พิมพ์หน้านี้ - |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: คุณเจ้ ที่ 01-11-2017 21:02:09

หัวข้อ: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-11-2017 21:02:09
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม







THE ACTOR SERIES.
ซีรีส์พี่พระเอก (คนที่ 2)
 
Fall in Lust  ประสบกาม ประสบรัก


ผมอดทนอดกลั้นไม่เสียตัวให้กับใคร เพราะผมอยากเสียตัวให้กับคุณ ผมอยากให้คุณเป็นคนพรากความบริสุทธิ์

Boy's Love Story
ชายรักชายคือความรัก ไม่ใช่ความผิดปกติ

Hello... it's me
อะตอมค่า หลายคนคงคุ้นเคยกันอยู่แล้วจากเรื่อง Love, no boundaries (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47347.0)
หรืออาจจะคุ้นเคยกันจากเรื่อง Works the magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนางมาร (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.0)
หรือถ้าใครเพิ่งเข้ามาทำความรู้จักกันจากเรื่องนี้ ก็ยินดีต้อนรับและยินดีที่ได้รู้จักค่า

มาเปิดเรื่องใหม่ ซึ่งถ้าใครตามอ่านพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยน
จะรู้จักตัวละครตัวนี้กันไปแล้ว กับพี่พระเอกคนที่สองของ ซีรีส์พี่พระเอก พี่แซ็คนั่นเองงง
เป็นพี่พระเอกคนที่สองต่อจากพี่พระเอกคนแรก ซึ่งก็คือไอ้ยักษ์วิคเตอร์ของน้องแมท
ณ จุดนี้พี่แซ็คมีเรื่องของเขา ซีนของเขาเต็มๆ หลังจากไปโผล่ในเรื่องคนอื่น
ณ จุดนี้พี่แซ็คจะมาแซ่บในเรื่องของตัวเองเต็มๆ แล้ว
ส่วนใครที่เพิ่งมาทำความรู้จักกับพี่แซ็ค มาค่ะ มาซี๊ดดดไปด้วยกัน

งดกินของเผ็ดเพราะพี่แซ็ค...เผ็ชมาก (เติมคำในช่องว่าง 10 คะแนนค่ะ)
ขอให้อร่อยกับพี่พระเอกหนังโป๊ของขุ่นเจ้กันแบบเต็มปากเต็มคำนะคะ
ฝากตัวล่ำๆ แซ่บๆ ของพี่แซ็คไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยค่า
 
ปล. ยังไม่เห็นพูดถึงนายเอกเลยสักแอะอีเจ้  / เดี๋ยวก็เจอนางในเรื่อง ขายผู้ก่อน

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Beginning of falling. [100%] 01.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-11-2017 21:03:49
สารบัญ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Beginning of falling. [100%] 01.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-11-2017 21:07:38

บทชักพาห้วงราคะ





                  ปัจจุบัน
   

New York, South Manhattan เวลาตามไทม์โซน
   



ตึ่งตึงตึง ตื๊อดือดึ๊ง ตื่อดือดึ๊ง (เสียงวิดีโอคอลไลน์) ดังขึ้นในระหว่างที่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำโชว์รอยสักบนแขนขวากับกางเกงผ้าใบสีเดียวกันที่สามารถระบายเหงื่ออย่างดีกำลังก้าวขึ้นบันไดอพาร์ทเม้นต์ มือใหญ่หนาหยิบโทรศัพท์แบรนด์แอปเปิ้ลแหว่งสีดำเครื่องใหญ่ขึ้นมาดูแล้วริมฝีปากก็ขยับยิ้มกว้างเมื่อเห็นรูปใบหน้าเรียวเล็กขาวผ่องปรากฎอยู่บนนั้น เขายังไม่กดรับทันที แต่ก็เร่งฝีเท้าไปให้ถึงห้องพักของตัวเอง หยิบกุญแจขึ้นมาไขลูกบิดสีทองที่อยู่บนประตูสีขาวบานแคบก่อนผลักเข้าไปด้านใน เปิดไฟเปิดเครื่องกรองอากาศเรียบร้อยก็เดินไปนั่งโซฟาตัวยาวสีขาวเนื้อด้านแล้วถึงกดรับสาย มีเสียงกุกกักๆ สักพักก่อนที่หน้าจอจะสว่างด้วยไฟสีส้มนวลตา ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มกับริมฝีปากสีแดงปรากฎขึ้นบนหน้าจอ รอยยิ้มง่วงๆ ขยับขึ้นเมื่อเขายิ้มให้
   

“เฮ้ เวลานี้ที่ไทยดึกมากแล้วไม่ใช่เหรอ” คนตัวโตว่าพลางวางกระเป๋าสะพายข้างทรงกระบอกไว้บนพื้นห้อง ใบหน้าขาวนวลเนียนพยักหน้าง่วงๆ แล้วก็อ้าปากหาวหนึ่งที
   

[หลับไปตั้งแต่ช่วงเย็น เลยมาตื่นเอาป่านนี้ ฝันถึงคุณเลยคอลมาหา] คนตัวใหญ่หัวเราะเสียงทุ้มน่าฟังพลางปัดผมที่เปียกชุ่มไปด้านขวา สายตามองคนตัวเล็กขยี้ตาท่าทางน่ารักน่ามอง
   

[คิดถึงคุณนะ]
   

“เป็นแฟนกันได้รึยังล่ะ” คนหน้าขาวในจอโทรศัพท์คลี่ยิ้มไม่เห็นฟันแล้วส่ายหน้าจนผมเด้งดึ๋ง ร่างสูงใหญ่ยักคิ้วสองข้างและยิ้มเบ้ปากน้อยๆ
   

[ขอมาตั้งหลายครั้งแล้ว ไม่เบื่อเหรอ] คนในจอว่าพลางยิ้มน่ารัก คนนอกจอยกมือซ้ายลูบใต้คางเบาๆ ดวงตาสีเทามองอีกคนอย่างเป็นประกาย
   

“นายก็ส่ายหัวไม่มีเบื่อเลย” คนถูกต่อว่าหัวเราะเบาๆ
   

[ส่ายหัวแต่ก็ไม่หนีไปไหนนะ] คนตัวโตยิ้มกริ่ม
   

“อย่าหนีฉันอีกเลยนะ” คนในจอเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง มองคนนอกจอด้วยสายตาประหลาดใจปนงุนงง
   

[ผมไม่ได้หนี คุณผลักผมออกมาเอง] ร่างสูงใหญ่ยกมือซ้ายขึ้นด้วยท่าทียอมแพ้ทันที
   

“โอ๊เข่…” ใบหน้าเรียวเล็กในจอโทรศัพท์ขยับเป็นรอยยิ้มขำ “…ขว้างงูไม่พ้นคออีกตามเคยสินะ”
   

[ขว้างเข้ามาในปากผมแทนได้นะ] คนตัวเล็กยกมือซ้ายขึ้นกำมือเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ อ้าปากแล้วทำมือชักเข้าชักออก ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มด้านซ้ายคล้ายว่ามีอะไรมาดันจนแก้มตูม คนตัวโตหัวเราะชอบใจ
   

“ชอบให้มันพ่นพิษใส่ปากสินะ” คนถูกถามขยิบตาซ้ายหนึ่งทีและยิ้มกว้างพร้อมกับหัวเราะในลำคอ คนฝั่งนิวยอร์กยิ้มกว้าง มองหน้าขาวนวลเนียนด้วยความคิดถึง
   

“วันนี้ฉันคุยกับแมท เล่าเรื่องของเราให้เขาฟัง” คนฝั่งไทยเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแล้วกระตุกยิ้มอ่อน
   

[เหรอ เล่าอะไรให้น้องเขาฟังบ้างล่ะ] คนในจอมือถือถามเหมือนถามเรื่องทั่วไป ไม่ได้มีทีท่าไม่พอใจใดๆ เพราะเคยไม่พอใจไปแล้ว
   

“แมททะเลาะกับวิคเตอร์น่ะ ฉันเลยลองเล่าให้เขาฟัง เผื่อเขาจะรู้ตัวว่าไม่ควรเป็นเหมือนเรา…” ใบหน้าสันกรามโหนกแก้มและหล่อเหลาราวกับถูกปั้นเครื่องหน้ามาระบายยิ้มเพลียเล็กน้อยแล้วตามด้วยถอนหายใจเบาๆ


“…ไม่ได้พูดอะไรมากหรอก แค่บอกว่าฉันยังไม่สมหวังกับนายจริงๆ สักที” ร่างเล็กในจอยิ้มด้วยความเอ็นดู


[อ่อววว ลุงแซ็คของผม ทุกวันนี้มีอะไรให้ผิดหวังเนี่ย ผมคุณก็ได้ แถมยังได้ผู้หญิงคนอื่นอีก] เจ้าของชื่อกลอกตา โยกหัวซ้ายทีขวาทีเบาๆ


“ย้อนเข้าหาตัวเองอีกจนได้…” สองไหล่กว้างและใหญ่หนาไหวขึ้นหนึ่งที “…ฉันขอโทษ แล้วก็ขอบคุณนายมากที่ใจกว้างแบบที่ฉันคิดว่านายอาจจะเป็นหนึ่งในร้อย” คนถูกชมยิ้มอ่อน มองหนุ่มฝรั่งตัวใหญ่ด้วยสายตาอ่อนโยน


[ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ใจกว้าง แต่ผมเลือกที่จะอยู่อย่างเข้าใจ แล้วก็ไม่ต้องมาเล่าหรอกว่าเป็นใครหรือเป็นยังไง ที่เคยเห็นๆ มา มันทำให้ผมชินแล้ว] แซ็คมองหน้าหนุ่มไทยด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจเท่าไหร่นักกับสีหน้าที่อีกฝ่ายแสดงออกและคำพูดที่เปล่งออกมา


“ฉันโชคดีจริงๆ…” คนตัวเล็กยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วยว่าเขาน่ะโชคดีจริงๆ


“…แต่ฉันจะโชคดีกว่านี้ถ้าเราเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ” รอยยิ้มหายไป แทนที่ด้วยการแลบลิ้นและส่งเสียงแอ่อ่อ่อ่อ่


[นี่ ทุกวันนี้เราก็ไม่ต่างจากแฟนกันเล้ยยย อีกอย่าง ถ้าเป็นแฟนผม คุณเลิกเอากับผู้หญิงคนอื่นได้จริงเหรอ] เปลือกตาแซ็คเบิกกว้างก่อนจะขมวดคิ้วอ่อนๆ


“เฮ้ ฉันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นสักหน่อย” คนตรงข้ามในหน้าจอเบิกตากว้างด้วยความตกใจยิ่งกว่า


[โว้ว ๆ พูดออกมาได้ยังไงน่ะ] แซ็คหัวเราะเสียงทุ้ม คนในจอทำหน้าขยาด


“ฉันรู้สึกโชคดีจริง ๆ นะ” หนุ่มไทยยิ้มกริ่ม พยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะทำหน้านึกอะไรขึ้นได้



[แต่คุณก็อย่าลืมสิ่งที่ผมขอ ซึ่งผมว่าไม่ยากนะ ถ้าให้ไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าผมจะให้สิ่งที่คุณอยากได้เหมือนกัน] คิ้วดกดำแต่ไม่ได้เข้มจัดยักขึ้นสองที มองแซ็คด้วยสายตานิ่งและแอบเหนือกว่าเล็ก ๆ หนุ่มฝรั่งเคราสีน้ำตาลทองทำตาเหลือกเหมือนกำลังโดนบีบคอแวบหนึ่ง


“โหดจริง”


[เบามาก คนรอบข้างผม ยกเว้นแม่กับน้าด่าผมกันทั้งนั้นกับความสัมพันธ์ของเราสองคน] คนในจอโทรศัพท์ขยับหัวบนหมอนสีขาว


“แมทเขาก็ตกใจนะ พอฉันบอกว่าเราอยู่กันแบบไหน”


[คุณน่าจะบอกน้องเขาด้วย ว่าวิคเตอร์เบาไปเลยถ้าเทียบกับแซ็ค ไนท์ฮู้ด] เจ้าของชื่อเต็มที่ถูกเอ่ยหรี่ตาและขมวดคิ้วมองคนหน้าขาวที่กำลังยิ้มกิ๊กกั๊ก


“เฮ้ ที่พูดนั่น สื่อถึงความหมายดี ๆ ใช่มั้ย” คนถูกถามทำตาโตตีหน้าใสซื่อ


[ดีซี่] แต่สีหน้าที่แสดงออก ไม่ได้ทำให้แซ็ครู้สึกเลยว่าความหมายมันดี


“เจอกันคราวหน้าต้องขอเคลียร์หน่อย ทั้งเรื่องนี้และเรื่องผู้ชาย” ร่างเล็กทำตาโต สีหน้านึกอะไรบางอย่างได้อย่างฉับพลัน


[โอ้ ลูคัสจะมาเที่ยวไทยช่วงปลายปี ผมต้องไปเป็นไกด์ให้เขานะ] แซ็คชะงักกึก นิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับคืนมาแล้วรีบเปิดปากพูด


“ไม่ไปไม่ได้เหรอ” คนถูกถามส่ายหัว


[ต้องไปสิ คุณก็รู้ว่าลูคัสดูแลผมดีแค่ไหนในตอนนั้น] คนพูดน่ะพูดเฉย ๆ ไม่คิดอะไร แต่คนได้ยินมันคิดไกล คิดย้อนไปแล้วก็รู้สึก… เจ็บ


“Ice-cream (ไอติม)…” แซ็คมองหน้าเจ้าของชื่อด้วยสายตาสลด “…I’m sorry (ฉันขอโทษ).” อีกฝ่ายระบายยิ้มอ่อนบนใบหน้า


[มันผ่านมานานแล้ว ถ้าผมโกรธคุณจริง ผมจะอยู่ตรงนี้เหรอ]


“แต่ทุกวันนี้ฉันรู้สึกว่ามีความสุขไม่เต็มร้อยยังไงก็ไม่รู้” ไอติมเบิกตากว้าง ท่าทางตกใจเล็ก ๆ ใช้แขนซ้ายดันตัวเองลุกขึ้นนั่งบนเตียงและเขยิบไปพิงหัวเตียง ยกเข่าขึ้น เอามือขวาวางบนหัวเข่าตัวเองให้จอโทรศัพท์อยู่ตรงระดับหน้าพอดี


“[แซ็ค ไม่เอาสิ ไม่ดราม่า ยูชูสดิสเวย์เองนะ เราคุยกันแล้วเปล่า] แซ็คย่นคิ้ว ใบหน้าขรึมกว่าเดิม


“งั้นคุยกันใหม่” ไอติมย่นจมูกพร้อมกลอกตา


[คุณจะคุยใหม่ก็แค่ตอนมีผู้ชายเข้ามาใกล้ผมแค่นั้นแหละ] แซ็คขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม สีหน้าเริ่มมีแววเครียด


“แต่นี่มันลูคัสอะ”


[แหม ทำอย่างกับเราไม่เคย 3P ทรีซัมกันมาก่อนงั้นแหละ] ไอติมมองค้อน แซ็คชักสีหน้าเล็กน้อย


“แต่อันนั้นฉันเลือกให้ไง”


[ก็อันนี้ผมเลือกเองไง ใครเลือกก็เหมือนกันแหละ] คนตัวเล็กสะบัดกดมือลงเป็นเชิงบอกว่าเอาน่า ๆ แซ็คหน้าตึง ส่ายหัวสองสามที


“I’m not happy with that at all. (ฉันไม่แฮปปี้เลยนะแบบนี้)”


“But I am. (แต่ผมแฮปปี้)” ไอติมฉีกยิ้ม ขยิบตาให้อย่างน่ามอง แซ็คพ่นลมออกทางปาก กลอกตาเซ็งๆ


“Okay. It’s my fault. (ก็ได้ ความผิดฉันเอง)” ไอติมยิ้มหวานตาหวาน ยกมือขวาชี้นิ้วมาที่แซ็ค และพยักหน้าเบา ๆ สองที


[Yes, it is. (ถูกต้อง)] แซ็คไม่พอใจ แต่ที่ทำได้ก็แค่ทำสีหน้าเหมือนเด็กเอาแต่ใจเวลาโดนขัดใจ


“Do you really want to go with him, Lukas? (อยากไปกับลูคัสจริง ๆ เหรอ)” น้ำเสียงที่ถามแข็งกระด้าง แต่คนฟังก็ไม่เก็บมาคิดมาก


[And what is the reason that make me don’t want to? (แล้วมีเหตุผลอะไรล่ะที่ทำให้ผมไม่อยากไป)]


“Me. (ฉันไง)” ไอติมเลิกคิ้วขึ้น แสร้งทำสีหน้าตกใจใส่หน้าตึง ๆ ของแซ็ค


[Oh, it’s not good enough to stop me. (โอ๊ะ ก็ยังไม่ดีพอที่จะหยุดผมหรอก)”] แซ็คขบกรามแน่น ความหงุดหงิดรวนอยู่ในอกตุบๆ


“I will go with you. (ฉันจะไปกับนายด้วย)”


[That’s very welcome. (ยินดีอย่างมาก)] แซ็คขมวดคิ้วอ่อน ๆ ท่าทางไม่พอใจ แต่เพราะอยู่ห่างกันไกลเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งหน้าตึง


“Be mine.(เป็นของฉันเถอะ)” ไอติมยิ้มแหย ขมวดคิ้วสีหน้าไม่เข้าใจ


[I’m already yours, darling. (ผมเป็นของคุณแล้วไง ที่รัก)]


“Marry me. (แต่งงานกับฉัน)” ไอติมเหลือบตามองบนแล้วกะพรือเปลือกตาด้วยท่าทีเอือมก่อนจะสั่นหัวรัวๆ


“It can’t help. (มันไม่ช่วยหรอก)”


“Fuck!” แซ็คสบถด้วยความหงุดหงิด หน้าตาฟึดฟัดอึดอัดอยากระบายออกด้วยความรุนแรงสักยก


[Yes, you fuck me and you fuck other girls. (ใช่ คุณเย็xผม และคุณก็เย็xผู้หญิงอื่นด้วย)]


“But you are my one and only. (แต่นายคือที่หนึ่งและหนึ่งเดียวของฉัน)” ไอติมยิ้มกริ่ม ไหวไหล่ทั้งสองข้างด้วยท่าทีปลาบปลื้ม


[Yeah, it’s my turn. (ใช่ ก็มันถึงทีของผมแล้วนี่)]”


“Ice-cream, please.(ไอติม ได้โปรด)” แซ็คว่าเสียงอ้อน มองด้วยสายตาเว้าวอน ไอติมหัวเราะคิกคัก


[I have to go to sleep. (ผมต้องไปนอนแล้ว)] ไอติมยกมือส่งจุ๊บให้แซ็คหนึ่งที หน้าแซ็คหมดอารมณ์รื่นรมย์ แต่ไอติมไม่สนใจ


“Before you go to sleep I want to know two things. (ก่อนนายจะไปนอน ฉันอยากรู้อะไรสักสองอย่าง)” ไอติมพยักหน้าพร้อมฉีกยิ้มแบบไม่เห็นฟัน พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ


[There you go. (ว่ามาโลด)]


“Do you love me? (รักฉันมั้ย)”แซ็คถามด้วยความไม่มั่นใจ มองไอติมด้วยความหวาดหวั่นเล็กๆ


[If you love me I do love you, too. (ถ้าคุณรักผม ผมก็รักคุณเช่นกัน)] แซ็คขมวดคิ้วท่าทางเกรี้ยวกราดเบาๆ


“Of course! I love you.” ไอติมฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจและด้วยความเขิน แซ็คชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าอดทนอดกลั้น


[Oh, it was great that I can deceived you to split it out. (โอ้ มันรู้สึกดีจังที่หลอกให้คุณพูดคำนั้นออกมาได้)] ไอติมยิ้มด้วยความดีใจแบบที่ดวงตาเป็นประกายและมีริ้วสีแดงบนแก้มขาวนวลผ่อง แซ็คสีหน้าอ่อนลงเมื่อเห็นริ้วสีแดงนั้น


คำว่ารักออกจากปากผู้ชายคนนี้ยากยิ่งกว่าวิชาสถิติสมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งแล้วได้เอฟมาครองซะอีก


[And the second? (แล้วอย่างที่สองล่ะ)] แซ็คพ่นลมหายใจเบาๆ


“Do you feel hurt when I slept with someone? (นายเจ็บมั้ยเวลาที่ฉันนอนกับคนอื่น)” ไอติมอ้าปากค้างน้อย ๆ มองแซ็คด้วยความเอ๋อเล็ก ๆ แต่ก็ตอบกลับแบบงงๆ
   

[What do you think? (คุณคิดว่าไงล่ะ)]
   

“I don’t know. You look like you have no feeling about it. (ไม่รู้สิ นายดูไม่รู้สึกอะไร)” ไอติมคลี่ยิ้มบางเบา วูบหนึ่งดวงตาเรียวคู่สวยสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น
   

[Before I feel nothing I feel many things what you do. (ก่อนที่ผมจะไม่รู้สึกอะไร ผมรู้สึกอะไรมากมายกับสิ่งที่คุณทำ)] หัวใจของแซ็คกระตุกด้วยความรู้สึกหวาดกลัวที่ก่อตัวขึ้นในใจอย่างรวดเร็วเหมือนคลื่นที่กระแทกขึ้นสูงแล้วก็ไหลกลับลงทะเลไป
   

“And are you going to leave me, at the end? (ท้ายที่สุดแล้ว นายจะไปจากฉันมั้ย)” น้ำเสียงที่ถามนั้นเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน แต่เพราะคุยกันแค่สองคนจึงทำให้ไอติมได้ยินทุกคำ ไอติมยกยิ้ม เป็นยิ้มที่แซ็คเคยเห็นมาแล้ว
   

เห็นก่อนที่ไอติมจะเดินจากไปในตอนนั้น 
   

[We don’t know the future. (เราไม่รู้อนาคตหรอก)] แซ็คกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกในอกกลวงโบ๋ว่างเปล่าแปลกๆ
   

“I’m afraid again. (ฉันกลัวอีกแล้ว)” ไอติมกระตุกยิ้ม เป็นรอยยิ้มนิ่งสงบ แบบที่แซ็คเห็นแล้วก็รู้สึกนิ่งจนเหมือนเป็นเหน็บชาเพราะคำพูดของอีกฝ่าย 
   

“You should. (ก็สมควร)”

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Beginning of falling. [100%] 01.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: P_Methayot ที่ 02-11-2017 08:23:50
ตามครับ :กอด1: :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Beginning of falling. [100%] 01.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 02-11-2017 11:57:18
ตามครับ :กอด1: :L2: :3123:


ขอบคุณมากๆ ค่ะ คนแรกเลยอ้าาาา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Beginning of falling. [100%] 01.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 03-11-2017 15:22:04
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Beginning of falling. [100%] 01.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 04-11-2017 12:55:28
มาตามต่อครับ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.1: I have a dream. [50%] 15.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 15-11-2017 21:48:21
Fall in lust, Chapter 1 : I have a [wet] dream. (ฉันมันคนมีฝัน (เปียก)) [50%]




เมื่อหลายปีก่อน…


‘กับผู้ชายบางคน เราก็แค่อยากจะมีเซ็กส์ด้วย ไม่ต้องรักก็ได้ แต่เยกูเถอะ’
   


“ซี๊ดดด… อ้า… อู้ว แซ็ค ฮาร์ดเดอร์ โอ้ว…”
   

“You like it?”
   

“เยส เยส ไอไลก์ยัวคอร์ค อ๊า อ๊า!”
   

“ซู๊ด… It’s fucking good. (โคตรเสียวเลย)” ฟันขาวด้านบนกัดริมฝีปากสีแดงด้านล่างด้วยความรู้สึกเสียว เปลือกตาหรี่ปรือมองใบหน้าหล่อของฝรั่งตัวล่ำกล้ามโต ความเสียวอัดแน่นที่ช่องทางด้านหลังทำให้เอวกิ่วบิดไปบิดมาด้วยความสุขสมระคนหน่วงๆ
   

“Yeah. Haha.” หนุ่มฝรั่งอ้าปากกว้างแล้วหัวเราะก่อนจะแลบลิ้นออกมาแล้วรัวใส่ ร่างเล็กแลบลิ้นออกมาแล้วรัวตอบกลับหาฝรั่งหน้าหล่อ ในขณะที่มือขวาก็ไม่หยุดชักเข้าชักออกให้กับตัวเอง
   

“อู้ว แซ็ค โอ้ว มายก้อด” ร่างเล็กที่ผิวขาวจนเกือบจะเทียบเคียงกับหิมะกัดริมฝีปากล่างแน่นกับความเสียวตรงท้องน้อยที่มีของดีของเด็ดของฝรั่งหุ่นแซ่บคาอยู่ มือซ้ายยกไปจับตรงลำสีเนื้อแน่นแล้ววนก้นตามเข็มนาฬิกาเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายความหน่วงตรงช่วงท้องน้อย
   

“อ่า…. Fuck….” ฝรั่งผมสีน้ำตาลทองหนวดเคราสีเดียวกันครางเสียงเบาแต่แสนจะเซ็กซี่ในความรู้สึกของร่างเล็กที่กำลังเสียวจนใจหวิว เขาค่อย ๆ ดันตัวเองลุกขึ้นนั่งโดยไม่ให้สิ่งที่เชื่อมคาด้านหลังตัวเองอยู่หลุดออกไป พอนั่งแบะขาได้เต็มที่ร่างเล็กก็ปากกว้างเพราะความยาวที่ถูกกดลึกเข้าไปด้านในตัวเองมากกว่าเดิม
   

“เหี้ย…” ร่างขาวครางเสียงสั่นเปลือกตาปรือด้วยความรู้สึกหน่วงจัด แต่ถึงแบบนั้นก็ออกแรงเด้งหน้าเด้งหลังเบา ๆ มือขวาก็ชักให้ตนเอง พยายามไม่เร่งตัวเองในการไปถึงจุกสุดยอด เพราะรู้สึกอยากเสียวไปกับผู้ชายคนนี้นานๆ
   

“Is it big? (ใหญ่มั้ย)” ร่างเล็กพยักหน้า ฝรั่งร่างใหญ่หัวเราะเบา ๆ คนที่เป็นฝ่ายรับนั่งโยกแท่งสีเนื้อด้วยความรู้สึกสะท้าน เพราะมันทั้งใหญ่และยาว สร้างความปั่นป่วนชวนแตก (สลาย) ได้แทบตลอดเวลา คนที่มีตำแหน่งอยู่ข้างบนยกมือซ้ายขึ้นแล้วอมนิ้วชี้กับนิ้วนางช้า ๆ ด้านล่างก็เปลี่ยนจากโยกเป็นวนตามเข็มนาฬิกาไปเรื่อยๆ
   

“ซี๊ด… โอ๊ย… ซี้ด… โอ๊ยย จะแตกแล้วครับแซ็ค…” คิ้วเข้มแต่ไม่ใช่เข้มดกดำขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากอ้ากว้าง ลมหายใจเริ่มหอบกระเส่า จังหวะควบด้านล่างก็เริ่มติดขัดเพราะความเสียวตีตื้นขึ้นมาพร้อมพุ่ง
   

“I think I’m gonna cum. (ผมคิดว่าผมจะแตกแล้ว)” ฝรั่งหน้าหล่อหุ่นแซ่บสูดลมหายใจเข้าปากยาว ๆ ก่อนจะครางในลำคอ ฝ่ายรับที่ได้ยินเสียงครางนุ่มทุ้มนั้นก็ยิ่งรู้สึกเสียวซ่าน ขนตามตัวลุกซู่เบา ๆ กับเสียงที่หล่อไม่แพ้หน้า
   

“โอ้ว แซ็ค โอ้ว!” มือขวาของร่างเล็กเร่งแรงชักมากขึ้นพร้อมกับหยุดควบแท่งสีเนื้อ ในขณะเดียวเสียงครางใหญ่และทุ้มหล่อของฝรั่งก็ดังคลอไปกับเสียงครางใสของหนุ่มเอเชียผิวขาว
   

“I’m cumming. Ahhhh” ฝรั่งหน้าหล่อครางเสียงทุ้มน่าฟัง น้ำสีขาวข้นพุ่งออกมาจากปลายยอดสีขมพูดั่งลาวาที่ไหลทะลักอาบแก่นกายสีเนื้อไซซ์ใหญ่ยาว ในขณะที่หนุ่มเอเชียก็เร่งมือเพื่อจะตามไปให้เวลาใกล้เคียงกัน ลมหายใจดึงฟืดฟาด ความเสียวตีตื้นขึ้นมาใกล้จะถึงจุดปลดปล่อย ริมฝีปากสีแดงอ้าเตรียมส่งเสียงคราง
   

ปังๆๆๆ!!!
   

“ไอ้ติม!” ไม่! ใกล้แล้ว ดึงอารมณ์เสียวกลับมา!
   

ปังๆๆๆ!!!
   

“ไอ้เหี้ยติม!!!” ปัง!!!


เอี๊ยดดด! ไม่ๆๆๆ อย่าล่มมม


“Yeah. Come with me.”


“เยส แซ็ค เยส แอมกอนนาคัมมมม”


“กูจะพังประตูเดี๋ยวนี้ไอ้สัตว์ติม!!!”


วืดดด!


แม่งเอ๊ยยย!
   

“ไอ้เชี่ยยย!!!” ไอติมสบถดังลั่นห้อง ใบหน้าหล่อแต่ออกแนวน่ารักมากกว่าหงุดหงิดกับการที่โดนขัดอารมณ์ถึงจุดสุดยอด แทนที่สิ่งที่ควรแตกคือน้ำกาม แต่กลายเป็นอารมณ์เสียวที่กำลังจะถึงจุดพีคกลับแตกซ่านกลางทาง เพราะไอ้เพื่อนสนิทที่มาเคาะประตูห้องพร้อมกับแหกปากเรียกเสียงดัง
   

“มึงมีอะไรเนี่ย ไอ้เชี่ยเดนตายยย”
   

“มึงเปิดประตูเดี๋ยวนี้ มึงจะจบมั้ยปริญญาเนี่ย?!” ไอติมชักสีหน้า แว่วได้ยินเสียงทุ้มหล่อเลยหันกลับไปมอง
   

“It’s quite good. (ก็ใช้ได้)” เป็นจังหวะที่ฝรั่งรูปหล่อดูดนิ้วชี้ตัวเองหนึ่งทีแล้วคลี่ยิ้มพร้อมกับยักคิ้วเท่ให้ไอติมรู้สึกระทวย
   

“ไอ้เหี้ยติม!!”
   

“เอออออ!” จำใจต้องยกตัวเองออกจากแก่นกายไซซ์ฝรั่งอย่างเสียมิได้ ก่อนจะใช้ผ้านวมคลุมตัวแล้วลุกออกไปเปิดประตูห้องนอน พอเปิดประตูก็เจอกับไอ้เพื่อนหน้าหล่อผิวเข้มลูกครึ่งไทยอเมริกันที่กำลังขมวดคิ้วมองเขาอยู่ ก่อนจะชะโงกหน้าไปดูบนเตียงนอนของไอติม
   

“มึงมโนชักว่าวกับไอ้พระเอกหนังโป๊ของมึงอีกแล้วเหรอ” ไอติมจึ๊ปาก จิกตามองเพื่อนไปหนึ่งที ได้ยินเสียงพูดของฝรั่งแซ่บคนนั้น
   

“I think it is done for today. (ผมว่าวันนี้คงพอแค่นี้)” ไอติมหันควับกลับไปมองบนเตียง
   

“อย่าเพิ่งงงง ยังไม่แตกเลย!” ไอติมวิ่งดุ๊กๆ กลับไปที่เตียง มีเพื่อนตัวสูงหน้าคมแบบหนุ่มไทยที่ได้เชื้อจากแม่และความหล่อแบบอเมกันที่ได้เชื้อมาจากพ่อเดินตามเข้าไปด้วย เดนหรือเดนนี่มองไอติมด้วยความงง ก่อนสายตาจะเลื่อนไปเห็นไอ้สิ่งที่เรียกว่าดิลโด้วางอยู่บนหัวเตียง
   

“โอโห มึงนี่มันเงี่ยนกับไอ้พระเอกคนนี้จริง ได้ของมาวันเดียว มึงใช้แล้วเหรอ” เดนนี่รู้สึกยอมใจกับความคันของเพื่อน แต่เหมือนเพื่อนตัวเองจะไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่ เพราะมันพยายามคว้าไอ้พระเอกหนังโป๊สุดเลิฟของมันไว้
   

“ไม่ๆๆ แซ็คคค เฮ้ยยย โอ้ยยย”
   

“Good bye!” แซ็คที่ไอติมคร่ำครวญหาโบกมือลาแล้วส่งจูบให้ก่อนจะหายวับไป…
   

…จากจอแล็ปท็อป
   

“ไอ้เหี้ยยยเดนนน ไอ้ตัวอุดตันท่อน้ำว่าว!!” ไอติมหันไปมองเพื่อนด้วยความหงุดหงิด เดนนี่อ้าปากค้างแล้วยกสองมือกอดอก ก่อนจะยื่นมือซ้ายไปผลักหัวเพื่อนหนึ่งทีจนไอติมตัวเอียง
   

“อ้าว ไอ้เนรคุณ ไอ้ควxยางที่มึงเอามาแทงตูด กูเป็นคนซื้อมาให้มึงนะ สำนึกบุญคุณกูบ้าง กูต้องโดนตอมอล้อพ่อล้อแม่ไปอีกนานแค่ไหนมึงคิดซิ” ไอติมหน้างอ มองเพื่อนด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางจมูกแล้วหันไปมองหน้าจอแล็ปท็อปที่ไลฟ์สดเว็บแคมเมื่อครู่นี้ปิดไปแล้ว ไอติมหันกลับไปมองไอ้หล่อหน้าเข้มด้วยความรู้สึกขัดใจแต่จะถึงขั้นโกรธเพื่อนก็ทำไม่ลง เพราะถ้าไม่มีไอ้เดน ไอติมก็คงไม่ได้ดิลโด้ของแซ็คมาเสียบก้นเพื่อความฟินแบบนี้หรอก
   

“เออ ๆ แหม ด่ากูตั้งแต่กูฝากซื้อยันซื้อมาให้เลยนะ” ไอติมว่าเสียงสะบัด เดนนี่ถลึงตามอง
   

“พ่องอะ ไม่ให้กูด่าได้ไง มึงฝากซื้ออะไรมึงดูดิ๊ เชี่ย กูเข้าไปเดินเลือกในชอปให้มึง มึงคิดว่าคนอื่นจะคิดไงกับกูล่ะ ห่า ฝากซื้อของปกติทั่วไปก็ไม่ได้ กูไปแค่สามวันยังยัดเยียดให้กูไปซื้อให้อีก”
   

“โอ่โห มึงบ่นซะยาวเชียว ยาวกว่าหำมึงอีกมั้งน่ะ” เดนนี่เบิกตากว้าง ยกมือขวาปาดกะโหลกเพื่อนไปหนึ่งที จนไอติมมึนไปครู่หนึ่ง
   

“สู่รู้ มึงยังไม่เคยเห็นตอนกูแข็งเลยเหอะ” ไอติมหัวเราะเสียงใส มองเพื่อนด้วยสายตากรุ้มกริ่มจนเดนนี่ออกอาการเงอะงะเล็กน้อย
   

“กูล้อเล่นนน แค่ได้ยินเสียงครางผู้หญิงที่มึงพามาเอาที่บ้านกูก็รู้แล้วละ” ไอติมมองเพื่อนด้วยสายตามีเลศนัย เดนนี่เบ้ปาก ยักไหล่เท่ ๆ ไม่ได้รู้สึกอายอะไร เพราะเคยอายจนเลิกอายไปแล้ว
   

“ถ้ามึงอยากครางแบบนั้นบ้างก็บอกกูได้ เดี๋ยวกูจัดให้” เดนนี่ยักคิ้วสองที ไอติมแกล้งทำหน้าขยาดหวาดกลัว เดนนี่ทำหน้าว่าเดี๋ยวเถอะมึงๆ
   

“ออกไปได้ละ กูจะอาบน้ำ จะได้ไปมอ”
   

“อาบน้ำนะ ไม่ใช่ไปจินตนาการถึงไอ้พระเอกนั่นแล้วชักว่าวต่อ” ไอติมชักสีหน้าเล็กๆ
   

“กูหมดมู้ดแล้วโว้ย เชี่ยเดน ขัดขวางกู จะแตกอยู่แล้วเชียว” เดนนี่หัวเราะตลกกับความหงุดหงิดของเพื่อนที่ชักแล้วไปไม่สุด
   

“เสียดาย กูเหนื่อยเดินทาง ไม่งั้นกูจัดให้มึงละ” ไอติมยกมือปัดหลังไล่เพื่อนให้เดินออกไปจากห้องนอนตัวเอง เดนนี่อ้าปากยิ้มมุมปากหนึ่งทีพร้อมกับใช้ปลายลิ้นเกลี่ยขอบฟันบนก่อนหมุนตัวเดินออกไปจากห้องนอนเพื่อน
   

ไอติมหันไปมองหน้าจอแล็ปท็อปที่ตอนนี้ขึ้นเป็นโลโก้ของเว็บไซต์แทนเว็บแคมช่วยตัวเองของแซ็ค พระเอกหนังโป๊ที่ตัวเองชอบไปแล้ว เขาผ่อนลมหายใจยาว ๆ ด้วยความเซ็ง หันไปมองดิลโด้สีเนื้ออมน้ำตาลที่ทำมาจากของจริงของแซ็ค ทั้งสี ทั้งไซซ์ ทั้งลายเส้นเลือดแล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความเขินอายคนเดียว
   

“อาบน้ำกันนะแซ็ค” ไอติมปลดผ้านวมออกจากตัวเปลือยเปล่าที่ขาวสว่าง โยนผ้านวมไว้บนเตียง หยิบดิลโด้เข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับตัวเพื่อเอาไปทำความสะอาด แต่ก็อ้อยอิ่งมากไม่ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวไอ้เดนจะโมโหใส่อีก คนห่าอะไรอารมณ์ (โกรธ) ขึ้นง่ายยิ่งกว่าอวัยวะเพศ
   

ไอติมกับเดนนี่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่จริง ๆ ทั้งสองคนจบมอปลายจากที่เดียวกัน เพียงแต่อยู่คนละสายคนละห้อง แต่พอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกัน คณะเดียวกันและยังเอกเดียวกัน แถมยังเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน เลยทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันนับตั้งแต่นั้น บ้านที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน มีเพื่อนร่วมบ้านอีกสองคน เป็นเพื่อนสนิทฝั่งเดนนี่ทั้งหมด แล้วก็มาสนิทกับไอติมตอนที่มาอยู่บ้านเดียวกัน แต่อีกไม่นานบ้านหลังนี้ก็จะกลายเป็นความทรงจำของไอติมกับเดนนี่และเพื่อนอีกสองคน เพราะพ้นอาทิตย์หน้าไป สถานะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยก็จะจบลง และก้าวเข้าสู่สถานะของคนทำงาน ซึ่งไอติมยังไม่มีงานทำเหมือนเพื่อนบางคนในคณะที่ได้งานทำตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เดนนี่ก็เช่นกัน สำหรับเดนไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่เพราะบ้านมีฐานะ จะทำอาชีพอะไรตอนไหนก็ได้ แต่สำหรับไอติมที่ยังไม่คิดหางาน ไม่ใช่เพราะบ้านร่ำรวย แต่ไอติมอยากจะไปทำอย่างอื่นก่อน
   

ทำฝันที่คิดไว้ให้เป็นจริง…
   

“ไอ้เหี้ยติม!!!”
   

วื้ดดดด!!!


กูโดนเบรกอีกแล้ว!!!
   

“เออ กูจะเสร็จแล้ววว!” ไอติมตะโกนตอบกลับไปและรีบเร่งเช็ดหัวเช็ดตัวให้แห้ง หยิบชุดนักศึกษาที่รีดไว้เรียบร้อยแล้วโดยร้านซักรีดมาใส่อย่างรวดเร็ว หยิบกระเป๋าเป้ได้ก็เปิดประตูออกไปโซนรวมพลของบ้านก็เจอกับเดนนี่ที่นั่งรออยู่ตรงโซฟา
   

“เร่งกูจังไอ้ห่า” เดนนี่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับถลึงตามองเพื่อน
   

“อาจารย์นัดเราสิบโมง นี่มันเก้าโมงห้าสิบแล้วไอ่เฮียติมครับ เดี๋ยวก็ไม่จบไม่สิ้นสักทีกับไอ้โปรเจ็กต์เนี่ย”
   

“เออ ครับ ๆ พ่อครับ พร้อมแล้ว ไปยังล่ะ” เดนนี่ยกมือขวาทำท่าจะตีหัวไอติม เจ้าตัวเบี่ยงตัวหนีและรีบเดินนำออกไปจากบ้านก่อนอย่างเร็ว
   

ทั้งสองคนเรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ มีทำโปรเจ็คต์จบร่วมกัน เป็นหนังสั้น มันก็ดูง่ายสำหรับการนำวิชาที่ร่ำเรียนสี่ปีมาใช้ แต่การทำงานสองคนก็เหนื่อยเอาเรื่อง ที่เดนนี่ต้องบินกลับไปบ้านซานฟรานฯ ก็เพราะไอ้โปรเจ็คต์จบตัวนี้ ทำฝั่งนู้นเสร็จ ก็ส่งมาให้ไอติมจัดการต่อที่ฝั่งไทย เพิ่งจะถึงไทยก็วันก่อน และวันนี้อาจารย์ก็นัดไปพบว่าจะให้ผ่านหรือไม่ ถ้าไม่ต้องมีแก้ ไม่ต้องมีปรับทั้งตัววิดีโอและรายงาน ก็เป็นอันว่าเขาทั้งสองคนจะโล่งตัว จบภาระในการเป็นนักศึกษาเสียที
   

“ถ้าวันนี้ผ่าน ไปฉลองไหนดี กูให้มึงเลือก”
   

“หมูกระทะที่บ้าน!” ไอติมตอบอย่างว่องไวด้วยความกระตือรือร้น เดนนี่ถึงกับหุบยิ้มฉับแล้วหันไปมองเพื่อนด้วยความเอือมในขณะที่กำลังขับรถเก๋งสีดำเข้าไปในมอ
   

“ได้ข่าวว่าเพิ่งแดกกันไปก่อนกูไปซานฟรานฯ” ไอติมยู่ปากพลางหยิบผ้าขนหนูนาโนที่หยิบติดตัวมาด้วยมาเช็ดผมที่ยังแห้งไม่สนิท
   

“ก็กินได้อีกนี่หว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย”
   

“แดกมาก ๆ เดี๋ยวมะเร็งก็มาทักทายหรอก”
   

“มึงย่างไม่เป็นมากกว่า ย่างไม่ไหม้ก็ไม่เป็นมะเร็งป่ะ มึงต้องเซียนแบบกูนี่” หมูกระทะคืออาหารโปรดของไอติม กินจนทำเองเป็น มีสูตรหมักหมูเป็นของตัวเองที่เดนนี่ต้องยอมรับว่ามันนุ่มลิ้นจริง ไหนจะสูตรน้ำจิ้มรสเด็ดของมันที่เด็ดจริงตามที่มันว่า แต่ขนาดว่ามันกินหมูกระทะทุกเดือน เดือนไม่ต่ำกว่าสองครั้ง มันก็ไม่อ้วนเลยเถอะ
   

“งั้นเอางี้ แดกหมูทะเสร็จไปกินเหล้ากัน” ไอติมทำหน้าลำบากใจ เดนนี่จิ๊ปากแล้วยกมือซ้ายผลักหัวเพื่อนเบาๆ
   

“ไปเหอะน่า ใช่ว่ามึงไปทุกวัน”
   

“กินอยู่บ้านไม่ได้เหรอ นะ ๆ มึง หมูกระทะแล้วก็เหล้าไง” เดนนี่กลอกตาเซ็ง ก่อนจะพยักหน้าขึ้นหนึ่งที ไอติมยิ้มกว้างและยกนิ้วโป้งให้เพื่อนหนึ่งที
   

“มึงโตขนาดนี้แล้ว หัดกินบ้างก็ได้ มึงจะได้รู้รสชาติเหล้า รู้ลิมิตตัวเอง จะได้ไม่โดนใครมอมเอาง่ายๆ”
   

“กูก็กินได้นะ มึงก็เคยเห็น แต่มันไม่ใช่ทางกูอะ”
   

“เออ ๆ กูก็หวังว่ามึงคงจะไม่โดนมอมเหล้า ตื่นมาเจ็บตูดนะมึง” ไอติมหัวเราะเบาๆ


เขาไม่ชอบดื่มเหล้า พวกเพื่อน ๆ พอเข้ามอปลายมันก็ดื่มกันเป็นแล้ว แต่เขาไม่ชอบดื่ม ก็เคยดื่มบ้าง แต่ก็เป็นการดื่มพอเป็นพิธีไม่ให้เสียน้ำใจคนที่ยื่นมาให้ ไอติมไม่ใช่สายบันเทิงยามดึก แต่ถ้ากินยามดึกน่ะใช่ อีกอย่าง พวกเหล้ายาปลาปิ้งคือสิ่งที่ลึก ๆ แล้วไอติมไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้พ่อเขาร้ายกาจยิ่งขึ้น จากที่ร้ายกับเขาอยู่แล้ว
   

“เดน แล้วสรุปหลังเรียนจบมึงจะอยู่ไทยหรือกลับไปอยู่ซานฟรานฯ” ไอติมว่าพลางใช้ผ้าซับน้ำในเส้นผมดกดำของตัวเองเบา ๆ เดนนี่เลี้ยวรถไปตามทางที่จะตรงไปตึกคณะก่อนตอบ
   

“ไปอยู่นู่นแหละ แต่ก็ยังไม่กลับทันทีหรอก ขอเที่ยวก่อน” เดนนี่ชะลอรถเพื่อขับข้ามลูกระนาดที่สร้างมาแข่งกับภูเขา
   

ไอติมพยักหน้าน้อย ๆ สองคนก็คุยกันเรื่องหลังเรียนจบ แต่ก็ไม่ได้คุยจริงจัง เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ก็ชวนคุย “กลับไปอยู่ถาวรเลยมั้ยสรุป”
   

“ถาวรดิ พ่อแม่กูอยู่นั่น แต่กูก็คงมีกลับมาไทยบ้าง มึงอะ ยังไง” ไอติมยิ้มแพรวพราวจนเดนนี่ขมวดคิ้วงง
   

“กลับบ้านสักแปบ แล้วจะขอแม่กับน้าไปล่าฝัน” เดนนี่ที่ขมวดคิ้วอยู่แล้วก็ยิ่งขมวดคิ้วเข้าไปอีก นึกในหัวว่าฝันห่าอะไรของมัน ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเพื่อนเป็นคนมีฝัน แต่ไอ้ห่าติมมันช่างฝันซะเหลือเกิน
   

“ไปล่าฝันหรือล่าอะไร” ไอติมยิ้มกว้าง แต่เป็นกว้างเขินอาย เดนนี่หรี่ตามอง
   

“ก็ล่าฝันไงงงง”
   

“มึงไม่ต้องมาเสียงสอง มึงคิดจะทำอะไรไอ้ติม” ไอติมยกไหล่สองข้างยึกยัก เดนนี่เห็นแล้วรู้สึกหมั่นไส้นัก
   

“กูจะไปหาแซ็ค” คนฟังถึงกับหน้าเหวอ
   

“ฮะ ไปหาเขาด้วยเรื่องอะไร” เดนนี่ว่าพลางตีไฟเลี้ยวก่อนถึงลานจอดรถของตึกคณะ พลางหันไปมองเพื่อนด้วยความฉงนปนทึ่ง
   

“กูจะไปให้เขาเอาดิ ความบริสุทธิ์ที่เก็บไว้ กูจะให้เขาคนแรก” ไอติมตอบตาใสแจ๋ว สีหน้าพริ้มอิ่มใจกับการบอกว่าจะเอาความบริสุทธิ์ของตัวเองไปให้คนอื่นถึงที่
   

“ไอ้ติม มึงไม่บริทสุทธิ์ตั้งแต่ยัดดิลโด้ของมันเข้าไปในก้นมึงแล้ว” เดนนี่ว่าด้วยความเครียด เครียดกับความฝันของเพื่อน
   

“มันไม่เหมือนกันสักหน่อย ของจริงต้องเด็ดกว่าสิวะ” ไอติมเถียง แต่ไม่ใช่เถียงคอเป็นเอ็น ก็แค่พูดในสิ่งที่ตัวเองจินตนาการเอาไว้ 
   

“มึงจริงจังมั้ยเนี่ย” เดนนี่ว่าหน้านิ่วคิ้วขมวดพลางจอดรถในช่องจอดรถที่ว่างอันหนึ่งใกล้กับโรงอาหารของคณะ ไอติมเบิกตากว้างแล้วพยักหน้าแรงๆ
   

“จริงจังดิ กูก็เคยเกริ่นกับมึงไว้แล้วนี่ ว่าไม่แน่อาจจะขอไปนอนบ้านมึงที่นู่น” ไอติมพูดพลางยัดผ้าขนหนูผืนเล็กเข้าไปในกระเป๋าเป้และใช้มือขวายีผมตัวเองเบาๆ 
   

“อันนั้นอะกูรู้ แต่กูคิดว่ามึงจะไปเที่ยว”
   

“ก็ไปเที่ยวไง แต่ก็ถือโอกาสไปเสียตัวด้วย” ไอติมยิ้มแป้น เดนนี่อ้าปากค้าง คือมันไม่มีความอาย ความหน้าแดงห่าเหวอะไรบนหน้าของมันเลยสักนิด
   

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามึงจะเสีย เอาแค่เจอตัวมันก่อน มึงจะเจอมันยังไง ฮะ?!” เดนนี่ถามอย่างท้าทาย ไอติมยกมือชี้หน้าเพื่อนแล้วเอามือขวาตีอกตัวเองดังตุบๆ
   

“มึงอย่าดูถูกติ่งอย่างกู กูมีเวย์ของกูเว้ย”
   

“มึงเพี้ยนสัตว์อะครับ ไปล่าฝันด้วยการให้ผู้ชายเอาตูด ไอ้แค่นั้นมึงให้กูเอาก็ได้” ไอติมเบ้ปากแล้วสั่นหัวแรงๆ
   

“ไม่! กูตั้งใจจะเสียตัวให้แซ็ค กูต้องเสียตัวให้เขาให้ได้!”
   

“เออว่ะ แม่งมุ่งมั่นยิ่งกว่าตอนเรียน” เดนนี่ส่ายหัว ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเพื่อนจะทำจริงอย่างที่พูด เพราะไอ้ห่าติมแม่งก็ชอบมโนเพ้อพกบ่อย ๆ บางทีคึกจะทำอะไรก็วูบเดียวเท่านั้นแหละ ครั้งก่อนก็มุ่งมั่นว่าจะเข้าฟิตเนสด้วยกัน ทำได้สองอาทิตย์แม่งก็กลับไปแดกหมูกระทะเหมือนเดิม
   

“กูต้องได้และเขาต้องได้กู” ไอติมทำหน้ามุ่งมั่น ยกมือขวาขึ้นมากำบนอากาศเป็นการประกาศชัย เดนนี่พยักหน้าเออออห่อหมกไปก่อน อย่าเพิ่งไปขัดมัน คงกำลังฟินกับความฝันหวานของตัวเองอยู่ ให้โอกาสมันฝันหน่อย ไปขัดมันชักว่าวมาทีนึงละ เดี๋ยวจะบาปมากกว่าเดิม

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.1: I have a dream. [50%] 15.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 16-11-2017 12:35:04
ขอให้ไอติมสมหวังเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.1: I have a (wet) dream. [100%] 21.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 21-11-2017 20:10:11
Chapter 1 [100%]





“วู้ฮู้ววว เรียนจบแล้วเว้ยยย!” ไอติมชูเนื้อหมูที่คีบมาจากกระทะขึ้นชนกับเดนนี่และเพื่อนร่วมบ้านอีกสองคน ก่อนจะเอาเข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยความฟินระดับสิบ
   

“จะมีทริปเปล่าวะ…” จ๊อกหนุ่มใต้ผิวเข้มรูปร่างอวบแต่เป็นอวบล่ำถามพลางยัดหมูเข้าปากแล้วเคียวแจ๊บ ๆ อย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้กับไอติม
   

“…มึงเปิดร้านขายหมูกระทะได้เลยไอ้ติม มึงทำอร่อยจริง” ไอติมยิ้มกว้างและเคี้ยวหมูของตัวเองบ้าง และยังมีน้ำใจเผื่อแผ่ไปให้เดนนี่ที่นั่งกินแบบเอื่อยเฉื่อย
   

“ไปบ้านกูป้ะ” มิ่งหนุ่มเหนือผิวขาวรูปร่างผอมโปร่งบอกพลางหยิบผักลงไปในกระทะย่างหมู
   

“ช่วงนี้ฝนตก กูว่าไปไหนก็ไม่ค่อยสนุกว่ะ” เดนนี่เสนอความคิดเห็นพลางคีบหมูบนกระทะส่งให้ไอติมที่นั่งกินอย่างต่อเนื่องด้วยความมันส์กับความอร่อย
   

“แต่ถ้าเราไม่ไปตอนนี้ พอแยกกันแล้ว แม่งยากละนะ” มิ่งบอกพลางคีบเส้นหมี่หยกราดน้ำจิ้มสูตรเด็ดของไอติมเข้าปาก
   

“ได้ดิวะ จะไปยากอะไร เดี๋ยวหมดฝนกูพาไอ้ติมขึ้นเหนือไปหามึงเอง แล้วเดี๋ยวไอจ๊อกก็ตามขึ้นมาจากใต้” จ๊อกพยักหน้ารับพลางหยิบเบียร์ขึ้นมาจิบตามอาหารที่เพิ่งกลืนลงคอไป
   

“แจ๊บๆๆ คือกู…”
   

“…แดกให้หมดก่อนไอ้ติม พวกกูไม่แย่งมึงแดกหรอก” เดนว่าพลางส่งทิชชูให้เพื่อนไปเช็ดปากที่น้ำจิ้มเลอะเต็มไปหมด ไอติมรับไปเช็ดจนสะอาดแล้วกลืนหมูลงคอก่อนจะพูด
   

“ปลายปีกูว่าจะไปอเมริกาอะ” เดนนี่ขมวดคิ้ว หันไปมองหน้าเพื่อนทันที ไอติมมีการหันมายิ้มกว้างตอบอย่างเริงร่า 
   

“เอ้า ไปทำไมวะ” มิ่งย่นคิ้ว ไอติมหันไปมองมิ่งทั้งที่ยังยิ้มอยู่แล้วตอบเสียงใส
   

“ไปตามฝัน”
   

“ฮะ?! มึงมีฝันอะไร?!” จ๊อกถามด้วยความงุนงงแล้วหันไปมองเดนนี่ที่นั่งหน้ายุ่งและยกมือเกาหัวแกรก ๆ ราวกับกำลังกลุ้มใจ ส่วนไอ้เจ้าตัวยิ้มกรุ้มกริ่มในขณะที่ปากก็เคี้ยวงับๆ
   

“ไปเสีย… อื้มๆ” ไอติมกำลังจะอ้าปากพูดแต่เดนนี่ยัดหมูชิ้นใหญ่เข้าไปในปากไอ้ตัวดี เลยทำให้สิ่งที่กำลังจะพูดถูกกลืนหายไป
   

“มันจะไปเที่ยวบ้านกู ไม่ได้ไปตามฝันอะไรทั้งนั้นแหละ” เดนนี่เหลือบมองไอติมที่ขมวดคิ้วกลับมา
   

“อ๋อ อ้าว แบบนี้ก็ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันดิวะ” มิ่งว่าพลางยกโค้กขึ้นดื่ม
   

“เอางี้ หมดหน้าฝนเดี๋ยวไปบ้านมึงกัน แล้วเดี๋ยวไปอเม’กาค่อยไปทีหลัง ได้มั้ยไอ้ติม” ไอติมมีสีหน้าลำบากใจ ก่อนตอบแบ่งรับแบ่งสู้
   

“กูต้องดูวันก่อนอะ” มิ่งกับจ๊อกมองหน้ากันงุนงง เดนนี่กลอกตา นึกอยากจะจับไอติมมาตีสักทีสองทีให้มันหายดื้อ
   

นี่มันจะเอาความบริสุทธิ์ไปให้เขาฉุดถึงที่จริงเหรอ?
   

“ไอ้ติม กูไม่เคยเห็นมึงว้อนอยากจะไปอเม’กามาก่อน นึกยังไงจะมาอยากไป” ไอติมตาโตแล้วสั่นหัวรัว ๆ ก่อนจะหยิบน้ำโค้กขึ้นดื่มอึก ๆ แล้วค่อยตอบคำถามจ๊อก
   

“มึงไม่เคยเห็นไง กูอยากไปของกูตั้งนานแล้ว แค่กูยังไม่พร้อม ตอนนี้เรียนจบก็หมดพันธะละ”
   

“แล้วมึงไม่หางานทำเหรอวะ” มิ่งถามด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่หยุดพลิกหมูบนกระทะย่าง
   

“ไปก่อนอะ แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาหา” ไอติมยิ้มกริ่มสุขใจ เดนนี่มองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง เริ่มกังวลกับความคิดเพ้อเจ้อของมันว่ามันจะถือเป็นจริงเป็นจังเกินไป
   

“คือยังไง มึงจะขอเงินแม่กับน้าไปเหรอ” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ กับคำถามของจ๊อก
   

“กูคุยกับน้าแล้ว เขาจะเป็นสปอนเซอร์ให้ตลอดทริป”
   

“เออ ๆ เที่ยวให้สนุก ของกูคงต้องหางานก่อน เดี๋ยวพ่อกับแม่เพ่งกะบาลเอา มึงมันโชคดี ทั้งแม่ทั้งน้าตามใจ” ไอติมยิ้มกว้าง รู้สึกยืดเล็ก ๆ ที่ครอบครัวตัวเองให้ทุกอย่างตามที่ขอ แต่เพราะเขาไม่ใช่คนขออะไรบ่อย ๆ เลยมักได้สิ่งที่ต้องการทุกครั้งที่ขอไป
   

เดนนี่พ่นลมหายใจเบา ๆ มองหน้าไอติมด้วยความเป็นห่วง ห่วงเรื่องความคิดความอ่านของมัน ไอติมมันเป็นพวกสนุกกับชีวิต ไม่คิดอะไรเยอะ มีอาการติสท์ก็บ่อย แต่ครั้งนี้ดูจะติสท์เกินไปหน่อยละ



   
หลังจากกินทุกอย่างที่ขวางหน้าจนหมด ทุกคนก็ช่วยกันล้างอุปกรณ์การกินต่างๆ และนัดแนะกันสำหรับการออกไปดื่มข้างนอกบ้านกับเพื่อนในคณะของใครของมัน เดนนี่กับไอติมก็ไปกับพวกนิเทศฯ จ๊อกไปกับพวกเด็กวิศวะฯ ส่วนมิ่งก็ไปกับเด็กการโรงแรม แยกย้านกันไปคนละร้าน แต่ปิดท้ายด้วยร้านเดียวกันตามสเต็ปของเด็กมหาวิทยาลัยนี้ที่ชอบท่องราตรี
   

“ไอ้ติม”
   

“ฮะ” ไอติมเงยหน้าขึ้นจากจอแล็ปท็อปแล้วส่งยิ้มให้เดนนี่ หนุ่มลูกครึ่งมองเพื่อนด้วยความหนักใจและเป็นห่วง ไอ้รอยยิ้มจริงใจใสซื่อแบบนี้ เขาไม่อยากให้หายไปจากเพื่อน มันเป็นสิ่งดี แต่บางทีก็อยากให้เพื่อนลดการมองทุกอย่างเป็นสีขาวลงมาบ้าง
   

“มึงจะไปจริง ๆ เหรอ กูนึกว่ามึงพูดเล่น” เดนนี่ว่าพลางเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือของเพื่อน ไอติมยิ้มกว้างและพยักหน้ารัวๆ
   

“ไปจริงดิ อำเล่นทำไมล่ะ เขาส่งเมลมาเชิญกูด้วยนะ…” เดนนี่ขมวดคิ้วหน้างง ไอติมหัวเราะคิกคักแล้วหันหน้าจอแล็ปท็อปให้เดนดู เพื่อนตัวโตเอื้อมแขนมาหยิบแล็ปท็อปวางไว้บนตักแล้วก้มลงอ่านเนื้อหาบนหน้าจอ
   

“…กูนั่งแปลเองนานมาก กูว่ากูแปลไม่ผิดนะ ว่าเขาเชิญกูไปงานมีทแอนด์กรีทกับแซ็ค!” เดนนี่ที่ย่นคิ้วอยู่เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนแล้วก้มลงอ่านต่อจนจบแล้วพ่นลมหายใจ
   

ไอ้ประเด็นภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เขาเป็นห่วงมัน
   

“เขาชวนมึงไปเจอสุดที่รักมึงจริงๆ” ไอติมยิ้มกว้างกว่าเดิมแล้วปรบมือแปะ ๆ ดีใจ ตาเกือบตี่ของมันนี่เปล่งประกายแบ๊วเชียว
   

“กูนั่งกดแปลทีละคำเลยนะเว่ย” ไอติมอมยิ้ม กดแปลทุกคำและแปลตั้งแต่ช่วงบ่ายยันตอนนี้ อยากจะให้ไอ้เดนช่วยแปล แต่ก็อยากดีใจกับตัวเองก่อนใคร
   

เดนนี่ถอนหายใจเบา ๆ วางแล็ปท็อปไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือของเพื่อน “ติม มึงคิดดี ๆ นะ มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”
   

ไอติมตาโต กะพริบตาปริบ ๆ มองเพื่อน “อ้าว แล้วใครว่ากูล้อเล่น กูจะไปจริง ทำไมมึงไม่เชื่อกูเนี่ย”
   

“กูไม่ได้ไม่เชื่อ เพราะกูเชื่อกูถึงต้องเตือนมึงไง…” ไอติมเอียงคอ ย่นคิ้วและทำปากขมุบขมิบไปมา
   

“…มึงเข้าใจมั้ยว่าสิ่งที่มึงกำลังจะไปทำมันไม่ใช่เรื่อง เอ่อ กูจะพูดว่าไงดีวะ คือมันไม่ปกติอะ”
   

“ไม่ปกติไงอะ” ไอติมย่นคิ้วหนักกว่าเดิมแล้วอ้าปากหวอด้วยความงง
   

“คือเป้าหมายในการไปของมึงมันฉีกกฎเกินไป มึงจะไปเสียตัวเนี่ยนะ?!” คนตัวเล็กกว่าหุบปากฉับแล้วตั้งคอตรงพร้อมกับยิ้มกว้าง
   

“เอ๊า ทำไมอะ ไปไม่ได้เหรอ”
   

“กูถามจริง คือมึงกะจะไปแค่เสียตัวให้มันแล้วก็กลับไทยอะนะ” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ และใช้ความคิดสักแปบ ก่อนจะพยักหน้าแบบไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
   

“ก็คงเป็นแบบนั้นแหละมึง ก็เสียให้เขาไปแล้ว ก็ได้แล้วอะ จะอยู่ต่อทำไม” เดนนี่ถึงกับยกมือขวากุมขมับตัวเองกับความคิดของเพื่อน
   

“มึงลงทุนเหี้ย ๆ ครับเพื่อน แล้วถ้ามึงไปจนครบกำหนดวีซ่าแล้วยังไม่ได้เสียตัวให้มัน มึงจะทำยังไง”
   

“กลับไปใหม่” ไอติมยิ้มแฮ่ เดนนี่ถึงกับมึนตึ้บ!
   

“มึงจะใจสู้เกินไปละ” ไอติมหัวเราะอารมณ์ดี
   

“ม่ายยย ถ้าเกิดไปแล้วยังไม่เสีย กูก็กลับมาตั้งหลักก่อน กลับมาหางานทำ ช่วยแม่กับน้าก่อนไง กูไม่ได้เนรคุณขนาดนั้นน่า แต่ว่าไปครั้งแรกกูก็จะพยายามให้เขาเอาให้ได้แหละ” เดนนี่ยิ้มคล้ายคนยิ้มเก้อ อยู่ด้วยกันมาสี่ปี ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นความคิดแปลกประหลาดของมัน แต่ครั้งนี้ประหลาดสุดและดันมุ่งมั่นสุดด้วย มีอย่างที่ไหนวะ บินไปถึงโน่นเพื่อไปเสียตัวให้พระเอกหนังโป๊ที่ตัวเองชอบ
   

“ติม ไอ้เรื่องเอา มึงจะเอากับใครก็ได้ มันไม่ใช่ความรักเว่ย…” ไอติมยังคงยิ้มแล้วยักไหล่สองข้างหนึ่งที เดนนี่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
   

“…หรือมึงรักมัน? มึงไม่เคยเจอตัวจริงมันเลยนะ มึงรักมันได้ไง?!” ไอติมยิ้มอ้าปากกว้างแต่สีหน้าตกใจกับน้ำเสียงของเพื่อนที่ดูระทึกเหลือเกิน
   

“ไอ้เดนตายมึงใจเย็น กูยังไม่ได้บอกว่ากูรักเขา”
   

“งั้นมึงก็เอากับคนอื่นก็ได้ เอากับกูได้ ไม่ต้องลงทุนไปเสียตัวให้มันถึงนู่นหรอก” เดนนี่ว่าด้วยความรู้สึกเครียดจริง ๆ เขาไม่ได้คิดจะไปขวางทางใคร แต่ไอ้สิ่งที่เพื่อนเขากำลังจะทำมันดูไม่คุ้มเปล่าวะ
   

“ไม่ได้ๆ  กูอยากให้แซ็คเอากูคนแรกอะ”
   

“มึงรักมันเหรอ อะไรจะมีใจอยากให้มันเอาขนาดนั้น” ไอติมจิ๊ปากแล้วยืดตัวขึ้นตรงๆ
   

“มันไม่ใช่รักแบบที่มึงกำลังจะสื่อหรอก กูรักเขาในแบบติ่งคนหนึ่ง แต่กูแค่อยากพัฒนาเลเวลจากติ่งธรรมดาไปเป็นติ่งพรีเมี่ยม” ไอติมยิ้มห่อไหล่เขินๆ
   

“ด้วยการให้มันเอาตูดมึงครั้งเดียวเนี่ยนะ” ไอติมกลอกตาขึ้นบนทำท่าครุ่นคิดสักแปบก่อนเลื่อนสายตากลับไปมองเพื่อนแล้วยิ้มเขินกว่าเดิม มีอาการบิดตัวด้วยเล็กน้อย
   

“ได้มากกว่าครั้งเดียวก็ไม่เกี่ยงนะ” เดนนี่มีสีหน้าเงิบหน่อยๆ  กับความคิขุอาโนเนะสุดเคะของเพื่อน
   

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามันจะเอามึง” ไอ้เรื่องจะไปเจอกันโอกาสมันก็มาละ อันเชิญมันผ่านอีเมลมาขนาดนี้ ไอ้เรื่องเจอก็คงเจอกันอยู่แล้วแหละ แต่ไอ้เรื่องเอานี่เขายังนึกไม่ออกว่าไอเพระเอกหนังโป๊นั่นมันจะมาเอาไอ้ติมทำไม
   

“เอ๊า ก็ถึงต้องไปนี่ไง อยู่ตรงนี้เขาจะได้เอากูป้ะล่ะ ก็ไม่ ก็ต้องไปหาเขาที่นู่นเลย” ไอติมว่าตาใสแป๋ว เดนนี่รู้สึกเหมือนไมเกรนจะขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นโรคนี้
   

“ติม คือมึง...” ไอติมยกมือกวัก ๆ ตรงหน้าเพื่อน และทำหน้าประมาณว่า ช่างเถอะๆ
   

“…เอาน่ะเดน คือมึงนึกออกมั้ย ถ้ากูไม่ไปหาเขาเอง มึงคิดว่าเขาจะมาหากูเหรอ พรหมลิขิตไม่ช่วยกูหรอก แต่กามลิขิตอะช่วยกูได้” เดนนี่ถึงกับต้องยกมือไหว้เพื่อนหนึ่งทีด้วยความบูชาและความนับถือกับความคิดของมัน ไอติมหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอารมณ์ดี
   

“มึงบอกแม่กับน้ามึงตรง ๆ เลยหรือว่าไงกับเรื่องเนี้ย” ไอติมทำหน้าเหม่อลอยสักพักก่อนจะอ้าปากตอบแบบไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไร
   

“ก็บอกแค่ไปเที่ยวกับมึงอะ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เรื่องแซ็คเขาก็ไม่รู้นะ กูเลยไม่รู้จะบอกว่าไง”
   

“อย่าบอกเลย มึงไปเสียตัวเงียบ ๆ เหอะ” เดนนี่ส่ายหัวอ่อนใจ แต่เพื่อนเขามันสลดที่ไหน นั่งหัวเราะชอบอกชอบใจอยู่นั่นน่ะ อะไรมันจะแฮปปี้ขนาดนั้นวะ
   

ไอติมมันเป็นคนแบบนี้ มันไม่มีพิษมีภัยกับใคร แล้วมันก็ไม่ใช่คนชอบเครียด ไม่คิดมาก แต่บางเรื่องเขาก็อยากให้มันคิดมากๆ
   

“แอลเอกับซานฟรานฯ มันใกล้กันใช่ป้ะ” ไอติมถามด้วยความสงสัย
   

“ขับรถไปได้ หกเจ็กชั่วโมง” ไอติมปรบมือเปาะแปะและลุกขึ้นไปนั่งตักเดนนี่ด้วยความคุ้นเคย
   

“ไปรับไปส่งกูหน่อยนะ!” เดนนี่ทำหน้าเอือมแต่ก็…
   

“เออ!”
   

“เย้!” ไอติมยกแขนขวาคล้องคอเดนนี่และเอาหัวชนกับขมับเพื่อนตัวโต เดนนี่พ่นลมหายใจด้วยความปลดปลง คงห้ามอะไรไม่ได้ละ คนอย่างไอ้ติมถ้าได้เพ้อจะทำอะไรจริงจัง สิ่งที่ควรทำคือดันมันไปให้สุดทาง เดี๋ยวพอเจอทางตันมันก็วกกลับมาเอง พูดเตือนอะไรไปมันก็ฟังนะ แต่มันไม่ทำตาม
   

“คืนนี้ตอบแทนที่มึงใจดี กูจะลองกินเหล้า แต่ถ้ากูเมา พากูกลับบ้านด้วยนะ” ถ้าใครที่ไม่รู้จักมักคุ้นกับสองคนนี้จริงคงนึกว่าเป็นแฟนกัน เพราะนั่งตักแนบชิดสนิทเกินเพื่อน แต่เดนนี่มองไอติมเหมือนน้องชาย เขารักมันเหมือนน้อง มองมันเป็นน้องมากกว่าเพื่อน ไอติมมันเป็นเด็กดี เป็นเพื่อนที่ดี เพื่อนคนไหนอยู่ใกล้มันส่วนใหญ่คือเอ็นดูมันกันทั้งนั้น เพราะมันอยู่เป็นรู้จักปรับตัวจนนึกว่าเป็นกิ้งก่า
   

“งั้นก็ไป เปลี่ยนชุด เดี๋ยวกูไปรอข้างนอก” ไอติมลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าอย่างเร็ว เดนนี่ลุกขึ้นพลางถอนหายใจอีกทีแล้วเดินไปเปิดประตูห้องนอน ในหัวนึกถึงคำ ๆ นึงในอีเมลที่ไอติมให้อ่าน
   

สมาชิก SUPER VIP…
   

เชี่ยติม มึงต้องเงี่ยน เอ้ย มึงต้องคลั่งมันขนาดไหน ถึงขนาดได้เลเวลวีไอพีมา แถมยังเป็นซูเปอร์ด้วยนะ



หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.1: I have a (wet) dream. [100%] 21.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 21-11-2017 20:23:01
ดีใจกับไอติมที่จะได้ไปเสียตัว เอ้ยไปทำตามฝัน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.1: I have a (wet) dream. [100%] 21.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 21-11-2017 23:03:59
ดีใจกับไอติมที่จะได้ไปเสียตัว เอ้ยไปทำตามฝัน


ขอบคุณคุณ Tiffany มากเลยนะคะที่ตามกันอยู่ววว  :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.1: I have a (wet) dream. [100%] 21.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 22-11-2017 16:21:26
ตามมาอ่านครับ เรื่องนี้ถ้าตะดราม่าคลุกน้ำตาน่าดู
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.1: I have a (wet) dream. [100%] 21.11.17
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 22-11-2017 16:33:38
บวกเป็ด  :L1:

ตามค่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [50%] 04.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 04-12-2017 19:25:29
Chapter 2 : So fine. (สบายมาก) [50%]


   
    “น้องติม เดนนี่มาหาลูก” ไอติมที่กำลังนั่งจัดของลงกระเป๋าอยู่บนบ้านหันควับไปมองทางประตูห้องนอนของตัวเองที่เปิดกว้างเพื่อระบายอากาศอยู่ เขาลุกลงจากเตียงวิ่งลงบันได (ไม้) บ้านดังตึง ๆ ไปข้างล่าง
   

“จะวิ่งเสียงดังทำไมล่ะลูก” ไอติมหันไปยิ้มให้กับมารดาที่ทำหน้าดุนิด ๆ แม่ของไอติมเป็นผู้หญิงตัวเล็ก หน้าตาน่ารัก ใบหน้าและแววตาบ่งบอกถึงความเป็นคนใจดีมีเมตตา แม้จะอายุจะเฉียดเลขห้าแล้ว แต่ใบหน้าของมารดาไอติมยังคงดูเด็กกว่าอายุจริง
   

“ยังไม่ชินอีกเหรอครับแม่แป้ง” เดนนี่หัวเราะเบา ๆ พลางยื่นถุงผลไม้ให้แม่แป้งของไอติมรับไป หล่อนทำหน้าเอือมเล็ก ๆ แล้วค่อยยิ้มตามมา
   

“หุนหันพลันแล่นละเป็นที่หนึ่ง เมื่อวานตอนวีซ่ามาถึงบ้าน แม่กับน้าแพนก็เกือบหัวใจวาย เล่นเฮลั่นสนั่นซอย” เดนนี่มองไอติมที่หยิบถุงผลไม้จากมือแม่ไปแหวกดูก่อนจะหยิบกล้วยออกมากินหนึ่งลูก
   

“แล้วนี่น้าแพนไปไหนครับเนี่ย”
   

“แอ่ ไอ้เอน…” ไอติมมองจิกเพื่อน กลืนกล้วยที่กำลังเคี้ยวอยู่ลงคอก่อนว่าต่อ
   

“…เอะอะถามหาน้าแพนนะ” เดนนี่ยิ้มขำ
   

“เอ้า ก็มึงอยู่กับแม่กับน้า ให้กูถามหาใครอีกล่ะ”
   

“กูไม่ให้น้าแพนกับมึงหรอก” เดนนี่ส่ายหัวขำ ๆ กับความหวงน้าของเพื่อนสนิท ซึ่งเขายังไม่เคยคิดขอหรือแย่งน้ามันมาเป็นของตัวเองเลย
   

“อยู่ที่ร้าน วันนี้นางแวะมาช่วย เดี๋ยวแม่ก็ว่าจะเดินไปร้านแล้วละ” แม่ของไอติมเปิดร้านขายอาหารร้านเล็ก ๆ ซึ่งร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน เป็นร้านไม้สีน้ำตาลชั้นเดียวยกพื้นสูง อยู่ใต้ต้นก้ามปูขนาดใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา ถึงจะไม่ใหญ่โต ไม่หรูหรา แต่บรรยากาศร้านนั้นอบอุ่นเป็นกันเองเสมือนนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน ที่สำคัญคืออารหารอร่อยจนเป็นที่พูดถึงปากต่อปาก ขายดิบขายดีจนบางวันต้องงดรับลูกค้าเพราะของหมด
   

“น้องติม จะไปกินข้าวที่ร้านหรือจะหาอะไรกินกับเดนที่นี่ลูก”
   

“เดี๋ยวติมไปที่ร้านครับแม่ ขอจัดของก่อนนะ”
   

“ก่อนไป เอาข้าวเย็นให้สองเกลอด้วยล่ะ” ไอติมพยักหน้า มารดาของเขาเดินออกไปจากบ้าน สองเกลอที่แม่แป้งว่าหมายถึงเจ้าเยอรมันเชฟเฟิร์ดกับเจ้าปอมเมอเรเนียน ไอ้ตัวแรกน่ะที่บ้านเขาตั้งใจเลี้ยง ส่วนอีกตัวน้าแพนไปตบแย่งกับเจ้าของหมาคนเดิมที่วิปริตชอบรังแกหมามา จำได้ว่าตอนนั้นมันส์มาก น้าแพนตบเป็นตบ ตบเสร็จขับรถพาตัวเองกับคู่กรณีไปโรงพักสวย ๆ ส่งคลิปที่คนแถวนั้นอัดไว้ให้ตำรวจดูชิลๆ
   

“จัดของไปถึงไหนละ”
   

“ใกล้เสร็จแล้ว ไปเดือนนึงมันก็เลือกเสื้อผ้ายากเหมือนกันนะ ไม่รู้จะเอาตัวไหนไปมั่ง แล้วเอาไปกี่ตัวดี” ไอติมว่าพลางแกะเงาะเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ย ๆ เดนนี่เดินไปยืนเกาะขอบเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับไอติม
   

“อากาศไม่ได้หนาวมาก ก็ตัดโค้ทออก กางเกงมึงก็ใส่ซ้ำ ๆ เอาก็ได้หรอก”
   

“กูไม่ควรอยู่เกินหนึ่งเดือนใช่มั้ยอะ”
   

“ไม่ควร อยู่นานเกิน เดี๋ยวเขาจะเรียกตรวจสอบย้อนหลังเอา” ไอติมทำปากยื่นหน้างอเล็กๆ
   

“กูกลัวเดือนเดียวไม่พออะ กลัวเสียตัวไม่สำเร็จ”
   

“ก็ไหนว่าถ้าไม่สำเร็จจะกลับมาตั้งหลักก่อนไง” ไอติมย่นคิ้วและทำปากจู๋
   

“แหม กูนอนคิดมาทั้งคืน กว่าจะสัมภาษณ์วีซ่าผ่าน แล้วได้มีโอกาสไปทั้งที ก็อยากให้สำเร็จเลยนี่นา”
   

“มึงก็กลับมาสำเร็จความใคร่อย่างที่มึงทำบ่อย ๆ สิ”
   

“ไอ้เดนอะ -3-”
   

“เอาแต่พอดีไอ้ติม แล้วมึงก็อย่าไปเครียด อย่าไปจริงจังมาก ได้คือได้ ไม่ได้ก็กลับบ้าน อย่าใจแตกตามน้ำ คิดถึงแม่กับน้ามึงไว้เยอะๆ” ไอติมบิดปากหน้าเศร้าเล็ก ๆ ก่อนจะพูดเสียงอ่อย
   

“ก็ด้ายยย” เดนนี่ก็อยากจะโล่งใจให้เต็มที่หรอกนะ แต่กลัวว่าพอมันไปถึงนู่นจะเกิดแรงคึก แรงฮึกเหิมอะไรขึ้นมาที่ส่งผลให้มันดั้นด้นไปต่อ เขานึกขอบคุณตัวเองที่มีบ้านอยู่ที่ซานฟรานฯ ถึงจะห่างจากแอลหกชั่วโมงเป็นมาตรฐาน แต่เขาก็ยังสามารถขับรถตามไปดูมันได้
   

“มึงตอบคำถามท่านกงเขาว่าไรมั่งเนี่ย เขาถึงยอมให้มึงผ่าน” ไอติมยิ้มกว้าง สีหน้าและแววตาทอประกายความตื่นเต้น
   

“ก็พูดความจริงหมดเลย ไปทำอะไร ที่ไหน ไปมีทติ้งกับใคร ยกเว้นเรื่องจะไปเสียตัว…” เดนนี่รู้สึกขอบคุณ
   

“…กูอยากตอบเป็นภาษาอังกฤษตามที่มึงสอนนะ แต่พอเขาเปิดโอกาสให้พูดไทยได้ กูเลยพูดไทยดีกว่า”
   

“มึงจะรอดใช่มั้ยเนี่ยไอ้ติม” คนถูกถามทำตาโตพลางเคี้ยวเงาะลูกที่สิบพร้อมกับพยักหน้ารัวๆ
   

“รอดสิ กูก็ฟังออกบ้าง พูดได้บ้างหรอกน่า”
   

“ฟังออกกับพูดได้แต่เรื่องลามกอะดิ อันนั้นกูรู้ว่ามึงคล่องเลยแหละ” ไอติมหัวเราะคิกคัก ยิ้มจนตาหยีจมูกย่น เดนนี่ถอนหายใจเบาๆ
   

“อย่างน้อยก็ถือว่าสื่อสารได้ป้ะล่ะ”
   

“เออ อย่างน้อยก็ไม่ใบ้แดกตอนจะเสียตัวละวะ” ไอติมยิ้มกว้าง สีหน้าดีใจลายใหญ่มาก
   

“เนอะๆๆ” เดนนี่พยักหน้าขึ้นแบบอืม ๆ ขอไปทีอะไรประมาณนั้น คิดจะขัดมันอีกรอบก็เปล่าประโยชน์ สงสัยมันจะได้เสียตัวสมใจ ไม่งั้นดวงไม่ได้วีซ่ามาครองหรอก
   

“จะให้กูขึ้นไปช่วยจัดกระเป๋ารึเปล่า”
   

“ไปกินข้าวก่อนดีกว่า คืนนี้มึงนอนนี่สิ จะได้ช่วยกูจัด” เดนนี่ย่นคิ้ว เมื่อกี้มันยังพูดอยู่เลยว่าจะจัดของให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปร้าน เนี่ย มันเป็นคนอย่างเนี้ย
   

“มึงจะไม่ให้กูจัดของกูเลยเหรอ” ไอติมลุกขึ้นยืน เดินหน้าอ้อนเข้าไปกอดเดนนี่
   

“มึงคุ้นกว่ากูอ้า มึงไม่ยากหรอก ช่วยกูหน่อยนะๆๆ” ไอติมเอาหน้าผากถูกับอกล่ำของเดนนี่ ถือเป็นอีกหนึ่งท่าไม้ตายที่เอาไว้อ้อนเพื่อนตัวโต
   

“เออ เออๆ” ไอติมเงยหน้าแล้วยิ้มกว้าง ยื่นหน้าหอมแก้มเดนนี่หนึ่งทีจนหนุ่มลูกครึ่งผิวเข้มแก้มแดงระเรื่อ


   “พี่เดนนี่ใจดีกับน้องติมที่สุดดด”
   

“น้องติมอยากโดนตีนสักทีมั้ย” ข่มแก้เขินที่มันหอมแก้มไปงั้นแหละ ไอติมหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อย เดินจูงมือเดนนี่ออกไปข้างนอกบ้านพร้อมกัน
   

“เอาอาหารให้จัมโบ้กับปีโป้ก่อน” ไอติมปล่อยมือเดนนี่ไว้ตรงบันไดปูนสามขั้นหน้าบ้าน หนุ่มลูกครึ่งมองเพื่อนตัวเล็ก (กว่าตัวเอง) เดินไปเปิดกรงหมาอันใหญ่ใต้ต้นชมพู่ ปล่อยให้สองเกลอต่างไซซ์ที่ส่ายหางดุ๊กดิ๊กออกมากระโดดโลดเต้นข้างนอก
   

“กินข้าวๆ” ไอติมว่าพลางหยิบถุงอาหารสุนัขออกมาแกะยาง จัดการเทใส่ชามของแต่ละตัวที่วางไว้ใกล้กรง เดนนี่ยืนมองไอติมให้อาหารหมาด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส มันนั่งกอดไอ้จัมโบ้ เยอรมันเซฟเฟิร์ดจอมดุที่ว่าถ้ามันไม่คุ้นหน้าใครมันจ้องจะกัดหมด แล้วก็ชวนไอ้ปอมฯ ตัวเล็กคุยไปด้วย มันก็สุนทรีย์ของมันไปเรื่อยเปื่อย อยู่กับมันก็สบายใจดี แค่ต้องปรับตัวเข้ากับความเพี้ยน ความเปลี่ยนไวไปมาของอารมณ์มันสักหน่อย
   

“ป่ะเดน ไปกินข้าวกัน” ให้ข้าวให้น้ำกับหมา และเปิดโคมไฟใต้ต้นชมพู่เสร็จ มันก็เดินกลับมาปิดประตูตรงตัวบ้าน และพาเขาเดินออกไปพร้อมกันโดยที่ไม่ลืมล็อคประตูรั้วด้วย เพราะเดี๋ยวไอ้จัมโบ้จะออกไปกัดคนอื่น


บ้านของไอติมเป็นซอยหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตชานเมือง หลังบ้านเป็นทุ่งนาเขียวขจีที่หาได้ยากแล้วในเขตเมืองแบบนี้ ในหมู่บ้านก็มีบ้านอยู่ไม่กี่หลัง ให้ความอบอุ่นและเป็นกันเอง ร้านอาหารของแม่แป้งก็ตั้งอยู่ตรงปากซอยติดริมถนนใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าชิดติดขอบถนนขนาดนั้น เดินจากตัวบ้านไม่เกินห้านาทีก็ถึงแล้ว


“เดน ไม่อยากมีแฟนเหรอ” เดนนี่ขมวดคิ้ว หันไปมองเพื่อนตัวเล็กในขณะที่กำลังเดินไปร้านด้วยกัน


“ถามทำไม”


“ก็ถามเฉย ๆ มึงเลิกกับแฟนคนล่าสุดก็นานแล้วนะ ปีสองอะ แล้วมึงก็โสดดดด”


“มีทำไม กูได้กินไปเรื่อย ๆ สนุกกว่า”


“เลว”


“เอ้า ไอ้เหี้ยหนิ” ถึงจะด่ามันหยาบคาย แต่เขากลับหัวเราะกับสีหน้าของไอ้ติมตอนที่ด่าเขาว่าเลว มันด่าด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ


ตอนที่เดินมาถึงร้าน มีรถเก๋งสีดำคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงลานจอดรถของร้านพอดี ไอติมยืนมองรถคันนั้นนิ่งจนเดนนี่ต้องหันไปมองตามด้วยความงง พอจะหันไปถาม มันก็เดินขึ้นบันไดไม้หน้าร้าน ผลักประตูกระจกขอบไม้เข้าไปด้านในแล้ว


“เขามาอุดหนุนเราอีกแล้วอะแม่…” มารดาของไอติมที่กำลังคิดเงินอยู่เงยหน้าขึ้นมาแบบงง ๆ หันมองไอติมที่เดินไปทางบานหน้าต่างรับอาหารจากครัว


“…ขอปีกไก่ทอดน้ำปลาหน่อยค้าบ แล้วก็เอาน้ำแข็งใสให้ติมด้วยนะ อ้อ เอามาเผื่อไอ้เดนด้วย” ไอติมเดินกลับมาหาแม่ที่ยังคงมีสีหน้าไม่เข้าใจอยู่ ไอติมยิ้มกว้างแล้วขยับปากแบบไร้เสียงว่า


‘พ่อมา’ เดนนี่ทำหน้าอ้อทันที ก็งงอยู่ตั้งนานว่ามันหมายถึงใคร แต่แค่แปลกใจว่าแค่เห็นรถมันก็จำได้แล้วเหรอ เพราะรถที่เขาเห็นแม่งก็รถเก๋งแบบหาได้ทั่วไปบนท้องถนน สงสัยมันคงจำทะเบียนได้ละมั้ง


“อ้าว เดนนี่” หนุ่มลูกครึ่งหันไปมองสาวสวยผมยาวสลวยที่เดินมาจากริมระเบียงข้างร้าน


“สวัสดีครับน้าแพน” เดนนี่ยกมือไหว้น้าแพน น้าของไอติมพร้อมกับยิ้มกว้าง สาวคนนั้นเดินเข้ามากอดเดนนี่ด้วยความคุ้นเคยและเต๊าะเพื่อนสนิทหลานรักด้วยการหอมแก้มหนึ่งทีเป็นการหยอก


“คิดทึ้งคิดถึง”


“เดนก็คิดถึงน้าแพนครับ”


“ปากหวาน นี่พวกกะเทยที่บาร์ก็บ่นคิดถึงเราตลอด” เดนนี่หัวเราะ ไอติมแลบลิ้นใส่พลางรับถ้วยน้ำแข็งใสราดน้ำแดงที่เด็กในร้านเอามาให้ เขาหัวเราะกับท่าทีเหมือนเด็กของมัน


จากน้องชายสู่น้องสาวของแม่แป้ง และจากน้าชายสู่น้าสาวของไอติม น้าแพนเป็นสาวประเภทสองที่เรียกได้ว่าเป็นคนสวย อาจจะไม่ใช่แนวสวยสะกด แต่ก็พูดได้ว่าสวย ก็ยังมีความผู้ชายให้เห็นอยู่บ้างเนื่องจากน้าแพนเพิ่งจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไม่ถึงสิบปี ไม่ได้เตรียมตัวมาตั้งแต่เด็ก ๆ เหมือนสาวประเภทสองยุคใหม่ที่เริ่มปรับร่างกายตัวเองกันตั้งแต่เด็ก แต่แค่นี้เดนนี่ก็มองว่าน้าของเพื่อนสนิทก็ทำได้ดีมากแล้วกับการเปลี่ยนแปลงตัวเองในวัยใกล้สี่สิบ


ไอติมชอบกล่าวหาว่าเพื่อนสนิทจะเอาน้าแพนไปเป็นแฟน แต่ก็รู้แหละว่ามันแซวเล่นของมัน เพราะเดนนี่ชอบทำท่าชื่นชมบูชาน้าแพนบ่อย ๆ ซึ่งที่เขาชื่นชมน้าของไอติมนั้นไม่ได้เป็นไปในทางชู้สาว เดนนี่นับถือน้าแพนตรงที่มีความเป็นตัวของตัวเอง (ซึ่งถ่ายทอดมาถึงหลานได้อย่างดีมาก) เป็นคนทำงานเก่ง ยืนหยัดด้วยลำแข้งตัวเองอย่างแท้จริง เหมือนช่วงนึงของชีวิต น้าแพนใช้ชีวิตแบบสุดมาก จนวันนึงพอแล้วก็เลยหยุด และจัดระเบียบชีวิตได้โคตรดีแบบที่ไม่ง้อผู้ชายและไม่ยอมให้ผู้ชายที่ไหนหลอกได้ง่าย ๆ แม้ว่าแกจะเป็นคนใจดีก็ตาม แกจะรู้ว่าลิมิตและขอบเขตว่าอยู่ตรงไหน สำคัญเลยคือแกใจเด็ด ลุยเป็นลุย อะไรไม่ถูกไม่ควรน้าแพนไฟท์สุดตัวมาก ยิ่งถ้าเป็นเกี่ยวกับเรื่องหลานชายสุดที่รัก น้าคนนี้กัดไม่ปล่อย


“อะ คนเรานี่ก็แปลก ทิ้งเขาไปแล้วก็ยังชอบวกวนกลับมา” น้าแพนมองไปทางประตูร้าน เดนนี่หันไปมองตามสายตาของทั้งสามคนก็เจอกับผู้ชายตัวสูงผอมแต่ไม่ใช่ผอมกะหร่อง ผมดกดำ ผิวขาวเหลือง มากับผู้หญิงผมยาวตัวเล็กผิวคล้ำในชุดลายดอกที่น้าแพนรู้สึกยี้กับรสนิยมของนางมาก และยังมีเด็กผู้หญิงอายุราวสี่ห้าขวบเดินตามมาด้วย


“มันไม่ได้แปลกหรอก มันโรคจิต เห็นว่าเราอยู่สุขสบายก็เลยจะพากันมาบ่มทุกข์ให้” แม่แป้งบอกด้วยใบหน้าระอา เธอก้มมองลูกชายของตัวเองด้วยความเป็นห่วง แต่ลูกชายของเธอกำลังหยิบปีกไก่ทอดสลับกับกินน้ำแข็งใสอย่างสบายอกสบายใจ นั่นเลยทำให้เธอยิ้มเอ็นดู


“คนนี้ฉันตบไปรึยังนะพี่แป้ง”


“ตบไปแล้วไง อันนี้คนล่าสุด ที่มันให้พ่อไอ้ติมโทรมาขอเงินกับเราน่ะ ประสาทมาก” น้าแพนยิ้มร้าย หน้าตาพึงพอใจ


“ค่อยยั่งชั่ว นึกว่ายังไม่ได้ตบ” แม่แป้งหัวเราะเอิ๊กอ๊าก เห็นดีเห็นงามกับน้องสาว เดนนี่ยิ้มขำกับความอารมณ์ดีของครอบครัวนี้


แต่กว่าจะหัวเราะได้แบบนี้ มารดาของไอติมก็ผ่านความหมองหม่นมามากมายเช่นกัน


“ติมไปหลังร้านมั้ย” ไอติมส่ายหัวให้น้าแพนในขณะที่กัดปีกไก่ มือซ้ายกวักเรียกเดนนี่ให้มานั่งข้างกัน 


“งั้นก็ช่วยคิดเงินด้วย เดี๋ยวอีกสักพักจะยุ่งกว่านี้ละ…” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ พลางส่งถ้วยน้ำแข็งใสให้เดนนี่


“…อยากกินอะไรสั่งเอาเลยนะเดน แล้วมิ่งกับจ๊อกไม่มาเหรอลูก”


“มันแยกย้ายกลับบ้านไปแล้วครับน้าแพน แต่เดี๋ยวก็จะมีนัดกันอีกหลังติมกลับจากอเม’กาอะครับ” น้าแพนยกยิ้มและพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินไปรับออเดอร์โต๊ะของพ่อไอติม ชายหนุ่มสูงวัยที่ท่าทางยังดูดีอยู่หันมามองเค้าน์เตอร์ที่ภรรยาเก่าของตัวเองยืนอยู่ แต่เหมือนน้องสาวของภรรยาเก่าจะพูดอะไรสักอย่างเลยทำให้ผู้ชายคนนั้นชักสีหน้าและกลับไปสนใจเมนูต่อ


“ปล่อยให้น้าแพนจัดการไปลูก เราอยู่สวยๆ” ไอติมกับเดนนี่ยิ้มขำ แม่แป้งเบะปากเบา ๆ แล้วก็เดินกลับเข้าไปในครัว เพราะนอกจากจะเป็นเจ้าของร้านแล้ว แม่ยังเป็นหัวหน้าแม่ครัว ควบคุมการผลิตอาหารด้วย อาหารบางอย่างก็ต้องทำเองเพราะเป็นสูตรส่วนตัว แบ่งให้ใครไม่ได้จริง ๆ นอกจากลูกชายของเธอที่ดูท่าจะถนัดกินมากกว่าทำ


“คนนี้เมียคนที่เท่าไหร่วะ” เดนนี่ถามพลางตักน้ำแข็งใสเข้าปาก ไอติมตักแห้วในน้ำแข็งเข้าปากแล้วทำท่านึก ก่อนจะสั่นหัวจนผมเด้ง


“เขามีเยอะเกินอะ จำไม่ได้ เหมือนเว่อร์ แต่เยอะจริง” เรื่องพ่อของไอติม เดนนี่รู้แค่ว่าแยกทางกับแม่ตั้งแต่ช่วงที่มันขึ้นมอปลาย แม่มันทนอยู่กับผู้ชายคนนั้นมาสิบกว่าปีเพียงเพราะอยากให้ไอติมไม่ขาดพ่อ แต่สุดท้ายไอติมก็บอกแม่ว่าขาดพ่อมันจะมีความสุขกว่า แม่เลยทิ้งพ่อทันทีไม่มีรีรอ ไม่มีอาลัยอาวรณ์ใด ๆ ทั้งสิ้นด้วย


“แล้วคนที่เขามีลูกด้วยอะ”


“แม่บอกว่าเขามีกูคนเดียว คนนี้คงเป็นลูกติดของผู้หญิง บางทีกูก็อยากให้เขามีลูกใหม่ จะได้เลิกมาวุ่นวายกับพวกกู…” ไอ้ติมนั่งเคี้ยวไก่จิ้มน้ำจิ้มแจ๊บๆ  อย่างเอร็ดอร่อย 


“…หิวหมูกระทะจัง คืนนี้ทำกินกันป่ะเดน” ไอติมยิ้มท่าทางคึกคัก


“มึงพักหมูกระทะ อาหารร้านแม่มึงเต็มไปหมด” คนตัวเล็กอ้าปากหัวเราะ กัดไก่เข้าปากอีกหนึ่งคำ เป็นปีกไก่ทอดน้ำปลาเส้นสายมาก คงทำไว้ให้คนอื่นแต่พอลูกเจ้าของร้านขอ เลยเอามาให้ก่อนแล้วก็ได้เยอะมากด้วย


“เขาไม่อยากมีลูกใหม่เหรอวะ ไหน ๆ เขาก็ทำท่าไม่ชอบมึงอย่างกับมึงไม่ใช่ลูกขนาดนั้น”


“ไม่รู้เขา หมดน้ำยาแล้วมั้ง” เดนนี่อ้าปากค้าง


“ไอ้เชี่ยติม นั่นพ่อมึงนะ” ไอติมที่กำลังกินไก่ทำหน้างง


“เอ๊า ก็กูไม่รู้จริง ๆ อะ กูก็เลยเดาแบบนี้” เดนนี่อยากขำก็อยาก แต่ก็นึกเกรงใจพ่อเพื่อนอยู่ แม้ที่จริงแล้วพ่อเพื่อนจะไม่ค่อยเห็นเพื่อนเขาเป็นลูกสักเท่าไหร่ อันนี้ว่ากันตามคำบอกเล่าของไอติมแล้วก็จากที่เขาเห็นบ้างมาบางส่วน ก็ไม่ได้อยากใส่ร้ายหรือมองเขาไม่ดี แต่พฤติกรรมและคำพูดของผู้ชายคนนั้นก็ใจร้ายจริง


“พ่อมึงเขายังคิดว่ากูเป็นแฟนมึงอยู่รึเปล่า” ไอติมส่ายหัวพลางตักน้ำแข็งใสเข้าปาก


มันก็เก่งดี กินของคาวของหวานได้ในเวลาเดียวกัน


“ไม่รู้” ไอติมมันไม่สนใจพ่อตัวเองอย่างแท้จริงสินะ ดูมันไม่ใส่ใจเลยว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหนยังไง คงถือว่าจากกันแล้วก็จากไป ไม่ข้องเกี่ยวกันอีก


“มึงรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง” เดนนี่ถามขำ ๆ ไม่ได้คิดจริงจัง ไอติมยักไหล่ส่ายหัวสองที


“กูกับแม่มีความสุขดีตั้งแต่ไม่มีเขา” ไอติมยิ้มแบบไม่เห็นฟัน ตักน้ำจิ้มราดไก่ก่อนเอาเข้าปาก เดนนี่หันไปมองพ่อของเพื่อนที่ตอนนี้กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกับผู้หญิงคนใหม่ของตัวเอง น่าจะกำลังทะเลาะเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่มาด้วย เพราะเห็นชี้ไปทางเด็กแล้วก็บ่น ๆ คนเป็นแม่ก็ชักสีหน้าเหวี่ยงกลับ


อะไรที่ทำให้ชีวิตทุกข์ก็ตัดมันออกไปแค่นั้นเอง


   

   
   
   



หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [50%] 04.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 04-12-2017 20:54:53
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [50%] 04.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-12-2017 01:35:10
เพิ่งจะเห็น ตามอ่านเช่นเคยจ้ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [50%] 04.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 05-12-2017 05:09:22
เดนนี่ทำคะแนนนำหน้าพี่แซ็คไปเยอะแล้ว รอพ่อพระเอกเปิดตัวจ้า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [50%] 04.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 05-12-2017 14:34:59
เพิ่งจะเห็น ตามอ่านเช่นเคยจ้ะ


ขอบคุณมากค่าาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [50%] 04.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 05-12-2017 14:35:44
เดนนี่ทำคะแนนนำหน้าพี่แซ็คไปเยอะแล้ว รอพ่อพระเอกเปิดตัวจ้า

เดนนี่พระเอกของคนเขียนเอง 55555 ผลักดันดาวรุ่งดวงใหม่ม่ม่
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [100%] 15.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 15-12-2017 19:34:59
Chapter 2 [100%]





   สนามบินสุวรรณภูมิ
   

“ดูแลกันดี ๆ นะ เดนมีอะไรก็แนะนำน้องติมหน่อยนะลูก ติมไม่เคยไปต่างประเทศเลย” มารดาของไอติมบอกด้วยความเป็นห่วงในเรื่องที่ลูกชายของหล่อนไม่มีประสบการณ์การออกนอกประเทศเลย แต่ก็ยังเบาใจที่ว่าลูกชายไปกับเพื่อนสนิทที่มีบ้านอยู่ในประเทศที่ทั้งคู่จะไปพอดี อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่าถ้ามีปัญหาอะไร จะยังมีคนคอยช่วยเหลือลูกชาย
   

“ไม่ต้องกังวลเลยครับแม่แป้ง เราก็เที่ยวอยู่ในเมืองที่ผมอยู่แหละครับ ผมกะจะไปกับติมมันทุกที่อยู่แล้ว” ยกเว้นที่ที่มันจะไปเสียตัวนะครับแม่
   

“นอกจากจะมีเดนแล้ว ฉันก็ฝากเหล่าเพื่อนสาวของฉันในซานฟรานฯ ดูแลไอติมมันแล้วแหละพี่แป้ง พวกนางเอ็นดูติมมันมาตั้งแต่เด็ก” คนที่เป็นประเด็นบทสนทนากำลังนั่งดูดชานมไข่มุกและเสียบหูฟังฟังเพลงแบบไม่หือไม่อือกับใคร
   

“ให้แม่เราใช้ติมทำงานได้นะเดน ไปอยู่บ้านก็ไม่คิดเงิน เอาแรงงานเข้าแลกแล้วกัน”
   

“โอ๊ย แม่เดนไม่ใช้มันหรอกครับแม่แป้ง ไอ้ติมมันโปรยเสน่ห์ไว้ตั้งแต่ที่เจอกับแม่ครั้งก่อนที่ไทยแล้วครับ” ทั้งสามคนขำขัน มองไอติมที่หันมามองตาใสหน้างง ๆ แต่ก็ยกยิ้มให้ทุกคน
   

“ไอติม มานี่ก่อนลูก” หญิงสูงวัยร่างเล็กกวักมือเรียกลูกชาย คนโดนเรียกลุกขึ้นเดินมาหาแม่กับน้าพร้อมกับถอดหูฟังออก ก่อนจะคุยอะไรกับทั้งสองคนไอติมก็สะกิดเพื่อนและชี้ไปตรงที่นั่งเป็นการบอกให้ไปจอง เดนนี่เดินไปนั่งจองตามที่เพื่อนชี้
   

“อยากเที่ยว เที่ยวให้เต็มที่นะลูก ให้ไปเที่ยวแล้วก็เที่ยวให้สนุกนะ เงินไม่พอก็โทรมาบอก” ไอติมยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายกับประโยคของมารดา หันไปมองน้าแพนก็เห็นว่าน้ากำลังยิ้มกว้างเช่นกัน
   

“นี่เป็นประโยคที่ติมชอบมากที่สุดในโลกตอนนี้เลย” เจ้าตัวหัวเราะน่ารัก คนเป็นแม่มองด้วยความเอ็นดูก่อนจะดึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเข้ามากอดและหอมแก้มไปที ไอติมหอมแก้มแม่กลับหนึ่งฟอด
   

“คิดถึงก็โทรมา ถ้าเที่ยวเพลินจนลืมแม่ เดี๋ยวพอน้อยใจแม่จะโทรไปเอง” ไอติมหัวเราะเริงร่าแล้วหอมแก้มแม่อีกที แม่ลูกคู่นี้ตัวสูงพอกัน แต่ไอติมจะสูงกว่านิดหน่อย ประมาณสามเซ็นต์
   

“มีปัญหาอะไร ติดต่อพวกเพื่อน ๆ น้าได้ตลอด น้าดีลไว้ให้แล้ว อย่าทำตัวรันทดหรือดราม่า ชีวิตเราไม่เศร้านะไอ้หลานชาย”
   

“ฮู้ย น้าแพนแมนอะ” สาวสองคนสวยทำท่ายกแขนขึ้นเบ่งกล้ามแขน ก่อนจะหัวเราะกับหลานชายสุดที่รัก ไอติมกอดน้าแพนแล้วกระซิบข้างหูน้าเร็วๆ
   

“น้าแพน ๆ ไอติมมีเรื่องจะบอก” พูดเสร็จก็ผละออก น้าแพนมองหลานด้วยความเข้าใจ และไม่ได้แสดงอาการมีพิรุธ
   

“พี่แป้ง เอาไรมั้ย ฉันว่าจะไปแฟมิลี่มาร์ท”
   

“ไม่เอาหรอก ไปถามเดนเถอะ”
   

“งั้นพี่แป้งไปนั่งกับเดนก่อน เดี๋ยวฉันกับติมมา” ทุกคนพากันเดินไปตรงที่เดนนี่นั่งจองพื้นที่ไว้ให้ แม่แป้งนั่งลงข้างเพื่อนสนิทลูกชาย
   

“เดนเอาไรมั้ย จะไปแฟมิลี่มาร์ทกับน้าแพน” หนุ่มลูกครึ่งส่ายหัว ไอติมพยักหน้าและเดินออกจากบริเวณเก้าอี้ที่นั่งพร้อมกับน้า
   

“ว่าไง มีอะไรจะคุย” น้าแพนถามหลังเดินห่างออกมาจากสองคนนั้นได้ไกลแล้ว
   

“ถ้าติมไปเที่ยวแล้วเสียตัวด้วย จะเป็นอะไรมั้ยอะน้าแพน” คนเป็นน้าหันไปมองหลานชายที่ตัวเล็กกว่าตัวเองด้วยความประหลาดใจ
   

“ทำไม ติมจะเอาฝรั่งเป็นแฟนเหรอ” ไอติมหน้านิ่วคิ้วย่น ทำปากยื่นและบิดไปมาอย่างครุ่นคิด
   

“โห ขั้นแฟนอาจยากอะ แต่ถ้าแค่เสียตัวยังพอมีลุ้น… มั้ง” น้าแพนไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือแปลกใจ กลับยิ้มขำกับความคิดของหลานชาย
   

“คือยังไง มีคนในใจอยู่แล้วเหรอ”
   

“ก็… ก็น่าจะใช่ คือเขาอยู่ในใจติมจริง แต่ไม่ใช่ในหัวใจไม่ลืมเลือนอะ” คนเป็นน้าหัวเราะกับความพยายามในการบรรยายความรู้สึกตัวเอง ที่สุดท้ายก็ออกมางง ๆ อยู่ดี
   

“อยู่ในใจเหมือนเดินเลือกซื้อของงี้ป่ะ คิดไว้แล้วว่าอยากซื้ออะไร” ไอติมทำหน้านึกตาม ก่อนจะคลี่ยิ้มและพยักหน้าเร็วๆ
   

“ใช่ ๆ ประมาณนั้นเลยน้าแพน” น้าแพนยิ้ม มองสลับร้านแฟมิลี่มาร์ทกับที่นั่งด้านหน้าร้านสักแปบก่อนตัดสินใจพาไอติมเดินไปนั่งตรงเก้าอี้
   

“คุยกันก่อน ค่อยเข้าไปหาอะไรกิน…” ไอติมดึงกระเป๋าเป้สีเขียวจากด้านหลังมาวางไว้บนตัก หันตัวไปคุยกับน้าตรง ๆ และยกขาซ้ายขึ้นงอบนเก้าอี้
   

“…บอกได้มั้ยว่าเขาเป็นใคร ไปรู้จักกันได้ยังไง แล้วเคยเจอกันรึยัง” น้าสาวถามหลานชายอย่างสบาย ๆ ไม่ได้กดดันหรือจับผิด และน้าแพนก็ไม่ได้คิดว่าต้องได้คำตอบตามที่ตัวเองต้องการทั้งหมด ที่ถามเพราะอยากรู้ความเป็นไปในชีวิตหลานมากกว่า แต่ถ้าหลานจะไม่พูด เธอก็คิดว่ามันเป็นสิทธิ์ของเขา
   

“อืมมม ยังไม่รู้จักกัน ยังไม่เคยเจอกัน แต่กำลังจะไปเจอกันนี่แหละ…” น้าแพนขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ไอติมยิ้มกว้าง ไม่ได้มีทีท่าเขินหรืออาย แค่กำลังคิดว่าจะพูดยังไงให้น้าเข้าใจดี
   

“…เดี๋ยวให้ติมเจอเขา แล้วได้ทำความรู้จักกันก่อน ติมจะมาเล่าให้น้าแพนฟังนะ” คนเป็นน้าไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจใด ๆ ที่หลานไม่ยอมบอก เธอยิ้มและพยักหน้าหนึ่งครั้ง
   

“แต่ติมต้องสัญญาว่าถ้าเกิดมีอะไรเกินเลยกับเขาขึ้นมาจริง ๆ ต้องป้องกัน อย่าปล่อยให้อารมณ์นั้นมันอยู่เหนือสติ คิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไร” ไอติมพยักหน้าเร็วๆ
   

“ครับน้าแพน”


“อารมณ์ทางเพศมันมีกันทุกคนแหละ แต่ต้องรู้จักเซฟตัวเอง ถ้ามันจบบนเตียงหรือจะระเบียง หรือจะที่ไหนก็ตาม ต้องให้มันจบตามนั้น อย่าให้มันไม่จบเพราะมีโรคต่าง ๆ ตามมา”


“น้าแพนไม่ว่า ดีใจจัง” ไอติมยิ้มกริ่มด้วยความดีใจจริงๆ


“จะว่าได้ไง น้าก็ยังซื้อกินอยู่เลย…” สองน้าหลานหัวเราะ น้าแพนมองหน้าหลานชายสุดที่รักและพ่นลมหายใจเบา ๆ แม้เธอจะไม่ห้าม แต่แน่นอนว่าเธอก็เป็นห่วง เพราะไอติมเป็นเด็กใส เป็นคนมองโลกแต่ด้านสว่าง นั่นเพราะเธอกับพี่สาวให้ความรักเด็กคนนี้เต็มที่ เพื่อไม่ให้เขารู้สึกขาดและเป็นการเยียวยาสภาพจิตใจในวัยเด็กของเขาที่ถูกพ่อทำลายไปเกือบครึ่ง


“…ถ้ามันเป็นแค่เรื่องเซ็กซ์ น้าว่ายังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามันขยับไปเป็นเรื่องของหัวใจด้วยแล้ว ติมต้องสตรองนะลูก”


“อู๊ย เอาแค่เรื่องตัวก็พอมั้งน้าแพน” ไอติมคราง ก่อนจะย่นคิ้ว เขายังไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้นเลย คิดแค่ขั้นว่าจะเสียตัวให้เฉย ๆ ซึ่งไอ้ขั้นเสียตัวนี่ก็ต้องมาคิดอีกว่าจะทำยังไงถึงจะเสียตัวให้เขาได้


“ถ้าติมหวังไว้แค่นั้นแล้วติมแฮปปี้ ก็โอเค” ถึงจะไม่ได้ตกใจประหลาดใจ แต่เสี้ยวหนึ่งในใจของน้าแพนก็เป็นห่วงหลาน เพราะไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นที่หลานหวังไว้ มันจะนำพาไปสู่อะไรที่มันไปไกลกว่านั้นหรือเปล่า


“ถ้ามีอะไรคืบหน้าติมจะบอก แต่น้าแพนอย่าเพิ่งบอกแม่นะ” คนเป็นน้ายิ้มและยักคิ้วซ้ายหนึ่งที ไอติมยิ้มกว้างสบายใจ เขาไม่ค่อยมีความลับกับแม่กับน้าหรอก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องแรกเลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็ไว้ใจว่าน้าแพนจะไม่บอกแม่ก่อน


“ป่ะ ไปหาอะไรกินกัน”
   

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [100%] 15.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 15-12-2017 19:35:27
V
v
v


San Francisco International Airport
   

ไอติมเดินลากกระเป๋าอยู่ข้างเดนนี่ หน้าตาคล้ายคนพร้อมจะหลับตลอดเวลา เดนนี่กำลังกดโทรศัพท์ติดต่อรถที่แม่จองไว้ให้มารับที่สนามบิน ทั้งสองคนเดินทางมาถึงสนามบินซานฟรานซิสโกตอนสิบเอ็ดโมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น มีแวะเปลี่ยนเครื่องที่ญี่ปุ่นหนึ่งวัน สองหนุ่มไม่ได้ออกไปไหน อาศัยกินนอนในสนามบินเอาเพราะขี้เกียจจะออกไปตะลอนทัวร์
   

“รถมาแล้วติม” ร่างผอมผิวขาวสว่างจ้าพยักหน้าและรีบลากกระเป๋าตามเพื่อนไปหารถเก๋งสีดำคันหนึ่งที่จอดรออยู่ตรงประตูทางออกจากอาคารสนามบิน คนขับรถที่เป็นชายผมขาวมีอายุลงมาช่วยทั้งสองคนขนกระเป๋า ไอติมเอากระเป๋าลากมาหนึ่งใบใหญ่ ๆ กับกระเป๋าเป้สามใบ หนึ่งใบห้อยติดตัวไว้ กับอีกสองใบเก็บอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ไว้สำหรับเอาไปใช้วันอื่นๆ
   

“วู้ว ซานฟรานนน” ไอติมอ้าปากหาววอด ดวงตาง่วงปรือมองไปรอบตัวแบบที่พยายามเบิกตากว้าง ๆ ให้ดูตื่นเต้นกับการมาต่างประเทศครั้งแรก
   

“ไม่หิวใช่มั้ย” ไอติมสั่นหัวพร้อมกับหาวอีกรอบ
   

“ยังอะ”
   

“เออดี” เดนนี่ชี้นิ้วเข้าไปในรถ ไอติมคลานเข้าไปนั่งด้านหลังฝั่งข้างคนขับ ส่วนเดนนี่นั่งด้านหน้ากับคนขับเพื่อความสะดวกในการบอกทาง
   

“Presidio, right?” เดนนี่พยักหน้าให้คนขับรถที่ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความชัดเจนของจุดหมายปลายทาง
   

“Yes. I will tell you my house again.” อันนี้ไม่ใช่ประโยคยากมาก ไอติมพอจะฟังรู้เรื่องว่าสองคนนั้นกำลังคุยกันเรื่องจุดหมายปลายทางที่จะไปส่ง คนขับถามชื่อปลายทางซึ่งไอติมจำได้ว่ามันคือชื่อเขตที่บ้านเดนนี่ตั้งอยู่ พอคุยกันเข้าใจเรียบร้อย คนขับก็ขับรถออกไปจากสนามบิน
   

“เดน ต้องไปซื้อซิมมั้ยอะ” ไอติมถามพลางกดปุ่มเปิดโทรศัพท์
   

“เดี๋ยวพาเข้าไปในดาวน์ทาวน์” คนตัวเล็กพยักหน้า ไม่คิดเรื่องมาก เพราะไม่รู้เรื่องหรอกว่ามันต้องใช้อะไรยังไงบ้าง ไอเดนว่าไงก็ว่าตามกัน เดินตามมันจะได้ไม่มีอะไรมากัด
   

“ถ้าขึ้นรถเมล์มึงห้ามเอาโทรศัพท์ขึ้นมานั่งกดแบบนี้เด็ดขาดนะ” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนแล้วเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงงปนสงสัย
   

“ทำไมอะ เป็นกฎจราจรเหรอ”
   

“เปล่า โทรศัพท์มึงจะหายไปต่อหน้าต่อตามึงอย่างแท้จริง” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ยังคงไม่ค่อยเก็ทตามที่เพื่อนต้องการจะบอก เดนนี่ยิ้มขำก่อนจะพูดต่อให้เพื่อนเข้าใจ
   

“ขโมยมันเยอะ แล้วขโมยที่นี่ก็ขโมยซึ่ง ๆ หน้าเนี่ยแหละ”
   

“โห ไม่คิดว่าเมืองเจริญแบบนี้ยังจะมีโจรแบบเมืองไทยด้วย” เดนนี่ขมวดคิ้ว มองเพื่อนด้วยความรู้สึกประหลาด
   

“ขโมยมันอยู่ที่สันดานโว้ย ไม่ได้เกี่ยวกับความเจริญของบ้านเมือง”
   

“แล้วคนไร้บ้านอะ เยอะมั้ย”
   

“เยอะ ตัวท็อปของอเม’กาเลยแหละ” ไอติมทำตาโตปากจู๋
   

“เขาจะทำอะไรกูมั้ยอะ” เดนนี่เบิกตากว้างแวบหนึ่งพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้าง
   

“อยู่ให้ห่างจากพวกนั้นไว้ก็แล้วกัน ถ้ามันเข้ามาใกล้ก็ใช้วิชาเทควันโด้สายเขียวของมึงให้เป็นประโยชน์” ไอติมมองวิวข้างทางนิ่งสักแปบก่อนจะยกสองแขนขึ้นมาทำท่าฟันโชะ
   

“อึชๆ” เดนนี่หัวเราะกับอาการกระตุกของเพื่อน นิ่งไปแปบ จู่ ๆ มันก็ชักกระตุกขึ้นมาทำท่าต่อสู้ซะงั้น สงสัยนึกกระบวนการการต่อสู้อยู่มั้ง
   

ไอติมไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพ ถ่ายวิวอะไรทั้งนั้น เขาแค่นั่งมองวิวพวกนั้นผ่านสายตาแล้วเก็บไว้ในความทรงจำของตัวเอง จะว่าไม่ใช่คนติดโซเชียลก็ไม่เชิง มันเป็นช่วง ๆ มากกว่า ถ้าคึกอยากถ่ายก็ถ่ายแหลกอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ก็คือไม่เลย ก็ใช้วิธีนั่งมองและจำเอาไว้ นี่เลยเป็นข้อดีที่ทำให้โทรศัพท์ของไอติมเมมไม่เคยเต็ม
   

“The orange blend with the brown. That’s it.” ไอติมหันไปมองเดนนี่ในตอนที่รถเริ่มชะลอบนถนนเล็ก ๆ เส้นหนึ่งหลังจากขับขึ้นเนินเขามาสักพัก ไอติมแนบหน้ากับกระจกมองบ้านหลังสีส้มผสมน้ำตาลที่หน้าบ้านมีต้นไม้ดอกไม้สะพรั่งชวนมอง
   

“ไปไอ้ติม ถึงแล้ว” ไม่ต้องรอบอกรอบสองหรือรอเรียกสติกลับคืนมาจากการเพิ่งตื่นนอน ไอติมเปิดประตูลงไปยืนบนถนนหน้าบ้านของเดนนี่ ครึ่งชั่วโมงที่นั่งรถมา ไอติมตื่นเต็มตาแล้ว คราวนี้ความตื่นเต้นที่ไม่มีในตอนแรกก็เริ่มตื่นตัวและทำให้เขาหันไปมองรอบตัวด้วยความดี๊ด๊า
   

“สวยอ้า สวยกว่าในรูปอีก” ไอติมมองบ้านที่อยู่ติด ๆ กันด้วยความสนอกสนใจ สถาปัตยกรรมของเมืองซานฟรานฯ นั้นเป็นเอกลักษณ์มากพอที่จะบอกได้ว่านี่คือสัญลักษณ์ของเมืองนี้
   

“มึงมานี่ ๆ มาขนของก่อน เดี๋ยวค่อยกลายร่างเป็นปลากระดี่” ไอติมยิ้มกว้างและเดินเข้าไปช่วยเพื่อนกับคนขับรถยกกระเป๋าออกจากท้ายรถ พอขนลงมาจนหมดเดนนี่ก็จ่ายเงินค่ารถพร้อมกับทิปให้ด้วย ไอติมยืนมองหน้าบ้านหลังขนาดกลางของเดนนี่ให้เต็มตาอีกชัด ๆ แล้วก็คลี่ยิ้มด้วยความตื่นเต้น มันก็เป็นบ้านคนนี่แหละ แต่มันเป็นบ้านคนในต่างแดนที่เขาไม่เคยมาเลย
   

“น่าอยู่ๆ” ไอติมยังคงว่าอย่างตื่นเต้นพลางลากกระเป๋าเดินตามเพื่อนเข้าไปในรั้วบ้านที่เพื่อนเปิดอ้ารอไว้ พื้นด้านหน้าของบ้านเป็นลานปูกระเบื้องสีคล้ายหิน แบ่งสัดส่วนในพื้นที่ที่ไม่ได้ใหญ่มากอย่างลงตัวด้วยการเทปูนแบบปรับระดับพื้นที่สูงต่ำ ด้านขวามือเทปูนเป็นกำแพงสูงขึ้นระดับอกของไอติม ด้านบนปลูกต้นไม้ใหญ่สองสามต้น และมีดอกไม้ขึ้นตัดกับสีเขียวของใบไม้ มันเป็นเหมือนกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่


ส่วนด้านซ้ายมือเป็นลานปูนมีเก้าอี้ให้นั่ง ยกพื้นสูงขึ้นจากลานกระเบื้องหิน ไว้สำหรับปาร์ตี้ปิ้งย่างหรือปาร์ตี้ต่าง ๆ หรือจะออกมานั่งชิล ๆ เฉย ๆ ก็เหมาะ หรือจะนั่งทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจคนนั่ง ตรงกลางที่แบ่งระหว่างสองฝั่งเป็นทางเดินที่ตรงไปสู่บันไดหกขั้นสีเดียวกับกระเบื้องที่พาขึ้นไปสู่มุกหกเหลี่ยมหน้าบ้าน
   

“อากาศดีเนอะ” ไอติมไม่ได้รู้สึกหนาวหรือร้อนจนเกินไป อากาศมันเย็นแต่ไม่ใช่เย็นจนหนาวสั่น ในขณะเดียวกันก็มีแดดส่องบนท้องฟ้าด้วย
   

“ประมาณ 18 องศา” เดนนี่บอกแล้ววางกระเป๋าไว้ในห้องรับแขกด้านซ้ายมือตอนเดินเข้ามาจากมุกหน้าบ้าน  ไอติมเดินไปนั่งบนโซฟาแบบเกรงใจด้วยการนั่งซะปลายโซฟา
   

“มึงนั่งเต็ม ๆ ก็ได้ครับ กูไม่ได้หวง…” พอเพื่อนพูดแบบนั้นไอติมก็ยิ้มแฉ่งและกระเถิบก้นตัวเองเข้าไปนั่งเต็มพื้นที่โซฟาสีน้ำตาลแก่บุนวมตัวยาว มีการยกขาขึ้นมาตีในอากาศเหมือนเด็กที่กำลังตื่นเต้นกับสิ่งใหม่
   

“…แม่!!” เดนนี่ตะโกนเรียกมารดาตัวเองหลังจากเห็นว่าบ้านเงียบไปสักหน่อย เขาเดินออกจากโซนรับแขกไปตรงทางเดินกระเบื้องสีไม้ด้านนอก มองซ้ายมองขวาสักแปบก่อนหันกลับไปมองไอติมที่นั่งมองสำรวจไปทั่วห้องโซนรับแขก
   

“รหัสวายฟาย XXXXXX เดี๋ยวกูไปตามแม่แปบ” ไอติมเลื่อนสายตาไปมองเพื่อนลูกครึ่งแล้วพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจัดการเชื่อมต่อวายฟาย ปล่อยให้เพื่อนไปตามหามารดาตัวเอง
   

พอเชื่อมต่อกับวายฟายได้ การแจ้งเตือนต่าง ๆ ก็เด้งขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ว่าเยอะมาก ไอติมคลิกเข้าไปดูการแจ้งเตือนในเฟซบุ๊คที่ส่วนมากส่งเกมเฮเดย์มาหา เขาไม่คิดว่าใครเพราะตัวเขาเองก็เล่น นอกจากการแจ้งเตือนเกมก็มีการแจ้งเตือนจากเพจของแซ็คที่ทำเอาไอติมยิ้มกว้างเริงร่า ไอติมคลิกเข้าไปดูก็เห็นโปสเตอร์โทนสีเข้ม วันที่อัปโปสเตอร์นี้คือเมื่อสามวันก่อนที่เขากำลังวุ่นวายกับการเตรียมตัวในการเดินทางเลยไม่ได้แตะโซเชียล ร่างผอมแต่ไม่ใช่ผอมกะหร่องอาศัยการแปลอัตโนมัติที่ก็ใช่ว่าจะได้คุณภาพมากนักในการอ่าน
   

“พบ…กับพวกเขา…ที่… ที่ไหนอะ ซี เอ เอส แคส… Castro แคสโทรเหรอ ใน…ซานฟราน… เฮ้ย!” ไอติมเบิกตากว้าง เด้งตัวลุกขึ้นยืนพรึบอัตโนมัต ก้มหน้าอ่านทวนบนหน้าจอของตัวเอง โปสเตอร์เป็นรูปพระเอกขวัญใจตัวเองยืนตรงกลาง ใส่กางเกงในสีแดงทรงสามเหลี่ยมตัวจิ๋ว และมีผู้ชายคนอื่นอีกหกคนในชุดกางเกงชั้นในแบบเดียวกันแต่เป็นสีอื่น
   

“เดี๋ยวเดนจะพาติมมันไปดาวน์ทาวน์…” ไอติมลดมือถือลงทั้งที่ยังยิ้มด้วยความตื่นเต้น เดนนี่เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับผู้หญิงไทยตัวสูง ผิวน้ำผึ้ง ใบหน้าสวยคม ผมสีดำยาวสลวยราวกับผ้าแพรผืนหนา
   

“…ไอติม อ้าว เออ แม่มา” ไอติมฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับยกมือสวัสดีแม่ของเดนนี่ที่ยิ้มกว้างกลับมาอย่างใจดี
   

“สวัสดีค่าน้องติม” ไอติมเดินเข้าไปกอดแม่ของเดนนี่ หล่อนกอดเพื่อนสนิทลูกชายด้วยความเอ็นดู หญิงสาวผละออกจากตัวเพื่อนลูกชายและมองสำรวจร่างผอมบางตรงหน้า
   

“มีน้ำมีนวลขึ้นนะคะน้องติม แต่แม่ชอบมากกว่าตอนผอม ๆ ค่ะ” แม่ของเดนเจอเขาครั้งล่าสุดคือเมื่อปีก่อนตอนเขาอยู่ในช่วงผอมแห้ง
   

“น้องติมกินเยอะ ๆ ตามที่แม่บอก”
   

“อู๊ย เหรอคะ เด็กดีเชียว” หญิงสาวผิวน้ำผึ้งหัวเราะร่วนกับความช่างเอาอกเอาใจของเพื่อนลูกชาย
   

“แม่ทำกับข้าวไว้ให้ด้วย กินเสร็จแล้วเดี๋ยวกูพาเข้าไปเที่ยวในดาวน์ทาวน์” ไอติมพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง
   

“เอาของเข้าไปเก็บในห้องเดนเลยนะคะน้องติม นอนห้องเดียวกันไปเลยค่ะ”
   

“ครับแม่” ไอติมเดินไปช่วยเดนนี่ลากกระเป๋า บ้านของเดนนี่มองภายนอกไม่ได้ใหญ่โตมาก ให้ความรู้สึกว่าแคบในความรู้สึกแรกที่เห็น แต่พอเข้ามาด้านในคือมีพื้นที่ลากยาวลากลึกเข้าไปอีก ภายในบ้านตกแต่งเน้นสีขาว สีครีม สีไม้ สไตล์การตกแต่งมีความจริงจัง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ใช่แนวศิลปิน ศิลปะหรือโมเดิร์น ออกแนวเรียบหรู
   

แต่พอเข้ามาในห้องนอนของเดนนี่กลับไม่ใช่แบบนั้น เพราะห้องเพื่อนสนิทของเขาแต่งซะรก
   

“ทำไมห้องมึงเหมือนหลุดตีมของบ้านอะ” ไอติมว่าพลางมองไปรอบห้องเพื่อนที่มีโปสเตอร์ภาพยนตร์แปะไว้บนผนังห้องหลายเรื่อง และมีภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์แปะไว้ตรงมุมโต๊ะเขียนหนังสือที่ตั้งใกล้กับหน้าต่าง มีตู้วางของจำพวกคล้ายอุปกรณ์ประกอบฉากภาพยนตร์ไว้ตรงผนังห้องปลายเตียง มีจอโปรเจคเตอร์สีขาวขนาดใหญ่ห้อยอยู่ข้างกัน ห้องเดนนี่เหมือนห้องชมภาพยนตร์ขนาดย่อมเลย
   

“อ้าว เรื่องของกูดิ” ไอติมเบะปากใส่เดนนี่และลากกระเป๋าไปไว้ตรงกลางห้อง ก่อนไปหย่อนก้นลงบนที่นอนนุ่ม ๆ ที่อยู่บนเตียงเหล็กสีขาวแบบยกสูง ไอติมไม่ชอบเตียงที่มีพื้นที่ว่างใต้เตียงแบบนี้ มันทำให้รู้สึกว่าจะมีผีมาจับขา
   

“เดน ๆ แคสโทรอยู่ในซานฟรานใช่ป่ะ” ไอติมที่นั่งนิ่งไปได้สักนาทีจู่ ๆ ก็อเลิร์ทขึ้นมา เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเปิดหน้าจอและยื่นสุดแขนไปตรงหน้า เดนนี่เดินเข้ามาหยิบโทรศัพท์ไปจากร่างผอม และไล่อ่านข้อความบนหน้าจอสักพัก
   

“เออ อยู่เนี่ย ย่านของมึงเลย พระเอกมึงมาอะดิ” ไอติมยิ้มกว้างดีใจพร้อมกับชูสองมือขึ้น
   

“ใช่!!! สะไภ้มาก เขามาวันที่เรามาถึงพอดีเลยอะเดนนน เนื่อคู่ๆ” ไอติมว่าด้วยความดี๊ด๊า จังหวะมันช่างเหมาะเจาะและลงตัวซะจริง มาถึงปุ๊บ ก็จะได้เจอปั๊บ แบบนี้ไม่ให้คิดให้กำลังใจตัวเองได้ยังไงว่าแววเสียตัวกำลังมาแล้ว
   

“มึงอยากไปก็ไป แต่กูไม่ไปด้วยนะ” ไอติมย่นคิ้วหน้างอเล็กๆ
   

“มึงไม่ไปแล้วกูจะทำไงอะ กูไม่เคยไปนะ”
   

“เดี๋ยวกูพามึงไปดูนี่ไง ทำให้มากสุดคือไปรับไปส่ง แต่กูไม่ไปด้วย ถึงกูจะไม่ได้แอนตี้เพศอย่างพวกมึง แต่กูขอปลอดภัยไว้ก่อน แม่งมือไวกันเยอะแยะ”
   

“เดนอ้ะ…” ไอติมหน้าบู้ เดนนี่สั่นหัว เขาไม่ได้รังเกียจ เพราะถ้ารังเกียจเขาคงไม่มีเพื่อนสนิทอย่างไอ้ติมและให้มันจูบ มันหอมแก้มหรือกอดอ้อนหรอก แต่เขากลัวโดนลวนลาม และกลัวการเป็นเป้าสายตาของพวกนั้นได้ และเป้าเขาเองก็จะกลายเป็นจุดมุ่งหมายของสายตาเหล่านั้น
   

“…แล้วกูจะพูดกับใครรู้เรื่องมั่ง”
   

“ไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องไป” ไอติมเลิกทำหน้าบู้หน้าเบ้ เปลี่ยนเป็นหน้าจริงจัง
   

“ไม่! กูจะไป ไปคนเดียวก็ได้ งั้นมึงพากูไปสำรวจพื้นที่เลย ไปซื้อบัตรด้วย งานนี้มันต้องมีบัตรใช่เปล่า”
   

“เออ ผับที่มึงจะไปก็ผับดังของกลุ่มมึงเลย แต่ถ้าบัตรหมดกูช่วยไม่ได้นะ”
   

“งั้นก็ไปกัน ๆ รีบไปซื้อบัตรๆ” ไอติมลุกขึ้นไปจับแขนเดนนี่และเขย่าเบาๆ
   

“ไม่กินข้าวรึไง”
   

“เดี๋ยวกลับมากิน นะ ๆ เดนนะ กูกลัวบัตรหมด” เดนนี่ส่ายหัวอ่อนใจกับความเงี่ยน เอ้ย กับความติ่งของเพื่อน
   

เดนนี่บอกแม่ว่าจะพาไอติมไปทำเรื่องซิมการ์ดในดาวน์ทาวน์และไปหาซื้อของแล้วเดี๋ยวกลับมากินข้าวที่บ้าน แม่ของเดนเลยแนะนำว่าไปกินที่ร้านอาหารของที่บ้านได้เลย มื้อที่ทำไว้ให้ที่บ้านเดี๋ยวค่อยกลับมากินเป็นมื้ออื่นแทน
   

“เดี๋ยวแม่ก็ออกไปที่ร้านละ เดนพาน้องติมขึ้นรถบัสสิลูก น้องติมจะได้คุ้นเคย”
   

“วันอื่นแล้วกันแม่” เดนนี่หยิบกุญแจรถของตัวเองออกไปจากบ้าน มีไอติมเดินนำหน้าออกไปยืนรอบนถนนหน้าบ้านแล้ว
   

“ไม่เห็นมีรถเลยอะ” เดนนี่ชี้ไปที่อาคารไม้สีขาวชั้นเดียวข้างบ้าน เดนนี่กดปุ่มเปิดประตูโรงจากรีโมตสีดำในมือ บานประตูเหล็กสีเทาเลื่อนขึ้นช้า ๆ ปรากฏให้เห็นรถเก๋งสองคันแต่คนละสีและคนละแบรนด์จอดคู่กันอยู่
   

“รออยู่เนี่ย” ไอติมพยักหน้าและยืนรอเป็นเด็กดีอยู่ตรงรั้วสีดำของบ้านใกล้กับกล่องไปรษณีย์สีขาว รอสักพักรถเก๋ง Lexus สีดำก็ถอยก้นแฟบ ๆ ออกมา และมาจอดเทียบท่าตรงรั้วที่ไอติมยืนอยู่ ประตูบานเหล็กค่อย ๆ เลื่อนลงปิดตามหลัง
   

ไอติมเปิดประตูรถแล้วหย่อนตัวเข้าไปนั่งข้างคนขับฝั่งขวามือ เอากระเป๋าเป้วางไว้บนตัก จัดการคาดเข็มขัดให้เรียบร้อย พอร่างผอมคาดเข็มขัดเสร็จเดนนี่ก็ขับรถออกไปจากหน้าบ้าน
   

“ไปไหนก่อนอะเดน”
   

“พามึงไปซื้อบัตรก่อน เดี๋ยวจะลงแดงตาย” ไอติมหัวเราะฮิ ๆ ดีใจที่เพื่อนรู้ใจเป็นที่สุด
   

“ร้านชื่อไรนะ เอามาดูอีกทีดิ๊” ไอติมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อค และเอารูปที่ตัวเองเซฟจากเฟซบุ๊คไว้ให้เพื่อนดู เดนนี่รับไปดูในขณะที่กำลังขับรถ เขากดสายตาลงมองชื่อร้านบนโปสเตอร์ พอเจอแล้วก็ส่งคืนให้เพื่อน
   

“ชื่อร้าน XXX มึงช่วยกูหาด้วย อยู่ในดงนั้นแหละ” เดนนี่ใช่ว่าจะไปที่นั่นบ่อย ๆ เขาเคยไปแล้วก็โดนลวนลามทุกครั้งที่ไป เลยไม่ค่อยอยากไปอีก เขาไปสนุกได้ เขาไม่คิดอะไร เพื่อนเขาเป็นเพศสีรุ้งเยอะ แต่เจอลวนลามบ่อยก็เริ่มระแวง เลยตัดปัญหาไม่ไปอีก เดี๋ยวไปทำท่าระแวงในนั้น จะหาว่ารังเกียจเอา
   

เดนนี่ไม่ใช่คนหลงตัวเอง แต่ก็พอรู้ว่าเขาเป็นที่หมายตาหมายปองของพวกนั้น เขาโชคดีมากที่ไอ้ติมมันไม่ใช่คนลุ่มล่าม มันเป็นคนหน่อมแน้มแล้วก็ประหลาด
   

“Castro.” ไอติมพึมพำเบา ๆ ตอนที่รถกำลังจะขับผ่านป้ายสีแดงใหญ่โต เขาทำตาโต หันเกาะหน้าต่างมองข้างทางด้วยความตื่นเต้น สิ่งแรกที่สะดุดตาหลังจากหลุดเข้ามาในย่านนี้คือธงสีรุ้งที่ถูกประดับประดาตามตึก
   

“หูยยย ถนนนี้คือถิ่นกูเลยป่ะ”
   

“เออ ทั้งแถบ มึงมาแจ้งเกิดที่นี่ได้เลย” ไอติมคลี่ยิ้มกว้าง หันไปมองฝั่งเดนนี่ และสลับกับก้มมองผ่านกระจกหน้ารถ และมีหันกลับไปมองด้านหลัง เรียกว่าพยายามมองให้รอบทิศ เดนนี่มองท่าทางตื่นเต้นแบบต่างด้าวพลัดถิ่นของเพื่อนก็ขำ ไอติมยิ้มสดชื่น แต่สายตาก็สอดส่องมองหาร้านที่เป็นเป้าหมายไปด้วยจนกระทั่งเจอ
   

“นั่นเปล่าอะเดน ร้าน XXX” เดนนี่ชะลอรถตรงตึกสีครีมสามตึกติดกัน ด้านหน้าฝั่งหนึ่งเป็นกระจกใสเหมือนตู้อาบน้ำสามตู้ มีกันสาดสีดำติดตามกระจกอย่างละอัน ส่วนอีกฝั่งเป็นประตูสีดำมีกันสาดอันใหญ่สีเดียวกับประตูติดไว้และมีชื่อร้านเพ้นท์อยู่บนกันสาดอีกที และเพิ่มความชัดของชื่อร้านด้วยการมีตัวอักษรแบบเป็นป้ายไฟขนาดใหญ่ติดไว้บนตัวตึก
   

“เดน ลงไปด้วยกันนะ เผื่อกูพูดไม่ถูกอะ” ไอติมอ้อนตอนที่เดนนี่วนรถเพื่อไปจอดตรงหน้าร้าน เดนนี่พยักหน้าขึ้นแบบเสียมิได้ พอรถจอดสนิทไอติมก็เปิดประตูลงไปยืนบนถนนและแหงนหน้ามองร้านด้วยความใจเต้น สอดส่องมองหาอะไรบางอย่างที่จะบอกว่าอีเว้นต์ที่เขาเห็นในเฟซบุ๊คกำลังจะเกิดขึ้นที่ร้านนี้ แล้วเขาก็เห็นโปสเตอร์อยู่ในกรอบรูปอย่างดีที่ติดอยู่ตรงหน้าร้าน
   

“นั่นๆๆ” ไอติมชี้ไปที่กรอบรูปนั้นก่อนจะวิ่งอ้อมหน้ารถไปยืนมองโปสเตอร์ ตรงกรอบรูปสีดำติดไฟทรงกลมทั่วกรอบ เอาไว้เปิดเพิ่มความสว่างยามค่ำคืน
   

“ซื้อตั๋วตรงไหนอ่า” ไอติมหันไปมองเดนนี่ที่กำลังยืนมองงง ๆ เช่นกัน ไอติมโยกตัวไปซ้ายทีขวาทีเพื่อมองหาจุดขายตั๋ว แต่ก็ยังไม่เจอ
   

“ในร้านเปล่า กูก็ไม่เคยมาว่ะ” เดนนี่ก็มึน ไม่รู้จะแนะนำเพื่อนยังไง กำลังมองหาหนทางซื้อตั๋วให้เพื่อน หันไปมองไอ้เพื่อนเพี้ยนอีกทีมันก็เปิดประตูและหายวับเข้าไปข้างในจนต้องรีบก้าวตามไป
   

ไอติมเข้ามายืนงงอยู่ในร้าน ภายในร้านกว้างมาก มีโต๊ะมีเก้าอี้อยู่ตรงแถบขวามือ มีบาร์ขนาดใหญ่อยู่ด้านซ้ายมือ มองตรงไปก็เจอกับเวทีขนาดใหญ่ที่ตอนนี้กำลังมีผู้ชายฝรั่งสามคนกำลังยืนอยู่บนเวทีและมีอยู่ด้านล่างเวทีอีกหนึ่งคน ไอติมเบิกตากว้าง อ้าปากค้างด้วยความตะลึง สองเท้าก้าวไปข้างหน้าอัตโนมัต
   

“ไอ้ติม มึงจะไปไหนน่ะ?!” เดนนี่ที่ตามเข้ามาพยายามคว้าเพื่อนไว้แต่ไม่ทัน ไอติมเดินนำหน้าลิ่ว ๆ ไปทางเวที เดนนี่เห็นฝรั่งทั้งกลุ่มหันมองไอ้เพื่อนตัวเล็กของเขาด้วยความงง ไอติมเดินไปเกาะขอบเวทีพร้อมกับอาการใจเต้นรัวๆ
   

“เฮ้!!!” ไอติมแทบจะตะโกนลั่น แต่ก็เป็นการตะโกนแบบที่ไม่ใช่แนวสะดุ้งเฮือก เดนนี่ชะงัก ทุกคนที่อยู่ตรงเวทีก็ชะงัก และทุกสายตาก็มองหนุ่มเอเชียที่กำลังยิ้มกว้างให้กับหนุ่มอเมริกันตัวสูงใหญ่ที่กำลังหน้าเหวออยู่ไม่น้อย
   

“แซ็คคค!!!” ไอติมยกมือขึ้นโบกรัว ๆ พร้อมกับยิ้มกว้างยิ่งกว่านางงามจักรวาล จากที่ตอนแรกสีหน้าเหวอ ๆ งง ๆ หนุ่มอเมริกันตัวล่ำบึ้กก็เปลี่ยนเป็นหน้าตกใจ
   

“What the fuck? (เชี่ยไรวะ)” หนุ่มฝรั่งพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ด้วยความเครียดและมีความไม่พอใจนิด ๆ พอตั้งสติได้ก็เดินเข้าไปใกล้ไอติมที่ยืนอยู่ด้านล่างเวที สีหน้าไอติมทั้งตื่นเต้นและดีใจ ยิ่งพอหนุ่มอเมริกันผมทองร่างสูงตัวใหญ่ย่อเข่านั่งลงตรงหน้าตัวเอง ดวงตาของไอติมก็เปล่งประกายวาบ
   

“โว้วว ๆ แซ็คคค” ไอติมอ้าปากพึมพำพะงาบๆ  เจ้าของชื่อกระตุกยิ้มหนึ่งที แต่แววตาแข็งกระด้าง หนุ่มฝรั่งยกมือขวาวางบนไหล่ไอติม คนตัวเล็กหันไปมองตามมือใหญ่หนานั้นแล้วเบิกตากว้าง ริมฝีปากขยับเป็นรูปตัวโอ ก่อนหันกลับไปมองใบหน้าหล่อของแซ็คที่ยิ้มให้อย่างเท่
   

แต่จริง ๆ มันคือรอยยิ้มที่กำลังข่มความไม่พอใจเอาไว้
   

“Easy. Easy, dude. (เย็นไว้ เย็นไว้เพื่อน)” ไอติมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะช็อค หน้าของเขากับแซ็คอยู่ห่างกันแค่หนึ่งฝ่ามือกั้นเท่านั้น รอยยิ้มมุมปากสุดเท่ (ในความคิดติมคนเดียว) ตรึงดวงตาใสแป๋วได้อยู่หมัด ไอติมแทบไม่กะพริบตา เพราะอยากมองหน้าขวัญใจตัวเองในระยะใกล้แบบนี้ให้เต็มที่


ส่วนแซ็คกำลังมองหน้าไอ้หนุ่มเอเชียที่มีแววเป็นตัวปัญหาด้วยความครุ่นคิดว่ามันเป็นใครมาจากโซน
ไหนของเอเชีย


ไอ้เด็กนี่มันรู้ชื่อจริงเขาได้ยังไง?!
   
   
   
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [100%] 15.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-12-2017 20:05:11
ไปรู้ชื่อจริงเขาได้ไงเนี้ย แล้วจะโดนตืบป่ะ  :ling3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [100%] 15.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-12-2017 06:32:08
ว้าววว พี่แซคมาแล้วว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [100%] 15.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 17-12-2017 00:26:07
ไปรู้ชื่อจริงเขาได้ไงเนี้ย แล้วจะโดนตืบป่ะ  :ling3:


เรียกรถพยาบาลมารอทีค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.2: I'm fine. [100%] 15.12.17
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 17-12-2017 00:26:37
ว้าววว พี่แซคมาแล้วว

มาแบบให้รู้ว่าตูอยู่นี่นะ 55555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[50%] 01.01.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 02-01-2018 18:58:36
Fall in lust - Chapter 3 :: Lust at first sight. [50%]



   ไอติมกำลังนั่งยิ้มใหญ่ไม่มียิ้มน้อย อยากจะจำกัดความให้ตัวเองว่าฟินสุด ๆ แต่ก็รู้ตัวดีว่าที่จะทำให้ฟินสุด ๆ นั้นไม่ใช่เพียงแค่การจ้องหน้าแซ็คที่ตอนนี้นั่งอยู่ตรงข้ามตัวเอง เดนนี่มองเพื่อนด้วยความหนักใจ เขาคิดว่าไอ้ติมมันเห็นอยู่แล้วละว่าตอนนี้หน้าไอ้ฝรั่งผมทองไม่ได้ยิ้มหรือคิดจะแย้มปากเป็นรอยยิ้มไปกับมันเลย แต่ด้วยความดีใจที่ได้เจอขวัญใจตัวเอง ความคิดมันเลยอาจจะมองผ่านจุดนั้นไป
   

“Where did you come from? (นายมาจากไหน)” ไอติมได้สติกลับมา และเข้าใจคำถามนั้นเพราะมันไม่ใช่ประโยคยาก เขาไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมากก็จริง แต่ประโยคสื่อสารขั้นพื้นฐานเขาก็ไม่ได้งั่งจนฟังไม่ออก
   

“Thailand. I come from Thailand. (ประเทศไทย ผมจากมาจากประเทศไทยครับ)” หนุ่มเอเชียตอบเสียงใสพร้อมกับยิ้มสดใส มองใบหน้าหล่อชัดทุกสัดส่วนด้วยความเพลินตา แม้ใบหน้าของแซ็คตอนนี้จะนิ่วคิ้วย่น แต่คนอย่างไอติมกลับกำลังคิดว่าสีหน้านี้มันช่างเท่บาดใจ และชวนให้เกิดอารมณ์ได้ดีจัง
   

ทำหน้าเข้ม ๆ ดุ ๆ บนเตียงแบบนี้ คงดิบเถื่อนสะเทือนใจน่าดู อู้วววๆ
   

แซ็คหันมองรอบตัว ตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ในห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ด้านหลังเวทีที่สามารถอัดคนเข้ามาได้เกือบครึ่งร้อยชีวิต มีคนอื่นอยู่ในห้องนั้นอีกสามคน มีเพื่อนแซ็คสองคน และทีมงานของคลับนี้อีกหนึ่งคน แซ็คหันกลับมาแล้วมองเดนนี่ด้วยสายตาที่เจ้าตัวก็ดูออกว่าเป็นสายตาที่ไม่ค่อยจะไว้ใจ
   

“He is my friend. My best friend, my dictionary. (เขาเป็นเพื่อนผม เพื่อนสนิทผมเอง เป็นดิคชันนารีของผม)” ไอติมพูดแทนเพื่อน เพราะกลัวว่าเพื่อนจะโดนไล่ออกไปข้างนอก แล้วทิ้งให้เขาต้องผจญภัยกับภาษาที่ยังพูดไม่ค่อยคล่องอย่างลำพัง ไอ้ห่วงความรู้สึกเพื่อนก็ห่วงด้วย แต่ก็กลัวว่าตัวเองจะสื่อสารกับแซ็คไม่รู้เรื่อง มีไอ้เดนอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ยังอุ่นใจหน่อย
   

“But you can speak English. (แต่นายก็พูดภาษาอังกฤษได้)” ไอติมพยักหน้าและฉีกยิ้ม
   

“นิดหน่อยอะ เอ่อ แบบว่า… Little bit. Not very good. (นิดหน่อยครับ ไม่ได้ดีมาก)” แซ็คหรี่ตามองไอติมแวบหนึ่งก่อนจะจ้องมองด้วยสายตาแข็งนิด ๆ แต่ไอ้หนุ่มเอเชียกลับคลี่ยิ้มเหมือนกับไม่เห็นว่าสีหน้าเขาเป็นยังไง
   

“You change hair color ด้วยอะ It’s beautiful. นะ” ไอติมใช้มือจับเส้นผมตัวเองเป็นตัวช่วยสื่อสารให้แซ็คเข้าใจมากขึ้นว่าตัวเองกำลังชมสีผมอันใหม่ของเขา เจ้าของผมสีทองไม่ได้ตอบอะไร ทำเพียงยักคิ้วอ่อนทๆ และยักไหล่ขวาหนึ่งที
   

“You are so handsome very very much. แล้วก็ So ล่ำบึ้กมาก ๆ You so hot กว่าใน Camera อีกอะ” ร่างผอมยกแขนขวาขึ้นทำท่าเบ่งกล้าม ดวงตามองกล้ามแขนเป็นประกายและมองกล้ามอกที่อยู่ใต้เสื้อยืดสีขาวอย่าง (หื่น) กระหายแบบที่ปิดไม่มิด
   

แซ็คกะพริบตาหน้านิ่ง ทั้งเข้าใจและงงกับสิ่งที่ไอ้หนุ่มเอเชียหน้าขาวคนนี้พูด เขาย่นคิ้วกับประโยคแปลยากของมัน ไอ้คนพูดก็ยิ้มไม่เมื่อยปากเลยสักนิด จนเขานึกสงสัยว่ามันเทคยาตัวไหนมารึเปล่า


เดนนี่ที่นั่งมองสองคนพูดกันทำตัวไม่ถูกว่าควรแปลที่เพื่อนตัวเองพูดดีมั้ย เขาเริ่มรู้สึกอยากกุมขมับกับการเรียบเรียงประโยคในการพูดของเพื่อนตัวเอง เขาชื่นชมที่มันกล้าพูด แต่บางทีก็มึนตึ้บแทนคนฟัง
   

“I look your porn movie almost everyday เลยนะ But it’s not much อะ Why don’t you เอ่อ have it more more ล่ะ” แซ็คอ้าปากค้าง หน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความฉงนสงสัย ก่อนจะขยับริมฝีปากเป็นรอยยิ้มขำเล็ก ๆ ขำที่ไอ้เด็กคนนี้มันพูดก้ำกึ่งระหว่างรู้เรื่องกับไม่รู้เรื่อง
   

ไอติมเห็นแซ็คยิ้มก็ยิ่งยิ้มเข้าไปอีก “I เอ่อ ชักว่าว เดน ๆ ชักว่าวต้องพูดว่าไรนะ jerk out ป้ะ”
   

“Jerk off.” เดนนี่ตอบเสียงเรียบ ๆ และเบา ๆ ใบหน้าอึดอัดนิดหน่อย
   

“เออ Yes, yes. You make me jerk off บ่อยมาก แบบ many times อะ” เดนนี่อ้าปากค้างตะลึงกับคำพูดของไอ้เพื่อนตัวเล็ก เสี้ยวหนึ่งดีใจที่มันออกเสียงเอสถูก แต่ก็ตะลึงกับความตรง ๆ เผย ๆ ของมัน ส่วนแซ็คก็สีหน้าค้างเติ่ง เขาไม่ได้ค้างกับเรื่องที่ไอ้เด็กนี่ชักว่าว เพราะไอ้หนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนแรกที่บอกเขา แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกทึ่งคือการที่มันพูดเหมือนกำลังบอกว่าตัวเองชอบกินอะไร คือมันพูดด้วยความร่าเริงและเริงรื่นมาก
   

“So, you gonna tell me, I make you horny, are you? (ก็คือ นายกำลังจะบอกว่า ฉันทำให้นายเงี่ยx ใช่มั้ย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ครุ่นคิดสักแปบก่อนจะคลี่ยิ้มและพยักหน้ารัวๆ
   

“Yes, yes, but you have a little porn อะ ไม่เยอะ เอ่อ Not much porn. I want more from you.” เดนนี่ขยับเปลือกตากว้างขึ้นและยกนิ้วชี้นวดคิ้วขวาเบาๆ
   

“I am your fan club อะ I am ติ่ง!” ไอติมว่าต่อด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะสื่อ รีบพูดออกไปทั้งที่จริง ๆ อยากพูดว่าตัวเองเป็นติ่งให้ถูกต้องในภาษาอังกฤษ แต่ปากมันก็ไปไวกว่าสมองแล้ว
   

แซ็คมองไอติมแล้วก็ทั้งนึกขันและนึกข้อง (ใจ) จนเกือบจะเรียกได้ว่าระแวง หรือแรงขึ้นอีกหน่อยก็คือกลัวกับการที่ไอ้หนุ่มเอเชียตัวขาวที่จู่ ๆ ก็มาโผล่ตรงหน้าเขาและเรียกชื่อเขาเสียงดังลั่นคลับ
   

“How do you know my real name? (รู้ชื่อจริงฉันได้ยังไง)” แซ็คถามแบบพยายามจะใจเย็น ไม่แสดงให้เห็นถึงอาการไม่พอใจ ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ แปบหนึ่งเพราะกำลังนึกตามที่แซ็คพูด
   

“Your name? (ชื่อคุณเหรอ)” ไอติมทวนคำถามนั้น แซ็คพยักหน้านิ่ง ไอติมหันไปมองเดนนี่ทันที
   

“เขาถามว่ามึงรู้ชื่อจริง ๆ เขาได้ยังไง” ไอติมร้องอ๋อแบบไม่มีเสียงแล้วก็หันกลับไปหาแซ็ค จากสีหน้าเริงรื่นก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะพูดเสียงอ่อยๆ
   

“I cannot tell you. (ผมบอกไม่ได้)” แซ็คขบกราม มองไอติมนิ่ง ทั้งที่ในใจร้อนด้วยความขุ่นใจ ไม่พอใจเป็นอย่างมากที่มีใครก็ไม่รู้มาเรียกชื่อจริงตัวเองทั้งที่ไม่เคยแม้กระทั่งรู้จักกัน มันเรียกข้ามนามสกุลเขาไปด้วยซ้ำ
   

มันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยกับการเรียกชื่อ แต่สำหรับ คนอย่างเขา หรือ คนอย่างพวกเขา มันคือเรื่องใหญ่ ด้วยแค่วัฒนธรรมตะวันตกที่จะไม่เรียกชื่อจริงของคนไม่สนิทกันมันก็สร้างความไม่พอใจได้แล้วสำหรับบางคน เขาจะปล่อยผ่านไปง่าย ๆ และบอกว่าไม่เป็นไรไม่ได้
   

เพราะมันหมายถึงความอันตรายของชีวิตได้เลย
   

“Why? (ทำไม)” แซ็คถามเสียงทุ้ม ไอติมมีสีหน้าลำบากใจแล้วก็สั่นหัวรัวๆ
   

“I promise ไว้” ฝรั่งหัวทองมองหนุ่มเอเชียผมดำขลับด้วยความอดทนอดกลั้นที่จะไม่ต่อยหน้าแล้วเค้นถามด้วยความโมโห แต่ถึงอย่างนั้นสองหมัดเขาก็กำแน่น หนุ่มอเมริกันพ่นลมหายใจเบา ๆ ก่อนจะกระตุกยิ้ม
   

“Okay. That’s fine. So, are you coming to see me tonight? (โอเค ไม่เป็นไร แล้ว นายจะมาดูฉันคืนนี้ใช่มั้ย)” ฝรั่งตัวโตกดเสียงตัวเองไม่ให้ออกอาการฉุนเฉียวมากเกินไป ไอติมอ้าปากค้างนิดหนึ่ง และพยายามนึกตามที่แซ็คพูด แต่สุดท้ายก็หันไปมองเดนนี่แบบต้องการความช่วยเหลือเพื่อความชัวร์
   

“เรื่องที่มึงไม่ยอมบอกว่ารู้ชื่อเขาได้ยังไง เขาว่าไม่เป็นไร เขาถามมึงว่าจะมาดูเขาคืนนี้ใช่มั้ย” ไอติมยิ้มกว้างแล้วหันไปมองแซ็คที่ (พยายาม) ยิ้มอยู่
   

“Yes! I will come tonight, but I don’t have ทิก ทิก ทิกเกด อะ I find อยู่” แซ็คมองใบหน้าขาวผ่องที่กำลังยิ้มจนเห็นลักยิ้มเล็ก ๆ บนแก้มด้วยความรู้สึกอดทน ก็ไม่ถึงกับต้องอดกลั้น แต่ก็ยอมรับว่าอยากจับไอ้เด็กคนนี้มาเขย่า ๆ แล้วเหวี่ยงไปกระแทกกับผนังจัง ๆ สักที
   

ยิ่งคิดว่าถ้าตอนที่มันเรียกชื่อเขามีคนอื่นนอกเหนือจากเพื่อนตัวเองอยู่ด้วย มันยิ่งน่าหงุดหงิดใจ
   

“เฮ้ เดี๋ยวฉันจะเอาบัตรมาให้ ราคา xxx บอกเพื่อนนายเตรียมเงินไว้ด้วย ราคานี้ครึ่งนึงจากราคาบัตรจริง บอกเพื่อนนายว่าฉันให้เป็นพิเศษ” แซ็คหันไปพูดกับเดนนี่รัวและเร็วจนไอติมแทบจะฟังไม่ทัน จับคำศัพท์ได้ไม่กี่คำเท่านั้นเอง แต่ก็พอรู้ว่าแซ็คกำลังสื่อสารกับไอ้เดนเรื่องบัตรอยู่
   

“Wait here. (รอนี่)” แซ็คหันกลับมาบอกไอติมแล้วลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ที่นั่ง มองรอยยิ้มกว้างของไอติมอย่างเรียบเฉยก่อนหมุนตัวเดินออกไป ไอติมมองตามร่างของแซ็คด้วยหัวใจที่เบ่งบาน ไม่คาดคิด ไม่คิดฝันจริง ๆ ว่าจะได้มานั่งคุยกับขวัญใจตัวเองแบบไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลย ก่อนหน้านี้ก็คิดบ้างว่าที่งานมีทแอนด์กรีทในแอลเอยังไงก็ต้องได้คุย เพราะเขามีบัตรวีไอพีขนาดนั้น แต่ไม่คิดว่าจะได้คุยกันก่อนงานมีทอีก
   

“ไอ้เดนนน มึงเห็นมั้ย ๆ กูได้เจอแซ็คแล้ว”
   

“กูไม่ได้ตาบอดมั้ยล่ะ แล้วกูก็ช่วยมึงแปลอยู่นะไอ้ห่าติม” ไอติมยิ้มระรื่นชื่นมื่น ยกมือปรบเปาะแปะราวกับเด็ก
   

“หล่อกว่าที่กูเห็นในไลฟ์อีกอะมึง เซ็กซี่โคตร เห็นแล้ว…” ไอติมทำหน้าเหมือนคนกำลังกินของเปรี้ยวเผ็ดเข็ดฟัน เดนนี่รู้สึกเครียดนิดหน่อยเพราะบรรยากาศในนี้ดูจะไม่เหมาะกับตัวเอง ส่วนไอ้ติมมันคงอยู่ถูกที่ถูกทางของมันแล้วละ แถมยังรู้สึกว่ามันจะยิ่งเพิ่มเลเวลความอยากเสียตัวเพิ่มมากขึ้นไปอีก
   

“มึงเตรียมเงินไว้ให้เขาด้วย เขาจะเอาบัตรมาให้มึง…” เดนนี่บอกจำนวนเงิน ไอติมเปิดกระเป๋าเป้แล้วควานหากระเป๋าตังค์
   

“…แล้วมึงไปรู้ชื่อจริงเขาได้ไง มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเลยนะ ท่าทางเขาไม่พอใจด้วย” ต้องเตือนสักหน่อย เผื่อมันเอาแต่ดีใจจนลืมสังเกตรายละเอียดเรื่องอารมณ์ของขวัญใจมันไป
   

“กูบอกไม่ได้หรอก สัญญาต้องเป็นสัญญา” ไอติมหน้าหงอยลงเล็กน้อย ไม่ได้คิดจะมีความลับกับเพื่อน หรือปิดเป็นลับลมคมในกับแซ็ค แต่ก็ลำบากใจจะตอบคำถามนี้จริงๆ
   

“แสดงว่ามีคนบอกมึงมา” ไอติมเงียบ ทำเนียนตีหน้ามึน ๆ ก่อนจะเนียนเบี่ยงประเด็นเรื่องที่มาของชื่อแซ็ค
   

“เรื่องชื่อนี่มันสำคัญมากเลยเหรอ กูหมายถึงมันเป็นเรื่องต้องห้ามงี้เหรอ” ไอติมกระซิบถาม สีหน้ามีความสงสัยจริง ๆ ว่ากันตามตรง ตัวเขาเองก็ไม่ได้รู้เรื่องวัฒนธรรมตะวันตกอะไรนักหนา เรียนภาษาอังกฤษก็แค่ขั้นพื้นฐาน ยังดีที่ได้ซีบวกมา มีอยู่ครั้งนึงเคยได้บีก็ดีใจจะตายแล้ว
   

“โอ่โห นี่มึงเพิ่งมาถามเหรอเนี่ย” ไอติมหน้างอเล็กน้อย หันไปมองฝรั่งอีกสามคนที่กำลังนั่งคุยกัน หนึ่งในนั้นเป็นคนผิวขาว ตาสีดำ ตัวสูงและล่ำ ผมสีน้ำตาลเข้ม กำลังส่งยิ้มทักทายมา ไอติมยิ้มฉีกยิ้มกว้าง ฝรั่งคนนั้นยิ้มขำน้อย ๆ แล้วกลับไปคุยกับเพื่อนต่อ ไอติมเลยหันกลับมาหาเพื่อนตัวเองบ้าง
   

“กูไม่รู้นี่” ร่างผอมว่าเสียงอ่อน
   

“มึงโชคดีแค่ไหนที่เขาไม่ซัดหน้ามึง”
   

“ก็อาจารย์ที่โรงเรียน แล้วก็ที่มหา’ลัย เขาให้เรียกชื่อจริงนี่หว่า กูก็นึกว่าเรียกได้กับทุกคน”
   

“อันนั้นอาจารย์ เขาต้องการให้เราสนิทกันเพื่อจะได้เรียนแบบไม่เครียด”
   

“แล้วเรียกชื่อไม่ได้เลยเหรอ”
   

“มันก็เหมือนกับคนไทยแหละที่บางคนเล่นหัวได้ บางคนถือมาก” ไอติมนึกสักแปบก่อนจะพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยความเข้าใจ สีหน้ามีความกังวลใจเล็ก ๆ ให้เดนนี่สบายใจว่าเพื่อนไม่ได้ปล่อยชิลแบบที่ชอบทำ
   

“แล้วถ้าเขาไม่พอใจ เขาจะเอากูมั้ยวะเดน” เดนนี่ชะงัก มองสีหน้าครุ่นคิดคิ้วมุ่นของเพื่อนด้วยความไม่แน่ใจว่าสีหน้านั้นของมันคือกำลังเครียดกับประเด็นที่มันถามอยู่ใช่มั้ย ซึ่งจากที่รู้จักกันมา เขาว่าใช่
   

“มึงอย่าเพิ่งคิด…” เดนนี่หยุดพูดเพราะเห็นว่าไอ้หัวทองตัวล่ำเดินกลับมาพร้อมกับผู้ชายผิวสีตัวสูงใหญ่พอ ๆ กันพร้อมกับบัตรแข็งในมือ
   

“หมอนี่จะมาดูโชว์ด้วย ฉันฝากดูแลอย่างที่บอกหน่อย” ผู้ชายผิวสีหัวเกรียนมองหน้าไอติมนิ่งอยู่พักนึงก่อนจะหันไปมองหน้าแซ็คแล้วพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ส่วนคนโดนมองหน้าก็… 


ยิ้มอย่างเดียว
   

“This is your ticket. For you and your friend. (นี่บัตร ของนายกับของเพื่อนนาย)”
   

“Only him. I’m not coming tonight. (แค่เขา คืนนี้ผมไม่ได้มาด้วย)” แซ็คนิ่งไปสักแปบก่อนจะพยักหน้าขึ้นแล้วยื่นบัตรแข็งไซซ์เท่าบัตรแข็งคอนเสิร์ตของนักร้องต่างประเทศคนหนึ่งที่ไอติมเคยไปตอนสมัยมหาวิทยาลัย
   

“Thank you! This is money! (ขอบคุณ อันนี้เงินฮะ!)” ไอติมยื่นเงินในมือให้แซ็คพร้อมกับยิ้มเริงร่า ฝรั่งหัวทองรับเงินไว้ในมือ ใบหน้าเรียบนิ่ง มองคนตัวเล็กกว่าด้วยสายตาไร้อารมณ์
   

“See you tonight. (เจอกันคืนนี้)” แซ็คยกยิ้มมุมปากเพียงนิด ไอติมยิ้มกว้างและพยักหน้ารัว ๆ พร้อมกับยืนขึ้นด้วยท่าทีกระฉับกระเฉง
   

“Hug you ได้มั้ยอะ hug” ไอติมกางแขนออกและทำท่ากอด มองแซ็คตาเป็นประกาย คนถูกถามกระตุกยิ้มหนึ่งที พยักหน้าด้วยความเข้าใจ ไอติมยิ้มกว้างและไม่รอช้า กระโดดกอดแซ็คเต็มวงแขนตัวเอง แนบแก้มกับอกแน่น ๆ ด้วยความระริกระรี้ สีหน้าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก
   

“โอ้ววว ๆ แน่นมาก ของจริงฟินเว่อออ” เดนนี่อยากกุมขมับกับอาการตื่นเต้นของเพื่อนที่เรียกสายตาของคนในห้องให้หันมามองได้หมดเป็นตาเดียว แซ็คยกมือขวาตบไหล่คนตัวเล็กที่สูงเท่าไหล่เขาพอดีด้วยท่าทีฝืนๆ
   

“Okay. I have to go to work. (เอาล่ะ ฉันต้องไปทำงานแล้ว)” ถ้าไม่ติดว่าต้องเตรียมงาน เตรียมตัว แซ็คก็ยังไม่คิดจะปล่อยให้ไอติมกลับไป แต่ไม่เป็นไร เขาคิดไว้แล้วว่าจะต้องทำยังไงต่อ
   

ต้องรู้ให้ได้ว่าไอ้เด็กนี่รู้ชื่อเขาได้ยังไง แล้วมันมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า
   

ไอติมผละออกจากตัวแซ็ค ยิ้มกว้างด้วยความสุขใจ ชูบัตรที่เพิ่งได้มา “See you, Zac—.” ชื่อที่กำลังจะหลุดออกจากปากชะงักหายไปเพราะสองนิ้วของฝรั่งตัวใหญ่ทาบลงบนริมฝีปากสีแดง ไอติมเบิกตากว้าง สายตาเลื่อนลงมองนิ้วชี้กับนิ้วกลางของมือขวาอันใหญ่เกือบเท่าหน้าตัวเองที่แตะอยู่บนปากด้วยความตื่นเต้นและหัวใจก็เต้นตึกตัก
   

“Please call me Bryan. (เรียกฉันว่าไบรอั้นเถอะ)” ไอติมเลื่อนสายตาขึ้นมองแซ็คทั้งที่ยังตะลึงอยู่ แต่ก็พยักหน้ารัว ๆ อย่างไม่มีอิดออด แซ็คกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความพอใจแล้วปล่อยมือออกจากปากคนตัวเล็ก ไอติมยกมือขวาขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองเอาไว้ ใบหน้าขาวผ่องเต็มไปด้วยความดีใจ
   

“เหมือนโดนจูบเลยอะ” ไอติมพึมพำเป็นภาษาไทย เดนนี่ได้ยินก็กลอกตาเอือม ๆ กับจินตนาการของเพื่อน
   

“Okay. I have to really go. (โอเค ฉันต้องไปจริง ๆ แล้ว)” แซ็คหันไปคุยกับหนุ่มผิวสี เดนนี่ได้ยินขวัญใจไอ้ติมบอกชายผิวสีว่าให้ไปส่งเขาสองคน เขาเลยลุกขึ้นยืนแล้วกวักมือเรียกเพื่อนให้เดินตามออกมา
   

“ไปไหนอะเดน”
   

“เขาจะทำงาน เขาไล่มึงกลับแล้ว ออกมาเลย”
   

“เขาไล่จริงดิ”
   

“เขาจะทำงาน มึงอย่าไปกวนเขาเลยน่า” ไอติมทำปากยื่น หันไปจะมองแซ็คแต่ก็เจอกับหนุ่มผิวสีตัวใหญ่กำลังเดินตามมาแทน เขาหันกลับมามองด้านหน้า รีบเดินตามเดนนี่ออกไปจากห้อง
   

เดนนี่พาไอติมเดินกลับมาบริเวณในร้านตามเดิมแล้วเดินตัดไปทางประตู มีชายผิวสีเดินตามหลังมาอีกที เดนนี่เปิดประตูให้ตัวเองกับเพื่อนก่อนหันไปขอบคุณผู้ชายผิวสีคนนั้น
   

“ไม่มาดูกับกูจริง ๆ เหรอเดน”
   

“มึงจะบ้าเรอะ กูไม่ได้ชอบดูผู้ชายแก้ผ้านะ”
   

“แล้วกูจะพูดกับเขารู้เรื่องมั้ยอ่า” ไอติมว่าอย่างเป็นกังวล
   

“ไม่รู้เรื่องก็ใช้กูเกิ้ลทรานสเลท มั่ว ๆ หน่อย แต่ก็ได้อยู่...” ไอติมมองหน้าเพื่อนแบบไม่มั่นใจนัก
   

“…ที่มึงพูดเมื่อกี้ก็ดีแล้วนะ มึงเพิ่งมาถึงวันแรก พูดได้ขนาดนี้ก็เก่งแล้ว กล้าที่จะพูดนั่นแหละดี มึงจะได้เก่ง มึงไม่ต้องกลัวว่าคนที่นี่เขาจะขัดคอมึงเรื่องแกรมม่าหรอก เขาไม่ใช่คนไทย” ไอติมคลี่ยิ้มด้วยความอุ่นใจและพยักหน้ากับคำบอกของเพื่อน
   

“กูแค่อุ่นใจเวลามีมึงอยู่ด้วยอะ” เดนนี่กลอกตา แต่จริง ๆ คือทำแก้เขินไปงั้น
   

“เมื่อกี้กูขอบใจมึงมากที่มึงไม่จู่โจมขอให้เขาเอามึง”
   

“แหม กูก็รู้จังหวะหรอกน่าเดน แต่ไม่ต้องห่วง กูบอกเขาแน่นอน” ไอติมยิ้มระริกระรี้ยิ่งกว่าปลาทุกชนิดได้น้ำ
   

“เออ อันนี้กูเชื่อ” เดนนี่เดินนำเพื่อนไปที่รถ ไอติมเดินไปขึ้นฝั่งของตัวเอง พอปิดประตูรถและสตาร์ทรถได้ เดนนี่ก็ขับออกไปจากบริเวณหน้าร้าน
   

“ยังไงมึงก็ต้องระวังตัวด้วย มึงเคยเจอเขาแต่ในหนังโป๊ของมึง ยังไม่รู้จักเขาดี” เดนนี่เห็นสีหน้าท่าทางของไอ้แซ็คอะไรนั่นหมดแหละ ท่าทางมันดูหงุดหงิดแต่ก็ซ่อนมันไว้อย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ใช่ว่าจะซ่อนได้หมด
   

“มึงคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดีเหรอ”
   

“กูไม่รู้หรอก แต่กูก็ไม่คิดไว้ใจคนที่เพิ่งเจอกันวันเดียว” เขาไม่แน่ใจว่าไอติมมันเก็บเอามาใส่ใจแค่ไหนกับท่าทีของไอ้แซ็คที่ดูไม่พอใจ แต่ก็ทำท่าเอาใจมันเหลือเกิน
   

“วันเดียวที่ไหน ครึ่งวันเองเนี่ย…” เดนนี่หันไปถลึงตาใส่เพื่อนด้วยความงึดเล็กๆ
   

“…แต่กูก็ไม่ได้คิดจะไว้ใจเขาขนาดนั้นสักหน่อย” ไอ้ติมว่าอย่างมั่นใจในตนเองว่ายังไม่ได้รู้สึกอย่างที่บอกเพื่อนจริง ๆ ก็แค่ดีใจที่ได้เจอ ได้กอดและรู้สึกดี รู้สึกฟิน


โอเค รู้สึกดีมาก มากจนไม่คิดอะไรเยอะแยะ
   

“แต่ดูมึงเต็มใจพร้อมพลีกายให้มันเร็ว ๆ นี้เหลือเกินนะ”
   

“แหม ไอ้เดน อันนั้นมันเป้าหมายกูนี่หว่า กูมานี่ก็เพราะเหตุผลนี้”
   

“เออ พลีกายให้ อย่าเผลอพลีใจให้มันล่ะ” เดนนี่กลัวใจเพื่อน มันเป็นคนโสด ไม่เคยคบใคร มีคนมาจีบมาชอบมันก็ไม่รู้ตัว เรื่องความรักถือว่าไอ้ติมเป็นมือใหม่ที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่ามือใหม่หัดขับรถอีก เขากลัวมันจะใจง่ายให้มากกว่าร่างกาย ถ้ามันเบรคตัวเองได้ก็ดีไป
   

“ไม่เผลอหรอก กูให้ด้วยความเต็มใจ พอ ๆ กับกายอะแหละ คิๆๆ”
   

ถ้าฝันของมันเป็นเรื่องของงานล่ะก็ มันต้องประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน

   
   



ก่อนจะกลับเข้าบ้าน เดนนี่ก็ถือโอกาสพาไอติมทัวร์เมืองซานฟรานฯ และบอกเล่าข้อมูลที่เขาคิดว่าไอติมควรจะรู้ไว้ อย่างพวกการเดินทาง อาหารการกินนอกบ้าน แหล่งท่องเที่ยว สิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรทำในเมืองแห่งนี้ ทั้งตามกฎหมายและเพื่อความปลอดภัยของชีวิต แต่ก็ไม่ได้บอกเป็นเรื่องเป็นราวยาวเหยียดเพราะเดี๋ยวไอติมมันก็ย้ายไปอยู่อีกเมือง
   

“แล้วมึงเคยไปแอลเอมั้ยเดน”
   

“เคย แต่ยังเที่ยวไม่ทั่ว”
   

“กูควรไปพักที่ไหนดีระหว่างที่อยู่ที่นั่นอะ” ไอติมถามพลางเลียไอศกรีมโคนสตรอว์เบอร์รี่ที่เดนแวะให้ซื้อระหว่างที่ขับรถผ่านในโซนดาวน์ทาวน์
   

“กูก็ไม่รู้ คงต้องหาว่ามีที่ไหนให้พักแบบรายเดือนแค่เดือนเดียวบ้าง” ไอติมเลียไอศกรีมหน้านิ่ง กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแบบที่ก็ไม่รู้ว่าประเด็นของความคิดคืออะไร
   

“เดือนเดียวคงพอแหละเนาะ” ไอติมพูดแบบลอย ๆ พูดแบบไม่แน่ใจ
   

“ไม่พอก็ต้องพอ มึงบอกว่าจะกลับไทยก่อน…” ไอติมหันไปมองหน้าเดนและกะพริบตาปริบ ๆ เดนนี่ทำตาโตใส่เพื่อนพลางหักพวงมาลัยไปตามถนนที่มุ่งไปหาสะพานโกล์ดเด้นท์เกจ
   

“…ถ้ามึงไม่กลับ กูนี่แหละจะแจ้งตอมอให้ไปจับมึงถึงที่”
   

“เลวอะ” ไอติมเบะปาก เดนนี่ทำหน้าเอือม ขับรถขึ้นไปบนหน้าผาชมวิวสะพานสีแดงอันโด่งดังที่มักใช้เป็นโลเคชั่นถ่ายทำภาพยนตร์มากมายหลายเรื่อง ไอติมมันอยากมาเห็นเลยแวะพามาดู พอรถจอดสนิทมันก็เปิดประตูแล้ววิ่งปรู๊ดไปทางจุดชมวิวสะพาน เดนนี่เดินตามมาอย่างไม่เร่งรีบเพราะเห็นจนชินตาแล้ว
   

“ก็สะพานสีแดง ๆ ที่ใหญ่แล้วก็ยาวมากเฉย ๆ ป้ะ”
   

“อ้าว แล้วมึงจะให้มันพิเศษอะไรมากกว่านั้นล่ะ” ไอติมยังไม่ได้ตอบคำถามเพื่อนทันที ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองสะพานสีแดงตัดกับเมฆสีขาวที่ลอยเอื่อย ๆ อยู่เหนือสะพาน
   

“ก็กูเห็นมันดัง นึกว่ามันจะมีอะไรว้าว” หลายครั้งที่เดนนี่ก็รู้สึกเหนื่อยกับความคิดความอ่านของเพื่อน
   

“สิ่งที่คิดกับความเป็นจริงมันไม่ค่อยไปในทางเดียวกันหรอก…” เดนนี่มองเพื่อนที่กำลังมองสะพานแบบไร้จุดหมาย
   

“…มึงอาจจะคิดว่ามันสวยงาม แต่จริง ๆ ไม่ใช่” ไอติมหันมองหน้าคนพูด เดนนี่มองหน้าเพื่อน หวังว่าเพื่อนจะ…
   

“สะพานก็สวย แต่แค่นึกว่ามันจะมีอะไรกว่านี้ไง” …หวังมากไป
   

เดนนี่มองเพื่อนด้วยความเอือม ไอติมย่นคิ้วทำหน้างง สุดท้าย เดนนี่ก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้กับความมึนของเพื่อนเหมือนเคย “เออ ตามนั้นแหละมึง”
   

“เดนเป็นไรเปล่าอะ”ไอติมถามด้วยความฉงนสงสัยและเป็นห่วง เดนนี่ส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ
   

“ไปอยู่แอลเอคนเดียว จะคิดจะทำอะไรมึงก็ใช้ชีวิตให้ระวังหน่อย” ไอติมยิ้มกริ่ม แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีเทา
   

“แต่ชีวิตเราก็สั้นนะเดน เผลอ ๆ สะพานยังยาวกว่าอีก”
   

“มึงเอาอะไรมาวัดว่าสะพานยาวกว่าชีวิต” ไอติมหันจากท้องฟ้าไปมองหน้าเพื่อนแล้วส่ายหัวหน้านิ่ง
   

“ไม่รู้ เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้เหรอ”
   

“=_=” เดนนี่เหมือนโดนดูดพลังงานชีวิตไปครึ่งนึงโดยระบบความคิดของเพื่อน จะว่ามันเพี้ยนก็ไม่ใช่ แต่จะบอกว่าสมประกอบเต็มร้อยก็ไม่เต็มปากอีก
   

“เนี่ย มึงเริ่มจากคืนนี้เลย ระวังคืนนี้ก่อนเลย”
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[50%] 01.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-01-2018 19:31:07
รู้สึกสงสารน้องไอติมยังไงไม่รู้แฮะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[50%] 01.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 02-01-2018 20:18:23
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[50%] 01.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-01-2018 22:08:02
ใครหว่าที่เอาชื่อจริงแซ็คไปบอกไอติมนะ ไอติมก็โลกสวยไปหมดเนอะ ไม่รู้ว่าอีพี่จะกินหัวเข้าให้แล้ว  :เฮ้อ:
ปะหน้ากันอีพี่ก็ตาขวาง ส่วนอีน้องก็ตาเชื่อม แต่ดันคุยกันรู้เรื่อง น่ารักดี  :กอด1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[50%] 01.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 03-01-2018 09:49:31
ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[50%] 01.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 07-01-2018 11:11:18
 o13
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[50%] 01.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 14-01-2018 16:36:49
ทำไมเราชอบน้องติม น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[50%] 01.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 14-01-2018 18:47:07
น้องติมฟินไปถึงไหนแล้ว พี่แซ็คยังต้วมเตี้ยมอยู่เลย ขำในความมั่นของน้อง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[100%] 15.01.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 15-01-2018 23:35:05
Chapter 3 [100%]




“โห เซ็กซี่จังเลยอะ” ไอติมมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกใจหวิว สีหน้าเคลิ้มตาเยิ้มไปกับแซ็คในชุดชั้นในสีแดงทรงสามเหลี่ยมรัดรูปที่กำลังยืนอ้าขา มือโดนมัดไพล่หลังอยู่บนเวที มัดกล้ามสีเนื้อมันเลื่อมไปด้วยน้ำมันยิ่งทำให้เซ็กซี่และยั่วยวนชวนเยิ้มมากขึ้นไปอีก แม้จะมีหนุ่มล่ำอีกสามคนยืนถัดจากแซ็ค แต่สายตาของไอติมก็มองเพียงพ่อเทพบุตรหนังโป๊ขวัญใจของตัวเองท่ามกลางเสียงเพลงจังหวะมันส์ ๆ และเสียงกรีดร้องของเก้งกวางตุ๊ดกะเทยและหญิงสาวอันเป็นเสมือนชนกลุ่มน้อยในคลับนี้
   

“วู้ววว!! กรี๊ดดด!!!” ไอติมที่ได้บัตรนั่งโซนด้านข้างฝั่งแซ็คนั่งมองตาไม่กะพริบและอ้าปากค้างเป็นรอยยิ้มอ่อน ๆ ด้วยความใจเต้นตึกตัก จากที่เคยเห็นแต่ในไลฟ์ เคยเห็นแต่ในวิดีโออนไลน์ วันนี้เขาได้เห็นบุคคลที่ตัวเองอยากเสียตัวให้มากที่สุดอยู่ตรงหน้าแล้ว
   

ตึงๆๆ!!! ตึง ตึง!
   

“ว้าวววว!!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นตอนที่มีมือสองมือโผล่ออกมาจากม่านสีดำด้านหลังของชายหนุ่มทั้งสี่คน ก่อนที่สองมือนั้นจะจับไปที่เป้าของพวกเขาแล้วลูบคลำจับบีบ มุมปากของไอติมขยับเป็นยิ้มกว้างขึ้น สายตาเลื่อนมองสีหน้าของแซ็คที่กำลังหลับตาพริ้ม เพลิดเพลินกับสองมือปริศนาที่กำลังครอบครองความเป็นชายของตัวเอง
   

อยากให้สองมือนั้นเป็นมือของตัวเอง จะจับให้แน่น ๆ เลย
   

ไอติมยิ้มเคลิ้ม เผลอกัดริมฝีปากล่างอย่างไม่รู้ตัว จับจ้องมองเป้าที่ตอนแรกตุงปกติ แต่ตอนนี้มันกำลังตุงขึ้น ๆ แล้วรูปร่างของเจ้าสิ่ง ๆ นั้นก็ชัดขึ้นเป็นแนวขวาง และเมื่อมันขยายขึ้นเรื่อย ๆ มือขวาของสองมือมืดจึงดึงขอบกางเกงในทรงสามเหลี่ยม และใช้มือซ้ายจัดระเบียบกับความใหญ่ยาวที่ขยายตัวจนเบียดล้นขอบกางเกงใน
   

“โว้ววว!!!” เสียงครางอู้อ้าดังขึ้นทั่วผับเมื่อตอนที่ของยักษ์ใหญ่ของสี่หนุ่มพาดเบี่ยงขวาล้นขอบกางเกงใน สองมือนั้นรูดตามความนูนช้า ๆ แล้ววนตรงส่วนเนื้อที่โผล่พ้นขอบกางเกงในขึ้นมาอย่างไม่เร่งรีบ หลายคนในร้านถ่ายคลิปวิดีโอ และมองทั้งสี่คนสลับกันไป แต่สำหรับไอติมคือมองแซ็คคนเดียวเท่านั้น หนุ่มเอเชียนั่งอ้าปากค้าง มองด้วยสายตาโหยหา และไม่ปฏิเสธที่จะยอมรับว่า ตอนนี้แท่งไอติมของตัวเองนั้นแข็งโป๊ก!


Oh, oh, oh, oh, oh, sometimes I get a good feeling, yeah


สองมือนั้นปล่อยออกจากอาวุธของหนุ่ม ๆ ทั้งสี่แล้วหายลับไปในม่านสีดำ


I get a feeling that I never never never never had before, no no…


เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มตอนที่ทั้งสี่คนเดินแยกไปตามมุมของเวที


I get a good feeling, yeah…


แซ็คเดินมาฝั่งของไอติม และเด้งเป้าเบา ๆ ตามจังหวะของเพลง หนุ่มผมทองกัดริมฝีปากล่าง ใบหน้า
ยั่วยวน


Oh, oh, oh, oh, oh, sometimes I get a good feeling, yeah


รู้สึกดีตามที่เพลงว่าจริงๆ…


ไอติมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง มองมือมากมายที่พยายามยื่นไปจับของดีของเด็ดของแซ็ค หลายมือยื่นไปโดนก็กรีดร้องด้วยความตื่นเต้นดีใจ พอลูบคลำจับโดนแล้ว สักพักแบงค์สีเขียว ๆ มากมายก็ยื่นไปเหน็บตามขอบกางในสีแดงของแซ็ค ไอติมมองด้วยความสนใจ หยิบกระเป๋าตังค์ของตัวเองออกมาแล้วหยิบแบงค์หนึ่งร้อยดอลล่าห์ขึ้นมาก่อนลุกไปยืนใกล้กับเวทีมากขึ้นและพยายามแทรกตัวเองเข้าไปใกล้แซ็ค


“เฮฮฮฮ้!!!” ไอติมตะโกนแข่งกับคนอื่นและพยายามเบียดตัวเองเข้าไป หมายว่าจะได้จับกับเขาบ้าง แขนเรียวยาวชูแบงค์ดอลล่าห์โบกขึ้นไปมา พยายามทำให้แซ็คเห็นตัวเอง


“ซะ… แซะ!” ไอติมหุบปากฉับเพราะนึกขึ้นได้ว่าแซ็คไม่อยากให้เรียกชื่อนี้ พอนึกได้ดังนั้นไอติมก็เปลี่ยนเป็นเรียกชื่อที่เขาบอกว่าให้เรียก


“ไบรอั้นนน!! ไบรอั้นนน วู้ววว! ขอจับบ้าง ขอจับหน่อยยย!!!” ไอติมพยายามดีดดิ้นให้แซ็คเห็น แต่เพราะคนเยอะ และมันก็มีหลายแบงค์ที่ยังโบกว่อนอยู่ในอากาศ และไฟบนเวทีน่าจะสาดใส่แซ็คมากจนตาพร่าเลยทำให้เขามองเลยผ่านไป สุดท้ายสี่หนุ่มก็ไปยืนรวมกันตรงกลางเวที กระชากเชือกที่มัดข้อมือตัวเองไว้จนหลุดด้วยท่วงท่าที่แข็งแรงแล้วยกแขนเบ่งกล้ามเรียกเสียงกรี๊ด สิ่งที่ตุงก็ยังคงตุงแน่นเหมือนเดิม สี่หนุ่มส่งยิ้มและแจกจูบให้กับคนทั้งผับก่อนจะก้มหัวลงเป็นการขอบคุณหลังจากแสดงโชว์มาหนึ่งชั่วโมง นับตั้งแต่มีเสื้อผ้าครบชิ้นจนกระทั่งเหลือแค่กางเกงในตัวจิ๋วนี่แหละ


“วู้วววๆๆๆ!!! I love you guys cock!!! (ฉันรักคxxพวกคุณณณ!!!)”


เสียงเก้งสาวฝรั่งตะโกนดังลั่นแข่งกับเสียงเพลง มีเสียงกรี๊ดดังเสริมทัพดังไปทั่วผับ และก่อนที่ทั้งสี่คนจะหายลับเข้าไปด้านหลัง พวกเขาก็ดึงเงินที่เหน็บตามขอบกางเกงออกจนหมดแล้วก้มตัวลงถอดกางเกงชั้นในที่ใส่อยู่ออก โดยใช้อีกมือกุมความตุงตวงนั้นไว้แบบไม่มิดชิด ให้เห็นแบบใจสั่นกันเล่น ๆ มือซ้ายที่ใช้ถอดกางเกงในสามเหลี่ยมตัวจิ๋วชูขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มหล่อ สักพักทั้งสี่คนก็โยนกางเกงในในมือไปคนละทาง สีแดงของแซ็คลอยละลิ่วมาทางที่ไอติมยืนอยู่ หนุ่มเอเชียเบิกตากว้างและอาศัยความแขนยาวยื่นไปคว้าหมับเต็มมือ


“เก็บบบ!!!” ไอติมตะโกนดีใจคนเดียวท่ามกลางเก้งเกย์ฝรั่งที่หันมาหัวเราะและยิ้มให้ ไอติมยิ้มกว้าง ชูมือขวาที่ถือกางเกงในไปมา หนุ่ม ๆ ทั้งสี่คนโค้งตัวลง ยกมือโบกลาทุกคนที่มาชมการแสดงของตัวเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไอติมโบกมือให้แซ็คทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเขาจะเห็นมั้ยแต่ก็โบกไว้ก่อน


“Good bye boy!” เสียงดีเจประกาศดังลั่นร้าน เสียงผิวปาก เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่ว หนุ่ม ๆ ทั้งสี่คนพากันเดินกลับเข้าไปด้านหลังเวที ให้ทุกคนด้านล่างเวทีได้เห็นก้นแน่น ๆ เป็นสิ่งสุดท้าย


ไอติมหันซ้ายแลขวา เริ่มสับสนว่าตัวเองจะต้องไปยังไงต่อ ตอนนี้ในผับกลับมาเปิดเพลงเต้นตามเดิม ทุกคนที่มากับเพื่อนก็กลับไปเต้น หลายคนที่น่าจะมาแค่ดูโชว์ พอโชว์จบก็พากันเดินออกไปจากร้าน ไอติมมองตามคนพวกนั้นและคิดกับตัวเองว่ายังไม่กลับแน่ ๆ เพราะอยากจะอยู่เจอแซ็ค แต่ประเด็นคือมัวแต่ดีใจตอนได้เจอกันจนลืมถามเขาว่าหลังจบโชว์จะมีโอกาสได้เจอกันอีกมั้ย พอลืมถามก็เลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อเลย


“เฮ้!” เสียงเรียกมาพร้อมกับการสะกิดที่ไหล ไอติมหันไปมองก็เจอกับบอดี้การ์ดผิวสีคนนั้นที่เจอกันเมื่อตอนกลางวัน ไอติมยิ้มกว้างด้วยความดีใจ


“Come with me. (มากับฉัน)” ไอติมฟังไม่ค่อยถนัด อาศัยมองเขากระดิกนิ้วเรียกแล้วหมุนตัวเดินนำตัวเองไป เลยก้าวเท้าตามเขาออกไปจากบริเวณโซนที่นั่งของตัวเอง บอดี้การ์ดผิวสีเดินนำออกไปทางหน้าร้าน ไอติมหันหลังไปมองด้านในผับที่บรรยากาศกำลังคึกคักและนัวเนียด้วยความรู้สึกไม่เข้าที่เข้าทางว่าตัวเองจะต้องไปทางไหน ไปทำอะไรต่อ ได้แต่เดินตามเขาต้อย ๆ ออกมาหน้าร้าน นึกในใจว่ากำลังจะโดนไล่หรือเปล่า


“Wait here. He is coming to see you. (รอนี่ เขากำลังมาหานาย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงง มองมือขวาของชายผิวสีที่ชี้ตรงตู้กระจกใสคล้ายห้องอาบน้ำอันกลางที่อยู่ตรงหน้าร้าน


“Stand here. Okay? Don’t go anywhere. Okay? (ยืนนี่ เข้าใจมั้ย อย่าไปไหน โอเคนะ)” หนุ่มผิวสีทำท่าชี้จริงจังในจุดที่ไอติมยืนอยู่ คนตัวเล็กพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยความเข้าใจกับท่าทางและคำสั่งนั้น บอดี้การ์ดของร้านมองไอติมนิ่งสักแปบก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปด้านในร้านทิ้งให้ไอติมยืนโดดเดี่ยวงง ๆ อยู่คนเดียว


ตอนนี้เป็นเวลาใกล้จะเที่ยงคืน ไอติมมองไปรอบตัว รวงร้านยังคงเปิดไฟคึกคัก เสียงเพลงดังอึกทึกให้ได้ยินแว่ว ๆ ตามท้องถนนมีผู้คนเดินกันมากมายแต่ก็ไม่ได้แน่นขนัดจนชวนอึดอัด


ครืด ครืด


ไอติมยัดกางเกงในสีแดงของแซ็คไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนฝั่งซ้าย ใช้มือขวาล้วงโทรศัพท์ออกมาดูหน้าจอ เดนนี่ส่งวอทสแอพมาถามเรื่องเวลาจะกลับ ไอติมเปิดเข้าไปในแอพพลิเคชั่นแล้วพิมพ์ตอบกลับ


ไอติม : ยังไม่รู้เลยอ่าเดน มึงนอนก่อนมั้ย เดี๋ยวกูเรียกแท็กซี่กลับ


Denny : มึงอย่าเพิ่งอวดเก่ง โทรมาแล้วกัน


ไอติมส่งอีโมชั่นยิ้มกว้างกลับไปให้ ยัดโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงตามเดิม หันมองตรงประตูก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าแซ็คจะออกมา ไอติมยืนรออยู่อย่างนั้น ล้วงกางเกงในของแซ็คขึ้นมาดูแล้วฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ เขามองซ้ายมองขวาสักแปบก่อนจะยกกางเกงในขึ้นสูด ๆ ดม ๆ กลิ่นหอมอุ่นกรุ่นอยู่ในโพรงจมูก


“What are you doing? (ทำอะไรน่ะ)” ไอติมชะงักอยู่ในท่ากำลังดมกลิ่นกางเกงในแซ็คด้วยความฟิน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเลื่อนมองหนุ่มผมทองในชุดกางเกงยีนสีดำกับเสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีเขียวที่กำลังย่นคิ้วมองมาด้วยความประหลาดใจ ไอติมยิ้มกริ่มแล้วชูกางเกงในให้แซ็คเห็น


“Your underwear! (กางเกงในของคุณไง)” คนตัวเล็กตอบเสียงสดชื่น ดีใจที่เห็นแซ็คออกมาหาตัวเองจริงๆ


แซ็คมีสีหน้าคลางแคลงใจเล็กน้อย “Did you just smell that? (นายดมมันเหรอ)”


ไอติมมีสีหน้างงนิดหน่อยกับคำศัพท์นี้ แต่ก็พยายามที่จะตอบ “สเมล สเมล แปลว่ากลิ่น อ๋อ Yes, yes. Smell good very much.”


แซ็คเลิกคิ้วค้างไว้แปบหนึ่งก่อนจะกระตุกมุมปากคล้ายเป็นรอยยิ้มขำแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เขามองไอติมด้วยความรู้สึกไม่ไว้วางใจ ส่วนคนโดนมองกลับยิ้มแย้มสดชื่น “Okay, do you want to have a walk? (เอาล่ะ อยากไปเดินเล่นมั้ย)”


“หะ ฮะ walk เหรอ” ไอติมถามด้วยความไม่แน่ใจและไม่มั่นใจว่าตอนนี้กำลังเข้าใจถูกมั้ยว่าเขาบอกให้เดินอะไรสักอย่าง


แซ็คพยักหน้าหนึ่งที “Yes, walk and talk. (ใช่ เดินเล่นแล้วก็คุยกัน)”


แซ็คชี้ที่ตัวเขาและไอติมสลับไปมาแล้วใช้สองนิ้วทำท่าขาคนเดิน ไอติมร้องอ๋อ พอจะเข้าใจแล้วว่าเขาน่าจะชวนเดินคุยกัน ไอติมทำท่าก้าวขาไปข้างหน้า แซ็คยักไหล่ทั้งสองข้างและทำหน้าประมาณว่าแบบนั้นแหละ


“Okay, go go.” แซ็คดึงฮู้ดของเสื้อกันหนาวขึ้นมาสวมหัว ไอติมยัดกางเกงในสีแดงลงกระเป๋ากางเกงแล้วก้าวเท้าเดินไปตามฟุตปาทด้วยความตื่นเต้น เขาแหงนหน้ามองแซ็คตาเปล่งประกาย


แซ็คตัวใหญ่มาก ยิ่งมาเทียบกับเขาแล้วก็ยิ่งใหญ่เข้าไปอีก ตัวสูงล่ำบึ้ก กล้ามเป็นมัด ตัวล่ำหนาน่าซบ ใบหน้าหล่อ แต่ไม่ใช่หล่อแบบอู้หูว ชวนตะลึง เพราะมีอย่างอื่นให้น่าตะลึงกว่า


เอ๊ะ…


“Why are you staring at me? (จ้องฉันทำไม)” แซ็คหันไปเห็นไอติมกำลังแหงนหน้ามองเขาราวกับกำลังพินิจพิจารณาอะไรสักอย่าง ซึ่งไอติมไม่เข้าใจหรอก แต่พอจะเดาออกว่าเขาคงถามว่ามองเขาทำไม เพราะตัวเองก็มองเขานานแล้วจนเขารู้ตัว


“You so sexy นะ” ไอติมยิ้มกริ่มพร้อมกับยกนิ้วโป้งทั้งสองข้าง หนุ่มหัวทองยิ้มอ่อน


“You like it? (ชอบมั้ย)”


“Very much! (มากๆ)” ไอติมพยักหน้าด้วยความกระตือรือร้นราวกับจะย้ำว่าตัวเองชอบมากจริง ๆ นะ แซ็คกระตุกยิ้มอีกครั้ง มองไอติมด้วยสายตาสับสนเล็กๆ


“How do you know me? (รู้จักฉันได้ยังไง)” ไอติมทวนคำถามในหัวแล้วก็แปลแบบพอเข้าใจแบบที่ไม่ให้ใจความหลักหาย มันยังดีที่ว่าตอนนี้มันเป็นการสนทนาง่ายๆ


“I saw your picture and I think you are handsome and sex apple เอ่อ” ไอติมขมวดคิ้ว ปากเร็วกว่าความคิด และความคิดยังไม่ทันคิดเสร็จเลยว่าจะพูดยังไง


“You mean appeal? (หมายถึงแอพเพียลรึเปล่า)” ไอติมพยักหน้าและยิ้มเขิน ๆ ที่ตัวเองพูดผิด มันจะพูดคำนี้แหละแต่ปากดันพูดแอปเปิ้ลออกมาเฉย


“You sexy, have a very big arms แล้วก็เนี่ยๆ…” ไอติมชี้ไปที่บริเวณช่วงท้องของแซ็ค


“…แน่นมาก ๆ แบบ very good stomach อะ” แซ็คอดจะขำไม่ได้กับการพูดภาษาอังกฤษในเวอร์ชั่นของไอติม เขาไม่ได้นึกดูถูก แต่ฟังแล้วมันก็ตลกในการเลือกใช้คำ


“อ๋อ แล้วก็ important very much is your เป้า is very ตุงเว่อ ๆ เป้าอะเป้า” ไอติมคว่ำมือขวาแล้วงอหลังมือให้อูมเหมือนกระดองเต่าก่อนเอาไปวางไว้ที่เป้าตัวเอง ใช้มือซ้ายช่วยบรรยายลักษณะของคำว่าตุงเพิ่มเติมโดยการโบกมือซ้ายขึ้นลงตามแนวโค้งของหลังมือเหมือนลูบท้องคนท้อง


“I see it and I think I want to see your dick. It must big for sure. When I see it I ก็แบบ ฮู้ววว ใหญ่จริง ปลื้มมาก I am so glad very much that you play porn movie.” ไอติมพยายามอธิบายในแบบที่ตัวเองเข้าใจ แล้วก็ถ่ายทอดออกมาโดยที่ตัดความกังวลเรื่องที่คนฟังจะเข้าใจหรือไม่ออกไปก่อน


แซ็คประมวลผลในหัวตัวเองจากการฟังที่ไอติมอธิบาย เขาก็ไม่ได้ว่าจะเชื่อใจวางใจไอ้เด็กคนนี้ไปเลย แต่จากการบอกเล่าแบบไม่ตะกุกตะกัก เรื่องที่ว่ามันเป็นแฟนคลับเขาก็น่าจะเป็นเรื่องจริงมากกว่าเรื่องแต่งขึ้นมาแหละ


“Which photo you see me for the first time? (รูปไหนที่เห็นฉันครั้งแรก)” แซ็คถามพลางก้าวเท้าเดินไปเรื่อย ๆ แบบไม่เร่งรีบ ตอนนี้ทั้งสองคนหลุดออกมาจากโซนคนหนาแน่นแล้ว


ไอติมหน้างง ไม่แน่ใจกับคำถาม รู้ว่าถามถึงรูป แต่ไม่รู้ว่าหมายถึงรูปอะไร แซ็คเห็นแบบนั้นก็คิดว่าจะใช้คำศัพท์อธิบายยังไงดีอยู่สักพัก ก่อนจะค่อย ๆ พูดช้าๆ


“First photo of me that you have. (รูปแรกของฉันที่นายมีน่ะ)”


“อ๋อ ๆ แปบนึงนะ” ไอติมล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอัลบั้มรูป เขาเลื่อนหารูปแรกของแซ็คที่เขาเห็นแล้วทำให้เขาคิดถึงแต่อวัยวะส่วนนั้น


“อันนี้ๆ” ไอติมหันหน้าจอโทรศัพท์ไปให้แซ็คมอง ฝรั่งผมทองก้มลงมองรูปตัวเองบนหน้าจอ เห็นเป็นรูปตัวเขาใส่กางเกงว่ายน้ำรัดรูปสีขาวตัวบาง สะพายกระเป๋าเป้สีดำ กำลังเดินอยู่ริมชายหาดสีขาว


“I got it.”


“I think so far มาก ๆ  with this picture.” ไอติมยิ้มกว้างพลางเก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋ากางเกงตามเดิม แซ็คพยักหน้าหนึ่งครั้ง เข้าใจได้ว่าไอ้หนุ่มเอเชียมันพูดว่ามันคิดไปไกลกับรูปนี้


“You can’t tell me about how you know my real name, aren’t you? (นายบอกไม่ได้เลยใช่มั้ยเรื่องที่รู้ชื่อจริงฉัน)” แซ็คถามหน้านิ่งเสียงนิ่ง ไอติมไม่เข้าใจทั้งประโยคแต่จับใจความได้ถึงเรื่องชื่อเพราะรูปประโยคคล้าย ๆ เมื่อตอนบ่ายที่เจอกัน


“No. Sorry นะ” แซ็คถอนหายใจ หยุดเดินแล้วหันหน้าเข้าหาไอติมพลางดึงฮู้ดออกจากหัว สีหน้าของหนุ่มหัวทองออกไปทางบึ้งตึงเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกจนน่ากลัว


“Well, what do you want from me? (เอาล่ะ ถ้างั้นนายต้องการอะไรจากฉัน)” แซ็คถามด้วยท่าทีจริงจังจนไอติมรู้สึกเกร็งไปนิด ทั้งกลัวจะฟังไม่ออกและกลัวกับท่าทีของคนตรงหน้า


“What I want form you เหรอ” แซ็คพยักหน้านิ่ง


“What do you want and what is you purpose about me? (ต้องการอะไรและจุดประสงค์ที่ต้องการจากฉันคืออะไร)” คราวนี้ไอติมยิ่งหัวหมุนเพราะเหมือนคำถามจะยาวขึ้น แต่ก็ยังจำคำถามแรกที่เขาถามไปได้อยู่ เลยพยายามตั้งสติตอบคำถามนั้นก่อน


“I want this. (ต้องการอันนี้อะ)” ไอติมชี้ไปที่เป้ากางเกงยีนสีดำของแซ็ค เจ้าตัวก้มหน้าลงมองแล้วเงยหน้าขึ้นมองงงๆ


“What? (อะไร)” ไอติมยิ้มเขินเล็กน้อยแต่ก็ตอบเต็มปากเต็มคำ


“What in your jean? (อะไรในกางเกงยีนคุณ)” แซ็คขมวดคิ้วงง ๆ แต่ก็ลองตอบดู


“Underwear? (กางเกงในเหรอ)”


“In underwear. (ในกางเกงในอีกที)” แซ็คหรี่ตาลงวูบหนึ่งก่อนจะเริ่มเก็ท


“My cock or you said dick. (คxxฉันเหรอ)” ไอติมยิ้มกว้าง พยักหน้าหนึ่งทีแบบแข็งขัน


“Yes!”


แซ็คอ้าปากค้างเล็กน้อย หรี่ตามองไอติมด้วยความรู้สึกประหลาดใจและตลก ไม่ใช่ว่าเขาเดาจุดประสงค์ไม่ออก แต่ยังงง ๆ อยู่ว่าไอ้เด็กเอเชียคนนี้มันจะยังไงของมัน


“What do you want to do with it? Touch, suck or jerk it off? (แล้วนายต้องการทำอะไรกับมัน จับ ดูด หรือชักว่าว)” ไอติมเริ่มรู้สึกมึน เริ่มจะแปลมั่ว ๆ ซั่ว ๆ กว่าเดิมที่เป็นอยู่ แต่ก็ขอตอบแบบสรุปให้แซ็คเข้าใจง่าย ๆ เลย


“I want you fuck me. I’m virgin I want you destroy my virgin by your big cock. (ผมอยากให้คุณเอาผม ผมบริสุทธิ์ ผมอยากให้คุณทำลายความบริสุทธิ์ของผมด้วยจู๋อันใหญ่ของคุณ)” แซ็คอ้าปากค้างด้วยความตะลึง ทั้งตะลึงกับจุดประสงค์ของไอ้หมอนี่กับตะลึงที่มันเลือกใช้คำซะน่ากลัว


Destroy เลยเหรอ นี่มันสงครามรึเปล่า


สองหนุ่มต่างเชื้อชาติและต่างไซซ์ มองตากันคนละความรู้สึกสึก คนตัวเล็กมองอย่างเป็นประกายและตื่นเต้น ส่วนคนตัวใหญ่กำลังมองอย่างอึ้งหน่อย ๆ เป็นความรู้สึกทั้งตลก ระแวงและประหลาด


“You want to have sex with me? (อยากมีเซ็กซ์กับฉันเหรอ)” ไอติมพยักหน้าทันทีโดยที่ไม่ต้องประมวลผลเลยสำหรับประโยคนี้


แซ็คยิ้มขำ รู้สึกตลกกับท่าทางเด๋อด๋า ออกแนวเอ๋อ ๆ ด้วยซ้ำของไอ้หนุ่มเอเชีย เขาทำงานแบบนี้ เขารู้ว่าหลายคนต้องการอะไรจากเขา แต่การแสดงออกแบบนี้เขาไม่เคยเจอ มันทั้งตลกแล้วก็น่ากลัวในเวลาเดียวกัน น่ากลัวตรงที่มันรู้ชื่อจริงเขาแล้วไม่ยอมบอกว่ารู้ได้ยังไงเนี่ยแหละ


“I don’t fuck boy. I fuck girl. (ฉันไม่เอาผู้ชาย ฉันเอาผู้หญิง)” แซ็คเลือกใช้คำที่ง่ายที่สุดในการสื่อสาร


“But I see you fuck boy in porn นะ (แต่ผมเห็นคุณเอาผู้ชายในหนังโป๊ด้วยนะ)”


“That’s my job, which mean I earn money from it. That’s why I can fuck some men. (นั่นมันคืองานของฉัน ซึ่งหมายความว่าฉันได้เงินจากมัน นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ว่าฉันเอาผู้ชายบางคนได้)”


ไอติมหน้าหงอยแม้จะยังไม่เข้าใจทั้งประโยค “Fuck me ไม่ได้เหรอ Can you?”


แซ็คส่ายหัวช้าๆ “I am a man. Not gay. But I could be gay if I got more money. (ฉันเป็นผู้ชาย ไม่ใช่เกย์ แต่ฉันเป็นเกย์ได้ถ้าได้เงินเยอะ)”


แม้จะงง ๆ แต่ก็เข้าใจที่แซ็คสื่อได้ ไอติมเลยหน้าเป็นหมาหงอยไปเลย


“Fuck no money. It’s okay? (เอาแบบไม่มีตังค์ไม่ได้เหรอ)”


“It’s not okay.” ไอติมทำปากยื่น หน้ายังคงหงอยเหมือนเดิม แซ็คมองหน้าคนตรงข้ามนิ่งสักแปบก่อนจะไหวไหล่ทั้งสองข้างและทำหน้าชิล


“But as you are my truly fan—decided from what you have told me how you like me. I’m gonna let you touch my dick for free. But after that don’t ask me to fuck you again. (แต่ในฐานะที่นายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของฉัน ตัดสินจากที่นายบอกฉันน่ะว่านายชอบฉันมากแค่ไหน ฉันจะให้นายจับไอ้จ้อนฉัน แต่หลังจากนั้นห้ามถามถึงเรื่องให้ฉันเอานายอีก)” ไอติมกะพริบตาหน้างงเพราะประโยคยาวเกิน แล้วจับใจความไม่ค่อยจะได้ด้วยว่าประเด็นของประโยคนี้คืออะไร


แต่ที่ทำให้หยุดงงแม้จะยังไม่หายงงคือการที่แซ็คปลดกระดุมกางเกงออกแล้วแบะจนเห็นกางเกงในสีดำก็ทำให้ไอติมตาโตและมองเป้าของแซ็คนิ่ง


“Touch it. (จับสิ)” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองแซ็คแบบยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ หนุ่มหัวทองชี้ที่เป้าตัวเอง ไอติมเบิกตากว้างกว่าเดิม สีหน้าตื่นเต้นราวกับเพิ่งจะเข้าใจจริง ๆ ว่าแซ็คสื่อถึงอะไร


“Really? (จริงเหรอ)” แซ็คพยักหน้าขึ้นหนึ่งที ไอติมไม่รอช้า ล้วงมือเข้าไปในกางเกงชั้นในสีดำของแซ็คแล้วจับของดีของเด็ดเต็มมือด้วยหัวใจที่เต้นถี่รัว


“อู้วววๆๆ นิ่มจัง ฮู้ยยยๆ” ไอติมว่าอย่างตื่นเต้น มือซ้ายบีบจับสิ่งนั้นด้วยความบันเทิงรื่นเริงใจ ถึงมันจะยังไม่ขยายตัวจนใหญ่แต่ที่จับอยู่ก็เต็มมือ


“And can you promise me that you will not tell anybody about my real name? (แล้วนายสัญญาได้มั้ยว่าจะไม่บอกใครเรื่องชื่อจริงของฉัน)” ไอติมหน้างง ๆ เพราะกำลังเพลินกับการได้จับเอ็นอุ่น ๆ ของแซ็ค มีการใช้มือขวาดึงกางเกงชั้นในสีดำลงไปใต้ลูกกลมกลึง พอได้เห็นชัด ๆ ก็ยิ่งตาโตจนยิ่งไม่เข้าใจสิ่งที่แซ็คพูดเข้าไปอีก


“โฮ้ยยย ดีจังวะ” ไอติมใช้มือซ้ายรูดเข้ารูดออกเบา ๆ แท่งเนื้อสีน้ำตาลนอนสงบนิ่ง ปล่อยให้เขาลูบหัวลูบตัวตามอำเภอใจ


“Promise me? (สัญญามั้ย)” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองแซ็คแบบงง ๆ แซ็คถอนหายใจเซ็งๆ


“Don’t tell my real name to no one. No one can’t know about this. Okay? (อย่าบอกชื่อจริงฉันกับใคร ห้ามให้ใครรู้ โอเคมั้ย)” มือก็รูดสลับกับบีบไป สมองก็ประมวลไป ใช้เวลาคิดอยู่สักพักก็พอเข้าใจความหมายของประโยคนั้นแล้วไอติมก็พยักหน้ารัวๆ


“Okay!” แซ็คมีสีหน้าโล่งอก แต่ยังไม่เต็มที่ที่จะบอกว่าสบายใจแล้ว มันก็ยังคงเป็นเรื่องแปลกและชวนระแวงอยู่ดีที่จู่ ๆ ก็มีใครจากไหนไม่รู้มาเรียกชื่อจริงทั้งที่มันเป็นความลับและเป็นเรื่องส่วนตัวมากสำหรับเขา


“Smell ได้มั้ย” แซ็คส่ายหัวพร้อมกับดึงมือไอติมออกจากแก่นกายตัวเอง


“That’s it. (พอแค่นั้นแหละ)” ไอติมมองแซ็คเก็บของดีที่ยังไม่ตื่นตัวกลับเข้าไปในกางเกงชั้นในแล้วตามด้วยรูดซิบกางเกงยีน ไอติมทำหน้าเสียดายเมื่อรู้ความหมายว่าหมดเวลาจับของดีแล้ว แซ็คเลื่อนสายตาไปมองแสงไฟจากหน้ารถคันหนึ่งที่กำลังแล่นมาทางนี้ก่อนเลื่อนกลับมามองไอติม


“I have to go. (ฉันต้องไปแล้ว)” รถคันนั้นแล่นมาจอดเทียบริมฟุตปาทตรงบริเวณที่ทั้งสองคนยืนอยู่ ไอติมหันไปมองก็พอดีกับที่กระจกรถฝั่งคนขับเลื่อนลง สาวฝรั่งผมบลอนด์หน้าตาดีฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับชูกล่องสีดำสี่เหลี่ยมขึ้นมาเขย่าตรงหน้า ไอติมหันกลับไปมองแซ็คก็เห็นว่าขวัญใจตัวเองยิ้มหล่อหนึ่งทีก่อนก้มลงมองเขา


“Good night my super fan. (ฝันดี แฟนพันธุ์แท้ของฉัน)” แซ็คยกมือซ้ายขยี้หัวไอติมช่วงสั้น ๆ ก่อนจะเดินผ่านเขาไป ไอติมหันมองตาม แซ็คเดินอ้อมหน้ารถไปขึ้นฝั่งข้างคนขับ พอขึ้นรถไปได้ทั้งสองคนก็จูบปากกันหนึ่งทีก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะเลื่อนกระจกรถขึ้นพร้อมกับขับรถออกไปจากจุดที่ไอติมยืนอยู่


ร่างเล็กมองตามรถเก๋งสีน้ำเงินไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง มองด้วยสายตาละห้อยและรู้สึกเศร้าสร้อยในอกเล็ก ๆ ที่โดนปฏิเสธแม้ว่าจะได้จับก็เถอะ แต่มันก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ไอติมต้องการ เขาพ่นลมหายใจ หน้าตาอึน ๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเดนนี่พลางหมุนตัวเดินกลับไปตามทางเดิมด้วยความรู้สึกหม่นๆ


โดนผู้หญิงคนนั้นตัดหน้าไปแบบสวย ๆ เลย น้าแพนเคยบอกว่าแบบนี้เรียกปาดหน้าเค้ก คิดแล้วก็เซ็งๆ


แต่ไอติมก็ไม่คิดหมดกำลังใจง่าย ๆ วันพระไม่ได้มีหนเดียวฉันใด วันเสียตัวก็ไม่ได้มีหนเดียวฉันนั้น แม้ตอนนี้จะมืดเกือบแปดด้าน แต่ก็ไม่คิดถอยทัพกลับไปอย่างบริสุทธิ์ดังเดิมแน่นอน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[100%] 15.01.18
เริ่มหัวข้อโดย: thevicious ที่ 16-01-2018 00:00:15
หนูไอติมลูก หนูช่างทำเรื่องผิดศีลธรรม คุณแม่หัวใจจะวาย น่าเสียดายที่ได้แค่จับเนอะ
รอไปก่อนลูกสักวันมันต้องเป็นของเรา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[100%] 15.01.18
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 16-01-2018 00:33:51
 :m20: ยัยเด็กแก่แดด
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[100%] 15.01.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-01-2018 01:00:41
ไอติมลูก หนูโลกสวยมาก เตรียมใจไว้สำหรับการผิดหวังจากอีพี่แซ็คไว้เนิ่นๆ นะลูก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[100%] 15.01.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-01-2018 07:50:37
น้องไอติมมันซื่อมากกก ไม่น่าเชื่อเลยจะถูกอิพี่แซ็คหล่อหลอมจนร้ายกาจ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[100%] 15.01.18
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 16-01-2018 16:52:46
อิจฉาน้องติม คงจะฟินมากๆเลย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.3: Lust at first sight.[100%] 15.01.18
เริ่มหัวข้อโดย: Qualmy ที่ 25-01-2018 11:00:47
 :jul1: สงสารนุ้งงงง เห้อมมมหนทางยังอีกยาวไกลนัก เมื่อไหร่จะได้รักกัน โฮฮอฮ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [50%] 11.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 11-02-2018 19:55:54
Fall in lust, Chapter 4 : Unexpected. (ไม่คาดคิด) [50%]




“แอลเอร้อนจัง ร้อนแสบผิวอะ”
   

“มึงหดหัวเข้ามาก่อนไอ้เหี้ยติม เดี๋ยวเป็นไอติมเหลือแต่โคนหรอกมึง” เดนนี่ยื่นมือขวาไปดึงแขนเพื่อนที่ยื่นหัวและตัวออกไปนอกรถเกือบครึ่งตัว แต่ไอ้ติมมันก็ไม่กลัวเลยว่าตัวเองจะกลายเป็นไอติมหัวหลุด
   

“อู้หู ทะเล ทะเลลล แอลเอมีทะเลด้วยเหรอเดน” ไอติมยังคงยื่นหน้าออกไปมองวิวทางฝั่งมันอย่างสนุกสนานและดูไม่ได้สนใจเลยว่าเพื่อนสนิทจะเตือนด้วยความเป็นห่วง
   

“มึงก็ให้เกียรติบ้านเขาเมืองเขาบ้าง มีสิวะ” เดนนี่เลิกพยายามดึงเพื่อนกลับเข้ามาในรถแล้วหันไปสนใจมองถนนแทน ถ้ามันจะหัวหลุดเดี๋ยวค่อยเก็บหัวมันตามไปเย็บติดกับตัวแล้วกัน
   

หลังขับรถมาเป็นเวลาเกือบหกชั่วโมงเต็มจากซานฟรานซิสโก ทั้งสองคนก็มาถึงเมืองที่เป็นแหล่งอุตสาหกรรมบันเทิงที่โด่งดังที่สุดในโลก เมืองที่มีต้นปาล์มเยอะแยะมากมายจนเป็นเอกลักษณ์ เมืองที่มีสตูโอสำหรับการถ่ายทำหลายสิบสตูฯ เมืองที่เซเลบริตี้มารวมตัวกันอยู่มากมาย เมืองต้นกำเนิดของรางวัลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างออสการ์ เมืองที่ถ้าพูดถึงความบันเทิงก็จะเป็นลำดับแรกของใครหลายคนที่ผุดขึ้นมาในหัว
   

Los Angeles, California
   

“แถวนี้น่าพักอะ ติดทะเลด้วย พักตรงนี้ไม่ได้เหรอ” ไอติมหดหัวกลับเข้ามาแล้วหันมองเพื่อนแปบนึงก่อนหันกลับไปมองทะเลที่ทอประกายกับแสงอาทิตย์ระยิบระยับ
   

“พักได้ ถ้ามึงมีเงินสักห้าพัน” ไอติมหันกลับมามองเดนนี่ด้วยสายตาทึ่งและตื่นเต้น
   

“ห้าพันบาทเหรอ เฮ้ย งั้นก็อยู่ได้ดิ พักที่นี่เลยมึง ๆ ติดทะเลอะ กูชอบ” ไอติมว่าด้วยความคึกคะนองกับความคิดที่ว่าจะได้นอนใกล้ทะเล กะอีแค่เงินห้าพันมันไม่น่าจะทำให้ขนขาเขาหายไปทั้งแถบหรอก
   

“ห้าพันดอลล่าห์” ขนขาเบิร์นไปแล้วเป็นแถบๆ


ไอติมเบิกตากว้าง อ้าปากหวอด้วยความตกใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อมูลในกูเกิ้ลเรื่องการแลกเปลี่ยนอัตราเงิน เดนนี่กดปิดกระจกฝั่งเพื่อนเพื่อไม่ให้ลมเข้ามาตีแอร์
   

“ฮะ เป็นแสนเลยเหรอ?!” เดนนี่หันไปมองหน้าตกตะลึงของเพื่อนอย่างเรียบเฉย
   

“เออ มึงมีมั้ยล่ะ” ไอติมย่นคิ้วหน้าบู้ เก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนตามเดิม
   

“มี แต่กูก็จะไม่เหลือเงินกินเงินใช้เลย กูไม่อยากขอแม่กับน้าเยอะอะ” ไอติมว่าด้วยความสลดใจ ถึงแม่กับน้าจะออกปากว่าโทรกลับไปขอเงินเพิ่มได้ และให้บัตรเครดิตมารูดเพื่อความสะดวก แต่ก็ต้องรู้ตัวว่าอะไรควรจ่ายอะไรไม่ควรเสีย ถึงจะมีตังค์แต่ก็ไม่ใช่ลูกเศรษฐีที่ไหน ดีไม่ดีลูกเศรษฐียังไม่ยอมจ่ายเลย
   

“ก็ไปพักกับลูกชายเพื่อนแม่กูที่บอกนั่นแหละ เชื่อกู คนนี้นิสัยดี เพื่อนมันก็คงดี เพราะตัวน้องกูมันเป็นคนดี น่าจะดึงดูดคนดี ๆ เข้ามาหากันแหละ”
   

“ไม่ใช่กูไม่เชื่อมึงนะ กูแค่อยากอยู่ใกล้ทะเลอ่า”
   

“มึงอยู่นี่ตั้งเป็นเดือน ๆ แวะมาสักวันก็ได้ แล้วจากที่พักมึงกับซานต้าโมนิก้าไม่ไกลเกินเลย” ไอติมพยักหน้าหงอย ๆ หันไปมองทะเลยามกลางวันด้วยความรู้สึกเสียดาย ไม่ได้เป็นคนรักทะเลอะไรขนาดนั้น แต่คิดว่าถ้าได้อยู่ที่พักติดริมหาดแบบนี้มันคงฟินน่าดู ใส่เสื้อฮาวายหน่อย ๆ เดินเล่นริมทะเลตอนไหนก็ได้งี้อะ
   

“ทำไมค่าที่พักมันแพงจังวุ” ไอติมบ่นเสียงอ่อนพร้อมกับย่นจมูก
   

“เมืองท่องเที่ยวก็เงี้ย โฮสเทลยังแพงเลย ครึ่งเดือนก็ล่อไปสามสี่หมื่นไทยละ มีแต่บ้านให้เช่าอะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีหอพัก หรืออพาร์ทเม้นต์ให้เช่าหรอก ที่มึงได้เพราะน้องมันเป็นนักศึกษา แล้วแถวมหา’ลัยมันมีพวกห้องให้เช่าแยกจากหอใน” ที่พักที่เดนนี่จะพาไอติมไปอยู่คือหอพักของลูกชายเพื่อนแม่ เป็นรุ่นน้องเขาที่เคยเล่นด้วยกันมาสมัยเด็ก ๆ แล้วก็มีเฟซบุ๊คของกันและกัน แต่เขาก็ไม่ใช่คนติดตามชีวิตใครขนาดนั้น เลยเพิ่งรู้ว่าน้องมันมาเรียนที่มหาวิทยาลัยในเมืองนี้จากแม่เมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนที่แม่รู้ว่าไอติมกำลังหาที่เช่าที่พักในเมือง LA แม่ก็แนะนำและเป็นคนติดต่อให้ ถือว่าเป็นความโชคดีของไอ้ติมมันไป เพราะน้องมันอยู่กันแค่สองคน แต่ห้องที่น้องมันอยู่ พักได้สี่คน พอมีคนจะมาแชร์ห้อง พวกน้องมันเลยโอเค อีกอย่างด้วยความรู้จักเขาด้วย มันเลยเชื่อใจว่าไอ้ติมจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้
   

“กูจะพูดกับน้องมึงรู้เรื่องเปล่า”
   

“น้องที่เป็นลูกเพื่อนแม่พูดไทยได้ แต่ไม่แข็งแรงหรอก มึงก็ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับมันไปเลย จะได้พูดอังกฤษคล่องๆ”
   

“มึงจะอยู่กับกูก่อนใช่มั้ยอะ” ไอติมพูดตาละห้อยหน้าหงอย เดนนี่ถอนหายใจเบาๆ
   

“เออ อยู่เที่ยวอาทิตย์นึง” จากหน้าละห้อยก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างดีใจ อย่างน้อยก็ทำให้ไอติมรู้สึกอุ่นใจที่ยังมีเพื่อนอยู่ด้วยกัน ไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดายซะทีเดียว
   

เดนนี่เองก็ไม่ได้มาเที่ยวแอลเอลเป็นสิบปีแล้ว เลยถือโอกาสมาพักต่างเมืองไปในตัว แอลเอสิบปีก่อนกับตอนนี้ก็คงไม่ได้เหมือนเดิมทุกอย่าง อีกอย่างลึก ๆ ก็เป็นห่วงไอ้ติมมัน มาส่งมันวันเดียวแล้วทิ้งไปเลยก็กลัวจะปรับตัวไม่ทัน หนึ่งอาทิตย์ที่มาอยู่เป็นเพื่อน คงต้องสอนให้มันใช้ชีวิตในเมืองนี้ให้คล่องมากที่สุด
   

“เดน มึงจะทำงานมั้ยหรือช่วยแม่ที่ร้านอาหาร”
   

“หาดิ แต่ยังไม่รู้ว่าจะหาอะไรทำดี ตอนนี้คงช่วยแม่ไปก่อนแหละ มึงอะ”
   

“เสียตัวก่อน ค่อยว่ากัน” เดนนี่ทำตาปรือแล้วส่ายหัว ไอติมนั่งหน้าพริ้ม ก่อนจะเปิดกระเป๋าเป้หยิบกระดาษเอสี่ที่ม้วน ๆ กันไว้ออกมาจากกระเป๋า ไอติมคลี่อ่านสักแปบก่อนจะขมวดคิ้วอ่อนๆ
   

“เดน ๆ รู้จักตรงนี้ป้ะ” ไอติมยื่นกระดาษให้เพื่อน เดนรับกระดาษมาไว้ในมือ มองทางจนแน่ใจว่าถนนกำลังไหลไปได้เรื่อย ๆ เลยรีบก้มลงอ่านชื่อสถานที่ที่เพื่อนถาม
   

“ไม่รู้ว่ะ แต่มันเขียนว่าอยู่แถวดาวน์ทาวน์ เดี๋ยวลองถามน้องกูว่ารู้จักมั้ย”
   

“อือ เป็นสถานที่จัดงานอะ” ไอติมรับกระดาษเข้ามาเก็บไว้ในกระเป๋าตามเดิม เดนนี่หันมองเพื่อนแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปสนใจท้องถนนต่อ
   

ใช้เวลาจากซานตาโมนิก้าเกือบยี่สิบนาทีก็มาถึงเวสต์วูดอันเป็นถิ่นที่พักของไอติมตลอดหนึ่งเดือนที่จะอยู่ที่นี่ เมืองนี้เป็นเมืองเล็ก สงบ สะอาดและเป็นระเบียบ อาจด้วยเพราะเป็นโซนใกล้มหาวิทยาลัย เลยทำให้เมืองนี้ไม่วุ่นวายเหมือนในเขตเมืองอื่น ๆ ของแอลเอ ตึกรามบ้านช่องไม่แออัดกันจนแน่นหนา ถนนหนทางกว้างขวาง ผสมผสานระหว่างความคลาสสิคกับความสมัยใหม่ได้อย่างไม่ขัดหรือฝืน
   

“อู้” ไอติมแหงนหน้ามองตึกสีครีมหลังคาสีสมสูงหกชั้น ตั้งเป็นมุมฉากเชื่อมสองตึกเข้าด้วยกัน ด้านหน้าของตึกเป็นลานสวนหย่อม มีทั้งพื้นปูนและพื้นหญ้าสีเขียว มีต้นไม้ขึ้นสูงเป็นต้นเดี่ยวห่างกันให้หลบแดดที่แผดเผาจนแสบผิว
   

“ดูกว้างขวางเนอะ”
   

“เออ ห้องไม่ติดพรืดกันดี” เดนนี่ว่าพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรหาน้องชายลูกเพื่อนแม่ รอสายอยู่สี่ครั้งฝั่งนั้นก็รับสาย เขาบอกน้องว่ามาถึงแล้ว ฝั่งนั้นตอบรับและตัดสายไป เดนนี่เดินไปเปิดกระโปรงรถ หยิบกระเป๋าของตัวเองและของไอติมออกมาวางบนพื้นลานจอดรถของหอพัก ไอติมมองไปรอบตัวด้วยความตื่นเต้น
   

“เงียบดีจังเดน”
   

“แถวมหา’ลัยไง เขาต้องการให้นักศึกษาพักผ่อนเต็มที่และมีสมาธิ ไม่เหมือนมอเราหรอก” ไอติมพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง แถวมอเขาคึกคักแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่ที่นี่เป็นระเบียบเรียบร้อย คนไม่พลุกพล่าน การจราจรไม่วุ่นวาย
   

“มึงมาอยู่ก็ทำตัวดี ๆ ล่ะ กูกับแม่การันตีมึงไว้เยอะนะ”
   

“ตั้งแต่มึงรู้จักกูมา กูเคยทำอะไรเสียหายด้วยเหรอเดน” เดนนี่ยักคิ้วและกระตุกยิ้มมุมปาก
   

“เออ ไอ้เด็กดี” ไอติมยิ้มกริ่ม จับกระเป๋าลากเตรียมพร้อม สายตามองไปทางหน้าหอก็เห็นเด็กฝรั่งหัวดำผิวขาวคนหนึ่งกำลังมองซ้ายมองขวา ไอติมเลยหันไปสะกิดเรียกเพื่อน
   

“เดน ๆ คนนั้นเปล่า” เดนนี่หันไปมองตามที่เพื่อนบอก เพ่งมองสักแปบก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วชูมือซ้ายขึ้นโบกเรียก ฝรั่งผมดำผิวขาวขุ่นคนนั้นยกมือซ้ายตอบและวิ่งเหยาะ ๆ มาทางทั้งสองคน ไอติมมองตั้งแต่คนนั้นวิ่งจากหน้าหอมาจนถึงลานจอดรถ พอเห็นใกล้ ๆ ก็หูวกับตัวเองเบาๆ
   

กล้ามแขนขาว ๆ มันแน่นอะไรปานนั้น ไม่ได้แน่นบึ้ก แต่แน่นกำลังดี
   

“Hey, bro! (สวัสดีพี่ชาย)” สองหนุ่มกอดกันและตบหลังกันเบาๆ
   

“How ya doing? Good? (เป็นไงมั่ง ดีมั้ย)” รุ่นน้องของเดนนี่ยกมือขวาเสยผมขึ้นก่อนตอบ
   

“It’s all good. (ดีครับ)” หนุ่มหน้าตาไม่หล่อแต่หน้าตาชวนหื่นยกนิ้วโป้งขึ้นสองนิ้ว ไอติมอยากจะละสายตาไปทางอื่นแต่มันก็ไม่ยอมไปให้ มองค้างเขาไว้แบบนั้นจนกลายเป็นจ้องมอง
   

“This is my friend that I have told you. His name is Ice-cream. (นี่เพื่อนพี่ที่บอก มันชื่อไอติม)” รุ่นน้องของเดนนี่หันมามองไอติมพร้อมกับรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร ไอติมขยับยิ้ม พยายามทำให้เป็นยิ้มกว้าง ๆ แต่ดูเหมือนจะเป็นยิ้มแหะๆ
   

“ไฮ สวัสดีขับ” หนุ่มฝรั่งผมดำผิวขาวยกมือขึ้นไหว้ตามประเพณีไทย ไอติมปล่อยกระเป๋าเดินทางและยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน
   

“ฮัลโหล ชื่ออะไรเหรอ เอ่อ What’s your name?” คนถูกถามยิ้มขำนิดหน่อย
   

“I’m Robert. (ผมชื่อโรเบิร์ตครับ)”
   

“Nice to meet you robot. (ยินดีที่ได้รู้จักโรบอท)” ไอติมรู้ตัวว่าพูดชื่ออีกคนผิดไปเลยยกมือซ้ายปิดปากด้วยความตกใจ เจ้าของชื่อขำอย่างอารมณ์ดี
   

“มึงเปลี่ยนเขาให้เป็นหุ่นยนต์แล้วเหรอ” เดนนี่แซวขำ ๆ ไอติมยิ้มแห้งด้วยความเขิน
   

“Okay, follow me. (เอาล่ะ ตามมาครับ)” โรเบิร์ตเดินนำทั้งสองคนกลับไปทางหอพัก ไอติมลากกระเป๋าเดินตามไปพร้อมเดนนี่ ที่นี่เดินเข้าเดินออกได้เลยไม่มีประตูรั้วปิดกันไว้ ด้านล่างหอพักแบ่งเป็นสองฝั่ง มีฟิตเนสอยู่ฝั่งขวามือและมีร้านอาหารกับเครื่องดื่มอยู่สี่ร้านฝั่งซ้ายมือ แต่ละฝั่งจะมีที่นั่งให้นักศึกษามานั่งอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นด้วย
   

“We don’t have elevator here. (ที่นี่ไม่มีลิฟต์นะ…)” โรเบิร์ตหันมาบอกทั้งสองคน เดนนี่หันไปแปลให้ไอ้เพื่อนตัวเล็กฟัง ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความอึ้ง โรเบิร์ตยิ้มขำก่อนจะว่าต่อ
   

“…But I stay at the second floor. (แต่ผมอยู่แค่ชั้นสองครับ)” เดนนี่ขำก่อนจะแปลอีกที ไอติมทำหน้าโล่งใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เพราะกระเป๋าเขาใบใหญ่สุด ถ้าเกิดน้องพักอยู่ชั้นหกก็คงแบกกันกล้ามขึ้น
   

ห้องพักที่นี่มีระยะห่างที่ห่างกันมาก แสดงให้เห็นว่าห้องด้านในต้องกว้างขวาง ห้องของโรเบิร์ตอยู่ริมสุดฝั่งซ้ายมือตอนเดินขึ้นบันไดมา พอเปิดประตูเข้าไปด้านใน ที่ไอติมคิดไว้เรื่องความกว้างของห้องก็ไม่แปลกใจ ด้านซ้ายมือตอนเดินเข้าประตูเป็นครัว ด้านขวามือเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ ตรงกลางของห้องเป็นพื้นที่ส่วนรวม มีทีวีจอใหญ่ โซฟา โต๊ะทำงานที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะตั้งอยู่ ด้านนอกประตูกระจกบานเลื่อนเป็นระเบียงขนาดใหญ่
   

“นั่นห้องของเพื่อนพี่ครับ” โรเบิร์ตชี้ไปที่ประตูสีขาวติดกับฝั่งระเบียง
   

“You can use anything in this room but use it well please. I live with my mate, we don’t have much activities to do. Rarely watching movies together in the middle room. He goes to the college now. You will meet him this evening. (ใช้ได้ทุกอย่างในห้องเลย แต่ก็ช่วยกันรักษาด้วย ผมอยู่กันสองคนก็ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรมากนักหรอกครับ นาน ๆ ทีจะมานั่งดูหนังด้วยกันที่ห้องส่วนกลาง ตอนนี้รูมเมทผมเข้าไปในมหา’ลัย เย็น ๆ เดี๋ยวได้เจอกัน)” ไอติมพยายามทำความเข้าใจทุกคำพูดของรุ่นน้องเพื่อนสนิท แต่ก็พบว่าเข้าใจได้น้อยมาก
   

“Any prohibitions? (มีอะไรเป็นข้อห้ามมั้ย)” เดนนี่ถาม โรเบิร์ตทำหน้านึก ย่นคิ้วอ่อน ๆ ก่อนจะตอบแบบไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก
   

“We don’t have much rule in our room, just look after it and clean it. For the rule of accommodation, don’t be loud and don’t be a trouble to others. Oh, this is the highlight rule for both of you, if you see staff of this building; tell them that you come here for a summer course. That is what I have told them. Pi Denny might not see them but Pi Ice-cream have a chance because you live longer. (กฎในห้องก็ไม่มีอะไรซับซ้อนหรอก แค่ช่วยกันรักษาความสะอาด ส่วนกฎของที่พักก็อย่าส่งเสียงดัง อย่าสร้างความรำคาญให้คนอื่น อ้อ สำคัญสำหรับพี่ทั้งสองคนเลย ถ้าเกิดเจอคนดูแลหอก็บอกไปเลยนะว่าพี่มาเรียนซัมเมอร์ เพราะผมบอกเขาไปแบบนั้น พี่เดนอาจจะไม่เจอ แต่พี่ไอติมอยู่นานกว่า อาจจะเจอ)” ไอติมหันควับไปมองเดนนี่ทันทีเพราะประโยคยาวมาก แต่ได้ยินชื่อตัวเองในนั้นเลยคิดว่ามันต้องเป็นอะไรที่ตัวเองควรจดจำไว้ให้ขึ้นใจ เดนนี่สรุปให้ฟังสั้น ๆ แบบที่ไอติมเข้าใจได้ง่ายๆ
   

“อ้อ โอเค ๆ I understand แล้ว” โรเบิร์ตยกยิ้มก่อนเดินไปเปิดประตูห้องนอนของทั้งสองคนที่อยู่ฝั่งเดียวกับจอที่วีตั้งโต๊ะ
   

“ข่าห้องให้สิ้นเดือนก่อด้ายคับ” ไอติมยิ้มกว้าง ยกมือขึ้นทำท่าว่าโอเคพร้อมกับก้าวเดินตามเดนนี่ไปทางห้องนอนของตัวเอง แวะโค้งตัวขอบคุณรุ่นน้องที่ตัวสูงกว่าตัวเองนิดหน่อย โรเบิร์ตโค้งกลับและยกมือไหว้ ไอติมเลยต้องยกมือไหว้อีกที
   

“พอละ มึงเข้ามา ๆ ไหว้จนไอ้เบิร์ตจะเป็นศาลพระภูมิห้องแล้ว” โรเบิร์ตเข้าใจที่พี่ชายพูดเลยหัวเราะ ไอติมเดินตามเดนนี่เข้าไปด้านใน
   

“โหว กว้างนะเนี่ย” เป็นห้องนอนสีครีม เตียงสีขาวนอนสองคนแบบเบียด ๆ หน่อย มีตู้เสื้อผ้าสีน้ำตาลอ่อนให้หนึ่งตู้ มีหน้าต่างสองบาน ทั้งบนหัวเตียงและฝั่งขวามือเวลานอน ข้างเตียงฝั่งขวามือเวลานอนมีโต๊ะเขียนหนังสือสีขาวตัวเล็กหนึ่งตัว ปลายเตียงเป็นตู้เก็บของสีเดียวกับโต๊ะเขียนหนังสือ ห้องไม่ได้ใหญ่เว่อร์ แต่ก็กว้างมากพอที่ให้คนสองคนอยู่ด้วยกันแบบไม่อึดอัด
   

“ห้องน้ำรวมนะครับ อยู่ด้านนอก แต่แยกห้องอาบน้ำกับห้องปลดทุกข์ไว้ให้” เดนนี่หันไปพยักหน้ากับน้องชาย ในขณะที่ไอติมเริ่มเปิดกระเป๋าเตรียมตัวจัดของแล้ว
   

“เดน นอนด้วยกันบนเตียงแหละเนาะ เบียดหน่อยแต่ก็ใช่ว่าไม่เคย” เดนนี่เดินไปปิดประตูแล้วเดินกลับมายืนมองเพื่อนเอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า
   

“เดี๋ยวจัดของเสร็จไปหาซื้อของที่มึงต้องใช้กัน”
   

“โอเค้!”
   

“อยู่ได้ใช่มั้ย” ไอติมเงยหน้าขึ้นพรึ่บแล้วยิ้มด้วยความดีใจ
   

“อยู่โคตรได้อะ ดีมาก ๆ เลยเดน กูโชคดีมากใช่มั้ยที่น้องมึงเรียนอยู่เมืองนี้”
   

“เออ ดีจริง เมืองนี้ที่พักแพง มันก็มีบ้านให้เช่าแหละ แต่มึงก็ต้องแชร์กับคนอื่น ซึ่งมึงไม่มีไง หอพักแถวนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นนักศึกษากันทั้งนั้น คนนอกไม่มี” ไอติมยิ้มด้วยความปลื้มใจที่ตัวเองได้ที่พัก ตอนแรกที่ยังไม่รู้จากแม่ของเดนเรื่องน้องโรเบิร์ต ก็เครียดว่าจะไปพักที่ไหนดี เพราะค่าที่พักมีแต่ราคาสูง ๆ พวกราคาถูก เดนบอกว่าอยู่ในแหล่งที่ไม่ค่อยปลอดภัย
   

“พูดถึงน้องมึง น้องโรเบิร์ตเขาแซ่บนะ” เดนนี่ขมวดคิ้ว มองไอติมด้วยความระแวง
   

“มึงจะกินน้องกูรึไง”
   

“ไม่ใช่อย่างนั้น เรื่องกินกูเก็บไว้ให้แซ็คคนเดียวเท่านั้นแหละ กูชมเฉย ๆ ว่าน้องมึงแซ่บ”
   

“มึงรู้ได้ไง เห็นแค่กล้ามก็ว่าแซ่บแล้วเหรอ” ไอติมขมวดคิ้วน้อยๆ
   

“เซ้นส์มันบอกอะว่าโรเบิร์ตแซ่บ”
   

“เซ้นส์หรือความเงี่ยน เอาดีๆ” ไอติมบู้ปากและก้มหน้าเคลียร์ของในกระเป๋าเดินทางต่อ
   

พอจัดของเคลียร์เข้าตู้เข้าที่เข้าทางเสร็จเรียบร้อย สองเพื่อนซี้ก็ออกไปข้างนอกโดยมีโรเบิร์ตไปเป็นไกด์ โรเบิร์ตพาทั้งสองคนย้อนกลับไปทางซานต้าโมนิก้าอีกครั้ง เพื่อพาทั้งสองไปห้างแถวนั้นที่พวกนักศึกษาชอบไปช้อปปิ้งกัน ไอติมกับเดนหาซื้อของใช้จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวัน ซึ่งสวนใหญ่เป็นไอติมมากว่าที่ต้องซื้อ ไอติมเลือกซื้อของที่ขนมาจากไทยไม่ได้และของที่สามารถเอาเงินในกระเป๋าซื้อได้ที่นี่ในราคาไม่แพง อย่างยาสีฟัน แชมพู ครีมอาบน้ำ ครีมทาผิวอะไรแบบนี้ มีซื้อขนมไปตุนเก็บไว้ตามประสาคนชอบกิน
   

“พี่เดน drop at the Metro. พี่ติม needs a tap card. (พี่เดน แวะสถานีรถไฟใต้ดินก่อนนะ พี่ติมต้องมีแท็ปการ์ด)” โรเบิร์ตบอกหลังจากออกจากห้าง เดนนี่ขับรถออกจากตัวห้างไม่ไกลก็เจอสถานีรถไฟใต้ดินที่ทางเข้าเป็นโพรงสี่เหลี่ยมสีดำ โรเบิร์ตพาไอติมลงไปซื้อที่ด้านล่างสถานี ปล่อยให้เดนนี่จอดรถรออยู่ริมถนน
   

“พี่ติมเติมมันนี่ด้ายตาหลอดน่ะคับ” โรเบิร์ตยื่นบัตรสีส้มอมฟ้าอันเป็นสีท้องฟ้าในยามเย็นและมีต้นปาล์มสีดำแรเงาหนึ่งต้นแผ่ใบอย่างเลือนลางท่ามกลางสีพระอาทิตย์ตกดิน
   

“ผมเติมหั้ยแล้วสำหลับเดือนนึง ถ้าหม่ดก็เติมเพิ้ม” ไอติมยิ้มกว้าง รับบัตรนั้นมาไว้ในมือ
   

“โอ้ แต้งกิ้วมาก ๆ ใช้ได้กับเทรนแอนด์บัสเลยใช่มั้ย”
   

“Yes!” โรเบิร์ตพยักหน้าและยิ้มกริ่ม ก่อนจะพากันเดินกลับขึ้นไปด้านบน รีบวิ่งไปขึ้นรถของเดนที่จอดรออยู่ริมถนนในพื้นที่ที่จอดได้


พอได้ของที่ควรจะมีเสร็จเรียบร้อย เดนนี่ก็ขับรถพาไอติมไปดูที่จัดงานมหกรรมหนังโป๊ของไอติม ใกล้ ๆ กับดาวน์ทาวน์ เป็นอาคารสูงทรงกระบอกติดกระจกรอบอาคาร ด้านล่างก็เป็นหลังคากระจกยื่นออกมาไว้กันแดดกันฝนบริเวณประตูทางเข้า เป็นอาคารสำหรับจัดงานแสดงสินค้า งานอีเว้นต์ งานคอนเสิร์ต หรืองานใด ๆ ที่ต้องใช้สถานที่ใหญ่ ๆ ในการจัดโดยเฉพาะ
   

“What are you doing here พี่ติม?”
   

“มาเสีย…”
   

“…มันก็แค่อยากมาชมเมืองเฉย ๆ แหละ” เดนนี่รีบพูดแทรกเพื่อนก่อนที่มันจะพูดความปรารถนาของตัวเองให้คนอื่นฟังไปทั่ว ไอติมเบะปากใส่เดนนี่ หันหนีไปมองตึกนั้นอย่างไม่สนใจ
   

“อ๋อ” โรเบิร์ตพยักหน้าแม้จะยังไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่ ไอติมนั่งมองอาคารกระจกทรงกระบอกสูงใหญ่จากในรถตาเป็นประกายแล้วคลี่ยิ้มด้วยความตื่นเต้น
   

พรุ่งนี้เราก็จะได้เจอกันอีกแล้ว คราวนี้ผมจะทำมากกว่าจับด้วย!

   

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [50%] 11.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 11-02-2018 21:25:10
น้องติมเชียร์อยู่นะจ๊ะ ตอนหน้าเราต้องได้มากกว่าจับแน่นอน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [50%] 11.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-02-2018 03:01:53
ติม ใจแข็งไว้นะ อย่าไปหลงหนุ่มคนอื่น นอกจากแซ็คนะ  o12
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [50%] 11.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 19-02-2018 18:25:45
ขอให้น้องติมได้สมหวังดังปรารถนานะ ขำอ่ะ เอ็นดู
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [50%] 11.02.18
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 19-02-2018 19:45:21
น้องติมน่ารักอ่ะ ซื่อๆดี
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [100%] 06.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-04-2018 20:07:36
Chapter 4 [100%]





Convention center
   

“เสร็จแล้วก็โทรมา เดี๋ยวกูมารับ”
   

“โอ๊เข่ ขอบใจนะเดน” ไอติมยิ้มกว้าง ท่าทางระริกระรี้แบบไม่มีปกปิด
   

“มึงใจเย็น มึงไม่ได้จะเดินเข้าไปเสียตัวให้มันวันนี้ซะหน่อย”
   

“ใครจะไปรู้ล่ะมึง เกิดได้เสียกันวันนี้ก็แฮปปี้เลยนะ!” เดนนี่ทำหน้าเอือมกับความเพ้อความเพี้ยนของเพื่อน ยกมือซ้ายโบกมือไล่อีกฝ่ายแบบว่ามึงไปเถอะ ก่อนจะขับรถออกไปจากหน้าอาคารที่เพิ่งมามันมาดูเมื่อวาน
   

ไอติมหันไปมองตึก เห็นป้ายไวนิลอันใหญ่เขียนชื่องานห้อยติดไว้บนหลังคากันสาดที่อยู่ด้านล่างและด้านหน้าของตัวอาคารทรงกระบอกอันนั้น ผู้คนมากมายเดินเข้าไปด้านใน เห็นแล้วก็ชวนใจเต้นตึกตัก
   

“ใครว่ามีแต่กูขี้หงี่ไอ้เดน เนี่ย คนเต็มไปหมด” แต่ดูจะเน้นเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง แต่ไอติมก็ไม่แคร์หรอก จะเพศไหนมางานนี้ก็ไม่สำคัญเท่ากับตัวเขาเองมาหาเพศชายคนหนึ่งในงานนี้ต่างหาก
   

I’m coming for you! And you are cumming for me!
   

ไอติมก้าวเท้าเดินตรงไปยังทางเข้าของอาคาร ระหว่างเดินก็หยิบกระดาษเอสี่สีขาวที่ปริ้นมาจากเมืองไทยขึ้นมาเพื่อเตรียมยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ด้านหน้าหรือด้านไหนสักที่ที่จะต้องเจอก่อนเป็นที่แรก ไอติมมองคนมากมายเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ และยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยตรวจอีกชั้นหลังจากผ่านประตูนั้นไป นั่นเลยทำให้ตรงทางเข้ามีคนออกันมากมาย แต่ก็ไม่ได้ว่าแน่นขนัด เนื่องจากมีประตูตรวจจับโลหะพร้อมเจ้าหน้าที่ถึงสี่ประตู ไอติมคิดในใจว่าคนพวกนี้คือมางานหงี่เหมือนเขาใช่มั้ย
   

“Push your hands up. (ยกมือขึ้น)” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เป็นผู้ชายผิวสีตัวใหญ่บอกไอติมด้วยใบหน้านิ่ง หนุ่มไทยอ้าปากหวอ แต่ก็ค่อย ๆ ยกมือขึ้นสูงอย่างเงอะงะเพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจถูกหรือเปล่า เนื่องจากสำเนียงของเจ้าหน้าที่คนนี้ฟังยาก เจ้าหน้าที่ขมวดคิ้ว มองไอติมด้วยความสงสัย ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงง เจ้าหน้าที่คนนั้นใช้สองมือตบตามตัวเขาดังตุบ ๆ ไล่ตั้งแต่ไหล่จนไปถึงข้อเท้า และขอดูข้างในรองเท้าผ้าใบเขาด้วย
   

“What are you doing here? (มาทำอะไรที่นี่)” เจ้าหน้าที่คนนั้นถาม ไอติมอ้าปากค้างตามเดิม เปลือกตากะพริบปริ๊บ ๆ ก็เจ้าหน้าที่คนนี้เขาพูดรวบคำเหมือนฮิปฮอปน่ะสิ
   

“เอ่อ สะ… ซอหรี่ เอ้ย พาด๋อนหมี” เจ้าหน้าที่คนนั้นดึงไอติมให้หลบทางคนข้างหลังที่กำลังจะเดินเข้าไปด้านใน ไอติมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นกลัว เจ้าหน้าที่ผิวสีตัวใหญ่เขม้นมองไอติมแบบที่แทบไม่กะพริบตา แต่ไอติมก็ไม่ได้หลบสายตาไปทางอื่น
   


“Give me your bag, and that paper.” ไอติมรู้สึกหูอื้อ หัวตื้อ เจ้าหน้าที่เห็นหนุ่มไทยตัวผอมไม่ตอบสนองเลยยื่นมือไปหยิบกระเป๋าเป้กับกระดาษมาจากมือไอติม เจ้าของกระเป๋าและกระดาษแผ่นนั้นยืนมองเจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นในกระเป๋าด้วยความกลัวและกังวล
   

กูอยากให้มีคนผลิตวุ้นแปลภาษาแบบโดราเอม่อน


แต่พอค้นไม่เจอสิ่งผิดปกติก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าไอติมนิ่ง ก่อนเลื่อนสายตาไปมองกระดาษในมือที่ค่อย ๆ คลี่ออก ไอติมยืนมองด้วยความลุ้น ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับม้วนกระดาษไว้ตามเดิมแล้วก็คืนกระเป๋ากับกระดาษให้กับเจ้าของที่ยังมองด้วยความงงๆ
   

“Enjoy.” ไอติมมองล่อกแล่กไม่แน่ใจ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ผายมือเข้าไปด้านในนั่นแหละไอ้หนุ่มจากไทยหัวใจพร้อมเสียตัวก็โค้งหัวลงจนเกือบติดพื้นเป็นการขอบคุณ
   

“Thank you.” พอว่าจบพร้อมรอยยิ้มก็หมุนตัวเดินเข้าไปด้านในด้วยความโล่งใจ
   

พอเดินเข้ามาในอาคาร มันไม่ใช่ว่าเจองานอันเป็นเป้าหมายของไอติมเลย ในอาคารนี้มีฮอลจัดงานแยกออกไปอีกหลายฮอล ซึ่งฮอลไหนที่มีงานก็จะติดป้ายบอกชื่องานไว้ด้านหน้า นั่นหมายความว่าทุกคนที่มาที่นี่ไม่ได้มางานหงี่แบบเขาไปซะหมด ผู้คนเดินกันขวักไขว่ภายในอาคารทำให้ไอติมต้องเอากระเป๋ามาไว้ด้านหน้าเพื่อป้องกันการถูกขโมยของโดยไม่รู้ตัว ไอติมเดินหาชื่องานของตัวเองโดยเทียบกับในกระดาษเอสี่ที่ปริ้นมา 
   

Adult Entertainment Exhibition
   

ไอติมหยุดตรงหน้าประตูสีดำบานใหญ่สองบานที่ปิดสนิท มีฝรั่งผิวขาวตัวสูงใหญ่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูสี่คน มีหน้าจอเหมือนที่โชว์โปรแกรมหนังติดอยู่บนผนังข้างประตูฝั่งขวามือ ในจอมีตัวอักษรสีขาวที่เป็นชื่องานวิ่งอยู่บนหน้าจอสีดำ ขอบด้านบนมีคำว่า ‘NOW SHOWING’ เปล่งแสงนีออนออกมาชัดเจน ไอติมคลี่ยิ้มดีใจ เดินเข้าไปหาคนเฝ้าประตูทางเข้าที่ทำหน้านิ่งจนชวนเกร็ง แต่ไอติมก็หาได้สนใจไม่ เข้าไปยื่นกระดาษเอสี่ที่ม้วนจนยับยู่ยี่ให้การ์ดอ่าน แต่การ์ดกลับจ้องหน้าคนตัวผอมแทนกระดาษแผ่นนั้น
   

“How old are you? (อายุเท่าไหร่)” คำถามนี้ไอติมเข้าใจ และเพราะสำเนียงคนนี้ง่ายกว่าคนก่อนเลยไม่ต้องตีความให้มาก
   

“Twenty one. (21 ครับ)” ไอติมตอบเสียงใสพร้อมคลี่ยิ้มกว้าง การ์ดมองหน้าไอติมนิ่งก่อนจะแบมือมาข้างหน้า
   

“ID card or passport, or something to show me. (บัตรประชาชน พาสปอร์ต หรืออะไรก็ได้ เอามาให้ดูหน่อย)” ไอติมจับคำว่าพาสปอร์ตได้เลยเปิดกระเป๋าเป้หยิบมันออกมาแล้วยื่นไปให้ ในหัวก็ได้แต่คิดว่าจะเข้างานสำหรับคนเงี่ยx นี่มันยากอะไรขนาดนี้
   

“Thailand?” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ การ์ดหน้าดุยื่นพาสปอร์ตคืนและดึงกระดาษในมือไอติมไป ก้มลงอ่านไม่นานก็เงยหน้าขึ้น
   

“Have fun.” การ์ดหน้าดุว่าแค่นั้นแล้วก็ยื่นกระดาษคืนให้ไอติม หนุ่มไทยรับมาแบบงง ๆ และพยักหน้ารับแบบงง ๆ พอการ์ดคนที่คุยกับเขาหันไปพยักหน้าให้กับการ์ดอีกคน ประตูบานใหญ่ด้านขวามือของไอติมก็เปิดออกแบบแง้ม ๆ ไอติมก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านใน แปบเดียวประตูก็ปิดตามหลังอย่างเร็วราวกับกลัวจะมีอะไรเล็ดลอดเข้ามาหรือมีอะไรเล็ดลอดออกไป
   

แต่พอไอติมหันกลับไปมองในฮอลอันเป็นสถานที่จัดงาน ก็ต้องอ้าปากค้าง พร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัว แล้วก็พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้างว่าทำไมประตูถึงรีบปิดนัก เพราะในนี้มันมีแต่สิ่งล่อตาและล่อเป้าให้ตื่นตัวน่ะสิ
   

“แม่เหยดดด” ไอติมครางเบา ๆ กับตัวเอง มุมปากทั้งสองข้างขยับกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
   

ใครชอบดูหนังโป๊ มาที่นี่คงอย่างกับได้ขึ้นสวรรค์
   

ในงานมีบูธตั้งเรียงกันสี่แถว แต่ก็ไม่ได้เป็นการตั้งเรียงกันแบบแน่นหนาจนชวนอึดอัด แต่ละบูธจะมีพื้นที่กว้างขวางเป็นของตัวเอง จำนวนคนแต่ละบูธก็ดูจะไม่เท่ากัน ไอติมเดาว่าคงแล้วแต่ว่าบูธไหนกำลังนำเสนออะไรให้กับคนที่มางาน อันไหนน่าสนใจ คนก็พากันแห่ไปชม จากสายตาไอติมที่มองจากมุมกว้างในตอนนี้ คนมางานหงี่กันเยอะมาก ชวนให้นึกถึงงานท่องเที่ยวไทยที่เมืองไทยอยู่เหมือนกัน หรือที่นี่มันมีลดแลกแจกถามอะไรด้วยหรือเปล่า คนเลยพากันมาซะมากมาย
   

ไอติมชะเง้อคอมองหาเป้าหมายของตัวเอง ในกระดาษเขียนไว้ว่าอยู่โซนซีจากทั้งหมดสี่โซน ไอติมมองหาอักษรที่บ่งบอกว่าโซนซีก่อนเป็นอย่างแรก ดีที่ว่าในงานติดตัวอักษรแต่ละโซนอยู่ด้านหน้าทางเข้าแต่ละซอย แถมงานนี้มีแค่สี่ซอยสี่โซน เลยยิ่งหาง่าย ขายาว ๆ ของไอติมก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่เร่งรีบ มีการแวะเดินโซนอื่นเพื่อชมงานเพลิน ๆ ก่อน ถือซะว่าเป็นการวอร์มอัพหัวใจสักพัก ในหัวไอติมไม่ได้มีความคิดอะไรมากมายนอกจากว่ากำลังจะได้เจอแซ็คอีกครั้ง ค่อนข้างแน่ใจว่าเขาน่าจะจำตัวเองได้เพราะเพิ่งเจอกันไปเมื่อไม่กี่วันก่อน แบบว่ายังไม่ทันครบอาทิตย์เลยด้วยซ้ำ
   

“Oh, really? Yes, it’s fine. / Hahaha. That’s amazing scene for me. Your cum is so heavy! / Is that the real boobs? / I am really admire you. / Oh, I can say you gonna love it. It is a big match! /…”
   

เสียงจ้อกแจ้กจอแจพูดคุยกันระหว่างที่ไอติมกำลังเดินไปบูธจุดหมายของตัวเอง ซึ่งก็ฟังไม่ออกหรอก พูดกันเร้วเร็ว แถมยังพูดกลบกันไปมา ไอติมตาโตกับเหล่าหญิงสาวที่ใส่ชุดนุ่งน้อยห่มน้อยยืนต้อนรับผู้ร่วมงานอย่างสบายๆ ราวกับกำลังยืนอยู่ในบ้านของตัวเอง แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกใจหรือทำให้รู้สึกว่าตัวเองผิดที่ผิดทางแต่อย่างใด เพราะผู้หญิงพวกนี้น่าจะชินและชิลกับการนุ่งน้อยชิ้น หรือบางทีก็ไม่นุ่งอะไรเลย
   

แต่มันก็แอบไม่ยุติธรรมอยู่เหมือนกัน ผู้หญิงนุ่งกันน้อยชิ้น แต่ทำไมฝ่ายชายที่ออกมายืนต้อนรับคนที่มาเที่ยวงานถึงใส่ชุดปกปิดหมด ที่ว่าไม่ยุติธรรมน่ะ ไม่ยุติธรรมกับตัวเขานั่นแหละ เห็นแต่ของผู้หญิง ของผู้ชายไม่เห็นเลย หวังว่าแซ็คคงไม่แต่งตัวเรียบร้อยมิดชิดมากนะ
   

“เฮฮฮฮ!”
   

ไอติมได้ยินเสียงดังมาจากด้านในส่วนของเวทีที่มีแผ่นฉากกั้นสีดำตั้งขึ้นสูงครึ่งหนึ่งของฮอลจัดงานในตอนที่เดินผ่านด้านหน้าตรงบริเวณทางเข้าเวที แต่จุดหมายปลายทางของเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น ไอติมเลยเดินผ่านไป เงยหน้าขึ้นมองเลขบูธที่จำจากแผ่นกระดาษนั้นภายในครั้งเดียว และเมื่อเห็นว่าเลขแถวโซน C เรียงกันจากน้อยไปหามาจากจุดที่ตัวเองอยู่ ไอติมก็ยิ้มดีใจเพราะมันทำให้หาง่ายขึ้น
   

“C8 C9 C10 และ C11…” ไอติมหยุดยืนตรงหน้าบูธตามเลขที่ตัวเองนับมา บูธเป้าหมายของไอติมมีผู้หญิงผมดำสองคนและผมบลอนด์หนึ่งคน นุ่งกางเกงบิกินีแบบปิดแค่กลีบตรงนั้น ตรงหน้าอกมีแค่เทปกาวสีดำแปะหัวนมทั้งสองข้างเป็นรูปกากบาท แต่ละคนมีเครื่องประดับเพื่อทำให้ดูไม่โล่งจนเกินไป คนกางเกงบิกินีสีแดงสวมสร้อยคอเพชรอันใหญ่ คนกางเกงบิกินีสีน้ำเงินใส่ต่างหูขนนกอันบึ้ม และคนกางเกงบิกินีสีเขียวใส่หูกระต่ายแหลมสีดำด้านบนหัวและสวมแว่นกรอบสี่เหลี่ยมสีเดียวกัน แต่ละคนยืนเรียกแขกแบบชิลมาก ใครเข้ามาขอถ่ายรูปก็โพสต์แบบสบาย ๆ ไม่มีเขินอาย มีผู้ชายมาชวนสาวบิกินีแดงคุย เธอก็ยืนคุยกับคนนั้นราวกับว่าอยู่ในบ้านของเธอเอง
   
V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [100%] 06.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-04-2018 20:07:59
V
v
v


“Hey, little boy. What are you looking for? (เฮ้ หนุ่มน้อย มองหาอะไรอยู่เหรอจ๊ะ)” สาวบิกินีสีน้ำเงินหันมาถามไอติมพร้อมกับยิ้มกว้าง ไอติมกระตุกยิ้มไม่เต็มปาก กำลังแปลในใจว่าเขาถามประมาณว่ามาทำอะไรใช่หรือเปล่า
   

“อะ… เอ่อ… I want to see Anthony.” ไอติมพยายามออกเสียงให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ สาวบิกินีสีน้ำเงินยิ้มกว้างและทำหน้าเข้าใจ หน้าตาเธอดูยินดีจนทำให้ไอติมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
   

“Anthony, marketing? (แอนโทนี่การตลาดใช่มั้ย)” ไอติมอ้าปากค้าง กะพริบตาปริบ ๆ และพยักหน้าลงแบบไม่มั่นใจนักว่าตัวเองเข้าใจว่ายังไง แต่ได้ยินชื่อของคนที่มาหาเลยพยักหน้าไว้ก่อน
   

“Wait a minute. (รอแปบนะจ๊ะ)” เธอหมุนตัวเดินเข้าไปในบูธ เข้าไปคุยกับผู้ชายหน้าตาดี รูปร่างล่ำสันคนหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นมองมาที่เขา ไอติมยิ้มกว้าง หนุ่มล่ำคนนั้นยิ้มตอบก่อนหายเข้าไปในประตูผ้าสีดำ สาวบิกินีสีน้ำเงินเดินกลับมาหาไอติมพร้อมรอยยิ้มดังเดิม
   

“Are you friend with Anthony? (เป็นเพื่อนกับแอนโทนี่เหรอจ๊ะ)” ไอติมพยายามไม่มองนมเธอแม้มันจะสะดุดตามากมายก็ตาม
   

“อ่า เยส ๆ แอมเฟรนด์แอนโทนี่” เธอยิ้ม ไอติมยิ้มตาม ดวงตาสีดำของเธอเป็นประกาย หุ่นอกเอวสะโพกชัดเจนไปหมด เหมาะแล้วที่จะทำอาชีพด้านนี้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก ที่ไอติมกำลังคิดคือพวกเธอเป็นมิตรมาก ยิ้มแย้ม ไม่บึ้งตึง และโคตรจะชิลกับการแต่งตัวแค่นี้ คนนี้ไม่เคยเห็นเล่นกับแซ็ค อีกสองคนก็เช่นกัน เป็นนักแสดงหน้าใหม่หรือเปล่านะ
   

“And are you a porn lover? (ชอบดูหนังโป๊ด้วยรึเปล่า)” เธอยิ้ม ไอติมเข้าใจประโยคนี้
   

“I love ซะ…” ไอติมเบรกปากตัวเองทันก่อนจะพูดชื่อจริงของแซ็คออกมา


“Bryan.” เธอทำหน้าเหมือนนกฮูกก่อนจะคลี่ยิ้มกรุ้มกริ่มและมองไอติมแบบแซวๆ
   

“Are you his fan boy? (แฟนบอยสินะ)” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง เธอขยิบตาให้ไอติมหนึ่งที
   

“He is so hot. And he is number one. You choose the best choice to love. (เขาเผ็ดมาก แล้วเขาก็เป็นเบอร์หนึ่งเลยละ เธอเลือกรักคนได้ดีนะ)” ไอติมยิ้มค้าง กะพริบตาปริบ ๆ พยายามจับใจความประโยคที่เธอพูดมาอยู่ ประโยคแรกฟังออก อันต่อ ๆ มาเริ่มไม่มั่นใจละว่าฟังออกมากน้อยแค่ไหน
   

วุ้นภาษาควรมีเป็นอย่างมาก จริงๆ
   

“What’s up? (ว่าไง)” หนุ่มตัวสูงผมดกดำ ผิวขาวขุ่น ใส่แว่นกรอบสี่เหลี่ยมสีดำเดินออกมาหน้าบูธและหันไปถามสาวบิกินีสีน้ำเงิน
   

“He came to see you. (เขามาหานายแน่ะ)” เธอบอกและผายมือไปทางไอติม ผู้ชายฝรั่งหน้าตาพอใช้ได้หันไปมองไอติมแบบงงๆ
   

“You want to see me? (อยากเจอฉันเหรอ)” ไอติมหน้าเอ๋อ หันมองสาวบิกินีน้ำเงินทันที เธอยิ้มขำก่อนจะว่า
   

“Anthony. (แอนโทนี่ไง)” ไอติมทำหน้าเก็ท อ้าปากยิ้มกว้าง หันไปมองคนที่ตัวเองเอ่ยชื่อไปก่อนหน้านี้ ไอติมเองก็ไม่ไม่แน่ใจว่าใช่เป้าหมายของตัวเองมั้ย พยายามเทียบหน้าจริงกับรูปในเฟซบุ๊คในหัวตัวเองอยู่
   

“Hello, Anthony. I am I-tim, ice-cream. We chat and you send email to me. I come from Thailand.” แอนโทนี่ที่ไอติมมาขอเจอขมวดคิ้วนึกอยู่พักใหญ่จนไอติมเริ่มคิดว่าควรเอาแชทให้เขาดูหรือไม่ แต่ก่อนจะได้ทำแบบนั้น อีกฝ่ายก็ยิ้มด้วยความเก็ต พอรู้ว่ากำลังคุยกับใครแอนโทนี่ก็ยื่นมือขวาไปจับมือขวาของอีกฝ่ายทันที
   

“สวัสดีไอ่ติ้ม ไนซ์ทูมีทยูว โว้ววว ด้ายเจอสั่กที” ไอติมยิ้มกว้างดีใจที่ได้ยินภาษาไทยออกจากปากของแอนโทนี่ ผู้ซึ่งเป็นฝรั่งที่สามารถพูดไทยได้ แบบที่เรียกได้ว่าแทบจะคล่องมาก สำเนียงการพูดไทยอาจจะยังติดความเป็นฝรั่งอยู่สักหน่อย แต่ไม่ใช่ปัญหาหลักเลย แค่เจอคนพูดไทยได้ตอนนี้ก็โคตรจะดีกับไอติมมากแล้ว ยิ่งเป็นแอนโทนี่ด้วยยิ่งดี
   

“ผมดีใจจังที่ได้ยินภาษาไทย” ไอติมรู้สึกอยากจะปล่อยน้ำตาให้ไหลทะลักออกมาตอนนี้ ตั้งแต่เข้ามาในงานก็สะดุดกับภาษาอังกฤษไปหลายทีหลายหนจนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะโง่อะไรปานนั้น
   

“ฉั๋นดีใจมากที่ได้เจอเถ่อนะ”
   

“ผมก็ดีใจครับ” ทั้งสองยิ้มให้กัน ในมือยังคงเช็กแฮนด์กันไม่หยุด แอนโทนี่หันไปหาสาวบิกินี่สีน้ำเงิน
   

“He is a super fan of Bryan. He is a SUPER V.I.P. of us as well. (เขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของแซ็ค แล้วยังเป็นเมมเบอร์วีไอพีของเราด้วย)” สาวบิกินีสีน้ำเงินยิ้มให้ไอติมอีกรอบ แต่รอบนี้เป็นยิ้มที่เปรมกว่าเดิม
   

“Wow, nice to meet you. Thank you for your support even you may support Bryan more than everyone. (ว้าว ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนนะ แม้ว่าเธอจะสนับสนุนไบรอั้นมากกว่าใครก็เถอะ)” ไอติมยิ้มเหลอหลาเล็กน้อย แอนโทนี่หันมาแปลเป็นภาษาไทยให้ พอเข้าใจว่าหญิงสาวพูดอะไร ไอติมก็ยิ้มกว้างและก้มหัวลงสามสี่ที ก่อนจะยกนิ้วโป้งสองมือขึ้นเป็นการบอกว่าเยี่ยม
   

“เดี๋ยวฉั๋นพาเข้าไปเจอเข๋าก่อน เข๋าจะขึ้นโชว แล้วเดี๋ยวก็มามีทแอนด์กรีทกับแฟนๆ แต่เธอเป็นซูเปอร์แฟน และฉั๋นสัญญาไหว่แล้ว เดี๋ยวพาเข่าไปก่อนเลย” แอนโทนี่กวักมือให้ไอติมเดินตามเขาเข้าไปในบูธ ไอติมหันไปยิ้มให้สาวบิกินีสีน้ำเงินที่ยิ้มตอบกลับมาก่อนจะเดินตามแอนโทนี่เข้าไปด้านใน หนุ่มไทยส่งยิ้มให้กับทุกคนที่มองมา แล้วก็ได้รอยยิ้มกลับ ตอนที่แอนโทนี่แหวกผ้าสีดำที่ทำเป็นประตูกั้นออก หัวใจของเขาก็เต้นรัวด้วยความตื่นเต้น พอเดินเข้าไปด้านในก็เจอฝรั่งทั้งหญิงชายอยู่ในนั้นเป็นสิบคนได้ บางคนก็แก้ผ้าเดินไปเดินมา บ้างก็นั่งอ้าชิลอยู่บนโต๊ะและก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ไอติมยิ้มตื่นเต้น บางคนเขาก็จำได้จากหนังโป๊ เป็นนักแสดงค่ายเดียวกับแซ็ค


อย่างผู้ชายตัวใหญ่ ๆ มีรอยสักและเจาะจมูกที่นั่งเปลือยอยู่บนเก้าอี้และกำลังอ่านหนังสือ ไอติมจำได้ว่าเยโหดมาก ซึ่งก็ถือว่าเหมาะกับภาพลักษณ์ภายนอกของเขา หรือผู้ชายหัวหยิกหยองสีทองที่กำลังยืนคุยกับผู้หญิงเปลือยอกคนหนึ่ง นั่นก็มีเคที่ยาวมาก และปล่อยน้ำทีก็เยอะสุด ๆ ไอติมเคยดูผลงานของสองคนนี้ มีเผลอนอกใจแซ็คใช้สองคนนี้ช่วยตัวเองไปบ้าง แต่ก็ไม่มากมายเท่าแซ็คหรอก
   

“Bryan!” ไอติมได้ยินเสียงแอนโทนี่ตะโกนเรียกชื่อขวัญใจตัวเองก็หันขวับไปมอง หัวใจกระหน่ำรัวผนังอกเร็วกว่าเดิม เจ้าของชื่อเดินออกมาจากกลุ่มคนพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตขาวแขนสั้นรัดติ้วกับกางเกงยีนสีเข้ม
   

“Your super fan. (ติ่งตัวพ่อของแก)” สิ้นคำแอนโทนี่ แซ็คหรือไบรอั้นก็หันไปมองร่างผอมผิวขาวที่ฉีกยิ้มกว้างและยกมือโบกทักทายรัว ๆ มาให้
   

“Hi!” แซ็คขมวดคิ้วก่อนในตอนแรก แต่พักเดียวก็เบิกตากว้างตะลึง
   

“You?!”
   

“Yes!!” ไอติมตอบเสียงใสพร้อมกับมอบรอยยิ้มอันสดใสให้กับชายในฝันที่อยากจะเสียตัวให้
   

“ฮะ ทำไมเหมือนรู๊จักกั่น Did you know him?” แอนโทนี่มองสลับทั้งสองคนอย่างงง ๆ สีหน้าของทั้งสองคนต่างกัน คนนึงยิ้มแย้มอิ่มเอม อีกคนก็สีหน้าเนือยเอื่อยเฉื่อยจนเกือบจะเป็นเอือม
   

“And you? (แล้วแกล่ะ)” แซ็คหันกลับมามองหน้าแอนโทนี่พร้อมกับถาม
   

“Yes. We have been talking through the chat and email. (ใช่สิ เราคุยกันผ่านแชทแล้วก็อีเมลน่ะ)” แซ็คย่นคิ้ว หันมองไอติมด้วยความหน่ายเล็กๆ
   

“What do you want? (นายต้องการอะไรอีก)” ไอติมยังคงคลี่ยิ้ม
   

“I come here to see you. (ผมมาเจอคุณฮะ)”
   

“He is a super V.I.P. member. (เขาเป็นสมาชิกสุดยอดวีไอพีของเรา)” แซ็คเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง และรู้สึกตัวเย็น ๆ เขามองหน้าเรียวเล็กของไอติมที่กำลังยิ้มเบิกบานด้วยความสับสน
   

“Are you kidding me? (ล้อฉันเล่นรึเปล่า)” แอนโทนี่ทำหน้างง งงว่าทำไมถึงคิดว่าเขาเอาเรื่องนี้มาล้อเล่น
   

“Why do I have to do that? (ฉันจะล้อแกเล่นทำไมเนี่ย)” แซ็คมองหน้าไอติมอีกที คนตัวเตี้ยกว่าเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้ายังคงคลี่ยิ้มเหมือนเดิม แต่หัวใจเริ่มเต้นในระดับปกติแล้ว
   

“How? (ได้ไงเนี่ย)”
   

“He has been paying to us so much especially about you. (ก็เขาเป็นสายเปย์ โดยเฉพาะเปย์เกี่ยวกับนาย)” ไอติมไม่เข้าใจทั้งหมดหรอกว่าสองคนนี้กำลังพูดอะไรกันบ้าง แต่เขาพอจะจับได้บางคำว่าแอนโทนี่กำลังบอกว่าเขาเป็นใครมาจากไหนอะไรทำนองนั้น
   

แซ็คพ่นลมหายใจเบา ๆ มองหน้าไอติมแบบไร้อารมณ์แปบหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือขวาไปตรงหน้า
   

“Nice to meet you. What’s your name? (ยินดีที่ได้รู้จัก นายชื่ออะไร)” ไอติมยิ้มดีใจ ยื่นมือขวาไปจับมือแซ็คทันที แต่ก็ไม่ได้บีบแน่นจนเกินเหตุ
   

“I-tim! เอ่อ Ice-cream อะ” ไอติมบีบมือแซ็ค สายตาก็มองสันกรามของหน้าหล่อ ๆ ตาเยิ้ม แอนโทนี่มองแล้วก็ยิ้มขำ คุยกันผ่านตัวอักษรว่าเด็กคนนี้คลั่งไอ้ไบรอั้นแล้วนะ ตัวจริงตาฉ่ำเชียว
   

“เถ่อไม้ต้องซื้อของอะไรเพิ่มเติมถั่งนั้นนะ เดี๋ยวเอ่าบัดวีไอพีพกติดตัวไว้ก่อพอ เดี๋ยวฉั๋นไปเอ่ามาหั้ย” ไอติมพยักหน้าทั้งที่ยังจับมือแซ็คไว้ไม่ปล่อย
   

“I will leave him with you for a while. Be good to our SUPER V.I.P., okay? (ฉันจะฝากเขาไว้กับแกสักพัก ทำตัวดี ๆ กับแขกสุดยอดวีไอพีของเราล่ะ โอเค๊)” แซ็คยักคิ้วพร้อมทำหน้าเบื่อ ๆ แอนโทนี่ตบไหล่ไอติมสองที คนตัวเล็กที่สุดท่ามกลางเหล่าฝรั่งยิ้มให้แล้วหันกลับไปมองหน้าแซ็ค อีกฝ่ายยื่นคางมาที่มือไอติมที่กำลังกุมมืออีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย ไอติมยิ้มเขินและค่อย ๆ ปล่อยมือออก
   

“I’m glad very much to see you again. (ผมดีใจมากที่ได้เจอคุณอีก)” แซ็คผายมือไปตรงโซฟาสีดำในห้องพักหลังบูธของทีมงาน ไอติมก้าวเท้าเดินตามไปนั่งลงข้างแซ็ค
   

“It’s an easy word, but thank you for your support. (เป็นคำง่าย ๆ หน่อยนะ แต่ขอบคุณมากที่สนับสนุนกัน)” ไอติมเพิ่งได้ยินประโยคนี้ไปกับสาวบิกินีสีน้ำเงินเลยยิ้มอย่างเข้าใจและพยักหน้าหงึกๆ
   

“I’m เต็มใจ เอ่อ full of my heart อะ” แซ็คยิ้มบางกับการพยายามพูดภาษาอังกฤษของอีกฝ่าย
   

“As I asked you before—call me Bryan, okay? (อย่างที่ขอไปก่อนหน้านี้ เรียกฉันว่าไบรอั้น โอเคนะ)” อันนี้ไอติมก็เข้าใจอีกว่าเขาขอให้เรียกชื่อที่ใช้ในการแสดง เลยพยักหน้ารับคำอย่างจริงจัง
   

“Okay very much!” แซ็คยิ้มอย่างพอใจ และเขาก็เห็นว่าไอติมยังคงยิ้มกว้างอย่างสดใสเหมือนเดิมนับตั้งแต่เดินเข้ามาเจอเขา
   

“You want me to fuck you, do you? (อยากให้ฉันเอานายงั้นเหรอ)” ไอติมไม่เข้าใจทั้งหมดหรอก แต่ได้ยินคำว่า fuck ก็อ้าปากพูดต่อทันที
   

“Yes, yes, yes. Fuck. I want you. Fuck me. Yeah.” ไอติมตอบอย่างกระตือรือร้น แม้จะตอบชวนสับสนไปสักหน่อย แต่ก็พยายามสื่อความต้องการของตัวเองออกมาให้ชัดเจนที่สุด และนึกขอบคุณความทุ่มเทและความเปย์ของตัวเองที่ทำให้ตัวเองได้รับการดูแลอย่างเอ็กซ์คลูซีฟขนาดนี้
   

แซ็คมองหน้าไอติมอย่างครุ่นคิด มันมีหลายความคิดที่เกี่ยวกับเด็กคนนี้ที่เขาไม่แน่ใจว่าถ้าคิดแบบนั้นแบบนี้มันจะถูกต้องและลงตัวหรือไม่ “Wow, I can’t imagine how much you pay for me. (วาว นึกไม่ออกเลยว่านายจ่ายให้ฉันมากขนาดไหน)”


มากขนาดไหนกันถึงได้ซูเปอร์วีไอพีมาครอง ที่สำคัญยังดูเด็กอยู่เลย ไอ้เด็กคนนี้มันไปเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้กับเขาและค่ายเขานักหนา เขามองหน้าเรียวเล็กขาวสว่างตาอย่างข้องใจ ไอติมไม่แน่ใจว่าแซ็คสื่อถึงอะไรและต้องการสื่อยังไง และตัวเองเข้าใจที่เขาสื่อมากน้อยแค่ไหน แต่ก็ยิ้มไว้ก่อน
   

“I like you.” บอกชอบเขาไว้ก่อนแล้วกัน ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร
   

แซ็คยิ้มขำ ผงกหัวหนึ่งที “Thank you. (ขอบคุณ)”
   

ไอติมยิ้ม แต่สักพักความจำที่แซ็คเคยพูดว่า ถ้าหากอยากมีอะไรกับเขาต้องจ่ายเงินเหมือนที่เขาได้รับค่าจ้างตอนแสดงหนังชายได้ชายก็พุ่งเข้ามา เลยทำให้รอยยิ้มของไอติมหดลง
   

“I don’t have much money อะ”
   

“But you are SUPER V.I.P. (แต่นายเป็นสุดยอดวีไอพีเลยนะ)” แซ็คขมวดคิ้ว มองหน้าไอ้ตัวผอมอย่างงง ๆ ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ และกำลังคิดว่าแซ็คกำลังจะสื่อว่าเขาเป็นวีไอพีแต่ไม่มีตังค์งี้เปล่าหว่า แปลถูกมั้ยเนี่ย
   

“How much เหรอที่ you will fuck me อะ” แซ็คตั้งแขนซ้ายกับข้อเข่า ยกมือซ้ายขึ้นมาลูบคาง มองหน้าไอติมด้วยสายตาเรียบนิ่ง ในหัวกำลังใช้ความคิด
   

มันคือเมมเบอร์การ์ดทองคำ แล้วไอ้การ์ดนี้ก็อย่างกับมีเวทมนตร์ในมือ…
   

“You don’t have to pay for me but I will fuck you only one time, and after that don’t ask me to fuck you again. Is that okay? (ไม่ต้องจ่ายเงินให้ฉัน แต่ฉันจะเอานายแค่ครั้งเดียว แล้วหลังจากนั้นไม่ต้องขอให้ฉันเอานายอีก แบบนั้นโอเคมั้ย)” อะไรโอเควะ เขาพูดว่าอะไร ไอติมกำลังนั่งหน้าเอ๋อ กะพริบตาปริบ ๆ ยอมรับแบบโง่ ๆ เลยว่าประมวลที่แซ็คพูดไม่ทัน รู้แต่ว่าพูดเรื่องเอากันนี่แหละ แต่เขาพูดว่าอะไรล่ะ
   

“ไอติม การ์ดของเธอ” ไอติมหันไปมองแอนโทนี่ทั้งที่ยังคงงงอยู่ แอนโทนี่ยื่นการ์ดสี่เหลี่ยมสีทองพร้อมกับซองใส่การ์ดและสายคล้องคอสีดำมาตรงหน้าไอติม หนุ่มเอเชียยื่นมือออกไปรับ ก้มลงดูบนป้ายก็เห็นชื่อตัวเองเป็นภาษาอังกฤษติดอยู่บนนั้น พร้อมกับตัวเลขรหัสอีกสองแถว และมีคำว่า SUPER V.I.P. เด่นเหนือบนชื่อของเขา
   

แซ็คมองการ์ดใบนั้นในมือของไอติมด้วยความข้องใจและกังวลใจในเวลาเดียวกัน เขานั่งมองหน้าของหนุ่มไทยอย่างครุ่นคิด และคิดว่าที่คิดไว้น่าจะลงตัวที่สุดแล้ว “You should go to prepare yourself. I will take him to see the show. (แกไปเตรียมตัวได้แล้วมั้ง เดี๋ยวฉันพาไอติมไปดูแกโชว์ด้วย)” แซ็คเลื่อนสายตาไปมองหน้าแอนโทนี่และยักคิ้วแบบเนือยๆ
   

“I really realized so much now about SUPER V.I.P. (ฉันเข้าใจคำว่าสุดยอดวีไอพีอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว)” แซ็คยิ้มไม่เต็มปากนัก หน้าตาก็ดูเหนื่อยใจ แอนโทนี่ไหวไหล่ทั้งสองข้าง
   

“So are you okay what we just said? (เอาล่ะ นายโอเคกับสิ่งที่เราเพิ่งคุยกันไปมั้ย)” แซ็คหันไปถามไอติมอีกที เจ้าของการ์ดสีทองมองหน้าคนถามอย่างงงๆ
   

ประเด็นคือไม่ค่อยเข้าใจกับสิ่งที่เพิ่งพูดกันไปก่อนหน้านี้น่ะสิ
   

“เอ่อ say again please.” แซ็คบิดหน้าไปมองแอนโทนี่ อีกฝ่ายยักคิ้วแล้วก็หมุนตัวเดินออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรู้งาน แซ็คหันกลับมามองไอติมอีกที และพูดช้า ๆ พูดด้วยประโยคที่เข้าใจไม่ยาก
   

“I will fuck you tonight. After we finish this event. (ฉันจะเอานายคืนนี้ หลังเราจบงานนี้)” แซ็คหยุดมองหน้าไอติมที่กำลังทำความเข้าใจ ใช้เวลาเกือบนาที หนุ่มเอเชียตัวผอมก็อ้าปากค้าง หน้าตาตื่นตะลึง แซ็คตีความว่าหมอนั่นเข้าใจแล้ว
   

“I will sleep with you but only one time. (ฉันจะเอากับนาย แต่แค่ครั้งเดียว)” แซ็คเน้นเสียงเพื่อความชัดเจน ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะพยักหน้า ทั้งที่ยังไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกมากน้อยแค่ไหน หรือถ้าที่ตัวเองเข้าใจและตอบรับไปนั้น เป็นการตอบรับที่ตัดสินใจถูกต้องหรือไม่
   

“After this time. No more sex between us. Understand? (หลังจากครั้งนี้ไป ไม่มีเซ็กซ์ระหว่างเราอีก เข้าใจมั้ย)” แซ็คเลิกคิ้วขึ้น มองไอติมอย่างรอคอยคำตอบ นอกจากคาดหวังให้ไอ้เด็กเอเชียคนนี้ตอบรับกับข้อเสนอนี้แล้ว ยังคาดหวังให้มันฟังรู้เรื่องกับสิ่งที่เขาบอก
   

ไอติมกำลังครุ่นคิด เขาเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายสื่อ และตอนนี้กำลังทบทวนกับตัวเองว่าอยากได้มากกว่าหนึ่งครั้งหรือเปล่า…


แต่ก็กลัวว่าถ้าโลภมากไปจะชวดหมด ไม่เหลือให้ได้เลยสักครั้ง และเป้าหมายที่ตั้งใจมาพุ่งชนและให้เป้าเขาชนตูดเราก็จะไม่ได้ไม่โดน โดนครั้งเดียวก็ดีกว่าไม่โดนเลย อย่างน้อยมาแล้วก็ไม่สูญเปล่า มาแล้วก็ได้เสียตัวสมใจ จะเอาอะไรมากมายหลายรอบล่ะ รอบเดียวก็คือได้เสียตัวให้เขาแล้ว ก็ถือว่าเกินความคาดหมาย แต่ก็ไม่ได้เกินมากมาย เพราะก็พร้อมจะเสียตัวให้แซ็คทุกวันอยู่แล้วตั้งแต่มาที่นี่


กำขี้ดีกว่ากำตดละวะ
   

“Okay!”

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [100%] 06.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 06-04-2018 20:28:42
น้องติมคืนนี้หนูจะได้เสียตัว อย่างที่เคยตั้งใจไว้แล้วลูก ขอให้ภารกิจพิชิตพี่แซคของน้องติมสำเร็จนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [100%] 06.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-04-2018 20:41:21
น้องไอติม ช่างใสขนาดดด ฮืออ ได้กลิ่นมาม่าโชยมา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [100%] 06.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-04-2018 04:08:54
เสียตัวเสร็จ ก็ต้องมาเสียใจต่อชิมิ  :m15:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [100%] 06.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 09-04-2018 03:57:52
5555 น้องงง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [100%] 06.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 09-04-2018 09:16:37
มุ่งมั่นมาก5555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.4: Unexpected. [100%] 06.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 17-04-2018 16:15:04
สารภาพว่าพึ่งได้อ่านเรื่องนี้  :hao7: แต่มอบเสียงกรี๊ดให้กับน้องติม เอาล่ะเหวยรอคืนนี้ของน้องกัน จะแซ่บได้ใจแม่ๆขนาดไหน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally. [50%] 17.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 17-04-2018 18:52:41
Fall in lust, Chapter 5 :: Finally...? (ในที่สุด... เหรอ) [50%]



 “ไอ๊ติม จะปัยดูไบร่อั้นขึ้นเวทีมั้ย รึจะอยู่รอถี่นี่” ไอติมมองหน้าแอนโทนี่งงๆ
   

“เขาขึ้นเต้นเหรอ” ภาพที่ไปเจอแซ็คในคลับเต้นเปลือยที่ซานฟรานฯ เมื่อหลายวันก่อนพุ่งแวบเข้ามาในหัวเลยถาม คนถูกถามยิ้มขำและส่ายหน้า
   

“ไหม่ชั่ย เข๋าขึ้นโชว์มีเซ็กซ์บนเวที” ไอติมเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะยิ้มแบบไม่แน่ใจนัก
   

“หมายถึงมีอะไรกัน…” แอนโทนี่พยักหน้า
   

“…ฉั่ยแล้ว เธอเคยเห็นเข๋าในหนังยังไง ขึ้นเวทีก็อย่างนั้นหละ แค่หว่าขรั่งนี้ ไม่มีตัดต่อ ไม่มีเทค เอากันแบบยาว ๆ จนกว่าจะแตกกั่นไป่ข้าง” หนุ่มฝรั่งใส่แว่นหัวเราะเบา ๆ ท่ามกลางเสียงพูดคุยของคนอื่น ๆ ในห้องพักหลังบูธ
   

“คนดูเยอะมั้ยฮะ” แอนโทนี่ทำหน้านึกก่อนจะตอบแบบไม่มั่นใจนัก
   

“ขิดว่าเยอะหยู่” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ พลางครุ่นคิด แต่ก็ไม่ใช่คิดชวนเครียดหนักใจ แค่กำลังชั่งใจว่ายังไงดี ในขณะที่กำลังจะให้คำตอบกับแอนโทนี่ ความคิดอีกอันหนึ่งก็แทรกเข้ามาในหัว
   

“โอ๊ะ…” ไอติมหันไปมองแซ็คที่กำลังยิ้มแย้ม ยืนคุยกับผู้หญิงฝรั่งผิวขาวผมดำหน้าสวย ๆ ในชุดชั้นในสีแดง ก่อนหันกลับมามองแอนโทนี่อีกที
   

“…เขาเอากี่รอบอ่า”
   

“รอบเดียวก่อพอแล๊ว เป็นแค่โชว์ ๆ นึง นั่นน่ะ เขาจะมีเซ็กซ์กับคนที้กำลังยืนคุยด้วยนั่นหละ” ไอติมยื่นปากทำหน้ามุ่ยหน่อยๆ
   

“ให้คนอื่นเอาแทนไม่ได้เหรอ” แอนโทนี่ยิ้ม
   

“หวงเข่าหลอ” ไอติมส่ายหัวรัวๆ
   

“ผมกลัวเขาหมดแรงอะ” แอนโทนี่ย่นคิ้วไม่เข้าใจ ไอติมยกมือกวักเรียกแซ็คยิ่งกว่านางกวักเรียกเงินเรียกทองอยู่สักพักจนกระทั่งเจ้าตัวหันมาเห็นหน้ามุ่ย ๆ ของไอ้เด็กเอเชียตัวป่วน หนุ่มฝรั่งผมทองถอนหายใจเซ็งหน่อย ๆ แต่ก็ยอมผละออกมาจากผู้หญิงอีกคน
   

“What’s up? (มีอะไร)” แซ็คถามตอนที่เดินมาถึงตรงหน้าไอติม
   

“You will fuck she คนนั้นบน stage เหรอ” ไอติมชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้น แซ็คเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงงกับประโยคของอีกฝ่ายนิดหน่อย แต่พอแอนโทนี่แปลให้เลยเข้าใจ ฝรั่งผมทองพยักหน้าหนึ่งที ไอติมย่นคิ้ว ริมฝีปากสีแดงยู่เป็นเด็กน้อย
   

“แล้ว You will fuck me okay แบบว่าไหวหรอ If you ฟัค she ไปแล้วอะ” แซ็คเบิกตากว้าง พอ ๆ กับแอนโทนี่ที่เปลือกตาขยับกว้างด้วยความตกใจ ไอติมยังคงขมวดคิ้ว แต่ก็มีสีหน้างง ๆ กับอาการตกใจของทั้งสองคน
   

“Shhh!” แซ็คส่งเสียงชู่วเป็นการบอกให้เงียบ ก่อนจะรีบหันไปมองรอบตัวอย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าไม่มีใครได้สังเกตตรงนี้เป็นพิเศษก็รีบหันกลับมา สีหน้าชะงักไปนิด ก่อนที่ริมฝีปากจะบิดเซ็ง ๆ ที่เห็นแอนโทนี่ แต่ก็ยังดีกว่าเป็นคนอื่น


“Don’t tell anybody about what I have told you. (อย่าบอกใครเรื่องที่ฉันคุยกับนาย)” แซ็คกระซิบกับไอติมเสียงเข้ม คนตัวเล็กที่สุดในบรรดาสามคนกะพริบตาปริ๊บ ๆ สีหน้างุนงง งงว่าเขาพูดอะไร และกำลังอยู่ในช่วงประมวลคำแปล


“And don’t make a slip of the tongue about that, okay? (แล้วก็อย่าเผลอหลุดปากพูดเรื่องนี้ไป เข้าใจมั้ย)” หะ ฮะ? ประโยคแรกยังไม่ทันแปลจบเลย ประโยคใหม่มาต่อแล้ว ฟังออกคำสุดท้ายคือ โอเค๊ แล้วโอเคอะไรล่ะ


ไอติมหันไปมองแอนโทนี่โดยอัตโนมัต ถ้าแซ็คพูดแบบเว้นช่วงให้แปลสักหน่อย เขาก็ยังพอจะถูไถจับใจความได้ แต่พอพูดต่อเนื่องกันมันเลยรวนไปหมด แอนโทนี่ที่มีสีหน้าประหลาดใจกึ่งเครียดช่วยแปลให้ไอติมเข้าใจตามประโยคที่แซ็คพูดมา


“ทำไมอะ Why?”


