิ่นมั่นใจได้ ก็เพราะไอ้แก้วมันได้ตัดสินใจเลือกฝิ่นไปตั้งนานแล้ว และแก้วมันไม่ใช่คนโลเล เฮ้อ..สุดท้ายแล้วคนเขียนล่ะรู้ดีที่สุด ใช่ม่ะ ^^
-
อยากให้พงษ์มีคู่จัง อยากอ่านคู่พี่ไม่กะโจ้ด้วยไม่รู้ว่า 3 คนนี้จะมีคู่กะเค้ารึเปล่า
-
เล่นเอาฝิ่นเครียดไปเลยนะแก้ว
พงษ์ก็ลองใจซะใจหายใจคว่ำหมด :เฮ้อ:
-
พงษ์เหมือนพ่อของแก้วจริงๆ :3123:
-
:sad11: :sad11: :sad11: :call: :call: :call: :call:
-
ที่แท้ก็แกล้งลองใจ
-
รักพงษ์ค่ะ :)
-
พงษ์มันรักแก้ว ทำได้ทุกอย่างเพื่อแก้วจริง ๆ นั่นแหละ
แก้วก็รักพงษ์ รักฝิ่น รักเท่ากัน แต่ตำแหน่งมันต่างกัน
พงษ์ใช้วิธีนี้เพราะพงษ์อ่านแก้วกับฝิ่นออก และเป็นวิธีที่ได้ผลเร็วที่สุด
รักแก้ว แก้วแม่มอ้อนน่ารักโคตร
สรุปแล้วคนที่ใหญ่สุดในสายก็แก้วล่ะวะ 5555+
รอตอนหน้าจ้า ^^ :bye2: o13
-
นิยายเรื่องนี้มันสุดยอด !
มันเป็นมากกว่านิยายรัก มันให้อะไรหลายๆอย่างกับเรามากจริงๆ
เราเป็นคนที่เขียนออกมาไม่เก่ง บรรยายไม่ถูก ไม่ค่อยจะเม้นยาวๆ ส่วนมากได้แค่สองบรรทัด ฮ่าๆ
แต่ตอนนี้อยากจะบอกคนเขียน อยากจะทำให้รู้ ว่านิยายที่คุณเขียน คุณลงให้เราอ่าน มันให้อะไรกับเรามากจริงๆ อยากจะขอบคุณจากใจที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมา
อ่านมาตั้งแต่บทแรก จนถึงตอนนี้ บอกได้เลยว่าผูกผัน ทั้งๆที่เราไม่ชอบอ่านอะไรหนักๆ ดราม่ามากเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ทำให้เราต้องติดตาม เล่นของป้ะเนี่ยยย ฮ่าๆ
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ จากใจนักอ่านคนหนึ่ง
-
เลิฟพี่พงษ์ ><!!!!!!!!!!
-
แล้วหลังจากตอนพิเศษก็จัมีรวมเล่มใช่ไหมคะ
มารอจอง :bye2:
-
พงษ์ก็ช่างพูด ฝิ่นก็คิดมากอยู่แล้วยิ่งคิดมากไปอีก ไม้เป็นพี่ที่ดีนะเนี่ย
-
เฮ้อ โล่ง ดีนะไม่มีเรื่องกัน ฮ่าๆๆๆ
-
พงษ์ทำตัวแสนดีอีกแล้ว
เพื่อแก้วทำได้ทุกอย่างเลยเนอะ
ถึงวิธีการมันจะน่าโมโหไปนิด
ปล.แก้วง้อเก่ง
หรือฝิ่นมันไม่ใจแข็งพอเนี่ย
แก้วง้อนิดเดียว ก็หายแล้ว
-
ขอบคุณ ^ ^**
-
อรีายยยยยย อยากได้อ่ะอยากได้
สักคนเถอะได้มะ สักคน 5555++
-
รอจ้า ^^
-
พงษ์นายหล่อมาก
-
นึกว่าแก้วจะเขว
ไปกับพงษ์ซะแล้ว o13
-
ขอโทษนะพี่พงษ์ที่เข้าใจพี่ผิด ก็อิฝิ่นนะสิมันบิ้วซะ โทษมันเลย อิอิ
แหม...แก้วน่ารักจริง จริ๊ง
สรุป เราต้องปล่อยพงษ์ให้ไปสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่อไป
-
ตอนแรกนึกว่าจะมีเรื่องกันซะแล้ว :เฮ้อ:
พงษ์นายเป็นพี่ชายที่แสนดีเลยนะ
รักกันให้มากๆนะ ฝิ่นแก้ว ^ ^
-
ตอนที่แล้วทำใจหายใจคว่ำหมดเลย :sad4:ดีใจที่พงษ์ไม่ได้คิดรัยกับลูกแก้ว :pig4:รอตอนต่อไปค่ะ
-
ฝิ่นมันน่ารักว่ะ :impress2:
:pig4: นะคะ
-
พี่ฝิ่นตัวโต แต่ขี้ใจน้อยชะมัด
แก้วพูดอะไรก็ไม่ฟัง แล้วยังจะถาม "กูไม่ฟังตอนไหน"
ทุกตอนเลยเพ่!!!!
พี่ฝิ่นตัวโต อย่านอยด์บ่อยนัก
นอกจากจะทำให้เจ้าแก้วกลัวแล้ว เจ้คนอ่านก็ตลกด้วยจ้า
-
ยังไงก็ฝิ่นแก้วละน้า
:กอด1:
-
กดบวกเป็ดให้เลยค่ะ
ตอนพิเศษตอนนี้พี่ฝิ่นเท่ห์มว๊ากอ้ะ และแก้วก็น่ารักสุดๆไปเลยย
แอบเขินกับฉากระเบียง งุงิ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
-
คือ... กูฮาไอ้พี่ฝิ่น ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โอ๊ยยย โดนพี่พงษ์เล่น กร๊ากกกกก พี่พงษ์ยกนิ้วให้เลย!
ปล่อยพี่ฝั่นมันเป็นตัวอิจฉาบ้าบอไปถอะ ขี้หึงว่ะพี่ฝิ่น : P
-
ว๊าว!!!~ มีแอบบอกรักกันตอนท้าย .....
-
อยากรู้บทสรุปของหัวใจ
ว่าเป็นไง รอตอนต่อไปจ้า
-
พงษ์กวนทีน
-
แผนลองใจลูกสาว(?)กะลูกเขยก่อนพงษ์จะปล่อยมือจริงๆว่างั้นเถอะ o3
-
:o8:
-
ชอบมากๆๆๆๆๆ รอตอนต่อไป ตอนแรกใจหายใจคว่ำหมดไม่กล้าอ่านตอน 1 เลย ต้องรอตอนสองก่อนแล้วค่อยมาอ่านตอนพิเศษ 55555
ปล.ว่าแต่....อยากอ่านตอนหวานๆของฝิ่นกะแก้วจังเลยน้า อิอิ :-[
-
คดีพลิกนี่หวา ใครชนะไม่รู้
รู้แต่คนอ่านมีความสุข
เรื่องนี้สนุกทุกตอนกันเลยทีเดียว ลุ้นตลอด จะรอเรื่องต่อไปของคนเขียนอีกนะ
-
อ้อมกอดเด็กช่าง Special Ending
“คราวนี้จะไปไหนกันล่ะ?” เจ้าของอู่ยืนเท้าสะเอวเอ่ยถามในขณะที่ลูกชายตัวเอง พี่ไม้ โจ้ และเขา ช่วยกันล้างรถให้ลูกค้า กะว่าคันนี้เป็นคันสุดท้ายเลยมาช่วย ๆ กันจะได้เสร็จไวขึ้นเพราะตอนนี้ก็ปาไปห้าโมงเย็นแล้ว
“ยังไม่ได้คิด” พี่ฝิ่นตอบ
“เวรกรรมของคนเป็นพ่อเป็นแม่พวกมึงเนอะ” พ่อบ่นพลางส่ายหน้าแล้วตั้งท่าจะเดินหนี
“พ่อ ๆ” แต่ไอ้พี่ฝิ่นร้องทักไว้ก่อน
“อะไร?”
“สมทบทุนหนูล่ะ” หน้านิ่ง ๆ แต่แบมือไปหาพ่อตัวเอง
คนเป็นพ่อส่ายหน้าอย่างเอือม ๆ แต่กลับควักกระเป๋าตังค์ออกมาพร้อมหยิบแบงค์พันให้ลูกชายห้าใบ
“ในบัญชีมึงล่ะ?”
“เก็บไว้กินดอก”
“เจริญ”
“อ่ะ ตังค์ทอน” พี่ฝิ่นคืนเงินให้พ่อสองพัน
“พอค่าเหล้าเหรอไอ้ลูกชาย?”
“ยังหาเงินเองไม่ได้ใช้เท่านี้ก็เยอะแล้ว” พี่ฝิ่นตอบแล้วหันมาช่วยเช็ดรถต่อ
“ถุย พ่อมึงโคตรซึ้งใจ” พ่อกระแนะกระแหนแล้วควักแบงค์พันออกมาจากกระเป๋าตังค์อีกรอบพร้อมกับเอาเงินสองพันที่เพิ่งได้คืนจากพี่ฝิ่นไปยัดใส่กระเป๋ากางเกงหลังของโจ้
“โหย จะก้มกราบมือก็ไม่ว่าง ขอบคุณครับพ่อ” โจ้ยิ้มแป้น
“เงินกองกลาง ออกเดินทางก็ให้ไอ้ไม้เก็บแล้วกัน ไม่งั้นไม่เหลือไว้แดกอย่างอื่นหรอกพวกมึงน่ะ” พ่อว่าก่อนเดินออกไป
เรื่องทางบ้านพี่ฝิ่น เขาไม่เคยซักไซ้ว่าพ่อกับแม่พี่มันคิดยังไงถึงไม่ได้ต่อว่าเขา หรือลูกชายตัวเองที่คบกัน อยู่ด้วยกันอย่างนี้ เพราะพี่ฝิ่นมันบอกออกไปตรง ๆ หน้าตาเฉย เหมือนเป็นเรื่องทั่วไปที่ครอบครัวนี้เขาคุยกันปรกติ แต่เท่าที่รู้คือ พ่อของพี่ฝิ่นเป็นคนหัวสมัยใหม่ ดูเข้าใจอะไรง่ายไปซะทุกเรื่อง ...อันนี้แม่พี่ฝิ่นบอกมา และเขาก็มีความสุขที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวนี้
ส่วนพี่ไม้ยังมาเป็นเด็กอู่ประจำถึงแม้พี่เขาจะผ่านช่วงฝึกงานและเรียนจบ ปวส.แล้วก็ตาม ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของคนกลุ่มนี้ พี่ฝิ่นบอกว่า หลังเลิกเรียนหรือว่าช่วงปิดเทอม เด็กช่างวิทยาลัยอาชีวะxจะมาทำงานที่อู่นี้หลายคนและพ่อก็ให้การสนับสนุน มีค่าตอบแทนให้ทุกคน มากกว่าแค่ให้ประสบการณ์
โจ้ซึ่งอยู่ว่าง ๆ ก็ติดสอยห้อยตามกันตลอด
“ทำไมต้องไปวันนี้วะ?” พี่ไม้เปิดประตูด้านหลังเข้ามานั่งในรถพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเชิงบ่น
หลังออกจากอู่ซ่อมรถพี่ฝิ่นก็ขับรถไปบ้านโจ้ ตามด้วยบ้านพี่ไม้เพื่อให้เก็บกระเป๋าเสื้อผ้ากัน ส่วนเสื้อผ้าของตัวเองเมื่อตอนบ่ายได้กลับไปเอาที่บ้านพร้อมกีต้าร์หนึ่งตัว ที่เหลือแค่เสื้อผ้าเขาซึ่งยังไม่ได้เก็บเพราะเมื่อเช้าพี่ฝิ่นไม่มั่นใจว่าพี่ไม้จะตกลงทันทีหรือไม่ เขาจึงไม่ได้รีบร้อนอะไร...จนกลายเป็นคนเดียวที่ช้าสุด
“วันนี้พี่รวยนี่หว่า” พี่ฝิ่นตอบกวน ๆ เพราะวันนี้เงินเดือนพี่ไม้ออก
“ฝัน ไอ้โจ้เอาตังค์มาเก็บ” พี่ไม้ตอบเสียงเรียบพร้อมบอกโจ้ซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังข้างกัน
“โหย พี่น่ะ ทีพ่อจะให้ก็ไม่เคยรับ พอลับหลังล่ะ แหม ๆ”
“เดี๋ยวจะโดน” พี่ไม้ขู่หน้านิ่ง เก็บเงินจากมือโจ้มานับ “เจ็ดพัน ฝิ่นค่ารถเอาของมึงออกนะ” แล้วเก็บเงินใส่กระเป๋าตังค์ตัวเอง
“อะไรเล่า” พี่ฝิ่นว่า
“อยากโดนเป็นเจ้าของ อยากมี...”
“ไอ้โจ้!” พี่ฝิ่นเสียงเข้มขึ้นมาทำให้ไอ้โจ้ต้องหยุดร้องเพลงเก่า ๆ ไปโดยปริยาย “อยากไปวันนี้ ถ้าถึงพรุ่งนี้ไม่ได้ออกเดินทางปีนี้ก็ไม่ไปไหนแล้ว” พี่ฝิ่นมองกระจกคุยกับพี่ไม้ต่อ พี่ไม้ได้แต่พยักหน้าด้วยสีหน้าประมาณ...แล้วแต่มึงกูขี้เกียจขัด
.
.
.
“ไม่ไปด้วยกันจริงเหรอ?” เขาถามพงษ์ขณะสะพายเป้ใส่เสื้อผ้าขึ้นไหล่เตรียมจะลงไปข้างล่างเพราะอีกสามคนนั่งรออยู่
“ไม่” พงษ์ยืนยันคำตอบเดิมตั้งแต่เมื่อเช้าที่รู้ว่าเขาจะต้องไปเที่ยวกับพวกพี่ฝิ่น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่พวกนั้นทำกันทุกปี “แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ครีมกันแดด ครีมทากันยุงใส่กระเป๋ารึยัง?” มันถาม
“อืม” เขาพยักหน้าแทนคำตอบ
“แล้วตกลงจะไปที่ไหนเนี่ย?”
“ยังไม่รู้เลย พวกข้างล่างกำลังคิดอยู่” เขาตอบ พงษ์ย่นคิ้วขึ้นมาทันที
“จิ๊ อ่ะ พกติดตัวไว้” มันจิ๊ปากขัดใจก่อนเปิดกระเป๋าเป้แล้วหย่อนมีดพับใส่เข้าไป
“เอาไปทำไม ไม่ได้ไปตีกับใคร”
“พกไว้ป้องกันตัวก็ไม่เสียหายอะไรหรอก”
เห็นสีหน้าเป็นกังวลของมันเขาจึงเลยตามเลย อยากให้พกก็พก
“ไม่ไปทะเล ไม่ไปน้ำตก ไม่เข้าป่า ไม่ขึ้นเขา ไม่ไปที่เคยไปมาแล้วทั้งหลายแหล่ ...เหนื่อยเดิน?” พี่ไม้กอดอกพยักหน้าตามโปรแกรมที่ไอ้โจ้ร่ายมายาวเหยียด
เขากับพงษ์เดินลงมาจากชั้นสองพอดีเลยทันได้ยิน
“แต่ผมอยากไป” โจ้พูดต่อ หันมองหน้าพี่ฝิ่น พูดจริงจัง
เขานั่งลงข้างพี่ฝิ่น พงษ์นั่งโซฟาตัวเดียวที่อยู่ข้างพี่ไม้
“แน่ใจว่าเหนื่อย? หรือเพราะอย่างอื่นกันแน่ มึงว่าไงวะโจ้” พี่ฝิ่นหันไปจ้องหน้าพี่ไม้แต่ถามโจ้ที่พยักหน้ารัวอย่างเห็นด้วย
อ้อ ที่ไอ้โจ้พูดขึ้นมาตอนแรกคงมาจากคำพูดของพี่ไม้สินะ
“...ไปรีสอร์ตไอ้แก้วสิ”
พี่ฝิ่นกับโจ้หันควับมองหน้าพงษ์แทบจะพร้อมกัน เมื่อไอ้พงษ์ออกความเห็นหลังจากงุนงงกับท่าทีของทั้งสามคนพอ ๆ กับเขา ส่วนพี่ไม้พยักหน้าพลางยกยิ้มใส่รุ่นน้องทันที
“เฮ้ย พงษ์” เขาทำตาขวางใส่มัน “คือไม่ใช่รีสอร์ตผม” เขาโบกไม้โบกมือปฏิเสธ นั่นมันของพ่อกับครอบครัวพ่อเขาต่างหาก
“หึ เห็นด้วย คราวที่แล้วที่ไปก็น่าสนใจดี เสียดายแค่ไม่ได้ไปอย่างสงบอารมณ์ คราวนี้ไปกางเต้นท์นอนริมแม่น้ำ ริมภูเขาที่นั่นดู เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” พี่ไม้เสริม
“เปลี่ยนตรงไหนวะไปแม่ฮ่องสอนพี่ก็นอนริมน้ำเหมือนกัน” พี่ฝิ่นบ่นอย่างเสียอารมณ์ ...แต่ดูท่าว่าเสียอารมณ์กับพงษ์ที่เสนอขึ้นมามากกว่าเพราะพูดไปพลางเสมองมองพงษ์ไปด้วยอย่างเคือง ๆ
“ไปดูว่ารอบตัวไอ้แก้วเป็นยังไง กำพืดไอ้แก้วเหมือนที่พวกมึงเสือกแอบรู้กันมากน้อยแค่ไหน ...อนาคตมึงจะได้สู้รบปรบมือได้ถูก” พงษ์บอกพี่ฝิ่นแต่เขาไม่เห็นด้วย
“ไปที่อื่นที่พี่อยากไปดีกว่า ที่นั่นไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก” เขาแย้งพลางกัดฟันมองหน้าพงษ์เขม็ง ...แต่มันดันยักไหล่ให้เฉย
เดี๋ยวเรื่องของเขา เขาก็ค่อย ๆ เล่าให้พี่ฝิ่นฟังเองแหละน่า ตอนนี้พี่มันก็รู้จักตัวเขาเกือบจะทุกเรื่องแล้ว เหลือแค่เรื่องทางบ้านเท่านั้นที่เขาไม่มีอะไรจะต้องพูดถึง
“ตกลงไปสระบุรี ไปบ้านไอ้แก้ว รวมทั้งรีสอร์ตที่ไม่น่าสนใจนั่นด้วย” พี่ฝิ่นพูดโดยไม่มองเขาตั้งแต่เขาบ่ายเบี่ยงแล้ว
“...พี่” เขาดึงชายเสื้อมัน
ไอ้พี่ฝิ่นหันมามองเขาแล้วเลิกคิ้วใส่เชิงถามว่า มีอะไร?
เฮ้อ...กรรม
...ทั้งที่เขาแย้งแล้วแท้ ๆ
“ไป ออกเดินทาง” พี่ไม้ปรบมือสองสามทีแล้วลุกขึ้นหยิบเป้สะพายเป็นคนแรก
โจ้หน้ามุ่ยให้กับอาการของพี่ไม้แต่ก็ก้มหน้าก้มตาหยิบเป้ลุกขึ้นยืน
“แล้วนี่ไม่ไปด้วยกันเหรอ?” พี่ไม้ถามพงษ์ พงษ์ลุกยืนพลางล้วงกระเป๋ากางเกงสองข้าง
“ไม่ ...ไม่อยากมีความทรงจำร่วมกับพวกมึง” เออะ ไอ้พงษ์ลอยหน้าลอยตาตอบ
“หึ” พี่ไม้ยิ้มมุมปากพลางส่ายหน้าอย่างเอือมระอาก่อนเดินเลยพงษ์ออกไปหน้าบ้าน
“อยู่คนเดียวดีแล้วปากอย่างนี้” โจ้ต่อว่าพงษ์ก่อนเดินตามพี่ไม้ออกไป
“อยากมีความทรงจำร่วมตายล่ะ เขาแค่ถามตามมารยาท” พี่ฝิ่นต่อว่าพงษ์อีกคน แต่ไอ้ต้นเรื่องดูไม่ได้ใส่ใจหรอก ดูท่าว่าจะสนุกซะมากกว่า
“ฝากดูแลมันด้วยนะ” พงษ์บอก มองหน้าพี่ฝิ่น
“จำเป็นต้องฝากด้วยเหรอ กูก็ดูของกูดีอยู่แล้วเหอะ”
“หึ เดินทางดี ๆ นะตัวเล็ก ไปถึงแล้วโทรมาบอกด้วย” แล้วไอ้พงษ์ก็หันมาบอกเขา
“อืม อย่าไปเมาที่ไหนนะ ไปแค่อาทิตย์เดียว เดี๋ยวรีบกลับ” เขาบอกมัน
“ตัวเล็ก ตัวเล็ก เหอะ ไปเถอะเดี๋ยวไปถึงดึก” พี่ฝิ่นเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วหยิบกระเป๋าของตัวเองและของเขาไปถือ
แต่พงษ์แตะแขนพี่ฝิ่นและดึงกระเป๋าออกจากมือพี่ฝิ่นหนึ่งใบ โยนให้เขารับ
“ให้มันสะพายเอง” พงษ์บอก
“อ้อ อืม” พี่ฝิ่นยอมอย่างว่าง่ายเหมือนเข้าใจว่าพงษ์ต้องการอะไร
...เขาไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
พงษ์เดินกอดคอเขาออกมาส่งถึงหน้าบ้าน พี่ฝิ่นเดินรั้งท้ายไม่ได้พูดอะไร แต่พอพงษ์ดันหลังให้เขาเดินไปก่อน สองคนข้างหลังนั่นก็หยุดคุยอะไรกันสั้น ๆ ไม่กี่คำ ก่อนที่ไอ้พงษ์จะยิ้มและโบกไม้โบกมือส่งเมื่อเขากับพวกพี่ฝิ่นเดินออกพ้นรั้วบ้าน พร้อมตะโกนไล่หลังมา
“ฝากดูแลมันด้วยนะ!”
เขาหัวเราะ โบกมือตอบกลับมัน ในเมื่อก็เป็นห่วงเขาทำไมไม่ไปด้วยกันเลยล่ะ ...พ่อคนอุดมการณ์สูง
-
.
.
.
ถ้าเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวน่าจะถึงไวกว่านี้ แต่พี่ฝิ่นจอดรถทิ้งไว้ที่หน้าบ้านเขาด้วยเหตุผลว่าการเดินทางจะได้อรรถรสก็ต่อเมื่อละทิ้งความสะดวกสบายแบบปรกติแล้วหันมาใช้บริการของรถทัวร์ที่หมอชิตแทน
ภายหลังจากรถทัวร์จอดเทียบท่า พวกเขาจึงเหมารถสองแถวจากสถานีขนส่งจังหวัดมาลงหน้าทางเข้ารีสอร์ต ถนนคอนกรีตเส้นตรงเปิดไฟเป็นแนวยาวไปจนถึงหน้าบ้านพักรับรองลูกค้าหลังใหญ่ และทางซ้ายมือที่มืด ๆ นั่น คือที่ของเขา เขาเปิดเป้หยิบไฟฉายออกมาหมายจะกดเปิดเพื่อให้มีแสงสว่างนำทาง แต่พี่ฝิ่นแย่งไปถือไว้เองทันที
“คืนนี้ไปนอนบ้านไอ้พงษ์ก่อนดีกว่า นี่ก็ปาไปเที่ยงคืนแล้ว บ้านมึงยังไม่ได้ทำความสะอาดนี่” พี่ฝิ่นบอก
กว่าจะตัดสินใจลงตัวว่าจะมาที่นี่ก็มืดแล้ว ไม่มีใครกล้าเข้าไปทำความสะอาดบ้านริมน้ำของเขาหรอก แม้แต่แม่บ้านที่เคยไปทำให้ประจำก็เถอะ
“พรุ่งนี้ออกแต่เช้าได้ไหม แบบ...เช้าตรู่น่ะ” เขายื่นข้อเสนอเพราะลองได้พูดขึ้นมาอย่างนี้ไอ้พี่ฝิ่นมันต้องตัดสินใจมาแล้วและอย่าหวังจะไปเปลี่ยนใจคน ๆ นี้เลย
“หึ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้พี่ไม้กับไอ้โจ้ง่วงแล้ว รีบไปเถอะ”
อยากเอาฝ่ามือฟาดหน้าผากตัวเองแรง ๆ แต่ข้อมือโดนลากเบา ๆ พาเดินตรงไปทางบ้านหลังใหญ่แล้ว
“กูง่วงเหรอโจ้?” พี่ไม้ซึ่งตามหลังมาเอ่ยถามโจ้
“ผมด้วย ผมหลับมาตลอดทางนี่ยังง่วงอีกเหรอ?” ไอ้โจ้ถามพี่ไม้กลับ
พวกเขาทั้งสี่คนแบกกระเป๋าเดินผ่านบ้านรับรองซึ่งมีพนักงานเข้าเวรตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และแน่นอน มีที่ไหนที่จะให้แขกมาใหม่เดินผ่านหน้าไปโดยไม่มีการเช็คอินก่อน
“เอ่อ สวัสดีค่ะ ไม่ทราบลูกค้าจองหลังไหนไว้คะ?” เสียงหนึ่งดังมาจากคนที่วิ่งตามหลังมา
ทุกคนหันกลับไปมอง
“อุ้ย! นะ นายน้อย สวัสดีค่ะทำไมมาป่านนี้คะ?” พนักงานสาวมีสีหน้าไปไม่ถูกรีบยกมือสวัสดีและเอ่ยถาม
“บ้านคุณลุงทำความสะอาดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ ผมจะเข้าไปพัก” เขาไม่ได้ตอบแต่ถามเสียงนิ่งและบอกพนักงานถึงจุดประสงค์ทันที
“เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้เองค่ะ เคาน์เตอร์บอกว่าคุณพงษ์โทรมาสั่ง ดิฉันนึกว่าท่านจะมาพัก”
สมกับเป็นพงษ์
“อ้อ เปล่าหรอกครับคุณลุงยังอยู่ฝรั่งเศสอยู่เลย...” เขาบอกเธอ “ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมครับ คุณไปทำงานเถอะ ผมไปเองถูก”
“เอ่อ ค่ะ” พนักงานยิ้มแหยให้ “ประเดี๋ยวพรุ่งนี้ดิฉันให้คนจัดโต๊ะอาหารเช้าพร้อมนายนะคะ”
ฟู่ว...เขาถอนหายใจด้วยอาการแน่นหน้าอกขึ้นมาอย่างดื้อ ๆ
เขารู้ว่าตอนนี้คุณพ่อกลับมาที่นี่ถึงเลี่ยงจะมาเพราะไม่อยากเจอ...ครอบครัวของพ่อที่พร้อมหน้าพร้อมตา
แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก ...ตลกร้ายจริง ๆ
“ไม่ต้อง...”
“ครับ พรุ่งนี้นายน้อยของคุณจะมาทานข้าวเช้าที่นี่” พี่ฝิ่นพูดแทรกจบแล้วจับข้อมือเขาพาเดิน “ไม่ต้องหลบ ไม่ต้องหนี เดี๋ยวกูหนุนหลังให้เอง”
“หึ” เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้ แต่เป็นการแสยะยิ้มเท่านั้น มันไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครคิดหรอกกับการเผชิญหน้ากันของความผูกพันที่มีรอยร้าวกั้นตรงกลาง ความห่างไกลในความใกล้ชิด ...เข้าใกล้ทีไร หัวใจของเขาเหมือนโดนเข็มทิ่มทุกที
“กลัวอะไร มีอะไรให้หนี?” พี่ฝิ่นพูดต่อขณะเดินนำหน้าเขา
“ไม่ได้กลัว ...แค่ไม่อยากรู้ไม่อยากเห็นอะไรอีก ไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว” เขาตอบ
ขนาดไอ้พงษ์ให้เขาเจอหน้าพ่อบ่อยขึ้นช่วงฝึกงาน แต่กลับไม่ได้ทำให้ใจเขารู้สึกดีขึ้นมาเลย
สู้ไม่เจอหน้ากันเลยยังดีซะกว่า ในเมื่อเขาไม่ต้องการอะไรจากคนที่นี่อีกแล้ว ให้เขาไม่มีตัวตนสำหรับที่นี่ ต่อไปยังได้ เพราะมีที่อื่นที่มองเห็นเขา โดยที่เขาไม่ต้องอดทนกับอะไรที่เป็นการทำร้ายตัวเองแต่ไม่เกิดประโยชน์ใดเลย
.
.
.
แบกสัมภาระออกจากรีสอร์ตไม้หลังเดี่ยวสองชั้น สี่ห้องนอน สามห้องน้ำ บ้านพักตากอากาศอีกหนึ่งหลังของครอบครัวพงษ์ในเช้าตรู่วันถัดมาตามที่เขาต้องการ แต่แบกมาทิ้งไว้หน้ารีสอร์ตหลังใหญ่แล้วเดินตามหลังไอ้โจ้ที่ถือกล้องเดินถ่ายรูปต้นไม้ใบหญ้าไปรอบบริเวณ
“สวยว่ะ แต่ชอบตรงที่อากาศโคตรสดชื่นนี่แหละ แล้วก็ดูเป็นส่วนตัวดีว่ะ กี่ไร่วะแก้ว” ไอ้โจ้ถามแต่มันไม่ได้หันมามองเขากับพี่มันอีกสองคนที่เดินตาม
“พันกว่า” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“โห แล้วรีสอร์ตแต่ละหลังคืนเท่าไหร่วะ โหตั้งกี่หลังวะเนี่ย โชคดีที่เรามาค้างฟรี โชคดีของพี่ฝิ่นด้วย”
ป๊าบ
พี่ฝิ่นก้าวขายาว ๆ ไปตบหัวโจ้
บรรยากาศดีเขาไม่เถียงเพราะที่นี่สวยด้วยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่กลับไม่เห็นว่าจะมีอะไรน่าสนใจ ในความรู้สึกของเขา ออกจะเบื่อหน่ายมากกว่าด้วยซ้ำ สู้บ้านริมธารของเขายังไม่ได้ครึ่งเลย
“ตรงโน้น” เขาชี้ไปทางเนินเขาลูกหนึ่ง “มีโฮมสเตย์ ไร่องุ่นก็อยู่ตรงนั้น ไปเลยดีกว่าเนอะเช้า ๆ คนงานเก็บองุ่นกัน จะได้เก็บไปกินที่บ้านด้วย” เขาเปลี่ยนเรื่องชวนทุกคนอย่างตั้งอกตั้งใจ
แถว ๆ นี้จะเป็นรีสอร์ตเพื่อพักผ่อน สามารถทำกิจกรรมเบา ๆ ได้เช่น วิ่งออกกำลังกายหรือว่ายน้ำ แต่ถ้าจะทำกิจกรรมจำพวกลุย ๆ เสียงดัง ลูกค้าจะไปพักที่โฮมสเตย์แทน
“ไปกินข้าวกับพ่อมึงก่อนดีกว่า องุ่นเก็บเมื่อไหร่ก็ได้” พี่ฝิ่นขัดพร้อมหันเดินกลับไปทางรีสอร์ต
“เมื่อไหร่ไม่ได้หรอก สาย ๆ แดดก็ออก ร้อนตายเลย” เขาเดินตาม พร้อมให้เหตุผล “ใช่ไหมพี่ไม้” ทั้งยังพยักพเยิดหน้าจะให้พี่ไม้เห็นด้วยอีกแรง
แต่คนนั้นเดินเตะใบไม้ใบหญ้าเงียบ เฉย...พึ่งพาไม่ได้เอาซะเลย
“เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ได้หมายถึงภายในวันนี้” ไอ้พี่ฝิ่นหันมามองขวับ
ก็...เออ ไม่วันนี้ก็ไม่วันนี้
สรุปเขาต้องมานั่งร่วมโต๊ะอาหารกับพ่อจนได้
“ดูหน้าตาแต่ละคน” คุณแพรวพรรณซึ่งนั่งรอที่โต๊ะอาหารพูดกับพนักงานให้พวกเขาได้ยิน
ครืด!