“Just remember that don’t say about this to other people if you want what you want. (แค่จำเอาไว้ว่าอย่าพูดเรื่องนี้กับใครถ้านายอยากได้ในสิ่งที่ต้องการ)” ไอติมอ้าปากหวอ เปลือกตากะพริบเอื่อย ๆ กำลังแปลในหัวตัวเอง แต่ก็ไม่เร็วเท่าแอนโทนที่ก้มลงมากระซิบให้เสร็จสรรพ


อะไรอะ แค่จะเอากันมันต้องความลับขนาดนี้เลยเหรอ


“You shy เหรอที่ต้อง to fuck me” ไอติมไม่ได้ถามด้วยความน้อยใจหรือคิดมาก แค่ถามด้วยความสงสัยทั่วไปของมนุษย์คนหนึ่ง


“It’s not about shame or shy. It’s about unappropriated. (มันไม่เกี่ยวกับความอับอายหรือว่าขายหน้า มันเกี่ยวกับการไม่ควรพูด)” ไอติมทำปากจู๋ ยกมือเกาหัวงง ๆ ทั้งงงที่โดนห้ามพูดและงงภาษาอังกฤษ


“And don’t worry if I can’t fuck you. I’m the best fucker. (แล้วไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องที่ฉันจะเอานายไม่ได้ ฉันเป็นนักเย็xที่เก่ง)” แซ็คขยิบตาหนึ่งที ไอติมที่กำลังงง ๆ ถึงกับคลี่ยิ้มเคลิ้มอัตโนมัติกับท่าทางอันเซ็กซี่นั้น


แต่ประโยคที่เขาพูดมาไม่รู้นะว่าแปลว่าอะไร ฟังออกฟัคยู ๆ นั่นแหละชัดสุด


“Go to prepare yourself. I will be with him all the time. (ไปเตรียมตัวเถอะ เดี๋ยวฉันจะอยู่กับเขาตลอดเวลาเอง)” แซ็คกับแอนโทนี่มองตากัน มองแบบเป็นอันรู้กัน ก่อนที่แซ็คจะพยักหน้าขึ้นหนึ่งที แล้วหมุนตัวเดินกลับไปทางเดิม มีการหันมาคลี่ยิ้มมุมปากให้ไอติมเคลิ้มอีกทีด้วย


“ฮู้ยยยๆ” ไอติมครางเคลิ้มตาเยิ้มอยู่คนเดียวกับท่าทางชะม้อยชายตานั้น แซ็คเป็นผู้ชายที่ไม่ได้หล่อเว่อหรือหล่อเป๊ะ แต่เขาดึงดูดทางเพศและน่าดึงมาดูดอย่างมหาศาล แบบนี้น่ะอันตรายกว่าผู้ชายหล่ออย่างเดียวเพียว ๆ ซะอีก


“ฮิๆ” ไอติมหัวเราะห่อไหล่ ขนลุกซู่ซ่ากับภาพบนเตียงของตัวเองกับแซ็คที่กำลังแล่นอยู่ในหัว


“สรุป เธอไม๊ไปใฉ่มั้ย” แอนโทนี่ถามอีกทีเพื่อความแน่ใจ ไอติมหันกลับมามองฝรั่งพูดไทยได้ กำลังจะทำท่าพยักหน้าแต่ก็เปลี่ยนเป็นตั้งคำถาม


“แล้วถ้าผมไม่ไปดู ในนี้จะมีอะไรให้ผมเที่ยวมั้ย” แอนโทนี่ยิ้มแบบไม่มั่นใจนัก


“หมั่นก้อมีแต่พวกค่ายหนังโป๊มาออกบูธนั้นแหล่ะ หรือท่าอยากลองไป่ดูผลงานค่ายอื่น ๆ บั่งไหมหละ” ไอติมคลี่ยิ้ม แววตาและสีหน้ามีความสนใจ


“ก็ดีนะครับ เดินฆ่าเวลาก็ได้” แอนโทนี่พยักหน้ายิ้ม ๆ มองไอติมที่กำลังยิ้มแย้มสดใสด้วยสายตาเป็นกังวล ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเบา


“เฮ้ เอาเปนว้า เธอย้าเผลอพูดเรื่องนั้นกับใครก่อแล้วกั๋นนะ…” ฝรั่งพูดไทยว่าพลางกวักมือเรียกไอติมเดินตามออกไป แซ็คที่กำลังยืนคุยงานอยู่เลื่อนสายตามองตามทั้งสองคนนิ่งครู่หนึ่งแล้วสันกรามก็ขึ้นสันชัด
 


ไอติมกับแอนโทนี่เดินออกมาด้านหน้าบูธที่ยังคงมีคนมายืนคุยกับสามสาวไม่ขาดสาย ไอติมยิ้มทักทายกับทีมงานคนอื่นในระหว่างที่เดินตามหลังแอนโทนี่ แม้ว่าบางคนจะมองเลยผ่านไป แต่ไอติมก็ไม่ได้ติดใจอะไร คิดแค่ว่าตัวเองยิ้มให้เป็นมิตรไว้ก่อนแล้วกัน


“…อั่นที่จริงฉั๋นปะหลาดจัยมาก” แอนโทนี่หันมาคุยกับไอติมในตอนที่ทั้งสองคนเดินห่างออกจากบูธตัวเองมาแล้ว


“ประหลาดใจอะไรเหรอ” แอนโทนี่กำลังจะอ้าปากพูด แต่สายตาก็เหลือบเห็นบัตรสีทองของไอติมที่ห้อยคล้องคอเจ้าตัวอยู่ เปลือกตาภายใต้กรอบแว่นดำหรี่ลงพร้อมกับนึกคิด แม้จะไม่แน่ใจว่าที่ตัวเองคิดนั้นใช่หรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้


“ไบร่อั้น หม่อนั่นไม่นอนกับ เอ่อ ผู่ชาย…” ปลายเสียงของคนพูดแผ่วลงจนคนฟังทำหน้างงไม่เข้าใจ คำว่าผู้ชายเบาซะจนคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูด นี่ถ้าแก้วหูไม่สมประกอบคงไม่ได้ยินคำนั้น ร่างสูงยักไหล่ ทำหน้าประมาณว่าช่างมัน


“…แต่ก็ใฉ่ว้าไหม่เค้ย ใน้หนังก่อนอนมาด้วยหลายคนแหลว”


“เขาเคยบอกผมว่า ถ้าผมอยากนอนกับเขา ผมต้องเสียตังค์ เพราะที่เขานอนกับผู้ชายในหนัง เขาได้ค่าจ้าง” แอนโทนี่พยักหน้าในระหว่างเดินผ่านบูธหนึ่งที่มีผู้หญิงสองคนกำลังเปลือยกายอาบน้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำสีขาว ผลัดกันลูบไล้ไปมา โดยมีสายตาของชายหนุ่มนับสิบคนยืนมองราวกับโดนสะกดจิต


“แต่ผมไม่ต้องเสียแหละ แต่ก็ได้แค่ครั้งเดียวเองอ่า” แอนโทนี่ยิ้มขำกับใบหน้าเสียดายของอีกฝ่าย


“ขั่งเดียวก่อพอแล้วละ” ไอติมบุ้ยปากไปซ้ายทีขวาที แววตากำลังคิดว้าวุ่น


“ที่จริง ครั้งเดียวผมก็โอเคแหละ แต่ผมแค่กลัวตัวเองติดใจ” แอนโทนี่หัวเราะ ไอติมยิ้มกว้างและหัวเราะตาม หนุ่มฝรั่งลดรอยยิ้มลง และมองไอติมด้วยสีหน้าอึกอักและติดจะอึดอัดด้วยซ้ำ จนอีกคนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ


“มีอะไรเหรอแอนโทนี่” คนถูกถามกระตุกยิ้ม ผายมือไปทางโซนโซฟาที่มีไว้ให้คนที่มาเที่ยวงานนี้ได้นั่งพักผ่อน


“นั่งคุยกันดีกว่า” ไอติมพยักหน้า เดินตามแอนโทนี่ไปนั่งโซฟาตัวยาวสีดำ มีคนนั่งพักผ่อนอยู่ตรงนั้นเกือบสิบคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย


“ฉั๋นรู้ ว่าเถ่อชอบไบรอั้นมันมาก เราคุยกั่นมาตาหลอด ฉั๋นรู้” แต่หนุ่มเอเชียตัวบางก็ไม่เคยเอ่ยถึงขั้นว่าอยากได้เสียกับพระเอกหนุ่มให้ฟังเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้ มีพูดแซว ๆ กันบ้าง แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะเป็นความต้องการแบบซีเรียสของอีกฝ่าย และที่ไม่คาดคิดคือพระเอกหนังโป๊ดันตอบรับ


“โคตรดีเลยอะที่ได้รู้จักคุณ ผมง่อยคาที่แน่ ถ้าให้พูดภาษาอังกฤษเองทั้งหมด…” ไอติมนึกขอบคุณอย่างใจจริงที่ได้รู้จักกับแอนโทนี่ ฝรั่งพูดไทยได้ ทั้งสองคนคุยกันผ่านเว็บไซต์ของค่ายหนังที่แอนโทนี่ทำงาน กระเถิบมาเป็นอีเมล และสุดท้ายพอคุยกันบ่อยขึ้น (ด้วยภาษาไทยแบบผิด ๆ ถูก ๆ) แอนโทนี่ก็ให้เฟซบุ๊คส่วนตัวมา แล้วทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนกันในโลกออนไลน์ ก่อนที่จะได้มาเจอหน้ากันจริง ๆ ก็วันนี้


“…ผมดีใจนะที่คุณไปอยู่ไทยเป็นปี ขอบคุณคนสอนภาษาไทยคุณด้วย” ไอติมยิ้มกว้าง แอนโทนี่ยิ้มบาง


“งั้นต่องขอบคูณหลายคนเล่ย หลายจังหวัดด่วยนะ” ช่วงหนึ่งของชีวิต แอนโทนี่แบ็คแพคไปเที่ยวเมืองไทยอยู่เป็นปีกับเพื่อนสนิทอีกสองคน เพื่อนสนิทกลับก่อน แต่ตัวเขานั้นติดใจไทยแลนด์เลยอยู่เที่ยวต่อ จนกระทั่งอยู่ยาวเป็นปีเกือบสองปีด้วยซ้ำ แต่ก็ทำเรื่องราวต่าง ๆ ถูกต้อง ไม่ใช่หลบหนีเข้าเมือง การใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยนานขนาดนั้น เลยทำให้แอนโทนี่ได้เรียนรู้ภาษาไทย สื่อสารภาษาไทยได้ในระดับที่ดี แต่การเขียนเข้าขั้นแย่


“ขอบคุณสำหรับบัตรวีไอพีอันนี้ฮะ รู้สึกเท่มากเลยยย” ไอติมหยิบบัตรสีทองที่ใส่ไว้ในแบดจ์ใส่บัตรสีใสขึ้นมาโบกไปมา


“ถ่าเธอหยู่กับเรา บัตรนี้จะทำให้เธอเหมือนมีเดอะเมจิคเลยหละ” ไอติมยิ้มกว้าง ปล่อยบัตรลงให้ห้อยตามเดิม แอนโทนี่มองไอติมอย่างเป็นกังวล แต่ก็บอกกับตัวเองว่า อาจจะกำลังกังวลเว่อไปอยู่ก็เป็นได้


“มารอบนี้ขุ่มเลยสินะ มีทติ้ง แถมยังได้เมคเอ้าท์ด้วย”


“เมคเอ้าท์แปลว่าไรเหรอ”


“แปล่ว่า จู๋จี๋ อะไรหยั่งเงี้ย”


“อ๋อ หมายถึงผมได้จู๋จี่กับซะ… เอ้ย…” แอนโทนี่ทำตาโตและสั่นหัวรัว ๆ ไอติมยิ้มแห้งและหุบปากประสานกันช้าๆ


“ย้าเผลอหลุดปากล่ะ ได้กั่นแล้วก่อฟินคนเดียวพอ” ไอติมขมวดคิ้ว หน้าตาไม่เข้าใจกลับมาอีกครั้ง


“ทำไมอะ ผมไม่ได้จะไปบอกใครนะ แต่ผมแค่สงสัยว่าทำไมถึงต้องย้ำจัง” แอนโทนี่นึกหาคำพูดสักแปบก่อนจะว่าเสียงนุ่ม


“เพื่อตัวเถ่อเอง” ไอติมนิ่งไปแปบหนึ่ง ก่อนจะคิดได้ว่า ไม่ต้องไปรับรู้อะไรเยอะแยะหรอก แค่ได้ในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาก็เพียงพอแล้ว เพราะไอติมก็ไม่ได้มาด้วยจุดประสงค์ที่เยอะแยะอะไรนักหนา มาเพื่อเสียบริสุทธิ์ล้วนๆ


“แหล่วเธอจะมาอยู่นี่กี่เดือนกันหละ”


“เดือนเดียวเองแอนโทนี่”


“อืมมม มีแพลนหยั่งไงบ้าง” ไอติมยิ้มเขินหน่อย ๆ แล้วตอบเสียงอ้อมแอ้ม


“ก็มาหาไบรอั้นแหละ แหะ ๆ ตอนแรกผมกะว่าคงจะนานกว่าจะได้ เอ่อ อย่างนั้นกะเขา แต่ตอนนี้ไม่นานแล้ว” แอนโทนี่ยิ้มขำด้วยความเข้าใจ


“แล้วหยั่งงี้ก็กลับไทยก่อนน่ะสิ” ไอติมเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะส่ายหัวช้าๆ


“ผมก็อยากอยู่เที่ยวก่อน มาทั้งที” แอนโทนี่ยกมือขวาลูบคางพลางครุ่นคิด คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร ในฐานะที่ไอติมเป็นเมมเบอร์ระดับวีไอพีบัตรทองขนาดนี้ เขามีสิทธิ์อย่างเต็มที่อยู่แล้ว


“หยั่กไปดูเบื้องหลังถ่ายหนั่งโป๊ไหม” ไอติมตาโตพรึ่บ หัวใจเต้นกระหน่ำรัว


“อู้วววว…” แอนโทนี่หัวเราะตาหยีกับการร้องเสียงหลงเพราะตื่นเต้นของไอติม


“…ผมอยากไปมานานแล้ว อยากเห็นว่าเขาทำกันยังไง ไป ๆ ผมไป”


“แต่วันถี่ไป๊ อาจไม่ใช่คิวของไบรอั้นน้ะ” ไอติมทำบู้น้อย ๆ แล้วพูดเสียงอ่อยเสียงอ้อน


“ขอวันที่มีเขาด้วยไม่ได้เหรอ” แอนโทนี่ทำหน้าหนักใจ เหลือบมองบัตรสีทองแล้วก็ถอนหายใจอย่างจำยอม


“ก่อดั้ย จะพยายามนะ” หน้าบู้ ๆ เมื่อกี้เปลี่ยนเป็นหน้ายิ้มดีใจ แอนโทนี่มองไอติมแล้วยิ้มบาง


เด็กคนนี้เป็นคนน่าเอ็นดู คุยกันในแชท เขายังไม่คิดอะไรมากมายเท่าไหร่ แต่พอเจอตัวจริง เห็นเลยว่าเด็กคนนี้อารมณ์ดี มีพลังในชีวิตเยอะมาก “อ้อ มีข่นไทยที่เป็นเพื่อน ๆ เราด่วยนะ เดี๋ยวอาจจะได่ลู้จั่กกั่น”


“อ๋า มีคนไทยด้วย”


“อั่นที่จริง เธอควรฝึกพูดพ้าสาอั่งกริดไว้นะ จะได้ซื้อสานกับคนอื่นหง่ายง่าย เผื่อเวลาเธอไป๊ไหนม้าไหนข่นเดียว”


“ผมก็อยากพูดได้ครับ อยากคุยกับแซ็ค เอ้ย…” ไอติมตาโตตกใจกับการหลุดชื่อจริงของแซ็คออกมาเต็มปาก แต่แอนโทนี่ไม่ได้มีทีท่าอะไรเป็นพิเศษ


“เรียกไบรอั้นให่ติ๊ดปากจะดีกว่านะ” ไอติมพยักหน้าหงึกๆ


“ผมขอโทษครับ มันชิน” แอนโทนี่ยิ้มอย่างไม่ถือสา


“ดีเมื๊อนกัน พาเมมเบอร์วีไอพีไปให้ทีมงานรู้จัก เรามีเมมเบอร์แบบเธอหมั่ยมากนักหร่อก” ไอติมยิ้มด้วยความรู้สึกพราวด์เล็ก ๆ ตอนเปย์ไปไม่คิดอะไร แต่พอรู้ว่าที่ตัวเองเปย์ ๆ ไปนั้นจะทำให้ได้รับสิทธิพิเศษดี ๆ แบบนี้ มันก็พองโตในหัวใจ เงินที่ทุ่มให้ความหงี่ก็ถือว่าคุ้มอยู่


“ป่ะ เดินเถี่ยวกัน เปิดหูเปิดตา” ทั้งสองคนลุกขึ้นและพากันกลับไปทางบูธอีกครั้ง ชวนกันคุยสัพเพเหระ ทั้งเรื่องส่วนตัวที่ยังไม่เคยคุยกันมาก่อน และเรื่องการทำงานของเบื้องหลังที่ไอติมสนใจ


แอนโทนี่พาไอติมเดินทัวร์งานออกบูธของค่ายหนังโป๊แต่ละค่ายที่มาร่วมงานจนครบทุกบูธ จากที่ไอติมสนใจอยู่ไม่กี่ค่าย และเน้นค่ายของแซ็คเป็นหลัก มางานนี้ก็ทำให้เขาได้เปิดตากว้างขึ้น มีอีกหลายค่ายที่น่าสนใจแต่ไอติมไม่เคยไปเยือน หรือไม่เคยตามไปดูผลงานของค่ายนั้น ๆ ที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ ก็คือการได้พบนักแสดงบางคนนอกเหนือจากแซ็คที่ไอติมจำได้จากทางเว็บโป๊ต่าง ๆ และไอติมก็ค้นพบว่าไม่ได้มีแซ็คคนเดียวที่แซ่บและชวนมีเซ็กซ์ด้วย


“ของเราก็จะผ่านการออดิชั่นนั้นและ”


“แล้วเลือกคนมาออดิชั่นยังไงเหรอ”


“ก่อมีทั้งมาเอง กับเราไปเจอแหล่วชวนม้า” ไอติมทำปากว่าอ๋อ ตอนนั้นเองที่สายตาเหลือบไปมองผู้ชายหัวโล้นคนหนึ่งที่กำลังยืนมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยภายในงาน ไอติมมองสำรวจรูปร่างหน้าตาของผู้ชายคนนั้นตาแป๋ว


“ข่นรู้จักเหรอ” ไอติมส่ายหัว


“ไม่ลองชวนคนนั้นเหรอ” แอนโทนี่ขมวดคิ้ว มองตามสายตาของไอติมไปที่ผู้ชายหัวโล้นตัวสูง ตึวบึ้ก กล้ามใหญ่แต่ดูจะมีพุงหน่อย ๆ คนนั้น


“ทำไมคนนี้ล่ะ” ไอติมย่นคิ้วนิดหนึ่ง และส่ายหัวงง ๆ กับตัวเอง


“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมว่าเขาต้องแซ่บแน่ ๆ แบบว่าฮ็อต ๆ อะ ผมรู้สึกว่าเขาต้องดีมาก ๆ บนเตียงงี้อะ” แอนโทนี่ขำด้วยความประหลาดใจกับความรู้สึกของไอติม


“แต่หน้าตาเค้าไม๊หล่อเท่าไหร่นะ ใช้ได้ แต่ก็ยังไม๊ดีม้าก ไหนจะพุงนั้นอี่ก”


“ผมว่าถ้าลีลาเขาเด็ด หน้าตาก็จะเป็นรองเองเปล่าฮะ พุงอันนั้นผมว่าก็ยังไม่น่าเกลียดนะ อาจทำให้ดูเซ็กซี่ด้วย” แอนโทนี่ขมวดคิ้ว มองไอติมอย่างแปลกใจและคาใจ จนเขารู้สึกว่าต้องทำให้ตัวเองหายคาใจ


“ก่อด้าย งั้นเราเข้าไปชวนเข๋ากัน” ไอติมยิ้มและพยักหน้า ก้าวเท้าเดินตามแอนโทนี่เข้าไปหาผู้ชายคนนั้น


“Hey, nice to meet you. I’m Anthony. I come from Eagle eyes. (เฮ้ ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันแอนโทนี่ มาจากค่ายหนังอีเกิ้ลอายส์)” แอนโทนี่ยื่นมือไปหาอีกฝ่าย โดยที่อีกฝ่ายยื่นมือตอบกลับมาอย่างเป็นมิตร


แอนโทนี่ไม่เสียเวลาอ้อมค้อม เขาพูดเข้าเรื่องเลยว่าอยากจะชวนอีกฝ่ายไปออดิชั่นที่ค่ายหนัง ผู้ชายคนนั้นทั้งตกใจและประหลาดใจในคราวเดียวกัน ไอติมยืนมองทั้งสองคนคุยกันแบบรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ใจความสำคัญที่แอนโทนี่เข้ามาชวนไปออดิชั่นเป็นนักแสดงหนังโป๊ที่ค่ายอันนั้นน่ะรู้เรื่องอยู่


“Call me if you want to join us. (โทรหาฉันก็แล้วกันถ้านายสนใจ)”


“Thank you.” หนุ่มหัวโล้นหน้าไม่แย่แต่ก็ไม่หล่อยิ้มงง ๆ และแปลกใจกับตัวเองหน่อย ๆ ก่อนจะเดินจากไป ไอติมหันไปยิ้มให้แอนโทนี่แล้วยกนิ้วโป้งสองมือให้


“เดี๋ยวมาดูกั่นว่า สายตาของเธอจะเป็นไง” ไอติมยิ้มแหย


“ผมรู้สึกดีที่คุณลองเชื่อผม แต่ถ้าผมมองผิดไป อย่าโกรธผมนะ” เขาทำหน้ารู้สึกผิด ทำแบบล่วงหน้าไว้ก่อน ไม่รู้ว่าที่ตัวเองบอกเขาไปจะเป็นยังไง คือก็พูดตามที่ใจและเซ้นส์ตัวเองรู้สึก


“ก่อไม่เสียหายอะไร ออดิ่ชั่นผ่าน ก้อเซ้นสัญญา ไม๊ผ่านก็กลับบ้าน แข่น้านแหละ” ไอติมยิ้มด้วยความสบายใจ


“ไบรอั้นน่าเส็ดแล้ว ไปรอมีทติ้งเค้ากัน” ร่างผอมพยักหน้ากระตือรือร้น เดินตามฝรั่งตัวสูงโปร่งกลับไปทางบูธ C11





งานมีทติ้งของแซ็คไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษมาก ไม่มีโชว์จ้ำบ๊ะ หรือโชว์หนังสดให้ได้ดู ก็แค่พบปะ ขอลายเซ็น พูดคุย ถ่ายรูป เหมือนงานมีทติ้งนักแสดงปกติทั่วไปแบบที่ไอติมเคยเห็น ที่แตกต่างหน่อยก็คือแซ็คเปลือยท่อนบน โชว์หุ่นล่ำแซ่บ ให้แฟนคลับได้กอดได้สัมผัสเนื้อแน่นหนาของตัวเอง ซึ่งมีทั้งหญิงทั้งชาย โดยที่ไอติมไม่แน่ใจว่าผู้ชายเหล่านั้นเป็นชายแท้ทุกคนหรือไม่ หรือเป็นแค่แฟนบอยทั่ว ๆ ไป


“ผมเอาแบบที่คุณทำในหนังไปใช้กับเมียตัวเอง เธอชอบมาก คุณเปรียบเหมือนครูออนไลน์ผมเลยแหละ” ผู้ชายร่างท้วมคนหนึ่งกล่าวกับแซ็คด้วยความชื่นชมและปลื้มปิติกับการได้เจอครูสอนเซ็กศ์ออนไลน์ของตัวเอง แซ็คยิ้มกว้างขำขัน


“ฉันถึงจุดสุดยอดกับคุณบ่อยมากเลยละค่ะ” ไอติมอ้าปากหวอ ก่อนเปลี่ยนเป็นยิ้มอ้าปากกว้างด้วยความขำและเขินในเวลาเดียวกันเมื่อแอนโทนี่บอกว่าผู้หญิงผิวสีผมหยิกคนหนึ่งที่มามีทติ้งพูดอะไรกับแซ็ค จนตัวพระเอกเองยังหัวเราะร่วน


มีคนมามีทติ้งกับแซ็คเป็นครึ่งร้อยคน ถือว่าเยอะมากสำหรับนักแสดงหนังโป๊ แอนโทนี่บอกกับไอติมว่าอันที่จริงอยากจะให้มีเยอะกว่านี้ แต่ทางค่ายหนังกำหนดโควต้ามาเท่านี้ ก็ต้องเอาตามที่ทางค่ายว่า เนื่องจากแซ็คเองก็ไม่ได้มีแค่งานมีทติ้งอย่างเดียว เยอะเกินไปตัวนักแสดงจะเหนื่อยเอาได้


ไอติมยืนมองคนอื่น ๆ เข้าไปหาแซ็ค ทั้งพูดคุย ถ่ายรูป และขอลายเซ็นด้วยความปลื้มใจ ที่จริงไอติมจะเป็นคิวแรกสุด แต่เจ้าตัวก็ยินดีให้คนอื่นเข้าหาพ่อพระเอกดุ้นทองก่อนตัวเอง เพราะตัวเองมีเวลาทั้งวี่วันและไม่รีบร้อน แถมหลังจบงานก็ยังได้สิทธิพิเศษมากกว่าใครอีก เลยให้คนอื่นที่มาไกล ๆ เข้าไปหาก่อน


“เฮ้…” แซ็คทักไอติมเสียงนุ่มพร้อมกับยิ้มให้ตอนที่หนุ่มไทยกำลังยืนมองเขาด้วยรอยยิ้ม แซ็คกระดิกมือเรียกไอติม หนุ่มไทยมีสีหน้างง ๆ แต่ก็เดินถือดิลโด้ที่เพิ่งซื้ออันใหม่เพื่อเอามาให้แซ็คเซ็นโดยเฉพาะติดมือไปด้วย


“Hi.” ไอติมทักเสียงใสพร้อมกับรอยยิ้มสดใส แซ็คยิ้มมุมปากตอบ ไอติมยื่นแท่งเนื้อสีน้ำตาลขุ่นไปให้เจ้าของต้นแบบเซ็น ระหว่างที่รอแซ็คเซ็นให้ ไอติมก็เผลอยกมือจิ้มเนื้อบนอกอูม ๆ แน่น ๆ ของแซ็คเบา ๆ ด้วยความลืมตัว


“…Are you trying to assault me? (ลวนลามฉันเหรอ)” แซ็คยิ้มขำน้อย ๆ ไอติมได้สติก็ทำหน้าเหวอเหลอหลา


“It’s big very much เลยอะ” แซ็คยื่นดิลโด้คืนให้ไอติม ร่างผอมรับไปใส่ลงกล่องที่มีรูปแซ็คติดอยู่บนนั้น ในขณะที่กำลังจะเดินออกไปจากโต๊ะมีทติ้งเพื่อให้คนอื่นเข้ามา แซ็คก็ก้มลงมากระซิบข้างหูของไอติมแบบที่ให้ได้ยินกันแค่สองคน


“Wait me around here, okay?. (รอฉันแถวนี้ โอเค้)” ไอติมกะพริบตาปริบ ยิ้มให้แซ็คแบบงง ๆ เพราะแปลไม่ได้ทันท่วงที แต่พอแปลได้แบบคร่าว ๆ แบบที่ไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่ก็พยักหน้า ก่อนเดินออกไปโดยมีรอยยิ้มของแซ็คติดอยู่ในดวงตา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally. [50%] 17.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-04-2018 19:20:50
รอดูไอติมขึ้นสังเวียน  :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally. [50%] 17.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: mxb ที่ 17-04-2018 20:13:16
หลังจากได้พี่แซ็คแล้วหนูก็ไปเรียนรู้วิชาจากแม่นางเรียวจันทร์ด้วยนะลูก
คนนั้นเค้าใช้ชีวิตคุ้มเหลือเกิน แถมไม่ต้องเป็นซุปเปอร์วีไอพีด้วยนาา
:hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally. [50%] 17.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 18-04-2018 08:20:00
ขอบคุณค่ะ  รอไอติมตอนหน้า หนูจะได้กินไอติมของอิพี่แซ็ค แล้ว :haun4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally. [50%] 17.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 19-04-2018 01:28:14
ผมชอบทอล์คของขุ่นเจ้นะครับ (นามปากกาอ่านแล้วรู้เลยว่าน่าจะเป็นคนตลก (หัวเราะ)) ดูค่อนข้างชัดเจน มีลูกเล่นกับคนอ่าน อ่านแล้วรู้สึกว่านักเขียนมาเมาท์มอยคุยเล่นเรื่อยเปื่อยกับนักอ่านด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีนะครับ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

เอาจริงๆ ผมว่าคุณเจ้เขียนนวนิยายได้ดีนะครับ ภาษาค่อนข้างใช้ได้ (แต่เรื่องนี้มีสะกดผิดหลายคำแล้วนะครับ เยอะอยู่นะ ถ้ามีเวลาก็รบกวนตรวจสอบอักษรหน่อยนะครับ) การใช้ภาษาต่างประเทศก็ถูกต้องตามพฤติกรรมการพูด (ไม่จำเป็นต้องถูกแกรมม่าเป๊ะ แต่ให้ตาม idioms หรือแนวการสนทนาของสังคมปัจจุบันก็พอครับ) มีวงเล็บคำแปลซึ่งก็ใจความไม่ต่างจากเนื้อความของตัวภาษาต่างประเทศเท่าไหร่ ถือว่าทำได้ดีครับ แนวการเขียนก็ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ ผมคิดว่าคุณเจ้เขียนมาหลายแนวแล้วนะครับ ซึ่งก็ถือว่าแหวกจากกันค่อนข้างเยอะ (รักไร้ขอบเขต กับร่ายกับดัก) ซึ่งข้อดีของมันคือทำให้ผมมองว่าคุณเจ้เขียนได้ทุกแนว และทำให้คนอ่านอินกับเรื่องได้ดี จุดเด่นมากๆเลยของคุณเจ้คือตัวละครแทบจะทุกตัวมีความโดดเด่นในตัวของมันเอง โดดเด่นในที่นี้คือการกระทำมีมิติและมีพื้นหลังรองรับ พื้นตัวละครแน่นและเรื่องราวเบื้องหลัง ที่มาที่ไปสมเหตุสมผล ประกอบกับการบรรยายที่เหมาะสมกับโทนเรื่องนั้นๆ (อย่างร่ายกับดัก โทนบรรยายจะออกแนวสาว รักไร้ขอบเขตจะออกแนวเรื่อยๆ ส่วนเรื่องนี้จะออกแนวใสๆมุ้งมิ้งดูน่าเอ็นดูน้องไอติม) ก็ไม่ยากที่จะทำให้คนอ่านอินไปกับเรื่องได้ครับ จุดนี้เป็นข้อดีที่ต้องชมหนักๆเลย

แต่ข้อเสียคือ ผมรู้สึกว่าพล็อตของคุณเจ้ไม่ลึก คือแม้การกระทำทุกอย่างของตัวละครมันจะสมเหตุสมผล แต่เนื่องด้วยปมมันไม่ซับซ้อนน่าสนใจมากพอ อารมณ์ของคนอ่านต่อนวนิยายจะออกแนวนิยายซิตคอม คืออ่านจบแล้วก็จบครับ ผมคิดว่าถ้าคุณเจ้พัฒนาเรื่องการวางพล็อตให้ลึกมากขึ้น แล้วเชื่อมมันเข้าไปกับปมของตัวละครต่างๆ นวนิยายคุณเจ้จะสร้างเป็นจักรวาลย่อมๆได้เลยนะครับ ข้อดีอีกอย่างนึงของนวนิยายคุณเจ้คือระดับอายุของตัวละครมันสูง มันไม่ใช่แนวพล็อตเด็กมหาวิทยาลัยปีหนึ่งหรือเด็กมัธยมมอหก ทีนี้พอช่วงอายุของตัวละครมันสูงขึ้น ประกอบกับการกระทำที่สมเหตุสมผล มีพื้นหลังรองรับ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นนวนิยายระดับเยาวชนอ่านที่ถือว่าอยู๋ในระดับดีแล้ว ถ้าเกิดมีพล็อตที่ซับซ้อนและลึกซึ้งจนเกี่ยวรัดหลายๆปมเข้ามาด้วยกัน มันจะทำให้เส้นความสัมพันธ์ของหลายๆตัวละครสามารถมาเชื่อมกันได้ เส้นเรื่องก็จะสามารถเอามารวมกันแล้วสร้างเป็นจักรวาลย่อมๆที่เราจะค่อยๆปรับแต่งรายละเอียดแล้วทิ้ง Easter Egg เอาไว้ในบางเรื่องเพื่อให้ตามต่อได้ มันจะทำให้นวนิยายของเรามีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นครับ

ผมคิดว่านวนิยายคุณเจ้เป็นอะไรที่อ่านสบายนะ อ่านแล้วก็ค่อนข้างมีมุมขำๆแล้วก็เออ ตัวละครนี้มันก็ใช้ได้แฮะ มีหลายๆมุม มีมุมน่ารัก มีมุมน่าหมั่นไส้ (อย่างตัวเอกเรื่องร่ายกับดักฯ) คือไม่หนักมากด้วยการบรรยาย ผมชอบนะครับ แต่ข้อเสียก็อย่างที่บอกครับ ถ้าพล็อตไม่ลึก มันจะกลายเป็นนิยายเบาสมองไปเลย

ทีนี้มาคอมเมนท์เรื่องนี้ น้องไอติมนี่เป็นอะไรที่น่าเอ็นดูจริงๆครับ! (หัวเราะ) คือภาษาต่างประเทศไม่แข็งแรง พอถึงช่วงที่น้องกระอักกระอ่วน เราอ่านแล้วก็ เอ้อ รีแอคชันกับคำพูดคำจาก็ช่างคิดดี น่ารักดีครับ แถมที่ทำให้ผมรู้สึกเอ็นดูจริงๆก็คือความใสซื่อแต่มีจิตใจมุ่งมั่นนี่แหละ คืออยากจะเสียตัว กูต้องได้เสีย! โอย อะไรจะมุ่งมั่นปานนั้นครับ (หัวเราะ) แถมถ้าจะไม่สนใจก็คือไม่สนใจจริงๆ (อย่างที่เห็นใน Prologue) ผมค่อนข้างชอบนิสัยแล้วก็คาแรกเตอร์ของน้องนะครับ ถ้ามีน้องอย่างนี้นี่รักตาย (หัวเราะ)

ว่าแต่ไอติมมีเซนส์มองความแซ่บ (เอ้อ พูดเองก็กระดากปากแฮะ ฮะๆ) ของหนุ่มๆเหรอครับ? แหม๊ ถ้าแค่มองแล้วรู้เลยว่าแซ่บไม่แซ่บ น้องเดนนี่ข้างตัวนี่ไม่ใช่ระดับคู่แข่งแซ็คเลยเรอะครับ (หัวเราะ) ผมชอบตัวละครเดนนี่นะครับ ดูน่าสนใจดี (ผมมาช่วยคุณเจ้เป็น Pro-supporter ตัวละครนี้ทันไหม? (หัวเราะ)) ตอนแรกก็ว่าอยากให้คู๋กับไอติมให้แซ็คหึงเล่นๆเหมือนกัน เพราะหมอนี่ดูท่าทางไม่แพ้พระเอกเราเลยเหอะ! ลูกครึ่งซะอย่าง จะพี่นิกกี้ค่ายไหน น้องเดนเราก็ต้องสู้สิครับ! ถ้าแพ้แซ็คขึ้นมานี่ผมไม่ยอมนะเว้ย (หัวเราะ) ซึ่งที่ประทับใจตัวละครนี้มากๆ เพราะพอเห็นหลายๆบทสนทนาแล้วก็รู้สึกว่า เดนนี่นี่เป็นคนที่รักไอติมอย่างใจจริง เป็นเพื่อนแท้ที่ดี หวังดีและคอยช่วยเหลือโดยที่ทุ่มสุดตัวไม่คิดอะไร (ถึงขนาดยอมจะเปิดซิงให้ด้วย! (หัวเราะ)) แถมมีมุมมุ้งมิ้งกันแบบสองคนแนวๆจิ้มหน้าผากให้หน้าหงายเพื่อให้เลิกเพ้อเจ้อด้วย ดูเค้ารักเพื่อนจริงๆ ซึ่งไอ้โมเมนต์มุมมุ้งมิ้งแบบนี้ ไม่ควรจะมีกับเพื่อนหลายๆคน มันควรจะพิเศษกับเฉพาะใครบางคนเท่านั้น ซึ่งพอผมเห็นโมเมนต์เดนนี่กับไอติมที่น้องมักโดนดุบ้าง บ่นอย่างเอือมๆบ้าง ก็รู้สึกว่าเออ มันเป็นอะไรที่น่าเอ็นดูดีครับ

แนะนำเพิ่มนิดนึง พยายามอย่าตัดเป็นเปอร์เซนต์แล้วทยอยลงครับผม อารมณ์นวนิยายของคุณเจ้ต่อเนื่องดีมาก เพราะฉะนั้น ลงทีเดียวเป็นตอนๆเลยดีกว่าครับ นานหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะมันจะได้มีจังหวะได้พักหายใจ ให้คนอ่านได้ตกผลึกสิ่งที่อ่านไปในตอนนั้นๆ แล้วก็ได้มีเวลาให้ได้เชียร์หรือจะด่าใครอะไรก็ว่าไป เป็นการคุมโทนเรื่องไปในตัวด้วย

ปล. อ่านแล้วก็รู้สึกว่า เอ้อ น้องไอติมนี่มีหลายคนรอบตัวที่ดูเข้าตากรรมการเหมือนกันนะครับ (i.e. Robert aka Robot สำหรับไอติม) ถ้ามีฉากพิเศษที่น้องจะโดนบรรดาหนุ่มๆที่น่าสนใจนั้นแซ่บ ก็ดูน่าสนใจไม่น้อยเหมือนกันนะ (หัวเราะ)
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally. [50%] 17.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: PAtxxkMxxn ที่ 19-04-2018 15:53:41
ค้างมากก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally. [50%] 17.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 20-04-2018 08:46:37
อูยยยย ไอติมลูกกก  อีกนิดเดียวฝันก็จะเป็นจริงแล้ว นี่รีบจับจองที่หน้าเตียงรอชมอย่างจดจ่อ  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally. [50%] 17.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 27-04-2018 17:57:34
เรื่องของแซ็คกับไอติมน่าจะขมุกขมัวมีม่าหน่วงเยอะกว่า

วิคเตอร์กับแมทแน่เลยอ่ะ ฮือ  :monkeysad:  แถมปัจจุบัน

ติมดูแบบนิ่งมากอ่ะ เหมือนน้องจะช้ำจากตรงนั้นมามาก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 27-04-2018 20:39:04
Chapter 5 [100%]

   
ตอนที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยก็เป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม แต่คนในงานกลับหนาตายิ่งขึ้นอาจเพราะใกล้ถึงเวลาจะปิดงาน ยิ่งพอแต่ละบูธแต่ละค่ายปล่อยคนสวย ๆ ออกมาเป็นฟินาเล่ ยิ่งทำให้ชายหนุ่มคับคั่งเกือบจะเต็มฮอล ไอติมยืนคุยกับแอนโทนี่ ทำความรู้จักกันมากขึ้น เพียงแค่วันเดียวก็ทำให้ความสนิทของทั้งสองคนเป็นไปในทางที่ดี แม้จะเพิ่งเจอกันวันแรก แต่ไอติมกลับอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยที่ได้รู้จักกับผู้ชายคนนี้ ไอติมไม่ได้สนใจเรื่องไว้ใจได้หรือไม่ควรไว้ใจเลย คิดแต่ว่าแค่ได้ยินคนคุยภาษาไทยกับตัวเองได้ก็สบายอกสบายใจแล้ว


“มีอะไรก็โทรมาได่เลยนะ แล้วก้อ ท่าฉันด้ายวัน ได้คิวที่แน่นอน ฉั๋นก็จะโทรบอก”


“โอเคฮะ!” ไอติมยิ้มแฉ่ง หัวใจกำลังเบ่งบานและเบิกบานเต็มที่ ยิ่งความจำย้ำเตือนว่าหลังจากจบงานนี้จะได้อะไร ก็ยิ่งบานยิ่งกว่าดอกไม้ในช่วงใบไม้ผลิ


Rrr Rrr!


ไอติมรูดซิปกระเป๋าเป้ ถอดสายคล้องคอบัตรวีไอพีออกเก็บใส่กระเป๋าก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอ เป็นเดนนี่ที่โทรมา ไอติมตาโตตื่นตูมเพราะลืมโทรบอกเพื่อนว่าจะกลับดึก เอ๊ะ หรือไม่กลับ


“ฮาโหลเดนนนน”


[มึงไม่ต้องมาเสียงหวานเสียงยานเลย ดึกแล้ว จะกลับบ้านรึยัง] ไอติมยิ้มหวานให้กับน้ำเสียงที่ดังมาตามสายราวกับพ่อกำลังตามลูกกลับบ้าน แต่ไอติมที่ได้ยินเสียงแบบนี้มาหลายปี เลยไม่ได้คิดเยอะ ก็คิดแค่ว่าเพื่อนพูดด้วยเฉยๆ


“แฮะๆ…”


[อะไรของมึง]


“เดนนน คืออย่างงี้ แซ็คกับกูจะไปเอากันก่อนอะ ยังไม่รู้จะเสร็จกี่โมง” ไอติมบอกเหมือนว่ากำลังจะไปกินข้าว ไปดูหนัง ไปร้องคาราโอเกะด้วยกัน


[ฮะ?!]


“อื้อ ตามนั้นแหละ กูก็ไม่รู้ว่าคนเอากันต้องใช้เวลานานแค่ไหน ครั้งแรกกูด้วยอะ นี่ยังไม่รู้เลยว่าจะที่ไหนดี” ไอติมขมวดคิ้วมุ่นครุ่นคิดเรื่องสถานที่


[มึง… มึงจะไปเอากับไอ้พระเอกคนนั้นเหรอ] เดนนี่ถามอย่างงง ๆ ยังคงรู้สึกว่าเพื่อนอาจจะเพ้อเจ้อหรือพูดเล่นไปเอง


“อื้อ ก็แซ็คอะแหละ เอ่อ ไบรอั้นอะ คนนั้นแหละที่กูบอกมึง ที่มึงซื้อดิลโด้ของเขามาให้กูไง” ไอติมยิ้มกว้าง หน้าตาระริกระรี้


ทางด้านเดนนี่ก็กะพริบตาปริบ ๆ อ้าปากหวอด้วยความทึ่ง [มึงพูดจริงป้ะเนี่ย]


ไอติมหุบยิ้ม เบิกตากว้าง “เอ้า แล้วทำไมจะพูดไม่จริงอะ”


เดนนี่หลับตาพร้อมกับพ่นลมหายใจหนึ่งที เขาลืมตาขึ้น ยกมือซ้ายขึ้นนวดขมับทั้งสองข้าง รู้สึกวิงเวียนกับเพื่อนตัวเอง คือมันก็ได้ของมันจริง ๆ ว่ะ


[มึงแน่ใจนะว่าจะปลอดภัย] เดนนี่กำลังเป็นห่วงตรงที่ว่าทำไมไอ้พระเอกขวัญใจเพื่อนเขาถึงจะยอมมีอะไรกับไอ้ติม ก่อนหน้านี้เห็นทำท่าไม่พอใจเพื่อนเขาอยู่เลย


“อะไรปลอดภัยเหรอ ถุงยางอะนะ ยังไม่ได้หาซื้อเลยอะ เดี๋ยวถามไบรอั้นก่อนว่าเขามีติดตัวเปล่า” เดนนี่เลื่อนปลายนิ้วมานวดที่คิ้วแทนขมับ


[กูหมายถึงว่ามันจะไม่ทำร้ายมึงใช่มั้ย] ไอติมย่นคิ้น กะพริบตาปริ๊บๆ


“ทำไมเขาจะต้องทำร้ายกูด้วย” เดนนี่พ่นลมหายใจยาว ๆ ดึงมือออกจากคิ้ว และตัดสินใจตัดบท


[เอาเป็นว่า มึงห้ามขาดการติดต่อเด็ดขาด เอากันก็ไม่เกินชั่วโมงหรอก เสร็จแล้วมึงต้องติดต่อกูกลับมา กูจะได้สบายใจว่ามึงไม่เป็นอะไร]


“น่าจะเป็นแหละเดน กูว่าคงเจ็บตูดน่าดูเลย ของแซ็ค เอ้ย ไบรอั้นใหญ่มากนะ กูกลัวตัวเองร้องไห้ต่อหน้าเขามาก” เดนนี่พ่นลมหายใจอีกที การพ่นลมหายใจด้วยความเหนื่อยกับการคุยไม่ตรงประเด็นของเพื่อน คิดว่ามันไม่เปลืองลมหายใจอะไรมากมายนักหรอก


[มึงพกยาแก้อักเสบมาเผื่ออยู่แล้วนี่ เถียงกับต.ม.แทบตายกว่าเขาจะเข้าใจมึง เนี่ย ใช้ให้เป็นประโยชน์] ไอติมโดนหาว่ามาค้ายาบ้าด้วยซ้ำตอนถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองเพราะว่าพกยาที่ต่างประเทศจ่ายให้คนไข้ยากยิ่งกว่ายื่นทองคำให้คนไร้บ้าน


“เออเนอะ กูก็ไม่คิดว่าวันนี้จะได้ เลยไม่ได้พกมาด้วย กลับไปเดี๋ยวไปกินละกัน” ไอติมยิ้มสดใสเมื่อคิดได้ว่าตัวเองมีสิ่งที่เตรียมรับมือกับความเจ็บที่จะเกิดขึ้น


[จะให้ไปรับหรือยังไงก็บอก] เดนว่าอย่างปลง ๆ คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน ให้มันได้ ให้มันโดนไปจะได้จบ ๆ รีบกลับเมืองไทย ไม่ต้องอยู่ยาวนานเหมือนที่คิดไว้


ขอแค่มันอย่าติดใจไอ้พระเอกนั่นจนถอนตัวไม่ขึ้นก็พอ


“โอเค เดี๋ยวจะส่งข้อความบอกเรื่อย ๆ นะ” ไอติมวางสายจากเดนนี่ หันกลับไปหาแอนโทนี่อีกทีก็เจอแซ็คมายืนอยู่ด้วยแล้ว ริมฝีปากของไอติมเลยขยับยิ้มกว้างอัตโนมัติ


“Ready? (พร้อมรึยัง)” อันนี้ไอติมเข้าใจเลยพยักหน้าเร็วๆ


“อื้อ ว่าแต่ Where เหรอ เอ่อ Hotel or where.”


“No, we can make it in the car. (ไม่ เราทำในรถก็ได้)” แซ็คว่าเรียบ ๆ ง่าย ๆ ไอติมย่นคิ้ว พยายามทำความเข้าใจในประโยคนั้น แอนโทนี่หันมาช่วยแปลเพื่อความแม่นยำอีกที ไอติมเลยทำหน้าอ๋อ ก่อนเปลี่ยนเป็นส่ายหัว


“No. ไม่เอาอะ I want in hotel or hostel ก็ได้ but not in car” แอนโทนี่หันไปแปลให้แซ็คฟังเพื่อความรวดเร็วในการสื่อสาร แซ็คขมวดคิ้ว หน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ไอติมก็ทำหน้าบู้ไม่พอใจเช่นกัน คนไม่พอใจทั้งสองคนมองหน้ากัน แซ็คพ่นลมหายใจฉุนๆ


ก็ไม่อยากได้กันในรถอะ มันแคบ รู้สึกหายใจไม่ค่อยสะดวก แล้วยังร้อนอีกด้วย อยากเอากันแบบแอร์เย็น ๆ ไม่ได้เหรอ


“เอ่าแบ๊บนี้ มันมีบ้านพักตรงหาดซานต้ามอนิก้านึ้งหลังที่เราไปเช่าเอาไว้สำหรับชู้ทติ้ง มันยังเหลือสัญญาเช๊าอยู่” ไอติมที่กำลังหน้าบึ้งเปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มตื่นเต้น ตาวาวเป็นประกายและพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับบ้านริมหาด แอนโทนี่หันกลับไปคุยกับแซ็ค พระเอกหนังสยิวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และพูดรัว ๆ กับแอนโทนี่จนไอติมอ้าปากหวอเพราะฟังไม่ทัน


“I think it’s safe. You know. I know. He knows. Only three of us. (ฉันว่ามันปลอดภัย ฉันรู้ แกรู้ เขารู้ มีแค่เราสามคนที่รู้)” ไอติมมองหน้าแซ็คที่ทำหน้าคล้ายว่ากำลังไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง แต่พอแอนโทนี่พูดอะไรแบบเสียงเบาลงจนไอติมจับคำยากเข้าไปอีก แซ็คก็พยักหน้าตอบตกลง


“Okay, let’s go. (เอาละ ไปกัน)” แซ็คหันมาพยักหน้าให้ไอติม เจ้าตัวเล็กสุดในกลุ่มยิ้มกว้างและพยักหน้าหงึกๆ


“แล้วเดี๋ยวเจอกันนะแอนโทนี่” ไอติมยกมือโบกรัว ๆ ให้ฝรั่งใส่แว่น อีกฝ่ายยิ้มตอบและยกมือโบกตอบกลับเช่นกัน


“ขอหั้ยฝิ่น ๆ น้ะ” ไอติมหัวเราะคิก หมุนตัวเดินตามแซ็คที่หยุดเดินแล้วหันมามองก่อนหันกลับไปเมื่อเห็นว่าไอติมเดินตามมาแล้ว แอนโทนี่มองตามทั้งสองคน เห็นไอติมแหงนหน้าชวนไบรอั้นคุยอย่างกระตือรือร้น


เขาไม่ได้มองว่ามันแปลก หรือมองไอติมในแง่ไม่ดี เพราะเด็กคนนี้ก็แสดงออกมานานแล้วว่าชอบไบรอั้น อีกอย่าง ใช่ว่าไอติมเป็นคนที่มีความคิดแบบนี้คนแรกซะเมื่อไหร่ มีอีกหลายคนที่อยากนอนกับนักแสดงหนังโป๊ที่ตัวเองชื่นชอบ เพียงแต่ไอติมน่าจะเป็นคนแรกที่เขาเห็นว่ามีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างกับพวกนักล่าฝันในการเป็นศิลปินอะไรแบบนั้น เล่นบินมาถึงที่นี่เพื่อจุดประสงค์นั้นล้วน ๆ มันทั้งน่าขำและน่าเอ็นดู


เขาพ่นลมหายใจเบา ๆ และบอกตัวเองว่า แค่คืนนี้เท่านั้นแหละ ไบรอั้นเองก็คงคิดแบบนี้





“เอ่อ How much time ไม่ใช่ How เอ้ย กดกูเกิ้ลก็ได้” แซ็คที่กำลังขับรถครอสโอเวอร์คาร์สีดำของแบรนด์ดังหันมองไอติมหน้าตางง ๆ หนุ่มเอเชียหยิบโทรศัพท์มากดเข้าเว็บกูเกิ้ล เลือกโหมดแปลภาษา แม้ว่ามันจะแปลไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ดีกว่าเขาแน่นอน พอกดพิมพ์เสร็จก็ยื่นโทรศัพท์ส่งให้แซ็คอ่าน ฝรั่งตัวโตมองถนนแปบหนึ่ง พอเห็นว่าถนนโล่งก็เลยรีบหันไปมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ยื่นมาหา พอเข้าใจในคำถามก็เลื่อนสายตากลับไปมองถนนต่อ


“30 minutes. (30 นาที)” ไอติมนับตัวเลขในหัวตั้งแต่วันทูทรี แซ็คมองหน้าตาคิดคำนวณของอีกฝ่ายด้วยความฉงน ผ่านไปหนึ่งนาทีเกือบสองนาที เจ้าตัวจ้อยร่อยก็ยิ้มอ้าปากกว้าง หน้าตาดีใจ


“อ้อ โอเค” ไอติมชูสองมือขึ้นมาคู่กันเป็นสิบนิ้ว หุบหนึ่งครั้งและแบอีกครั้ง และหุบอีกครั้งก่อนแบอีกครั้งเป็นสามครั้ง


“Ten, ten, ten? (สิบ สิบ สิบ ใช่มั้ย)” แซ็คคลี่ยิ้มขำ ตอนแรกงง แต่พอเด็กมันนับสิบสามครั้งเลยเข้าใจตรงกัน


“Yes, thirty.” ไอติมยิ้มแฉ่ง แซ็คยักคิ้วหนึ่งที ไอติมเลื่อนสายตามองกล้ามแขนของแซ็คที่ดันแขนเสื้อเชิ้ตขาวแขนสั้นปริแน่นตาเคลิ้ม สักพักก็เผลอยกมือซ้ายขึ้นบีบต้นแขนล่ำ ๆ อันนั้น เจ้าของแขนล่ำหันมองนิ่งสักพัก พอเห็นว่าอีกฝ่ายตาเยิ้ม อ้าปากหวอน้อย ๆ มือก็บีบสลับกับลูบราวกับกำลังเพลิน เลยทำให้ยิ้มขำและหัวเราะเบา ๆ ไอติมได้สติกลับคืนตอนนั้น เปลือกตาที่ทำท่าจะปิดเคลิ้มเบิกเต็มขอบตา ปากที่กำลังอ้าหวอเปลี่ยนเป็นยิ้มเอ๋อ


“Sexy อะ” ไอติมปล่อยมือออกจากต้นแขนของแซ็ค ยิ้มเขินห่อไหล่ แซ็คยิ้มมุมปาก หันกลับไปมองถนนยามค่ำคืนของแคลิฟอร์เนีย แต่เส้นทางที่ตรงไปชายหาดชื่อดังยังคงคึกคักมีผู้คนเดินกันขวักไขว่และนั่งอยู่ตามร้านที่อยู่ตรงข้ามกับหาด ไอติมเห็นแสงสีสันจากจุด ๆ หนึ่งใกล้กับทะเล เห็นเป็นชิงช้าสวรรค์ดูใหญ่โตที่สุด มอง ๆ ไปคล้ายกับงานวัดที่เมืองไทยเหมือนกัน


Rrrr!


โทรศัพท์ของแซ็คที่วางอยู่ในช่องใส่ของใกล้กับเกียร์รถสั่นสะเทือน เจ้าของหยิบขึ้นมาดูหน้าจอสักพัก ก่อนจะเอาวางไว้บนตักและปล่อยให้มันสั่นแบบนั้นจนกระทั่งหยุด ใบหน้าของแซ็คนิ่งสงบ ไม่หือไม่อือใด ๆ ไอติมกะพริบตาเอื่อย ๆ สักแปบแล้วหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาเสิร์จหาข้อมูลการเตรียมตัวเสียตัวของคนที่เป็นรับ ซึ่งจริง ๆ ก็เคยอ่านมาแล้ว แต่เป็นการอ่านผ่าน ๆ ครั้งนี้คงต้องอ่านจริงจังและทำความเข้าใจมากขึ้น


“Have you ever had sex before? (เคยมีเซ็กซ์มาก่อนรึเปล่า)” ไอติมที่กำลังก้มลงมองหน้าจอ หันหน้าไปมองแซ็คที่กำลังมองถนนแล้วเหลือบตามามองเขาแวบหนึ่ง ไอติมหน้าเหวอ อ้าปากค้าง


“หะ… ฮะ Again, please.”


“Sex, have you ever had it before. (เซ็กซ์ เคยมีมาก่อนมั้ย)” ด้วยความไม่แน่ใจ ไอติมเลยพิมพ์คำถามที่แซ็คถามตัวเองลงไปในกูเกิ้ลอีกที เอาแบบที่ตัวเองจับใจความได้ พิมพ์เสร็จก็ยื่นไปให้แซ็คอ่าน อีกฝ่ายเลื่อนสายตาอ่านครู่หนึ่งแล้วก็พยักหน้า


“Yes.” ไอติมยิ้มกว้าง


“No. You are first for me. First to fuck me เลย” แซ็คพยักหน้าอีกครั้ง


“Why me? (ทำไมเป็นฉัน)” ไอติมเข้าใจอันนี้ เพราะมันสั้น


“ก็… I don’t know อะ I think it like…” ไอติมรีบพิมพ์หาประโยคที่ตัวเองจะใช้พูดในกูเกิ้ล


“…อ๋อ like love has no reason (รักไม่มีเหตุผล) เอ่อ like กับ fuck has no reason (เย็Xไม่มีเหตุผล) แบบว่า just fuck, fuck me, I want it, but only with you. (แค่เอา เอาผม ผมต้องการ แต่ต้องการแค่กับคุณงี้อะ) เอ่อ You แซ่บอะ” แซ็คขมวดคิ้วแต่สีหน้าก็มีความขบขันติดอยู่


“What is แซ่บ?” ไอติมยิ้มกว้างดีใจที่ได้ยินแซ็คพูดภาษาไทย ถึงจะคำสั้น ๆ คำเดียวก็เหอะ


“แซ่บ is เอ่อ…” ไอติมพิมพ์ข้อความลงไปในกูเกิ้ล


“…Hot แบบว่า Super-hot” ไอติมยกมือเกาหัวหน้าตายุ่งเหยิง อึดอัดกับภาษาอังกฤษของตัวเอง สุดท้ายเพื่อความง่ายดาย ไอติมเลยโน้มตัวไปหาแซ็คพร้อมกับยืดแขนขวาไปจับเป้าของแซ็คแล้วบีบเบา ๆ แซ็คเบิกตากว้างงงๆ


“เนี่ย ๆ Your dick is very good…” เลื่อนมือขึ้นไปจับกล้ามท้องของแซ็ค


“…Your sick-pack is very good แล้วก็…” เลื่อนมือขึ้นจับหน้าอกหนาของฝรั่งผมทอง


“…Your milk อะ milk so big and so good I want to ดูด เอ่อ eat” ไอติมปล่อยมือออกจากตัวแซ็ค ไม่ได้คิดว่ามันคือการลวนลามอะไรเลย คิดแค่ว่าอยากทำให้อีกฝ่ายเห็นภาพ


“โอ่...” แซ็คครางเบา ๆ ในขณะที่เปิดไฟเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเส้นเล็กของหมู่บ้านบ้านริมหาด ก่อนหันกลับไปมองเจ้าตัวบางร่างน้อยอีกทีที่กำลงยกนิ้วโป้งสองนิ้วขึ้น


“So good, so sexy, so best.” ไอติมยิ้มกว้าง แซ็คย่นคิ้วนิดหน่อย ค่อย ๆ พยักหน้าลงแบบว่าเข้าใจก็ได้ มุมปากเขากระตุกยิ้มขำน้อย ๆ ไอติมหันกลับไปมองถนนได้อีกแปบ แซ็คก็เลี้ยวเข้าไปจอดตรงหน้าบ้านหรืออาจจะหลังบ้านสีขาวหลังหนึ่ง


แซ็คจอดรถ ลงรถเดินไปเปิดประตูบานเหล็กสีครีมโดยอาศัยไฟหน้ารถในการให้แสงสว่าง เขาดันขึ้นด้วยแขนซ้ายแขนเดียวก่อนเดินกลับมาขึ้นรถแล้วขับรถเข้าไปจอดด้านใน ไอติมปลดเข็มขัดนิรภัยพอดีกับที่แซ็คดับเครื่องยนต์ หนุ่มเอเชียก้าวเท้าลงจากรถ ปิดประตูตามหลัง มองหนุ่มฝรั่งเดินไปดึงบานประตูลง


“This way. (ทางนี้)” ไอติมเดินตามแซ็ค ร่างใหญ่ไขกุญแจ เลื่อนประตูกระจกออก ร่างเล็กก้าวเท้าเข้าไปในบ้านที่ทุกอย่างแทบจะเป็นสีขาวล้วน ขายาว ๆ ของไอติมก้าวไปตรงประตูบานเลื่อนที่อยู่คนละฝั่งแต่เยื้อง ๆ กัน ดันผ้าม่านสีขาวออกก่อนปลดล็อคประตูแล้วเลื่อนประตูไปด้านขวามือ ลมเย็น ๆ ปะทะใบหน้าของไอติม เสียงคลื่นอ่อน ๆ แล่นเข้าโสตประสาทหู


“ฮูยยย ทะเลเมืองนอกกก” ไอติมว่าอย่างตื่นเต้น มองน้ำสีเข้มในยามค่ำคืนที่แสงจันทร์สีอ่อนสะท้อนเป็นเงาเลือนรางมีผู้คนเดินอยู่บนชายหาดบางตา หันมองทางซ้ายก็เห็นไฟจากบ้านหลังอื่นส่องสว่างเป็นบางหลัง ด้านขวาก็มีเปิดบ้างประปรายเช่นกัน หลังสีฟ้าหลังหนึ่งมีกลุ่มชายหลายสิบคนกำลังนั่งล้อมวงดื่มกันตรงระเบียงรับลมทะเล


“Hey, go get the shower. (นี่ ไปอาบน้ำ)” ไอติมหันกลับไปมองแซ็ค เดินกลับเข้ามาภายในบ้านที่ยังมืดมิดพร้อมกับปิดประตูตามหลัง


“The light?” ไอติมชี้บนเพดาน ชี้ให้ตรงกับไฟ แซ็คเดินไปเปิดไฟสีขาวพร้อมกับเปิดเครื่องปรับอากาศ ภายในบ้านสว่างวาบ ยิ่งผนังเป็นสีขาวด้วยแล้วยิ่งสว่างเข้าไปอีก


“We will stay at the first floor. No need to go to the second. (เราจะอยู่ชั้นล่าง ไม่ต้องขึ้นชั้นสอง)” ไอติมพยักหน้าไว้ก่อน แต่คิดว่ามันไม่น่าใช่เรื่องไม่ดี


“Take a shower together มั้ย” แซ็คบิดปากน้อย ๆ และยักคิ้วหนึ่งที ตามด้วยยักไหล่สองข้าง


“Yeah, it’s fine.” ไอติมยิ้ม และยิ่งยิ้มกว้างเมื่อเห็นแซ็คปลดกระดุมเสื้อตัวเอง เขารีบพุ่งตัวเข้าไปช่วยแซ็คแกะกระดุมเสื้อทันที


“I ทำให้ๆ” แซ็คที่เพิ่งปลดกระดุมไปเม็ดเดียวทำหน้างง แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังปลดกระดุมเสื้อให้เขา ก็เลยปล่อยมือออก ดวงตาเรียวคมมองคนตัวขาว มองสำรวจสีหน้ายิ้มแย้มและกระตือรือร้นที่อยากจะทำให้เขาแม้จะแค่ปลดกระดุมเสื้อ แซ็คมองนิ่ง แต่ในหัวก็กำลังคิด ทั้งคิดในขณะปัจจุบันและคิดทบทวนกับสิ่งที่ผ่านมา


“ว้าววว” สติแซ็คถูกดึงกลับมา ณ ปัจจุบันเมื่อได้ยินเสียงร้องตื่นเต้น พอมองหน้าและดวงตาอีกคน ก็เห็นว่าแสดงออกถึงความตื่นเต้นไม่แพ้เสียง ไอติมยกสองมือลูบกล้ามท้องของแซ็ค ลามขึ้นไปที่หน้าอกสองข้างอันแน่นและเต่งตึง ไม่รอให้เชิญชวน ไอติมก้มลงดูดหัวนมแซ็คฝั่งขวามือทันที เล่นเอาแซ็คเหวอไปเหมือนกัน


“อึม แผล็บ อืมม งึมม ๆ ฮ่ะ… แจ๊บๆ” ไอติมแลบลิ้นเลียรอบปาก สีหน้าไตร่ตรองกับรสชาตินมของแซ็ค


“แปลก ๆ ดีอะ It’s strange but I like it.” ไอติมบอกพลางยิ้มกว้าง แซ็คยิ้มมุมปากซ้ายพลางถอดเสื้อออก เหวี่ยงเสื้อไปบนโซฟาสีขาว ไอติมเบิกตากว้าง มองหุ่นแซ็คด้วยความชื่นชม หุ่นแซ็คไม่ใช่หุ่นแข็งราวกับหินแกรนิต ไม่ได้เป็นเส้นเลือดปูดโปน หุ่นแซ็คเนียนนวลตาน่าเลีย เนื้อไม่ก็แข็งกระด้าง กำลังนุ่มพอดีมือ


“อูววว” ส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้นจบ ไอติมก็ยื่นหน้าไปเลียเนื้อบนอกซ้ายของแซ็คหนึ่งที รสชาติเนื้ออุ่น ๆ และติดเค็มนิด ๆ ติดลิ้นมา


“You want to fuck now? Don’t get a shower, do you? (อยากเอาตอนนี้เลยเหรอ ไม่อาบน้ำรึไง)” ไอติมทำหน้างง แปลไม่ได้ เพราะสมองกำลังสนใจกับหุ่นแซ็คและเนื้อแซ็คที่เพิ่งเลียไปเมื่อกี้ พอเห็นว่าแซ็คกำลังจะถอดกางเกง ไอติมก็ยื่นสองมือไปเบรกเจ้าตัว และจัดการปลดกระดุมกางเกงยีนให้และดึงลงไปกองที่เท้าให้เสร็จสรรพ จังหวะที่กำลังจะเงยหน้าขึ้นเพื่อกลับไปถอดกางเกงในให้แซ็ค อีกฝ่ายกลับดึงกางเกงในสีขาวลงมาเรียบร้อย พอเงยหน้ามองอีกที ไอติมก็เจอกับลูกชายแซ็คที่ห้อยหัวยังไม่ตื่นตัวดี แต่แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสงบ มันก็ยังใหญ่โต


“Yes, yes, shower, shower.” ไอติมตอบพลางจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเอง แซ็คดึงขาออกจากกางเกง เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอติมถอดเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่าพอดี แซ็คมองหุ่นผอมบางของไอติม ไม่ใช่คนผอมขี้ก้างหรือผอมแห้ง เป็นคนผอมแต่มีกล้ามเนื้อ หน้าท้องแบนเรียบ ไม่มีส่วนเกิน แต่ก็ไม่มีกล้าม ถือว่ามองแล้วก็ไม่ได้แห้งแล้ง แซ็คเอนหัวไปทางซ้ายพร้อมกับยื่นมือซ้ายไปแตะตัวไอติมให้หันข้างเพื่อจะมองก้น


“Not bad. (ไม่เลว)” แซ็คมองก้นสีขาวที่ไม่ได้แฟบหรือตอบ อยู่ในไซซ์กำลังพอดี


“I’m good.” ไอติมพูด แซ็คอมยิ้มขำ เขาพยักหน้าให้ไอติมเดินตามไปทางห้องน้ำที่อยู่ใกล้กับบันไดขึ้นไปชั้นสอง พอเปิดไฟในห้องน้ำได้ แซ็คก็เดินเข้าไปใต้ฝักบัวสีเงิน ดันแท่งเหล็กจับสีเงินลงแล้วน้ำก็ไหลพรั่งพรูลงมา ไอติมมองซ้ายมองขวาแต่ก็ไม่เจอที่ฉีดก้นเลยยืนมึนอยู่กับที่


“What? (อะไร)” แซ็คถามพลางเสยผมที่เปียกขึ้น ไอติมเดินเข้าไปใกล้คนตัวใหญ่


“I want to clean my ass. (อยากทำความสะอาดก้น)” แซ็คมองด้วยความเข้าใจ เอื้อมมือหยิบฝักบัวสีเงินส่งให้ไอติม


“Use this. (ใช้อันนี้)” ไอติมมองฝักบัวที่น้ำพุ่งออกมาหลายสายด้วยความไม่คุ้นเคย ที่เสิร์จมาส่วนมากบอกให้ใช้สายฉีดก้น ฝักบัวก็มีแนะนำ แต่ไอติมกำลังคิดว่ามันจะสะอาดเท่าที่ฉีดก้นรึเปล่า


“Do you want some help? (ให้ช่วยมั้ย)” แซ็คถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยืนมองฝักบัวแบบไม่คุ้นเคย คิดว่าคงเพราะไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน เลยอาจจะทำไม่เป็น เขาเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย และเคยเห็นนักแสดงชายที่เคยร่วมฉากด้วยกันทำมาก่อนเลยถามดู


“อ่า อือ ๆ Help me” ไอติมยื่นฝักบัวให้แซ็ค ฝรั่งตัวใหญ่หมุนนิ้วเป็นการบอกให้หมุนตัว ไอติมหันก้นให้แซ็ค แม้ว่าวันนี้ทั้งวันจะเตรียมตัวด้วยการกินอาหารน้อยที่สุด ก่อนมานี่ก็เข้าห้องน้ำเอาของเสียออกเท่าที่จะทำได้ แต่ก็อยากทำความสะอาดอีกครั้งให้มั่นใจ


แซ็คฉีดน้ำเข้าไปในก้นของไอติม ใช้อีกมือแบะก้นฝั่งซ้ายออก ไอติมรับรู้ถึงน้ำที่เข้าไปด้านในแบบกระปิดกระปอย แซ็คเว้นจังหวะฉีด ไอติมเลยปล่อยน้ำให้ไหลออกมาจากรูก้น แซ็คฉีดเข้าไปอีกครั้ง ไอติมก็ทำแบบเดิมอีกครั้ง พอครั้งที่สามก็เริ่มมีใช้มือแยงเข้าไปด้านใน ทำแบบนั้นอยู่สักพักจนไอติมรู้สึกโอเค แม้จะไม่แน่ใจ แต่ก็คิดว่าน่าจะดีที่สุดแล้ว


“Good?” แซ็คถาม ไอติมหันกลับมาพยักหน้า แซ็คเสียบฝักบัวไว้ที่เดิม ยื่นมือจะหยิบขวดครีมอาบน้ำ แต่ไอติมไวกว่า มือบางหยิบครีมอาบน้ำขึ้นมาเทใส่ฝ่ามือตัวเอง ก่อนเอาไปชโลมร่างกายของแซ็ค เจ้าของร่างล่ำเลิกคิ้วขึ้นประหลาดใจ แต่ก็ปล่อยให้ร่างขาวเนียนจัดการอาบน้ำให้ตัวเอง ไอติมวางขวดครีมอาบน้ำไว้บนชั้นวางของ ใช้สองมือลูบไปทั่วลำตัวด้านบนของแซ็ค ทำไปก็ยิ้มไป หน้าตาดูสุขใจที่ได้สัมผัสร่างจริงของแซ็คเต็มมือสมใจหลังจากที่ได้แต่จินตนาการมานาน


แซ็คมองหน้ายิ้มกรุ้มกริ่มของไอติมนิ่ง ไม่ได้รู้สึกอารมณ์ขึ้นหรืออารมณ์ลง มันเรียบนิ่ง เป็นเส้นตรง แต่ก็รู้สึกสบายตา และรู้สึกตัว เบา ๆ โล่ง ๆ ไม่อึดอัดหรือขัดขืนใดๆ


แบบที่มักจะเป็น…
V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 27-04-2018 20:40:07
V
v
v

   
“I want to tell you something. I don’t kiss a man. (ฉันอยากบอกอะไรบางอย่าง ฉันไม่จูบผู้ชายนะ)” ไอติมที่กำลังเอื้อมมือไปถูหลังให้แซ็คย่นคิ้วงง แหงนหน้าขึ้นมองเลยยิ่งทำให้หน้าตัวเองใกล้กับหน้าแซ็ค


“ฮะ อะไรนะ” แซ็คกลอกตา ก้มลงจูบริมฝีปากไอติมหนึ่งทีแบบเร็ว ๆ แล้วถอนจูบออก ไอติมยังคงทำหน้างงแบบเอ๋อๆ


“I don’t do this. (ฉันไม่ทำแบบนี้)” ไอติมกะพริบตาปริบ แซ็คพ่นลมหายใจ


“I don’t—.” แซ็คก้มลงจูบปากไอติมค้างไว้พักหนึ่ง ถอนจูบออก มองตาสีน้ำตาลอ่อนใสของไอติมและส่ายหัวช้าๆ


“Do this thing with you. No kiss. (ไม่ทำแบบนี้กับนาย ไม่จูบ)” ไอติมกระตุกมุมปากเป็นยิ้มเขิน


“You kiss me (คุณจูบผม) อะ” แซ็คปรือตามองหน้าไอติม ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในท่าที่ไอติมกำลังกอดแซ็ค เสียงน้ำจากฝักบัวตกลงกระทบพื้นทำให้บรรยากาศไม่เงียบกริบ


“I did it because I want you to get it clearly. (ฉันทำเพราะอยากให้นายเข้าใจแบบชัดๆ)” นึกถึงตอนที่เด็กคนนี้จับเป้า จับท้อง จับนมเขาเลยเอามาใช้บ้างเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น


“But no kiss any— อุ!” ยังไม่ทันพูดจบ แซ็คก็โดนไอติมยื่นหน้ามาจูบริมฝีปากแล้วค้างไว้แค่นั้น ไม่ได้รุกล้ำหรือพยายามจู่โจมใดๆ


“ฮิๆ” ไอติมถอนจูบออก คลี่ยิ้มกว้างพร้อมกับหัวเราะจนตาหยี แซ็คมองหน้าเรียวสวยก่อนจะส่ายหัวเอือม ๆ แต่กระนั้นริมฝีปากก็ผุดรอยยิ้มอ่อนขึ้นมา


“You do understand now, do you? (ทีนี้เข้าใจแล้วนะ)” ไอติมไม่พยักหน้าหรือตอบรับอะไร แค่ยิ้มและดันตัวเองออกห่างจากแซ็ค ใช้สองมือลูบครีมอาบน้ำไปทั่วตัวแซ็คต่อ คนตัวใหญ่หรี่ตามองคนตัวเล็กกว่า แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้หนุ่มเอเชียเล่นกับร่างกายตัวเอง


“Hmmm. Big!” ไอติมใช้มือซ้ายจับของดีของเด็ดของแซ็ค รูดเข้ารูดออกเรื่อย ๆ แบบไม่เร่งรีบ มือขวายื่นไปจับลูกกลมกลึงสองลูก คลึงและบีบเบา ๆ แซ็คผ่อนลมหายใจยาว ๆ เปลือกตาหลับพริ้ม หน้าท้องหดเกร็ง ความรู้สึกวูบวาบแล่นไปทั่วท้องน้อย พอลืมตาขึ้นอีกที เขาก็รู้สึกว่าความเป็นชายของตัวเองขายขึ้นมาอีกหน่อย แต่ก็ยังไม่ตื่นตัวเต็มกำลัง


“Do you like? (ชอบมั้ย)” ไอติมถามเสียงใส ยิ้มแย้มอารมณ์ดี แซ็คยิ้มมุมปาก พยักหน้าลงหนึ่งครั้ง ไอติมยิ้มดีใจที่แซ็คชอบ ตาสีเทามองอีกคนด้วยสายตาอ่อนลง อย่างน้อยก็อ่อนกว่าตอนก่อนหน้านี้ที่มองแบบแข็งบ้าง มองแบบเฉยเมยบ้าง แต่ครั้งนี้เขารู้สึกดีที่ไอติมทำเหมือนกำลังดูแลเขา ทั้งที่จริงไอติมจะปล่อยให้มันเป็นเรื่องแค่แปบเดียวก็ได้ แต่ดูเหมือนไอติมกำลังสนุกและพยายามตักตวงช่วงเวลานี้ไว้เยอะๆ


สวนทางกับแซ็คที่ในตอนแรกกะเสร็จง่าย ๆ บนรถด้วยซ้ำ แต่มา ณ ตอนนี้แซ็คก็จะถือว่านี่เป็นช่วงเวลาพักผ่อนก็แล้วกัน


หรือเป็นช่วงหาพื้นที่ให้กับตัวเอง และเป็นพื้นที่ที่สบายตาสบายตัวด้วย


“You want me to do like you did to me? (ให้ฉันทำแบบที่นายทำให้มั้ย)” แซ็คยื่นสองมือไปทำท่าถูตัวไอติมหลังจากที่ล้างครีมอาบน้ำออกจากตัวหมดแล้วและความเป็นชายก็แข็งตัวแบบอ่อน ๆ แล้วด้วย


“No, no, no. Go to sit down.” ไอติมส่ายหัวและบอกให้แซ็คไปนั่งรอ แซ็คเลิกคิ้วขึ้นแต่ก็ไม่จี้ถามต่อ เดินออกจากโซนอาบน้ำ หยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่ติดมือออกไปนอกห้องน้ำ มายืนเช็ดตัวตรงโซนโซฟาที่เดิม เช็ดหัวเช็ดตัวจนแห้ง ตอนที่นั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ ร่างขาวเนียนก็ออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปลือยเปล่าและผมแห้งตัวแห้งแล้ว แซ็คมองคนตัวผอมที่เดินเปลือยเข้ามาหาเขาราวกับรู้จักกันมานาน อีกฝ่ายไม่มีท่าทีเคอะเขินหรือเขินอายเลย


“ทีนี้ยังไงต่ออะ…” พูดเป็นภาษาไทยจบก็ยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าแซ็ค ฝรั่งตัวใหญ่มองตัวอักษรในช่องแปลกูเกิ้ลพักหนึ่งก่อนหันไปมองคนข้างๆ


“…How?”


“Starting with sucking my cock. (เริ่มด้วยการอมให้ฉันก่อนก็แล้วกัน)” ไอติมเลิกคิ้วขึ้น หน้าตางงๆ


“Suck…” แซ็คทำท่าอ้าปากและผงกหัวสองสามที มือขวาชี้ไปที่ของหวงตัวเอง “…it.”


ไอติมอ้าปากยิ้ม “อ๋อ โม้คใช่มั้ย โม้ค cock” ไอติมทำมือจับเป็นบ้องและยัดเข้าปาก ใช้ลิ้นดุนกระพุงแก้มสามสี่ทีจนแก้มขึ้นลูกกลม ๆ แซ็คยิ้มขำและพยักหน้าเป็นการบอกว่าใช่


“Yes, suck it. (ใช่ อมมัน)” แซ็ควางสองแขนไว้บนขอบพนักพิงโซฟา มองหน้าเรียวได้รูปของไอติมและเลิกคิ้วขึ้นเบี่ยงดวงตาไปมองที่ความเป็นชายของตัวเองที่นอนสงบอยู่เป็นเชิงบอกให้ไอติมทำตามที่เขาบอก ร่างผอมยิ้มตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายวาววับ มือขวายื่นไปจับแท่งเนื้อสีน้ำตาลขุ่นอ่อน ๆ ของแซ็ค บีบ ๆ กำ ๆ แท่งเนื้ออ่อนนุ่ม (ในตอนนี้) อย่างถูกอกถูกใจ หัวใจเต้นตึบ ๆ ร่างกายตื่นตัวจนรู้สึกร้อนวูบวาบ ไอติมก้มหน้าลงไปใกล้กับสิ่งนั้น กดจมูกลงบนเอ็นเนื้ออุ่น สูดดมกลิ่นเข้าไปแล้วคลี่ยิ้มพึงใจ แซ็คมองการกระทำนั้นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้


“Smell good? (กลิ่นหอมมั้ยล่ะ)” ไอติมบิดหน้าไปยิ้มยิงฟันกับแซ็ค พยักหน้าตอบหงึก ๆ ทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกต้องมั้ย แต่ได้ยินว่ากู๊ดเลยกู๊ดไว้ก่อน


“Then suck it. (งั้นก็อมมัน)” ไอติมบิดหน้ากลับไปมองจุดเดิม หัวใจเต้นรัว หน้าร้อนวาบ ๆ ริมฝีปากเหมือนจะแห้งๆ


“Do you have water? (มีน้ำมั้ยฮะ)” ไอติมเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง สีหน้าตื่นเต้น แซ็คขมวดคิ้วหน้าเคร่งเครียดหน่อย ๆ แต่ก็ยกมือขวาชี้เฉียงไปทางใกล้กับประตูบ้านที่เป็นครัว ไอติมลุกเดินไปตามทางที่แซ็คชี้ เดินไปเปิดตู้เย็นสีขาวอันใหญ่ ไอเย็นจากตู้เย็นปะทะตัวทำให้ไอติมรู้สึกดีขึ้น เขายกมือซ้ายจับหัวใจตัวเองที่ยังคงเต้นแบบหนักหน่วง มือขวายื่นไปหยิบน้ำเปล่ามาหนึ่งขวด กำลังจะปิดตู้เย็นก็มองเห็นเบียร์ยี่ห้อหนึ่งเลยหยิบขึ้นมาก่อนใช้เท้าปิดตู้เย็น มองหาที่เปิดขวดสักแปบก็เห็นเสียบอยู่ในแก้วบนตู้เย็นเลยหยิบมาเปิดฝาเบียร์ เดินกลับไปที่โซฟาที่แซ็คกำลังนั่งรูดรั้งความเป็นชายของตัวเองจนมันเริ่มตั้งขึ้นเรื่อยๆ


“อะ เบียร์ drink มั้ย” ไอติมยื่นขวดเบียร์สีดำไปให้คนตัวโต ฝรั่งหัวทองมองขวดเบียร์ในมือไอติมนิ่งก่อนเลื่อนไปมองใบหน้าเรียว เจ้าตัวพยักหน้าให้เป็นเชิงบอกว่าให้เอาไป แซ็คปล่อยมือขวาจากเอ็นอุ่นของของตัวเองแล้วเปลี่ยนเป็นใช้มือซ้ายมาชักแทน


“Excited? (ตื่นเต้นรึไง)” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ ด้วยความเข้าใจกับคำศัพท์นั้นและยกขวดน้ำเปล่าขึ้นจิบ แซ็คกระดกเบียร์พลางมองคนตัวผอมนั่งหดขาเข้าหาตัว หน้าตายังตื่น ๆ ผิดกับตอนแรกที่ดีดดิ้นอยากให้เขาเอา


“Can you kiss? I like kiss. (จูบไม่ได้เหรอ ผมชอบจูบ)” แซ็คกระดกเบียร์เข้าปากอีกสองอึกแล้วส่ายหัว


“No. And I have never kiss a man in porn. I can fuck them because of money, just fuck. (ไม่ แล้วฉันก็ไม่เคยจูบกับผู้ชายในหนังโป๊ ฉันเอาพวกนั้นได้เพราะเงิน คือแค่เอา)” แซ็คเบะปากเล็ก ๆ ยกเบียร์ขึ้นดื่มอีกอึก ไอติมบู้ปากหน้างอ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความลงบนกูเกิ้ลเจ้าเดิมก่อนส่งให้แซ็คอ่าน คนตัวโตยื่นหน้ามาอ่าน ไอติมเลยฉวยโอกาสหอมแก้มสากของแซ็คไปที


“Assault me again? (ลวนลามฉันอีกแล้วเหรอ)” แซ็คว่ายิ้ม ๆ ไม่ได้คิดมาก เพราะเขาโดนลวนลามแทบทุกครั้งเวลาขึ้นเวทีโชว์เปลื้องผ้า โดนจับนั่นจับนี่บ่อย


เพียงแต่ไม่เคยเจอใครลวนลามตาใสหน้าซื่อแบบนี้มาก่อน


ไอติมวางขวดน้ำลงบนโต๊ะกระจก ยื่นมือขวาไปจับเอ็นอุ่นของแซ็คที่เริ่มแข็งตัวขึ้นเรื่อย ๆ ชักขึ้นชักลงเบา ๆ มองหน้าแซ็คที่กำลังพยายามทำความเข้าใจคำแปลที่เขาเขียนไปว่าเขาอยากเริ่มจากจูบ เพราะเวลาดูหนังโป๊ เขามักมีอารมณ์มากที่สุดกับฉากจูบแลกลิ้นกัน


“No. I’m not going to do that. (ไม่ ฉันจะไม่ทำแบบนั้น)” ไอติมบู้ปาก มือขวาชักของแซ็คเบา ๆ หนุ่มฝรั่งยื่นโทรศัพท์คืนหนุ่มเอเชีย ไอติมรับมาถือไว้


“Only this time นะๆๆ” แซ็คส่ายหัวกับคำอ้อนวอนนั้น ไอติมพ่นลมหายใจ หน้าตานอยด์ ๆ เซ็งๆ


“ก็ได้ มี Condom มั้ย” ไอติมตัดใจเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากเซ้าซี้มากเดี๋ยวจะเสียฤกษ์เสียยามกันหมด


“Oh, shit. I did not bring it from home. (เหี้ยละ ฉันไม่ได้เอามาจากบ้านด้วย)” แซ็คยกมือซ้ายตบหน้าผากตัวเองเบา ๆ คือเขาก็ไม่ได้คิดว่าวันนี้จะต้องมามีอะไรกับใครนอกจากนักแสดงหญิงร่วมค่ายที่ต้องมีอะไรกันบนเวทีแบบเฉพาะกิจ ซึ่งอันนั้นเป็นนักแสดงด้วยกัน ต่างคนต่างมีผลรับรองความปลอดภัย คือเขากะมาทำงานเสร็จก็กลับ เขาไม่ใช่คนที่พกถุงยาง แต่ก็ไม่ใช่เป็นคนชอบสด แค่ไม่ค่อยมีโอกาสไปมีอะไรกับใครนอกจอนักหรอก นาน ๆ ที แล้วเวลามีก็จะเป็นคู่นอนเขาที่เตรียมมาให้


“No?” ไอติมถามและส่ายหัวเป็นการย้ำ แซ็คที่หน้าตาเนือย ๆ ยกหน้าขึ้นหนึ่งที


“Do you have it? (นายมีมั้ย)” ไอติมที่เข้าใจในคำถามเพราะเป็นคำถามพื้นฐานง่าย ๆ ส่ายหัวเป็นการปฏิเสธ ก่อนจะก้มลงพิมพ์ในกูเกิ้ลเพื่อบอกว่าเจลหล่อลื่นก็ไม่มี เพราะไม่คิดว่าจะได้มานอนกับแซ็ควันนี้เลย


“Yeah, me as well. (ใช่ ฉันก็ไม่ได้คิด)” แซ็คกระดกเบียร์จนหมดขวด เอื้อมตัวไปวางขวดเบียร์ไว้บนโต๊ะกระจกแล้วหันมองไอติมอย่างงง ๆ เพราะไม่รู้จะยังไงดี


เขามั่นใจว่าเด็กคนนี้ไม่เคยมีอะไรกับใคร แค่ต้องลองเช็กอีกทีเพื่อความมั่นใจไปอีกขั้น


“Show me your hole. (ขอดูรูหน่อย)” ไอติมทำหน้างง แซ็คเลยจับเอวไอติมยกขึ้นจนก้นลอย แซ็คทำท่าให้คนตัวเล็กแหวกขาสองข้าง ไอติมทำตามแบบงุนงง แซ็คใช้สองมือแบะก้นของไอติม ดวงตาสีเทามองสำรวจจีบเนื้อที่ขยุ้มกันอยู่ตรงกลางของก้นกลม ๆ สองลูกสักพักก่อนถมน้ำลายลงไป ไอติมนอนอ้าปากค้าง นึกตื่นเต้นดีใจไปล่วงหน้าว่าแซ็คจะใช้ลิ้นกับตรงนั้นให้ แต่สุดท้ายก็แป้ว เพราะแซ็คแค่ใช้นิ้วมือซ้ายสองนิ้วแหย่เข้าไปในรูนั้น


“อ๊า อา” ไอติมหลับตาปี๋ ครางเสียงเพี้ยน แซ็คพ่นลมหายใจพร้อมกับดึงนิ้วออก มองไอติมด้วยสายตาที่มั่นใจมากขึ้น


“Okay, we could fuck without condom, but are you sure you are safe? (ก็ได้ เราจะเอากันแบบไม่มีถุงยาง แต่นายปลอดภัยแน่นะ)” แซ็ครู้แหละว่าการถามแบบนี้มันเป็นการเปิดทางให้อีกคนโกหก แต่จากที่อยู่ด้วยกันมาแบบไม่เต็มวัน และเคยเจอกันก่อนหน้านี้ ไอ้หมอนี่ดูจะโกหกไม่เป็น เว้นก็แต่เรื่องชื่อจริงเขาที่ยังไม่ยอมบอกว่าไปรู้มาได้ยังไง


ไอติมดันตัวลุกขึ้นนั่ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดคำว่าเซฟ แต่เป็น save ที่แปลว่าเก็บรักษาไว้ แซ็คส่ายหัวและพิมพ์แก้ให้เป็นคำที่ถูกต้อง พอเห็นคำแปลไอติมก็พยักหน้าและยกสองนิ้วชิดติดกันขึ้นมาสาบาน


“Yes. I am safe. It is true story.” แซ็คมองหน้าไอติมนิ่ง ไอติมก็มองหน้าแซ็คนิ่ง สบตาแบบไม่หลบตา แซ็คขบกรามเบา ๆ และพยักหน้าหนึ่งที มั่นใจว่าจะปลอดภัย


“For me, I have been checking my blood every three month, and I have medical certificate. (สำหรับฉัน ฉันตรวจเลือดทุกสามเดือน แล้วฉันก็มีใบรับรองแพทย์)” แซ็คกลัวไอติมจะคิดว่าเขาเอาเปรียบ เลยลุกเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีน เปิดอัลบั้มรูปภาพใบรับรองแพทย์ทุกอันที่เขาถ่ายเก็บไว้นับตั้งแต่เข้าสู่วงการนี้ เขายื่นให้ไอติม เจ้าตัวผอมรับไปดู เลื่อนดูทีละรูป กดแปลคำศัพท์บนใบรับรองแพทย์จนเข้าใจว่าแซ็คต้องการให้ดูอะไร


“อ๊อ I believe you.” ไอติมยิ้ม แซ็ครับโทรศัพท์กลับมา เอาไปวางไว้บนโต๊ะกระจก ไอติมวางตาม ทั้งสองคนหันมองกันสักพัก ไอติมตัดสินใจลงไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าแซ็ค ไม่รีรอหรือรอช้าอะไรอีก เขาจับเอ็นอุ่นที่อ่อนตัวลงขึ้นมา เอียงคอมองซ้ายมองขวาสักแปบก่อนแลบลิ้นเลียส่วนปลายสีแดงอ่อน ๆ หยุดนึกรสชาติสักแปบก่อนจะแลบลิ้นเลียต่อ เลียตรงส่วนหัวเห็ดอยู่แบบนั้นจนกระทั้งรู้สึกว่าได้รสชาติหวานอ่อน ๆ แต่ก็ไม่ถึงหวานฉ่ำ ไอติมหยุดเลีย มือขวาจับเอ็นแข็งของแซ็คที่ขยายตัวขึ้นแต่ก็ยังไม่แข็งเต็มที่ ดวงตาสีน้ำตาลมองเจ้าสิ่งนั้นนิ่งราวกับกำลังทำความรู้จักผ่านโทรจิต


“How was it? (เป็นไง)” ไอติมเงยหน้ามองแซ็ค คลี่ยิ้มอ่อนก่อนจะอ้าปากกว้าง จับเอ็นอุ่นของแซ็คเข้าปากแบบเก้ ๆ กัง ๆ และด้วยความไม่เคยทำมาก่อนเลยเผลอขบฟันเข้ากับแท่งเนื้อ


“Whoah! Oh!” แซ็คตัวกระตุก มือขวายกดันหน้าผากไอติมไว้ เพราะเจ้าตัวจ้อยพยายามใช้ปากอมให้เขาโดยที่ฟันก็ขบโดนเนื้อเอาๆ


“Hey, don’t rush. Slowly. (เฮ้ ไม่ต้องรีบ ไปช้าๆ)” ไอติมยิ้มแหย และเปลี่ยนเป็นใช้ลิ้นเลียให้แซ็คอย่างเดียว เลียตั้งแต่โคนยันปลาย กลิ่นรสเนื้อเกือบจะเป็นรสเค็มแล่นผ่านลิ้นไอติม เขาเลียต่อเหมือนกำลังเลียขนมสักชิ้น เลียไปสักพักก็ชอบ เนื้อเอ็นแข็ง ๆ นั้นถูกปากเขายิ่งนัก แซ็คยิ้มขำกับท่าทางการเลียของมือใหม่หัดดูด เหมือนเขากำลังมองเด็กเลียแท่งไอศกรีม เลียแบบไปเรื่อย เลียจนน้ำลายชุ่มเอ็นของเขา


“Ready?” แซ็คถามหลังจากลูกชายเขาแข็งตัวตั้งตรงแบบที่เป็นไปตามกลไกร่างกายของผู้ชาย ไอติมทำหน้างง แซ็คเลยดึงเจ้าตัวผอมลุกขึ้นยืน ความเป็นชายของเจ้าเด็กเอเชียแข็งปัก ไซซ์กำลังดี แซ็คยื่นนิ้วชี้ไปดันใต้แท่งเนื้ออันยาวแล้วปล่อย มันเด้งตัวเพียงนิด บ่งบอกว่าแข็งตัวเต็มที่


“Try to sit it first. (ลองนั่งมันก่อน)” แซ็คปล่อยน้ำลายไหลออกมาใส่ความเป็นชายตัวเองจนชุ่มฉ่ำ ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ มองความใหญ่โตและตระหง่านของแซ็ค เขารู้ว่ามันทั้งอวบและยาว แต่ของจริงมันดูน่าเกรงขามกว่าในจอซะอีก


“Come on. (มาสิ)” ไอติมรู้สึกมึน ๆ เบลอ ๆ งง ๆ หัวใจเต้นแรงมากขึ้นเมื่อก้าวเท้าเข้าไปคร่อมตักแซ็ค คนตัวโตใช้มือขวาจับเอวบางเพื่อช่วยประคองร่างไอติม มือซ้ายจับความเป็นชายของตัวเองให้ตั้งตรง


“Go on. (เอาเลย)” ไอติมนั่งลงช้า ๆ สองมือแบะก้นตัวเองเพื่อช่วยเบิกทาง วินาทีที่ส่วนหัวตรงนั้นของแซ็คทิ่มเข้ากับจีบเนื้อตัวเอง ขนไอติมก็ลุกซู่ หัวใจรัวจนแซ็คเห็นเนื้อตรงอกซ้ายของเจ้าตัวผอมกระตุกตุบๆ


“เอาะ… ฮออ…” ไอติมครางเสียงเบา หายใจหอบหนัก แซ็คยกมือซ้ายขึ้นมาจับเอวไอติมอีกฝั่งหลังจากที่ส่วนหัวเริ่มทิ่มเข้าไปด้านในรูก้นของไอติม


“Calm down… calm down…” แซ็คกระซิบบอกเสียงแผ่ว แต่เขาก็สัมผัสได้เต็มมือว่าไอติมกำลังตัวสั่น สองมือบางยกขึ้นจับไหล่เขาและบีบแน่นในขณะที่พยายามกดตัวเองให้นั่งลงทับเอ็นอุ่นของเขาให้มิด


“โอววว โอวววว” ตอนที่ส่วนหัวมุดถ้ำเข้าไปได้ ไอติมก็อ้าปากร้องเสียงหลงดังลั่นบ้านและพยายามดีดตัวออก แต่แซ็คจับตัวผอมบางเอาไว้กับที่แน่น


“Keep going. (อย่าหยุด)” แซ็คแหงนหน้ามองไอติม เจ้าตัวจ้อยน้ำตาไหลพราก หน้าตาเจ็บปวด แต่ก็ยังใจสู้ที่จะพยายามนั่งลงไปให้สุด


“Good. Good boy.” แซ็คปลอบเสียงทุ้ม ไอติมสะอึกสะอื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม ตัวสั่นเทิ้ม หัวใจเต้นรัว แต่ก็ยังพยายามกลืนแท่งเนื้อของแซ็คเข้าไปให้ได้


ไอติมขมวดคิ้วแน่นเพราะความเจ็บ แต่ก็รู้สึกได้ว่าแท่งเนื้อเริ่มดันลึกเข้าไปพร้อมกับความรู้สึกว่าเนื้อตรงนั้นปริขาดบางส่วน ไอติมกัดฟันแน่น แข็งใจอีกนิดแล้วกดตัวนั่งลงจนรูตัวเองกลืนกินเอ็นอุ่นเต็มคำ


“เฮือก!” หลังกลั้นหายใจอยู่เป็นนาที พอนั่งได้เต็มลำเต็มคำไอติมก็หายใจเฮือก ความเจ็บ ความปวดแล่นริ้วไปทั่วจีบเนื้อก้น ปนเปกับความแน่น ความเสียวซ่านที่แล่นไปทั่วท้องน้อย เปลือกตาไอติมกะพริบเอื่อย หน้าตาเหนื่อยล้าราวกับไปวิ่งทางไกลมาหลายสิบกิโล


“Well done. You did it. (เก่งมาก นายทำได้แล้ว)” แซ็คเอ่ยชม คิ้วขมวดมุ่น สันกรามขึ้นชัดเพราะโดนไอติมตอดรัดอย่างรุนแรง ด้วยความที่อีกฝ่ายยังสดซิง มันเลยยิ่งทำให้อาการตอดรัดรุนแรงต่อลูกชายเขา จีบเนื้อและกล้ามเนื้อตรงนั้นแสนจะฟิตและแน่นขนัด เล่นเอาเขาเองก็อึดอัดทรมานและเจ็บไม่น้อยไปกว่ากัน


“แฮ… แซ็ค…” ไอติมพูดเสียงเบาหวิว หน้าตาระโหยโรยแรง สองมือของแซ็คช่วยลูบแผ่นหลังเนียนนุ่มของไอติมเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้ออีกฝ่ายผ่อนคลายสบายตัว ไอติมที่ตอนนี้สูงกว่าแซ็คเล็กน้อยกดหน้าลงมองฝรั่งตาสีเทา ริมฝีปากคลี่ยิ้มอ่อนแรง แซ็คยิ้ม ทั้งขำทั้งดีใจแทนที่เจ้าตัวจ้อยทำสำเร็จ


“Try to—.”


ฟุบ!


“Hey!” แซ็คร้องตกใจเมื่อไอติมคออ่อนหน้าคว่ำลงบนไหล่ขวาของเขาทั้งที่ยังนั่งคาของเขาเอาไว้แบบนี้ หัวใจแซ็คหล่นวูบ จับไอติมขึ้นนั่งตรง ๆ เจ้าตัวผอมหลับตาสนิท แซ็คยกมืออังลมหายใจตรงจมูกก็พบว่าไอติมยังคงหายใจ แซ็คใช้มือขวาตบแก้มไอติมเบาๆ


“Hey, hey, boy!.” เจ้าตัวจ้อยลืมตาขึ้นแบบงง ๆ ง่วง ๆ พอเห็นหน้าแซ็คก็ยิ้มเหมือนคนเมา


“แอ้…” แซ็คถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นเด็กมันยิ้มอ้อแอ้และส่งเสียงแผ่ว ๆ ออกมาจากลำคอ แต่พอไอติมก้มลงมองข้างล่าง แล้วเงยหน้ามองแซ็คอีกทีก็คออ่อนคอหักอีกรอบ


“What? Are you faint? (อะไรเนี่ย นายเป็นลมงั้นเหรอ)” ไอติมนิ่งไม่ตอบ แซ็คใช้มือขวาตบแก้มไอติมอีกที แต่คราวนี้เจ้าเด็กเอเชียนิ่งไม่ตอบสนอง


แซ็คคำรามในคอเบา ๆ ค่อย ๆ จับไอ้เด็กอยากเสียตัวลุกขึ้นออกจากแก่นกายเขาที่แข็งพร้อมรบ แซ็คลุกขึ้นยืนแล้วจับร่างผอมนอนลงบนโซฟา เขาเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบผ้าเย็นในช่องฟรีชออกมาหนึ่งผืน และพยายามนึกว่าที่นี่มีอะไรที่ให้คนเป็นลมดมได้หรือไม่ แต่เขานึกไม่ออกเลยต้องเดินตามหาอยู่หลายนาทีจนเจอแอมโมเนียสำหรับคนเป็นลมในตู้เก็บยาของบ้านเช่าตรงโซนกินข้าว พอเดินกลับมาก็เอาผ้าเย็นเช็ดหน้าให้ไอติมที่นอนสลบนิ่งและหายใจเชื่องช้า แซ็คเอาผ้าเย็นปิดตาให้ไอติม และใช้สำลีชุบแอมโมเนียแกว่งใต้จมูกเจ้าเด็กน้อย ส่ายหัวด้วยความอ่อนใจและหน่ายใจหน่อยๆ


ว่ากันตามตรง แข็งขนาดนั้นแล้ว และดันมาค้างคาแบบนี้แม่งก็อึดอัดแย่


เขามองไอ้เด็กอยากเสียบริสุทธิ์แล้วโคลงหัว เซ็งยิ่งกว่าตอนเด็กมันระริกระรี้อยากนอนกับเขาอีก ความเป็นชายเขาแช่แข็งอยู่ในรูคับแน่น โดนตอดรัดรุนแรงจนแทบแตกแบบนั้น เขาก็อยากให้อารมณ์มันไปต่อจนสุด แต่ไอ้เด็กอวดดีดันจอดกลางทางซะงั้น จอดแบบสนิทไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดด้วย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 27-04-2018 22:40:24
ถถถถถถถถ  :pigha2: น้องติมลูกกกกกกก 555555

เอ็นดู โอ๊ย ถึงกับวูบเลย ดีใจหรือเจ็บคะ?   :confuse:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 28-04-2018 00:05:09
น้องไอติม โถ...ลูก  ทำไมมาเป็นลมตอนเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ล่ะลูก

หรือว่าสุขเหมือนขึ้นสวรรค์เลยชิงหลับไปเฝ้าพระอินทร์ทันทีแบบนี้น่ะฮึ.  :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-04-2018 02:53:32
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-04-2018 03:21:56
ติมไม่ได้เหนื่อย ไม่ได้เป็นลมนะ แค่ตื่นเต้นกับอดนอนเท่านั้นเอง  :mew2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 28-04-2018 06:40:30
ขำไอติม สงสารแซคกำลังจะได้ขึ้นสวรรค์แล้วเชียว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: naezapril ที่ 28-04-2018 09:08:57
รอติดตามจร้าาาาาา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 28-04-2018 16:01:30
โถ่วน้องติม ทำพี่แซ็คเค้าค้าง แล้วหนูจะมีโอกาสอีกมั้ยหล่ะเนี่ย รึคราวหน้าพี่แกคงจัดเอง คราวหน้าอย่าเป็นลมอีกนะหนู
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 28-04-2018 20:03:49
น้องไอติม โถ...ลูก  ทำไมมาเป็นลมตอนเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ล่ะลูก

หรือว่าสุขเหมือนขึ้นสวรรค์เลยชิงหลับไปเฝ้าพระอินทร์ทันทีแบบนี้น่ะฮึ.  :hao3:


ไอติมบอกว่า มาไกลเท่านี้ก็ดีเหลือเกินนนนน  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 28-04-2018 20:04:38
ถถถถถถถถ  :pigha2: น้องติมลูกกกกกกก 555555

เอ็นดู โอ๊ย ถึงกับวูบเลย ดีใจหรือเจ็บคะ?   :confuse:


น้องเพิ่งเคย น้องทำตัวไม่ถูก เลือดสูบฉีดเกิน  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.5: Finally...? [100%] 27.04.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 30-04-2018 16:20:43
โอ๊ยยย ไอติมลูกเอ้ยยย ไปไม่ถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดซะงั้น ต้องซ้อมบ่อยๆจะได้ไม่เป็นลมสินะ  :jul3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 05-05-2018 21:17:34
Chapter 6 :: Sexperience. (ประสบกาม) [100%]



   เปลือกตาของไอติมเปิดพรึ่บ และนิ่งค้างไว้จนดูเหมือนกำลังตกอยู่ในอาการช็อก หัวหมุนวิ้ง ง่วง ๆ มึน ๆ จับความรู้สึกใด ๆ ได้ไม่ชัดเจน นิ่งตาค้างอย่างนั้นอยู่หลายนาทีก่อนที่จะกะพริบตาปริบ ๆ และเริ่มเรียกความรู้สึกนึกคิดกลับคืนเข้าร่าง พอสายตาปรับกับภาพตรงหน้าได้ ก็เจอเห็นเป็นเพดานสีขาวในความมืด แต่ได้แสงไฟจากด้านนอกส่องทะลุผ้าม่านเข้ามาแบบจาง ๆ ไอติมค่อย ๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่ง ใช้แขนขวาค้ำร่างตัวเองไว้ สีหน้างงง่วงหันไปมองด้านซ้ายแล้วหันกลับมาทางด้านขวา ก่อนจะเห็นร่างสูงใหญ่ของแซ็คนอนหลับอยู่บนพื้นด้านล่าง มีผ้านวมสีขาวปูรองตัว บนตัวมีผ้านวมอีกผืนห่มทับตัว
   

ไอติมกะพริบตาเอื่อย ๆ หันมองไปรอบบ้านด้วยความรู้สึกโหวงเหวงและวังเวงแปลก ๆ เขาหยิบขวดน้ำบนโต๊ะกระจกขึ้นมาดื่มอัก ๆ จนเกือบหมดขวดแล้ววางไว้ที่เดิม ลุกขึ้นยืนพร้อมกับผ้านวมที่ห่มท่อนล่าง หยิบหมอนได้ก็ก้าวเดินไปหาแซ็ค วางหมอนไว้ข้างอีกคน ใช้ผ้านวมที่ห่มตัวเองอยู่ปูพื้นต่อจากของแซ็ค ดึงผ้านวมผืนใหญ่ที่แซ็คห่มอยู่ขึ้น ก่อนแทรกตัวเข้าไปนอนข้างหนุ่มหัวทอง แต่ก็นอนอยู่บนหมอนของตัวเองไม่ได้ไปเบียดเบียนเขา ไอติมกระเถิบตัวเข้าใกล้แซ็ค นั่นเลยทำให้อีกฝ่ายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
   

“Hey, what? (เฮ้ อะไรเนี่ย)” ไอติมแหงนหน้ามองแซ็คทั้งที่ตายังปรือด้วยความง่วง
   

“Sleep ด้วย กลัว scare, I’m scare.” แซ็คย่นคิ้ว บิดหน้ามองไอติมที่อ้าปากหาววอด
   

“Scared of what? (กลัวอะไร)” ไอติมกะพริบตาเอื่อย ๆ ส่งเสียงอื้ออ้า
   

“Strange place strange way” ไอติมต้องการจะสื่อว่ามันแปลกที่แปลกทาง ความรู้สึกของเขามันไม่คุ้นเคย แต่ทำเอาแซ็คขมวดคิ้ว งงกับคำพูดของเด็กมัน พ่อฝรั่งทำท่าจะขยับตัวหนี
   

“Don’t go. Sleep here with me นะ. (อย่าไปไหน นอนกับผมนะ)” ไอติมยื่นมือซ้ายไปวางทับหลังมือซ้ายของแซ็คไว้ เจ้าของมือเลื่อนสายตาไปมองแปบนึงก่อนเลื่อนกลับมามองใบหน้าเรียวที่ใกล้จะหลับเต็มทน
   

“Are you hurt? (เจ็บเหรอ)” แทนคำตอบของคำถาม ไอติมหลับตาแล้วก็หลับไปเลย ทั้งที่มือยังวางอยู่บนหลังมือของฝรั่งตัวใหญ่ แซ็คย่นคิ้วมองไอติมด้วยความฉงน กำลังนึกสงสัยว่าเด็กคนนี้มันจำได้มั้ยว่าเพิ่งผ่านเหตุการณ์อะไรมา ทำไมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันลืมเจ็บรึเปล่า
   

ฝรั่งหัวทองพ่นลมหายใจแผ่วเบา มองคนอายุน้อยกว่าตัวเองหลับปุ๋ยด้วยความอ่อนใจ เขาบิดหน้ากลับไปนอนตรง สายตามองเพดานสีขาว ความคิดสองสามอย่างกำลังไหลอยู่ในสมอง แล้วสักพักมันก็พันกันยุ่งเหยิง เขาพ่นลมหายใจยาว ๆ อีกครั้งก่อนจะหลับตาลง และนอนหลับไปโดยมีเด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งนอนจับมือเขาอยู่


   
   
พระอาทิตย์ของวันใหม่ขึ้นเยือนท้องฟ้าสีฟ้าสดใส เมฆสีขาวหลายกลุ่มลอยเอื่อย แสงแดดสาดส่องไปทั่วท้องทะเล ทอประกายระยิบระยับ เสียงคลื่นดังซ่า มีเสียงนกร้องสลับเป็นบางช่วง หาดทรายละเอียดสีน้ำตาลมีผู้คนเดินกันอย่างบางตา เสียงรถแล่นบนถนนใหญ่ฝั่งตรงข้ามกับทะเลดังฉิวเป็นระยะ ส่วนถนนเส้นเล็กที่ตัดเข้ามาในโซนบ้านพักติดริมหาดนั้นไม่มีรถยนต์วิ่งผ่าน มีเพียงรถจักรยานของแก๊งค์เด็ก ๆ ที่กำลังปั่นแข่งกัน
   

สองร่างต่างไซซ์ภายในบ้านสีขาวหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ห่างจากทะเลสีครามหลายร้อยเมตร กำลังนอนหลับสนิทกันทั้งสองคน โดยที่ร่างสูงใหญ่นอนซ้อนหลังร่างผอมบาง และใช้แขนขวากอดคนข้างหน้าไว้จนตัวติดกัน หัวสีดำนอนอยู่ใต้คางของคนตัวโต ลมหายใจของทั้งสองคนผ่อนเข้าผ่อนออกอย่างแผ่วเบา
   

ไม่รู้จับพลัดจับผลูยังไงถึงได้มาจบที่ท่านี้จนถึงเช้า แถมคนข้างหลังยังกอดคนข้างหน้าแน่นราวกับกอดหมอนข้าง
   

เป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว แต่ผู้ชายต่างเชื้อชาติและต่างขนาดยังคงนอนหลับกันอย่างสบายตัว ทิ้งให้โทรศัพท์เครื่องหนึ่งสั่นแล้วสั่นอีกอยู่บนโซฟา ซึ่งสั่นมาตั้งแต่ตีห้าจนกระทั่งตอนนี้ เจ้าของโทรศัพท์หลับหน้าพริ้มอยู่ในอ้อมกอดของคนที่อยากจะเสียตัวให้ด้วยความรู้สึกปลอดภัย
   

เดนนี่กำลังหงุดหงิดอยู่ในห้องพักของลูกชายเพื่อนแม่ที่เขาพาไอติมมาขออาศัยอยู่ด้วย เมื่อคืนเขาหลับตาลงได้ตอนตีสองกว่า ก่อนที่ตีห้าจะสะดุ้งตัวตื่นแล้วกดโทรหาไอติม โทรจนหงุดหงิด จะไปบ่นหรือจะถามใครก็ไม่ได้ เพราะที่นี่ไม่ใช่เมืองไทยที่จะมีคนพอจะรู้จักไอ้ห่าติมอยู่บ้าง
   

คนที่กำลังทำให้เพื่อนสนิทตัวเองหงุดหงิด พลิกตัวหันเข้าหาร่างสูง กระเถิบหัวขึ้นไปนอนบนอกอันแน่นหนา แขนซ้ายวางลงบนกล้ามท้องของฝรั่ง เจ้าของร่างกายกำยำเปิดเปลือกตาขึ้นก่อนจะหรี่ลงเพราะแสงแดดแยงตา เขาหลับตาลงสักแปบ พอรู้สึกว่าปรับรับกับแสงได้แล้วถึงลืมตาขึ้นอีกที ก้มลงมองก็เห็นหัวทุย ๆ นอนอยู่บนอกเขา แขนขวาของเขาก็กำลังกอดร่างเจ้าเด็กอยากเสียตัว 


แซ็คนิ่งไปสักแปบแล้วก็ยกแขนขวาออกจากตัวไอติม เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่วางอยู่บนกางเกงยีนขึ้นมากดดูหน้าจอ มีข้อความเข้ามาหนึ่งข้อความเมื่อตอนเจ็ดโมงเช้า เขากดเปิดอ่าน
   

‘Where are you now? (ตอนนี้อยู่ที่ไหน)’
   

แซ็คกดลบข้อความนั้นทิ้ง ไม่ได้คิดแม้แต่จะพิมพ์ตอบกลับไป เขาถือโทรศัพท์ไว้ในมือ หลับตาลงอีกสักพัก พ่นลมหายใจยาว ๆ หนึ่งที ก่อนลืมตาขึ้นอีกครั้ง กดสายตามองร่างเล็กแล้วยกมือซ้ายสะกิดไหล่ซ้ายของอีกคนที่กำลังนอนเกยตัวเขาอยู่
   

“Hey…” เสียงทุ้มพร่าดังขึ้น แซ็คกระแอมคอให้โล่งทีนึง
   

“…Hey, I—.” แซ็คชะงัก คิ้วขมวดเข้าหากันน้อย ๆ กำลังคิดว่าเด็กคนนี้มันชื่อว่าอะไร จำได้ว่าขึ้นต้นด้วยไอ เขาใช้ความคิดนึกชื่อเจ้าเด็กเอเชียอีกสักแปบก่อนจะเอ่ยชื่ออีกรอบอย่างไม่แน่ใจนัก
   

“I-tim. Ice-cream. Hey.” แซ็คสะกิดแรงขึ้นอีกนิด
   

“ฮึ…” แซ็คได้ยินเสียงครางตอบรับเลยหยุดสะกิด จากนั้นเจ้ากะจ้อยร่อยก็ลืมตาขึ้น กะพริบตาถี่ ๆ อยู่พักหนึ่งก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองร่างใหญ่ ไอติมมองเคราสีน้ำตาลทอง มองตาสีเทาที่กำลังมองตัวเอง แล้วริมฝีปากก็คลี่เป็นรอยยิ้ม
   

“แซ็ค…” เจ้าของชื่อกดหน้ามองด้วยสายตาปราม ร่างผอมบางดันตัวลุกขึ้นนั่ง ยิ้มยิงฟันแต่ก็เป็นยิ้มแหะๆ
   

“…ไบรอั้น” หน้าดุของแซ็คหายไป แทนที่ด้วยความพอใจ ฝรั่งหัวทองลุกขึ้นนั่งแล้วหันมองเจ้าเด็กจ้อยร่อยที่มองหน้าเขาตาแป๋ว ผมสีดำยุ่งเหยิงชี้ฟูจนน่าขัน
   

“Hurt? (เจ็บมั้ย)” ไอติมทำหน้าเหลอหลา เพราะเพิ่งตื่นนอนเลยยังงง ๆ อยู่ แซ็คเลยยกมือขวาขึ้นทำท่าโอเค และใช้นิ้วกลางข้างซ้ายแทงรูนั้น เลิกคิ้วขึ้นเป็นการถามไอติมอีกที
   

“Your ass—are you hurt? (ก้นนาย เจ็บมั้ย)” มุมปากไอติมขยับเป็นรอยยิ้มอ่อน หน้ายังงง ๆ อยู่ แต่พอจับคำว่าก้นได้ก็เลยทำหน้าเข้าใจ
   

“อ๊อ…” ไอติมถลกผ้านวมออก ความเป็นชายขนาดยาวตั้งโด่รับยามเช้าตามธรรมชาติของผู้ชาย แซ็คมองไอติมยกสองขาขึ้นในอากาศ และพยายามโน้มตัวก้มหน้าไปมองรูก้นตัวเอง สองมือแบะก้นออก และพยายามก้มมอง แต่ก็ไม่สำเร็จ เลยใช้มือขวาดันไข่สองลูกขึ้นเพื่อหวังจะเห็นรูก้น ก้มหน้าโน้มตัวสุดฤทธิ์ แต่ก็ไปไม่ถึงอยู่ดี แซ็คหัวเราะเบา ๆ กับกายกรรมตัวอ่อนของเด็กน้อย สุดท้ายไอติมก็เงยหน้าขึ้นมองแซ็ค ริมฝีปากสีแดงยื่นเหมือนเป็ด คิ้วสีดำขมวดด้วยความขัดใจ
   

“I cannot see.”
   


“Spread your legs and lift your ass. (กางขาแล้วยกก้นขึ้น)” ไอติมทำหน้างง แซ็คหมุนตัวไปหาเด็กอยากเสียบริสุทธิ์ตรง ๆ ทำสองมือเป็นท่าแหวกออก ไอติมแหวขาออกตาม แซ็คยื่นสองมือไปจับตรงต้นขาของไอติมแล้วดันก้นขึ้น เจ้าตัวเอนตัวนอนลงบนผ้านวม มองแซ็คใช้ดวงตาสีเทาสำรวจรูก้นของตัวเอง
   

“How do you feel? Your feeling about your ass now. (รู้สึกยังไงบ้าง ความรู้สึกกับก้นตัวเองตอนนี้น่ะ)” แซ็คใช้นิ้วชี้ข้างขวาลูบวนตรงจีบเนื้อสีน้ำตาลอ่อน ไอติมไม่ค่อยเข้าใจในประโยคนัก แต่ก็เข้าใจกับการกระทำของแซ็ค และคำว่า ฮาว ก็แปลว่ายังไง อย่างไร เลยตีความได้คร่าว ๆ เองว่า เขาคงถามเกี่ยวกับความรู้สึกที่ก้น
   

“เอ่อ yes, hurt, a little” แซ็คพยักหน้าหนึ่งที ใช้นิ้วชี้แหวกรูก้นของไอติม เขายังไม่เห็นรอยแผลจากการสำรวจเบื้องต้น รูยังดูเต่งตึงและแน่นอยู่ ซึ่งมันก็ต้องเป็นงั้นแหงล่ะ เมื่อวานยังไม่ทันได้ขยับอะไรเลย แค่ยัดเข้าไปมิดลำแล้วก็จอดอยู่แค่นั้น
   

“It’s look good but you can take a pain killer or antibiotics if you want. (มันก็ดูปกติดีนะ แต่นายจะกินยาแก้ปวดหรือยาแก้อักเสบไว้ก็ได้ถ้านายอยาก)” แซ็คปล่อยมือออกจากต้นขาของไอติม เจ้าของร่างขาวเนียนละเอียดลุกขึ้นนั่งแล้วพยักหน้าด้วยความเข้าใจกับคำศัพท์เรื่องยา แซ็คเลื่อนดวงตามองตรงกลางลำตัวของไอติม เลิกคิ้วขึ้นกับความแดงอมชมพูของส่วนหัวตรงส่วนนั้น
   

“What? (อะไรเหรอ)” แซ็คกระตุกยิ้ม
   

“Nothing but it’s beautiful. (ไม่มีอะไรหรอก แค่สีมันสวยดีน่ะ)” ไอติมก้มลงมองน้องชายแม่เดียวกันที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดของตัวเองครู่สั้น ๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองแซ็คแล้วคลี่ยิ้ม กระเถิบตัวไปใกล้แซ็คก่อนใช้มือซ้ายดึงผ้านวมที่คลุมท่อนล่างของคนตัวใหญ่อยู่ออก
   

“โฮฮฮ” ไอติมส่งเสียงร้องตื่นเต้นเมื่อเห็นลูกชายของแซ็คที่แข็งตัวเต็มที่ตั้งตรงแหน่ว ที่เห็นเมื่อคืนกับตอนนี้มันช่างดูต่างกัน ไอติมรู้สึกว่ามันเท่และแข็งแรงกว่าที่เห็นในตอนกลางคืนซะอีก แท่งเนื้อสีน้ำตาลอ่อนขุ่น ๆ กับหัวสีชมพูสด รับกับฐานกลมกลึงสองลูกอันมีขนาดพอเหมาะ
   

“Fat, long, big.” แซ็คขำกับสามคำจำกัดความอาวุธของเขา คงตั้งใจจะบอกว่ามันอวบ ยาว ใหญ่สินะ
   

ไอติมคลี่ยิ้มกว้าง นั่งคุกเข่ามองแซ็คในช่วงเวลากลางวันแบบใกลชิดให้เต็มตาอีกครั้ง หุ่นของแซ็คหนาบึ้ก ไหล่กว้าง ช่วงตัวก็สมส่วนกับไหล่ กล้ามท้องเป็นลอน วีเชฟชัด เต้านมหนาน่าซบ หัวนมสีน้ำตาลก็น่าดูด ต้นขาใหญ่แข็งแรง กล้ามแขนแน่นเป็นลูก ๆ ใบหน้าชัดด้วยสันกรามและเครื่องหน้าที่ชัดไม่แพ้กัน ปาก จมูก คิ้ว ตาสีเทาอ่อนทำให้แซ็คเซ็กซี่แบบสมูท ไม่ใช่สตรองแข็งกระด้าง
   

“Hey, you are really professional assaulter. (เอ้ นายนี่มันนักลวนลามมืออาชีพจริง ๆ นะ)” แซ็คว่าหลังจากเจอเด็กอยากเสียตัวคลานขึ้นมานั่งบนตักของเขาแบบเนียน ๆ ทั้งที่สายตาของเด็กมันยังมองไปทั่วร่างกายของเขาอยู่ เจ้าจ้อยร่อยนั่งคร่อมตักเขา แก่นกายทั้งสองอันเสียดสีกัน แซ็คเอนหลังใช้สองมือยันตัวไว้ ไอติมใช้สองมือลูบไล้ไปตามกล้ามอกหนาเต่งตึง เลื่อนลงลูบวนตรงหัวนมสีน้ำตาลเข้มเบา ๆ แซ็คนั่งมองสีหน้ายิ้มเคลิ้มของอีกคนแล้วมุมปากก็ขยับเป็นรอยยิ้มขำ
   

“Do you want to put it in your ass again? (เอามันใส่เข้าไปในก้นอีกมั้ยล่ะ)” แซ็คถามพลางเลื่อนสายตามองลูกชายตัวเองและเลื่อนกลับไปมองตาไอติม นักลวนลามมืออาชีพที่แซ็คว่าทำหน้างงสักแปบก่อนจะคลี่ยิ้มแหย สองมือเลื่อนจากอกลงไปที่กล้ามท้อง
   

“เจ็บอะ” ที่พูดเป็นภาษาไทยมานั้นแซ็คไม่เข้าใจ มาเข้าใจด้วยอาการส่ายหน้าและความกลัวบนสีหน้าที่แสดงออก หนุ่มหัวทองขมวดคิ้ว มองหนุ่มหัวดำด้วยความงุนงง
   

ก่อนหน้านี้พยักหน้าจะเอา ๆ ตอนนี้ส่ายหัวไม่เอาง่าย ๆ งี้เลย   
   

“You don’t want me to fuck you, aren’t you? (ไม่อยากให้ฉันเอานายแล้วเหรอ)” ไอติมอ้าปากหวอน้อย ๆ เปลือกตากะพริบช้าๆ
   

“I want you to fuck me.” ไอติมพยายามบอกว่ายังอยากให้แซ็คเอาตัวเองอยู่ สองมือลูบสีข้างของแซ็คอย่างเพลิดเพลิน ดวงตามองแก่นกายแซ็คที่ตั้งคู่กับของตัวเอง แต่ไซซ์นั้นแสนจะต่างกัน
   

“Then start it. You have only one chance. Only this time. (งั้นก็เอาเลย นายมีโอกาสครั้งเดียวนะ แค่ตอนนี้)” แซ็คเลิกคิ้วสีน้ำตาลเข้มขึ้นและกดหน้าลงมองไอติมด้วยสายตาเป็นเชิงบอกว่าอยากทำก็รีบทำ ไอติมทำปากยู่ เข้าใจประโยคที่แซ็คว่าในเรื่องของโอกาสที่ตัวเองมี
   

“I want but I hurt. (ผมอยากแต่ก็เจ็บ)” แซ็คพ่นลมหายใจ ดันตัวขึ้นนั่งตรง ทำให้ปลายจมูกตัวเองขนกับปลายจมูกของไอติม แซ็คใช้สองมือลูบวนก้นของไอติมช้า ๆ แล้วลากขึ้นบนไปตามแผ่นหลังขาวเนียนเนื้อนุ่ม
   

ถือว่าช่วยปลุกอารมณ์เด็กมัน และทำให้เรื่องนี้จบ ๆ ไปซะที
   

ไอติมกะพริบตาปริบ มองตาสีเทาของแซ็คที่กำลังมองตัวเองอย่างเชิญชวน หัวใจของไอติมเต้นตึกตักอีกครั้ง ความอุ่นจากฝ่ามือใหญ่ของแซ็คทำให้ตัวของไอติมอุ่นวาบขึ้นมาพร้อมกับขนคอที่ตั้งชัน ใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ห่างกันเพียงปลายจมูกกั้น ไอติมยื่นหน้าเข้าไปจะจูบริมฝีปากของแซ็ค แต่หนุ่มหัวทองดึงหน้าหนีแล้วส่ายหัว
   

“No kiss. (ไม่จูบ)” ไอติมหน้างอ มองริมฝีปากสีแดงอ่อนของแซ็คด้วยความเสียดาย แซ็คยิ้มอ่อน มองเด็กน้อยด้วยความตลกกับหน้าหงิกหงอนั่น
   

“Ready, eh? (พร้อมนะ เอ๊?)” ไอติมก้มลงมองแก่นกายของแซ็ค หัวใจเต้นรัว ความทรงจำเมื่อคืนนี้แล่นเข้าสู่สมองและความรู้สึก ไอติมหลับตาปี๋ รู้สึกเจ็บจี๊ดตรงกลีบเนื้อที่คล้ายว่าบางจุดจะปริขาด เขาดันอกแซ็คออกแล้วลุกออกจากตักแซ็ค กระเถิบไปนั่งคุกเข่าตรงข้ามกับคนหัวทองที่กำลังมองเขาด้วยสีหน้าค้างเติ่งและสายตางุนงงอย่างกับคนหลงทาง
   

“What the heck? (อะไรเนี่ย)” แซ็คครางเบา ๆ ไอติมทำปากยื่น ส่ายหัวรัวๆ
   

“Hurt. Scare. (เจ็บ กลัว)” แซ็คกลอกตามองบน พ่นลมหายใจเซ็ง ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำ ไอติมรีบลุกตามไปอย่างไว แซ็คที่ใบหน้าหงุดหงิดเดินไปเปิดฝักบัวเพื่ออาบน้ำ แต่ไอติมดันเดินเข้าไปปิดน้ำ คนตัวโตหันมองคนตัวจ้อยด้วยสายตาติดจะรำคาญ
   

“ไปนู่นกัน อ่างอาบน้ำๆ” ไอติมชี้ไปที่อ่างอาบน้ำสีขาวทรงกลมที่อยู่กลางแจ้ง มีรั้วไม้ตีล้อมเพื่อบดบังสายตาผู้คนตามชายหาดและจากบ้านหลังอื่น แซ็คหันไปมองตามก่อนหันกลับมามองไอติมที่ยิ้มกว้างและพยักหน้ารัว ๆ เป็นการเชิญชวน ฝรั่งหัวทองเดินไปที่อ่างตามไอติมว่า หนุ่มเอเชียหัวดำมองก้นสองลูกแสนแน่นของแซ็คก็รู้สึกใจหวิวและวูบวาบในอก อยากจะเสียตัวให้เขาเต็มที่ แต่ความเจ็บปวดรวดร้าวจากเมื่อคืนยังติดในหัวอยู่เลย
   

“You want to join? (นายจะอาบด้วยมั้ย)” แซ็คหันไปถามไอติมในขณะที่ก้มเปิดน้ำใส่อ่าง ไอติมเดินตามเข้ามาในโซนอ่างอาบน้ำแทนคำตอบ มองน้ำที่กำลังไหลเพิ่มขึ้นในอ่างเรื่อย ๆ ด้วยความตื่นเต้น แหงนหน้ามองทองฟ้าก็รู้สึกสดชื่น ได้ยินเสียงทะเลดังครืน ๆ ให้ความรู้สึกสบาย ๆ เขาก้มหน้าลงแล้วหันไปมองรอบ ๆ อ่างก็เจอชั้นวางของ เลยเดินเข้าไปสำรวจ หยิบขวดสีขาวติดสลากผลิตภัณฑ์ขึ้นมาอ่าน แต่ก็ไร้ประโยชน์เพราะแปลไม่ออก เลยใช้วิธีเปิดฝาขวดแล้วดมกลิ่นเอา มีอยู่สามขวดก็ดมมันทั้งสามขวด แล้วก็ถูกใจกับกลิ่นของขวดสุดท้ายที่เป็นสลากสีชมพู หมุนตัวกลับไปหาแซ็คที่ลงไปยืนรอในอ่างแล้ว
   

“อันนี้ใช้ได้มั้ย เอ่อ Can use?” ไอติมยื่นขวดทรงกระบอกขนาดกลางไปให้แซ็ค เขารับไปอ่านสักแปบก่อนจะพยักหน้า เปิดฝาขวด บีบครีมสีขาวลงใส่น้ำในอ่าง ไอติมเห็นว่าน้ำขึ้นมาเกินครึ่งอ่างแล้วเลยปิดน้ำ ก่อนจะตามแซ็คลงไปนั่งแช่ในอ่าง ใช้มือตีน้ำจนเกิดฟองสีขาวขึ้นเต็มอ่าง นั่งหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว แซ็คเหลือบตามองแล้วนั่งลงตรงข้ามกับไอติม วางขวดครีมอาบน้ำสำหรับผสมน้ำไว้บนพื้นระแนงไม้สีน้ำตาล
   

“โว้ววว” ไอติมใช้สองมือประคองฟองสีขาวขึ้นมาแล้วเป่าไปทางแซ็ค หนุ่มหัวทองเบี่ยงหน้าหลบ มองหน้าเรียวสวยด้วยสายตาเป็นคำถาม แต่ก็ไม่คิดถามอะไรออกมา แค่นั่งมองแบบนั้น แล้วสักพักไอ้นักลวนลามมือโปรก็เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เขาพร้อมกับรอยยิ้มโชว์ฟันเรียงตัวสวย ไอติมเคลื่อนตัวขึ้นไปนั่งทับตักซ้ายของแซ็ค แขนขวายกคล้องคอฝรั่งตัวใหญ่ ใบหน้าของทั้งสองคนใกล้กัน แต่สีหน้าต่างกัน คนนึงยิ้มปริ่ม อีกคนหน้านิ่ง
   

แซ็คมองไอติมอย่างเรียบเฉย ก่อนเบี่ยงตาหลบและเอนหลังพิงกับขอบอ่างอาบน้ำ ปล่อยให้เด็กน้อยมันนั่งอยู่บนตักตัวเองโดยไม่คิดผลักไสไล่ส่ง ไอติมยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายของแซ็ค เจ้าของแก้มหันกลับมามองนิ่งอีกที ไอติมคลี่ยิ้ม ยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายของแซ็คอีกที
   

“I’m happy. (ผมมีความสุข)” ไอติมยิ้มตาเป็นประกาย บ่งบอกว่ามีความสุขอย่างปากว่าจริง ๆ แซ็คที่กำลังมองไอติมเรียบเฉยมีสีหน้าผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย แววตาที่ไร้อารมณ์ในตอนแรกเปลี่ยนเป็นอ่อนลง ไอติมดึงแขนขวาออกจากคอแซ็คแล้วซุกตัวเข้ากับอกหนา วางหัวไว้ใต้สันกรามของคนหัวทอง
   

“Are you really sure to don’t let me fuck you now? (นายแน่ใจจริง ๆ ใช่มั้ยว่าจะไม่ให้ฉันเอาตอนนี้)” ไอติมน่ะแปลออกไม่หมดหรอก อาศัยจำว่ากำลังคุยประเด็นอะไรกันอยู่เลยตีความได้ง่าย
   

“Fuck later ได้มั้ย tomorrow, the day after tomorrow or day other” ไอติมต้องการสื่อสารว่าขอไปเอากันวันอื่นแทนได้มั้ย แต่ไม่รู้จะพูดยังไง เลยขนที่ตัวเองจำได้มาใช้ เอาชื่อหนังมาพูดด้วยซ้ำ
   

แซ็คนิ่ง กำลังคิดว่าจะตัดสินใจยังไงดี เพราะก่อนหน้านี้เขาตัดสินใจไปแล้วว่าจะให้แค่ครั้งเดียวคือเมื่อคืน แต่เด็กมันดันเป็นลมไปซะก่อน เลยลองให้โอกาสอีกทีตอนเช้า แต่เด็กมันดันส่ายหัวว่าไม่เอา แล้วก็มานั่งทำตัวมุ้งมิ้งกับเขาอยู่แบบนี้ เขาอยากให้มันเป็นไปตามที่ตกลงกัน ไม่อยากให้เรื่องมันยืดเยื้อ
   

“I think we should fuck now. (ฉันว่าเราเอากันตอนนี้เลยเถอะ)” แซ็คบอก ไอติมยกหัวขึ้นจากใต้กรามแซ็ค มองหน้าคนหัวทองตาใส ก่อนจะยื่นมือซ้ายไปจับแท่งเนื้อของแซ็คที่อ่อนตัวลงไปแล้ว
   

“Your dick not strong แล้วอะ”
   

“It will be strong. (เดี๋ยวมันก็สตรอง)” แซ็คทวนคำศัพท์ที่ไอติมใช้เพื่อความเข้าใจง่าย ๆ ไอติมยื่นหน้าไปจะหอมแก้มแซ็ค แต่คราวนี้แซ็คยกมือซ้ายดันตัวไอติมไว้
   

“Stop kissing my cheeks! (หยุดหอมแก้มฉันสักทีเถอะ)” แซ็คว่าเสียงเข้มเล็ก ๆ และขมวดคิ้วมองไอติม
   

“Why? I like it. (ทำไมอะ ผมชอบนะ)” แซ็คพ่นลมหายใจแรง ๆ ใบหน้าหงุดหงิด ดันไอติมลงจากตักตัวเอง จับไหล่ร่างผอมแน่น บิดตัวไอติมให้นั่งตรงหน้ากัน และพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
   

“We are not a couple. We came here for fucking, and then I go on my own way, and you go on your own. That’s it! (เราไม่ใช่แฟนกัน เรามาที่นี่เพื่อเอากัน หลังจากนั้นฉันก็ไปตามทางของฉัน นายก็ไปตามทางของนาย แค่นั้นแหละ!)” แซ็คมองไอติมตาดุ แทบจะเป็นแข็งกระด้าง สันกรามขึ้นชัดเพราะแรงอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น สองมือบีบต้นแขนของไอติมแน่น คนตัวผอมมองตาสีเทาของแซ็คที่ตอนนี้ไม่มีแววอ่อนโยนหลงเหลืออยู่ด้วยหัวใจที่สั่นหวิว แม้จะแปลที่เขาพูดไม่ออก แต่ไอติมก็ไม่ได้โง่ที่จะแปลท่าทางของร่างกายแซ็คไม่ได้
   

“Fuck, and done. (เอา แล้วก็จบ)” แซ็คจ้องตาไอติมที่กำลังสั่นระริก ใบหน้าเรียวสวยสลดลง
   

เขามาในฐานะติ่ง ที่ได้ไปจากเมื่อคืนและเมื่อครู่ก็ถือว่ามากกว่าคนอื่นแล้ว และที่มาก็เพราะว่าแค่มาเพื่อสิ่งนี้ เขาก็ให้ตามที่ปรารถนาแล้ว แถมเขายังไม่คิดค่าตัวอีก หมดครั้งนี้ไปก็คือเท่ากับไม่ได้
   

จะเอาอะไรมากกว่านี้ล่ะ
   

“อื้อ…” ร่างเล็กตอบรับเสียงแผ่ว

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 05-05-2018 21:18:15
V
v
v

“อ๊า อะ อะ อื้อ อื้อ…”
   

เสียงร้องครางของร่างเล็กดังสลับกับเสียงหอบหายใจของร่างใหญ่ที่กำลังคุกเข่าอยู่ด้านหลัง สองมือกดข้อมือบางของร่างด้านล่างไว้บนแผ่นหลังเจ้าตัว เนื้อก้นสองข้างของร่างผอมบางเด้งตามแรงกระแทกของร่างสูง แก่นกายอันเขื่องเคลื่อนตัวอยู่ด้านในโพรงเนื้อนิ่มที่รัดแน่น แน่นจนเจ้าของแก่นกายต้องกัดฟันสู้กับความเสียวและเจ็บในคราวเดียวกัน ยิ่งเวลาอีกฝ่ายตอดรัดตามธรรมชาติของร่างกาย ก็ยิ่งทรมานจนรู้สึกว่าเอ็นอุ่นแทบจะขาดคาจีบเนื้อแสนฟิตของเจ้าเด็กบริสุทธิ์
   

ไอติมนอนคว่ำหน้าแบบตะแคงข้าง แก้มขวาแนบลงกับพื้นผ้านวมบนพื้นที่ใช้ปูเป็นที่นอนกับแซ็คเมื่อคืน คิ้วดกดำขมวดเข้าหากัน แขนสองข้างไพล่หลังและถูกแซ็คจับกดเอาไว้แบบนี้เพราะเขาพยายามดิ้นหนีและผลักแซ็คออกไปตอนที่กำลังดันแก่นกายเข้ามา ความเจ็บทำไอติมดิ้นสู้ แต่แซ็คเองก็ไม่ยอมปล่อยให้จังหวะนี้หลุดหายไปอีก เขาเลยกดแขนไอติมไว้ และกระแทกเอ็นอุ่นเข้าไปในโพรงเนื้อร้อน ๆ เรื่อย ๆ จนกระทั่งเขากับไอติมไปด้วยกันได้มาจนถึงครึ่งทาง แต่ลำนั้นเข้าไปด้านในเต็มลำ ไม่มีครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทาง
   

“อึ แซ็ค เจ็บ อือ…” ไอติมครางหน้าตาเจ็บปวด น้ำตาปริ่มตรงขอบตา เขาพยายามเบี่ยงก้นหนีแซ็คแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะแซ็คตรึงแขนเขาไว้แน่น และเอ็นอุ่น ๆ อันนั้นก็ตรึงพื้นที่ในรูก้นเอาไว้แน่นเช่นกัน เบี่ยงทางไหนมันก็ตามไปด้วยอยู่ดี
   

“เจ็บ… อึก…” ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ เปลือกตาปิดแน่น หน้าท้องหดเกร็งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
   

เขาคิด เขาฝันอยากทำแบบนี้กับแซ็คมานาน แต่คิดแบบโดยรวมว่าอยากเอากัน อยากโดนเขาเอา ไม่รู้ว่าความรู้สึกมันจะเป็นยังไง แต่คิดแค่ว่าอยากเอากับผู้ชายคนนี้ อยากโดนผู้ชายคนนี้เอา คิดว่ามันต้องฟินเหมือนที่จินตนาการทุกครั้งเวลาช่วยตัวเองกับหนังของแซ็ค ในภาพจินตนาการนั้นแสนวาบหวิวและเสียวซ่านจนแตกระทวยด้วยค.. ของเขา
   

แต่สิ่งที่ฟินไว้ในจินตนาการกับสิ่งที่กำลังเจออยู่ในตอนนี้ มันช่างแตกต่างกัน
   

ครั้งแรกคือเมื่อคืน เป็นครั้งแรกที่ไอติมได้ลองกับความเป็นชายของแซ็คตามที่อยากมานาน และมันเจ็บมาก เจ็บจนไม่คิดจะเอาอีกแล้ว แต่พอตื่นมา เห็นผู้ชายคนนั้นตรงหน้า ก็ได้รู้ว่า มันคือความจริงที่ตัวเองกำลังอยู่กับขวัญใจตัวเองสองต่อสอง และเป็นโอกาสของตัวเองที่จะได้อย่างที่อยากได้ อยากจะทำมันให้ได้ แต่ความกลัวกับความเจ็บก็ทำให้ไม่กล้าไปต่อ แม้จะดีใจมากที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเทพบุตรหนังโป๊ของตัวเองก็ตาม
   

“ฮึก…” ไอติมสะอื้นไห้ สองมือกำแน่น ลำตัวเคลื่อนไหวไปตามแรงกระแทกของอีกคน ไอติมไม่ได้ทนให้เขาทำ ไอติมก็อยากทำด้วย ยังคงอยากโดนเอาอย่างที่บอกไว้ มันเจ็บ มันเสียว เป็นความเสียว แต่ไม่ซ่าน…
   

  แซ็คขมวดคิ้ว กัดฟันแน่นจนกรามสองข้างขึ้นลายชัดเจน หน้าท้องหดเกร็งจนกล้ามท้องขึ้นเป็นลูก ๆ กล้ามอกกับกล้ามแขนเกร็งจนเนื้อปูด มีเหงื่อผุดขึ้นตรงแผงอก เขาแหงนหน้าขึ้น เปลือกตาปิดแน่น คิ้วขมวดมุ่น อ้าปากส่งเสียงอื้ออ้าเพราะความรัดแน่นจนเสียวไส้
   

ปับๆๆๆ
   

“โอะ... โอะ… โอ๊ย…” ไอติมครางแผ่วเบา ยังคงหลับตาสนิท ไม่ได้ลืมตื่นขึ้นมามองอะไร ปล่อยให้เหตุการณ์เป็นไปตามที่แซ็คเป็นคนควบคุม สองแขนปวดหนึบเพราะโดนไพล่หลังไว้นาน สองขาเริ่มอ่อนแรง ทั้งเพราะอยู่ท่านี้ตั้งแต่เริ่ม และทั้งเพราะความปวดร้าวจากกลีบเนื้อที่แผ่ไปโดยรอบ และแผ่ไปยังก้นถึงต้นขา เลยทำให้แทบจะหมดแรงยันตัวไว้ สุดท้ายช่วงล่างของไอติมก็ฟุบลงกับพื้นผ้านวม แซ็คหยุดกระแทก ปล่อยมือออกจากข้อมือของร่างผอม ไอติมยกแขนขึ้นไปวางด้านบนอย่างอ่อนแรง แซ็คช่วยไอติมจัดระเบียบร่างกายทั้งที่แก่นกายยังคาอยู่ในนั้นครึ่งหนึ่ง เขาจับขาขวากับขาซ้ายแยกออก ก่อนใช้สองมือดันตัวลุกขึ้นแล้วเริ่มกระแทกต่อ
   

ตับ ตับ ตับ ตับ
   

เสียงเนื้อกระทบกันดังชัดขึ้นกว่าเดิม ไอติมลืมตาขึ้นโดยที่ยังนอนคว่ำอยู่ในท่าเดิม เขาค่อย ๆ ใช้สองแขนดันตัวท่อนบนลุกขึ้น ท่อนล่างนอนแหวกขาอยู่แบบนั้น ปล่อยให้แซ็คดันสะโพกเข้าหาเรื่อย ๆ ใบหน้าเรียวที่มีน้ำตาเปื้อนแก้มบิดไปมองใบหน้ากรามชัดที่กำลังกำหนัดได้ที่กับความตอดรัดจนเสียวซี๊ดไปตามเส้นเอ็น
   

ไอติมไม่อยากเอาแต่นอนครางด้วยความเจ็บและนอนร้องไห้ เขามาถึงนี่แล้ว เขาโดนแซ็คเอาแล้ว เขาอยากจดจำความรู้สึกที่ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการมานานแล้วไว้ในความทรงจำ
   

แม้ว่ามันจะไม่ได้เหมือนที่ต้องการก็ตาม
   

“Ah! Fuck!” แซ็คกัดฟันแน่นแล้วคำราม ใบหน้าเหี้ยมหื่น หัวใจไอติมเต้นตึกตัก มันคือสีหน้าและใบหน้าใกล้จะแตกที่ไอติมเห็นผ่านวิดีโอ เห็นผ่านหนังของแซ็คที่ดูมาตลอด แต่ตอนนี้ไอติมกำลังเห็นมันผ่านม่านตาของตัวเอง
   

“Oh! / อ๊า!” แซ็คคำรามอีกทีพร้อมกับที่กระแทกใส่ไอติมเฮือกสุดท้ายด้วยความแรงอันหนักหน่วงจนเจ้าตัวจ้อยร่อยร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ
   

ไอติมได้ยินเสียงหอบหายใจของแซ็คชัดเจนที่ข้างหูซ้าย ได้ยินเสียงครางอันทุ้มห้าวจากลำคอของแซ็คไม่ผิดเพี้ยน และรู้สึกถึงความอุ่นร้อนของน้ำที่แตกอยู่ด้านในก้น มือเล็กข้างซ้ายยกลูบมัดกล้ามแขนซ้ายของฝรั่งตัวโต แซ็คบิดหน้ามองไอติมหน้านิ่ง มีเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากของแซ็ค ไอติมยื่นหน้าไปหอมแก้มขวาของแซ็คหนึ่งที แซ็คหลับตา รับสัมผัสอบอุ่นบนแก้มแล้วทิ้งตัวลงนอนทับไอติม คางเกยไหล่ซ้ายร่างผอม ไอติมหอมแก้มแซ็คอีกที และมองใบหน้าหล่อที่กำลังหลับตาพริ้มแล้วยิ้มบาง
   

แซ็คลืมตาขึ้นมองก็เห็นรอยยิ้มและแววตาสุกใสของอีกคน เขามองร่างเล็กนิ่ง ถอนแก่นกายที่อ่อนตัวลงแล้วออกจากรูของไอติม น้ำสีขาวข้นไหลเยิ้มตามออกมา แซ็คนอนหงายข้างร่างผอม บิดหน้าไปมองเจ้าเด็กน้อยที่นอนตะแคงยิ้มส่งมาให้เขา ตอนที่กำลังจะบิดหน้ากลับไปนอนตรง ๆ แซ็คก็เพิ่งสังเกตเห็นคราบน้ำตาบนแก้มใส เขาชะงักกึก แต่พอเห็นว่าไอติมคลี่ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดเขาเลยบิดหน้ากลับไปนอนตรง ๆ ไอติมขยับตัวเข้าไปนอนใกล้แซ็ค ทิ้งหัวนอนลงบนไหล่กว้างข้างซ้ายของฝรั่งตัวโต ทั้งสองนอนหลับตานิ่ง ลมหายใจของแซ็คยังคงดังฟึดฟัดเบาๆ


   
   



ฟึ่บๆๆ
   

แซ็คสะบัดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวของตัวเองก่อนจะสอดแขนเข้าไปในแขนเสื้อทั้งสองข้าง สายตามองไอติมที่แต่งตัวเสร็จแล้ว กำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนโดยผ่านหูฟังด้วยสีหน้าปกติอยู่บนโซฟา สองมือกำลังจะติดกระดุมเสื้อแต่ก็ชะงักเมื่อไอติมลุกเดินมาตรงหน้าเขาและติดกระดุมให้ แซ็คปล่อยสองมือลงข้างตัว มองไอติมที่ปากก็ขยับพูดไป แต่ตากับมืออยู่ที่กระดุมเสื้อของเขา
   

“อื้อ แค่นี้นะ เดี๋ยวกลับไปเล่าให้ฟัง ส่งชื่อที่ที่เราอยู่มาให้ด้วย” ไอติมถอดหูฟัง ยัดไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนกับโทรศัพท์ ติดกระดุมเม็ดสุดท้ายให้แซ็คเสร็จก็แหงนหน้ามองหนุ่มหัวทองและส่งยิ้มให้ แซ็คมองอย่างสงสัยใคร่รู้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
   

“Breakfast มั้ย eat break fast” แซ็คส่ายหัว
   

“I can’t. I have to do some errand. (ไม่ได้ ฉันมีธุระต้องไปทำ)” แซ็คกระตุกยิ้มเพียงนิด ไอติมทำหน้านึกตามที่คนตัวสูงพูด แปลได้ไม่หมด แต่พอจะเข้าใจว่าเขาไม่ไป ไอติมยิ้มบางและพยักหน้าด้วยความเข้าใจ
   

“Ready to go? (พร้อมรึยัง)” แทนคำตอบแบบพูด ไอติมหมุนตัวเดินกลับไปหยิบกระเป๋าเป้สีเขียวของตัวเองขึ้นมาเปิดซิป ดึงโทรศัพท์กับหูฟังออกจากกระเป๋ากางเกงมาใส่กระเป๋าเป้แล้วรูดซิปปิด แซ็คเดินไปปิดแอร์ ปิดไฟ ยกผ้านวมกับหมอนไว้บนโซฟา ก่อนจะเดินตามหลังไอติมไปติด ๆ แซ็คย่นคิ้ว มองอีกฝ่ายที่เดินขาถ่างแปลกๆ
   

“Hurt? (เจ็บเหรอ)” ไอติมหันกลับมามองเขาแล้วยิ้มแห้ง ๆ ก่อนหันกลับไปเลื่อนเปิดบานประตูกระจก แซ็คเดินเข้าไปจับบานประตูเลื่อนไว้ให้ ไอติมก้าวออกไปที่รถ แซ็คปิดประตูตามหลังและล็อคเรียบร้อย เดินเลยไอติมที่ยืนเกาะกระโปรงรถไปดันประตูโรงรถขึ้น
   

“Give me your destination. Your home. (เอาที่ที่นายจะไปมา บ้านนายน่ะ)” ไอติมเปิดประเป๋าเป้อีกที ดึงหูฟังออกจากโทรศัพท์แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดู เห็นข้อความของเดนนี่ที่ส่งมาให้ก่อนหน้านี้หนึ่งนาที เขากดเปิดแล้วยื่นให้แซ็ครับไปอ่าน แซ็ครับโทรศัพท์ไปอ่านแปบเดียวก็พยักหน้าหนึ่งครั้ง
   

“It’s on my way. (ทางผ่านพอดี)” ไอติมรู้ว่าแซ็คจะไปส่งอย่างที่บอกตอนกำลังแต่งตัวเพราะเขาพยักหน้าพร้อมกับส่งโทรศัพท์คืนให้ แซ็คกดรีโมตเปิดรถ ไอติมเปิดประตูฝั่งตัวเองแล้วขึ้นไปนั่ง แซ็คขึ้นประจำที่ ถอยรถออกจากโรงรถก่อนจะเบรกเมื่อพ้นเขตประตู เขาเดินลงไปปิดประตูโรงรถ ล็อคเรียบร้อยก็กลับมาขึ้นรถแล้วถอยรถออกไปบนถนน ก่อนจะขับออกไปจากบริเวณบ้าน
   

“Thank you to send me home.” ไอติมกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มที่แซ็คจะไปส่งถึงที่พักของตัวเอง แซ็คบิดหน้าไปมองเจ้าเด็กชอบลวนลามแล้วยักคิ้วทั้งสองข้างหนึ่งที
   

“Do you play facebook? (คุณเล่นเฟซบุ๊กมั้ย)” ไอติมมีเพจของแซ็คแล้วก็จริง แต่ก็อยากลองถามดู เผื่อแซ็คจะมีเฟซบุ๊กที่เป็นส่วนตัวของตัวเองอีกที
   

“No. Anthony run my page. Not me. So I don’t have my own account. (ไม่มี แอนโทนี่เป็นคนดูแลเพจฉัน ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่มีแอคเค้าท์ส่วนตัวหรอก)” ไอติมพยักหน้าลงแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ คิดว่าตัวเองน่าจะเข้าใจถูกว่าแซ็คบอกว่าไม่มีเฟซบุ๊กส่วนตัว
   

ไอติมนั่งมองทางข้างหน้านิ่ง แซ็คหันไปมองแบบเรียบเฉยแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปมองถนนตามเดิม แต่พักเดียวเขาก็เห็นทางหางตาว่าเด็กมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นเกม เขาเลยปล่อยให้เด็กมันเล่นเกมและขับรถต่อไปเงียบๆ
   

หลังจากที่ไอติมเข้าสู่โหมดเกมของตัวเอง บรรยากาศในรถก็เงียบ มีเพียงเสียงแอร์ในรถที่ดังเบา ๆ ต่างคนต่างไม่ได้พูดอะไร ทั้งที่จริงไอติมอยากจะถาม อยากจะพูดอะไรกับแซ็คอีกมากมาย แต่พอจะเปิดปากจริง ๆ ก็เก็บเงียบ และปล่อยให้มันตกหล่นไป
   

สมหวังแล้วไอติม และหมดโควต้าตามที่คุยกันไว้แล้วด้วย



แต่ไอติมแค่คิดว่า เราก็ยังเป็นเพื่อน หรือเป็นพี่น้องต่อกันได้ ก็คุยกันต่อไปแบบที่ฝรั่งชอบพูดว่าคีพอินทัชอะไรสักอย่าง “Phone number, okay? (เบอร์โทรศัพท์ล่ะได้มั้ย)” ไอติมละสายตาจากหน้าจอมือถือหันไปถามคนข้างๆ
   

“Not okay. We don’t need to keep in touch. But if we see each other next time we could say hello. (ไม่โอเค เราไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน แต่ถ้าเราเจอกันครั้งต่อไป เราก็ทักทายกันได้)” แซ็คหันไปมองหน้ามึนงงของไอติมครู่สั้น ๆ ก่อนหันกลับไปมองถนน คิดในใจว่าเด็กมันจะรู้เรื่องมั้ย แต่สุดท้ายก็ได้ยินเสียงใส ๆ พูดขึ้น
   

“Okay, say hello next time.” แซ็คหันไปมองเจ้าตัวจ้อย มันยกนิ้วโป้งสองมือขึ้นพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง เขายิ้มบางตอบและกลับไปสนใจถนนตามเดิม
   

ขับมาอีกสิบนาทีก็ถึงที่พักของไอติม แซ็คเห็นผู้ชายตัวสูงผิวเข้มคนหนึ่งยืนรออยู่ที่ลานจอดรถ เขาเขม้นมองสักแปบก็คลับคล้ายคลับคลาว่าจะคุ้นหน้าอีกฝ่าย แต่ก็นึกไม่ออกในทันที เขาไม่ได้สนใจใคร่รู้ถึงขนาดต้องเค้นความจำตัวเอง ทำเพียงตีไฟเลี้ยวขวาเข้าไปในลานจอดรถที่อยู่ตรงข้ามกับหอพักแห่งหนึ่งก่อนจะจอดรถนิ่ง
   

“Thank you. (ขอบคุณฮะ)” ไอติมว่าพลางปลดเข็มขัดนิรภัยและส่งยิ้มอ่อนให้แซ็ค
   

“Fine. (ไม่เป็นไร)” ไอติมยังคงยิ้มและยิ้มกริ่มขึ้นกว่าเดิมอีกนิด ก่อนที่จะยื่นหน้าไปหอมแก้มขวาของแซ็คหนึ่งฟอดแล้วก็ดึงตัวกลับไปนั่งที่เดิม
   

“I’m happy. (ผมมีความสุข)” แซ็คมองรอยยิ้มและดวงตาที่จริงใจด้วยความรู้สึกอึกอัก 
   

“See you next time and say hello.” จนกระทั่งร่างเล็กโบกมือให้ แล้วเปิดประตูลงรถไปนั่นแหละเขาถึงหายรู้สึกอึ้งและอึกอัก ๆ พอได้สติกลับมา แซ็คก็เลื่อนสายตาไปมองเจ้าเด็กเสียบริสุทธิ์ให้กับเขาแล้ว เดินเข้าไปกอดผู้ชายคนที่เขาเห็นตอนขับรถเข้ามาในลานจอดรถ ทั้งคู่ยืนกอดและยืนคุยกันอยู่พักนึง ก่อนจะพากันเดินข้ามถนนไปยังหอพักฝั่งตรงข้าม โดยที่ผู้ชายคนนั้นช่วยประคองเจ้าเด็กขี้ลวนลามเดินไปตลอดทางจนหายเข้าไปในตึก
   

แซ็คนั่งนิ่งคิดอะไรสักพักก่อนที่จะขับรถออกไปจากลานจอดรถ เขายกมือขวาขึ้นจับแก้มที่ไอติมหอมไว้ก่อนจากกันเมื่อกี้นี้
   

I’m happy…


แซ็คปล่อยมือออกจากแก้มพร้อมกับผ่อนลมหายใจยาว ๆ เขาตั้งสติขับรถต่อไป มุ่งหน้าสู่ปลายทางของตัวเองบ้าง
   





ใช้เวลาเหยียบไม่เกินยี่สิบนาที รถของแซ็คก็ขึ้นมาจอดใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงลานกว้างข้างรั้วบ้านหลังหนึ่งบนเนินเขาสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองลอสแองเจลิส แซ็คบิดกุญแจดับรถ ใส่เบรกมือ เปิดประตูลงไปข้างล่างแล้วกดล็อครถ เขาเดินจากลานกว้างไปที่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่สองชั้น กดกริ่งหน้าบ้านหนึ่งครั้ง ยืนรอไม่ถึงนาทีประตูบานไม้ก็เลื่อนออกช้า ๆ ราวกับว่าคนในบ้านรอเสียงกริ่งนี้อยู่แล้ว
   

แซ็คก้าวเท้าเดินเข้าไปในบริเวณบ้านตอนที่ประตูเลื่อนเปิดไปได้ครึ่งหนึ่ง เบื้องหน้าของเขาเป็นบ้านปูนสีครีมสองชั้น หลังคาปูกระเบื้องแผ่นเล็กสีน้ำตาล และความใหญ่ของที่นี่ก็ไม่ได้ใหญ่แค่ตัวบ้าน แต่พื้นที่รอบข้างของบ้านลากยาวไปจนถึงหลังบ้านมีพื้นที่ใช้สอยอย่างกว้างขวาง แซ็คเดินขึ้นบันไดไม้สามขั้นตรงหน้าบ้านพลางผิวปาก เอื้อมมือขวาไปบิดลูกบิดสีดำเพื่อเปิดประตูกระจกขอบไม้สีน้ำตาลเข้ม ตอนที่เขาดันประตูเข้าไปด้านใน ประตูรั้วบ้านก็ค่อย ๆ เลื่อนปิดตามหลัง และยังไม่ทันจะได้ปิดประตูบ้านที่เพิ่งเปิดเข้ามา แซ็คก็ชะงักกึกอยู่กับที่เพราะร่างสูงขาวในชุดเสื้อคลุมยาวระพื้นสีแดงมันเลื่อมกำลังยืนส่งยิ้มให้เขาอยู่
   

“Where have you been? (หายไปไหนมาเนี่ย)”


 



:mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-05-2018 21:40:24
สมหวังแล้วนะไอติม.  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 05-05-2018 21:40:29
ได้พี่ซักครั้งหนูจะตั้งใจเรียน ไง งือออ น่าจะโอเคนะ เป็นเราก็โอเค 5555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 05-05-2018 23:58:33
สมหวังละนะไอติม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 06-05-2018 00:41:17
ตามมาจากเอเลี่ยนแบบไม่ได้ตั้งใจ ดีงามจังค่ะคุณขา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-05-2018 01:06:20
มิสชั่นคอมพลีสแล้วน้องไอติม ยินดีด้วยจ้า   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 07-05-2018 12:17:33
เอ ทำไมเรากดบวกเป็ดไม่ได้อ่า กดได้แต่การให้คะแนน ??????  :mew2:

ว่าแต่ไอติมมมลูก ทำไมอ่านคำว่าแฮปปี้ของลูกแล้วมันรู้สึกหน่วงๆแบบนี้ล่ะนี่ หนทางยังอีกยาวไกลแน่ๆ

:pig4: คุณขุ่นเจ้จ้า


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 07-05-2018 16:21:43
มันเป็นการจินตนาการไปเองว่าครั้งแรกมักจะดีและน่าจดจำ

เอาใจช่วยน้องติมละกัน ไบรอั้น แซค เย็นชา ชาเย็นมาก


ก็เข้าใจแหละ

เฮ้อออ ไม่รู้ว่าควรปลอบ หรือยินดีด้วยดี
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 07-05-2018 22:07:56
เอ ทำไมเรากดบวกเป็ดไม่ได้อ่า กดได้แต่การให้คะแนน ??????  :mew2:

ว่าแต่ไอติมมมลูก ทำไมอ่านคำว่าแฮปปี้ของลูกแล้วมันรู้สึกหน่วงๆแบบนี้ล่ะนี่ หนทางยังอีกยาวไกลแน่ๆ

:pig4: คุณขุ่นเจ้จ้า


เราก็กดบวกเป็ดให้คนอ่านไม่ได้มาสักระยะแล้วค่ะ ล่าสุดคือปุ่มกดบวกหายไปเลยอะ เป็นอะไรหนอ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 07-05-2018 23:45:34
เรื่องปุ่มกดบวกเป็ด ตอนนี้เราปิดการใช้งานไปก่อนนะครับผม มีประกาศอยู่ในห้องพูดคุยทั่วไป สาเหตุหลักๆที่เราปิดปุ่มไปก่อน เพราะว่าเนื่องจากขนาดข้อมูลของเล้าเยอะขึ่้นพอสมควรครับ แล้วเล้ามันทำงานช้าลง ในการที่จะปรับให้มันทำงานเร็วเท่าเดิมหรืออยู่ในระดับที่น่าพอใจ เราเลยต้องปิดการใช้งานบางอย่างออก ทางโปรแกรมเมอร์เลือกปิดตรงจุดนี้ฮะ ที่คุณเจ้กดบวกไม่ได้มาสักระยะเพราะว่าปิดการใช้งานไปก่อนหน้านี้ แต่เพิ่งทางแอดมินจะซ่อนปุ่มไปเร็วๆนี้น่ะครับ ตรงนี้ต้องขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะครับ

อารมณ์ต่อเนื่องได้ดีมากฮะ เห็นความเฉยชาและราบเรียบของแซ็ค ที่สื่อถึงความไม่ได้ผูกพันหรือมีอารมณ์ลึกซึ้งได้ดี ซึ่งตรงนี้ก็เหมาะสมครับ เพราะอาชีพแซ็คเป็นนักแสดงหนังผู้ใหญ่ คงเจอเรื่องแบบนี้จนเอียนแล้วแหละมั้ง ทำได้เหมือนทำงานทั่วๆไป ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมสักเท่าไหร่ บทบรรยายรูปร่างใช้ได้เลยครับ เร้าอารมณ์ได้ดี แต่ก็อย่างว่า ส่วนตัวผมชอบโฟกัสกับปมตัวละครหรือรายละเอียดของพล็อตมากกว่าน่ะครับ (หัวเราะ) อย่างไอติมที่ผมชอบเรื่องปมชีวิตเขา มุมที่เขามองเซ็กซ์ หรือทักษะในด้านกามประยุกต์ (มองคนแซ่บ (หัวเราะ) อยากให้ได้แซ่บกับหลายๆคนจริงๆ (ฮา) อย่าไปยอมแพ้แม่นางเรียวจันทร์!) แล้วก็แดนนี่ที่อยากเป็นโปรโมเตอร์มาก (ยกป้ายเชียร์เต็มที่ ไม่ได้เชียร์ให้เป็นพระเอกนะครับ แต่ให้มีความเด่นดังไม่แพ้หนุ่มแซ็คของเรา (ฮา) ให้เป็นตัวละครรองที่มีความเด่นในระดับตัวละครหลัก)
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: LAFIA ที่ 08-05-2018 00:44:44
เรารู้สึกชอบไอติมนะ นางน่าเอ็นดูววว นางดูเป็นคนตรง ไม่ซีเรียส ทำตามความรู้สึก และแน่นอนในอนาคตจากการเกริ่นของขุ่นเจ้ อีแซ็คเป็นฝ่ายตามง้อชัวๆ 55555555  :hao7: แต่กว่าจะถึงวันนั้น ไอติมของเจ้ๆคงช้ำน่าดู เป็นคนแสดงความรู้สึกตรงๆ เวลาเจ็บก็เจ็บตรงๆ หนักแน่นอน  :hao5: ตอนนี้ก็มีความสุขนะที่นางได้เอากับคนที่นางฝัน แต่ทำไมเหมือนมันไม่สุดอะ ขนาดตอนเอากัน อ่านละไม่มีอารมณ์เลยอะ มันเศร้าแทนมากๆ ขุ่นเจ้สื่ออารมณ์ทางตัวหนังสือดีมากๆอะ เห้อ เป็นฉากเซ็กแรกในเล้าที่อิชั้นอ่านแล้วไม่สยิวกิ้วเลย มันหน่วง  :z3: ยิ่งตอนน้องพยายามดันตัวมาจดจำช่วงเวลา ใบหน้า ท่าทางของแซ็ค โอ้ยยย เจ็บเล็กๆในใจ  :heaven ดราม่าของเรื่องนี้ดูท่าจะรับได้ง่ายกว่าอียักษ์กับเอเลี่ยนนะ เพราะไอติมเลยนะเนี่ย ไม่รู้สิ ชอบนายเอกแบบนี้ นางใส ฮืลลลล  :o12: เราเจ็บปวดมากกับดราม่าของอียักษ์กับเอเลี่ยน เราจะพักอ่านตรงนู้นแล้วมารอน้องไอติมอยู่ที่นี่แทน วอนขุ่นเจ้เห็นใจนักอ่านน้อยๆที่หนีน้ำมาด้วย จะรอเรื่องนี้สุดใจขาดดิ้น อย่าห่างเป็นเดือนๆอีกนะ  :hao5: เป็นกำลังใจจ้า ชอบการเขียนของขุ่นเจ้ม้ากกกกมาก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: มาดามพีพี ที่ 11-05-2018 20:54:30
สมความตั้งใจไอติม แต่ก็อดหน่วงไม่ได้..
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.6: Sexperience : 05.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-05-2018 21:18:06
อื้อหือ ไอติมมีความทุ่มเทและมุ่งมั่นมาก
เดินทางไกลเพื่อภารกิจนี้กันเลยทีเดียว
แล้วอะไรก็พอดี ก็เป็นใจมาก ทั้งบังเอิญเจอ
ทั้งได้บัตร super vip แต่ยังไม่รู้สิทธิ์ตัวเอง
ตอนนี้ก็สมหวังแล้วนะ ขอแค่ครั้งเดียวก็ได้แล้ว
แต่น้องดูนอยด์มากจริงๆ เป็นคนคิดบวก คิดดี
แต่บางทีอาจไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
นอกจากไอติมจะไม่คิดอะไรต่อ แอบสงสาร

แซ็คดูวกวน สับสนกับตัวเองนะคะ จะยังไง
จะชอบก็ไม่ใช่ จะไม่ชอบก็ไม่ดูจะเป็นแบบนั้น
แล้วแซ็คกล้าทำแบบนี้ ต้องมีความรู้สึกดีบ้างแหละ
แค่ยังไม่รู้ตัว คงไม่แค่อยากตัดปัญหาหรอก

เดนเป็นเพื่อนที่ดีมาก ดีเวอร์มากจริงๆ
จนอยากให้เปลี่ยนเป็นเดนติม 55555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.7: Think of you : 22.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 22-05-2018 20:21:43
Fall in lust - Chapter 7 :: Think of you. (คิดถึง)



     “มายืนแดกแบบนี้ หายเจ็บตูดแล้วสินะ” ไอติมในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นกำลังยืนกินขนมหน้าตู้เย็นในหอพักของโรเบิร์ตหันไปมองเพื่อนสนิทแล้วคลี่ยิ้มกว้างทั้งที่เยลลี่ยังเต็มปาก
   

“อื้อ ดีขึ้น แหยบ ๆ แล้ว แหยบ ๆ แหละ หายไข้ แจ๊บๆ” เดนนี่ขมวดคิ้วให้กับภาษาแดกไปพูดไปของเพื่อน
   

“มึงใจเย็น ๆ กูไม่ได้รีบไปไหน กูฟังมึงได้ทั้งวัน” ไอติมยิ้มกว้างพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะฮิฮะ เคี้ยวเยลลี่หมีที่หอบมาจากเมืองไทยแล้วเอามาแช่เย็นไว้ให้ละเอียดก่อนกลืนลงคอ
   

“ไม่เจ็บ ไม่ไข้ละ จริง ๆ ก็ไม่ได้เจ็บนะ แค่เสียด ๆ เวลาเดิน”
   

“แค่เสียด ๆ นะ แต่ไข้แดกไปสี่วัน” ไอติมทำปากยื่น
   

“ก็กูเพิ่งเคยโดนเอาอะ ของใหญ่ด้วย ร่างกายก็ต้องมีอ่อนแอกันบ้างดิ” ไอติมทำปากจู๋ หยิบเยลลี่สีเหลืองเข้าปากหนึ่งชิ้น เดนนี่มองเพื่อนตัวเล็กของตัวเองแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ
   

“มึงจะไม่ร้องไห้อีกแล้วนะ” ไอติมพยักหน้าหงึกๆ
   

“ไม่ร้องแล้ว วันนั้นมันแค่โหวงเหวงแปลก ๆ อะ กูก็บอกไม่ถูก แต่มึงเคยเป็นมั้ยอะ มันโหวงเหวงในอก” ไอติมพยายามอธิบายความรู้สึกของตัวเองในวันนั้นหลังจากแซ็คมาส่งแล้วก็กลับไป
   

ไอติมร้องไห้กับเดนนี่ ร้องแบบงง ๆ กับตัวเอง มันเป็นความรู้สึกใจหายไปได้ยังไงเขาก็ไม่เข้าใจ แต่มันเหมือนหัวใจหล่นตุ้บแล้วในอกก็กลวงโบ๋ตอนที่มองรถแซ็คแล่นออกไปจากระเบียงหน้าห้อง ไอติมไม่ได้ร้องไห้โฮฟูมฟาย แค่น้ำตามันไหลออกมาแบบห้ามไม่ได้ ไหลออกมาแบบเหงา ๆ เงียบ ๆ ไอติมกอดเดนนี่ไว้เป็นชั่วโมง ร้องไห้อยู่แบบนั้นจนกระทั่งหลับไป ตื่นมาอีกทีตอนเย็น ก็งง ๆ เบลอ ๆ แล้วก็ไข้ขึ้น


เขางอแงให้เดนนี่อยู่เป็นเพื่อนอย่าเพิ่งกลับซานฟรานฯ เดนนี่รับปากและคอยอยู่ดูแลเขา ไอติมนอนกอดเดนไว้แทบจะตลอดทั้งวันเพราะความเหงาใจและความงอแงคิดถึงแม่กับน้าแพน เดนนี่เลยสรุปได้อย่างหนึ่งว่าไอติมกำลังเป็นโฮมซิก เลยโทรกลับไปหาที่บ้านไอติมให้ พอได้คุยกับแม่กับน้าแพน เจ้าเด็กมุ่งมั่นที่ห่อเหี่ยวไปช่วงหนึ่งก็กลับมาสดใสตามเดิม แต่ยังมีอาการไข้อยู่เลยหงอย ๆ อยู่สี่วัน


“แต่พอได้เห็นหน้าแม่กับน้าแพนก็หายละ มีมึงอยู่ด้วยอีกต่างหาก เดนนี่เพื่อนร้ากกกก” เจ้าของชื่อเบะปากด้วยความหมั่นไส้ ไอติมหัวเราะฮิๆ


“จะไปเที่ยวมั้ยดิสนีย์แลนด์อะ”


“ไป!” ไอติมตอบทันควัน ช่วงที่ป่วยอ้อนให้เดนนี่พาไปเที่ยวสวนสนุกชื่อดังก้องโลกอันนี้ เพื่อนตัวโตรับปากว่าถ้าหายไข้จะพาไปดูมิกกี้เม้าส์กับมินนี่


“งั้นไปอาบน้ำแต่งตัว” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ อย่างเร็ว หันตัวไปเปิดตู้เย็น เก็บถ้วยใส่เยลลี่หมีไว้ในตู้เย็นตามเดิม


“ชวนน้องโรเบิร์ตกับเพื่อนไปมั้ย”


“มันมีทำรายงาน” ไอติมพยักหน้าแล้วเดินผ่านเดนนี่ไปทางห้องนอนตัวเอง หนุ่มลูกครึ่งเดินตามเพื่อนไปช้า ๆ ไปนั่งรอตรงโถงกลางของห้อง มองร่างสูงผอมของไอติมหายเข้าไปในห้องนอนก่อนจะถอนหายใจพร้อมกับนั่งลงบนโซฟาสีเทา


โหวงเหวงในอกงั้นเหรอ?


วันนั้นที่มันกลับมาหลังจากไปเสียตัวให้ไอ้พระเอกหนังโป๊สมใจของมัน ไอติมเหมือนคนงง ๆ หลงทาง มันไม่ฝืนตัวเองอะไรเลย ตอนที่มันกอดเขาหลังจากลงรถมา น้ำตามันก็ไหลแล้วก็ร้องไห้อย่างกับเด็ก พอรถไอ้พระเอกนั่นขับออกไป ก็ยืนมองตาละห้อยทั้งน้ำตา ทำอย่างกับเด็กนักเรียนที่ถูกพ่อพามาส่งทิ้งไว้ที่โรงเรียนประจำ




‘มึงรักมันเหรอ ถึงร้องไห้ขนาดนี้เนี่ย’ เขาถามด้วยความข้องใจ เพราะมันร้องไห้อย่างกับโดนไอ้พระเอกนั่นหักอกมา


‘ไม่ใช่ ฮึก ไม่ได้รักแบบนั้น กูดีใจ แล้วก็ใจไม่สบายด้วย ฮึก’ เดนนี่ย่นคิ้ว มองเพื่อนสนิทตัวเองน้ำตาไหลอาบแก้ม นั่งสะอื้นฮัก ก่อนจะกอดเขาเอาไว้ราวกับหาที่ยึดเหนี่ยว


‘ไม่ได้รักแบบนั้นแล้วรักแบบไหน แล้วอะไรคือใจไม่สบายวะ เป็นยังไงเนี่ย’ เดนนี่ลูบหลังเพื่อนเป็นการปลอบโยน


‘รักแบบติ่งคนนึงแหละ ฮึก ได้อยู่ด้วยกันทั้งคืนแบบนั้น ฮึก ๆ มันโคตรฟินอะเดน’ หนุ่มลูกครึ่งทำหน้าเอ๋อ เพราะไม่เข้าใจที่มันพูด แถมยังไม่ได้คำตอบอีกด้วยว่าใจไม่สบายของไอ้ติม มันมีอาการลักษณะไหน


‘ฟินแล้วร้องไห้ทำไมวะ’


‘ก็มันฟินเกินอะ พอฟินแล้วต้องห่างกันมันก็ฟูลๆ’ เอ๊า ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมอีก ฟูลอะไรวะ


‘ฟูลอะไรของมึง’


‘ก็ฟูลอะ ไว้บอกว่าผิดหวัง ฟูลไง อึก ฟูล’ เดนนี่กะพรบิตาปริบ ๆ ทั้งที่คิ้วยังย่นเข้ากัน สีหน้ายังคงงงไม่เข้าใจ เขาก้มลงมองหัวทุยของเพื่อน มองด้วยความไม่แน่ใจก่อนเอ่ยปากถาม


‘มึงจะพูดว่าเฟลรึเปล่า’


‘เออ ฮึก เออ ใช่ เฟล’ เดนนี่พ่นลมหายใจ มุมปากขวากระตุกเป็นรอยยิ้มขำ เขายกมือซ้ายขึ้นยีหัวไอติมไปที


‘ห่าเอ๊ย หมดมู้ดเศร้าหมด…’ ไอติมกอดเขาไว้ทั้งที่ยังสะอื้นเป็นระยะ


‘…มึงคิดถึงบ้านด้วยรึเปล่า โทรหาแม่กับน้าแพนมั้ย’





แล้วพอมันได้คุยกับสองคนที่มันรักที่สุด มันก็อาการดีขึ้น ทั้งแม่ทั้งน้าเป็นห่วงมันจนแทบจะพร้อมตีตั๋วมาดูแลไอ้ติมซะตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าเขาไม่บอกว่าจะอยู่ดูแลมัน คิดว่าสองคนนั้นก็พร้อมตีตั๋วมาจริง ๆ นั่นแหละ


“ป่ะเดน พร้อม” เดนนี่ผินหน้าไปมองไอติมในชุดลำลองทั่วไป เสื้อยืด กางเกงยีนรัดรูปสีน้ำเงินเข้มที่ทำให้ขามันยาวขึ้นไปอีก แต่บนหัวของมันนั้นไม่ใช่ทั่วไป มันไปเอาที่คาดผมติดตุ๊กตามิกกี้เม้าส์ตัวใหญ่กว่าหัวของมันมาจากไหนกัน


“มึงเอามาด้วยเหรอวะ” ไอติมทำหน้างงและพยักหน้าหนึ่งที


“อื้อ เอามาดิ ทำไมอะ”


“มึงไปหาซื้อมาจากไหนเนี่ย”


“ทำเอง ซื้อที่คาดผมกับตุ๊กตามา ตุ๊กตาของแท้นะเว้ยอันเนี้ย” มันว่าด้วยความภูมิใจ เดนนี่พยักหน้าขึ้นหนึ่งทีด้วยสีหน้าประมาณว่า เออ แล้วแต่มึงเหอะ


“เอา ไปก็ไป จะได้เที่ยวให้เต็มที่”


“Let’s go!” ไอติมว่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น หน้าตากระตือรือร้น เดนนี่ลุกขึ้นยืนและยิ้มมุมปากหน่อย ๆ ดีใจที่มันหายโหวงเหวงในอกอย่างที่มันว่าแล้ว


Ringgg Ringgg Ringgg~


เสียงโทรศัพท์ของไอติมดังขึ้นตอนที่กำลังเดินออกจากห้องพัก เจ้าของโทรศัพท์หยิบอกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนในขณะที่ก้าวเท้าออกไปนอกห้อง ดวงตาสีน้ำตาลมองหน้าจอแล้วก็คลี่ยิ้มน้อยๆ


“ฮาโหล แอนโทนี่” ไอติมเดินไปยืนชิดริมระเบียง มองถนนหน้าหอพักที่มีรถแล่นผ่านนาน ๆ ครั้ง


[ผุ่งนี้แซ็คมี้ถ่ายแม็กกาซีน หยักมามั้ย] ไอติมยิ้มกว้าง ตาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น เดนนี่ยื่นมือซ้ายไปจับมือขวาของเพื่อนสนิทแล้วเดินจูงมือมันลงบนไดไปข้างล่าง


“อยากฮะ ผมไปๆ”


[โอเค เดี๋ยวฉั๋นส่งแพนที่กับวิธีเดิ่นทางหั้ยในวอทสแอพ]


“โอ๊เข่ ได้เลยฮะ เอ้อ แอนโทนี่ ไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์กันมั้ย ผมกำลังจะไปกับเพื่อน” ไอติมเดินตามแรงจูงของเดนนี่จนกระทั่งออกมานอกหอพัก


[หืม ดิสนีย์หลอ]


“ชั่ยยย ไปมั้ยฮะ ผมเพิ่งเคยไปครั้งแรก”


[โอ้ ฉั๋นว่า… / Leave me alone! I don’t want to… enough! (อย่ายุ่งกับผม ผมไม่อยาก… พอแล้ว!)] ไอติมตาโตตกใจ ไม่ใช่ตกใจเพราะตัวเองเข้าใจในคำพูดที่ลอดออกมา แต่เสียงมันดังจนชวนตกใจต่างหาก เขากะพริบตาปริบ ๆ เดินข้ามถนนไปที่รถพร้อมเดนนี่ เสียงโหวกเหวกโวยวายค่อย ๆ จางหายไปเหมือนกับว่าแอนโทนี่เดินออกมาจากจุดนั้นแล้ว


“โอ๊ะ เสียงแซ็ค แซ็ครึเปล่า ยู้ฮู”


[เอ่อ ก็… เอ้อ ใช่] ไอติมยิ้มกว้างในขณะที่เดนนี่จัดการดันเขาเข้าไปนั่งในรถให้เสร็จสรรพ และปิดประตูให้ด้วย


“คุณอยู่กับแซ็คเหรอฮะตอนนี้”


[ก่อ… ก็… หมั่ยด้ายตั้งใจมาอยุ่ด้วยหลอก มาคุยงานน่ะ] ไอติมย่นคิ้ว เลื่อนเข็มขัดนิรภัยคาดตัวตามที่เดนนี่สะกิดบอก


“ทำไมต้องตะโกนคุยกันด้วยอ่า” แอนโทนี่หัวเราะเบา ๆ ตอนนี้ไอติมไม่ได้ยินเสียงการตะโกนคุยกันอีกแล้ว มีแต่ความเงียบสงบ


[เอ่าเป่นว่า ผุ่งนี้พบกันนะ เอาบัตรติดตัวหม่าด้วย]


“ได้ครับ ซียูทูมอโร่วฮะ”


[Bye, see you tomorrow.] ไอติมดึงโทรศัพท์ออกจากหู เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงยีน ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วดึงกระเป๋าเป้มาไว้บนตักก่อนจะคาดเข็มขัดไว้ตามเดิม


“เที่ยวตามลิสต์หมดแล้วมึงจะกลับไปซานฟรานฯ กับกูเลยมั้ย” เดนนี่ถามเพื่อความชัวร์อีกที เพราะตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าแพลนมันจะเป็นแบบไหนยังไงบ้าง


“ที่เที่ยวก็มีเท่าที่มึงบอกใช่เปล่า”


“ถ้ามึงจะอยู่แต่แค่ในเมืองนี้ก็มีเท่านั้นแหละที่เด่น ๆ ดิสนีย์ ยูนิเวอร์ซัล สวนสนุกซานต้า พิพิธภัณฑ์ ย่านเบเวอร์รี่ฮิลล์ ก็มีประมาณนี้ ไอ้แฮร์รี่ที่มึงอยากไปมันก็อยู่ที่ฟลอริด้า ที่นี่ยังไม่มี มีแค่ข่าวว่าจะมาเปิด แต่ยังไม่มาสักที” ไอติมขยับมุมปากดุ๊กดิ๊กไปมาสักพักก่อนจะพยักหน้า


“งั้นก็กลับเลยแหละเนอะ เสียตัวก็เสียแล้ว เที่ยวก็เที่ยวแล้ว กลับซานฟรานฯ เที่ยวอีกสักอาทิตย์ก็กลับไทย จะแวะไปหาพวกเพื่อน ๆ น้าแพนด้วย ยังไม่ได้ไปสวัสดีเขาเลยอ่า” ไอติมว่าเจื้อยแจ้ว พูดไปคิดไปว่าจะทำอะไรอีกบ้าง


“เออ ตามนี้” ว่าไปเดนนี่ก็ดีใจที่ไอ้ติมมันเสียตัวสมใจของมันเร็วกว่าที่คิด มันจะได้ไม่เอ้อระเหยลอยไปลอยมาอยู่ที่นี่นานนัก ถือว่ามันคอมพลีทแล้ว สี่วันที่ผ่านมา ดูจากท่าทางของมันก็ไม่เห็นว่ามันโหยหาหรืออยากกลับไปได้เสียกับไอ้พระเอกนั่นอีก


หรือเพราะตอนนั้นมันไม่สบายวะ มันเลยหมดแรงอยากร่าน


“คิดถึงแซ็คอะเดน” นั่นไง เป็นเพราะมันไม่สบายจริง ๆ ด้วย


“จู่ ๆ ทำไมถึงคิดถึงมัน มึงรักมันมั้ยเนี่ย” พฤติกรรมมันดูเกินติ่งไปละ มาคิดทงคิดถึง


“รักแบบติ่งไง มึงอะ…” ไอติมย่นคิ้ว เดนเลื่อนสายตามองมิกกี้เม้าส์บนหัวมันที่สั่นดุ๊กดิ๊ก


“…คิดถึงแบบติ่งคิดถึงคนที่เราชอบอะ เหมือนที่มึงเคยไปเจอนักฟุตบอลคนโปรดของมึง แล้วพอมึงกลับมาไทยมึงก็คิดถึงเขาไง” เดนนี่มองถนนไปก็คิดถึงความรู้สึกนั้นไป ช่วงปีสามพ่อเขาพาไปดูการแข่งขันบอลนัดสำคัญของสองทีมยักษ์ใหญ่ และเขาก็ได้มีโอกาสเข้าไปถ่ายรูปกับนักฟุตบอลคนโปรด คือกำลังคิดว่าตอนนั้นตัวเองรู้สึกอะไรแบบนี้ แนวนี้ เหมือนที่ไอ้ติมมันว่ามั้ย


“อ่อ เหรอวะ เออ ก็น่าจะใช่อะ” เขาก็ไม่แน่ใจ เพราะเขาแค่ถ่ายรูปด้วย ไม่ได้มีอะไรกันแบบที่ไอ้ห่าติมมันมี ไม่รู้ว่าความคิดถึงของมันกับเขาเหมือนกันแค่ไหน


“เมื่อกี้กูได้ยินเสียงเขา กูเลยยิ่งคิดถึง…” ไอติมทำปากเป็ด เดนนี่กะพริบตาปริบ ๆ แล้วพักเดียวไอ้เชี่ยติมก็ยิ้มเขิน ห่อไหล่อย่างกับสาวน้อยน่ารัก


“…คิๆ” เดนนี่เบิกตากว้าง มองเพื่อนด้วยความรู้สึกประหลาด


“มึงอย่าบอกนะว่าอยากนอนกับมันอีกอะ” ไอติมหันมองเดนนี่ทั้งที่รอยยิ้มยังกว้างอย่างกับคนโรคจิต


“ถ้าได้นอนก็ดีออก กูก็ชอบ”


“แต่มึงไม่แตกนะ แล้วจากที่มึงเล่า มันแม่งก็แค่เอา ๆ ให้เสร็จไปไม่ใช่เหรอ” ไอติมทำปากยื่น คิ้วย่นยุบยิบ หน้าตาครุ่นคิด


“เขาจับกูคว่ำหน้า ถ้ามีอีกครั้งกูว่าจะนอนหงายแล้วชัก” เดนนี่มองเพื่อนด้วยความไม่แน่ใจ กำลังไม่แน่ใจว่ามันคิดอะไรอยู่กันแน่


“ยังไงของมึงเนี่ย” ไอติมแสร้งมองค้อนเพื่อน


“ก็แค่พูด กูรู้น่าว่าได้แล้ว แค่บอกว่าถ้าได้อีกก็ดี” เดนนี่โล่งอกไปนิดหนึ่ง แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้นแหละ


“กูนึกสงสัย จากนี้ไปมึงจะให้ผู้ชายคนอื่นเอาป้ะ”


“ก็ถ้าถูกใจก็ให้ดิ ตอนนี้ถ้ามึงอยากเอากู กูพร้อมแล้วนะเดน เพราะถือว่ากูเสียบริสุทธิ์ให้แซ็คแล้ว” ไอติมยิ้มคิกคัก ยกมือซ้ายไปจิ้มกล้ามล่ำ ๆ ของเพื่อนลูกครึ่งรูปหล่อ เดนนี่ยิ้มเหี้ยม


“หึ หมดโควต้าแล้วโว้ย ตอนกูเสนอให้ดันไม่สนอง ตอนนี้มาขอร้องแทบเท้าพี่ พี่ก็ไม่ให้หรอกนะจ๊ะหนู” ไอติมทำเสียงชิเบา ๆ แกล้งมองจิกเพื่อนสนิทตัวเองไปที


“เออ เงี่ยนละอย่าเผลอเอากูนะ กูก็ไม่ให้เหมือนกันแหละ” ไอติมว่าเหมือนเด็กที่ไม่ยอมแพ้ เดนนี่หัวเราะ ยกมือขวาไปผลักหัวเพื่อนทีนึงจนมิกกี้เม้าส์สั่นสะเทือน


“กูชักว่าวได้เพื่อน ไม่ต้องง้อรูมึงหรอก” ไอติมหันไปแลบลิ้นใส่เดนนี่ หนุ่มลูกครึ่งส่ายหัวระอาแต่หน้าก็ยิ้มแย้มเอ็นดู






“พลุ! พลุลุลุ”


“เออ พลุ เมืองไทยก็มีมั้ยไอ้ห่า”


“เอ๊า แต่นี่มันพลุดิสนีย์เลยนะ วู้วววว”


ถ้าบอกว่าเดนนี่เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวแล้วพาลูกมาเที่ยว เขาคิดว่าอาจจะมีคนเชื่อเขาก็เป็นได้ เพราะพฤติกรรมของเพื่อนเขาตั้งแต่รอแลกบัตร เดินเข้ามาในดิสนีย์แลนด์มันช่างดีดซะเหลือเกิน เจอนักดนตรีบนถนนเส้นหลักของดิสนีย์ฯ มันก็วิ่งเข้าไปร่วมร้องร่วมเต้นกับเขา มีเขาเป็นตากล้องคอยถ่ายรูปให้โดยใช้ไอโฟนสี่เอสนี่แหละ กล้องที่เอามาก็คล้องคอเอาไว้อย่างนั้นไม่ได้ทำอะไร ดีดอย่างนั้นตั้งแต่เช้าและเป็นทุกโซนที่มันอยากไป ของเล่นเด็กเล็กเด็กน้อยมันก็กรี๊ดกร๊าดของมัน


พอไปเล่นอันที่หวาดเสียวที่สุดอย่างโรลเล่อร์โคสเตอร์ อันนี้เขาโคตรขำ มันนิ่งเงียบ ตัวเกร็ง พอลงมาก็รีบดมยาดมใหญ่ นึกว่ามันจะหมดพลังดีดแล้วนะ แต่ไม่ พอได้ไอติมช็อคโกแลตกับวานิลลาอย่างละโคนมันก็กลับมา เหมือนมันได้มาอยู่ในที่ของมัน ดีดจนมาถึงตอนเย็น เจอขบวนพาเหรดพลังดีดเลยยิ่งกลับมา เขาต้องคอยจับตาดูมันตลอดเพราะมันวิ่งไปหาอะไรต่อมิอะไรของมันเร็วมาก


จนตอนนี้สามทุ่มแล้ว พลังไอ้ห่าติมยังคงเหลือเฟือ ตื่นเต้นกับการแสดงพลุตรงปราสาทอันเป็นสัญลักษณ์ของดิสนีย์เวิล์ดและดิสนีย์แลนด์ทั่วโลก ไอโฟนสี่เอสของมันถ่ายภาพรัว ๆ เท่าที่ความไวของเครื่องจะทำไหว


ปุ้ง! ปุ้ง! ปุ้ง!


เสียงพลุยังคงดังต่อเนื่อง แม้เขาจะเคยเห็นแล้ว แต่ครั้งนี้ได้ตั้งใจดูดี ๆ ก็ว่ามันสวยดี ยิ่งเป็นเด็ก ๆ คงยิ่งตื่นตาตื่นใจกับการได้เห็นพลุเป็นรูปมิกกี้เม้าส์อะไรแนวนั้น แต่พอได้เห็นเพื่อนตัวเอง ก็คิดได้ว่าไม่ต้องเด็กก็ตื่นเต้นได้ ไม่แน่ใจว่าเพื่อนเขามันเด็กหรือมันปัญญาอ่อน ทั้งวันของวันนี้เขาล่ะเกลียดไอ้หัวมิกกี้เม้าส์มันสุดละ แม่งอึดชิบเป๋ง ไม่หลุดไม่ตายเลย ไปเล่นไอ้กลิซลี่พีค (Grizzly peak) ที่เหมือนแกรนด์แคนย่อนในดรีมเวิล์ด ไอ้มิกกี้ไม่เปียกเลยเหอะ เขาที่ไม่อยากเล่นแม่งเปียกสุดแล้ว โคตรเกลียดความรู้สึกใส่ถุงเท้าเปียกเดิน เลยถอดทิ้งแม่ง หรืออย่างตอนเล่นรถไฟเหาะ มิกกี้เม้าส์บนหัวไอ้ห่าติมก็คงกระพันมาก


“โว้วววว….” ไอติมส่งเสียงร้องแข่งกับเพลงประกอบโชว์พลุตอนที่มีพลุเซ็ทนึงแตกตัวต่อเนื่องกัน


“…ถ้าไปที่ฟลอริด้ามันจะใหญ่กว่านี้ใช่ป่ะ”


“มาก มีเครื่องเล่นเยอะกว่าด้วย” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนที่จะส่งเสียงร้องหูววว


“เดน ๆ ถ่ายรูป” มันยื่นโทรศัพท์มาให้ แต่เขาเห็นมันถ่ายคลิปอยู่แล้วเลยถ่ายคลิปให้มันต่อไป แล้วยกกล้องที่คล้องคออยู่ขึ้นมากดถ่ายภาพให้มันไปหลายช็อต ยังไม่ทันบอกให้มันหยุดโพสต์ มันก็หยุดของมันเองแล้วหันไปมองการแสดงของพลุต่อ เดนนี่เลยกลายเป็นยืนถือโทรศัพท์ถ่ายคลิปให้มันเฉยเลย เนียนเลยนะมึง


“อยากเป็นเจ้าหญิง” เดนนี่ขมวดคิ้วกับคำเพ้อและหน้าตายิ้มละเมอของมัน


‘Remember, dreams come true…’


“พอใจยังครับ กลับยังมึง” เดนนี่ถามหลังจากเสียงพากย์ของผู้หญิงดังขึ้นและตามด้วยพลุสีส้มขาวส่องประกายส่งท้ายบนท้องฟ้าเหนือยอดปราสาทซินเดอเรลล่า ตอนนี้เหลือแต่ช่วงเวลาให้เดินเล่นข้างในปาร์คจนถึงเที่ยงคืน ไอติมยืนมองปราสาทที่ยังมีแสงไฟขาว ๆ ม่วง ๆ สักแปบก่อนหันหน้ามามองคนถามทั้งที่ยังใส่ไอ้ที่คาดผมมิกกี้เม้าส์อยู่


“ป่ะ ๆ กลับก็ได้ แต่แวะกินอะไรก่อนได้มั้ยอะเดน หิว”


“สมควรหิว” ไอติมยิ้มน่ารัก เดินเข้ามาควงแขนเดนนี่แล้วพากันเดินออกไปตามถนนที่พาตรงไปทางออกจากดิสนีย์แลนด์ ระหว่างนั้นไอติมก็ไถหน้าจอดูโซเชียล เลื่อนผ่านแอคเค้าท์ของแอนโทนี่ก็เห็นว่าเขาลงรูปวิวทะเลเมื่อสักสองชั่วโมงก่อน แต่เป็นรูปที่เหมือนถ่ายจากในร้านอาหารเพราะเห็นจานอาหารบนโต๊ะติดมาด้วย ไอติมหยุดดูภาพนั้น บรรยากาศภาพมันสวยและอาหารก็ดูน่ากิน


“เดน ร้านไรอะ” ไอติมยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนดู เดนนี่ก้มลงมองพักนึงก่อนจะขมวดคิ้ว


“ไม่รู้ว่ะ แต่น่าจะแถวซานต้าฯ เพราะเห็นทะเล”


“อาหารน่ากินอะ ไปกินร้านนี้กันมั้ย”


“ไม่รู้ร้านไปไงอะ”


“เดี๋ยวกูถามเพื่อนคนนี้ให้…” ไอติมยกโทรศัพท์มาเตรียมจะกดพิมพ์ข้อความไปหาแอนโทนี่


“…ถ้าจะถามเป็นภาษาอังกฤษว่าคุณอยู่ที่ไหน ผมเห็นคุณลงรูปอาหารน่ากินดี ถามว่าไง” เดนนี่แปลเป็นภาษาอังกฤษให้เพื่อนอย่างช้า ๆ ไอติมค่อย ๆ พิมพ์ตามที่เดนนี่บอกก่อนกดส่งข้อความแชทไป


“เพื่อนมึงคนนี้นี่ใครเนี่ย”


“เขาเป็นทีมงานในค่ายหนังโป๊ของแซ็คอะ เขาพูดไทยได้ เลยได้คุยกัน” เดนนี่พยักหน้าขึ้นหนึ่งที เป็นจังหวะเดียวกับที่มีข้อความแชทส่งตอบกลับมาหาไอติม เจ้าตัวกดเปิดดูก็เห็นแอนโทนี่ตอบชื่อร้านอาหารกลับมา และมีพิมพ์จากนั้นมาเพิ่มอีกนิด ไอติมพยายามอ่านและแปลเอง แต่ก็ยังไม่แน่ใจ


“เดน ๆ อันนี้เขาบอกชื่อร้านอาหารกับบอกว่าตอนนี้เขากินเหล้าอยู่อีกร้านป้ะ” ไอติมยื่นโทรศัพท์ไปให้เพื่อนตัวสูง เดนนี่ก้มลงอ่านข้อความที่ตอบกลับมาครู่สั้นๆ


“เออ เขาบอกชื่อร้านที่มึงถามแล้วก็บอกว่าตอนนี้ตัวเขาอยู่คลับใกล้ ๆ กัน”


“มึงรู้จักร้านนี้มั้ย”


“ไม่รู้หรอก ขับไปแถวนั้นก็คงหาไม่ยากละ ในข้อความมันถามมึงด้วยว่าไปจอยกับมันมั้ย”


“จอยคือไรอะ เอ็นจอยป้ะ” เดนนี่กระตุกยิ้ม


“เออ เก่งขึ้น” ไอติมยิ้มกว้างอย่างดีใจ


“งั้นไปกินข้าวกันก่อน ถ้าเขายังอยู่แถวนั้น แวะไปหาเขาแปบนึงได้มั้ย แล้วค่อยกลับบ้าน” เดนนี่พยักหน้าแบบไม่ซีเรียส เรื่องดื่มเป็นเรื่องที่ตัวเขาเองไม่เคยขัดข้อง ส่วนไอติมมันคงแค่แวะไปหาเพื่อน ไม่ได้ไปดื่มด้วยหรอก

V
v
v


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.7: Think of you : 22.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 22-05-2018 20:22:06
V
v
v

สองหนุ่มเพื่อนซี้เดินกลับมาที่รถ ก่อนจะขับออกไปจากดิสนีย์แลนด์ ตรงกลับไปทางเดิมแต่เปลี่ยนเส้นทางนิดหน่อย แบบว่าจากเมื่อเช้ามาทางซ้าย ขากลับกลับทางขวา พอมาถึงโซนร้านอาหาร โซนคลับแถมริมหาดซานต้าฯ เดนนี่ก็ขับช้าลงและมองหาร้านที่ไอติมว่า ไอติมจำโซนนี้ได้เพราะตอนจะมาเอากับแซ็คก็ผ่านมาทางนี้


“นี่ ๆ เดน ใช่มั้ย” เดนนี่ชะลอรถหน้าร้านอาหารร้านหนึ่งที่เปิดไฟสีส้มสว่าง อ่านป้ายชื่อร้านและมองสภาพผู้คนนั่งเกือบเต็มภายในร้านพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าแบบไม่มั่นใจ


“กูว่าน่าจะใช่ ลองลงไปดูก่อนแล้วกัน” เดนนี่ขับรถไปจอดในลานจอดรถแถวนั้นที่ห่างออกไปอีกหน่อย จอดรถเสร็จทั้งสองคนก็เดินกลับมาที่ร้านอาหาร แม้จะไม่แน่ใจว่าใช่ร้านเดียวกับที่เห็นในเฟซบุ๊กแอนโทนี่หรือไม่ แต่ไอติมหิวจัดแล้วเลยไม่คิดจะหาร้านอื่นอีก พอได้โต๊ะและเปิดเมนูเพียงแปบเดียวก็จิ้มสปาร์เก็ตตี้ให้กับพนักงานชายตัวผอม ๆ ที่มารับออเดอร์ เดนนี่สั่งอาหารของตัวเองพร้อมกับเบียร์หนึ่งขวด ไอติมกดเข้าไปในช่องแชทกับแอนโทนี่


“เดน ถ้าจะบอกว่ายังอยู่ที่นั่นอยู่หรือเปล่าถามว่าไงอะ มันต้องมีคำว่า still ด้วยใช่ป่ะ”


“มี ถามว่า Are you still there? ไปเลย” ไอติมพยักหน้าและพิมพ์ตามที่เพื่อนสนิทบอกก่อนจะกดส่ง รอแค่นาทีเดียวแอนโทนี่ก็ตอบกลับมาว่ายังอยู่ที่เดิม ไอติมเลยพิมพ์ตอบกลับไปเป็นภาษาอังกฤษแบบที่พยายามพิมพ์ว่าตอนนี้อยู่ร้านอาหารที่แอนโทนี่เพิ่งมากินไป แอนโทนี่เลยพิมพ์ตอบกลับมาว่าจากร้านอาหารร้านนั้นไปคลับที่เขาอยู่แค่เดินเลี้ยวซ้ายตรงมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอชื่อร้าน XXX


“มึงว่าจะรอนานมั้ยอะ” เดนนี่หันไปมองจำนวนคนในร้านที่นั่งกันเกือบเต็มทุกโต๊ะ บางโต๊ะได้อาหารแล้ว บางโต๊ะก็กำลังนั่งรอแบบเขากับไอติม


“ก็น่าจะนาน”


“งั้นกูเดินไปหาเพื่อนแปบนึงได้ป่ะ”


“มึงไปเป็นเหรอ”


“เนี่ย ๆ ถ้ากูแปลไม่ผิดเขาบอกว่า ออกจากร้านแล้วก็เลี้ยวซ้าย เดินตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอร้านนี้อะ” ไอติมยื่นโทรศัพท์ให้เดนนี่ เพื่อนตัวสูงรับไปอ่านแปบหนึ่ง


“เออ จะไปก็ไป ถ้าอาหารมาแล้วเดี๋ยวกูโทรตาม” ไอติมยิ้มกว้างพลางรับโทรศัพท์กลับมาไว้ในมือ


“ไม่น้อยใจนะเดน” เดนนี่ขมวดคิ้ว พลางหันไปรับเบียร์จากพนักงงานคนเดิม


“มึงจะไปไหนก็ไปเถอะไป” ไอติมเบ้ปากน้อย ๆ พลางลุกขึ้นเดินออกไปจากโต๊ะสำหรับนั่งสองคนที่ปูผ้าลายสก็อตสีขาวแดง เดินออกร้านก็เลี้ยวซ้ายไปตามที่แอนโทนี่บอก ตึกแถวนี้มันตั้งติดกันเป็นบางช่วง บางช่วงก็ไม่ติดกันเลย มีรถวิ่งผ่านอยู่ตลอด ๆ แสงไฟจากเสาไฟส่องแสงสว่างให้กับชายหาดและทะเลสีดำยามค่ำคืน ตรงนี้คือที่ไอติมอยากพัก แต่ไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าโรงแรมหรือแม้กระทั่งแค่โฮสเทล บรรยากาศมันก็ดีจริงสมกับราคานั่นแหละ ไม่เคยไปฮาวายหรอก แต่มันติดทะเลแบบนี้ มีต้นมะพร้าวอย่างนี้เลยคิดถึงฮาวาย


“ร้าน XXX… นี่ไง” ไอติมแหงนหน้ามองชื่อร้านนั่งดื่มร้านหนึ่งซึ่งเป็นตึกสามชั้นและมีขนาดกว้างขวาง มีคนกำลังเดินเข้าไปด้านใน ไอติมเดินไปยื่นพาสปอร์ตให้ผู้ชายผิวขาวสองคนตรวจ ทั้งสองคนมองหน้าไอติมสลับกับพาสปอร์ตอยู่พักหนึ่งก่อนจะยื่นคืนให้และพยักหน้าไปทางประตูเป็นเชิงบอกว่าเข้าได้ ไอติมยิ้มกว้างเป็นการขอบคุณและเดินผลักประตูไม้เข้าไปด้านใน


เสียงดนตรีฟังสบาย ๆ ดังแบบพอดี ๆ ไม่ได้โหวกเหวกโวยวายจนรำคาญแก้วหูดังขึ้นเมื่อเข้ามาด้านใน บาร์ไม้ขนาดยาวมีคนนั่งเกือบเต็ม ทั้งนั่งดื่มและกำลังนั่งดื่มไปพูดคุยกันไป โต๊ะไม้ทรงยาวมีพนักพิงหลังตั้งเป็นเซ็ท เซ็ทละสองตัวมีโต๊ะคั้นกลาง วางห่างกันอย่างมีระเบียบ มีฝรั่งหัวทอง หัวดำ หัวน้ำตาลและอีกหลายหัวนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานพร้อมกับดื่มไปด้วย ไอติมเบี่ยงตัวหลบผู้ชายฝรั่งตัวอ้วนคนหนึ่งที่ในมือถือขวดเบียร์ไว้ในขณะที่สายตาก็กำลังมองหาเป้าหมายของตัวเอง


“เฮ้ ไอศกรีม!” ไอติมหันไปตามเสียงเรียก เห็นหนุ่มแว่นแอนโทนี่ที่ตอนนี้หน้าแดงหน่อย ๆ โบกมือขวาให้มาจากบาร์ไม้ด้านในสุด ไอติมยิ้มกว้างและเดินเข้าไปหาเพื่อนฝรั่งพูดไทยได้ ต้องเบี่ยงหลบพนักงานที่กำลังถือถาดเครื่องดื่มไปเสิร์ฟตามโต๊ะนิดหน่อย คนในร้านนี้แน่นใช้ได้ ร้านดังหรือว่ายังไงกัน 


“ฮัลโลววว แอนโท… โว้ว แซะ เอ้ย ไบรอั้นนน” ไอติมที่กำลังจะพุ่งตัวเข้ากอดแอนโทนี่ชะงักกลางอากาศเมื่อสายตาเห็นขวัญใจตัวเองนั่งอยู่ถัดไปหนึ่งคนคั่น แอนโทนี่หัวเราะก๊ากที่ตัวเองโดนทิ้งไว้กลางทาง 


“What’s up, assaulter. (ว่าไง พ่อนักลวนลาม)” แซ็คทักทายเสียงเอื่อย มุมปากขยับเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย ในมือขวาถือแก้วสีใสที่ใส่เหล้าสีอำพันอยู่ครึ่งแก้ว


ไอติมทำหน้าเอ๋อ หันซ้ายหันขวาทำตัวไม่ถูก ก่อนจะตัดสินใจว่ากอดแอนโทนี่ก่อนก็แล้วกัน แอนโทนี่หัวเราะและกอดหนุ่มไทยพักหนึ่งก่อนผละออกจากกัน ไอติมยิ้มกว้างให้แอนโทนี่แบบที่คิดว่าไม่น่าเกลียดถ้าจะผละไปตอนนี้ แล้วก็เดินผ่านผู้ชายที่นั่งตรงกลางไปแบบล่องลอย ตรงไปหาแซ็คแบบไม่มีแวะใดๆ


“ไบรอั้น Can I hug you, okay?” เจ้าของชื่อยังไม่ทันหันร่างมาเต็มตัว ไอ้เด็กที่เพิ่งเสียบริสุทธิ์ให้ไปเมื่อสี่วันก่อนก็พุ่งตัวเข้ามากอด ก่อนจะหอมแก้มซ้ายของเขาดังฟอด


“Whoah, easy, easy boy. (โว้ว ใจเย็น ใจเย็นหนุ่มน้อย)” ไอติมได้กลิ่นเหล้าผสมกลิ่นเนื้อของแซ็คก็ใจหวิววูบ ท้องน้อยบิดเป็นเกลียว เขาสูดดมกลิ่นนั้นเข้าจมูกและรู้สึกว่ามันช่างชวนเคลิ้ม แล้วก็ผุดภาพในหัวมากมายว่าร่างกายตัวเองกับแซ็คกำลังบดเบียนกันโดยมีกลิ่นนี้ลอยคลุ้งไปทั่ว…


“I’m happy, see you เอ่อ อะเกน again, again!” ไอติมบอกเสียงสดใส หน้าตาตื่นเต้นทั้งที่สองแขนยังคล้องคอแซ็คเอาไว้ ฝรั่งผมทองหันตัวมาหาไอติมตรง ๆ พร้อมกับอ้าขาออกให้ร่างเล็กเดินเข้ามายืนหว่างขา ริมฝีปากสีแดงอ่อนขยับเป็นรอยยิ้มขำกับการพูดคำว่า again สามรอบซ้ำไปซ้ำมา เขามองใบหน้าเรียวเล็กขาวใสด้วยสายตาแดงก่ำน้อย ๆ ไอติมยกมือขวาจิ้มแก้มแดง ๆ ของแซ็คแล้วยิ้มคิกคัก แซ็คมองไอติมแบบที่ตาเริ่มเยิ้มเพราะฤทธิ์เหล้า


“You happy to see me again, are you? (ดีใจเหรอที่ได้เจอฉันอีก)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ พักหนึ่ง พอแปลออกก็ยิ้มกว้างและพยักหน้ารัวๆ


“อื้อ happy very much” แซ็คมองไอติมตาเยิ้ม ไอติมยิ้มเคลิ้มกับดวงตาสีเทาของแซ็คที่กำลังมองตัวเอง ถึงจะเยิ้ม ๆ เพราะเมาแต่ก็ชวนเขินอยู่ดี


“ขอขัดแปบหนึ่งนะ ขอแนะนำเผือนอีกคนก๊อน” ไอติมหันไปมองแอนโทนี่ หนุ่มแว่นชี้ผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสามคน ไอติมทำหน้าตกใจ ผู้ชายคนนั้นยิ้มขำเล็กน้อย ไอติมยิ้มแฮ่ ๆ ปล่อยสองแขนออกจากคอแซ็ค หนุ่มตาสีเทายกมือซ้ายขึ้นลูบหน้าตัวเองเบา ๆ ก่อนจะลุกเดินออกไปจากบาร์ ไอติมที่กำลังจะอ้าปากทักทายผู้ชายอีกคนหันไปมองตามร่างสูงของแซ็คที่ยังคงเดินได้อย่างปกติ ไม่มีเซหรือจะล้ม แค่อาจจะช้า ๆ หน่อย แต่คิดอีกทีจะเดินเร็วไปทำไมกัน


“นี่ดัสติน คาเมร่าแมน เพื่อน ๆ กันกั๊บไบร่อั้นน่ะ” ไอติมหันกลับมายิ้มกว้างให้ผู้ชายคนนั้น ยกสองมือขึ้นไหว้สวัสดี แต่พอนึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่ที่ไทยก็เลยลดมือลงอย่างเร็วและยื่นมือขวาออกไปข้างหน้าแทน ผู้ชายคนนั้นยิ้มขำ


“Nice to meet you! (ยินดีที่ได้รู้จักฮะ!)” ดัสตินยื่นมือขวามาจับมือไอติมและเช็กแฮนด์กันเบา ๆ ไอติมมองหน้าอีกฝ่ายอย่างฉงนปนสงสัย ก่อนจะขมวดคิ้วอ่อนๆ


“เป็นพระเอกด้วยมั้ยเนี่ยแอนโทนี่” ที่ถามเพราะไอติมคิดว่าหน้าตาเขาเหมาะจะเป็น


“ก่ออยากหั้ยเปนแหละ แต่เล้นตัว หมั่ยเอา” ไอติมมองสำรวจใบหน้าขาวหล่อ รูปหน้าชัด ไม่เรียวไม่บานเกินไป ดวงตาสีเทาอ่อนกว่าของแซ็คทำให้ไอติมยิ้มประหลาดใจกับการที่เพิ่งรู้ว่ามีผู้ชายตาสีเทาที่ความเข้มต่างกันนั่งติดกันเมื่อครู่นี้ ดวงตาสีน้ำตาลเลื่อนมองต้นคอหนา ไล่ลงไปที่ต้นแขนแข็งแรงที่อยู่ใต้เสื้อยืดสีดำลายวงร็อคอะไรสักวง รอยสักสีดำลายเถาวัลย์กุหลาบและมีหัวกะโหลกทำให้เขาดูเท่ผสมเถื่อนหน่อย ๆ ไอติมดึงมือตัวเองกลับ มองหน้าอกนูนแน่นของผู้ชายตรงข้ามตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นมองแอนโทนี่อีกที


“กล่อมเขาสิแอนโทนี่ ผมว่าเขาต้องดังแน่ ๆ แต่ขอเล่นหนังผู้ชายกับผู้ชายได้มั้ย” แอนโทนี่เลิกคิ้วขึ้นแวบหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้านึกอะไรขึ้นได้ ไอติมยิ้มกริ่มให้ดัสตินที่ยิ้มตอบกลับมาอย่างเป็นมิตร


“โอ้ว ผุ่งนี้ มีคนหยั่กเจอเถ่อด้วย” ไอติมเอียงคอหน้าตางงๆ


“ใครเหรอฮะ” ดัสตินเอนหลังพิงบาร์ มือขวายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มพลางมองไอติมสลับกับแอนโทนี่


“ลูคัส โปรดิวเซอร์คนเก่งข่องเลา ผุชายข่นนั้นที้เธอบอกให้ฉั๋นเรียกไปออดิชั่น จำได้มั้ย ที่งานออกบูธ” ไอติมอ้าปากหวอและกำลังทำหน้านึก ดัสตินหลุดขำกับหน้าตานึกคิดของไอติม แต่เจ้าตัวไม่ได้สนใจเพราะกำลังเพ่งสมาธินึกอยู่


“อ๊อ คนนั้น หัวล้าน ๆ หน่อย” แอนโทนี่พยักหน้าพร้อมกับยกขวดเบียร์ขึ้นกระดก


“ฉั่ยแล้ว เข๋าไปออดิชั่นแล้วผ่าน ลูคัสฉอบมาก เขาถามว่าฉั๋นไปเจอได้ยังไง ฉั๋นเลยบอกว่าเธอบ่อก เขาเลยอยากเจอ” ไอติมยิ้มเขิน


“I need the subtitle now. (ฉันต้องการคำแปลแล้วละ)” ไอติมเลื่อนสายตาไปมองดัสตินที่เกือบจะกลายเป็นอากาศด้วยสายตาเงอะงะ แอนโทนี่หัวเราะพลางนั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิมก่อนจะบอกเล่าให้เพื่อนอีกคนฟังว่าเมื่อกี้คุยอะไรกัน พอดัสตินรู้ว่าไอติมคือคนที่โปรดิวเซอร์ของค่ายอยากพบก็ทำหน้าประทับใจ


“You are a scout, huh? (นายเป็นแมวมองงั้นเหรอ)” แอนโทนี่แปลให้ไอติมฟัง ไอติมส่ายหน้า


“I just feel like I feel to you. ผมแค่รู้สึกอะ เหมือนที่รู้สึกกะคุณ”


“He just felt it and now he has a feeling like that with you. But he wants you to be in gay porn. (เขาแค่รู้สึก เหมือนที่รู้สึกกับแก แต่เขาขอให้แกเล่นหนังโป๊เกย์นะ)” ดัสตินเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาสีเทาอ่อนกว่าของแซ็คเลื่อนมองคนตัวผอมอย่างประหลาดใจ


“Would you be my first porn then? (งั้นนายมาเป็นหนังโป๊เรื่องแรกให้ฉันมั้ยล่ะ)” ไอติมพยายามทำความเข้าใจ แอนโทนี่มองไอติมด้วยรอยยิ้มขำ กำลังจะอ้าปากแปลให้ แต่ไอติมก็เอ่ยปากก่อน


“You mean you fuck me?” ดัสตินพยักหน้าพร้อมกับยิ้มทะเล้น 


“If I will make my first porn I will make it with you, deal? (ถ้าฉันจะเล่นหนังโป๊เรื่องแรก ฉันจะเล่นกับนาย ตกลงมั้ย)” อันนี้แปลไม่ทันเลยหันไปมองแอนโทนี่ หนุ่มแว่นแปลให้ พอเข้าใจว่าดัสตินพูดว่าอะไร ไอติมก็ยิ้มเขินและยักคิ้วสองที ดัสตินหัวเราะเบา ๆ และยกนิ้วโป้งขวาขึ้น ตามด้วยขยิบตาซ้ายหนึ่งที


 “ไบร่อั้นมันไปนานจัง” แอนโทนี่ว่าพลางยกเบียร์ขึ้นดื่ม หันหน้าไปมองทางที่แซ็คเดินไปเมื่อหลายนาทีที่ผ่านมา ไอติมหันไปมองตาม เห็นคนลุกขึ้นยืนลุกเดินกันวุ่นวายก่อนหันกลับมามองแอนโทนี่


“ทางนั้นคือไปไหนเหรอ”


“ห่องน้ำ”


“เดี๋ยวผมไปดูให้ก็ได้” แอนโทนี่ยิ้มและพยักหน้า ไอติมหมุนตัวเดินไปทางเดียวกับที่แซ็คเดินไปก่อนหน้านี้


“He kissed Zach. Are they closed? (หมอนั่นหอมแก้มไอแซ็ค สนิทกันเหรอ)” ดัสตินหันไปมองแอนโทนี่ หนุ่มแว่นมองกลับมาและทำหน้าลังเล


“I’m not sure on this point. (ฉันไม่แน่ใจในจุดนี้)” ดัสตินมองแอนโทนี่ขยับแว่น ท่าทางกระอักกระอ่วนอ่อน ๆ ดัสตินย่นคิ้วและอ้าปากหวอน้อยๆ


“Don’t tell me if they are already slept together? (อย่าบอกฉันนะว่า สองคนนั้นได้กันแล้ว)” แอนโทนี่ยิ้มแห้งและพยักหน้าน้อยๆ


“I think so. (ฉันว่างั้นนะ)” ดัสตินเบิกตากว้าง


“Oh, shit, and he will go to the set tomorrow. (โอ้ว เวร แล้วเขาจะไปกองถ่ายพรุ่งนี้ด้วยเนี่ยนะ)” แอนโทนี่พยักหน้า ดัสตินบึนปากและพยักหน้าสองสามทีก่อนกระดกเหล้าขึ้นดื่มอีกอึก


ไอติมเดินมาถึงหน้าห้องน้ำของคลับที่เป็นแบบปูนเปลือย เข้าไปด้านในก็เห็นผู้ชายยืนฉี่อยู่สองโถจากสี่โถ ห้องน้ำแบบนั่งประตูปิดทั้งสี่บาน มีคนยืนรอต่อคิวเข้าห้องน้ำแบบนั่งสองคน ไอติมมองขวามือที่เป็นอ่างล้างมือล้างหน้า ก็เจอฝรั่งตัวใหญ่กำลังยืนวักน้ำใส่หน้า ไอติมหยุดยืนมองแซ็คล้างหน้าเงียบ ๆ พออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองกระจกก็หันมองไอติมเพราะเห็นจากเงาสะท้อนในกระจก


“You lose long time.” ไอติมตั้งใจจะสื่อว่าคุณหายไปนาน แซ็คยืดตัวขึ้น ใบหน้าเปียกน้ำ ผมด้านหน้าเปียกด้วยนิดหน่อย ร่างผอมส่งยิ้มให้กับร่างใหญ่ที่กำลังมองตัวเองด้วยดวงตาที่เยิ้มน้อยกว่าเมื่อครู่


“I think you come to เอ่อ อ้วก แอวะ แอวะ” เมื่อไม่รู้คำศัพท์จึงทำท่าโก่งคอและทำเสียงอ้วก แซ็คยิ้มมุมปากซ้ายน้อย ๆ ไอติมหยุดทำท่าอ้วกแล้วยืนยิ้มกว้างให้แซ็ค


“No. I’m good. (เปล่า ฉันปกติดี)” ไอติมมองสำรวจตัวแซ็ค วันนี้พ่อหนุ่มผมทองใส่เสื้อยืดสีขาวสะอาดตากับกางเกงขาสั้นสามส่วนแบบผู้ชายลายทหาร


“Do you miss me? (คิดถึงฉันมั้ย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ แปลคำว่า miss ในใจ พอรู้ว่าเป็นคำศัพท์ที่ตัวเองเคยใช้ก็พยักหน้ารัว ๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง


“Miss! I miss you. (คิดถึง ผมคิดถึงคุณ)” แซ็คยืนมองไอติม มองแบบเฉย ๆ จนไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร ไอติมกระเถิบตัวเข้าไปใกล้แซ็ค แหงนหน้ามองใบหน้าสันกรามชัดอันหล่อเหลาของแซ็ค เจ้าของหน้าสันกรามก้มลงมองใบหน้าเรียวเล็กได้รูป


“I want you to fuck me again.” ไอติมกระซิบเสียงเบาด้วยสำเนียงไทย ๆ สีหน้าตื่นเต้นที่ได้บอกให้แซ็ครู้ ฝรั่งหัวทองยังคงมองหน้าตายิ้มแย้มของไอติมด้วยสายตาเลเวลเดิม


“I told you, only one time. (บอกแล้วไงว่าแค่ครั้งเดียว)” ไอติมเข้าใจ เพราะได้ยินคำนี้บ่อย เขาทำปากยื่นหน้าตางอง้ำเล็ก ๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจเอื่อย ๆ แซ็คมองแล้วก็ยิ้มขำ


“ป่ะ ๆ โก ๆ” ไอติมยื่นมือซ้ายไปจูงมือขวาของแซ็คแล้วพาเดินออกไปจากห้องน้ำ แซ็คเดินตามแบบไม่ขัดขืน ทั้งสองคนเดินกลับมาที่บาร์ จังหวะนั้นโทรศัพท์ของไอติมก็ดังขึ้นพร้อมกับสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีน พอส่งแซ็คนั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิมได้ก็หยิบขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นเดนนี่โทรมาตามก็กดตัดสายทิ้งก่อนหันไปหาแอนโทนี่


“ผมไปกินข้าวก่อนนะ I will go to eat dinner.” แอนโทนี่กับดัสตินพยักหน้า ไอติมหันไปมองแซ็คที่นั่งหันหลังให้และกำลังนั่งดื่มเงียบ ๆ เขาเดินเข้าไปใกล้แซ็คและหอมแก้มแซ็คจากทางด้านหลัง หนุ่มหัวทองหันแค่หน้ามามอง ไอติมยิ้มกว้างแล้วยกมือลูบกล้ามแขนแซ็คเพลินๆ


“Bye.” แซ็คยักคิ้วให้หนึ่งที ไอติมยื่นหน้าไปหอมแก้มแซ็คอีกครั้ง เจ้าของแก้มทำเพียงนั่งนิ่งให้หอม


“Will you come back here after your dinner?” ดัสตินถาม แอนโทนี่รีบแปลให้เพื่อความรวดเร็ว


“I’m not sure. (ยังไม่แน่ใจเลยฮะ)”


“It’s fine. We will meet tomorrow by the way. (ไม่เป็นไรหรอก ยังไงเราก็เจอกันพรุ่งนี้อยู่ดี)” แอนโทนี่พูดเป็นภาษาอังกฤษกับไอติม ร่างผอมทำหน้านึกก่อนจะพยักหน้าด้วยความเข้าใจ


“I will chat to you again.” ไอติมพยายามสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษว่าเดี๋ยวจะเมสเสจบอกอีกที แอนโทนี่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ และดีใจที่เห็นไอติมพยายามพูดภาษาอังกฤษ


“See you.” ไอติมยกมือโบกให้ทั้งสามหนุ่ม แอนโทนี่กับดัสตินยกมือโบกตอบ แซ็คทำเพียงพยักหน้าขึ้นหนึ่งที ไอติมเดินออกไปจากร้านจนกระทั่งหายไปจากสายตาของทั้งสามคน ดัสตินหันไปหาแซ็คทันที


“You sleep with that boy, are you? (แกนอนกับเด็กคนนั้นเหรอ)” แซ็คพยักหน้าหนึ่งครั้งแบบไม่มีอิดออด ดัสตินทำปากว่าอู้ว และออกจะแปลกใจหน่อยๆ


“You and the boy, it’s weird. (แกกับผู้ชาย มันแปลก)”


“Just one. I just want to end the conversation. That’s all. (แค่ครั้งเดียว ฉันแค่อยากตัดรำคาญก็แค่นั้น)”แอนโทนี่มองแซ็คแล้วถอนหายใจเบาๆ


“He is lovely, eh? (เขาน่ารักดีนะ แกว่าไง)” แซ็คยิ้มอ่อนก่อนจะพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ดัสตินหรี่ตาลงมืองเพื่อนตัวเอง


“Aha, you like him? (แกชอบเขาเหรอ)” แซ็คส่ายหัวช้าๆ


“No. (เปล่า)” แซ็คตอบแบบเฉย ๆ ไม่ได้มีท่าทีแปลกประหลาดอะไร ดัสตินยักคิ้วด้วยความเข้าใจ ไม่ได้คิดจับผิดอะไรเพื่อน มันก็แค่ยอมรับว่าเด็กนั่นน่ารัก แต่ก็ไม่ได้ชอบ


Rrr! Rrr!


โทรศัพท์ของแซ็คสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกง เจ้าตัวหยิบออกมาอย่างช้า ๆ ยกขึ้นมาดูหน้าจอ ดัสตินที่เหลือบเห็นว่าใครโทรมาก็หันไปมองแอนโทนี่และยักคิ้วให้ หนุ่มแว่นกลอกตารับอย่างเข้าใจ แซ็คเงียบอยู่พักใหญ่ก่อนจะกดตัดสายทิ้งแล้วหันไปทางแอนโทนี่กับดัสติน มองหน้าเพื่อนทั้งสองคนสักแปบก่อนจะลุกขึ้นยืน ดึงกระเป๋าตังค์สีดำออกมา หยิบเงินออกมายื่นให้ดัสติน


“See you tomorrow. (เจอกันพรุ่งนี้)” ดัสตินพยักหน้างง ๆ พร้อมกับรับเงินมาไว้ในมือ แซ็คตบไหล่แอนโทนี่เบา ๆ แล้วเดินผ่านเพื่อนทั้งสองคนไปแบบมึน ๆ แต่ก็ไม่ถึงขั้นจะเมาหัวทิ่มพื้น เขาผลักประตูคลับเดินออกไปข้างนอก เลี้ยวขวาไปตามที่สมองสั่งการ อาศัยความตัวสูงของตัวเองชะเง้อมองหาคนที่ตัวเองตั้งใจออกมาตาม ก่อนจะเจออีกฝ่ายกำลังยืนถ่ายรูปวิวทะเลจากฝั่งนี้อยู่ เขารีบเดินเข้าไปหาคนนั้น


“Assaulter. (นักลวนลาม)” หน้าเรียวเล็กได้รูปของไอติมหันมามองเขาแล้วยิ้มกว้างดีใจพร้อมกับดวงตาอันเปล่งประกาย


“แซะ เอ่อะ เอ่อ ไบรอั้น”


“Do you want to go with me? (อยากไปกับฉันมั้ย)” ไอติมลดโทรศัพท์ลง กดล็อคหน้าจอและเก็บลงกระเป๋ากางเกงยีน หมุนตัวไปมองแซ็คตรง ๆ อย่างงงวย


“ไปไหน Where?” 


“Anywhere. (ที่ไหนก็ได้)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ หันซ้ายแลขวาแบบสับสน ทั้งสับสนที่จู่ ๆ แซ็คก็ออกมาหาตัวเองแบบนี้ และสับสนที่เขาบอกว่าไปไหนก็ได้ เพราะไอติมไม่รู้ว่าจะไปไหน จะชวนกลับไปดิสนีย์แลนด์ก็ไม่น่าจะทัน


“You said you miss me. (นายบอกว่าคิดถึงฉัน)” แซ็คเห็นว่าไอติมมีท่าทางลังเลเลยพูดขึ้นมา ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ เป็นการตอบรับว่าคิดถึง แซ็คยื่นมือขวาไปจับซ้ายของไอติม


“Come with me. (มากับฉัน)” ไอติมเบิกตากว้างมองมือแซ็คที่กำลังจับมือตัวเองอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองแซ็คที่กำลังมองเขาอย่างลุ้น ๆ สักพักก่อนจะคลี่ยิ้มกว้าง แซ็คคลี่ยิ้มบาง รู้แล้วว่าอีกฝ่ายยอมไปกับตัวเอง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.7: Think of you : 22.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: LAFIA ที่ 23-05-2018 00:13:50
ว้ายยยยย นึกว่าตาฝาด อีแซ็คเป็นฝ่ายเริ่มก่อน 55555555  :hao7: ยังไม่ค่อยเข้าใจความคิดนางเท่าไร สายที่โทรเข้านั้นของใครนะ? แต่เดาว่าคนที่โผล่มาตอนที่ 6 ที่มาต้อนรับกลับบ้าน (เหรอ?) แน่ๆ  :z2: หนูติมของเจ้ยังน่ารักเหมือนเดิม สดใสเป็นตัวเอง นี่แอบเชียร์ตอนไอติมคุยกับดัสตินเรื่องที่จะมีอะไรกัน ข้างอีแซ็ค ไม่รู้นางแอบคันๆในใจบ้างมั้ย แต่คงยัง มันเร็วไป  :hao7: เขาจะพากันไปที่ไหนน้าาาา เดินริมถนนเหมือนเดิม หรือพาเข้าโรงแรม  :hao6: ติดตามมมม  :katai4: สู้ๆนะคะขุ่นเจ้ ก็ว่าหายไปนานเลย หลังคู่ยักษ์จดทะเบียนเปลี่ยนนามสกุลกันไปแล้ว เค้าก็มารอไอติมต่อ อยากอ่านเร็วๆก็อยากนะ แต่ก็คิดว่าขุ่นเจ้คงยุ่งมากๆเรื่องหนังสือ เป็นกำลังใจให้ค่าา :กอด1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.7: Think of you : 22.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-05-2018 01:14:40
ไอติม ใจหนูเป็นไงบ้าง ทนไหวไหมเนี่ย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.7: Think of you : 22.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 23-05-2018 09:26:45
รู้สึกแปลกๆ เหมือนไม่ได้จะชวนไป กิ๊กิ้่ว เฉยๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.7: Think of you : 22.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 23-05-2018 13:55:40
ตอนนี้เหมือนว่าอิตาแซ็คจะมาล่อลวงไอติมเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.7: Think of you : 22.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 23-05-2018 20:01:16
อิตาแซคแค่อยากพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้ชอบน้องติมหรือเปล่า   :hao4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.7: Think of you : 22.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: Wipers ที่ 23-05-2018 22:43:08
สงสัยจะมีเบิลรอบ  :katai3: :haun4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.7: Think of you : 22.05.18
เริ่มหัวข้อโดย: LAFIA ที่ 22-06-2018 02:09:45
นานเกินไปแล้ววววว ฮือออออ :hao5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งแรก :A white boy: 06.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-07-2018 00:31:33
Fall in lust, Chapter 8 :: A white boy. (เด็กผู้ชายสีขาว) [ครึ่งแรก]



   ‘Anywhere? (ที่ไหนก็ได้)’
   


“Here? (ที่นี่เหรอ)” แซ็คหันหน้าแดงและตาฉ่ำไปถามเด็กมือไว เจ้าเด็กตัวขาวยิ้มกว้างพร้อมกับพยักหน้าให้เขารัวๆ
   

“อื้อ! I find in google” หนุ่มหัวทองพ่นลมหายใจเบา ๆ แล้วยักคิ้วขึ้นหนึ่งที หน้าตาไม่ได้ยินดียินร้ายใด ๆ เพราะเขาเป็นคนพูดเองว่าให้อีกฝ่ายเลือก เด็กมันคงงง ๆ หน่อยว่าจะเลือกยังไงดีเพราะไม่ใช่คนท้องถิ่นและเพิ่งมาถึงที่นี่ได้ไม่ถึงเดือน เลยอาศัยกูเกิ้ลช่วย 
   

“แซ็ค เอ้ย ไบรอั้น ที่นี่ here close at four ทุ่มเหรอ เอ่อ…” ไอติมย่นคิ้วเล็กน้อยในขณะที่ในหัวกำลังคิดเรื่องการใช้คำศัพท์เกี่ยวกับเวลา
   

“…We can sit here as long as we want. Don’t give a shit with the door. (นั่งนานแค่ไหนก็นั่งไปเหอะ ไม่ต้องไปสนใจประตูห่านั่นหรอก)” ไอติมนั่งหน้ามึน พยายามรวบรวมคำศัพท์ที่พอจะจับใจความได้ เข้าใจว่าแซ็คน่าจะหมายถึงว่าอยากนั่งก็นั่ง ถึงจะยังเข้าใจไม่ทั้งหมดก็พยักหน้ารับก่อน 
   

“นี่ ๆ ตรงนั้นมีที่นั่ง sit here, sit here.” ไอติมชี้ผ่านกระจกฝั่งตัวเองไปที่ม้านั่งริมหน้าผาชมวิวอันหนึ่ง แซ็คพยักหน้าแบบเอื่อยเฉื่อย จอดรถไว้ริมถนนใกล้กับทางขึ้นเนินเขา ไอติมปลดเข็มขัดนิรภัย เปิดประตูรถลงไปยืนบนพื้นถนนสีดำอมเทา มือขวาถือกระเป๋าเป้ของตัวเอง มือซ้ายถือถุงพลาสติกสีขาวที่มีตราของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ใช้เท้าขวาปิดประตูรถเสร็จก็วิ่งนำแซ็คไปที่ริมผาอันนั้นด้วยความตื่นเต้น
   

แซ็คยืนมองไอติมที่กำลังออกอาการตื่นเต้นกับวิวยามค่ำคืนด้วยสายตาเรียบเฉย แต่ก็ไม่ใช่แข็งกระด้าง เขาปิดประตูรถ กดรีโมตล็อครถแล้วเดินตามไอติมไปแบบโงนเงนหน่อย ๆ ไอติมวางถุงพลาสติกกับกระเป๋าลงบนม้านั่ง หยิบโทรศัพท์ออกมากดถ่ายภาพวิวแสงไฟสีเหลืองสีส้มระยิบระยับของเมืองลอสแองเจลิสด้วยความรู้สึกสดชื่น อาจเป็นเพราะลมเย็น ๆ ที่โบกโชยมาเลยทำให้ผิวตื่นไปทั้งตัว
   

Ringggg!
   

“เดน! ถึงห้องแล้วเหรอ… เออ ดีแล้ว… อยู่บนยอดเขาอะ บนอะไรวะ เอ่อ กริฟฟิ้น ๆ อะไรสักอย่าง… เออ ใช่ ๆ อันนั้นแหละ… ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตรงนี้เอากันไม่น่าเหมาะมั้ง… เดี๋ยวโทรหา โอ๊เข่” ไอติมกดวางสายจากเดนนี่ที่คุยกันไว้ว่าถ้าเดนนี่ถึงห้องแล้วให้โทรบอก


ไอติมหันไปมองด้านหลังตัวเอง แซ็คกำลังนั่งนิ่งอยู่บนม้านั่ง สายตาฉ่ำเยิ้มมองไปไกลแบบไร้จุดหมาย ไอติมเดินไปนั่งลงข้าง ๆ แหวกถุงพลาสติกจากซูเปอร์มาร์เก็ตที่ในนั้นซื้อเครื่องดื่มมาสามสี่อย่าง มือบางหยิบกระป๋องเบียร์เย็น ๆ ขึ้นมาหนึ่งกระป๋องแล้วยื่นไปแตะที่แก้มของแซ็ค ฝรั่งตัวโตสะดุ้งเบา ๆ คิ้วขมวดมุ่นและหันมองด้านข้างของตัวเอง เจอรอยยิ้มอ่อนกับดวงตาเปล่งประกายและกระป๋องเบียร์สีเงินทองแนบแก้มตัวเองอยู่
   

“Drink and smile.” ไอติมพยักหน้ายืนยัน แซ็ครู้สึกค่อย ๆ ตื่นตัวเพราะความเย็นของกระป๋องเบียร์ เขายกมือซ้ายขึ้นหยิบกระป๋องเบียร์จากมือไอติมไปเปิด ไอติมหยิบน้ำอัดลมของตัวเองออกมาเปิดดื่มบ้าง
   

“อ้า…” ไอติมส่งเสียงยานคางด้วยความพึงใจ น้ำเย็น ๆ กับลมเย็น ๆ ทำให้รู้สึกสดชื่น มานั่งชมวิวตอนกลางคืนที่แดดหายไปแล้ว ก็เป็นบรรยากาศที่ปลอดภัยกับผิวดีเหมือนกัน
   

“Where did you come from again? (อีกทีซิว่านายมาจากที่ไหนนะ)” ไอติมหันไปมองคนถามที่กำลังกระดกเบียร์เข้าปากและหันมองมาทางตัวเอง
   

“Thailand!” ไอติมตอบอย่างมั่นใจเพราะเข้าใจคำถามนี้ แม้จะไม่รู้ก็เถอะว่าแซ็คถามเพราะลืม
   

“Thailand?”
   

“อื้อ You know?” ไอติมดูดน้ำอัดลมเข้าปากและมองแซ็คอย่างมีความสุข สุขที่ไม่คิดว่าตัวเองจะได้กลับมานั่งใกล้กับผู้ชายที่ตัวเองอยากเสียตัวให้แบบใกล้ชิดขนาดนี้อีกครั้ง
   

ถึงจะสมปรารถนาไปแล้ว แต่ได้อีกครั้งก็ยินดีรับไว้
   

แซ็คมองนัยน์ตายิ้มของไอติมด้วยสายเยิ้มของตัวเองด้วยความรู้สึกประหลาดและเบาหวิวในอก ก่อนจะพูดเสียงงึมงำๆ “I have heard about it, but never go there. (เคยได้ยิน แต่ไม่เคยไป)” ไอติมนั่งนิ่งพักหนึ่งเพื่อแปลให้ตัวเองเข้าใจ พอสมองแปลออกมาได้ก็ยิ้มกว้าง
   

“You want to go? I can be guide นะ (อยากไปมั้ยฮะ ผมเป็นไกด์ให้ได้นะ)” แซ็คมองสีหน้าและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้นของเจ้าเด็กน้อย
   

“If I have a chance. (ถ้าฉันมีโอกาสนะ)” ไอติมยิ้มกว้างดีใจ แซ็คมองอาการของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มสักพักแล้วค่อย ๆ ลดรอยยิ้มลงจนกลายเป็นเรียบเฉย หันหน้าไปมองวิวยามค่ำคืนของเมืองที่ไกลสุดลูกหูลูกตา
   

“A chance. (โอกาส)” ไอติมเอียงคอมองหน้านิ่งของแซ็คด้วยความงงและเป็นกังวล ไม่แน่ใจว่านิ่ง ๆ เบลอ ๆ แบบนี้เพราะเมาหรือว่าอะไร
   

“You okay? (คุณโอเคมั้ย)” แซ็คหันไปมองไอติมที่กำลังอ้าปากหวอ ฝรั่งตัวใหญ่หน้าตาเหลอหลาแล้วเปิดปากพูดเสียงทุ้ม
   

“If I say I am not okay, what would you do? (ถ้าฉันบอกฉันไม่โอเค นายจะทำอะไร)” อย่างแรกที่ไอติมทำเลยคือหยุดทำหน้าเอ๋อแล้วเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วอ่อนกับประโยคที่แซ็คพูด เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจถูกต้องหรือไม่ คือไอติมอยากจะเข้าใจถูกต้องเลยในทีเดียว มันจะได้ไม่เป็นการเสียอารมณ์ที่ต้องพูดซ้ำอีกครั้ง
   

“วะ…ว้อท ว้อทไอดู เหรอ” ไอติมลองเอ่ยย้ำอีกทีด้วยความไม่แน่ใจว่าที่ตัวเองเข้าใจนั้นถูกต้องมั้ย
   

แซ็คพยักหน้าก่อนตอบ “Yes, what would you do to make me okay. (ใช่ นายจะทำยังไงให้ฉันรู้สึกโอเค)”


ไอติมทำแก้มพองลม มองหน้าแซ็คด้วยความรู้สึกเอ๋อเหรอ ฝรั่งหัวทองยิ้มขำแบบเยิ้ม ๆ ไอติมมองขึ้นบนท้องฟ้าที่พอจะเห็นดวงดาวแบบจาง ๆ อยู่บ้างสักพักแล้วก็นึกอะไรขึ้นได้ แซ็คเลิกคิ้ว มองร่างผอมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินมาตรงหน้าตัวเอง ไอ้เด็กชอบลวนลามทำสองมือเป็นเชิงบอกให้แหวกขาออก แต่เขาส่ายหัวปฏิเสธ ไอติมขมวดคิ้วทำหน้าขัดใจ จัดการใช้สองมือแหวกขาแซ็คออกแล้วแทรกตัวเข้าไปหย่อนก้นนั่งลงบนต้นขาขวาของหนุ่มหัวทอง แซ็คกลอกตาให้กับความมึนของอีกคน
   

“My mom like to do this with me if I feel no good.” ไอติมพยายามจะสื่อว่า แม่ของเขาชอบทำแบบนี้เวลาที่เขารู้สึกไม่ดี แซ็คที่พอจะเข้าใจกับการพยายามสื่อสารนั้นพยักหน้าขึ้นหนึ่งที มองหน้าไอติมที่อยู่ห่างจากหน้าตัวเองไม่มากด้วยอาการกรึ่ม เจ้าหนุ่มเอเชียยิ้มแย้มตามปกติของตัวเอง มือซ้ายยกขึ้นจับกลางหัวของแซ็คแล้วลูบขึ้นลูบลงเบาๆ
   

“And my mom will say โอ๋ โอ๋ no cry mom is here or many good good word” ไอติมก้มลงหอมกลางกระหม่อมของแซ็คหนึ่งฟอดแล้วดึงหน้าตัวเองออกจากหัวสีทอง เจ้าของหัวทองเงยหน้ามองเจ้าเด็กเอเชียตัวเล็กแล้วหรี่ตามองอย่างจับผิด
   

“Your mom do that or you do that. (แม่นายทำแบบนั้นหรือนายทำเอง)” ไอติมพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม
   

“Yes, yes, my mom.” แซ็คยังคงหรี่ตามองเจ้าเด็กชอบฉวยโอกาสที่ยังคงลูบหัวเขาเบา ๆ อย่างต่อเนื่อง
   

“Why do I feel like you are touching a dog’s head? (ทำไมรู้สึกเหมือนว่านายกำลังลูบหัวหมา)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ หน้าตามึนงง
   

“Dog?” กำลังคิดในหัวตัวเองว่าเกี่ยวอะไรกับหมา หมามาเกี่ยวอะไรด้วย
   

“Yes, like I am a dog now. (ใช่ เหมือนตอนนี้ฉันเป็นหมาเลย)” ไอติมยิ้มกรุ้มกริ่ม มือซ้ายยังคงลูบหัวแซ็ค มองหน้าตาที่ไม่ได้หล่อจัดแต่ก็ทำให้มองแบบไม่วางตาด้วยความเอ็นดู
   

“I have two dogs. จัมโบ้กับปีโป้ (ผมมีหมาสองตัว จัมโบ้กับปีโป้)” ไอติมหลุดขำเมื่อคิดโยงไปว่า มองหน้าแซ็คแล้วคิดถึงไอ้จัมโบ้ เพราะตัวโต ๆ เหมือนกัน หนุ่มฝรั่งหัวทองหรี่ตาอันหยาดเยิ้มอีกครั้ง มองหนุ่มเอเชียอย่างไม่ไว้ใจ


“I see your face and I think to จัมโบ้!”


“Is that your dog’s name? (นั่นชื่อหมาของนายใช่มั้ย)” ไอติมจับสองคำหลังได้ที่ถามประมาณว่าชื่อหมาเหรอเลยพยักหน้าหนึ่งทีแบบแข็งขัน แซ็คถลึงตาใส่ไอติมหนึ่งที แต่พักเดียวก็ถอนหายใจยาว ๆ เขาขย่นคิ้วครู่หนึ่งก่อนกระดกเบียร์เข้าปากอีกหนึ่งอึก


“Do I really look like a dog? (ฉันดูเหมือนหมาจริง ๆ เหรอ)” แซ็คถามหน้าเมา ๆ ผสมกับใบหน้าคล้ายคนหมดอาลัยตายอยาก ไอติมเลิกคิ้วขึ้น ทั้งไม่เข้าใจที่แซ็คจะสื่อและไม่เข้าใจที่แซ็คถาม


ไอติมยังคงอยากให้มีคนผลิตวุ้นแปลภาษาของโดเรม่อนอย่างจริงจัง


“A dog เหรอ You same a dog?” แซ็คยักคิ้ว ไอติมเลยพอจะเข้าใจว่าแซ็คถามสื่ออะไรไปก่อนหน้านี้ หนุ่มเอเชียร่างผอมบางส่ายหัวสองที


“No. You are…” ไอติมหยุดชะงัก เอี้ยวตัวหันไปหยิบโทรศัพท์มากดแปลคำที่ต้องการในกูเกิ้ลเจ้าเดิม นึกคำศัพท์นี้ไม่ออกจริง ๆ ทั้งที่จริงมันเป็นคำที่ง่ายมาก พอได้คำแปลจากปู่เกิ้ลแล้ว ไอติมก็ยกโทรศัพท์ขึ้นตรงหน้าแซ็คเพื่อให้แซ็คเห็นว่าตัวเองกดคำว่าอะไร


“….human, you are human. (มนุษย์ คุณคือมนุษย์ฮะ)” ไอติมมองดวงตาสีเทาอ่อนของแซ็คแล้วยิ้มแบบไม่เห็นฟัน แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่ให้ไปด้วยความจริงใจ


แซ็คมองหน้าไอติมพลางกระดกเบียร์อีกสองอึกก่อนจะยิ้มมุมปากแล้วยกนิ้วชี้ข้างซ้ายชี้แก้มขวาของตัวเองพร้อมกับเอียงหน้าให้นิดหน่อยเป็นสัญญาณการบอกให้ไอติมหอมแก้ม เจ้าเด็กขี้ลวนลามเข้าใจอย่างรวดเร็ว ยิ้มเริงร่าและยื่นหน้ามาหอมแก้มเขาแบบไม่อิดออด


ถือว่าให้ของขวัญเด็กมันที่ยอมมานั่งเป็นเพื่อนตามที่ขอ


แล้วก็… เป็นรางวัลที่เขาคิดไม่ผิด…


“ฮิๆ” เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคักจนตาหยี แซ็คยิ้มตามแบบเคลิ้ม ๆ เมา ๆ ไอติมหอมแก้มแซ็คอีกทีก่อนยกแขนซ้ายโอบรอบคอแซ็ค เอนหัวตัวเองพิงกับหัวของแซ็คแบบเนียน ๆ แซ็คกระดกเบียร์เข้าปากอีกหนึ่งอึก มือขวายกโอบเอวของไอติม


“Some people look at me as a dog. (บางคนมองฉันเป็นเหมือนหมา)” แซ็คยิ้มขื่น หน้าตาคล้ายว่ากำลังสมเพช ไอติมยกมือซ้ายลูบหัวด้านข้างซ้ายของแซ็คเบาๆ 


“Keep me in the cage. (เก็บฉันไว้ในกรง)” แซ็คกระดกเบียร์รวดเดียวจนหมด วางกระป๋องเบียร์ไว้ข้างตัวฝั่งซ้ายมือ นั่งมองทุ่งแสงไฟระยิบระยับตรงเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอยโดยมีมือไอติมคอยลูบหัวให้เบาๆ


“Command me to do that or don’t do this, like the master and the dog. (ออกคำสั่งกับฉันว่าให้ทำนั่นหรืออย่าทำนี่ เหมือนเจ้านายกับหมา)” แซ็คยิ้มอย่างขมขื่น แต่แววตาไม่ได้แสดงความเศร้าเสียใจใด ๆ ออกมา เป็นดวงตาเหม่อลอยด้วยซ้ำไปเนื่องจากอาการมึน ๆ ไอติมยังคงนั่งนิ่งเป็นผู้ฟังที่ดีแม้จะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องก็ตาม


“But because I’m also fool. I can’t escape now even I want to very much. (แต่ก็เพราะฉันโง่ด้วยแหละ ตอนนี้ฉันก็เลยหนีไปไหนไม่ได้แม้จะอยากหนีมากก็เถอะ)” แซ็คแสยะยิ้ม แววตาเมาเคลิ้มแต่ก็แฝงความสิ้นหวัง ไอติมขยุ้มมือในเรือนผมของแซ็คเบาๆ


ไอติมไม่เข้าใจหรอกว่าแซ็คพูดอะไร ทั้งไม่เข้าใจว่าพูดอะไร และไม่เข้าใจว่าแซ็คพูดเพราะเป็นอะไร แต่สีหน้าและแววตามันก็ไม่ยากที่จะแปลออกมาว่าอีกคนกำลังรู้สึกไม่ดี


“You are free.” ไอติมดึงหัวตัวเองออกจากหัวแซ็ค ลดมือลงจากหัวแซ็ค วางลงบนไหล่ด้านซ้ายของฝรั่งร่างโต มองหน้าแดงระเรื่อของแซ็คอย่างใสซื่อ แซ็คหันไปมองดวงตาสีน้ำตาลสุกใสที่มองเขาด้วยสายตาห่วงใยแบบที่เขาไม่ได้คิดไปเองแม้ว่าจะกรึ่มอยู่


เพราะไม่มีสายตานี้มองเขามานานแล้ว เขาจึงรู้ดีว่ามันเป็นยังไง


“Why do you like me? Because of my dick? (ทำไมนายถึงชอบฉัน เพราะไอ้จ้อนฉันเหรอ)” ไอติมคลี่ยิ้มมุมปากทั้งสองข้างและพยักหน้า


“อื้อ I like your dick (จ้อน), and your egg—two egg (ไข่), your face (หน้า), your ass (ก้น), your หน้าอก เอ้อ เชสๆ (chest) โอ้ I like you all around your body. (ชอบทั้งตัวเลย)” ไอติมว่าเสียงใสด้วยความจริงใจ มองหน้าแซ็คพร้อมกับรอยยิ้มที่ยิ้มไปถึงนัยน์ตา แซ็คยิ้มขำเมาๆ


“Are you fall in lust with me? (ตกหลุมเงี่xxฉันงั้นเหรอ)” ไอติมทำหน้างงๆ


“ฮะ fall in love?” แซ็คหัวเราะเสียงทุ้ม ผ่อนลมหายใจออกทางจมูกยาว ๆ พร้อมกับยืดตัวขึ้น ดวงตาสีเทาอันฉ่ำวาวมองหน้าไอติมเยิ้ม


“Are you happy? (นายมีความสุขมั้ย)” ไอติมยิ้มกริ่ม


“Yes, I am happy. (ฮะ ผมมีความสุข)” แซ็คยิ้มขำพร้อมกับยกนิ้วโป้งข้างซ้ายให้ไอติม


“Good. (เยี่ยม)”


“You happy, too? (คุณล่ะ มีความสุขมั้ย)” แซ็คยิ้มหวานเยิ้ม ยกมือซ้ายขึ้นลูบหัวไอติมหนึ่งที


“I want. (ฉันอยากมีนะ)”


“What do you want? (ต้องการอะไรเหรอ)” ไอติมถามงง ๆ เพราะเข้าใจว่าแซ็คต้องการอะไรสักอย่าง ฝรั่งหัวทองหัวเราะในลำคอเบาๆ


“You can’t give what I want. (นายให้สิ่งที่ฉันต้องการไม่ได้หรอก)” มือซ้ายของแซ็คลูบแก้มเนียนใสของไอติมเบา ๆ แล้วลดมือลงวางบนตักซ้ายของตัวเอง ไอติมเอียงคอมองแซ็คด้วยความสงสัย แซ็คมองกลับด้วยสายตาคล้ายคนจะหลับ ใบหน้าของเขาแดงและกรึ่ม


“You look drunk. (คุณดูเมา)” แซ็คยิ้มตาเยิ้ม ไอติมยิ้มหวานตาม


“I’m still can fuck you very fine if we have sex now. (ถ้าตอนนี้เรามีเซ็กซ์กันอยู่ ฉันก็เอานายได้สบายมาก)” ไอติมเบิกตากว้างด้วยความตกใจผสมกับความตื่นเต้น


“You fuck me? Really?” ไอติมเข้าใจว่าแซ็คจะเอากับตัวเองอีกรอบเลยถามเพื่อความแน่ใจในแบบของตัวเอง ฝรั่งหัวทองหัวเราะด้วยความขบขัน


“You want, eh? (นายต้องการเหรอ ฮึ)” ไอติมพยักหน้ารัว


“I want!” ไอติมตอบรับ ไม่มีปฏิเสธเพื่อยืนยันว่าตัวเองยังคงพร้อมที่จะได้เสียกับแซ็คได้ทุกเมื่อ พระเอกหนังโป๊ตัวโตหัวเราะตาฉ่ำกับความตื่นตัวในเรื่องเซ็กซ์ของไอติม อยากจะเปรียบเหมือนเด็กที่ตื่นเต้นเวลาได้ไอติมโคนในสวนสนุกก็กลัวจะทำให้ไอติมโคนกับเด็กดูมัวหมองเกินไป


“Give me? (ให้ผมได้มั้ยฮะ)” แซ็คมองหน้าเรียวได้รูปของไอติมนิ่ง ความคิดรวนอยู่ในหัวเพราะกำลังมึนได้ที่ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยิ้มอ่อนและขยิบตาซ้ายหนึ่งที


“Okay. (ตกลง)” ไอติมเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง


“โว้ว!”


“Yeah, let’s go. (ช่าย ไปกันเถอะ)” แซ็คตบก้นไอติมเบา ๆ หนุ่มเอเชียลุกขึ้นยืนพรึบ หันไปเก็บของให้เรียบร้อย แซ็คยิ้มขำพลางยืนขึ้นอย่างโงนเงน มองไอติมเดินถือกระป๋องเปล่าสองอันไปทิ้งที่ถังขยะ ก่อนจะเดินวกกลับมาจับมือซ้ายของเขาแล้วเดินจูงกลับไปที่รถ


“Are you okay to drive? ขับได้เหรอ ขับๆ” แซ็คยิ้มเบ้ปากเล็ก ๆ และยกมือขวาขึ้นทำสัญลักษณ์ว่าโอเค


“Where we go? (จะไปที่ไหนเหรอ)” แซ็คยิ้มกับคำถามนั้น แววตาวาวขึ้นวูบหนึ่ง


“My home. (บ้านฉัน)”
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งแรก :A white boy: 06.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-07-2018 00:41:06
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งแรก :A white boy: 06.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-07-2018 02:16:38
ชวนกันไป "ฉึก ฉึก" ที่บ้านแซ็ค  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งแรก :A white boy: 06.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: LAFIA ที่ 06-07-2018 09:31:58
อัพเดทจากhotelไปmy homeแล้วจ้าาา จุดพลุ ปุ้งปั้งปุ้งปั้ง :mc4: อย่าหายนานๆอีกน้าา เปิดมารีหน้าเว็บเรื่องนี้ทุกวันเลยอะ  :hao5: อยากอ่านต่อแล้ววว  :heaven
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งแรก :A white boy: 06.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-07-2018 12:27:50
อัพเดทจากhotelไปmy homeแล้วจ้าาา จุดพลุ ปุ้งปั้งปุ้งปั้ง :mc4: อย่าหายนานๆอีกน้าา เปิดมารีหน้าเว็บเรื่องนี้ทุกวันเลยอะ  :hao5: อยากอ่านต่อแล้ววว  :heaven


ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ขอโทษที่หายไปนานนน และดีใจมากๆๆ ที่มีคนรออ่านตลอดดดๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งแรก :A white boy: 06.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-07-2018 17:30:37
ป๊าดดดด ดีแท้ แต่ทำไมเราได้กลิ่นมาม่า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งแรก :A white boy: 06.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 09-07-2018 14:16:40
ฮ่า ฮ่า ไอติมลูกกกก นี่ก็ไม่มีเก็บมีกั๊กว่าอยากได้อยากโดนเล้ยยยย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งแรก :A white boy: 06.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 09-07-2018 15:03:30
น้องไอติมมาแล้ว ขอบคุณนะคะที่พาน้องมาพร้อมกับรอยยิ้ม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งแรก :A white boy: 06.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 09-07-2018 16:45:24
น้องงงงง แหมลูก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งแรก :A white boy: 06.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 10-07-2018 16:26:39
โอ้วววว พาไปบ้านเลยหรอ


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งหลัง :A white boy: 29.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 29-07-2018 23:33:08
Chapter 8 (ครึ่งหลัง)



   
“Ah, yeah, slow down. Fuck, boy.” ฝรั่งตัวโตครางเสียงต่ำทุ้มพร้อมกับหน้าท้องหดเกร็งเป็นระยะตามจังหวะการดูดและการเลียเหมือนเด็กเลียไอติมที่ดูดและเลียเน้น ๆ แบบมือใหม่หัดดูด


จ๊วบ หมวบๆ แผล่บ!


“Hey, hey.” แต่ดูเหมือนคำห้ามปรามของเขาจะไม่ได้ผล ขาซ้ายของแซ็คกระตุกเบา ๆ จนเผลอไปเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วรถจนรถกระตุกไปข้างหน้าแบบชวนใจหายวาบ ดีที่ยังพอมีสติยกขาขึ้นทันก่อนที่จะเหยียบเร่งความเร็วไปมากกว่านี้ ส่วนไอ้หนุ่มเอเชียก็ยังคงก้มหน้าก้มตาดูดน้องชายต่างไซซ์ของเขาต่อไป


“Assaulter. Calm down. It’s nice but it’s hurt my dick, too. (ลวนลาม ใจเย็น มันเสียวดี แต่มันก็ทำจู๋ฉันเจ็บด้วยนะ)” ดูดเสียงดังจ๊วบ ๆ นึกว่าเด็กดูดอมยิ้ม


“ฮะ?” ไอติมเงยหน้าขึ้นจากแท่งเนื้อของแซ็คที่แข็งตระหง่านและเยิ้มด้วยน้ำลายของเขา แซ็คผ่อนลมหายใจเบา ๆ ที่ลูกชายได้พักบ้าง


“We are almost there, my house. (เราใกล้ถึงแล้ว บ้านฉันน่ะ)” ไอติมทำหน้างง มือขวายังคงรูดแท่งเนื้อของฝรั่งหัวทองขึ้นลง


“House? Near your house เหรอ” ไอติมมองใบหน้าแดงก่ำและหยาดเยิ้มพอ ๆ กับดวงตาสีเทาอ่อนอย่างฉงน แซ็คยักคิ้วขึ้นหนึ่งทีในขณะที่เลี้ยวรถเข้าไปตามถนนที่พาตรงไปยังบ้านของตัวเอง ไอติมดันตัวลุกขึ้นนั่งและมองไปด้านหน้าก็เห็นไฟสีขาวจากประตูรั้วของบ้านหลังใหญ่เปิดสว่างโดยที่มือยังจับของหวานหลังอาหารรสชาติปนเค็มปะแล่ม ๆ ไว้แน่น


“หูววว big big” ไอติมว่าอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นลาดเลาว่าบ้านของแซ็คนั้นหลังใหญ่โต เขาชอบแซ็คก็จริง แต่ไม่เคยมีรายการไหนหรือแม้แต่หนังโป๊ที่เขาเล่นเคยพูดถึงบ้านแซ็คว่าเป็นมายังไง หรือแม้แต่ตัวแซ็คเองก็ไม่เคยพูดถึงบ้านตัวเอง


จะว่าไป แม้แต่ประวัติแท้ ๆ ของแซ็คไอติมยังไม่ค่อยจะรู้เลย รู้อยู่นิด ๆ หน่อย ๆ เรื่องชื่อจริงของของแซ็คคือสิ่งที่เอ็กซ์คลูซีฟที่สุดที่ไอติมเคยรู้มาแล้วละ


“Okay, get off. (เอาล่ะ ลงรถ)” แซ็คบอกหลังจากจอดรถหน้าประตูรั้วบ้าน คนอายุน้อยกว่าเข้าใจว่าควรลงจากรถเลยปล่อยมือออกจากไอติมแท่งโปรดแล้วก็หอบกระเป๋าเป้ลงไปจากรถก่อนปิดประตูตามหลัง เดินอ้อมหน้ารถไปยืนรอแซ็คข้างประตูฝั่งคนขับ ฝรั่งหัวทองดับไฟหน้ารถ เปิดประตูรถลงมายืนทั้งที่ความเป็นชายยังพุ่งตรงอย่างแข็งแรง กางเกงลายทหารของแซ็คหล่นลงไปใต้ก้น เจ้าตัวใช้มือซ้ายจับขอบกางเกงเอาไว้


ไอติมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกวาบหวิว หน้าท้องหดเกร็ง รู้สึกวูบวาบไปทั่วตัว กลีบเนื้อด้านหลังหดเกร็งโดยอัตโนมัติ มือเล็กสองมือยื่นไปจับขอบกางเกงทั้งสองฝั่ง ช่วยแช็คดึงกางเกงขึ้นแล้วเลื่อนเข้าหากันเพื่อติดกระดุมตรงโคนแท่งเนื้อสีน้ำตาล ปล่อยให้อาวุธของฝรั่งหัวทองพุ่งตรงผ่าเป้ากางเกง


“Sexy very muchhh.” ไอติมมองหัวสีชมพูตาเป็นประกาย แซ็คยิ้มขำในขณะที่ปิดประตูรถและกดล็อครถ มองเจ้าเด็กหน้าใสที่มองของกลางกายที่พ่อให้เขามาด้วยสายตาหื่นกระหาย


“Let’s go. (ไปกัน)” แซ็คก้าวเดินนำไอติมไปทั้งแบบนั้น คนตัวผอมก้าวเท้าเดินตามไปเร็ว ๆ ตอนที่แซ็คเลื่อนประตูรั้วให้เปิด เจ้าเด็กมือไวก็เข้าไปกอดฝรั่งจากทางด้านหลังแล้วใช้สองมือลูบไล้แก่นกายแข็งแรงของแซ็คอย่างนัวๆ


“ฮูวววว” แม้ว่าจะเคยสัมผัสและเคยได้รับรู้ถึงความรู้สึกตอนไอ้แท่งนี้อยู่ข้างในรูก้นตัวเองมาแล้ว แต่ไอติมก็ยังคงใจเต้นกับมัน แต่จะตื่นเต้นก็ไม่ผิดนัก ห่างหายจากกันไปเกือบอาทิตย์ ได้กลับมาเจอกันใหม่ย่อมใจเต้นอีกครั้งได้ง่ายๆ


“Hey, easy. (เฮ้ ใจเย็นน่า)” แซ็คว่าอย่างติดตลก ไอติมกอดร่างใหญ่แนบแน่น ใบหน้าแนบกับแผ่นหลังหนา มือหนึ่งลูบไล้ความเป็นชายของเขาไม่ยอมปล่อย อีกมือก็คลึงลูกกลมกลึงทั้งสองลูกให้เสียวไส้ไม่หยุด แซ็คเลยเดินเข้าไปในบ้านทั้งที่มีเด็กลามกเกาะติดกับตัวอยู่แบบโงนเงน ทั้งเมาและหนักเจ้าเด็กที่เกาะตัวเองอยู่ พ่อฝรั่งหัวเราะเบา ๆ ในขณะที่หมุนตัวกลับเพื่อดันประตูปิด หน้าท้องเกร็งวูบหนึ่งตอนที่เจ้าเด็กน้อยใช้อุ้งมือวนตรงส่วนหัวแท่งเนื้อเบาๆ


“Stay still. (อยู่นิ่ง ๆ น่า)” แซ็คว่าเสียงทุ้มจนเกือบจะแหบ มือซ้ายจัดการลงกลอนประตูบ้านเรียบร้อย ไอติมปล่อยสองแขนออกจากตัวแซ็คแล้วไปยืนข้างหน้าฝรั่งตัวโต มองใบหน้าแดงก่ำและตาสีเทาอ่อนฉ่ำวาวของแซ็คก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างให้แซ็คมองอย่างงง ๆ ปนสงสัย แต่ยังไม่ทันเอ่ยปากถาม เจ้าตัวจ้อยก็เปิดปากพูดก่อน


“I’m happy!” แซ็คมองใบหน้าเรียวเล็กขาวใสแบบมึน ๆ ลอย ๆ ไอติมหันรีหันขวางสักแปบก่อนจะเจอกับบันไดขึ้นบ้าน มือเรียวเล็กคว้าหมับที่แท่งเนื้อและดึงให้ฝรั่งตัวโตเดินตามมายืนตรงหน้าบันได ส่วนตัวเองขึ้นไปยืนบนบันไดขั้นแรกจนตัวสูงเกือบเท่าแซ็ค พระเอกหนังผู้ใหญ่มองแฟนคลับตัวน้อยของตัวเองด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม


เจ้านักลวนลามมันยิ้มได้ยิ้มดี ยิ้มเก่งซะเหลือเกิน


“Happyyy!” เสียงใส ๆ พูดขึ้นอีกที แซ็คยิ้มมุมปากและพยักหน้าขึ้นหนึ่งครั้ง


“Yeah, I can tell from your face. (ใช่ ดูหน้านายก็รู้แล้ว)” สองแขนเรียวยาวของไอติมยกขึ้นคล้องคอหนาของฝรั่งหัวทอง ยื่นหน้าตัวเองเข้าไปจูบริมฝีปากของแซ็คแบบเร็ว ๆ หนึ่งที


“Oh, boy, no kiss, huh?” คนตัวโตขมวดคิ้ว


“But I want kiss. Kiss. Kiss. Kiss.” แซ็คหน้ามุ่ยหน่อย ๆ และส่ายหัวอย่างมึน ๆ เมา ๆ ไอติมทำหน้ายู่ แต่ก็ยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากฝรั่งอีกที ก่อนจะจูบอีกที อีกทีและอีกที จนคนหัวทองถึงกับมองบนกับนิสัยชอบลวนลามของไอ้เด็กคนนี้


“Get inside. (เข้าไปข้างในไป)” ไอติมก้มลงมองแท่งเนื้อของแซ็คที่ยังแข็งตัวอยู่ แต่ก็แข็งแบบอ่อน ๆ ไม่ใช่แข็งตั้งตรงแบบตอนแรก


“Go. (ไปสิ)” ไอติมหอมแก้มแซ็คทั้งสองข้างถึงดึงแขนออก แซ็คยื่นมือซ้ายไปยีหัวไอติมแล้วเดินขึ้นบันไดหน้าบ้านไปไขประตู ไอติมมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาสำรวจ แต่ก็สำรวจได้ไม่มากเพราะมันเป็นช่วงกลางคืน มีแสงไฟแค่จากรั้วบ้านส่องสว่างเข้ามาเท่านั้น


“You need to clean your ass, eh? (ต้องทำความสะอาดก้นใช่มั้ย ฮึ)” ไอติมที่เดินตามแซ็คอยู่มองกลับแบบงง ๆ แซ็คทำหน้าประมาณว่าช่างเถอะแล้วเดินนำไปตรงบันไดขึ้นไปชั้นสองแต่ไม่ได้พาขึ้นไปด้านบน เขาพาไอติมเลี้ยวไปฝั่งซ้ายมือ ไอติมก้าวเท้าตามไปติด ๆ มองขวามองซ้ายแบบไม่คุ้นเคย แถมตอนนี้ยังมืดอีกต่างหากเลยยิ่งไม่คุ้นเข้าไปอีก เดินได้สักสิบกว่าก้าวก็มาถึงประตูสีขาวบานใหญ่บานหนึ่ง


ยังไม่ทันคิดว่าเป็นห้องอะไร แซ็คก็เปิดประตูและตามด้วยเปิดไฟ แต่ก็ไม่ได้สว่างจ้าไปทั้งห้อง ให้อารมณ์แสงมัว ๆ มากกว่า ไอติมจึงเห็นว่าเป็นห้องนอนที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง เป็นห้องโทนสีขาว สีดำและสีเทาตัดสลับกันได้อย่างลงตัวจากการมองคร่าว ๆ แต่คิดว่าถ้าได้มองชัดกว่านี้ก็ยังจะบอกว่ามันลงตัวดี


“Your bedroom? (ห้องนอนคุณเหรอ)” ไอติมถามพลางมองกองผ้านวมสีเทาเข้มที่กองอยู่ปลายเตียงและทำท่าจะตกลงพื้น หมอนข้างวางเฉียง หมอนหนุนสองใบวางซ้อนกัน ผ้าปูค่อนข้างยับ บ่งบอกว่าเจ้าของห้องตื่นมาแบบไหนก็ทิ้งไว้แบบนั้น และอาจจะทิ้งไว้แบบนี้มานานแล้ว


“I have two bed rooms, but I love this one. (ฉันมีสองห้องนอน แต่ฉันชอบห้องนี้)” แซ็คว่าพลางปิดประตูห้อง ไอติมมองไปรอบห้องนอนของแซ็ค ไม่ได้เป็นห้องนอนที่มีลูกเล่นอะไรมากมาย เป็นห้องนอนสไตล์ผู้ชายสบาย ๆ ง่าย ๆ ไม่เยอะสิ่ง ของในห้องมีไม่เยอะ มีตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ โต๊ะวางของ โซฟาหนังสีดำตัวยาวหนึ่งตัว โต๊ะกระจกทรงสี่เหลี่ยมหน้าโซฟาหนึ่งตัว เก้าอี้ทรงสี่เหลี่ยมแบบไร้พนักวางแขน มีชุดคอมพิวเตอร์ตั้งเยื้องกับปลายเตียงบนโต๊ะสีขาวอันใหญ่ บนขอบจอคอมฯ สี่เหลี่ยมอันใหญ่มีกล้องทรงกลมสีขาวตัวเล็กติดอยู่ตรงกลาง ไอติมอ้าปากค้าง เดินไปตรงโต๊ะคอมฯ และสลับกับหันมองไปที่เตียงและรอบ ๆ ห้องอีกที


“โอ๊ะ this room, this อะ you เอ่อ ไลฟ์ชักว่าว เอ้ย อะไรนะ ชัก dick” ไอติมยกมือขวาทำท่าชักตามที่พูด แซ็คยิ้มมุมปากและยักคิ้วหนึ่งทีเพราะเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายจะสื่อ


“Yes.” ตอบเสร็จก็ถอดเสื้อยืดออกจากตัว ก่อนตามด้วยถอดกางเกง ฝรั่งหัวทองเดินเข้าไปหาเจ้าตัวน้อยที่กำลังยืนแสดงอาการตื่นเต้นอยู่


“Let’s take a shower. (ไปอาบน้ำเถอะ)” ไอติมได้ยินคำว่าชาวเว่อร์เลยพยักหน้า วางกระเป๋าเป้ไว้บนเก้าอี้สีดำตัวใหญ่สำหรับนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ ไอติมจำได้ว่าเป็นตัวเดียวกับเวลาที่แซ็คมานั่งไลฟ์ช่วยตัวเอง เห็นข้าวของที่ตัวเองเคยเห็นผ่านเฟรมกล้องสี่เหลี่ยมมาหลายปีก็รู้สึกดี๊ด๊าดีดดิ้น


“I no see your house before. (ผมไม่เห็นบ้านคุณมาก่อน)” ไอติมพูดหลังจากเดินตัวเปลือยเข้ามาในห้องน้ำมาพร้อมกัน แซ็คพาเข้าไปในโซนของห้องอาบน้ำที่ปูพื้นด้วยกระเบื้องสีดำและปูผนังครึ่งหนึ่งด้วยกระเบื้องอันเล็ก ๆ สีเดียวกันแต่เข้มกว่าสีกระเบื้องที่ใช้ปูพื้น


“You have seen it, but you might not remember it. It has been using for shooting porn. (นายเคยเห็น แต่นายอาจจำไม่ได้ มันใช้เป็นที่ถ่ายหนังโป๊)” ไอติมงงเพราะประโยคยาวเกินต่อมการแปลของตัวเองและแซ็คก็รู้ด้วยว่าไอ้เด็กเพิ่งเสียบริสุทธิ์งงที่เขาพูด


“This house. We have shooting porn in this house. (บ้านหลังนี้ เราถ่ายหนังที่บ้านหลังนี้ด้วย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ พอจะเข้าใจที่แซ็คสื่อแล้ว กำลังพยายามทวนความจำตัวเองว่าเคยเห็นบ้านหลังนี้ผ่านตาในหนังของแซ็คที่เคยดู ๆ มั้ย และพอทวนไปเรื่อย ๆ ก็คิดว่ายังไม่เคยเห็นบ้านหลังนี้ในหนังของแซ็ค รึไม่ก็อาจจะใช้ส่วนอื่นที่ไอติมยังไม่เห็น เพราะมาถึงที่นี่ก็มืดค่ำมาก แล้วก็ได้เห็นแค่ไม่กี่ส่วนของบ้านเอง


ที่สามารถทวนฉากหนังของแซ็คกับตัวเองได้ขนาดนี้ก็เพราะว่าแซ็คมีหนังโป๊น้อยเรื่อง ไม่งั้นวันแรกไอติมไม่พรรณนาหรอกว่าอยากให้ขวัญใจตัวเองมีหนังโป๊อีกเยอะ ๆ เพราะดูจนจำได้แล้วว่าแซ็คร้องซี๊ดร้องอ้ากระบวนท่าเป็นยังไง เอาจริงก็มีเบื่อบ้าง ถึงได้แอบนอกใจไปดูของพระเอกคนอื่นในบางครั้ง ยังดีที่แซ็คมีไลฟ์ช่วยตัวเอง กับเต้นเซ็กซี่ให้ได้ชม แต่ไอติมก็ได้ดูแต่ไลฟ์แหละ ไอ้เต้นเซ็กซี่ต้องบินมาถึงที่ ไม่งั้นก็ไม่ได้ดู เพิ่งได้ดูครั้งแรกก็ตอนอยู่ซานฟรานฯ นั่นแหละ


“You good? (เรียบร้อยดีนะ)” แซ็คถามหลังจากตัวเองอาบน้ำเสร็จและเห็นไอติมกำลังจัดการก้นของตัวเองด้วยฝักบัว เจ้าตัวจ้อยร่อยพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้างเป็นเชิงบอกว่าเวรี่กู๊ดมั่กๆ


“เดี๋ยวต้องหาซื้อหัวที่ฉีดตูดติดตัวไว้ละ” ไอติมพึมพำคนเดียวในขณะที่ใช้นิ้วเปื้อนครีมอาบน้ำล้วงวนในรูก้นตัวเอง


“What? (ว่าไงนะ)”


“I just speak with me in Thai language.” ไอติมต้องการสื่อว่าพูดกับตัวเองเป็นภาษาไทยเฉย ๆ แซ็คยักคิ้วขึ้นหนึ่งทีพร้อมกับใช้มือขวาเสยผมหน้าขึ้น ไอติมยิ้มเคลิ้ม


“Handsome. (หล่อ)” แซ็คยิ้มขำน้อย ๆ และบอกว่าจะออกไปก่อน ไอติมพยักหน้า ฝรั่งหัวทองเดินไปหยิบผ้าขนหนูสีขาวขึ้นมาเช็ดหัวเช็ดหน้าพร้อมกับก้าวเท้าเดินกลับเข้าไปในห้องนอน เขาเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์ ยืนเช็ดตัวจนตัวแห้งก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้สีดำบุนวมตัวใหญ่ มองจอคอมฯ ที่เป็นรูปวิวทะเลสีน้ำเงินที่เห็นได้ทั่วไปในอินเตอร์เน็ต โน้มตัวไปกดเปิดกล้องและเข้าเว็บไซต์อันคุ้นเคย เขาจัดการคลิกเข้าหมวดหมู่ที่เข้าเป็นประจำ พิมพ์ข้อความอัปเดตลงไปว่า


‘Going to the fucking live show. Who will be the lucky person to see this? Wait for it in a minute!’ (กำลังจะไลฟ์โชว์เ_ดกัน ใครจะโชคดีได้ดูโชว์นี้บ้าง รออีกแปบ!)'


แซ็คกดส่งข้อความอัปเดต ดวงตาสีเทาอ่อนวาววับ มุมปากขยับเป็นรอยยิ้ม เขาไม่ได้คิดถึงจำนวนคนดูเลยว่าจะต้องมีคนมาดูกี่คน เพราะตอนนี้มันดึกมากแล้ว และเวลานี้ก็ไม่ใช่เวลาที่เขามักจะมานั่งโชว์เว็บแคมแบบนี้ ใครได้ดูก็ถือว่าโชคดีไป เพราะปกติเขามาแค่ช่วยตัวเองแล้วก็จบไป ไม่เคยเอาใครแล้วไลฟ์โชว์แบบนี้


“Finished! (เสร็จแล้ว)” แซ็คหันไปมองหนุ่มหัวดำร่างบางเดินตัวเปลือยออกมาโดยมีผ้าขนหนูคลุมหัวหนึ่งผืน ไอติมยิ้มแป้น หันไปมองคอมพิวเตอร์ของแซ็คแล้วก็เห็นตัวเองปรากฏอยู่บนนั้น


“โอ๊ะ?!” ไอติมตาโต มองตัวเองบนหน้าจอที่ขยับไปตามท่าทางของตัวเองในขณะนี้ แซ็คนั่งยิ้มตาฉ่ำอยู่บนเก้าอี้


“I’m gonna make a cam show with you. (ฉันจะไลฟ์กับนาย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ หัวใจเต้นตึกตัก ไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจไปในแบบไหน


“Cam show?” แซ็คพยักหน้าและยิ้มเท่


“Yes, we fuck and we show them through this cam, people will come to see us, like when you see me jerk off at your house. (ใช่ เราเอากันแล้วก็ให้คนดูผ่านกล้องตัวนี้ มีคนมาดูเราเอากัน เหมือนตอนที่นายดูฉันช่วยตัวเองตอนอยู่บ้านนั่นแหละ)” ไอติมอ้าปากค้าง เพราะเก็ทตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ได้เข้าใจประโยคที่แซ็คว่าทั้งหมดหรอก แต่เก็ทด้วยสัญชาตญาณว่าแซ็คกำลังชวนทำอะไร


“My mom will hit me. (แม่ต้องตีแน่เลย)” แซ็คหัวเราะเบา ๆ มองไอติมที่กำลังทำหน้าตาสับสน


จากที่เคยเป็นคนดู วันนี้มาเป็นคนโชว์งี้เหรอ?!


“Does she watch porn? I mean will she use the internet? (แม่ดูหนังโป๊ด้วยเหรอ ฉันหมายความว่า แม่ใช้อินเตอร์เน็ตด้วยเหรอ)”


“My sister of my mom.” ไอติมจะสื่อถึงน้าแพนว่านอกจากแม่แล้วยังมีน้าแพนอีกคน


แซ็คดึงไอติมลงไปนั่งบนตักเปลือยเปล่า ไอติมยกแขนซ้ายคล้องคอของแซ็คอัตโนมัติ เสียงเก้าดังเอี๊ยดอ๊าดนิดหน่อยตอนที่ไอติมนั่งเต็มก้น “Don’t be afraid. (อย่ากลัวไปเลยน่า)”


“I’m afraid. (กลัวอะ)” ไอติมรู้ศัพท์คำนี้เลยตอบกลับอย่างไว แซ็คขบกราม ใบหน้าเรียบเฉย ออกจะตึง ๆ ด้วยซ้ำ


ไอติมน่ะกลัวโดนแม่ตีจริง ๆ ไม่ได้คิดกลัวอะไรอย่างอื่นเลย


“No face. Just your body and ass, okay? (ไม่เห็นหน้า แค่ตัวกับก้น โอเคมั้ย)” ไอติมทำหน้านึกสักแปบ ทำความเข้าใจกับประโยคนั้นสักหน่อย แล้วพอจะเริ่มเข้าใจก็เอาผ้าขนหนูพันหน้าตัวเองไว้จนเหลือแค่ดวงตา


“แบบนี้เหรอ” แซ็คยิ้มขำที่เห็นแต่ตาเรียว ๆ กับลูกตาสีน้ำตาลสุกใสโผล่ออกมาจากผ้าขนหนู เขาพยักหน้าหนึ่งที ไอติมดึงผ้าออกจากหน้าเมื่อสื่อสารได้เข้าใจตรงกัน


“Kiss me ทีนึง one kiss” แซ็คย่นคิ้ว


“No.”


“Yes.” ไอติมย่นคิ้วสู้ แซ็คส่ายหัวไม่เอา


“No kiss. Only fuck. (ไม่จูบ แค่เอากัน)”


“No cam show if no kiss. (ถ้าไม่จูบก็ไม่ทำแคมโชว์)” แซ็คหรี่ตามองเจ้าเด็กน้อยที่บู้ปากกลับมา


“Then don’t fuck. (งั้นก็ไม่เอากัน)”


“No, have fuck same. (ไม่ เอากันเหมือนเดิม) You say อะ” แซ็คย่นคิ้ว สีหน้าขัดใจ ไอติมก็ย่นคิ้วกลับไม่ยอม


“You asked me too much. You know that? (นายขอมากไป รู้ตัวมั้ย)” ไอติมหน้ามึน


“Not much just kiss. (ไม่เยอะ แค่จูบ)” แซ็คมองหน้าไอติมนิ่งพักหนึ่งก่อนเลื่อนสายตาไปมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏให้เห็นสองร่างต่างไซซ์กำลังนั่งแนบชิดเนื้อแนบเนื้อกันในเฟรมสี่เหลี่ยมของช่องวิดีโอ คิ้วสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำขมวดเข้าหากันก่อนปล่อยออก ตามมาด้วยการพ่นลมหายใจสั้น ๆ ก่อนที่จะยื่นมือซ้ายไปเคาะปุ่ม ENTER บนคีย์บอร์ดหนึ่งทีแล้วก็กลับมาเอนตัวกับพนักพิงเก้าอี้


“Do what you want. It’s already started. (อยากทำไรทำ เริ่มไลฟ์แล้ว)”


“หะ… ว้อท โว้ว!” ไอติมหันไปมองหน้าจอ แต่ยังไม่ทันเห็นหรอกว่าไลฟ์จริงไลฟ์ปลอมแล้วคนดูเข้ามาบ้างหรือยัง แต่เห็นกล้องมันขึ้นสีแดง ๆ เลยรีบหันกลับก่อน 


“Kiss. (จูบสิ)” แซ็คยักคิ้ว นั่งเอนหลังรอแบบสบาย ๆ สองแขนวางไว้บนที่วางแขนของเก้าอี้ เขาไม่ได้ยอมหรือทำเพื่อเอาใจเด็ก คิดแค่ว่าเหมือนโดนเด็กนัวเนียแล้ว ๆ ไป


อีกอย่างก็ใช่ว่าไม่เคยซะทีเดียว แค่ทำให้มันดูดดื่มขึ้นละมั้ง


 ไอติมขยับตัว แบะสองขาออกนั่งคร่อมตักแซ็ค หันหลังให้กล้องเลยทำให้เห็นแต่แผ่นหลังขาวเนียนละเอียดกับหัวสีดำแบบที่ว่าแม้แต่คนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทอย่างเดนก็คงทำได้แค่คุ้น ๆ และตั้งข้อสงสัยว่าใช่ไอติมมั้ย ยิ่งในห้องเปิดไฟแบบสลัว เลยยิ่งทำให้เดายากว่าใครกำลังนั่งเสียดสีเนื้อตัวเองกับพระเอกหนังโป๊รูปหล่ออยู่


“Really? (จริงอ้ะ)” ไอติมถามอย่างไม่อยากเชื่อ มองแซ็คด้วยอาการตะลึงหน่อย ๆ ที่อีกฝ่ายยอมให้จูบง่าย ๆ และความรู้สึกอีกอย่างคือ


จะจูบยังไง จูบไม่เป็น ไอ้ที่ทำ ๆ ไปก่อนหน้านี้ก็แค่เอาปากแตะ ๆ แค่นั้น


“ฮืมมม!” แซ็คคำรามด้วยความหงุดหงิดน้อย ๆ ที่เจ้าเด็กมือไวมาทำตาใสหน้าซื่อใส่อยู่อีกทั้งที่เปิดทางให้ขนาดนี้แล้ว


“หืมมม?” ไอติมทวนคำคำรามของแซ็คแล้วยิ้มเอ๋ออ๋า แซ็คกลอกตา แล้วสักพักก็หยุดนิ่งเพราะไอติมยื่นหน้าเข้ามาเอาปากประกบริมฝีปากของเขา ฝรั่งหัวทองนั่งนิ่ง ปล่อยให้เจ้าเด็กหัวดำทำตามที่อยากทำ


จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ~


แซ็คย่นคิ้ว มองนัยน์ตาสุกใสที่มองหน้าเขาแบบตื่น ๆ เจ้าเด็กเอเชียเอาแต่ทำเพียงจุ๊บริมฝีปากเขาไปเรื่อย จุ๊บแบบเด็กจุ๊บแก้มพ่อแก้มแม่อะไรแบบนั้น


“Eh, you can’t kiss, do you? (เอ้ จูบไม่เป็นใช่มั้ยเนี่ย)” ไอติมหยุดชะงัก มองแซ็คตาใส กะพริบตาปริบ ๆ แบบงง ๆ แล้วสักพักแก้มใสขาว ๆ ก็แดงระเรื่อ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจับได้แล้วว่าตัวเองจูบไม่เป็น


“This is not kiss? (แบบนี้ไม่เรียกว่าจูบ) เหรอ”


“It’s just lips touch lips. (แค่ปากแตะปากเท่านั้นแหละ)” ไอติมบู้ปาก ยกมือขวาเกาหัวตัวเองแบบงงๆ


“ทำไงอะ How kiss.” แซ็คจิ๊ปาก นึกหมั่นไส้เด็กอวดดีที่อยากจูบแต่จูบไม่เป็น เลยใช้มือซ้ายตีก้นเด้ง ๆ ไปหนึ่งที ไอติมยิ้มเขินพร้อมกับห่อไหล่ ก่อนจะยกมือขวาจับแก้มซ้ายของแซ็คและลูบเบา ๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองดวงตาสีเทาอ่อนอย่างใสซื่อ


“Teach me. (สอนผมหน่อยสิ)” แซ็คหรี่ตามองไอ้นักลวนลามตัวฉมัง ไอติมยิ้มกริ่ม พยักหน้ายืนยันคำพูดตัวเองอีกทีว่าช่วยสอนจูบให้หน่อย แซ็คยิ้มมุมปากและส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะยกมือซ้ายขึ้นจับแก้มขวาของไอติม


“Open your mouth. (อ้าปาก)”


“อา…” หนุ่มหัวดกดำอ้าปากรอ แต่มองไปมองมามันเหมือนคนไข้กำลังอ้าปากให้หมอตรวจคออักเสบอะไรแบบนั้น ขนาดว่าผ่านการมีเซ็กซ์มาก็มากอยู่ แซ็คยังรู้สึกเงอะงะกับเจ้าเด็กเพิ่งเสียบริสุทธิ์ เขามองไอติมอ้าปากแบบงุนงง ใบหน้าชะงักไปมาอยู่พักหนึ่ง ลังเลว่าจะสอนเด็กมันจูบยังไง กลายเป็นว่าเขาเองก็เหมือนคนเพิ่งเริ่มจูบเหมือนกัน แซ็คดึงหน้าตัวเองเข้า ๆ ออก ๆ ใกล้กับหน้าไอติมอีกแปบก่อนจะดึงหน้าไอติมให้ลงมาใกล้ตัวเองแล้วประกบปากตัวเองเข้ากับปากแดง ๆ นั่น


“ฮู้” ไอติมส่งเสียงตื่นเต้นตอนที่โดนแซ็คใช้ริมฝีปากขบริมฝีปากตัวเองและดึงเบา ๆ ไอติมรู้สึกตัวเบาหวิว ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าร้อนวูบวาบ


“อ๊ะ…” ไอติมครางด้วยความตกใจเมื่อแซ็คยื่นลิ้นเข้ามาในปากแล้วเลียลิ้นตัวเองแบบเบา ๆ แต่ความตกใจก็อยู่ได้ไม่นานเนื่องจากความรู้สึกคล้ายกับโดนไฟช็อตแล่นไปทั่วตัว


“โว่ววว” ไอติมดึงหน้าออก ใบหน้าเรียวใสตื่นตระหนกและแดงแปร๊ดยิ่งกว่าคนที่เมาอย่างแซ็คซะอีก ฝรั่งหัวทองมองเจ้าเด็กเอเชียอย่างสงบ


“What? (เป็นอะไร)” ไอติมกะพริบตาถี่ ๆ มองหน้าหล่อ ๆ ของแซ็คด้วยอาการหัวใจเต้นตุบๆ


“สยิววว” ไอติมไม่รู้แล้วว่าคำนี้ในภาษาอังกฤษต้องพูดยังไงเลยโพล่งเป็นไทยออกมา พร้อมกับทำท่าตัวสั่นคล้ายคนหนาว แถมยังชี้ไปที่ไอติมแท่งน้อยของตัวเองที่ดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากโดนจูบ


“You feel good? (รู้สึกดีเหรอ)” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ ดึงผ้าขนหนูที่กองอยู่ตรงก้นออก ยกสองแขนวางบนบ่าแซ็คและก้มลงประกบปากกับแซ็คอีกที คนตัวโตตั้งรับได้อย่างง่ายดายตอนที่ไอติมสอดลิ้นเข้ามาในปาก ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นคนคุมเกมเองด้วยการเริ่มกวาดลิ้นในโพรงปากไอติมจนไอติมเริ่มหายใจหอบขึ้นทีละนิดพร้อมกับอาการสูบฉีดของเลือดในร่างกายที่ค่อย ๆ พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน


เสียงหอบหายใจดังคลอไปกับเสียงจูบแลกลิ้น ไอติมเริ่มสมองเบลอ อวัยวะกลางตัวแข็งปัก ขนลุกซู่เป็นระยะ ใบหน้าร้อนฉ่า และที่สำคัญคือรู้สึกมันส์


“อือ อือ อ้ะ!” ไอติมแหงนหน้าขึ้นราวกับคนเพิ่งดำน้ำเสร็จแล้วหนีขึ้นเหนือน้ำเพื่อต่ออากาศหายใจให้ตัวเอง แซ็คไม่ปล่อยให้ไอติมอารมณ์ชะงัก เขายื่นหน้าไปไซ้คอขาวของไอติม แม้คนตัวเล็กจะตัวสั่นแต่เขาก็ไซ้และดูดลำคอขาวเนียนไม่หยุดจนไอติมครางเสียงสั่นเสียงหลง


“โอ้ ก็อด…” ไอติมรู้สึกละลายไปทั้งตัวยกเว้นจุดเดียวที่แข็งตึงเปรี๊ยะพร้อมแตก สองมือของแซ็คลูบก้นลูบหลังไอติมไปเรื่อย สองเท้าดันเก้าอี้ให้หมุนไปด้านข้าง ดวงตาสีเทาเหล่มองไปทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังแสดงให้เห็นภาพของเขากำลังนัวเนียไอติมอย่างไม่เร่งรีบ เขามองไม่ชัดว่าคอมเม้นของคนดูนั้นไหลต่อเนื่องหรือไม่และมีมากเท่าไหร่ แต่ก็พอเดาได้ว่ามีคนได้ดูโชว์แคมอันนี้อยู่บ้าง


ดวงตาสีเทามองหน้าจอนิ่งแบบที่อ่านไม่ออกอีกครู่หนึ่งก่อนจะละสายตาจากหน้าจอแล้วปิดเปลือกตาลง แซ็คซุกไซ้คอขาวเนียนของไอติมต่อแบบที่เขาเองก็เริ่มเมามันส์มากขึ้นตามอารมณ์

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งหลัง :A white boy: 29.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 29-07-2018 23:34:49
V
v
v

“อึ๊ๆๆ” ไอติมนอนหน้านิ่วคิ้วขมวด สองมือจับต้นแขนล่ำหนาของแซ็คแน่น สองขายกกางออก รองรับกับขนาดตัวของฝรั่งหัวทองที่กำลังรัวเอวใส่ก้นเขาอย่างเมามันส์


ปับๆๆๆๆ


“อื้อ พักก่อน พอส ๆ (pause) พอส ๆ อะๆๆ เดี๋ยวคะ… ค่อย play”


ปึกๆ


“What…?” แซ็คถามเสียงพร่าหน้าตางุนงงกับการสื่อสารของไอติม หนุ่มไทยตัวเล็กกัดริมฝีปากล่างแน่น สองมือเลื่อนมาจับหน้าอกแน่นและหนาทั้งสองข้างของแซ็คแล้วก็ออกแรงดันเป็นเชิงบอกให้หยุด


“Stop…” แซ็คเองที่ก็หอบเช่นกันค่อย ๆ หยุดแรงกระแทกที่ตอนแรกใส่แบบเมามันส์ในอารมณ์


“Hey…” แซ็คหยุดกระแทก สองแขนค้ำร่างตัวเองไว้เหนือร่างผอมแต่มีกล้ามน้อย ๆ ของไอติม อาวุธกลางกายอันเขื่องเสียบคารูที่แสนฟิตและรัดไอ้น้องชายพ่อเดียวกันของเขาจนรู้สึกเสียวไส้แปลบๆ


“Break, break พักเบรก” ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ เอียงหน้าไปด้านซ้าย หลับตาพริ้ม หน้าอกกระเพื่อมเชื่องช้า ส้นเท้าทั้งสองข้างวางลงบนเตียง ร่างกายอ่อนยวบยาบคล้ายจะหมดแรง


“You need to exercise. (นายต้องออกกำลังกาย)” แซ็คว่าเสียงแหบ ไอติมลืมตาขึ้น หันหน้ามานอนตรง ๆ มองใบหน้าแดงก่ำของแซ็คที่แสดงอาการหอบอ่อน ๆ ก่อนหันไปมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงภาพของแซ็คกำลังคร่อมร่างเขาอยู่แบบเห็นด้านข้างโดยที่ส่วนหัวของไอติมจมไปกับหมอนจนมองไม่เห็นหน้า ไอติมเลื่อนสายตากลับมามองหน้าแซ็คแล้วยิ้ม สองมือยกออกจากอกหนาขึ้นไปจับกรอบหน้าคมชัดและดึงให้หน้าแซ็คลงมาใกล้หน้าตัวเอง


“I want kiss. (ผมอยากจูบ)” แซ็คกลอกตาแต่ก็ก้มลงจูบแลกลิ้นกับเจ้าเด็กตัวเล็กกว่าเขาโข ลิ้นเล็กกับลิ้นใหญ่คลอเคลียกันด้วยความคุ้นเคยหลังจากเจ้าเด็กนี่เรียกร้องจูบแล้วจูบเล่า จูบจนแซ็ครู้ว่าไอติมจะยิ่งมีอารมณ์เวลาโดนจูบและโดนไซ้คอ


“อา…” ไอติมแลบลิ้นอ้าปากให้แซ็คดูดลิ้นอย่างช้า ๆ จนน้ำลายเยิ้ม สองแขนเรียวยาวคล้องคอหนาของแซ็ค แล้วสักพักคนตัวโตก็เริ่มซอยถี่ตามเดิม สองมือของไอติมขยุ้มผมสีทองอย่างเพลินมือ ลิ้นยังคงคลอเคลีย ด้านล่างก็กระแทกเข้าหาจนหน้าท้องหดเกร็งแบบที่ไม่ต้องเสียเวลาซิตอัพก็คงมีกล้ามท้องได้สบายๆ


“จะแตกแล้วอะ ฮ้า~” ไอติมคราง สองแขนกอดคอแซ็คแน่น สองขาเกี่ยวบั้นเอวฝรั่งตัวโตไว้แน่นเช่นกัน หนุ่มหัวทองก้มหน้าลงไซ้ซอกคอขาวสลับกับดูดจนรอยแดงขึ้นเป็นปื้นจะทั่วคอไอติมแล้ว


มันก็หอมดี ไซ้ไปไซ้มาก็ไม่ได้ฝืนใจอะไร


“อ๊ะ!” ไอติมเลื่อนสองมือไปจิกแผ่นหลังหนากล้ามเนื้อแน่น ๆ ของแซ็ค เจ้าของแผ่นหลังดันตัวขึ้น หยุดกระแทกชั่วครู่เพื่อขยับโพสิชั่นของเข่าและฝ่ามือให้ทะมัดทะแมงยิ่งขึ้นก่อนจะเริ่มออกแรงซอยต่อ เสียงเนื้อตีกันคลอกับเสียงร้องเสียวซ่านของไอติม ทั้งมือและเท้าของร่างเล็กเกร็งแน่นบ่งบอกว่าใกล้ถึงจุดแตกสลายเต็มทน


“อื้อ อื้อ แตก” ไอติมเบลอจนนึกไม่ออกว่าจะบอกแซ็คเป็นภาษาอังกฤษยังไงว่าตัวเองจะเสร็จแล้ว และยังไม่ทันคิดอะไรได้เพิ่มเติมจากเดิม น้ำขาว ๆ ก็พุ่งออกมารดหน้าท้องเองโดยที่ไม่ได้ใช้มือแตะหรือช่วยชักใด ๆ ไอติมร้องอื้ออึงในลำคอ สองมือบีบเนื้อบนหลังแซ็คแน่น สองขาเกี่ยวบั้นเอวหนาของแซ็คไว้ไม่หลุดหาย ร่างกายยังคงสั่นไหวไปตามแรงกระแทก ไอติมลืมตาขึ้นมองหน้าแซ็คแบบเบลอ ๆ ฝรั่งหัวทองยังคงกระแทกเอวต่อไป


“Already cum? (แตกแล้วรึไง)” แซ็คยิ้มล้อ ไอติมเห็นแซ็คยิ้มก็ยิ้มตามก่อนจะดึงคนด้านบนลงมาจูบกับตัวเอง คราวนี้ไอติมเป็นฝ่ายดูดลิ้นสีแดงสดของแซ็คบ้าง ดูดแบบที่แซ็คเคยดูดให้ ดึงความรู้สึกในความทรงจำมาใช้ เสียงดูดลิ้นดังกรุบกรับอยู่พักหนึ่งก่อนที่ไอติมจะนอนนิ่งส่งยิ้มให้แซ็คที่หน้าตาพริ้มและกัดฟันส่งเสียงซี๊ดอ่อน ๆ ไอติมใช้สองมือลูบหน้าอกของแซ็ค แล้วเปลี่ยนเป็นใช้ปลายนิ้วสามนิ้วคีบสลับกับบีบหัวนม ฝรั่งตัวโตเชิดหน้าขึ้นพร้อมกับร้องคราง หน้าท้องหดเกร็งในขณะที่ยังคงกระแทกไม่หยุด


“Fuck…” แซ็คขบกรามแน่น ไอติมหยุดคีบหัวนมหนาของแซ็คและดึงแซ็คลงมาใกล้หน้าตัวเองก่อนผงกหัวตัวเองขึ้นหอมแก้มขวาของแซ็คค้างไว้ ตอนนั้นเองที่แซ็คเริ่มขมวดคิ้วแน่น


“Ah! Fuck! I’m—oh!” แซ็ครีบดันตัวลุกขึ้น ไอติมยกแขนสองข้างออกวางหงายข้างตัว แซ็คดึงน้องชายตัวเองออกมาข้างนอกรูก้นของไอติม เจ้าแท่งเนื้อสีน้ำตาลพ่นน้ำสีขาวเข้มขนออกจากหัวสีชมพูอ่อนมาสมทบกับน้ำของไอติมจนเจิ่งนองเต็มหน้าท้องแบนราบ ไอติมกดคางลงมองน้องชายแซ็คพ่นน้ำแล้วยิ้มกว้าง หนุ่มหัวทองร้องอื้ออ้าเสียงแหบพร่า กล้ามเนื้อเกร็งจนเห็นลายกล้ามชัดทุกสัดส่วน


“ไหนชิมซิ~” ไอติมพึมพำกับตัวเอง ใช้นิ้วชี้ข้างขวาปาดหยดน้ำของแซ็คบนหน้าท้องตัวเองขึ้นมาแล้วเอาเข้าปาก


“แจ๊บ ๆ งึม ๆ กลิ่นเบียร์” เคยอ่านเจอว่าไอ้รสชาติน้ำอันนี้จะเปลี่ยนรสชาติตามอาหารที่กินเข้าไปได้ด้วย ก่อนหน้าจะมาที่นี่แซ็คกินเหล้ากินเบียร์ไปเยอะเลยทำให้รสชาติเป็นงี้ละมั้ง


“Ooh, ah, okay.” แซ็คพึมพำเสียงหอบน้อย ๆ มองไอติมที่นอนยิ้มร่า บนท้องเต็มไปด้วยน้ำขาวขุ่นข้น


“Happy!” ไอติมยกนิ้วโป้งสองมือให้ แซ็คพ่นลมออกจากปากหนึ่งทีก่อนคลานเข่าลงจากเตียงไปตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งที่น้องชายยังไม่ทันสงบดี เขาดึงเก้าอี้มานั่งใกล้หน้าจอ ไล่ดูคอมเม้นตรงช่องแชทในเฟรมกล้องที่กำลังทำการไลฟ์สด เห็นคนดูไม่เยอะเท่าไหร่จากการมองคอมเม้นคร่าว ๆ เขาขี้เกียจมานั่งนับแต่จากการคาดคะเนก็น่าจะน้อยกว่าเวลาปกติที่เขามักจะมาโชว์เว็บแคมกับแฟน ๆ แต่จากที่เช็กคอมเม้นส่วนมากตื่นเต้นกันทั้งนั้นที่เห็นเขาเอากับผู้ชายและหวีดร้องที่เห็นเขาจูบกับผู้ชาย


แซ็คยิ้มพอใจ


“Goodbye. See you next time. (ไปละ แล้วเจอกันคราวหน้า)” แซ็คโบกมือให้แฟน ๆ ส่งจูบหล่อ ๆ ให้หนึ่งทีก่อนที่จะปิดช่องแคมโชว์ เขากดปิดกล้อง ปิดเว็บและปิดคอมฯ หมุนเก้าอี้ไปทางเตียง โยนผ้าขนหนูให้ไอติมเอาไปเช็ดทำความสะอาดหน้าท้อง


“Close camera?” ไอติมถามพลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าท้องของตัวเอง


“Yes. (ปิดแล้ว)” แซ็คนั่งเอนหลังกับพนักพิงเก้าอี้ มองไอติมเช็ดตัวจนเสร็จก่อนที่เจ้าตัวจ้อยจะดันตัวลุกขึ้นมานั่งห้อยขาตรงปลายเตียง


“Good than last time. (ดีกว่าครั้งที่แล้วอะ)” แซ็คยักคิ้วหนึ่งที เข้าใจศัพท์ง่าย ๆ ของอีกฝ่าย ไอติมยิ้มกว้างและปรบมือเปาะแปะก่อนจะเอื้อมตัวมาดึงให้แซ็คลุกขึ้นจากเก้าอี้ ฝรั่งหัวทองลุกขึ้นแบบไม่ขัดขืนไปยืนตรงหน้าเจ้าเด็กเอเชีย


“Sleep มั้ย…” ไอติมหันมองรอบห้องนอนเพื่อหานาฬิกาสักเรือนแล้วก็เห็นนาฬิกาดิจิทัลสีเทาตัวหนึ่งวางอยู่ตรงโต๊ะข้างหัวเตียง


“…โห ตีสามกว่า three a.m. นอน ๆ สลีปๆ” ไอติมคลานขึ้นไปตรงกลางเตียงก่อนหันมามองแซ็คและตบเตียงเบา ๆ หนุ่มหัวทองพ่นลมหายใจหนึ่งที เดินไปปิดไฟในห้องจนมืดสนิทเหลือแต่แสงไฟจากด้านนอกส่องเข้ามาในห้องนอนแบบรำไร เขาเดินขึ้นเตียง ล้มตัวลงนอนแล้วหันหลังให้ไอติมที่อยู่อีกฝั่ง


“อื้อ turn turn” ไอติมเขย่าตัวแซ็คเบา ๆ และพยายามดึงตัวผู้ชายใหญ่ยักษ์ให้หันไปหาตัวเอง แซ็คที่หน้าหงุดหงิดน้อย ๆ หันไปขมวดคิ้วมองเจ้าเด็กขี้ลวนลาม


“What? (อะไร)” ไอติมดึงผ้านวมขึ้นมาห่มร่างตัวเองและแซ็คก่อนล้มตัวลงนอนเอาขาขวาเกยทับตัวแซ็คไว้เพื่อกันอีกคนหันตัวหนี


“Don’t need to sleep like this. (ไม่จำเป็นต้องนอนแบบนี้หรอก)”


“Need!” เรียนรู้ได้อีกคำคือคำว่า need ไอติมเลยตอบกลับด้วยคำนี้ด้วยสีหน้ามุ่ย ๆ เจ้าตัวเล็กกอดคนตัวโตแน่น ทั้งแขนทั้งขารัดไม่ให้ไปไหน แซ็คพ่นลมหายใจเบา ๆ ก่อนจะหลับตาลง ไอติมเห็นอีกคนนอนนิ่งไม่ทำท่าหันหนีก็ยิ้มปริ่มในความสว่างแบบอ่อนๆ


“Good night.” ไอติมว่าเสียงใสและยื่นหน้าไปหอมแก้มแซ็คเบาๆ


“อือ night” แซ็คตอบกลับเสียงเอื่อย แต่เขารู้สึกว่ายังถูกจ้องเลยลืมตามองก็เห็นตาแป๋วของเด็กน้อยมองเขาอยู่


“What again? (อะไรอีกล่ะทีนี้)” เขาถามด้วยความหน่ายเล็ก ๆ ไอติมหอมแก้มแซ็คอีกทีก่อนเอียงแก้มให้แซ็ค ฝรั่งหัวทองส่ายหัวอ่อนใจแต่ก็ยกหัวไปหอมแก้มเจ้าเด็กหัวดำแบบตัดรำคาญ ไอติมยิ้มระรื่น ทิ้งหัวลงบนอกแซ็ค แขนขวากอดตัวล่ำหนาของอีกคนแน่น แต่ก็ไม่ได้แน่นจนอึดอัด แซ็คหลับตาลง ปล่อยให้เด็กชอบลวนลามทำตามใจโดยที่ขี้เกียจจะขัดขืน

 
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งหลัง :A white boy: 29.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 30-07-2018 00:50:54
แซกทำประขดใครแน่ๆเลยแต่ไม่เป็นไรค่ะน้องติมฟินก็พอแล้วต่อจากนี้เค้าจะสานสัมพันธ์กัน​ยังไงต่อหล่ะคะเนี่ย​ น้องคงพอแค่นี้ก็มีความสุขแล้วมั้ยอ่ะ​ ดีใจที่เห็นเรื่องนี้อัพนะคะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งหลัง :A white boy: 29.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-07-2018 02:50:00
ไอติม ความหื่นทำให้ถึงกับไลฟ์สดเลยหรอ กลับไทยเจอไม้เรียวแน่ ๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.8 ครึ่งหลัง :A white boy: 29.07.18
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 30-07-2018 10:31:41
กลัวมาม่าหลังจากนี้มาก  :mew5:

จำได้นะว่าแช็คไปเป็นแขกรับเชิญในนิยายเรื่องอื่น แล้วเขาเล่าเรื่องตัวเองว่ายังไง  :ling3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:|Ch9ครึ่งแรก:Under the breath of Lion:06.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-08-2018 21:16:06
Fall in lust, Chapter 9 :: Under the breath of lion. (เข้าถ้ำเสือ) [ครึ่งแรก]




   ไอติมลืมตาตื่นอย่างสลึมสลือ ดวงตามองภาพตรงหน้าที่เป็นม่านบานเกร็ดสีเทาแบบเบลอ ๆ และงง ๆ สักแปบก่อนจะรู้สึกถึงลมอุ่น ๆ ช่วงด้านหลังคอของตัวเองเลยหันไปมองแบบง่วง ๆ ก็เจอหน้าของแซ็คที่กำลังหลับพริ้มอยู่ในระยะแบบใกล้ชิด ไอติมบิดหน้ากลับแล้วก้มลงมองตรงช่วงตัว แขนซ้ายของแซ็คกอดตัวเขาไว้หลวม ๆ ไอติมยกแขนแซ็คออกเบา ๆ ถกผ้านวมขึ้น เดินลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำเพราะปวดฉี่
   

พอฉี่เสร็จก็มายืนตรงอ่างล้างหน้าสีดำ เปิดน้ำล้างหน้าล้างตาเพื่อให้รู้สึกสดชื่น พอได้น้ำเย็น ๆ ความรู้สึกตื่นตัวก็มากขึ้น ไอติมยืดตัวเต็มความสูง มองตัวเองในกระจกนิ่ง ๆ แบบที่สมองกำลังปรับการรับรู้หลังจากตื่นสักแปบก่อนที่จะเห็นรอยแดงตรงซอกคอของตัวเอง รวมทั้งที่หัวไหล่ซ้ายอีกสองสามจุด ไอติมเบิกตากว้าง อ้าปากหวอ


“โอ๊ะ!” พักเดียวก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มคิกคักกับตัวเอง
   

พอคิดแล้วก็แก้มแดง ตามตัวร้อนวูบวาบ ขนช่วงอกถึงลำคอลุกชันเมื่อนึกถึงตอนแซ็คซุกไซ้และดูดดึง ร่างผอมเดินไปเปิดฝักบัว ปรับความแรงของน้ำให้พอเหมาะแล้วเอาไปจ่อตรงก้น เช็ดทำความสะอาดคราบตกค้างจากเมื่อคืน ล้วงแคะควักออกมาเท่าที่จะได้ ทำไปก็นึกถึงหัวฉีดก้นไปว่าถ้ามีมันคงจะดีและสะดวกกับชีวิตมากน่าดู
   

“ฮึบ!” ไอติมลองออกแรงเบ่งอีกทีเพื่อความแน่ใจว่าตรงนั้นสะอาดแล้ว ใช้นิ้วซ้ายคลำ ๆ ตรงช่วงกลีบเนื้อด้านนอกก็รู้สึกว่ามันมีการขยายตัวจากเมื่อก่อน กำลังจะคิดว่าคงเป็นเพราะเสียบริสุทธิ์แล้ว แต่ก็ทันนึกได้ว่าเวลาอึก้อนใหญ่ ๆ ออกจากก้น รูตรงนั้นก็เปิดกว้างกว่าปกติ ไอติมทำหน้านึกกับตัวเองถึงความสัมพันธ์หรือความต่างนี้สักแปบ พอรู้สึกว่ามันดูไม่น่าเอามาเปรียบเทียบกันได้เลยหยุดคิดในจุดนั้น คลำ ๆ รูดูก็ยังรู้สึกว่าด้านในยังฟิตยังแน่น แต่ตอนที่ของแซ็คเข้าไปข้างในรับรู้ได้เลยว่ารูขยายใหญ่ขึ้น
   

แน่ล่ะ ของแซ็คก็ไม่ได้อันเล็กอันน้อย ดีที่ไม่ใช่ไซซ์ผู้ชายผิวสี
   

แต่ถึงมาไซซ์นั้นจริง ก็สู้นะ
   

พอรู้สึกมั่นใจก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แซ็คยังคงนอนอยู่ท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไอติมเดินไปเปิดกระเป๋าเป้ของตัวเอง หยิบทิชชูเปียกออกมาเช็ดรูก้น รอบก้นตัวเองอีกทีแล้วปิดท้ายด้วยการใช้ผ้าขนหนูเช็ดจนแห้ง ไอติมหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋าเป้ มีข้อความจากเดนส่งมาถามว่าจะกลับตอนไหน
   

‘แซ็คมีถ่ายแม็กกกาซีน หยั่กมามั้ย’
   

ประโยคของแอนโทนี่ดังขึ้นในหัวเลยทำให้นึกขึ้นได้ว่าจริง ๆ แล้ววันนี้ตัวเองมีแพลนจะมาหาแซ็คอยู่แล้ว ไอติมหันไปมองผู้ชายอีกคนบนเตียงแล้วหันกลับมาดูเวลาบนหน้าจอมือถือตัวเอง ตอนนี้แปดโมงเช้าจะสิบนาทีเต็ม นิ้วเรียวสวยพิมพ์ข้อความกลับไปหาเพื่อนสนิทว่าเดี๋ยวจะโทรบอกเวลากลับอีกทีก่อนจะกลับขึ้นไปบนเตียง


หนุ่มเอเชียยิ้มแฉ่ง หัวเราะคิกคักกับตัวเอง ถลกผ้านวมที่ห่มตัวแซ็คอยู่ออกแบบเบา ๆ ตอนที่เห็นลูกชายของแซ็คที่กำลังแข็งตัวแบบอ่อน ๆ ก็ฉีกยิ้มกว้างยิ่งขึ้นด้วยความตื่นเต้น ไอติมกองผ้านวมไว้ตรงช่วงหน้าแข้งของแซ็ค วางมือถือลงบนเตียงแล้วคลานเข่าไปปลายเตียง เอื้อมเปิดกระเป๋าเป้ หยิบทิชชูเปียกออกมาและกลับมานั่งข้างร่างฝรั่งตัวโต ไอติมดึงทิชชูออกมาหนึ่งแผ่น ยื่นมือซ้ายไปจับตรงนั้นของแซ็ค มือขวาใช้ทิชชูเปียกเช็ดทำความสะอาดให้กับคนหัวทอง เช็ดตั้งแต่โคน ลากขึ้นไปช่วงกลางแล้วก็ที่ปลายสีชมพู
   

“อือ…” แซ็คครางแผ่วเบา พร้อมกับพลิกตัวนอนตรงเลยยิ่งทำให้ไอติมเช็ดสะดวกยิ่งขึ้น ร่างผอมกระเถิบเข้าไปใกล้ตัวแช็คอีกนิด มือซ้ายประคองของเด็ดขวัญใจตัวเองอย่างทะนุถนอม มือขวาก็ใช้ทิชชูเปียกเช็ดอย่างเบามือ ไอติมมองแท่งเนื้องที่คล้ายว่าจะขยายตัวขึ้นทีละนิดทีละนิดด้วยดวงตาวิบวับ
   

“…อึ้ม” แซ็คกระแอม ไอติมเช็ดตรงส่วนเนื้อสีน้ำตาลอ่อนแบบไม่เร่งรีบ ก่อนจะเขยิบขึ้นไปเช็ดส่วนหัวสีชมพูแบบวนตามเข็มนาฬิกา ตอนนั้นเองที่กล้ามท้องเป็นลอนของแซ็คหดเกร็งตอบรับและครางเสียงดังกว่าเดิม
   

“อ้า…” ไอติมอ้าปากกว้างเป็นรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าแท่งเนื้อขยายตัวขึ้นอีก และด้วยความอดใจไม่ไหวหรือจริง ๆ ไม่คิดจะอดใจอะไรเลยก็ทำให้ไอติมก้มหน้าลงไปแล้วใช้ลิ้นเลียวนตามเข็มนาฬิกาเหมือนที่ใช้ทิชชูเปียกกับส่วนหัวสีชมพู
   

“อา… อา…” ไอติมเปลี่ยนเป็นดูดแทนเลีย เน้นดูดแค่ส่วนหัวที่บานเบ่งแบบพอดี แบบที่ใช้เจาะเข้ารูเขาได้แบบฉลุย
   

คิๆ
   

“Whoah… what the heck, boy.” เสียงแหบ ๆ ดังขึ้น แซ็คลืมตาตื่นแบบสลึมสลือมองเจ้าเด็กลามกกำลังลวนลามเขาแต่เช้า มันเอียงหน้ามามองเขาแล้วยิ้มให้ทั้งที่ลิ้นยังเลียหัวน้องชายของเขาไม่หยุด แซ็คใช้มือขวาลูบเปลือกตาทั้งสองข้างอยู่สามสี่ทีก่อนจะปล่อยมือออกแล้วใช้ข้อศอกทั้งสองข้างดันตัวขึ้น กล้ามท้องขึ้นเป็นลูกเรียงชัดเจน
   

“Enough, you are so horny, huh? (พอแล้ว นายเงี่xxมากเลยรึไงเนี่ย ฮะ)” ถึงปากจะด่าแต่ว่าไอ้น้องชายหัวสีชมพูของเขาดันตั้งตัวแข็งแรงตอบรับกับการคลอเคลียของลิ้นไอ้เด็กหัวดำ เขาจะถือว่ามันเป็นเพราะอาการตอนเช้าของผู้ชายทุกคนก็แล้วกัน
   

“Stop. (หยุดได้แล้วน่า)” แซ็คบอกหน้ายุ่งพลางทิ้งหัวลงนอนบนหมอน ไอติมหยุดตามที่บอก ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้าง มือซ้ายปล่อยน้องชายของแซ็คให้เป็นอิสระ ปล่อยให้ตั้งตระหง่านอยู่แบบนั้น เหวี่ยงขาขวาของตัวเองนั่งคร่อมหน้าท้องเป็นลอนของแซ็คแล้วโน้มหน้าลงไปเลียหัวนมด้านซ้ายของฝรั่ง
   

“Eh, you are really assaulter. (เอ้ นายนี่มันนักลวนลามจริงๆ)” ไอติมไม่ได้สนใจที่แซ็คว่า เปลี่ยนจากเลียเป็นดูดหัวนมสีน้ำตาล แขนซ้ายแซ็คกระตุกหนึ่งที ใบหน้าย่นจนตาหยี ไอติมหยุดดูดหัวนมแซ็คแล้วดันตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรง
   

“You เสียวเหรอ เอ่อ แบบ you like to เลีย แผล่บๆ (แลบลิ้นทำท่าเลีย) ที่หัวนม เอ่อ milk, right?” ไอติมพยายามสื่อสารแบบว่ามาเพื่อรอด นึกแล้วก็หงุดหงิดกับความไม่คล่องภาษาของตัวเอง
   

แซ็คที่อยู่ในอาการกล้ามเนื้อสงบแล้วยกเว้นกลางลำตัวที่ยังแข็งค้างอยู่ยกแขนซ้ายขึ้นไปรองใต้ท้ายทอยตัวเอง มองหน้าใสเรียวสวยได้รูปแต่ไม่ได้สวยเป็นผู้หญิงของไอติมนิ่ง “I’m sleepy. (ฉันง่วงนอน)”
   

ไอติมเข้าใจคำนี้แต่ก็เบิกตาโตพรึบหนึ่งก่อนหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเข้ากูเกิ้ลเจ้าเดิม กดคำที่ตัวเองต้องการสื่อสารลงไปในช่องแปลคำศัพท์ “เอ่อ You have work today, เอ่อ ชู้ท shooting magazine.”
   

ไอติมเงยหน้าขึ้นสบตากับแซ็คที่กำลังมองมาแบบมึนงง ไอติมกลัวว่าตัวเองจะสื่อสารผิดเลยหันหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองให้อีกฝ่ายดู แซ็คมองหน้าจอแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปมองไอติม “How do you know? (นายรู้ได้ยังไง)”
   

“Anthony tell me. (แอนโทนี่บอก)” แซ็คสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วผ่อนออกมาช้า ๆ จะว่าไปเขาก็ลืมไปแล้วว่าวันนี้มีถ่ายงาน ถ้าไม่ได้ไอ้เด็กนี่บอกคงนอนจมเตียงแบบนี้
   

“Sexy shooting เหรอ” ไอติมยิ้ม แต่ในขณะเดียวกันมันเป็นการทำหน้าตาอยากรู้ แซ็คทำหน้านึกสักแปบแล้วค่อยตอบ
   

“Little, it’s a promote shooting our showcase team. It’s not only me, I do it with my friends. (นิดหน่อย เป็นการถ่ายโปรโมตทีมโชว์เราน่ะ ไม่ใช่แค่ฉัน มีเพื่อนฉันด้วย)” ไอติมนั่งนิ่ง สมองคล้ายกับโดนช็อตไปชั่วขณะกับการพูดยาว ๆ ของแซ็ค หนุ่มหัวทองอดจะยิ้มขำกับหน้าตามึน ๆ งง ๆ ของอีกคนไม่ได้
   

“เอ่อ โอเค เอาเป็นว่า I will go with you.” ไอติมยิ้มกริ่มแล้วก้มตัวนอนลงบนตัวแซ็ค ยื่นหน้าไปหอมแก้มสากของฝรั่งตัวโตหนึ่งฟอด
   

“Hey, don’t do this. There is more space on the bed. (เฮ้ ไม่เอาน่า เตียงยังเหลือที่อีกตั้งเยอะ)” แซ็คมุ่ยหน้าน้อย ๆ และพยายามดันตัวไอติมให้ลงไปจากตัว แต่ไอติมกลับหัวเราะคิกคัก สองมือยึดไหล่สองข้างของแซ็คแน่น สองขาหนีบเข้ากับข้างตัวของแซ็ค เจ้าของร่างบึ้กยกแขนซ้ายออกจากท้ายทอยมาจับที่แขนขวามีกล้ามน้อย ๆ ของไอติมและออกแรงดันให้ร่างผอมบางตกลงจากตัว แต่ยิ่งทำเหมือนยิ่งยุให้เจ้าเด็กเอเชียออกแรงติดหนึบบนตัวเขา แซ็คหรี่ตามองเจ้าเด็กตาใสก่อนจะยกมือขวาขึ้นมาจับแขนอีกข้างแล้วออกแรงยกตัวผอมบางจนสามารถดันเจ้าเด็กขี้ลวนลามออกไปจากตัวเองได้
   

“ฮิ ๆ ฮะ ๆ” ไอติมนอนหัวเราะตาหยี แต่มือขวากลับไม่อยู่สุข ยื่นไปจับความเป็นชายของแซ็คที่กำลังอ่อนตัวลง แถมไม่จับเปล่ายังพยายามชักให้ด้วย
   

ไอ้เด็กนี่มันซนกับร่างกายเขาซะจริง
   

“Stop, stop. I will not fuck you again. You asked for one but you got two. (พอเลย พอ ฉันจะไม่เอานายอีกแล้วนะ นายขอแค่หนึ่ง แต่นายได้ไปสองแล้ว)” ไอติมพอเข้าใจแบบไม่ครบความหมาย มือขวายังคงไม่ปล่อยออกจากตรงนั้น และยังดันตัวลุกขึ้นมานั่งคร่อมตัวแซ็คอีกรอบ สองแขนโอบรอบคอแซ็คอย่างรวดเร็ว
   

“Kiss!” แซ็คสั่นหัว
   

“No.” ไอติมไม่ร้องขออีกรอบแต่พุ่งหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากของแซ็ค และพยายามทำให้แซ็คอ้าปาก
   

“อื้อออ” ไอติมงอแงทั้งที่ปากชนกับปากแซ็คอยู่
   

“อื้อ!” แซ็คปฏิเสธทั้งที่ปิดปากเงียบ
   

ไอติมหยุดจูบ ดึงหน้าออกมามองแซ็คที่หน้านิ่งแล้วก็มุ่ยหน้า แซ็คยักคิ้วหนึ่งที ไอติมยื่นหน้าไปกัดคางแซ็คเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยวและหมั่นไส้ในคราวเดียวกัน แซ็คนั่งแหงนหน้าขึ้นนิ่ง ๆ แบบไม่หือไม่อือใดๆ
   

เก๊าะ…   
   

เสียงเคาะประตูยังไม่ทันลงเต็มเสียง ประตูสีขาวก็ถูกผลักเข้ามาอย่างเร็วจนทำให้คนสองคนในห้องที่กำลังนัวเนียกันบนเตียงหยุดชะงักและหันไปมองผู้มาเยือนตั้งแต่เช้า
   

“Oh, you have a guest? (โอ้ นายมีแขกงั้นเหรอ)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ มองผู้ชายตัวสูง ใส่กางเกงขาสั้นโชว์หุ่นที่แม้กล้ามเนื้อจะไม่ได้เต่งตึงแต่ก็กล้ามแน่นเกือบจะเท่าแซ็ค แต่เรื่องความเฟิร์มคงสู้ไม่ได้ เพราะมีพุงน้อย ๆ ให้เห็น แต่ก็ไม่ใช่พุงย้อยโย้ เส้นผมสีเทาแซมเส้นผมสีดำยังคงดกหนา ใบหน้าเกลี้ยงเกลาแต่มีริ้วรอย แต่ถึงจะมีริ้วรอยตามวัยที่น่าจะสูงพอสมควร ผู้ชายคนนั้นก็ยังสามารถบอกได้ว่าเป็นคนหน้าตาหล่อ
   

“As you see. (ก็อย่างที่เห็น)” แซ็คตอบแบบเรื่อยเปื่อย ไอติมหันกลับไปมองแซ็ค หนุ่มหัวทองกำลังมองเขาอยู่เช่นกัน เขาเลยคลี่ยิ้มกว้างแล้วหันกลับไปมองผู้ชายตรงประตู อีกฝ่ายคลี่ยิ้มแบบงุนงงพร้อมกับทำหน้าสีหน้าท่าทางเหมือนกำลังอยู่ผิดที่ผิดทาง
   

“Get ready. You know the time. (เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ นายรู้เวลานะ)” ผู้ชายสูงวัยคนนั้นว่าในขณะที่มองแซ็คลูบก้นไอติมและมองไอติมที่กำลังเอาแก้มแนบกับแก้มแซ็คไปด้วย
   

“I know. (ฉันรู้)” แซ็คบีบก้นไอติมเบา ๆ โดยที่ไม่สะทกสะท้านกับสายตาของคนตรงประตูห้อง ผู้ชายคนนั้นไหวไหล่สองข้างพร้อมกับยักคิ้วขึ้น ทำหน้าประมาณว่าก็เรื่องของมึง
   

“We want to see you in a minute. (พวกเราอยากเจอนายในอีกไม่กี่นาที)” ไอติมเองก็ไร้อาการสะทกสะท้านใด ๆ เช่นกัน นั่งไซ้คอ ไซ้แก้มแซ็คเบา ๆ ด้วยความเพลิน
   

“Okay.” ไอติมที่กำลังสูดดมกลิ่นเนื้ออุ่น ๆ ตรงซอกคอของแซ็คได้ยินเสียงปิดประตูเลยฉุดหน้าตัวเองออกจากเนื้อของแซ็ค หันไปมองประตูที่ถูกปิดแล้วแบบเอ๋อๆ
   

“Who? (ใครเหรอ)”
   

“Colleague. (เพื่อนร่วมงาน)” ไอติมย่นคิ้วนิดหน่อย เพราะไม่แน่ใจว่าคำศัพท์คำนี้แปลว่าอะไร แต่แซ็คก็ไม่คิดขยายความใด ๆ สองมือของเขายังคงโอบอุ้มก้นงอนของไอติมไม่ปล่อย
   

“We have to take a shower and be ready to go. (เราต้องอาบน้ำแล้วเตรียมตัวไปได้แล้ว)”
   

“Go? Go where? (ไป ไปไหน)”
   

“Working. (ทำงาน)” ไอติมเข้าใจเลยพยักหน้าหงึก ๆ แต่ก็ไม่ยอมลุกออกจากตัวของแซ็คจนแซ็คย่นคิ้วใส่
   

“Get up. (ลุกขึ้นสิ)” ไอติมยิ้ม
   

“อุ้ม ๆ เอ่อ...” ไอติมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดเข้าแอพดิคชันนารี กดศัพท์ที่ต้องการบอกกับแซ็ค หนุ่มหัวทองอ่านแล้วก็กลอกตา และด้วยความขี้เกียจจะวอแวกับเด็กเลยลุกขึ้นยืนบนเตียงทั้งที่ยังมีลิงเด็กเกาะคอและเกี่ยวเอวเขาอยู่
   

“โว้ว วะฮะ ๆ ฮ่าๆๆ” ไอติมหัวเราะสนุกสนานด้วยความตื่นเต้นที่โดนอุ้มในท่านี้ และด้วยความที่แซ็คตัวสูงและยืนบนเตียง ยิ่งให้ความรู้สึกเสียว ไอติมแหงนหน้ามองเพดานก็เห็นว่ายังห่างกันพอประมาณ
   

“You tall very much. (คุณสูงมากเลยอะ)” แซ็คทำเพียงยักคิ้วแล้วก้าวเท้าลงเดินจากเตียงโดยที่ยังมีเด็กซนเหมือนลิงเกาะตัวเขาแน่น
   

“Okay, enough. (เอาล่ะ พอแล้ว)” แซ็คว่าและปล่อยมือออกจากก้นไอติม เจ้าตัวจ้อยยอมปล่อยขาออกจากเอวและปล่อยแขนออกจากคอแซ็คแต่โดยดีไม่มีอิดออด สายตาก้มมองของกลางกายผู้ชายทั้งสองอันที่แสนจะต่างไซซ์กัน
   

“I like it very much. (ผมชอบมันจังเลยอ่า)” ไอติมว่าเสียงเคลิ้ม ๆ พลางยื่นมือซ้ายไปจับของแซ็คแล้วรูดเข้ารูดออก
   

“Glad to see you. จุ๊บบบ” ไอติมก้มลงไปจูบน้องชายแซ็คที่อ่อนตัวลงแล้วเบา ๆ หนึ่งจุ๊บ แซ็คยนคิ้วแต่ริมฝีปากก็ขยับเป็นรอยยิ้มขำ
   

“You want to take a shower first? (อยากอาบน้ำก่อนมั้ย)” ไอติมเงยหน้าขึ้นจากน้องชายแซ็ค หยุดคิดความหมายของประโยคแปบนึงแล้วค่อยตอบ
   

“You with me. (อาบด้วยกัน)” ไอติมชี้ที่ตัวเองสลับกับแซ็คเป็นการบอกบอกผ่านภาษามืออีกทีเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจ แซ็คผายมือไปทางประตูห้องน้ำ ไอติมเดินนำไปก่อนโดยที่มือซ้ายจับตรงนั้นของแซ็คและจูงให้ฝรั่งตัวใหญ่เดินตามตัวเองมาราวกับกำลังจับจูงมือ






หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวด้วยชุดเดิมเสร็จ ไอติมก็ออกจากห้องนอนของแซ็คพร้อมกับเจ้าของห้อง จากเมื่อคืนที่มองบ้านไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร พอเช้ามาถึงได้เห็นว่าบ้านหลังนี้ใหญ่โตใช่เล่น ตกแต่งได้เรียบง่ายแต่มีความหรูหรา และไม่ใช่ความหรูหราแบบที่ไอติมไม่ชอบ แบบที่มีโซฟาหลุยส์ ตู้สมัยวิคตอเรีย ถ้วยไหจานชามจากจีนมาประดับอะไรแนวนั้น ของประดับตกแต่งภายในบ้านดูจับต้องได้ไม่ไกลตัวเกิน ดูไม่ละครหลังข่าวของประเทศไทยจนเกินไป
   

สีพื้นของบ้านคือสีขาวและใช้สีน้ำตาลกับสีครีมตัดซะเป็นส่วนมาก มีสีเลือดหมูแจมด้วยนิดหน่อย เช่น โซฟาตัวยาวใกล้กับตู้หนังสือไม้ตัวหนึ่งซึ่งตั้งอยู่เยื้องกับห้องครัวของบ้านและอยู่ใกล้กับโต๊ะสนุ๊ก ด้านหลังของบันไดที่พาขึ้นไปชั้นสองเป็นกระจกใสบานใหญ่ที่มีผ้าม่านสีเปลือกไข่ปิดบรรยากาศด้านนอกอยู่ ซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นด้านหลังของบ้าน และจากการมองวนไปวนมาอยู่พักหนึ่ง ไอติมก็ค่อนข้างแน่ใจว่ายังไม่เคยเห็นฉากพวกนี้ในหนังโป๊ของแซ็ค แต่ในหนังของคนอื่นเคยเห็นอยู่นะ 
   

“Wow, he’s not joking. (วาว หมอนี่ไม่ได้มาเล่น ๆ แฮะ)” ไอติมละสายตาจากทีวีจอใหญ่ไปมองที่ต้นเสียงที่อยู่ในครัวหินอ่อน เขาเห็นผู้หญิงผมสีแดงเพลิง หน้าตาไม่ใช่แนวสวย เป็นผู้หญิงหน้าเฉี่ยว ตาดุ กำลังมองมาที่เขา ข้างกันเป็นผู้ชายผมสีเขียวท่าทางเจ้าสำอางอีกคนกำลังจ้องหน้าจอโทรศัพท์และใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอช้า ๆ และผู้ชายคนที่ไอติมเจอเมื่อตอนเช้าก็ยืนอยู่ตรงเค้าน์เตอร์ กำลังยืนชงกาแฟอยู่ ไอติมหันไปมองแซ็คที่มีสีหน้าเรียบเฉย ในหัวเขาตอนนี้กำลังคิดว่าสามคนนี้เป็นรูมเมทของแซ็คแบบที่เขาเคยมีสมัยเรียนมหาวิทยาลัยหรือเปล่า บ้านหลังนี้อาจจะเช่าอยู่ด้วยกันก็เป็นได้
   

“Something funny? (มีอะไรตลกงั้นเหรอ)” แซ็คถามเสียงนิ่ง แต่มุมปากด้านขวาขยับขึ้นเป็นรอยยิ้ม ไอติมเห็นขวัญใจตัวเองยิ้มก็เลยยิ้มตาม



“Not funny. (ไม่ตลก)” ผู้หญิงคนนั้นตอบพลางมองไอติมด้วยสายตานิ่ง แต่ไอติมก็รู้สึกได้ว่ามันเป็นสายตาที่ไม่ได้อยากจะทำความรู้จักกับเขาสักเท่าไหร่ ด้วยความไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกันเลยทำหน้ามึนเบลอตอบกลับไปโดยที่ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวหรือหัวหดอะไรทั้งนั้น


แซ็คไม่ตอบอะไร แค่ยักไหล่สองข้าง ทำหน้าตาสบาย ๆ แต่หน้าตาของผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างจะตรงข้ามกับแซ็ค แต่ยังไม่ถึงกับเกรี้ยวกราดหรือจะอาละวาดใด ๆ ไอติมคิดว่าด้วยความที่หน้าเฉี่ยวตาดุเลยทำให้เธอดูเป็นคนขี้วีน ซึ่งเธออาจจะขี้วีนตามหน้าก็เป็นได้


“You wanna have breakfast? (กินมื้อเช้ามั้ย)” ผู้ชายที่ชงกาแฟถามพลางยกแก้วขึ้นดื่ม แซ็คสั่นหัว พักนึงถึงหันไปมองคนข้างกายตัวเอง


“Breakfast? (อาหารเช้ามั้ย)” ไอติมสั่นหัวบ้าง


“I hungry but I am not want to eat here. (ผมหิว แต่ไม่อยากกินที่นี่)” แซ็คเลิกคิ้วขึ้นแล้วหันไปมองอีกสามคนในครัว ผู้ชายสูงวัยมองมาที่ไอติมกับแซ็คแบบเลิ่กลั่ก หญิงสาวยังคงมองด้วยสายตาเดิม ส่วนอีกคนนั่งก้มหน้ากับโทรศัพท์ต่อไป


“Why? (ทำไมล่ะ)” ไอติมไม่รู้ว่าต้องพูดว่ารู้สึกอึดอัดยังไง เลยได้แต่ยิ้มแห้ง ก่อนหันไปมองสามคนในครัวด้วยสายตาว่างเปล่าแวบหนึ่งก่อนหันกลับมามองแซ็ค


“Eat outside, okay? (กินข้างนอก ได้มั้ย)” ไอติมเอียงหน้าถาม แซ็คหันไปมองอีกสามคน จังหวะนั้นผู้ชายหัวเขียวก็เงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์มาสบตากับแซ็คพอดี


“You want to talk something important, do you? (อยากจะพูดอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า)” แซ็คถามก่อนละสายตาจากดวงตาคู่นั้นและมองอีกสองคนที่เหลือแล้ววกกลับไปมองผู้ชายหัวเขียวอีกที ผู้ชายคนนั้นยกมือซ้ายเสยผมหน้าไปด้านหลังก่อนตอบเสียงเรียบเรื่อย


“Your boy looks hungry. Take him to eat something important instead. (เด็กเธอดูจะหิวนะ พาเขาไปกินอะไรที่มันสำคัญ ๆ เถอะ)” ผู้ชายหัวเขียวพูดน้ำเสียงชิล ๆ หน้าตาดูไม่ยินดียินร้ายอะไรหรือใด ๆ ทั้งสิ้น แม้ไอติมจะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างว่าสื่อสารอะไรกันอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่ไอติมรู้สึกในใจตัวเองคือ คนกลุ่มนี้ให้บรรยากาศเหมือนครอบครัวในปราสาทผีดูดเลือดอะไรแบบนั้น ลึกลับและชวนพิศวง


“Like what? (เช่นอะไรล่ะ)” แซ็คถามกลับและมีการยิ้มกวน ๆ ไอติมหันไปมองทางสามคนนั้น ผู้ชายที่มีอายุเยอะสุดทำเพียงยืนก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์ที่กางอยู่บนเค้าน์เตอร์ ผู้หญิงคนนั้นยังคงหน้าตาไม่พร้อมทำความรู้จักกับใครเช่นเคย ส่วนคนหัวเขียวเบะปากน้อย ๆ ก่อนจะว่า


“Whatever you want,” ดวงตาเรียวคมเลื่อนมองไอติมแล้วยิ้มเยาะ


“Or whatever he wants. (อะไรก็ได้ที่เธออยาก หรือที่เขาอยากก็ได้)” ไอติมบุ้ยปากไปมากับตัวเอง รู้สึกอยากจะออกไปจากตรงนี้เร็ว ๆ กำลังจะหันไปบอกแซ็คว่าเดี๋ยวออกไปก่อนก็ได้ แต่ก็โดนอีกฝ่ายพูดขัดขึ้นมาก่อน


“A green head, that’s Kevin. Only one woman in this house at this time it’s Mandy. And the last one, (คนหัวเขียวนั่นคือเควิน ผู้หญิงหนึ่งเดียวในบ้านเวลานี้ชื่อแมนดี้ และคนสุดท้าย…)” ผู้ชายที่มาเคาะประตูห้องนอนแซ็คเงยหน้าขึ้นมองไอติมและยิ้มบางเบา ไอติมยิ้มตอบแบบเด็กเอ๋อคนหนึ่ง


“It’s Jacob. (เจค็อบ)” ไอติมไม่รู้จะต้องทำยังไงเลยยกมือไหว้พร้อมผงกหัวสามทีให้กับทั้งสามคนตามมารยาทของไทย ซึ่งทั้งสามคนก็คงงง ๆ แหละว่าเขาทำอะไร


แต่ที่งงกว่าก็คือไอติมที่จำชื่อทั้งสามคนสลับไปมาแล้ว เพราะไม่เข้าใจคำขยายที่แซ็คพูดก่อนจะบอกชื่อ

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:|Ch9ครึ่งแรก:Under the breath of Lion:06.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-08-2018 21:17:51
V
v
v

“See you there. (เจอกันที่นู่น)” แซ็คว่าและทำท่าจะหันตัวเดินออกไปทางประตูบ้านแต่ก็หยุดชะงักไว้เพราะเสียงของหญิงหนึ่งเดียวในบ้านดังขึ้นอย่างน่าเกรงขาม


“And why don’t you introduce him to us? (ไม่แนะนำเด็กคนนั้นให้พวกเรารู้จักหน่อยเหรอ)” แซ็คหันมองเด็กลามกที่ยืนหน้ามึนสับสนอยู่กับที่สักแปบก่อนหันกลับไปหาสามคนในห้องครัว จังหวะนั้นเองเจค็อบก็เดินถือแก้วกาแฟออกจากครัวไปทางประตูออกไปหลังบ้าน


“No. (ไม่ล่ะ)” ว่าเสร็จก็พยักหน้ากับไอติมและเดินนำไปทางประตูหน้าบ้าน ไอติมไม่คิดเอ่ยลาใครเพราะนึกในใจมาจนถึงตอนนี้ว่าสามคนนั้นแปลกประหลาดจนไม่อยากยุ่งด้วยและคิดว่าตัวเองคงไม่ได้เข้าไปยุ่งด้วยหรอก เพราะนอกจากภาษาจะไม่แข็งแรงแล้ว ไอติมก็ไม่คิดอยากจะมีเพื่อนแบบนี้ ยิ่งคนที่มีอายุเยอะสุดน่าจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ แต่ถ้านับถือเป็นลุงยังพอได้อยู่แหละ


“Your roommate เหรอ เอ่อ right?” ไอติมถามตอนที่เดินออกมาหน้าบ้านที่เดิมที่รถจอดอยู่ น่าอัศจรรย์ใจมากที่รถไม่หาย แต่จะว่าไปก็ไม่ใช่บ้านแซ็คหลังเดียวที่จอดรถไว้หน้าบ้าน 


“Stuff like that. (ประมาณนั้น)” แซ็คตอบพลางกดรีโมตปลดล็อครถแล้วหันไปมองไอติมที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด


“Scary. (น่ากลัว)” ไอติมพึมพำ แซ็คหัวเราะแบบที่มีแต่ลมออกทางจมูกเป็นจังหวะพรืดสั้นๆ


“That’s a good definition for them. (เป็นคำที่นิยามพวกนั้นได้ดี)” แซ็คยกมือซ้ายขยี้หัวไอติม สามสี่ที่แล้วปล่อยออก ไอติมที่ผมยุ่งหน่อย ๆ ยิ้มบางแล้วเดินอ้อมหน้ารถไปเปิดประตูขึ้นไปนั่งฝั่งตัวเอง


“I think we can find some food at studio. (ฉันว่าเราน่าจะหาอาหารกินได้ที่สตูดิโอ)” แซ็คบอกพลางรัดเข็มขัดนิรภัย


“Breakfast? (อาหารเช้าเหรอ)” ฝรั่งหัวทองพยักหน้าพร้อมกับสตาร์ทรถ


“Yes.” ไอติมเข้าใจว่าแซ็คจะพาไปกินข้าวเช้าเลยพยักหน้ารับ ไม่รู้หรอกว่าเขาจะพาไปกินร้านไหน แต่เขาก็จะพาไปกินนั่นแหละ ซึ่งเด็กเอเชียเข้าใจ (เอง) ว่าแซ็คน่าจะพาไปกินอาหารเช้าที่ร้านอาหารที่ชื่อว่าร้านสตูดิโอ


แซ็คถอยรถออกจากหน้าบ้านเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้หญิงหัวแดงและผู้ชายหัวเขียวเดินออกมา ไอติมมองหัวสองสีนั้นและหันกลับมามองหัวอีกสีที่อยู่ข้างกัน และตอนนั้นเองที่เก็ทกับตัวเองว่านี่มันไฟจราจรชัด ๆ พอคิดได้แบบนั้นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนแซ็คที่กำลังถอยรถเกือบเบรกกะทันหันเพราะงงกับอาการที่จู่ ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา


“What? (อะไร)” ไอติมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดพิมพ์คำศัพท์ในดิคชันนารีทั้งที่ยังยิ้มขำ พอได้คำศัพท์ที่ตัวเองต้องการก็พยายามพูดเป็นประโยคให้แซ็คเข้าใจ


“Your hair color and two color นั่นอะ” ไอติมชี้สองคนนั้นที่กำลังยืนคุยกันตรงหน้าบ้าน พักนึงผู้หญิงคนนั้นก็มองมาที่รถของแซ็คตาแข็งหน่อย ๆ แต่ไอติมก็ไม่ได้สนใจเพราะกำลังสนใจเรื่องหัวสีรถไฟจราจรอยู่


“What? (อะไรล่ะ)”


“She red, he green, and you gold, look like ทราฟ… ทราฟฝิคไลท์…traffic ligt” แซ็คขมวดคิ้วหน้างง


“Traffic light? (ไฟจราจรเหรอ)”


“อื้อ red green gold, three color. Red is stop. Green is go. Yellow is break. (แดง เขียว เหลือง แดงคือหยุด เขียวคือไป สีเหลืองคือเตรียมเบรก)” ไอติมอธิบายในแบบฉบับของตัวเอง และพอแซ็คได้ฟังคำอธิบายแบบงู ๆ ปลา ๆ ก็พอจะเข้าใจที่อีกฝ่ายพยายามสื่อ เขาส่ายหัวน้อย ๆ แต่บนหน้าก็มีรอยยิ้มหน่อย ๆ กับมุกของเด็ก


“It’s gold not yellow. (มันสีทองต่างหาก ไม่ใช่สีเหลือง)” แซ็คว่าและเหยียบคันเร่งให้รถพุ่งตัวไปบนท้องถนน ไอติมทำปากยื่นและส่ายหัวไปซ้ายขวาแบบช้า ๆ ฝั่งละที


“No, yellow. (ไม่ สีเหลือง)” ไอติมฉีกยิ้มแบบไม่เห็นฟันพร้อมกับทำหน้าทะเล้น แซ็คที่ขี้เกียจเถียงก็ทำเพียงยกมือขวาขึ้นเคาะข้างขมับตัวเอง


“You might be blur because of sex from last night. (นายอาจจะเบลอเพราะเซ็กซ์เมื่อคืน)” ไอติมเอียงคอไปด้านซ้ายและแปลความหมายในหัวตัวเองแบบไม่มั่นใจ เลยแปลแบบที่ตัวเองอยากเข้าใจแล้วกัน


“Sex? You want sex? Yes, I am okay. (เซ็กซ์เหรอ คุณอยากมีเซ็กซ์เหรอฮะ ผมโอเคนะ)” แซ็คทำตาโตใส่ไอติมที่ยิ้มเต็มปากเต็มคำ ดวงตาเบิกกว้างเจิดจ้า


“You are so horny. Yes or no? (นายมันโคตรเสี้ยนเลย ใช่หรือไม่ใช่)” แซ็คแกล้งถามโดยอาศัยความไม่แข็งแรงทางภาษาของไอติม ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ไอ้เด็กขี้ลวนลามพยักหน้าอย่างว่องไวและตอบเสียงชัดแจ๋ว


“Yes!” แซ็คหัวเราะ


“ปี๊บปี๊บ~” ฝรั่งหัวทองหันไปมองด้วยความสะดุ้งเล็ก ๆ ที่จู่ ๆ ก็มีมือมืดยื่นมาบีบน้องชายเขาผ่านกางเกงผ้าร่มขาสั้นสีดำที่ใส่อยู่ ซึ่งมือมืดก็อยู่ไม่ไกล อยู่ข้างตัวเขาเองนี่แหละ ไอติมบีบน้องชายเขาที่หลับอยู่เต็มมือแล้วก็หัวเราะตาหยีชอบอกชอบใจอย่างกับเด็ก แซ็คเก๊กหน้าดุ ตามด้วยส่ายหัว ไอติมห่อไหล่หนึ่งทีก่อนจะหันไปสนใจเกมในมือถือแบบตัดอารมณ์ฉับจนแซ็คงง 
   

แซ็คหยิบแว่นดำขึ้นมาสวมเพื่อกันแดดในระหว่างขับรถ เหลือบมองเจ้าเด็กยิ้มเก่งแล้วนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนตอนที่กำลังนอนอยู่ เขาตื่นมากลางดึกแบบงัวเงีย จากตอนแรกที่ไอ้เด็กคนนี้นอนกอดรัดเขาซะเกือบแน่น กลายเป็นเขานอนกอดเจ้าเด็กนั่นอยู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเด็กมันคงจัดท่าจัดทางให้เสร็จสรรพ ความรู้สึกหนึ่งที่แวบขึ้นมาคือมันเต็มแขนดี ให้ความรู้สึกเหมือนกกอะไรสักอย่างที่อุ่น ๆ เขาทิ้งหัวลงบนหมอนและนอนกอดเด็กลามกไปแบบนั้นทั้งคืน
   

เขาไม่ได้แอนตี้เกย์ ไม่ได้รังเกียจความรักของเกย์ หรือการมีอะไรกับผู้ชาย ทั้งแบบที่พบเจอเองและทำด้วยตัวเอง ไม่งั้นเขาคงทำงานแบบนี้ไม่ได้ แต่ก็นั่นแหละ เพราะมันคืองานเขาถึงทำได้
   

‘I could be gay if I got more money.’
   

ที่เขาบอกเจ้าเด็กลามกไปตอนนั้นมันไม่ใช่เรื่องหลอกเด็ก มันเป็นแบบนั้น ถ้าเกิดเจ้าเด็กลามกนี่จ่ายเงินถึงตามที่เขาเรียกจริง เขาก็ยอมนอนด้วยแบบไม่อิดออด กลายเป็นเกย์บนเตียงให้ได้ แต่กับการที่เด็กมันจ่ายเพื่อเขาจนได้ซูเปอร์วีไอพีของเว็บไซต์ค่ายหนังของเขา ก็ถือว่าหักลบกันไป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักขนาดนั้นหรอกที่เขานอนกับเด็กคนนี้


เขาไม่เคยโกรธหรือคิดแย้งถ้ามีใครด่าว่าเขาเป็นผู้ชายขายตัว แต่ก็ไม่คิดยอมรับว่ามันเป็นคำที่นิยามเขาได้ทั้งหมด เพราะเขาไม่ได้นอนกับทุกคนที่พร้อมจ่าย และเขาไม่นิยมนอนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่นักแสดงที่ต้องร่วมงานกัน


และเขาก็ไม่ได้รับอนุญาติขนาดนั้น


หึ


มุมปากขยับขึ้น เป็นการยิ้มแบบสมเพช ไม่ได้สมเพชใครอื่นนอกจากตัวเอง 


ส่วนกับเจ้าเด็กนี่ ไม่ได้มีข้อยกเว้น แต่สถานการณ์มันพาไป ก็จะมีครั้งล่าสุดที่มีอารมณ์พาไปในระหว่างที่เอากัน อารมณ์เริ่มแรกก็แค่อยากให้รางวัลเด็กมันเฉย ๆ ที่มาเป็นเพื่อนเขาและทำให้เขาแน่ใจว่าความคิดเขาในตอนนั้นมันไม่ผิด


ความคิดที่เขาก็เพิ่งรับรู้และรู้สึกได้ตอนเจอเจ้าเด็กคนนี้


และความรู้สึกระแวงเรื่องที่เจ้าเด็กนี่มันรู้ชื่อเขาก็ยังค้างคาในใจเขาอยู่ดี
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:|Ch9ครึ่งแรก:Under the breath of Lion:06.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-08-2018 04:40:59
นั้นซิ ไอติมรู้ชื่อจริงได้ไงน่ะ  :confuse:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:|Ch9ครึ่งแรก:Under the breath of Lion:06.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 07-08-2018 14:55:47
อยากได้ของผิวสีสงสัยต้องไปหาของเดนนะครับ ฮะๆๆ รับรองแซ่บลืม!  อลังการงานสร้าง น้องติมจะสู้ไหมมม (หัวเราะ)

พอเข้าใจนะครับเรื่องพลังใจหดหาย ยังไงก็สู้ๆนะครับ ผมพอเข้าใจว่าเรื่องนี้มันเขียนยากด้วยโทนเรื่องที่ออกไปทางหื่นๆนี่แหละ จะดึงมาให้ดรามาหรือให้คุมพล็อต มันอาจจะยากหน่อยด้วยนิสัยน้องติม แต่ผมคิดว่าถ้าเราตั้งธงของพล็อตหรือประเด็นหลักๆที่จะให้ตัวละครสื่อ แล้วแทรกมันลงในฉากเหตุการณ์หื่นหรือเหตุการณ์ปกติ มันก็จะทำให้โทนเรื่องไหลลื่นไปได้ดีครับ รอติดตามอยู่ครับผม

อยากเห็นฉากเดนนี่อะครับ รู้สึกชอบตัวละครนี้มากเลย ขอบทเยอะๆ ทั้งบทปกติและบทเลือดกำเดากระฉูดนะครับบ (หัวเราะ)
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:|Ch9ครึ่งแรก:Under the breath of Lion:06.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 08-08-2018 01:30:02
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ แรกๆก็สนุกกับความอินดี้และมุ่งมั่นของติมดีแต่หลังๆก็เริ่มรำคาญความนัวเนียวอแวของติมแล้ว ไหนบอกไม่คิดอะไรไงแต่นี่คือการกระทำติมทำเหมือนคนเป็นแฟนกันจริงๆอะ อยากจะกรอกตาแทนแซ็คจริงๆ ถ้าติมลดความนัวเนียแซ็คลงอีกสักนิดเราว่ามันน่าจะดูดีกว่านี้นะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.9 ครึ่งหลัง : Under the breathฯ :15.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 15-08-2018 18:57:21
Chapter 9 [ครึ่งหลัง]



 “We arrived. (เราถึงแล้ว)” แซ็คบอกเสียงเรียบตอนที่จอดรถต่อท้ายรถอีกคันตรงหน้าบ้านสีครีมหลังคาสีแดงชั้นเดียวหลังหนึ่ง เจ้าเด็กผมดำเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาแบบงุนงงก่อนหันไปมองข้างหน้าและยกมือซ้ายชี้ไปที่บ้านหลังนั้น เขาพยักหน้ายืนยันอีกที


“No look like food shop. It is house. (ไม่เหมือนร้านอาหารเลยอ่า มันคือบ้านนี่)” แซ็คถอดแว่นดำและตามด้วยขมวดคิ้ว


“It’s studio. Not restaurant. (ก็มันสตูดิโอ ไม่ใช่ร้านอาหาร)” ไอติมอ้าปากหวอ


“I think you will go to shop name Studio. (ผมคิดว่าคุณจะพาไปร้านอาหารชื่อร้านสตูดิโอ)” แซ็คยิ้มขำ


“No. It’s a house and also studio. I will work here today. And inside the house you can find food to eat. (ไม่ใช่ มันคือบ้านที่เป็นสตูดิโอด้วย วันนี้ฉันทำงานที่นี่ และข้างในนั้นนายหาอาหารกินได้)” แซ็คพยายามสื่อสารกับไอติมแบบง่าย ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจ หนุ่มเอเชียอ้าปากค้างไว้แล้วพยักหน้าลงแบบงง ๆ ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ว่าใช่ที่เข้าใจมั้ย


“Okay.” ไอติมตอบพลางเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเล็กของเป้ ปลดเข็มขัดนิรภัยได้ก็เปิดประตูลงไปยืนบนถนนลาดยางสีเทา คนตัวผอมหันมองไปรอบสถานที่ที่มา บ้านหลังที่แซ็คพามาอยู่สุดซอยในซอยสั้น ๆ ซอยหนึ่ง ตรงข้ามหน้าบ้านเป็นบ้านอีกหลังที่ติดป้ายประกาศขาย มีต้นไม้ใหญ่ที่มีดอกสีม่วงร่วงอยู่ใต้ต้น ที่นี่น่าจะเป็นหมู่บ้าน ไอติมเดาจากการที่มีบ้านอยู่ถัด ๆ กันไป แต่ไม่ใช่ว่าชิดติดรั้วกันมาก มีระยะห่างของแต่ละบ้านที่พอเหมาะ ไม่ได้เป็นชุมชมแออัด แต่ก็ไม่หรูหราเท่าแถวบ้านแซ็ค


“Where is here? (ที่นี่ที่ไหนเหรอ)” ไอติมหันไปถามแซ็ค


“Long beach. (ลองบีช)” ไอติมทำหน้ามึน เพราะไม่รู้จัก แซ็ครู้ตัวอย่างนึงว่าตลกหน้าไอติมเวลาไอ้เด็กลามกมันงง ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาบอกหรือพูด หรือเวลามันกำลังสับสน สีหน้ามันจะเหมือนลูกหมาเดินถอยหลังหนีวัตถุแปลกปลอม


“Search google. (หาในกูเกิ้ล)” ไอติมพยักหน้าและบอกกับตัวเองในใจว่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาข้อมูลลองบีชแน่นอน


“Who house? (บ้านใคร)” ไอติมถามพลางก้าวเท้าเดินตามแซ็คเข้าไปในรั้ว ไปยืนตรงบันไดสามขั้นหน้าประตูบ้าน


“Lukas. (ลูคัส)” เพราะอยากเห็นหน้าเหมือนลูกหมาเดินถอยหลังเลยแกล้งบอกแบบทื่อ ๆ ซึ่งก็ได้เห็นหน้าแบบนั้นจริง ๆ แซ็คเลยยิ้มขำ ยิ่งเห็นไอติมขยับเท้าถอยหลังไปหนึ่งก้าวในขณะที่หน้าตายังคงสับสนปนงงก็ยิ่งขำ


“Who? (ใครอ่า)” ไอติมถามด้วยความไม่รู้จัก ว่าไปตั้งแต่เจอแซ็คจนถึงวันนี้ ไอติมก็คิดถึงเรื่องความไว้เนื่อเชื่อใจที่ตัวเองมีต่อแซ็คน้อยมาก (เพิ่งคิดได้เหรอ) เพราะมัวแต่โฟกัสว่าอยากจะได้เสียกับเขา


“You will see him. (เดี๋ยวนายก็ได้เจอ)” ยังไม่ทันที่ไอติมจะได้งงต่อยาว ๆ ประตูบ้านก็เปิดออกพร้อมกับหน้าของแอนโทนี่ที่โผล่ออกมาจากประตู จากกำลังทำหน้ามึนงง ไอติมก็เปลี่ยนเป็นหน้ายิ้ม


“แอนโทนี่!” ได้พูดภาษาไทยเต็ม ๆ แล้ว


“Hi.” แอนโทนี่เอ่ยทักทายไอติมพลางดึงประตูบ้านให้เปิดกว้างขึ้น แซ็คผายมือให้ไอติมเดินขึ้นบันไดไปก่อน เจ้าเด็กลามกที่ตอนแรกทำท่าระแวดระวังตอนนี้เปลี่ยนเป็นท่าทางตื่นตัวเหมือนเดิมเดินขึ้นบันไดเข้าไปในบ้าน เขาเดินตามขึ้นไปและปิดประตูตามหลังให้ ไอติมมองซ้ายมองขวาหน้าตาอยากรู้อยากเห็นแต่ก็ไม่ได้ทำเอะอะโวยวายหรือกระโตกกระตาก


“You are the first one. (แกมาคนแรก)” แซ็คทำหน้าเอือมน้อย ๆ และมองเจ้าเด็กลามกที่ยืนยิ้มแฉ่งด้วยสายตาหมั่นไส้


“He wakes me up. (หมอนี่ปลุกฉัน)” แอนโทนี่เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับเอียงหน้าสี่สิบห้าองศา มองสลับทั้งสองคนไปมา


“Does he stay with you last night? (เขาค้างกับแกเหรอเมื่อคืนนี้)” แอนโทนี่ถามตามปกติ ไม่ได้มีท่าทีหรือสีหน้าประหลาดใจใดๆ


“Stay and sleep. (ค้างและนอนด้วยกัน)”


“I know you sleep together, I saw from cam-show but I just found out that he stays. (ฉันรู้ว่าแกนอนด้วยกันเพราะฉันเห็นจากแคมโชว์เมื่อคืนนี้ แต่ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาค้างกับแกด้วย)”


“It’s too late. (มันดึกมากแล้ว)” แอนโทนี่พยักหน้าเข้าใจ ไม่คิดถามอะไรให้มากความ เขาหันกลับไปหาไอติมที่ยืนมองไปรอบบ้านแบบกำลังทำความคุ้นเคย


“Are you hungry?” ไอติมหันกลับมามองแอนโทนี่แบบงง ๆ หนุ่มแว่นตัวสูงเลยพูดอีกทีในเวอร์ชั่นภาษาไทย


“หิ้วไหม?” ไอติมพยักหน้ารัวๆ


“มีอ๊าหานอยู่ในห้องหนั่งเล่น ไปกินกัน” แอนโทนี่พาไอติมเดินผ่านห้องโถงของบ้านไปทางขวามือ เดินไม่นานแต่ก็หลายก้าวก็เจอกับห้องนั่งเล่นที่ว่า ห้องนี้อยู่ติดกับสระว่ายน้ำสีฟ้าสะอาดตาขนาดใหญ่ของบ้าน มีทีวี เครื่องเล่นดีวีดี หรืออุปกรณ์ใด ๆ อย่างที่ควรจะมีในห้องพักผ่อนหย่อนใจ ใกล้กับประตูกระจกบานเลื่อนที่ออกไปยังสระว่ายน้ำมีราวแขวนเสื้อผ้าสามราวตั้งอยู่และมีเสื้อผ้าแขวนจนเต็มราว


“Are you really kiss him? (แกจูบเขาจริง ๆ เหรอ)” แอนโทนี่กระซิบถามแซ็คหลังจากปล่อยให้ไอติมนั่งกินอาหารบนโต๊ะในห้องนั่งเล่นได้ตามสบาย


“Really. (จริง)” แซ็คตอบพลางมองไอติมนั่งกินเบคอนจิ้มซอสมะเขือเทศทีละสามชิ้นและเคี้ยวจนแก้มอูม


“Oh.” จากที่ตอนแรกไม่ได้มีทีท่าประหลาดใจอะไร คราวนี้แอนโทนี่ถึงกับมึนคล้ายกับโดนคนทุบหัว แซ็คหันไปมองเพื่อนแล้วยักไหล่สองข้าง ตามด้วยยักคิ้วอีกสองข้างและทำหน้าตาสบาย ๆ แอนโทนี่ทำเหมือนอยากจะสงสัยใคร่รู้ต่อ แต่สุดท้ายก็ปัดสีหน้านั้นทิ้ง ยักคิ้วหนึ่งทีแล้วก็เดินไปนั่งคุยกับไอติม แซ็คเดินตามไปนั่งบนโซฟาเดี่ยวอีกตัว นั่งมองสองคนคุยกัน เขาไม่ได้คิดมานั่งเฝ้า แต่ยังไม่มีใครมาเขาก็ไม่รู้จะทำอะไร


“พ้าสาอังกริดของเถ่อดีหยู่แล้วนะ แข่ต๊องฝึกชั้ยบ่อยบ่อย” ไอติมที่นั่งอยู่บนพื้นและกำลังกินไส้กรอกพยักหน้า


“I will try to speak English more more. (จะพยายามพูดภาษาอังกฤษให้มากมาก)” แอนโทนี่หัวเราะเบาๆ


“Good.” ไอติมยิ้มทั้งที่อาหารเต็มปากก่อนหันไปมองแซ็คที่นั่งมองเขานิ่ง แต่ไม่ได้มองจ้อง มองเหมือนมองไปเรื่อยไม่มีโฟกัส


“Zach เอ้ย ไบรอั้น don’t eat? (ไม่กินเหรอ)” ไบรอั้นที่ไอติมเรียกเลื่อนสายตาไปมองเจ้าเด็กลามกแบบเรียบเฉยก่อนจะพยักหน้าหนึ่งที ไอติมยิ้มกว้างและชี้อาหารบนโต๊ะไม้ที่วางละลานตาเต็มไปหมดก่อนจะตักอาหารเข้าปากตัวเองต่อ


“ซะ… เอ่อ ไบรอั้น tell me, this house is Lukas house. Who? (ไบรอั้นบอกว่าบ้านนี้เป็นของคนชื่อลูคัส ใครเหรอ)” ไอติมพยายามใช้ภาษาอังกฤษในการพูดคุยกับแอนโทนี่


“อ้อ he is—.”


“—Does anyone asking about me? (มีใครกำลังถามเกี่ยวกับฉันอยู่รึเปล่า)” เสียงใหญ่และทุ้มจนเกือบจะแหบ แต่ก็ไม่ใช่แหบดังแทรกขึ้น แต่ไม่ใช่ดังแบบแหกปาก ไอติมที่กำลังเคี้ยวอาหารเต็มปากและเต็มคำหันไปมองทางเดียวกับที่ตัวเองเดินเข้ามาแล้วก็อ้าปากหวอทั้งที่ยังเคี้ยวเบค่อนไม่หมดปาก


“โฮ่!” ไอติมอุทานพอมองรูปร่างของผู้ชายคนนั้นแบบชัด ๆ ตัวสูงและยังตัวใหญ่ ใหญ่แบบที่ยืนบังเขามิดชิด ถ้าเล่นซ่อนแอบคือไม่มีใครหาเขาเจอแน่นอน ผู้ชายคนนั้นคลี่ยิ้มให้ไอติมที่กำลังมองตัวเอง ไอติมกำลังประเมินว่าระหว่างผู้ชายคนนี้กับเดอะร็อค นักมวยปล้ำชื่อดังคนนั้นใครตัวใหญ่กว่ากัน


“Hi, are you ice-cream? (ว่าไง เธอคือไอศกรีมใช่รึเปล่า)” ไอติมได้สติกลับมาแล้วรีบเคี้ยวอาหารในปากให้หมดพร้อมกับยืนขึ้นเพื่อทักทายผู้ชายคนใหม่


“Hello. (สวัสดีฮะ)” ไอติมลืมตัวเลยยกมือสวัสดี แต่พอนึกได้ก็ชะงักและเปลี่ยนเป็นยื่นมือขวาไปด้านหน้าเพื่อจับมือของผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นที่ยื่นมาให้


“Ah, lovely. (อ้า… น่ารักเชียว)” ไอติมอ้าปากเป็นรูปตัวโอ เมื่อมือตัวเองจมไปในมือของผู้ชายตัวใหญ่โต เจ้าของมือยิ้มกว้างด้วยความขยบขัน ไอติมยิ้มแหะ ๆ ก่อนจะปล่อยมือออก วินาทีที่มือหลุดออกจากกันและสายตาก็มองรอยยิ้มนั้นอยู่ ความทรงจำบางอย่างก็พุ่งวาบเข้ามา ไอติมอ้าปากค้าง ดวงตาโตด้วยความตื่นเต้น สองมือชี้ไปที่ผู้ชายที่ยืนตรงข้ามกับตัวเองแบบลุกลี้ลุกลน


“Oh! You! You, you เอ่อ you play porn” ไอติมนึกชื่อไม่ออก แต่จำได้ว่าผู้ชายคนนี้เคยเล่นหนังโป๊ จำได้ว่าเป็นหนึ่งในพระเอกหนังโป๊ที่ดึงดูดเขาเข้าสู่วงการกามเมื่อสมัยมัธยมต้นจากการเห็นวิดีโอที่เขาช่วยตัวเองอยู่ริมชายหาด เนื่องด้วยรูปร่างดี หน้าตาก็ดี เรียกว่าเป็นคนหล่ออีกคน ไอติมจำได้ว่าตอนนั้นเขาก็ตัวใหญ่ล่ำบึ้ก แต่ตอนนี้คล้ายว่าตัวจะขยายขึ้นจากแต่ก่อน เขาหายไปจากวงการหลังจากแซ็คเข้าวงการมาได้สักพัก แต่ผลงานที่เขาทิ้งไว้ให้ช่วยตัวเองนั้นถือว่าปลุกเร้าอารมณ์ได้สุดยอดเลยละ


และแม้ปัจจุบันนี้ ปัจจุบัน ณ ตรงหน้าไอติมตอนนี้ เขาจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา โตขึ้นตามวัยของเขา แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังดูดี ไม่ได้เหี่ยวย่นยับยู่ยี่ และรู้สึกว่าจะหล่อกว่าสมัยก่อนด้วยซ้ำ หล่อแบบผู้ใหญ่ มีเสน่ห์มากกว่าตอนละอ่อนอีก ที่สำคัญยังแน่น และน่าจะแน่นกว่าเดิมด้วย


เขาไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าจะเจออีกหนึ่งตำนานของวงการหนังโป๊ในชีวิตของตัวเอง โอ้ว~


ฝรั่งหัวดำตัวโตสูงใหญ่ยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรก่อนตอบ “Collin, but my real name is Lukas and you can call me that. I don’t mind.”


ไอติมยิ้มแหยไปแล้ว เพราะฝรั่งคนนี้พูดเร็วมากจนเกือบจะเป็นลิ้นพันกัน ไอติมหันไปหาแอนโทนี่โดยอัตโนมัต หนุ่มแว่นยิ้มขำก่อนจะพูดเป็นภาษาไทย


“เรียกเข๋าว้าลูคัสก่อได้ เข๋าไม๊ว่าอะรัย” ไอติมร้องอ๋อและหันไปหาอีกคน


“Hello, Lukas.” ลูคัสยิ้มกว้าง แววตามองเด็กน้อยอย่างเอ็นดู


“Hello, ice-cream.”


“ข่นคนนี้แหละ ที่ฉั๋นบอกเธอเมื่อวานนี้ว่าอยากเจอเธอน่ะ” ไอติมทำปากว่าอ๋ออีกครั้ง


“Sit down. (นั่งลงเถอะ)” ไอติมพยักหน้า หันไปมองแซ็คที่นั่งเงียบแต่ก็ไม่ได้หน้าเครียดอะไร น่าจะเป็นฟีลว่าไม่รู้จะพูดอะไรด้วย


“Ready, Bryan? (พร้อมมั้ยไบรอั้น)” ลูคัสหันไปถามไบรอั้น แต่ดูจะเป็นการถามแบบทักทายเฉย ๆ ไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจัง เพราะพอไบรอั้นยักไหล่สองข้าง ลูคัสก็ยิ้มบางแล้วหันมามองไอติมที่นั่งอยู่บนพื้นตามเดิม


“Are you free for today? I want to talk with you. (วันนี้ว่างมั้ย ฉันอยากคุยกับเธอ)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ พยายามแปลด้วยตัวเองก่อนเพราะฟังแล้วมันก็ไม่น่าจะใช่คำศัพท์ยาก


“เอ่อ ฟรี แอมฟรี ว่างๆ” ไอติมพยักหน้าอย่างหนักแน่นเป็นการบอกย้ำว่าวันนี้ตัวเองว่างจริงๆ


ลูคัสยิ้มกว้างขึ้น “Cool, after they start they work we will start talking. (เจ๋ง เดี๋ยวพอพวกเขาเริ่มทำงาน เราค่อยคุยกันก็แล้วกัน)”


ไอติมนึกคำแปลแปบนึงก่อนจะพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง “Talk what? (คุยอะไรอ่า)” แล้วก็ขมวดคิ้วให้อีกสามคนที่ขำกับท่าทางมึน ๆ งง ๆ หน้าตาสงสัยหลังจากตอบรับไปแล้วว่าจะคุย ขนาดแซ็คยังร่วมขำด้วย แม้จะขำนิดหน่อยก็เถอะ แต่ก็ขำอยู่ดี


ลูคัสขำเบา ๆ แล้วว่า “I want to get to know you more. (ฉันอยากทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น)”


ไอติมยังคงขมวดคิ้ว และพยายามแปลประโยคของลูคัสทีละคำ แต่แอนโทนี่กลัวไอติมจะขมวดคิ้วจนเลือดตรงคิ้วไม่เดินเลยเป็นคนแปลให้ “เข๋าหยากทำความรู้จักกับเธอน่ะ”


“รู้จักผมเหรอ” ไอติมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง แอนโทนี่พยักหน้า ลูคัสยิ้มตลกกับความงง ๆ ของไอติมสักแปบก่อนจะยืนขึ้น


“But now, I want to talk with you first, Anthony. (แต่ตอนนี้ฉันอยากคุยกับนายก่อนแอนโทนี่)” ลูคัสยิ้มให้ไอติมอีกทีแล้วเดินต่อเข้าไปในโซนที่ต่อจากห้องนั่งเล่น แอนโทนี่เดินตามฝรั่งตัวใหญ่ไป ไอติมหันไปมองแซ็คแล้วลุกเดินไปยืนตรงหน้าแซ็ค ใช้สองมือทำท่าวัดขนาดของหนุ่มหัวทอง


“What? (อะไร)”


“You look small because Lukas big. (คุณดูตัวเล็ก เพราะลูคัสตัวใหญ่)” แซ็คยักคิ้วขึ้นหนึ่งที


“He is a bodybuilder. That’s why he is so big. (หมอนั่นเป็นนักเพาะกายเลยตัวใหญ่)” ไอติมนั่งลงใกล้กับแซ็คแต่โซฟาคนละตัว ส่วนคำว่าบอดี้ ๆ อะไรนั่น ไอติมไม่รู้ความหมาย


“Are you okay? (คุณโอเคมั้ย)” คนถูกถามขมวดคิ้วงง มองคนถามแบบงงๆ


“Okay what? (โอเคอะไร)”


“Yesterday, you look not okay. (ก็เมื่อวานนี้คุณดูไม่โอเค)” แซ็คนั่งนิ่ง มองไอติมที่กำลังมองเขาตาใสด้วยความรู้สึกตัวเบา ช่องอกเกิดความรู้สึกอุ่นคล้ายมีความร้อนที่กำลังพอเหมาะเกิดขึ้นในนั้น เขายิ้มบาง ๆ ก่อนตอบ


“Better. (ดีขึ้นแล้ว)”


“It’s mean okay, right? (มันแปลว่าโอเคแล้วใช่มั้ย)” แซ็คยิ้มมุมปากซ้าย


“Yes, I am okay. (ใช่ ฉันโอเคแล้ว)” แซ็คยืดแขนขวาไปขยี้หัวไอติม เจ้าเด็กลามกยิ้มแป้น แซ็คมองหน้าเรียวใสด้วยความรู้สึกบางเบาและเบาสบาย 


“Don’t worry, be happy. (ด๊อนท์วอร์รี่ บีแฮปปี้)” ไอติมไม่แน่ใจนักหรอกว่าไอ้คำนี้มันเป็นประโยคให้กำลังใจแบบตรงประเด็นกับเรื่องของแซ็คได้มากน้อยแค่ไหน แต่คิดว่าความหมายมันก็พอจะตบ ๆ เข้ากับสถานการณ์ของแซ็คได้อยู่ละมั้งแม้จะไม่รู้ว่าสถานการณ์จริง ๆ นั้นคืออะไร และหากถามว่าประโยคนี้มาจากไหน มันติดตาและติดหัวมาตั้งแต่ไปเดินตลาดนัดแถวมหาวิทยาลัยช่วงปีสามแล้วเจอเสื้อยืดสกรีนไอ้คำนี้ละลานตามากจนตอนนั้นหลอนประโยคนี้อยู่นาน


“You look like a word ‘happy’. (นายดูชอบคำว่าแฮปปี้นะ)” ไอติมนิ่งคิดคำแปลแปบหนึ่งก่อนจะยิ้ม


“Yes, it is good word. You don’t like it เหรอ (ใช่ฮะ มันเป็นคำที่ดีอะ คุณไม่ชอบเหรอ)”


“No, I like it. Has anyone doesn’t like it? (ไม่ ฉันชอบ มีคนไม่ชอบคำนี้ด้วยเหรอ)” มันเป็นคำที่เขาอยากมีมันให้เต็มที่ ไม่ใช่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ


มันเป็นประโยคที่ง่ายสำหรับคนอื่นแหละ แต่อันนี้ไอติมแปลไม่เคลียร์กับตัวเองเลยทำหน้ามึนตามเคยจนแซ็คขำเบา ๆ ไอติมยิ้มแห้งก่อนจะพูดตะกุกตะกัก “You can เอ่อ…” ไอติมนึกคำศัพท์ที่ต้องการพูดไม่ออกเลยหยิบโทรศัพท์ออกมากดคำนั้น คำว่าปรึกษาแล้วยื่นโทรศัพท์ให้แซ็คดู ฝรั่งหัวทองอ่านคำศัพท์นั้นก่อนเลื่อนสายตาไปมองคนตัวผอม


“You mean I could talk to you if I am not okay, do you? (นายหมายถึงว่าให้ฉันคุยกับนายได้ถ้าฉันรู้สึกไม่โอเคงั้นเหรอ)” ประโยคยาว ไอติมเลยยังยิ้มแห้ง แต่ก็ตอบแบบอ้อมแอ้มไปก่อน


“เอ่อ yes, you.” แซ็คขำกับการตอบแบบใช้คำท้ายของประโยคที่เขาถามมาเป็นคำตอบ ไอติมยิ้มน้อย ๆ แล้วยื่นมือซ้ายไปตีตรงหัวเข่าขวาของแซ็คเบา ๆ หนุ่มหัวทองย่นคิ้วกับท่าทีนั้นแต่มุมปากก็ยกยิ้มขำขันกับการทำท่าทำทางเหมือนตัวเองโตกว่าเขามากมาย


ครืดดด ครืดดด~


โทรศัพท์ของไอติมสั่นอยู่ในมือขวา ยกหน้าจอขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเดนนี่โทนมา ไอติมกดรับสายทันที “ฮัลโหลเดน… โอ๊ะ วันนี้เลยเหรอ… เออ ๆ …” ไอติมเหลือบมองแซ็คที่มองกลับมาแบบนิ่งเงียบ หนุ่มเอเชียนิ่งไปสักแปบก่อนจะคลี่ยิ้มบางเบาแล้วพูดกับเดนต่อ


“กลับด้วย แต่มารับได้มั้ยอะ… ลองบีชอะไรสักอย่าง… ไม่รู้อะ อธิบายไม่ถูก มึงคุยกับแซะ เอ้ย ไบรอั้นได้มั้ย… เค” ไอติมยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้ฝรั่งหัวทองที่ทำหน้างง ไอติมเลยขยับปากและชี้นิ้วไปที่โทรศัพท์เป็นการบอกว่าให้คุยกับคนในสาย แซ็ครับโทรศัพท์มาแนบหู


“Hello… ah, yeah… where are you now… you drive through the…” แซ็คอธิบายเส้นทางให้เดนรัว ๆ แบบที่ไอติมฟังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะแซ็คพูดเร็วมาก ซึ่งสำหรับเดนก็ไม่ใช่ปัญหาในการฟัง รัวภาษาอังกฤษกับเพื่อนสนิทเขาอยู่สักแปบแซ็คก็ยื่นโทรศัพท์กลับคืนมาให้ ไอติมมองหน้าจอก็เห็นว่าเพื่อนสนิทวางสายไปแล้ว


“You go back now? (กลับตอนนี้เลยเหรอ)”


“Back to ซานฟราน” แซ็คอ้าปากค้างนิดหน่อยแต่ก็แค่แปบเดียวก่อนจะพยักหน้าหนึ่งครั้ง


“When do you go back to Thailand? (กลับไทยเมื่อไหร่)” ไอติมกะพริบตาปริบสองสามทีก่อนจะนึกคำศัพท์ที่จะใช้ตอบที่นึกได้จากโปสเตอร์หนัง


“Soon. (เร็ว ๆ นี้ฮะ)” แซ็คยิ้มมุมปากซ้ายน้อย ๆ และพยักหน้าลงอีกหนึ่งครั้ง ไอติมยิ้มเบา ๆ แต่ใบหน้านั้นปลื้มปริ่ม แววตาเปล่งประกาย


“You fuck me. I’m ready happy.” แซ็คย่นคิ้วด้วยความงงก่อนจะถามด้วยความไม่แน่ใจ


“You mean, already happy? (หมายถึงออลเรดี้แฮปปี้รึเปล่า)” ไอติมอ้าปากค้างและทำหน้าตกใจเล็กๆ


“Oh, yes, yes, already happy.” ฝรั่งหัวทองส่ายหัวเบา ๆ แต่หน้าตาก็ขำกับการใช้ภาษาอังกฤษของไอติม ถึงมันจะตลก แต่อย่างน้อยเจ้าเด็กลามกมันก็มีความพยายามที่จะใช้


ใช่ ไอ้เด็กนี่มันมีความพยายามสูงจริง ๆ แล้วตอนนี้ความพยายามนั้นก็สำเร็จแล้ว


“Then, I can’t talk with you anymore if you go back. (ฉันก็ปรึกษานายไม่ได้อีกสินะถ้านายกลับไปแล้ว)” แซ็คแซวยิ้ม ๆ ไอติมยิ้มตามแต่เป็นยิ้มแบบงง ๆ ว่าตัวเองกำลังเข้าใจประโยคนั้นว่าอะไร


“Can not talk to me เหรอ you talk with me?” แซ็คกลอกตากับภาษาที่มันเริ่มจะมั่ว จริง ๆ มันก็มั่วมาตลอดนั่นแหละ แต่อันนี้คือมั่วแบบสื่อสารไม่เข้าใจกันละ


“It’s okay. Forget it. (ไม่เป็นไร ลืมมันเถอะ)” ไอติมยิ้มเอ๋อ อันนี้คืออ๊องไปแล้ว แต่ก็ยังจับคำศัพท์ได้หนึ่งคำเลยโพล่งขึ้นมา


“No forget. No forget you. (ไม่ลืมหรอก ไม่ลืมคุณ)” ไอติมย่นคิ้วพร้อมกับส่ายหัวเป็นเด็ก ๆ ต้องการจะสื่อว่าเขาไม่มีทางลืมแซ็ค เขาจะไม่ลืม


แซ็คมองแววตาที่จริงจังกับประโยคที่บอกว่าเจ้าตัวจะไม่ลืมจริง ๆ แล้วก็คลี่ยิ้ม ความรู้สึกภายในอกนั้นยังคงอุ่น ไอติมเลื่อนมือขึ้นจากเข่าของเขามาวางบนหลังมือขวาและลูบเบา ๆ พร้อมกับยิ้มกริ่ม แซ็คพยักหน้าสองสามที


“Shall we say goodbye? (บอกลากันเลยมั้ย)” ไอติมเอียงหน้าหน้าคิดแปบหนึ่ง หน้าตาไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่


“Goodbye? (ลาก่อนเหรอ)” แซ็คพยักหน้า


“You are going back. (นายกำลังจะกลับนี่)”


“Back? Oh, okay goodbye.” ไอติมปล่อยมือออกจากหลังมือของแซ็คแล้วยกขึ้นมาโบกสะบัดและยิ้มกว้างให้กับพระเอกขวัญใจตัวเอง แซ็คมองไอติมนิ่งพักหนึ่งก่อนยกมือขวาขึ้นโบกหนึ่งที


“Thank you. My dream come true. (ขอบคุณนะฮะ ความฝันผมเป็นจริงแล้ว)” แซ็คมองรอยยิ้มของไอติม รอยยิ้มที่เขานึกสงสัยว่ามันผุดขึ้นง่ายเหลือเกินบนหน้าเรียวสวยนั่น


แต่เอาจริง ๆ มันก็ไม่ยาก ก็แค่ยิ้ม และใช่ว่าตัวเขาเองก็ยิ้มไม่เป็น เพียงแต่ไอ้เด็กมือไวใจกล้าคนนี้มันยิ้มบ่อย ยิ้มเก่งจนเหนื่อยแทน


“I will miss you. Forget me not. I will look your porn forever. (ผมจะคิดถึงคุณ อย่าลืมผมนะ ผมจะดูหนังโป๊คุณตลอดไป)” ด้วยความที่กลัวลืมเลยพูดประโยคที่เอาไว้ใช้บอกลากันแบบเพราะ ๆ ออกมารัว ๆ ท่องมาจากอินเตอร์เน็ตทั้งนั้น


แซ็คยิ้มบาง ไอติมลุกขึ้นยืนแล้วอ้าแขนออก ฝรั่งตัวโตขยับยิ้มอีกนิดพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วอ้าแขนออก ไอติมหัวเราะเดินเข้าไปกอดแซ็คเต็มวงแขน สูดดมกลิ่นเนื้อหอม ๆ เข้าจมูกไว้มาก ๆ กะให้กลิ่นนี้อยู่ในต่อมความทรงจำไปนานๆ


“Thank you. (ขอบใจ)” แซ็คพึมพำ ไอติมขมวดคิ้ว


“Thank you what? (ขอบคุณอะไรเหรอ)”


“Just thank you. (แค่ขอบคุณน่ะ)” ไอติมดึงหน้าออกจากอกของแซ็คแล้วยืดคอขึ้นหอมแก้มแซ็คทั้งสองข้างดังฟอด แซ็คเห็นว่าไหน ๆ เด็กมันจะกลับแล้วเลยหอมแก้มเอาใจไปหนึ่งที เป็นรางวัลสำหรับแฟนคลับตัวจริงของเขาก็แล้วกัน


ไอติมยิ้มระริกระรี้ หน้าตาสดชื่น “Fuck again? (เอากันอีกรอบมั้ย)”


แซ็คทำหน้าดุ กดหน้ามองไอติมเป็นการปราม ไอติมหัวเราะคิกและเขย่งเท้าเพื่อเอาหน้าวางไว้บนไหล่ซ้ายของแซ็ค สองแขนกอดร่างใหญ่หนาของพระเอกหนังโป๊คนโปรดของตัวเองไว้แน่น 


“Hope to see you again. (หวังว่าคงได้เจอกันอีก)”
 
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.9 ครึ่งหลัง : Under the breathฯ :15.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-08-2018 00:53:54
บรรลุเป้าหมายแล้ว  :m4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.9 ครึ่งหลัง : Under the breathฯ :15.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 16-08-2018 07:24:51
อยากรู้​จริงๆค่ะว่าน้องติมลงทุนเก็บหนังโป๊ไปเยอะแค่ไหนกี่คอนเลคชั่นน้องดูเชี่ยวมาก5555555​  เอ็นดู​น้อง​ น้องจะกลับแล้วแล้วเค้าจะสานต่อกันยังไงต่อดีคะ​ น้องไม่อยู่​ดูเค้าถ่ายหนังก่อนหรอ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.9 ครึ่งหลัง : Under the breathฯ :15.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 16-08-2018 10:56:09
ไอติมจะโอเครใช่ไหม

เราหวังว่าจะโอเคนะ

ค่อนข้างห่วงเลยละ กลัวจะพูกพันแบบไม่รู้ตัว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.9 ครึ่งหลัง : Under the breathฯ :15.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: Moonoii ที่ 16-08-2018 18:23:30
มิชชั่นคอมพลีทท555 กลับได้แล้วนะน้องไอติม
ติดตามเรื่อยๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ เขียนดีมากก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.9 ครึ่งหลัง : Under the breathฯ :15.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 16-08-2018 21:47:13
อยากรู้​จริงๆค่ะว่าน้องติมลงทุนเก็บหนังโป๊ไปเยอะแค่ไหนกี่คอนเลคชั่นน้องดูเชี่ยวมาก5555555​  เอ็นดู​น้อง​ น้องจะกลับแล้วแล้วเค้าจะสานต่อกันยังไงต่อดีคะ​ น้องไม่อยู่​ดูเค้าถ่ายหนังก่อนหรอ


น้องรู้น้องเห็น น้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพราะน้องดูบ่อย 5555555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.9 ครึ่งหลัง : Under the breathฯ :15.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: 19august ที่ 18-08-2018 22:53:09
ฮื่อออน้องน่าร้ากกกก กลัวจะดราม่าจัง หนูต้องเข้มแข็งนะไอติม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.9 ครึ่งหลัง : Under the breathฯ :15.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 19-08-2018 01:26:14
รอติดตามค่าา
แอบรู้สึกหน่วงเบาๆ เขาบอกลากันแล้ว :hao5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.9 ครึ่งหลัง : Under the breathฯ :15.08.18
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 19-08-2018 14:55:59
อ่านแล้วก็คิดว่านี่เพิ่งเริ่มต้นนะยังไม่เห็นเหตุการณ์อะไรที่ชวนเข้าสู่บทนำเลย และคิดว่าติมยังไม่น่าได้กลับไทยหรอกต้องมีเรื่องอะไรให้อยู่ต่อแน่ๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-09-2018 19:22:52
Fall in lust, Chapter 10 :: Something about you. (อะไรบางอย่างในตัวคุณ)


 

   เดนนี่เดินถือถาดใส่อาหารสามอย่างและข้าวเปล่าสองจานมาที่โต๊ะตัวหนึ่งฝั่งกระจกติดฟุตปาท เขาวางถาดอาหารลงบนโต๊ะแล้วหันไปมองเพื่อนสนิทตัวเล็กของตัวเองที่กำลังคุยเริงร่ากับฝรั่งโต๊ะหนึ่งด้วยภาษาอังกฤษงู ๆ ปลา ๆ ของมัน เขายิ้มที่เห็นมันพยายามใช้ภาษาอังกฤษ ยืนมองอยู่สักพักไอติมก็เงยหน้าขึ้น เขาเลยกวักมือเรียก เพื่อนตัวเล็กของเขาพยักหน้า เดินเอากระดาษจดออเดอร์ไปให้พนักงานสาวที่เป็นคนเอเชียอีกคนตรงเค้าน์เตอร์ครัวก่อนจะเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับรอยยิ้ม
   

“กินข้าวก่อน เดี๋ยวเป็นลมไปทั้งแม่มึงและแม่กูจะหาว่ากูเอามึงมาทรมาน” ไอติมชะโงกหน้าดูอาหารในถาดที่เดนวางไว้บนโต๊ะก่อนจะทำตาโต
   

“ปีกไก่ทอดดด” พอเห็นของโปรดของตัวเองก็เดินไปทิ้งก้นลงบนเก้าอี้ หยิบไก่ขึ้นมากินหนึ่งชิ้น เดนนี่จัดการยกจานอาหารกับจานข้าวออกจากถาดแล้ววางถาดไว้บนเก้าอี้ฝั่งตัวเอง ช่วงเวลานี้ลูกค้ายังไม่เยอะ เลยมีโต๊ะเหลือให้เขาสองคน ไม่ต้องไปแออัดอยู่ในครัวหรือหลังเค้าน์เตอร์ จะไปกินที่ห้องพักผ่อนพ่อก็นอนหลับอยู่
   

“ภาษาอังกฤษเริ่มคล่องปากยัง” เดนถามพลางตักไข่เจียวกุ้งใส่จานตัวเอง ไอติมเคี้ยวหงับ ๆ ก่อนตอบ
   

“ยังอะ แต่สมองก็เริ่มสั่งการไวขึ้นนะกูว่า” เดนมองเพื่อนที่กำลังเคี้ยวไข่และตักข้าวเข้าปากตาม
   

“อยู่ช่วยงานที่ร้านกูให้ครบเดือนมั้ยล่ะ ถือว่าฝึกภาษา” ไอติมหรี่ตาลงมองเพื่อนลูกครึ่งรูปหล่อทันที
   

“แน่ะ หลอกใช้งานกูอะดิ” หนุ่มเข้มหัวเราะเบาๆ
   

“เอ้า เหลืออีกอาทิตย์กว่า ๆ มึงก็อยู่ให้ครบเดือนไปเล้ย” ไอติมทำปากยื่น ตักน้ำจิ้มราดไก่แล้วเอาเข้าปากอีกคำ เดนนี่ที่กำลังเคี้ยวข้าวมองเพื่อนอย่างพิจารณาแวบหนึ่ง
   

“ทำไมมึงถึงตัดสินใจกลับมากับกูวะ” ว่าจะถามตั้งแต่วันแรกที่กลับมาแล้ว แต่เห็นมันดูปกติดีเลยไม่คิดถาม ก็เลยคิดว่ามันคงอยากกลับ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอดสงสัยไม่ได้ ก่อนหน้านี้ระริกระรี้อย่างกับอะไรดี ดิ้นรนมาหาไอ้พระเอกถึงนี่ แต่พอถึงคราวจะกลับก็กลับง่าย ๆ งี้เลย
   

“ทำไมอะ กลับมาก่อนไม่ได้เหรอ” ไอติมถามหน้าตางงๆ
   

“ได้ กูแค่สงสัย ก็มึงตั้งปณิธานจะอยู่กับไอ้พระเอกนั่นให้ครบเดือน” ไอติมเคี้ยวไก่จนหมดแล้วถึงตอบ
   

“ก็ตอนนั้นกูคิดว่ากูจะได้กับเขาช้า แต่อันนี้มันได้เร็วกว่าที่คิดอะ”
   

“ยิ่งทำให้กูสงสัย มึงได้กับมันไปแล้วตั้งสองรอบ เกินที่มึงตั้งใจไว้ มึงไม่คิดอยู่ต่อเพื่อรอบสามสี่ห้าหกเหรอ ทำไมถึงยอมกลับมาก่อน” เดนนี่กลับมาก่อนเพราะแม่เกิดอุบัติเหตุข้อเท้าพลิกเลยรีบกลับมาดูแม่ ก่อนกลับก็โทรถามมันเฉย ๆ เผื่อมันเปลี่ยนใจ แต่สรุปว่ามันดันกลับด้วยจริง ๆ เล่นเอาเขาเหวอไปเหมือนกัน
   

ไอติมเคี้ยวไก่ไปพลางทำหน้านึกไป ค่อย ๆ คิดคำตอบกับตัวเองก่อนจะตอบเพื่อน “ก็อยากอะ แต่มันก็ได้ตามที่ต้องการแล้วอะมึง อยากได้อีก แต่พอแล้วก็ได้”
   

เดนนี่มองใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของเพื่อน เหมือนมันก็กำลังสับสนว่าตัวเองจะต้องรู้สึกนึกคิดยังไง “พอแล้วจริงเหรอวะ”
   

ไอติมส่ายหัวรัวๆ “ก็ถ้าได้อีก กูก็เอา”    


“เอ๊า ก็นี่ไงกูถึงได้สงสัยว่าทำไมมึงถึงกลับมา อยู่นู่นมึงยังมีโอกาสได้กับมันอีกนะ…” ไอติมเคี้ยวไก่ไม่หยุดปาก สีหน้าสบสันมึนงง เดนนี่หรี่ตามองน้อยๆ
   

“…หรือมันทำอะไรให้มึงไม่พอใจ”
   

“ไม่มีหรอก เขาใจดีกับกูนะ…”


“…เหรอวะ” ไอห่าติมมันไม่ได้สนใจจริง ๆ แหละว่าไอ้พระเอกนั่นทำหน้าอย่างกับอยากจะบีบมันให้ตายคามือ


“…เออดิ มึงว่าเขาไม่ใจดีเหรอ” ไอติมถามด้วยความสงสัย เดนนี่เคี้ยวข้าวจนหมดปากแล้วก็ส่ายหน้า


“กูก็เดา ๆ เอาว่ามันอาจจะเป็นคนดุละมั้ง” ไอติมเคี้ยวไก่พลางทำหน้านึก


“ก็ดุนิด ๆ นะ แต่กูว่าก็ยังใจดีอยู่ดีอะ อึมๆๆ…” ไอติมหยุดพักเคี้ยวไก่ พอเคี้ยวจนหมดปากก็พูดต่อ


“…เขาไม่จูบผู้ชาย แต่พอกูขอ เขาก็จูบ รู้สึกดี๊ดีอะ” ไอติมยิ้มตาหยี ท่าทางรู้สึกดีอย่างที่ปากว่าจริงๆ


“ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่ มึงรู้สึกดีขนาดนั้น แล้วมึงก็ปล่อยโอกาสให้หลุดมือเนี่ยเหรอ…” เดนนี่ขมวดคิ้วมองเพื่อน คนโดนมองเม้มปากเบาๆ


“…มึงต้องมีอะไร คนอย่างมึงไม่น่าปล่อยโอกาสให้หลุดลอย หรือมันชัดเจนแล้วว่าไม่เอามึงต่อแน่ๆ” ไอติมชะงักนิ่ง แต่กระนั้นก็ยังยกไก่เข้าปากเคี้ยวแบบช้า ๆ เดนนี่มองเพื่อนเปลือกตาไม่ขยับ แล้วสักพักไอติมก็ทำปากยื่นและพยักหน้าขึ้นหนึ่งที


“อือ…” เดนนี่กลับไปทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตามเดิม ไอติมพ่นลมหายใจ ยกมือซ้ายเกาหัวแบบคนงง ๆ ท่าทางมันจะงงกับความรู้สึกนึกคิดตัวเองจริงๆ


“…ครั้งที่สองกูดีใจมากเลยนะ แล้วกูก็รู้แหละว่าไม่น่าจะมีครั้งที่สามแล้ว”


“ทำไมมึงคิดงั้น อาจจะมีก็ได้” ไอติมย่นคิ้วพร้อมกับสั่นหัว


“เขาเป็นพระเอกหนังโป๊นะมึง ถึงจะเล่นหนังน้อยเรื่อง แต่เขาเอากับคนอื่นก็ได้ ละคนอื่นที่ว่าก็เป็นผู้หญิง…” เดนนี่เลิกคิ้วขึ้น มองไอติมที่เริ่มกลับมาเคี้ยวไก่แบบแรง ๆ อีกครั้ง


“…ถึงกูไม่มีตารางงานเขา แต่กูว่าเดี๋ยวก็กลับไปถ่ายหนังโป๊ แค่นั้นเขาก็ได้เอาละ” หรือถึงไม่มีหนังโป๊ แต่จากวันที่เจอกันวันแรกที่ซานฟรานฯ แล้วมีผู้หญิงมารับพร้อมชูถุงยางให้ดู อันนั้นก็เป็นอีกทางที่แซ็ค เอ้ย ไบรอั้นจะได้นอนกับคนอื่น


“โอ่โห ความคิดนี้พอมาจากมึงกูถือว่าความคิดนี้โตขึ้นนะ”


“แหม่ กูก็ไม่ได้โง่จนใช้สมองไม่เป็น มันก็เห็น ๆ กันอยู่ กูรู้หรอกไอ้เดน…” เดนนี่หัวเราะเบาๆ


“…ก็ถือว่าคุ้มแล้วแหละวะที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมา” เดนนี่ยกนิ้วชี้ข้างขวาขึ้นชี้หน้าเพื่อน


“อันนี้กูเห็นด้วย ไอ้บัตรทองคำของมึงช่วยมึงได้เยอะ โคตรใบเบิกทางให้มึงอย่างดี ไหนจะมีเพื่อนฝรั่งของมึงที่พูดไทยได้อีก โชคชะตาเขาก็คงอยากให้มึงเสียตัวนั่นแหละ”


“โห่ โชคชะตาก็ไม่ช่วยเปล่าล่ะถ้ากูไม่เปย์อะ เงินนำพากูมาโว้ย” เดนนี่หัวเราะถูกอกถูกใจ มันก็พูดถูกของมัน ไอ้บัตรทองใบนั้นและเพื่อนฝรั่งคนนั้น ไอติมจะไม่ได้ทั้งสองอย่างเลยถ้าไม่จ่ายเงินเพื่อผู้ชายของมัน


“มึงนี่ได้มากกว่าติ่งเกาหลีอีกนะ บางคนเสียเป็นแสนแขนไม่ได้จับ มึงถือว่าไปไกล เสียเป็นแสน ได้มากกว่าแขนอีก” ไอติมยิ้มยิงฟันพร้อมกับหัวเราะคิกคักด้วยอาการเขิน


“อันนี้กูภูมิใจมากเลยเดน กูได้จับแขน จับขา จับหน้า จับๆๆๆ จับทั้งตัวเลย เว้นแต่อมนิ้วตีนกับนิ้วมือนี่ละมั้ง”


“แหวะ กูจะอ้วก มึงอย่าไปอมนะ นิ้วมือยังพอได้ นิ้วตีนมึงอย่า สกปรก” เดนนี่ว่าอย่างจริงจัง เพราะกลัวเพื่อนไปอมตีนใครสักคน


“แต่ถ้าถามว่ากูคิดถึงเขามั้ย กูคิดถึงนะเดน”


“คิดถึงในแง่ไหน แง่เงี่ยนหรือแง่คิดถึงเฉยๆ” ไอติมมองหน้าเดนนี่แล้วใช้ความคิดกับตัวเอง


“คิดถึงตอนอยู่บนเตียงด้วยกัน”


“แง่เงี่ยน” ไอติมเม้มปากกลั้นยิ้มเขิน เดนนี่ส่ายหัวด้วยความระอาเล็กๆ


“ก็… แหม มันตรึงใจอ่า”


“เดี๋ยวกูจัดให้ก็ได้ถ้าแค่หงี่อะ กูอาจจะเด็ดกว่าพระเอกมึงก็ได้” ไอติมกัดริมฝีปากล่าง มองหน้าเดนนี่อย่างครุ่นคิด หนุ่มลูกครึ่งเลิกคิ้วขึ้นและกดหน้าลงหนึ่งทีเป็นการบอกว่ากูจัดให้ได้นะ


“ไอบ้า” เดนนี่ทำหน้าหยี


“เชี่ย มึงอย่างทำเสียงแง๊ว ๆ แบบนี้อีกนะ มึงไม่ใช่สาวน้อยนมโตนะมึง” ไอติมหัวเราะ เดนนี่แกล้งทำหน้ายี้ ไอติมเคี้ยวไก่และตักข้าวเข้าปากอีกคำ ในขณะที่ในหัวยังไม่หยุดคิดถึงภาพแซ็คกับตัวเองอยู่ด้วยกันบนเตียง






แซ็คที่ท่อนบนเปลือยเปล่านั่งกระดกเบียร์ด้วยท่าทางราวกับคนไร้วิญญาณอยู่ตรงเค้าน์เตอร์ครัวของบ้าน ตรงหน้ามีสเต๊กเนื้อชั้นดีใส่จานวางไว้สำหรับกินแกล้มกับเบียร์ แต่ผ่านมาเกือบชั่วโมง เนื้อก็พร่องไปยังไม่ถึงครึ่ง ส่วนเบียร์หมดไปสามกระป๋องแล้ว ใบหน้าของแซ็คเรียบนิ่ง แววตาคล้ายจะเหม่อลอยแต่ก็ยังไม่ถึงกับว่างเปล่า


“Hey…” เสียงแผ่วเบาดังขึ้นข้างหูและตามด้วยความรู้สึกอุ่นตรงหน้าอกทั้งสองข้างด้วยสองมือที่ลูบวนเบาๆ


“…You wanna talk?”


“No.” แซ็คตอบทันควันด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะยกสองมือดึงมือที่กำลังลูบผิวกายตัวเองอยู่ออก วางกระป๋องเบียร์ในมือลง หยิบกุญแจรถแล้วเดินตรงไปทางประตูบ้านโดยไม่หันไปสนใจอีกคนเลยสักนิด


“Are you sure you wanna do this?”


“Why? You wanna get me out? Do it now.” แซ็คตอบอย่างมีอารมณ์ทั้งที่ไม่ได้หันไปโต้ตอบกับอีกคน เอาแต่เดินดุ่ม ๆ ออกจากบ้านอย่างเดียว


ดวงตาสีอ่อนมองตามร่างหนาใหญ่ของแซ็คด้วยสายตาที่ถ้าแซ็คหันกลับไปมอง เขาจะรู้ตัวทันทีว่าควรทำตัวอย่างไรให้เหมาะสม




แซ็คเดินเปลือยท่อนบนมาที่รถของตัวเอง ขึ้นรถได้ก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไปในช่วงเวลาบ่ายของวัน ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่แค่สองกระป๋องครึ่งนั้นสบายมาก ดวงตาสีเทายังคงดูปกติไม่ได้เยิ้มย้อย ภาพที่เห็นผ่านดวงตายังคงชัดเจนไม่มีเลือนลาง มือใหญ่หนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรหาแอนโทนี่ รอสัญญาณอยู่สี่ครั้งอีกฝ่ายก็รับสาย


“แกอยู่ไหน… เจอกัน” แซ็คกดวางสายหลังจากรับรู้สถานที่ที่เพื่อนอยู่ เขากำลังจะขับไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย แต่แวบหนึ่งความคิดบางอย่างก็พุ่งวาบเข้ามา แซ็คขับรถไปตามทางที่จะพาไปลองบีช แต่ขับเลยไปจากจุดนั้น ขับเลยไปตามเส้นทางที่เพิ่งคิดขึ้นได้เมื่อกี้นี้


ระหว่างทางที่ขับรถไปสู่จุดหมายปลายทางที่เพิ่งนึกได้ เขาก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ความคิดเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตของเขาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ไหลวนอยู่ในหัวเหมือนทุกครั้ง และทุกครั้งมันก็จะวนอยู่แบบนั้นโดยที่ยังหาทางออกไม่ได้


ไม่หรอก ทางออกน่ะมี แต่เขาออกไปไม่ได้หรืออาจจะเป็นเพราะเขาเองที่ไม่กล้าออกไป เขาไม่แน่ใจว่าแบบไหนชัดเจนมากกว่ากัน


‘เหมือนหมา…’


แซ็คขบกรามเบา ๆ แววตามองท้องถนนอยางเรียบเฉย แต่กระนั้นก็ยังแสดงออกถึงความคับคั่งภายใน


‘No. You are human.’


ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาลืมว่าตัวเองเป็นคนและหลงอยู่กับบางสิ่งจนกลายเป็นหมาจริงๆ


ขับมาแบบที่ไม่ได้จดจ่อกับถนนหนทาง ขับมาแบบเรื่อยเปื่อย แซ็คก็มาโผล่ที่ซานดิเอโก้แบบเพิ่งจะรู้ตัวว่าถึงแล้ว เขาขับรถต่อเข้าไปในซอยหมู่บ้านที่คุ้นเคย หรืออย่างน้อยก็เคยคุ้นเคย รถ SUV สีดำเคลื่อนตัวช้า ๆ จนกระทั่งไปจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านสีขาวหลังขนาดกลางชั้นเดียวหลังหนึ่ง แซ็คลดกระจกลงไม่ถึงครึ่ง มองไปที่สนามหญ้าหน้าบ้านที่มีผู้หญิงต่างวัยสองคนกำลังนั่งอยู่ด้วยกัน คนหนึ่งวัยกลางคนแต่ยังคงสะสวยมีผมสีน้ำตาลอมแดง ส่วนอีกคนผมสีดำน่าจะวัยที่อยู่ในช่วงประถมศึกษา ดวงตาสีเทาอ่อนมองภาพนั้นอย่างสงบ พักนึงก็มีผู้ชายตัวสูงและท่าทางสูงวัยคนหนึ่งเดินออกมาจากในบ้านพร้อมกับจานอาหารในมือ เขาก้มลงจูบกับผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นและวางจานลงบนโต๊ะสีขาวในสนามหญ้าหน้าบ้าน


เขาขับรถมาสองชั่วโมงกว่าเพื่อมาเห็นอะไรแบบนี้ทั้งที่รู้อยู่แล้ว แต่ตอนที่ตัดสินใจกะทันหันว่าจะมา เขาคิดว่าเขาอาจจะไม่เห็น มันเป็นช่วงเวลาที่เขาอยากเจอใครที่ทำให้ความว้าวุ่นมันสงบ


แววตาของแซ็คสลดลง กระจกสีดำเลื่อนขึ้นปิด เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้หญิงวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นมองเห็นรถสีดำแล่นออกไปจากหน้าบ้าน เธอมองตามด้วยความสงสัยสักพักแล้วก็ไม่ได้สนใจใคร่รู้ต่อ


แซ็คขับรถกลับไปตามทางเดิมอย่างเลื่อนลอย โทรศัพท์เขาส่งเสียงดัง เขาหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นแอนโทนี่โทรมา พอกดรับสายฝ่ายนั้นก็ฝากซื้ออาหารเข้าไปด้วย เขารับคำสั้น ๆ แล้วกดวางสาย ถอนหายใจช้า ๆ แล้วก็เหยียบคันเร่งกลับไปที่ลองบีชซึ่งเป็นสถานที่ที่แรกที่เขาควรจะไปตั้งแต่ต้น
V
v
v



หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-09-2018 19:24:06
V
v
v

“เฮ้ มาสักที ท้องฉันร้องจนจะเป็นเพลงแล้ว” แอนโทนี่ที่นอนเหยียดขาอยู่บนโซฟาเอ่ยทักด้วยสีหน้าเหมือนคนกำลังจะจมน้ำแล้วมีมือมาช่วยดึงให้ขึ้นจากน้ำได้ทันท่วงที


“บ้านนี้แล้งอาหารขนาดนั้นเลยรึไง” แซ็คว่าพลางวางถุงวัตถุดิบทำอาหารลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น


“เหลืออยู่ไม่มาก ลูคัสเลยถือโอกาสฝากแกซื้อเข้ามาตุนไว้ เดี๋ยวเราจะทำเนื้อย่างกัน…”


“…เฮ้ มาแล้วเหรอ ไปริมสระเลย” เสียงของลูคัสดังมาจากในครัวของบ้าน แอนโทนี่เด้งตัวขึ้นจากโซฟา ช่วยแซ็คถือของออกไปวางตรงโต๊ะริมสระที่มีเตาถ่านวางอยู่ในสนามหญ้าเล็ก ๆ ข้างสระน้ำโดยมีพื้นปูนกั้นแบ่งเขตสระกับเขตสนามหญ้าเอาไว้


“ส่งเนื้อกับเนื้อหมูมา” ลูคัสเลื่อนหน้าต่างบานกระจกในโซนครัวซึ่งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำของบ้าน แซ็คยกถุงเนื้อกับเนื้อหมูให้ลูคัส เจ้าของบ้านรับวางไว้บนโต๊ะในครัวแล้วยกถังน้ำแข็งจนกล้ามแขนขึ้นเป็นลูก แซ็ครับกระติกสีน้ำเงินสี่เหลี่ยมทรงยาวมาวางไว้บนสนามหญ้าข้างกับเก้าอี้อาบแดด


“ไอ้ดัสตินมารึเปล่า” แซ็คถามพลางหยิบกระป๋องเบียร์ออกมาเปิดแล้วกระดกเข้าปาก


“มา วันนี้มีแค่สี่หนุ่มสี่มุม” แอนโทนี่ตอบอย่างอารมณ์ดีในขณะที่เตรียมถ่านในเตา แซ็คยิ้มหัวเราะเบาๆ


“ลูคัส วันนี้ฉันขอนอนด้วย” แซ็คตะโกนบอกโดยที่ไม่ได้หันไปมองเจ้าของบ้าน


“ฉันไม่มีปัญหา แต่นายจะมีรึเปล่า” หนุ่มล่ำกล้ามโตตอบในขณะที่กำลังทำการหมักเนื้ออยู่ในครัว


“ไม่” แซ็คตอบแบบเฉย ๆ วางกระป๋องเบียร์ไว้บนโต๊ะปูนสี่เหลี่ยมแล้วถอดเสื้อยืดสีขาวออก วางพาดไว้บนขอบไม้ด้านบนของเก้าอี้อาบแดด หยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมาจิบพร้อมกับเอนตัวลงนอน


“เพราะแกมีอยู่แล้ว” แซ็คหันไปมองแอนโทนี่แล้วก็กลอกตา หนุ่มแว่นยกไหล่สองข้างขึ้น เจ้าของบ้านหัวเราะเบาๆ


“อย่าหยาบคายน่าแอนโทนี่” ลูคัสพูดด้วยรอยยิ้ม แอนโทนี่เบ้ปากน้อย ๆ จัดการเขี่ยถ่านที่เริ่มติดไฟไปหลายก้อนแล้ว


“มันกำลังจะจบลง” แอนโทนี่กับลูคัสหันมองตากันนิ่งและสื่อสารกันผ่านสายตาแวบหนึ่งก่อนที่แอนโทนี่จะหันกลับไปหาไอ้เพื่อนหัวทอง


“แกรู้ใช่มั้ยว่าพวกฉันอยากจะช่วยและลำบากใจในเวลาเดียวกัน” ไม่ใช่ไม่อยากแบ่งเบาปัญหานั้น แต่พูดกันตรง ๆ ก็คือ ปัญหาที่เกิดขึ้น คนรอบข้างของแซ็คไม่ถึงกับจนปัญญา แต่ไม่รู้ว่าจะหาทางไหนช่วยดี


“รู้ตัวใช่มั้ยว่านายฝังปัญหานี้เข้าไปในชีวิตนายเอง” ลูคัสมองแซ็คด้วยความเป็นห่วงในฐานะรุ่นพี่ที่อาจจะเป็นรุ่นพ่ออีกฝ่ายแล้วด้วยก็ได้


“รู้สิ มันถึงยาก”


“เฮ้อ มันย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้วโว้ยเพื่อน เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรที่แกคิดว่าพวกฉันอาจจะช่วยได้ ก็ลองบอกดูก่อน แต่ยังไม่รับปากว่าจะช่วยมั้ยนะ” แอนโทนี่ทำให้เสียงหัวเราะกลับมาอีกครั้ง แซ็คกระดกเบียร์เข้าปาก ยกนิ้วกลางข้างขวาให้เพื่อน ลูคัสส่ายหัวและยิ้มน้อยๆ


จะเรียกว่าพวกเขาเป็นแก๊งค์เพื่อนสนิทได้มั้ยนั้น ก็อาจจะเรียกได้ แต่ก็ยังไม่ใช่สนิทสนมกลมเกลียว ถึงขั้นเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายแบบกลุ่มไฮสคูลอะไรทำนองนั้น อาจเพราะทุกคนมาเจอกันตอนโตแล้ว เลยเป็นกลุ่มเพื่อนแบบที่มีชีวิตใครชีวิตมัน ไม่ได้แชร์ทุกเรื่องราวไปทั้งหมด ยิ่งกับลูคัสที่อายุมากที่สุดในก๊วนนี้ ก็เกินคำว่าเพื่อนไปแล้ว เพราะแทบจะเป็นพ่อของทุกคน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถเข้ากับทุกคนได้ดีแม้วัยจะต่างกันเป็นสิบ ๆ ปี


และถึงแม้จะไม่ใช่เพื่อนตาย เพราะทุกคนยังมีชีวิตอยู่ แต่เวลาใครมีปัญหาอะไร ต่างคนต่างก็จะช่วยกันเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยแซ็คก็ถือว่าเขานั้นยังมีเพื่อน ไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดาย แถมยังมีพ่อประจำก๊วนด้วยอีกต่างหาก นอกจากจะอายุเยอะสุด ประสบการณ์ชีวิตลูคัสก็ถือว่าเยอะสุดด้วยเช่นกัน ก็แน่ล่ะ แก่สุด ก็ต้องเจอะอะไรมาเยอะกว่าเขาและคนอื่น ๆ อยู่แล้ว


“แกคิดว่าฉันไม่คิดเหรอเรื่องย้ายไปที่อื่น…” แซ็คทำหน้าเซ็งพลางหั่นเนื้อย่างในจานของตัวเองให้พอดีคำ


“…ฉันคิด แต่ก็ได้แค่คิด” แซ็คมองตาเพื่อนวัยเดียวกันและต่างวัยแบบที่รู้กัน อีกสองคนยักคิ้วขึ้นพร้อมกันแล้วตามด้วยการทำหน้าปลดปลง ลูคัสยกกระป๋องเบียร์สีเงินขึ้นดื่มก่อนจะว่า


“ฉันว่าช่วงนี้นายกดดันชีวิตเกินไป หน้าตาตึงเครียดไปหมด…” ลูคัสเคี้ยวเนื้อที่เพิ่งจิ้มเข้าปากและยกส้อมสีเงินชี้ไปที่รุ่นน้องก่อนเอาไปจิ้มเนื้อชิ้นใหม่อีกชิ้น


“…หาเวลาไปพักบ้างก็ดีนะ” แซ็คพ่นลมหายใจสั้นๆ


“เออ ฉันว่าก็ดีนะ พักสมองหน่อย น่าจะดีกว่าพยายามคิดให้หัวแตก”


“ฉันก็มีช่วงพักให้ตัวเองน่า” แซ็คว่าพลางจิ้มเนื้อเข้าปาก


“ฉันรู้ ฉันเห็นแล้วละ เช่น การที่แกนอนกับไอศกรีม” หนุ่มหัวทองขมวดคิ้วแวบหนึ่งแล้วหันไปมองหน้าเพื่อน แอนโทนี่ยักคิ้วและทำหน้าประมาณว่าฉันพูดอะไรผิดงั้นเหรอ


“อ้า! พูดถึงเด็กคนนี้ เขาน่าทึ่งมากเลยนะ…” ลูคัสปรบมือหนึ่งที สีหน้าและแววตาดูทึ่งตามที่ว่าจริงๆ


“…ฉันว่าจะคุยเรื่องนี้กับนายพอดี” ลูคัสเลื่อนสายตามองแซ็ค หนุ่มหัวทองทำหน้างง


“เกี่ยวอะไรกับฉัน”


“ฉันอยากได้เขามาร่วมงานกับพวกเรา และฉันอยากให้นายช่วย” แซ็คขมวดคิ้ว หน้าตายิ่งงงเข้าไปอีก


“ช่วยยังไง” ลูคัสหัวเราะเบาๆ


“ช่วยพูดกับเจค”


“โว้ว~” แอนโทนี่อ้าปากค้าง สีหน้าตะลึงหน่อยๆ


“ฉันว่านายคนเดียวก็พูดกับเขาได้แล้ว เขาฟังนายจะตาย” มันเป็นแบบนั้น เรื่องเกี่ยวกับในค่าย เจคเชื่อใจลูคัสเสมอมา แนะอะไร บอกอะไร ถ้าเป็นลูคัสยืนยัน เขาก็จะขัดน้อยลงและท้ายที่สุดก็ไม่ขัดอีกเลย


“ฉันคุยไปแล้ว หลังจากวันที่ฉันคุยกับไอศกรีมเสร็จ อีกวันฉันก็คุยกับเขาเลย แต่…” ลูคัสยกมือขวาขึ้นและชี้นิ้วชี้มาที่แซ็คจนเจ้าตัวที่งงอยู่แล้วไม่หายงงสักที


“…นายไปนอนกับเด็กคนนั้น” แซ็คนิ่งไปสักพักก่อนจะพ่นลมหายใจเบา ๆ พร้อมกับทำหน้าเหนื่อยหน่าย


“จำเป็นต้องเป็นเด็กคนนี้ด้วยเหรอ” แซ็คถาม ไม่ได้เพราะเรื่องมากหรือต่อต้านใด ๆ แค่นึกสงสัยว่าทำไมลูคัสถึงอยากได้เจ้าเด็กมือไวมาทำงานด้วยนักหนา


“ฉันจะพูดแบบง่ายที่สุดแล้วกัน…”


“…เอ้ ฉันมาแล้ว” ผู้ชายตัวสูงใส่กางเกงผ้าร่มข้าสั้นสีดำกับเสื้อยืดสีขาวตัดแขนโชว์รอยสักทั้งสองข้างเอ่ยทักทายเพื่อนอีกสามคนด้วยความอารมณ์ดี แต่สิ่งที่คนเพิ่งมาถึงได้กลับไปคือความเฉยเมย เจ้าตัวทำเพียงยิ้มขำ มีแอนโทนี่ที่ทำมากกว่าใครหน่อยคือการชี้บอกว่าผู้มาใหม่ควรนั่งตรงไหน


“อยากกินอะไร จัดการเองเลยดัสติน” แอนโทนี่บอกเพื่อนอีกคนในก๊วน ตากล้องรูปหล่อมองสองพระเอกหนังโป๊เบอร์หนึ่งต่างยุคกำลังนั่งคุยกันด้วยท่าทางจริงจังหน่อยๆ


“เอาแบบง่าย ๆ เด็กคนนั้นมีพรสวรรค์เรื่องเซ็กซ์ดีมาก” แซ็คขมวดคิ้ว ดัสตินที่เพิ่งมาก็ขมวดคิ้วตามไปด้วย


“พรสวรรค์?” แซ็คทวนคำนั้น ลูคัสจิ๊ปากหนึ่งที หน้าตาดูครุ่นคิดไม่ตก


“ฉันไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดี และไม่รู้จะอธิบายยังไงดี คือ… เด็กคนนั้นมีเซ้นส์ในเรื่องพวกนี้ค่อนข้างดี ซึ่งจริง ๆ ฉันว่าดีมากเลยแหละ เอาแค่เรื่องมองคน…” ในระหว่างที่ลูคัสกำลังคุยกับแซ็ค แอนโทนี่ก็กำลังอธิบายให้ดัสตินฟังว่าก่อนหน้าที่เขาจะมานั้น กำลังพูดถึงประเด็นไหนกันอยู่


“…เด็กคนที่บอกให้ฉันเล่นหนังโป๊เกย์น่ะเหรอ”


“คนนั้นแหละ ลูคัสอยากได้มาทำงานกับพวกเรา แต่ติดที่เจค” ดัสตินแสร้งทำหน้าขยาด แอนโทนี่เลยหัวเราะ


“ฟลุครึเปล่า แบบว่าดวงดีพอดีเลยจิ้มคนนั้นได้” แซ็คพูดด้วยความรู้สึกกังขา หน้าตาดูไม่ค่อยอยากเชื่อ


“อันนี้ก็ต้องพิสูจน์เพื่อความชัดเจนอีกที” ลูคัสพยักหน้ายืนยันตามที่พูด เพราะเขาเองก็อยากให้ประเด็นนี้มันเคลียร์จริง ๆ ว่าสิ่งที่เขาคิดมันใช่ตามนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญ


“แต่ไอศกรีมที่เพิ่งเคยเจอไอ้ดัสตินก็บอกให้มันไปเล่นหนังโป๊นะ แกก็รู้ว่าไอ้ดัสมันเป็นนักรบบนเตียงชั้นยอดคนหนึ่ง ใช่มั้ยดัส?” บุคคลที่ถูกเอ่ยถึงกำลังนั่งรินน้ำอัดลมใส่แก้วที่ใส่น้ำแข็งไปก่อนหน้านี้


“อะไรนะ อ๋อ เอ่อ ใช่ เด็กคนนั้นบอกให้ฉันเล่นหนังโป๊เกย์ และบอกด้วยนะว่าฉันจะดังมาก…” ดัสตินยิ้มขำเมื่อนึกถึงคำพูดของเด็กคนนั้นในวันที่เจอกันครั้งแรก


“…หมอนั่นพูดเหมือนมาอยู่บนเตียงเวลาฉันเอากับใคร ก็ดูไม่ผิดนะ พวกแกก็เคยเห็น” ดัสตินหัวเราะเบา ๆ ด้วยความตลกที่ต้องมาคอนเฟิร์มเรื่องบนเตียงของตัวเองด้วยตัวเอง


แซ็คท่าทางงุนงง หันไปมองลูคัส อีกฝ่ายก็ยักคิ้วขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปากทั้งสองข้าง “อย่างน้อยตอนนี้ไอศกรีมก็มองถูกไปสองคนแล้ว”


“แน่ใจแล้วเหรอคอลลิน” ดัสตินเรียกชื่อในวงการของลูคัส เขาเรียกชื่อนี้มาจนชินปาก นาน ๆ ทีจะเรียกคอลลินว่าลูคัส


“ฉันแน่ใจมากว่าเด็กคนนี้จะมาช่วยทำเงินให้เราเพิ่ม ไอเดียของเขาและเซ้นส์ของเขาที่มีต่อเรื่องพวกนี้มันว้าวมากจริง ๆ นะ” แซ็คชะงักไปนิด ความคิดบางอย่างที่ยังไม่ชัดเจนพุ่งวาบเข้ามาในหัวแล้วทำท่าเหมือนจะหายไป แต่เขาก็จับมันเก็บไว้ในความจำก่อน


“ไอ้เด็กลามกนั่นน่าสนใจขนาดนั้นเชียวเหรอ” แซ็คว่าอย่างไม่อยากเชื่อ เด็กนั่นดูจะเอาแต่คิดเรื่องจะนอนกับเขาอย่างเดียว ก็ไม่อย่างเดียวขนาดนั้นหรอก แต่ก็เป็นอะไรที่ชัดเจนที่สุดของเด็กคนนั้นนั่นแหละ


“น่าสนใจสิ นายต้องลองได้คุย ถ้าเพียงนายช่วยคุยกับเจคอีกแรง อย่างน้อย ๆ ให้เจคได้เจอกับไอศกรีม ได้พูดคุยกับเขา เจคอาจจะชอบ หรือถ้าไม่ชอบ ฉันก็อยากให้นายทำให้เจคชอบไอศกรีมให้ได้” แอนโทนี่กับดัสตินหัวเราะชอบใจกับการบังคับของลูคัส คนพูดยิ้มขำ ส่วนคนฟังกลอกตาหนึ่งที


“ใช้ความเป็นเบอร์หนึ่งของค่ายให้เกิดประโยชน์อีกหน่อยน่าเพื่อน” แอนโทนี่เอ่ยแซวด้วยรอยยิ้มขำสนุกสนาน


“ว่าแต่ แกนอนกับเด็กคนนั้นสองครั้งเลยเหรอวะ แกห่างจากถ่ายหนังโป๊นานไปใช่มั้ยเพื่อน” ดัสตินแซวอีกคน แต่คนละประเด็น เสียงหัวเราะดังครื้นเครงในช่วงยามบ่ายของวัน


“ครึ่งปีแล้วมั้ง” แซ็คตอบแบบหน้าตาย อีกสามคนที่เหลือหัวเราะกันสนุกสนาน


“แต่ฉันว่าวิธีที่เจคให้แกมีหนังน้อยเรื่องก็เป็นประโยชน์กับแกเหมือนกันนะ คนถึงเรียกร้องแกเยอะไง”


“มันคือการเพิ่มมูลค่าให้กับนาย” ลูคัสเสริมต่อจากแอนโทนี่ แซ็คส่ายหน้าเซ็ง ๆ ดัสตินเห็นแบบนั้นก็หัวเราะ


“พวกเรารู้น่าว่าแกอยากถ่ายหนังเดือนละไม่ต่ำกว่าสิบเรื่องกับสาว ๆ พวกนั้น”


“อาทิตย์ละสิบเรื่องเลยต่างหาก” แซ็คพูดด้วยใบหน้ากระเหี้ยนกระหือรือ สร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนอีกสามคน รวมทั้งสร้างรอยยิ้มขำขันให้กับตัวเขาเองด้วย


“สรุปนายจะช่วยฉันใช่มั้ย” ลูคัสถามอีกที แซ็คที่สีหน้าดูผ่อนคลายขึ้นยักคิ้วหนึ่งครั้ง


“มาอยู่ด้วยกันแล้วก็อย่าทำให้เราขาดทุนล่ะ” ลูคัสยิ้มกว้าง


“แจ๋ว!” พระเอกรุ่นใหญ่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี เขาไม่ได้นิ่งนอนใจหลังจากคุยกับไอติมจบ เขาประทับใจในตัวเด็กคนนั้นมาก เขารู้เลยว่าถ้าได้เด็กคนนั้นมาทำงานด้วยมันคือการได้หัวสมองชั้นเลิศในเรื่องเซ็กซ์มาอยู่ใกล้ตัว ลูคัสพยายามโน้มน้าวเจคทุกวันตั้งแต่หลังจากวันที่ได้คุยกับไอติม แต่ก็ยังไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่ถึงขั้นจะล้มเหลว แค่ต้องหาคนช่วยกระทุ้งอีกคนเท่านั้นเอง ซึ่งคนที่เหมาะที่สุดก็พระเอกเบอร์หนึ่งของค่าย ณ ตอนนี้นี่แหละ


“ถ้ามาอยู่ใกล้กันแล้ว แกไม่นอนกับเด็กคนนั้นทุกวันเลยเหรอวะ” ดัสตินยังคงไม่หยุดแซวเพื่อน คนโดนแซวยักคิ้วหน้าตาคล้ายคนง่วงนอน


“สองครั้งพอ ไม่มีอีกแล้ว” แซ็คว่าเอื่อย ๆ จบก็กระดกเบียร์เข้าปาก


“ครั้งที่แล้วแกก็พูดว่าครั้งเดียวพอ แล้วก็มีครั้งที่สอง”


“ก็ครั้งนี้ครั้งที่สองพอแล้วจริง ๆ ไง” ดัสตินกับแอนโทนี่หัวเราะ ลูคัสยิ้มขำ มองแซ็คที่ทำหน้าเหมือนอยากจะขว้างกระป๋องเบียร์ใส่หน้าคนพูดแบบเต็มแรง






‘แล้วน้องติมยังไม่มีแฟนเหรอลูก’ สาวข้ามเพศผิวเข้มหน้าไทยแท้แต่เนียนนี หนึ่งในเพื่อนของน้าแพนที่น้าแพนฝากฝังให้ดูแลไอติมช่วงที่อยู่ซานฟรานฯ เอ่ยถามด้วยความรู้สึกเอ็นดูหลานชายของเพื่อน

‘ยังฮะ ติมยังไม่รู้สึกว่าอยากมีอะ’

‘ดีแล้วลูก สนุกกับชีวิตก่อน กินเล่น ๆ ไป เอาให้อิ่มหนำก่อน มีเป็นตัวเป็นตนแล้วเดี๋ยวจะยาก’ ไอติมหัวเราะตาหยี เพื่อนสาวสองของน้าแพนยกมือขึ้นมือหยิกแก้มไอติมเบา ๆ

‘น้าเห็นแต่เล็กแต่น้อย โตขึ้นมาหน้าตาน่ารักจังลูกเอ๊ย’ ไอติมยกมือไหว้

‘ขอบคุณฮะน้า’

‘มารยาทก็ดี๊ดี พี่แพนกับพี่สาวแกเลี้ยงหลานเก่งเนาะ’ อีกหนึ่งสาวข้ามเพศหน้าตาหมวยเอ่ยชื่นชมรุ่นพี่กับแม่ของเด็กคนนี้ด้วยความจริงใจ

‘น้องติม หนูโสดแน่เหรอลูก หืมมม’ ผู้ชาย เอ่อ ผู้ชายออกสาว ตัวใหญ่ผิวคล้ำ ใส่วิกผมหัวฟูชำเลืองตาไปมองเดนนี่ที่นั่งรอไอติมอยู่นอกบ้านของพวกเพื่อน ๆ น้าแพน

‘เดนนี่เพื่อนติมฮะ เพื่อนสนิทกันตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว’

‘หูย ลูก ปล่อยให้เป็นแค่เพื่อนได้ยังไง นั่นน่ะกินได้เลยนะ โภชนาการสูงมากแน่ ๆ เป็นพี่ไม่ได้เลยนะคะ ต้องมากกว่าเพื่อน’ ไอติมหัวเราะกับจริตท่าทางเปรี้ยวปากของพี่ที่ยังไม่ได้เฉาะเหมือนคนอื่น ๆ

เอ๊ะ หรือคนอื่น ๆ ก็ยังไม่ได้เฉาะแต่แค่แต่งหญิงนะ

‘ไม่กินคนนี้ ติมก็กินคนอื่นใช่มั้ยลูก’ พี่ผิวเข้มผมยาวคนแรกเอ่ยด้วยสีหน้าแซวเต็มที่ ไอติมยิ้มเขินๆ

‘ทำหน้าแบบนี้ ชัวร์เลย…” สามสาวหัวเราะคิกคัก ไอติมยิ้มยิงฟันกลบความเขินของตัวเอง


'…แต่รูของเรา ใช้ซะน้องติม เกิดมามีรูเดียว เสียวให้เต็มที่ไปเลยค่ะ’ พี่หน้าหมวยบอกและหัวเราะเสียงแหลม ไอติมยิ้มตาหยีพร้อมกับห่อไหล่สองข้างเพราะความเขิน ปกติหน้าด้าน แต่พอเป็นพี่ ๆ พวกนี้แซว ไอติมรู้สึกว่าเขามีจริตการแซวที่ชวนเขินเป็นพิเศษ

‘ใช่ แค่เอา ไม่ได้รัก ถ้ารัก มีได้รักเดียว แต่ถ้าเอา จะเอากี่คนก็ได้’ คราวนี้เสียงหัวเราะดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อพี่หัวฟูผู้มีร่างกายกำยำใหญ่โตพูดจบ ไอติมหัวเราะจนตาแทบปิด

หลังจากเสร็จงานที่ร้านอาหารของเดนนี่ ไอติมก็ให้เพื่อนพามาเยี่ยมเพื่อนน้าแพนที่น้าแพนฝากให้ดูแลหลานชายของตัวเอง ตั้งแต่มาถึงที่นี่ไอติมก็ยังไม่ได้แวะเข้ามาหาพวกน้า ๆ พี่ ๆ เขาเลย เพราะมัวแต่ไปตามฝันเสียบริสุทธิ์ แต่วันนี้มีจังหวะและเวลาที่เหมาะสมเลยแวะมาหาพวกเขาสักหน่อย น้าแพนจะได้สบายใจว่าได้เจอกันแล้ว

‘รักกับเซ็กซ์ มันคนละอย่างนะลูกนะ เก็ทใช่มั้ยลูก…’ ไอติมพยักหน้าทั้งที่ยังยิ้มกว้าง เพื่อนน้าแพนยิ้มพอใจ

‘…แม้จะเกิดมามีจิ๋มเดียว แต่เราสามารถสร้างความเสียวได้ด้วยคxxหลายอัน ขอบคุณค่า’ น้าแพนคิดแบบนี้สินะ ถึงซื้อกินอะ ฮ่าๆๆ







“ยังไม่ง่วงเหรอวะ” เดนนี่ที่เดินเช็ดหัวออกมาจากห้องน้ำถามเพื่อนตัวผอมที่นอนตาแป๋วอยู่บนเตียง


“กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย” ไอติมตอบพลางมองเดนนี่ใส่กางเกงนอนขาสั้นตัวเดียว ท่อนบนเปลือยหุ่นล่ำสันแบบพอดิบพอดี ไม่ใช่แข็งแบบก้อนหิน


“อ้าว มึงมีสมองให้คิดด้วยเหรอ” ไอติมขยับปากด่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งแบบไร้เสียง เดนนี่หัวเราะพลางนั่งลงบนเก้าอี้เขียนหนังสือ


“เดน…” ไอติมเรียกเพื่อนตัวโตเสียงเบา คนถูกเรียกหันมองทั้งที่มือยังเช็ดหัวอยู่


“…มันแยกกันจริง ๆ เหรอ รักกับเซ็กซ์อะ” เดนนี่หยุดเช็ดหัว มองหน้าเพื่อนนิ่ง ๆ แปบหนึ่งก่อนจะตอบ


“ก็แยกนะ แต่ถ้ามึงเจอคนที่มึงรักแล้วมีเซ็กซ์กับมึง มันก็รวมเป็นความรู้สึกเดียวกันได้แหละมั้ง ถามทำไมวะ ถามอะไรที่กูไม่ถนัดด้วยนะ” ไอติมมองเดนตาใส


“มึงไม่ถนัดจริงเหรอ เวลามึงเอากับผู้หญิงที่เจอกันที่ผับ มึงรักเขาเหรอเดน” คนถูกถามส่ายหัว


“ไม่รักดิ เอาก็แค่เอา จบบนเตียงแล้วก็แยกย้าย”


“น่ะ แล้วมึงจะมาบอกว่าไม่ถนัดได้งะ” เดนนี่ถลึงตาใส่ไอ้เพื่อนตัวดีที่ทำหน้าว่าไม่ยอม


“ก็แบบนั้นแหละ กูเอาใครสักคน กูก็ไม่ได้รักคนนั้นเสมอไป แต่ถ้ากูรักใคร กูก็เอาเขาอยู่ดี” ไอติมอ้าปากหวอ มองเพื่อนลูกครึ่งด้วยความทึ่งปนงงงวยจนเดนนี่ขำด้วยความตลกหน้าเพื่อน


“เอากัน ไม่ต้องรักกันก็ได้เนอะ” เดนนี่ยักไหล่สองข้างก่อนตอบชิลๆ


“อย่างถ้ากูเอากับมึง กูก็ไม่ได้รักมึง มึงก็ไม่ได้รักกู เราแค่เอากัน ประมาณเนี้ย” ไอติมเบิกตากว้าง หน้าตาสนใจสิ่งที่เพื่อนพูด


“จริงเหรอ”


“ตอนมึงเอากับไอ้พระเอกนั่นมึงรักกันรึไงล่ะ ก็ไม่ป้ะ” ไอติมส่ายหน้าทันที


“กูรักที่จะเสียตัวให้เขามากกว่าอะ กูไม่รักเขา แต่กูรักมากเลยนะที่เขาเอากู” ไอติมกัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้มหน้าเคลิ้ม เดนนี่แกล้งทำหน้าหยีใส่เพื่อน


“ก็มันเป็นความเงี่ยน ไม่ใช่ความรัก” ไอติมหุบยิ้มวืด


“พูดหงี่ก็ได้ พูดเงี่ยนหยาบคายสัสอะ”



“อ้าวไอ้เหี้ยนี่” แม้จะหยาบคายใส่เพื่อน แต่เดนนี่ก็ยังคงหัวเราะจนตาหยี ไอติมทำปากยื่น หน้าตาครุ่นคิดสักแปบก่อนจะโพล่งออกมาแบบซื่อๆ


“เดน ยังเอากูได้อยู่ป้ะ” คนถูกถามขมวดคิ้ว มองใบหน้าซื่อตาใสของเพื่อนที่ไม่ได้แสดงอาการผิดปกติอะไรออกมา


“อะไรนะ”


“ถามว่า ถ้าให้เอากู เอาป้ะ” เดนนี่ไม่ได้ตกใจ แค่กำลังทึ่งและสับสนว่ามันอำเขาเล่นหรือมันจริงจังเบอร์ไหน


“มึงเงี่ยนเหรอ” ไอติมยิ้มแห้ง พยักหน้ายอมรับแบบคนเขินอาย เดนนี่ขมวดคิ้วมากกว่าเดิม


“จู๋มันก็แข็งอะ คงหงี่แหละ” เดนนี่รู้สึกเอ๋อไปแล้ว


“เอ้ย ไอ้ห่า มึงมาหงี่อะไรกับกูเอาป่านนี้ อยู่ด้วยกันมาตั้งนานแล้ว” เดนนี่มองเพื่อนด้วยความพิลึก ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวหรือขนลุกอะไรกับเพื่อน


“เอ้า จะป่านนี้ป่านไหน ถ้ามันเงี่ยนก็เงี่ยนป้ะล่ะ” ไอติมว่าหน้าตางอแง เดนนี่คลายคิ้วแล้วหัวเราะกับหน้าตาของมันตอนพูด อย่างกับเด็กอยากได้ของเล่นแล้วโดนพ่อขัดใจ


“กูใช้งานมึงหนักไปเหรอ มึงถึงเบลอเนี่ย” ไอติมมุ่ยหน้า


“ไม่ใช่!...” เสียงใส ๆ เหวี่ยงอย่างน่าเอ็นดูให้เดนนี่ยิ้มขำ หนุ่มลูกครึ่งดึงผ้าขนหนูออกจากหัว ลุกเดินไปปิดไฟในห้องนอน เหลือแต่โคมไฟบนโต๊ะเขียนหนังสือ ร่างสูงล่ำเดินไปขึ้นเตียงฝั่งที่ตัวเองนอน


“…เราไม่ได้รักกัน เราก็เอากันได้ไม่ใช่เหรอเดน แต่ก่อนมึงยังจะเอากูอยู่เลย” เดนนี่ขำไม่หยุดในขณะที่ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ไอติมพลิกตัวนอนมองเพื่อนสนิท ใบหน้าบูดบึ้งน่ามันเขี้ยว


“มึงเล่นตัวเองอะ ตอนนี้กูหมดอารมณ์กับมึงแล้ว” เดนนี่ยิ้มขำ ไอติมมองค้อนเล็ก ๆ ก่อนจะยื่นมือซ้ายไปใต้ผ้านวม ล้วงเข้าไปในกางเกงของเดนนี่แล้วคว้าเดนน้อยที่นอนสงบอยู่เต็มมือ


“อย่างน้อยมึงก็เคยมีอารมณ์กับกู ใช่ป้ะ” เดนนี่เลิกคิ้วขึ้น กลอกตาทำหน้านึกถึงความรู้สึกที่ชอบพูดกับเพื่อนตัวเองว่าเขาเอามันแทนไอ้พระเอกนั่นก็ได้ กำลังทบทวนว่าตัวเองเคยเกิดอารมณ์กับไอ้ติมมั้ย


“มันก็มีตอนมึงชอบมากอด ชอบหอม ชอบไซ้ ชอบนั่งขย่มกูนั่นแหละ โดนบ่อย ๆ กูก็เริ่มห้ามตัวเองยากแล้วมั้ยล่ะ” ไอติมยิ้มวิ้ง!


“งั้นถ้ากูทำให้มึงมีอารมณ์ได้ มึงก็เอากูได้ใช่มั้ย” เดนนี่ทำหน้าเหลือเชื่อ


“เหี้ย มึงจะล่วงละเมิดกูให้ได้เลยใช่มั้ย” ไอติมหัวเราะคิกคัก ปล่อยมือซ้ายออกจากส่วนนั้นของเพื่อนสนิทแล้วลุกขึ้นนอนคร่อมร่างหนาของเพื่อน เดนนี่มองเพื่อนตัวเล็กด้วยความตะลึงหน่อย ๆ แต่ไอ้เพื่อนตัวจ้อยมันยิ้มตื่นเต้น ตาเป็นประกายเชียว


“ถ้าแข็งแล้วต้องเอากูนะ” เสียงใสว่าอย่างมาดมั่น เดนนี่อ้าปากค้าง


“มึงเอาจริงเหรอไอ้ติม” ไอติมพยักหน้าลงอย่างแข็งขัน


“อื้อ กูจะให้มึงเอากูจริง ๆ กูอยากอ่า”


“เฮ้ยๆ เอากันนะไอ้ห่าติม ไม่ได้ชวนกันกินข้าว”


“ก็ใช่ไง แต่ก็เหมือนชวนกินข้าว แค่ไม่ได้ไปกินข้าว แต่มากินกัน” ไอติมยิ้มกริ่ม สีหน้าท่าทางของมันบ่งบอกว่าไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแปลกอะไรกับการชวนใครสักคนเอากัน


เลเวลมันเหนือกว่าเขาอีก มันชวนเหมือนชวนเรื่องทั่วไปอะไอ้ห่าเนี่ย


“สติมึงครบถ้วนนะ” เดนนี่เลิกคิ้วขึ้นสูง ถามเพื่อความแน่ใจ คนถูกถามพยักหน้าหงึกๆ


“ครบสิ… โอ๊ะ เนี่ย มึงแข็งแล้วๆ” ไอติมว่าด้วยความตื่นเต้น แต่มันกลับทำให้เดนนี่เกือบจะหดเหี่ยว ที่มันแข็งเพราะเขาตื่นเต้นกับวิธีการที่มันชวนเอากันเนี่ยแหละ มันพูดโคตรชิล บรรยากาศไม่ได้เร่าร้อนอะไรด้วยนะ พูดแบบสบาย ๆ เหมือนกำลังบอกว่าวันนี้อากาศดีจัง แต่แม่งชวนให้อะดรีนาลีพุ่งพล่านชิบ


“มึงอย่ามาร้องไห้ก็แล้วกัน” เอาล่ะ เขาไม่คิดปฏิเสธหรอกนะ ตัวเขาเองก็ไม่ได้นอนกับใครและไม่ได้ช่วยตัวเองมาสองเดือนแล้ว


“แต่ร้องครางได้ใช่ป่าว” นั่น… มึงนี่มันหน้าเป็นนักนะ


เดนนี่มองเพื่อนสนิทด้วยความหมั่นไส้และมันเขี้ยวกับความอยากได้อยากโดนของมัน เขาไม่ได้รู้สึกเครียดหรือกลัวว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนจะแปลกประหลาดไปหลังจากได้เสียกัน ก็จะให้ไปรู้สึกอย่างนั้นได้ยังไงล่ะ ดูไอ้คนชวนสิ ตัวมันประหลาดล้ำหน้าก่อนความสัมพันธ์ของเขาสองคนไปแล้ว และด้วยท่าทางที่แสนจะปกติ ชิล ๆ ของมัน เขาเลยรู้สึกว่า เออ ก็ได้


“อย่ามาเรียกร้องความรับผิดชอบนะมึง กูไม่ยกขันหมากไปขอมึงนะ”


“เรียกสินสอดไม่แพงหรอก ฮิๆ” กูบอกว่ากูจะไม่ไปสู่ขอมึงไง






“อือ เดนใหญ่จัง…” อ้าว เฮ้ย ลงไปอมเต็มปากเต็มคำแล้ว

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 01-09-2018 20:28:03
เอ้ยยย หนูติมลูกกก หนูต้องใจเย็นๆหน่อยน่าาา นี่เพื่อนเองงงง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 01-09-2018 23:22:36
เอาจริงหรอน้องติมเอ๊ย​ น้องเชี่ยวจริงจนทีมหนังโป๊อยากได้ไปร่วมงาน​ด้วยเลย​ เสีย​เป็นแสนเริ่มคุ้มค่าแล้ว55​ จริงๆก็โสด​ บรรลุ​เป้าหมาย​แล้ว​ ตอนนี้​ฟรีแล้วก็ไม่ผิดนะน้องอย่างที่น้าๆบอก​ แต่แอบกลัวว่าน้องติมจะคิดพิสูจน์​เอากะใครไม่รักก็เหมือนๆกันนั่นแหละ​ คือเรื่องจริง​รึป่าว​ เลยจะลองกะเดน​ แต่เดนก็ดูแซบอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 02-09-2018 00:19:36
น้องไอติ๊มมมมม หนูต้องใจเย็นๆน้าา :hao5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-09-2018 02:42:20
น้องติมกำลังสะสมประสบการณ์ใช่มั้ยลูกกก แซ่บแท้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-09-2018 03:38:04
หนูติม ของเพื่อนเว้นไว้คนหนึ่งแล้วกันนะ  :m5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 02-09-2018 12:41:38
น้องติมมมมม ทำไปแล้วจะมาเสียใจทีหลังไม่ได้นะคะลูก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Moonoii ที่ 02-09-2018 13:26:16
 :haun4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 02-09-2018 17:32:40
น้องไอติมมมมม หนูจะกินเพื่อนไม่ได้ 5555 :haun4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 03-09-2018 11:09:45
โอ้ น้องติมจะได้กินของโภชนาการสูงสุดยอดแล้วใช่ไหมครับเนี่ย (หัวเราะ) เยี่ยมๆ ผมรอดูฉากอัศจรรย์อันร้อนแรงอยู่นะครับ ไม่ได้มาสเตอร์เบด แถมไม่ได้นอนกับใครมาเป็นเดือน อย่างนี้นี่น้องติมไม่ฟ้าเหลืองเลยเหรอครับ แหม่ เดนนี่นี่ไม่ใช่ย่อยๆนา (หัวเราะ)

ผมเห็นหลายคนดูจะบอกให้น้องติมหยุดก่อน อย่ากินเพื่อน หรืออะไรแบบนั้น แต่ผมมองอีกแบบนะครับ ถ้ามองในแง่มุมของมิติวรรณกรรม เรื่องนี้คือเราค่อนข้างเน้นเส้นเรื่องของแซ็คกับไอติม ซึ่งโทนเรื่องแน่นอน มันก็จะออกแนวพิศวาสร้อนแรง มีฉากบนเตียงเยอะ อันนี้เป็นจุดที่ควรระวัง เพราะถ้าเขียนออกมาได้ไม่ดี มันจะทำให้คนอ่านเบื่อ มองเป็นวรรณกรรมโรแมนซ์เกลื่อนตลาดมากไป

แต่คุณเจ๊เขียนมันออกมาได้ดีครับ อย่างที่ผมเคยคอมเมนท์บอกไปในคอมเมนท์ก่อน คุณเจ๊เขียนฉากอัศจรรย์ออกมาเพื่อสื่อถึง ‘อารมณ์’ ของคนในฉากได้ชัดเจน คนอ่านรับสารได้ดี ฉากที่ไอติมได้เสียกับแซ็คนั้นคือฉากเซ็กซ์ที่เราไม่รู้สึกถึงความรู้สึกร้อนแรงใดๆเลย มันไม่มีความรักเข้ามาเกี่ยว มีแต่การยุ่งกันแล้วก็จบ มันสื่อถึงอารมณ์ของแซ็คที่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอติมเลย การที่คุณเจ๊สามารถทำตรงจุดนี้ออกมาได้ดี สื่อสารผ่านฉากอัศจรรย์ได้ครบถ้วน มันทำให้ผมวางใจในฝีมือการเขียนของคุณเจ๊ครับ ว่าอนาคต ถ้าเราจะพัฒนามุมมองของฝั่งหนึ่งต่ออีกฝั่งหนึ่ง เราสามารถใช้บทอัศจรรย์ของคู่เดิม แต่จากอดีตเทียบกับปัจจุบัน เพื่อให้เห็นพัฒนาการด้านความรู้สึกได้

ทีนี้ถามว่ามันเกี่ยวอะไรด้วย? อย่างที่บอกว่าโทนเรื่องนี้ออกแนวโรแมนซ์ ดังนั้นการสื่อปม พล็อต หรือนิสัยตัวละคร ถ้าเราจะรู้สึกว่ามันกลมกลืนมากที่สุด ก็ต้องให้มันสื่อสารผ่านฉากพวกนี้นั่นแหละครับ ดังนั้นฉากการร่วมรักระหว่างไอติมกับเดนนี่ ผมอยากเห็นนะ เพราะมันเป็นหนึ่งในไม่กี่ฉากที่เราจะเห็นมิติของคาแรกเตอร์เดนนี่อย่างชัดๆผ่านโทนเรื่อง เราบอกว่าเฮ้ย ผมชอบเดนอะ เพราะเดนดูร้อนแรง เซ็กซ์แอพพีลสูง รูปร่างเท่บาดใจและสกิลบนเตียงไม่ต่ำกว่าพวกดาราในวงการหนังใต้ดินตัวท็อปแน่ๆ แต่เรามีฉากอะไรมาสนับสนุนข้อคิดเห็นนั้น? ดังนั้น ผมถึงมองว่าฉากแบบนี้มันควรต้องมีน่ะครับ มีกับไอติมนี่ยิ่งดีใหญ่ เพราะมันอาจทำให้เราสอดแทรกประเด็นอ่อนไหวบางอย่างเข้าไประหว่างการทำกิจกรรมได้ มันก็จะทำให้ฉากอัศจรรย์มีมิติที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องมากขึ้น

ที่อยากชมอีกอย่างคือการเชื่อมหรือโยงปมบางอย่างเข้ามาในแนวเรื่องครับ คุณเจ๊ทำได้ดีนะครับ แม้เราจะอ่านแล้วรู้สึกเหมือนโทนเรื่องเบาๆสบายๆ (เนื่องด้วยความหื่นของน้องไอติม) แต่พอเราถอยออกมามองให้ดี เรื่องนี้มีมิติของตัวละครที่ลึกและน่าสนใจนะครับ ยกตัวอย่างเช่น แซ็ค แซ็คนี่เราเห็นชัดๆเลยว่ามีปมประเด็นดราม่าของชีวิต ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องรอการขยายต่อไป แต่ผมมองว่าแซ็คเป็นคนที่จิตใจเย็นชานะครับ คือเนื่องด้วยสภาพแวดล้อมมันสบายๆชิวๆแหละ เลยทำให้แซ็คเป็นคนเรื่อยๆไม่เรื่องมาก แต่ตัวปมที่ผูกชีวิตของเขามันหนักอยู่ และเขาเป็นอเมริกันด้วย บางทีเค้าจะไม่ค่อยเข้าใจแนวคิดเชิงพุทธของคนเอเชียที่ปล่อยวางได้ง่ายกว่าและหลุดจากความเครียดได้ จะเห็นว่าในหลายๆฉาก แซ็คชอบนั่งเงียบๆคิดอะไรคนเดียว เป็นเพราะเขากังวลกับชีวิตและอยากหาทางออกแหละ แต่ทางเลือกมันบีบคั้น เขาจำต้องทำ

แม้แต่ตัวไอติมเอง ก็มีปมประเด็นชีวิตที่คุณเจ๊สอดแทรกมาไว้มาแนบเนียน ผมสังเกตได้ตอนฉากแรกๆน่ะครับ ชีวิตของไอติมคือพ่อกับแม่มีปัญหากันหรือแยกกันอยู่ อันนี้เรายังไม่ทราบสาเหตุแท้จริง และเรายังไม่เห็นคาแรกเตอร์คุณพ่อของไอติมอย่างชัดๆ เลยไม่รู้ว่าเป็นตัวดีหรือตัวร้ายยังไง การที่ไอติมมีปมประเด็นชีวิต แต่ยังใช้ชีวิตแบบหลั่นล้า อาจจะเพราะการเลี้ยงดูของน้าและแม่ ที่ใช้ความเข้าใจกับเด็กเป็นหลัก สอนให้ไอติมไม่ต้องไปกังวลหรือคิดมาก การเลี้ยงแบบนี้ดีนะครับในแง่ทำให้เด็ก ‘ดูเป็นคนปกติ’ แต่ปัญหามันจะเกิด เมื่อโตขึ้นและเข้าสู่ช่วงรอยต่อระหว่างมหาวิทยาลัยกับการเป็นผู้ใหญ่ครับ เพราะการที่ทำให้ไอติมไม่คิดอะไรมาก มันดีตรงที่เด็กจะไม่เครียด ปล่อยวางกับเรื่องหนักๆในชีวิตได้เร็ว แต่ข้อเสียคือเด็กจะวางแผนล่วงหน้าไม่เห็น ขาดทักษะการมองเห็นปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการกระทำของตัวเอง เพราะเนื่องจากไม่คิดอะไรมาก ทำให้บางครั้งอาจทำอะไรที่ไม่ค่อยคิด ทำให้เป็นปัญหายุ่งๆได้

ดังนั้นจะเห็นว่ามิติตัวละครแบบนี้ซ่อนอยู่ในโทนเรื่องโรแมนซ์ และการบรรยายที่ดูเรียบเรื่อยชิวๆของโทนเรื่อง เป็นการแฝงนัยยะที่ดูมีฝีมือและมีเสน่ห์ สำหรับตัวละครหลักอย่างแซ็คและไอติม ผมเห็นพอสมควรแล้ว แต่ตัวละครเสริมที่เราจะให้เด่นอย่าง ลูคัส หรือเดนนี่ ยังไม่มีฉากที่บรรยายเสริมเข้ามาเพื่อที่จะเห็นตัวละครชัดขึ้น อย่างเดน ก็คงจะมีฉากอัศจรรย์นี้ที่จะทำให้เราเห็นความ ‘แกร่ง’ ของเขาชัดขึ้น ความจริงเดนนี่นี่มีออกมาหลายฉากแล้วนะครับ แต่จะโฉบไปโฉบมาไม่เห็นชัดๆ ฉากที่ดูแลไอติมให้ความห่วงใยนี่ก็ดีนะครับ แต่มันเหมือนไม่วาบหวามยังไงก็ไม่รู้ เหมือนมี Barrier บางๆกั้น ถ้ายังไงก็อาจจะรบกวนดูตรงนี้นิดนึงครับ ให้มันดูสนิทสนมและวาบหวามเพื่อความหวานของความสัมพันธ์หน่อย อาจจะต้องลดดีกรีความบ๊องของไอติมลง หรือให้เดน penetrate ผ่านการมองอะไรแบบไม่คิดมากของไอติม ลงไปถึงความรู้สึกลึกๆข้างใน เพื่อไปแตะปลอบโยนหรือเข้าใจไอติมจากหัวใจได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 03-09-2018 16:33:42
OMG น้องติมขา

คุณพี่ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงนู๋ใช่ไหมคะ

แค่อยากก็เอาเนอะ ไม่มีอะไรเนอะ



ติมนี่แดนเอง เพื่อนติมไง 5555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 04-09-2018 20:34:22
เอาใจช่วยน้องไอติมค่ะ อย่าไปแคร์ เห็นจากตอนเปิดแล้วเราจะต้องชนะแบบสวยๆแน่ๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: maddy_moody ที่ 05-09-2018 15:59:46
 :ling1: เราตีน้องติมได้มั้ยยยย​ โอ้ยยยยยย​ หัวใจคนเป็นแม่  บางไปหมดแล้ววววววว​  :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 06-09-2018 00:17:35
โอ้โห!! ใจบางกับน้องติม   :impress2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 06-09-2018 16:34:18
กรี้ดดดดดดด แอบเชียร์ให้เดนติมได้กัน ไรต์ก็จัดจริงๆ ฮือออออ
ตอนต่อไปขอส่วนต่อจากตอนล่าสุดเลยนะคะ ไม่ตัดเข้าโคมไฟได้มั้ย 5555555
น้องติมแซ่บๆ ช้อบบบบบบบบ ขอแซ่บก่อนจะดราม่า  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Hananijinji ที่ 07-09-2018 09:12:13
เอ้า น้องติมมมม ยังไงคะยังไงคะ ถ้ากำลังจะป่ามป๊ามแล้วไม่มีใครมาขัด จะถือป้ายไฟเชียร์คู่นี้ละนะ น่ารักเหลือเกิน ดูแลกันมาตั้งนาน :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 08-09-2018 17:58:41
น้องไอติม น่ารักที่สุด ที่สุด ที่สุด บทร้อนแรงเรื่องบนเตียง แต่ทำไมรู้สึกนุ่มละมุน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.10 : Something about you. :01.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: jinnyjayb ที่ 09-09-2018 12:39:06
น้องงงงง น้องงงงงงงงงงงงง
นั่นเพื่อนหนูนะติมลูกกกก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 10-09-2018 20:27:58
Fall in lust, Chapter 11 :: Sex sense. (สัมผัสที่หก) [ครึ่งแรก]




   “อือ… อือ…” เสียงครางแผ่วเบาดังมาจากร่างเล็กที่นอนอ้าขาให้ร่างสูงใหญ่ล่ำขยับอาวุธกลางกายเข้าออกอย่างเนิบนาบแต่ทว่าก็หนักแน่นแบบนี้มาสิบนาทีกว่าแล้ว ร่างผอมแต่ไม่ได้ผอมโซเหมือนคนอดยาก แต่ผอมแบบพอดี มีเนื้อมีหนังให้บีบติดมือมาบ้างกำลังหลับตาหน้าเคลิ้ม สองมือจับต้นแขนล่ำสีเข้มของคนด้านบนเอาไว้หลวม ๆ คนด้านบนยกมือซ้ายขึ้นลูบผมที่ปรกหน้าของคนด้านล่างออกแล้วก้มลงหอมหน้าผากอีกคน
   

ถึงกำลังเอามันอยู่ แต่ความรู้สึกเอ็นดูที่เขามีให้มันก็ยังไม่ได้หายไป ไอ้นี่มันเป็นคนหน้าตาทำให้คนอื่นเคืองยาก 
   

“เดนจะแตกยังอะ…” ไอติมลืมตาแล้วถามเสียงเบาหวิว เดนนี่ยิ้มมุมปากพร้อมกับกระตุกคิ้วสองข้าง ไอติมกัดริมฝีปากล่างยามมองใบหน้าของเพื่อนสนิทที่ดูจะแตกต่างจากช่วงเวลาปกติของเขาทั้งสองคน
   

“…หน้ามึงทำไมดูเงี่ยนจังอะเดน” เดนนี่ถึงกับต้องหยุดสะโพกและคาของตัวเองไว้ในรูฟิต ๆ ของไอติม ไอ้ตัวผอมยิ้มงงสลับกับทำหน้าเสียว หน้าท้องมันหดขึ้นหดลง
   

“คxxกูแทงตูดมึงอยู่นะ ให้กูรู้สึกไงอะนอกจากที่มึงว่า” ไอติมทำหน้าคิด เหมือนกำลังหาคำตอบ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกมา เดนนี่ขยับสะโพกต่อและก้มลงจูบปากไอติม สัมผัสริมฝีปากเพียงครู่ไอ้เพื่อนตัวเล็กของเขาก็อ้าปากแลกลิ้นทันที วินาทีที่ลิ้นทั้งสองอันเกลี่ยกัน ไอติมก็เริ่มหายใจแรงขึ้น สองมือเลื่อนขึ้นไปลูบแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสีเข้มของเดน ขนของไอติมลุกซู่ พอเดนปล่อยปากออกก็หายใจหอบเสียงกระเส่า สองมือเลื่อนขึ้นมาสอดนิ้วเข้ากับเส้นผมของเดนและดึงให้เดนลงไปที่คอของตัวเอง เดนนี่ไม่ต้องรอให้บอก ซุกไซ้คอและดูดเนื้อขาว ๆ ของเพื่อนซี้อย่างอ่อนโยน ไอติมแหงนหน้าขึ้น เปลือกตาปรือ ตวัดสองขาขึ้นเกี่ยวบั้นเอวของเดนแน่นโดยที่เดนก็ยังคงขยับสะโพกด้วยจังหวะเน้น ๆ และแน่น ๆ ต่อไป
   

“อา… อะ… เดน ดีมากเลยอะ” ไอติมเพ้อเสียงเบา เดนเงยหน้าขึ้นจากซอกคอขาวขึ้นมองหน้าเพื่อน สีหน้าไอติมตอนนี้ถ้าเรียกว่าเซ็กซี่ก็คงไม่ผิดนัก แต่ก็ไม่ใช่เซ็กซี่แบบหญิงสาวแบบที่เขาเคยนอนด้วย หน้ามันแดงระเรื่อ ดวงตาสีน้ำตาลหวานฉ่ำ เปลือกตาขยับเชื่องช้า ริมฝีปากสีแดงดูอวบอิ่มเพราะเพิ่งโดนดูดไป
   

เดนนี่รู้สึกเสียวตรงเส้นเอ็นจนต้องเกร็งหน้าท้อง ดันสองแขนขึ้นค้ำร่างแล้วซอยสะโพกถี่ยิบ ไอติมเผยอปากกว้างขึ้นกว่าเดิม เปลือกตาหรี่จนปิดลง สองมือยกขึ้นจับโครงเหล็กหัวเตียงแน่น เสียงเตียงดังเอี๊ยดอ๊าดขึ้นจากเดิมตามจังหวะโยกที่เพิ่มแรงขึ้น
   

“ดะ… เดน เตียงสั่น… แม่… แม่กับพ่อมึง…”
   

“ห้องไม่ได้ติดกัน เขาไม่ได้ยินหรอก ฮืมมมม” เดนนี่กัดฟันแน่น เนินก้นอันเต่งตึงเด้งเข้าเด้งออกอย่างรวดเร็วและแข็งแรงจนกล้ามเนื้อก้นขึ้นชัด กล้ามเนื้อบนแผ่นหลังขึ้นสัดส่วนชัดเจน ท่อนขาแข็งแรงที่อ้ากว้างยันร่างตัวเองขึ้นกล้ามเนื้อตรงหน้าขาและตรงน่องเป็นลูก แล้วพักเดียวในชั่วครู่สั้น ๆ กล้ามเนื้อเหล่านั้นก็นิ่งแข็งยามที่เจ้าของดึงแก่นกายออกมาจากรูสีอ่อนของเพื่อนแล้วดึงถุงยางสีใสออก ปล่อยให้น้ำสีขาวข้นมันวาวพ่นลงบนหน้าท้องของเพื่อนด้วยความหยาดเยิ้ม มันไม่ได้พุ่งรุนแรงแต่มันไหลเยิ้มออกมา
   

“อะ!” เดนนี่วางถุงยางในมือซ้ายไว้บนท้องเพื่อน มือขวายกมาชักตรงนั้นเบา ๆ เพื่อช่วยรีดน้ำออกมาให้หมด ไอติมนอนมองตาใสแม้จะรู้สึกหอบเล็ก ๆ มองแผ่นท้องที่เป็นกล้ามท้องแบบอ่อน ๆ ไม่ใช่แข็งขนเส้นเลือดขึ้นด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ไอติมยกมือไปลูบคลำกล้ามท้องของเพื่อนสนิทแผ่วเบาครู่หนึ่งแล้วดึงมือออกมาตรงหน้าท้องตัวเอง ใช้นิ้วกลางปาดน้ำสีขาวข้นติดปลายนิ้วมาหยาดเล็กๆ
   

“ชิมได้ป้ะ” เดนนี่ที่คลายสีหน้าเสียวแล้วเลิกคิ้วขึ้นสูง
   

“มึงกล้ากินด้วยเหรอ”
   

“ก็ลองไง อยากรู้รสชาติอะ”
   

“อร่อย มึงชิมเหอะ” ไอติมเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ ยกนิ้วกลางอันนั้นขึ้นมาเข้าปาก ปาดหยาดน้ำขุ่นข้นบนปลายลิ้น ขยับปากสองสามทีก่อนกลืนลงไป
   

“แหวะ กลิ่นเหล้า” เดนนี่หัวเราะ ไม่เดือดไม่ร้อนอะไร ก็ก่อนหน้านี้กินเหล้ากับพ่อมาสามสี่แก้วกลิ่นเลยติดออกมากับไอ้น้ำพวกนี้ด้วย ใครจะไปรู้ว่าจะได้มาเอากับมันวะ
   

“กูชักให้” ไอติมพยักหน้า ยกขาขึ้นตั้งฉาก เดนนี่ก้มลงมองรูด้านหลัง มันยังคงขยายเป็นโพรง เขาก้มมองของตัวเองที่ยังจะพอแข็งอยู่บ้าง
   

“กูเอาเข้าไปได้ป้ะ แต่ไม่ใส่ถุงนะ แต่ก็ไม่ขยับ ยัดเข้าไปให้มึงเสียวเฉยๆ” ไอติมทำตาโต
   

“ไม่ใส่ถุงก็ไม่ปลอดภัยดิ” เดนนี่กลอกตาและทำหน้าว่า เออ ๆ เรื่องของมึง
   

“เออ งั้นกูชักอย่างเดียว ไม่ต้องยัด” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ เดนนี่นั่งคุกเข่าตรงหน้าเพื่อน มือขวาใช้ชักให้ไอ้เพื่อนตัวเล็ก ไอติมครางแผ่วเบา ลมหายใจกระเส่าชวนเร่าร้อน ข้อดีอย่างมากของไอติมตอนเอากันคือมันไม่ใช่คนร้องเสียงดัง แหกปากเว่อวังเหมือนพวกหนังโป๊ มันร้องเสียงอ่อน ๆ ออกแนวอ้อน ๆ ในบางครั้ง ยิ่งสีหน้าของมันคือแสดงออกน้อยแต่ได้ (อารมณ์) มาก
   

“โอ๊ย… เดน แตก.. แตก…”
   

“เออ มึงแตกแล้ว” เดนนี่ว่าแล้วปล่อยมือออกจากน้องชายไอ้ติมที่เปรอะน้ำสีขาว แต่ไม่ข้นเท่าของเขา ปาดนิ้วมือที่เลอะน้ำของไอติมลงบนท้องของมัน หยิบถุงยางขึ้นมา เดินเข่าลงไปจากเตียงเอาไปทิ้งในถังขยะและหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดทำความสะอาดให้เพื่อนที่นอนร่างปวกเปียกอยู่บนเตียง ถึงแม้จะไม่ได้เหนื่อยหอบจัด แต่มันก็ดูหมดพลังไปไม่น้อย
   

“ไอ้พระเอกนั่นมันเอากับมึงท่าไหนมั่ง” เดนถามระหว่างที่เช็ดหน้าท้องไอติมจนสะอาดแล้วปล่อยให้ไอติมเช็ดส่วนสำคัญด้วยตัวเองมันเอง
   

“ท่าหันหลังแล้วก็ถ้าเมื่อกี้”
   

“ท่าเบสิค เอาไปก่อน ถ้ารอบหน้ามึงอยากกับกูอีกค่อยลองท่าอื่น” ไอติมยื่นผ้าขนหนูให้เดนหลังจากเช็ดเสร็จแล้ว
   

“แล้วมึงจะอยากกับกูอีกป้ะ” ไอติมถามยิ้ม ๆ เดนนี่นิ่งเงียบ ใบหน้าเคร่งขรึม แต่พอโดนยิ้มหน้าทะเล้นของไอติมก็แกล้งเอามือซ้ายผลักหัวเพื่อนเบาๆ
   

“นอนได้แล้ว กูเสียน้ำ กูเหนื่อย”
   

“กูก็เสีย กูยังไม่เห็นเหนื่อยเลย” เดนนี่ยิ้มมุมปาก
   

“เออ มึงเก่ง” เดนนี่โยนผ้าขนหนูใส่ตะกร้าผ้าอย่างแม่นยำ ดึงผ้านวมขึ้นแล้วสอดตัวลงนอนข้างเพื่อน ไอติมหันหน้าเข้าหาหนุ่มลูกครึ่ง
   

“รู้สึกดีอะเดน ขอบคุณนะที่เอากู” ไอติมยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายของเดนหนึ่งฟอด เดนนี่บิดหน้าไปมองเพื่อนแล้วก็ยื่นหน้าไปหอมหน้าผากเพื่อนกลับ
   

“ให้กูเอาแต่แรกก็จบแล้ว ไม่ต้องถ่อบินมาถึงนี่หรอก” ไอติมทำปากจู๋ ก่อนจะเขยิบหัวขึ้น เดนนี่กางแขนซ้ายออกอย่างรู้งานว่าเพื่อนจะนอนหนุนแขน
   

“ไม่เหมือนกันหรอก แซ็คคือความฝันกู ซึ่งมันก็เป็นจริงไปแล้ว”
   

“แล้วถ้ามึงมีโอกาสเอากับมันอีก มึงจะเอาอีกมั้ย”
   

“เอา” ไอติมตอบทันทีแบบไม่เสียเวลาทำหน้านึกหรือคิดเยอะ
   

“ร่านว่ะ” เดนนี่ยกมือขวายีหัวไอติมจนผมยุ่ง
   

“ร่านตรงไหน เขาเรียกใช้สิทธิ์รูจิ๊ต่างหาก” เดนนี่หัวเราะ
   

“เออ ๆ สิทธิ์อะไรก็สิทธิ์ของมึงเหอะ นอนๆ”
   

“ครับผัว”
   

“เดี๋ยวเถอะมึงๆ” แกล้งทำเสียงดุไปงั้น แต่ก็ก้มลงหอมหัวเพื่อนตัวเล็กไปหนึ่งที ไอติมยิ้มขำ นอนหลับตาลงด้วยความรู้สึกสบายตัวแบบฟินๆ


   
รุ่งเช้าทั้งสองคนยังคงนอนอยู่บนเตียง ไอติมนอนซบไหล่ซ้ายของเดน เจ้าของห้องนอนยกแขนขวาขึ้นวางเหนือหัว ทั้งคู่หลับสนิทแม้จะเป็นช่วงเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว แต่ก็ไม่ต้องรีบตื่นไปทำอะไรที่ไหน ร้านค่อยเข้าช่วงบ่ายเอาก็ได้ และพ่อกับแม่เดนก็นาน ๆ ทีจะมาวุ่นวายด้วย นอกซะจากมีธุระสำคัญจริง ๆ ถึงจะมายุ่มย่ามที่ห้องของเดน
   

ครืดดด! ครืดดด!
   

โทรศัพท์เครื่องเล็กสั่นอยู่ในกระเป๋าเป้สีเขียวของไอติม ซึ่งวางอยู่บนพื้นใกล้กับฝั่งที่เดนนอน หนุ่มลูกครึ่งเปิดเปลือกตาขึ้นแบบง่วง ๆ เหวี่ยงแขนขวาไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาวางใส่ไอ้เจ้าของ
   

“ติม โทรศัพท์” เจ้าของโทรศัพท์ยังนอนนิ่ง เดนที่ยังสะลึมสะลือรูดซิบเปิดกระเป๋าหยิบไอโฟนสี่เอสของมันขึ้นมาแล้ววางไว้บนแก้มของมัน ไอ้เพื่อนตัวเล็กลืมตาขึ้นแบบงง ๆ พักเดียวมันก็ทำหน้าตกใจ มือซ้ายเหวี่ยงมาหยิบโทรศัพท์ออกจากแก้ม ยกขึ้นดูหน้าจอด้วยสายตาง่วงๆ
   

“แอนโทนี่… ฮัลโหล…” ไอติมหลับตารับโทรศัพท์ แต่มันก็ยังคงสั่นไม่หยุด ไอติมเลยยกขึ้นมาดูอีกรอบถึงได้เห็นว่ายังไม่ได้กดรับ เลยใช้นิ้วโป้งเลื่อนกดรับสาย
   

“ฮัลโหล” ไอติมพูดทั้งที่เสียงยานคาง
   

[โว้ว เถ่อยังอยู้ในอเมริกาสินะ ฉั๋นดีใจจิงๆ] น้ำเสียงแอนโทนี่โล่งอก ตอนที่โทรหาไอติมติดก็โล่งไปหนึ่งขั้น แต่ระหว่างรอสายก็ต้องลุ้นว่าจะยังเป็นไอติมที่ใช้เบอร์นี้อยู่หรือเปล่า
   

“อยู่ซานฟาน ฮะ ฮ้าววว” แอนโทนี่หัวเราะด้วยความโล่งใจเบา ๆ ที่ไอติมยังไม่บินกลับไทย เมื่อวานนี้ไอ้ไบรอั้นบอกว่าเด็กนี่จะกลับไทยแลนด์แล้ว
   

[หย่างไม๊ตื่นหลอ]
   

“ตื่นแล้วฮะ แต่ตื่นไม่เต็ม” ไอติมตอบแบบงัวเงีย ๆ เปลือกตาพยายามเบิกให้กว้างเข้าไว้
   

[Oh, sorry นะที่โทรมารบกวน]
   

“ไม่ฮะ คุยได้ๆ” ไอติมอ้าปากกว้าง หาวแบบไร้เสียง ดันตัวลุกขึ้นพิงหัวเตียง
   

[โอเค คือหยั่งงี้ ลูคัส ฝากหม่าถามว้า เป็นไป่ได้มั๊ย ถ่าเถ่อจะมาหาเข๋าที่แอลเออีก] ไอติมนั่งนิ่งแบบง่วง ๆ สักแปบก่อนจะถามกลับแบบงุนงง
   

“ให้ไปหาที่นู่นเหรอ”
   

[อื้อ เกี่ยวกับจ๊อบ เอ่อ งานน่ะ งานที่เถ่อกับลูคัสคุยกันสองคนน่ะ จัมด่ายมั้ย] ไอติมทำหน้านึกแล้วก็นึกออกหลังจากนิ่งไปเป็นนาที
   

“อ๋อ เขาบอกจะติดต่อกลับมาอีกที”
   

[ช่าย เข๋าให้ฉั๋นคอนแทคเท้อกลับมาน่ะ ให้ถามว่าเธอจะสะดวกสบายที่จะมาหาเข๋าอีกรอบหรือป่าว] ไอติมชั่งใจ หันไปมองเดนที่หลับสนิทแบบไม่สนใจเสียงรอบข้างใดๆ
   

“ผมไม่แน่ใจ ต้องลองหาวิธีไปก่อนฮะ” ไอติมงง ๆ ว่าจะต้องไปที่นู่นยังไง หกชั่วโมงก็เป็นเวลาที่นานในการเดินทาง แต่เรื่องเวลาไม่ใช่ปัญหาหลัก ปัญหาหลักคือเขาจะไปยังไง จะให้เดนไปส่งอีกทีก็ไม่รู้ว่าจะใจดีพาไปอีกมั้ย และถ้าจะไปเองจะไปหลงทางหรือเปล่า


งานที่คุยกันไว้ก็ไม่ได้มีการกรอกใบสมัคร ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันที่ทำให้ไอติมรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนสัมภาษณ์งาน มีแค่ลูคัสที่บอกว่ามีงานอยากให้ไอติมทำ อยากร่วมงานด้วย แต่ก็ยังไม่บอกว่าทำอะไรยังไงบ้าง ซึ่งวันนั้นเป็นเหมือนการนั่งพูดคุยกันปกติทั่วไป แต่หัวข้อที่คุยกันไม่ใช่เรื่องทั่วไป ไม่ใช่เรื่องดินฟ้าอากาศ ไม่ใช่การสอบถามประวัติการเรียนหรือกิจกรรมในมหาวิทยาลัยที่เคยทำมา แต่คุยกันเกี่ยวกับหนังโป๊และเซ็กซ์ กว่าไอติมจะแปลออกได้แต่ละประโยค และตอบกลับได้แต่ละครั้งเลยทำให้การคุยนานกว่าที่ควรจะเป็น
   

[โว้ว ลืมถามเลย เถ่อล่ะ ซ้นใจงานนี้หรือป่าว ที่ลูคัสชวนทำ]
   

“ผมยังไม่รู้เลยว่าเขาจะให้ผมทำตำแหน่งอะไร รู้แต่ว่าจะให้เข้าไปทำงานด้วยกันอ่า”
   

[ฉั๋นขิดว่านะ อาจจะเป่นผุ่ช่วยลูคัส แต่เถ่อไม๊ต้องห่วง มีชื่อตั้มแหน่งให้แหน่นอน] แอนโทนี่หัวเราะเบา ๆ ไอติมยิ้มแบบเอ๋ออ๋า
   

“เรื่องชื่อตำแหน่งไม่ใช่ปัญหาหรอกฮะ”
   

[มันนี่หลอ โอ้ ถ่าเจคตอบรับเถ่อเข้าทำงาน เรียกเงินด่ายเลยนะ] ไอติมยิ้ม ก็ดีใจเนื้อเต้นขึ้นมาหน่อย ๆ อยู่หรอกที่เรียนจบมาแล้วมีแววจะได้งาน มันเป็นเรื่องที่ดีของเด็กจบใหม่ แถมงานที่อาจจะได้ก็เป็นสิ่งที่ชอบ ชอบมากด้วย
   

“ผมสนใจฮะ แต่เดี๋ยวผมขอถามเพื่อนก่อนว่าไปส่งผมได้มั้ย เพราะผมไปเองไม่น่าจะรอด”
   

[ซอรี่ทีนะที่ทำให้ลำบากกลับไปมา แต้หว่า กว่าจะขุ่ยกันลงตั่วน่ะ]
   

“ผมเข้าใจฮะ” ไอติมเข้าใจตามที่บอก ก็พอจะรู้ว่าการรับคนเข้าทำงานมันก็น่าจะประมาณนี้ คงทำปุบปับเลยไม่ได้ ต้องมีขั้นมีตอนของเขา ค่ายหนังโป๊ก็เหมือนบริษัทบริษัทหนึ่งนั่นแหละนะ
   

[ถ่ามาผรุ่งนี้ได้ ก็จะเพอร์เฟ็กต์เลย]
   

“เดี๋ยวผมโทรบอกอีกทีนะฮะ” แอนโทนี่รับคำแล้ววางสายไป ไอติมหันไปสะกิดเพื่อนที่นอนอยู่ข้างกัน
   

“เดน เดน เดนๆๆ” เจ้าของชื่อลืมตาตื่น หันมองคนเรียกด้วยสายตาดุ ๆ และคิ้วก็ขมวดมุ่น
   

“อะไร” ไอติมยิ้มกริ่ม
   

“ดู๊ดุ” คนตัวผอมหัวเราะคิกคัก หนุ่มลูกครึ่งหลับตาแล้วพ่นลมหายใจยาว ๆ ก่อนจะลืมตามองเพื่อนอีกทีด้วยสายตาประมาณว่ามีอะไร
   

“เรื่องงานที่กูเคยบอกอะ เขาโทรมาให้ไปสัมภาษณ์เพิ่มเติมแหละ” ไอติมเล่าเรื่องนี้ให้เดนนี่ฟังช่วงที่เดินทางกลับจากแอลเอมาซานฟรานฯ ตอนนั้นไอติมยังเล่าแบบไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะแปลที่คุยกับลูคัสเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เดนนี่เลยบอกว่างั้นรอให้ฝ่ายนั้นโทรมากลับมาอีกที
   

“อือ แล้วไง สัมภาษณ์ที่ไหน”
   

“แอลเออะ” เดนนี่ไม่ได้มีท่าทีตื่นตกใจ หน้าก็ยังดูเป็นคนที่เพิ่งตื่นเหมือนเดิม
   

“จะให้กูพาไป?” ไอติมยิ้มอ้อน ไหลตัวลงนอนข้าง ๆ เพื่อนสนิทก่อนจะเอาหัวขึ้นเกยบนอกล่ำสีแทน
   

“กูไปเองไม่รอดแน่ ๆ ก็มีแต่พี่เดนแหละที่จะช่วยน้องติมได้ง่ะ”
   

“กูเกลียดน้ำเสียงอ้อนตีนมึงจริงๆ” ไอติมหัวเราะคิก แหงนหน้ามองหน้าเดนอ้อน ๆ ใบหน้าหล่อแบบลูกครึ่งเอือมนิดหน่อยแต่ก็พยักหน้าขึ้นหนึ่งที ใบหน้าเรียวสวยได้รูปยิ้มกว้าง
   

“เย้ เดนใจดีกับติมที่สุดดด” ไอติมกระเถิบตัวขึ้นไปหอมแก้มเดนนี่รัว ๆ เจ้าตัวหลับตาและพยายามเอียงหน้าหนี
   

“โอ้ย พอๆ” ไอติมหยุดหอมแก้มเพื่อนและนอนมองใบหน้าหล่อคมเข้มของเพื่อนสนิทที่บิดหน้ากลับมามองเขาตอบแบบระแวดระวัง
   

“มึงอย่ามองตาเยิ้มแบบนั้นได้มั้ย”
   

“เอ้า ทำไมอะ ก็ชื่นชม” ว่าจบก็ยื่นหน้าไปจุ๊บปากเดนนี่หนึ่งที หนุ่มลูกครึ่งแสร้งทำหน้าอ่อนใจแต่ก็กระตุกยิ้มมุมปากหนึ่งที
   

“มีรางวัลให้กูมั้ย” ไอติมหน้าเหวออ้าปากหวอ
   

“รางวัลไรอะ ต้องออกไปซื้อให้มั้ย” เดนนี่ยิ้มกริ่มด้วยมุมปากทั้งสองข้าง
   

“ไม่ต้องออกไปไหน เดี๋ยวกูเอาเข้าเอง” ไอติมย่นคิ้วนิดหน่อย เดนนี่ยักคิ้วให้หนึ่งที ไอติมหรี่ตามองเพื่อนตัวโต ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพอจะเข้าใจความหมายที่เพื่อนสื่อ
   

“มึงจะเอากูอีกเหรอ…” เดนนี่ขำแบบไม่มีเสียง มองหน้าตื่น ๆ ของไอ้เพื่อนตัวเล็ก
   

“…ฮู้ยยย เดนหงี่อ่า”
   

“กูล้อเล่น” เดนนี่ยิ้มขำเป็นรอยยิ้มกว้าง ไอติมยิ้มตาประกายวิบวับ มือซ้ายล้วงเข้าไปใต้ผ้านวม จับอวัยวะกลางลำตัวของเดนเต็มมือ
   

“ล้อเล่นจริงเหรอออ” ไอติมลากเสียงยาน มือก็ลูบความหยาบกลมกลึงสองลูกวนไปมา
   

“เดี๋ยวเถอะมึงๆ” ไอติมยิ้มหน้าทะเล้น มือซ้ายทั้งลูบทั้งบีบตรงจุดนั้นของเดนจนมันเริ่มตื่นตัวสู้ทีละนิด ร่างกายเดนนี่นอนนิ่ง แต่มือซ้ายเลื้อยไปลูบก้นของเพื่อนเบาๆ
   

“เอาไงเดน เล่นไม่เล่น” ไอติมเย้า ยิ้มหน้าแป้นยักคิ้วหงึก ๆ สองที เดนนี่พ่นลมหายใจสั้นๆ
   

“ไป ห้องน้ำ อาบน้ำไปด้วยเลยถ้างั้นอะ”
   

“งุ้ยยยๆ”


รู้แหละว่ามันชอบอะไรแบบนี้มานานแล้ว แค่มันไม่เคยโดนของจริง มีแต่โดนในจินตนาการกับดิลโด้ของมัน แต่ไม่คิดว่ามันจะดูสนุกกับเซ็กซ์แบบนี้ เดนนี่กำลังสงสัยว่ามันกำลังจัดให้เซ็กซ์เป็นเหมือนเครื่องเล่นในสวนสนุกอยู่รึเปล่า ไอ้ห่าติมยิ่งมีความคิดประหลาดในหัวบ่อย ๆ อยู่ด้วย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: mxb ที่ 10-09-2018 20:43:28
ถ้าคนแรกไม่สนใจก็สุดเหวี่ยงไปเลยรู้กกก เกิดมาเอาให้คุ้ม555555 /เดี๋ยว นี่ชอบแบบฟิลกู๊ดนะ!!!
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 10-09-2018 20:57:56
 :haun4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 10-09-2018 20:59:16
น้องโตมาแบบไม่คิดเล็กคิดน้อยใดๆกะเรื่องพวกนี้จริงงงงง ถ้าแดนหวั่นไหวขึ้นมาน้องจะทำยังไง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 10-09-2018 21:47:04
สมน้ำหน้านังแซ็คในอนาคต  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 10-09-2018 22:24:31
ชอบคู่นี้อ่าาาา เดนคือดี๊ดี ทีมเดนติม ได้มั้ยคะ555555  มันงุ้งงิ้งดีจัง อ่านแล้วเบิกบาน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Wipers ที่ 10-09-2018 23:47:38
แซ่บ!!!!!!!
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 11-09-2018 07:05:14
อารมณ์​เหมือนพี่น้องได้กัน55​ แดนเหมือนเอ็นดูติมมากๆเลย​ ติมเหมาะกะงานนี้มากถ้าได้ทำนางคงสนุก​
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-09-2018 07:41:59
น้องติมชิลมากเลยเลยลูก แต่ก็ดีอย่างน้อยน้องก็รู้ตัวเองดีว่ากำลังทำอะไรอยู่
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 11-09-2018 11:12:07
น้องติม แซ่บลืมมม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 11-09-2018 11:42:41
โห้ยยย พ่อเดนคนแซ่บ ชักจะเชียร์เพื่อนสนิทคิดซื่อๆคู่นี้แหละ แซ็คเล่นตัวนักกก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-09-2018 19:41:57
สงสัยจะได้อยู่นานๆ  :katai3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Hananijinji ที่ 11-09-2018 19:42:18
เราจำแซ็คไม่ได้แล้วค่ะ เค้าคือใคร ตอนนี้้้ื้้ืืืืืืืคือเชียร์เดนนี่สุดใจจจจจ :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 12-09-2018 09:31:04
ช็อกไปเลยคร่าาาา

นู๋ติมเด็ดมากลูก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 13-09-2018 16:29:35
น้องไอติม เอ้ยๆ อยากกินไอติม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งแรก) :10.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 16-09-2018 15:09:40
เปลี่ยนคนเชียร์ตอนนี้ทันไหม 55  :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 16-09-2018 22:36:03
Fall in lust, chapter 11 : sex sense. [ครึ่งหลัง]




‘Hope to see you again.’
   

เป็นประโยคบอกลาที่คนพูดก็คงไม่รู้ว่าการจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งมันคือเมื่อไหร่ ยิ่งกับคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานและอยู่กันละประเทศ ก็ได้เอ่ยไว้ด้วยความคิดที่ว่า คงแยกย้ายกันไปไกลคนละมุมโลกและกว่าจะได้มีโอกาสเจอกันก็คงอีกนาน หรือไม่ก็อาจไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ก็ไม่ได้คิดว่า Hope ที่ว่าจะนำพากลับมาเจอกันได้ว่องไวแบบนี้
   

“แซะ! อะ เอ้ย ไบรอั้นนน” ร่างสูงผอมที่ตอนนี้ดูมีเนื้อหนังขึ้นจากตอนแรกที่ได้เจอกันกระโดดพุ่งเข้ากอดผู้ชายหัวทองตัวโตล่ำหนาด้วยความระริกระรี้
   

“Hey. (ว่าไง)” ไบรอั้นหรือแซ็คของไอติมกอดตอบคนตัวเล็กที่วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาเขาทันทีที่เห็นเขายืนอยู่ในครัวของบ้าน โดยมีลูคัสกับแอนโทนี่เดินตามหลังมาราวกับเป็นบอดี้การ์ดของเจ้าเด็กลามกผู้มีบัตรทองคำอันเป็นดั่งไม้กายสิทธิ์เสกได้หลายอย่างในค่ายหนังของเขา
   

“Miss you จุ๊บๆ” เจ้าเด็กมือไวยังคงไวเหมือนเคยแม้จะห่างกันไปเพียงเกือบอาทิตย์ มือขวาของไอ้ตัวดียกบีบหน้าอกซ้ายของเขาไปสองครั้งตามเสียงจุ๊บ พอบีบเสร็จก็หัวเราะคิ ๆ ให้ เขาดันตัวผอม ๆ ห่างจากตัวแล้วมองดุเป็นเชิงปราม แต่เจ้าเด็กนั่นก็เหมือนเดิมคือไม่ได้กลัวหรือเกรงใด ๆ กลับยิ้มตาหยีและยืนกอดเอวเขาไว้แน่นด้วยแขนทั้งสองข้างเหมือนเด็กกำลังกอดพ่อ แต่เด็กคนนี้ตัวใหญ่มาก
   

“เจคอยู่บนห้อง เดี๋ยวลงมา พวกนายเอาอาหารกลางวันมั้ย” แซ็คถามเพื่อนกับรุ่นพี่ ปล่อยให้ไอติมกอดโดยไม่ได้ผลักออกเพราะรู้ว่าผลักไปเดี๋ยวเด็กมันก็ดีดตัวกลับเข้ามาหาอีก เขาเลยยกมือขวาออกจากวงแขนไอติมแล้ววางมือไว้บนไหล่ขวาของอีกฝ่าย
   

“ก็ดี ไอศกรีมน่าจะหิว เพราะเพิ่งมาถึง” ลูคัสตอบ สองมือถือกล่องลังสีน้ำตาลเอาไว้ตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้านของแซ็ค เจ้าของบ้านก้มลงมองคนตัวเล็กที่สูงเพียงใต้รักแร้ของเขา
   

“Hungry? (หิวมั้ย)” ไอติมยิ้มกว้าง เพราะเข้าใจคำนี้เนื่องจากต้องใช้กับลูกค้าในร้านอาหารของเดนนี่บ่อยๆ
   

“Yes.” หนุ่มเอเชียตอบฉะฉาน ฝรั่งหัวทองชี้ไปที่เค้าน์เตอร์ครัวที่มีอาหารวางอยู่บนนั้น ไอติมชี้ไปที่อาหารและชี้เข้าหาตัวเองเป็นการถามว่าให้กินได้เหรอ แซ็คพยักหน้า ไอติมเลยยิ้มกว้าง ปล่อยแขนออกจากเอวแซ็คแล้วเดินเตาะแตะไปที่เค้าน์เตอร์ครัว มองสปาร์เก็ตตี้ พิซซ่า ไก่ทอดและแซนด์วิชตาวาว
   

“I will eat it นะ” ไอติมหันไปขออนุญาตเจ้าของบ้านอีกครั้ง แซ็คยิ้มอ่อนและพยักหน้าขึ้นหนึ่งที ไอติมหยิบน่องไก่ทอดขึ้นมากินหนึ่งน่อง
   

“เจคดีลกับพวกที่สมัครเข้ามาแคสติ้งแล้วใช่มั้ย” ลูคัสถามพลางเอากล่องไปวางบนโต๊ะตรงโซนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับทีวีจอใหญ่
   

“คงงั้นแหละ ฉันก็บอกตามที่นายบอกว่าให้เอาพวกนั้นมาให้เด็กนี่ดูด้วยตาตัวเอง”
   

“ดีแล้ว แบ่งเวลากันแล้วใช่มั้ยว่าใครมาตอนไหน” แซ็คเบ้ปากน้อย ๆ พร้อมกับยักไหล่สองข้าง ลูคัสยิ้มแบบสั้น ๆ แล้วยักคิ้วหนึ่งที ก้มตัวลงเปิดกล่องลัง หยิบแฟ้มสีดำขึ้นมา เดินถือไปหาไอติมที่กำลังนั่งกินอาหารที่ไม่รู้ว่าเพราะอร่อยจริงหรือเพราะหิว
   

“This is the man who have an interview with us today. Just take a look on them. We have three people for today. (อันนี้คือผู้ชายที่จะมาสัมภาษณ์กับเราวันนี้ ลอง ๆ ดูพวกเขา วันนี้เรามีสามคน)” ไอติมนั่งหน้าเอ๋อสักแปบเพราะกำลังแปลอยู่ในหัว แต่ด้วยก่อนหน้านี้ที่นั่งรถด้วยกันมา แอนโทนี่ช่วยเล่าให้ฟังแล้วว่าวันนี้ลูคัสอยากให้ทำอะไรเลยพอจะเก็ทอยู่บ้างตอนที่เห็นแฟ้ม
   

“Okay.” ไอติมตอบทั้งที่ในปากยังเคี้ยวไก่และยังไม่ได้เอาเป้ออกจากข้างหลัง แซ็คมองภาพเด็กเอเชียที่ชอบง๊องแง๊งใส่เขาแล้วก็ได้แต่คิดกังขาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในใจ
   

“จะให้เด็กนั่นทำอะไรบ้าง” เขาถามแอนโทนี่พลางนั่งลงบนโซฟาหนังสีน้ำตาลแดงตัวเดี่ยว
   

“ให้เขาใช้เซ้นส์ที่เขามีนั่นแหละ” แซ็คไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่คิดถามให้มากความ เขาหันไปมองลูคัสที่เดินกลับมานั่งสมทบ ปล่อยให้เจ้าเด็กลามกนั่งกินอาหารไปคนเดียว
   

“เจคมีคอมเม้นอะไรอีกมั้ย” แซ็คทำหน้าไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรก่อนจะตอบตามปกติ
   

“วันแรกที่เด็กนั่นมาที่นี่ หมอนั่นดันสร้างความไม่ประทับใจไว้ให้เท่าไหร่ ไม่ใช่แค่เจค แมนดี้ กับเควินก็ไม่ แต่เด็กคนนั้นก็ชัดเจนว่าไม่อยากคบหาสามคนนั้น”
   

“ยัยแมนดี้กับไอ้เควินด้วยเหรอ” แซ็คพยักหน้า ลูคัสเบะปากน้อยๆ
   

“ก็ลองดูก่อนแล้วกัน ถ้าได้ ก็ให้ไอศกรีมกลับประเทศไทยไปทำวีซ่าใหม่สำหรับทำงาน แต่ถ้าไม่ได้ ก็ให้เขากลับบ้านไปเลย” ลูคัสพูดด้วยอาการปลดปลง ไม่กระตือรือร้นพยายามที่จะผลักดันให้ไอติมมาร่วมงานด้วยแล้ว ถ้าได้เจอสามคนนั้นพร้อมกันและความประทับใจแรกไม่ผ่าน ก็เหนื่อยเปล่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่อยากได้ไอติมมาร่วมงานด้วย
   

“ฉันรำคาญแมนดี้กับเควินซะจริงๆ…” แอนโทนี่ว่าแบบไม่หมกเม็ด แซ็คยักคิ้วให้ด้วยความเข้าใจ
   

“…สองคนนั้นแสดงออกนอกหน้าในเรื่องของแกได้น่ารำคาญตามเคยสินะ” ไบรอั้นยักไหล่หน้าตาเอือมระอาแทนคำพูด ลูคัสโคลงหัวน้อย ๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่เจค็อบเดินลงบันไดจากชั้นบนลงมาด้านล่างในชุดกางเกงขาสั้นสีดำ ท่อนบนเปลือยเปล่าและคลุมด้วยชุดคลุมผ้าแพรสีแดงเลือดหมูยาวระพื้น
   

“อยู่บ้านน่ะ” เจค็อบตอบก่อนที่ทุกคนจะท้วงเรื่องการแต่งตัว แต่จริง ๆ ก็ไม่มีใครคิดท้วงหรอก
   

“ตามสบายเลย บ้านนายนี่” ชายสูงวัยหัวดำแซมขาวก้าวเท้าเดินเข้าไปหาไอติมที่กำลังแทะไก่อย่างเอร็ดอร่อย
   

“Hello.” ไอติมหันขวับไปมองทั้งที่ปากยังเต็มไปด้วยไก่ หนุ่มเอเชียหันกลับไปหยิบทิชชูเอามาเช็ดมือให้สะอาดและยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับอีกฝ่าย ไอติมคลี่ยิ้มและก้มหัวลงเล็กน้อย
   

“What do you think about porn industry? (คิดยังไงกับวงการหนังโป๊เหรอ)” เจคถามแบบสบาย ๆ และกระเถิบก้นขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตัวข้าง ๆ ไอติม เจ้าเด็กลามกของไบรอั้นอ้าปากค้างนิดหน่อย เพราะไม่ได้ทันตั้งตัวเลยแปลไม่ทัน
   

“เอ่อ พะ… พอร์น sex movie?” เจค็อบยิ้มบาง สามหนุ่มที่เหลือหันมองหน้ากันด้วยความงุนงง แต่ลูคัสดูจะจับจุดเร็วกว่าใครว่าตอนนี้เจค็อบเริ่มสัมภาษณ์ไอติมแล้ว
   

“แอนโทนี่ ไปช่วยไอศกรีมแปลสิ” หนุ่มแว่นลุกเดินไปยืนข้างหนุ่มเอเชีย ไอติมหันไปมองแอนโทนี่แล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ
   

“Yes, what do you think about it? (ใช่ คิดกับมันยังไง)” อันนี้ไอติมแปลออกแล้ว เขานิ่งเงียบสักแปบเพื่อคิดหาคำศัพท์ที่จะใช้ในการตอบ
   

“Good. It shares happy to many people.” แอนโทนี่เข้าใจที่ไอติมต้องการจะสื่อว่าหนังโป๊ช่วยให้คนมีความสุขได้เลยแปลแบบขยายความให้เจค็อบฟังอีกที เจ้าของค่ายหนังกดหน้าลงหนึ่งครั้ง
   

“How often do you watch porn? (ดูหนังโป๊บ่อยแค่ไหน)” ไอติมอ้าปากหวอ จะหันไปมองแอนโทนี่แต่ก็เบรกตัวเองได้ทัน และพยายามทวนและนึกคำศัพท์ เพราะคุ้น ๆ ว่าเคยใช้คำเหล่านี้กับลูกค้าที่ร้านเดนนี่
   

“เอ่อ I watch porn if I want. (ก็ดูตอนที่ต้องการแหละฮะ)” ไอติมไม่รู้จะตอบความถี่ความบ่อยแค่ไหนยังไง มันก็ดูตามความอยากทางเพศอะ
   

“What type of porn is your favorite? (ชอบหนังโป๊แนวไหน)” ไอติมย่นคิ้วคิดตามคำถาม พยายามแปล แต่ไม่แน่ใจว่าแปลถูกมั้ยเลยหันไปหาแอนโทนี่ ฝรั่งผู้พูดไทยได้เลยช่วยแปลเป็นไทยให้ไอติมเข้าใจอีกที พอเข้าใจแล้วไอติมก็ทำหน้านึก
   

“I like เอ่อ”
   

“จาบอกว้าไร เดี๋ยวบ่อกให่ก่อด้าย”
   

“จะบอกว่ามันยากอะคำถามนี้ ดูเรื่องไหนแล้วได้อารมณ์ก็ชอบเรื่องนั้นอะแอนโทนี่ แต่ถ้าเอาแบบที่ชอบที่สุดก็พวกที่มีเรื่องราวนำไปสู่การเอากันอะ ไม่ใช่มาถึงคุย ๆ กันแปบนึง เอากัน แล้วก็เอากันแบบเดิม ๆ จำเจ เอากันเพราะต้องเอา แล้วก็จบไปแบบดื้อ ๆ จบแบบเหมือน ๆ กัน ผู้หญิงพยายามแสดงว่าตัวเองเสียว แต่จริง ๆ ก็รู้อะว่าไม่ได้อะไรหรอก มาทำงาน มาถ่ายหนัง ถ่าย ๆ ให้จบ ตอนจบก็จบทื่อ ๆ ไม่ทิ้งช่วงให้กอดจูบอะไรกันเลย” ไอติมหน้านิ่วคิ้วขมวดนึกว่าจะพูดอะไรอีก แอนโทนี่เป็นฝ่ายอ้าปากหวอ เขาเกือบจำไม่ได้ว่าไอติมพูดอะไร ดีที่อีกฝ่ายไม่ใช่คนพูดเร็วหรือลิ้นพันกัน เขาเลยรีบพูดอธิบายออกมา ไอติมเห็นว่าแอนโทนี่กำลังแปลสิ่งที่ตัวเองพูดเลยรอให้อีกฝ่ายพูดจบก่อน ซึ่งหนุ่มแว่นพยายามแปลใจความสำคัญ ๆ ซะมากกว่า ลูคัสที่นั่งฟังอยู่ตรงโซฟากับไบรอั้นมองไอติมด้วยความสนใจ ส่วนขวัญใจไอติมนั่งฟังนิ่งๆ
   

“มา พูดต่อ แต่ขอฉ่า ๆ นอยนะ” ไอติมยิ้มและพยักหน้า


“ผมว่าเหมือนทุกคนมีแพทเทิร์นว่าต้องทำแบบนี้ ๆ หลายเรื่องเลยอะที่ทำให้เป็นหนังเอากันแค่เรื่องนึง คือมันก็หนังเอากันแหละ แต่หลายเรื่องมันมีแค่เอากันจริง ๆ นะ…” ไอติมพักให้แอนโทนี่หันไปแปลให้ทุกคนฟัง เจค็อบยังไม่ได้แสดงท่าทีอะไร แค่นั่งฟังเฉยๆ


 “…แล้วที่ไม่ชอบเลย ถ่ายโฟกัสแต่ผู้หญิงอะ ผมเข้าใจว่ามันต้องขายให้ผู้ชาย แต่มันไม่จำเป็นต้องตัดหัวฝ่ายชายทิ้งก็ได้นา ถ่ายให้เห็นผู้ชายด้วยก็ได้ มันก็เสียวนะ…” แอนโทนี่แปลต่อ เจค็อบมองหน้าคนแปลและพยักหน้าหนึ่งที


 “…ผมว่ามันอยู่ที่เสน่ห์ของนักแสดง หรือเสน่ห์ของเรื่องราวในหนังด้วย ผู้ชายบางคนหุ่นดีมาก แต่ไม่ชวนมีอารมณ์เลย เพราะแข็งอย่างกับก้อนหิน ลีลาไม่เจ๋งเลย เคมีนักแสดงสองคนก็สำคัญ ผมเข้าใจว่าอาจไม่ต้องคำนึงมาก เพราะมันเป็นแค่หนังโป๊เอากัน แต่หนังโป๊หลายเรื่องเลยผมว่าดึงให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไม่ได้” ไอติมยกมือซ้ายเกาหัว ค่อนข้างแน่ใจว่าตัวเองพูดเรียบเรียงอะไรไม่ดีเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นอย่างที่คิดและรู้สึก ซึ่งจริง ๆ มีที่คิดและรู้สึกมากกว่านี้ แต่ถ้าให้พูดออกมาก็คงงงๆ


“You are a fan of Bryan, are you? (เธอเป็นแฟนคลับของไบรอั้นสินะ)” เจค็อบพูดขึ้นมาหลังจากได้ฟังคำแปลจากแอนโทนี่จบแล้ว


อันนี้ไอติมเข้าใจด้วยความรวดเร็วเลยยิ้มแป้นพร้อมกับพยักหน้า “อื้อ! Super fan!”


ไบรอั้นที่นั่งมองอยู่หัวเราะแบบไร้เสียงกับความกระตือรือร้นที่ไอติมแสดงออก ไอติมยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าขวัญใจตัวเองยิ้มให้ ลูคัสที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ยังอดขำกับความตื่นตัวของไอติมไม่ได้


“And you are already slept with him. (แล้วเธอก็นอนกับเขาด้วย)” รอยยิ้มบนใบหน้าของลูคัสจางหายวับไป ไบรอั้นเองก็ค่อย ๆ หยุดยิ้มและหยุดหัวเราะ แอนโทนี่สลับมองเจค็อบกับไอติม คนนึงยิ้มเย็น อีกคนนึงยังคงยิ้มกว้าง


“Slept? นอน sleep อะเหรอ yes นอนด้วยกัน I sleep with him. (ผมนอนกับเขา) You see (คุณเห็นนี่)” เจค็อบยิ้มมุมปากและพยักหน้าหนึ่งครั้งเป็นการตอบว่าเห็น


“And you are our super VIP. (แล้วเธอก็เป็นสุดยอดวีไอพีของเราด้วย)” ไอติมมองเจค็อบตาไม่กะพริบสักแปบ ก่อนจะปลดกระเป๋าเป้ออกจากด้านหลัง เปิดหากระเป๋าตังค์แล้วหยิบการ์ดสีทองของตัวเองออกมาชูตรงหน้า


“This! (นี่!)” เจค็อบมองการ์ดอันนั้นและสลับมองหน้าไอติม ยกยิ้มมากขึ้นอีกนิด


“Thank you. (ขอบคุณ)” ไอติมยิ้มกริ่ม พยักหน้าหงึก ๆ หลายทีติดกัน ก่อนจะเก็บการ์ดสีทองลงไปในกระเป๋าตามเดิม


“I pay because Bryan.” เจค็อบพยักหน้าใจในความหมายที่ไอติมพยายามจะสื่อ ไอติมหันไปมองขวัญใจตัวเองแล้วยิ้มกว้าง ไบรอั้นยิ้มตอบพร้อมกับยักคิ้วให้หนึ่งที


“And have you ever pay because of other things? (แล้วเคยจ่ายเพราะอย่างอื่นบ้างมั้ย)” ไอติมนิ่งแปลคำถามสักแปบ เม้มปากนิดหน่อยด้วยความไม่มั่นใจ


“แบบว่าเปย์นอกจากแซะ เอ้ย ไบรอั้นใช่มั้ยอ่า” ไอติมหันไปถามแอนโทนี่เพื่อความมั่นใจ หนุ่มแว่นตัวสูงพยักหน้าหนึ่งที พอเข้าใจแล้วไอติมก็หันไปพยักหน้าหงึก ๆ กับเจค็อบ


“I have many movie and goods. I have Lukas movie too. (ผมมีหนังหลายเรื่องกับสินค้าหลายอัน แล้วก็มีหนังของลูคัสด้วยนะฮะ)” ลูคัสได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มขำ ไอติมยิ้มแบบย่นจมูก


“But Bryan is my เอ่อ my my heart เหรอ ขวัญใจอ่าแอนโทนี่” หนุ่มแว่นขำน้อย ๆ ก่อนจะช่วยพูดให้ทุกคนเข้าใจ


“You are his heartthrob. (แกคือขวัญใจของไอศกรีม)” แอนโทนี่ผิวปากหนึ่งทีและชี้ไปที่ไบรอั้นกับไอติมสลับกัน หนุ่มหัวทองยักคิ้วหนึ่งที ส่วนหนุ่มหัวดำจากเอเชียแอบหันไปหยิบไก่เข้าปากหนึ่งชิ้น


“It’s going to be fun if both of you make porn together. (น่าสนุกนะถ้านายสองคนมีหนังโป๊ด้วยกัน)” ลูคัสยิ้มแซว แอนโทนี่เบิกตากว้างจนตาแทบเหลือก ไบรอั้นนั่งยิ้มมุมปาก มองไอติมที่นั่งกินไก่ด้วยความอร่อย


“They are already have, aren’t they? (มีด้วยกันไปแล้วนี่ ใช่มั้ย)” เจค็อบถามพลางมองทั้งสองคนสลับกัน


“It’s just a web cam. Lukas mean a real porn, right dude? (ก็แค่เว็บแค็ม ลูคัสหมายถึงหนังโป๊จริง ๆ ต่างหาก ใช่มั้ยเพื่อน)” ไบรอั้นหันไปมองลูคัส หนุ่มล่ำกล้ามโตตัวสูงใหญ่พยักหน้าสองสามที เจค็อบยักคิ้วขึ้นสั้น ๆ และยกสองแขนขึ้นกอดอก


“Wow, that’s interesting. A porn actor with a super real fan. Do you want to have a porn with him? (ว้าว น่าสนใจดีนะ นักแสดงหนังโป๊กับแฟนคลับตัวจริงเสียงจริง อยากมีหนังโป๊กับเขามั้ยล่ะ)” เจค็อบหันไปถามไอติมที่นั่งฟังทุกคนพูดกันพลางเคี้ยวไก่ไปด้วย แอนโทนี่ก้มลงกระซิบว่าเจค็อบถามอะไร ไอติมอ้าปากหวอก่อนจะคลี่ยิ้มกว้าง แล้วสักพักก็ห่อไหล่ทำหน้าเขินแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะเขินจัด ลูคัสหัวเราะกับท่าทางเขินอายนั้น ไบรอั้นยิ้มขำแต่คิ้วก็ขมวดเข้าหากัน


“You act shy after trying to touch my dick every time when you have a chance, huh? (นายทำเขินหลังจากที่พยายามจับจู๋ฉันทุกครั้งที่มีโอกาสอย่างนั้นน่ะเหรอ)” ไบรอั้นของไอติมเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ไอติมทำหน้าเหลอหลา จับได้คำเดียวแบบชัด ๆ คือคำว่า


“You dick?! (จู๋คุณเหรอ)” ลูคัสกับแอนโทนี่หัวเราะ เจค็อบยิ้มขำน้อยๆ


“Yes, my dick. (ใช่ จู๋ฉัน)”


“I like your dick. (ผมชอบจู๋คุณ)” ไอติมตอบเสียงแหบพร่า ไม่ใช่เพราะจะทำเซ็กซี่ แต่ไม่แน่ใจว่ากำลังพูดถึงอะไรกัน เลยตอบเสียงอ่อย ๆ แบบคนไม่แน่ใจไว้ก่อน ไบรอั้นหัวเราะไปกับลูคัส แอนโทนี่ยืนขำอยู่ข้างไอติม เจ้าเด็กลามกของไบรอั้นทำหน้างง ๆ แต่ก็ยิ้มไปกับคนอื่น ๆ ด้วย 


ติ๊งหน่อง~

V
v
v

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 16-09-2018 22:36:30
V
v
v

เสียงกดกริ่งดังขึ้นขัดจังหวะเสียงหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียงหัวเราะจางหายไปซะทีเดียว เจค็อบเป็นคนลุกเดินออกไปที่ประตู แอนโทนี่ถามไอติมว่าอิ่มหรือยัง เจ้าเด็กเอเชียพยักหน้าแล้วลุกเดินตามแอนโทนี่ไปนั่งที่โซฟา ไอติมเดินไปนั่งบนโซฟาตัวใหญ่กับลูคัส


“If you get this job you have to go back to Thailand for making a new passport for work. (ถ้าเธอได้งานนี้ เธอต้องกลับไทยไปทำวีซ่าใหม่สำหรับการทำงาน)” แอนโทนี่ช่วยอธิบายเพิ่มเติมว่าลูคัสพูดว่าอะไร ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ ให้ลูคัส


“Here we come, all the model for today. (และแล้วก็มา นายแบบทั้งหมดของวันนี้)” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายคนใหม่ทั้งสามคนที่เดินตามเจค็อบเข้ามา เริ่มจากคนแรกที่ยืนถัดจากเจค็อบคือคนผมหยิกสีแดง ผิวขาวหุ่นล่ำแบบที่เราจะสามารถเจอรูปลักษณ์แบบนี้ได้บ่อย ๆ ในหมู่ผู้ชายฝรั่ง ถัดไปคือคนที่ตัวเตี้ยที่สุดและผิวคล้ำที่สุดเช่นกัน ผมสีดำรับกับใบหน้าคมและ ส่วนคนสุดท้าย จมูกโตโดดเด่น หน้าตาพอใช้ได้ ก็ไม่ได้แย่ แค่ยังไม่ใช่คนหล่อที่หันมองทันที แถมผมสีน้ำตาลก็บางเบาจนจะกลายเป็นหัวล้าน แต่กล้ามแขนทั้งสองข้างนั้นแน่นจนเสื้อตึง ไอติมพุ่งสายตาไปที่คนผมบาง มองสัดส่วนหุ่นอันชัดเจนผ่านเสื้อยืดที่เขาใส่อยู่อย่างสนใจ


“อู้!” ไอติมยกมือขวาชี้ไปที่ผู้ชายผมบางเบาคนนั้น ตอนที่ไอติมดูรูปในแฟ้มที่ลูคัสให้มา ไอติมสนใจคนหัวหยิกสีแดงก่อน เพราะหน้าตาดีสุดแล้วหุ่นก็ล่ำสัน แต่พอได้เจอตัวจริง กลับเป็นอีกคนที่ดึงความสนใจไอติมไปได้อย่างรวดเร็ว


“That’s one? (คนนั้นเหรอ)” ลูคัสชี้ไปที่คนที่ไอติมพุ่งสายตาไปหา ไอติมพยักหน้ารัว ๆ ลูคัสหันไปมองหน้าเจค็อบและพยักหน้าให้


“Get inside. (เข้าไปข้างในกันดีกว่า)” ลูคัสพาไอติมลุกขึ้นเดินตามเจค็อบและสามหนุ่มที่มาแคสติ้งไปทางประตูห้องห้องหนึ่งที่อยู่ตรงกลางระหว่างตู้หนังสือทั้งสองตู้ เปิดประตูเข้าไปด้านในก็เจอกับห้องที่คล้ายห้องทำงานและเป็นห้องประชุมไปในตัว มีโต๊ะตัวยาวตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้องพร้อมกับเก้าอี้บุนวมสีดำมีพนักพิงวางรอบโต๊ะตัวนั้นทั้งหมดเจ็ดตัว


“Come here, ice-cream. (มานี่มา ไอศกรีม)” ลูคัสเรียกให้ไอติมไปนั่งข้างกันตรงขอบโต๊ะทำงาน ตอนนั้นเองที่ไอติมเพิ่งสังเกตว่าแอนโทนี่กับแซ็คไม่ได้เดินเข้ามาในห้องนี้ด้วย


“Okay, take your closes off. (เอาล่ะ ถอดเสื้อผ้าเลย)” เจค็อบบอกผู้ชายอีกสามคน ทั้งสามคนยิ้มเขินน้อย ๆ แต่ก็ถอดเสื้อผ้าตามที่บอก ไอติมนั่งอ้าปากหวอ สายตาเอาแต่มองผู้ชายผมบางคนนั้นคนเดียว เพราะหุ่นของเขามันนวลเนียนและยั่วยวน ยิ่งอวัยวะส่วนนั้นก็ใหญ่จนห้อยย้อย


 “He is very good. (เขาดีมากเลยอะ)” ไอติมชี้ไปที่ผู้ชายผมบางที่ตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่า ไอติมมองหุ่นมองหน้าของคนนั้นแล้วจินตนาการไปถึงการเคลื่อนไหวของเขาบนเตียงกับตัวเอง เอ่อ กับคนอื่นก็ได้


“How about the other two? (อีกสองคนล่ะ)” ไอติมหันไปมองลูคัส หนุ่มนักกล้ามตัวโตชี้ไปที่ผู้ชายอีกสองคนที่เหลือ ไอติมหันไปมองสองคนนั้นที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าเช่นกัน เขามองคนผมหยิกสีแดงที่ผิวขาวเนียนละเอียด รูปร่างหนาด้วยกล้ามเนื้อแน่น หัวนมสีชมพูเข้ากับผิวขาว ๆ บนหน้าของผู้ชายคนนั้นมีกระเล็ก ๆ ตรงช่วงจมูกกับแก้ม ไอติมมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วยิ้มอ่อน ส่วนอีกคนที่ทั้งตัวเตี้ยและผิวคล้ำกว่าอีกสองคน เขามีกล้ามท้อง มีกล้ามแขนที่แข็งแรงก็จริง แต่มันเป็นกล้ามที่แบนราบและดูเป็นระเบียบจนน่ากลัว กล้ามเนื้อราบเรียบแบบไร้อารมณ์ ไอติมย่นคิ้วและทำปากยื่น ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดเข้ากูเกิ้ล เพื่อให้พี่เกิ้ลช่วยแปล


“คนนั้น เอ่อ red hair is handsome but เอ่อ he should play gay porn, it will help him เอ่อ มีเสน่ห์ เสน่ห์…” ไอติมพึมพำและพิมพ์คำว่าเสน่ห์ในกูเกิ้ลเพื่อหาคำแปล พอได้แล้วก็ยื่นไปให้ลูคัสดู หนุ่มโปรดิวเซอร์กล้ามโตเลิกคิ้วขึ้น


“Charming? Play gay porn and will have more charming, something like that? (เสน่ห์เหรอ เล่นหนังโป๊เกย์แล้วจะมีเสน่ห์เยอะ ประมาณนั้นใช่มั้ย)” ไอติมนิ่งค้างไปสักแปบเพราะกำลังแปลตามประโยคที่เขารู้ว่าลูคัสพยายามช่วยพูดแบบง่าย ๆ แล้ว พอแปลได้ก็เลยพยักหน้าหนึ่งที


“อื้อ like that”


“Why he can’t plays with a woman? (ทำไมเขาแสดงกับผู้หญิงไม่ได้ล่ะ)” ไอติมทวนประโยคของลูคัสเบา ๆ ก่อนจะเข้าใจ


“Gay will like this man.” ไอติมจะสื่อว่าเหล่าเกย์จะชอบผู้ชายคนนี้ ลูคัสพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหันไปหาเจค็อบและพยักหน้า หนุ่มสูงวัยเดินไปหาสามหนุ่มสามสไตล์แล้วพูดอะไรด้วยสักอย่าง ทั้งสามคนพยักหน้าตอบรับและพากันเดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาว เจค็อบวางกล้องสีดำขนาดเกือบเท่าต้นแขนลูคัสไว้บนขาตั้งกล้องสามแฉกก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงโต๊ะสำหรับประชุม ไอติมมองผู้ชายร่างเปลือยเปล่าสามคนนั่งอยู่บนโซฟา สองมือเริ่มลูบตามตัวของตัวเอง เปลือกตาหลับพริ้ม คนที่ตัวเตี้ยที่สุดใช้มือขวารูดรั้งแก่นกายของตัวเองก่อนใคร


“Oh…” ไอติมกัดริมฝีปากล่างโดยไม่รู้ตัว แววตามองไปที่ผู้ชายผมบางที่นั่งริมซ้ายมือของตัวเองตาฉ่ำวาว เขากำลังใช้สองมือลูบคลำตรงกลางตัวของตัวเองช้า ๆ เพื่อปลุกปั่นให้มันตื่นตัว แต่กลายเป็นว่าของไอติมตื่นตัวก่อนของสามคนนั้นซะอีก ไอติมเม้มปาก ขาขวาบิดเข้าหาขาซ้ายตามธรรมชาติ ลูคัสที่อยู่ใกล้กันทันสังเกตอาการนั้น


“You want to help him hard? (อยากช่วยให้เขาแข็งมั้ย)” ลูคัสกระซิบถาม ไอติมที่กำลังเคลิ้ม ๆ หันไปมองลูคัสที่กำลังส่งยิ้มยั่วมาให้


“Hard?” ลูคัสยักคิ้วขวาหนึ่งที ไอติมหันไปมองผู้ชายคนนั้นด้วยอาการใจเต้นตึกตักและกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก รู้สึกงุนงงและสับสนอยู่ในหัว 


“We have ten minutes for them to make their dick hard. If you like that guy you could help him. (เรามีเวลาให้สิบนาทีที่จะทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว ถ้าเธอชอบคนนั้น เธอช่วยเขาได้นะ)” ไอติมแปลไม่ออกหรอก แต่พอจะจับใจความได้ว่าลูคัสกำลังบอกเล่าอะไร ไอติมหันไปมองผู้ชายผมบางแต่หุ่นนวลเนียนคนนั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาคนนั้นสบตากับไอติม หนุ่มเอเชียมองเขานิ่งค้าง หัวใจเต้นตึก ๆ ผู้ชายคนนั้นแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างหนึ่งทีและใช้มือซ้ายกวักมือเรียกไอติมให้เข้าไปหา ไอติมเบิกตากว้าง หันไปมองลูคัส หนุ่มล่ำกล้ามโตตัวใหญ่ยื่นคางไปทางผู้ชายคนนั้นเป็นเชิงบอกให้ไอติมเดินเข้าไปหา


 “โอ้ว มาย…” ไอติมครางแผ่วเบา รู้สึกสองจิตสองใจ สายตามองอวัยวะเพศของผู้ชายคนนั้นที่กำลังแข็งตัวทีละนิด เริ่มเผยให้เห็นความใหญ่โตที่ชัดเจนขึ้น ส่วนอีกสองคนตอนนี้ก็กำลังแข็งตามมาติด ๆ เช่นกัน ไอติมสะดุดกึกแล้วเบิกตากว้างมองผู้ชายคนที่เตี้ยกว่าเพื่อนด้วยความตะลึงหน่อย ๆ เพราะลูกชายของเขานั้นดูจะใหญ่โตเกินสัดส่วนร่างกายของเจ้าตัวมากทีเดียว


“Go. The camera will see only your back. (ไปสิ กล้องเห็นแค่ข้างหลังเธอเท่านั้นแหละ)” ลูคัสบอกด้วยเสียงแหบทุ้มที่ไอติมรู้สึกว่ามันเซ็กซี่กว่าปกติ ไอติมกลืนน้ำลายลงคออีกที หันไปมองที่ผู้ชายคนนั้นที่มองไอติมไม่วางตาและกำลังใช้มือขวาจับตรงโคนแล้วใช้ลูกชายตัวโตของตัวเองตีลงมือซ้ายดังแปะ ๆ และกำลังทำหน้าเชื้อเชิญให้ไอติมเข้าไปหา หัวใจไอติมกระตุกวูบ ลมหายใจอุ่นร้อนติด ๆ ขัด ๆ เขาพยายามกระแอมลำคอให้โล่ง


“It’s okay. And he is very okay. He is sexy. Ah, yes. อื้ม” ไอติมพยายามสื่อสาร ลูคัสยิ้มมุมปากน้อยๆ


“What is your idea about his porn? (นายมีไอเดียเรื่องหนังโป๊ให้เขายังไง)” ไอติมพยายามไม่เหลือบตาไปมองผู้ชายคนนั้น แต่หัวนมหนาสีน้ำกับหน้าอกเต่งตึงสองอันนั้นและกล้ามท้องเป็นลอนแต่ไม่แข็งทื่อก็ดึงดูดลูกตาเขาเหลือเกิน


“ฮึ?” ไอติมพูดแบบงง ๆ ตอนนี้สติพร่าเบลอไปหมด พูดอังกฤษไม่ค่อยจะรอดอยู่แล้ว อยู่ในสถานการณ์แบบนี้คงยิ่งไม่รอด ลูคัสยิ้มขำ


“Shall he plays gay porn, too? (เขาควรเล่นหนังเกย์ด้วยมั้ย)” อันนี้ไอติมฟังออกชัดเจนเลยสั่นหัว


“He fuck woman but don’t cut head.” ไอติมทำท่าตัดคอและสั่นหัวในเวลาเดียวกันเป็นการบอกว่าอย่าตัดหัวผู้ชายคนนั้นทิ้ง ลูคัสเข้าใจสิ่งที่ไอติมพยายามสื่อเลยพยักหน้า


“You love him. (เธอปลื้มคนนี้สินะ)” ไอติมหันไปมองลูคัส แปลตามคำพูดอีกฝ่ายสักแปบก่อนจะทำหน้าเอ๋อๆ


“No. no love. (เปล่านะ ไม่ได้รัก)” ลูคัสหัวเราะเบา ๆ แต่เพียงพักเดียวก็ย่นคิ้วด้วยอาการสงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา


“And you don’t like the middle guy. He has a big cock; don’t you like it? (แล้วคนกลางเธอไม่ชอบสินะ เขามีไอ้จ้อนใหญ่มากเลย ไม่ชอบเหรอ)” ลูคัสชี้ไปที่ผู้ชายคนที่เตี้ยที่สุดที่กำลังโชว์ความผงาดของตัวเองที่ถ้าว่ากันตามตรงอีกสองคนสู้ไซซ์ไอ้จ้อนพ่อหนุ่มคนนั้นไม่ได้เลย ไอติมหันมองผู้ชายคนกลางแล้วก็สั่นหัว ลูคัสพยักหน้าน้อย ๆ แล้วเดินไปหาเจค็อบ นั่งคุยกันสองคนด้วยท่าทีจริงจังนิดหน่อย ทิ้งให้ไอติมมองผู้ชายสามคนกำลังนั่งชักช่วยตัวเองด้วยความรู้สึกร้อนวูบวาบ ผู้ชายผมบางคนนั้นยังคงมองมาที่ไอติมด้วยสายตายั่วยวน ชวนให้ไอติมแท่งแข็งไม่ยอมลงง่ายๆ


“Come, ice-cream.” ลูคัสเดินมาเรียกไอติม ร่างผอมยังคงมีหน้าตามึนงง ลูคัสเลยเดินจูงมือให้ไอติมเดินตามออกไปจากห้อง เมื่อประตูปิดลงตามหลังไอติมก็พ่นลมออกทางปากเบา ๆ เพิ่งรับรู้ว่าตัวเองตัวร้อนวาบจนนึกว่าไข้ขึ้น


“What happened in there? (เกิดอะไรขึ้นในนั้นน่ะ)” แอนโทนี่แกล้งถามเมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางลอย ๆ ของไอติม หนุ่มเอเชียหันไปมองหนุ่มหัวทองที่นั่งมองกลับมา ลมหายใจไอติมสะดุดติดขัดเมื่อภาพในหัวกำลังคิดถึงตอนที่ตัวเองนัวเนียกับแซ็ค


“Someone need some water to turn his fire off. (บางคนต้องการน้ำดับไฟในร่างกายน่ะ)” ลูคัสแซวยิ้ม ๆ หันมองไอติมที่เดินไปนั่งบนโซฟาตัวเดิมด้วยท่าทางที่ยังดูเคลิ้มและเบลออยู่หน่อยๆ


“แล้วสรุปว่าไง” แอนโทนี่ถาม ลูคัสพยักหน้าหนึ่งที


“เจครับไอติมเข้าทำงาน…”


“…ว้าว” ลูคัสยกมือขวาขึ้นเป็นการเบรก แอนโทนี่เลยนั่งมองโปรดิวเซอร์หนุ่มตาค้างหน้าตางงๆ


“…เข้ารับแบบทดลองงานก่อน…” ลูคัสหันไปมองไบรอั้นที่กำลังมองเขากลับมาด้วยท่าทางตั้งใจฟังเช่นกัน


“…ถ้าสามเดือนแรกไอศกรีมทำผลงานได้ไม่ดี เราก็ต้องปล่อยเขาไป เริ่มวัดจากงานวันนี้เลย ถ้าสิ่งที่ไอศกรีมเลือกและบอกฉันมาผลออกมาดีก็คือผ่าน แต่เจคก็เชื่ออีกว่าตัดสินแค่วันนี้มันคงเป็นไปไม่ได้ เลยจะรับไอศกรีมเข้ามาทำงานก่อนสามเดือน แล้วหลังจากนั้นค่อยประเมินกันอีกทีว่าเรายังจะทำงานด้วยกันต่อหรือเปล่า” ลูคัสหันไปมองไอติมที่น่าจะกำลังพยายามแปลว่าเขาพูดอะไร เห็นหน้าตาตั้งอกตั้งใจแล้วก็นึกขำด้วยความเอ็นดู แอนโทนี่คงเห็นว่าเพื่อนตัวเล็กน่าจะเข้าใจลำบากเลยช่วยแปลเป็นภาษาไทย พอรู้ว่าโปรดิวเซอร์หนุ่มล่ำพูดว่าอะไร ไอติมก็ยิ้มกว้างและพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยใบหน้าที่ดีอกดีใจ


“I got work! (ผมได้งาน!)” ไอติมพูดด้วยความตื่นเต้น


“You have to prove yourself within three months. I do believe in you so much. Don’t make me wrong. (เธอต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ภายในสามเดือน ฉันเชื่อมั่นเธอมากนะ อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ พยายามจับใจความประโยคที่ลูคัสพูด ขยับปากทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ปิดปากลงและพยักหน้าหงึก ๆ ทั้งที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจถูกหรือยัง แอนโทนี่กลัวว่าไอติมจะตีความเข้าใจผิดไปเลยช่วยพูดเป็นภาษาไทยให้อีกที


“ถ่ามฉั่นก่อได้ ว่าแปลว้าไร” ไอติมยิ้มแห้งๆ


“ผมเกรงใจคุณอะแอนโทนี่ ต้องคอยแปลให้ตลอด ๆ เลย” แอนโทนี่ยิ้มอย่างเอ็นดู


“ไหม่เป็นไรน่า ช่วย ๆ กัน เรากำลังจะเป็นทีมเดียวกันแหล่วนะ” ไอติมยิ้มบาง สีหน้าปลื้มใจ


“And your parents would be okay if you do this job? (แล้วพ่อแม่นายจะโอเคใช่มั้ยถ้านายทำงานนี้)” หนุ่มหัวทองถามขึ้นมาบ้างหลังจากนั่งเงียบมาสักพัก ไอติมหันไปมองขวัญใจตัวเองแล้วยิ้มเหลอหลา และเพราะไม่ได้ตั้งตัวเลยทำให้งงว่าแซ็คพูดอะไร


“ไบรอั้นหมั่นถามว่า ผ่อแม่เธอจ่ะโอเคมั้ยถ่าทำจ็อบนี้” ไอติมอ้าปากร้องอ๋อและพยักหน้ารัวๆ


“เดี๋ยวผมให้น้าช่วยพูด น้าแพนต้องเข้าใจแน่ ๆ ว่ามันทำแล้วได้ตังค์ เอ่อ ได้ตังค์ใช่มั้ยอะ” แอนโทนี่หัวเราะ สองฝรั่งที่ฟังไทยไม่ออกก็ทำหน้างงว่าหนุ่มแว่นหัวเราะอะไร


“He asked will he gets money if he does this job? (เขาถามว่าเขาจะได้เงินใช่มั้ยถ้าทำงาน)” ลูคัสหัวเราะชอบใจ แซ็คยิ้มขำน้อยๆ


“Yes, you do the job you get the money. It’s the rule of work. (ได้สิ เธอทำงาน เธอได้ตังค์ มันคือกฎของการทำงาน)” ไอติมยิ้มเหลอหลา หันมองแอนโทนี่ พอหนุ่มแว่นพยักหน้าก็เลยยิ้มกว้าง


“How much? (ได้เท่าไหร่อะ)” ลูคัสยิ้มด้วยความเอ็นดู


“And how much do you want? (แล้วเธออยากได้เท่าไหร่ล่ะ)” ลูคัสถามกลับ แอนโทนี่แปลต่อทันทีเพื่อความรวดเร็ว ไอติมอ้าปากหวอ สีหน้าตื่นเต้น เพราะไม่รู้ว่าต้องเรียกเงินเดือนเท่าไหร่


หมื่นห้าจะน้อยไปหรือเปล่านะ แต่มันก็เป็นมาตรฐานของการทำงานของเมืองไทยสำหรับเด็กจบใหม่ แต่นี่มันเมืองนอกมันอาจจะได้มากกว่านั้นก็เป็นได้


ไอติมทำหน้าสับสนยุ่งเหยิง ก่อนจะบู้หน้าแล้วก็ส่ายหัว “I don’t know. (ผมก็ไม่รูอะ)”


ลูคัสยิ้ม มองไอติมด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนตอบเสียงนุ่มทุ้มน่าฟัง “I will give the suitable salary for my sex-creative. (ฉันจะให้เงินเดือนที่เหมาะสมกับเซ็กซ์ครีเอทีฟของฉันก็แล้วกัน)”


ไอติมเอียงหน้าเหมือนลูกหมาที่ทำหน้างง แซ็คยิ้มกว้างเป็นรอยยิ้มขำทันทีที่เห็นกิริยานั้น “Sex-creative เหรอ”


“Your position name. (ชื่อตำแหน่งงานของเธอ)”


“ชื้อตัมแหน่งเธอน่ะ” ไอติมดึงหน้ากลับมาตั้งตรงและอ้าปากเป็นรูปตัวโอ ดวงตาเบิกกว้างเป็นประกาย


“ฮุ! เหมือนครีเอทีฟงี้เหรอ” แอนโทนี่ยิ้มบางและพยักหน้า ไอติมหันไปมองแซ็คและยิ้มกว้าง หนุ่มหัวทองยิ้มน้อย ๆ และยักคิ้วซ้ายให้หนึ่งที


“แอนโทนี่ บอกไอศกรีมว่าให้กลับไทยไปทำวีซ่าสำหรับทำงานและขอเอกสารให้เรียบร้อย ฉันจะให้เอกสารที่จำเป็นสำหรับยื่นให้สถานทูตติดตัวไปด้วย” หนุ่มแว่นอธิบายเป็นภาษาไทยให้ไอติมได้ยิน หนุ่มไทยหนึ่งเดียวพยักหน้าด้วยความเข้าใจ


“Okay!” ไอติมตอบเสียงใส


“อ้อ แหล่วก้อ เป็นไก้ให้ไอ่ไบรอั้นถี่เมืองไทยด่วยนะ” ไอติมเลิกคิ้วขึ้น หน้าตางุนงง


“ฮะ ไก้ มัคคุเทศก์อะเหรอฮะ” แอนโทนี่ย่นคิ้ว


“ฉั่นไม่แน่จัยว่านั่นแปลว้าไกด์มั้ย แต่ถ่าหมายถึงข่นพาเที่ยว ก็ใช่” ไอติมเบิกตากว้าง หันไปมองขวัญใจตัวเองทันที ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นงง ๆ แล้วหันไปมองแอนโทนี่


“What? (อะไร)”


“I told him that you will go to Thailand. (ฉันบอกว่าแกจะไปไทยแลนด์)” ไบรอั้นทำหน้าเข้าใจและหันไปมองไอติมที่กำลังทำหน้าตะลึงอยู่


“You said you could be my guide, right? (นายเคยบอกว่านายเป็นไกด์ให้ฉันได้ ใช่มั้ย)” ไอติมขยับปากเป็นรอยยิ้มกว้างก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปนั่งใกล้แซ็คแล้วกอดตัวใหญ่หนาของขวัญใจตัวเองแน่น


“จะไปเที่ยวเมืองไทยเหรอออ อ้ากกก” ลูคัสกับแอนโทนี่หลุดหัวเราะร่วนเมื่อได้ยินไอติมกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ ส่วนคนจะไปเที่ยวนั่งตัวลีบเพราะโดนกอดแน่นและหน้าตื่นตกใจเพราะเสียงกรี๊ดเมื่อกี้นี้


“นึกยังไงจะไปเมืองไทย” ลูคัสถามไบรอั้น หนุ่มหัวทองที่โดนเจ้าเด็กลามกกอดจนหน้าพริ้มยักคิ้วสองข้าง ตามด้วยพ่นลมหายใจสั้น ๆ หนึ่งครั้ง


“นายบอกฉันควรหาเวลาพักผ่อน แล้วไอ้เลโอมันก็เอาแต่พูดถึงเมืองไทย ฉันว่าก็น่าสนใจดี” แซ็คพูดจบและยังคงโดนกอดไว้เหมือนเดิม


“เลโองั้นเหรอ?” ลูคัสเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย หนุ่มหัวทองยักคิ้วเร็ว ๆ เป็นเชิงตอบว่าใช่ ลูคัสยักไหล่สองข้างตอบกลับ


“หมอนั่นก็ชอบเที่ยวอยู่แล้ว อาจจะเหลือทางช้างเผือกที่ยังไม่ได้ไป” หนุ่มฝรั่งสามคนหัวเราะเบา ๆ หนุ่มไทยยังคงกอดแซ็คแน่น และในหัวจินตนาการอะไรไปมากมายแล้ว แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือภาพกิจกรรมบนเตียงหรืออาจจะระเบียง หรืออาจจะที่ไหนก็ได้ขอแค่ให้มี


“ไอศกรีมคงใช้เวลาดำเนินเรื่องเอกสารสักพัก นายก็กลับมาพร้อมไอศกรีมเลยก็แล้วกัน” แซ็คพยักหน้าขึ้นเป็นการตอบรับ ลูคัสทำหน้าครุ่นคิด แล้วสักพักก็ชะงักกึกกับตัวเอง คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันนิดหน่อย หนุ่มนักกล้ามตัวโตหันไปมองไอติมที่กำลังกอดไบรอั้นแน่น


“Hey, I know it’s going to be your vacation but I want you do something with him. (เฮ้ ฉันรู้นะว่ามันเป็นช่วงพักผ่อนของนาย แต่ฉันอยากให้นายทำอะไรบางอย่างกับเขา)” ลูคัสยักคิ้วไปทางไอติมที่เริ่มคลายอ้อมกอดออกจากตัวแซ็คและนั่งตัวตรงเบียดอยู่กับฝรั่งหัวทอง


“Do what? (ทำอะไร)” พระเอกเบอร์หนึ่งถามอดีตพระเอกเบอร์หนึ่งของค่าย


“Another one thing that I want to try his sex-sense. (เป็นอีกอย่างนึงที่ฉันอยากลองทดสอบเรื่องสัมผัสด้านเซ็กซ์ของไอศกรีม)” ลูคัสยิ้มด้วยความตื่นเต้นนิด ๆ แซ็คกับแอนโทนี่มองหน้ากันงง ๆ และมีไอติมที่กำลังยิ้มฟินตาเป็นประกายที่ขวัญใจกำลังจะไปเมืองไทยกับตัวเองด้วย


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 16-09-2018 23:03:00
น้องไอติมต้องไปพัฒนาสกิลภาษาอังกฤษมากๆเลยยย จะได้ทำงานได้คล่องๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 16-09-2018 23:09:07
งานนี้มีแต่ได้กับได้เลยน้องติม ขอให้ได้ให้โดนอีกสมใจ  :hao5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 16-09-2018 23:11:20
เย้ๆๆๆ มาต่อแล้วววววว
นุ้งไอติมได้งานทำแล้ว ตำแหน่งเท่ห์ซะด้วย
แถมยังได้พาขสัญใจกลับบ้านเกิดมาพร้อมกัน
กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวเลยนะลูก
เอาให้แซ็คหาทางกลับเมืองนอกไม่เจอเลย
 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 16-09-2018 23:21:54
เอ็นดูน้องงงง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Opolniscute ที่ 17-09-2018 01:24:41
ดีใจน้องได้งานแล้ว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-09-2018 03:44:04
วุ้นแปลภาษาของโดเรม่อนมีขายที่ไหนบ้างนะ จะส่งไปช่วยหนูไอติมซะหน่อย  :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 17-09-2018 04:44:28
น้องติมจะกลายเป็น นักแสดงหนังมั้ย 555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 17-09-2018 06:41:13
น้องติมนี่น่ารักจังเลย ดุเป็นเด็กคิดบวกมากๆ สดใสแต่ไม่ได้โง่งี่เง่า(หวังว่าจ่อไปก็จะไม่โง่หรืองี่เง่านะคะ55555) พี่แซ็คก็งานดีจนนนนน กลับไทยคราวนี้จะได้ไปเจอแม่ยัยน้องติมมั้ยคะ เจอว่าที่แม่ยายงี้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 17-09-2018 07:01:56
ดีใจแทนน้องติม ได้สานสัมพันธ์กับขวัญใจต่อ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 17-09-2018 23:12:37
ตำแหน่งที่น้องติมได้ช่างเหมาะสมกับน้องมากจริงๆค่ะ​  ยินดี​กับน้องด้วยได้งานและได้ไบรอันไปฟินพร้อมๆกัน​ ไปไทยน้องติม​จะ​ได้อะ​ไร​พิเศษ​ๆมั้ยนะ​ รอค่ะรอ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Hananijinji ที่ 17-09-2018 23:43:53
เย้ๆ มาอัพแล้ว คิดถึงน้องไอติมมมมม ตอนนี้เราลงเรือเดนนี่ไอติมเรียบร้อยแล้วค่ะ แซ็คไร ไม่รู
้จัก ประทับใจฉากเดนนี่กับน้องติมเหลือเกิน :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 18-09-2018 11:05:24
น้องติมมีตำแหน่งงานแล้ววว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Tar9669 ที่ 18-09-2018 23:46:54
ก็คือเซ้นส์+ปสกในการดูหนังทำให้น้องติมมีวันนี้ไหมคะ 555 ที่ไทยนี่ต้องมีอะไรดีๆแน่เลย ตื่นเต้น
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: shironeko ที่ 22-09-2018 11:46:51
ได้ทั้งงานได้ทั้งผู้ อิจฉาน้องติมมากค่าาาา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: NaunaeZaa ที่ 22-09-2018 22:41:49
ไอติมน่าเอ็นดู น่ารักมากกกกก :katai2-1:
//ขอบคุณนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 23-09-2018 15:42:35
โอ่ววว ม่าย ก๊อดดดดดดดดดด เรื่องนี้ดียยย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 23-09-2018 20:24:43
ได้งานสนองนี้ดตัวเองคือดี  :-[
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.11 : Sex sense. (ครึ่งหลัง) :16.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 24-09-2018 11:31:52
ว้ายยยยยย งานนี้เหมาะกับไอติมจัง   :o8:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 24-09-2018 20:42:25
Fall in lust, Chapter 12 :: Treasure closet. (ตู้ขุมทรัพย์)



             “น้องติม…” หญิงสาวเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของบ้านพลางตะโกนเรียกลูกชาย เธอเดินไปเปิดประตูกระจกบานเลื่อนตรงข้ามกับห้องน้ำ บริเวณพื้นชั้นสองปูด้วยไม้สีน้ำตาลอมแดงสีธรรมชาติอันเป็นสีเดียวกับบันไดจึงทำให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกันยามเดินก้าวขึ้นบันไดมาด้านบน พื้นที่ที่เป็นลานโล่งกว้างหน้าห้องพระมีพรมขนสัตว์นุ่ม ๆ ไว้สำหรับนอนอ่านหนังสือ นอนดูหนัง ตู้หนังสือสีดำขนาดกลางสองตู้วางติดกับผนังหน้าห้องพระ คั่นกลางด้วยทีวีและเครื่องเล่นดีวีดีของลูกชาย


“…ไอติม” เธอเรียกอีกทีเมื่อยังไม่ได้ยินเสียงตอบรับกลับมา เดินผ่านระเบียงใหญ่ฝั่งมุกหน้าบ้านที่มีเครื่องซักผ้าวางและมีเสื้อผ้าของลูกแขวนไว้บนราวตากผ้ารับไอแดดอยู่ด้านนอก เธอเห็นประตูห้องนอนเล็กทางด้านขวามือตัวเองเปิดแง้มอยู่เลยเดินไปทางนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงใสตะโกนออกมาจากข้างในห้อง


“อยู่นี่แม่!” สมัยไอติมยังเด็กห้องนี้เป็นห้องนอนของเจ้าตัวเล็ก (ในสมัยนั้น) แต่พอลูกโตขึ้นและหย่าขาดกับสามี เธอจึงยกห้องนอนใหญ่ให้ลูกและตัวเองลงไปนอนห้องนอนข้างล่างซึ่งกว้างใหญ่ไม่แพ้กัน อีกทั้งยังสะดวกแก่เธอ ไม่ต้องเดินขึ้นเดินลงบ่อย ๆ ให้เมื่อย ส่วนมากถ้าเดินขึ้นมาก็จะขึ้นมาไหว้พระเสียมากกว่า ขึ้นมาหาลูกชายก็นาน ๆ ครั้ง เพราะเธอถือว่าชั้นบนเป็นพื้นที่ส่วนตัวของลูกชาย เธอผลักประตูไม้สีน้ำตาลอ่อน เห็นลูกชายกำลังขะมักเขม้นกับการดูดฝุ่นในห้อง


“สรุปว่าจะไปรับเพื่อนที่สนามบินมั้ยน้องติม” ไอติมดูดฝุ่นตรงมุมห้องที่ติดกับหน้าต่างบานเลื่อนกระจกอันเป็นโซนสุดท้ายที่ไอติมไล่ดูดมาจนทั่วห้องก่อนจะปิดเครื่องดูดฝุ่นเครื่องเล็กแล้วหันไปมองมารดา
   


“ไม่ไปละแม่ เขากำลังนั่งแท็กซี่มาบ้านเรา น้องติมบอกทางพี่คนขับเรียบร้อย” ไอติมยิ้มกริ่มพลางหยิบผ้าปูเตียงลายทางสีฟ้าสลับสีขาวมาจากโต๊ะเขียนหนังสือตัวเก่าของไอติมมาที่เตียงไซซ์ขนาดหกฟุตอันเป็นมาตรฐานหลักของเตียงขนาดใหญ่ มารดามองร่างกายของลูกชายแล้วยิ้ม
   

“ไปเดือนเดียว เนื้อหนังมังสาอวบอั๋นขึ้นจริงลูกแม่” ไอติมทำปากจู๋และย่นจมูกในขณะที่มือก็จัดการใส่ผ้าปูให้กับเตียง
   

“ก็อาหารมันอร่อยอ่าแม่ แต่ไม่อร่อยเท่าฝีมือแม่หรอก” เมื่อวานน้าแพนก็ทัก แต่ไอติมไม่ได้โกรธเคืองหรือคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ มันไม่ได้อ้วนตุ๊ต๊ะ ก็แค่เนื้อขยายตัวขึ้นจากเดิม อกอวบอิ่มขึ้นเยอะ
   

“แต่แม่ชอบนะ เต็มไม้เต็มมือดี แต่ก็ไม่เอามากกว่านี้ละนะ” ไอติมใส่ผ้าปูให้เตียงจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้มารดา
   

“น้าแพนบอกให้ติมไปออกกำลังกายเพิ่มความเฟิร์ม”
   

“ก็ลองไปสิลูก ดีต่อร่างกายด้วย…” ไอติมยิ้ม จัดการสวมปลอกหมอนลายเดียวกับผ้าปูเตียงให้หมอนใบใหญ่ แม่แป้งมองลูกชายแล้วยิ้มเอ็นดู
   

“…ไปอยู่นู่นจะมีเวลาออกกำลังกายมั้ยล่ะ” เธอกับแพนรับรู้เรื่องราวที่ลูกชายได้งานแล้ว และก็รู้ด้วยว่าลูกชายจะไปทำงานอะไร แม้ตอนที่รู้จากปากลูกจะทั้งดีใจปนตกใจจนเกือบจะทำตัวไม่ถูก แต่น้องสาวก็ช่วยพูดว่าลูกชายไม่ได้ไปแสดงเอง แค่ไปเป็นทีมงาน ถึงจะเป็นงานที่ชวนตกใจไปสักหน่อย แต่มันก็คืองานที่ได้เงิน และยังทำให้ไอติมได้ประสบการณ์ด้วย ซึ่งตัวไอติมไม่อยากโกหกหรือต้องทำหลบ ๆ ซ่อน ๆ เลยบอกแม่ไปตรง ๆ เลยดีกว่าโดยให้น้าแพนมาช่วยพูดอีกแรง
   

“มีแหละแม่ พวกนักแสดงเขาต้องออกกำลังกาย เดี๋ยวติมไหล ๆ ไปกับเขา” ไอติมตอบพลางหยิบผ้านวมลายเดียวกับผ้าปูเตียงและหมอนจากตู้เสื้อผ้าไม้หลังใหญ่ที่ในนั้นมีแต่หมอน ผ้าปู ผ้านวมและผ้าขนหนูมาวางไว้ที่ปลายเตียง
   

“แต่ไม่ใช่ไหลไปเป็นนักแสดงกับเขานะ หัวใจแม่ยังไม่แข็งแรงขนาดนั้นนะติม” คนเป็นแม่พูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล ไอติมนั่งลงบนเตียงแล้วขำคิกคัก
   

“แหม ไม่หรอกแม่ ในเอกสารที่เจ้านายติมให้มา เขาเก๊าะบอกนี่ว่าติมไปเป็นอะไร” เธออ่านไม่รู้เรื่องหรอก แต่แพนที่เก่งภาษาก็ช่วยแปลและอธิบายให้เข้าใจว่าลูกชายจะไปทำอะไรบ้าง เรื่องเงินเดือนเธอก็ไม่แน่ใจว่ามันเหมาะสมกับค่าครองชีพของไอติมมั้ย แต่แพนบอกว่า เงินเดือนไม่ขี้เหร่เท่าไหร่ ถือว่าสตาร์ทได้ดี แต่ถ้าขาดเหลือยังไงเพื่อนแพนที่อยู่ทางนู้นก็พร้อมช่วยเหลือไอติมเสมอ
   

“แอบแม่ไปเป็นล่ะสิไม่ว่า เอาตำแหน่งนั้นมาบังหน้ารึเปล่าก็ไม่รู้” ไอติมตาโตอ้าปากค้าง
   

“โห แม่เก่งอะ รู้ด้วยว่าน้องติมจะแอบไปเป็นนักแสดงหนังโป๊” แม่แป้งยกมือทาบอกสีหน้าตกใจ สักพักก็ทำท่าคล้ายคนจะเป็นลมให้ไอติมหัวร่อ
   

“ใจเย็น ๆ นะลูก อย่าเพิ่งไปถึงขั้นนั้น” ไอติมหยิบรีโมตแอร์ขึ้นมากดเปิดแอร์ที่นาน ๆ ทีจะได้ใช้เฉพาะเวลาน้าแพนหรือมีใครมานอนค้างที่บ้าน
   

“ไม่หรอก น้องติมรู้ น้องติมก็ไม่กล้าออกกล้องอะ” เว็บแคมอันนั้นถือว่าไม่นับละกัน เพราะไม่เห็นหน้าของไอติมและไม่มีการบันทึกเทปเป็นจริงเป็นจังไว้
   

แม่แป้งถอนหายใจด้วยความโล่งอกนิดนึง “ถึงกล้าก็ไม่เอานะลูก ทำแค่งานในส่วนของตัวเองก็พอ”
   

ไอติมยิ้มกว้างและขำให้กับอาการเลือดลมไม่คงที่ของมารดา ก่อนจะพยักหน้าหงึก ๆ แม่แป้งสูดลมหายใจเข้าปอดหนึ่งที และทำหน้าโล่งใจมากขึ้นกว่าเดิมอีกหน่อย ถึงแม้ลูกชายจะเป็นคนที่อยากทำอะไรทำ แต่อันนี้คงไม่ทำละมั้ง แม่แป้งอยากตัดมั้งออก แต่ก็อดระแวงไม่ได้อยู่ดี
   

“แล้วจะพาเพื่อนเราไปเที่ยวไหนบ้างล่ะลูก ฝรั่งเขาชอบไปข้าวสารกันใช่มั้ยถ้ามากรุงเทพฯ” ไอติมยิ้มตาแป๋ว
   

“อันนั้นน้องติมก็ว่าจะพาไป แล้วเขาก็อยากไปต่างจังหวัดด้วย ติมว่าจะพาไปทะเล แต่จะคุยกับเขาอีกทีก่อนว่าอยากไปทะเลที่ไหน” เพราะมันเหมาะแก่งานที่ลูคัสให้โจทย์มาทำ เขาไม่ได้กำหนดสถานที่มาหรอก แต่มันเป็นภาพอยู่ในหัวของไอติมเองว่าควรเป็นที่ไหน อีกอย่างไอติมก็คิดว่าถ้าไปทะเลก็จะได้เห็นแซ็คถอดเสื้อบ่อย ๆ และได้เห็นแซ็คใส่กางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วลงเล่นน้ำ
   

งู้ยยย >3<
   

“ทะเลก็ดีลูก เวลาเพื่อนฝรั่งแพนมาตอนหน้าร้อนหรือปลายปีแบบนี้ นางชอบพาเพื่อนไปทะเล เดี๋ยวนางมาลองปรึกษานางดูสิ” ไอติมยิ้มกริ่มและพยักหน้า
   

ปิ๊น!
   

ไอติมลุกขึ้นไปยืนมองผ่านหน้าต่างอดีตห้องนอนของตัวเอง มองเห็นแท็กซี่สีเขียวเหลืองคันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน สักพักประตูหลังฝั่งข้างคนขับก็เปิดออก ร่างสูงใหญ่ล่ำหัวทองของไบรอั้นออกมายืนอยู่ตรงรั้วหน้าบ้านพลางมองเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีที่ดูไม่แน่ใจ
   

“แม่ เพื่อนติมมาแล้ววว” ไอติมร้องด้วยความตื่นเต้นที่เห็นขวัญใจตัวเองยืนอยู่หน้าบ้าน แซ็คอยู่บ้านเขา แซ็คอยู่หน้าบ้านไอติมมม กว่าจะหลอกล่อให้มานอนบ้านด้วยได้ก็เกือบจะเป็นเรื่องยากเหมือนกัน แทบจะชักแม่น้ำทั้งห้ามากองตรงหน้า ดีที่ได้ลูคัสและแอนโทนี่ช่วยพูด และในวันนี้และตอนนี้เขาก็อยู่หน้าบ้านแล้ววว!
   

“งั้นก็ลงไปรับเขาสิลูก แต่ไม่ต้องรีบนะ” คำเตือนดูจะไม่ได้ผลเพราะไอติมวิ่งออกจากห้องนอนเล็กไปอย่างรวดเร็ว จังหวะนั้นโทรศัพท์ไอติมก็ส่งเสียงร้องพอดี เขาหยิบขึ้นมากดตัดสายขณะที่วิ่งลงบันไดบ้านไปอย่างว่องไว
   

ตึงๆๆๆ
   

“น้องติม อย่าวิ่งลูก เดี๋ยวก็หัวคว่ำลงบันไดหรอก” ผู้เป็นมารดาตะโกนบอกพลางหยิบรีโมตแอร์ขึ้นมากดปิดแอร์แล้วเดินตามลงไปด้านล่าง
   

ไอติมวิ่งไปบนถนนเทปูนเส้นเล็ก ๆ ที่ตัดกับสนามหญ้าหน้าบ้านไปที่รั้วไม้สีน้ำตาลเข้มขนาดสูงเท่าคอไอติม จัมโบ้กับปีโป้เห็นเจ้านายน้อยวิ่งก็เลยลุกขึ้นจากสนามหญ้าและวิ่งตามไปเกาะที่รั้วบ้าง
   

“แซ็ค!” ไอติมยืนเกาะรั้วแล้วยิ้มให้กับฝรั่งหัวทองตัวสูงหนาล่ำที่ใส่แว่นดำสีเดียวกับเสื้อกล้าม
   

ขนจุ๊กกุแร้ของแซ็คดูเซ็กซี่มากกก
   

“Hey, I thought I came to the wrong house. (เฮ้ ฉันคิดว่ามาผิดบ้านซะอีก)” ไอติมหยุดนิ่งเพื่อแปลสิ่งที่อีกคนพูดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะอ้าปากตอบ


“My house. My house! (บ้านผมฮะ บ้านผม!)” แม้ว่าจะกลับมาไทยได้เกือบอาทิตย์ แต่ช่วงระหว่างนั้นไอติมก็ฝึกภาษาอังกฤษด้วยการดูซีรีส์ ดูหนัง ฟังเพลงต่างประเทศบ่อย ๆ เพื่อพัฒนาสกิลของตัวเอง และเวลาคุยกับเดนก็พยายามใช้ภาษาอังกฤษให้มากกว่าภาษาไทย


ไบรอั้นชี้เข้าไปในบ้านสลับกับชี้มาที่ตัวเองและยิ้มขำน้อย ๆ ไอติมอ้าปากค้างตกใจพักหนึ่งก่อนจะรีบเลื่อนประตูให้ขวัญใจ พอประตูเลื่อนเปิดออกเจ้าหมาสองตัวก็วิ่งออกไปก่อนเจ้านาย ไอ้ตัวเล็กวิ่งไปเห่าอยู่ตรงหน้าหนุ่มหัวทอง ส่วนไอ้ตัวโตกำลังเดินวนรอบฝรั่งตัวใหญ่และดมกางเกงยีนที่อีกฝ่ายใส่มา


“จัมโบ้ ปีโป้ อย่ากัดนะ ตีนะ” ไบรอั้นยืนมองเจ้าหมาสองตัวที่มีกิริยาต่างกันแล้วยิ้มเอ็นดู ไอ้หมาพันธุ์ปอมตัวเล็กหยุดเห่าแล้วยกขาหน้าสองขาขึ้นทำท่าสวัสดี ไบรอั้นหัวเราะเบา ๆ ไอติมยิ้มกว้างแล้วขำออกมา ส่วนเจ้าตัวโตเปลี่ยนเป้าหมายใหม่เดินไปท้ายรถแท็กซี่ ไอติมมองตาม เป็นจังหวะที่กระโปรงท้ายรถปิดลงดังปัง ปรากฏให้เห็นชายสองคน คนหนึ่งคือพี่แท็กซี่ตัวเล็กผิวขาวเหลืองในชุดยูนิฟอร์มเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าอ่อน ข้างกันเป็นฝรั่งตัวใหญ่ผิวเข้มอีกคนที่ความสูงพอกันกับไบรอั้นในชุดเสื้อกันหนาวสีดำมีฮู้ท


“Hello, ice-cream.” เสียงทุ้มใหญ่เอ่ยทักพร้อมกับรอยยิ้มโชว์ฟันเรียงตัวสวยและเห็นเหงือกสีชมพู ไอติมมองรอยยิ้มจนร่องแก้มขึ้นและเกิดรอยย่นตรงช่วงมุมปากที่ยิ้มแล้วก็ยิ้มเงอะงะตอบ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสำรวจใบหน้ายาวแต่ไม่ได้ยาวเรียวแหลม มีโหนกและสันกรามแบ่งพื้นที่หน้าชัดเจน ริมฝีปากสีอ่อนใหญ่หนา สันจมูกโด่ง ช่วงปลายจมูกใหญ่


ไอติมขอโทษฝรั่งคนนั้นในใจที่คิดไม่ดี แต่พอมองหน้าเขาแล้ว ไอติมนึกถึงคิงคอง แถมตัวเขายังใหญ่และไหล่ก็ดูกว้าง ๆ เลยยิ่งทำให้รู้สึกนึกถึงครอบครัวทาร์ซาน 


“It’s Leo who persuaded me to come here. (นี่เลโอ คนที่ชวนให้ฉันมาเมืองไทย)” ไอติมหันไปมองแซ็คที่ถอดแว่นเหน็บไว้กับขอบคอเสื้อแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปมองฝรั่งอีกคนที่เดินลากกระเป๋าใบใหญ่สองใบมายืนตรงหน้าเขาและมีเจ้าจัมโบ้เดินตามมาดมขาดมเท้าด้วย


เมื่อกี้แซ็คบอกว่าอะไร ไอ้เพอร์ ๆ แปลว่าอะไร ฟังไม่ทันแล้ว


“กระเป๋าเป้ครับ” พี่แท็กซี่ยกกระเป๋าเป้ใบใหญ่สีดำกับสีแดงดำมาวางบนพื้น ไอติมยกมือไหว้ขอบคุณ ฝรั่งสองคนเห็นดังนั้นจึงหันไปไหว้ตามบ้าง พี่แท็กซี่ยิ้มรับพร้อมกับยกมือไหว้ เดินกลับไปขึ้นรถก่อนจะถอยรถออกไปจากซอยบ้านไอติมช้าๆ


“ลีโอ?” ไอติมทวนชื่อของคนที่ไบรอั้นแนะนำให้รู้จักอีกที เจ้าของชื่อยิ้มจนเห็นฟันเรียงตัวกันอีกครั้ง ไอติมยิ้มตามเพราะรอยยิ้มของเขาเหมือนคิงคองยิ้มยามอารมณ์ดี ไอติมก่นด่าตัวเองและขอโทษเขาในใจ ไม่ได้ตั้งใจคิดแบบนั้นจริง ๆ ความคิดมันไปเอง แต่ถึงจะมองแล้วนึกถึงเจ้าตัวนั้น แต่ไอติมก็ไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคิงคองจริง ๆ หรอกนะ


“LE-O” เจ้าของชื่อออกเสียงชื่อตัวเองช้า ๆ และชัด ๆ จนเจ้าของบ้านยิ้มกว้างด้วยความเข้าใจ


“อ๋ออ เลโอ!”


“Yes, nice to meet you, ice-cream. Are you vanilla or chocolate? (ใช่แล้ว ยินดีที่ได้เจอนะไอศกรีม เป็นไอติมวานิลลาหรือช็อกโกแล็ตล่ะ)” ไอติมยื่นมือไปจับมือใหญ่หนาของเลโอและยิ้มงง ๆ ได้ยินคำว่าวานิลลากับช็อคโกแล็ต คิดว่าเขาคงถามว่าชอบกินอะไรรึเปล่าละมั้ง


“Vanilla. (วานิลลา)” ไอติมตอบตามที่ตัวเองชอบ จริง ๆ ช็อคโกแล็ตก็ชอบ แต่ไปทางวานิลลามากกว่านิดนึง


เลโอยิ้มบาง นิ้วโป้งเกลี่ยหลังมือไอติมเบาๆ “I see why you love vanilla. (เข้าใจแล้วละว่าทำไมนายชอบวานิลลา)”


เขาปล่อยมือไอติม ดวงตาสีดำสำรวจผิวกายที่ขาวเนียนละเอียดอย่างเพลิดเพลินแล้วยิ้มกริ่ม ไอติมคลี่ยิ้มตอบ เลโอพยักหน้าหนึ่งทีพร้อมกับยักคิ้วซ้ายน้อย ๆ ไบรอั้นเหลือบมองเพื่อนแล้วขยับยิ้มมุมปาก ก่อนหันไปมองเจ้าเด็กลามกที่ดูสดชื่นและสดใสเช่นเคย


“Your house is lovely. (บ้านนายน่ารักดี)” ไบรอั้นว่าตามจริง บ้านไอติมไม่ได้หลังใหญ่โต ขนาดกำลังดี เป็นบ้านปูนสีขาวสองชั้น มีสีน้ำตาลของไม้ตัดเฉพาะส่วนได้อย่างลงตัว เช่น ระเบียงชั้นบนที่ยื่นออกมา หรือจะเฉลียงหน้าบ้านนั่นก็ใช่ มีสนามหญ้าสองข้างของหน้าบ้าน ฝั่งซ้ายมือจากจุดที่เขายื่นอยู่เป็นสวนดอกไม้เล็ก ๆ ด้านขวามือมีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นให้ความร่มรื่น และมีกรงสุนัขขนาดใหญ่อยู่ใต้ต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เขาไม่รู้จัก


“Thank you. (ขอบคุณฮะ)” ไอติมเข้าใจประโยคนี้เลยตอบกลับอย่างไม่ลังเล เจ้าของบ้านหลุบตาลงพื้นมองเจ้าหมาสองตัวที่ยังวนเวียนอยู่กับแขกไม่เลิก จัมโบ้ยังคงดมกระเป๋าเดินทางของฝรั่งสองคนราวกับมันเป็นหมาตำรวจ


“ไอติม! พาเพื่อนเข้าบ้านมั้ยลูก ยืนตากแดดทำไมล่ะนั่น!” เสียงแม่แป้งตะโกนมาจากเฉลียงหน้าบ้าน เธอเห็นสามคนนั้นยืนอยู่หน้าบ้านท่ามกลางแสงแดดเกินห้านาทีแล้ว


“My mom. She call. (แม่ผม แม่เรียก)” ไบรอั้นพยักหน้า หันไปยกกระเป๋าเป้สีดำขึ้นพาดไหล่ซ้าย เลโอทำแบบเดียวกัน ทั้งคู่ลากกระเป๋าเดินทางขนาดกลางของใครของมันและคนละสีคนละแบรนด์ ของไบรอั้นสีแดงสด ส่วนของเลโอสีดำ ไอติมเดินนำเข้าไปในบ้านก่อน พอฝรั่งสองคนและหมาสองตัวเดินตามเข้ามาก็เลื่อนประตูบ้านปิดตามเดิม


“จัมโบ้!” ไอติมดุเจ้าเชพเพิร์ดที่จ้องสองฝรั่งที่เดินเข้ามาในบ้านตัวเองราวกับตั้งท่าจะกัดและไอติมรู้ว่ามันเตรียมกระโดดกัดแน่ ๆ ถ้าเขาไม่ขู่มันไว้ก่อน


“มาจ้ะ พ่อฝรั่ง เข้ามาก่อน” แม่ไอติมที่ยืนรออยู่ในโซนรับแขกของบ้านเอ่ยต้อนรับด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ สองฝรั่งที่น่าจะทำการบ้านมาดีไม่น้อยยกมือขึ้นสวัสดีด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ จนแม่ไอติมยิ้มขำด้วยความเอ็นดูพร้อมกับยกมือรับไหว้


“ใครสอนเนี่ย น่าเอ็นดูเชียวพ่อคุณ” ไอติมมองทั้งสองคนแล้วยิ้มตาหยี เดาว่าแอนโทนี่อาจสอนมาก็เป็นได้ หนุ่มหัวทองและหนุ่มหัวดำสั้นเกรียนยิ้มกว้างและพนมมือคาอกไว้แบบนั้นพักหนึ่งจนไอติมต้องทำท่ากวักมือให้เอาลงแล้วหันไปแนะนำให้แม่รู้จักทั้งสองคน


“แม่ คนหัวทองชื่อพี่ไบรอั้น คนหัวดำชื่อพี่เลโอ พี่ไบรอั้นมาจากอเมริกา ส่วนพี่เลโอก็…” ไอติมชะงักและขมวดคิ้ว ชะโงกตัวมองเลโอที่เลิกคิ้วงง ๆ กลับมาก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองแซ็คที่มองมางง ๆ เช่นกัน


“Where Leo come from? America like you? (เลโอมาจากไหนเหรอ จากอเมริกาเหมือนคุณป้ะ)” ที่ไอติมถามเพราะว่าหน้าตาของเลโอดูไม่ใช่คนอเมริกัน หรืออาจจะใช่แต่แค่ไอติมดูไม่เป็นเองก็ได้


“Ah, he comes from Czech Republic. (อ้อ เขามาจากเช็ก รีพลับบิคน่ะ)” ไบรอั้นตอบพร้อมกับยิ้ม ไอติมเคยได้ยินชื่อประเทศนี้เลยยิ้มกว้างอย่างเข้าใจแล้วหันไปตอบมารดา


“…อีกคนมาจากประเทศเช็ก กรุงปรากอะแม่” มารดาของไอติมอ้าปากวูบหนึ่งแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้ม ไอติมขำและนึกสงสัยว่าแม่จะอึ้งทำไม


“This is my mom. (อันนี้แม่ผมฮะ)” สองหนุ่มยกมือไหว้อีกครั้ง หญิงสูงวัยยกมือรับไหว้อีกทีและกวักมือลงเป็นการบอกให้เอามือลงได้ สองหนุ่มทำตามพร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตร


“Welcome, make yourself at home (ยินดีต้อนรับจ้ะ ทำตัวเหมือนอยู่บ้าน) นะ” มารดาของไอติมพูดด้วยสำเนียงไทย ๆ แต่ก็เข้าใจได้ง่าย ไอติมมองแม่ด้วยความทึ่ง


“โห แม่พูดได้ด้วยอะ” หญิงสาวยิ้มเขินๆ


“แพนสอนมาๆ” แม่กระซิบบอก ไอติมยิ้มขำ สองฝรั่งพูดขอบคุณเป็นภาษาไทยด้วยสำเนียงแปร่ง แต่ก็ทำให้เจ้าของบ้านทั้งสองคนยิ้มกว้างอย่างเอ็นดู


“งั้นเดี๋ยวติมพาเขาขึ้นไปเก็บของก่อนนะแม่”


“ไปเลยลูก เสร็จแล้วถ้าพี่เขาไม่เหนื่อย ก็พาไปกินข้าวที่ร้านแล้วกันนะ แต่ถ้าจะรอกินตอนเย็นทีเดียวก็ได้” ไอติมพยักหน้า หันไปกวักมือเรียกทั้งสองคนให้เดินตามมา เจ้าหมาสองตัวทำท่าจะเดินตามเข้ามาในบ้านแต่ก็ถูกแม่แป้งไล่ต้อนออกไปข้างนอก


ไอติมเดินนำฝรั่งทั้งสองคนขึ้นมาด้านบน เดินตรงไปเปิดประตูห้องนอนเก่าของตัวเองก่อนเป็นที่แรก แต่ก่อนจะเข้าไปในห้อง ไอติมก็ยกแขนขวาชี้ไปที่ประตูห้องน้ำที่อยู่กึ่งกลางระหว่างห้องนอนทั้งสองห้อง


“Toilet. (ห้องน้ำนะ)” ไบรอั้นและเลโอพยักหน้า หนุ่มหัวทองทำท่าจะเดินเข้าไปในห้องแต่ไอติมยกมือเบรกไว้ก่อน


“No, no. This room for Leo. Your room นู่นๆ” ไอติมชี้ประตูห้องอีกห้องที่อยู่ติดกับบันไดตอนเดินขึ้นมาและอยู่เยื้องกับห้องนี้ ไบรอั้นหันไปมองแล้วหันกลับมาขมวดคิ้วใส่ไอติม


“We can stay together. (เรานอนด้วยกันก็ได้)” ไบรอั้นชี้นิ้วไปมาระหว่างตัวเองและเพื่อนอีกคน ไอติมเก็ทประโยคนี้เพราะได้ยินในซีรีส์ที่ดู


“No. You stay with me. Leo stay here. (ไม่ฮะ คุณนอนกับผม เลโอนอนนี่)” ไอติมเม้มปากยิ้มเขิน ตัวบิดเล็กน้อย เลโอยิ้มแล้วหัวเราะร่วนทันที ผิดกับไบรอั้นที่ยังอึ้งอยู่


“Aha! He is the boss. You should listen to him I don’t want him to kick us out from the house. (อาฮ่า! เด็กคนนี้เด็ดว่ะ แกควรฟังเขานะ ฉันไม่อยากให้เขาเตะเราออกจากบ้าน)” ไบรอั้นถลึงตาใส่ไอติมที่ยืนยิ้มปริ่มสุขอยู่


“We could find the hotel outside. (เราไปหาโรงแรมข้างนอกก็ได้นี่)” ไบรอั้นเสนอ นึกหมั่นไส้ไอ้เด็กลามกที่ออกคำสั่งอย่างระรื่น


“Even you have a million baht in your pocket now. I will not find any hotels. You don’t know how lucky we are when we have friend in each country we go. (ถึงแกจะมีเงินเป็นล้านบาทในกระเป๋าแกตอนนี้ แต่ฉันจะไม่หาโรงแรมไหนทั้งสิ้น แกไม่รู้หรอกว่าเราโชคดีแค่ไหนเวลาเรามีเพื่อนอยู่ในประเทศที่เราไปเที่ยว)” เลโอว่าจบก็หันไปขยิบตาให้ไอติมที่ฟังไม่ทันหรอกว่าเขาพูดอะไรกัน แต่อีกคนขยิบตาและยิ้มให้ เลยขยิบตากับยิ้มตอบจนหนุ่มกรุงปราก (ที่ไอติมคิดเองว่าเขาน่าจะมาจากที่นั่น) หัวเราะเสียงทุ้ม พอหันไปมองหนุ่มลอสแองเจลิสก็เห็นว่ากำลังทำหน้าระอาอยู่ ไบรอั้นหมุนตัวเดินไปทางประตูห้องนอนของไอติม เปิดประตูเข้าไปด้านใน ไอติมหันมองร่างไบรอั้นหายเข้าไปในห้องนอนตัวเองแล้วยิ้มกว้างเริงร่าก่อนหันกลับมามองเลโอที่ยิ้มรออยู่ก่อนแล้ว


“If you want what thing เอิ่ม anything หรือ something วะ เอ่อ tell me นะ if you want what” แปลตรงตัวไปเลยนี่แหละ ยากนัก


“Dekuji.” เลโอก้มหน้าลงมาใกล้หน้าไอติมแล้วจูบริมฝีปากไอติมไปหนึ่งที เจ้าของบ้านกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความอึ้งและงง เลโอคลี่ยิ้มกว้าง ไอติมยิ้มกว้างแบบงุนงง


“It means thank you in Czech language. I kiss you because it is my traditional. (หมายถึงขอบคุณในภาษาเช็กน่ะ ฉันจูบนายเพราะมันเป็นวัฒนธรรมฉัน)” ไอติมจับใจความประโยคนี้ได้แบบไม่หมด แม้จะไม่มั่นใจนัก แต่ติ๊ต่างเอาว่าเลโอกำลังอธิบายว่าเมื่อกี้ที่ทำมันหมายความว่ายังไง


“อ๋อ okay” ไอติมยิ้มกว้าง เลโอยิ้มตอบ แม้ไอติมจะมองหน้าเขาแล้วนึกไปถึงน้องคอง แต่ก็ต้องบอกว่าเลโอก็ถือว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อ แม้จะไม่ใช่คนหล่อแบบที่จิ้มไปเลยว่าคนนี้หล่อ เป็นหล่อแบบแปลก ๆ แต่ก็คือหล่อ แถมหุ่นน่าจะดีมากด้วย ต้องรอเห็นตอนถอดเสื้อผ้าอีกที 


“I have the Czech’s name but it’s hard to call. (ฉันมีชื่อเช็กด้วย แต่มันเรียกยากน่ะ)” ไอติมเข้าใจประโยคนี้ เพราะไม่ใช่ประโยคยาก และเป็นประโยคที่ผ่านหูในชีวิตประจำวันเวลาคุยกับลูกค้าที่ร้านเดนนี่และตัวเดนนี่เองมาแล้ว


“Leo is cute. (ชื่อเลโอก็น่ารักดีฮะ)” เจ้าของชื่อยิ้ม ไอติมบิดลูกบิดให้เลโอและผลักประตูเข้าไปด้านใน เลโอหันมามองไอติมอีกที


“Thank you. (ขอบคุณ)” เลโอก้มลงจูบไอติมอีกรอบ แม้จะรู้แล้วว่าเป็นวัฒนธรรมของบ้านเลโอ แต่ก็อดตกใจเล็ก ๆ ไม่ได้


“You’re welcome. (ยินดีฮะ)” เลโอลากกระเป๋าเข้าไปในห้องและดันประตูปิดตามหลัง ไอติมย่นคิ้วหน้าตาสงสัยนิดหน่อยแต่ก็หมุนตัวเดินกลับไปทางห้องนอนของตัวเอง พอเปิดประตูเข้าไปด้านในก็ยิ้มกว้างให้กับไบรอั้นที่กำลังยืนมองวิวด้านนอกอยู่ที่ระเบียงปลายเตียงของไอติม เจ้าของห้องปิดประตูห้องนอนแล้ววิ่งเข้าไปกอดฝรั่งตัวสูงใหญ่จากทางด้านหลัง

V
v
v
 

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 24-09-2018 20:43:04
V
v
v


“I miss you! (คิดถึงคุณจัง!)” ไบรอั้นหมุนตัวกลับมาเลยทำให้ไอติมเอาหน้าซุกกับอกแน่น ๆ แทน


“We did not see only six days. (เราไม่ได้เจอกันแค่หกวันเอง)” ไอติมยิ้มกริ่มตาใส มองความหล่อแบบเครื่องหน้าคมชัดทุกสัดส่วนของคนหัวทองด้วยสายตาตื่นเต้นจนเจ้าของใบหน้าขำเบาๆ


“What makes you so excited? (อะไรทำให้ตื่นเต้นมากขนาดนี้กันล่ะ)” ไอติมนิ่งคิดตามที่อีกฝ่ายพูดสักแปบก่อนจะยิ้มแล้วค่อยตอบ


“You. (คุณไง)”


“Why? (ทำไมล่ะ)” ไอติมยิ้มตื่นเต้น สองมือลูบแผ่นหลังของไบรอั้นผ่านเสื้อกล้ามเบาๆ


“You are in my room now! (คุณอยู่ในห้องผมตอนนี้!)” ไอติมพูดช้า ๆ ชัด ๆ ทีละคำเพื่อให้อีกคนได้ยินแบบไม่ผิดเพี้ยน ไบรอั้นกระตุกยิ้มมุมปาก


“Thank you to let me and Leo stay here. (ขอบคุณที่ให้ฉันกับเลโอพักที่นี่)” ไอติมยิ้มตาหยีก่อนตอบเสียงใส


“Full heart. (เต็มใจ)” ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นงง ๆ แต่ก็หัวเราะกับการพยายามใช้คำศัพท์ของไอติม เขาแปลออกว่านั่นแปลว่าอะไร แต่คิดว่าความหมายกับประโยคที่ใช้น่าจะไม่ได้ใช้ในรูปแบบนี้


“You mean it’s your pleasure? (หมายถึงเต็มใจใช่รึเปล่า)”


“Pleasure?” ไอติมทวนคำศัพท์คำนั้น ขมวดคิ้วเค้นความทรงจำในหัว คลับคล้ายคลับคลาว่าตัวเองเคยใช้คำนี้กับลูกค้าที่ร้านเดนนี่ แต่ก็นึกไม่ออก


ไบรอั้นเห็นว่าเจ้าเด็กลามกขมวดคิ้วแน่นเกินเลยเปลี่ยนเรื่อง “Your room is lovely. (ห้องนายน่ารักดี)”


ไอติมยิ้มกว้าง แล้วก็ทำหน้านึกอะไรขึ้นได้ เลยปล่อยแขนออกจากตัวไบรอั้น เดินไปหน้าตู้ไม้สีน้ำตาลแก่แบบมีประตูบานเลื่อนสำหรับเปิดปิดที่ตั้งอยู่ใกล้กับประตูกระจกออกไประเบียง ไอติมปลดล็อคบานเลื่อนแล้วใช้มือซ้ายดันไปทางเดียวกับมือ บานเลื่อนไม้ฝั่งที่ไอติมเปิด เลื่อนไปทับซ้อนกับบานเลื่อนไม้อีกอัน ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นแล้วเดินเข้าไปยืนข้างเจ้าเด็กลามก



“This! (นี่!)” ไอติมส่งเสียงร้องบอกอย่างภาคภูมิใจ ยกสองมือผายไปทางชั้นวางของในตู้ที่มีของวางอยู่ ตู้เก็บของเป็นแนวตั้งยาวและมีความลึกไว้สำหรับใส่ของได้เยอะ ๆ ข้างล่างมีลิ้นชักยาวอันเดี่ยว และด้านล่างสุดเป็นลิ้นชักอันใหญ่สองอัน


“Oh, wow.” ไบรอั้นพึมพำแผ่วเบาเมื่อเห็นโปสเตอร์ขนาดมาตรฐานที่เป็นรูปเปลือยทั้งตัวของตัวเองแปะเป็นแบ็คกราวด์อยู่กับผนังตู้ฝั่งที่ไอติมเปิดให้ดู เขาหันไปมองไอติมที่ยืนยิ้มแป้นแล้น เขาคลี่ยิ้มตอบแล้วหันไปมองชั้นเก็บขุมทรัพย์ของเจ้าเด็กลามกต่อ มีดิลโด้ที่หล่อมาจากของเขาอยู่ในกล่องสีเหลี่ยมสีขาวทรงสูงตั้งอยู่ข้างโปสเตอร์ ตรงกลางกล่องเป็นแผ่นแข็งใส ๆ ไว้โชว์ให้เห็นดิลโด้สีน้ำตาลอ่อน มีรูปเขาดึงขอบกางเกงชั้นในสีขาวทั้งสองข้างลงจนเกือบเห็นไอ้จ้อนสกรีนอยู่บนฝั่งซ้ายมือของกล่อง


“You dick! (จู๋คุณไงฮะ!)” ไอติมยิ้มตื่นเต้น ยื่นมือขวาไปกดสวิชต์ไฟสีดำเล็ก ๆ ตรงริมตู้ ไฟสีส้มสว่างขึ้นทำให้เห็นของในนั้นชัดเจน มีรูปโปสการ์ดของเขาอีกหลายสิบใบในอิริยาบถต่าง ๆ ทั้งแบบเปลือยและไม่เปลือย แปะติดเรียงรายแถวละสามอันใกล้กับโปสเตอร์


“โอ๊ะ!” ไอติมอ้าปากเป็นรูปตัวโอ ฝรั่งตัวใหญ่ทำหน้างง มองเจ้าของห้องเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กับประตูห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนของไอติม เจ้าเด็กลามกเปิดตู้เสื้อผ้า เอื้อมแขนขึ้นไปบนชั้นเก็บของด้านบนตู้แล้วหยิบกล่องดิลโด้แต่คนละรุ่นกับที่อยู่ในชั้นวางของลงมาแล้วหมุนตัวเดินกลับมาหาเขาที่เดิม


“This have your sign.” ไอติมจะสื่อว่าอันนี้มีลายเซ็นไบรอั้นด้วย เขาหันหน้ากล่องให้เห็นลายเซ็นสีดำที่ประทับอยู่บนแท่งเนื้อโคลนนิ่ง เจ้าของแท่งเนื้ออันนั้นยิ้มขำน้อย ๆ และพยักหน้า ไอติมเอากล่องใหม่เข้าไปวางข้างกล่องที่อยู่ในชั้น


“How many do you have my dildo? (นายมีดิลโด้ฉันกี่อันเนี่ย)” ไอติมเข้าใจคำถามนี้และกำลังทำหน้านึก ปากพึมพำนับจำนวน


“I think six. (ผมคิดว่าหกอัน)” พระเอกหนังผู้ใหญ่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ มองไอ้เด็กลามกที่ยิ้มร่า


“Six? (หกอันเลยเหรอ)”


“อื้อ!” ไอติมตอบพร้อมยิ้มแป้นแล้น อยากจะอธิบายว่าดูแลอันที่เอาไว้ใช้ช่วยตัวเองไม่ดีเท่าไหร่ เลยเกิดความเสียหายจนต้องให้ไอ้เดนไปซื้อมาให้ใหม่ แต่ก็สับสนคำศัพท์ที่จะใช้ ไหนจะมีอันที่เอาไว้ในตรงอ่างอาบน้ำ เผื่ออยากหยิบมาใช้ตอนแช่น้ำ และเอาไว้ใช้ลอยในน้ำเหมือนตุ๊กตาเป็ด แล้วยังมีบนเตียงอีกอันนึงด้วย


“Don’t tell me if you put six dildo in your ass. (อย่าบอกฉันนะว่านายยัดดิลโด้หกอันเข้าไปในก้นนาย)” ฝรั่งตัวใหญ่พึมพำด้วยความขำ และไม่ได้คิดต้องการคำตอบกลับ แค่เอ่ยแซวเล่น ๆ แต่คิดว่าเจ้าเด็กนี่คงไม่ทำแบบนั้น เพราะตอนเขาเอากับไอติม รูก้นไอ้เด็กมือไวยังฟิตใช้ได้ นาน ๆ ทีคงหยิบมาใช้


ไบรอั้นก้มตัวลงนิดหนึ่งเพื่อมองของด้านในตู้แบบใกล้ ๆ โปสเตอร์ที่ไอติมติดไว้บนผนังตู้เก็บของ เป็นรูปที่เขาถ่ายแบบเปลือยกายครั้งแรก นั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาสีเทา ขาขวาพาดพนักวางแขน สองแขนยกขึ้นเหนือหัว มือจับขอบเก้าอี้เอาไว้ ลูกชายของเขาแข็งตัวนอนราบไปกับหน้าท้องที่ยังไม่เฟิร์มเท่าตอนนี้แต่ก็มีกล้ามท้องให้เห็นแล้ว ถ้าเจ้าเด็กลามกมีรูปนี้ แสดงว่าต้องมีหนังสือเล่มนั้น ซึ่งก็ไม่ผิดคาด มุมขวามือติดกับผนังด้านข้าง เป็นหนังสือที่เขาเคยถ่ายแบบทั้งเปลือย เกือบเปลือย และไม่เปลือยวางตั้งเป็นระเบียบในที่วางหนังสือที่มีลักษณะคล้ายลังไม้แต่ไม่มีไม้ตีด้านข้าง มีแค่ไม้ปิดหัวปิดท้าย เหมาะแก่การวางหนังสือตั้งเรียงกัน เขาเอื้อมมือไปหยิบหนังสือเล่มแรกจากกล่องไม้เก็บหนังสืออันนั้น เป็นเล่มแรกที่เขาถ่ายแบบเกือบเปลือย เป็นเซ็ทกางเกงว่ายน้ำ ตอนนั้นเขาเพิ่งจะยี่สิบสองหรือยี่สิบสามนี่แหละ ตอนนั้นเจ้าเด็กนี่ยังไม่น่าเริ่มเข้าสู่ด้านนี้มั้ง… มั้งนะ


“Wow, you have this issue. How did you find that? (ว้าว นายมีเล่มนี้ด้วยเหรอ ไปหามาได้ยังไงเนี่ย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ แปบหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ตอบด้วยความไม่แน่ใจ


“เอ่อ ebay dot com” ไอติมไม่ทันเล่มนี้ ตอนนั้นตัวเองสิบกว่าขวบ ยังไม่รู้จักแซ็คหรือไบรอั้น ก็พยายามตามหาหนังสือที่เขาถ่าย ๆ ไว้ ก็ได้แอนโทนี่ช่วยแนะนำวิธีและเว็บอันนี้มานี่แหละ ส่วนตอนกดสั่งก็ให้เดนนี่ช่วย


ไบรอั้นบึนปากน้อย ๆ พร้อมกับพยักหน้า เอาหนังสือเก็บไว้ที่เดิม สายตาทันเห็นว่าปกที่สองที่อยู่ต่อจากเล่มแรก เป็นรูปหน้าปกที่เริ่มเห็นจู๋เขามากขึ้น แต่ก็เป็นแค่วับ ๆ แวมๆ


 “You use this? (นายใช้ไอ้นี่ด้วยเหรอ)” เขาขี้ไปที่กระบอกช่วยตัวเองหรือเรียกแบบเข้าใจง่าย ๆ ว่ากระบอกชักว่าวที่วางอยู่ข้างดิลโด้กล่องแรก ไอ้สิ่งนี้ไม่ได้มีต้นแบบจากรูก้นเขาหรอก แต่เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าตัวนี้


“Sometimes. (บางครั้งฮะ)” ไบรอั้นพยักหน้า เลื่อนสายตาไปมองลังไม้อีกอันที่วางถัดจากกล่องดิลโด้กับกระบอกช่วยตัวเอง ในลังอันนั้นมีดีวีดีตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบเหมือนลังหนังสือ เขายื่นมือไปหยิบมาหนึ่งกล่อง บนกล่องเป็นรูปเขายืนซ้อนหลังถ่ายคู่กับนักแสดงหญิงผิวขาวคนหนึ่งที่โชว์อกโตเต่งตึง และมีมือของเขากอบกุมส่วนกลางของเธอ เขากระตุกยิ้มและหันหน้ากล่องไปทางเจ้าเด็กลามก


“She’s hot but she is married now. (เธอร้อนแรงมาก แต่ตอนนี้แต่งงานไปแล้ว)” เขาอธิบาย นักแสดงหญิงคนนี้เป็นคนที่เจค็อบคัดมาให้แล้วว่าสามารถเล่นกับเขาได้ เขากับหล่อนไหลลื่นไปด้วยกันดีไม่มีปัญหา เธอเป็นมืออาชีพมาก


“I like scene you suck milk and fuck her hard.” ไอติมพยายามจะสื่อว่าชอบฉากที่ไบรอั้นก้มลงไปดูดนมของผู้หญิงในขณะที่กำลังเอาเธออย่างรุนแรง นักแสดงหนุ่มยิ้มขำ คิดว่าตัวเองเข้าใจในความหมายที่อีกฝ่ายพยายามสื่อ


“How many times do you watch my porn? (นายดูหนังโป๊ของฉันกี่ครั้งกันเนี่ย)” ไบรอั้นถามพลางยัดกล่องดีวีดีกลับเข้าไปที่เดิมและสุ่มเลือกหยิบออกมาอีกกล่อง ไบรอั้นหันมองหน้าเจ้าของห้อง พอเห็นว่ายังทำหน้ามึนงงสับสนเลยไม่คิดอยากได้คำตอบอีก เขาก้มลงมองดีวีดีกล่องใหม่ในมือแล้วก็ฉีกยิ้ม


“Ah! I have to accept that he is so good of riding my cock. (อ้า! ฉันต้องยอกรับนะว่าหมอนี่ควบไอ้จ้อนฉันเก่งมาก)” ไบรอั้นหันหน้าปกกล่องไปหาไอติม เป็นรูปเขานั่งอยู่บนโซฟาสีแดงตัวยาว และมีฝรั่งชายตาหวานคนหนึ่งนั่งคร่อมตักไบรอั้นและเหลียวหลังมามองกล้องด้วยสายตาเชิญชวน


ไอติมที่เข้าใจคำศัพท์นี้เพราะเจอในหนังโป๊บ่อยยิ้มร่าทันที “I want to ride it too. (ผมก็อยากควบบ้าง)”


ไบรอั้นหรี่ตามองเจ้าของห้องที่มองเขาอย่างมีความหวังแล้วก็ยิ้มมุมปากซ้ายหนึ่งที เขาเก็บกล่องดีวีดีเข้าไว้ที่เดิม ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อดีวีดีในกล่องนั้นมีอยู่ไม่มากนัก คาดคะเนจากสายตาก็น่าจะมากกว่าสิบหรือสิบห้า แต่ไม่น่าเกินสามสิบกล่อง


“This is all what you have? (นายมีเท่านี้เหรอ)” ไอติมอ้าปากค้างหน่อย ๆ แล้วสั่นหัวเพราะเข้าใจที่ไบรอั้นถาม


“No. This is your zone. (เปล่าฮะ อันนี้เป็นโซนของคุณ)” ฝรั่งหัวทองเลิกคิ้วขึ้น มองในชั้นวางของอีกที แล้วก็เห็นกางเกงในสีแดงตัวหนึ่งใส่ไม้แขวนแขวนอยู่ใกล้กับลังใส่ดีวีดี ข้างหลังยังมีกางเกงชั้นในอีกสามสี่ตัวแขวนเรียงกัน เขาขมวดคิ้วแปลกใจ ยื่นมือขวาไปหยิบกางเกงในสีแดงตัวแรกออกมาดู


“You wear this. I เอ่อ อะไรหว่า ประมูลมาอ่า” ไอติมนึกคำศัพท์ไม่ออกเลยทำหน้ายุ่งเหยิง


“You bid this underpants? (นายประมูลกางเกงในตัวนี้มาเหรอ)” ไอติมไม่แน่ใจว่าแปลว่าอะไรเลยทำนิ่ง แต่ไบรอั้นคิดว่าใช่ เพราะเขาจำได้ว่าเคยมีการประมูลชุดชั้นในนักแสดงในค่ายเขา และตรงเป้ามีลายเซ็นเขาอยู่ เขาอ้าปากค้างเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเหนือชื่อของเขาขึ้นไปมีเขียนว่า


To ice-cream…


บนดิลโด้ไม่ใช่ลายเซ็นแรกของเขาที่ให้เจ้าเด็กนี่สินะ


“You wear this underpants in porn. I can remember. You sexy so much. (คุณใส่กางกงในตัวนี้ในหนังโป๊ ผมจำได้ คุณเซ็กซี่มากกก)” ไอติมอยากจะอธิบายเพิ่มเติมว่า ฉากที่เขาใส่กางเกงในสีแดงตัวนี้และเอาผู้ชายคนหนึ่งทั้งที่ไม่ได้ถอดออก ปล่อยมันคาไว้ใต้ไข่ มันทำให้เขาเซ็กซี่มาก จนไอติมต้องไปถามกับแอนโทนี่ว่าจะขอซื้อต่อได้มั้ย แอนโทนี่หายไปสองวันก่อนจะมาบอกว่าทางค่ายจะเปิดประมูล เงินที่ได้จะเอาไปให้การกุศล


ก็ถือว่าทำบุญอะเนาะ


“I’m not sure if they clean it or not before send it to you. (ฉันไม่แน่ใจว่าพวกเขาซักรึยัง ก่อนส่งมาให้นาย)”


“No. I don’t want clean. (ไม่ฮะ ผมไม่ได้ได้อยากให้เขาซัก)” ไอติมถามแอนโทนี่ทางแชทแล้วหลายครั้งว่ายังไม่ได้ซักแน่นะ เพราะเขาอยากได้กลิ่นของแซ็คติดมาด้วย พอมาถึงมือ แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ทำคือแกะออกมาดม แม้จะไม่แน่ใจว่ากลิ่นแซ็คเป็นยังไง แต่ก็คิดให้ชื่นใจว่ากลิ่นแซ็คไม่ผิดเพี้ยนแน่


ไบรอั้นมองไอติมด้วยความตะลึง กะพริบตาปริบ ๆ มองเจ้าเด็กลามกที่ยิ้มตาใสให้เขา สุดท้ายก็อดจะขำไม่ได้ที่เจ้าเด็กนี่ดูจะเป็นซูเปอร์แฟนของเขาอย่างที่ปากว่าจริงๆ “And that is all about my underpants? Oh, you have swimming trunks? (แล้วนั่นก็กางเกงในฉันหมดเลยสิ โอ้ นายมีกางเกงว่ายน้ำด้วย)”


ไบรอั้นมองไม้แขวนสิบกว่าอันด้วยความทึ่ง มีทั้งกางเกงชั้นในและกางเกงว่ายน้ำ มีบ็อกเซอร์หลงมาตัวนึงด้วย คิดว่าไม่ต้องถามก็น่าจะได้คำตอบว่าเจ้าเด็กนี่ได้มาได้ยังไง คงทำการติดต่อซื้อขายผ่านไอ้แอนโทนี่มาแน่ ๆ ไม่งั้นไม่ได้มาขนาดนี้หรอก เพราะแต่ละตัวเขาคิดว่าเขาใส่เข้าฉากมาแล้วทั้งนั้น และมีบางตัวที่เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใส่ฉากไหนในเรื่องอะไร ที่เขาสงสัยคือไอ้เด็กลามกมันเลือกจากอะไรว่าจะเอาตัวไหนมาเก็บไว้ในตู้ขุมทรัพย์อันนี้


“How did you choose it, to put it in this shelf? I mean why are these pants. You choose from what you like? (นายเลือกยังไงให้มาอยู่ในชั้นนี้ ฉันหมายถึง ทำไมเป็นกางเกงในพวกนี้ เลือกจากที่ชอบเหรอ)” ไบรอั้นว่าพลางแขวนกางเกงในไว้ที่เดิม ไอติมที่เงียบไปพักนึงเพราะแปลงสารในหัวตัวเองตอบออกมาอย่างงงๆ


“เอ่อ I want all you wear but money not more to buy. So, I choose from you wear and feel sex very much.” ไอติมอยากจะบอกแซ็คว่า อยากได้ทั้งหมดที่แซ็คใส่ แต่เงินไม่พอซื้อ เลยเลือกอันที่แซ็คใส่แล้วตัวเองรู้สึกว่ามันยั่วเยมากๆ


ไบรอั้นขมวดคิ้ว พยายามทำความเข้าใจประโยคของไอติม ไม่มั่นใจนักว่าที่ตัวเองเข้าใจนั้นถูกต้องมั้ย และเพราะกลัวว่าจะต้องมานั่งหาความหมายกันยาวเหยียดเพราะไอติมจะขยายความอีกหากเขาถามต่อ เขาเลยเลือกไม่ถาม ทำเพียงพยักหน้ารับเบา ๆ แล้วใช้มือขวาเลื่อนเปิดบานเลื่อนอีกฝั่ง ไอติมกดสวิตช์เปิดไฟให้


ฝั่งนี้มีหนังสือมากกว่าฝั่งโซนเขา และดีวีดีก็มีมากกว่า แต่ไม่มีโปสเตอร์ใครติดอยู่ มีขวดเจลหล่อลื่นสองขวดที่เขาจำได้ว่าเป็นแบรนด์ดังของในวงการหนังผู้ใหญ่ มีกระบอกช่วยตัวเองสีใสตัดสีดำแบบมีรีโมตคอนโทรลที่ไม่ได้มาจากบริษัทที่เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่ยังดูใหม่เอี่ยม เดาว่าคงใช้ไม่บ่อย รึไม่ก็ไม่เคยใช้เลย แล้วยังมีเครื่องสั่นสีดำวางอยู่ใกล้กัน ไบรอั้นยิ้มขำพลางแหวกหนังสือดู เป็นหนังสือโป๊เปลือยเป็นส่วนใหญ่ หน้าปกก็มีนายแบบที่รับจ็อบเสริมเนื่องจากการถ่ายแบบพวกนี้ได้ค่าตัวเยอะ บางคนก็ได้เข้าวงการหนังผู้ใหญ่เพราะถ่ายแม็กกาซีนแนวนี้ บางปกก็เป็นนักแสดงชายในวงการที่เขาคุ้นตาอยู่บ้าง รวมถึงมีลูคัสด้วย


“Don’t forget to keep Leo’s cover soon. (อย่าลืมเก็บปกของเลโอเร็ว ๆ นี้ด้วยล่ะ)” ไอติมเอียงหน้าสงสัย


“Leo?” ไบรอั้นคลี่ยิ้มบาง หยิบแม็กกาซีนปกนักแสดงชายต่างค่ายคนหนึ่งขึ้นมาเปิดดู


“Yes, he has finished shooting before come to Thailand. Don’t forget to support him. (ใช่ เขาเพิ่งถ่ายก่อนมาเมืองไทย อย่าลืมอุดหนุนเขาล่ะ)” ไอติมอ้าปากค้าง


“He is a porn actor, too? (เขาเป็นนักแสดงหนังโป๊ด้วยรึเปล่าฮะ)” คนถูกถามเก็บหนังสือไว้ในลังตามเดิม และเลือกหยิบดีวีดีออกมาหนึ่งกล่อง เขายิ้มขำเพราะที่หยิบมาเป็นหนังของลูคัส


“I don’t know. But I think he wanted to have porn with you. (ไม่รู้สิ แต่คิดว่าเขาอยากมีหนังโป๊กับนายนะ)” เจ้าของบ้านไม่ได้มีท่าทีตกใจที่ได้ยินประโยคนั้น ไม่รู้ว่าเพราะแปลไม่ออกหรือเพราะชอบ และไบรอั้นคิดว่าน่าจะเป็นอย่างหลัง เพราะเจ้าเด็กลามกกัดริมฝีปากล่างและกลืนน้ำลายลงคอ


 “Don’t you want to fuck with him? (ไม่อยากเอากับเขาบ้างเหรอ)” ไบรอั้นหันหน้ากล่องดีวีดีให้ไอติมดู ร่างบางมองหน้าปกดีวีดีที่เป็นรูปลูคัสยืนเปลือยท่อนบนท่อนล่างใส่กางเกงยีนสีเข้ม แบ็คกราวด์เป็นภาพต้นมะพร้าวและทะเลสีคราม แผ่นนี้เป็นลูคัสคนเดียวทั้งเรื่อง ช่วยตัวเองตามสถานที่ต่าง ๆ ถึงจะมีแค่เขาคนเดียว แต่ไอติมก็คิดว่าลูคัสเอาอยู่ที่แท้จริง และหนังเรื่องนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ไอติมทำโจทย์งานที่ลูคัสให้มาอีกด้วย


“Fuck with Lukas? (เอากับลูคัสเหรอ)” ไบรอั้นพยักหน้า ไอติมทำหน้าครุ่นคิด


“I feel with him like my daddy. (ผมรู้สึกว่าเขาเหมือนพ่อผม)” เหมือนในที่นี้ ไอติมไม่ได้จะบอกว่าเหมือนพ่อตัวเอง แต่ลูคัสให้ความรู้สึกว่าเป็นพ่อของตัวเอง


“Then fuck with daddy. (งั้นก็เอากับพ่อซะสิ)” ไบรอั้นว่า แล้วเก็บแผ่นหนังเข้าไปที่เดิม หยิบกล่องดีวีดีออกมาอีกเรื่อง คราวนี้เป็นหนังโป๊เกย์คลาสสิคที่เดาเอาจากหน้านักแสดงที่ตอนนี้น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับลูคัส ไม่ก็แก่กว่าลูคัสแล้วก็มี


“This story is so good. (เรื่องนี้ดีมากเลย)” ไอติมยกนิ้วโป้งเป็นการบอกว่าดีจริง ๆ เรื่องนี้ไม่ได้มีเทคนิคอะไรเยอะ แต่นักแสดงเล่นเป็นธรรมชาติ ไม่เสียวเว่อเกินมนุษย์ ทุกซีนเป็นเหมือนคนทั่วไปเอากัน มีดูเว่อบ้างบางฉาก แต่โดยรวมคือกลมกล่อม


ไบรอั้นเบะปากเล็ก ๆ เก็บกล่องดีวีดีเข้าที่เดิม หยิบอีกกล่องและอีกกล่องออกมาดู หนังที่อยู่ในตู้ฝั่งนี้ไม่ได้มาจากค่ายเขาทั้งหมด ถึงจะเป็นสมาชิกโกลด์เด้นท์การ์ดค่ายเขา แต่คิดว่าเจ้าเด็กลามกคงไม่จมปลักกับค่ายเขาค่ายเดียวหรอก


“Did you watch it all? (นายดูหมดทุกเรื่องรึยัง)” ไบรอั้นชี้แถวดีวีดีที่วางเรียงยาว ไอติมคลี่ยิ้มและพยักหน้าอย่างแข็งขัน ก่อนตอบเสียงฉะฉาน


“All!” ไบรอั้นหัวเราะเสียงดัง และนึกทึ่งไม่น้อย เพราะดีวีดีที่อยู่ในตู้นี้มีเยอะใช่เล่น เขาเก็บดีวีดีเข้าที่เดิมและหยิบออกมาดูอีกกล่องโดยไม่ได้มองว่าไอติมกำลังยิ้มประหลาดใจกับเสียงหัวเราะของตัวเองเมื่อกี้นี้


“Can you tell me now, about who told you my real name? (บอกได้รึยังว่าใครเป็นคนบอกชื่อจริงฉันกับนาย)” ฝรั่งหัวทองหันมาถาม ไอติมที่กำลังยิ้มแย้มกลายเป็นยิ้มค้าง เขาไม่เข้าใจทั้งประโยคหรอก แต่ได้ยินคำว่า real name ก็เก็ทแล้วว่าไบรอั้นจะถามอะไร ไอติมยิ้มแห้ง และนั่นก็ทำให้ฝรั่งหัวทองรู้ว่าเจ้าเด็กนี่จะไม่ยอมบอก เขาเลยยักไหล่สองข้างขึ้นแบบเซ็งๆ


“Don’t tell anyone then. (งั้นก็อย่าบอกใครแค่นั้นแหละ)” ไอติมส่ายหัว หน้าตาจริงจัง ไบรอั้นพยักหน้าเชื่อ เพราะจากการที่ได้รู้จักกันมา เจ้าเด็กนี่ถือว่าเป็นเด็กดี เชื่อฟังที่เขาพูด


“And what is it? (แล้วนี่อะไรล่ะ)” ไบรอั้นชี้ไปที่ลิ้นชักยาวที่อยู่ใต้ชั้นวางของด้านบน ไอติมปิดไฟบนชั้นวางของและเลื่อนบานปิดตามด้วยกดล็อคให้เรียบร้อย หยิบกุญแจบนหลังตู้ที่อยู่ในกล่องไม้อันเล็กมาไขแล้วดึงเปิดออก ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจแต่ก็ไม่ได้ตกใจใหญ่โต


“Are you s and m? (นายเป็นซาดิสม์และมาโซคิสม์เหรอ)” ไบรอั้นถามอย่างประหลาดใจเพราะว่าหน้าตาไอติมดูไม่น่าชอบอะไรแนวนั้น ไอติมยิ้มเขินอายก่อนตอบ


“No. I think it’s beautiful thing. (เปล่าฮะ ผมแค่คิดว่ามันสวยดี) Like เอ่อ collection.  (เหมือน เอ่อ ของสะสมอะ)”


ไบรอั้นพยักหน้าเข้าใจ มองอุปกรณ์ทางเพศหลายสิบชิ้นที่วางอยู่บนพรมสีแดงผืนหนา เขาเลือกหยิบห่วงวงกลมสีเงินที่มีเหล็กเส้นเดี่ยวสีเดียวกันเชื่อมเป็นเส้นโค้งและไปงอตั้งขึ้นเป็นมุมฉากช่วงท้าย ที่ปลายสุดของเส้นเหล็กเป็นลูกเหล็กทรงกลมสีเงินวาววับ ไบรอั้นพิจารณามันสักแปบก่อนจะนึกออกว่ามันเอาไว้ใช้ทำอะไร เขามองของที่อยู่ในมือสลับกับมองหน้าไอติมครู่หนึ่งก่อนจะยกยิ้มมุมปาก แววตาสีเทาอ่อนวิบวับด้วยความสนุกสนาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ไอติมยิ้มดีใจออกมา


เพราะเป็นแววตาที่ไอติมไม่เคยเห็นแซ็คแสดงออกมาก่อนเลยนับตั้งแต่ได้รู้จักกัน


“You never use this thing with yourself, do you? (นายไม่เคยใช้ของพวกนี้กับตัวเองเลยใช่มั้ย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ เพราะกำลังคิดคำแปล พอคิดว่าน่าจะแปลถูกแล้วก็อ้าปากพะงาบแปบนึงก่อนจะสั่นหัวรัวๆ


“What do you say if I’m going to use it with you? (นายจะว่าไงถ้าฉันจะขอใช้ไอ้นี่กับนาย)” ไอติมที่กำลังยิ้มดีใจที่ได้เห็นแววตาเปล่งประกายซุกซนของแซ็คเปลี่ยนเป็นยิ้มงง ๆ มองแซ็คที่พยักหน้าและยิ้มเจ้าเล่ห์ ซึ่งก็เป็นรอยยิ้มที่ไอติมไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกันนับตั้งแต่รู้จักกันมา


“หะ ฮะ again please.” ไบรอั้นยิ้มขำ แววตายังคงวิบวับเหมือนเดิม


“Say yes for me. (ตอบตกลงกับฉันสิ)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ อย่างงุนงงเพราะมัวแต่หลงกับแววตาและรอยยิ้มของแซ็ค


“Yes.” แซ็คยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มกว้างที่เจิดจ้าเหลือเกินและเป็นรอยยิ้มที่ไอติมเพิ่งได้เห็นจากผู้ชายคนนี้


ว่าแต่ yes อะไร เป็น yes แบบ yed ได้รึเปล่านะ
 
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-09-2018 21:54:02
น้องไอติมมาไกลมากเลยค่ะลูก โห คลังสมบัติหนูนี่ไม่ธรรมดาเลย.  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Elf_Carat ที่ 24-09-2018 23:49:11
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-09-2018 00:03:26
ลองของใหม่เนอะไอติม 555555555555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Opolniscute ที่ 25-09-2018 00:24:37
 :pighaun: :pighaun: 3p กับเลโอสักครั้งแน่เลย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-09-2018 01:42:52
มีของสะสมเยอะแบบนี้ แม่รู้ไหมเนี่ย  :hao4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: แพรพลอย ที่ 25-09-2018 12:15:34
คลังสมบัติหนูเยอะมากเลยลูกกกกกก
โอ๊ย เห็นอิพี่ชวนน้องใช้ของพวกนั้นแล้วใจบ่ดี
สงสัยต้องเตรียมทิชชู่ไว้ซับเลือดรอตอนหน้าแล้ว -...-
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 25-09-2018 13:29:18
เอ็นดูน้องติม เป็นคลังสมบัติที่น่าอิจฉาสุดๆจ้า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: doubleu ที่ 25-09-2018 16:23:52
รักความจริงใจของน้องไอติม
ตาแซ็ค ไหนบอกแค่ครั้งเดียว นี่หลอกล่อไอติมจะทำครั้งที่สามละ แถม sm ไปอี๊กกก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 25-09-2018 17:20:44
น้องลูกกก  :m20:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 25-09-2018 20:21:27
 :hao6:  :hao6: :hao7: เข้าทางน้องติม55555555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: NaunaeZaa ที่ 25-09-2018 23:15:01
อยากอ่านฉาก 3p แล้ววววว555555//ขอบคุณสำหรับนิยายค่า :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 26-09-2018 06:14:06
ชอบตอนนี้​มากๆเลยค่ะ​ ตื่นเต้น​ตาตื่นใจกับของสะสมน้องไอติมมาก​ น้องต้องรวยระดับหนึ่งถึงซื้อของสะสมขนาดนี้ได้​ ถ้าเราเป็นพระเอกคงว้าว​ มันว้าวมาก​ ไม่รู้ใครเป็นเสือใครเป็นเหยื่อเลยสองคนนี้​ ไอติมน่ารัก​ หื่นแบบใสใสมาก555​  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 26-09-2018 08:55:30
โอ๊ยเอ็นดู


ไอติมหนู ติ่งเบอร์1 เลยค่ะ


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 26-09-2018 12:22:03
รอน้องติมเล่น sm  5555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 27-09-2018 22:00:52
คลังของน้องติม  o22
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: sariozzzz ที่ 29-09-2018 00:58:53
สนุกมากเลยค่ะ รออ่าน 3P แบบสุดสุด
น้องติมหนูเซย์เยสดัแล้วลูกกกกก แม่รอซีนแบบนี้อยู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 29-09-2018 11:32:19
ติมลู้กกกก อิพี่ขออะไรยังไม่ทันจะแปลเลยหนูเซย์เยสซะแล้ว  :-[
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 29-09-2018 16:17:59
อื้ออออหื้อออออ พอรู้ของสะสมของน้องนี่  :z1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.12 :Treasure closet. :24.09.18
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 01-10-2018 19:26:49
อื้อหือ ของสะสม  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 03-10-2018 19:20:12
Fall in lust, Chapter 13 :: Promise. (สัญญา)




   “Bryan, wake up, wake up, wake up. (ไบรอั้น ตื่น ตื่น ตื่น)” เสียงใสดังแว่ว ๆ มาพร้อมกับแรงสะกิดที่หัวไหล่เบา ๆ ฝรั่งหัวทองที่นอนหลับอยู่บนเตียงลืมตาขึ้นแบบเบลอ ๆ ปรับสายตากับแสงไฟสักแปบก่อนจะหันไปมองเจ้าของห้องที่กำลังถือกล้องวีดีโอสีดำแบบมีฝาพับสำหรับเป็นจอไว้มองภาพที่ถ่าย เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนยกมือซ้ายขึ้นลูบหน้าช้า ๆ และพ่นลมหายใจออกมายาวๆ
   

“What time is it? (กี่โมงแล้ว)” คำถามนี้ไอติมเข้าใจอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นประโยคพื้นฐานในการสื่อสาร
   

“เอ่อ seven. (ทุ่มนึง)” มันยังไม่ทุ่มนึงจริง ๆ หรอก อีกเกือบยี่สิบนาทีถึงจะเป็นเวลาที่ไอติมบอก แต่เจ้าเด็กลามกนึกไม่ออกว่าต้องพูดยังไง เลยรวบรัดว่าเป็นหนึ่งทุ่มไปเลยแล้วกัน
   

“And what are you doing? (แล้วนายกำลังทำอะไรน่ะ)” ไบรอั้นหรี่ตามองไปที่เลนส์กล้องกลม ๆ ยื่นมือซ้ายขึ้นไปทำท่าจะจับกล้องมาดู แต่ไอติมเบี่ยงหนีและหัวเราะคิกคัก
   

“Work, Lukas give me อะ” ไบรอั้นนิ่งไปสักแปบและเข้าใจว่าเจ้าเด็กมือไวใจกล้าคงหมายถึงกำลังทำงานที่ลูคัสมอบหมายให้ทำอยู่
   

“Does he need to have the shot like this? (จำเป็นต้องมีภาพอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ)” เขาหมายถึงภาพเพิ่งตื่นแบบหน้าตาง่วง ๆ มึน ๆ แบบนี้ เจ้าเด็กนั่นไม่รู้ว่าฟังไม่ออกหรือกำลังเพลินเลยทำเพียงยิ้ม ก่อนจะใช้มือซ้ายดึงผ้านวมที่ปิดร่างเปลือยเปล่าของเขาอยู่ลงไปด้านล่างจนเผยให้เห็นลูกชายเขาที่กำลังนอนสลบอยู่บนกล้ามท้อง
   

“โวะโฮ้ววว hello, cock. (สวัสดีคxx)” ไบรอั้นถึงกับหลุดขำออกมาเสียงดังแต่ก็ไม่ใช่ดังลั่นห้อง ไอติมเลื่อนจากจุดกลางตัวของไบรอั้นไปที่หน้าของเขาที่กำลังยิ้มกว้างจนหางตาแทบปิด
   

“Good evening, Bryan. (สวัสดีตอนเย็นฮะไบรอั้น)” ไอติมยิ้มร่า ท่าทางดุ๊กดิ๊กอยู่บนเตียง
   

“You say hi to my cock before say hi to me. (นายทักทายไอ้จ้อนฉันก่อนทักฉันซะอีกนะ)” ไบรอั้นยิ้มขำ มองเจ้าเด็กหัวดำที่กำลังไล่กล้องไปตามตัวเขา สักพักก็ยื่นมือซ้ายมาลูบท้องเขาเบาๆ
   

“Dinner time? (ได้เวลาอาหารเย็นแล้วเหรอ)” ไบรอั้นถาม ปล่อยให้เจ้าเด็กลามกใช้มือซ้ายรูดรั้งลูกชายเขาเบา ๆ ในขณะที่มือขวาก็ถือกล้องถ่ายไปด้วย
   

“อือฮึ hungry มั้ย” ไอติมหันไปมองหน้าไบรอั้นแต่มือซ้ายยังกำส่วนนั้นไว้ไม่ปล่อย หนุ่มหัวทองยกแขนซ้ายขึ้นหนุนหัวและพยักหน้าหนึ่งที
   

“Yeah, I could eat a horse, maybe. (หิว ฉันอาจจะกินมาได้ทั้งตัวเลยก็ได้)” ไอติมย่นคิ้ว กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงง
   

“You want eat horse เหรอ… กินม้าอะนะ เอ่อ at my mom shop don’t have horse (ที่ร้านแม่ไม่มีม้า)”
   

ไบรอั้นหัวเราะอ้าปากกว้างอีกครั้ง ไอติมยิ้มงง แต่ที่ไม่งงคือมือที่จับของดีของแซ็คไม่ปล่อยเลย เจ้าของแท่งเนื้อหัวเราะจนตัวสั่น ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “It’s mean I’m hungry so much. (หมายความว่าฉันหิวมากต่างหาก)”
   

ไอติมอ้าปากอ๋อและพยักหน้าหงึก ๆ มองสิ่งที่อยู่ในมือที่ดูคล้ายว่าจะตื่นนอนตามพ่อแล้ว “It’s long 8, right? (ยาวแปดนิ้วใช่มั้ยฮะ)”
   

ไบรอั้นกระตุกยิ้มและยักคิ้วสองข้างขึ้นหนึ่งทีก่อนจะเสริม “Eight point two. (แปดจุดสอง)”
   

ไอติมกัดริมฝีปากล่างและยิ้ม มือซ้ายบีบเนื้อนุ่มที่กำลังจะกลายเป็นเนื้องแข็งเบา ๆ ไบรอั้นมองหน้าไอติมแล้วขยับมุมปากขำน้อยๆ “Should we hurry? Your mom is waiting, huh? (เราควรรีบมั้ย แม่นายรออยู่นี่ ฮึ)”
   

ไอติมหันไปยิ้มให้ไบรอั้น “Mom prepare food. Mom will call me. (แม่เตรียมอาหาร แม่จะโทรหาผม) Are you tired? (เมื่อยมั้ย) Message?”
   

ไบรอั้นขมวดคิ้วกับคำที่ไอติมพูด ไอ้ก่อนหน้าคำสุดท้ายน่ะเข้าใจนะว่าบอกอะไรและถามอะไร แต่อันสุดท้ายนี่มันเกี่ยวกับข้อความยังไง “Message? (ข้อความเหรอ)”
   

ไอติมปล่อยมือซ้ายจากเนื้อที่เริ่มแข็งแบบอ่อน ๆ แล้วไปบีบหน้าอกขวาของไบรอั้นเบาๆ “เนี่ย ๆ message, I will message you.”
   

ไบรอั้นอ้าปากค้างเป็นรอยยิ้มขำ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะเป็นเสียงหัวเราะ “You mean massage? (นายหมายถึงนวดรึเปล่า)”
   

ไอติมทำหน้าคิด ภาพในจอกล้องตอนนี้คือภาพมือของไอติมกำลังลูบนมแซ็คอยู่ “Yes, yes.”
   