พี่ฝิ่นลากเก้าอี้เสียงดังแล้วนั่งเยื้อง ๆ ก่อนดึงแขนเขาให้นั่งตามซึ่งตรงข้ามคุณแพรวพรรณพอดี
“พี่ไม้ โจ้ ตามสบาย” เขาบอกอีกสองคนโดยเลี่ยงไม่มองคนตรงข้ามเท่าไหร่นัก ได้ยินแต่เสียง เหอ ๆ ของไอ้โจ้เล็ดลอดออกมาเบา ๆ
“ไร้มารยาท” นายผู้หญิงของที่นี่พูดขึ้น พี่ฝิ่นผิวปากขึ้นตามทันที ไม่แน่ใจกับคำว่าไร้มารยาทของคุณเธอว่าหมายถึงเรื่องไหนกันเพราะตั้งแต่เจอหน้าเขาก็ไม่ยังได้ยกมือไหว้ทำความเคารพเลย
เขาเคยคิดจะรักและเคารพผู้หญิงคนนี้ เขายินดีเป็นอะไรก็ได้ในสายตาเธอ ทั้งร่างกายและจิตใจที่ถูกกระทำเมื่ออยู่ลับหลังผู้เป็นพ่อ ขอเพียงแค่ให้อยู่ในสายตา ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่...อีกคน ขอแค่เห็นเขามีตัวตนบ้างให้เด็กคนหนึ่งซึ่งเพิ่งสูญเสียแม่ผู้ให้กำเนิดไป แม้เพียงแค่เวลาซึ่งถูกกระทำเพียงเท่านั้นเขาก็ยินดี แต่นั่นกลับเป็นความคิดที่โง่เขลา เมื่อเขาได้เจอกับพงษ์ ...พงษ์ซึ่งเป็นเพียงคนนอก แต่ปลุกเขาให้ตื่นด้วยคำว่า ตลอดเวลาที่ผู้หญิงคนนี้ก้าวเข้ามาที่นี่ เขาย่อมมีตัวตนในสายตาเธออยู่แล้ว เพราะเขาขวางหูขวางตาคุณแพรวพรรณโดยที่ไม่ต้องทำอะไรสักอย่าง ฉะนั้น อย่างฝันว่าเขาจะถูกรักอีกต่อไป
“ฝิ่น” พี่ไม้เรียกเสียงต่ำ พี่ฝิ่นจึงยักไหล่แล้วเลิกผิวปาก
“ขอโทษครับพ่อคุยงานค้างไว้นิดหน่อยเลยเคลียร์ให้เสร็จก่อน” คุณพ่อเดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมมีพี่ลูกขวัญเดินตามหลัง
พวกเขาลุกขึ้นยกมือไหว้สวัสดีก่อนนั่งลงเมื่อคุณพ่อผายมือให้
พี่ลูกขวัญเลื่อนเก้าอี้ให้คุณพ่อนั่งลงตรงหัวโต๊ะ
“ลูกขวัญมานั่งตรงนี้ค่ะ” คุณแพรวพรรณขยับที่ให้พี่ลูกขวัญนั่งใกล้คุณพ่อแทน ซึ่งเป็นที่นั่งตัวตรงข้ามกับเขา
พี่ลูกขวัญนั่งนิ่งเงียบไม่ได้สนใจผู้ร่วมโต๊ะสักคน เหมือนมองไม่เห็นคนอื่นอย่างนั้น
“สบายดีไหมพี่ฝิ่น” คุณพ่อเปิดบทสนทนา คงด้วยความที่เคยเจอพี่ฝิ่นที่โรงแรมบ่อย ๆ แต่เขาไม่เคยแนะนำให้พ่อรู้จักมากไปกว่ารุ่นพี่คนละสถาบัน
“สบายดีครับ คุณพ่อสุขภาพแข็งแรงดีนะครับ?” ไอ้พี่ฝิ่นก็สัมมาคารวะดีจริง ๆ พี่มันสามารถเรียกพ่อเขาได้อย่างสนิทสนมอย่างรื่นปากเชียวล่ะ
“เป็นไปตามวัยน่ะลูก กินไปคุยไปเนอะ คนกันเองไม่ต้องมีพิธีรีตองหรอก” คุณพ่อบอกพร้อมหยิบขวดซอสมะเขือเทศเทใส่จานเบรคฟาสต์ตรงหน้าเขาก่อนเทใส่จานพี่ลูกขวัญ แล้วคุณพ่อก็วางมือประสานกันไว้บนโต๊ะ
พี่ไม้ พี่ลูกขวัญ โจ้ เริ่มลงมือทาน แต่คุณแพรวพรรณยังนั่งตัวตรงมองมาที่เขาอย่างรำคาญ
“พักผ่อนบ้างนะครับ รู้สึกคุณพ่อจะทำงานตลอดเลย เกรงว่าร่างกายจะล้าเกินไปรึเปล่า” พี่ฝิ่นก็คุยต่อ แต่เขาต้องหั่นไส้กรอกบ้าง ไข่ดาวบ้างจิ้มเข้าปากตามมารยาท
“ทำ ๆ ไว้ให้ลูก ๆ ทั้งนั้นแหละ วันข้างหน้าเขาจะได้สบาย ลำพังพ่อน่ะ ไม่หวังอะไรมากหรอก”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ เข้าใจว่าคุณพ่อไม่อยากให้ลูกลำบาก แต่การที่คุณพ่อทำทุกอย่างไว้เสร็จพร้อม แล้วลูกคุณพ่อจะทำอะไรไม่เป็นเอานะครับ”
“ฮะ ฮ่า ฮ่า นักเลงไม่เลือกถิ่นเลยนะเรา พี่ฝิ่นสะดวกเมื่อไหร่ก็มาเรียนรู้งานที่นี่สิ ต่อไปจะได้ช่วยลูกแก้วเขา ที่นี่พ่อสร้างไว้ให้เขา” คุณพ่อคุยกับพี่ฝิ่นอย่างชอบใจ
“ชิ! ดิฉันขอตัวล่ะค่ะ!” คุณแพรวพรรณวางส้อมวางมีดเสียงดัง แล้วลุกขึ้น “ลูกขวัญ! ตามแม่มา”
“ทานต่อสิลูก” พ่อบอกเมื่อพี่ลูกขวัญวางส้อมลง
“ขวัญอิ่มแล้วครับคุณพ่อ” พี่ลูกขวัญบอกแล้วลุกยืน คุณพ่อพยักหน้าให้ด้วยสีหน้าจำยอมแล้วพี่ก็เดินตามคุณแพรวพรรณออกไป
ทำไมวันนี้พี่ชายเขาดูไร้อารมณ์จังนะ หรือเป็นเพราะ...เขามาที่นี่
แต่ก็คงเป็นคำตอบอื่นไปไม่ได้ เพราะแม้แต่หน้าเขา พี่ยังไม่มอง
...แล้วจะใส่ใจทำไมในเมื่อพี่ลูกขวัญก็ยังไม่สนใจเขาเลย
“เอ่อ ผมก็ขอตัวก่อนนะครับ ไปโจ้” พี่ไม้บอกขออนุญาตพ่ออีกคนก่อนเดินออกไปพร้อมโจ้
“งั้น ผมขอตัวด้วยคน” พี่ฝิ่น
“อยู่ก่อนก็ได้ครับ พี่ฝิ่นก็เป็นคนในครอบครัว ไม่ต้องเกรงใจพ่อ”
พี่ฝิ่นนั่งลงตามเดิม
“คนในครอบครัว?” เขาเอ่ยถามพ่อ
“ใครที่ทำให้ลูกมีความสุข พ่อซึ่งไม่สามารถทำให้ลูกได้ ย่อมยินดีกับทุกสิ่งที่เป็นไปได้เสมอ” พ่อพูดด้วยรอยยิ้มแสดงถึงความรู้สึกนึกคิดเช่นนั้นจริง
“คุณพ่อรู้? ใครบอกครับ?” เขาถามด้วยความข้องใจ พลางหันข้างไปมองใบหน้านิ่งเฉยของพี่ฝิ่น
“ความรู้สึกของลูก เป็นสิ่งที่พ่อควรจะรู้ด้วยตนเองไม่ใช่เหรอ? ถูกต้องรึเปล่าพี่ฝิ่น?”
“ฮึ่ม อ๋อ ๆ ครับ” ไอ้พี่ฝิ่นกระแอมไอพลางเหล่ตามองเขาแล้วเบนหน้าหนีไปอีกทาง
คิดว่าเนียนแล้วสินะ!
“คุณแพรวพรรณจะไม่พอใจก็เรื่องของเขา แต่พ่อบอกตลอดว่าไร่นี้คือสินสมรสของพ่อกับแม่ของลูก เพราะฉะนั้นที่นี่ก็คือบ้านของลูก” คุณพ่อบอก มองหน้าเขา
“ถ้าเป็นสินสมรส ผมขอแค่ส่วนของคุณแม่พอครับ เพราะผมไม่คิดว่าจะดูแลอะไรที่นี่ได้ ความจริง งานของคุณพ่อ พี่ลูกขวัญน่าจะเหมาะมากกว่านะครับ พี่เขาเรียนทางนี้โดยตรง” เขาพูดขึ้นบ้าง
ที่นี่เคยเป็นบ้าน เคยเป็นชีวิต แต่ที่นี่ไม่ใช่ความสุขของเขามานานแล้ว ประโยชน์อะไรที่ต้องอยากได้มาครอบครอง
“พ่อตามใจลูกได้ทุกเรื่องที่ลูกต้องการ แต่นี่ก็เป็นความต้องการของพ่อเหมือนกัน พ่อเข้าใจว่าเราสองคนไม่เหมือนเดิม แต่สิ่งที่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนคือพ่อเป็นพ่อของลูกนะ”
“...ครับ”
หลายเหตุผล ...หลายอย่าง ที่เขาไม่อยากคุยกับพ่อนาน เพราะอะไรก็ตามแต่ในคำพูดของพ่อมันมาจากการรู้สึกผิดต่อแม่ของเขา
อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นหลังจากครอบครัว ที่ไม่ใช่เราสามคน พ่อ แม่ ลูก
แม้เขาจะพยายามมองว่าคุณพ่อ ยังเป็นพ่อคนเดิม แต่เขากลับรู้สึกอย่างนั้น...ไม่ได้สักนาที
-
.
.
.
บ้านไม้ชั้นเดียวริมลำธารท่ามกลางป่าไม้ผืนกว้าง คงเป็นบ้านของเขาจริง ๆ เพียงแห่งเดียวในความรู้สึก
ข้างนอกรั้วนั่น คือสวนมะพร้าวน้ำหอมที่ไม่มีอะไรให้นักท่องเที่ยวได้สนใจมากนัก วัน ๆ หนึ่งจะมีก็แต่คนสวนที่มาเก็บลูกมะพร้าวไปไว้รับรองแขกเพียงไม่กี่เที่ยว และที่ตรงนี้ ก็เป็นส่วนตัวเกินกว่าใครจะกล้าเข้ามาหรือแม้แต่ส่งเสียงรบกวน
“เอาเป็นว่า มึงต้องการอะไรจากพ่อมึง?” พี่ฝิ่นเอ่ยถามอยู่ข้างเขาซึ่งยืนอยู่ตรงระเบียงหน้าบ้าน มองไปยังลำธารตรงหน้า
“มันผ่านมาแล้วล่ะ จากที่เคยต้องการ ก็ไม่มีอะไรให้ต้องการแล้ว” เขาตอบโดยไม่หันไปมองคนข้างกาย
“มึงมันเป็นเอามากกว่าที่คิด”
“พี่คิดว่าผมเป็นยังไงล่ะ?” เขาหันไปถามซึ่งหน้า
“กล้าดีขึ้นทุกวัน” พี่ฝิ่นทำหน้าเคร่ง ยกมือกอดอกตัวเอง พลางเหล่หางตามองเขาเหมือนปราม ๆ แต่เขาดันยิ้มตอบกลับเลยโดนพี่มันแสยะยิ้มให้ก่อนจะหันหนี
“มึงเคยเห็นพ่อกูพูดดี ๆ พูดเพราะ ๆ กับกูบ้างไหม?” อยู่ ๆ พี่ฝิ่นก็ถามขึ้นมา ...พ่อพี่ฝิ่นน่ะเหรอ เห็นเอ่ยปากทีไรเหมือนจ้องจะต่อยกับลูกชายตลอด ซึ่งพ่อในสมัยหนุ่ม ๆ ก็คงเหมือนพี่ฝิ่นเป๊ะ “เขาเสียงแข็งกับกูตลอด แต่กูอยากทำอะไรก็ปล่อยให้คิดเองทำเอง แล้วถ้ากูพลาดขึ้นมา เขาก็จะซ้ำเติมกูให้หนักเข้าไว้ แต่กูไม่ยักคิดว่าพ่อไม่รักไม่หวังดี กูว่าวิธีแสดงความรักของแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกว่ะ ให้พ่อกูโอ๋กูก็คงไม่เอา” พูดจริงจังขึ้นมาเชียว
“หึ สิ่งที่ผมต้องการมันไม่มีวันเป็นจริงได้หรอก มันหายไปหมดตั้งนานแล้ว” เขาก้มหน้าพูดก่อนเงยหน้าหันไปมองพี่ฝิ่นที่ชำเลืองมองเขาอยู่ตลอด เขายิ้มบาง ๆ “...บางทีพ่ออาจยังรักผม รักแม่ แต่...มันส่งมาไม่ถึงผมแล้ว ...แล้วพี่คิดว่าผมจะต้องการอะไรได้เหรอ? ได้กอด ได้ยินคำบอกรัก ผมก็คงไม่ดีใจ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
แต่ความจริงยังอยากอยู่ใกล้ ๆ แต่พอเข้าใกล้กลับเหมือนโดนเตะออกนอกวงโคจรเพราะรอบกายของพ่อ คือใคร? ใช่ ...ใคร? ซึ่งไม่ใช่แม่ของเขา แล้วอะไรคือรัก อะไรคือผูกพัน อะไรคือครอบครัว?
พงษ์รู้ดีเพราะมันเคยกีดกันความรู้สึกเหล่านี้เพื่อไม่ให้เขาได้สัมผัส ซึ่งเขาก็เพิ่งได้พูดคุยกับพ่ออีกครั้งก็คือช่วงที่ฝึกงาน เขารู้ว่าพ่อคงรู้ข่าวคราวของเขาอยู่ห่าง ๆ ตลอดเวลา และความคิดของพงษ์คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการประกาศตนว่ายังมีเขาอีกคนที่เป็นลูกพ่อ ไม่ก็คงอยากให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง หลังจากถอยห่างมาหลายปีเพื่อทำใจ หึ แต่กลับไปเผชิญหน้าอีกครั้งก็เหมือนมีกระจกใสกั้นอยู่ดังเดิม
“เดี๋ยวกูพามึงมาเจอพ่อมึงบ่อย ๆ ละกัน”
“หืม?” เขาเลิกคิ้วสูงด้วยความข้องใจ เพื่ออะไร?
“เอาเป็นว่าตกลงแล้วกัน กูเชื่อว่าพ่อมึงไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกน่า” พี่ฝิ่นหันหลังยืนพิงรั้วระเบียงและมองหน้าเขาตรง ๆ
“พี่เอาอะไรมาเชื่อ รู้จักกันไม่ถึงปี”
“กูเชื่อมึงก็เชื่อตามกูเถอะน่า” ไม่พูดเปล่ายังยกมือขวาขึ้นขยี้ศีรษะเขาอีกต่างหาก
“..................” เขาทำหน้ามุ่ยใส่
“นี่กูไม่ได้บังคับมึงนะ ...แต่มึงเองก็อยากอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เหรอ?”
เขาลังเลเล็กน้อยแต่กลับพยักหน้าออกไป
...จากเคยอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาด้วยรอยยิ้มซึ่งเกิดจากความอบอุ่นภายในครอบครัว หลังจากที่แม่เสียชีวิต คุณพ่อก็เปลี่ยนไป เจอหน้าเขาก็เอาแต่ทำหน้าเครียด และเวลาของพ่อก็หมดไปแต่กับการทำงาน ไม่นับรวมสมาชิกใหม่ที่เข้ามาอยู่ร่วมบ้าน ณ ขณะนั้นอีกสองคน ยิ่งทำให้เขา ห่างไกลพ่อออกไปมากขึ้นทุกที
แล้วเขาล่ะ? เขากลายเป็นใครในครอบครัวที่ไม่มีตัวตน
เขาคงไม่ต้องการอะไรมากกว่าความรู้สึกเดิม ๆ ของการเป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งไม่ว่ายังไงก็ไม่มีวันเป็นจริง
“พงษ์บอกอะไรพี่ ถึงได้กล้าไปว่าพ่อผมอย่างนั้น” เขาถาม
“บ้าง...แต่กับพ่อมึงก็พูดตรง ๆ ได้นี่หว่า ไม่เห็นมีอะไรยุ่งยากเหมือนที่มันบอกเลย แล้วไอ้พงษ์มันก็ตามใจมึงแบบผิด ๆ เกิน จะไม่ให้คิดว่ามันระ...”
“หืม?” เขาเลิกคิ้วสงสัยเมื่อพี่ฝิ่นหยุดพูดไปดื้อ ๆ
“เปล่า เอาเป็นว่าลองค่อย ๆ เปิดใจให้พ่อมึงไปเรื่อย ๆ ละกัน กูว่ามึงเก็บกดเพราะตัวมึงเองนี่แหละ แล้วเลิกคิดเยอะได้แล้ว คิดอะไรตื้น ๆ หน่อยนะ เป็นอย่างนี้ ใครเขาก็ห่วงมึงทั้งนั้น” พี่ฝิ่นพูดหน้ามุ่ย
“สนอะไรผมมีพี่ฝิ่นทั้งคน” เขาตอบหน้าตาเฉย
“มึงนี่นะ...” พี่ฝิ่นพูดอย่างหมั่นเขี้ยวพร้อมเอามือจับแก้มเขาสองข้างส่ายไปมา ก่อนเราจะหัวเราะร่วนทั้งคู่
“สวีทในบ้านสิครับ เตียงออกจะใหญ่”
“ไอ้โจ้!” พี่ฝิ่นเน้นเสียงเรียกชื่อรุ่นน้อง โจ้มันเพิ่งเดินกลับมาจากทางต้นน้ำพร้อมกล้องถ่ายรูป
“แฮ่ ขอโทษครับ” มันเสียงสูงยิ้มตาหยี “แล้วพี่ไม้ล่ะพี่”
“อยู่โน่น” พี่ฝิ่นลุกจากระเบียงมองไปริมลำธารทางด้านซ้ายมือไม่ไกลมาก พี่ไม้ยืนอยู่ตรงนั้นสักพักได้แล้ว หลังกางเต้นท์ที่เอามาจากรีสอร์ตเสร็จ
“ครับ” โจ้ตอบรับแล้วเดินเลยไปหาพี่ไม้พร้อมตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงร่าเริงเกินเหตุ “จะเล่นน้ำแต่หัววันเลยเหรอพี่ ร้อนตายห่า”
“พี่ไม้ดูเงียบ ๆ นะพี่” เขาถามคนข้าง ๆ มองไปยังพี่ไม้ซึ่งยืนอยู่คนละฝั่งกับเจดีย์เถ้ากระดูกของแม่เขา
ตรงนั้นมันสงบสำหรับแม่มาก เขาคิดว่าท่านน่าจะชอบเมื่อได้มองกลับมายังบ้านหลังนี้
เขาหันมองข้าง ๆ เมื่อพี่ฝิ่นยังเงียบอยู่ เห็นพี่มันมองสองคนที่อยู่ริมน้ำด้วยแววตาเป็นห่วงเป็นใยที่น้อยครั้งจะเห็นจนจับได้อย่างนี้
“ไอ้เป้งมันชอบเที่ยว” พี่ฝิ่นบอก ...เกี่ยวอะไรกับที่เขาถาม? “เปลี่ยนที่เที่ยวยังไงบรรยากาศก็เดิม ๆ ล่ะวะ เป้งมันชอบเล่นน้ำทั้งที่มันขี้หนาว แต่มันก็เล่นทุกครั้งที่มีพี่ไม้อยู่ด้วย เพราะพี่ไม้จะเตรียมผ้าไว้ห่มให้ตอนมันตัวสั่นงก ๆ ขึ้นจากน้ำตลอด ...จะทำอะไรมันเลยไม่ห่วงตัวเอง เพราะมีคนคอยห่วงมันอยู่แล้ว”
เขาเงียบตั้งใจฟัง
“เจดีย์เก็บกระดูกมัน พี่ไม้เป็นคนบอกให้สร้างไว้ตรงนั้นเอง ขนาดตายไปแล้วพี่ยังเป็นห่วงกลัวมันไม่มีความสุขถ้าไม่ได้อยู่กับอะไรที่ชอบ ...แต่ที่มากกว่า ก็ต้นไม้ใหญ่ที่เหมือนตัวแทนพี่ไม้นั่นล่ะ มันก็พูดของมันไปเรื่อย ยามแดดออก ฝนตก ก็มีที่กำบัง เหมือนตอนหาเรื่องแต่ยังมีพี่ไม้เข้าข้าง ...พี่กูก็เก็บไว้ทุกคำ”
พี่ไม้คงไม่ต่างจากเขาเมื่อเห็นเจดีย์เก็บกระดูกของพี่เป้งแล้วพลอยนึกถึงแม่ขึ้นมาเพราะแวดล้อมดูใกล้เคียงกัน ซึ่งนั่นก็เพราะ...
“พี่ไม้เขา...”
“กูถึงบอกมึงไงว่ารักก็คือรักจะไปจำกัดให้ความหมายมันแคบไม่ได้หรอก เพราะกูเคยเห็นมาแล้ว...ว่ารักมันสร้างความสุขและเจ็บปวดได้ขนาดไหน”
“อืม...”
“ขอโทษที่เอามาเล่นกับมึง” เขาไม่เคยโกรธเคืองเลย เพราะสิ่งที่ได้กลับมามันคุ้มเหลือเกิน “แต่กูจะรักมึงให้มากกว่าที่เคยเจอ แล้วไม่ต้องมาถามหาความหมายจากกูด้วย”
“ฮื่อ” เขายิ้มกว้าง “ผมรักพี่จัง”
“พูดอะไรบ่อย ๆ ได้หน้าตาเฉยวะ เอาไว้กูถามค่อยบอกสิ” พี่ฝิ่นมองหน้าเขาก่อนมองไปทางอื่น ...ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง มองเลยหัวเขาไปบ้าง
“หึ ไม่เอาหรอก ผมรักพี่ผมก็บอกว่ารัก พี่ก็ชอบฟังใช่ไหมล่ะ?” เขาย้อนขำ ๆ อย่างไม่กลัวโดนลูกหลงเพราะคนตรงหน้าพอใจซะยิ่งกว่าอะไร
<i>ตัวเล็ก...มึงกลับมาถึงบ้านกูก็อยู่นิวยอร์คแล้วล่ะ ขอโทษนะที่ไปโดยไม่บอกก่อน แต่ว่า...กูยอมให้มึงโกรธที่กูหนีมาก่อนยังดีกว่าให้มึงมองตามหลังกูว่ะ ส่วนหนึ่งกูก็เห็นแก่ตัวนะยอมรับ ก็กูไม่อยากรู้สึกเหมือนทิ้งมึงอีกนี่หว่า ...มึงคงกำลังน้อยใจ แต่คงไม่มาก เพราะไอ้เหี้ยฝิ่นคงทนดูไม่ได้ ฮ่า ๆ ไว้กูอยู่ตัวแล้วจะโทรหาให้มึงบ่นกูให้หนำใจไปเลยแล้วกัน แต่กูคำนวณก่อนนะอีกกี่วันมึงจะหายโกรธ หึ ตัวเล็กครับ...ไม่ต้องร้องไห้นะ ถึงไอ้ฝิ่นอนุญาตแต่กูก็ไม่อยากให้มึงเสียน้ำตาเพราะกูหรอก ตลอดเวลาของกู ต้องการแต่รอยยิ้มของมึง ^^ ยิ้มสิวะ! ...คราวนี้กูคงอยู่นาน พวกมึงดูแลกันและกันด้วย ...กูเชื่อว่าไอ้ฝิ่นดูแลมึงได้ดี </i>
......................................ตั๊กบริบูรณ์ จ๊าก! จบบริบูรณ์จ้า................................................
...จะเล่นทำไม? :really2:?
-
คำเตือน...คนเขียนบ่นส่งท้าย ยาวด้วย
หนึ่งปีกับนิยายเรื่องนี้
...การเขียนนิยายเรื่องนึงนี่ใช้เวลาเป็นปีเลยเหรอ? ทำไมต้องนานอย่างนี้ ?
ตอนแรกคิดว่าสามเดือนก็น่าจะจบได้แล้วนะ แต่เอาเข้าจริง เฮ้ย สามเดือนฉันยังไปได้ไม่กี่ตอนเอง ยิ่งนานวันยิ่งกลัวใจตัวเองผีจะออกจากร่างวันไหนก็ไม่รู้ เราเคยหัดเขียนนิยายลงบล็อกส่วนตัวนะคะ เซฟไว้อ่านเองคนเดียวก็เคย และก็ไม่เคยจบสักเรื่องด้วย สองตอนขี้เกียจแล้วจ้า ฮ่า ๆ แต่การลงนิยายให้คนอ่านทั้งที่ต้องปั่นสดไปพร้อมกันนี่ท้าทายดีนะ วอนโดนคนอ่านด่าได้ง่ายดี กร๊ากกก
พอได้ลองทำ เออ ลองมีความรับผิดชอบบ้างก็ดีเว้ย ถึงได้เข้าใจว่าทำไมการเขียนนิยายถึงต้องใช้เวลาขนาดนี้
เราอ่อนภาษาไทยมาก(ไม่ใช่เก่งภาษาอื่นนะ แต่แบบใช้ภาษาไทยไม่ค่อยสมบูรณ์) และเป็นคนใจร้อน แต่ก็พยายามกลั่นกรองให้นิยายไม่ห้วนเหมือนนิสัย ก็...นุ่มนวลได้เท่าที่เห็นล่ะค่ะ คำตอบทั้งหมดคือคนอ่านนั่นเองที่ทำให้เราได้นั่งทบทวนประธาน กริยา กรรม ประโยคอะไรต่าง ๆ นานา หลายต่อหลายคำก็search ถามอากู๋ทั้งนั้น แต่ก็ออกได้มาเท่าที่เห็นY^Y....
ขอบคุณคนอ่านมาก ขอบคุณทุกคนจริง ๆ ค่ะ บอกตรง ๆ ถ้าไม่มีพวกคุณนามแฝงที่ชื่อซีซั่นก็ไม่สามารถเขียนจนจบเรื่องได้หรอก ...เรารู้นิสัยตัวเองดี ว่าไม่เอาไหนซะเหลือเกิน แต่เขียนนิยายจบได้เรื่องหนึ่งละ โคตรภูมิใจในตัวเองอย่างไม่กลัวใครหมั่นไส้เลย แทบจะก้มกราบตัวเองแล้ว ...แม้จะเลยกำหนดที่ตั้งใจไว้นานมาก
...การทำอะไรที่อยากทำไม่ใช่เรื่องยากเลยนะ แต่ทำแล้วเสร็จ พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าสำเร็จ มันโคตรฟิน
นิยายเรื่องอ้อมกอดเด็กช่าง ขอจบไว้เพียงเท่านี้นะคะ เราในฐานะคนเขียน คิดเองเออเองว่า เรื่องราวทั้งหมดมันสมบูรณ์แบบในตัวของมันเองแล้วค่ะ
ตัวละครทุกตัวต่างมีหนทางที่เขาเลือกคิดเลือกกระทำ ค้างคาใจบ้าง ก็เดาต่อกันไปก่อน ฮ่า
เรื่องหนังสือ ปีหน้าน่าจะมีข่าวนะคะ ก็ตั้งใจว่าจะทำ ถึงงานจะทับคอตายอยู่ทุกวันก็ยังหวังอยู่เสมอ หลังอัพตอนนี้ คนเขียนก็จะลงมือปรับปรุง แก้ไขเนื้อเรื่อง พร้อมกับได้แต่งตั้งผู้ช่วยแล้ว เพื่อมาฃ่วยให้หนังสือออกมาตามใจคนเขียนให้ได้ (แต่ยังไม่มีเวลาส่งรายละเอียดให้นาง ฮ่า ๆ ๆ ๆ) แต่ให้เราพร้อมจริง ๆ สำหรับการตระเตรียมจัดทำหนังสือเรื่องแรกในชีวิต ไว้พร้อมแล้ว ถึงวันนั้นถ้าคนอ่านยังต้องการ ก็เจอกันค่ะ
ขอบคุณทุกคำแนะนำ ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณมิตรภาพจากหลังไมค์ที่เรารบกวนเสมอ (ตัวเองคนเดียวนั่นแหละ) ขอบคุณทุกคนที่เปิดรับจินตนาการของเรานะคะ เรามีความสุขมากค่ะเมื่อได้ถ่ายทอดออกไปแล้วมีคนอ่าน และบางคนมีบอกว่าได้ข้อคิดอะไรจากเรื่องนี้ด้วย ดีใจ^++^ เลือดอาชีวะเรามันเข้มค่ะ ก็อวย ๆ พรรคพวกนิดนึง
...แล้วเจอกันอีกในเรื่องใหม่นะจ๊ะ จุ๊บ ๆ (เมื่อคนเขียนมีวินัยในการอัพ เมื่องานคนเขียนลดลงT^T)
-
เหมือนมันยังไม่จบเลยค่ะคุณซีซั่น
เอ๊ะ หรือเราไม่เข้าใจเอง กลับไปอ่านอีกรอบ
-
เรื่องแก้วกับพ่อ เป็นอะไรที่หน่วงตั้งแต่อ่าน
จริงๆก็ไม่เข้าใจพ่อ ถ้ารู้สึกผิดกับแม่ ทำไมไม่เคยทำให้แก้วรู้บ้าง
ถ้าท่านรู้ว่าคุณแพรวกับขวัญทำอะไรแก้ว ทำไมไม่ปกป้องบ้าง
ทำไมกันน๊า.....
ถ้าพี่ฝิ่นจะทำให้แก้วเข้าใจกับพ่อ เราก็ดีใจมาก
ยิ่งตอนท้าย พี่ไม้คิดถึงพี่เป้ง น้ำตาซึมเลย
พี่ไม้เป็นพี่ที่ดีจริงๆ
และสุดท้าย พี่พงษ์วางใจปล่อยแก้วไว้กับพี่ฝิ่นแล้ว
มีทางเดินของตัวเองซะทีนะพี่
สุดท้าย ขอบคุณนิยายดีๆค่ะ ครบทุกอารมณ์จริงๆ
รอติดตามเรื่องใหม่นะคะ
-
เป็นตอนจบพิเศษที่ยาวและหน้ารักมากสมกับที่ติดตาม แล้วเราจะรออ่านเรื่องต่อๆไปนะ o13 o13 :bye2:
-
ขอบคุณ ^_^
-
นึกว่าตอนพิเศษหมดแล้วซะอีก สวรรค์!!!!
โครตจะชอบเรื่องนี้เลย ทั้งตัวละครทั้งการวางเนื้อเรื่อง อ่านกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
รอผลงานใหม่ๆของนักเขียนคนนี้ นะจ๊ะ โครตจะชอบ!!! :กอด1:
-
รอจ้า
-
ใจหายนะ รอเรื่องใหม่นะคะ รักแก้ว และรักลูกขวัญด้วย(เริ่มสงสารขวัญล่ะ) ^^
-
จบจริงๆหรอครับบบ
Y____Y
-
อยากบอกคนเขียนว่า ประทับใจกับเรื่องนี้จริงๆ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันกัน
เรื่องนี้ทำให้ได้เห็นความคิดมุมมองหลายๆอย่าง ซึ่งมันน่าจะอยู่ในตัวตนของคนเขียน ถึงทำให้บรรยายออกมาได้ดีแบบนี้
เป็นกำลังใจให้ค่ะ รอข่าวดีเรื่องหนังสือปีหน้านะคะ :L2: :กอด1:
-
:L2:
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่าติดตามและนิยายดีๆคะ
-
งืออออ :m15: จบซะแล้วววว
อ่านมาตั้งแต่แรก ๆ
สนุกมากค่ะ จะรอเรื่องใหม่นะคะ
-
ยังไงก็รัก รัก พงษ์ ได้ยินมั้ย ~ :กอด1:
555555555555 แอบสวนกระแส
อ่านจบแล้วกรี๊ดพงษ์มากมาย เหมือนเห็นความสุขของแก้วมาก่อนตัวเองตลอด
บอกตรงๆนะตอนอ่านครั้งแรกเราอ่านรวดเดียวจบเลยแหละ
เป็นหนึ่งในนิยายไม่กี่เรื่องที่เราติดมากๆในช่วงแรกที่เข้าบอร์ด
รู้สึกคนเขียนๆเก่งมากมาย เหมือนมืออาชีพเลย ตัวเราเองก็รักนิยายเรื่องนี้่มากๆเลย
ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีดีค่ะ :pig4: :pig4:
-
+ 1 ให้จร้า
ขอบคุณมากสำหรับนิยายดี ๆ จร้า :3123:
รอตอนพิเศษนจร้าาาาาาาาาาา :call:
-
:m15: :m15: :m15:
-
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
ขอบคุณที่มีนิยายดีดีมาให้อ่าน
เป็นนิยายที่ครบรสจริงๆ
ปล. ติดตามมาตลอด ใจหายเหมือนกันที่จบซะแล้ว :กอด1:
-
ดีใจด้วยนะคะที่จบแล้ววว
อ่านตอนแรกๆเป็นอะไรที่อึดอัดมาก
เนื้อเรื่องทำให้เป็นได้ขนาดนี้ ๕๕๕
ขอบคุณมากค่ะสำหรับเรื่องราวดีๆ
:กอด1: :กอด1:
:L2: :L2:
-
ซึ้งอย่างบอกไม่ถูก กับสิ่งที่พงษ์ทำให้กับแก้ว
:monkeysad: :L2:
-
ทำไมอ่านจบแล้วน้ำตาซึมก็ไม่รู้
สงสารพงษ์เบา ๆ :เฮ้อ:
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีมากเรื่องนึงเลยล่ะครับ
ยอมรับว่าอาจจะงง ๆ ไปบ้าง อย่างเราเองพองงก็ช่างมัน ย้อนใหม่บ้างพอจะจับใจความได้
แล้วก็รู้สึกสนุก ตื่นเต้นตามไปด้วย เสียดายที่เพิ่งมาเข้าเล้าได้ไม่นาน
ไม่ได้ติดตามมาตั้งแต่ต้น ขนาดพอเข้ามาแล้วเห็นเรื่องนี้ผ่านตาตลอดยังไม่เข้ามาอ่าน
แต่พออ่านทันเท่านั้นแหละ อย่างมัน ชอบมาก ๆ ครับ สนุกมาก
ตอนที่ประทับใจที่สุดคงเป็นฉากที่แก้วหมดสติที่ริมน้ำ
พอรู้รู้ว่าแก้วไม่ตายน้ำตาแตกจริง ๆ ไม่ใช่ซึม ๆ นะ พรากอ่ะ
ชอบมากอารมณ์นั้น มันเหมือนความหวังสุดท้ายของแก้วที่แก้วหวังเป็นจริง
รอฝิ่นให้มาช่วย มั่นใจว่าต้องมา แล้วฝิ่นก็มา ชอบโมเมนต์นั้นมาก ๆ ครับ
จะรอเรื่องใหม่นะครับ สัญญาว่าจะติดตามทุกเรื่องแน่นอนจ้า
รวมเล่มแล้วซื้อชัวร์ ๆ ด้วย ^^ :pig4:
-
ตอนพิเศษจริงๆคะ พี่ิ่นดีอะเป็นกำลังให้แก้ว แก้วจะได้เข้ากับครอบครัวได้ซะที แต่เหมือนเรื่องของลูกขวัญจะมีต่อป่าวคะ แฮะๆ ตอนแรกเราคิดว่าพี่ไม้จะจีบซะอีก สงสัยคงต้องรอพงษ์กลับมาจีบมั้ง (ถ้าพงษ์จะจีบอะนะ )
-
ซาบซึ้งมากกับนิยายเรื่องนี้ จบเเร้วสินะ
ขอบคุณตัวละครทุกตัว คนเเต่ง ทุกๆอย่างที่เกิดในนิยายเรื่องนี้
อ่านจบมันได้อะไรที่เยอะกว่าคำว่านิยายเยอะเรยล่ะ ชอบมากค่ะ o13
-
:pig4: สำหรับนิยายสนุกๆ นะคะ
รอเรื่องใหม่ของซีซั่นค่ะ
ต่อไปจะเป็นเรื่องราวของใครน๊า ~
-
จบจริงๆแล้วเหรอ
ไม่อยากให้จบเลย
พงษ์ยังไงก็แสนดีตลอดเวลาจริงๆ
แต่มีพี่ฝิ่นอยู่ด้วย
คงไม่ต้องห่วงแล้ว
พี่ฝิ่นเป็นกาวใจประสานรอยร้าวระหว่างพ่อกับแก้วซะที
จริงอยากอ่านเรื่องพี่ลูกขวัญด้วยนะ
ก็เหมือนดูไม่ใด้ใจร้ายจริงๆซะหน่อย
ตอนนี้พี่ไม้ดูเศร้ามากเลย
-
ขอบคุณมากๆคะ สนุกมาก
-
อย่างน้อยแก้วก็มี
ความสุขกับเรื่อง
ของความรัก :กอด1:
-
ขอบคุณสำหรับนิยายๆ ดีๆ ค่ะ
เลือดอาชีวะเข้มเหมือนกันค่ะ
เวลาอ่านแล้ว นึกภาพประหนึ่งว่าตัวเอง เป็นตัวละครในนั่น
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
รอเรื่องใหม่อยู่น่ะค่ะ
-
เยี่ยม :bye2: :L2: :กอด1:
-
ขอบคุณคนเขียนนะคะที่พยายามจนประสบความสำเร็จ
นำเราไปพบกับโลกของหนุ่ม ๆ เด็กช่าง ที่คาดว่าชีวิตนี้ไม่มีโอกาสได้เจอของจริงแน่
พี่ไม้ พี่โซ่ พี่ภู ลูกแก้ว เป็นตัวละครที่ชอบโดยส่วนตัว
ส่วนอิพี่ฝิ่นนี่หมั่นไส้เป็นบางโอกาส แต่หลัง ๆ มานี่ทำตัวดีสมเป็นพระเอก
ปัญหาครอบครัวของแต่ละบ้านก็ไม่เหมือนกัน เพราะมีพื้นฐานและเหตุปัจจัยต่างกัน
ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แต่คงไม่สามารถทำให้ถูกใจใครได้ทั้งหมด
สุดท้าย ทำดีได้สามีเป็นเด็กช่าง แบบแก้ว ทำชั่วได้เข้าคุกแบบอิพี่ดิว คิคิ
-
ขอบคุณ คุณคนเขียน 'หลงไหลในม่านหมอก'
กับเรื่องราวนิยายดีๆ จริงๆ
แอบอยากรู้เรื่องพงษ์ มีชิ่งไปคนเดียวด้วย
ไม่ยอมรอให้แก้วลำบากใจ
ตอนนี้ฝิ่นเลยพระเอกเต็มตัว เต็มซีน
ดูท่าลูกพี่ขวัญจะต้องคอยเก้อกับพงษ์อีกนาน
(ถ้าคู่กันน่ะนะ)
แต่พี่ไม้กับโจ้ขโมยซีนตอนบอก
กูง่วงด้วยเหรอ 555 หยั่งฮา
กดบวกปล่อยเป็ดขอบคุณอีกครั้ง
หวังว่าคงมีเรื่องใหม่มาให้อ่านอีก
คนอ่านรออยู่เน้อ
-
จบด้วยดี
มีลูกกันไวๆ นะ พี่ฝิ่น+แก้ว ^^
ปล.นึกว่าพี่ไม้จะได้กับลูกขวัญซะอีก
-
ขอบคุนมากน้าาา
-
จบได้ประทับใจมากค่ะ
พงษ์เป็นตัวละครที่อบอุ่น และนึกถึงคนอื่นเสมอ
เราไม่คิดว่านายเห็นแก่ตัวหรอก ก็พงษ์รักตัวเล็กมากนี่นา
แก้วกับฝิ่นก็ชัดเจนในความรู้สึกต่อกันอยู่แล้ว
ดูแลกันไป เป็นคู่ที่เหมาะสม
อีกใจก็อยากจะเห็นตัวละครที่เหลือมีความสุขในความรักเหมือนกับคู่นี้
ทั้งพี่ไม้ ทั้งพงษ์ ลูกขวัญ
คงต้องไปจินตนาการต่อยอดเอาเอง
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ o13
-
ไม้รักเป้งมาก ๆ จริง ๆ นะนั่น พ่อแก้วคงรักแก้วมากไม่ต่างจากที่พ่อฝิ่นรักฝิ่น แต่คงอย่างที่ฝิ่นบอกการแสดงออกแต่ละคนต่างกัน แต่พ่อแก้วแสดงออกน้อยไปหน่อยไหม รักแก้วก็น่าจะปกป้องดูแลแก้วสิ ทำไมถึงปล่อยแก้วแบบนั้น แต่พ่อแก้วก็คงจะลำบากใจเพราะอีกฝ่ายก็เป็นลูกเหมือนกัน และอีกฝ่ายก็เป็นภรรยา พ่อแก้วอาจจะคิดอีกทางว่ายิ่งปกป้อง อีกฝ่ายก็จะยิ่งรังแกหรือเปล่า แต่ไม่ว่าพ่อแก้วจะคิดยังไงก็ควรจะบอกแก้วนะ พงษ์ก็ห่วงใยแก้วมาก ๆ เลยนะนั่น ส่วนขวัญคิดว่าคงไม่ได้ไม่ชอบแก้วอะไร แต่คงเป็นเพราะแม่ขวัญหรือเปล่าทำให้ทำกับแก้วแบบนั้น เพราะดูขวัญก็ห่วงใยแก้วเหมือนกัน ฝิ่นก็ยังคงไม่พอใจพงษ์เรื่อย แต่ก็นะแก้วให้ความสำคัญกับพงษ์มาก ฝิ่นจะรู้สึกบ้างบางทีก็ไม่แปลก แต่ฝิ่นก็น่าจะมั่นใจได้แล้วนะว่าฝิ่นสำคัญกับแก้วมากแค่ไหน เพราะแก้วก็บอกขนาดนั้น ฝิ่นดูแลแก้วให้ดี ๆ นะ รอรวมเล่มนะคะ
-
เราเชื่อว่าพ่อแก้วรักแก้วแน่นอนค่ะ
ส่วนเรื่องหลังจากนี้ ก็ปล่อยให้มัดำเนินต่อไป อีกไม่นานแก้วก็จะเรียนรู้ชีวิต และโตเป็นผู้ใหญ่ที่ยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง
1 ปีแล้วหรือเนี่ย ผ่านไปไวมาก ถึงหลังๆจะนานน๊านนนนนนนนนมาทีก็เถอะ /me โดนเจ๊(เรียส)ตบกระโหลก
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะ ^____^
-
ขอบคุณนะคะ สนุกมากเลย o13
-
อ่านจบแล้วใช่เวลา 2 วัน สนุกมาก แต่มันก็รู้สึกหน่วง ๆ :monkeysad: สมเป็นนิยาย ดราม่า ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้ เคยเปิดมาอ่านเรื่องนี้หลายรอบแล้ว แต่อ่านได้นิดหน่อย ก็เลิกอ่าน เพราะแต่ก่อนเรื่องนี้ยังไม่จบ ก็เลยยังไม่คิดอ่านจริงจัง กลัวจะอินจัด ขอบคุณคนเขียน อย่าบอกคุณเป็นนักเขียนที่เก่งมาก :L2:
ปล.อยากให้คนเขียนแต่งนิยายตลก ไม่ดราม่า เวลาคนเขียน พูดถึงนิยายตัวเอง เราว่าคนเขียนเป็นคนฮา ฮา นะ ลองแต่งดูนะค่ะ จะติดตามผลงานของคนเขียน :L2: :bye2:
-
ชอบทากเลยน่ารักดี
รักแบบเถื่อนๆ
-
โหด มัน ฮา เศร้า ยิ้ม เอาครบรสเลยนะคะ เรื่องนี้
พี่ผิ่น นี้มันโ ค ร ต พระเอก หนังไทยเลยอ่ะ
ลูกแก้วก็ ปมชีวิตหนูนี้มัน น่าเอกนะ พวกลูกเมียหลวงที่โดน ยัยเมียน้องจ้องจะทำร้าย
สรุป :: ชอบคะ :pig4: คนเขียนมากมาย ที่เขียนนิยายมาให้สาวY อย่างเรา ได้อ่าน :L1:
-
เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ติดตามมาแต่แรก แต่อ่านไปได้สักระยะ ไม่กล้าอ่านต่อ
เพราะกลัวมันจะเศร้าจนทำให้ตัวเองจิตตกไปด้วย
แต่เมื่อวานได้มีโอกาสอ่านคอมเม้นท์หน้าสุดท้ายก็เลยรู้ว่ามันไม่ได้จบเศร้า
ใช้เวลาหนึ่งวันกับการอ่านเรื่องนี้ ขอบคุณคนเขียนมากที่ตั้งใจ ทุ่มเท
ไว้เจอกันใหม่เรื่องต่อไปนะครับ
-
พอเห็นคำว่าจบบริบูรณ์แล้วเหงาจังเลยค่ะ
เหมือนหลายเดือนที่ผ่านมา เราเปิดคอมก็เข้ามาดูว่าพี่ฝิ่นน้องแก้วอัพรึยังตลอด
เพื่อนถามว่ามีนิยายสนุกๆ แนะนำบ้างไหม เราก็แนะนำเรื่องนี้ตลอด
ชอบความคิดคนแต่ง หมายถึงมุมมองน่ะค่ะ
อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่เอาเป็นว่าชอบ 55555555555
ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายดีดีให้เราอ่านมาตลอด 1 ปี
จากนี้คงคิดถึงน้องแก้วแย่ T T'
กลับไปอ่านใหม่แต่ต้นเลยดีกว่า ♥
-
จบแล้ว :o12: :pig4: เรื่องสนุก ๆ ที่ทำให้ได้รู้อะไร ๆ หลาย ๆ อย่างที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับเด็กช่าง
แล้วมาต่อตอนพิเศษอีกน้า :m13:
-
ตามอ่านมา 2 วัน ชอบมากๆ
-
ติดตามอ่านมานาน ชอบมากเลย ขอบคุณคนแต่งน่ะที่อัพนิยายตลอดจนจบ แล้วจะรออ่านเรื่องต่อไปน่ะ
:จุ๊บๆ:
-
ก่อนอื่น..คุณซีซั่นคะ ถ้ามีโอกาส กลับไปอ่านที่เราเม้นท์ไว้ด้วยนะคะ ที่เราสัญญาว่าจะกลับมาเม้นท์ แต่เราก็ดันลืมซะอย่างนั้น เลยกลับไปแก้เเล้วค่ะที่ คห.3703 หน้า 124 ค่ะ ^^
มาเม้นต่อ........
จบเเล้วอ่าาาาาาาาาาาาาาาา ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
คุณซีซั่น ยังไม่ได้ดำเนินเรื่องเราบทสรุปของไม้กะขวัญเลยน๊าาาาาาา สรุปจะให้พวกเค้าคู่กันมั๊ยอ่า หรือจะให้เราจิ้นเองอ่ะ
(ทำไปแล้วเบ็ดเสร็จ อิอิ)
แต่ถ้าจะจบอย่างนี้ เราว่ามันเป็นตอนจบที่ดี อ่านแล้วกินใจค่ะ มันเต็มตื้นน้ำตาซึมกับข้อความส่งท้ายจากพงษ์ มันดูใจหายนะคะ
บอกไม่ถูกเลยอ่ะค่ะ แก้ว....โชคดีนะคะ โชคดีที่มีคนที่รักมากมายขนาดนี้
อย่าน้อยใจในสิ่งที่ผ่านมาเลยค่ะ เพราะจากนี้ไปเมื่อหันไปข้างๆก็มีฝิ่น และมีกำลังเสริมเป็นพงษ์
น้องอยู่ได้อย่างมีความสุขแน่นอนค่ะ
o13
เราจะรอรวมเล่มนะคะ มีเมื่อไหร่ จัดไปอย่าให้เสียเลยค่ะ
รักคุณซีซั่นค่ะ สู้ๆเน้อออออออออออออออ :กอด1: :กอด1:
ปล.ถ้าตอนรวมเล่มมีตอนพิเศษของไม้กะขวัญจะฟินมากกกกกกกกกกกกกก :impress2:
-
จบแล้วเหรอ :o12:
ขนาดตอนจบยังเศร้าอยู่เลย สงสารพี่ไม้จัง
คิดว่าที่ลูกขวัญไม่ยอมนั่งด้วยต่อ คงเป็นเพราะพี่ไม้มากกว่า
อยากให้พ่อกับแก้วเข้าใจกันมากขึ้น สงสารแก้ว
-
เป็นเรื่องยาวที่อ่านสนุก น่าติดตาม
-
ขอบคุณค่ะ สำหรับงานเขียนสนุกๆแบบนี้
เคยเปิดๆ ปิดๆมาหลายครั้งไม่เคยอ่านจริงจัง เพราะคำว่า Drama story
กลัวอ่านแล้วนอยส์ นอนไม่หลับ แต่พอเผลออ่านไปได้ 3 ตอนมันก็เพลิน
เพลินกับความเถื่อนพระเอก และความมึนชีวิตนายเอกด้วย งงว่ามันคิดอะไรอยู่
แต่พอยิ่งอ่านต่อไปก็ยิ่งรักตัวละครทุกตัวเลย จากที่เห็นมี ร้อยว่าหน้าแล้วขี้เกียจอ่าน
กลายเป็นอยากให้ต่อไปเรื่อยๆไม่อยากให้จบ ซ๊ะงั้น
จากนี้คงคิดถึงลูกแก้วมากๆแน่ๆ :monkeysad: อยากให้มีภาคต่อจัง
เอาเป็นรักครั้งใหม่ของนายไม้ หรือนายโจ้ก็ได้ค่ะ
ส่วนพงษ์ ปล่อยมันปกติมีลูกมีเต้าไป มันเกิดมาเพื่อดูแล เหมาะแก่การเป็นพ่อคนจริงๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ คงจะได้อ่านเรื่องต่อไปตอนมันจบแล้วอีกเหมือนเคย เพราะทนรออ่านเดือนละตอนไม่ไหวจริงๆ :L2:
-
:L2: :pig4: :L2:
ติดตามอ่านมาจนจบ ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆอีกหนึ่งเรื่อง...
-
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะครับ
-
จบแล้วหรอเนี้ยเราคงคิดถึงแสนมากๆเลย
แสน โจ้ พงษ์ เป็นคนละครที่เราชอบมากๆ
-
อยากรู้เรื่องพี่ลูกขวัญอะ ยังเหมือนค้างคาใจกับเรื่องพี่ลูกขวัญอยู่เลย :z10:
-
จบแล้ว นิยายที่ติดตามมา3วันเต็ม
ได้อ่านถึงตอนจบรู้สึกโล่งมากกกกกกกกก5555
ระหว่างการอ่านทุกตอน มีความรู้สึกหลากหลายมาก เหมือนกับตัวเองเป็นโรคหัวใจเลย 555
ใจกระตุกและหน่วงได้ทั้งเรื่องเลย
ขอบคุณผู้แต่งสำหรับนิยายดีๆๆค่ะ
-
แวะมาบอกก่อนว่าเพิ่งเข้ามาติดตามนิยายเรื่องนี้ได้ไม่นาน ตอนนี้อ่านได้แค่กลางเรื่อง พยายามไล่อ่านทั้งเรื่องหลัก คอมเม้นท์ต่าง ๆของผู้อ่านท่านอื่น เก็บอ่านวันละนิด นะ ขอบคุณนิยายดี ๆครับ :o8: :-[ :impress2: :man1:
-
จบแบบสวยงามค่ะ
ไม่ค้างแต่ก้อยัง คิดว่าน่าจะมีคู่ของพี่ไม้นะ
555555555
สนุกมากค่ะ
ยังคิดถึงทุกตัวละคร
หวังว่าจะมีเรื่องใหม่มาให้อ่านอีกนะค่ะ :3123:
:pig4:
-
รู้สึกโชคดีเล็กๆที่มาอ่านเรื่องนี้ตอนจบแล้ว
เพราะถ้าค้างคาไปแต่ละตอน ดิชั้นคงคลั่ง
ในที่สุดก็แฮปปี้ เสียน้ำตาไปหลายลิตรค่า
ไปทำงานเพื่อนถามว่า ใครเสีย -*- เลยตอบไปว่า น้องเป้ง 5555555
แอบรักน้องแก้วที่ชอบอ้อนอิคุณน้องฝิ่นเนียนๆ :-[ :o8:ตัวเล็กของเจ้าพงษ์มันน่ากอดนัก!
ชอบแนวคิดที่สอดแทรกมาตลอดเรื่อง ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนี้นะคะ
เป็นกำลังใจให้ในผลงานต่อๆไปค่า :L2:
-
ตามอ่านอยู่หลายวัน..ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ถึงบางตอนจะดูหน่วงๆ มึนๆ งงๆ
ไปบ้างแต่ก็สนุกดีส่วนตัวแล้วชอบพงษ์นะรู้สึกว่าเป็นได้ทุกอย่างสำหรับแก้ว
พี่ เพื่อน พ่อ พงษ์เป็นได้ทุกอย่างจริงๆๆ..
-
:L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: จบแล้ว กับการติดตามงานเขียนชิ้นนี้ เป็นระยะเวลาที่นานกว่าอาทิตย์ ทุกคอมเม้นท์เหมือนช่วยส่งเสริมให้นิยายเรื่องนี้ ดูมีชีวิตชีวา ควบคู่ไปกับเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดมาจากผู้เขียน ยอมรับนะว่าผู้แต่งสามารถดึงอารมณ์ร่วมของนักอ่านได้สุด ๆ ทำให้ตัวละครแต่ละตัวเหมือนมีชีวิตโลดแล่นอยู่ในความรู้สึกของนักอ่านแต่ละท่าน ผมคนหนึ่งแหละที่รู้สึกได้ เมื่อต้องรีบกลับบ้านเพื่อกลับมาอ่านส่วนที่ยังตกค้างในอารมณ์ของแต่ละบท แต่ละตอน จนกระทั่งมาถึงบทสรุปของเรื่องราว เสียดายอยู่แค่ว่าเรื่องนี้ผ่านตามาหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้แวะเวียนเข้ามา จนกระทั่งก้าวแรกที่เริ่มอ่าน ถึงกับแทบจะไม่อยากปิดคอมเมื่อถึงเวลาที่ต้องพักผ่อน หลายสิ่งที่ค้างคาใจในแต่ละตอน ทำให้อยากลุ้นกับโอกาสต่าง ๆของแต่ละตัวละคร ความไหลลื่นของบทบาททุกการกระทำ ล้วนมีทีมาที่ไป ที่ผู้แต่งเสริมเข้ามาเพื่อให้เรื่องราวดำเนินไปสู่จุดสุดท้าย ขมวดปมหนึ่งสู่ปมอีกปมหนึ่ง และค่อย ๆคลี่คลายออกทีละนิด จนในที่สุด เมื่อปมต่าง ๆได้รับการคลี่คลายลง แต่ก็ยังทำให้ผู้อ่านสามารถต่อยอดความคิดไปได้อีกหลากหลาย ขอบคุณนะครับสำหรับความกล้าที่จะเขียนในแนวที่ตนไม่เคยลอง และผลที่ออกมานั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขอบคุณอีกครั้งสำหรับนิยายดี ๆเรื่องนี้ครับ
-
อ่านแต่ละคอมเม้นท์แล้วน้ำตาไหล :กอด1:
ขอบคุณจริง ๆ
//เนรเทศตัวเองไปอ่านหนังสือ :serius2:
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟ
เรื่องนี้ทำให้เข้าใจมุมมองของเด็กช่างมากมาย อิอิ
ขอบคุณฮ๊าฟฟฟฟ
-
:L1: รักเรื่องนี้ชอบเรื่องนี้ :L1:
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
:กอด1: (กอด แก้ว กอด ฝิ่น) :กอด1:
จบแบบทิ้งท้าย เศร้าๆ จัง พงษ์ จ้า :sad11:
-
ตามอ่านมาหลายวันเลย ,, อ่านแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ
เหมือนมีจุดให้ลุ้นอยู่ตลอดว่า ,, แก้วกับฝิ่นจะลงเอยกันมั้ย
แล้วพงษ์ล่ะจะเป็นยังไง ไหนจะคนอื่นๆอีก พอมาถึงตอนสุดท้าย
กลับมีความรู้สึกว่า "จบแล้วจริงๆหรอ?" เหมือนซีซั่นยังทำให้ไม่จบเลยอ่ะ
ฮา ,, เราชอบเรื่องนี้มากมันเข้าถึงมิตรภาพจริงๆ
จะรออ่านเรื่องต่อไปนะค่ะ :bye2:
-
ผมใช้เวลาอ่าน เรื่องนี้ 15 ชั่วโมงโดยประมาณ
ยอมรับฝีมือท่านผู้เขียนเป็นอย่างมาก
ไม่ชมน่ะครับ เพราะว่าคนชมมีเยอะแล้ว
ขอตินิดเดียว เรื่องราวยืดเยื้อไปนิดหนึ่ง
เหมือนวนไปวนมา ชอบกล ครับ
-
ขอบอก ว่าต้องลางาน 2 วัน เพราะมันหยุดอ่านไม่ได้
ทำไงจะเขียนได้ดีแบบนี้บ้างวะ
-
เป็นเพราะการอ่านรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบเลยทำให้รู้สึกว่า ถึงตอนนี้ดราม่า เดี๋ยวหน้าต่อไปก็คลี่คลายแล้วมั้ง
แต่ถ้าติดตามอ่านตั้งแต่ตอนที่ 1 มาเรื่อยๆ คงอินมากเหมือนกัน
พงษ์ เป็นตัวละครที่ดีมากๆ ถึงไม่ใช่พี่น้องกัน ไม่เคยเป็นแฟนกัน แต่ก็เป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไขจริงๆ
พูดได้เต็มปากเลยว่า ถ้านิสัยแบบนี้ต่อให้ 3P ก็รับได้
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆ ครับ o13
ปล นึกว่าจะจบเศร้าซะแล้ว :laugh3:
-
อยากเม้นต์ยาวๆ แต่มันดึกแล้ว เอาจากใจเลยนะ
ตอนแรกไม่เคยชอบเด็กช่าง แต่อ่านเรื่องนี้แล้วอยากมีสักคน
แต่ถ้ามีตอนนี้ก็ค้องต้องเด็กกว่าสิ เพราะแก่แล้ว
ชอบเรื่องนี้มากๆครับ
ไม่เสียใจเลยที่กดเข้ามาอ่าน กลับกัน มีความสุขมากๆที่ได้อ่านครับ
ขอบคุณมากๆครับ :pig4:
-
เนื้อเรื่องสนุกมากเลย เป็นเรื่องที่น่าติดตาม
และอ่านตอนนึงแล้วต้องอ่านต่อๆหยุดไม่ได้
แต่ลูกแก้วเป็นไร ไม่พูดไม่จา
มันค้างๆนะครับ หรือเพราะพงษ์ไปอเมริกากัน
-
สนุกมากเลยค่ะ อยากอ่านตอนพิเศษอีกจัง
พี่ฝิ่นกับน้องแก้วน่าร้ากมากกกกเลย
รอรวมเล่มนะคะ o13
-
พงษ์อ่านทำน้องร้องไห้อีกแน่เลย
ถึงสั่งไม่ให้ร้องก็คงร้องอยู่ดีแหละ
อยากให้มีต่ออีกจัง ให้ดีกับคุณพ่อและลูกขวัญ
-
กรี๊ดดดดดดดด อย่างหนุกอ่ะเรื่องนี้ :D o13
ตอนแรกมองข้ามเรื่องนี้ไปมามาก เพราะชื่อเรื่อง วงเล็บว่าดราม่า :sad11:
เค้าไม่ชอบดราม่าเพราะมันอ่านแล้วปวดใจจจจจจจจจ :sad4: :o12:
แต่อารมณ์ตอนนี้มันอยากดราม่า ก็เลยเข้ามาอ่าน (แล้วเรื่องก็จบแล้ว จะได้ไม่ดราม่าค้างด้วย)
ปรากฎว่า ติดใจค่ะ แม่เจ้า สนุ๊กสนุก
ผูกเรื่องซะแน่นจนเค้าไปไหนไม่รอด ต้องอ่านๆ
แล้วก็อ่านยาวๆสองวันติด แฮปปี้สุดๆ
ต้องขอบคุณคุณคนเขียนนะคะที่แต่งเรื่องสนุกๆแบบนี้ให้อ่าน แถมยังได้สาระอีกด้วย :D
(เข้าใจชีวิตเด็กช่างมากขึ้น ซึ่งในชีวิตจริงไม่เคยเลยที่จะได้สัมผัสหรือรู้จักเด็กช่างจริงๆ)
:mc4: :bye2:
-
จะรอหนังสือนะค่ะ :impress2:
-
อ่านตามจบแล้ววว 2 วัน :pig4:
ขอบคุณมากกๆค่ะ ที่แต่งเรื่องดีๆอย่างนี้ให้อ่านกันน :L2:
อ่านย่อหน้าสุดท้ายแล้วเสียใจนิดหน่อย
สารภาพว่าเรื่องนี้รักพงษ์ที่สุด :กอด1:
-
ถึงจะดราม่าแต่จบแบบแฮปปี้ดีที่สุด.....
อ่านเรื่องนี้แล้วมองภาพเด็กช่างออกเลยนะ.....
แถมทำให้คิดถึงเรื่อง...กลรักเปื้อนสี.......
นี่ก็สนุกนะทำให้มองเห็นความรัก มิตรภาพของเพื่อนได้ดีจริง ๆ...
รอเรื่องต่อไป... o13
-
ขอระบายก่อน ตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 48 รู้สึกแก้วเป็นคนน่ารำคาญมากๆเลย ไม่รู้จักสู้คนอ่านแล้วเหมือนปัญหาทั้งหมดเกิดจากแก้ว ไม่ชอบแก้วเลยอะ ไปอ่านต่อและ
-
ก่อนอื่นขอขอบคุณก่อนสำหรับเรื่องที่มีโครงเรื่องที่ดี 2 วันอ่านจบ แต่จะหยุดอ่านหลายครั้งเพราะปวดหัวมาก คือมันอ่านแล้วเข้าใจยากมากว่าใครกำลังพูด หรือ เป็นความคิดของใคร อ่านยากไปหน่อย (ขอวิจารณ์งานเขียนตรงๆนะครับอย่าโกรธกันน้า) แต่โ๕รงเรื่องสนุก ชอบตัวละครทุกตัว แต่ไม่ชอบแก้ว แก้วเป็นตัวละครที่อ่อนแอเกินไปดูแย่ไปเลย ส่วนเรื่องครอบครัวแก้วก็เป็นอะไรที่ไม่เคลีย เริ่มเรื่องได้หนักขนาดแม่แก้ว ฆ่าตัวตาย และน่าจะมีประเด็นต่อเพราะแม่เลี้ยงร้าย ลูกขวัญร้าย แต่ยังไม่มีอะไรเกิดกับคนพวกนี้ (หรือคนเขียนอธิบายแล้วแต่ผมอ่านไม่ทั่ว) แต่โดยรวมผมชอบนะครับ อ่านแล้วมีหลายอารมดี เพียงแต่ปรับให้อ่านง่ายขึ้นก็จะดีกว่านี้ขึ้นไป
ปล. เป็นเรื่องที่ผมวิจารณ์เยอะสุดเลย เพราะชอบโครงเรื่องมากๆๆ
ขอบคุณมากเลยนะครับสำหรับเรื่องดี ^^
-
สนุกอ่า ไม่รู้จะใช้คำไหนดี นอกจากบอกว่าสนุก พล๊อตเรื่องดีมาก แต่งง บางตอนที่ไม่รุว่าเป็นคำพูดของตัวละครตัวไหน เอาเรื่องแบบนี้มาเขียนอีกน้า เรื่องของเด้กช่าง เด็กสายอาชีพ ไม่ค่อยมีคนเขียน พออ่านแล้วมันทำให้เราได้เห็นอีกแง่มุมนึงเลย สนุกมาค่ะ :pig4:
-
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่านะคับ..ถ้ามีรวมเล่มก็แจ้งด้วยนะคับ..อยากได้ๆ.. :oo1:
-
:m15: :m15: :m15: :m15:
-
ขอบคุณผู้แต่งมากสสสสสส์ ค้าบบบบบบบบ อ่านจนจบเลย แต่...ยังไม่อยากให้จบเลยอะคับ ถ้ายังไง ช่วยมีตอนต่อ ๆๆๆไป มาให้อีกได้มะคับ.....