คนที่นอนอยู่ขำแบบไม่เสียง ไอติมเลื่อนกล้องขึ้นไปบนหน้าไบรอั้นอีกที “Can you do that, a massage? (นายทำเป็นเหรอ นวดน่ะ)”
   

“อื้อ!” ไบรอั้นหรี่ตาลงมอง ชั่งใจแปบหนึ่งก่อนจะพยักหน้า เพราะอยากเห็นฝีมือนวดของเจ้าเด็กลามกว่าจะออกมาปกติหรือออกมาพิสดาร
   

“Don’t break my bones. (อย่าทำกระดูกฉันหักล่ะ)” ไอติมน่ะยิ้มตั้งแต่เห็นขวัญใจตัวเองพยักหน้าตอบรับแล้ว เลยแปลไม่ออกหรอกว่าประโยคที่เขาพูดแปลว่าอะไร ไอติมกดหยุดถ่ายคลิป ปิดฝาพับเข้ากับกล้องแล้ววางไว้บนหัวเตียง
   

“You should tell Leo to prepare for dinner. (นายควรบอกเลโอให้เตรียมตัวสำหรับดินเนอร์นะ)”
   

“Leo? (เลโอเหรอ)” ไบรอั้นพยักหน้า
   

“Tell him about dinner. (บอกเขาเรื่องอาหารเย็น)” ไอติมทำปากว่าอ๋อและพยักหน้าหงึกๆ
   

“And we are going to talk about tonight again. (ส่วนเรื่องคืนนี้เดี๋ยวเราคุยกันอีกทีแล้วกัน)” ไอติมนิ่งสักแปบเพื่อแปล พอเรียบเรียงคำศัพท์กับประโยคดี ๆ จนพอจะเข้าใจก็พยักหน้า พักนึงก็นึกอะไรขึ้นได้เลยลุกขึ้นชันเข่าแล้วคลานเข่าไปที่โต๊ะเขียนหนังสือของตัวเองที่ตั้งอยู่ข้างหัวเตียงฝั่งตรงข้ามประตูห้อง เจ้าของห้องนอนหยิบกระดาษเอสี่ที่บนนั้นมีตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนไว้ขึ้นมาหนึ่งแผ่นก่อนหมุนตัวเอากลับมายื่นให้ไบรอั้นที่รับไปแบบงงๆ
   

“What? (อะไรเนี่ย)” ไอติมยิ้มกว้าง
   

“Promise. (สัญญา)” ไบรอั้นเลิกคิ้ว ไม่แน่ใจว่าไอติมพยายามจะสื่อถึงสัญญาข้อตกลงอะไรทำนองนั้นหรือเปล่า เขาค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง ใช้แขนขวายันร่างตัวเอง มือซ้ายถือกระดาษแผ่นนั้น ไอติมคลานเข่าเข้าไปนั่งคร่อมฝรั่งตัวโต หนุ่มฝรั่งหันมองและกลอกตาหนึ่งที ไอติมยิ้มคิกคัก ยกแขนซ้ายขึ้นกอดคออีกฝ่ายไว้ ไบรอั้นยกมือขวาที่ดันเตียงอยู่ หยิบหมอนขึ้นมาวางตั้งแล้วเอนหลังไปพิง ใช้สองมือจับกระดาษแผ่นนั้นไว้แล้วเริ่มต้นอ่าน
   

“I’m afraid that I will speak not clearly because of my English skills. I have asked my friend to help me write this message. (ผมกลัวว่าจะพูดกับคุณไม่ชัดเจนเพราะทักษะภาษาอังกฤษของผม ผมเลยขอให้เพื่อนช่วยผมเขียนข้อความนี้)” ไบรอั้นหยุดอ่านแล้วเลื่อนสายตามองไอติมที่นั่งยิ้มแฉ่งคร่อมตักเขาอยู่ก่อนเลื่อนสายตากลับไปอ่านข้อความบนกระดาษต่อ
   

“While you stay in Thailand, can you spoil me about sex with you? Please don’t refuse me if I ask the intimate moment or steamy scene with you. I am very happy that you are with me now and I want you to make me happier. Don’t get me wrong that I am a selfish person, because I do really hope that I could make you a very happy, too. I am sorry if I make you feel uncomfortable what I am asking you now. I just want to have a good time, sex-good-time, with you. Keep it in my memory and in video. You know how happy I am to see you have a big smile and sparkling eyes when you are in my house. I feel like you could find the happiness from me and from here. Let’s enjoy this moment together. I do believe that I am a good boy, very good boy. So, a good boy should get the gift, right? (ช่วงที่คุณอยู่ไทย ตามใจผมเรื่องเซ็กซ์กับคุณได้มั้ย ถ้าผมขอมีช่วงเวลาวาบหวิวหรือมีอะไรด้วยกันกับคุณ อย่าปฏิเสธผมเลยนะ ผมมีความสุขมากที่คุณอยู่กับผมตอนนี้ และอยากให้คุณทำให้ผมมีความสุขยิ่งขึ้นไปอีก อย่าเข้าใจผิดว่าผมเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะผมก็หวังมาก ๆ ว่าผมจะสามารถทำให้คุณมีความสุขมาก ๆ ได้ ผมขอโทษถ้าสิ่งที่ผมขอทำให้คุณลำบากใจ ผมแค่อยากมีช่วงเวลาเซ็กซ์ดี ๆ กับคุณ เก็บไว้ในความทรงจำและในวีดีโอ คุณรู้มั้ยว่ามันมีความสุขแค่ไหนที่ได้เห็นคุณยิ้มกว้าง ๆ และตาเป็นประกายตอนคุณอยู่ในบ้านผม ผมรู้สึกเหมือนกับว่า คุณจะหาความสุขจากผมและจากที่นี่ได้ มีช่วงเวลาดี ๆ ด้วยกันเถอะนะ ผมเชื่อว่าผมเป็นเด็กดี เด็กดีมาก ๆ ด้วย แล้วเด็กดีก็สมควรได้รับรางวัลใช่มั้ยล่ะ)”
   

ไบรอั้นลดกระดาษลงและหรี่ตามองเจ้าเด็กลามกที่นั่งยิ้มดวงตาแพรวพราวอยู่ตรงหน้าเขา “Who tell you that you are a good boy? You are a super pervert and a scary assaulter. (ใครบอกนายว่านายเป็นเด็กดี นายมันสุดยอดเด็กลามกและคนขี้ลวนลามแสนน่ากลัวต่างหาก)”
   

ไอติมแปลไม่ออก จับใจความได้แค่ประโยคแรกที่ไบรอั้นถามแล้วก็หยุดความจำไว้แค่นั้น “Mom and น้า Pan tell me a good boy. (แม่กับน้าแพนบอกว่าผมเด็กดี)”
   

ไบรอั้นยกมือซ้ายตีหน้าผากเจ้าเด็กดีตามปากเจ้าตัวว่าเบา ๆ ก่อนเลื่อนสายตาอ่านบรรทัดสุดท้ายที่เหลือด้วยความรู้สึกเอือมหน่อย ๆ ผสมกับความตลกขับขันเล็ก ๆ เขาเงยหน้าขึ้นมองไอติมที่มองหน้าเขาอย่างมีความหวัง
   

“And you are a little-control freak. (และนายยังเป็นจอมบงการตัวน้อย ๆ อีกด้วย)” ไอติมกะพริบตาปริ๊บ ๆ ไม่เข้าใจคำศัพท์ที่พ่อฝรั่งหัวทองพูดออกมา พยายามทวนในหัวตัวเองก็ยังไม่ได้อยู่ดี
   

“Don’t behave like a spoiled child too much. Don’t be one of them. I’m sick with these people. (อย่าเอาแต่ใจตัวเองมากจนเกินไปล่ะ อย่าเป็นหนึ่งในคนพวกนั้น ฉันเหนื่อยกับคนแบบนี้)” ไบรอั้นมองหน้าไอติมที่ยิ้มแป้น ไม่แน่ใจว่าเจ้าเด็กลามกเข้าใจมากน้อยแค่ไหน


“I’m not sick. (ผมไม่ป่วย)” ไบรอั้นยิ้มขำอย่างอ่อนใจ แต่เขาจะถือว่าเป็นคำบอกของเด็กมันว่าจะไม่เป็นแบบนั้นก็แล้วกัน


“Yeah, you are healthy. (ใช่ นายแข็งแรงดี)” ว่าจบก็เด้งตัวขึ้นไปจูบปากไอติมหนึ่งจุ๊บแล้วก็เอนตัวกลับไปพิงหมอนตามเดิม ไอติมยิ้มกว้างดวงตาเปล่งประกาย ไม่ค่อยเก็ทหรอกที่เขาพูดตอบกลับมาเมื่อกี้ แต่ถ้าเขาจูบก็หมายถึงเขาตอบรับคำขอร้องของตัวเอง ไอติมยกสองมือขึ้นปรบมือเปาะแปะเหมือนเด็กยามที่ได้ของถูกใจ
   

‘If you are okay with this, say yes by kiss me then. (ถ้าคุณโอเคกับคำขอนี้ ตอบตกลงด้วยการจูบผมแล้วกันนะ)’
   

“Happy, happy, happy!” เด็กลามกพูดอย่างเริงร่าและยกนิ้วโป้งสองนิ้วให้ไบรอั้นเป็นการชื่นชม
   

“I can tell how you are happy. Well, tell Leo and come back to massage me as you said. (บอกได้เลยว่านายมีความสุขแค่ไหน เอาล่ะ ไปบอกเลโอ แล้วกลับมานวดให้ฉันอย่างที่บอกแล้วกัน)” ไอติมฟังออกไม่หมด แต่ได้ยินคำว่าเลโอเลยนึกขึ้นได้ว่าต้องทำอะไร


“โอ๊ะ เบาะนอนๆ” ไอติมพึมพำเป็นภาษาไทยคนเดียวแล้วลุกขึ้นจากตัวรูมเมทชั่วคราว เดินไปเปิดประตูห้องแล้วเดินไปประตูห้องที่อยู่เยื้องกัน


ก๊อกๆๆ


“เลโอ~” ไอติมร้องเรียกเจ้าของห้องชั่วคราว รอไม่นานประตูห้องก็ถูกดึงเข้าไปด้านใน ไอติมที่กำลังยิ้มร่าเปลี่ยนเป็นอ้าปากค้างและตาค้างกับสิ่งที่เห็น ปกติก็พูดภาษาอังกฤษติด ๆ ขัด ๆ อยู่แล้ว พอเจอเลโอเปลือยทั้งตัวเข้าไป คราวนี้ลืมทุกอย่างที่จะพูด ลืมทุกคำศัพท์หมดแล้ว


“เอ่อะ… เอ่อ…” ไอติมมองหุ่นของพ่อคิงคองแล้วเผลอกัดริมฝีปากล่าง นิ้วเท้าจิกลงกับพื้น 


“Sorry. (ขอโทษที)” แม้ปากจะบอกว่าขอโทษ แต่เลโอกลับเปิดประตูกว้างขึ้นและเขยิบมายืนตรงหน้าเจ้าของบ้าน ไอติมที่ยังคงกัดริมฝีปากล่างมองผิวเนียนสีน้ำตาลโกโก้รสเข้ม กล้ามท้องเรียงตัวกันเป็นระเบียบตั้งแต่ใต้ราวนมอันอวบอัด แต่กล้ามเนื้อไม่ได้เรียบยึดติดกระดูกซี่โครงและไม่มีเส้นเลือดปูดโปน มันเนียนตาและน่าลูบ วีเชฟก็ขึ้นรูปชัดเจน


“โฮะ” ไอติมอุทานแผ่วเบาเมื่อสายตาเริ่มมองต่ำลงไปอีกนิด ช่วงท้องน้อยของเลโอเป็นเนื้อท้องล้วน ๆ ไม่มีลูกกล้าม เป็นเนินนูนเล็ก ๆ แล้วลาดลงไปคล้ายปลายตัววี มือขวาของเขายกมือขึ้นลูบตรงช่วงบริเวณนั้น แล้วไล่มือลงไปตามความเนียนของเนื้อท้องน้อยไปกอบกุมความเป็นชายที่ห้อยหัวต่องแต่งแบบปิดไม่มิด ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ แล้วรีบเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาแทน รอยยิ้มคล้ายคิงคองยามอารมณดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา


“Do you need me to wear some close? (อยากให้ฉันใส่เสื้อผ้ามั้ย)” เลโอถามเสียงทุ้ม ไอติมที่สมองเบลอไปครึ่งนึงแล้วก็ยืนมึนแปลไม่ออก


“เอ่อ…” ไอติมกำลังบังคับสายตาตัวเองไม่ให้มองส่วนนั้นของเลโอ เรียกสติกลับมาและพยายามนึกคำศัพท์ที่จะใช้พูดกับเขา


“Prepare for dinner. Take a shower I will come call you again. (เตรียมพร้อมสำหรับอาหารเย็น อาบน้ำ ผมจะมาเรียกคุณอีกที)” เลโอยักคิ้วหนึ่งครั้ง ไอติมยิ้มแห้ง ยืนงงอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงประตูห้องตัวเองเปิดเลยหันไปมอง


“Hey,” ไอติมหันไปมองก่อนจะโดนหุ่นของแซ็คท่อนบนและท่อนล่างมีผ้าขนหนูพันไว้อย่างหมิ่นเหม่ดึงสมาธิไปจนเกือบหมด เจ้าเด็กลามกก้าวเท้ากลับไปหาขวัญใจตัวเอง หนุ่มหัวทองมองเพื่อนแล้วเลิกคิ้วขึ้น เลโอยิ้มมุมปากพร้อมกับดันประตูห้องปิดลงเบา ๆ ไบรอั้นยิ้มขำ


“What are you talking about with him? (คุยอะไรกันเหรอ)” ไอติมยิ้มกว้างและตามด้วยสั่นหัว ไม่ได้ปฏิเสธ แต่แค่จะบอกว่าคุยไม่รู้เรื่อง เพราะสติไม่ค่อยมี

V
v
v

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 03-10-2018 19:21:45
V
v
v


“Wait me a little นะ” ไบรอั้นพยักหน้า ไอติมวิ่งลงบันไดไปข้างล่าง หนุ่มหัวทองเดินกลับเข้าไปในห้อง เดินตรงไปที่ระเบียงที่ประตูเปิดรับลมอยู่ ห้องไอ้เด็กลามกลมเย็นสบายดีมาก ทั้งลมที่เข้ามาทางหน้าต่างและทางระเบียง เขาเดินออกไปมองวิวข้างนอก หลังบ้านของไอติมเป็นทุ่งอะไรสักอย่างที่ตอนนี้ไบรอั้นมองไม่ค่อยออก และถึงแม้ว่าเป็นตอนกลางวันก็อาจจะมองไม่รู้อยู่ดีว่าเป็นทุ่งอะไร เขากำลังจะละสายตาไปทางอื่น แต่หางตาทันเห็นว่าเจ้าของบ้านที่บอกให้เขารอนิดหน่อยกำลังพยายามดึงเบาะลอยน้ำสีฟ้าอันใหญ่ขึ้นมาสระว่ายน้ำขนาดเล็กที่อยู่หลังบ้านด้วยความทุลักทุเลเพราะไอ้เบาะอันนั้นใหญ่กว่าตัวคนถืออีก ไบรอั้นยืนกอดอกขำกับความพยายามในการแบกเบาะขึ้นมาจากน้ำของเจ้าเด็กมือไว


ที่ตลกก็คือเหมือนเขากำลังดูโชว์ตลกเงียบอยู่ เป็นฉากที่เจ้าเด็กนั่นแบกเบาะสี่เหลี่ยมอันใหญ่ขึ้นมาจากน้ำได้และพยายามเดินหน้าแต่ว่าโดนเบาะบังเลยหมุนตัวหาทิศไปเรื่อย สุดท้ายเลยเดินแบบกระเถิบข้างเหมือนปู ฝรั่งตัวใหญ่หัวเราะ ยื่นหน้าไปมองจนเห็นว่าไอติมหายเข้ามาในบ้านแล้ว เขาเลยเดินไปยืนรอตรงโซฟาสีดำตัวยาวปลายเตียง ได้ยินเสียงเดินตึงตังเบา ๆ ตามขั้นบันไดขึ้นมาจนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูห้อง เขานึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้สภาพไอติมทุลักทุเลแค่ไหนเลยเดินไปเปิดประตูให้อีกคนเข้ามาด้านในพร้อมกับเบาะลอยน้ำ


“What is this air-cushion for? (ไอ้เบาะลมอันนี้เอามาทำอะไร)” ไบรอั้นชี้เบาะลมลอยน้ำอันใหญ่และทำหน้าตาสงสัย


ไอติมเดาว่าอีกฝ่ายคงถามว่าเอาไอ้นี่ขึ้นมาทำไม “You sleep on this I will massage you. (คุณนอนบนนี้ ผมจะนวดคุณ)”


ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นงงๆ “Huh? (อะไรนะ)”


ไอติมขนเบาะอันนั้นเข้าไปในห้องน้ำ มีติดขัดเล็กน้อย ไบรอั้นช่วยยัดมันเข้าไปจนสำเร็จ ไอติมวางเบาะอันนั้นลงบนพื้นห้องน้ำ ขอบเบาะฝั่งนึงถูกโถส้วมที่ตั้งติดกำแพงระหว่างอ่างล้างหน้ากับอ่างน้ำดันไว้ ทำให้ขอบเบาะอีกฝั่งถูกดันไปเกือบเต็มกำแพงตรงข้ามเลยเหลือพื้นที่เดินแค่นิดเดียว


“I will do like Lukas in porn. He sleep on this and girl วึบวับ ๆ on Lukas. (ผมจะทำแบบลูคัสในหนังโป๊ ลูคัสนอนบนนี้แล้วผู้หญิงก็วึบวับ ๆ บนลูคัส)” ไอติมทำโยกตัวเด้งหน้าเด้งหลัง ไบรอั้นที่ยืนพิงขอบประตูห้องน้ำทำหน้างงสักแปบก่อนจะเริ่มรู้สึกว่าเก็ทขึ้นมานิดหน่อย


“Okay.” ไอติมยิ้มกว้าง เดินกระดึ๊บทีละนิด ๆ ออกมาจากซอกทางเดินที่เบาะเหลือ ไบรอั้นเบี่ยงตัวหลบให้ หันไปมองเจ้าของห้องเดินไปหยิบกล้องวิดีโอมาวางไว้ที่โซฟา แล้วก็เริ่มถอดเสื้อผ้าตัวเองจนเปลือยทั้งตัว ไอติมเดินไปเปิดลิ้นชักอันใหญ่ล่างสุดของตู้ขุมทรัพย์ หยิบขวดปั๊มทรงกระบวกอวบ ๆ ที่มีสลากสีดำติดอยู่บนตัวขวดขึ้นมาหนึ่งอัน ก่อนเดินกลับไปหยิบกล้อง เปิดฝาพับแล้วหันหน้ากล้องไปทางไบรอั้นที่ยืนกอดอกรออยู่


“พี่ Bryan~” เจ้าของชื่อมองกล้องแล้วเลิกคิ้วขึ้น


“Pee?” หนุ่มหัวทองทวนคำนำหน้าชื่อตัวเองอย่างงง ๆ ไอติมยิ้มกว้างและเขยิบเท้าเดินเข้าไปใกล้ฝรั่งตัวใหญ่


“พี่ brother, big brother in Thai. (พี่ชายในภาษาไทย)” ไบรอั้นพยักหน้า ไอติมยื่นมือซ้ายไปดึงผ้าขนหนูสีขาวของไบรอั้นออกจนเปลือยเปล่า อั้นย่อทิ้งตัวยาวเหยียดห้อยหัวลงพื้น


“คิๆ” ไอติมหัวเราะคิกคักด้วยความตื่นเต้น หันไปโยนผ้าขนหนูไว้บนโซฟา พอหันกลับมาก็ยื่นมือซ้ายไปรูดเอ็นอุ่นของไบรอั้นเข้าออก


“Are you sure you are going to massage me? (แน่ใจนะว่ากำลังจะนวดให้ฉัน)” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองไบรอั้นที่กำลังหรี่ตามองกลับมา ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายพูดอะไร แต่ได้ยินคำว่า massage เลยพยักหน้าหนึ่งครั้ง


“อื้อ massage” หนุ่มหัวทองหัวเราะน้อยๆ


“I don’t think so. (ฉันว่าไม่มั้ง)”


“Go, go inside. (ไป ไปข้างใน)” ไบรอั้นเลิกคิ้วขวาขึ้นและก้มลงมองมือไอติมที่กำลูกชายเขาไว้เต็มมือ เจ้าเด็กมือไวยิ้มเขินแล้วปล่อยมือออก เขามองกลางลำตัวของไอติมเห็นว่ามันเริ่มขยับทีละนิดก็เลยหัวเราะอ่อนๆ


“Easy pervert boy. (ใจเย็นเจ้าเด็กลามก)


ไบรอั้นหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำ เบาะลอยน้ำที่เจ้าของห้องเอาเข้ามาวาง กินพื้นที่ไปค่อนข้างเยอะ เหลือทางเดินแบบขอบ ๆ ไว้ เลยทำให้เดินลำบากนิดหน่อย แต่ด้วยความขายาวเลยก้าวข้ามผ่านเบาะลอยน้ำไปได้แล้วไปยืนหลังติดกับกำแพงกระเบื้องสีขาว ใกล้กับราวสีใสที่มีผ้าขนหนูสองไซซ์แขวนไว้


“What should I do first? Take a shower? (ฉันควรทำอะไรก่อนล่ะ อาบน้ำเหรอ)” ไบรอั้นชี้ไปที่ห้องอาบน้ำที่เป็นห้องกระจก พื้นเป็นกระเบื้องสากสีเทาที่อยู่ติดกับอ่างอาบน้ำทรงกลม


“Shower. (อาบน้ำ)” ไอติมลดกล้องลงข้างตัว มองไปรอบห้องน้ำแปบหนึ่งก่อนเดินเหยียบขึ้นไปยืนบนเบาะลม วางขวดปั๊มไว้บนอ่างล่างหน้าสีขาว เอากล้องวางไว้บนหลังตู้ไม้เล็ก ๆ ที่เอาไว้เก็บของ หันหน้ากล้องไปทางโซนห้องกระจกอาบน้ำที่ไบรอั้นเข้าไปยืนเปิดฝักบัวรดหัวแล้ว ไอติมเช็กภาพจากมุมกล้อง กดซูมให้ได้ภาพในระยะที่พอเหมาะจนพอใจก็ปล่อยมือออกจากกล้อง ก้าวเท้าเดินลงจากเบาะ หันไปมองประตูห้องน้ำก็เห็นว่ามันปิดลำบากแล้วเลยปล่อยไว้ เพราะยังไงก็เป็นห้องไอติมเองอยู่ดี


“I will do this! I do. (ผมจะทำให้ ผมทำให้)” ไอติมบอกอย่างกระตือรือร้นหลังจากเดินตามไบรอั้นเข้ามาในตู้กระจกอาบน้ำแบบไร้ประตู เพราะแค่ทำแยกโซนให้เป็นระเบียบเท่านั้น หนุ่มหัวทองหันตัวมาหาเจ้าของห้องพลางใช้มือขวาเสยผมขึ้น ไอติมเลื่อนมือไปปิดน้ำจากฝักบัว กดครีมอาบน้ำสำหรับผู้ชายจากขวดปั๊มใส่ฝ่ามือซ้ายแล้วเอามาลูบตัวล่ำหนาเนียนนุ่มมือของไบรอั้น


เริ่มจากอกเต่งตึงและเนื้อเต้าแน่นกับหัวนมสีน้ำตาล ไอติมใช้สองมือลูบวนตรงจุดนั้นสองสามทีแล้วก็ไล่ไปที่กล้ามแขนจนถึงข้อมือ ไอติมยกมือขวาทำท่าให้ไบรอั้นหมุนตัว เขาทำตามที่บอก ไอติมกดครีมอาบน้ำใส่มือเพิ่ม และเอามาลูบแผ่นหลังกว้างของไบรอั้น ลูบใต้ต้นแขนและรักแร้ ก่อนจะลากสองมือไปตามซี่โครงด้านข้างที่มีเนื้อหนาปกคลุมอยู่ ลากต่ำลงมาจนถึงก้นแน่นกลมกลึงของฝรั่งตัวใหญ่ ไอติมวนสองมือบนก้นของไบรอั้นสลับกับขยำเบาๆ


“I will let you do what you want except being the bottom for you. (ฉันจะตามใจนายตามที่นายอยากทำยกเว้นเป็นฝ่ายรับให้นายนะ)” ไบรอั้นบอกแล้วยิ้มมุมปาก เขาพูดไปงั้นแหละ รู้ว่ายังไงเจ้าเด็กนี่ก็ชอบเป็นฝ่ายถูกกระทำมากกว่าเป็นคนกระทำ


ไอติมไม่พูดอะไรได้แต่ยิ้ม บีบครีมอาบน้ำใส่มืออีกรอบ คราวนี้เอามาลูบขาสองข้างทั้งด้านด้านหลัง ไอติมก้มตัวลงใช้มือถูครีมอาบน้ำไปบนขาของไบรอั้นที่มีขนไม่หนามาก ไบรอั้นหันกลับมาข้างหน้าเพื่อให้ไอติมลูบขาด้านหน้าของตัวเองได้อย่างสะดวก สายตาไอติมมองความเป็นชายของแซ็คที่ขยายตัวขึ้นนิดหน่อยตาเป็นประกายพร้อมกับยิ้มเขิน ไอติมลากสองมือจากหน้าขาทั้งสองข้างขึ้นไปตรงช่วงกล้ามท้องที่ยังไม่โดนครีม สองมือบอบบางถูครีมตรงกล้ามท้องของฝรั่งหัวทองอย่างเพลิดเพลินและเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโต ดวงตาสีเทามองไอติมอย่างสงบ ช่วงจังหวะนั้นไอติมเลื่อนสองมือลงไปสัมผัสกับกลางกายของเขา มือซ้ายจับแท่งเนื้อแล้วรูดเข้าออกช้า ๆ มือขวาลูบไข่กลมกลึงสองลูกแผ่วเบา


“Sometimes I think it is not real. (บางครั้งผมคิดว่ามันเหมือนฝัน)” ไอติมพึมพำแผ่วเบา มองหน้าแซ็คแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน แซ็คมองสำรวจหน้าของไอติม และเลื่อนสายตาตัวเองไปสบตาสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาที่สุกใส ใสซื่อ และบริสุทธิ์


เด็กผู้ชายสีขาว


แซ็คก้มลงจูบปากไอติม สองมือเลื่อนไปวางตรงบั้นท้ายงอนน้อย ๆ ของเจ้าเด็กลามก สวนทางกับเจ้าเด็กนี่ที่ยกสองแขนขึ้นคล้องคอเขาไว้และเงยหน้ารับจูบเขาอย่างตื่นตัว ยิ่งพอเขาสอดลิ้นเข้าไปในปากพูดเก่ง ๆ นั่น ไอติมก็ยิ่งดูเหมือนจะตื่นตัวกว่าเดิม เสียงลมหายใจหนักขึ้น เรียวลิ้นเล็กพยายามโต้ตอบเขาเท่าที่จะทำได้ แซ็คเลื่อนสองมือลงไปบีบก้นของไอติมเต็มมือ ปากก็ดูดเรียวลิ้นสีแดงแบบแรง ๆ และไม่ยอมปล่อยให้ไอติมมีจังหวะหายใจ สุดท้ายไอติมยอมแพ้แล้วหันหน้าหนีเพื่อหายใจให้ทัน แซ็คยิ้มขำ ไอติมหันกลับไปมองหน้าอีกคนแล้วคลี่ยิ้มบางก่อนจะยื่นหน้าขึ้นไปหอมแก้มซ้ายของแซ็คหนึ่งที ฝรั่งหัวทองก้มลงหอมหน้าผากไอติมและกระซิบทั้งที่ริมฝีปากยังประทับอยู่บนหน้าผากของคนตัวบาง


“This is real. (นี่คือความจริง)” แซ็คดึงหน้าตัวเองออก ไอติมคลี่ยิ้มกว้างและหัวเราะเสียงเบา ปล่อยสองแขนออกจากคอของแซ็ค ก้มลงมองแก่นกายของแซ็คที่แข็งตัวขึ้นแต่ยังไม่ถึงกับแข็งปัก ไอติมเปิดฝักบัว น้ำไหลลงมาเป็นสาย ยื่นมือไปจับฝักบัวสีเงินมาล้างตัวให้กับแซ็ค ฟองครีมอาบน้ำไหลลงพื้นห้องน้ำ จนกระทั่งตัวแซ็คสะอาดเหลือแต่น้ำเกาะตามตัว ไอติมก็ย่อเข่าลงนั่งกับพื้นและยืดตัวตรง มือซ้ายที่ไม่ได้ถือฝักบัวจับแก่นกายของแซ็คที่เริ่มเด้งตัวผงกหัวขึ้น ไอติมแลบลิ้นเลียส่วนปลายแหลมสีชมพูอ่อน พอเห็นว่าแซ็คยืนนิ่งไม่ว่าอะไรก็ใช้ปากอมตรงส่วนปลาย ลิ้นกวาดเลียอยู่แค่บริเวณนั้น เจ้าของแท่งเนื้ออันโตหลับตาลงพักหนึ่งแล้วลืมขึ้น และตอนนั้นเองที่ไอติมรู้สึกว่าลูกชายของแซ็คแข็งตัวเต็มที่แล้วเลยดันปากตัวเองครอบแท่งเนื้ออันนั้น กะว่าจะอมให้มิดแต่ก็ได้แค่ครึ่งเดียวเพราะสำลักก่อน


“Hey, easy. It’s not going anywhere. (เฮ้ ใจเย็นน่า มันไม่ไปไหนหรอก)” หนุ่มหัวทองแซวยิ้ม ๆ ไอติมที่น้ำตาคลอน้อย ๆ ยิ้มตอบก่อนลุกขึ้นยืน


“Wait me there. (รอผมตรงนั้น)” ไอติมชี้ไปที่เบาะลม ไบรอั้นพยักหน้าแล้วก้าวเท้าเดินออกไปจากโซนอาบน้ำ หยิบผ้าขนหนูจากราวมาเช็ดหัวจนแห้งหมาด ๆ แล้วตามด้วยเช็ดตัวจนแห้งก่อนไปนอนหงายรอเด็กลามกบนเบาะลม เขาเอาหัวหนุนกับส่วนที่เป็นดั่งหมอนของเบาะ สองแขนวางข้างตัว สองขาอ้ากว้าง ลูกชายตั้งตรงเพราะโดนดูดไปเมื่อกี้ รอไม่นานไอติมก็เดินออกมาจากโซนอาบน้ำ ไบรอั้นโยนผ้าขนหนูให้ไอติมไปเช็ดตัว เจ้าของห้องรับผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าเช็ดตัวและเดินข้ามร่างฝรั่งตัวใหญ่ไปที่อ่างล้างหน้า หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพไบรอั้นที่กำลังนอนอยู่บนเบาะลม


“Touch cock. (จับจู๋สิ)” ไบรอั้นหันหน้ามองไอติมและคลี่ยิ้มขำ ยื่นมือขวาไปแตะแก่นกายตามที่ไอติมบอกหนึ่งทีให้มันเด้งดึ๋งเล่น ๆ แล้วดึงมือออก


“Already. (จับแล้ว)” ไบรอั้นหันมองไอติมและยักคิ้วให้ ไอติมหัวเราะคิกคักกับความกวนของฝรั่ง ถือกล้องค้างไว้อีกแปบก่อนจะลดกล้องลง ยื่นมือซ้ายไปปิดฝาชักโครกและตั้งกล้องไว้บนนั้น กะระยะมุมกว้างของภาพจนเป็นที่พอใจก็หันไปหยิบขวดปั๊มที่เอามาจากลิ้นชักตู้ขุมทรัพย์ คุกเข่าลงบนเบาะลมและคลานเข้าไปนั่งหว่างขาของไบรอั้น


“I don’t think I am not gonna get message from you. (ฉันว่าฉันไม่ได้นวดหรอก)” ไบรอั้นยักคิ้วและมองแท่งไอติมของเด็กลามกที่พุ่งตัวแข็งเต็มที่ และของตัวเองที่ก็แข็งไม่แพ้กัน


ไอติมยิ้มกริ่ม โยนผ้าขนหนูลงไปในอ่างอาบน้ำและบีบเจลสีใสเหนียว ๆ ข้น ๆ ลงบนตัวไบรอั้น หยดที่หน้าอก กล้ามท้อง ต้นแขนและตรงแท่งเนื้อหนึ่งหยดเล็ก ๆ ไอติมวางขวดลงข้างตัวโต ๆ ของฝรั่งหัวทอง สองมือเริ่มจากจุดตั้งโด่ก่อน เขารูดรั้งจนเจลสีใสเคลือบแท่งเนื้อเป็นมัน หัวใจไอติมเต้นตึกตักเมื่อเห็นความมันเลื่อมบนแท่งเนื้อ แต่ก็พยายามห้ามใจไม่ให้กัดกินมันตอนนี้ เขาย้ายมือไปจุดต่อไปคือตรงกล้ามท้อง


ผิวน้ำตาลอ่อนของไบรอั้นยิ่งทำให้อารมณ์ระอุมากขึ้นเมื่อมีเจลเคลือบอยู่ ไอติมกัดริมฝีปากล่างในขณะที่เริ่มลูบไปที่หน้าอก ลูบวนเชื่องช้า ไบรอั้นพยายามกลั้นยิ้มขำ เพราะเขาคิดว่าอีกไม่นานเจ้าเด็กนี่ต้องล่วงเกินเขามากกว่านี้แน่นอน


“I like your body so much. (ผมชอบหุ่นคุณมากเลย)” ไอติมพึมพำและขึ้นคร่อมตัวเขาก่อนจะโน้มหน้าลงมาเอาแก้มขวาแนบกับแก้มซ้ายของเขาโดยที่สองมือก็ลูบเจลไปตามแขนเขาอย่างช้าๆ


“You know what? You are fucking horny now. (รู้อะไรมั้ย ตอนนี้นายเงี่xxโคตร)” ไบรอั้นพูดเสียงกระซิบ ฟังลมหายใจติด ๆ ขัด ๆ ของอีกคนนิ่ง ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ ค่อย ๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่งและดึงให้คนข้างล่างลุกขึ้นตามมา ไบรอั้นลุกขึ้นนั่ง สองแขนโอบบั้นท้ายไอติม เจ้าเด็กมือไวกดเจลใส่มือแล้วเอามาลูบหลังอีกคนจนแผ่นหลังกว้างมันเลื่อมเหมือนด้านหน้า ไอติมซุกหน้าเข้ากับซอกคอไบรอั้น สูดดมกลิ่นเนื้ออุ่นเชื่องช้า สองมือลูบแผ่นหลังไปตามความลื่นของเจล


“Zach…” ไอติมครางชื่อจริงของไบรอั้นแผ่วเบา เจ้าของชื่อนั่งนิ่ง สองมือลูบช่วงบั้นท้ายของคนครางเบา ๆ โดยไม่ได้ท้วงอะไรขึ้นมา ไอติมดึงหน้าตัวเองออกจากคอไบรอั้น ใบหน้าทั้งสองคนแนบชิดจนปลายจมูกชนกัน ไอติมเอาหน้าผากแนบกับหน้าผากขวัญใจตัวเอง ดวงตาสีเทาอ่อนกับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบกันอยู่หลายนาทีก่อนที่เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลจะเผยอริมฝีปากขึ้นเมื่อโดนปลายนิ้วมือของแซ็คยัดเข้าไปในรูก้นของตัวเองโดยอาศัยความลื่นจากเจลนวดตัว


“อือ…” ไอติมครางแผ่วเบาและหลับตาพริ้ม ไบรอั้นดันหน้าเข้าไปติดกับหน้าไอติมแล้วจูบริมฝีปากสีแดงหนึ่งที ไอติมแลบลิ้นเลียริมฝีปากสีแดงอ่อนของแซ็คอย่างแผ่วเบา มือไอติมจิกลงบนหัวไหล่ของคนตัวโตตอนที่ปลายนิ้วมือดันเข้าไปด้านในรูก้นแล้วปั่นวนเบา ๆ จนรู้สึกใจหวิว


“You want my cock? (อยากได้ของฉันรึยัง)” ไอติมที่ลมหายใจสะดุดพยักหน้าหงึก ๆ ไบรอั้นดึงนิ้วมือออกจากก้นไอติม ยกตัวคนข้างบนขึ้นด้วยสองมือ ไอติมลืมตามองหน้าแซ็คด้วยแววตากำหนัด ดวงตาสีเทาของแซ็คเคลิบเคลิ้มแต่ก็ดูเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน


“อะ… อา…” ไอติมครางเบา ๆ พร้อมกับท้องน้อยหดเกร็งเมื่อกลีบเนื้อของตัวเองดูดกลืนเจ้าโลกของแซ็คเข้าไปแบบรวดเดียวเพราะความลื่นของเจล ไอติมอ้าปากค้าง หลับตาลงด้วยความเสียว หัวใจเต้นตูมตามกับความรู้สึกดี


ดีกว่าตอนอยู่นู่นมาก มากแบบรู้สึกเลยว่านี่เป็นเซ็กซ์ระหว่างตัวเองกับแซ็คที่ทำให้หัวใจฟู่ฟ่าสุดๆ


“And you see, I don’t get massage. (และเห็นมั้ยล่ะ ฉันก็ไม่ได้นวดจริงๆ)” แซ็คยิ้ม ไอติมยิ้มตาม


“I will do it later. (เดี๋ยวนวดให้ทีหลังนะ)” แซ็คหรี่ตามองคนตรงหน้าที่ใช้กลีบก้นดูดกลืนกินลูกชายเขาอยู่โดยที่ไม่ยอมขยับ ปล่อยให้มันบีบรัดฟัดกันนิ่งๆ


“I think your English is good when you having sex. (ฉันว่าภาษาอังกฤษนายดีเชียวนะเวลามีเซ็กซ์)” ไอติมคลี่ยิ้ม ยกสองมือจับสันกรามของแซ็คเบา ๆ และก้มลงจูบแลกลิ้น แซ็คจูบตอบอย่างว่องไว ลิ้นต่างไซซ์นัวเนียกันอย่างดูดดื่มอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะหลุดออกจากกันเพราะ


“Oh, hey, sorry, I don’t know that you—haha. Sorry. (เฮ้ ขอโทษที ฉันไม่คิดว่ากำลัง… ฮ่าๆ ขอโทษ)” ไอติมหันไปมองด้วยความตกใจเล็ก ๆ ที่เห็นเลโอยืนอยู่ตรงขอบประตูห้องน้ำในชุดเสื้อกล้ามลายช้างพ่นน้ำกับกางเกงยีนขาสั้นสามส่วน


“Don’t panic ice-cream. I really love what I’m seeing now. (ไม่ต้องตื่นตูมไปไอศกรีม ฉันรักในสิ่งที่เห็นตอนนี้มาก)” เลโอยิ้มกรุ้มกริ่ม ดวงตาแพรวพราวมองร่างไอติมอย่างถูกใจ ส่วนคนโดนมองแม้จะตกใจแต่ก็ไม่ยอมลุกออกจากของชอบตัวเองเช่นกัน


“แกมีอะไร” ไบรอั้นถามตามปกติ ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ มือซ้ายโอบเอวไอติมไว้ มือขวาเอายันกับเบาะที่เริ่มลื่นเพราะเจลไหลลงไปเลอะ


“ไอติมมาบอกว่าให้เตรียมตัวไปกินข้าวเย็น ฉันเห็นว่าหายกันไปนานเลยมาตาม…” เลโอมองไอติมที่กำลังบดก้นตัวเองตามเข็มนาฬิกาบนตัวเพื่อนด้วยดวงตาวิบวับ


“…เคาะห้องแล้ว แต่ไม่มีใครตอบเลยเสียมารยาทเปิดเข้ามา ก็ไม่คิดว่าจะเจอแกกำลังจะเสพสุขกับเขาอยู่” ไบรอั้นย่นคิ้วเล็กน้อยตอนที่ไอติมขมิบก้นรัดลูกเขา พอเหลือบตาไปมองก็เห็นว่าไอ้เด็กลามกที่เอาหน้าผากวางบนขมับซ้ายของเขากำลังแอบยิ้มอยู่ เขามองด้วยความหมั่นไส้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หันไปคุยกับเลโอต่อ


“มันควรจะเป็นอย่างงั้น เดี๋ยวเราไป รอแปบนึง ไม่เกินห้านาที” เลโอคลี่ยิ้มจนเห็นฟันเรียงตัวกัน ยิ้มที่ไอติมเรียกว่ายิ้มคิงคองอารมณ์ดี


“ห้านาทีไวไปรึเปล่า” ไบรอั้นกลอกตาก่อนจะอุ้มไอติมให้ลุกออกจากแก่นกายตัวเองช้า ๆ จนหลุดออกจากกัน ลูกชายเขาเด้งตัวเล็กน้อยก่อนจะตั้งตระหง่าน ไอติมยืนชันเข่า สองมือเกาะไหล่เขาไว้และหันไปมองเลโอตาแป๋ว ส่วนไอ้เลโอมองไอติมตาเชื่อม


“เดี๋ยวไปกินข้าวก่อน” เลโอเพยักหน้าและยิ้มน้อย ๆ ยักคิ้วให้ไอติมหนึ่งทีก่อนจะเดินออกไปจากห้องน้ำ ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องและตามด้วยเสียงประตูปิด


“We have to go. (เราต้องไปแล้ว)” ไบรอั้นเงยหน้าขึ้นมองไอติม เด็กมือไวหน้างอเล็กน้อย


“It is very good moment. (กำลังดีเลย)” ไบรอั้นยิ้มขำ


“I’m not flying back to L.A. soon. You have more time to eat my cock. (ฉันยังไม่กลับแอลเอเร็ว ๆ นี้สักหน่อย นายมีเวลากินจู๋ฉันอีกเยอะน่า)” ไอติมยิ้มและพยักหน้า ไบรอั้นยิ้มขำ ขำเพราะเจ้าเด็กนี่เข้าใจภาษาอังกฤษง่ายมากหากพูดกันเรื่องอย่างว่า ไอติมยื่นมือซ้ายมาชักลูกชายเขาช้า ๆ เขานั่งนิ่งอีกพักหนึ่งแล้วก็นึกอะไรขึ้นได้


“Wait me here. (รอฉันตรงนี้)” ว่าจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องน้ำ ไอติมมองตามแบบงุนงง ชะเง้อคอมองตรงประตูห้องน้ำอยู่พักนึงหนุ่มหัวทองที่แท่งเนื้อยังพุ่งแข็งแรงก็เดินกลับเข้ามาในห้องน้ำ เขาแวะตรงอ่างล่างหน้า เปิดน้ำล้างของที่อยู่ในมือสักแปบ ก่อนหมุนตัวลงนั่งคุกเข่าและชูห่วงแท่งเหล็กสีเงินขึ้น ไอติมมองของในมือไบรอั้นแล้วเลื่อนไปมองใบหน้านึกสนุกของเขา


“Lay down. (นอนลง)” ไอติมทำหน้างง ไบรอั้นเลยใช้มือซ้ายดันตัวผอมบางให้ค่อย ๆ เอนหลังนอนลงบนเบาะลม และจัดการจับขาเรียวยาวตั้งฉากขึ้น


“To compensate what we haven’t finish yet I will make you feel continue till we back to do it again, okay? (เพื่อชดเชยสิ่งที่เรายังค้างกันไว้ ฉันจะทำให้นายรู้สึกต่อเนื่องต่อไปจนกว่าเราจะกลับมาทำมันต่อจนเสร็จ โอเคมั้ย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ มองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของแซ็คด้วยความเอ๋อ


“Say yes for me. (ตอบตกลงฉันสิ)” ไบรอั้นมองไอติมตาวาว เจ้าเด็กลามกพยักหน้าหงึกๆ


“Yes.” ฝรั่งตัวโตยิ้มพอใจ ดึงร่างไอติมให้เข้ามาใกล้ จับสองขาไอติมวางเกยต้นขาตัวเขาเอง คงเพราะรู้สึกกังวลว่าเขาจะทำอะไร ไอติมแท่งน้อยเลยหดตัวลง ไบรอั้นรีบจัดการสวมห่วงสเตนเลสสีเงินที่มีหางเป็นสเตนเลสสีเดียวกันเป็นทรงโค้งปลายเหล็กหักงอตั้งขึ้นและมีลูกเหล็กปิดท้ายลงบนไอติมแท่ง และใช้มือจับลูกกลมกลึงสีชมพูของไอติมเข้าไปในห่วงเหล็กซึ่งดูจะลงล็อคพอดีกัน ไบรอั้นคลี่ยิ้มพอใจ เลื่อนสายตามองไอติมที่กำสองมือและวางไว้ใต้คาง หน้าตาลุ้นปนกังวล ไบรอั้นเลื่อนกลับมามองที่เดิม พอห่วงลงล็อคกับฐานโคนแล้ว เขาก็จับตรงซี่เหล็กโค้งที่รับกับร่องก้นให้เข้าที่เข้าทาง เขาหยุดชะงักและยกหน้าขึ้นมองไอติมที่กัดริมฝีปากล่างแน่นและมองเขาอย่างตื่นเต้น ไบรอั้นคลี่ยิ้ม เอื้อมแขนซ้ายไปหยิบกล้องวีดีโอมาจากบนฝาโถส้วมและเอามาถ่ายไอติม


“How do you feel? (รู้สึกยังไง)” ไอติมที่กำลังลุ้นเลื่อนสายตามองหน้าคนถามและกล้องอย่างงงๆ


“ฮึ” ไอติมครางเสียงแผ่ว


“Your feeling, how is it now? (ความรู้สึกนาย มันเป็นยังไงบ้างตอนนี้)” ไบรอั้นมองหน้าไอติมผ่านจอฝาพับของกล้อง เด็กลามกทำหน้าคิดครู่นึงก่อนจะตอบเสียงเบา


“Excited. (ตื่นเต้น)” ไบรอั้นกระตุกยิ้มมุมปากซ้ายและพยักหน้าหนึ่งครั้ง เขาลดกล้องลงไปที่กลางตัวของไอติม ใช้มือซ้ายดึงตัวไอติมให้แอ่นก้นขึ้นอีกนิดเพื่อให้เห็นชัดเจนในตอนที่เขาใช้นิ้วชี้ดันลูกเหล็กสีเงินที่ติดอยู่ปลายสเตนเลสเข้าไปในรูก้นของไอติมช้าๆ


“อ้า~” เสียงครางยานแผ่วเบาดังขึ้นตอนที่ลูกเหล็กถูกกลีบเนื้อสีน้ำตาลอ่อนกลืนกินเข้าไป ไบรอั้นเลื่อนกล้องไปจับที่หน้าไอติมที่หลับตาพริ้ม ริมฝีปากบนเผยออ้า ลมหายใจนุ่มลึก


“It’s fit for you. (มันเข้ากับนายพอดีเลย)” ไอติมเปิดเปลือกตาขึ้นมองหน้าไบรอั้นอย่างเสียวซ่าน 


“Ooh…” ไอติมครางเบา ๆ สองมือลูบไล้เรือนร่างตัวเอง ไบรอั้นซูมกล้องจับสีหน้าเคลิ้มของไอติม และเลื่อนจับภาพมือของไอติมที่กำลังลูบร่างกายตัวเองเอง เลื่อนช้า ๆ มาที่ไอติมแท่งเล็กที่ตั้งแข็งชูชัน แช่ค้างไว้สักพักแล้วก็กดภาพกว้างขึ้นและเลื่อนขึ้นไปจับหน้าไอติมอีกครั้ง


“You like it so much, do you? (ชอบมากสินะ ใช่มั้ย)” ไอติมพยักหน้าและคลี่ยิ้ม ยื่นมือขวาไปจับแขนซ้ายไบรอั้นและดึงคนตัวใหญ่ให้ลงมานอนทาบด้านบน ไบรอั้นค่อย ๆ นอนทับร่างบาง มือขวายื่นกล้องออกด้านข้าง เขาหันไปมองกล้องตอนที่ริมฝีปากโดนกับริมฝีปากของไอติม เพื่อดูว่าหน้ากล้องจะยังจับภาพได้ตรงอยู่


“You will wear this to the dinner. (นายจะใส่มันไปกินอาหารเย็นด้วย)” ไอติมยกมือขวาขึ้นขยุ้มผมสีทองของไบรอั้นและพยักหน้า ฝรั่งตัวใหญ่คลี่ยิ้ม ไอติมยิ้มตอบกดหัวไบรอั้นให้ลงมาจูบกับตัวเอง ร่างเล็กอ้าปากส่งลิ้นเข้าไปคลอเคลียกับลิ้นของฝรั่งตัวใหญ่ที่ตอบรับกลับอย่างเชื่องช้าแต่ทว่าอ่อนโยน ไอติมยื่นมือซ้ายไปจับแก่นกายของไบรอั้นและรูดเข้าออกให้มันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง


“อึม… อืม…” ไอติมครางเสียงสั่น ขนลุกซู่ซ่าทั้งเพราะเสียวในก้นและเสียวเพราะจูบ


“อืม… อะ… we need to take a shower. (เราต้องอาบน้ำแล้ว)” ไบรอั้นถอนจูบออกและบอกเสียงพร่า ไอติมกัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้ม หัวใจเต้นโครามคราม ในอกรู้สึกฟูฟ่องเหมือนมีทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่บานอยู่ด้านใน


ถึงจะยังไม่เสร็จ แต่ก็ชอบโมเม้นต์นี้กับแซ็คเหลือเกิน


“Get up. (ลุกขึ้นเถอะ)” ไบรอั้นดันแขนซ้ายดันตัวเองเพื่อลุกขึ้น แต่ก็ถูกแขนของไอติมคล้องคอไว้ไม่ให้ลุกและโดนเจ้าเด็กลามกจูบนัวเนียแลกลิ้นอีกครั้ง เขาจูบตอบอยู่พักหนึ่งก่อนจะดึงหน้าออกและมองสีหน้าแห่งความต้องการทางเพศของคนขี้ลวนลามแล้วก็คลี่ยิ้มขำ


“Be patient, pervert boy. (อดทนหน่อยล่ะเจ้าเด็กลามก)” ไอติมหัวเราะคิกคัก ยอมปล่อยแขนออกจากคอไบรอั้น หนุ่มหัวทองดันตัวลุกขึ้นนั่ง ไอติมดันตัวลุกขึ้นนั่งตาม สายตามองอั้นย่อที่ตั้งโด่ตาวาวแล้วก็ยิ้มชอบใจ ไบรอั้นยกกล้องขึ้นจับหน้าไอติมอีกครั้ง


“What are you staring at? (จ้องอะไรอยู่)”


“Your cock. (จ้อนของคุณ)” ไอติมยื่นมือขวาจะมาจับแต่ไบรอั้นใช้มือซ้ายกันไว้


“Not now, we will be back later. (ยังไม่ใช่ตอนนี้ เราจะกลับมาใหม่)” ไอติมยิ้มตาใสและพยักหน้าหงึก ๆ ไบรอั้นหันกล้องเข้าหน้าตัวเอง ไอติมช่วยจับให้ตรงหน้าเขามากขึ้น ไบรอั้นเอาฝ่ามือแตะปากดังจุ๊บแล้วหันมือเข้ากล้องจนหน้าจอมืดไป ไอติมกดหยุดถ่ายและปิดฝากล้อง ไบรอั้นหยิบไปวางบนฝาชักโครกตามเดิมแล้วหันกลับมามองไอติมที่ยิ้มตาเป็นประกาย


“I am so happy. (ผมมีความสุขจัง)” ไบรอั้นยิ้มมุมปากซ้าย


“As you asked. (อย่างที่นายขอไง)” ไอติมเข้าใจและดีใจที่แซ็คให้ในสิ่งที่ขอจริง ๆ แม้ตอนขอให้เดนช่วยเขียนประโยคพวกนั้นจะจินตนาการไม่ออกว่าตัวเองอยากได้จากเขามากน้อยแค่ไหน แต่แค่เริ่มต้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ไอติมแทบแตกซ่านแล้ว


“You are kind. (คุณใจดีจัง)” ไบรอั้นมองหน้าไอติมนิ่ง รู้สึกสะกิดใจกับคำพูดของเจ้าเด็กน้อย


ใจดีงั้นเหรอ?


“Let’s take a shower. (ไปอาบน้ำกัน)” ไบรอั้นใช้เข่าเดินออกไปยืนบนพื้นห้องน้ำ และเดินเข้าไปรอในห้องกระจก หันมองไอติมที่ใช้วิธีคลานออกมายืนบนพื้นแล้วก็ขำ พอยืนขึ้นเต็มความสูง เจ้าเด็กนั่นสูดปากและร้องอู้อ้าเบาๆ


“Come, and I mean come here don’t coming. (มาสิ และฉันหมายถึงมานี่นะ ไม่ใช่น้ำแตก)” ไบรอั้นยิ้มขำ ไอติมยิ้มขำตามแต่ก็สลับกับหน้าเสียวซ่าน แค่เดินระยะสั้น ๆ ยังขนาดนี้ แล้วตอนเดินไปร้านแม่จะขนาดไหน


“Are you hungry? (หิวมั้ย)” ไบรอั้นถามตอนที่เปิดฝักบัวให้น้ำลงมารดตัวเขาทั้งสองคน ไอติมยกสองแขนขึ้นคล้องคอไบรอั้น บิดก้นน้อย ๆ เพราะรู้สึกอึดอัดด้านใน


“I hungry your cock. (ผมหิวคxxคุณ)” ไบรอั้นหัวเราะอ้าปากกว้าง ไอติมยิ้มแบบเคลิ้ม ๆ เอาหน้าอกที่มีเนินหน้าอกน้อย ๆ ถูกกับหน้าอกแน่นตึงของไบรอั้น


“It is lovely sound. (เป็นเสียงที่น่ารักจัง)” ไอติมยิ้มอ่อนโยน ไบรอั้นยิ้มอ่อนโยนเช่นกัน


“The laugh sound? (เสียงหัวเราะเหรอ)” ไอติมพยักหน้า อยากจะพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าเสียงหัวเราะไบรอั้นฟังแล้วน่ารัก แต่กลัวออกเสียงผิด


“It’s lovely. (น่ารัก)” ไอติมยื่นหน้าไปจุ๊บริมฝีปากไบรอั้นหนึ่งทีและคลี่ยิ้มให้ ไบรอั้นยิ้มตอบบางเบา


“Assaulter boy. (เด็กขี้ลวนลาม)”
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 03-10-2018 19:22:51
 :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-10-2018 19:38:27
ถ้าเป็นแม่เปิดประตูมาเจอจะเป็นไงนะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 03-10-2018 20:57:41
แม่มาเห็นต้องเป็นลม น้องงงงงง  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 03-10-2018 22:03:48
ใจดีกันน้องเยอะๆหน่อยนะคะะะะะะ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: NaunaeZaa ที่ 03-10-2018 22:26:47
ฟินแทนน้องติมเยยยยยย อิอิ  :-[ // ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 03-10-2018 22:56:40
ฟินไปสามปีแปดปีเลยสินะไอติมเอ๋ย
พี่คิงคองนี่คิดไม่ซื่อกับน้องแน่ๆ
แอบถามตรงๆเลยว่าจะมี3pไหมคะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-10-2018 04:36:19
อย่างฮาาา น้องไอติม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 04-10-2018 10:11:27
ล็อกห้องหน่อยลูก


กลังคุณแม่เปิดมาเจอหัวใจจะวายเอา


น้องติมนี่แซ่บเวอร์
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 04-10-2018 11:07:36
 :jul1: ชอบเวลาที่เค้าจูบกันอ่า ถึงแม้ว่า ณ ตอนนี้อิพี่อาจจะจูบน้องด้วยความเอ็นดูหรืออารมณ์พาไปก็ตาม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 04-10-2018 18:58:08
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 04-10-2018 20:37:08
ชอบความละมุนตอนนี้จัง  ถ้าเป็นน้องติมคงรู้สึกฟินเฟร่อ   :-[
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 05-10-2018 00:30:35
3Pๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 07-10-2018 20:00:57
อ่านไปใจหายใจคว่ำไป  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: Jaebam ที่ 08-10-2018 10:57:00
วันนี้เค้ามายืนรอรถไอติมอ่ะ จะผ่านมามะ อยากกินไอติมมมมมม 55555+ :impress2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 08-10-2018 15:16:00
 :z1:  น้องติมฟินสุดแล้ว​ ตักตวง​ให้มากๆเอาให้เต็มที่​ไปเลย​
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 08-10-2018 21:51:02
อื้อหือออ มีเป็นคลังเลยต้า
น้องติม คนใสๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.13 : Promise. :03.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 15-10-2018 15:18:40
 :z1: ไอติมสวรรค์ชัดๆเลยลูกเอ้ยย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 15-10-2018 20:51:00
Fall in lust, Chapter 14 :: Loser. (ขี้แพ้)




   “Are you alright, ice-cream? (นายโอเคมั้ยไอศกรีม)” หนุ่มยุโรปขมวดคิ้วและถามด้วยความสงสัยปนเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าหนุ่มเอเชียเดินขาถ่างน้อย ๆ และมีสีหน้าคล้ายว่ากำลังทรมานหน่อย ๆ ตั้งแต่ลงบันไดในบ้านแล้ว
   

ไอติมที่ถือโน้ตบุ๊กสีดำของตัวเองหันไปมองพ่อหนุ่มคิงคองทั้งที่กำลังรู้สึกสมองพร่าเบลอ แต่ก็พยายามปรับสีหน้าให้เข้าสู่โหมดยิ้มอ่อน ก่อนตอบเสียงแผ่วราวกับกำลังกระซิบ “I’m เอ่อ…”
   

ไอติมกัดริมฝีปากล่างเบา ๆ และหลับตาลงวูบหนึ่งพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอช้า ๆ แล้วค่อยลืมตาขึ้นอีกที ตั้งสติดี ๆ และตอบคำถามของเลโอให้จบ “I’m fine. Yes, it’s good. So good. (ผมสบายดีฮะ ใช่ มันดี ดีมากเลย)”
   

หนุ่มผิวเข้มเลิกคิ้วขึ้นงง ๆ แต่ริมฝีปากก็ขยับคล้ายว่าจะยิ้มเพราะขำกับสีหน้าท่าทางแปลก ๆ ของไอติม เขาหันไปมองเพื่อนหัวทองที่กำลังมองไอติมแล้วยิ้มขำ ก่อนหันมองเขาแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มกรุ้มกริ่ม ผู้ชายที่ไอติมเรียกคิงคองในใจหรี่ตามองเพื่อนด้วยความสงสัย ก่อนหันไปมองร่างบางที่กำลังพยายามเดินนำทางพวกเขาไปบนถนนคอนกรีตเส้นเล็กในซอยบ้านของตัวเองเพื่อไปกินอาหารเย็นที่ร้านอาหารหน้าซอย
   

“แกเปิดบริสุทธิ์ให้ไอศกรีมเหรอ” เลโอถามเพื่อนเมื่อนึกถึงฉากที่เข้าไปเห็นในห้องน้ำ ไบรอั้นหัวเราะเบาๆ
   

“ใช่ ฉันเปิดบริสุทธิ์หมอนี่ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของฉันกับไอศกรีมของแกหรอกนะ” เลโอเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจก่อนจะเบ้ปากนิดหน่อย เขาเดินเข้าไปใกล้ไอติมแล้วดึงโน้ตบุ๊กสีดำกับสายชาร์ตออกจากมือเจ้าตัว
   

“Let me help. (ให้ฉันช่วยถือดีกว่า)” ไอติมไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าเลโอพูดอะไร แต่เห็นเขาดึงโน้ตบุ๊กพร้อมสายชาร์ตไปถือให้ก็พยักหน้าไปเรื่อย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเลื่อนไปมองขวัญใจตัวเองที่ยักคิ้วขวาให้หนึ่งทีแล้วทำเนียนต่อไป ไอติมพ่นลมหายใจออกทางปากแผ่วเบาและมุ่งหน้าเดินนำสองหนุ่มไปร้านอาหารของแม่
   

กว่าจะเดินมาถึงร้านอาหาร ไอติมก็รู้สึกเหมือนตัวเองน้ำจะโบรคเก้น (แตก) อยู่รอมร่อ ไอติมแท่งน้อยแข็งดุนดันกางเกงชั้นในจนรู้สึกปวดหนึบ ไอติมทั้งกัดปาก กำมือ จิกเท้า ตัวบิด เพื่อคลายความเสียว ความอึดอัดและความหน่วงในก้นของตัวเองที่โดนเจ้าเหล็กกลม ๆ สีเงินปั่นป่วนไม่หยุด
   

“น้องติมมาแล้ววว” ไอติมส่งเสียงใสอย่างเริงร่าแม้ว่าสีหน้าจะปรือเบลอคล้ายคนจะหลับ ไบรอั้นพยายามกลั้นขำจนไหล่สั่น
   

“พาพี่เขาไปนั่งโต๊ะริมระเบียงด้านนอกเลยน้องติม แม่จัดโต๊ะไว้ให้แล้ว จุดยากันยุงให้เรียบร้อย” ไอติมพยักหน้าให้มารดาที่กำลังวุ่นกับการรับออเดอร์ลูกค้า ไอติมเดินนำฝรั่งตัวใหญ่สองคนออกไปที่ระเบียงนอกร้านที่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เป็นโซนที่ฮิตมากของร้านแม่ คนโทรเข้ามาจองไม่ขาดสาย จะมาตอนไหนก็ได้หมด เพราะได้บรรยากาศคนละแบบ อย่างตอนนี้ก็มีคนนั่งเต็ม เว้นไว้โต๊ะนึงที่แม่กันไว้ให้แขกของเขาทั้งสองคน
   

“Sit here. (นั่งนี่เลยฮะ)” ไอติมเข้าไปนั่งริมสุดติดกับระเบียงไม้ทรงกระบอก เขาเกือบจะนั่งลงทีเดียวแบบไม่เบรก ดีที่มีจังหวะหนึ่งเจ้าลูกเหล็กสีเงินกระทุ้งให้เขารู้สึกสะท้านไปทั่วท้องน้อยจนต้องอ้าปากแล้วพ่นลมหายใจยาวๆ


“ฮุฮู้ววว… อุอูวว อูวว” ไอติมค่อย ๆ นั่งลงช้า ๆ  โดยมีไบรอั้นที่ตามมานั่งข้างกันบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวหัวเราะด้วยความตลกขบขันเสียงดังแต่ก็ไม่ใช่ดังลั่นสนั่นร้าน   


“What’s funny? (ตลกอะไรวะ)” เลโอถามด้วยความงงแต่ก็ขำไปด้วยเพราะเห็นเพื่อนขำและเห็นไอติมที่ส่งเสียงร้องเพี้ยน ๆ พยายามกลั้นขำจนตัวสั่น และยิ่งพอเห็นว่าไอติมพยายามกลั้นขำ ไอ้ไบรอั้นก็ยิ่งขำต่ออีก


“เอาะ… อ๋อย…” ไอติมครางเบา ๆ กัดริมฝีปากล่างพร้อมกับย่นคิ้ว เขาไม่อยากขำแรงมากกว่านี้เพราะยิ่งขำก็ยิ่งสะเทือน พอสะเทือนทีก็เสียวจนท้องหดท้องเกร็ง ไอติมแท่งของเขาและกางเกงชั้นในกำลังสู้กันสุดพลัง


“Your cheeks is so red. (แก้มนายแดงมากเลย)” ไบรอั้นแซวทั้งที่ยังยิ้มกว้างขำขัน ยื่นนิ้วชี้ข้างขวาไปเกลี่ยแก้มไอติมเบา ๆ สามสี่ทีแล้วปล่อยออก ไอติมสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ และพยายามหามุมนั่งให้เสียวน้อยที่สุด


“Ice-cream, are you sure you don’t need some help? (ไอศกรีม แน่ใจนะว่าไม่อยากให้ช่วยอะไร)” เลโอที่นั่งตรงข้ามกับไอติมถามพลางยื่นโน้ตบุ๊กคืนให้เจ้าตัว ไอติมรับมาแล้วเอามาวางไว้บนเก้าอี้ตรงกลางระหว่างตัวเองกับไบรอั้นก่อนหันไปสั่นหัวและยิ้มน้อย ๆ ให้กับคนถาม แต่แน่ใจว่าตัวเองไม่เข้าใจประโยคนั้นทั้งหมด ได้ยินคำว่า help เลยเดาเอาเองว่าอีกฝ่ายกำลังถามอะไรเลยสั่นหัวไว้ก่อน


“Help what? (ช่วยอะไร)” หนุ่มหัวทองถาม หรี่ตามองเพื่อนแวบหนึ่งพร้อมกับยิ้มอย่างรู้ทัน เลโอยิ้มกว้าง ทำให้ไอติมยิ้มตามเพราะเหมือนได้เห็นคิงคองยิ้มอีกแล้ว


“Anything. (ช่วยอะไรก็ได้)” เลโอมองไอติมแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มแบบไม่เห็นฟัน ไอติมยิ้มตามแม้ไม่เข้าใจ แต่ก็ยิ้มตามเขาไปเรื่อยเปื่อย ไบรอั้นเบ้ปากเล็กน้อยก่อนหันหน้าไปมองหญิงสาวผมยาวผิวแทนสุขภาพดีคนหนึ่งที่เดินนำผู้ชายสามคนที่ถือถาดสีเงินใส่อาหารมาที่โต๊ะ


“Hello boys, welcome to Thailand. I am Pan, his aunt. (สวัสดีจ้ะหนุ่ม ๆ ยินดีต้อนรับสู้ประเทศไทยนะจ๊ะ ฉันชื่อแพน เป็นน้าของไอติม)” น้าแพนผายมือไปทางหลานชายที่นั่งวางสีหน้าไม่ถูก ไม่รู้จะสุขหรือเสียวดี


“Oh, hello. Sa-wad-dee-krab. (โอ้ สวัสดีครับ ส่า วั้ด ดี ขรับ)” เลโอทักทายตอบน้าแพนที่ยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร เขายื่นมือไปเช็กแฮนด์กับเธอแปบหนึ่งแล้วปล่อย แพนหันกลับมาหาไบรอั้นและส่งยิ้มให้


“I am Bryan. Nice to meet you. (ผมชื่อไบรอั้นครับ ยินดีที่ได้รู้จัก)” ทั้งสองคนเช็กแฮนด์กันครู่สั้น ๆ ก่อนปล่อยมือออก แพนหันไปกวักมือเรียกเด็กในร้านให้วางอาหารลงบนโต๊ะแล้วตัวเองก็นั่งลงข้างเลโอ ชะเง้อมองโน้ตบุ๊กบนเก้าอี้ของหลานชายด้วยความงงนิดหน่อย


“ติมเอาโน้ตบุ๊กมาทำไมลูก”


“เพื่อนคนที่จัดการเรื่องงานให้ เขาบอกจะวีดีโอคอลมาอ่าน้าแพน” น้าแพนทำหน้าเข้าใจพลางรับโถข้าวมาจากเด็กในร้าน และเป็นคนจัดการตักข้าวใส่จานเปล่าของทุกคน คนละสองทัพพี


“Don’t hesitate if you want to add it. (บอกได้เลยนะคะถ้าต้องการเพิ่มอีก)” ฝรั่งสองคนยิ้มและกล่าวขอบคุณ


“ติม หนูไม่สบายรึเปล่า” น้าแพนมองหลานชายด้วยความเป็นห่วง ไอติมรีบฉีกยิ้มกว้างแล้วส่ายหัวในขณะที่สองมือก็เริ่มจับช้อนส้อมตักอาหารใส่จานข้าวตัวเอง แพนมองหลานชายอีกครู่หนึ่งก่อนหันไปเทคแคร์เพื่อนของหลาน


“Beer or something? (เบียร์หรือว่าอะไรดีคะ)” เธอผายมือไปทางเครื่องดื่มที่เด็กผู้ชายในร้านอีกคนกำลังยกมาวางใส่ชั้นวางเครื่องดื่ม ไบรอั้นมองน้ำเปล่า น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วยิ้มประหลาดใจนิดหน่อย


“เบียร์แล้วกันครับ…” น้าแพนพยักหน้าและหันไปถามเลโอที่สั่งแบบเดียวกับเพื่อน น้าของไอติมหันไปบอกเด็กในร้าน และไม่ลืมที่จะสั่งน้ำอัดลมให้หลานชายด้วย


“…ฉันว่าคืนนี้เราอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน” ไบรอั้นหันไปคุยกับเลโอที่ยักไหล่สองข้างอย่างชิลๆ


“ไม่มีปัญหา เราอยู่อีกตั้งหลายวัน”


“มีแพลนจะไปไหนกันงั้นเหรอ” น้าแพนถามทั้งสองคน ไบรอั้นรับแก้วเบียร์ตัวเองมาวางไว้บนโต๊ะก่อนตอบ


“ก็แค่คิดว่าจะไปน่ะครับ ยังไม่ได้หาสถานที่ที่จะไปชัดเจนเลย แต่ตอนนี้ล้มเลิกแพลนไปแล้ว” หนุ่มหัวทองรับน้ำอัดลมสีดำมาจากเด็กในร้านแล้วยื่นให้ไอติมที่กำลังนั่งแทะไก่อย่างเอร็ดอร่อย


“ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ เมืองไทยไม่หนีไปไหน เดินทางมาเหนื่อย ๆ พักชาร์ตพลังก่อน” ไบรอั้นกับเลโอยิ้มให้น้าแพน ก่อนที่เธอจะชวนคุยเรื่องทั่วไปอย่างเช่น มาจากประเทศไหนกันบ้าง แล้วน้าแพนก็ฝอยต่อยอดไปว่าตัวเองเคยไปนั่นไปนี่ และอยากไปตรงนั้นตรงนี้ สองหนุ่มเองก็ชวนเธอคุยกลับเช่นกัน น้าแพนเป็นคนคุยสนุก น้ำเสียงฟังแล้วไม่น่าเบื่อ และมีความเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีความอึดอัด ไม่มีการเคอะเขิน หรือไม่ได้โปรยเสน่ห์ใด ๆ ทำทุกอย่างไปตามปกติ อาจเพราะเธอมีเพื่อนสนิทชาวต่างชาติอยู่กลุ่มหนึ่งเลยทำให้เธอคุ้นเคยกับทั้งสองคนได้ค่อนข้างเร็ว


“Sorry for asking this question, but are you really a girl? (ขอโทษที่ถามคำถามนี้นะครับ แต่คุณเป็นผู้หญิงจริง ๆ ใช่มั้ย)” น้าแพนหัวเราะอย่างไม่ถือสากับคำถามของเลโอที่ท่าทางดูกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่เหมือนกัน


“Don’t worry, chocolate boy. You are not the first one to asked this one. No, I am a transgender. (อย่ากังวลไปเลยน่าพ่อหนุ่มผิวช็อคโกแล็ต เธอไม่ใช่คนแรกหรอกจ้ะที่ถาม ใช้จ้ะ ฉันเป็นผู้หญิงข้ามเพศ)” น้าแพนยิ้มแย้มแจ่มใส แววตาเปล่งประกาย น้ำเสียงที่เธอตอบดูภาคภูมิใจ ไม่ได้ตอบแบบเขินอายหรือรู้สึกขายหน้าใดๆ


“Oh, wow. You made me uncertain for a while. You look like a girl if we don’t really look at you. (โอ้ ว้าว คุณทำให้ผมไม่มั่นใจอยู่พักนึงเลย คุณดูเหมือนผู้หญิงเลยนะครับถ้าไม่จ้องมองจริงๆ)” ไบรอั้นยิ้มพลางกระดกเบียร์แบรนด์ไทยรสชาติเยี่ยมเข้าปาก


“Sweet talker. (ปากหวานเชียว)” น้าแพนยิ้มอย่างต่อเนื่อง เธอผงกหัวรับคำชมของไบรอั้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นหัวเราะอย่างอารมณ์ดี


“ติม ในสองคนนี้มีพระเอกในที่ทำงานติมสักคนมั้ย” น้าแพนหันไปถามไอติมที่กำลังแทะเนื้อหมูออกจากซี่โครงด้วยท่าทีกรุ้มกริ่มแบบเสแสร้งแกล้งทำ ไอติมเคี้ยวหงับ ๆ จนหมดปากแล้วค่อยตอบพร้อมรอยยิ้ม


“คนนี้!” ไอติมชี้ไปที่ไบรอั้นที่กำลังคุยกับเลโอด้วยเรื่องอะไรสักอย่างพร้อมกับพยายามใช้มีดหั่นเนื้อปลาในจานของตัวเองอยู่ น้าแพนทำหน้าว่าอ้อ ไม่ได้หันไปมองไบรอั้นให้เสียมารยาท


“คนนี้รึเปล่าที่ติมไปงานมีทติ้งเขามา” หลานชายยิ้มเขินกับคำถามของผู้เป็นน้า คนถามหรี่ตามองอย่างจับผิด ไอติมหัวเราะคิกคักจนสองหนุ่มหันมองด้วยความงง


“อื้อ เขามีงานมีทติ้งที่แอลเอพอดีอะ ก็เลยให้เดนพาไป” ตอนไอติมเล่าที่ไปที่มาเรื่องงานให้แม่กับน้าแพนฟัง มีประเด็นนึงที่ไอติมไม่กล้าเล่าตรง ๆ ว่าที่ไปอเมริกาเพราะตั้งใจไปหาไบรอั้นด้วยเหตุใด ไม่ได้มีเหตุผลอะไรซับซ้อน ไอติมแค่คิดว่าไม่อยากให้ตัวเองดูอยากจะเสียตัวเหลือเกิน กระสันคันซะจริง ๆ อะไรแบบนั้น


แม้จริง ๆ มันจะเป็นแบบนั้นก็ตามที


“แล้วอย่าบอกนะว่า กับคนนี้คือคนนั้นที่ติมถามน้าเรื่องพรากบริสุทธิ์…” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ มองน้าแพนและ พยายามทำหน้านิ่ง แต่เขาคงทำไม่สำเร็จเพราะน้าแพนอ้าปากหวอและเบิกตากว้าง ก่อนที่สีหน้าน้าแพนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าตื่นเต้นปนเปรี้ยวปาก


“…วูยยย หลานน้าไม่ธรรมดานะจ๊ะ ได้ทั้งทีก็ได้แซ่บเชียว” ไอติมอึ้งไปนิดหนึ่งที่น้าแพนไม่ได้ต่อว่าหรือทำดุก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเขินและพยักหน้าหงึก ๆ รับกับคำพูดนั้นของน้า


“ประทับใจ” ไอติมว่าเสียงกระซิบเล็ก ๆ น้าแพนหัวเราะชอบใจกับท่าทางของหลานชาย สองหนุ่มฝรั่งมองสลับน้าหลานงง ๆ คนเป็นน้ากลัวว่าจะทำให้ทั้งสองคนคิดว่ากำลังพูดนินทาว่าตลกทั้งคู่อยู่เลยรีบอธิบาย


“We are talking about how he met you. (เรากำลังคุยกันว่าเขาเจอคุณได้ยังไงน่ะค่ะ)” น้าแพนชี้สลับที่ไอติมกับไบรอั้น หนุ่มหัวทองทำหน้าเข้าใจและคลี่ยิ้มขำ


“I have to accept that I’m afraid of him when we met at a first time. (ขอสารภาพว่าผมรู้สึกกลัวเขาตอนเจอกันครั้งแรก)” น้าแพนหัวเราะ เลโอเองก็หัวเราะตามไปด้วย ไอติมยิ้มแบบงง ๆ เพราะจับประโยคที่ไบรอั้นพูดไม่ทัน ฝรั่งร่างใหญ่หันมองไอติมแล้วคลี่ยิ้มขำก่อนหันกลับไปมองน้าแพน


“But now you don’t afraid him anymore, I guess. (แต่ตอนนี้แกคงไม่กลัวเขาอีกแล้วละ ฉันว่านะ)” เลโอยกยิ้มมุมปากซ้ายขึ้นและมองทั้งสองคนตาเป็นประกาย ในหัวกำลังนึกภาพของทั้งสองคนในห้องน้ำ ไบรอั้นยิ้มเบ้ปากน้อย ๆ ก่อนกระดกเบียร์เข้าปากจนหมดแก้ว ไอติมที่กำลังยิ้มไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวมองเลโอแบบเอ๋ออ๋าแวบหนึ่งก่อนหันไปมองทางน้าแพน


“น้องติม แต่อย่าให้แม่รู้เรื่องนี้ล่ะ เดี๋ยวหัวใจล้มเหลว ถ้าจะทำอะไรกันในบ้านก็ระวัง ๆ นะ” ไอติมคลี่ยิ้มกว้าง หันมองไบรอั้นที่กำลังเทเบียร์ใส่แก้ว ก่อนจะถูกร่างของมารดาที่เดินยิ้มแย้มมาทางโต๊ะดึงสายตาให้ไปมอง


“ขาดเหลืออะไรกันมั้ยจ๊ะหนุ่มๆ Anything?”


“โอ้โห ภาษาปะกิดเว่อ” แพนแซวพี่สาวตัวเอง แม่แป้งหัวเราะเขินหน่อย ๆ ยกมือซ้ายตีไหล่น้องตัวเองเบา ๆ ไบรอั้นกับเลโอมองภาพนั้นแล้วก็ขำด้วยความรู้สึกเอ็นดู


“What we have on the table could make us full for three days. (ที่เรามีอยู่บนโต๊ะตอนนี้ก็ทำให้อิ่มสามวันแล้วละครับ)” ไบรอั้นตอบยิ้ม ๆ แพนกลัวพี่สาวจะฟังไม่ทันเลยรีบแปลต่อทันที พอรู้คำแปลจากน้องสาว เจ้าของร้านร่างเล็กก็หัวเราะและยิ้มใจดี


“Enjoy eating. We have more food. (สนุกกับการกิน เรามีอาหารเยอะ)” แม่แป้งบอกฝรั่งทั้งสองคน


“อะโห แม่อินเตอร์เนชั่นนอลอะ” ไอติมแซวแม่บ้าง หญิงสาวหัวเราะและเดินอ้อมโต๊ะมาหาลูกชายที่นั่งขำไปด้วยและแทะปีกไก่ไปด้วย แม่แป้งกอดคอลูกชายแล้วหอมหัวเจ้าตัวแสบด้วยความมันเขี้ยว


“กินอยู่คนเดียวเลย ดูแลพี่ ๆ เขาบ้างสิลูก”


“พี่เขาสบายกันมาก กินเยอะกว่าติมอีก แต่ติมว่าเขาน่าจะชอบไก่เหมือนน้องติม แม่ทอดมาเพิ่มหน่อยสิ น้องติมโดนแย่งอะ” ไอติมว่าหน้าบู้เพราะปีกไก่ทอดน้ำปลาของโปรดของตัวเองโดนสองหนุ่มหยิบไปกินแกล้มกับเบียร์อยู่เรื่อย


“เอาเกี๊ยวกุ้งกับผัดเม็ดมะม่วงหินพานต์มาด้วยพี่แพน น่าจะถูกปากมากอยู่”


“ได้ ๆ เดี๋ยวเอากุ้งเผามาให้ด้วย เพิ่งมาถึงเลย” ไอติมตาโตด้วยความดีใจ


“วันนี้มีกุ้งเผาด้วยอะ”


“มีจ้ะ แต่ได้แคสองตัวนะลูก ไว้ให้แม่ขายบ้าง” แม่แป้งยิ้มขำ ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ น้าแพนถามสองหนุ่มว่าอยากได้อะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า ทั้งสองคนชี้ไปที่ผัดไก่ใส่มะม่วงหิมพานต์พร้อมกัน น้าแพนเลยแจงว่าสั่งมาเพิ่มให้แล้ว


“Oh, okay. Thank you.” ไบรอั้นกล่าวขอบคุณ เลโอขอเบียร์เพิ่ม น้าแพนเลยถ่ายทอดออเดอร์ไปให้พี่สาวอีกที แม่แป้งถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้าน


“The food is really good. (อาหารดีจริง ๆ ครับ)” เลโอเอ่ยชมพร้อมกับยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างให้สองน้าหลาน


“I’m not surprised why he really enjoys eating. (ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงมีควาสุขกับการกินมากขนาดนี้)” ไบรอั้นมองไอติมแล้วยิ้มก่อนหันไปมองน้าแพนที่มองหลานชายด้วยรอยยิ้มมีความสุข


และเขาก็หายแปลกใจแล้วว่าทำไมเจ้าเด็กลามกถึงสดใสร่าเริงนัก


‘I’m happy!’


เพราะชีวิตหมอนี่มีความสุขกระจายอยู่รอบตัวแบบนี้นี่ไง


   
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 15-10-2018 20:52:08
V
v
v

ทั้งสี่คนนั่งคุยกันเพลิน ๆ กินอาหารไปด้วย ดื่มไปด้วย เวลาผ่านไปจนตกดึกมากขึ้นตามเวลาของประเทศไทย หลายอย่างก็เพิ่มขึ้นตามเวลา ทั้งความอิ่ม ความเมาและความสนุกของบรรยากาศ สองหนุ่มเริ่มออกอาการกรึ่มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เสียงหัวเราะดังคลอไปกับเสียงเพลงภายในร้านและเสียงพูดคุยของลูกค้าโต๊ะอื่น แต่พอตกดึกก็บางตาไปเยอะ ไบรอั้นแก้มแดงและตาสีเทาก็ดูฉ่ำวาว ไอติมหันมองไบรอั้นเป็นระยะและยิ้มด้วยความรู้สึกดีที่เห็นเขาดูผ่อนคลายสบายตัว
   

“เสียดายที่วันนี้ไม่ใช่ช่วงสุดสัปดาห์ ร้านเราจะมีดนตรีสดทุกช่วงสุดสัปดาห์น่ะ ไอติมก็ชอบขึ้นไปร้องเพลงแจมกับวงดนตรีอยู่บ่อย ๆ หลานดิฉันร้องเพลงเพราะนะคะ” น้าแพนหัวเราะอารมณ์ดีเมื่อได้อวยหลาน
   

“Really? You can sing? (จริงเหรอ นายร้องเพลงได้ด้วยเหรอ)” เลโอที่หน้าแดงแม้สีผิวจะเข้มถามไอติมด้วยความประหลาดใจ ไอติมเข้าใจว่าถามอะไรก็เลยพยักหน้า
   

“But not good very much. (แต่ก็ไม่ได้ดีมากนะ)”
   

“We have to prove this weekend. (เราต้องพิสูจน์ตอนสุดสัปดาห์นี้)” เลโอยิ้มบาง มองไอติมตาเคลิ้ม ไอติมที่นั่งตัวเอียงไปซ้ายทีขวาทีเพราะไม่อยากลงน้ำหนักลงก้นเต็ม ๆ ยิ้มตอบ ไบรอั้นเห็นท่านั่งเอียงตัวของไอติมแล้วก็ขำด้วยความตลกขบขัน
   

“อุ๊ย นั่งมาตั้งนาน น้าเกือบลืม น้ามีของมาให้ติมด้วย เดี๋ยวไปหยิบก่อน” ไอติมยังไม่ทันพยักหน้ารับคำได้เต็มหน้า น้าแพนก็ลุกเดินเข้าไปในร้าน ร่างบางที่ยังตักนั่นตักนี่กินทีละนิดทีละหน่อยหันไปมองไบรอั้นที่นั่งเอนหลังกับพนักเก้าอี้ด้วยท่าทีสบาย ๆ ไอติมยกมือซ้ายไปลูบพุงของอีกฝ่ายที่แม้ว่าจะป่องก็ป่องนิดเดียวและยังคงมีกล้ามรองรับอยู่ดี
   

“Molest me again. (ลวนลามฉันอีกแล้วนะ)” เสียงทุ้มติดแหบเพราะคอแห้งพูดขึ้นอย่างติดตลก ไบรอั้นยื่นมือซ้ายไปหยิบแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่มเพื่อความชุ่มคอ วาดแขนขวาวางไปตามแนวยาวของเก้าอี้จนทำให้ดูเหมือนว่าเขากำลังโอบไอติมอยู่ เด็กลามกนั่งลูบท้องขวัญใจตัวเองสักพักก่อนจะเริ่มลวนลามอย่างที่อีกฝ่ายว่าจริง ๆ ด้วยการล้วงมือเข้าไปในกางเกงผ้าร่มขาสั้นสีดำของอีกฝ่าย โดยอาศัยความสูงของโต๊ะเป็นตัวบังจากสายตาของเลโอ
   

“Hey…” ไบรอั้นกดหน้าลงและส่งสายตาปรามให้ไอติม แต่เจ้าเด็กมือไวยิ้มร่าและส่งมือทลายด่านกางเกงชั้นในของเขาเข้าไปสัมผัสกับลูกชายเขาจนได้ แล้วก็โน้มตัวมากระซิบที่ข้างหูเขาเบาๆ
   

“My dick is strong so much. (จู๋ผมแข็ง (แรง) มาก)” ไบรอั้นยิ้มขำบาง ๆ เข้าใจได้ว่าไอติมจะสื่ออะไร และเข้าใจด้วยว่าเป็นเพราะอะไรไอติมแท่งน้อยของเจ้าเด็กลามกถึงได้ตั้งแข็ง
   

“Be patient, pervert boy. (อดทนหน่อยน่าเจ้าเด็กลามก)” ไอติมยิ้มคิกคัก มือซ้ายบีบ ๆ กำ ๆ ตรงส่วนนั้นของไบรอั้นอย่างเพลินมือ แขนขวาของไบรอั้นลดลงโอบเอวด้านขวาของไอติม มือซ้ายของเขาหยิบโน้ตบุ๊กกับสายชาร์ตขึ้นวางบนโต๊ะที่จานอาหารบางส่วนถูกยกไปเก็บแล้วเลยทำให้มีพื้นที่ว่าง ไอติมเขยิบตัวเข้าหาไบรอั้นอย่างรู้งาน
   

“ฮึฮืออ” ไอติมหัวเราะฮื่อ ๆ ในลำคอ สายตามองดวงตาของขวัญใจตัวเองที่ฉ่ำวาวจนแทบจะเป็นตาเยิ้ม ไบรอั้นกระตุกยิ้ม มือขวาเลื่อนลงลูบสะโพกไอติม มองดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสุกใสนิ่ง ใบหน้าอยู่ห่างกันไม่มาก ริมฝีปากแต่ละคนขยับพูด ถามไถ่ความรู้สึกทางเพศของแต่ละคนแผ่วเบา
   

“ที่ก้นเป็นไง… งั้นเหรอ… หึหึ… ฉันไหวน่า…” เลโอมองเพื่อนกับไอติมกระซิบกระซาบคุยกันแล้วก็ยิ้มขำ ไม่รู้ว่ามันรู้ตัวรึเปล่าแต่ตอนนี้มือขวาของมันล้วงเข้าไปในก้นของไอติมแล้ว แต่คิดว่าไอติมน่าจะรู้ตัวเพราะเจ้าตัวทำปากเป็นรูปตัวโอและลำตัวก็บิดเล็กน้อยราวกับมือของไอ้ไบรอั้นไปโดนจุดกระตุ้นอารมณ์เข้าให้ แต่ที่ไอติมไม่รู้คือเลโอตัวสูงมากพอที่จะเห็นว่ามือของไอติมนั้นล้วงเป้าเพื่อนเขาอยู่
   

“เอามาอีกก็ได้ป่ะ…” เลโอหันไปมองน้าของไอติมที่กำลังยืนคุยกับพนักงานร้าน เขาหันกลับมามองอีกสองคนหมายว่าจะอ้าปากบอก แต่สองคนนั้นก็เร็วมากพอที่จะแยกออกจากกัน และทำตัวตามปกติ เว้นแต่ท่านั่งเอียง ๆ ของไอติมที่ดูจะแปลกไปสักหน่อย
   

“…น้าซื้อกล้องโกโปรมาให้ เห็นว่าอยากได้ ถือว่าเป็นรางวัลที่ได้งาน” น้าแพนนั่งลงที่เดิมและยื่นถุงพลาสติกสีขาวแบบหนาให้หลานชาย ไอติมยื่นมือไปรับไว้และยิ้มร่ากับของที่เพิ่งได้


“งู้ยยยย น้าแพนนน” ไอติมล้วงกล่องสีดำในถุงออกมาดูด้วยความตื่นเต้น เพราะอยากได้ไอ้กล้องแบบนี้ตั้งแต่ตอนทำโปรเจ็คท์หนังสั้นก่อนเรียนจบคู่กับไอ้เดนแล้ว
   

ติ๊ง!
   

เสียงข้อความจากโทรศัพท์ของไอติมดังขึ้น ทำให้เจ้าตัววางกล่องกับถุงลงบนโต๊ะแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูก็เห็นเป็นข้อความแชทจากแอนโทนี่ที่ส่งมาบอกว่าให้เปิดสไกป์ไว้ได้แล้ว ไอติมตอบกลับสั้น ๆ ว่าโอเคแล้วก็จัดการเปิดโน้ตบุ๊ก พอเครื่องเปิดติดก็กดเข้าโปรแกรมที่ว่า โดยผ่านการสอนการใช้มาจากแอนโทนี่เรียบร้อยว่ามันต้องทำอย่างไร
   

“There. (นั่น)” ไบรอั้นชี้ไปที่หน้าจอเมื่อเห็นว่ามีการโทรเข้ามา ไอติมกดปุ่มรับสาย สักพักบนหน้าจอก็ปรากฏใบหน้าของลูคัสกับผู้ชายเอเชียหน้าออกแนวเหลี่ยม ตัวสูงและมีผิวสีคล้ำคนหนึ่ง
   

“Hey, ice-cream. This is James. He came from Thailand like you. He is friend of us, which he will talks with you because Anthony flew to Miami with his family last night. I think if it be me to talk with you it might take very long time until we understand each other, that’s why I asked him to help me today. (เฮ้ ไอศกรีม คนนี้ชื่อเจมส์นะ มาจากประเทศไทยเหมือนเธอ เขาเป็นเพื่อนฉันกับแอนโทนี่ ซึ่งวันนี้เขาจะมาพูดกับเธอ เพราะแอนโทนี่บินไปไมอามี่กับครอบครัวเมื่อคืนนี้ ฉันคิดว่าถ้าเป็นฉันพูดกับเธอเองมันคงใช้เวลานานมากกว่าเราจะเข้าใจกัน ฉันเลยขอความช่วยเหลือจากเจมส์นี่แหละ)” ลูคัสพูดรัว ๆ ราวกับกลัวว่าจะถูกใครแย่งพูด ซึ่งมันทำให้ไอติมอ้าปากหวอและรู้สึกว่ามีเครื่องหมายคำถามขึ้นเต็มใบหน้าตัวเอง
   

บนโต๊ะอาหารหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของไอติม ลูคัสเองก็คงเพิ่งสังเกตเห็นเลยหัวเราะผ่านหน้าจอด้วยอีกคน รวมทั้งคนชื่อเจมส์ก็ขำไปด้วย “I’m sorry. I will let James talk with you. And hi Bryan. (โทษที เดี๋ยวฉันจะให้เจมส์คุยกับนายแล้วกัน แล้วก็สวัสดีไบรอั้น)”
   

“Thank you to see me. (ขอบคุณที่เห็นฉัน)” ไบรอั้นหยิบโน้ตบุ๊กไอติมขึ้นมาแล้วหันหน้าจอไปทางเลโอกับน้าแพนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
   

“Leo and that is Ice-cream’s aunt, her name is Pan. (เลโอกับน้าของไอศกรีม เธอชื่อแพน)”
   

“Oh, hello Leo. Hello, Pan, nice to meet you. Your nephew is so lovely. (โอ้ สวัสดีเลโอ สวัสดีแพน ยินดีที่ได้รู้จัก หลานชายคุณน่ารักมากนะ)” ลูคัสเอ่ยทักทายเลโออย่างรวดเร็วเพราะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เลยหันไปทักทายน้าแพนต่อทันที น้าสาวของไอติมยิ้มและพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง
   

“Thank you and nice to meet you. (ขอบคุณค่ะ แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ)”
   

“My name is Lukas, by the way. (ผมชื่อลูคัสนะ)”
   

“Okay, Lukas. And you are? (โอเคค่ะ ลูคัส และคุณคือ…)”
   

“Oh, I’m your nephew’s boss, in technically. (โอ้ ผมเป็นเจ้านายของหลานชายคุณ ในทางเทคนิคน่ะนะ)” น้าแพนทำปากเป็นรูปตัวโอ ทั้งตกใจและดีใจที่เจอกับคนที่มอบงานให้หลานชายตัวเอง
   

“Thank you that you chose him. (ขอบคุณที่เลือกเขานะคะ)” น้าแพนยกมือไหว้ขึ้นเหนือหัว ไอติมเห็นก็เลยขำ แม้ฝรั่งทั้งสามคนจะงง ๆ ว่าน้าแพนทำอะไร แต่พอคนชื่อเจมส์อธิบายให้ลูคัสฟังและฝรั่งอีกสองคนก็ได้ยินไปด้วยว่าเป็นการขอบคุณของคนไทยแบบสุด ๆ จริง ๆ ประมาณว่ากูขอบคุณมึงอย่างที่สุด นั่นเลยทำให้ฝรั่งสามคนหัวเราะ
   

“He deserves it but now there are some problems, and James will speaks with him now. (เขาสมควรได้รับเลือกครับ แต่ว่าตอนนี้มีปัญหาบางอย่าง ซึ่งเจมส์จะพูดกับเขาตอนนี้เลย)” ลูคัสหันไปหาเจมส์และพยักหน้าให้ ไบรอั้นเอาโน้ตบุ๊กไปวางไว้ตรงปลายหัวโต๊ะฝั่งตัวเองกับแพน กดหน้าจอลงอีกนิดเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น
   

“สวัสดีครับน้องติม พี่น่าจะเป็นพี่เรานะจากที่ลูคัสเล่าเรื่องราวน้องติมให้พี่ฟัง พี่ชื่อเจมส์อย่างที่ลูคัสบอกไปนะครับ พี่จะมาพูดกับน้องติมแทนแอนโทนี่ พอดีเขาไปไมอามี่กับที่บ้านน่ะ แล้วลูคัสเขาก็คิดว่าถ้าพูดกับน้องติมเอง กลัวจะเข้าใจกันยาก เพราะมันเป็นเรื่องของเอกสาร การดำเนินการทางสถานทูต กลัวว่าจะสื่อสารกันยาก บวกกับภาษาน้องติมยังไม่แข็งแรงด้วยเนอะ…” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ และรีบคิดในใจว่าพี่เจมส์คนนี้น่าจะเป็นเพื่อนคนไทยในกลุ่มที่แอนโทนี่เคยบอกว่าจะแนะนำให้ไอติมรู้จัก
   

“…โอเค คืออย่างงี้ ก่อนหน้านี้เนี่ย ลูคัสให้เอกสารน้องติมไปเพื่อยื่นกับสถานทูตใช่มั้ย (ไอติมพยักหน้า) แต่ว่า ด้วยความที่ทางลูคัสกับเจคเขาไม่เคยรับคนต่างชาติเข้ามาทำงานด้วย เขาเลยไม่รู้ขั้นตอนแบบละเอียด พอไปสอบถามผู้รู้ เขาเลยเพิ่งรู้ว่ามันยุ่งยากมาก มันต้องทำเรื่องนาน และต้องอธิบายเหตุผลมากมายให้ทางนั้นรับรู้ว่าทำไมน้องติมถึงสมควรได้เข้ามาทำงานกับพวกเขา ในอเมริกาขาดแคลนคนจริง ๆ แล้วเหรอ อะไรแบบเนี้ย คือทางลูคัสเขาก็พร้อมจะอธิบายนะ แต่ทีนี้มันติดที่เจค็อบอะ…” ไอติมหันไปมองไบรอั้นที่กระดกเบียร์ขึ้นจิบชิล ๆ และมองกลับมาแบบงงๆ
   

“…I will explain to you again, Bryan. (เดี๋ยวฉันอธิบายให้แกฟังอีกทีไบรอั้น)” หนุ่มหัวทองพยักหน้า และไอติมก็ได้รู้ว่าพี่เจมส์น่าจะรู้จักกับไบรอั้นด้วย
   

“เจค็อบเป็นเจ้านายอีกคนอะน้าแพน…” ไอติมหันไปบอกน้า เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ
   

“…เขาทำไมเหรอครับ” ไอติมกลับมามองที่เจมส์กับลูคัสต่อ ซึ่งตอนนี้ลูคัสกำลังนั่งจิ้มไอแพ็ด
   

“เจคเขาบอกว่าให้ติมทดลองงานสามเดือนใช่มั้ยล่ะ ทีนี้เขาก็ไม่มั่นใจว่าติมจะผ่านงานมั้ย เขากลัวว่าถ้าทำเรื่องให้ติมมาทำงานด้วย แล้วเกิดติมทำงานไม่ได้ตามที่เขาคิด มันจะเสียเวลา เสียเงินเขาน่ะ อีกอย่างไอ้เอกสารพวกนี้ขอนานมาก เร็วสุด ๆ ก็หกเดือน เจคเขาเลยไม่เอา ตอนแรกจะไม่รับติมด้วย แต่ลูคัสไปต่อรองมาว่าขอให้ติมมาทำก่อน ยังไม่ต้องมีเอกสารก็ได้”
   

“หืม ทำงานแบบไม่มีเอกสารเหรอคะ” น้าแพนถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเธอเองก็รู้เรื่องนี้อยู่บ้าง
   

“แค่สามเดือน ไม่สิครับ สองเดือนกว่า ๆ น่ะครับคุณน้า คือถ้าไอติมผ่านโปรแล้ว ทางนี้จะให้ไอติมกลับไทย เว้นระยะสักแปบ แล้วค่อยกลับมาใหม่ ไปกลับ ๆ ทุกสามเดือน ระหว่างนั้นลูคัสเขาจะยอมเหนื่อยทำเรื่องเอกสารให้เอง” ไอติมทำหน้าว่าอ้อ ส่วนน้าแพนยังขมวดคิ้วอยู่นิดหน่อย
   

“อืม น้าก็เข้าใจนะคะ แต่มันก็ดูลำบากเนอะ”
   

“ใช่ครับ ลูคัสเขาเลยให้ผมมาช่วยคุยกับน้องติมนี่แหละว่าน้องเขาจะเอายังไง ถ้าตกลงเขาก็จะดันน้องติมเต็มที่ เพราะเขาก็อยากทำงานกับน้องติม ส่วนเรื่องเงินเดือน ไม่ต้องห่วงครับ เขามีวิธีการจัดการตรงนี้ ซึ่งจะมีเอกสารตรวจสอบได้ทุกอย่าง ถ้ามีอะไรตุกติก น้องติมฟ้องร้องได้เลยนะ” ไอติมยิ้มขำน้อย ๆ รู้สึกเอาเองว่าพี่เจมส์น่าจะเป็นคนนิสัยดี
   

“น้าเชื่อใจค่ะ แค่เป็นห่วงว่าน้องติมจะเหนื่อย แต่ถ้าเจ้าตัวเขาโอเค น้าก็ไม่แย้งหรอก” น้าแพนยิ้มอ่อน มองไปที่หลานชายที่นั่งเอามือขวาเท้าคางตัวเองอยู่
   

“ติมโอเค ถ้าไม่ผ่านงานก็กลับบ้าน น่าสนุกดีออกน้าแพน”
   

“ถ้าติมอยากทำ ก็ทำลูก แม่กับน้าซัพพอร์ตเต็มที่” ไอติมยิ้มกว้างและยกสองมือปรบเปาะแปะ
   

“สรุปทำเนอะ” ไอติมพยักหน้าให้กับเจมส์ที่อยู่ในจอ
   

“ทำฮะ” เจมส์หันไปคุยกับลูคัส โปรดิวเซอร์กล้ามโตทำหน้าดีใจและปรบมือเสียงดังหนึ่งทีก่อนหันมายิ้มให้ไอติมด้วยความโล่งใจ
   

“Thank you. I trust you so much. Make me proud, okay? (ขอบคุณ ฉันเชื่อใจเธอมากนะ อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ โอเค๊)” ไอติมประมวลผลแปบหนึ่งก่อนจะพยักหน้าและยกมือขึ้นทำท่าโอเค
   

“Okay.” น้าแพนยิ้ม แม้จะยังไม่เคยพบเจอลูคัสตัวจริง แต่แพนก็สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายอยากได้หลานชายตัวเองไปร่วมงานด้วยจริง ๆ เพราะท่าทีของเขาตอนไอติมตอบรับว่าจะไปทำงานด้วยนั้นมันคืออาการของคนที่ได้ในสิ่งที่ต้องการ และก็คิดว่าเขาน่าจะดูแลไอติมได้ดี
   

“งั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว น้องติมก็กลับมาพร้อมไบรอั้นได้เลยนะ เดี๋ยวพี่คุยกับเขาเองว่าให้พาน้องติมกลับมาด้วย” ไอติมพยักหน้า พี่เจมส์หันไปพูดกับไบรอั้นเป็นภาษาอังกฤษ หนุ่มหัวทองยกโน้ตบุ๊คของไอติมมาวางด้านหน้าแล้วเริ่มบทสนทนากับเจมส์และลูคัส ปล่อยให้อีกสามคนคุยกันไป
   

“ไอติม แล้ววางแพลนรึยังว่าจะพาพี่เขาไปเที่ยวที่ไหน” ไอติมสั่นหัวพลางตักน้ำจิ้มซีฟู๊ดราดเนื้อกุ้งเผากับมันเยิ้มๆ
   

“ติมว่าจะถามเขาพรุ่งนี้แหละน้าแพน แต่ที่ติมคิด ๆ ก็เกาะสมุย เกาะพะงันอะไรแบบเนี้ย ยังตัดสินใจไม่ได้”
   

“ก็พาเขาไปให้หมดเลย สามเกาะนั้นมันอยู่ใกล้ ๆ กัน สมุย พะงัน เกาะเต่า แล้วก็เช่าเรือไปเกาะนางยวน ไปทั้งทีเอาให้คุ้ม” ไอติมพยักหน้าหงึกหงักแบบเหยาะแหยะ ยังไม่ได้คิดหรือตัดสินใจ และไม่ได้กำหนดอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และคิดว่ายังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เวลาไปเที่ยวกับที่บ้านหรือกับเพื่อน ไอติมไม่เคยไปเป็นคนจัดการวางแผนอะไรพวกนี้ มีหน้าที่ไปเที่ยวไปกินเท่านั้น
   

แพนเลยหันไปคุยกับเลโอเรื่องแพลนเที่ยว แต่ก็ไม่ได้คุยเป็นจริงเป็นจัง แค่ถาม ๆ ว่ามีที่ไหนในใจมั้ย ซึ่งสองหนุ่มอยากมาเที่ยวทะเลที่ไทยอยู่แล้ว เลโอดูข้อมูลไว้ทั้งที่สุราษฎร์ธานี กระบี่ และภูเก็ต น้าแพนได้ทีเลยขายทริปเกาะสมุย ซึ่งแม้ไอติมจะฟังออกเป็นบางคำ แต่จากการพูดอันคล่องแคล่วและท่าทีที่สนใจของเลโอ ไอติมก็บอกได้ว่าถ้าน้าแพนเปิดบริษัทท่องเที่ยว ทริปน่าจะขายดี
   

“Ice-cream, don’t forget what I have told you to do. Don’t think too much. Just be yourself and don’t need to put yourself in it. (ไอศกรีม อย่าลืมที่ฉันบอกให้ทำล่ะ อย่าคิดเยอะ แค่เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นนะ)”
   

“You are too late. He did it already. (นายช้าไปแล้ว หมอนั่นเอาตัวเองเข้าไปอยู่เรียบร้อย)” ลูคัสมีสีหน้าประหลาดใจและตกใจ เขาหันมองไอติมด้วยความสับสน
   

“What? You and him? (อะไรนะ เธอกับไบรอั้นเหรอ)” ไอติมทำหน้างงเพราะยังจับใจความไม่ได้ เจมส์ที่เห็นว่าอีกคนมีทีท่าไม่เข้าใจเลยพยายามอธิบาย
   

“ลูคัสเขาพูดถึงอะไรสักอย่างที่ให้น้องติมทำอะ พี่ก็ไม่รู้ว่าอะไร แต่เขาบอกว่าไม่ต้องเอาตัวเองใส่เข้าไป แต่ไบรอั้นมันบอกว่าน้องติมใส่ตัวเองเข้าไปเรียบร้อยแล้ว เขาก็เลยดูตกใจหน่อยๆ” ไอติมอ้าปากหวอและนิ่งคิดสักแปบก่อนจะเก็ท
   

“อ๋า… No, no. I have two version. Version one give you. Version two give me. (ไม่ ไม่ ผมมีสองเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นแรกให้คุณ เวอร์ชั่นสองให้ผม)” ลูคัสทำปากว่าอ้อ ไบรอั้นหันไปมองเจ้าเด็กลามกด้วยความตะลึงเล็ก ๆ ก่อนจะยิ้มขำ
   

“Okay, then, we finished. Have a nice vacation and see you soon. (โอเค งั้นก็ จบการสนทนา ขอให้มีวันหยุดที่ดีแล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้)”
   

“Good bye, Lukas. (กู๊ดบาย ลูคัส)” เลโอแวะตะโกนบอกลาลูคัสจากที่กำลังสนทนากับน้าแพนอยู่ ไอติมยิ้มและโบกมือให้ลูคัสรัว ๆ อีกฝ่ายโบกมือตอบกลับมา ไบรอั้นทำเพียงพยักหน้าขึ้นก่อนที่จะปิดหน้าจอไป
   

“He has told me to be your English teacher. (เขาบอกให้ฉันเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้นาย)” ไบรอั้นหันไปพูดกับไอติมและกระดกเบียร์ในแก้วที่เหลืออีกครึ่งจนหมดรวดเดียว
   

“Okay, teacher. (โอเคฮะ คุณครู)” ไอติมตอบพลางดูดมันกุ้งจากหัวกุ้งด้วยความเอร็ดอร่อย ไบรอั้นยิ้มบางแล้วหันไปเติมเบียร์ใส่แก้วก่อนจะร่วมวงคุยกับเลโอและน้าแพน

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 15-10-2018 20:52:31
V
v
v

เป็นเวลาเที่ยงคืนเกือบครึ่ง กว่าที่ทุกคนจะแยกย้ายจากกัน ไอติมพาสองหนุ่มที่คึกคักเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์กลับบ้านด้วยความทรมานตรงก้น แม้จะอยู่กับไอ้ลูกเหล็กสีเงินนั้นมาหลายชั่วโมงจนช่วงหนึ่งเกิดความชิน แต่พอขยับก็กลายเป็นว่ามันเริ่มออกฤทธิ์อีกครั้ง เล่นเอาไอติมแท่งน้อยกลับมาแข็งตัวเปล่งปลั่งอีกรอบ ปกติการเดินจากร้านเข้าบ้านนั้นใช้เวลาแค่แปบเดียว แต่ครั้งนี้ไอติมรู้สึกว่ามันยาวนานพอ ๆ กับตอนเดินไปร้านไม่แพ้กัน
   

“Good night, Leo. (ราตรีสวัสดิ์ฮะ เลโอ)” ไอติมบอกลาเลโอที่ตัวแดงแบบจาง ๆ เนื่องจากผิวของเขาเข้ม หนุ่มเช็กรีพับบลิคยิ้มตอบกลับมาและยักคิ้วให้ไอติมที่ยืนขาถ่างอยู่หน้าประตูห้องนอนตัวเอง
   

“Bye.” เลโอเดินเข้าห้องนอนของตัวเอง ไอติมหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองบ้าง เขาปิดประตูตามหลังและล็อคห้อง ได้ยินเสียงฉี่ดังมาจากในห้องน้ำ ไอติมวางโน้ตบุ๊กกับสายชาร์ต และถุงกล้องโกโปรไว้ตรงริมโซฟา ก้มตัวจะถอดกางเกงขาสั้นของตัวเอง แต่จังหวะที่โน้มตัวไปข้างหน้า ไอติมก็ครางเสียวแผ่วพร้อมลมที่ผ่อนออกจากปากเบา ๆ แต่ก็แข็งใจดึงกางเกงลงไปกองที่ข้อเท้าก่อนตามด้วยถอดกางเกงชั้นในสีขาว ไอติมพยายามยกขาซ้ายขึ้นเพื่อให้หลุดออกจากกางเกง
   

“หุ… ฮูววว…” ไอติมพ่นลมหายใจออกทางปากช้า ๆ และดึงขาซ้ายออกจนสำเร็จก่อนที่จะเตะขาขวาไปด้านหน้าเพื่อให้กางเกงหลุดออกไป พอถอดกางเกงสำเร็จก็ค่อย ๆ ยืดตัวตรงเพื่อลดอาการเสียดทาน แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำได้ไม่ดีนัก เพราะตอนนี้ไอติมรู้สึกราวกับว่าไอลูกเหล็กสีเงินนั้นได้ฝังเข้าไปในด้านในเนื้อก้นไปแล้ว พอขยับนิดหน่อยก็เลยซี๊ดดด
   

“Are you going to pull it out? (จะถอดออกแล้วเหรอ)” ไอติมชะงักมือขวาที่กำลังพยายามดึงห่วงเหล็กออกจากลูกกลมกลึงทั้งสองอันที่เต่งตึงกว่าปกติ เขาหันไปมองไบรอั้นที่แก้มแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำวาวกับยิ้มหยดเยิ้ม
   

“Wait a sec. (แปบนึง)” ไบรอั้นเดินไปที่หัวเตียง หยิบกล้องมาเปิดฝาพับและกดเปิดเครื่อง เดินกลับมาหาไอติมที่ยืนถ่างขาอยู่ที่เดิม ก่อนจะจับให้ไอติมโน้มตัวไปข้างหน้า สองมือวางบนขอบพนักพิงของโซฟา สองขาอ้าอยู่บนพื้น
   

“How do you feel? (รู้สึกเป็นไงมั่ง)” ไอติมนึกอยากตอบว่ารู้สึกเบลอ ๆ เพราะที่ก้นหน่วงจนรู้สึกว่ามันอึดอัด ไม่สบายตัว แต่ก็ยาวเกินที่จะพูดเลยส่ายหัวช้า ๆ และตอบสั้นแต่ได้ใจความ
   

“Not good. (ไม่ดี)” ไบรอั้นที่ถือกล้องถ่ายรูก้นของไอติมอยู่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจหน่อย ๆ ที่อีกฝ่ายดูจะไม่เอาด้วยแล้ว
   

“Okay, sit down. (โอเค นั่งลง)” ไอติมนิ่งแปบนึงก่อนจะใช้สองแขนดันตัวขึ้น หันตัวไปข้างหน้า ไอติมแข็งชี้หน้าไบรอั้นและหน้าจอกล้อง หนุ่มหัวทองหัวเราะเสียงทุ้ม ไอติมยิ้มนิดหน่อยในขณะที่ค่อย ๆ เอนตัวลงบนโซฟา ฝรั่งตัวโตยื่นมือซ้ายไปช่วยดึงขาของไอติมเพื่อให้ร่างบางนอนเอาก้นเกินขอบโซฟาออกมา ไอติมยกขาแล้วอ้าออก ไบรอั้นจับกล้องไปที่เหล็กสีเงินที่พาดผ่านจากโคนแท่งไอติมไปตามเนื้อส่วนล่างที่นำไปสู่รูก้น ไบรอั้นยื่นมือซ้ายไปแตะเส้นเหล็กสีเงินเบา ๆ แล้วก็ได้ยินเสียงร้องซี๊ด เขาเลยเลื่อนกล้องขึ้นให้เห็นหน้าไอติมด้วย พอแตะอีกทีเจ้าเด็กลามกก็ครางเสียงสั่นและแก่นกายที่แข็งโด่ก็กระตุกน้อย ๆ หนุ่มหัวทองหัวเราะ ยื่นมือซ้ายไปรูดรั้งแก่นกายสีอ่อนช้าๆ
   

“Do you want to cum first? (อยากแตกก่อนมั้ย)” ไอติมที่สีหน้าเคลิบเคลิ้มและดูไร้การควบคุมพยักหน้าอย่างเชื่องช้า ไบรอั้นยิ้ม มองเห็นน้ำสีใสแฉะอยู่บนพื้นที่สีชมพูตรงส่วนปลาย เขาใช้มือซ้ายชักให้ไอติม มือขวาถือกล้องถ่ายภาพครึ่งตัวของไอติมไปด้วย


“ฮืมมม…” ไอติมนอนนิ่งและหลับตาพริ้ม สีหน้าดูผ่อนคลาย ยกสองแขนขึ้นพาดกับพนักพิงโซฟา สองขาอ้าชี้นิ่ง หนุ่มหัวทองชักมือขึ้นลงแบบไม่รีบร้อน แต่ดูท่าว่าเด็กลามกมือไวจะเก็บกดและอัดอั้นมานาน เพราะเพียงไม่นานไอติมก็ครางเสียงสั่นพร้อมกับอาการเกร็งหน้าท้องแล้วไอติมวานิลลาก็พ่นนมข้นออกมาอาบแท่งไอติมจนเยิ้ม


“…ฮู ฮูว” ไอติมหายใจหอบอ่อน ๆ และค่อย ๆ ลืมตาขึ้น จังหวะที่กล้ามเนื้อก้นขมิบเข้าหากัน ร่างบางก็หน้าเหยแกและร้องเสียงหลง


“อ๊า!” กล้ามเนื้อก้นที่บีบเข้าหากันทำให้หนีบลูกเหล็กสีเงินไปด้วย เลยทำให้รู้สึกหน่วงและปั่นป่วนไปหมด ไบรอั้นปล่อยมือออกจากแก่นกายของไอติม เช็ดมือที่เลอะน้ำสีขาวขุ่นกับเสื้อยืดของเจ้าตัว


“Look at his face. (ดูหน้าเขาสิ)” ไบรอั้นพึมพำเสียงแหบทุ้ม ยกกล้องจับภาพสีหน้าพริ้มของไอติม ร่างบางคลี่ยิ้มอ่อน สองมือลูบหว่างขาตัวเองทั้งสองข้างขึ้นลง ฝรั่งร่างโตยื่นมือซ้ายไปดึงห่วงเหล็กสีเงินออกจากรูก้นของไอติมช้า ๆ จนกระทั่งลูกเหล็กสีเงินหลุดออกมาจากรูก้นของไอติม ทิ้งให้รูสีชมพูเป็นโพรงทรงกลม ตากล้องจำเป็นเลื่อนกล้องไปจับภาพรูสีชมพูที่ขยายตัวเป็นวงกว้าง


“Wow, the pink hole is so ready. (ว้าว รูสีชมพูดูพร้อมมากเลย)” ไบรอั้นยิ้มและค่อย ๆ ดึงห่วงสีเงินออกจากโคนแก่นกาย ผ่านแท่งไอติมเปื้อนนมข้นที่อ่อนตัวลงนิดหน่อยช้า ๆ ไอติมครางเสียงโล่งอก ฝรั่งหัวทองลุกขึ้นนั่งลงบนโซฟาข้างเด็กลามกที่หุบขาลงและกระเถิบขึ้นมานั่งชิดติดกับคนตัวโต


“Do you want to play it again? If you have a chance. (อยากเล่นอีกมั้ย ถ้ามีโอกาส)” ไอติมทำปากยื่นและส่ายหัวอ่อนๆ


“One hour good, two okay, but three, four, five not okay. (หนึ่งชั่วโมงดี สองโอเค แต่สามสี่ห้าไม่โอเคแล้ว)” หนุ่มหัวทองหัวเราะ ยื่นห่วงเหล็กสีเงินให้ไอติม เจ้าของห้องนอนทำจมูกย่น หยิบห่วงสีเงินไปวางไว้บนโซฟาข้างตัว ก่อนหันกลับมาหาขวัญใจตัวเองแล้วยื่นมือขวาไปลูบเป้าฝรั่งตัวโตเต็มมือ


“โอ๊ะ!” ไอติมอุทานด้วยความตื่นเต้นเมื่อจับไปแล้วเจอว่าลูกชายของแซ็คกำลังแข็งตัวแบบอ่อน ๆ อยู่ในกางเกงชั้นใน คนตัวโตเปลี่ยนกล้องให้มาอยู่ในมือซ้าย แล้วหันหน้ากล้องเข้าหาตัวเองกับไอติม


“What do you found? (เจออะไรล่ะ)”


“Dick. (จู๋)” เสียงเล็ก ๆ ตอบแบบสั้น ๆ คล้ายออกเสียงคำว่า duck เลยทำรู้สึกตลกจนแซ็คขำออกมา เจ้าเด็กลามกยิ้มแป้นแล้น ดวงตาทอประกายวิบวับ มือขวาจับสลับกับบีบลูกชายเขา


“What are you going to do with dick? (นายจะทำอะไรกับจู๋ล่ะ)” เขาออกเสียง dick สั้น ๆ เลียนแบบไอติม แทนคำตอบแบบคำพูด ไอติมถอดกางเกงไบรอั้นออกจากขาแบบรวดเดียวให้ไปกองที่ข้อเท้า แก่นกายสีน้ำตาลอ่อนดีดตัวตั้งขึ้น ไอติมใช้มือขวาตีสิ่งนั้นหนึ่งที แล้วก็หัวเราะคิกคักเมื่อมันเด้งสู้มือ


“Little อั้น!” ไอติมนอนตะแคงข้างลงบนตักไบรอั้น ริมฝีปากอยู่ตรงกับของชอบของตัวเอง


“What is little un? Aun? อั้น? (อะไรคือ little อัน อั๊น อั้น)” ไอติมบิดหน้าขึ้นไปมองหน้าแดงก่ำของแซ็คและหน้าจอกล้องที่กดลงมาตรงหน้าเขากับเจ้าแท่งเนื้อ


“Bryan, little อั้น. Your dick is little อั้น”


“Oh, okay.” หนุ่มหัวทองหัวเราะอ้าปากกว้าง ไอติมหันหน้าไปทางเดิมแล้วยกหัวขึ้นก่อนจะใช้ปากอมส่วนหัวของอั้นน้อย อั้นใหญ่ส่งกล้องลงมาถ่ายตรงหน้าเขา ไอติมเลยเปลี่ยนเป็นใช้ฟันขบเนื้อตรงนั้นแบบเบาๆ


“Eh, don’t make it torn. (เอ้ อย่าทำมันขาดล่ะ)” ไอติมหัวเราะคิกคักก่อนจะปล่อยปากออกจากลิตเติ้ลอั้นและดันตัวลุกขึ้นนั่งคร่อมอั้นใหญ่ ใช้มือขวาจับแท่งเนื้อไว้ เคลื่อนรูก้นของตัวเองที่ยังคงขยายใหญ่อยู่เข้าหาส่วนหัวสีชมพู พอส่วนหัวเข้าปิดรูได้ ไอติมก็ค่อย ๆ กดก้นลงเพื่อให้กลีบเนื้อตัวเองกลืนกินลูกชายไบรอั้น มีติดขัดบ้างเพราะแม้ว่ารูจะขยายแต่เพราะไม่มีเจลหล่อลื่นเลยทำให้ฝืดไปสักหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นไอติมก็ไม่ละความพยายามเพราะไปได้ครึ่งทางแล้ว


“Easy, boy. (ใจเย็นพ่อหนุ่ม)” ไบรอั้นที่ถือกล้องด้วยมือขวาบอกเสียงแหบพร่า ไอติมหันไปมองหน้าจอกล้องด้วยสายตาเคลิ้มละมุนก่อนหันหน้าเข้าจูบปากคนตัวโตที่จูบตอบกลับมา


“Actually, I’m drunk and feel sleepy. Can we fuck tomorrow? (จริง ๆ แล้ว ฉันเมาแล้วก็ง่วงด้วย เอากันพรุ่งนี้ได้มั้ย)” ไอติมเลียลิ้นสีแดงของคนหัวทองและยิ้มขำคิกคัก ไบรอั้นยิ้มเผล่และหัวเราะเสียงทุ้ม แขนขวาวางกล้องลงบนโซฟาเพราะความเมื่อยแต่หน้ากล้องยังแหงนขึ้นจับภาพที่ไอติมลวนลามเขาด้วยการจูบอยู่


“We should sleep. อืมมม… อา… ตรุบ…” ไบรอั้นโดนไอติมดูดลิ้นไปหนึ่งทีก่อนที่จะแหงนหน้าหนีแล้วหัวเราะ เขายกมือซ้ายไปตีก้นไอติมเต็มแรงด้วยความมันเขี้ยว ไอติมบิดเอวเป็นวงกลม พยายามให้กลีบเนื้อตัวเองกลืนแท่งเนื้อของแซ็คเข้าไปให้หมด


“Okay, oh, yeah.” หนุ่มหัวทองครางเสียงเพี้ยนเพราะความเสียวที่โดนรูก้นไอติมบีบรัด สักพักก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะแบบที่หน้าก็เหยเกไปด้วย ไอติมยิ้มร่า ตลกกับสีหน้าและอารมณ์กรึ่ม ๆ ของแซ็ค


“ฮึฮือ… ฮึ…” ไอติมครางและสลับกับหัวเราะ หอมแก้มซ้ายของแซ็คไปหนึ่งฟอด


“You wanna fight to fuck? Fine!” ไบรอั้นผงกหัวขึ้นจากพนักพิงโซฟา แกล้งมองไอติมด้วยความเหี้ยมโหด ไอติมหัวเราะอิอ๊ะ ไบรอั้นแยกเขี้ยว โยนกล้องไปบนเตียงแล้วหันกลับมาอุ้มไอติมทั้งที่ยังนั่งทับลูกชายเขาอยู่ เขาเตะกางเกงออกจากเท้า เดินอุ้มไอติมที่แขนเกาะคอเขาแน่น และสองขาก็พันรอบเอวเขาแน่นเช่นกัน


ตุบ!


ร่างของไอติมหล่นตุ้บลงบนเตียง รูก้นหลุดจากแก่นกายแข็งแรงของแซ็คที่พุ่งตรง ไอติมหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายหนุ่มหัวทองที่ถอดเสื้อกล้ามของตัวเองออกแล้วก็จู่โจมเข้าหาเขา


“อ๊า อะๆๆ” ไอติมหัวเราะ วางกล้องไว้บนหมอนเหนือหัวตัวเอง ไบรอั้นจับขาไอติมแยกออกแล้วจับลูกชายตัวเองแทงเข้าไปในรูสีชมพูสดใส


“I will fuck you till you scream. Hmm! (จะเย็xจนร้องเลย ฮึ่ม!)” แซ็คจับสองแขนของไอติมขึงลงบนเตียงแล้วก้มลงไซ้คอหอม ๆ ร่างบางหัวเราะคิกคัก และพยายามย่นคอหนีแต่ก็โดนร่างหนาเอาหน้าแดงก่ำบุกเข้าไซ้จนได้


“คิ ๆ อั๊ยยย” ไอติมหัวเราะเสียงขาดเพราะรู้สึกจั๊กจี้ แซ็คขยับสะโพกเบา ๆ ให้ไอติมรู้สึกเสียววาบเล่นๆ


แซ็คหยุดไซ้คอไอติม สองมือที่กดข้อมือไอติมไว้แน่นคลายออก ก่อนจะพึมพำเสียงงัวเงียพร้อมกับเปลือกตาที่เริ่มปรือ “Oh my god. I can’t. (โอพระเจ้า ฉันไม่สามารถแล้ว)”


ไอติมยิ้มอ้าปากกว้างและมองแซ็คตาโต พักเดียวขวัญใจของเขาก็ฟุบหลับลงบนอกทั้งที่ความเป็นชายยังคาอยู่ในรูก้น แต่ก็รู้สึกได้ว่ามันค่อย ๆ อ่อนตัวลงทีละนิด ไอติมหัวเราะตลกขบขัน เอื้อมมือซ้ายไปหยิบกล้องจากหมอนแล้วส่งให้มือขวารับไป ไอติมหันหน้ากล้องเข้าหาตัวเองกับแซ็คที่หลับคาอกเขาไปแล้ว


“Loser. (ขี้แพ้)” ไอติมหัวเราะคิกคัก ก้มลงหอมกลางกระหม่อมแซ็คไปที หนุ่มหัวทองพ่นลมหายใจยาว ๆ และครางอืออา ขยับช่วงล่างออกห่างจากก้นไอติมก่อนจะทิ้งร่างครึ่งล่างราบไปกับเตียง ขาของแซ็คเหยียดตรงเกินขอบเตียงไปเกือบครึ่ง ไอติมอยากจะขยับร่างกายแต่ก็โดนฝรั่งตัวใหญ่นอนทับอกไว้ราวกับว่านี่คือหมอนของตัวเอง สุดท้ายไอติมเลยหันไปยิ้มให้กล้องส่งท้ายก่อนปิดกล้องไปและเอาวางไว้บนเตียง สองแขนค่อย ๆ เลื่อนลอดผ่านใต้แขนแซ็คแล้วเอาขึ้นมากอดร่างขวัญใจตัวเองไว้ สองมือลูบแผ่นหลังที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นการกล่อมให้ฝรั่งตัวโตนอนหลับสบาย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 15-10-2018 21:17:57
หลับไปซะแล้วว นึกว่าจะเป็นครั้งท่่3  :o8:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 15-10-2018 21:56:52
หมดกันพระเอกพี่  :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: Opolniscute ที่ 15-10-2018 22:33:49
กรี๊ด อัปแล้ว รอ3pอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 15-10-2018 22:41:56
55555 loser เลยอ่ะพี่อั้น ขำาา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 15-10-2018 23:51:26
ว๊ายยย ขี้แพ้  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-10-2018 01:36:51
ไอติมต้องหัดกายบริหารทุกส่วนนะ แม่จะได้จับไม่ได้  :z2: :a3: :a11: : 222222: :z7: :110011: :3059: และท่าสุดท้าย  :katai5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-10-2018 02:45:02
ฮาาา หลับได้เนาะ คนเรา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 16-10-2018 07:39:56
ไม่น่าเชื่อว่าพี่อั้นหลับคาอกน้องติมซะงั้น 5555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 16-10-2018 11:31:44
เอ๊า อิพี่ 555555555555555555555555555555  :pigha2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 17-10-2018 00:02:54
เอ้า หลับเฉยเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: skies ที่ 18-10-2018 13:50:45
ตลกกก เหมือนแก้แค้นที่น้องเป็นลมไปครั้งแรก 555555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 20-10-2018 06:12:04
โถ....อิพี่เมาหลับซะงั้น
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.14 : Loser. :15.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 21-10-2018 13:51:13
ไอติมคือตัวร้าย ได้ฟินทั้งขึ้นทั้งล่อง
แต่ดีนะที่เดนกับติมไม่คิดมาก

แซคหลับคาขนาดนั้นได้ยังไง 5555
ติมได้เปรียบมาก ไม่เนียนด้วย

ลุ้นตอนไปทริปค่ะ แต่ที่แน่ๆ เชื่อว่าติมคุ้มสุด
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 29-10-2018 23:46:42
Fall in lust, Chapter 15 :: Do you believe? (เชื่อมั้ย)




   “คิดถึงกูป้ะเดน” หนุ่มลูกครึ่งที่อยู่ในจอโน้ตบุ๊กส่ายหน้าตายทันทีที่ไอ้เพื่อนตัวเล็กถามจบ ไอติมหุบยิ้มฉับและมองค้อนไอ้เพื่อนตัวใหญ่
   

[ค้อนทำห่าไร เดี๋ยวกูเอาตะปูเจาะลูกตาแม่ง] ไอติมทำปากยื่น
   

“หยาบคายมากเลยอ่า”
   

[ระริกระรี้เชียวนะมึง] ไอติมยิ้มจมูกย่น ท่าทางเขินอายและหัวเราะคิกคัก หันไปมองเตียงนอนผ่านประตูระเบียงห้องที่มีร่างสูงใหญ่ของฝรั่งผมทองนอนคว่ำหน้าหลับอยู่ด้วยสายตาแพรวพราวก่อนหันกลับมามองหน้าเพื่อนในจอโน้ตบุ๊ก
   

“เขาใจดีเกินคาดมากเลยอะเดน กูไม่คิดว่าเขาจะไหลไปตามคำขอของกูแบบนี้”
   

[ก็ดีแล้วนี่ มึงก็ทั้งแฮปปี้และโดนเขาปี้ไง] ไอติมหัวเราะคิก เม้มปากและทำจมูกบานแปบหนึ่งแล้วก็กลับมาทำหน้ายิ้มแบบปกติ
   

[แต่กูก็ยังแอบแปลกใจหน่อย ๆ ที่มันตอบรับคำขอของมึงง่ายเชียว]
   

“กูก็แปลกใจนะ…” แค่แวบสั้น ๆ เท่านั้นที่ไอติมย่นคิ้วหน้าตาแปลกใจดังที่ปากว่าก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มระรื่นตามเดิม


“…แต่มันเสียเวลาอะ ช่วงที่อยู่ด้วยกันที่นี่ กูต้องตวงโมเม้นต์ให้ได้เยอะที่สุด” 
   

[เดี๋ยวมึงก็กลับมาแอลเอพร้อมเขาไม่ใช่เหรอ รีบตวงอะไรขนาดนั้น] ไอติมทำหน้าบู้ หน้าตายู่ยี่นิดหน่อย หัวใจฟีบลงไปนิด
   

“ก็กูขอเขาไว้ว่าให้ตามใจกูช่วงที่อยู่ที่นี่ด้วยกันนี่…”  ไอติมหยุดทำหน้าบู้แล้วพ่นลมหายใจหนึ่งทีก่อนจะคลี่ยิ้มปริ่ม
   

“…ก็ตวงให้ตุงเหมือนเป้าแซ็คไว้ก่อนอะ”
   

[เอ๊า คือพอเปลี่ยนโซน เปลี่ยนประเทศขวัญใจมึงก็จะกลายเป็นอีกคนงี้เหรอ] เดนนี่หัวเราะ ที่เขาพูดนี่คือกำลังพูดถึงความคิดของไอ้ติมมันอยู่ มันต้องกำลังคิดอะไรแนวนี้อยู่แน่ๆ
   

ไอติมย่นคิ้ว มองเดนด้วยความไม่แน่ใจว่าจะเอามาใส่ใจหรือจับเอามาเป็นประเด็นดีมั้ย แต่คิดอีกทีก็แค่เล่าให้เดนฟังเฉย ๆ แค่นั้นเอง “ก็… ตอนอยู่นู่นใช่ป้ะ เขาดูเฉย ๆ กับกู คือไม่ใช่ว่ากูจะให้เขาชอบกูนะ แต่เขาไม่มีปฏิกิริยาน่ารัก ๆ แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้”
   

[มึงก็เลยกลัวว่าถ้าข้ามเขตประเทศไป ขวัญใจมึงจะทื่อเป็นหินกับมึงงี้เหรอ] ไอติมยิ้มแหยแต่ก็พยักหน้าลงหนึ่งครั้งอย่างยอมรับ เดนนี่ทำหน้าตางง ๆ แต่ริมฝีปากก็ขยับเป็นรอยยิ้มด้วยความรู้สึกตลก
   

[ไบโพล่าเปล่าวะ หรือเป็นที่อากาศ ขวัญใจมึงนี่ก็แปลกไม่เบานะ]
   

“งั้นกูยอมให้เขาแปลกแล้วก็เป็นไบโพล่าได้ด้วย” ไอติมพูดหน้าตาจริงจัง แต่มันเป็นจริงจังที่ทำให้เดนนี่ขำ เพราะไอ้ห่าติมทำซะตลก
   

[เขาหลอกพักฟรีกินฟรีจากมึงซะละมั้ง] ไอติมไหวไหล่ทำหน้าตาชิลๆ
   

“ไม่เป็นไร กูรวย...” ไอติมเน้นตรงคำว่ารวยและทำหน้าภาคภูมิใจในความรวยของตัวเอง เดนนี่ถึงขั้นปรบมือเสียงดังและขำไปด้วย
    

“…กูเปย์ให้เขาจนได้การ์ดทองคำมา เปย์อีกนิดอีกหน่อยแลกกับความไบโพล่าของเขา กู ทุ่ม งบ ไม่ อั้น!” ไอติมออกเสียงช้า ๆ ชัด ๆ กับห้าคำหลังสุดท้ายและปิดท้ายด้วยการเอามือซ้ายตบกระเป๋ากางเกงเบา ๆ พร้อมกับทำหน้าทำตาเหมือนพวกเจ๊ซื้อเด็กผู้ชายมาปรนเปรอตัวเอง
   

[แม่กับน้ามึงต้องภูมิใจมากที่หลานชายเอาเงินในบัญชีที่เขาฝากให้ทุกเดือนไปใช้จ่ายอะไรแบบนี้ มึงโชว์บัตรทองคำแท่งให้เขาดูยังล่ะ] เดนพูดไปก็ขำไป ขำจนน้ำตาจะไหล
   

“โชว์ แล้วก็บอกว่าเป็นบัตรทองสามสิบบาทเอาได้ทุกท่า” ไอติมเบะปากใส่เพื่อนสนิทตัวโตที่หัวเราะก๊าก ไอติมมองเพื่อนอย่างไร้อารมณ์ แวบหันไปมองในห้องเพราะรู้สึกว่ามีอะไรผ่านหางตาไป แล้วก็เห็นว่าแซ็คเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ 
   

[แต่ก็ยังดีที่ตอนเรียนมึงรับจ๊อบสอนตัดต่อกับงานนอกได้ตังค์มาใส่บัญชีด้วยตัวเองมั่ง] สมัยเรียนไอติมรับงานจากเพื่อนในคณะ แล้วยังมีรุ่นพี่รุ่นน้องอีกหลายคน คนไหนทำงานตัวเองไม่ทัน หัวตันคิดอะไรไม่ออกหรืออยากได้งานสวย ๆ ดี ๆ ครีเอทก็มาจ้างให้ไอติมช่วยทำให้ เพราะไอติมเก่งเรื่องการเรียบเรียง การลำดับและการตัดต่อ แต่ก็จะเป็นแนวสอนแนวบอกมากกว่าว่าให้ทำยังไง เงินที่ได้ถือเป็นค่าสอน ไอติมไม่อยากเอางานของใครมาทำเองล้วน ๆ แล้วเจ้าของงานก็ไม่ได้อะไรไปพัฒนาฝีมือตัวเองเลย ถือว่าไอติมเป็นครูของใครหลายคนในเวลานั้นรวมทั้งตัวเดนนี่เองด้วย แล้วความปากต่อปากเลยทำให้ไอติมได้งานนอกด้วย ซึ่งงานนอกอันนี้ไม่มีสอน ทำล้วน ๆ รับเน้น ๆ ยิ่งกว่าในมหาวิทยาลัย แต่เจ้าตัวก็รับไม่มากเพราะเหนื่อยและอินดี้ ขี้เกียจขึ้นมาก็ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ยิ่งช่วงใกล้จบที่ต้องทำงานคู่กับเดนก็ไม่รับงานอื่นเลยเพราะทุ่มเทให้กับโปรเจ็คต์จบที่ทำคู่กัน แล้วก็เป็นไปตามคาด ไอติมกับเดนนี่ได้เอส่งท้าย
   

ไอติมหันกลับมามองเพื่อนอีกที “ก็กูบอกแล้วว่ากูร้วยยย”
   

[ฮ่าๆๆๆ] เดนนี่ใช้มือขวาตีหัวเข่าตัวเองและหัวเราะร่วน ไอติมขำแบบเอ๋อ ๆ เพราะตกใจและงงนิดหน่อยว่าเพื่อนตัวเองจะขำอะไรขนาดนั้น
   

“เว่ออะ ตลกไรขนาดนั้น”
   

[รวยขนาดนั้นมาเปย์กูมั่ง กูก็ได้เสียกับมึงแล้วนะ]
   

“มึงต้องเปย์กูสิถ้างั้นอะ กูสถานะเมียเหอะ”
   

[อ้าวเฮ้ย ไม่ยุติธรรม กับขวัญใจมึงก็สถานะเมีย แล้วทำไมมึงเลี้ยงมันล่ะ] ไอติมทำลอยหน้าลอยตาให้เดนนี่หมั่นไส้เล่น ๆ แต่พักเดียวก็หยุดทำเพราะเห็นว่าพ่อฝรั่งตัวใหญ่เดินกลับไปนอนแผ่ร่างบนเตียงตามเดิม
   

“ก็กูเอ็นดูเขา แล้วก็ชอบดูเอ็นเขาด้วย” เดนนี่กลับมาขำอีกที ไอติมกลอกตากับความเส้นตื้นของมัน ไม่รู้แอบเล่นกัญชาหรือเปล่าถึงแฮปปี้อะไรขนาดนี้
   

“แต่ว่า… เออ เดน ๆ เดี๋ยวคุยกันใหม่นะ จุ๊บๆ” เดนนี่พยักหน้าขึ้นสองสามที ไอติมยกมือบ๊ายบาย เดนนี่กดปิดโปรแกรม หน้าจอโน้ตบุ๊กไอติมขึ้นเป็นรูปจัมโบ้กับปีโป้ที่นั่งลิ้นห้อยอยู่หน้าบ้าน เขาพับจอโน้ตบุ๊กลง หมุนตัวไปเลื่อนเปิดประตูกระจกแล้วเดินเข้าไปในห้อง ใช้มือเดิมดันประตูให้เลื่อนปิดตามหลัง เดินเอาโน้ตบุ๊กไปวางบนโซฟา หยิบซองผ้าเย็นในถังน้ำแข็งสีเงินที่เตรียมไว้ขึ้นมาฉีก
   

“Good morning.” ไอติมทักเสียงใสขณะที่เดินถือผ้าเย็นสีขาวไปที่เตียง จังหวะที่จะล้มตัวลงไปบนเตียงก็หันไปเห็นนาฬิกาตั้งโต๊ะบนโต๊ะหนังสือตัวเองพอดีเลยเห็นว่าตอนนี้มันเที่ยงแล้ว แต่ไอติมก็ช่างมันและล้มตัวลงนอนทับบนตัวแซ็คที่นอนอ้าแขนอ้าขาอยู่
   

“Hi.” เสียงแหบพร่าดังขึ้นพร้อมกับเปลือกตาของฝรั่งร่างโตเปิดขึ้นแบบง่วง ๆ ดวงตาสีเทาอ่อนมองหน้าไอติมที่ยิ้มแย้มด้วยความรู้สึกมึน ๆ นิดหน่อย
   

“Fresh!” ไอติมยื่นผ้าเย็นไปให้แซ็ค หนุ่มหัวทองยกมือขวาขึ้นมาหยิบไปโปะลงบนหน้าของตัวเอง ความเย็นแผ่บนใบหน้าของเขา ไบรอั้นรู้สึกว่ากล้ามเนื้อเริ่มตื่นตัว ในหัวรู้สึกโล่งขึ้นจากเดิมนิดหน่อย
   

“Thanks.” เขาบอกเสียงแหบทุ้มและปล่อยผ้าเย็นแผ่อยู่บนหน้าแบบนั้น ทิ้งแขนขวาลงบนเตียงตามเดิม ไอติมยื่นมือซ้ายไปหยิบผ้าเย็นบนหน้าไบรอั้นและจัดการเช็ดให้อย่างอ่อนโยนโดยที่เจ้าตัวนั้นหลับตาพริ้ม ไอติมเช็ดจนทั่วหน้า ลากมายังลำคอหน้า แล้วก็ข้ามไปเช็ดที่อั้นไซซ์ย่อ อั้นไซซ์ใหญ่พ่นลมหายใจแผ่วเบา สีหน้าผ่อนคลายกับความเย็นจากผ้าที่ลูบวนอยู่ตรงลูกกลมกลึงสองลูก พักนึงก็ลากขึ้นมาตามแท่งเนื้อที่นอนอ่อนตัวอยู่บนท้องน้อย
   

“Hungry? (หิวมั้ยฮะ)” ไอติมถามพลางใช้ผ้าสีขาวผืนเล็กเช็ดวนส่วนหัวสีชมพูอย่างอ่อนโยน แต่ก็ทำเอากล้ามท้องของไบรอั้นหดเกร็ง
   

“อือฮึ” ไบรอั้นตอบพร้อมกับพยักหน้าหนึ่งที เขาลืมตาขึ้นตอนที่ไอติมหยุดเช็ดตรงจุดซ่อนเร้นและวางผ้าสีขาวทิ้งไว้บนน้องชายเขา เจ้าเด็กลามกกำลังมองหน้าเขาด้วยสายตาสดใสพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูจะอิ่มอกอิ่มใจเหลือเกิน ไบรอั้นยกยิ้มมุมปากซ้าย
   

“Why are you smiling so much? (ยิ้มทำไมนักหนา)” ไอติมเลิกคิ้วขึ้น มือซ้ายลูบท้องไบรอั้นขึ้นลงเหมือนกำลังเพลิน
   

“Smile? (ยิ้มเหรอ)” ไบรอั้นกดหน้าลงอีกที ไอติมขยับยิ้มเพิ่มขึ้นอีกนิดแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มฝรั่งหัวทอง เปลือกตาไบรอั้นปิดลงด้วยความง่วงที่ยังคั่งค้างอยู่ในร่างกาย พอลืมตาขึ้นอีกทีก็โดนเด็กลามกหอมแก้มอีกที เขาหลับตาลงและคลี่ยิ้มแบบคนง่วงนอน
   

“Do you have some drink? (มีอะไรให้ดื่มบ้างมั้ย)” ไบรอั้นถามทั้งที่เปลือกตายังปิดอยู่
   

“Drink?” ฝรั่งตัวล่ำหนาลืมตาขึ้นและพยักหน้าหนึ่งครั้ง
   

“Water. (น้ำน่ะ)” ไอติมนิ่งทำหน้าคิดพักหนึ่งก่อนที่ตาเรียวสวยจะโตขึ้นด้วยความเข้าใจ ดันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทีกระตือรือร้น
   

“Wait here. (รอนี่นะ)” ไบรอั้นพยักหน้าหงึก ๆ ไอติมลงจากเตียง เดินอ้อมไปทางปลายเตียงไปที่ประตู เปิดประตูห้องแล้วก็เดินออกไปข้างนอก ปล่อยประตูเปิดคาไว้ ฝรั่งหัวทองดันตัวลุกขึ้นนั่ง หยิบผ้าเย็นตรงกลางตัวออกแล้วก้าวขาลงจากเตียง จังหวะที่กำลังจะก้าวไปทางห้องน้ำเขาก็ชะงักเท้าไว้เพราะเห็นว่าประตูห้องที่อยู่เยื้องกันเปิดออกและมีร่างของเลโอที่เปลือยทั้งตัวยืนอยู่ในสภาพที่เพิ่งตื่นนอน เขาเดินไปยืนคุยกับเพื่อนตรงขอบประตูห้องนอนของไอติม
   

“แกเพิ่งตื่นเหมือนกันสินะ” เลโอยกมือซ้ายลูบหน้าพลางพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะเอาศอกซ้ายดันกับขอบประตูห้องเอาไว้
   

“วันนี้เราน่าจะคุยกันเรื่องทริปนะ…” ไบรอั้นยกหัวขึ้นหนึ่งครั้ง เลโอยื่นหน้าเข้าหามือซ้ายและใช้ปลายนิ้วเขี่ยขี้ตาบริเวณหัวตาออก
   

“…ไอศกรีมไปไหนล่ะ”
   

“ลงไปข้างล่าง พอดีฉันถามหาเครื่องดื่มแก้เมาค้างน่ะ” เลโอพยักหน้าลงหนึ่งทีเบาๆ
   

“ฉันว่าเราไปเที่ยวทะเลสักอาทิตย์หรืออาจจะสักสิบวัน เวลาที่เหลือก็กลับมาเที่ยวในกรุงเทพฯ มั้ย แกว่าไง”
   

“ก็ได้ ไปอาทิตย์นึงก็น่าจะดี เด็กนั่นอาจต้องการเวลาในการทำงาน” เลโอเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง
   

“มีอะไรให้ฉันช่วยมั่งรึเปล่าล่ะ” ไบรอั้นส่ายหน้าไปซ้ายทีขวาทีแบบช้าๆ
   

“ไม่แน่ใจว่าไอศกรีมของแกต้องการผู้ช่วยรึเปล่า” เลโอกระตุกยิ้มก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปมองตรงบันไดที่ไอติมกำลังเดินขึ้นมา ในมือถือถาดสีขาวที่บนนั้นมีกาน้ำสีใสฝาสีดำใส่น้ำสีเหลืองอำพันกับแก้วคริสตัลแบบมีหูสองใบขึ้นมา พอเห็นเลโอยืนเปลือยทั้งตัวอยู่หน้าห้องไอติมก็อ้าปากหวอ สายตามองตรงกลางลำตัวของพ่อคิงคองผิวช็อคโกแล็ตอ่อนที่แข็งตัวอ่อน ๆ  ด้วยความค้างเติ่ง
   

“Hello, ice-cream. (สวัสดี ไอศกรีม)” เจ้าของบ้านได้สติแล้วรีบเลื่อนสายตาขึ้นมองรอยยิ้มเหมือนคิงคองของเลโอและคลี่ยิ้มให้อีกคนแบบเงอะงะ
   

“ฮะ… ฮัลโหล” ไอติมหันไปมองไบรอั้นที่ยืนกอดอกและยิ้มขำน้อยๆ
   

“What’s that? (อะไรล่ะนั่น)” ไบรอั้นถามไอติมพลางพิงสะโพกซ้ายกับของประตู ไอติมที่รู้สึกตื้อในหัวเพราะภาพเปลือยกายของสองชายหนุ่มพยายามที่จะตั้งสติให้คงเส้นคงวา
   

“เอ่อ… Thai herb เอ่อ ขะ… ขิง… ขิง เอ่อ okay, Thai herb. It will help you feel good after drunk. (โอเค สมุนไพรไทย มันจะช่วยคุณรู้สึกดีหลังเมา)” ไอติมกลืนน้ำลายลงคอที่รู้สึกว่ามันแห้งซะเหลือเกิน
   

“Oh, really? (โอ้ จริงเหรอ)” เลโอถามด้วยความสนใจพลางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาไอติม
   

“เอ่อ… really อ่า yes” ไอติมยิ้มไม่เต็มปากให้เลโอและพยายามมองแต่หน้าเขาไว้ พยายามนึกคำศัพท์ของพืชชนิดนี้แต่ก็นึกไม่ออก แต่เมื่อเช้าแม่เตรียมไว้ให้ก่อนออกไปที่ร้าน และบอกว่ามันจะช่วยทำให้พี่เขาสองคนดีขึ้นถ้าเขาเมาค้างอยู่
   

“I prepare for you, too. (ผมเตรียมสำหรับคุณด้วย)” ไอติมบอกเลโอ หนุ่มล่ำผิวเข้มคลี่ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะก้มลงหอมแก้มไอติมหนึ่งฟอด
   

“You are lovely. Thank you. (นายน่ารักจัง ขอบใจนะ)” ไอติมยิ้มเม้มปาก มองเลโอที่กำลังเทน้ำขิงจากกาใส่แก้วแปบหนึ่งก่อนหันไปมองไบรอั้นที่ส่งยิ้มกรุ้มกริ่มและแววตาวิบวับมาให้เขา
   

“You? (แกเอามั้ย)” เลโอถามเพื่อนพลางยกน้ำขิงขึ้นจิบ ไบรอั้นเดินออกมาจากกรอบประตูห้องนอนมายืนตรงหน้าไอติม และจัดการเทน้ำขิงใส่แก้วอีกใบที่เหลือ
   

ทั้งที่ไอติมใกล้ชิดกับแซ็คจนได้สัมผัสทั้งตัวมาแล้วก็ตาม แต่ไอติมกลับรู้สึกตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจกับร่างเปลือยเปล่าที่อยู่ตรงหน้าราวกับเพิ่งเคยเห็นแซ็คแก้ผ้า อาจเพราะมีอีกร่าง (เปลือย) มาสมทบด้วย มันเลยเป็นบรรยากาศที่ไอติมไม่เคยเจอ ร่างเล็กสุดเงยหน้าขึ้นมองขวัญใจตัวเองที่ยกน้ำขิงขึ้นดื่มแต่ดวงตาสีเทากำลังจ้องมองเขาแบบตาไม่กะพริบ ไอติมกัดริมฝีปากล่าง ปลายเท้าจิกลงพื้น ท้องน้อยหุบวูบเข้าไป แซ็คลดแก้วลงไว้ตรงระดับอก มองหน้าไอติมค้างไว้ครู่หนึ่งก่อนเลื่อนสายตาไปมองเพื่อนตัวเอง ไอติมหันมองตามสายตาของแซ็ค ก็เห็นว่าเลโอกำลังมองตอบเพื่อน แล้วทั้งคู่ก็ยิ้มเหมือนรู้กัน แล้วก็หันมามองที่ไอติมพร้อมกันทั้งสองคน
   

“This is so good. Thank you again. (น้ำนี่ดีมากเลย ขอบคุณอีกครั้งนะ)” เลโอก้มลงหอมแก้มขวาของไอติมอีกที แต่คราวนี้เขาเคลื่อนริมฝีปากหนาของเขาไปที่ริมฝีปากของไอติมแล้วจูบลงบนริมฝีปากสีแดงค้างไว้ ไอติมยืนเกือบจะตัวแข็งไปทั้งร่าง แต่ก็ยังพอรู้สึกตัวอยู่บ้างเลยก้มหน้าลงหลบริมฝีปากเลโอ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมถอยไปแต่โดยดี หนุ่มยุโรปผิวช็อคโกแล็ตหันไปมองเพื่อนที่ยิ้มมีเลศนัยแล้วยักคิ้วให้หนึ่งที ไบรอั้นหัวเราะหึ เลื่อนสายตามองเจ้าเด็กลามกที่ดูจะงง ๆ หน่อย
   
V
v
v

      


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 29-10-2018 23:47:56
V
v
v
   
“I think we should talk about our trip. (ฉันว่าเราควรคุยกันเรื่องทริปนะ)” ไอติมที่รู้สึกว่าหน้าร้อน ๆ ทำหน้าเหลอหลา ไบรอั้นยิ้มขำ
   

“A trip. Travel. (ทริป เที่ยว)” ไอติมอ้าปากว่าอ๋อแบบไม่มีเสียงแล้วพยักหน้าหงึกๆ
   

“Okay. Talk now? (โอเค คุยตอนนี้?)”
   

“Now is okay. (ตอนนี้เลยก็ได้)”
   

“เอ่อ you two wear shirt and pant?... มั้ย” ไอติมมอง (หน้า) สองหนุ่มสลับกันไปมา
   

“We’re fine with this. (เราสบาย ๆ กับแบบนี้มาก)” ไอติมมองหน้าเลโอและอ้าปากหวอน้อย ๆ ให้เลโอขำเบาๆ
   

“F—fine, fine เหรอ อ่า… okay, fine” ไบรอั้นขำแบบไม่มีเสียงกับท่าทีเหมือนหมางงหลงทางของไอติม
   

“Are you fine? (นายสบายดีนะ)” ไอติมมองหน้าไบรอั้นนิ่งพักหนึ่งก่อนจะนึกได้ว่าต้องตอบยังไง
   

“Yes, yes. I am fine. (ฮะ ใช่ ผมสบายดี)” ไบรอั้นผายมือซ้ายให้ไอติมเดินนำเข้าไปในห้องนอน ไอติมเดินถือถาดที่มีกาน้ำอยู่บนนั้นเข้าไปวางบนเตียง เดินไปที่โซฟา หยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมาเปิดพร้อมกับนั่งลง โดยมีฝรั่งตัวใหญ่สองเชื้อชาติและสองผิวสีที่ตัวเปลือยเปล่าล่อนจ้อนนั่งขนาบซ้ายขวา ไอติมรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว รู้สึกว่าลมหายใจจะร้อนกว่าปกติแม้แอร์ในห้องจะเย็นฉ่ำก็ตาม
   

“Samui, Phangan, and Turtle island, that is your aunt’s, I mean Pan’s suggestion from last night. What do you think, ice-cream? (เกาะสมุย เกาะพงัน แล้วก็เกาะเต่า น้าของนาย ฉันหมายถึงแพนน่ะ แนะนำมาเมื่อคืนนี้ นายคิดว่าไงล่ะ)” เลโอที่นั่งชิดอยู่ด้านขวาของไอติมถามพลางก้มหน้าลงมองหน้าจอโน้ตบุ๊กที่ไอติมกำลังเข้าเว็บสำหรับหาที่พัก ไอติมกลืนน้ำลายหนึ่งที แอบเหล่ตามองคิงคองตัวลูกที่ห้อยหัวโตงเตงแข่งกับลูกกลมกลึงสองลูก
   

“เอ่อ yes, good idea. She tell me, too. (ฮะ ไอเดียดี น้าแพนบอกผมเหมือนกัน)” ไอติมเข้าแท็บเว็บใหม่ เสิร์จภาพเกาะสมุยให้สองหนุ่มดู ไอติมใช้มือขวาเลื่อนแท็บคอนโทรลเม้าส์คลิกภาพตามที่เลโอกับไบรอั้นชี้ ทั้งสองคนออกความเห็นกัน ไอติมจับใจความได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะสติกำลังเบลอเนื่องจากความร้อนในตัวเองและความร้อนจากร่างกายล่ำบึ้กของสองหนุ่มที่นั่งขนาบข้างตัวเองอยู่
   

“ฉันว่าก็สวยดี” ไบรอั้นพูดกับเพื่อนพลางยกน้ำขิงขึ้นจิบ
   

“มีทัวร์เกาะรอบ ๆ ด้วย เดี๋ยวคงต้องรบกวนให้ไอศกรีมจัดการให้” ไบรอั้นพยักหน้า แล้วก็บอกให้ไอติมหาข้อมูลอีกสองเกาะที่เหลือ ซึ่งเจ้าของห้องก็พยายามประคองสติและสายตาตัวเองไม่ให้วอกแวก แม้จะสังเกตเห็นว่าความเป็นชายของเลโอจะขยายตัวขึ้นกว่าเดิมก็ตาม แต่ก็ต้องทำนิ่ง และดึงสติมาใช้ในการพูดสื่อสารกับทั้งสองคนให้รู้เรื่องที่สุดให้ได้
   

“Ice-cream, have you ever go to full moon party before? (ไอศกรีม เคยไปงานปาร์ตี้ฟูลมูนมั้ย)” ไอติมหันไปมองเลโอและทำหน้านึกคำแปลของคำถามนั้น
   

“Full moon party?” เลโอพยักหน้าและอมยิ้มน้อยๆ
   

“Yes, have you? (ใช่ เคยมั้ย)” ไอติมส่ายหัว
   

“I don’t like drunk and smoking. (ผมไม่ชอบเมาและสูบบุหรี่)”
   

“Yeah, I know. (ใช่ ฉันรู้แล้วละ)” ไอติมหันไปมองไบรอั้นที่ทำหน้าเข้าใจกับคำพูดของตัวเอง เมื่อคืนนี้เขาเห็นว่าเจ้าเด็กนี่ไม่แตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย และในร้านติดป้ายเตือนเลยว่าห้ามสูบบุรี่ภายในบริเวณร้านเด็ดขาด แม้แต่บริเวณนอกร้านก็ไม่ได้ ซึ่งน้าของเจ้าเด็กนี่เล่าว่าเป็นเพราะหลานชายไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ เป็นคนไวต่อกลิ่นพวกนี้ ได้กลิ่นมาก ๆ เข้าจะเกิดอาการปวดหัว
   

“We can cut it out from the trip. (เราตัดออกจากทริปก็ได้นะ)” เลโอบอก
   

ไอติมนิ่งแปลคำพูดของเลโอสักแปบ ก่อนจะพอเข้าใจเลยหันไปมองคนพูด “No, no. You two go I will wait at hotel. (ไม่ ไม่ คุณสองคนไป ผมจะรอที่โรงแรม)”
   

ไอติมพยักหน้ายืนยันกับเลโอ และหันไปพยักหน้าให้ไบรอั้นอีกคนด้วย “You don’t? (นายไม่ไปเหรอ)”
   

“If I go maybe I will make you not fun because I don’t like party. I mean, drunk party, dance. (ถ้าผมไป อาจจะทำให้คุณไม่สนุกเพราะผมไม่ชอบปาร์ตี้ ผมหมายถึงว่า ปาร์ตี้ เมา เต้น)” ไอติมพยายามอธิบายให้ทั้งสองคนฟังเท่าที่จะทำได้
   

“But you went to the pub and watching me dance. (แต่นายไปผับและดูฉันเต้นมาแล้วนะ)” ไอติมนิ่งไปสักแปบก่อนตอบพร้อมรอยยิ้ม
   

“You dance, not me. And I go because you. (ก็คุณเต้น ไม่ใช่ผมเต้น และผมไปเพราะคุณ)”
   

“But I go this trip with you. And you are not going? (แต่ฉันไปทริปกับนายนะ แล้วนายก็จะไม่ไปน่ะเหรอ)” ไอติมมองหน้าไบรอั้นตาใสพักหนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้ม แต่พักนึงก็หุบยิ้มเพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจถูกมั้ย
   

“I go with you? (ผมไปกับคุณ?)” ไบรอั้นพยักหน้าแบบงง ๆ กำลังสงสัยว่าถ้าในเมื่อไปทริปเดียวกันแล้ว ทำไมถึงไม่ไปด้วยกัน
   

“Yes, you go with me. (ใช่สิ นายไปกับฉัน)” ไบรอั้นตอบแบบงุนงงนิดหน่อย เพราะคิดว่าถ้าไป ก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว จะให้ไปกับใคร
   

“You want me go with you? (อยากให้ผมไปกับคุณ?)” ไบรอั้นย่นคิ้ว หันมองหน้าเพื่อนที่กำลังอมยิ้มขำก่อนกลับมามองไอติมที่ยิ้มหน้าเป็นอยู่
   

“อาฮะ I want you to go, we go together and you said you will be my guide. (อ่าฮะ ฉันอยากให้นายไป เราไปด้วยกันนะ แล้วนายก็บอกว่าจะเป็นไกด์ให้ฉันไง)”
   

“Say yes. (พูดว่าใช่สิ)” ไอติมยิ้มตาใส ไบรอั้นย่นคิ้วหรี่ตามองเจ้าเด็กมือไว
   

“Yes for what? (เพื่ออะไร)”
   

“Yes, you want me go with you. (ใช่ คุณอยากให้ผมไปกับคุณ)”
   

“I want you to go with me. (ฉันอยากให้นายไปกับฉันไง)” ไบรอั้นยังรู้สึกงงอยู่ว่าไอ้เด็กขี้ลวนลามมันจะจี้เอาอะไรนักหนา เขามองรอยยิ้มทะเล้นนั่นงงๆ
   

“Really? (จริงเหรอ)”
   

“Yes.” ไบรอั้นยิ้มแบบสับสนแต่ก็คือยังยิ้ม ไอติมหัวเราะคิก
   

“Okay, I go. (โอเค ผมไป)” เลโอหัวเราะ ไอติมหันไปมองหน้าพ่อคิงคองแล้วยิ้มขำก่อนหันกลับไปมองไบรอั้นอีกทีที่กลอกตามองบน และทำหน้าเหมือนคนโดนบีบคอ ไอติมยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มขวัญใจตัวเองหนึ่งฟอด ไบรอั้นมองไอติมด้วยความมันเขี้ยวและหมั่นไส้
   

“Are you sure you are not good at English? (แน่ใจนะว่าภาษาอังกฤษนายไม่ดีน่ะ)” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ ทั้งที่ยังยิ้มทะเล้น ไบรอั้นยกมือขวาขยี้ผมสีดำของไอติมด้วยความมันเขี้ยว ไอติมยื่นหน้าไปจุ๊บปากไบรอั้น พระเอกหนังผู้ใหญ่จุ๊บกลับ ถือว่าเป็นรางวัลกับความเจ้าเล่ห์น้อย ๆ ของเจ้าเด็กลามก
   

“I want that kiss too. Could I have it? (ฉันอยากจูบแบบนั้นมั่ง ขอมั่งได้มั้ย)” ไอติมหันไปมองเลโอที่ยิ้มอ่อนและมองไอติมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ไอติมมองงง ๆ เลโอเลยยกนิ้วมือซ้ายจิ้มที่แก้มกับปากตัวเอง ไอติมเข้าใจในการสื่อสารนั้น ร่างเล็กสุดในห้องนอนหันไปมองคนหัวทองที่กดหน้าลงหนึ่งครั้งแล้วยิ้มเบา ไอติมหันกลับไปหาเลโอ มองใบหน้ายาวแต่สันกรามแหละโหนกแก้มชัดด้วยความชั่งใจ เลโอยื่นมือซ้ายไปจับมือขวาของไอติม ค่อยๆ ดึงมือนุ่มนิ่มไปวางลงบนแก่นกายของตัวเองที่ขยายตัวขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับแข็งโด่
   

“หูย…” ไอติมครางเสียงเบาด้วยความตื่นเต้น หัวใจเต้นวูบหวิว เขานั่งมองมือตัวเองที่ขยับไปตามผิวเนื้อตรงนั้นด้วยมือของเลโอที่เป็นคนบังคับทิศทางของมือ
   

“You like it? (ชอบมั้ย)” เลโอเอียงหน้าถาม ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ มองเลโอแววตานิ่งจนเกือบจะเป็นเกร็ง แต่ในขณะที่ไอติมรู้สึกว่าตัวเองจะกลายเป็นหินแล้วนั้น มือของตัวเองก็กำนิ้วรอบแท่งเนื้อทรงกระบอกของพ่อคิงคอง ไอติมทำปากว่าหูว หัวใจพองโตด้วยความรู้สึกดี เลโอคลี่ยิ้มบางแล้วยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มของไอติมหนึ่งครั้ง ไอติมยิ้มก่อนยื่นหน้าไปหอมแก้มเลโอคืนบ้าง
   

“Thank you. (ขอบใจ)” ไอติมยิ้มและปล่อยมือขวาออกจากจุดนั้นของเลโอ ยิ้มเก้อเขินกับหนุ่มคิงคองแปบหนึ่งก่อนหันกลับไปมองแซ็คที่นั่งเอนหลังพิงพนักโซฟาและมองมาทางเขากับเลโออย่างชิลๆ
   

“What about the last island? (แล้วเกาะสุดท้ายล่ะ)” ไอติมยื่นมือซ้ายไปจับลิตเติ้ลอั้นและรูดเข้ารูดออกอย่างคุ้นเคย มือขวาก็เสิร์จหาข้อมูลเกาะเต่าไปด้วย เจ้าของห้องนอนเลื่อนภาพให้สองหนุ่มดู ทั้งคู่สนใจเรื่องการดำน้ำเป็นพิเศษ และสรุปได้ว่า เคาะเลือกทริปสามเกาะนี้
   

“Could you do this ice-cream? To manage the trip? Let me know if you need some help. (นายทำได้มั้ยไอศกรีม จัดการทริปน่ะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกได้เลยนะ)” ไอติมที่รูดรั้งชักเข้าชักออกลูกชายแซ็คจนมันงัวเงียตื่นขึ้นมาหันไปมองเลโอและคลี่ยิ้มน้อยๆ
   

“I will talk with น้า Pan” เลโอพยักหน้า มองไอติมที่กำลังเพลินกับการจับของเด็ดของเพื่อนสนิทตัวเองแล้วคลี่ยิ้มขำ
   

“If you want to change the cock you can touch mine anytime. (ถ้าอยากเปลี่ยนดุ้นใหม่ นายจับของฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ)” ไอติมยิ้มก่อนที่จะเข้าใจในประโยคนั้น ในหัวกำลังนึกเกี่ยวกับทริปตัวเอง และมีความคิดนึงพุ่งเข้ามาในหัวเลยหันไปมองไบรอั้นที่กำลังจิบน้ำขิงเข้าไปอึกใหญ่
   

“Do you have underpants for swim? (มีกางเกงสำหรับว่ายน้ำมั้ย)” ไอติมกลัวไบรอั้นไม่เข้าใจเลยใช้มือขวาพิมพ์คีย์เวิร์ดที่ต้องการลงบนกูเกิ้ล คลิกเข้าที่ค้นหาภาพก็ขึ้นมาเพียบ
   

“You have this? (มีอันนี้มั้ย)” ไบรอั้นชะโงกตัวไปดูหน้าจอแล้วก็ส่ายหัว
   

“You should have. I want you wear for work. (คุณควรมีอะ ผมอยากให้คุณใส่สำหรับงาน)” ไบรอั้นไหวไหล่สบายๆ
   

“We could go to shopping. (ไปซื้อเอาก็ได้)”
   

“Shopping? Oh, okay. Go shopping after food. (ช้อปปิ้งเหรอ โอ้ โอเค ไปช้อปปิ้งหลังอาหาร)” ไอติมยิ้มเหมือนเด็กดีใจ แต่การกระทำของมือซ้ายนั้นไม่เด็กเลยสักนิด ตอนนี้ลูกชายของไบรอั้นตื่นเต็มตัว ตั้งโด่แข็งแรง
   

“งั้นเดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อน” เลโอลุกขึ้นยืน ไอติมหันไปมองก่อนไล่สายตาลงไปที่ตรงจุดนั้น คิงคองไซซ์ย่อแข็งตัวไม่แพ้ลิตเติ้ลอั้น ไอติมมองตาวาว เลโอขยับมุมปากยิ้มหนึ่งทีก่อนหมุนตัวเดินไปเปิดประตูแล้วออกไปจากห้องพร้อมกับแก้วน้ำขิง ไอติมหันกลับไปหาไบรอั้นที่มองรออยู่ก่อนแล้ว
   

“You want to fuck? (อยากเอามั้ย)” ไบรอั้นถามน้ำเสียงปกติ ไอติมปล่อยมือซ้ายออกจากจุดนั้น มองหน้าไบรอั้นแล้วยิ้มกริ่มอิ่มใจ
   

“I will go to cook food for you and Leo. (ผมจะไปทำอาหารสำหรับคุณกับเลโอ) Take a shower finish แล้ว ก็ลง เอ่อ down to under home (ลงข้างล่างบ้าน) นะ” ไบรอั้นยิ้มขำกับภาษาอังกฤษของเจ้าเด็กมือไว แต่ไม่ได้ขำเชิงดูถูกหรือเหยียดหยาม เป็นความขำกับการพยายามใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างใสซื่อ
   

“Okay, now I do really believe that your English was good when we have sex. (เอาล่ะ ตอนนี้ฉันเชื่ออย่างมากเลยที่ภาษาอังกฤษของนายจะดีตอนเรามีเซ็กซ์กัน)” ไอติมคลี่ยิ้ม ยกไหล่สองข้างขึ้นเขิน ๆ หันไปพิมพ์อะไรบางอย่างในกูเกิ้ลอย่างรวดเร็ว เลื่อนหาสักแปบแล้วค่อยหันไปพูดกับไบรอั้นโดยที่หางตาก็มองหน้าจอไปด้วย
   

“You can prove it again when we have sex next time. (คุณพิสูจน์อีกครั้งก็ได้ตอนเรามีเซ็กซ์กันครั้งหน้า)” ไบรอั้นอ้าปากหัวเราะเสียงทุ้ม
   

“Yes, I will.” ไอติมยิ้มปากเป็นสระอิทรงคว่ำ ดวงตาเป็นประกายวิบวับ
   

“Okay, take a shower นะ” ไบรอั้นพยักหน้า ไอติมค่อย ๆ พับหน้าจอโน้ตบุ๊กลงช้า ๆ แล้ววางไว้บนโซฟา
   


“Or you want me help you to take a shower. (หรือคุณต้องการผมช่วยอาบน้ำ)” ไอติมยิ้มคิกคัก ไบรอั้นแกล้งทำหน้าเอือมแล้วยกมือขวาขึ้นทำท่าปัดไล่เบา ๆ ไอติมยื่นมือซ้ายไปดันมือไบรอั้นลงแล้วโน้มตัวเข้าไปจุ๊บกล้ามแขนของคนตัวโต ก่อนจะขยี้จมูกลงบนเนื้อแน่นๆ
   

“Go. (ไปเถอะ)” ไบรอั้นบอกเสียงทุ้มนุ้ม ไอติมแหงนหน้าขึ้นและทำปากยื่น ไบรอั้นก้มลงจุ๊บปากเล็ก ๆ นั่นหนึ่งที ไอติมคลี่ยิ้มชื่นใจก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องนอน ทิ้งให้ไบรอั้นเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 29-10-2018 23:48:42
V
v
v


พอจัดการอาหารที่ไอติมเป็นคนทำให้เสร็จแล้ว เจ้าของบ้านก็พาสองหนุ่มไปโบกรถแท็กซี่ตรงหน้าปากซอย ตอนแรกไอติมจะให้ไบรอั้นเป็นคนขับรถของที่บ้าน แต่เพราะกลัวรถติดเลยเปลี่ยนแพลนเป็นว่าให้แท็กซี่ไปส่งที่รถไฟฟ้าแล้วเดี๋ยวนั่งต่อไปที่ห้างที่จะไปดีกว่า สองหนุ่มก็แล้วแต่เจ้าบ้าน ไม่มีขัดไม่มีขวาง เพราะไม่ว่าจะไปด้วยวิธีไหนก็ไปด้วยตัวเองไม่ถูกอยู่ดี
   

เดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าจนมาถึงห้างอันเป็นจุดหมายปลายทาง เลโอที่คิดว่าเข้ามาข้างในแล้วถ้าจะหลงอย่างน้อยก็ยังอยู่ในตัวอาคารเลยขอแยกตัวออกไปเดินหาซื้อของให้ตัวเองก่อน เนื่องจากไม่อยากให้รอกันไปรอกันมา ไอติมกับไบรอั้นแยกตัวไปกันสองคน ที่แรกที่ไอติมหาก่อนเลยคือแผนกชุดว่ายน้ำชาย หาแบรนด์ที่ตัวเองเคยเห็นในอินเตอร์เน็ต พอเจอแล้วก็พาไบรอั้นพุ่งตัวไปทางนั้นทันที
   

“อูยยย สีเหลืองแซ็คใส่แล้วต้องเซ็กซี่มาก… วายยย… เขียวก็ดีอะ… หืมมม สีขาวเวลาตุงต้องเต่งตึงมาก” ไบรอั้นมองไอติมหยิบกางเกงว่ายน้ำทรงสามเหลี่ยมหลายสีขึ้นมาทาบตรงเป้าเขาแล้วก็ขำ ท่าทางเหมือนเด็กได้เลือกของเล่นถูกใจอะไรแบบนั้น
   

“If I buy four you can wear four? (ถ้าผมซื้อสี่คุณสามารถใส่สี่?)” ไอติมชูไม้แขวนเหล็กสีเงินสี่อันที่แขวนกางเกงว่ายน้ำผู้ชายไว้คนละสีขึ้นตรงหน้า
   

“I could wear it all but I will buy it myself. (ฉันใส่ได้หมดแหละ แต่เดี๋ยวฉันซื้อเอง)” ไอติมสั่นหัวทั้งที่หน้ายังยิ้ม
   

“It’s okay. I will buy for you and when you wear finish, don’t clean it and give me. (ไม่เป็นไรฮะ ผมจะซื้อสำหรับคุณและเมื่อคุณใส่เสร็จ ไม่ต้องทำความสะอาดและให้ผม)” ไบรอั้นอ้าปากหวอแปบหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นหัวเราะ ไอติมยิ้มกว้างตาแทบหยี
   

“Oh, how psycho you are. (โอ้ นายโรคจิตอะไรขนาดนี้เนี่ย)” แวบหนึ่งในความคิดของไบรอั้นคือกลัวเจ้าเด็กนี่หน่อย ๆ กับการชอบสะสมกางเกงชั้นใน กางเกงว่ายน้ำที่เขาใส่ แต่ถ้ามองในมุมของการเป็นแฟนคลับที่ชื่นชอบใครสักคน เรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเขายังเคยได้ยินเลยว่า แฟนคลับนักร้องชื่อดังบางคนเก็บเศษทิชชูที่นักร้องคนนั้นใช้สั่งขี้มูกไว้ในกระเป๋าตังค์
   

“I can handle this, and after I wear it I will give it to you, okay? (ฉันจะจ่ายเอง และพอใส่แล้วฉันจะให้นาย โอเคมั้ย)” ไบรอั้นแค่คิดว่า เจ้าเด็กนี่ให้ที่พัก ให้อาหารเขากับไอ้เลโอก็มากพอแล้ว อะไรที่เขาจ่ายได้ ไม่ได้ลำบากเงินในกระเป๋าเขาก็แค่อยากจ่ายเอง
   

“Okay.” หลังจากนิ่งไปสักแปบไอติมก็ตอบตกลงพร้อมรอยยิ้มสดใสก่อนจะพาไบรอั้นเดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์
   

ไบรอั้นกับไอติมเดินไปดูเสื้อผ้าที่ร้านอื่น ไบรอั้นได้เสื้อกล้ามสีเหลืองอ่อนลายมิกกี้เม้าส์ใส่กางเกงมวยไทย ใส่นวมและใส่ที่คาดหัวมาอีกหนึ่งตัว ส่วนไอติมได้เสื้อเชิ้ตสีเขียวแขนสั้นลายดอกชบาสีแดงสดมาหนึ่งตัว ตอนที่กำลังยืนดูกางเกงขาสั้นกันอยู่สองคน ไอติมก็เจอพ่อมากับผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาแน่ใจว่าคงเป็นเมียใหม่ แต่ไม่แน่ใจว่าใช่คนเดิมกับที่เคยเจอกันตอนครั้งล่าสุดหรือไม่
   

“มากับใคร” เสียงห้วน ๆ ของพ่อถาม ไบรอั้นมองชายตัวสูงผิวขาวเหลือง หน้าตาซูบผอมและดูโทรม ๆ ด้วยความงง
   

“รุ่นพี่ มาจากอเมริกา” ไอติมตอบสบาย ๆ ไม่ได้อึดอัดหรือรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ
   

“ผัวรึไง” คนเป็นพ่อถามพลางเหลือบมองฝรั่งตัวใหญ่ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ไบรอั้นยิ้มแกน ๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอะไร
   

“เอ๊า ก็บอกว่ารุ่นพี่” ไอติมพูดด้วยความงง หันไปมองเมียใหม่ของพ่อที่กำลังพยายามกลั้นขำ ไอติมยกมือเกาหัวงง ๆ ก่อนจะชวนให้ไบรอั้นเดินออกไปจากร้านด้วยกัน
   

“Who’s that? (ใครเหรอ)”
   

“My dad. (พ่อผมเอง)” ไบรอั้นทำหน้าตกใจนิดหน่อยพร้อมกับหยุดเดินจนไอติมต้องเบรกตาม
   

“I don’ know he is your dad. I did not say hi to him. (ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นพ่อนาย ฉันไม่ได้ทักทายเขาเลย)”
   

“Not say hi. It’s very okay. (ไม่ต้องพูดสวัสดี มันโอเคมากๆ)” ไบรอั้นทำหน้างุนงง นึกถึงภาพที่ตัวเองยกมือไหว้แม่ไอติมด้วยความเป็นมิตรต่อกัน
   

“Really? (จริงเหรอ)” ไอติมพยักหน้า
   

“Really. (จริง)” ไบรอั้นย่นคิ้วนิดหน่อยก่อนจะก้าวเท้าเดินไปพร้อมไอติมอย่างช้าๆ
   

“And why I don’t see him in the house? (แล้วทำไมฉันไม่เห็นเขาในบ้านเลยล่ะ)” ไอติมแปลในหัวตัวเองแปบนึงก่อนจะตอบ
   

“My dad and my mom break up เอ่อ…” ไอติมย่นคิ้ว พยายามนึกคำศัพท์คำนั้น แต่ก็นึกไม่ออกเลยหยิบมือถือขึ้นมากดหาคำนั้นในดิคชันนารี
   

“…ได ไม่ใช่ ดี ดิวอช ว้อซ divorce, they divorce (หย่า เขาหย่า)” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ และคลี่ยิ้ม ไบรอั้นหยุดเดินอีกครั้ง
   

“They’ve got divorced? (พวกเขาหย่ากันเหรอ)” ไอติมที่ยังคงยิ้มพยักหน้าลงหนึ่งที ไบรอั้นมองรอยยิ้มนั้นด้วยความรู้สึกสับสน และความรู้สึกหน่วงในใจ
   

ทำไมยังยิ้มได้?
   

“I told mom to divorce with dad. (ผมบอกให้แม่หย่ากับพ่อ)” ไอติมเสริม ไบรอั้นมองดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของไอติมที่ยังคงสุกใสเหมือนเดิมด้วยความครุ่นคิด
   

ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักหน่อย
   

หนุ่มหัวทองพ่นลมหายใจเบา ๆ และพยักหน้าหนึ่งครั้ง “Why did you tell mom like that? To let them divorce. (ทำไมนายบอกแม่แบบนั้นล่ะ ที่ให้เขาหย่ากัน)”
   

ไอติมนิ่งคิดคำศัพท์ที่จะใช้ตอบสักแปบ “อ่า… คือ… dad is not good with mom and me. I don’t like him. (พ่อไม่ดีกับแม่และผม ผมไม่ชอบเขา)”
   

ฝรั่งตัวใหญ่พาไอติมเขยิบหลบทางคนเดินไปติดกับกำแพงของร้านเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่ง “Mom try to strong for me but I see mom is not happy. I tell mom divorce. (แม่พยายามแข็งแรง (อดทน) เพื่อผม แต่ผมเห็นแม่ไม่แฮปปี้ ผมบอกแม่หย่า)” 
   

“Do you love your dad? (นายรักพ่อตัวเองมั้ย)” ไอติมขมวดคิ้วและนิ่งไป ไบรอั้นถึงได้สติว่าน่าจะเป็นการละลาบละล้วงเกินไปแล้ว
   

“Hey, I’m sorry. You don’t need to answer me. (เฮ้ ฉันขอโทษ นายไม่ต้องตอบหรอก)”
   

“No. (ไม่รัก)” เสียงใส ๆ ตอบสั้น ๆ แต่ตอบน้ำเสียงหนักแน่น ไบรอั้นมองหน้าเจ้าเด็กลามกด้วยความตะลึงเล็กๆ
   

“No? (ไม่เหรอ)” ไอติมสั่นหัว
   

“I used to love dad. But now is no. (ผมเคยรักพ่อ แต่ตอนนี้ไม่)” ไบรอั้นมองไอติมด้วยความสับสนและรู้สึกสนใจในเวลาเดียวกัน สนใจว่าทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงคิดและรู้สึกแบบนี้
   

“He must bad so much to you and your mom. (พ่อนายต้องเลวร้ายกับนายและแม่มากสินะ)” ไอติมพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
   

“I just cut bad thing from life. (ผมแค่ตัดสิ่งไม่ดีไปจากชีวิต)” ไบรอั้นย่นคิ้วแวบหนึ่ง
   

“How could you do that? (นายทำได้ยังไง)” ไอติมมองขึ้นข้างบนและทำหน้านึก
   

“Just do it. What make you not happy why you keep it. It is toxic. (ก็แค่ทำ อะไรที่ทำให้คุณไม่มีความสุข ทำไมคุณต้องเก็บมัน มันเป็นพิษ)” ไบรอั้นนึกถึงชายหน้าตาซูบผอมที่ดูขัดกับไอติม และนึกไปถึงผู้หญิงที่มากับชายคนนั้น
   

“Is that his new wife? (คนนั้นภรรยาใหม่เขาเหรอ)” ไอติมยิ้มแค่มุมปากเล็ก ๆ และพยักหน้า
   

“Maybe number ten. (อาจเป็นเบอร์สิบ)” ไอติมตั้งใจจะสื่อว่าพ่อมีเมียเยอะ และคนนี้อาจเป็นคนที่สิบก็เป็นได้ ไบรอั้นที่พอจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไรก็ขำเบาๆ
   

“But your mom is still single. (แต่แม่นายยังโสด)” ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ไอติมยิ้มกว้างและตอบเสียงใส
   

“Mom love me more. She tell me she will not marry again. (แม่รักผมมาก เธอบอกผมว่าเธอจะไม่แต่งงานอีก)”
   

ไบรอั้นพยักหน้าด้วยความเข้าใจ เขาขยับริมฝีปากเป็นรอยยิ้มอ่อนแต่แววตากลับดูหม่นลง “You still have your mom and Pan. (นายยังมีแม่กับน้าแพนสินะ)”
   

“อื้อ I am happy with mom and Pan เอ่อ good, have happy good มีความสุขดี แหะๆ (ผมมีความสุขกับแม่และน้าแพน)” ไอติมยิ้มแหะ ๆ เพราะตัวเองพูดมั่วไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นไบรอั้นก็ยังคงยิ้มอ่อนด้วยความเข้าใจ
   

ไบรอั้นมองไอติมด้วยสายตาที่จู่ ๆ ก็ทำให้ไอติมรู้สึกเขิน ทั้งที่นาน ๆ ทีจะเขินอีกฝ่าย มันไม่ใช่สายตาเชิญชวนมีเซ็กซ์หรือเร่าร้อนจนร้อนวูบวาบ หรือทำให้ท้องน้อยหดเกร็ง แต่มันเป็นสายตาละมุนละไมและเป็นประกาย สุดท้ายไอติมเลยแก้เขินด้วยการเดินเข้าไปควงแขนไบรอั้นและพาเขาเดินไปร้านอื่นต่อ
   

“I have another one question, (ฉันมีอีกคำถามนึง)” ไอติมทำหน้านึก ทวนคำพูดของไบรอั้นในหัวจนพอจะเข้าใจเลยพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มแฉ่ง ไบรอั้นมองรอยยิ้มนั้นแล้วยิ้มบางเบา
   

“Do you still believe in love? (นายยังเชื่อในความรักมั้ย)”

      
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 30-10-2018 00:22:53
ตื่นเต้นว่าจะมีทรีซัม  :pighaun:
เห็นน้องตัดพ่อออกจากชีวิตแบบนี้ กลัวแทนคุณพี่เขาเลยค่ะ โหดมาก  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 30-10-2018 01:32:22
ทริปทะเลลลลลลลลลลลลลลลลลลล :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-10-2018 02:26:11
อีน้องใจหวั่นไหวแล้ว ทำไงดี มาเที่ยวทริปนี้ มือไม่ว่างแน่นอน ของเต็มมือไปโหมดดดดดดดดด  o18
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 30-10-2018 06:13:49
วุ้ยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 30-10-2018 14:49:44
มีความรู้สึกว่า เรื่องนี้ควรจะทำเป็นเกมจีบหนุ่มนะครับ (หัวเราะ) ถ้าทำนี่ผมเปย์แน่ๆ มันน่าจะดูได้อารมณ์มากกว่าเป็นนิยายเยอะเลย เพราะเอาจริงๆคาแรกเตอร์ที่น่าจับคู่ไอติมมีหลายคนมากเลยอะ ทั้งเดนนี่ (ซึ่งเป็นเมนผม) กับเลโอ และตัวอีเวนท์เอง ทุกอีเวนท์ก็เป็นอะไรที่สามารถกระทบกับเส้นเรื่องและความสัมพันธ์ของไอติมต่อคนๆนั้นได้ ผมชื่นชมทุกปมของคุณเจ๊ที่ขมวดมาใส่ในเรื่องนี้นะครับ มันสามารถเล่นได้เยอะมากเลยอะ และเราสามารถซ่อมปมพล็อตรองของแต่ละตัวละครหนุ่มๆได้หมดเลย น่าสนใจมากๆ

มีข้อแนะนำนิดหนึ่งครับ ตรงทอล์ค ไม่อยากให้ก็อปทอล์คที่จะคุยกับนักอ่านของเว็บอื่นๆแล้วแปะรวมกันนะครับ คือผมเข้าใจว่าคุณเจ๊อยากคุยกับนักอ่านแบบรวมๆแหละครับ แต่ว่านักอ่านของแต่ละกลุ่ม focus ก็จะไม่เหมือนกัน มีความสนใจต่างกัน มีความแฟนคลับต่างกัน ดังนั้นอยากให้พิจารณาถึงรายละเอียดของกลุ่มนักอ่านก่อนน่ะนะครับ ถ้าทอล์คแบบเหมาๆ บางทีมันจะดูไม่ค่อยดีน่ะครับ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 30-10-2018 16:58:31
จะมีฉาก3คนด้วยใช่ไหม... เอาจริงไอติมน่ากลัวอะ เป็นคนที่ดูไม่มีอะไรแต่หลายๆความคิดน่ากลัว ไม่ใช่ในทางที่ไม่ดีขนาดนั้นนะ ไม่รู้จะใช้คำไหนแทนน่ากลัวอะ ในอนาคตพี่แซ็คต้องโดนไอติมตัดออกจากชีวิตแน่เลยถ้าวันั้นไอติมไม่แฮปปี้ที่จะอยู่ด้วย เป็นนิยายที่ต้องกลับไปอ่านบทนำแทบทุกครั้งที่มีตอนใหม่ เหมือนในบทนำมีอะไรๆหลายอย่างมากเลย
แอบหวิวตามน้องติมตอนอยู่กันสามคน พวกตัวโตรู้กันวางแผนจะกินน้องสินะ แซ็คน่ะ ยังไม่รักเลยไม่หวง ถ้ารักแล้วคงหวงน่าดู รอออออออ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 30-10-2018 19:17:30
ดูเหมือนแซ็คเริ่มเอ็นูน้องบ้างแล้ว แต่เหมือนมีซัมติงกับเพื่ิอน แต่น้องก็ดูจะแฮปปี้ดีอ่ะนะ

เอาใจช่วยน้องติมนะจ๊ะ   :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 30-10-2018 21:01:45
เห็นที่บอกได้ตัดได้ก็ตัดถ้ามันไม่ดี
อ่านแล้วสะเทือนใจแทนพระเอกล่วงหน้า หวังว่าน้องจะไม่ทำกับพ่อพระเอกเราแบบนี้  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 30-10-2018 23:19:59
ตอนหน้าเที่ยวเกาะสวาทหาดสวรรค์
นุ้งไอติมจะรอดไหมหนอ พี่เลโอพร้อมเสียบมาก
ไบรอั้นระวังเพื่อนรักหักเลี่ยมเด้อ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: Elf_Carat ที่ 31-10-2018 13:11:38
เป็นกำลังใจให้ทุกคนพี่ตอมด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: skies ที่ 31-10-2018 15:08:25
อู้ววว เสียดายจังทำไมน้องไม่กินเลโอ ไม่เป็นไร ตอนหน้ายังมีลุ้น 55555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 31-10-2018 15:21:24
หูยยยยย นี่แอบคิดตามไปว่าไอติมจะเลือกชุดว่ายน้ำแบบไหนมั่งนะนี่  :z1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 01-11-2018 21:47:51
นั่นสิชื่นชอบกับรักมันก็คนละแบบกัน​ น้องติมเชื่อในรักมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.15 : Do you believe?. :29.10.18
เริ่มหัวข้อโดย: heangsure ที่ 02-11-2018 22:13:23
ดูทรงแล้ว น้องติมเหมือนเด็กซื่อๆใสๆนะ แต่ดูทรงแล้ว น้องน่าจะมีปมในใจค่อนข้างมาก และเกี่ยวกับพ่อของน้องนี่แหละ ดีไม่ดีจะมาตีตรงจุดที่น้องเป็นเกย์ด้วย

และคิดว่าเปอร์เซนต์คำตอบของน้องที่จะตอบว่า "ไม่เชื่อในความรักเลย" ก็น่าจะมีสูงด้วยสิ 

ไว้อาลัยให้พระเอกของเรื่องล่วงหน้า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 05-11-2018 21:04:20

Fall in lust, Chapter 16 :: First pair pic. (รูปคู่รูปแรก)



      เป็นครั้งแรกที่ไอติมเป็นคนจัดการเรื่องทริปเที่ยวด้วยตัวเอง แม้จะไม่หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะมีน้าแพนกับเดนนี่คอยช่วยเหลือแทบทุกขั้นตอน และน้าแพนยังหาคูปองส่วนลดที่พักมาให้ได้ตั้งสองเกาะ แถมคูปองอาหารมื้อค่ำหนึ่งมื้อในที่พักที่เกาะพะงันได้อีกต่างหาก ส่วนสองหนุ่มก็ไม่ได้ทิ้งให้ไอติมจัดการคนเดียวซะหมด เวลาไอติมขอความคิดเห็นอะไรก็โต้ตอบกลับมาจนได้ข้อสรุปที่ทั้งสามคนพึงพอใจ แม้จะมีคนคอยช่วยเหลือ แต่สำหรับคนอย่างไอติมที่ไม่เคยจัดการอะไรเองเป็นจริงเป็นจังมาก่อน ก็ถือว่าได้ลงมือมากที่สุดและออกมาดีที่สุดในความคิดไอติม


เวลามองตารางเที่ยว ‘ทริปสามเกาะกับเราสามคน’ ที่เป็นคนตั้งชื่อเองก็จะรู้สึกภาคภูมิใจที่ตัวเองสามารถจัดเรียงลำดับออกมาเป็นเรื่องราว ในตารางนั้นไอติมไม่ได้ใส่ทุกกิจกรรมลงไป ใส่แต่สถานที่เด่น ๆ กับกิจกรรมเด่น ๆ ที่ตกลงกันว่าต้องไป คือที่อื่นไม่ไปก็ได้หรือแวะก็ได้หากเป็นทางผ่าน แต่สถานที่ที่เขียนไว้ในตารางคือเป็นที่ที่ต้องไป ส่วนกิจกรรมแทรกอื่น ๆ ช่วงเวลาว่าง ก็ให้เป็นไปตามสถานการณ์ตอนนั้น ๆ ว่าจะเอายังไงดี แน่นอนว่าในตารางนั้นไอติมเขียนช่วงเวลาที่เขากับแซ็คต้องทำงานที่ต้องส่งให้ลูคัสด้วย


“What is that, mean? (อันนั้นน่ะ… ความหมายคือ?)” ฝรั่งหัวทองที่นั่งเป็นที่พิงให้เจ้าเด็กลามกอยู่บนเตียงชี้นิ้วไปที่ชื่อทริปซึ่งเป็นตัวใหญ่หนาเหนือตาราง


“Name trip. (ชื่อทริป)” ไอติมแหงนหน้าขึ้นยิ้มให้ไบรอั้น ฝรั่งตัวใหญ่เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง


“What the name is? (มันชื่อทริปว่าอะไรล่ะ)” ไอติมกดหน้าลงมองชื่อทริปบนกระดาษาแผ่นนั้น นึกคำที่จะใช้ในภาษาอังกฤษอยู่ครู่หนึ่ง


“Three island with three of us.” ไอติมพูดไปโดยที่ไม่แน่ใจหรอกว่ามันถูกหรือเปล่า แต่พูดแล้วมันเข้าปาก เขาก็รู้สึกว่ามันใช้ได้


ไบรอั้นยิ้มขำน้อยๆ “Like a threesome, huh? (เหมือนกับ… ทรีซัมน่ะเหรอ)”


ไอติมทำตาโตและพูดเสียงตื่นเต้น “I know this word! (ผมรู้จักคำนี้)”


“Are you? Do you really know the meaning? (งั้นเหรอ นายรู้ความหมายของมันจริง ๆ ใช่มั้ย) ไอติมพยักหน้าและลดมือวางลงบนต้นขาเปลือยเปล่าของไบรอั้น


“I see in porn. Three person have sex together. (ผมเห็นในหนังโป๊ คนสามคนมีเซ็กซ์ด้วยกัน)” ไบรอั้นยิ้มน้อย ๆ และพยักหน้า ไอติมยิ้มดีใจที่ตอบถูก


“And you want to try it? (แล้วอยากลองมั้ยล่ะ)” ไอติมมองหน้าไบรอั้นแล้วอ้าปากหวอ หัวใจเต้นตึกตักวูบหนึ่ง ในหัวคิดตามคำถามที่อีกฝ่ายถามอย่างวุ่นวาย พักนึงก็เม้มปากและยิ้มเขิน ฝรั่งหัวทองยิ้มขำ


“You and me and who? (คุณและผมและใคร?)” ไบรอั้นมองไปทางระเบียงห้องนอนและเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งก่อนจะเลื่อนสายตากลับมามองใบหน้าเรียวสวยของไอติมที่อยู่ใกล้กัน


“Leo? What do you say? (เลโอ? นายคิดว่าไงล่ะ)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ นึกถึงพี่คิงคองผิวช็อคโกแล็ตตัวล่ำกล้ามเนียนกับสามเหลี่ยมทรงคว่ำที่ลายลึกชัดเจนแล้วก็กัดริมฝีปากล่างก่อนจะคลี่ยิ้มอายๆ


“You have big cock and he have big cock, too. (คุณมีจู๋ใหญ่และเขาก็มีจู๋ใหญ่)” ไอติมพูดเสียงอ่อยแต่ก็ยิ้มตาเกือบหยี ไบรอั้นหัวเราะเสียงทุ้มเบาๆ


“You afraid of hurt? (กลัวเจ็บเหรอ)” ไอติมพยักหน้าหงึกๆ


“Two big cock. (จู๋อันใหญ่สองอันอะ)” พอนึกภาพว่ามีอันนั้นสองอันที่ไซซ์ใหญ่ยัดอยู่ในก้นตัวเองไอติมก็ร้องหูวเบา ๆ ไบรอั้นหัวเราะตลกขบขัน ไอติมยิ้มตาหยี


“You can train for it. (นายฝึกได้น่า)” ไอติมเอาหัวพิงไหล่ซ้ายเปลือยเปล่าของคนด้านหลังตัวเองไว้ มองรอยยิ้มของไบรอั้นแล้วก็ยิ้มกริ่ม ไบรอั้นปิดริมฝีปากลงแต่ก็ยังคงยิ้ม ไอติมมองตาสีเทาอ่อนของไบรอั้นตาเป็นประกาย ฝรั่งหัวทองมองตอบและก้มหน้าลงใกล้ริมฝีปากของไอติม ชะงักเหมือนกำลังไม่แน่ใจว่าจะไปต่อมั้ย แต่พอไอติมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ไบรอั้นก็ก้มลงจูบปากไอติม ปลายลิ้นคลอเคลียกันพร้อมกับที่ริมฝีปากบดกันไปมา ไอติมวางปึกกระดาษลงบนเตียง ยกมือขวาขึ้นลูบหลังหัวอีกคน


ตรุก… ตรุบ…


เสียงจูบดังแผ่วเบา ไอติมขนลุกซู่ ไอติมแท่งน้อยดีดตัวขึ้นทีละนิดจนค่อย ๆ พุ่งตรง มือขวาของไบรอั้นยื่นไปหยิบกล้องวิดีโอที่วางไว้บนหัวเตียงในขณะที่ยังจูบกับไอติม ร่างบางมองเห็นกล้องสีดำในมือของร่างหนาเลยหยุดจูบแล้วเอื้อมมือไปดึงกล้องมาเปิด เอาไปตั้งไว้ตรงช่วงปลายเท้าไบรอั้น โน้มตัวไปเช็กมุมภาพจากหน้ากล้องจนได้มุมที่พอใจก็กลับไปนั่งพิงคนตัวใหญ่ตามเดิม


ไอติมแหงนหน้าขึ้นไปจูบกับขวัญใจตัวเองต่อ จับมือขวาใหญ่หนามากำรอบไอติมแข็งของตัวเอง ไบรอั้นกำมือรอบไอติมแท่งและเริ่มชักเข้าชักออกช้า ๆ ไอติมรู้สึกขนลุกวาบไม่หยุดราวกับเจออากาศหนาวปะทะร่างกาย ท้องน้อยหดเกร็งเป็นระยะ ตอนที่สมองแทบจะขาวโพลนไอติมก็ดึงหน้าออกจากจูบของไบรอั้น หอมแก้มเนียนหอมกลิ่นเนื้อหนึ่งทีแล้วหันมองมือใหญ่ที่กำลังชักเร็วขึ้น ไอติมหลับตาพริ้ม สองมือยกขึ้นบีบกล้ามแขนล่ำของฝรั่งแน่น


“อือ… อือ…” เสียงใสครางเบาหวิว ปล่อยใจไปกับอารมณ์ที่ถูกมือนั้นปรนเปรอ และตอนที่โดนแซ็คก้มลงดูดเนื้อตรงคอ ตอนนั้นเองไอติมก็ปลดปล่อยออกมา น้ำสีขาวบางส่วนพุ่งลงบนเตียง ไบรอั้นรีบยื่นมือซ้ายไปรองรับน้ำสีขาวนั้นไว้ ไอติมหายใจเสียงหอบอ่อน ๆ หน้าท้องหดเกร็ง สองมือบีบแขนไบรอั้นแน่น


“โอ้… ฮ่ะ… อืม…” ไอติมเอียงหน้าเอาแก้มขวาขึ้นไปถูกับเคราของไบรอั้น ฝรั่งตัวใหญ่แนบสันกรามตัวเองเข้ากับแก้มของไอติม มือซ้ายที่เลอะน้ำสีขาวขุ่นข้นยกขึ้นมาป้ายไปทั่วหน้าท้องแบนราบที่มีกล้ามอ่อน ๆ ของคนข้างหน้า


“ฮู่ววว” ไอติมทำท่าผิวปากเบา ๆ และคลี่ยิ้มกว้าง ก้มมองมือซ้ายของไบรอั้นที่ลูบวนบนหน้าท้อง


“This is hand-job, right? (อันนี้คือแฮนด์จ๊อบใช่มั้ยฮะ)” ไบรอั้นพยักหน้าหนึ่งที


“อือฮึ” ไอติมยิ้มปริ่มสุข


“Wow, so good. Your hand is warm. (ว้าว รู้สึกดีจัง มือคุณอุ่น)” ไบรอั้นหยุดวนมือบนท้องไอติม ทิ้งคราบสีใสไว้บนนั้น มองตาแป๋วของเจ้าเด็กลามกและขำแบบลมออกจมูก


“Fuck only me, it’s okay?, all time you are in Thailand. (เอาแค่ผม ได้มั้ย ตลอดเวลาคุณอยู่ในประเทศไทย)” ไอติมทำหน้าอ้อน ไบรอั้นย่นคิ้ว แสร้งทำหน้าคิดหนัก ไอติมทำปากจู๋ เอาหัวถูแก้มคนตัวโต คนโดนอ้อนหัวเราะเบาๆ


“Like I said don’t be a self-centered too much. Be a good boy. (เหมือนที่ฉันบอก อย่าเอาแต่ใจมากเกินไป เป็นเด็กดี)” ไอติมยิ้มตาเป็นประกาย


“I am a good boy! (ผมเป็นเด็กดีนะ)”


“Then a good boy will be rewarded. (งั้นเด็กดีก็จะได้รางวัล)” ไอติมยิ้มแป้น ไบรอั้นจูบหน้าผากไอติมไปหนึ่งที เด็กลามกยื่นหน้าไปหอมแก้มคนตัวโตดังฟอดก่อนจะหันไปเอื้อมหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายหน้าตัวเองกับฝรั่ง


“Today we will go to the sea and I will see Bryan in sexy bikini คิๆ Are you excited? (วันนี้เราจะไปทะเลและผมจะได้เห็นไบรอั้นในชุดบิกินี่เซ็กซี่ คิ ๆ คุณตื่นเต้นมั้ยฮะ)”


“No, I’m afraid. (ไม่ ฉันกลัว)”


“Afraid what? (กลัวอะไร)”


“Afraid of you. (กลัวนายไง)” ไบรอั้นยิ้มขำน้อย ๆ ไอติมย่นคิ้วแล้วส่ายหัวรัวๆ


“No, no afraid me. I’m come good นะ (ไม่ ไม่กลัวผมสิ ผมมาดีนะ)” ไบรอั้นย่นคิ้วกับประโยคสุดท้าย


“Come good? What was that? (มาดี อะไรน่ะ)”


“ก็แบบว่า…” ไอติมเดดแอร์ไปชั่วขณะเพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง สุดท้ายก็คิดไม่ออก เลยคิดเปลี่ยนเรื่องแทน ฝรั่งหัวทองหัวเราะที่หนุ่มหัวดำทิ้งเรื่องเดิมไปซะดื้อๆ


“…before we go, Bryan have to cut hair เอ่อ ฮะมอย” ไอติมชี้ไปที่ขนในที่ลับให้ไบรอั้นเห็นและทำท่าตัดกรรไกร


“You want me to shave my public hair? (นายต้องการให้ฉันโกนขนในที่ลับเหรอ)” ไอติมนิ่งไป แปลคำพูดของไบรอั้นอย่างรวดเร็ว และตีความเอาว่าไบรอั้นน่าจะเข้าใจแล้วว่าเขาสื่อถึงอะไรเลยพยักหน้า


“อื้อ เชฟๆ you will look clean (คุณจะดูสะอาด). You will wear swimwear (คุณจะใส่ชุดว่ายน้ำไง) ไง”


“Oh, okay.” ไบรอั้นตอบรับอย่างชิล ๆ เพราะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับตัวเขาเนื่องจากเวลาถ่ายทำหนังโป๊บางเรื่อง เขาก็มักถูกรีเควสให้โกนขนให้เหมาะกับบทบาทของเรื่อง


“I will help you. (ผมจะช่วยคุณ)”


“You have never miss anything about my dick. (นายไม่เคยพลาดเรื่องที่เกี่ยวกับจู๋ฉันอยู่แล้วนี่)” ไอติมยิ้มแฉ่ง


“Yes, your dick!” ไบรอั้นหัวเราะแบบไม่มีเสียง ไอติมยิ้มตื่นเต้น เอียงหน้าไปมาและทำไหล่ยึกยัก


“Ready? (เอายัง)”


“อื้อ ป่ะๆ” ไอติมลุกออกจากเตียงไปยืนบนพื้น ไบรอั้นกระเถิบก้นลงจากเตียงตามมา ไอติมลดกล้องลงข้างตัว เดินนำไบรอั้นเข้าไปในห้องน้ำ วางกล้องไว้บนที่กดชักโครก เปิดตู้ไม้สีขาวสำหรับเก็บของที่ติดอยู่บนผนัง หยิบปัตเตอร์เลี่ยนสีเงิน โฟมโกนหนวดโกนขนและมีดโกนแบบมีด้ามจับออกมาจากตู้ จัดการเสียบปลั๊กปัตเตอร์เลี่ยนกับเต้าเสียบที่อยู่ใกล้กับขอบประตูห้องน้ำ


“I will do this. And you do this because maybe I will make you hurt. (ผมจะทำอันนี้ให้ แล้วคุณทำอันนี้เพราะอาจจะผมจะทำคุณเจ็บ)” ไอติมชี้มีดโกนกับโฟม ไบรอั้นพยักหน้าเข้าใจกับประโยคซ้อนคำของไอติม อยู่ด้วยกันมาสักระยะจนสมองเขาคุ้นกับภาษาอังกฤษของไอ้เด็กลามกแล้ว


ไอติมหันไปจัดวางกล้องให้ได้มุมที่ต้องการแล้วก็เดินกลับไปหาไบรอั้น หยิบปัตเตอร์เลี่ยนจากอ่างน้ำขึ้นมากดเปิดเครื่อง ไอติมมองสำรวจขนบนร่างกายของไบรอั้น เขาเป็นคนไม่มีขนตามตัวเลย ผิวไบรอั้นเนียนเรียบ ขนที่เห็นชัดบนลำตัวคือขนอ่อนตรงสะดือไล่ลงไปตรงจุดนั้นตามปกติของร่างกายมนุษย์ ส่วนขนแขน ขนขา ขนรักแร้นั้นมีตามปกติ ถ้าไม่มีไอติมก็คิดว่านั่นน่าจะไม่ปกติ


“Okay, now I know why you don’t let me wax the public hair yesterday. (เอาล่ะ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมนายไม่ให้ฉันแว็กซ์ขนลับเมื่อวานนี้)” ไอติมที่กำลังใช้มือซ้ายบีบไส้กรอกอเมริกันของแซ็คเงยหน้าขึ้นมองคนพูดทั้งที่ใบหน้ายังยิ้มไม่หุบ ฝรั่งหัวทองทำหน้าเอือมและกดสายตาลงไปมองที่มือของเด็กมือไว


“โอ๊ะ I will help you ไง” ไอติมว่าตาใส กะพริบตาปริบ ๆ ให้ขวัญใจตัวเองที่มองอย่างรู้ทัน แต่ก็เพิ่งจะรู้ทันก็เมื่อกี้นี้แหละ เมื่อวานตอนอยู่ร้านแว็กซ์ลืมคิดไป ทั้งที่จริงเขาควรจะรู้ตั้งแต่ตอนนั้นว่าทำไมเด็กลามกถึงให้แว็กซ์แค่ขนแขน ขนขา ขนรักแร้แล้วก็ขนตูด แต่ดันให้เว้นข้างหน้าไว้ ก็คิดว่าคงเว้นไว้หนึ่งจุดเฉย ๆ โดยไม่มีอะไรแอบแฝง 


“It is an honor for me and for you it is a horny. (เป็นเกียรติสำหรับฉันมาก และสำหรับนายมันเป็นอาการหงี่นั่นเอง)” ไอติมหัวเราะคิกคัก แปลได้ไม่แม่นนัก แต่ขำเพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่ตลกเมื่อดูจากสีหน้าของเจ้าของไส้กรอก


“Yes, it is a horny for me.” แล้วมันก็ตลกจริง ๆ สำหรับแซ็คเพราะเขาหัวเราะเสียงดังลั่นห้องน้ำ


“Okay. Okay. Yeah, horny. (โอเค โอเค ใช่ เงี่ยน)” ไอติมยิ้มตาม ไบรอั้นขำไหล่สั่นอกกระเพื่อม


“Let’s do it. (ทำเถอะ)” ไอติมพยักหน้าแล้วเริ่มลงมือไถขนอ่อนตรงล่างสะดืออย่างเบามือ ใช้เวลาแค่แปบเดียวขนตรงนั้นก็หายไป เพราะมันอ่อนและบางมาก ไอติมเลื่อนปัตเตอร์เลี่ยนลงไปที่ขนบริเวณรอบโคนเอ็นเนื้ออุ่น ลูกชายของไบรอั้นนอนสงบนิ่ง แต่แม้ในยามสงบนิ่งก็ยังคงดูเติบโต ขนสีดำร่วงลงบนพื้นกระเบื้องสีขาวที่แห้งสนิท ไอติมค่อย ๆ ย่อตัวลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นในขณะที่สองมือยังคงวุ่นวายอยู่กับความเป็นชายของฝรั่งตัวบึ้ก


 ไบรอั้นก้มลงมองไอติมที่กำลังไถขนให้เขาด้วยความตั้งใจจนชวนยิ้มขำกับสีหน้าที่ราวกับกำลังทำงานฝีมือที่ต้องใช้สมาธิและความประณีตเป็นอย่างมาก เด็กลามกใช้มือซ้ายดันเอ็นอุ่นขึ้นและใช้ปัตเตอร์เลี่ยนไถเอาขนตรงลูกลมกลึงหนังหยาบออกอย่างระมัดระวัง


“อ้าขา leg แยกๆ” ไอติมทำสองมือเป็นท่าแหวกออก


“What? (อะไร)”


“อย่างเงี้ยๆ” ไอติมแหวกขาของตัวเองออก ไบรอั้นทำหน้าว่าอ้อแล้วแยกขาให้กว้างขึ้น ไอติมยิ้มกริ่มและพยักหน้าหงึก ๆ ยกปัตเตอร์เลี่ยนไถขนขาตรงช่วงขาหนีบที่มีไม่มากหลังจากเคลียร์ตรงกลางเสร็จจนสะอาดตา แต่ก็ยังมีตอเหลือ ซึ่งเดี๋ยวจะให้เจ้าของใช้มีดโกนจัดการอีกที


“You look professional. (นายดูคล่องแคล่วดีนะ)” ไอติมแหงนหน้าขึ้นมองไบรอั้นแล้วยิ้ม คนตัวโตยิ้มน้อย ๆ ดวงตาสีเทามองโครงหน้าเรียวได้รูป ดวงตาเรียวสวย ริมฝีปากแดงบางแต่ไม่ได้บางเฉียบจนแทบไม่เห็นกลีบปาก ปลายจมูกโด่งแหลมรับกับใบหน้าเรียวนั้นอย่างเพลิดเพลิน


“Have you never had sex with anyone before? You look pretty, I mean you are good looking. Never fuck with anyone before, like, really?  (นายไม่เคยเอากับใครมาก่อนจริงเหรอ นายก็ดูน่ารักนะ ฉันหมายความว่านายเป็นคนที่ดูดี ไม่เคยกับใคร แบบว่า จริง ๆ น่ะเหรอ)” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองคนถามแปบหนึ่งและกลับไปไถขนต่อ ในหัวก็แปลประโยคนั้น แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็พอจะจับใจความได้


“No. (ไม่มีอะ)” ไอติมส่ายหัวและไถปัตเตอร์เลี่ยนตรงขาหนีบด้านขวาของไบรอั้น คนถามเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแล้วยกยิ้มมุมปากซ้าย


“Actually I should not have asked you like that, you were fucked by my copy cock, (ที่จริงฉันไม่ควรถามแบบนั้น นายโดนดุ้นก๊อปของฉันเย็xไปแล้วนี่นะ)” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองหน้ามึน


“I mean the dildo. You put it in your hole. (ฉันหมายถึงดิลโด้น่ะ นายเอายัดรูไปแล้วนี่)”


“Aha! Feel like you fuck me. (อ่าฮ่า! รู้สึกเหมือนคุณเยผม)”


“It’s me at finally who took your virgin. (สุดท้ายก็เป็นฉันอยู่ดีสินะที่เป็นคนเปิดซิงนาย)” ไอติมยิ้มพลางใช้มือปัดเศษขนที่ติดอยู่ตามเอ็นอุ่นและลูกกลมกลึงสองลูก


“I’m waiting for only you… to fuck me. (ผมรอแต่คุณ… ให้เอาผม)” ไบรอั้นย่นคิ้วแวบหนึ่งแล้วก็คลายออก


“Why me? (ทำไมต้องฉัน)” เขาก็สงสัยมาตั้งแต่แรกแล้วนั่นแหละว่าเด็กนี่มันจะฝังใจอะไรกับเขานักหนา แต่ก็ยังคาใจอยู่ว่า จะฝังใจ จะคลั่ง จะอยาก จะต้องการอะไรเขามากมาย ก็รู้ว่าเป็นแฟนคลับ แต่ถึงขั้นเก็บความบริสุทธิ์ของตัวเองไว้เพื่อเขาโดยเฉพาะก็คือแน่วแน่เหลือเกิน แล้วแน่ใจได้ยังไงว่าจะได้มีโอกาสเจอกับเขา


“เอ่อ แบบว่า you จึ้ก my heart…” ไอติมยกมือซ้ายจับที่อกซ้ายและทำหน้าเหมือนว่ามีอะไรแทงเข้าไปข้างใน ไบรอั้นยกคิ้วขึ้นและอ้าปากเหมือนจะหัวเราะ


“It’s like I’m fall in love but for me เอ่อ…” ไอติมปิดปัตเตอร์เลี่ยนและลุกขึ้นยืน เป็นอีกครั้งที่รู้สึกเดดแอร์เพราะไม่รู้จะอธิบายเพิ่มเติมยังไง


“For you it is fall in lust. I’ve been asked you. (สำหรับนายเป็นการตุกหลุมเงี่ยx ฉันเคยถามนายแล้ว)” ไอติมหันตัวเอาปัตเตอร์เลี่ยนไปวางไว้ในอ่างล่างหน้า หยิบโฟมโกนหนวดกับมีดโกนติดมือมา


“Mean what? (แปลว่าอะไร)”


“Google it. (ค้นกูเกิ้ลดูสิ)” ไบรอั้นรับของในมือไอติมไป ด้วยความข้องใจในความหมายของคำที่ไบรอั้นว่า เจ้าของห้องนอนเลยหมุนตัวเดินออกไปนอกห้องน้ำ ไปหยิบ iPhone 5 ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ตอนพาไบรอั้นไปแว็กซ์ขนที่ห้างเมื่อวานนี้ ไอติมเดินกลับเข้าไปหาไบรอั้นที่กำลังทาโฟมตรงจุดซ่อนเร้น


“How you spell ลัท ลัซ ลัด เอ่อ นั่นแหละ”


“Lust. L-U-S-T” ไบรอั้นตอบแล้วปิดฝาขวดโฟม โยนเข้าไปในอ่างล้างหน้าแล้วเริ่มโกนขนตรงนั้น ไอติมกดหาความหมายในกูเกิ้ลแล้วก็เจอ พอรู้ว่าแปลว่าอะไรก็อ้าปากกว้าง


“อ๋า I know แล้ว” ไบรอั้นบิดหน้าไปมองไอติมแล้วยิ้มมุมปากซ้าย


“Are you? (ใช่มั้ยล่ะ)” ไบรอั้นก้มหน้าลงไปมองตรงกลางลำตัวในขณะที่มือขวาก็จัดการตอขนที่ยังมีเหลืออยู่นิด ๆ หน่อยๆ


“I don’t know I just know I want you fuck me. (ผมไม่รู้ ผมรู้แค่ว่าผมอยากให้คุณเอาผม)”


“Now your wish was fulfilled, and I do believe it will keep fulfilling. (ตอนนี้นายก็สมหวังแล้วนี่ และฉันเชื่อว่าจะสมหวังต่อไปอีก)” ไบรอั้นไหวไหล่ กระเถิบเท้าไปยืนใกล้อ่างล้างหน้า หยิบปัตเตอร์เลี่ยนขึ้นไปวางบนชั้นวางของใต้กระจกทรงกลม มือซ้ายยื่นไปเปิดก๊อกน้ำเพื่อล้างมีดโกน ไอติมเดินเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ แล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มไบรอั้นหนึ่งที


“I’m happy!” ไบรอั้นยิ้ม วางมีดโกนไว้ใกล้กับปัตเตอร์เลี่ยน


“I know, and you know you are so lucky fan that you could sleep with your favorite person. (ฉันรู้ และนายรู้ตัวมั้ยว่านายเป็นติ่งที่โชคดีมากที่ได้นอนกับคนโปรดของนาย)” ไบรอั้นหันตัวเดินไปทางห้องอาบน้ำกระจกเพื่อจะล้างโฟมที่อยู่บนตัวออก ไอติมวางโทรศัพท์ไว้บนชั้นใต้กระจก เดินไปจับกล้องหันไปทางมุมอ่างอาบน้ำและห้องอาบน้ำ จัดมุมกล้องสักแปบแล้วค่อยเดินไปยืนตรงขอบประตูทางเข้าของห้องกระจกอาบน้ำ

V
v
v



หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 05-11-2018 21:09:41
V
v
v


“It’s not lucky it’s because money. (มันไม่ใช่โชคดี มันเพราะเงิน)” ไบรอั้นหัวเราะ ยกฝักบัวขึ้นไปเสียบกับแท่นเสียบหลังจากจัดการล้างโฟมจนสะอาด


“Oh, that’s right. (โอ้ว นั่นสินะ)” ไอติมเดินเข้าไปยืนใต้ฝักบัวกับไบรอั้น สองมือกอดเอวของคนตัวโต ไบรอั้นมองหน้าไอติมอย่างเรียบเฉย ยื่นสองมือไปวางบั้นท้ายของไอติม


“It’s not easy will have chance see you. I see your porn but how I see you. No. (มันไม่ง่ายจะมีโอกาสเจอคุณ ผมดูหนังโป๊ของคุณ แต่เจอคุณยังไง ก็ไม่)” ไบรอั้นลูบบั้นท้ายไอติมเบาๆ


“Money open door to see you and see your ดอด้วย (เงินเปิดประตูให้ผมเจอคุณและเจอดอคุณด้วย)” ไอติมยิ้มคิกคัก ไบรอั้นย่นคิ้วงง


“My door?” ไอติมเลื่อนมือซ้ายไปจับดอที่ว่าและบีบเบาๆ


“In Thai language we can call dick ว่า ดอ it come from กระดอ” ไอติมหัวเราะไหล่สั่นตาหยีเพราะตลกกับคำศัพท์ ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นและมีสีหน้าสนใจกับคำนั้น


“กาเด๊าะ?”


“กระ…” ไบรอั้นอ้าปากพูดตาม


“กระ”


“ดอ…”


“ดอ”


“กระดอ”


“กราดอ” ไอติมพยักหน้าพร้อมยิ้มกว้าง


“กะด่อ กะด่อ กะด่อ” ไอติมหัวเราะอ้าปากกว้างกับการทวนคำสามรอบของฝรั่งหัวทองที่ยิ้มแบบงงๆ


“Yes.”


“So money open the door to meet me and see my กะดอ (ก็คือเงินเปิดประตูมาให้เจอฉันและเจอกะดอของฉัน)”


“อะๆๆๆ” ไอติมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ยกสองแขนขึ้นคลองคอไบรอั้นและหอมแก้มขวัญใจตัวเองไปข้างละฟอด ฝรั่งคลี่ยิ้มกว้าง เลื่อนมือไปเร่งแรงดันน้ำของฝักบัวให้น้ำไหลรดตัวเขาทั้งสองคน แต่อาบไปอาบมา ไอติมก็ปลุกอารมณ์เขาด้วยการก้มลงไปดูดตรงนั้นจนมันแข็งตัว พออาบน้ำเสร็จและเช็ดตัวจนแห้งแต่หัวยังเปียกหมาด ๆ อยู่ ไอติมก็จูงมือไบรอั้นออกมาที่เตียงพร้อมกับถือกล้องและโทรศัพท์ออกมาด้วย จัดการตั้งกล้องบนพนักพิงโซนฟาจนได้มุมก็ปล่อยให้ทุกอย่างไปตามอารมณ์


ตับๆๆๆๆ


หลังจากโยนหลอดเจลหล่อลื่นไปบนโต๊ะเขียนหนังสือ ไบรอั้นก็รัวบั้นเอวใส่ไอติมที่นอนอ้าขาและสองแขนคล้องคอเขาไว้แบบเต็มที่ เจ้าเด็กลามกหลับตาพริ้มยิ้มหน้าเยิ้ม ส่งเสียงร้องอื้ออ้าแบบเบาหวิวสลับกับสูดปากเป็นระยะ ไบรอั้นใช้สองแขนดันตัว รัวเอวใส่เด็กน้อยด้วยความรู้สึกเสียวเอ็นเนื้อและท้องน้อย เขากัดฟันแน่นและครางเป็นเสียงลมเบา ๆ เป็นระยะ เด็กลามกยกแขนออกจากคอ เลื่อนมือลงไปลูบหน้าอกทั้งสองข้างของเขาวนไปวนมา


ไบรอั้นลดแขนลง ไอติมเอามือออกจากหน้าอกของคนข้างบนแล้ววางลงบนแผ่นหลังแทน ไบรอั้นหยุดขยับบั้นเอวสักพักเพื่อขยับขาให้กว้างขึ้น ใช้ข้อศอกดันตัวเองจนได้องศาที่เหมาะจากนั้นก็เริ่มกระแทกอีกรอบ


“อู… อา… อืม” ทั้งสองคนเลียปลายลิ้นของกันและกัน ผลัดกันดูดจนเกิดเสียงตรุบตรับจุบจับแข่งกับเสียงเนื้อกระทบ สองมือไอติมลูบขึ้นลงบนหลังแน่นหนาของไบรอั้น นิ้วเท้าสองข้างงอและเกร็งหน่อย ๆ กับความเสียวบริเวณท้องน้อยที่ทำเอาหัวใจวูบไหวราวกับใจจะขาดตลอดเวลา แต่ทว่ามันก็เสียวเสียจนไอติมแท่งน้อยแข็งไม่ยอมอ่อนเลย


ก๊อกๆ


ไบรอั้นถอนจูบจากปากไอติมแบบไม่รีบร้อนแล้วหันไปมองประตูห้อง ช่วงเอวขยับช้าลง เขาหันกลับมามองหน้าไอติมที่แดงระเรื่อและเจ้าตัวกำลังนอนหอบเสียงแผ่ว


“Your mom? (แม่นายมั้ง)”


“Hey. It’s me. (เฮ้ ฉันเอง)” เสียงหน้าห้องตะโกนตอบราวกับรับรู้คำถามเมื่อกี้นี้


“You locked the door? (นายล็อคประตูห้องรึเปล่า)” ไอติมส่ายหัว


“Come in. (เข้ามาสิ)” ประตูห้องถูกดันเข้ามา เลโอในชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงลายดอกขาสั้นสีฟ้าขาวเดินเข้ามาในห้องนอน ชะงักมองภาพบนเตียงครู่หนึ่งแล้วก็ยิ้มและปิดประตูตามหลัง


“Wow.” หนุ่มคิงคองยิ้มคล้ายว่าเขิน ไบรอั้นยิ้มขำ ขยับเอวเบา ๆ เพื่อไม่ให้อารมณ์นิ่ง ไอติมมองเลโอตาแป๋ว


“I want to know if you guys will pack the bag… but it’s clearly… (ฉันอยากรู้ว่าพวกนายจะแพ็คกระเป๋า… แต่ก็เห็นชัดแล้ว…)” เลโอเดินไปนั่งลงบนเตียง ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ มองหนุ่มคิงคอง ก่อนจะหันไปมองไบรอั้นเพราะเขาก้มลงมาหอมแก้มซ้ายหนึ่งที


“Don’t rush. The bus takes off at 8. (ไม่ต้องรีบหรอก รถบัสออกตั้งสองทุ่ม)” เลโอยิ้มอ่อน เลื่อนสายตาไปมองไอติมที่กำลังมองเขาตาใส


“Can I join with you? (ฉันร่วมวงด้วยได้มั้ย)” ไอติมกะพริบตาปริบ แม้จะไม่เข้าใจประโยคทันที แต่เซ้นส์ของไอติมก็จับความรู้สึกผ่านสายตาที่อีกฝ่ายกำลังมองตัวเองได้


“Use the hand with him like I do with you, (ใช้มือให้เขาเหมือนที่ฉันทำกับนายสิ)” ไอติมหันไปมองหน้าไบรอั้นด้วยอาการตื่นหน่อย ๆ หนุ่มหัวทองคลี่ยิ้มละมุน


“A hand-job.” ไบรอั้นว่าเสียงกระซิบ ไอติมทำหน้าลังเล ไบรอั้นก้มลงหอมแก้มซ้ายคนข้างล่างอีกที ไอติมหันไปมองเลโอที่นั่งมองหน้าเขาตาเยิ้ม


“You only touch my cock while he fucking you. I know it is your first time. We could start with something easy. (นายแค่จับของฉันไว้ในขณะที่มันเอานายอยู่ก็ได้ ฉันรู้ว่ามันเป็นครั้งแรกของนาย เราเริ่มจากอะไรที่มันง่าย ๆ ก่อนก็แล้วกัน)” หนุ่มคิงคองอธิบายเพิ่มเติมพลางถอดเสื้อกล้ามออกจากตัวจนโชว์หุ่นล่ำเนียนสีช็อคโกแล็ต ไอติมมองเลโอด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เลโอถอดกางเกงขาสั้นกับกางเกงชั้นในออก ของที่อยู่ภายในดีดผึงออกมาตั้งโด่จนไอติมอ้าปากหวอ


“โอ้ว…” ครั้งก่อนที่เห็นมันยังไม่แข็งเท่านี้ แต่วันนี้มันพุ่งตรงโด่เด่ เลโอขยับตัวเปลือยเปล่าเข้ามานั่งใกล้กับไอติม ยื่นมือไปจับมือขวาของไอติมให้ขึ้นมาจับตรงนั้นของตัวเองไว้ ไบรอั้นมองแล้วยิ้มมุมปากน้อย ๆ ก่อนจะเริ่มซอยสะโพกต่อ ไอติมปรือตาเพราะความเสียว มือขวากำความใหญ่โตและยาวของหนุ่มคิงคองเอาไว้เต็มมือ


“อา… อา อา…” ไอติมอ้าปากครางแผ่วเบา เอ็นเนื้ออุ่นอันแข็งแรงของไบรอั้นก่อกวนในก้นจนรู้สึกว่าท้องน้อยปั่นป่วน พักนึงก็รู้สึกถึงสัมผัสอุ่น ๆ บนหัวเพราะเลโอยกมือซ้ายขึ้นลูบหัวเขาอย่างอ่อนโยนและส่งยิ้มละมุนให้ ไอติมยิ้มเพราะกำลังนึกภาพคิงคองตัวโตแสนใจดีกับเด็กตัวเล็ก ๆ เลโอมองไอติมตาเป็นประกาย ไอติมขยับมือขวาเบาๆ


“Yeah.” เลโอกระซิบ ไอติมยิ้มกริ่ม มือขวาชักเข้าออกให้เลโอ มือซ้ายยังคงคล้องคอไบรอั้นไว้ และไบรอั้นก็ยังคงเด้าสะโพกใส่เจ้าของห้องนอนไม่หยุด อาการตื่นเต้นในตอนแรกของไอติมค่อย ๆ ลดลงแทนที่ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่ชวนน่าลิ้มลอง เลโอทำเพียงนั่งให้ไอติมชักให้แบบไม่เร่งรีบ และลูบหัวไอติมไปมาอย่างอ่อนโยนในขณะที่ไบรอั้นกระแทกก้นเขาอย่างหนักหน่วงจนเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นลั่นห้อง


ปึก!


“อ้า!” ไอติมหลับตาพริ้มและยิ้มเยิ้ม มือซ้ายเลื่อนขึ้นจิกหัวไบรอั้นเต็มมือ


ปึก!


“อา!” ไอติมแหงนหน้าขึ้น มือขวาหยุดชักให้เลโอแต่ยังคงจับไว้ไม่ยอมปล่อย ไบรอั้นก้มลงดูดเนื้อตรงคอไอติมอย่างแรงหนึ่งที


ปึก!


“อาว…” เสียงไอติมครางเบาหวิว มือซ้ายปล่อยออกจากผมสีทองและตกลงไปวางข้างตัวเพราะรู้สึกราวกับโดนกระชากเรี่ยวแรงออกจากร่างตอนที่น้ำสีขาวของตัวเองปลดปล่อยออกมาเลอะหน้าท้อง ไอติมนอนหลับตาหอบน้อยๆ


“Oh, you cum. (โอ้ นายแตกแล้ว)” เลโอยิ้มขำอ่อน ๆ ไอติมลืมตาขึ้นมองหน้าพ่อคิงคองตัวใหญ่แล้วก็ยิ้มอ่อนแรงพร้อมกับปล่อยมือขวาออกจากสิ่งที่กำอยู่ ไบรอั้นดันตัวลุกขึ้นและค่อย ๆ ถอนแก่นกายออกจากรูก้นไอติม ลุกขึ้นเดินคร่อมร่างไอติมแล้วย่อตัวลงพร้อมกับที่น้ำสีขาวไหลเยิ้มออกมาจากปลายหัวสีชมพูและหยดรดลงบนหน้าไอติม


“อ้า… โอ้ว!” ไบรอั้นครางเสียงสั่นและนั่งคุกเข่าคร่อมอกไอติมไว้ มือขวาชักให้ตัวเอง น้ำขาวขุ่นข้นและเยิ้มหนืดไหลลงไปกองบนหน้าไอติมที่นอนหลับตากันไม่ให้น้ำเข้าตา 


“ฮู่ว… ฮุ” ไบรอั้นปล่อยมือออกจากแท่งเนื้อตัวเองและยกสองมือเท้าเอว มีอาการหอบแบบอ่อน ๆ แต่ก็ไม่ได้หนักหน่วงอะไรมาก กล้ามท้องยุบเข้ายุบออกตามแรงหายใจจนเห็นกล้ามท้องชัด ไอติมใช้มือขวาปาดน้ำเข้าปากแล้วกลืนลงไปราวกับกินโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไบรอั้นยกขาซ้ายออกจากตัวไอติมแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างร่างบางอีกฝั่ง ไอติมหันไปมองลิตเติ้ลอั้นที่ยังแข็งตัวแล้วคลี่ยิ้มทั้งที่ปากและแก้มยังเลอะน้ำสีขาวขุ่นข้น เด็กลามกที่ขายังคงวางตั้งฉากอยู่ด้วยความอ่อนล้ายื่นมือซ้ายไปลูบคลำแซ็คไซซ์ย่อเบา ๆ หนุ่มหัวทองยักคิ้วไปทางเลโอ ไอติมเลยหันไปมอง


“Cum? (แตกมั้ยฮะ)” ไอติมถาม เลโอที่กำลังนั่งใช้มือขวารูดให้ตัวเองยิ้มเบา


“I’m okay, but next time could I fuck you? (ฉันโอเค แต่คราวหน้าฉันเอานายได้มั้ย)” ไอติมเข้าใจประโยคนี้ เขามองเลโออย่างไม่แน่ใจก่อนหันไปมองไบรอั้นที่พยักหน้ากลับมา ไอติมกัดริมฝีปากล่างแล้วหันไปมองเลโอ แต่ก็ไม่รู้จะตอบอะไร ทำเพียงแต่ยิ้มเขินจนเลโอยิ้มตาม หนุ่มกรุงปรากคลี่ยิ้มและก้มหน้าลงหอมหน้าผากไอติมหนึ่งที


“I will take that as the permission. (ฉันจะถือว่านั่นเป็นการอนุญาตนะ)” ไอติมมองหน้าเลโอ หนุ่มผิวช็อคโกแล็ตก้มลงจูบปากกับไอติมทั้งที่ยังมีน้ำของไบรอั้นเลอะอยู่ เลโอเกลี่ยลิ้นตรงริมฝีปากไอติมสักพักแล้วไอติมก็ยอมแลบลิ้นออกมาให้เลโอดูดเลียอยู่พักหนึ่งก่อนถอยออกไป


“Believe me my taste is better than him. (เชื่อฉันสิว่ารสชาติของฉันดีกว่าของไอ้ไบรอั้น)” เจ้าของน้ำขาวขุ่นยิ้มมุมปาก เลโอแลบลิ้นเลียรอบปากเพื่อทำความสะอาด ไอติมมองเลโอแล้วก็เม้มปากกลั้นความเขินอาย


ครืด~


โทรศัพท์ของไอติมที่วางอยู่บนหัวเตียงสั่น ไบรอั้นหยิบให้เจ้าตัว ไอติมรับมากดเปิดดูก็เห็นเป็นข้อความจากน้าแพนที่ส่งมาบอกว่าจะมารับที่บ้านตอนสี่โมงเย็น ไอติมกดออกจากข้อความแล้วหันหน้าไปทางไบรอั้น หนุ่มหัวทองหัวเราะที่เห็นว่าหน้าไอติมเลอะน้ำของเขาอย่างกับเด็กกินไอศกรีมแล้วเลอะหน้าเลอะปาก ไอติมยิ้มตามตาแทบหยี ไบรอั้นหยิบโทรศัพท์ไปจากมือไอติมแล้วกดเข้ากล้อง และก้มหน้าลงไปเอาแก้มแนบกับหน้าผากไอติมไว้


“Look at your face. (ดูหน้านายสิ)” ไอติมมองหน้าตัวเองในกล้องแล้วก็อ้าปากขำ ไบรอั้นกดถ่ายตอนไอติมยิ้มอ้าปากกว้างตาหยีและเขาทำหน้าว้าวเอาไว้


“อุ๊ย again, my face is not good. (อีกครั้ง หน้าผมไม่ดี)” ไบรอั้นดันตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรง


“Hey, Leo, take a pictures. (เฮ้ เลโอ ถ่ายรูปกัน)” เลโอเขยิบตัวเข้ามาใกล้ไอติมที่ดันตัวลุกขึ้นนั่งตรงกลางระหว่างสองหนุ่ม ไอติมเอื้อมตัวไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าเช็ดปากและเช็ดท้องตัวเองแบบเร็ว ๆ แล้วยิ้มให้กล้องมือถือที่มีใบหน้าของสองหนุ่มขนาบคนละข้าง ไบรอั้นกดถ่ายรูปแนวนอนไปหนึ่งรูป


“Give me one shot. (ฉันขอรูปนึง)” เลโอเอื้อมตัวลงไปข้างล่างเตียงพักนึงแล้วกลับมาพร้อมกับโทรศัพท์ของตัวเอง ทั้งสามคนถ่ายรูปด้วยกันอีกรูป พอเสร็จแล้วไอติมก็หันไปหาไบรอั้นที่นั่งยกขาซ้ายขึ้นมาตั้งฉากไว้


“น้า Pan will come here at 4 p.m.” ไบรอั้นพยักหน้า ไอติมยกสองมือวางบนลำคอไบรอั้น ส่วนไบรอั้นยกมือซ้ายวางบนสะโพกไอติม ร่างบางคลี่ยิ้มแล้วยื่นหน้าไปจุ๊บปากขวัญใจตัวเองหนึ่งทีด้วยความชื่นใจ ไบรอั้นยิ้มน้อยๆ


“Ice-cream, do you have an Instagram account? (ไอศกรีม นายเล่นอินสตาแกรมรึเปล่า)” ไอติมหันไปมองเลโอที่กำลังใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์อยู่


“What? (อะไรนะฮะ)” เลโอเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอมองไอติมที่นั่งคร่อมตักขวาของเพื่อนเขาอยู่ โดยที่เพื่อนเขากำลังนั่งใช้มือซ้ายยีผมตัวเองเบาๆ


“Instagram.”


“I don’t know it. What is it? (ผมไม่รู้จักอะ มันคืออะไรเหรอ)”


“A social media. It’s getting popular, high and high,” เลโอคว่ำมือขวาขึ้นกลางอากาศแล้วยกระดับมือขึ้นสูงสามขั้นเป็นการบอกว่าเพิ่มขึ้นๆ


“You should have it. (โซเชียลมีเดียนี่แหละ มันกำลังเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นมากขึ้น นายน่าจะมีไว้นะ)” เลโอหันโทรศัพท์ให้ไอติมดู เจ้าของห้องนอนคลานจากตักไบรอั้นเข้าไปหาเลโอ ไบรอั้นล้มตัวลงนอนอาซ่า มองเด็กลามกกับเพื่อนเขาคุยกันเรื่องแอพพลิเคชั่นถ่ายรูปอัปรูปอย่างเพลิน ๆ เจ้าเด็กลามกยิ้มเมื่อเลโอจัดการสมัครให้เรียบร้อยและสอนให้เล่นในเบื้องต้น


“I will upload this pic and I will tag you. (ฉันจะอัปโหลดรูปนี้แล้วจะแท็กนาย)” หลังจากปรับแสง ปรับสีของภาพแล้ว เลโอก็เขียนแคปชั่นเป็นภาษาอังกฤษและแท็กแอคเค้าท์ของไอติมที่เพิ่งสมัครสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อครู่ที่ผ่านมา


“There.” เลโอชี้บนหน้าจอไอติมที่มีการแจ้งเตือนเด้งขึ้นมา ไอติมคลิกเข้าไปดูก็เห็นเป็นรูปเขาสามคนที่ถ่ายด้วยกันจากกล้องเลโอ ไอติมยิ้มด้วยความตื่นเต้นเพราะเพิ่งเคยเล่นแอพพลิเคชั่นนี้


“We can be friend by following each other. (เราเป็นเพื่อนกันได้ด้วยการฟอลโล่วกัน)” เลโอกดเข้าแอคเค้าท์ของไอติมและกดปุ่มฟอลโล่ว ไอติมมองการแจ้งเตือนแล้วคลิกเข้าไปดูก็เห็นเป็นหน้าเลโอใส่แว่นดำอย่างเท่ในช่องรูปโปรไฟล์และชื่อแอคเค้าท์ ไอติมกดเข้าไปในโปรไฟล์ของเลโอแล้วก็กดฟอลโล่วพ่อคิงคองไปซึ่งเป็นคนแรกที่เขากดติดตาม


“Do you have it? (คุณมีมั้ย)” ไอติมหันไปถามไบรอั้นที่นอนหลับตาอยู่ หนุ่มหัวทองลืมตาแล้วส่ายหัว ไอติมทำหน้ายู่แล้วก็หันกลับไปหาเลโอต่อ


“It’s like a pictures diary. (มันเหมือนกับไดอารี่ภาพถ่ายน่ะ)” ไอติมพยักหน้า แล้วไปกดไลก์ภาพที่เลโอแท็กมา เลโอยื่นหน้าไปหอมหน้าผากไอติมหนึ่งที ไอติมยิ้มอ่อนแบบไม่เห็นฟัน


“Pack your bag. (จัดกระเป๋าเถอะ)” เลโอลุกไปจากเตียง ก้มลงหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาก่อนเดินออกไปจากห้องนอนของไอติม เจ้าของห้องนอนมองประตูที่ปิดไปแล้วอยู่พักหนึ่งก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างฝรั่งอีกคน


“You want to have it มั้ย” ไบรอั้นส่ายหัว


“I don’t know what I’m gonna take. (ฉันไม่รู้ว่าจะถ่ายอะไร)” ไอติมทำตาโตและยิ้มแฉ่ง


“Me. (ผมไง)” ไบรอั้นหัวเราะเบา ๆ ไอติมยิ้มตาหยีแล้วลองเล่นอินสตาแกรมแบบมือใหม่หัดขับ แต่ก็ดูเป็นแอพพลิเคชั่นที่ไม่น่าเล่นยากเท่าไหร่ เขากดไปในช่องอะไรสักอย่างแล้วก็เจอแอคเค้าท์ของเดนนี่


“โอ๊ะ ไอ้เดนเล่นแล้วไม่ชวนบ้างเลยนะ” ไอติมพึมพำหน้ามุ่ยอยู่คนเดียว แต่ดูจากการที่มีรูปแค่ห้ารูปและรูปล่าสุดที่เป็นรูปหน้าบ้านมันซึ่งลงไว้เมื่อเกือบร้อยสัปดาห์มาแล้วนั้น ก็เดาว่ามันน่าจะไม่ได้เล่นแอพฯ จริงจัง แต่ถึงอย่างนั้นไอติมก็กดฟอลโล่วไว้เป็นคนที่หนึ่งร้อยสี่สิบเก้าของฟอโล่วเว่อร์ไอ้เดน


ไอติมคลิกดูรูปในแอคเค้าท์ไอ้เดนที่มีอยู่ห้ารูป ซึ่งไม่มีรูปหน้ามันเลย รูปแรกที่ลงเป็นรูปหมาทั้งสองตัวของเขาเอง มีเขียนแคปชั่นว่า ‘เจ้าของบ้าแทนหมาไปแล้ว’ ไอติมถลึงตาใส่หน้าจอ แล้วก็ดูรูปต่อไปซึ่งเป็นรูปหมูกระทะ เห็นแล้วก็เปรี้ยวปากอยากกิน เดี๋ยวกลับมาต้องโชว์ฝีมือให้ไบรอั้นกินสักมื้อ นั่งกดดูรูปไอ้เดนไปมาก็นึกอยากอัปรูปตัวเองบ้าง งมหาวิธีการอัปรูปอยู่พักหนึ่งจนกดถูกที่ถูกทาง ในโทรศัพท์เครื่องใหม่ของไอติมตอนนี้มีอยู่สองรูป คือรูปที่ไบรอั้นถ่ายกับเขาที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว และรูปที่ถ่ายกันสามคน


ตอนนี้เองที่ไอติมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองเพิ่งมีรูปคู่กับแซ็คเป็นรูปแรกและครั้งแรกหลังจากที่รู้จักกันมา ซึ่งรูปแรกที่ถ่ายคู่กันเป็นรูปหลังจากที่เพิ่งมีอะไรกันเสร็จและหน้าของไอติมก็เลอะน้ำอสุจิของแซ็ค


และเขาก็จะอัปรูปนี้เป็นรูปแรกในอินสตาแกรมของตัวเองนี่แหละ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 05-11-2018 22:09:33
เราใจหวิวแทนพระเอกไปแล้วววว กลัวใจไอติม แต่ก่อนจะเป็นแบบนั้น ขอฟินก่อนนน  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-11-2018 22:29:08
ดูเหมือนน้องติมกับแซ็คได้ทำความรู้จักสนิมสนมกันมากขึ้น

เอ็นดูน้องติมจัง ฝรั่งสองคนนี้ก็คงเอ็นดูน้องเหมือนกันสินะ.  :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 06-11-2018 00:47:05
ทะเล๊ ทะเลลลลลลลลลลลลลลล :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-11-2018 03:03:56
 :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 06-11-2018 06:31:09
รอตอนแรงพิศวาสสามคนบนสามเกาะ อิอิ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 06-11-2018 07:29:05
อืม... ตอนยังไม่รักกันนี่อะไรก็ง่ายไปหมดดีนะ ไม่ต้องคิดมากเลย แต่ก็แบบอยากเห็นตอนพี่อั้นรักกลับอะ เพิ่งนึกขึ้นได้หลังกลับไปอ่านพี่ยักษ์กับน้องแมทว่าแซ็คนั้นกับแซ็คนี้มันคนเดียวกัน555555 แต่ยิ่งรู้สึกแย่ว่าอิพี่แซ็คแม่มไม่แคร์ติมเลย-_-
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-11-2018 08:05:57
ถ้าน้องติมแซ่บขึ้นมา คงซี้ดเข็ดฟันแต่นอนนนน รออออ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 06-11-2018 08:58:42
Seem like Bryan has a good feeling to I-tim na.
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 07-11-2018 01:21:59
ไอติมคือที่สุดแล้วจ้า
ไม่ต้องเรียกร้องก็ได้ถึงสอง
ความแซบนี้ไม่มีใครได้เกินกว่าแล้ว

ไอติมเป็นคนเด๋อที่น่ารักนะ บ้าบอ
แต่ไม่ค่อยทันคน กลัวตรงนี้
เอิ่มมมม แม่กับน้าแพนไม่เล่นเนาะ อัพได้เนาะ

รอไปเที่ยว สามเคาะสามคนแล้วจ้า

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: skies ที่ 07-11-2018 20:14:07
ชอบไอติมอะ น้องดูเต็มที่กับชีวิต แต่รูปแรกในไอจีคืออย่าให้คุณแม่เห็นนะลูก เดี๋ยวแม่หัวใจวาย 555555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 08-11-2018 23:23:17
สำห​รับ​พี่คิงคองนั้น​ น้องติมต้องได้แน่ๆเลยค่ะ​ มาขนาดนี้​ น้องต้องไม่พลาดนะคะ​ 3p รออยู่​  พูดแล้วก็ตื่นเต้น​แทนน้อง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 09-11-2018 15:46:26
 o18  นี่อดใจรอ 3p ไม่ไหวแล้ววววว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 10-11-2018 14:08:38
อยากอ่าน 3p แล้วน้องติมต้องแซ่บแน่ๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.16 : First pair pic. : 05.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: NaunaeZaa ที่ 15-11-2018 21:38:33
อยากอ่าน3pแล้ววววว 555555  :jul1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 19-11-2018 18:56:07
Fall in lust, Chapter 17 :: Little Rabbit. (กระต่ายตัวน้อย)



   “Okay… nice… lick it… good… follow your feeling…” ลูคัสก้มลงมองกระดาษเอสี่ในมือที่บนนั้นมีสคริปต์ยาวเกือบครึ่งหน้าพิมพ์ไว้อยู่ เขาเงียบและปล่อยให้นักแสดงหนุ่มผมแดงอ่อนหยิกเป็นลอนบาง ๆ เล่นไปตามอารมณ์ที่บรีฟกันมาคร่าว ๆ และปล่อยให้ดัสตินตากล้องคนเก่งของทีมเก็บภาพในมุมอย่างที่ควรเก็บตามที่ลิสต์มาในกระดาษด้วยเช่นกัน
   

“อ้า… อ่า…” เสียงครางใหญ่ดังแหบพร่าเบา ๆ พร้อมกับที่นักแสดงหนุ่มคนนั้นปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องปนไปกับไอศกรีมสีขาวที่ทาตัวเอาไว้  ลูคัสมองจากหน้าจอมอนิเตอร์ก็พยักหน้าด้วยความพอใจกับภาพที่ออกมานั้นดูจะตรงกับสคริปต์ที่ครีเอทีฟคนใหม่ของเขาเขียนมาให้
   

“Keep recording, Dustin.” ลูคัสมองที่หน้าจอมอนิเตอร์ นับวินาทีอยู่ในใจจนถึงจังหวะที่คิดว่าเหมาะสมแล้วก็สั่งให้ดัสตินถอยออกมาตั้งกล้องกับขาตั้งกล้อง นักแสดงหนุ่มที่ไอติมเลือกมานั่งอ้าขาอยู่บนเค้าน์เตอร์ครัว โดยที่ตามตัวยังเหนียวเหนอะไปด้วยไอศกรีมรสนมผสมน้ำขาวขุ่นข้นของเจ้าตัว
   

“What’s your name?”


“Castrol.” หนุ่มหัวนมชมพูตัดกับผิวขาวนวลเนียนตอบเสียงหล่อและยิ้มหล่อไม่แพ้เสียง ดวงตาสีดำจ้องมองกล้องราวกับกำลังจ้องตาใครสักคน


“How old are you now?... Where did you come from?...” ลูคัสถามเสียงราบเรียบและเว้นจังหวะให้อีกฝ่ายตอบ บรรยากาศการถามตอบเป็นไปอย่างสบาย ๆ เพราะลูคัสไม่ต้องการให้นักแสดงเคร่งเครียด หรือตอบด้วยความจริงจัง ครีเอทีฟของเขาบอกว่าถ้าบรรยากาศกดดันอาจทำให้ไปกดเสน่ห์ในตัวของผู้ชายคนนี้ ฉะนั้นเลยต้องทำให้ตัวนักแสดงรีแล็กซ์และตอบเหมือนกำลังคุยเล่นกับเพื่อน แบบนั้นจะทำให้กลุ่มเพศที่สามตกหลุมรักเขา
    

อันที่จริงครีเอทีฟมือใหม่ก็อยากมาทำงานวันนี้ด้วย แต่เพราะอยู่คนละประเทศและถ้ารอกันไปมาก็จะเสียเวลา เขาเลยบอกให้เซ็กซ์ครีเอฟทีฟของเขารับผิดชอบงานอีกชิ้นที่เขาสั่งให้ทำไปก็แล้วกัน ยังไงก็รวมอยู่ในชิ้นงานทั้งหมดที่ต้องส่งเป็นงานแรกเพื่อพิจารณาการทดลองงานอยู่แล้ว
   

“Good job.” หลังจากจบบทสนทนา ลูคัสก็ยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างขึ้น หนุ่มหัวสีแดงอ่อนไถลก้นลงจากเค้าน์เตอร์ครัวลงมายืนบนพื้นและคลี่ยิ้มบางเบา ดัสตินโยนผ้าขนหนูให้หนุ่มผิวขาวเนียนไปเช็ดตัว
   

“And what’s next? Waiting? (แล้วยังไงต่อครับ รอเหรอ)” ว่าที่นักแสดงหน้าใหม่ถามพลางเช็ดลำตัวจนความเหนียวเหนอะหนะหายไปจากกล้ามท้องเป็นบล็อกชัดเจน แต่ไม่ใช่กล้ามท้องแบบแข็งกระด้างติดกระดูก เป็นกล้ามท้องเนื้อนูนเนียนละมุนตา
   

“Yep, we have to wait the feedback from audience. But I think you gonna slay them all. (ใช่ เราต้องรอฟีดแบ็คกลับมาจากคนดู แต่ฉันคิดว่านายจะได้ใจพวกเขานะ)” ลูคัสยิ้มให้กำลังใจ หนุ่มผิวขาวใบหน้ามีกระจาง ๆ ยิ้มรับและพยักหน้าหนึ่งครั้ง
   

“I hope so. (ผมก็หวังงั้นนะ)”
   

“You could go to take a shower if you want. (นายอาบน้ำได้นะถ้าอยากอาบ)” ดัสตินว่าพลางชี้ไปที่ประตูห้องน้ำ นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่พยักหน้าและเดินพันผ้าขนหนูไปทางห้องน้ำตามที่ดัสตินชี้ไป ตากล้องหนุ่มเดินไปดึงกล้องออกจากขาตั้งกล้อง
   

“ทำไมหมอนี่ได้มาเล่นหนังเกย์ล่ะ”
   

“ไอศกรีมบอกแบบนั้น” ดัสตินยิ้มขำพลางเก็บขาตั้งกล้องและเอาไปวางไว้บนเค้าน์เตอร์ครัวคู่กับกล้อง
   

“แล้วหมอนี่ก็ดันว่าง่ายซะด้วย” ดัสตินนั่งลงบนขอบโต๊ะ
   

“ค่าตัวถูกใจ กับเป็นไบเซ็กซ์ชวลอยู่แล้ว” ดัสตินทำหน้าว่าอ้อด้วยความเข้าใจ ลูคัสยักไหล่ซ้ายและก้มหน้าลงไปจดโน้ตลงบนกระดาษสคริปต์
   

“เด็กคนนั้นบอกให้ฉันไปเล่นหนังโป๊ แต่ระบุว่าให้ไปเล่นหนังโป๊เกย์ซะงั้น” ลูคัสเงยหน้าขึ้นยิ้มขำกับดัสติน
   

“แล้วนายตอบไอศกรีมไปว่าไง” ดัสตินยักไหล่สองข้างและเบะปากเล็กๆ
   

“ฉันบอกว่าฉันจะยอมเล่นถ้าหมอนั่นเล่นกับฉัน” อดีตพระเอกหนังโป๊หัวเราะร่วน
   

“ป่านนี้เล่นกับไอ้ไบรอั้นสนุกใหญ่แล้ว”
   

“ไอ้ไบรอั้นยอมเล่นด้วยงั้นเหรอ” ดัสตินถามด้วยความอยากรู้ แต่สีหน้าที่แสดงออกมานั้นแสนจะราบเรียบ 
   

“เท่าที่รู้ก็ยอมเยอะอยู่นะ” ดัสตินเบ้ปากหนึ่งที
   

“แปลกดี” ลูคัสยกขาขวาขึ้นวางบนหน้าตักซ้าย วางศอกขวาบนที่วางแขนของเก้าอี้ไม้
   

“ไม่แปลกหรอก” หนุ่มกล้ามโตยักคิ้วหนึ่งที ดัสตินหรี่ตามอง
   

“พูดเหมือนรู้อะไร…” ลูคัสคลี่ยิ้มด้วยความขบขัน ดัสตินมองเพื่อนต่างวัยอย่างจับผิด
   

“…รู้อะไรมาแน่ๆ” อดีตพระเอกหนังผู้ใหญ่ทำหน้าเหลอหลาแต่ก็ยังรู้สึกขำอยู่
   

“เปล่าเลย ฉันก็รู้เท่าที่นายรู้นั่นแหละ”
   

“นายรู้เหรอว่าฉันรู้อะไร” ลูคัสส่ายหัวและหัวเราะเบาๆ
   

“ไม่อะ” ดัสตินส่ายหน้าด้วยความหน่ายเล็ก ๆ ก่อนหันหน้าไปมองบุคคลใหม่ที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้าน
   

“เพิ่งถ่ายเสร็จ?” เจค็อบถามทั้งสองคนในขณะที่เดินเข้าไปหาน้ำดื่มจากตู้เย็น
   

“ใช่ เขาไปล้างตัวอยู่” เจค็อบที่หยิบน้ำเปล่าออกมาเทใส่แก้วหันมองอีกสองคน
   

“เด็กคนนั้นมีอะไรให้น่าเชื่อถือนัก” เจค็อบวางเหยือกน้ำไว้บนโต๊ะในครัวและยักคิ้วไปทางลูคัสพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
   

“เด็กมันมีของนี่”
   

“แต่คนก่อนที่เด็กคนนั้นเลือกมา…” เจค็อบเบะปากยักไหล่ขวา ทำหน้าเหมือนกำลังกินของขม ผู้ชายคนนั้นเป็นอีกคนที่เด็กคนนั้นจิ้มเลือกเอาไว้ วันก่อนลองมาเข้าฉากกับนักแสดงหญิงคนหนึ่งในค่ายไปแล้ว แต่แสดงออกมาได้แย่มาก ไม่เห็นจะมีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจเหมือนที่เด็กนั่นคิด
   

“…ฉันว่าเด็กคนนี้แค่เลือกตามสเป็กที่ตัวเองชอบ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่ชอบเหมือนเด็กคนนี้”
   

“ทุกคนก็ไม่ได้ชอบนักแสดงของเราหมดทุกคนหรอกนะเจค” เจ้าของค่ายหนังทำหน้าหน่ายให้ลูคัสที่ยิ้มบาง เขาวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ ก่อนที่สายตาจะถูกร่างสูงขาวล่ำที่ผมเปียกแค่ด้านหน้าดึงให้หันไปมอง
   

“Hi.” หนุ่มหัวแดงอ่อนทักทายเจค็อบและส่งยิ้มให้ หนุ่มสูงวัยแต่ยังดูดีพยักหน้าให้หนึ่งที ก่อนหันกลับไปมองลูคัสต่อ
   

“ผลจะเป็นยังไง รอดูฟีดแบ็คจากคนดูก่อนก็แล้วกันน่า…” ลูคัสหยุดมองว่าที่ดาวดวงใหม่ของค่ายเดินไปตรงประตูห้องทำงานของเจค็อบ ก่อนหายเข้าไปด้านใน
   

“…และก็รอดูด้วยว่างานที่ทำกับไบรอั้นจะออกมาเป็นยังไง” เจค็อบใช้นิ้วชี้ขวาดันแว่น ใบหน้ายังคงไร้อารมณ์ตั้งแต่เดินเข้ามา
   

“เห็นว่ามันสนุกกับเด็กคนนั้นน่าดู คงทำออกมาได้ดีแหละ” ดัสตินเสริม ลูคัสเหล่ตามองเพื่อนและอมยิ้มน้อย ๆ เจค็อบกระตุกยิ้มเย็นหนึ่งที
   

“ก็สนุกให้เต็มที่ กลับมาจะได้ลุยงานได้เต็มที่เช่นกัน” เจค็อบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง กดคลิกเข้าแอพพลิเคชั่นที่ต้องการก่อนจะยื่นให้ดัสตินและชี้ไปที่ลูคัสเป็นเชิงบอกว่าให้ส่งต่อ โปรดิวเซอร์หนุ่มรับโทรศัพท์มาไว้ในมือ ก้มมองดูแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองเจค็อบด้วยสายตาตะลึงนิดหน่อย
   

“เดี๋ยวก่อนนะ” เจค็อบเดินเข้ามาคว้าโทรศัพท์ไปจากมือลูคัสก่อนจะเดินไปทางห้องทำงานของตัวเอง ลูคัสพ่นลมหายใจแล้วหันใบหน้าตึง ๆ ไปมองดัสตินที่กำลังทำหน้างงๆ
   

“อะไรล่ะ” ลูคัสพ่นลมหายใจอีกที
   

“เราน่าจะมีทางช่วยไอ้ไบรอั้นมันนะ” ดัสตินค่อย ๆ ขยับเปลือกตาให้กว้างขึ้นแล้วก็แกล้งมองหน้าลูคัสแบบตาค้าง ๆ ไว้อย่างนั้น ลูคัสวางเท้าขวาลงบนพื้นและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
   

“จะช่วยยังไง” ดัสตินขยับมุมปากทั้งสองข้างขึ้นเป็นรอยยิ้มสั้น ๆ แล้วก็หุบลงพร้อมกับปรือตามองเพื่อนตัวยักษ์ที่พ่นลมหายใจอีกหนึ่งที
   

“เริ่มจากตัวมันเล่ารายละเอียดก่อนเลย” ดัสตินยักคิ้วและทำหน้าว่าแหงล่ะ
   

“ให้มันพักผ่อนก่อนแล้วกัน ได้มีพื้นที่ส่วนตัวเพิ่มขึ้นบ้างมันอาจจะง้างปากเล่าอะไรเพิ่ม”
   

ลูคัสโยกหัวไปมาและทำหน้าเซ็ง หันไปมองทางประตูห้องทำงานของเจค็อบ ยกนิ้วชี้ด้านซ้ายชี้ไปทางห้องนั้นก่อนหันไปมองดัสตินที่พยักหน้ารับทันที “ฟีดแบ็คหมอนั่นน่าจะดี”



   เสียงคลื่นทะเลหายไป แทนที่ด้วยเสียงฝนตกพรำ ๆ ที่มาพร้อมกับบรรยากาศอึมครึมของท้องฟ้าในยามบ่ายที่จริง ๆ แล้วมันควรจะส่องประกายด้วยแสงแดดจ้า แต่กลายเป็นว่าตั้งแต่มาถึงและจนตื่นนอน ไอติมก็สาปแช่งฝนในใจไปไม่รู้กี่ครั้ง ถึงขั้นไปถามพนักงานโรงแรมให้หายข้องใจว่าฝนมันจะหยุดช่วงไหน และฝนจะตกทุกวันหรือเปล่า คำตอบที่ได้รับกลับมาก็คือคาดเดาอะไรไม่ได้กับฝน
   

ไอติมนั่งลงบนระเบียงไม้หน้าห้อง แขนขวายกกอดเสาปูนสีแดงเลือดหมู นั่งมองผ่านม่านฝนไปที่ผืนทะเลที่ยุบเป็นหลุมตะปุ่มตะป่ำเป็นวงกว้างเพราะโดนเม็ดฝนตกลงใส่ ไอติมถอนหายใจหน้าเซ็ง ส่งกำลังใจให้เจ้าลำแสงของแดดที่กำลังพยายามสู้กับความครึ้มบนท้องฟ้าอยู่ นึกถึงส่วนลดทั้งหลายที่น้าแพนให้มาว่าทำไมได้มาเยอะจังก็ไม่แปลกใจ เพราะช่วงนี้มันเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของที่นี่ ดันคิดเอาเองว่าปลายปีไม่มีฝนแล้ว แต่ลืมคิดไปว่าที่นี่เป็นเกาะ สุดท้ายก็ต้องมาติดแหง็กแบบนี้
   

“Are you going to make love with that pole? (จะเมคเลิฟกับเสาต้นนั้นเหรอ)” ไอติมหันหน้าไปมองไบรอั้นในสภาพเปลือยท่อนบน ท่อนล่างใส่กางเกงผ้าร่มสีดำขาสั้น ผมสีทองยุ่งนิดหน่อยและใบหน้าก็เพิ่งจะตื่น
   

“Make love?” ไบรอั้นนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่คล้ายเตียงอาบแดด ยกสองแขนขึ้นวางบนขอบพนักพิงด้านบน
   

“I did not ask you to make love with me. (ฉันไม่ได้ขอให้นายเมคเลิฟกับฉันนะ)” ต้องรีบดักเอาไว้ก่อน ไอ้เด็กนี่ยิ่งชอบตีความแบบที่ตัวเองได้ประโยชน์เต็ม ๆ เสมอ
   

“Make love with you, okay.” ไอติมยิ้มคิกคัก ไบรอั้นมองไอติมตาปรือ เด็กลามกลุกจากระเบียงไปนั่งลงบนตักฝรั่งตัวโต ไอติมเอนหัวลงนอนบนไหล่ขวาของร่างหนา
   

“I’m sorry. It’s rain. (ผมขอโทษ มันฝน)” ไบรอั้นเข้าใจว่าอีกฝ่ายอยากจะสื่ออะไร เขามองท้องฟ้าครึ้มที่ตอนนี้มีแสงแดดพยายามส่องแสงลอดออกมาจากก้อนเมฆสีทึบ
   

“It’s not your fault. We can’t control the nature. (ไม่ใช่ความผิดนายสักหน่อย เราควบคุมธรรมชาติได้ที่ไหนล่ะ)”
   

“I’m hungry. (ผมหิว)” ไบรอั้นหัวเราะหึเบา ๆ ปล่อยให้ไอติมพลิกตัวนอนหงายทับตัวเขา และขยับขมับเข้ามาชิดกับกรอบหน้าเขาไว้
   

“Sunshine is coming. It’s going to end soon. (แสงอาทิตย์เริ่มมาแล้ว เดี๋ยวฝนก็หยุดตก)” ไบรอั้นยกมือขวาชี้ไปที่ท้องฟ้า ไอติมมองลำแสงจาง ๆ ท่ามกลางสีหมองหม่นของท้องฟ้า
   

“Sky after rain is always beautiful. (ฟ้าหลังฝนคือสดใสเสมอ)” ไบรอั้นเลื่อนสายตามองใบหน้าเรียวสวยที่กำลังยิ้มละมุน แววตาสีน้ำตาลอ่อนสดใสยามมองท้องฟ้ามืดครึ้มอันนั้น
   

“Every cloud has a silver lining. (ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ)” ไบรอั้นว่าเสียงทุ้ม แปลประโยคของไอติมให้เป็นสำนวนที่ถูกต้องอีกที ดวงตาสีเทาอ่อนมองแสงแดดที่ลอดผ่านออกมาจากก้อนเมฆสีทึบด้วยความรู้สึกเบาสบาย
   

“อือฮึ” ริมฝีปากของหนุ่มหัวทองขยับตรงมุมปากเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มขำอ่อน ๆ กับการตอบรับของเจ้าเด็กลามกที่ไม่รู้ว่าเข้าใจจริง ๆ หรือเปล่า เขาเอาสองแขนลงจากขอบพนักพิงของเก้าอี้ วางไว้บนตัวของไอติม โดยที่เจ้าตัวก็ยกสองแขนขึ้นมาวางบนแขนเขาอีกที
   

‘I don’t believe or not believe I just feel love is very good power. (ผมไม่ได้เชื่อหรือไม่เชื่อ ผมแค่รู้สึกว่าความรักเป็นพลังงานที่ดีมากๆ)’
   

“How can you still admire love after what was happening to you? About your father and mother. (นายชื่นชมความรักอยู่ได้ยังไง หลังจากเกิดเรื่องนั้นกับนาย เรื่องพ่อกับแม่นายน่ะ)” ไอติมยื่นมือมือซ้ายไปวางบนฝ่ามือด้านขวาของไบรอั้น สอดนิ้วตัวเองลงไปในซอกนิ้วมือและกุมเอาไว้ เจ้าของมือวางมือนิ่งให้เด็กมันเล่นตามใจ
   

“Love don’t wrong. It’s human who hurt human. Love don’t move. (รักไม่ผิด เป็นคนนั่นแหละที่ทำร้ายคนด้วยกันเอง รักไม่ได้เคลื่อนที่)” ไบรอั้นหัวเราะเบา ๆ กับประโยคสุดท้าย
   

“Love does nothing. It’s human who does. (รักไม่ได้ทำอะไร มนุษย์ต่างหากที่ทำ)” เขาแปลงความหมายของประโยคสุดท้ายอีกที ไอติมยิ้มคิกคัก
   

“You are my dictionary. (คุณเป็นพจนานุกรมของผม)” ไบรอั้นยักคิ้ว ไอติมยื่นหน้าไปหอมสันกรามของฝรั่งตัวโตหนึ่งที
   

“I have many strange words from you in my head. (ฉันมีคำแปลก ๆ จากนายในหัวเยอะแยะไปหมด)” ไบรอั้นมองลำแสงของแดดที่ตอนนี้เริ่มฉายความสว่างมากขึ้นอีกนิด แต่ยังไงก็ยังสู้ความมืดทึบของก้อนเมฆไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังพอเห็นแสงสว่างรำไรอยู่ในความมืดนั้น
   

“And you ล่ะ You believe in love? (แล้วคุณล่ะ เชื่อในความรักมั้ย)” ไบรอั้นมองม่านฝนที่ตกพรำ ๆ หูฟังเสียงเม็ดฝนกระทบกับหลังคาห้องพักของพวกเขาที่อยู่ชั้นสอง ต้นมะพร้าวที่สูงเลยหลังคาห้องพักเอนไหวไปตามแรงลมอ่อนๆ
   

“We are about to getting divorce. (เรากำลังจะหย่ากัน)”
   

ภาพความทรงจำในอดีตแล่นเข้ามาในหัวและจอดแช่ไว้อย่างนั้นระยะหนึ่งให้ไบรอั้นนิ่งคิด ไอติมแหงนหน้ามองใบหน้าที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ตาแป๋ว ผ่านไปได้เป็นนาที หนุ่มหัวทองก็กะพริบตาก่อนตอบเสียงเบา
   

“I used to, (ฉันเคยเชื่อ)” ไบรอั้นกระตุกยิ้มมุมปากทั้งสองข้างขึ้นนิดหนึ่งแบบสั้น ๆ ก่อนจะมีสีหน้าราบเรียบตามเดิม
   

“But now I’m not. (แต่ตอนนี้ไม่แล้ว)” ไบรอั้นเลื่อนสายตามองหน้าไอติมที่กำลังย่นคิ้ว
   

“Why? (ทำไมล่ะ)”
   

“Because I used to. (เพราะฉันเคยเชื่อยังไงล่ะ)”
   

“เอ๊า” ไอติมงง ไบรอั้นคลี่ยิ้มและหัวเราะเสียงทุ้ม เจ้าเด็กลามกทำหน้าไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าไม่เข้าใจเพราะแปลไม่ได้ หรือไม่เข้าใจกับคำตอบที่เขาตอบ
   

“Love has its own expiration date, (รักมันมีวันหมดอายุของมัน)” เด็กลามกยังคงทำหน้าไม่เข้าใจ ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นและพยายามนึกคำอธิบายเพิ่มเติม
   

“When you buy some milk, you will see the date on the box. It will tell you to drink before you can’t drink it. (เวลาที่นายซื้อนม นายจะเห็นวันที่เขียนไว้บนกล่อง มันจะบอกว่านายควรดื่ม ก่อนที่จะดื่มไม่ได้)” ไอติมนึกตามประโยคของไบรอั้น นึกภาพกล่องนมอย่างที่เขาว่าในหัว จับใจความและตีความอยู่พักนึงก่อนจะร้องอ๋อและพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ไบรอั้นทำหน้าโล่งใจที่เด็กมือไวเข้าใจสิ่งที่เขาพยายามบอก
   

“It call บูด เอ่อ what you call บูด in English เออ forget it.” เมื่ออธิบายไม่ได้สักที ไอติมเลยเลือกจะเลิกพยายามอธิบาย เป็นอันว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่ไบรอั้นพยายามจะบอก แม้อาจจะแปลเป็นว่ารักมันมีวันบูดไปแล้วก็เถอะ
   

ไบรอั้นหัวเราะแบบไม่มีเสียง มองใบหน้ายุ่งเหยิงของเด็กลามกด้วยความขบขัน คงอยากลุกไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดคำศัพท์น่าดู แต่เพราะนอนกำลังสบายได้ที่เลยขี้เกียจแล้ว “Yes, love could be rotten. (ใช่ รักมันบูดได้)”
   

“I believe in lust, (ผมเชื่อในราคะ)” ไอติมตอบเสียงแจ้ว หน้าซื่อตาใส ไบรอั้นหัวเราะเสียงเบาแต่ก็ทำเอาไหล่สั่น ไอติมยิ้มตาหยี
   

“Because it real than love. (มันจริงยิ่งกว่ารัก)”
   

“Yeah, you can see it when your dick is hard. (ใช่ นายมองเห็นมันได้ตอนที่จู๋นายแข็ง)” ไอติมยกมือขวาขึ้นป้องปากและหัวเราะคิ ๆ ฝรั่งหัวทองยิ้มขบขัน นิ้วมือขวายกขึ้นกุมมือซ้ายของเด็กลามกที่สอดซอกนิ้วเขาอยู่ ไอติมไถหัวอ้อนคนตัวโตและหันกลับไปมองท้องฟ้าที่ตอนนี้ฝนเริ่มบางตาลงกว่าเดิม 
   

ไบรอั้นขยับแขนซ้ายขึ้นวางบนหน้าท้องของไอติม เอียงหน้าเข้ากับขมับของร่างเล็ก สายตามองท้องฟ้าที่ลำแสงของแดดมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แม้สีลำแสงจะยังจาง แต่มันก็ค่อย ๆ ส่องความสว่างทะลุความมืดนั้น
   

“Hey,” เลโอที่ตื่นมาเข้าห้องน้ำชะงักเท้าตรงกรอบประตูและมองภาพตรงระเบียงด้วยความรู้สึกง่วง ๆ งงๆ
   

เพื่อนร่วมทริปอีกสองคนกำลังนอนหลับอยู่ตรงระเบียงห้อง เจ้าถิ่นนอนทับเพื่อนเขา และเพื่อนเขาก็เอาแขนขึ้นทับคนข้างบนตัวเองอีกที เลโอเลื่อนสายตาไปมองบรรยากาศฝนพรำ กะจะรอให้ฝนหยุดแล้วค่อยชวนสองคนนั้นออกไปหาอะไรกิน เขาเดินกลับไปนอนที่เตียงใหญ่ตามเดิม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นฆ่าเวลาไปเรื่อย

V
v
v


   
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 19-11-2018 18:58:29
V
v
v
   
ตอนที่พระอาทิตย์แทบจะลับหายไปจากท้องฟ้า ช่วงเวลานั้นฝนถึงหยุดตก แต่ก็ยังไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์เมฆสีเทาให้ลอยเอื่อยอยู่บนท้องฟ้า ไอติมเข้าไปอาบน้ำก่อนคนแรกโดยที่ไบรอั้นแอบแปลกใจกับความรีบร้อนนั้น เพราะปกติเจ้าเด็กลามกจะไม่พลาดหาช่องทางลวนลามเขาด้วยการอาบน้ำด้วยกัน
   

“Going somewhere? (ไปไหนเนี่ย)” ไอติมหยิบกล้องถ่ายรูปสีดำออกมาจากกระเป๋าขึ้นมาคล้องคอ หยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นสีน้ำเงินลายดอกชบาสีขาว
   

“Scout location. (สเก๊าท์โลเคชั่น)” ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นและหันไปมองวิวข้างนอกห้องผ่านกระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้าบานใหญ่ที่เปิดม่านโชว์วิวทะเลสีครามเข้มด้านนอกหลังฝนตกที่ตอนนี้บรรยากาศเริ่มเป็นสีฟ้าหม่นเพราะจะมืดแล้ว
   

“Now? (ตอนนี้เนี่ยนะ)” ไอติมที่เตรียมตัวเรียบร้อยพยักหน้า
   

“It still has light little to see. (มันยังมีแสงน้อยให้เห็น)” ว่าจบก็รีบเดินออกไปจากห้องพักทันที ไบรอั้นหันกลับมาดึงเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า เพื่อเตรียมอาบน้ำ เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น เลโอที่เดินเปลือยกายออกมาและกำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดตามตัวมองไปรอบห้อง
   

“ไอศกรีมไปไหนแล้วล่ะ”
   

“ไปสำรวจพื้นที่” เลโอพยักหน้าเข้าใจและเดินไปนั่งโซฟาตัวยาว หยิบเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าเป้มาวางไว้ข้างตัว หนุ่มหัวทองถอดกางเกง ทั้งกางเกงชั้นในและกางเกงขาสั้นออกลงไปกองบนพื้น หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาจากเตียงแล้วจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ แต่ก็ชะงักไว้แปบหนึ่ง
   

“เราต้องไปถามเรื่องเช่ารถมอเตอร์ไซค์ใช่มั้ย” เลโอพยักหน้า
   

“ไอศกรีมติดต่อไว้แล้ว เดี๋ยวฉันลงไปรับกุญแจและเช็กสภาพรถให้แล้วกัน” ไบรอั้นพยักหน้าแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เลโอหยิบเสื้อกล้ามสีขาวลายรถตุ๊ก ๆ ของประเทศไทยขึ้นมาสวมทับตัว ตามด้วยหยิบกางเกงชั้นในกับกางเกงขาสั้นขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนเพื่อใส่ พอเสร็จเรียบร้อยก็กางผ้าขนหนูไว้บนโซฟาแล้วเดินออกไปจากห้องพักพร้อมกับดึงประตูปิดตามหลัง
   

ไบรอั้นใช้เวลาสิบกว่านาทีในการอาบน้ำ เขาเช็ดตัวจนแห้งหมาด ๆ โทรศัพท์เขาดังพอดีตอนที่ออกมาจากห้องน้ำ  เขาหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นสายโทรเข้าผ่านวอทสแอพ แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็หน้าตึงนิด ๆ และพ่นลมหายใจเบาๆ
   

“ฮัลโหล”
   

[ไม่คิดจะโทรหากันหน่อยเหรอ]
   

“ว่าตรง ๆ ก็ไม่อยาก” ปลายสายร้องหึ และขำในลำคอแผ่วเบา
   

[คงสนุกน่าดูเลยสิ] ไบรอั้นนั่งลงบนเตียง ใบหน้านิ่งคิดครู่หนึ่ง
   

“สนุกดี” เขาไม่ได้ตอบประชด ตอบตามความเป็นจริงที่เขาคิดและรู้สึก
   

[เธอรู้ขอบเขตตัวเองดีนะแซ็ค] เจ้าของชื่อขบกรามเบา ๆ จังหวะนั้นประตูห้องพักเขาเปิดออกและร่างของไอติมก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนเด็ก
   

“ฟินิชชช โอ้ ซอรี่ๆ” ไอติมตาโตด้วยความตกใจที่เห็นว่าไบรอั้นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เด็กลามกเลยปิดปากเงียบ ถอดสายคล้องกล้องออกจากคอ เอากล้องไปวางไว้บนเตียงฝั่งที่กระเป๋าเป้ตัวเองวางอยู่บนนั้น
   

“แค่นี้แล้วกัน ฉันกำลังจะไปกินข้าว” ปลายสายที่ไบรอั้นคุยด้วยกดวางสายให้เองโดยที่เขาไม่ต้องตัดสายหนี หนุ่มหัวทองพ่นลมหายใจแผ่วเบา หันไปมองอีกคนที่กำลังนั่งเช็กรูปจากกล้อง
   

“I’m finished, too. (ฉันก็เสร็จแล้วเหมือนกัน)” ไอติมหันมองฝรั่งหัวทองและยิ้มเหลอหลา ลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างฝรั่ง ยื่นหน้าจอกล้องให้ดูรูปชายหาดมุมหนึ่ง
   

“This is very good place. I hope it will not rain after back from island tour. (ตรงนี้ที่ดีมาก ๆ ผมหวังว่ามันจะไม่ฝนหลังจากกลับจากทัวร์เกาะ)” ไบรอั้นพยักหน้า ไอติมกดปิดกล้อง วางไว้ข้างกระเป๋าเป้ตัวเองแล้วหันกลับมามองหนุ่มหัวทอง ไอติมก้มลงมองกลางลำตัวของไบรอั้นแล้วก็เงยหน้าขึ้นยิ้มตาหวานให้กับอีกคน ฝรั่งหัวทองกลอกตามองบน ไอติมหัวเราะคิก
   

“Your eyes. (ตานายนี่นะ)” ไบรอั้นว่าคล้ายหน่ายใจ แต่ไม่ได้รู้สึกหน่ายอย่างที่สีหน้าและน้ำเสียงแสดงออก แค่กัดเด็กมันนิด ๆ หน่อยๆ
   

“Whaaaat? (อะไรเหรอออ)” ไอติมลากเสียงยานและมองไบรอั้นตาพราว ไบรอั้นกระตุกยิ้มมุมปาก ยกมือขวาผลักหัวไอติมจนหงายหลังไปนิดหนึ่ง ไอติมหัวเราะและดึงหัวกลับมาตั้งตรง มองไบรอั้นหยิบเสื้อกล้ามสีดำไม่มีลายขึ้นมาสวมใส่
   

“Hey, I got the key and already checked motorcycle. (เฮ้ ฉันได้กุญแจละ แล้วก็เช็กมอเตอร์ไซค์แล้วด้วย)” ไบรอั้นที่กำลังใส่กางเกงในพยักหน้าให้เลโอที่ยืนรออยู่ตรงหน้าประตู ไอติมหยิบกระเป๋าผ้าแบบมีสายสะพายข้างทรงสี่เหลี่ยมสีเหลืองออกมาจากกระเป่าเป้ ยัดโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์เข้าไปในนั้น พอไบรอั้นแต่งตัวเสร็จก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกันทั้งสามคน ไบรอั้นยื่นกุญแจห้องให้ไอติมเก็บไว้ ไอติมแหงนหน้ามองท้องฟ้าเห็นว่าฟ้ายังแลบ ๆ อยู่บ้าง ได้แต่ข่มขู่ฝนฟ้าในใจว่าขอให้ได้ออกไปกินข้าวก่อน เพราะตั้งแต่เช้าที่มาถึงนี่จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน ยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่า
   

ที่พักที่ทั้งสามคนเลือกมาพักเป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก ตั้งอยู่ริมสุดของชายหาดฝั่งซ้ายมือเวลาหันหน้ามองทะเล ห้องพักของพวกไอติมอยู่บนชั้นสองของอาคารที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าหาด เป็นรีสอร์ทธรรมดา ๆ ที่คนไทยไม่ค่อยมาพักเนื่องจากว่ากันตามตรงสภาพมันไม่ได้ใหม่มาก แต่ก็ไม่ได้ทรุดโทรมจนน่ากลัว จุดเด่นที่ทำให้ไอติมกับอีกสองหนุ่มตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะชายหาดตรงนี้สวย น้ำทะเลสีฟ้าใส วิวภูเขาก็เขียวขจีด้วยต้นไม้
   

“You wanna drive? (แกอยากขับมั้ย)” เลโอชูกุญแจรถขึ้น ไบรอั้นยักไหล่สองข้างด้วยท่าทีสบายๆ
   

“Okay.” ไบรอั้นรับกุญแจมาจากมือเพื่อน เดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์สีดำแบบสตาร์ทมือ พอเสียบกุญแจและบิดกุญแจเตรียมสตาร์ทก็หันไปมองไอติม
   

“You want to sit here or you want to sit back. (นายอยากจะนั่งตรงนี้หรือนั่งข้างหลัง)” ไบรอั้นชี้ข้างหน้าตัวเองกับข้างหลัง แทนคำตอบแบบคำพูด ไอติมเดินไปนั่งซ้อนหน้าฝรั่งหัวทอง ไบรอั้นขยับถอยหลังให้ เลโอยกขาขึ้นคร่อมซ้อนท้ายด้านหลัง
   

“And where are we going? (แล้วเรากำลังจะไปไหนกัน)”
   

“Eat and shopping. I will tell you. (กินและช้อปปิ้ง ผมจะบอกคุณ)” ไอติมชี้ถนนใหญ่ที่อยู่ตรงทางเข้ารีสอร์ท ไบรอั้นสตาร์ทรถและบิดรถออกไปจากรีสอร์ทที่พวกเขาพัก
   

จากจุดที่ทั้งสามคนเลือกมาพัก ตั้งอยู่ห่างจากบริเวณศูนย์กลางของเกาะสมุยสิบห้านาที กับคนที่ไม่เคยมาก็อาจจะเพิ่มเวลาเข้าไปอีกนิดหน่อย แต่ตอนขามาจากท่าเรือมารีสอร์ท ไอติมมองทางมาตลอดเลยพอจะจำได้ว่ามันต้องขับไปทางไหน อีกอย่างมันมีความง่ายตรงที่ถนนเส้นหลักจากท่าเรือมาที่พักพวกเขามันมีเส้นเดียว ขับย้อนขึ้นไปตามถนนเดี๋ยวก็ถึง
   

เนื่องด้วยเป็นระยะเวลามืดค่ำแล้ว วิวทิวทัศน์ที่เห็นได้ชัดสุดก็คือแสงไฟจากบ้าน อาคาร รีสอร์ท และรวงร้านต่าง ๆ ตามข้างทางที่ขับผ่าน ไอติมนั่งหรี่ตาโต้ลมมายี่สิบนาทีหน่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงช่วงหาดเฉวงที่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งของกิน ของช้อปปิ้งหลัก ๆ บนเกาะนี้ ไอติมมองอาคารขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างด้วยความเด๋อด๋าอยู่พักหนึ่งก่อนจะเห็นป้ายว่าเป็นการสร้างห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ และกำลังจะมีอีกหนึ่งสาขาบนเกาะนี้
   

“Which restaurant? (ร้านไหน)” ไอติมส่ายหัว แล้วก็พยายามบอกไบรอั้นว่าให้จอดแถวนี้ก่อน ไบรอั้นขับไปจอดใกล้กับร้านหนังสือที่หน้าร้านมีชั้นวางขายโปสเตอร์ตั้งอยู่คู่กับเค้าน์เตอร์ไม้เล็ก ๆ และตู้ไปรษณีย์สีแดง ไอติมลงจากรถและยืนมองสำรวจร้านอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วก็สะดุดตากับร้านสีแดงร้านหนึ่งที่มีระเบียงยื่นออกมาเป็นโซนนั่งหน้าร้าน ไอติมชี้ให้สองหนุ่มดู ทั้งสองคนพยักหน้าอย่างง่าย ๆ ไอติมเดินนำไปที่ร้าน เปิดเมนูที่วางอยู่บนแท่นสูงเหมือนกับที่วางกระดาษโน้ตดนตรีของวงออเคสตร้าที่วางอยู่หน้าร้าน พอเห็นว่ารูปเมนูที่แปะไว้มันน่าสนใจเลยเข้าไปบอกจำนวนกับพนักงาน พนักงานหนุ่มเดินนำทั้งสามคนไปที่โต๊ะด้านนอกร้านที่อยู่ชิดกับริมรั้วระเบียง และอยู่ตรงข้ามกับร้านหนังสือพอดี ไบรอั้นกับไอติมนั่งข้างกัน ส่วนเลโอนั่งตรงข้ามกับไบรอั้น
   

“That’s interesting… I want to try this one… You are? Yeah. Why not. Do you have something to recommend us?” ไบรอั้นหันไปถามติมพร้อมกับยื่นเมนูให้
   

“What?” ไอติมงงเพราะตามไม่ทัน ไบรอั้นจิ้มเมนู
   

“You have something special to tell us? (นายมีบางอย่างที่พิเศษจะบอกเรามั้ย)” ไอติมนิ่งคิดแปบหนึ่งก่อนจะเก็ทว่าไบรอั้นถามอะไร
   

“Oh, no. (โอ้ ไม่อะ)” ไบรอั้นทำตาโตและกลอกตาหนึ่งที เลโอหัวเราะ ไอติมยิ้มแล้วก็จิ้มเลือกอาหารทะเลให้ไบรอั้นไปหนึ่งอย่าง
   

“Is this good? (มันดีเหรอ)” ไอติมไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี แต่เห็นแล้วอยากกินเลยพยักหน้าตอบรับไปก่อน สองหนุ่มปรึกษากันอีกสักพักจนได้เมนูที่ต้องการถึงกวักมือเรียกพนักงานมารับออเดอร์ ไอติมช่วยทั้งสองคนสั่งจนได้อาหารกองกลางสี่อย่างพร้อมกับข้าวเปล่าหนึ่งโถ สองหนุ่มสั่งเบียร์มาดื่ม ส่วนไอติมสั่งน้ำมะพร้าวปั่น
   

“เป็นเพราะฝนด้วยรึเปล่า เลยดูเงียบๆ” เลโอถามพลางมองถนนหน้าร้านที่มีคนเดินอย่างบางตา เสียงเพลงจากร้านข้าง ๆ ดังขับกล่อมให้บรรยากาศไม่เงียบเหงาจนเกินไป
   

“เด็กลามกบอกว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น” หนุ่มหัวทองหันไปมองเด็กที่ตัวเองเอ่ยถึงกำลังนั่งยิ้มกับโทรศัพท์ เขาแอบยื่นหน้าเข้าไปดูก็เห็นว่าเจ้าเด็กมือไวกำลังนั่งเล่นแอพพลิเคชั่นที่เลโอเป็นคนแนะนำ
   

“แกคิดยังไงกับเด็กคนนี้” เลโอยื่นคางไปทางไอติมพร้อมกับมองหน้าเพื่อน ไบรอั้นทำตาโตนิดหน่อย หันไปมองเด็กข้าง ๆ แล้วหันกลับไปมองหน้าเพื่อน
   

“แกถามต่อหน้าเขาเลยเหรอ เด็กนี่ฟังภาษาอังกฤษออกนะ ถึงจะไม่ค่อยคล่องก็เถอะ”
   

“เวลาที่เด็กคนนี้โฟกัสอย่างอื่นอยู่ ฟังไม่ทันหรอกว่าเราพูดอะไรกัน” ไบรอั้นนิ่งไปแปบหนึ่งก่อนจะยักคิ้วหนึ่งทีพร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ไม้
   

“ก็เป็นเด็กน่ารักดี” ไบรอั้นหันมองไอติมที่กำลังเลื่อนดูรูปในแอพพลิเคชั่น แล้วก็เลื่อนสายตาขึ้นมองพนักงานชายที่เอาเบียร์กับน้ำปั่นของไอติมมาเสิร์ฟ
   

“แค่นี้เหรอ” เลโอถามพลางยกแก้ว ขวดเบียร์สองขวดและถังน้ำแข็งมาวางไว้ตรงขอบโต๊ะด้านซ้ายมือของตัวเอง ไบรอั้นคีบน้ำแข็งใส่แก้วตัวเองกับของเพื่อน ส่วนเลโอเป็นคนเทเบียร์
   

“ลามก แล้วก็ลวนลามฉันเก่ง” เลโอขำ ยิ้มกว้างจนเห็นเหงือกสีชมพู ยิ้มแบบที่ไอติมมักคิดว่าเป็นคิงคอง
   

“ไม่ใช่แบบนั้นสิ หมายถึง ถูกใจแกมั้ย” ไบรอั้นยกเบียร์ขึ้นดื่มและเหลือบมองไอติมที่ตามองจอโทรศัพท์แต่ปากดูดน้ำปั่นในแก้วจ๊วบๆ
   

“เด็กมันไม่ดื้อ แค่มือซนไปหน่อย แต่อยู่ด้วยแล้วก็โล่ง ๆ ดี”
   

“แล้วถูกใจแกรึเปล่า” เลโอแกล้งมองจี้เอาคำตอบจากเพื่อน ไบรอั้นย่นคิ้ว ทำหน้าเอือมแล้วไม่ตอบคำถามของเพื่อน พอดีกับที่พนักงานเริ่มเอาอาหารมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ
   

แม้ว่าบนโต๊ะจะมีเนื้อปู เนื้อกุ้ง เนื้อกั้ง เนื้อปลา แต่ไอติมก็ไม่ลืมที่จะสั่งปีกไก่ทอดมาด้วย ไอติมปล่อยให้อีกสองหนุ่มคุยกันตามสบาย ส่วนตัวเองก็นั่งแทะปีกไก่อย่างเพลิน ๆ ไม่ได้คิดจะเข้าแทรกกลางระหว่างบทสนทนาของอีกสองคน
   

“Hey, we would like to go to the club. You okay? (เฮ้ เราอยากจะไปคลับกันน่ะ นายโอเคมั้ย)” ไอติมหันไปหาไบรอั้นทั้งที่ยังเคี้ยวไก่อยู่ก่อนจะพยักหน้าด้วยความเข้าใจและไร้ปัญหาที่จะไป
   

“พี่พนักงานฮะ ถนนคนเดินอันไหนน่าไปมากกว่ากัน ระหว่างเฉวงกับ Fisherman village” ไอติมถามพลางเคี้ยวปีกไก่หงับ ๆ พนักงานชายที่เดินผ่านมาพอดีหยุดแวะตอบคำถามของลูกค้า
   

“พี่มีเพื่อนเป็นฝรั่งมาด้วย ผมว่าไปฟิชเชอร์แมนดีกว่าครับ ขับรถไปจากนี่ก็ไม่เกินสิบห้านาที มีป้ายบอกตลอดทาง หรือพี่จะเปิดแม็พไปก็ได้”
   

“โอ้ โอเคพี่ ขอบคุณฮะ” ไอติมรู้สึกว่าการที่ต่างคนต่างเรียกพี่ทั้งที่หน้าของอีกฝ่ายดูจะอายุมากกว่าไอติม มันคือการสู้กันอย่างหนึ่ง
   

เหมือนว่าพอเวลาขยับไปดึกเรื่อย ๆ คนก็เริ่มจะออกมาเดินมากขึ้น ยังไม่มากเท่ากับไฮซีซั่น แต่ก็ไม่เงียบเหงาเท่ากับตอนแรกที่เลโอถามไบรอั้น ประมาณสองทุ่มครึ่งทั้งสามคนก็กินอาหารเสร็จ ไอติมเรียกพนักงานมาเก็บเงิน อาหารมื้อนี้ราคาแรงใช่ย่อย แต่หารสามก็เลยเบาลงไปหน่อย ถึงจะหน่อยเดียวจริง ๆ ก็เถอะ
   

“I want to buy postcard. (ผมอยากซื้อโปสการ์ด)”
   

“Take your time. (ตามสบายเลย)” ไอติมยิ้มเหลอหลาพักหนึ่งแล้วหันไปมองไบรอั้น หนุ่มหัวทองนั่งนึกแปบหนึ่งก่อนจะพูดออกมา


“We will wait you. (เราจะรอนาย)” ไอติมร้องอ๋อเบา ๆ และพยักหน้าให้สองหนุ่มก่อนจะลุกเดินออกไปจากร้าน มองซ้ายมองขวาสักแปบก็ค่อยข้ามถนนไปร้านหนังสือที่มีโปสการ์ดวางขายอยู่บนชั้นตะแกรงเหล็กสีดำ ไอติมหมุนตะแกรงเหล็กทรงกลมช้า ๆ มองหาภาพที่รู้สึกถูกใจ หมุนวนอยู่รอบนึงก็เลือกหยิบมาหกใบ
   

“Six? For who? (หกใบเลยเหรอ ให้ใครบ้างเนี่ย)” ไบรอั้นถามไอติมที่ยืนเขียนโปสการ์ดอยู่ตรงเค้าน์เตอร์เล็ก ๆ ข้างตู้ไปรษณีย์สีแดงอันใหญ่ที่ทางร้านทำไว้ให้
   

“I will send to my best friend, my two roommate, Lukas, Anthony แล้วก็ and น้อง Robert. (ผมจะส่งให้เพื่อนสนิทผม รูมเมทผมสองคน ลูคัส แอนโทนี่แล้วก็โรเบิร์ต)” หนุ่มหัวทองย่นคิ้ว
   

“Lukas and Anthony? And who is Robert? Your best friend? (ลูคัสกับแอนโทนี่เหรอ แล้วใครคือโรเบิร์ต เพื่อนสนิทนายเหรอ)” ไอติมส่ายหัวทั้งที่กำลังเขียนการ์ดอยู่และค่อย ๆ อธิบาย ช้า ๆ ชัด ๆ เพื่อไม่ให้ไบรอั้นงง แม้ในใจจะรู้สึกว่าไบรอั้นน่าจะงงก็ตาม
   

“My best friend name Denny, you used to see him. And เอ่อ… (เพื่อนสนิทผมชื่อเดนนี่ คุณเคยเจอเขา และ เอ่อ…)” ไอติมหยุดเขียนโปสการ์ด เงยหน้าคิดคำศัพท์ที่พยายามจะใช้


“Robert is brother of Denny. He give room for me when I go to L.A. (โรเบิร์ตเป็นน้องชายของเดนนี่ เขาให้ห้องสำหรับผมตอนผมไปแอลเอ)” ไอติมบิดหน้ามองไบรอั้นที่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ เลยทำให้ไอติมโล่งใจและมีกำลังใจพูดต่อ


“And what about Lukas and Anthony? (แล้วลูคัสกับแอนโทนี่นี่คือยังไง)”


“I want to thank you to help me and give work. (ผมอยากขอบคุณที่ช่วยผมและให้งาน)”


“Oh, I see. And don’t you want to send it to me? (อ้อ เข้าใจละ แล้วไม่อยากส่งให้ฉันบ้างเหรอ)” ไอติมเด้งตัวขึ้นมาและทำตาโต


“อุ๊ you want too เหรอ” ไอติมไม่ได้คิดจะลืม แต่เห็นว่าอยู่ด้วยกันเลยไม่ได้คิดว่าต้องซื้อแล้วส่งไปให้


ไบรอั้นยิ้มขำและพยักหน้า แกล้งอำเด็กมันเล่น แต่ปรากฏว่าไอติมหันไปเลือกโปสการ์ดจากชั้นวางอย่างจริงจังอยู่พักหนึ่งก่อนหมุนตัวกลับมาโชว์โปสการ์ดให้ดู เป็นรูปพระอาทิตย์กำลังตกสีส้มแดง ตัดกับขอบผืนทะเลสีฟ้า มีฝูงนกเล็ก ๆ เป็นเงาสีดำบินผ่านดวงอาทิตย์ดวงโต มุมขวาของโปสการ์ดเป็นต้นมะพร้าวโค้งเข้าไปในทะเล ด้านซ้ายเป็นกลุ่มโขดหินที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่สามสี่ต้น


“You like? (คุณชอบ?)” ไบรอั้นยักคิ้วและยิ้มขำน้อย ๆ ไอติมยิ้มกว้างและชะโงกหน้าไปมองหาเลโอที่กำลังยืนอยู่กลางถนน กำลังใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปให้เห็นตึกและรวงร้านทั้งสองข้างทาง โดยมีถนนที่มีคนเดินกันอย่างไม่แออัดอยู่ตรงกลางภาพ


“Leo, you want postcard? (เลโอ อยากได้โปสการ์ดมั้ยฮะ)” คิงคองหนุ่มลดมือถือลงพร้อมกับหันตัวไปมองอีกสองคน


“No, but thank you. (ไมล่ะ แต่ขอบคุณนะ)” ไอติมก้มลงไปเขียนข้อความลงบนโปสการ์ดต่อ ทุกใบจะเขียนด้วยข้อความที่ต่างกันออกไป มีของเดนนี่กับรูมเมทอีกสองคนที่เขียนเป็นภาษาไทย ไอติมไม่ได้ทำเป็นประจำเวลาไปเที่ยว แค่นึกอยากทำทริปนี้เฉย ๆ อีกอย่างก็ใช่ว่าเขาจะไปเที่ยวบ่อย ที่สำคัญเห็นว่าโปสการ์ดมันสวยดีเลยอยากซื้อส่งให้ เหมือนเป็นของฝากเล็ก ๆ น้อยๆ


“Don’t you want to send to Jake, Kevin and Mandy? (ไม่อยากส่งให้เจค เควินแล้วก็แมนดี้บ้างเหรอ)” ไอติมที่กำลังติดแสตมป์บนโปสการ์ดหันไปมองหน้าไบรอั้นแบบงง ๆ แต่พอสติจับชื่อที่ไบรอั้นพูดได้ก็ทำหน้าแหยแล้วส่ายหัวอ่อน ๆ หนุ่มหัวทองหัวเราะร่วน เพราะจำได้ว่าไอติมมีปฏิกิริยากับสามคนนั้นยังไง


 “Hey, Jake is your boss. (เฮ้ เจคเป็นเจ้านายนายนะ)” ไบรอั้นแกล้งแซว ไอติมยู่หน้าแล้วก็หันกลับไปติดแสตมป์ต่อ หนุ่มหัวทองมองหนุ่มหัวดำแล้วก็ขำกับความรู้สึกอันชัดเจนของเจ้าเด็กลามก

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 19-11-2018 18:59:16
V
v
v

จ่ายเงินค่าโปสการ์ด ค่าแสตมป์และค่าจัดส่งเรียบร้อย ทั้งสามคนก็ขับรถย้อนขึ้นไปตามทางที่ขับมา ซึ่งระหว่างทางที่จะไปถนนคนเดินอันเป็นจุดหมาย ก็มีร้านขายของฝาก ขายของที่ระลึกให้เห็นผ่านตาค่อนข้างมากอยู่ ห้างที่กำลังสร้างหากสร้างเสร็จก็คงเป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดของเกาะนี้


ไอติมไม่จำเป็นต้องใช้แมพ เพราะมีป้ายบอกทางชัดเจนว่าสถานที่ที่เขาทั้งสามคนจะไปต้องไปทางไหน ช่วงเวลาอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ไอติมมองวิวสองข้างทางไปเรื่อย รถมอเตอร์ไซค์ไซซ์มาตรฐานดูเป็นคันจิ๋วเมื่อมีฝรั่งล้ำบึ้กสองคนนั่งอยู่ หนุ่มไทยที่นั่งข้างหน้าก็ตัวบอบบางร่างน้อยเลยยิ่งเสริมให้ฝรั่งอีกสองคนดูตัวใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นเบาะของรถก็พอดีก้นของทั้งสามคน แม้ก้นของไอติมจะชนความตุงของเป้าไบรอั้นอยู่ตลอดเวลาก็ตาม แต่นั่นแหละ ไอติมชอบ


“Is that it? (นั่นใช่รึเปล่า)” ไบรอั้นก้มหน้าลงถามไอติมและยกมือซ้ายชี้ไปที่ซุ้มประตูสีฟ้าขาวที่บนนั้นเขียนว่า Fisherman’s Village ไอติมพยักหน้ารัว ๆ ไบรอั้นมองหาที่จอดรถพักหนึ่งและตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปในลานดินด้านหน้าก่อนที่จะถึงประตูทางเข้า พอจอดรถเรียบร้อยสามหนุ่มก็เดินเข้าไปด้านในที่มีคนหนาตากว่าจากจุดเดิมที่จากมา ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติ


ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่ชาวท้องถิ่นช่วยกันปรับปรุง รีโนเวทให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของเกาะจนมีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มักจะถูกจริตกับที่นี่มากเป็นพิเศษ ถนนคนเดินของที่นี่ถือว่าเป็นนัมเบอร์วันบนเกาะ มีของฝาก ของที่ระลึก และของแฮนด์เมดเยอะแยะมากมายที่สามารถดึงเงินนักท่องเที่ยวให้ออกจากกระเป๋าได้ง่าย นอกจากจะมีร้านขายสินค้าแล้ว ยังมีร้านอาหารกับร้านเหล้าด้วย


“It’s cozy. (บรรยากาศดีจัง)” ไบรอั้นพึมพำเบา ๆ หูฟังเสียงเพลงจังหวะสนุก ๆ ที่เปิดจากตรงไหนสักแห่งในถนนคนเดินอย่างเพลิน ๆ สายตามองร้านต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่สองข้างทางด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ ซึ่งนอกจากร้านพวกนี้ ยังมีร้านประจำที่อยู่ใต้อาคารไม้อีกด้วย


“อันนี้เท่าไหร่ฮะ” ไบรอั้นกับเลโอหันไปมองไอติมที่จู่ ๆ ก็เดินไปยืนหน้าร้านเครื่องประดับร้านหนึ่ง ไบรอั้นกำลังจะเดินเข้าไปหาไอติม แต่ก็ชะงักหันมองเลโอที่สะกิดเรียก


“เดี๋ยวฉันเดินนำไปก่อนแล้วกัน ฉันว่าจะหาซื้อของสักหน่อย แกอยู่กับไอศกรีมนี่แหละ”


“ไม่รอไปพร้อมกันรึไง”


“รอกันไปมา เดินไม่เสร็จสักที ฉันกลัวฝนจะตก” เลโอชี้ท้องฟ้าที่มืดครึ้มและมีฟ้าแลบเป็นระยะ ไบรอั้นพยักหน้าขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาไอติมที่หยิบสร้อยสีเงินขึ้นมาเส้นหนึ่ง


“Lovely? (น่ารักมั้ยฮะ)” ไบรอั้นมองสร้อยเส้นนั้นในมือไอติม ตัวสร้อยเป็นโซ่อันเล็ก ๆ คล้องกันดูแข็งแรง ตัวจี้เป็นรูปขนนกสีเงินอันจิ๋ว


“It’s fine. (ก็ดีนะ)”


“I give you. (ผมให้)” ไบรอั้นยกคิ้วขึ้น มองไอติมด้วยความงุนงง


“For what? (ให้เพื่อ?)”