-
น้ำตาซึมไปกะแก้ว หลายรอบมากมาย ... :m15:
-
ชอบเรื่องนี้มากกก หลายอย่างโดนใจ ทั้งพล็อต, ตัวละคร(ชอบหลายตัวเลย ฝิ่น แก้ว พงษ์ โซ่ โจ้ พ่อฝิ่น), ปม(มากมาย มีผลสืบเนื่องกันมันส์ดี), การเปิด/ปู/ปิดในแต่ละตอน น่าติดตาม, รายละเอียดเฉพาะทางต่างๆแน่น --- บางช่วงบางตอนมีเปิด clue นิดๆ พอให้เดาออกเบาๆ แต่ก็ได้การลำดับเรื่องที่ซ้อนทับ ทำให้อ่านสนุก
จะรอติดตามผลงานของคุณหลงไหลในม่านหมอกต่อไป ชอบวิธีการเขียน และความธรรมชาติของบทพูด+เสียงความคิดของตัวละครมากเป็นพิเศษ :L1:
-
จบแล้วหรอคะะะ t.t รักพงษ์ที่สุดเลยย
สงสารนิดนึง ว่าแต่ไม่มีรวมเล่มหรอคะะ
ชอบนิยายแนวเด็กช่างมากๆเลย
รออเรื่องใหม่(?)อยู่นะคะะ รักคนเขียน <3
-
คาดว่าน่าจะมีภาคพี่พงษ์ พี่ไม้ ลูกขวัญแ้ล้วก็โจ้ต่อ ตัวละครยังมีปมแกะอีก
เหมือนความสัมพันธ์ของไม้ักับลูกขวัญมันมีประเด็นเหมือนกันนะ พ่วงด้วยโจ้อีกคน
เนื้อเรื่องดีค่ะ ชอบพี่ไม้มากเป็นพิเศษเหมือนพระรองซีรีย์เกาหลี เสียดายเป้งไม่น่าตายเลยแล้วก็สงสารพี่ไม้มาก
รักมากเสียใจมากแต่เลือกที่จะเก็บไ้ว้คนเดียว ช่วยหาคนดามใจหน่อย
ส่วนพี่พงษ์ภาวนาสาธุให้มีภาคต่ออยากได้พี่พงษ์มีที่รักมั่งเหมือนกัน
สนุกค่ะ รอภาคต่อนะคะ
-
:bye2:ขอบคุณ สำหรับเรื่องราวดีๆ :bye2:
o13 :pig4: :pig4: o13
-
คิดถึงฝิ่นกับแก้วมากจ้าาาาาาาาาา
อยากรู้ว่าพี่ไม้จะได้กับคนนั้นมั๊ย(บอกตรงๆลืมชื่อ เอาเป็นว่าเค้าคือพี่ชาย?ของแก้ว)
อยากรู้ว่าพงษ์จะมีคู่รึเปล่า
อยากรู้ว่าเรื่องนี้จะรวมเล่มมั๊ย อยากดั้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ :z3: :z3:
ไม่เคยรักเด็กอาชีวะได้เท่านี้มาก่อนเบยยยยย :L2:
:กอด1:
-
คิดถึงงงงงงงงงงงง
คนเขียนอย่าหายไปนานแบบนี้น๊าาาาาาา หรือจะมาช้าไม่เป็นไร แต่อย่ายกเลิกรวมเล่มนะคะ ขอร้องงงงง :impress3:
เค้ารอเสมอจริงๆ :mew2: :mew6: :o12:
คิดถึงฝิ่นแก้ว และสนับสนุนให้พงษ์มีคู่ และลุ้นสุดใจกับไม้ขวัญ สุดท้ายชื่นมื่นไปกับโซ่ภู ฮือๆๆๆๆๆๆ :z3: :z3:
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ
สนุกมาก .... ที่ไม่ได้เข้ามาอ่านทีแรกเพราะ คำว่า Drama story เพราะไม่ชอบดราม่า มันปวดใจ
แต่เข้ามาอ่านแล้วชอบค่ะประทับใจความเป็นเพื่อนเป็นพี่น้อง :katai2-1:
อ่านแล้วได้หลายอารมณ์ เสียใจ ดีใจ มีความสุข เศร้า ซึ้ง :mew2:
-
สนุกมากๆๆเลยครับบบบบบบบ ขอบคุณผู้แต่งที่เขียนนิยายดีๆๆแบบนี้ออกมาให้อ่านกัน
-
ลุ้นทั้งเรื่องเชียว ละก็ยังสนุกอีกด้วย แต่เสียอย่างเดียวตรงที่สับบทไปสับบทมา ทำให้อ่านข้างลำบากนิดนึง แค่นินึงนะ นิดเดียว จิงๆ
ขอบคุณครับ
-
:mew2: ถ้ารวมเล่มบอกนะ อยากได้
-
คือบัพ บ่องตงนะ ปวดตับ จนลามไปถึงไส้ติ่ง แต่ชอบแนวนี้ ให้อารมชีวิตแบบสุดๆ มันให้ความหมายอะไรหลายๆอย่างในชีวิต ซึ่งถ้าพลาดไปเพียงแค่ครั้งเดียว ก้อาจไม่มีโอกาสได้แก้ตัวอีก ชอบมากฮับ เรื่องนี้ถึงจะงงๆตอนเปลี่ยนบทตัวละคร แต่ก้ถือว่ายังพออ่านเข้าใจใช้ได้อยู่ฮับ :)
-
ขอบคุณครับ เป็นเรื่องอีกเรื่องที่สนุก และได้รับความสุขมากจริงๆ
ขอชมเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับ คำพูด วิธีคิด สัญลักษณ์ต่างๆ กับบุคลิกตัวละครที่เป็นเด็กช่าง
เพราะนอกจากจะทำให้เข้าใจเรื่องได้มากขึ้น ยังได้รู้ถึงที่มาที่ไปของพวกเขาได้ดี
ผมรู้สึกดีใจที่ธาตแท้ของฝิ่นเป็นคนดี รวมถึงคนอื่นๆ ด้วยยกเว้นไอ้ดิวไอ้ดี
มันทำให้ผมเข้าใจในความดีของคนจากภายในได้ดีขึ้น
ทั้งนิสัยรักพวกพ้องที่บางทีก็มากเกินไป แต่เมื่อถึงจุดที่ต้องพอ เขาก็พร้อม
จะเสียศักดิ์ศรีเพื่อสิ่งที่ควรจะทำมากกว่า การยอมลดทอนความยโสตัวเอง
เป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ความเกื้อกูลระหว่างกันลึกๆ
เป็นอีกเรื่องที่อ่านแล้วได้เรื่องราวมาก และค่อนข้างจะตื่นเต้นตลอดเวลาใน
แทบทุกบทพูดที่เกิดขึ้น อ่านแล้วไม่เบื่อ อ่านแล้วยิ่งอยากอ่านต่อจนจบ
ไม่ใช่แค่ไม่รู้สึกเสียเวลาที่ได้อ่าน แต่รู้สึกโชคดีที่เลือกอ่านเรื่องนี้
เพราะมันยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้น และอิ่มเอมไปหลายวันเลยทีเดียว
ขอบคุณคุณหลงไหลในม่านหมอกที่ได้เขียนนิยายที่ดีมากเรื่องนี้ขึ้นมาครับ
ประทับใจเนื้อเรื่องมาก และรู้สึกชื่นชมคุณจริงๆ จากใจครับ
-
อ่านจบแล้ว
สนุกและประทับใจมากค่ะ
ไม่น่าเชื่อว่านิยายเด็กช่างเถื่อนๆฆ่ากัน จะเขียนออกมาได้น่าอ่านขนาดนี้นะคะ
-
ตอนพิเศษ (เหรอ?)
เข็มนาฬิกาก้าวเดินข้ามสู่วันใหม่
ครืด ครืดดด
ชายหนุ่มนอนลืมตาเอามือขวาก่ายหน้าผากท่ามกลางความมืดพร้อมพ่นลมหายใจอยู่บนเตียงขนาดสามฟุตครึ่ง
ก่อนเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มือถือที่แผดเสียงดังลั่นห้องพร้อมกับระบบสั่นของมันซึ่งกระทบครืดกับหัวเตียงที่ทำจากไม้
ยิ่งทำให้เกิดเสียงดังรบกวนเวลานอนเข้าไปอีก
“ม้ายยย...” ทันทีที่เอาโทรศัพท์มือถือแนบใบหูก็ได้ยินน้ำเสียงยาน ๆ ของคนเมาเปล่งเรียกชื่อเขาตามมา
“เฮ้อ ว่าไง?” ไม้อดถอนหายใจไม่ได้ ก่อนเอ่ยถามออกไปอย่างนั้นแทนประโยคทักทายว่า สวัสดี เพราะมันไม่เข้ากับสถานการณ์เท่าไรนัก
ด้วยความที่เป็นเรื่องปรกติไปซะแล้วกับการที่ต้องตื่นมารับโทรศัพท์ดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้แทบทุกคืน
“เหมือนจะเมามากเลยยย...มึน ๆ หัวด้วย”
“เมาก็หาที่จอดรถนอน สร่างแล้วค่อยขับกลับห้อง”
เวลานี้แทบทุกคืน...
ไม้บอกประโยคเดิมเหมือนที่เคยบอกคนปลายสายบ่อย ๆ และเขาก็คิดว่าคนโทรมาน่าจะรู้ดีว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุบวก
กับปลอดภัยจากการโดนตำรวจเรียกที่สุดแล้ว แต่ปลายสายกลับเลือกโทรมาให้เขาพูดประโยคเดิม ๆ ซ้ำ ๆ แทนการทำอะไร
แบบนั้นด้วยตัวเอง
“รู้แล้ว ๆ ไอ้เหี้ยก้อ...มันยืนดักอยู่หน้ารถเนี่ยก็คงไปไหนไม่ได้หรอก” คนจากปลายสายใส่อารมณ์หงุดหงิดกลับมาแต่ยังคงรักษาระดับน้ำเสียงยานคางทำให้เขาต้องตั้งใจฟังเพื่อปะติดปะต่อข้อความ
“หืม? ไอ้เหี้ยก้อ?” ชื่อใครต่อใครใหม่ ๆ เข้ามาในหูไม่ซ้ำสักคืน “ไปทำอะไรไว้อีกล่ะ?” ไม้ลุกนั่งพร้อมขยี้หัวเพื่อปลุกสติตัวเองท่ามกลางความมืด ก่อนเอื้อมมือกดเปิดสวิตซ์ที่โคมไฟซึ่งตั้งอยู่บนตู้ขนาดเล็กข้างหัวเตียงอย่างรู้ชะตากรรม
“งี่เง่าว่ะ รำคาญลูกตาเดี๋ยวเหยียบให้เละคาล้อเลยเหี้ยนี่!” ปลายสายไม่ได้ตอบหากแต่กำลังก่นด่าใครอีกคนออกมาอย่างต่อเนื่อง
“อยู่ร้านไหนเดี๋ยวไปรับ” เขาเอ่ยถามและบอกมันในประโยคเดียว
เขาคิดว่าจะไม่ยุ่งแล้ว แต่นี่ดันมีคู่อริขึ้นมา ชายหนุ่มจึงเลี่ยงไม่ได้...อีกตามเคย
ทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเป็นการตัดรำคาญ หรือเป็นห่วง?
“ร้านxxx” คนปลายสายตอบเสียงห้วนกลับมาทันที
ไม้ส่ายหน้าพลางลุกจากเตียงไปเปิดตู้เสื้อผ้า
“มันถืออะไรในมือรึเปล่า? ไม้? มีด? ปืน?” อดถามไม่ได้โดยที่ยังไม่รู้สถานการณ์แน่ชัดแต่ก็ไม่ต้องเดาให้ยากในเมื่อพฤติกรรมของคนปลายสายมักพ่วงเรื่องมาให้หลายต่อหลายรอบ
...และก็เรื่องเดิม ๆ ทั้งนั้น
“กูหลับตาแล้ว กูง่วง! กูจะเห็นได้ยังไง?!”
เออเอาเข้าไป...
น้ำเสียงของคนปลายสายฟังดูง่วงจริง ๆ แต่ก็ตามประสาเจ้าตัว จะเมาหรือไม่เมาก็เป็นซะอย่างนี้
“ลืมตาดูให้หน่อย” เขากัดฟันข่มอารมณ์แล้วเน้นเสียงหนักบอก
“ไม่อยากมองหน้าแม่ง”
“บอก-ให้-ดู-ให้-หน่อย ทำให้ได้ไหม?” ไม้บอกอีกรอบพร้อมใช้หูหนีบโทรศัพท์มือถือไว้กับไหล่เพื่อจะได้สวมกางเกงยีนส์ทับบ็อกเซอร์ที่ใส่นอนเมื่อก่อนหน้า
“เออ ๆ ๆ ...ไม่มีมั้ง มานเดินมาเคาะกระจกรถแล้วด้วย เดี๋ยวนะม้าย กูเคลียร์แป๊บบบ”
“ไม่ต้อง!” ไม้เผลอเสียงดังจนตัวเองชะงัก แต่ก็หวังว่ามันจะทันฟังและหยุดการกระทำทันที “หยุด มึงอยู่เฉย ๆ มันมีพวกมาด้วยรึเปล่า? หรือมีคนอื่นอยู่แถวนั้นอีกไหม?”
ถ้ามันไม่เคยก่อเรื่องให้เห็น เขาสาบานได้เลยว่าจะไม่ยุ่งกับมันเด็ดขาด
“เปล่า มีไอ้พี่ก้อคนเดียว เออ มีการ์ดสองคน ...มันยืนมองอยู่ใกล้ ๆ นี่แหละ มองเหี้ยอะไรวะแม่ง เฮ้ย ๆ เดี๋ยวนะม้าย...ไอ้เหี้ยพี่ก้อมีสองคนแล้วว่ะแม่ง...มาจากไหนอีกคนว๊า”
นั่นตามึงเองแล้วล่ะ
“...ล็อกรถ ปรับเบาะเอนนอน ไม่เกินชั่วโมงเดี๋ยวไปถึง แล้วถ้าพูดไม่ฟังก็ไม่ต้องคุยกันอีก”
ปลายสายเออ ๆ ออ ๆ กลับมาด้วยน้ำเสียงเหมือนแค่ตัดความรำคาญ
ส่วนไม้ ก็ขู่ไปเหมือนไอ้คนปลายสายเคยคิดจะเกรงกลัว
เขาหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำออกจากตู้เสื้อผ้าก่อนสวมทับเสื้อยืดสีขาวตัวที่ใส่นอนโดยไม่ลืมหยิบมีดพับใส่กระเป๋ากางเกงไปด้วยเผื่อฉุกเฉิน แล้วเดินออกจากบ้านเสียงเบากลัวแม่จะได้ยิน
ผลประโยชน์ที่ได้มาแค่ครั้งสองครั้งแต่สิ่งที่ต้องตอบแทนชักจะมากขึ้นทุกวัน
ไม้ไม่ได้ยินดียินร้ายจะทำอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่เหมือนว่าเขากระทำจนชินไปแล้วสิ
เวรกรรม...
...
ไม่ถึงสี่สิบนาทีก็มาถึงหน้าผับที่หมาย ด้วยการจราจรที่โคตรโล่งแต่ถ้าเป็นตอนกลางวันเดินทางชั่วโมงครึ่งก็ไม่มีทางถึง
ผับนี้ตั้งอยู่ห่างจากที่พักของคนที่เขามารับมาก ทั้งที่เจ้าตัวอาศัยอยู่ใจกลางกรุงเทพฯโน่น
แต่กลับขับรถมาเที่ยวแถบชานเมืองประจำ แล้วภาระก็มาตกอยู่ที่ไม้เพราะผับที่มันเที่ยวอยู่ไม่ไกลจากบ้านเขาทั้งนั้น
...ซึ่งถ้าย้อนเวลาได้เขายังย้ำว่าจะไม่ยุ่งกับมันตั้งแต่แรกจะได้ไม่ต้องมาทำตัวคล้ายต้องรับผิดชอบชีวิตใครอีก
จ่ายเงินค่าแท็กซี่เสร็จชายหนุ่มรีบก้าวเท้าเดินเข้าไปทางโซนที่จอดรถซึ่งอยู่ด้านข้างของตัวผับและเป้าหมายก็หาไม่ยากเลย
เมื่อมองเห็นการ์ดในชุดสีดำสองคนยืนอยู่บริเวณนั้นพร้อมกับแสงไฟจากรถยนต์คันเดียวซึ่งจอดสตาร์ทเครื่องไว้อยู่
ไม้เดินเข้าไปใกล้จึงเห็นผู้ชายวัยรุ่น ๆ เดียวกันยืนสูบบุหรี่พิงรถอีกคันซึ่งจอดขนาบข้างกัน
ก๊อก ก๊อก
เขาเคาะกระจกรถเบ็นซ์สปอร์ตคันสีบรอนซ์เงินเพื่อเรียกคนที่นอนหลับอยู่ข้างใน
ส่วนคนที่ยืนพิงรถอีกคันอยู่นั้นน่าจะเป็นไอ้เหี้ยก้อของมัน
ผู้ชายคนนั้นทิ้งบุหรี่ลงพื้นก่อนจะเหยียบซ้ำพร้อมล้วงกระเป๋ากางเกงพลางมองมาทางเขาด้วยท่าทีข้องใจ
แต่ไม่ใช่ธุระอะไรที่เขาต้องสนใจผู้ชายของมันมากกว่านี้ ...ถ้ายังไม่มายุ่งกับเขา
ไม้ควักโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดเบอร์โทรออกไปหาคนที่นอนกอดโทรศัพท์มือถือหลับอยู่ในรถ
หลังจากไร้สัญญาณตอบรับจากการปลุกด้วยวิธีแรก
“ปลดล็อก” คนโทรออกเอ่ยปากบอกสั้น ๆ
“อื้อ ถึงแล้วเหรอ?” คนในรถทำหน้ายุ่งและบ่นด้วยน้ำเสียงงัวเงียมาตามสายแต่มือก็ปัดป่ายไปมาจนโดนปุ่มปลดล็อกจนได้ทั้งที่ตายังปิดอยู่
เขาดึงประตูรถให้เปิดพร้อมกับผู้ชายคนที่ยืนพิงรถอีกคันเริ่มมีปฏิกิริยา
“นายเป็นอะไรกับเขา?” ผู้ชายคนนั้นเอ่ยถามขึ้นมาซะทันใจที่ไม้คิด แต่คำถามไม่ใช่น้ำเสียงหาเรื่องแต่อย่างใดหากแต่ฟังดู
เหมือนถามเพราะความข้องใจที่เจ้าตัวคงข้องใจตั้งแต่เขามาถึงรถคันนี้แล้ว
“คนรู้จัก” ไม้ตอบหน้านิ่งเสียงนิ่งเพื่อหยั่งเชิงดูท่าทีของคู่สนทนา
ขนาดไอ้คนในรถมันยังหลับไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยแล้วเขาจำเป็นต้องเดือดร้อนอะไร?
“หึ บอกเขาด้วย ฉันไม่เลิกง่าย ๆ หรอก” ไอ้เหี้ยพี่ก้อของมันแค่นเสียงใส่เหมือนไม่เชื่อที่เขาบอกซะเลย
“...” เขายักไหล่ให้ “ก็บอกกันเองสิวะทำไมต้องฝากด้วย”
“ถ้านายรู้จักเขานายก็น่าจะรู้ว่าทำไม? ...ฉันรอแค่ให้เขาสร่างเมาหรือไม่...ก็มีใครมารับเท่านั้นล่ะ”
ผู้ชายคนนั้นเอ่ยประโยคที่ฟังดูแล้วน่าจะเป็นห่วงสวัสดิภาพคนในรถมากกว่าต้องการคุกคาม
อีกแล้วนะ ...ไอ้อาการประหนึ่งจะมีเรื่องให้ได้คงเป็นมันคนเดียวสิท่า
...ไม้มองคนขี้เมาพลางส่ายหน้าในขณะที่ผู้ชายคนนั้นขึ้นรถตัวเองแล้วขับออกไป
“ตื่น แล้วย้ายที่นั่งได้ละ” เขาก้มไปเรียกคนที่หลับตาพริ้มอยู่บนเบาะคนขับอย่างสบายใจตามเคยพร้อมตบแก้มมันเบา ๆ สองที
นี่ถ้าสติมันดีมันคงยิ้มเยาะอย่างได้ใจที่เขาถ่อมาด้วยความระแวงว่ามันจะโดนกระทืบจากผู้ชายที่มันเพิ่งสลัดทิ้ง
แต่ก็นั่นแหละ ถ้ามันสติดีเขาคงไม่ถ่อมาหรอก
“นี่...แดกอะไรเยอะแยะวะ” ไม้ยังคงพูดคนเดียวต่อเพราะไอ้คนที่เขาปลุกยังคงหลับตานอนนิ่งเงียบเหมือนเดิม
...ละเหี่ยใจกับมัน รวมทั้งกับตัวเองด้วย
ทั้งที่บอกตัวเองว่ายังไม่พร้อมดูแลใคร แต่กับคนนี้ไม่ต่างจากสิ่งที่เขาไม่พร้อมเลย
...ต่างกันก็แต่สถานะของความสัมพันธ์เท่านั้น
เขาก้มหน้าเข้าไปใกล้ ๆ หยิบโทรศัพท์มือถือจากมือคนเมาแล้วจับแขนมันทั้งสองข้างขึ้นคล้องคอพลางสอดแขนตัวเองเข้าใต้
รักแร้มันก่อนจะโอบพยุงอุ้มคนตัวบางกว่าที่เริ่มโอนอ่อนผ่อนตามขึ้นมาบ้างแล้วลากมันออกจากรถอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เพื่อพาไปนั่งที่
เบาะข้างคนขับพร้อมปรับเบาะเอนลงให้มันนอนเสร็จสรรพ
เขาหย่อนโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าอ่อนที่รัดรูปเจ้าตัวก่อนปิดประตูรถให้แล้วเดินมาขึ้นอีกฝั่งทำหน้าที่สารถี
ให้มัน
การก้าวเข้าไปรับรู้ชีวิตของใครสักคนไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่การก้าวออกมามันยากยิ่งกว่า
รู้ทั้งรู้...แต่แล้วนี่เขากำลังทำอะไรอยู่?
คำถามที่ไม่ได้ถามใครเว้นแต่ถามใจตัวเองว่า ทำอย่างนี้จะไม่เป็นไรใช่ไหม? สิ่งที่ทำอยู่นี้จะไม่มีทางซึมลึกเข้าไปในใจตัวเอง
ใช่หรือไม่?
ไม้ตอบตัวเองได้ไม่เต็มปากเต็มคำ แต่ที่รู้ เขาไม่สามารถปล่อยให้ผ่านสายตาไปเฉย ๆ ได้เลย
เพราะครั้งนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เขาเพียงคนเดียว
...
ชายหนุ่มขับรถเข้าจอดภายในอาคารที่จอดรถของคอนโดมิเนียมหรูกลางใจเมืองกรุง ที่พักของมันในกรุงเทพฯมีสองแห่ง
อีกที่หนึ่งคือในโรงแรมของพ่อมันเอง แต่พอเมาแล้วโทรตามเขา เขาต้องขับรถมาส่งมันที่คอนโดทั้งที่มันยังหลับสนิทอยู่เบาะ
ข้าง ๆ โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องเอ่ยปากบอกอะไรเลย
...หรือนี่เพราะเขาก้าวลึกเข้าไปในชีวิตมันอีกก้าวสินะ
ถ้ามันเป็นใครคนอื่นไม้คงถอยห่างไปได้ง่ายดายเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ
...แต่ไอ้คนนี้มันยิ่งกว่าปลิง
“นี่ ตื่นได้แล้ว” หันไปส่งเสียงปลุกเมื่อมาถึงคอนโดที่พักของคนที่หลับอยู่
“...”
“ตื่น ไม่อุ้มนะจะบอกให้”
“หื๊อ พูดมากว่ะ” มันบ่นน้ำเสียงงัวเงียพลางขยับตัวหลังจากที่เขาออกจากรถไปเปิดประตูฝั่งมันออก
“อ่ะ กุญแจรถ ขึ้นลิฟท์ไปเองได้นะ” ไม้บอกพร้อมวางกุญแจรถใส่มือเจ้าของที่กำลังปรับเบาะขึ้นมาแล้วปรือตามองหน้าเขา
หมดภาระพามาส่งถึงที่แล้วเขาก็ควรต้องกลับบ้านสักที
“โอ้ยยย เดินยังไม่ตรงจะเอาปัญญาที่ไหนเดินไปถึงลิฟท์”
ลืมตาได้มันก็โวยเสียงยาน
“รู้แล้วยังเสือกเมา” เขาต่อว่าให้พร้อมกับเซถอยหลังเมื่อเจ้าตัวลงจากรถแล้วถลาเอาสองแขนมาโอบรอบคอเขาไว้เป็นหลักยึด
“ไปส่งที่ห้องหน่อยน้า...น้าไม้น้า...” มันช้อนสายตาเยิ้ม ๆ ขึ้นมองหน้าเขา บวกกับใบหน้าแดงระเรื่อจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ของ
มันทำให้เขาต้องเสมองไปทางอื่นแต่ก็โดนฝ่ามือมันดันให้หันกลับทันที
“เฮ้อ” ไม้ถอนหายใจใส่คนตรงหน้า แต่กลับหันตามแรงมือที่ไม่ค่อยจะมีอย่างง่ายดาย
เขาเปล่าพอใจเขาเพียงจนปัญญาจึงแกะแขนข้างหนึ่งของมันออกจากคอ ส่วนอีกข้างจับพาดไหล่ไว้พยุงทั้งยังต้องเอากุญแจรถ
กลับมาถือไว้เองอีกรอบป้องกันมันปล่อยหลุดมือแล้วพยุงโอบเอวพาคนเมาเดินไปที่หน้าลิฟท์
“สักวัน ถ้ากูปิดโทรศัพท์นอน ตื่นเช้ามาคงได้อ่านข่าวหน้าหนึ่ง” เขาพูดไปเรื่อยระหว่างเดิน “เกย์ใจแตกโดนคู่ขากระทืบตายหน้าผับ” พลางว่าอย่างไม่จริงจัง
“...มึงไม่เข้าใจหรอก ถ้ากูไม่เมา คนอย่างมึงเนี่ย ก็ไม่มาหากูหรอก โธ่เอ้ย มีค่าแค่ตอนคนจะกอบโกยผลประโยชน์เท่านั้นแหละกูเนี่ย” น้ำเสียงยานคางเริ่มพล่าม นิ้วก็เอามาจิ้มหน้าจิ้มตาเขาทั่ว
“หึ ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา”
“มึงก็คอยแต่จะด่า ๆ ๆ เอาน่าเดี๋ยวกูเล่าเรื่องที่มึงชอบให้ฟังเป็นการตอบแทนละกาน...” มันเถียงพร้อมมีข้อแลกเปลี่ยน
...ใช่เขาเคยใช้ประโยชน์จากมัน...แต่เขาก็คิดว่าได้ตอบแทนมันไปแล้ว
เรื่องราวระหว่างเขากับมันก็ควรจบเท่านั้น แต่มันดันยื้อค่าตอบแทนของเขามาได้เรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้
ทั้งที่เขาไม่มีอะไรติดค้างกับมันเลยสักเสี้ยวของนิดเดียว แต่เขากลับจบกับมันไม่ได้ตามที่ควรจะเป็น
ซึ่งตอนนี้ข้อแลกเปลี่ยนของไอ้คนเมาไม่จำเป็นสำหรับพวกเขาแล้ว
เพราะอดีตก็แค่เรื่องราวที่เคยเดินผ่านมาแล้วเท่านั้น
แต่เขาบอกแล้วว่ามันเป็นปลิง
...และเป็นปลิงประเภทที่นึกจะเกาะใครก็เกาะ นึกจะปล่อยใครก็ปล่อย
“ก็ดูมึงทำตัวสิ ขนาดกูด่ามึงยังไม่จำเลย” ไม้ว่าซ้ำอีกรอบ ใช้มือข้างที่พยุงเอวมันล้วงกระเป๋ากางเกงเจ้าตัวเพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา
เขายื่นกระเป๋าสตางค์ที่มีคีย์การ์ดอยู่ข้างในไปสแกนที่กล่องซึ่งติดอยู่หน้าประตูลิฟท์ แล้วพาคนเมาเดินเข้าข้างในหลังจากประตูลิฟท์เปิด
“ช่างตัวกูเถอะน่า ว่าแต่...นี่มึงต่อยไอ้เหี้ยก้อให้กูรึยาง... ผู้ชายอะไรวะโลกสวยฉิบหาย มันเอาอะไรมาคิดว่ากูจะรักมาน
โธ่...อ่อนต่อโลกจริง ๆ รู้จักกันไม่ถึงอาทิตย์ก็เริ่มวุ่นวายกับชีวิตกูละ พี่มีบ้าน พี่มีรถ ถุย อวดเพื่อ? กูก็มีรึเปล่าวะทำมาอวดคิด
ว่ากูจะติดใจเหรอ? นี่...กูจะบอกอะไรให้นะ... กูน่ะรำคาญคนตอแยกูที่สุดในโลกเลยว่ะ ถ้ากูอยากได้เป็นผัวเดี๋ยวกูก็ให้เอาเอง
แหละน่า ทำไมชีวิตต้องเจอแต่คนงี่เง่าวะ ฯลฯ” สารพัดที่ออกจากปากคนสติไม่เต็ม แถมยังยืนเอนไปเอียงมาอยู่อย่างนั้นทั้งที่
เขาก็โอบเอวมันไว้แน่น
ติ้ง!!
ประตูลิฟท์เปิดเองอัตโนมัติเมื่อถึงชั้นยี่สิบสอง และไม่สามารถขึ้นหรือลงไปยังชั้นอื่นนอกเหนือจากที่ระบบคีย์การ์ดระบุได้ซึ่งก็
คือเฉพาะชั้นที่พักของตัวเอง ยกเว้นทางบันไดหนีไฟ
ที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ละชั้นจะมีเพียงสี่ห้องและอยู่คนละมุมกัน ถึงกระนั้นเขาก็ไม่กล้ายืนอยู่นอกห้องนานเพราะ รู้สึกว่าเสียงมันค่อนข้างก้อง ยิ่งในช่วงที่ทุกห้องหลับกันหมดอย่างนี้
เขาเกรงว่าเสียงคนเมาจะดังรบกวนคนอื่นเข้าให้
ไม้ดันหน้าคนขี้เมาออกจากบ่าทั้งยังเรียกชื่อซ้ำ ๆ ให้มันตื่นก่อน เพราะถ้าไม่พูดมันก็จะหลับ
นี่ขนาดเขาลากเขายังเหนื่อยเลย แล้วถ้าขนาดต้องแบก ก็บอกเลยว่าไม่ไหว
ไม้ยื่นกระเป๋าสตางค์เอาคีย์การ์ดไปสแกนที่กลอนประตูดิจิตอลก่อนกดรหัสเพื่อให้ประตูห้องปลดล็อกแล้วจึงพยุงเจ้าของห้อง
เข้าไปข้างใน เขากดเปิดสวิตซ์ไฟที่อยู่ข้างประตูทำให้มีแสงสว่างตรงทางเดินกลางห้อง
“ถอดรองเท้า” แล้วบอกเจ้าของห้องหลังจากเอาเท้าเขี่ย ๆ รองเท้าตัวเองจนถอดออกมาได้สำเร็จ
แต่เจ้าของห้องแค่หรี่ตาขึ้นมาพิจารณาใบหน้าเขา แล้วก็แค่ยกแขนอีกข้างมาโอบรอบคอเขาอีกรอบพร้อมเอาคางมาเกยที่บ่า เป็นของแถม
“ห้องกู ๆ”
พูดอย่างนี้คือจะไม่ถอด?
ไม้หันหลังพิงผนังห้องกันตัวเองล้ม มือหนึ่งจับแขนคนเมาออกจากคอเพราะ... เขารู้สึกไม่ดี
อีกมือกอดเอวมันไว้แล้วเอาขาเกี่ยวขามันเพื่อจะใช้เท้าดันส้นรองเท้ามันไว้
“ถอดรองเท้านะ” เขาบอกอีกรอบ
“ฮื่อ!” คนเมาทำเสียงขัดใจใส่ข้างหูเขาแต่ก็ยอมยกเท้าออกจากรองเท้าเองอย่างง่ายโดยที่เขาไม่ต้องออกแรง
ถ้ามันเป็นคนปัดกวาดห้องนี้ด้วยตัวเองอยากใส่ไปถอดที่หัวเตียงเขาก็ไม่ว่าอะไร เขาไม่ได้ขอให้มันช่วยแม่บ้านรักษาความ
สะอาด แต่เขาอยากให้มันรับผิดชอบตัวเอง ไม่ว่าจะเมาแค่ไหน กับแค่การถอดรองเท้าก่อนเข้าห้องนี่มันไม่ได้ยากอะไรเลย
เอาแขนมันพาดไหล่แล้วพาเดินมาจนถึงห้องนอนของเจ้าตัว
อาศัยแสงไฟจากห้องใหญ่พอมองเห็นสวิตซ์ไฟที่อยู่ข้างประตูเช่นเดียวกันจึงกดเปิดได้อย่างง่ายดาย
ก่อนทิ้งร่างคนเมาให้ลงคว่ำหน้าเข้ากับเตียงนอนแล้ววางกุญแจรถ กระเป๋าสตางค์ ไว้ที่หัวเตียง
ไม้ผละออกมามองแผ่นหลังเจ้าของห้องอีกทีแล้วส่ายหน้าอย่างไร้คำบรรยาย ก่อนจับตัวมันพลิกหงายเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือ
ออกจากกระเป๋าเสื้อมันแล้วเอาไปวางรวมกันที่หัวเตียง
หมับ!
คนบนเตียงปรือตาขึ้นมองพร้อมจับแขนเขาที่มือยังค้างอยู่หัวเตียง
“ม้ายยย อยู่กับขวัญก่อนน้า ...อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนนะ น้า...”
ไม้ใช้มืออีกข้างที่ว่างหยิบรีโมทแอร์ซึ่งวางระเกะระกะอยู่กับกองรีโมทอื่น ๆ ที่หัวเตียงมากดเปิด
“ทำให้ทุกอย่างแล้ว นอนหลับได้สบายแล้วนะมึง” เขาจับมือมันออก เจ้าตัวก็ยอมแต่โดยดี
“ถ้าได้เช็ดหน้า เช็ดตัวนะ คงหลับสบายกว่านี้...” มันหลับตาลงยิ้ม ๆ พร้อมแกะกระดุมเสื้อตัวเอง
เม็ดที่หนึ่ง
เม็ดที่สอง...
จนเผยให้เห็นหน้าอกแบน ๆ ขาว ๆ
“ไม่เลือกตามเคย” ไม้ทักท้วง? หรืออาจเป็นคำด่าออกไป เจ้าตัวถึงได้เบ้ปากและหยุดมือที่กระดุมเม็ดที่สาม
“ฮึก...” ริมฝีปากชมพูเม้มเข้าหากันพร้อมกับหัวคิ้วทั้งสองข้าง ไม้รู้ว่าคนบนเตียงกำลังกลั้นน้ำเสียงนั้นไว้อยู่
...เขาอยากพูดอะไรแรง ๆ กับพฤติกรรมของมัน แต่เขา...โคตรเกลียดความอ่อนแอ
ไม้จึงนั่งลงที่เตียงแล้วเอื้อมมือไปปลดดึงเข็มขัดที่เอวของคนเมาออกจากกางเกง
“หลับไปเถอะ เดี๋ยวกูอยู่ดูดบุหรี่อีกแป๊บ” เขาบอกเสียงเบาด้วยความจุก
ลุกออกจากเตียงและวางเข็มขัดเส้นนั้นไว้หน้าโต๊ะทีวี ก่อนเดินออกจากห้องนอนโดยไม่ลืมปิดไฟให้มัน
การเป็นพี่ใหญ่ทำให้เขาต้องวิเคราะห์ลักษณะนิสัยของคนในสายให้ได้เพื่อที่จะคุมแต่ละคนอยู่
ประสบการณ์จากอดีตสอนให้เขาเป็นคนแบบนี้จนติดเป็นสันดานและเลยเถิดไปถึงทำเกินหน้าที่บ่อยครั้ง
เพราะนอกจากต้องสนใจแค่คนในปกครอง เขายังมักจะใช้หลักการนี้มองคนอื่นทั่วไปอีกด้วย
ไม้มักจะมอง เดา เรียนรู้ความเป็นคนอื่น ...จนบางครั้งก็รู้มากเกินไป
คนเป็นสิบ เป็นร้อย ที่ผ่านสายตาเขาโดยไม่ใช่การมองผ่านเฉย ๆ
แต่มันแย่นะ ...เมื่อเขาเกิดลำเอียงสนใจใครสักคนมากกว่าคนอื่น ๆ
มันแย่...สำหรับตัวเขาเอง
ไม้เปิดกระจกบานเลื่อนออกไปยืนสูบบุหรี่ที่ระเบียงหลังห้อง
ยืนมองเงาสะท้อนของแสงไฟระยิบระยับในผืนน้ำของทะเลสาบที่คนเราพยายามสร้างจุดเด่นให้มัน
ไม่ว่าความกว้างใหญ่ที่เห็นได้ชัดตอนกลางวัน หรือกระทั่งยามที่ผู้คนหลับใหล ทะเลสาบแห่งนี้ก็รายล้อมไปด้วยแสงไฟ
ประหนึ่งต้องเป็นจุดสนใจตลอด ๒๔ ชั่วโมง
สายตาหยุดมองน้ำกระเพื่อมน้อย ๆ จากแรงลมยามพัดมาเบา ๆ โดยพยายามไม่คิดอะไรให้หนักสมอง
เขาไม่อยากคิด ไม่อยากรื้อฟื้นอะไรขึ้นมาเพราะมันเปล่าประโยชน์ที่จะยึดติดกับเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วทั้งเพ
...หากแต่ ทุกขณะที่เขาจมดิ่งอยู่ในความคิดของตัวเอง กลับไม่ได้รู้สึกว่ากำลังอยู่เพียงลำพัง
เช่นในเวลานี้...เขาก็รู้สึกว่ามีใครอีกคนยืนอยู่ข้างกายตรงนี้อีกครั้ง
ใครคนนั้น...คนซึ่งไม่มีตัวตนมาเป็นปี ๆ หลงเหลือก็แต่เพียงทุกความรู้สึก
ที่ยังอยู่ข้างกายนี้เสมอ...
ไม้เดินกลับเข้าไปดูเจ้าของห้องหลังจากที่ดูดบุหรี่จนหมดมวน แสงไฟจากนอกห้องพอช่วยให้มองเห็นมันนอนขดเป็นกุ้งอยู่บน
เตียงใหญ่ แล้วเขาก็เลือกเดินเข้าไปดึงผ้าห่มจากปลายเท้าขึ้นห่มคลุมตัวแทนการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเพิ่มเพราะเจ้า
ตัวมักจะบอกว่าหายใจไม่ออกเวลานอนถ้าอากาศเย็นไม่มากพอ
ตีสี่สามสิบห้านาที
ไม้วางรีโมทเครื่องปรับอากาศไว้บนหัวเตียงอีกรอบหลังตั้งเวลาปิดไว้เรียบร้อยเพื่อเป็นการปลุกเจ้าตัวอีกทาง
วันนี้ หน้าที่เขาคงหมดลงสักที
ทั้งที่ความจริง คนที่มันต้องการให้ทำหน้าที่นี้ ก็ไม่ใช่เขาเลย...
แต่เขากลับไม่ขัดข้องที่จะทำ
************************
อะไรคือต้องจัดหน้ากระดาษใหม่? รู้สึกไม่ชินกับการลงนิยาย <แน่สิ ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาา
//กราบสวัสดีค่ะ ตอนพิเศษอะไร? อะไรที่ว่าพิเศษ ความพิเศษอยู่ตรงไหน ? ฮ่าาาา หนูมิรู้ค่ะ หนูอยากลง ><
หลังจบอ้อมกอดเด็กช่างก็เขียนตอนนี้นานแล้วค่ะ คิดอยู่ว่าจะได้แปะที่ไหน แปะเรื่องใหม่ หรือแปะที่นี่ พอแก้ไขจนพอใจตัวเอง
ก็คิดว่าแปะนี่แหละถูกแล้ว ฮ่า
ฤกษ์งามยามดี ได้กลับมาใช้ชีวิตตามลำพังในห้องนอนอีกครั้ง ก็คิด(เอาเอง)ว่า ตัวเองจะมีเวลาเขียนนิยายเรื่องใหม่สักทีจึงเอา
ตอนพิเศษส่งท้ายท้ายสุดมาทิ้งก่อนค่ะ
งง ๆ มึน ๆ ตามเดิมนะคะ เพลียตัวเองอยู่ ทำไมไม่มีอะไรพัฒนาเลย ฮ่า
ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ทั้งติทั้งชมมาก ๆ เลยนะคะ ไม่รู้จะขอบคุณเท่าไหร่ถึงจะพอกับความรู้สึก ดีใจทุกครั้งที่ได้อ่านคอมเม้นท์ค่ะ มันสะท้อนนิยายที่ตัวเองตั้งใจเขียนได้ดีจริง ๆ กอดนะคะ จุ้บ ๆ^^ :pig4:
-
แอบลืม"ขวัญ"ไปเบาๆ เห็นทีต้องอ่านใหม่ :-[
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษครับ :pig4:
-
พี่ขวัญคู่กับไม้ ดีแล้วล่ะ! ให้ไม้ดัดนิสัยเลย รังแกหนูแก้วของเรามาเยอะ ถึงจะเป็นพี่ชายแก้วก็เหอะ
===============
แนวเด็กช่างในเล้าเป็ดเรื่องนี้สนุกสุดแล้ว ยังอยากอ่านเรื่องต่อไปอยู่นะคะ
-
แอร้ยยยยยยกรี้ดร้องงง กรี้ดจริงๆนะตอนเห็นว่าเรื่องนี้อัพ ฮือๆ
พี่ม้ายยยย เท่เหมือนเดิมอ่ะคนอะไรรรร
-
มันต้องมีต่ออีกใช่ไหมคะ คือแบบ พี่ลูกขวัญยังใช้ชีวิตล่องลอยอยู่เลย
ให้พี่ไม้มาเป็นหลักให้ชีวิตลูกขวัญมั่นคงเถอะค่ะ
คิดถึงลูกแก้วกับฝิ่น
ไหนคุณคนเขียนบอกว่ารวมเล่มแล้วจะมีตอนพิเศษหวานๆ ของลูกแก้วและฝิ่นไงคะ
หายไปเลยนะ เค้ารอรวมเล่มอยู่นะตัว
เรื่องใหม่ดราม่าได้แต่ขอจบแฮปปี้นะคะๆๆๆๆ แอบผวาเบาๆ
-
โอยยย อยากอ่านคู่นี้ต่อแหะ
~^^~
-
คู่ใหม่ๆๆๆๆๆ :katai2-1: :katai2-1:
-
พี่ไม้เหมาะกับบทพระเอกที่สุดแล้ว กระซิบ ๆ กลัวพี่ฝิ่นได้ยิน อิอิ
-
คิดถึงเรื่องนี้มากกกกกกกกก
พี่ไม้ ใจดีอบอุ่นอีกแล้ว
แบบนี้ของขวัญไม่เลิกทำนิสัยแบบนี้หรอก
เพราะรู้ยังไงพี่ไม้ต้องมาดูแล
ปล.อยากอ่านเรื่องยาวของคู่นี้จัง ^ ^
-
:mew2: :mew2: :katai5: :katai2-1:
-
เอ่อ.. ขอกลับไปอ่านทวนความจำก่อนนะว่าขวัญคือใคร :katai1:
-
สนุกดี ชอบการเขียนของคุณหลงไหลฯเหมือนเดิม
แต่แบบคนอ่านมีลืมเล็กๆ ขวัญคือ? ทำไมขวัญ?
เอ...แล้วโจ้ล่ะ อะไรยังไง... นึกว่าจะลงที่โจ้น่ะ อิอิ
จะติดตามอ่านนะคะ ทุกสิ่งอัน ทั้งยาว สั้น และพิเศษ
ปล. พงษ์ด้วยนะ ขอพงษ์อีกคน ชอบ ขอบคุณค่ะ
-
พี่ไม้มาดูแลพี่ขวัญเถอะ รายนี้หากไม่มีคนคุมมีแววจะเสียหลัก
-
พี่ไม้ดูแลจริงๆ
:pig4:
-
ก็ไม่รู้สินะ ตั้งแต่อ่านมา ฝิ่นมันน่ารัก แข็งนอกแข็งใน แต่ใจมันดันอ่อนยวบให้น้องแก้วคนดี เลยแบบ เฮ้ย น่า ถึงฝิ่นมันจะบ้าเลือด ขี้โวยวาย วู่วาม ชอบทำร้ายร่างกายน้องแก้ว ก็ให้อภัยเพราะสุดท้าย มันก็รักจริง
กับพี่ไม้ พี่เป็นผู้ชายที่แสนดีมากอ่ะ กับน้องกับนุ่งนี้ เตือนสติตลอด สกิลพระเอกมาเต็ม ถ้าจะเป็นพระเอกในเรื่องต่อไปก็ดีนะค่ะ แต่นายเอกของพี่ไม้ อย่าเป็นขวัญเลย ไม่รู้ทำไม เราไม่ชอบขวัญเอาซะเลย คือ ขวัญเธอมีครบทุกอย่าง พ่อก็รัก แม่ก็รัก ขวัญมีจนล้นอ่ะ แต่ได้ขาดแม่ น้อยใจพ่อแบบน้องแก้วเลย เราเลยไม่รู้สึกว่าขวัญมันควรจะมีปมอะไรเลย จะมีอยู่เรื่องเดียว คือพงษ์ไม่รักล่ะมั้ง
ถ้าจะให้พี่ไม้ลงเอยด้วยล่ะก็ ขอเป็นคนอื่นเหอะ แบบว่า พี่ไม้ดีเกินไปสำหรับขวัญ(คุณเธอใช้ร่างกายเปลืองล่ะมั้ง)
แต่ แต่ แต่ ถ้าจะให้พูดถึงจริงๆ คนที่เราชอบมากที่สุดในเรื่องคือ น้องแสน แสนค่ะ คนอะไรน่ารักมาก ถึงจะออกน้อย แต่ก็ได้ใจ
รู้ไหมแค่น้องแสนคนเดียวเราจิ้นได้กับคนอีกสามคน แชมป์แสน(ตอนแก้วหาย เลยพากันไปตามเขาเถียงกันน่ารักดี) โจ้แสน(ตอนอีฝิ่นสั่งโจ้กระทืบแสน ตัวตัวด้วยอ่ะ) และ พงษ์แสน(งานเลี้ยงค้ากินเหล้ากันมีนั่งตักกันด้วย) อิอิ มีโปรเจคต่อไปไหมค่ะคนเขียน ขอเป็น เรื่องของน้องแสนได้ไหมแบบ เฮ้ย ชอบน้องแสนสุดๆอ่ะ เฮ้อ จะเป็นไปได้ไหมน้า ลุ้นๆ
และที่ขาดไม่ได้ โซ่ภู น่ารักอ่ะ ได้ข่าวว่าแต่งเรื่องนี้ก่อน ฝิ่นแก้วอีก แต่หาย ยังไงก็จะแต่งใหม่ก็ดีนะค่ะ อยากอ่านมาก
หึหึ สุดท้ายขอบคุณนักเขียนที่เขียนเรื่องราวดีๆออกมาให้ได้อ่าน
ขอคาราวะหนึ่งจอก
-
มานั่งอ่านอีกรอบค่ะ คิดถึงพี่ไม้ น้องแก้ว พี่ฝิ่น นายพงษ์ โจ้ แสน พี่ภู พี่โซ่ พี่ดิว
คิดถึงพี่ซีซั่นด้วย อยากให้มีเรื่องอื่นอีกจังเลยค่ะ ^^
-
น่ารักกกกก สนุกมาก ขอบคุณมากค่ะ
:-[
-
เพิ่งได้มีโอกาสมาอ่านนิยายเรื่องนี้ ต้องขอบอกนักเขียนเลยว่า o13
คือเราชอบบรรยากาศหลายๆอย่างในเรื่องนี้ มันดูไม่โอเวอร์จนเกินไป แล้วก็ชอบแก้วมากๆด้วย
โคตรแมนเลยหว่ะ ตรงไปตรงมาโคตร จนบางครั้งแอบคิดว่าฝิ่นมันคงอายแทน
คือเรื่องนี้มันก็มีอารมณ์หน่วงๆตลอดเวลาอ่ะ เพราะมันเดินเรื่องโดยมีคนตาย
อาจจะเป็นเพราะเราเพิ่งเคยได้ยินเรื่องราวคล้ายๆอย่างนี้ เพียงแต่มันไม่ละเอียดเท่านี้(เราเรียนวิทย์-คณิตมา ต้องยอมรับว่าห่างไกลจากเรื่องแบบนี้มาก บางครั้งเราก็ไม่เข้าใจ ว่าพวกนี้คิดอะไรกันหลายคนต้องหมดอนาคต หลายคนต้องตาย เพราะคำว่าศักศรี?) :เฮ้อ:
แต่ยังไงก็ขอชมคนแต่งเรื่องนี้ เราชอบบรรยากาศของเรื่องนี้มาก มันดูแมนๆ เข้มแข็งยังไงไม่รู้ :katai2-1:
-
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ติดมาก อ่านจนจบ
แก้ว เป็นคนที่จิตใจดีมาก อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ
บางครั้ง แก้วก็เด็ดเดี่ยวจนน่าใจหาย
ฝิ่น...รักฝิ่นอะ ฮ่าๆ สุดท้ายก็แพ้ใจ อิอิ
แพ้ใจตัวเองจนได้ เจออย่างน้องแก้วเข้าไป ไม่แพ้ก็ให้มันรู้ไปดิ
พี่ไม่้ พี่โซ่ โคตรเท่ห์ แม่งเท่ห์ทุกฉาก ทุกตอน ทุกคำพูด
เป็นผู้ใหญ่มาก ความคิด การกระทำ
ขาดพี่ไม้ไป ฝิ่นอาจไม่ได้ลงเอยกะแก้วปะ? ฮ่าๆๆๆ
โซ่ภูรัก น่ารักมาก โซ่โคตรรักเมีย รักภูมาก
อยากอ่านเรื่องแยกเง่าะ อิอิ
แสน....ยกป้ายไฟ เชียร์ พงษ์แสนจ้า กร๊ากกกก
มีความรู้สึกว่า....มันเหมาะกันอย่างบอกไม่ถูก แอร๊ยยยย ><
นิยายเรื่องนี้ สามารถเปลี่ยนมุมมองของคนอ่านที่มีกับเด็กช่างไปเลย
แต่เรายอมรับจริงๆว่าสิ่งที่เด็กช่างมีไม่แพ้ใคร และอาจจะเหนือกว่าใคร คือ มิตรภาพ
บางคนยอมรับตีนแท่นเพื่อนเลยจริงๆ (ไปถามมาจากน้องเพื่อน ฮ่าๆ)
พร่ำเพ้อ เพ้อเจ้อมามากมาย สุดท้ายอยากจะบอกว่า
ขอบคุณคนเขียนนะคะ ที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้มาให้เราได้อ่าน
รู้สึกเป็นเกียรติมาก ที่ได้อ่านนิยายดีๆแบบนี้ (เวอร์ปะ?) ฮ่าๆๆๆ
เราจะรอร๊อรอเรื่องต่อไปนะเอออออ
-
:pig4:
-
อ่านจบแล้ว ! ฮึ่มมมมมมมม ยาวนานจริงๆเลอะ อ่านข้ามวันข้ามคืน แอ๊ก
แหม่ เปิดมาก็คิดว่าแก้วเป็นเคะแมนๆ อุแหมะ เก๊กไปซะงั้น กำลังจะเท่เลอะ -,.-
แต่ตอนแรกก็ไม่ชอบอิห่ะพี่ดิวอยู่ละนะ มันทะแม่งๆ แถมยังใช่ซะด้วย ทั้งพี่ทั้งน้อง
แต่สำหรับพี่ฝิ่นนี่ก็ไม่เห็นว่ามันจะเลวร้ายเท่าไหร่นอกจากการล่ามโซ่ ... เพราะมันก็ดูแลแก้วดีนี่หว่า .. หรือไม่จริง
เอ่าคิดดู ศัตรูกันแท้ๆถึงขนาดไปเอาชุดมาให้เปลี่ยน เอาผ้าห่มให้ กินข้าวที่บ้าน แถถมแทบไม่มีการเตะต่อย(หรือฉันพลาด?)
ขนาดสบโอกาสอย่างว่าแล้วนางยังไม่ทำอ่ะ โห่ ดูแลดีจะตาย
ส่วนพงษ์นี่สุดยอดอ่ะ ชอบนะประทับใจมาก เหมือนทุกอย่างอ่ะ พงษ์พยายามทำทุกอย่างเพื่อแก้ว มันดูน่ารักดีมาก ฮึๆ
โอ๊ยยยย พูดถึงลูกแก้ว ฉันละหมั่นไส้นางจริงๆ เชื่อคนง่ายไปนะ น่าจะเอาความหัวแข็งมาจากพงษ์จากฝิ่นบ้าง -0-
แง่มมมมมมมมมมมมม คือยังไม่ได้อ่านตอนพิเศษอะไรเลอะ เดี๋ยวมาเก็บตกทีหลัง ตอนนี้ขอตัวไปสลบก่อนขอรับกระผม เคี๊ยกกกกกกกก
สนุกมากค่ะ ชอบ ขอบคุณนะคะ ><
-
ทำไมฉันพึ่งมาอ่านเรื่องนี้เอาเมื่อจบไปนานมากกกแล้ววว
จริงน่าจะเพราะท่านคนเขียนวงเล็บ(อย่างก้าวร้าวววทีเดียวว)เอาไว้หลังชื่อเรื่องว่า ดราม่า
นี่ละที่ทำให้เรายังไม่ทันอ่านก้อเครียดนำโด่งไปแล้ววว
แต่พอมาอ่าน ปรากฎว่า สองวันนี้อิชั้นนั่งยิ้มสิคะ ยิ้มทั้งเรื่องค่ะ เรื่องไม่ได้ดาร์คหนักหน่วงอะไร
แต่กลับละมุนละไมไปด้วยมิตรภาพและความรัก...น่ารักมากๆค่ะ!!! แอร๊ย!!! >///<
สำหรับเราเรื่องนี้มีพระเอกเป็นเสน่ห์มากมว๊ากกก เพราะเค้าจะคีย์เดียวทั้งเรื่อง ไม่ได้โฉด เลว เจ้าเล่ห์อะไร
แต่จริงๆแค่เป็นขาบู๊ที่ฉลาดพอตัว แล้วก้อมีสมดุลมากที่สุดในทุกตัวละคร แบบตอนเริ่มชอบน้องแก้วก้อไปทีละนิดๆไม่ข้ามสเตปเลย
ว้ายยย!!ชั้นปลื้มมม!!! ที่สำคัญพระเอกเรื่องนี้ได้ยากกก เพราะ น้องมิวที่คั่วหนุ่มมาแทบทุกคนในเรื่องแล้วมั้ง แล้วก้อชอบฝิ่นมากก
แต่ปรากดว่าเค้าเป็นชายหนึ่งเดียวที่หล่อนไม่ได้ไปค่ะ 555+
วุ้ย!!!ชอบอ่าาา มีภาคต่อมั๊ยคร้าาา
-
เรื่องนี้ติดตามอ่านมาตั้งแต่ต้น
ชอบทุกตอนเลย
ชอบคาแรกเตอร์ของแก้วมาก
ไม่ทราบว่า คนแต่งมีแพลนจะทำหนังสือมั้ยอ่ะ
-
สนุกมากค่ะ รู้สึกว่ามันเรียลและเข้ากับสังคมมากๆ ด้วย ชอบทุกตัวละครไม่ว่าจะคนดีหรือคนเลวในเรื่อง ทำเอาเราติดตามแบบรวดเดียวไมาให้เสียเวลา 55+ บางตอนก็ทำเราร้องให้ตาม บางตอนก็ทำให้เราด่าตัวร้าย...ดิวกะดีชั่วได้อีก ขนาดเจ็บแล้วยังไม่จำเลย บางทีก็อยากจะรู้นะว่าสองพี่น้องจะชดใช้กรรมยังไงในคุก แต่ดีเหมือนจะรอด แล้วดิวล่ะ อ้า! ปริศนาธรรมใช่ 55+ อึดอัดกะบความรู้สึกที่แก้วมีให้พงษ์มากด้วยค่ะ ตอนแรกคิดว่าพงษ์แน่เลยที่เป็นพระเอก เพราะอ่านยังไงอิพี่ฝิ่นก็ไม่น่าเทียบพี่พงษ์ของน้องแก้วได้ ดีนะที่แก้วยอมให้ฝิ่นตะริดติ๊ดฉึ่งถึงได้เองเอียงมาทางพี่ฝิ่นได้ 55+
สารภาพตรงๆ ว่าพี่ไม้ไม่เหมาะกับขวัญเลยให้ตาย ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี อ่านแล้วไม่อินเหมือนโจ้ ก๊ากกกกกกก พงษ์กะแสนก็โอนะ แต่พงษ์คงอยากมีเมียมากกว่าสินะ ส่วนอีกคู่ที่อยากอ่านต่อคือ โซ่ภู มันน่าขยายนะคะเราว่า 55+
ยังไงก็ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ เรื่องนี้ค่ะ
-
ขอบคุณคับ เนื้อเรรื่องสนุกดีครับแต่ท้ายๆอืดไปนิด
-
:pig4:
มีเรื่องอยากเขียน อยากบอกเยอะแยะ
แต่ตอนนี้ทำได้แค่ขอบคุณ เดี๋ยวกลับมาฉบับเต็ม 555 ^^
-
เป็นบุญของมึงแล้วที่โดนกูเอา เอิ่ม คำพูดของฝิ่นช่าง :m16: :m16: :m16:
-
ไม่อยากสมน้ำหน้าหรือพอใจที่เป้งจากไป แต่ลึกๆแล้วอดรู้สึกดีไม่ได้เพราะการที่เป้งจากไปอย่างน้อยยังมีความหวังว่าซักวันไม้จะหลุดพ้นจากความรู้สึกที่ให้เป้งและไม้จะได้เจอคนที่เห็นความสำคัญของไม้ที่เป็นไม้และมาจากใจจริงๆในซักวัน :hao5: :hao5: :hao5:
-
แก้วเป็นนายเอกที่โลกสวย อ่อนแอเกิ๊น ไอ้ฝิ่นซึนเป็นพระเอกที่เห็นแก่ตัว ใจร้ายปากหนัก ถ้าเปลี่ยนคู่มาเป็นไม้โจ้เรารับได้มากๆเลยนะบอกเลย!! :angry2: :angry2:
-
เรื่องเยอะเกิ๊นปวดหัว พงษ์นี่ก็โง่แล้วโง่เลยแถมโง่แล้วยังอวดฉลาดอวดเก่งตัวต้นเรื่องขนานแท้ ถึงจะเพราะหวังดีกับแก้วก็เถอะ แต่แสนมันน่ารักนะ555 ว่าแต่เรื่องมันเยอะเกินไปจริงๆนะคนเขียนอะไรก็ไม่รู้ไม่มีเวลาพักหายใจกันเลย ติอีกนิดคืออ่านแล้วงง ไม่รู้ว่าคำพูดความคิดนี้ใครเป็นใคร แบบมันอ่านแล้วมั่วๆไปหมดไม่รู้ใครเป็นใคร เรื่องหน้าแก้จุดนี้จะดีมาก สุดท้ายขอบคุณสำหรับนิยายจ้า :pig4: :pig4:
-
ไม้...ชอบอะ ผู้ชายลุคแบบนี้ มันใช่เลย รู้สึกว่าไม้กับขวัญ เหมาะกันนะ
มันดูพอดีแบบแปลกๆ 55555 เขียนต่ออีกเรื่องเลยได้ไหม เอาคู่ไม้+ขวัญ
-
อ่านจบแล้ว รวดเดียวเลย สนุกมากๆ
ไม่อยากให้จบเลย อยากได้ตอนพิเศษอีกเยอะๆ
-
เพราะนิยายเรื่องนี้ทำให้ต้องไปขุดหา แอ็คเค้าท์ในนี้ที่เคยสมัครไว้เมื่อหลายปีก่อนเพื่อมาตอบและให้กำลังใจผู้แต่งทั้งที่ได้บอกกับเจ้าตัวไปแล้วในแฟนเพจแต่อยากเข้าบอกในนี้ด้วย ปกติไม่ได้เข้ามาในนี้นานแล้วตั้งแต่สมัยเข้ามาอ่านเรื่องเซ็งเป็ด แต่เรื่องนี้ทำให้ได้แวะเข้ามาในนี้อีกครั้ง รู้สึกดีมาก เสียดายที่ได้อ่านช้าไปหน่อย แต่เต็มอิ่มล้นมาก ยอมรับตามตรง( อย่าโกรธน๊ะ ^^) ชื่อเรื่องไม่ดึงดูดเอาซะเลย "อ้อมกอดเด็กช่าง"ถ้าเข้ามามองหานิยายอ่านคงจะเลื่อนผ่านไปเลยคือแอบดูหวานๆ แบ๊วๆ (ไม่ใช่แนวอ่ะ แหะๆ) แต่ที่ได้มาอ่านเพราะคนในเว็บอื่นแนะนำมาและเล่าโครงเรื่องว่าประมาณนี้แต่ไม่ถึงกับสปอยด์ เลยสนใจอ่านดู
ตอนต้นๆ ก็ งงๆ หน่อยกับแนวการเล่าเรื่อง และ งงๆ ว่า ใครคือพระเอกช่วงแรกๆ แต่ก็ยังอ่านต่อนะ มาเริ่มติดใจตั้งแต่เล่าภูมิหลัง "แก้ว" นี่ล่ะว่าตอนเด็กๆ คือโดนอะไรมาบ้างและ "พงษ์" มาเกี่ยวได้ยังไง ตั้งแต่ช่วงนี้มาคือชอบ ความรู้สึกตีกลับเลยรู้สึกว่ามีอะไร แล้วก็หยุดอ่านไม่ได้ 2 วัน จบ ขอบคุณผู้เขียนจริงๆ ที่สร้างสิ่งดีๆ ขึ้นมา สิ่งดีๆ ที่ทำให้ผมมีความสุข ชอบมากๆ ขอบคุณครับ
ปล.ถ้าเป็นไปได้ ทำภาค 2 ไหวมั้ยครับ หรือยังไงก็ปล่อยตอนพิเศษออกมาเรื่อยๆ ก่อนนะ คิดถึง พี่ฝิ่น พงษ์ พี่ไม้ มากๆ ^.^"
-
สวัสดีครับผู้เขียนนิยายเรื่องนี้ก่อนอื่นขอขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆถึงมากที่สุดที่ได้รังสรรค์นิยายดีๆๆมาให้อ่าน.... นิยายเรื่องนี้ดีมากอ่านแล้วอยากอ่านซ้ำเพราะมันสนุกจริงๆๆๆ. ตัวละครทุกคนมีบทบาทที่ดีอ่านแล้วไม่น่าเบื่อ. ภาษาที่เข้าใจง่าย....แต่จะไม่ค่อยเข้าใจก็ตรงโรงเรียนที่แบ่งเป็นประธานหล
-
L1:สวัสดีสนนสวัสดีครับผู้เขียนนิยายเรื่องนี้ก่อนอื่นขอขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆถึงมากที่สุดที่ได้รังสรรค์นิยายดีๆๆมาให้อ่าน.... นิยายเรื่องนี้ดีมากอ่านแล้วอยากอ่านซ้ำเพราะมันสนุกจริงๆๆๆ. ตัวละครทุกคนมีบทบาทที่ดีอ่านแล้วไม่น่าเบื่อ. ภาษาที่เข้าใจง่าย....แต่จะไม่ค่อยเข้าใจก็ตรงโรงเรียนที่แบ่งเป็นประธานหลายสายงงงนิด. แต่เข้าใจได้ไม่ยากชอบความฝิ่นมากน่ารักทุกทีที่อยู่กับแก้ว.... อยากให้เขียนภาคต่อจังหรือไม่ก็มีตอนผิเศษบ้างนะจะรอขอบคุณมากๆๆๆอ่านแล้วมีความสุข
-
อ่านติดต่อกันสาม สี่วันจนจบอย่างอิ่มเอมใจ
เป็นนิยายที่สนุกมากค่ะ คือข้อมูลเป๊ะมากกก
เขียนได้เข้าถึงตัวตนของเด็กช่าง คือเป็นแบบนี้ คิดแบบนี้
แม้บางช่วง บางคน จะดูเหมือนคิดอะไรแบบโง่ๆ
แต่เราเชื่อค่ะ ว่าเด็กช่าง วัยปวช. แม้จะกร่าง จะห่ามไปบ้าง
แต่ก็ยังเป็นแค่เด็กวัยรุ่นธรรมดานีเอง
นอกจากเทิดทูนสถาบันแล้ว ศักดิศลูกผู้ชายและความรักเพื่อน มีอยู่เหนือสิ่งอื่นใด
ต้องขอบคุณ คุณซีซั่นมากๆค่ะ
ยังรอโซ่ กับภูรักอยู่นะคะ
-
เห็นเรื่องนี้ผ่านตาหลายรอบมากค่ะ ไม่กล้ากดเข้ามาอ่านเพราะคำว่า drama ตรงชื่อเรื่องแท้ๆเลย
แต่ก็ทนความเย้ายวน(?)กับเรื่องราวของเด็กช่างไม่ไหวค่ะ ชอบแนวนี้ :hao7:
ไม่รู้เหมือนกันว่าคาดหวังว่าต้องเจอดราม่าแบบไหน แต่อ่านเรื่องนี้แล้วก็ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้(คือไม่เลิกอ่าน)
แต่ก็เศร้ามากๆอยู่ดี น้ำตาซึมจนเกือบร้องไห้เลยทีเดียว
ที่ใช้คำว่าเกือบเพราะจบตอนแล้วแอบเดินไปเดินมาดร็อปอารมณ์ตัวเองอะค่ะ55
ก็มันทำใจลำบากหนิ ยึ้ยย
ตอนแรกที่อ่านไป2-3บท เราหันไปบอกตุ๊ดข้างๆ ที่นั่งอ่านพร้อมกัน(คนละเครื่อง)ว่า
“กูว่าพี่ไม้เป็นพระเอก” 5555 ยิ่งอ่านยิ่งชอบพี่แกนะ ถึงไม่ได้เป็นพระเอกแต่พี่แกก็ได้ใจเรา
ขอได้ปะผู้ชายคนนี้ :z6: ตบตีแย่งกะพี่ขวัญและเหล่าแม่ยก :z6: โดนถีบอเกน
พี่ลูกขวัญไม่ได้เกลียดแกนะแต่รำคาญ555 ทำร้ายน้องได้ตลอดจริงๆ
รู้สึกยังไงก็ไม่เลือกแสดงออกให้ชัดๆซักทาง คนอย่างนี้ต้องโดนปราบ(แอบอยากอ่านเรื่องพี่แก)
ส่วนคนอื่นความรู้สึกก็พัฒนาไปเรื่อยตามบทที่อ่านเพิ่มจนอธิบายไม่ถูกล่ะ
จำได้อยู่อย่างคือ จากไม่ชอบอิพี่ดิวเป็นเกลียดมันล่ะ แถมพี่มันไปด้วยอีกตัว
คือถ้าไม่ตายนางสองคนก็จะไม่หยุดจริงๆใช่มะ :beat:
น้องแก้วดูน่ารัก ขี้อ้อน น่าถนอมดีจัง เรียกพี่ฝิ่นแล้วรู้สึกว่าน่ารักเข้าไปอีก ฟิน :impress2:
ชอบน้องนะ น้องมีความพยายามดีจัง ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้เข้มแข็งอะไร (หมายถึงไม่ได้ไม่เจ็บกับส่งที่เจออะ)
เรื่องที่เจอก็ไม่ใช่ว่าจะเบาๆด้วย
ขอบคุณพี่พงษ์จริงๆที่ดูแลและรักน้องขนาดนี้
ชอบโมเม้นที่น้องแก้วอยู่กะพี่พงษ์ด้วย อบอุ่นดี
แล้วคนอื่นๆนี่จะมีเรื่องของตัวเองหรือเขียนต่อใช่มั้ยคะ :hao7:
ชอบทุกคนเลย ทั้งโจ้ แสน โซ่-ภู
ชอบเรื่องนี้มากเลย ได้อะไรจากเรื่องนี้เยอะมาก ซึ่งพิมพ์ๆไปตรงนี้ไม่หมดแน่(เพราะลืม555)
เวลามันตื้นตันอะไรมากๆก็อยากบอกความประทับใจให้หมดนะ
แต่มันก็จะตีกันจนจัดข้อมูลไม่ถูกแล้วลืมบางประเด็นไปแบบนี้ตลอดเลยค่ะ555
ที่แน่ๆคือ ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆให้ได้เสพนะคะ :กอด1:
เรื่องสนุกและชวนติดตามมากเลย คอนเฟิร์มได้จากตุ๊ดข้างๆด้วยค่ะ
แต่นางคงไม่ได้มาเม้น เลยฝากบอก นี่ก็เพิ่งชี้ทางเข้าเล้าให้นาง5555
-
อ่านจบแล้ว สนุกมากค่ะ :impress2:
-
นิยายเรื่องนี้ อ่านเจอด้วยความบังเอิญ (ปกติตามลายแทงจากชาวบ้านตลอด) อ่านแรกๆงงมาก
เพราะคุ้นชินกับนิยายที่บรรยายว่าตัวละครพูดอะไร คิดอะไรแบบละเอียดหน่อย อ่านเรื่อนี้มีงงบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง
แต่หยุดอ่านไม่ได้ เนื้อเรื่องสนุกดีนะคะ ไม่ได้หวานแหววอะไรมาก นิยายของคุณผู้เขียนมีสไตล์เป็นของตัวเองดีค่ะ
เราชอบ...ไม่รู้ว่ามีเรื่องอื่นๆที่คุณแตงเอาไว้อีกมั้ย เดี๋ยวจะลองหาดู
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆเรื่องนี้นะคะ :mew1:
ปล. ผู้ชายในเรื่องนี้ พี่ไม้เด็ดสุด สเปกเบย คริคริ
-
:mew1:รักเรื่องนี้ เรื่องนี้ให้อะไรหลายๆอย่างขอบคุณนักเขียนที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้ให้อ่าน
-
โอย~ ทำไมมันสนุกอยางนี้อะรักคนเขียนรักแก้วจัง :mew4:
-
เคยอ่าน แต่ไอดีหาย
ขอมาเก็บไว้แล้วกัน
-
ชอบบบบจังงงงเลยค่ะ
o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
-
จำได้ว่าเคยอ่านเรื่องนี้สมัยม.ปลายแล้วไม่ได้อ่านต่ออีกเลยเนื่องจากว่าต้องไปอยู่หอพัก ละที่มอยุ่งๆ กับกิจกรรมมาก จนมานึกขึ้นได้ถึงบุคลิกตัวละครแบบฝิ่นก็เลยลองๆ หาเรื่องนี้มาอ่านอีกรอบ จำได้ลางๆ ค่ะว่ามีคำว่าเด็กช่าง จนหาเจอ เรื่องนี้เราชอบมากเลย มันหน่วงๆ แต่ก็ไม่สุด เราอ่านได้เรื่อยๆ แบบไม่ฟูมฟายอ่ะ ออกแนวจะบ่นกับแก้ว ฝิ่น พงษ์ มิว อิพี่ดิวที่อะไรจะนักหนาฟระ ยอมรับว่าแรกๆ นี่โคตรรรรำคาญอิพี่ฝิ่นเลย สงสารแก้วจับใจตอนโดนมันทำร้าย รำคาญมากด้วยกับการจะจบเรื่องสักเรื่องมันทำยากนักหรอ? แต่เราเข้าใจตัวละครนะ เพราะเราไม่ได้เรียนสายนี้มาเลยไม่เคยเห็นใครตีกัน แถมเป็นความรักเพื่อนแบบมากมาย เข้าใจว่าพี่ฝิ่นรักเป้งมาก เพื่อนยังไงก็ตัดไม่ขาด กับเป้งมันคือเพื่อนตาย ศักดิ์ศรีของเพื่อน เพื่อนเจ็บเราก็เจ็บ แต่ก็สงสารแก้ว แก้วไม่ได้ทำอะไร แต่ปัญหาชีวิตแก้วก็เยอะเหลือเกิน แก้วเหมือนน้ำ ลมพัดไปทางไหนก็ไป ส่วนพี่ไม้นี่เรายกให้เป็นพระเอกของเรื่องเลยค่ะ (พี่ฝิ่นคือใครร) ชอบเวลาพี่ไม้สอนน้อง มันดูอบอุ่นมาก ยิ่งเวลาพี่ไม้พูดถึงเป้งหรือสิ่งที่เคยทำให้เป้งคือเจ็บแทนอ่ะ มันอธิบายไม่ถูกแต่จี๊ดๆ ส่วนไอ้ดิวกับไอ้ดีนี่สมควรละที่ไปอยู่ในคุก โดยเฉพาะไอ้ดิว
ขอบคุณพี่ซีซั่นมากค่ะสำหรับนิยายเรื่องนี้ 2 ปีที่กลับมาอ่านให้จบคือคุ้มค่ามาก ตอนแรกเคยคิดว่าจะจบดราม่ารึเปล่า เพราะนิยายหลายๆ เรื่องในเล้าที่นายเอกนิสัยแบบแก้วก็จบไม่สวยเท่าไหร่ แต่จบแฮปปี้คนอ่านก็เบาใจค่ะ :mew4:
-
เข้ามาอ่านแบบบังเอิญมากกับเรื่องนี้ สารภาพว่าตอนแรกๆ อ่านไปเกือบจะเลิกอ่าน พระเอกมันช่าง..... :katai1: :katai1:
พอช่วงกลางๆเรื่อง อุ่ยยย แก้วน่าสงสารเกินไปเลยอยากรู้เหตุผลว่าเพราะอะไร นึกว่าจะรักทั้งพงษ์และก็ฝิ่น ....