“Just want to give. (แค่อยากให้)”


“You are a sugar momma, huh? (นายเป็นสายเปย์สินะ ใช่มั้ย)” ไอติมไม่เข้าใจคำศัพท์นั้นแต่ก็ยิ้ม ไบรอั้นมองรอยยิ้มจริงใจที่ดูอยากจะให้เขาอย่างที่ปากว่าจริง ๆ เขาหยิบสร้อยมาจากมือไอติมและเอาไปวางไว้บนชั้นตามเดิม


“You don’t want เหรอ” ไอติมถามเสียงอ่อย ไบรอั้นหันไปยิ้มขำก่อนหันกลับไปมองบนแผงสร้อยคออีกที เลือกอยู่พักหนึ่งก็หยิบสร้อยสีทองอ่อนที่มีจี้เป็นรูปกระต่ายสีทองอ่อนจนเกือบจะเป็นสีครีมมันเลื่อมตัวกระจ้อยร่อยห้อยอยู่


“This one. (อันนี้)” ไบรอั้นชูสร้อยจี้กระต่ายหูตั้ง มีดวงตาเรียวยาว นั่งหันข้างและมีหางกลม ๆ ติดอยู่ตรงก้นขึ้นให้ไอติมเห็น เด็กลามกยิ้มกริ่มและพยักหน้ารัว ๆ เพราะเห็นว่ามันน่ารักดี


“You like rabbit? (คุณชอบกระต่ายเหรอ)” ฝรั่งหัวทองมองหน้าไอติมแล้วยิ้มด้วยความตลก แล้วก็ขำพรืดออกมา ไอติมมองอย่างเอ๋ออ๋าแต่ก็ยิ้มไปด้วย แม้จะไม่เข้าใจว่าขวัญใจตัวเองขำทำไม


“I think it’s like you. (ฉันว่ามันเหมือนนายดี)” ไอติมทำหน้างง


“Like me?” ไบรอั้นยักคิ้วและพยักหน้าพร้อม ๆ กัน เขายื่นสร้อยคอไปให้ไอติม ร่างบางรับไปถือไว้และมองด้วยความไม่เข้าใจ แต่ใบหน้าก็ยังคงเปื้อนยิ้ม


“I am your little rabbit. (ผมเป็นกระต่ายน้อยของคุณ)” ไบรอั้นหัวเราะหางตาย่น ไอติมมองภาพนั้นแล้วก็ยิ้มอย่างสุขใจ


“Yeah, you are. (ใช่ นายเป็นงั้นแหละ)” ไอติมยิ้มแฉ่งและหันไปถามราคากับคนขายผู้ชาย ตอนแรกไอติมคิดว่าราคามันคงไม่ได้แพงมาก แต่ปรากฏว่าแพงเอาเรื่องอยู่ เพราะตัวสร้อยและจี้ทำมาจากวัตถุชั้นดี เจ้าของร้านกลัวไม่เชื่อก็เปิดหนังสือข้อมูลสร้อยให้ไอติมดูเป็นจริงจังและอธิบายว่ามีที่ไปที่มายังไง ไอติมรับฟังแต่ก็ไม่ได้คิดตามอะไรมากมาย เพราะสุดท้ายก็ควักเงินจ่ายไป


“Come, I will put it on your neck. (มา ผมจะวางมันบนคอคุณ)”


“You keep it. No need to give anything to me. (นายเก็บไว้เถอะ ไม่จำเป็นต้องให้อะไรฉันหรอก)” ไอติมสั่นหัว


“Please, I want to give you. Don’t worry I’m happy to pay for you. (ได้โปรด ผมอยากให้คุณ ไม่ต้องกังวล ผมมีความสุขที่ได้เปย์ให้คุณ)” ไบรอั้นหัวเราะกับความใจป้ำของเด็กลามก เขาพยักหน้าด้วยความขำ ก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้ไอติม


“You are really sugar momma. (นายนี่มันสายเปย์จริงๆ)” ไอติมวัดขนาดสร้อยกับหัวของไบรอั้นด้วยสายตาและคิดว่ามันน่าจะสวมลงคอเขาพอดีเลยยืดตัวขึ้นสวมให้ขวัญใจตัวเอง มีติดขัดนิดหน่อยเพราะสร้อยพอดีกับหัวไบรอั้น แต่พอจับยัด ๆ สักแปบก็หล่นลงไปคล้องคอหนาได้อย่างลงตัว จี้กระต่ายตัวจิ๋วห้อยอยู่ตรงกลางร่องเนินหน้าอกบึ้ก ๆ ของไบรอั้นพอดี


“Handsome!” ไอติมยกสองมือปรบมือเปาะแปะเหมือนเด็ก ไบรอั้นยิ้ม แล้วก็หัวเราะด้วยความตลก ไอติมย่นคิ้ว


“What? (อะไรอะ)” ไบรอั้นทำมือบอกให้ไอติมเดินไปแม้จะยังคงขำอยู่ ไอติมคล้องแขนซ้ายของไบรอั้นแล้วก็แหงนหน้ามองใบหน้าหล่อที่กำลังขำจนหน้าแดงระเรื่อด้วยความสงสัย


“Nothing. It’s just… the little rabbit is lovely. (เปล่าหรอก ก็แค่… กระต่ายตัวน้อยมันน่ารัก)” ไอติมทำหน้าไม่เข้าใจในขณะที่เดินไปข้างหน้าพร้อมกับฝรั่ง


“Is it good meaning? (มันเป็นความหมายที่ดีใช่มั้ยฮะ)” ไอติมถามอย่างไม่แน่ใจ ไบรอั้นที่หยุดขำแบบหนัก ๆ ได้แล้วและเปลี่ยนเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทนพยักหน้าหงึกๆ


“Of course, little rabbit. (แน่นอนสิ เจ้ากระต่ายตัวน้อย)”

   
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-11-2018 19:23:47
กระต่ายเอ๊ยยยย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 19-11-2018 21:11:30
หมันเขี้ยวน้อง น่าร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-11-2018 22:17:34
ไอติมกระต่ายกะทิ  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 20-11-2018 02:40:43
ไอติมสดใสตลอดเวลา มีพลังชีวิตล้นเหลือ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 20-11-2018 04:01:04
รู้สึกได้ว่าพี่อั้นมองไอติมด้วยฟิลเต้อกระต่ายน้อยใสๆมากก แต่น้องดันสู้ชีวิตมากเรื่องอย่างนั้น ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-11-2018 06:40:13
ไอติมน่ารักกก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 20-11-2018 07:22:36
ไอติมก็เหมาะกับกระต่ายน้อยดี สดใส น่ารัก พี่อั้นคงจะเอ็นดูน้องมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสินะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 21-11-2018 20:35:11
เป็นกระต่ายน้อยของพี่อั้นแล้ว แทรกซึมเข้าไปลู้กกกกก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-11-2018 23:43:19
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 22-11-2018 03:08:46
เจ้าติมเป็นกระต่ายไปแล้วว55555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 22-11-2018 16:26:01
เปย์ให้สุดไปหยุดที่เป็นแฟนให้ได้นะติม  :katai3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 25-11-2018 01:10:49
ขอน้องติมกับเดนนี่อีกสักรอบบบค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.17 : Little Rabbit. : 19.11.18
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 25-11-2018 13:46:03
^ เห็นด้วยครับ! ว่าอยากให้น้องติมได้กับเดนนี่อีก ฮือ เราชอบคู่นี้ครับ! (หัวเราะ) เดี๋ยวอาจจะต้องรอก่อน พอน้องติมได้บินไปทำงานที่นั่น เซ็กซ์ครีเอทีฟก็ต้องการอะไรใหม่ๆเพื่อสร้างแรงดึงดูดของหนัง และต้องการคนสอนบทบนเตียงใช่ไหมครับ? เราจะให้เดนนี่เป็นติวเตอร์ส่วนตัว ทำมันทั้งวันทั้งคืนเลย เพื่อจินตนาการที่บรรเจิด! ฮ่าๆ แค่คิดก็ฟินสุดๆแล้วครับ (หัวเราะ)
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-12-2018 18:58:40
Fall in lust, Chapter 18 :: Carrot & Papaya. (แคร็อทและมะละกอ)



   ด้วยความที่เมื่อคืนอยู่ที่ร้านเหล้าแถวเฉวงกันจนดึกดื่นและดื่มกันไปเยอะ วันต่อมาสองฝรั่งเกือบตื่นไปทริปทัวร์หมู่เกาะอ่างทองไม่ทันหากไอติมผู้ที่ไม่ได้ร่วมดื่มด้วยไม่ปลุกทั้งสองคนที่อยู่ในสภาพมึน ๆ เมา ๆ ให้ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนที่รถตู้ของบริษัททัวร์จะมารับหน้าที่พัก พอขึ้นรถตู้ปุ๊บ สองหนุ่มก็หลับเอาแรงทันทีแม้ว่าเส้นทางจากรีสอร์ทไปท่าเรือจะไม่ได้ไกลกันมาก และยังไปหลับต่อบนเรือด้วย กลายเป็นไอติมที่ต้องพยายามฟังคำแนะนำของไกด์ไทยที่พูดเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากทริปนี้ชาวไทยมีแค่ไอติมคนเดียว
   

แม้ว่าจะมึนเมาและหน้าตาดูพร้อมหลับทุกที่ แต่พอถึงช่วงทำกิจกรรมดำน้ำ ปีนเขา และพายเรือคายัค สองฝรั่งก็ไม่รู้ไปขุดพลังมาจากไหน คึกคักสนุกสนานกันยิ่งกว่าไอติมที่หอบแฮ่ก ๆ ตอนไต่เขาเพื่อไปชมวิวของหมู่เกาะทั้งหลาย ก็ถือว่าคุ้มกับความเหนื่อยที่ไต่ขึ้นมา เพราะได้ภาพลงอินสตาแกรมหลายช็อต และได้ภาพคู่กับไบรอั้นกับภาพเราสามคนมาอีกหลายภาพด้วย
   

ถือว่าวันนี้ฟ้าฝนปรานีที่ไม่ตกลงมา มีแค่ขู่ด้วยความครึ้มของก้อนเมฆบางลูกในบางจุดให้ลุ้นหลายครั้งว่าฝนจะหยดลงมาเมื่อไหร่ แต่ตั้งแต่เช้าจนจบทริป และจนกลับมาถึงที่พักช่วงเกือบสี่โมงเย็น ฝนฟ้าก็ถือว่ามีความอดทนอดกลั้นไม่ปลดปล่อยตัวเองลงมาทำลายบรรยากาศทริปดี ๆ ของวันนี้ และไอติมหวังว่าฟ้าฝนจะยังคงอดทนต่อไป เพราะแค่แสงแดดรำไรในช่วงเวลาใกล้ค่ำก็ลุ้นมากพออยู่แล้วว่าจะไม่มีแสงให้ทำงาน ถ้าฝนตกลงมาอีกคงชวนหงุดหงิดน่าดู 
   

“Where are you leading me now? (นายกำลังพาฉันไปไหนเนี่ย)” ไบรอั้นในชุดกางเกงผ้าร่มขาสั้นสีดำ ท่อนบนไร้เสื้อผ้าถามไอติมที่แบกเป้สีดำเดินนำหน้าไปทางตีนเขาอีกฝั่งของหาดที่อยู่คนละฝั่งกับที่พักพวกเขา บนตัวของเขามีเพียงสร้อยคอสีทองอ่อนที่ไอติมซื้อให้เมื่อวานนี้ประดับอยู่บนผิวกาย บนหัวใส่หมวกสานสีน้ำตาลขนาดเล็กที่ปลายหมวกแตกเป็นซี่เหมือนไม่ได้เก็บรายละเอียด แต่จริง ๆ คือเป็นสไตล์ของหมวก
   

“Secret space. (พื้นที่ลับ)” ไอติมตอบด้วยความตื่นเต้นในระหว่างที่พาไบรอั้นเดินไปตามทางเทปูนติดกับตีนเขาที่มีต้นไม้ขึ้นเขียวขจีหนาทึบอยู่บนพื้นที่ของเนินเขา และมีก้อนหินโขดหินที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติตั้งขึ้นอย่างหนาแน่น ไล่ไปจนถึงในทะเล ไอติมมองจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาถ่ายรูปทะเลยามเย็นตรงบริเวณลานปูนด้วยหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ภาวนาว่าขออย่าให้มีใครเดินเลยไปไกลมากกว่าจุดนี้ หรือมากสุดก็อยู่ตรงโขดหินก้อนใหญ่ ๆ ที่สามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปบนนั้นได้แค่นั้นพอ
   

“Are we almost there? (เราใกล้ถึงรึยัง)” ไบรอั้นถามตอนที่ไอติมพาเขาเดินไต่แนวหินที่เชื่อมกับพื้นคอนกรีตลงไปในน้ำทะเลสีฟ้าเขียว มีก้อนหินมากมายวางเกาะกลุ่มตามธรรมชาติอยู่ในน้ำ มีก้อนใหญ่ ๆ ที่ตั้งสูงขึ้นเป็นฉากกั้นระหว่างฝั่งที่เป็นถนนคอนกรีตกับอีกฝั่งนึงที่เด็กลามกกำลังพาเขาไป บริเวณนี้เสียงคลื่นนั้นแทบไม่มี ก็จะมีที่ดังมาจากช่วงกลาง ๆ ทะเล เสียงเรือยนต์ดังมาจากท้องทะเลไกลลิบ เสียงผู้คนก็น้อย เพราะไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยวหลัก ไบรอั้นยกมือขวาดันโขดหินขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาในทะเลต่อจากภูเขาด้านบน ค่อย ๆ เดินตามไอติมที่น้ำทะเลสูงถึงใต้ก้น แต่สำหรับเขาก็แค่หัวเข่าเท่านั้น
   

“Here!” เสียงเล็ก ๆ บอกอย่างตื่นเต้นตอนที่เดินอ้อมโขดหินก้อนใหญ่มาได้สำเร็จ ไบรอั้นมองพื้นที่ลับที่เจ้าเด็กนั่นว่าด้วยสายตาสำรวจพลางก้าวเท้าเดินขึ้นไปบนหาดทรายขนาดเล็ก
   

“Small beach. (หาดทรายน้อย)” ไบรอั้นทำปากยื่นและพยักหน้าหนึ่งทีพลางมองไปรอบๆ
   

“You are truly creative. (นายก็เหมาะกับตำแหน่งครีเอทีฟจริง ๆ เนอะ)” สถานที่ที่ไอติมพามาเป็นพื้นที่หาดทรายติดกับเนินเขาที่มีต้นไม้ขึ้นหนาทึบอยู่ด้านบนภูเขาเป็นเหมือนฉากหลัง น้ำทะเลบริเวณนี้สีสวยใสแต่นิ่งสนิท ไม่มีคลื่นน้ำให้เห็น ซึ่งอันที่จริงไบรอั้นไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าหาดได้หรือไม่ เพราะมันค่อนข้างแคบและมีขนาดเล็ก หาดทรายตรงนี้ตีกรอบด้วยกลุ่มโขดหินจนมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมแบบบิดเบี้ยวนิดหน่อย บนพื้นทรายก็มีหินต่างไซซ์วางระเกะระอยู่ คือถ้าจะมานอนอาบแดดตรงนี้ก็คงนอนได้ไม่เกินสามคน แต่สิ่งที่จะได้ไปก็คือความเป็นส่วนตัว เพราะดูตัดออกจากหาดบริเวณหน้าที่พักพวกเขา แต่ก็ไม่ถึงเป็นส่วนตัวพ้นสายตาใครขนาดนั้น ถ้ามีคนปีนขึ้นมาบนโขดหินที่เขาเดินอ้อมมาก็จะมองเห็นเขาสองคน หรือถ้าชัดสุดก็อาจจะมีใครสักคนเดินลุยน้ำอ้อมโขดหินมาที่หาดเล็ก ๆ ตรงนี้แบบที่เขาสองคนทำ
   

“Okay, what we are going to do now? (เอาล่ะ เราจะทำอะไรต่อล่ะทีนี้)” ไอติมถอดกระเป๋าเป้ออกและนั่งลงบนพื้นทรายละเอียด กวักมือเรียกให้ไบรอั้นไปนั่งข้างกัน ฝรั่งหัวทองเดินไปนั่งข้างกับไอติมที่หยิบกล้องถ่ายวิดีโอตัวเดิมออกมาจากกระเป๋าเป้
   

“I will give you help yourself เอ่อ jerk on เอ้ย”
   

“Jerk off. (ช่วยตัวเอง)” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ ไบรอั้นหันไปมองวิวทะเลที่ตอนนี้ยังระยิบระยับด้วยแสงแดดจากท้องฟ้าจากโซนที่พวกเขาอยู่ แต่ท้องฟ้าที่อยู่ห่างออกไปก็เริ่มแผ่ความครึ้มเข้ามา อีกสักสองชั่วโมงพระอาทิตย์ก็จะเริ่มตกแล้ว
   

“I have to say I’m not in mood to do that. (ฉันต้องบอกว่าตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะทำแบบนั้น)” ไบรอั้นหันกลับไปมองไอติมที่ยกกล้องขึ้นมาถ่ายแล้ว เขายักคิ้วหนึ่งที ไอติมคลี่ยิ้ม
   

“Horny? (หงี่มั้ย)” ไบรอั้นเบะปากและสั่นหัวหงึก ๆ ไอติมหัวเราะอิ๊ะอ๊ะในลำคอ
   

“Can I help you? (ให้ผมช่วยมั้ย)” ไบรอั้นส่ายหัวแบบช้า ๆ แต่ชัด ๆ ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ ไบรอั้นเพิ่มความเร็วในการส่ายหัว ไอติมวางกล้องไว้บนพื้นทราย โกยทรายขึ้นสูงให้ดันกล้องแหงนขึ้น มองผ่านฝาหน้าจอกล้อง จัดสักแปบจนได้มุมที่ถูกใจ ก่อนจะหันไปหาไบรอั้นที่นั่งเหยียดขาสองข้าง สองแขนค้ำตัวอยู่ด้านหลัง ไอติมเดินเข่าไปตรงหน้าไบรอั้น ยื่นสองมือไปดึงกางเกงขาสั้นลงมาจนเห็นกางเกงว่ายน้ำสีเขียวขี้ม้าทรงสามเหลี่ยม ไบรอั้นยกก้นขึ้นเพื่อให้ไอติมดึงกางเกงออกได้สะดวกจนกระทั่งดึงหลุดออกจากขาของเขาไป
   

“Rabbit will eat carrot. (กระต่ายจะกินแคร็อท)” ไอติมนั่งลงข้างด้านขวาของไบรอั้น คนตัวโตหันมองเด็กลามกที่มองจ้องเขาตาเป็นมัน
   

“You can’t. (นายกินไม่ได้)”
   

“Why? (ทำไมอะ)” ไอติมยิ้มตาใส เอียงตัวเข้าหาไบรอั้น มือขวาวางลงบนเป้ากางเกงว่ายน้ำและลูบวนตามเข็มนาฬิกา ก้มหน้าลงจูบไหล่ขวาของไบรอั้นหนึ่งทีแล้วเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายตามเดิม ไบรอั้นมองไอติมอย่างเพลิดเพลิน ริมฝีปากขยับเป็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ไอติมยิ้มกริ่ม มือขวาลูบวนไปเรื่อยจนรับรู้ว่าข้างในนั้นเริ่มขยายตัวก็เปลี่ยนเป็นใช้มือบีบและจับตามแนวพาดยาวที่เบี่ยงไปทางขวาช้าๆ
   

“This carrot is huge more than the little rabbit could eat it all. (แคร็อทอันนี้ใหญ่เกินกว่าที่กระต่ายตัวน้อยจะกินหมด)” ไอติมคลี่ยิ้มตาแป๋ว ไบรอั้นยิ้มน้อย ๆ กระต่ายตัวน้อยยื่นหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากเจ้าของแคร็อทอันเขื่อง คนตัวโตตอบรับด้วยการงับปากสีแดง ก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะงับริมฝีปากหนากลับโดยที่มือยังคงบีบลูบคลำแครอทไม่หยุด
   

ตุ ตะ ตรุบ ตรับ~
   

เสียงดูดลิ้นดังอย่างแผ่วเบา ลิ้นต่างขนาดเกลี่ยไล้กันไปมาอยู่ครู่หนึ่งจนไอติมจนลุกซู่ไปทั้งตัวกับความรู้สึกลิ้นนุ่ม ๆ ดุนดันอยู่ในปาก ตอนที่ไอติมรู้สึกตัวเบาจนคล้ายจะลอยได้ก็ดึงหน้าออก น้ำลายสีใสยืดติดตอนดึงลิ้นออกจากกัน ไอติมยิ้มกว้าง ใบหน้าใสแดงฉ่ำ อาการขนลุกยังคงแล่นไปทั่วร่างกาย ไบรอั้นยิ้มมุมปากซ้ายแล้วก้มลงมองมือไอติมที่ลูบอยู่บนเนินตุงของเป้ากางเกง เขายกมือซ้ายขึ้นมาดึงขอบกางเกงว่ายน้ำออกเพราะรู้สึกอึดอัด ดึงขอบกางเกงลงไปไว้ใต้ไข่สองใบ แคร็อทที่กระต่ายน้อยจ้องจะกินดีดตัวตั้งตรงแข็งปัก
   

“โวว~” ไอติมร้องครางราวกับเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ไบรอั้นหัวเราะลมออกจมูก เอามือซ้ายกลับไปวางที่เดิม ไอติมไม่เสียเวลาจับเล่น ก้มลงใช้ปากดูดส่วนหัวสีชมพูอ่อนซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ โดยไม่ขยับลงไปข้างล่าง
   

“อ่า…” ไบรอั้นหลับตาพริ้มและครางเสียงเบา นั่งเหยียดขาเหยียดแขนด้วยความรู้สึกชิล ๆ เปิดเปลือกตามองทะเลสีฟ้าเขียวด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ก้มลงมองก็เห็นหัวสีดำกำลังผงกหัวขึ้นลงที่กลางลำตัวของเขา หนุ่มหัวทองยกมือขวาขึ้นมาบีบก้นไอติมแน่น กระต่ายตัวน้อยที่กินแต่ส่วนหัวแคร็อทดึงหัวขึ้นมองฝรั่งแล้วยิ้ม หันไปหยิบกล้องขึ้นมาจากพื้นทรายมาถ่ายหน้าของไบรอั้น
   

“Horny now? (หงี่ยัง)” ไอติมลดกล้องลงจับภาพแคร็อทอันเขื่องพักหนึ่งก่อนแหงนกล้องจับหน้าไบรอั้นตามเดิม ฝรั่งหัวทองตาเยิ้มพยักหน้ายอมรับ
   

“I want to fuck someone. (ฉันอยากเอาใครสักคน)” ว่าไปมือก็บีบก้นไอติมไป ไอติมหัวเราะ
   

“Could it be me? (เป็นผมได้มั้ย)” ไบรอั้นยิ้มอ่อนและส่ายหัว
   

“No. (ไม่ได้)”
   

“Why? (ทำไมล่ะ)”
   

“No. (ไม่)” ไบรอั้นคลี่ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด ปล่อยมือออกจาก้นไอติมไปวางบนพื้นทรายตามเดิม ไอติมลดกล้องลงข้างตัวและก้มลงดูดส่วนหัวแคร็อทอีกหลายทีก่อนจะดึงหัวขึ้นตั้งตรง ยกกล้องขึ้นถ่ายหน้าไบรอั้นตามเดิม
   

“Okay, I’m gonna fuck you now. Give me your ass. (ก็ได้ ฉันจะเอานายแล้ว เอาก้นนายมาให้ฉัน)” ไอติมหัวเราะและส่ายหัว ไบรอั้นหรี่ตามองแวบหนึ่ง
   

“You can not fuck me but you can fuck this. (คุณเอาผมไม่ได้ แต่คุณเอาอันนี้ได้)” ไอติมหันไปแหวกกระเป๋าเป้ก่อนจะหยิบของบางอย่างออกมา ไบรอั้นเลื่อนสายตาไปมอง แวบแรกเขาขมวดคิ้ว แต่ก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะขำขัน
   

“What the hell? Papaya? You are going to let me fuck papaya? (ห่าอะไรเนี่ย มะละกอเหรอ นายจะให้ฉันเย็xมะละกอเนี่ยนะ)” ไอติมหัวเราะ มือซ้ายถือมะละกอสีส้มลูกใหญ่และยาว ตัวเนื้อมะละกอยังมีความแข็งอยู่เพราะเพิ่งสุกได้ไม่นาน ไอติมยื่นมะละกอลูกนั้นไปตรงหน้าไบรอั้น
   

“Yes, fuck papaya. (ใช่ เอามะละกอนี่แหละ)” ไบรอั้นมองมะละกอสลับกับมองหน้ากล้องที่เปรียบเสมือนหน้าไอติมตอนนี้แล้วก็ขำด้วยความเหลือเชื่อ
   

“Seriously? (เอาจริงเหรอ)” ไอติมกะพริบตาปริบๆ
   

“Don’t be serious. Happy happy.” ไบรอั้นหัวเราะ กระต่ายลามกคงเข้าใจว่าเขากำลังเครียดถึงได้ตอบกลับมาแบบนั้น
   

“Alright. (ก็ได้)” ไบรอั้นหยิบมะละกอไปจากมือไอติม ยกขึ้นสำรวจไปทั่วลูก ไอติมหยิบมีดพกสีเงินที่หยิบติดมือมาจากบ้านด้วยขึ้นมาจากกระเป๋าพร้อมกับน้ำเปล่าขวดใหญ่หนึ่งขวด ยื่นของทั้งสองอย่างให้หนุ่มหัวทอง ไบรอั้นวางขวดน้ำไว้ข้างตัว ไอติมยื่นมือไปดึงกางเกงว่ายน้ำลงมาที่หน้าแข้งของไบรอั้น กระเถิบถอยหลังห่างจากฝรั่งไปประมาณหนึ่งก้าว ยกกล้องจับภาพไบรอั้นที่กำลังใช้มีดคว้านตรงจุกมะละกอออกให้เป็นรู ไอติมหันไปมองแถวโขดหินที่เดินเลาะกันมาว่ามีใครมาหรือไม่ รู้สึกโล่งใจที่ยังไม่มีใครโผล่ขึ้นมายืนบนโขดหิน และไอติมก็ยังคงภาวว่าขอให้เสร็จจากตรงนี้ก่อนแล้วใครอยากจะมาก็มา
   

“Put water in it. (เอาน้ำใส่เข้าไป)” ไอติมชี้ไปที่น้ำและชี้ที่รูมะละกอ ไบรอั้นใช้มือซ้ายเปิดขวดน้ำแล้วยกขึ้นเทใส่มะละกอไปประมาณครึ่งลูก วางขวดน้ำลง ใช้มือซ้ายปิดรูนั้นไว้แล้วเขย่าอยู่พักหนึ่งก็เทน้ำออก เมล็ดมะละกอไหลออกมาพร้อมกับน้ำจำนวนหนึ่ง ไบรอั้นมองรูมะละกอและเงยหน้าขึ้นมองไอติมแล้วก็ยิ้มขำด้วยความรู้สึกตลก เด็กลามกพยักหน้าหงึก ๆ เป็นเชิงบอกว่าให้เริ่มเลย ไบรอั้นยืดตัวตรง ใช้มือขวาจับอวัยวะส่วนนั้นไว้ให้นิ่งแล้วยัดส่วนหัวเข้ารูของมะละกอ แต่เข้าได้แค่ส่วนหัวก็เกิดการติดขัด แม้ว่าเขาจะพยายามดันมะละกอลงไปตามความยาวของอวัยวะแล้วก็ตาม
   

“It’s stuck. (มันติด)” ไบรอั้นเงยหน้าขึ้นมองไอติมในขณะที่มือซ้ายจับมะละกอ มือพยายามดันแคร็อทตัวเองเข้าไปในนั้น ไอติมหัวเราะ
   

“Your dick is big. You have to make very big hole. (จู๋คุณใหญ่อะ คุณต้องทำรูให้ใหญ่มากๆ)” ไบรอั้นยิ้มขำมุมปาก ดึงมะละกอออกจากส่วนหัว หยิบมีดพกสีเงินขึ้นมาปาดบริเวณขอบปากรูมะละกอเพื่อขยายรูทางเข้า พอรู้สึกว่ามันดูกว้างขึ้นแล้วก็วางมีดลงและลองยัดอีกครั้ง แต่ก็ยังคงติดที่ส่วนหัวอยู่ดี
   

“Hey, haha” ไบรอั้นหัวเราะอ้าปากกว้างจนหางตาปิดเมื่อรูมะละกอยังคงเล็กเกินไปสำหรับน้องชายพ่อเดียวกันของเขา ไอติมหัวเราะตามและบอกให้ไบรอั้นขยายรูเพิ่มอีก หนุ่มหัวทองหยิบมีดมาปาดขอบรูเพิ่มอีกนิดเพื่อขยายความกว้าง พอปาดเสร็จก็ใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางแยงเข้าไปในรูนั้นแล้วบิดนิ้วไปมา เงยหน้าขึ้นมองกล้องแล้วยิ้มกว้างพร้อมกับแลบลิ้น
   

“I choose very big papaya. (ผมเลือกมะละกอที่ใหญ่มากๆ)” ไอติมบอก
   

“You have to choose the bigger. (นายต้องเลือกใหญ่กว่านี้)” ไอติมกัดปากล่างแล้วยิ้ม ไบรอั้นมองเป้ากางเกงของไอติมที่โป่งตุงเพราะบางสิ่งกำลังดันอยู่
   

“Big bulge. (ตุงเชียวนะ)” ไบรอั้นยกมือขวาชี้เป้าของไอติม เจ้าของเป้าก้มลงมองและยิ้มเขินแต่ก็ไม่อาย
   

ไบรอั้นจับลูกชายยัดเข้าไปในรูของมะละกอ มันติดขัดนิดหน่อย แต่รอบนี้ก็เข้าลึกกว่าเดิม เขาสูดปากแผ่วเบาเพราะความคับแน่นของรู เมื่อเข้าไปได้เกือบครึ่ง ไบรอั้นก็ใช้ทั้งสองมือจับมะละกอและพยายามดันลงทีละนิด เขาสูดปากจนเกิดเสียงลมหวิว ๆ เงยหน้าขึ้นมองกล้องก็เห็นว่าไอติมกำลังกัดริมฝีปากล่างและมองเขาตาเป็นมัน ไบรอั้นยิ้มเย้า สายตาเชิญชวน และในที่สุดเขาก็ดันมะละกอลงจนกลืนกินเอ็นเนื้อของเขาเกือบมิด เพราะส่วนหัวชนกับปลายมะละกอแล้ว
   

“ออ… ซู…” ไบรอั้นห่อปากครางก่อนจะสูดปากซู๊ดเบา ๆ ข้างในเป็นโพรงโล่งให้ความรู้สึกสบาย ๆ แต่ตรงส่วนรูนั้นก็รัดแท่งเนื้อเขาแน่น พอเขาขยับมะละกอขึ้นก็อ้าปากครางเบา ๆ แล้วแหงนหน้าขึ้นจนลำคอด้านหน้าตึงแน่น สองมือจับลูกมะละกอขยับขึ้นลงอย่างเชื่องช้าเพื่อปรับให้มันไปด้วยกันได้กับแก่นกาย
   

ไอติมมองภาพฝรั่งตัวใหญ่กำลังนั่งใช้มะละกอช่วยตัวเองด้วยความรู้สึกวาบหวิว ไบรอั้นที่มีหมวกสานแตกปลายอยู่บนหัว มองแล้วให้ความรู้สึกถึงทะเลและชายหาดในหน้าร้อน มีกางเกงว่ายน้ำสีเขียวคาอยู่ตรงหน้าขาทั้งสองของ เขานั่งตัวงอเล็กน้อย ทำให้ช่วงกล้ามท้องพับเป็นชั้นบาง ๆ มันไม่ได้ทำให้เขาหุ่นย้วย แต่กลับทำให้ดูเป็นธรรมชาติตามปกติของมนุษย์ที่ไม่ได้เป๊ะเป็นรูปปั้น ต้นขาแข็งแรงอ้าออก ปลายขาทั้งสองอ้าเป็นมุมฉากแคบ ๆ ไม่กว้างเท่าต้นขาด้านบนเพราะโดนกางเกงว่ายน้ำรั้งเอาไว้ สองแขนตั้งฉากในมุมพอดี ทำให้กล้ามแขนขึ้นลูกชัดเจน
   

ฟิบ ฟิบ ฟิบ ฟิบ~
   

เกิดเสียงลมคล้ายเวลาบีบกระบองลมยามที่มะละกอถูไถขึ้นลงกับแท่งเนื้อ ไอติมซูมกล้องเข้าไปตรงช่วงโคนและไข่ที่น้ำสีส้มของมะละกอไหลออกมาเลอะเนื้อแถวนั้น ยิ่งพอไบรอั้นโกนขนตรงนั้นจนหมดยิ่งทำให้เห็นน้ำสีส้มชัดขึ้น มีเมล็ดมะละกอสีดำที่สภาพเละแล้วไหลออกมาด้วยสามสี่เม็ด ไอติมถ่ายภาพที่น้ำมะละกอไหลหยดลงบนพื้นทราย แช่ภาพไว้สักแปบก็ค่อย ๆ ไล่กล้องกลับขึ้นไป จับที่ภาพมะละกอกำลังเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ ด้วยสองมือใหญ่ เอนหลังเพื่อซูมภาพออกอีกหน่อย ให้เห็นแค่ช่วงหุ่นของไบรอั้นที่ล่ำสันกำยำ ฉากหลังคือโขดหินตรงตีนเขากับตัวต้นไม้สีเข้มและหาดทรายสีขาว มีเสียงลม เสียงเรือ และเสียงมะละกอถูไถกับแท่งเนื้อเป็นซาวด์ประกอบฉาก แต่เสียงที่เพราะที่สุดตอนนี้คงเป็นเสียงครางของไบรอั้นเอง
   

“Ah…” ไอติมเขยิบกล้องขึ้นอีกนิดเพื่อให้เห็นช่วงปากกับคางที่มีเคราสีเข้มของเขา แต่ก็แช่อยู่แค่นั้น ริมฝีปากสีแดงอ่อนขยับเป็นระยะด้วยความเสียว เดี๋ยวห่อปาก เดี๋ยวสูดปากสลับกันไป ไอติมมองสร้อยคอกระต่ายแล้วยิ้มอิ่มใจ
   

“How you feel? (รู้สึกยังไงฮะ)” ไอติมถามเสียงเบา ค่อย ๆ เลื่อนกล้องขึ้นไปจับหน้าไบรอั้นที่คลี่ยิ้มกว้างพร้อมกับยักคิ้วหนึ่งที สายตาสีเทาอ่อนมองกล้องเป็นประกาย สองมือเริ่มขยับมะละกอเร็วขึ้นจากเดิมเพราะรูตรงนั้นเริ่มเข้ากับแท่งเนื้อตัวเองแล้ว ไอติมค่อย ๆ ลุกขึ้น และก้าวข้ามกางเกงว่ายน้ำที่รั้งหน้าขาสองข้างของไบรอั้นก่อนจะค่อย ๆ นั่งลงคุกเข่า ถ่ายภาพไบรอั้นกำลังเร่งจังหวะมะละกอ สีหน้าของเขากำลังเมามันส์ แต่ในจังหวะที่กำลังมันส์ได้ที่ ปลายมะละกอก็เกิดทะลุจนส่วนหัวแคร็อทของกระต่ายน้อยโผล่พ้นออกมา ไบรอั้นชะงักกึกและเงยหน้าขึ้นมองกล้องก่อนจะหัวเราะพร้อมกับไอติมที่โน้มตัวเอากล้องไปถ่ายเก็บภาพนั้นไว้
   

“Poor papaya. (มะละกอที่น่าสงสาร)” ไอติมพึมพำเสียงเบา
   

“Is it going to stand my cock till I cum? (มันจะทนจู๋ฉันได้จนฉันแตกมั้ยเนี่ย)” ไบรอั้นถามเสียงทุ้มด้วยความตลก ไอติมหัวเราะเบา ๆ ค่อย ๆ ดึงตัวกลับไปนั่งตามเดิม
   

“Try it. (ลองดูสิ)” ไบรอั้นยิ้มบางแล้วเริ่มใช้สองมือขยับมะละกอต่อไป ส่วนหัวสีชมพูมีเนื้อมะละกออ่อนติดอยู่แต่เขาก็ปล่อยมันไว้แบบนั้น รูที่เขาเป็นคนเจาะยังคงให้ความรู้สึกคับแน่นบีบรัดแก่นกายเขาได้ดี ไบรอั้นเงยหน้ามองไปทางโขดหินเมื่อได้ยินเสียงแว่วของคน แต่ก็ยังไม่มีคนปีนขึ้นมาแถวนั้น เขาเลื่อนสายตามองไอติมที่กำลังมองเขาผ่านฝาพับที่เป็นหน้าจอของกล้องอย่างตั้งใจ แต่ฟันก็กัดริมฝีปากล่างไม่เลิก เขายิ้มอ่อนโยน ก่อนจะเร่งมือเร็วขึ้นอีกนิด ปลายมะละกอที่โดนแทงจนทะลุเริ่มขยายตัวความเละ เนื้อมะละกอติดตรงส่วนปลายสีชมพูอ่อนของไบรอั้นหนาขึ้น
   

“Errr…” ไบรอั้นครางเสียงทุ้มหนัก ริมฝีปากเผยออ้า เปลือกตาปิดพริ้ม หน้าท้องเกร็งแน่นก่อนที่สองแขนจะกระตุกหนึ่งทีพร้อมกับที่ลูกชายเขาพ่นน้ำขาวขุ่นข้นออกมาหนาเตอะ มีบางส่วนพุ่งไปบนพื้นทรายแต่ส่วนมากจะเยิ้มอยู่บนหัวปนกับเนื้อมะละกอแล้วก็ไหลไปตามความยาวของเขา ไอติมกลับเข้ามาอยู่ใกล้เขาอีกครั้ง และใช้กล้องจับภาพตรงบริเวณนั้น ไบรอั้นนั่งหอบน้อย ๆ หน้าท้องหดเกร็งเป็นระยะ ไอติมเลื่อนกล้องขึ้นมาช้า ๆ จนมาถึงหน้าเขา แต่เจ้าเด็กลามกกลับถ่ายแค่ช่วงปากที่เห็นฟันกัดแน่นและสันกรามของไบรอั้นที่ขบกันจนสันขึ้นชัด
   

“Wow,” ไอติมกระซิบ ไล่กล้องไปตามร่างกายของไบรอั้น แล้วลงไปที่ตรงกลางอีกครั้ง ไบรอั้นใช้สองมือบีบมะละกอแตกออกเป็นสองชิ้น ไอติมเก็บภาพแคร็อทสีเนื้อที่มีเนื้อเยื่อของมะละกอติดอยู่ตรงส่วนหัวปนกับน้ำสีขาวจนดูหนาเตอะ จุดอื่น ๆ ของแก่นกายมีประปราย เมล็ดสีดำกองอยู่ตรงโคนอยู่สามสี่อัน สองมือของไบรอั้นวางบนต้นขา ในมือถือมะละกอข้างละชิ้น หน้าท้องยังหดเป็นระยะ สิ่งสำคัญก็คือ ลูกชายของไบรอั้นยังคงตั้งโด่แข็งแรงไม่ล้มลง ไอติมไล่กล้องขึ้นไปบนหน้าของไบรอั้นที่อยู่ใต้หมวกสาน ใบหน้าของเขายังคงมีอารมณ์… อยู่
   
V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-12-2018 19:00:27
V
v
v

“Your dick. (จู๋คุณอะ)” ไบรอั้นยิ้มมุมปากพร้อมกับยักคิ้ว
   

“Yeah.” ไอติมมองไบรอั้นตาเป็นประกายและกัดริมฝีปากล่างแน่น
   

“Fuck me? (เอาผมมั้ย)” ไบรอั้นไม่ตอบหรือปฏิเสธ ทำเพียงมองหน้าไอติมแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม เขาวางมะละกอไว้ข้างตัว หยิบน้ำเปล่าขึ้นมาล้างแท่งเนื้อของตัวเอง ไอติมวางกล้องไว้บนพื้นทรายโดยไม่ได้จัดมุมใด ๆ หันไปที่กระเป๋าแล้วหยิบเจลหล่อลื่นออกมา ลุกขึ้นยืนแล้วก็ถอดกางเกงขาสั้นออกจากขา เหลือแต่เสื้อยืดสีขาว ไบรอั้นหดขาพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อถอดกางเกงว่ายน้ำออก ไอติมแท่งที่แข็งตัวมานานพุ่งชี้หน้าไบรอั้นที่นั่งเอาแขนยันตัวรอแล้ว ไอติมบีบเจลหล่อลื่นใส่นิ้ว แหกขาออกเล็กน้อยแล้วเอานิ้วซ้ายทาตรงกลีบเนื้อตัวเองก่อนจะแยงเข้าไปเพื่อเบิกทาง พอรู้สึกว่าได้ที่แล้วก็โยนเจลเข้าไปในกระเป๋า กระเถิบเท้าเข้าใกล้ไบรอั้นอีกนิดแล้วอ้าขาออกพร้อมกับนั่งยอง ๆ มือซ้ายเลื่อนไปจับแคร็อทของฝรั่งตัวใหญ่ จับส่วนหัวมันยัดเข้าไปในรูก่อนจะค่อย ๆ นั่งลง และแม้ว่าจะทาเจลหล่อลื่นไปแล้วแต่ก็ยังคงรู้สึกคับแน่นเหลือเกิน
   

“โอ่ะ…” ไอติมแหงนหน้าขึ้นและหลับตาพริ้ม วางสองแขนไว้บนข่วงไหล่ของไบรอั้น ค่อย ๆ กดตัวเองลงไปจนกระทั่งแคร็อทฝังเข้าไปด้านในจนมิดด้าม ไอติมเปิดเปลือกตาขึ้นพร้อมกับอ้าปากกว้าง หน้าท้องหดเข้าไปเพราะความจุกเสียด นั่งแช่นิ่ง ๆ เพราะยังไม่กล้าขยับ ไบรอั้นขยับกล้องมาวางไว้ฝั่งซ้ายของตัวเอง ใช้ก้อนหินก้อนเล็กดันหน้ากล้องขึ้น แต่ไม่รู้ว่ามุมที่ได้จะเป็นยังไง
   

“See? I can eat your carrot. (เห็นมั้ย ผมกินแคร็อทคุณได้)” ไอติมยิ้มอย่างภูมิใจ ไบรอั้นมองหน้าไอติมด้วยใบหน้านิ่ง ก่อนจะยกมือขวาที่เปื้อนทรายขึ้นตีก้นซ้ายของไอติมไปที และเอากลับไปวางไว้ที่เดิม
   

พอรู้สึกว่าอยู่ตัวแล้ว ไอติมก็เริ่มขยับโดยการหมุนก้นไปตามเข็มนาฬิกาอย่างช้า ๆ ไอติมหลับตาพริ้ม แหงนหน้าขึ้นนิดหนึ่ง ลูกกระเดือกอันน้อยเคลื่อนไหวยามที่กลืนน้ำลายลงคอ ไบรอั้นเองก็เคลิ้มไม่แพ้กัน เขาขยับหัวเข่าสองข้างกว้างอีกนิด นั่งอ้าซ่าให้ไอติมเป็นคนคอนโทรลตัวเอง ไอติมยื่นหน้าเข้าไปจูบปากไบรอั้นและแลบลิ้นเลียริมฝีปากของอีกคน ไบรอั้นเปิดปากแล้วแลบลิ้นออกมาเกลี่ยไล้คลอเคลีย หน้าผากไอติมดันปีกหมวกด้านหน้าจนพับเข้าไปทำให้หมวกแหงนขึ้นเกือบหลุดออกจากหัวของฝรั่ง ทั้งสองคนปิดปากสนิทและคลึงลิ้นกันและกันอย่างหนักหน่วง ตอนนั้นเองที่ไอติมเริ่มขยับตัวขึ้นลงจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังตับ ๆ ร่างผอมบางร้องครางแล้วถอนจูบออก แหงนหน้าขึ้นและอ้าปากหวออ่อน ๆ มีเสียงลมดังแผ่วออกมาจากช่องคอ ไบรอั้นยื่นหน้าเข้าไปดูดคอไอติมตรงช่วงใต้คางอย่างแรงหนึ่งทีแล้วก็ดึงหน้าออก
   

“อึ่ อึ่…” ไอติมเปิดเปลือกตามองหน้าไบรอั้นที่กำลังมองตัวเองอยู่ด้วยสายตาฉ่ำเยิ้ม ไอติมยกสองมือขึ้นจับกรอบหน้าหล่อ เอียงหน้าแล้วยื่นเข้าไปจูบปากไบรอั้น อีกฝ่ายแลบลิ้นออกมาไอติมเลยดูดไปหนึ่งทีก่อนจะดึงหน้าออกแล้วเด้งตัวขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องในหูของทั้งสองคนแต่ก็ยังได้ยินเสียงเรือจากกลางทะเล และเสียงผู้คนที่ดูจะเริ่มเทมาทางฝั่งนี้มากกว่าเดิม
   

“The view is so good. (ตอนนี้วิวดีมากเลย)” ไบรอั้นยักคิ้วไปทางท้องฟ้า ไอติมที่ยังนั่งขย่มอยู่บิดหน้าหันไปมอง ท้องฟ้าที่เริ่มมีสีส้มสีแดงปนกับสีฟ้าสีน้ำเงินเข้ม เจ้ากระต่ายหยุดขย่มแล้วลุกขึ้นยืนยอง ๆ แบบช้า ๆ หันหน้าออกไปทางทะเลแล้วค่อย ๆ นั่งลงโดยมีไบรอั้นช่วยจับแก่นกายให้เข้าไปในก้นที่บริเวณปากทางเปิดอ้าแล้ว ไอติมหายใจหอบเบา ๆ เอนตัวพิงกับร่างของไบรอั้น ยกแขนซ้ายขึ้นจะคล้องหนา ปลายนิ้วปัดไปโดนหมวกของไบรอั้นตกลงพื้น แต่เจ้าของก็ไม่ได้สนใจหยิบขึ้นมา ไอติมยื่นหน้าเข้าหาไบรอั้นแล้วก็ยื่นปลายลิ้นเกลี่ยกันไปมาแบบชิล ๆ ไอติมยิ้มแหะ ชวนให้ไบรอั้นยิ้มไปด้วยทั้งที่ยังเลียลิ้นของกันและกันอยู่
   

“You are really the rabbit, (นายนี่มันกระต่ายจริงๆ)” ไอติมคลี่ยิ้มเริงร่าและเริ่มเด้งเอวขึ้นลงด้วยจังหวะเท่าเดิม ไอติมแท่งที่แข็งไม่ยอมลงตั้งโด่และเด้งตัวตามจังหวะขึ้นลง น้ำสีใสไหลเยิ้มจนส่วนหัวฉ่ำแฉะ ไบรอั้นใช้เสื้อไอติมเช็ดทรายออกจากมือซ้ายจนสะอาดแล้วยื่นไปวางบนหัวสีชมพูของไอติมแท่งก่อนจะวนมือย้อนเข็มนาฬิกาเร็ว ๆ ไอติมหน้าหยี กัดฟันแน่น
   

“Look at the rabbit’s face now. (ดูหน้าเจ้ากระต่ายตอนนี้สิ)” ไบรอั้นยิ้มร้ายกาจ ไอติมกัดริมฝีปากล่างแน่น สีหน้าทรมาน หน้าท้องหดเกร็ง จังหวะเด้งเริ่มแปลกไปเพราะทั้งแสบและเสียวตรงส่วนหัว
   

“อื๊อ! อ๊า!”
   

“ชู่! ชู่วๆ เฮ้ๆ” ไบรอั้นปล่อยมือออกจากตรงนั้นแล้วเอานิ้วชี้ขึ้นจุ๊ที่ปากหน้าตาตื่นพร้อมทั้งหันไปมองบริเวณโขดหินที่อีกฝั่งนึงมีเสียงชาวต่างชาติกำลังพูดคุยและคงถ่ายรูปกันอยู่ให้ได้ยินแว่วมา ไอติมหยุดเด้งเอว แหงนหน้าหอบคราง  ไบรอั้นหันกลับมามองเด็กลามกแล้วก็ยิ้มขำก่อนจะจับให้คนด้านบนออกจากแก่นกายเขา ไอติมลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ ไบรอั้นดันตัวลุกขึ้นนั่งยอง ๆ  หยิบกางเกงขาสั้นทั้งของเขาและไอติมขึ้นมาวางบนพื้นทรายตรงบริเวณที่เขานั่ง ก่อนหันไปดึงให้ไอติมนั่งลง
   

“Lie on your stomach, (นอนคว่ำหน้าลง)” ไอติมทำหน้างง ๆ ไบรอั้นเลยคิดคำอธิบายอีกรอบ
   

“Dodgy. (ท่าหมา)” ไอติมเข้าใจเลยวางเข่าลงบนกางเกง โน้มตัวไปข้างหน้า ตอนที่กำลังจะเอาข้อศอกวางบนพื้น ไบรอั้นก็ดึงต้นเขาให้ไถลลงไป และกดก้นเขาลงจนช่วงกลางลำตัวราบติดไปกางเกงที่ปูอยู่บนพื้นทราย ไอติมเหลียวหน้าไปมองไบรอั้น หนุ่มหัวทองจับเขาอ้าขาแล้วก็นอนแทรกลงตรงกลาง จับแคร็อทดันเข้ามาในก้นเขา สองแขนดันตัวเอาไว้ ไอติมใช้ข้อศอกดันตัวขึ้น ยกแขนขวาขึ้นคล้องคอไบรอั้นจากด้านหน้า ดึงให้คนข้างบนลงมาจูบกับตัวเอง ไบรอั้นก้มลงไปจูบด้วย และเริ่มขยับสะโพกเข้าหาไอติม เสียงเนื้อก้นของไอติมกับเนื้อช่วงโคนขาของไบรอั้นกระทบกันตับๆ
   

“อืมม… อา… หมอั่ว…” เสียงอืออาของทั้งสองคนดังคลอประสานกันยามที่ลิ้นของกันและกันเลียกันไปมาจนน้ำลายเยิ้ม ไอติมถอนจูบ มองหน้าไบรอั้นที่อยู่ใกล้กันแล้วยิ้ม หนุ่มตาสีเทาอ่อนหอมหน้าผากกระต่ายไปหนึ่งที ไอติมคลี่ยิ้มน่ารัก กดหน้าลงมองที่กล้อง หางตาเห็นกางเกงว่ายน้ำสีเขียวขี้ม้าวางอยู่ใกล้กันเลยยื่นมือขวาไปหยิบมาสูดดมตรงบริเวณเป้ากางเกง
   

“How it smells like? (กลิ่นเป็นไงล่ะ)” ไบรอั้นถามทั้งที่ยังกระแทกไปเรื่อย ๆ ไอติมคลี่ยิ้มและแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างไปที
   

“My carrot is so good. (แคร็อทของผมกลิ่นหอมมาก)” ไบรอั้นยิ้มมุมปาก ไอติมวางมือขวาที่กำกางเกงว่ายน้ำของไบรอั้นลงบนพื้นทราย ก้มหน้าลงเพราะความเสียวท้องน้อย ร้องครางคล้ายใจจะขาดอยู่ในลำคอ ไบรอั้นหยุดกระแทกไปแปบหนึ่งแล้วคุกเข่าลงบนพื้นโดยไม่ให้สิ่งที่เชื่อมกันอยู่หลุดร่วง เขาดึงเอวไอติมให้ตั้งโด่งขึ้น ไอติมใช้แขนซ้ายเป็นหมอนรองหน้าตัวเอง ไบรอั้นยื่นมือไปหยิบหมวกขึ้นมาสวมตามเดิม แล้วก็เริ่มกระแทกต่อ แต่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม
   

ปักๆๆๆ!!!
   

ไอติมอ้าปากกว้าง เปลือกตาปิดจนตาหยี ส่งเสียงซี๊ดซ๊าดไม่ขาดปาก ตอนที่ลืมตาขึ้นเพราะรู้สึกพร่าเบลอในหัว ไอติมก็ปล่อยกางเกงว่ายน้ำไว้บนพื้น ยื่นมือไปหยิบกล้องมาตรงหน้าตัวเอง แหงนหน้ากล้องไปหาไบรอั้นโดยที่ไม่รู้ว่าเห็นชัดมากน้อยแค่ไหน แต่ก็จับไว้อยู่อย่างนั้น
   

“ซื้ด อ้า โอ๊ย…” ไอติมครางเสียงเพี้ยน ใบหน้าบิดเบี้ยว บริเวณท้องน้อยทั้งเสียวทั้งจุกราวกับว่าปลายแก่นกายของไบรอั้นแทงถึงกระเพาะ ในตอนที่รู้สึกเหมือนจะขาดใจจนกัดฟันแทบจะแตก ไอติมแข็งก็ปล่อยน้ำพุ่งออกมาเอง ไอติมครางฮือ ปล่อยมือออกจากล้อง และหันตัวไปดันไบรอั้นเพื่อให้หยุดเนื่องจากมันเสียวตรงเส้นเอ็นจนขนลุก
   

“Oh, no, please…” ไบรอั้นยิ้มเหี้ยม กระแทกเข้าหาแรงกว่าเดิม มือขวาของไอติมที่ดันตัวล่ำหนาของไบรอั้นไว้สั่นระริก แขนซ้ายที่ดันตัวไว้ก็สั่นจนแทบจะหมดแรง ไอติมตาเหลือกขึ้นข้างบน ริมฝีปากอ้ากว้างร้องครางเสียงสั่นและเพี้ยนจนนึกว่าเป็นไข้
   

“Why? This is not you. My rabbit love to fight with my carrot. (ทำไมล่ะ นี่ไม่ใช่นายเลย กระต่ายของฉันชอบที่จะสู้กับแคร็อทของฉันนะ)” ไบรอั้นจับมือขวาของไอติมออกจากตัว จับดึงให้ตึงและดึงแขนซ้ายมาดึงให้ตึงอีกข้าง จากนั้นก็กระแทกรัว ๆ จนตัวไอติมสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
   

“อ๊าๆๆๆ” ไอติมพยายามห้ามเสียงแต่ก็ห้ามไม่ได้
   

“Hey, bite your tongue. (เฮ้ เงียบไว้น่า)” ไอติมที่ทั้งเคลิ้ม ทั้งเสียว และทั้งจุกกัดริมฝีปากล่างแน่น ใบหน้าเรียวสวยคล้ายคนจะร้องไห้ ไบรอั้นดึงแขนไอติมไว้แน่นจนตัวไอติมลอยและกระแทกด้วยความรู้สึกมัน (ส์) เขี้ยว ไบรอั้นอ้าปากกว้างและทำหน้าเหยเกคล้ายว่าเจ็บอะไรสักอย่างแต่มันคือความเสียว หนุ่มหัวทองแยกเขี้ยวในตอนที่รู้สึกถึงอาการใกล้ปลดปล่อย พอถึงจุดที่จะพ่นน้ำเขาก็หยุดกะทันหันและพ่นน้ำเข้าไปในก้นของไอติม
   

“อ้า อ้า ซี้ดดด…” ไบรอั้นหลับตาแน่นและกัดฟันแน่น เขาค่อย ๆ ปล่อยแขนของไอติม กระต่ายตัวน้อยทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง ทำให้ความใหญ่ยาวของไบรอั้นเด้งหลุดออกพร้อมกับที่น้ำขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมาจากกลีบเนื้อสีอ่อน ไบรอั้นที่หายใจหอบโน้มตัวไปข้างหน้า หยิบกล้องมาถ่ายตรงก้นไอติม ใช้มือซ้ายแหวกตรงรูเพื่อเก็บภาพความฉ่ำแฉะตรงนั้นไว้ น้ำสีขาวไหลเยิ้มคารูสีน้ำตาลอ่อนของไอติม เขาเลื่อนหน้ากล้องมาจับภาพลูกชายเขาที่มีน้ำสีขาวเลอะเปรอะเปื้อนพักหนึ่ง แล้วก็เลื่อนกลับไปที่รูของไอติมอีกพักก่อนจะเอากล้องกลับไปวางที่เดิม แหงนหน้ากล้องขึ้นอีกนิด จับไอติมที่นอนหมดแรงให้นอนหงาย เขายิ้มขำตอนที่เห็นไอติมหมดสภาพ ดวงตาดูเหม่อลอยหน่อย ๆ แขนสองข้างวางข้างตัวอย่างปวกเปียก ขาสองข้างแบะออกแบบอ่อนแรง ไบรอั้นก้มลงมองลูกชายตัวเองที่ยังแข็งโด่แล้วเงยหน้าขึ้นมองไอติมที่หน้าแดงก่ำและดูท่ากำลังพยายามฟื้นตัว เขาทำหน้าหนักใจ ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วสุดท้ายก็ตัดใจ


ไบรอั้นเขยิบเข้าไปใกล้ไอติม จับขาขาว ๆ แบะออก จับใต้ต้นขาของไอติมวางไว้บนหน้าขาของตัวเอง ดันลูกชายเสียบเข้าไปในรูฉ่ำแฉะอีกรอบ ไอติมตัวกระตุกเฮือก สองแขนที่เมื่อยล้ายกขึ้นจับแขนไบรอั้นอย่างอ่อนแรง ยังไม่ทันพูดอะไรฝรั่งตัวใหญ่ก็จัดการซอยอีกรอบ พอไอติมอ้าปากจะร้องก็หยิบกางเกงว่ายน้ำขึ้นมาอุดปากเอาไว้ ก้มลงจูบหน้าผากไอติมหนึ่งจุ๊บแล้วก็ซอยถี่แบบที่ไอติมก็ได้แต่ร้อง…
   

…ว้าวในใจ ว่ามันถูกใจเหลือเกิน ถึงแม้จะแทบไม่มีแรงรีแอคกับขวัญใจตัวเองแล้วก็ตาม แต่กระต่ายตัวนี้ก็อิ่มกับแคร็อทจนจุกท้องไปหมด

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-12-2018 19:19:59
ว้าววว น้องติมแซ่บมากกก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-12-2018 19:24:33
อยากกินมะละกออออ  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 01-12-2018 19:26:35
น้องติมทำไม​น้องติมดูฟินขนาดนี้คะลูก :z1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-12-2018 20:44:57
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-12-2018 20:52:37
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-12-2018 21:52:03
ไอติมเชี่ยวขึ้นมาก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 02-12-2018 01:16:48
งานออนดาบีชแซ่บนัวก็มาจ้าาาา
พี่ไบรอันไปโดนยาดองโด่ไม่รู้ล้มมาอ้ะป่าว
ความดิบเถื่อนบนหาดทรายนี้ อ่านแล้วเลือดจิหมดตัวจ้าาาา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 02-12-2018 01:57:15
เดี๋ยวอีกไม่นานไอติมคงพูดอังกฤษคล่องแล้ว
แล้วเมื่อไหร่จะสามพี 555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 02-12-2018 02:20:17
น้องติมสู้เพื่อแครอทททท :jul1: :m25: :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 02-12-2018 09:59:29
โอ๊ยยยยยย แซ่บมากกก เป็นเรื่องที่อ่านข้างนอกไม่ได้ ต้องกลับมาอ่านที่บ้านน เหมือนไบรอั้นจะรู้สึกดีๆกับไอติมเพิ่มขึ้นเนาะะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 02-12-2018 10:59:35
อื้อหือ ออนเดอะบีซซะด้วย
กว่าจะจบเรื่องง ไอติม จะไม่พรุนแย่เหรอ  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 04-12-2018 22:16:35
เลือดโซมกาย..ยยยยยย    :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 04-12-2018 23:35:30
 :jul1:  ขอบริจาคเลือดด่วน  น้องต่ายแซบมาก จะมีแรงเดินกลับห้องพักมั๊ยน้อ 
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: doubleu ที่ 06-12-2018 11:28:18
น้องติมรูกกกก
เป็นกระต่ายที่แซ่บที่สุดในปฐพีแล้ว  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: NaunaeZaa ที่ 07-12-2018 21:56:01
ความเร่าร้อนนี้ :pighaun:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 08-12-2018 12:30:21
น้องติมม ไม่ได้อ่านน้องนานน น้องแซ่บถึงเพียงนี้เชียวววว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.18 : Carrot & Papaya. : 01.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: skies ที่ 11-12-2018 05:51:38
เห็นชื่อตอนตอนแรกก็คิดว่าเปรียบเทียบเฉย ๆ ไม่คิดว่าจะแซ่บขนาดนี้ -////-
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 14-12-2018 18:53:23
Fall in lust, Chapter 19 :: Bipolar. (ไบโพล่าร์)




   ไอติมที่ถือกล้องถ่ายรูปอยู่ในมือกำลังมองไบรอั้นในชุดกางเกงว่ายน้ำสีเหลืองทรงสามเหลี่ยมรัดติ้วจนตุงกำลังซิตอัพอยู่ริมสระน้ำหน้าห้องพักของรีสอร์ทด้วยสายตาเคลิ้ม รอยยิ้มเยิ้มอธิบายได้ดีว่ากำลังรู้สึกดีแค่ไหนที่ได้มองกล้ามแขน กล้ามอก กล้ามท้อง กล้ามขา และเป้าแน่น ๆ นูน ๆ อันนั้น
   

“โห…” ไอติมครางและยิ้มราวกับกับคนเมา จังหวะที่ไบรอั้นลุกขึ้นนั่งยอง ๆ จนกางเกงรั้งเป้าให้เรียบตึงเข้าไปอีก ก่อนจะเปลี่ยนท่าออกกำลังกายเป็นเตรียมวิดพื้นแทน ไอติมรีบวางกล้องแล้วไถลตัวลงไปนอนตัวตรงใต้ตัวไบรอั้น จี้กระต่ายสีทองอ่อนห้อยต่องแต่งอยู่ตรงหน้าไอติม หนุ่มหัวทองก้มลงมองและย่นคิ้วนิดหน่อย หนุ่มหัวดำยิ้มแฉ่งและพยักหน้าหงึก ๆ เป็นเชิงบอกว่าทำต่อเลย ไบรอั้นกลอกตาแต่ก็ดันแขนยกขาให้ตึงแล้วก็เริ่มซิตอัพโดยมีเด็กลามกนอนอยู่ข้างล่าง มองในแง่ออกกำลังกาย ถ้ามีคนเอามือมาว้างท้องหรือมีสิ่งของมาวางก็จะทำให้คนที่ออกกำลังกายเกร็งตัวไม่วิดพื้นแบบตัวติดพื้น
   

แต่สำหรับกระต่ายลามกตัวนี้ไม่ได้คิดแง่นั้นหรอก เพราะเป้าเขาโดนกับเป้าแข็ง ๆ ตุง ๆ ของเจ้าเด็กนี่เวลาที่เอาตัวลง และปากก็เกือบจะจูบกันหลายที ไอติมนอนหัวเราะคิกคัก ยิ้มหน้าซื่อตาใสราวกับสิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นสิ่งเล็ก ๆ น่ารัก ๆ เหมือนเลี้ยงลูกแมวร้องเมี๊ยวๆ
   

“โห เฮ้ย ยอมแล้วว่ะ เด็กแกนี่ติดแกจริงๆ” เลโอที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องพักเอ่ยแซวทั้งสองคน ไอติมหันไปมองเลโอแล้วก็อ้าปากหวอน้อย ๆ กับการที่พ่อคิงคองใส่กางเกงว่ายน้ำสีน้ำเงินทรงสามเหลี่ยมแบบเดียวกับที่ไบรอั้นใส่อยู่ ผิวสีช็อคโกแล็ตตัดกับสีน้ำเงินเข้มของกางเกงได้ชวนวูบหวิวท้องน้อยซะเหลือเกิน
   

“อยากมีติดไว้สักคนมั้ยล่ะ” ไบรอั้นยักคิ้วใหเพื่อนและหันกลับมาวิดพื้นจนครบจำนวนที่ตั้งเป้าเอาไว้ เขาดันตัวลุกขึ้นและเหวี่ยงตัวไปนั่งฝั่งซ้ายของเด็กลามกที่นอนเหยียดอยู่บนพื้น
   

“ขอคนนี้” เลโอชี้ไอติมที่ดันตัวลุกขึ้นนั่งตามเพื่อนเขา
   

“เข้าทางเด็กนี่เลย มองเป้าแกตาเป็นมันขนาดนั้น” หนุ่มหัวทองยกยิ้มมุมปากซ้าย เลโอคลี่ยิ้มแบบคิงคองที่ไอติมตั้งชื่อให้ ไอติมหันไปหยิบกล้องจากเบาะอาบแดดมาเปิดดูรูปต่อ โดยมีไบรอั้นนั่งดูรูปอยู่ข้าง ๆ ด้วย
   

“Oh, I don’t think it’s going to be a good shot. Nice color of sky. (โอ้ ฉันไม่คิดว่ามันจะออกมาดีแฮะ สีท้องฟ้าสวยดีนะ)” ไบรอั้นมองรูปในจอกล้องที่ถ่ายกับไอติมเมื่อวานนี้หลังเสร็จกิจตรงชายหาดที่เขาสองคนไปเอากัน
   

หลังจากนอนพักจนเรี่ยวแรงกลับคืนมา ไอติมก็เห็นว่าท้องฟ้ายังไม่ได้มืดมิดจนไร้แสงที่จะถ่ายรูป เลยชวนไบรอั้นถ่ายรูปด้วยกัน ใช้ขาตั้งกล้องวางกล้อง และใช้การตั้งเวลาในการกดชัตเตอร์ แม้จะขาถ่างนิดหน่อยเพราะโดนของดีของเด็ดของแซ็คซัดเข้าจนขาสั่นตัวสั่น แต่กระต่ายลามกก็ยังสามารถวิ่งไปกลับระหว่างกล้องกับทะเลได้อย่างสนุกสนานเพื่อที่จะได้ถ่ายรูปคู่กัน มีถ่ายเดี่ยวไปบ้างนิดหน่อย แต่รูปส่วนใหญ่ก็เป็นรูปคู่ ไอติมสนุกกับการถ่ายรูปที่ได้จัดท่าทางเองและขวัญใจก็ให้ความร่วมมือด้วยเลยยิ่งสนุก ถ่ายรูปเสร็จก็ชวนกันเล่นน้ำท่ามกลางบรรยากาศใกล้ค่ำ ได้ความสวยงามไปอีกแบบ และสุดท้ายฝนก็ไม่ตก แค่แวะมาขู่ด้วยก้อนเมฆสีดำสักพักก็ผ่านไป


เล่นน้ำอยู่สักสิบเกือบยี่สิบนาทีก็พากันเดินกลับที่พักเพราะแสงหมดแล้วจริง ๆ เป็นอันว่านอกจากเขาจะเสร็จไปสามน้ำ ไอติมสองน้ำ งานที่ไอติมได้รับมอบหมายให้คิดไอเดียทำหนังโป๊ให้ขวัญใจตัวเองไม่เกินสิบห้านาทีแบบที่ไม่มีฉากเอากันให้เห็นก็เป็นอันว่าเสร็จไปตามเป้าหมายที่ไอติมต้องการ ส่วนที่เขาสองคนเอากันนอกเหนือสคริปต์งานนั้น ไอติมจะตัดออกเองอีกที
   

“ที่นี่บรรยากาศดี” เลโอเอนตัวลงกับเบาะนอนอาบดาดสีน้ำเงินก่อนหันไปทางซ้ายไปมองวิวท้องทะเลของเกาะพะงันจากจุดที่พักโซนของตัวเองซึ่งจะเห็นเป็นด้านข้างของทะเลของบริเวณรีสอร์ท แต่ที่พักฝั่งเขาซึ่งเป็นโซนเพิ่งสร้างของรีสอร์ทก็มีหน้าทะเลให้เดินลงไปเล่นอยู่เหมือนกัน แต่ก็เป็นหน้าทะเลชายหาดเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านล่างใต้ระเบียงโขดหินที่อยู่เหนือหัวเขานี่เอง ตรงนั้นจะมีบันไดไม้ให้เดินลงไปว่ายน้ำโต้คลื่นอ่อนๆ
   

“เป็นส่วนตัวดีด้วย…” ไบรอั้นแหงนหน้าขึ้นมองชั้นสองของที่พักเขาที่ยังไม่เปิดให้บริการเหมือนสองห้องข้างล่าง
   

“…ก็มีแค่สองห้องนี่นะ” ห้องข้าง ๆ เป็นคู่รักชาวต่างชาติคู่หนึ่งที่ตอนนี้ออกไปข้างนอก ทิ้งสระว่ายน้ำตรงนี้ให้เป็นของพวกเขาสามคน แต่ก็มีแขกจากห้องพักโซนอื่นแวะเวียนมาร่วมแชร์สระด้วยอยู่เรื่อยๆ
   

“กินอาหารเย็นที่รีสอร์ทแล้วกัน เสร็จแล้วค่อยไปฟูลมูน แกว่าไง” เลโอมองเพื่อนที่นั่งเป็นแบบให้ไอติมถ่ายรูปแบบทื่อ ๆ ไร้อารมณ์ 
   

“ไม่มีปัญหา” ไบรอั้นหันมาตอบอย่างชิลๆ
   

“Do you want to take my picture? (อยากถ่ายรูปฉันมั้ย)” เลโอหันไปถามไอติมที่กำลังนั่งมองรูปในจอกล้อง ไอติมเงยหน้าขึ้นมองคนถามก่อนเลื่อนสายตาไปมองกางเกงว่ายน้ำของเลโอ และหันไปมองกางเกงว่ายน้ำของไบรอั้นอีกคน
   

“Take you two. Yellow and blue. (ถ่ายคุณสองคน เหลืองและน้ำเงิน)” ไอติมชี้ให้ไบรอั้นขึ้นไปนอนบนเตียงเก้าอี้อาบแดดอีกตัวข้าง ๆ เลโอ ไบรอั้นทำตาเหลือกมองบนและส่ายหัว ลุกขึ้นเดินไปหยิบแว่นกันแดดทรงสี่เหลี่ยมบนเก้าอี้อาบแดดตัวข้าง ๆ เลโอขึ้นมาใส่ ไอติมมองร่างกายของไบรอั้นตาเป็นประกาย หัวสีทอง ผิวสีน้ำตาลอ่อนจนเกือบขาวแต่ก็ขาวไม่สุด รับกับกางเกงว่ายน้ำสีเหลืองทรงสามเหลี่ยมได้ละมุนตา และพอใส่แว่นตาเข้าไปก็ทำให้… น่ากิน ทั้งที่เพิ่งกินกันไปจนไอติมหมดแรงไปเมื่อวานนี้
   

ไอติมยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไบรอั้นตอนกำลังเดินลงสระว่ายน้ำรัว ๆ จนกระทั่งฝรั่งเดินลงไปในสะว่ายน้ำทรงสี่เหลี่ยมแล้วเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงขอบสระฝั่งทะเล ไอติมลุกเดินไปถ่ายรูปไบรอั้นตอนที่เขาหันหลังมองทะเลอยู่ กดถ่ายไปหลายภาพจนพอใจแล้วก็เดินกลับไปหาเลโอที่กำลังนอนยกแขนขวาวางไว้บนของพนักพิง แขนซ้ายวางไว้ข้างตัว สองขาเหยียดตรง ช่วงปลายอ้าออกเพราะช่วงต้นขาเบียดแน่นด้วยกล้ามเนื้อ เลโอกำลังหลับตาพริ้ม ไอติมยกกล้องขึ้นกดถ่ายภาพของคิงคองผิวเข้มไปหลายช็อตก่อนที่จะหยุดถ่ายเพราะเลโอลืมตาขึ้นมองและส่งยิ้มให้
   

เลโอยกมือซ้ายขึ้นลูบเป้าตัวเอง ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ เลโอพยักหน้าให้หนึ่งที ไอติมหันไปมองไบรอั้นที่ยังคงดื่มด่ำกับวิวทะเลเหมือนเดิม พอหันกลับไปมองเลโอไอติมก็ต้องอ้าปากหวอตกใจ เพราะพ่อคิงคองควักไอ้นั่นที่ยังไม่แข็งตัวดีออกมา และดึงล่นขอบกางเกงว่ายน้ำให้อยู่เหนือลูกกลมกลึงสองใบ หัวใจไอติมเต้นตึกตัก เขาหันไปมองที่พักที่เป็นหลัง ๆ ตรงหน้าชายหาดหลักของรีสอร์ทว่ามีคนอยู่เยอะมากแค่ไหน และมีใครกำลังเดินมาทางนี้หรือเปล่าอยู่พักหนึ่งก่อนหันกลับไปมองเลโอที่ตอนนี้บริเวณนั้นเริ่มแข็งตัวแล้ว
   

“Take it.” เลโอกระซิบและยักคิ้วขวาให้ ไอติมเดินไปนั่งเก้าอี้อาบแดดตัวข้างฝั่งซ้ายของเลโอ วางกล้องไว้บนเบาะสีน้ำเงิน มองเลโอที่กำลังใช้มือซ้ายรูดรั้งให้ตัวเองเบา ๆ จนมันเริ่มตั้งตัวแข็งแรง ไอติมมองหน้าเลโอที่ยิ้มอย่างเชิญชวนแล้วก็ยิ้มตอบแบบเขิน ๆ แต่ว่ามือขวายื่นไปรูดแทนมือของเลโอแล้ว
   

“You could suck it. (อมได้นะ)” ไอติมยิ้มเม้มปาก เลโอกระตุกยิ้มอ่อน ๆ มองหน้าไอติมด้วยสายตาหยาดเยิ้ม มือเล็ก ๆ ของเด็กคนนั้นที่กำลังชักขึ้นชักลงให้เขาเบา ๆ ทำให้เขารู้สึกเบาหวิวช่วงท้อง
   

“Oh, are you cheating on me? (โอ้ นายกำลังนอกใจฉันงั้นเหรอ)” ไอติมสะดุ้งเบา ๆ และหันหน้าไปมองไบรอั้นที่เดินมาเกาะขอบสระฝั่งที่พวกเขานั่งอยู่ หนุ่มหัวทองมองไอติมและอมยิ้มน้อย ๆ ไอติมทำหน้างง แต่มือก็ยังคงไม่ปล่อยจากส่วนนั้นของเลโอ
   

“ชีท what?” ไอติมถามด้วยความงง
   

“You don’t have only me. (นายไม่ได้มีแค่ฉัน)” ไบรอั้นแปลงประโยคอีกที ไอติมที่เข้าใจก็ปล่อยมือออกจากจู๋คิงคองทันทีและทำหน้าตื่นมึนงง ไบรอั้นคลี่ยิ้มยิงฟันและหัวเราะอ้าปากกว้างกับสีหน้าเหมือนหมาตกใจของไอติม
   

“เชี่ยอะไรเนี่ยไอ้ไบรอั้น กำลังเสียวได้ที่” เลโอสบถ แต่ไม่ได้มีความจริงจัง แค่เซ็งที่เพื่อนดึงอารมณ์ของไอติมจนกระจายไปหมด
   

ไบรอั้นเบะปากและไหวไหล่กวน ๆ ก่อนจะหันตัวเดินกลับไปทางเดิม ใช้สองแขนแหวกว่ายน้ำโดยไม่ได้เอาหน้าจุ่มลงไปในน้ำสีฟ้าเข้ม ไอติมหันมองเลโอและทำหน้าไม่แน่ใจ เลโอพยักหน้าอีกที แต่ไอติมยิ้มแห้งก่อนจะลุกเดินไปริมขอบสระและไถลตัวลงไปในน้ำ ทิ้งให้เลโอบิดปากเซ็งและนึกอยากเตะเพื่อนสักที
   

“He is sexy so much. I can’t tell myself stop. His dick is… ooh and wow. (เขาเซ็กซี่มากเลยอะ ผมไม่สามารถบอกตัวเองหยุด จู๋เขาแบบ อู้วแล้วก็ว้าว)” พอเดินถึงตัวไบรอั้นที่ยืนอยู่ตรงมุมสระฝั่งใกล้กับต้นไม้ใหญ่ ไอติมก็พยายามพูดสิ่งที่ตัวเองรู้สึก ไบรอั้นหันมองไอติมแล้วยิ้มขำ
   

“What? You come to try to explain why you touch his cock? (อะไรนะ นายมาเพื่อพยายามอธิบายว่าทำไมถึงจับจ้อนไอ้เลโอน่ะเหรอ)” ไอติมย่นคิ้วงง มองรอยยิ้มขบขันของไบรอั้นด้วยความเอ๋อ ในหัวพยายามนึกคำว่าอดใจไม่ไหว แต่ก็นึกไม่ออกว่าต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษยังไง
   

“I can’t stop my mind. (ผมหยุดจิตใจตัวเองไม่ได้อะ)” เลยพูดออกมาอย่างที่ตัวเองเข้าใจก็แล้วกัน
   

ไบรอั้นหัวเราะเบา ๆ มองไอติมที่ทำคิ้วย่นปากจู๋หน้ามู่เล็ก ๆ “You make yourself like my girlfriend who fear if I’m going to get you wrong. (นายทำตัวเหมือนเป็นแฟนฉันที่กลัวว่าฉันจะเข้าใจตัวเองผิด)”
   

ไอติมทำหน้าเอ๋อไม่หาย แต่ก็เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง “I like to touch your dick more. (ผมชอบจับจู๋คุณมากกว่า)”
   

“Thank you. (ขอบใจนะ)” ไบรอั้นยิ้มกว้าง ไอติมอมยิ้มและทำตาโต มือซ้ายยื่นไปจิ้มนมไบรอั้นทั้งสองข้างแล้วหัวเราะคิกคัก หันหลังเดินเอาหลังไปแนบกับตัวไบรอั้น วนก้นใส่เป้าสีเหลืองไปมา ไบรอั้นยิ้มนิดหน่อยและเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตัวเองที่เดินลงมาในสระน้ำและกำลังเดินตรงมาทางเขาสองคน
   

“You could fuck with him if you want. (ถ้านายอยากโดนมันเอาก็ได้นะ)” ไบรอั้นก้มลงกระซิบ ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ หนุ่มหัวทองยื่นคางไปด้านหน้าเป็นเชิงชี้ ไอติมหันไปมองตามแล้วก็เจอเลโอที่เดินมายืนตรงหน้าตัวเอง
   

“Starting with kiss him like you kiss me. (เริ่มด้วยการจูบเขาเหมือนที่นายจูบฉันไง)” ไบรอั้นก้มลงใช้จมูกสูดดมซอกคอด้านซ้ายของไอติม ร่างเล็กสุดในสามคนมองคิงคองจากยุโรปที่กำลังมองตัวเองด้วยสายตาวาววับ
   

ไบรอั้นดึงเสื้อยืดสีเทาที่ไอติมใส่อยู่ออก ขยำเป็นก้อนกลมและโยนไปตรงเก้าอี้อาบแดดที่พวกเขาวางของทิ้งไว้ เสื้อตกลงบนปลายขอบเก้าอี้พอดี เขาก้มหน้าลงมองเลโอที่เดินเข้ามายืนแนบชิดกับเด็กลามกมากขึ้น ไอติมยืนมองเพื่อนเขานิ่ง แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีถอยหนีหรือขัดขืน เลโอก้มลงจูบกับกระต่ายลามก
   

ไอติมจูบเลโอตอบด้วยความรู้สึกเสียววูบวาบไปทั้งตัว ไอติมแลบลิ้นเกลี่ยลิ้นเลโอตอบทีละนิดจนกระทั่งลิ้นเล็กกับลิ้นใหญ่หมุนวนไปรอบกัน เลโอจับมือไอติมขึ้นวางบนไหล่ของตัวเองก่อนที่ไอติมจะเป็นคนขยับแขนคล้องคอเลโอเอง แต่ถึงอย่างนั้นไอติมก็ไม่ยอมหนีห่างจากไบรอั้นที่ยืนซ้อนหลังอยู่
   

“Good? (ดีมั้ย)” ไบรอั้นพึมพำถามพลางมองทั้งสองคนจูบแลกลิ้นนัวเนียกัน ไอติมถอนจูบออกแล้วบิดหน้าไปมองไบรอั้นพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้างเป็นเชิงบอกให้รู้ว่าชอบ ไบรอั้นยิ้มและยักคิ้วหนึ่งที เลโอยิ้มกว้าง ก่อนจะก้มลงไซ้คอไอติม ร่างเล็กหันกลับมาหาเลโอและแหงนหน้าขึ้นให้อีกคนไซ้ได้ตามใจ ไอติมครางเสียงแผ่ว มือขวากำผมเลโอแน่น
   

“You should take the video. (นายน่าจะถ่ายวิดีโอนะ)” ไบรอั้นบอกในขณะที่เอาสองแขนวางไว้บนขอบสระ หลังพิงมุมสระมองดูไอติมโดนเลโอดูดไซ้ด้วยท่าทีปกติ เขาคลี่ยิ้มขำอ่อน ๆ เมื่อเห็นว่าสีผิวของทั้งสองคนตัดกันชัดเจน
   

“I heard that there are…” เสียงพูดคุยดังแว่วมา ไบรอั้นหันไปมองก็เห็นฝรั่งชายหญิงสองคู่ในชุดเตรียมลงสระว่ายน้ำกำลังเดินมาทางนี้ เขาหันกลับไปมองอีกสองอีกคน ไอติมกำลังโดนเลโอก้มลงดูดนมและเจ้าตัวข้อยก็ครางเสียงสั่นหน้าเสียว
   

“ไม่อยากขัดหรอกนะเพื่อน แต่มีคนกำลังมาว่ะ” เลโอดึงหน้าขึ้นทั้งที่สีหน้ายังหื่นกระหาย เขามองกลุ่มคนที่กำลังเดินมาและส่ายหัวนิดหน่อย เขาปล่อยไอติมออกห่างจากตัว ไอติมยืนงงเหมือนเพิ่งตื่น เลโอมองไอติมด้วยความเสียดาย ไอติมหันซ้ายแลขวาสักแปบก่อนหันไปมองไบรอั้นตรงมุมสระแล้วก็เดินเข้าไปหาหนุ่มหัวทอง ยกสองแขนขึ้นกอดคอไบรอั้นและซุกหน้าไว้กับซอกคอหนาของฝรั่งตัวโต
   

“ค่อยเป็นค่อยไปแล้วกัน” ไบรอั้นบอกเพื่อนพลางยกมือขวาขึ้นมาลูบแผ่นหลังขาวเนียนละเอียด มือซ้ายที่อยู่ในน้ำยื่นไปจับเป้าไอติมที่ตุงเต็มที่ เขาพยักหน้าให้กับเพื่อนหนึ่งที เลโอจึ๊ปากเบา ๆ พร้อมกับยักคิ้วหน้าตาเสียดายก่อนจะย่อตัวลงดำน้ำในจังหวะที่สี่คนนั้นเดินมาถึงพอดีโดยที่ยังคงพูดคุยกันไม่หยุด
   

“Are you okay? (โอเคนะ?)” ไบรอั้นกระซิบถาม เอียงหน้ากดจูบขมับไอติมไปที ร่างเล็กที่ปรับลมหายใจจนเข้าที่แล้วตอบเสียงอ้อนๆ
   

“Kiss me please. (จูบผมหน่อย)” ไอติมดึงหน้าออกจากซอกคอไบรอั้น ปลายจมูกทั้งสองคนชนกัน ไบรอั้นเอียงหน้าและกดจูบปากแดงสีสวยค้างไว้โดยไม่ได้สนใจว่าจะมีใครมองหรือเปล่า
   

พอรู้สึกว่าจิตใจสงบลงแล้ว ไอติมก็ถอนจูบออกและกลับไปซุกคอไบรอั้นตามเดิม หนุ่มหัวทองมองเพื่อนที่โผล่พ้นขึ้นเหนือน้ำมาอีกรอบแล้วก็ยกนิ้วโป้งให้ เลโอยิ้มนิดหน่อยแล้วก็กลับไปว่ายน้ำคนเดียว ไบรอั้นมองอีกสี่คนที่เดินไปอาบน้ำก่อนลงสระด้วยกันแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมอาบน้ำก่อนจะลงมา

   
   

เสร็จจากมื้อค่ำกับอาหารทะเลที่รีสอร์ท สามหนุ่มก็ออกไปรับกุญแจมอเตอร์ไซค์ที่เช่าไว้กับทางรีสอร์ทตรงเค้าน์เตอร์เช็กอินด้านหน้า ไอติมคุยเล่นกับเลโอตามปกติ ไม่ได้มีอาการติดขัดหรือแปลกไปใด ๆ ซึ่งเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ขึ้นจากสระว่ายน้ำ ใช้ระยะเวลาแค่แปบเดียวกระต่ายลามกก็กลับมากระโดดโลดเต้นแบบที่เป็น แวบหนึ่งไบรอั้นแอบแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นเก็บเอามาใส่ใจเป็นเรื่องเป็นราว
   

ไอติมสอบถามเส้นทางจากรีสอร์ทไปฟูลมูนปาร์ตี้แบบที่ให้ตัวเองเข้าใจง่ายที่สุด เนื่องจากไม่เคยมาเกาะนี้ และไม่เคยไปหาดนั้น และที่พักยังอยู่ห่างไกลจากหาดที่จัดฟูลมูนปาร์ตี้เป็นสิบกิโลเมตร เลยต้องเอาให้ชัวร์ที่สุดว่าจะไม่พากันไปหลง แต่พนักงานหนุ่มที่บอกเส้นทางก็การันตีว่าไม่หลงแน่นอนเพราะเส้นทางไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร และส่วนมากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พักอยู่แถบนี้ก็มักจะพากันไปหาดนั้นอยู่แล้ว
   

“ถ้าขับรถไปเอง ควรมีคนเมาน้อยที่สุดอยู่ในกลุ่มด้วยนะครับ เพราะทางมันขึ้นเขาลงเขา ขากลับถ้าเมากันหมดจะอันตราย” พนักงานพูดกับไอติมและยังหันไปพูดกับอีกสองฝรั่งด้วย ไอติมไม่ได้มองว่าก้าวก่ายหรือแย่งซีนใด ๆ แต่มองว่าเขาใจดีที่ช่วยพูดให้


ไบรอั้นขับเหมือนเดิม และตำแหน่งที่นั่งของอีกสองคนก็ตามเดิม ไอติมช่วยเปิดแมพบอกทางไบรอั้นนอกเหนือจากการดูป้ายตามทาง มีฝนตกลงมาแบบปรอย ๆ เป็นฝนเม็ดเล็ก ๆ ที่ยังสามารถขับรถฝ่าไปได้แบบไม่เจ็บผิวหนัง


เส้นทางที่นำไปสู่สถานที่จัดงานปาร์ตี้ก้องโลกไม่ได้ไปกันง่าย ๆ เล่นเอาสองฝรั่งมีร้องโหยหวนเหมือนกัน ไอติมเป็นคนเดียวที่ตื่นเต้นกับทางขึ้นลงเหมือนเล่นรถไฟเหาะ ไอติมได้ยินเขาเปิดแตรกันแทบจะตลอดทาง สังเกตอยู่พักนึงจนรู้ว่าเป็นการบีบแตรบอกรถคันอื่น ๆ เพื่อให้ระวังกันและกันว่ามีรถกำลังแล่นไปแล่นมา  เพราะถนนมันเป็นเนินสูงและเนินชัน หลายครั้งที่จะมองไม่เห็นรถที่กำลังแล่นสวนมา
   

“Oh, here we are? (โอ้ เราถึงแล้วใช่มั้ยเนี่ย)”
   

เลโอพึมพำคนเดียวแบบไม่ได้ต้องการคำตอบเป็นจริงเป็นจังหลังจากพ้นถนนขึ้นเขาลงเขาและเป็นถนนเส้นตรงตามปกติ ไบรอั้นเลี้ยวซ้ายตรงมุมถนนที่ฝั่งตรงข้ามมีเซเว่นตั้งเข้ามุมอยู่พอดี แสงไฟทำให้เห็นว่าบนถนนที่รถพวกเขาสามคนกำลังแล่นไปนั้นฝุ่นตลบอบอวล ไอติมชี้ไปที่ลานจอดรถใกล้กับเซเว่นอีกอัน ไบรอั้นเลี้ยวรถเข้าไป ไอติมยกมือชี้อีกรอบเมื่อเจอช่องจอดว่างข้างเซเว่นพอดี ไบรอั้นขับเข้าไปจ่อตรงช่องนั้นไว้ก่อน กันคนอื่นเข้ามาแทรกแล้วค่อยให้ไอติมกับเพื่อนลง
   

“Body paint?” เลโอถามไอติ้มด้วยรอยยิ้มและชี้ฝรั่งกลุ่มนึงที่กำลังใช้พู่กันวาดสีลงบนตัวให้เพื่อน ไอติมส่ายหัว
   

แม้ว่าจะเป็นช่วงโลวซีซั่น แต่คนก็หนาตาอยู่ดี ไอติมเชื่อว่าช่วงไฮซีซั่นคนคงหนาแน่นกว่านี้อีกเท่าตัว จากการสำรวจโดยสายตาของตัวเอง ไอติมเห็นคนต่างชาติเยอะกว่าคนไทย กระต่ายตัวจ้อยกำลังสงสัยว่าทำไมไอ้งานนี้มันถึงโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาตินัก สำหรับคนเที่ยวก็คงถูกอกถูกใจ ต้องมาให้ได้สักครั้งอะไรแบบนั้น ซึ่งสำหรับคนไม่ปาร์ตี้แบบไอติมก็คงไม่เก็ท เหมือนที่ไอ้เดนไม่เก็ทว่าทำไมเขาชอบกินหมูกระทะนัก
   

“Please Zeus, stop the rain. (ขอล่ะซุส หยุดฝนเถอะ)” เลโอบ่นเซ็ง ๆ เพราะยังมีเม็ดฝนหล่นลงมาไม่หยุด ถึงจะไม่ได้ตกแรง เป็นเพียงละอองเล็ก ๆ แต่สำหรับงานแบบนี้มันคงไม่ค่อยจะสนุกเท่าไหร่หากมีฝนร่วมวงด้วย
   

ทั้งสามคนเดินไหลไปกับผู้คนจนกระทั่งเจอทางเข้า ต่างชาติเสียเงินเข้า ส่วนไอติมเข้าฟรี พอได้รับสายรัดข้อมือ สามหนุ่มก็พากันเดินเข้าไปด้านในที่มีร้านขายของใช้ของกินเต็มสองข้างทาง ไอติมพุ่งตัวไปซื้อลูกชิ้นทอดมาหนึ่งถุงใหญ่แม้ว่าจะเพิ่งกินข้าวมาก็ตาม แต่ไอติมถือว่านี่เป็นของหวานล้างปาก
   

“Eat again? (กินอีกแล้วเหรอ)” ไบรอั้นย่นคิ้วมองไอติมที่จิ้มลูกชิ้นชุบน้ำจิ้มเข้าปากและเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ไอติมยิ้มกริ่มและพยักหน้าหงึก ๆ ยื่นถุงลูกชิ้นให้สองหนุ่มเป็นการชวนกิน แต่ทั้งสองคนปฏิเสธ ไบรอั้นจับไหล่สองข้างของไอติม คอยดันให้เด็กลามกเดินหน้า ไม่ยืนแช่เพื่อกินลูกชิ้นอย่างเดียว
   

พอเดินเข้าใกล้ชายหาดมากขึ้น เสียงเพลงก็เริ่มแสดงความอึกทึกครึกโครม ต่างชาติไม่ว่าชาติใดไม่มีใครสนใจใคร ไม่มีใครมองใคร ต่างคนต่างมาเที่ยวกับพรรคพวกของตัวเอง สนใจแต่กลุ่มแต่คนของตัวเอง มีคนไทยให้เห็นบ้างประปราย ซึ่งไอติมสังเกตว่าคนไหนคนไทยจากการเหลือบตาแอบมองหนุ่มฝรั่งของหญิงสาวในกลุ่มนั้นๆ
   

“เราต้องไปตรงไหนวะ ที่นี่เขาปาร์ตี้กันยังไง” เลโอถาม
   

“ฉันว่าเราน่าจะต้องเดินสำรวจก่อนรึเปล่า” เลโอพยักหน้า
   

สามหนุ่มเดินถึงตัวชายหาดที่มีผู้คนมากมายตามหน้าร้านเหล้าที่เปิดเพลงแข่งกัน ไอติมเดินข้างไบรอั้นต้อย ๆ โดยที่ก็ไม่รู้ว่าจะแนะนำอะไรยังไง อ่านรีวิวมาเขาก็บอกว่าให้เลือกร้านได้ตามใจชอบ ซึ่งไอติมไม่ชอบทางนี้เลยไม่รู้จะช่วยเลือกร้านไหนให้สองฝรั่งดี แต่ดูจากท่าทีและท่าทางของอีกสองคนน่าจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาร้านให้ถูกใจสักร้าน
   

“ถ้าหวังจะนั่งฟังเพลงสบาย ๆ ฉันว่าไม่มีว่ะ”
   

“นั่งฟังเพลงน่ะมี แต่ฉันว่าเพลงไม่น่าใช่แนวสบายๆ” สองฝรั่งหัวเราะ ส่วนไอติมอยากกินลูกชิ้นต่อ แต่กลัวคนเดินมาชนมือแล้วไม้ลูกชิ้นจะเสียบปากเอาเลยหยุดไว้ก่อน
   

เดิน ๆ หยุด ๆ และเดินไปเดินกลับกันอยู่นาน ในที่สุดสองฝรั่งก็เลือกร้านตรงช่วงกลางหาดร้านนึงที่ดูจะดึงคนเข้าร้านได้มากที่สุดด้วยจังหวะเพลงอันถึงใจถึงกระดูกแบบไม่มีจังหวะดนตรีขึ้นลงให้เสียอารมณ์ ด้วยความที่พวกเขามาเร็วในเวลาของการปาร์ตี้ ทำให้ม้านั่งที่ทางร้านวางไว้ด้านหน้ายังมีเหลือสำหรับพวกเขา เลโอบอกให้อีกสองคนนั่งอยู่ที่โต๊ะ และเดินไปหาสั่งเครื่องดื่ม เสียงเพลงดัง ตึง! ตึง! ตึง! จนประสิทธิภาพการได้ยินเสียงอย่างอื่นลดลง แม้กระทั่งเสียงคุยของคนใกล้ตัว
   

“You don’t like it!? (ไม่ชอบเหรอ)” ไบรอั้นโน้มหน้าถามไอติมที่นั่งอยู่ตรงข้าม ไอติมทำปากยื่นและพยักหน้าอย่างยอมรับ
   

“Me too! (ฉันก็เหมือนกัน!)” ไอติมย่นคิ้วเพราะพยายามฟังเสียงที่ไบรอั้นพูดอยู่ข้างหู พอจับใจความได้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร ไอติมก็ทำหน้างง ๆ เพราะไบรอั้นน่าจะชอบอะไรแบบนี้
   

“Really?! (จริงเหรอ)” ไบรอั้นเบ้ปากนิดหน่อยก่อนหันไปมองรอบ ๆ แล้วก็หันกลับมามองไอติมที่กำลังเคี้ยวลูกชิ้นลูกใหม่ เขาพยักหน้าเป็นคำตอบ ไอติมเอียงหน้าแบบงง ๆ ไบรอั้นหัวเราะเพราะกระต่ายทำหน้าเป็นหมางงอีกแล้ว
   

เลโอเดินกลับมาพร้อมกับพนักงานชายร่างเล็กผิวคล้ำคนหนึ่งที่ถือถาดที่มีถังพลาสติกสีชมพูขนาดเล็ก ถังน้ำแข็งหนึ่งถัง เบียร์ขวดใหญ่สี่ขวด น้ำอัดลมสำหรับไอติมหนึ่งขวดพร้อมกับแก้วสามใบวางอยู่บนั้น
   

“อะไรน่ะ?!” ไบรอั้นตะโกนถามและชี้ถังสีชมพูที่มีน้ำสีคล้ายโค้กอยู่ข้างในถัง พนักงานเสิร์ฟเสียบหลอดสีขาวสามอันลงในถังแล้วเดินจากไป เลโอนั่งลงข้าง ๆ ไอติม
   

“เขาแนะนำมาว่าเด็ด!” เลโอตะเบ็งเสียงบอกแข่งกับเสียงเพลง ไอติมจัดการเทน้ำอัดลมใส่แก้วก่อนคีบน้ำแข็งมาใส่แค่หนึ่งก้อน ไบรอั้นเลื่อนถังสีชมพูเข้าไปใกล้ตัวแล้วก้มลงดูดน้ำรสชาติหวานอมเปรี้ยวและยังมีรสแอลกอฮอล์ผสมอยู่ในนั้นด้วยความรู้สึกแปลกใหม่แต่ก็รู้สึกถูกใจ
   

“อร่อยดี” ไบรอั้นยกนิ้วโป้งขวาขึ้น เลโอเลยลองชิมบ้าง เขาพยักหน้าเห็นด้วยและส่งให้ไอติมที่ส่ายหัวปฏิเสธ แต่เลโอก็คะยั้นคะยอให้ไอติมลอง ไอติมก้มลงดูดตามมารยาทเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจของเลโอ แล้วก็พบว่ารสชาติมันอร่อยดี ไม่ขมหรือเหม็นเหมือนเหล้าที่พวกเดนนี่ชอบดื่มกัน
   

“Are you bored?! (เบื่อเหรอ?!)” เลโอก้มลงถาม ไอติมยิ้มจมูกย่นแล้วก็ส่ายหัวรัวๆ
   

ไอติมไม่ถึงขั้นเบื่อ แต่ถ้าให้เลือกได้ก็อยากกลับไปนอนรอที่ห้อง ไบรอั้นกับเลโอเองก็ใช่ว่าจะคุยอะไรกันเยอะแยะ ทั้งเพราะไม่มีอะไรจะคุยและทั้งเสียงเพลงมันดังจนเหนื่อยที่จะตะเบ็งเสียงพูดกัน ไหนจะเสียงคนกรีดร้องเป็นระยะ ๆ อีก


แต่ถึงอย่างนั้นไอติมก็ยังยิ้มแย้มตลอดเวลาที่สองหนุ่มชวนเล่นชวนคุย ไบรอั้นรู้ว่าบรรยากาศแบบนี้มันต้องเมาถึงจะสนุก เขาเลยชวนให้ไอติมดื่มเหล้าในถังด้วยกัน และเพราะเป็นไบรอั้นชวนไอติมก็เลยดื่มด้วย แต่ก็กะลิมิตเอาไว้ว่าได้เท่าไหร่ ซึ่งจริง ๆ ไอติมก็ไม่รู้หรอกว่ามันต้องมีลิมิตแค่ไหนในการดื่ม เลยคิดเอาว่าถ้ารู้สึกมึน ๆ แบบที่เห็นจากพวกไอ้เดนบ่อย ๆ ก็จะหยุดดื่ม

V
v
v




หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 14-12-2018 18:55:00
V
v
v

เพราะไม่เคยดื่ม ไอติมจึงไม่รู้ลิมิตตัวเองว่าต้องจอดแค่ไหน…


“เฮ้ยๆ” ไบรอั้นที่ใบหน้าแดงก่ำหัวเราะเอิ๊กอ๊ากในขณะที่พยายามประคองให้ไอติมเดินกลับห้องพักให้ตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้


“อะคิ ๆ ฮื้อออ อั้นนน” ไอติมหน้าแดงเป็นลูกเชอร์รี่และยิ้มตาหวาน เหวี่ยงตัวเข้ากอดไบรอั้นจนทำให้ฝรั่งตัวโตเดินไม่ได้ เลโอที่เดินตามหลังมาหัวเราะตาฉ่ำและยกขวดเบียร์ในมือขึ้นดื่ม


“ตอนไม่เมาก็ชอบลวนลามฉันอยู่แล้ว นั่น!” ไบรอั้นว่าเสียงดุเมื่อไอติมใช้มือไหนสักข้างขย้ำเป้ากางเกงเขาเต็มมือ ฝรั่งหัวทองตัดสินใจยกตัวไอติมขึ้น ร่างเล็กเกี่ยวสองขาเข้าเอวไบรอั้นทันที สองแขนกอดรอบคอ หน้าซุกเข้ากับซอกคอหนาและซุกไซ้อย่างนัวเนีย


“เลลลล โออออออ้!” ไอติมมองคิงคองตาเยิ้มและยิ้มหวานให้ หนุ่มกรุงปรากยิ้มกว้าง ไอติมหัวเราะคิกคัก เพราะคิดถึงคิงคองอีกแล้ว


“เลโอ ยู ว้อท ทู ฟัค มี้” ไอติมถามเสียงสดใส (แบบเกินไป) เลโอที่ตาแดงน้อย ๆ กระดกเบียร์ขึ้นดื่มอีกอึก


“Yes, let me do that, okay? (ใช่ ให้ฉันเอานะ โอเคมั้ย)” ไอติมยู่ปาก ดึงหน้าออกมองหน้าไบรอั้นที่ตาเยิ้มไม่แพ้กัน


“What?” ไบรอั้นถามพร้อมกับเบี่ยงตัวให้เลโอเดินขึ้นบันไดสองขั้นหน้าห้องพักขึ้นไปไขกุญแจประตูกระจกที่ม่านปิดอยู่


“Okay? มั้ยอะอั้นนน” เลโอเลื่อนเปิดประตู ไบรอั้นอุ้มไอติมเข้าไปด้านในห้องและพาร่างเด็กลามกไปวางบนเตียง ไอติมยกสองขาเกี่ยวตัวไบรอั้นไว้ สองแขนคล้องคอแน่น


“Hey, hey, hey.” ไบรอั้นแกะแขนไอติมออกจากคอและตามด้วยขา กระต่ายลามกหัวเราะอิ๊อ๊ะ นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ครองเตียงคนเดียว


“ตอนนี้เหรอ” ไบรอั้นหันไปถามเลโอที่ถอดเสื้อกล้ามออกจากตัวและตามด้วยถอดกางเกงทั้งตัวในตัวนอกออกหมด เลโอยักคิ้ว


“ไอศกรีมชวนฉันแล้วนี่” เลโอเดินไปที่กระเป๋าเป้ตัวเอง เปิดกระเป๋าแล้วหยิบกล่องถุงยางอนามัยออกมา เลือกหยิบออกมาหนึ่งชิ้นและเดินกลับมาหาไอติมที่กำลังดันตัวลุกขึ้นนั่ง


“แต่เด็กมันเมาอยู่นะ ทำแบบนี้ก็เหมือนฉวยโอกาสเปล่าวะ” ไบรอั้นว่าหน้าตาง่วง ๆ มีสะอึกลมไปหนึ่งที


“แกยังเคยปล้ำผู้หญิงเลย” ไบรอั้นตาโตแบบเยิ้มๆ

“อันนั้นมันบทในหนังโว้ย” เลโอยิ้มขำ หันไปมองไอติมที่นั่งมองสองหนุ่มคุยกันตาหวานและยิ้มกริ่ม


“ไอศกรีม อยากมั้ย” เลโอเดินเข้าไปหาไอติม เด็กลามกกดหน้าลงมองตรงนั้นของเลโอ กะพริบตาปริบ ๆ สักแปบก็ยิ้มเขิน เลโอคลี่ยิ้มและพยักหน้าชวน ไอติมหันไปมองไบรอั้นแบบเมา ๆ หนุ่มหัวทองทำหน้าเหลอหลาแบบเมา ๆ และแบมือทั้งสองข้างออก


“If you want. (ก็ถ้านายต้องการ)”


“Okayyyy?” ไอติมลากเสียงยาว


“แกต้องพูดว่าโอเค” เลโอหันบอกเพื่อน ไบรอั้นมองหน้าไอติมที่กำลังกัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้มให้เขาคล้ายคนจะหลับตลอดเวลา


“Okay.” ไอติมยิ้มกว้าง ยื่นมือซ้ายไปจับแก่นกายของเลโอและดึงให้เลโอเข้ามายืนใกล้ ๆ ยื่นหน้าใช้ปากอมส่วนหัวและเริ่มดูดเลียแก่นกายของคิงคอง สายตาเมา ๆ เหลือบไปเห็นว่าไบรอั้นกำลังจะเดินออกไปทางประตูห้อง ไอติมก็ดึงหน้าออกจากของเลโอทันที


“No, you are here. Come, come, come. (ไม่ คุณอยู่นี่ มา มา มา)” ไอติมกวักมือเรียกไบรอั้น หนุ่มหัวทองย่นคิ้วงุนงง หน้าตาพร้อมจะหลับไม่แพ้ไอติม เขาแค่จะเดินอ้อมไปนอนอีกฝั่งเท่านั้นเอง


ร่างเล็กลุกเดินแบบโงนเงนไปหาไบรอั้นและดึงให้ฝรั่งเดินกลับมานั่งบนเตียงด้วยกัน หันไปจัดการถอดเสื้อให้ไบรอั้น และพยายามถอดกางเกงให้ด้วย หนุ่มหัวทองยืนขึ้นแบบมึนเมา และถอดกางเกงลงไปกองที่ข้อเท้าก่อนจะเตะออก ไอติมหัวเราะชอบอกชอบใจ ไบรอั้นนั่งลงบนเตียงและถอดเสื้อผ้าให้ไอติมจนตัวเปล่าล่อนจ้อนเหมือนกัน


“ขึ้นมาบนเตียงเลยไอ้เลโอ” ไบรอั้นว่าพลางขยับตัวไปที่หัวเตียง หยิบหมอนสีขาวขึ้นวางตั้ง ไอติมคลานตามไปนั่งซ้อนด้านหน้าของไบรอั้น เลโอหยิบถุงยางขึ้นมาจากปลายเตียง คลานเข่าไปตรงหน้าไอติม วางถุงยางไว้บนหมอนอีกใบ เขยิบเข้าไปชิดหน้าไอติมอีกนิด


“แกไม่ต้องเข้ามาใกล้มากก็ได้ ฉันไม่ดูดให้แกด้วยหรอกนะ” ไบรอั้นว่าเสียงแหบพร่า ตาปรือ ๆ มองค้อนเพื่อนไปที เขาเอนหัวพิงกับหมอน สองมือกอดเอวไอติมไว้หลวม ๆ มองไอติมดูดเลียให้เลโอจนของมันแข็ง


“อา… ฮู่ว…” เลโอครางแผ่วเบา ยกมือซ้ายขึ้นลูบหัวไอติม


“Bryan, you want? (ไบรอั้น อยากมั้ย)” ไอติมหันไปถามไบรอั้นที่นั่งหลับไปแล้ว มือขวาชักเข้าออกให้เลโอไม่หยุด ไอติมยกมือซ้ายลูบผิวช่วงอกของไบรอั้นที่แดงอ่อน ๆ สร้อยคอสีทองอ่อนนวลตาเข้ากับผิวสีแดงของเขามาก


“W-wat?” ไบรอั้นลืมตาตื่นขึ้นมองแบบงุนงง ไอติมปล่อยมือออกจากแก่นกายของเลโอ เอนหัวซบลงบนไหล่ไบรอั้น และมองตาสีเทาเยิ้ม ไบรอั้นเบิกตากว้างและบริหารดวงตาด้วยการมองซ้ายมองขวาไปมาสักพัก แล้วก็ก้มลงมองไอติมที่นอนยิ้มตาวาวแบบเมา ๆ เขาหลับตาลงพร้อมกับพ่นลมหายใจเบา ๆ กระชับสองแขนดึงตัวไอติมให้ขยับขึ้น แล้วก็นอนเอาคางวางบนขมับซ้ายของไอติม กระต่ายยิ้มหน้าพริ้ม บิดหน้าหันไปมองเลโอที่นั่งคุกเข่า แก่นกายตั้งตรง มองไอติมด้วยสายตาหมดหวัง ไอติมยิ้มและพยักหน้าหงึก ๆ โดยที่เลโอก็ไม่รู้ความหมายของการพยักหน้านั้น เขาเลื่อนสายตามองเพื่อนเขาที่นอนกอดไอติมไว้แล้วก็หลับไปแล้วด้วยความเซ็ง


“Fine!” เลโอสบถ แต่ไม่ได้หยาบคาย สบถด้วยความปลดปลง พออารมณ์อยากเอาหายไป ตรงกลางตัวของเขาก็อ่อนตัวลงทันทีเพราะไม่มีอารมณ์นั้นประคองแล้ว


“แอะ ๆ แอ้…” เลโอมองไอติมที่หัวเราะจนช่วงตัวด้านบนสั่นแต่เปลือกตาปิด เหมือนเด็กที่กำลังละเมอว่าได้พบซานตาครอสหรืออะไรน่ารัก ๆ ในฝันประมาณนั้น ส่วนไอ้หัวทองเพื่อนเขาก็หลับจริงจัง หัวเอียงอยู่บนหัวขมับเด็กของมัน สองแขนมันกอดตัวไอติมแน่น ถ้าคิดจะดึงร่างเล็กออกมาก็เท่ากับดึงมันออกมาด้วย


“Fuck!” เลโอสบถเสียงเบา หยิบถุงยางแล้วลงจากเตียง เอาถุงยางไปวางไว้บนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียงด้วยอารมณ์เดียวที่อบอวลอยู่ในอกคือเซ็ง





   ไบรอั้นลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้าด้วยความรู้สึกหนักหัวหน่อย ๆ เขาลืมตามองปลายเตียงที่แสงแดดสาดออร่าทะลุผ้านม่านสีขาวผืนหนาเข้ามาด้านใน บวกกับไฟในห้องที่เปิดสว่างทิ้งไว้ก็เลยทำให้ห้องไม่มืด เขาหันมองบนเตียง ไอ้เลโอนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงอีกฝั่งนึง ส่วนกระต่ายลามกนอนหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดของเขา ไบรอั้นค่อย ๆ ขยับแขนซ้ายออกจากตัวไอติมจนสำเร็จ เขาดันตัวลุกขึ้นนั่งสักพักเพื่อปรับร่างกายให้เข้าที่เข้าทาง พอรู้สึกโลกไม่หมุนแล้วก็ลงจากเตียงเดินไปเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำตรงอ่างล้างหน้า ใช้สองมือรองน้ำมาล้างหน้าจนรู้สึกสดชื่นแล้วหมุนตัวไปฉี่ตรงชักโครก เอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาซับหน้าจนแห้งก็พอดีกับที่กดชักโครกหลังจากฉี่เสร็จ
   

ไบรอั้นเดินเข้าไปในโซนอาบน้ำ ดึงผ้าม่านพลาสติกสีขาวปิดกันน้ำกระเด็นออกไปด้านนอก เปิดฝักบัวให้น้ำเย็น ๆ รดหัวและตัวจนรู้สึกว่าร่างกายตื่นตัวขึ้นมา เขาจัดการตัวเองจนสะอาดสดชื่นก็หยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่มาเช็ดตัวจนแห้ง และตามด้วยเช็ดหัวเบา ๆ ก่อนเดินไปหยิบเครื่องเป่าผมที่ทางรีสอร์ทมีไว้ให้ในห้องน้ำมาเป่าจนผมแห้งหมาด ๆ ก่อนจะพันผ้าขนหนูรอบเอวออกจากห้องน้ำ เจอกับเลโอที่ตื่นแล้ว และกำลังนั่งแคะขี้ตาอยู่บนเตียง เขาเหลือบมองเด็กลามกที่ยังคงนอนคว่ำหน้าหลับเหมือนเดิม
   

“เราตื่นไม่ทันข้าวเช้า” ไบรอั้นว่าพลางเดินไปเปิดกระเป๋าเป้ของตัวเอง หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาเตรียมใส่
   

“เมื่อคืนแกจำอะไรได้มั่งมั้ย” เลโอถาม ลุกขึ้นไปยืนบนพื้นขณะที่ไบรอั้นนั่งลงข้างเตียงใกล้กับไอติม
   

ไบรอั้นนั่งนึกแบบหน้าอึน ๆ สักแปบแล้วค่อยตอบ “เดินอุ้มเด็กนั่นมาจนถึงเตียงได้ ฉันว่าฉันก็ไม่น่าลืมอะไร”
   

เลโอถลึงตามองเพื่อนและเลื่อนสายตาไปมองไอติมที่นอนขดตัวหนาว ไบรอั้นเลยถลกผ้านวมขึ้นคลุมร่างเปลือยเปล่าให้ก่อนหันกลับไปมองเพื่อนต่อ “แกไม่ดันฉันเลย ปล่อยให้ฉันอารมณ์ค้างอีกแล้ว”
   

“ก็มันทั้งเมาทั้งง่วงนี่หว่า”
   

“แกกอดไอศกรีมซะแน่น เด็กมันเลยไม่เล่นกับฉัน” ไบรอั้นทำหน้ามึนงง
   

“แต่ฉันก็ตอบโอเคไปแล้วนะ” เลโอทำหน้าเอือม
   

“ตอบโอเค แต่ไม่ปล่อยให้เด็กมันเล่นกับฉัน” ไบรอั้นย่นคิ้ว หยิบเสื้อยืดสีขาวสะอาดตาขึ้นสวมใส่ เสื้อยืดรัดกับกล้ามเนื้อของฝรั่งตัวโตจนเสื้อตึง
   

“ถ้าเด็กมันอยากเล่นกับแก ไม่มีฉันมันก็เล่น” เลโอกลอกตา
   

“แกอย่าพูดเหมือนไม่รู้ ไม่สังเกตอะไรหน่อยเลย…” ไบรอั้นย่นคิ้วและทำปากยื่นแล้วก็สั่นหัวหน้าสั่น


“…แกก็รู้ว่าไอศกรีมติดแก เด็กมันตามแกอยู่แล้ว ถ้าแกเล่นด้วย”


“ไม่เกี่ยวหรอกน่า ในสระว่ายน้ำนั่นเด็กลามกก็ตอบสนองแกดี”


“นั่นเพราะแกอยู่ด้วย…” เลโอหรี่ตามองสายสร้อยที่โผล่พ้นจากคอเสื้อยืดสีขาวออกมา


“…ถ้าแกไม่บอกว่ากะจะเอาไอศกรีมเป็นเซ็กซ์พาร์ทเนอร์ช่วงอยู่ที่นี่ ฉันคิดว่าแกกำลังหวงก้างฉันอยู่”


“ฮู่วว หวงอะไรเล่า ไอศกรีมของแกลามกจะตาย เด็กมันชอบเรื่องเซ็กซ์เรื่องเอากันจะตายห่า มีเหรอมันจะปฏิเสธแก…” เลโอมองเพื่อนตาปรือ มองรอยยิ้มกวน ๆ ของมันแล้วก็เอือม


“…เด็กคนนี้เล่นด้วยไม่ยากหรอก ยั่วบ่อย ๆ เดี๋ยวก็เล่นด้วย เมื่อคืนก็อมให้แกไปแล้วนี่”


“แกอย่ามาทำเป็นพูดเฉไฉ ในใจแกรู้ว่าเด็กคนนี้แล้วแต่แก เห็นแกไม่ร่วมด้วยก็เลยหนี” ไบรอั้นหัวเราะ


“แกจะติดใจอะไรเด็กคนนี้นักหนาวะ มีคนให้แกเอาตั้งเยอะ เมื่อคืนก็มีเกย์คนไทยมาอ่อยแกตั้งสองคน แกก็ไม่เอา” เลโอพ่นลมหายใจ ใบหน้าจริงจังขึ้นมานิดหนึ่ง


“ไม่ใช่แกคนเดียวหรอกนะที่คิดว่าไอศกรีมน่ารัก…” ไบรอั้นนิ่งไม่ตอบรับใดๆ


“…ฉันก็รู้สึกอย่างงั้น" ใบหน้านิ่งของหนุ่มหัวทองชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพยักหน้า หันไปมองร่างของไอติมบนเตียงแวบสั้น ๆ แล้วหันกลับไปมองเลโอ


“ถ้างั้นแกก็ขอเด็กคนนี้เป็นแฟนสิ เป็นแฟนกัน ก็ง่ายสำหรับแกขึ้นเยอะ…” ไบรอั้นยกนิ้วชี้ขวาเกาจมูกพร้อมกับพ่นลมหายใจแผ่วเบาหนึ่งที


“…แต่เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฉันหรอกนะ” เลโอนิ่งพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าหนึ่งครั้ง ยกมือซ้ายชี้หน้าเพื่อนหัวทอง


“แกอย่าตุกติกอีกล่ะ” ไบรอั้นขมวดคิ้วและยิ้มขำ


“ตุกติกอะไรของแก” เลโอมองเพื่อนด้วยความหมั่นไส้


“กอดไอศกรีมแน่นและพาเขาหลับหนีฉัน” ฝรั่งหัวทองหัวเราะยิ้มร่า


“เอ้า ฉันง่วง ฉันก็แค่หลับ”


“แล้วทำไมแกต้องกอดไอศกรีม หลับไปคนเดียวไม่ได้รึไง”


“ก็เหมือนกอดหมอนข้างแหละน่า” ไบรอั้นลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงผ้าขนหนูออกจากเอว หยิบกางเกงในสีดำทรงสามเหลี่ยมมาตรฐานของกางเกงชั้นในชายขึ้นมาสวมใส่ ตามด้วยกางเกงขาสั้นสีแดงที่มีลวดลายเหมาะกับริมทะเล


เลโอยกยิ้มมุมปากและส่ายหัวอ่อนใจ ก่อนจะเดินอ้อมปลายเตียงไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายบ้าง ไบรอั้นผูกเชือกกางเกงนิ่ง พอได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดก็บิดหน้าไปมองนิดหน่อยก่อนเลื่อนสายตาไปมองร่างเล็กที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงด้วยสายตาว่างเปล่า



ด้วยความที่ขี้เกียจขับรถออกไปหาอะไรกินนอกรีอสร์ท ไบรอั้นกับเลโอก็เลยไปสั่งอาหารที่ร้านอาหารของทางรีสอร์ทที่อยู่ตรงสระว่ายน้ำอีกอัน โดยทิ้งให้ไอติมที่พวกเขาพยายามปลุกแล้วไว้บนเตียง ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่เคยเมามาก่อนจึงจัดการกับความเมาได้ไม่ดีนัก พวกเขาเลยปล่อยให้นอนพักและกะว่าจะซื้อน้ำผลไม้เย็น ๆ มาฝากเผื่อจะรู้สึกดีขึ้น


สองหนุ่มสั่งอาหารมากินกันสองคน พูดถึงแพลนวันนี้ว่าจะไปที่ไหนอย่างไร ไอติมเขียนไว้ในตารางว่าฟรีสไตล์ ค่อยมาคิดกันหน้างานว่าอยากจะไปที่ไหน แต่ก็มีลิสต์มาไว้ให้เลือกด้วย ทั้งสองคนปรึกษากันว่าที่ไหนน่าไปยังไงบ้าง มีเปิดอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลสถานที่จากชื่อที่ไอติมลิสต์มา นั่งคุยกันไปเรื่อย ๆ แบบไม่รีบร้อนระหว่างกินอาหาร สุดท้ายก็มีความเห็นตรงกันว่าจะไปเรียนมวยเอาสนุก และถ้าเวลาเหลือก็จะไปเล่นไคต์เซิร์ฟที่อ่าวโฉลกหลำกันต่อ


พอกินอาหารของตัวเองเสร็จ สองหนุ่มก็เดินกลับที่พักอย่างชิล ๆ ไบรอั้นถือจานอาหารของไอติมที่ซีลพลาสติกใสมาให้เรียบร้อย มืออีกข้างถือน้ำส้มคั้นจากทางรีสอร์ท เอามาเสิร์ฟกระต่ายตัวจ้อยถึงที่นอนเพราะสงสารคนเพิ่งเคยกินเหล้าจนเมาและปรับร่างกายไม่ทัน


“Good late morning almost noon ice-cream. (สวัสดีตอนสาย ๆ เกือบเที่ยงนะไอศกรีม)” เลโอทักไอติมที่ตื่นนอนแต่ยังไม่ได้อาบน้ำ ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์และยิ้มอย่างหมดแรง ไบรอั้นยื่นจานอาหารไปให้ตรงหน้า ไอติมขยับยิ้มกว้างขึ้นและรับจานอาหารไปวางไว้บนตัก ไบรอั้นวางแก้วน้ำส้มไว้บนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียง


“Thank you. (ขอบคุณฮะ)”


“How do you feel? (เป็นไง)” ไบรอั้นถามพลางนั่งลงข้างเตียงคนละฝั่งกับเลโอ


ไอติมที่เพิ่งตื่นและยังรู้สึกเมา เอ๋อไปชั่วขณะว่าไบรอั้นถามว่าอะไร จนฝรั่งหัวทองต้องทวนคำถามอีกรอบไอติมถึงร้องอ๋อก่อนตอบ “ปวด Head เอ่อ feel not good”


ไบรอั้นพยักหน้าด้วยความเข้าใจความรู้สึกนั้น “You should take pain killer after your breakfast, (นายควรกินยาหลังอาหารเช้า)” ไอติมมองหน้าไบรอั้นแบบมึนงง ไม่เข้าใจกับประโยคนี้ ไบรอั้นขำและคิดว่าเดี๋ยวค่อยยื่นยาให้กินทีเดียว


“We have had planned for today. Do you think you could go with us? (เราแพลนแผนวันนี้ไว้แล้ว คิดว่านายไปกับเราไหวมั้ย)”


ไอติมยกจานอาหารเช้าแบบตะวันตกไปวางข้างแก้วน้ำส้ม หันไปมองไบรอั้นและยิ้มแห้ง ๆ เป็นเชิงบอกว่าฟังที่เขาพูดไม่ออก “Today, we will go to somewhere. You want to go with us? (วันนี้ เราจะไปกันสักที่ นายอยากไปกับเรามั้ย)”


“อ๋อ… yes, I will go.”


“Then eat your breakfast and take a shower. (งั้นก็กินอาหารเช้าและไปอาบน้ำ)” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ มองจานอาหารแล้วลังเลใจอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจเคลื่อนตัวลงจากเตียงในสภาพตัวเปลือย รีบก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องน้ำ


“คืนนี้ฉันจะลองถามไอศกรีมเรื่องคบกับฉัน” ไบรอั้นหันไปมองเพื่อนแล้วเลิกคิ้วขึ้น


“ก็แล้วแต่แก แต่แกจะไม่หมดมู้ดเที่ยวใช่มั้ยถ้าไอศกรีมของแกไม่รับรัก”


“ไม่ ก็แค่อยากลองถาม ถ้ารู้สึกไปทางเดียวกันกับฉันก็ดี แต่ถ้าไม่ก็ดีกว่าไม่บอกไม่ถามอะไร ปล่อยโอกาสหลุดลอยไปเปล่าๆ” ไบรอั้นเบ้ปากและยกนิ้วโป้งสองข้างขึ้นให้เพื่อน


“ใจแกได้” เลโอยักคิ้วและทำเก๊กหล่อ นาทีต่อมาสองหนุ่มก็หัวเราะด้วยกัน




วันที่สองบนเกาะพะงัน สองฝรั่งได้ทำตามที่ใจต้องการ ได้ทั้งไปเตะต่อยมวยไทยซึ่งถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว และตกเย็นก็ได้ไปเล่นไคต์เซิร์ฟตามที่แพลนไว้ แถมยังมีเวลาเหลือก่อนพระอาทิตย์จะหมดไปจากท้องฟ้าได้ไปเล่นน้ำอีกหาดนอกจากหาดตรงที่พักด้วย ไอติมตามใจสองฝรั่งหมด ตอนเขาเตะต่อยมวยก็เดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น ไม่ได้ไปไหนไกล หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเก็บภาพเพลิน ๆ ช่วงที่ไปเล่นกีฬากลางทะเล ไอติมก็ได้เล่นด้วย แต่ออกตัวได้ไม่ถึงนาทีก็ล้มคว่ำ ๆ จนเหนื่อย สุดท้ายเลยไปยืนมองสองฝรั่งเล่นบนหาดทรายแทน


ช่วงค่ำทั้งสามคนที่ตัวแห้งหมาด ๆ แวะหาอะไรกินเป็นมื้อเย็นที่ตลาดพันทิพธ์ ตลาดชื่อดังของเกาะที่อยู่ห่างจากท่าเรือไม่ไกล เปิดตั้งแต่เที่ยงยันถึงสี่ทุ่ม อาหารที่นี่มีหลากหลาย อาหารทั่วไปก็หาได้ อาหารทะเลก็มากมี ขนมหวานหลากชนิด และเครื่องดื่มอีกเยอะแยะให้คนที่ชอบกินอย่างไอติมได้เลือกซื้อติดมือมาหลายถุง และไอติมยังเสียสละสั่งบะหมี่มากินเพื่อให้ได้มีที่นั่งกินใกล้ ๆ กับใจกลางตลาด


“You eat so much and you have to exercise so much, too. (นายกินเยอะและต้องออกกำลังกายเยอะ ๆ ด้วย)” ไบรอั้นว่าและมองไอติมคีบซูชิเข้าปากหลังจากเพิ่งสูดเส้นบะหมี่เข้าไปไม่นาน ไอติมยิ้มอย่างเดียวและเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างเอร็ดอร่อย


นั่งกินไปคุยไปจนเกือบสามทุ่มครึ่ง ทั้งสามคนก็ขับรถกลับที่พัก และตกลงกันว่าจะไม่ออกไปไหน เพราะพรุ่งนี้ตื่นเช้าเดินทางไปอีกเกาะ อันเป็นเกาะสุดท้ายของทริป แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นเด็กดีรีบเข้านอนก่อนสี่ทุ่ม สองหนุ่มซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาด้วย กะจะไปจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ริมสระน้ำ ดื่มนิดดื่มหน่อยก่อนจะเข้านอน


กลับมาถึงที่พักตอนสี่ทุ่มนิด ๆ ไอติมพุ่งตัวเข้าไปอาบน้ำก่อนเป็นคนแรก ส่วนสองหนุ่มที่อยู่มาทั้งวันจนตัวแห้งก็เดินไปตั้งวงแอลกอฮอล์วงเล็กริมสระน้ำ ตรงหน้าห้องพักของพวกเขาเอง ห้องข้าง ๆ ยังปิดไฟมืด คาดว่าคงออกไปตะลอนกันด้านนอก


“สรุปแกจะไปลาวต่อหรือกลับพร้อมฉันและไอศกรีม” ไบรอั้นถามและตามด้วยกระดกขวดแอลกอฮอล์ใส่ปาก


“กลับพร้อมแกก่อน ทัวร์กรุงเทพอีกสักพัก พอพวกนั้นลงมา ก็ค่อยไปต่อ” เลโอมีเพื่อนอีกกลุ่มที่มาเที่ยวเมืองไทยในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ไปคนละโซน เขาลงใต้ อีกกลุ่มนึงขึ้นเหนือ แต่นัดกันไว้ว่าจะมาเที่ยวด้วยกันที่กรุงเทพสักพักแล้วค่อยไปลาวพร้อมกัน


“แล้วถ้าไอศกรีมตอบรับคบกับแก ก็ยังจะไปต่อเหรอ” เลโอมองเพื่อนนิ่งสักแปบ ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มและเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ทั้งครึ้มและเห็นแสงจันทร์ในเวลาเดียวกัน


“อยู่คนละประเทศก็คบกันได้ไม่ใช่เหรอ…” เลโอก้มหน้าลงมองเพื่อนที่หยิบขนมขบเคี้ยวเข้าปาก


“…มีแฟนคลับแบบไอติมก็ดีเหมือนกันนะ”


“นั่นลูกค้าวีไอพี การ์ดทองคำเลยนะ” ไบรอั้นกระดกขวดเครื่องดื่มเข้าปากอีกหนึ่งอึก


“ถือว่าแกตอบแทนที่เขาทุ่มเทให้แกได้ถูกใจเขาน่าดู”


ไบรอั้นพ่นลมหายใจเบาๆ “ก็นั่นคือสิ่งที่เด็กลามกอยากได้ ก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นนักหรอก”


“ไม่ต่างจริงเหรอ” ไบรอั้นหันไปมองเลโอ สีหน้าเพื่อนเขาไม่ได้มีท่าทีจับผิดหรือฉุกคิด แต่ถามเพราะสงสัยตามที่ถามจริง ๆ ไบรอั้นหลุบตาลงต่ำ หน้านิ่งแววตาไม่ขยับอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะส่ายหัวน้อย ๆ พอดีกับที่ไอติมเดินออกมา เลโอขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจว่าที่ส่ายหัวคือหมายถึงอะไร


“Who want to take shower next? (ใครอยากอาบน้ำต่อไป)” ไอติมคล้องผ้าคนหนูผืนใหญ่ไว้ที่คอ มองสลับทั้งสองคนที่ส่ายหัวกลับมา


“Sit. (นั่งสิ)” ไอติมนั่งระหว่างกลางทั้งสองหนุ่มตามที่เลโอบอก หยิบถุงขนมจากถุงพลาสติกเซเว่นออกมาหนึ่งถุงแล้วแกะกิน


“Ice-cream, I like you. (ไอศกรีม ฉันชอบนาย)” เลโอบอกเหมือนบอกสวัสดียามเย็น ไบรอั้นขำพรืดออกมา ไอติมที่เคี้ยวขนมอยู่เต็มปาก มองเลโอด้วยความเด๋อ


“ฮะ?”


“I like you. (ฉันชอบนาย)” เลโอบอกอีกที ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ พร้อมกับเคี้ยวขนมในปากแล้วกลืนลงคอก่อนจะคลี่ยิ้ม


“Thank you.” ไอติมตอบเสียงใส หยิบขนมใส่ปากอีกชิ้นและเคี้ยวกรุบ ๆ สายตามองหาน้ำในถุงเซเว่นก่อนหยิบเป๊บซี่ออกมา เลโอหันหน้ามองกับไบรอั้น ก่อนที่ไบรอั้นจะหัวเราะแบบไม่มีเสียงแต่ก็ไหล่สั่น เลโอพ่นลมหายใจยาว ๆ แต่ริมฝีปากก็บิดเป็นรอยยิ้ม


“Hey, I meant it. I like you. I want to be your boyfriend. (เฮ้ ฉันหมายความตามนั้นนะ ฉันชอบนาย ฉันอยากเป็นแฟนกับนาย)” ไอติมที่ดูดน้ำเป็บซี่จุ๊บ ๆ ผ่านหลอดมองเลโอตาแป๋วแล้วก็อ้าปากตอบ


“No, we are friend. (ไม่ เราเป็นเพื่อนกัน)” ไอติมตอบทั้งที่หยิบขนมเข้าปากและเคี้ยวกรุบๆ


เลโออ้าปากหวอ ไบรอั้นมองกระต่ายลามกตาค้าง แต่ริมฝีปากพยายามกลั้นขำอยู่ เพราะหน้าของเจ้าเด็กมือไวตีมึนมาก เหมือนไม่รู้สึกรู้สา ไม่หือไม่อือใดๆ


“Don’t you want to stop for a while for thinking about it? (ไม่อยากหยุดคิดสักนิดเลยเหรอ)” ไอติมแปลไม่ออกหรอกว่าเลโอพูดอะไร แต่ก็ส่ายหัวไว้ก่อน เลโอทำหน้าเหลือเชื่อ หันมองไอ้หัวทองเพื่อนตัวเองที่ยิ้มขำจนไหล่สั่นแบบห้ามไม่อยู่


“Okay.” เลโอพ่นลมหายใจสั้น ๆ หนึ่งที แถมความเจ็บจี๊ดใจด้วยการที่ไอติมยื่นมือซ้ายมาตบไหล่ตัวเองเบา ๆ ไบรอั้นขำลั่น เลโอแหงนหน้ามองฟ้าและส่งเสียงร้องคล้ายว่าเจ็บตรงไหนสักแห่งบนร่างกาย คิงคองหนุ่มยกมือซ้ายขึ้นกุมหัวใจ กดหน้าลงมองไอติมที่ยิ้มอย่างจริงใจให้ด้วยความรู้สึกจึ้ก!


“You are so mean. (นายโคตรใจร้ายเลย)” ไอติมหันควับไปมองไบรอั้นทันที เพราะไม่เข้าใจคำนั้นว่าแปลว่าอะไร หนุ่มหัวทองที่พยายามหยุดขำนึกคำอธิบายไม่ออกก็เลยโบกมือปัด ๆ ไปเป็นเชิงบอกว่าช่างมัน ไอติมปล่อยมือจากไหล่เลโอ ยกมือซ้ายขึ้นเกาหัวในขณะที่มือขวาก็หยิบขนมใส่ปากไปด้วย


“อกหกนี่มันง่ายขนาดนี้เลยเหรอวะ” เลโอส่ายหัวสีหน้าอ่อนใจ


“ไม่ต้องคบก็ได้นี่ ถามสิว่าขอเอาได้มั้ย” ไบรอั้นแนะนำ เลโอบิดปากพร้อมกับส่ายหัวช้า ๆ พึมพำเสียงเบาว่า ‘Not today’ หนุ่มหัวทองเบิกตากว้างแวบหนึ่งด้วยความงง แต่สักพักก็เปลี่ยนเป็นขำ หันไปมองไอติมที่อ้าปากหาววอดแล้วก็อมยิ้ม ไอติมเห็นไบรอั้นยิ้มก็เลยยิ้มตอบทั้งที่ตาปรือพร้อมนอนแล้ว ไบรอั้นยักคิ้วซ้ายให้กระต่ายลามกหนึ่งที


“ฉันขอตัวพาเด็กฉันไปนอนก่อนก็แล้วกัน…” ไบรอั้นหันไปพูดกับเลโอ หนุ่มผิวเข้มกลอกตาหน้าเอือม ผายมือขวาไปทางห้องพัก ไบรอั้นหันไปหาไอติม ยิ้มเพียงมุมปากเล็กน้อย ดวงตาสีเทามองหน้าง่วง ๆ ของไอติมไม่กะพริบ


“…I have the prize for you. Come. (ฉันมีรางวัลให้นาย มานี่สิ)” ไบรอั้นลุกขึ้นและยื่นมือให้ไอติม กระต่ายหน้าง่วงยื่นมือขวาไปจับและลุกขึ้นตามแรงดึงของฝรั่งตัวโต เดินขึ้นบันไดตามอีกฝ่ายไปด้วยความง่วง ไบรอั้นพาไอติมเดินเข้าไปในห้องพัก ตอนที่หันตัวกลับมาเพื่อจะดันประตูกระจกปิด เขาคลี่ยิ้มและขยิบตาให้เลโอที่ยังคงทำหน้าเอือมอยู่เหมือนเดิมก่อนจะเลื่อนประตูปิดและตามด้วยดึงผ้าม่านปิดตาม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-12-2018 19:42:59
รอเขาคบกัน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-12-2018 19:44:01
เป็นนิยายที่เหมาะสำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดอุดตัน อ่านแล้วเลือดลมเดินคล่องดี  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 14-12-2018 19:44:07
น้องติมหักอกพี่คิงคองเฉยเลยย 555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 14-12-2018 20:40:15
รอฉาก 3คน รักกัน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Moonoii ที่ 14-12-2018 21:26:26
 :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 14-12-2018 21:52:38
เมื่อไหร่พี่อั้น จะรู้ใจตัวเอง น้องติมน่าเอ็นดู   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-12-2018 23:34:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Elf_Carat ที่ 14-12-2018 23:58:52
โธ่พี่เลโอผู้น่าสงสาร 55555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 15-12-2018 01:44:42
น้องเป็นคนแซ่บๆ
เมื่อไหร่ไบรอั้นจะรับรักจากน้อง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 15-12-2018 02:29:41
น้องติมยังไม่พร้อมผูกมัดแง้งงงงงงงงงงงง :hao5: พี่คิงคองทำใจซะนะะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 15-12-2018 06:00:19
ติมมมม น้องงงง มาแบบมึนๆก็หักอกพี่คิงคิงซะแล้ว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 15-12-2018 12:43:20
น้องติมใจร้ายยย 5555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 15-12-2018 20:55:19
โถ่วววพ่อคิงคอง​ โอ๋ๆนะ5555​ น้องไอติมชัดเจนมาก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Wipers ที่ 16-12-2018 13:39:12
น้องติม เธอมันร้ายนัก
แต่ถ้าพี่อั้นถามคงตอบ yes แน่นอน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 16-12-2018 23:38:00
นุ้งไอติมมมมมมมมม
เกือบไปแล้วลูก กินไส้กรอกอร่อยเลย
ไบรอันรักน้องแล้วแต่ๆ ทำกั๊กๆกิ๊กๆ
รอตอนหน้านุ้งไอติมจะได้กินไส้กรอกอีกไหมหนอออ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 17-12-2018 04:34:23
รอคิงคองได้กระต่ายน้อยนะ น่าสงสารรพ่อลิง 5555 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 17-12-2018 10:14:37
5555555555555555 เลโอผู้น่าสงสาร ว่าแต่อิพี่นี่จะรู้ป่าวว่าอาการทางร่างกายที่ทำๆอยู่นี่ มันเข้าข่ายหวงของ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: doubleu ที่ 17-12-2018 15:18:51
มันยังไงกันฮะแซ็ค เหมือนจะไม่แคร์ ปล่อยให้เค้าเล่นกับเพื่อนตัวเอง แต่ก็แอบหวงก้าง 555555
ชอบน้องติม ไม่รักก็บอกไม่รัก ปฏิเสธดื้อๆเลย น่ารักมากลูก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 17-12-2018 15:57:09
ตอนน้องติมทำกับผู้อื่นตอนก่อนๆก็ชอบนะคะ แต่พอมาทำต่อหน้าอีพี่อั้นแล้วอิพี่สนับสนุนอีกคือ...อยากให้นางมีความรู้สึกให้น้องที่มากกว่าเซ็กส์เร็วๆ คือตอนนี้เราว่าอิพี่ก็มีอาการหวงก้างเด็กมันแล้วแหละแต่หื้มมมมหมั่นไส้ เฮ้อ ต้องรออีกหลายปีเลยหรอคะ กว่าอิพี่จะเป็นแบบบทนำ เป็นแบบนี้เราคนอ่านไม่สนุกไปกับพวกนางเลย(อาจจะแค่เราคนเดียว) ความสัมพันธ์พวกนางจะเป็นแบบopen relationshipใช่ไหมคะ โอ่ยยยยย ตอนนี้อ่านแล้วคิดว่าอิพี่อั้นคือเบลคเลย มันแบ่บ...ฮือ ไม่เป็นไรค่ะ เราจะเอาน้ำแข็งมาตั้งไฟรอ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 17-12-2018 16:24:02
แหม่~~~ พี่อั้นเหมือนจะแฟร์กะเพื่อน แต่ก็ไม่เด้อออออ 555555

สงสารพี่คิงคอง น้องติมชัดเจนมากกกก มาๆเดี๋ยวเราปลอบเอง :กอด1:





หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Cyclopbee ที่ 17-12-2018 18:26:59
อื้ออหืออออออออ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.19 : Bipolar. : 14.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-12-2018 19:54:42
แซคคือตัวร้ายที่แท้จริง ร้ายกว่าไอติมอีก 5555
แบบให้เลโอสารภาพ แต่ตัวเองก็อยากรู้คำตอบของไอติม
เค้าชัดเจนกันดี และไม่มีเคืองกัน แค่แซคต้องดูใจตัวเองให้เยอะกว่านี้

เอ็นดูไอติม คือชอบแซคมาก จะให้ทำกับเลโอ ก็มีคิดนิดนึง
แถมแซคเนียนและแผนสูง จับมากอดไว้เลยจ้า เลโอเป็นอันว่าอด

ออนเดอะบีชคือฮอทมากเวอร์ค่ะ แซบกระจาย
สงสารเลโอด้วย ขำด้วย แต่เค้าจริงใจกันดี
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 24-12-2018 19:35:18
Fall in lust, Chapter 20 :: King's order. (คำสั่งพระราชา) [Re-write นิดหน่อยค่ะ]



   ไอติมนั่งอยู่ตรงโต๊ะตัวเล็กสำหรับชมวิวทะเลสีฟ้าครามบริเวณประตูห้องพักรีสอร์ท และนอกจากวิวทะเล ยังมีวิวดี ๆ แน่น ๆ ของหุ่นเลโอที่กำลังแช่อยู่ในสระว่ายน้ำรูปหัวใจอันเล็กที่อยู่ใกล้กับประตูทางเข้า พ่อคิงคองกำลังดื่มด่ำกับไวน์ขาวและวิวทะเลสวย ๆ อย่างชิล ๆ ส่วนไอติมกำลังอัปโหลดไฟล์วิดีโอและไฟล์ภาพของสองเกาะที่ผ่านมาและวันแรกของเกาะสุดท้ายลงแม็คบุ๊กที่เอาไว้สำหรับทำงานเกี่ยวกับฟิล์มโดยเฉพาะ โอนถ่ายงานใส่เก็บไว้เพื่อกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด


นิ้วเรียวยาวจับปากกาขยับไปมาบนสมุดโน้ตส่วนตัวอย่าคล่องแคล่ว โยกตัวไปตามจังหวะเพลงเบา ๆ ที่เปิดจากแม็คบุ๊ก กระต่ายตัวขาวในชุดเสื้อกล้ามสีเดียวกับผิวและกางเกงขาสั้นสีฟ้าหยุดขยับมือเมื่อหางตาขวาเห็นร่างหนากำยำของขวัญใจตัวเองเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูพันเอวแบบโหลดต่ำ สร้อยสีทองอ่อนยังคงคล้องอยู่บนคอไบรอั้น ตัดกับผิวขาวโรยผงโกโก้ของเขา ไอติมคลี่ยิ้มกว้าง วางปากกาลงบนสมุดโน้ต ลุกเดินไปหาไบรอั้นที่กำลังเลือกหยิบกางเกงว่ายน้ำออกมาจากกระเป๋า สุดท้ายหนุ่มหัวทองเลือกหยิบสีขาวเนื้อด้านออกมาและชูขึ้นให้ไอติมดู
   

“Keep fall? (เก็บตก)” ไบรอั้นยิ้มขำเมื่อทวนคำบอกของไอติมว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างเพิ่มที่เกาะสุดท้ายของทริปอีกนิดหน่อย อธิบายกันอยู่พักนึงก็เข้าใจได้ว่าไอคำนี้ไอติมจะสื่อว่าถ่ายซีนเพิ่ม
   

ไอติมหัวเราะและเดินไปนั่งปลายเตียงคิงไซซ์ ยื่นมือไปดึงผ้าขนหนูออกจากเอวฝรั่งตัวโต แคร็อทของกระต่ายห้อยหัวสงบอยู่ตรงนั้น ไอติมเงยหน้าขึ้นมองไบรอั้นแล้วคลี่ยิ้ม หนุ่มหัวทองยิ้มตอบอ่อน ๆ แล้วก้มตัวลงสวมกางเกงว่ายน้ำใส่ขาทีละข้างและดึงขึ้นสวมทับช่วงกลางตัว ไอติมมองไบรอั้นจัดระเบียบเป้าตาวิบวับ พอเสร็จเรียบร้อยไบรอั้นก็แบมือสองข้างออกเป็นเชิงถามว่าเป็นไง ไอติมเงยหน้าหน้ามองพ่อฝรั่งแวบหนึ่งแล้วก้มลงมองเป้าอีกพักหนึ่งก่อนยื่นสองมือไปจับเอวให้ไบรอั้นเขยิบมาตรงหน้าตัวเองและดึงขอบกางเกงว่ายน้ำลงไปไว้ไต้พวงแคร็อทสองลูก มือขวาจับตัวแคร็อทไว้และก้มลงใช้ปากกับลิ้นให้อย่างอ่อนโยน ฝรั่งตัวโตยืนเท้าเอวนิ่งให้อีกฝ่ายใช้ปากได้ตามใจชอบ เขาหลับตาลงและผ่อนลมหายใจเบา ๆ กับความรู้สึกเสียวอ่อน ๆ ตรงบริเวณนั้น
   

“Hungry again, rabbit? (หิวอีกแล้วเหรอกระต่าย)” ไบรอั้นถามเสียงทุ้ม ยกมือขวาขึ้นลูบหัวไอติมช้า ๆ ลูกชายของเขาแข็งตัวล้นปากเด็กลามก ไอติมเลียจนรู้สึกว่าชุ่มและแข็งเต็มที่ก็ยกหัวออก เงยหน้าขึ้นยิ้มให้ไบรอั้น ฝรั่งยิ้มอ่อนพร้อมกับยักคิ้ว ไอติมจัดการเก็บแคร็อทที่แข็งโด่เต็มที่เข้าไปในกางเกงว่ายน้ำ จัดให้พาดเอียงไปทางขวา เป้ากางเกงว่ายน้ำสีขาวด้านตุงแน่น และขอบก็เก็บไม่หมด ส่วนหัวสีชมพูและช่วงกลางลำโผล่พ้นขอบออกมา ไอติมยิ้มแฉ่ง มือซ้ายลูบความนูนยาวอย่างเพลินมือ
   

“Very good.” ไอติมลุกเดินกลับไปหยิบมือถือจากโต๊ะมาถ่ายรูปไบรอั้น นายแบบให้ความร่วมมือด้วยการยกแขนสองข้างขึ้นในท่าเบ่งกล้าม ไอติมหัวเราะและกดถ่ายไปหลายรูปและหลายมุมของร่างกายล่ำบึ้กเนื้อเนียน และปิดท้ายด้วยการเข้าไปยืนกอดไบรอั้นทางด้านขวาและพยายามยกกล้องขึ้นเซล์ฟฟี่คู่กัน แต่ด้วยความแขนสั้นเลยทำให้ไม่ได้มุมที่ถูกใจสักที
   

“Let me do that. (เดี๋ยวฉันถ่ายให้)” ไบรอั้นใช้มือซ้ายดึงมือถือยื่นออกไปและหันหน้าจอเข้าหาเขาสองคน แขนขวาลดลงโอบเอวของไอติม พอถ่ายไปได้หนึ่งรูปก็เห็นว่าภาพมันดูไม่ค่อยสว่าง เลยพากันขยับเดินไปตรงประตูห้องเพื่อรับแสง
   

“You won’t let him take a break, huh? (จะไม่ให้มันพักเลยใช่มั้ย ฮึ)”


“อิๆ” ไอติมไม่รู้หรอกว่าไบรอั้นพูดว่าอะไรแต่ขำเพราะหน้าตาแกล้งทำดุของคนหัวทองที่ทำใส่เพราะเขาใช้มือลูบตรงนั้นไม่หยุดเพื่อให้มันแข็งต่อเนื่อง แชะภาพคู่กันไปอีกสามสี่ภาพในมุมเห็นครึ่งตัว และได้ภาพที่ไอติมกำลังดูดหัวนมไบรอั้นไปหนึ่งรูป กระต่ายตัวจ้อยก็แหงนหน้าขึ้นทำปากจูบหาฝรั่งตัวโต


“No.” ไบรอั้นว่าหน้านิ่งและส่ายหัว แขนซ้ายลดลงข้างตัว ไอติมทำปากจู๋พร้อมกับทำหน้าอ้อน


“Yes, please, yes.” ไบรอั้นส่ายหัวหน้านิ่งอีกที ไอติมยกแขนขวาขึ้นเกี่ยวคอไบรอั้น ดึงหน้าใบหน้าหล่อแต่ไม่ใช่หล่อเทพลงมาใกล้หน้าตัวเองแล้วจุ๊บปากสีแดงอ่อน ไบรอั้นกดริมฝีปากจูบตอบและยกแขนซ้ายขึ้นกดรูปไปแบบที่ไม่รู้ถ่ายตรงรึเปล่า


“เอาเลย จัดเลย!” เสียงทุ้มดังมาจากระเบียงหน้าห้องที่มีสระน้ำอยู่ ไบรอั้นถอนจูบออกจากปากไอติมแล้วหันไปมองเลโอที่มองเขาด้วยความหมั่นไส้ ไบรอั้นหัวเราะเบา ๆ ไอติมยิ้มแย้มแบบที่ไม่รู้หรอกว่าใครอะไรยังไง แต่ก็ยิ้ม


“ฉันกับไอศกรีมจะพายเรือคายัค แกไปด้วยมั้ย” เลโอยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มและส่ายหัว


“ฉันกำลังได้ที่ แกไปเถอะ” ไบรอั้นพยักหน้า วางโทรศัพท์ไว้ข้างแม็คบุ๊กของไอติม หันไปพยักหน้าให้กระต่าย ไอติมก้มลงหยิบกล้องโกโปรที่น้าแพนซื้อให้ติดมือมาด้วย มือซ้ายถือตรงด้ามจับและเดินตามไบรอั้นออกไปจากบริเวณห้องนอน เดินผ่านเลโอที่นอนแช่น้ำสระและดื่มไวน์ชมวิวทะเลยามบ่ายแก่ ๆ ที่ท้องฟ้าโปร่งใสกว่าอีกสองเกาะที่ผ่านมา หนุ่มคิงคองมองไอติมแล้วคลี่ยิ้ม ไอติมยิ้มตอบในขณะที่เดินตามไบรอั้นไปตรงโขดหินที่ลาดชันลงไปในทะเล มีเรือคายัคจอดอยู่บนพื้นหินที่มีลักษณะเทลาด


“You go to the front. (นายไปข้างหน้า)” ไบรอั้นชี้บอกไอติมในขณะที่ดันเรือลงไปในทะเลครึ่งลำ ไอติมเดินไปนั่งด้านหน้าตามสัญญาณมือที่ชี้มา


สองหนุ่มพายเรือคายัคที่มีให้เฉพาะห้องพักแบบที่ทางรีสอร์ทกำหนดมา ที่พักที่สุดท้ายสำหรับทริปครั้งนี้ถือเป็นที่พักที่ราคาแรงที่สุดที่สามหนุ่มจ่าย แต่เพราะมากันสามคนเลยไม่ได้รู้สึกว่าแพงหูฉีกหรืออวัยวะส่วนไหนจะฉีก แล้วบรรยากาศที่ได้รับกลับมาถือว่าคุ้มค่า เพราะตัวรีสอร์ทตั้งอยู่บนแนวเชิงเขา และทางเจ้าของก็ใช้กลยุทธ์ในการสร้างรีสอร์ทด้วยการสร้างแทรกไว้ในโขดหินที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติแบบที่ไม่ได้ทำลายทิ้งไป ทำให้รีสอร์ทดูเป็นหนึ่งเดียวกับภูเขาก้อนนี้ ยิ่งอยู่ติดกับทะเลสีฟ้าเขียวใสสะอาดยิ่งทำให้บรรยากาศยิ่งดี


ไบรอั้นพาไอติมพายเรือชมวิวฝั่งห้องพักของพวกเขา ไม่ได้พายไปฝั่งตรงร้านอาหารเพราะเมื่อวานนี้เดินไปดูวิวฝั่งนั้นแล้วตอนไปกินข้าวเย็น ไอติมบ่นเสียดายที่ไม่สามารถดึงกล้องออกมาถ่ายรูปบรรยากาศด้วยได้ เลยใช้กล้องโกโปรเก็บภาพแทน และสลับกับถ่ายวิดีโอเอาไว้


“Looking for the new beach to eat carrot, huh? (มองหาที่กินแคร็อทที่ใหม่อยู่เหรอ ฮึ?)” ไอติมที่กำลังมองวิวต้นไม้สีเขียวสดบนภูเขาอย่างเพลิน ๆ บิดหน้าไปมองไบรอั้นที่กำลังคุมไม้พายแบบงง ๆ หนุ่มหัวทองยิ้มขำกับหน้าตาหมางงของกระต่าย


“Carrot?” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ไบรอั้นหัวเราะเบา ๆ กับการจับคำของเด็กลามกที่จับได้แต่คำที่ตัวเองชอบ


พายวนจนดื่มด่ำวิวหนำใจก็พากันพายกลับไปทางห้องพัก ทั้งคู่ช่วยกันเอาเรือขึ้นไปจอดที่เดิมก่อนจะพากันเดินลงไปในทะเลบริเวณหน้าห้องพัก ไอติมกับไบรอั้นพากันลงไปยืนในทะเลโดยมีหินพื้นเทลาดขนาดใหญ่เป็นเหมือนกำแพงกั้นน้ำ ระดับน้ำสำหรับไอติมในจุดที่ยืนอยู่คือเลยอก ส่วนระดับของไบรอั้นก็คือตรงอกพอดี ไอติมฉีกยิ้มตื่นเต้นกับความใสของน้ำทะเลที่มองเห็นพื้นทราย ก้อนหินใต้น้ำ ปะการัง รวมทั้ง…


“You are truly a pervert rabbit. (นายนี่มันกระต่ายลามกตัวจริงเสียงจริง)” ไบรอั้นบ่นพึมพำเมื่อไอติมเขยิบเข้าไปใกล้และใช้มือล้วงเข้าไปในกางเกงว่ายน้ำ แหงนหน้าส่งยิ้มตาใสให้กับหนุ่มหัวทอง


“You เอ่อ ถอด เอ่อ pull swim pant underwater and I will shoot underwater” ไอติมใช้นิ้วมือขวาที่ถือด้ามจับกล้องโกโปรอยู่ชี้ลงไปในน้ำ ไบรอั้นมองตามและทำหน้าประหลาดใจครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า ไอติมยิ้มกริ่ม ปล่อยมือออกจากตรงที่จับอยู่ ยกมือซ้ายขึ้นบีบจมูก ปิดปากให้แน่นแล้วย่อตัวลงไปใต้น้ำ


ไอติมมองซ้ายขวาด้วยความตื่นเต้น เพราะสิ่งที่เห็นใต้น้ำนั้นชัดแจ๋ว โขดหินหลายไซซ์ใต้น้ำ บางจุดมีปะการังขึ้นแทรกตามซอก พื้นทรายละเอียดกับก้อนหินสีเข้มก้อนเล็กก้อนน้อย ปลาตัวเล็กตัวน้อยที่มีสีสันบนตัวว่ายไปมา ถึงจะมีไม่เยอะเท่ากับตอนไปดำน้ำที่เกาะนางยวนเมื่อวานนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นทีเด็ดเล็ก ๆ ของห้องพัก รวมทั้งเป้าตุงแน่นที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง ไอติมยกกล้องโกโปรถ่ายเป้ากางเกงว่ายน้ำของไบรอั้น และรอจังหวะให้ฝรั่งดึงกางเกงลง แต่รอจนกลั้นหายใจไม่ไหวก็ยังไม่เอาลง ไอติมเลยโผล่ขึ้นไปเหนือน้ำ


“เอ้า! pull สิ” ไอติมว่าลิ้นรัวจนรสชาติเค็มปะแล่มของน้ำทะเลไหลเข้าปาก มือซ้ายลูบหน้าเพื่อปัดน้ำออก พอปาดน้ำออกจากตาก็เปิดเปลือกตามอง ถึงได้เห็นว่าฝรั่งหัวทองกำลังยิ้มกว้างและหัวเราะแบบไม่มีเสียงอยู่


“What?” ไอติมถามเสียงแหวแต่ก็มีรอยยิ้ม ไบรอั้นส่ายหัวทั้งที่ยังยิ้มและชี้นิ้วลงไปใต้น้ำ ไอติมหายใจเข้าฮึบ ยกมือซ้ายบีบจมูกอีกครั้งแล้วก็มุดกลับลงไปใต้ทะเลตามเดิม


รออยู่สักพักฝรั่งตัวโตก็ดึงขอบกางเกงว่ายน้ำลงไปไว้ที่บริเวณต้นขา ไอติมกดบันทึกภาพนั้นไว้ได้ไม่นานก็โผล่หัวขึ้นเหนือน้ำเพื่อสูดอากาศหายใจก่อน แต่มือขวายังคงถือกล้องไว้ใต้น้ำตามเดิม ไอติมใช้มือซ้ายปาดไปตามใบหน้า พอรู้สึกว่าหยดน้ำแถวรอบดวงตาจางลงก็เปิดเปลือกตาขึ้น สิ่งที่เห็นคือหน้าอกนูนหนาแน่นของไบรอั้นแวบหนึ่งก่อนจะหลับตาตามเดิม ยกมือซ้ายขึ้นบีบจมูกและมุดลงไปใต้น้ำอีกครั้ง


แคร็อทของกระต่ายห้อยหัวสงบอยู่ใต้น้ำ สองมือของไบรอั้นดึงกางเกงว่ายน้ำลงไปถึงเข่าก่อนที่จะใช้วิธียกขาขึ้นสลับไปมาจนกางเกงหล่นไปกองที่ข้อเท้า มีทรายลอยฟุ้งขึ้นมาในน้ำด้วยจาง ๆ ตอนเท้าไบรอั้นย่ำลงโดนพื้น ไบรอั้นกำลังจะยกเท้าออกจากกางเกง ไอติมยื่นมือซ้ายไปดันขาด้านขวาของอีกฝ่ายไว้แล้วโผล่ขึ้นไปเหนือน้ำ


“Wait อย่าเพิ่ง ฟู่ๆๆ” ไอติมพูดทั้งที่ยังหลับตาและใช้มือซ้ายปาดหน้าไปมาพร้อมกับพ่นน้ำออกจากปาก ปรับลมหายใจอยู่ครู่สั้น ๆ ไอติมก็กลับไปใต้น้ำใหม่ ยื่นมือซ้ายไปแตะขาไบรอั้นเป็นสัญญาณ เจ้าของท่อนขาแข็งแรงยกขาขวาออกจากกางเกง ก่อนจะยกเท้าซ้ายขึ้นเกี่ยวกางว่ายน้ำขึ้นไปเหนือน้ำโดยที่ไอติมก็โผล่ตามขึ้นไปด้วย ไอติมลืมตาขึ้นหนึ่งข้างเพื่อจะได้ใช้กล้องจับภาพที่ไบรอั้นกำลังถือกางเกงว่ายน้ำโชว์กล้องและยิ้มหน้าทะเล้น ไอติมยิ้มกว้างตามและกระเถิบถอยหลังไปนิด ไบรอั้นแกล้งไอติมด้วยการสะบัดน้ำจากกางว่ายน้ำใส่ไอติม ร่างผอมบางหัวเราะและเอียงหน้าหลบ


“แกถอดกางเกงทำไมวะนั่น” ไบรอั้นหันไปมองเลโอที่ใส่กางเกงว่ายน้ำสีดำรัดติ้วยืนถือแก้วไวน์อยู่บนขอบหินลาดชันหน้าห้องพัก


“เด็กลามกให้ถอด” เด็กลามกที่ว่าหายลงไปใต้น้ำไปถ่ายลูกชายไบรอั้นใต้ท้องทะเลและกำลังใช้มือเล่นหยอกล้อกับมันอยู่


“ไอศกรีมทำอะไรอยู่น่ะ” เลโอมองหัวดำ ๆ ที่อยู่ใต้น้ำพลางยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม ไบรอั้นยักคิ้วแทนคำตอบ เลโอเบ้ปากใส่เพื่อนไปที ไบรอั้นหัวเราะ เลโอยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มและยืนมองวิวทะเลไปเรื่อย


ไอติมโผล่ขึ้นมาจากน้ำช้า ๆ มือขวาถือด้ามจับกล้องโกโปรไว้ ยกขึ้นถ่ายหุ่นของไบรอั้นและไล่ขึ้นไปบนใบหน้า แช่ภาพไว้ครู่หนึ่ง ไบรอั้นยิ้มมุมปาก ส่งอินเนอร์ความหล่อ ความเท่มาให้ไอติม ตากล้องตัวน้อยยิ้มกว้างและยกนิ้วโป้งซ้ายขึ้นเป็นการชม


“Okay?” ไบรอั้นถาม


ไอติมพยักหน้าและฉีกยิ้มกว้าง “อื้อ!”


ไบรอั้นพยักหน้า ยื่นกางเกงว่ายน้ำให้ไอติมก่อนจะพุ่งตัวออกไปว่ายน้ำ ไอติมหันไปมองทางหน้าห้องพักก็เห็นเลโอถอดกางเกงว่ายน้ำออกกองไว้บนพื้นและค่อย ๆ เดินลงจากโขดหินลงมาในทะเล คิงคองหนุ่มแวะเข้าหาไอติมและก้มลงจูบปากไอติมแผ่วเบา ไอติมยื่นปากจูบตอบ เลโอจับมือซ้ายไอติมไปจับตรงนั้นของตัวเอง ไอติมรูดรั้งเบา ๆ อยู่พักหนึ่ง พอเลโอถอนจูบออกและคลี่ยิ้มมุมปากให้ไอติมก็ปล่อยมือออก เลโอพุ่งตัวว่ายน้ำตามไบรอั้นไปที่ว่ายจนเกือบถึงกลางทะเลแล้ว ไอติมกัดริมฝีปากล่าง หัวใจเต้นวูบไหว มองสองฝรั่งว่ายน้ำแข่งกันอยู่พักหนึ่งก่อนจะหมุนตัวเดินกลับขึ้นไปบนห้องพัก

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 24-12-2018 19:36:17
V
v
v

ตกดึกหลังจากกินอาหารเย็นที่ร้านอาหารของรีสอร์ทอิ่มหนำแล้ว สามหนุ่มก็พากันกลับมาจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ด้วยกันที่ห้องพักเหมือนเคย มีทั้งเหล้า กับแกล้ม เสียงเพลง และการเล่นไพ่ king and slave ที่ไบรอั้นอธิบายให้ไอติมผู้ซึ่งไม่ยุ่งกับอบายมุข (ยกเว้นหมกหมุ่นกับเรื่องไบรอั้น) อยู่นานกว่าเจ้าตัวจ้อยจะเข้าใจว่าไพ่อันนี้มันเล่นยังไง ช่วงแรก ๆ เป็นการเล่นให้ไอติมเข้าใจก่อนว่า คนชนะมีสิทธิ์ออกคำสั่งกับคนแพ้อีกสองคนอย่างเด็ดขาด และคนแพ้ต้องทำตามคำสั่งอย่างจริงจังเพราะถือว่าเป็นทาสของคนชนะ ไอติมที่เล่นไปได้สักห้ารอบก็เก็ทเกมมากขึ้นและรู้สึกคึกคักไปกับอบายมุขอีกอย่างที่ได้ลอง


“We are going to take it seriously now, okay? (เราจะเล่นจริงจังกันขึ้นแล้ว โอเคมั้ย)” เลโอถามพลางสับไพ่ในมือฉับ ๆ ไอติมที่เข้าใจก็พยักหน้าหงึก ๆ ยกน้ำมะพร้าวในแก้วขึ้นดื่มอึก ๆ มองเลโอสับไพ่ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น พอ ๆ กับเสียงเพลงที่สนุกสนานชวนเต้นไม่แพ้กัน


“Don’t forget that who is the slave will take the king’s order fucking seriously. (อย่าลืมว่าคนที่เป็นทาสต้องรับคำสั่งจากพระราชาอย่างจริงจังนะโว้ย)” ไบรอั้นที่แก้มแดงอ่อน ๆ บอกเสียงคึกพลางหยิบขนมคบเขี้ยวเข้าปากและตามด้วยกระดกเบียร์ไปหลายอึก


“Aha! You said that! (อ้าว! แกพูดแล้วนะ)” เลโอหยิบขนมฮานามิเข้าปากในขณะที่เริ่มแจกไพ่ ไอติมหยิบขวดบีบช็อคโกแล็ตขึ้นมาบีบใส่แท่งขนมปังกรอบและเอาเข้าปาก สองหนุ่มดื่มกันมาตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงตอนนี้ ฉะนั้นไอติมจะแปลกใจมากถ้าสองคนนี้ไม่แสดงอาการเมาให้ได้เห็น สิ่งที่ไอติมชื่นชมสองหนุ่มยามเมาก็คือ ทั้งคู่ไม่ระรานใคร ไม่ส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวายรบกวนใคร ถือว่ายังคอแข็งสู้แอลกอฮอล์ได้ดี มีพูดจาหยอกล้อสนุกสนานมากกว่าปกติ ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นสิ่งดี เพราะทำให้บรรยากาศคึกครื้นขึ้น


“เอ้า! ใครมี 3 ดอกจิก วางเลย” เลโอบอกพลางหยิบฮานามิเข้าปากอีกหลายชิ้น ไอติมที่บีบช็อคโกแล็ตใส่ลิ้นกำลังมองไพ่บนหมอนบนตักโดยมีหมอนอีกใบตั้งเป็นกำแพงบดบังสายตาสองหนุ่ม


“ฉัน” ไบรอั้นสะอึกนิดหนึ่งพร้อมกับวางไพ่ 3 ดอกจิกลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เป็นเลโอที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับไบรอั้นวางตาม ไอติมมองไพ่ที่สองหนุ่มทิ้งและเลือกไพ่ออกมาวางตามบ้าง ไอติมยิ้มโล่งใจที่ตัวเองมีไพ่สู้อีกสองหนุ่มได้ เลโอหัวเราะคิกคักและทิ้งไพ่ต่อ ไบรอั้นที่หน้าแดงและแววตาเยิ้มมองไพ่ในมือตัวเองก่อนจะหยิบออกมาสามใบและวางลงบนกองไพ่แล้วหันไปมองไอติมที่นั่งบนเตียงคนเดียว


“I have! (ผมมี!)” ไอติมว่าเสียงเริงร่า มือซ้ายถือแท่งขนมปังกรอบที่บีบช็อคโกแล็ตราดไว้แล้ว มือขวาเลือกหยิบไพ่ออกมาทิ้ง เลโอเลือกไพ่อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบออกมาทิ้งสามใบ ไบรอั้นชะโงกหน้ามองบนกองไพ่แปบหนึ่งก่อนจะหยิบออกมาทิ้งอีกสองใบ ไอติมทิ้งตามสองใบและจับขนมเข้าปากพร้อมหันไปมองเลโอ คิงคองตัวบึ้กมีท่าทีลังเลอยู่สักพักก่อนจะเลือกหยิบไพ่ออกมาทิ้งสองใบ ไบรอั้นยิ้มกริ่มและทิ้งสามใบ ไอติมตาโต ก้มลงมองไพ่ของตัวเองก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างและหยิบไพ่ออกมาทิ้งสี่ใบรวด เล่นเอาสองหนุ่มร้องครางด้วยความตื่นเต้น พอวนกลับไปที่เลโออีกรอบ คราวนี้หนุ่มกรุงปรากส่ายหัวและหันมองเพื่อน ไบรอั้นเลือกไพ่อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะทิ้งไพ่ลงอีกสองใบ ในมือของเขาตอนนี้เหลือไพ่อยู่ราวหกใบ ไอติมหยิบไพ่ทิ้งอีกสามใบ เลโอทิ้งตามอีกสามใบ ไบรอั้นมองไพ่ตัวเองสักแปบแล้วก็สั่นหัว ไอติมชูสองแขนขึ้นและยิ้มกว้าง


“Yes!” ไอติมทิ้งไพ่ใบสุดท้ายลงบนกองไพ่ก่อนจะหัวเราะชอบอกชอบใจที่ตัวเองชนะ สองหนุ่มมองหน้ากันและอ้าปากหวอ ก่อนหันไปมองกระต่ายตัวจ้อยที่ดีดดิ้นตามจังหวะเพลงอยู่บนเตียง


“Okay, what do you want my king? (โอเคครับ ท่านต้องการอะไรครับพระราชา)” ไบรอั้นถามและยิ้มตาหวาน ไอติมหัวเราะคิก ๆ หยิบฮานามิจากอีกถุงเข้าปากและเคี้ยวด้วยท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่อง


“เลโอ, no shirt. ไบรอั้น no that, out, pull pull. (เลโอ ไม่เสื้อ ไบรอั้น ไม่อันนั้น ออก ดึง ดึง)” ไอติมชี้กางเกงขาสั้นสีดำของไบรอั้นและกดนิ้วชี้ลงไปเป็นการบอกให้ถอด ก่อนหันไปหาเลโอและทำท่าดึงเสื้อยืดออกจากตัว ไบรอั้นที่เข้าใจภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นไอติม หันไปอธิบายให้เลโอฟัง คิงคองตัวล่ำร้องอ๋อก่อนจะถอดเสื้อในขณะที่ไบรอั้นลุกขึ้นและถอดกางเกง


 “ฮะๆๆ กู๊ดๆๆ” ไอติมปรบมืออารมณ์ดี มองหุ่นล่ำหนาของเลโอและมองเป้าแน่น ๆ ของไบรอั้นผ่านกางเกงชั้นในชายสีขาว ไบรอั้นนั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิมและหันมองพระราชาของเกมนี้ที่ยิ้มตาหยีพร้อมกับยกนิ้วโป้งสองข้างขึ้นอย่างถูกอกถูกใจ


“ถ้าเกมต่อไปหมอนี่ชนะ ฉันโดนสั่งถอดกางเกงในแน่” ไบรอั้นว่ากับเพื่อนที่กำลังรวบไพ่ เลโอยิ้มกว้าง


“เสิร์ฟอาหารตาให้ไอศกรีมหน่อยน่า” ไบรอั้นยิ้มมุมปากแบบเมา ๆ หยิบขนมเลย์เข้าปากและยื่นมือซ้ายไปตีเข่าไอติมหนึ่งที ไอติมยื่นมือขวาตีกลับที่ต้นแขนซ้ายไบรอั้นแบบเบา ๆ แล้วก็จับมือหนุ่มหัวทองไว้ ไบรอั้นปล่อยให้อีกฝ่ายจับไว้โดยใช้มือขวาหยิบไพ่ขึ้นมาถือเพื่อดู


“ฉันมีสามดอกจิก” ไบรอั้นบอกและใช้ปากคีบไพ่ใบนั้นวางลงบนโต๊ะ ไอติมปล่อยมือไบรอั้นเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายหยิบไพ่ลำบาก และตัวเองจะได้ใช้สองมือดูไพ่ถนัด ๆ ด้วย พอคัดไพ่ที่จะทิ้งลงสู้ได้ ไอติมก็วางลงบนโต๊ะ เลโอหัวเสียนิดหน่อย แต่ก็หยิบไพ่ลงมาสองใบ ไอติมหัวเราะคิกคัก วนกลับไปที่ไบรอั้นอีกครั้ง หนุ่มหัวทองทิ้งไพ่ลงสามใบ ไอติมลงไปอีกสองใบ และคราวนี้เลโอฟาดกลับสี่ใบ เล่นวนอีกสักพักสุดท้ายเลโอก็เป็นฝ่ายชนะ


“วุฮู่ว!” เลโอชกมือขึ้นในอากาศหนึ่งที ไบรอั้นหยิบขนมเข้าปากและเคี้ยวแบบชิลๆ


“ว่ามาไอ้พระราชา” เลโอคิดแปบหนึ่งก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่ม


“แกถอดกางเกงในออก ส่วนไอศกรีม ถอดเสื้อแล้วมานั่งตักฉัน ถ้ารอบหน้าไอศกรีมชนะถึงไปได้” ไบรอั้นเบ้ปากใส่เพื่อน เลโอยักคิ้วและยิ้มเหนือกว่า ไบรอั้นหันไปอธิบายให้ไอติมฟังว่าต้องทำอะไร ไอติมประมวลผลครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าด้วยความเข้าใจแล้วถอดเสื้อออกจากตัว ไอติมลุกขึ้นคลานเข่าลงจากเตียงไปหาเลโอที่อ้าแขนรับด้วยความเต็มใจ ไอติมยิ้มขำพร้อมกับนั่งบนต้นขาขวาของฝรั่งคิงคอง สีผิวของทั้งสองคนตัดกันชัดเจน


“เนื้อนิ่มจริงๆ” เลโอลูบหลังไอติมเบา ๆ และจูบไหล่ไอติมไปที เจ้าของเนื้อนิ่มกัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้ม หันไปมองไบรอั้นที่หยิบขนมกินด้วยสีหน้าเคลิ้ม ด้านล่างเปลือยล่อนจ้อน แคร็อทอันเขื่องห้อยหัวสงบ ไอติมยิ้มให้ไบรอั้นในขณะที่เลโอเริ่มสับไพ่อีกครั้ง หนุ่มหัวทองมองหน้าไอติมนิ่งในขณะที่ปากก็เคี้ยวขนมไปด้วย


ไอติมยกแขนซ้ายคล้องคอเลโอเพื่อที่จะได้ชะโงกหน้าไปดูไพ่ด้านหลังเลโอเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็น แขนขวาของเลโอโอบหลังไอติมไว้ส่วนแขนซ้ายก็โอบปิดด้านหน้าพอดีเพราะต้องถือไพ่หลบไอติม ไบรอั้นขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมมันจะต้องทำให้ยุ่งยากและทุลักทุเลด้วย


“Ice-cream,” เลโอเรียกไอติมที่หน้าหายไปอยู่หลังหัวเลโอ เด็กลามกเลือกไพ่อยู่พักหนึ่งก่อนหันเอาไพ่มาวางโปะลงบนกอง ไบรอั้นหยิบไพ่ทิ้งไปสี่ใบและหยิบขนมเข้าปากอีกชิ้น


ไอติมดีดดิ้นอยู่บนตักของเลโอเพราะตื่นเต้นกับการเล่นไพ่และคอยหลบเลโอที่พยายามหอมแก้มไอติมอยู่ตลอดเวลา เด็กลามกหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ยกไพ่ยกมือปิดหน้าหนีเลโอที่หยอกล้อด้วยการจะหอมแก้มทาสตัวขาวของตัวเอง


“I’m win again! (ฉันชนะอีกแล้ว!)” ไบรอั้นบิดปากหน้าเซ็ง ทิ้งไพ่ในมือลงบนกองดังตุบ เลโอหัวเราะชอบใจและหันไปพูดเสียงเบากับไอติม หนุ่มเอเชียมู่หน้าและวางไพ่ลงบนกองในขณะที่มือซ้ายของเลโอก็รวบไพ่เข้าด้วยกัน


“You take the pants off and still be here, and you take off your shirt. (นายถอดกางเกงออก และยังนั่งอยู่นี่ ส่วนแกถอดเสื้อ)” เลโอออกคำสั่งกับทั้งสองคน ไบรอั้นถอดเสื้อออกแล้วโยนใส่หน้าเลโอ แต่เลโอก็ทำเพียงยกมือดึงเสื้อของเพื่อนออกจากหน้า ไอติมถามเลโอเพื่อขยายความอีกรอบนึงก่อนจะเข้าใจ ลุกขึ้นยืนถอดกางเกงออกจากขา และด้วยความที่ไม่ได้ใส่กางเกงชั้นในเลยทำให้ไอติมตัวล่อนจ้อนไปพร้อมกับไบรอั้น


เลโอแจกไพ่อีกรอบ ทั้งสามเริ่มต้นเล่นรอบใหม่ ตอนแรกไอติมทำท่าเหมือนจะชนะ แต่ไบรอั้นที่นั่งเงียบ ๆ กลับกินเรียบไปแบบชิล ๆ ไบรอั้นยกเบียร์ขึ้นดื่มหมดแก้วเป็นการฉลองและออกคำสั่งให้ไอติมกลับไปนั่งที่เดิม ส่วนเลโอโดนสั่งให้อมนิ้วเท้าตัวเอง


“เฮ้ย?! อะไรวะ คำสั่งไอศกรีมโคตรง่าย ของฉันทำไมยากจัง” ไบรอั้นหน้ามึนและตอบแบบชิลๆ


“ยากตรงไหน แค่อมนิ้วเท้า ยกขึ้นมาแล้วก็อมสิวะ ทาสต้องรับคำสั่งจากพระราชาจริงจัง!” ไบรอั้นยักคิ้วสองทีและหยิบขนมถั่วลันเตาเข้าปาก ไอติมที่นั่งตัวเปลือยอยู่บนเตียงมองเลโอด้วยรอยยิ้มแบบงง ๆ เพราะยังไม่เข้าใจว่าไบรอั้นสั่งให้อีกฝ่ายทำอะไร แต่เห็นหน้ามุ่ย ๆ ของพ่อคิงคองก็คิดว่าคงเป็นคำสั่งที่ไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่


เลโอฮึดฮัดอยู่สักพักก่อนจะยกเท้าขวาขึ้นมาแล้วก้มลงใช้ปากอมนิ้วโป้งขวาเอาไว้ ไบรอั้นหัวเราะเสียงดังแข่งกับเสียงเพลง ไอติมอ้าปากหวอด้วยความตะลึง แต่พักเดียวก็หัวเราะตามไบรอั้น เลโอยกหน้าขึ้นและวางเท้าลงบนพื้น เขายกน้ำเปล่าขึ้นกรอกใส่ปากและกลั้วสักพักก่อนบ้วนน้ำในปากใส่ถุงขยะ เลโอแยกเขี้ยวใส่ไบรอั้น มองด้วยความเคียดแค้นแบบไม่จริงจัง


“เอ้า แกสับไพ่สิ” ไบรอั้นรวบไพ่เป็นกองเดียวกันแล้วก็เริ่มสับไปหลายที จัดการแจกไพ่ให้ตัวเอง ไล่ไปทางติมและเลโอ พอแจกไพ่จนครบก็เริ่มเล่นตาใหม่ ไอติมรู้สึกสนุกขึ้นเรื่อย ๆ เพราะตื่นเต้นว่าคำสั่งแต่ละอันจะเป็นอะไร ยิ่งถ้าเป็นตัวเองชนะ จะสั่งอะไรดี การมีอำนาจเหนืออีกสองหนุ่มและสั่งนั่นสั่งนี่ได้ มันทำให้ไอติมรู้สึกเร้าใจ และสำหรับรอบนี้ ไอติมก็คว้าอำนาจนั้นกลับมาไว้ในมือได้อีกครั้ง


“เย้!” ไอติมชูสองแขนขึ้นและยกตัวขึ้นลงแบบไม่อายที่ตัวเปลือยอยู่


“What do you say a pervert-king? (ว่าไงล่ะราชาลามก)” ไบรอั้นถาม ในหัวรู้แหละว่าคำสั่งไอติมต้องเป็นเรื่องลามก ๆ ไม่มีเรื่องปกติหรอก


ไอติมหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอแล้วก็จัดการเข้าแอพฯ ดิคชันนารีเพื่อหาคำที่ตัวเองจะใช้ พอได้แล้วก็เงยหน้าขึ้นบอกสองหนุ่ม “เอ่อ you two must make your dick hard in one minute, (คุณสองต้องทำให้จู๋ของคุณแข็งในหนึ่งนาที)”


“What?!” เลโออ้าปากหวอและขมวดคิ้ว แต่พักเดียวก็เปลี่ยนเป็นขำ ไบรอั้นทำหน้าระอาแต่ทว่าริมฝีปากก็ขยับเป็นรอยยิ้มขำเช่นกัน


“If who (ถ้าใคร) เอ่อ… ” ไอติมก้มลงมองคำศัพท์บนหน้าจอก่อนจะว่าต่อ


“…if who lose I will… (ถ้าใครแพ้ผมจะ)” ไอติมกดคำศัพท์ที่ต้องการ พอเจอก็พูดต่อ


“…I will hit your ball. (ผมจะตีไข่คุณ)” สองหนุ่มหัวเราะก๊ากทันทีที่ไอติมว่าจบ แต่ความรู้สึกในการหัวเราะนั้นต่างกัน เลโอหัวเราะเพราะตลก ส่วนไบรอั้นหัวเราะเพราะ กูว่าแล้วว่าต้องเป็นอะไรที่เด็กนี่ชอบ


“อิๆๆ do it do it I will touch time นะ” ไอติมพยายามจะบอกว่าเดี๋ยวจะจับเวลา เขาชูโทรศัพท์ขึ้นโชว์หน้าจอที่เปิดให้เห็นตัวเลขพร้อมจับเวลา เลโอดึงกางเกงขาสั้นกับชั้นในลง ส่วนไบรอั้นล่อนจ้อนอยู่แล้วเลยไม่ต้องถอดอะไร


“Ready?” ไอติมถามสองหนุ่มที่ยังมีรอยยิ้มตลกขบขันอยู่บนใบหน้า ไบรอั้นพยักหน้าพลางยกแก้วขึ้นดื่ม ไอติมหันไปมองเลโอที่ควักส่วนนั้นออกมาและพยักหน้าตอบรับ ไอติมยิ้มกว้าง นิ้วชี้จ่อตรงปุ่มบนหน้าจอ


“Go!” ไอติมจิ้มนิ้วลงบนหน้าจอ ตัวเลขเริ่มวิ่งเร็วจี๋ สองหนุ่มนั่งเงียบ แต่สีหน้ายังคงตลกขบขันและพยายามกลั้นขำกันอยู่ ไอติมมองสลับทั้งสองคน ไม่มีวี่แววว่าใครสักคนจะตั้งโด่ขึ้นมา ไอติมนั่งหัวเราะไหล่สั่นอยู่บนเตียง เวลาเดินเกินไปครึ่งทาง ความเป็นชายของสองหนุ่มก็ยังคงนิ่งสงบ สิ่งที่ไม่สงบคืออาการขำของสองคนนั้นนั่นแหละ


“10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 หมดเวลา!” ไอติมกดหยุดเวลา สองหนุ่มที่พยายามกลั้นขำมานานเพื่อต้องการบิลด์อารมณ์ก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง เพราะในช่วงหนึ่งนาทีนั้น มันไม่มีภาพความเซ็กซี่ใด ๆ ที่ทำให้เกิดอารมณ์เลยสักนิด มีแต่ความพยายามกลั้นขำล้วนๆ


“แพ้สองคนเลยยย you two lose I will hit you ball two!” ไอติมยักไหล่ซ้ายไหล่ขวาอย่างเริงร่า หน้าตาแช่มชื่นที่จะได้ตีไข่ผู้ชายถึงสี่ลูกด้วยกัน


เลโอยืนขึ้นทั้งที่ยังคงขำอยู่เนือง ๆ เขาดึงกางเกงลงอีกนิด ก้าวเท้าไปยืนตรงหน้าไอติม ดันส่วนแท่งเนื้อขึ้นไปนาบกับช่วงท้องน้อย ไอติมยิ้มคิกคัก ยกมือขวาขึ้นและทำท่าจะตี เลโอเด้งตัวหนีไปด้านหลังด้วยความเสียวและตื่นเต้น ไอติมหัวเราะตาหยี ไบรอั้นนั่งขำไหล่สั่นอยู่บนเก้าอี้ มองด้วยความลุ้นแทนเพื่อนว่าจะโดนตีตอนไหนแล้วอาการจะเป็นยังไง


“Please be soft, okay, oh!!!” เลโอกำลังพยายามบอกไอติมว่าอย่าตีแรง แต่ในจังหวะที่เขากำลังตั้งสติอยู่กับการพูดทั้งที่มึนเมา ไอติมก็ดันมือซ้ายขึ้นจากด้านล่างตีเข้ากับไข่สองใบของเขา ดีที่ว่าไอติมตีเหมือนแตะดังแปะเลยไม่ได้เจ็บมาก แต่ก็มีจี๊ดนิดหน่อย เลโอรู้สึกโล่งอก ถึงกับพ่นลมหายใจออกมา ไอติมหัวเราะเสียงดัง ไบรอั้นขำแต่ก็หยิบขนมเข้าปากไม่หยุด ไอติมหันไปหาไบรอั้นหลังจากเลโอกลับไปนั่งที่เดิมแล้ว


“You, come come” ไอติมกวักมือเรียกไบรอั้น หนุ่มหัวทองยัดฮานามิเข้าปากแล้วยืนขึ้น กระเถิบเท้าเข้าไปหาไอติม เด็กลามกมือไวจัดการใช้มือซ้ายดันแคร็อทขึ้น และทำท่าจะตี แต่ไบรอั้นก็ยืนนิ่งไม่เด้งหนีเหมือนเลโอ พอไอติมเงยหน้าขึ้นมอง ไบรอั้นก็ทำหน้าชิล ๆ และไหวไหล่ด้วยท่าทีสบายๆ


“Hit him hard ice-cream. (ตีมันแรง ๆ เลยไอศกรีม)” ไบรอั้นทำลอยหน้าลอยตาท้าทาย จังหวะนั้นไอติมก็ใช้มือฟาดไข่สองใบขนาดพอเหมาะเต็มแรง


“Fuck!” แก้มไบรอั้นอูมขึ้นนิด คิ้วขมวดแน่น หน้าตาบ่งบอกว่าจุกและเจ็บ ไอติมหัวเราะอ้าปากกว้าง เลโอปรบมือและส่งเสียงร้องวู้ว ๆ ชอบใจที่เห็นไอ้เพื่อนคนเก่งแสดงอาการเจ็บ


“Don’t you love your carrot?! (นายไม่รักแคร็อทตัวเองรึไงน่ะฮะ)” ไบรอั้นกัดฟันแน่น หน้าตาเหยเกเล็ก ๆ ถอยหลังกลับไปนั่งบนเก้าอี้ตามเดิม ดีที่ว่าเด็กลามกไม่ได้ฟาดโดนไอ้ลูกกลม ๆ นั้นแบบตรงจุด แต่ก็จุกอยู่ดี เขาถลึงตาใส่ไอ้เด็กมือไวด้วยความโมโหเล็ก ๆ ที่เล่นฟาดเข้ามาอย่างกับกะให้ไข่เขาแตก


“If I win next time I will command you to bite your balls. (ถ้าฉันชนะรอบหน้า ฉันจะสั่งให้นายกัดไข่ตัวเอง)” ไอติมฟังไม่ออก แต่ก็หัวเราะไว้ก่อน


รอบต่อไปเริ่มขึ้นด้วยความลุ้นระทึกยิ่งกว่าเดิม เพราะคำสั่งมันเริ่มแสดงให้เห็นถึงความแปลกและประหลาด เป็นความน่าตื่นเต้นอย่างหนึ่งที่ทั้งสามคนต่างต้องการเอาชนะกันและกัน


“I won!” เลโอประกาศชัยชนะด้วยการชูสองแขนขึ้นสุด ไบรอั้นทิ้งไพ่ด้วยความหัวเสีย ไอติมทำหน้ามู่นิดหน่อย เลโอหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดเปิดและเข้าไปที่กล้อง ยกหน้ากล้องโทรศัพท์ไปทางเพื่อนตัวเองที่หน้าแดงก่ำและตาเยิ้ม แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นตาที่จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่


“ฉันขอสั่งให้แกอมให้ไอศกรีมห้านาที” ไบรอั้นย่นคิ้วนิดหน่อย


“แกว่าไงนะ?”


“แกได้ยินแล้วนี่ โม้คจู๋ให้ไอติมห้านาที” เลโอทำหน้าประมาณว่า งงอะไรของมึง และหันไปอธิบายให้ไอติมฟังว่าเขาเพิ่งสั่งอะไรไบรอั้นไป ไอติมอ้าปากหวอ ทั้งไม่แน่ใจว่าใช่อย่างที่ตัวเองคิดมั้ย และรู้สึกทึ่งกับคำสั่งของเลโอ


“I will suck your dick like you suck my dick, okay? (ฉันจะอมของนายเหมือนที่นายอมของฉัน โอเค๊?)” ไอติมกะพริบตามองไบรอั้นปริบ ๆ สักพักก่อนที่ริมฝีปากจะคลี่ยิ้มเขิน


“Really? (จริงเหรอ)” ไอติมถามด้วยความไม่แน่ใจ ไบรอั้นหันไปมองเลโอตาปรือ อีกฝ่ายยังคงถือโทรศัพท์ถ่ายคลิปเขาไว้อยู่


“He’s the king. (มันเป็นพระราชานี่)” ไอติมหันไปมองเลโอและยิ้มกว้าง


“Thank you!” ไอติมยิ้มระริกระรี้ เลโอขยิบตาให้ไอติมและยกนิ้วโป้งข้างขวาให้ ไอติมกระเถิบตัวไปนั่งห้อยขาตรงขอบเตียง ไบรอั้นลุกมานั่งคุกเข่าตรงหว่างขาของไอติม เงยหน้าขึ้นมองดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่เปล่งประกายแรงกล้า ไอติมยกมือขวาขึ้นกำผมสีทองของไบรอั้นเต็มมือแต่ไม่ถึงกับจิก ไบรอั้นใช้มือขวาจับน้องชายไอติมไว้แล้วก้มลงใช้ลิ้นเลีย


“Wow, does he is your first cock to suck? (ว้าว ไอศกรีมเป็นจู๋แรกรึเปล่านะที่แกอมน่ะ)” ไบรอั้นที่เลียให้ไอติมจนเริ่มแข็งตัวหันไปมองเลโอผ่านจอกล้อง


“Shut up. (หุบปาก)” ไบรอั้นตอบเสียงทุ้มห้วน เลโอหัวเราะ ไบรอั้นหันกลับไปอมไอติมแท่งที่แข็งตัวเต็มที่แล้วต่อ ไอติมเริ่มจิกหัวเขาหนักขึ้น


“อ้า…” เสียงครางใส ๆ ดังเบาหวิว ไอติมอ้าปากผ่อนลมหายใจออกมาเป็นระยะ ความรู้สึกตรงนั้นมันเสียว มันคับแน่นอยู่ในปากอุ่นร้อนของไบรอั้น ยิ่งเวลาที่อีกฝ่ายดูดตรงส่วนหัว ไอติมก็เผลอร้องเสียงหลงและรู้สึกขนลุกวาบไปทั้งตัว


“Okay, stop. It’s already five minutes. (เอาล่ะ หยุด มันห้านาทีแล้ว)” เลโอบอก ไบรอั้นเลียหัวสีชมพูทิ้งทายหนึ่งทีและเงยหน้าขึ้นมองไอติมที่กัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้ม มือขวาขยุ้มผมเขาเบา ๆ ไอติมมองไบรอั้นด้วยดวงตาสุกใส อมยิ้มกรุ้มกริ่ม ไบรอั้นยักคิ้วให้หนึ่งที ไอติมเลื่อนตัวลงไปนั่งคร่อมตักไบรอั้น สองแขนคล้องคอและหอมแก้มแดงก่ำเพราะแอลกอฮอล์ไปหนึ่งฟอด ไบรอั้นยกมือซ้ายวางบนบั้นท้ายไอติม มือขวาค้ำร่างตัวเองบนพื้นไม้ สองขางอเข่าขึ้นเล็กน้อย


“You look like it, huh? (ดูท่าทางจะชอบนะ ฮึ)” ไอติมคลี่ยิ้ม เอียงหน้าเอาแก้มตัวเองแนบกับไบรอั้น หันหน้าไปทางเลโอที่ยังส่องโทรศัพท์มาทางนี้อยู่ ไอติมเลื่อนสายตามองตรงกลางลำตัวของเลโอก็เห็นว่าตรงนั้นของเขาแข็งตัวแล้ว


“เอ้า แกแจกไพ่ต่อสิ” เลโอหยุดกดถ่ายวิดีโอ วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ


“แน่ใจเหรอว่าจะเล่นต่อน่ะ” เลโอยิ้มขำ แต่สองมือก็รวบไพ่เข้าด้วยกัน ได้ยินไอ้ไบรอั้นบอกให้ไอติมกลับขึ้นไปนั่งบนเตียงตามเดิม ไอติมกลับขึ้นไปนั่งด้านบนเตียงอย่างว่าง่าย ส่วนไบรอั้นก็ดันตัวลุกขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตามเดิม ตรงกลางลำตัวขยายตัวแข็งขึ้นแบบอ่อนๆ


สามหนุ่มกลับมาเล่นเกมกันต่อด้วยบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความวาบหวิว ไอติมเอาแต่มองตรงนั้นของสองหนุ่มจนสติไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ ยิ่งเลโอถอดกางเกงออกหมดจนเปลือยล่อนจ้อน ก็ยิ่งง่ายต่อการมองเห็นแบบที่เห็นของไบรอั้น


“I won again! (ฉันชนะอีกแล้ว!)” เลโอประกาศก้อง ไบรอั้นทิ้งไพ่ลงบนโต๊ะอย่างหัวเสียพร้อมกับกระแทกเสียงลั่น


“What the fuck?! (เหี้ยอะไรวะเนี่ย?!)” ไอติมหน้ามู่ เพราะตัวเองเกือบจะเป็นคนชนะอยู่แล้ว แต่โดนเลโอปาดหน้าไปซะดื้อๆ


“Alright, I would like to command ice-cream to suck my dick and you lick his hole. (เอาล่ะ ฉันจะขอสั่งให้ไอศกรีมมาอมให้ฉัน ส่วนแกเลียรูก้นไอศกรีม)” ไบรอั้นขมวดคิ้วอ้าปากหวอแบบหน้าเมาๆ


“Dick head! (ไอ้หัวคxx!)” เลโอทำลอยหน้าลอยตา ไอติมมองเลโอแบบงง ๆ คิงคองหนุ่มอธิบายอีกทีและชี้มือที่ความเป็นชายของตัวเองที่แข็งตั้งตรง ตามด้วยทำท่าอมให้ไอติมดูก่อนจะลุกเดินไปนั่งบนหัวเตียง หนุ่มเอเชียร้องอ๋อเบา ๆ หันไปมองไบรอั้นที่ลุกมานั่งข้างกัน


“Go, suck his cock. (ไปสิ อมของมัน)” ไอติมหันไปมองเลโอที่กวักมือขวาเรียกให้เขาเข้าไปหา

V
v
v



หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 24-12-2018 19:37:11
V
v
v

“I’m the king now. (ฉันเป็นพระราชานะตอนนี้)” ไอติมนิ่งอีกแปบหนึ่งถึงคลานเข่าเข้าไปนั่งตรงหน้าเลโอที่ใช้มือขวาดันสิ่งนั้นให้ตั้งตัวตรง ไอติมก้มลงดูดส่วนหัวสีเนื้อเข้ม เลโอพ่นลมหายใจยาว ๆ อย่างรู้สึกดี ไอติมผงกหัวขึ้นลงช้า ๆ ด้วยความยังไม่คุ้นเคยกับแก่นกายอันนี้มากนัก


“Good job, slave. (ดีมาก ทาส)” ไอติมเริ่มลงลึกขึ้นและในขณะที่กำลังเพลิน ๆ ไอติมก็รู้สึกว่ามีมือแหวกก้นเขาออกก่อนที่จะตามมาด้วยความรู้สึกเย็นอ่อน ๆ ตรงบริเวณรูสีน้ำตาลอ่อนของตัวเองจนต้องหยุดอมให้เลโอแล้วเหลียวหลังไปมอง


“ไบรอั้น” ไอติมมองไบรอั้นด้วยความตกใจนิด ๆ ที่เห็นอีกฝ่ายกำลังใช้ปลายลิ้นเลียกระดกขึ้นลงตรงกลีบเนื้อตรงนั้น หัวใจไอติมเต้นตุบ ๆ เกิดความรู้สึกขนลุกซู่วูบหนึ่ง กลีบเนื้อขมิบตามความเสียว หน้าท้องหดเกร็งอ่อน ๆ กับความเสียวอีกรูปแบบ


“อื้อ…” ไอติมครางพร้อมกับหลับตาลง ก่อนจะหันกลับไปอมให้เลโอต่อและแบะขาให้กว้างขึ้นเพื่อที่ไบรอั้นจะได้เลียได้สะดวก ไอติมอมให้เลโอจนแท่งเนื้อสีเข้มชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำลาย เช่นเดียวกับรูด้านหลังของไอติมที่เขารู้สึกว่ามันฉ่ำไปด้วยน้ำลายของไบรอั้น


“We should take a video. What do you say? (เราน่าจะถ่ายคลิปกันนะ นายว่าไง)” ไอติมหยุดใช้ปากให้เลโอและเงยหน้าขึ้นมองพ่อคิงคองแบบงง ๆ เลโอไม่รอให้ไอติมตอบ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดโหมดวิดีโอเพื่อถ่ายคลิป


ไบรอั้นขยี้จมูกลงบนกลีบเนื้อของไอติมที่ดูท่าจะทำความสะอาดมาอย่างดีจนไม่ได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ใด ๆ ไอติมเอื้อมแขนขวาไปจับหัวไบรอั้นและร้องครางเสียงแผ่ว หนุ่มหัวทองเด้งหน้าออกจากก้นของไอติมแล้วเดินลงจากเตียงไปหยิบขวดเจลหล่อลื่นมาจากกระเป๋า จัดการบีบใส่ลูกชายตัวเองและใช้มือซ้ายรูดจนมันลื่นมือก่อนจะบีบใส่ตรงรูของไอติมด้วย


“เฮ้ นี่มันเกินคำสั่งฉันนะ” ไบรอั้นโยนเจลหล่อลื่นไว้บนเตียง มองเลโอด้วยสายตารู้ทัน


“เดี๋ยวแกก็สั่งแบบนี้ฉันรู้ ถ้าแกชนะ” เลโอยิ้มกว้างขำขัน ยกโทรศัพท์ถ่ายไบรอั้นที่จับความเป็นชายของตัวเองยัดเข้าไปในก้นของไอติมช้า ๆ สักพักก่อนจะดันพรวดเข้าไปรวดเดียว


“อ๊า…” ไอติมครางเสียงสูงนิดหน่อย เปลือกตาหลับพริ้ม ใบหน้าเสียวซ่าน มือซ้ายชักให้เลโอเรื่อย ๆ ใบหน้าเหลียวไปมองไบรอั้นที่มองกลับมาด้วยสายตาเมา ๆ แต่มีความดุดันแฝงไว้ ไบรอั้นโน้มตัวเข้าไปหาไอติมแล้วก็จูบแลกลิ้นกันนัวเนียสักพักก่อนที่ไบรอั้นจะดันตัวออก เข่าขวายันพื้นเตียงไว้ ส่วนเข่าซ้ายยกขึ้นตั้งฉาก สองมือจับเอวไอติมแน่นและเริ่มกระแทกเสียงดังตับๆ


“Kiss me. (จูบฉันมั่งสิ)” เลโอบอก กล้องจับอยู่ที่หน้าเสียวของไอติม หนุ่มเอเชียยกหน้าขึ้นและอ้าปากแลบลิ้นรอ เลโอถือโทรศัพท์ไว้ในมือซ้าย หันหน้าจอเข้าหาตัวเองแล้วก็ก้มลงไปดูดลิ้นไอติมช้า ๆ แต่ทว่าดูดเน้น ๆ ไอติมตาปรือทั้งเพราะเสียวด้านหลังและวูบวาบกับรสจูบด้านหน้า เสียงเนื้อกระทบกันดังแข่งกับเสียงเพลงจากแม็คบุ๊กของไอติม มีเสียงดูดลิ้นดังตร่อกแตร่กเป็นระยะ


“อือ อา…” ไอติมปล่อยให้เลโอทั้งดูดทั้งเลียได้ตามใจ มือขวาไอติมลูบไล้หน้าอกนูนแน่น มือซ้ายชักขึ้นลงรัว ๆ ให้เลโอ


ตับ! ตับ! ตับ! ตับ!


“อู้ว อึ๊…” ไอติมย่นคิ้วด้วยความเสียววาบตรงท้องน้อย เขาดึงหน้าออกจากจูบของเลโอ ปล่อยมือซ้ายออกจากตรงนั้นและดันตัวขึ้นตรงทั้งที่ไบรอั้นยังคงกระแทกอย่างต่อเนื้อง ไอติมยกแขนขวาขึ้นคล้องคอไบรอั้นแล้วบิดหน้าไปด้านขวา ไบรอั้นก้มลงประกบปากไอติมแนบแน่นและกวาดลิ้นไปทั่วโพรงปากของไอติม ร่างผอมบางร้องอื้ออ้าเสียงสั่น ไอติมแท่งชี้ตรงแข็งปักและเด้งไปตามจังหวะกระแทก ไบรอั้นเลื่อนมือซ้ายไปจับกลางลำตัวของไอติมและชักให้ช้า ๆ มือขวาบีบสะไพกไอติม เลโอลุกขึ้นยืนเก็บภาพนั้น พอเดินเข้าไปตรงหน้าไอติมก็ใช้มือขวาจับคางไอติมให้หันมาจนปากสีแดงหลุดออกจากปากไบรอั้น


ไอติมหันหน้าไปตามแรงดึง เจอกับแท่งเนื้อสีเข้มอันใหญ่พุ่งตรงอยู่ตรงหน้าก็อ้าปากอมและผงกหัวเร็ว ๆ จนเลโอกัดฟันแน่นหน้าเหยเกเพราะความเสียว เขามองไอติมใช้ปากและลิ้นให้ผ่านหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังถ่ายคลิปอยู่แล้วคลี่ยิ้มพอใจ เลโอเงยหน้าขึ้นมองไบรอั้นที่สีหน้ากำลังเคลิ้มทั้งเพราะเมาและเพราะกำลังเอา ไบรอั้นยักคิ้วให้เลโอพร้อมกับสูดปากแผ่วเบา เลโอนั่งลง ไอติมก้มหน้าลงตามไปด้วย หนุ่มยุโรปหันไปหยิบหมอนมาวางใกล้ตัว และเอาโทรศัพท์วางพิงไว้จนได้มุมที่ต้องการ


เขาจับหน้าไอติมออกจากตรงส่วนกลางลำตัวและดึงให้ไอติมยืดตัวตรง ไอติมเอนหลังติดกับตัวไบรอั้น หนุ่มหัวทองเลื่อนสองมือขึ้นจับเอวไอติมแน่น เลโอเขยิบเข้าไปใกล้จนช่วงตัวของตัวเองชิดกับช่วงตัวของไอติม แก่นกายต่างไซซ์ที่แข็งปักทับซ้อนกัน เลโอซุกหน้าเข้ากับซอกคอด้านขวาของไอติมและไซ้อย่างอ่อนโยน ไอติมขนลุกซู่ไปทั้งตัว ร้องครางเสียงสั่น เปลือกตาหลับพริ้ม ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับริมฝีปากของเลโอที่ดูดเนื้อตรงช่วงคอ และแคร็อทอันใหญ่ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในก้นเขาอย่างอุ่นร้อน


“ไอศกรีมตัวหอมว่ะ” เลโอพึมพำขณะที่ดูดคอไอติมและสูดดมกลิ่นหอมที่ว่านั้นผ่านรูจมูก ไบรอั้นเลื่อนสองมือผ่านซี่โครงไอติมขึ้นไปที่หัวนมสีอ่อนแล้วใช้ปลายนิ้วลูบวนเบา ๆ ไอติมหายใจฮึฮะเสียงแผ่ว ตอนนี้ความเสียวรุมตีไปรอบตัวของไอติม กระต่ายตัวจ้อยรู้สึกเหมือนจะลอยได้


“อู…” ไอติมร้องครางตอนที่เลโอเลื่อนหน้าลงไปอมไอติมแท่งของตัวเอง ความรู้สึกไม่ต่างจากที่ไบรอั้นทำให้มากนัก แต่เลโอดูจะลิ้นอ่อนกว่าไบรอั้นหน่อยเพราะทำเอาไอติมรู้สึกจะละลายไปกับพื้น ถ้าไม่มีมือไบรอั้นจับหน้าอกเขาไว้และตัวเขาไม่ได้เอามือยันแผ่นหลังเลโอคงทรุดลงไปแล้ว


“อึ๊ อ๊ะ อ๊ะ…” ไอติมหลับตาแน่น ริมฝีปากเผยอขึ้น สีหน้าราวกับคนจะขาดใจ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเสียวไม่แพ้กัน ราวกับกำลังสู้กันว่าจุดไหนเสียวกว่า


“เฮ้ ฉันขอเอาไอศกรีมมั่งสิ” เลโอยืดตัวขึ้นแล้วบอกเพื่อนสนิท ไบรอั้นที่กำลังเด้าบั้นเอวค่อย ๆ ลดความเร็วลงแต่ก็ยังไม่ถึงกับหยุด


“งั้นแกไปใส่ถุงยาง” ไบรอั้นว่าพลางรับจูบของไอติมที่แหงนหน้าขึ้นมา เขาดูดลิ้นไอติมไปทีและก้มไซ้ตรงหลังคอของไอติมเบาๆ


“ฉันอยากซ้อนกับแกอะ…” ไบรอั้นเงยหน้าขึ้นจากคอไอติมและขมวดคิ้วมองเลโอ


“…ก่อนมานี่ฉันตรวจเลือดมาแล้ว ฉันปลอดภัยน่า” เรื่องนั้นน่ะไบรอั้นรู้ว่าเลโอมันพูดจริง พวกเขามักตรวจเลือดกันเป็นประจำอยู่แล้ว


“แต่เด็กนี่ไม่เคย”


“แล้วเขาก็จะเคยนี่ไง” ไบรอั้นหยุดกระแทกใส่ไอติม ค่อย ๆ ดึงลูกชายตัวเองออกจากรู ไอติมกัดริมฝีปากล่าง กลืนน้ำลายลงคอหนึ่งอึก หมุนตัวหันไปหาไบรอั้น ยกสองแขนคล้องคอหนุ่มหัวทองไว้และหอมแก้มแดง ๆ ไปหลายที ไบรอั้นปล่อยให้ไอติมทำไปโดยที่ตัวเองกำลังคิดอะไรบางอย่างก่อนพูดกับเพื่อน


“แกเอาคนเดียวก่อน ให้เด็กมันชินกับของแกหน่อย” เลโอยื่นปากและพยักหน้า เอื้อมไปหยิบขวดเจลหล่อลื่นมาบีบใส่แท่งเนื้อตัวเอง มือซ้ายยกจับเอวไอติมไว้ มือขวาจับแก่นกายและค่อย ๆ ดันเข้าไปในรูที่ไบรอั้นเปิดทางไว้ให้แล้ว เลยทำให้ไม่ติดขัด


“อา…” ไอติมแหงนหน้าขึ้นพร้อมกับหลับตาพริ้ม ไบรอั้นก้มลงไซ้คอไอติมแผ่วเบา เลโอก้มลงจูบแผ่นหลังเนียนสะอาดตาของไอติมโดยที่ยังไม่ขยับเพราะไอติมตอดรัดซะจนเขารู้สึกคับแน่น หน้าท้องลอนกล้ามหดเกร็งเป็นระยะยามที่โดนบีบรัด


“Ummm, easy babe. Oh, I can’t move. (อืมมม ใจเย็นที่รัก โอ้ ฉันขยับไม่ได้เลย)” ไบรอั้นจับกรอบหน้าของไอติมไว้เบา ๆ เอียงหน้าใช้ปลายลิ้นล้อกับลิ้นของไอติมจนหลายวูบที่ไอติมลืมไปว่าด้านหลังกำลังโดนเลโอจัดการอยู่ สองมือของไอติมลูบกล้ามท้องเนียนนุ่มของไบรอั้นขึ้นลงอย่างเพลิดเพลิน มือซ้ายเลื่อนลงไปจับแคร็อทของโปรด ชักเข้าชักออกไม่ช้าไม่เร็วเกินไป และแม้ว่ากลิ่นตัวของไบรอั้นจะคลุ้งไปด้วยเหล้าแต่ไอติมก็รู้สึกว่ามันยิ่งทำให้มัวเมาในกามอารมณ์


ปัก! “อ้า…”


ปัก! “อ้า…!” เลโอกัดฟันแน่นและคลี่ยิ้มถูกใจแว้บหนึ่งก่อนจะสูดปากซี๊ดเป็นเสียงลมยาว ๆ จากนั้นก็เริ่มเพิ่มจังหวะจากตอนแรกที่กระแทกทีละครั้งแบบเว้นระยะ ไอติมถอนจูบจากปากไบรอั้นและหลับตาพริ้ม เหลียวหน้าไปมองเลโอที่กำลังใช้สองมือลูบแผ่นหลังของเขาไปทั่ว สีหน้าของเลโอนั้นเหมือนคนกำลังได้เสพยาบางชนิดที่ทำให้รู้สึกเคลิ้มและหลอน ไอติมมองหุ่นล่ำสีช็อคโกแล็ตด้วยความรู้สึกเสียวท้องน้อย เลโอสบตากับเขาและคลี่ยิ้มหื่นกระหายก่อนจะโน้มตัวมาข้างหน้าและหอมแก้มไอติมไปที ไอติมมองหน้าเลโอด้วยสายตาเรียบนิ่งแต่ภายในอกนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์วาบหวิว เลโอใช้แขนคร่อมตัวไอติมไว้และขยับเอวใส่ไอติมเรื่อยๆ


“ไง สมใจแกแล้วสิ” เลโอเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนและคลี่ยิ้มกว้าง ไบรอั้นยิ้มมุมปาก นั่งลงแล้วอ้าขากว้าง แท่งเนื้อพุ่งตัวตั้งโด่ตรงหน้าไอติม กระต่ายตัวจ้อยก้มหน้าลงใช้ปากดูดเลีย มือซ้ายกำครึ่งล่างของแคร็อทแน่น มือขวาใช้ค้ำตัวเอาไว้ ไบรอั้นยกมือขวาขึ้นลูบหัวไอติมเบา ๆ ดวงตาสีเทามองไอติมใช้ลิ้นเลียส่วนหัวให้ตัวเองด้วยความหยาดเยิ้ม


“How do you feel? Good? You like it? (รู้สึกยังไง ดีมั้ย ชอบรึเปล่า)” ไอติมเลื่อนดวงตาขึ้นมองไบรอั้นทั้งที่ลิ้นยังเลียวนส่วนหัวสีชมพูอ่อนของแคร็อท ไบรอั้นยิ้มน้อย ๆ ไอติมขยับมุมปากสองข้างเป็นรอยยิ้มโดยที่ลิ้นยังคงตวัดไปมารัวๆ


เลโอหยุดกระแทกและบอกให้ไอติมนอนหงาย ไบรอั้นช่วยอธิบายอีกที ไอติมปล่อยปากปล่อยมือออกจากแก่นกายไบรอั้นและพลิกตัวหนอนหงายตามที่เลโอบอก เลโอจับขาไอติมแยกออกและแทงอาวุธตัวเองเข้าไปในรูที่กำลังเปิดอ้าอยู่ ยื่นมือขวาไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปไอติมที่นอนหงาย หัวหนุนอยู่บนต้นขาไบรอั้นและหันหน้าไปใช้ลิ้นเลียตรงกลางลำตัวให้เพื่อนเขา โดยที่ไอ้เพื่อนเขานั้นนั่งยกขาซ้ายขึ้นข้าง สองแขนวางไปด้านหลังเพื่อค้ำร่างตัวเอง


“Are you happy?” ไบรอั้นก้มหน้าลงถามไอติมที่ใช้ลิ้นเลียแก่นกายของเขาอยู่ ไอติมคลี่ยิ้มทั้งที่ลิ้นยังไม่หยุดขยับ


“Happy.” ไบรอั้นหัวเราะเบา ๆ และถามความรู้สึกไอติมว่าชอบอันไหนมากกว่ากันระหว่างของเขากับเลโอ ไอติมหัวเราะอิ๊อ๊ะ ก่อนจะย่นจมูกพร้อมกับส่ายหน้า


“I don’t know. (ผมไม่รู้)” ไอติมจะยิ้มต่อแต่ก็เปลี่ยนเป็นหน้าซี๊ดเพราะเสียว ไบรอั้นลดรอยยิ้มบนใบหน้าลง เกือบจะเป็นเรียบเฉย แต่มุมปากซ้ายก็ขยับเป็นรอยยิ้มเล็กๆ


เลโอกระแทกไปถ่ายคลิปไปด้วย ไบรอั้นเงยหน้าขึ้นแล้วชูนิ้วกลางใส่โทรศัพท์ตอนที่เลโอยกโทรศัพท์จ่อถ่ายเขาที่กำลังก้มหน้าคุยกับไอติมเสียงงุ้งงิ้งกันสองคน เลโอหัวเราะก่อนเอาโทรศัพท์ไปตั้งไว้ที่เดิม ก้มตัวลงชิดกับไอติมแล้วก็ออกแรงกระแทกเร็วขึ้นจนไอติมตัวสั่นสะเทือน


“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ…” ไอติมบิดหน้าจากแท่งแคร็อทไปมองเลโอ พ่อหนุ่มคิงคองพุ่งเข้าประกบปากไอติมและรัวลิ้นใส่ไอติมจนไอติมตั้งรับไม่ทัน ได้แต่ปล่อยให้เลโอกวาดลิ้นในโพรงปากและดูดลิ้นตัวเองจนน้ำลายเยิ้มก่อนจะดึงหน้าออกไปแล้วยกตัวขึ้น สองมือค้ำร่างใหญ่หนาไว้ บั้นเอวเลโอขยับถี่รัว เสียงเนื้อกระทบกันดังตับๆๆ


ไบรอั้นเอียงตัวอีกนิดเพื่อให้ไอติมดูดได้สะดวกมากขึ้น สักพักเขาก็เปลี่ยนเป็นนั่งคร่อมหน้าไอติมและดันแคร็อทเข้าไปในปากของร่างเล็กจนสุด ไอติมยกสองมือขึ้นดันหน้าอกไบรอั้นไว้ น้ำตาเอ่อคลอที่ขอบตา และในขณะที่ไอติมรู้สึกว่าจะหายใจไม่ออก ไบรอั้นก็ถอนแก่นกายออกจากปากเขา ไอติมไอแค่ก ๆ น้ำตาไหลออกทางหางตา เขากลืนน้ำลายลงคอรัว ๆ ไบรอั้นใช้มือซ้ายจับตรงนั้นจ่อปากไอติมอีกครั้ง พอไอติมอ้ารับก็ดันเข้าไปจนสุด


“อุก แอ่ก อ่อก…” ไอติมสำลัก สองมือดันหน้าอกไบรอั้น สองขายกเกร็ง แต่ก็โดนเลโอจับกดเอาไว้ ตอนที่ไอติมยกมือทุบอกดังปึ้ก ไบรอั้นถึงดึงแท่งเนื้อของตัวเองออกมา ไอติมน้ำตาไหลพราก น้ำลายเลอะรอบปาก หายใจหอบฮืดฮาด และมีอาการสำลักเล็กน้อย ไบรอั้นกดหน้าลงมองไอติมสีหน้าเรียบเฉย แต่เด็กลามกก็ยังคลี่ยิ้มตอบทั้งน้ำตา ไบรอั้นดันแก่นกายเข้าไปในปากไอติมอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ได้ปล่อยคาไว้ แต่ขยับเอวดันเข้าดึงออกอย่างช้า ๆ แต่ทว่าดันลงลึกจนไอติมร้องอึกอักและกลืนน้ำลายแทบไม่ทันจนน้ำลายไหลออกมาเปรอะแก้ม ไอติมแอ่นตัวขึ้นเพราะรู้สึกจะขาดใจ แต่พอเด้งตัวขึ้นเลโอก็ยิ่งกระแทกแรงกว่าเดิมจนไอติมไม่รู้จะบิดตัวไปทางไหนดี ข้างบนก็คับแน่น ข้างล่างก็โดนเสียดสีจนเสียว สองมือจิกลงบนเนื้อหน้าอกของไบรอั้นที่ดูแล้วคงไม่สะทกสะท้านเท่าไหร่


“อู! อู้!” ไอติมแอ่นตัวขึ้นอีกครั้ง ยกเท้าซ้ายขึ้นและกระแทกลงบนเตียงเป็นการประท้วง เลโอจับขาไอติมให้งอพับและกดบริเวณข้อพับเอาไว้แน่นจากนั้นก็ดันเอวเข้าหาไอติมหนักขึ้น


ปับ! ปับ! ปับ!


“อือออ!” น้ำตาไหลทะลักออกทางหางตาของไอติมอีกครั้ง


ไบรอั้นแหงนหน้าหลับตาพริ้ม ครางเสียงอื้ออ้าเบา ๆ เด้งสะโพกเข้าปากไอติมเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ตรงอกที่โดนไอติมข่วนนั้นมีอาการแสบ ๆ คัน ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเจ็บ เสียงซี๊ดเบา ๆ ดังเล็ดรอดออกจากปากเขาเป็นระยะ ไบรอั้นขมวดคิ้วเล็กน้อยตอนที่ความรู้สึกเสียวแล่นขึ้นมา เขาหยุดขยับเพื่อยังไม่ให้ตัวเองเสร็จ ตอนนั้นเองที่ไอติมได้พักหายใจทั้งที่แคร็อทอันเขื่องยังคาปากอยู่ ไอติมสูดลมหายใจเข้าทางจมูกเยอะ ๆ สองมือทิ้งลงเหนือหัวด้วยความหมดแรง ไบรอั้นใช้สองมือกดข้อมือทั้งสองข้างของไอติมลงกับเตียง แล้วก็เริ่มขยับเอวด้วยจังหวะเดิมอีกครั้ง


“อ่อก!” ไอติมสำลักจนตัวโยนและพยายามหันหน้าหนี แต่ไบรอั้นใช้วิธีกดแก่นกายเข้าไปในปากไอติมให้ลึกกว่าเดิมจนไอติมหนีไม่ได้ กระต่ายตัวจ้อยเลยงับฟันลงบนแท่งเนื้อให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้


“Hey?!” ไบรอั้นก้มหน้าลงมองไอติมที่เหลือกตาขึ้นมองกลับมา ใบหน้าของไอติมเต็มไปด้วยน้ำลายและน้ำตาจนแทบแยกไม่ออก และดวงหน้าสีขาวก็แดงแจ๋ยิ่งกว่าคนเมาทั้งสองคน


“I’m cumming. I’m cumming. (จะแตกแล้ว แตกแล้ว)” ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังเถียงกันด้วยสายตาและสีหน้า เลโอที่กระแทกแบบไม่สนใจใครก็มาถึงจุดปลดปล่อย เขาดึงความเป็นชายออกจากก้นไอติมแล้วพ่นน้ำสีขาวข้นลงบนท้องแบนเรียบของร่างผอมบางจนเจิ่งนอง คิงคองหนุ่มคำรามเสียบแหบพร่า หน้าตาเสียวสุดขีด มือขวาชักให้ตัวเองถี่รัว ไอติมนอนขาตั้งฉากอย่างหมดแรง และพอไบรอั้นดึงแก่นกายออก ไอติมก็รีบหายใจเข้าจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงหนักหน่วง ร่างเล็กนอนไอค่อกแค่กแบบที่แทบไร้เรี่ยวแรงขยับตัว ไบรอั้นหยิบผ้าขนหนูสีขาวที่กองอยู่บนพื้นตรงปลายเตียงขึ้นมาส่งให้เจ้ากระต่าย ไอติมรับมาเช็ดหน้าจนน้ำลายและน้ำตาหายไป


“ฮู่” เลโอพ่นลมหายใจพร้อมกับชูสองแขนขึ้นเบ่งกล้าม หน้าท้องเป็นลอนยุบเข้าออกเพราะอาการหอบหายใจแต่ก็ไม่ใช่หอบหนักหนา ไอติมเช็ดน้ำสีขาวที่ราวกับเป็นแอ่งน้ำบนหน้าท้องตัวเอง เลโอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจับภาพไอติมตอนกำลังเช็ด


“I love you, babe. (ฉันรักนายจัง ที่รัก)” เลโอส่งจุ๊บให้ไอติมและยิ้มให้ ไอติมยิ้มตอบแบบอ่อนแรง เลโอโน้มตัวลงไปจูบปากกับไอติมหลายทีติดกันและเอ่ยชมไอติมว่าน่ารักไม่ขาดปาก ไอติมยิ้มเขินและในขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับคำยอของเลโอและรสจูบของเขา ไอติมก็หน้าเหวอไปนิดเพราะโดนไบรอั้นจับลากออกจากตัวเลโอ ตัวไอติมไถลไปกับเตียงตามแรงดึงของฝรั่งผมทองจนลงไปยืนโงนเงนบนพื้น ไบรอั้นอุ้มไอติมขึ้น สองมือจับก้นเนียนแน่น ไอติมยกสองแขนคล้องคอหนา สองขาก็เกี่ยวเอวหนามีกล้ามของไบรอั้นแน่นเพื่อกันตัวเองหล่น


“You bitten your carrot, huh? Huh? You bite it? (นายกัดแคร็อทตัวเองเหรอ ฮะ? กัดมันงั้นเหรอ)” ไอติมกลืนน้ำลายลงคอและกะพริบตาปริบ ๆ มองใบหน้าเหี้ยมและแววตากระหายของไบรอั้นด้วยหัวใจที่เต้นตุ้ม ๆ ต่อมๆ


“เฮ้ อย่าดุนักเลยน่า” เลโอยิ้มและถ่ายวิดีโอเก็บไว้ ไบรอั้นหันมองเพื่อนแวบหนึ่งด้วยใบหน้าเรียบนิ่งแล้วหันกลับไปมองไอติมที่กำลังมองกลับมาด้วยสายตาตื่นเต้น ไบรอั้นยื่นหน้าไปดูดคอไอติมแรง ๆ หนึ่งทีจนไอติมร้องคราง ก่อนจะอุ้มกระต่ายตัวจ้อยเดินไปทางห้องน้ำ


“โว้ว แกจะทำอะไรวะน่ะ?!”
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-12-2018 19:49:29
 :m25:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 24-12-2018 19:54:59
น้องติม พรมากค่าาา กรี๊ดดด
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 24-12-2018 20:44:19
หน่องติ้ม แร็งส์ม๊าก ได้สองดุ่น. โอ้ยคนอ่านคอแห้งผาก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 24-12-2018 21:10:24
ตอนตีไข่ที่เล่นสลาฟนี่เพลงมอญซ่อนผ้าดังขึ้นมาในหัวเลยค่ะ​ ไอ้โน่นไอ้นี่ฉันจะตีก้นเธอ​ อันนี้น้องตีไข่แฝดมาคู่ขำอ่ะ​ ในที่สุดตอนนี้​ที่รอคอย​ ไบรอัน​จัดการติมต่อ​ ช้ำแน่ๆลูกเอ้ย​  :m25:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 24-12-2018 21:12:57
ขอพร ก็ได้พร 555555555555555555 โว้ววววว เหมือนอั้นจะแอบหึงเล็กๆรึเปล่า รีบมาเลยค่ะ ค้างมากกก //ยืนรอหน้าประตูห้องน้ำ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 24-12-2018 21:21:14
 :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 24-12-2018 21:45:54
เตรียมตัวเกาะไฟในห้องน้ำรอ :hao6: :z1: :haun4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Elf_Carat ที่ 24-12-2018 21:54:37
 :pighaun: :pighaun: ไอติมทำบุญมาด้วยอะไรลูกกกก ถึงสำลักความสุขขนาดนี้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-12-2018 21:56:46
 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 24-12-2018 22:30:50
นว้องงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-12-2018 22:41:40
OMG
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 24-12-2018 23:04:16
เราก็แอบหวังนิดๆ อยากให้โดนรุม ตอนนี้สมหวังแล้ว ฮ่าา
แต่ยังไงก็เมนเดนนี่เด้อ  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 24-12-2018 23:04:38
พี่อั้นนนนนนนน จะทำไร น้องติมมมมมมม อ้าาาาาาา  :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-12-2018 00:28:43
คนอ่านสมหวัง ส่วนน้องติมคงจะฟินและน่วมน่าดู โดนเข้าไปขนาดเน้.  :laugh:

อิพี่อั้นดูจะมาสายS นะเทอ หรือแค่หวงหว่า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 25-12-2018 00:51:00
ขิน้ำมาดับไฟมทีค่าาาา ทางนี้หน้าจะไม่แล้วววว :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 25-12-2018 08:44:41
ตอนนี้แค่บอ.พูดคำว่าyour carrotก็ฟินแล้วอะ ตอนนี้มันก็ดีก็สนุกหมดแหละ ถ้าความรู้สึกมากกว่าแค่ห่วงก้างหรือชอบแบบไอดอลคงหมดสนุก อยากให้ถึงตอนที่อยู่ในบทนำเร็วๆจังค่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Moonoii ที่ 25-12-2018 11:53:23
ฟิน :haun4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 25-12-2018 20:00:32
โอ้โห  :hao6: โดนลงโทษแน่น้องติม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: doubleu ที่ 26-12-2018 12:55:21
มั่นใจอ่ะว่าไบรอั้นหวงไอติมหน่อยๆ ปานกลางถึงมาก 555555
เพราะเลโอเป็นเพื่อนแล้วก็ตื้อหลายรอบด้วยเปล่า พี่อั้นเลยยอม แต่ก็ดูหวงอยู่นะ
แล้วจะลากน้องไปไหนล่ะนั่นน  :impress2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 26-12-2018 16:29:13
 :jul1:  :jul1: ไม่สามารถบรรยายคำพูดใดๆได้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 28-12-2018 02:02:57
แซบลื้มมม ไอติมถึงกับเปลี้ยไปเลยจ้า
อะไรจะเบอร์ใหญ่ จัดโตขนาดนี้

ไบรอั้นหนีเข้าห้องน้ำ คือหลอนเลโอต่อใช่ไหม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 29-12-2018 00:21:18
ไม่มีใครอ่อนโยนกะไอติมลูกแม่เลยยยยย
คนนึงก้กระแทกคนนึงก้ยัดๆ
ลูกเอ๋ย ช้ำหมดล้าววววววววว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.20 : King's order. : 24.12.18
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 31-12-2018 13:38:23
จะว่าไบรอั้นหึงน้องก็ยังคิดว่าไม่ใช่เพราะพี่แกยังยอมให้เลโอมามีอะไรกะน้องได้อ่ะ คงอยู่ในช่วงเอ็นดูเจ้าเด็กนี่ประมาณนี้ /ตอนนี้คนอ่านก็คือ :pighaun: :jul1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 02-01-2019 18:15:42
Fall in lust, Chapter 21 :: Punishment. (บทลงโทษ)




   ไอติมถูกไบรอั้นอุ้มเข้ามาในห้องน้ำของห้องพักที่มีขนาดกว้างและสร้างกลืนไปกับโขดหินดั้งเดิมของธรรมชาติ ฝรั่งตัวใหญ่วางกระต่ายตัวจ้อยไว้บนโขดหินสีน้ำตาลอ่อนขนาดนั่งได้คนเดียว จับไอติมอ้าขากว้าง ๆ ไอติมกัดริมฝีปากล่างแน่น มองไบรอั้นด้วยหัวใจอันเต้นตุบตับ แววตาสุกใสที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเร่าร้อนมองไบรอั้นอย่างกระหายไม่แพ้อีกฝ่ายที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าไอติมและกำลังมองอย่างแผดเผาความรู้สึกจนเผลอพ่นลมหายใจออกทางปากเบา ๆ ไอติมยกสองแขนวางบนไหล่ของไบรอั้น ส่วนไบรอั้นยัดนิ้วชี้และนิ้วกลางข้างขวาเข้าไปในรูก้นไอติมที่เนื้อช่วงนั้นกำลังอ่อนอยู่
   

“You are guilty you know that? (นายผิด นายรู้ใช่มั้ย)” ไอติมยิ้มกริ่ม ยื่นหน้าไปจุ๊บปากไบรอั้น หนุ่มหัวทองทำนิ่งไม่ตอบโต้
   

“No.” ไอติมยังไม่เข้าใจหรอกว่าไบรอั้นพูดว่าอะไร แต่ตอบปฏิเสธเพราะอยากแกล้งขวัญใจตัวเอง ไบรอั้นหน้านิ่ง แต่นิ้วมือที่อยู่ในรูของไอติมนั้นไม่นิ่ง เขาขยับสองนิ้วในรูของไอติมขึ้นลงรัวเร็ว โดยหักปลายนิ้วขึ้นจิ้มเนื้อด้านในอย่างแรง
   

“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ อื้อ” ไอติมหน้าบิดเบี้ยว ลำตัวช่วงล่างบิดซ้ายบิดขวา สองมือจิกลงบนเนื้อไหล่ของไบรอั้น แขนขวาไบรอั้นสั่นรัวเพราะขยับนิ้วอย่างเร็ว ไอติมขมวดคิ้ว ความรู้สึกเสียวเต้นกระตุกอยู่ข้างในช่องทางด้านหลัง เขาปล่อยมือออกจากไหล่ไบรอั้น เอาไปค้ำร่างตัวเองบนโขดหิน สองขาพยายามหุบ แต่พอหุบก็โดนมือใหญ่หนาของฝรั่งฟาดลงตรงต้นขาด้านในเต็มแรงจนต้องอ้าออก
   

“Easy, dude.” เลโอเดินยิ้มขำเข้ามาพร้อมกับถือกล้องวิดีโอของไอติมเข้ามาถ่ายภาพเคลื่อนไหวด้วย ไบรอั้นไม่ได้หันไปมอง เอาแต่จ้องมองหน้าไอติมที่กำลังทั้งเสียวทั้งเจ็บในเวลาเดียวกัน ไอติมกัดริมฝีปากล่างแน่น ยกมือขวาขึ้นจับข้อมือขวาของไบรอั้นไว้และพยายามเบรกมืออีกฝ่ายไม่ให้ขยับ ไบรอั้นที่แรงเยอะกว่าดันนิ้วเข้าไปในรูก้นของไอติมลึกกว่าเดิม
   

“อ๊า!!” ไบรอั้นยื่นหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากไอติมแล้วดันลิ้นผ่านร่องริมฝีปากเข้าไป ไอติมเปิดปากอ้ารับลิ้นของไบรอั้น หนุ่มหัวทองกวาดลิ้นในโพรงปากไอติมอย่างมูมมาม ไอติมขยับลิ้นตอบโต้ไบรอั้นอย่างเนิบนาบเพราะสู้ผู้มีประสบการณ์ไม่ได้ ไอติมแท่งของไอติมตั้งแข็ง เขายกมือขวาออกจากข้อมือไบรอั้นไปวางบนโขดหินเพื่อดันร่างตัวเอง พอไอติมเอามือออกไป ไบรอั้นก็กระทุ้งนิ้วต่อ ไอติมครางอืออาในลำคอทั้งที่โดนไบรอั้นดูดลิ้นอยู่ ร่างผอมบางยกช่วงล่างของตัวขึ้นเพราะความเสียวหน่วง ๆ ตรงช่วงกลีบเนื้อสีอ่อน
   

จึกๆๆๆๆ
   

เกิดเสียงคล้ายมีคนใช้นิ้วแกว่งน้ำเร็ว ๆ ยามที่ไบรอั้นกระทุ้งนิ้วในรูด้านหลังของไอติมถี่รัว ไอติมเกร็งขมิบจนกลีบเนื้อบีบรัดนิ้วของหนุ่มหัวทอง ฝรั่งตัวโตหยุดขยับนิ้วสักพัก ไอติมดึงหน้าออกจากปากไบรอั้นแล้วหายใจดังเฮือกเบา ๆ ทรุดลงนั่งบนโขดหินด้วยความเหนื่อย ไบรอั้นถ่มน้ำลายลงบนนิ้ว ก่อนจะยัดเข้าไปในก้นไอติมอีกรอบแต่คราวนี้ยัดเข้าไปถึงสามนิ้วด้วยกันแล้วบิดหมุนวนไปมา
   

“แอ… อึ… อืออออ” สีหน้าไอติมคล้ายคนจะร้องไห้ แต่อินเนอร์ภายในไม่ได้จะร้องไห้ออกมาจริงๆ
   

“This is what you want, yeah? (นายต้องการนี่ใช่มั้ยล่ะ)” ไบรอั้นกระซิบตรงริมฝีปากของไอติม หนุ่มไทยปรือตามองหนุ่มอเมริกัน หน้าท้องหดเกร็งไม่ขยับ ในตอนที่ไอติมรู้สึกเหมือน (เสียว) จะขาดใจ ไบรอั้นก็ดึงนิ้วออกอย่างเร็ว และยังไม่ทันให้ไอติมได้พักเหนื่อย ไบรอั้นก็ยืนขึ้นและดึงไอติมลงมาจากโขดหิน มานั่งคุกเข่าลงบนพื้น ไบรอั้นใช้มือซ้ายบีบคางไอติมเพื่อให้เปิดปาก มือขวาจับแคร็อทอันเขื่องที่ขยายตัวขึ้นแต่ยังไม่แข็งเต็มตัวยัดเข้าไปในปากของไอติมจนแทบจะมิดลำ
   

“ขึก… อ่อก… แข่ก” ไอติมสำลักและพยายามหันหน้าหนี แต่ไบรอั้นใช้มือซ้ายล็อคลำคอด้านหลังของไอติมและใช้มือขวาบีบจมูกของไอติมแน่น
   

“Your carrot, eh? What? What about your face?” ไอติมยกสองมือขึ้นดันหน้าขาของไบรอั้น ดันแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะหายใจไม่ออก ไบรอั้นมองหน้าไอติมด้วยสายตาสนุกซุกซนจนเห็นว่าไอติมหน้าแดงจัดแล้วถึงได้ปล่อยนิ้วที่บีบจมูกออกและดึงแก่นกายตัวเองออกจากปากไอติม
   

“ฮ่ะ ฮ้า ฮืด ฮืด” ไอติมรู้สึกเหมือนโดนสูบพลังงานไปจนแทบหมดตัว เขาเอนหลังพิงกับโขดหิน น้ำตาเอ่อทั้งสองข้าง มองไบรอั้นที่กำลังหันไปยิ้มเหี้ยมให้กับกล้องและพูดอะไรสักอย่างโดยที่เลโอก็ยิ้มขำด้วย
   

“Come on, come, my rabbitch. (มาเร็ว มาสิ กระต่ายแรดของฉัน)” ไบรอั้นหงายมือขวาไปข้างหน้าและใช้ปลายนิ้วทั้งสี่กวักเรียกไอติม หนุ่มไทยดันตัวขึ้นนั่งคุกเข่าและคลานเข่าเข้าไปหาไบรอั้น หนุ่มหัวทองดันความเป็นชายของตัวเองที่แข็งปักเข้าไปในปากไอติม ครั้งนี้พยายามดันให้มิดด้าม ไอติมยกสองมือขึ้นจับหน้าขาของไบรอั้น เขาสำลักจนน้ำลายไหลออกจากปาก ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความจุกแน่นในปาก ส่วนหัวของแคร็อททิ่มอยู่ด้านในช่องคอ
   

“Eat it, eat it all, yeah, that’s it. (กินมัน กินมันให้หมด ช่าย อย่างงั้น)” ไบรอั้นดันส่วนนั้นเข้าไปอยู่ในปากของไอติมจนมิดลำ ไอติมน้ำตาไหลพราก พยายามไอแต่ก็ไอไม่สะดวก จะดึงหน้าออกก็โดนมือของไบรอั้นจับล็อคหัวไว้ และพอเริ่มอยู่ตัว ไบรอั้นก็ยกมือขวามาบีบจมูกไอติมอีกที หนุ่มหัวทองมองหน้าและดวงตาแดงก่ำของไอติมที่มีน้ำตาไหลออกมาแล้วยิ้มชอบใจ สองมือไอติมดันขาไบรอั้นด้วยอาการสั่นเพราะหายใจไม่ออก และตอนที่ไอติมมีอาการคล้ายคนทรมานใกล้ตาย ไบรอั้นถึงปล่อยมือและดึงแท่งเนื้อออกจากปากไอติม
   

“อุก!” ไอติมมีอาการคล้ายจะอ้วกเลยก้มหน้าลง อ้าปากหายใจหอบ น้ำลายไหลย้อยลงพื้น สองมือดันพื้นห้องน้ำไว้อย่างหมดแรง เลโอที่ส่วนนั้นกลับมาแข็งอีกรอบนั่งลงเอากล้องจับภาพหน้าไอติมที่แดงจัดและดูเบลอ ไบรอั้นก้มลงอุ้มไอติมให้ยืนขึ้น ไอติมยืนอย่างอ่อนล้า สองแขนงอชิดตัว สองมือวางบนอกของไบรอั้น เงยหน้ามองหนุ่มหัวทองด้วยสายตาคล้ายคนจะหลับ
   

“How many carrots do you have? (นายมีแคร็อทกี่อัน)” เพี๊ย!!
   

ไบรอั้นถามด้วยหน้าตามันเขี้ยวและฟาดมือซ้ายลงบนก้นของไอติม คนตัวเล็กกว่ากำลังเหนื่อยและเบลอเลยไม่เข้าใจที่ไบรอั้นถาม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองไบรอั้นอย่างงุนงง ไบรอั้นเลยจับมือซ้ายของไอติมลงไปจับแก่นกายแข็งแรงของตัวเอง
   

“This is your carrot, huh? (นี่แคร็อทของนายใช่มั้ย ฮึ)” ไอติมประมวลผลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ
   

“You have only one, right? (นายมีแค่อันเดียวใช่มั้ย)” ไบรอั้นมองใบหน้าแดงก่ำที่เปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตาและน้ำลายด้วยแววตาวิบวับ ไอติมเบลออยู่พักนึงถึงพยักหน้าแบบงงๆ
   

“Don’t bite it. You can’t find any carrot like this. Understand? (อย่ากัดมัน นายหาแคร็อทอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว เข้าใจมั้ย)” ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นและอ้าปากยิ้มมุมปาก
   

“Yes.” ไอติมตอบเสียงน่ารัก ไบรอั้นคลี่ยิ้มกว้าง ใช้มือขวาจับหน้าไอติมหันไปมองทางกล้องที่เลโอถืออยู่ ไบรอั้นก้มลงจูบขมับไอติมหนึ่งที ไอติมยิ้มอ่อนแรง ไบรอั้นกระซิบบางอย่างกับไอติม ร่างผอมบางกะพริบตาปริบ ๆ อยู่พักหนึ่งก่อนจะหันไปมองไบรอั้นแล้วพยักหน้า ไบรอั้นคลี่ยิ้มพอใจ ยกมือขวาฟาดก้นไอติมอีกหนึ่งที หัวเราะเสียงดังแบบคนเมา สองแขนกำยำอุ้มไอติมตัวลอยไปตรงชักโครก กดฝาปิดชักโครกแล้วนั่งลง ดึงให้ไอติมนั่งลงบนตัก ไบรอั้นเลื่อนตัวไอติมให้เลื่อนไปข้างหน้าจนหัวไอติมอยู่ใต้คางไบรอั้นแล้วจับขาสองข้างแยกออก ไบรอั้นเอื้อมมือขวาไปหยิบที่ฉีดก้นอันเป็นนวัตกรรมแปลกใหม่สำหรับตัวเองและเลโอตอนมาถึงไทยวันแรก
   

“You need to clean it. (นายต้องทำความสะอาด)” ไบรอั้นก้มลงกระซิบข้างหูไอติมเสียงแหบ ไอติมเอนตัวพิงไบรอั้น อ้าขาไว้ในองศาเดิม มีเลโอถือกล้องถ่ายคลิปไว้ไม่ถอยห่าง ไบรอั้นเลื่อนหัวฉีดไปข้างหน้าแล้วกดฉีดน้ำเหนือรูของไอติม บริเวณใต้ฐานของไอติมแท่ง สายน้ำพุ่งออกมาในระดับที่ไม่แรงไม่อ่อนจนเกินไป ไบรอั้นใช้มือซ้ายลูบวนบริเวณปากทางเข้า ไอติมนอนงอแขนกัดริมฝีปากล่างนิ่ง ไบรอั้นหยุดฉีดน้ำ นิ้วชี้กับนิ้วกลางข้างซ้ายปาดป้ายไปมาตรงกลีบเนื้อสีน้ำตาลอ่อนสักพักก่อนแทงเข้าไปข้างในและแหวกกลีบเนื้อฝั่งนึงออก กดฉีดน้ำเข้าไปในรูผ่านนิ้วอีกที สองนิ้วกระทุ้งเบา ๆ สลับกับควักออกและดันเข้า
   

“Good? (ดีมั้ย)” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ ปล่อยให้ไบรอั้นจัดการทำความสะอาดรูสวาทของตัวเอง ตอนที่เลโอวางกล้องไว้บนโขดหินและลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องน้ำ ไบรอั้นก็หยุดฉีดน้ำทำความสะอาดรูของไอติม เอาสายฉีดก้นไปเสียบไว้ที่เดิม เอื้อมตัวไปหยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กที่อยู่ในตะแกรงเหนือชักโครกขึ้นไป จัดการเอามาเช็ดรอบ ๆ รูก้นและแก้มก้นให้ไอติมจนแห้ง ตอนนั้นเลโอเดินกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับหลอดเจลหล่อลื่น หนุ่มยุโรปยื่นให้หนุ่มอเมริกันรับไปก่อนกลับไปถือกล้องขึ้นมายืนถ่ายตามเดิม
   

“แกออกไปได้แล้วน่า” ไบรอั้นว่าในขณะที่จับไอติมยืนขึ้นคร่อมตักตัวองไว้และจับแบะขาออกเล็กน้อยเพื่อที่จะได้ทาเจลหล่อลื่นให้ไอติมได้สะดวก
   

“ได้ไงวะ ฉันแข็งอีกแล้วเนี่ย”
   

“ไปชักว่าวไป” เลโอย่นคิ้ว
   

“ไล่อย่างกับเป็นเจ้าของไอศกรีมเลยนะ” ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นทำหน้าตาย นิ้วกลางข้างขวาที่บีบเจลหล่อลื่นไว้ตรงปลายนิ้วยัดเข้าไปในรูก้นไอติมให้เจ้าตัวบิดเอวเบาๆ
   

“แล้วแกว่าฉันเป็นเจ้าของเด็กนี่มั้ยล่ะ” เลโอเบ้ปาก
   

“What do you say, ice-cream? (นายจะว่ายังไงล่ะไอศกรีม)” จังหวะนั้นไบรอั้นจับไอติมนั่งลงบนลูกชายตัวเองแบบพรวดเดียวเพราะทาเจลหล่อลื่นจนชุ่ม ไอติมตาปรือริมฝีปากเผยอ มองเลโอแบบงุนงง ไบรอั้นกดจูบลงบนหลังคอของไอติมและกระซิบเสียงเบาด้านหลังหูซ้าย
   

“Y… yes.” ไอติมตอบเสียงระทวยพอ ๆ กับสีหน้า เลโอขมวดคิ้วมองไบรอั้นที่ไม่มองหน้าเขาและกำลังพาไอติมลุกขึ้นยืน มือซ้ายกดแผ่นหลังเนียนหนุ่มให้โค้งลงนิด แล้วก็กระแทกใส่ไอติมด้วยความรุนแรงจนไอติมที่แทบไม่ค่อยร้องยังต้องร้องออกมาเสียงหลงลั่นห้องน้ำ
   

ปักๆๆๆๆ!!!!
   

“อ้าๆๆๆ อ้า อ้า อื้อ!” ไอติมตัวสั่นหน้าสั่นไปตามแรงกระแทกที่ไบรอั้นส่งมา เลโอเดินเข้าไปข้างหน้าไอติม จับความเป็นชายของตัวเองไปจ่อปากของไอติม ร่างเล็กอ้าปากอมแบบสะดุดเล็กน้อยเพราะแรงกระแทกที่ทำให้ร่างและหน้าสั่นสะเทือน
   

ปึกๆๆๆๆ!!!!!   
   

“อ๊า!!! อ๊า!!” ไอติมปล่อยปากออกจากของเลโอเพราะแรงกระแทกของไบรอั้นหนักขึ้นกว่าเดิมจนไอติมรู้สึกเหมือนจะหน้าคว่ำ ซึ่งถ้าไบรอั้นไม่จับเอวเขาไว้คงโดนกระแทกจนหน้าคว่ำไปกับพื้นแล้ว ไอติมถึงขั้นก้มตัวลงเอาสองมือยันพื้นเพราะแรงกระแทกอันหนักหน่วง
   

“แกผสมไวอาก้าเข้าไปในเหล้าแกรึเปล่าเนี่ย” เลโอว่าทั้งที่ยังถือกล้องถ่ายทั้งสองคนอยู่ ไบรอั้นไม่ตอบทำเพียงยิ้มมุมปากและยักคิ้ว เสียงครางเสียวของไอติมดังสลับกับเสียงครางฮือคล้ายคนร้องไห้ เลโอยื่นมือขวาจะไปจับหน้าไอติมให้เงยขึ้นมาอมของตัวเอง แต่ไบรอั้นก็หยุดกระแทกกะทันหันจนไอติมที่ขาสั่นแขนสั่นเกือบล้มลงไปกองกับพื้น ไบรอั้นใช้แขนขวาคล้องหน้าท้องไอติมไว้และดึงให้ไอติมลุกขึ้นยืน ร่างผอมบางยืนขึ้นแบบงง ๆ และโงนเงนก่อนจะถูกจับให้นั่งลงคุกเข่ากับพื้นอีกรอบ
   

“It’s time for eating, rabbit. (ถึงเวลากินแล้วกระต่าย)” ไบรอั้นบีบแก้มไอติมให้ไอติมเปิดปาก พอไอติมอ้าปาก ไบรอั้นก็ดันอาหารกระต่ายเข้าไปข้างใน สองมือจับหัวไอติมแน่นเพื่อไม่ให้ขยับหนีก่อนที่จะเด้าบั้นเอวใส่ปากไอติมเร็วๆ
   

“อ้อก! อ่อก!” ไอติมแก้มอูมน้ำลายฟูมออกมานอกปาก หายใจหอบถี่ทางจมูก อกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ ไอติมเลื่อนสายตามองไบรอั้นที่กำลังกัดริมฝีปากล่างแน่น คิ้วขมวดเข้าหากัน ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเสียว ไอติมจะกลืนน้ำลายลงหรือจะปล่อยออกก็ลำบาก เลยสำลักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนที่ไบรอั้นดึงแก่นกายออกจากปาก น้ำลายมากมายไหลทะลักออกมา ไอติมไอค่อกแค่ก แต่ยังไม่ทันได้พักหายเหนื่อยก็โดนไบรอั้นจับลุกขึ้นยืนหันหลังก่อนใช้แขนขวายกขาขวาของไอติมขึ้น สอดแขนไว้ใต้ข้อพับขาแล้วยื่นมือผ่านแผ่นหลังกับหลังคอของไอติมไปจับไหล่ซ้ายเอาไว้และเป็นการกดหัวไอติมให้ก้มต่ำลง มือซ้ายเลื่อนไปวางบนไหล่ซ้ายของร่างบางคู่กับมือขวา
   

“อะๆๆๆ” ไอติมหลับตาหยีและกัดฟันแน่น แขนขวาพับเข้าหาตัว มือซ้ายดันหัวเข่าซ้ายตัวเองไว้ หลังคอเป็นต้นไปถูกดันจนรู้สึกตึง ขาข้างขวาที่ถูกยกขึ้นสั่นน้อย ๆ เพราะความเมื่อย คราวนี้ไบรอั้นกระแทกแบบช้า ๆ แต่ทว่ากระแทกแรงจนไอติมตัวเด้งไปข้างหน้าทุกครั้งที่ถูกกระแทก แต่เพราะมีมือไบรอั้นดึงไหล่เอาไว้เลยทำให้ไม่ทะยานหน้าคว่ำไปซะก่อน
   

ตับ!! “อะ!”
   

ตับ!! “อะ!”
   

ตับ!! “ซื้ดดด” ไอติมร้องเสียงสั่น ได้ยินเสียงขำเบา ๆ จากไบรอั้นปนกับเสียงเนื้อกระแทกกัน ไอติมรู้สึกเหมือนตัวจะชาเพราะขยับไม่ได้ ขาซ้ายเริ่มประท้วงด้วยการพร้อมจะทรุดลง แต่ไบรอั้นก็ไม่ได้รับรู้อาการประท้วงนั้น ยังคงเด้าบั้นเอวต่อไปและส่งเสียงร้องซี๊ดอ้าเป็นระยะ
   

ไอติมไม่คิดว่าไบรอั้นจะพามาถึงจุดนี้…
   

ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ
   

เสียงเนื้อกระทบกันดังต่อเนื่องตามจังหวะกระแทกของไบรอั้นที่ใส่ไปเรื่อย ๆ อยู่ในท่าเดิม ไอติมเริ่มร้องประท้วงเพราะรู้สึกว่ากล้ามเนื้อปวดเมื่อยไม่สบายตัว ไบรอั้นหยุดขยับ และค่อย ๆ ปล่อยขาขวาไอติมลงบนพื้น พอมือไบรอั้นหลุดออกจากไหล่ซ้าย ไอติมก็ทรุกตัวลงกับพื้นทันทีเพราะแทบไม่มีแรงพยุงร่างตัวเอง ไบรอั้นตามไปยืนเอาความเป็นชายจ่อหน้าไอติม มือขวาจับตรงโคน มือซ้ายจิกเส้นผมไอติม ใบหน้าเรียวสวยได้รูปแหงนขึ้น ไบรอั้นใช้แท่งเนื้อตัวเองตีปากไอติมแรง ๆ ไปหลายที ไอติมหลับตาปี๋ และเผลอกระตุกใบหน้าเพราะความเจ็บที่โดนของไบรอั้นตี ด้วยความใหญ่ยาวของไบรอั้นและอยู่ในสภาวะที่แข็งตัว มันเลยยิ่งเหมือนเอาไม้มาตีหน้า
   

“Are you going to bite it again, huh? (จะกัดมั้นอีกมั้ย ฮ้า)” ไบรอั้นดันแก่นกายตัวเองเข้าไปในปากไอติมที่เปิดอ้าขึ้นนิดนึงแล้วดึงออกมาตีที่แก้มซ้ายหลาย ๆ ทีติดกัน
   

แปะๆๆๆ
   

“You like it? You like the carrot, rabbitch? (ชอบมั้ย ชอบแคร็อทรึเปล่ากระต่ายแรด)” ไอติมที่โดนจิกหัวและหลับตาอยู่พยักหน้าหงึก ๆ ก่อนแลบลิ้นออกมาเลียส่วนหัวสีชมพูของไบรอั้นวนไปมา หนุ่มหัวทองคลี่ยิ้มกว้าง มือขวาชักให้ตัวเองเร็ว ๆ อยู่พักหนึ่งก่อนที่น้ำสีขาวขุ่นข้นและเหนียวหนืดจะไหลเยิ้มเข้าไปในปากของไอติมที่อ้าปากรอไว้
   

“Eat it, rabbit. That’s it. Good boy. Swallow it all. (กินเข้าไป กระต่าย อย่างนั้น เด็กดี กลืนไปให้หมดเลย)” ไอติมปล่อยให้น้ำสีขาวไหลผ่านลิ้นลงไปตามลำคอ ไบรอั้นสูดปากเบา ๆ ใช้มือขวารีดน้ำออกมาจนหยาดหยดเจือจาง เลโอเดินเอากล้องเข้าไปจับภาพโพรงปากไอติมที่มีน้ำสีขาวเอ่อล้นเต็มลิ้นและกำลังไหลลงคอไปเรื่อย ๆ โดยที่เจ้าตัวยังคงนั่งแหงนหน้าหลับตาและโดนจิกหัวด้วยมือไบรอั้นอยู่
   

“You like it? (ชอบมั้ย)” ไอติมค่อย ๆ ลืมตามองหน้าไบรอั้น ดวงตาสีเทาทอประกายวิบวับ รอยยิ้มกว้างนั้นดูขี้เล่น ไอติมกลืนน้ำสีขาวลงคอ รสชาติมัน ๆ คาว ๆ และมีกลิ่นแอลกอฮอล์ปนคลุ้งอยู่ในลำคอและจมูก
   

เป็นครั้งแรกของไอติมที่ได้กินน้ำของไบรอั้นเต็มปากเต็มคำขนาดนี้
   

“Beautiful. (สวยงาม)” เลโอพึมพำเบา ๆ ขณะไล่กล้องลงจากหน้าไบรอั้นมาที่หน้าไอติมที่กำลังแลบลิ้นเลียไปรอบปาก คราบสีขาวเลอะริมฝีปากสีแดง ไอติมยกมือขวาขึ้นจับแก่นกายไบรอั้นที่อ่อนตัวลงแต่ไม่ใช่อ่อนปวกเปียก ชักเบา ๆ ก่อนใช้ปากอมเข้าไปและผงกหัวเข้าออกช้า ๆ ไบรอั้นมองหน้าไอติมที่แดงก่ำแล้วยิ้ม
   

“Do you want more? (เอาอีกมั้ย)” ไบรอั้นถาม ไอติมสบตาสีเทาอ่อนทั้งที่ยังอมอยู่ก่อนจะพยักหน้า ไบรอั้นเงยหน้าขึ้นมองเลโอที่ยังคงถ่ายอยู่ ยกนิ้วโป้งขวาขึ้นชี้ไปทางห้องนอน เลโอเบะปาก ปิดฝากล้องแล้วหมุนตัวเดินออกไป แต่ก็ไม่ลืมที่จะพูดทิ้งท้ายไว้   
   

“แกขวางฉันไม่ได้หรอก พรุ่งนี้เช้าฉันเอาไอศกรีมต่อแน่”


V
v
v


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 02-01-2019 18:17:50
V
v
v

แต่สิ่งที่เลโอคิดและต้องการก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้น เพราะพอตื่นมาตอนพระอาทิตย์เพิ่งจะขึ้นได้ไม่นานก็เจอกับไอ้เพื่อนหัวทองกำลังเอาไอติมอยู่ในทะเลหน้าห้องพัก ตรงโขดหินก้อนหนึ่งในทะเลที่อยู่สูงกว่าผิวทะเลขึ้นมา ไอติมกำลังเด้งตัวขึ้นลงในจังหวะที่กำลังพอดี มีไอ้ไบรอั้นดูดไซ้คอไปเรื่อย สองมือของมันทั้งบีบทั้งลูบก้นไอติมอย่างมันส์มือ เลโอยืนดูอยู่ตรงหน้าประตูห้องนอนแล้วพ่นลมหายใจเซ็ง ๆ หันมองซ้ายมองขวาว่ามีคนดูอยู่หรือไม่ แต่ดูเหมือนสองคนนั้นจะไม่ได้สนใจว่าจะมีใครดูอยู่หรือเปล่า เลโอเลยเข้าไปอาบน้ำก่อน ทิ้งให้สองคนนั้นซั่มกันอยู่บนโขดหินใต้ท้องฟ้ายามเช้า
   

พออาบน้ำเสร็จ เลโอก็เดินออกมาดูสองคนนั้นที่ตอนนี้ลงไปเล่นน้ำในทะเลกันแล้ว ไอติมหัวเราะเริงร่า เกาะหลังไบรอั้นที่ดูจะร่าเริงไม่แพ้กัน เลโอนึกสงสัยว่าสองคนนั้นได้นอนกันหรือยัง หรือนอนไปแล้วแต่ตื่นมาแต่เช้าเพื่อมาเอากันในทะเล
   

“แกได้นอนรึยังเนี่ย” เลโอที่พันผ้าขนหนูผืนเดียวเดินไปถามเพื่อนตรงริมโขดหินลาดชัน ไบรอั้นที่มีไอติมเกาะหลังหันมาตอบ
   

“นอนสิ” ไบรอั้นทำหน้าประมาณว่า มึงจะบ้าเหรอที่จะไม่ให้กูนอน
   

“Are you okay, ice-cream? (สบายดีมั้ยไอศกรีม)” เลโอถามไอติมที่ยิ้มให้
   

“Okay!” เชื่อได้ว่าโอเค ดูจากหน้าก็รู้
   

“อย่าเพลินอะ เราต้องเช็กเอ้าท์” เลโอบอก ไบรอั้นพยักหน้าขึ้นหนึ่งครั้ง เลโอมองไอติมที่กำลังเอาคางเกยไหล่ไบรอั้นด้วยสายตาครุ่นคิดสักพักก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง ไบรอั้นหันไปหาไอติมแล้วหอมแก้มซ้ายไอติมไปหนึ่งที ไอติมคลี่ยิ้มกว้างและหอมแก้มขวาไบรอั้นคืนไปหนึ่งทีเช่นกัน
   
   

หลังจากเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งสามคนก็เดินทางไปสนามบินด้วยบริการรถรับส่งของทางรีสอร์ท ไอติมรู้สึกดีที่เชื่อคำบอกของน้าแพนว่าขากลับให้นั่งเครื่องบินกลับจะดีกว่าเพราะเราจะเมื่อยมาก ซึ่งไอติมนั้นเมื่อยจริง แต่ไม่ได้เมื่อยเพราะเที่ยวอย่างเดียว เมื่อยเพราะอย่างอื่นด้วย เหตุกามเมื่อคืนในห้องน้ำสองรอบเล่นเอาไอติมหมดแรง สลบคาอกไบรอั้นจนฝรั่งต้องเป็นคนอุ้มมานอน พอเช้ามาก็ชวนไอติมลงทะเล แต่ยังไม่ทันลงได้เต็มตัว แค่ไซ้คอกันสักพักก็เลยพากันเอาอีกรอบ
   

ใช้เวลาแค่ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงสนามบินดอนเมือง น้าแพนมารอรับตรงจุดนัดหมายในเวลาที่ไอติมโทรบอกก่อนขึ้นเครื่องจากสุราษฎร์ธานี ระหว่างทางกลับบ้านสองฝรั่งนอนหลับ ส่วนไอติมคุยกับน้าแพนต่อราวกับว่าความเมื่อยล้าที่มีก่อนหน้านั้นไม่มีอยู่จริง
   

“เป็นไง แฮปปี้! มั้ยล่ะหลานน้า” แพนยิ้มอย่างรู้ทัน ไอติมยิ้มกว้างเขินอายและหัวเราะคิกคัก
   

“ที่สุด!” แพนหัวเราะกับท่าทีระริกระรี้น่าเอ็นดูของหลานชาย
   

“ฮู้ย เชื่อจ้ะ แฮปไปกี่ปี้ล่ะ” ไอติมหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแทนคำตอบ คนเป็นน้าหัวเราะตามและไม่ได้คิดจะเค้นเอาคำตอบจากหลานชายจริงจัง
   

“เขาขอเป็นแฟนยัง” ไอติมสั่นหัว หน้าตามึนงงนิดหน่อย
   

“เขาจะขอติมเหรอ” น้าแพนหัวเราะ
   

“เอ๊า น้าไม่รู้ก็เลยถามนี่ไง” ไอติมเอียงหน้าไปมาหน้าตาเหมือนเด็กกำลังเพลิดเพลินก่อนตอบเสียงล่องลอย
   

“มีแต่เลโอที่ขอ” แพนยิ้มอย่างประหลาดใจ ร้องว้าวแบบไม่มีเสียงให้หลานชายที่คลี่ยิ้มกว้าง
   

“เอาซี้ มีหนุ่มมาขอหลานน้าเป็นแฟนละเว้ย…” ไอติมยักคิ้วสองข้างและไหล่สองข้างขึ้นแบบไม่เป็นจังหวะ


“…แต่ดูจากท่าทางแล้ว เลโออกหักใช่มั้ย” ไอติมสั่นหัวหน้าตาเฉื่อยชา
   

“ไม่หรอก เขาจะมาอกหักกะติมทำไมอะ” แพนปั้นหน้าเอือมมองหลานชาย ไอติมทำตาโตและตีมึนไปเรื่อย
   

“หรือติมอยากเป็นแฟนกับไบรอั้นแทน?” ไอติมย่นคิ้ว สีหน้าครุ่นคิดด้วยความสงสัย
   

“ไม่รู้อะ” ไอติมทำแก้มพองลม หุบขาเข้า ๆ ออก ๆ แบบไม่มีไรทำ
   

“ถ้าเขาขอล่ะ จะปฏิเสธแบบที่ปฏิเสธเลโอมั้ย”
   

“ก็ต้องลองให้เขาขอก่อน แต่เขาไม่ชอบติมหรอก ติมก็ไม่ได้ว่าอะไร” ไอติมคลี่ยิ้มแบบไม่เห็นฟัน แววตาใสซื่อแบบไม่มีอารมณ์ใด ๆ ซ่อนเร้นลึกลงไป
   

“เสียตัวให้เขาแล้วก็ให้เขารับผิดชอบหน่อยสิ” ไอติมหัวเราะคิกคักกับคำเปรียบเปรยของน้าแพน
   

แพนยกมือซ้ายไปจับหัวหลานชายและโยกไปมาเบา ๆ สักพักก่อนปล่อยมาจับพวงมาลัยตามเดิม หล่อนมองหลานชายที่ทำปากจู๋ หน้าตาไม่ได้เคร่งเครียดกับประเด็นที่คุยกัน หล่อนไม่ได้คิดจะจี้ถามจนได้ความ เดี๋ยวถ้ารู้สึกหรือสะดุดคิดอะไรได้ขึ้นมาคงมาชวนหล่อนคุยเองอีกที ตอนนี้ไอติมก็เหมือนเด็กที่กำลังสนุกกับของเล่นถูกใจอยู่
   

ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ เพราะการจราจรกว่าจะกลับมาถึงบ้าน สามหนุ่มช่วยกันขนสำภาระของตัวเองไปวางไว้ในบ้าน ก่อนที่ไอติมจะวิ่งเข้าไปกอดแม่ที่อยู่ในครัว ผลัดกันห้อมแก้มไปหลายทีแล้วไอติมก็วิ่งกลับไปกอดเจ้าหมาทั้งสองตัวที่ดีใจจนจะขาดใจแล้วที่นายน้อยกลับมาบ้าน และด้วยความตื่นเต้น ปีโป้เลยไปกระโดดเหยง ๆ ใส่ไบรอั้น หนุ่มหัวทองก้มตัวลงอุ้มเจ้าตัวเล็กขนปุยสีน้ำตาลครีมขึ้นมา มันเลียหน้าไบรอั้นไปหลายทีจนเขาหัวเราะ ส่วนจัมโบ้ยังคงมองสองฝรั่งด้วยสายตาไม่ไว้ใจทั้งที่ก่อนจะไปทริปทะเลมันเริ่มส่ายหางให้สองคนนี้ คงเป็นเพราะหายหน้าหายตาไปอีกหนึ่งอาทิตย์เลยลืมความคุ้นเคยก่อนหน้านี้ไปแล้ว
   

“แม่เตรียมอาหารไว้ให้ตามออเดอร์แล้วนะ อยู่บนโต๊ะ ฝาชีครอบอยู่” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง
   

“แพนจะอยู่ที่ร้านด้วยกันก่อนมั้ย หรือจะกลับเลย”
   

“กลับเลย นัดเพื่อนสาวไว้” ไอติมเดินเข้าไปกอดหน้าแพน น้าสาวกอดตอบหลานชายและหันไปเอ่ยลาสองฝรั่งที่กล่าวขอบคุณน้าของไอติมกันยกใหญ่
   

“See you. (เจอกันนะคะ)” แพนบอกกับสองหนุ่มและพาพี่สาวเดินไปขึ้นรถเพื่อจะพาขับไปส่งที่ร้าน
   

“Eat, eat, eat lunch. (กิน กิน กินอาหารกลางวัน)” จริง ๆ ก็ไม่ค่อยจะกลางวันเท่าไหร่เพราะก็บ่ายแก่มาก ๆ แล้ว แต่ก็นับเป็นมื้อเที่ยงสำหรับทั้งสามคน เพราะกินมื้อเช้าของรีสอร์ทไปมื้อเดียวแล้วก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลยจนถึงตอนนี้
   

ระหว่างกินข้าว สองฝรั่งก็ปรึกษากันว่าจะไปทัวร์ที่ไหนในกรุงเทพ ฯ บ้างกับระยะเวลาที่เหลือ เลโอชวนไปข้าวสาร ไบรอั้นไม่เคยได้ยินชื่อสถานที่นี้มาก่อน ไอติมพยายามอธิบายด้วยภาษาอังกฤษสไตล์ตัวเอง ซึ่งสำหรับไบรอั้นนั้นเข้าใจราวกับตอนนี้เขาได้เรียนภาษาที่สามของชีวิตเพิ่ม
   

“But you don’t like the party. (แต่นายไม่ชอบปาร์ตี้นี่)”
   

“I can go if you want will go. (ผมสามารถไปถ้าคุณอยากจะไป)”
   

“ไปก็ได้นะ แต่ไม่นั่งร้านไหนแล้วกัน ฉันแค่อยากเห็นว่ามันเป็นยังไง” เลโอส่ายหัว แกล้งทำหน้าระอา
   

“แกเลิกเล่นหนังโป๊แล้วไปเป็นบาทหลวงเถอะ” เลโอเบ้ปากขึ้นนิดหน่อย
   

“ฉันเคยใส่ชุดบาทหลวงมีเซ็กซ์มาแล้ว” สองหนุ่มหัวเราะ ไอติมหันมองทั้งสองคนแล้วยิ้มตามแม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทั้งสองคนกำลังพูดอะไร เลโอมองรอยยิ้มของไอติมแล้วอมยิ้ม
   

“You always smile. (นายนี่ยิ้มตลอดเลย)” ไบรอั้นหันไปมองหน้ายิ้มของไอติมตามที่เลโอว่า
   

“ฮะ?” ไอติมถามหน้างงในขณะที่ปากเคี้ยวหมูทอดเกลือเต็มปาก
   

เลโอหัวเราะก่อนจะว่าต่อ “Nah, it’s good for you. Your smile is lovely. (ไม่มีอะไรหรอก มันเหมาะกับนายดี รอยยิ้มนายน่ารัก)”
   

ไอติมกะพริบตาเอื่อย ๆ หน้าตายังงุนงง แต่สมองยังพอจับใจความคำว่า smile ได้เลยคลี่ยิ้มยิงฟันให้เลโอ คิงคองหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ก่อนหันไปมองเพื่อนที่กำลังเคี้ยวข้าวไปและคลี่ยิ้มไป เขาเบะปากกลอกตาไปที ไบรอั้นทันเห็นกิริยานั้นของเพื่อนก็เลิกคิ้วขึ้นและทำหน้าเป็นคำถาม เลโอสบถคำหยาบคายใส่ไบรอั้น หนุ่มหัวทองงงแต่ก็หัวเราะ เพราะจริง ๆ ก็รู้แหละว่าเพื่อนด่าทำไม
   

กินข้าวกันเสร็จก็เก็บจานอาหารที่เหลือไว้บนโต๊ะและเอาฝาชีครอบไว้ตามเดิม ไอติมบอกให้สองหนุ่มเอาของขึ้นไปเก็บและผักผ่อนได้ตามสบาย ส่วนตัวเองอยู่ล้างจานและจัดวางไว้ในตะแกรง ไอติมหยิบหมูทอดไปให้จัมโบ้กับปีโป้กินตัวละห้าชิ้นก่อนจะขึ้นบันไดไปชั้นบน พอเปิดประตูเข้าไปข้างในห้องนอนตัวเองไอติมก็ต้องผงะและอ้าปากหวอ
   

“โอ๊ะ!” หมัดของเลโอเหวี่ยงเข้าแก้มขวาของไบรอั้นเต็มแรงจนไบรอั้นหน้าสะบัดไปนิด หนุ่มหัวทองปิดตาข้างหนึ่งด้วยความเจ็บ พอหันกลับไปยังไม่ทันลืมตาเต็มเปลือกตา เลโอก็อัดหมัดซ้ายเข้าที่แก้มซ้ายอีกหมัด
   

“…” เลโอพูดอะไรกับไบรอั้นด้วยน้ำเสียงแข็งแกร่ง ไม่ได้ตะเบ็งเสียง ไม่ได้ตะคอก หรือไม่ได้พูดด้วยอารมณ์ แต่แววตาที่มองไบรอั้นนั้นคมกล้าและจริงจัง ไอติมที่สกิลภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงบวกกับตะลึงอยู่ก็เลยฟังไม่รู้ มาพอฟังออกท่อนสุดท้ายก่อนที่เลโอจะเดินออกมาจากหน้าไบรอั้น
   

“We both may bad, but you are high level than me. (เราอาจจะเลวเหมือนกัน แต่ฉันสู้แกไม่ได้หรอก)” แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเข้าใจประโยคนั้นที่ออกมาจากปากของเลโอ คิงคองตัวล่ำบึ้กก้าวเท้าเดินมาทางประตูพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้างให้ไอติม ผิดกับสีหน้าราบเรียบและขึงขังเมื่อกี้นี้ ฝรั่งผิวช็อคโกแล็ตก้มลงหอมแก้มใสทั้งสองข้างของคนตัวเล็ก
   

“Tomorrow will be my last day to be here. Could I fuck you again? (พรุ่งนี้ฉันจะอยู่ที่นี่เป็นวันสุดท้ายแล้ว ฉันเอานายอีกรอบได้มั้ย)” ไอติมนิ่งไปสักพักก่อนที่แก้มขาวจะแดงระเรื่อ ร่างผอมบางกำลังจะเอียงหน้ามองไบรอั้น แต่เลโอยกสองมือจับกรอบหน้าของไอติมไว้ ไอติมกะพริบตาปริบๆ


“I asked you. Not him. Speak by yourself. (ฉันถามนาย ไม่ใช่เขา พูดด้วยตัวนายเถอะนะ)” เลโอมองไอติมด้วยสายตาอ่อนโยนพอ ๆ กับรอยยิ้มบาง ๆ อันนั้น ไอติมเม้มปากครู่หนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มเขิน ไม่ได้ตอบรับด้วยคำพูดหรืออากัปกิริยาใด ๆ แต่เลโอก็ยิ้มกว้าง ก้มลงจูบปากสีแดงหนึ่งที


“That’s mean yes for me. (นั่นแปลว่าได้สำหรับฉัน)” ไอติมกัดริมฝีปากล่างแล้วคลี่ยิ้ม เลโอขยิบตาให้ไอติมหนึ่งทีและเดินผ่านไอติมกลับไปห้องนอนตัวเอง ไอติมหันไปมองตามแผ่นหลังเลโอ ตอนที่เขาหมุนตัวมาเพื่อดันประตูปิด เขาใช้มือขวาขยำเป้าตัวเองสองสามทีและแลบลิ้นออกมา ขยับปลายลิ้นถี่รัว ไอติมอมยิ้มกรุ้มกริ่ม เลโอคลี่ยิ้มบางและดันประตูปิด ไอติมหันหน้ากลับมา ยิ้มเขินกับตัวเองสักแปบ แต่พอเงยหน้าขึ้นมองที่เตียงก็หุบยิ้มเมื่อเห็นไบรอั้นนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงและส่งเสียงซี๊ดซ๊าดแผ่วๆ
   

“What happen?” ไอติมถามพลางนั่งลงบนเตียงข้างตัวไบรอั้น คนถูกถามเปิดเปลือกตาขึ้น บิดหน้ามองไอติมนิ่งก่อนจะตอบเสียงทุ้มปกติราวกับเมื่อกี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
   

“He has been asked to punch my face and then—as you see. (มันขอต่อยหน้าฉัน แล้วจากนั้นก็ อย่างที่นายเห็น)” ไอติมขมวดคิ้วหน้าเอ๋อ
   

“Punch?” ไอติมกำลังคิดว่ามันเกี่ยวอะไรกับน้ำพั้นช์
   

“อือฮึ…” หน้าไอติมมีแต่ความงุนงงและคำถาม ไบรอั้นมองด้วยความเข้าใจ ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติม
   

“…It was an advance punching. (มันเป็นการต่อยล่วงหน้าน่ะ)” ไอติมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี และยังคงวนเวียนกับเรื่องน้ำพั้นช์
   

“You two เอ่อ fight เอ่อ แบบว่า fight with word เหรอ (คุณสอง เอ่อ สู้ แบบว่า สู้กับคำพูดเหรอ)” ไบรอั้นนิ่งไปพักนึง แปลภาษาอังกฤษฉบับไอติมรอบนี้นานหน่อย แต่ก็พอเข้าใจ
   

“He hit my face before I said yes. (มันอัดหน้าฉันก่อนฉันจะพูดว่าตกลงซะอีก)”
   

ไอติมยกมือเกาหัว หน้าตางงงวย ไบรอั้นกระตุกยิ้มขำ แล้วก็ตามด้วยกระตุกเพราะเจ็บ “We are fine. (เราปกติกันดี)”
   

อันนี้ไอติมเข้าใจแต่ก็ทำหน้าประหลาดใจกับการบอกว่าเราปกติกันดีทั้งที่เพิ่งต่อยกันไป ไบรอั้นมองหน้าไอติมและนึกถึงคำพูดของเลโอที่พูดใส่หน้าเขา ประโยคนั้นวนเวียนอยู่ในหัว แต่ไม่ถึงกับขนาดฝังอยู่ในหัว
   

“Are you going to sleep with him again? (จะนอนกับมันอีกรึเปล่า)” ไบรอั้นมองหน้าตาครุ่นคิดแปลคำพูดของเขาอยู่ในหัวของไอติม
   

“I sleep with you. (ผมนอนกับคุณ)” และดูท่าว่าไอติมจะแปลผิดไปนิด
   

“I mean he will fucks you and you okay? (ฉันหมายความว่ามันจะเอานายและนายโอเค?)” อันนี้ไอติมเข้าใจ เลยคลี่ยิ้มเขินอาย แค่นั้นไบรอั้นก็ไม่ต้องรอคำตอบเป็นคำพูดอีกแล้ว
   

“Then I’m in. (งั้นฉันร่วมวงด้วย)” ไบรอั้นเบะปากเล็ก ๆ แล้วหางตาซ้ายก็ต้องขยิบหยีเพราะเจ็บมุมปาก ไอติมไม่เก็ทประโยคนี้แต่ก็ยิ้มเอาไว้ก่อน ไบรอั้นมองรอยยิ้มนั้น
   

A white boy. (เด็กผู้ชายสีขาว)
   

รอยยิ้มอันเป็นอิสระ 
   

“Hey, I want to tattoo. Do you have the place to recommend? (นี่ ฉันอยากสักน่ะ มีร้านแนะนำมั้ย)” ไอติมเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าดูงุนงงเล็กๆ
   

“Tattoo เหรอ tattoo on arm, leg, hand เงี้ยเหรอ” ไอติมทำท่าจิ้มไปตามอวัยวะที่พูด ไบรอั้นพยักหน้าด้วยความเข้าใจกับความหมายที่ไอติมต้องการจะถาม



   


ไอติมพาสองฝรั่งที่คุยกันปกติดีออกจากบ้านในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก ซึ่งไอติมก็ทำได้แค่งง อยากจะถามแต่ก็กลัวจะถามไม่รู้เรื่องเลยไม่ถาม เขาไม่ได้ทำแผลอะไรให้ไบรอั้น เพราะเขาไม่มีแผล มีแค่รอยช้ำที่สีเข้มขึ้น เลยได้แต่เอายานวดให้เท่านั้น ไบรอั้นจะแสดงอาการเจ็บเป็นระยะ ไอติมไม่รู้ว่าความเจ็บของการโดนต่อยเป็นยังไง เลยไม่รู้ว่าไบรอั้นจะเจ็บตอนไหนและเจ็บแบบไหน
   

“I could drive. (ฉันขับรถให้ได้นะ)” ไบรอั้นเสนอ ที่บ้านไอติมมีรถยนต์ จอดอยู่ที่ร้าน แต่ไอติมขับไม่แข็ง ยิ่งออกถนนใหญ่ไอติมยิ่งไม่กล้า
   

“I think taxi is okay. (ผมคิดว่าแท็กซี่โอเค)” สองฝรั่งไม่มีปัญหา แล้วแต่เจ้าบ้าน ไอติมบอกให้พนักงานที่ร้านเรียกแท็กซี่ไว้ให้ พอไปถึงก็เจอรถแท็กซี่สีฟ้าจอดรออยู่หน้าร้านอาหารแล้ว ไอติมแวะเข้าไปบอกแม่เรื่องเวลาจะกลับก่อนเดินนำสองฝรั่งไปขึ้นรถแท็กซี่ บอกปลายทางที่จะไป คนขับพยักหน้ารับและขับรถออกไปจากหน้าร้านของไอติมที่มีลูกค้ามากินข้าวเย็นกันแน่นร้านเหมือนเช่นทุกวัน
   

สถานที่แรกที่ไอติมพาสองฝรั่งมาก่อนไปถนนข้าวสารคือร้านสักในกรุงเทพฯ ร้านหนึ่งที่ไอติมโทรไปถามเดนนี่มาทั้งที่อีกฝ่ายนอนหลับอยู่ แต่ไอติมก็ไม่สนใจ ให้เดนช่วยหาข้อมูลให้ เดนนี่มีเพื่อนเยอะ ไอติมเลยเดาเอาว่าหนึ่งในเพื่อนเยอะ ๆ ของเดนน่าจะมีคนสักอยู่บ้าง น่าจะพอช่วยเขาได้ ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เดนนี่ให้ชื่อร้านกับสถานที่ตั้งของร้านมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ เผื่อว่าไอติมจะหาร้านไม่เจอ แต่แท็กซี่มีความสามารถมากพอที่จะมาส่งทั้งสามคนถึงหน้าร้านภายในระยะเวลาสี่สิบห้านาที
   

“แกสักมั่งมั้ยล่ะ”
   

“พวกนั้นขอฉันไว้เรื่องรอยสัก” ไบรอั้นพยักหน้าเข้าใจ พลิกหนังสือรูปรอยสักเล่มที่สองของร้านจากเกือบสิบเล่มที่พนักงานผู้หญิงมีรอยสักตรงแขนกับเหนือเนินอกเอามาให้ดู มีไอติมนั่งก้มหน้าก้มตาเปิดอีกเล่มอยู่ข้างกัน
   

“แล้วแกสักได้เหรอวะ พวกนั้นไม่ว่าเอารึไง โดยเฉพาะ นั่นน่ะ” ไบรอั้นหน้านิ่ง กระตุกยิ้มข้างที่ไม่โดนต่อย ส่ายหัวน้อย ๆ และมองตาเลโอด้วยแววตาแข็งกระด้างเล็ก ๆ เลโอย่นคิ้วมองหน้าเพื่อนแต่ก็คลายขมวดออกรวดเร็ว
   

“นี่ ๆ เอาลายนี้มั้ย This, this, beautiful” ไบรอั้นหันจากหนังสือในมือตัวเองไปมองของไอติมที่ยื่นมาให้เขาดู
   

“You like it มั้ย” ไอติมถามและยิ้มน่ารัก ไบรอั้นยิ้มตามน้อย ๆ ก้มลงมองรอยสักบนหน้านั้นอีกที


รอยสักที่ไอติมแนะนำเป็นรูปขนนกสีดำขนาดใหญ่ บิดเป็นเกลียวหนึ่งเกลียวอย่างอ่อนช้อยสวยงามแล้วสะบัดตรงปลายขนแตกกระจายกลายเป็นฝูงนกเล็ก ๆ สีดำที่มีขนาดต่างกันและกางปีกโบยบินเป็นกลุ่ม แวบแรกไบรอั้นคิดว่ามัดูรก ๆ แต่พอมองอีกทีมันก็ไม่ได้ดูรกหรือรุงรังจนเกินไป เขาคิดในหัวว่าอาจจะบอกให้ช่างตัดนกออกสักสองสามตัวหากเขาเลือกลายนี้จริงๆ


ไบรอั้นวางหนังสือในมือตัวเองไว้บนโต๊ะข้างหน้า หยิบหนังสืออีกเล่มมาจากมือไอติม มองภาพนั้นด้วยความรู้สึกแผ่วเบาในอกที่รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ ภาพท้องฟ้าสว่างสดใสแวบเข้ามาในหัว เขายิ้มอ่อน หันไปมองไอติมที่ส่งยิ้มมาให้ไม่จางหาย เขาพยักหน้าก่อนหันไปพูดกับพนักงานสักผู้ชายอีกคนที่มีรอยสักเต็มแขนและรอบคอ


“This one. (เอารูปนี้)” ไอติมปรบมือแปะ ๆ ด้วยความดีใจที่ไบรอั้นเลือกรูปที่ตัวเองเสนอให้ ไบรอั้นยกมือขวาขึ้นขยี้หัวไอติมเบา ๆ โดยมีเลโอเบะปากเป็นภาพแบ็คกราวด์อีกที


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 02-01-2019 20:47:40
Happy new year 2019. อยากอ่านไอติม  VS. แดนนี่ แบบไม่ถุง แล้วปล่อยใน อ่ะ อื้ยเขิลเน้อ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Wipers ที่ 02-01-2019 21:04:22
ปากแข็ง
ไม่อยากให้ไอติม เอากับคนอื่นก็บอกเขาไป
ไม่ใช่หวงก้างแบบนี้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 02-01-2019 21:46:11
เลโอต่อยพี่อั้นทำมาย..ยยยยย    :m28: :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-01-2019 22:33:56
 :haun4: นี่มาแบบสั้น ๆ ยังเป็นแบบนี้ ถ้ามายาว ๆ ไม่อยากจะคิดดดดดด  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 02-01-2019 23:38:38
ตอนที่อ่านคือ  สงสารไอติม ทั้งพี่อั้นทั้งพี่คิงคองแม่งโหดไรกับลูกเราขนาดนั้น :m16:

แต่อ่านมาเรื่อยๆ น้องติมลูกแม่สู้มากกกกก อึดโคตรๆ แม่ยอมมมมมม  :ruready :katai1:

โถ่ๆๆ ลูกแม่กลายเป็น rabbitch ไปแล้ววว :hao5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 03-01-2019 03:27:56
เหมือนอั้นจะเริ่มรู้สึกกับไอติมมากกว่าไอติมรู้สึกกับอั้นแล้วนะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 03-01-2019 06:12:58
ไบรอันหวงหรอ ถึงกับต้องทำโทษ เคืองหรอ
ไบรอันดูชอบไอติมนะ และดูมีอาการมาก
ที่ไอติมยอมเลโอและกัดแรงบิท

เอ็นดูไอติมนะ บางทีไบรอันก็แรงเยอะไป
ไอติมยังไม่คิดอะไร เหมือนที่แพนถาม
ก็คงแค่ตอนนี้ ต้องรอให้ห่างกัน ถึงจะรู้

เลโอเคืองอะไร รู้ทันล่ะสิ 

สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 04-01-2019 01:34:00
ฝากเลโอต่อยแรงๆอีกที เผื่อมีคนคิดได้ :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 04-01-2019 18:02:59
สวัสดีปีใหม่ 2019 ค่าา และคิดถึงเดนนี่จังเลยค่ะ ขุ่นเจ้ ฮ่าาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 04-01-2019 19:18:14
ผิดใจอะไรกันหว่า  :o10:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: skies ที่ 07-01-2019 00:35:54
ไอติมดูเป็นคนที่มีความสุขและพร้อมจะตัดทุกอย่างที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์อะ

อย่างตอนนี้อยู่กับไบรอันแล้วมีความสุข แต่ถ้าวันนึงความสุขมันหมดไป น้องก็คงตัดไบรอันออกจากชีวิตได้ง่าย ๆ เลย

กลับกัน ไบรอันที่ตอนนี้ปากบอกไม่ แต่ถ้าวันนึงโดนน้องตัดออกจากชีวิตนี่คงสภาพเละเทะน่าดู
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 07-01-2019 16:27:17
เอิ่มมมม ไอติมหนูไม่รู้สึกอะไรจริงๆน่ะหรือลูก นี่ก็พยายามคิดว่าเพราะไอติมมีความสุขเลยผ่านตอนนี้ไปแบบอึนๆในใจเอง
รุนแรงกับน้องเกิ้นนนน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 09-01-2019 00:40:28
Mr.Rabbitch x His Cockrot รุนแรงมากกก ใจเย็นๆเด้ออ
ตอนนี้เราว่าเราได้กลิ่นคนหวงแหละ
ติดใจตรงที่น้าแพนคิดว่าหลานเห่อของใหม่
ไม่อยากจะนึกถึงตอนม่าเล๊ยยย ไหนจะปัญหาไบรอันอีกอ่ะะ :ling3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 11-01-2019 21:09:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.21 : Punishment. : 02.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 12-01-2019 19:12:27
ผมรู้สึกว่าฉากร่วมรักของบทหลังๆ ตั้งแต่ King's order มาจนถึง Punishment มันดูไม่ค่อยซาบซ่านยังไงก็ไม่รู้นะครับ ส่วนตัว ผมคิดว่าอาจเป็นเพราะบทบรรยาย

ตอน King's Order ผมอ่านโทนเรื่องผ่านบทบรรยายไม่ออก คือมันเป็นตอนที่ไอศรีมได้กับลีโอ ดังนั้นผมคาดหวังว่าเราควรจะเห็น Personality และความสามารถ รวมถึงท่วงท่าต่างๆของการร่วมรัก เพราะลีโอกับแซ็คมีการบรรยายที่ค่อนข้างเท่าเทียมกัน (ถ้าผมจำไม่ผิด มีแย็บๆด้วยมั้งว่าลีโอเองก็แสดงหนังด้วยนี่) ดังนั้นมันควรจะสะท้อนความซาบซ่านออกมาได้ไม่ต่างกันบทเพศสัมพันธ์ที่ทำกับแซ็ค หรือให้อารมณ์ซาบซ่านแบบเดียวกับฉากแคสติ้งที่ไอศรีมให้บทลูคัสไป

แต่โอเค เคสของตอน King's order มันเป็นเพราะอารมณ์เลยเถิดของเกมส์พระราชา ทำให้ออกมาดูเหมือนเก้ๆกังๆยังไงไม่รู้ เหมือนไอศรีมจะไปไม่สุด อาจจะเพราะมีแซ็คอยู่ด้วย แถมเลโอยังหลั่งก่อนอีกขณะที่สองคนกำลังเล้าโลมกันอยู่ ผมคาดหวังมากกว่านี้กับบทร่วมรักของลีโอนะครับ หลังๆพอตัวละครชายเยอะขึ้น ผมอ่านแล้วรู้สึกตงิดๆเหมือนจะเทบทอวยเรื่องบนเตียงไปแซ็คยังไงก็ไม่รู้ โชคดีหน่อยที่เห็นเลาๆว่าอย่างน้อยบทหน้าคงมีแก้ตัว

ส่วนตอน Punishment ผมเข้าใจว่าเราต้องการจะสื่อถึงอารมณ์รุนแรงของแซ็ค แต่อ่านไปทำไมมันเหมือนทารุณกรรมคู่นอนยังไงก็ไม่รู้แฮะ มาตั้งแต่บทช่วงท้ายของ King's Order แล้ว ทำไมแซ็คเอะอะก็จะจับบังคับกดเข้าปากให้อีกฝ่ายหายใจไม่ออก น้ำหูน้ำตาไหล มันออก Sadism นะครับ ด้วยแรงอารมณ์แบบนี้ ทำให้ฉากของ Punishment ที่แซ็คครีเอทท่วงท่า แต่ปนพวกความรุนแรงพวกนี้มา ผมไม่คิดว่ามันเป็นบทบรรยายที่สื่ออารมณ์ทางเพศได้ดีเท่าไหร่น่ะครับ

ผมไม่ติงเรื่องที่แซ็คจะเป็นพระเอกนะครับ แต่ก็อย่างที่ผมเคยบอกในนิยายหลายๆเรื่อง การที่เราจะเห็นพระเอกที่ค่อนข้างน่าสนใจในงานวิเคราะห์นวนิยาย ไม่เกี่ยวกับสถานะของตัวละคร ไม่เกี่ยวกับอาชีพ หรือโทนเรื่อง หรือนิสัยใดๆทั้งสิ้น จะรวยหล่อหรือยากจนหน้าตาแย่ สิ่งที่ทำให้ตัวละครที่เป็นพระเอกหรือนางเอกในนวนิยายมีคุณค่า คือการเปลี่ยนแปลงนิสัยหรือแนวคิดจากตั้งแต่ตอนแรก พัฒนาไปจนถึงจุดสุดท้ายของเรื่อง เป็นการที่ให้แง่คิดกับผู้อ่านไม่ว่าเรื่องจะจบยังไง เรื่องที่จบแบดเอนดิ้งหรือแฮปปี้เอนดิ้ง ถ้ามันสะท้อนหรือสื่อทัศนคติบางอย่างของตัวละครที่เปลี่ยนแปลงไปแบบสมเหตุสมผล ไม่อวยจนเกินเหตุทำให้ต้นเรื่องกับปลายเรื่องไม่ต่างกัน นวนิยายเรื่องนั้นก็ถือว่ามีคุณค่าในตัวเองต่อสังคมแล้ว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 17.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 17-01-2019 22:05:53
Fall in lust, Chapter 22 :: Change. [50%]




‘I want to change my hairs color. (ฉันอยากเปลี่ยนสีผมใหม่)’


‘ฮึ?’ ไอติมมองเส้นผมสีทองของไบรอั้นสักพักก่อนเลื่อนสายตาลงมองใบหน้าของเขา


‘What color? (สีอะไรอ่า)’


‘My original color, (สีเดิมของฉัน…)” ไอติมติมกะพริบตาช้า ๆ หน้าตางุนงง ไบรอั้นยิ้มน้อย ๆ และพยายามอธิบาย


‘I meant, dark brown. That’s the old color of me. (ฉันหมายถึง สีน้ำตาลเข้มน่ะ สีเก่าของผมฉันเอง)’


‘Why change? Gold color make you look sexy นะ (ทำไมเปลี่ยน สีทองทำให้คุณดูเซ็กซี่นะ)’ ไอติมหัวเราะคิกคัก ไบรอั้นยิ้มตาม ยกมือขวาลูบเส้นผมเอื่อย ๆ ดวงตาสีเทามองดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของไอติมนิ่ง


‘I miss me, I guess. (ฉันคิดถึงฉัน คิดว่างั้นนะ)’ ไอติมย่นคิ้ว


‘ฮะ?’ ไบรอั้นคลี่ยิ้มละมุน






“เดนนน!” ไอติมยิ้มสดใสพร้อมกับร้องทักเพื่อนสนิทที่มารอรับที่สนามบินซานฟรานฯ หนุ่มลูกครึ่งเดินเข้าไปหาเพื่อนแล้วช่วยลากกระเป๋าเดินทางไปไว้เบาะหลังของรถ
   

“เก่งนี่หว่า ขึ้นเครื่องบินมาคนเดียวได้จนถึงนี่” ไอติมยิ้มกว้าง แววตาเป็นประกายด้วยความปลื้มใจ
   

“กูตื่นเต้นมากเลยอะ กูถามคนไปสิบคนได้มั้ง” เดนนี่ขำอ่อน ๆ เชื่อว่าคนที่ถูกไอ้ติมถามน่าจะถึงสิบคนหรืออาจจะเกินสิบก็เป็นได้
   

“ขวัญใจมึงก็ช่างทิ้งให้มึงมาคนเดียวเนอะ” ไอติมย่นคิ้ว
   

“ไม่ได้ทิ้งสักหน่อย เขาเองก็กลับคนเดียวมั้ยล่ะ” ไอติมไม่ถึงกับจะปกป้องจริงจัง แค่พยายามจะอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ๆ ให้เพื่อนฟังว่ามันเป็นแบบไหน
   

หลังกลับจากทริปสามเกาะกับเราสามคน พักอยู่บ้านไอติมได้อีกวัน เลโอก็ออกเดินทางไปลาวกับเพื่อนอีกกลุ่ม เหลือเขากับไบรอั้นสองคน ไอติมกอบโกยดังปากว่า ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไบรอั้นตอบสนองให้ไอติมแบบจุกอกจุกใจและจุกท้องแบบจุก ๆ จนช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์สุดท้ายก่อนไบรอั้นจะบินกลับเป็นช่วงเวลาที่ไอติมหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมาได้มากมายยิ่งกว่าการกินหมูกระทะของโปรด
   

ไบรอั้นกับไอติมไม่ได้กำหนดว่าจะต้องอยู่ต่ออีกกี่วัน ทั้งสองคนใช้เวลาด้วยกันที่บ้านไอติมและตามสถานที่ต่าง ๆ ไปตามปกติ ใช้ชีวิตเหมือนทุก ๆ วันของชีวิต จนวันนึงไบรอั้นรับโทรศัพท์ใครสักคนที่ไอติมไม่รู้จัก ไบรอั้นก็บอกว่าจะต้องกลับไปทำงาน ไอติมก็เลยบอกให้อีกฝ่ายบินกลับตามวันที่ไบรอั้นสะดวก
   



‘And you? Are you going back with me? (แล้วนายล่ะ จะกลับพร้อมฉันรึเปล่า)’
   

‘No. You go first. I will go second. I have to do video. (ไม่ คุณไปก่อน ผมจะไปลำดับที่สอง ผมต้องทำวิดีโอ)’
   

ไบรอั้นมองหน้าไอติมที่ตัวเปลือยเปล่าและนั่งคร่อมอยู่บนหน้าท้องด้วยความครุ่นคิด ไอติมก้มหน้าลงเอาหน้าตัวเองไปชิดกับใบหน้าของฝรั่งหัวทองและคลี่ยิ้ม
   

‘You make me don’t เอ่อ don’t have focus with work (คุณทำให้ผมไม่ เอ่อ ไม่มีโฟกัสกับงาน)’ ไบรอั้นนิ่งแปลสักแปบก่อนจะยิ้มมุมปากอ่อน ๆ และถามด้วยความไม่แน่ใจ
   

‘You mean I distract you from work? (หมายถึงว่าฉันทำให้นายไม่มีสมาธิกับงานเหรอ)’ ไอติมเม้มปาก กะพริบตาปริบ ๆ เพราะไม่รู้ความหมายของคำศัพท์นั้น ไบรอั้นมองหน้าพยายามทำไม่มึนของไอติมแล้วก็ขำ ไอติมขำตาม ไบรอั้นพลิกตัวให้ไอติมลงไปนอนข้างล่าง ไอติมคลี่ยิ้ม สองขายกขึ้นเกี่ยวเอวไบรอั้น สองมือยกขึ้นคล้องคอคนตัวโต ดวงตาสองสีสบกัน ไบรอั้นมองรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของไอติมแล้วยิ้มบาง
   

‘Are you happy? (นายมีความสุขมั้ย)’ ไอติมยิ้มตาเป็นประกายก่อนตอบเสียงใส
   

‘I’m happy!’ ไบรอั้นยิ้ม
   

‘See you there. (เจอกันที่นู่น)’

   



สามวันหลังจากนั้นไอติมก็ไปส่งไบรอั้นที่สนามบิน ไอติมไม่ได้ร่ำลาด้วยบรรยากาศดราม่าใด ๆ เพราะรู้ว่าเดี๋ยวก็จะเจอกัน แต่พอกลับถึงบ้านก็ใจหายและใจหวิวบ้าง เพราะระยะเวลาสามอาทิตย์กว่า ๆ ที่อยู่ด้วยกันมา ไอติมมีไบรอั้นนอนอยู่บนเตียงด้วยเสมอ
   

แต่ก็รู้สึกไม่นาน เพราะไอติมใช้สมาธิไปกับงานที่ได้รับมอบหมายมาจนแทบต้องนั่งกรรมฐานสร้างสมาธิใหม่ ซึ่งอันที่จริงไอติมบินกลับมาพร้อมไบรอั้นก็ได้ เอางานกลับมาทำที่นี่ แต่ไอติมเลือกจะอยู่บ้านก่อนเพราะอยากใช้เวลาอยู่กับแม่อีกสักพัก เพราะกลับมาคราวนี้เขาอยู่ยาวเกือบสามเดือน เลยเลือกที่จะบินตามมา ไม่ได้เก่งหรอก อาศัยว่าจำจากรอบที่แล้วและสอบถามทุกคนที่ไอติมคิดว่าจะให้คำตอบตัวเองได้ สุดท้ายก็มาโผล่ถึงซานฟรานซิสโกอย่างปลอดภัย


“เดน พิมพ์อย่างงี้ถูกป้ะ” ไอติมยื่นโทรศัพท์ไปให้เดนนี่ที่กำลังขับรถ หนุ่มลูกครึ่งมองถนนสักแปบ พอแน่ใจว่าปลอดภัยก็ยื่นมือขวาไปหยิบโทรศัพท์เพื่อนมาอ่านบนหน้าจออย่างรวดเร็วก่อนกลับไปมองถนนตามเดิม


“เออได้” ไอติมยิ้มและรับโทรศัพท์กลับคืนมากดส่งข้อความไปตามหมายเลขปลายทาง


“แล้วมึงมานี่เนี่ย มีที่อยู่ที่นู่นแล้วเหรอ หรือจะกลับไปอยู่กับไอ้โรเบิร์ตอีก” ไอติมยิ้มแหะ ๆ และพยักหน้าเบาๆ


“ก็น่าจะต้องเป็นอย่างงั้น” 


“พระเอกมึงไม่คิดจะชวนไปอยู่บ้านมันมั่งรึไง ทีมันยังไปอยู่บ้านมึงตั้งเกือบเดือน” ไอติมมุ่ยหน้า


“โห แต่ถ้ากูไปอยู่ก็เกือบสามเดือนเลยนะ มากกว่าที่เขาไปอยู่บ้านกูอีก ไม่เอาหรอก”


“มึงเอากันจนทวารมึงเบิกเนตรขนาดนั้นแล้ว จะเกรงใจทำไม แล้วมึงก็ไม่ใช่คนสร้างความวุ่นวายเก่งซะหน่อย” ไอติมร้องโอ๊ะเสียงเบาและอ้าปากหวอ


“อะไรอะ รูทวารกูยังแคบอยู่โว้ย”


“จริงอะ งั้นวันนี้ให้กูพิสูจน์ ถ้าเข้าไปแล้วความรู้สึกไม่เหมือนครั้งก่อน กูจะตีมึง” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ แก้มขาวค่อย ๆ แดงระเรื่อ


“บ้าหรอล่ะ ไม่ให้พิสูจน์” ถึงจะพยายามทำหน้าขึงขังจริงจัง แต่น้ำเสียงที่พูดก็เสียงอ่อนเสียงหวาน


“เนี่ยแหละ มึงยอมให้กูพิสูจน์แล้ว” ไอติมเม้มปากก่อนเปลี่ยนเป็นกัดริมฝีปากล่าง ใบหน้าขาวผ่องแดงก่ำ เดนนี่มองแล้วยิ้มขำ


“ให้กูบ้างดิ กูก็เหมือนผัวมึงคนนึงแล้วนะ” ไอติมหันหน้าไปมองเดนนี่ กะพริบตาปริบและพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้ เดนนี่หัวเราะ


“ไอ้เชี่ยเดน” เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรและรู้สึกหมั่นไส้ที่เพื่อนดูจะอยู่เหนือกว่าตัวเอง ไอติมเลยสบถด่าด้วยน้ำเสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ซึ่งกลายเป็นว่าทำให้เดนนี่หัวเราะหนักกว่าเดิม


เดนนี่ขับรถกลับมาถึงบ้าน ไอติมเดินเข้าไปสวัสดีพ่อกับแม่ของเดนนี่ ทิ้งให้เพื่อนเป็นคนจัดการยกกระเป๋ามาให้ตัวเอง ไอติมที่สกิลภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย สามารถสื่อสารกับพ่อเดนนี่ที่ใช้คำศัพท์ไม่ยากในการคุยได้ค่อนข้างคล่องแคล่ว อย่างน้อยก็คล่องแคล่วกว่าไอติมคนเดิมที่เดนนี่เคยเห็นเวลาพูดภาษาอังกฤษ


“I will stay here three day ครับ dad. (ผมจะอยู่นี่สามวันครับพ่อ)” ไอติมตอบคำถามของพ่อที่ถามว่าจะพักที่นี่กี่วัน


พ่อของเดนนี่เป็นคนอเมริกันแท้ ๆ เกิดและโตที่เมืองนี้ เป็นฝรั่งตัวสูง รูปร่างผอม แต่ไม่ใช่ผอมกะหร่อง หน้าตาใจดี พูดจาดี ไอติมประทับใจพ่อของเดนตรงที่เป็นคนให้เกียรติคนอื่น ซึ่งเดนนี่ได้รับนิสัยตรงนี้มาด้วย ส่วนแม่ของเดนก็เป็นผู้หญิงหน้าตาสวยคมเข้มและใจดี มีมุมดุให้เห็นบ้าง แต่ก็ไม่ได้ดุร้ายน่ากลัว


“เดนพาน้องติมกินข้าวไป น้องติมกินมื้อเดียวเองก่อนมาถึงนี่” เดนนี่พยักหน้าและพาไอติมเดินเข้าไปในห้องครัวของบ้าน ไอติมเลือกกินอาหารเช้าสไตล์อเมริกันที่เหลือจากมื้อเช้าของบ้านเดนนี่ เพราะขี้เกียจรอและไม่อยากให้เพื่อนลำบากทำอาหารเพิ่มเติม


“โทรบอกน้องโรเบิร์ตให้ด้วยนะว่ากูจะขอไปอยู่ด้วย”


“อย่าไปอ่อยน้องกูล่ะ เห็นมองกล้ามมันนิ่งเชียว” ไอติมเบะปากใส่เดนนี่ เหยาะซอสแม็กกี้ลงบนไข่ดาว ตามด้วยเทซอสมะเขือเทศและซอสพริกผสมกันลงบนไข่ก่อนตักเข้าปากโดยไม่แบ่งครึ่ง


“ไม่น่าเชื่อว่าอาการอยากจะเสียตัวของมึงจะพามึงมาถึงจุดนี้ จุดที่มึงได้งานเพราะความเงี่ยน” ไอติมทำปากยื่นแล้วยักไหล่สองทีอย่างกวน ๆ ในขณะที่ปากก็เคี้ยวไข่จนแก้มอูม


“เอาแอ่อ่ากูว่าเอี้ยน อึก…” ไอติมกลืนอาหารลงคอ มองค้อนเดนนี่เบาๆ


“…ถ้ากูไม่เงี่ยนกูก็ไม่ได้งานหรอก เห็นแมะ” ไอติมยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มเพื่อช่วยไล่เศษไข่ตามลำคอให้ลงไปในท้อง เดนนี่หัวเราะ


“เออ อย่าลืมบูชาความเงี่ยนล่ะ” ไอติมเบ้ปากเล็ก ๆ จิ้มแฮมเข้าปาก ก่อนพนมมือเข้าหากัน มีช้อนส้อมสีเงินตั้งอยู่กลางมือ ลุกขึ้นแล้วโน้มตัวไปข้างหน้าก่อนจะยกมือขึ้นเหนือหัว


“ทำไร?” เดนนี่ขมวดคิ้ว ไอติมลดมือลง เงยหน้าขึ้นมองคนตรงข้ามพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิม


“บูชาความเงี่ยนไง” แวบแรกเดนนี่งง แต่แวบต่อมาก็เข้าใจว่าเพื่อนจะสื่ออะไร เดนนี่ขยับปากด่าไอติมเป็นชื่อสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งแบบไม่มีเสียง ไอติมทำลอยหน้าลอยตาและตักไข่แดงราดซอสเข้าปาก





[น้ารู้ว่าเดนดูแลน้องติมดีมากตลอด และน้าขอบคุณมาก…] เดนนี่ได้ยินเสียงวุ่นวายเป็นแบ็คกราวด์จากอีกฝั่ง ให้เดาก็คงเป็นที่ร้านอาหารของบ้านไอติม


[…แต่ตอนนี้ไอติมกำลังออกสู่โลกกว้าง แบบที่กว้างมากสำหรับไอติม ถ้าไม่ลำบากเดนจนเกินไป น้าอยากฝากให้กำลังใจติมในตอนที่ติมอาจจะเจออะไรหนัก ๆ จนรู้สึกเหนื่อย]


‘คนอย่างไอ้ติมเหนื่อยเป็นด้วยเหรอครับน้าแพน’ เดนนี่ว่าติดตลก ปลายสายหัวเราะเบาๆ


[น้าแค่กลัวว่าติมจะเหนื่อยกับโลกกว้างเกินไป]


‘แค่ให้กำลังใจมัน ไม่ลำบากหรอกครับ เพราะผมก็ให้มันมาตลอด’


[ขอบคุณนะเดน ถ้าน้องติมเจออะไรหนัก ๆ มา เป็นที่พักพิงให้เขาสักแปบ แล้วเดี๋ยวน้ากับแม่จะรับช่วงต่อเอง] เดนนี่ยิ้ม ดีใจแทนไอติมที่คนในครอบครัวรักและห่วงมันมากมายแบบหมดใจขนาดนี้


   
   


RRRR!
   

ไอติมใช้มือซ้ายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอ มือขวาตักแฮมคลุกซอสพริกเข้าปาก ริมฝีปากขยับคลี่ยิ้มบางเมื่อเห็นชื่อแอนโทนี่บนหน้าจอโทรศัพท์
   

“ฮัลโหลลล”
   

[เหว่ลค่ำแบ็คทูยูเอสเอนะไอศกรีม]
   

“Nice to meet you, too!” แอนโทนี่หัวเราะ
   

[ลูคัสฝากบ่อกวา ผักผ่อนหั่ยเตมที่ หมั่ยต่องรีบ]
   

“ก็กะอยู่แค่สามวันแหละฮะ ละเดี๋ยวเพื่อนผมจะไปส่งที่นู่น” ไอติมมองหน้าเดนแล้วหรี่ตาพร้อมยักคิ้วให้ หนุ่มลูกครึ่งที่นั่งดื่มน้ำผลไม้อยู่แกล้งทำหน้าเอือม
   

[ผรุ่งนี้ ไบรอั้นมีงานเต้นกับทีมเข๋าที่ซานฟราน แวะไป่ดูด้ายนะ] ไอติมมีสีหน้าประหลาดใจ
   

“ผมส่งข้อความหาเขา เขายังไม่ตอบเลยอ่า”
   

[หยุ่ง ๆ อยู่ละมั้ง] เดนนี่ย่นคิ้วมองไอติมทำปากยื่นและใช้ช้อนส้อมเขี่ยไข่ในจานไปมาเหมือนกำลังเหม่อ แต่พักเดียวก็ตักไข่แดงราดซอสใส่ปากอีกหนึ่งคำ
   

[มันดองงานไหว่เยอะน่ะ เลยต้องเคลียกั่นหนักน้อย] ไอติมยิ้มขำกับสำเนียงการพูดคำว่าหน่อยของแอนโทนี่ที่พยายามลงเสียงให้ได้แบบคนไทยแต่กลายเป็นเชิดเสียงขึ้นและลงต่ำอีกที
   

“ถ้าพรุ่งนี้เพื่อนผมว่างไปส่ง เดี๋ยวผมไปหาเขาฮะ” แอนโทนี่ชวนไอติมคุยอีกสามสี่ประโยคก่อนจะวางสาย ไอติมวางโทรศัพท์ไว้ข้างจานใบใหญ่แล้วตักอาหารเข้าปากเคี้ยวแก้มอูม ดวงตาสองข้างเลื่อนไปมองโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็กลับมามองอาหารตามเดิม
   

“ขวัญใจมึงติดต่อหามึงบ้างรึเปล่าตั้งแต่มันกลับไป…” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองเดนนี่และทำหน้างุนงง
   

“…ขอโทษที่กูขี้เสือก”
   

“เสือกจริง…” ไอติมเบะปากใส่เพื่อนที่ทำหน้าว่าไม่แคร์


“…เขาติดต่อมา ตอนเขาถึงนี่เขาก็ส่งข้อความบอกกูเหอะ…” เดนนี่เบะปากกลับ แล้วพยักหน้าสองสามที ไอติมนิ่งไปสักแปบก่อนจะพูดต่อด้วยท่าทีที่เหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้
   

“…แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกเลยอะ ก่อนมากูก็ส่งข้อความบอก แต่เขาก็ไม่ได้ตอบ ตอนกูถึงนี่กูก็บอก เขาก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร”
   

“โดนฟันแล้วทิ้งชัวร์”
   

“ไอ้เชี่ย” ไอติมมองค้อนใส่เพื่อน เดนนี่แกล้งทำหน้าลิงหลอกเจ้า


เพราะมัวแต่ใช้สมาธิกับงาน จนลืมไปว่าไบรอั้นส่งข้อความหาตัวเองแค่ครั้งเดียวตั้งแต่กลับไป ก็คือวันที่ฝ่ายนั้นเดินทางถึงแอลเออย่างปลอดภัย หลังจากนั้นไอติมกับขวัญใจตัวเองก็ไม่ได้โทรคุยหรือแชทหากันอีกเลย แต่เพราะมัวแต่คิดงานแก้งานไปมา เลยทำให้ไอติมเพิ่งมารู้ตัวจริงจังว่าตัวเองห่างจากไบรอั้นแบบไร้สัญญาณการติดต่อมาเกินหนึ่งอาทิตย์แล้วก็ตอนที่เดนนี่ถามนี่แหละ


“แต่มึงก็ตักตวงเต็มอิ่มแล้วมั้ง” ไอติมคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์


“ตักตวงเต็ม ๆ น่ะใช่ แต่ยังไม่อิ่ม!”


“เงี่ยนจริง” เดนนี่ทำน้ำเสียงคล้ายคนอ่อนใจและยอมให้กับความหงี่ของไอติม คนโดนว่าเชิดคางขึ้นและทำลอยหน้าลอยตากับคำด่านั้นให้คนด่าหมั่นไส้ไปอีก


“ทำแบบนี้แม่งเหมือนเห็นมึงเป็น Holiday partner เลย” ไอติมขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจคำที่เดนนี่พูด


“คือไรอะ” ไอติมหยิบไข่ลวกมาตอกใส่ถ้วยเล็ก


“เขาเรียกว่า holiday boyfriend กับ girlfriend จะมีฝรั่งบางประเภทที่เวลาไปต่างประเทศ ก็ไปจีบผู้หญิงผู้ชายสักคนให้มาคบกับตัวเองช่วงที่อยู่ในประเทศนั้น ๆ พอกลับประเทศแล้วก็หายไปเลย”


“อ่อ…” ไอติมอ้าปากค้างนิดหนึ่ง ใบหน้าคิดอะไรบางอย่าง มือขวาตักไข่ขึ้นมาเตรียมพร้อมเข้าปาก


“…แต่เขาไม่ได้จีบกูนะ”


“มึงตักตวงจากเขา เขาก็ตักตวงจากมึงเหมือนกันนั่นแหละ” ไอติมย่นคิ้ว


“ตักตวงอะไรวะ” เดนนี่เคี้ยวแอปเปิ้ล ทำหน้าพยายามหาคำอธิบายให้ไอติมเข้าใจ


“ที่พัก รถ อาหาร…”


“…เดี๋ยว ๆ เขาก็ช่วยกูหารไอ้เดน ก่อนเขากลับเขายังช่วยค่าน้ำค่าไฟตั้งเยอะ” เดนนี่ทำปากว่าอ้อ


“เออ งั้นก็ดีแล้ว” ไอติมยกถ้วยขึ้นซดไข่ลวกจนเกลี้ยงถ้วย วางถ้วยลงบนโต๊ะแล้วพ่นลมหายใจ สีหน้าหงอย ๆ เล็กน้อย


“กูคิดถึงเขา…” เดนนี่มองหน้าเพื่อนอย่างเรียบเฉย


“…เขาหายไปเลย” ไอติมทำปากจู๋ ใบหน้าหงอยเหงามากกว่าเดิม


“มึงรักเขาเหรอ” ไอติมขมวดคิ้ว


“ม่าย คิดถึงแปลว่ารักได้ไงวะ…” ไอติมมองเดนนี่ด้วยความงง


“…กูอยู่กับเขาทุกวัน ตัวติดกัน ห่างกันก็ต้องมีคิดถึงมั่งเสะ”


“อ๋อ… อะ ๆ กูเก็ท ๆ เอากันแทบทุกวันจนคุ้นเคยว่างั้น” ไอติมกัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้มเขิน ก่อนพยักหน้าและทำหน้าประมาณว่า เออ แบบนั้นแหละ ก่อนจะพ่นลมหายใจอีกทีแล้วก็คลี่ยิ้มกว้าง มองเดนนี่ด้วยสายตาออดอ้อน


“พรุ่งนี้กูไปหาเขาดีกว่า…” เดนนี่มองสีหน้าและแววตาอ้อนของเพื่อนด้วยความไม่ไว้ใจ


“…เดนจ๋า พากูไปหน่อยนะ” เดนนี่ทำหน้าตายและปรือตามองไอติมที่ยิ้มประจบสอพลอเขาอยู่ เขาเคี้ยวแอปเปิ้ลช้า ๆ สักพักก่อนจะถอนหายใจยาว ๆ และพยักหน้าขึ้นหนึ่งที


“เย้!” ไอติมยิ้มตาหยี ส่วนเดนนี่นิ่งจนตาตึง

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 17.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 17-01-2019 22:51:40
ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนสาวไรท์ด้วยนะคะ.  :L2:

รอน้องติมติ่งพี่อั้นค่ะ. เหมือนน้าแพนจะรู้ว่าหลานจะเจออะไรหลังนี้

เชียร์เดนดีกว่า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 17.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-01-2019 23:08:21
นั่นซิ ทำไมหายเงียบไป มีความสงสัย ๆ  :m28:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 17.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 17-01-2019 23:21:26
ต้องเป็นห่วงน้องไอศครีมไหมเนี่ย..ยยยย    :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 17.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 17-01-2019 23:26:12
น้องเดนจะได้แค่รอบเดียวจริงๆเหรอคะ อร๊ายยยยย :o8:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 17.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 17-01-2019 23:55:43
หวีดดดดด เดนมาแล้ววววว  :-[

ส่วนตาอั้น ถ้าเมินลูกติมของแม่ แม่จะเชียร์เดนเป็นพระเอกเด้อ :o8:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 17.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 18-01-2019 00:18:06
รอๆจ้า ขอสาธุ ชาบูความเงี่ยนให้น้องติม  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 17.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-01-2019 06:18:40
โอ้ยย น้องติมลูก เอ็นดูววว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 17.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 18-01-2019 08:28:25
สู้ๆนะคะ ขุ่นเจ้ นานแค่ไหนก็รอค่ะ ตกบ่วงไอติมไปแล้้ว 555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 17.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 18-01-2019 10:20:57
อิตาไบรอั้นดูเหมือนมีอะไรในใจปมในใจก็เลยย้อนแย้งเวลาได้ปลดปล่อยกับไอติมเวลาอยู่ที่ไทย เลยเหมือนกับว่าความห่างคือความชัดเจน ล่ะมั้ง แลดูเหมือนมีอะไรระหว่างเจคอบกับไบรอั้นหรือเปล่าด้วยล่ะ สู้ๆนะไอติม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 23-01-2019 19:30:48
Fall in lust, Chapter 23 :: Change. (เปลี่ยน) [ครึ่งหลัง]



   
‘อูว… อ่า…’ ใบหน้าที่ไอติมมองว่าคล้ายคิงคองยิ้มพึงใจและออกไปทางเย้ยนิด ๆ เมื่อหันไปมองหนุ่มหัวทองที่นอนเอาตัวพิงโซฟาในห้องดูทีวีอยู่ข้างกัน สองมือถือกล้องวิดีโอเก็บภาพไอติมกำลังนั่งขย่มอยู่บนตัวของเลโอ
   

‘หน้าแกเป็นเหี้ยไรวะ’ เลโอขำเสียงทุ้มกับคำถามของไบรอั้นที่ถามด้วยหน้าตาหมั่นไส้เต็มที่ ไบรอั้นเลื่อนสายตาขึ้นมองไอติมเอาหน้าผากวางชิดกับหน้าผากเลโอ เปลือกตาปิดลง ริมฝีปากเผยอและส่งเสียงร้องอื้ออ้าแผ่วเบา เลโอแลบลิ้นเลียริมฝีปากของไอติม ร่างผอมบางแลบลิ้นตัวเองออกมาเกลี่ยกับลิ้นของเลโอแบบไม่รู้ทิศทางเพราะสติกำลังเลือนลางกับความเสียววูบวาบช่วงล่าง
   

‘ฉันจะต้องคิดถึงไอติมมากแน่ๆ’ เลโอว่าเสียงทุ้มแล้วดูดลิ้นไอติมไปหนึ่งที สองมือบีบก้นขาวเนียนอีกรอบจนรอยแดงเพิ่มขึ้น
   

‘แกก็ทำได้แค่นั้นแหละ’ ไบรอั้นหันกล้องเข้าหาหน้าตัวเองและยิ้มมุมปากด้วยความเหนือกว่า เลโอหันไปเบะปากก่อนหันไปจูบไอติมที่หยุดนิ่งและนอนหอบน้อย ๆ อยู่บนตัวคิงคองหนุ่ม เลโอหอมแก้มไอติมไปที สองมือแหวกก้นไอติมแล้วก็เด้งเอวขึ้นรัว เสียงเนื้อตีกันดังลั่นห้องแข่งกับเสียงทีวีที่เปิดคลอไว้ ไอติมย่นคิ้วและร้องอืออาเสียงเบาหวิว ฟันบนขบริมฝีปากล่างแน่น เลโอขบฟัน ใบหน้าเหยเกเพราะความเสียว
   

‘หมดเวลาของแกแล้ว’ ไบรอั้นชูโทรศัพท์ให้เลโอมองตัวเลขที่วิ่งอยู่บนหน้าจอ หนุ่มยุโรปหยุดสิ่งที่ตัวเองทำอยู่และกลอกตามองบนพร้อมทำหน้าเซ็ง ไอติมสูดปากเบา ๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กๆ
   

‘Rabbitch, come here.’ ไบรอั้นหงายมือซ้ายก่อนกระดิกปลายนิ้วทั้งสี่เรียกให้ไอติมมาหาตัวเอง ไอติมค่อย ๆ ลุกขึ้นออกจากแก่นกายของเลโอ โดยมีเลโอมองตามด้วยความเสียดาย ไอติมมองหน้าเลโอแล้วยิ้มอ่อนแรงก่อนคลานเข่าเข้าไปหาไบรอั้นที่ยื่นกล้องให้เลโอรับไป ไอติมตวัดขาซ้ายขึ้นนั่งคร่อมไบรอั้น หนุ่มหัวทองจับแก่นกายที่แข็งพร้อมรบให้ตรงรูที่เปิดเป็นโพรงของไอติมแล้วดันเข้าไป ไอติมกดตัวลงช้า ๆ จนนั่งมิดลำ
   

‘What is this? (อันนี้อะไร)’ ไบรอั้นมองหน้าไอติมตาวาว มือขวาตบก้นไอติมหลายทีติดกัน ไอติมยิ้มเคลิ้มและขมิบกลีบเนื้อรัดแท่งเนื้อของไบรอั้น
   

‘My carrot. (แคร็อทของผม)’ ไบรอั้นจูบปากไอติม กระต่ายลามกเปิดปากให้อีกฝ่ายกวาดลิ้นไปรอบโพรงปากตัวเองโดยมีเลโอคอยบันทึกภาพไว้ให้



   

   
ไอติมอมยิ้มเขินอยู่หน้าจอแม็คบุ๊ก ขาสองข้างบีบเข้าหากัน ดวงตาสีน้ำตาลมองภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอด้วยความรู้สึกร้อนวูบวาบ แก้มสองข้างแดงปลั่ง เผลอกัดริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นตึกตักเมื่อหวนคิดถึงบรรยากาศในวันนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดี ๆ และอีกหนึ่งความทรงจำเด็ด ๆ ของตัวเองในปีนี้
   

“เฮ้ย โห ไอ้เหี้ย นั่นมึงเหรอน่ะ” ไอติมหันไปมองทางด้านซ้ายมือ หน้าเดนอยู่ห่างจากปลายจมูกของไอติมเพียงนิดเดียว คนตัวขาวขมวดคิ้วแล้วพับหน้าจอแม็คบุ๊กลงครึ่งหนึ่ง
   

“เสียมารยาท!” ไอติมแว้ดใส่ เดนนี่ดันตัวขึ้นแล้วเดินไปนั่งตรงข้ามกับไอติม ใบหน้าคมเข้มมุ่ยเล็กน้อย
   

“ถ้าคลิปหลุดขึ้นมามึงจะทำยังไง” ไอติมเบิกตากว้างมองหน้าเพื่อนหนึ่งแวบ
   

“จะหลุดได้ไง ไฟล์อยู่กับกู ถ้าแม็คบุ๊กพังเดี๋ยวก็ซื้อใหม่เลย ไม่เอาไปซ่อม” ไอติมทำหน้าเหมือนเด็กที่ภูมิใจกับวิธีคิดของตัวเอง
   

เดนนี่มองอย่างหมั่นไส้ “รวยเหลือเกินนะมึง”
   

ไอติมทำลอยหน้าลอยตา ดันฝาพับแม็คบุ๊กขึ้นอีกรอบเพื่อจะกดปิดคลิป สายตามองหน้าจอค้างไว้สักแปบแล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนใช้มือขวาดันหน้าจอให้ปิดลง ริมฝีปากสีแดงยื่นน้อย ๆ แววตาหงอยเหงาแบบที่เดนเคยเห็นมาแล้วเวลาที่มันอยากกินหมูกระทะแล้วเขาขัดมัน
   

“ไหนว่ามึงตักตวงช่วงเวลานั้นจบก็คือจบ” ไอติมสบตาเดน หน้าตามึน ๆ งงๆ
   

“ก็จบไปแล้วไง”
   

“โอ่โห หน้าตามึงอาลัยอาวรณ์ขนาดนี้เนี่ยนะ” ไอติมพ่นลมหายใจออกทางจมูกแรง ๆ และทำหน้าเซ็ง
   

“ไอ้เดน มึงอาจจะไม่เคยเป็นนะ แต่ว่ากูเป็น กูใจหาย”
   

“อาการใจหายมันเป็นแค่ช่วงแรกที่จากกันเปล่าวะ มึงกับเขาก็ห่างกันมาเกือบสองอาทิตย์ ใจมึงยังไม่เลิกหายรึไง” 
   

“ใครเป็นคนกำหนดระยะเวลาอาการใจหาย” ไอติมย่นคิ้วทำหน้าสงสัย
   

“กู” ไอติมเกือบจะอ้าปากหวอ แต่ก็เปลี่ยนเป็นเบะปากแทน
   

“เดี๋ยววันนี้มึงก็เจอเขาละ ทำอย่างกับมึงจากกันถาวร ไหนจะที่มึงต้องไปทำงานกับเขาอีก” ไอติมทำแก้มพองลม เดนนี่ยื่นมือขวาไปบีบแก้มไอติมจนลมนั้นยุบไป
   

“ก็เขาไม่ตอบข้อความกูเลยอะ” เดนนี่ขมวดคิ้ว
   

“มึงแคร์เขาขนาดนั้นเลยรึไง” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ดวงตาสุกใสดูงง
   

“ถ้าเราส่งข้อความหาใครสักคนแล้วเขาไม่ตอบเรา แล้วพอเรานึกสงสัยก็คือเราแคร์เขาเหรอ…” ไอติมทำหน้าสงสัยตามที่ปากว่าจริงๆ


“…บางทีกูแค่อาจต้องการคำตอบที่กูถามไปจากเขาก็ได้นี่” เดนนี่ถอนหายใจ
   

“เอางี้ มึงแคร์เขามั้ย” ไอติมนิ่งคิด ดวงตามองข้างบน ในหัวกำลังประมวลผล ผ่านไปเป็นนาทีได้ ไอติมก็กลับมามองเดนนี่แล้วตอบ
   

“อาการแคร์มันต้องเป็นยังไง” เดนนี่เผยอริมฝีปากบนขึ้นและกะพริบตาปริบ ๆ กลายเป็นฝ่ายครุ่นคิดบ้าง เพราะเขานึกไม่ออกว่าจะอธิบายสิ่งที่เพื่อนถามว่ายังไง
   

“เอ่อ… ก็แบบที่มึงเป็นอยู่ละมั้ง คิดถึงเขา รอข้อความจากเขา”
   

“งั้นกูก็แคร์พี่บุรุษไปรษณีย์แถวบ้านด้วยดิเวลากูสั่งของออนไลน์อะ เพราะกูคิดถึงเขา เฝ้ารอเขาว่าเมื่อไหร่เขาจะมา ยิ่งส่งแบบธรรมดากูยิ่งคิดถึงเลย” เดนนี่เหยียดริมฝีปากเป็นเส้นตรง หนังตาปรือลง ใบหน้าแสดงออกถึงความเหนื่อย และล้มเลิกความตั้งใจที่จะอธิบายอะไรให้มันฟังอีก
   

“แล้วทำไมมึงไม่ส่งแบบอีเอ็มเอสล่ะ”
   

“ก็บางร้านค่าส่งมันแพงอะ”
   

“โอ้ย” เดนนี่รู้สึกเครียด เขามองหน้าไอ้ห่าติมที่ยังคงทำหน้าประมาณว่าอะไรเหรอใส่เขาอยู่เลย
   

“ไปช่วยกูทำงานมั้ยหรือจะนั่งชมลีลาตัวเองต่อ…” เดนนี่ตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวตัวเองต้องเปลี่ยนสมองแทนเนื่องจากปวดหัวกับเพื่อนตัวเอง
   

“…แต่ลีลามึงยังต้องพัฒนาอีกเยอะ อันนี้ช่วยคอมเม้นต์” เดนนี่หัวเราะแบบไม่เสียง ไอติมถลึงตาใส่
   

“เดี๋ยวกูก็เก่ง!”
   

“ก็ดี เก่งแล้วก็มาให้กูลอง จะได้ตอบได้ว่าเก่งยัง” ไอติมมองค้อนเดนนี่ไปทีพร้อมสบถคำหยาบเป็นอวัยวะเพศชายใส่เพื่อน ก่อนจะลุกไปช่วยงานในร้านเดนนี่ต่อหลังจากมานั่งหลบมุมเปิดแม็คบุ๊กเช็กงานที่จะส่งให้ลูคัสและเลยเถิดไปย้อนดูคลิปของตัวเองกับสองหนุ่มด้วยความคิดถึง
   

เลโอยังคงติดต่อกับไอติมในอินสตาแกรม ทั้งทางคอมเม้นต์และข้อความ ตอนนี้พ่อคิงคองหนุ่มสนุกสนานอยู่ที่ลาว อัปรูปลงแอพพลิเคชั่นที่เจ้าตัวเป็นคนแนะนำให้ไอติมได้รู้จัก และเห็นว่าจะปิดทริปที่บาหลีก่อนบินกลับไปยุโรปบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง และจะมาอเมริกาอีกทีเมื่อไหร่เจ้าตัวก็ยังไม่แน่ใจ แต่ก็ปากหวานว่ามาทันช่วงที่ไอติมยังอยู่ในอเมริกาแน่นอน
   

“Hello, what do you want?” ไอติมพูดกับฝรั่งผู้ชายผมขาวคนหนึ่งที่หน้านิ่วคิ้วขมวดมองเมนู ไอติมไม่ได้เร่งรัดจะเอาคำตอบทันที ทำเพียงยืนรออยู่ห่าง ๆ จากโต๊ะแบบเงียบเชียบ จนกระทั่งคุณลุงร่างท้วมคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองทางเขาและพยักหน้าลงหนึ่งทีเป็นการเรียก
   

“Could you tell me what is it? How it looks like? (บอกหน่อยได้มั้ยว่านี่อะไร หน้าตามันเป็นยังไง)” ไอติมมองตามนิ้วมือที่ชี้อยู่บนชื่อเมนู ไอติมมองชื่อเมนูนั้นก็เห็นว่าเป็นชื่อแกงป่าของไทยชนิดหนึ่ง ไอติมเหลือบมองรูปที่อยู่ข้างชื่อเมนู และคิดว่าฝรั่งคนนี้คงจะเห็นแล้วแต่คงอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม
   

“เอ่อ it’s like เอ่อ…” ฝรั่งคนนั้นมองหน้าไอติมและขมวดคิ้ว สีหน้าไม่ค่อยพึงพอใจเท่าไหร่
   

“You can’t speak English? (พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เหรอ)” น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยถาม
   

“Yes, yes. I can speak, a little bit. (ใช่ ใช่ ผมสามารถพูด นิดหน่อย)” ฝรั่งหัวขาวคนนั้นชักสีหน้าจนไอติมหน้าเหวอไปนิด
   

“Stupid. Call someone could talk to me. I don’t want to speak with a trainee monkey. (โง่จริง เรียกใครสักคนที่สื่อสารกับฉันได้ ฉันไม่อยากคุยกับลิงฝึกหัด)” ไอติมอ้าปากหวอ ไม่ใช่เพราะอึ้งที่โดนด่า แต่เพราะงงว่าโดนด่าว่าอะไร แต่ก็คือเข้าใจว่าตัวเองน่าจะโดนเหวี่ยงอยู่
   

“เอ่อ… sorry แอม…” ลูกค้าคนนั้นยกมือซ้ายขึ้นเป็นการห้าม และสีหน้าที่ไม่พึงพอใจก็ยิ่งชัดขึ้น
   

“Do what I said, monkey. Understand? (ทำตามที่ฉันบอกเจ้าลิง เข้าใจมั้ย)” ไอติมย่นคิ้ว และหันไปมองทางเดนที่กำลังเดินมาทางเขาด้วยใบหน้าตึงเรียบและแววตาขึงขัง
   

“He is not monkey. He is rabbit. (เขาไม่ใช่ลิง เขาเป็นกระต่าย)” ไอติมหันขวับกลับไปมองอีกด้าน รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าแทนที่ด้วยสีหน้ายุ่งเหยิงเมื่อกี้
   

“ไบรอั้น!” ไอติมมองหน้าอดีตหนุ่มหัวทองที่ตอนนี้เส้นผมเป็นสีน้ำตาลอ่อนด้วยความรู้สึกปะปนกัน ทั้งตะลึง ดีใจ แปลกใจที่อีกฝ่ายมาโผล่ที่ร้าน
   

“เฮอะเฮยยยย” ไอติมยิ้มร่าส่งเสียงทักทายด้วยคำประหลาด ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า มองใบหน้าของไบรอั้นที่ยังคงหล่อเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือดูละมุนตามสีผม ไอติมกำลังจะพุ่งตัวเข้าไปกอดแต่ก็ชะงักไว้เพราะเพิ่งสังเกตว่าไบรอั้นไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับฝรั่งตัวโตอีกหกคน ทุกคนส่งยิ้มให้ไอติม และสองคนกำลังมองหน้าไอติมและยิ้มขำขันอยู่
   

“ไอ้นี่มันเหยียดเชื้อชาติเจ้าเด็กนี่” ไบรอั้นพูดกับเดนนี่หน้าเรียบเฉย เดนนี่พยักหน้าโดยไม่ได้รู้สึกตกใจใด ๆ เพราะได้ยินอยู่ก่อนแล้ว
   

“Out, please. (เชิญออกครับ)” เดนนี่พูดอย่างสุภาพแต่น้ำเสียงหนักแน่นพร้อมกับผายมือไปทางประตู ผู้ชายคนที่ว่าไอติมหน้าตึง หันมองพวกไบรอั้นที่มองนิ่งกลับมา ก่อนสลับไปมองเดนนี่ที่ท่าทางเอาจริง ชายร่างท้วมสบถคำหยาบอีกหลายคำในขณะที่ลุกเดินไปทางประตู ไอติมมองตามหลังผู้ชายคนนั้นด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้โกรธเกรี้ยวกราด เพราะแปลไม่ออกว่าอีกฝ่ายด่าตัวเองว่าอะไรบ้าง
   

“หวังว่าจะมีที่นั่งสำหรับคนเจ็ดคนนะ” ไบรอั้นพูดกับเดนนี่ หนุ่มลูกครึ่งพยักหน้าผายมือขวาไปทางโต๊ะตัวใหญ่ตัวหนึ่งในร้านที่อยู่ริมหน้าต่างติดกับถนน ไบรอั้นหันไปพยักหน้ากับเพื่อนที่มาด้วยกัน หกหนุ่มด้านหลังที่มีขนาดไซซ์ตัวบึ้กทุกคนพากันเดินไปโต๊ะที่เดนนี่แนะนำ ไอติมหันไปมองกลุ่มฝรั่งตัวใหญ่ด้วยความตื่นตาตื่นใจ หนึ่งในนั้นที่ผิวขาวเหลืองและมีผมสีดำขลับขยิบตาให้ไอติมตอนนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาว ไอติมคลี่ยิ้มเขินตอบ
   

“Find another man after ending with Leo, do you? (หาผู้ชายคนใหม่หลังจากจบกับไอ้เลโองั้นเหรอ)” ไอติมหันไปมองคนถามที่ยิ้มบางด้วยความงงเพราะจับใจความไม่ทัน ไบรอั้นขยับยิ้มมากขึ้นอีกนิดเป็นรอยยิ้มขำ
   

“Lost you go where. You don’t answer my message เลย” ไบรอั้นมองหน้าไอติมด้วยรอยยิ้มขำขันจนไอติมยิ้มตามอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ขวัญใจไอติมจะคลี่ยิ้มกว้าง และไอติมก็ยิ้มกว้างตาม
   

“I just found out how much I miss your English grammar. (ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าฉันคิดถึงโครงสร้างภาษาอังกฤษของนายแค่ไหน)” ไอติมยิ้ม แม้จะงงแต่ก็ยิ้มตามเคย
   

“I miss you. (ผมคิดถึงคุณ)” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ ไบรอั้นยิ้ม ดวงตาสีเทาสดใสเหมือนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันหลังจากเลโอไปลาวแล้ว ไอติมเลื่อนสายตาไปมองรอยสักบนหน้าแขนขวาของไบรอั้นที่เจ้าตัวพับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นไปไว้ตรงข้อพับไม่ให้บดบังลวดลายบนแขน ไอติมยิ้มกับรอยสักที่เป็นคนเลือกลายให้ ตอนนี้มันแห้งสนิทและโดดเด่นคมชัดอยู่บนแขนของไบรอั้น
   

“Beautiful. (สวย)” ไอติมยิ้มกว้าง ก้าวเท้าเดินเข้าไปหาไบรอั้นหนึ่งก้าว มองไบรอั้นด้วยความไม่แน่ใจว่าควรจะวางตัวยังไง ราวกับไม่ได้เจอกันมาเนิ่นนานทั้งที่จริงยังไม่ครบสองอาทิตย์ด้วยซ้ำที่ห่างกัน
   

“What?” ไบรอั้นย่นคิ้ว หรี่ตามองไอติมด้วยความรู้สึกขำกับท่าทีเหมือนคนเพิ่งรู้จักกันทั้งที่ปกติกระต่ายตัวนี้จะกระโดดพุ่งตัวมากอดเขาแล้ว
   

“ฮะ?” ไอติมถามด้วยความเหลอหลา สองมือไพ่หลังเอาไว้ มองหน้าไบรอั้นและยิ้มกว้าง ไบรอั้นขำ ยื่นมือขวาไปดึงไอติมเข้ามากอด ไอติมยิ้มแล้วยิ้มอีก สองแขนตวัดรัดร่างใหญ่หนาของไบรอั้นแน่นราวกับเป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ
   

“Would you like to take a walk? (ไปเดินเล่นหน่อยมั้ย)” ไอติมแหงนหน้าขึ้นมองไบรอั้นที่มองไปทางเพื่อนเขาและกำลังพูดอะไรกันสักอย่างจนเพื่อนอีกหกคนของไบรอั้นส่งเสียงตอบรับกลับมา ก่อนตามด้วยเสียงผิวปากและร้องวู้ว ๆ จนไอติมหันไปมองด้วยความงง พอหันไปมองทางเค้าน์เตอร์เดนนี่ก็กวักมือเรียก ไอติมผละออกจากตัวของไบรอั้น เดินไปได้สามก้าวก็ลืมว่าควรจะบอกไบรอั้นสักหน่อยเลยหันไปบอกขวัญใจตัวเองที่ทำหน้างงนิดหน่อย
   

“Wait.” ไบรอั้นพยักหน้า ไอติมหมุนตัวเดินไปหาเดนนี่ตรงเค้าน์เตอร์
   

“เขาบอกกับเพื่อนเขาว่าจะชวนมึงไปเดินเล่น มึงไปกับขวัญใจมึงก่อนก็ได้ไป จะได้เลิกทำหน้าเหงาหอย”
   

“มึงไม่โกรธกูนะ” เดนนี่ย่นคิ้ว
   

“ทำไม กลัวกูหึงเหรอ”
   

“แล้วมึงหึงป้ะ” ไอติมยิ้มทะเล้น เดนนี่กลอกตา ยกมือขวาปัดมือเป็นเชิงไล่ ไอติมยิ้มกริ่ม เดินไปหยิบเสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีดำมาใส่ หมุนตัววิ่งกลับไปหาไบรอั้นอย่างเร็วก่อนจะพากันเดินออกไปด้านนอกร้าน ออกไปสู่อากาศเย็นสบายอันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองซานฟรานฯ
   

“Where are you?” ไอติมถามหลังจากเดินออกมาข้างนอกร้าน ไอติมหันไปมองรถลางที่แล่นผ่านหน้าไปแล้วคลี่ยิ้มก่อนหันกลับไปมองไบรอั้นตามเดิม
   

ไบรอั้นที่เข้าใจว่าไอติมจะถามว่าอะไรยิ้มน้อย ๆ ก่อนตอบ “I have a lot of work to do and I have something to make it clear. (ฉันมีงานมากมายที่ต้องทำและฉันมีบางอย่างที่ต้องเคลียร์)”
   

ไอติมค่อนข้างแน่ใจว่าตัวเองเข้าใจไม่ผิดที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา แต่ก็ถามย้ำอีกทีเพื่อความแน่ใจ “Work?”
   

“Yes.”
   

“And clear? Clear what? (และเคลียร์ เคลียร์อะไรเหรอ)” ไบรอั้นที่กำลังเดินมองวิวท่าเรือไกลลิบจากจุดที่ตัวเองอยู่หันมองไอติมแล้วคลี่ยิ้ม
   

“My freedom. (อิสระของฉัน)” ไอติมต้องนึกอยู่พักนึงว่าคำนี้แปลว่าอะไรเนื่องจากคำศัพท์หลายคำที่พอไม่ได้ใช้บ่อย ๆ ไอติมก็จะลืม
   

“อ๋อ” ถึงจะร้องอ๋อตอบรับ แต่ไอติมก็ไม่รู้หรอกว่าไบรอั้นกำลังพูดถึงอะไร เข้าใจความหมายของคำศัพท์คำนั้น แต่ไอติมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องพูดคำนี้
   

ไบรอั้นยิ้มขำเพราะรู้ว่าไอติมไม่เข้าใจ ถึงจะทำพยักหน้าแต่สีหน้าเด๋อด๋านั้นคือคำตอบที่ดีกว่า “But it’s failed. (แต่มันไม่สำเร็จ)”
   

“เฟล?” ไบรอั้นนึกคำอธิบายที่จะอธิบายให้กระต่ายลามกฟัง
   

“It’s nothing. Nothing happened. (มันไม่มีอะไร ไม่มีอะไรเกิดขึ้น)” ไอติมเดินก้าวเท้าช้า ๆ ปากอ้าหวอเล็กน้อย คิ้วมุ่ยหน่อย ๆ เพราะพยายามทำความเข้าใจกับประโยคของไบรอั้น
   

“When you try to do something but it’s not success. (เวลาที่นายพยายามทำอะไรบางอย่างแต่มันไม่ประสบความสำเร็จน่ะ)”
   

“อ๋อออ” ไอติมยิ้มอย่างเข้าใจ พยักหน้าตอบรับรัวเร็วว่าเข้าใจจริง ๆ ก่อนยื่นมือขวาไปจับมือซ้ายของไบรอั้น ฝรั่งตัวโตหันมองหน้าไอติมและยิ้มก่อนจะกุมมือไอติมตอบ
   

“Where do you live? When you go to L.A. (นายพักที่ไหน ตอนนายไปแอลเอ)” ไอติมเข้าใจกับคำถามนี้และพยายามเรียบเรียงคำตอบในหัว
   

“Denny brother room. (เดนนี่น้องชายห้องนอน)” ไบรอั้นย่นคิ้วนิดหน่อย พยายามทำความเข้าใจว่านอนห้องใครกันแน่ ดีที่เขารู้ว่าเดนนี่คือเพื่อนสนิทของเจ้าเด็กนี่
   

“You can go to my house. (นายไปบ้านฉันได้นะ)” ไอติมยิ้ม
   

“Thank you, but I’m okay. (ขอบคุณ แต่ผมโอเค)”
   

“No. I meant it. You can stay with me. It’s more convenient for you, I guess. (ไม่ ฉันหมายความตามนั้น นายอยู่กับฉันได้ ฉันว่ามันน่าจะสะดวกกับนาย)” ไอติมทำหน้านึก แปลอยู่ในหัวตัวเองด้วยความไม่มั่นใจ
   

“Your house is big. (บ้านคุณหลังใหญ่)” ไบรอั้นขำเบาๆ
   

“Yes. You want to be with me? (ใช่ นายอยากอยู่กับฉันมั้ย)” ไอติมบุ้ยปากไปมาหน้าตาครุ่นคิด ในหัวนึกภาพรูมเมทสามคนนั้นของไบรอั้น
   

“I don’t like your roommate. (ผมไม่ชอบรูมเมทของคุณ)” แวบแรกไบรอั้นงง แต่ก็แค่แวบสั้น ๆ เท่านั้น เพราะไบรอั้นเข้าใจว่ารูมเมทของเขาที่เด็กลามกบอกนั้นคือใครและมีใครบ้าง
   

“But you like me. That’s enough. (แต่นายชอบฉัน แค่นั้นก็พอ)” ไอติมกะพริบตาปริบ ไม่ใช่ว่าเขินแต่งง
   

“อือฮึ” ไบรอั้นหัวเราะเบา ๆ ที่รู้ว่าไอติมงง และตอบรับแบบมึน ๆ งงๆ
   

“I want you to stay with me. (ฉันอยากให้นายอยู่กับฉัน)” ไอติมมองหน้าไบรอั้นและกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนที่จะยกยิ้มขึ้น
   

“Really? (จริงเหรอ)” ไอติมถามเสียงใสพร้อมกับเอียงหน้า ไบรอั้นพยักหน้าแล้วยิ้มบางเบา
   

“It’s real. (จริง)” ริมฝีปากสีแดงอ้าขึ้นราวกับกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หุบไว้เพราะสายตาของไอติมมองเห็นสร้อยสีทองคล้องอยู่บนคอของไบรอั้น ไอติมคลี่ยิ้มแบบไม่เห็นฟัน ยื่นมือซ้ายไปแหวกปกเสื้อเชิ้ตสีขาวของไบรอั้นออก
   

“Wow, little rabbit. (ว้าว กระต่ายน้อย)” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองไบรอั้นและยิ้มกว้าง
   

“No, it’s a rabbitch. (ไม่ใช่ มันคือแรบบิชต่างหาก)” ไอติมยิ้มตาหยี ไบรอั้นยิ้มอ่อนโยน ใบหน้าของเขาดูซอฟต์ขึ้นหลังจากเปลี่ยนสีผมกลับมาเป็นสีเดิม แต่ก็ยังไม่เดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะต้องรอให้สีทองที่ย้อมไปก่อนหน้านี้หายไปจนหมดก่อน
   

“I’ve got your postcard after come back from Thailand. (ฉันได้โปสการ์ดนายแล้วหลังกลับมาจากไทย)”
   

“อ๋อ โปสการ์ด okay” ไอติมจำได้ว่าส่งโปสการ์ดจากเกาะสมุยมาให้ไบรอั้นที่บ้านของเขาในแอลเอ
   

“And I’m already know the meaning of kam-lung-jai. (และฉันก็รู้ความหมายของคำว่า กัม ลัง จัย แล้ว)” หนุ่มเอเชียยิ้มเอ็นดูกับการออกเสียงภาษาไทยของฝรั่ง
   

“Anthony tell you? (แอนโทนี่บอกคุณ?)” ไบรอั้นยิ้มและพยักหน้าลงหนึ่งที
   

“Then you should stay close to me, to be my kam-lung-jai. (นายเลยควรอยู่ใกล้ฉัน คอยเป็น แกม แลง จัย ให้ฉัน)” ไอติมมองหน้าไบรอั้นตาแป๋ว และพอไบรอั้นยักคิ้วให้ ไอติมก็รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนวาบ หัวใจเต้นกระตุกขึ้นมาวูบหนึ่ง และลงท้ายด้วยการยิ้มเขิน
   

“งุ้ยยย” มือที่ตอนแรกจับไปโดยไม่คิดอะไรกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งทำให้ไอติมเขิน เลยดึงมือออกจากมือของไบรอั้นเอาไปไพล่หลังเอาไว้ หนุ่มอเมริกันเห็นท่าทางนั้นก็เลยแกล้งยื่นมือจะไปจับมือของไอติม เด็กมือไวใจกล้าก่อนหน้านี้บิดตัวหนีและซุกมือไว้ด้านหลังแน่น ไม่ยอมให้อีกฝ่ายดึงออกไป ไอติมหัวเราะคิกคักและกระเถิบตัวหนีไบรอั้น
   

“Where is my pervert boy? (เด็กลามกของฉันหายไปไหนแล้วล่ะ)” ไบรอั้นหยอกในขณะที่ยื่นสองมือไปด้านหลังของไอติมจนเหมือนกำลังพยายามจะกอดกันอยู่พักหนึ่งก่อนจะดึงมือขวาของไอติมออกมาจนได้และใช้มือซ้ายตัวเองจับมือเรียวบางไว้แน่น ไอติมเม้มปากและพยายามกลั้นยิ้มเขิน
   

“You are shy because I hold your hand. I’m not shy when you hold my cock. (นายเขินเพราะฉันจับมือนาย ทีนายจับจู๋ฉัน ฉันยังไม่เขินเลย)” ไอติมกัดริมฝีปากล่างแล้วขำคิกคัก 
   

“อั้นอ่า…”
   

“Call me Zach. (เรียกฉันว่าแซ็ค)” ไอติมชะงักนิดหน่อย สีหน้าเปลี่ยนเป็นประหลาดใจและมองไบรอั้นด้วยความไม่แน่ใจ
   

“Really? (จริงเหรอ)” ไบรอั้นพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอ่อน
   

“Real. (จริง)” ไอติมกะพริบตามึน ๆ งง ๆ ความเขินหายไป แทนที่ด้วยความลังเลใจประหลาด ๆ จนไบรอั้นเองก็ประหลาดใจไปด้วย
   

“Something wrong? (มีอะไรงั้นเหรอ)”
   

ไอติมยกมือเกาหัวและทำหน้าเหมือนคนหลงทางอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มบาง ๆ ตามด้วยพยักหน้าหงึก ๆ ไบรอั้นมองเจ้าเด็กลามกแล้วครุ่นคิดกับท่าทางที่ตรงข้ามกับที่เขาจินตนาการไว้ เสี้ยวหนึ่งของใจของเขามันแป้ว ๆ ฟีบ ๆ กับการที่ไม่ได้เห็นท่าทีที่เขาคิดว่าควรจะเป็น
   

“It’s fine if you don’t want to stay with me and don’t want to call me Zach. (ไม่เป็นไรนะถ้านายไม่อยากอยู่กับฉันและไม่อยากเรียกฉันว่าแซ็ค)” ไบรอั้นยักไหล่สองข้าง ท่าทางสบาย ๆ ไม่ได้ซีเรียส ไม่ได้น้อยอกน้อยใจหรือรู้สึกโกรธเคืองอะไร แต่ก็มีเสียเซลฟ์บ้างนิดหน่อย เพราะกระต่ายตัวจ้อยดันแสดงออกคนละอย่างกับภาพในหัวของเขา
   

“Let’s go back to the restaurant. (กลับไปที่ร้านอาหารเถอะ)” ไบรอั้นดึงมือไอติมให้หมุนตัวกลับไปตามทางเดิมพร้อมกับสีหน้าผิดหวังเล็ก ๆ แต่ในขณะที่ก้าวเท้ากันไปได้สักพักเสียงใสเบา ๆ ก็ดังขึ้น
   

“แซ็ค” สีหน้าของแซ็คเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-01-2019 20:27:12
ตื่นตระหนกทุกตอนว่าจะถึงฉากเปิดเรื่องเมื่อไหร่ ไอติมที่โคตรเย็นชาคนนั้นจะมายังไงนะ  :hao7:
เป็นกำลังใจให้คุณตอมนะคะ รออ่านอยู่ตลอด  :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-01-2019 21:00:49
น้องติม หนูจะซื่อไปไหน หนูไม่ได้คิดถึงอั้นแบบคิดถพี่ไปรซักหน่อย ถถถถ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 23-01-2019 22:09:09
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 23-01-2019 22:50:22
ไบรอั้นรุกน้องหนักมากตอนนี้
มีชวนไปอยู่ด้วย มาหาที่ร้าน พาไปเดินเล่น
แต่คือไอติมหนูซื่อมาก ผช.เค้ามาจีบละลูกก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 23-01-2019 22:52:44
อยากเห็นไอติมไทป์เย็นชาจังเลย
กลับมาครวนี้จะเจอดราม่าอะไรไหมนะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: oohsg94 ที่ 23-01-2019 23:13:31
คสพ.พัฒนาไปอีกขั้นแล้วว อยากอ่านตอนดราม่าแล้วว :hao5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 23-01-2019 23:22:06
น้องติมแค่รักใครไม่เป็น
อั้นต้องสอนน้องงงงง o13
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 24-01-2019 00:52:31
น้องติมแค่ยังไม่เข้าใจในเรื่องของความรู้สึก น้องแค่มองมันแบบเรียนง่ายยย :hao5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-01-2019 02:05:32
ยอมให้เรียกชื่อจริงแล้ว กระต่ายดีใจสุดๆ เลยล่ะซิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 24-01-2019 10:09:10
ความรู้สึกน้องติมก้าวหน้าขึ้น แต่ยังน้อยกว่าฉากบทรักบ่ะนะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 24-01-2019 11:09:00
มีพัฒนาการแล้ววววววว งื้อ เขินกว่าไอติมคือเราเอง พี่แซ็คแม่มแย่ ทำตัวอบอุ่นเพื่อออออออ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 26-01-2019 00:48:54
เนี่ยๆๆๆ เราใจร้อนอ่ะไบรอั้น ให้น้องติมได้เขินสักนิดดิ่
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 28-01-2019 15:52:28
ตอนนี้บรรยากาศมันดูอบอุ่นๆ ดีใจกับลูกผู้เค้าชวนไปอยู่ด้วยแล้ว  :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.22 : Change. : 23.01.19
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 29-01-2019 23:31:41
น้องยังไม่เข้าใจตัวเองง พี่อั้น เอ้ยย พี่แซคต้องสอนน้องแล้ว
ให้น้องอยู่เป็น kum lang jai ไปนาน ๆ น้าา  :katai5: :katai5:
// ส่ง kum lang jai ให้คนเขียนนะคะ ติดตามอยู่จ้า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-02-2019 21:18:55
Fall in lust, Chapter 23 :: Special from Zach Knighthood.




   Special from Zach Knighthood
   
   

“แซ็ค…” ผมที่นอนมองทะเลสีฟ้าครามอมเขียวมรกตผ่านแว่นตากันแดดสีดำหันไปมองเจ้าของเสียงใสที่เดินมาในชุดเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำ โชว์ผิวขาวเนียนละเอียดและกล้ามเนื้อขนาดกำลังสวยที่ผมเป็นคนปั้นขึ้นมาให้เองกับมือ
   

“ลูคัสล่ะ” เขาถามก่อนยกลูกมะพร้าวในมือขึ้นดูดน้ำจากหลอดที่เสียบอยู่
   

“นู่น” ผมบุ้ยปากไปในทะเล ไอติมเลื่อนสายตามองตามก่อนจะโฟกัสที่ลูคัสกับดัสตินที่ถอดเสื้อโต้คลื่นอ่อน ๆ อยู่ในทะเล
   

“เฮ้ มองฉันบ้างก็ได้” ไอติมที่นั่งดูดน้ำมะพร้าวและกำลังมองวิวเบื้องหน้าเพลิน ๆ หันมามองผมด้วยความงุนงง แต่เพราะเห็นว่าผมหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่เขาเลยคลี่ยิ้มขำและวางน้ำมะพร้าวลงบนโต๊ะไม้ตัวเล็กที่วางคั่นกลางระหว่างเก้าอี้อาบแดดของผมกับของเขา
   

“ผมก็มองคุณอยู่ตลอด” ผมเงียบ เพราะไม่รู้ว่าประโยคที่เขาพูดออกมานั้นแฝงอะไรหรือเปล่า หรือบางทีถ้าไม่แฝงอะไร แต่มันมักจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวผมได้อยู่บ่อย ๆ และดูไอติมจะรู้ทันเลยหัวเราะก่อนลุกเดินมานั่งคร่อมตัวผมแล้วโน้มตัวลงมา เอาคางเกยแขนขวา มองหน้าผมด้วยรอยยิ้มทะเล้น ผมวางสองมือลงบนบั้นท้ายงอนสวยได้รูปกลมกลึงของเขา
   

“ผมแค่จะบอกว่าผมไม่มีทางไม่มองคุณหรอก” ไอติมยกนิ้วชี้ซ้ายขึ้นแตะปลายจมูกของผมและคลี่ยิ้มบาง ผมดันแว่นกันแดดขึ้นไปไว้บนหัวเพื่อจะได้เห็นดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกายสดใสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
   

“แม้กระทั่งตอนที่ฉันสภาพย่ำแย่ที่สุด” ผมยิ้มเมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้น ช่วงเวลาที่มือของเขากุมมือผมไว้แม้ผมจะรู้ว่าเขาเองก็ต้องฝืนใจไม่ใช่น้อย แต่เพราะความเป็นไอติม เป็นกระต่ายลามกของผม เขาถึงกุมมันไว้แน่นจนฉุดผมออกมาได้
   

“แคร็อทของคุณที่ว่าใหญ่ ยังไม่เท่าน้ำใจผมเลย” เขาแลบลิ้นแล้วยิ้มตาหยีเพราะความเขินกับคำพูดของตัวเอง ผมหัวเราะ รู้ว่าเขาไม่ได้พูดยกยอปอปั้นตัวเอง เป็นคำพูดเปรียบเปรยเล่น ๆ ของเขา
   

แต่ถ้าเขาจะอวยตัวเอง ผมก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะว่าเขาหรอกนะ
   

“ฉันโชคดี” ผมยื่นหน้าไปจุ๊บปากเขา และมองเขาด้วยความรู้สึกหัวใจพองโต ไอติมคลี่ยิ้มแบบไม่เห็นฟันและพยักหน้า
   

“ใช่ แต่คุณจะไม่โชคดีอีกต่อไป ถ้าคุณละเมิดข้อตกลงของผมที่คุณสัญญาแล้วว่าจะทำตามอย่างเคร่งครัด” ไอติมยักคิ้วขวาหนึ่งที แววตาที่มองผมมีความเชือดเฉือนเล็ก ๆ แต่ถึงยังไงมันก็เหมือนกระต่ายขู่อยู่ดี ผมเลยยิ้มขำ
   

“ฉันมืออาชีพแค่ไหน นายก็รู้” คนบนตัวผมเบะปาก ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรงบนตัวผม
   

“ก็ขอให้รักษาความโปรเฟซชั่นนอลนี้ต่อไปก็แล้วกัน…” ผมคลี่ยิ้ม ยกมือขวาขึ้นทำท่าตะเบ๊หนึ่งครั้ง ไอติมยักไหล่ขวา


“…แต่ข้อห้า ข้อหกและข้อเจ็ดใช้ความโปรเฟซชั่นนอลไม่ได้หรอกนะ ต้องใช้สติ คุณรู้ใช่มั้ย”


“ข้อห้าตัดออกได้เลย เป็นนายแค่คนเดียวเท่านั้น ส่วนหกและเจ็ด ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว นายก็รู้” ผมยิ้มขื่น หัวใจรู้สึกบีบรัดเหมือนมีอะไรมาบีบมันเอาไว้จนรู้สึกอึดอัด


ไอติมยกนิ้วโป้งสองข้างขึ้นและยิ้มกริ่ม “Good boyfriend.”


ผมยิ้มกับประโยคนั้น หัวใจที่บีบรัดเมื่อครู่คลายตัวออกอย่างรวดเร็ว รู้สึกสบายหัวใจ ความอบอุ่นโอบล้อมก้อนเนื้อในอกซ้ายทำให้เกิดความรู้สึกดี “Yes, I’m your boyfriend. And you are mine, too. (ใช่ ฉันเป็นแฟนนาย และนายก็เป็นแฟนฉันด้วย)”


“ประกาศศักดาเหลือเกินนะ นี่ถ้าลูคัส ดัสตินไม่อยู่ใกล้ ๆ ผมล่ะก็…” ผมขมวดคิ้วแล้วพูดแทรกทันควัน


“…ไม่ใช่สักหน่อย ทำไมถึงชอบคิดว่าฉันหวงนายแค่ตอนมีผู้ชายคนอื่นใกล้นะ”


“ก็มันจริงนี่”


“ใช่ มันจริง แต่เวลาอื่นฉันก็หวงนายเหอะ” ผมพูดด้วยความรู้สึกจริงจังและแอบน้อยใจลึก ๆ ที่เขาชอบมองเห็นความหวงของผมที่มีต่อเขาแค่เฉพาะเวลามีผู้ชายคนอื่นวนเวียนอยู่ใกล้เขา


“จริงอ้ะ? คำว่ารักยังไม่ค่อยจะพูดกับผมเลย” ผมมองใบหน้าเรียวสวยได้รูป มองความน่ารักบนหน้าของเขาด้วยสายตาหวงแหน


“ต้องพูดบ่อยขนาดไหนกัน การกระทำฉันยังไม่เพียงพอเหรอ” ไอติมทำตาโตและทำหน้าประมาณว่าเอาจริงเหรอ และนั่นทำให้ผมรู้ว่าคำพูดตัวเองแว้งมากัดตัวเองจนได้


“อันนี้คุณหลุดปากหรือตั้งใจพูด” ผมทำหน้าเซ็งและยกสองมือขึ้นทำท่ายอมแพ้ แฟนผมหัวเราะตาหยี เสียงหัวเราะของเขานั้นใสและสดใสเช่นเคย จนทำให้ผมยิ้มตามได้


“บางทีฉันก็อยากให้นายใจแคบ” ไอติมคลี่ยิ้ม


“ผมใจแคบ แต่ถ้าตัวคุณใจกว้างกับผู้หญิงคนอื่น แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ” ผมรู้นะว่ามันเป็นคำตอบที่โง่และไม่ฉลาดเลยที่ตอบออกไปแบบนี้ แต่ผมก็พูดทั้งที่รู้ว่าไม่ควรพูด


“ทำให้ฉันเกรงใจและเกรงกลัวนายไง” ไอติมยิ้มบางเบา และส่ายหัวช้าๆ


“ไม่หรอก…” เขาถอนหายใจแผ่วเบา


“…แม่ผมก็ใจแคบ แล้วพ่อผมเกรงใจแม่มั้ยล่ะ ก็ไม่ ผมจึงเลือกที่จะอยู่กับคุณด้วยความเข้าใจธรรมชาติของคุณ” ผมมองเขาด้วยความรู้สึกปนเปกัน ทั้งขอบคุณและใจหาย


“วันนึงฉันคงเป็นผู้ชายที่นายพูดได้เต็มปากว่าแฟนนายเป็นคนดี”


“ผมรู้ ผมเข้าใจ และผมหมายความตามนั้นจริงๆ” เขายิ้ม ไม่ได้เสแสร้งแกล้งยิ้ม ไม่ได้ยิ้มเศร้า เป็นยิ้มให้กำลังใจผมเหมือนที่เคยมีให้กันมาตลอด และผมขอบคุณเหลือเกินที่ผมยังได้รับรอยยิ้มนี้จากเขาอยู่


“เราไม่มีคลิปให้แฟน ๆ ดูนานแล้ว ริมทะเลสักคลิปมั้ย” ผมยิ้มยั่ว สองมือสอดเข้าไปในกางเกงขาสั้นของเขาและลูบขึ้นลงช้า ๆ ไอติมหันไปมองชายหาดสีขาวสะอาดตากับทะเลสีฟ้าเขียวพักหนึ่งก่อนหันกลับมามองผมด้วยสีหน้านิ่วคิ้วขมวด


“หาดมันดูโล่ง ๆ มันจะมีที่ให้เราเอากันเหรอ”


“ลองหาก่อนสิ เผื่อมีที่เหมาะๆ” ไอติมยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะยักคิ้วทั้งสองข้าง


“จะถ่ายเองเหรอ เรียกลูคัส ดัสตินหรือเดนนี่ไปถ่ายให้มั้ย” ผมกลอกตา แต่ไม่ได้อารมณ์เสียหรือขุ่นเคืองใด ๆ มันเป็นอารมณ์ว่า เฮอะ!


“นายอยากให้ใครถ่ายให้ล่ะ” ผมถาม มือขวาล้วงเข้าไปจับไอติมแท่งของเขาและชักเข้าออกเบาๆ


“เดนแล้วกัน คุ้นเคยกันสุด” และเป็นคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้าสุด


“All right. (ก็ได้)” ผมตอบน้ำเสียงอย่างเสียไม่ได้ ไอติมยิ้มกัดริมฝีปากล่างแล้วคลี่ยิ้ม ผมย่นคิ้ว


“ฉันถ่ายเองก็ได้มั้ง” ผมมองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ ไอติมทำตาโตและขยับหน้าไปซ้ายขวาเหมือนกำลังเต้นเพลงอินเดีย ผมทำหน้าเอือมและพ่นลมหายใจเบาๆ


“เดนนน!” กระต่ายตัวขาวจั๊วะของผมตะโกนไปทางบังกะโลของพวกเรา เขามองทางระเบียงหน้าบังกะโลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ร่างผิวสีเข้มและกำยำแข็งแรงจะเดินออกมายืนเกาะขอบระเบียงไม้


“อะไร” เพื่อนสนิทของไอติมถามพร้อมกับยกมือขวาเสยผมสีดำยุ่งเหยิงของตัวเอง


“เข้าสวนแคร็อทกัน” ถึงจะพูดภาษาไทยกัน แต่ผมก็เข้าใจคีย์เวิร์ดสำคัญของประโยคสนทนานี้ และเดนนี่ก็เข้าใจเช่นกัน ฝ่ายนั้นเลิกคิ้วขึ้นและยิ้มมุมปาก


“ที่ไหน” ไอติมหันไปทางทะเลอีกรอบและชี้นิ้ววนไปรอบแบบไร้จุดหมายที่ชัดจน


“เดินดูก่อน เจอที่ไหนเหมาะ ๆ ก็ตรงนั้นแหละ เอามือถือไปด้วยนะ” เดนนี่พยักหน้าแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปข้างในบังกะโลของพวกเรา


“เฮ้ ให้หมอนั่นเป็นแค่ตากล้องไม่ได้รึไง” ไอติมยิ้มตาวิบวับ


“ก็ถ้าเดนอยากป้อนแคร็อทผมด้วย ก็ต้องให้ แต่ถ้าเขาจะถ่ายอย่างเดียวก็ได้” ผมเบ้ปากเล็กๆ


“มันคงถ่ายอย่างเดียวหรอกนะ” ไอติมหรี่ตามองผม


“ก็เดนนี่…” ผมยกมือห้ามไว้ และพยักหน้าหนึ่งทีเพื่อตัดบท ไอติมยิ้มกว้าง ห่อไหล่สองข้างด้วยความเขิน ก้มหน้าลงมาใกล้กับหน้าผมและจูบปากผมไปที


“ทาครีมกันแดดก่อนแล้วกัน” ไอติมพยักหน้า ดันตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรงก่อนเหวี่ยงขาออกจากตัวผมไปยืนบนพื้นทราย หยิบครีมกันแดดออกมาจากกระเป๋าผ้าที่วางอยู่บนพื้น ผมดันตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับดึงแว่นลงมาวางบนจมูกตามเดิม ไอติมถอดเสื้อกล้ามและกางเกงออกจนตัวเปลือยเปล่าโดยไม่ได้สนบรรยากาศรอบข้างแล้วมานั่งตรงหว่างขาของผม


“คุณทายัง” ผมยื่นมือซ้ายไปกอบกุมกลางลำตัวเขาไว้ มือขวาบีบขวดครีมกันแดดลงบนอกของเขา


“ทาแล้ว” ไอติมยิ้ม เอาหัววางบนไหล่ขวาของผม ผมก้มลงหอมแก้มซ้ายของเจ้ากระต่าย ไอติมใช้สองมือช่วยผมทาครีมบนตัวเขาเองโดยที่มือซ้ายของผมยังคงกอบกุมตรงนั้นไว้เพื่อที่อย่างน้อย ๆ ก็ถือว่าเป็นการกันโป๊


“Hey, your a bit on the side has sent messages to you again. (เฮ้ กิ๊กของคุณส่งข้อความหาคุณอีกแล้วนะ)” เดนนี่เดินมาแล้วยื่นโทรศัพท์สีดำมาให้ผม ไอติมยกมือขวาไปลูบซิกซ์แพ็คของเพื่อนตัวเอง เจ้าของกล้ามท้องยืนนิ่งให้เพื่อนตัวเองลูบ ผมยื่นมือขวาไปรับโทรศัพท์มาเปิดดูแอพพลิเคชั่นแชทสีเขียวแล้วขมวดคิ้วก่อนจะกดดีลีทข้อความนั้นทิ้ง ในหัวไม่ได้คิดว่าจำเป็นต้องตอบหรือไม่


“เดนทาครีมกันแดดยัง” ไอติมถามพลางลูบครีมไปตามขาของตัวเอง


“ยัง มึงมาทาให้ดิ๊” แฟนผมพยักหน้า แต่ยังคงนั่งทาครีมให้ตัวเองอยู่ ผมใช้มือขวาช่วยลูบครีมไปบนแผ่นหลังขาวละเอียดที่มันเคยเรียบเนียนกว่านี้


“เสร็จยัง…” เจ้าของแผ่นหลังถาม ผมขอบคุณแว่นตาที่บดบังความเสียใจในแววตาผมไว้ ผมลูบมือไปตามร่องรอยแผลเป็นบนหลังไอติมด้วยความรู้สึกแค้นใจ


แค้นใจตัวเอง


“…แซ็ค” ผมเงยหน้าขึ้นมอง ไอติมส่งยิ้มมาให้ และบอกผ่านทางสายตาว่าไม่เป็นไร ผมกระตุกยิ้มอ่อนและตามด้วยพยักหน้า ดึงมือออกจากแผ่นหลังของเขา ไอติมลุกออกจากเก้าอี้อาบแดดตัวเดียวกับผมไปยืนเปลือยตรงหน้าเพื่อนตัวเอง ผมบีบครีมกันแดดใส่มือซ้ายแล้วยื่นให้ไอติมรับไป ผมกระเถิบตัวไปนั่งขอบเก้าอี้อาบแดด ปาดครีมลงบนก้นขาวเนียนแสนงอนของเขา ไล่มือไปตามต้นขาหลังและตรงน่อง พอปาดครีมเป็นจุด ๆ จนเสร็จก็ใช้สองมือลูบครีมไปทั่วผิวขาวเนียน และไอติมเองก็กำลังใช้สองมือทาครีมกันแดดให้กับเดนนี่อยู่เช่นกัน


หึๆ!


“บันนี่ มาใส่เสื้อผ้าก่อน” ผมหยิบเสื้อผ้าเขาขึ้นมาจากปลายเท้าของผม ไอติมที่แทบจะนั่งคร่อมตักเดนนี่หันมามองผมและคลี่ยิ้มให้ ผมมองมือซ้ายของเดนนี่ที่กำลังบีบก้นฝั่งขวาของไอติมเบา ๆ แล้วทำหน้าเซ็ง


“ข้างหลังทาแล้ว ข้างหน้านายก็ทาเองได้มั้ง” เดนนี่ขำแบบไร้เสียง พยักหน้าขึ้นให้ไอติมเป็นเชิงบอกให้มาใส่เสื้อผ้า กระต่ายตัวขาวหมุนตัวกลับมาหาผมและหยิบเสื้อกล้ามไปใส่ก่อนตามด้วยกางเกงขาสั้นตัวเดิม


“เดนเอาเจลหล่อลื่นมามั้ยอะ” ไอติมนั่งลงบนตักผม ผมยกแขนซ้ายโอบรอบเอวเขาไว้ หันไปมองลูคัสกับดับดัสตินที่กำลังเดินขึ้นมาจากทะเล ลูคัสถือห่วงยางสีดำขนาดใหญ่ที่ยืมทางที่พักมาเล่นกลับขึ้นมาด้วย


“กูเอากล้องมาด้วย” ไอติมพยักหน้า กำลังจะลุกขึ้นยืนแต่พอหันไปเห็นสองคนที่เพิ่งเดินขึ้นมาจากทะเลก็ยิ้มกว้าง


“หิวมั้ยฮะ” ลูคัสวางห่วงยางไว้บนพื้นทรายและส่งยิ้มให้แฟนผมที่มองเต้านมของผู้ชายวัยใกล้จะเลขห้าแล้วตาเป็นประกาย


“กินม้าได้ทั้งตัว” ลูคัสตอบพลางเสยผมเปียกของตัวเองขึ้น ไอ้ดัสตินหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบและยืนก้มหน้าดูโทรศัพท์


“ผมสั่งอาหารไว้ให้แล้ว คุณไปแจ้งที่ร้านอาหารของรีสอร์ทได้เลย เดี๋ยวเขาเอามาเสิร์ฟ” ลูคัสมองไอติมด้วยความชื่นชมและยิ้มละมุนซะเหลือเกิน


“Wow, thank you, my daughter.” ลูคัสก้มลงจูบปากไอติมหนึ่งทีและยกมือขวายีหัวลูกสาวที่เขาเรียกด้วยความเอ็นดู


“Hey, you don’t have to kiss him. Just say thank you. (เฮ้ ไม่ต้องจูบก็ได้ แค่บอกขอบคุณก็พอ)” ลูคัสหันมามองผมแล้วหัวเราะเบาๆ


“Why? Daddy kissed his baby. That’s all. (ทำไมล่ะ พ่อจูบลูกตัวเองก็แค่นั้น)”


“Make sure if you feel with him a real daddy or a step daddy. (เอาให้แน่ว่ารู้สึกกับเขาว่าเป็นพ่อจริง ๆ หรือพ่อบุญธรรม)” ไอ้ดัสตินเงยหน้าขึ้นพูดและส่งยิ้มยียวนให้ลูคัสที่ยิ้มกว้าง แต่ไม่ได้ยิ้มตอบคนพูดหรอกนะ ยิ้มให้แฟนผมนี่แหละ ส่วนแฟนผมก็ยิ้มร่าตอบ ตั้งแต่ภาษาอังกฤษคล่องแคล่วก็ตอบรับคู่สนทนาได้สมูทเชียวล่ะ


“Look like you guys are going somewhere. (ทำท่าเหมือนจะไปไหนกัน)” ดัสตินถามและมองมาที่ผมกับไอติมก่อนหันไปมองเดนนี่แล้วเลิกคิ้วขึ้น


“Do a vlog. (ถ่ายวล็อกน่ะ)”


“Sex vlog?”


“Yes. (เออ)” ผมตอบเสียงห้วน ลูคัสกับดัสตินหัวเราะ ไอ้รอยสักมังกรชี้ที่ผมสามคนและทำหน้าว้าวก่อนจะร้องวู้ว ๆ เป็นเชิงล้อ ลูคัสแกล้งแซวไอติมด้วยการชูมือขึ้นเป็นเลขสี่และเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม กระต่ายของผมหัวเราะตาหยีพร้อมกับทำท่าทางเขินอายได้น่าตีให้เนื้อแตก


“ฉันจะถือว่านั่นตกลงนะ”


“จะทิ้งฉันได้ไงกัน มากันห้าคน ก็ต้องห้าคนสิ” ไอ้ดัสตินพูดจบก็นำทีมโห่แซวเสียงครึกครื้น มันยื่นมือไปตีมือลูคัสกับเดนนี่สนุกสนาน ผมเองก็ร่วมหัวเราะไปด้วย ส่วนตัวกลางที่ตัวบอบบางที่สุดในกลุ่มอย่างไอติมก็ยิ้มจนหน้าแดง และเขินตัวบิดแล้วบิดอีก จนผมต้องยกมือซ้ายตีหน้าผากเขาไปที


“น้อย ๆ หน่อยไอ้กระต่าย” ไอติมหัวเราะคิกคักจนตาหยี ผมยิ้มตามรอยยิ้มนั้น


“เดี๋ยวฉันไปบอกพนักงานแล้วกัน” ดัสตินเป็นคนอาสาเดินไปบอกพนักงานให้เอาอาหารมาเสิร์ฟ ลูคัสนั่งลงบนห่วงยาง ผมดันให้ไอติมลุกขึ้นยืนแล้วลุกตามเขา เดนนี่เอากล้องถ่ายรูปคล้องคอก่อนจะลุกขึ้นตามบ้าง


“เดี๋ยวเจอกันนะฮะลูคัส”


“Have fun!”


“Oh, it’s gonna be fun surely. (Oh มันต้องสนุกแน่นอน)” ผมตอบกลับและยิ้มมุมปาก พาไอติมเดินออกไปสู่แดดอันร้อนแรงของเมืองไทย มีเดนนี่เดินขนาบข้างไอติมอีกข้างหนึ่ง



   
ตกค่ำเราทั้งห้าคนไปดินเนอร์กันที่ร้านอาหารของรีสอร์ท พวกเราสั่งอาหารทะเลมาอย่างเต็มที่ ไอติมสั่งกุ้งเผามาราวกับว่ากลัวโต๊ะอื่นจะแย่งตัวเองกิน ผมเป็นคนดื่มน้อยที่สุด เพราะไม่อยากดื่มเยอะ ไม่อยากเมา ส่วนไอติมไม่ชอบดื่มอย่างไร ก็ยังคงไม่ดื่มอย่างนั้น และเขายังคงไม่ชอบไปร้านเหล้าเข้าผับเข้าคลับที่ไหน เว้นแต่จะไปดูผมเต้นโชว์ แต่นั่นมันก็ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้ถ้าจะเต้น ผมก็เต้นโชว์เขาคนเดียวเนี่ยแหละ
   

“โปรเจ็คต์เรียลลิตี้สปอนเซอร์เข้ามาให้เลือกไม่น้อยเลยล่ะ ส่วนมากก็เชื่อมือไอศกรีมกันทั้งนั้น” ลูคัสว่าอย่างอารมณ์ดี ใช้ที่หนีบกล้ามปูหนีบเปลือกแข็ง ๆ จนแตกก่อนหยิบเนื้อปูเข้าปาก
   

“แต่ทางนั้นก็จะทำรายการแข่งกับเราว่ะ” เขามุ่ยหน้านิดหน่อย ยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่มตามเนื้อปูเข้าไป ก่อนส่ายหัวด้วยท่าทีเซ็งๆ
   

“ไม่เห็นเป็นไรเลยฮะ ผมว่าดีซะอีก จะได้มีตัวเปรียบเทียบชัด ๆ ว่าของใครสนุกกว่ากัน ซึ่งเราก็ต้องทำให้สนุกกว่า” กระต่ายตัวจ้อยทำหน้ามั่นใจแต่ก็ไม่ใช่มั่นจนน่าหมั่นไส้ เหมือนเขาให้กำลังใจตัวเองและลูคัสมากกว่า
   

“ฉันรู้ว่ามันต้องสนุก ฉันเชื่อมือเธอเสมอ” ไอติมยิ้มภูมิใจ ลูคัสเองก็มองไอติมด้วยความภูมิใจ ก็นะ ปั้นมากับมือ เชื่อใจและไว้ใจไอติมตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ และเขาแทบไม่ผิดหวังเลย แค่ผิดคาดไปบ้างตามปกติของการทำงานที่ไม่อาจเป๊ะ ๆ ไปหมดทุกครั้ง
   

“I do really wanna join this project. (ผมอยากร่วมรายการด้วยจัง)”


“มึงไม่ต้องเลยไอ้เดน” ไอติมแหวใส่เดนนี่ที่หน้าแดงคล้ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ เพื่อนสนิทไอติมหัวเราะเสียงทุ้ม ดัสตินหัวเราะด้วยอีกคน ไอติมหยิบแตงกวาที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปาหัวเดนนี่ คนโดนแตงกวาปาหัวหัวเราะอารมณ์ดี


เรานั่งกินไปคุยไปเรื่อย ๆ แบบไม่ได้เร่งรีบเพราะไม่ต้องรีบไปไหนในวันรุ่งขึ้น ไอติมคอยแกะกุ้งแกะปูและคอยตักอาหารป้อนผมไม่ขาด ผมก็อยากช่วยทำอะไรให้เขาบ้างนะ แต่พอเขาทำให้แบบนี้มันเพลินแล้วก็รู้สึกดีมาก ๆ ผมเลยนั่งให้เขาดูแลผมไปตลอดเวลาที่เรานั่งอยู่ที่ร้านอาหาร


เที่ยงคืนกว่า ๆ พวกเราพากันเดินกลับบังกะโลริมหาดของเรา ห้องที่เราอยู่เป็นห้องพักขนาดใหญ่ เหมาะแก่การพักห้าคนขึ้นไป เต็มที่ได้ถึงสิบคน ลูคัสกับดัสตินเมาหนักสุดแต่ยังสามารถประคองตัวเองเดินกลับได้โดยไม่โซซัดโซเซ เดนนี่เมาน้อยกว่าเลยยังเดินได้ตรงตามปกติแค่อาจจะยิ้มง่ายและหัวเราะเร็วกว่าปกติหน่อย ส่วนกระต่ายของผมน่ะเหรอ หอบกุ้งเผามากินด้วย มีความสุขกว่าใครในโลกหล้าแล้วล่ะตอนนี้


“พรุ่งนี้ว่ากัน” ดัสตินล้มตัวลงนอนบนเตียงก่อนใคร ดึงผ้านวมขึ้นห่มได้ก็หลับตาทันที


“ไม่แปรงฟันก่อนรึไง” ลูคัสถาม คนถูกถามส่ายหน้าแล้วพลิกตัวเข้าหาผนังริมห้องฝั่งตัวเอง ลูคัสเดินเข้าไปทางห้องน้ำคนเดียว เดนนี่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง


“ไปนั่งกินข้างนอกเถอะ” ผมชวนไอติม เขาพยักหน้าแล้วก้าวเท้าเดินออกไปนั่งเก้าอี้หน้าระเบียงด้วยกัน ผมมองเขาแล้วยิ้ม เขาสบตากับผมและยิ้มตอบทั้งที่ปากยังเคี้ยว


“ผมรู้นะว่าการบอกให้ตัวเองเลิกคิดมากมันยาก แต่ผมก็อยากให้คุณทำ”


“อาการฉันชัดเจนมากเลยเหรอ” ไอติมส่ายหัว


“คุณก็เป็นอย่างนี้มาตลอด แต่ผมรู้ว่าคุณไม่ได้คิดมากเรื่องสาว ๆ ของคุณหรอก คุณคิดมากเรื่องที่เรากลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว” ผมยิ้มขำปนขื่น ขำที่รู้สึกเหมือนโดนกัดก่อนนิดหน่อยก่อนตามด้วยความขื่นกับความเป็นจริงที่เขาบอกว่าเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว


ผมพยักหน้าเบา ๆ “ขอบคุณที่อยู่กับฉัน”


“ก็ผมรักคุณนี่” ไอติมยิ้มกว้างเขินอาย ยกไหล่ขึ้นด้วยความเขิน ผมคลี่ยิ้มกว้าง


“นายบอกรักฉันอีกแล้ว” ไอติมหยิบกุ้งเข้าปากแล้วทำตีมึน ผมยิ้มบางก่อนหันมองเข้าไปในห้องพัก มองเดนนี่ที่กำลังนอนใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้าอยู่บนเตียงก่อนหันกลับมามองไอติมที่กำลังเคี้ยวกุ้งและมองผมตาใส พอเขากลืนกุ้งลงคอเขาถึงได้เปิดปากพูด


“เราคุยกันแล้วนี่หน่าอันนี้อะ” ไอติมดูดนิ้วดังจ๊วบ ๆ ผมทำปากยู่ ก่อนจะยักไหล่หนึ่งทีแล้วตามด้วยพยักหน้า ไอติมยิ้มพอใจ


“กินเสร็จแล้วห้ามไปนอนทันทีนะ” เขาพยักหน้ารับ รู้ว่าผมเป็นห่วง กลัวว่าเขาจะเป็นโรคกรดไหลย้อน ไอติมเสี่ยงจะเป็นไม่ใช่เพราะกินอาหารไม่เป็นเวลาหรอก เสี่ยงเป็นเพราะหลายทีชอบกินแล้วนอนเลย


ผมนั่งรอไอติมกินกุ้งจนหมดก็พาเขากลับเข้าไปในห้อง เราสองคนเดินเข้าห้องน้ำไปแปรงฟันด้วยกัน ลูคัสกับดัสตินนอนหลับไปแล้ว เดนนี่นั่งเล่นเกมในมือถืออยู่ แต่ผมรู้แหละว่าอีกเหตุผลนึงที่เขายังไม่นอนเพราะอะไร ก็เหตุผลเดียวกับผมนี่แหละ


“เดน นอนกันเถอะ” เขาพยักหน้า กดปิดเกมแล้ววางโทรศัพท์ไว้บนขอบไม้บนหัวเตียง ไอติมล้มตัวลงนอนตรงกลาง พลิกตัวเข้ามาหาผมและเอาแขนขาก่ายกอดผมไว้ ด้านหลังมีเดนนี่นอนซ้อนและแขนซ้ายกอดเอวไอติม ผมเอื้อมมือไปปิดโคมไฟตรงโต๊ะข้างเตียง ห้องเราตกอยู่ในความมืด มีเพียงแสงจันทร์ส่องทะลุผ่านม่านสีขาวบางเข้ามาเท่านั้น




เรากลับมาที่บ้านไอติมกลังจากบุกทะเลอยู่หลายวันจนผิวเปื่อย บ้านไอติมกลายเป็นที่พักพิงของทุกคนเวลาเดินทางมาประเทศไทย ต้องยอมรับว่ามันสะดวกสบายกับคนต่างถิ่นอย่างพวกเรามาก เริ่มแรกเดิมทีเพื่อน ๆ จากต่างประเทศที่มาพักบ้านไอติมนั้นก็มีความเกรงใจ แต่เพราะเจ้าของบ้านแสดงถึงความเต็มใจในการต้อนรับจึงทำให้เบาใจและรู้สึกผ่อนคลาย


“วันนี้นายต้องออกกำลังกาย ฉันให้นายกินเยอะเกินไปแล้ว” ไอติมหน้ายู่เมื่อผมพาเขามาออกกำลังกายที่ฟิตเนสแถว ๆ บ้านเขา เจ้าของฟิตเนสก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เขากับน้าแพนนั่นแหละ แต่ในทางปฏิบัติควบคุมดูแลก็จะเป็นผมซะมากกว่า


“ยังขี้เกียจอยู่เลยอ่า…” เขาบ่นในขณะที่ใส่กางเกงขาสั้นสำหรับออกกำลังกายอยู่ในห้องล็อคเกอร์ พอใส่เสร็จเขาก็ยืดตัวตรงแล้วมองผมตาวิบวับ


“…ออกกำลังกายแบบอื่นไม่ได้เหรอ” เขายิ้มยั่วยวนชวนเชิญ กระเถิบเข้ามาใกล้ผม มือขวาลูบเป้าผมวนไปทางขวา


“ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ อย่ามาขี้โกง” ไอติมยิ้มกว้างตาหยี ปล่อยมือออกจากเป้าผม หยิบเสื้อสำหรับออกกำลังกายมาใส่


“ได้ พร้อมแล้ว!” ผมยิ้มมุมปาก ยื่นมือขวาไปจับมือซ้ายของเขาและเดินจูงมือเขาออกไปข้างนอกเพื่อพาไปออกกำลังกาย ผมต้องเดินจูงมือเขาแบบนี้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ เพราะมีลูกค้าในฟิตเนสของเราคนนึงแสดงท่าทีออกว่าชอบแฟนผม แต่ท่าทีอีกฝั่งน่ะไม่สำคัญเท่าความอัธยาศัยดีของกระต่ายตัวนี้หรอก


“Zach, your friend is waiting at the drawing room. (แซ็ค เพื่อนคุณรอคุณอยู่ในห้องรับแขก)” ตอนที่เราเดินผ่านเค้าน์เตอร์เซ็นเตอร์ของฟิตเนส เทรนเนอร์ผู้ชายใส่แว่นคนหนึ่งที่วันนี้รับหน้าที่ดูแลส่วนนี้ชูมือขึ้นเรียกเราสองคนและตะโกนบอกผม แต่ไม่ได้ตะโกนลั่น


“Who? (ใครเหรอ)” เขาส่ายหัว สีหน้าไม่รู้จริงจัง


“He said he wants to make you surprise. (เขาบอกว่าเขาต้องการทำให้คุณเซอร์ไพร์ส)” ผมขมวดคิ้ว ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงุนงง


“ใครอ่า”


“ไม่รู้ ไปดูที่ห้องรับรองกัน” ไอติมพยักหน้า ผมขอบคุณเทรนเนอร์คนนั้นที่ยิ้มตอบกลับมา เราสองคนเดินไปทางห้องรับรองของฟิตเนสที่อยู่โซนเดียวกับห้องล็อคเกอร์และอยู่ใกล้กับห้องน้ำ ประตูกระจกสีดำสนิทปิดอยู่ ผมดันประตูเข้าไปด้านใน ไม่ต้องเสียเวลามองหา เพราะคนที่มารอพบเรานั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวกลางห้องรออยู่แล้ว ผมมองคนตรงข้ามด้วยความตกใจ แต่ที่มากกว่าความตกใจคือความโกรธที่ปะทุอยู่ในอก


“เจค็อบ!” ผมหันไปมองไอติม เขาหน้าถอดสีก่อนกระเถิบตัวมายืนหลังผม ผมหันกลับไปมองผู้มาเยือนคนนั้น เขาคลี่ยิ้ม มองมาที่ผมด้วยสายตาละมุนละไมซะเหลือเกิน


“Why are you here?! (มาที่นี่ทำไม?!)” ผมถามเสียงเรียบ ใบหน้าตึงไร้อารมณ์ใดๆ


“I’m coming to see both of you. (ฉันก็มาหานายสองคนไง)” เขาตอบน้ำเสียงนุ่มทุ้มและยังคงยิ้มด้วยรอยยิ้มดูดี


“We don’t want to see you. (เราไม่ต้องการพบแก)” ผมพูดเสียงแข็งและมองอีกฝ่ายด้วยสายตาแข็งกร้าว


“อู้ววว…” เจค็อบห่อปากสูดปากเสียงเบาและทำสีหน้าเสียอกเสียใจ


“…So mean. (ใจร้ายจริงเชียว)” แล้วเขาก็คลี่ยิ้มกว้างพร้อมกับเลื่อนสายตาวาววับของเขามองไอติมที่โผล่หน้ามามองเขาจากด้านหลังของผม


“Hi, ice-cream. (สวัสดี ไอศกรีม)” เขาเอ่ยทักทายไอติมเสียงยานคางผสมเสียงหัวเราะในลำคอเล็กๆ


“Fuck off mother fucker. (ไปให้พ้นไอ้แม่***)” เจค็อบหัวเราะเสียงดังขึ้นกับคำด่าของไอติม รอยยิ้มกว้างของเขาสนุกสนานกับสถานการณ์ตอนนี้


“How lovely you are. (เธอช่างน่ารักอะไรอย่างนี้)” เขาพูดน้ำเสียงระรื่นราวกับเมื่อกี้ไอติมเอ่ยชมเขา ผมมองเจค็อบตาไม่กะพริบ ส่วนเขามองเราสองคนแล้วยิ้มกว้างราวกับเป็นคนโรคจิต


ไม่สิ เขามันโรคจิต










เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



อุ๊ต๊ะ พี่แซ็คมายังไง

ไม่พูดเยอะค่ะ ไม่ได้เจ็บคอนะ แต่ไม่รู้จะพูดอะไร 555555

เอาเป็นว่า Keep reading กันนะคะ ตอนนี้ทางตอมสามารถพูดได้เต็มปากเลยค่ะว่ามันกลางเรื่องมาตั้งแต่ตอนที่แล้วแล้ว เรื่องกำลังดำเนินสู่พาร์ทหลัง ๆ ของเส้นเรื่องนิยายเรื่องนี้ค่ะ

แต่ถามว่าใกล้จะจบรึยัง แล้วมีกี่ตอน อันนี้ตอบไม่ได้จริง ๆ คือมีในใจนะคะ แต่ยังไม่กล้าเผยออกมา เพราะนิยายตอมไม่เคยจบได้ตามตอนที่คิดไว้เลยสักเรื่องตั้งแต่เขียนมา (เหมือนเยอะ มีอยู่สองเรื่องอะเธอ) 5555555

ยังไงก็เจอกันตอนหน้าเนอะ ส่วนถ้าใครติดตามเพจกับทวิตเตอร์ตอมอยู่ ลบข้อความโดย ผู้ดูแลห้อง Boy's love story 

ขอบคุณพลังบวกและกำลังใจดี ๆ ที่มีให้กันนะคะ  :mew1:



 แท็กเรื่องนี้ #ประสบกามประสบรัก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-02-2019 22:01:06
 เป็นห่วงน้องติม  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Kx0806 ที่ 01-02-2019 22:53:49
โอ้ย อยากอ่านต่อแล้ว ดูมีอะไรเต็มไปหมด ทั้งเรื่องแซ็ค เรื่องน้อง กฎอะไร ยังไงกัน อยากอ่านมากๆๆๆๆๆ  //และอยากรู้เบื้องหลัง vlog ด้วยค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 01-02-2019 22:56:14
ต้องเป็นเพราะเจค็อบแน่ๆ รอยแผลเป็นบนหลังไอติม  :hao7:

เจค็อบ!! แกทำลูกติมหรอ ห๊าาาา :m31: :fire:

แล้วก็ไอติมกับแซ็คมีสัญญาอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น

โอ้ยๆๆๆ อยากรู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-02-2019 04:37:39
ส่วนเกิน จะมาทำไมของแก ห๊า  o12
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 02-02-2019 10:04:42
มันต้องมีอะไรแน่ๆๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 02-02-2019 10:36:27
รออ่านส่วนอธิบายเพิ่มเติมค่ะ​ แต่ความสัมพันธ์​3คนบนเตียงนี่น่าสนใจ​มากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 02-02-2019 22:54:01
เกิดอะไรขึ้นในความสัมพันธ์กันแน่ อยากรู้แล้วค่าา  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 02-02-2019 23:07:29
กลางเรื่องแล้ววว
ใกล้จะได้รู้เหตุผลที่น้องติมหนีกลับละ  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 03-02-2019 11:47:21
เจค็อบคือใครอ่า ทำไมไอติมกลัว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 03-02-2019 13:05:11
อืมมม เหมือนว่าเราอาจจะไปด้วยกันไม่ได้แล้วล่ะน้องติม...
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.23 : Special from Zach. : 01.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 04-02-2019 01:50:36
อยากรู้ :katai1: แล้วหลังน้องติมไปโดนอะไรมาอ่ะสงสารน้อง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 08-02-2019 20:10:24
Fall in lust - Chapter 24 :: Rabbit in the lion house. (กระต่ายในรังราชสีห์)




   ไอติมนั่งอยู่บนเตียงแล้วมองไปรอบห้องนอนโทนสีเข้มที่ตัดด้วยสามสีหลักคือเทาดำขาวด้วยความรู้สึกสับสนงงงวย ในใจรู้สึกไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังอยู่ในโลกของความเป็นจริงหรือโลกของความฝันที่เคยฟุ้งเฟ้อก่อนหน้านี้มานานแสนนาน สายตามองไปที่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตัวเองแล้วก็กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความรู้สึกย้ำคิดย้ำทำกับการถามตัวเองว่าอันนี้จริงไม่จริง แล้วถ้าจริงมันจริงได้ยังไง
   

“What’s wrong? (เป็นอะไรรึเปล่า)” ไบรอั้นที่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพหัวเปียกหมาด ๆ ผ้าขนหนูผืนใหญ่พันเอวค่อนข้างต่ำ ผ้าขนหนูเล็กพาดคอถามไอติมด้วยรอยยิ้มขำขัน คนถูกถามมองคนถามตาแป๋ว มุมปากทั้งสองข้างยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอ่อน ๆ แต่ก็เป็นรอยยิ้มเก้กัง
   

“Un,” ไอติมก้มลงมองคำศัพท์ในดิคชันนารีมือถือก่อนเงยหน้าขึ้นพูดต่อจบตบ
   

“Unbelievable. (เหลือเชื่อเลย)” ไบรอั้นคลี่ยิ้ม เดินไปนั่งบนเก้าอี้สีดำมีพนักพิงตัวใหญ่แล้วเลื่อนเก้าอี้เข้าไปใกล้ปลายเตียง
   

“Don’t make it to be a big thing. It is just, we stay together. (อย่าทำให้มันเป็นสิ่งยิ่งใหญ่นักเลย มันก็แค่… เราอยู่ด้วยกัน)” ไบรอั้นยิ้มเล็ก ๆ แต่ก็พอมองออกว่าเป็นรอยยิ้มขมขื่นหน่อย ๆ ไอติมมองหน้าไบรอั้นตาใส ใบหน้านิ่ง ไม่ใช่หยิ่ง แต่แปลประโยคนั้นอยู่


“Don’t make me special. I’m just a normal person. (อย่าทำให้ฉันเป็นคนพิเศษเลยเถอะ ฉันก็แค่คนธรรมดาคนนึง)” ประโยคเก่ายังไม่ทันแปลเสร็จ ประโยคใหม่ก็ผุดขึ้นมา ไอติมพยายามจับใจความและจับมาโยงกัน ซึ่งสุดท้ายพอจะเข้าใจได้ว่าไบรอั้นกำลังบอกให้ทำตัวปกติหรือเปล่า


“I should glad but I am dizzy. (ผมควรดีใจแต่ผมมึนงง)” ไบรอั้นขำแบบไม่มีเสียง มองไอติมที่มองหน้าเขาด้วยแววตาเหมือนเด็กหลงทางด้วยความตลก


“It’s okay. (ไม่เป็นไร)” ไอติมนั่งมองหน้าไบรอั้น มองเพื่อให้แน่ใจว่ากำลังเห็นขวัญใจตัวเองแบบเป็น ๆ อีกครั้ง


มันไม่ใช่เรื่องแปลกกับการที่จะได้นอนกับไบรอั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้ใช้ชีวิตในห้องนอนด้วยกันสองคน เพราะไอติมเคยผ่านจุดนั้นมาแล้วตอนที่ไบรอั้นอยู่บ้านตัวเอง เพียงแต่ครั้งนี้เปลี่ยนสถานที่ใหม่ ซึ่งสำหรับไอติมก็ไม่ได้ว่าใหม่เอี่ยมอ่องเพราะก็เคยมานอนที่ห้องนี้แล้ว แต่ที่มันทำให้ไอติมยังงง ๆ ก่งก๊งอยู่แบบนี้ก็เพราะไบรอั้นพาเขาเข้ามาเองนี่แหละ ทั้งเอ่ยชวนและช่วยขนของด้วย แถมยังช่วยเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ให้อีกต่างหาก


“Hey, this is me. It’s real, okay? (นี่ ฉันเอง มันคือเรื่องจริง โอเคมั้ย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะยิ้มเขินที่ถูกไบรอั้นจับได้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ เจ้ากระต่ายพยักหน้าอ่อยๆ


“Sorry.” ไอติมบอกเสียงเล็ก ๆ ใส ๆ แล้วยกนิ้วโป้งมือขวาขึ้นกัดเหมือนหาอะไรทำแก้เขิน


“Are you shy again? (เขินอีกแล้วเหรอ)” ไอติมไม่ตอบ เอานิ้วออกจากปาก เม้มปากแน่น แต่แก้มแดง ๆ นั้นก็เป็นคำตอบที่ทำให้ไบรอั้นหัวเราะอารมณ์ดี


“Are you that rabbit who loves to touch me? (นายใช่กระต่ายตัวนั้นมั้ยเนี่ยที่ชอบสัมผัสฉันน่ะ)” ไอติมแปลไม่ออกเพราะกำลังเบลอ ยิ่งเห็นดวงตาสีเทากำลังจ้องมองตัวเองแทบไม่กะพริบก็ยิ่งเหมือนเบลอเพิ่ม เลยหยิบโทรศัพท์ไปวางบนหัวเตียงก่อนล้มตัวลงนอนหนีสายตานั้น มีเสียงหัวเราะทุ้มดังตามมา


ไบรอั้นคลี่ยิ้มแบบไม่เห็นฟัน ลุกขึ้นเดินไปตรงตู้เสื้อผ้า ปลดผ้าขนหนูออกจากเอว หยิบกางเกงขายาวสีเทาขึ้นมาสวมใส่ เอาผ้าขนหนูผืนใหญ่ไปแขวนไว้ตรงราวตากผ้าหน้าห้องน้ำ ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดหัวอีกสักพักจนแห้งแล้วเอาตากไว้ที่เดียวกัน หันกลับไปมองที่เตียงก็เห็นว่ากระต่ายตัวจ้อยนอนตะแคงข้างหันหลังให้เขาอยู่ ไบรอั้นเดินไปปิดไฟดวงใหญ่จนเหลือแต่ไฟที่หัวเตียง จังหวะที่เขาวางเข่าลงบนเตียง ไอติมก็พลิกตัวหันมามองเขาหน้าตื่นนิดหน่อย


“Are you afraid of me now? (กลัวฉันซะแล้วเหรอ)” ไบรอั้นว่าขำ ๆ ขณะที่ทิ้งตัวลงนอนข้างไอติมที่นอนมองเขาตาแทบไม่กะพริบ เขามองไอติมแล้วยิ้มก่อนจะกระเถิบตัวเข้าไปใกล้ร่างผอมบาง กระต่ายตัวจ้อยมองหน้าเขาราวกับเด็กน้อยที่กำลังทำความคุ้นเคยคนไม่คุ้นหน้า


“Are you still alive? (ยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า)” ไบรอั้นยกแขนขวาขึ้นรองหัวแล้วกดหน้าลงมองไอติมที่แหงนหน้ามองตัวเองอยู่ ดวงตาของติมเลื่อนไปมาซ้ายขวา สำรวจใบหน้าหล่อเหลาของไบรอั้นราวกับเพิ่งพบเจอครั้งแรก เจ้าของใบหน้ายกคิ้วข้างขวาขึ้นเป็นเชิงถาม ไอติมคลี่ยิ้มแบบไม่เห็นฟันแต่ก็เป็นรอยยิ้มเต็มอิ่ม มือซ้ายเรียวบางยื่นไปวางบนซิกซ์แพ็คของไบรอั้นแวบสั้น ๆ แล้วชักกลับก่อนจะหัวเราะคิกคักพร้อมกับดิ้นดุ๊กดิ๊กบนเตียงด้วยความรู้สึกเขินอายปนตื่นเต้น ไบรอั้นคลี่ยิ้มขำ


“You were shy more than the first time we met. (นายเขินมากกว่าครั้งแรกที่เราเจอกันซะอีก)” ไอติมแปลไม่ออกแล้วว่าอีกคนพูดว่าอะไร ในหัวกำลังโล่งโปร่งสบาย ล่องลอยไปเรื่อย


“Sleepy? (ง่วงเหรอ)” ไบรอั้นถามเพราะเห็นว่าไอติมนิ่งไป สีหน้าออกแนวเบลอ ดวงตาเหม่อลอย ริมฝีปากเผยอ สักพักก็อ้าปากหาววอด เปลือกตากะพริบช้าลง แต่ยังคงมองหน้าเขาอยู่


“Thank you. (ขอบคุณฮะ)” ไอติมเอ่ยเสียงเบา มุมปากยกยิ้มอ่อน


“For what? (สำหรับอะไร)”


“House and bedroom. (บ้านและเตียงนอน)” ไบรอั้นยิ้มบาง เข้าใจความหมายที่ไอติมจะสื่อ


“It’s not for free you have to pay by working. (ไม่ฟรีหรอกนะ นายต้องจ่ายด้วยการทำงาน)” ไอติมยิ้มง่วง พยักหน้าเอื่อย ๆ เรื่อยเปื่อย ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลง ริมฝีปากแดงอ่อนเผยอขึ้น แล้วก็หลับไปเลย


ไบรอั้นยังมองไอติมด้วยรอยยิ้ม “Thank you, too. (ขอบคุณเช่นกัน)”


เขามองไปรอบห้องนอนของตัวเองด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนวกกลับมามองไอติมอีกรอบด้วยสายตาอ่อนโยน มือซ้ายยื่นไปลูบหัวไอติมเบา ๆ กระต่ายตัวน้อยขยับหัวเอื่อย ๆ คล้ายกำลังเพลิน ไบรอั้นยกมือขวาออกจากท้ายทอย ยื่นไปปิดโคมไฟหัวเตียง ห้องตกอยู่ในความมืด แต่ก็ยังมีแสงสว่างรำไรจากข้างนอกส่องผ่านเข้ามา เขาดึงผ้านวมขึ้นมาห่มร่างเขากับร่างไอติม แล้วก็หลับตาลงตามไอติมไป




ไอติมตื่นนอนเพราะรู้สึกว่าเตียงยวบยาบ พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นหลังไบรอั้นเดินเข้าห้องน้ำไปไว ๆ เขาเลยดันตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง อ้าปากหาวไปหนึ่งที หันตัวไปหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงมาดูเวลาบนหน้าจอก็เห็นว่าเป็นเวลาแปดโมงเช้านิด ๆ ไอติมได้ยินเสียงกรดชักโครกก่อนที่ไบรอั้นจะเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเพิ่งตื่นเช่นกัน


“Hungry? (หิวมั้ย)” ไอติมเข้าใจเลยพยักหน้าตอบรับอย่างไว


“You want to take a shower and get change before having breakfast? (อยากจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนอาหารเช้ารึเปล่า)” ไบรอั้นถามเพราะจำได้ว่าช่วงที่อยู่บ้านไอติม เขาไม่ชอบแปรงฟันตอนเช้า จะดื่มน้ำเกือบครึ่งขวดและกลั้วปากแทนการแปรงฟัน เพราะเขาบอกว่าแปรงฟันแล้วไปกินข้าวทำให้กินอาหารไม่ค่อยอร่อย ส่วนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็แล้วแต่อารมณ์เจ้าตัว


“No.” ไอติมส่ายหัว ไบรอั้นพยักหน้าและชี้ไปที่ขวดน้ำบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ ไอติมเลื่อนตัวลงจากเตียง เดินไปเทน้ำใส่แก้วแล้วดื่มไปหนึ่งแก้ว เทอีกแก้วแล้วเอากลั้วปากก่อนกลืนน้ำอันนั้นลงท้องไป จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อฉี่และล้างหน้าให้รู้สึกสดชื่น


“ไบรอั้น…”


“…Zach.”


“เอ้ย แซ็ค ล้างหน้ามั้ย clean face.” ไอติมตะโกนถามในขณะที่ถูโฟมล้างหน้า เจ้าของห้องนอนเดินเข้ามาในห้องน้ำแล้วมายืนข้างไอติม เปิดก๊อกน้ำเพื่อล้างหน้า และเขาเองก็ไม่แปรงฟัน เพราะช่วงที่อยู่กับไอติมเขาทำตามเด็กลามกจนรู้สึกว่ามันจริงกับการที่ไม่แปรงฟันแล้วไปกินอาหารเช้ามันให้รสชาติอาหารดีกว่า


จัดการล้างหน้าและเช็ดหน้าจนแห้ง ทั้งสองคนก็เดินออกจากห้องในสภาพชุดนอนของแต่ละคน ไบรอั้นพาไอติมเดินไปที่ครัวหินอ่อนห้องเดิม ไม่มีอาหารเตรียมไว้ให้เหมือนอย่างบ้านไอติม ทั้งสองคนเลยช่วยกันทำอาหารอเมริกันง่าย ๆ จำพวกแฮม เบคอน ฮ็อตดอก ขนมปังปิ้งทำนองนั้นเพื่อความรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน


“Where is your roommate? (รูมเมทคุณอยู่ไหนล่ะ)” ไอติมถามขณะที่ตักแฮมไหม้ ๆ วางบนขนมปังปิ้ง


“I don’t know. (ไม่รู้สิ)” แซ็คตอบพลางเคี้ยวฮ็อตดอกคำโต ไอติมบีบซอสพริกราดแฮมบนขนมปัง ก่อนเอาขนมปังอีกชิ้นประกบปิดแล้วก็กัดตรงมุมเข้าปาก ตอนที่กำลังเคี้ยวเพลิน ๆ ไอติมก็เห็นหนึ่งในรูมเมทของแซ็คเดินเข้ามาในครัวในสภาพกางเกงขาสั้นและท่อนบนเปลือย


“Oh...” เขาชะงักนิดหน่อยตอนเห็นไอติม ดวงตามองไอติมลอดผ่านแว่นสี่เหลี่ยมที่ใส่อยู่ แซ็คหันหน้าไปมองทั้งที่ปากยังเคี้ยวอยู่


“It’s Jacob, do you remember him? (เจค็อบน่ะ นายจำเขาได้รึเปล่า)” แซ็คหันกลับมาถามไอติมที่กัดขนมปังเข้าปากอีกคำ หนุ่มไทยพยักหน้าหงึก ๆ และยิ้มให้เจค็อบที่กระตุกยิ้มตอบกลับมา สองมือก็ง่วนกับการเตรียมอาหารเช้าให้ตัวเองด้วย


“He will stay here with me. I will take care of him. (เขาจะอยู่ที่นี่กับฉัน ฉันจะดูแลเขาเอง)” แซ็คพูดกับเจค็อบ อีกฝ่ายยืนชงกาแฟนิ่งเงียบ ไม่ได้ตอบรับอะไรเป็นเรื่องเป็นราว


“Good morning Jacob. (สวัสดีตอนเช้าเจค็อบ)” ไอติมนึกขึ้นได้ว่าควรเอ่ยทักทายเลยพูดออกมา เจค็อบหันมองไอติมแล้วยิ้มอ่อน


“Good morning and welcome. Make your self at home. (สวัสดีและยินดีต้อนรับ ทำตัวตามสบายเลยนะ)” เจค็อบยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ไอติมคลี่ยิ้ม พอจะเข้าใจประโยคนั้นอยู่บ้าง


“วันนี้ให้เขาส่งงานกับลูคัสก่อนแล้วกัน แล้วถ้านายจะแจ้งผลประเมินจากรอบที่แล้วให้เขาฟังก็แจ้งได้เลย แต่รอแอนโทนี่ก่อน จะได้สื่อสารกันง่ายขึ้น” แซ็คพูดพลางหยิบเฟรนช์ฟรายเข้าปาก เจค็อบที่กำลังดื่มกาแฟอยู่มองแซ็คด้วยสายตาประเมินก่อนจะยกยิ้มน้อย ๆ แซ็คยักไหล่สองข้างท่าทีสบายๆ


“You look comfortable. (นายดูสบาย ๆ ดีนะ)” แซ็คยิ้ม


“Of course. (แน่นอนสิ)” แซ็คหันมองไอติมที่กำลังทำแซนด์วิชแฮมย่างอันใหม่อยู่ก่อนหันกลับไปมองเจค็อบด้วยรอยยิ้มอ่อน เจค็อบยิ้มมุมปาก แววตาคมวาวมองแซ็คนิ่ง


“Okay.”  เขาดื่มกาแฟจนหมด หันตัวเอาแก้วไปวางไว้ในอ่างล้างจาน ก่อนจะเดินออกไปจากห้องครัวเงียบ ๆ ทิ้งให้ไอติมอร่อยกับแซนด์วิชไหม้ ๆ ของตัวเอง และไบรอั้นที่กำลังจัดการฮ็อตดอกสามอันพร้อมกัน


“อ้าว He don’t hungry? (เขาไม่หิว?)” ไอติมถามพลางชะเง้อมองออกไปข้างนอกโซนครัว


“Don’t worry about him. He could take care himself. (ไม่ต้องเป็นหวงเขาหรอก เขาดูแลตัวเองได้)” ไอติมเคี้ยวแฮมกับขนมปังอย่างเอร็ดอร่อย ครุ่นคิดคำแปลสักแปบก่อนจะพยักหน้าตาม


“Do you want more? (เอาอีกมั้ย)” แซ็คถามและชี้ขนมปังในมือไอติม คนถูกถามส่ายหัวรัวๆ


พอจัดการอาหารจนเสร็จแล้วก็เคลียร์อุปกรณ์ที่ใช้กินจนสะอาด ทั้งสองคนก็แบกน้ำเปล่าเข้าไปในห้องนอนเพิ่ม พร้อมทั้งหยิบน้ำผลไม้เข้าไปด้วย แซ็คโทรหาลูคัสและแอนโทนี่ นัดเจอทั้งสองคนที่บ้านเรียบร้อย ก็พาไอติมเข้าไปอาบน้ำพร้อมกัน ไอติมขออนุญาตแซ็คติดตั้งหัวฉีดก้นในห้องน้ำที่พกมาจากเมืองไทย แซ็คที่เข้าใจว่าไอ้หัวฉีดนี้มันมีประโยชน์ยังไงก็ช่วยติดตั้งให้จนสำเร็จ ไอติมดีใจที่ต่อไปนี้หลังอึเสร็จแล้วจะมีน้ำให้ชำระล้างก้นแบบที่คุ้นเคยสักที


“And it could clean your hole before you have sex, isn’t it? (แล้วมันก็เอาไว้ทำความสะอาดรูของนายก่อนมีเซ็กซ์ได้ดีด้วยนี่ ใช่มั้ย)” แซ็คยักคิ้วและยิ้มเจ้าเล่ห์ ไอติมแปลออกเลยยิ้มกว้างเขินอายแต่ก็พยักหน้ารับ


ด้วยความที่มีนัดส่งงานและคุยงาน เลยทำให้ทั้งสองคนต่างคนต่างอาบไม่มีเวลาจับนั่นจับนี่ต่อกัน อันที่จริงต้องบอกว่า ไอติมไม่มีเวลาลวนลามแซ็คมากพอถึงจะถูก พออาบน้ำเสร็จ เช็ดตัวจนแห้ง ก็พากันออกมาแต่งตัว ไอติมรู้สึกแปลกใหม่อย่างที่มนุษย์คนนึงควรรู้สึกเมื่อย้ายเข้ามาอยู่ในสถานที่ใหม่ที่ตัวเองไม่คุ้นเคยนัก


ตู้เสื้อผ้าของแซ็คมีขนาดใหญ่แต่เจ้าตัวไม่ได้มีเสื้อผ้าเยอะมากมายเลยมีพื้นที่ให้เสื้อผ้าของไอติมแทรกเข้าไปแขวนเก็บไว้ด้วยได้ ไอติมยืนเลือกเสื้อผ้าตัวเองที่อยู่ฝั่งขวามือ ซ้ายมือก็เป็นเสื้อผ้าของเจ้าของห้อง ไอติมยืนมองตู้เสื้อผ้าสีดำที่แบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยความรู้สึกยุบยิบที่ใจจนเผลอยิ้มออกมาในขณะที่สวมเสื้อยืดสีขาวลายวาดสีน้ำวิววัดพระแก้วจากเมืองไทย


“What’s funny? (มีอะไรตลกเหรอ)” แซ็คถามหลังจากสวมเสื้อยืดสีเทาไร้ลวดลาย ไอติมไม่ได้ตอบ ทำเพียงยิ้มกว้างขึ้นก่อนจะใส่กางเกงชั้นในกับกางเกงขาสั้นสีแดง แล้วหมุนตัวไปที่เตียง คลานเข่าไปนอนเหยียดขารอบนนั้น


“You want to walk around the house? (อยากเดินรอบ ๆ บ้านมั้ย)” แซ็คทำมือวนไปรอบ ๆ เพื่อให้ไอติมเก็ทง่ายขึ้น ไอติมเด้งตัวลุกขึ้นนั่งแล้วก็พยักหน้าด้วยท่าทีกระตือรือร้น


“Then go. (งั้นไปกัน)” ไอติมลงจากเตียง เดินตามแซ็คออกไปนอกห้องนอน แซ็คเดินนำไปเปิดประตูกระจกกรอบไม้สีขาวที่อยู่ใกล้กับผนังกระจกบานใหญ่ที่มีผ้าม่านสีครีมห้อยประดับอยู่ ไอติมเดินออกไปด้านนอกด้วยความตื่นเต้นเล็กๆ


ด้านซ้ายมือเป็นเฉลียงไม้มีหลังคามุงไว้สำหรับนั่งพักผ่อนด้านนอก หน้าเฉลียงเป็นพื้นที่สนามหญ้าโล่ง ๆ สำหรับจัดปิคนิคปิ้งย่างต่าง ๆ ในสวนหลังบ้าน ด้านขวาเป็นสวนขนาดย่อม มีต้นไม้สูงขึ้นเบียดกันให้ร่มเงา ด้านหน้าคือสิ่งที่ไอติมคิดว่าเป็นสระว่ายน้ำทะเลเทียม มันมีขนาดใหญ่ เห็นชัดว่ามีไว้ให้ว่ายน้ำ แต่เจ้าของบ้านทำรูปลักษณ์ของมันให้เหมือนทะเลขนาดย่อ มีกลุ่มโขดหินเหมือนในทะเลอยู่มุมซ้ายมือและมีบริเวณคล้ายชายหาดอยู่ด้านขวา พื้นที่รอบสระทะเลทั้งสองฝั่งเทปูนให้มีพื้นที่เดิน ฝั่งชายหาดมีเก้าอี้อาบแดดตั้งวางเรียงกันอยู่สี่อัน


“อูหหหหห์” ไอติมครางให้กับสระว่ายน้ำแปลกตาที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนในชีวิตของตัวเอง ที่อื่นอาจจะมี แต่ไอติมเห็นครั้งแรกที่นี่ สระว่ายน้ำรูปทรงเกือบกลมแต่ก็ไม่ใช่ แต่ทำออกมาจนรู้สึกเหมือนตัดแบ่งทะเลมาไว้ในบ้านได้จริงๆ


“We have a great view. (วิวที่นี่ดีนะ)” แซ็คชี้ไปที่สุดปลายของสระว่ายน้ำที่เป็นพื้นที่โล่ง มีม้านั่งตัวยาวตั้งพาดคล้ายเป็นระเบียงกั้นไม่ให้คนเดินเลยไปไกลกว่านั้น


“Can I go? (ผมไปได้มั้ย)” ไอติมชี้ไปที่ตรงนั้น แซ็คพยักหน้า ไอติมก้าวเท้าเดินไปตามทางริมสระว่ายน้ำ เลือกเดินฝั่งที่เป็นชายหาดเพราะอยากเห็นแบบระยะประชิด พอได้มองใกล้ ๆ ไอติมก็ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนทะเล ขาดแต่เม็ดทรายที่ไอติมคิดว่าคงไม่เอามาใส่เพราะจะทำความสะอาดลำบาก


“Like beach. (เหมือนหาดทราย)” ไอติมว่าพลางเดินลงไปลุยน้ำตรงหาดทรายที่ไร้ทรายก่อนเดินผ่านขึ้นไปบนพื้นปูนอีกที ไปยืนใกล้กับม้านั่งไม้ตัวยาว ยืนมองวิวในเมืองของแอลเอจากมุมบ้านของแซ็คด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ มันไม่ใช่ภาพอเมซิ่งหรือสวยงามเหมือนพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก ก็เป็นแค่ภาพภูเขาลูกโต ๆ กับตึกรามบ้านช่องที่อยู่ลดหลั่นกันลงไป มีต้นไม้สีเขียวแทรกให้เห็นบ้างเป็นบางจุด ลมเย็นพัดโชยมา และแม้ว่าจะเป็นช่วงปลายปีใกล้ปีใหม่ แต่ที่นี่ก็ยังมีความร้อนอบอวลอยู่


“Beautiful. (สวย)” ไอติมหันไปบอกแซ็คด้วยรอยยิ้มตื่นเต้น มันไม่ได้สวยอะไรมากมายหรอก แต่ไอติมนึกคำไม่ออก แต่ก็คิดว่าถ้าเย็น ๆ ออกมาเล่นน้ำแล้วได้เห็นวิวอะไรแบบนี้ไปด้วยก็คงสุนทรีย์ดีไม่น้อย


“You might get used with this space. Many porns shot at here. (นายอาจจะคุ้นกับที่ตรงนี้ หนังโป๊หลายเรื่องถ่ายที่นี่)” ไอติมหันมองกลุ่มโขดหินและน้ำสีฟ้าของสระว่ายน้ำ เลื่อนสายตามองไปรอบหลังบ้านของแซ็คแล้วก็ยิ้มด้วยความอ๋อ


“Yes, yes. (ใช่ ใช่)” ไอติมพยักหน้าตอบรับ จำได้ว่ามีหนังโป๊หลายเรื่องมีฉากตรงนี้ และก็จำได้ว่าในหนังของแซ็คนั้นมีแค่เรื่องเดียวที่ถ่ายทำโซนนี้ของบ้าน


“Your movie is just one to be here. (หนังของคุณเป็นแค่หนึ่งเรื่องที่อยู่ที่นี่)” แซ็คย่นคิ้วสีหน้าไม่แน่ใจนัก


“I don’t remember it. (ฉันไม่ได้จำน่ะ)” ไอติมยิ้มกริ่มก่อนตอบเสียงภูมิใจ


“One. I remember. (หนึ่ง ผมจำ)” แซ็คยิ้มขำแล้วพยักหน้า เชื่อว่ากระต่ายลามกตัวนี้จำได้แม่นอย่างที่ปากว่านั่นแหละ


“Ready to go next? (พร้อมไปที่ใหม่มั้ย)” ไอติมหันไปมองวิวเมืองอีกครู่หนึ่งก่อนหันกลับมาพยักหน้าให้กับแซ็คแล้วเดินกลับไปทางเดิม ตอนที่เดินถึงโซนเอาไว้สำหรับทำอาหารกินนอกบ้าน ทั้งสองคนก็หยุดเดินเพราะมีคนเดินออกมาจากข้างใน และสายตาทั้งคู่ก็เหลือบขึ้นไปมองเจค็อบที่ยืนอยู่บนระเบียงและกำลังมองทั้งสองคนด้วยสีหน้าราบเรียบแต่พักนึงก็คลี่ยิ้มตามมาก่อนที่เจ้าตัวจะหันเดินกลับเข้าไปข้างในพร้อมกับสวมเสื้อคลุมสีแดงมันเลื่อมตัวยาวหายลับไปทางขวามือ แซ็คกับไอติมก้มหน้าลงมองอีกคนที่อยู่ด้านล่าง


“เอาของเล่นใหม่เข้าบ้านเหรอ” ฝรั่งหนุ่มตัวสูง หุ่นผอมเพรียว ผิวขาวและท่าทางอ้อนแอ้นเอ่ยถามแซ็คโดยไม่ได้หันไปมองไอติม คนถูกถามยิ้มนิดหน่อยก่อนตอบ


“ไม่ใหม่แล้ว หมอนี่เคยมาที่นี่ แล้วนายก็เคยเจอเขาแล้วเควิน” ฝรั่งหัวเขียวหันไปมองไอติมนิ่งแล้วมองสำรวจใบหน้าไอติมอยู่พักหนึ่งเพื่อทวนความจำของตัวเอง


“โอ้ว คนนั้นน่ะเหรอ” ไอติมหน้ามึนหน้านิ่ง ไม่ใช่เพราะแปลไม่ออก แต่ไม่อยากพยายามแปลว่าทั้งสองคนกำลังคุยอะไรกัน อีกอย่างไอติมจำคนนี้ได้ว่าคือหนึ่งในสามรูมเมทที่ไอติมไม่ชอบ ไอติมเลยทำเฉย ๆ ไปซะ


“Yes, and he is not a toy. He is a rabbit, a white rabbit. (ใช่ และเขาไม่ใช่ของเล่น เขาเป็นกระต่าย กระต่ายสีขาว)” ใบหน้าของแซ็คเรียบเฉย ดวงตาสีเทาจ้องมองเควินนิ่ง อีกฝ่ายทำหน้าไม่แยแส กลอกตาหนึ่งทีก่อนจะเดินผ่านทั้งคู่ไปตรงเก้าอี้อาบแดดริมสระ เอนตัวนอนลงพร้อมกับหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ


“Let’s go. (ไปกัน)” แซ็คบอกไอติมที่ไม่ได้หันไปมองเพื่อนคนนั้นของแซ็คเลยแม้แต่นิด ไอติมเดินนำหน้าแซ็คกลับเข้าไปในบ้าน

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 08-02-2019 20:10:56
V
v
v


เจ้าของบ้านพาไอติมทัวร์บ้านตรงบริเวณข้างบ้านกับหน้าบ้านได้อีกสักสิบนาที ลูคัสกับแอนโทนี่ก็เดินทางมาถึงตามที่นัดกันไว้ ไอติมเดินกลับเข้าไปหยิบแม็คบุ๊กออกมาจากห้องนอนเพื่อเอางานมาเปิดให้ลูคัสกับแอนโทนี่ตรวจงาน แซ็คนั่งดูผลงานของตัวเองด้วยท่าทีชิล ๆ ไม่มีอาการเขินอายหรือรู้สึกแปลกประหลาด เพราะนี่ไม่ใช่หนังโป๊เรื่องแรกของตัวเอง แต่เป็นเรื่องแรกที่ถ่ายทำในรอบเกือบสิบเดือนเต็ม


“โอ้ว นายดูรีแล็กซ์และมีเสน่ห์มากนะ ฉันตกหลุมรักนายแล้วละ” ลูคัสยิ้มขำในขณะที่ดวงตามองคลิปวิดีโอที่ไอติมตัดต่อมา คนในคลิปกับแอนโทนี่หัวเราะ ไอติมยิ้มเหลอหลา เข้าใจอยู่บ้างนิดหน่อยแต่ก็ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกมั้ย


“บรรยากาศดีนะ ไอศกรีมได้ย้อมสีในคลิปนี้ด้วยมั้ย” ลูคัสหันไปถามไอติม แอนโทนี่แปลให้เจ้าตัวฟัง ไอติมนิ่งฟังก่อนจะส่ายหัว


“No, it’s real view. (ไม่ มันเป็นวิวจริง)” ลูคัสมีสีหน้าตะลึงเล็กๆ


“Wow, the sea of your country is very nice. I would go there if I have a chance. (ว้าว ทะเลบ้านนายสวยมากเลยนะ ถ้าฉันมีโอกาสฉันจะไปบ้าง)”


“I guarantee. You won’t disappoint. (ฉันการันตี นายจะไม่ผิดหวังเลยล่ะ)” แอนโทนี่ผู้ที่มีประสบการณ์อยู่เมืองไทยเป็นปีช่วยคอนเฟิร์มอีกเสียง ลูคัสทำหน้าสนใจก่อนหันกลับไปมองคลิปของแซ็คอีกรอบ เป็นช็อตที่แซ็คกำลังคร่อมร่างเล็กกว่าตัวเองที่นอนคว่ำอยู่ด้านล่างแต่แอ่นอกขึ้นมารับจูบกับแซ็ค ช็อตนั้นขึ้นมาไม่ถึงนาทีแต่เรียกเสียงว้าวและความตื่นตะลึงของสองหนุ่มได้ดี


“Whoah, is that you? (โว้ว นั่นนายหรือเปล่าน่ะ)” ลูคัสหันถามไอติม ที่ถามเพราะว่ามองเห็นหน้าคนข้างล่างไม่ชัดเนื่องจากมีหน้ากับหมวกแซ็คบังเอาไว้อยู่ เห็นแค่ช่วงคางเท่านั้น


“อือฮึ” ไอติมตอบเขิน ๆ แล้วหันไปมองแซ็คที่ยิ้มเบ้ปากน้อย ๆ กลับมา


“That’s a good idea. I love it. (ไอเดียดีนะ ฉันรักเลย)” ลูคัสบอกด้วยความประทับใจ


“Really? I think it funny he said no fuck me and ปึ้บ I put that scene in video. (จริงเหรอ ผมคิดว่ามันตลก เขาพูดว่าไม่เอาผม แล้วก็ปึ้บ ผมใส่ซีนนั้นในวิดีโอ)” ลูคัสใช้เวลาครู่สั้น ๆ ในการทำความเข้าใจประโยคของไอติมก่อนจะอ้าปากกว้างเป็นรอยยิ้ม


“Yes, it is a nice gimmick. (ใช่สิ มันเป็นกิมมิคที่เก๋ดีนะ)” ลูคัสกดเลื่อนคลิปไปอีกนิด เป็นซีนที่แซ็คกำลังถอดกางเกงว่ายน้ำใต้ทะเล ท้องทะเลสีฟ้าใสเห็นพื้นทรายละเอียด โขดหินสีเข้มและฝูงปลาแหวกว่าย


“Wow, amazing. Good! So good. I love your video. (ว้าว อเมิซิ่ง ดี! ดีมาก ฉันรักผลงานของนายจัง)” ลูคัสดึงไอติมไปกอดแล้วกดจูบลงกลางกระหม่อม ไอติมยิ้มเขิน อยากจะกอดตอบอีกฝ่ายแต่โดนฝรั่งร่างยักษ์รัดจนแขนพับลีบกับตัว แอนโทนี่หัวเราะเบา ๆ และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปเก็บไว้


“เอ่อ Good เอ้ย glad you like (ดีใจคุณชอบ)” ลูคัสดันตัวไอติมออก สองมือยกขึ้นจับกรอบหน้าไอติมก่อนก้มลงจูบปากไอติมแนบสนิท ไอติมเบิกตากว้างตะลึง แอนโทนี่หัวเราะและกดถ่ายรูปต่อไป แซ็คยิ้มขำแล้วส่ายหัวอ่อนๆ


“Believe me, the audience will love this video like me! (เชื่อฉันสิ คนดูจะต้องชอบวิดีโอนี้เหมือนฉัน)” ลูคัสบอกอย่างอารมณ์ดี ไอติมกะพริบตาด้วยความมึนงง หน้าเห่อร้อนกับจูบอันแนบแน่นของลูคัสเมื่อกี้นี้


“นายคิดว่ายังไงถ้าฉันจะส่งวิดีโอนี้ชิงรางวัลปลายปีนี้” ลูคัสถามแซ็ค มือซ้ายโอบไหล่ไอติมที่นั่งหน้าแดงไว้แน่น


“หืม เอาจริงเหรอ” แซ็คเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับทำหน้าประหลาดใจ ลูคัสพยักหน้าว่าเอาจริง


“เดี๋ยวฉันให้เจค็อบถามทางนั้นดู…” ลูคัสหันมองไอติมที่นั่งตาแป๋วติดกับตัวเองก่อนหันไปมองแซ็คอีกที


“…ถ้าได้รางวัลชนะ ตัวนายเองก็มีรางวัลสาขา Best solo เพิ่ม และไอศกรีมจะได้มีเครดิตในการทำงานไงล่ะ” ไอติมฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ก็ยิ้มรับไว้ก่อน


“แล้วที่เด็กนี่เลือกนักแสดงให้คราวก่อนล่ะเป็นไง” ลูคัสทำหน้านึกขึ้นได้ ปล่อยมือซ้ายออกจากตัวไอติม หันไปหยิบโน้ตบุ๊กของตัวเองออกมากาง


“แอนโทนี่แปลด้วยนะ…” หนุ่มแว่นพยักหน้า


“…คนที่ไอศกรีมให้เล่น gay porn ได้รับความสนใจมาก คนดูตอบรับไปในทางที่ดีเลยละ ส่วนอีกคนที่ไปเล่น straight porn ค่อนข้างเงียบ” ลูคัสเปิดคลิปวิดีโอในเว็บไซต์ของค่ายหนังให้ไอติมดู เป็นหนังของผู้ชายผมบางแต่หุ่นยั่วคนนั้นที่ไอติมเลือกมา แอนโทนี่อธิบายเป็นภาษาไทยให้ไอติมเข้าใจว่าลูคัสกำลังพูดอะไรอยู่ ไอติมพยักหน้ารับคำแปลของแอนโทนี่ พออีกฝ่ายแปลจบก็ครุ่นคิด


“Can he play gay porn? (เขาสามารถเล่นหนังโป๊เกย์มั้ย)” ไอติมถามพลางมองภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอของลูคัส


“I don’t know we have to ask him. (ไม่รู้เหมือนกัน ต้องลองถาม)” ไอติมนิ่งคิดถึงบรรยากาศการแคสติ้งในห้องนั้น


“I think he will play. He เอ่อ แอนโทนี่คือว่า เขาเองก็ดูเล่นหูเล่นตากับผมวันแคสติ้ง ถ้าลองเจรจาดูเขาน่าจะลองเล่นนะฮะ คือผมไม่อยากให้ปัดเขาทิ้ง ผมอาจจะผิดพลาดไปที่คิดว่าเขาจะเกิดกับหนังโป๊ชายหญิง แต่จริง ๆ เคมีเขาอาจจะตรงกับเกย์มากกว่า” แอนโทนี่หันไปแปลให้กับเพื่อนอีกสองคนฟังตามที่ไอติมพูด ลูคัสพยักหน้า แซ็คนั่งฟังเงียบๆ


“All right, we will talk to him again. (ก็ได้ เดี๋ยวคุยกับเขาอีกที)” แอนโทนี่หันไปบอกไอติม หนุ่มเอเชียหนึ่งเดียวยิ้มพร้อมกับพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนที่รอยยิ้มจะลดลงตอนที่เห็นผู้หญิงผมแดงคนหนึ่งเดินเข้ามาในบ้าน


“Oh, hi Mandy.” แอนโทนี่เอ่ยทักรูมเมทของแซ็คที่ไอติมจำได้ว่าเธอมองเขาด้วยความไม่เป็นมิตรจากคราวก่อน และคราวนี้เธอก็ยังมองด้วยสายตาเดิม ไอติมก็ทำเหมือนเดิมคือไม่ยิ้มไม่หือไม่อือใด ๆ กับเธอ


“เควินอยู่ที่สระว่ายน้ำ” แซ็คบอก


“ขอบใจ” เธอตอบแค่นั้นแล้วก็เดินผ่านทุกคนไป โดยที่ไม่ได้มีใครหันไปมองตามหรือพูดอะไรถึงเธออีก


“ออกไปหาอะไรกินกันมั้ย ใกล้เที่ยงแล้ว ถึงร้านก็คงเที่ยงพอดี” แอนโทนี่เสนอพลางมองดูนาฬิกาข้อมือไปด้วย ลูคัสยกมือขึ้นเป็นการเบรก


“ฉันขอเซฟไฟล์ก่อน ไอศกรีมมีทีเซอร์ด้วยใช่มั้ย” ไอติมพยักหน้าและชี้ไปที่ไฟล์ทีเซอร์ ลูคัสเลื่อนเม้าท์ไปจะกดทีเซอร์นั้น แต่พลาดไปกดคลิปข้างกัน คลิปเด้งขึ้นมาเป็นหน้าไอติมกับแซ็คกำลังจูบกัน ลูคัสตาโตแล้วหันไปมองไอติมแล้วยิ้มแซว ไอติมเม้มปากแน่นและทำตาโต หันไปมองแซ็คที่ย่นคิ้วมองอยู่


“Why don’t you let me see it? (ทำไมไม่ให้ฉันดูบ้างล่ะ)” ไอติมหน้าตื่น


“I think today tonight. (ผมคิดวันนี้คืนนี้)” แซ็คทำหน้าว่าอ้อ กลายเป็นว่าอีกสามคนกำลังนั่งดูแซ็คกับไอติมมีเซ็กซ์กันเพลินตา ไอติมหันมองทั้งสามด้วยความไม่แน่ใจแต่ก็เลื่อนมือขวาไปกดปิดคลิปตัวเองกับแซ็คและยิ้มแห้ง


“Wow, that’s good นะ” ลูคัสบอกและยกนิ้วโป้งขวาขึ้นเป็นการชื่นชม ไอติมยิ้มเขินเล็กๆ


“ดี่ทั้งกานตั่ดต่อและลีลาทั่งคู้เหล่ยนะ” แอนโทนี่เอ่ยชมตามที่เห็น ไอติมหันไปหาแซ็คแล้วยิ้ม พระเอกหนังโป๊ยิ้มมุมปากและขยิบตาขวาให้ ทำเอาหัวใจไอติมวูบวาบ


“Your both chemistry was good. (เคมีของนายสองคนเข้ากันดีนะ)” ลูคัสว่าขณะที่พิมพ์ชื่อไฟล์งานบนไฟล์ใหม่


“Like I said, both of you could make porn together. (เหมือนที่ฉันบอก นายสองคนทำหนังโป๊ด้วยกันได้)” ลูคัสหันไปยิ้มให้กับแซ็คและไอติมที่มีสีหน้าต่างกัน แซ็คยิ้มบางและยักคิ้วตอบรับ ส่วนไอติมกะพริบตาปริบ ๆ เพราะยังแปลไม่ออก ลูคัสมองหน้าไอติมแล้วหัวเราะก่อนจะหันกลับไปจัดการถ่ายโอนไฟล์หนัง และใช้เวลาโอนถ่ายงานอยู่ครึ่งชั่วโมงถึงเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนเก็บของแล้วเดินออกไปจากบ้านพร้อมกันเพื่อไปหาอาหารกลางวันกินข้างนอก







หลังจากกินข้าวกลางวันกันเสร็จ สามหนุ่มก็ถือโอกาสพาไอติมทัวร์เมืองลอสแองเจลิส ครั้งที่แล้วที่ไอติมมาก็ได้ไปไม่กี่ที ที่ที่ชาวแอลเอลชอบไปกันหรือเป็นแหล่งของชาวแอลเอไอติมก็ยังไม่ได้ไป ครั้งนี้มีลูคัสเป็นสารถีนำเที่ยวเลยได้เปิดหูเปิดตากับเมืองนี้มากขึ้นไปอีก ที่สุดท้ายที่พาไอติมไปคือแถวบ้านพักริมทะเลที่ไอติมกับแซ็คได้เสียกันครั้งแรก


“Remember that? (จำได้รึเปล่า)” แซ็คถามไอติมพลางชี้บ้านหลังนั้น ไอติมยิ้มกว้างและพยักหน้าหลายทีติดกัน แซ็คยิ้มน้อยๆ


ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมหาดซานตามอนิก้าจนพระอาทิตย์ตก ลูคัสก็ขับรถกลับมาส่งทั้งสองคนที่บ้าน ไฟในบ้านเปิดสว่างแค่ตามริมรั้ว ส่วนด้านในตัวบ้านนั้นมืดไม่มีแสงไฟ มีเพียงแสงเผื่อแผ่จากชั้นสองที่ยังทำให้มองเห็นทางเดินอยู่บ้าง แซ็คเดินนำฝ่าความมืดกลับไปห้องนอนอย่างคุ้นเคย ไอติมรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยกับบรรยากาศอึมครึมและดูคร่ำเคร่งของบ้าน เพราะที่บ้านเขานั้นจะเปิดไฟให้ความสว่างไว้อยู่เสมอจนกว่าจะนอน แม่เขาชอบบอกว่าต้องเปิดไฟให้บ้าน อย่าทำให้บ้านดูเศร้า ซึ่งบ้านนี้กำลังทำให้ไอติมรู้สึกว่ามันกำลังเศร้า


“You want to see porn มั้ย” ไอติมที่อาบน้ำเสร็จก่อนแซ็คและนั่งเปิดแม็คบุ๊กรออยู่บนเตียงเงยหน้าถามเมื่อเจ้าของห้องเดินออกมาจากห้องน้ำ ท่อนบนเปลือยเปล่า ท่อนล่างพันผ้าขนหนูเอาไว้


“Oh, yes.” แซ็คเดินอ้อมไปนั่งฝั่งเดียวกับไอติม เด็กลามกยกแม็คบุ๊กวางตรงหน้าฝรั่งตัวโตแล้วเปิดคลิปสยิวของตัวเองกับแซ็คที่ตัวเองเป็นคนตัดต่อเองให้เขาดู


“Did I do that? (ฉันทำอย่างนั้นด้วยเหรอ)” แซ็คถามขำ ๆ เมื่อเห็นสภาพตัวเองสลบคาอกไอติม คนถูกถามหัวเราะและพยักหน้า แซ็คหันกลับไปมองจอแม็คบุ๊กต่อตามเดิม เป็นฉากมุมกว้างที่ไอติมกำลังโกนขนในที่ลับให้เขา


“How many versions do you have? (มีกี่เวอร์ชั่นเนี่ย)” ไอติมหน้างงนิดหน่อยก่อนจะร้องอ๋อเพราะคำว่าเวอร์ชั่น


“Four, have version with Leo too. (สี่ มีเวอร์ชั่นกับเลโอด้วย)” แซ็คพยักหน้า นั่งมองหนังบนหน้าจอต่อ สไตล์การตัดต่อของไอติมใช้ได้จริง ๆ นั่นแหละ เรียกว่าดีเลยดีกว่า มันดูไม่น่าเบื่อ ต้องชมเรื่องความฉลาดในการเลือกฉากมาใส่ในหนังของเขาด้วย คลิปที่ไอติมเปิดให้แซ็คดูมีความยาวอยู่ที่สิบสี่นาทีกว่า ๆ ซึ่งถือว่ากำลังพอดี


“You good. (เก่งนี่)” แซ็คบอกแล้วก็กดปิดหนังเรื่องนั้นไป ไอติมยิ้มกริ่ม


“Version 3 you fuck so hard. (เวอร์ชั่นสามคุณเอาแรงมาก)” แซ็คหัวเราะกับสีหน้าของไอติมที่ตอกย้ำว่าแรงจริงๆ


“And you like it? (แล้วนายชอบรึเปล่า)” ไอติมยิ้มเขินและตามด้วยพยักหน้าหงึก ๆ แซ็คยิ้มบาง มองไอติมด้วยความพอใจ โล่งใจที่คิดถูก และรู้สึกว่ามาถูกทาง


“You want to sleep? (นอนมั้ย)” ไอติมพยักหน้าอีกครั้งพร้อมกับไถลตัวลงนอนแล้วดึงผ้านวมสีเทาขึ้นห่มถึงอก แซ็คพับแม็คบุ๊กไอติมแล้วเดินเอาไปวางไว้บนโต๊ะคอมฯ


ตึ๊ง!


เสียงข้อความโทรศัพท์บนโต๊ะคอมฯ ดังขึ้น ไอติมเตรียมจะเด้งตัวเพราะนึกว่าของตัวเอง แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าของตัวเองอยู่บนคานไม้บนหัวเตียงเลยล้มตัวลงนอนต่อ แซ็คหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่านข้อความขณะที่เดินไปปิดไฟในห้องจนเหลือแค่ไฟจากโคมไฟ เขาเดินเอาโทรศัพท์ไปวางไว้บนโต๊ะคอมฯ ตามเดิมก่อนจะเดินไปดึงกางเกงตัวเดิมออกจากไม้แขวนหน้าตู้เสื้อผ้าเพื่อเอามาใส่


“Good night.” ไอติมบอกเสียงใส แซ็คล้มตัวลงนอน ดึงผ้านวมขึ้นมาห่ม หันไปยิ้มให้ไอติมพร้อมกับยื่นมือขวาไปที่โคมไฟ


“Good night, rabbit.” แสงไฟดับวูบลง แซ็คดึงไอติมเข้ามานอนข้างตัว ไอติมซุกหัวเข้ากับช่วงรักแร้และซี่โครงของฝรั่งตัวโต แซ็คโอบแขนซ้ายลงบนแผ่นหลังของไอติม เสียงแอร์ทำงานนั้นดังชัดขึ้นเมื่อปราศจากเสียงพูดคุยหรือเสียงอื่นใดมาแทรกแซง




ไอติมรู้สึกหงุดหงิดเพราะอาการปวดฉี่ หงุดหงิดเพราะขี้เกียจตื่นไปฉี่ แต่ฉี่ก็ทำท่าพร้อมจะทะลักออกมาถ้าเขาไม่ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ สุดท้ายไอติมก็ดันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความงัวเงีย เหวี่ยงขาลงจากเตียง เดินสะลึมสะลือไปเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่ได้เปิดไฟด้วยซ้ำ กดชักโครกเสร็จก็เดินออกมาพร้อมกับดึงประตูปิด จังหวะที่จะก้าวเท้ากลับเตียงก็ชะงักกึกพร้อมกับอาการง่วงแทบหายไปแทนที่ด้วยอาการงง


“อ้าว ไปไหน” บนเตียงนั้นว่างเปล่า ไม่มีร่างของแซ็คอยู่บนนั้น จากตอนแรกที่งัวเงีย อาการนั้นแทบจะหมดไป ไอติมเดินไปที่ปลายเตียงแล้วมองไปรอบห้องเพื่อหาว่าแซ็คอยู่ตรงมุมไหนของห้องหรือเปล่า แต่ก็ไม่พบร่างของฝรั่ง ไอติมเดินกลับไปนั่งบนเตียงฝั่งตัวเองด้วยความงง มองซ้ายแล้วมองขวาอีก พยายามนึกหาว่าแซ็คไปไหน พอจะหยิบโทรศัพท์มากดโทรถามก็เห็นว่าโทรศัพท์ของเขาวางอยู่บนโต๊ะคอมฯ ตามเดิม ไอติมเลยนั่งมึนต่อ


“ไปนอนใต้เตียงรึเปล่า” ไอติมก้มหน้าลงไปจะมองใต้เตียง แต่ก็พบว่าเตียงนั้นเป็นเตียงไม้แบบไม่มีช่องให้เห็นข้างล่าง ไอติมดึงตัวกลับขึ้นไป มือขวายกขึ้นเกาหัวด้วยความงง มองไปทางประตูและคิดว่าควรออกไปตามหาข้างนอกดีหรือเปล่า แต่คิดอีกทีเดี๋ยวเขาจะหาว่าจะไปขโมยของเขา เลยตัดใจนั่งอยู่ในห้องแล้วก็กะว่าจะรอเผื่อแซ็คไปเดินเล่นข้างนอกเพราะนอนไม่หลับหรือไปนั่งดื่มที่ไหนสักที่แล้วค่อยกลับเข้ามาอีกที


แต่รอไปจนกระทั่งไอติมผล็อยหลับไปอีกรอบ คนที่นอนข้างกันพร้อมกันก็ไม่ได้กลับเข้ามาในห้องนอนอีกเลย







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:



แท็กเรื่องนี้ #ประสบกามประสบรัก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 08-02-2019 22:07:55
อ้าวว แซ็คหายย คิดว่าอาจจะเพราะแมสเสจนั้นรึป่าวว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-02-2019 22:15:14
พี่อั้นไปไหน..มีเงื่อนงำ  :mew5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 08-02-2019 23:25:07
แซคไปไหนอ่าา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-02-2019 05:45:26
หายไปไหนอ่ะ  :m28:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 09-02-2019 06:35:41
แซ็คต้องมีอะไรแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 09-02-2019 10:38:48
แซ็คหายไปไหนนนน มันใกล้จะถึงจุดพีคยังอะขุ่นเจ้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 10-02-2019 01:37:16
ทิ้งน้องไปไหนนนนนอ่ะะะะะ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 10-02-2019 14:34:55
แซ็คต้องยังไม่ละทางโลกชะนีแน่ๆ ออกไปหาใช่มั้ย!!!

ติมกลับบ้านลูก!!! แม่จะปกป้องหนูเอง :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Wipers ที่ 11-02-2019 23:18:33
อ่าน spacial แล้วอยากได้เดนนี่ คงแซ่บน่าดู
แต่หนูไอติม ทำไมหนูเต็มที่จังกับเรื่อง sex แม้แต่เพื่อนหนูยังไม่เว้น โอ๊ยใจบางหมดแล้ว
แต่แว่วว่าเรื่องนี้ต้องมีมาม่าแน่ๆเลย


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 14-02-2019 00:43:02
แต่นอนบ้านหลังนี้ก็โอเคกว่านอนบ้านที่มีสามคนนั้นอยู่อ่ะ โดยเฉพาะเจคอบที่ดูเหมือนจะเป็นมิตรกว่าอีกสองคนแต่ตอนพิเศษก็คือทำน้องติมกลัวไปแล้วอ่ะ/ ชอบอาการยิ้มเขินดุ๊กดิ๊กของน้องติมน่าร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.24 :Rabbit in the lion house.:08.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-02-2019 21:08:45
ชอบความงง ความเบลอ และความเด๋อของไอติม
ที่ได้เข้ามาอยู่กับแซค น่าเอ็นดู ก็ใหม่อะเนาะ
ก็ต้องเขิน ต้องไม่ชินอยู่บ้าง

แซคไปเจออะไรมา ทำไมเหมือนมีปัญหาชีวิต

อ่านตอนพิเศษ ทำให้อยากรู้เลยค่ะ
ว่าทำไมแซคไม่ชอบเจค และไอติมกลัว
แผลที่หลังไอติมมาจากไหน
แต่ก็คิดไปแล้วว่า เจคทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไอติม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.25 : The same team. :17.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 17-02-2019 21:44:57
Fall in lust - Chapter 25 :: The same team. (ทีมเดียวกัน)



   ไอติมเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย พันผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่รอบเอว บนคอมีผ้าขนหนูผืนเล็กสีเดียวกันวางอยู่ ผมช่วงท้ายทอยเปียกเล็กน้อย ไอติมจับผ้าขนหนูขึ้นขยี้เบา ๆ สายตามองไปที่นาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะคอมฯ ตัวเลขบนจอบอกเวลาเจ็ดโมงครึ่ง แต่เจ้าของห้องนอนก็ยังไม่กลับเข้ามา
   

กึ๊ก
   

ไอติมที่กำลังเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อผ้าใส่ในวันใหม่หันไปมองทางประตูเมื่อได้ยินเสียงเหมือนคนบิดลูกบิดประตู ไอติมหมุนตัวก้าวเท้าเดินไปที่ประตูพร้อมกับเสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ
   

ก๊อกๆ
   

“Hey,” แซ็คที่ใบหน้าอิดโรยคลี่ยิ้มบางและมองไอติมด้วยสายตาอ่อนล้า หนุ่มเอเชียคลี่ยิ้ม เบี่ยงตัวหลบให้เจ้าของห้องเดินเข้ามาด้านในแล้วก็เป็นคนปิดประตูตามหลัง ไอติมหันไปมองแซ็คที่อยู่กับกางเกงตัวเดิมและท่อนบนเปลือยด้วยความสับสน แซ็คเดินไปนั่งเก้าอี้บุนวมนิ่มสีดำและมองหน้าไอติม
   

“Hungry? (หิวมั้ย)” ไอติมเดินไปนั่งปลายเตียงตรงข้ามกับฝรั่งตัวใหญ่แล้วมองหน้าอีกฝ่ายความข้องใจ
   

“Where are you last night? (คุณอยู่ไหนเมื่อคืน)” แซ็คเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ เขายกมุมปากทั้งสองข้างขึ้นเพียงนิดก่อนตอบน้ำเสียงทุ้มปนแหบเล็กๆ
   

“I could not sleep. I went to the outside and then I fell asleep there. (ฉันนอนไม่หลับ เลยออกไปข้างแล้วก็เผลอหลับไป)” ไอติมมองใต้ตาของไบรอั้น มันไม่ได้หมองคล้ำเป็นหมีแพนด้า แต่ใบหน้าของเขาก็ดูอิดโรยอย่างที่เห็นในตอนแรกตรงหน้าประตู
   

“Think so much what เหรอ” แซ็คยิ้มอ่อนโยน เข้าใจในความหมายของคำถามนั้น จากมองด้วยความข้องใจ ไอติมเปลี่ยนเป็นมองแซ็คด้วยความกังวลใจแทน
   

“Maybe I  miss my parents. (ฉันอาจจะคิดถึงพ่อกับแม่มั้ง)” ไอติมหน้านิ่งแต่ก็งง
   

“Parents?” แซ็คยิ้มขำน้อย ๆ พร้อมกับพยักหน้า
   

“Like children ฮือออๆ miss mom miss dad งี้เหรอ” ไอติมพูดและก็ทำท่าร้องไห้ให้แซ็คเห็น ฝรั่งตัวใหญ่หัวเราะเบา ๆ กับท่าทางที่พยายามสื่อสารให้เขาเข้าใจ
   

“Yeah, something like that. (ช่าย ก็อะไรประมาณนั้นแหละ)” แซ็ครับมุกของเจ้าเด็กลามก ไอติมร้องอู มองหน้าแซ็คด้วยความกังวลใจและงุนงง
   

“You have parents? เอ้ย I mean,” แซ็คหัวเราะต่อเนื่องกับคำถามนั้น ไอติมพยายามนึกคำแก้ที่ถูกที่ควร แต่ก็หัวตันนึกไม่ออก
   

“Yes, If I don’t have them, you won’t see my dick. (มีสิ ถ้าฉันไม่มีพวกเขา นายก็ไม่ได้เห็นจู๋ฉันหรอก)” ไอติมยิ้มแห้ง หน้าตารู้สึกผิดที่ถามคำถามนั้นออกไป
   

“I mean you don’t talk parents to me. (ผมหมายความว่าคุณไม่พูดพ่อแม่กับผม)” แซ็คพยักหน้าลงอย่างเชื่องช้า เป็นการบอกว่าใช่ เขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ไอติมฟัง และตอนนี้เขาก็นึกอยากเล่าให้เด็กคนนี้ฟัง เหมือนที่เคยรู้สึกว่าอยากหาใครสักคนมานั่งฟังสิ่งที่เขาจะเล่า โดยที่เล่าแล้วเขาจะไม่ต้องรู้สึกกังวลภายหลัง แล้วก็เจอเจ้ากระต่ายสีขาวตัวนี้นี่แหละ
   


“And do you want to hear about them? (แล้วนายอยากได้ยินเรื่องของพวกเขามั้ย)” ไอติมเม้มปาก ทั้งคิดแปลและคิดว่าอยากรู้มั้ย แต่ถ้าเอาจากใจไอติมเลย ก็คือไม่ได้อยากรู้ ไม่ใช่ไม่สนใจ แค่รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ต้องรู้
   

“Up to you. (แล้วแต่คุณ)” แซ็คเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะเบะปากเล็ก ๆ นิ่งคิดสักแปบ ไม่ได้สับสนหรือหนักใจอะไร แค่กำลังคิดว่าจะต้องเล่ายังไง เล่าถึงพ่อกับแม่แบบไหน แต่สุดท้ายเขาก็ตัดฉับรวบรัดเข้าจุดสำคัญ


“They get divorced like your parents. (พวกเขาหย่ากันเหมือนพ่อแม่นาย)” ไอติมทวนคำศัพท์นั้นสักพักก่อนจะนึกขึ้นได้
   

“โอ๊ะ We are same team. (เราทีมเดียวกัน)” ไอติมชี้ตัวเองกับแซ็คสลับกันไปมา ฝรั่งตัวใหญ่ยิ้มน้อย ๆ ด้วยความเข้าใจ
   

“Yes, we are. Really. (ใช่ เราทีมเดียวกัน มากๆ)” ไอติมหน้ามึนหน่อย ๆ เข้าใจว่าอีกฝ่ายพูดอะไร แต่ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงอะไร
   

“And you see your parent sometime?” แซ็คนิ่งแปลประโยคนี้สักแปบก่อนจะเข้าใจว่าไอติมน่าจะหมายถึงว่าได้พบเจอพ่อกับแม่บ้างหรือเปล่า
   

“I just met my father before you came here, but mom, no. (ฉันเพิ่งเจอกับพ่อก่อนนายจะมานี่ แต่กับแม่ไม่เลย)” กระต่ายลามกนิ่งคิดสักแปบก่อนจะพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ใบหน้าเรียวสวยได้รูปเอียงมองเขา
   

“You sleep outside no shirt like this? (คุณนอนข้างนอกไม่มีเสื้อแบบนี้) You don’t cool (คุณไม่เย็น) เหรอ” แซ็คย่นคิ้ว มองไอติมด้วยความรู้สึกเด๋อนิดหน่อยที่จู่ ๆ เจ้าเด็กนี่ก็ทิ้งเรื่องที่กำลังพูดอยู่ให้ช็อตกลางทางแล้วก็ไปอีกเรื่องอย่างหน้าตาเฉย ไอติมทำหน้าประมาณว่ามีอะไรเหรอ แซ็คทำหน้าว่า Seriously?
   

“You want to sleep? You look ทาย (tired)” แล้วก็ไปต่อไม่รอเรื่องเดิมแล้ว แซ็คพ่นลมหายใจและขำในลำคอก่อนหมุนเก้าอี้ไปทางโต๊ะตั้งคอมฯ เพื่อดูเวลาแล้วก็หันกลับมาหาไอติม
   

“That’s a good idea. (ก็เข้าท่าอยู่)” แซ็คลุกเดินไปที่เตียง เขาคลานเข่าหนึ่งก้าวก่อนพลิกตัวนอนหงายบนเตียงแล้วดึงผ้านวมคลุมตัว ไอติมลุกขึ้นยืนมองเจ้าของห้องจากปลายเตียง ดวงตาสีเทามองไอติมนิ่งสักพักก่อนยกมือซ้ายตบลงข้าง ๆ ตัวเอง
   

“Come here. (มานี่สิ)” ไอติมเลิกคิ้วขึ้นและยกมือขวาชี้เข้าหาตัวเอง สีหน้าถามประมาณว่า ผมเหรอ? แซ็คหัวเราะแบบไร้เสียงและพยักหน้า ไอติมคลี่ยิ้มแล้วเดินเข่าบนเตียงไปหาแซ็ค ดึงผ้านวมขึ้น แทรกตัวเข้าไปในผ้าและล้มตัวลงนอนบนหมอนอีกใบ ไอติมหันตัวไปด้านขวาเข้าหาแซ็คที่หันตัวตะแคงด้านซ้ายเข้าหาไอติม ดวงตาสองสีสบกัน ริมฝีปากยิ้มบางเบาด้วยกันทั้งคู่
   

เขาเล่าต่อเองก็ได้
   

“They are so passionate about each other, so in love, and be the most perfect to me. (พวกเขาต่างคลั่งไคล้กันและกัน พวกเขารักกันมาก เป็นคู่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับฉัน)” ไอติมมองแซ็คที่พูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงละมุนละไม ท่าทีของเขาดูมีความสุข
   

แต่ไอติมแปลไม่ออก เพราะมัวแต่มองหน้าอีกฝ่ายเพลิน
   

“But they get divorced. (แต่พวกเขาก็หย่ากัน)” ใบหน้าของแซ็คเรียบนิ่ง


“No one get abusive or no one cheating. (ไม่มีใครโดนทำร้ายหรือไม่มีใครนอกใจ)” ไอติมมองหน้าอีกคนนิ่งด้วยความรู้สึกกำลังเพลิน และแน่นอนว่าแปลไม่ออกไปแล้วเพราะมัวแต่เพลิน แซ็คมองหน้าไอติมแล้วยิ้มขำ ไอติมยิ้มขำตามเพราะเห็นอีกคนขำ


“They made me believe in love so much, but they are the same people who destroy that belief. (พวกเขาทำให้ฉันเชื่อในความรักมาก แต่พวกเขาก็เป็นคนเดียวกันที่ทำลายความเชื่อนั้น)” ไอติมมองหน้าแซ็คด้วยความสงสัยใคร่รู้ ทั้งเพราะอยากรู้ว่าพูดอะไร และอยากรู้ว่าเขากำลังเป็นอะไร ทำไมถึงพรั่งพรูอะไรออกมาแบบนี้


“Believe? Love? People? (เชื่อเหรอ รักเหรอ คนเหรอ)” ไอติมทวนคำด้วยความสงสัย เป็นคำที่จับใจความได้จากประโยคที่แซ็คพูด


“Don’t worry I only want to talk to you. I have never talked to anyone. (ไม่ต้องกังวล ฉันแค่อยากพูดกับนาย ฉันไม่เคยพูดกับใครมาก่อน)” แซ็คบอกให้คลายกังวล เพราะเจ้ากระต่ายดูจะไม่สบายใจที่แปลไม่ได้ ไอติมนิ่งพักหนึ่ง พอเห็นว่าฝรั่งยิ้มบางก็พยักหน้าตาใส


“อื้อ talk to me, talk to me.” ฝรั่งตัวโตขยับยิ้มมากขึ้นอีกนิด


“Yes, I’m talking to you. (ใช่ ฉันกำลังพูดกับนาย)” ไอติมคลี่ยิ้มเห็นฟันน้อยๆ


“Why you no met mother?” ไอติมใช้วิธีทวนคำศัพท์จากประโยคของแซ็คมาถาม ฝรั่งตัวโตเข้าใจกับคำถามนั้น


“She has a new family. I don’t want to bother her. (แม่มีครอบครัวใหม่ ฉันไม่อยากรบกวนเขา)” ไอติมกำลังพยายามแปลอยู่ว่าคำว่า bother แปลว่าอะไร


“Where are your mother?” แซ็คเข้าใจในคำถามนี้


“San Diego. (ซานดิเอโก้)” ไอติมขมวดคิ้ว เพราะสงสัยว่าที่แซ็คพูดมามันคือที่ไหน หรือจริง ๆ มันคืออะไร แซ็คยิ้มขำกับหน้าตาหมางงของไอติมแม้ว่าเผ่าพันธุ์จะเป็นกระต่ายก็ตาม 


“You want see mother? (คุณต้องการเจอแม่มั้ย)” คนถูกถามนิ่งไป ไอติมมองความสงบทั้งบนใบหน้าและดวงตาของแซ็ค เจ้าของห้องนอนมองสบตาสีน้ำตาลอ่อนนิ่ง ไอติมขยับมุมปากทั้งสองข้างเป็นรอยยิ้มแบบไม่เห็นฟัน


“Sorry to let you slept alone. (ขอโทษที่ปล่อยให้นอนคนเดียว)” ไอติมยังคงยิ้มเหมือนเดิม


“It okay.” แซ็คยิ้มบาง ก่อนจะค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ ไอติมมองแซ็คหลับตาแล้วก็ค่อย ๆ นอนนิ่งไป ลมหายใจค่อย ๆ เข้าสู่จังหวะสม่ำเสมอ ไอติมนอนมองหน้าแซ็คอยู่อย่างนั้น พร้อมกับครุ่นคิด


คิดว่าเมื่อกี้เขาพูดอะไรไปบ้าง กำลังพยายามนึกและแปลอยู่ แต่ก็ไม่น่าทันแล้ว




แซ็คตื่นนอนอีกทีตอนเกือบเที่ยง ไอติมนั่งขีดเขียนอะไรสักอย่างในสมุดโน้ตอยู่ที่โซฟา สอบถามได้ความว่ากระต่ายลามกยังไม่ได้ไปกินข้าว เพราะเกรงใจ ไม่กล้าไปหาอะไรกินเองในครัว ได้แต่ดื่มแค่น้ำเปล่าจนหมดขวด จะปลุกแซ็คก็ไม่กล้าเพราะกลัวฝรั่งหลับไม่เต็มที่


“You should be considerate like this about having sex with me. (นายควรเกรงใจเรื่องมีเซ็กซ์กับฉันอย่างนี้บ้างนะ)” แซ็คแซวด้วยความขำและสงสารที่คนช่างกินอย่างเจ้าเด็กลามกต้องมาอดทนกับความหิว ตอนอยู่ที่ไทยด้วยกัน แม่เจ้าเด็กนี่มีอาหารรองรับให้ลูกชายตลอด ไม่เคยให้ขาด


ก่อนจะอาบน้ำแซ็คเลยพาไอติมไปหาอะไรกินในครัว แต่ในครัวก็ใช่ว่าจะมีอะไรกินมากมาย ที่นี่ไม่มีอาหารสำรองหรือเตรียมไว้ให้เหมือนบ้านไอติม ถ้าอยากกินก็ทำเองหรือไม่ก็สั่งซื้อ หรือจะออกไปซื้อเองก็ได้ ไอติมว่าจะทำอาหารเอง แต่ของในตู้เย็นก็ว่างเปล่า สุดท้ายเลยได้ขนมปังทาแยมสตรอว์เบอร์รี่กับนมจืดรองท้องไปก่อน


“We will go to eat outside and go to the supermarket. (เดี๋ยวเราจะออกไปกินข้าวข้างนอก และก็ไปซูเปอร์มาร์เก็ตกัน)” แซ็คใช้เวลาในการอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้ารวมกันเพียงสิบห้านาทีก็เสร็จเรียบร้อย ไอติมตื่นเต้นที่จะได้ออกไปข้างนอก เพราะมันเหมือนกับการได้ไปเที่ยวไปในตัว


แซ็คพาไอติมไปกินอาหารที่ร้านอาหารในย่านดาวน์ทาวน์ เลือกนั่งโต๊ะกลางแจ้งของทางร้าน ไอติมมองเมนูและพยายามแปลด้วยตัวเองก่อน อันไหนไม่รู้จริง ๆ ก็จะเปิดกูเกิ้ลเพื่อดูหน้าตาของเมนูอาหาร แต่ถ้าอันไหนกูเกิ้ลให้คำตอบไม่ได้ก็จะถามแซ็ค ไอติมสั่งจัดหนักจัดเต็มเพราะเลยเวลากินของตัวเองมาหลายชั่วโมงแล้ว ไส้กรอกอันใหญ่ไหม้เกรียมกำลังพอดีห้าอันวางเรียงบนจานสีขาวขนาดใหญ่ จานอื่นก็มีสเต๊กหมู ไก่ทอด และแฮมกองพะเนิน ตบท้ายด้วยเฟรนช์ฟรายกับน้ำอัดลม ส่วนของแซ็คมีเพียงสเต็กเนื้อชิ้นเดียวเท่านั้น


 “You need to exercise too. (นายต้องออกกำลังกายด้วย)” แซ็คว่าตอนที่ไอติมกัดไส้กรอกชิ้นโตเต็มปากแล้วเคี้ยวจนแก้มอูม


“อยูอีชมี” ไอติมขยับปากทั้งที่ไส้กรอกยังเต็มปาก แซ็คย่นคิ้วกับคำพูดนั้นเพราะแปลไม่ออก ไอติมเคี้ยวไส้กรอกหงับ ๆ จนหมด แซ็ครอว่าไอติมจะอธิบายอะไรเพิ่มเติมมั้ย แต่ก็ไม่ คนตรงข้ามเขาจิ้มแฮมจนเต็มส้อมแล้วก็ยัดเข้าปากและเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย แซ็คอมยิ้มขำที่ไอติมทิ้งประเด็นอีกแล้ว


“Lukas has called me he wants to see you. (ลูคัสโทรหาฉัน เขาอยากเจอนาย)” ไอติมเงยหน้าขึ้นจากจานอาหาร


“ลูคัส?” แซ็คพยักหน้า ไอติมพยักหน้าตามและกินต่อ เดาเอาเองว่าพูดถึงลูคัสก็น่าจะหมายถึงเรื่องงาน


ใช้เวลาอยู่ในร้านอาหารเกือบสี่สิบนาทีทั้งสองคนก็ออกจากร้าน ไอติมสั่งไก่ทอดของทางร้านกลับไปกินด้วย แซ็คขับรถไปซูเปอร์มาร์เก็ตระแวกนั้นเพื่อซื้อวัตถุดิบอาหารเข้าไปตุนไว้ในบ้าน ไอติมช่วยแซ็คเลือกของใส่รถเข็นที่แซ็คเป็นคนเข็น ในซูเปอร์มาร์เก็ตมีวัตถุดิบอาหารไทยให้เลือกด้วย ซึ่งราคาค่อนข้างแพงกว่าที่ไทย


“Yeah, it’s fine. We need to eat. (Yeah สบายมาก เราจำเป็นต้องกินนี่)”


“I will help you pay. (ผมจะช่วยคุณจ่าย)” แซ็คพยักหน้า ที่ไม่ปฏิเสธเพราะเขารู้สึกว่ามันก็เหมือนตอนอยู่เมืองไทยที่เขาสองคนแชร์กันค่าใช้จ่ายกัน


“อ้าว มาซื้อของเหมือนกันเหรอ” ตอนที่ไอติมกำลังเลือกผักใส่รถเข็น เจค็อบที่เข็นรถเข็นอีกคันมาด้วยเอ่ยทักด้วยความประหลาดใจ แต่ที่ไอติมประหลาดใจกว่าจนอ้าปากหวอคือคนที่มากับเจค็อบ


“โอ๊ะ! You!” ไอติมยิ้มกว้างทักทายผู้ชายผมหยิกสีแดงที่เคยเจอกันตอนมาแคสติ้ง และเป็นคนที่ไอติมคิดไอเดียคลิปแนะนำตัวในวงการหนังผู้ใหญ่ให้ หนุ่มคนนั้นยิ้มตอบเพราะจำไอติมได้เช่นกัน


“Hi, nice to meet you again. (สวัสดี ยินดีที่ได้เจอคุณอีกครั้งนะ)” ไอติมยิ้มกว้างและเดินเข้าไปเช็กแฮนด์กับพระเอกที่คัดมากับมือ


“I’m fine thank you and you?” แซ็คหัวเราะกับคำทักทายของเจ้าเด็กนั่น เจค็อบยิ้มนิดหน่อย ส่วนหนุ่มหัวหยิกสีแดงคลี่ยิ้มกว้างด้วยความขำ


“I’m fine and thank you. (ผมสบายดีและขอบคุณครับ)” ไอติมถอยหลังไปยืนข้างแซ็ค มองเจค็อบกับพระเอกคนใหม่สลับไปมา


“Why you come together ล่ะ”


“He has shooting tomorrow at the house, and it is your job. (เขามีถ่ายงานพรุ่งนี้ที่บ้าน และมันก็เป็นงานของเธอ)” เจค็อบบอกด้วยท่าทีและน้ำเสียงปกติ ไอติมหน้างงเลยหันไปมองแซ็ค


“It might be the reason why Lukas wants to see you. (มันอาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมลูคัสถึงอยากเจอนาย)” ไอติมไม่เข้าใจ แต่ก็ยิ้มไว้ก่อน เขาหันไปมองอีกสองคน


“ฉันต้องซื้อหรือไม่ต้องซื้ออะไรบ้าง” เจค็อบถามแซ็คน้ำเสียงราบเรียบพอ ๆ กับใบหน้า คนถูกถามมองเข้าไปในรถเข็นพักหนึ่งก่อนจะส่ายหัว


“ไม่รู้เหมือนกัน ส่วนมากเด็กนี่เป็นคนเลือก” เจค็อบหันมองไอติมนิ่งพักหนึ่งแล้วค่อยคลี่ยิ้มอ่อน เขาพยักหน้าแล้วเดินผ่านทั้งสองคนไป ไอติมหันไปมองตาม พระเอกคนใหม่ของค่ายช่วยเจค็อบเลือกของใส่รถเข็นอยู่


“Let’s go. (ไปกันเถอะ)” ไอติมหันกลับมาพยักหน้าให้แซ็คก่อนจะเดินไปพร้อมกับฝรั่งตัวโต


ได้ของครบตามเท่าที่นึกออกและต้องการก็พากันไปจ่ายเงิน เสร็จเรียบร้อยก็ช่วยกันขนของขึ้นท้ายรถ แซ็คขับรถออกไป กำลังจะมุ่งหน้าไปบ้านลูคัส แต่อีกฝ่ายโทรมาบอกพอดีว่าให้เปลี่ยนไปเจอกันที่บ้านเขาแทน แซ็คเปลี่ยนทิศทางของรถและขับกลับบ้าน มีไอติมนั่งกินไก่ที่ซื้อมาไม่หยุดอยู่เบาะข้าง ๆ เขาเปิดเพลงฟังบนรถเพื่อไม่ให้บรรยากาศเงียบเกินไป แต่จริง ๆ ก็เป็นความเงียบที่ไม่ได้ชวนอึดอัดใจ แค่รู้สึกอยากให้มีเสียงอะไรคลอบรรยากาศรอบตัวบ้างเท่านั้นเอง


ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็กลับมาถึงบ้าน แซ็คจอดรถตัวเองข้างรถของลูคัสที่จอดอยู่หน้ารั้วประตูบ้าน ไอติมกับแซ็คช่วยกันขนของที่ซื้อมาเข้าบ้านเต็มสองมือกันทั้งคู่ แอนโทนี่ช่วยเดินมาเปิดประตูบ้าน


“สองคนนี้เหมือนสามีภรรยาที่พากันไปซื้อของเข้าบ้าน” แซ็คยิ้มมุมปากซ้ายและเดินเลยผ่านแอนโทนี่ ไอติมหันไปยิ้มกว้างให้กับแอนโทนี่เป็นการขอบคุณที่ช่วยเปิดประตูและปิดประตูให้


“Hey.” ลูคัสเอ่ยทักไอติม หนุ่มเอเชียยิ้มกว้างตอบ เดินเอาของไปวางในครัว


“Go to him. (ไปหาเขาเถอะ)” ไอติมเลิกคิ้วขึ้นงง ๆ แซ็คเลยชี้ไปที่ลูคัสและยื่นคางไปทางนั้น ไอติมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองสลับกับชี้ไปที่ฝรั่งตัวล่ำกล้ามโต แซ็คหยักหน้าอีกที ไอติมเลยเข้าใจก่อนจะเดินไปหาลูคัสที่นั่งรออยู่ที่โซฟากับแอนโทนี่


“งานด้วนน่ะ แต่ก็เป็นโจทย์ที้เจค็อบคิดหม่าให้เธอทำเผื่อท่ดลองงาน” ไอติมพยักหน้ากับคำบอกของแอนโทนี่


“เดี๋ยวนายช่วยแปลให้เขาฟังแล้วกันนะแอนโทนี่…” หนุ่มแว่นพยักหน้า


“…เจค็อบต้องการให้เธอทำหนังเดบิวต์ให้กับแคสโทรล พระเอกคนใหม่ที่เธอเลือกมาน่ะ คนหัวแดง ๆ เธอน่าจะจำเขาได้” ไอติมพยักหน้าลงก่อนที่แอนโทนี่จะแปลจบเพราะตั้งใจฟังอยู่เลยเข้าใจที่ลูคัสพูด


“I just see he เอ้ย him” ไอติมบอกอีกสองคนว่าเพิ่งเจอบุคคลที่ถูกกล่าวถึงอยู่


“เจค็อบให้โจทย์มาว่า ให้ใช้บ้านหลังนี้ถ่ายทำ จะมุมไหนของบ้านก็ได้ แต่ต้องใช้มุมนั้นมุมเดียวและดำเนินเรื่องราวอยู่ตรงจุดนั้นห้ามเปลี่ยน สิบห้านาทีหรือยี่สิบนาทีของหนังต้องตรึงคนดูให้อยู่ให้ได้” ไอติมพยายามแปลเองก่อน แอนโทนี่ก็เงียบ ยังไม่ช่วยแปลเพราะเห็นว่าอีกคนกำลังตั้งใจฟังอยู่


“เอ่อ แอนโทนี่ ให้ทำหนังให้คนนั้น สิบห้านาที ทำในบ้านนี้ ใช่มั้ยฮะ” ไอติมหันไปถามแอนโทนี่เพื่อความแน่ใจ


“ใช่ เหลือกเอา จุดหนัยก่อด้าย แต่หั่ยด้ายที่เดียว ความยาวหนังสิบห่านาที้หรือจะยี่สิบก่อด้าย”


“แล้วเขาเล่นคนเดียวหรือเล่นคู่อะ”


“ขู่สิ เดี๋ยวมีหนักแสดงมาเล่นด้วย” ไอติมพยักหน้าหงึกๆ


“พรุ่งนี้เหรอฮะ” แอนโทนี่พยักหน้า ไอติมบู้หน้านิดหน่อยก่อนจะพูดเสียงอ่อย


“เร็วจัง” แอนโทนี่หันไปพูดกับลูคัสว่าไอติมพูดว่าอะไร ลูคัสมีสีหน้าเห็นใจ


“I’m sorry about this he just told me this morning. It is the test for you, I guess. (ขอโทษทีนะ เขาก็เพิ่งบอกฉันเมื่อเช้านี้ ฉันเดว่าคงเป็นบททดสอบของเธอน่ะ)” แอนโทนี่แปลเพื่อความรวดเร็ว ไอติมพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่สีหน้าก็มีความกังวล


“I will try. (ผมจะพยายาม)” ไอติมตอบเสียงอ่อย แซ็คที่เก็บของเสร็จแล้วเดินมานั่งโซฟาตัวเล็กอีกตัว มองบรรยากาศเคร่งเครียดเล็ก ๆ ระหว่างทั้งสามคน แต่ก็ไม่พูดแทรก ทำเพียงนั่งฟังทั้งสามพูดกันต่อ


“Don’t think too much. Do what you want to do. Picture about it and then use that picture. Follow your feeling. (อย่าคิดมากเกินไป ทำอย่างที่เธออยากทำ นึกภาพในหัวแล้วก็ใช้ภาพนั้น ไปตามความรู้สึกเธอเลย)” ไอติมบุ้ยปากไปมาในขณะที่ก็ฟังคำแปลจากแอนโทนี่ไปด้วย


“ฮืมมม…” ไอติมนั่งตาลอยเพราะกำลังนึกภาพในหัว แต่ก็นึกไม่ค่อยออก


“…คือผมยังไม่รู้จักนักแสดงดีพอเลย แล้วคนที่จะมาเล่นกับเขาผมก็ไม่เคยเจออีก ตากล้องเป็นใครก็ไม่รู้ เราจะทำงานกันโดยที่ไม่มีการพบปะกันก่อนเหรอฮะ” แอนโทนี่แปลให้อีกสองคนฟัง ลูคัสถอนหายใจด้วยความเข้าใจ


“I know, it is not you who he wants to test, it's me because I do believe you. (ฉันรู้ ไม่ใช่เธอหรอกที่เขาอยากทดสอบน่ะ ฉันต่างหาก เพราะฉันเชื่อมั่นเธอ)” แอนโทนี่แปลให้ไอติมเข้าใจ ไอติมคลี่ยิ้มบาง


“Thank you.” ลูคัสยิ้ม ก่อนจะทำหน้านึกอะไรขึ้นได้


“I have uploaded your teaser this morning and it quite good. Look like the audience can’t wait for it.”


“ลูคัสเผิ่งอัปโหลดทีเซอร์หนังเธอไปเหมื่อเช้า หนังไอ่ไบรอั้นน่ะ แล้วผลตอบรับค่อนดีมาก คนดูท่าทางตั่งตารอ” ไอติมยิ้มดีใจ


“Really?” ลูคัสยิ้มบางและพยักหน้ายืนยันในคำพูดของตัวเองอีกที ไอติมมีสีหน้าดีขึ้นจากตอนแรกที่ดูเป็นกังวล


“And one more, (แล้วก็อีกอย่างนะ)” ลูคัสหันมองแซ็คที่มองตอบกลับมาอย่างเรียบเฉย


“He will let you have new porn soon. Created by ice-cream. (เขาจะให้นายมีหนังเรื่องใหม่เร็ว ๆ นี้ ครีเอทโดยไอศกรีม)” แซ็คแสร้งเบิกตากว้าง พยายามแสดงออกว่าตื่นเต้น


“Oh, wow. Brilliant. (โอ้ ว้าว แจ๋วไปเลย)” แอนโทนี่หัวเราะ ลูคัสยักไหล่ทั้งสองข้างหนึ่งที


“เล่นกับนางเอกใหม่ เดี๋ยวคงได้เจอกันเร็ว ๆ นี้ คอนเซ็ปต์ยังไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น รอไอศกรีมคิดให้ล้วนๆ”


“ต้องรองานนี้ผ่านก่อนรึเปล่า ถ้าเกิดเจคไม่ชอบ เด็กนี่ก็เหนื่อยฟรีสิ”


“ไม่หรอก ทำสองงานน่ะดีแล้ว ว่ากันตามตรงฉันก็กลัวไอศกรีมจะทำงานนี้ไม่ผ่าน อย่างน้อยมีงานนายมารองรับไว้ก็ดี ไอศกรีมเคยทำงานกับนายแล้ว เขาน่าจะทำออกมาได้ดีถ้าเป็นนาย” แซ็คทำปากยื่นแล้วก็พยักหน้าสองสามที


“He will come here, the new actor, you could get to know him more. (เดี๋ยวเขาก็มาที่นี่ พระเอกใหม่นั่นน่ะ นายก็ทำความรู้จักกับเขาเพิ่มเติมสิ)” แซ็คหันไปบอกไอศกรีม ไอติมที่กำลังนั่งเหม่อคิดงานอยู่ไม่ทันฟังเลยแปลไม่ออก ดีที่ได้แอนโทนี่ช่วยแปลงให้เสร็จสรรพ


“อ้อ ใช่ เยส” ไอติมยังดูตัน ๆ งง ๆ กับงานที่เพิ่งได้รับมอบหมายมา ตอนนี้ในหัวของเขาหมุนวิ้ง ๆ ไอเดียวิ่งพล่านแต่ไม่มีอันไหนน่าสนใจสักอัน ลูคัสมองด้วยความเป็นห่วง


“Okay, we can have the meeting now. (โอเค เราจัดประชุมตอนนี้เลยก็แล้วกัน)”

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.25 : The same team. :17.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 17-02-2019 21:45:28
V
v
v

ไอติมนั่งเขียนสตรี่บอร์ดคร่าว ๆ ทั้งคืน เป็นไปตามนิสัยของเด็กฟิล์มที่เตรียมงานก่อนถ่ายทำ แต่ครั้งนี้เป็นการเตรียมถ่ายทำที่กระชั้นชิดซะเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าไอติมไม่เคยเจอสถานการณ์นี้ แต่มันต่างกัน อันนั้นมันเป็นฟีลสมัยเรียน แต่อันนี้มันคือการทำงานที่มีความจริงจัง และหมายถึงตังค์อันเป็นเงินเดือน


 หลังจากแยกย้ายกับพวกลูคัสตอนมื้ออาหารค่ำและได้ทำความรู้จักกับพระเอกคนใหม่ที่เป็นคนเลือกมาเอง ไอติมก็กลับมาเตรียมงานในห้องนอนเงียบ ๆ แซ็คปล่อยให้ไอติมทำงาน เพราะเห็นท่าทีจริงจังของเด็กลามกแล้วก็ไม่อยากรบกวน เป็นท่าทางอาการที่เขาเองก็เพิ่งเคยเห็น ไม่ถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่เจ้ากระต่ายนิ่ง ไม่ดุ๊กดิ๊กไปมา สมาธิเพ่งอยู่กับงานตรงหน้า เขาหลับไปตอนเที่ยงคืนในขณะที่ไอติมยังทำงานต่อไป


“Are you alright?” แซ็คถามไอติมในตอนเช้าหลังจากตื่นนอน เมื่อคืนนี้ไอติมนอนหลับบนโซฟา กองกระดาษเอสี่วางอยู่บนพื้นพรมด้านล่าง


“อื้อ” ไอติมขยี้ตาและตอบเสียงยานคาง หน้าตาง่วงนอน แซ็คมองนาฬิกาก็เห็นว่าเป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว


“I want to let you sleep, but it’s time to work. (ฉันอยากให้นายนอนนะ แต่มันถึงเวลาทำงานแล้ว)” ไอติมนิ่งแบบหน้าตามึน ๆ ทั้งเพราะแปลไม่ออก และกำลังเบลอด้วยอาการง่วง


“Take a shower. (ไปอาบน้ำสิ)” ไอติมพยักหน้า ลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูของตัวเองก่อนหายเข้าไปในห้องน้ำ


แซ็คเดินไปดูกระดาษเอสี่หลายแผ่นที่มีรูปสเก็ตจากดินสอแบบไม่ได้ลงรายละเอียดชัดเจน เขาไม่ได้หยิบขึ้นมาดูหรือเลื่อนกระดาษไปทางไหน เพราะกลัวจะไปทำให้งานของคนอื่นวุ่นวาย สมุดโน้ตที่กางอยู่มีการขีดเขียนตัวอักษรเต็มสองหน้าด้วยภาษาไทย แซ็คเดาว่าคงเป็นไอเดียที่ไอติมจดเอาไว้


เขาไม่เคยเห็นไอติมมุมทำงานมาก่อน ก็มีเห็นบ้างนิดหน่อยตอนอยู่ที่ทะเล แต่ก็ไม่จริงจังขนาดนี้ ช่วงที่เขาบินกลับมานี่แล้ว เป็นช่วงเวลาที่ไตอิมทำงานมาส่งลูคัส เขาเลยไม่ได้เห็นว่าเด็กคนนี้มีวิธีการทำงานยังไง ได้เห็นจากเมื่อคืนก็เลยได้รู้ว่า เจ้ากระต่ายลามกก็มีจังหวะปิดสวิชต์พลังงานร่าเริงเหมือนกัน


“It okay? (โอเคมั้ย)” ไอติมที่อาบน้ำเสร็จแล้วถามแซ็คที่กำลังนั่งมองสตอรี่บอร์ดแบบรีบ ๆ ของตัวเองอยู่


“You don’t need to do this. You just talk to the actor and let them perform. (นายไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ แค่คุยกับนักแสดงแล้วก็ปล่อยให้พวกนั้นแสดงไป)” ตอนที่คุยกันเมื่อวาน แซ็คไม่ได้ให้คำปรึกษาอะไรมากมาย เพราะลูคัสกับแอนโทนี่ก็เป็นที่ปรึกษาที่ดีอยู่แล้วในเรื่องงาน


“I think I should prepare it will good than…” ไอติมเงียบเพราะนึกคำศัพท์นั้นไม่ออก คำศัพท์ที่จะบอกว่า ดีกว่าด้นสด


“Improvise? (คิดสด?)” ไอติมหน้ามึนเพราะไม่เข้าใจคำนั้น แซ็คยิ้มขำ โบกมือซ้ายเป็นเชิงบอกว่าช่างมันไม่เป็นไร


“Get dress. (แต่งตัวเถอะ)” แซ็คชี้ตู้เสื้อผ้า ไอติมมองตามก่อนจะพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ลุกเดินไปหาเสื้อผ้าจากตู้ออกมาใส่ แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยไอติมก็ทาครีมบำรุงหน้า ระหว่างรอให้ครีมซึมก็ไปเรียงกระดาษที่วาดภาพสเก็ตไว้ให้เรียบร้อย จับยัดใส่สมุดโน้ตส่วนตัว วางทุกอย่างไว้บนแม็คบุ๊กแล้วลุกขึ้นไปทาครีมกันแดดปิดท้าย


“So where did you pick for shooting today? (แล้วสรุปเลือกถ่ายที่ไหน)” ไอติมไม่แน่ใจในคำถามนักเลยใช้คำศัพท์ถามทวนกลับไป


“Location?” แซ็คพยักหน้า ไอติมยิ้ม


“Garden. Garden side home. (สวน สวนข้างบ้าน)” แซ็คพยักหน้า ไอติมเดินถือแม็คบุ๊กกับของที่วางอยู่ด้านบนออกไปจากห้องนอนพร้อมแซ็ค พอออกมาข้างนอกก็เจอลูคัส แอนโทนี่ ดัสตินและผู้ชายอีกสองคนกำลังนั่งกินแฮมเบอร์เกอร์อยู่ในครัว


“Good morning.” แอนโทนี่เอ่ยทักทั้งสองคน


“We have a burger for both of you. (เรามีเบอร์เกอร์ให้นายสองคน)” แอนโทนี่ชี้ถุงพลาสติกที่มีสัญลักษณ์ของอาหารฟาสต์ฟู๊ดชื่อดัง ไอติมหันไปมองผู้ชายเอเชียตัวสูงผิวเข้มแต่ไม่ใช่ผิวดำคนหนึ่งด้วยความคุ้นตา ผู้ชายคนนั้นยิ้มกลับมาให้


“พี่เจมส์ไง จำได้มั้ย เราเคยคุยสไกป์กัน” ไอติมร้องอ๋อทันที


“พี่ทำงานที่นี่ด้วยเหรอฮะ” หนุ่มไทยอีกคนส่ายหัว หันหน้าไปมองฝรั่งเบ้าหน้าดี เส้นผมสีดำ ใส่เสื้อกล้ามโชว์แขนล่ำกำลังพอดีที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์


“แฟนพี่เป็นนักแสดงน่ะ แต่ไม่ใช่ค่ายนี้นะ เขาเป็นฟรีแลนซ์” ไอติมมองฝรั่งคนนั้นที่เงยหน้าขึ้นยิ้มให้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาเป็นประกายน่ามอง


“You must be ice-cream. Hello, ice-cream. I’m Joe. (เธอคงเป็นไอศกรีม สวัสดีไอศกรีม ฉันชื่อโจ)” โจยื่นมือขวาให้ ไอติมวางแม็คบุ๊กลงบนโต๊ะก่อนยื่นมือขวาตัวเองไปเช็กแฮนด์กับอีกฝ่าย


“Hello, Joe.” ทั้งสองคนปล่อยมือออกจากกัน ไอติมมองสลับระหว่างเจมส์กับโจด้วยความสงสัย พอมองหน้าเจมส์อีกรอบก็ยิ้มแห้ง


“สงสัยเหรอว่าใครรุกใครรับ” ไอติมอ้าปากหวอ กะพริบตาปริบ ๆ แล้วก็เม้มปากยิ้มอายที่โดนอีกฝ่ายจับได้


เจมส์หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตอบ “พี่เป็นเมีย โจเป็นผัว”


ไอติมกำลังจะร้องอ๋อ แต่สักพักก็ขมวดคิ้วแล้วร้อง ฮึ้ย เบา ๆ กับตัวเอง “อ้าว เดี๋ยวนะฮะ คือแฟนพี่เป็นนักแสดง แล้วมาวันนี้ มาถ่ายหนังที่ผมกำลังจะถ่ายรึเปล่าฮะ”


“ก็ถ้าพระเอกชื่อแคสโทรล ตากล้องเป็นไอดัสติน ช่างไฟเป็นไอไบรอั้น และพี่เป็นรันเนอร์ ก็กองเดียวกันแหละ” ไอติมยิ่งรู้สึกมึนงง ภาพของหนุ่มผมหยิกหัวแดงลอยเข้ามาในหัว ก่อนตัดกับภาพแฟนของเจมส์ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา


“เอ่อ โอเคฮะ” ไอติมตัดบท ถึงจะงง ๆ แต่ก็คิดว่าไม่ได้งงจนส่งผลให้ทำตัวไม่ถูกขนาดนั้น


“Ice-cream, eat first. (ไอศกรีม กินก่อน)” ลูคัสบอกขณะที่ยกน้ำขึ้นดื่ม ไอติมหยิบเบอร์เกอร์หมูขึ้นมากิน ตอนที่กำลังเคี้ยวคำที่สอง ไอติมก็เห็นพระเอกคนใหม่เดินผ่านมาทางครัวในชุดออกกำลังกายในสภาพเหงื่อท่วมหน้าท่วมตัว


“Hi.” แคสโทรลเอ่ยทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้มและยกผ้าขนหนูขึ้นซับเหงื่อบนหน้า โจลุกเดินไปพูดคุยกับคนที่กำลังจะร่วมงานกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ไอติมมองสองคนนั้นคุยกันแล้วก็ย่นคิ้วนิดหน่อย กำลังนึกภาพในหัวว่าภาพความเป็นจริงกับสตอรี่ที่คิดมามันจะขัดกันมั้ยหรือยังไง


“Where do you want to shoot, ice-cream. (จะถ่ายที่ไหนไอศกรีม)” ลูคัสถาม ไอติมตอบเหมือนที่ตอบแซ็ค ปรึกษากันอีกนิดหน่อยโดยมีเจมส์คอยช่วยแปลเพราะแอนโทนี่ยกหน้าที่ให้


“ผมอยากได้ผ้าปูพื้นลายสก็อตขาวดำ รึไม่ก็สีแดงเด่น ๆ ตะกร้าปิกนิกทรงสี่เหลี่ยมอันใหญ่ สตรอว์เบอร์รี่หนึ่งจาน วิปครีมหนึ่งขวด ชุดน้ำชา ถ้ามีกล้วยด้วยก็ดีฮะ” ไอติมกางสตอรี่เปเปอร์ของตัวเองให้ทุกคนดูและพูดกับเจมส์ ลูคัสบ่นเจค็อบนิดหน่อยที่สั่งงานกระชั้นชิดเนื่องจากต้องมาวุ่นวายหาของก่อนถ่ายทำ แทนที่จะได้เตรียมตัวไว้ก่อน


“James goes to the supermarket and finds strawberry, banana and whip cream. (เจมส์ ไปซูเปอร์มาร์เก็ตนะ แล้วก็หาสตรอว์เบอร์รี่ กล้วยแล้วก็วิปครีมมา)” ลูคัสยื่นเงินให้เจมส์ หนุ่มไทยอีกคนพยักหน้า ไม่ถามไถ่อะไรต่อ หมุนตัวเดินออกจากบ้านไปแบบชิลๆ


“Go to the garden, ice-cream. And Bryan, don’t forget all equipment. (ไปสวนกันไอศกรีม แล้วก็ไบรอั้น อย่าลืมอุปกรณ์ล่ะ)” แซ็คพยักหน้า แยกตัวเดินออกไปอีกทาง มีดัสตินเดินตามไปด้วยอีกคน ไอติมเดินตามลูคัสออกไปข้างนอกโดยออกทางประตูหลัง มีแอนโทนี่เดินตามหลังมาอีกที ทิ้งให้สองนักแสดงได้ทำความรู้จักกันไป


 ทั้งสามคนเดินทะลุรั้วไม้ฝั่งชายหาดของสระน้ำออกมาในสวนขนาดใหญ่ของบ้านที่อยู่ติดกัน มีดอกไม้หลากสีสัน ต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นในแถบหนึ่ง มีกลุ่มก้อนหินวางประดับกลางสวน น้ำพุเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในดงดอกไม้ มีชิงช้าไม้อันนึงห้อยอยู่กับกิ่งไม้ขนาดใหญ่โดยเชือกป่านอันแข็งแรง เป็นสวนที่ไม่ได้ตกแต่งสวยงามเป็นพิเศษ แต่ก็เป็นระเบียบเรียบร้อย


“ผมต้องกำกับอะไรมั้ยฮะ หรือปล่อยให้ดัสตินทำ หรือลูคัสทำ ผมต้องทำยังไงบ้างอ่า บอกนักแสดงหรือปล่อยเขาตามธรรมชาติ” แอนโทนี่หันไปคุยกับลูคัสที่กำลังมองพื้นที่ในการถ่ายทำ พอแอนโทนี่พูดจบลูคัสก็หัสมาพูดกับไอติม


“Direct as it is one movie. You can tell everything to the actor. Say action, say cut, say anything you want. (กำกับเหมือนกำกับหนังเรื่องนึง เธอบอกนักแสดงได้ทุกอย่าง บอกแอคชั่น สั่งคัท หรืออะไรก็ได้ที่เธออยากบอก)” ไอติมนิ่งแปล แอนโทนี่มองว่าไอติมจะแปลได้หรือไม่ พักเดียวไอติมก็โต้ตอบกลับ


“But I am creative. No director. (แต่ผมเป็นครีเอทีฟ ไม่ผู้กำกับ)”


“Don’t worry you have me here. (ไม่ต้องกังวลไป เธอมีฉันอยู่นี่)” ลูคัสยิ้มให้กำลังใจ ไอติมมองหน้าแซ็คด้วยความไม่มั่นใจ ลูคัสเลยเดินเข้าไปกอดไอติมไว้และก้มลงหอมหัวหนึ่งที


“You can do it, my daughter. (เธอทำได้น่า ลูกสาวของฉัน)” ไอติมยิ้มกว้างแล้วตามด้วยหัวเราะคิกคัก ลูคัสกอดไอติมทีเล่นเอาตัวบาง ๆ จมหายไปเลย


“อ้าว นี่เราจะเปลี่ยนตัวนักแสดงกลางอากาศงั้นเหรอ” ดัสตินที่ขนกล้องมาสองตัว ขาตั้งกล้องหนึ่งอัน และสายไฟคล้องแขนอีกม้วนใหญ่เอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าลูคัสกำลังขยี้แก้มไอติมด้วยหน้าตาที่มันเขี้ยวซะเต็มประดา


“ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ”


“โว้ววว! ไอ้ไบรอั้นนน!” แอนโทนี่โห่ร้องทันทีเมื่อได้ยินแซ็คพูดออกมาแบบนั้น ดัสตินเองก็เบิกตากว้างมองเพื่อนด้วยความตะลึงก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะ ลูคัสที่กอดไอติมอยู่แกล้งทำเป็นกอดตัวบาง ๆ ของไอติมแน่นขึ้น


“แอะ… แอ๊…” ไอติมที่โดนกอดจนหน้าติดกับหน้าอกใหญ่ ๆ และแน่นหนาของลูคัสร้องขออากาศหายใจ สามหนุ่มหัวเราะและมองไอติมที่พยายามแหงนหน้าโผล่ขึ้นหาอากาศ แซ็คยิ้มขำน้อย ๆ วางไฟสองดวงและผ้าปูพื้นลายที่ไอติมอยากได้ลงบนพื้นหญ้า


“Alright! Let’s talk about the concept again. (เอาล่ะ มาพูดกันถึงคอนเซ็ปต์อีกครั้งดีกว่า)” ลูคัสปล่อยตัวไอติม บรรยากาศที่คล้ายว่าจะคร่ำเคร่งในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นผ่อนคลายมากขึ้น


แซ็คกับดัสตินช่วยกันเดินสายไฟ และติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ส่วนอีกสามคนนั่งอยู่บนผ้าปูปิคนิก กำลังนั่งคุยคอนเซ็ปต์ที่ไอติมอยากได้ ไอติมพยายามพูดสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ลูคัสก็ใจเย็นมากพอที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นของไอติม แต่ถ้าอันไหนที่นึกไม่ออกจริง ๆ ยากเกินความสามารถตัวเอง ไอติมก็จะให้แอนโทนี่ช่วยแปลอีกที


“Castrol is servant. Joe is boss. Boss want give servant have sex together. (แคสโทรลเป็นคนรับใช้ โจเป็นเจ้านาย เจ้านายอยากให้คนรับใช้มีเซ็กซ์ด้วยกัน)” ลูคัสนิ่งแปลภาษาอังกฤษของไอติมสักแปบก่อนจะพยักหน้าตอบรับ


“Aha, okay.” ไอติมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย


“เอ่อ โจเป็นแฟนพี่เจมส์ พี่เจมส์บอกว่าเขาเป็นรุกไม่ใช่เหรอฮะแอนโทนี่ ทำไมในหนังเขาเป็นรับอะ”


“เผ่าะว้า เจมส์หมั่ยยอมรุกให้ไง โจมันเลยต่องหาคนรุก เลยหม่าหาในหนังโป๊” ไอติมอ้าปากหวอ แอนโทนี่หัวเราะ


“ฮะ…?”


“เดี๋ยวลองถัมเจมมันดูสิ” ไอติมพยักหน้างง ๆ แต่ไม่ได้คิดอยากถามตามที่แอนโทนี่แนะนำ


“Can we make more fifteen or twenty minutes มั้ยฮะ”


“Why? Do you want to make an hour? (ทำไมล่ะ เธออยากทำสักชั่วโมงเหรอ)” ไอติมนิ่งคิด มองสตอรี่เปเปอร์ของตัวเองบนผ้าปู


“I think I can do two part. (ผมคิดว่าผมสามารถทำสองพาร์ท)” ลูคัสคิดตามสักแปบแล้วค่อยพยักหน้าคล้ายว่าเห็นด้วยกลายๆ


“That’s a good idea. I approve that. If the first part has good feedback, then we could upload the second part on the website. (ก็เข้าท่า ฉันให้ผ่าน ถ้าพาร์ทแรกฟีดแบ็กดี เราจะส่งพาร์ทสองลงไปในเว็บเลย)” แอนโทนี่มองไอติมที่นิ่งคิดตาม หนุ่มเอเชียคล้ายว่าจะเข้าใจอยู่บ้าง หนุ่มแว่นกลัวไม่เข้าใจทั้งหมดเลยช่วยแปลให้ครบทั้งประโยค ไอติมถึงได้ร้องอ๋อและยิ้มกว้าง


“Okay!”


“Who wants strawberry? (ใครอยากได้สตรอว์เบอร์รี่บ้าง)” เสียงของเจมส์ดังขึ้นพร้อมกับที่เจ้าตัวโผล่เข้ามาในสวน ด้านหลังเป็นแคสโทรลกับโจที่ถือของเข้าฉากมาด้วย หนุ่ม ๆ คนอื่นส่งเสียงตอบรับต่างกันไป


ไอติมมองบรรยากาศรอบตัวเองในขณะนี้ด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่เป็นคนดูมาเนิ่นนาน ไอติมเคยคาดคิด แต่เคยหวังเอาไว้เป็นมุมเล็ก ๆ ในใจว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองทำหนังโป๊ดูบ้าง ไม่คิดเหมือนกันว่าความหวังเล็ก ๆ ในใจจะถูกขายความได้ใหญ่อย่างนี้


“Excited? (ตื่นเต้นรึไง)” ไอติมหันไปมองแซ็คที่นั่งยอง ๆ อยู่ข้างขวาของตัวเอง กระต่ายตัวจ้อยฉีกยิ้มและพยักหน้าแรงๆ


“Very much. I’m glad. I’m happy. (มาก ๆ ผมดีใจ ผมมีความสุข)” แซ็คหัวเราะแบบไม่มีเสียง


“You are really porn lover. (นายนี่มันคนรักหนังโป๊จริงๆ)” ไอติมยิ้มกว้าง ดันตัวลุกขึ้นไปกอดคอแซ็ค ฝรั่งตัวโตล้มลงไปนั่งกับพื้นเบา ๆ เพื่อรองรับร่างของกระต่ายได้อย่างถนัด


“My dick, my dick, my dick.” เสียงเล็ก ๆ ใส ๆ กระซิบข้างหูของแซ็ค ฝรั่งตาสีเทาอ่อนขมวดคิ้วงงในตอนแรก แต่สักพักก็ยกมือซ้ายขึ้นไปจับเป้าไอติมที่ตุงแน่น แซ็คหัวเราะด้วยความตลก


“I do believe that you are so excited. (ฉันเชื่อแล้วว่านายตื่นเต้นมากจริงๆ)” ไอติมหัวเราะฮึ ๆ และส่ายก้นดุ๊กดิ๊กไปมา แซ็คนึกไปถึงภาพตอนเด็กนี่คิดงานเตรียมงานแล้วเทียบกับภาพตอนนี้ก็ยิ้มขำ เพราะอย่างกับคนละคน


“Alright! Let’s start working! (เอาล่ะ เริ่มงานกันได้แล้ว)” เสียงลูคัสบอกหลังจากเจมส์วางของจัดฉากเสร็จเรียบร้อย


“ฮุฮูยยย ฮุ้ยยๆๆ!” ไอติมร้องครางเสียงประหลาดจนทำให้คนอื่นหัวเราะออกมา







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



แท็กเรื่องนี้ #ประสบกามประสบรัก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.25 : The same team. :17.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Kx0806 ที่ 17-02-2019 22:45:31
อยากจะตามไปอยู่กองด้วยจริงจริ๊งง  :z2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.25 : The same team. :17.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 17-02-2019 23:03:24
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.25 : The same team. :17.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-02-2019 02:50:58
เวลาถ่ายทำ อย่าลืมหาอะไรมาปิดปากไอติดมจะ เด๋วเสียงจะเข้าไประหว่างถ่ายทำ  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.25 : The same team. :17.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-02-2019 06:33:25
อุ้วววว น้องได้ทำงานที่รัก 5555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.25 : The same team. :17.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 18-02-2019 15:33:04
ชอบๆๆๆๆ ลูคัสกับไอติม แด๊ดดี้กับลูกสาว ลูคัสเอ็นดูไอติมมากๆ

ส่วนพี่แซ็คก็ขี้หวงเด้อออออ :-[
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.25 : The same team. :17.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-02-2019 00:00:28
น้องไอศกรีมน่าเอ็นดู๊ ดี้ด้าใหญ่เลย.  :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.25 : The same team. :17.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 19-02-2019 01:22:53
อุ้วๆๆ ได้เริ่มงานแล้ว

แต่แซคกับไอติมน่เริ่มผูกพันกันแล้วน้าา

มีเล่าปัญหาครอบครัวให้ฟังด้วยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.25 : The same team. :17.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 21-02-2019 02:06:08
น้องติมโหมดจริงจังกับงานน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.26 : When we are apart. :23.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 23-02-2019 21:04:38

Fall in lust - Chapter 26 :: When we are apart. (เมื่อเราห่างกัน)




   “One week to be here, how was it? (หนึ่งอาทิตย์แล้วที่อยู่นี่ เป็นไงบ้าง)” ไอติมยิ้มให้กับคนถาม แต่ก็เป็นยิ้มด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็ก ๆ แต่ไตร่ตรองแล้วแบบเร็ว ๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเจ้านายจะถามคำถามนี้กับลูกน้อง แถมยังเป็นหนึ่งในเจ้าของบ้านอีกต่างหาก
   

“Have happy good. (มีสุขดี)” ไอติมตอบคำถามของเจค็อบแล้วยิ้ม ในใจนึกกระวนกระวายเล็ก ๆ ที่แอนโทนี่ยังไม่มา เพราะกลัวจะพูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องแม้จะอยู่นี่มาครบอาทิตย์และใช้ภาษาอังกฤษทุกวันก็ตาม
   

“I have seen it. (ฉันเห็นแล้วละ)” เจค็อบใช้มือขยับแว่นตา มองไอติมด้วยสายตาว่างเปล่า สีหน้าไร้อารมณ์ แต่ริมฝีปากขยับเหยียดยิ้มบาง ไอติมยิ้มแห้ง รู้สึกอึดอัดประหลาดในอก อยากให้มีใครสักคนมาอยู่ในสถานการณ์ตอนนี้เป็นเพื่อน
   

“Oh, where is Bryan? Why did he let you are here alone? (โอ้ ไบรอั้นไปไหนซะล่ะ ทำไมเขาปล่อยให้นายอยู่นี่คนเดียว)” แต่ไม่ใช่คนนี้ได้มั้ย
   

ไอติมมองหน้าแมนดี้ ผู้หญิงผมแดงหน้าตาไม่เป็นมิตรที่เดินเข้ามาในบ้านและมองเขาราวกับเห็นตัวประหลาด ไอติมไม่ได้แสดงสีหน้าหรือท่าทีอะไรเป็นพิเศษ ทำเพียงนิ่งเป็นการตอบโต้กลับไป ซึ่งดูจะเป็นการทำให้ผู้หญิงคนนั้นหงุดหงิดไม่น้อยจากการที่เธอจ้องมองไอติมตาแทบขวาง
   

“He flew to Las Vegas. Has the show with his stripper team two days. Will be back tomorrow. (เขาไปลาสเวกัส มีโชว์กับทีมเปลื้องผ้าของเขาสองวัน กลับพรุ่งนี้)” เจค็อบเป็นคนตอบคำถามของแมนดี้ที่ว่าแซ็คหายไปไหน โชว์วันแรกผ่านไปแล้วเมื่อวานนี้ และรอบสองกำลังจะเกิดขึ้นเย็นนี้ที่โรงละครแห่งหนึ่งในเวกัส
   

“Aha, then he left his toy in his box. (อ่าฮะ หมอนั่นเลยทิ้งของเล่นไว้ในกล่องสินะ)” ไอติมฟังออกและแปลออกว่าความหมายของประโยคนั้นคืออะไร แต่ไอติมก็ทำนิ่ง ไม่ไหวติง ไม่ตอบโต้ ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะเยาะน้อยๆ
   

“Oh, I forget, that why he did not talk to me. (โอ้ว ลืมไป ว่าทำไมเด็กนี่ไม่คุยกับฉัน)” เจค็อบถอนหายใจเบาๆ
   

“We are going to talk about his test result of first week. (เรากำลังจะพูดเกี่ยวกับผลการทดสอบของเขาในสัปดาห์แรกน่ะ)” แมนดี้แสร้งทำหน้าตกใจ
   

“Ooh, interesting. (อู้ว น่าสนใจดีนะ)” ว่าจบเธอก็ยิ้มเยาะใส่ไอติมแล้วก็ลุกเดินออกไปจากโซนโซฟาของบ้าน ไอติมนั่งนิ่งหน้ามึน ไม่แม้กระทั่งขมวดคิ้ว และไม่แม้แต่จะขุ่นเคืองอะไรด้วยซ้ำ แอบดีใจหน่อย ๆ ด้วยที่ตัวเองฟังออก ผลลัพธ์ดี ๆ อย่างแรกในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาก็คือสกิลภาษาอังกฤษของเขานี่แหละ
   

“Have you had breakfast? (ทานอาหารเช้ารึยัง)” ไอติมนิ่งแปบสั้น ๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบ พักนึงก็คลี่ยิ้มเมื่อสายตาเห็นแอนโทนี่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับเจมส์ เจค็อบหันไปมองตามสายตาของไอติม ก่อนหันหน้ากลับมาตามเดิม รอจนสองคนนั้นนั่งลงบนโซฟาก็หยิบไอแพดที่วางติดกับพนักพิงแขนโซฟาด้านขวาขึ้นมาวางบนตัก
   

“โทษทีน้องติม แวะเติมน้ำมันน่ะ” เจมส์บอกรุ่นน้องด้วยท่าทีหอบเล็ก ๆ ไอติมพยักหน้ายิ้มด้วยความเข้าใจ แอนโทนี่ยกแขนเสื้อยืดสีเขียวอ่อนขึ้นเช็ดเหงื่อบริเวณหน้าผาก
   

“Lukas? (ลูคัสล่ะ)” เจค็อบถามแอนโทนี่ที่สวมแว่นกลับเข้าไปหลังจากใช้ผ้าเช็ดแว่นเช็ดเลนส์เสร็จ
   

“He is coming but we could talk now. (เขากำลังมา แต่พวกเราก็พูดได้เลย)” เจค็อบพยักหน้า ใช้มือขวากดเปิดไอแพดแล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางเลื่อนสองทีก่อนจะหยุดอ่านข้อมูลบนนั้นสักแปบ ไอติมหันไปกระซิบถามตำแหน่งที่อยู่ของลูคัสตอนนี้กับแอนโทนี่ว่าอยู่ตรงไหน ก่อนจะพยักหน้าเมื่อได้รับคำตอบ
   

“ผู้ชายคนที่อายุมากที่สุดที่เขา…” เจค็อบเงยหน้าขึ้นและชี้ไอติม
   

“…เลือกมา ครั้งแรกให้ไปเล่น straight porn แต่ไม่รอด ครั้งที่สอง เขาบอกให้ไปเล่น gay porn แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น แอคติ้งห่วย ฟีดแบ็คที่ได้รับกลับมาทั้งสองฝั่ง ไม่เป็นที่น่าพอใจ” แอนโทนี่พยักหน้าให้เจมส์ หนุ่มไทยผิวโทนเข้มแต่ยังไม่ถึงกับดำหันมองไอติม
   

“น้องติมเข้าใจที่เขาพูดหมดมั้ยครับ” ไอติมนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบด้วยความไม่แน่ใจ
   

“เขาบอกว่าคนที่ผมเลือกมา ทำได้ไม่ดี อะไรประมาณนี้ใช่มั้ยฮะ”
   

“ใช่ คนที่แก่สุด ผลตอบรับจากคนดูไม่ค่อยโอเค แล้วคนนั้นเขาก็แสดงไม่ดีด้วย” ไอติมนิ่งคิดสักแปบ ก่อนจะเปิดปากพูดไปด้วยในขณะที่ความคิดยังแล่นอยู่
   

“ผมดูคลิปของเขาแล้ว ผมคงคิดผิดไปที่คิดว่าเขาจะมีเสน่ห์น่ามองตอนแสดง แต่เขาก็ไม่มีเลย ก็…” ไอติมยิ้มแห้ง พยักหน้าด้วยความยอมรับ เจมส์หันไปพูดกับเจค็อบที่มองไอติมสีหน้าราบเรียบ
   

“I don’t understand why Lukas believe in your sense so much. (ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลูคัสถึงเชื่อเซ้นส์เธอนัก)” ไอติมพอจะแปลออก แต่ก็คิดว่าน่าจะแปลไม่ครอบคลุม เจมส์ช่วยแปลอีกทีไอติมถึงแน่ใจว่าความหมายเป็นยังไง ไอติมยิ้มแห้งจนเกือบจะเป็นยิ้มแหย เจค็อบพ่นลมหายใจ แม้ว่าจะไม่ได้ต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ไอติมก็รู้สึกเหมือนโดนตำหนิอยู่ดี
   

“หนังที่เขาทำให้แซ็ค…” เจค็อบเงยหน้าขึ้นมองไอติม สีหน้าดูไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าไหร่
   

“…ผลตอบรับดี” ไอติมที่ตั้งใจฟังอยู่ก่อนแล้วยิ้มกว้าง แอนโทนี่ยิ้มดีใจและยกนิ้วโป้งให้ไอติม ส่วนเจมส์นั่งยิ้มเย้ยนิด ๆ จนไอติมแอบงง
   

“เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง” เจมส์เห็นไอติมมองเลยอธิบาย ไอติมพยักหน้าสองสามที
   

“หมั่ยใช่แข่ดีนะ ดีหมากด้วย ฉั๋นเช็กยอดต่างต้างบนเว็บไซ้หม่าแล้ว ดีจิ่งจิง” แอนโทนี่ว่าด้วยความตื่นเต้น
   

“ยอดวิวทีเซอร์ที่ลงในเว็บ XXX โดยแอคเค้าท์ของค่ายเรา ตอนนี้อยู่ที่สองล้านกว่า ยอดไลก์ชนะยอดดิสไลก์ขาดลอย คอมเม้นพันกว่าคอมเม้น” เจค็อบอธิบายนิ่ง ๆ ไอติมพยายามแปลด้วยตัวเอง
   

“หนั่นแค่ทีเซอร์นะ แหล่วคนก้อตามมาดูในเว็บของเรา ยอดวิวดีหม่ากมาก คอมเม้นก็ดีมากด้วย” แอนโทนี่เสริม แต่ก็เงียบลงเมื่อเจค็อบหันไปมองด้วยท่าทีสงบ แอนโทนี่ตีหน้ามึนไม่รู้ไม่ชี้แล้วก็หุบปากไป
   

“And they have been asking who is the boy that Zach were fucking on the beach. (แล้วพวกเขาก็ถามกันอยู่เรื่อย ๆ ว่า เด็กผู้ชายที่แซ็คเอาบนชายหาดนั้นเป็นใคร)” ไอติมแปลไม่ทันเลยหันไปมองเจมส์กับแอนโทนี่ เจมส์ช่วยแปลอย่างรวดเร็ว ไอติมยิ้มแล้วหันไปมองเจค็อบ
   

“Me!” เจค็อบยังคงนิ่ง
   

“They want to know you and want to see the long version of you and Zach. (พวกเขาอยากรู้จักเธอและอยากดูเวอร์ชั่นที่ยาวกว่านี้)” เจมส์แปลให้เพื่อความรวดเร็ว ไอติมสั่นหัว
   

“No. I do it for me only. (ไม่ ผมทำมันสำหรับผมเท่านั้น)”
   

“How many do you have? Video. (เธอมีกี่อัน วิดีโอน่ะ)” ไอติมแปลอันนี้ออกเลยชูนิ้วขึ้นสามนิ้ว
   

“In web one and I have three. (ในเว็บหนึ่งและผมมีสาม)”
   

“You will get more money from it than you can imagine. (เธอจะได้เงินจากมันมากมายมากกว่าที่เธอคิด)” เจค็อบเลิกคิ้วขึ้น มองไอติมเป็นเชิงถามว่าไม่สนใจเหรอ
   

“เขาบอกว่าถ้าขายได้มันได้เงินเยอะมากเลยนะ” เจมส์อธิบาย ไอติมส่ายหน้าอีกที
   

“You don’t know how popular he is. His fans like you have much more money to support him. And some of his fan is V.I.P. people, and I don’t mean V.I.P. like you. (เธอไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นที่นิยมมากแค่ไหน แฟน ๆ เขาแบบเธอมีเงินมากมายที่จะให้เขา และแฟนเขาบางก็เป็นระดับวีไอพี และฉันไม่ได้หมายความว่าเป็นวีไอพีแบบเธอหรอกนะ)” ไอติมเบลอนิดหน่อยเนื่องจากแปลไม่ทันแม้ว่าเจค็อบจะพูดช้า ๆ เนิบ ๆ แล้วก็ตาม
   

“ไบรอั้นหมั่นมีแฟนคลับระดับวีไอพีด่วยนะ วีไอพีแบบที่เข๋าวีไอพีด้วยตัวเข๋าเอง” แอนโทนี่อธิบายเพิ่มเติม
   

“ไอติมก็วีไอพีเมื่อเกี่ยวข้องกับค่ายของคุณ การ์ดทองคำนั่นน่าจะบอกคุณได้แล้วนะว่าเขาวีไอพีมากพอต่อคุณรึเปล่าเจค็อบ” เจมส์มองอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอย่างรุนแรงจนดูไร้มารยาท แค่มองจิกนิดจิกหน่อย
   

เจค็อบนิ่ง และพูดต่ออย่างนิ่งๆ “เธอไม่เข้าใจ”
   

“ใช่ ผมไม่เข้าใจ ผมบอกคุณเหรอว่าผมเข้าใจ” เจค็อบมองเจมส์นิ่งแบบนิ่งสนิทแวบหนึ่ง แล้วก็หันกลับไปมองไอแพดต่อ เจมส์กลอกตาและทำปากยื่นนิดหน่อย แอนโทนี่มองด้วยความเลิ่กลั่กเล็ก ๆ ส่วนไอติมมองอย่างงง ๆ ก่อนหันกลับไปหาเจค็อบ
   

“If you want to sell it to me, just let me know. (ถ้าเธอยากจะขายให้ฉัน ก็บอกแล้วกัน)” เจค็อบว่าทั้งที่ยังก้มหน้ามองไอแพดอยู่
   

“ถ่าอยากได้ค่าข่ะหนมก่อบอกได้นะไอศกรีม” ไอติมยิ้มแล้วก็ส่ายหัว แอนโทนี่ยิ้มขำน้อยๆ
   

“Now you pass one and fail one. (ตอนนี้เธอผ่านหนึ่งและตกหนึ่ง)” หนุ่มสูงวัยเงยหน้าขึ้นพูดกับหนุ่มอายุน้อย ไอติมพยักหน้าด้วยความเข้าใจ เจค็อบถอนหายใจยาวก่อนจะว่าต่อ
   

“But congratulations, the presentation video of Castrol got many good feedback. (แต่ก็ยินดีด้วย วิดีโอแนะนำตัวของแคสโทรลได้ฟีดแบ็คดี ๆ กลับมาเยอะ)” เจมส์กลัวไอติมจะดีใจล่าช้าเลยรีบแปลให้ทันที ไอติมยิ้มกว้างหน้าตาเหลอหลาแต่ก็คือดีใจ
   

“Really? (จริงเหรอฮะ)” เจค็อบพยักหน้า ไอติมทำหน้าปลื้มใจและปรบมือแปะๆ
   

“And about new movie that he play with Joe? (และเกี่ยวกับหนังใหม่ที่เขาเล่นกับโจ?)” ไอติมลุ้นกับงานนี้มากกว่างานของแซ็คซะอีก เพราะของแซ็คนั่นทำด้วยความชอบ ความรักและความสนุกล้วน ๆ อันนี้ก็คือความชอบความรัก (ในหนังโป๊) เช่นกัน แต่มันไม่ใช่ฟีลสนุกล้วน ๆ น่ะสิ
   

“We will launch his new clip the day after tomorrow. (เราจะปล่อยคลิปใหม่ของเขาวันมะรืนนี้)” ไอติมช่วยดัสตินตัดต่ออย่างใกล้ชิด เลือกซีน เลือกซาวด์ เลือกต่าง ๆ ด้วยตัวเอง และดัสตินก็ช่วยด้วยอีกครึ่ง ใช่ว่าไอติมจะทำเองทั้งหมด
   

“And we will see if your strategy will be work or not. (และเราก็จะได้รู้ว่ากลยุทธ์ของนายจะเวิร์ครึเปล่า)” นี่แหละที่ยิ่งทำให้ไอติมลุ้น เพราะไอติมแอบเชื่อว่าคลิปแนะนำตัวของแคสโทรลน่าจะเป็นไปในทางที่ดี เลยไม่ทำทีเซอร์หนังเดบิวต์ของเขาออกมา แต่กะว่าถ้ากระแสจากคลิปนั้นดีจะส่งคลิปเดบิวต์นี้ไปต่อยอด ซึ่งการปล่อยวันมะรืนนี้ก็ถือว่าช้าไปด้วยซ้ำ
   

“พี่เจมส์ฮะ บอกคุณเจค็อบว่าปล่อยหนังของแคสโทรลกับโจวันพรุ่งนี้เลยได้มั้ย” เจมส์หันไปบอกเจค็อบ หนุ่มสูงวัยที่สุดขยับแว่นนิดหน่อย สีหน้านิ่งคิดก่อนตัดสินใจ
   

“Okay. (ก็ได้)” ไอติมได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจ แอนโทนี่ยกมือให้ไอติมตีมือ ไอติมยื่นมือขวาไปตีและยิ้มด้วยความรู้สึกดี แต่ก็ยังดีไม่มากพอจนกว่าผลตอบรับของพระเอกคนแรกที่เลือกมาจะออกมาดีทั้งหมด เพราะการที่อีกคนที่ไอติมเลือกมาแล้วไม่ได้ไปต่อ ก็เป็นการทำให้ไอติมหวั่นใจไม่น้อยว่าตัวเองจะคิดผิดพลาดอีก
    

เจค็อบยกมือซ้ายลูบใต้คางเบา ๆ สักพักแล้วก็พูด “And I believe that Lukas already told you about new porn of Zach. (และฉันคิดว่าลูคัสน่าจะบอกเธอแล้วเรื่องหนังใหม่ของแซ็ค)”
   

ไอติมอ้าปากหวอ มองเจค็อบตาค้างนิดหน่อยก่อนจะหุบปากลงและร้องอ๋อ “อ๋า เยสๆ he tell me. I will think concept and plot. (เขาบอกผม ผมจะคิดคอนเซ็ปต์และพล็อต)”
   

“I give all the right to you to make this porn for him. (ฉันให้สิทธิ์นายทั้งหมดในการทำหนังเรื่องนี้ให้เขา)” ไอติมยิ้มแต่ยังเป็นยิ้มไม่มั่นใจเท่าไหร่ พอแอนโทนี่อธิบายเพิ่มเติมก็เลยยิ้มกว้าง
   

“But you have to make our new actress be famous, too. Not only him. (แต่เธอต้องทำให้นางเอกใหม่ของเราดังไปด้วย ไม่ใช่แค่เขา)” ไอติมที่มัวแต่ดีใจเลยไม่ได้แปลหันไปหาอีกสองคนที่เหลือ แอนโทนี่ช่วยขยายความให้เรื่องนางเอกใหม่
   

“เป่นนางเอกใหม่น่ะ อายุซิบแปดเอง หมั่ยเหมือนแคสโทรลแหละ คนนี้ใหม่มาก แต่หยักเล่นหนังโป๊ หน่วยก้านดี เดี๋ยวเถ่อจะได้เจอเขาเร็ว ๆ นี้” ไอติมพยักหน้า
   

“Don’t use only your sense, use the brain with. (อย่าใช้แค่เซ้นส์ ใช้สมองด้วย)” ไอติมหันไปมองเจค็อบด้วยความงง เพราะมัวแต่คุยกับแอนโทนี่ หันไปมองเจมส์ก็เห็นรุ่นพี่ทำหน้าไม่พอใจ เจค็อบมองเจมส์แล้วยิ้มน้อย ๆ เจมส์หันไปกระซิบข้างหูไอติม หนุ่มเอเชียคิดตามคำที่รุ่นพี่บอกแล้วก็พยักหน้าก่อนจะโพล่งออกไป
   

“How smart you are, Jacob. (คุณฉลาดอะไรอย่างนี้ เจค็อบ)” เจ้าของค่ายหนังยิ้มขำหึ ๆ เบา ๆ สายตามองเจมส์ที่มองกลับอย่างไม่ชอบใจ   
   

“That’s all. (เท่านี้แหละ)” เจค็อบลุกเดินออกไปจากโซนโซฟา ไอติมมองตามร่างสูงโปร่งด้วยความเอ๋อก่อนหันกลับมามองอีกสองคน แอนโทนี่มองเจมส์ด้วยความเอือม
   

“อีกแล้วนะเจมส์ คราวนี้ใช้ไอติมเป็นเครื่องมืออีกต่างหาก” เจมส์หน้าตาหงุดหงิด
   

“แกไม่ได้ยินเหรอว่าเขาแซะไอติม”
   

“ได้ยิน แต่แกไม่ควรให้ไอติมพูดประโยคนั้นกับเขา เขาเป็นเจ้านายไอติมนะตอนนี้ อย่าลืม” เจมส์บิดปากเบา ๆ พร้อมกับทำหน้าตาเบื่อหน่าย
   

“What? (อะไรเหรอ)” เจมส์พ่นลมหายใจ
   

“เมื่อกี้พี่หลอกให้ติมด่าเจค็อบ พี่ขอโทษนะ แต่เจค็อบเขารู้แหละว่าเป็นพี่ด่า ไม่ใช่ติม” ไอติมงง
   

“แล้วทำไมพี่เจมส์ต้องด่าเจค็อบด้วยเหรอ ไม่ชอบกันเหรอฮะ” เจมส์พยักหน้าทันทีไม่มีหยุดพักคิด
   

“ม้ายเบื้อม้ายเมาน่ะ” แอนโทนี่ว่า ไอติมทำปากว่าอ๋อแบบไม่มีเสียง
   

“I know he is unhappy that ice-cream has a good test result. (ดูก็รู้ว่าเซ็งที่ผลทดสอบไอติมออกมาดี)”
   

“Don’t be the dark person. (อย่ามองโลกมืดไปหน่อยเลยน่า)” แอนโทนี่ปรามเจมส์
   

“เออ พี่เจมส์ฮะ วันนั้นผมมัวแต่ทำงาน ลืมถาม” เจมส์เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ
   

“ถามอะไรเหรอ”
   

“คือผมอยากรู้ เอ้ย ขอโทษฮะ…” ไอติมชะงัก สีหน้าตกใจเล็กๆ


“…คือต้องถามก่อนว่า ผมถามได้มั้ย มันจะเสียมารยาทหรือเปล่า เอ่อ อันที่จริงก็น่าจะเสียมารยาท งั้นผมไม่ได้ถามแล้วก็ได้” ไอติมยิ้มแหะ ๆ เจมส์หัวเราะ แอนโทนี่ที่ลุ้นอยู่ก็ขำไปด้วย


“โอ้ย มาขนาดนี้แล้วก็ถามเถอะ อยากถามเรื่องพี่กับโจอะสิ” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ เจมส์กวักมือขวาขึ้นเป็นเชิงบอกว่าถามมา


“ทำไมพี่เจมส์คบกับโจอะ ในหนังเขาเป็นรับไม่ใช่เหรอ” เจมส์หัวเราะก่อนตอบอย่างอารมณ์ดี


“ก็นอกหนังมันเป็นรุกให้พี่ไง คือมันก็เป็นรับมาตลอดอะ แต่มันบอกว่ามันชอบพี่ ตัดใจไม่ได้ เลยยอมรุกให้พี่คนเดียว แต่มันก็คงนึกถึงความเสียวเวลาโดนกระทำ เลยมาเล่นหนังโป๊”


“แล้วพี่เจมส์ทำไมยอมด้วยอะ”


“แล้วแต่มุมมองคน สำหรับพี่พี่ว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ อีกอย่างปลอดภัยด้วย ดีกว่ามันแอบนอกกายนอกใจ มาทางนี้ยังดีกว่า พวกในวงการแบบนี้เขาสะอาดกว่าเรา ๆ อีกนะ และสำคัญสุดคือมันได้ตังค์ ก็ให้มันทำไปเถอะ ความสุขทางกายของมันที่พี่ให้ไม่ได้” ไอติมคิดตามแล้วก็พยักหน้าลงช้า ๆ ไม่ได้งงหรือเข้าใจอะไรยาก เพราะก็เข้าใจในมุมมองของพี่เจมส์กับแฟนเขาว่าเขาคิดเขามองกันแบบนี้


“หูย นึกภาพไม่ออกเลยเวลาโจรุกพี่เจมส์” เจมส์ขยิบตาซ้าย แอนโทนี่หัวเราะ


“แซ่บไม่แพ้ตอนมันเป็นรับแหละ” ไอติมยิ้มคิกคัก


“พี่เจมส์ไม่เคยรุกเขาเลยใช่ป้ะ” เจมส์ส่ายหัว หน้าตาว่าไม่เอา


“เคยจะลอง แต่ก็ทำไม่ได้อะ พี่มันสายรับไปแล้ว ให้ติมรุกไอ้ไบรอั้น ติมทำได้ป้ะล่ะ” ไอติมส่ายหัวหน้าตั้งทันที แอนโทนี่หัวเราะเสียงดัง เจมส์เองก็ขำไปด้วย


“โพสิชั่นผมชัดเจนฮะ” ไอติมยิ้มกว้าง


“แต่อย่างที่บอกอะ มันเป็นเรื่องของมุมมอง นักแสดงเกย์หลายคนเขาก็สลับโพสิชั่นได้ชิล ๆ นะ เขาไม่ได้มองว่าใครผัวใครเมีย แต่เขามองว่าเขาเป็นคู่รักกัน” ไอติมพยักหน้าเข้าใจ


“เถ่อรุกไอ่ไบร่อั้นไม่เหมาะหลอก ไอ่ไบร่อันก่อไม่เหมาะเป่นรับเช่นกั้น” ทั้งสามคนหัวเราะ ไอติมอ้าปากกว้างและส่งเสียงร้องประหลาดเมื่อคิดภาพไบรอั้นเป็นรับให้ตัวเอง


“It’s like a puppy try to have sex with a bull. I did not mean you are a dog. (เหมือนลูกหมาพยายามมีเซ็กซ์กับกระทิงอะ พี่ไม่ได้ว่าติมเป็นหมานะ)” ไอติมไม่ได้คิดไปในทางไม่ดี ยังหัวเราะกับคำเปรียบเปรยของเจมส์อยู่เลย


“I know. (ผมรู้ฮะ)” ไอติมหัวเราะไหล่สั่นเมื่อนึกภาพไอ้ปีโป้พยายามคร่อมไอ้จัมโบ้
   
V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.26 : When we are apart. :23.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 23-02-2019 21:07:43
V
v
v


ตกกลางคืนหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมนอนเสร็จ ไอติมก็มานั่งมองวิวท้องฟ้ายามค่ำคืนตรงริมสระน้ำบนเก้าอี้อาบแดด ในมือถือโทรศัพท์เอาไว้เผื่อแม่กับน้าแพนจะโทรหา แต่ไอติมไม่ได้ตั้งตารอขนาดนั้น เมื่อวานนี้ก็เพิ่งคุยกันไป ถ้าวันนี้สองคนนั้นจะไม่ว่างไอติมก็ไม่ได้เรียกร้อง ก็มีคิดถึงบ้างนิดหน่อย แต่เพราะไม่ได้ขาดการติดต่อกันไปเลย ไอติมเลยยังรู้สึกว่าโอเค เหมือนเดนนี่ที่เพิ่งโทรมาด่าเขาเมื่อตอนกลางวันแล้วก็ปิดท้ายว่าคิดถึง
   

ไอติมรู้ว่าพรุ่งนี้แซ็คก็กลับแล้ว แต่ก็คิดถึงขวัญใจตัวเอง ไอติมเข้าใจว่าเขาไปทำงาน เลยไม่ได้โทรหาหรือส่งข้อความมา และไอติมก็ไม่อยากรบกวนช่วงเวลาส่วนตัวของเขากับเพื่อน ๆ ด้วย
   

“Hey,” ไอติมหันไปมองตามเสียงนั้น หนุ่มหัวหยิกลอนอ่อนสีแดงเดินมาทางที่ไอติมนั่งอยู่พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อ ๆ นั่น ไอติมคลี่ยิ้มตอบ
   

“Your shirt is cute. (เสื้อน่ารักดีนะ)” แคสโทรลชี้เสื้อยืดไอติมพร้อมกับนั่งลง ไอติมก้มลงมองเสื้อยืดสีขาวลายมิกกี้เม้าส์แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มขำกับแคสโทรล
   

“You don’t go back home sometime เหรอ (คุณไม่กลับบ้านบางเวลาเหรอ)” คนถูกถามส่ายหัว
   

“I’m happy to be here. Jake is kind with me. (ฉันมีความสุขดีที่อยู่นี่ เจคใจดีกับฉันน่ะ)” ไอติมทำปากว่าอ้อและพยักหน้าสองสามที
   

“So you will are our roommate. (งั้นคุณจะเป็นรูมเมทของเรา)” แคสโทรลพยักหน้าพร้อมกับคลี่ยิ้ม
   

“Thank you for choosing me. (ขอบคุณที่เลือกฉันนะ)” ไอติมยิ้ม
   

“You good,” หนุ่มหัวหยิกสีแดงยิ้มบาง ไอติมมองอีกคนด้วยความชั่งใจ
   

“Why you play porn. (ทำไมคุณเล่นหนังโป๊)”
   

“Because I want. (เพราะฉันอยากเล่น)” แคสโทรลคลี่ยิ้มหล่อ ไอติมยิ้มกว้างและขำเสียงเบา แคสโทรลมองหน้าไอติมและมองด้วยความชื่นชม
   

“You have a good sense, I love to work with you. (นายมีเซ้นส์ที่ดีนะ ฉันชอบที่ได้ทำงานกับนาย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ แปบนึงก่อนจะยิ้มดีใจ
   

“Thank you.” แคสโทรลโน้มตัวมาจูบปากไอติม หนุ่มเอเชียสะดุ้งและเบิกตากว้าง พออีกคนถอนตัวกลับไปนั่งหัวเราะ ไอติมก็มองผู้จู่โจมเมื่อกี้นี้ตาค้าง กำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่าง หางตาก็เห็นเงาไว ๆ จากในบ้าน แต่พอมองไปก็ไม่เห็นอะไร
   

“Thank you kiss. (จูบขอบคุณน่ะ)” ไอติมกะพริบตา นึกถึงเลโอที่บอกว่าจูบคือวัฒนธรรมของบ้านเขา แต่พอไอติมเจอแคสโทรลที่เป็นหนุ่มอเมริกันแท้ ๆ จูบแบบนี้ ก็เลยคิดว่าบ้านเลโอไม่ได้มีวัฒนธรรมนี้อยู่จริงหรอก 
   

“And are you Bryan’s boyfriend? (แล้วนายเป็นแฟนไบรอั้นรึเปล่า)” ไอติมส่ายหัว
   

“No. (เปล่าฮะ)”
   

“What I saw on the set feel like you two are in a relationship. (ที่ฉันเห็นในเซ็ทดูเหมือนนายสองคนกำลังคบกัน)”
   

“ฮะ?” ไอติมถามด้วยความงงเพราะไม่เข้าใจคำศัพท์
   

“Boyfriend. You and Bryan. (แฟนน่ะ นายกับไบรอั้น)”
   

“อ๋อ No, no.” ไอติมสั่นหัวอีกที แคสโทรลยิ้มและพยักหน้า
   

“You came from Thailand? (นายมาจากประเทศไทยใช่มั้ย)”
   

“อื้อ!” ไอติมยิ้ม แล้วแคสโทรลก็ชวนไอติมคุย ซึ่งไอติมชอบ ไม่ใช่ชอบแคสโทรลหรือชอบที่ได้คุยกับผู้ชาย แต่ชอบที่จะได้ฝึกภาษาอังกฤษไปในตัว


   
   
   คุยกันจนถึงสี่ทุ่มกว่า ๆ ไอติมก็แยกตัวจากแคสโทรลกลับเข้าห้องนอนของแซ็ค นั่งมองไปรอบห้องด้วยความเหงาและความคิดถึงเจ้าของห้อง ไอติมหันไปมองสร้อยจี้กระต่ายที่แซ็คถอดแขวนไว้บนตะขอผนังห้องใกล้กับประตูเนื่องด้วยเขากลัวจะทำหล่นหายเลยถอดไว้ที่นี่ ไอติมทำปากยื่นแล้วถอนหายใจ ล้มตัวลงนอนและหยิบโทรศัพท์มากดเล่น
   

เปิดดูภาพต่าง ๆ ของตัวเองกับแซ็คในมือถือไปเรื่อยเปื่อย เจอทั้งภาพปกติและภาพวาบหวิว ไอติมเลื่อนไปเจอภาพแซ็คใส่กางเกงว่ายน้ำสีเหลืองทรงสามเหลี่ยมที่ตัวเองเป็นคนถ่ายแล้วก็กัดริมฝีปากล่าง ในหัวนึกถึงภาพตัวเองกับแซ็คบนเตียงจากครั้งที่ผ่าน ๆ มา ไอติมบิดขาเข้าหากัน ไอติมแท่งค่อย ๆ ขยายตัวขึ้นทีละนิด พอเลื่อนภาพไปเรื่อย ๆ ก็เจอภาพเลโอในชุดกางเกงว่ายน้ำสีน้ำเงินตัดผิวสีเข้มมันเลื่อมของเขา


ภาพตัวเองกับอีกสองหนุ่มฟัดเหวี่ยงกันบนเตียงที่ทะเลและที่บ้านปรากฏขึ้นในหัว ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ กดออกจากอัลบั้มภาพในโทรศัพท์ ปิดโทรศัพท์และวางไว้บนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียง ตะแคงข้างนอนมองสร้อยคอสีทองอ่อนบนผนังตาใส แต่หัวใจเต้นตุบ ๆ ร่างกายร้อนวูบวาบ


ไอติมข่มตาให้หลับ แม้ไอติมแข็งยังไม่อ่อนตัวลงก็ตาม







เช้าวันถัดมาไอติมออกมาทำอาหารเช้าในครัวคนเดียวเงียบ ๆ เพราะความเกรงใจรูมเมทคนอื่น ๆ เลยไม่อยากทำอะไรยุ่งยาก กลัวจะทำให้เกิดเสียงดังหรือกลิ่นอาหารฟุ้งแรงเกินไป ก็เลยเลือกทำหมูทอดเกลือง่าย ๆ เพื่อความรวดเร็ว และสะดวกในการล้างอุปกรณ์ ตอนกำลังนั่งกินอยู่ที่โต๊ะอาหารคนเดียว แมนดี้เดินผ่านและมองจิกเขา แต่ไอติมก็ทำเหมือนทุกครั้งคือนิ่งตีมึน จนอีกฝ่ายเดินหายไปเอง และไอติมไม่สนใจด้วยว่าทำไมเธอถึงมีพฤติกรรมกับเขาแบบนี้ อยากเป็นอะไรก็เป็นไปเล้ยยย


พอกินข้าวเช้าเรียบร้อย ล้างอุปกรณ์ต่าง ๆ เสร็จ ไอติมก็เดินเข้าไปในห้องนอน หยิบแม็คบุ๊กกับสมุดโน้ตจดงานออกไปนั่งคิดงานตรงริมสระน้ำ ถึงแม้จะเหงา ๆ หน่อยเพราะรู้สึกว่าเหมือนอยู่คนเดียว แต่พอได้ใช้สมองไปกับงาน ก็ทำให้ไอติมลืมเรื่องความเหงา ลืมความคิดถึงที่มีต่อแซ็คไปได้เยอะ


ไอติมเปิดดูรูปนางเอกคนใหม่ของค่ายที่ลูคัสส่งมาให้ดูผ่านอีเมล เธอมีผมสั้นสีบลอนด์ทอง ผิวสีแทนสวยงาม กล้ามท้องเข็งแรง เอวคอดเว้าดั่งนาฬิกาทราย ที่สำคัญคือหน้าตาสวย ไอติมย่นคิ้วงงนิดหน่อยที่คนสวย ๆ ขนาดนี้มาเข้าวงการหนังโป๊ เพราะดูจากรูปที่ส่งมาและถ้าไม่รีทัชจนเกินไป หากจะไปเป็นนางแบบ ไอติมเชื่อว่าเธอจะไปได้สวยกับสายอาชีพนั้น


แต่เธออาจจะเหมือนแคสโทรลก็ได้ ที่เล่นหนังโป๊เพราะอยากเล่น หรือตัวเงินอาจจะมากพอจนซื้อเธอมาได้ ไอติมจดไอเดียที่ผุดขึ้นในหัวลงไปในสมุดโน้ต เขียนเป็นข้อ ๆ แล้วค่อยตัดทิ้งหรือเอามารวมกันอีกที ตอนนี้คิดอะไรได้ก็เขียนเก็บไว้ก่อน


‘มันเป็นหนังโป๊เรื่องแรกของไบรอั้นในรอบสิบเดือนที่หายไป และเป็นหนังเดบิวต์ของนางเอกใหม่’


คำพูดของลูคัส (ที่ผ่านการแปลจากแอนโทนี่มาแล้ว) ดังขึ้นในหัว คนนึงหายจากหนังโป๊ไปนานสำหรับการเป็นนักแสดงหนังโป๊ที่มักจะไม่หายกันไปนานขนาดนี้หากยังไม่รีไทร์ กับอีกคนใหม่ในวงการนี้ ไม่เคยผ่านประสบการณ์มาก่อน ไอติมนิ่งคิดตาลอยว่ากำลังเห็นภาพอะไรในหัวบ้างแล้วก็จดลงสมุดโน้ตรัว ๆ มีพักสายตามองวิวสีฟ้า สีเขียวและสีน้ำตาลแห้ง เพื่อไม่ให้เครียดจนเกินไป


ไอติมเปิดดูหนังโป๊ของไบรอั้นในเว็บ ดูแบบคลิกเลื่อน ๆ เพื่อหาไอเดีย แม้จะดูหนังเขาจนบ่อยมากแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นการดูเพื่อหาไอเดียให้งานตัวเอง สิ่งหนึ่ง (ในหลายสิ่ง) ที่ไอติมชื่นชมไบรอั้น เอ้ย แซ็คมาก ๆ คือเขาทำให้นักแสดงหญิงที่ร่วมแสดงด้วยดูฟินจริง ๆ ไม่ใช่แอคติ้งผ่าน ๆ ไป แต่ถ้าถามว่ายังดูเป็นการจัดฉากจนไม่เป็นธรรมชาติมั้ย ก็ยังเป็นอยู่ ดีที่ตัวนักแสดงดีด้วยตัวเองจริงๆ


“Rabbitch.” ไอติมหันควับไปมองทางต้นเสียงแล้วคลี่ยิ้มกว้าง แววตาเปล่งประกายด้วยความดีใจ


“แซ็คคคค!” ไอติมวางของบนตักลงบนเก้าอี้อาบแดดอีกตัวก่อนลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้ที่ตัวเองนอนอยู่แล้วกระโดดกอดแซ็คที่ยิ้มขำ ฝรั่งตัวโตยืนรับร่างของกระต่ายที่กระโดดมาเกาะเขาได้อย่างมั่นคง สองแขนกอดคอเขาแน่น สองขาเกี่ยวเอวเขาแน่นไม่แพ้กัน


“Miss you, miss you, miss you. (คิดถึงคุณ คิดถึงคุณ คิดถึงคุณ)” กระต่ายตัวจ้อยกระซิบข้างหูเสียงงึมงำ ก่อนตามมาด้วยดึงหน้าออกมาหอมแก้มสองข้างของแซ็คไปหลายที จนเจ้าของแก้มหัวเราะตาหยี ไอติมเลยใช้ปากจูบไปทั่วหน้า แซ็คหลับตาและปล่อยให้กระต่ายดมไปทั่วหน้าตัวเอง


“หมั่วๆๆๆ”


“Okay, okay, I know now how much you miss me. (โอเค โอเค ฉันรู้แล้วว่านายคิดถึงฉันมากแค่ไหน)” แซ็คค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เห็นกระต่ายตัวขาวยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเปล่งกระกายวิบวับ ท่าทีดูตื่นเต้น ราวกับสุนัขดีใจที่ได้เจอเจ้าของหลังจากไม่เจอกันมานาน แต่อันนี้เป็นกระต่ายดีใจที่ได้เจอเจ้าของ แซ็คหัวเราะเมื่อคิดแบบนั้น


“I miss you!” ไอติมบอกเสียงใส ริมฝีปากสีแดงห่อเป็นจีบ แซ็คยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บปากจู๋แดง ๆ นั่นหนึ่งที ไอติมยิ้มคิกคัก ขยับไหล่สองข้างดุ๊กดิ๊กไปมาด้วยความดีใจ


“Are you a good boy while I am not here? (เป็นเด็กดีรึเปล่าระหว่างที่ฉันไม่อยู่นี่)” ไอติมยิ้มแป้นตาใส พยักหน้าด้วยความภูมิใจ


“I am good boy! (ผมเป็นเด็กดี!)” แซ็คหรี่ตามองเจ้ากระต่าย ก่อนจะเดินไปตรงปลายเก้าอี้อาบแดดตัวที่ไอติมนั่ง ค่อย ๆ นั่งลงทั้งที่ยังมีลิงกระต่ายเกาะอยู่ ไอติมปล่อยขาออกบั้นเอวแซ็คแล้วยืดขาสองข้างไปบนเก้าอี้อาบแดดตัวยาว


“Are you sure? (แน่ใจเหรอ)”


“Sure!” แซ็คยิ้มมุมปากซ้าย มือขวาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้น ไอติมมองรอยสักบนแขนขวาของไบรอั้นแล้วยิ้ม ยื่นนิ้วชี้ซ้ายไปลูบเหมือนเด็ก


“And what about this? (แล้วนี่คืออะไร)” แซ็คหันหน้าจอให้ไอติมดู กระต่ายตัวขาวเพ่งมองหน้าจอโทรศัพท์ของแซ็คแปบหนึ่ง ก่อนทำปากเป็นรูปตัวโอ


“โอ๊ะ?!” แซ็คยิ้มเหี้ยม หรี่ตามองเจ้าเด็กลามกที่นั่งคร่อมเขาอยู่


“Are you cheating on me? (นายนอกใจฉันงั้นเหรอ)” ไอติมจำคำนี้ได้ว่าแปลว่าอะไรเลยส่ายหัวหน้าตั้ง


“No! Castrol kiss thank you. (ไม่! แคสโทรจูบขอบคุณ)” แซ็ควางโทรศัพท์ไว้บนเก้าอี้อาบแดด หันกลับมามองไอติมตาวาววับ


“Did you sleep with him? I mean have sex. (นอนกับเขารึเปล่า ฉันหมายถึงมีเซ็กซ์)” ไอติมส่ายหัว


“And do you want to have sex with him? (แล้วอยากมีเซ็กซ์กับเขารึเปล่า)” ไอติมมองแซ็คตาโต แล้วดวงหน้าขาว ๆ นั่นก็เริ่มแดงระเรื่อ แซ็คยิ้มเหี้ยมกว่าเดิม


“The rabbitch will be punish. Do you remember how punishment it is? (กระต่ายแรดต้องถูกลงโทษ จำได้มั้ยว่าการลงโทษเป็นยังไง)” ไอติมนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ฟันบนจะขบริมฝีปากสีแดงด้านล่างแน่น แซ็คมองไอติมตาลุกโชน







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:


ลบข้อความโดย ผู้ดูแลห้อง Boy's love story 


 :mew1:



ขอบคุณพลังบวกและกำลังใจดี ๆ ที่มีให้กันนะคะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.26 : When we are apart. :23.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-02-2019 21:29:34
 :katai1:รอดูกระต่ายโดนลงโทษ ง่อวววว อิอิ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.26 : When we are apart. :23.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 23-02-2019 21:49:33
ใครคือปาปาราสซี่    :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.26 : When we are apart. :23.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-02-2019 01:46:58
ลงโทษวิธีใดกันนะ อยากรู้ ๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.26 : When we are apart. :23.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 24-02-2019 06:41:37
ดูเจคไม่ชอบไอติมเพราะความใช้เซนส์มากกว่า
และงานออกมาดีมากด้วย ทำให้จะเลิกจ้างเลยก็ยาก

ไอติมน่ารัก ทะเล้น ตีมึนเก่งมากด้วยนะคนเรา
เอ็นดูไอติมนะ ต้องมาอยู่บ้านคนอื่นที่ไม่คุ้นเคย
ยิ่งตอนต้องอยู่คนเดียวด้วยแล้ว สงสารน้องเลย

แซคกลับมาแล้ว และเตรียมลงโทษไอติมไว้แล้วด้วย
ชอบโมเมนท์แบบนี้ค่ะ ถึงจะไม่ชัดเจนมาก แต่หวงมาก
ชอบเวลาแหย่กัน แล้วไอติมเหมือนเด็กน้อย

ขนาดอยู่ในบ้านนะ ยังมีคนหวังดีบอกให้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.26 : When we are apart. :23.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-02-2019 07:37:59
อยากรู้จริงๆ ทำไมยัยแมนดี้ถึงไม่ชอบน้องติม อยู่คนเดียวเหงาๆ น่าสงสารจริง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.26 : When we are apart. :23.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 24-02-2019 16:46:33
น้องกระติมน่ารักมากกก รอดู the good boy's punishment นะคะ
 :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.26 : When we are apart. :23.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 26-02-2019 00:06:31
เย้ๆๆ เจ้าของกระต่ายบิชกลับมาแล้วววว :sad4:

ไม่ชอบความรู้สึกที่ติมอยู่บ้านคนเดียวเลย รู้สึกว่าลูกเราไม่ปลอดภัย

เหมือนลูกอยู่ในดงงูเห่า น้องติมลูกแม่!!! :o12:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.26 : When we are apart. :23.02.19
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 26-02-2019 02:45:56
ไม่ได้เป็นแฟนกันนะแต่ตาแซ๊คก็มีความหวงน้อง (ใช่มั้ย?นะ) ส่วนไอติมน่าจะรู้สึกผูกพันธ์กะอิพี่มันนิด ๆ แหละ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.27 : Master. : 02.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 02-03-2019 19:50:09

Fall in lust - Chapter 27 :: Master. (เจ้านาย)





   “แฮะๆ โนนนน คิๆ ฮือออๆ โนๆ” ไอติมใช้สองมือดันหน้าแซ็คเอาไว้ ฝรั่งหัวสีน้ำตาลเข้มที่ยังมีสีทองแซมพยายามดันหน้าเข้าหากระต่ายตัวจ้อยเพื่อไซ้คอ ร่างใหญ่หนานอนทับตัวร่างผอมบาง คนข้างล่างยกสองขาตั้งฉาก ปลายนิ้วเท้าเกร็งเพราะความตื่นเต้นและเสียวูบวาบว่าจะโดนฝรั่งจับลงโทษสำเร็จหรือไม่
   

“You are not a good boy. You must be punished. (นายเป็นเด็กไม่ดี นายต้องถูกลงโทษ)” แซ็คจับสองมือไอติมขึ้นขึงบนเหนือหัวของเจ้าตัว ไอติมหดคอและยิ้มทะเล้น
   

“Who send picture to you? (ใครส่งรูปให้คุณ)”
   

“I have a spy. (ฉันมีสายลับ)” แซ็คก้มลงซุกซอกคอด้านซ้ายของไอติม คนตัวเล็กพยายามหดคอไว้แต่ก็ไม่สำเร็จ โดนคนตัวใหญ่บุกไซ้จนเข้ายึดครองจนได้
   

“อะๆๆ คิๆๆ” แซ็คใช้หนวดถูคอขาวรัว ๆ จนไอติมรู้สึกระคายเคืองและเจ็บนิดๆ
   

“Don’t you miss your carrot, huh? (ไม่คิดถึงแคร็อทนายรึไง ฮึ)” แซ็คถามเสียงอู้อี้ทั้งที่หน้ายังซุกไซ้คอไอติมไม่หยุด
   

“Miss! Miss! (คิดถึง! คิดถึง!)” ไอติมหันหน้าไปฝั่งที่แซ็คกำลังดูดคอตัวเองอยู่ พยายามเอาคางกดลงบนหัวของฝรั่ง สักพักหนึ่งพ่อตาสีเทาอ่อนก็ยกหน้าออกมามองเขา ไอติมมองรอยคล้ำจาง ๆ ใต้ตาของแซ็คด้วยความตกใจเบาๆ
   

“โอ๊ะ?! You don’t sleep? (คุณไม่นอนเหรอ)”
   

“Sleep, but not much. (นอน แต่ไม่เยอะ)”
   

“You look ทายเอ้อ” ไอติมพยายามออกเสียงให้ถูกต้อง แซ็คขำกับการออกเสียงของเด็กลามก
   

“Yes.” ไอติมยิ้มกริ่ม มองสำรวจใบหน้าที่ยังไม่ถึงขั้นหมองหรือหยาบกร้าน มีแค่ตรงดวงตาที่ออกอาการคล้ำนิด ๆ คงเพราะอดนอนจริงๆ
   

“Swimming มั้ย” แซ็คที่ได้ยินคำนี้บ่อยจนเข้าใจแล้วว่ามันคือการถามความเห็นในภาษาไทย เขานิ่งคิดพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้า
   

“Good idea. (เข้าท่า)” แซ็คดันตัวลุกขึ้นนั่งช้า ๆ ไอติมใช้สองมือดันตัวเองลุกขึ้นตาม ฝรั่งตัวโตถอดเสื้อกล้ามบาสเก็ตบอลที่ใส่อยู่ออก ก่อนตามด้วยถอดกางเกงขาสั้นจนเหลือแต่กางเกงชั้นในสีดำของแบรนด์ดัง
   

“You don’t? (นายไม่เล่นเหรอ)”
   

“You want? (คุณต้องการมั้ยล่ะ)” แซ็คหรี่ตากับลูกเล่นของเจ้าเด็กลามก กระต่ายตัวขาวนั่งยิ้มคิกคักสนุกสนานกับการได้ต่อล้อต่อเถียง
   

“No. (ไม่)” ว่าจบก็เดินลงไปในสระว่ายน้ำ พ้นชายหาดจำลองไปได้แซ็คก็มุดหายไปในน้ำพักหนึ่งก่อนโผล่ขึ้นมา
   

“Come one, rabbitch. (มานี่กระต่ายแรด)” แซ็คใช้มือขวาเสยผมเปียกขึ้น ไอติมยิ้ม เขยิบก้นออกจากเก้าอี้อาบแดดไปยืนบนพื้น ถอดเสื้อยืดออกจากตัว และตามด้วยถอดกางเกงจนเหลือแต่กางเกงชั้นในสีขาว ก้าวเท้าเดินลงไปในสระว่ายน้ำด้วยความไม่คุ้นเคย แต่เห็นว่าจุดที่แซ็คยืนอยู่นั้นลึกถึงอกอีกฝ่าย ไอติมเลยเดาว่าตัวเองน่าจะเกือบมิดหัว
   

“ฮุ้ยยย” ไอติมครางด้วยความตื่นเต้นเมื่อลงมาในน้ำสีฟ้าใสที่เห็นพื้นด้านล่างชัดแจ๋ว ค่อย ๆ เดินแบบบัลเล่ต์ไปหาขวัญใจตัวเองที่ยืนรออยู่
   

“นี่!” ไอติมพุ่งตัวเข้าไปกอดคอแซ็ค และลองหยั่งเท้ากับพื้นสระ พบว่าถ้าวางเต็มเท้าก็คือท่วมริมฝีปากบน ไอติมเลยเขย่งเท้าเอาไว้
   

“It’s not weird, a rabbit has short legs. (ไม่แปลกหรอก กระต่ายขามันสั้น)” แซ็คยิ้มมุมปาก ไอติมเห็นอีกคนยิ้มก็เลยยิ้มตาม ยื่นหน้าไปจุ๊บปากสีแดงอ่อนแล้วหัวเราะฮึ ๆ ในลำคอเพราะรู้สึกเสียวกับความลึกของน้ำ แซ็คยื่นหน้าเข้าหาลำคอขาว ๆ แล้วดูดเนื้อตรงคอของไอติมทีจนขึ้นสีแดงจาง ๆ พอดึงหน้าออกก็เห็นไอติมยิ้มให้ ไอติมยื่นหน้าไปทำบ้างแต่ก็เหมือนเด็กเอาริมฝีปากงับเนื้อพ่อมากกว่า แซ็คขำเสียงหึ ๆ ออกทางจมูกแผ่วเบา ไอติมดึงหน้าออกจากคอแซ็คแล้วก็ยักไหล่ยึกยักไปมา
   

“Why you don’t sleep more. You will look like panda if you don’t sleep. (ทำไมคุณไม่นอนมาก คุณจะดูเหมือนแพนด้าถ้าคุณไม่นอน)” แซ็คพาไอติมเดินถอยหลัง พอเข้าจุดที่ลึกไอติมก็ยิ้มตื่นเต้นพร้อมกับตวัดสองขารอบเอวแซ็คทันทีเพราะขาตัวเองเริ่มยืนไม่ถึงพื้นสระแล้ว
   

“What is panda? (อะไรคือแพนด้า)”
   

“Bear. (หมี)” แซ็คหัวเราะปากกว้างตาหยี เขาน่ะรู้จักไอ้หมีตัวนี้อยู่แล้ว แค่อยากรู้ว่ากระต่ายลามกจะบรรยายให้เขารู้ยังไง ไอติมเห็นแซ็คหัวเราะก็ยิ้มกว้างตาแป๋ว ชอบที่ได้เห็นแซ็คยิ้มกับหัวเราะ กระต่ายตัวจ้อยยื่นหน้าไปหอมใต้คางของแซ็คหนึ่งฟอด กลิ่นเนื้อและความรู้สึกสากจากเคราติดกลับมา 
   

“We are going to have the Christmas party next week. (เรากำลังจะมีปาร์ตี้คริสต์มาสอาทิตย์หน้านะ)” ไอติมได้ยินคำว่าคริสต์มาสก็ทำหน้าตื่นเต้น
   

“คริสต์มาส?!” แซ็คพยักหน้า
   

“Woww, and we who? (ว้าววว แล้วพวกเราใคร?)”
   

“Lukas, Anthony, Dustin, Joe and James, and some of my friends from stripper team. (ลูคัส แอนโทนี่ ดัสติน โจกับเจมส์ และเพื่อนฉันบางคนจากทีมเต้น)” ไอติมตัดแค่ชื่อเจมส์ หลังจากนั้นก็ไม่รู้เรื่องแล้ว
   

“I like Christmas I used to dance in Christmas day at school. (ผมชอบคริสต์มาส ผมเคยเต้นในวันคริสต์มาสที่โรงเรียน)” แซ็คพาไอติมเดินไปจุดตื้นของสระ ไอติมเห็นว่าหน้าอกแซ็คโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเลยวางขาลง
   

“Dance what? (เต้นอะไร)”
   

“จิงกาเบล จิงกาเบล~” ไอติมร้องเป็นเพลงตามจังหวะจริง แซ็คหัวเราะกับไอ้ท่าทางเอียงหัวดุ๊กดิ๊กไปมา ไอติมยิ้มเขินแล้วห่อไหล่ก่อนยื่นหน้าไปจูบปากของแซ็ค ฝรั่งตัวโตมองหน้าไอติมอย่างอ่อนโยน สองเท้าค่อย ๆ พาร่างไอติมเดินไปใกล้กับโขดหิน ก่อนจะวางร่างไอติมไว้บนขั้นบันไดสีหาดทรายขั้นที่สองในสระว่ายน้ำ
   

ไอติมอ้าขาให้แซ็คเดินเข้ามายืนหว่างขาตัวเอง แซ็คมองหน้าไอติมตาฉ่ำ สองมือดึงกางเกงชั้นในของไอติมออกจากขา ไอติมแท่งตั้งโด่ แซ็คก้มลงมองแล้วคลี่ยิ้มเยิ้มก่อนเงยหน้ากลับไปมองไอติม เขาวางกางเกงชั้นในไอติมไว้บนริมสระ มือขวายื่นไปจับแก่นกายไอติม เจ้าของแก่นกายเอาสองมือวางพื้นบันไดค้ำร่างไว้ หัวใจเต้นตุบตับตื่นเต้น ความอุ่นของมือใหญ่หนาแผ่ไปรอบไอติมแท่ง
   

“อะ!” ไอติมหุบขาพร้อมกับปรือตาด้วยความเสียวเมื่อแซ็คใช้นิ้วโป้งบี้ลงตรงร่องของส่วนหัวสีชมพูและกดค้างไว้
   

“อ๊า! อา!”
   

“Spread your legs. (อ้าขาไว้)” แซ็คกระซิบทั้งที่ยังใช้นิ้วโป้งกดตรงนั้นของไอติมเต็มแรง ไอติมหน้าเหยเก หน้าท้องหดเกร็ง สองขาหนีบเข้าหากัน มือซ้ายยกไปจับข้อมือขวาของแซ็คและบีบไว้
   

“อื้อ…” แซ็คมองหน้าไอติมที่ขมวดคิ้วแน่น ห่อปากร้องคราง เปลือกตาปิดแน่นจนหยีแล้วเขาก็คลี่ยิ้ม เขาปล่อยนิ้วโป้งออกจากตรงนั้น ไอติมพ่นลมออกทางปากเฮือกใหญ่ หน้าท้องผ่อนคลายตามจังหวะหายใจ คิ้วคลายออกจากกัน ใบหน้าขาวใสแดงเปล่ง ไอติมเปิดเปลือกตาขึ้นมองแซ็คที่จ้องมองตัวเองอยู่ก็คลี่ยิ้ม
   

“Keep your hands behind, keep still, if you move your hands I will bite on your skin. (เก็บมือไว้ข้างหลัง อยู่นิ่ง ๆ ถ้านายขยับมือ ฉันจะกัดเนื้อนาย)” หัวใจไอติมเต้นตึกตักเมื่อมองแววตาเร่าร้อนของแซ็ค ฝรั่งตัวโตจับสองมือไอติมไปไพล่พลังเจ้าตัวไว้ จัดให้ไอติมกุมมือตัวเองก่อนปล่อยมือออก
   

“Don’t move, okay? (อย่าขยับ โอเคมั้ย)” ไอติมพยักหน้าหนึ่งครั้ง แซ็คยิ้มพอใจ ยื่นหน้าไปไซ้คอด้านขวาของไอติม กระต่ายตัวจ้อยหลับตาพริ้ม ไอติมแท่งแข็งปัก แซ็คดึงหน้าออกจากคอขาว ๆ ก้มลงมองแท่งเนื้อของกระต่าย ดันน้ำลายออกจากปากแล้วปล่อยให้ย้อยลงไปบนหัวสีชมพูน่ารัก ทำแบบนั้นอยู่สองครั้งจนน้ำลายท่วมส่วนหัวแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองไอติมพร้อมกับใช้มือซ้ายกำกระต่ายน้อยไว้ ไอติมยิ้มตื่นเต้น แซ็คยื่นหน้าไปจะจูบไอติม ร่างผอมบางแลบลิ้นออกมา แซ็คดูดลิ้นเล็ก ๆ นั่นช้า ๆ แต่เน้นจนไอติมขนลุกวาบไปทั้งตัว
   

“ตรุก…” ไอติมตาปรือ แลบลิ้นให้แซ็คดูดด้วยความรู้สึกตัวอ่อนยวบยาบ ยกเว้นส่วนเดียวที่แข็งทนทาน และในขณะที่กำลังเพลินกับความเสียวที่แซ็คปรนเปรอให้ ไอติมก็ร้องครางเสียงหลงออกมาจากลำคอเมื่อแซ็คใช้มือขวากดลงบนส่วนหัว
   

“อะ… อื้มมม” ไอติมจะดึงหน้าหนีแต่แซ็คก็ตามไปจูบต่อแล้วมือขวาก็เริ่มหมุนวนตามเข็มนาฬิกาช้า ๆ แต่ว่าลงแรกจนไอติมหน้าเหยเก
   

“อ๊า อ๊า อู๊” ไอติมหันหน้าหนีจูบแซ็คแล้วร้องคราง หน้าท้องหดเกร็ง มองแซ็คด้วยความอ้อนวอน
   

“Hey.” แซ็คแลบลิ้นแล้วยื่นหน้าไปใกล้ไอติม กระต่ายตัวจ้อยที่สีหน้าเสียวและเจ็บยื่นหน้าไปดูดลิ้นแซ็คด้วยอาการสั่นเพราะความเสียว มือขวาของแซ็คเริ่มหมุนวนถี่ขึ้น ไอติมร้องเสียงเพี้ยนหน้าตาเสียวสุดขีด สองมือที่ไพล่หลังไว้หลุดออกจากกันแล้วยกมาจับข้อมือขวาของแซ็ค ขาสองข้างสั่นระริก
   

“ฮื่อ ฮื่อ เสียว พลีส พลีส” แซ็คมองไอติมตาเยิ้มและยิ้มเมาหน่อยๆ
   

“You break the rule and remember what I said? (นายแหกกฎ แล้วจำได้มั้ยว่าฉันบอกว่าอะไร)” ไอติมที่หายใจครางเหนื่อยมองหน้าแซ็คอย่างงุนงง แซ็คยิ้มเหี้ยมแล้วยื่นหน้าไปซุกคอไอติมก่อนจะอ้าปากขบฟันลงบนคอขาว ไอติมหน้างง หัวใจเต้นตึกตัก ตอนแรกยังไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ แต่สักพักแซ็คออกแรงกัดเพิ่มขึ้น ไอติมถึงได้ร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ
   

“โอ๊ยยย” แซ็คกัดค้างไว้แบบนั้น ไอติมหลับตาแน่นแล้วร้องเสียงสั่น ไอติมยกสองมือขึ้นขยุ้มผมแซ็คและพยายามดึงหัวแซ็คออก แต่อีกฝ่ายยังคงฝังเขี้ยวลงบนคอเขาราวกับเป็นแวมไพร์ ไอติมกำมือบนเส้นผมแซ็คแน่น ตอนที่เจ็บจนเหมือนจะขาดใจแซ็คถึงหยุดกัดแล้วดึงหน้าออกมา
   

“ฮึก…” เสียงสะอื้นใส ๆ ดังขึ้น แซ็คที่มองรอยฟันของตัวเองตรงคอขาว ๆ ชะงักแล้วดึงหน้าตัวเองออกถึงได้เห็นว่าไอติมน้ำตาคลอเบ้าตาอยู่ แต่ริมฝีปากก็ขยับเป็นรอยยิ้มบางเบา
   

“Is it too much? (มันมากเกินไปรึเปล่า)” แซ็คถาม มือซ้ายยกขึ้นลูบหัวไอติม กระต่ายตัวจ้อยยิ้มทั้งที่น้ำตายังปริ่มขอบตา มองแซ็คตาเป็นประกายทั้งเพราะน้ำตาและเพราะความเป็นไอติม แซ็คยิ้มแล้วก้มลงจูบปากไอติม แช่ไว้สักพักก่อนปล่อยออก
   

“You don’t like it? (นายไม่ชอบใช่มั้ย)” ไอติมพยักหน้า พยายามก้มลงมองคอที่โดนกัดแต่ก็มองไม่เห็นเลยหันหน้ากลับไปมองแซ็คต่อ
   

“Hurt more go. (เจ็บมากไป)” แซ็คพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอ่อน
   

“But are you still like if I fuck you hard? (แต่นายยังชอบอยู่ใช่มั้ยถ้าฉันเอานายแรงๆ)” ไอติมยิ้มเขินแล้วก็กดหน้าลงหนึ่งทีอย่างอาย ๆ สักพักก็หัวเราะคิก แซ็คคลี่ยิ้ม ขยับขึ้นไปยืนบนบันไดขั้นที่ไอติมนั่งอยู่ สองมือดันขอบกางเกงชั้นในลงไว้ใต้ลูกกลมกลึง แคร็อทของกระต่ายที่แข็งตัวแบบอ่อน ๆ ถูกจับออกมาข้างนอก ไอติมมองอาหารโปรดตัวเองตาวาว ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้ม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเลื่อนขึ้นมองแปลงแคร็อทที่ทั้งใหญ่และล้ำบึ้ก
   

“Your main course. (อาหารจานหลักของนาย)” แซ็คยักคิ้วพร้อมกับคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงความร้ายกาจเอาไว้
   

“And it could be your snack, too. (และมันก็เป็นขนมกินเล่นได้ด้วย)” ไอติมยิ้มกว้าง ดันตัวจะนั่งคุกเข่า แต่ยังไม่ทันที่เข่าจะถึงพื้น ไอติมก็ตัวลอย
   

“วาาา!” ไอติมครางด้วยความตื่นเต้นเมื่อถูกแซ็คยกตัวขึ้น ก่อนจะถูกจับห้อยหัวลง ช่วงท้องพาดอยู่กับบ่าซ้ายของฝรั่งตัวโต หน้าของไอติมอยู่ตรงแคร็อทพอดี ไอติมหดท้องเพราะเสียววาบแต่ก็ยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น
   

“ฮิๆๆ” ไอติมหัวเราะ มือขวาตีกล้ามท้องแซ็คแปะ ๆ เหมือนเด็ก
   

“Eat it. (กินสิ)” ไอติมยิ้มร่า สองมือจับช่วงสะโพกของไบรอั้น อ้าปากอมแท่งเนื้อของแซ็คเต็มปาก ผงกหัวเข้าออกเป็นจังหวะค่อนข้างเร็ว แซ็คกัดฟันแน่นและร้องซี๊ดผ่านไรฟันเบาๆ
   

ออม ออม ออม
   

ไอติมส่งเสียงระหว่างใช้ปากอมแคร็อทจนขยายตัวเต็มที่อยู่ในปากตัวเอง มือขวาของแซ็คลูบแผ่นหลังเนียนละเอียดจากช่วงหลังคอขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่ก้นเนียนเด้ง แซ็คขยำมือก้นขาว ๆ เต็มมือ ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วฟาดลงเต็มแรง
   

ปับ!!!
   

ไอติมจะดึงปากออกจากแก่นกายของแซ็ค แต่ฝรั่งยื่นมือขวาลงไปกดหัวไอติมไว้แล้วดันแก่นกายเข้าไปในปากไอติมให้ลึกกว่าเดิมจนไอติมขยับขาดิ้นด้วยความทุรนทุราย
   

“อุก!! กุก!!” ไอติมจิกเล็บลงบนเนื้อต้นขาของแซ็ค สองขาตีมั่วซั่วในอากาศ แซ็คปล่อยมือออกจากหัวไอติมแล้วยกมือขึ้นไปตีก้นไอติมซ้ำที่เดิม กระต่ายตัวจ้อยดึงหน้าออกแล้วหอบฮัก น้ำลายไหลย้อยออกจากปาก ไม่รู้จะเลือกเจ็บก้นที่แซ็คฟาดย้ำ ๆ ไม่หยุด หรือจะพยายามสูดเอาอากาศก่อนดี
   

ป้าบ! ป้าบ! ป้าบ!
   

“Suck it! (อม!)” แซ็คสั่งเสียงเข้ม หยุดตีก้นไอติมแล้วยื่นหน้าไปกัดเนื้อก้นขาว ๆ หนึ่งทีให้ไอติมร้องอื้ออ้าและขมวดคิ้วระหว่างที่อมแคร็อทอยู่ในปาก
   

“Keep sucking. (อย่าหยุดนะ)” แซ็คสั่งในขณะที่หมุนตัวก้าวเท้าเดินไปตามขอบสระทั้งที่ไอติมยังพาดบ่าและอมของตัวเองอยู่ เขาก้าวเดินช้า ๆ และถ้าไอติมทำท่าจะหยุดก็จะยื่นมือไปกดหัวไอติมเพื่อให้ปากของกระต่ายกลืนแคร็อทเข้าไปลึก ๆ จนร่างที่ห้อยหัวอยู่สำลักไปหลายที
   

“Give me the phone. (เอาโทรศัพท์ให้ฉัน)” ไอติมปล่อยปากออกจากแก่นกายแซ็ค ยกหัวขึ้นมองข้างหน้า เห็นของตัวเองวางอยู่บนเก้าอี้อาบแดดเลยยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์บนสมุดโน้ตมา กดปลดล็อคให้แซ็คเสร็จสรรพก่อนจะยื่นแขนไปด้านบน แซ็คหยิบไปจากมือไอติมและไม่ลืมที่จะใช้มือกดหัวไอติมอีกทีเพื่อให้เด็กลามกอมให้ตัวเอง    
   

“Yeah, good.” แซ็คคราง หน้าตาเคลิ้มด้วยความเสียวตอนที่ไอติมใช้ลิ้นเลียร่องตรงกลางของหัวสีชมพู   
   

ฝรั่งตัวโตที่มีเด็กหนุ่มตัวเล็กพาดบ่าหัวห้อยเดินกลับไปที่เดิมอย่างช้า ๆ มือขวาถือโทรศัพท์ถ่ายคลิปภาพที่ไอติมกำลังใช้ปากใช้ลิ้นกับความเป็นชายตัวเอง เขาสูดปากเป็นระยะ ๆ ตามความเสียวที่ไอติมปรนเปรอให้ พักนึงไอติมที่หน้าแดงจัดแล้วก็หยุดใช้ปากแล้วก็มองตาเขาทั้งที่หัวยังห้อยอยู่
   

“I, I confuse head. (ผม ผมสับสนหัว)” ไอติมที่ห้อยหัวมานานเริ่มรู้สึกเวียนหัวเลยพยายามบอกแซ็คว่าไม่ไหวแล้ว ฝรั่งตัวใหญ่เข้าใจก็เลยจับตัวไอติมออกจากบ่าตัวเอง และจัดการอุ้มพลิกตัวกระต่ายไปยืนโงนเงนบนพื้น ไอติมรู้สึกว่าโลกหมุน ยังยืนไม่มั่นคง แต่ไม่นานก็โดนแซ็คดันไหล่ให้นั่งลงคุกเข่า และเอาแก่นกายไปจ่อปาก ไอติมอ้าปากแบบงง ๆ แซ็คดันของตัวเองเข้าไปในโพรงปาก มือซ้ายยกบีบจมูกไอติม ดันแท่งเนื้อเข้าไปให้ลึกและแช่ไว้นิ่ง ๆ มือขวายกโทรศัพท์ถ่ายหน้าไอติมช็อตนั้น
   

“อู้! อู้!” ไอติมครางประท้วง มือยกขึ้นลูบกล้ามท้องแซ็คไปมาอย่างไร้จุดหมาย เพราะยังไม่ทันหายมึนเลยสั่งการอะไรไม่ค่อยจะถูก
   

“อ้อ!” ไอติมดันท้องแซ็ค พยายามดันออก น้ำตาไหลออกทางหาตา น้ำลายทะลักออกทางมุมปาก ใบหน้าขาวแดงจัด ไอติมมองแซ็คด้วยความอ้อนวอน แซ็คมองเห็นสายตานั้นผ่านหน้าจอโทรศัพท์ก็ยิ้มพอใจก่อนจะดึงแก่นกายตัวเองออก ไอติมไอค่อกแค่ก สองมือยันพื้นริมสระน้ำ ใบหน้าก้มลงและหายใจเหนื่อยหอบ อกกระเพื่อมหนักหน่วง
   

“Show me your face. (เอาหน้ามานี่)” ไอติมยังคงนั่งอ้าปากหอบน้ำลายไหลยืดอยู่เหมือนเดิม แซ็คยื่นมือซ้ายไปจิกผมไอติม ดึงผมด้านหลังของเจ้ากระต่ายให้ใบหน้าแหงนขึ้น หน้าไอติมกระตุกเพราะความเจ็บ แซ็คเขยิบเบี่ยงตัวเล็กน้อยแล้วก็เอาแท่งเนื้อถูร่องปากสีแดงเป็นแนวขวาง ไอติมแลบลิ้นออกมาเลียอย่างหมดแรง
   

“You love your carrot, huh? You love it? Love it? Good boy. (รักแคร็อทของตัวเองมั้ย ฮึ รักมันมั้ย รักมั้ย เด็กดี)” แซ็คคลี่ยิ้มพอใจเมื่อไอติมพยักหน้าทั้งที่ตาปรือด้วยความอ่อนแรง เขาปล่อยมือซ้ายออกจากผมไอติม จิ้มหน้าจอให้หน้ากล้องพลิกมาอยู่จอด้านหน้า เดินเอาโทรศัพท์ไปวางไว้บนม้านั่งตัวยาวแล้วหันกลับมาฉุดไอติมให้ยืนขึ้นทั้งที่เจ้าตัวเพิ่งจะหายเหนื่อย
   

“You see your face in phone? (เห็นหน้าตัวเองในโทรศัพท์มั้ย)” แซ็คกระซิบถามเสียงหื่นกระหายพร้อมกับพ่นน้ำลายใส่ปลายนิ้วและเอาไปแย่ตรงรูก้นไอติม
   

“อื้อ” ไอติมตอบก่อนจะอ้าปากหวอ เปลือกตาปิดพริ้มเพราะโดนนิ้วแซ็คดันเข้ามาในรู แซ็คบิดนิ้วไปมาเพื่อเปิดช่องทางด้านหลังของไอติม เขาถ่มน้ำลายลงร่องก้นไอติมอีกรอบ ใช้ความชุ่มจากน้ำลายเป็นตัวทำให้นิ้วลื่น แซ็คใช้มือซ้ายกดหลังไอติมให้โน้มตัวไปข้างหน้า สองมือไอติมวางไว้บนม้านั่ง ไอติมเห็นว่าหน้าตัวเองเสียวขนาดไหนโดยดูได้จากหน้าจอโทรศัพท์ เขาใช้มือขวาหยิบมันขึ้นมาถ่ายช็อตที่แซ็คกำลังดันแก่นกายเข้ามาในก้นตัวเอง ดวงตาสีเทาอ่อนมองหน้าจออย่างเร่าร้อน ไอติมอ้าปากร้องเสียงเบาตอนที่แท่งเนื้อของแซ็คดันเข้ามาในก้นตัวเองได้สำเร็จ
   

“Drop the phone. (วางโทรศัพท์ลง)” ไอติมวางโทรศัพท์ไว้ตามเดิมให้เห็นมุมใบหน้าตัวเอง
   

ป้าบ!!!
   

แซ็คฟาดมือขวาลงบนก้นไอติม จุดเดียวกับที่โดนฟาดไปก่อนหน้านี้จนมันแดงแจ๋ ฝรั่งตัวโตยื่นสองมือไปจับข้อมือทั้งสองข้างของไอติมก่อนจะดึงแขนยาวจนตึง อกไอติมแอ่นขึ้น หัวใจเต้นตึกตัก ยังไม่ทันหายตื่นเต้น ร่างของไอติมก็สั่นสะเทือนด้วยแรงกระแทกที่อัดเข้ามาเต็มที่เพียงทีเดียวแต่เล่นเอาไอติมร้องเสียงหลง
   

ปึก!!!
   

“โอะ… โอ้ว…” ไอติมครางเสียงสั่น เชิดหน้าขึ้นด้วยความเสียว ไบรอั้นกัดริมฝีปากล่างแล้วคลี่ยิ้ม ยื่นนิ่งให้ไอติมตื่นเต้นเล่น ๆ เขาใช้เท้าขวากับเท้าซ้ายดันเท้าไอติมทั้งสองข้างให้ยืนอ้ากว่าเดิม พอได้ที่ปุ๊บ แซ็คก็กระแทกไอติมรัวๆ
   

ปึกๆๆๆๆๆ!!!!!!
   

“อุ! อู้! อ๊ะ!” ไอติมก้มหน้าลง เปลือกตาหลับลงจนหางตาย่น สีหน้าคล้ายคนจะร้องไห้ ฟันบนขบริมฝีปากล่าง แซ็คกระแทกใส่ไอติมจนไอติมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะพุ่งไปข้างหน้า ถ้าไม่ได้มือแซ็คดึงข้อมือสองข้างไว้ เขาคิดว่าเขาคงพุ่งตกผาหลังบ้านไปแล้วจริงๆ
   

ปัก!!


“ชูวววว” แซ็คห่อปาก ใบหน้าเคลิ้ม ไอติมหายใจทางปากจนเกิดเสียงลมเบาๆ


ปัก!!


“อะ!” ไอติมอ้าปากและเชิดหน้าขึ้น เปลือกตาเปิดขึ้นเพียงนิด เห็นแสงสว่างของแดดรำไร ๆ ก่อนที่จะปิดลงอีกครั้งเมื่อแซ็คกระแทกถี่รัวเหมือนเดิมหลังจากเว้นจังหวะให้ครู่หนึ่ง


“อูอูอูอู…” ไอติมครางเสียงยาว คิ้วย่น สีหน้าคล้ายคนกำลังทรมานแต่ความจริงคือกำลังเสียว


แซ็คหยุดกระแทก ยืนคาแก่นกายไว้แบบนั้น จังหวะที่เขาปล่อยข้อมือไอติม คนข้างหน้าเขาเกือบจะล้มคะมำ แต่แซ็คใช้สองแขนโอบรัดร่างผอมบางไว้ทันแล้วดึงให้แผ่นหลังไอติมชิดกับด้านหน้าเขา กระต่ายตัวจ้อยตัวอ่อนปวกเปียก ยืนให้เขากอดและก้มไซ้คออย่างว่าง่าย เขาใช้ลิ้นเลียรอยฟันที่ขึ้นห้อเลือดหลายที ไอติมที่หลับตาเคลิ้มอยู่ครางแผ่วเบา


“Walk. (เดิน)” ไอติมลืมตาขึ้นด้วยความงุนงง แซ็คพาไอติมเดินไปม้านั่งทั้งที่ตรงนั้นยังคาเอาไว้


“โอย…” ไอติมครางสีหน้าเคลิ้มยามขยับ เพราะสิ่งที่อยู่ในก้นเคลื่อนไหวจนทำให้รู้สึกหน่วงทั้งในก้นและท้องน้อย ไอติมแท่งผงกหัวขึ้น รู้สึกเหมือนจะปลดปล่อยออกมาแต่ก็พยายามกลั้นไว้ แซ็คกอดไอติมแน่นและค่อย ๆ พาไอติมนั่งลงบนม้านั่ง แซ็คร้องซี๊ดเพราะไอติมขมิบตอดรัดลูกชายเขา พอก้นถึงม้านั่ง แซ็คก็ยื่นมือขวาไปหยิบมือถือไอติมขึ้นมาถ่ายคลิป เขามองหน้าไอติมในจอที่ยิ้มเยิ้มแล้วก็คลี่ยิ้มตาม ไอติมบิดหน้าเข้าหาแซ็คแล้วแลบลิ้น แซ็คยื่นหน้าไปดูลิ้นไอติมหนึ่งทีก่อนพูดเสียงแหบทุ้ม


“Turn to me. (หันมาหาฉัน)” ไอติมบิดหน้ามองแซ็คงง ๆ ฝรั่งตาสีเทาอ่อนยิ้มเยิ้มและพยักหน้า ไอติมทำท่าจะลุก แต่แซ็คกระชับแขนซ้ายที่รัดตัวไอติมอยู่ทันที


“No, my cock must inside your ass while you turn to me. (ไม่ จู๋ฉันยังต้องอยู่ในก้นนายตอนที่นายหันมา)”


ไอติมทำหน้าหมางง “ฮึ?”


“Aha! Hahaha!” แซ็คหัวเราะ ไอติมคลี่ยิ้มตาม เลื่อนสายตาไปมองหน้าจอโทรศัพท์ แซ็คมองตาม ใบหน้าทั้งสองคนเบียดกันอยู่บนหน้าจอ แซ็คเลยจับโทรศัพท์นอนเป็นแนวขวาง


“Keep riding my cock. (ควบจู๋ฉันต่อสิ)” มือซ้ายของแซ็คเลื่อนลงไปจับไอติมแท่งและชักขึ้นลง ไอติมเด้งหน้าเด้งหลังเบา ๆ แคร็อทอันเขื่องอัดแน่นอยู่ในรูก้นตัวเอง


“What are you? (นายเป็นอะไร)” ไอติมเอาแก้มตัวเองชิดกับใบหน้าของแซ็ค ข้างล่างขยับไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รีบ


“What? (ฮะ?)”


“Rabbit, are you? (กระต่าย ใช่มั้ย)” ไอติมพยักหน้า สีหน้าเสียวซ่าน


“อือฮึ rabbit.” แซ็คมองหน้าไอติมตาฉ่ำ


“Stand up. (ลุกขึ้น)” ไอติมงง แซ็คใช้มือซ้ายตีก้นแปะ ๆ ไอติมเลยลุกขึ้นยืนช้า ๆ สิ่งที่เชื่อมกันอยู่หลุดออกจากกัน ไอติมรู้สึกโล่ง รู้สึกเบาหวิวตรงรูก้น แคร็อทตั้งโด่แข็งแรง แซ็ควางมือขวาที่ถือโทรศัพท์อยู่ลงบนม้านั่ง พยักหน้าเป็นการบอกให้กลับมานั่ง ไอติมอ้าขาคร่อมตักแซ็คและค่อย ๆ นั่งลง กะให้รูกับส่วนหัวของแก่นกายตรงกัน พอรู้สึกว่าส่วนหัวทิ่มปากทางเข้า ไอติมก็นั่งลงจนแคร็อทกลับเข้าไปอยู่ข้างในเต็มลำอีกครั้ง ไอติมยื่นหน้าไปจูบแซ็ค ลิ้นสองอันไล้เลียกันอย่างนัวเนีย


โทรศัพท์ที่หน้าจอแหงนอยู่บันทึกภาพใบหน้าครึ่งล่างของทั้งสองคนที่กำลังหยอกล้อกันด้วยลิ้นเอาไว้ ก่อนที่หนุ่มฝรั่งจะลากลิ้นลงมาที่ลำคอของคนด้านบน กระซิบอะไรบางอย่างกับร่างผอมบางแล้วคนข้างบนก็ขยับควบสิ่งนั้นไปเรื่อย ๆ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะยกแขนขวาขึ้น ให้โทรศัพท์จับหน้าพวกเขาอีกครั้ง


“You are the rabbit and what am I? (นายเป็นกระต่ายแล้วฉันเป็นอะไร)” ไอติมที่โยกหน้าโยกหลังอยู่มองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกเยิ้ม สองแขนยกขึ้นกอดรอบคอแซ็ค แก้มขวาชิดกับแก้มซ้ายของฝรั่ง


“I don’t know. (ไม่รู้)” แซ็คมองตาไอติมผ่านหน้าจอโทรศัพท์


“I am your master and the rabbit have to listen to your master. Understand? (ฉันเป็นเจ้านาย และกระต่ายต้องเชื่อฟังเจ้านาย เข้าใจมั้ย)” ไอติมแหงนหน้าขึ้น สีหน้าเสียวซ่าน ครางอื้ออ้า ลมหายใจหอบหนักขึ้นกับความรู้สึกหน่วงตรงก้นและท้องน้อย


“Say yes to me. (พูด yes กับฉันสิ)” ไอติมพยักหน้า


“Yes.” แซ็คคลี่ยิ้ม งับริมฝีปากล่างไอติมเบา ๆ ดึงแขนขวามาโอบหลังไอติมไว้พร้อมกับแขนซ้าย ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง อุ้มไอติมเดินไปที่สระน้ำ ค่อย ๆ นั่งลงบนบนไดขั้นแรก เอื้อมมือขวาเอาโทรศัพท์ไปวางพิงกับโขดหินก้อนเล็กตรงริมขอบสระจนได้มุมภาพที่เห็นครึ่งตัวบนเขาสองคน


“Go the pervert-rabbit. (เอาเลยกระต่ายลามก)” แซ็คฟาดสองมือลงบนก้นของไอติมเต็มแรงเหมือนตรงนั้นคือจุดสตาร์ทเครื่อง ไอติมหันมองน้ำในสระตรงจุดที่กำลังนั่งอยู่ มันเอ่อถึงปลายก้นเขา


“Water. (น้ำ)” แซ็คคลี่ยิ้มเย้า


“Yeah, water. (ใช่ น้ำ)” ไอติมยิ้มตามแบบงุนงง แซ็คพยักหน้า สองมือบีบก้นเนียน ไอติมยกสองขาตั้งฉากจากนั้นก็เริ่มขยับขึ้น เสียงน้ำกระเพื่อมตอนที่ไอติมเคลื่อนไหว ไอติมหัวเราะเมื่อได้ยินเสียงน้ำ แซ็คหัวเราะตาม สองแขนกำยำแข็งแรงโอบรัดร่างไอติมแน่น สองมือของไอติมขยุ้มหลังหัวของแซ็คเบาๆ


ดวงตาสีเทาอ่อนกับน้ำตาลอ่อนประสานกัน ริมฝีปากของทั้งคู่ยิ้ม ราวกับทั้งคู่กำลังคุยเรื่องชวนอารมณ์ดีผ่านทางสายตา ไอติมเลื่อนมือออกจากหัวแซ็ค เอาสองแขนคล้องคอหนาไว้ ยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายของแซ็คหนึ่งฟอด


จร๊อบ จร๊อบ จร๊อบ…
   

เสียงน้ำกระเพื่อมตามจังหวะที่ไอติมเด้งตัวขึ้นลง แซ็คนั่งห้อยขาเอาเท้าวางบนบันไดขั้นที่สอง หลังช่วงล่างพิงกับขอบสระเอาไว้ ไอติมเอาคางเกยไหล่ขวาของไบรอั้น ส่งเสียงครางเป็นลมแผ่วเบา แซ็คกดจูบลงบนรอยกัดตรงคอของไอติม เสียงแหบทุ้มคลออยู่ในลำคอ จังหวะที่ลืมตาขึ้นแล้วบิดหน้าไปทางประตูหลังบ้านก็เจอกับแมนดี้กำลังยืนกอดอกมองมาที่เขากับไอติม สีหน้าของเธอเรียบตึง แววตาเขม็ง แต่แซ็คไม่สนใจ เขาหลับตาลงและไซ้คอไอติมอย่างมัวเมา

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.27 : Master. : 02.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 02-03-2019 19:53:42
V
v
v


“You want?” ไอติมถามพลางยื่นสตรอว์เบอร์รี่สีแดงไปตรงหน้าแซ็ค ฝรั่งตัวโตอ้าปากงับแล้วเคี้ยวสตรอว์เบอร์รี่ลูกใหญ่เต็มปาก ดวงตาสีเทามองไอติมอย่างอารมณ์ดี ไอติมคลี่ยิ้มหยิบสตรอว์เบอร์รี่ขึ้นมาจากจานทรงครึ่งวงกลมที่เป็นคนเดินไปหยิบมาจากตู้เย็นหลังเสร็จกิจกามกับแซ็ค กัดตรงส่วนหัวแล้วเคี้ยว ก้มลงมองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนตัก กำลังดูคลิปของตัวเองกับแซ็ค
   

“Watch it when you are horny with other men. (ดูคลิปนี้เวลาที่นายหงี่กับผู้ชายคนอื่น)” ไอติมหันไปมองแซ็คที่นอนหนุนเบาะอาบแดดสีน้ำเงินอยู่ ส่วนตัวครึ่งล่างนอนจมน้ำ แซ็คคลี่ยิ้มกับสีหน้างุนงงของไอติม
   

“ฮึ?” ไอติมถามงง ๆ ยกสตรอว์เบอร์รี่กัดอีกหนึ่งคำ
   

“It will remind you how you will be punish if you are horny with other men. (มันจะเตือนนายว่านายจะโดนลงโทษยังไงถ้านายหงี่กับชายอื่น)” แซ็คยื่นมือขวาไปจับมือซ้ายของไอติมแล้วดึงไปจับลูกชายตัวเองที่นอนสงบอยู่ใต้น้ำสีฟ้าใส
   

“You have only one carrot. (นายมีแคร็อตอันเดียว)” ไอติมคลี่ยิ้มด้วยความเข้าใจ กัดสตรอว์เบอร์รี่ในมืออีกหนึ่งคำ เคี้ยวช้า ๆ สีหน้าครุ่นคิดพักหนึ่ง
   

“But Leo,”
   

“It was the past. From now on you can’t touch any cock if I am not okay, okay? (มันผ่านไปแล้ว ต่อจากนี้ถ้าฉันไม่โอเค นายห้ามแตะต้องจู๋ไหน ๆ โอเคมั้ย)” แซ็คมองหน้าไอติมที่กำลังนั่งแปลประโยคของเขาอยู่ พักเดียวเจ้าเด็กลามกก็คลี่ยิ้มและพยักหน้า
   

“Okay.” ไอติมหยุดเล่นคลิป วางโทรศัพท์ไว้บนปลายเก้าอี้อาบแดด ยกตัวนั่งคร่อมร่างของแซ็คแล้วโน้มหน้าลงไปใกล้อีกฝ่าย ป้อนสตรอว์เบอร์รี่ในมือให้ฝรั่งตัวโต คนโดนป้อนเคี้ยวเบา ๆ และมองหน้าคนป้อนตาแทบไม่กะพริบ ไอติมใช้สตรอว์เบอร์รี่ที่เหลือตรงส่วนก้นวนหัวนมขวาของแซ็คจนมีเนื้อสตรอว์เบอร์รี่กับน้ำสีแดงเคลือบอยู่บนนั้นแล้วก็ก้มลงไปดูดเลียอย่างดูดดื่ม
   

“Ah… you know how to play, eh?” แซ็คครางแผ่วเบา ผงกหัวขึ้นหอมกลางกระหม่อมของไอติมหนึ่งที มือซ้ายเอื้อมไปลูบก้นขาวเนียนที่ตอนนี้มีรอยแดงเป็นปื้นจากการถูกเขาตี
   

“I am your master, remember that, rabbitch. (ฉันเป็นเจ้านายของนาย จำเอาไว้ล่ะกระต่ายแรด)” ไอติมดึงหน้าขึ้นจากหัวนม หันไปมองหน้าแซ็คแล้วคลี่ยิ้มกว้าง แซ็คเอื้อมมือขวาไปหยิบสตรอว์เบอร์รี่มาป้อนใส่ปากไอติม กระต่ายตัวจ้อยอ้าปากรับสตรอว์เบอร์รี่จากมือแซ็คและเคี้ยวตุ้ย ๆ แซ็คยิ้มมุมปาก สายตามองไอติมด้วยความพอใจ ไอติมมองแซ็คตาเป็นประกาย มือซ้ายของแซ็คยังคงลูบก้นขาวเนียนด้วยความเพลิน
   

“I am happy. (ผมมีความสุข)” ไอติมอมยิ้มทั้งที่ยังเคี้ยวสตรอว์เบอร์รี่
   

“I’m glad that you are happy. (ฉันดีใจที่นายมีความสุข)” ไอติมยิ้มอ่อน ยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากของแซ็ค ผลัดกันดูดดึงริมฝีปากของกันและกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่แซ็คจะพลิกตัวให้ไอติมลงไปนอนข้างล่าง ไอติมอ้าขาออกให้แซ็คนอนแทรกตัวระหว่างกลาง ฝรั่งตัวใหญ่ใช้แขนสองข้างยันตัวคร่อมร่างเล็กเอาไว้จนแทบมิด ไอติมมองกล้ามเนื้อของแซ็คที่อัดแน่นด้วยใจอันวาบหวิว
   

เคยแต่มองผ่านหน้าจอแล็ปท็อปตอนเขาโชว์เว็บแคม เคยแต่มองผ่านหน้าจอแล็ปท็อปหรือบางครั้งก็จอทีวีตอนเปิดหนังของเขาดู


แต่วันนี้ไอติมได้มองผ่านตาตัวเองแบบเต็มตา และได้สัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อ ไอติมหันไปมองรอยสักรูปขนนกสะบัดปลายเป็นฝูงนกบนท่อนแขนขวาของแซ็คแล้วก็ยกมือซ้ายขึ้นไปลูบ แซ็คหันไปมองตามและนิ่งคิดครู่สั้น ๆ ก่อนหันกลับไปมองหน้าไอติมที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว
   

“What do you think if I will find a new place? (นายคิดว่ายังไงถ้าฉันจะหาที่อยู่ใหม่)” ไอติมที่กำลังใช้มือขวาลูบกล้ามท้องแซ็คทำหน้างง แซ็คคิดประโยคที่จะใช้พูดกับไอติมสักแปบ
   

“I want to find a new house and you will stay with me. (ฉันอยากหาบ้านหลังใหม่ และนายจะอยู่กับฉัน)” ไอติมมีสีหน้าประหลาดใจ
   

“โอ้ว you and me เหรอ new house?”
   

“Yes, we will live together. (ใช่ เราจะอยู่ด้วยกัน)”
   

“But this is your house. (แต่บ้านนี้ก็ของคุณนี่)” ไอติมหันไปมองบ้านที่ว่าด้วยความงง ก่อนหันกลับมามองแซ็คด้วยความงงของงงอีกที
   

“No, it’s not my house. (ไม่ใช่ มันไม่ใช่บ้านฉัน)” ไอติมย่นคิ้วหน้างง แซ็คพ่นลมหายใจเบาๆ
   

“Well, I will find a new one and when I found it we will move out from here. (เอาเป็นว่า ฉันจะหาที่ใหม่ และเมื่อไหร่ที่ฉันหาได้ เราจะย้ายออกจากที่นี่)” ไอติมยังคงงง ๆ เลยไม่ค่อยเข้าใจประโยคที่แซ็คพูดนัก แซ็คคลี่ยิ้มแบบไม่เห็นฟัน ดันตัวลุกขึ้นนั่งคุกเข่า มือซ้ายเอื้อมไปหยิบสตรอว์เบอร์รี่ลูกใหญ่มาหนึ่งลูก กัดตรงส่วนปลายและเคี้ยวช้าๆ
   

“Look like you don’t get what I said, (ดูเหมือนนายจะไม่เข้าใจว่าฉันพูดว่าอะไร)” มือซ้ายของแซ็คจับแก่นกายตัวเอง มือขวาจับสตรอว์เบอร์รี่กดลงบนส่วนหัวสีชมพูแล้ววนสตรอว์เบอร์รี่บนนั้นช้า ๆ ไอติมดันตัวลุกขึ้นนั่งมองแล้วยิ้มแบบเด๋อด๋า


“But I think you will get about this. (แต่ฉันว่านายเข้าใจอันนี้นะ)” แซ็คดึงสตรอว์เบอร์รี่ออกจากตรงนั้น เนื้อสีแดงของผลไม้ชื่อดังติดอยู่บนส่วนหัวของความเป็นชายอยู่หนึ่งหย่อม ไอติมคลี่ยิ้มก่อนที่จะยื่นหน้าไปกินสตรอว์เบอร์รี่อีกลูก







แซ็คในชุดกางเกงขายาวสีเทาเดินเท้าเปล่าไปที่ห้องครัว ด้านบนเปลือยโชว์หุ่นล่ำ มีเพียงสร้อยสีทองของไอติมห้อยประดับเนื้อ เขาเปิดตู้เย็น หยิบน้ำออกมาสองขวดแล้วใช้เท้าดันปิดประตูตู้เย็น จังหวะที่หมุนตัวกำลังจะเดินกลับไปห้องนอน ก็เจอกับแมนดี้ในชุดนอนสีขาวผ้าตาข่ายบางเบาแบบที่จริง ๆ แล้วไม่ต้องใส่อะไรเลยก็ได้


“ใส่มายั่วฉันเหรอ” แซ็คยิ้มบาง แมนดี้ยิ้มมุมปากซ้าย เดินไปนั่งบนเก้าอี้แล้วแหวกขาออกช้าๆ


“แล้วยั่วได้มั้ยล่ะ” แซ็คยิ้มหึ เดินเข้าไปใกล้สาวผมแดง มองหน้าอกหน้าใจอันใหญ่โต เลื่อนสายตามองหน้าท้องอันอวบอัดแต่ไม่ใช่อ้วน ไล่ลงไปถึงตรงช่วงกลางตัวที่ตัดแต่งขนอย่างสวยงาม ก่อนเลื่อนกลับขึ้นไปมองใบหน้าของเจ้าตัว


“ก็ใช้ได้”


“แล้วยังไงต่อ” แมนดี้มองยั่วยวน มือซ้ายแปะลงตรงนั้น ลูบขึ้นลูบลงช้า ๆ แซ็คยิ้มกรุ้มกริ่ม ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ซอกคอขาว แมนดี้แหงนหน้าขึ้นเต็มที่ ปลายจมูกของแซ็คอยู่ใกล้กับเนื้อหอมๆ


“ไปนอน” แซ็คดึงหน้าออกแล้วยิ้มขำให้กับแมนดี้ที่หน้าเหวอก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าไม่พอใจ


“แซ็ค!”


“นี่ ขอบใจมากที่ส่งรูปนั้นมาให้ฉัน” แซ็คยักคิ้ว แมนดี้ขมวดคิ้วมองคนตรงข้ามตัวเอง


“ฉัน… ฉันสู้เด็กนั่นไม่ได้เลยเหรอ” เธอถามเสียงสั่น หน้าตาขาดความมั่นใจ


แซ็คยิ้มบางก่อนตอบ “มันไม่ใช่การสู้กันแมนดี้ มันเป็นแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่”


“แล้วเด็กนั่นใช่สำหรับเธองั้นสิ” แซ็คนิ่งเงียบ สีหน้าราบเรียบ หลบตาแมนดี้แวบหนึ่งก่อนกลับไปมองต่อแล้วตอบน้ำเสียงปกติ


“He was right in the way I want. (ก็ใช่ในแบบที่ฉันต้องการ)”


“And what do you want? (แล้วเธอต้องการแบบไหน)”


“You can’t be like that if I told you. (บอกไปเธอก็เป็นแบบนั้นหรอก)”


“Try me. (ก็ลองบอกก่อนสิ)” แซ็คยิ้ม ดวงตาสีเทาทอประกาย


“A pure hope. (ความหวังอันบริสุทธิ์)” ว่าจบก็เดินออกไปจากครัวพร้อมกับน้ำสองขวด ทิ้งให้แมนดี้มองตามด้วยความไม่เข้าใจ และไม่พอใจในเวลาเดียวกัน


ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอผิดหวังจนเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจอยู่บ่อยครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำเธอ สองมือกำแน่น ในใจเจ็บซ้ำ ๆ จนกลายเป็นความแค้นเคืองเล็ก ๆ กลายเป็นความอยากเอาชนะให้ได้


แม้ว่าจะแค่สักครั้งก็ตาม
   




เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


เขาจะหนีตามกันไปแล้วค่ะแมมมม่ >O< วี้ดดดด

ไปตายเอาดาบหน้ากับข้าอีเรียม! ข้าจะเลี้ยงดูเอ็งเอง อ้ากกกก



หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.27 : Master. : 02.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-03-2019 20:28:59
น้องติมแซ่บมากกก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.27 : Master. : 02.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 02-03-2019 21:59:03
พี่แซ็คเล่นท่ายาก..กกกกกก    :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.27 : Master. : 02.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-03-2019 22:31:11
 :oo1: :hao6: :jul1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.27 : Master. : 02.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 03-03-2019 00:14:04
หวงเก่งง  :oo1: :oo1:

หวงจนจะเอาไปเก็บไว้คนเดียวเลยนะอิพี่

ส่วนยัยแมนดี้นี่จะมาเป็นประเด็นทีหลังหรือป่าวน้า :3125: :3125:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.27 : Master. : 02.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 03-03-2019 04:26:09
แซ็คมีซัมติงอะไรกับแมนดี้ คู่นอนหรือแฟนเก่า?? :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.27 : Master. : 02.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 03-03-2019 13:49:07
ใช่แซ็ค!! พาน้องหนีไป อย่าอยู่บ้านหลังนี้ น้องไม่ปลอดภัย :hao7: :katai1:


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.27 : Master. : 02.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 03-03-2019 20:32:04
+1  o13 ขอบคุณครับ :pig4: :katai5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.27 : Master. : 02.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 04-03-2019 14:55:50
มันใกล้จะถึงจุดเปลี่ยนหรือยังนะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.28 : Christmas gift. : 08.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 08-03-2019 21:40:08

Fall in lust - Chapter 28 :: Christmas gift. (ของขวัญวันคริสต์มาส)




   ไอติมกำลังนั่งวาดภาพสเก็ตหนังเรื่องใหม่ของแซ็คในสมุกวาดภาพเล่มใหญ่ที่เพิ่งซื้อมา ไอติมวาดแบ่งเป็นช่อง ๆ ขนาดเท่าโปสการ์ดเพื่อเป็นการประหยัดกระดาษ ไอติมรู้ว่าจริง ๆ มันไม่ต้องทำถึงขั้นนี้ แต่มันเป็นความเคยชินที่ชอบทำตั้งแต่สมัยเรียน ไอติมไม่ได้วาดรูปเก่งมาก แต่ก็ไม่ถึงกับต้องวาดเป็นหัวกลม ๆ เส้นขีด ๆ ยังพอจะมีฝีมือวาดลายเส้นสวยงามอยู่บ้าง
   

“Story board again? (ทำสตอร์รี่บอร์ดอีกแล้วเหรอ)” แซ็คที่ออกมาจากห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูสีขาวพันตัวถามและเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ไอติมหันไปมองคนถามที่กำลังเปิดลิ้นชักด้านล่างค้นหาเสื้อผ้าก่อนหันกลับมาลากเส้นที่วาดค้างอยู่จนเสร็จ
   

ตุบ
   

เสียงของหล่นลงพื้นดังเบา ๆ ไอติมหันไปมองก็เห็นว่ามีกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มกระเด็นมาจากตู้เสื้อผ้า ไอติมมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของแซ็คตัดกลับไปมองกล่องนั้น ไอติมวางสมุดวาดภาพไว้บนหมอนตัวเอง เคลื่อนตัวลงจากเตียงไปหยิบกล่องนั้นขึ้นมา ยื่นมือขวาไปสะกิดแซ็ค เจ้าของห้องนอนหันมองรูมเมทตัวเองด้วยท่าทีงงๆ
   

“What is this? (อันนี้อะไรเหรอ)” ไอติมยื่นกล่องกำมะหยี่ในมือให้แซ็คดู ฝรั่งตัวโตดันลิ้นชักเข้าไปตามเดิม สายตามองกล่องนั้นขณะที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขายื่นมือขวาไปหยิบกล่องนั้นมาจากมือไอติมก่อนจะตามด้วยพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ แล้วเลื่อนสายตามองหน้ากระต่ายตัวขาวที่มองเขาตาแป๋ว
   

“A gift that I have been wanted to give to my special one. (ของขวัญที่ฉันเคยอยากให้คนพิเศษของฉัน)” ไอติมเอียงหน้าเล็กน้อยด้วยความงุนงงและสงสัย
   

“Special one?” แซ็คพยักหน้า ไอติมพยักหน้าตาม และกำลังคิดว่าตัวเองเข้าใจประโยคของแซ็คมากน้อยแค่ไหน แซ็คมองหน้างุนงงของไอติมก็เลยเปิดกล่องในมือให้ไอติมดูของข้างใน ไอติมเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นของในนั้น
   

“Ring diamond. (แหวนเพชร)” ไอติมมองแหวนสีเงินเกลี้ยงเกลา ขนาดไม่หนาไม่เล็กไป มีเพชรทรงสี่เหลี่ยมยกสูงขนาดกำลังพอดีทอแสงประกายวิบวับ
   

“Your girlfriend. (แฟนคุณเหรอ)” ไอติมถาม เข้าใจแล้วว่า special one นั้นคืออะไร และแซ็คยังไม่ได้ให้ของสิ่งนี้กับเธอคนนั้น แต่คงกำลังจะให้
   

เมื่อคิดแบบนั้นไอติมก็รู้สึกกลวงโบ๋ในอก เหมือนมีใครมาคว้านหัวใจออกไปจนต้องขมวดคิ้วงงกับตัวเอง
   

“No, my mom. (ไม่ใช่ แม่ฉัน)” ไอติมมองดวงตาสีเทาของแซ็คที่มองกลับมาอย่างจริงจัง หัวใจที่เหมือนโดนควักออกจากอกไปถูกเติมเต็มกลับเข้ามาและกระตุกหนึ่งครั้งก่อนจะกลับไปเต้นตามจังหวะเดิม
   

“You buy for mom? (คุณซื้อให้แม่เหรอ)” แซ็คพยักหน้า ก่อนจะพาไอติมเดินไปนั่งบนเตียง กระต่ายตัวจ้อยขึ้นไปนั่งขัดสมาธิมองแซ็คที่นั่งท่าเดียวกันกับตัวเอง สายตาเลื่อนไปจับจ้องสร้อยคอจี้กระต่ายสีทองอ่อนแล้วคลี่ยิ้มดีใจ
   

“My family is a middle class. (ครอบครัวฉันฐานะปานกลาง)” ไอติมพยายามตั้งใจฟังเพื่อจะได้แปลออก


“When I was a child I saw other mothers at school have the diamond ring on their finger, (ตอนฉันเป็นเด็ก ฉันเห็นแม่คนอื่น ๆ ที่โรงเรียนมีแหวนเพชรบนนิ้วของพวกเขา)” แซ็คมองไอติมที่ตั้งใจฟังอยู่ และเขาโล่งใจมากที่อีกฝ่ายไม่ได้สมาธิหลุดไปเรื่องอื่นแบบที่ชอบเป็น


“My mother has an only wedding ring that dad gave it to her, which is a very basic ring, but she loves it. She wears it every time except when she was washing dishes and taking a shower. (แม่ฉันมีแค่แหวนแต่งงานที่พ่อให้ในวันแต่งงาน ซึ่งเป็นแหวนที่ธรรมดามาก ๆ แต่แม่ก็รักมัน แม่ใส่มันตลอด ยกเว้นตอนที่เธอล้างจานกับอาบน้ำ)” ไอติมมองแซ็คมองแหวนวงนั้นด้วยแววตามีความสุข


“I know she wants to has a diamond ring but she has never asked for it from dad because she knew how it expensive for our family. (ฉันรู้ว่าแม่อยากจะมีแหวนเพชรสักวง แต่แม่ก็ไม่เคยขอมันจากพ่อ เพราะแม่รู้ว่าสำหรับบ้านเรา มันแพงแค่ไหน)” ไอติมแปลประโยคของแซ็คแต่ละประโยคที่เขาพูดมา และคิดว่าตัวเองตั้งใจฟังมากพอจนเข้าใจได้ อย่างน้อยก็เข้าใจใจความสำคัญ ๆ ของเรื่องที่เขาเล่าอยู่


“So you buy this for her. (คุณเลยซื้ออันนี้ให้เธอ)” แซ็คยิ้มแบบไม่เห็นฟันแล้วพยักหน้าหนึ่งที


“I collect money from job and then I got this for her. (ฉันเก็บงานจากการทำงานแล้วฉันก็ได้วงนี้มาให้แม่)” แซ็คพูดด้วยสีหน้าและแววตาภูมิใจ


“And why you don’t give her? (แล้วทำไมคุณไม่ให้แม่ล่ะ)” รอยยิ้มนั้นเจือจางลงแต่ก็ยังคงยิ้มอยู่


“I got angry her. (ฉันโกรธเธอน่ะ)”


“ฮะ? you angry mom, why? (คุณโกรธแม่ ทำไมล่ะ)” แซ็คถอนหายใจ มองหน้าไอติมนิ่ง แต่ในหัวก็ครุ่นคิดไปด้วย ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ มองฝรั่งหัวสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้สีผมเริ่มใกล้กลับมาเป็นสีผมจริงของเขามากขึ้นแล้ว


“Maybe because she made me disappointed. (อาจเพราะเธอทำให้ฉันผิดหวังมั้ง)” ไอติมย่นคิ้ว


“You angry father, too? (คุณโกรธพ่อด้วยมั้ย)” แซ็คพยักหน้าหนึ่งครั้ง


“But not equal as I am with mom. (แต่ไม่เท่ากับที่ฉันเป็นกับแม่หรอก)” ไอติมอ้าปากหวอน้อยๆ


“You angry mom more dad, right? (คุณโกรธแม่มากกว่าพ่อ ใช่มั้ย)” ไอติมขยายความให้ตัวเอง แซ็คยิ้มขำพร้อมกับพยักหน้า ไอติมขมวดคิ้ว


“Not fair. (ไม่ยุติธรรม)” แซ็คหัวเราะเบาๆ


“I know. But it was my feeling in that time. (ฉันรู้ แต่มันเป็นอารมร์ฉันในตอนนั้นน่ะ)”


“And now? (แล้วตอนนี้ล่ะ)” แซ็คนิ่งไปสักพักก่อนจะส่ายหัว


“Not anymore. (ไม่แล้วล่ะ)” ไอติมมองแซ็คสลับกับกับแหวน


“Give it to her. (ให้เธอสิฮะ)” แซ็คสั่นหัว


“No need to do that. Her new husband could give it to her more than one. (ไม่จำเป็นหรอก สามีใหม่ของแม่ให้แม่ได้มากกว่าหนึ่งวงอีก)”


“But this is from you. It is not same feeling. (แต่อันนี้มาจากคุณ ความรู้สึกมันไม่เหมือนกันหรอก)” แซ็คมองแหวนในกล่องกำมะหยี่นิ่งสักพักก่อนจะใช้นิ้วชี้ข้างขวากดฝากล่องลง


“No. (ไม่ล่ะ)” ไอติมย่นคิ้ว ยื่นปากจู๋ แซ็คมองไอติมแล้วยิ้มมุมปาก สุดท้ายไอติมก็พ่นลมหายใจพร้อมกับพยักหน้า


“I understand I used to make food for dad but I don’t give dad because dad make mom hurt. I eat it all. (ผมเข้าใจ ผมเคยทำอาหารให้พ่อแต่ผมไม่ให้พ่อเพราะพ่อทำแม่เจ็บ ผมเลยกินหมดเลย)” แซ็คยิ้มขำ มองไอติมทำหน้าขุ่นเคืองเหมือนเด็กน้อย เขายิ้มด้วยความโล่งใจ


“Thank you. (ขอบใจนะ)”


“Thank you what? (ขอบคุณอะไรฮะ)”


“To understand me. (ที่เข้าใจฉัน)” ไอติมยิ้มกริ่ม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนใสแป๋ว แซ็คยิ้มเมื่อมองดวงตาคู่นั้น เขาเปิดกล่องแหวนอีกรอบ


“Give me your left hand. (เอามือซ้ายมาสิ)” ไอติมยื่นออกไปแบบไม่ทันคิดอะไร แต่พอแซ็คหยิบแหวนเพชรออกมาจากกล่องและทำท่าจะสวมให้บนนิ้วนางข้างซ้ายก็ชักมือกลับหน้าตาตื่นตกใจ


“No, no, no.” แซ็คหัวเราะกับตาโต ๆ หน้าตื่นตูมนั่น


“I don’t ask you to marry me. (ฉันไม่ได้ขอนายแต่งงานหรอกน่า)” ไอติมกะพริบตาปริบๆ


“You buy for mom not for me. (คุณซื้อให้แม่ ไม่ใช่ผม)”


“This is your first Christmas. It’s Christmas gift for you from me. (นี่เป็นคริสต์มาสแรกของนาย มันเป็นของขวัญวันคริสต์มาสจากฉัน)” ไอติมอ้าปากหวอ ดวงตาเบิกกว้าง


“Oh, it expensive too much. (โอ้ว มันแพงเกินไปอะ)” แซ็คหัวเราะกับหน้าตาของเจ้ากระต่ายตัวจ้อย


“It might be the fake diamond. (มันอาจจะเป็นเพชรปลอมก็ได้)”


ไอติมมองเพชรเม็ดนั้นอย่างสำรวจอยู่พักหนึ่งแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองแซ็คที่ยิ้มกำลังยิ้มขำ “Really? (จริงเหรอ)”


แซ็คดึงมือซ้ายของไอติมมาตรงหน้า และค่อย ๆ ดันแหวนเข้าไปในนิ้วนางข้างซ้ายของกระต่ายช้าๆ “I give it to you for Christmas. You will give it back to me after that, okay? (ฉันให้นายวันคริสต์มาส หลังจากนั้นนายค่อยคืนให้ฉัน โอเคมั้ย)”


แหวนเพชรใส่เข้ากับนิ้วนางข้างซ้ายของไอติมไม่พอดีนัก แซ็คเลยดึงออกมาใส่นิ้วกลางแทน ซึ่งใส่ได้ลงตัวพอดี ไอติมมองเพชรตาโต ร้องหูวกับตัวเองเบา ๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองแซ็คที่ยักคิ้วให้หนึ่งที ไอติ้มฉีกยิ้มกว้าง ยกมือซ้ายขึ้นมองแหวนอย่างพิจารณา ซึ่งเอาเข้าจริง มันไม่ค่อยเข้ากับเขานักหรอก เพราะมันเป็นแหวนผู้หญิง แต่ก็ถือว่าไม่ได้ขัดตาจนน่าเกลียด


“And I have to give gift to you? (และผมต้องให้ของขวัญกับคุณมั้ย)” แซ็คเลิกคิ้วขึ้นทำท่าครุ่นคิดพักหนึ่ง


“Nah, just make the food for me. I want to eat what I have ate at your mom’s restaurant. A stir-fried chicken with cashew nuts, right? I’m not sure about the name. But it has spicy chicken, and something look like nuts. (ไม่ต้อง แค่ทำอาหารให้ฉัน ฉันอยากกินที่ฉันเคยกินที่ร้านอาหารแม่นาย ผัดไก่เม็ดมะม่วง ใช่มั้ย ฉันไม่แน่ใจเรื่องชื่อ แต่มันมีไก่เผ็ด ๆ กับอะไรบางอย่างคล้ายถั่ว)” ไอติมหน้ามึนตึ้บไปแล้ว เพราะไม่เข้าใจที่แซ็คพูดว่ากำลังพูดถึงเมนูอะไร แซ็คหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้ามึนงงของกระต่ายลามก เขาเลยเอื้อมตัวในท่าคร่อมไอติมไปหยิบโทรศัพท์จากบนหัวเตียงมาเปิดกูเกิ้ล เพื่อให้ไอติมดูรูปภาพอาหารจานนั้นที่เขาอยากกิน ไอติมมองภาพในจอโทรศัพท์ของแซ็คก่อนร้องอ๋อ


“อ้อออ I can’t do it. (ผมทำไม่เป็นอะ)” แซ็คขมวดคิ้วหน้าเหวอหน่อยๆ


“But your mom is the owner of restaurant. (แต่แม่นายเป็นเจ้าของร้านอาหารนะ)” ไอติมยิ้มแห้ง


“I eat good than make food.” ไอติมต้องการจะสื่อว่าตัวเองกินเก่งมากกว่าทำอาหาร ซึ่งแซ็คก็เข้าใจได้ เลยทำหน้าเอือม แต่ริมฝีปากก็ขยับเป็นรอยยิ้มขำ


“I can make easy food. (ผมสามารถทำอาหารง่ายๆ)” แซ็คพยักหน้า ไอติมบุ้ยปากไปมา


“But I will practice to do this. (แต่ผมจะฝึกทำอันนี้)” ไอติมชี้บนหน้าจอโทรศัพท์ และทำหน้าจริงจังว่าจะฝึกทำอันนี้ตามที่พูด แซ็คยิ้ม พยักหน้าหนึ่งที


“Then today you make some easy food for me, okay? (งั้นวันนี้นายก็ทำอาหารง่าย ๆ ให้ฉันแล้วกัน โอเคมั้ย)” ไอติมยิ้มกว้าง


“Okay!” แซ็คยิ้ม ยื่นมือขวาไปยีหัวไอติม กระต่ายตัวขาวมองหน้าขวัญใจตัวเองตาแป๋วแล้วก็หัวใจเต้นตึกตักก่อนจะพูดออกมา


“Actually I have gift for you. (จริง ๆ ผมมีของขวัญให้คุณ)” แซ็คเลิกคิ้ว


“Hmmm? What is it? (หืมมม อะไรล่ะ)” ไอติมยิ้มเขิน หน้าแดงเปล่ง


“Me. (ผมไง)” แซ็คอ้าปากค้างน้อย ๆ ครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นหัวเราะ ไอติมยิ้มคิกคัก ห่อไหล่ทั้งสองข้างด้วยความเขินอาย แซ็คขยิบตาซ้าย ไอติมก็ยิ่งเขินและหน้าแดงกว่าเดิม


“A tricky rabbitch. (กระต่ายแรดเจ้าเล่ห์)” ไอติมมองจี้กระต่ายแล้วก็มองหน้าแซ็ค


“You call me rabbit because it cute, right? (คุณเรียกผมกระต่ายเพราะมันน่ารัก ใช่มั้ย)” แซ็คเกือบจะหัวเราะอ้าปากกว้างแต่ก็หุบลงและพยายามกลั้นยิ้มขำก่อนจะพยักหน้าทั้งที่สีหน้าพร้อมระเบิดเสียงหัวเราะเต็มที่


“Yes. (ใช่สิ)” ไอติมย่นคอแล้วยิ้มตาโต


“I’m cute! (ผมน่ารัก!)” แซ็คหัวเราะ ไอติมหัวเราะตาม ไอติมเด้งตัวดึ๋ง ๆ บนเตียง แซ็คมองไอติมแล้วก็ขำ ล้มตัวลงนอนหงายแล้วก็หัวเราะอ้าปากกว้าง ไอติมขมวดคิ้วหน้างงสงสัยว่าจะขำอะไรขนาดนั้น ขำจนหน้าแดงไปหมด


“What? (อะไรอะ)” ไอติมมองแซ็คอย่างไม่ไว้ใจ แซ็คบิดหน้ามองไอติมแล้วยิ้มกว้าง


“No. (เปล่า)” ไอติมหรี่ตามองอย่างจับผิด แต่เป็นการหรี่ตามองที่ทำเอาแซ็คขำไม่หยุด ไอติมยื่นมือขวาไปกระตุกผ้าขนหนูออกแล้วคว้าแคร็อทเต็มมือ


“Tell me! (บอกผมมา!)” ไอติมบีบแก่นกายของแซ็ค ฝรั่งตัวโตรีบพลิกตัวขึ้นแล้วผลักร่างผอมบางนอนหงายลงบนเตียง ไอติมพยายามดิ้นหนีและหัวเราะไปด้วย แซ็คกดข้อมือสองข้างของไอติมลงบนเตียง กระต่ายตัวจ้อยงอเข่าสองข้างขึ้นมาดันหน้าท้องแซ็ค ฝรั่งตัวโตรวบสองมือของไอติมขึ้นไปบนเหนือหัว และใช้มือซ้ายกดเอาไว้ ก่อนเลื่อนมือขวามาจับขาซ้ายแยกออก ไอติมหัวเราะจนเสียงหาย พยายามเกร็งขาไว้แต่ก็ทำไม่ได้ ไอติมเลยพยายามบิดขาขวาเข้าหาขาซ้าย แซ็คใช้เข่าขวาทับขาซ้ายไอติมไว้และใช้มือขวาดันขาซ้ายออกก่อนจะทิ้งตัวลงทับร่างผอมบางด้วยอาการหายใจแรงขึ้นจากปกติ


“You want to be punish? (อยากโดนลงโทษเหรอ)” แซ็คหายใจหอบ แต่ไม่ใช่หอบโยน ผิดกับไอติมที่แม้จะไม่ได้ขยับตัวหนักหน่วงแต่ก็หายใจหอบจนแทบลิ้นห้อย


“No. (เปล่าฮะ)” แซ็คยิ้ม มองไอติมแลบลิ้นและทำหน้าเหนื่อย เขาปล่อยมือซ้ายที่กดข้อมือไอติมไว้ ขยับตัวให้เข้าที่เข้าทางบนตัวไอติม สองขาคุกเข่าแล้วแบะออก สองแขนวางค้ำร่างตัวเองไว้ ไอติมยกแขนขึ้นคล้องคอพ่อฝรั่ง รู้สึกถึงอะไรบางอย่างกำลังทิ่มก้นตัวเองผ่านกางเกงขาสั้นอยู่


“อุ๊?! Your dick.” แซ็คคลี่ยิ้มแล้วแลบลิ้นไปตามขอบฟันด้านล่าง


“Yes, it’s hard. (ใช่ มันแข็ง)” ไอติมยิ้มตาใส หัวใจเต้นรัวตอนแซ็คยกมือขวาไปถอดกางเกงขาสั้นตัวนอกกับกางเกงชั้นในของตัวเองออกจากเรียวขาช้า ๆ แซ็คเบี่ยงตัวไปด้านซ้ายเพื่อดึงกางเกงไอติมออกไป ตอนนั้นเองที่ไอติมเห็นว่าแก่นกายของแซ็คแข็งโด่พุ่งตรง ไอติมกัดริมฝีปากแล้วคลี่ยิ้ม แซ็คลดตัวลงไปจนหน้าอยู่ตรงไอติมแท่งน้อย


“We should go to… อือ” ไอติมกำลังจะบอกว่าควรไปตกแต่งต้นคริสต์มาสได้แล้ว แต่พอแซ็คใช้ปากอมให้ตัวเองทุกอย่างก็มะลายหายไป ในหัวมีแต่ความโล่งโปร่ง ไอติมแท่งแข็งตัวในปากของแซ็คอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่ต้องบิลท์นาน ไอติมเลื่อนสองมือลงไปขยุ้มเส้นผมของแซ็คเต็มมือ หน้าท้องหดเกร็งด้วยความเสียวจากปลายลิ้นของพ่อฝรั่ง


“Zach, we fuck last night. (แซ็ค เมื่อคืนเราก็เอากัน)” แซ็คหยุดใช้ลิ้นเลียให้ไอติม เลื่อนมือขวามาชักขึ้นชักลงเบาๆ


“This is morning. (ตอนนี้ตอนเช้า)” นิ้วโป้งของแซ็ควนบนส่วนหัวสีชมพูของไอติมแท่งอย่างอ่อนโยน กระต่ายตัวจ้อยอ้าปากครางเสียงเบา สองมือปล่อยออกจากหัวของแซ็ค เลื่อนขึ้นมาตามหน้าท้องขาวเนียนของตัวเอง เลื่อนขึ้นช้า ๆ พร้อมกับดันเสื้อยืดสีแดงที่ใส่อยู่ขึ้นไปกองเหนืออก เปลือกตาหลับพริ้ม ริมฝีปากล่างโดนฟันขบแน่น


“Lovely. (น่ารัก)” แซ็คมองหน้าไอติมที่กำลังพริ้มกับจังหวะนิ้วที่เขาวนให้แล้วคลี่ยิ้มเมาก่อนก้มลงจูบบนท้องขาวเนียนหนึ่งที หันไปหยิบเจลหล่อลื่นบนโต๊ะข้างเตียง ไอติมลืมตาขึ้นแบบเบลอ ๆ หายใจหอบน้อย ๆ มองแซ็คบีบเจลหล่อลื่นลงบนปลายนิ้วชี้กับนิ้วกลางข้างขวา ไอติมยกขาตั้งฉากขึ้นพร้อมกับกระดกก้นให้สูงอีกนิด แซ็คดึงหมอนมารองช่วงบั้นท้ายของไอติม กระต่ายตัวจ้อยยกขาขวาคล้องคอของแซ็ค ขาซ้ายตั้งฉากขึ้น


แซ็คดันนิ้วเข้าไปในรูของไอติม บิดหมุนวนไปวนมาช้า ๆ ไม่เร่งรีบ ไอติมครางเบาหวิว แซ็คก้มหน้าใช้ปากอมไอติมแท่งสีอ่อน นิ้วก็ดันเข้าดันออกไปเรื่อย ๆ เสียงครางของกระต่ายตัวขาวดังผะแผ่ว ไม่ใช่ครางเสียงโหยหวน เป็นเสียงใสเบา ๆ ดังสลับกับเสียงลมหายใจ สองมือของไอติมที่วางไว้บนเหนือหัวขยุ้มผ้านวมแน่น เปลือกตาปรือมองแซ็คที่กำลังใช้ลิ้นปรนเปรอให้ตัวเอง หน้าท้องขาวหดลงตามความเสียว


ก๊อกๆๆ


“Hey, bud. We are here! (เฮ้ เพื่อน พวกเราถึงแล้ว)” เสียงเคาะประตูดังสนั่นตามด้วยเสียงดัสตินดังอยู่หน้าห้อง แซ็คเงยหน้าขึ้นมองไปทางประตูทั้งที่นิ้วยังคาอยู่ในรูของไอติม เจ้าของรูกดหัวลงและยกคางขึ้น สายตามองประตู มีเสียงเคาะตามมาและเสียงเรียกของดัสตินดังขึ้นอีกรอบ


“Bryan.” เจ้าของชื่อดึงนิ้วออกจากรูของไอติม ยกขาไอติมออกจากคอ เลื่อนตัวลงจากเตียง เดินอ้อมปลายเตียงไปที่ประตู บิดลูกบิดแล้วดึงประตูเปิด


ดัสตินมองเพื่อนในสภาพเปลือยเปล่าและไอ้นั่นพุ่งด้วยอาการผงะนิดหน่อย แต่ก็แค่แปบเดียวที่ตากล้องรูปหล่อชะโงกหน้าไปมองในห้องนอน ก็เห็นร่างขาวสว่างนอนตั้งฉากอ้าขาอยู่บนเตียง หัวหันมาทางประตู ดัสตินยิ้มขำ


“โอเค เอาล่ะ โทษที ฉันไม่รู้ว่าแกกับเด็กแกกำลังจ้ำจี้กันอยู่ แค่จะมาบอกว่าพวกฉันพร้อมแล้ว”


“เดี๋ยวตามไปแล้วกัน พวกแกเตรียมของไปก่อน” แซ็คว่าสบาย ๆ ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับการยืนแข็งต่อหน้าเพื่อนและเพื่อนก็เห็นอีกคนนอนรอเขาอยู่บนเตียง


“ได้ ไม่ต้องรีบ” แซ็คยักคิ้วก่อนจะดันประตูห้องปิดตามเดิม ดัสตินยิ้มขำก่อนเดินกลับไปทางห้องครัวที่ทุกคนอยู่ที่นั่น



V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.28 : Christmas gift. : 08.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 08-03-2019 21:42:20
V
v
v


“โอ้ว เฮ้ เรียบร้อยดีนะ” ดัสตินหันไปแซวเพื่อนกับเด็กของเพื่อนที่พากันเดินออกมาข้างนอกหลังจากผ่านไปเกินครึ่งชั่วโมงแล้วนับตั้งแต่เขาไปตาม


แซ็คยิ้มมุมปาก ยักคิ้วยักไหล่เท่ ๆ ไอติมยิ้มตาแป๋วอยู่ข้าง ๆ ฝรั่งตัวโต ดัสตินหัวเราะ “You look so fresh, ice-cream. (นายดูสดชื่นดีนะไอศกรีม)”


ไอติมยิ้มรับกับประโยคนั้น เลื่อนสายตามองคนอื่น ๆ ที่กำลังช่วยกันทำอาหาร ลูคัสหันมองไอติมและขยิบตาให้พร้อมกับยิ้มแซว ไอติมเม้มปากยิ้มเขิน แต่ก็ไม่ได้เขินเป็นสาวแรกแย้มอะไรขนาดนั้น


“พาไอติมไปแต่งต้นคริสต์มาสเถอะไบรอั้น คริสต์มาสแรกของน้อง ให้น้องมันได้ลองทำดู” เจมส์บอกกับเพื่อนในขณะที่กำลังหมักเนื้อในกะละมังสีเงิน แซ็คพยักหน้าแล้วหันไปหาไอติม ชี้ไปที่ต้นคริสต์มาสปลอมต้นใหญ่ที่วางใกล้กับเตาผิงในโซนห้องโถง ไอติมเห็นแล้วก็ยิ้มกว้าง


“Christmas tree! (ต้นคริสต์มาส!)” อุทานเสียงใสด้วยความตื่นต้นก็เดินลิ่วไปหาเจ้าต้นไม้ต้นนั้น


“โหมดอ่อนโยนสินะ เด็กแกถึงไม่ขาเป๋น่ะ” ดัสตินแซว และนั่นจึงทำให้ทุกคนหัวเราะ แซ็คยิ้มมุมปาก หมุนตัวเดินตามไอติมไปที่ต้นคริสต์มาส


“Have you ever decorate the Christmas tree before? (เคยตกแต่งต้นคริสต์มาสมาก่อนรึเปล่า)” แซ็คถามพลางนั่งลงข้างไอติมที่กำลังดูของตกแต่งต้นไม้ในกล่องลัง ไอติมหันไปพยักหน้า


“At school. (ที่โรงเรียน)” ไอติมเคยทำอยู่ครั้งหนึ่งสมัยมัธยมต้น อาจารย์ภาคภาษาอังกฤษมาบอกให้ทำเพื่อเอาไปตั้งโชว์บนเวทีในหอประชุมช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส


“Do it what you want. (อยากทำอะไรก็ทำเลย)” ไอติมหันไปยิ้มให้ฝรั่ง แซ็คยิ้มบาง หยิบสายไฟออกมาจากกล่องลังออกมาคลี่เพื่อเตรียมพันต้นคริสต์มาส


ไอติมเงยหน้ามองต้นคริสต์มาสสูงขนาดเท่าอกแซ็ค จินตนาการในหัวสักแปบว่าเห็นอะไรบนนั้น ก้มลงมองหาของตกแต่งในลังที่มีเหมือนหรือใกล้เคียงกับภาพในหัว เริ่มจากหยิบสายรุ้งตกแต่งหลากสีขึ้นมาพันรอบต้นไม้ โดยใช้สายรุ้งอันละสีพันแบ่งเป็นห้าชั้น เว้นช่องว่างของแต่ละชั้นไว้เพื่อแขวนของประดับแบบอื่น เช่น พวกลูกบอลสี ตุ๊กตาเซรามิกนางฟ้า เครื่องประดับสีทองต่างๆ


“ว้าววว อันนี้น่ารักอ้า… นางฟ้าาา… ปลาโลมาาา” ไอติมหยิบของขึ้นมาจากลังทีก็ร้องอุทานอู้หูอู้หา แววตาเปล่งประกายกับของในมือสักแปบก่อนจะยื่นไปห้อยกับกิ่งต้นคริสต์มาส


แซ็คมองไอติมแล้วนึกขำกับการที่ไอติมดูจะมีความสุขที่ได้ตกแต่งต้นคริสต์มาสซะเหลือเกิน ทั้งที่มันเป็นเพียงต้นไม้ปลอมต้นหนึ่งกับการแขวน ๆ ห้อย ๆ อะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่มันคงไม่แปลกอะไรถ้าเด็กนี่จะดูดี๊ด๊าเพราะเป็นคริสต์มาสแรกในต่างประเทศของเจ้าตัว อีกอย่างเทศกาลนี้ก็เป็นเทศกาลรื่นเริง พวกเด็ก ๆ ก็มักจะสนุกกับการทำกิจกรรมอะไรแบบนี้ ซึ่งอย่างไอติมจะถือว่าเป็นเด็กก็ไม่ผิดนัก


“Move move.” ไอติมบอกแซ็คตอนที่พ่อฝรั่งเข้ามาขวางทางตัวเอง แซ็คต้องเขยิบตัวออกห่างต้นคริสต์มาสเพื่อให้กระต่ายลามกเดินวนรอบต้นเพื่อแขวนของตกแต่งตรงช่วงกลางต้น


“Hey hey.” ไอติมวนกลับมาอีกรอบ และใช้มือปัดให้แซ็คหลบทาง แซ็คแยกเขี้ยว ปล่อยสายไฟออกจากมือ สองแขนรวบตัวไอติมจากทางด้านหลังแล้วยกเด็กลามกตัวลอย


“โว้วววๆ” ลูคัสกับดัสตินยื่นหน้าออกไปดูเมื่อได้ยินเสียงร้องของไอติม เห็นแซ็คกำลังใช้จมูกขยี้ลงบนแก้มไอติม โดยที่หนุ่มเอเชียหลับตาปี๋หัวเราะคิกคักปล่อยให้ไอ้ตัวใหญ่ขยี้แก้มตามใจ


แซ็คปล่อยไอติมลงไปยืนบนพื้นตามเดิม ไอติมหัวเราะไปห้อยของประดับไป แซ็คก้มตัวลงหยิบสายไฟขึ้นมาพันรอบต้นคริสต์มาสต่อจนเสร็จ ก่อนจะไปช่วยไอติมแขวนของประดับตามกิ่งไม้บนที่ว่างขั้นสุดท้าย


“Star. (ดาว)” ไอติมยิ้มแฉ่ง ชูดวงดาวสีทองห้าแฉกดวงใหญ่ให้แซ็คดู คนตัวโตแขวนตุ๊กตากามเทพสีทองเป่าแตรเสร็จก็อุ้มไอติมขึ้นสูง เหมือนพ่ออุ้มลูก ไอติมหัวเราะ ยื่นมือซ้ายไปจับยอดต้นคริสต์มาส มือขวาตามเอาดาวในมือไปเสียบไว้บนยอดนั้น ไอติมปรบมือแปะ ๆ ด้วยความดีใจ มองผลงานตัวเองด้วยความชื่นชม


“Take photo, take photo. (ถ่ายรูป ถ่ายรูป)” แซ็คย่อตัวลงและทำท่าจะปล่อยไอติมวางลงบนพื้น แต่ไอติมกอดคอแซ็คแน่นและหัวเราะเริงร่า


“Noooo.” แซ็คยืนขึ้นเต็มความสูงตามเดิม หันหน้าไปมองไอติมและขมวดคิ้วใส่


“Get down, I will get the phone. (ลงก่อน ฉันจะไปหยิบโทรศัพท์)” ไอติมส่ายหัว แซ็คถลึงตาใส่ หันหน้าไปทางครัว


“เฮ้ ใครก็ได้ มาถ่ายรูปให้ทีสิ” แซ็คตะโกนเรียก หวังว่าใครสักคนจะเดินมา และก็เป็นดัสตินที่เดินมาแล้วยิ้มขำกับภาพที่เห็น แต่ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปให้ไปหลายช็อต


“บ้านน่าอยู่ขึ้นนะว่ามั้ย” ไอติมไถลตัวลงจากตัวแซ็ค แซ็คยิ้มเบ้ปากน้อยๆ


“ก็มีแค่พวกเรานี่” ดัสตินหัวเราะ


“คึกได้เต็มที่สินะ ว่ามั้ยไอศกรีม” ดัสตินหันไปถามไอติมที่มองต้นคริสต์มาสอยู่ ไอติมหันไปมองคนถามงง ๆ แซ็คเลยช่วยอธิบายว่าดัสตินพูดถึงอะไร


“อ้อ yes, no creepy people in the house. (ใช่ฮะ ไม่มีคนน่ากลัวในบ้าน)” ดัสตินหัวเราะ แซ็คคลี่ยิ้มขำ


สามรูมเมทหลักของแซ็คไม่มีใครอยู่บ้านสักคน แมนดี้กับเควินกลับบ้านที่แท้จริงของแต่ละคนเพื่อไปหาครอบครัว เจค็อบก็ไปเที่ยวยุโรปกับครอบครัว ส่วนแคสโทรลจะกลับมาร่วมปาร์ตี้ด้วยในตอนค่ำ ๆ หลังจากใช้เวลากับที่บ้าน ไอติมเก็บความดีใจไม่อยู่ตอนแซ็คบอกว่าจะเหลือคนแค่นี้ ตอนที่รู้ว่าสามคนนั้นไม่อยู่บ้าน แม้จะเป็นแค่ในช่วงวันหยุด แต่ไอติมก็ถือว่าการหายไปของพวกเขาทำให้บ้านดูสว่างสดใสขึ้นทันตา


“Hey, dude. (เฮ้ เพื่อน)” ทั้งสามคนหันไปมองผู้ชายสองคนที่กำลังเดินมาทางนี้ ไอติมมองฝรั่งหัวดำแต่ความยาวของผมต่างกันด้วยความไม่คุ้นตา คนหนึ่งผมสั้นเกรียนเข้ากับกรอบใบหน้าอันชัดเจนของเขา สีผิวแทนสุขภาพดี อีกคนผมสีดำยาวตัดซอยเข้ารูปกับโครงหน้าโหนกกราม ผิวขาวสะอาดสะอ้าน ทั้งสองคนตัวสูงพอ ๆ กับแซ็ค และล่ำบึ้กไม่แพ้กัน ไอติมมองสองคนนั้นนิ่งจนเกือบจะเป็นตาเคลิ้ม ความรู้สึกคล้ายกำลังอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่าง 


“Rabbitch.” ไอติมหลุดออกจากความเหม่อลอยเล็ก ๆ แล้วหันไปหาแซ็คที่มองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ ไอติมยิ้มเหลอหลา


“This is Eddie and Bruce. (นี่เอ็ดดี้กับบรูซ)” แซ็คผายมือไปทางคนหัวดำผมสั้นกับคนหัวดำผมยาวตามลำดับชื่อที่บอก ไอติมยิ้มให้ทั้งสองคน ยื่นมือออกไปเช็กแฮนด์สองหนุ่ม ทั้งสองคนเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อ แต่ไอติมมองว่าถ้านับฝรั่งสี่คนที่ยืนรอบตัวเองในขณะนี้ บรูซคือคนที่หล่อที่สุด


“Hi, ice-cream. You might not remember us, but we remember you. (สวัสดีไอศกรีม เธออาจจำเราไม่ได้ แต่เราจำเธอได้นะ)” บรูซบอกพร้อมรอยยิ้มกว้าง ไอติมหันไปมองแซ็คด้วยความงง


“He is in my stripper team, a sexy dance team. (เขาอยู่ในทีมเต้นเปลื้องผ้าของฉัน ทีมเต้นเซ็กซี่น่ะ)”


“อ๋อ” ไอติมครางเบา ๆ พยักหน้าสองสามที ก่อนจะนึกได้ว่าตอนพวกเขาทำงานกับแซ็คที่บ้านลูคัส ตอนนั้นไอติมไม่ได้ทำความรู้จักใครเลย เพราะมัวแต่คุยกับลูคัสแล้วเดนนี่ก็มารับกลับ


“I met you in the dressing room while you were waiting him. I smile to you, and you smile to me. (เราเจอกันในห้องแต่งตัวตอนที่เธอรอหมอนี่ ฉันยิ้มให้เธอ เธอยิ้มให้ฉัน)” บรูซอธิบาย ไอติมนึกสักแปบก่อนที่ความทรงจำจะแวบเข้ามาให้อ้าปากหวอ ก่อนขยับเป็นรอยยิ้มเล็กๆ


“อ้อออ I remember” ไอติมจำรอยยิ้มและดวงตาสีดำคู่นั้นได้แล้ว ตอนที่แซ็คไปเอาบัตรให้เขา ไอติมหันไปสบตากับฝรั่งคนหนึ่งและเขาคนนั้นยิ้มกลับมาให้


“Yes, that’s me. (ใช่ ฉันเองแหละ)” บรูซยิ้มกว้าง ไอติมยิ้มกริ่ม แล้วหันไปมองเอ็ดดี้อีกคน หนุ่มหัวดำผมสั้นยิ้มตอบกลับมาอย่างเป็นมิตร


“Don’t you remember them when you watching them on stage? (นายจำพวกเขาไม่ได้เลยเหรอตอนที่เธอดูพวกนี้แสดงบนเวทีน่ะ)” ดัสตินถามด้วยความสงสัย


“I watch only Zach. (ผมดูแค่แซ็คอะ)”


“อู้ววว” เอ็ดดี้กับดัสตินส่งเสียงร้องแซว บรูซยิ้มและเงยหน้าขึ้นมองแซ็คที่ยิ้มเบ้ปากและยักไหล่เท่ ๆ หนึ่งที ไอติมหันมองหนุ่มฝรั่งอีกสามคนด้วยความงงแต่ก็ยิ้มไม่หุบ


 “ช่วยกันเตรียมของเถอะ จะได้เสร็จเร็วๆ” แซ็คบอกเพื่อนอีกสามคน ทั้งหมดพากันเดินไปทางครัวเพื่อช่วยคนอื่นเตรียมของสำหรับปาร์ตี้ริมสระวันนี้





“Happy Christmas!”