สุดท้าย เงิบบบ :z3: เพราะแก้วมีแค่ฝิ่นและฝิ่นก็มีแต่แก้ว o13 จบภายใน 1 วันค่ะ :กอด1:
ขอบคุณคนเขียนค่ะ :L2:
-
สรุป ขวัญมันคิดยังกับ ลูกแก้ว รัก เกลียด ซึน รึอิจฉา เดาไม่ถูกเบย
เฮียไม้นี่จะคู่กับนายลูกขวัญ หรอเนี่ย อิอิ
ส่วนเฮียพง เท่ห์ อ๊าคค
ฝิ่นก็น่ารักขึ้น แก้วก็รักจิง รักจัง
-
อ่านจบแล้ววววววว อยากบอกว่าสนุกมากกกกก
ชอบฝิ่นอ่ะ ขอสมัครเป็นแฟนคลับด้วยคนนน
ชอบแก้วด้วยยยย ชอบคู่นี้สุดไรสุดดดด :o8: :o8:
แต่แอบเชียร์ไม่ขวัญ เบา ๆๆๆ 55555555
-
สนุกมากกกก เพิ่งได้อ่านจนจบ :กอด1:
ชอบพระเอกแบบฝิ่นมาก
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ :z2:
-
เพิ่งจะอ่านจบ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
ขอบคุณที่ให้เห็นในอีกแง่ของเด็กช่าง
ปล. รออ่านเรื่องของพี่ไม้ 555 :o8:
-
อ่านจบล้าาา
ขอบคุณมากค่าา
-
ช๊อบบบบบบบบบบบบ
อ่าน2วัน.... จบ :hao5:
-
อ่านจบแล้วครับ ถึงจะไม่ฟินเท่าไหร่แต่ก็สนุกดีครับ o13 o13
-
จากใจเลย สนุกมากก ดราม่าดีชอบฝิ่น โหดได้ใจอะะะ
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวครบรส เล่นเอาวางไม่ลง อดหลับอดนอนมาหลายคืน สุดท้ายก็จบลง โดยไม่มีอะไรค้างคาในใจ
-
ฮืออออ จบแล้ววววว ชอบมากเลยยยยย ชอบทุกอย่างในเรื่องนี้
เราหาอะไรที่มันเถื่อนๆแบบนี้มานานมาก T T
ตอนแรกเกลียดพี่ฝิ่นมาก ทำไมถึงเป็นพระเอกที่เฮงซวยขนาดนี้
ปัจจุบันหลงนางตามน้องแก้วไปละงืม ลูกแก้วน่าร้ากกก เราเพ้อน้องมากเลย ㅠ ㅠ
ขี้อ้อนที่หนึ่งล่ะ พี่ฝิ่นไม่หวงก็บ้าแล้วแง ชอบทุกความสัมพันธ์ของทุกตัวละครเลย
บางตอนเราอ่านซ้ำๆย้ำในพาร์ทเดิมๆแบบเก็บความรู้สึกสุดๆ
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆออกมานะคะ เริ้บคนแต่งมากมายหัวใจล้านดวง :hao5:
-
อ่านรวดเดียวจบเลย อ่านเพลินมาก ขอบคุณคนแต่งนะคะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กช่างที่มีรายละเอียดให้เราอ่านทำความเข้าใจแล้วอินไปด้วยได้
บอกตามตรงตอนแรกอ่านแล้วเราหงุดหงิดพงษ์มากเลยไม่รู้ทำไม
เหมือนจะสอนให้แก้วเข้มแข็ง คุ้มครองแก้ว แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายทางอ้อมเลย
เราอาจจะเข้าใจผิดกับความต้องการของพงษ์แต่เรารู้สึกว่า เฮ้ย มันไม่ใช่อ่ะ ไม่ใช่ๆ
แต่คนแต่งก็ค่อยให้เหตุผลจนอ่านไปเรื่อยๆ แล้วเราก็รู้สึกว่า เอ้อ...ก่ะด้ะ!! (ทำเสียงเล็กเสียงน้อย)
เรื่องนี้ชอบพี่ไม้ที่สุดแล้ว มีสติที่สุดในเรื่อง 5555+
อยากให้พี่ไม้ลงเอยกับใครซักคน แต่ขอไม่เอาขวัญได้ม้ายยยยย ขอเถอะค่ะ (╥_╥)
เราไม่รู้สึกว่าขวัญควรได้รับการดูแลจากพี่ไม้เลย
ขวัญอาจเป็นคนน่าสงสาร แต่ขวัญไปคู่กับคนอื่นเถอะนะ (ฮา)
ก็...เค้าเชียร์ โจ้-ไม้ ไม้-โจ้ มากมายเลยนี่นา นะ นะ!!!
ตอนโจ้ขอดูแลพี่ไม้ เรานี่แบบอื้อหือ (´∀`)♡ กรี๊ดดดดดดดดดดดด
มันเท่เว้ยเฮ้ย! :impress2: มันน่ารักจริงๆ เว้ย โจ้ :-[
เพราะงั้นขวัญหลบไป กร๊ากกกกก
ขอบคุณคนแต่งอีกครั้งค่ะ
-
เรื่ิองนี้เป็นเรื่องที่ดีมากเลยฮะ
เปิดแนวคิดหลายๆคน
แต่แอบเชียร์ พี่ไม้
อยากให้เฮียแกมีคู่มาก แอบหวังว่าจะเป็นภาคต่อเป็นคู่เฮีย ฮ่าๆๆ
รักนี่ น่าสับสนจริงๆ
-
อ่านรวดเดียวเลยค่ะ สนุกมากๆเลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะ :mew1:
-
อ่านเรื่องนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก
มาอ่านเป็นรอบที่สาม ชอบมาก มาม่าได้ใจ
ขอบคุณที่มาแต่งให้อ่านน้า :pig4: :L2:
-
o13
-
สวัสดี ไรเตอร์น่ะะะะ
ชอบพลอตเรื่องแบบนี้ ชอบที่มันมีอารมณ์ของสีเทาผสม
มันไม่ใช่เรื่องที่หวานไปหมด มันขม แต่ขมแล้วพอชิมไปนานๆ ก็มีรสหวานบ้าง
ชอบการบรรยาย ของไรเตอร์มากเลย
เป็นกำลังใจให้ในการแต่งเรื่องใหม่ต่อๆ ไปน่ะ ครับบบบบ ;)
:L2: :L1: :3123:
-
สนุกมากครับ. :katai2-1:
-
เพิ่งอ่านถึงตอนที่สี่ แต่อยากเมนท์มากจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
คือขัดใจฝิ่นตรงที่แค้นอีกคนแต่ก็พาลอีกคน แล้วแก้แค้นไปมาไม่หมดสิ้น
แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เห็นใจแก้วเช่นกันที่เจอฝิ่นพาลใส่ คือรักเพื่อน แต่ที่ช่วยพงษ์ไปคือมันดูรักเพื่อนไม่ถูกทางอะ
ยิ่งเล่าย้อนไปเรื่องอดีต ที่ช่วยพงษ์ปิดบังความผิดต่างๆก็ยิ่งไม่เห็นใจ ยิ่งเพื่อนฆ่าคนตายแล้วตัวเองให้ที่ซ่อนตัวกับเพื่อน คือให้ฟีลเลือดเย็นพอๆกับฆ่าคนเลยนะนั่น แล้วตอนแก้วบรรยายว่า ตนก็แค่ให้ที่หลบซ่อนกับเพื่อนเท่านั้นเอง โอ้โห :z6: โมเมนท์นั้นเราอยากกระโดดถีบแก้วบวกปารองเท้าใส่มาก(อินมากจริงๆ) ส่วนที่ขัดใจสุดก็คงเป็นพงษ์คือไม่ได้ดูสำนึกอะไรเลย ทั้งที่ตัวเองทำให้คนอื่นเดือดร้อนมากมายรวมถึงทำให้คนอื่นตายด้วย (มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรก็ว่ากันอีกเรื่อง) ดูความคิดกลวงๆคิดมักง่ายมากๆ (ที่จริงอาจคิดมากแต่เรายังไม่รู้)
-
อ่านจบแล้วค๊า ภายในหนึ่งวัน ตาแฉะกันเลยทีเดียว
แอบงงๆกับการบรรยายเบาๆแต่โดยรวมสนุกมาก
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วหงุดหงิดแต่ก็ติดงอมแงมเช่นกันฮ่าๆๆๆๆ
หงุดหงิดตัวละครทุกตัวค่ะ แม้กระทั่งพี่ไม้ที่ใครๆก็ชม แต่อิฉันก็ยังสรรหาเรื่องมาหงุดหงิดกับแนวคิดพี่แกได้เลยค่ะ 555
แต่สารภาพเลยว่า "ด่าและสาปอิพงษ์หนักมาก" เป็นตัวละครที่แนวคิดการกระทำขัดใจเราที่สุดละ ไอ้ที่แบบเหมือนจะดีแต่พาคนอื่นฉิบหายเนี่ย ชื่นชมอย่างเดียวคือความหวังดีที่มีให้แก้วนี่แหละ แต่วิธีคิดและวิธีการหลายๆอย่างบอกเลยอยาก :z6: :beat: อ้อขัดใจอิตรงชอบอมพะนำด้วย เหมือนจะแน่เหมือนจะเอาอยู่ แต่จ่ะอิฉันว่าพ่อเอาไม่อยู่หลายรอบแล้วนะ อ้อเกลียดมากตรงปกป้องแก้วมากเกินไปนี่แหละ มัวแต่สร้างเกราะไง แต่ไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันให้เพื่อนเลย เฮ้อออออออ
ส่วนไอ้คู่พี่น้องคู่ชั่ว ดีดิว ไม่ด่าอะไรเลยค่ะ นั่งเผาพริกเผาเกลืออย่างเดียวเลย (เข้าโหมดแค้นจนคุ้มคลั่ง ฮ่าๆๆๆ)
ส่วนแก้วนี่ทั้งสงสาร เห็นใจ เอือม ระอา หงุดหงิด เบื่อ มีมาให้ปะปนตลอด ช่วงแรกๆคืออยากตบแก้วหนักมาก ยิ่งไอ้ความคิดที่อยากปกป้องพงษ์แต่ละอย่างนี่แบบ.... ถึงพงษ์จะโคตรสำคัญกับแก้วมากแค่ไหน แต่โมเมนท์นั้น(ยังไม่รู้ว่าใครคือฆาตกร) ความคิดที่แก้วยึดและพยายามปกป้องเพื่อน หลายครั้งเหมือนจะเข้าใจคนอื่น แต่สุดท้ายก็เลือกปกป้องพงษ์(ที่ไม่แสดงว่าสำนึกไรเลย)แบบผิดๆนั่นมันขัดใจอิฉันระดับล้านนนนนนน ฮึ่ยๆๆๆๆ แต่ดีนะที่ตอนต่อๆมาผู้เขียนยังพอบรรยายให้เราได้รู้ว่าแก้วก็รู้ว่าพงษ์ผิดเหมือนกัน แม้จะไม่ยอมรับออกสื่อก็เถอะ ค่อยดีหน่อยที่แก้วยังคิดได้ แต่ก็ชอบแก้วมากๆตรงที่แก้วมีความเด็ดเดี่ยวบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าคนอ่อนแออย่างแก้วจะมี ความเด็ดเดี่ยวในการที่จะปกป้องคนที่ตัวเองรักในหลายครั้ง ซึ่งมุมนี้ก็ทำให้เห็นว่า คนเราถึงจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอมากแค่ไหน แต่ก็ย่อมมีมุมที่อ่อนแอและเข็มแข็งอย่างไม่น่าเชื่อได้เหมือนกัน ส่วนอิพี่ฝิ่นพระเอกที่โดนด่าแทบทุกตอน ฮ่าๆๆๆ เราชอบตัวละครตัวนี้มากเลยค่ะ อาจจะเพราะการบรรยายของผู้เขียนก็ได้ที่ทำให้เราเห็นอิพี่ฝิ่นแบบทะลุ คือเป็นคนที่ซื่อตรงดีนะ สับสน ไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเอง ซึน หลอกใช้เค้าเพื่อแก้แค้น แค้นมาก โมโห ไม่เชื่อฟังพี่ไม้ บลาๆๆๆ ฮีแสดงออกมาหม๊ดทั้งคำพูดหรือการกระทำ แม้จะขัดใจกับตรรกะบ้าบอหลายๆอย่างของฮีมากๆก็ตาม บางตอนคือคนอื่นด่านะแต่เราดันเข้าใจฝิ่นและแอบเห็นด้วย แต่บางตอนคนอื่นชมฝิ่นตอนนั้นกลับเป็นตอนที่เรารู้สึกขัดใจไม่ก็ข้องใจกับการกระทำของฝิ่นซะงั้น ฮ่าๆๆๆๆ แต่อาจจะเพราะเราเข้าใจฟีลตัวละครตัวนี้ที่สุดแล้วก็เลยชอบ(แต่ไม่เคยมีประสบการณ์แบบฝิ่นนะ) ตรงข้ามกับอิพงษ์มากที่เราไม่ค่อยเข้าใจมันและขัดใจมากจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ (โทษทีนะพงษ์ คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด หึหึ) แต่โดยรวมแล้วเรื่องนี้ก็ให้ข้อคิดกับเราในหลายๆเรื่องเลยนะ รวมทั้งทำให้เราเข้าใจบริบททางการศึกษารูปแบบที่เราไม่คุ้นหรือไม่เคยได้สัมผัสเพิ่มด้วย (เรียนครูอะ อ่านไปก็อดเปรียบเทียบระบบการศึกษา หรือรูปแบบการเรียนการสอนหรือสภาพแวดล้อมต่างๆไม่ได้ แหะๆๆ) สรุปเรื่องนี้ให้ทั้งความบันเทิง มุมมองใหม่ๆ ข้อคิดต่างๆ รวมถึงตรรกะและวิธีการคิดที่น่าทึ่ง/น่าชื่นชม/ประหลาด/แหวก/ขัดใจแม่ บลาๆ แต่ก็เป็นสีสันของชีวิตแต่ละคนดีเนอะ ขอบคุณผู้เขียนมากๆเลยค่ะที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมา
ปล. นอกจากจะชอบอิพระเอกฝิ่นแล้ว เราชอบพี่โซ่ แสน แล้วก็โจ้มาก ฮ่าๆๆๆๆ
ปล2. เป็นเรื่องที่อินมากจริงๆ เมทถึงขั้นบ่นว่า ชาติที่แล้วอิคนชื่อพงษ์ติดหนี้แล้วไม่ได้ใช้มึงใช่มั๊ย ด่าซะยับแทบทุกตอน กร๊ากกกกกกกกกกก
-
อ่านรอบที่ 3 เห็นในเพจว่า คนเขียนกำลังจะทำเป็นเล่มแล้วก็ลงตอนพิเศษในนี้ แต่ก็ยังไม่มา :hao5:
อ่านรอบนี้รู้สึกว่าเห็นอะไรเยอะขึ้น โดยเฉพาะพงษ์ที่ไม่เข้าใจการกระทำเลย คือเมิงจะอินดี้ไปไหน
รักแก้วเว่อร์มาก ทำไมไม่เอาเป็นแฟนซะหล่ะ ... พอมาอ่านรอบนี้ถึงได้รู้สึกว่า เพราะพงษ์รักมากๆ
นี้แหละถึงไม่เอาแก้วเป็นแฟน เพราะแก้วไม่เอาพงษ์ต่างหาก คือพงษ์รักแก้วขนาดนี้ ถ้าแก้วรักชอบ
พงษ์แบบคนรักจริงๆ พงษ์ก็คงยอมอยู่แล้ว(มโน) :hao7:
ปล.อยากอ่านคู่ พี่ไม้กับลูกขวัญ จังคือเกลียดขวัญนะ แต่ก็ลุ้นกับนาง 555
ปล.2 รอจองหนังสือ กับ ตอนพิเศษอยู่!!!!
-
ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี (JFK) สหรัฐอเมริกา
“มาถึงแล้วนะ อยู่ไหนแล้ว?” กดส่งข้อความพลางเดินลากกระเป๋าใบเดียวออกจาก ตม.ไปจนถึงประตูทางออก
สายฝนปรอย ๆ ขณะเครื่องบินลงจอดบัดนี้กลับซัดกระหน่ำมาเป็นพายุซะมืดฟ้ามัวดิน
ทำเอาเจ้าของขาคู่ซึ่งระริกระรี้เมื่อครู่ แช่แข็งอยู่กับที่
หนาวชะมัด...สองมือล้วงเข้าไปซุกในกระเป๋าเสื้อโค้ทตัวยาว สองขายกย่ำกับที่ไปมาเล็กน้อย
เขาไม่ชอบอากาศหนาว ไม่ชอบถึงกับเรียกว่าเกลียดแต่กลับกระเสือกกระสนอยากมาที่นี่เอง
และตอนนี้ถึงแม้จะกลับเข้าไปหลบฝนในตัวอาคารก็ได้แต่เขาเลือกไม่ไป เพียงแค่ไม่อยากให้คนที่มารับต้องรอนาน
“มีปัญญามาถึงนี่ได้ก็หาทางมาต่อเองสิ” ชายหนุ่มหยิบมือถือออกจากกระเป๋าเสื้อมากดเปิดอ่านข้อความที่ตอบกลับมาพลางแค่นหัวเราะ
...หึ ตลกชะมัด ความจริงแล้วลูกขวัญกำลังลุ้นว่าจะมีใครมารับรึเปล่าแค่นั้นเอง
“พงษ์ลูกอยู่ไหนแล้ว ลูกขวัญยืนตากฝนตั้งนานแล้วนะ ทำไมยังไม่ไปรับอีก” เสียงแม่ดังแหลมมาจากปลายสายที่โทรเข้า
ตากฝนห่าอะไร ในโลกนี้ไม่มีใครโง่ขนาดนั้นหรอก ไอ้ขวัญมันยืนยิ้มพร้อมกดมือถืออยู่ใต้หลังคาอาคารโน่น
“คุณแม่ครับ แท็กซี่ก็มี ที่นี่นิวยอร์คนะครับไม่ใช่ป่าอเมซอน” พงษ์ให้เหตุผล
“แม่ไหว้วานแค่นี้เอง นั่นก็เพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแถมคุณพ่อก็ยังเป็นเพื่อนกันอีก พงษ์จะไม่รักษาน้ำใจให้หน่อยเหรอคะลูก”
ลูกไม้ไอ้ขวัญน่าเบื่อฉิบหาย อะไรไม่ได้ดังใจก็ฟ้องผู้ใหญ่
“เข้าใจแล้วครับ มาแล้วครับแต่ยังหามันไม่เจอ” พงษ์พ่นลมหายใจพลางกรอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย เมื่อไม่ทำตามที่ขวัญต้องการมันก็คงรายงานแม่เขาไปเกินจริงตามเคย
“น่ารักมากลูกแม่ ลูกขวัญมาเรียนภาษาช่วงปิดเทอมแค่ไม่กี่เดือน พงษ์ดูแลเพื่อนด้วยนะลูก” แม่บอกด้วยความภูมิใจในลูกชายก่อนวางสาย
พงษ์มองไปยังขวัญที่เปลี่ยนจากเอามือล้วงกระเป๋าเสื้อมากอดอกเพื่อบรรเทาหนาวแทน
การนัดแนะว่าจะมาหาโดยการพูดเองเออเองของมัน พงษ์ไม่เคยใส่ใจเอามาเข้าหู ทว่า พ่อกับแม่ของเขาไม่เป็นเช่นนั้นตาม และยังไงซะไอ้ขวัญก็ต้องมาอาศัยอยู่ด้วยกันระยะหนึ่ง ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ สถานะของพงษ์ตอนนี้คือทำตามความประสงค์ของพ่อแม่เท่านั้น
ครืด ครืดดด
พงษ์ขยับตัวโยกไปตามจังหวะเพลงแดนซ์ซึ่งเปิดในรถยนต์ส่วนตัว สายตาเหลือบมองโทรศัพท์มือถือที่ดังไม่ขาดสายสลับกับมองแขกไม่ได้รับเชิญที่ยืนตัวสั่นอยู่หน้าประตูทางออกของสนามบิน
“คุณพงษ์ครับ คุณลูกขวัญยืนอยู่ตรงนั้นมาสองชั่วโมงแล้วนะครับ” ปลื้ม คนดูแลที่อายุมากกว่าไม่กี่ปีทำหน้าที่คนขับรถมองผ่านกระจกเพื่อคุยกับพงษ์
“ผมไม่ได้จับเวลาซะด้วยสิ” พงษ์ยักไหล่ตอบหน้าตายมาจากเบาะหลังก่อนร้องเพลงคลอตามอย่างอารมณ์ดี
ผิดคาดที่ลูกขวัญไม่ก่อเรื่องอย่างอื่นอีกนอกจากโทรมาหาพงษ์แต่พงษ์ไม่รับสาย สองชั่วโมงที่มันยืนหนาวอยู่ตรงนั้นทำให้พงษ์รู้สึกสนุกไม่น้อย
ยังจำครั้งที่มันทำเมินได้ ถ้าจะเมินไอ้พงษ์จงเมินให้ตลอด ไม่งั้นกูคิดบัญชีทบต้นทบดอกหมด
คนอย่างลูกขวัญ อยากเหนือกว่าใครก็ทำได้ตามอำเภอใจ แต่แน่นอนต้องไม่ใช่กับไอ้พงษ์
บ้านหลังเล็กขนาดสองห้องนอนตั้งอยู่ชานเมืองนครนิวยอร์คคือที่อาศัยของลูกขวัญในอีกสองเดือนข้างหน้า
ถ้าเป็นที่อื่นเขาจะไม่ก้าวเข้าสิ่งก่อสร้างที่เรียกว่าบ้านแต่ใหญ่กว่ารูหนูนิดเดียวอย่างนี้แน่ แต่เมื่อก้าวเท้าเข้ามาเพียงไม่กี่อึดใจก็มีเรื่องให้หัวเสียอีกจนได้
“ให้กูนอนโซฟา?” ขวัญขึ้นเสียงพร้อมชี้นิ้วใส่ตัวเอง ในขณะที่พงษ์กำลังเดินเลี่ยงจะเข้าห้องนอน “เหอะ บ้าไปแล้ว คุณปลื้มช่วยเคลียร์ห้องแล้วออกมานอนโซฟาด้วยครับ” ขวัญชี้นิ้วไปอีกห้องพร้อมหันไปสั่งคนดูแลของพงษ์ที่ยืนหลังตรงอยู่ติดประตูบ้าน
“คุณปลื้มทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก เขาเหนื่อยตามกูทั้งวันเขาต้องได้นอนหลับอย่างสบายตัว มึงอยากมาที่นี่เองก็อย่าสร้างปัญหา ยอมรับในกติกาที่กูตั้ง ไม่อย่างนั้นก็ไปหาที่อยู่อื่น” พงษ์บอกก่อนเดินเข้าห้องโดยไม่แม้แต่หันมามองหน้าคู่สนทนา
“พงษ์! ไอ้พงษ์!” ปัง ปัง! ตบประตูเสียงดังรัวแต่คนในห้องยังคงเงียบกริบ บ้าเอ้ย!
ให้ยืนรอจนขาชาเกือบสามชั่วโมงแล้วยังต้องมานอนโซฟาอีกเหรอ รู้อยู่หรอกว่าไม่อยากต้อนรับแต่ทำแบบนี้เกินไปหน่อยไหม
ฝันไปเถอะว่าลูกขวัญจะยอมรับในกติกาที่ตนเองเสียเปรียบน่ะ
“ขอโทษนะครับคุณลูกขวัญ ถ้าคุณพงษ์ไม่สั่งผมก็ทำไม่ได้ครับ” ปลื้มบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย เรียบเฉยตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก นี่คนทำงานตำแหน่งนี้ห้ามมีความรู้สึกอื่นหรือยังไง
“ถ้าอย่างนั้นคุณปลื้มก็ทำตัวตามสบายนะครับ” ขวัญบอกปลื้มพลางหันไปฉีกยิ้มให้ก่อนลากกระเป๋าเดินผ่านหน้าปลื้มไป
“เอ่อ คุณ--”
หันหลังให้ลูกขวัญก็ทำหน้าบูดบึ้งด้วยความไม่ได้ดั่งใจ เสียงทักท้วงดังตามหลังมาติด ๆ เมื่อขวัญเปิดประตูห้องหนึ่งเข้าไป ภายในห้องสะอาดเรียบร้อยดูเป็นระเบียบไร้ที่ติ ยกเว้นตู้เสื้อผ้าหลังเล็กที่ขวัญกำลังเปิดก่อนเบ้ปากใส่เพราะมันแน่นเอี๊ยด กับเตียงนอนขนาดสามฟุตที่เล็กไปในสายตาลูกขวัญ
“แน่นอนว่าผมไม่นอนพื้น” ขวัญกระโดดขึ้นไปนั่งทดสอบความนุ่มของที่นอน ก่อนเงยหน้ามายิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรให้ปลื้มซึ่งตอนนี้เปลี่ยนจากสีหน้าเรียบเฉยกลายเป็นทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปเสียแล้ว
เรื่องตอแหลขอให้บอก
กว่าสัปดาห์แล้วที่ขวัญมาเรียนที่นี่ เพื่อนใหม่ อาจารย์ใหม่ หรือสถานที่ใหม่ที่ไม่คุ้นเคย บวกกับอากาศหนาวเย็นที่แสนเกลียดไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาเลย ลูกขวัญสามารถปรับตัวเข้ากับทุกอย่างได้ง่ายดายและกลมกลืน
ยกเว้นเสียแต่เรื่องเดียวคือ พงษ์ ทั้งที่อยากมาที่นี่เพราะมันแท้ ๆ แต่โอกาสจะทะเลาะกันมีแค่ทะเลาะกับแผ่นหลังของพงษ์เท่านั้น สำหรับพงษ์แล้ว ขวัญนั้นไร้ตัวตนเสมอ
ช่างประไร ใครสน
“หืม?” ลูกขวัญมองตามหลังปลื้มที่เดินสวนออกจากบ้านพอดี แต่จะให้เอ่ยถามว่าจะไปไหนนั้นก็ไม่ใช่เขาแล้วล่ะ
ทว่าคำถามผุดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเดินเข้าบ้านแล้วพบหญิงสาวหน้าตาสวยคมหันมายิ้มหวานให้ ในขณะที่เธอนั้นนั่งตักไอ้พงษ์อยู่กลางห้องรับแขก
ขวัญไม่ยิ้มตอบหรอกนะ นอกจากมองด้วยหางตาแล้วเดินเลยจะเข้าห้องคุณปลื้ม
“ลูกขวัญ” เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี “อย่าบอกนะว่าจำเจสไม่ได้น่ะ”
ฟู่ว...ไร้สาระ ลูกสาวเพื่อนพ่อที่ไปเที่ยวรีสอร์ทประจำทำไมจะจำไม่ได้แค่ไม่อยากทักเท่านั้นเอง และคงดีกว่านี้มากหากเขากลับมาช้ากว่านี้ จะได้ไม่ต้องเจอเธอ จะได้ไม่ต้องได้ยินได้ฟัง...
เจสกลับไปแล้ว แต่มือที่คว้าแขนพงษ์ไว้ยังคงแช่นิ่งอยู่อย่างนั้น
“โกรธกูมากเหรอ หึ” พงษ์เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงยั่วเย้าก่อนสลัดแขนขวัญออกแล้วเดินหนี
“มึงจะแต่งงานกับผู้หญิงได้ยังไงในเมื่อมึงชอบผู้--” ขวัญเดินตามอย่างไม่ลดละ
ไม่เคยหน้าชาเมื่อเห็นพงษ์อยู่กับผู้หญิงเท่าครั้งนี้เลย สิ่งที่เจสบอกคือทั้งคู่คบกันอยู่และผู้ใหญ่ก็รับรู้ทั้งสองฝ่าย อีกไม่นาน...คงมีข่าวดี ที่สำคัญ ด้วยฐานะ ชาติตระกูล เจสไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอ้พงษ์จะคั่วเล่นได้
“ผิดแล้วขวัญ กูไม่ได้เป็นเกย์เหมือนมึงแน่!” พงษ์หันมาเถียงเสียงหนักทันควัน
“เหอะ มึงปิดกูไม่ได้หรอกพงษ์ เราสามคนรู้ไส้รู้พุงกันกว่าใครในโลกแล้ว แต่จะว่าไปจะเป็นอะไรมึงก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวไอ้แก้วแล้วล่ะ เลี้ยงดูกันมาตั้งกี่ปี สุดท้ายเป็นยังไงล่ะ อยู่ด้วยกันยังไม่มีสิทธิ์” ลูกขวัญยิ้มเยาะด้วยความสมน้ำหน้า
“นี่ก็ผิดอีกว่ะ เพราะการไม่มีสิทธิ์ของกูทำให้กูกับไอ้แก้วยังมีกันตลอด และสำหรับกู จะผู้หญิง ผู้ชาย หรือจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่มึง!” พงษ์ตะคอกใส่เสียงดัง
มือทั้งสองข้างซึ่งวางข้างลำตัวกำหมัดจนเกร็ง สายตาจ้องมองหน้าพงษ์ไม่ลดละ ความสนใจที่ได้รับจากคนอื่นมากมายไม่เคยจะเพียงพอสำหรับขวัญ ที่เขาต้องการก็แค่ความรักจากไอ้พงษ์เท่านั้น แม้รู้แก่ใจคงเป็นไปไม่ได้ แม้แต่หน้ามันยังไม่อยากมอง ทว่ายิ่งควบคุมพงษ์ไม่ได้ หัวใจกลับวิ่งเต้นเข้าใส่ แม้ต้องเป็นคนเลวในสายตาพงษ์ สายตาที่มองมาอย่างรังเกียจเดียดฉันท์ก็เอา
สักวินาทีที่อยู่ในห้วงความรู้สึกไอ้พงษ์ ขนาดนี้...นี่ยอมขนาดนี้แล้วไอ้ขวัญยังจะต้องเป็นผู้แพ้อีกเหรอ!
“กูไม่ยอมหรอก!” ขวัญผลักตัวพงษ์จนหลังไปชนกับประตูห้อง สองมือดันไหล่มันไว้พร้อมโน้มใบหน้าเข้าไปประกบปากเจ้าตัวทันที
...ไม่ได้! พงษ์ไม่ต้องรักเขาก็ได้ขอแค่มันอย่ามีคนอื่นพอ ริมฝีปากขบเม้มริมฝีปากล่าง-บน เรียวลิ้นพยายามแทรกเข้าไปควานหาสัมผัสจากของอีกฝ่ายอย่างเร่งรีบ ทว่ายิ่งขวัญพยายามมากเท่าไหร่ ความนิ่งเฉยเท่านั้นคือสัมผัสที่ขวัญได้รับกลับมา ไม่มีการผลักไส ไม่มีการหลีกหนี เป็นอย่างนี้สู้ให้พงษ์ผลักอกชกหน้าเขายังรู้สึกดีซะกว่า
ผละหน้าออกห่างพลางเสตามองต่ำเมื่อพงษ์ยกยิ้มมุมปากให้พร้อมสายตาดูแคลน ข้อมือทั้งสองข้างถูกรวบกำไว้จากคนที่เขาจู่โจมเมื่อครู่
“เลิกเล่นเถอะขวัญ มึงมีทุกอย่างในขณะที่ไอ้แก้วมีแค่กู อย่าทำให้พวกกูแตกกันเพราะกูไม่มีวันทรยศไอ้แก้ว จำไว้”
“มึงก็รู้ว่ากูคิดยังไงกับมึง” สองมือกำเข้าหากันจนเล็บจิกลงเนื้อก็ยังไม่เจ็บเท่าคำพูดคนตรงหน้า
ทุกความเคลื่อนไหวของเขาต้องส่งผลถึงไอ้แก้วอย่างนั้นเหรอ เพราะพงษ์เป็นอย่างนี้ ถ้าพงษ์ไม่รักมัน เขาก็จะไม่เกลียดน้องชายต่างแม่มากขนาดนี้เลย
“แต่มึงเกลียดน้อง! ความสุขของมึงคือการทำร้ายไอ้แก้วซึ่งกูทนไม่ได้! อย่าก้าวเข้ามามากกว่านี้ขวัญ ต่างคนต่างอยู่ไปเพราะนอกจากลูกแก้วกูจะไม่รู้สึกแบบนั้นกับผู้ชายคนไหน งานนี้ถ้ากูเป็นตัวแปรมึงไม่มีวันชนะไอ้แก้วได้ หยุดแค่ตรงนี้”
ข้อมือที่เคยโดนกำไว้หลวม ๆ ค่อย ๆ เพิ่มแรงกอบกุมยิ่งขึ้นบวกกับคำพูดจริงจังนั่น ขวัญเจ็บและจุกซะยิ่งกว่าอะไร
นี่พงษ์ยังคิดว่าการที่เขารักมันเพียงเพื่อต้องการเอาชนะไอ้แก้วอยู่วันยังค่ำ ไม่เคยมองในมุมเขาคนนี้เลยสักครั้ง ความรู้สึกมันบังคับกันได้ที่ไหน ลองเป็นคนเลวเพื่อให้อยู่ในสายตาบ้างดูไหม ลองโดนคนที่รักเกลียดเข้าไส้ ยังจะถามหาความสุขจากไหนได้อีก
“ชนะเหรอ? เหอะ มึงคงไม่รู้” เพราะไม่เคยต้องการรู้ “กูไม่เคยชนะไอ้แก้วสักเรื่องเลย เอาแค่กูชอบมึงกูก็แพ้ราบคาบแล้ว” ขวัญเอ่ยเสียงนิ่ง
คนตรงหน้าชัดเจนเสมอต้นเสมอปลาย ขวัญเงยหน้าขึ้นมาเผชิญกับพงษ์เขม็ง น้ำตารื้นที่ขอบตาแต่ก็กลั้นไว้ให้อีกคนได้เห็นเพียงแค่นั้น
...ส่วนที่เหลือ ปล่อยให้มันตกในไปเถอะ
พงษ์เดินเข้าห้องปิดประตูดัง ปัง! ก่อนล้มตัวลงเตียงแล้วหยิบมือถือเปิดเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์ส่งข้อความรายงานการเคลื่อนไหวของวันนี้ให้คนที่เมืองไทยพร้อมเล่าเรื่องของเจสเสร็จสรรพก่อนที่แก้วจะรู้จากคนอื่น
ความรู้สึกที่มีต่อไอ้แก้ว ความรู้สึกที่ไม่อยากค้นหาคำตอบถูกปิดตายพร้อมฝังดินกลบอยู่ตลอดเวลา
การเป็นเจ้าของสิ่งมีชีวิตมันไม่ง่ายเลยแฮะ สองมือที่เคยปกป้องกลายเป็นสองมือที่ทำร้ายโดยไม่ตั้งใจ
เด็กผู้ชายที่ไม่เจ็บไม่ปวดในอุดมคติกลับกลายเป็นของผู้ชายด้วยกัน แม้จะอดห่วงไม่ได้แต่จำต้องถอยออกมาเพราะสถานะของไอ้ฝิ่นชัดเจนจนพงษ์ละอายใจที่จะเข้าไปแตะ
พงษ์เลื่อนหน้าจอมือถือขึ้นลงซ้ำ ๆ เขาอ่านทวนตัวอักษรที่โต้ตอบกลับมาซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างไม่รู้เบื่อ ความรับผิดชอบ ความภาคภูมิใจที่ได้ปกป้องเด็กคนหนึ่งจะเป็นความทรงจำตลอดไป ชีวิตลูกผู้ชายต่อจากนี้คงเป็นการแต่งงาน หน้าที่ที่พ่อแม่คาดหวัง คราวนี้พ่อกับแม่คงภูมิใจในตัวไอ้พงษ์สักที
“ไปคบกันตอนไหน แล้วรักกันจนถึงขั้นแต่งงานเลยเหรอ แน่ใจแล้วใช่ไหม?” คนในจอมือถือส่งเสียงรัวพร้อมหน้าตาจริงจังเมื่อพิมพ์ต่อว่าไม่ทันใจ
“แน่สิวะ ถ้าไม่แน่จะบอกทำไม”
“พงษ์นะพงษ์ไม่ให้กูรู้วันแต่งเลยล่ะ” แก้วโวยพร้อมแยกเขี้ยวใส่ แต่พงษ์กลับหัวเราะร่า “แล้ว...พี่ขวัญล่ะ พี่ขวัญไปอยู่กับมึงหนิ”
“มึงจะสนใจทำไมวะกูไม่ได้ฆ่ามันซะหน่อย แล้วนี่เป็นไง เรียนเป็นยังไงบ้าง” เขาเสียงเขียวใส่ก่อนเปลี่ยนเรื่อง
“ก็พี่ขวัญไปที่นั่นเพราะมึง”
“ถ้ามึงพูดชื่อมันอีกกูจะวางสายละ”
“เออ ๆ” ไอ้แก้วพูดดักทันทีก่อนใบหน้าเจ้าตัวจะหงอยลง “เฮ้อ...น่าอิจฉาพี่เจสว่ะ”
“ฮ่า ๆ ของมันแน่อยู่แล้ว” พงษ์กอดอกยิ้มร่าพร้อมคุยโว
“อิจฉาอะไรวะ” ไอ้ฝิ่นเสนอหน้าเข้ามาในจอ แก้วถอดหูฟังข้างหนึ่งออกแล้วเงยหน้าไปมองมันซึ่งยืนอยู่ข้างหลัง
“พงษ์ไปแอบมีแฟนน่ะสิ จะแต่งงานกับคนนี้ด้วย” มันบอกพร้อมหน้าเง้างอ
“หึ” ไอ้ฝิ่นวางมือไว้บนหัวไอ้แก้วขณะที่แก้วหันกลับมา
สัมผัสที่ไม่มีความเคอะเขินตรงหน้า...ใครกันแน่ที่ต้องพูดว่าน่าอิจฉา แต่พงษ์ก็ยักคิ้วให้ฝิ่นก่อนมันจะเดินออกไป แม้ไอ้ฝิ่นจะรู้ว่าเขารู้สึกต่อไอ้แก้วยังไงแต่มันควรมั่นใจว่าเขาจะไม่ทำลายพวกมันแน่
“แต่พงษ์มึงต้องพูดกับพี่เจสเพราะ ๆ ถ้าเขาอยากทำอะไรมึงไม่ต้องห้ามไม่ต้องทำแทน ปล่อยให้เขาทำเอง มึงต้อง--”
“หยุด พอเลย แค่นี้นะกูง่วงละบาย” พงษ์หัวเราะร่วนพร้อมทำเสียงแข็งก่อนกดวางสาย
สีหน้าเฮฮาเมื่อครู่...จืดเจื่อนลง
(มีต่อ)
-
ยะถา วาริวะหา ปูรา
เอวะเมวะ อิโต ทินนัง
อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง
สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปา.........
ปะริปูเรนติ สาคะรัง
เปตานัง อุปะกัปปะติ
ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ
จันโท ปัณณะระโส ยะถา
มะณิ โชติระโส ยะถา ฯ
เขานั่งยอง ๆ บรรจงรินน้ำเป็นสายจากเต้ากรวดใส่ภาชนะรองรับ จิตใจจดจ่ออยู่แต่กับการอุทิศส่วนกุศลให้คนที่จากไปแล้วเป็นปี
พระภิกษุเดินออกไปแล้ว ชายหนุ่มในชุดเสื้อช็อปกับกางเกงยีนส์ขาด ๆ ตัวเก่าจึงลุกเดินไปยังเจดีย์เก็บเถ้ากระดูกซึ่งตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมสระหลังวัด
เขานั่งยอง ๆ อีกครั้งก่อนเทน้ำออกจากภาชนะรองรับใส่โคนต้นไม้ใหญ่ ด้วยสีหน้าท่าทางนิ่งเฉย
เรื่องราวในวันนั้น สั่งสอนเขามากกว่าสิ่งที่เคยเรียนและรู้มา หนึ่งปีกับการจากไปของเป้ง เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้ต้องคิดทุกย่างก้าว ก้าวอย่างระแวดระวัง ไม้กลายเป็นคนไร้ความมั่นใจในชีวิต รวมทั้งระแวงว่าคนรอบข้างจะก้าวพลาดอย่างตนไปด้วย สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ความกลัว แต่มันคือความรู้สึกผิดของคนที่ยังมีชีวิตต่างหาก
ไม้ นักศึกษาปี ๓ แผนกช่างยนต์ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่งเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกจากวัด เขาเดินตรงไปยังชายหนุ่มในชุดนักศึกษาซึ่งยืนพิงรถมอเตอร์ไซด์อยู่
“ทำไมมาไม่บอก” ไม้เอ่ยทักด้วยคำถาม หรือถ้าไม่บอก มาถึงนี่แล้วก็น่าจะเข้าไปหาในวัด
“ผมใส่บาตรอยู่หน้าวัดไปแล้วเลยยืนรอเผื่อพี่จะติดรถไปด้วย” แถตอบยิ้ม ๆ ก่อนขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซด์แล้วสตาร์ท
ครืดด ครืดดด ไม้พยักหน้าให้ก่อนล้วงมือถือออกจากกระเป๋าเสื้อช็อปมากดรับสาย
“ไปดื่มเป็นเพื่อนหน่อยสิ” ปลายสายกรอกเสียงมา เขาเหลือบมองหน้าคนที่สตาร์ทรถรอก่อนถอยหลังสองก้าว
“แต่เช้าเลยนะมึง กลับมาแล้วสิ” ตอบไปอย่างระอา “ไม่ว่างว่ะ”
“รู้คำตอบอยู่แล้วน่า” คนในสายตอบมาน้ำเสียงกลั้วขำก่อนวางสายไปทันทีทันใด
ไม้จึงเดินกลับมายังรถมอเตอร์ไซด์พร้อมรับหมวกกันน็อกจากมือวินประจำตัว
“ตั้งแต่วันนี้ไปมึงไม่ต้องมารับกูแล้วนะ กว่าจะไปถึงวิทยาลัย มึงน่ะอันตราย” รู้ดีว่ารุ่นน้องเป็นห่วง แต่วันนี้ตนควรเดินเองได้แล้ว มัวแต่เป็นภาระให้คนอื่นทั้งที่ตัวก็โตเท่าควาย ชีวิตอดีตประธานสายก็ตกต่ำเกินไปแล้ว อีกทั้งทางไปมหาวิทยาลัยก็คนละเส้นทางกับสถาบันเก่า คนที่ซวย ก็คือไอ้เด็กช่างที่ยังเรียนอยู่ที่เดิมนั่นแหละ
“...ครับ พี่ขึ้นรถเถอะ” โจ้หันข้างมายิ้มกว้างให้ พร้อมคำตอบรับหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
อยากให้มอเตอร์ไซด์พี่ไม้โดนแม่ยึดไปใช้ตลอด คือคำภาวนาของโจ้ทุกวัน
“ประธานสายไม่ควรมาวิทยาลัยคนเดียว ยิ่งขับมอเตอร์ไซด์มาเอง ยิ่งไม่ควร” ฝิ่น ประธานสาย๕x พร้อมพวกอีกสามคนเดินมาประกบข้าง ภายหลังจากรุ่นน้องเดินออกมาจากที่จอดรถ
หมับ...เฮือก! บ่าไหล่ถูกวางพาดด้วยท่อนแขนอันคุ้นเคย ไหล่ไม่หนักพอให้ทรุดแต่ใจทรุดตกไปอยู่ตาตุ่มตั้งแต่ได้ยินเสียงแล้ว
“หลบหน้ากูทำไม?” ฝิ่นถามเสียงเย็น
“ปะ เปล่าพี่ ใครจะไปกล้าหลบหน้าพี่ล่ะ” ยิ้มเจื่อนตอบไปพร้อมจับแขนที่พาดไหล่ยกออก “แหะ ๆ” แต่ดูเหมือนพี่ท่านจะไม่พอใจสักเท่าไหร่ หน้านิ่งเชียว
“นั่นสินะ เพราะถ้ามีใครกล้าล่ะก็--”
“เอ้อ ผมไปส่งพี่ไม้มาด้วยแหละ” โจ้ รีบเปลี่ยนเรื่องก่อนชะตาจะขาด ว่าไอ้ที่หายหน้าหายตาไปไม่ได้ตั้งใจหลบหนีไปไหน หากแต่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่างหาก...หน้าที่ ที่แต่งตั้งให้ตนเอง
“แล้วก็โดนสั่ง ว่าไม่ต้องไปรับไปส่ง” รุ่นพี่ตอกย้ำความจริง นาทีนี้ไม่มีใครรู้จักไม้ดีเท่าฝิ่นอีกแล้วล่ะ
“อื้อ เซ็ง ทำไมพี่ไม้ไม่ยอมรับนะว่าตัวเองยังไม่โอเค”
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ได้ยินหลังจากเหตุการณ์วันนั้นจนผ่านมาเป็นปี ความร่าเริง ความเข้มแข็งที่แสดงออกมามันก็แค่สิ่งหลอกลวง เพราะแววตาของรุ่นพี่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ไม่คิดถึงคนที่จากไป
“โจ้” ฝิ่นเรียกเสียงเรียบ
“ครับ?” รับคำพร้อมหันมองหน้า เผื่อพี่จะมีไอเดียดี ๆ ทำให้พี่ไม้กลับมาเป็นคนเดิมของทุกคน
“กูเรียนที่นี่อีกแค่ปีเดียว”
ทว่า จุดประสงค์ของประธานสายคนปัจจุบันกับโจ้ต่างกัน เรื่องที่คุยจึงบรรจบกันไม่ได้ ความสำคัญของหัวข้อสนทนาขึ้นอยู่กับ...ใครบ้าอำนาจกว่า คำพูดของฝิ่นซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุยกัน คำสั่งที่บีบให้ตอบรับสิ่งที่พี่ให้ หรืออีกนัยคือ เวลาตัดสินใจของไอ้โจ้สั้นเข้าไปทุกวัน
ประธานสาย คือ ผู้นำ ไม่มีใครไม่อยากเป็นผู้นำหรอก สอง-สามปีที่แล้ว ชีวิตเดินตามพี่ไม้ หนึ่งปีที่แล้ว ชีวิตเดินตามพี่ฝิ่น แต่ปีนี้ รุ่นพี่จะให้เดินด้วยตนเอง นั่นไม่ใช่ปัญหา
หากแต่...ต้องพาคนทั้งสาย๕x เดินไปด้วยนี่สิ เรื่องใหญ่ ไอ้โจ้คนนี้ คนที่เกิดมาเพื่อตาม จะทำมากกว่านี้ได้ยังไง
“สิ่งที่กูให้มึง คือเบอร์หนึ่ง ไม่ใช่เพราะมึงสนิทกู แต่เพราะกูเชื่อว่ามึงทำได้ ประธานสายไม่ใช่แค่ผู้นำอย่างที่มึงกลัวหรอก แต่ประธานสายคือคนที่พร้อมจะเดินไปกับเพื่อนต่างหาก”
หลายครั้ง เขาก็นึกอิจฉา บางคนไม่มีตำแหน่งด้วยซ้ำแต่ยังถูกยกย่อง นับหน้าถือตา เดินเคียงข้างประธานสายโดยไม่มีใครกังขา แต่คนที่กล้า ในสิ่งที่รุ่นพี่สั่งคนนี้นี่สิ ไม่รู้ว่ารุ่นพี่เห็นอะไรถึงได้กล้าเอาตัวเองมาประกันกับตำแหน่งนี้ ถ้าหากไอ้โจ้ทำอย่างที่พี่ฝิ่นเชื่อมั่นไม่ได้ คนที่โดนเหยียดหยามก็คือรุ่นพี่เอง
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมทำไม่ได้หรอกพี่” ปฏิเสธรอบที่เท่าไหร่นับไม่ได้ การหลบหน้ารุ่นพี่คนนี้ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนใจเลยให้ตาย
“ชีวิตมึงจะเป็นเบ๊ไปตลอดรึไงวะ”
“ผมภูมิใจที่ได้ตามพี่ครับ” โจ้ยิ้มกว้างให้ ตอบอย่างจริงใจ
“กูไม่ได้อยู่กับมึงไปตลอด อย่างช่วงนี้ที่กูจะให้มึงขึ้นมาก็เพราะกูยังอยู่กูยังพอดูมึงได้ แล้วมึงคิดสิ ต่อไปไม่มีกู มึงจะอยู่ยังไง กูไม่ดีใจหรอกนะที่ให้น้องกูไปตามตูดคนอื่นต้อย ๆ น่ะ” ฝิ่นบอกอย่างไม่สบอารมณ์
“แต่ผม-“
“มึงมีความรับผิดชอบให้กูเหลือเฟือ ตอนนี้กูอยากให้มึงรักตัวเองให้มากแล้วมาอยู่ตรงนี้แทนกู ถ้ามึงทำไม่ได้ แม้แต่เดินตามพี่ไม้ มึงก็ไม่มีสิทธิ์”
แล้วถ้าเป็นประธานสาย จะสามารถเดินเคียงข้างพี่ไม้ได้ไหม?...โจ้อยากจะถามพี่ฝิ่นเหลือเกิน
“ผมต้องแกร่งเท่าไหร่ถึงจะยืนไหววะพี่”
“ขึ้นอยู่กับความหน้าด้านของมึงและมึงลืมไปรึเปล่า ต่อให้มึงไม่เอา ถ้ากูจะให้มึงเป็น มึงก็ต้องเป็น” ประธานสาย๕x บีบไหล่รุ่นน้องก่อนโปรยยิ้มเย็นให้แล้วเดินนำเพื่อนอีกสองคนไป
โจ้ ซาบซึ้งใจจนเข่าอ่อน...
“เหี้ยโจ้กูบอกไม่ต้องมารับ แล้วมึงก็ครับซะเข้าใจ” ไม้เอาหนังสือเล่มที่ม้วนอยู่ในมือฟาดมาที่หัวโจ้ไม่แรงนักพร้อมยกขาพาดอานมอเตอร์ไซด์คันซึ่งนั่งซ้อนมาเมื่อเช้า
“บังเอิญหรอกพี่ ผมมาส่งเพื่อนแถวนี้น่ะเลยแวะมา” โจ้บิดมอเตอร์ไซด์พลางบ่นอย่างหัวเสียพร้อมมองรุ่นพี่ผ่านกระจกมองข้าง
อยู่กันอย่างนี้ก็ดีแล้ว เฝ้ามองเวลาที่พี่เหม่อลอย คอยสนับสนุนความคิดความต้องการของพี่ แค่ได้อยู่ตรงนี้ มองพี่ด้วยความชื่นชม
ชื่นชมพี่แทนพี่เป้ง เท่านี้...ที่มือโจ้เอื้อมถึง
ไม่ว่าจะเป็นอะไร ถ้าพี่ไม้ไม่สนใจซะอย่าง จะเดินนำ เดินตาม หรือเดินอยู่ข้าง ๆ ก็เป็นได้แค่อากาศเท่านั้นล่ะ
(มีต่อ)
-
“ลูกขวัญ นี่คืออะไร?!” เสียงแหวดังเหนือหัว
ภาพถ่ายหลายใบกระจายร่วงสู่เตียงนอนด้วยมือของแม่ รูปถ่ายตั้งแต่ไอ้ไม้ลงจากรถ พยุงพาเดินเข้าลิฟท์ ภาพจากกล้องวงจรปิดในลิฟท์ยันหน้าห้อง ที่ระบุเวลาเข้า-ออกหลายชั่วโมง สาเหตุที่แม่โทรตามให้กลับมาที่รีสอร์ทวันนี้ คอนโดที่แอบซื้อไว้โดนจับได้แล้วสินะ
“นี่คุณแม่สะกดรอยตามขวัญเหรอ?” เงยหน้ามองแม่พร้อมเอ่ยถามเสียงเหวี่ยงด้วยความไม่พอใจ
“ก็ถ้าแกกลับไปนอนที่โรงแรมทุกวันฉันก็ไม่ทำแบบนี้หรอก” คำตอบยืดยาวไม่ต่างจากแม่ตอบ เออ สั้น ๆ หรอก
“ขวัญเบื่อ ขวัญจะอ้วกแล้วแม่ ขวัญอยากอยู่บ้านที่เป็นบ้าน ไม่ใช่บ้านที่เป็นที่ทำงาน ที่นั่นรอบตัวขวัญมีแต่สิ่งที่เรียกว่างาน ลืมตาอ้าปาก แม้กระทั่งหายใจทุกอย่างคืองานหมดเลย ขวัญเกลียด แม่เข้าใจขวัญไหม” ลูกขวัญพรั่งพรูออกมายาวเหยียด เกลียดแม้กระทั่งเวลามองหน้าพ่อตนเอง พ่อผู้แสนดี เหอะ เกลียด...กระทั่งใช้ชีวิตอยู่ในร่างกายนี้
“ลูกขวัญคะ โรงแรมนั้นจะเป็นของลูก ลูกอยู่ที่นั่นก็ถูกแล้ว ลูกควรมีความสุขที่สุดนะคะ เชื่อแม่สิ” ผู้เป็นแม่เสียงอ่อนลง พลางนั่งลงข้างกันพร้อมยกมือมาลูบหลังปลอบประโลม
“เราอยู่ที่นี่มากี่ปีแล้วแม่...ขวัญจะขาดใจตายตั้งแต่วันแรกที่มาเหยียบที่นี่จนตอนนี้ขวัญก็ยังเกลียดไม่หาย แล้วขวัญจะมีความสุขได้ยังไงครับ”
“แต่ทุกอย่างคือของของแก! เป็นสิ่งที่แกควรได้และต้องได้ แกไม่มีสิทธิ์ไม่ชอบหรือไม่ต้องการ สิ่งที่แกควรทำคือยิ้มรับมันอย่างมีความสุข เหมือนชีวิตแกทุกวันนี้ไง” แม่จับสองไหล่พลางจ้องหน้าบอกเสียงหนักแน่น รอยยิ้มของแม่ คือสิ่งที่ขวัญรักที่สุดในชีวิต “ลูกขวัญของแม่ จะทำทุกอย่างตามที่แม่บอกใช่ไหมคะ”
“คุณแม่ร้องไห้ทำไม” ลูกขวัญในวัยเด็กมองหน้าแม่ฉงนหลังจากพ่อออกจากบ้านไป พ่อที่นาน ๆ มาหาแต่ไม่เคยมีสักครั้งตั้งแต่จำความได้ว่าพ่อเคยนอนด้วยกันที่บ้านหลังนี้
“คนบ้านนั้น เพราะผู้หญิงคนนั้นกับลูกของมันทำร้ายแม่กับขวัญ”
“ที่นี่ที่ไหนครับแม่” ขวัญแหงนหน้ามองแม่ซึ่งจูงมือไว้อยู่ แม่ซึ่งมองตรงไปยังบ้านหลังใหญ่เบื้องหน้าพร้อมรอยยิ้ม
“บ้านของเราไงลูก เรามาก่อน เราต้องทวงของของเราคืน”
“ขวัญเกลียดที่นี่ เกลียดทุกคนที่นี่!” ขวัญมองตามสายตาแม่พร้อมประกาศกร้าว
“พี่มาเล่นด้วยกันสิครับ” คนอายุน้อยกว่าถือรถบังคับในมือพร้อมเอียงหน้าอ้อนใส่ “คุณแม่บอกว่าพี่เป็นลูกเพื่อนคุณพ่อ ดีจังเลยนะครับแก้วเหมือนมีพี่ชายเลย แก้วอยากมีพี่ชายครับ”
“ฮึก ฮึก” คนอายุน้อยกว่าปีเดียวในชุดสีดำดึงชายเสื้อไว้ไม่ยอมปล่อย
“น่ารำคาญ ไปไกล ๆ ไป!” ลูกขวัญดึงมือออกก่อนผลักคนตัวเล็กกว่าให้ล้มลงไป
“คุณพ่อบอกว่าเราเป็นพี่น้องกัน หมายความว่ายังไงครับ? แล้วทำไมคุณแม่พี่ลูกขวัญต้องว่าแม่แก้วว่าเป็นคนไม่ดี” เด็กชายตัวน้อยพูดไปน้ำหูน้ำตาไหลไป
“เพราะแม่มึงเป็นเมียน้อยแย่งพ่อไปจากแม่กูไงล่ะ และมึงก็คือไอ้ลูกเมียน้อย ไอ้มารหัวขน ถ้าไม่มีมึงพ่อก็จะมีลูกคนเดียวคือกู พ่อจะต้องอยู่กับกูทั้งวันทั้งคืน พ่อจะต้องไปโรงเรียนกับกูทุกครั้งที่มีงาน คนที่สมควรโดนล้อว่าลูกไม่มีพ่อต้องเป็นมึง ไม่ใช่กู!”
น้ำมูกน้ำตาสีใสของอีกคนกลายเป็นกำเดาสีแดงสดจนลูกขวัญต้องตกใจตาม
“ไอ้ ไอ้แก้ว” ขวัญลนลานมองซ้ายมองขวาก่อนคุกเข่านั่งลงตรงหน้าลูกแก้วแล้วดึงชายเสื้อสีดำของตนเช็ดจมูกให้น้อง
“ลูกขวัญ! ทำอะไรน่ะ” แม่ดึงตัวขวัญจนถลาถอยออกห่างก่อนพยุงลูกชายลุกยืนแล้วปัดฝุ่นออกตามเสื้อผ้าให้
“ลูกแก้วเลือดกำเดาไหลอีกแล้วแม่” ขวัญเงยหน้าบอกแม่เผื่อแม่จะช่วยให้กำเดาน้องหยุด
“ปล่อยมันไว้อย่างนี้แหละ” แม่บอกอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนก้มหน้าลงไปใกล้ลูกแก้วพร้อมกระซิบแผ่วเบา “ให้มันตายตามแม่มันไปเลยยิ่งดี” แม่ยิ้มแล้วจูงแขนขวัญเดินจากไป
ความสุขของแม่คือความทุกข์ของไอ้แก้วกับแม่มัน ขวัญจำได้ขึ้นใจ
“ใช่ไหมคะลูก” แม่ถามย้ำเมื่อลูกเงียบไปนาน
“...ครับ” ขวัญมองเข้าไปยังนัยน์ตาเปล่งประกายของแม่ ถ้าขวัญทำได้ แม่คงมีความสุขมาก
“อ้อ อีกอย่าง แม่ไม่ชอบที่ลูกโอบกอดกับผู้ชายเลย แล้วไอ้กุ๊ยนั่นแม่จำได้มันมากับไอ้แก้ว ลูกขวัญจะไม่เป็นเหมือนไอ้ลูกเมียน้อยใช่ไหมคะ อย่าลืมนะว่าคุณพ่อต้องรักลูกขวัญมากที่สุด ลูกจะไม่ทำให้แม่ผิดหวังใช่ไหมคะ” แม่ยื่นมือมาลูบศีรษะอย่างเอ็นดู แววตาที่ภาคภูมิใจในตัวลูกชายฉายประดับบนหน้าแม่เด่นชัด
ลูกขวัญยกมือขึ้นกอบกุมมือแม่ไว้แนบแก้มก่อนหลับตาลง
“...ครับคุณแม่”
ลูกแก้ว ลูกขวัญ ลูกที่พ่อแม่รักที่สุด เหอะ จะรักที่สุดได้ยังไงในเมื่อไอ้ขวัญคือลูกนอกสมรส แถมไม่ต้องสืบให้ยาก ชื่อนี้ก็ตั้งตามไอ้แก้วล้วน ๆ
แต่ลูกขวัญยังต้องเป็นที่รักของทุกคน แม้ไอ้พงษ์ไม่รักก็ตาม
........................................................
สวัสดีค่ะทุกคน /หมอบกราบ มองให้เป็นตอนพิเศษนะคะ :katai5:
:mew2: คือ คือ เค้าจะรวมเล่มอะค่ะ เลยเอาตอนพิเศษที่จะใส่ในเล่มมาอวด ใน word มันสิบหน้านะคะแต่ลงในนี้น่าจะสั้น :hao5: แบ่งพาร์ทงงไหมคะ ในเล่มก็จะประมาณนี้แหละ T^T
ตอนแรกกะว่าเล่มน่าจะเสร็จกลางเดือนนี้ แต่เลยมาถึงวันนี้ก็ลืมมันซะเถอะ ฮ่าาา คือเรากำลังเพิ่มตอนพิเศษอีกตอน การรวมเล่มจึงเลื่อนออกไปอีก แต่สัปดาห์หน้าจะไปขอราคาที่โรงพิมพ์ แล้วจะแจ้งในเพจกับในเล้าอีกทีค่ะ กำลังลังเลว่าจะทำเล่มเดียว 600 กว่าหน้า เป็นคู่แข่งกับหนังสือดูดวงของคุณตา นอนอ่านอยู่หล่นใส่หน้าดั้งหักพอดี /ร้องไห้ หรือจะแบ่งสองเล่ม 300กว่าหน้าก็จะบางไป :o12:
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ นิยายจบไปนานมากกกกก ก็ยังมาเม้นท์ให้ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ เราอ่านทุกคอมเม้นท์นะคะเพียงแต่ไม่ได้เข้ามาตอบเพราะนิยายไม่ได้อัพเดทอะไร แต่ปลื้มปริ่มจริง ๆ ค่ะ^^ กอด ๆ จุ้บ ๆ
ปล.ภาพร่างประธานสาย ๕x (ซึ่งไม่เกี่ยวกับตอนพิเศษ ว่าซื่อ ๆ อยากอวด ฮ่า ๆ)
(http://www.uppic.org/image-8BE7_553A42AA.jpg)
-
จิ้มไว้ก่อน พุ่งนี้จะเข้ามาเม้นนะคะ อย่าลืมมาอ่านน้าาาาา
ปล.ยังไม่อ่าน ยังไม่เม้น แต่ที่เเน่ๆเอาหนังสือแน่ๆ รอมานานจนเก็บกดความอยากไม่ไหวเเล้วววว
-------------------------------------------------------------
กลับมาเเว้วววววววววว ขอโทษนะคะที่เมื่อวานไม่ได้มา
มีเเต่เรื่องคาใจเต็มไปหมดเลยยยยยยยย อดใจไม่ไหวจนต้องไปเม้นที่หน้าเพจซะเเล้ว
แต่ที่กลับมาที่นี่ เพราะ......อยากร่วมลุ้นไปกับ พงษ์ ขวัญ ไม้ โจ้ เอามากๆ
คือไม่อยากให้พงษ์ไปอยู่กับชะนีเเล้วอ่ะ ในฐานะที่เราเป็นชะนี ก็ไม่อยากมีสามีที่คิดอะไรลึกซึ้งกับผู้ชายมาก่อน
แล้วเห็นค่าของเราเเค่มีมดลูก.........