“Heyyy!” เสียงดังครึกครื้นดังขึ้นพร้อมกับเสียงแก้วกระทบกัน ทุกคนต่างยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่ม ไอติมที่ในแก้วใส่ยาคูลท์ก็ยกดื่มไปครึ่งแก้ว


“และดื่มให้กับไอติมที่ผลงานของเขาได้รับการตอบรับที่ดีจากคนดู” ลูคัสชูแก้วขึ้นแล้วพูด เจมส์ช่วยอธิบายให้รุ่นน้องเข้าใจ ไอติมยิ้มกว้างและยกแก้วขึ้น


“เฮฮฮ!” คนที่เหลือหัวเราะกับการเฮของไอติม ร่างผอมบางหันไปดีใจกับแคสโทรลและโจเป็นพิเศษเพราะทั้งคู่อยู่ในผลงานชิ้นที่ลูคัสว่า สองนักแสดงเองก็กล่าวขอบคุณไอติมที่ทำผลงานดีจนเป็นเครดิตที่ดีแก่ตัวเขาทั้งสองคน สักพักไอติมก็เดินเข้าไปกอดลูคัส ดัสติน แอนโทนี่ พี่เจมส์ตามลำดับ กอดและขอบคุณที่มาช่วยเป็นเบื้องหลังด้วยกัน


“And me? (ฉันล่ะ)” แซ็คแกล้งแซว ไอติมหันไปยิ้มให้ขวัญใจตัวเองแล้วหอมแก้มสองข้างของแซ็คข้างละฟอด คนอื่น ๆ ส่งเสียงแซว ไอติมยกยาคูลท์ขึ้นดื่มจนหมดแก้ว


“Ahhh!” ไอติมยิ้มกว้าง แซ็คยื่นมือขวาไปยีหัวคนตัวเล็ก ก่อนเดินแยกออกไปนั่งริมสระ


บรรยากาศปาร์ตี้สนุกสนานอย่างที่ควรจะเป็น มีเสียงเพลงขับกล่อมบรรยากาศไม่ดังไม่เบาจนเกินไป บริเวณหลังบ้านมีไฟหลากสีประดับประดาตามต้นไม้และตามรั้วให้ความระยิบระยับ ผืนน้ำสีฟ้าในสระทอประกายล้อกับแสงไฟ เสียงพูดคุยสลับกับเสียงหัวเราะ ไอติมฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ก็ยิ้มตามไปด้วยเพราะบรรยากาศมันพาสนุก อาหารที่ช่วยกันทำก็อร่อยจนกินเพลินปากไม่หยุดหย่อน


“โว้ว แหว่นซ๊วยหน่าเนี่ย ซื้อมาต๊อนหนัย” แอนโทนี่เห็นแหวนเพชรวิบวับอยู่บนนิ้วไอติมก็เอ่ยทัก ไอติมยิ้มเขินและชี้ไปทางแซ็คที่กำลังนั่งคุยกับคนอื่น ๆ อยู่บนเก้าอี้อาบแดด แอนโทนี่ทำหน้าตื่นตะลึง


“ไอ่ไบร่อั้นให้เหรอ” ไอติมพยักหน้า


“ให้ใส่แค่วันนี้ฮะ เป็นของขวัญคริสต์มาสอะ พรุ่งนี้ก็ถอดคืนแล้ว”


“อ้อ แต่เอ๊ะ หั่ยวันเดียวหลอ หมั่นหั้ยตาหลอดปัยล่า” ไอติมหัวเราะ


“ไม่เป็นไรหรอกฮะ ผมก็ไม่ได้ชอบเพชรขนาดนั้น”


อาหารที่ไอติมทำเป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้แซ็คเพื่อแลกเปลี่ยนกับแหวนวงนี้ก็คือปีกไก่ทอดของโปรด แต่ไม่อร่อยเท่าของแม่ทำหรอก จริง ๆ อยากจะทำหมูกระทะให้กินด้วยซ้ำ แต่อุปกรณ์ไม่เอื้ออำนวย เลยทำไก่ที่ไม่ได้ยุ่งยากมากและเป็นของโปรดของตัวเองด้วย


“เป็นไง ปาร์ตี้คริสต์มาสแรกของชีวิต ชอบมั้ย” เจมส์เดินเข้ามาถาม ไอติมที่กำลังกินปีกไก่อยู่เคี้ยวหงับ ๆ ก่อนตอบ


“ก็ดีฮะพี่เจมส์ แต่มันก็เหมือนปาร์ตี้ทั่ว ๆ ไปอะเนอะ”


“ช่าย ก็ไม่ได้ต่างหรอก แต่พวกเราแค่จัดปาร์ตี้ไง ไม่ได้ทำตามพิธีของพวกเขา เราเอาสนุกในบรรยากาศคริสต์มาสเฉยๆ” ไอติมยิ้ม เคี้ยวไก่ด้วยความอร่อย ถึงจะไม่เท่าที่แม่ทำ แต่ก็ได้น้ำจิ้มช่วยชีวิตไว้


“เอ้อ พี่เจมส์กลับไทยมั่งมั้ยฮะ” คนถูกถามสั่นหัว


“ไม่อะ ไม่ใช่ที่ของพี่ อยู่นี่พี่มีความสุขกว่า” ไอติมย่นคิ้วงง แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะคิดว่าคงเป็นเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย และเจมส์เองก็ดูไม่ได้มีทีท่าว่าจะพูดต่อ ไอติมก็เลยปล่อยให้มันเงียบหายไป แต่ก็ไม่หายไปซะทีเดียว มีหนึ่งประเด็นที่ไอติมสงสัย และคิดว่ามันไม่ใช่การละลาบละล้วงจนเกินไปเลยกล้าถาม


“แล้วพี่ไม่มีปัญหาเรื่องวีซ่าเหรอ” เจมส์ยิ้มและสั่นหัวเบาๆ


“ไม่ พี่ทำเรื่องทุกอย่างถูกต้องหมดแล้ว” ไอติมอ้าปากหวอแปบหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มแล้วพยักหน้าด้วยความเข้าใจ


“จะแต่งงานกับโจมั้ยฮะ”


“ไม่ต้องจะหรอก พี่แต่งงานกันมาได้สองปีแล้ว”


“โอะโอ้ว ยินดีด้วยนะฮะ” เจมส์ขำเบา ๆ ไอติมยิ้มเขิน


“แล้วกะว่าจะให้พี่โจเขาเล่นหนังโป๊อีกนานมั้ยฮะพี่เจมส์” คนถูกถามยกแก้วในมือขึ้นดื่มแอลกอฮอล์ในแก้ว


“ไม่รู้เหมือนกัน แล้วแต่มันพอใจมั้ง มันโดนเอาตูดแล้วได้เงิน พี่ก็เลยไม่ได้คิดว่ามันจะต้องเลิกเมื่อไหร่อะ นอกหนังมันเป็นผัว มันต้องเลี้ยงพี่ ตกลงกันไว้แล้ว” เจมส์แกล้งทำหน้าโหด ไอติมหัวเราะ หันไปมองโจ ฝรั่งตัวสูงใหญ่แต่ไม่ได้ล่ำบึ้กกำลังนั่งคุยกับลูคัสลัสตินอยู่


“โจเขาก็ดูแมนดีเนอะพี่ แต่ตอนแสดงก็ หูยยย แซ่บเชียว” เจมส์หัวเราะ


“พี่คบกับมันเกินคำว่าสาวไม่สาวไปแล้ว แต่เวลามันสวมบทเป็นผัวให้พี่บนเตียง มันก็แซ่บแบบแมน ๆ นะ” ไอติมห่อไหล่สองข้างแล้วยิ้มเขิน ก่อนที่หางตาเหลือบมองไปทางแซ็ค แวบแรกกะแค่ว่ามองเห็นภาพ ๆ หนึ่งผ่านทางหางตา แต่สักพักก็หันไปมองเต็มตาเพราะว่าเห็นควันจาง ๆ ลอยขึ้นมาจากทางที่เขานั่งอยู่กับเพื่อนนักเต้นอีกสองคนและแอนโทนี่ ไอติมเขม้นมองก็เห็นแซ็คถือของคล้ายมวนบุหรี่ไว้ในมือ


“พวกนั้นดูดปุ๊นน่ะ” ไอติมหันกลับมามองเจมส์ด้วยความงุนงงก่อนจะขมวดคิ้ว


“ปุ๊น? คืออะไรฮะ”


“กัญชา” เจมส์ตอบอย่างราบเรียบน้ำเสียงเป็นปกติแล้วยกแก้วในมือขึ้นดื่ม ไอติมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ หันไปมองแซ็คอีกรอบ ขวัญใจของเขากำลังนั่งยิ้มขำจนตาหยีกับเพื่อนของตัวเอง 


“มัน เอ่อ เป็นยาเสพติด มะ ไม่ใช่เหรอฮะ” ไอติมรู้สึกมึนในหัว


“ช่าย ถ้าที่ไทยอะนะ แต่ที่นี่ก็ใช่ว่าจะถูกกฎหมายใสสะอาดขนาดนั้นหรอก แค่อิสระเสรีมันมากกว่าที่ไทย” ไอติมรู้สึกเป็นกังวล


“มันไม่ดีต่อสุขภาพด้วยไม่ใช่เหรอฮะ” ไอติมมองไปทางแซ็คด้วยความเป็นห่วง จู่ ๆ เขาก็ล้มตัวลงนอนริมสระแล้วก็หัวเราะเสียงดัง แอนโทนี่ที่ไอติมไม่คิดว่าจะยุ่งเกี่ยวกับอะไรแบบนี้ก็กำลังนั่งหัวเราะราวกับเห็นอะไรตลกโปกฮาอยู่ตรงหน้าทั้งที่ตรงหน้าพ่อหนุ่มแว่นคือต้นไม้


“กัญชาก็มีประโยชน์กับสุขภาพเหมือนกันนะ…” ไอติมหันมองเจมส์แล้วย่นคิ้ว เจมส์ขำเบาๆ


“…เรื่องนี้ถกเถียงกันไปยังไงก็ไม่มีใครชนะ เพราะแต่ละคนจะยกเหตุผลของตัวเองมาสู้กันทั้งนั้นแหละ แต่ติมสบายใจเถอะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของมัน และไม่ใช่จุดเริ่มต้นของมันด้วย” ไอติมมองเจมส์ด้วยสายตาตะลึง


“เขาเสพมานานแล้วเหรอ”


“พี่ไม่รู้ว่านานแค่ไหน แต่ก็นานแหละ และถ้ามันยังอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้โดยที่สติมันยังดีอยู่ พี่ว่ามันก็ไม่ได้เล่นหนักจนเกินไปหรอก” ไอติมไม่แน่ใจว่าจะบอกกับตัวเองว่าให้สบายใจตามคำที่พี่เจมส์พูดได้มั้ย


“มันเป็นปกติของคนทำงานในวงการนี้รึเปล่าฮะเนี่ย” เจมส์ชี้ไปที่ลูคัส ดัสติน โจที่นั่งกินอาหารไปและคุยกันไปอยู่ที่โต๊ะข้างเตาผิงด้วยท่าทางเมากรึ่ม แต่ยังมีสติมากกว่าแก๊งค์กัญชา


“มันเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล เหมารวมไม่ได้หรอก” ไอติมพยักหน้าด้วยความเข้าใจ หันไปมองแซ็คที่พยายามดันตัวลุกขึ้นมาทั้งที่ยังหัวเราะไม่หยุด ดวงตาสีเทาอ่อนมองมาทางเขา รอยยิ้มขยับกว้างขึ้นกว่าเดิม


“Hey, rabbit. Come here. (เฮ้ กระต่าย มานี่มา)” แซ็คกวักมือเรียกไอติม สามหนุ่มที่ร่วมวงสูบด้วยหัวเราะ ไอติมยิ้มแห้ง ๆ มองแซ็คด้วยสายตาว้าวุ่นและยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่ยอมเดินไปหาตามที่เขาเรียก แต่แซ็คก็ไม่ได้โวยวายอะไร ทำเพียงนอนหน้าคว่ำไปกับพื้นแล้วหัวเราะเสียงดังราวกับมันตลกมากมาย


“ปล่อยมันไว้อย่างงั้นแหละ ตอนเช้าก็สร่างแล้ว” ไอติมยิ้มไม่เต็มปากนัก มองแซ็คชูสองแขนขึ้นแล้วร้องเพลงอะไรสักเพลงที่ไอติมฟังไม่ออก ไม่แน่ใจว่าฟังไม่ออกเพราะแซ็คเมากัญชาหรือเพราะตัวไอติมเองที่ไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษ


“Let’s him enjoy, ice-cream. He doesn’t have a moment like this every day.” ไอติมหันไปมองลูคัสด้วยความงงเพราะไม่ได้ตั้งใจฟัง เจมส์เลยช่วยแปลให้ พอเข้าใจแล้วไอติมก็ยิ้มน้อย ๆ ตามด้วยพยักหน้าหนึ่งครั้ง ก่อนที่รอยยิ้มจะจางลง สีหน้าไม่ค่อยดีนัก


ถึงจะสัมผัสได้ว่าแซ็คคงไม่ได้ติดงอมแงมอะไรมากมาย เพราะดูจากช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่อยู่ด้วยกันเขาก็ดูปกติดี ไม่ได้มีอาการดิ้นรนหรือออกอาการลงแดงอยากยาแบบที่เคยเห็นในละครสมัยเด็ก แต่ไอติมก็รู้สึกเป็นห่วงแซ็คและรู้สึกไม่ดีอย่างที่บอกได้ว่าเพราะอะไรถึงรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่ตัวเองกำลังเห็นอยู่


ไอติมก็แค่หวังว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น แบบที่ทำให้ไอติมรู้สึกไม่ดีอยู่






เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



แหวนเพชชช แหวนเพชรรรร  :hao7:

ให้ใส่วันเดียวก็ถือว่าให้เนาะกระต่ายเนาะ คริๆ

ฝึกทำไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไว้นะคะน้องติม จะได้เอามามัดใจพี่เขา  :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.28 : Christmas gift. : 08.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 08-03-2019 22:14:33
หู้ยยย ลางไม่ดีอีกแล้ววว

 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.28 : Christmas gift. : 08.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 08-03-2019 22:30:06
อิแซคคคคน่าตีจังโว้ยยยย ทำน้องเป็นห่วงงงงงงงงงงงวงงง :z3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.28 : Christmas gift. : 08.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-03-2019 22:36:38
มันเป็นความสงบก่อนจะเกิดพายุหรือเปล่า    :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.28 : Christmas gift. : 08.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-03-2019 23:55:59
เล่นยา กับ ติดยา มันก็ไม่ดีทังคู่เนอะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.28 : Christmas gift. : 08.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-03-2019 09:21:15
เหมือนจะได้กลิ่นมาม่า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.28 : Christmas gift. : 08.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 09-03-2019 13:35:12
คนกั๊ก 2019 :hao6: แต่เชียร์ให้แซ็คหาบ้านใหม่เพื่ออยู่กับน้องนะ
เกลียดของขวัญแค่วันเดียว5555 แต่รอเวลาที่อิพี่จะจริงจังกับน้องอยู่นะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.28 : Christmas gift. : 08.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 15-03-2019 21:15:00
เอ อยากเปลี่ยนอารมณ์แล้ว  :hao7:
อยากเห็นน้องติมเวอร์ชั่นที่ไบรอั้นตามจีบแล้ว  :ruready
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 18-03-2019 00:34:07
Fall in lust - Chapter 29 :: Wonder. (พิศวง)





   ไอติมดันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความงัวเงีย แต่ก็ต้องฝืนความง่วงลงจากเตียง เดินอ้อมปลายเตียงฝ่าความมืดไปทางห้องน้ำอย่างเชื่องช้า เปิดไฟในห้องน้ำแล้วก็ต้องหรี่ตาลงเพราะแสงจ้า ไอติมเดินไปตรงชักโครก ถอดกางเกงไปกองตรงข้อพับขาและนั่งลงด้วยความง่วง ยกมือซ้ายวางค้ำคางและหลับตาลง ช่วงเวลาที่ฉี่ไหลออกมานั้นรู้สึกว่ามันยาวนานมากจนเผลอเข้าห้วงหลับไปพักหนึ่งทั้งที่นั่งอยู่บนชักโครก
   

ไอติมดึงสติกลับมาเมื่อความรู้สึกเสี้ยวเล็ก ๆ สัมผัสได้ว่าฉี่หยุดไหลแล้ว ร่างผอมบางเปิดเปลือกตาด้วยความง่วงนอน หยิบทิชชูมาซับบริเวณนั้นหลังฉี่เสร็จ ทำไปก็ตาจะปิดไป พอรู้สึกว่าสะอาดดีแล้ว ก็ทิ้งทิชชูลงชักโครก ยืนขึ้นพร้อมกับดึงกางเกงนอนขาสั้นขึ้น หันไปกดชักโครก เดินออกมาจากห้องน้ำกำลังจะหันไปกดปิดไฟ แต่ความสว่างจากไฟห้องน้ำทำให้ไอติมเห็นภาพเตียงฝั่งแซ็คว่างเปล่าเลยชะงักมือไว้
   

หายไปไหนอีกแล้ว
   

ไอติมยืนมองความว่างเปล่านั้นด้วยความง่วงและงง หันมองรอบห้องก็ไม่พบร่างของเจ้าของห้องนอน ไอติมเดินไปตรงปลายเตียง เปิดไฟห้องน้ำไว้เพื่อให้มีแสงสว่างในห้อง ไอติมรู้สึกงงงวยว่าแซ็คหายไปไหน หันมองหาโทรศัพท์มือถือของเขาก็เห็นว่าวางอยู่บนโต๊ะตั้งคอมพิวเตอร์ ไอติมเดินกลับไปปิดไฟห้องน้ำแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองบนหัวเตียง ต่อด้วยเดินไปที่ประตู มือขวาเอื้อมจะบิดลูกบิดเปิดประตูแต่ก็ชะงักไว้ เมื่อเกิดความรู้สึกลังเลขึ้นมากะทันหัน
   

เดินดุ่ม ๆ ไปรอบบ้านเขาแบบนี้ จะโดนหาว่าเป็นขโมยหรือเปล่านะ
   

ไอติมเกิดความลังเลใจ ใจนึงนึกอยากออกไปตามหาแซ็คว่าเขาหายไปไหน อีกใจก็รู้สึกเกรงใจเจ้าของบ้านทุกคน อีกอย่างไอติมก็ใช่ว่าจะรู้จักบ้านหลังนี้ทุกซอกทุกมุม
   

‘ฉันออกไปนอนเล่นข้างนอกมาแล้วก็ผล็อยหลับไป’
   

ไอติมนึกถึงที่แซ็คว่าแล้วก็รู้สึกเบาใจนิดหน่อย ถ้านอนอยู่ข้างนอก ไอติมก็ยังพอคุ้นที่คุ้นทางและไม่ได้ไปไกลจากห้องนอนตัวเองมาก คิดได้แบบนั้นไอติมก็เปิดประตูแล้วเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับดึงประตูห้องนอนปิดช้าๆ
   

ภายในบ้านมืดสลัว มีแสงไฟจากสระน้ำสว่างลอดเข้ามาพอให้เห็นทางในบ้าน ไอติมเดินไปที่ประตูหลังบ้าน มองผ่านตรงส่วนที่เป็นกระจกลายน้ำไปด้านนอก แต่ก็ยังเห็นภาพอะไรไม่ชัด เลยจัดการดึงกลอนด้านบนลง และดึงกลอนด้านล่างขึ้น ก่อนบิดลูกบิดและดันประตูออกไปมองข้างนอก ไอติมยืนอยู่ตรงกรอบประตูแล้วกวาดตามองความว่างเปล่าบริเวณสระว่ายน้ำ เขาก้าวเท้าเดินออกไปข้างนอก เดินไปในความเงียบสงบยามค่ำคืน มองซ้ายมองขวาแต่ทว่าก็ไม่เห็นวี่แววของคนที่กำลังตามหา
   

ไอติมมองไปทางประตูออกไปสวนข้างบ้าน ไฟสีเหลืองนวลตาจากริมรั้วเปิดสว่าง ไอติมชั่งใจ ก่อนตัดสินใจไม่เดินไปดู หมุนตัวเดินกลับเข้าบ้าน ดึงประตูปิดตามหลัง ตอนที่กำลังลงกลอนด้านบน ไอติมก็เพิ่งคิดได้ว่า แซ็คคงไม่ได้อยู่ข้างนอก เพราะประตูอันนี้ล็อคจากข้างใน
   

ไอติมจัดการล็อคประตูเสร็จก็เดินไปทางห้องโถงของบ้านที่ต้นคริสต์มาสจากวันคริสต์มาสและฉลองยาวจนถึงปีใหม่ยังคงอยู่ แต่ไม่มีร่างของแซ็คอยู่ทั้งตรงห้องโถงกลางและในครัว ไอติมกดเปิดไฟฉายจากมือถือเดินส่องมองไปรอบชั้นล่างของบ้านอีกสักพัก แต่ก็ไม่เจอแซ็คอยู่ซอกไหนของบ้านเลย
   

‘ฉันมีสองห้องนอน แต่ฉันชอบห้องนี้มากกว่า’
   

ไอติมเงยหน้าขึ้นไปมองระเบียงชั้นบนด้วยความไม่แน่ใจพร้อมกับปิดไฟฉายจากมือถือ ตรงนั้นมันเกินขอบเขตของไอติมไปมาก อยู่มาจะสามอาทิตย์เต็ม ไอติมไม่เคยขึ้นไปเหยียบบนนั้นเลย เพราะด้านบนมีแต่รูมเมทของแซ็คอยู่ ไอติมถึงไม่อยากยุ่ง อีกอย่างก็ไม่ควรยุ่ง เพราะเดี๋ยวเขาจะหาว่าไปขโมยของเขาได้
   

ไอติมตัดใจ และคิดว่าแซ็คคงขึ้นไปนอนข้างบน ไอติมคิดหาเหตุผลด้วยความงงว่าแล้วทำไมแซ็คถึงขึ้นไปนอนข้างบนโดยไม่บอกเขาสักคำ ไม่ได้คิดว่าจะต้องให้ตัวเขาเองไปนอนด้วย แค่งงว่าจะถ้าจะกลับขึ้นไปนอนทำไมไม่บอก


ไอติมก้าวเท้าเดินกลับห้องด้วยความลังเลอีกครั้ง หยุดเดินและยืนเงอะงะอยู่ใกล้กับตีนบันไดที่พาขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ไอติมกัดนิ้วชี้ข้างขวาและครุ่นคิดกับตัวเองว่าจะเอายังไง ก่อนตัดสินใจเด็ดขาดว่าควรกลับห้อง เขาจะไปไหนมันก็เรื่องของเขา ขณะที่ออกเดินได้ไปสองก้าว หูก็พลันได้ยินเสียงประตูห้องด้านบนเปิดและตามด้วยเสียงประตูปิด ไอติมแหงนหน้าขึ้นมอง เห็นเงาคนพาดผนังด้านบนก็เลยวิ่งไปหลบใต้เพดานฝ้าทางไปห้องนอนของแซ็คด้านล่าง


ไอติมยืนเกาะกำแพง ก้มตัวลงมองตรงระเบียงชั้นสอง เห็นร่างใครสักคนเดินอยู่ในความสลัว ร่างนั้นเดินลงบันไดมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงกึ่งกลางบันได ไอติมก็เห็นร่างนั้นชัดขึ้นว่าเป็นแซ็ค กระต่ายตัวจ้อยมองขวัญใจตัวเองตาไม่กะพริบ มองรางสูงใหญ่เดินลงมาจนถึงบันไดเชื่อมขนาดใหญ่ที่หักเข้ากับมุมของบ้านแล้วก็เบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเขาอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าทั้งตัว แคร็อทของไอติมห้อยหัวสงบนิ่ง มือซ้ายของแซ็คถือกางเกงนอนขายาวสีเทาตัวที่เขาใส่เข้านอนพร้อมกัน


“Hey,” แซ็คหยุดตามเสียงเรียกกระซิบแล้วหันไปมองข้างบน ไอติมหันหน้ามองตาม เห็นอีกร่างเดินลงมาในชุดเสื้อคลุมสีแดงสดพลิ้วไหว ผมสีใกล้เคียงกับเสื้อคลุมสยายเต็มด้านหลัง ไอติมตาโตแต่ไม่ได้ตกใจใหญ่โตเมื่อเห็นชัดขึ้นว่าอีกร่างที่ตามมาคือแมนดี้


“Are you leaving? (จะไปแล้วเหรอ)”


“Yes.” แซ็คตอบเสียงทุ้มเรียบๆ


“You could stay with me. (อยู่กับฉันได้นะ)”


“No.” แซ็คตอบแค่นั้นแล้วหมุนตัวเดินลงบันไดอีกสามขั้นที่เหลือ คราวนี้ไอติมตกใจเพราะแซ็คเหมือนจะเดินมาทางนี้ ร่างผอมบางรีบหมุนตัวเดินเร็วกลับไปที่ห้อง อาศัยความสลัวในการพลางตัว เปิดประตูห้องอย่างรวดเร็วและให้แคบที่สุด ได้ยินเสียงแมนดี้รั้งแซ็คไว้เลยทำให้เจ้าของห้องยังไม่ทันกลับมา


ไอติมปิดประตูห้องนอนเบา ๆ เดินกลับขึ้นไปนอนบนเตียง วางโทรศัพท์ตัวเองไว้ที่เดิม นอนตะแคงข้างหันไปทางประตูแล้วดึงผ้านวมขึ้นห่ม จังหวะที่ประตูห้องถูกเปิดเข้ามา ไอติมก็หลับตาลงและทำเนียนนอนนิ่ง ได้ยินเสียงแซ็คเดินผ่านปลายเตียงไปทางห้องน้ำ มีเสียงฉี่ลงในชักโครก ตามด้วยเสียงกรดชักโครก เสียงต่าง ๆ เงียบไปสักแปบก่อนที่ไอติมจะรู้สึกว่าเตียงฝั่งแซ็คยวบอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็นิ่งสงบ


ไอติมลืมตาขึ้น ใบหน้านิ่งแววตานิ่ง แต่ในหัววุ่นวายด้วยความคิดหลากหลายมากมาย




   


เช้าวันต่อมาไอติมตื่นนอนก่อนแซ็คเลยเข้าไปอาบน้ำ ออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ไอติมมองแซ็คที่ยังหลับสนิท สร้อยสีทองถูกรั้งจนตึงไปกับคอ ไอติมเดินเข้าไปกะว่าจะดึงสร้อยให้เลื่อนออกมาหน่อย เดี๋ยวจะรัดคอแซ็คตายซะก่อน แต่มือขวาที่กำลังยื่นไปจะจับสร้อยก็ชะงักเมื่อเห็นมีรอยแดงเกลื่อนบนผิวคอของเขา
   

ไอติมยกมือขึ้นลูบคอตัวเอง และคิดว่าไม่น่าจะผิดถ้าจะคิดว่านี่คือรอยดูดแบบที่แซ็คเคยทำให้ตัวเอง
   

ไอติมยืดตัวขึ้นเต็มความสูง ยกมือขวาเกาหัวสักพักแล้วตัดสินใจเดินผ่านร่างแซ็คไปที่ประตู เปิดประตูออกไปข้างนอกแล้วดึงประตูปิดตามหลังเบา ๆ ก้าวเท้าเดินไปทางห้องครัว จังหวะนั้นแมนดี้เดินลงมาจากบนบ้านพอดี ไอติมชะงักและมองเธอด้วยความรู้สึกแปลกไป
   

“What? (อะไร)” แมนดี้ถามเสียงห้วน ไอติมแค่นยิ้มให้เธอ สาวผมแดงทำหน้าจิกแล้วก็เดินผ่านไอติมออกไปทางประตูบ้าน ไอติมพ่นลมหายใจแผ่วเบา ก้าวเท้าเดินไปในครัว
   

ไอติมไม่รู้ว่าจะทำอะไรกินดี เลยทอดไข่ดาวกับแฮมแบบง่าย ๆ ทอดเผื่อแซ็คด้วย ตื่นมาน่าจะหิว แล้วก็ทำขนมปังทาแยมสตรอว์เบอร์รี่เป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหาร ในขณะที่กำลังทาแยมบนขนมปังไอ พลิกแฮมในกระทะไป เจค็อบในสภาพเปลือยท่อนบน ท่อนล่างใส่เพียงบ็อกเซอร์ก็เดินเข้ามาเปิดตู้เย็นในครัว เจค็อบทำเหมือนไอติมไม่อยู่ตรงนั้น จนไอติมต้องเอ่ยทัก
   

“Good morning.” เจค็อบหันมองไอติมแล้วยิ้มเพียงนิด ตอนที่เจค็อบใช้ศอกซ้ายปิดประตู ไอติมก็เบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าบนคอเขา ต้นแขนและรอบหัวนมซ้ายเต็มไปด้วยรอยฟัน ไอติมเลื่อนสายตาตื่นตะลึงของตัวเองไปมองหน้าเจค็อบ หนุ่มสูงวัยเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามก่อนจะยกมือชี้กระทะ ไอติมถึงได้สติหันกลับไปพลิกแฮม
   

“Hi.” ไอติมหันไปมองทางเดิมก็เห็นแคสโทรลในสภาพเปลือยท่อนบนแบบเจค็อบเดินเข้ามาในครัว แล้วไอติมก็เหมือนโดนช็อตจนหูอื้อเมื่อแคสโทรลยื่นหน้าไปจุ๊บปากเจค็อบหนึ่งทีแล้วตามด้วยคลี่ยิ้มกว้าง
   

‘เจคใจดีกับฉันน่ะ’
   

โอ้ว…
   

“Breakfast? (อาหารเช้าเหรอ)” แคสโทรลถามไอติมสีหน้ายิ้มแย้ม ไอติมยิ้มเด๋อด๋าและพยักหน้า หันไปปิดแก็ซแล้วก็ตักแฮมหลายสิบชิ้นใส่จานแบนสีขาวขนาดใหญ่
   

“Can we join? (กินด้วยได้มั้ย)” ไอติมหันไปมองแคสโทรลสีหน้างุนงง เพราะยังรู้สึกตะลึงตึงตึงกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้อยู่
   

“Breakfast, can we eat? (อาหารเช้าน่ะ เรากินได้มั้ย)” แคสโทรลทวนคำอีกที ไอติมยิ้มกว้างแบบเหลอหลา
   

“โอ้ว โอเคๆ” ไอติมหยิบจานแฮมไปวางบนโต๊ะทานอาหาร ตามด้วยจานไข่ดาว และขนมปังที่ยังทำไม่เสร็จ
   

“ฉันขอขนมปังสักสามชิ้นแล้วกันนะ” เจค็อบว่าพร้อมกับหยิบขนมปังไปสามชิ้นอย่างที่ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินออกไปจากครัวพร้อมขนมปังและน้ำผลไม้หนึ่งขวด แคสโทรลนั่งลงบนเก้าอี้ ใช้ช้อนส้อมจิ้มแฮมใส่ปากหนึ่งชิ้น
   

“Are you okay? (นายโอเคมั้ย)” แคสโทรถามเพราะเห็นว่าไอติมดูโงนเงน หน้าตามึน ๆ คนถูกถามยิ้มกว้างแล้วส่ายหัว
   

“No, I hungry. (ไม่ ผมหิว)” ไอติมหยิบขนมปังขึ้นมากินหนึ่งชิ้นแล้วคลี่ยิ้มให้แคสโทรลที่ยิ้มกริ่มกลับมาให้
   

ไอติมไม่ได้ถึงกับช็อคโลก มันเป็นความรู้สึกที่ว่า อู้ว เอ่อ โอ้ว อ่าวเหรอ คือถ้ามีใครสักคนเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ก็คงประหลาดใจแล้วถามว่าเรียลลี้ แล้วก็จบไป แต่อันนี้มาเห็นด้วยตาตัวเองโดยที่ไม่เคยระแคะระคายหรือไม่เคยรับรู้สัญญาณใด ๆ มาก่อนก็เลยเอ๋อบวกเหวอไปนิด
   

“Are you ready for the award ceremony? (พร้อมสำหรับงานประกาศรางวัลหรือยัง)” ไอติมมองหน้าแคสโทรลงง ๆ สักแปบก่อนที่คำว่า award จะปิ๊งขึ้นในหัว
   

“อ้อ โอเค เรดี้ๆ” แคสโทรลยิ้ม ไอติมเคี้ยวขนมปังตุ้ย ๆ และยิ้มแป้น
   

ไอติมไม่ได้คิดจะถามอะไรแคสโทรล แล้วก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยใด ๆ เลิกติดใจในประเด็นเรื่องของพ่อหนุ่มหัวแดงอ่อนกับเจค็อบไปแล้ว เพราะถึงยังไงเรื่องนี้ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับตัวไอติมอยู่ดี และไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าเจค็อบมีท่าทีเย็นชากับไอติม กิ๊กกับแคสโทรลใช่ว่าเจค็อบจะมีอัธยาศัยที่ดีขึ้นสักหน่อย
   

“Thank you for food. (ขอบคุณสำหรับอาหาร)” แคสโทรยกขนมปังขึ้นขณะที่ลงจากเก้าอี้ ไอติมพยักหน้าขณะที่กำลังจัดอาหารใส่จานไปให้แซ็คกิน
   

“You are welcome.” ไอติมตอบด้วยความมั่นใจในประโยคนี้ แคสโทรลยิ้มอีกทีแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากครัว ไอติมเอาจานอาหารที่ไม่ได้ใช้แล้วไปล้างพร้อมกับกระทะ เสร็จเรียบร้อยก็หยิบตะกร้าใส่ซอสติดมือไปพร้อมกับจานอาหาร เดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ชายหัวเขียว รูมเมทอีกคนของแซ็คเดินลงมาจากบ้านในสภาพเปลือยท่อนบนโชว์หุ่นผอมแห้ง แต่ไอติมไม่ได้หยุดทักทายอีกฝ่ายและอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีทีท่าจะทักเขา ไอติมเลยเดินเข้าห้องนอนไป
   

ไอติมเอาจานอาหารไปวางบนโต๊ะคอมฯ หันไปมองแซ็คที่ยังนอนหลับในท่าเดิม เขามองเวลาก็เห็นว่ามันจะสิบเอ็ดโมงแล้ว วันนี้แซ็คไม่มีงานที่ไหน มีแค่ต้องคุยงานกับทีมงานถ่ายทำหนังกับนางเอกใหม่ช่วงบ่าย เพื่อเตรียมงานสำหรับถ่ายทำอาทิตย์หน้า โดยพวกลูคัสจะเป็นคนจัดหาสถานที่อย่างที่ไอติมต้องการ หาพร็อพ หาสิ่งต่าง ๆ ตามที่ไอติมจะแจ้งในวันนี้ ไอติมไม่อยากรบกวนพ่อฝรั่ง แต่อีกใจก็เป็นห่วงว่าเขาจะไม่ได้กินอาหารเช้าแล้วจะเป็นอะไรหรือเปล่า แต่ก็ไม่ใช่วันแรกสักหน่อยที่เขาจะไม่กินอาหารเช้าตรงตามเวลา เขาอาจจะอยากนอนมากกว่ากินก็ได้
   

ไอติมตัดสินใจเดินไปนั่งโซฟา หยิบแม็คบุ๊กมาวางบนโต๊ะสี่เหลี่ยมหน้าโซฟาตัวยาว งานที่จะคุยช่วงบ่ายก็เตรียมไว้หมดแล้ว เลยกะว่าคงจะหาเปิดยูทูปดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดไปคิดมาก็น่าเบื่อเหมือนกัน เพราะงานก็ไม่ได้ทำตลอดต่อเนื่องเหมือนพวกงานออฟฟิศ ไม่ได้มีการถ่ายทำหนังตลอด แต่มันก็อาจจะเป็นแค่ช่วงนี้ ทำไปสักพักไอติมคิดว่าอาจจะต้องร้องขอเวลาพักผ่อนก็เป็นได้
   

“Hey.” ไอติมหันไปมองแซ็คที่ดันตัวลุกขึ้นด้วยท่าทีงัวเงีย ไอติมยิ้มขณะที่เตรียมสวมหูฟังแบบครอบหัว
   

“Eat breakfast มั้ย” ไอติมชี้จานอาหารบนโต๊ะคอมฯ แซ็คไม่ได้มองตาม ทำเพียงหลับตาลง นิ่งสักพักแล้วก็พ่นลมหายใจยาวออกมาอีกทีแล้วก็ลืมตาขึ้นอีกรอบ
   

“Thank you.” แซ็ครู้ว่าไอติมยกเข้ามาให้กินในนี้เลยเอ่ยขอบคุณ ไอติมยิ้มคลี่ยิ้มบาง มองร่างสูงใหญ่ของแซ็คลงจากเตียงก่อนหายเข้าไปในห้องน้ำครู่หนึ่งแล้วก็กลับออกมาในสภาพท่อนล่างพันผ้าขนหนูเอาไว้ ใบหน้าฉ่ำไปด้วยหยดน้ำ เขาเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่หน้าโต๊ะคอมฯ
   

“You eat? (นายกินแล้วเหรอ)” ไอติมพยักหน้า แซ็คหันไปเทซอสมะเขือเทศใส่จาน
   

ดวงตาของไอติมมองมิวสิควิดีโอบนหน้าจอ สองมือทำท่าจะสวมหูฟังแต่ก็ยังไม่ได้สวมสักที เพราะสมาธิวกวนไปกับรอยดูดบนคอแซ็คและภาพที่เห็นเมื่อคืนนี้ ซึ่งจริง ๆ มันก็ชัดเจนแล้วแหละว่าคืนไหนที่ไอติมตื่นมาฉี่กลางดึกและพบว่าเขาหายไป ก็คือเขาหายไปด้านบน และอาจจะมีอีกหลายคืนที่ไอติมไม่รู้แล้วเขาอาจขึ้นไปพบเธอก็ได้
   

จากที่ไอติมไม่เคยคิด ไม่เคยรู้สึกเป็นจริงเป็นจัง จู่ ๆ วันนี้ไอติมก็รู้สึกเกรงใจแซ็คขึ้นมา ก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้สึกอะไร เพราะไอติมมีความหวังตั้งเป้าไว้แค่ว่าจะนอนกับเขา ไอติมมาแค่นั้น ความคิดถูกเซ็ทมาแค่นั้น ไม่ได้สนใจบริบทรายล้อมรอบข้าง แต่ตอนนี้มันมีอะไรมากกว่าเป้าหมายอันนั้นที่ทำสำเร็จไปแล้ว
   

“Zach, I can go to stay Denny brother room นะ” แซ็คที่กำลังเคี้ยวไข่ดาวหันมองไอติมอย่างงุนงง
   

“You really okay that I live here? (คุณโอเคจริงเหรอที่ผมอยู่ที่นี่)” แซ็คพยักหน้าแบบงงๆ
   

“Yes. Why did you ask me like that? (ใช่สิ ทำไมถามแบบนั้นล่ะ)”
   

“I think you maybe want private. (ผมคิดว่าคุณอาจจะต้องการส่วนตัว)” แซ็คยิ้มขำแต่ยังงงๆ
   

“What? (อะไรนะ)” ไอติมยิ้มแห้ง คิดว่าตัวเองน่าจะพูดผิดจนแซ็คไม่เข้าใจ
   

“This is your room, your house, เอ่อ you don’t have girlfriend? (นี่ห้องคุณ บ้านคุณ เอ่อ คุณไม่มีแฟนเหรอ)” แซ็คหัวเราะเสียงดัง ไอติมยังคงยิ้มแห้ง
   

“Hey, you ask this question after we have sex many times, are you serious? (เฮ้ นายถามคำถามนี้หลังจากเรามีเซ็กซ์ด้วยกันหลายครั้งน่ะเหรอ นายเอาจริงดิ)” ไอติมตาโตหน้าตื่น
   

“No. I’m not serious. I just ask. (ไม่ ผมไม่ได้เครียด ผมแค่ถาม)” ไอติมเข้าใจว่าแซ็คคิดว่าตัวเองกำลังเครียดกับเรื่องนี้เลยตอบแบบนั้น
   

แซ็คหยุดกินอาหารและหัวเราะเบา ๆ เขาหมุนเก้าอี้ไปทางไอติม “I don’t have girlfriend or boyfriend. I’m not fit with that thing. (ฉันไม่มีแฟนสาวหรือแฟนหนุ่ม ฉันไม่เหมาะกับอะไรแบบนั้นหรอก)”
   

ไอติมกะพริบตาปริบ กดหน้าลงช้า ๆ หนึ่งครั้ง สายตาพยายามไม่มองรอยบนคอของเขา “And I asked you to stay here. Not you. (และฉันเป็นคนบอกให้นายมาอยู่นี่นะ ไม่ใช่นายขอมาอยู่ที่นี่)”
   

ไอติมเข้าใจประโยคนี้ และกำลังดึงความคิดในตอนนั้นที่เขาเอ่ยชวยกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง “Why you want me to stay here? (ทำไมคุณถึงอยากให้ผมอยู่ที่นี่ล่ะ)”
   

แซ็คยิ้มบาง “Because I want. (เพราะฉันต้องการไง)”
   

ไอติมมองตาแซ็คที่มองกลับมาแบบเรียบเฉย “Just that? (แค่นั้นเหรอ)”
   

“You are my hope. (นายคือความหวังของฉัน)” ไอติมย่นคิ้วด้วยความงุนงง เข้าใจคำนั้น แต่ไม่เข้าใจว่าแซ็คหมายถึงอะไร แซ็คมองหน้าไอติมนิ่งพักหนึ่งแล้วก็กระตุกยิ้มมุมปากซ้ายหนึ่งที แววตาสีเทาอ่อนอ่อนลงจนเกือบกลายเป็นเศร้า แต่พักเดียวก็กลับมาปกติตามเดิม
   

“I want you to succeed in this job. (ฉันอยากให้นายประสบความสำเร็จกับงานนี้)” ไอติมแปลแปบหนึ่งแบบแปบสั้น ๆ แล้วก็พยักหน้าหลายที
   

“อื้อ Me too.”
   

“Then do your best. I will be your kam-lung-jai. (งั้นก็ทำให้ดีที่สุด ฉันจะเป็น แกม แลง จัย ให้)” ไอติมคลี่ยิ้มกว้าง เอ็นดูกับการพูดภาษาไทยของแซ็ค ฝรั่งตัวโตยื่นแขนขวาที่มีรอยสักไปข้างหน้า ก้มลงมองอย่างอ้อยอิ่งครู่หนึ่งแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองไอติม
   

“At least you make me feel I am a bird than a dog. And I want to move my wings from the cage. (อย่างน้อยนายก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นนกมากกว่าหมา และฉันอยากจะโบยบินไปจากกรง)” ทั้งสองคนสบตากัน ไอติมมองรอยสักของแซ็คตรงฝูงนกที่กำลังโบยบิน
   

“A freedom. (อิสระ)” ไอติมเข้าใจความหมายของคำศัพท์และคำพูดของแซ็ค แต่ไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงอะไร แต่ดูจากสีหน้าและแววตาแล้ว เขาดูมีความหวังอย่างที่ปากว่าจริงๆ
   

“I will do my best. (ผมจะทำให้ดีที่สุด)” แซ็คลดแขนลงแล้วยิ้มอ่อน มือซ้ายดึงผ้าขนหนูออกจนเห็นลูกชายของเขานอนสงบอยู่
   

“And do you need kam-lung-jai mai? (นายต้องการกัม ลัง จัย มั้ย)” ไอติมหัวเราะเบา ๆ ส่ายหัวน้อย ๆ ให้แซ็คเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ
   

“I’m full with breakfast. (ผมอิ่มกับอาหารเช้า)” แซ็คขำแบบไม่มีเสียง หมุนตัวหันกลับไปจัดการอาหารตัวเองต่อ ไอติมลดลอยยิ้มลง แววตาครุ่นคิดหาคำพูดที่จะพูดไม่ให้มันก้าวก่ายหรือละลาบละล้วงจนเกินไป
   

“Look like Mandy don’t like me. (ดูเหมือนแมนดี้ไม่ชอบผม)” แซ็คบิดหน้าไปมองขณะที่เคี้ยวเบค่อนเต็มปาก เขายักไหล่สองข้างด้วยท่าทีชิลๆ
   

“She likes me that’s why the reason. (เธอชอบฉัน นั่นเลยคงเป็นเหตุผล)” ไอติมอ้าปากหวอนิดหน่อย แซ็คกลืนเบค่อนลงคอแล้วพูดต่อ
   

“But I don’t like her. (แต่ฉันไม่ชอบเธอหรอก)” ไอติมเกือบจะขมวดคิ้วแต่ก็ตีหน้านิ่งไว้ได้ต่อ
   

“Really? (จริงเหรอ)” แซ็คพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง
   

“Do I make something that looks like I’m fancy about her? (ฉันทำอะไรให้คิดเหรอ ถึงคิดว่าฉันชอบเธอน่ะ)” แซ็คเลิกคิ้วขึ้น มองไอติมที่มองเขาตาใสแป๋ว
   

คุณมีเซ็กซ์กับเธอเมื่อคืนไง   
   

“You don’t like her. You used to have sex with her มั้ย (คุณไม่ชอบเธอ คุณเคยมีเซ็กซ์กับเธอมั้ย)” แซ็คขมวดคิ้ว
   

“I don’t like her why do I need to have sex with her. (ฉันไม่ชอบเธอแล้วทำไมฉันต้องมีเซ็กซ์กับเธอล่ะ)”
   

“Maybe you want. (บางทีคุณอาจจะอยากไง)”
   

“But I don’t want to fuck her. I fuck a girl because I like that girl, or she is my actress in porn. And I fuck a guy because of money. (แต่ฉันไม่อยากเอาเธอนี่ ฉันเอาผู้หญิงเพราะฉันชอบผู้หญิงคนนั้น หรือเธอเป็นนางเอกในหนังโป๊ และฉันเอาผู้ชายก็เพราะเงิน)” ไอติมไล่ตามประโยคของแซ็ค แปลไปทีละท่อนจนกระทั่งคิดว่าแปลครบแล้วถึงได้พยักหน้า
   

“But you are different from other guy. I fuck you because I want. (แต่นายแตกต่างจากผู้ชายคนอื่น ฉันเอานายเพราะฉันอยาก)” แซ็คพูดต่อเมื่อเห็นว่าไอติมน่าจะแปลประโยคก่อนหน้านี้ได้แล้ว
   

“Really? (จริงเหรอ)” ไอติมถาม ดวงตาสีน้ำตาลสดใสน่ามอง
   

“It’s real. (จริง)” แซ็คตอบน้ำเสียงทุ้มนิ่ง ใบหน้าไม่แสดงอาการใดเป็นพิเศษ ไอติมคลี่ยิ้ม แซ็คขบกรามเบา ๆ แต่ก็ทำเอาสันขึ้นชัดและกล้ามเนื้อใต้คางตึง
   

“Good. Because I don’t have money to give you. (ดีฮะ เพราะผมไม่มีให้คุณหรอก)” ไอติมหัวเราะ แซ็คคลี่ยิ้มแบบไม่เห็นฟัน
   

“But you have a golden card. (แต่นายมีบัตรทองนะ)”
   

“I have only that. (ผมมีแค่นั้นแหละ)” แซ็คมองไอติมยิ้มจมูกย่นแล้วยิ้มตามอ่อน ๆ เขาหยิบขวดน้ำเทใส่แก้ว ยกขึ้นดื่มเพื่อล้างคอ เขาเปิดลิ้นชักหยิบของออกมาวางบนโต๊ะ ไอติมย่นคิ้วมองแซ็คกำลังหยิบก้อนอะไรสักอย่างใส่กระดาษสีขาวแล้วเขาก็นั่งม้วน ก่อนจะนึกขึ้นได้เมื่อเห็นเขาหยิบไฟแช็คขึ้นมาจากลิ้นชัก
   

“Hey. It’s not good. (เฮ้ มันไม่ดีนะ)” ไอติมร้องบอก แซ็คยืนขึ้นและพันผ้าขนหนูรอบเอวอีกครั้ง เขาหันไปยิ้มให้ไอติม ซึ่งไอติมเพิ่งเกิดความคิดว่าที่ยิ้มแย้มแบบนี้เพราะเมื่อคืนแอบไปสูบมาหรือเปล่า
   

“It’s okay. Just one. (ไม่เป็นไรหรอก แค่อันเดียว)” ไอติมเม้มปากก่อนจะพ่นลมหายใจแล้วก็พยักหน้า แซ็คคลี่ยิ้ม เดินเข้าไปหาไอติม ก้มลงหอมหัวไอติมหนึ่งที
   

“Just one นะ you have talk work. (แค่อันเดียวนะ คุณมีคุยงาน)”
   

“Yes, mom. (ครับแม่)” แซ็คหัวเราะ หมุนตัวเดินไปเปิดประตูห้องนอน ไอติมมองตามร่างสูงใหญ่จนกระทั่งประตูปิดลงแล้วก็ถอนหายใจ
   

มันคงเหมือนสูบบุหรี่ละมั้ง เขาถึงดูปกติกับมันดี   
 






เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


 :hao7:

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ritawongishere ที่ 18-03-2019 02:16:44
ว่าล่ะ ทำไมน้องถึงไม่รับรัก แล้วก็มีเซ็กส์กับคนอื่นได้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: wildride ที่ 18-03-2019 02:47:29
 :pig4:
 
 ขอความคืบหน้าแบบเร่งรัดเลยได้มั้ย  :ling3:

 คือตอนนี้แต่ละคนล้วนดูเหมือนอยู่ในสถานะที่ไม่มีสถานะ
 
 คือไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกนะ แต่ kinda weird awkward complicated relationship ไปอีก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-03-2019 06:38:13
ทำไมคำพูดกับการกระทำสวนทางกันนะ :hao4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-03-2019 06:48:22
น้องติม ร้องสงสัย แต่น้องก็ไม่สายเผือกเนาะ 555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 18-03-2019 11:09:49
อิแซคแกทำให้น้องกังวลอีกแล้ววนะะะะะ เหมือนมีน้องไว้แค่ความสบายใจอ่ะ :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 18-03-2019 11:21:23
??? เต็มหัวไปหมดแล้ว  :hao4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 18-03-2019 13:31:37
ขุ่นเจ้ต้องแนะนำน้องติมให้รู้จักกับแมทแล้วล่ะค่ะ

อยากรู้ไรต้องถามค่ะ เพราะทางนี้อยากรู้มากกกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 19-03-2019 02:55:01
Wow maybe the little crack destroy everthing นะ
อิแซครีบๆเคลียร์ตัวเองได้แล้วก่อนจะเสียใจ!!!
 :seng2ped: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 19-03-2019 12:37:10
 :z3: :z3: อย่าทำแบบนี้ดับไอติมน้า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 19-03-2019 16:43:30
ชอบยัยน้องไอติมแต่ไม่ชอบที่นางต้องเจออะไรแบบนี้เลย สมแล้วแหละที่ต่อไปไอติมจะไม่ยอมคบกับแซ็คเพราะแซ็คบอกเองว่าไม่อยากมีแฟน อิคนรู้ตัวช้า!!!! จากบทนำก็รู้นะว่าแซ็คต้องมีคนอื่นแน่ๆแต่แบบไม่ชอบเลย ฮือ กอดยัยน้องติมมมมม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 21-03-2019 15:50:34
บางทีความรู้สึกของทั้งคู่นี่แหล่ะทำเราสับสน บางทีก็ดูแคร์กันและกันดีนะ แต่มันไม่สุดจริงๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 21-03-2019 20:06:49
คำพูดกับการกระทำทำไมมันสวนทางกันล่ะคะแซ็คงงเว่อร์ แต่คือตอนนี้น้องก็ไม่มีสิทธิ์จะไปถามอะไรได้เยอะไงเพราะยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.29 : Wonder. : 18.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-03-2019 05:48:53
คืออะไร ที่ไอติมเห็นคืออะไร ภาพมันชัดอยู่นะ
แล้วแซคยังตอบว่าไม่ใช่ ขนาดจั่วเรื่องไปแบบนั้นแล้ว
ไอติมจะไม่นอยด์คงไม่ใช่ ถึงไม่ได้เป็นอะไรกัน
เฮ้อออ ไอติมมาเจอชีวิต มันก็ต้องมีต่างกับซีรีย์ที่เค้าเล่นอะเนาะ

สงสารไอติมนะ บางครั้งเหมือนแซคใจร้าย แต่บางทีก็หวงมาก
อยากให้ไอติมไปอยู่ที่อื่นบ้างจัง อยากรู้ว่าแซคจะทำตัวยังไง

แซคสับสนกับตัวเองหรอ ชีวิตนี้ที่ชินแล้ว เลยคิดว่าไม่เป็นไร

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 23-03-2019 21:25:50
Fall in lust - Chapter 30 :: Fluffer. (ฟลัฟเฟอร์)






“My name is Lexy. Nice to meet you. (ฉันชื่อเล็กซี่นะคะ ยินดีทีได้รู้จัก)” เล็กซี่ยื่นมือขวาไปหาไอติม หนุ่มไทยยื่นมือขวาของตัวเองไปเช็กแฮนด์ด้วย เธอปล่อยมือจากไอติม ยื่นไปเช็กแฮนด์กับแอนโทนี่ที่ยืนอยู่ข้างไอติม


“And my actor. (แล้วก็พระเอกของฉัน)” เธอหันไปหาแซ็คพร้อมกับคลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตร ทั้งสองคนจับมือกัน แซ็คยิ้มละมุน ยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มเธอทั้งสองข้าง เล็กซี่ยิ้มอารมณ์ดีและหอมแก้มแซ็คคืนไปสองข้าง


ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ มองทั้งสองคนทำความรู้จักกันในการพบกันครั้งแรกด้วยความเอ๋อ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเดี๋ยวเขาจะแนบชิดกันมากกว่านี้อีก คงเป็นการละลายพฤติกรรมกันในเบื้องต้น


“เดี๋ยวคุยตรงนี้เสร็จค่อยไปทำความรู้จักกับคนอื่นก็แล้วกัน” แซ็คบอกเธอขณะที่นั่งลงบนโซฟาตัวยาวของในบ้านเช่าที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำสำหรับวันนี้ ไอติมกับแอนโทนี่นั่งลงโซฟาเดี่ยวฝั่งตรงข้ามทั้งสองคน


“Go on, rabbit. (ว่ามาเลยกระต่าย)” แซ็คมองไอติมพร้อมกับทำท่ากวักมือขึ้นหนึ่งทีเป็นการบอกให้เริ่มพูดได้เลย ไอติมหยิบกระดาษปึกหนึ่งมาวางบนตักตัวเอง


“Rabbit? (กระต่ายงั้นเหรอ)” หญิงสาวหนึ่งเดียวในวงสนทนาเลิกคิ้วขึ้น มองแซ็คด้วยสายตาใคร่รู้ แซ็คยิ้มกริ่มแล้วหันไปมองไอติมที่หน้าเด๋อตาใสอยู่


“Yes. (ใช่)” แซ็คไม่ได้ขยายความอะไรไปมากกว่านั้น เขาพยักหน้าให้ไอติมเป็นการบอกให้พูด ไอติมเปิดกระดาษแผ่นแรกขึ้น ก้มหน้าลงมองข้อมูลบนนั้นครู่สั้น ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพูดกับทั้งสองคน


“เธอเป็นเพื่อนบ้านคนใหม่ของคุณฮะ บ้านคุณสองคนอยู่ติดกัน ฉากแรกเธอจะเห็นคุณถอดเสื้อล้างรถ แล้วเธอก็จะมองคุณด้วยสายตาอย่างว่า เอ่อ แล้วก็…” ไอติมพลิกกระดาษในมือขณะที่แอนโทนี่ช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษ
   

“…มันจะมีฉากเอากันแบบที่เธอจินตนาการว่ามีเซ็กซ์กับคุณ” ไอติมมองหน้าแซ็คแล้วยิ้ม ฝรั่งตัวใหญ่ในชุดเสื้อกล้ามขาวกับกางเกงผ้าร่มขาสั้นสีดำเลิกคิ้วขึ้น ยกนิ้วโป้งขวาชี้สาวผมสั้นสีบลอนด์ที่นั่งอยู่ข้างกัน


“And do I have to fuck her in her imagination? (แล้วฉันต้องเอาเธอในจินตนาการของเธอด้วยมั้ย)” แซ็คหันไปมองนางเอกใหม่ของตัวเองแล้วก็ยิ้มขำ เธอหัวเราะสดใสน่ามอง แซ็คยิ้มกรุ้มกริ่มกับเธอก่อนหันกลับไปมองไอติมที่พยักหน้า


“ใช่ฮะ แต่ไม่ยาวหรอก นิดเดียว เพราะถ้าเอากันในจิตนาการจนน้ำแตก มันก็จะไม่มีความต่างเมื่อถึงตอนที่คุณกับเธอเอากันจริง ไม่ใช่ในจินตนาการ” แอนโทนี่แปลต่อรัว ๆ สองนักแสดงในวันนี้พยักหน้า


“วันนี้ก็จะมีฉากร่วมเพศสองฉากฮะ มีฉากนึงที่คุณเล็กซี่ถูกคุณเอาจนเสร็จ แบบน้ำออกมาเลย แต่คุณยังไม่เสร็จนะ” ทั้งสองคนพยักหน้าหลังจากแอนโทนี่แปลจบ ไอติมเงยหน้ามองทั้งสองคนแล้วก็พยักหน้าพร้อมยิ้มกว้าง


“That’s it. I will tell detail to you two in front of camera again. (แค่นั้น ผมจะบอกรายละเอียดกับคุณสองหน้ากล้องอีกที)” หญิงสาวหัวเราะ ไอติมหันไปมองด้วยความงง แซ็คหันไปมองเธอแล้วยิ้มขำน้อยๆ


“Sorry, his English is so cute. I love when he tries to speak it. (ขอโทษทีค่ะ ภาษาอังกฤษเขาน่ารักดี ฉันชอบเวลาที่เขาพยายามจะพูดน่ะ)” นางเอกใหม่ยิ้มให้ไอติมก่อนหันไปยิ้มกับแซ็ค แอนโทนี่แปลให้ไอติมเข้าใจว่าเธอหมายความว่ายังไง ไอติมพยักหน้าและยิ้มกว้าง


“If you don’t understand what he said you can ask me, I am his dictionary. (ถ้าคุณไม่เข้าใจอะไรที่เขาพูด ถามผมได้ ผมเป็นพจนานุกรมของเขา)” แซ็คขำแบบไม่เสียง หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ ไอติมยังคงยิ้มเหมือนเดิม ส่วนแอนโทนี่กำลังย่นคิ้วมองเพื่อนตัวเอง


“เอ่อ อันนี้เป็นบทพูดของทั้งสองคนฮะ ไม่ยาวมาก ไม่ต้องเป๊ะตามนี้ก็ได้…” ไอติมยื่นกระดาษเอสี่ที่แม็กมุมติดกันห้าแผ่นให้ทั้งสองคน คนละชุด สองนักแสดงรับไปเปิดอ่าน


“…แต่ให้รูปประโยคตอนพูดออกมาความหมายนี้ คำพูดมันสื่ออารมณ์ได้ด้วย” แอนโทนี่แปลให้ทั้งสองคนฟัง สองนักแสดงพยักหน้ารับรู้


“Oh, wow, your cock is amazing. (โอ้ ว้าว ไอ้จ้อนของคุณมหัศจรรย์จัง)” เล็กซี่ท่องบทนั้นแล้วหัวเราะเบา ๆ แซ็คหันไปมองเธอแล้วหัวเราะตาม


“It is. (ใช่แล้ว)” แซ็คต่อบทกับเธอ แต่ไม่ได้มีเขียนอยู่ในบทที่ไอติมส่งมาให้ อันนี้เขาพูดเอง เล็กซี่หันไปมองพระเอกของตัวเองแล้วคลี่ยิ้มสวย เธอหันกลับไปอ่านบทอีกรอบก่อนจะหัวเราะอีกที


“You have to said that my pussy is so sweet. Oh my gosh, I’m not sure if it sweet or not. (คุณต้องบอกว่าจิ๊มิ๊ของฉันหวานด้วย ตายละ ฉันไม่แน่ใจเลยว่ามันหวานรึเปล่า)” ฝรั่งหนุ่มสองคนหัวเราะ ไอติมยิ้มขำตาหยี



“Pour the sugar on it, and then I could say it is sweet. (เทน้ำตาลไว้บนนั้น แล้วเดี๋ยวผมก็พูดได้แหละว่ามันหวาน)” เล็กซี่หัวเราะ ยกมือซ้ายตีไหล่แซ็คเบา ๆ แซ็คยิ้มกว้าง ไอติมยิ้มตามเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนดูมีความรีแล็กซ์ต่อกัน เพราะมันน่าจะทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปอย่างสบายๆ


“Go to prepare yourself มั้ยฮะ (ไปเตรียมตัวมั้ยฮะ)” ไอติมบอกสองนักแสดงของตัวเอง แซ็คที่คุ้นเคยกับภาษาไทยของไอติมก็หันไปพยักหน้ากับไอติมทั้งที่ยังยิ้มอยู่


“James is in the styling room. (เจมส์รออยู่ในห้องแต่งตัว)” แอนโทนี่เสริม แซ็คพยักหน้าให้เพื่อน หันไปพยักหน้าให้เล็กซี่ก่อนจะพากันลุกเดินคุยกันไปทางห้องแต่งตัวที่ว่า


“ส่งสัยหมั่ยด้ายเอาผุหญิงมานาน เลยหน้าบานเชียวไอ่ไบรอั้น” แอนโทนี่มองตามหลังเพื่อนแล้วแอบกัด


“ให้เขาอารมณ์ดีก็ดีนะครับ เขาจะได้ถ่ายงานออกมาดีๆ”


“โอ่ย ด่ายกินฮ้อย ทัมมัยมันจ่ะมั่ยอาลมดีล่ะ ข่องโปรด” แอนโทนี่เบ้ปากพร้อมยักคิ้ว ไอติมติ้มขำ


“ไปช่วยพวกลูคัสมั้ยฮะ” สองหนุ่มเดินไปช่วยทีมงานคนอื่นดูงานหน้าเซ็ทตรงบริเวณหน้าบ้านซึ่งเป็นลานจอดรถขนาดกว้าง รวมถึงบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน เจมส์เป็นคนช่วยติดต่อสถานที่ในการถ่ายทำ ไอติมถูกใจโลเคชั่นวันนี้มากทีเดียว เพราะใกล้เคียงกับที่จินตนาการไว้ในหัว


วันนี้มีทีมงานผู้ชายกับผู้หญิงมาเพิ่มอย่างละหนึ่งคน ฝ่ายชายเป็นตากล้องถ่ายภาพนิ่ง ส่วนฝ่ายหญิงเป็นตากล้องกล้องสอง เพราะไอติมอยากได้มุมสองมุมพร้อมกัน จะได้สะดวกตอนถ่ายทำและง่ายตอนตัดต่อ อีกอย่างลูคัสบอกว่ามันจะทำให้นักแสดงหญิงไม่รู้สึกโดดเดี่ยวจนเกินไปที่มีแต่ผู้ชายรายล้อม จะได้ทำงานด้วยความผ่อนคลายไม่อึดอัด


นอกนั้นก็คนเดิมกับรอบที่แล้วตอนถ่ายหนังของแคสโทรลกับโจ กลับกันรอบนี้โจมาช่วยถือไฟแทนแซ็ค แอนโทนี่มาช่วยถือไมค์บูม ผู้กำกับก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ตัวเองไอติมเองอีกเช่นเคย แต่ก็มีลูคัสคอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ ซึ่งสำหรับไอติมไม่ได้มองว่าตำแหน่งนี้คือผู้กำกับจริงจัง ไอติมถือว่าตัวเองเป็นเพียงคนบอกเล่าเรื่องราวที่เล่าได้เคลียร์ที่สุดในกองถ่ายมากกว่า


“Our team is very good. We can ตั้ง เอ่อ have, we can have one company” ไอติมพูดในขณะที่กำลังเช็ดรถกระบะสีดำแบรนด์ดัง แต่ไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุด เป็นรุ่นค่อนข้างเก่าแล้ว แต่ทว่าในปัจจุบันคือคลาสสิคมาก ลูคัสเป็นคนจัดหามาให้สำหรับเข้าฉาก ไอติมพูดโดยไม่ได้สังเกตว่าลูคัส ดัสตินและแอนโทนี่มองหน้ากันด้วยความเลิ่กลั่กนิดหน่อย แต่สักพักก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มกันสามคน


“If you could have your own porn studio, what will you named it? (ถ้าเธอมีสตูดิโอหนังโป๊ของตัวเอง เธอจะตั้งชื่อว่าอะไร)” ลูคัสถามในขณะที่นั่งเช็กกล่องใส่จอมอนิเตอร์แบบเคลื่อนย้ายได้แบบรถเข็น


“ฮะ?” ไอติมหันไปมองลูคัสแล้วทำหน้างง แอนโทนี่เลยอธิบายเพิ่มเติม ไอติมร้องอ๋อหลังจากฟังคำแปลภาษาไทย


“ค่ายหนังโป๊ของตัวเองเหรอฮะ” แอนโทนี่พยักหน้า ไอติมหน้านิ่ง กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความครุ่นคิด ก่อนที่คิ้วจะขมวดเข้าหากัน แล้วก็เปลี่ยนเป็นขำคิกคักเพราะชื่อที่คิดได้มันชวนขำ เนื่องจากไอติมไม่ได้รู้คำศัพท์แปลก ๆ เยอะแยะนัก


“Burning ice-cream.” และมันก็คงน่าขำจริง เพราะพอไอติมพูดชื่อออกไป อีกสามหนุ่มก็หัวเราะ แต่ก็ไม่ได้หัวเราะระเบิดระเบ้อโอเว่อร์เกินเหตุ


“What’s funny? (มีอะไรตลกเหรอ)” แซ็คที่เดินออกมาข้างนอกกับชุดใหม่ เสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนสีน้ำเงินเอ่ยถามเพื่อนด้วยสีหน้างุนงง


“We have the new name of our studio. (เรามีชื่อค่ายหนังใหม่แล้ว)” ลูคัสบอกด้วยรอยยิ้มขำ


“What is the name? (ชื่ออะไร)”


“Burning ice-cream. Our sex-creative created that name. (เบิร์นนิ่งไอศกรีม เซ็กซ์ครีเอฟทีของพวกเราเป็นคนคิด)” แซ็คหันไปมองไอติมแล้วยิ้มขำ กระต่ายตัวจ้อยยิ้มตอบกลับไปให้พ่อพระเอกหนังวาบหวิว


“Burn baby burn, huh?” ไอติมหัวเราะคิกคัก


“Burn!! บู้ม!!” ไอติมพูดเสียงดังกระแทกเสียงและทำตาโตหน้าตาตกอกตกใจ หนุ่ม ๆ คนอื่นหัวเราะเสียงดังลั่น


เล็กซี่เดินออกมาตรงหน้าเซ็ทในชุดเดรสลายดอกสีชมพูน่ารักพร้อมกับหมวกปีกกว้างและสวมแว่นตาดำกรอบสีขาวอันใหญ่ เข้ากับตีมวินเทจอันเป็นโทนของเรื่องราว มีรถเก๋งรุ่นคลาสสิคสีแดงจอดรออยู่หน้าบ้านพร้อมเคลื่อนที่มาเข้าฉาก ซึ่งรถที่เช่ามาน่าจะปรากฏอยู่ในฉากไม่เกินหนึ่งนาทีสำหรับในพาร์ทแรกของหนัง แต่ลูคัสบอกว่าแค่นี้จิ๊บจ๊อยมากสำหรับเจค็อบที่จะทุ่มให้กับหนังของพระเอกเบอร์หนึ่งของค่าย อีกอย่างใช่ว่าใช้รอบนี้แล้วหมด ยังไงทุกคนเชื่อว่าน่าจะได้ใช้ต่อสำหรับพาร์ทต่อไป ไอติมไม่ได้แปลกใจมากมาย เพราะหนังบางเรื่องชองแซ็คโปรดัคชั่นก็ทุ่มทุนจนคุ้นตากับภาพอะไรอย่างนี้ไปแล้ว


“You drive the car and stop here, and see him wash car. He will pull shirt because it wet. And you will feel ummm this man is interesting. You will think about his body and dick. I will edit again. (คุณขับรถและหยุดตรงนี้ และมองเห็นเขาล้างรถ เขาจะดึงเสื้อเพราะมันเปียก และคุณจะรู้สึก อืมมม ผู้ชายคนนี้น่าสนใจ คุณจะคิดเกี่ยวกับหุ่นเขาและตรงนั้น ผมจะตัดต่ออีกครั้ง)” ไอติมพยายามอธิบายให้เล็กซี่เข้าใจว่าต้องการอะไรจากเธอ เล็กซี่ตั้งใจฟัง พยายามทำความเข้าใจกับประโยคของไอติม ซึ่งเธอทำได้ไม่ดีนักจนแซ็คต้องเข้ามาช่วยพูด เธอถึงเข้าใจ


“Oh, thank you, my actor. (โอ้ ขอบคุณค่ะ พระเอกของฉัน)” เล็กซี่ยิ้มบางให้กับแซ็ค พ่อพระเอกยิ้มมุมปากและยักคิ้วขวาหนึ่งที ไอติมมองทั้งสองคนแล้วยิ้มก่อนที่จะหันไปหาแซ็คคนเดียว


“I will record you in two version for this scene. One with cloth and two no cloth. (ผมจะบันทึกคุณในสองเวอร์ชั่นสำหรับซีนนี้ หนึ่งกับเสื้อผ้าและสองไม่เสื้อผ้า)” แซ็คพยักหน้าด้วยความเข้าใจ


เมื่อนักแสดงหลักทั้งสองคนเข้าใจแล้ว การถ่ายทำจึงเริ่มขึ้น ไอติมให้แยกเป็นสองทีมในเบื้องต้น คือไปถ่ายนางเอกบนถนนตอนซีนขับรถบนถนนมาที่บ้านใหม่ กับอีกทีมอยู่ถ่ายแซ็คฉากล้างรถหน้าบ้าน และรอถ่ายช็อตรถนางเอกจอดเข้าเทียบท่าหน้าบ้าน ตากล้องหญิงไปกับลูคัส ส่วนไอติม ดัสติน โจ และแอนโทนี่อยู่ถ่ายฉากของแซ็คหน้าบ้าน และมีตากล้องหนุ่มคอยเก็บภาพเบื้องหลังของแซ็ค


“โน่ว! Don’t try to wet. (อย่าพยายามเปียก)” ไอติมตะโกนบอกแซ็คที่ฉีดสายยางเข้าหาตัวเองจนเสื้อด้านขวาเปียกแนบเนื้อ แซ็คหันมองไอติมที่ขมวดคิ้วอยู่ด้วยความหมั่นไส้ ยกสายยางฉีดไปทางไอติม ร่างผอมบางกรีดร้องพร้อมกับกระโดดหนี


“Okay, handsome and sexy soft soft. (โอเค หล่อและเซ็กซี่เบาเบา)” ไอติมมองแซ็คผ่านบนจอมอนิเตอร์ด้วยความรู้สึกวูบวาบในท้อง เสื้อสีขาวเปียกแนบเนื้อแน่น ๆ ของชายหนุ่ม ช่วงอกเต่งตึงจนเสื้อปริ หัวนมที่เห็นไม่ชัดดันเสื้อจนนูนน่าสัมผัส ช่วงท้องมองเห็นกล้ามเนื้อสีขาวโรยผงโกโก้ทะลุผ่านเสื้อขาวเปียกน้ำ แขนเสื้อปริตึงไปกับกล้ามแขนแน่น ๆ ด้านหลังเสื้อเปียกแนบติดกับเนื้อ แม้จะยังไม่เห็นเนื้อเปลือยเปล่าชัด ๆ แต่สิ่งทีเห็นยิ่งกระตุ้นชวนอยากเห็นเนื้อเปลือยเปล่าไวๆ


“Okay!” พอได้ฉากตอนแซ็คยังใส่ผ้าอยู่จนพอใจ ไอติมก็บอกให้แซ็คถอดเสื้อผ้าออกจนเปลือยเปล่าอย่างที่รู้สึกอยากเห็นไปก่อนหน้านี้ เจมส์เดินเข้าไปหยิบเสื้อผ้าแซ็คมาจากมือ ไอติมบอกให้แซ็คทำท่าล้างรถตามเดิม และให้ดัสตินจับภาพหุ่นของแซ็คในมุมเดิม มีให้เห็นส่วนกลางลำตัวแบบแวบ ๆ ภาพในหัวของไอติมคือภาพสโลว์โมชั่น โชว์กล้ามเนื้อสวยงามของชายหนุ่ม และก้นสองข้างแน่น ๆ ดูยั่วยวน ยิ่งตอนนี้แซ็คมีรอยสักบนยิ่งทำให้ดูมีเซ็กซ์แอพเพียลมากกว่าเดิม


“I don’t want to see your dick now. Hide it. (ผมยังไม่อยากเห็นจู๋คุณตอนนี้ ซ่อนมันก่อน)” ไอติมบอกแซ็คพลางปัดมือไปทางขวาเป็นการบอกให้เขาเขยิบเข้าไปยืนข้างรถฝั่งข้างคนขับ แซ็คทำตามแต่ก็นึกหมั่นไส้ไอ้กระต่ายด้วย


ไอติมมองภาพแซ็คเปลือยเปล่ากำลังยืนล้างรถ โดยเห็นแค่หุ่นท่อนบน เขยิบมือซ้ายในท่าดันเป็นการบอกให้ดัสตินเดินจับภาพแซ็ค ตะโกนพร้อมกับกวักมือเรียกแซ็คให้เดินมาแถวหน้ารถอีกนิด โดยยังไม่ให้เห็นส่วนนั้นเต็มตา ไอติมเงยหน้ามองดูตากล้องถ่ายภาพนิ่งก็เห็นว่าเขากำลังตั้งใจเก็บภาพอยู่เลยก้มหน้าลงจอมอนิเตอร์ต่อด้วยความสบายใจว่าปล่อยงานภาพนิ่งให้เป็นหน้าที่ของตากล้องได้อย่างเต็มที่


“Don’t show front show back. Walk slow. (อย่าโชว์ข้างหน้า โชว์ข้างหลัง เดินช้าๆ)”


“จู๋ฉันจะเปื่อยก่อนแข็งรึเปล่าเนี่ย” แซ็คบ่นไม่จริงจังในจณะที่ทำตามคำสั่งของไอติม คนอื่น ๆ หัวเราะยกเว้นไอติมที่กำลังใช้สมาธิกับการมองภาพบนจอมอนิเตอร์


“Very good.” ไอติมตะโกนบอก แซ็คยิ้มมุมปากในขณะที่ใช้ฟองน้ำถูกระโปรงรถ


“Okay, turn. Dustin, just body, no dick. (โอเค หมุน ดัสติน แค่หุ่น ไม่จู๋)” ไอติมพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้างพอใจ พอได้ภาพตามที่ต้องการตามที่คิดไว้แล้ว ไอติมก็สั่งคัท เจมส์เดินเอากางเกงชั้นกับกางเกงยีนไปให้แซ็คใส่ตามคำบอกของไอติม ใส่กลับเข้าไปเพื่อรอเข้าฉากกับเล็กซี่ที่น่าจะกำลังมา


“You will call Lexy เนบอ เอ่อ มันเรียกว่าอะไรนะฮะพี่เจมส์” ไอติมนึกคำศัพท์ไม่ออกเลยหันไปถามเจมส์


“Neighborhood.” เจมส์ตอบพลางส่งผ้าขนหนูไปให้แซ็คเช็ดหัว ไอติมทำหน้าว่าอ้อและพยักหน้าสองสามที


“But you call short neighbor. (แต่คุณเรียกสั้น เนเบอร์)” แซ็คไหวไหล่ รับเสื้อสีขาวมาวางพาดบนไหล่ซ้าย


“I have read your script. (ฉันอ่านสคริปต์ของนายแล้วละ)” แซ็คต้องการจะสื่อว่าเขาจำบทที่ไอติมเขียนมาได้แล้ว เพราะบทมันสั้น ไม่ได้ยาวเฟื้อย ไอติมคลี่ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าด้วยความเข้าใจ


“Do you want to be my fluffer? (อยากเป็นฟลัฟเฟอร์ของฉันมั้ย)” แซ็คกอดอกแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม มองไอติมด้วยแววตาแพรวพราว ไอติมเอียงหน้าเป็นหมางง


“What? (อะไรนะ)”


“Fluffer.” แซ็คย้ำคำศัพท์นั้นอีกที แต่ไอติมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เลยหันไปมองเจมส์ที่ยิ้มขำน้อย ๆ พอทำท่ากำลังจะพูดต่อ รถของเล็กซี่ที่ใช้เข้าฉากก็ขับเข้ามาตรงหน้าบ้านอีกหลัง ลูคัสกับตากล้องหญิงนั่งมาจากทางด้านหลัง ลูคัสถือกล้องลงมาจากรถ ตากล้องหญิงผมสั้นสีดำเดินลงรถตามลูคัสไป ทั้งสามคนคุยเรื่องมุมกล้องรับรถเล็กซี่เข้ามาจอดหน้าบ้านอีกที ก่อนบอกให้นักแสดงสาวขับถอยหลังไปนิด พอจัดเตรียมกล้องเสร็จก็สั่งให้เธอขับเข้ามาจอดตรงจุดที่มาร์คไว้


“Done. (เรียบร้อย)” ดัสตินพูดกับไอติม ไอติมหันไปพยักหน้า ตากล้องหนุ่มเดินถือกล้องไปยืนรอตรงประตูรั้วสีขาว ไอติมอธิบายให้ตากล้องทั้งสองฟังว่าต้องการอะไรโดยมีแอนโทนี่คอยช่วยขยายความให้ พอเข้าใจกันแล้วก็ถ่ายทำฉากนางเอกของเรื่องเดินถือกระเป๋าสานเข้าบ้าน ก่อนจะเบรกเพราะหันไปเห็นพระเอกกำลังยืนล้างรถอยู่หน้าบ้าน เพ่งมองด้วยความสนใจสักแปบก่อนที่จะเกิดจินตนาการภาพเปลือยของผู้ชายในหัว


“Okay, next, talk together. (โอเค ต่อไป คุยด้วยกัน)” ไอติมบอก ตากล้องตั้งกล้องตามจุดที่พูดคุยกันมา โจกับเจมส์กำลังช่วยกันจัดไฟ ไอติมเรียกสองนักแสดงมาคุย มีแซ็คคอยช่วยเล็กซี่แปลงเป็นภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่ายอีกที


“A bit sexy…”


ลูคัสยืนกอดอกมองไอติมที่กำลังทำงานอย่างจริงจังและดูออกชัดเจนว่าตั้งใจด้วยสีหน้าและสายตาพึงพอใจ แอนโทนี่ที่ถือก้านไมค์บูมในมือและมีหูฟังสีดำคล้องคอ เดินมายืนข้าง ๆ ลูคัสเพื่อรอเข้าไปประจำที่ของตัวเอง


“ฉันเริ่มจะมั่นใจขึ้นเรื่อย ๆ ว่าคิดไม่ผิดที่เลือกเขามาทำงาน” ลูคัสมองไอติมที่กำลังคุยกับดัสตินเรื่องมุมกล้องด้วยความรู้สึกมั่นใจตามที่ว่า


“เขาครีเอทเก่งจริง ๆ นั่นแหละ หนังของแคสโทรลกับโจกระแสดีมากจริง ๆ นะ ยิ่งของไอ้ไบรอั้นที่ไปถ่ายที่ไทยมายิ่งดีเลย เงินเข้ากระเป๋าเจค็อบเละเทะ” แอนโทนี่ว่า


ลูคัสยิ้มบาง พ่นลมหายใจออกมายาว ๆ แล้วตามด้วยพยักหน้าสองทีอย่างเชื่องช้า “แบบนี้น่าจะไปได้สวยตามที่ไอ้ไบรอั้นมันหวังไว้”


แอนโทนี่เม้มปาก สีหน้าท่าทางดูไม่มั่นใจนัก “เอาจริงเหรอ”


“ไอ้ไบรอั้นไม่เคยปริปากบอกเล่าให้เราฟัง แต่ครั้งนี้มันคงมองเห็นว่ามีหวัง…” ลูคัสมองไอติมที่กำลังมองสองนักแสดงต่อบทกัน ก่อนหันกลับไปมองแอนโทนี่


“…และฉันเองก็หวังว่าจะเป็นไปได้ด้วยดี” แอนโทนี่สีหน้าอึดอัดใจ


“แต่นั่นเจค…” แอนโทนี่มีสีหน้าสับสนเล็กๆ


“…แล้วนายเองก็ทำงานกับเขามานาน” สีหน้าของลูคัสนิ่งเรียบ แววตาใจดีที่ไอติมมักเคยเห็นหายไปแทนที่ด้วยสายตาแข็งแต่ไม่ถึงกับกระด้าง


“มันเป็นธุรกิจ” แอนโทนี่มองลูคัสด้วยความทึ่งเล็กๆ


“คือมัน… มันเป็นการ…”


“ฉันรู้” ลูคัสพยักหน้านิดหน่อย และแสดงออกทางสีหน้าว่ารู้จริง ๆ อย่างที่พูด แอนโทนี่ไม่ตอบรับใด ๆ ทำเพียงขบกรามแน่น


“Yes! Alright. Start.” ไอติมตะโกนบอกคนอื่นให้เริ่มถ่ายทำสำหรับซีนนี้ ลูคัสสบตากับแอนโทนี่นิ่ง หนุ่มแว่นมีท่าทีไม่ดีเท่าไหร่ ลูคัสบิดหน้าไปมองกองถ่ายตรงหน้าแล้วก้าวเท้าเดินไปที่จอมอนิเตอร์ แอนโทนี่พ่นลมหายใจยาว เดินเข้าไปประจำที่เพื่ออัดเสียงด้วยความรู้สึกที่ไม่โอเคนัก

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 23-03-2019 21:29:45
V
v
v

“You think to ซะ… เอ้ย ไบรอั้น and you help yourself, then he will walk in your dream, he fuck you short time, okay?” เล็กซี่ในชุดคลุมอาบน้ำ มีสีหน้าครุ่นคิด เจมส์ที่อยู่แถวนั้นช่วยอธิบายเพิ่มเติม


“เธอนอนดื่มไวน์ในอ่างอาบน้ำ แล้วคิดถึงไบรอั้น ลดมือลงไปช่วยตัวเอง”


“อ๋อ โอเค” เมื่อเล็กซี่รับคำด้วยรอยยิ้ม ไอติมจึงยิ้มตาม ไอติมหันไปมองหาแซ็คที่พันผ้าขนหนูรอบเอว ท่อนบนใส่เสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำตัวเดิม ยืนรอพร้อมเข้าฉาก ฝรั่งตัวโตกวักมือเรียกไอติมหลังจากเห็นเล็กซี่ถอดผ้าคลุมอาบน้ำออกจนตัวเปลือยเปล่าและกำลังก้าวลงไปในอ่างอาบน้ำ


“What? (อะไรฮะ)” แซ็คมองไอติมแล้วยิ้มมีเลศนัย


“I need a fluffer. (ฉันต้องการฟลัฟเฟอร์)” ไอติมขมวดคิ้ว อีคำนี้อีกแล้ว


“What is that? (มันอะไรล่ะ)” แซ็คขำกับหน้าตาขมุกขมัวของกระต่ายตัวเล็ก


“I’m going to walk in frame and then I have to fuck her immediately. (ฉันจะเดินเข้าไปในเฟรม แล้วจากนั้นฉันก็ต้องเอาเธอทันที)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ในหัวแปลประโยคของแซ็คจากนั้นก็พยักหน้าแบบไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าไหร่


“อื้อ!”


“Then I have to prepare my cock. It should be hard before I walk in the frame. (งั้นฉันก็ต้องเตรียมไอ้จ้อนให้พร้อมไง มันควรแข็งก่อนฉันเดินเข้าไปในเฟรม)” ไอติมยังทำหน้างง แซ็คขำแบบไม่มีเสียง ลูคัสกับเจมส์หันไปมองทั้งสองคนคุยกันแล้วก็ขำเบา ๆ เพื่อไม่ให้นักแสดงอีกคนเสียสมาธิ สักพักแซ็คก็เดินจูงมือไอติมออกไปยืนตรงอ่างล้างหน้าพร้อมกับปลดผ้าขนหนูออก


“Suck it.” ไอติมทำหน้างง แซ็คพยักหน้าพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่ม ไอติมยื่นมือซ้ายไปจับแคร็อทของตัวเองแล้วก้มหัวลงไปใช้ปากอมให้แซ็ค ลิ้นสีแดงไล้เลียแท่งเนื้อของแซ็คจนมันค่อย ๆ ขยายตัวขึ้น


“Hey, ready? She is ready. (เฮ้ พร้อมยัง เธอพร้อมแล้ว)” ดัสตินหันไปบอกเพื่อนที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นที่อ่างล้างหน้าแล้วปล่อยให้เด็กตัวเองใช้ปากปรนเปรอ ทีมงานคนอื่นหันมองตาม ไอติมรีบดึงหน้าออกจากตรงนั้นพร้อมกับอาการแก้มแดงและความรู้สึกเขิน แต่ทว่ามือซ้ายยังคงจับของโปรดตัวเองที่แข็งตัวแล้วไว้แน่น


แซ็คยิ้มเท่ก่อนเคลื่อนตัวลงไปยืนบนพื้นพร้อมกับอาวุธที่พุ่งโด่แล้ว “Yes.”


แซ็คหันไปมองไอติมที่หน้าแดงก่ำ ยกมือขวาเช็ดไปรอบปากอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย สายตาหลุบลงต่ำไม่กล้าสบตาใคร แซ็คหัวเราะเสียงเบาแล้วเดินนำไอติมไปหน้ากล้อง ไอติมเดินก้มหน้างุดไปหน้าเซ็ท แม้จะไม่กล้าสบตาใคร แต่ก็เปิดปากพูดให้นักแสดงฟังว่าต้องการอะไรบ้าง พอทั้งสองคนเข้าใจแล้ว ไอติมก็เดินไปยืนหลังจอมอนิเตอร์


“Action.” ไอติมบอกเสียงเบา ลูคัสกับดัสตินหัวเราะกับท่าทีงุด ๆ ของไอติม แซ็คที่อาวุธพร้อมรบแล้วก้าวขึ้นบันไดอ่างอาบน้ำไปยืนบนพื้นที่รอบอ่าง เล็กซี่เปิดเปลือกตาขึ้น มองแซ็คด้วยสายตาเร่าร้อนขณะที่มือขวาก็ขยับบนกลีบเนื้อตัวเองถี่รัว แซ็คที่ด้านบนเป็นเสื้อขาวเปียกน้ำ และช่วงล่างเปลือยเปล่านั่งลงหันหลังหันก้นให้กล้อง โดยที่ไอติมยังไม่ให้ดัสตินโฟกัสตรงแก่นกายของแซ็ค


“Ah…” เล็กซี่ครางเสียงเบาตอนที่แซ็คยื่นหน้าเข้าไปใช้ปากดูดดึงยอดอกด้านขวาของเธอหลายทีติดกัน


“Ooh…” เธอร้องครางพร้อมกับบิดตัวเมื่อแซ็คใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางข้างซ้ายยัดเข้าไปในอวัยวะเพศของเธอ เล็กซี่ยกมือซ้ายจิกหัวแซ็ค ในขณะที่แซ็คเลื่อนปากออกจากยอดบัวตูม ใช้ริมฝีปากจูบไปตามหน้าท้องสีแทนและดูแข็งแรงด้วยกล้ามเนื้อแบบของผู้หญิง จนกระทั่งจูบถึงเหนือตรงจุดนั้น แซ็คก็ถอนนิ้วออกแล้วแลบลิ้นเลียร่องกลีบเนื้อของหญิงสาวไปหนึ่งที


“Oooooooh” เล็กซี่ครางเสียงสั่นสะท้าน ใบหน้าสวยเงยขึ้นและหลับตาลง แซ็คแลบลิ้นเลียเนื้อตรงส่วนนั้นถี่รัว ไอติมส่งสัญญาณมือให้ตากล้องหญิงซูมภาพตอนแซ็คใช้ลิ้นเพื่อให้เห็นชัด ๆ ไอติมกมือทำท่าว่าโอเคเมื่อได้มุมภาพที่ต้องการ


แซ็คดูดง่ามกลีบเนื้อตรงนั้นของเล็กซี่อีกสามสี่ทีติดกันก่อนที่จะดันตัวลุกขึ้นช้า ๆ มองตาของเล็กซี่ด้วยความอ้อยอิ่งน้อย ๆ ก่อนจะใช้มือขวาจับแก่นกายตัวเองดันเข้าไประหว่างกลางขาของเล็กซี่ หญิงสาวยกแขนซ้ายคล้องคอชายหนุ่ม ไอติมทำสัญญาณมือเป็นการดันออกเพื่อบอกให้ตากล้องหญิงถอยหลังออกไปเก็บภาพมุมกว้างจากมุมบนตามที่คุยกันไว้


ตับ ตับ ตับ


“Oh… yeah…” ไอติมมองภาพก้นแน่น ๆ ของแซ็คขยับผ่านจอมอนิเตอร์สลับกับนึกภาพของเล็กซี่ที่กำลังช่วยตัวเองซึ่งถ่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ ลูคัสตัดสลับมุมกล้องให้ไอติมดูระหว่างกล้องของดัสตินที่จับข้างหลังแซ็คอยู่ และกล้องฝั่งตากล้องหญิงที่อยู่ด้านบน ไอติมพยักหน้าพอใจ แล้วสักพักนึงภาพเล็กซี่ (แกล้ง) ถึงจุดสุดยอดก็แวบเข้ามาในหัว เป็นจังหวะเดียวกับภาพขณะปัจจุบันที่เธอกำลังกรีดร้อง


“Okay, cut.” ไอติมตะโกนบอก แซ็คหยุดกระแทกแต่ยังคาส่วนนั้นไว้ข้างในของเล็กซี่ ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะ เล็กซี่ยกสองขาเกี่ยวเอวแซ็คไม่ยอมให้เขาดึงตัวออก ขวัญใจของไอติมยิ้มกว้างอารมณ์ดีปล่อยให้แก่นกายตัวเองคาไว้แบบนั้น


“Next shot in garden she will look at him and talk to him. พี่เจมส์เปลี่ยนชุดด้วยนะฮะ” ไอติมบอกกับทีมงานของตัวเอง ก่อนหันไปมองสองนักแสดงที่ยังคาราคาซังกันไม่เลิก แซ็คพาเล็กซี่ลงไปนั่งแช่น้ำด้วยกัน คุยกันเสียงกระซิบกระซาบกันสองคนแล้วยิ้มอารมณ์ดี ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงุนงงสักแปบก่อนจะหันไปช่วยคนอื่นยกของย้ายเซ็ท


จนเจมส์เดินเข้าไปบอกว่าต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า สองนักแสดงถึงแยกออกจากกัน พากันลุกออกจากอ่างน้ำ เล็กซี่รับผ้าคลุมอาบน้ำมาคลุมตัว แซ็คถอดเสื้อยืดเปียก ๆ ออก รับผ้าขนหนูไปพันรอบเอวปิดแก่นกายอันเชื่องที่ยังคงพุ่งแข็งตัว แซ็คหันไปมองไอติมก็เห็นว่ากำลังเดินถือกล้องตามดัสตินออกไปนอกห้องน้ำ เขาหันไปยิ้มให้เล็กซี่ที่เดินตามหลังมาพร้อมเจมส์ก่อนก้าวเดินนำไปให้ทันไอติม ยกแขนซ้ายคล้องไหล่ไอติมไว้และเดินไปเคียงกัน ไอติมแหงนหน้าขึ้นไปยิ้มให้ฝรั่งตัวใหญ่


“You are a good fluffer. (นายเป็นฟลัฟเฟอร์ที่ดีนะ)” แซ็คยิ้มอารมณ์ดี


“What is a fluffer? (อะไรคือฟลัฟเฟอร์ฮะ)” แซ็คก้มหน้าลงไปพูดเสียงเบากับไอติม


“It is what you did with my dick. (มันก็คือที่นายทำกับจู๋ฉันไง)” ไอติมยังคงหน้างง


แซ็คยิ้มกว้าง ก้มลงหอมขมับไอติมไปที ไอติมยิ้ม เห็นแซ็คอารมณ์ดีก็รู้สึกดีไปด้วย เทียบกับก่อนหน้านี้ ท่าทางของเขาดูผ่อนคลายขึ้นมาก ไอติมก็ได้แต่หวังว่าคงไม่ใช่เพราะกัญชาหรอกนะ


“Let’s get start to work. (ไปทำงานกัน)” แซ็คปล่อยแขนออกจากตัวไอติม หันไปยกแขนขวาคล้องคอเล็กซี่แล้วพากันเดินหัวเราะไปกันสองคน ไอติมมองตามภาพนั้นก็ยิ้มน้อย ๆ และคิดว่าเห็นนักแสดงหลักผ่อนคลายและดูเข้ากันได้แบบนี้ งานวันนี้ก็คงไหลลื่นสบายๆ


“ฟลัฟเฟอร์มันเป็นชื่อเรียกคนที่มีตำแน่งแบบ ปลุกอารมณ์ให้นักแสดงหนังโป๊…” ไอติมหันไปมองเจมส์ด้วยความงุนงง


“…คือบางทีนักแสดงไม่มีอารมณ์ทางเพศไง เลยต้องมีคนช่วยบิลท์ บางทีแค่คลิปโป๊มันก็ไม่ช่วย” ไอติมนิ่งคิดสักแปบก่อนจะร้องอ้อด้วยความเข้าใจ


“ติมจะได้เงินเพิ่มเปล่าอะ” เจมส์หัวเราะ


“อันนี้ขอเบิกกับไอ้ไบรอั้นเป็นกรณีพิเศษเลย” ไอติมทำปากยื่นหน้ายู่


“เขาไม่จ่ายเงินให้หรอก เดี๋ยวก็ให้อย่างอื่นมาแทน” เจมส์หัวเราะดังกว่าเดิม ไอติมหัวเราะตามเบาๆ


“ป่ะ ทำงานกัน อีกสามซีนเนอะ” ไอติมพยักหน้า แค่รู้สึกว่างานใกล้จะเสร็จแล้วก็รู้สึกมีแรงทำงานต่อ






แซ็คเปลี่ยนชุดใหม่เป็นชุดกางเกงขาสามส่วนลายทหารกับเสื้อยืดสีขาวตัวใหม่ เล็กซี่อยู่ในชุดเดรสสั้นลายดอกสีส้มเหลืองสวยสดใส ไอติมคุยกับสองนักแสดงของตัวเองสำหรับฉากนี้ว่าจะเป็นฉากที่แซ็คกำลังถอดเสื้อทำสวนฝั่งบ้านตัวเองอยู่ เล็กซี่แอบมองแซ็คจากในบ้านก่อนที่จะตัดสินใจเข้าไปตีเนียนชวนแซ็คพูดคุยตรงริมรั้ว แล้วสุดท้ายก็ทำทีเป็นขอความช่วยเหลือแซ็คมาช่วยดูสวนบ้านตัวเองหน่อย
   

“Action.” เล็กซี่เดินยิ้มสวย ๆ ไปตรงรั้วบ้าน หยิบเก้าอี้ตัวเล็กมาวางเพื่อขึ้นไปยืนบนนั้นเป็นการเพิ่มความสูงให้ตัวเองก่อนจะตะโกนเรียกแซ็ค แต่ไอติมเบรกก่อน
   

“No, no. Look him for a while and call him. Don’t call quickly. Wait for camera.” แซ็คช่วยอธิบายให้เล็กซี่เข้าใจว่าไอติมต้องการให้เธอยืนมองเขาสักแปบแล้วค่อยเรียกเขา ไม่ใช่เดินมาแล้วเรียกเลย แล้วอีกอย่างต้องรอกล้องขึ้นมาจับหน้าเธอด้วย
   

“Oh, okay.” เล็กซี่เดินกลับไปยืนบนระเบียงหลังบ้านตามเดิม ไอติมแวะมาบอกเพิ่มเติมด้วยว่าให้ยืนมองแซ็คจากบนระเบียงสักพักก่อน ค่อยก้าวเท้าเดินออกไป
   

“3… 2… 1… go.” ไอติมมองหน้าเล็กซี่ผ่านจอมอนิเตอร์ กล้องของตากล้องหญิงเคลื่อนไปตามรางเหล็กโดยมีโจเป็นคนคอยเข็นให้ พอเธอขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ ไอติมก็กดปุ่มสลับจอกล้องไปเป็นของดัสตินที่ตั้งอยู่อีกฝั่ง เห็นภาพมุมกว้างว่าเธอยืนอยู่หลังรั้ว เล็กซี่ส่งสายตามองแซ็คที่จริง ๆ ยืนโบกมือให้เธอและยิ้มทะเล้นให้ ผ่านไปสักพักเธอจึงตะโกนเรียก
   

“Hey.”
   

“Okay, cut.” ไอติมตะโกนบอก ตากล้องสองคน และทีมงานคนอื่นที่ว่าง ช่วยกันจัดวางกล้องตามที่คุยกันมาอย่างว่องไว พอจัดแจงเสร็จเรียบร้อย และนักแสดงก็พร้อมแล้วไอติมจึงสั่งให้เดินหน้าถ่ายทำต่อ
   


“Hey.” แซ็คที่ถอดเสื้ออยู่เหลียวหลังไปมองตรงรั้วบ้านของตัวเองก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากแล้วลุกขึ้นยืนโชว์หุ่น ลูคัสกดปุ่มตัดกลับมารับที่หน้าของเล็กซี่ที่แสดงออกถึงความอยากครู่หนึ่ง ก่อนตัดกลับไปรับแซ็คที่เดินเข้าไปยืนตรงรั้วบ้าน
   

“Hi, neighbor. (ว่าไง เพื่อนบ้าน)” แซ็คยักคิ้วเท่ ไอติมยิ้มและพยักหน้าอย่างพอใจเพราะช็อตนั้นสร้างเสน่ห์ให้แซ็คมาก
   

“You are a car washer, and now you are a gardener. I wonder what are you going to be next? (คุณเป็นคนล้างรถ ตอนนี้ก็เป็นคนสวน สงสัยจังว่าคุณจะเป็นอะไรต่อไป)” เล็กซี่มองแซ็คอย่างยั่วยวน แซ็คยิ้มกริ่มและมองหญิงสาวตาวาววับเล็ก ๆ ก่อนยื่นหน้าไปจูบปากกับเล็กซี่ข้ามรั้ว หญิงสาวอ้าปากตอบรับ แลกลิ้นกันนัวเนีย ไอติมองภาพนั้นสักพักก่อนสั่งคัท สองนักแสดงยิ้มขำให้กัน แล้วกลับไปยืนตามเดิม ไอติมสั่งถ่ายต่อจากฉากเมื่อกี้ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน ส่วนจูบกันเมื่อกี้เป็นมโนของเล็กซี่
   

“Umm, would you mind to check my garden? I don’t know what to do with it. (อืมมม จะเป็นอะไรมั้ยคะถ้าจะมาดูสวนให้ฉันหน่อย ฉันไม่รู้จะทำยังไงกับมัน)” แซ็คในฉากเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปาก ตามด้วยไหวไหล่
   

“Yeah.” เล็กซี่ยิ้มตาแพรวพราว แซ็คยิ้มบาง มองเล็กซี่แววตาคมกล้า ไอติมสั่งคัท
   

“Move to garden here. (ย้ายมาสวนนี้)” ทีมงานช่วยกันย้ายของกลับมาในสวนบ้านเช่าของเล็กซี่ และติดตั้งจัดวางตามแผน พอพร้อมแล้ว ไอติมก็เดินหน้าถ่ายต่อ เริ่มถ่ายจากช็อตแซ็คกระโดดข้ามรั้วมาฝั่งบ้านเล็กซี่ แล้วก็หยิบเสื้อที่เหน็บเอวไว้มาสวมใส่ สองนักแสดงเดินคุยกันในสวนตามบทจนมาถึงตรงที่มีพันธุ์ต้นไม้วางเตรียมไว้พร้อมกับอุปกรณ์เพาะปลูก ทั้งคู่นั่งลงคุยกันก่อนที่แซ็คจะยิ้มตาค้างเพราะหญิงสาวอีกคนนั่งอ้าขาจนเผยให้เห็นหญ้าผืนน้อยของเธอที่ไม่มีอะไรปกปิด
   

“Oh, sorry.” เล็กซี่ค่อย ๆ หุบขา เปลี่ยนเป็นนั่งคุกเข่าช้า ๆ พร้อมกับอธิบายว่าตัวเองไม่ค่อยชอบใส่กางเกงชั้นในเนื่องจากมันรู้สึกโล่งสบายดี
   

“Me too. (ผมก็เหมือนกัน)”
   

“Oh, yeah?” เล็กซี่เม้มปาก มองแซ็คด้วยสายตายั่วยวน แซ็คยิ้มมุมปาก เล็กซี่กลืนน้ำลายลงคอ
   

“Ummm, I will bring some water. You can take your shirt off if you want. You might feel hot while ummm, do garden things. (เอิมมม ฉันจะไปเอาน้ำมาให้ คุณถอดเสื้อได้นะถ้าต้องการ คุณอาจจะร้อนระหว่างที่ทำ เอ่อ อะไรเกี่ยวกับสวนๆ)” แซ็คยักคิ้ว เล็กซี่ลุกขึ้นยืน หมุนตัวเดินออกไปจากเฟรม แซ็คเริ่มหยิบต้นไม้มาเตรียมทำท่าจะปลูก ไอติมสั่งคัท แล้วเตรียมซีนสุดท้ายของข้างนอก พอมุมกล้องพร้อมก็ถ่ายช็อตที่แซ็คขุดดินจนกล้ามขึ้น เห็นหยดเหงื่อไหลบนใบหน้า ก่อนที่เล็กซี่จะเดินออกมาเรียกกินน้ำ
   

“Cut, next scene.” แซ็คปล่อยของในมือ ปัดเศษดินเศษหญ้าออกจากมือ เดินไปเปิดก๊อกน้ำในสวนล้างมือตัวเองก่อนหันไปรับผ้าขนหนูมาจากเจมส์เพื่อซับหน้า เขาเดินขึ้นระเบียงหลังบ้านเพื่อจะเดินเข้าไปในบ้านกับคนอื่น ๆ แซ็คยื่นมือไปขยำก้นไอติม
   

“แอ๊!” กระต่ายตัวจ้อยหัวเราะแล้วบิดตัวหนีมือของแซ็ค ฝรั่งตัวใหญ่โยนผ้าขนหนูคลุมหัวไอติมจนไอติมหมุนตัวงงเพราะมองไม่เห็นทาง แซ็คอุ้มไอติมแล้วพาวิ่งไปหน้าเซ็ท ให้ไอติมกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นเล่นๆ
   

“You have more energy after eating pussy. (นายมีพลังเยอะเชียวนะหลังจากได้กินจิ๊ไป)” ลูคัสแซว แซ็ควางไอติมลงบนพื้น เจ้าตัวจ้อยดึงผ้าขนหนูออกจากหัว
   

“It’s not a main course yet. (ยังไม่ใช่อาหารจานหลักสักหน่อย)” ทีมงานที่กำลังเตรียมงานอยู่ในครัวอันเป็นซีนสุดท้ายของวันนี้หัวเราะ เล็กซี่ที่ยืนรอเข้าฉากอยู่ยิ้มขำ แซ็คขยิบตาให้กับเธอ
   


“It will be long take. I will try don’t break you but if I want something special, I will tell. (มันจะเป็นลองเทค ผมจะพยายามไม่เบรกคุณ แต่ถ้าผมต้องการบางอย่างพิเศษ ผมจะบอก)” แซ็คพยักหน้าและช่วยอธิบายให้เล็กซี่เข้าใจ
   

“Don’t forget that you will not cum. She will cum only. (อย่าลืมว่าคุณจะไม่เสร็จ เธอจะเสร็จแค่นั้น)” แซ็คแกล้งทำหน้าเจ็บปวด เล็กซี่หัวเราะเบาๆ
   

“We have part two if we have good feedback. (เรามีพาร์ทสองถ้าเรามีฟีดแบ็คดี)”
   

“I got it, boss. (เข้าใจแล้วครับเจ้านาย)” แซ็คเอ่ยกับไอติมเป็นการล้อเลียน ไอติมยิ้มกว้าง
   

เมื่อทุกอย่างพร้อมและสองนักแสดงเข้าใจตรงกัน จึงเริ่มถ่ายทำซีนสุดท้ายของวันนี้ ซึ่งจะเป็นซีนที่ยังคงอยู่ในจินตนาการของเล็กซี่ เธอมาหาน้ำให้ชายหนุ่มเพื่อนบ้านของเธอ แต่ทว่าไม่มีน้ำในตู้เย็นเลยสักขวด เธอเลยคิดจะใช้น้ำส่วนตัวไปบริการเขา และนั่นเธอจึงเริ่มจินตนาการฉากเซ็กซ์ของเธอกับเขาอีกครั้งเพื่อสกัดน้ำพิเศษออกมา
   

“Hey, fluffer, come here. (เฮ้ ฟลัฟเฟอร์ มานี่)” แซ็คกวักมือเรียกไอติมมาจากจอมอนิเตอร์ให้เดินไปหาเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ไอติมลุกเดินไปหา แซ็คปลดกระดุมกางเกงออกแล้วควักสิ่งนั้นออกมา ชี้มือไปที่เล็กซี่ที่กำลังยืนช่วยตัวเองในชุดเดรสสั้นอยู่
   

“I have to prepare my cock. You said I have to fuck her immediately like the second scene. (ฉันต้องเตรียมไอ้จ้อนฉัน นายบอกฉันต้องเอาเธอทันทีแบบรอบก่อน)” ไอติมทำหน้าเข้าใจแต่แก้มก็แดงปลั่ง แซ็คยิ้มกรุ้มกริ่ม ดวงตาวิบวับ ไอติมนั่งคุกเข่าตรงหน้าแซ็ค เจมส์กับโจหันมามองเลยทำให้ไอติมชะงักไปครู่หนึ่ง แต่สองคนนั้นก็หันหน้าไปทางอื่นไม่ได้ยืนมองต่อ พออ้าปากเตรียมอม ลูคัสก็หันมามองอีกคน ไอติมเลยยิ้มแห้ง ลูคัสขำน้อย ๆ แล้วก็พยักหน้าขึ้นเป็นเชิงบอกว่าทำเถอะก่อนหันกลับไปมองหน้าเซ็ทต่อตามเดิม
   

“It’s going to be my scene soon, do it. (จะซีนฉันแล้ว ทำสิ)” แซ็คมองหน้าแดง ๆ ของไอติมแล้วยิ้มล้อ ไอติมวางมือสองข้างบนหน้าขาของแซ็ค อ้าปากอมแคร็อทของตัวเอง ผงกหัวขึ้นลงไปเรื่อย ๆ หูได้ยินเสียงเล็กซี่ครางเสียงสั่น ไอติมช้อนตามองแซ็ค เขากำลังมองเล็กซี่ตาเยิ้มและรอยยิ้มก็เยิ้มไม่แพ้กัน สักพักแคร็อทของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นเต็มปากไอติม ลูคัสหันมองดูว่าแซ็คพร้อมหรือยัง พอเห็นว่านักแสดงชายพร้อมสู้แล้วก็กวักมือเรียก ไอติมดึงหน้าออก ดึงกระดุมกางเกงเข้าหากันแล้วเกี่ยวกันไว้ ปล่อยให้แก่นกายอันเขื่องของแซ็คตั้งโด่ผ่าเป้ากางเกง แซ็คก้มหน้าลงหอมหน้าผากไอติมหนึ่งทีแล้วลุกเดินไปเข้าฉาก
   

ไอติมเดินกลับไปนั่งหน้าจอมอนิเตอร์ตามเดิม แซ็คเดินเข้าไปจับเล็กซี่นั่งอ้าขาบนเค้าน์เตอร์ครัว ก่อนดันลูกชายเข้าไป แล้วก็เริ่มซอยถี่จนเนื้อกระทบกันเสียงดัง ทั้งสองคนจูบปากกันและกันอย่างนัวเนีย แลกลิ้นอย่างเมามันส์ สองมือของแซ็คเลื่อนขึ้นไปแหวกชุดเดรสลายดอกไม้ออกแล้วขยำหน้าอกทั้งสองข้างเต็มมือ
   

“Don’t see more dick, just little. (อย่าเห็นจู๋เยอะ แค่นิดหน่อย)” ไอติมพึมพำให้ตากล้องทั้งสองให้ได้ยิน แซ็คดันเอวเข้าหาเล็กซี่อย่างต่อเนื่อง หญิงสาวที่กำลังครางเสียงเบาหวิวใช้สองมือดึงเสื้อยืดของแซ็คขึ้น แต่ไม่ได้ถอดออกไป ยกชายเสื้อขึ้นไปคล้องคอเขาไว้ สองมือของเธอลูบไล้หุ่นของชายหนุ่มด้วยความหลงใหล
   

“Oooooh” เล็กซี่ครางปากจู๋ หน้าตาเสียวซ่าน แซ็คเร่งเครื่องแรงกว่าเดิมจนเล็กซี่ตัวสั่นสะเทือนรุนแรง แซ็คกัดฟันแน่น หน้าตาเสียวไม่แพ้กัน
   

“Your water is coming, oh, oh!” สองขาของเล็กซี่สั่นผับ ๆ แซ็คดึงแก่นกายออกแล้วเอื้อมมือไปหยิบแก้มตรงอ่างล้างจานมารองรับน้ำใส ๆ ของเล็กซี่ที่พวยพุ่งออกมาจากน้องสาวของเธอ มันมีทั้งที่พุ่งใส่แก้วและกระจายไปรอบ ๆ จนเลอะพื้น เลอะแขนของแซ็ค ไอติมกดตัดหน้าจอไปจับภาพมือของแซ็คที่แก้วใบนั้นอยู่ โดยที่แท่งเนื้อของเขายังคงพุ่งตรงแข็งแรง มีละอองน้ำของเล็กซี่กระจายเป็นแบ็คกราวด์ร่วมยิ่งทำให้ภาพได้อารมณ์สมใจไอติม
   

“Ooh, oh, ฮู่ววว” แซ็ควางแก้วน้ำไว้ข้างตัวเล็กซี่แล้วเดินออกมาจากเฟรมในขณะที่เธอยังนั่งอ้าขาลูบไล้ส่วนนั้นของตัวเอง หน้าตาเป็นสุขด้วยความฟิน
   

“Now, wake up!” ไอติมตะโกนบอกเล็กซี่ เธอลืมตาขึ้นก่อนจะปล่อยอารมณ์ไปตามบทที่ถูกบรีฟมา สีหน้าของเธอสุขใจแต่ก็มองไปรอบตัวอย่างงุนงง ไอติมสั่งคัทอีกทีเพื่อจะถ่ายอีกช็อตที่เธอถือแก้วไว้ในมือแล้วยกแก้วขึ้นมอง จังหวะนั้นแซ็คดึงไอติมให้ลุกขึ้นมายืนกับตัวเอง
   

“What? (อะไรเหรอ)” ไอติมถามเสียงเบา แซ็คก้มหน้าลงแวบหนึ่งและเงยมองไอติมต่อ ไอติมมองตามถึงเห็นว่าลูกชายเขายังแข็งค้างจากเมื่อกี้ ไอติมยิ้มแล้วยกมือขวาขึ้นรูดรั้งเบา ๆ แต่หน้าก็รีบหันไปมองจอมอนิเตอร์ต่อ พอเห็นว่าเล็กซี่พร้อมแล้วถึงบอกแอคชั่น ก่อนหันกลับมาหาแซ็คที่ยกสองแขนกอดไอติมไว้จนหน้าไอติมแนบไปกับเนื้อเปลือยเปล่าตรงร่องอกของแซ็ค และช่วงอกของไอติมก็แนบชิ้นกับกล้ามท้องแข็งแรง แต่ช่วงล่างห่างกันเพราะมีแคร็อทแข็งโด่กั้นกลางไว้อยู่
   

“I think it’s okay now. (ฉันว่าโอเคแล้วนะ)” ลูคัสบอก ไอติมหันไปมองลูคัสทั้งที่มือขวายังไม่หยุดชักให้แซ็ค กระต่ายตัวจ้อยพยักหน้า
   

“Yes, cut.” ลูคัสหันไปสั่งคัทและบอกว่าวันนี้เสร็จแล้ว ทุกคนส่งเสียงโห่ร้องและปรบมือ ไอติมส่งเสียงร้องวู้ว ๆ ไปด้วย แต่มือก็ยังไม่ปล่อยแท่งเนื้อของแซ็ค
   

“I want to cum. (ฉันอยากแตก)” แซ็คแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่าง ไอติมยิ้มกริ่ม
   

“Go to change your cloth. (ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ)” ไอติมบอกเสียงแหบพร่าในขณะที่มือก็แกะกระดุมกางเกงแล้วพยายามยัดเจ้าแคร็อทเข้าไปข้างในก่อนที่จะรูดซิปปิดและเกี่ยวกระดุมปิด แคร็อทของกระต่ายดันตัวจนตุง
   

“Go with me. (ไปกับฉันสิ)” แซ็คมองไอติมตาวิบวับ ไอติมยิ้มรู้ทัน
   

“Tonight. (คืนนี้นะ)” ไอติมยิ้มเขินแล้วหัวเราะคิกคัก แซ็คเบะปากน้อย ๆ และยักคิ้วหนึ่งที ค่อยตามด้วยพยักหน้าหนึ่งครั้งก่อนเดินออกไปจากหน้าเซ็ท ไอติมหมุนตัวไปช่วยทุกคนเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน




   




“I’m so thankful to myself that I met you, ice-cream. Thank you, Anthony, to bring him here. (ฉันรู้สึกซาบซึ้งกับตัวเองมากที่ได้เจอเธอ ไอศกรีม ขอบคุณนะแอนโทนี่ที่นำพาเขามา)” ลูคัสที่หน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ดึงไอติมมาหอมหัวหอมแก้มจนหนุ่มเอเชียหัวเราะคิกคัก
   

“No. The horny bring him here. (ไม่ใช่สักหน่อย ความหงี่ต่างหากพาเขามานี่)” เจมส์อ้าปากกว้างแล้วหัวเราะเสียงดังกับมุกของแอนโทนี่ ไอติมที่โดนลูคัสกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่พยายามบิดหน้าไปมองเจมส์ว่าขำอะไร พอเจมส์อธิบายให้ฟัง ไอติมก็หัวเราะ
   

“Ah! Yeah, because he is Bryan’s fan. (อ้า! ใช่ เพราะเขาเป็นแฟนของไบรอั้น)” ลูคัสพึมพำพลางปล่อยไอติมออกจากอ้อมแขน
   

“And because he wanted to sleep with him. He flies across the world to be here because of Bryan’s dick! (และเพราะเขาอยากนอนกับไอ้ไบรอั้น เขาบินข้ามโลกมานี่เพราะจู๋ของไอ้ไบรอั้น!)”
   

“Then thank you Bryan’s cock! (งั้นก็ขอบคุณไอ้จ้อนของไอ้ไบรอั้น!)” ลูคัสรับมุกต่อจากแอนโทนี่ คนอื่น ๆ หัวเราะ รวมทั้งไอติมก็ด้วย เจค็อบที่นั่งตรงหัวโต๊ะใกล้กับแคสโทรล มองไอติมนิ่งแวบหนึ่งก่อนจะลุกเดินออกไปจากโต๊ะสังสรรค์ที่อยู่บนเฉลียงหลังบ้าน เดินไปริมสระว่ายน้ำที่มีแสงระยิบระยับจากแสงไฟในยามค่ำคืนก่อนดึงบุหรี่ออกมาจุดหนึ่งมวน
   

“ว่าแต่ ไอ้ไบรอั้นไปไหน นางเอกก็หายไปด้วย ไอ้โจอีกคน” แอนโทนี่มองไปรอบตัวแล้วมองหาทั้งสามคนที่กล่าวมา
   

“เข้าห้องน้ำ” เจมส์ตอบแล้วจิ้มอาหารเข้าปาก
   

“ไปมั่งดีกว่า ปวดฉี่ เดี๋ยวมานะฮะพี่เจมส์” เจมส์พยักหน้าและบอกคนอื่นว่าไอติมจะขอไปฉี่ กระต่ายตัวจ้อยเดินลงจากเฉลียง เดินไปเปิดประตูหลังบ้าน ตอนที่เดินเข้าไปในบ้านแล้ว ไอติมก็เจอกับโจที่เดินกลับมาจากทางห้องน้ำสำหรับแขกพอดี ไอติมยิ้มให้โจแล้วรีบเดินไปทางห้องนอนตัวเองเพื่อจะเข้าไปฉี่ในนั้น แต่พอดันประตูเข้าไปไอติมก็ต้องชะงักอยู่ตรงกรอบประตู สีหน้าและแววตาอึ้งตกใจ ตัวเย็นเฉียบกะทันหัน
   

“Ooooh, yes.” แซ็คที่ตัวเปลือยเปล่ากำลังคร่อมเล็กซี่อยู่บนเตียง บั้นเอวกระแทกใส่เธออย่างเรื่อย ๆ แต่ทว่าจังหวะนั้นลงน้ำหนักอย่างพอดี สองแขนของเล็กซี่ยกขึ้นคล้องคอแซ็คและดึงเขาลงไปจูบแลกลิ้นนัวเนีย แซ็คคำรามเสียงแหบพร่าสั้น ๆ แล้วยกหน้าออกจากปากเล็กซี่และเร่งความเร็วของบั้นเอว เล็กซี่ปล่อยสองแขนออกจากคอแซ็ค วางแขนลงบนเตียง สองมือขยุ้มผ้าปูเตียงแน่น ไอติมรู้สึกงงว่าจะต้องทำตัวยังไง หันซ้ายแลขวาเตรียมหมุนตัวสักพักแต่ก็ชะงักอีกรอบเพราะเสียงหวานของหญิงสาวดังขึ้น
   

“Oh, him.” เสียงเนื้อกระทบกันหายไป ไอติมหมุนตัวกลับไปมองด้วยความรู้สึกที่ยังคงเย็นไปทั้งตัว แซ็คที่มีอาการหอบนิดหน่อยมองไอติมด้วยอาการชะงักนิดหนึ่ง แต่สักพักเขาก็ขยับตัวออกจากตัวเล็กซี่ นั่งลงบนเตียงพร้อมกับพ่นลมหายใจยาว ๆ หนึ่งที ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาเรียวสวยมองแก่นกายของแซ็คที่แข็งตั้งตรง
   

“เอ่อ I come to toilet บะ but it’s okay. I will go toilet outside. (เอ่อ ผมมาห้องน้ำ ตะ แต่โอเค ผมจะไปห้องน้ำข้างนอก)” แซ็คกระเถิบตัวลงจากเตียง ไอติมหันไปมองเล็กซี่ที่นอนขาตั้งฉากแล้วบิดหน้ามาส่งยิ้มให้ ไอติมพยายามยิ้มตอบแต่ก็เป็นเพียงกล้ามเนื้อกระตุกเท่านั้น
   

“It’s a live on webcam. (มันเป็นไลฟ์ในเว็บแคมน่ะ)” ไอติมมองหน้าแซ็คด้วยความเอ๋อนิดหน่อยก่อนก้มลงมองแท่งเนื้อของแซ็คที่ไม่ได้ใส่เครื่องป้องกันแล้วก็เงยหน้าขึ้นกลับไปมองแซ็คอีกที
   

ไอติมไม่รู้จะพูดอะไรจริง ๆ เลยได้แต่ยิ้มบางให้กับแซ็คที่มีสีหน้าอึดอัดเล็ก ๆ ไอติมเหลือบสายตาไปมองตรงโต๊ะคอมฯ แล้วก็เลื่อนสายตากลับมามองแซ็คอีกที
   

“Take your time. (ตามสบายนะฮะ)” ไอติมหมุนตัวจะเดินไปแต่แซ็คยื่นมือมาดึงแขนไอติมไว้ จังหวะนั้นเจมส์เดินเข้ามาในบ้านพอดีและเห็นไอติมกับแซ็คกำลังยืนคุยกัน
   

“I will go to see you after I finish this. (เสร็จแล้วเดี๋ยวฉันไปหานาย)” ไอติมหันไปยิ้มให้แซ็คแล้วพยักหน้า
   

“Don’t worry. (ไม่ต้องเป็นกังวลฮะ)” แซ็คมองหน้าไอติมด้วยความพิจารณาสักแปบก่อนที่จะปล่อยมือออกจากแขนของไอติม กระต่ายตัวจ้อยยิ้มให้อีกที แซ็คคลี่ยิ้มบางและปิดประตูห้องนอน
   

ไอติมยืนมึนอยู่ตรงนั้น ร่างเย็นจนนึกว่าไปเดินลุยหิมะมา และไอติมเพิ่งสัมผัสได้ว่ารู้สึกโหวงเหวงในช่องอกมากขนาดไหน หัวใจก็เต้นด้วยจังหวะช้าลงแต่ทว่าเต้นตุบตับหนักหน่วง
   

“ติม มานี่มา” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองรุ่นพี่แล้วขาก็ก้าวเดินไปหาคนเรียกด้วยความล่องลอย
   

“ไปนั่งคุยกัน” ไอติมพยักหน้าว่าง่าย ปล่อยให้เจมส์เดินจูงมือไป
   

‘เว็บแคมน่ะ’
   

คำพูดของแซ็คกับภาพที่ติมเห็นตีกันวุ่นวาย









เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


หึ ๆ พี่แซ็ค...  :ruready 


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-03-2019 21:54:16
แซ็คทำงี้ได้ไง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-03-2019 22:20:11
จุกไปถึงหัวใจเลย ไหวไหมไอติม  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 23-03-2019 23:00:15
แซ็คคคคคคค you fucking asshole  :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: BooBeePan ที่ 23-03-2019 23:26:27
 :hao5:น้องไอติมลูกกกกกก จุกเลย เป็นห่วงจัง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 24-03-2019 00:03:51
 :angry2: :angry2:
มิน่าา ตอนต้นน้องติมถึงเป็นแบบนั้น
ว่าแต่ มีเรื่องธุรกิจอะไรมาเกี่ยวข้องกันแน่ เคียด :serius2: :serius2:
ส่วนแซ็ค Go fucking with ur girls don't mess with I-tim!!
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 24-03-2019 02:30:58
อยากรอหนังสือแล้วค่อยอ่านทีเดียว แต่ก็อยากอยู่ให้กำลังใจยัยน้องติม ทั้งที่ทำใจไว้แล้วว่าแซ็คคงมีผู้หญิงอื่นๆแต่ไม่คิดว่าไรท์จะเขียนบรรยายถึงด้วยขนาดนี้ แถมยัยติมมาเห็นแล้วแซคทำแบบนี้อีก เคารพไรท์นะคะแต่ก็ไม่ชอบเลย... อยากให้ถึงตอนติมกลับไทยแล้ว T^T
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: wildride ที่ 24-03-2019 10:14:33
  :pig4:

 ณ จุดเล็กๆของบ่อเกิดความสัมพันธ์ประหลาดนี้  แบบออกจะดูเซนซิทีฟเวอร์  คล้ายกับว่า ใครรู้สึกก่อนก็เจ็บก่อน
  ..ไหวมั๊ย? อย่าเพิ่งรีบละลายนะ ไอติมใสใสของเพ่  :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 24-03-2019 13:26:14
หน่วง..งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง     :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ritawongishere ที่ 24-03-2019 13:40:01
 :o12: คิดไว้แล้วไม่มีผิด
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 24-03-2019 20:20:59
น้องติมต้องเข้มแข็ง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 24-03-2019 21:35:06
โกรธว่ะ พูดความจริงกับน้องก็ได้ ยังไงก็ไม่ได้เป็นอะไรกับน้องอยู่แล้วนิ่ :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-03-2019 00:27:36
รู้สึกเกลียดแซ็คอ่ะ   :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 25-03-2019 01:06:24
ถ้ายังห่วงความสนุกของตัวเองอยู่ ก็ไม่ต้องยุ่งกะไอติมนะ เขาก็มีความรู้สึก :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 25-03-2019 09:44:19
นี่คิดว่าหลังจากนี้มันคงทำให้ความรู้สึกของทั้งสองคนไปในทางเดียวกันกับความสัมพันธ์ที่ก่อไปแล้ว
ไอติมคงต้องยอมรับแล้วว่าตัวเอง หึง แน่ๆ
ส่วนแซ็คก็คงต้องจัดการกับต้นตอที่ทำให้ตัวเองกลายเป็นเครื่องมือให้ได้
ตอนนี้ก็ได้แต่เดินไปกอดน้องเบาๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-03-2019 20:55:53
คิดไว้แล้วไม่มีผิด พอเจอของชอบก็ห้ามใจไม่ได้ ไม่รู้ว่าคืนนั้นก็ได้กับแมนดี้จริงไหม น้องติมออกมาเลยดีไหมลูก ไม่ไหวอ่ะ เหมือนโดนทรยศความเชื่อใจ บอกน้องไม่ให้ไปมีอะไรกับใคร เป็นแค่ของตัวเอง แต่ตัวเองก็มีคนอื่นนอกเหนือจากงานอ่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 25-03-2019 22:33:54
อีหยังง่่ะ
อ่อเหมือนตอนต้นๆแซ็กก็ไลฟ์เว็บแคมกับน้องแตม
คือแซ็กทำทุกอย่างเพื่อเงินหรอ?
ใช้หนี้แทนแม่?
แล้วติมจะมาให้อิสระ?
ึค้างมากกกกกค่าาาา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 26-03-2019 11:07:00
 :z3: :z3: ทำไมเป็นแบบนี้นะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.30 : Fluffer. : 23.03.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 28-03-2019 00:02:17
หืมมม เจ็บปวดดดด :katai1:

เข้าใจแหละว่าพอร์นสตาร์เขาตรวจเลือดกันตลอด ตอนเข้าซีนบางคนก็ไม่ใส่ถุง
แต่นี่แบบอ้างเว็บแคมอ่อ นอกรอบไงแซ็ค ควรใส่ถุงไหม :hao7: ไม่ๆทางที่ดีเธออย่ายุ่งกับน้องติมลูกชั้นเลย

น้องติมกลับบ้านลูก!!!! อย่าไปยุ่งกับคนโลเล!!! โกรธแทนลูกเด้อออ :fire:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 31-03-2019 23:57:53
Fall in lust - Chapter 31 :: Weird. (แปลก)





“อะ เผื่อคุย ๆ อยู่แล้วหิว…” เจมส์ยื่นจานสีขาวทรงแบนขนาดใหญ่ที่ในนั้นใส่เนื้อย่าง ไก่ทอด เนื้อปลาหมึกปิ้ง กุ้งแช่น้ำปลาฝีมือของไอติมเอง และข้าวผัดผัก ไอติมยิ้มกว้างแล้วยื่นสองมือไปรับจานมาวางบนตัก แล้วก็ยื่นมือซ้ายไปรับแก้วน้ำอัดลมมาวางไว้ข้างตัว

           

 

“…เป็นไงมั่ง” เจมส์ถามขณะที่เดินถอยหลังไประเบียงม้านั่งฝั่งตรงข้ามกับไอติม นั่งลงพร้อมกับยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่มแอลกอฮอล์

           

 

“ตอนแรกตัวเย็นเฉียบเลย แต่ตอนนี้อุณหภูมิในร่างน่าจะกลับมาปกติแล้วฮะ” ไอติมยิ้มแล้วตักข้าวผัดเข้าปาก

           

 

“ติมกับไอ้ไบรอั้นยังไม่ได้คบกันใช่มั้ย” ไอติมส่ายหัวขณะที่เคี้ยวอาหารตุ้ยๆ

           

 

“เราเป็นเจ้านายกับกระต่ายฮะ” ไอติ้มคลี่ยิ้มกว้างและหยิบน้ำอัดลมขึ้นมาดื่ม เจมส์ยิ้มตามกับรอยยิ้มนั้น

           

 

“แล้วกระต่ายโกรธเจ้านายรึเปล่า” ไอติมสั่นหัว

           

 

“มันอึ้งมากกว่าอะไรทั้งหมด แล้วก็งง ๆ ด้วย” ไอติมว่าตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริง

           

 

“แล้วคิดจะคบกับมันมั้ย” ไอติมรู้สึกเอ๋อไปนิด เพราะกำลังคิดว่า พี่เจมส์ถามเหมือนน้าแพน และกำลังคิดว่าทำไมคำถามนี้มันจึงดูเป็นสิ่งที่น่าสนใจนัก

           

 

“เอาจากใจ ติมไม่รู้จริง ๆ ติมไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยฮะพี่เจมส์”

           

 

“แล้วติมคิดยังไงกับไบรอั้น นอกจากความเป็นแฟนคลับ”

           

 

“โอ้…” ไอติมเกาหัว หน้าตาสับสนกับคำถามนั้น ความรู้สึกแล่นฉิวไปมาไม่อยู่นิ่ง

           

 

“…ก็รู้สึกดีแหละพี่ แต่อย่าให้อธิบายนะ ติมไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่มันเป็นความรู้สึกที่ดีอะ”

           

 

“เคยมีแฟนมั้ยเนี่ย” ไอติมส่ายหัว

           

 

“ไม่มีฮะ แล้วก็ไม่เคยชอบใคร ไม่มีใครมาชอบติมด้วย” ไอติมอธิบายให้หมด เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้หมดคำถามกับประเด็นเรื่องความชอบ ความแฟนต่าง ๆ ในชีวิตเขา

           

 

“พุ่งเป้ามาที่ไอ้ไบรอั้นคนเดียวเลยเหรอ” เจมส์หัวเราะเบา ๆ ไอติมคลี่ยิ้ม

           

 

“ถ้าเรื่องเสียตัวก็ใช่ฮะ” เจมส์ยิ้มขำ ไอติมใช้ช้อนส้อมจิ้มกุ้งเข้าปากหนึ่งตัวแล้วเคี้ยวด้วยความอร่อย

           

 

“ถ้าสิ่งที่ติมเห็นนอกจอไม่ได้ทำให้ติมเสียใจ มันก็ดี” ไอติมเปิดปากพูดทั้งที่ยังไม่ได้กลืนกุ้งลงคอ

           

 

“ไม่ฮะ เห็นเขาเอากันตั้งแต่เช้ายันเย็นแล้วไง แค่ตกใจที่เขามาเอากันต่อที่นี่ เพราะถ้าได้ทำภาคสอง เขาก็ต้องกลับไปเอากันอีกอยู่ดีอะ…” ไอติมกลืนกุ้งลงคอแล้วจิ้มเข้าปากอีกตัว

           

 

“…เขาคงซ้อมแอคติ้งไว้รอภาคสอง” เจมส์หัวเราะ ไอติมคลี่ยิ้มกว้าง

           

 

“ถ้ามันไม่บั่นทอนความรู้สึกติมจริง ๆ พี่ก็แฮปปี้ด้วย…” เจมส์คิดว่าเด็กคนนี้คงปั้นยิ้ม ปั้นอารมณ์หลอกตาคนอื่นไม่เก่งนักหรอก

           

 

“…แล้วมันคุยอะไรกับติมก่อนจะมานั่งคุยกับพี่ที่หน้าบ้าน” ไอติมหยิบมีดขึ้นหั่นสเต๊กไปและคิดไปอยู่ครู่สั้น ๆ เพราะเหตุการณ์มันเพิ่งผ่านมาไม่ถึงชั่วครึ่งชั่วโมง แค่นึกทวนประโยคที่สนทนากันเฉยๆ

           

 

“เขาบอกว่าเขากำลังไลฟ์เว็บแคมอยู่ฮะ…” เจมส์พยักหน้า ไอติมเคี้ยวเนื้อในปากช้า ๆ และยิ้มบาง

           

 

“…เขาไม่เคยเอาผู้หญิงโชว์แบบนี้…” เจมส์พ่นลมหายใจเบา ๆ มองไอติมที่ย่นคิ้วน้อย ๆ แต่พักเดียวก็เปลี่ยนเป็นยิ้ม แต่ก็ไม่ใช่ยิ้มแป้นแล้นหรือยิ้มดี ๆ นักหรอก

           

 

ถึงได้บอกว่าเด็กคนนี้ปั้นอารมณ์หลอกไม่เก่ง

           

 

“…แต่ถ้าเขาจะเอาก็คงไม่แปลก”

           

 

“ใช่ ไม่แปลกหรอก” ไอติมแค่นยิ้มแล้วก็ถอนหายใจหนึ่งที

           

 

“แต่ที่แปลกคือเขาไม่ได้เปิดคอมน่ะสิฮะ” เจมส์ชะงัก มองไอติมที่นั่งนิ่งไปพักหนึ่งก่อนที่รุ่นน้องจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มน้ำอีกรอบ

           

 

“ก็ไม่แปลกอยู่ดีแหละติม…” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองเจมส์ หน้าเศร้านิด ๆ แต่แววตายังคงใสแป๋ว

           

 

“…เรื่องเซ็กซ์กับนักแสดงหนังโป๊ มันก็เป็นของคู่กัน” ไอติมพยักหน้าหนึ่งครั้ง

           

 

“ติมนึกออกฮะ เขาไม่ได้มีแค่ในจอ นอกจอก็มี…” ไอติมนึกถึงวันแรกที่เจอกันที่ซานฟรานฯ ที่มีผู้หญิงมารับแซ็คขึ้นรถไป

           

 

“…แค่ติมไม่เคยเห็นตอนนอกจอกับตาตัวเองแบบครั้งนี้มาก่อน”

           

 

“มันก็ไม่ได้ว่าปกติกับทุกคนหรอกนะ แต่ภาพรวมมันเป็นงี้จริง ๆ และถ้าให้ระบุเป็นคน ๆ ไป ก็เยอะอยู่ดีแหละ” ไอติมหัวเราะเบาๆ

           

 

“ติมรู้ฮะ” หนุ่มเอเชียเคี้ยวเนื้อในปากตุ้ย ๆ รู้อย่างที่ปากว่าจริง ไม่ได้บอกแค่เพียงว่ารู้

           

 

“มันเหมือนอาหาร ถ้าอยากกินก็กิน อยากลองก็ลอง กินอีกนานมั้ย ลองอีกกี่รอบ ก็แล้วแต่คน ทั้งฝั่งคนกินและถูกกิน” ไอติมยิ้มขำกับคำเปรียบเปรยของเจมส์ครู่หนึ่งก่อนที่จะทำปากยื่นพร้อมกับพ่นลมหายใจเบาๆ

           

 

“โจเขาเคย เอ่อ มีอะไรแบบนี้มั้ยฮะ นอกจอเงี้ย” ไอติมถามพลางยกแก้วน้ำของตัวเองขึ้นดื่ม

           

 

เจมส์พยักหน้า “ก่อนคบกันน่ะ คบกันแรก ๆ ก็มีนะ ทะเลาะกันหลายครั้งอยู่”

           

 

“แต่พี่เจมส์ก็คบยันแต่งงานเนี่ยอะเหรอ” เจมส์สั่นหัว

           

 

“เปล่า ก็เลิกกันไปนานอยู่ สักพักก็กลับมาคบกันใหม่ พอกลับมาคบกันเหมือนโจมันรู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหนมันก็ไม่ทำ” ไอติมร้องอ๋อเบา ๆ พร้อมกับพยักหน้า

           

 

“ละพี่เจมส์เป็นเพื่อนกะไบรอั้นมา เขามีนอกจอบ่อยมั้ยฮะ พี่เจมส์รู้ป้ะ”

           

 

“โอย บ่อย แต่ก็ไม่ได้บ่อยแบบทุกวี่วันนะ แบบนั้นน้ำแห้งกันพอดี…” เจมส์หัวเราะ ไอติมยิ้มขำตาม

 

 

“…มันก็มีทั้งเอาแล้วได้ตังค์และไม่ได้ตังค์ ไอ้ไม่ได้ตังค์นั่นมันสนองเงี่ยนมันเอง แต่ที่ได้ตังค์ก็ได้จุใจ ค่าตัวไอ้ไบรอั้นแพงนะ แล้วก็ที่เจค็อบมันบอก ไบรอั้นมันมีลูกค้าวีไอพีด้วย” ไอติมอ้าปากหวอนิดหน่อย รู้สึกถึงความอึ๊อ๊ะในปากตัวเอง

 

 

“อะ อ่า ว่าง่าย ๆ ก็ขายน้ะอะเนอะ”

 

 

“ว่าง่าย ๆ อย่างงั้นแหละ ขายน้ำว่าว…” ไอติมเบิกตากว้างพร้อมกับทำแก้มพองลม เจมส์หัวเราะ







“…มันขายได้อะ มันก็เลยขาย ได้ตังค์ก็เยอะมาก เติมไม้ยามกสักสิบอันหลังคำว่ามาก” แวบหนึ่งไอติมรู้สึกวูบวาบแปลก ๆ แต่ก็ปล่อยความรู้สึกนั้นออกไปจากใจและช่วงท้องที่มันบิดมวน

 

 

“ไบรอั้นบอกกับติมว่าเขาไม่มีแฟน เขาไม่มีจริงอะ”

 

 

“ก่อนที่จะมารู้จักกับพี่ พี่ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตั้งแต่ที่พี่รู้จักกับมันมา มันไม่มีนะ…” ไอติมพึมพำว่าอ้อและพยักหน้าอีกที

 

 

“…อยากเป็นแฟนมันเหรอ” ไอติมเลิกคิ้วขึ้นก่อนยิ้มเด๋อ

 

 

“อยากดีมั้ยอะ” สองหนุ่มไทยหัวเราะพร้อมกัน

 

 

“อันนี้สมมุตินะว่าถ้าติมเกิดตกลงปลงใจเป็นแฟนกับมัน แล้วมันยังทำงานด้านนี้อยู่ หรือยังมีพฤติกรรมกินนอกจออยู่ ติมจะทำยังไง” ไอติมย่นคิ้วนิดหน่อยก่อนจะคลายคิ้วออกแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นหนึ่งที จากนั้นก็ตักข้าวผัดใส่ปากและเคี้ยวหงับๆ

 

 

“ไม่รู้จริง ๆ ฮะ ตอบทั้งที่เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น ตอบย้ากยาก” เจมส์พยักหน้าด้วยความเข้าใจก่อนหันเข้าไปมองในบ้านที่ว่างเปล่าแล้วหันกลับมามองไอติมต่อ

 

 

“คนอื่น ๆ บอกพี่ว่าไม่อยากให้บอกติม แต่พี่อยากจะบอก เพราะติมจะได้มีกำลังใจ…” ไอติมพยักหน้า แต่ก็มีความงงอยู่ด้วย

 

 

“…เซ้นส์ของติมกับหนังโป๊มันคือพรสวรรค์มาก ตอนนี้ติมคือบุคลากรคนสำคัญของลูคัส ไม่ใช่ของเจค็อบ” ไอติมขมวดคิ้ว

 

 

“ฮะ?”

 

 

“ลูคัสเชื่อใจติมมาก ตอนแรกไอ้ไบรอั้นก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องเซ้นส์ติมหรอก แต่พอมันเห็นว่าความเชื่อใจของลูคัสส่งผลดี มันก็เริ่มมีความหวัง” ไอติมนิ่ง คำพูดของแซ็คเมื่ออาทิตย์ก่อนวนกลับเข้ามาในหัว

 

 

‘นายคือความหวังของฉัน’

 

 

“ถ้าบ้านนี้เป็นกรง จะกรงหมา กรงแมว กรงนก หรือกรงอะไร ไบรอั้นมันหวังว่าติมจะทำลายให้มันได้” ไอติมยิ่งรู้สึกงง การพูดเป็นเชิงอัตลักษณ์ เชิงสัญลักษณ์ไม่เข้ากับสมองของไอติมจริงๆ

 

 

‘ฉันอยากจะหนีออกไปจากกรงนี้’

 

 

คำพูดของแซ็คอีกประโยควนเข้ามาในหัวไอติมอีกรอบ แม้จะจำได้ไม่แม่นว่าเขาพูดคำไหนบ้าง แต่รูปประโยคประมาณนี้แหละ

 

 

“ดราม่าเหรอฮะ” ไอติมยิ้มแหย เจมส์ยิ้มขำ

 

 

“ก็ถ้าพังกรงได้จริง ก็ดราม่าแหละ” ไอติมร้องหูยเบา ๆ ดวงตาเรียวสวยเบิกกว้างด้วยความตื่นตะลึง

 

 

“ฟัง ๆ ดูแล้วมันดูเหมือนวีรบุรุษอะไรซักอย่าง” เจมส์หัวเราะ หันกลับเข้าไปมองในบ้านอีกรอบและหันกลับมาหาไอติมอีกครั้ง

 

 

“ไอ้คนจะแหกกรงมาละ” เจมส์ยื่นคางไปในบ้าน ไอติมหันไปมองตามก็เห็นแซ็คในสภาพเปลือยท่อนบน ด้านล่างใส่กางเกงนอนขายาว กำลังเดินมาทางหน้าบ้านช้า ๆ ไอติมยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม จังหวะที่วางแก้วลงข้างตัว แซ็คก็ดึงประตูเปิดออกแล้วเดินออกมาข้างนอก หนุ่มตาสีเทาอ่อนหันไปมองเจมส์แวบหนึ่งก่อนหันไปมองกระต่ายตัวน้อยที่คลี่ยิ้มบางให้เขา แซ็คเดินไปนั่งข้างไอติมฝั่งขวามือ

 

 

“นางเอกแกล่ะ?” เจมส์นั่งไขว้ห้างแล้วถามเพื่อน

 

 

“เมาบวกกับเหนื่อย เลยขอหลับ” แซ็คเหลือบมองไอติมที่ยิ้มนิดยิ้มหน่อย

 

 

“แล้วไอติมจะไปนอนที่ไหน อีกสักพักทุกคนก็แยกย้ายแล้ว”

 

 

“เดี๋ยวฉันพาขึ้นไปนอนข้างบน ห้องนอนอีกห้องของฉัน”

 

 

“แกจะขึ้นไปนอนด้วย?” แซ็คพยักหน้า

 

 

“ไปด้วยสิ”

 

 

“อ้าว แล้วแกจะทิ้งผู้หญิงคนนั้นไว้คนเดียวเหรอ” เจมส์แกล้งถามไปอย่างนั้นแหละ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรหรอก

 

 

แซ็คไหวไหล่ทั้งสองข้าง “เธอโตแล้ว นอนคนเดียวได้”

 

 

“ไอติมก็โตแล้ว นอนคนเดียวก็ได้ แถมไอติมยังอายุมากกว่ายัยเล็กซี่อีก” ไบรอั้นทำหน้าเอือมใส่เจมส์ เหนื่อยที่จะโต้วาทีกับอีกคนเลยหันไปมองกระต่ายตัวจ้อย

 

 

“We are going to sleep at another bedroom. (เราจะไปนอนที่ห้องนอนอีกห้องนึง)” ไอติมแปลประโยคของแซ็คสักแปบก่อนจะพยักหน้า

 

 

“Okay.” แซ็คยิ้มบาง

 

 

“ก็ยังดีที่ยังมาดูแลไอติม…” แซ็คหันไปมองเจมส์นิ่ง หนุ่มไทยอีกคนยิ้มมุมปากซ้าย

 

 

“…อย่าทำลายความหวังของแกทิ้ง ใส่ใจเขา แม้เขาจะไม่ใช่แฟนแกก็ตาม” ใบหน้าของแซ็คเรียบตึง ไม่ได้แสดงอาการฉุนเฉียวใด ๆ แต่เจมส์ก็รู้ว่าเพื่อนไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่

 

 

“ฉันรู้น่า” เจมส์ไหวไหล่ด้วยท่าทางชิล ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน

 

 

“ก็ดี แล้วก็จะดียิ่งขึ้น ถ้าแกจะไม่คบกับไอติม เพราะแกไม่เหมาะกับเขาหรอก” ว่าจบเจมส์ก็เปิดประตูเดินกลับเข้าไปในบ้าน แซ็คที่หน้าตึง แววตาเฉียบคมพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ อย่างเชื่องช้า

 

 

“Are you okay? (คุณโอเคมั้ย)” แซ็คหันไปมองคนถาม ไอติมมองเขาตาแป๋ว

 

 

“Are you mad at me? (โกรธฉันมั้ย)”

 

 

“Mad?”

 

 

“Angry.” ไอติมทำหน้าเข้าใจ

 

 

“Oh, no. I’m fine. (โอ้ ไม่ฮะ ผมปกติดี)” แซ็คมองหน้าไอติมด้วยความชั่งใจสักพักก่อนจะพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง

 

 

“You want to take a shower? And then we go to the bed. (อยากอาบน้ำมั้ย เสร็จแล้วเราก็จะได้เข้านอน)” ไอติมนิ่งแปลสักแปบแล้วก็พยักหน้า

 

 

“อื้อ” แซ็คยื่นมือซ้ายไปหยิบจานอาหารมาจากตักไอติม มือขวาหยิบแก้วน้ำไปถือแล้วยืนขึ้น พยักหน้าให้ไอติมลุกขึ้นตาม ร่างผอมบางลุกเดินไปเปิดประตูให้แซ็คเดินเข้าไป ไอติมเดินตามฝรั่งเข้าไปในบ้านพร้อมกับปิดประตูตามหลัง แซ็คเดินนำไอติมไปที่ครัว เทเศษอาหารทิ้ง วางจานกับแก้วไว้ในอ่างล้างจานและพาไอติมเดินไปที่บันได

 

 

“You can wear my t-shirt. No need pants. (ใส่เสื้อฉันแล้วกัน กางเกงไม่ต้อง)” ไอติมพยักหน้า ก้าวเท้าตามแซ็คขึ้นไปบนบันไดด้วยความรู้สึกวูบวาบในทรวงอกอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกลับมารู้สึกปกติ

 

 

ไอติมเดินผ่านบริเวณพื้นที่ระเบียงชั้นสองที่ยืนมองเห็นโซนห้องโถงของบ้านกับห้องครัวแบบที่เห็นแค่เค้าน์เตอร์ด้านนอก ข้างบนนี้มองเห็นวิวทั้งทางหน้าบ้านและหลังบ้าน ครั้งแรกที่ไอติมคิดภาพชั้นสองของบ้านคือมีแค่ตรงส่วนนี้แล้วก็ห้องนอนสามสี่ห้อง แต่พอเดินขึ้นมาถึงได้รู้ว่ามีซอกซอยเล็ก ๆ แยกห้องนั้นห้องนี้ไว้อีกหลายห้อง จนไอติมไม่สามารถตอบได้ในทันทีว่าห้องไหนเป็นห้องนอนของแซ็ค กระทั่งเดินมาถึงประตูไม้สีน้ำตาลเข้มที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านและอยู่ริมสุด

 

 

“Many rooms. (ห้องเยอะ)” ไอติมหันไปมองรอบชั้นสองของบ้าน และบอกกับตัวเองว่าอย่าออกมาเดินเพ่นพ่านเด็ดขาดเพราะจะหลงเอาได้

 

 

“Room who is room who? (ห้องใครเป็นห้องใคร)” แซ็คที่ดันประตูเข้าไปแล้วหันมาขมวดคิ้วด้วยความงงใส่ไอติมอยู่พักหนึ่งถึงจะเก็ต

 

 

“That’s Mandy’s room, (นั่นห้องของแมนดี้)” แซ็คชี้ไปที่ห้องริมฝั่งบันไดที่เขาสองคนเดินผ่านมา ก่อนเลื่อนมือไปชี้ประตูห้องที่อยู่ในซอกเล็กๆ

 

 

“Kevin’s room. (ห้องเควิน)” ไอติมพยักหน้า แซ็คย้ายมือไปประตูสีดำที่อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องของแซ็ค

 

 

“Jacob’s room. (ห้องเจค็อบ)”

 

 

“And where is Castrol room? (และห้องแคสโทรอยู่ไหน)” แซ็คกวาดสายตามองสักแปบก่อนจะสั่นหัว

 

 

“I don’t know. (ไม่รู้เหมือนกัน)” แซ็คเดินเข้าไปในห้อง ไอติมเดินตามเข้าไป เจ้าของห้องนอนปิดประตูตามหลัง

 

 

ห้องนอนด้านบนของแซ็คว่างเปล่ายิ่งกว่าด้านล่าง สีห้องนอนสีขาว บนผนังว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดติดประดับประดา มีเตียงนอนขนาดใหญ่ ผ้าปูสีเทาเข้ม ตู้เสื้อผ้าสีดำหนึ่งหลัง โต๊ะเขียนหนังสือหนึ่งตัวที่มีโทรฟี่รางวัลสีทองตั้งเรียงรายอยู่สักสี่หรืออาจจะห้าอัน สีใส ๆ รูปทรงเป็นแท่งหนึ่งอัน ทรงพิรามิดยอมแหลมหนึ่งอัน แล้วก็มีกรอบรูปไม่มีรูปหนึ่งอัน แล้วก็… มีแค่นั้นจริงๆ

 

 

“How long you don’t use this room? (นานแค่ไหนที่คุณไม่ใช้ห้องนี้)”

 

 

“Almost two years. (เกือบสองปีแล้ว)” งั้นก็ไม่น่าแปลกถ้าห้องจะดูเป็นห้องเปล่า ๆ แบบนี้

 

 

แซ็คเปิดไฟในห้องนอนเพื่อเพิ่มความสว่างของห้องแทนแสงไฟบริเวณหน้าบ้านที่สาดแสงจาง ๆ เข้ามาผ่านประตูกระจกระเบียง ฝรั่งเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ออกมายื่นให้ไอติมพร้อมกับผ้าขนหนูสีเดียวกัน

 

 

“I don’t have toothbrush. (ผมไม่มีแปรงสีฟัน)”

 

 

“Use mine. (ใช้ของฉันไปก่อน)” ไอติมชะงักไปนิดหนึ่ง มองหน้าแซ็คด้วยความไม่แน่ใจ แต่ฝรั่งตัวใหญ่พยักหน้ายืนยัน ไอติมถึงหมุนตัวเดินไปทางห้องน้ำที่อยู่ฝั่งซ้ายมือของเตียง ในห้องน้ำเป็นสีขาว ขนาดเล็กกว่าด้านล่างและไม่มีอ่างอาบน้ำ ไอติมแขวนเสื้อกับผ้าขนหนูไว้บนราวเหล็กสีเงิน เดินไปตรงอ่างล้างหน้า หยิบแปรงสีฟันสีน้ำเงินขึ้นมามองครู่หนึ่งแล้วก็หยิบยาสีฟันมาบีบใส่ เปิดน้ำใส่แก้วแล้วยกขึ้นกลั้วปากจากนั้นก็เริ่มแปรงฟัน

 

 

ระหว่างนั้นความคิดของไอติมหยุดนิ่ง ไม่ได้คิดเรื่องใดเป็นพิเศษ แม้ว่าภาพแซ็คกับหญิงสาวคนนั้นจะวูบวาบเข้ามา แต่ไอติมก็ไม่ได้ฉุกคิดหรือคิดวกวนไปกับมัน จนกระทั่งแปรงฟันล้างปากเสร็จเรียบร้อย ไอติมก็ถอดเสื้อผ้าไปแขวนไว้ที่ราว ตอนที่เดินไปเปิดฝักบัวเตรียมอาบน้ำ เสียงเคาะประตูห้องน้ำก็ดังขึ้น

 

 

“Hey, rabbitch”

 

 

“What?”

 

 

ก๊อก ก๊อก

 

 

ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ อย่างงุนงงแต่ก็เดินไปดึงประตูเปิดออก ชะงักไปนิดตอนเห็นแซ็คเปลือยเปล่า ไอติมมองเจ้าของห้องนอนด้วยความงุนงงนิดหน่อย

 

 

“I want to take a shower. (ฉันอยากอาบน้ำน่ะ)” ว่าจบก็เดินก้าวเข้ามาในห้องน้ำ ไอติมหน้าเหวอไปนิด แซ็คดันประตูปิดพร้อมกับพยักหน้าให้ไอติม กระต่ายตัวจ้อยยิ้มงงแต่ก็เดินกลับไปทางฝักบัว เดินไปดันแท่นเปิดฝักบัวขึ้น ขณะที่น้ำรดหัวและตัว ไอติมก็โดนแซ็คกอดจากทางด้านหลัง ร่างผอมบางมีสีหน้างุนงง แต่สักพักก็ไม่งงเมื่อแซ็คซุกหน้าไซ้คอด้านหลังของตัวเอง

 

 

“อะ no” ไอติมบอกเสียงกลั้วหัวเราะนิดหน่อย และพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของแซ็ค แต่ก็โดนแขนแข็งแรงกอดรัดไว้ค่อนข้างแน่น แซ็คไซ้คอไอติมไปด้านหน้า ไอติมพยายามเบี่ยงหนี

 

 

“You just fuck. (คุณเพิ่งเอา)”

 

 

“I can fuck again. (ฉันเอาได้อีก)” ไอติมย่นคิ้ว ภาพของแซ็คทับร่างผู้หญิงคนนั้นพุ่งวาบเข้ามาในหัว แล้วไอติมก็สะบัดตัวเองออกจากอ้อมแขนแซ็ค ถอยหลังยืนห่างจากร่างของแซ็คไปหนึ่งก้าว

 

 

“But I don’t want. (แต่ผมไม่อยาก)” แซ็คมองไอติมนิ่ง ไอติมแค่นยิ้ม ก้าวเท้าเดินออกไปจากโซนอาบน้ำ เดินไปหยิบผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าของตัวเองมาจากราว ก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องน้ำโดยไม่ได้หันไปมองแซ็ค

 

 

พอออกมาข้างนอก ไอติมก็จัดการเช็ดตัวจนแห้งสะอาดแล้วสวมเสื้อยืดตัวใหญ่ของแซ็ค ใหญ่แบบที่ปิดท่อนล่างให้ไอติมได้ด้วย ไอติมเดินไปดึงผ้านวมเตรียมนอน จังหวะนั้นแซ็คเดินออกมาจากห้องน้ำตรงไปหยิบผ้าขนหนูมาจากตู้เสื้อผ้าแล้วเช็ดตัวจนแห้ง เดินตัวเปลือยไปดึงผ้านวมอีกฝั่ง เขายืนมองไอติมที่เปลือกตาปิดลงไปแล้วนิ่ง ๆ ครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินไปปิดไฟดวงใหญ่แล้วเดินกลับมานอนหงายลงบนเตียงท่ามกลางความเงียบของอีกคนราวกับว่าเขาเข้ามานอนห้องนี้คนเดียว

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 31-03-2019 23:58:17
V
v
v


เช้าวันถัดมาไอติมตื่นนอนก่อนแซ็ค นั่งงงอยู่บนเตียงครู่หนึ่งว่าจะต้องทำยังไง จะเอายังไงดี ไอติมแม่แน่ใจว่าตัวเองลงไปห้องนอนข้างล่างได้หรือยัง มือถือไอติมก็อยู่นั่น ของก็อยู่นั่นหมด แล้วก็หิวข้าวเช้าด้วย สุดท้ายด้วยความไม่กล้าที่จะเดินลงไปคนเดียวเลยยื่นมือไปสะกิดปลุกแซ็ค ฝรั่งตัวโตลืมตาขึ้นงัวเงียก่อนหันไปมองไอติม

 

 

“It’s morning. (มันเช้าแล้ว)” แซ็คหลับตาแล้วชูสองแขนขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วก็นอนนิ่งไป ไอติมมองฝรั่งด้วยความไม่แน่ใจเลยยื่นมือไปสะกิดตรงหัวไหล่ซ้ายของแซ็คอีกที

 

 

“I’m hungry. (ผมหิว)” แซ็คลืมตาขึ้นมองหน้าไอติมที่มองเขาตาใส ฝรั่งตัวโตยื่นมือซ้ายไปให้ไอติม แต่ไอติมมองนิ่งครู่หนึ่งก่อนเลื่อนตัวลงจากเตียง เดินไปหยิบกางเกงตัวเก่าจากเมื่อวานมาใส่ ถือเสื้อผ้าชุดเดิมที่เหลือไว้ในมือ พร้อมจะลงไปข้างล่าง

 

 

“It’s okay I will go by myself. (มันโอเค ผมจะไปด้วยตัวผม)” ไอติมคลี่ยิ้มแบบไม่เห็นฟันแวบหนึ่งแล้วเดินตรงไปที่ประตู คนบนเตียงลุกดันตัวขึ้นนั่งตอนที่ไอติมดึงประตูเปิดออก

 

 

“Wait me a sec. (รอฉันก่อน)” ไอติมหมุนตัวไปมอง แซ็คเดินลงจากเตียงไปหยิบกางเกงขายาวมาใส่ เดินกลับมาดึงผ้านวมคลุมเตียงให้เรียบร้อย เขาทำท่าชี้ออกข้างนอกเป็นการบอกให้ไอติมเดินออกไป กระต่ายตัวจ้อยเดินออกไปข้างนอกห้องโดยมีแซ็คเดินตามหลังมา พอแซ็คปิดประตูห้องเสร็จไอติมก็ปล่อยให้เจ้าของบ้านเดินนำ

 

 

พอลงมาข้างล่างก็เจอกับรูมเมทของแซ็คทุกคนนั่งอยู่ในครัวกับห้องโถง ทุกสายตามองไอติม แต่ไอติมไม่ได้สนใจว่าใครจะมองยังไง เพราะเสียงกะเพราะนั้นดังครืนไม่หยุด แซ็คพาไอติมเดินเข้าไปหาอะไรกินในครัว แคสโทรลเอ่ยทักทายทั้งสองคนราวกับเป็นตัวแทนของอีกสามคนที่นิ่งเงียบ ไอติมเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรกิน จนกระทั่งได้เนื้อหมูเหมาะสำหรับทำสเต็กได้ประมาณสามชิ้นใหญ่

 

 

“Can you make it for me too? (ทำให้ฉันด้วยได้มั้ย)” แซ็คเดินเข้าไปยืนใกล้ไอติมแล้วเอ่ยถาม คนถูกถามพยักหน้าหนึ่งครั้งพร้อมกับยิ้มบาง แม้ว่าบรรยากาศรอบข้างจะเงียบเชียบจนชวนอึดอัด แต่ไอติมหิวจนเกินกว่าจะมารู้สึกอย่างอื่น

 

 

“มะรืนนี้มีงานประกาศรางวัล อย่าลืมล่ะ” แซ็คหันไปมองเจค็อบแล้วพยักหน้า หนุ่มสูงวัยที่สุดในบ้านกลับไปก้มหน้าอ่านไอแพดต่อ

 

 

“เควิน มีชุดสูทให้ไอศกรีมใส่รึเปล่า ไซซ์นายกับเขาน่าจะใกล้เคียงกัน” แซ็คถามหนุ่มหัวเขียวที่นั่งจิบน้ำอะไรสักอย่างและเล่นโทรศัพท์มือถือไปด้วย

 

 

“ไม่มีหรอก” เควินตอบทั้งที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยซ้ำ แซ็คเบ้ปากนิดหน่อยแล้วก็หันกลับไปมองไอติมที่กำลังวางหมูลงไปในกะละมังสีเงิน 

 

 

“เด็กนั่นจำเป็นต้องไปด้วยรึไง” แซ็คที่มองไอติมเทซอสนั่นเทซอสนี่ใส่กะละมังเตรียมหมักหมูหันไปมองแมนดี้ที่ใบหน้าเรียบตึง

 

 

“ลูคัสอยากให้เขาไป จะได้เรียนรู้วงการนี้มากขึ้น” แมนดี้กลอกตา แซ็คหันกลับ แคสโทรลมองสลับทั้งสองคนพักหนึ่งก่อนจะเดินออกไปนอกครัว เดินไปนั่งตรงข้ามกับเจค็อบ

 

 

“You can sit. (คุณนั่งได้นะ)” ไอติมหันไปบอกฝรั่งตัวโตที่ยืนชิดข้างกันจนแทบจะสิงร่างเขาอยู่แล้ว

 

 

“I can stand. (ฉันยืนได้)” ไอติมยิ้มไม่เต็มปากนักแล้วก็หันไปจัดการหมูต่อ

 

 

ไอติมไม่ได้หันไปมองคนอื่น ๆ ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ถ้าอยู่แล้วจะทำอะไรก็เรื่องของคนนั้น พอหมักหมูเสร็จไอติมก็หยิบใส่กล่องสี่เหลี่ยมสีใสและคุยกับแซ็คว่าต้องปล่อยทิ้งไว้สักแปบ แต่คงไม่ถึงชั่วโมง เนื่องจากหิว แซ็คเลยชวนไอติมไปอาบน้ำก่อน ไอติมมีทีท่าลังเลใจ แต่ก็หันไปหยิบฝาพลาสติกมาปิดกล่องใส่หมูหมักเอาไว้ และเอาวางไว้บนตู้เย็น

 

 

“And Lexy? (แล้วเล็กซี่ล่ะ)” ไอติมถามระหว่างเดินกลับไปห้องนอนด้านล่างของแซ็ค เจ้าของห้องไม่ตอบแต่เดินไปเปิดประตูห้องแบบไม่เคาะไม่ให้สัญญานใด ๆ ไอติมมองเข้าไปด้านในก็พบว่าในห้องนอนนั้นว่างเปล่า ผ้านวมบนเตียงอยู่ในสภาพเละเทะ

 

 

“She’s gone. (เธอไปแล้ว)” ไอติมกระตุกยิ้มแหยแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน เอาเสื้อผ้าชุดเก่าไปใส่ตะกร้า เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดใหม่ออกมาเตรียมใส่ ตอนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ไอติมก็รู้สึกว่าโดนจ้องอยู่เลยหันหน้าไปดู แซ็คที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั่งหน้าคอมพิวเตอร์กำลังจ้องมองกระต่ายตัวขาวผ่อง ไอติมยิ้มนิดหน่อย หางตาเหลือบมองเตียงนอนที่อยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย

 

 

“Hey, come here, (เฮ้ มานี่หน่อยสิ)” ไอติมหันหน้าไปมองแซ็ค มองดวงตาสีเทาที่มองเขาอย่างอ่อนโยนด้วยความไม่แน่ใจ

 

 

“Please. (ได้โปรด)” ไอติมพ่นลมหายใจสั้น ๆ หนึ่งครั้ง หอบเสื้อผ้าเดินไปนั่งปลายเตียงตรงข้ามกับแซ็ค และก่อนที่อีกฝ่ายจะเปิดปากพูดอะไร ไอติมก็ถามในสิ่งที่นึกสงสัยอยู่ก่อนแล้ว

 

 

“This is the reason? เอ่อ… that why you don’t have girlfriend. (นี่เป็นเหตุผลเหรอ เอ่อ ที่ทำไมคุณไม่มีแฟน)” แซ็คนั่งนิ่งครู่หนึ่งแล้วเปิดปากพูด

 

 

“It is a very small part of the reason. (มันเป็นส่วนเล็กมาก ๆ ของเหตุผล)” ไอติมไม่ได้แสดงสีหน้าใด แม้จะไม่เข้าใจก็ตาม ทำเพียงมองแซ็คอย่างเรียบนิ่ง

 

 

“I have told you. I don’t believe in love. (ฉันเคยบอกนายแล้วนี่ ฉันไม่เชื่อในความรัก)”

 

 

“Why? (ทำไมล่ะ)” แซ็คหัวเราะแบบไร้เสียง ไอติมแยกไม่ออกว่ามันเป็นการหัวเราะปกติ หรือหัวเราะเยาะเย้ย

 

 

“I was a very romantic guy, I think. I have always imagined about my wife, my child, my family. My imagination was full of heart and roses, (ฉันเคยเป็นผู้ชายที่โรแมนติก ฉันคิดว่างั้นนะ ฉันมักจินตนาการเกี่ยวกับภรรยาของฉัน ลูก ๆ ของฉัน ครอบครัวของฉัน จินตนาการฉันเต็มไปด้วยคามฟุ้งฟิ้งและสวยงาม)” ไอติมนั่งฟังนิ่ง ๆ แซ็คยิ้มละมุน

 

 

“If you are going to ask my friends they will surprise, because I have never told anyone. (ถ้านายไปถามเพื่อน ๆ ฉัน พวกนั้นจะประหลาดใจ เพราะฉันไม่เคยบอกใครเลย)”

 

 

“And? (แล้วยังไงฮะ)” ไอติมอยากรู้ว่ามันเกี่ยวโยงกันยังไงกับการเคยเป็นคนโรแมนติกแล้วไม่มีแฟน

 

 

“Because I used to believe in it so much and then I got fail. I don’t blame love I know it is about me, but I fail, then it made me realize that love doesn’t guarantee the relationship, no matter how long you are in it. (เพราะว่าฉันเคยเชื่อมันมาก แล้วฉันก็ผิดหวัง ฉันไม่ได้จะต่อว่าความรักหรอก ฉันรู้ว่ามันเป็นที่ตัวฉันเอง แต่ฉันผิดหวังไง แล้วมันก็ทำให้ฉันเข้าใจว่า รักไม่ได้การันตีความสัมพันธ์ไม่ว่าจะอยู่ในความพันธ์นั้นนานแค่ไหน)” ไอติมไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจถูกมากน้อยแค่ไหน แต่จับใจความได้แหละว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องความรักกับความสัมพันธ์ของการคบกัน

 

 

“You never have girlfriend? (คุณไม่เคยมีแฟนเลย?)” แซ็คพยักหน้า ไอติมมองแซ็คด้วยความประหลาดใจ เพราะกำลังคิดว่าหน้าตาแบบแซ็คไม่น่าจะโสดมาจนถึงตอนนี้ แล้วยิ่งรูปร่างแบบนี้ก็ไม่น่าว่าง แต่ก่อนหน้าที่ไอติมจะรู้ว่ามีผู้ชายคนนี้อยู่บนโลก ไอติมก็ไม่รู้อีกแหละว่าเขาเป็นยังไงบ้าง

 

 

“I think a single status is good for me. (ฉันคิดว่าสถานะโสดมันดีสำหรับฉันนะ)” ไอติมพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

 

 

“And you never love someone? (แล้วคุณไม่เคยรักใคร?)” ดวงตาสีเทาสบตาดวงตาสีน้ำตาลอ่อน ต่างคนต่างนิ่ง ไม่ได้มีทีท่าหรือท่าทีใด

 

 

“Never. (ไม่เคย)” ไอติมรู้สึกตึ้บ ๆ ตรงขมับและวิ้งในหูทั้งสองข้าง

 

 

“Okay, you single and you can fuck many girl and some boy, like me. (โอเค คุณโสดและคุณสามารถเอาผู้หญิงหลายคนและผู้ชายบางคน แบบผม)” ไอติมเบิกตากว้างพร้อมเลิกคิ้วขึ้นแวบหนึ่งก่อนหน้าจะเรียบเฉยตามเดิม

 

 

“I don’t want you to be mad at me. I mean angry. (ฉันไม่อยากให้นายเคืองฉัน ฉันหมายถึงโกรธน่ะ)” ไอติมคลี่ยิ้มบางแล้วส่ายหัว

 

 

“I told you no. (ผมบอกคุณว่าไม่ไง)”

 

 

“Really? (จริงเหรอ)” ไอติมพยักหน้า

 

 

“Real. I’m okay. Why can I angry you? We are not เอ่อ not boyfriend. (จริง ผมโอเค ทำไมผมโกรธคุณได้ล่ะ เราไม่เป็น เอ่อ เป็นแฟนกัน)” ไอติมยิ้มน้อย ๆ แซ็คย่นคิ้วมองไอติมด้วยความรู้สึกสับสน

 

 

“But you should wear condom นะ if you fuck many people. (แต่คุณควรใส่ถุงยางนะถ้าคุณเอาหลายคน)” แซ็คยิ้มมุมปากซ้ายเล็กน้อย

 

 

“Thank you. (ขอบใจนะ)” ไอติมยิ้มบางแต่มากขึ้นอีกนิดก่อนลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ รอยยิ้มบนใบหน้าแซ็คหดหายไปแทนที่ด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวด ความรู้สึกตรงช่วงอกปั่นป่วนและตรงช่วงท้องบิดเป็นเกลียว 

 

 

 



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้





คือช่วงนี้สีหน้านี้ >  :ruready   เหมาะกับสถานการณ์สุด 5555555 มันแบบ ฮืมมม หืมมม ยังไงนะ อะไรอะ 5555555

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 01-04-2019 00:35:28
แซ้คก็รู้สึกแหล่ะใช่มั้ยยยยย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 01-04-2019 01:13:05
 :katai1: พอเค้าบอกว่าไม่ใช่แฟน รู้สึกหน่วงเลยหรอแแซค
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 01-04-2019 01:25:49
มีคนกำลังถูกหลอกใช้หรือป่าว

ไม่เชื่อใจตาแซคเลย  :serius2: :serius2: :serius2:
 :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 01-04-2019 01:26:06
 :katai1: :katai1: :katai1: ติมพยายามเก็บอาการ  น้องไม่รู้ว่าความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไร ส่วนอิแซคหน้าด้านเอาผญคนนั่นแล้วจะมาเอาติมต่อคนหน้าไม่อาย!!
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 01-04-2019 02:09:39
รอสมน้ำหน้านังแซ็คไม่ไหวแล้วค่ะิขอหนักๆนะคะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: cho_co_late ที่ 01-04-2019 02:25:03
น้องยังสับสนอยู่ว่าตัวเองรู้สึกยังไง แอบดีนะน้องอาจจะรู้สึกแค่หน่วงๆ แต่ไม่รู้เพราะอะไร
แต่อิแซ็คไหน รู้ตัวบ้างมั้ย! เป็นไงละพอเขาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมหน่วงล่ะ หึ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 01-04-2019 02:38:48
คือพี่เนี่ยเริ่มรู้สึกอะไรกับน้องแล้วแหละ แต่ทำตัวงี้สมควรที่ไอติมจะไม่ยอมเป็ฯแฟน  :m16:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-04-2019 06:19:35
แซคก็ไม่คิดว่าติมเป็นแฟนอยู่แล้วนี่นา ในเมื่อตอนแรกติมมาเพื่อเสียตัวไง แต่เอาคนอื่นแบบไม่ใส่ถุงเนี่ย ไม่ได้นะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 01-04-2019 08:52:33
ไงแซ็ค เจ็บปวดใช่ป่ะ  :laugh:

ไม่โกรธแต่ไม่ให้เข้าใกล้ :laugh: :laugh:

คนมักมากต้องเจอแบบนี้ น้องติมลูกใจแข็งไว้อย่ายอมให้นางชูปี้ชูวับอีก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 01-04-2019 10:35:50
เป็นไงล่ะ รู้สึกอะไรบ้างรึยัง อย่ามาทำกะลูกชั้นแบบนี้ :fire:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: องศาวาย ที่ 01-04-2019 11:18:59
ติมทิ้งแซคไปเลย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 01-04-2019 11:24:54
มันก็ทั้งคู่ คือน่าจับฟาดก้นทั้งคู่ คนน้องที่บอกว่ายังไม่เคยรักใครเลยคิดว่าความรู้สึกตัวเองตอนนี้ไม่น่าใช่ความรัก คนพี่ก็มีปมในรักเลยไม่อยากเจ็บอีกแล้ว(งี้เหรอ)
ทำให้ต่างคนมองไม่ออกหรือไม่ยอมรับว่า ความสัมพันธ์ของตัวเองมันมีผลทางใจมาเกินกว่าขอบเขตของการเล่นสนุกกันแล้ว

เอาล่ะ มาลุ้นไปจนกว่าใครจะยอมรับก่อนกันดีกว่า  :pig4:  :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-04-2019 12:20:20
 :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-04-2019 12:31:50
้เลิกไปเล้ย เลิกทั้งๆที่ยังไม่ได้คบนี่แหละ รู้สึกแน่ๆ เพราะถ้าไม่รู้สึกอะไรก้อบ้าละ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: wildride ที่ 01-04-2019 20:33:45
  :pig4:

 wellwellwell Now they're exactly in the weird zone.

 I wonder where do they take it from here &/ what do they mean for each other?
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-04-2019 22:29:31
ปวดตับจริง ๆ เลย  :ling1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 02-04-2019 01:23:15
อ่ออยยยยย

ตอนนี้หน่วงมากจ้า
ต่างคนต่างไม่เคย in relationship
แต่ความรู้สึกนี่น่าจะคาดหวังในตัวอีกคนไปแล้ว
อ่านละมันหงุ่ยๆหนุ่ยๆตุ่ยๆ
จับแซ้ก มาเขย่าๆๆๆๆให้มีสติซะดีมั้ย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 02-04-2019 02:14:24
สรุปคือแซ็คโง่ กว่าจะฉลาดติมก็ไม่อยู่ด้วยแล้ว สมน้ำหน้า!!!555555555555555 กอดน้องติมน้าาาา หาผัวใหม่เลยลูก เอาคนที่มันไม่โง่แบบนี้!!ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: waragorn ที่ 02-04-2019 13:35:48
หน่วงได้อีก คงต้องเจ็บกันอีกเยอะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.31 : Weird. : 01.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 03-04-2019 23:05:45
ยึดตามอินโทร ติมคงไม่ได้คบแซค
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-04-2019 23:02:34
Fall in lust - Chapter 32 :: Award. (รางวัล)



“You look good. (นายดูดีนะ)” ไอติมคลี่ยิ้มให้แซ็คขณะที่กำลังเช็กสภาพตัวเองในชุดเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงยีนสกินนี่ และสูทสีน้ำเงินเข้มสวมทับเชิ้ตอีกทีอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ

           

 

“You too. (คุณก็เหมือนกัน)” แซ็คอยู่ในชุดสูทสีดำเนี้ยบ แพทเทิร์นชุดปกติเวลาผู้ชายใส่ออกงานทั่วไป เชิ้ตสีดำมันเลื่อมแหวกอกให้เห็นจี้กระต่ายสีทองอ่อน ท่อนล่างเป็นกางเกงสแล็คสีดำกับรองเท้าหนังสีน้ำตาขัดมันเลื่อม

           

 

“Ready? (พร้อมรึยัง)” ไอติมพยักหน้าก่อนก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องน้ำ มีแซ็คเดินตามหลังมา ไอติมเดินไปหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาคล้องคอ เพราะกะว่าจะไปเก็บบรรยากาศในงาน เก็บไว้ดูเป็นประสบการณ์ชีวิตกับการได้ไปร่วมงานประกาศรางวัลทางการแสดงของนักแสดงหนังผู้ใหญ่

           

 

“Where is Lukas? (ลูคัสอยู่ไหน)”

           

 

“Almost here. (ใกล้ถึงนี่แล้วละ)” วันนี้จะมีออกงานด้วยกันแค่ห้าคนคือ แซ็ค ไอติม ลูคัส แอนโทนี่ แล้วก็แคสโทรล โปรดิวเซอร์กล้ามใหญ่เลยบอกให้ไปรถคันเดียวกัน เนื่องจากลูคัสต้องผ่านมาทางนี้อยู่แล้ว ก็เลยจะแวะรับทั้งสามคน แต่แคสโทรลมีธุระด้านนอกอยู่แล้วเลยจะขับรถไปเจอที่งานเลย

           

 

ตอนที่กำลังเดินไปรอลูคัสหน้าบ้าน เจค็อบก็เดินสวนมาจากหน้าบ้านพอดี เขามองแซ็คสลับกับไอติมก่อนหันไปพูดกับแซ็คคนเดียว “Good luck and see you. (โชคดีแล้วเจอกัน)”

           

 

เจค็อบพูดแค่นั้นก่อนจะเดินไปในครัว ไอติมกับแซ็คก้าวเท้าเดินต่อไปไม่ได้หันไปสนใจหรือหันไปมองหนุ่มใหญ่อีกคน จังหวะกำลังเปิดประตูหน้าบ้านก็ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดด้านหน้าของรั้วบ้านพอดี ไอติมใส่รองเท้าหนังหัวแหลมสีน้ำตาลอ่อนขัดมันเลื่อมคล้ายกับของแซ็คเสร็จก็เดินลงบันไดตรงเฉลียงหน้าบ้านไปเปิดประตูรั้ว เจอกับแอนโทนี่ในชุดเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีขาวแดงและมีสูทสีเลือดหมูทับอีกที

           

 

“ผร่อมนะ” ไอติมยิ้มพร้อมกับพยักหน้า ก้าวเท้าเดินออกจากประตูใหญ่หน้าบ้านไปที่รถครอสโอเวอร์คาร์สีทองอมน้ำตาลคันใหญ่ของลูคัส ประตูกระจกฝั่งคนขับเลื่อนลงเผยให้เห็นใบหน้าหล่อแบบสูงวัยของเจ้าของรถ

           

 

“Wow, my daughter is so pretty. (ว้าว ลูกสาวฉันน่ารักมาก)” ไอติมคลี่ยิ้มกว้างและส่งเสียงหัวเราะ ลูคัสยกมือขวาขึ้นและชี้เข้ามาในรถ ไอติมก้าวเท้าเดินไปเปิดประตูรถฝั่งด้านหลังคนขับ แซ็คเดินอ้อมหน้ารถเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ และแอนโทนี่ขึ้นด้านหลังอีกฝั่งกับไอติม

           

 

“Do you have the speech on stage? (มีคำพูดบนเวทีรึยัง)” แอนโทนี่หันไปถามไอติมขณะที่รถถอยหลังเคลื่อนออกจากประตูรั้วบ้าน

           

 

“ฮะ? Speech? I have to go on stage เหรอ”

           

 

“Yeah, if he wins you will go to pick the award with him. He was nominated from porn that you were producing it. (ใช่สิ ถ้าเขาชนะ เธอต้องขึ้นไปรับรางวัลกับเขา เขาเข้าชิงจากหนังที่เธอทำนะ)”

           

 

“Oh…” ไอติมอ้าปากหวอ หน้าตาเหลอหลา แต่พักเดียวแอนโทนี่ก็หลุดหัวเราะ และสองหนุ่มด้านก็ร่วมขำไปด้วย

           

 

“หล่อเล้น หมั่ยต้องขึ้นไปหลอก” ไอติมยิ้มแห้ง แต่ก็รู้สึกโล่งใจ

           

 

“ถ้าผมขึ้นไปพูด คนคงงงกันทั้งงาน” แอนโทนี่ขำ ไอติมยิ้มกว้าง รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกมองเลยบิดหน้าไปมองทางแซ็ค ซึ่งเป็นจังหวะที่เขาบิดหน้ากลับไปมองถนนด้านหน้าพอดี ไอติมเลยเอนหลังพิงกับเบาะแล้วนั่งมองวิวข้างทางฝั่งตัวเองไปเรื่อย

           

 

สถานที่จัดงานสำหรับปีนี้จัดที่โรงละครแห่งหนึ่งใกล้กับตัวเมือง แต่สถานที่ที่ทางงานจัดบ่อยที่สุดคือลาสเวกัส มีสลับมานี่บ้างแล้วแต่จังหวะและโอกาส ไอติมเคยเห็นแต่ภาพข่าวในเว็บไซต์ เคยเห็นคลิปทั้งในยูทูปและเว็บโป๊ บรรยากาศในงานคึกคักและยิ่งใหญ่ นักแสดงหลากหลายค่ายหรือไม่มีค่ายตบเท้าเข้าร่วมงานกันล้นหลาม มีช่วงเดินพรมแดง มีช่างภาพและนักข่าว อาจจะไม่ได้มากมายเท่าพวกออสการ์แต่ก็คือมี จริง ๆ มันมีอยู่หลายงานเหมือนกันสำหรับงานประกาศรางวัลของอุตสาหกรรมหนังโป๊ แต่งานนี้ที่ไอติมไปนั้น ถือว่าเป็นเวทีหลักและเป็นเวทีที่ใหญ่สุดในความรู้สึกของคนในอุตสาหกรรม ใครได้รางวัลจากเวทีนี้ถือว่าเป็นเครดิตที่ดีมากในการทำงาน

           

 

“แฟนพันธุ์แท้ไอ่ไบร่อั้นบอกด้ายไหมว่ามันด้ายรางวัลอ่ะไรมาแหล่วบ้าง” ไอติมที่กำลังมองวิวข้างทางเพลิน ๆ หันไปมองแอนโทนี่ เขาได้ยินคำถามนั้นและนิ่งคิดประมวลผลครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ตอบด้วยความไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าข้อมูลที่คิดอยู่ในหัวนั้นถูกต้องมั้ย

           

 

“ห้าหรือหกมั้ยฮะ…” ไอติมย่นคิ้วแปบหนึ่งแล้วก็พูดต่อ

 

 

“…ของเวทีนี้ ที่เรากำลังจะไป ได้สาม ดาวรุ่งชาย แล้วก็นักแสดงนำชายอีกสองครั้ง…” ไอติมนิ่ง ในหัวคิด ใบหน้าหันมองแซ็คที่เหลียวหน้ามามอง ไอติมมองแซ็คนิ่ง อีกฝ่ายก็มองไอติมนิ่ง แต่พอไอติมคิดคำตอบต่อได้ก็เลื่อนสายตากลับไปมองแอนโทนี่ต่อ

 

 

“…มีได้เวทีของเกย์โดยเฉพาะด้วยหนึ่งครั้ง แล้วก็ ป๊อบปูล่าโหวตของเวทีนึง อันนี้ผมจำแม่น เพราะผมเสียเงินซื้อไอเท่มหัวใจให้เขา” แอนโทนี่ปรบมือแล้วหัวเราะถูกใจ ไอติมยิ้มกว้าง แซ็คชะโงกหน้ามองแอนโทนี่ด้วยความงุนงง ลูคัสเองก็ยังหันจากถนนข้างหน้ามามองแอนโทนี่จนไอติมนึกหวาดเสียวว่าจะเสยกับรถคันอื่นเอารึเปล่า

 

 

“He said that,” แอนโทนี่เล่าให้เพื่อนอีกสองคนฟังว่าคุยอะไรกับไอติม พอรู้เรื่องที่ทั้งคู่คุยกัน สองหนุ่มข้างหน้าก็แสดงอาการต่างกัน ลูคัสส่งเสียงร้องว้าวด้วยความประทับใจ ส่วนแซ็คมองไอติมแล้วยิ้ม ไอติมยิ้มมุมปากให้นิดหนึ่งแล้วก็ยิ้มกว้างเมื่อลูคัสงอแขนยื่นมือขวามาให้ ไอติมยื่นมือซ้ายไปจับและหัวเราะฮิฮะ

 

 

“ทีนี้แกรู้แล้วนะไบรอั้นว่าตอนนั้นแกได้ป๊อบปูล่าโหวตเพราะใคร” แอนโทนี่แซว แซ็คยิ้มบางและยักคิ้ว ดวงตาสีเทาอ่อนมองหน้าไอติมอ่อนโยน ไอติมยิ้มอ่อนก่อนหันไปมองวิวข้างทาง

 

 

ไอติมปล่อยให้อีกสามหนุ่มคุยกัน ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นการฝึกสกิลการฟัง ถ้าจะให้คะแนนภาษาอังกฤษตัวเอง ไอติมคิดว่าตอนนี้น่าจะได้สักครึ่งหนึ่งจากคะแนนเท่าไหร่ก็ตาม (เต็ม 2) เพราะไอติมจำตัวเองตอนแรก ๆ ที่มาที่นี่ได้ว่าเป็นยังไง ทุกวันนี้ไอติมแปลได้เร็วขึ้น ไม่นิ่งค้างนาน แต่อาจจะยังพูดสลับสับไปมา และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย บางสถานการณ์กลัวโดนแย่งพูดก็ไม่รู้สกิลเก่งขึ้นได้ยังไง ซึ่งถ้าอยู่กับสภาพแวดล้อมแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไอติมคิดว่าตัวเองน่าจะคล่องแคล่วมากขึ้น

 

 

“แล้วงานที่เจคบอกล่ะ” แซ็คไหวไหล่กับคำถามของลูคัส หน้าตาไม่ยินดียินร้ายอะไร

 

 

“ก็ไม่มีอะไรนี่ ก็ไป แค่นั้น”

 

 

“แน่ใจเหรอ” แซ็คพยักหน้า

 

 

“ก็ไม่ได้ยากอะไร อีกอย่าง มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนระหว่างฉันกับเจค นายก็รู้”

 

 

“นั่นแหละ ฉันถึงถามว่าแน่ใจเหรอ เจคยอมแลกง่าย ๆ แบบนี้เนี่ยนะ” แซ็คพยักหน้าอีกที ไอติมหันมองแอนโทนี่ หนุ่มแว่นนั่งเงียบ หน้าเรียบตึง มือซ้ายถูบนหน้าตักตัวเองขึ้นลงช้า ๆ ไอติมแปลออกว่าสองคนข้างหน้าพูดอะไร แต่ไม่รู้ว่าพูดถึงอะไร ซึ่งพอลองคิดดู ไอติมเจอสถานการณ์อย่างนี้แบบที่เริ่มจะเรียกได้ว่าบ่อยแล้ว

 

 

“And are you going to live with him at the new place, ice-cream? (แล้วเธอจะไปอยู่กับเขาที่ที่พักใหม่มั้ย ไอศกรีม)” ลูคัสมองไอติมผ่านทางกระจกหลัง ไอติมที่นิ่งเงียบฟังทั้งสองคนอยู่ก่อนแล้วจับใจความประโยคนั้นได้เลยจะเปิดปากตอบ แต่พอแซ็คเหลียวหน้ามามองก็รู้สึกชะงักไปนิดหนึ่ง แต่ก็ตอบออกไป

 

 

“Yes, อืม I will live with him. (ฮะ อืม ผมจะอยู่กับเขาฮะ)” ไอติมก้มหน้ามองกางเกงยีนตัวเอง ไม่สบตาคนนั่งข้างคนขับ ก้มอยู่อย่างนั้นแล้วก็หันออกไปมองวิวด้านนอก โดยเห็นเงาสะท้อนแวบ ๆ ในกระจกว่าแซ็คกำลังมองตัวเองอยู่

 

 

ใช้เวลาไปเท่าไหร่ในการเดินทางไอติมก็ไม่รู้ แต่นั่งมองข้างทางเพลิน ๆ จนมาถึงสถานที่จัดงานแล้ว พอลูคัสดับเครื่องยนต์ ทุกคนก็ลงจากรถ เมื่อพร้อมแล้วก็พากันเดินตรงไปทางอาคาร ไอติมเดินอยู่ด้านหลังกับแอนโทนี่ ให้สองพระเอกดังต่างยุคเดินด้วยกัน ไอติมรู้สึกว่าลูคัสเซ็กซี่มากในชุดเชิ้ตขาวคล้องเนคไทสีดำ สูทสีดำและสแลคสีเดียวกับเสื้อ ถึงจะอายุมากแล้วแต่เขาก็หล่อแบบมีเสน่ห์ทางเพศไม่แพ้พระเอกรุ่นน้องเลย 

 

 

“Do they know that they will get award? (พวกเขารู้มั้ยว่าพวกเขาจะได้รางวัล)” ไอติมถามแอนโทนี่ คนถูกถามส่ายหัว

 

 

“หมั่ยหลู่หร่อก ที่งานเขาจะเชิญทุ่กโค่น ใครมาก่อมา หมั่ยมาก่อไหม่ว่า ถ่าได้รางวัลก่อให้คับขึ่นรับแทนก่อด้าย”

 

 

“ถือว่าเป็นออสการ์หนังโป๊ได้มั้ยฮะ” ไอติมถามเป็นไทย เพราะอยากสื่อสารเร็วๆ

 

 

“ถ่าเวทีนี้น่ะ ได้อยู่ล่ะ” ไอติมพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่จะขมวดคิ้ว

 

 

“เขาให้รางวัลกันยังไงฮะ…” ไอติมบุ้ยปากไปซ้ายทีขวาที

 

 

“…คือเพราะทุกคนที่เข้าชิงก็เอากัน แต่เรื่องราวในเรื่องให้โชว์ฝีมือทางการแสดงน้อยมาก โชว์ศักยภาพแค่เอากัน ผมเห็นมีช่วงนึงคนเดิม ๆ ได้สามปีติด แต่สตอรี่ของหนังโป๊เขาแทบไม่ต่างกันเลย” แอนโทนี่หัวเราะในขณะที่เดินเบี่ยงตัวหลบผู้ชายผิวสีตัวสูงที่เดินสวนมา

 

 

“ดู่ฟีลลิ่งแหละ เข่าถึงบทบาทมากก่อได้ข่ะแนนโหวตมาก…” แอนโทนี่ทำหน้าฉุกคิด

 

 

“…ก่อเปนเรื่องหน่าคิดนะ ว้าจิง ๆ แล้วเข๋าตัดซิ้นจากอาไหร่กั่นแน่”

 

 

“ผมถึงเคยบอกไงฮะว่า หลาย ๆ เรื่องมาแค่เอากันแล้วจบไปเลย ผมรู้ว่าคนดูเขาไม่ได้ต้องการน้ำ เขาต้องการเนื้อแนบเนื้อเลย แต่ผมว่ามันเหมือนอาหารฟาสต์ฟู๊ดเลย เร็ว อร่อย แต่ไม่ได้น่าจดจำ”

 

 

“อือ ฉั่งเปรี่ยบเทียบนะ เถ่อเลยชอบทำหนั่งโป๊แบบมีเรื่องราวล่ะสิ” ไอติมพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง

 

 

“ฮะ ผมว่ามันน่าลุ้นดี มีอะไรให้คนดูลุ้นระหว่างทางบ้าง ไม่ใช่รู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวปลายทางก็จ้ำบ๊ะกัน” แอนโทนี่หัวเราะ แต่ก็มีความงงนิดหน่อย

 

 

“จั่มบ๊ะ แปลว่าเอ่ากันฉั่ยมั้ย” ไอติมพยักหน้าหลายทีแล้วก็หัวเราะ จังหวะนั้นแซ็คหันมองไอติม เจ้าตัวเหลือบตามองแล้วยิ้มบาง แซ็คยิ้มมุมปากน้อย ๆ แล้วหันหน้ากลับไปมองทางเดินต่อ

 

 

บรรยากาศหน้าโรงละครที่ใช้จัดงานตกแต่งด้วยโทรฟี่สีทองของงานขนาดยักษ์ ตั้งตระหง่านใกล้กับประตู มีกรงสีดำขนาดใหญ่ ในนั้นมีเตียงสีแดงและอุปกรณ์สำหรับเซ็กซ์แบบนายและทาสให้คนได้ถ่ายรูปกัน และมีซุ้มจากสปอนเซอร์ให้ร่วมกิจกรรม หน้าประตูเข้างานมีการ์ดหนุ่มผิวสีกับผิวขาวร่างบึ้กยืนคุมเชิง และรอบงานก็ยังมีการ์ดร่างโตอีกหลายคน เขาเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาชมได้ด้วย แต่ก็ได้แค่บริเวณด้านหน้ากับบริเวณพรมแดงที่มีนักข่าวและช่างภาพตั้งกองทัพอยู่นอกสายกั้นสีแดง เสียงเพลงและเสียงประกาศจากไมค์ตีกันชวนให้ระทึกใจ ไอติมหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพบรรยากาศมุมกว้างไปหลายช็อตก่อนรีบเดินตามแอนโทนี่ที่พาเขาเดินแยกจากลูคัสกับแซ็คที่ต้องไปเดินเข้าทางพรมแดง

 

 

“Do you want to take photo? (อยากถ่ายรูปมั้ย)”

 

 

“Yes.” แอนโทนี่พาไอติมเดินเข้าไปในดงสื่อ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปแทรก พาไปหาช่องว่างที่ยังมีเหลืออยู่คือเกือบสุดทางถึงทางเข้าไปด้านในงาน แสงแฟลชวูบวาบและมีชายหนุ่มหญิงสาวเกือบสิบคนที่ไอติมยังไม่เจอคนที่ตัวเองจำได้ยืนโพสต์ท่าหน้าแบ็คดร็อปสีดำซึ่งมีชื่อรางวัลสีทองสกรีนตัวเบ้อเริ่มตรงกลางและมีรายชื่อสปอนเซอร์ติดยิบย่อยรอบ ๆ ถึงแม้จะยังไม่เจอคนที่ตัวเองคุ้นเคย แต่คิดว่าคนบนพรมแดงตอนนี้ก็เป็นนักแสดงหนังผู้ใหญ่นั่นแหละ

 

 

“อู้ววว” ไอติมตาโตเมื่อหญิงสาวผิวสีหุ่นอวบอั๋นในชุดราตรีตาข่ายสีดำขยับตัวเดินมายืนตรงกลางแบ็คดร็อป แสงแฟลชสาดใส่เธอ หญิงสาวแอ่นอกที่ไม่มีบราใด ๆ ปกปิด มีเพียงสติ๊กเกอร์รูปกากบาทปิดมาเท่านั้น ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงในลูกไม้สีดำตัวจิ๋ว เธอดูมั่นใจและมั่นคงกับการใส่ชุดนี้มากทีเดียว

 

 

“Here they are. (พวกเขามาแล้ว)” แอนโทนี่ชี้สองหนุ่มต่างวัยที่กำลังเดินตามกันมา ทั้งสองคนหยุดถ่ายรูปตรงช่วงเริ่มต้นของพรมแดง ไอติมย่นคิ้วมองลูคัส

 

 

“Lukas have to walk? I mean he retire. (ลูคัสต้องไปเดินเหรอ ผมหมายความว่าเขาเกษียณแล้ว)”

 

 

“But he is the legend, (แต่เขาเป็นตำนานไง)” ไอติมมองแซ็คที่เขยิบห่างออกจากแซ็คมาโพสต์ในอีกจุดหนึ่ง

 

 

“And the organizer asked him to walk on the red carpet. (แล้วคนจัดงานก็ขอให้เขาเดินพรมแดง)” ไอติมร้องอ้อเบา ๆ และพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ยกกล้องขึ้นมากดถ่ายภาพสองหนุ่มตัวท็อปจากอดีตและปัจจุบันเอาไว้ในมุมข้าง ๆ แบบนี้ ไอติมมองแซ็คแล้วยิ้ม ไม่คิดว่าเสื้อเชิ้ตดำมันเลื่อมแหวกอกกับผมธรรมชาติไม่จัดทรงจะทำให้เขาน่าดึงดูดทางเพศขนาดนี้ ไอติมขยับปากเป็นเส้นตรงแล้วเลิกคิ้วขึ้นช้า ๆ พ่นลมหายใจเบา ๆ และยกกล้องขึ้นกดถ่ายรูปต่อ ตอนที่ไอติมกำลังรัวชัตเตอร์อยู่ หญิงสาวชุดราตรีตาข่ายก็เดินบิดเข้าไปในงาน มีชายหนุ่มร่างอวบแต่มีออร่าแซ่บบนเตียงเดินตามเธอเข้าไปพร้อมกับผู้ชายที่คล้ายคนดูแลอีกคน

 

 

“Lukas used to fuck boy in real life? (ลูคัสเคยเอากับผู้ชายในชีวิตจริงมั้ย)” ไอติมหันไปถามแอนโทนี่ระหว่างรอให้ลูคัสกับแซ็คเขยิบมาใกล้ตัวเองมากกว่าเดิม

 

 

“I don’t know. Really. He never told about his private life. They are the same people. (ฉันไม่รู้ เรื่องจริง เขาไม่เคยบอกเรื่องส่วนตัวของเขาอะ สองคนนั้นเป็นคนประเภทเดียวกัน)” แอนโทนี่ชี้สลับไปมาที่สองหนุ่มบนพรมแดง ไอติมพยักหน้าหนึ่งครั้งด้วยความเข้าใจ

 

 

“Can I ask more one question? (ถามอีกคำถามได้มั้ยฮะ)” แอนโทนี่พยักหน้า แต่ไอติมนึกขึ้นได้ว่ามันไม่ควรถามแล้ว ไอติมเลยสั่นหัว

 

 

“ไม่ถามแล้ว” แอนโทนี่หน้าเหวอ

 

 

“อ้าว ป่อยฉั่นค้างเช้ยเลย” ไอติมหัวเราะ หันไปมองสองหนุ่มที่เขยิบเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้น ไอติมยกกล้องขึ้นถ่ายรูป แซ็คหันมองกล้องไอติมแล้วยิ้มหล่อ ยืนเท่ให้แชะหลายช็อต ก่อนจะก้าวเท้าเดินนำลูคัสที่หยุดให้ไอติมถ่ายรูปอยู่ ไอติมลดกล้องลงแล้วยิ้มให้ ตามด้วยชูนิ้วโป้งให้โปรดิวเซอร์ของตัวเอง ลูคัสอ้าปากแล้วยิ้มมุมปากก่อนก้าวเท้าเดินตามแซ็คที่รออยู่ตรงทางเข้างาน แอนโทนี่พยักหน้าให้ไอติมเดินตามมา สตาฟหนุ่มเขยิบหลบทางให้เมื่อลูคัสชี้บอกว่าทั้งสองคนมาด้วยกันกับตัวเอง

 

 

ไอติมเดินเข้าไปในงานด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ กับแสงสีเสียงที่เห็นและได้ยิน ที่นั่งเป็นเบาะหนังเหมือนเวลาไปดูหนัง ไล่ระดับสูงต่ำเป็นเนิน ตรงกลางด้านล่างเป็นเวทีขนาดใหญ่ ม่านสีแดงสดเป็นฉากตระกาลตา มีจอ LED ติดอยู่สองฝั่งข้างเวที ฉายภาพบรรยากาศในงานที่มีผู้คนนั่งอยู่ตามเบาะแบบที่เริ่มจะหนาตาแล้ว ชั้นด้านบนสุดถ้าไอติมเข้าใจไม่ผิดคิดว่าตรงนั้นน่าจะเป็นที่นั่งของกลุ่มแฟน ๆ ที่ได้รับบัตรเชิญให้เข้ามาร่วมงาน ไอติมเคยได้ด้วย แต่ตอนนั้นไม่กล้ามา

 

 

“ของจริงยิ่งใหญ่กว่าที่เห็นในข่าวอีกนะเนี่ย” ไอติมพึมพำเบา ๆ กับแอนโทนี่ หนุ่มแว่นยิ้มและหลีกทางให้ไอติมเดินเข้าไปนั่งข้างแซ็ค แถวที่นั่งของเขาทั้งสี่คนอยู่ด้านบนสุดของที่นั่งนักแสดงกับทีมงานจากค่ายต่าง ๆ รวมทั้งเหล่านักแสดงทั้งที่มีสังกัดและอิสระ

 

 

“Are you happy? (นายมีความสุขรึเปล่า)” ไอติมหันไปมองคนนั่งข้างซ้ายมือตัวเองด้วยความงุนงง ดวงตาสีเทาของแซ็คมองไอติมนิ่งสงบ

 

 

“Yes. I am okay. I mean I don’t have bad thing I am okay. Not happy over เอ่อ over but okay. (ใช่ ผมโอเค ผมหมายความว่าผมไม่มีสิ่งไม่ดีผมโอเค ไม่ได้มีความสุขโอเว่อร์ เอ้อ โอเว่อร์ แต่โอเค)” ไอติมนึกคำว่าโอเว่อร์ที่ใช้พูดในภาษาอังกฤษไม่ออก

 

 

ดวงตาสีเทาอ่อนมองใบหน้าเรียวได้รูปแบบที่เจ้าของหน้าก็อ่านไม่ออกว่ามองด้วยสายตาแบบไหนและรู้สึกยังไง “You may not notice, but since that night you are not the same with me. (นายอาจจะไม่ได้สังเกต แต่ตั้งแต่คืนนั้นนายไม่เหมือนเดิมกับฉัน)”

 

 

“And how is the same? (แล้วเหมือนเดิมคือยังไง)” แซ็คยิ้มมุมปาก

 

 

“As you do with Lukas, Anthony and when you were talking with your friend on the phone. (แบบที่นายทำกับลูคัส แอนโทนี่แล้วก็เวลาที่นายคุยกับเพื่อนทางโทรศัพท์)”

 

 

“I’m okay เอ่อ I’m the same i-tim. (ผมโอเค เอ่อ ผมเป็นไอติมแบบเดิม)” ไอติมจะสื่อว่าตัวเองนั้นปกติดีไม่ได้มีอะไร ยังเป็นไอติมเหมือนเดิม

 

 

“You are the same to everyone except me. (นายเหมือนเดิมกับทุกคนยกเว้นฉัน)” แซ็คกดหน้ามองไอติมนิ่ง กระต่ายตัวจ้อยกะพริบตาปริบ

 

 

“Why you care? I mean you don’t have to care. (ทำไมคุณแคร์ ผมหมายถึงคุณไม่ต้องแคร์ก็ได้)” แซ็คนิ่งไปพักหนึ่งแล้วก็เปิดปากพูด

 

 

“Yesterday you don’t talk to me even one word after you have told me to wear condom. (เมื่อวานนี้นายไม่พูดกับฉันอีกเลยหลังจากที่บอกให้ฉันใส่ถุงยาง)”

 

 

“I don’t know to talk what. And today I talk to you. (ผมไม่รู้จะพูดอะไร แล้ววันนี้ผมพูดกับคุณ)” ไอติมตอบด้วยความรู้สึกสับสน

 

 

“That’s not the point. The point is I feel you are changing, (นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือฉันรู้สึกว่านายกำลังเปลี่ยนไป)” ไอติมกดสายตาลงมองจี้กระต่ายสีทองบนอกของแซ็คก่อนเลื่อนมามองกล้องที่ห้อยอยู่ตรงอกของตัวเอง

 

 

“You mad at me about Lexy. (นายโกรธฉันเรื่องเล็กซี่)” ไอติมเลื่อนสายตาขึ้นไปสบตากับแซ็ค

 

 

“I said no. (ผมบอกแล้วไงว่าไม่)”

 

 

“You lie. (นายโกหก)” ไอติมพ่นลมหายใจหนึ่งที เอนหลังพิงเบาะนั่งของตัวเอง สายตามองไปข้างหน้า แซ็คเอนหลังพิงเบาะบ้าง แต่ใบหน้ายังหันมองไอติมอยู่ ไอติมรู้สึกได้ว่าเขามอง แต่ไม่ได้หันไปมอง นั่งมองไปข้างหน้านิ่งสักพักก่อนหันไปชวนแอนโทนี่คุย

 

 

“แคสโทรลยังไม่มาอีกเหรอฮะ”

 

 

“หมั่ยรุสิ ชั่งเข๋าเถอะ มาหมั่ยมาก่อหมั่ยเป็นไร หยั่งไงเข๋าก็ไม่ชิงอยู่แล้ว” ไอติมอ้าปากหวอนิดหน่อย ก่อนจะนึกขึ้นได้

 

 

“อ้อ เออ ใช่ ของแคสโทรลเป็นหนังเกย์เนอะ” แอนโทนี่พยักหน้า

 

 

“มีงานเดื่อนน่า เขาได้เข่าชิงอยุ่แล้วล่ะ”

 

 

“เอามารวมกันไม่ได้เหรอฮะ”

 

 

“หมั่ยด้ายหรอก หมั่ยใช่เพาะว่าเหยีดยเพดน๊ะ แต๊ว้า มันเป่นเรื่องของการทำงานข่องหนักซาแดงน่ะ หมั่นมีผล ดูหมั่ยดีเทารัย”

 

 

“อ้าว แต่ของไบรอั้น ก็ถือว่าเป็นหนังเกย์มั้ยฮะ เพราะมีผมอยู่ด้วย”

 

 

“เห่นเถ่อนิดเดียว หมั่ยถึงสิบวิด่วยซ้ำ ถื่อว่าฉั่ยด้าย อี่กหย่าง หมั่ยบอกก้อไม่รุหรอกว่านั่นเด็กผุชาย หมั่ยเหนหน้าเหนนมสักหน่อย” ไอติมยิ้มกว้างขำ พยักหน้าน้อย ๆ พยายามทำความเข้าใจแม้จะยังไม่เข้าใจดีก็ตาม นึกอยากถามต่อแต่เสียงเพลงก็ดังขึ้นกระหึ่มจนไอติมคิดว่าคุยตอนนี้ก็คงไม่ค่อยรู้เรื่อง

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-04-2019 23:03:45
V
v
v

พองานเริ่มขึ้น ไอติมก็สนใจแต่สิ่งตรงหน้า งานประกาศรางวัลของที่นี่ดูไม่ทางการเท่าออสการ์หรืองานประกาศรางวัลทางการแสดงของหนังปกติทั่วไป การแสดงบนเวทีเป็นโชว์เชิงวาบหวิว แต่ไม่ถึงกับโป๊เปลือยโชว์ของเด็ดชายหญิงอะไรแบบนั้น มีทั้งของฝั่งหญิงสาว ฝั่งชายหนุ่ม และแบบรวมกัน มีการเต้นประกอบเพลงของศิลปินดังจากทีมนักเต้นสาวที่ใส่ชุดหนังสีดำรัดรูป ทรงชุดว่ายน้ำวันพีชออกมาเต้นพร้อมกับเก้าอี้ ทีเด็ดของพวกเธอคือการเต้นได้พร้อมเพรียงสวยงาม ลายเต้นชัดแข็งแรง เรียกเสียงหวีดร้องได้เป็นระยะ และพอโชว์จบลงก็ได้รับเสียงปรบมือดังไปทั่วโรงละครที่ใช้จัดงาน

 

 

“Good evening brother and sister!” พิธีกรชายสูงวัย แต่ไอติมจำได้ว่าลีลาเขาแซ่บแค่ไหนในหนังเดินควงพิธีกรสาวผมทองตัดสั้นซอยในชุดราตรีดำแหวกไปถึงสะดือออกมา เสียงปรบมือและเสียงหวีดร้องดังกระหึ่มต้อนรับทั้งสองคน

 

 

“We back again, the Oscar of porn industry! (เรากลับมาอีกครั้ง ออสการ์ของวงการหนังโป๊!)” เสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือดังจนไอติมรู้สึกฮึกเหิมตามไปด้วย ดนตรีที่เปิดเป็นซาวด์แบ็คกราวด์เร้าใจน่าดู พูดคุยทักทายปล่อยมุกกันอยู่พักหนึ่งก็เริ่มเข้าสู่การประกาศรางวัล โดยเริ่มจากรางวัลดาวรุ่งหญิงก่อน รางวัลนี้ไม่มีจำกัดจำนวนคนเข้าชิง ใครหน้าใหม่มาในปีนั้น จับเข้าชิงชัยหมด ถ้าปีไหนไม่มีหน้าใหม่เกิดขึ้นเลย ก็คือไม่มีใครได้รางวัลนี้ไปในปีนั้น ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วเท่าที่ไอติมตามมา เนื่องจากใช่ว่าทุกคนจะเดินเข้าสู่วงการหนังโป๊ได้ตลอดเหมือนวงการแสดงปกติ 

 

 

ตอนที่จอ LED กำลังฉายภาพและวิดีโอสั้น ๆ จากหนังที่นักแสดงหญิงแสดง (แต่ไม่เห็นฉากนั้น) แคสโทรลก็เดินเข้ามานั่งข้างแอนโทนี่ ไอติมเอ่ยทักทาย แคสโทรลยื่นมือทักทายแซ็คกับลูคัสด้วย

 

 

“And the male rising star goes to…” เสียงซาวด์ดนตรีกลองตีรัวดังทั่วโรงละคร แสงไฟบนเวทีสลับวิววับก่อนที่อีกพักหนึ่งพิธีกรจะประกาศชื่อของผู้ที่ได้รับรางวัล ไอติมปรบมือแม้ว่าจะไม่รู้จักคนที่ได้รับรางวัลหรือผู้เข้าชิงอีกสี่คนเลยก็ตาม คนที่ได้รับรางวัลเป็นฝรั่งที่เห็นครั้งแรกคือนึกไม่ออกเลยว่าจะเป็นหนุ่มประเทศอะไรได้อีกนอกจากอเมริกัน ตัวสูง ผิวขาวขุ่น หุ่นล่ำสมส่วน โครงหน้าโหนกกรามตามฉบับสายฝอ ผมสีน้ำตาลอ่อนยุ่งเหยิงนิดหน่อยราวกับเพิ่งตื่นนอนมารับรางวัล

 

 

“Thank you for…” ไอติมมองโทรฟี่รางวัลสีทองที่ไอติมจำได้ตอนแซ็คถือเมื่อได้รับรางวัลปีแรกว่าเป็นรูปชายหญิงกอดกันกลมเกลียวรวมกันเป็นร่างหนึ่งเดียว ด้านล่างเป็นฐานรางวัลสีดำ จะมีชื่อเวที ชื่อรางวัลและปีที่ประกาศสลักอยู่บนแผ่นทองคำอีกที

 

 

“เล็กซี่จะไปเข้าชิงปีหน้าใช่มั้ยฮะ”

 

 

“ช่าย ปี่นี้ส่งหมั่ยทัน แข่ยัดไอ่ไบร่อั้นมาลง เจคก่อคุยกับเจ่าของเวทีหน่านมาก” ไอติมพยักหน้าแล้วหันไปมองบนเวทีต่อ ทีมนักเต้นวาบหวิวหนุ่มสาวออกมาสะบัดลีลาอยู่ราวหนึ่งนาที แล้วจากนั้นบนจอ LED ก็ฉายหนังสั้นเกี่ยวกับเวทีนี้ เป็นเหมือนแก๊กตลกล้อเลียนวงการหนังโป๊และจิกกัดใครหลายคนที่ไอติมไม่อาจคาดเดาได้ ที่รู้เรื่องก็เพราะแอนโทนี่บอกทั้งนั้น

 

 

“กั่ดผ่วกสปอนเซอร์แหล่วก็นายทุนบางรายน่ะ บอกปัยเถ่อก่อยังหมั่ยรุจัก” ไอติมพยักหน้าและมองพิธีกรคู่เดิมเดินกลับมา พูดคุยอะไรสักแปบกับคนในงานจนเกิดเสียงหัวเราะ

 

 

การประกาศรางวัลดำเนินต่อไป โดยที่สามรางวัลใหญ่สุดของงานคือ นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม นักแสดงชายยอดเยี่ยม กับหนังยอดเยี่ยมจะอยู่ท้ายสุด ซึ่งรางวัลของแซ็คแบ่งออกเป็นเดี่ยวชายเดี่ยวหญิง ถือว่าเป็นสาขาใหญ่ไม่แพ้กัน แต่ก็ยังเล็กกว่านักแสดงนำชายหญิงที่เขาเอากันเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าแสดงเดี่ยว

 

 

“Best editing porn goes to…” เสียงซาวด์ดังสักพักก่อนที่เสียงประกาศชื่อจะดังขึ้น หญิงสาวร่างอวบผมสั้นคนหนึ่งยืนขึ้นแล้วชูมือด้วยความดีใจ เธอเดินลงบันไดไปเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงดนตรี เธอขึ้นไปรับรางวัลแล้วกล่าวขอบคุณ ไอติมหันหน้าไปยิ้มกว้างกับลูคัส ก่อนที่รอยยิ้มจะชะงักเมื่อมองตาแซ็ค แต่ก็ยังคงยิ้มแม้จะไม่กว้างเท่าอีกคนก็ตาม

 

 

ไอติมต้องขอชมในใจว่าการจัดงานของเขาดีมาก ยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีของเหล่าคนในวงการนี้ ที่น่าประทับใจที่สุดคือตอนจอแสดงผลให้เห็นหน้าผู้เข้าชิงทั้งห้าคน คือทุกคนมากันครบ และร่วมยินดีไปกับผู้ที่ได้รับรางวัล แม้ไอติมจะไม่เคยดูงานของคนเหล่านั้น เพราะปีที่ผ่านมามุ่งมั่นแต่เรื่องแซ็ค แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในวงการนี้และได้มาเห็นบรรยากาศการประกาศรางวัลแบบนี้ ไอติมก็สัญญากับตัวเองว่าจะต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จะไม่หยุดพัฒนาเพียงเพราะมีคนบอกว่าทำดีแล้ว

 

 

“And the next is one of the exciting awards that we are waiting for it. (และรางวัลต่อไปเป็นหนึ่งรางวัลอันน่าตื่นเต้นที่เรารอมันอยู่ค่ะ)”

 

 

“Yes, and as always, lady first. (ใช่ครับ และก็เช่นเคย สุภาพสตรีก่อน)” พิธีกรเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไอติมขอปรบมือให้ว่ามืออาชีพและคล่องแคล่วมาก ๆ ฟังแล้วไหลลื่น ไม่มีสะดุด ไม่น่าเบื่อ ไม่ยืดเยื้อ และตอนประกาศก็มีจังหวะที่ดีมาก ไอติมเคยดูตอนปีก่อนหน้านี้ (ซึ่งเน้นแค่ปีแซ็ค) ไอติมคิดว่าพิธีกรปีนี้มีพลังดีกว่า หรือเพราะไอติมได้มาเห็นของจริงถึงรู้สึกพลังของงานนี้มากกว่าตอนดูผ่านยูทูปก็ไม่รู้

 

 

“And this is our nominee in best male solo. (และนี่คือผู้เข้าชิงของเราในสาขา นักแสดงชายเดี่ยวยอดเยี่ยม)” จอ LED ฉายภาพนักแสดงชายคนแรกที่เข้าชิงในสาขานี้จนกระทั่งมาถึงแซ็คที่อยู่คนที่สาม ทางเวทีตัดช็อตริมทะเลที่ไอติมถือล้องสัมภาษณ์แซ็คที่นั่งสวมหมวกสานอยู่บนชายหาด ไอติมลืมตัวเลยหวีดร้องออกมาอย่างดัง ดีที่ไม่เป็นจุดเด่นมากเพราะแอนโทนี่กับแคสโทรลก็ร่วมวงด้วย พอคนที่สี่ขึ้นมา ไอติมถึงหยุดแล้วหันไปหัวเราะตาหยีกับลูคัสและแซ็ค ขวัญใจไอติมยิ้มอ่อน

 

 

“This is you that you always be with me. (นี่คือนายที่เป็นกับฉัน)” ไอติมยิ้มอ้าปากค้างแวบหนึ่ง

 

 

“อ้อ…” ไอติมหุบปากลงแล้วยิ้มบาง ก่อนหันกลับไปมองข้างหน้าต่อ พิธีกรสาวหยิบซองสีดำขึ้นมาเปิดออกก่อนหยิบกระดาษแข็งสีขาวขึ้นมาเปิดแล้วยื่นให้พิธีกรชายอ่าน ไอติมยกสองมือขึ้นมากุมตรงอก มองด้วยความลุ้น หัวใจเต้นตึกตัก

 

 

“And the award goes to…” เสียงซาวด์ดนตรีดังรัว ยิ่งพาให้หัวใจไอติมเต้นตุบหนักหน่วง เผลอหันไปมองแซ็คด้วยความตื่นเต้น หนุ่มตาสีเทาอ่อนยิ้มกริ่ม จังหวะที่ไอติมหันไปมองบนเวทีก็เป็นตอนที่พิธีกรชายเปิดปากอ่านชื่อผู้ที่ได้รับรางวัล

 

 

“Bryan Steve from happy holiday!”

 

 

“ว้ากกก!!” ไอติมกระโดดชูสองแขนขึ้นด้วยความดีใจ ก่อนจะตามด้วยปรบมือรัว ๆ เหลียวหน้าไปมองแซ็คที่ยิ้มกว้างและกำลังลุกขึ้นยืน ลูคัสนั่งหัวเราะอารมณ์ดีพร้อมกับปรบมือดัง ๆ บนจอสองข้างเวทีฉายภาพแซ็คยืนขึ้นเต็มตัวแล้วกำลังพูดอะไรสักอย่างกับไอติมที่ส่ายหัวหน้าตื่นเป็นการปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ถูกแซ็คลากออกไปจากแถวที่นั่งด้วยกันจนได้

 

 

ไอติมหูอื้อและตาลายเพราะแสงไฟวูบวาบ และกำลังช็อคที่แซ็คบอกให้ขึ้นไปรับรางวัลด้วยกัน ไอติมก้าวเท้าเดินไปอย่างคนมีสติไม่เต็มร้อย มีแซ็คจูงมือนำถึงเดินต่อไปได้ เสียงหวีดร้องดังอื้ออึงแข่งกับเสียงเพลง และเสียงพิธีกรที่พูดอะไรไอติมก็ฟังไม่รู้เรื่องแม้แต่ประโยคเดียว รู้ตัวอีกทีคือตอนเดินขึ้นไปยืนข้างแซ็คหน้าแท่นวางรางวัลสีดำที่มีโทรฟี่วางรออยู่แล้ว ไอติมมองฝูงคนด้านหน้าตัวเองด้วยความตื่นตูม แล้วก็เขยิบไปยืนซ่อนตัวข้างหลังแซ็ค สร้างเสียงหัวเราะครืนดังไปทั่วโรงละคร

 

 

แซ็คยิ้มกว้าง ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าโดยมีไอติมเกาะเอวเดินตาม พระเอกหนังผู้ใหญ่ยื่นมือขวาไปหยิบรางวัลขึ้นมาจากแท่นแล้วชูขึ้น เสียงปรบมือดังอึกทึกอีกรอบ แซ็คก้าวเท้าเดินไปตรงไมค์กลางเวที มีไอติมที่เอาหน้าผากวางชิดแผ่นหลังเขาเดินตามมาติด ๆ เสียงหัวเราะดังเหมือนเสียงคลื่นวิทยุ

 

 

“Thank you for this award. This is the fourth time that I am on this stage. Many of you might be wonder who this little boy is, (ขอบคุณสำหรับรางวัลนี้ครับ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่แล้วที่ผมอยู่บนเวทีนี้ พวกคุณหลายคนอาจจะสงสัยว่าเด็กผู้ชายคนนี้เป็นใคร)” แซ็คเหลียวหลังไปมองไอติมที่ยังคงเอาหน้าผากแนบชิดกับแผ่นหลังของเขาแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปพูดต่อ

 

 

“He is the person that made me get this award. He is the scripter, the director, the editor and the inspirator of me. (เขาคือคนที่ทำให้ผมได้รับรางวัลนี้ เขาเป็นนักเขียน ผู้กำกับ คนตัดต่อ และเป็นผู้ให้แรงบันดาลใจของผม)” เสียงปรบมือดังอีกครั้ง แซ็คยกแขนขวาขึ้น ก้มหน้าลงพูดกับไอติม

 

 

“Hey, show your face to them, just a bit. (เฮ้ โชว์หน้าให้พวกเขาเห็นหน่อย นิดนึงน่า)” ไอติมดึงหน้าผากออกจากหลังแซ็คก่อนจะเอียงหน้าไปด้านขวา มองเหล่าผู้คนบนที่นั่งแล้วคลี่ยิ้มกว้าง มือขวายกโบกมือให้ทุกคนที่ส่งเสียงตอบรับอย่างเป็นมิตร ไอติมยิ้มตาหยีก่อนจะซุกหน้ากับหลังแซ็คตามเดิม

 

 

“That’s him. Thank you. (นั่นเขาครับ ขอบคุณ)” แซ็คพาไอติมเดินออกจากไมค์ เสียงปรบมือดังส่งท้ายอีกครั้ง ไอติมเปลี่ยนไปเดินข้างซ้ายของแซ็ค ก้าวให้ทันขายาว ๆ ของเขาจนกระทั่งลงเวทีไป

 

 

“My heart is ooooooh. (หัวใจผมแบบ อู้วววว)” ไอติมไม่รู้จะบรรยายยังไง มือขวาตีที่อกซ้ายเบา ๆ สีหน้ายังคงแสดงออกถึงความตื่นเต้น แซ็คยิ้มกว้าง

 

 

มีสตาฟชายหัวล้านที่หูมีหูฟังเดินเข้ามาหาแซ็คและคุยอะไรกับเขาสักพักก่อนที่ฝรั่งตาสีเทาอ่อนจะพยักหน้า แล้วหันมาหาไอติม “You go to wait with Anthony and Lukas. I must go to take a photo at behind the stage. (นายไปรอกับแอนโทนี่และลูคัส ฉันต้องไปถ่ายรูปหลังเวที)”

 

 

ไอติมทำหน้างง แซ็คหันไปหาสตาฟ สื่อสารกันครู่สั้น ๆ แล้วสตาฟก็พยักหน้า แซ็คหันมาหาไอติม พยักหน้าให้หนึ่งทีแล้วพาเดินขึ้นบันไดกลับไปตรงแถวที่นั่ง พอไปถึงตรงนั้นแซ็คก็ตะโกนบอกให้แอนโทนี่รู้ว่าตัวเองต้องไปถ่ายรูปเลยพาไอติมมาส่ง แอนโทนี่บอกไอติมเป็นภาษาไทยอีกที ไอติมร้องอ๋อแล้วหันไปพยักหน้ากับแซ็ค ขวัญใจไอติมเดินลงบันไดกลับไปหาสตาฟคนเดิมที่รออยู่

 

 

“What’s up superstar?! (ว่าไงซูเปอร์สตาร์)” ลูคัสเอ่ยแซวตอนที่ไอติมนั่งลงบนเบาะ ไอติมหันไปยิ้มตาหยีและหัวเราะด้วยความเขิน ยกสองไหล่ขึ้นด้วยความเขินอาย ลูคัสยื่นมือขวามาขยี้หัวไอติมเบา ๆ ก่อนดึงออกแล้วยกนิ้วโป้งให้หนึ่งทีเป็นการชมว่ายอดเยี่ยม

 

 

 

 



“เดี๋ยวค่อยฉลองแล้วกัน พรุ่งนี้ฉันมีงาน ไม่อยากเมา” ลูคัสพูดจากบนรถ แซ็คพยักหน้า ไอติมยิ้มกริ่มและโบกมือให้ลูคัสกับแอนโทนี่ ประตูกระจกเลื่อนขึ้นพร้อมกับที่รถของลูคัสถอยหลังออกไป แซ็คใช้รีโมตกดเปิดประตูบ้าน ไอติมเดินนำเข้าไปก่อน มือขวาถือโทรฟี่รางวัลของแซ็คแน่นเพราะกลัวทำของเขาตก

 

 

“Hungry? (หิวมั้ย)” แซ็คถามตอนที่ไขกุญแจเปิดประตูหน้าบ้าน ไอติมถอดรองเท้าแล้วก้มลงใช้มือซ้ายถือขึ้นมา

 

 

“No. Just want water. (ไม่ฮะ แค่ต้องการน้ำ)” แซ็คบิดลูกบิดแล้วดันประตูเข้าไปข้างใน ไอติมเดินเข้าไปในบ้าน มีแซ็คเดินตามหลัง ร่างผอมฝ่าความสลัวไปที่ครัวของบ้าน วางรองเท้าไว้บนพื้น วางโทรฟี่ไว้บนเค้าน์เตอร์ เปิดตู้เย็นออกแล้วหยิบขวดแก้วที่บรรจุน้ำเปล่าออกมาหนึ่งขวด หันไปอีกทีก็เห็นแซ็คถือรองเท้าตัวเองไว้ให้และถือโทรฟี่ไว้แล้ว แซ็คพยักหน้า ไอติมหยิบแก้วหนึ่งใบ ก้าวเท้าตามแซ็คไปทางห้องนอน

 

 

“Where is key? (ไหนกุญแจ)” แซ็คก้มหน้าลงไปมองกระเป๋าเสื้อสูท ไอติมใช้มือขวาหยิบพวงกุญแจบ้านของแซ็คออกมา เข้าไปในห้องก็กดเปิดไฟให้ความสว่าง แซ็คใช้เท้าดันตู้วางรองเท้าลง วางของตัวเองกับของไอติมลงบนนั้นก่อนปล่อยเท้าออกให้ชั้นตีกลับขึ้นไปปิดตามเดิม

 

 

“You want to take a shower? (อยากอาบน้ำมั้ย)” แซ็คถาม ไอติมที่เทน้ำใส่แก้วอยู่พยักหน้า

 

 

“You? (คุณล่ะ)” แซ็คส่ายหัว

 

 

“I’m going to upstairs, bring the rest of stuff here. We are going to move out from here tomorrow. (ฉันจะขึ้นไปข้างบน ไปเอาของที่เหลือลงมา เราจะย้ายออกจากที่นี่พรุ่งนี้)” ไอติมยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม มองแซ็คที่นั่งตรงปลายเตียงนิ่ง แปลคำพูดของเขาในหัว และพอแปลได้ก็ดึงแก้วน้ำออกจากปาก อ้าปากหวอ มองหน้าแซ็คด้วยความตกใจ

 

 

“Move tomorrow? (ย้ายพรุ่งนี้)” แซ็คพยักหน้า ไอติมหันไปมองรอบห้อง ยังไม่มีของชิ้นไหนได้เก็บสักอย่าง

 

 

“We don’t keep things put in bag. (เรายังไม่ได้เก็บของใส่กระเป๋า)”

 

 

“I don’t have much and I think you too. We can keep it in three or four hours. (ฉันไม่มีของเยอะนักหรอก และฉันคิดว่านายก็ด้วย เราเก็บสามหรือสี่ชั่วโมงก็เสร็จ)” แซ็คไม่เคยเห็นไอติมไปช็อปเสื้อผ้าหรือของอะไรเพิ่มเติมเลยนอกจากของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น ประเมินจากจำนวนของที่ไอติมเอาเข้ามาตอนมาอยู่ที่นี่ แซ็คมองว่ามันไม่ได้เยอะจนต้องใช้เวลานาน และเขาเองก็ของไม่ได้เยอะอย่างที่ว่า

 

 

“You need help? (ให้ช่วยมั้ยฮะ)”

 

 

“It’s fine. Go to take a shower. (ไม่เป็นไรหรอก ไปอาบน้ำเถอะ)” ไอติมพยักหน้า แซ็คลุกขึ้นยืนถอดสูทตัวนอกออก ปลดกระดุมแขนเสื้อเชิ้ตแล้วพับขึ้นไปกองที่ข้อแขน ไอติมถอดสูทออกบ้าง เดินไปหยิบผ้าขนหนูตรงตู้เสื้อผ้ามาพันรอบเอว จัดการถอดกางเกงออก แล้วตามด้วยถอดเสื้อเชิ้ต ไอติมหยิบเสื้อผ้าใส่ลงตะกร้า แซ็คเดินไปที่ประตูห้อง เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอติมเดินเข้าไปในห้องน้ำ

 

 

ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำไม่เกินสิบห้านาทีไอติมก็เดินตัวแห้งออกมาข้างนอก เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนออกมาใส่ นึกตามคำพูดของแซ็คว่าจะต้องย้ายออกพรุ่งนี้แล้ว แม้จะยังไม่รู้เวลาว่าจะออกไปตอนไหน แต่ไอติมก็เริ่มทยอยเก็บของลงกระเป๋าเดินทางไว้ก่อน เพื่อที่ตอนเช้าจะได้ไม่วุ่นวาย

 

 

ไอติมนั่งเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางของตัวเองจนหมดตู้ เหลือเพียงชุดที่จะใส่ออกไปจากบ้านในวันพรุ่งนี้ ไอติมเดินวนรอบห้องเช็กของว่าอะไรตกหล่นอีกหรือไม่ พอแน่ใจว่าไม่น่าจะลืมอะไรก็ดันกระเป๋าไปไว้ข้างโต๊ะคอมพิวเตอร์แต่ยังไม่ปิด เพราะคิดว่าตอนเช้าจะทวนกับตัวเองอีกรอบ เผื่อตอนนี้มันใกล้เวลานอนแล้วอาจจะเบลอจนลืม

 

 

จะเที่ยงคืนครึ่งแล้ว…

 

 

ไอติมกับแซ็คกลับมาถึงบ้านตอนห้าทุ่ม แซ็คหายขึ้นไปข้างบนเป็นชั่วโมงแล้ว ไอติมเดินไปจะหยิบขวดน้ำมาเทน้ำดื่ม แต่ขวดน้ำหายไป สงสัยแซ็คคงเอาออกไปด้วยเพราะหมดแล้ว ไอติมเดินไปเปิดประตูห้อง ออกไปในความมืดสลัวอีกครั้ง เดินตรงไปห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่ม ตอนที่กำลังปิดประตูตู้เย็นและจะเดินกลับห้อง ไอติมก็ได้ยินเสียงโครมครามดังมาจากด้านบน ไอติมอ้าปากหวอ นิ่งเงียบฟัง วางขวดน้ำไว้บนเค้าน์เตอร์ครัว กระเถิบเท้าเดินไปทางบันไดพร้อมกับแหงนหน้ามองขึ้นไปด้านบน

 

 

“ซะ…” ไอติมกำลังจะอ้าปากเรียกแซ็ค แต่นึกได้ว่ามันดึกแล้ว และไม่ได้มีแค่แซ็คอยู่คนเดียว

 

 

“Hey, what happened? (เฮ้ มีอะไรเหรอ)” ไอติมที่กำลังโลเลก้มหน้าลงมองผู้มาใหม่ แคสโทรลที่สูทพาดแขนอยู่ถามด้วยความสงสัย

 

 

“I don’t know. Bryan go to above and I heard some sound. (ไม่รู้ฮะ ไบรอั้นขึ้นไปข้างบนแล้วผมก็ได้ยินเสียงบางเสียง)”

 

 

“Why don’t you go to upstairs? Don’t be afraid. You live here. (ทำไมไม่ขึ้นไปดูข้างบนล่ะ ไม่ต้องกลัวน่า นายอยู่ที่นี่นะ)”

 

 

“I am not owner this house. (ผมไม่ใช่เจ้าของบ้านนี้)”

 

 

“Don’t think like that. Come on. Follow me then. (อย่าคิดแบบนั้นสิ มานี่มา ตามฉันมาแล้วกัน)” แคสโทรลเดินนำไอติมไปขึ้นบันได ไอติมเห็นว่ามีคนพาขึ้นไปก็รีบเดินตามอย่างไว เพราะใจก็อยากขึ้นไป เผื่อเมื่อกี้เป็นเสียงแซ็คทำของหล่นแล้วต้องการคนช่วยหรือเปล่า

 

 

ตอนที่เดินไปจะถึงตรงห้องแซ็ค แมนดี้ที่ท่าทางกระฟัดกระเฟียดก็เปิดประตูห้องออกมา ไอติมชะงักกึก ก่อนที่จะเบิกตากว้างเพราะสภาพห้องของเธอนั้นเละเทะ แมนดี้มองค้อนไอติมก่อนดึงประตูปิดดังปัง สาวเท้าเดินตึง ๆ ไปทางบันได ในมือซ้ายถือกระเป๋าสะพายของผู้หญิงไปด้วย ไอติมหันไปมองแคสโทรลที่เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้าง

 

 

“Good night. (ฝันดี)” แคสโทรลกระซิบ ก่อนหมุนตัวเดินไปอีกฝั่ง เดินเข้าไปในซอยติดกับระเบียงชมวิวหลังบ้าน ไอติมเดินไปทางห้องแซ็ค เห็นแสงไฟลอดออกมาจาง ๆ ก็โล่งใจว่าเขาอยู่ในนี้ ไอติมบิดลูกบิดแล้วดันประตูเข้าไปด้านใน วินาทีที่ประตูเปิดผางไอติมก็นึกได้ว่าตัวเองควรเคาะประตูห้องก่อน

 

 

“Sor—I.” จังหวะที่จะดึงประตูกลับเพื่อปิดแล้วขอเคาะประตูห้องก่อนเปิดใหม่อีกรอบ ไอติมก็ตัวแข็งทื่อเหมือนโดนเมดูซ่าสาปให้เป็นหินกับภาพตรงหน้าของตัวเอง แต่ก็ยังมีสติเหลือพอที่จะรีบปิดประตูแล้วเดินหนี

 

 

“No, don’t go. (ไม่ อย่าไป)”

 

 

 

  เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้




:ruready ก็ยังคงชอบสีหน้านี้ 555555 ตอบโจทย์

ช่วงนี้เม้าน้อยเพราะเร่งปิดต้นฉบับอยู่ค่ะ ทั้งปั่น ทั้งพรูพ ยอมรับว่าเหลือแรงน้อย และในทวิตก็อะไรนักหนาไม่รู้ อินทั้งการเมือง และหวีดลูกสาว 555555 พออินอะไรสักอย่างเสร็จก็กลับมาเขียนต่อวนไป เหมือนเป็นการเบรกจากการเขียน ฮ่าาา

อ่านคอมเม้นจากตอนก่อนแล้ว ไม่กล้าแคปไปเม้าต่อนอกรอบเลย 55555 อินเนอร์มาอะเนอะ !


ลบข้อความโดย ผู้ดูแลห้อง Boy's love story 
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-04-2019 23:36:17
ถึงไม่ใช่นิยายผี แต่ก็ขอถามนิสสสส "ใครอยู่ในห้อง"  :hao4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 07-04-2019 00:23:16
ไปค่ะน้องติม กลับไปเก็บของต่อ แล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น 5555555555555555555555555  :hao7: อะไรไม่รู้ รู้แต่ค้างมาก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 07-04-2019 00:32:49
แซ็คความลับเยอะเกิ๊นนนน  :katai1:

เหมือนทุกคนจะรู้เรื่องแซ็คหมด ยกเว้นไอติมและชั้น :z3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 07-04-2019 00:58:42
 :fire: เเซ็คทำอะไรอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 07-04-2019 01:02:51
น้องคือควรเก็บของกลับไทย เราจะเลี้ยงน้องเอง!!
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 07-04-2019 03:02:01
ไม่ใช่แมนดี้แล้วใครรรรรรรรรอ่ะะะะะะะะะะะ ว้อททททททททททททท :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: หนีไปอยู่ที่อื่นเถอะไอติมมมม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 07-04-2019 07:32:21
น้องติมไปอยู่กะแดนนี่ดีกว่าลูก.  :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 07-04-2019 08:05:18
ใครอยู่ในห้องงง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 07-04-2019 10:20:16
น่าจะเป็นเจค
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-04-2019 11:52:52
เกิดอะไรขึ้น??? ใครอยู่ในห้อง...งงงงงงงง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 07-04-2019 12:52:36
ค้างง
น้องติม ไปอยู่กับป๋าลูคัสเลยรูก
แซ่บๆเป็นตำนาน  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 07-04-2019 13:11:49
แซ็คเอากับใครอยู่แน่ๆ เดาว่าเจค็อบ(?) รอวันที่ไอติมกลับไทยจะแย่ เมื่อไหร่จะถึงตอนนั้น เกลียดแซ็ค ปมในชีวิตไม่ใช่ข้ออ้างที่ใช้มองข้ามความรู้สึกคนอื่นหรือทำร้ายจิตใจใครได้หรอกนะ ที่ผ่านมายูมันเห็นแก่ตัวอะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: องศาวาย ที่ 07-04-2019 14:35:49
ไอติมเก็บของกลับไทยไปเลย แซคมันเลิกไม่ได้นิสัยนี้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: waragorn ที่ 07-04-2019 15:40:05
 :katai1: ค้างไปอีกกก รอดูจุดเปลี่ยนของเรื่องเลย อ่านไปก็ตื่นเต้นไปว่าจะดราม่าอะไรอีก เพราะช่วงนี้ไอติมน่าจะไม่มีแล้วฟิลลิ่งแฮปปี้ 555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: jin_kazu ที่ 07-04-2019 20:30:19
ค้างไปอี้กกกกกกก
แซ็คกำลังทำอะไรกับใครในห้อง ?!?   :angry2:

ไอติมลงไปเอากระเป๋าแล้วหนีไป ~ !!!!!
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 08-04-2019 22:57:02
ถ้าพี่แซ็คจะมั่วทั่วถึงขนาดนี้
ติมคงรับไม่ไหวเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 11-04-2019 02:03:38
ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ ไอติมหนีไปลูกหนีไปกลับไทยดีกว่า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.32 : Award. : 06.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 11-04-2019 15:36:57
ความลับของอิพี่นี่ค่อยๆคลายออกแล้ว ตอนนี้ได้แต่ลุ้นว่าใครจะบอกคำว่ารักออกมาก่อนกัน ระหว่างสองคนนี้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : New house. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 13-04-2019 20:46:56
Fall in lust - Chapter 33 :: Break the cage. [แหกกรง]





ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ลอยผ่านหน้าไอติมไปโดยชายหนุ่มเกือบสิบคนจากบริษัทรับจ้างย้ายบ้านที่แซ็คทำการติดต่อเอาไว้ล่วงหน้ามาสักพักแล้ว ไอติมนั่งอยู่บนโซฟาห้องโถงด้วยความรู้สึกอึน รู้สึกโล่ง ๆ เปล่า ๆ คล้ายว่าในหัวมีแต่อากาศและตัวเป็นโพรง สายตาของไอติมถูกดึงไปโดยบุคคลที่เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน ไอติมมองร่างสูงโปร่งมีกล้ามเนื้อพอประมาณในชุดเสื้อคลุมสีแดงเลือดหมูกับกางเกงบ็อกเซอร์สีดำและรองเท้าสลิปเปอร์ด้วยความรู้สึกบิดเบี้ยว ด้านหลังของร่างนั้นที่ตามคือหญิงสาวผมแดงหน้าตาเรียบตึง แมนดี้ใช้ตาแข็งกร้าวของเธอกวาดตามองกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าเป้และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะด้วยความหงุดหงิด

           

 

“How do you feel about this success? (รู้สึกยังไงกับความสำเร็จนี้ล่ะ)” แมนดี้ถามด้วยท่าทีกระแนะกระแหน ไอติมพ่นลมหายใจเบา ๆ แล้วบิดปากเล็กน้อย หน้าหน้าหนีไม่มองแมนดี้เพราะไม่ได้มีอารมณ์อยากวุ่นวายด้วย

           

 

“You pack everything? (เก็บของเสร็จหมดแล้วเหรอ)” เจค็อบถามพลางเดินมานั่งลงบนโซฟาตัวเยื้อง ๆ กับไอติม

           

 

คนถูกถามมองคนถามนิ่ง ๆ สักพักก่อนเปิดปากตอบ “อือฮึ”

           

 

“Do you know where are you going at? (รู้รึเปล่าว่าเธอกำลังจะไปพักที่ไหน)” ไอติมนิ่งเงียบ ไม่แน่ใจว่าเจค็อบถามว่าอะไร

           

 

“He is going to know when we are there. (เขาจะรู้ตอนที่เราไปถึงที่นั่นแล้ว)” แซ็คที่เดินแบกกระเป๋าเป้ออกมาอีกใบเป็นคนตอบคำถามของเจค็อบ ฝรั่งตาสีเทาอ่อนเดินเอากระเป๋าไปวางกองรวมกับใบอื่น จังหวะนั้นพนักงานชายสามคนเดินกลับเข้ามาในบ้านแล้วยกกระเป๋าเป้ออกไป แซ็คเดินไปนั่งโซฟาเดี่ยวตัวตรงข้ามกับเจค็อบ

           

 

“นายจะไปจริงเหรอ” แซ็คหันไปมองแมนดี้แล้วคลี่ยิ้มบางก่อนจะพยักหน้าหนึ่งที แมนดี้ออกอาการไม่พอใจ แล้วพักเดียวเธอก็เปลี่ยนเป็นมองแซ็คด้วยสายตาเป็นกังวล

           

 

“มัน… มันไม่ดีสำหรับนายนะ” ไอติมมองแมนดี้นิ่ง แต่นึกประหลาดใจกับน้ำเสียงหวาดกลัวของเธอ ไอติมเลื่อนสายตามองเจค็อบที่นั่งเอนหลังพิงโซฟาด้วยท่าทีสบาย สีหน้าไม่ยินดียินร้าย

           

 

“ทำไมถึงจะไม่ดีล่ะ” แซ็คถาม สีหน้าผ่อนคลาย

           

 

“นายรู้ นายอยู่ที่นี่จะปลอดภัย” แซ็คยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มแสดงความขมขื่น

           

 

“อยู่ที่ไหนก็ปลอดภัยแมนดี้ ไม่เกี่ยวกับสถานที่ มันเกี่ยวกับคน” แมนดี้เหลือบสายตามองเจค็อบแล้วเลื่อนไปมองไอติม ก่อนกลับไปมองแซ็คต่อ

           

 

“นายถึงยิ่งต้องอยู่ที่นี่” แซ็คส่ายหัว

           

 

“อยู่เหมือนหมาน่ะเหรอ” แมนดี้มองแซ็คอย่างอ้อนวอน ดวงตาสีเทาอ่อนของเขาเลื่อนมองเจค็อบ

           

 

“งานทุกอย่างฉันยังทำตามปกติ ฉันแค่เปลี่ยนที่อยู่ มันคงไม่กระทบอะไรหรอกนะ” ไอติมไม่แน่ใจว่าริมฝีปากของเจค็อบขยับเป็นรอยยิ้มหรือไม่ ถ้ายิ้มคือเขายิ้มน้อยมาก

           

 

“ไม่ แค่หวังว่านายจะรู้ว่าสัญญาของเรามันเป็นยังไง” แซ็คยิ้มเหยียด

           

 

“ฉันรู้ และคงจะไม่รู้ไม่ได้อีกต่อไป” เจค็อบพยักหน้า คราวนี้ไอติมเห็นชัดว่าอีกฝ่ายยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ไอติมไม่ชอบและไม่ไว้ใจ

           

 

“It was disgusting, (มันน่ารังเกียจ)” ทุกคนหันไปมองไอติมเป็นตาเดียว หนุ่มเอเชียกลืนน้ำลายลงคอ หัวใจเต้นตุ้มต่อม แต่ก็พูดต่อด้วยความปกติ

           

 

“Your contract. (สัญญาของคุณ)” ไอติมต่อประโยคจนจบ หันไปมองแซ็คก็เห็นเขานั่งมองกลับมาด้วยสายตาสั่นไหว ไอติมหันกลับไปมองเจค็อบที่ยังคงนิ่ง ส่วนแมนดี้ก็เหมือนเดิม ไม่รู้จะหน้าบึ้งอะไรนัก

           

 

“Then why he has signed it? (งั้นเขาเซ็นทำไมล่ะ)” เจค็อบขยับเสื้อคลุมยาวสีแดงเลือดหมู ไอติมตอบโต้เจค็อบด้วยการมองนิ่ง

           

 

“If you don’t know everything, don’t say anything. (ถ้าเธอไม่ได้รู้ทุกอย่างก็อย่าพูดอะไร)” ไอติมย่นคิ้ว รู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย

           

 

“I will say. This is my mount. (ผมจะพูด นี่ปากผม)” ไอติมได้ยินเสียงขำพรืดดังมาจากฝั่งแซ็ค ซึ่งนั่นทำให้ไอติมรู้ตัวว่าไม่ควรพูดกับเจ้านายตัวเองแบบนี้

           

 

ไอติมลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขาเป็นเจ้านายตัวเอง

           

 

“You shut the fuck up, boy.” (หุบปาก เด็กน้อย)” แมนดี้แทรกขึ้นมา ไอติมเลื่อนสายตามองเธอ แต่ก็เงียบไม่ตอบโต้อะไร เพราะไอติมรู้สึกว่าเถียงกับคนลักษณะนิสัยแบบนี้ มันเสียเวลา

           

 

“I’m not talking to you. (ผมไม่ได้พูดกับคุณสักหน่อย)” ไม่เถียง แต่ขอแซะบ้างละกันนะ

           

 

แมนดี้จ้องไอติมตาแข็ง คราวนี้ไอติมเลือกจะไม่เถียงไม่สู้ นั่งเฉย ๆ ให้อีกฝ่ายตาแข็งไปคนเดียว แซ็คมองไอติมแล้วยิ้มพึงใจ พนักงานขนของเข้ามาขนคอมพิวเตอร์ออกไปเป็นอย่างสุดท้าย

           

 

“Don’t forget an appointment next week. You know how important it is. (อย่าลืมนัดสัปดาห์หน้า นายรู้ว่ามันสำคัญแค่ไหน)” แซ็คไหวไหล่ พยักหน้าให้ไอติมพร้อมกับลุกขึ้นยืน

           

 

“I know, that’s big money. (ฉันรู้ นั่นน่ะเงินก้อนใหญ่นะ)” ไอติมลุกเดินไปยืนข้างแซ็ค มองเจค็อบด้วยความรู้สึกบิดเกลียวในท้อง เจค็อบที่เห็นว่าไอติมมองตัวเองอยู่ก็มองกลับอย่างไร้ความรู้สึก แต่ริมฝีปากเขาคลี่ยิ้มบาง ไอติมรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกตามสันหลัง

           

 

“I hope you will bring good memory from here with you. (หวังว่าเธอจะเอาความทรงจำดี ๆ จากที่ไปกับเธอด้วยนะ)” เจค็อบมองไอติมด้วยสายตาและรอยยิ้มเดิม

           

 

ไอติมย่นคิ้ว เจค็อบลุกขึ้นยืนพร้อมกับกระชับเสื้อคลุมสีแดงเลือดหมูมันเลื่อมให้เข้าที่ หนุ่มสูงวัยเดินไปในครัว แซ็คหันมองไอติม ก่อนหันกลับไปมองแมนดี้ที่มองเขาด้วยความสิ้นหวัง

 

 

“See you.” แซ็คสะกิดไอติมให้เดินออกไปจากบ้าน จังหวะที่ไอติมกำลังจะหมุนตัว แคสโทรลกับหญิงสาวผมทองคนนึงก็เดินลงมาจากบนบ้าน ไอติมรีบหันตัวแล้วก้าวเท้าเดินตามแซ็คไป ทั้งสองคนเดินออกไปจากบ้านโดยไม่ได้หันกลับไปมองด้านหลัง ได้ยินเสียงพูดคุยกันแว่ว ๆ เป็นเสียงสุดท้ายในบ้านหลังนี้ ประตูรั้วบ้านเปิดกว้างเพื่อความสะดวกแก่พนักงานช่วยย้ายบ้าน ไอติมเดินไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับด้วยความรู้สึกหวิวโหวงในอก

 

 

ไม่ใช่เพราะรักบ้านหลังนี้ ไม่ใช่เพราะมีความผูกพัน แต่มันเป็นความรู้สึกกังวล ความรู้สึกไม่แน่นอนและไม่แน่ใจ

 

 

“Rabbitch, get in the car. They are waiting. (กระต่ายแรด ขึ้นรถสิ พวกเขารออยู่)” แซ็คยกนิ้วโป้งชี้ไปทางรถบรรทุกคันใหญ่ที่สตาร์ทเครื่องรอแล้ว ไอติมพยักหน้าแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างในรถพร้อมกับแซ็ค

 

 

“Are you sure? (คุณแน่ใจเหรอ)” ไอติมถามขณะที่แซ็คสตาร์ทรถ

 

 

“We are leaving now. (เรากำลังจะไปแล้วนี่ไง)” แซ็คถอยรถออกจากหน้าบ้าน หักรถขึ้นไปนำรถบรรทุกเพื่อนำไปยังที่พักใหม่ของตัวเองกับไอติม

 

 

“I mean, that we will stay together. (ผมหมายถึง ที่เราจะอยู่ด้วยกัน)” แซ็คหันมองไอติมด้วยสายตาเคลือบแคลงนิดหน่อย

 

 

“What? (อะไรนะ)”

 

 

“We don’t have to live together. We see on set only it’s okay. (เราไม่ต้องอาศัยด้วยกัน เราเจอกันแค่กองถ่าย มันโอเค)” แซ็คขมวดคิ้ว

 

 

“Are you mad at me or something? (นายโกรธฉันหรือยังไง)” ไอติมส่ายหัว ได้ยินคำนี้บ่อยจนจำได้ขึ้นสมอง

 

 

“Not about mad. It’s about เอ่อ…” ไอติมนึกคำศัพท์ไม่ออกเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาในดิคชันนารี

 

 

“Considerate. (เกรงใจ)”

 

 

“But it is convenient to you when we have shooting. (แต่มันสะดวกกับนายเวลาเรามีถ่ายนะ)” ไอติมเข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงเรื่องการเดินทาง ระยะเวลาในการทำงาน ไม่ต้องวกไปวนมาให้วุ่นวาย ซึ่งไอติมเห็นถึงประเด็นนี้เลยยังมีความลังเลใจอยู่นี่แหละ

 

 

ซึ่งไอติมก็ถามตัวเองว่าทำไมต้องลังเลใจ ในเมื่อเราเป็นรูมเมทกันเฉย ๆ เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น แต่พอนึกถึงภาพบนเตียงของเขากับเล็กซี่ บวกกับกับคำพูดของเจมส์ที่เล่าให้ฟังซึ่งน่าจะไม่ใช่เรื่องหลอกลวง และบวกกับ…

 

 

ไอติมพ่นลมหายใจแผ่วเบา จังหวะนั้นโทรศัพท์ของไบรอั้นดัง เจ้าของหยิบขึ้นมากดรับ “ว่าไง… งั้นเหรอ… ไปเจอฉันที่แถวซานตามอนิก้า… ย้ายบ้านน่ะ”

 

 

ไอติมนั่งมองไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ มีเสียงแซ็คกำลังคุยอะไรสักอย่างแบบที่ไอติมแปลไม่ออกเพราะไม่ได้ตั้งใจฟัง กำลังเริ่มคิดวิเคราะห์กับตัวเองได้สักพักก็โดนขัดเพราะเสียงแซ็ค

 

 

“Leo is here. (เลโออยู่นี่แล้ว)” ไอติมหันไปมองแซ็คด้วยความงงแวบหนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มตาเป็นประกาย

 

 

“Really? (จริงเหรอฮะ)” แซ็คพยักหน้า ย่นคิ้วนิดหน่อยเมื่อเห็นสีหน้าไอติม

 

 

“You look fresh immediately when I said that. (นายดูสดชื่นทันทีเลยนะพอฉันบอก)” ไอติมยิ้มกว้าง

 

 

“I miss Leo. (ผมคิดถึงเลโอฮะ)” แซ็คยิ้มหึ

 

 

“And he is fucking miss you. I can tell. (แล้วมันก็โคตรคิดถึงนาย บอกได้เลย)”

 

 

“He will see us? (เขาจะมาเจอเรามั้ยฮะ)” แซ็คพยักหน้า

 

 

“And he asked me to stay for one week. (แล้วมันก็ขอค้างด้วยหนึ่งอาทิตย์)” ไอติมตาโต ยกสองมือปรบมือเปาะแปะ

 

 

“Very good!” แซ็คหันไปหรี่ตามองกระต่ายตัวจ้อย

 

 

“Why? You miss his sex taste? (ทำไม คิดถึงรสชาติเซ็กซ์ของมันเหรอ)” ไอติมกะพริบตามองหน้าแซ็คปริบ ๆ ในหัวยังไม่ทันคิดอะไรแบบนั้นเลยจริง ๆ แต่พอแซ็คพูดขึ้นมา ภาพทั้งหลายก็พุ่งวาบเต็มหัว แล้วแก้มขาว ๆ นั่นก็เริ่มแดง แซ็คยิ้มเยาะน้อยๆ

 

 

“Okay, I knew it. (โอเค ฉันก็ว่าอยู่แล้ว)” ไอติมแปลไม่ชัดเจนนักหรอกว่าแซ็คพูดอะไร แต่เห็นสีหน้าท่าทางเยาะ ๆ ของเขาแล้วก็รู้สึกไม่ชอบนิดหน่อย

 

 

“I can fuck with him again. (ผมเอากับเขาได้อีก)”

 

 

“Yes, I know. (ใช่ ฉันรู้)”

 

 

“Like you fuck Lexy. (เหมือนที่คุณเอาเล็กซี่)” แซ็คเหลือบตามองไอติม ริมฝีปากขยับยิ้มบาง ตอนนั้นเองที่ไอติมชะงักไป แล้วก็รู้สึกว่านิสัยแบบนี้มาได้ยังไงกัน

 

 

“Are you sure you don’t mad at me? (แน่ใจนะว่าไม่ได้โกรธฉันน่ะ)” ไอติมเม้มปาก ไม่ได้นึกอยากจะโต้เถียงอะไรกับเขาอีก เพราะเริ่มงงกับตัวเองว่าเป็นอะไร ทำไมต้องประชดประชันเหมือนสาวน้อยวัยใสที่แอบรักใครสักคนแล้วเขาทำให้หึง

 

 

หึงงั้นเหรอ…

 

 

ไอติมตัวเย็นวาบเมื่อคิดว่าตัวเองอาจจะกำลังรู้สึกอย่างนั้น

 

 

 

 

ที่พักใหม่ที่แซ็คหาไว้อยู่ตรงหาดซานต้ามอนิก้า ไอติมที่นั่งนิ่งเงียบมาตลอดทางจนแซ็คแอบรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศนั้น จู่ ๆ ก็ตาเป็นประกายตื่นเต้นกับบรรยากาศรอบ ๆ ที่พักใหม่ที่ติดกับทะเล ไอติมหวีดร้องดีใจ เปิดปากเล่าด้วยภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นตัวเองว่าวันแรกที่มาถึงเมืองนี้บ่นกับเดนนี่ว่าอยากพักใกล้กับทะเล ไม่คิดว่าวันนี้จะได้มาพักใกล้กับทะเลสมใจ

 

 

“Denny will happy for me. (เดนนี่ต้องดีใจกับผม)” ไอติมยิ้มคิกคักตอนรถผ่านชายหาดขนาดใหญ่ เลยหาดไปเป็นท่าเรือมีเรือจอดเป็นร้อยลำเห็นจะได้

 

 

“I’m happy for you, too. (ฉันก็ดีใจกับนายเหมือนกัน)” แซ็คตอบพลางเลี้ยวเข้าไปในดงตึกสีครีมหลังคาสีส้ม

 

 

“How much? (เท่าไหร่ฮะเนี่ย)” แซ็คส่ายหน้า

 

 

“You don’t need to know. Just know that I can handle with the price. (ไม่ต้องรู้หรอก รู้แค่ว่าฉันจ่ายได้ก็แล้วกัน)” ไอติมกะพริบตาด้วยความงง แซ็คขยายความต่อ

 

 

“I can pay for it. I have money. (ฉันจ่ายได้ ฉันมีตังค์)” ไอติมทำปากว่าอ้อแบบไร้เสียง แล้วภาพในหัวก็ผุดขึ้นมา ภาพลูกค้าวีไอพีที่ไอติมไม่เคยเห็นหน้า แต่จ่ายให้แซ็คไม่อั้นเพียงแค่ให้ได้นอนกับเขา

 

 

ไม่สิ ไอติมเคยเห็นแล้ว

 

 

รถของแซ็คนำรถบรรทุกเข้าไปจอดในลานจอดรถหน้าตึกสีครีมขนาดใหญ่ที่มีจำนวนสี่ชั้น ตัวอาคารดูโปร่งโล่งสบายไม่แออัดยัดเยียดจำนวนห้อง ยิ่งเห็นแบบนี้ ไอติมยิ่งคิดเลยว่าราคาคงแพงอย่างที่คิด ติดทะเล ที่จอดรถส่วนตัว จำนวนห้องไม่อัดติดกัน มองจากภายนอกก็พอจะเดาได้ว่าห้องมีขนาดใหญ่

 

 

“I’m sorry that I can’t pay for the house. (ขอโทษทีที่ฉันซื้อบ้านไม่ได้)” ไอติมหันไปมองแซ็คขณะที่กำลังมองสำรวจอาคาร

 

 

“House? (บ้านเหรอ)”

 

 

“Actually, I want to have a house, but this apartment was good for my wallet, it’s a second hand. (ที่จริงฉันอยากจะได้บ้านน่ะ แต่อาร์ทเม้นต์อันนี้มันดีต่อกระเป๋าตังค์ฉัน มันเป็นห้องมือสองน่ะ)” ไอติมพยักหน้า เดินถือกระเป๋าเป้สีเขียวขี้ม้าของตัวเองตามแซ็คที่เดินนำหน้าเข้าไปในตึก ร่างสูงใหญ่ของฝรั่งในชุดเสื้อโปโลขาวกับกางเกงขาสามส่วนลายทหารเดินตรงเข้าไปติดต่อพนักงานหญิงผิวสีร่างท้วมตรงเค้าน์เตอร์ไม้ พูดคุยกันอยู่พักหนึ่งเธอก็ยื่นกุญแจให้แซ็ค ฝรั่งหันไปมองหนุ่มไทยแล้วพยักหน้า ไอติมหันไปมองรถบรรทุก เห็นเหล่าพนักงานกำลังช่วยกันขนย้ายของลงมา ไอติมหมุนตัวเดินตามแซ็คเข้าไปในลิฟต์ แซ็คกดเลขสี่ซึ่งเป็นชั้นสูงสุด

 

 

“It look good. (มันดูดี)” ไอติมหันไปบอกแซ็คและคลี่ยิ้มบาง ฝรั่งตาสีเทาอ่อนยิ้มตอบกลับมา

 

 

“Thank you. (ขอบใจ)” ไอติมยิ้มบางเป็นการให้กำลังใจอีกฝ่าย

 

 

 

‘This is the first time that I am going to leave from here. (นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะออกไปจากที่นี่)’

 

‘How long you stay here? (คุณอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว)’

 

‘8 almost 9 years. (8 เกือบ 9 ปี)’

 

‘And he… (แล้วเขา…)’ แซ็คส่ายหัว

 

‘I have to rise for myself, (ฉันต้องลุกขึ้นเพื่อตัวฉันเอง)’ ไอติมรู้สึกหน่วง ๆ ที่หัวใจ แซ็คยื่นมือขวามาจับมือซ้ายของเขาไว้

 

‘You are my inspiration. (นายเป็นแรงบันดาลใจของฉันนะ)’

 

 

 

เขาออกจากบ้านนั้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสิบปี และอยู่ด้วยความทุกข์มากกว่าความสุข ไอติมสับสนว่ามันเป็นคำพูดจูงใจรั้งเขาไว้ด้วยหรือเปล่า แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าฟังแล้วรู้สึกดี

 

 

 

‘เขาหลอกใช้งานมึงรึเปล่า’ เสียงเดนนี่ตอบกลับมาด้วยความแหบพร่า แม้ว่าจะนอนไปแล้ว แต่เพราะไอติมขอร้องปนขู่บอกให้คุยด้วยก็เลยถ่างตาด้วยความสลึมสลืออยู่แบบนี้

 

‘เรื่องงานเขาไม่ได้หลอกหรอก กูก็ต้องทำงานกับเขาจริง ๆ จะหลอกหรือไม่ ยังไงกูก็ต้องทำงาน’

 

‘แสดงว่ามึงมีผลประโยชน์กับเขา’ ไอติมสีหน้าไม่ดีนักแต่ก็ไม่ได้ถึงกับเศร้าสร้อย

 

‘การทำงาน ถ้าเราไม่มีผลประโยชน์กับเขา เขาจะจ้างเราเหรอเดน…’ ไอติมพูดเสียงแผ่ว

 

‘…แล้วถ้ากูมีประโยชน์กับเขาขนาดนั้น กูก็ยิ่งต้องทำตัวให้เขาไม่กล้าหือกับกูใช่เปล่า’ ไอติมหัวเราะเบา ๆ เดนนี่ขำเสียงแหบ

 

‘มึงโตขึ้นนะ รู้ตัวรึเปล่า’ ไอติมขมวดคิ้ว

 

‘กูก็โตอยู่แล้วเหอะ’

 

‘ใช่ มึงโตอยู่แล้ว แต่มึงโตแค่ตัว แต่สติมึงเหมือนคนปัญญาอ่อน กูว่าตอนนี้ปัญญามึงเริ่มแข็งขึ้นมาบ้างละ’ ไอติมถลึงตา แม้ว่าเดนนี่จะไม่ได้อยู่ตรงหน้า

 

‘มึงรีบมาให้กูตบหัวซะดีๆ’ เดนนี่หัวเราะเสียงแหบแห้ง

 

‘เออ เข้าที่เข้าทางแล้วส่งข่าว เดี๋ยวกูไปหา’ ไอติมยิ้ม รู้สึกอุ่นใจที่อย่างน้อยมีเดนอยู่ด้วย

 

‘ขอบใจนะเดน คิดถึงมึงนะ’

 

‘คิดถึงคxx กูก็บอก’ ไอติมเม้มปากหน้าแดง

 

‘บ้า!’ เดนนี่หัวเราะ

 

‘เจอหน้าเดี๋ยวรู้เลย’ 




 

 

“Lovely. (น่ารักจัง)” ไอติมมองไปรอบห้องใหม่ของตัวเองกับแซ็ค ภายในห้องทาสีส้มสลับกับสีขาว ห้องนี้เป็นห้องริมสุดของชั้นนี้ เปิดประตูไม้สีขาวบานใหญ่เข้ามาก็เจอกับเค้าน์เตอร์ครัวอยู่ด้านซ้ายมือ มีอปุกรณ์ครัวบางชิ้นทิ้งไว้ให้ราวกับเป็นของที่ระลึก ห้องโถงกลางมีโซฟาสีดำตัวยาวหนึ่งตัวและโต๊ะไม้สีน้ำตาลแก่ให้หนึ่งตัว มีชั้นวางทีวีที่ไม่มีทีวี ที่ไอติมชอบมากคือมีระเบียงด้านนอกติดกับวิวถนนด้านหน้าของอาคารและสามารถมองเห็นทะเลผืนกว้างได้จากบนห้องของตัวเอง

 

 

“Beautiful.” ไอติมเคยเห็นบรรยากาศแบบนี้ในหนังฝรั่ง และคิดว่ามันให้ความรู้สึกชิล ๆ ละมุน ๆ ถ้ามีห้องติดริมทะเล คิดว่าถ้าได้รับการตกแต่งอีกสักหน่อยคงจะน่าอยู่ยิ่งขึ้นไปอีก

 

 

“That’s our bedroom. (นั่นห้องนอนของเรา)” แซ็คชี้ประตูสีขาวบานขวามือจากจุดที่ไอติมยืนอยู่ ไอติมหันไปมองประตูอีกบานที่อยู่เยื้องกัน

 

 

“What room? (ห้องอะไร)”

 

 

“Bathroom and toilet.” ไอติมอ้าปากหวอนิดหน่อย

 

 

“Only one bedroom? (แค่ห้องนอนเดียวเหรอ)” แซ็คพยักหน้า

 

 

“Yes. Why? (ใช่ ทำไมล่ะ)”

 

 

“And I will go live where if you bring some girl here. (แล้วผมจะไปอยู่ไหนถ้าคุณเอาผู้หญิงมาที่นี่)” ด้วยความรีบร้อนพูดเลยเรียงประโยคผิดมั่วไปหมด แซ็คชะงัก สีหน้าช็อคไปนิด จังหวะนั้นพนักงานขนของก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับตู้เสื้อผ้า แซ็คละสายตาจากไอติมเดินไปเปิดประตูห้องนอนให้พนักได้ขนของเข้าไปได้อย่างสะดวกก่อนเดินกลับมาหาไอติมและผายมือไปทางระเบียงห้อง ทั้งสองคนเดินไปเลื่อนประตูกระจกระเบียง ปล่อยให้พนักงานจัดการจัดของให้

 

 

“I won’t bring any girl here, okay? (ฉันจะไม่พาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่ โอเคมั้ย)” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ แซ็คพ่นลมหายใจเบาๆ

 

 

“Zach.”

 

 

“What? (ว่าไง)” ไอติมเม้มปาก สีหน้าชั่งใจ แต่สักพักก็ตัดสินใจพูด

 

 

“You can fuck many people but don’t fuck me, okay? (คุณเอากับใครก็ได้ แต่อย่าเอาผม โอเคมั้ยฮะ)” แซ็คมองไอติมด้วยความรู้สึกอึ้งนิดหน่อย

 

 

“After next month, March. I back Thailand I will go to check my blood. (หลังจากเดือนหน้า มีนาคมน่ะ ผมกลับประเทศไทย ผมจะไปเช็กเลือดของผม)” แซ็คนิ่งค้าง ความรู้สึกชาค่อย ๆ แล่นไปตามกล้ามเนื้อบนหน้าทั้งที่ไอติมไม่ได้ตบหน้าเขาเลยแม้แต่นิด กว่าจะดึงสติกลับมาได้ก็เงียบไปเกินนาที

 

 

“Okay.” แซ็คตอบเสียงเบา ดวงตาสีเทาอ่อนลง สีหน้าของไอติมแสดงออกถึงความรู้สึกไม่ดี แต่ก็พยายามนิ่งไว้

 

 

“Go to make room? (ไปจัดห้องมั้ยฮะ)” ไอติม (พยายาม) ยิ้ม แซ็คหันไปมองในห้อง พนักงานกำลังวางของวุ่นวาย หนุ่มฝรั่งพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้อง ไอติมหันไปมองทะเลสีครามกว้างสุดลูกตา พ่นลมหายใจยาว ๆ หนึ่งทีก่อนหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องอีกคน

 

 

 

 

“Leo will come here tomorrow. (เลโอจะมานี่พรุ่งนี้)” แซ็คบอกไอติมขณะที่กำลังเช็ดหัวให้แห้ง กระต่ายตัวจ้อยที่นอนเหยียดขายาวอยู่บนเตียงและกำลังพิมพ์งานในแม็คบุ๊คอยู่เงยหน้าขึ้นมองคนบอกแล้วคลี่ยิ้ม

 

 

“How long he will stay in L.A.? (เขาจะอยู่ในแอลนานเท่าไหร่ฮะ)” แซ็คดึงผ้าขนหนูออกจากเอวจนตัวเปลือยเปล่า ไอติมหลุบตาลงต่ำเพื่อเลี่ยงมองเจ้าสิ่งนั้น

 

 

“A month, maybe. (น่าจะเดือนนึง)” ไอติมรู้สึกว่าเตียงฝั่งขวามือ ซึ่งเป็นฝั่งของแซ็คยุบลง

 

 

“Lukas wanted to see video three of us in Thailand. (ลูคัสอยากเห็นวิดีโอเราสามคนที่เมืองไทย)” ไอติมหันไปมองแซ็คที่นั่งตัวเปลือยเปล่า มีเพียงสร้อยคอจี้กระต่ายห้อยประดับเนื้อ แซ็คมองไอติมแววตาวิบวับ

 

 

“Why Lukas want to see? (ทำไมลูคัสถึงอยากเห็น)”

 

 

“Because it could help him to decide if he wants to sign the contract with Leo or not. (เพราะมันจะช่วยให้เขาตัดสินใจได้ว่าเขาอยากจะเซ็นสัญญากับเลโอมันรึเปล่าน่ะ)” ไอติมมองหน้าแซ็คด้วยความรู้สึกเด๋อด๋า แซ็คยิ้มบางแล้วขยายความ

 

 

“Leo will become our new actor if we can deal with him. (เลโอจะมาเป็นนักแสดงคนใหม่ของเราถ้าเราตกลงกับเขาได้)” ไอติมแปลช้า ๆ แบบไม่รีบเพื่อความแน่ใจ แล้วก็แน่ใจว่าตัวเองไม่น่าแปลผิด

 

 

“Wow, we just have Castrol and now—we, (ว้าว เราเพิ่งมีแคสโทล และตอนนี้ ระ… เรา)” ไอติมชะงักด้วยความงุนงงเมื่อแซ็คส่ายหัว

 

 

“No. Leo will not be actor under Jacob’s company. He will be us. (ไม่ใช่ เลโอจะไม่ได้เป็นนักแสดงของบริษัทเจค เขาจะเป็นนักแสดงของเรา)” ไอติมขมวดคิ้ว

 

 

“Us?”

 

 

“Lukas has founded the new studio, (ลูคัสตั้งค่ายใหม่แล้ว)” ไอติมอ้าปากหวอน้อยๆ

 

 

“We are the new team. (เราเป็นทีมใหม่)” ไอติมย่นคิ้ว

 

 

“But you have the contract with Jacob, and it is—. (แต่คุณมีสัญญากับเจค็อบ แล้วมันก็…)”

 

 

“We will deal with that issue. You don’t need to worry about this. Just do your job. (เราจะจัดการกับปัญหานั้น นายไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้ แค่ทำหน้าที่ของนายก็พอ)” หัวใจไอติมเต้นตุ้มต่อม เต้นด้วยจังหวะแปลก ๆ มันเป็นการเต้นในโทนของความหวาดกลัว

 

 

“Is it okay? (แบบนี้มั้นโอเคเหรอ)” แซ็คยิ้มและพยักหน้าหนึ่งครั้ง

 

 

“It is going to be okay. (มันจะต้องโอเค)” ไอติมนิ่งไปพักหนึ่ง

 

 

“Are you sure อ่า… you are not something special with him? (คุณแน่ใจเหรอว่าคุณ อ่า… ไม่ได้เป็นบางอย่างพิเศษกับเขา)” แซ็คขบกราม สีหน้าเรียบตึง

 

 

“Me and Lexy is something special? (ฉันกับเล็กซี่เป็นบางอย่างพิเศษกันหรือเปล่าล่ะ)” แซ็คทวนคำพูดของเจ้ากระต่าย ไอติมส่ายหัว

 

 

“No. Like you and me, too. (ไม่ เหมือนคุณกับผมด้วย)” แซ็คชะงัก ไอติมพ่นลมหายใจ หันหน้ากลับไปมองจอแม็คบุ๊ค กดเซฟงานแล้วปิดฝาพับลง วางไว้บนโต๊ะเขียนหนังซื้อข้างเตียงที่ตั้งตรงหน้าต่างห้องพอดี ปิดโคมไฟสีเหลืองนวลฝั่งตัวเองแล้วหันกลับมาคลี่ผ้านวมเตรียมนอน

 

 

“Are you sure you don’t want to eat your carrot? (แน่ใจเหรอว่าไม่อยากกินแคร็อทน่ะ)” ไอติมหันไปมองแซ็คที่เลิกคิ้วขึ้นและยิ้มมุมปากขวา ไอติมนิ่งไปหลายวินาทีแล้วก็ส่ายหัว

 

 

“No. Good night. (ไม่ ฝันดีฮะ)” ไอติมล้มตัวลงนอน แซ็คมองกระต่ายตัวจ้อยแล้วยิ้มบาง หันตัวไปปิดโคมไฟอันเล็กกว่าของไอติมที่อยู่ฝั่งตัวเอง ภายในห้องมืดลง แต่ไม่ถึงกับมืดสนิทเพราะมีแสงจากด้านนอกเล็ดลอดเข้ามาจาง ๆ แซ็คล้มตัวลงนอนพร้อมดึงผ้านวมขึ้นมาห่ม จังหวะนั้นไอติมลืมตาขึ้นมองแซ็ค ฝรั่งตัวโตหันหน้าไปมอง

 

 

“I can serve you if you want. (ฉันเสิร์ฟให้ได้นะ ถ้านายอยาก)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ เม้มปากแน่น หัวใจเต้นรัว

 

 

“Eh?” แซ็คยักคิ้ว ยิ้มทะเล้น ไอติมตีหน้านิ่งแม้หัวใจจะเต้นรัว

 

 

“No.” ไอติมหันตัวนอนหันหลังให้แซ็คแล้วหลับตาลง ข่มใจให้นิ่ง นับแกะนับแพะไปเรื่อยเพื่อกล่อมให้ตัวเองหลับ แต่สักพักฝูงแกะฝูงแพะก็กระจายเมื่ออีกคนใช้แขนกอดเอวเขาไว้ ไอติมบิดหน้าไปมองรูมเมทของตัวเองที่กำลังยิ้มละมุน

 

 

“I don’t fuck I just hug you. (ฉันไม่ได้จะเอา ฉันแค่กอด)” ไอติมพ่นลมหายใจ บิดหน้าไปนอนตะแคงตามเดิม แซ็คคลี่ยิ้มและก้มลงหอมแก้มไอติมหนึ่งทีก่อนที่จะนอนกอดไอติมไว้อย่างนั้น

 

 

ไอติมสัมผัสได้ว่าหัวใจแซ็คเต้นแรง และแซ็คเองก็สัมผัสได้ว่าเจ้ากระต่ายของเขาหัวใจเต้นแรงเช่นกัน

 

 

 

 เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



ย้ายบ้านแว้ววว ถึงจะเป็นอพาร์ทเม้นต์แต่ก็เป็นบ้านของเขาสองคนนน อิ ๆ พี่แซ็คนี่จะรับเลี้ยงดูกระต่ายตัวนี้จริงจังเลยมั้ยคะหรือยังไง หื้มมมม

แต่ก็ได้ออกมาสมใจพี่เขาสักที และนำพาตัวน้องมาอยู่ด้วย

แหม รั้งเขาไว้สุดเลยน้าา แต่ก็กั๊กสุดเช่นกัน หึๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺBreak the cage. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 13-04-2019 21:58:41
 :serius2: :serius2:  ชีวิตดูยุ่งเหยิงไปหมด
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺBreak the cage. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: waragorn ที่ 13-04-2019 22:05:16
อ้าว อุตส่าเตรียมใจนึกว่าจะมาม่าชามโต 555 แต่ก็เพราะเป็นไอติมแหละเนอะ นางเป็นคนไม่คิดมาก(รึป่าว) :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺBreak the cage. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-04-2019 22:21:49
โล่งอกไปที ที่แท้เป็นเด็กของนี่เองที่อยู่ในห้อง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺBreak the cage. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: องศาวาย ที่ 13-04-2019 22:37:39
ไอติมเด็ดขาดไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺBreak the cage. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 13-04-2019 23:27:35
สรุปว่าน้องติมไปเห็นอะไร???   :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺBreak the cage. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 14-04-2019 00:43:22
ยกมือขอเปลี่ยนพระเอกเป็นเดนนี่ค่ะ ไม่อยากให้ลูกเราชอกช้ำ :katai1:

แซ็คเหมือนยังไม่สำนึก ยังหลอกล่อน้องติมด้วยแครอท ไม่มีอาการสลดใดๆ

อยากให้ขุ่นเจ้ลงโทษนางค่ะ :katai4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺBreak the cage. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 14-04-2019 06:08:58
แซ็คไม่พูดแะไรให้เคลียเลย ไม่โอเคกัยไอติม น้องจะรู้ตัวมั้ยว่า เริ่มรักแซคแล้ว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺBreak the cage. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 14-04-2019 07:57:40
สรุปไอติมเห็นอะไรในห้องลูก  :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺBreak the cage. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 14-04-2019 08:59:59
คิดว่าคนที่อยู่กับแซ็คในห้องตอนนั้นคือเจค็อบเพราะติมดูไม่พอใจตอนเห็นนางเดินลงมา เดาอีกว่าเจคคือหนึ่งในลูกค้าวีไอพีของแซ็ค ไอติมตอนโดนทำร้ายน้องจะเจ็บมากมั้ยคะ ฮือ แต่เดี๋ยวก็กลับไทยแล้ว กลับแล้วคงยาวเลยใช่ไหม จริงๆสงสารแซ็คนะดูเหมือนปมในชีวิตจะเยอะมากกกกก แต่รำคาญมากกว่าเพราะนางก็เลือกเองทั้งนั้น ชีวิตตัวเองใครจะบังคับอะไรได้นักหนา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺBreak the cage. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 14-04-2019 18:00:18
เด็ดเดี่ยวมากลูก มาหอมหัวหนึ่งที
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺBreak the cage. : 13.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 15-04-2019 20:08:49
เราว่าเหตุการณ์ในห้องที่ไอติมเห็นมันอาจไม่ใช่แค่เจคอบอ่ะ
อาจจะร้ายแรงกว่านั้นแบบ Threesome ไม่ก็ BDSM หรือ Fetish
แบบที่ทำให้ไอติมรับไม่ได้อ่ะ เพราะตอนเล็กซี่ ติมดูเหมือนรับได้มากกว่านี้นะ
ดีใจที่ไอติมโตขึ้น ก้าวข้ามความหลงไหลที่เรามองเห็นในตอนแรกไปแล้ว
ดีมาก ย้ำอีกครั้งว่าหนีไปกับป๋าลูคัสเลย เค้ารวยและแซ่บกว่าไอ้คนนี้รูกกก
 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 20-04-2019 20:09:24
Fall in lust - Chapter 34 :: House. (บ้าน)





   ไอติมลืมตาตื่นตอนเช้ากับความรู้สึกแปลกใหม่ในบ้านใหม่ ถึงจะเป็นอพาร์ทเม้นต์แต่ไอติมรู้สึกอยากเรียกว่าบ้านมากกว่า ไอติมหันไปมองข้างข้างกายก็เห็นเพียงความว่างเปล่า ร่างผอมบางลุกขึ้นนั่งใช้นิ้วชี้สองข้างเขี่ยขี้ตาตรงหัวตาออก หันไปหยิบโทรศัพท์มากดดูหน้าจอก็เห็นว่าเป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว ได้ยินเสียงรถวิ่งผ่านไปมาบนท้องถนนด้านหน้า แต่ก็ไม่ได้เสียงดังวุ่นวายอะไรมาก และแม้จะไม่ถึงกับได้ยินเสียงคลื่น แต่แค่รู้ว่ามองจากระเบียงห้องก็เห็นทะเล ก็ทำให้ไอติมรู้สึกสดชื่นขึ้นแล้ว
   

“Good morning. (สวัสดีตอนเช้า)” ไอติมเงยจากโทรศัพท์หันไปมองแซ็คแล้วคลี่ยิ้มให้ เกือบจะชะงักเพราะแซ็คอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าทั้งตัว มีเพียงสร้อยจี้กระต่ายสีทองอ่อนเท่านั้นที่อยู่บนเนื้อ ในมือขวาถือโทรศัพท์ สภาพผมเผ้าเขาเหมือนคนเพิ่งตื่น ให้เดาคงเดินไปเข้าห้องน้ำมา และคงตื่นก่อนหน้าเขาไม่นาน
   

“Good morning.” ไอติมทักตอบพร้อมกับรอยยิ้ม เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเขาก็เข้านอนด้วยสภาพนี้
   

“Hungry? (หิวมั้ย)” ไอติมพยักหน้า
   

“I called Leo and asked him buy some food for us because we don’t have any food in our new house yet. (ฉันโทรหาเลโอและฝากให้มันซื้ออาหารมาให้เราแล้ว เพราะไม่มีอาหารอะไรเลยในบ้านใหม่เรา)” ไอติมยิ้มกับกับว่า บ้าน เขาเองก็คงชอบเรียกที่นี่ว่าบ้านเหมือนกัน
   

“Thank you. (ขอบคุณฮะ)” แซ็คเอาโทรศัพท์ไปวางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ชิดกับมุมห้องฝั่งไอติมนอน หนุ่มเอเชียเดินลงจากเตียง ตอนกำลังเดินผ่านฝรั่งก็โดนฝ่ายนั้นใช้แขนซ้ายรัดเอวเอาไว้แล้วดึงไปแนบชิดติดกับตัว ไอติมแหงนหน้าขึ้นไปมอง แซ็คยิ้มบางก่อนก้มลงจูบปากไอติมหนึ่งที ไอติมย่นคิ้วเพราได้กลิ่นเหม็นของอะไรบางอย่าง
   

“You smoking marijuana? (คุณสูบกัญชาเหรอ)” แซ็คยิ้มตาเยิ้ม ใบหน้าเคลิ้มนิดหน่อย ไอติมมองเขาด้วยความเป็นห่วง แซ็คก้มหน้าหอมแก้มไอติมหนึ่งฟอด ไอติยิ้มไม่เต็มปากนัก
   

“I will go to toilet. (ผมจะไปห้องน้ำ)” แซ็คหัวเราะเสียงทุ้ม จูบต้นคอของไอติมไปหนึ่งที
   

“Okay, rabbitch.” แซ็คปล่อยแขนออกจากตัวไอติม กระต่ายตัวจ้อยยิ้มแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องนอน ตรงไปยังห้องน้ำ เพื่อเข้าไปฉี่ กลิ่นฉุนของกัญชารบกวนสมองของไอติม ทำให้รู้สึกมึนนิดหน่อย
   

พอฉี่เสร็จไอติมก็เดินออกมายืนกลางห้องโถง ประตูห้องนอนเปิดอยู่ ไอเย็นของแอร์เลยแผ่ออกมาด้านนอก ไอติมยืนมองแซ็คนอนห้อยขาตัวเปลือยอยู่บนเตียง ใบหน้ากำลังยิ้มเยิ้ม เคลิบเคลิ้มไปกับฝ้าเพดานห้องนอน ไอติมพ่นลมหายใจ หันหน้าไปมองทางระเบียง เห็นวิวข้างนอกผ่านผ้าม่านสีครีมที่แหวกออกเป็นช่องขนาดเท่าตัวคน ไอติมหันกลับไปมองในห้องนอนแล้วก้าวเท้าเดินเข้าไปในนั้น เดินผ่านแซ็คที่นอนมองเพดานตาหวานไปหยิบโทรศัพท์แล้วก้าวเดินออกไปจากห้อง เดินตรงไปทางระเบียงขณะที่มือก็กดโทรศัพท์ไปด้วย
   

ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด…
   

ไอติมนั่งลงบนเก้าอี้ไม้เก่า ๆ หนึ่งตัวที่มีอยู่ก่อนพวกเขาจะเข้ามาอยู่แล้ว สายตามองไปยังผืนทะเลสีคราม เกิดความรู้สึกสงบขึ้นในจิตใจและรู้สึกปลอดโปร่งกับอากาศและแสงแดดในยามเช้า
   

[ว่าไงจ๊ะหลานชาย] เสียงน้าแพนดังมาตามสายพร้อมกับเสียงอึกทึกเล็กๆ
   

“น้าแพน ยังไม่หลับใช่มั้ย”
   

[ฮู้ย ยัง นั่งดื่มไวน์ ดูลอร์ดออฟเดอะริงอยู่กับเพื่อนสาวเนี่ย กว่าจะนอนก็อีกนาน] ไอติมยิ้มดีใจที่ได้ยินเสียงน้า จริง ๆ อยากโทรหาแม่ แต่คิดว่าเรื่องนี้คุยกับน้าแพนน่าจะเหมาะกว่า
   

“ดีเลย น้องติมมีเรื่องจะปรึกษา”
   

[ปัญหาหัวใจล่ะซี้] ไอติมตาโตอ้าปากหวอ
   

“โอ๊ะ น้าแพนรู้ได้ไงอะ” เสียงอึกทึกหายไป ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะเบา ๆ ของน้าแพน
   

[เดาเอา แต่ถูกเหรอ] ไอติมเปลี่ยนเป็นหัวเราะ
   

“อื้อ ถูก ติมอยากถามกูรูผู้มีประสบการณ์”
   

[อะ จัดมา ฝรั่งแซ่บคนนั้นเขาทำให้จิตใจว้าวุ่นแค่ไหน เดี๋ยวน้าแพนจะช่วยหาบทสรุป] ไอติมหัวเราะคิกคัก แต่สักพักก็ทำหน้ามู่และพ่นลมหายใจพรืด
   

“เขาเป็นพระเอกหนังโป๊ใช่เปล่าล่ะ…”


[อือฮึ น้าดูผลงานเขาละ ตาถึงนะเราน่ะ] ไอติมยิ้มเขินตาหยี ก่อนเปลี่ยนเป็นหน้ายู่


“…คือน้องติมเห็นเขาเอากับคนอื่นในหนัง น้องติมโอเค แต่น้องติมเห็นเขาเอากับคนอื่นนอกจอด้วย น้องติมไม่โอเค มันใจหวิว ๆ ยังไงก็ไม่รู้”


[หึงเขาอะสิ] ไอติมตาโต


“โอ๊ะ หึงเหรอ หึงเลยเหรอน้าแพน”


[แล้วน้องติมคิดว่ามันเป็นอาการอะไรได้อีกบ้าง] น้าแพนถามน้ำเสียงปกติ ไม่ได้ประชดประชัน แต่ถามเผื่อว่าหลานชายจะมีคำตอบอื่นจากความรู้สึกของตัวเขาเอง


ไอติมนิ่งคิด กะพริบตาปริบ ๆ มองแก๊งค์ผู้ชายฝรั่งวัยรุ่นถอดเสื้อปั่นจักรยานไปทางท่าเรือแบบล่องลอย “ไม่รู้อะน้าแพน…”


[…] น้าแพนเงียบ ไม่ได้คิดเร่งรัดเอาคำตอบ 


“…น้องติมไม่รู้ว่าความหึงมันเป็นยังไง ไม่รู้ว่ามันใช่แบบที่น้องติมรู้สึกอยู่รึเปล่า” แพนยิ้มอย่างเอ็นดูกับความรู้สึกของหลานชาย


[น้องติมอยากเห็นภาพแบบนั้นอีกมั้ยล่ะ นอกจอน่ะ] ไอติมนึกถึงเมื่อวานนี้ที่คุยกับแซ็คเรื่องผู้หญิงของเขา ว่าถ้าพามาห้องนี้ แล้วตัวเองจะไปอยู่ไหน ตอนนั้นไอติมรู้สึกเลยว่าความรู้สึกมันออกไปทางกระฟัดกระเฟียดปนน้อยใจ


“ไม่อยาก…” ไอติมตอบเสียงอ่อย


“…แต่น้องติมเข้าใจเข้านะ”


[เข้าใจว่า?]


“เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องปกติของเขา”


[เรื่องเซ็กซ์ เป็นเรื่องปกติของทุกคน มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถามว่ามันจำเป็นต้องมีมั้ย ไม่มีก็ไม่ตาย…] ไอติมได้ยินเสียงน้าแพนดื่มน้ำสองสามอึกก่อนพูดต่อ


[…แต่สำหรับเขา อันนี้ความคิดน้านะ น้าว่ามันก็น่าจะปกติของเขาแหละที่จะมีนอกรอบ เพราะทำงานด้านนั้น จะมีนอกจอในจอ น้าว่ามันก็เป็นการมีเซ็กซ์เหมือนกัน]


“อื้อ” ไอติมรู้ตามนั้น ตามที่น้าแพนว่า


[แล้วเขาก็อยู่กับอะไรแบบนี้มานาน มันน่าจะเป็นหนึ่งในนิสัยของเขาไปแล้วมั้ง]


‘การมีแฟนไม่เหมาะกับฉัน’ คำพูดของแซ็คดังขึ้นในหัว


“ละติมต้องทำไงอ่าน้าแพน”


[ตอนนี้น้องติมไม่ได้เป็นอะไรกับเขา อาจจะเข้าใจเขา มองว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา แต่ถ้าคบกันล่ะ]


“งั้นน้องติมต้องเป็นแฟนกับเขาก่อนเหรอ” แพนหัวเราะด้วยความเอ็นดู ไอติมยิ้มกว้างและหัวเราะอิ๊อ๊ะ


[ถ้าตกลงกันได้ก็เป็น แต่มุมมองน้องติมจะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า น้องติมจะหึงเขามากกว่าตอนที่ไม่ได้เป็นแฟนกันมั้ย]


“สรุปน้องติมหึงเขาเหรอ”


[น้าก็ว่าหึงนะ ไม่น่ามีคำอื่นแล้ว หวงไม่น่าใช่ เพราะน้องติมดูเข้าใจการทำงานของเขา]


“ฮะ น้องติมเข้าใจจริงๆ”


[ซึ่งเป็นเรื่องดีนะลูกที่น้องติมเข้าใจ ถ้าไบรอั้นเขายังทำงานด้านนี้อยู่ เขาต้องคลุกคลีกับผู้หญิงอีกหลายคน]


“แล้วถ้านอกงานเขาก็คลุกคลีผู้หญิงอีกล่ะน้าแพน ติมก็ต้องเข้าใจเขาด้วยเหรอ”


[อันนี้หมายถึงถ้าน้องติมคบกับเขาใช่มั้ย เพราะถ้ายังไม่ได้คบ น้องติมก็ต้องทำใจ เพราะนั่นมันเรื่องของเขาคนเดียว ไม่ใช่ของเรา]


“สมมุติถ้าคบล่ะ”


[ก็ต้องเรียนรู้กันไป แล้วหาจุดกึ่งกลางระหว่างเราสองคน]


“น้าแพนพูดเหมือนว่าเขาจะไม่เลิกนิสัยนี้”


[อันนี้น้าไม่รู้หรอก และน้าจะไม่บอกด้วยว่าถ้าเขารักไอติมมากพอ เขาจะไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ เพราะความรักไม่ใช่สูตรสำเร็จทั้งหมดของความสัมพันธ์ ผู้ชายบางคนรักเมียรักลูกมาก แต่ก็ต้องการรสชาติเซ็กซ์ใหม่ ๆ เมียก็เลือกจะปิดตาข้างนึงตราบใดที่ผัวเขาปฏิบัติต่อครอบครัวเหมือนเดิม]


“อืมมม”


[ความคิดและมุมมองของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าทำแล้วตัวเรามีความสุขมั้ย อยู่กับมันได้หรือเปล่า]


“เหมือนพ่อเลยอะดิ”


[เคสแม่เรากับพ่อเรานี่น้าว่าต่างจากคนที่เขาเลือกปิดตาข้างนึง คือแม่เราน่ะไม่ปิดตา รับรู้หมด และไม่ยอม ไม่พอใจ แต่ไม่ตามราวีใคร เขาอยู่เพราะติม แต่พอติมบอกว่าอยู่กับแม่กับน้าได้ ชีก็เชิ่ดใส่ผัวเลยเห็นมั้ยล่ะ ชีวิตคู่แต่ละคนมีสไตล์ไม่เหมือนกันหรอกนะ คู่ใครคู่มัน ปัญหาใครปัญหามัน ทางออกแต่ละคู่ย่อมไม่เหมือนกัน เพราะต่อมความรู้สึกมันคนละต่อม] ไอติมพยักหน้าทั้งที่น้าแพนไม่เห็น


“แล้วสมมุติถ้าเขารักติม เขาจะไม่เลิกนิสัยแบบนี้จริงดิ”


[อันนี้ก็ต้องลองคบ ลองรักกันก่อน ถึงจะตอบได้] ไอติมร้องหูวเบาๆ


“ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าเขาคิดยังไงกับติม”


[แล้วติมล่ะคิดยังไงกับเขา เอาคำตอบจากตัวเองให้ได้ก่อน พอได้จากตัวเอง ก็ไปถามเขา]


“หูย น้าแพน มันไม่ใช่ง่าย ๆ น่า”


[น้ารู้ แต่เราถามให้เคลียร์ มันจะดีต่อใจและความรู้สึกของเรามากกว่ามั้ย ถ้าเขาไม่ชอบ ติมก็ยอมรับความเสียใจนั้น แล้วบอกกับตัวเองว่าจะเอายังไง ดีกว่าปล่อยให้มันล่องลอยจับต้องอะไรไม่ได้เปล่า ยิ่งปล่อยไว้ยาวความรู้สึกเรายิ่งย่ำแย่นะ]


“แต่ถ้าผลมันออกมาไม่ใช่อย่างที่น้องติมคิด มันก็แย่อยู่ดีอะ”


[มันแย่แค่ทีนั้นทีเดียวเปล่าลูก ถามแล้ว ได้คำตอบชัดแล้วว่าเขาโน เจ็บจุดนั้น เจ็บหนักครั้งเดียว ดีกว่าให้อะไรที่ติมเห็นมากร่อนความรู้สึกไปเรื่อย ถ้าเขาโน ติมก็ต้องคิดกับตัวเองว่าจะเอายังไง อยู่ต่อแล้วค่อย ๆ สมานแผลใจ หรือจะขอกลับมาไทยก็ได้นี่ กลับมาพักใจ น้าว่าดีกว่าปล่อยให้มันเป็นไปแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้] สีหน้าไอติมครุ่นคิดและค่อนข้างเครียด คนอื่นอาจไม่เครียด แต่สำหรับคนไม่เคยสนใจความรักอย่างไอติมมันเป็นเรื่องเครียด


“น้องติมกลัวผิดหวัง”


[คนเราจะสมหวังไปซะทุกเรื่องไม่ได้หรอกนะติม]


“โอ๊ะโห”


[จริง สมหวังทุกเรื่องเป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าครั้งนี้ผิดหวัง น้องติมก็เรียนรู้เอาไว้] ไอติมหน้างอง้ำ


“งั้นติมไม่อยากรู้แล้ว” แพนหัวเราะเบาๆ


[ก็แล้วแต่ แต่ติมจะไม่อึดอัดใช่มั้ย และติมต้องอยู่อย่างเข้าใจเขาซะตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่แหละดีที่สุด]


“ติมอยากย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ตอนนี้ติมอยู่กับเขาสองคน”


[ก็ได้นี่ลูก ถ้าติมต้องการ เราไม่ได้ยากจนขนาดนั้น แม่กับน้าดูแลติมได้] หัวใจไอติมเต้นตึกตักพอคิดว่าตัวเองจะย้ายออก


“…”


[แต่ติมแน่ใจรึเปล่าว่าไม่อยากอยู่กับเขาแล้วจริงๆ] ไอติมมองชายหาดสีขาวเหลืองด้วยความสับสน


“เขาติดกัญชาด้วยอะ น้องติมไม่ค่อยชอบ ตอนเขาเมา ๆ เคลิ้ม ๆ มันทำให้นึกถึงพ่อ” ไอติมไม่ได้ยินเสียงน้าแพนตกใจหรือรู้สึกประหลาดใจอะไรเป็นพิเศษ


[ถ้าอยากออกก็บอก ก็แค่หาที่อยู่ใหม่ หรือติมอยากจะไปอยู่กับใครก็ไป เอาที่ติมสะดวกและไว้ใจ หรืออย่างที่บอก อยากจะกลับบ้านก็ได้]


“กลับเดือนมีนาแหละหน้าแพน ต้นเดือนนั้นมันครบสามเดือนพอดี ตอนนี้งานกำลังไปได้ดี เงินเดือนฝากลูคัสไว้ฮะ”


[ลูคัสที่เคยสไกป์คุยกันรึเปล่า]


“ใช่ฮะ”


[อ้อ ก่อนกลับอย่าลืมให้เขาโอนเงินให้ล่ะ]


“อื้อ…” ไอติมเม้มปาก สายตามองท้องฟ้าสีฟ้าสดใส


“…ติมจะรวบรวมความกล้าลองถามเขาดู ส่วนเรื่องย้ายออก ติมขอดูสถานการณ์หลังจากคุยกันได้มั้ยน้าแพน เผื่อเขาบอกชอบติมอะ แฮะๆ”


[ฮู้ยยย] แพนหัวเราะหลานชายอย่างเอ็นดูอีกครั้ง นึกหน้าหลานออกว่ายิ้มหน้าตาน่ามันเขี้ยวแค่ไหน


[ก็แล้วแต่ ยังไงก็ได้ แต่จำไว้ว่าชีวิตติมไม่ใช่คนจนตรอก อยู่ไม่สะดวกก็แค่กลับมาไทย แค่นั้นเอง] ไอติมยิ้มชื่นใจ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะ


“ฮะ คิดถึงนะน้าแพน เดี๋ยวติมโทรหาแม่ก่อน แค่โทรไปคุยด้วย ไม่เล่าหรอก”


[จ้ะ ดูแลตัวเองดี ๆ มีอะไรก็โทรหาน้ากับแม่ได้เสมอ หรือถ้าเหตุด่วนเหตุร้ายอะไร บอกเพื่อนน้าได้เลย ทุกคนพร้อมไปช่วย] ไอติมได้ฟังแล้วรู้สึกฮึกเหิม ฟังแล้วรู้สึกไม่เหงากายเหงาใจ


ไอติมวางสายจากน้าแพน โทรคุยไปเกือบครึ่งชั่วโมงแบบไม่สนใจค่าโทร สิ้นเดือนบิลมาคงหน้าซีด แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าไอติมจะโทรคุยกับแม่กับน้าบ่อยซะเมื่อไหร่


“ฮาโหล แม่”


[จ้า ตื่นแล้วเร้อ] ไอติมหัวเราะ ก่อนจะนั่งคุยกับแม่ไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้เล่าเรื่องราวความรู้สึกของตัวเองมากมาย เพราะได้รับความสบายใจจากการคุยกับน้าแพนมาแล้ว ที่คุยกับแม่ก็เป็นเรื่องทั่วไปของแม่ ร้านอาหาร จัมโบ้กับปีโป้ แม่เล่านั่นเล่านี่ไปเรื่อย ไอติมคิดว่าแม่จะเหงา แต่แม่ไม่เหงาเลย แม่มีเพื่อนมานอนบ้านด้วยบ่อยมาก บางทีน้าแพนก็มานอนด้วย และแม่เองก็ทำงานทั้งวันเกินกว่าจะเหงาได้


ก๊อกๆๆ


“โอ๊ะแม่ มีคนมาเคาะประตูห้องแหละ น้องติมต้องไปก่อน”


[จ้า ดูแลตัวเองนะ เดือนหน้าหน่อย ๆ เจอกัน]


“ฮะแม่” ไอติมกดวางสายจากแม่ ลุกเดินกลับเข้าไปในห้อง เลื่อนประตูปิดตามหลัง เดินไปส่องตาแมวก็เห็นว่าเป็นเลโอยืนอยู่ ไอติมยิ้มด้วยความตื่นเต้นที่ได้เจอพ่อคิงคองอีกรอบ ร่างผอมบางดึงประตูเข้ามา


“Hi!” ไอติมเอ่ยทักเสียงใสพร้อมรอยยิ้มกว้าง เลโอยิ้มกว้างตอบ ยิ้มแบบคิงคองที่ไอติมเรียก ไอติมอมยิ้มขำกับรอยยิ้มนั้น


“Hello, my dear. (สวัสดีที่รัก)” ไอติมยิ้มหวาน มองถุงกระดาษสีน้ำตาลกับถุงพลาสติกเต็มสองมือเลโอก็รีบดึงออกมาจากมือขวาของเขาเพื่อช่วยถือ ไอติมเอาของวางบนเค้าน์เตอร์ครัว เลโอเดินเข้ามาในห้องและปิดประตูห้องให้ตามหลัง เอาของไปวางไว้บนเค้าน์เตอร์ครัวบ้าง


“I miss you so much. (ฉันคิดถึงนายมาก)” เลโอก้มลงจูบปากไอติมหนึ่งทีแล้วดึงตัวขึ้นไปยืนตามเดิม ไอติมอมยิ้มเขิน เลโอยักคิ้ว


“Your bag, there, there. (กระเป๋าคุณ ตรงนั้น ตรงนั้น)” ไอติมทำท่าให้ไอเลโอถอดกระเป๋าเป้ออกและชี้โซฟา เลโอยิ้มมุมปากแล้วใช้สองมือถอดกระเป๋าเป้ใบใหญ่ กำลังจะก้าวเท้าเดินผ่านห้องนอนก็ชะงักมองเพื่อนที่นอนเปลือยกายอยู่บนเตียง


“Is he drunk? (มันเมาเหรอ)”


“อื้อ marijuana (กัญชาน่ะ)” เลโอเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับเบ้ปากน้อย ๆ ก่อนพยักหน้าสองสามที เดินเอากระเป๋าเป้ใบใหญ่ไปวางพิงโซฟา


“Hungry? (หิวมั้ย)” ไอติมพยักหน้า เลโอยิ้ม มองไอติมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาชื่นชม


“You look pretty as usual. (นายน่ารักเหมือนเดิมเลย)” ไอติมยิ้มเขิน มองเลโอทั้งเนื้อทั้งตัวแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม เสื้อกล้ามบาสเก็ตบอลสีน้ำเงินขับผิวสีน้ำตาลเข้มของเขาให้ดูน่ามองยิ่งขึ้น


“You sexy.” ไอติมกัดริมฝีปากล่าง เลโอยักคิ้ว กำลังจะเลื่อนหน้าเข้าไปจูบไอติมอีกรอบแต่ก็ชะงักไว้


“มาถึงก็ลวนลามคนอื่นเลยเหรอ” แซ็คที่กำลังพันผ้าขนหนูสีขาวรอบเอวยักคิ้วให้เพื่อนหนึ่งที เลโอกลอกตาและยืดตัวตรง ไอติมมองขวัญใจตัวเองด้วยความงุนงงนิดหน่อย


“แกฟื้นแล้วเหรอ” แซ็คไหวไหล่แล้วก้าวเท้าเดินออกไปยืนระหว่างกลางทั้งสองคน


“มืออาชีพก็งี้” เลโอบิดปาก แล้วหันมองไอติมที่หันไปแหวกถุงอาหารที่ซื้อมา แซ็คเดินเข้าไปหาไอติมแล้วใช้แขนซ้ายคล้องเอวก่อนก้มลงจูบขมับไอติมไปที ไอติมแหงนหน้ามองพ่อฝรั่งด้วยความเหลอหลา แซ็คคลี่ยิ้มแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะหายเข้าไปก็ยักคิ้วเย้ยเลโอที่เบะปากตอบกลับ


ไอติมกลอกตาไปซ้ายทีขวาที หัวใจเต้นตึกตัก นึกถึงที่คุยกับน้าแพนก่อนหน้านี้แล้วหัวใจก็ยิ่งเต้นแรง สองมือหยิบอาหารออกจากถุงเชื่องช้า พ่นลมหายใจออกยาว ๆ แล้วก็เริ่มจะตัดสินใจได้มากขึ้น


“Oh, chicken. (โอ้ ไก่)” ไอติมหันไปยิ้มให้เลโอที่กำลังช่วยแกะห่อกระดาษ พ่อคิงคองหนุ่มมองหาจานหรือถ้วยสักอันบนเค้าน์เตอร์แต่ก็ไม่มี


“We move here yesterday we don’t have things much. (เราย้ายมานี่เมื่อวานนี้ เราไม่มีของอะไรมาก)”


“Okay.” ดีที่อาหารที่เขาซื้อมานั้นไม่ต้องใส่จานก็ได้ สองคนช่วยกันแกะฟลอยด์ห่อไก่ แกะกระดาษห่อเบอร์เกอร์ และกล่องใส่สเต๊ก ถือเอาไปวางบนโต๊ะไม้ตัวเก่าของห้องจนเต็ม จังหวะนั้นแซ็คเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพหัวเปียก ใบหน้าชุ่มไปด้วยหยาดน้ำ


“Come to eat. (มากินฮะ)” ไอติมเรียกแซ็ค ฝรั่งเปลือยกายท่อนบนเดินยิ้มเข้ามานั่งข้างไอติมที่นั่งพิงโซฟาอยู่ด้านล่าง


“ถ้าฉันไม่เห็นแก่เงินว่ามันประหยัด ฉันจะไม่มาอยู่กับแกเลยจริงๆ” เลโอบ่นสีหน้าขึงขังในขณะที่ใช้มือฉีกสเต๊กออกแล้วเอาเข้าปาก


“แกจะออกไปอยู่ข้างนอกก็ได้นะ หรือจะไปอยู่กับลูคัส แอนโทนี่ คนไหนก็ได้ หรือจะไปอยู่กับเจคก็แล้วแต่” เลโอมองค้อนเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ หันไปมองไอติมที่นั่งเคี้ยวไก่ทอดตุ้ยๆ


“ถ้าเควินมันน่ารักอย่างไอศกรีม ไม่เจ๊าะแจ๊ะ ก็จะไปอยู่หรอก” แซ็คหัวเราะขณะที่เคี้ยวเบอร์เกอร์เต็มปาก


“หมอนั่นมันรักแกน่า”


“ขอบคุณที่รักกัน” แซ็คยิ้มขำ


“ช่วงที่ฉันไม่อยู่ แกได้ทำชั่วกับไอศกรีมรึเปล่า” แซ็คเบะปากและทำลอยหน้าลอยตา หันไปมองไอติมที่กำลังวุ่นวายกับการกินอยู่


“จะพูดอะไรก็ระวังหน่อย ตอนนี้เด็กนี่เก่งภาษาอังกฤษขึ้นเยอะ” เลโอเบ้ปาก


“ดีสิ ไอศกรีมจะได้รู้ว่าแกน่ะเลว” แซ็คที่เคี้ยวเบอร์เกอร์จนแก้มอูมชูนิ้วกล้างข้างซ้ายให้เลโอ และไม่ต่อความยาวสาวความยืดใด ๆ พาเปลี่ยนไปเรื่องอื่นแทนที่จะพูดถึงเรื่องนี้


“เดี๋ยวพวกลูคัสจะมาฉลองบ้านใหม่ แล้วก็คุยกับแกเรื่องงาน”


“คุยธุรกิจในวงเหล้างั้นเหรอ”


“ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกรึเปล่า” เลโอมองไปรอบห้องขณะที่เคี้ยวเนื้อสเต๊ก ห้องโถงยังโล่ง ๆ ไม่มีอะไรให้เห็นมากนัก


“ห้องแกแทบไม่มีของใช้อะไร จานก็ไม่มี ช้อนก็ไม่มี”


“ฉันเลยว่าจะออกไปซื้อกับกระต่ายลามก แล้วแกอยู่เฝ้าห้องไปก่อน” เลโอย่นคิ้ว


“ฉันไปด้วยไม่ได้รึไง” แซ็คส่ายหัว


“ไปทำไม เป็นแค่ผู้อาศัย ก็อาศัยไปเถอะ”


“เออ” แซ็คหันไปคุยกับไอติมว่ากินเสร็จให้ไปอาบน้ำแล้วจะได้ออกไปชอปปิ้งมอลด้วยกัน เพื่อหาซื้อของใช้เข้าห้อง ไอติมพยักหน้าและดูดนิ้วโป้ง


พอกินอิ่มไอติมก็ลุกเดินเข้าไปในห้องนอน หยิบเสื้อผ้าออกมาจากตู้เสื้อผ้าเพื่อเอาเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ ปล่อยให้สองหนุ่มคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ไอติมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำยี่สิบนาทีก็เดินออกมาหลังทาครีมเสร็จ


“I’m ready. (ผมพร้อมแล้วฮะ)” ไอติมในชุดกางเกงสีขาวขาสั้นกับเสื้อโปโลสีชมพูบอกแซ็คหลังจากตากผ้าขนหนูไว้ด้านนอกเสร็จเรียบร้อย แซ็คลุกเดินเข้าไปในห้องนอน ไอติมเดินตามเข้าไปหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองออกมา แซ็คคลี่เสื้อยืดสีดำแล้วสวมใส่ขณะที่เท้าก้าวออกมาห้องโถงแล้ว


“แกจำลูคัสได้ใช่มั้ย” เลโอนิ่งคิดสักแปบขณะที่นั่งเคลียร์ของบนโต๊ะ


“จำได้แหละ เห็นหน้าอีกทีคงร้องอ๋อ”


“เผื่อหมอนั่นมาก่อน แกก็เปิดประตูให้เข้ามาเลย” เลโอพยักหน้า แซ็คหันไปหาไอติมแล้วพยักหน้าให้หนึ่งครั้ง ไอติมเดินไปเปิดประตูห้อง มีแซ็คเดินตามหลังมา เลโอมองหลังไว ๆ ของเพื่อนก่อนที่ประตูจะปิดลงแล้วเบ้ปากน้อยๆ


“ทำอย่างกับแต่งงานกันแล้วงั้นแหละ”

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 20-04-2019 20:09:51
V
v
v

แซ็คกับไอติมไป Brentwood market มีทั้งของกินของใช้ให้เลือกซื้อ เป็นสถานที่ช็อปปิ้งสไตล์คันทรี่หน่อย ไอติมค่อนข้างตื่นตาตื่นใจกับการมีแหล่งช็อปปิ้งใกล้บ้านแบบนี้ มันไม่ได้หรูหราเป็นห้างติดแอร์ขนาดนั้น แต่มันน่าเดินด้วยบรรยากาศการตกแต่งของสถานที่


“Table for eating we should have. (โต๊ะสำหรับกินเราควรมี)”


“Yeah, I know.” แซ็คพาไอติมเดินไปดูร้านเฟอร์นิเจอร์ ช่วยกันเลือกช่วยกันตัดสินใจอยู่พักหนึ่งก็ซื้อโต๊ะทรงกลมขนาดกลางมาหนึ่งตัว เก้าอี้นั่งสองตัว ไอติมหยอกไบรอั้นว่าให้ซื้อเค้าน์เตอร์บาร์เครื่องดื่ม แต่ไบรอั้นเอาจริง และซื้อเก้าอี้สีเหลืองทรงสูงสำหรับนั่งดื่มเก๋ ๆ ตรงเค้าน์เตอร์ และแน่นอนว่าต้องซื้อตู้เย็นใหม่


นอกจากนั้นก็เป็นพวกอุปกรณ์ถ้วยจานชาม ช้อนส้อม มีด เขียง กระทะ ตะหลิว อะไรจำพวกนี้ที่ควรมีอยู่ในครัว ก็ซื้อไปให้หมด และก็มีของที่ควรมีในบ้านด้วยอย่างเช่น ราวตากผ้า ตู้เก็บของอันเล็ก และใหญ่สุดก็คงเป็นทีวีกับเครื่องเล่นดีวีดีและอุปกรณ์เสริม  ดีที่เจ้าของเดิมทิ้งเตียงไว้ให้เลยไม่ต้องซื้อใหม่


“Anything else? (เอาไรอีกมั้ย)” แซ็คถามหลังจากที่นำของทุกอย่างมาให้พนักงานคิดเงินและทำเรื่องให้ทางร้านเอาของไปส่งที่บ้าน


“Don’t know now. (ตอนนี้ไม่รู้)” ไอติมนึกได้แต่พวกของที่ควรมี แต่พอไปถึงแล้วอาจจะนึกออกทีหลังอีกทีว่าจริง ๆ แล้วขาดอะไรไปบ้าง


“Can I help to pay? (ผมสามารถช่วยจ่ายได้มั้ย)”


“No. I can deal with it. (ไม่ต้องหรอก ฉันจัดการได้)” แซ็คยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานสาวที่รับไปรูด จัดการรูดเสร็จก็ยื่นบิลให้แซ็คเซ็น


“Next station, food. (สถานีต่อไป อาหาร)” ไอติมยิ้มกริ่ม แซ็คยิ้มกว้าง ไอติมหรี่ตามองว่ารอยยิ้มนั้นเป็นยิ้มจริงจากเขาหรือเพราะเมากัญชา แซ็คเหมือนรู้ว่าไอติมคิดอะไรอยู่ก็เลยหัวเราะ ยื่นมือซ้ายไปจูงมือขวาไอติม


“I’m a professional of weed. (ฉันเป็นมือโปรเรื่องกัญชาน่า)” ไอติมหน้ามึนตาแป๋ว แซ็คยิ้มแล้วก้มลงจูบปากไอติมไปที และพากระต่ายตัวจ้อยเดินไปตามตรอกของตลาด




“ไอติมบอกว่าให้คุณคัมแบ็คในรอบสิบกว่าปีที่หายไป ได้กระแสมากแน่ๆ” แซ็ค เลโอ ดัสติน โจ และบรูซเพื่อนของแซ็คอีกคนร้องโว้ว ๆ ว้าว ๆ กันยกใหญ่กับไอเดียที่ไอติมเสนอไป ลูคัสที่หน้าแดงอ่อน ๆ ยิ้มกว้างจนร่องแก้มย่น


“Seriously? (เอาจริงเหรอ)” ไอติมได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าจริงจัง


“Serious. You are legend. (จริง คุณเป็นตำนาน)” หนุ่ม ๆ คนอื่นที่เมาพอกัน และคึกคักเพราะเสียงเพลงโห่ร้องพร้อมกับรัวมือไปทางลูคัสที่ยกแขนขวาขึ้นเบ่งกล้ามโชว์ ไอติมยกนิ้วโป้งให้สองนิ้ว


“I will think about it after you present the concept to me. (ฉันจะลองคิดดูหลังจากที่เธอเสนอคอนเซ็ปต์ให้ฉันแล้ว)” ไอติมยิ้มกว้าง แววตาเปล่งประกาย


“Okay!”