คนเเต่งจะไม่ขยายเรื่องออกมาเเล้วก็ไม่เป็นไร แต่มะนจะมีบทสรุปของทุกคนให้เราอ่านอยู่ใช่มั๊ยคะ
เพราะเราคิดไม่ออกเลยว่าพงษ์จะรักขวัญได้ เเต่ถ้าเป็นไม้ขวัญ หรือไม้โจ้ 2 อันนี้คิดหนักมาก มันพาให้คิดจริงๆ
แต่ยังไงก็ไม่อยากให้พงษ์ได้กับชะนีจริงๆนะ....... :o11:
แต่ถ้ามันได้จริงๆ.......ก็ขอให้พงษ์มีความสุข....ขอให้โลกนี้สงบสุขมากๆนะคะ o7
เป็นกำลังใจให้คนเเต่งงงงง คลอดน้องๆออกมาเร็วๆ สู้ๆๆๆๆๆ
รอเรื่องใหม่ด้วยนะ พูดเลยยยยยยยยยยย :กอด1: :L2:
-
กรีสร้องงงง #@!!=+\%&#*!@!## :-[
เปิดจองเลยคร่าาา เปิดจองเลยยยย เค้าจองงง
ว่าแต่ ในเล่มมีตอนพิเศษ ฝิ่น-แก้วเยอะมั้ยอ่า
ถ้ายังไม่มี ก้อมีเพิ่มเลยดีป่าวคร้าาาา :hao6:
-
ดีใจ น้ำตาไหล
คิดถึงน้องแก้ว น้องฝิ่น. ออกมาแค่นี้พี่ก็ชื่นจายยย :hao5:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ตกลงพงษ์นี้คือยังไง คือรักแก้วแต่รับตัวเองไม่ได้สินะ ถึงค่อยบอกแก้วให้เป็ลูกผู้ชาย อย่าร้องไห้ ไม่โอ๋ ไม่กอด
ที่แท้ก็เพื่อปิดบังความรู้สึกตัวเองด้วยสินะ เป็นไงหล่ะหมาคาบไปแ-กเลย :angry2:
เอาจริงๆ คือเชียร์พงษ์นะคือดูแลมาขนาดนี้มันเกิดพี่ชายมากๆ แต่ตอนไกลๆจบนั้นคนเขียนเคีลยร์ชัด จูบปากด้วย
ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เลยตัดใจอืมไม่เชียร์ก็ได้ แต่มาอ่านตอนพิเศษนี้สงสารเหมือนกันนะเนี่ย :o12:
คือก่อนหน้าไม่เคยรับรู้ความรู้สึกพงษ์ในมุมนี้เลยอ่ะ(คนเขียนไม่เคยบรรยายมาแนวนี้เลย) อ่านแล้วคืออึ้งไปเลย
ลุ้นว่าตกลงเรื่องของพงษ์นี้จะจบยังไง แต่งงานมีลูก หรือจะหักมาเป็น 3P เลยก็ไม่ว่านะ :m25:
ไม้กับโจ้นี้ก็โอเคตามนั้นเห็นเค้ารางตั้งแต่ก่อนจบแล้ว ส่วนลูกขวัญก็ไม่เหลือใครเลย สมมมม
ปล.ไม่พลาดหนังสือแน่ๆ
-
ดีใจมากที่ได้อ่านตอนพิเศษ แล้วรอๆกะบการรวมเล่มนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ!!
-
ท่าทางขวัญจะดราม่าไปอีกนาน
-
หลังจาก หนังสืออกแล้ว มีหวังจะเห็นภาคต่อ ไหมอ่า ????
หลังจาก อ่านตอนพิเศษที่เอามาวางแล้ว แอบหวังนะ (หวังมากด้วย)
หลังจาก อ่านตอนพิเศษแล้ว อยากให้พงษ์มีจุดจบที่ดีกว่าการต้องฝืนใจปั้มลูก แต่ก็ไม่อยากให้ได้กับขวัญนะ ไม่รู้สิ น่าเห็นใจมากนะพอมาเปิดหงายไพ่ ที่เผยให้เห็นความรู้สึกในใจที่คนอ่านทุกคนไม่เคยรู้ หรือบางคนอาจจะแอบสงสัยมาโดยตลอด
แล้วก็ ไอโจ้เอ้ยย น้องน้อยผู้เสียสละ ตลอดกาลสินะ ลุ้นมาตลอดว่ายังไงก็ต้องคิด แล้วก็คิดจริงๆ รู้สึกปลื้มปริ่มและสงสาร อย่าโดนกระทืบตายนะ ข้าเป็นกำลังใจให้เจ้านะ เจ้าหมาน้อยผู้ซื่อสัตย์และภักดีต่อผู้เป็นเจ้าของหัวใจ ฝุด ฝุด
-
หลังจาก หนังสืออกแล้ว มีหวังจะเห็นภาคต่อ ไหมอ่า ????
หลังจาก อ่านตอนพิเศษที่เอามาวางแล้ว แอบหวังนะ (หวังมากด้วย)
หลังจาก อ่านตอนพิเศษแล้ว อยากให้พงษ์มีจุดจบที่ดีกว่าการต้องฝืนใจปั้มลูก แต่ก็ไม่อยากให้ได้กับขวัญนะ ไม่รู้สิ น่าเห็นใจมากนะพอมาเปิดหงายไพ่ ที่เผยให้เห็นความรู้สึกในใจที่คนอ่านทุกคนไม่เคยรู้ หรือบางคนอาจจะแอบสงสัยมาโดยตลอด
แล้วก็ ไอโจ้เอ้ยย น้องน้อยผู้เสียสละ ตลอดกาลสินะ ลุ้นมาตลอดว่ายังไงก็ต้องคิด แล้วก็คิดจริงๆ รู้สึกปลื้มปริ่มและสงสาร อย่าโดนกระทืบตายนะ ข้าเป็นกำลังใจให้เจ้านะ เจ้าหมาน้อยผู้ซื่อสัตย์และภักดีต่อผู้เป็นเจ้าของหัวใจ ฝุด ฝุด
ไม่มีภาคต่อของเรื่องนี้แล้วค่า ตอนแรกว่าจะขยายยาว เขียนไปเขียนมาเราไม่สนุกเอง ^^
-
แอบดีใจ ได้ข่าวจะมีรวมเล่มเรื่องนี้ >_<
ส่วนตอนพิเศษ (รึป่าว?) ตอนนี้ แอบเอ็นดูพี่ไม้พี่ขวัญนะ
-
ไม่มีภาคต่อของเรื่องนี้แล้วค่า ตอนแรกว่าจะขยายยาว เขียนไปเขียนมาเราไม่สนุกเอง ^^
ร้องไห้หนักมาก :o12:
-
สนุกกก
อ่านแล้วก็คิดถึง :กอด1:
-
อารายยังงายยยย
-
ถ้าพงษ์คู่ขวัญนี่คงอกแตกตายมากๆเลย ฉันทำใจไม่ได้ :katai1:
ปอลิง: รอหนังสือต่อปายยยยย
-
ตอนพิเศษดีงามมมมม ขอบคุณนะคะ
-
ขอบคุณ :)
-
เคยอ่านเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้ว จำรายละเอียดไม่ค่อยได้ (เลยอาจทำให้ไม่ค่อยเกลียดใครแล้ว)
โดยส่วนตัวรู้สึกว่าขวัญน่าสงสารนะ เหมือนพยายามไขว่ขว้าความรักจากพงษ์(ที่ไม่มีวันรักตอบ) จากพ่อซึ่งก็ไม่ค่อยรัก(มั้ง) จากแม่ดูเหมือนก็ไม่ค่อยสนใจลูก เอาแต่กดดันให้เป็นอย่างที่ต้องการ อยากให้ขวัญเจอทางออกที่ดีกว่านี้ เพราะอ่านแล้วน่าสงสารอ่ะ
(คือ เราก็จำไม่ค่อยได้แล้วว่านางทำอะไรไว้บ้าง... แต่จำได้ว่าถ้าอ่านตอนที่มาจากด้านของขวัญจะรู้สึกว่าน่าสงสารอ่ะนะ)
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
ปล.คนเขียนวางแผนจะทำ e-book ด้วยมั้ยอ่ะ
-
สนุกดีนะ
แต่ตอนกลางเรื่องเครียดดีนะ
-
ชอบมากครับ...
-
คิดถงจังเลยยยยยยยยยยยยยยยยยย :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
ฟินจิกหมอน สุดๆๆๆ :laugh: :o8: :-[
-
รอเชียร์
ขวัญ-พงษ์
โจ้-ไม้
-
อ่านตอนแรกแล้วเนื้อเรื่องน่าติดตามดีค่ะ
-
สนุกดีครับ ผูกปมไว้ซับซ้อนลุ้นน่าติดตาม เล่นเอาคลายปมจนตอนจะจบหายใจหายคอไม่ออกทั้งเรื่องเลย
:katai1: :katai1: :katai1:
ตอนแรกเกือบจะไม่กล้าอ่านแล้วเชียว กลัวจบไม่ดี
ขอบคุณครับ
-
เรื่องนี้สร้างความทรงจำ และเปิดมิติใหม่ให้เราเห็นเยอะเลย เร่เรียนสายสามัญตลอด เลยไม่ค่อยเข้าใจเด็กสายอาชีพเท่าไหร่ แต่อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้เรารู้สึกว่าพวกเขาก็มีเหตผลของเขาอ่ะนะ
พูดไม่เก่ง แค่อยากจะบอกว่า#ขอบคุณที่ทำให้เรารู้สึกดีตลอดเวลาที่อ่านเรื่องนี้
-
อ่านจบแล้ว สนุกมากๆๆ ค่ะ o13
เป็นนิยายที่ช่วยเปิดโลกทัศน์เราโดยแท้
อินจัดจนอยากไปส่องหนุ่มๆ ช่างกลเลยล่ะค่ะ
สำหรับฝิ่นกับแก้ว ความสัมพันธุ์แนบแน่นจนยากที่จะมีใครหรืออะไรมาแยกแล้วล่ะค่ะ
แต่สำหรับ พงษ์ ขวัญ ไม้ โจ้ ก็ยังต้องสู้ต่อไป
จะรออ่านต่อนะคะ
ขอบคุณที่สร้างสรรค์นิยายดีดีเรื่องนี้ขึ้นมานะคะ :L2:
-
อร๊ายยยยย ดีใจ พูดไม่ออกเลอ
-
ทำไมอ่านแล้วชอบคู่พี่ไม้กับของขวัญฟะ!! 5555
แอบสงสัยโจ้นะ มีซัมติงอะไรกะเฮียไม้ป่ะ? แอบคิดนิดๆนะ เหยยย คึคึคึ
-
รู้สึกว่าตัวเองมาช้ามากแต่ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้จริงๆ ชอบทุกอย่างที่สอดแทรกอยู่ในนิยายเรื่องนี้ เรื่องของเด็กช่างความรู้สึกที่คนนอกไม่มีทางรับรู้ ความรักมิตรภาพระหว่างเพื่อน ความรักหลากหลายรูปแบบซึ่งเราว่ามันครบมากจริงๆ เป็นเรื่องที่แบบกลัวใจคนแต่งมากในการอ่านแต่ละตอนว่าจะต้องเจอกับอะไรไม่คาดฝันดีอีกไหม นี่ขนาดมาอ่านตอนที่เรื่องจบแล้วยังลุ้นมากขนาดนี้ไม่อยากนึกถึงคนที่ตามมาแต่ต้นเลย สงสารแก้วมากเรื่องนี้แบบโถ่ !~ ลูกแก้วชีวิตหนูกว่าจะมีความสุขมากขนาดนี้เจออะไรมาเยอะเกินไปด้วยซ้ำ แต่แก้วเข้มแข็งมาก บางทีอาจจะมากกว่าทุกคนที่ใช้กำลังเข้าชนด้วยซ้ำ แก้วแบบยอมใจในเด็กตัวเล็กๆ คนนี้จริงๆ ของแค่ให้คนที่ตัวเองรักไม่ต้องเจ็บปวดแก้วยอมทำทุกอย่าง คนที่เข้มแข็งที่สุดในเรื่องคือแก้วนะจริงๆ เป็นเราเจอขนาดนี้หนีไปแล้วไม่ทนเผชิญมากมายสาหัสขนาดนี้แน่ๆ แรกๆ อ่านแล้วมาจะโหวงๆ นิดนุงเรื่องของเป้ง แต่แบบเราหลงรักพี่ฝิ่นตั้งแต่ฉากแรงที่นางแบดออกมา ซาดิสมาก 55555 ^^ แต่แบบคนนี้พระเอกแน่ๆ ไม่อ่อนโยนแต่อบอุ่นอ่ะ แต่แบบบางช่วงก็สาปแช่งไม่ให้เกิดเหมือนนะบอกตามตรงยิ่งตอนที่ทำร้ายจิตใจแก้วนะอยากจะฆ่าด้วยมือตัวเองเลย ชอบมิตรภาพของพงษ์กับแก้วมากชอบเวลาพงษ์เรียกแก้วว่าตัวเล็ก ไม่รู้นะว่าความรู้สึกจริงๆ มันเป็นยังไงแต่เราว่าสองคนนี้มันมากกว่ารักไปแล้วอ่ะ ไม่น่าใช่รักแบบคนรักมันมีอะไรมากกว่านั้น พงษ์ยอมแลกทุกอย่างเพื่อปกป้องแก้วชอบมุมนี้มากจริงๆ เลี้ยงน้องดีจนเราแบบทำไมดีขนาดนี้ ยอมให้ใครมองตัวเองเลวตัวเองแย่ยังไงก็ได้เพื่อเป็นเกาะให้แก้ว พิมพ์แล้วจะน้ำตาไหล :) พี่ไม้ชอบคาแรกเตอร์นี้จริงๆ มองทุกอย่างได้เฉียบขาดสงสารก็ตรงปมในหัวใจพี่เขานั่นแหละ พูดไม่ค่อยออก ณ จุดๆ นี้นะ ดีใจที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้นะคะเป็นเรื่องที่อ่านแล้วแบบต้องอ่านให้จบไม่งั้นคงนอนไม่หลับแน่ๆ 5555 เราว่ามันคือนิยายคุณภาพมากเรื่องนึงเลย ภาษาเข้าใจง่ายๆ แต่มันก็สวยในตัวของมันเองชอบมากจริงๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ
-
อ่านรวดเดียวจบเลยสนุกมากก ชอบคาแร็กเตอร์อิพี่ฝิ่นมาก แต่งดีค่ะชอบๆ
-
สนุกมาก ขอบคุณค่ะ :mew1:
-
อ่านจบแล้วววววว สนุกมาก ไม่ต้องมี NC เยอะ แต่ก็น่าอ่าน5555 ไม่ค่อยได้อ่านเกี่ยวกับเด็กช่างสักเท่าไหร่ ถือว่าได้เปิดมุมมองใหม่ๆๆ ขอบคุณที่แต่งนิยายให้พวกเราๆได้อ่านกันค่ะ :mew1:
-
สนุกมากคะ ติดเรื่องมาก เพิงโอกาสมาเม้นท์ อ่านแล้วเครียดสุดติ่ง อ๊ากกกแต่ก็สนุกสุดๆ ขอบคุณที่แต่งเรื่องมาให้อ่านจ้า
-
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ เคยอ่านมาหลายเรื่อง แต่อยากบอกว่าเรื่องนี้ มีทุกอารมณ์จริงๆๆ ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งสนุก โดยเฉพาะการเท้าความถึงความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละคร มันทำให้น่าอ่าน เนี่ยก็ซึ้งกับความสัมพันธ์ระหว่าง พงษ์กับแก้ว อ่านแล้วซึ้งใจกับมิตรภาพของทั้งสองมากๆๆ..ขอบคุณจริงๆที่แต่งได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ มาให้คนอ่านได้รับถึงอรรถรสอย่างแท้จริง..รักเรื่องนี้มากๆๆๆ :mew1:
-
ผมชอบนิยายเรื่องนี้มาก ผมชอบในความสัมพันธ์ความรักของพงษ์กับแก้ว มันอบอุ่น มันไม่ใช่ความรักแบบชู้สาว มันเป็นรักที่มีแต่ความห่วงใย ความปรารถนาดี เป็นสายใยที่เหนียวแน่นมากกว่าพี่น้องแท้ๆเลยด้วยซ้ำ ยิ่งตอนที่ตามหาแก้ว แล้วพงษ์ไปเจอแก้วอยู่ที่ลำธาร ตอนนั้นผมแทบน้ำตาไหลกับที่พงษ์รู้สึกโล่งใจและเรียก "ตัวเล็ก"ของเขา แถมยังใจกว้างให้กับฝิ่น โดยบอกตัวเล็กว่า "อยากเล่นน้ำทำไมไม่บอก รู้ไหมว่าฝิ่นมันเป็นห่วงมาก" ประโยคนี้ ผมกลับมาอ่านหลายรอบมาก ว่าคนเขียนเขาเขียนผิดหรือเปล่า แต่ไม่ใช่เลย แต่พงษ์เขาห่วง ความรู้สึกของน้องมาก..อยากมีพงษ์ในโลกจริงซะแล้ว...ชอบตัวละคร พงษ์ มากๆๆ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
นิยายน่ารักมาก คนแต่งแต่งมานานแล้วแต่เพิ่งมีโอกาสได้อ่าน เคยมีคนแนะนำมาหลายครั้งแล้วแต่ครั้งนี้เริ่มอ่าน
บอกเลยว่าสนุกมาก ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่แต่งมาให้พวกเราได้อ่านกันน่ะครับ
-
เราทุกคนก็คงรู้วันเกิด แต่มีสักกี่คนที่รู้วันตาย
ก่อนทุกอย่างของฉันจะสายเกินไป
แม้อะไรดีๆมีไม่เท่าไหร่ แต่จะขอใช้สักวัน
เรื่องหัวนอนปลายเท้า ไม่ค่อยจะมี
แต่หัวใจยังดี ฉันขอยืนยัน
ไม่เคยแบ่งให้ใครเก็บไว้มานาน
ขอให้มันเป็นวันที่ฉันได้บอก บอกเธอให้รู้สักที
ยินดีให้เธอรับไป ภูมิใจที่จะรับฟัง
ได้เกิดมาหนึ่งครั้ง ฉันยังไม่ทำในสิ่งนี้
ถ้าหากพรุ่งนี้ฉันตาย ก็คงจะไม่เสียที
ชีวิตฉันถึงมันไม่ค่อยรักดี วันนี้ฉันยังได้รักเธอ
ไม่จำเป็นต้องรู้ พรุ่งนี้เป็นไง
มันจะเกิดอะไร ฉันพร้อมจะเจอ
หากต้องจากกันไกล ใจฉันมีเธอ
ฉันเป็นคนๆนึงที่ไม่เลิศเลอ แต่ความรักแท้ยังมี
ยินดีให้เธอรับไป ภูมิใจที่จะรับฟัง
ได้เกิดมาหนึ่งครั้ง ฉันยังไม่ทำในสิ่งนี้
ถ้าหากพรุ่งนี้ฉันตาย ก็คงจะไม่เสียที
ชีวิตฉันถึงมันไม่ค่อยรักดี วันนี้ฉันยังได้รักเธอ
คำว่ารักเธอ หลุดออกจากปากจากฉันไป
ก่อนจะหายไป มั่นใจแล้วว่ามันดี
คำว่ารักเธอ ที่หลุดออกจากหัวใจ
ก่อนที่ฉันตาย ขอให้ได้พูดคำนี้
ยินดีให้เธอรับไป ภูมิใจที่จะรับฟัง
ได้เกิดมาหนึ่งครั้ง ฉันยังไม่ทำในสิ่งนี้
ถ้าหากพรุ่งนี้ฉันตาย ก็คงจะไม่เสียที
ชีวิตฉันถึงมันไม่ค่อยรักดี วันนี้ฉันยังได้รักเธอ
:;ก่อนตาย Big Ass :: (ชอบเพลงนี้ ตรงไม่ตรงไม่รู้5555 ฟังดูเข้มแข็งเหมาะที่เด็กช่างจะร้องให้กับคนที่รัก วรั้ยยยย เขินนนน!!!)
รักเรื่องนี้โคตรๆเลยว่ะ สนุกมาก มันหลากหลายความรู้สึก ทั้งสุข ทั้งเศร้า บีบคั้นหัวใจ อารมณ์ปนกันมั่วไปหมด แต่ก็มีความสุข รู้สึกรักตัวละครทุกคน o18 โดยเฉพาะ พงษ์...เราสามารถหาคนแบบนี้ได้จากที่ไหน ความรู้สึกที่พงษ์มีให้กับแก้ว มันมากกว่าพี่ชายแท้ๆมันมากกว่าคนรัก มันมากกว่าเพื่อน รักจริงๆ ❤
เราคิดว่าตัวเราเหมือนกับโจ้ 5555555 เรารักในความรักเพื่อนของพวกเขา :z6: รักมิตรภาพที่มีให้แก่กัน พี่ฝิ่น..!!! พี่แม่งโคตรเท่เลยว่ะ 555555 ลูกศิษย์ขอคารวะ(พี่ฝิ่นเขารับมึงแล้วหรอ=_=) o22 พี่ฝิ่นถึงจะโหดแต่ก็มีมุมน่ารัก ตอนที่พี่ฝิ่นคิดคำพูดไปพูดกับพงษ์ตอนขอแก้ว น่ารักจริงๆเลยลูกพี่...- - ส่วนแก้วนายเอกผู้น่าสงสาร :sad4: ดีแล้วละที่แก้วไม่สนใจครอบครัวนั้นเนอะแก้วเนอะ ในขณะเดียวกันแก้วคือคนที่โชคดีที่สุดต่างหากละที่มีทั้งพี่พงษ์และพี่ฝิ่น อยู่ที่ไหนก็อุ่นใจกับอ้อมกอดเด็กช่าง วรั้ยยยยย ฟิน ชอบที่พี่พงษ์เรียกแก้วว่า ตัวเล็ก :katai4: 55555
น่ารักกกก!!! ชอบเวลาที่แก้วอ้อนพี่ฝิ่น :o8: จูบกันนนนนนน :-[ จึ้กๆกัน :oo1: ว๊ากกกก!! :laugh: กำเดาไหล :impress2: ฟินนนนนน :jul1: :heaven
ไม่รู้จะบรรยายอะไรแล้ว ตามชื่อเรื่องเราคิดว่ามันตรงๆจริงกับความรู้สึกที่อ่าน ชอบประโยคประโยคนึง
" ชีวิตบนเส้นทางของนักเลงฝึกหัด แม้ไม่ได้ชอบใจไปซะทุกสิ่งที่ต้องเดินบนหนทางที่เจอะเจอกับมีด หอก คม ดาบ และอีกสารพัดอาวุธที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าจะออกรบ
แต่ความแข็งแกร่งก็เหมือนเกราะกำบังตัวที่ห่อหุ้มนักเรียนนักเลงให้รอดพ้นจากอันตรายเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ไปจนกว่าจะเรียนจบ
...ทุกคนจึงต้องมีความกล้า และแกร่ง ไว้เป็นต้นทุนนอกเหนือจากอาวุธนอกกายที่เอาไว้ข่มคู่อริ
อ้อมกอดเด็กช่าง...อ้อมกอดแข็งกระด้าง ไร้ความอ่อนโยน ไร้ความนุ่มนวล เจ็บบ้าง หายใจไม่ออกบ้าง บางครั้งกระดูกแทบหัก
แต่สำหรับใครบางคน
...นั่นคือความปลอดภัย อุ่นใจ และมั่นคง "
น้ำตาไหลเลย ซึ้งจริงๆ ประทับใจมากๆ สุดท้ายท้ายสุด :o12: เราก็อยากบอกรักคนเขียนด้วยถ้าไม่มีคนเขียนเราก็คงไม่ได้อ่านเรื่องดีๆแบบนี้เนอะ นับถือคนเขียนเลยที่แต่งออกมาได้ดีมากขนาดนี้ทำให้คนอ่านรักขนาดนี้ :L2: รักนะคะนักเขียนของฉัน จะวันไหนก็รักเพียงเธอ~ 555555 ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้ให้เราได้อ่าน ขอบคุณครับผม สุดท้ายท้ายสุด รักอ้อมกอดเด็กช่าง :กอด1:
....ความทรงจำของเด็กชายเจส :mc4:
-
เพิ่งมีโอกาสอ่านเรื่องนี้ในปี 2017 ปกติไม่อ่านแนวนี้ อ่านแต่แนวรักใสๆ หรือเน้นฮาๆ ฟีลกู้ด แต่พอลองได้อ่าน อ้าวติดจนอ่านรวดเดียวจบซะงั้น ขอบคุณผู้แต่งด้วยค่ะ สนุกมากๆ เลย
-
สนุกค่ะ แนวเด็กช่างหายากมาก ทำให้เราเห็นมุมมองของนักเรียนช่าง
ชีวิตเด็กมัทธยม เด็กพานิช เด็กมหาลัย แตกต่างกันมากกก
ความเป็นเด็กช่าง ต่อยตี ฆ่ากัน มันเหมือนจะไร้สารนะ แต่มีความผูกพันธ์ ความรัก ความเคารพ รุ่นพี่ต่างจาก สาขาอื่นๆ เพื่อนเราบางคนนี่บอก กูรอดมาได้ไงว่ะ ทำไปได้ไง พอเรียนจบ แต่มันคือประสบการณ์ สนุกค่ะ อ่านแล้วติดเลย
ช่วงแรกๆ อ่านยากหน่อย ใครพูด ใครคิด ใครจะทำอะไร งงไปหมด เนื้อเรื่องวนไปวนมาไปนิด เราก็อ่านซ้ำๆ พยายามทำความเข้าใจ แต่ในฐานะผู้อ่าน เราไม่ติค่ะ เพราะเราว่ากว่านักเขียนท่านนึงจะแต่งจบแต่ตอน ลากเลือด ต้องสละเวลาส่วนตัวมาเขียนด้วย อยากให้มีเรื่องต่อๆไปอีกค่ะ
-
:mew1: :mew1: :mew1:
-
อารมณ์และพฤติกรรมของเด็กช่างฯในมุมแบบนี้ นี่อธิบายไม่ถูกพูดไม่ได้ :ruready เหมือนนี่เป็นโรคอารมณ์สองขั้ว อะไรแบบนั้น you know?
:pig4:
-
อยากรู้บทสรุปของ ไม้ โจ้ ขวัญ พงษ์ เพราะทุอย่างมันยังไม่เคลีย
-
กลับมาอ่านรอบสอง
รอบนี้หายใจคล่องขึ้น แต่ความอึดอัดก็ยังมี
ความเข้าใจต่อเด็กเหล่านี้ก็ยังน้อยเช่นเดิม
เป็นลูกผู้ชายแล้วต้องต่อยตี มันไม่ใช่อ่ะ
แต่เราก็ไม่รู้สึกเกรี้ยวกราดเหมือนตอนอ่านรอบแรกนะ
พยายามบอกใจตัวเองให้สงบๆ 555
-
อ่านจนแทบไม่ได้นอน สนุกมากค่ะ รอติดตามเรื่องต่อๆไปนะคะ :mew2:
-
อ่านไปอ่านมาคนที่น่าสงสารที่สุดคือขวัญเลย
แม่ขวัญนี่ยังไง
ฝิ่นแก้วน่ารักมากๆเลยค่ะ
นิยายสนุกมากค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีค่ะ
-
จริงๆค่ะ เรายืนยันอีกเสียงว่าชอบความสัมพันธ์ของพงษ์กับแก้วมาก ชอบอะ ชอบผู้ชายแบบพงษ์ อยากให้คู่กัน 5555555 อุตสาดูแลเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก
แต่สุดท้ายคือขอบคุณที่ผลิตนิยายดีๆมาให้อ่านนะคะ
-
o13
-
:pig4: :pig4: :pig4:
ตัวละครแทบทุกตัว มีปม ไม่สมบูรณ์บิด ๆ เบี้ยว ๆ
โดยเฉพาะขวัญ แม้นางอาจจะถูกแม่อบรมสั่งสอนมาแบบผิด ๆ จนถลำลึก แต่...นางก็ไม่เคยสำนึกที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนิสัย นางช่างเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด
-
กรี๊ดดดดดดดด ฉันไปอยู่ที่ไหนมาถึงเพิ่งได้อ่านเรื่องนี้เนี่ย!!! ... อ้อ !!! ลืมไป เพิ่งเริ่มมาอ่านวายเมื่อต้นปีที่แล้วเองนี่นา (2560) :-[
อ่านรวดเดียวจบเลย
แต่ยอมรับว่าบางคำพูดของตัวละคร
เราจับใจความไม่ได้ว่าใครเป็นคนพูดอ่ะ
แต่นิยายสนุกมากนะคะ
ขอบคุณนักเขียนมากๆ เลยค่ะ รักน้องแก้วกับพี่ฝิ่นน๊าาาา o13 o13
-
ดิบดี
-
กว่าจะมาอ่านเรื่องนี้. คนเขียนแต่งงานไปแล้วมั้ง. 55. สิ่งที่ได้
1. หาแนวนี้ไม่เคยเจอ. 2. สนุก. 3. เดินเรื่องไม่เบื่อ. 4 บางคำพูดหาคนพูดไม่เจอ. 5. รักเลย. ที่สุดของความชอบ
6. วิถีชีวิตของนักเรียนช่างว่าทำไมมันชอบตีกัน
-
คือตัวละครทุกตัวนอกจากจะปากหนีกแล้ว อะไรที่น่าพูดก็ไม่พูดแล้วยังหูเบากันถ้วนหน้า
-
คิดเองเออเองกันไปหมดไอ้คนรู้ก็ไม่พูดดอกพิกุลจะร่วง ตีกันให้ตายไอ้ดิวสบายคนเดียว คนโง่ ก็คือคนโง่
-
โดนด้วทำไม่ดีด้วยตั้งหลายครั้งทำไมแก้วยังคิดว่าดิวดีกับตัวเองงง
-
ตกใจคอมเม้น เท่านิยาย 1 ตอน ในที่สุดเราก็อ่านจบแล้ว ขอบคุณผลงานดีๆ ที่มอบความสุข
-
อ่านจบแล้ว เหมือนเราเคยอ่านแต่นานมากแล้ว5555 อยากบอกว่าสนุกมากค่ะ อ่านรัวๆ
นุ้งแก้ว:มรสุมมากมาย จนถึงตอนที่แก้วกระโดดน้ำ(ตอนที่พาอิดิวไปบ้านที่สระบุรี) เราอยากให้น้องตาย5555 อาจจะเป็นความคิดที่บิดเบี้ยวแต่คนอ่านอย่างเราอะยังเหนื่อยแทนแก้ว ขนาดรู้ความจริงทุกด้านว่าฝิ่นรักแก้วมากแค่ไหน(แต่เหตุการณ์ตอนนั้นแก้วไม่ได้รับรู้ด้วย)ก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดี แอบเข้าใจความรู้สึกของคนที่อยากจะตายให้หลุดพ้นล่ะนะ มันคือสิ่งที่แก้วเจอและโดนมาทั้งหมด ยังกะสนามอารมณ์
ฝิ่น:นางเป็นผู้ชายซื่อๆที่หัวร้อนเก่ง ตัวนี้คาแรคเตอร์เด็กช่างค่อนข้างชัดเจน(พงษ์กะดิวก็เด็กช่างชัดๆ) เราชื่นชมในความอบอุ่นของฝิ่นนะคะ ความอบอุ่นนี้เก็นชัดเจนตอนที่ฝิ่นเริ่มยอมรับใจตัวเองละนะ เป็นผู้ชายที่ดีคนนึงเลยแหละ ถ้าเค้าเลวสักหน่อยเราคงลงเรือพงแก้วไปแล้ว
พงษ์:คนนี้แอบรักเพื่อนแบบที่มารู้ตัวในวันที่สายไป เรามาชัดเจนในตอนพิเศษนี่เองแต่ระหว่างทางก็แผ่รังสีเฟรนด์โซนมากรายๆพอให้จับจิ้นได้ พงษ์ก็มูฟออนไปได้ล่ะนะเพราะมันคงเป็นความรักแบบปนๆกันเพื่อนและคนรักอย่างละนิดๆ ถ้ามีโอกาสมันจะพัฒนาไกลมากแน่ๆแต่เรื่องนี้มันฝิ่นแก้วอะเนอะ ส่วนกับขวัญเราไม่เคยจิ้นให้ได้กันเลย สองคนนี้เด็กทั้งคู่อะมันไม่น่ารอด มันไม่มีความน่าเอาใจช่วย
ไม้:เป็นสายธรรมะที่แท้ทรู เราเคยเรียนสายอาชีพมาก่อน พาณิชย์นะไม่สายช่างแต่มีเพื่อนเป็นเด็กช่างพอสมควร คาแรคเตอร์แบบไม้หาไม่เจอเลยเพราะเด็กช่วง15-19 เพื่อนกับสิ่งแวดล้อมมีผลต่อพฤติกรรมมาก ดังนั้นไม่มีเสียละจะมาห้าม มีแต่ไปไหนไปกัน แต่ใส่พี่ไม้มาก็โอเคมากๆเพราะถ้าไม่มีไม้ อิฝิ่นคงไปไกลอะ
ขวัญ:นางก็ไม่ได้เกลียดน้องนะ(แต่ก็ไม่ได้รัก)และแม่นางปลูกฝังมาแต่เด็ก+เรื่องพงษ์ นางเลยเลยจุดที่จะปรับเปลี่ยนนิสัยได้แล้ว แสดงออกแต่ละครั้งเลยออกมามีแต่ซีนแย่ๆ ถ้ามีสักคนรักนางและนางยอมปรับเพื่อเค้าได้ คงได้เห็นเวอชั่นที่พัฒนาให้ดีกว่านี้
เรานึกไม่ออกละว่าจะเขียนถึงใครอีกเลยขอจบการเม้นแค่เพียงตรงนี้ ขอบคุณคนเขียนกับเรื่องดีๆ สนุกๆที่ทำให้เราได้อ่านอย่างจุใจ อ่อ... มีบางตอนที่คนเขียนบรรยายห้วนๆไป เราคิดว่ามันคงเป็นสไตสแบบบิดประโยคให้สละสลวย/กระชับแต่มันห้วนไปบางทีก็งงว่าจะสื่ออะไรน่ะค่ะ อันนี้เป็นข้อคิดเห็นเผื่อคุณคนเขียนจะรีไรท์เฉยๆ><
-
ชอบตัวละครพงษ์จัง อยากให้มีเรื่องของพงษ์มาก
-
เขียนดีมากกกค่ะ ดีงามมากจริงๆ คือมีให้ลุ้นทุกตอน บางช่วงมีความหัวใจจะวาย ไม่รู้ว่าสุดท้ายได้รวมเล่มมั้ย อยากรู้มากๆ