“And what about my concept? (แล้วคอนเซ็ปต์ของฉันล่ะ)” เลโอแกล้งถาม


“Jungle. (ป่าฮะ)” แซ็คกับโจหัวเราะ เลโอยิ้มด้วยความประหลาดใจ


“That’s interesting, and I fuck you? (น่าสนใจ แล้วฉันได้เอานายรึเปล่า)”


“No. Fuck tree. (ไม่ฮะ เอาต้นไม้)” หนุ่ม ๆ ที่เหลือหัวเราะจนไอติมกลัวว่าห้องข้าง ๆ จะมาตีหัวเอา แต่เห็นแซ็คบอกว่าที่นี่เก็บเสียงได้ดี แล้วเดี๋ยวเขาสองคนจะช่วยกันเอาแผงกันเสียงที่เอาไว้ใช้ในห้องซ้อมดนตรีมาติดกำแพงเพิ่มด้วย


“My dick is going to break. (จู๋ฉันต้องหักแน่ๆ)” คนอื่น ๆ หัวเราะกับมุกตลกของเลโอ


เลโอได้ทำความรู้จักกับลูคัสและคนอื่น ๆ อย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะเข้าขากันได้ดีหลังจากคุยกันไประมาณชั่วโมงนึง เลโอตกลงเซ็นสัญญา ณ ตอนนั้น กลายมาเป็นนักแสดงในสังกัดคนที่สองของค่ายหนังของลูคัส ซึ่งจะเป็นนักแสดงฝั่งหนังโป๊เกย์ ส่วนแซ็คจะเป็นทั้งสองฝั่ง แต่จะเน้นผู้หญิงมากกว่า


“And Dustin I am still waiting for you to play porn นะ (และดัสติน ผมยังรอคุณเล่นหนังโป๊นะ)” หนุ่มรอยสักเต็มแขนหัวเราะแล้วชี้ไอติม


“And then you will be my bottom, okay?. (และถ้างั้นนายก็มาเป็นรับให้ฉัน โอเคมั้ย)” ไอติมยิ้มตาหยี คนอื่น ๆ ยกเว้นแซ็คโห่แซวเบาๆ


“Don’t forget to tell your dance team about calendar. (อย่าลืมบอกทีมเต้นของคุณเกี่ยวกับปฏิทินนะ)” ไอติมหันไปบอกทั้งแซ็คและบรูซกับข้อเสนอก่อนหน้านี้


“Don’t worry. We are willing to help. (ไม่ต้องห่วง เราเต็มใจจะช่วย)” บรูซบอกให้ไอติมคลายกังวลใจกับการที่อยากได้ทีมเต้นมาถ่ายปฏิทินนู้ด และไม่ใช่การกุศลใด ๆ ด้วย เป็นปฏิทินขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองล้วน ๆ ซึ่งโชคดีเหลือเกินที่เพื่อน ๆ แซ็คดูจะตอบรับด้วยการลดค่าตัวลงให้ครึ่งนึง


“What about sponsor? (แล้วสปอนเซอร์ล่ะฮะ)” ไอติมถามลูคัส


“We have them. Don’t worry. (เรามี ไม่ต้องห่วงนะ)” ไอติมพยักหน้า ถ้าลูคัสบอกว่ามีก็คือมีนั่นแหละ ในส่วนนี้ไอติมคิดว่าตัวเองช่วยอะไรไม่ได้มาก


“And Anthony, he don’t come really? (และแอนโทนี่ เขาไม่มาจริงเหรอ)” ลูคัสมีสีหน้าปลดปลงและส่ายหัวช้าๆ


“No. He has chosen to stay with Jacob. He said he can’t do that. Yeah, we know what we are doing is such a bad thing, but we must do something. (ไม่ เขาเลือกจะอยู่กับเจค็อบต่อ เขาบอกเขาทำไม่ได้ ใช่ เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันไม่ดี แต่เราก็ต้องทำอะไรสักอย่าง)” พูดถึงชื่อนี้แล้วไอติมก็รู้สึกมวนท้องอีกครั้ง แอบเหลือบหางตาไปมองแซ็ค อีกฝ่ายนั่งยกแก้วขึ้นดื่มแบบชิลๆ


“He will angry? (เขาจะโกรธมั้ย)” ลูคัสพยักหน้าแบบไม่รีรอ


“And we are ready to deal with him. (และเราก็พร้อมจะรับมือกับเขา)”


“Nah, this is not a bad thing, this is a badass. Finally, you guys ran away from that son of bitch. (ไม่ นี่ไม่ใช่สิ่งไม่ดี นี่เรียกว่าเจ๋งต่างหาก คือในที่สุดพวกนายก็หนีไอ้ห่านั่นมาแล้ว)” ดัสตินอ้าปากหวอแต่ก็ดูออกว่าพร้อมจะขำออกมา บรูซตาโตพรึ่บและพยายากลั้นยิ้ม ลุคัสขำพรืด เจมส์เบ้ปากอย่างไม่แยแส รู้สึกสะใจด้วยซ้ำที่ได้พูด


“ใจเย็นเพื่อน อย่างน้อยหมอนั่นก็ให้เงินฉันเยอะน่า” แซ็คพูดยิ้ม ๆ คนอื่นขำเบาๆ


“เงินที่แกแลกมาด้วยหยาดน้ำอสุจิแกน่ะเหรอ”


“เอ๊ะ ทำไมล่ะ น้ำแตกบ่อย ๆ เป็นเรื่องดีออก” หนุ่ม ๆ คนอื่นหัวเราะกับมุกของแซ็ค ไอติมยิ้มขำน้อย ๆ แซ็คยิ้มกว้างและยกแก้วขึ้นชนกับเพื่อน ๆ ตัวเอง




“Good night, Leo.” เลโอที่อยู่ในสภาพเมายกมือขวาขึ้นตะเบ๊ะก่อนลมตัวลงนอนบนโซฟา ไอติมปิดไฟในห้องโถง ดึงประตูห้องนอนเข้ามา แซ็คที่เมาไม่แพ้กันแต่ยังสติเหลืออยู่นั่งเปลือยกายเช็ดหัวอยู่บนเตียง ไอติมเดินผ่านแซ็คไปนั่งลงบนฝั่งตัวเอง มองแผ่นหลังของแซ็คด้วยอาการใจเต้นตุ้มต่อม


เป็นเวลาเกือบตีสี่ที่ทุกคนแยกย้ายกันกลับไปหลังจากช่วยกันเก็บกวาดของเสร็จเรียบร้อย แซ็คอยากชวนทุกคนนอนฉลองบ้านใหม่ตัวเอง แต่ด้วยความคับแคบเลยต้องปล่อยให้ทุกคนกลับบ้านไป


“Zach…”


“ฮึ?” เจ้าของชื่อเหลียวหน้าไปมองด้านหลัง ไอติมเม้มปาก สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพ่นออกมา กลืนน้ำลายลงคอหนึ่งอึก


“I have something to ask you. (ผมมีบางอย่างจะถามคุณ)” แซ็คพลิกตัวหันไปนั่งมองไอติมตรง ๆ พยักหน้าหนึ่งครั้งเป็นเชิงบอกให้ถามได้เลย


หัวใจไอติมเต้นถี่รัว เกิดความกลัวในอก รู้สึกถึงโพรงขนาดใหญ่ในช่องอกของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดก็ถามออกไปเพื่อที่จะได้กำหนดทิศทางตัวเองถูกอย่างที่น้าแพนว่า


“How you feel with me? (คุณรู้สึกยังไงกับผม)”


คนถูกถามหยุดเช็ดผมและมองคนถามนิ่ง คนถามเองก็นั่งนิ่งเช่นกัน เพราะร่างเย็นจนชาไปหมดแล้ว







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้

 :katai1:

คำถามตะเตือนใจ แล้วก็ดันถามเขาตอนเมาเนาะลูก 55555 เป็นกำลังใจให้น้องต่ายตัวน้อย ๆ ด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 20-04-2019 20:44:26
คำตอบของคนเมา...น่าจะทำให้น้องฝังใจ(ย้อนกลับไปตอนเปิดเรื่อง)รึเปล่า???   :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-04-2019 21:00:00
แซค เอาให้เคลียร์นะเออ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 20-04-2019 21:27:59
หืมมมม ต้องใกล้จุดแตกหักของติมกับแซ็คแล้วแน่ๆ :hao7:

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 20-04-2019 22:02:40
ถ้าตอบ i dont know จะซื้อตั๋วแล้วบินไปตีหัวแซ็ค  :m31:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-04-2019 22:09:32
ขอคำตอบหน่อยจ้า คนเมา  :katai5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 20-04-2019 22:20:44
มาค่ะ ถ้าตอบแบบกั๊กรับรองได้หนามทุเรียนแน่ๆแซค  :angry2:
ชอบครอบครัวน้องติมจังอ่ะ ทั้งน้าแพน ทั้งแม่
ถ้าแซคทำเลวอะไรใส่น้องติมรับมือได้แน่  :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: องศาวาย ที่ 21-04-2019 00:24:04
พร้อมแล้วค่ะไรท์ จัดมาหนักๆเลยยย :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 21-04-2019 01:32:46
ยังสงสัย ว่าน้องไอติม เห็นอะไรในห้องนอน แต่ก็ช่างเหอะ เพราะผ่านมาถึงจุดที่แยกตัวออกมาแล้ว ต่อไปนี้ ต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเองแล้วเนอะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 21-04-2019 01:36:54
 :m31: ทำไมนิ่งไปหล่ะแซ็ค ตอบน้องงงงงง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: cho_co_late ที่ 21-04-2019 02:16:51
ท่าทางน่าจะเป็นจุดแตกหักแน่นอน อีกไม่กี่ตอนน่าจะถึง present day ในตอนแรก
พี่จะรอปลอบน้องกระต่าย เทนังแซ็คมันป๊ายย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 21-04-2019 03:02:51
ดีๆนะอิแซคคค ถ้าทำต้องเจ็บบ แกจะต้องเจ็บกว่าาาา :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 21-04-2019 03:38:21
รักน้าแพนนนนนนนนน ส่วนตอนนี้ต้องการการแตกหักค่ะ เบื่อแซ็คแล้ว 555555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 21-04-2019 15:08:37
แตกเป็นแตกค่าาา มาเลยนังแซ็ค ! //เปิดกระเป๋าเดินทางเตรียมยัดน้องติมใส่เป่ากลับไทย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 21-04-2019 15:55:33
น้องติมมมมมมมมมม
รักแรกของน้องมันโคตรจะแฟนตาซี
สู้ๆนะลูก เค้าไม่ชัดเจนก็ออกมา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 22-04-2019 09:34:12
เอาล่ะ หนูติมยอมรับตัวเองได้ก่อนแฮะ มาลุ้นส่วนอิพี่ต่อว่าจะยอมรับตัวเองไม๊
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.33 : ฺHouse. : 20.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-04-2019 23:03:09
โอ๊ยยย บาดจิตบาดใจ ไอติมเจอเรื่องช็อคสิบตลบ ซ้ำซากมากจ้า
สงสารไอติมนะ คือไม่คิดมาก ทำใจมาบ้าง แต่ก็ต้องมีอึ้งบ้างแหละ
บางทีก็ใกล้ตัวเกินไป ที่เห็นขึ้นไปข้างบน และเจคดูไม่ชอบไอติม
ตอนนี้ไอติมก็คงเคลียร์แล้ว ว่าทำไม แต่ถือว่าไอติมใจกว้างมากนะ

แซคเอ้ย ชีวิตนี้ สับสนในตัวเองมากไปไหม เป็นนกหนีออกจากกรง
มันเติบโตได้นะ แต่ถ้ายังเมากัญชาแบบนี้ กลัวจะไม่รอด คนเราไม่เก่งไปตลอด

อันนี้แซคคงให้คำตอบที่ไอติมไปต่อไม่ได้ และเลือกจะกลับไปอยู่เมืองไทย
หรืออาจจะมีเรื่องอื่นแทรกมาอีก ถ้าคาบเกี่ยวกับแมท คือแซคยังไม่สมหวัง

ไอติมโตขึ้นเหมือนเดนบอก และดีที่ไอติมพูดกับน้าแพน ช่วยได้เยอะ
แถมมีแม่และคนที่รักรายรอบ ยังไง ไอติมก็มีคนคอยช่วยเหลืออยู่แล้ว

หวังว่าคำตอบแซคคงไม่ทำให้ไอติมใจเสียนะ เพราะทำน้องเฮิร์ตหลายเรื่องแล้ว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 25-04-2019 20:03:25

Fall in lust - Chapter 35 :: Hollow. (ว่างเปล่า)




   “What? Again. (อะไรนะ อีกรอบนึงสิ)” ไอติมที่หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะมองจี้กระต่ายบนอกแซ็คแล้วพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ อีกที ตั้งสติกับตัวเองดี ๆ และค่อย ๆ เปิดปากพูด
   

“I think I like you. (ผมคิดว่าผมชอบคุณ)” แซ็คย่นคิ้วนิดหน่อย ดวงตาสีเทาอ่อนเยิ้มมองไอติมด้วยความวูบวาบ
   

“Yeah, you like me. I know that. You are my fan. (ใช่ นายชอบฉัน ฉันรู้ นายเป็นแฟนคลับฉันไง)” ไอติมส่ายหน้า
   

“No. I like you. Not a fan but I LIKE YOU. Like, girl like boy, but I am a boy like you. (ไม่ใช่ ผมชอบคุณ ไม่ใช่แบบแฟนคลับ แต่เป็น ผม ชอบ คุณ เหมือนผู้หญิงชอบผู้ชาย แต่ผมเป็นผู้ชายชอบคุณ)” ไอติมเม้มปาก หัวใจเต้นกระหน่ำรัวยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้พูดออกไป ตัวเย็นเฉียบแบบที่ไม่ใช่เพราะแอร์ ท้องบิดเป็นเกลียวด้วยความเสียววูบวาบราวกับกำลังเล่นรถไฟเหาะอยู่
   

“I love you. เอ่อ อะ… ไอ I am fear you will think I just like you like fan. But I like you because I love you. (ผมรักคุณ เอ่อ อะ…ไอ ผมกลัวว่าคุณจะคิดว่าผมชอบคุณแบบแฟนคลับ แต่ผมชอบคุณเพราะผมรักคุณ)” ไอติมอธิบายเพิ่มเติมเมื่อเห็นว่าแซ็คยังไม่ทีท่าโต้ตอบกลับมา แต่แววตาสั่นระริกและดูหวาดกลัวของแซ็คยิ่งทำให้ไอติมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
   

“You love me? (รักฉันงั้นเหรอ)” แซ็คถามเสียงแหบพร่า ไอติมที่สีหน้าหวาดหวั่นพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง
   

“I want to know your feeling. You เอ่อ make many things to make me think more. So, I want to know, to make it clear. (ผมอยากจะรู้ความรู้สึกคุณ คุณ เอ่อ ทำหลายอย่างให้ผมคิดมาก ผมก็เลยอยากรู้ ทำให้มันกระจ่าง)” ไอติมกลืนน้ำลายลงคออันแห้งผาก รู้สึกถึงความเย็นแล่นไปตามแขนแบบวนลูป
   

แซ็คมองไอติมด้วยสีหน้าหนักใจ แววตาของเขาดูกังวล แต่เขาก็พยักหน้าสองสามที “Yeah, I like you. (ใช่ ฉันชอบนาย)”
   

หัวใจไอติมหล่นวูบและเด้งกลับขึ้นมาอีกครั้ง ไอติมมองแซ็คด้วยความไม่แน่ใจ และไม่ได้รู้สึกดีใจที่ได้ยินแบบนั้น “Zach, I need the truth. I know that you want me to work for you, to make money for you. I want to เอ่อ เอิ่ม di—divide feeling. You make you like me because I can make money for you or you like me really. (แซ็ค ผมต้องการความจริง ผมรู้ว่าคุณอยากให้ผมทำงานให้ อยากให้ผมทำเงินให้ ผมอยาก เอ้อ เอิ่ม ยะ แยกความรู้สึก คุณทำชอบผมเพราะผมทำเงินให้คุณได้หรือเพราะคุณชอบผมจริงๆ)” ไอติมได้แต่หวังว่าแซ็คะจะเข้าใจถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อผ่านภาษาอังกฤษอันงอกง่อยของตัวเอง
   

“You like me just because I can make money or you like me because you like me. (คุณชอบผมเพราะผมทำเงินหรือคุณชอบเพราะชอบผม)” ไอติมอธิบายเพิ่มเติม เพื่อหวังให้อีกฝ่ายเข้าใจและตอบคำถามของเขาให้ชัดเจน
   

“Answer the real answer. Don’t lie. (ตอบคำตอบจริง อย่าโกหก)” ไอติมขอร้องเสียงแผ่ว
   

แซ็คยิ้มบาง แววตาสีเทาเยิ้มน้อย ๆ มองไอติมด้วยความอ่อนโยน เขาดันตัวลุกขึ้นนั่งชันเข่าแล้วคลานเข่าไปนั่งขัดสมาธิกลางเตียง ยกมือขวากวักเรียกให้ไอติมเข้ามาหา กระต่ายตัวจ้อยเขยิบเข้าไปนั่งด้านหน้าของเจ้านาย รู้สึกขอบคุณที่อีกฝ่ายเอาผ้าขนหนูปิดตรงแคร็อทเอาไว้
   

“I am going to tell the truth and this is not a lie. (ฉันจะพูดความจริง และนี่ไม่ใช่คำโกหก)”
   

“…” ไอติมนิ่งเงียบ มองแซ็คแบบปกติ ไม่ได้กดดันอะไร
   

“I like you, not because of money. I like you because you are my rabbitch. I can’t say love at this moment, but I have a fucking good feeling with you, (ฉันชอบนาย ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน ฉันชอบนายเพราะนายคือกระต่ายแรดของฉัน ฉันยังพูดว่ารักตอนนี้ไม่ได้ แต่ฉันมีความรู้สึกที่โคตรดีกับนายเลย…)” ไอติมมองตาเมาเคลิ้มของแซ็ค แซ็คเม้มปาก หลับตาลงพักหนึ่งก่อนลืมขึ้นแล้วระบายลมหายใจพร้อมกับพยักหน้าสองสามครั้ง


“I can’t say it now but I can feel it. (ฉันพูดไม่ได้ แต่ฉันรู้สึกได้)” ไอติมขยับริมฝีปากเป็นรอยยิ้มนิดหน่อย
   

“Really? (จริงเหรอ)”
   

“Really. (จริง)”
   

“Like me like boyfriend girlfriend? (ชอบผมแบบ แฟนหนุ่ม แฟนสาวเหรอ)” แซ็คยิ้มขำน้อย ๆ แล้วพยักหน้าหนึ่งครั้ง ไอติมขยับยิ้มมากขึ้นอีกนิด หัวใจเต้นตึกตัก กระเพาะวูบวาบโหวงเหวง
   

“But we can’t be boyfriend. (แต่เราคบกันไม่ได้หรอก)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ และเมื่อแน่ใจแล้วว่าประโยคนั้นแปลว่าอะไร หัวใจไอติมก็เหมือนจะหยุดเต้นไปชั่วคราว รอยยิ้มหดลง ลำไส้กลับมาบิดเป็นเกลียวอีกครั้ง
   

“W… why?” แซ็คขบกรามแน่น สีหน้าและแววตาหนักใจ ยกมือขวาขึ้นวางบนแก้มเนียนนุ่มของไอติม
   

“I’m scared. (ฉันกลัว)” ฝรั่งเอ่ยเสียงแผ่วเบา ไอติมมองดวงตาสีเทาที่อ่อนไหวตาแป๋ว ยิ่งเห็นดวงตาใสซื่อของไอติม แซ็คก็ยิ่งรู้สึกเศร้า
   

“Scare what? (กลัวอะไร)” ไอติมถามกลับเสียงเบา
   

“Me. (ตัวฉันเอง)” กระต่ายตัวจ้อยมองด้วยความไม่เข้าใจ


“My lifestyle doesn’t fit for having a relationship. (ไลฟ์สไตล์ชีวิตของฉันไม่เหมาะกับการมีความสัมพันธ์)” ไอติมยกมือซ้ายขึ้นจับหลังมือของแซ็ค เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อแล้ว


“Maybe it will change. (บางทีมันจะเปลี่ยน)” ไอติมว่าอย่างมีความหวัง ทั้งที่ภาพของพ่อปรากฏชัดในความคิด


ผู้ชายคนนั้นจนทุกวันนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม


“Ice-cream,” ไม่กี่ครั้งที่แซ็คจะเรียกชื่อเล่นเขาแบบนี้ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสั่นระริก


“It is my nature, my instinct, it’s like when the tiger found his victim. (มันคือธรรมชาติของฉัน สัญชาตญาณฉัน เหมือนกับเสือเวลาเจอเหยื่อของมัน)” ใบหน้าไอติมหม่นลง 


เสือเจอเหยื่อ มันก็ล่า แล้วก็กิน


“Are you sick? (คุณป่วยหรือเปล่า)” แซ็คมองคนถามด้วยความไม่แน่ใจ


“I mean sick about sex เอ่อ hysteria? Something like that. (ผมหมายถึงป่วยเกี่ยวกับเซ็กซ์ เอ่อ ฮิสทีเรีย อะไรประมาณนั้นน่ะ)” ไอติมไม่ได้จะด่าแซ็ค แต่นึกคำเปรียบเปรยอื่นไม่ออก เลยเอาคำที่เคยได้ยินบ่อย ๆ มาใช้ในการถาม


แซ็คยิ้มมุมปากนิดหน่อย “No. It’s just me. (เปล่า ตัวฉันเท่านั้น)”


ไอติมพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง “You will not change… (คุณจะไม่เปลี่ยน…)” …for me (…เพื่อผม) เลยเหรอ  ไอติมอยากถามแบบนี้ แต่คิดว่าพาวเว่อร์ตัวเองยังไม่มากพอที่จะดึงขึ้นมาเป็นแรงจูงใจ


“I want, but I know it’s not easy for me. (ฉันอยาก แต่ฉันก็รู้ว่ามันไม่ง่ายสำหรับฉัน)” ไอติมพ่นลมหายใจ มองดวงตาอ่อนแสงลงผสมกับความเยิ้มของแซ็คด้วยความรู้สึกท้อถอย


“Then we can’t have relationship together, right? (งั้นเราก็มีความสัมพันธ์ด้วยกันไม่ได้ ใช่มั้ย)” ไอติมยิ้มเศร้า แวตาและสีหน้าของแซ็คหม่นหมอง เขาไม่ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร ทุกอย่างนิ่งสนิท


“I want to have you by my side but I know it’s going to be a selfish. (ฉันอยากมีนายอยู่ข้าง ๆ แต่ฉันก็รู้ว่ามันเห็นแก่ตัว)” ไอติมพยักหน้าน้อยๆ


“Very much. (มากเลยแหละ)” แซ็คยิ้มบาง


“Your English has improved so much. (ภาษาอังกฤษของนายพัฒนาเยอะเลยนะ)” ไอติมคลี่ยิ้มบาง


“Can I move out from here? (ผมย้ายออกจากที่นี่ได้มั้ย)” รอยยิ้มของแซ็คลดน้อยถอยลงจนกระทั่งหายไปจากใบหน้า ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ มองอีกคนด้วยความรู้สึกหวิวใจ


“You can stay here actually, as a roommate. (อันที่จริงนายอยู่ที่นี่ได้นะ แบบรูมเมท)” ไอติมส่ายหัว


“No. I don’t think with you as a roommate. It’s not easy to stay with you as a roommate. I just tell I love you. (ไม่ ผมไม่ได้คิดกับคุณแบบเพื่อนร่วมห้อง มันไม่ง่ายกับผมเลยที่จะอยู่กับคุณแบบเพื่อนร่วมห้อง ผมเพิ่งบอกรักคุณนะ)” สีหน้าของแซ็คหม่นลงอีกครา แววตาเอื่อยล้า


“I got it. (ฉันเข้าใจ)” ไอติมเม้มปาก ยื่นมือขวาไปช้อนจี้สร้อยกระต่ายขึ้นมองแล้วยิ้มอ่อน


“You are my first love. (คุณคือรักแรกของผม)”


แซ็คยิ้มอ่อน “You too. (นายก็เป็นรักแรกของฉันเหมือนกัน)”


กระบอกตาไอติมร้อนผ่าว มือขวาปล่อยออกจากจี้กระต่าย เลื่อนสายตาขึ้นมองดวงตาสีเทาอ่อน พยายามฮึบน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา “At least you love me back. (อย่างน้อยคุณก็รักผมตอบ)”


แซ็คมองไอติมด้วยสายตาหวาดกลัว เขามีท่าทีสับสน จนกระทั่งมองหน้าไอติมอีกครั้ง เขาก็ถอนหายใจออกมา และพูดด้วยน้ำเสียงเบาหวิว


“Yes, I love you. (ใช่ ฉันรักนาย)” That’s why I don’t want to make you cry more. (ฉันถึงไม่อยากทำให้นายร้องไห้อีก) แซ็คต่อประโยคในใจ


ไอติมพ่นลมหายใจ น้ำใส ๆ ในดวงตาตอนแรกเหือดหายไปเพราะฝืนสู้กับมันจนชนะในที่สุด “I will move out tomorrow. I mean to day, morning. (ผมจะย้ายออกพรุ่งนี้ หมายถึงวันนี้ ตอนเช้าๆ)”


หัวใจแซ็คกระตุกวูบแล้วก็รู้สึกโหวงเหวงในช่องอก “Okay.”


“We still work together. Work is work. Love is love. Not same thing. (เราจะยังคงทำงานด้วยกัน งานคืองาน รักคือรัก ไม่ใช่อย่างเดียวกัน)” ไอติมยิ้มพร้อมกับถอนหายใจ แซ็คยิ้มตอบอย่างเศร้าสร้อย


“You can see me fuck other girl? (นายเห็นฉันเอากับผู้หญิงคนอื่นได้เหรอ)” ไอติมยิ้มมากขึ้นอีกนิด แซ็คพยายามยิ้มมากขึ้นให้ดูเป็นการแซว


“It’s your job. And I have your porn. Don’t forget it. (งานคุณนี่ แล้วผมก็มีหนังโป๊คุณ อย่าลืมสิ)”


“Ah, right. (อ้อ ใช่)” ทั้งสองคนมองตากันแล้วยิ้ม ก่อนที่ยิ้มนั้นจะลดลง แซ็คมองไอติมด้วยสายตาโหยหาทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ได้จากไป ไอติมเม้มปากแล้วยกตัวขึ้นนั่งคุกเข่า โน้มตัวไปกอดแซ็ค ขวัญใจไอติมยกสองแขนกอดตอบ


ต่างคนต่างลูบหลังให้กันและกันราวกับเป็นการปลอบ ดวงตาสดใสของไอติมหม่นหมอง ความเป็นประกายหายไป ความรู้สึกเหงาหงอยขึ้นมาจุกอยู่ตรงอก


แซ็คหลับตาลง หัวใจเต้นตุบ ๆ เป็นจังหวะหนักหน่วง ช่องอกกลวงโบ๋ ตอนที่ไอติมผละออกไป ความเย็นยะเยือกที่ไม่ใช่เพราะแอร์ก็พุ่งห่อล้อมตัวเขา


“Good night.” ไอติมหอมแก้มซ้ายของแซ็คหนึ่งทีแล้วลมตัวลงนอนบนเตียงฝั่งตัวเอง แซ็คมองไอติมด้วยสายตาหงอยเหงาก่อนจะพ่นลมหายใจ ลุกออกจากเตียงไปปิดไฟดวงใหญ่ในห้อง เดินกลับมานอนบนเตียง เขาเขยิบเข้าไปใกล้ไอติมและกระซิบเสียงเบา


“I want to hug you for one last time. (ฉันอยากกอดนายเป็นครั้งสุดท้าย)” รอไม่ถึงนาทีไอติมก็พลิกตัวเข้าหาเขา เขยิบหัวขึ้นไปนอนบนอกซ้ายของแซ็ค ฝรั่งตัวโตยกแขนซ้ายโอบไหล่ร่างเล็กไว้ ก้มลงหอมหัวไอติมหนึ่งครั้ง แล้วหลับไปในเวลาไล่เลี่ยกัน







ไอติมนอนไปได้แค่ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ตื่นก่อนใครในบ้าน ไอติมโทรหาเดนนี่ที่พอได้ยินเสียงแห้ง ๆ อันหม่นหมองของเขาก็ไม่บ่นอะไร รับปากแค่ว่าจะมารับ ไอติมเก็บของให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดีที่ไอติมยังไม่ได้เอาของออกจากกระเป๋าเยอะมาก เลยไม่ต้องวุ่นวายหลายนาที พอเก็บของเสร็จไอติมก็ออกไปทำกับข้าวให้สองหนุ่ม ซึ่งจะตื่นตอนไหนก็ไม่รู้ เพราะต่างคนต่างเมา ไอติมเลือกทำอาหารง่าย ๆ อย่างไข่เจียวหมูสับ ปลาแซลม่อนทอด และต้มจืดหมูเพื่อซดน้ำซุปร้อน ๆ ทำเสร็จแล้วก็เอาวางไว้บนเค้าน์เตอร์บาร์ที่ซื้อมาเมื่อวาน และเอาจานปิดอาหารแต่ละจานไว้


ไอติมเตรียมอาหารเสร็จก็เข้าไปอาบน้ำ ออกมาแต่งตัวข้างนอก แซ็คยังนอนหลับอยู่บนเตียง ไอติมมองร่างสูงใหญ่นอนนิ่งสักพักก่อนหันไปหยิบกระเป๋าเดินทางของตัวเองออกจากห้องนอน เอาไปวางไว้ตรงประตูบ้าน ไอติมหยิบกระดาษเอสี่ฉีกครึ่งมาเขียนด้วยภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ ว่าให้สองหนุ่มกินอาหารให้อร่อยแล้วเจอกันตอนทำงาน


Rrrr!


“ฮัลโหล… โอเค” ไอติมพูดเสียงเบา ยัดโทรศัพท์ลงไปในกางเกงยีน เดินไปเปิดประตูบ้านเบามือที่สุด ลากกระเป๋าเดินทางออกไป ดึงประตูห้องปิดตามหลัง ก่อนจะก้าวเท้าเดินเร็ว ๆ ไปทางลิฟต์






แซ็คลืมตาตื่นหลังจากแน่ใจว่าได้ยินเสียงปิดประตูห้องชัดแล้ว เขานอนแน่นิ่งมองเพดานอยู่ย่างนั้นหลายนาทีกว่าจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งอย่างเชื่องช้า เขาหันหน้าไปมองความว่างเปล่าของเตียงฝั่งไอติม หัวใจไหววูบ รูโหว่ในอกคล้ายจะขยายใหญ่ขึ้น บนโต๊ะเขียนหนังสือก็แทบไม่เหลืออะไรนอกจากถ้วยรางวัลของเขากับกรอบรูป


แซ็คพ่นลมหายใจ ลงจากเตียงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดออกก็เจอความว่างเปล่าครึ่งหนึ่งของตู้ที่ตอนแรกเป็นฝั่งใส่เสื้อผ้าของไอติม เขามองพื้นที่โล่งนั้นที่เหมือนรูโหว่ในอกของเขาด้วยความรู้สึกเหงา


เขารู้ว่าเดี๋ยวยังไงก็ได้เจอกันตอนทำงาน แต่…


แซ็คพ่นลมหายใจด้วยท่าทีเซื่องซึม หยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอว เปิดประตูห้องนอนออกไปก็เห็นจานอาหารวางบนเค้าน์เตอร์บาร์ที่ซื้อมาเมื่อวาน เขาเดินไปหยิบกระดาษขึ้นมาอ่านข้คอวามที่ไอติมเขียนแล้วยิ้มนิดหน่อยก่อนเอาวางไว้ตามเดิม หันไปมองเพื่อนที่นอนหมดสภาพแวบหนึ่งแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ


แซ็คมองแก้วใส่แปรงสีฟันด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวไม่ต่างจากแปรงสีฟันของเขาที่เหลืออยู่อันเดียว ดวงตาสีเทาอ่อนเลื่อนมองเงาหน้าตัวเองในกระจกที่ไร้ชีวิตชีวา จี้กระต่ายสีทองเด่นหราบนอกเปลือยของเขา


เหลือแต่สิ่งของ แต่คนให้ไปแล้ว


แซ็คผ่อนลมหายใจยาว หันไปเปิดฝักบัวรดหัวเพื่อให้รู้สึกเย็นชุ่มฉ่ำ เขาใช้เวลาอยู่ใต้ฝักบัวนานเท่าไหร่ไม่รู้ จนกระทั่งประตูห้องน้ำถูกเคาะและตามด้วยเสียงเรียกของเลโอ เขาจึงปิดฝักบัว หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดตัวจนแห้งและเช็ดหัวหมาดๆ


“ไอศกรีมไปไหนวะ” เลโอถามด้วยท่าทีตกใจ มือขวาชูกระดาษที่ไอติมเขียนทิ้งไว้ แซ็คเดินผ่านเพื่อนไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาน้ำดื่ม แต่ก็ตอบคำถามเพื่อนไปด้วย


“ย้ายออก”


“ฮะ? อยู่ยังไม่ถึงสามวันเลยนะ” แซ็คกระดกน้ำเปล่าในแก้วขึ้นดื่มไปหลายอึกก่อนตอบ


“จะกี่วันก็คือเขาย้ายออก”


“ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า” แซ็คนิ่ง


“ความคิดเห็นไม่ตรงกัน” มันไม่ใกล้เคียงคำว่าทะเลาะกันเลยสักนิด เพียงแต่ต่างคนต่างมีความคิดที่ไม่อาจหาทางมาบรรจบกัน


 “อะไรของแกสองคนวะ” เลโอถามด้วยความไม่เข้าใจ แน่ล่ะ จะเข้าใจได้ยังไง แต่เขาก็ต้องเค้นเพื่อนตัวเองเพื่อให้เข้าใจให้ได้


“ฉันออกมาจากห้องน้ำ แกต้องเล่าให้ฉันฟัง” แซ็คไม่รับปาก หมุนตัวเดินไปนั่งบนเก้าอี้ทรงสูงตรงเค้าน์เตอร์บาร์ นั่งมองอาหารที่ไอติมทำไว้ให้ด้วยสายตาเหม่ออยู่พักหนึ่งก่อนจะลุกเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ เปิดลิ้นชักโต๊ะหัวเตียงฝั่งตัวเอง หยิบกล่องเหล็กสีเงินออกมาหนึ่งกล่องแล้วเดินออกไปนอกห้องนอน


“ไอ้ไบรอั้น มานั่งคุยกันก่อน…” คนโดนเรียกทำท่าจะเดินออกไปนอกระเบียง


“…ไอศกรีมทำอาหารไว้ให้ แกไม่คิดจะกินหน่อยเหรอ มันอาจเป็นมื้อสุดท้ายที่แกได้กินฝีมือเขาแล้วนะ” แซ็คยืนนิ่งอยู่กับที่ สายตามองทะลุประตูกระจกบานเลื่อนไปยังผืนทะเล


‘ตอนมาถึงนี่ผมบอกเพื่อนว่าอยากมีห้องพักใกล้กับทะเลแหละ’


“เพราะมันอาจเป็นมื้อสุดท้าย ฉันเลยไม่อยากกิน…” แซ็คพึมพำกับตัวเองแบบที่แน่ใจว่าเลโอจะได้ยินแบบแว่ว ๆ เขาพ่นลมหายใจ หมุนตัวเดินกลับไปหาเลโออย่างเชื่องช้า วางกล่องเหล็กในมือไว้บนเค้าน์เตอร์บาร์ติดกับผนังห้อง กระเถิบตัวเองขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ทรงสูง


“แกกับไอศกรีม ยังไงกัน” แซ็คส่ายหัว หยิบจานที่ปิดอาหารออก


“ถ้าแกยังชอบกระต่ายตัวนั้นอยู่ แกก็ไปดูแลให้ดี”


“ได้ไง ยกให้กันง่าย ๆ แบบนี้ทั้งที่ทำหวงก้างแทบตายน่ะเหรอ” แซ็คหันไปมองเลโอแล้วกลอกตาหนึ่งครั้ง


“แกไม่ชอบเด็กนั่นแล้วเหรอ”


“ฉันชอบ แต่เขาไม่ชอบฉัน และถ้าฉันจะได้ไอศกรีม เขาจะต้องไม่ใช่ของเหลือจากแก” แซ็คตักแซลม่อนออกมาชิ้นพอดีคำและส่ายหัว


“ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน และคงไม่ได้เป็น…” แซ็คถอนหายใจ เขาไม่ชอบเล่าเรื่องส่วนตัว ความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้ใครฟัง จนกระทั่งมีไอติมเข้ามาในชีวิต เขาก็อยากจะระบายความรู้สึกนั้นออกมา เพราะไอติมเป็นสีขาว ขณะที่รอบตัวเขานั้นเป็นสีดำ สว่างสุดก็คือสีเทา


“…ฉันมีอิสระในชีวิตมานานเกินไป” เลโอตักแซลม่อนทอดเข้าปากบ้าง


“งั้นก็ถือว่าแกยังไม่ชั่วเท่ากับที่ฉันเคยปรามาสไว้” แซ็คยิ้มขำบางเบา


“ถ้าฉันไม่รู้สึกรักกระต่ายตัวนั้นขึ้นมาก่อน ฉันก็อาจจะเป็นไปอย่างที่แกว่า” เลโอถอนหายใจ เพิ่งรู้ตัวว่า ถึงรู้ว่าเพื่อนกำลังเป็นอะไร แต่เขาก็ช่วยอะไรเพื่อนไม่ได้อยู่ดี เลโอยกมือซ้ายไปตบบ่าเพื่อนเบา ๆ แซ็คเขยิบตัวลงจากเก้าอี้ หยิบกล่องเหล็กติดมือเดินไปตรงประตูระเบียงเงียบ ๆ คนเดียว

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 25-04-2019 20:03:52
V
v
v

“รบกวนอีกทีนะโรเบิร์ต” เดนนี่บอกน้องชายที่ต้อนรับอย่างเป็นมิตร ไอติมเอ่ยทักทายรูมเมทของโรเบิร์ตที่ต้อนรับอย่างเป็นมิตรเช่นกัน สองเพื่อนซี้ยกกระเป๋าเข้าไปในห้องนอนห้องเดิมของไอติมในหอพักของโรเบิร์ต


“แล้วเวลามึงจะไปทำงาน จะทำยังไง”


“รถไฟใต้ดินกับรถเมล์ไง มึงก็ช่วยฝึกกูขึ้นสิ”


“เหมือนฝึกหมาอะเหรอ” ไอติมถลึงตาใส่เพื่อนที่ยิ้มยียวน ไอติมกดเปิดแอร์แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียง ถอดกระเป๋าเป้ออกจากทางด้านหลัง เอาแขวนไว้กับหัวเตียง หันไปมองเดนวางกระเป๋าลากใหญ่ไว้ข้างโต๊ะเขียนหนังสือแล้วก็ถอนหายใจ เดนนี่หันไปมองเพื่อนก่อนเดินไปนั่งข้าง ๆ บนเตียง


“อยากเล่ามั้ย” ไอติมนิ่งเงียบสักแปบก็ล้มตัวลงนอนบนตักของเพื่อน


“กูสารภาพรักกับแซ็ค” เดนนี่มีทีท่าประหลาดใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเหวอหรือตกใจแบบใจหายใจคว่ำ


“สภาพงี้อกหัก?” เดนนี่ยกมือขวาลูบหัวไอติม


“ไม่หรอก แซ็คเขาก็รักกู”


“แล้วทำไมซึม แถมยังหนีออกมาอยู่ข้างนอกอีก” ไอติมพ่นลมหายใจยาว ๆ ใบหน้าหม่นแต่ก็ไม่ถึงกับอมทุกข์ เดนนี่เลื่อนมือจากหัวไอติมไปวางบนไหล่ของเพื่อน


“รักกันแต่คบกันไม่ได้ มันมีมาก่อนกูกับเขาใช่มั้ยเดน” เดนนี่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ แต่ก็พอจะเริ่มคลำทางได้


“เยอะแยะ หลายเหตุผลว่ากันไป ของมึงเหตุผลอะไรล่ะ” เดนไม่ได้คาดคั้นว่าจะต้องได้คำตอบ ถ้าเพื่อนตอบก็คือเขารู้ แต่ถ้าไม่ตอบเขาก็แค่ไม่รู้เท่านั้นเอง


“แซ็คเหมือนพ่อ…” ไอติมย่นคิ้วนิดหน่อย


“…ก็ไม่ได้เหมือนขนาดนั้น คือเขาคะแนนความซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียวน้อย”


“ระหว่างพ่อมึงกับขวัญใจมึงคนไหนคะแนนน้อยกว่ากัน” ไอติมนิ่งคิด พ่อนี่น้อยจนติดลบ แต่กับแซ็ค…


“ไม่รู้”


“ไม่ลองเรียนรู้กันหน่อยเหรอ” ไอติมส่ายหัวทั้งที่ยังนอนอยู่ตักเดน


“ถ้าเป็นแบบนั้นความรู้สึกกูก็จะยิ่งถลำลึก แล้วยิ่งลึกกูก็ยิ่งจะถอยออกมายาก” เดนนี่ยิ้ม


“ครั้งนี้มึงเลยถอยออมาก่อนว่างั้น” ไอติมพยักหน้า


“เขาเปลี่ยนไม่ได้ กูรับไม่ได้ มันยากนะเดน…” ไอติมขมวดคิ้วนิดหน่อย


“…แต่กูก็เข้าใจธรรมชาติของเขาแหละ”


“เข้าใจจริงรึเปล่า”


“อื้อ จริง เข้าใจ แต่ทำใจยอมรับกับธรรมชาตินั้นไม่ได้”


“มึงโตขึ้นจริง ๆ แหละติม” ไอติมส่ายหัวช้าๆ


“ไม่หรอกเดน กูยิ่งเด็กกว่าเดิมด้วยซ้ำ กูอยากให้แซ็ครักกูคนเดียว มีกูคนเดียว เอากูคนเดียว อยากให้เขาเป็นของกูคนเดียว…” ไอติมกลอกตาไปมาก่อนเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง


“…แต่กูโอเคนะถ้าเขาเอาผู้หญิงคนอื่นเวลาถ่ายหนัง” เดนนี่ย่นคิ้ว


“อะไรของมึงวะ ซอยความรู้สึกกี่ชั้นเนี่ย” ไอติมมองข้างบนและทำท่าครุ่นคิด


“ก็แบบ มันเป็นงานไง เหมือนนักแสดงทั่วไปที่ต้องมีฉากจูบ ฉากเลิฟซีน แค่อันนี้เอาจริง แตกจริงแค่นั้นเอง เข้าใจได้และยอมรับได้อะ” เดนนี่ยังคงย่นคิ้วและยกมือขวาเกาหัวเบาๆ


“ละลองคุยกันจริง ๆ จัง ๆ ยังว่าจะเอายังไง ว่ามึงคิดแบบนี้” ไอติมทำปากยื่น


“คุยไปแล้วจะได้อะไร ยังไงเขาก็ไม่หยุดที่กูคนเดียว” เดนนี่ถอนหายใจ ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะเป็นการนำไฟในออกและนำไฟนอกเข้ามาหรือเปล่า


“กูไว้ใจมึงนะ…” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะพยักหน้ารัว ๆ อย่างแข็งขัน


“…พ่อกูมีผู้หญิงคนอื่น ยังไม่ถึงขั้นเมียน้อย แต่ก็ไปมาหาสู่กันบ่อย” ไอติมอ้าปากหวอด้วยความตกใจ นึกถึงหน้าพ่อเดนที่ดูอบอุ่นและใจดีแล้วก็รู้สึกแปลกพิกลเมื่อได้ยินเรื่องแบบนี้


“จะ… จริงเหรอ” เดนนี่กดหน้าลงหนึ่งครั้ง


“แล้วแม่ล่ะ แม่รู้มั้ย แม่ว่ายังไงบ้าง”


“แม่รู้ แต่แม่เลือกปิดตาข้างนึง…” ไอติมชะงักนิ่ง เพราะเป็นประโยคเดียวกับที่น้าแพนพูด


“…พ่อยังเป็นพ่อที่ดีของกู ยังเป็นสามีที่ดีของแม่ ถึงใครจะบอกว่าคนดีต้องไม่ทำแบบนี้ แต่กูกับแม่ว่าดี ก็จบป้ะวะ…” เดนนี่หัวเราะ ไอติมมองสำรวจสีหน้าและแววตาของเพื่อน พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีทีท่าเศร้าสร้อยก็เบาใจ


“…เขายังกลับมา และเขาก็เป็นแบบเดิม”


“แล้วถ้าวันนึงเขาไปล่ะ เหมือนพ่อกู” เดนนี่ไหวไหล่


“คนจะไปก็ต้องไป อะไรก็รั้งเขาไม่ได้ แม่กับกูไม่ได้รั้งเขาเลยนะ ไม่พูดถึงด้วย กูมองว่าถ้าเขายังดูแลฝั่งนั้นไม่ให้มาระรานแม่ได้ กูก็โอเค เพราะเขายังดูแลแม่กับกูในฐานะหัวหน้าครอบครัวได้ดีเหมือนเดิม”


“แม่มึงอาการเป็นไงอะ ของแม่กูแม่ร้องไห้เสียใจมาก แต่ไม่เคยไปตามราวีเมียน้อยนะ มีแต่เมียน้อยมาวุ่นวาย” เดนนี่ยิ้มบางเบา


“ไม่มีไม่เสียใจหรอก เขาก็เยียวยาตัวเองจนเขาอยู่เป็นและอยู่ได้ ตอนแรกเขาก็อยากหย่า แต่พ่อกูเขาเหมือนเดิมทุกอย่าง แค่เขามีแหล่งปลดปล่อยที่อื่น…” เดนนี่มองสีหน้าครุ่นคิดของไอติมแล้วถอนหายใจ


“…กูไม่ได้มาเรียกร้องให้มึงเห็นใจขวัญใจมึง หรือพยายามโนมน้าวว่าเรื่องแบบนี้มันปกติ หรือเอาสัญชาตญาณผู้ชายมาอ้าง เพราะไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่เป็นแบบพ่อมึง พ่อกู หรือขวัญใจมึง” ไอติมหรี่ตา


“แล้วมึงล่ะ เป็นด้วยเปล่า มึงก็ใช่ย่อยน้าเดน” ไอติมยิ้มแซว ยักคิ้วหลิ่วตาอย่างแพรวพราว


“ตั้งแต่เอามึงครั้งนั้น กูก็ไม่ได้แม้แต่ชักว่าวเหอะ” ไอติมตาโต


“จริงอ้ะ?”


“กูบอกว่าจริง ถ้ามึงไม่เชื่อก็คือไม่จริง” ไอติมหัวเราะคิกคักสักพักก่อนจะทำปากจู๋แล้วพ่นลมหายใจเบาๆ


“กูไม่รู้จะทำยังไงดี กูไปไม่ถูก จะให้กูยอมรับกับตรงนั้นเหรอ ถ้าคบกัน เขาเป็นแฟนคนแรกกูเลยนะ” เดนนี่มีสีหน้ายุ่งยาก


“กูก็ไม่รู้จะพูดไงว่ะ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่มึงตกลงกัน ถ้าหาทางเดินร่วมกันได้ก็สบาย…” เดนนี่ย่นคิ้วท่าทางนึกคิด


“…พระเอกหนังโป๊บางคนแต่งงานแล้ว แต่ก็ยังถ่ายงานพวกนี้อยู่ แล้วก็บางคนอาจมีนอกรอบ มึงไม่ลองขอคำปรึกษาเขาดูล่ะ” ไอติมที่กำลังเหม่อลอยส่ายหน้าช้าๆ


“ไม่ต้องหรอก ปรึกษาไปแล้วได้อะไร ถ้าใจกูไม่โอเค ถึงจะได้มุมมองใหม่ ๆ แต่มันอยู่ที่ใจกูทั้งนั้น”


“แล้วมึงจะให้มันเป็นไปอย่างนี้ใช่มั้ยล่ะ” ไอติมหน้าเศร้านิดหน่อย


“ตอนนี้กูยังไม่ได้รักเขามาก ซึ่งกูไม่รู้ว่าตัวเองจะรักได้มากอีกแค่ไหน และใจกูจะมีลิมิตเท่าไหร่…” แววตาที่เคยสดใสเปล่งประกายทอแสงหม่นหมองไร้แววซุกซน


“…ตอนนี้กูยังพอเบรกตัวเองได้ ก็เบรกไว้ก่อนแล้วกัน”


“ระวังเบรกแตกนะมึง”


“ก็ไม่เบรกแล้วละถ้าอย่างนั้น” ไอติมยิ้มขำบางเบา เดนนี่มองเพื่อนแล้วยิ้ม ยกมือขวาไปขยี้หัวเพื่อน


“มึงโตแล้ว ความคิดมึงไม่ง๊องแง๊งอีกแล้ว ทีนี้ก็ใช้ทั้งสมองและใจควบคู่กันไป”


“กูแค่กลัวว่า ถ้าวันนึงคนที่เขานอนด้วยเป็นคนเดียวกับที่เขาถูกใจ…” ไอติมเม้มปาก เดนนี่มองเพื่อนด้วยความเข้าใจ


“ถ้าเขารักมึงตอบ อย่างน้อยมึงก็มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่น หรือมึงอินกับประโยคที่ว่า อยากเป็นหนึ่งเดียวไม่ได้อยากเป็นที่หนึ่ง?” ไอติมย่นคิ้วคิดตามประโยคของเพื่อนก่อนจะขยับหน้าไปทางขวา เปลือกตาหรี่ลง


“อืม ก็ไม่ได้อินขนาดนั้นอะ แต่…” ไอติมเบิกตากว้างแวบหนึ่งแล้วตามด้วยไหวไหล่สองข้างขึ้น


“มึงนี่เอาใจยากจริง แล้วมึงก็เห็นแก่ตัวด้วยนะเนี่ย”


“ยังไง กูเห็นแก่ตัวอะไรเนี่ย”


“มึงคิดแต่จะมีความสุขอย่างเดียวเลย…” ไอติมอ้าปากจะพูด เดนนี่ยกมือขึ้นห้าม


“…กูรู้ว่ามันไม่ผิด มันสิทธิ์ของมึง”


“ก็ใช่ไง สิทธิ์ของกูที่อยากมีความสุขอะ” ไอติมเถียงเป็นเด็กดื้อ เดนนี่ยกมือขวาผลักหน้าผากไอติมจนหน้าหงาย


“เอาแค่ความรักปกติทั่วไปเลยนะ ไม่มีหรอกที่จะสุขสมหวังดังใจมึงไปทุกเรื่อง”


“แต่เรื่องนี้มันหนักหนากะใจกูนะเดน”


“แต่มึงก็รักเขา” ไอติมพยักหน้าทั้งที่ปากเริ่มเบะ


“กูยังจำความรู้สึกตอนเห็นเขานอนกะคนอื่นที่ไม่ใช่แค่ในจอได้อยู่เลย” ริมฝีปากสีแดงเบะคล้ายจะร้องไห้ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะปล่อยโฮออกมา


“แต่มึงก็รับรู้แล้ว ต่อไปมึงอาจจะไม่รู้สึกแบบเดิมแล้วก็ได้นะ” ไอติมหน้ามุ่ยใส่เดน


“นี่มึงจะให้กูคบกับแซ็คให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย”


“เอ๊า หรือมึงไม่อยากคบเขา”


“อยาก! แต่ก็พูดอยู่เนี่ยว่าเขาเลิกนิสัยล่าเหยื่อไม่ได้!”


“มึงก็กำหนดไปเลยสิว่าล่าได้มากแค่ไหน พื้นที่ล่าเป็นยังไง ถ้ามันยังไม่ถึงขั้นเป็นโรคติดเซ็กซ์ น่าจะคุยกันได้อยู่แหละ” ไอติมชะงัก เดนนี่เลิกคิ้วมองเพื่อน พักนึงไอติมก็พ่นลมหายใจแรง ๆ และบู้ปาก ก่อนที่เสียงท้องร้องจะดังขึ้นกลบบรรยากาศในห้องนอน


“ไปกินข้าวกันเหอะ หิว” 








เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



 :mew6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-04-2019 20:22:02
พบคนลัครึ่งทางได้มั้ย น้องก็ยอมบ้าง ขอแค่ป้องกัน แบบมีขอบเขตอ่ะ แซคก็พยายามลดๆลง ไรงี้ เดี๋ยวก็เลิกได้เอง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-04-2019 20:41:03
เป็นกำลังใจให้น้องติมค่ะ ถ้าเขาเลิกไม่ได้ก็ปล่อยเขาไปค่ะลูก  :hao5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 25-04-2019 21:03:29
แซคแล้วเทอจะเสียใจที่ปล่อยกระต่ายน้อยกลับบ้าน!!!!
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 25-04-2019 22:18:31
แดนติมเถอะ....สงสารน้อง  :z3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 25-04-2019 22:25:45
ขอฉาก love love ไอติม เดนนี่ เยียวยา ด่วนๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-04-2019 23:07:04
ติม หาพระเอกหนังโป๊คนใหม่เถอะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 25-04-2019 23:17:31
 :sad4:  :sad4:  :sad4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: waragorn ที่ 25-04-2019 23:55:54
เห็นแล้วเศร้า เรื่องพวกนี้ก็แล้วแต่คนจะคิดเนอะ จริงๆแล้วเรื่องพวกนี้ติมก็ให้แซคได้ตลอดนะ หรืออาหารมันจำเจต้องมีของมาล้างปากถึงจะกินต่อได้ :z6: หรืออาจจะเพราะเคยชินกับการมีอะไรกับคนอื่นได้ง่ายๆไม่ต้องคิดอะไร :katai1: อยากให้แซคปรับตัวเองให้ดีขึ้น
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 26-04-2019 02:14:20
คือชอบน้องแต่ยังเลิกล่าเหยื่อไม่ได้ อย่างน้อยที่ผ่านมาก็ควรระวังหน่อยดิ นี่คือให้น้องเห็นจะ ๆ ขนาดนั้นใครมันจะทำใจรับได้อ่ะ แล้วน้องเพิ่งยี่สิบต้น ๆ อ่ะ เพิ่งมีความรักครั้งแรกจะไปมีภูมิต้านทานอะไรกับเรื่องนี้ได้อ่ะ แบบปิดตาข้างนึงนี่น้องทำไม่ได้หรอกตอนนี้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 26-04-2019 02:28:15
ทัศนคติเรื่องพวกนี้ของไรท์กับเราน่าจะต่างกันเยอะเลย เหมือนจะพยายามอธิบายว่าการมีแฟนคนรักหรือคู่ชีวิตแล้วและมีคนอื่นด้วยเป็นเรื่องปกติอะค่ะ อืม ต่างคนต่างความคิดแหละเนอะ คิดแบบนั้นก็อาจจะไม่ผิดแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครหลายคนตะยอมรับได้ รวมทั้งเราด้วย5555555 ถ้าแซ็คยังหยุดไม่ได้ก็ปล่อยติมไปละดีแล้ว ติมเจอต้องเจอผู้ชายเห็นแก่ตัวตั้งแต่พ่อยันผัวไม่ไหวอะ สงสาร ปล่อยไปตลอดเลยก็ได้นะ55555 เชียร์เดนนี่ค่ะ งู้ยยยยย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 26-04-2019 02:49:33
นี่ว่าอิแซคลดไม่ได้หรอก เหมือนไปบังคับธรรมชาติของนางอ่ะ ซึ่งนางก็พูดชัดอยู่แล้ว จะทำอะไรก็คิดดีๆนะติม อย่าวู่วาม :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: องศาวาย ที่ 26-04-2019 06:07:43
เข้าใจติมนะที่ทนมองเขามีอะไรกับคนอื่นเพราะงานได้ แต่นอกงานถ้ายังทำอีกก็ไม่โอเคป่ะ มันบั้นทอนจิตใจมากนะ มองคนที่รักมีอะไรกับคนอื่นต่อหน้าต่อตา แค่งานก็เกินพอละ ถอยออกมาแบบนี้ดีแล้ว ตั้งหลักแล้วเริ่มใหม่ดีกว่า อย่าเอาตัวเข้าไปให้หนายใจเลย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 26-04-2019 07:31:10
น้องติมสิ่งที่หนูทำมันดีสำหรับหนูแล้วลูก อย่าไปเชื่อเดนนี่
ปล่อยนังแซ็คไป ถ้าเค้ารักเราเค้าต้องมีเราคนเดียวลูก เชื่อแม่!!!!
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 26-04-2019 09:59:58
วุ้ยยยยย บอกแล้วว่าน่าตีตูดทั้งคู่ ถึงแม้จะรักกันแต่ในใจยังไม่พร้อมจะก้าวไปด้วยกันได้ แบบนี้ดีแล้วที่ห่างกันตอนนี้จะได้เรียนรู้กันเพื่อรอจนกว่าที่ความรู้สึกของต่างคนต่างก็คิดว่าความห่างกันมันคือความทรมานที่ขาดกันไม่ได้
เมื่อนั้นแหล่ะความแซ่บที่เก็บกักไว้ในอกมันทะลักคาดว่าอิป้าคนนี้คงสำรองเลือดไว้หลายลิตรล่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 26-04-2019 10:40:35
ไม่คิดว่าจะเสียน้ำตาเพราะเรื่องนี้เลยง่ะ 55

แต่เข้าใจทั้งสองคนแล้วก็เค้าก็เข้าใจตัวเองอ่ะ

ถ้ารับไม่ได้ เปลี่ยนไม่ได้ มันก็ต้องใช้เวลามาเปลี่ยน
น้องติมทำถูกแล้ว  :เฮ้อ: :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: jin_kazu ที่ 26-04-2019 12:14:07
ถอยออกมาดีแล้วน้องติม สู้ๆน้าาาา *กอด*
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 26-04-2019 21:05:22
เฮ้ออออ เอาเป็นว่าเอาใจช่วยทุกคนก่อนละกันเนอะ สู้ๆ นะไอติม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺHollow. : 25.04.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Alicegalholic ที่ 01-05-2019 02:43:15
นิยายเรื่องนี้สะท้อนสังคมมากๆเนอะ เราเจอตามชีวิตจริงหรือคนรอบตัวนะ แต่ขอบอกเลยว่ารอฉากพระเอกที่แท้จรีง(สำหรับเรา)อย่างเดนนี่มากๆๆ 5555555555  :กอด1:  :z10: :oo1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-05-2019 19:34:00

Fall in lust - Chapter 36 :: Illuision. (ภาพลวง)





“ฉันไม่เจอแกแค่สี่วัน ไปทำอะไรมา” เจมส์ขมวดคิ้วมองเพื่อน สำรวจใบหน้าแห้ง แลดูหยาบกร้าน ขนาดแก้มทั้งสองข้างลดลงจากปกติ แววตาลึกโหลและขอบตาก็คล้ำจนแทบจะเป็นดำ

           

 

“มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นสักหน่อยน่า” คนถูกทักบอกเสียงเฉื่อย หน้าตาหดหู่และเหนื่อยหน่าย เจมส์มองเพื่อนด้วยสายตาเคลือบแคลง

           

 

“ใช่ มันไม่ได้แย่ถึงขั้นเลวทราม แต่วันนี้แกจะถ่ายแบบ แล้วแกต้องการออร่า แต่แกไม่มีเลย” หนุ่มอเมริกันขมวดคิ้ว สีหน้าแสดงออกถึงความรำคาญเล็กๆ

           

 

“แล้วจะมีรีทัชไว้ทำไม จะมีเครื่องสำอางไว้ทำไม” แซ็คว่าเสียงแข็ง มองเจมส์ตาแข็งพอ ๆ กับเสียง เจมส์ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือผงะ แต่กลับยิ่งมองเพื่อนด้วยความเคลือบแคลงมากขึ้น

           

 

“มีหน้าที่อะไร ก็ทำไปสิ จะมาวุ่นวายอะไรกับฉันนักวะ”

           

 

“คิดว่าฉันอยากวุ่นวายกับแกนักเหรอ ปกติฉันวุ่นวายกับแกเหรอ แต่ที่แกเป็นอยู่มันส่งผลกับงาน” เจมส์เสียงแข็งกลับ และมองแซ็คนิ่ง ไม่มีทีท่าเกรงกลัว แซ็คย่นคิ้ว ดวงตาสีเทาอ่อนมองเพื่อนอย่างหงุดหงิด

           

 

“งั้นฉันไม่ทำ”

           

 

“เรื่องของแกสิ” เจมส์ลุกขึ้นเดินออกไปจากบริเวณโซนแต่งหน้าแต่งตัวในบ้านของลูคัสที่วันนี้ถูกเนรมิตเป็นสตูดิโออีกครั้ง เลโอที่มองเหตุการณ์อยู่ก่อนแล้วรีบก้าวเท้าเดินเข้ามาจับไหล่เจมส์ไว้

           

 

“เฮ้ ไม่อยากพูดนักหรอกนะ เพราะโคตรเชย แต่ใจเย็นก่อนได้มั้ย” เจมส์ไม่ได้กระฟัดกระเฟียดใส่เลโอ ก็แค่ยืนอยู่กับที่ไม่ได้คิดจะเดินหนีหรือต่อต้าน

           

 

“ไม่ ฉันโอเค ไม่ได้ใจร้อนอะไรเลย” เลโอพ่นลมหายและพยักหน้า มองไปทางแซ็คที่นั่งหน้ามุ่ยไม่สนใจใครอยู่จุดเดิม

           

 

“ฉันว่านายอาจจะเดาออก” เจมส์พยักหน้า

           

 

“เล่นหนักแค่ไหน”

           

 

“ตั้งแต่เช้าวันที่ไอศกรีมย้ายออกไปก็…” เจมส์ขมวดคิ้ว

           

 

“…อะไรนะ ไอติมย้ายออกจากห้องนั้นแล้วเหรอ” เลโอพยักหน้า ไม่ได้มีสีหน้าประหลาดใจที่อีกฝ่ายไม่รู้ ไม่ใช่แค่เจมส์หรอกที่ไม่รู้ ยังไม่มีใครรู้เลยดีกว่า 

           

 

“หลังจากฉลองบ้านใหม่ได้วันนึง เช้ามาก็ย้ายออก แล้วก็…” เลโอผายมือไปทางแซ็ค และทำหน้าลำบากใจ

           

 

“…ไบรอั้นมันก็จัดหนัก กลิ่นฟุ้งจนฉันเองก็ต้องขนของหนีออกก่อนกำหนด ดีนะที่ฉันแวะไปดูมัน ไม่งั้นวันนี้มันไม่มาทำงานหรอก”

           

 

“ทำไมล่ะ”

           

 

“มันไม่อยากออกจากห้อง สภาพห้องมันอย่างกับมิติลี้ลับ” เจมส์อ้าปากค้าง เลโอพยักหน้ายืนยันคำพูดของตัวเอง เจมส์รู้สึกเป็นกังวลใจจากสิ่งที่ได้ยิน

           

 

“ท่าไม่ค่อยจะดีแล้ว” เจมส์พึมพำและหันไปมองแซ็ค อีกฝ่ายลุกเดินเข้าไปทางในครัว เจมส์เดาว่าคงเดินไปหลังบ้าน

           

 

“ไม่ดีเลยละ” เลโอพูดอย่างเห็นด้วย

           

 

“ไอติมรู้เรื่องรึยัง” เลโอส่ายหัว

           

 

“นายคิดว่าไอศกรีมควรรู้เรื่องนี้เหรอ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขาเลยนะ” เจมส์ถอนหายใจแผ่วเบา

           

 

“ก็จริง” เลโอถอนหายใจบ้าง สีหน้าของเขาหนักใจ และในใจก็นึกเป็นห่วงเพื่อน

           

 

“แต่ถ้าวันนี้เขารับรู้ ก็แล้วแต่ไอศกรีมแล้วกันว่าจะยังไง” เจมส์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย มันไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการจัดการให้ หรือไปบอกให้ไอติมทำอย่างงั้นอย่างงี้

           

 

“มีอะไรกันรึเปล่า” ลูคัสเดินเข้ามาถาม มองสลับทั้งสองด้วยความงุนงง

           

 

“แค่คิดว่าวันนี้น่ะ ไบรอั้นจะทำงานได้หรือเปล่า” ลูคัสมองเจมส์อย่างประหลาดใจ

           

 

“ทำไมเหรอ ฉันยังไม่เห็นหมอนั่นเลย”

           

 

“ไปทางหลังบ้านแล้ว” ลูคัสย่นคิ้ว เลโอเลยทำนิ้วคีบให้ดู ลูคัสยังคงขมวดคิ้วอยู่ ไม่เข้าใจว่านั่นหมายถึงอะไร จนเจมส์บอกถึงได้ร้องอ๋อ

           

 

“เดี๋ยวฉันคงต้องรอเห็นกับตาอีกที” เจมส์กับเลโอพยักหน้า

           

 

“แล้วประเด็นมันคืออะไร” เลโอขอตัวไปเตรียมตัว ลูคัสพยักหน้า เจมส์หันไปยืนคุยกับลูคัสตรงๆ

           

 

“เดาว่าน่าจะเพราะไอติม” ลูคัสย่นคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ถึงกับงงจนคิดอะไรไม่ออก ก็แค่ไม่รู้ว่าที่ตัวเองคิดนั้นถูกประเด็นหรือเปล่า

           

 

“แต่ไอศกรีมดูปกติมาก เพิ่งคุยกันเมื่อคืน เขาก็… ดูมีชีวิตชีวาเหมือนเคยนะ” เจมส์ยิ้มมุมปาก

           

 

“ไม่แปลกหรอก เอาเป็นว่าคุณลองไปเช็กสภาพไอ้พระเอกนั่นดูก็แล้วกันว่าวันนี้มันจะขายออกมั้ย” เจมส์เดินผ่านลูคัสกลับไปยังในส่วนทำงานของตัวเองเพื่อรอจัดการเสื้อผ้าหน้าผมให้กับเหล่านายแบบในวันนี้

           

 

“โอ้ว เฮ้ เทสต์กล้องได้เลยนะ” ลูคัสตะโกนบอกดัสตินกับทีมตากล้อง ทั้งช่างกล้องภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว แล้วก็ช่างไฟ ฝ่ายตกแต่งภาพ

           

 

ลูคัสพ่นลมหายใจแผ่วเบา ก้าวเท้าเดินไปทางหลังบ้านเพื่อไปเช็กสภาพของเพื่อนซี้ต่างวัย เขาดันประตูหลังบ้านบานใหญ่ หันไปมองทางม้านั่งมุมด้านขวามือก่อนเป็นที่แรก แล้วก็เจอไบรอั้นกำลังนอนเหยียดขาอยู่บนนั้น มีเสื้อแจ็คเก็ตพาดปิดตากันแสงแดดที่ไปไม่ถึงตรงจุดที่เจ้าตัวนอน ร่างสูงใหญ่ล้ำบึ้กเดินไปยืนตรงหน้าม้านั่ง

           

 

“ไบรอั้น”

           

 

“…”

           

 

“เฮ้”

           

 

“…”

           

 

“ถึง…” ลูคัสชะงักและนึกอะไรขึ้นได้

           

 

“…ไอศกรีมถามหา” แม้จะไม่ใช่อาการที่เกิดขึ้นในทันทีแบบฉับพลัน แต่มือขวาของไบรอั้นก็ยกขึ้นดันเสื้อแจ็คเก็ตขึ้นไปกองไว้บนหน้าผากของตัวเอง ค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมอง และแม้ว่าแดดจะไม่ได้แรง แต่อีกฝ่ายกลับหรี่ตามองเพื่อนนักกล้าม

           

 

“ถามหาทำไม” ลูคัสส่ายหน้านิ่ง

           

 

“เปล่า เขาไม่ได้ถามหา ยังไม่มาด้วยซ้ำ และไม่รู้ว่าจะมาหรือเปล่า” แซ็คเงียบ หลุบตาลงมองพื้นหญ้านิ่งครู่หนึ่งก่อนที่จะดึงเสื้อลงมาปิดตาตัวเองต่อ

           

 

“นายทำงานไหวหรือเปล่า” ลูคัสทันเห็นภาพความโทรมหม่นหมองของอีกฝ่าย และถึงแม้จะไม่เห็นทั้งหน้า แค่เห็นหนวดเคราขึ้นครึ้มกว่าปกติก็รู้แล้วว่าสภาพเยินพอสมควร

           

 

“แต่นายต้องทำนะ มันคือหน้าที่ จะให้เรื่องส่วนตัวมาทำให้งานเสียแบบนี้ไม่ได้…” คนบนม้านั่งนอนเงียบ ลูคัสไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจหรืออ่อนใจ เขาแค่ยืนมองอีกฝ่ายอย่างสงบ

           

 

“…จะยอมปีกหักกลับไปอยู่กรงเดิมก็แล้วแต่ ฉันและทุกคนช่วยกันเต็มที่ ไอศกรีมก็ซัพพอร์ตนายอย่างดีที่สุดแล้ว ถ้ามันจะกลับไปติดวังวนเดิม ก็ช่างมัน” ลูคัสเดินกลับไปเปิดประตูอย่างไม่รีบร้อน ก่อนหายกลับเข้าไปในบ้าน

           

 

ร่างสูงใหญ่อีกร่างที่นอนเหยียดอยู่บนม้านั่งพ่นลมหายใจยาว ๆ ก่อนดันตัวลุกขึ้นนั่ง เสื้อแจ็คเก็ตหล่นลงไปกองบนตัก เผยให้เห็นสภาพใบหน้าหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้าน หนวดเคราขึ้นเป็นดง แต่ยังไม่ถึงกับทึบมาก ใต้ตาคล้ำ และเบ้าตาคล้ายว่าจะลึกโบ๋กว่าเดิม

           

 

แซ็คนั่งมองพื้นหญ้านิ่ง ดวงตาสีเทาดูเลื่อนลอยเล็กน้อย แต่สักพักเขาก็ยืนขึ้นเต็มความสูง ก้าวเท้าเดินไปทางประตูบ้าน ดึงประตูบานใหญ่แล้วเดินเข้าไปด้านใน ก้าวเท้าเดินไปอย่างล่องลอยจนกระทั่งเดินไปถึงห้องโถงของบ้านที่อยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำเขาก็ชะงัก ความเย็นแล่นไปตามตัว สายตาจ้องมองร่างผอมบางขาวสว่างจ้าที่กำลังยืนยิ้มแย้มกับลูคัส

           

 

“How did you come here? (มาที่นี่ยังไงเนี่ย)” ลูคัสถามเสียงสนุกสนาน ไอติมตอบไปยิ้มกว้างไป

           

 

“Metro and then the bus. (รถไฟใต้ดินแล้วก็รถบัสฮะ)” ลูคัสมีสีหน้าประหลาดใจแต่ก็รู้สึกชื่นชมในเวลาเดียวกัน

           

 

“Wow, that’s amazing.”

           

 

“I’m so excited. (ผมตื่นเต้นมากเลย)” ไอติมหัวเราะฮิ ๆ แซ็คยิ้มตามทั้งที่แววตานั้นหมองเศร้า แล้วสักพักก็ยิ่งรู้สึกเศร้าเมื่อเจ้ากระต่ายตัวน้อยหันมาเห็นเขาแล้วยิ้มบาง แววตาสีน้ำตาลอ่อนเหมือนจะกลับไปสดใสอย่างที่เคยเป็น

           

 

ไม่เจอกันไม่กี่วัน กระต่ายตัวจ้อยเยียวยาตัวเองได้ขนาดนี้แล้ว

           

 

“Hi, Zach.” ไอติมเดินเข้ามาหาแซ็คพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตรเช่นเคย ร่างสูงมองกระต่ายของเขาด้วยแววตาลึกโหล แต่ทว่าก็แสดงออกถึงความโหยหาและคิดถึง จังหวะที่ไอติมกำลังจะอ้าปากพูดต่อ แซ็คก็โอบสองแขนกอดร่างขาวนวลเนียนนั้นไว้เต็มอ้อมกอด

           

 

“โวววว” ไอติมร้องอุทานด้วยความประหลาดใจ ดวงตาเรียวสองชั้นหลบในเบิกกว้าง ริมฝีปากสีแดงสดขยับเป็นรอยยิ้มบางเบา สองแขนยกขึ้นกอดตอบร่างของแซ็ค มือขวาลูบแผ่นหลังของแซ็คขึ้นลง

           

 

แม้ว่าเจตนาของเจ้ากระต่ายตัวจ้อยจะไม่ได้คิดปลอบเขา แต่แซ็คก็กำลังรู้สึกถึงความสงบภายในอก และความอบอุ่นตามร่างกายจากตอนแรกที่เย็นยะเยือก

           

 

“I miss you. (คิดถึง)” แซ็คกระซิบข้างหูของไอติมก่อนจะดันเจ้าตัวจ้อยออก ไอติมยิ้มกว้างก่อนที่รอยยิ้มจะลดลงไปวูบหนึ่งแล้วก็กลับมายิ้มต่อ

           

 

“How are you? (เป็นไงบ้างฮะ)” ไอติมมองสำรวจสภาพใบหน้าของขวัญใจตัวเองในขณะนี้

           

 

“I miss you. (ฉันคิดถึงนาย)” ไอติมยิ้มกว้างพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ กับคำบอกกล่าวของฝรั่ง

           

 

“I miss you, too. (ผมก็คิดถึงคุณ)” แซ็คยิ้มบางเบา มองไอติมด้วยสายตาสั่นไหว ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ และพยายามฝืนยิ้มต่อ แม้ว่าแววตาจะเริ่มอ่อนไหวแล้วก็ตาม

           

 

แซ็คอยากบอกให้กลับมาอยู่ด้วยกัน กลับมาอยู่ข้าง ๆ กันเหมือนเดิม แต่เขาก็เลือกที่จะกลืนประโยคเหล่านั้นลงคอไป

           

 

“You look no good. (คุณดูไม่ดี)” ไอติมว่าตาใสแป๋ว แซ็คยิ้มกริ่มแม้แววตาจะไร้ชีวิตชีวา

           

 

“I’m sick. (ฉันป่วยน่ะ)” แซ็คตอบไปงั้น ตอบไปเรื่อยเปื่อย

           

 

ไอติมมองหน้าขวัญใจตัวเองตาใสพักหนึ่งก็ยื่นมือซ้ายเอาหลังมือไปแตะหน้าผากของคนตัวโต แซ็คยืนนิ่งให้ไอติมแตะ หัวใจของเขาเต้นตึกตัก

           

 

“Don’t hot. (ไม่ร้อน)” ไอติมมองหน้าแซ็คด้วยความฉงน แซ็คยิ้มแบบไม่เห็นฟัน

           

 

“I got better when I see your face. (ฉันดีขึ้นพอเห็นหน้านาย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ อยู่วิสั้น ๆ และพอเข้าใจว่าอีกฝ่ายพูดอะไรก็ยิ้มเขิน ใบหน้าขาวใสแดงระเรื่อจนแซ็คนึกมันเขี้ยว

           

 

“How are you? (นายเป็นไงบ้าง)” ไอติมยิ้มเล็กน้อย พยักหน้าสองสามครั้ง

           

 

“Good. (ดีฮะ)” สีหน้าของแซ็คสลดลง แววตาเหงาหงอย ไอติมเม้มปาก เบี่ยงสายตามองไปทางอื่นครู่หนึ่งก่อนหันกลับมามองแซ็คที่สีหน้าหมองทั้งสีผิวและออร่า

           

 

 

“You should prepare yourself. (คุณควรเตรียมตัว)” แซ็คพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง ดวงตาสีเทามองไอติมคล้ายสายตาคนจะหลับ ไอติมขยับมุมปากทั้งสองข้างเพียงนิด ก่อนที่จะหมุนตัวหันหลังให้แซ็ค ยืนงงสักพักว่าจะไปไหนดี สุดท้ายก็คิดว่าไปคุยกับลูคัสต่อจะดีกว่าเลยก้าวเท้าเดินจากแซ็คมา

           

 

ขวัญใจไอติมมองตามแฟนพันธุ์แท้ตัวน้อยตาละห้อย ก่อนที่จะก้าวเท้าเดินไปหาเจมส์อย่างคนสติล่องลอย เจมส์ที่กำลังยืนเตรียมเสื้อผ้าแสนจะน้อยชิ้นให้กับนายแบบบางส่วนในวันนี้หันไปมองเพื่อนสนิทตัวเองแล้วมองอย่างระอา

           

 

“ฉันว่าแกไม่ไหว” แซ็คย่นคิ้ว รู้สึกหงุดหงิดที่โดนอีกฝ่ายถากถาง

           

 

“ฉันไหว ฉันจะทำงาน” เจมส์มองหน้าโทรม ๆ ของไบรอั้นนิ่งพักหนึ่งก่อนหันไปมองรอบ ๆ สักพักแล้วก็เจอแฟนตัวเองกำลังช่วยทีมงานหญิงฝ่ายเมคอัพอีกคนทาผิวแทนให้หนึ่งในทีมเต้นของไบรอั้นอยู่

           

 

“โจ ถ้าเสร็จจากตรงนั้นแล้วมาลงรองพื้นให้ไบรอั้นทีสิ” โจหันหน้ามองแฟนตัวเองแล้วพยักหน้าหนึ่งครั้ง เจมส์หันมองเพื่อนที่นั่งหน้าซังกะตายอยู่บนเก้าอี้

           

 

“แกไปล้างหน้าล้างตาก่อนไป” ด้วยความขี้เกียจเถียง ไบรอั้นเลยลุกเดินไปทางห้องน้ำ ประตูห้องน้ำเปิดออกอยู่แล้วเพื่อความสะดวก พวกเขาไม่เคยล็อคประตูห้องน้ำ และไม่ได้รู้สึกเขินอายอะไรถ้าใครจะเผลอเดินเข้ามาหากใครคนใดคนหนึ่งอยู่ในนี้ก่อนแล้ว

           

 

“I miss your house. (คิดถึงบ้านนายจัง)” แซ็คที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นจากอ่างล้างหน้าหลังจากวักน้ำใส่หน้าไปหลายทีชะงักเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยและหัวเราะใส ๆ ของกระต่ายตัวจ้อย เขามองเห็นความเศร้าบนใบหน้าตัวเอง เห็นความสั่นคลอนในดวงตาตัวเอง

           

 

“I will go back to Thailand at first week of March. (ผมจะกลับไทยที่สัปดาห์แรกของมีนาคมฮะ)” ไอติมตอบเสียงใส หัวใจของแซ็คกระตุกวูบ เขาเดินออกจากห้องน้ำอย่างเชื่องช้า เดินไปหยิบผ้าขนหนูสีขาวบนราวไม้หน้าห้องน้ำขึ้นมาซับใบหน้าและก้าวเท้าเดินกลับไปที่เดิม

           

 

“ฮะๆๆ” แซ็คขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเลโอ เขาหงุดหงิดงุ่นง่าน

           

 

“ไบรอั้น…”

           

 

“…อย่าพูดมากน่า!” เขาตวาดใส่เจมส์จนรอบข้างนิ่งชะงัก มีเพียงเสียงเพลงจากลำโพงที่ยังดังอยู่ เจมส์กลอกตาพร้อมกับพ่นลมหายใจ หันไปมองแฟนตัวเองแล้วขยับหัวไปด้านซ้ายเป็นเชิงบอกให้มาจัดการ

           

 

แซ็คไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง แค่เสียงสองคนนั้นเงียบหายไปเขาก็รู้สึกพอใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ไอติมเงียบไปทั้งวัน

           

 

“Take off your shirt. (ถอดเสื้อออก)” โจบอกเสียงราบเรียบ แซ็คถอดเสื้อยืดสีขาวออก จี้กระต่ายสีทองอ่อนห้อยเด่นอยู่บนผิวสีขาวโรยผงโกโก้ แต่ความหนาแน่นของกล้ามเนื้อนั้นฟีบลงจากปกติ เจมส์เห็นสิ่งนั้นแต่ขี้เกียจจะพูด

           

 

โจจัดการใบหน้าของแซ็คด้วยรองพื้นและคอนซีลเล่อร์ ช่วยกลบเกลื่อนในสิ่งที่ควรจะกลบเกลื่อน ทั้งที่จริงวันนี้คนคิดคอนเซ็ปต์อย่างไอติมต้องการให้ชายหนุ่มทุกคนเปลือยหน้าสด แต่หน้าสดของตัวเอกในวันนี้กลับไม่รอด ลูคัสยืนมองแซ็คในสภาพห่อเหี่ยวจากอีกมุมหนึ่งแล้วก็ถอนหายใจ

           

 

“วันนี้ถ่ายคนอื่นก่อนมั้ย” ลูคัสพูดกับดัสตินที่กำลังเช็กกล้อง ตากล้องรูปหล่อมีรอยสักเงยหน้ามองไอ้พระเอกแล้วหันไปพูดกับเจ้านาย

           

 

“ปรึกษาครีเอทีฟสิ” ลูคัสหันไปมองไอติมที่นั่งอยู่ริมสระน้ำและกำลังคุยกับหนึ่งในทีมนักเต้นของแซ็คที่มาถ่ายเซ็ทของวันนี้ จังหวะที่ไอติมเลื่อนสายตามาทางเขา ลูคัสก็ยกมือซ้ายกวักเรียกครีเอทีฟคนเก่งให้มาหา ไอติมลุกเดินมาหาเขาอย่างไว

           

 

“I need to talk about Bryan. (ฉันอยากจะคุยเกี่ยวกับไบรอั้น)” ไอติมกะพริบตาปริบ หันไปมองคนที่กำลังจะเป็นประเด็นในบทสนทนาครู่หนึ่งก่อนหันกลับมาหาหนุ่มล่ำกล้ามโต

           

 

“Why? (ทำไมเหรอฮะ)”

           

 

“He is so shit. (สภาพเขาเหี้xมาก)” ไอติมนิ่งไปพักหนึ่งเพราะไม่แน่ใจในคำศัพท์ จนดัสตินช่วยอธิบายเพิ่มเติมว่าลูคัสพูดถึงอะไรไอติมถึงพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

           

 

“And you want to change new man? (และคุณต้องการเปลี่ยนผู้ชายคนใหม่เหรอ)”

           

 

“We can’t. He is the highlight, but not for today. (ไม่ได้หรอก หมอนั่นมันเป็นตัวเด่น แต่ไม่ใช่สำหรับวันนี้)” ไอติมนิ่ง พอจะเข้าใจในสิ่งที่ลูคัสพูด

           

 

“What we can do? (เราสามารถทำอะไรได้บ้างฮะ)” ลูคัสส่ายหัว

           

 

“I don’t know. We may have to pray for him to bring himself back. (ไม่รู้สิ เราอาจต้องสวดภาวนาให้มัน ให้มันดึงตัวเองกลับมาให้ได้)”

           

 

ไอติมแปลครู่หนึ่งก่อนที่สีหน้าจะหม่นลง “And if he, (แล้วถ้าเขา…)”

           

 

“We keep going, but it might be a little bit hard if we don’t have him, but—yeah, we can still do it. (เราก็ไปต่อ แต่อาจจะยากหน่อยถ้าไม่มีเขา แต่ก็ ใช่ เรายังคงทำได้)” หัวใจไอติมรู้สึกห่อเหี่ยวบิดเบี้ยวพิกล สมองรู้สึกเป็นกังวลกับแซ็ค

           

 

“What I am going to ask you is can you change a concept on this day? Shoot everyone except him. (ที่ฉันจะถามเธอก็คือ เปลี่ยนคอนเซ็ปต์ของวันนี้ได้มั้ย ถ่ายทุกคนยกเว้นเขา)” ไอติมหันไปมองแซ็คที่สภาพดูดีขึ้นมานิดหน่อยจากการเนรมิตของโจ แต่แม้จะมีเครื่องสำอางช่วยปกปิดร่องรอยริ้วรอยบนใบหน้า แต่แววตาของเขานั้นแย่มาก และออร่าแบบที่เขามักจะมีก็ดับวูบไปหมดเลย

           

 

“Okay, I will talk to him. (โอเคฮะ ผมจะคุยกับเขา)” ไอติมยิ้มบาง ลูคัสมองครีเอทีฟของตัวเองด้วยสายตาเป็นห่วง

           

 

“Are you guys have a conflict? (พวกเธอมีข้อขัดแย้งกันหรือเปล่า)” ไอติมกะพริบตาหน้างง

           

 

“I mean, problem, both of you have problem? (ฉันหมายถึง ปัญหาน่ะ เธอสองคนมีปัญหากันมั้ย)” ไอติมอึกอัก เพราะไม่แน่ใจว่าที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองกับแซ็คมันเรียกว่าปัญหาได้หรือเปล่า เนื่องจากเราเข้าใจกันดีว่าต่างคนต้องการอะไร และใครให้อะไรใครไม่ได้

           

 

“I think no, (ผมคิดว่าไม่)” ลูคัสหันไปมองดัสตินด้วยสายตาสงสัยกันทั้งสองคน ก่อนหันกลับไปมองหนุ่มเอเชียตัวน้อย

           

 

“Lukas, Dustin, you ever see his dad and mom? (ลูคัส ดัสตินฮะ คุณเคยเจอพ่อกับแม่เขามั้ยฮะ)” ลูคัสเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง ดัสตินมองไอติมด้วยความสงสัย

           

 

“No. And we don’t know anything about his family. (ไม่ แล้วพวกเราก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวเขาเลย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ มองทั้งสองหนุ่ม ดัสตินพยักหน้ายืนยันคำพูดของลูคัส

           

 

“I think there is one person that know his background more than anyone, (ฉันคิดว่ามีอยู่คนเดียวที่รู้แบ็คกราวด์ไอ้ไบรอั้นมากกว่าใคร)” ดัสตินยักคิ้วหน้านิ่ง หัวใจไอติมเต้นตึกตัก

           

 

“Yes, the person on your mind right now. (ใช่ คนที่อยู่ในใจนายตอนนี้แหละ)” หัวใจไอติมห่อเหี่ยวและแฟบฟีบ ทั้งที่จริงไม่ได้มีเหตุหนักหนาอะไรที่ต้องรู้สึกอย่างงั้น แค่คนนั้นรู้ประวัติชีวิตแซ็คมากกว่าใครเท่านั้นเอง และอาจจะเป็นคนเดียวด้วยที่เคยเจอพ่อกับแม่ของแซ็ค

           

 

ไอติมแค่รู้สึกว่าถ้าเกิดต้องพึ่งเขาเกี่ยวกับประเด็นนี้ ไอติมไม่อยากยุ่งด้วย นั่นเลยอาจเป็นสาเหตุทำให้ใจฟีบแบบนี้

           

 

“Person that we leave. (คนที่พวกเราจากมา)” ลูคัสพยักหน้า ไอติมพ่นลมหายใจ

           

 

“Why did you ask about his parents? (ถามถึงพ่อแม่หมอนั่นทำไมล่ะ)” ไอติมนิ่งเงียบไปหลายวินาที

 

 

            “Maybe they can help him feel good. (พวกเขาอาจจะช่วยเขารู้สึกดี)” ลูคัสคลี่ยิ้มบาง ยื่นมือซ้ายไปวางบนหัวของไอติมและขยี้เบาๆ

           

 

“I don’t think so. I think the most powerful person for him now is someone in front of me. (ฉันไม่คิดงั้นนะ ฉันคิดว่าคนที่ทรงพลังที่สุดสำหรับเขาตอนนี้คือใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน)” ไอติมกะพริบตาปริบ ใบหน้าเหลอหลางงๆ

           

 

“บอกว่าเป็นเขาไม่ง่ายกว่าเหรอ” ลูคัสยิ้มกว้างขำขันแล้วหันไปมองดัสตินที่ย่นคิ้วมองเขา อดีตพระเอกหนังโป๊ชื่อดังยักไหล่สองข้างก่อนปล่อยมือออกจากหัวไอติม

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-05-2019 19:34:23
V
v
v


กระต่ายตัวจ้อยหันไปมองตรงจุดที่แซ็คเคยนั่งอยู่แต่ก็ไม่เห็นเขา ไอติมเลยเดินตามหาอยู่พักหนึ่งจนกระทั่งเจอแซ็คหลบไปนั่งในห้องทำงานของลูคัส ภายในห้องเหมือนถูกดึงม่านให้ปิดกันแสงจากด้านนอกจนห้องมืด ไอติมเดินผ่านแซ็คที่นั่งหลับตาอยู่บนเก้าอี้นั่งทำงานไปที่หน้าต่าง ตั้งใจว่าจะดึงบานเกล็ดขึ้นเพื่อรับแสง

           

 

“No. (อย่า)” สองมือไอติมชะงัก ดึงได้แค่นิดเดียว มีแสงลอดผ่านบานเกล็ดมาหนึ่งชั้น ลำแสงเส้นสี่เหลี่ยมพาดผ่านบนตัวของแซ็ค ไอติมมองหน้าของแซ็คที่ซ่อนอยู่ในความมืดด้วยความเป็นห่วง ก้าวเท้าไปยืนตรงหน้าขวัญใจตัวเอง

           

 

“Zach, you can go home. It’s okay. You can shoot other day. I will think, (แซ็ค คุณกลับบ้านได้นะ ไม่เป็นไร คุณถ่ายวันอื่นได้ ผมจะคิด…)” พูดไม่ทันจบไอติมก็ถูกดึงไปนั่งบนตักของแซ็คแล้วฝรั่งก็เด้งตัวขึ้นนั่งโอบกอดไอติมไว้ ไอติมนิ่งค้างพักหนึ่งก่อนจะยกแขนซ้ายขึ้นโอบหลังเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย

           

 

“You want to go home? (อยากกลับบ้านมั้ย)” ไอติมถามเสียงอ่อนโยน มือซ้ายลูบหลังแซ็คช้า ๆ ฝรั่งตัวโตนั่งกอดกระต่ายตัวจ้อยนิ่ง ใบหน้าซุกอกเจ้ากระต่ายเอาไว้ ไอติมเลื่อนมือซ้ายขึ้นมาลูบหัวของแซ็คแทนแผ่นหลัง ไอติมได้ยินเพียงเสียงลมหายใจอันผ่อนคลายของขวัญใจตัวเอง

           

 

“Go home? (กลับบ้านมั้ย)” ไอติมถามอีกครั้ง และก็ได้รับแต่เพียงความเงียบกลับมา แต่ผ่านไปได้หลายนาทีแบบที่ไอติมก็ไม่รู้ว่ากี่นาที เสียงทุ้มแหบก็ดังขึ้น

           

 

“You go with me. (ไปกับฉันนะ)” ไอติมยิ้มอ่อนโยน

           

 

“Okay, I will send you at home. (โอเค ผมจะไปส่งคุณที่บ้าน)”

 

 

           

           

ไม่มีใครขัดขวางการเทงานครั้งนี้ของแซ็ค ทุกคนเข้าใจในสภาพของเขาและยินดีให้เขากลับไปพักผ่อน และเนื่องจากขามาเลโอเป็นคนนั่งแท็กซี่ไปฉุดแซ็คออกมาจากเตียงและรับแซ็คมาจากที่ห้อง ขากลับไอติมเลยพาแซ็คกลับโดยแท็กซี่เช่นกัน เจมส์เป็นคนเรียกแท็กซี่สีขาวเขียวคันยาวให้มารับถึงบ้านลูคัส

           

 

“Key. (กุญแจฮะ)” ไอติมยื่นมือไปขอกุญแจจากเจ้าของบ้านที่ยิ้มกริ่ม แซ็คหยิบกุญแจจากกระเป๋ากางเกงให้ไอติมไปไขประตูบ้าน วินาทีแรกที่ไอติมเปิดเข้าไปก็ชะงักไปนิดกับห้องที่มืดแทบจะสนิท

 

 

สภาพห้องเละเทะพอสมควร อ่างล้างจานเนืองแน่นไปด้วยจานชามที่ไม่ได้ล้าง บนเค้าน์เตอร์ครัวมีเศษอาหารมากมาย ถังขยะล้นจนเศษขยะเกลื่อนบนพื้น เค้าน์เตอร์บาร์ก็มีขวดเหล้าวางเรียงกันเป็นสิบขวด และมีเศษเปลือกถั่วกระจัดกระจายเต็มเค้าน์เตอร์ ตรงโต๊ะห้องโถงก็มีถุงขนมวางเกลื่อน ที่สำคัญคือกลิ่นกัญชาลอยฟุ้งไปทั่วห้องจนไอติมเบ้หน้า

           

 

“You want to clean face? (อยากล้างหน้ามั้ยฮะ)” ไอติมถามเพราะอีกฝ่ายยังไม่ได้ล้างรองพื้นออกจากใบหน้า แซ็คยิ้มแล้วเดินไปทางห้องน้ำ ไอติมปิดประตูห้องตามหลัง เดินตรงไปเปิดผ้าม่านก่อนเป็นอย่างแรกเพื่อจะได้เห็นสภาพห้องชัด ๆ และจะได้ทำความสะอาดได้ถูกต้อง

           

 

ไอติมมองสภาพความสกปรกของห้องแล้วก็พ่นลมหายใจแผ่วเบา เดินไปหาถุงขยะตรงตู้เก็บของด้านล่างเค้าน์เตอร์ครัว หยิบออกมาสามใบแล้ววางไว้บนเค้าน์เตอร์ ก้าวเท้าเดินไปทางห้องนอน เปิดประตูเข้าไปสำรวจก็พบว่าห้องนอนยังถือว่าสภาพดีอยู่ แต่ก็เหม็นกลิ่นกัญชาไม่แพ้ข้างนอก ไอติมกะว่าจะพาแซ็คเข้านอนก่อนแล้วค่อยจัดการทำความสะอาดให้อีกฝ่าย

           

 

“Hungry? (หิวมั้ยฮะ)” ไอติมถามแซ็คที่เดินหน้าเปียกออกมาจากห้องน้ำ คนถูกถามยิ้มกริ่มแล้วก็ส่ายหัว

           

 

“You want to sleep? (อยากนอนมั้ยฮะ)” แซ็คพยักหน้า ไอติมคลี่ยิ้มบาง ดันประตูห้องเข้าไป แซ็คจูงมือไอติมไปที่เตียง หยิบรีโมตแอร์ที่วางอยู่บนหมอนมากดเปิด

           

 

“Sleep with me. (นอนกับฉันนะ)” ไอติมมองหน้าแซ็คด้วยความลำบากใจ แต่สุดท้ายก็ยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับพยักหน้า แซ็คยิ้มกว้าง ถอดเสื้อยืดออกจากตัว ดึงก้อนผ้านวมออกจากเตียงแล้วล้มตัวลงนอน ไอติมเดินไปปิดประตูห้อง หมุนตัวหันมองก็เห็นแซ็คนอนยิ้มรออยู่บนเตียงฝั่งเขาเอง ไอติมคลี่ยิ้มขำ เดินอ้อมปลายเตียงไปฝั่งที่ตัวเองเคยนอน ล้มตัวลงนอนตะแคงข้างมองหน้าแซ็ค เจ้าของห้องคลี่ผ้านวมห่มตัวเองและกระต่ายตัวจ้อย

           

 

แซ็คนอนตะแคงข้างมองหน้าไอติมแล้วคลี่ยิ้ม ไอติมยิ้มตอบเล็กน้อย แซ็คผ่อนลมหายใจเบา ๆ แล้วหลับตาลง ท่าทีของเขานั้นดูผ่อนคลาย ไอติมย่นจมูกเพราะกลิ่นกัญชาเริ่มทำให้แสบในโพรงจมูก แต่ก็พยายามฝืนนอนอยู่แบบนั้นอีกพักใหญ่จนแน่ใจว่าแซ็คหลับไปแล้วถึงค่อย ๆ ลุกออกจากเตียง

           

 

พอออกมานอกห้องนอน ไอติมก็เริ่มต้นด้วยการเปิดประตูระเบียงห้องเพื่อระบายกลิ่นออกไป จากนั้นก็จัดการเก็บกวาดเช็ดถูจนพื้นห้องกลับมาสะอาด ปราศจากเศษขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อยชิ้นใหญ่ และยังถูพื้นให้ใหม่เพื่อขจัดสิ่งสกปรกจากขยะที่วางเกลื่อนมาหลายวัน

 

 

โต๊ะในห้องโถงก็กลับมาโล่งเพราะขยะมากมายถูกยัดลงในถุงดำ บนโซฟาที่มีเศษเล็กเศษน้อยของอาหารและขนมรวมทั้งผงกัญชาก็โดนกวาดลงถุงทั้งหมด เค้าน์เตอร์ทั้งสองก็กลับมาเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดตาดังเดิม จานชามในอ่างไอติมก็จัดการล้างให้จนเกลี้ยงและวางไว้อย่างเป็นระเบียบบนตะแกรงเก็บจาน

 

 

ใช้เวลาเกินหนึ่งชั่วโมงในการทำทุกอย่างให้กลับมาสะอาดเอี่ยมอ่องน่ามอง ไอติมมัดปากถุงขยะทั้งสี่ใบ ยืดตัวขึ้นเต็มความสูงแล้วมองไปรอบห้องที่สะอาดเอี่ยมอ่อง ไอติมเปิดตู้บนเค้าน์เตอร์ครัวเพื่อหาสเปรย์ดับกลิ่นที่ซื้อมา เนื่องจากกลิ่นกัญชายังลอยฟุ้งไปทั่วห้อง ไอติมฉีดไปรอบห้องโถงกับห้องครัวจนได้กลิ่นสดชื่นมากกว่ากลิ่นกัญชา

 

 

ไอติมวางกระป๋องสเปรย์ไว้บนเค้าน์เตอร์บาร์ เปิดประตูห้องและแบกถุงขยะไปทิ้งทีละสองถุงจนกระทั่งหมด พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยไอติมก็เดินไปเปิดประตูห้องมองแซ็คหลับอยู่บนเตียง กระต่ายตัวจ้อยมองคนตัวโตด้วยสายตาหม่นอยู่พักหนึ่งก่อนดึงประตูห้องนอนปิดเบา ๆ เดินไปปิดประตูระเบียง และเปิดม่านเอาไว้เพื่อให้แสงส่องเข้ามา

 

 

ไอติมเดินกลับไปเปิดประตูบ้านของแซ็ค จังหวะที่ประตูบ้านปิด ประตูห้องนอนของแซ็คก็เปิดออก ร่างสูงใหญ่ยืนมองประตูบ้านที่ปิดสนิทด้วยความรู้สึกดำดิ่ง แววตาละห้อยโหยหา เขาเดินไปตรงโต๊ะหัวเตียง หยิบกล่องเหล็กสีเงินออกมา เดินไปปิดม่านจนห้องกลับมามืดสนิท เดินไปนั่งบนโซฟา เปิดกล่องเหล็กแล้วหยิบของในนั้นออกมา จัดการด้วยความคุ้นเคยอยู่พักหนึ่งก็หยิบไฟแช็คมาจุดไฟ

 

 

ควันสีขาวลอยฟุ้งไปทั่วห้องที่เพิ่งถูกกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไป เจ้าของห้องค่อย ๆ ล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาว สายตาเหม่อมองเพดานห้อง มือขวายกของในมือขึ้นสูบอีกหลายครั้งต่อหลายครั้งจนกระทั่งหมดไป แต่ก็ตามมาด้วยชิ้นที่สองและสาม แล้วสุดท้ายรอยยิ้มแห่งความสุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาสีเทาฉ่ำเยิ้ม เปล่งประกายระยิบระยับ เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างแผ่วเบา

 

 

มือซ้ายของแซ็คจับจี้กระต่ายบนอกของตัวเองแล้วรอยยิ้มก็กว้างขึ้น เปลือกตาค่อย ๆ ปิดลงด้วยความพริ้มอิ่มใจ แล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะดังกังวานในห้องอันมืดมิด







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้

 :m15:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-05-2019 20:07:08
พี่แซคอาการไม่ดีเลย..ทำไมยังไม่ยอมรับซะทีว่าขาดกระต่ายไม่ได้แล้ว   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: jin_kazu ที่ 01-05-2019 21:42:43
เจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่   :hao4:
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 01-05-2019 21:44:24
ไบรอั้น ติดกระต่าย และกัญชา งอมแงม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 01-05-2019 21:53:31
โอยยย แย่มากๆๆ
อยากสมน้ำหน้า แต่ก็ทำตัวเอง
น้องติมต้องหนักใจมากแน่ๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: องศาวาย ที่ 01-05-2019 22:02:48
อาการแซ็คแย่ลงเคื่อยๆ แล้ว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 01-05-2019 22:46:44
 :hao5:
้ไบรอั้นเอ๋ย จงเติบโตและข้ามผ่าน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 01-05-2019 23:17:24
หน่วงมากกกก ไม่รู้จะสงสารใครดี
อยากให้ทั้งสองคนใช้ชีวิตให้มันง่ายอ่ะ แต่เหมือนคนทั้งไบรอั้น แล้วก็ไอติม กำลังทำให้ความรักกลายเป็นเรื่องยาก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Mamamapp ที่ 01-05-2019 23:35:56
 :z3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 02-05-2019 01:12:38
สงสารแซ็คนะ เค้าคงรับมือกับปัญหาไม่ค่อยเก่ง ทางออกคือใช้กัญชาสร้างภาพความสุขขึ้นมาเอง

แต่ยังไงก็ตาม เราโกรธแทนติมมากกกก เพราะกว่าจะเก็บห้องเสร็จแล้วขจัดกลิ่น ท้ายสุดนังแซ็คก็วนลูป :katai1:

โกรธ :fire:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-05-2019 01:35:31
ใครอาการหนักกว่าล่ะเนี่ย  :ling1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 02-05-2019 02:07:53
แซคถ้าแกยังทำตัวแบบนี้ ก็อย่าหวังว่าน้องติมจะกลับมาาเลยเถอะะ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 02-05-2019 02:16:33
 :serius2: อะไรคือปัญหาที่ทำให้เเซ็คไม่กล้ารักไอติม  :angry2: ลำไยพระเอก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 02-05-2019 10:05:18
คนน้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้เร็วกว่า ส่วนคนพี่จมดิ่งลงไปเรื่อย
การแก้ปัญหาของคู่นี้ >>อย่าล้อเล่นกับความรัก<< ยอมรับใจตัวเองเมื่อไหร่นั่นแหล่ะ
 :L1: รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-05-2019 11:57:17
แซคนี่อาการหนักนะ ยอมรับตัวเองเสียทีเถอะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 02-05-2019 22:51:11
อยากให้น้องติมกลับมาดูอีกทีอ่ะ แล้วสำลักกลิ่น ร้องไห้ให้นังดูสักที ดีขึ้นเพื่อนน้องดิ ทำตัวให้ดีกว่านี้สิถ้าอยากรักษาเขาไว้  :ling1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 02-05-2019 23:13:33
คำว่าสบายดีของไอติมจะทำให้แซ็คเจ็บปวดมากเลยล่ะ เพราะแสดงให้เห็นว่าต่อให้ไม่มีแซ็คไอติมก็อยู่ได้และดีด้วย อยากสมน้ำหน้าแซ็คแต่ก็สงสารนิดนึง ขอให้เลิกขี้ขลาดเร็วๆละกัน คิดได้สักทีว่าชีวิตเป็นของตัวเองจะทำให้ดีหรือแย่เลือกเองได้อะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-05-2019 07:50:51
น้องติมเข้มแข็งแล้วก็ชัดเจนกับตัวเองมากนะ แต่บางคนกลับไม่สามารถเอาตัวเองออกจากปัญหา แล้วแก้ไขด้วยกัญชา ไม่ดีเลย แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าอะไรคือปมในใจแซ็คล่ะนะ.  :hao4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 03-05-2019 20:57:24
ทำตัวเองล้วน ๆ เลยนะแซ็ค
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.35 : ฺIllusion. : 01.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 06-05-2019 20:30:06
เหมือนที่ลูคัสบอก ถ้าทำตัวแบบนี้
จะกลับไปเป็นแบบเดิมอีก ก็แล้วแต่แซคจะทำตัวเองเลย
มันก็จริง เพราะไม่มีใครทำได้ดีมากกว่าตัวเรา

สงสารไอติมนะ แต่ก็ชัดเจนดี ที่จะทำให้ไอติมก้าวไปข้างหน้า
แต่กลายเป็นว่า แซคถอยลงคลองกว่าเดิม ความโหยหาเป็นเหตุ

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 07-05-2019 20:24:12
Fall in lust - Chapter 37 :: And me? (แล้วเราล่ะ)





 “เดน เดินทางหกชั่วโมง โทรหากูทุกชั่วโมงนะ โอเคมั้ย” ไอติมว่าด้วยสีหน้าจริงจัง มองเพื่อนลูกครึ่งผิวแทนรูปหล่อด้วยความเป็นกังวล เดนนี่ย่นคิ้วแต่ก็ขำ


“จะเลื่อนจากเพื่อนเป็นเมียกูแล้วใช่มั้ย” ไอติมย่นจมูกจนรูจมูกบาน


“เป็นห่วง จะฐานะไหนก็เป็นห่วงทั้งนั้นแหละแหม” เดนนี่เบะปากเล็กๆ


“ยังไม่ได้ให้กูเอาเลยสักรอบก็ไล่กูกลับแล้วนะมึงอะ”


“เดี๋ยวกูให้เอาจนได้แหละน่า ตอนนี้กลับไปช่วยแม่ก่อน อาทิตย์กว่าแล้วเดี๋ยวแม่มึงก็ตามมาตีหน้ากูหรอก” เดนนี่หัวเราะเบาๆ


“กูจะอดใจไม่ชักว่าว” ไอติมยิ้มขำตาหยี


“เอ๊อ ทำได้ให้ได้เถอะ”


“แต่ถ้ามีผู้หญิงมาให้เอา กูเอานะ” ไอติมเบ้ปากและมองจิกเพื่อน


“จู๋มึงนี่ อยากเอาก็เอาไปสิ”


“ถ้าเอาจริงหวงมั้ย” ไอติมนิ่งคิด กรองความรู้สึกของตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนหันไปมองเดนนี่ที่ยังคงนั่งรอแบบชิลๆ


“หวง…” เดนนี่ยิ้มขำแบบไม่มีเสียง


“…แต่กูเข้าใจมึงนะ…” ไอติมชะงัก สบตากับเดนที่ยิ้มกริ่ม กระต่ายตัวจ้อยหันหน้าไปมองด้านหน้าผ่านกระจกรถ หัวใจกระตุกไปหนึ่งวูบแล้วถึงหันกลับไปหาเดนนี่ตามเดิม หนุ่มลูกครึ่งยักคิ้วซ้ายให้หนึ่งที


“…แต่มึงต้องป้องกันนะ ใส่ถุงยางด้วย” เดนนี่พยักหน้าสองสามทีพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ ไอติมเม้มปาก ย่นคิ้วเข้าหากันและทำหน้าตาไม่แน่ใจ


“จ้ะเมื่อน”


“เมื่อนคือะไร”


“เมียกับเพื่อนบวกกัน” ไอติมคลายคิ้วออกแล้วหัวเราะ มือขวาเปิดประตูรถ มือซ้ายหยิบกระเป๋าเป้ที่วางไว้ข้างขาตัวเองขึ้นมา


“กูไปละ เดี๋ยวกูไปหาที่บ้าน ตอนนั้นก็ค่อยจัดเต็ม” ไอติมยิ้มเขินแล้วยื่นหน้าไปจุ๊บปากเดนนี่ หนุ่มลูกครึ่งหัวเราะเสียงทุ้มและพยักหน้าด้วยความเข้าใจกับเหตุที่ไอติมไม่กล้ามีอะไรกับตัวเองในห้องของโรเบิร์ตเพราะความเกรงใจ


“กูจะเก็บน้ำไว้รอ”


“แหวะ” ไอติมแลบลิ้นแล้วดันประตูออก ก้าวเท้าลงจากรถ หันไปโบกมือให้เดนนี่แล้วปิดประตูรถเสียงเบา เดินอ้อมไปข้างหน้ารถแล้วยืนโบกมือให้เพื่อนอีกที เดนนี่ถอยรถออกจากซอยบ้านลูคัสช้า ๆ จนกระทั่งหักไปบนถนนอีกเส้นก่อนที่รถจะพุ่งตัวออกไปจากเขตบ้านของลูคัส


“Who’s that? (ใครเหรอ)” ไอติมหันไปมองก็เจอดัสตินยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าบ้าน หนุ่มเอเชียยิ้มแล้วก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้กับคนถาม


“My close friend. (เพื่อนสนิทผมฮะ)” ดัสตินหรี่ตามองแล้วยิ้มมุมปาก


“Close friend? (เพื่อนสนิทเหรอ)” ไอติมยิ้มงง พยักหน้าสองสามที ดัสตินเลิกคิ้วขึ้น ไอติมทำหน้าประมาณว่าทำไมเหรอก่อนจะเก็ทในเวลาต่อมาว่า ดัสตินคงเห็นตัวเองจุ๊บปากไอ้เดนแน่ๆ


“We, เอ่อ” ไอติมพยายามจะบอกว่าเขาสองคนเป็นแบบนี้อยู่แล้ว แม้กระทั่งได้เสียกันก็ยังเป็นแบบนี้ 


ดัสตินหัวเราะเบา ๆ กับทีท่าอึกอักของไอติม “Are you leaving my bud? (จะทิ้งเพื่อนฉันแล้วเหรอ)”


ไอติมทำหน้างง ดัสตินดึงบุหรี่ออกจากปากแล้วพ่นควันสีขาวออกมาจนหมด “Bryan, are you going to dumb him? (ไอ้ไบรอั้นน่ะ นายจะเทมันแล้วเหรอ)”


แม้จะไม่เข้าใจคำว่า dumb แต่พอได้ยินชื่อบุคคลที่สามบวกกับสถานการณ์ที่กำลังคุยกัน ไอติมเลยพอจะเดาความหมายที่ดัสตินพูดได้ “No, I am still his fan. I love him as the same. (ไม่ฮะ ผมยังคงเป็นติ่งเขา ผมรักเขาเหมือนเดิม)”


ฟึบ!


ประตูบ้านเปิดออกพร้อมกับร่างของเจ้าของบ้านในสภาพเปลือยท่อนบน ท่อนล่างพันผ้าขนหนูสีขาว ไอติมนิ่งค้าง เปลือกตาไม่กะพริบ มองหุ่นของลูคัสด้วยความวาบหวิว ช่วงท้องวูบวาบ หัวใจเต้นตุบตับ สองแขนของลูคัสขึ้นกล้ามชัดเชนเพราะกำลังแบกถุงขยะสีดำ กล้ามอกใหญ่โตเต่งตึง กล้ามท้องนูนเป็นลอนสวยงาม ไอติมกลืนน้ำลายลงคอและจ้องมองผิวขาวขุ่นที่มีสีแดงระเรือเจือปนอยู่บนผิวตาค้าง


“Hey, daughter. Your eyes are telling me that you want to have sex with your daddy, hmmm? (นี่ ลูกสาว ดวงตาเธอกำลังบอกฉันว่าเธออยากมีเซ็กซ์กับพ่อของเธออยู่นะ ฮื้ม?)” ดัสตินขำเสียงดังแต่ก็ไม่ใช่ดังไปสามบ้านแปดบ้าน ลูคัสยิ้มขำมุมปาก ไอติมกลืนน้ำลายอีกทีแล้วก็ได้สติกลับคืนมา เขายิ้มแห้ง มองตามร่างลูคัสแบกถุงขยะไปใส่ถังขยะที่ตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านตัวเองแล้วก็หมุนตัวเดินกลับมาหาอีกสองคน


“เข้าไปข้างในมั้ย” ลูคัสถามดัสติน ตากล้องรอยสักส่ายหัวและชูบุหรี่ขึ้นให้ดูเป็นเชิงบอกว่ายังไม่หมด ลูคัสเลยหันไปหาไอติมที่หน้าแดงและท่าทางอยู่ไม่สุข หนุ่มนักกล้ามยิ้มขำ ยกแขนขวาไปโอบไหล่คนที่เขาเรียกว่าลูกสาว


“Breakfast? (อาหารเช้ามั้ย)” ไอติมพยักหน้าด้วยความมึนหัว ลูคัสยิ้มเย้ายวน


“Get inside. (เข้าไปข้างในกัน)” ลูคัสพาไอติมเดินขึ้นบันไดขั้นน้อยหน้าบ้าน ไอติมรู้สึกมึนหัวและตัวร้อนรุม ๆ ก้าวเท้าไปตามแรงของลูคัสซะมากกว่า รู้สึกตัวชัด ๆ อีกทีก็ตอนที่ลูคัสพาเดินมานั่งในห้องโถงของบ้านที่มีอาหารวางอยู่บนถาดไม้ทรงสี่เหลี่ยม


“Hungry? (หิวมั้ย)” ลูคัสปล่อยแขนออกจากไหล่ของไอติม ลูกสาวของลูคัสนั่งหนีบขาเข้าหากันแล้วนั่งนิ่งตัวงอเล็กน้อย ลูคัสมองเป้าของไอติมแล้วยิ้มขำ ไอติมหันหน้าไปสบตากับลูคัสและพยายามทำตัวเป็นปกติ


“You want to eat that or this? (เธออยากกินอันนั้นหรืออันนี้)” ลูคัสแกะผ้าขนหนูออกจากรอบเอว สายตาไอติมเลื่อนไปมองตรงนั้นโดยอัตโนมัติ ไอติมเคยเห็นของลูคัสมาแล้วในหนัง แต่ความรู้สึกนั้นเทียบไม่ได้เลยกับการได้เห็นของจริงด้วยตาตัวเอง


“Wh… what?” ลูคัสยิ้มกริ่ม กระเถิบตัวเปลือยเปล่าเข้าไปนั่งชิดกับไอติม คนตัวเล็กออกอาการประหม่าแต่ทว่าก็นั่งนิ่งไม่ขยับ จนกระทั่งร่างกายขยับเองเพราะถูกลูคัสอุ้มขึ้นไปนั่งบนตัก ไอติมกลืนน้ำลาย ยกแขนซ้ายโอบรอบคอของลูคัส มองใบหน้าคมสันแบ่งปันสัดส่วนได้มาตรฐาน แม้จะมีอายุแต่ไอติมก็คิดเสมอว่าเขายังคงหล่อ ยิ่งได้เห็นใกล้ ๆ แบบนี้ ถึงจะเห็นริ้วรอยจาง ๆ แต่ก็ไม่อาจกลบความน่าดึงดูดของเขาได้เลย


“I think you are horny instead hungry now. (ฉันว่าตอนนี้นายหงี่มากกว่าหิวแล้วละ)” ไอติมไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ทำเพียงนั่งมองหน้าพระเอกในตำนานตาเคลิ้ม ลูคัสเลื่อนสองมือไปปลดกระดุมกางเกงขาสั้นของไอติม เจ้าตัวยกก้นขึ้น ปล่อยให้ลูคัสดึงกางเกงออกจนเหลือแต่กางเกงชั้นในสีขาวที่โป่งตุง


กึก กรึบ


เสียงประตูเปิดและปิดไล่เลี่ยกัน สองคนบนโซฟาหันไปมอง ดัสตินมองด้วยความประหลาดใจแวบหนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มทะเล้นแล้วก็แบมือออกทั้งสองข้าง


“ฉันไปรอที่ห้องโฮมเทียเตอร์ก็แล้วกัน” ดัสตินเดินไปอีกฝั่งของบ้าน ลูคัสกับไอติมหันหน้ากลับมามองกัน ลูคัสยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายของไอติมแล้วลามไปจูบริมฝีปากสีแดง มือซ้ายดึงกางเกงชั้นในสีขาวออกจากเรียวขายาว ไอติมแท่งดีดตัวตั้งตรง


“วะ… วี we will fuck really? (ระ… เรา เราจะเอากันจริงเหรอ)” ไอติมถามเสียงพร่า สายตาหลุบลงมองมือมือซ้ายของลูคัสที่กำลังชักเจ้าแท่งเนื้อที่มีขนาดอวบใหญ่เหมาะสมกับร่างกายของตัวเขา ไอติมมองมันตาเยิ้มจนกระทั่งมันขยายตัวเต็มมือของลูคัส 


“Yes, daughter. (ใช่สิ ลูกสาว)” ไอติมกระตุกยิ้มบาง ลูคัสหอมหน้าผากไอติมแผ่วเบา ไอติมตัวร้อนวูบวาบ ท้องน้อยเสียวจนกัดฟันทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย


“Touch it. (จับมันสิ)” ลูคัสปล่อยมือซ้ายออกจากแก่นกายตัวเอง มันพุ่งเป็นเส้นตรงอย่างมีระเบียบราวกับได้รับการฝึกมาอย่างดี ไอติมยื่นมือขวาไปชักเข้าชักออกช้า ลูคัสจูบแก้มไอติมอย่างอ่อนโยน ก่อนเริ่มลามลงไปซุกไซ้ที่ซอกคอ


“Ummm, sweet. (อืมมม หอมจัง)” หัวใจไอติมเต้นตึกตัก ขนลุกวาบเหมือนเวลาโดนแซ็คไซ้คอ ไอติมปล่อยมือออกจากตรงนั้นของลูคัส หนุ่มนักกล้ามค่อย ๆ พาร่างไอติมนอนลงบนโซฟา ไอติมอ้าขาออก ขาขวายกเกี่ยวบั้นเอวลูคัส ขาซ้ายวางไว้บนขอบพนักพิงโซฟา สองมือขยุ้มเส้นผมลูคัสอย่างเบามือ เปลือกตาหลับพริ้ม ริมฝีปากเผยออ้าส่งเสียงครางเบาหวิวกับการถูกไซ้คออย่างละเมียดละไมไม่เร่งรีบของลูคัส


“อืมม…” ลูคัสดึงหน้าออกจากซอกคอไอติม มองจ้องดวงหน้าเรียวสวยที่แดงก่ำ แววตาฉ่ำเยิ้ม สีหน้าอ้อนว้อนแต่ทว่าชวนร้อน ลูคัสคลี่ยิ้มอ่อน


“…you wait here I will get the condom and gel. (เธอรอนี่ ฉันจะไปเอาถุงยางกับเจล)” ไอติมพยักหน้า ลูคัสดันตัวขึ้นนั่งคุกเข่า เจ้าโลกของเขาพุ่งตระหง่านน่ามองและน่าอม ลูคัสก้าวลงจากโซฟา เดินไปทางห้องทำงานของตัวเอง ไอติมมองตามร่างใหญ่หนา ก้นแน่น ๆ ทั้งสองลูกขยับตามจังหวะการเดิน


ไอติมหันหน้ากลับมานอนตรง ดวงตามองเพดานนิ่ง แต่ในหัวเริ่มแสดงความคิดเห็นกับตัวเอง เขาเลื่อนสายตาลงมองไอติมแท่งน้อยที่ตั้งแข็งครู่หนึ่งก่อนเลื่อนขึ้นไปมองเพดานสีขาวสะอาดตาอีกครั้ง ภาพของแซ็คกับเล็กซี่ฉายอยู่ในหัว คำพูดของแซ็คดังขึ้น


‘เหมือนเสือที่เจอเหยื่อก็ต้องล่าแล้วกิน…’


 “Hello… yeah…” ไอติมหันไปมองลูคัสที่เดินคุยโทรศัพท์มาด้วย มือซ้ายของเขาถือของติดมือกลับมา แก่นกายพุ่งตรงพร้อมรบ ไอติมดันตัวลุกขึ้นนั่ง ลูคัสวางกล่องถุงยางกับขวดเจลหล่อลื่นไว้บนโต๊ะ มือขวายังคงถือโทรศัพท์ไว้ เขาใช้มือซ้ายชี้กลางลำตัวของตัวเอง กดหน้าลงหนึ่งครั้งพร้อมกับอ้าปาก


ไอติมนั่งเม้มปาก แล้วก็เปลี่ยนเป็นนั่งกอดเข่า ลูคัสมองด้วยความแปลกใจแต่เพราะคุยโทรศัพท์อยู่เขาเลยยังไม่พูดอะไร จนกระทั่งวางสาย พระเอกรุ่นใหญ่ก็วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะแล้วหันไปมองลูกสาวตัวเอง


“What? (มีอะไรเหรอ)” ไอติมหันไปมองลูคัสด้วยความรู้สึกหน่วง ๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจแผ่วเบา


“I tell Zach I don’t like when he fuck other girl. I want he has only me. But I understand now. (ผมบอกแซ็คว่าผมไม่ชอบเวลาเขาเอาผู้หญิงคนอื่น ผมอยากให้เขามีแค่ผม แต่ผมเข้าใจแล้ว)” ลูคัสมองไอติมด้วยสายตาอบอุ่น รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้า


“Understand what? (เข้าใจว่าอะไร)” ไอติมปล่อยแขน เลื่อนสองขาลงวางบนพื้นหลังจากรู้สึกว่าไอติมแท่งอ่อนตัวลง ไอติมมองกล้ามเนื้ออันเขื่องของลูคัสที่ค่อย ๆ อ่อนตัวลงแวบหนึ่ง


“I’m selfish. (ผมเห็นแก่ตัว)” ลูคัสยิ้มไม่เห็นฟัน ยื่นหน้าไปหอมหน้าผากไอติมหนึ่งที


“Alright, we will pause it. (เอาล่ะ เราจะเบรกไว้ชั่วคราวก็แล้วกัน)” ไอติมยิ้มเล็กยิ้มน้อย พยักหน้าลงหนึ่งครั้ง


“Meeting? (ประชุมเลยมั้ยฮะ)” ลูคัสเบ้ปากน้อย ๆ พร้อมกับพยักหน้า


“We should finish within one or two hour. Jake is coming here. (เราควรเสร็จภายในหนึ่งหรือสองชั่วโมง เจคกำลังมาที่นี่)” ลูคัสยืนขึ้นและหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาพันรอบเอวอีกครั้ง ไอติมแหงนหน้ามองอีกฝ่ายด้วยความตะลึงเล็กๆ


“Why he come? (เขามาทำไม)” 


“He wanted to talk. (เขาอยากจะคุย)” ไอติมย่นคิ้ว รู้สึกเป็นกังวลกับการมาของเจค็อบ มันต้องน่ากังวลอยู่แล้ว เพราะตอนนี้เขากับคนอื่น ๆ ยกเว้นแอนโทนี่หนีมาจากเขา

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 07-05-2019 20:24:42
V
v
v

กริ๊ง


เสียงกริ่งดังขึ้น ลูคัสมองหน้าไอติมและชี้กางเกงเป็นเชิงบอกให้หยิบขึ้นมา ไอติมพยักหน้า ก้มลงหยิบกางเกงมาสวมใส่จนครบชิ้น ลูคัสมองหน้าไอติมแล้วยิ้มเอ็นดู ก้มลงจูบปากไอติมอีกทีก่อนผละออกไป เดินไปเปิดประตูให้กับแขก ไอติมเม้มปากแล้วยิ้ม ความรู้สึกวูบวาบแล่นไปทั่วร่าง และในหัวก็คิดถึงแซ็ค


“Good morning, ice-cream. (สวัสดียามเช้าไอศกรีม)”


“Hi, Leo. Hi, Bruce.” ไอติมทักทายพ่อคิงคองกับบรูซเพื่อนแซ็ค ลูคัสเดินกลับมา มีดัสตินเดินตามมาด้านหลัง ไอติมมองชายหนุ่มฝรั่งทั้งสี่คนแล้วก็รู้สึกตลก เพราะเขากำลังนึกถึงฉากในหนังโป๊ที่หญิงสาวตัวเล็ก ๆ อยู่ท่ามกลางผู้ชายผิวสีตัวใหญ่ ๆ อะไรทำนองนั้น


“ฉันไปใส่เสื้อผ้าก่อน นั่งคุยกันตรงนี้แหละ” ทุกคนพยักหน้า ลูคัสเดินออกไปจากวงประชุม ไอติมนั่งลงบนโซฟา สายตามองเห็นกล่องถุงยางกับเจลหล่อลื่นบนโต๊ะก็ชะงัก คิดหาทางเอื้อมมือไปดึงมาเก็บไว้แต่ก็ไม่ทัน


“ของใครน่ะ” บรูซชี้ของสิ่งนั้น ไอติมหันไปมองด้วยความเอ๋อ


“You? ice-cream? (ของนายเหรอไอศกรีม)” เลโอถามบ้าง ไอติมขยับเปลือกตากว้างขึ้นอีกนิดแล้วก็สั่นหัว


“อ่า…”


“…ของฉันเอง” เจ้าของบ้านที่เปลี่ยนเป็นใส่เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงขาสั้นสีครีมแบบผูกเชือกเป็นคนตอบ ดัสตินนั่งหัวเราะอยู่ตรงโซฟาตัวตรงข้ามกับไอติม ลูคัสนั่งลงข้างดัสตินพร้อมกับยิ้มอารมณ์ดี วางสมุดโน้ตกับปากกาไว้บนตัก


“โอ้ เมื่อคืนคงมีปาร์ตี้เล็ก ๆ สินะ” บรูซยิ้มแซว ลูคัสยิ้มกว้าง ดวงตาวิบวับมองไอติมที่นั่งนิ่งครู่หนึ่งก่อนเลื่อนไปมองคนพูด


“เสียดาย ปาร์ตี้จบไวไปหน่อย” เลโอมองสลับลูคัสกับไอติมแล้วยิ้มเบ้ปาก ไอติมเงยหน้าขึ้นมองเลโอก็ทำหน้าเหลอหลา เลโอหรี่ตามอง ไอติมยิ้มตาใสเข้าสู้


“นายสองคนเป็นนักแสดงก็จริง แต่ฉันอยากให้พวกเราได้คุยกันทั้งหมดน่ะ ตอนนี้เราก็มีกันเท่านี้ ฉันถือว่าความคิดเห็นของนักแสดงในสังกัดของฉันก็สำคัญ”


ไอติมยกมือขวาขึ้น ลูคัสพยักหน้า “And… Bryan?”


“I have called him but he told me that he is not available. (ฉันโทรหาเขาแล้ว แต่เขาบอกฉันว่าเขาไม่ว่าง)” ไอติมมองลูคัสตาไม่กะพริบเพราะกำลังนึกอยู่ว่าทำไมถึงไม่ว่างทั้งที่นัดครั้งนี้เป็นงาน


“Is he okay? (เขาโอเคใช่มั้ยฮะ)” ไอติมถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วง เลโอกับบรูซมีสีหน้าประหลาดใจ ดัสตินนั่งนิ่ง ส่วนลูคัสทำเพียงยิ้มบางเบา


“I think he has to do an old job that he deal with Jake. (ฉันคิดว่าเขาต้องไปทำงานเก่าที่คุยกับเจคไว้นะ)” ไอติมกำลังจะร้องอ้อด้วยความรู้สึกวาบหวิวในอก แต่สักพักก็ชะงักเพราะคำพูดของเลโอ


“I don’t think so. (ผมไม่คิดงั้นนะ)” ลูคัสหันไปมองเลโอแล้วเลิกคิ้วขึ้น เลโอหันไปมองบรูซที่นั่งอยู่ข้างซ้ายของไอติม


“ต้องถามก่อนว่าคุณคุยกับเขาล่าสุดเมื่อไหร่”


“เมื่อคืนนี้” บรูซพยักหน้ากับคำตอบของลูคัส


“ไม่แน่เขาอาจจะออกไปหลังจากผมออกมาแล้ว แต่ประเด็นคือผมเคาะเรียกเขา แต่เขาไม่ตอบรับเลย เขาไม่ได้ไปซ้อมเต้นตามนัดที่ผ่านมาด้วย” จากตอนแรกที่ลูคัสมีทีท่าสบาย ๆ ใบหน้าของเขาก็เริ่มครุ่นคิดอย่างเป็นกังวลไม่แพ้ไอติม


“งั้นเสร็จจากตรงนี้ ไปหาหมอนั่นกัน” ทุกคนพยักหน้า ไอติมพยักหน้าแรงสุด


“งั้นกลับมาคุยเรื่องของเรา” ดัสตินยกมือขวาขึ้นก่อนคนแรก


“ฉันขอตากล้องเพิ่มก่อนเลย ถ้าตัดต่อเป็นด้วยก็จะดี”


“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วละ ส่วนภาพนิ่งเราก็จ้างช่างภาพอิสระที่รับงานเป็นประจำอยู่แล้วก็พอ” ดัสตินพยักหน้า ลูคัสจดข้อมูลลงสมุดโน้ตที่พกมาอย่างรวดเร็ว


“My friend can shoot. He studies with me. (เพื่อนผมสามารถถ่าย เขาเรียนมากับผม)” ไอติมเสนอความคิดเห็นขึ้นมาหลังจากนั่งแปลจนแน่ใจและชั่งใจว่าควรเสนอดีมั้ย


“And he wants to do this job? The camera man in this job—you know, it’s different. (แล้วเขาอยากทำงานนี้หรือเปล่า ตากล้องงานนี้ก็ เธอก็รู้ มันแตกต่างน่ะ)” ไอติมพยักหน้าด้วยความเข้าใจ


“I will ask him and if he interest I will tell you. (ผมจะถามเขาและถ้าเขาสนใจผมจะบอกคุณ)” ลูคัสพยักหน้า จดข้อมูลลงบนสมุดโน้ต ไอติมรู้สึกว่าควรจดไว้บ้างแม้จะเป็นภาษาไทยก็ตาม แต่ก็ควรจดเอาไว้จะได้ไม่ลืม


“เอาคนเดียวพอก่อนแล้วกันนะ เรายังต้องประหยัดจนกว่าจะได้สปอนเซอร์เพิ่ม” ดัสตินพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ลูคัสมองนักแสดงทั้งสองคนแล้วยิ้ม


“ขอบคุณนายทั้งสองคนมากที่ไว้ใจมาอยู่ด้วยกัน”


“คงต้องขอบคุณไอคนที่ไม่ได้มา” บรูซยิ้ม เลโอพยักหน้าเป็นการเห็นด้วย


“ของผมคงต้องขอบคุณไอศกรีมเพิ่มอีกคน” เลโอหันไปมองหนุ่มเอเชียหนึ่งเดียวแล้วคลี่ยิ้ม ไอติมยิ้มตอบ


“แต่ของผมไบรอั้นคงบอกเรื่องเงื่อนไขให้คุณรับรู้แล้ว” ลูคัสพยักหน้าให้กับบรูซ


“ใช่ เขาบอกแล้ว…” ลูคัสมองไอติมแล้วยิ้มภูมิใจ


“…ไม่ต้องห่วง ครีเอทีฟคนเก่งของเราจะหาเรื่องที่เหมาะสมที่สุดให้เอง” ทุกสายตามองไปที่ไอติมจนเจ้าตัวเขินนิดหน่อย


“I will not create a strange porn for you. (ผมจะไม่สร้างหนังโป๊ประหลาดสำหรับคุณ)” ไอติมยิ้มหน้าเป็น บรูซหัวเราะ


“เราจะมีหนังสองแบบ หนังโป๊เกย์กับหนังชายหญิง แต่ชายหญิงของเราจะเน้นนักแสดงทั้งหญิงและชาย ตอนนี้เรามีนักแสดงสามคนถ้วน เลโอจะไปทางชายชายเต็มตัว ไบรอั้นจะเน้นชายหญิงมากกว่า บรูซก็เช่นกัน”


“เราจะไม่จ้างพวกอิสระหรือยืมตัวค่ายอื่นมาบ้างเหรอ” ดัสตินถาม


“นั่นต้องทำอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นฝั่งตัวพระเอก ฉันคุยกับไอศกรีมแล้ว เรามองเหมือนกันว่าปั้นเด็กเอง สร้างมูลค่าให้เขาดีกว่า และต้องหาคนที่รูปร่างหน้าตาไปในทางเดียว ให้เป็นเอกลักษณ์ของค่ายเรา”


“Like this. (แบบนี้)” ไอติมชี้สามหนุ่มกล้ามใหญ่กล้ามโต ดัสตินเบ้ปากเล็กน้อย พยักหน้าด้วยความเข้าใจ ลูคัสหัวเราะ


“Except me. (ยกเว้นฉันสิ)” ไอติมย่นคิ้วย่นจมูก


“You said you will play if you like my concept. (คุณบอกคุณจะเล่นถ้าคุณชอบคอนเซ็ปต์ผม)”


“Then I am going to say no all of your concept. (งั้นฉันจะปฏิเสธคอนเซ็ปต์เธอให้หมด)” อีกสามหนุ่มขำขันเบา ๆ ไอติมทำหน้าเหวอก่อนจะขำตามเมื่อเข้าใจอย่างดีเลย์ไปหน่อย


“Your friend, don’t forget to ask someone. Big มัสเคิล like you. (เพื่อนคุณ อย่าลืมถามสักคน กล้ามเนื้อใหญ่แบบคุณ)” ลูคัสพยักหน้าขณะจดโน้ตไปด้วย


“I have asked a few of them, (ฉันถามไปแล้วสองสามคน…)” ลูคัสเงยหน้าขึ้นจากสมุดโน้ตแล้วมองหน้าไอติม


“But you have to like them too. I mean your sense must click with them. (แต่นายต้องชอบพวกเขาด้วย ฉันหมายถึงเซ้นส์นายน่ะว่าต้องตอบรับพวกเขา)” ไอติมพยักหน้าสองสามครั้ง


“ว่าแต่ ค่ายเราชื่ออะไรกัน” ทุกคนชะงักนิ่งและมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมายหลังจากจบคำถามของเลโอ แล้วสักพักลูคัสก็หัวเราะเบา ๆ เพราะว่าพวกเขายังไม่มีชื่อสตูดิโอเป็นของตัวเองเลย


“ใครมีชื่อดี ๆ เสนอบ้างล่ะ” ลูคัสถามทุกคนในที่ประชุม ไอติมไม่มีไอเดียด้านนี้จริง ๆ เนื่องจากคำศัพท์ที่มีในหัวไม่หลากหลาย และไม่รู้ว่าจะต้องตั้งชื่อให้มีลูกเล่น หรือมีความหมายพิเศษอะไรหรือเปล่า


“Demigod?” ลูคัสเป็นคนเอ่ยขึ้นมา มองหน้าทุกคนด้วยสายตาเป็นคำถามว่าคิดเห็นยังไง ดัสตินไหวไหล่ทั้งสองข้าง ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรอยู่แล้วไม่ว่าจะใช้ชื่อไหน


“What it mean? (มันแปลว่าอะไรฮะ)”


“Half god half human. (ครึ่งเทพเจ้าครึ่งมนุษย์)” ไอติมร้องอ้อเบาๆ


“ผมว่ามันก็พรีเซ้นต์ลักษณะนักแสดงชายที่คุณบอกได้ดี” ลูคัสพยักหน้า สีหน้ายังครุ่นคิด


“แต่ก็จะลำบากเราในการหานักแสดงชาย ถ้ามาตรฐานไม่สมชื่อค่าย ก็น่าจะโดนกระแสตีกลับ”


“หาน่ะไม่ยากหรอก แต่จะมาเล่นรึเปล่านั่นต่างหาก” ดัสตินกอดอกแล้วว่าเรียบ ๆ ลูคัสพยักหน้าเห็นด้วย


“ฉันติดชื่อนี้ไว้ก่อนแล้วกัน” ทุกคนพยักหน้ายกเว้นไอติม เพราะเรื่องชื่อเขาแล้วแต่เจ้าของภาษาเลยว่าจะใช้ชื่อไหน


จากนั้นก็เป็นการคุยเรื่องสิ่งที่จะต้องทำต่อไป เช่น เว็บไซต์ของค่าย หาสปอนเซอร์เพิ่ม บรูซถ่ายแบบกับนิตยสารเกย์ชื่อดังของวงการ เริ่มการถ่ายทำหนังของนักแสดงในสังกัด (เท่าที่มีอยู่) โดยจะเริ่มจากของเลโอก่อน ไอติมเสนอคอนเซ็ปต์ให้ลูคัสและทุกคนฟัง เสนอทั้งของเลโอและของบรูซ รวมไปถึงของแซ็คที่แม้จะไม่ได้มาแต่ไอติมก็ไม่ลืมพูดเรื่องฉายหนังโป๊ของแซ็คกับของเลโอในโรงภาพยนตร์


“I read in internet that in LA have theater can screen porn movie. (ผมอ่านในอินเตอร์เน็ตว่าในแอลเอมีโรงหนังสามารถฉายหนังโป๊ได้)” ลูคัสยิ้มกริ่มและพยักหน้า


“On the list. (จดใส่ลิสต์แล้ว)”


“Wow, I am going to be superstar. (Wow ฉันกำลังจะเป็นซูเปอร์สตาร์สินะ)” เลโอทำหน้าภาคภูมิใจ ไอติมยิ้มขำแล้วหันไปมองบรูซ


“Bruce, it doesn’t mean bad for you. I have another way for you. (บรูซ มันไม่ได้หมายความว่าไม่ดีสำหรับคุณนะ ผมมีอีกหนทางสำหรับคุณ)” บรูซยิ้มอย่างไม่ถือสา


“Don’t worry. I could make myself famous more than them without porn in the theater. (ไม่ต้องห่วง ฉันสามารถทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงได้มากกว่าพวกเขาโดยที่ไม่ต้องมีหนังโป๊ในโรงหนัง)” หนุ่มฝรั่งอีกสามคนหัวเราะเฮฮา ไอติมยิ้มกว้างด้วยความโล่งใจที่บรูซไม่ได้รู้สึกไม่ดี


 “And Lukas, I don’t want our actor be bottom. I want them be top only. We can hire freelance bottom. (แล้วก็ลูคัส ผมไม่อยากให้พระเอกเราเป็นรับ ผมอยากให้เป็นรุกอย่างเดียว เราสามารถจ้างนักแสดงฝ่ายรับอิสระได้)”


“You want to value them, do you? (อยากเพิ่มมูลค่าให้พวกเขาใช่มั้ย)” ไอติมหน้างงกับคำศัพท์นั้น เลโอเลยช่วยอธิบายด้วยคำง่าย ๆ จนไอติมเข้าใจ ช่วงแวบสั้น ๆ ไอติมคิดถึงแซ็คที่มักจะเข้าใจสกิลการพูดของเขามากที่สุด และมักเป็นดิคชันนารีกับผู้แปลให้เสมอๆ


“Yes, it will be good. I think gay people will love this and want to be bottom for our actor. (ใช่ฮะ มันจะดี ผมคิดว่าชาวเกย์จะชอบแบบนี้และอยากเป็นรับให้กับพระเอกของเรา)” ลูคัสพยักหน้าด้วยความเข้าใจกับความหมายที่ไอติมพยายามจะสื่อออกมาว่า มันเป็นการสร้างฝัน สร้างจินตนาการให้กับคนดู และคนดูจะยิ่งรักหลงนักแสดงเหล่านี้


“Okay.”


 “And I have another plan. I think we should have a meeting for fan with actor. (และผมมีอีกแผน ผมคิดว่าเราควรมีมีทติ้งสำหรับแฟนคลับกับนักแสดง)” ลูคัสจดก่อนชะงักเมื่อไอติมพูดประโยคถัดมา


“Sex meeting. Fan and actor. (เซ็กซ์มีทติ้ง แฟนคลับกับนักแสดง)” หนุ่ม ๆ อีกสามคนร้องวู้วร้องว้าวกันยกใหญ่ เลโอกับบรูซหัวเราะกับไอเดียนี้ แต่ไม่ใช่เป็นการดูถูกไอติม มันเป็นอาการขำเพราะความสนุกสนาน


“Then we should make them famous first. (งั้นเราก็ต้องทำให้พวกเขามีชื่อเสียงก่อน)”


“We have one famous, Bryan. He is more famous I think he can have meeting first actor. (เรามีดังแล้วหนึ่งคน ไบรอั้นไง เขาดังมาก ผมคิดว่าเขาสามารถมีมีทติ้งพระเอกคนแรกได้)” ไอติมรู้ตัวว่าพูดมั่วกลับไปกลับมาและเรียงผิด แต่ทุกคนก็พยายามเข้าใจ และก็เข้าใจจริง ๆ ว่าไอติมจะสื่ออะไร


“That’s interesting. (น่าสนใจ)” ลูคัสโน้ตไว้ในสมุด


“แต่สภาพมันตอนนี้ไม่น่าจะพบปะใครได้นะ” ดัสตินเอ่ยบอก ลูคัสพยักหน้าหนึ่งครั้งด้วยความเข้าใจ


“We will pick one woman from money, who pay more will fuck with Bryan and we will record everything like a porn. And we will have top nine woman to meeting only. (เราจะเลือกผู้หญิงหนึ่งคนจากเงิน ใครจ่ายมากจะได้เอากับไบรอั้นและเราจะบันทึกทุกอย่างเหมือนหนังโป๊หนึ่งเรื่อง และเราจะมีท็อปเก้าสำหรับมีทติ้งโดยเฉพาะ)” ไอติมพยายามอธิบาย


“โอ้ว แผนโกยเงินไม่เลวเลยนะเนี่ย” บรูซเอ่ยแซว ลูคัสยิ้มกริ่มและพยักหน้าเห็นด้วย


“Okay, we will do this. (โอเค เราจะทำ)” ไอติมยิ้มกว้างเมื่อลูคัสตอบรับ


“And you should, too. I believe your fan will pay so much. (และคุณก็ควรด้วย ผมเชื่อว่าแฟนคลับของคุณจะจ่ายเยอะมาก)” ลูคัสคลี่ยิ้มขำกับการพยายามของลูกสาวตัวเอง เขาไม่ได้ตอบอะไรแค่จดไอเดียที่คุย ๆ กันไว้ลงในสมุด


“เอาล่ะ สัปดาห์หน้ามีถ่ายปฏิทินรอบสอง และนายสองคนจะถ่ายรูปพอร์ตเทรตใส่เว็บไซต์ไปด้วยเลย” เลโอกับบรูซพยักหน้า


“นักแสดงทั้งสองคนมีอะไรอยากเสนออีกมั้ย” ลูคัสเอ่ยถาม เลโอกับบรูซนั่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เลโอจะเป็นพูด


“ผมไม่ได้แช่งนะ แต่เราจะไปรอดมั้ย” บรรยากาศไม่ได้ด่ำดิ่งหรือเครียด ดัสตินนั่งหัวเราะไหล่สั่น ลูคัสเองก็ยิ้มกว้างตลกขบขัน


“ฉันหวังให้เราไปรอด แต่ถ้าสุดท้ายไม่รอด นายสองคนจะยังได้รับค่าตัวครบตามสัญญานะ”


“ตากล้องต้องการอะไรเพิ่มมั้ย”


“ขอทีมงานดี ๆ ก็พอ แล้วก็มีถ่ายบ่อย ๆ หน่อย ฉันจะได้มีเงินเข้าบัญชี” ดัสตินตอบหน้าตาย ลูคัสหัวเราะ ก่อนจะชะงักเพราะโทรศัพท์ดังขึ้น บรูซขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ดัสตินลุกเดินไปทางครัว


“เลโอ รบกวนที เปิดประตูให้เจคหน่อย” ไอติมเหมือนเป็นอัมพาตไปชั่วขณะเมื่อได้ยินชื่ออดีตเจ้านายของตัวเอง ลูคัสไม่ได้มีทีท่าหวาดหวั่นใด ๆ เขานั่งจดในสมุดโน้ตต่อในขณะที่เลโอลุกเดินไปเปิดประตูให้ตามที่อีกฝ่ายไหว้วาน


“What should I say? (ผมควรพูดว่าไง)” ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองไอติมนิ่งวิสั้น ๆ ก่อนจะส่ายหัวแล้วยกมือขวากวักมือเรียกให้ไอติมเข้าไปหา ไอติมลุกขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่มีคนจากข้างนอกเดินเข้ามาในบ้าน พอไอติมนั่งลงข้างซ้ายของลูคัสก็เห็นเจค็อบกับแอนโทนี่เดินเข้ามาในบ้านและมีเลโอตามหลังมา


ไอติมกับเจค็อบสบตากัน ช่วงเวลานั้นท้องไอติมบิดเป็นเกลียว ช่วงอกโล่งวูบไหวอยู่ครู่หนึ่ง หัวใจเต้นกระตุกหนึ่งครั้ง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็สงบ ไอติมนั่งเฉยเมยมองหน้าเจค็อบที่ยังคงมองเขากลับมาอย่างไร้ความรู้สึก


“Good afternoon my old friend. (สวัสดียามบ่ายเพื่อนเก่าของฉัน)” เจค็อบเลื่อนสายตาไปมองลูคัสตาคมวาว







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



อ้ากกก น้องงงง น้องเกือบเสียตัวกะคุณพ่อน้องแล้วนะคะ วี้ดดดด เธอตื่นตัวง่ายมากนังกระต่าย หื้มมมม

ค่ายหนังโป๊ค่ายนี้ก็เป็นค่ายเร็ก ๆ มีนักแสดงทั้งหมดสามคน -..- ค่อย ๆ หากันไปเนอะ เราต้องมีก้าวแรกเสมอก่อนจะไปก้าวต่อ ๆ ไป ฮึบ!

แต่พระเอกค่ายนี้ดูน่าสนใจจังค่ะ มีเกณฑ์ มีคอนเซ็ปต์ พี่ขอทำงานด้วยคนไ้ดมั้ยคะน้องติม หุๆ ท่าจะทำงานสนุกกก  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 07-05-2019 20:58:03
เกือบได้อีกแต้มเพิ่มแล้วน้องติม ส่วนนังแซ็คก็เชิญใช้ชีวิตแบบนั้นไปเลยนะ ถ้ายังไม่เห็นว่าน้องมีค่าพอที่จะรักษาไว้ หึ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 07-05-2019 21:31:35
เจคมา ยรรยากาศมาคุเลย โอยยย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 07-05-2019 21:53:25
เข้าใจแล้วใช่มั้ยลูกไอติม ตอนที่หนูบอกว่าหนูรักไบรอั้นหนูยังมีอารมณ์กับเลโอและอื่นๆ ไบรอั้นก็เหมือนกัน มันเป็นสัญชาตญานนะลูก ธรรมชาติของอั้นเป็นแบบนั้น ก็เหมือนกับธรรมชาติของติมที่เป็นแบบนี้ หนูควรจะหาตรงกลางถ้าอยากรักษาคสพ.นี้ไว้ รับได้แค่ไหน  อย่ากลัวที่จะเริ่มต้น อนาคตอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 07-05-2019 21:54:02
เชียร์เดนนี่มากกกกกกก ละมุนเว่อร์ ส่วนยัยติมแซ่บมากลูกกกก มันต้องอย่างนี้ ความลำเอียงมันอยู่ตรงนี้อะค่ะ ผู้จะนอกใจนอกกายลูกเราไม่ได้แต่ลูกเราจะมีเท่าไหร่ไม่ว่ากัน กำไรชีวิต55555555555 แต่หนูจะมาตัวงอเป้าตุงต่อหน้าแดดดี้ไม่ได้ป่ะคะ แต่ทำไมไอติมต้องโหวงตอนเจอแอนฯ? เพราะว่าเคยสนิทกันหรือเพราะคนในห้องนั้นไม่ใช่เจคแต่เป็นอทน?
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 07-05-2019 22:31:57
รู้สึก กะตู้ฮู้มาก การสนทนา ไอติม และเดน และเกือบจะได้กินลูคัส อี๊ๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-05-2019 22:46:20
สงสัยมันต้องเลือกระหว่างชีวิตรัก กับ ชีวิตเซ็กส์ แล้วล่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-05-2019 22:49:02
แดนติม แดนติม แดนติม   :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 08-05-2019 14:06:25
เอ้า !!!!!!!!! อิพี่โว้ยยย น้องเค้าไปหน้าดิ๊กๆ มัวไปหลับอยู่ไหน ฟื้นย๊างงงงงง
เอาจริงทางนี้เป่าลมจากปากฟู่วววววยาวๆเลยนะ ที่น้องยังไม่ได้กับลูคัส  :mew2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 08-05-2019 14:40:03
โอ่ยๆๆ น้องติมลูกแม่สมเป็นกระต่ายจริงๆ หนูตื่นง่ายมากลูก แด๊ดดี้ลูคัสแค่ไปทิ้งขยะเองรู้กกก :o8:

แล้วเดนนี่จะมาเป็นตากล้องให้น้องติมไหมเนี่ย อยากให้เดนนี่น้วยน้องติมแล้ว คิดถึงงงง :sad4:

ส่วนตาแซ็คก็....... (ถึงเราจะปันใจแต่นางก็ยังเป็นพระเอกอยู่เนอะ เข้มแข็งนะแซ็ค :กอด1:)
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: jin_kazu ที่ 08-05-2019 17:06:57
สมชื่อกระต่ายเลยน้องติม  :-[
แต่แบบเจคโผล่มารู้สึกได้ว่าจะมีเรื่องงงงงง
รอตอนต่อไปค่าาาาา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 10-05-2019 23:34:34
นั่นแหละ สุดท้ายไอติมก็ต้องตอบตัวเองให้ได้
ว่าจะแยกเซ็กส์ ออกจากความรักได้ไหม

แต่ดูท่าแล้วน้องคงถอยออกมาแบบโนแคร์แน่ๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-05-2019 11:30:32
น้องติมลูก แค่เห็นนมใหญ่ๆ กะซิกแพ็คแด๊ดดี้ ก็ขึ้นแล้วเหรอค้า  สมเป็นกระต่ายจริงๆ เลย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 11-05-2019 18:09:52
แด๊ดดี้ลูคัสกับน้องติมมมมเกือบไปแล้วลูก :-[  แล้วตอนนี้เดนนี่ออกนิดเดียวแต่ทำชั้นเขินมาก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.37 : ฺAnd me?. : 07.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 13-05-2019 23:35:59
โดยปกติแล้ว ผมจะไม่ค่อยชอบคอมเมนท์ระหว่างทาง ของเรื่องที่เขียนจบแล้ว แต่ทยอยเอามาลงเล้านะครับ เพราะว่าหนึ่งคือ เรื่องที่เขียนจบไปแล้ว จะมีพล็อตที่คนเขียนคิดเอาไว้แล้วและเขียนจนเสร็จแล้ว การเอามาลงในที่สาธารณะ มันก็คือการเปิดให้ได้มาอ่านในสิ่งที่คุณเขียนจนเสร็จแล้ว ระหว่างลงไปถึงตอนจบ มันก็เป็นแค่ช่วงเวลาของการรอเฉยๆที่ไม่ได้มีผลอะไรต่อเนื้อเรื่อง คอมเมนท์ในช่วงนั้นไปก็ไม่ได้อะไร ดังนั้น ผมมักจะชอบคอมเมนท์หลังจากเรื่องลงจนจบแล้วมากกว่า ในกรณีที่ผู้เขียนเขียนจนจบแล้วน่ะนะครับ เพราะมันจะเห็นทั้งหมดทีเดียว แต่ถ้าเป็นนวนิยายแบบ On-going ผู้เขียนจะพัฒนาฝีมือการเขียนไปพร้อมๆกับความคิดเห็นของผู้อ่าน แบบนั้นผมก็สะดวกใจที่จะคอมเมนท์บ้าง เพราะคาดหวังว่าผู้เขียนน่าจะนำข้อคิดเห็นไปปรับปรุงและพัฒนาการเขียนให้รอบคอบน่าสนใจมากขึ้น

ทีนี้มาว่าถึงเรื่องนี้ Fall in Lust... เรื่องนี้ผมคอมเมนท์แบบสั้นๆไปเยอะมากเหมือนกัน แต่ที่ยังยืนยันอยู่ก็คือ เป็นเนื้อเรื่องที่ให้อารมณ์เชิงเพศรสที่พล็อตไม่ตลาดครับ เป็นแนวนวนิยายออกโรแมนซ์ที่สำหรับผมคือมันดีนะ เพราะจะว่าไปก็คือพล็อตคล้ายๆกับเกมจีบหนุ่ม ที่ตัวละครแต่ละตัวมีเนื้อเรื่องและสตอรี่ของเขา ซึ่งนิสัยและตัวตนของไอศครีมมาขมวดปมเข้าไปจึงทำให้เกิดการดำเนินเรื่องต่อได้ดี ดังนั้น เนื่องจากว่าโทนของเรื่องออกแนวนี้ ผมเลยเคยบอกไปว่ามันไม่จำเป็นต้องจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งก็ได้ เพราะแซ็คต้องรับผลการกระทำของตัวเขาเองที่เลือก ซึ่งไอศครีมเองเป็นตัวนางที่ผมชอบนะครับ เค้าค่อนข้างคิดอะไรได้ Logical และตัดสินใจได้เด็ดขาดดี แต่ถ้าลังเลก็จะมีโมเมนท์แอบเขินน้อยๆหรือไม่พูดออกไปตรงๆ เช่นโมเมนท์ที่อยู่กับเดเนียล หรือลีโอ ตรงนี้มันเลยทำให้รู้ว่าสามารถลุ้นเคมีคู่ขึ้นได้ เอาจริงๆแล้วผมว่าเรื่องนี้ควรจบแบบฮาเร็มหรือ Open Relationship นะ เพราะสตอรี่มันเปิดโอกาสให้จบทางนี้ได้ มีไม่กี่เรื่องที่พล็อตจะปูมาจนจบแบบ Open Relationship ได้นะครับ ส่วนมากมักจะเป็นสตอรี่ 3P แบบเน้นการเสพเมถุน ซึ่งผมว่ามันค่อนข้างตลาด แต่เรื่องนี้เราสามารถเล่นดราม่าได้ เล่นการคิดของตัวละครได้ และการจบแบบนี้ก็สอดคล้องกับพล็อตการดำเนินเรื่องเช่นนี้ด้วย ทำให้มันสมเหตุสมผลได้

แต่บางอย่างที่ผมเคยสังเกตได้ คุณเจ้ก็ยังไม่เคลียร์ในเนื้อเรื่องเท่าที่เห็นนะครับ จุดแรกคือ ครั้งแรกที่แซ็คเห็นเดนนี่ แซ็คกระตุกใจว่าคุ้นหน้าเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ตรงนี้ยังไม่มีการเฉลยในเรื่องเลยครับ จะเป็นจุดซ่อนปมระหว่างสองคนนี้ หรือว่าจะเป็นนัยยะสื่อถึงความเด่นคาแรกเตอร์ของเดนนี่ (ดังจนลงนิตยสาร, เคยเล่นหนัง, etc) อันนี้ผมก็ยังไม่เห็นนะครับ จุดที่สอง ผมว่าน่าจะเคยพูดไปแล้ว แต่พล็อตแบบนี้มันไม่เอื้อการสร้าง Heroism ให้กับตัวละครใดตัวละครหนึ่ง ถ้าสังเกต ตัวบรรยายจะค่อนข้าง biased ไปทางแซ็คมากในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่อง Virility, Masculinity ซึ่งการบาลานซ์สปอตไลท์มันควรจะกระจายในพล็อตแบบนี้ แม้ว่าในปัจจุบัน (ตอน 35 เป็นต้นมา) ที่แม้เราจะเล่นเรื่องการพังของแซ็ค แต่ก็ยังเห็นว่ายังมีการบู๊ส Virility, Masculinity ของแซ็คอยู่เป็นระยะๆ การทำแบบนี้มันไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่ผมคิดว่ามันจะทำให้เกิด Cinderella Syndrome ให้กับคนอ่าน (แบบเดียวกับการเทบทของ เพราะเจ้านายเป็นของไอ้เข้ม) การแบ่งบทที่ดีจะไม่ทำให้พระเอกดู Heroism มากเกินไป เพราะปกติการทำบทฉายสปอตไลท์แบบนี้ มักจะทำในวรรณกรรมเยาวชนฮีโร่ช่วงแรกๆ (และถ้าสังเกต จะเห็นว่ามันดังไม่นาน ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ Percy Jackson ซึ่งหลังๆคนเขียนก็ต้องปรับ mindset ใหม่เพื่อทำให้หนังสือขายดีขึ้น เพราะตัวพล็อตดีมาก สามารถขยายได้เยอะ หรือ Twilight ที่เอียงเทบทเอ็ดเวิร์ดจนน่าเกลียด) ขณะที่วรรณกรรมหลายเรื่องที่สร้างคาแรกเตอร์ออกมาได้ดี แบ่งบทได้น่าสนใจและกระจายสปอตไลท์ แม้จะมีปมของตัวละคร แต่ผู้อ่านก็พร้อมจะค้นหาไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น The Lord of the Ring, A song of Ice and Fire, Circle of Magic (วงล้อมแห่งมนตรา), ห้าสหายผจญภัย อีกทั้ง การเทบทสปอตไลท์ในนวนิยายโรแมนซ์ จะนำไปสู่ Single Ending แบบเดียวกับนวนิยายโรแมนซ์ทั่วๆไปในตลาด ผมคาดการณ์ไว้ว่าอารมณ์ของตอนจบแฮปปี้เอ็นดิ้งเรื่องนี้ ไม่แตกต่างกับตอนจบที่มีฉากอัศจรรย์ของนวนิยายโรแมนซ์ในตลาดสักเล่ม ซึ่งศักยภาพมันสามารถไปไกลได้กว่านั้นครับ ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ในอนาคตก็อยากให้คำนึงถึงเรื่องนี้มากๆเพื่อพัฒนางานเขียน สำหรับเรื่องนี้คงไม่ทันแล้วเพราะเขียนจบไปแล้ว การจะมาเชียร์เดนนี่หรือใครก็ตามที่ไม่ใช่แซ็ค คงไม่ใช่สิ่งที่เชียร์ขึ้นสักเท่าไหร่น่ะครับ แต่แม้จะเป็นอย่างนั้น ผมก็ยังไม่เทใจให้แซ็คนะครับ (ยังคงเมนเดนนี่อยู่) อาจจะเพราะไบแอสเรื่องการแบ่งบทด้วย ยิ่งเท Heroism ผมยิ่งรู้สึกว่ามันอวยเกินความจริงไปหน่อย ฮะๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 14-05-2019 19:59:35

Fall in lust - Chapter 38 :: Care. (ห่วง)




   ไอติมนั่งมองวิวข้างทางที่รถของลูคัสขับผ่านไปอย่างเหม่อลอยแต่ไม่ถึงกับสติหลุดหายไปจากหัว แค่กำลังคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นมาได้ยังไม่ถึงชั่วโมง ทบทวนคำพูดของเจค็อบที่พูดกับลูคัส ไม่รู้เพราะเก่งภาษาอังกฤษขึ้นหรือเพราะความไม่ชอบเลยส่งผลให้ไอติมตั้งใจฟังและแปลออกทุกคำที่ฝ่ายนั้นพูดออกมาได้หมด
   

หรือเพราะไอติมรู้ว่าอีกฝ่ายต้องพูดถึงแซ็ค เลยตั้งยิ่งตั้งใจฟังเป็นพิเศษ แล้วมันก็จริงดังนั้น

   


‘เขายังมีสัญญากับฉันอยู่ และการที่เขาทำแบบนี้ ย่อมไม่เป็นผลดีกับเขาแน่นอน’
   
‘แต่สัญญาของนาย ก็ไม่ได้เป็นผลดีกับเขาเช่นกัน’
   
‘หมอนั่นเซ็นยินยอมด้วยตัวเขาเอง ฉันไม่ได้บังคับเขาเลยสักนิด’
   
‘ใช่ ฉันรู้ และถ้าฉันรู้จักไบรอั้นมันตั้งแต่ตอนนั้น ฉันนี่แหละจะเตะมันเรื่องที่มันคิดน้อย…” เจคนั่งหลังตรง ร่างกายเป็นระเบียบ ไอติมพยายามจะยิ้มให้แอนโทนี่ แต่เห็นท่าทีอึดอัดของเขาแล้วก็เลยเลือกจะอยู่นิ่ง ๆ ดีกว่า

“…และต้องขอชื่นชมนายที่อาศัยความละโมบโลภมากของเด็กคนนึงได้ถูกจังหวะกับการหาผลประโยชน์’ เจค็อบยกยิ้มมุมปากซ้าย ดวงตาผ่านแว่นกรอบสี่เหลี่ยมของเขานั้นแม้จะแสดงออกว่านิ่ง แต่ไอติมสัมผัสถึงความดุร้ายในดวงตาของเขา

‘และต้องชื่นชมอีกเรื่องคือนายตาแหลมคมจริง ๆ ที่มองออกว่าใครจะสร้างผลประโยชน์ให้กับตัวเองได้’

‘แล้วนายก็รับช่วงต่อผลประโยชน์นั้น’

‘ฉันได้ผลประโยชน์ก็จริง แต่ฉันก็เสี่ยงถูกนายฟ้องร้อง แต่ฉันก็ค่อนมั่นใจว่าถ้าสู้กันในชั้นศาล พวกฉันก็ไม่น่าจะแพ้ราบคาบ’

ไอติมต้องขอชื่นชมเจค็อบหนึ่งอย่างคือเขาเป็นคนนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวเก่งมาก เดาไม่ค่อยออกว่าเขาโกรธระดับไหน แต่รู้ว่าไม่ปลอดภัยนักถ้าจะอยู่กับผู้ชายคนนี้

‘ดูนายพร้อมจะขึ้นศาล’ ลูคัสยิ้มนิดหน่อย

‘ก็พร้อมตั้งแต่ออกมาแล้ว ยังโชคดีนะที่ฉันไม่ได้ทำสัญญาอะไรไว้’ เจค็อบยิ้มเหยียด

‘เพราะฉันไว้ใจ’ ลูคัสผ่อนลมหายใจออกมาบางเบา ยิ้มด้วยความรู้สึกเศร้า

‘นายเห็นแก่ตัว ไบรอั้นเห็นแก่ตัว และฉันเองก็เห็นแก่ตัว’ เจค็อบนิ่ง แต่ไอติมเห็นแววตาของเขา เห็นว่ามันไม่ได้มีความรู้สึกเสียใจใด ๆ ที่เพื่อนหักหลังตัวเอง

เขามีแต่ความโกรธ และอาจจะกำลังเดินทางไปถึงขั้นเกลียด

‘ฉันฉุดเขาขึ้นมา ฉันก็ทำให้เขากลับไปตกต่ำเหมือนเดิมได้เช่นกัน’ หัวใจไอติมเต้นตึกตักด้วยความกลัว






“Will he really do that? (เขาจะทำแบบนั้นจริงมั้ยฮะ)” ไอติมหันไปมองลูคัสที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือของตัวเอง หนุ่มล่ำกล้ามบึ้กมองถนนด้วยสายตาเรียบนิ่งแต่ก็ตอบคำถามนั้น


“I have to accept that I can’t reach his mind. (ต้องขอยอมรับนะว่าฉันเข้าไม่ถึงจิตใจเขาเลย)” แม้คิ้วจะไม่ขมวด แต่ใบหน้าของไอติมก็ค่อนข้างเคร่งเครียด


“Jacob love Bryan? (เจค็อบรักไบรอั้นเหรอ)” ลูคัสส่ายหัวช้า ๆ ขณะที่หยุดรถเพื่อรอสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว


“I don’t know. And I believe if you ask himself you will not get the answer from him. (ฉันไม่รู้ และฉันเชื่อว่าถ้าเธอถามเขา เธอก็จะไม่ได้คำตอบจากเขาหรอก)” ไอติมมองกล้ามแขนล้ำบึ้กของลูคัสนิ่งสักแปบ ก่อนเลื่อนสายตามองใบหน้าด้านข้างของสารถี


“Why? (ทำไมล่ะฮะ)”


“Because it is his secret. (เพราะมันเป็นความลับของเขายังไงล่ะ)” ไอติมหลุบดวงตาลงมองกล้ามแขนลูคัสอีกครั้งก่อนหันหน้าไปมองท้องถนนเบื้องหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่รถเคลื่อนตัวต่อไปเพราะสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว


“And I have found out his secret. (และผมก็ค้นความลับของเขาเจอ)” ลูคัสหันมองไอติมครู่หนึ่งก่อนหันกลับไปมองถนนต่อ


“What do you mean? (หมายความว่ายังไง)”


“His feeling and his acting with Bryan. (ความรู้สึกและการกระทำของเขากับไบรอั้น)” ไอติมพ่นลมหายใจ


“I think he just mad that Bryan was betrayed him before he will let him go. (ฉันคิดว่าเขาแค่โกรธตรงที่ไบรอั้นมันหักหลังเขาก่อน ก่อนที่เขาจะปล่อยมันไป)” ไอติมหันไปมองลูคัสแล้วยิ้มน้อย ๆ แต่เป็นรอยยิ้มขื่น


“Scary. (น่ากลัวจัง)” ลูคัสยิ้มหึ


“I have to accept again, that I am scared of his though. He will not let us live easily, especially, Bryan. (ฉันต้องยอมรับอีกครั้งนะว่า ฉันกลัวความคิดของเขา เขาจะต้องไม่ปล่อยเราอยู่อย่างง่าย ๆ แน่ โดยเฉพาะไอ้ไบรอั้น)”


“But I am ready to fight with him. I’m scare but I will not let him make me feel bad. (แต่ผมพร้อมจะสู้กับเขา ผมกลัวแต่ผมจะไม่ปล่อยให้เขาทำผมรู้สึกแย่)” ลูคัสหันไปมองไอติมแล้วยิ้มกริ่ม ยกมือขวาขึ้นเป็นรูปกำปั้น ไอติมยิ้มกว้าง ยกมือซ้ายไปชนกับกำปั้นของลูคัสหนึ่งที


“That’s right my daughter. (ต้องอย่างงั้นลูกสาวของพ่อ)” ไอติมหัวเราะคิกคัก แล้วก็ยิ่งขำเมื่อคิดได้ว่าพ่อกับลูกคู่นี้เกือบจะได้เสียกันเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้


ลูคัสจอดกลางถนนและตีไฟเลี้ยวเตรียมเลี้ยวเข้าบ้านแซ็ค พอรถเก๋งสีขาวขับผ่าน และด้านหลังว่างเขาก็หักพวงมาลัยไปด้านขวา รถครอสโอเว่อร์คาร์สีทองเคลือบน้ำตาลเคลื่อนที่เข้าไปในซอยแบบรถวิ่งสวนกันได้สบาย ๆ ขับไม่ถึงห้านาทีก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปในลานจอดรถ ไอติมมองเห็นรถของแซ็คจอดอยู่ในช่องจอดรถของเจ้าตัว


“He is here. (เขาอยู่นี่)” ไอติมพึมพำกับตัวเอง ไม่ได้ต้องการคำตอบจากลูคัส ร่างผอมบางปลดเข็มขัดนิรภัย เปิดประตูแล้วก้าวลงไปยื่นบนพื้นปูน ปิดประตูรถอย่างระมัดระวัง เดินอ้อมหลังรถไปหาลูคัสก่อนก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านในตึก ไม่มีคนเฝ้าอยู่ตรงเค้าน์เตอร์ ทั้งสองคนเดินไปตรงลิฟต์ รอสักพักลิฟต์ก็ลงมา


“คุณต้องจัดการให้เด็ดขาด ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะมาได้กลิ่นกัญชาทั้งวันแบบนี้”


“แน่นอนค่ะ ฉันจะจัดการให้เร็วที่สุด” ไอติมมองหญิงผิวสีที่คอยเฝ้าหน้าเคาน์เตอร์กับฝรั่งผู้ชายมีอายุใส่แว่นหัวขาวและบริเวณด้านหน้าของศีรษะเริ่มไปไกลด้วยความตกใจนิดหน่อย


“I think they are talking about our friend. (ฉันคิดว่าพวกเขากำลังคุยถึงเพื่อนของเรานะ)” ไอติมหันไปมองสองคนนั้นที่เดินไปคุยกันตรงเค้าน์เตอร์ด้วยอารมณ์ต่างกัน ฝั่งผู้ชายซีเรียสมากส่วนฝั่งผู้หญิงก็กำลังพยายามประนีประนอม


“Ice-cream.” ไอติมหันไปตามเสียงเรียก ลูคัสรออยู่ในลิฟต์แล้ว ไอติมก้าวเดินเข้าไปในลิคฟ์ ลูคัสกดเลขชั้นและปล่อยให้ประตูลิฟต์ปิด ระหว่างนั้นไอติมก็รู้สึกหัวใจไหววูบ ความคิดในหัวว้าวุ่นจนรู้สึกมึนหัว พอประตูลิฟต์เปิดออกไอติมก็เดินออกไปพร้อมลูคัส เดินตรงไปยังห้องที่เคยอยู่เพียงหนึ่งคืน


ก๊อกๆๆ


“Hey, Bryan!” ลูคัสตะโกนเรียก แต่ก็ไม่ได้ตะโกนลั่นจนคนทั้งตึกต้องออกมามอง ทั้งสองคนเว้นช่วงสักแปบเผื่อว่าเจ้าของห้องจะเดินมาเปิด แต่หันมองหน้ากันสามรอบแล้วก็ยังมีแต่ความเงียบตอบกลับมา ไอติมเลยกดออดหน้าห้องเผื่อว่าแซ็คจะไม่ได้ยินเสียงเรียก


แต่ก็ยังเงียบอยู่ดี


“Sleeping? (นอนหลับเหรอ)” ลูคัสย่นคิ้วหน้าตาสงสัย ไอติมครุ่นคิดสักแปบก่อนลองตะโกนเรียกบ้าง


“Zach!” หลังจากเงียบไปพักนึงไอติมก็ได้ยินเสียงลิฟต์เปิดอีกครั้ง ทั้งสองคนหันไปมองที่ลิฟต์ หญิงผิวสีร่างท้วมที่ดูแลอพาร์ทเม้นต์แห่งนี้เดินตรงมาทางพวกเขา


“พวกคุณรู้จักเจ้าของห้องนี้เหรอ” เธอถามและมองหน้าแซ็คกับไอติมสลับกัน


“ผมเป็นเพื่อนเขาน่ะครับ” หญิงสาวถอนหายใจหน้าตาไม่ค่อยจะพอใจนัก


“คุณได้คุยกับเขาบ้างหรือเปล่า ช่วงหนึ่งอาทิตย์กว่า ๆ ที่ผ่านมาเขาสูบกัญชาเยอะมากจนมีคนได้กลิ่น”


“เอ่อ เราเพิ่งจะมาหาเขาวันนี้ ถ้ายังไง…”


กึก


เสียงประตูเปิดออกเบา ๆ ทำให้ทั้งสามคนหันไปมองก่อนจะพากันผงะกับภาพที่เห็น ไอติมดูจะช็อกที่สุด หัวใจของเขาหล่นไปอยู่ตาตุ่มตามคำโบราณว่า ไอติมขนลุกซู่ไปทั้งตัว ร่างกายนิ่งราวกับเป็นอัมพาต


“แซ็ค…”


“เดี๋ยวผมคุยกับเขาให้ ขอโทษแทนเขาด้วยนะครับ” ลูคัสรีบหันไปคุยกับคนดูแลพาร์ทเม้นต์ เธออยู่ในอาการตกใจเช่นกัน แต่ก็หันไปพยักหน้ากับลูคัสแล้วหมุนตัวเดินกลับไป


“ไปคุยกันข้างใน” ลูคัสผลักประตูเปิดกว้าง ไอติมรีบเดินเข้าไปในห้องของแซ็คที่มืดแทบจะสนิท มีเพียงแสงแดดรำไรส่องทะลุผ่านร่องผ้าม่านเข้ามา ไอติมย่นจมูกเมื่อได้กลิ่นฉุน สายตามองตามแซ็คที่เดินไปนั่งบนโซฟา ลูคัสปิดประตูและล็อคห้องเรียบร้อยก็เดินไปตรงผ้าม่านแล้วแหวกออกจนแสงอาทิตย์ผ่านเข้ามาเต็ม ๆ แซ็คหรี่ตาแล้วหันหน้าหนีแสงอาทิตย์มาทางไอติม และนั่นทำให้ไอติมเห็นสภาพเขาชัดเจนยิ่งขึ้น


“แซ็ค…” ไอติมครางชื่อเขาอีกรอบ เจ้าของชื่อมองหน้าไอติมด้วยความอิดโรย แววตานั้นไร้ชีวิตชีวา ไอติมมองจี้กระต่ายสีทองบนอกของเขาแล้วก็ขยับปากเป็นรอยยิ้มบางเบา


แซ็คผอมลงอย่างเห็นได้ชัด กล้ามอกที่เคยเต่งตึงหดตัว กล้ามท้องที่เคยแน่น แห้งจนแทบจะเห็นซี่โครง เขายังไม่ได้ผอมแห้ง แต่ก็ผอมจนเบ้าตาลึกโหล ใต้ขอบตาคล้ำดำ ริมฝีปากแห้งแตก ใบหน้าที่เคยใสสุขภาพดียามนี้หมองคล้ำไร้ออร่า ผิวหยาบกร้าน หนวดเคราครึ้มเต็มหน้า แก้มตอบจนโหนกแก้มเริ่มเห็นชัด ดวงตาสีเทานั้นแห้งเหือด รอยเส้นเลือดในดวงตาแตกระแหงชัดเจน เขาดูเหม่อลอยและไร้การควบคุม


“นายกินข้าวบ้างรึเปล่าเนี่ย” ลูคัสถาม ไอติมกลืนน้ำลายและมองแซ็คด้วยความตะลึง ในหัวตื้อจนได้ยินแต่เสียงวิ้งๆๆ


เปลือกตาของแซ็คหย่อนลงคล้ายคนจะหลับ หันไปทางลูคัสด้วยความเชื่องช้า แต่ทว่าก็ไม่ได้ตอบคำถามของลูคัส ไอติมมองด้วยความรู้สึกกลวงโบ๋ในอก 


“แซ็ค นายไหวมั้ย” แซ็คพ่นลมหายใจยาว ๆ แล้วนั่งพิงพนักพิงโซฟา ศีรษะของเขานอนลงบนขอบโซฟา เปลือกตาปิดลงแต่ไม่สนิท ดวงตาสีเทามองลูคัสกับไอติมสลับไปมานิ่ง ๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหลับตาลง


ไอติมหันไปมองรอบห้องเพื่อตรวจสภาพความเป็นอยู่ของเขา และพบว่ายังดีที่ห้องไม่รกและสกปรกเท่าวันนั้น แต่ก็ไม่ได้สะอาดเช่นกัน


“ไบรอั้น หิวรึเปล่า” ลูคัสถามอีกที คนถูกถามลืมตาขึ้น นั่งนิ่งพักหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนแบบลอย ๆ เขาก้าวเท้าเดินไปเค้าน์เตอร์บาร์ที่มีเศษขนมกระจัดกระจายและขวดเหล้าขวดเบียร์วางอยู่เกือบสิบขวด


“No. Zach. Stop.” ไอติมรีบเดินเข้าไปใกล้เขาเมื่อเห็นเขาเปิดกล่องเหล็กสีเงินและกำลังหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมา ไอติมยื่นมือซ้ายไปจับมือขวาเขาไว้ แซ็คหันแววตาลึกโหลมามอง กระบอกตาของไอติมร้อนผ่าวเมื่อเห็นดวงตาและใบหน้าของเขาในตอนนี้


“Don’t do that again. Leave it. (อย่าทำอย่างงั้นอีก ทิ้งมันเถอะนะ)” ดวงตาสีเทาซีดจางมองไอติมอย่างไร้อารมณ์ก่อนจะยกแขนขวาสะบัดมือไอติมออก หันกลับไปหากล่องเหล็กนั้นอีกครั้ง ไอติมเข้าไปดึงแขนแขนขวาของแซ็คไว้อีกรอบ คราวนี้แซ็คหันกลับมาด้วยความเร็วกว่าเดิมพร้อมกับสะบัดแขนแรงขึ้นจนสองมือไอติมหลุด ก่อนตามด้วยยื่นมือขวาไปผลักอกไอติมอย่างแรงจนร่างผอมบางกระเด็นไปชนกับตู้เย็นอย่างแรง


“ไอ้แซ็ค!” ลูคัสปราดเข้ามายืนขั้นกลางและมองแซ็คด้วยสายตาแข็งกร้าว แซ็คจ้องหน้าลูคัสเขม็ง และเพราะตอนนี้ดวงตาของเขานั้นลึกโหล เบ้าตาขึ้นกระดูกชัดเลยทำให้แซ็คตาโปนดูน่ากลัว


“It’s okay, Lukas. (ไม่เป็นไรฮะ ลูคัส)” หนุ่มนักกล้ามหันไปมองคนตัวเล็กสุดที่แม้จะตัวสั่นนิด ๆ แต่ก็ยังมีรอยยิ้มบนหน้า แถมยังก้าวเท้าเดินเข้าไปหาแซ็คที่หันไปยัดกัญชาใส่กระดาษเตรียมม้วน ไอติมมองแซ็คด้วยความระมัดระวัง ค่อย ๆ ยื่นมือซ้ายไปแตะต้นแขนขวาที่กล้ามเล็กลงจากเดิมไปมาก แซ็คไม่ได้หันมามอง ยืนม้วนกระดาษสูบกัญชาต่อไป


“Master. (เจ้านายฮะ)” ไอติมเรียกเสียงแผ่ว แซ็คชะงักนิ่ง ไอติมมองอย่างหวาดหวั่น ลูคัสตั้งท่าพร้อมเข้าชาร์ต แซ็คหันหน้าไปมองไอติมช้า ๆ แล้วดวงตาทั้งสองคู่ก็สบกัน ไอติมคลี่ยิ้มกว้างแต่ก็ไม่ได้เต็มปากนัก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเปล่งประกาย แซ็คมองนิ่ง ไอติมลูบมือบนต้นแขนของแซ็คเบา ๆ ไอติมเลื่อนสายตามองจี้กระต่ายแวบหนึ่งก่อนขึ้นกลับไปมองหน้าแซ็คต่อ


“It’s me, rabbitch.” ไอติมพูดเสียงนุ่ม แซ็คปล่อยของในมือแล้วหมุนตัวมายืนตรง ๆ ไอติมปล่อยมือออกจากต้นแขนของแซ็ค ค่อย ๆ เลื่อนมือจะไปจับตรงจี้สีทอง แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อแซ็คยกมือซ้ายคว้าหมับที่ข้อมือของไอติมอย่างแรงและเร็ว ลูคัสจะพุ่งเข้า แต่ไอติมหันไปส่ายหน้าให้อีกฝ่ายแล้วพยักหน้าสองทีเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร


“That’s me. (นั่นผมเอง)” เสียงไอติมยังคงนุ่มนวลน่าฟัง แซ็คมองหน้าไอติมนิ่ง เลื่อนไปมองลูคัสที่มีสีหน้าเครียดครู่หนึ่งก่อนเลื่อนกลับมามองไอติมที่ยังยิ้มเหมือนเดิม แล้วเขาก็ปล่อยมือไอติมก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ไอติมแล้วสวมกอดไอติมไว้


วินาทีนั้นไอติมตัวเบา ช่องอกกลวงโบ๋ถูกเติมเต็ม หัวใจกลับมาเต้นเป็นจังหวะปกติ เขาพ่นลมหายใจเบา ๆ แล้วหลับตาลงด้วยความรู้สึกโล่ง ยกสองแขนกอดแซ็คตอบ สองมือลูบหลังเปลือยเปล่าของแซ็คช้า ๆ และแม้ว่าทั้งกลิ่นตัวแซ็คและกลิ่นกัญชาจะตีกันจนไอติมเวียนหัว แต่ก็ไม่ได้ถอยหนีออกไป


“Rabbitch…” เสียงกระซิบแหบพร่าดังขึ้น ไอติมยิ้มกริ่ม


“Yes, it’s me. (ฮะ ผมเอง)” แซ็คสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วก็ผ่อนออกมายาว ๆ อย่างแผ่วเบา


“พาเขาเข้าไปอาบน้ำหน่อยมั้ย เผื่อจะได้รู้สึกสดชื่นขึ้น” ไอติมพยักหน้าสองสามที และจะดึงตัวออกห่างจากแซ็ค แต่กลายเป็นว่าอีกฝ่ายกอดเขาไว้แน่นกว่าเดิม


“เฮ้ ไบรอั้น ไปอาบน้ำก่อนไป ให้ไอศกรีมพาเข้าไปอาบก็ได้” แซ็คลืมตาขึ้น และรวดเร็วฉับไว แซ็คอุ้มไอติมขึ้นแบบที่ไอติมก็ไม่ทันตั้งตัว ไอติมหน้าเหวอเมื่อแซ็คจะพาเข้าไปในห้องนอน พอเดินถึงประตูห้องนอนไอติมก็ยืดตัวแล้วชูสองมือเกาะขอบกรอบประตูด้านบนไว้


“Nooo! โนๆๆ” ถึงแม้ไอติมจะเป็นห่วงเขา แต่ไอติมก็ไม่พร้อมที่จะอยู่กับแซ็คสองต่อสองในสถานการณ์นี้และกับการที่เขาอยู่ในสภาพแบบนี้


“ไบรอั้น ปล่อยไอติมก่อน” ลูคัสใช้แขนซ้ายดึงไอติมหลุดออกจากอ้อมกอดของแซ็ค ฝรั่งตาสีเทาอ่อนที่ตอนนี้ซีดแห้งขมวดคิ้วมองลูคัสด้วยความหงุดหงิด ไอติมยืนห่างจากแซ็คราวหนึ่งช่วงแขน


“Zach, I am here because I care you. (แซ็ค ผมมาที่นี่เพราะผมห่วงคุณ)” แซ็คมองไอติมด้วยท่าทีลอย ๆ แต่ก็ยืนนิ่งฟัง


“Please don’t smoke weed again. (ขอร้องอย่าสูบกัญชาอีกเลย)”


“…” แซ็คยืนนิ่งก่อนจะเดินผ่านหน้าไอติมไปตรงเค้าน์เตอร์บาร์ ลูคัสรีบเดินเข้าไปโกยกล่องเหล็กสีเงินและมวนกัญชาที่แซ็คทำไว้ ขวัญใจของไอติมขมวดคิ้ว แววตาแข็งกระด้างและจะพุ่งตัวเข้าไปหาลูคัส ไอติมรีบขวางไว้และพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน


“No. Zach. Stop. I care you. I don’t want you be like this. (ไม่ แซ็ค หยุด ผมห่วงคุณนะ ผมไม่อยากให้คุณเป็นแบบนี้)” ไอติมกอดแซ็คไว้ แต่แซ็คพยายามดันไอติมออก แต่ไอติมก็แข็งสู้


“ถ้านายเป็นแบบนี้ นายกลับเข้ากรงไปอยู่กับเจคเถอะ” ลูคัสพูดเรียบ ๆ แต่ก็ทำให้แซ็คหยุดพยายามผลักไอติมออก


“พวกฉันพานายออกมา เพราะอยากให้นายเจอชีวิตที่ดีกว่า แต่นี่คือสิ่งที่นายอยากเป็นใช่มั้ย…” แซ็คยืนนิ่ง ดวงตาหลุบต่ำมองพื้น


“…หรืออยากให้เจคเป็นคนมาฉุดนายออกไปจากสภาวะนี้” แซ็คส่ายหน้า เขาเปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาดูหวาดกลัว


“ไม่”


“งั้นช่วยเห็นน้ำใจของฉันสองคนและคนอื่น ๆ หน่อยเถอะ พวกฉันเป็นห่วงนายจริง ไม่ได้ห่วงเอาสนุก” แซ็คเลื่อนสายตาขึ้นมองไอติมที่ยิ้มตาใสเป็นกำลังใจให้เขาอยู่


“You care me? (ห่วงฉันเหรอ)” แซ็คถามไอติมเสียงแห้ง ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ แซ็คยิ้ม ไอติมยิ้มกว้างขึ้น ดีใจที่เห็นเขายิ้ม และดูจะมีสติมากขึ้น


“ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวให้ไอศกรีมทำอะไรให้กิน” แซ็คพ่นลมหายใจสั้น ๆ หนึ่งครั้งและไม่ตอบอะไร แต่ก้าวเท้าเดินไปที่โซฟาแล้วล้มตัวลงนอนหันหัวไปทางระเบียง หลับตาลงแล้วก็นอนนิ่ง ไอติมอ้าปากหวอแล้วหันมองหน้าลูคัสเป็นเชิงปรึกษาว่าจะเอายังไง หนุ่มกล้ามใหญ่ทำหน้าเอือม


V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 14-05-2019 19:59:56
V
v
v

“Can you cook some food? (ทำอาหารหน่อยได้มั้ย)” ไอติมหุบปากลงก่อนจะพยักหน้าสองสามครั้ง เดินไปเปิดตู้เย็น มองสำรวจสักครู่แล้วก็หยิบวัตถุดิบทำอาหารออกมา ที่ซื้อ ๆ มาตอนเข้ามาอยู่ที่นี่ยังเหลือให้ทำอาหารได้หลายอย่างและหลายจาน


ไอติมเลือกไก่สิบชิ้น ไข่ห้าฟอง ฮ็อตดอกชิ้นใหญ่หกชิ้น และแฮมสิบชิ้นออกมาเพื่อทอด เพราะเป็นวิธีการทำอาหารที่เร็วสุดในตอนนี้ เพื่อที่คนกินจะได้ไม่ต้องรอนาน ไอติมเปิดเครื่องดูดควัน ตั้งกระทะ เปิดหม้อข้าวก็เห็นแต่ความว่างเปล่า


“Lukas can you cook rice? (ลูคัส หุงข้าวได้มั้ยฮะ)”


“Oh, okay.” ลูคัสเอากล่องเหล็กไปวางมุมเค้าน์เตอร์บาร์ จัดการหยิบหม้อหุงข้าวออกมา เปิดตู้ด้านล่างตามที่ไอติมบอกเพื่อตักข้าวใส่หม้อ ไอติมหยิบเนยออกมาเพื่อใช้แทนน้ำมัน ตัดสินใจว่าจะเลือกทอดไข่ก่อน เพราะของอย่างอื่นเพิ่งจะออกมาจากตู้เย็น เลยกะทิ้งระยะห่างสักแปบ ไอติมเปิดตู้บนล่างเพื่อหาแม่พิมพ์ไข่ดาวที่จำได้ว่าตัวเองเป็นคนซื้อมาเพราะมันน่ารัก หยิบออกมาทั้งสองแบบ มองอันที่เป็นรูปกระต่ายซิลิโคนแล้วก็หัวเราะ


ลูคัสเห็นไอติมหัวเราะก็ขำ “It’s cute. (น่ารักนะ)”


ไอติมหันไปมองลูคัสโดยที่ยังยิ้มกว้าง พยักหน้าเป็นการเห็นด้วย ไอติมหันหยิบถ้วยออกมาสองใบเพื่อแยกไข่แดงกับไข่ขาว พอแยกเสร็จก็เอาแม่พิมพ์วางลงในกระทะสีดำ ใช้ช้อนตักเนยทาพื้นกระทะและทาตามขอบด้านในของแม่พิมพ์ เปิดเตาแก็ซด้วยไฟอ่อน ๆ ระหว่างรอให้กระทะได้ที่ไอติมก็หันไปมองแซ็คที่นอนหลับอยู่บนโซฟาแล้วก็ถอนหายใจ


“He will be fine. (เขาไม่เป็นไรหรอก)” ลูคัสที่กำลังหุงข้าวบอกอย่างให้กำลังใจ ไอติมหันไปมองหน้าเจ้านายแล้วก็พยักหน้าหนึ่งครั้ง ก่อนจะยกถ้วยไข่ขาวขึ้นแล้วเทลงในแม่พิมพ์ยกเวนตรงบริเวณดวงตาที่จะเทไข่แดงลงไปแทน


“How much do you know about the contract between Jacob and him? (คุณรู้เรื่องสัญญาของเจค็อบกับแซ็คแค่ไหนฮะ)” ไอติมถามขณะที่ใช้ตะหลิวแซะแม่พิมพ์ขึ้นเพื่อไม่ให้มันติดกระทะจนเกินไป


“I’m not sure, but what I know it is a shit contract. (ฉันไม่แน่ใจ แต่ที่ฉันรู้ ฉันว่ามันเป็นสัญญาที่ทุเรศมากอันนึง)” ไอติมพยักหน้าเห็นด้วยขณะที่พยายามคว่ำหน้ากระต่ายเพื่อจะให้อีกฝั่งสุก


“I wonder why he sign? (ผมสงสัยว่าทำไมเขาเซ็น)” ลูคัสกดปุ่มให้หม้อหุงข้าวเริ่มทำงาน


“He trusted him, I guess. He used to be like this or maybe bad than this. Jacob came through his life and help him be better. (ไบรอั้นมันไว้ใจเจค็อบ ฉันคิดว่างั้นนะ เขาเคยเป็นแบบนี้มาก่อนหรืออาจจะแย่กว่านี้ เจค็อบผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วก็ช่วยให้เขาดีขึ้น)” ไอติมเลิกพยายามจะพลิกหน้ากระต่าย แต่ก็แน่ใจว่ามันสุกแล้วจึงตักออกมาใส่จานสีขาว แล้วก็หยิบฮ็อตดอกลงไปทอดต่อ


“He told you? (เขาบอกคุณเหรอฮะ)” ไอติมพยายามแกะซิลิโคนกระต่ายออกอย่างระมัดระวัง


“Yes, but he has told what he think it is necessary. (ใช่ แต่เขาก็บอกในสิ่งที่เขาคิดว่าจำเป็นนั่นแหละ)” ไอติมแกะซิลิโคนสำเร็จ ยกไปวางในอ่างล้างจาน หันไปหยิบตะหลิวพลิกฮ็อตดอกสามชิ้นแรก


“Why you help him? (ทำไมคุณช่วยเขาล่ะฮะ)” ลูคัสสูดลมหายใจเข้าแล้วปล่อยออกมายาวๆ


“He is my friend, (เขาเป็นเพื่อนฉัน)” ไอติมพยักหน้า มองใบหน้าอึดอัดของลูคัสหน้าซื่อตาใส เขาดูไม่อยากพูดแต่สุดท้ายก็พูดต่อ


“And I want to have my own studio, a company. We have to grow up, isn’t it? (แล้วฉันก็อยากจะมีสตูดิโอเป็นของตัวเอง บริษัทน่ะ เราต้องโตขึ้น ใช่มั้ยล่ะ)” ไอติมพลิกฮ็อตดอก หันไปมองหน้าลูคัสด้วยความงงนิดหน่อย ลูคัสพ่นลมหายใจสั้น ๆ อีกทีก่อนจะพูดต่อ


“I am a bad guy I know that. I have betrayed Jacob because I want to walk on my own path. (ฉันเลวฉันรู้ ฉันหักหลังเจค็อบ เพราะฉันอยากจะเดินบนเส้นทางของฉัน)” ไอติมตักฮ็อตดอกเซ็ทแรกออกมาวางใส่จานอีกใบ หยิบที่เหลือใส่ลงไปในกระทะ


“It’s a business thing, right? (มันเป็นเรื่องธุรกิจ ใช่มั้ยฮะ)” ลูคัสพยักหน้า ไอติมพยักหน้าตาม หันไปมองฮ็อตดอกแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปมองลูคัสที่สีหน้าแสดงออกถึงความกังวล


“But I am happy to work with you more than Jacob. (แต่ผมมีความสุขที่ได้ทำงานกับคุณมากกว่าเจค็อบ)” ไอติมยิ้มแก้มอิ่ม ลูคัสฉีกยิ้มกว้าง สีหน้าสบายใจขึ้น


“Thank you. We will work and walk together. (ขอบใจ เราจะทำงานและเดินไปด้วยกัน)” ไอติมขยับยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดแต่ก็ไม่ใช่ยิ้มกว้างเห็นฟัน


“And Jacob will come here? อ่า Come to Bryan. (แล้วเจค็อบจะมานี่มั้ย อ่า มาหาไบรอั้น)” ลูคัสเข้าใจสิ่งที่ไอติมจะสื่อ


“I can guarantee that. (มาแน่นอน)” ไอติมนิ่งแล้วก็หันกลับไปจัดการฮ็อตดอกในกระทะต่อจนกระทั่งเสร็จ ลูคัสหยิบถ้วยใส่ไข่มาใส่ในอ่างล้างจานกับซิลิโคน จัดการล้างในขณะที่ไอติมตักฮ็อตดอกออกจากกระทะ


“I’m scare. His contract is not end. (ผมกลัว สัญญาเขายังไม่จบ)” ลูคัสพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ไอติมหยิบทิชชูมาเช็ดกระทะจนแห้งแล้วเทน้ำมันลงไป เปิดแก๊ซอีกครั้งเพื่อจะทอดไก่และแฮมที่น้ำแข็งละลายแล้ว


“He, I mean Zach. He has talked about this with Jacob. That’s why he can move out from that house. (เขา ฉันหมายถึงแซ็คน่ะ เขาบอกว่าเขาคุยกับเจค็อบแล้ว นั่นเลยทำให้เขาย้ายออกจากบ้านหลังนั้นได้)” ไอติมหันมองลูคัสอย่างงง ๆ แต่ก็หยิบไก่ลงไปในกระทะด้วย


“I mean they have the condition for each other. Move out from the house, Bryan must do something. But moving to the new company by the old contract still going on—I think they can’t deal with it. And that’s why we met him before we came here. (ฉันหมายความว่าพวกเขามีเงื่อนไขต่อกัน ย้ายออกจากบ้าน ไบรอั้นต้องทำอะไรบางอย่าง แต่ย้ายบริษัทใหม่โดยที่สัญญาเก่ายังคงมีอยู่ ฉันคิดว่าพวกเขาตกลงกันไม่ได้ และนั่นเป็นเหตุลว่าทำไมเราถึงเจอเขาก่อนมาที่นี่)” ไอติมย่นคิ้ว พลิกไก่ในกระทะ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง


“Bryan make wrong with contract. He maybe เอ่อ…” ไอติมนึกคำศัพท์คำนั้นไม่ออก


“He is going to sued by Jacob. (เขาจะถูกเจค็อบฟ้องร้อง)” ไอติมไม่แน่ใจนักว่าคำนั้นแปลว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการจะสื่อหรือเปล่า


“I know what you are trying to tell me. (ฉันรู้ว่านายกำลังจะบอกอะไรฉัน)” ไอติมพยักหน้า หันไปมองไก่ที่สีเริ่มสุกสวยน่ากิน


“But that contract—it’s โอ้ย แย่ (แต่สัญญานั่น มัน โอ้ย แย่)” ไอติมนึกคำศัพท์ไม่ออก เลยพูดออกมาเป็นภาษาไทย แต่เพราะสีหน้าที่แสดงออกมันคงถึงอารมณ์เลยทำให้ลูคัสเข้าใจพร้อมกับหัวเราะ


“And that is what we can use to negotiate with Jake. (และนั่นก็เป็นอะไรที่เราจะใช้ต่อรองกับเจคได้)” ไอติมย่นคิ้ว


“เนโก?” ลูคัสอ้าปากค้างนิดหน่อย สายตาเหลือบไปมองทางแซ็คที่นอนหลับและคิดในใจว่าถ้าเป็นหมอนั่นคงรู้ว่าจะต้องอธิบายยังไงให้เด็กคนนี้เข้าใจ


“It is talking, err, to make a deal. (มันคือการพูดคุยน่ะ เอ่อ แบบว่าทำการตกลงกัน)” ไอติมครุ่นคิด นิ่งค้างไปสักพักก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ แม้คิ้วจะขมวดมุ่น


“Okay.” ไอติมตอบด้วยความไม่แน่ใจนักและคิดว่าเดี๋ยวจะหาความหมายคำนั้นอีกที


ตอนที่ไอติมทอดแฮมเสร็จก็เป็นช่วงที่ข้าวสุกพอดี ทั้งสองคนช่วยกันยกอาหารและข้าวหนึ่งจานไปวางบนโต๊ะในห้องโถง ลูคัสเปิดประตูระเบียงเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไอติมเดินไปนั่งลงตรงหน้าแซ็คและใช้มือสะกิดต้นแขนของอีกฝ่าย


“แซ็ค… แซ็ค…” ไอติมจิ้มนิ้วลงบนแขนของแซ็ค แต่อีกฝ่ายยังไม่ตื่น ไอติมเห็นว่าสร้อยมันล่นลงไปรัดคอแซ็คเลยยื่นมือขวาไปดึงให้ ขณะที่กำลังดึงอยู่มือซ้ายของแซ็คก็พุ่งเข้าจับข้อมือของไอติมแน่น ไอติมตกใจเลื่อนสายตาขึ้นมองหน้าแซ็คก็เห็นว่าดวงตาสีเทาซีดมองตัวเองอยู่ด้วยความแข็งกร้าว แต่แค่พักเดียวแววตานั้นก็เปลี่ยนเป็นอ่อนลงพร้อมกับมือซ้ายที่ปล่อยออกไป


“ลุกขึ้นมากินข้าวก่อน ไอศกรีมทำอาหารให้แกเยอะเลย” แซ็คไม่ได้มองลูคัส ยังคงมองไอติมที่ยิ้มให้ กระต่ายตัวจ้อยพยักหน้าสองสามครั้งเป็นการบอกให้มากินข้าว


“Eat, eat, eat. (กิน กิน กิน)” ไอติมบอกเสียงใสพร้อมกับรอยยิ้มน่ารัก แซ็คคลี่ยิ้มบาง ไอติมยิ้มตาหยี


“You feed me. (ป้อนฉันหน่อยสิ)” แซ็คบอกเสียงแหบพร่า ไอติมยิ้มเก้อ เพราะงงคำศัพท์นั้น


“You give him food to the mouth. (นายเอาอาหารไปที่ปากเขา)” ลูคัสช่วยอธิบาย ไอติมเข้าใจเลยร้องอ๋อ


“Okay. Come come. (โอเค มา มา)” ไอติมลุกขึ้นยืน กวักมือขวาเรียกแซ็ค เจ้าของบ้านค่อย ๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่ง เหวี่ยงสองขาลงบนพื้น ไอติมนั่งลงข้างซ้ายของแซ็คและหยิบจานข้าวมาถือไว้


“ปิดผ้าม่านได้มั้ย” แซ็คหรี่ตาพูดกับลูคัส


“ไม่ได้ นายเป็นคนนะ ไม่ใช่ผีดิบ” แซ็คพ่นลมหายใจแล้วหันไปมองไอติมกำลังนั่งฉีกไก่เป็นชิ้น ๆ ใส่จานข้าว แล้วก็นั่งมองหน้าด้านข้างของไอติมนิ่งเหมือนกำลังเพลิน


“ฉันออกไปซื้อน้ำดื่มให้ก่อนแล้วกัน ในตู้เย็นไม่เหลือพวกเครื่องดื่มเลย” ไอติมเงยหน้ามองลูคัสแล้วพยักหน้า ก่อนก้มหน้าลงไปฉีกไก่ต่อ ลูคัสมองแซ็คที่นั่งมองไอติมด้วยสายตาเพลิดเพลินก็อมยิ้มก่อนจะเดินออกไปทางประตูห้อง ดึงประตูแล้วก็เดินออกไปและปิดประตูตามหลัง


“อั้มๆ” ไอติมใช้ช้อนตักข้าวที่มีเนื้อไก่ปนอยู่ในนั้นขึ้นมาแล้วหันไปหาแซ็ค ยิ้มตาเป็นประกายพร้อมกับพยักหน้าเชิญชวน แซ็คอ้าปากรับข้าว ไอติมยิ้มกว้างและทำหน้าดีใจที่เห็นแซ็คกินข้าวได้


“Good boy. (เด็กดี)” แซ็คที่เคี้ยวข้าวอยู่ยิ้มจาง ไอติมยิ้มตอบก่อนหันไปหยิบจานไข่ดาวรูปหน้ากระต่ายมาให้แซ็คดู


“Cute? (น่ารักมั้ยฮะ)” แซ็คเคี้ยวข้าวจนหมดปากแล้วก็ตอบ


“It’s you. (นายนี่)”


“And—?”


“It’s mean cute. (หมายความว่าน่ารัก)” ไอติมเม้มปากแล้วยิ้มเขิน แก้มสีขาวเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาวางจานไข่ดาวลงบนโต๊ะ แซ็คกระเถิบเข้าไปนั่งใกล้ไอติมแล้วใช้สองแขนกอดเอวไอติมไว้ ร่างผอมบางยิ้มแย้มและตักข้าวป้อนแซ็คอีกคำ


“Eat more more. (กินเยอะเยอะ)” ไอติมมองใบหน้าซูบผอมตอบจนโหนกแก้มแหลมขึ้นและเบ้าตาโหลลึกด้วยความรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นหลังจากเห็นแซ็คกินข้าวได้และนั่งกอดเขาได้แบบนี้


“Don’t use it again. It’s no good for you. (อย่าใช้มันอีก มันไม่ดีกับคุณ)”


“I’m sorry that I hurt you. (ฉันขอโทษที่ทำร้ายนาย)” ไอติมถอนหายใจ


“You made me scare. You made me think of my dad when de drunks and he hurt my mom and me. (คุณทำให้ผมกลัว คุณทำให้ผมคิดถึงพ่อตอนเขาเมาและทำร้ายแม่กับผม)” ไอติมมองหน้าโทรมคล้ำของแซ็คนิ่ง ขวัญใจไอติมสีหน้าสลดและแววตาก็เศร้าสร้อย


“I am sorry. (ฉันขอโทษ)” แซ็คจูบขมับไอติมค้างไว้ ไอติมยิ้ม ปล่อยมือออกจากช้อน ยกขึ้นไปลูบแขนขวาของอีกฝ่ายเบาๆ


“It’s okay. But don’t do it again. (ไม่เป็นไร แต่อย่าทำอีกนะ)”


“อือฮึ” ไอติมยิ้ม


“Eat. (กินเถอะ)” ไอติมตักข้าวอีกคำแล้วหันตัวไปหาแซ็คเพื่อป้อนข้าวให้เขาถนัด ๆ แซ็คอ้าปากรับแล้วเคี้ยว ดวงตาสีเทามองหน้าไอติมที่ยิ้มแย้ม


“Come back to live with me. (กลับมาอยู่กับฉันนะ)” ไอติมเม้มปาก พ่นลมหายใจน้อยๆ


“Not now. (ยังไม่ใช่ตอนนี้)” แซ็คเคว้ง สีหน้าหงอย ไอติมยกมือซ้ายขึ้นลูบแก้มตอบผอมของเขา


“Don’t think about that in this time. What you must do is eat more, take care of yourself, take a shower, and stop use weed. (อย่าคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้นในเวลานี้ ที่คุณต้องทำคือกินเยอะ ดูแลตัวเอง อาบน้ำ และหยุดใช้กัญชา)” แม้จะดีใจไม่สุด แต่อย่างน้อยก็ทำให้หัวใจอันห่อเหี่ยวนั้นกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นบ้าง


แซ็คยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับพยักหน้า “I will. (ฉันจะทำ)” ไอติมยิ้มกริ่ม


“Very good.” ไอติมยกนิ้วโป้งขึ้นสองข้างเป็นการชม แซ็คยิ้มบาง ไอติมตักข้าวป้อนแซ็คอีกคำ แซ็คเคี้ยวไปก็นั่งมองหน้าไอติมไปราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหายไปหากกะพริบตา


“Will you come to see me tomorrow? To help me take a shower, do you? (นายจะมาหาฉันพรุ่งนี้อีกมั้ย มาช่วยฉันอาบน้ำได้รึเปล่า)” ไอติมยิ้มกว้างขำจนตาหยี แซ็คยิ้มบาง แม้ขอบตาจะดำคล้ำและแววตาแห้งเหือด แต่รอยยิ้มก็ช่วยทำให้มันดูเบาลง


“อั้ม” ไอติมตักข้าวป้อนแซ็คอีกคำ แซ็ครับข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยว สายตายังคงมองไอติมที่ยิ้มกรุ้มกริ่ม


“Yes, I will come to see you tomorrow, and tomorrow, and tomorrow. (ฮะ ผมจะมาหาคุณพรุ่งนี้ และพรุ่งนี้ และพรุ่งนี้)” แซ็คขยับยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด


“Everyday? (ทุกวันเลยเหรอ)”


“Yep, to help you take a shower. (ใช่ ช่วยคุณอาบน้ำไง)” ไอติมใช้นิ้วโป้งซ้ายเกลี่ยเศษข้าวตรงมุมปากขวาให้แซ็ค ก่อนยกมือขึ้นไปจับผมเหนียวเหนอะหนะของเขาแล้วก็ถอนหายใจ แต่ริมฝีปากยังคงยิ้ม


แกร๊ก


“เฮ้ น้ำมาแล้ว” แซ็คที่กำลังยิ้ม ๆ อยู่หน้าบูดแทบจะทันทีเมื่อลูคัสกลับเข้ามา










เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้





  โธ่ กล้ามฟีบหมดเลยพี่แซ็ค มันอร่อยกว่าข้าวเหรอคะกัญชาเนี่ย

เพื่อนตอมที่เป็นคนสเปนสูบกัญชาเป็นเรื่องปกติของตัวเขามาก ความตลกอย่างนึงคือตอมแยกไม่ออกว่าเวลามันสูบไปแล้ว ที่มันคึกมันหลอน ๆ คือเพราะกัญชาหรือเป็นปกติ เนื่องจากตอนยังไม่สูบกัญชาก็เหมือนลิงไม่มีผิด

แต่ตอมเคยถามเพื่อนนะว่า กัญชานี่มันร้ายแรงเท่าพวกยาบ้าอะไรแบบนี้มั้ย เพื่อนตอมบอกว่าไม่ขอนิยามหรือจำกัดความใด ๆ แต่เขาเล่าให้ฟังว่า มีรุ่นพี่เขาสูบกัญชากันต่อเนื่องจนกระทั่งไม่ออกไปพบปะใคร เก็บตัวอยู่ในห้องมืด ๆ คนเดียว กินข้าวก็ฝากคนอื่นซื้อแล้วให้คนที่ซื้อเอาข้าวมาแขวนไว้หน้าห้อง แล้วเดี๋ยวก็หยิบไปกินเอง ฟังเผิน ๆ ไม่มีอะไร แต่ตอมว่ามันหลอนมากกก สภาพคนสูบจะโทรม ๆ เหมือนซอมบี้แล้วอยู่แต่ในที่มืด มีมือยื่นออกมาหยิบข้าวจากลูกบิดประตูแล้วหายวับไปงี้อะ  :sad4:

เจอกันตอนหน้านะคะ

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 14-05-2019 20:15:36
แซคต้องเข้าใจสิ ว่าถ้าจะรัก ยังไง น้องติมก็อยากเป็นคนเดียวของแซค งานส่วนงาน แต่ ส่วนตัวต้องส่วนตัวอ่ะ แซคแยกไม่ได้ก็ต้องวางสถานะให้ชัดเจนอ่ะ 
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 14-05-2019 21:01:23
หวังว่าไบรอันจะดึงตัวเองกลับมาได้เพราะน้องติม แต่อย่าทำร้ายน้องก็พอนะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 14-05-2019 22:15:23
ทำตัวดีๆล่ะแซคคค ใช้โอกาสนี้ปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ดีๆ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 14-05-2019 22:51:14
 :angry2: รักตัวเองหน่อยเเซ็ค
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-05-2019 22:56:12
เล่นกับกัญชาแบบนี้ ติมจะติดไปด้วยไหมเนี่ย  :hao4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 14-05-2019 23:15:32
กัญชา ถ้าเสพแบบไม่หนัก จะลอยค่ะ กินเก่ง ของหวานกินเรียบ ตาเยิ้มหน้ายิ้ม ตาแดงด้วย บางทีก็นิ่งๆบางทีก็หัวเราะลั่นห้องเลย อารมณ์แบบ ตัวลอยๆ แต่ถ้าแบบหนักๆเหมือนที่ทำใส่พวกบารากุกันนี่บันไดเอียงเลยทีเดียว

ตอนนี้เหมือนแซ็คอยู่ได้ด้วยความหวังอย่างเดียวเลย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 14-05-2019 23:36:16
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 15-05-2019 08:31:01
แซค ตั้งสติได้แล้ว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 15-05-2019 16:20:01
อู้หูวว นี่เดาว่าอิพี่ต้องมีปมกับการจากเหมือนโดนทิ้งไว้ข้างหลังอะไรแบบนี้แน่เลย  แต่การเลือกทางออกห่วยชมัด หรือที่ติดกัญชาเพราะเจค็อบหว่า โอ้ยยย เป็นพระเอกที่ทั้งน่าตบแต่ก็สงสาร อะไรของเราล่ะนี่
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 15-05-2019 21:45:42
ได้แต่ถอนหายใจ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 16-05-2019 18:59:37
โอเคแซ็ค คว้าโอกาสนี้ได้แล้ว อย่าทำร้ายตัวเอง

ว่าแต่ มีใครเสียดายแด๊ดดี้กับลูกสาวเหมือนเรามั้ย แฮ่ๆๆ

ขอซักตอนได้มั้ยคะ ลูคัสกร๊าวใจมาก  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 17-05-2019 00:19:03
เฮ้อออออ ตาแซ็คเอ้ยยยยยย  :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.38 : ฺCare. : 14.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 18-05-2019 10:45:09
จะรักและดูแลไอติมได้ยังไงถ้ายังไม่รักตัวเองขนาดนี้ฮะแซ็ค :angry2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 21-05-2019 20:25:14
Fall in lust - Chapter 39 :: Try. (พยายาม)





   “Thank you.” ไอติมยิ้มให้ลูคัสที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับ สักพักรอยยิ้มก็หายวับไปแทนที่ด้วยอาการสะดุ้งเพราะใบหน้าซูบตอบของแซ็คโผล่ผ่ากลางระหว่างเบาะนั่งสองเบาะ ขวัญใจไอติมหันมองหน้าทั้งสองคนด้วยสายตาคล้ายว่ากำลังจับผิด มองสลับลูคัสกับไอติมไปมาอยู่ครู่หนึ่ง หนุ่มสูงวัยที่สุดในรถทำหน้าเอือม
   

“นายจะมาด้วยทำไมก็ไม่รู้ ลำบากฉันต้องวนกลับไปส่งอีกรอบ” ลูคัสบ่นไม่จริงจังนัก แต่ใบหน้าก็ออกอาการเซ็ง แซ็คดึงหน้าออกไป หันไปเปิดประตูรถออกไปข้างนอก
   

“I think it’s good. It’s mean he feel better. (ผมว่ามันดี มันหมายความว่าเขารู้สึกดีขึ้น)” ลูคัสทำปากเป็นเส้นตรง ไอติมยิ้มขำตาหยี ลูคัสยิ้มตาม
   

กึก!
   

เสียงดึงที่เปิดประตูรถดัง แต่ทว่าประตูล็อคอยู่เลยทำให้เปิดไม่ออก คนด้านนอกกระตุกมือหลายทีติดกันพร้อมกับทำหน้านิ่วคิ้วขมวด คนบนรถทั้งสองคนก็ขมวดคิ้วไม่แพ้กันก่อนที่ไอติมจะกดปลดล็อคประตู แซ็คดึงประตูเปิดกว้าง ไอติมหันกลับไปหาลูคัส
   

“Good bye. See you. (บ๊ายบายฮะ เจอกัน)” ลูคัสพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอ่อน ไอติมหันหน้ากลับไปมองแซ็คที่สภาพหน้าเขาดูแย่อยู่แล้ว พอทำหน้าตาขมุกขมัวเลยยิ่งดูน่ากลัวเข้าไปอีก
   

“Smile. (ยิ้มสิ)” แซ็คทำตามที่ไอติมว่า ขยับริมฝีปากเป็นรอยยิ้มบางแต่ก็แค่แวบเดียวแล้วก็หุบอย่างไว ไอติมก้าวเท้าลงจากรถ ใช้มือซ้ายดันประตู ยืนมองใบหน้าผอมตอบของอีกคนแล้วคลี่ยิ้มอ่อนโยน
   

“Don’t use it again, okay? I want my old actor back. (อย่าใช้มันอีก โอเคมั้ยฮะ ผมอยากได้พระเอกคนเดิมกลับมา)” แซ็คมองหน้าไอติมนิ่งด้วยแววตาแห้งแตกระแหงจนเห็นเส้นเลือด
   

“See you tomorrow. (เจอกันพรุ่งนี้)”
   

“Yes. (ฮะ)” ไอติมยกมือบ๊ายบายพร้อมกับยิ้มกว้าง แซ็คยิ้มตามแล้วยกมือโบกตอบหนึ่งที ไอติมเดินผ่านแซ็ค อ้อมไปหน้ารถ เดินไปตรงบันไดหน้าตึก แซ็คเขยิบตัวไปตรงหน้ารถ มองไอติมเดินขึ้นบันไดเข้าไปในตึกหอพักด้วยสายตาเหงา แต่สักพักก็เปลี่ยนเป็นสดใสเล็ก ๆ เมื่อกระต่ายตัวจ้อยหันมาโบกมือบ๊ายบายอีกครั้งก่อนหมุนตัวเดินขึ้นตึกไป
   

“เฮ้ ขึ้นรถเถอะ ฉันชักจะง่วงแล้ว” ลูคัสกดกระจกฝั่งข้างคนขับลงแล้วตะโกนเรียกแซ็ค ขวัญใจไอติมมองตึกสีครีมหลังคาสีส้มตาละห้อย แล้วก็คลี่ยิ้มอีกครั้งเมื่อไอติมโผล่หน้าออกมาจากระเบียงชั้นสอง
   

“Good night. (ฝันดีฮะ)” ไอติมโบกมือบ๊ายบายให้แซ็คและยิ้มอย่างเริงร่า แซ็คคลี่ยิ้มกว้างและยกมือบ๊ายบายตอบกลับ ลูคัสมองแซ็คแล้วก็ขำน้อย ๆ แต่ไม่ใช่การขำเยาะเย้ยหรือขำเพราะเห็นอีกฝ่ายเป็นตัวตลก แต่ถามว่ามันตลกมั้ย พอเป็นแซ็คทำมันเลยตลก



   



ไอติมเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ สองหนุ่มเจ้าของห้องกำลังนั่งดูหนังบู๊กันตัวเกร็ง โรเบิร์ตชวนไอติมเป็นภาษาอังกฤษ ลารี่รูมเมทใส่แว่นของโรเบิร์ตหันมาชวนด้วยแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปลุ้นหนังต่อ ไอติมส่ายหัวปฏิเสธก่อนเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบถ้วยใส่เยลลี่หมีแช่แข็งในน้ำเป๊บซี่ที่ทำไว้ออกมามองตาลุกวาว หยิบช้อนได้ก็เดินถือถ้วยกลับเข้าไปในห้องนอน วางถ้วยขนมของตัวเองไว้บนโต๊ะ เปิดโคมไฟให้ความสว่างแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปเพื่อจะอัปลงอินสตาแกรม ขณะที่กำลังแต่งรูปเลือกสีเลือกโทนอยู่ ไอติมก็โดนขัดจังหวะด้วยสายเรียกเข้า
   

“Zach?”
   

[Oh, hey. You pick up so fast. (โอ้ เฮ้ นายรับสายไวจัง)]” ไอติมหยิบช้อนมาตักขนมเยลลี่แช่แข็งในน้ำเป๊บซี่เข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ย ๆ ด้วยความชื่นใจ แม้ว่าตัวเยลลี่จะแข็งจนอาจทำฟันหักได้ก็ตาม
   

“I’m playing Instagram. (ผมกำลังเล่นอินสตาแกรม)”
   

[You eat something? (กินอะไรน่ะ)]”
   

“เอ่อ เยลลี่ in pepsi” ปลายสายเงียบไปพักหนึ่งขณะที่ไอติมก็ตักเยลลี่แช่แข็งเข้าปากพร้อมเคี้ยวเป๊บซี่เกล็ดหิมะไปด้วย
   

[I want to eat, too. (อยากกินมั่ง)]” ไอติมมีสีหน้าประหลาดใจขณะที่แก้มทั้งสองข้างอูม
   

“Really? (จริงเหรอ)”
   

[Really. Can you do it for me tomorrow? (จริงสิ พรุ่งนี้ทำให้ฉันหน่อยได้มั้ย)] ไอติมยิ้มแก้มอูมเพราะตุนขนมไว้เต็มปาก เคี้ยวงับ ๆ อย่างรวดเร็วก่อนกลืนลงคอ
   

“Okay. It’s very delicious. (ได้ฮะ มันอร่อยมากๆ)”
   

[I believe you. (ฉันเชื่อนาย)] ไอติมหัวเราะฮิ ๆ แผ่วเบา เคี้ยวเยลลี่ด้วยความอร่อย
   

“You can’t sleep? (คุณไม่สามารถหลับเหรอ)”
   

[Yeah, I don’t want to use it, the weed. And—I, (ใช่ ฉันไม่อยากใช้มัน กัญชาน่ะ แล้วก็ ฉัน…)]”
   

“Very good! Don’t use it, please. (ดีมาก ๆ ฮะ อย่าใช้มันอีกนะ ขอร้อง)”
   

[That’s why I am talking to you right now. (แบบนี้ไงฉันถึงคุยกับนายอยู่)]
   

“อื้อ talk to me don’t talk to weed (อื้อ คุยกับผม อย่าคุยกับกัญชา)” แซ็คหัวเราะเสียงเบา
   

[I’m trying. (ฉันกำลังพยายาม)]” ไอติมตักเยลลี่สีแดงเข้าปาก แม้จะอร่อย แต่สีหน้าของไอติมก็ไม่ค่อยโอเคเพราะรู้สึกกังวลกลัวว่าแซ็คจะกลับไปใช้เจ้าสิ่งนั้นอีก
   

ไอติมไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนั้นส่งผลกับแซ็คไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว จะเหมือนในละครที่เคยดูหรือเปล่า
   

“What are you doing now? (ทำอะไรอยู่ฮะ)” ไอติมเคี้ยวเป็บซี่เกล็ดหิมะเต็มปากเต็มคำ
   

[Talking to you. (คุยกับนายไง)] ไอติมหัวเราะ
   

“No, I mean เอ่อ what are you doing, that is not talking to me. (ไม่ ผมหมาถึง เอ่อ ทำอะไรอยู่ ที่ไม่ใช่คุยกับผม)”
   

[Missing you. (คิดถึงนาย)]” ไอติมย่นคิ้วขณะที่ตักเยลลี่สามชิ้นกับเป๊บซี่เกล็ดหิมะเข้าปากและเคี้ยวกรุบกรับหนึบหนับ
   

“Sweet mouth อะ you sure you don’t using weed นะ (ปากหวานอะ คุณแน่ใจคุณไม่กำลังใช้กัญชานะ)” พูดจาหวาดหยดหวานย้อยแบบนี้ ไอติมล่ะกลัวว่าจะกำลังเคลิ้มได้ที่น่ะสิ
   

แซ็คหัวเราะ [No. I’m not, even I really want to use it so much, but I’m trying to keep away from it. Talking to you instead. (ไม่ ฉันไม่ได้สูบ ถึงฉันจะอยากใช้มันมากก็เถอะ แต่ฉันกำลังพยายามอยู่ห่างจากมัน มาคุยกับนายแทนนี่ไง)]
   

“Is that mean I am a weed? (นั่นหมายความว่าผมเป็นกัญชามั้ยนั่น)” แซ็คหัวเราะอีกครั้ง
   

[Yes, you are my weed. (ใช่ นายเป็นกัญชาของฉัน)]” ไอติมซดน้ำเป๊บซี่ก่อนทำปากยื่น
   

“I don’t want to be a drug. (ผมไม่อยากเป็นยาเสพติดเลย)”
   

[But you are the drug that can heal me. (แต่นายเป็นยาเสพติดที่รักษาฉันได้นะ)] ไอติมทำปากว่าหูว อยากจะทะลุหน้าไปดูอีกคนตอนนี้ว่าอยู่ในอาการปกติหรือไม่ เพราะพูดจาหวานซะจริง
   

“Can I be a doctor? Doctor can heal, too. (ผมเป็นหมอได้มั้ย หมอก็รักษาได้นะ)” แซ็คหัวเราะเสียงทุ้ม

 
[No. You are the rabbit. (ไม่หรอก นายเป็นกระต่าย)] ไอติมทำหน้ายู่ แต่มือยังคงตักเยลลี่กับเกล็ดน้ำแข็งเข้าปากไม่หยุด ทั้งเพราะกลัวละลายและมันอร่อย
   

“I know แล้วนะ why you call me rabbit. (ผมรู้แล้วนะ ทำไมคุณเรียกผมกระต่าย)”
   

[What? How do you know? And what you know? (อะไรนะ รู้ได้ไง แล้วรู้ว่าอะไร)]
   

“Rabbit fuck often. (กระต่ายเอาบ่อย)” แซ็คหัวเราะเสียงดัง แต่ไม่ใช่ดังลั่น ไอติมตักน้ำเป๊บซี่ซดรัว ๆ เพราะน้ำแข็งเริ่มละลายแล้ว


[No. It’s because it’s cute. (ไม่ใช่สักหน่อย เพราะมันน่ารักต่างหาก)] ไอติมทำหน้ามู่ทู่
   

“You lie. You call me rabbit because I have high sex drive. (คุณโกหกอะ คุณเรียกผมกระต่ายเพราะว่าผมเซ็กซ์จัด)” คราวนี้แซ็คระเบิดเสียงหัวเราะดัง ไอติมยิ้มกว้างขำตามไปด้วย
   

[And is that true? (แล้วมันจริงมั้ย)]” แซ็คถามทั้งที่ยังมีเสียงหัวเราะปนมาด้วย ไอติมห่อไหล่ยิ้มเขิน แล้วตอบเสียงเล็ก
   

“Yes.”
   

[How do you know? (รู้ได้ไงเนี่ย)]
   

“I search google about rabbit. (ผมเสิร์จกูเกิลเกี่ยวกับกระต่าย)”
   

[Thank you, google. (ขอบคุณกูเกิล)] ไอติมเคี้ยวเยลลี่กับเกล็ดน้ำแข็งและเอียงหน้าไปมาซ้ายขวาเพราะเพลิดเพลินในความอร่อย
   

“What do you want to eat for breakfast? (พรุ่งนี้เช้าอยากกินอะไรฮะ)”
   

[Anything. (อะไรก็ได้)]” ไอติมรู้สึกเครียด เพราะคำว่าอะไรก็ได้มันยากมาก
   

[I could eat anything that you cook for me. (ฉันกินอะไรก็ได้ที่นายทำให้ฉัน)] ไอติมย่นคิ้ว ชักจะคิดจริงจังว่าแซ็คกำลังสูบกัญชา
   

“Zach, if you are using it, (แซ็ค ถ้าคุณกำลังใช้มัน)”
   

[I’m not smoking weed. I’m flirting you. (ฉันไม่ได้กำลังสูบกัญชา ฉันกำลังจีบนาย)]” ไอติมเคี้ยวเยลลี่สีเหลืองรสโปรดหงับ ๆ และจับใจความของประโยคอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะทำหน้าเอ๋อ
   

“เอ๊ะ?”
   

[Lukas have told me that calling for flirting is the classic thing. (ลูคัสบอกฉันว่าการโทรจีบเป็นความคลาสสิค)] ไอติมอ้าปากหวอ กะพริบตาปริบ ๆ แต่มือยังไม่หยุดตักเกล็ดน้ำแข็งเข้าปาก
   

“แซ็ค you เอ่อ you sure? (แซ็ค คุณ เอ่อ แน่ใจเหรอ)” ไอติมอยากถามว่าคุณโอเคหรือเปล่าด้วยซ้ำ เพราะอาจจะเสพกัญชามากไปเลยทำให้สมองไม่คงที่
   

แซ็คถอนหายใจยาว ๆ ก่อนจะว่าเสียงนุ่มน่าฟัง [I will try, ice-cream. I will try for you. (ฉันจะพยายามไอศกรีม ฉันจะพยายามเพื่อนาย)]
   

“…” ไอติมหยุดตักของหวานเข้าปาก นั่งมองเยลลี่ในน้ำเป๊บซี่ด้วยความสับสน
   

[It is going to be hard for me I have to accept that. (มันต้องยากมากสำหรับฉันแน่ ๆ ฉันต้องขอยอมรับ)]
   

“Zach you don’t need to do that. (แซ็ค คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น)”
   

[I need to, because I want you. (ฉันจำเป็นต้องทำแบบนั้น เพราะฉันต้องการนาย)] ไอติมเงียบ ตักน้ำเป๊บซี่ขึ้นซดหนึ่งที
   

[I can live without you, but I am not happy. (ฉันอยู่ได้โดยไม่มีนาย แต่ฉันไม่มีความสุขเลย)] ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ มันมึนงง และรู้สึกอ๊อง ๆ ในหัว
   

[I will try to stop my nature. (ฉันจะพยายามเลิกธรรมชาติของตัวเอง)] ไอติมอ้าปากหวอ สีหน้าทึ่ง แต่หัวใจเต้นตึกตัก เข้าใจคำว่าธรรมชาติที่แซ็คพูดถึงนั้นคืออะไร
   

“แซ็ค you อ่า it’s not easy, right? (แซ็ค คุณ อ่า มันไม่ง่ายนะ ใช่มั้ย)” ไอติมถามด้วยความไม่แน่ใจ เพราะว่ากันตามตรงธรรมชาติที่ว่านั่น พูดแบบหยาบคายมันก็คือสันดาน และไอติมก็ได้เกรดสี่ภาษาไทยเลยพอจะรู้ว่า สันดอนขุดง่ายแต่สันดานนั้น…
   

[Yeah, it’s hard, more than my dick. (ใช่ มันยาก ยิ่งกว่าจู๋ฉันอีก)] ไอติมขมวดคิ้วเพราะงงว่าไปเกี่ยวอะไรกับตรงนั้น แซ็คหัวเราะเพราะนึกหน้าไอติมตอนนี้ออกเนื่องจากกระต่ายเงียบไปเลย
   

“What is it about dick? (มันเกี่ยวอะไรกับจู๋อะ)” แซ็คหัวเราะเสียงดังขึ้น ไอติมทำหน้าเหลอหลา แต่ริมฝีปากก็ขยับคล้ายว่าจะขำ
   

[Forget it. I’m sorry for that joke. (ช่างมันเถอะ ขอโทษที่เล่นมุกนั้น)] ไอติมทำหน้าสงสัย อยากรู้ว่ามันหมายถึงอะไร แต่คิดว่าถ้าอธิบายคงต้องยาวเหยียดเลยปล่อยผ่านไปก่อน
   

“You don’t need to stop it. (คุณไม่จำเป็นต้องหยุดมันหรอก)”
   

[Why? It’s not good for relationship. (ทำไมล่ะ มันไม่ดีต่อความสัมพันธ์นี่)] ไอติมยิ้มบางพร้อมกับผ่อนลมหายใจ
   

“Yes, I’m glad you know that, (ใช่ ผมดีใจที่คุณรู้นะ)” ไอติมตักเยลลี่กับเกล็ดน้ำแข็งที่เหลือเข้าปากอีกหนึ่งคำ
   

“But you don’t เอ่อ force, right? (แต่คุณไม่ต้อง เอ่อ บังคับ ใช่มั้ย)”
   

[Yes, force, you could say that. (ใช่ บังคับ นายพูดแบบนั้นก็ได้)]
   

“You don’t need to force yourself, (คุณไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเอง…)” ไอติมทำหน้านึกขณะเคี้ยวเยลลี่ แซ็คไม่แทรกเพราะเข้าใจว่าไอติมต้องค่อย ๆ พูด


“Don’t rush to stop. I mean change a little to a little. (ไม่ต้องรีบหยุด ผมหมายความว่า เปลี่ยนทีละนิดถึงทีละนิด)” แซ็คหัวเราะในลำคอด้วยความเอ็นดูกับการใช้คำศัพท์ของเจ้ากระต่าย


“I understand that it is your life style for long time. (ผมเข้าใจว่ามันเป็นไลฟ์สไตล์ของคุณมานาน)”


[Yes, it is.]


“Then, I think you can’t stop in three day or seven day. (ก็ ผมคิดว่าคุณไม่สามารถหยุดได้ในสามวันหรือเจ็ดวัน)”


[Yes, but I will try to change a little to a little as you said. And I need kam-lung-jai from you. (ใช่ แต่ฉันจะพยายามเปลี่ยนทีละนิดสู่ทีละนิดเหมือนที่นายบอก และฉันต้องการ แกมแลงจัย จากนายนะ)] ไอติมยิ้มขำจนตาหยี เอ็นดูกับภาษาไทยของพ่อฝรั่ง


“Can you really do this? (คุณทำได้จริง ๆ เหรอ)”


[I don’t know. That’s why I have said I will try—try for you. (ฉันไม่รู้ ฉันถึงบอกว่าฉันจะพยายาม พยายามเพื่อนาย)] ไอติมเม้มปากกลั้นยิ้มเขิน สุดท้ายกลั้นไม่ได้ก็เลยปล่อยยิ้มกว้าง ห่อไหล่สองข้างขึ้นด้วยความเขินอาย


[Can you be by my side? (อยู่ข้าง ๆ ฉันได้มั้ย)] แซ็คถามหลังจากเห็นว่ากระต่ายตัวจ้อยเงียบไปพักหนึ่ง ซึ่งไอติมกำลังพยายามกลับมาเป็นปกติอยู่


“If you don’t use weed again. (ถ้าคุณจะไม่ใช้กัญชาอีก)”


[I don’t. (ไม่ใช้)] ไอติมยิ้มบาง พ่นลมหายใจหนึ่งที


“It’s good to hear that, Zach. But I don’t know how long I could be by your side. (มันดีมากเลยฮะแซ็คที่ได้ยินแบบนั้น แต่ผมไม่รู้ว่าผมจะอยู่ข้างคุณได้นานแค่ไหน)”


[As long as you can. (ก็ให้นานที่สุดเท่าที่นายจะทำได้)] แซ็คบอกเสียงนุ่ม ไอติมยิ้มบางเบา


“I will do my best. (ผมจะทำให้ดีที่สุด)”


[Me too.]


“But I do really understand you. I really do. You are porn actor. (แต่ผมเข้าใจคุณจริง ๆ นะ เข้าใจจริง ๆ คุณเป็นนักแสดงหนังโป๊นี่)”


[Thank you. If you are in front of me now, I will kiss you thousand times. (ขอบคุณ ถ้านายอยู่ต่อหน้าฉันตอนนี้ ฉันจะจูบนายเป็นพันครั้งเลย)] ไอติมหัวเราะ


“But you can’t fuck me until I check my blood. (แต่เอาไม่ได้นะ จนกว่าผมจะตรวจเลือด)” แซ็คครางโหยหวน ไอติมทำหน้าตกใจ


“What? (อะไรล่ะ)”


[I want to fuck you, but I got it. I will wait. (ฉันอยากเอานาย แต่ฉันเข้าใจ ฉันจะรอ)] ไอติมทำหน้ายู่


“แหม แซ็ค you have other girl to fuck. Don’t act like you can’t fuck. (แหม แซ็ค คุณมีผู้หญิงอื่นให้เอา อย่าทำเป็นเหมือนเอาไม่ได้)” แซ็คหัวเราะกับความรู้ดีของเจ้ากระต่าย


[You are different from them. (ก็นายแตกต่างจากพวกนั้น)]


“Because I am a guy. (เพราะผมเป็นผู้ชายไง)” แซ็คหัวเราะต่อเนื่อง นึกมันเขี้ยวกับการต่อล้อต่อเถียงของกระต่ายตัวจ้อย


[No, because I love you. (ไม่ใช่ เพราะฉันรักนายต่างหาก)]


“ไอ๊ยะ! You smoke weed sure sure. (ไอ๊ย๊ะ! คุณสูบกัญชาชัวร์ชัวร์)” แซ็คหัวเราะ


[If you don’t believe me you can come to my house now. (ถ้านายไม่เชื่อมาบ้านฉันตอนนี้เลยก็ได้)]


“No. (ไม่ไปหรอก)” ไอติมยกถ้วยขึ้นซดน้ำเป๊บซี่ที่ละลายแล้ว


[But tomorrow you will come to see me, are you? (แต่พรุ่งนี้นายจะมาหาฉันใช่มั้ย)] ไอติมจับความกังวลในน้ำเสียงของแซ็คได้


“Yes. I promise. I will make เยลลี่ in pepsi for you. (ใช่ ผมสัญญา ผมจะทำเยลลี่ในน้ำเป็บซี่ให้คุณ)”


[I can’t wait for tomorrow. (อดใจรอพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว)] ไอติมหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลบนหลังตู้เก็บของตรงปลายเตียง


“It’s almost midnight. (เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว)”


[I don’t want to hang up. I want to talk to you till I sleep. (ฉันไม่อยากวางสาย อยากคุยกับนายจนกระทั่งหลับ)] ไอติมนึกไปถึงเวลาไอ้เดนมันจีบหญิงแล้วก็คุยกันจนหลับ โทรศัพท์วางคาหู ไม่คิดว่าวันนึงจะมาเกิดขึ้นกับตัวเอง


“Okay. If I sleep first, you can go to sleep นะ (โอเค ถ้าผมหลับก่อน คุณสามารถไปนอนได้นะ)”


[อือฮึ]


“I will go to brush teeth. Can you wait? (ผมจะไปแปรงฟัน คุณรอได้มั้ย)”


[Yes.]


“Okay.” ไอติมวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ หยิบถ้วยขนมติดมือมา เปิดประตูออกไปข้างนอก สองหนุ่มยังคงนั่งดูหนังเรื่องเดิม ไอติมเดินเอาถ้วยขนมไปแช่เย็นไว้แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ บีบยาสีฟันใส่แปรงแล้วก็เอามาถูฟันไปมาโดยไม่ได้เร่งรีบ ทำไปตามปกติของตัวเองแบบที่เคยทำ จนกระทั่งเสร็จก็ตามด้วยบ้วนปาก ทำความสะอาดแปรง ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องน้ำ


“Good night.” ไอติมบอกรูมเมทอีกสองคนที่หันมากล่าวราตรีสวัสดิ์พร้อมรอยยิ้มแล้วก็หันกลับไปดูหนังต่อ ไอติมเดินกลับเข้าไปในห้อง ปิดประตูและล็อค เดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู


“แซ็ค…”


[Yes, bunny.] ไอติมย่นคิ้ว


“What is bunny? (อะไรคือบันนี่)”


[It is rabbit, but it is another name. Make me feel like I’m calling you baby, which mean my love. (มันคือกระต่ายนั่นแหละ แต่เป็นอีกชื่อนึง ให้ความรู้สึกว่าฉันกำลังเรียกนายว่าเบบี้ ซึ่งแปลว่าที่รัก)] ไอติมนั่งหน้าเอ๋ออยู่บนเตียง


[Bunny baby.] แซ็คหัวเราะเสียงทุ้ม


“Baby? (เบบี้เหรอ)”



[Yes, my love.] ไอติมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สักพักแกมสีขาวก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ค่อย ๆ ล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วก็เม้มปากกลั้นความเขินอาย


เขาสูบกัญชาอยู่แหละ


V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 21-05-2019 20:25:46
V
v
v

เช้าวันต่อมาไอติมตื่นเกือบสิบโมง และตื่นเพราะแซ็คโทรมาปลุก ไอติมจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนหลับหนีแซ็คไปตอนไหน แต่แน่ใจว่าเป็นฝ่ายหลับหนีไปก่อนนั่นแหละ เวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ที่จำได้ก่อนจะหลับคาโทรศัพท์คือตีสามหน่อย ๆ ไม่คิดว่าแซ็คจะตื่นได้เร็วขนาดนี้


[You want me to pick you up at the dorm? (ให้ฉันไปรับที่หอมั้ย)]


“No. I want to practice myself using the bus and metro. (ไม่ฮะ ผมอยากฝึกฝนการใช้รถบัสกับรถไฟใต้ดิน)”


[Are you sure? (แน่ใจนะ)]


“อื้อ!  Sure. See you at your house. (อื้อ! แน่ใจ เจอกันที่บ้านคุณนะ)” ไอติมวางสายจากแซ็คขณะที่กำลังเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อจะไปหาซื้อเป๊บซี่กับเยลลี่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต


การมีรถเป็นเรื่องสะดวกดีสำหรับการเดินทาง แต่ไอติมคิดว่าระบบขนส่งของที่นี่แตกต่างจากเมืองไทยตรงที่ไม่ต้องมีรถส่วนตัวก็เดินทางได้อย่างสะดวก รถเมล์เป็นระเบียบกว่าเมืองไทย น่าใช้บริการมากกว่าเมืองไทย และสะดวกสบายมากกว่าเมืองไทย ค่าครองชีพบ้านเขาสูง แต่สิ่งที่ได้มาก็คือความคล่องตัวของประชาชน ตรงนี้คือสิ่งที่ไอติมชอบ และหวังว่าสักวันเมืองไทยจะมีระบบขนส่งที่ดีเช่นนี้บ้าง


Ringggg!


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ไอติมกำลังเดินลงรถเมล์และจะเดินไปซูเปอร์มาร์เก็ต ไอติมกดรับสายจากแซ็คที่โทรมาถามว่าถึงไหนแล้ว ไอติมเดินไปด้วยและอธิบายไปด้วยว่ากำลังจะเข้าไปหาซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต


[You can come to the market that you went with me two weeks ago. (นายมาตลาดที่ฉันพาไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อนก็ได้นี่)] ไอติมอ้าปากหวอ หน้าตาเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้


“I forget. But it’s okay. I can buy from here. (ผมลืมอะ แต่ไม่เป็นไร ซื้อจากนี่ไปก็ได้)” แซ็คหัวเราะเสียงแหบ ไอติมขมวดคิ้ว


“You smoke weed? (สูบกัญชาเหรอ)”


[No. Really. I want to, but no. (ไม่ จริง ๆ ฉันอยากนั่นแหละ แต่ไม่)]


“You promise me, Zach. (คุณสัญญาแล้วนะแซ็ค)”


[You have my word. (ฉันสัญญาแล้ว)] ไอติมพ่นลมหายใจเบาๆ


“Okay. See you.” ไอติมวางสายจากแซ็ค เดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยความรู้สึกคุ้นชินมากขึ้น ถ้าไม่ติดเรื่องวีซ่าไอติมก็อยากจะอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ นั่นแหละ แต่ก็ต้องทำตามกฎ


ไอติมเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเป๊บซี่มาใส่ตะกร้าสิบกระป๋อง แล้วก็เดินวนหาเยลลี่อยู่พักหนึ่งจนเจอ แม้จะไม่ได้เหมือนเยลลี่หมีจากเมืองไทยมากนัก แต่ก็ดูใช้แทนกันได้ ไอติมไปต่อคิวจ่ายเงิน ระหว่างรอก็โทรหาเดนนี่ที่เมื่อเช้านี้โทรมาแล้วเขาไม่ได้รับ และเขาก็โทรกลับไปแต่ไอ้เดนก็ไม่รับสายเขาและยังไม่โทรกลับมา เขาเลยโทรหามันอีกรอบ มีคนรับสายแต่เป็นพ่อของเดน


[Denny is a little bit busy. Do you want to leave a message? (เดนนี่ยุ่งนิดหน่อยน่ะ ฝากข้อความไว้มั้ย]


“Oh, no. Thank you. Dad. I will call him again. (โอ้ ไม่ฮะ ขอบคุณครับพ่อ เดี๋ยวผมโทรหาเดนอีกที)”


[Come to San Francisco. We miss you. (มาซานฟรานฯ บ้างสิ เราคิดถึงเธอนะ)] ไอติมยิ้มกริ่ม


“Soon, dad. (เร็ว ๆ นี้ฮะพ่อ)” ไอติมวางสายจากพ่อเดน รอยยิ้มค่อย ๆ จางหายไป รู้สึกประหลาดกับพ่อเดนนิดหน่อยหลังจากได้ฟังเรื่องนั้นจากปากเดน ไม่ใช่การผิดหวังหรือรังเกียจ มันเป็นความรู้สึกที่ว่า พ่อเดนเนี่ยนะ พ่อเดนน่ะเหรอ และเพราะคงเป็นพ่อเดนนี่แหละ ไอติมถึงได้รู้สึกแปลก ๆ ไม่คิดว่าพ่อจะเป็นแบบนั้น แต่ก็นั่นแหละ ทุกคนใช่ว่าจะเป็นแบบที่เราเห็นหรือที่เราคิด


“xxx dollar.” พนักงานสาวผิวขาวบอกจำนวนเงินที่ต้องจ่าย ไอติมหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาจากเป้เขียวขี้ม้า หยิบแบงค์เขียวออกมาแล้วให้เธอไป รอเงินทอนสักแปบก็ได้มา ไอติมหิ้วถุงพลาสติกออกไปจากซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนกำลังจะเดินกลับไปป้ายรถเมล์ ไอติมก็ชะงักเมื่อเจอใครคนหนึ่งยืนรออยู่อย่างสงบ


“Jacob. (เจค็อบ)”





แซ็คที่อาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวพันเอว บนตัวที่มีกล้ามเนื้อแต่เป็นกล้ามเนื้อลีบฟีบมีหยาดน้ำเกาะตามตัว เขาเดินเข้าไปในห้องนอนที่มืดมิดไม่แพ้ห้องโถงด้านนอก แทบจะไม่มีแสงแดดจากข้างนอกเล็ดลอดเข้ามา แสงสว่างเดียวที่เปิดอยู่ตอนนี้คือไฟจากห้องน้ำ


แซ็คยกมือขวาลูบหน้า ขบกรามแน่น ท่าทีฟึดฟัด แต่ก็พยายามหาชุดออกมาจากตู้เสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนจนได้ ระหว่างเปลี่ยนชุด แซ็คหายใจหอบรุนแรง พ่นลมออกจากปากบ่อยครั้ง กระโดดขึ้นลงสองสามรอบ สะบัดหัวหลายที เขาเดินออกจากห้องนอน ตรงไปประตูระเบียงห้อง แหวกผ้าม่านออกเพื่อรับแสง แต่แค่แปบเดียวเขาก็ต้องปิดม่านตามเดิมเพราะทนรับแสงสว่างจ้าไม่ได้


แซ็คยืนพิงกำแพงห้อง หายใจฟืดฟาด เหงื่อผุดขึ้นตามหน้าผาก สายตามองไปยังกล่องเหล็กที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟา เขากลืนน้ำลายลงคอ สองมือกำแน่น หัวใจเต้นแรง หลับตาลงและขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาขบกรามแน่น หน้าตาอดทนอดกลั้นราวกับกำลังสู้กับอะไร


และสุดท้ายอีกฝ่ายก็ชนะ


แซ็คเดินไปนั่งบนโซฟา เปิดกล่องเหล็กแล้วหยิบกระดาษสีขาวสี่เหลี่ยมแผ่นเล็กออกมา มืออันสั่นเทาหยิบก้อนสีเขียวขี้ม้าขึ้นมาคลี่ เศษซากก้อนสีเขียวกระจัดกระจายบนโต๊ะเพราะมือของเขาสั่นไม่หยุด แซ็คหยุดสองมือ หลับตาแน่น กัดฟันแน่น ทิ้งก้อนหญ้าสีเขียวในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง นั่งพิงโซฟาแล้วหายใจหอบฮึกฮัก

“ฮู่ว! ฮ่า! ฮู่ว!”


แซ็คกลืนน้ำลายลงคอ หยิบผ้าขนหนูขึ้นซับเหงื่อบนหน้า ลืมตามองของบนโต๊ะครู่หนึ่งก่อนที่จะเด้งตัวกลับไปนั่งตัวตรง มือซ้ายอันสั่นเทายื่นไปกอบเศษทั้งหลายขึ้นมาแล้วโยนทิ้งลงถังขยะใบเล็ก แซ็คยกสองมือขึ้นกุมหัว นั่งก้มหน้าหลับตาลง หายใจเข้าออกลึก ๆ อยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งเสียงโทรศัพท์มาดึงความสนใจไป เขารีบหยิบขึ้นมาดูเพราะคิดว่าเป็นไอติม แต่กลับเห็นว่าเป็นเบอร์


“เจค็อบ?”


[ว่าไง สบายดีใช่มั้ย] แซ็คขมวดคิ้ว


“ต้องการอะไร”


[นายกำลังรอไอศกรีมอยู่รึเปล่า] แซ็คคลายคิ้วออกแล้วก็ชะงักอยู่กับที่


“รู้ได้ยังไง” แซ็คถามเสียงแข็ง เจค็อบหัวเราะเบาๆ


[ฉันบังเอิญเจอไอศกรีมน่ะ] แซ็คตัวชา ความหวาดกลัวเริ่มปกคลุมจิตใจ


“แล้วตอนนี้ไอศกรีมอยู่ไหน”


[…] เจค็อบเงียบไม่ตอบ นั่นยิ่งทำให้จิตใจของแซ็คว้าวุ่น เขาดีดตัวลุกขึ้นยืนด้วยความกระวนกระวาย


“เจค็อบ!”


[อยู่กับฉัน… ที่บ้าน] แซ็คเบิกตากว้าง หัวใจหล่นตุ้บ
   
   
 







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้




ว้ายตายล้าว น้องติมโดนผู้ชายจีบแหละ >O< ครั้งแรกในชีวิตเลยอะเนาะลูกเนาะ คิกค้าก สวยยยย  :hao7:

ผู้ชายจะพยายามเพื่อเราเลยนะคะน้องติมมม

และในที่สุดน้องติมก็รู้ความหมายของกระต่ายที่พี่แคร็อทเขาเรียกแล้ว ก็ตามนั้นอะเนาะลูก พี่เขาเรียกตามธรรมชาติหนูนั่นแหละ

ช่วงนี้บรรยากาศก็จะดำปนชมพู แบบว่า BLACKPINK IN YOUR AREA!

แบล็คพิงค์มาไง -O-

เจอกันตอนหน้าค่า


ขอบคุณมาก ๆ ขอบคุณคนอ่านทุก ๆ คนที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่นะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตาม การบอกต่อ ขอบคุณคอมเม้น ยอดวิว ยอดโหวตใด ๆ ที่มีให้ บางคนบอกตอมว่าเข้ามาดูหน้านิยายตลอด ๆ เลยเพราะอยากรู้ว่าจะอัปหรือยัง ขอบคุณจริง ๆ นะคะ

ขอบคุณพลังบวกและกำลังใจดี ๆ ที่มีให้กันนะคะ

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 21-05-2019 21:21:51
 o22 o22 o22 เป็นห่วงน้องกระต่าย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 21-05-2019 21:39:23
อูวว เจคจะมาแบบร้ายหรือดีเนี่ยย

คุณแซค ทำดีแล้วนะ สู้ต่อไป

 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 21-05-2019 23:57:05
เจค็อปอย่าทำอะไรน้องติมนะ.

แซ็คแกต้องเข้มแข็งเพื่อน้องติมนะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-05-2019 23:59:14
แซ็คจะเลิกมันได้ไหมเนี่ย แววไม่รอดมีเยอะแฮะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 22-05-2019 00:33:14
เจค็็อบนี่จะเอาไงกับแซ็ค
เกลียดนาง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 22-05-2019 02:13:36
แซคอย่าผิดคำสัญญากับน้องงง แข็งใจไว้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 22-05-2019 03:41:00
 :katai1: เจค็อบจะทำอะไรบีันนี่ของฉัน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 22-05-2019 07:58:43
เจค็อบ จับบันนี่ เป็นตัวประกันด้วยล่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 23-05-2019 21:54:09
อ้าว! เกิดอะไรขึ้น  :ruready
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 25-05-2019 00:12:57
อย่างน้อยก็ได้เห็นความพยายามของแซ๊คที่จะเลิกใช้กัญชาแล้ว แต่เจคอบโผล่มาเนี่ยจะทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงหรือเปล่าเฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.39 : ฺTry. : 21.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 27-05-2019 11:11:16
ลุ้นตอนต่อไปมาก อยากรู้ว่าระหว่างเจค็อบกับพี่ล่ำเรามีอดีตอะไรกัน
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 27-05-2019 20:21:27

Fall in lust - Chapter 40 :: Remind. (เตือนใจ)




   ติ๊งๆๆๆ
   

เสียงออดใส ๆ ดังถี่รัวไปตามจังหวะการกดของแขกผู้มาเยือนที่ยืนหน้าตาเคร่งเครียดอยู่ตรงประตูรั้วอยู่เป็นนาทีก่อนที่ประตูไม้บานใหญ่จะค่อย ๆ เลื่อนเปิดออกด้วยระบบอัตโนมัติ และยังไม่ทันที่ประตูบานไม้จะเลื่อนออกกว้างนัก ฝรั่งร่างสูงที่ตอนนี้กล้ามเนื้อฟีบจากเดิมแทรกตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว สองเท้าก้าวขึ้นบันไดหน้าบ้าน เดินผ่าประตูที่เปิดอยู่แล้วไปอย่างเร็ว
   

“ไอศกรีม!” แซ็คตะโกนเรียกชื่อเจ้ากระต่ายด้วยความร้อนรน ใบหน้าทรุดโทรมของเขาขุ่นมัวแต่ก็แสดงออกถึงความกลัวในเวลาเดียวกัน ดวงตาสีเทาซีดกวาดมองไปรอบชั้นล่างของบ้านแต่ก็ไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิต
   

“Bunny!” แซ็คตะโกนอีกรอบ เขาหายใจหอบแรงขึ้น และเริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่เจอไอติมสักที ใบหน้าของแซ็คพร้อมอาละวาดเต็มที่ แต่ก็พยายามตั้งสติว่าควรจะไปดูจุดอื่นของบ้านมากกว่าจะยืนอยู่แค่กลางบ้านแบบนี้
   

เขาเดินไปทางห้องนอนเก่าของตัวเองก่อน เปิดเข้าไปก็เจอกับความโล่ง แซ็คปิดประตูห้องนอน หมุนตัวเดินไปเปิดประตูหลังบ้านด้วยความร้อนใจ กวาดสายตาสักแปบก่อนที่ความโล่งใจจะถาโถมเข้าหาตัวเมื่อเห็นร่างของไอติมนอนหลับอยู่บนเก้าอี้อาบแดดริมสระน้ำ แซ็คกำลังจะยิ้มแต่สักพักสติก็ดึงสายตาให้หันไปมองในสระว่ายน้ำก่อนที่จะชะงักด้วยความอึ้งปนงง
   

“What the fuck? (เหี้ยไรเนี่ย)” เขาพึมพำเสียงแผ่วในขณะที่สายตาจับจ้องอยู่กับกลุ่มชายผิวสีร่างล่ำบึ้กหกคนที่กำลังว่ายน้ำบ้าง นั่งดื่มอยู่ริมสระบ้างและกำลังพูดคุยกันอย่างอารมณ์ดี แซ็คเลื่อนสายตากลับไปมองร่างขาวสว่างที่นอนหลับอยู่คนเดียวบนเก้าอี้อาบแดดด้วยความงุนงง แล้วสักพักก็เห็นกล้องวางอยู่บนขาตั้งกล้องตั้งอยู่อีกฝั่งของสระว่ายน้ำ แซ็คมองสามจุดนั้นรอบสระว่ายน้ำอีกทีก่อนจะเบิกตากว้าง
   

“พวกเขาชอบไอศกรีมนะ” แซ็คชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไปหาไอติมแล้วหันไปมองด้านหลังก็เจอกับเจค็อบกำลังยืนยิ้มละมุนอยู่ตรงกรอบประตู แซ็คมองจ้องคนตรงข้ามด้วยความโมโห
   

“นายคิดทำอุบาทว์กับเขาเหรอ” เจค็อบขยับยิ้มมุมปากซ้าย
   

“ฉันว่าเด็กนั่นไม่น่ามองว่าอุบาทว์นะ ของชอบไม่ใช่เหรอ…” แซ็คจ้องตาเจค็อบผ่านแว่นสี่เหลี่ยมที่เขาใส่อยู่
   

“…เด็กนั่นมาอยู่ที่นี่ก็เพราะเรื่องเซ็กซ์นี่”
   

เซ็กซ์กับฉัน ไม่ใช่กับใครคนไหนก็ได้” แซ็คเสียงแข็งใส่เจค็อบที่ยิ้มอย่างเฉยเมยกับคำพูดของเขา
   

“รู้ได้ยังไงกันว่าเด็กนั่นอยากมีเซ็กซ์กับนายแค่คนเดียว เขาอาจจะเบื่อแล้วก็ได้”
   

“ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นเจค็อบ ประเด็นคือนายอย่าเสือกทำแบบนี้” แซ็คพูดด้วยความหงุดหงิด เจค็อบยิ้มเยาะ
   

“เห็นว่ามีหนังส่วนตัวกับนายแล้ว ก็อาจจะอยากเป็นพระเอกหน้ากล้องจริง ๆ ดูบ้าง”
   

“เขาตัดสินใจเองได้ ไม่ต้องให้นายยัดเยียด” เจค็อบมองแซ็คสงบนิ่ง แซ็คพยายามจะนิ่งตอบแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาในสภาวะและสถานการณ์แบบนี้
   

“ไม่น่าสนใจงั้นเหรอ นายน่าจะเคยเห็นผ่านตา ผู้หญิงผิวขาวตัวเล็ก ๆ หนึ่งคนโดนผู้ชายผิวสีตัวใหญ่หลายคนรุม อันนี้ก็เปลี่ยนจากผู้หญิงมาเป็นผู้ชายเท่านั้นเอง ขายดีเลยละหนังแนวนี้” แซ็คขบกรามแน่น ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงประเด็นนี้ เพราะรู้ว่าเจค็อบกำลังสนุก
   

“พาเขามาทำไม” แซ็คตัดบทและรู้ว่าเจค็อบเข้าใจใจความสำคัญของคำถามนี้ดีว่าเขาต้องการสื่ออะไร คนถูกถามไม่ตอบ แต่กลับกวนอารมณ์ของแซ็คเพิ่มขึ้นด้วยการยิ้มขำเหมือนเป็นเรื่องสนุกสนาน แซ็คขบกรามแน่นก่อนหมุนตัวเดินเข้าไปหาไอติม พวกที่อยู่ในสระกับริมสระหันมองเขาเป็นตาเดียว แต่แซ็คไม่สนใจ
   

“ไอศกรีม… ไอศกรีม…” แซ็คตบหน้าไอติมเบา ๆ เพื่อเป็นการช่วยเรียก แต่ไอติมยังนอนนิ่ง แซ็คหันมองด้านซ้ายแล้วก็เจอถังน้ำแข็งวางอยู่บนโต๊ะสีขาว เขาเอื้อมมือไปหยิบน้ำแข็งมาถือไว้ในมือก้อนนึง ถูวนไปรอบมือทั้งสองข้าง วางน้ำแข็งไว้บนโต๊ะ เอาสองมือที่เปียกน้ำเย็นแปะลงบนหน้าไอติม รอบแรกไอติมยังไม่ทันตื่น แซ็คเลยหยิบน้ำแข็งมาทำแบบเดิมอีกรอบ และเอามือโปะลงบนหน้าไอติมอีกครั้ง กระต่ายตัวจ้อยลืมขึ้นแบบสลึมสลือ แซ็คหันไปมองเจค็อบตาขวาง
   

“นายเป็นเหี้ยอะไร เอายานอนหลับให้เขากินทำไม”
   

“ฉันรำคาญเวลาเด็กนี่พูด” แซ็คอยากจะด่าอะไรก็ได้ให้มันหยาบคายที่สุด แต่จากการเห็นสีหน้าไม่สะทกสะท้านของเจค็อบแล้ว ก็คิดได้ว่าไม่มีคำหยาบคำไหนหยาบคายที่สุดสำหรับเขาหรอก
   

“แซ็ค…” ไอติมเรียกแซ็คเสียงแผ่ว
   

“Yes, it’s me. (ใช่ ฉันเอง)” แซ็คลุกประคองไอติมให้ลุกขึ้นนั่ง
   

“เข้าไปคุยกันข้างในบ้าน…” เจค็อบบอกทั้งสองคน แซ็คหันมองด้วยความขุ่นเคืองอีกครั้ง ไอติมมองเจค็อบด้วยสายตาง่วง
   

“…ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” รอยยิ้มและความไม่สะทกสะท้านบนหน้าเจค็อบหายไป มีแต่เพียงความเรียบเฉยกับแววตานิ่งสงบที่ไม่อาจคาดเดาอารมณ์ใด ๆ ได้
   

“You can walk? (เดินไหวมั้ย)” แซ็คหันกลับมาถามไอติมหลังจากเจค็อบเดินไปแล้ว ไอติมพยักหน้าหนึ่งครั้งก่อนที่สายตาจะมองเห็นหนุ่มนิโกรล่ำบึ้กทั้งหกคน
   

“โห…” สองในหกหันมองไอติมแล้วยิ้มให้ พอสองคนนั้นนำยิ้ม ที่เหลือก็เลยหันมองตามก่อนยิ้มให้ไอติมทั้งหมด ไอติมยิ้มตอบแบบงุนงง
   

“You smile to them? (ยิ้มให้พวกมันงั้นเหรอ)” ไอติมหันมองแซ็คที่หน้าตึงด้วยความงง
   

“ฮะ เอ่อ what? อ๋อ he smile I just smile back. (เขายิ้ม ผมแค่ยิ้มกลับ)” แซ็คพ่นลมหายใจด้วยความเอือมปนหงุดหงิด แต่ก็แอบโล่งใจด้วย เพราะแสดงว่าไอติมยังปลอดภัยจากคนพวกนั้น
   

หรือจริง ๆ ไอติมยิ้มให้ทั้งที่เสร็จพวกนั้นไปแล้ว
   

“Come with me. (มากับฉัน)” ไอติมพยักหน้า แซ็คพาไอติมลุกเดินออกไปจากริมสระน้ำ ไอติมมีอาการมึนหัว และเดินเอียงไปเอียงมา ดีที่ได้แซ็คคอยประคอง ทั้งสองคนพากันเดินกลับเข้าไปในบ้าน เดินไปถึงห้องโถงก็เจอเจค็อบนั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา ไอติมชี้ไปที่กระเป๋าเป้และถุงพลาสติกใส่ของจากซูเปอร์มาร์เก็ตบนเค้าน์เตอร์ครัว แซ็คปล่อยให้ไอติมยืนคนเดียวสักพักแล้วเดินเข้าไปหยิบของก่อนกลับมายืนข้างไอติม
   

“นายมีอะไรจะพูดก็พูดมา ฉันจะพาไอศกรีมกลับ”
   

“นั่งก่อนก็ได้ ไม่ต้องรีบขนาดนั้น” เจค็อบผายมือไปทางโซฟาตัวยาว แซ็คเอือมแต่ก็พาไอติมที่ยังงง ๆ ง่วง ๆ เดินไปนั่งบนโซฟาตัวเล็ก ให้ไอติมนั่งบนเบาะส่วนตัวเขานั่งบนที่วางแขน
   

“สภาพนายแย่ดีนะ” เจค็อบว่าพลางพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก
   

“ยังแย่น้อยกว่าตอนอยู่กับนาย” เจค็อบยิ้มแบบไม่เห็นฟัน
   

“นั่นยังไม่แย่ที่สุดหรอก เชื่อฉันสิ” แซ็คขบกรามข่มใจ
   

“มีอะไรก็พูดเถอะเจค”
   

“คิดว่าฉันควรโกรธมั้ยกับเรื่องที่เกิดขึ้น…” เจค็อบถามด้วยท่าทีสบาย ๆ สายตามองทั้งสองคนนิ่งสงบ น้ำเสียงที่ใช้ก็นุ่มทุ้ม ไอติมแหงนหน้ามองแซ็คตาแป๋ว แซ็คยกแขนซ้ายขึ้นโอบไหล่ไอติม
   

“…นายคิดว่ายังไงล่ะไอศกรีม คิดว่าฉันสมควรโกรธมั้ยที่โดนแบบนี้” คราวนี้แววตาของเจค็อบเปลี่ยนเป็นวาววับ มือขวาของเขาวางบุหรี่ลงบนที่เขี่ยบุรี่สีใส ควันบุหรี่ลอยฟุ้งขึ้นในอากาศ
   

“About Zach leave you? (เกี่ยวกับแซ็คจากคุณ?)” ไอติมถามด้วยความไม่แน่ใจทั้งที่ในใจค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นประเด็นนี้ เจค็อบเอนหลังพิงกับพนักโซฟาพร้อมกับยกขาขวาขึ้นมาไขว่ห้างทับขาซ้าย สองแขนยกกอดอก


“พวกนายทำราวกับว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกต้อง และพยายามบอกว่าสิ่งที่ฉันทำมันผิด…” เจค็อบมองแซ็คแล้วยิ้มเยาะ คนถูกมองหลุบตาลงต่ำ
   

“…ทั้งที่ตอนนั้นนายเป็นคนอ้าแขนรับสิ่งที่ฉันเสนอให้เข้าไปในชีวิตอย่างเต็มใจ”
   

“But it’s not fair for him. (แต่มันไม่ยุติธรรมสำหรับเขา)” ไอติมแทรกเสสียงแผ่วเบา
   

“Believe me he doesn’t think like that at that time. (เชื่อฉันเถอะว่าเขาไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกในช่วงเวลานั้น)”
   

“ใช่ เจค มันคือช่วงเวลานั้น กาลเวลาผ่านไป นายจะไม่ให้ฉันคิดอะไรใหม่ ๆ บ้างรึไง” แซ็คโต้กลับ แต่ไม่ใช่การโต้กลับอย่างก้าวร้าวหรือจะเอาชนะ เขาแค่สื่อสารในสิ่งที่เขาคิด
   

และพูดกันตามจริง ประเด็นนี้เจค็อบเป็นผู้มีสิทธิ์ถูกต้องในมือมากกว่า
   

“ฉันก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางหรือแย้งนายเลย ถ้าหากนายจะคิดอะไรได้ใหม่…”
   

“…นายพูดเหมือนฉันไม่เคยต่อรองหรือถึงขั้นร้องขอ และยอมทำตามความต้องการของนาย”
   

“ก็ฉันไม่ยอมรับไง…” เจค็อบสะบัดเสียง หน้าตาไม่พอใจแวบหนึ่งก่อนจะหายไป


“…ทำไมแซ็ค ปล่อยให้มันเป็นไปตามสัญญาและตามที่เราคุยกันไว้ไม่ได้รึไง”
   

“A contract—a slave contract, right? 13 is the unlucky number and 13 year is disgusting for Zach. (สัญญา… สัญญาทาสนั่นใช่มั้ย เลขสิบสามเป็นเลขแห่งความโชคร้าย และสำหรับแซ็คคือสิบสามปีของความอุบาทว์)” ไอติมพูดปกติ ไม่ได้ใส่อารมณ์ใดเป็นพิเศษ แถมยังพูดด้วยความไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าใช้คำถูกมั้ยและเรียบเรียงประโยคได้ถูกต้องหรือเปล่า
   

“ฉันไม่ได้ให้เขาทำงานเกินเวลาหรือหักค่าตัวเขาเกินตามที่กฎหมายกำหนด มันจะเป็นสัญญาทาสได้ยังไง”
   

“นายรู้อยู่แล้วเจคว่าสัญญานั่นมันมีความผิดเพี้ยนแค่ไหน” เจค็อบหัวเราะ แต่แววตาที่มองแซ็คนั้นลุกวาว
   

“โอ้ว บางทีฉันก็ปล่อยให้นายเจอโลกกว้างมากไปสินะแซ็ค นายถึงได้เรียนรู้และฉลาดขึ้น”
   

“Everyone has a stupid timing. (เราทุกคนมีช่วงเวลาที่โง่)” ไอติมพยักหน้ายืนยันคำพูดนั้นของตัวเอง เจค็อบยิ้มเยาะน้อย ๆ แซ็คเลื่อนมือจากหัวไหล่ของไอติมลงไปวางบนแขน
   

“ตอนนั้นฉันโง่และคิดว่าตอนนี้ก็ไม่ได้ฉลาดอะไรมากนัก ฉันหลงไปกับสิ่งที่นายปรนเปรอให้ ใช่ ฉันชอบชีวิตแบบนั้น ตอนนี้ฉันก็ยังชอบ แต่ต้องไม่ใช่เพราะนายอีกแล้วเจค” เจค็อบปรับท่าทีให้นุ่มนวลอีกครั้ง ปล่อยสองแขนออกจากกันแล้วเอาวางบนที่วางแขนของโซฟา นั่งมองทั้งสองคนราวกับพระผู้มาโปรด
   

“ฉันกำลังตัดสินใจน่ะว่าจะทำยังไงดีกับเรื่องที่นายทำผิดสัญญาที่นายเซ็นไว้ด้วยความเต็มใจ” แซ็คขบกรามพร้อมกับพ่นลมหายใจด้วยความรู้สึกเหนื่อย
   

“ฉันขอโทษ” เจค็อบคลี่ยิ้มกว้าง มุมปากของเขายกขึ้นสูงจนไอติมรู้สึกขนลุก
   

“นายสองคนคบกันรึยังล่ะเนี่ย” แซ็คเหลือบตามองไอติมที่นั่งหันหน้าไปมองทางอื่นครู่หนึ่งก่อนเลื่อนสายตากลับไปมองเจค็อบต่อ
   

“ยัง” เจค็อบยิ้มขำ เรียกสายตาของไอติมกลับมามองที่ตัวเองอีกครั้ง
   

“นั่นสินะ ฉันจะแปลกใจมากถ้านายคบกับเด็กนี่” ไอติมย่นคิ้วนิดหน่อยกับประโยคของเจค็อบ หันไปมองแซ็คก็เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้าเครียด
   

“What weird? (อะไรแปลก)” ไอติมหันกลับไปถามเจค็อบ หนุ่มสูงวัยทำหน้าประหลาดใจ ก่อนจะแสร้งมองไอติมกับแซ็คด้วยความเหลือเชื่อ
   

“Don’t you know that? He didn’t tell you, hmm? (เธอไม่รู้เหรอ เขาไม่ได้บอกเธอรึไง หืม)” ไอติมส่ายหัวพร้อมกับสีหน้างง หันมองแซ็คก็เห็นว่าเขามองตอบกลับมาด้วยความนิ่ง
   

“He’s sick. (เขาป่วย)” ไอติมหันกลับไปมองเจค็อบสีหน้าเรียบเฉยแต่จริง ๆ คือกำลังงง
   

“Sick what? (ป่วยอะไร)”
   

“เจค ไม่…” แซ็คพยายามห้าม แต่เจค็อบเมินใส่เขา
   

“He is a philophobia and I think he is going to be satyriasis, completely, soon, I guess. (เขาเป็นฟิโลโฟเบีย และฉันคิดว่าเขากำลังจะเป็นซาไตเรียสิส แบบเต็มตัว เร็ว ๆ นี้ ฉันคิดว่างั้นนะ)” เจค็อบตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ราวกับกำลังเล่าเรื่องราวน่ารัก ๆ ของแซ็คให้ไอติมฟัง เขาเว้นวรรคในช่วงท้ายด้วยท่าทีอารมณ์ดี
   

ไอติมหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะงงกับคำศัพท์ที่เจค็อบใช้ “What’s that? (มันคืออะไร)”
   

“What do you want to know first? (อยากรู้อันไหนก่อนล่ะ)”
   

“เจค ไม่ต้องยุ่งได้มั้ย ฉัยคุยกับเขาเองได้” แซ็คเสียงแข็งและจ้องเจค็อบแข็งกระด้าง เจค็อบหันไปมองแซ็คแล้วยิ้มอ่อนก่อนหันกลับไปมองไอติมอีกที
   

“Fear of love and hypersexuality. I think google can help you more. (กลัวความรักและใคร่ไม่รู้อิ่ม ฉันคิดว่ากูเกิลช่วยเธอได้มากเลยละ)” แซ็คบิดปากหนึ่งทีพร้อมกับแสดงอาการสีหน้ารำคาญ ไอติมแปลอันแรกได้ และเกิดข้อสงสัยว่าอาการนี้เป็นมายังไง ส่วนอันที่สองไอติมยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่
   

“นี่ใช่มั้ยที่อยากพูด ถ้าได้พูดแล้ว ฉันขอตัว” แซ็คทำท่าจะพาไอติมลุก เจค็อบเลยโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงอันแข็งแกร่ง
   

“ที่ฉันถามว่าฉันควรโกรธหรือเปล่า ฉันคิดว่าฉันได้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว” แซ็คชะงัก นั่งลงตามเดิมและมองเจค็อบด้วยความระแวง
   

“จะเอายังไง แต่ต้องไม่ใช่การส่งไอศกรีมให้พวกนั้นนะ” แซ็คเริ่มออกอาการฉุนเฉียวเพราะรำคาญและหงุดหงิด


   “ฉันอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าฉันควรจะทำยังไงดีกับเรื่องสัญญาของเราสองคน กับสิ่งที่นายทำ และสิ่งที่นายควรได้รับ” เจค็อบว่าน้ำเสียงราบเรียบ แต่ทั้งสองก็สัมผัสได้ถึงกระแสความเหี้ยมในน้ำเสียงนั้น ยิ่งกับแซ็คเขาสัมผัสได้มากกว่าไอติม
   

“ถ้าฉันอารมณ์ดี ฉันจะทำให้นายเจ็บตัวน้อยที่สุด แต่ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดี ฉันก็จะทำให้นายพังที่สุด…” แซ็คกับไอติมมองเจค็อบที่กำลังพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธของตัวเอง แม้ไอติมจะเพิ่งรู้จักเขาไม่นาน แต่บอกได้เลยว่าตอนนี้เขาอยู่ในห้วงอารมณ์โกรธจัดแบบที่พยายามสกัดความโกรธนั้นอย่างเต็มที่
   

“…นายอาจจะอยากฟ้องฉันกลับในส่วนที่กฎหมายไม่รองรับ นั่นเป็นสิทธิ์ของนาย แต่สิทธิ์ของฉันก็จะยังไม่หายไป หรือถ้าหายไป ฉันก็มั่นใจว่าตัวเองจะยังคงมีสิทธิ์มากกว่านายอยู่ดี” เจค็อบปากสั่น แววตาของเขานิ่งและแข็งกร้าว มองทั้งสองคนแทบไม่กะพริบตา
   

“ฉันไม่ฟ้องนายหรอกเจค ถ้าฉันทำ ฉันทำไปนานแล้ว ฉันขอร้องนายมาตลอดว่าขอแค่ปล่อยฉันไป” เจค็อบหัวเราะ แต่เป็นการหัวเราะด้วยความไม่พอใจ
   

“ปล่อยนายไปงั้นเหรอ…” เจค็อบจ้องตาแซ็ค แล้วไอติมก็อ้าปากหวอเมื่อเห็นว่าตาเขาแดงและมีอาการคล้ายคนจะร้องไห้
   

“…งั้นฉันคงต้องขอเตือนนายก่อนเป็นอย่างแรก” เจค็อบพูดอย่างเยือกเย็น แววตาของเขาไร้อารมณ์ ที่คิดว่าเขาจะร้องไห้ ตอนนี้ไม่มีอาการนั้นให้เห็นแล้ว
   

“นายจะเอายังไงเจค” แซ็คถามอย่างอดทนอดกลั้น เจค็อบโน้มตัวแล้วยื่นมือขวาไปหยิบบุหรี่ที่ลดเหลือครึ่งมวนขึ้นมาถือไว้
   

“ความเจ็บปวด เป็นหนึ่งในเครื่องเตือนใจที่ดีที่สุด ยิ่งถ้าเจ็บปวดเพราะคนที่เรารัก ย่อมเตือนใจได้มีประสิทธิภาพ…” เจค็อบเงยหน้าขึ้นมองสองคนตรงข้ามตัวเอง มือซ้ายหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
   

“…นายจะเลือกให้ฉันโทรหาพวกข้างนอกแล้วให้พวกนั้นยกกล้องเข้ามา หรือว่าจะดับบุหรี่ให้ฉันดีล่ะ” เจค็อบมองแซ็คอย่างเรื่อย ๆ ท่าทีไม่รีบร้อนใด ๆ แซ็คขมวดคิ้วมองด้วยความไม่เข้าใจ
   

“ดับบุหรี่คืออะไร” เจค็อบเลื่อนสายตามองไอติมที่กำลังมีท่าทีระแวง
   

“ผิวสีขาวขนาดนั้น รอยคงชัดมากพอที่จะใช้มันเป็นเครื่องเตือนใจนายว่าการทรยศคนอย่างฉันไม่ใช่เรื่องที่นายจะ…” แซ็คเบิกตากว้าง
   

“ไม่!” เขาตะโกนเสียงดังลั่นบ้าน ไอติมหันไปมองแซ็คด้วยความตกใจเพราะเสียงที่เขาใช้นั้นแสนจะดุดัน แล้วพอยิ่งเห็นหน้าของแซ็คตอนนี้ ไอติมยิ่งรู้สึกตกใจ
   

“ฉันไม่ได้บอกนี่ว่าจำเป็นต้องเลือกข้อนี้ นายยังมีตัวเลือกอีกข้อนึงนะ” เจค็อบยิ้มเย็น แซ็คกัดฟันแน่น มองอีกฝ่ายอย่างโมโห
   

“จะตัวเลือกไหนฉันก็ไม่เลือกทั้งนั้น!”
   

“นายควรเลือกนะ เพราะไม่งั้นหกคนในสระว่ายน้ำพร้อมที่จะเป็นพระเอกหนังโป๊เรื่องแรกให้เด็กนี่ทันที” หน้าไอติมช็อค มองเจค็อบที่เหยียดยิ้มด้วยความสนุกสนานตาค้าง
   

“คิดว่านายจะทำอะไรได้ง่ายดั่งใจไปหมดทุกอย่างเหรอเจค?!” แซ็คถามเสียงกร้าว แขนซ้ายกระชับตัวไอติมเข้าไปติดข้างตัวเองแน่นขึ้น
   

เจค็อบย่นคิ้วมองแซ็ค มองด้วยความแปลกใจ “นายทำเหมือนไม่รู้จักฉันงั้นแหละแซ็คว่าฉันทำอะไรได้ดั่งใจเสมอ”
   

“แต่ครั้งนี้ไม่” แซ็คเสียงแข็ง แต่ถึงอย่างนั้นสีหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความหวาดกลัว เขาก้มลงมองไอติมที่หน้าซีดและดูช็อค แซ็คพาไอติมลุกขึ้นเพื่อจะพาไอติมออกไปจากที่นี่
   

“ถ้านายก้าวออกไปตอนนี้ เท่ากับว่านายเลือกส่งให้เด็กของนายไปเป็นอาหารของพวกนั้น ถึงจะยังไม่ใช่วันนี้ แต่ฉันรับรองเลยว่าต้องมีสักวันแน่นอน…” แซ็คยืนมองเจค็อบด้วยความเคียดแค้น เจค็อบคลี่ยิ้ม
   

“…โอ นายกำลังคิดให้เด็กนี่กลับเมืองไทยแล้วจะปลอดภัยใช่มั้ยล่ะ” เจค็อบหัวเราะด้วยความตลก
   

“เจค ฉันขอล่ะ ฉันจะกลับมาอยู่กับนายเหมือนเดิมก็ได้” หนุ่มสูงวัยเลิกคิ้วขึ้น
   

“No! Don’t come back. (ไม่ อย่ากลับมา)”
   

“โอ้ว หนุ่มน้อย เธอไม่ต้องกังวลหรอก ฉันไม่รับเขากลับมาแน่นอน แต่ฉันก็ไม่รับประกันว่าเขาจะก้าวหน้าต่อไปได้อย่างที่เขาหวังหรือเปล่า”
   

“ถ้างั้นก็สู้กันด้วยกฎหมาย ฉันจะไม่ยอมให้นายทำอะไรบ้า ๆ แบบนี้” เจค็อบยิ้มไม่สะทกสะท้าน
   

“ได้สิ ฉันพร้อม นายย่อมรู้ดีที่สุดว่าฉันพร้อมเสมอ…” แซ็คกำมือขวาแน่น สีหน้าเคียดแค้น เพราะเขารู้อย่างที่เจคว่า
   

“…ฉันมีความคิดอยู่ว่า ถ้านายตามใจฉันอีกสักสองสามเรื่อง ฉันจะไม่ฟ้องร้องนาย ยกเลิกสัญญาการทำงานระหว่างเรา แล้วหาทางออกสำหรับนายอย่างเหมาะสมที่สุด”
   

“Cancel the contract, really? (ยกเลิกสัญญา จริงเหรอ)” เจค็อบยิ้มให้กับไอติมที่มองกลับมาอย่างมีความหวัง
   

“We can make a deal. (เราตกลงกันได้นี่)”
   

“แต่ฉันไม่ตกลงกับตัวเลือกของนายตอนนี้” แซ็คเถียงเสียงแข็ง
   

“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้บังคับ แต่ถ้านายก้าวออกไป ฉันสัญญาว่าจากที่คิดจะปล่อยให้นายอยู่อย่างสงบ แล้วปล่อยให้เวลาทำงานของมัน ฉันจะเปลี่ยนใจ…” แซ็ครู้สึกอัดอัด อยากเดินเข้าไปต่อยหน้าเจค็อบสักที แต่ไอติมยกมือดันหน้าอกเขาไว้
   

“…เจ็บแบบฉันบ้างจะเป็นอะไรไป” ไอติมมองเจค็อบด้วยสายตาหวาดหวั่น ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน หันไปมองแซ็คด้วยสายตาครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วหันกลับไปมองเจค็อบต่อ
   

“Are you sure about the contract? (คุณแน่ใจใช่มั้ยเกี่ยวกับสัญญา)” เจค็อบยิ้มบางและกดหน้าลงหนึ่งครั้ง ไอติมก้าวเท้าเดินออกไป แต่แซ็ครีบคว้าตัวไอติมไว้
   

“No, ice-cream. You don’t have to sacrifice for me. I’m not gonna appreciate that. (ไม่ ไอศกรีม นายไม่ต้องเสียสละเพื่อฉัน ฉันจะไม่ซาบซึ้งกับมันหรอกนะ)” แซ็คมองไอติมสายตาดุและตำหนิ
   

“He will cancel contract. It can help you. (เขาจะยกเลิกสัญญา มันสามารถช่วยคุณ)”
   

“หรืออยากให้ฉันทำก็ได้นะ ฉันชักสนุกแล้วสิ”
   

“ไม่ต้อง!” แซ็คหันหน้าไปกระแทกเสียงใส่เจค็อบแล้วหันกลับมามองไอติม กระต่ายตัวจ้อยมองด้วยสายตาขอร้องแต่ในขณะเดียวกันก็หวาดกลัว ใบหน้าขาวใสซีดลง แซ็คมองอย่างเจ็บปวดและโกรธเคือง น้ำตาคลอขอบตาล่างของแซ็ค ตาขาวแดงแบบที่ไอติมแยกไม่ออกเพราะฤทธิ์กัญชาหรือเพราะเขาพยายามจะไม่ร้องไห้ออกมา
   


“เอาบุหรี่มานี่” แซ็คหันไปหาเจค็อบในที่สุด แม้จะตาแดงแต่เขาก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ แม้จะกลัวแต่ก็พยักหน้าสองสามทีเป็นการบอกแซ็คว่าตัวเขานั้นโอเค
   

“Wait,” ไอติมหันไปพูดกับเจค็อบที่เดินถือบุหรี่ควันฉุยและยิ้มพอใจ หนุ่มสูงวัยหยุดยืนห่างจากทั้งสองคนในระยะไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป ไอติมหันไปเปิดกระเป๋าเป้ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดเข้ากล้องถ่ายรูปแล้วเลือกโหมดวิดีโอ
   

“Say that word again that you will cancel the contract. (พูดประโยคนั้นอีกครั้งที่คุณบอกว่าจะยกเลิกสัญญา)” เจค็อบเผยอปากแวบหนึ่งแล้วก็ยิ้ม หรี่ตามองไอติมชั่วสั้น ๆ จากนั้นก็พยักหน้าพร้อมกับหัวเราะในลำคอ
   

“ฉันสัญญาว่าจะยกเลิกสัญญาการทำงานของฉันกับแซ็ค จะไม่ฟ้องร้องเขาหากเขาทำตามเงื่อนไขของฉัน และยอมรับหนทางอันเหมาะสมกับเขาที่ฉันจะหาให้…” เจค็อบมองทั้งสองคนหลังจากพูดจบ


“…แล้วนายล่ะ จะยอมรับเงื่อนไขของฉันหรือเปล่า”


“ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเงื่อนไขของนายคืออะไร” แซ็คพยายามกดอารมณ์โกรธ


“อย่าคิดในแง่ร้ายนักเลยน่า เพราะสิ่งที่ร้ายกว่าคือจำนวนเงินที่นายต้องจ่ายให้ฉันถ้าถูกฟ้องร้องเรื่องผิดสัญญาขึ้นมา นายรู้อยู่แล้วว่ามันแย่แค่ไหน” เจค็อบเลิกคิ้วขึ้น ท่าทางของเขากำลังสนุกที่ได้เล่นเกม ไอติมมองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว


“เอางี้แล้วกัน ถ้าเงื่อนไขนั้นมันทุเรศเกินนายจะรับได้ นายมีสิทธิ์ปฏิเสธ แต่ฉันมั่นใจว่านายจะตอบรับมัน” แซ็คย่นคิ้ว เจค็อบยิ้มละมุน มองทั้งสองคนอย่างสบาย ๆ ไอติมมองเจค็อบอย่างไม่ไว้ใจกับความคิดของผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าเงื่อนไขนั้นจะเป็นแบบไหน แต่มันต้องเป็นสิ่งที่ไม่ได้ดีไปกว่าการถูกฟ้องร้องแน่นอน


หากไม่ยอมรับตัวเลือกของเขาวันนี้ เขาก็จะตามกัดไม่ปล่อย แต่ในขณะเดียวกันถึงยอมรับไป ก็ใช่ว่าเรื่องจะจบ แซ็คบอกจะกลับมาอยู่กับเขาตามเดิม เขาก็ปฏิเสธไม่รับกลับมา


เจค็อบเลือกแล้วว่าจะเหยียบพวกเขาให้ถึงที่สุด วันนี้ได้เหยียบครั้งแรก และเขาจะยังตามเหยียบต่อไป


“ว่าไงล่ะ” ไอติมหันมองแซ็ค และคิดว่าแซ็คคือคนที่รู้มากกว่าเขาว่าเจค็อบเป็นยังไง และกำลังคิดอะไร และสามารถทำอะไรได้บ้าง สุดท้ายแซ็คยื่นมือออกไป เจค็อบคลี่ยิ้มกว้างแล้วยื่นบุหรี่ให้แซ็ค ขวัญใจไอติมรับมาถือไว้ในมือทั้งที่สีหน้าไม่เต็มใจ
   

“…เจ็บปวด แต่ก็งดงามไปด้วยความรัก ความเสียสละ จริงมั้ย” เจค็อบยิ้มแย้ม แววตาเปล่งประกายวิบวับ ไอติมหันมองหน้าแซ็คที่มองกลับมาอย่างเศร้าสร้อย ไอติมพยักหน้าอีกครั้ง
   

“I’m sorry. (ฉันขอโทษ)”
   
   





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



น้องต่าย  :sad4:  พี่อั้น   :monkeysad:    เจค็อบ      :m16:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 27-05-2019 20:29:23
นังน้องงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-05-2019 20:43:40
สงสารน้องติม เกลียดอีแซ็คมากบอกเลย.  :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 27-05-2019 20:52:06
เจคไม่ควรเอาไอติมมาเป็นข้อต่อรองเลย มันไม่แฟร์อ่ะ ฟ้องร้องตามกม.ยังดีเสียกว่า คือลากไอติมไปไหน ข้อต่อรองคือ หมู่เหรอ สงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-05-2019 22:54:29
นังแซ็คคคคคค  :z6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-05-2019 23:14:38
 :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 27-05-2019 23:33:55
เอาเจคไปตบ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 28-05-2019 00:38:26
อะไรอ่ะะ น้องติมเกี่ยวอะไรด้วยยยยย นังคนเลววววววว :katai1: :katai1: :m31: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 28-05-2019 01:18:34
หืมมม นี่รึป่าวคือที่มาแผลของไอติมตอนเริ่มเรื่อง  :z3:
มันเลยเถิดมาขั้นนี้เพราะติมรักอิตาแซ็คนี่แหละ ลูกเราเลยเจอเรื่องไม่ดี :katai1:
น้องติมลูกแม่!!!!!!!! :o12:

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 28-05-2019 02:24:33
ค้างง  :katai1:

ดับบุหรี่คืออะไร อะไรคือข้อเสนอของเจค

ไม่นะะ อยากจะบ้า มันมาถึงจุดนี้ได้ยังงายย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 30-05-2019 00:09:01
น้องติมลูกกกกก ลูกชั้นผิดอะไร แกนังเจค :z6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.40 : ฺRemind. : 27.05.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 31-05-2019 20:16:14
น้องติมได้แซ็ค ก็สมความปราถนา แต่มาอยู่ในวังวนขอเจค มันจะมีทางออกใช่มั๊ย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.41 : ฺCondition. : 01.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-06-2019 19:09:56


Fall in lust - Chapter 41 :: Condition. (เงื่อนไข)



*ข้อมูลเรื่องอาการ เรื่องทางการแพทย์ที่ปรากฏในตอนนี้ ทางคนเขียนไม่ได้มีความรู้ชัดเจน อาศัยการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต และนำมาประกอบการเขียนโดยใช้ข้อมูลให้กลางที่สุด และไม่ลงลึกจนเกินไป เล่าภาพแบบกว้าง ๆ มากกว่าจะระบุเฉกเช่นผู้มีความรู้หรือประสบการณ์ ผิดพลาดตรงไหน ต้องขออภัยนะคะ*





   “It’s hurt more than I think. (มันเจ็บกว่าที่ผมคิด)” เสียงใสพึมพำแหบแห้งในอ้อมกอดเปลือยเปล่าของฝรั่งตัวโตที่นั่งกอดร่างผอมบางไว้อย่างทะนุถนอม
   

“Me too. (ฉันก็เหมือนกัน)” ไอติมกดหน้าลงมองตรงซี่โครงด้านซ้ายห่างจากใต้ราวนมของแซ็คที่มีรอยสีไหม้สีแดงสดร้อนเป็นวงกลมขนาดเท่าเหรียญบาทไทยอยู่ตรงนั้น ซึ่งเป็นแผลรูปแบบเดียวกันกับที่อยู่บนแผ่นหลังด้านขวาของไอติม
   

“Bunny,” แวบแรกไอติมนิ่งเพราะไม่คุ้น แต่สักพักจำได้ว่าล่าสุดที่คุยโทรศัพท์กัน อีกฝ่ายเรียกตัวเองด้วยชื่อนี้จึงเงยหน้าขึ้นจากซอกคอของฝรั่งแล้วนั่งตัวตรงมองหน้าเศร้าสร้อยของแซ็ค
   

“Leave me. (ไปจากฉันเถอะ)” ไอติมนิ่งค้าง กะพริบตามองแซ็คด้วยความงง ไม่ได้งงเพราะฟังไม่ออก แต่งงเพราะว่าทำไมเขาพูดแบบนั้น
   

“Why? (ทำไมล่ะ)”
   

“I’m going back to Jake and wait until the contract end. (ฉันจะกลับไปอยู่กับเจค แล้วก็รอจนสัญญาหมด)” แซ็คพูดด้วยสีหน้าขมขื่น ไอติมมองเขาด้วยความเห็นใจ
   

“But he said he will not get you back. (แต่เขาบอกเขาจะไม่รับคุณกลับไป)” แววตาแซ็คหม่นลง
   

“I will try to talk to him. (ฉันจะพยายามคุยกับเขา)” ไอติมมองแซ็คนิ่ง ทบทวนอะไรในชีวิต แล้วก็อดจะคิดถึงตัวเองไม่ได้ คิดถึงตัวเองที่เคยเป็นก่อนหน้านี้
   

“You know I want the old of me back. I miss him. I feel like I am grown up so much and I don’t like it. I just want to have fun in life as I am in the past. (คุณรู้มั้ยว่าผมอยากได้ตัวเองกลับมา ผมคิดถึงเขา ผมรู้สึกว่าผมโตขึ้นเยอะมากและผมก็ไม่ค่อยชอบนักหรอก ผมแค่อยากมีความสนุกในชีวิตเหมือนที่ผมเป็นในอดีต)” แซ็คมองไอติมด้วยความเข้าใจ
   

“…” ไอติมขยับมุมปากทั้งสองข้างเป็นรอยยิ้มช่วงสั้น ๆ แล้วก็หุบลง
   

“Yes, I think that leaving from you is the best way for me. To go back my old life, no drama, no creepy people, no something like this that is happening now. (ใช่ ผมคิดว่าการไปจากคุณคือทางที่ดีที่สุดสำหรับผมละ กลับไปใช้ชีวิตตามเดิม ไม่มีดราม่า ไม่มีคนน่ากลัว ๆ ไม่มีอะไรแบบนี้ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่)”
   

“I know. (ฉันรู้)” แซ็คมองไอติมด้วยความรู้สึกเศร้า
   

“It is going to be easy if I don’t love you now. (มันจะเป็นอะไรที่ง่ายมากถ้าตอนนี้ผมไม่ได้รักคุณ)” แซ็คมองไอติมด้วยความอึ้งครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มอ่อนด้วยความรู้สึกเศร้า
   

“That’s terrible. (โคตรแย่เลย)”
   

“I don’t really know before that the power of love is so strong. It made me stuck with you. (ผมไม่รู้มาก่อนจริง ๆ ว่าพลังของความรักมันจะแข็งแกร่งแบบนี้ มันทำให้ผมติดอยู่กับคุณ)” แม้จะรู้สึกเศร้าที่ดึงเจ้ากระต่ายสีขาวตัวนี้เข้ามาในโลกสีดำของตัวเอง แต่แซ็คก็รู้สึกขอบคุณที่เจ้ากระต่ายอยู่กับเขาในตอนนี้
   

“Thank you, bunny.”  ไอติมยื่นมือขวาไปจับจี้กระต่ายสีทองอ่อนนวลตา
   

“Now I am not only fall in lust with you. I am also fall in love with you, my carrot. (ตอนนี้ผมไม่ได้แค่ตกหลุมราคะคุณแล้วนะ แต่ผมยังตกหลุมรักคุณอีกด้วย แคร็อทของผม)” แซ็คยิ้มด้วยความอบอุ่นใจ แต่แววตาของเขากลับหวาดกลัวกับประโยคนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มไอติมหนึ่งที
   

“I love you, too. (ฉันก็รักนาย)” แม้จะพูดอย่างนั้น แม้จะยิ้มอย่างสุขใจ แต่ไอติมก็เห็นว่าสีหน้าและแววตาของแซ็คแสดงออกถึงความคิดไม่ตก
   

“You already broke that cage. Don’t go back to it again. (คุณแหกกรงนั่นไปแล้ว อย่ากลับไปหามันอีกเลย)”
   

“But I have known Jake for ten years I know what he could do. (แต่ฉันรู้จักเจคมาเป็นสิบปี ฉันรู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง)”
   

“Then you know that he will not welcome you back no matter how hard you try to negotiate with him. He wants to beat you now, that’s the point. (ถ้างั้นคุณก็ต้องรู้สิว่าเขาจะไม่ต้อนรับคุณกลับไปไม่ว่าคุณจะพยายามเจรจากับเขาแค่ไหน เขาต้องการขยี้คุณ นั่นคือประเด็น)” สีหน้าของแซ็คสลดลง ไอติมเชื่อว่าแซ็ครู้ แต่เขาแค่อยากลองพยายามตามที่บอก และไอติมรู้ว่าถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ แต่กับบางคนรู้ตั้งแต่ยังไม่ลองนั่นแหละ
   

“What we should do now is wait for his condition. (ที่เราต้องทำตอนนี้คือรอเงื่อนไขของเขา)” แซ็คพ่นลมหายใจ ไอติมกระเถิบตัวลงไปนั่งตรงข้ามกับแซ็ค มองเขาด้วยความเป็นห่วง
   

“What I want to know now is about your sick. What was that? (ที่ผมอยากรู้ตอนนี้คือการป่วยของคุณ มันคืออะไร)” แซ็คชะงัก หลุบตาลงต่ำครู่หนึ่งก่อนจะมองไอติมอีกครั้ง
   

“I am sorry if it should not call sick. (ผมขอโทษถ้ามันไม่ควรเรียกว่าป่วย)” แซ็คหลับตาลงและสั่นหัวช้า ๆ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกและค่อย ๆ ปล่อยออกมา
   

“You could say that. (เรียกแบบนั้นก็ได้)” ไอติมนั่งเงียบ ยื่นมือซ้ายไปจับมือขวาของเขา แซ็คกุมมือไอติมตอบ ไอติมไม่เร่งรัด ปล่อยให้แซ็คพร้อมที่จะเล่าเอง ใช้เวลาไปน่าจะเกินหนึ่งนาที แซ็คถึงเปิดปากพูด
   

“I’m a philophobia. (ฉันเป็นฟิโลโฟเบีย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ จำการออกเสียงนี้ได้จากปากของเจค็อบ แต่ไม่รู้ว่ามันสะกดยังไงและแปลว่าอะไร เลยได้แต่มองแซ็คด้วยสายตาเป็นคำถาม แซ็คถอนหายใจไปที
   

“A person who fear of love. (คนที่กลัวความรักน่ะ)” ไอติมย่นคิ้ว เข้าใจความหมายที่แซ็คบอก
   

“Seriously? เอ่อ I’m not going to laugh at you. I just don’t know that there is this sick. (จริงเหรอ เอ่อ ผมไมได้จะล้อเลียนคุณนะ ผมแค่ไม่รู้ว่ามันมีอาการนี้ด้วย)”
   

“It’s about the mental. I used to see doctor a couple times, a psychiatrist. (มันเกี่ยวกับจิตใจ ฉันเคยเจอหมอสองสามครั้ง จิตแพทย์น่ะ)” ประโยคสุดท้ายของแซ็คเสียงแผ่วราวกับไม่อยากให้ไอติมได้ยิน แต่เพราะอยู่กันสองคนในห้องนอน มีเพียงเสียงแอร์เป็นแบ็คกราวด์ ไอติมจึงได้ยินประโยคนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดหรือแสดงท่าทีอะไร ทำเพียงพยักหน้ารับรู้
   

“How you become ฟิ ฟิโลเบีย เอ่อ yes, that’s name.”
   

“Because I used to believe in love so much. And maybe it is too much, then when my parents get divorced. I’m like, fucked up. (เพราะฉันเชื่อในรักมาก และบางทีมันอาจมากไป พอพ่อกับแม่ฉันหย่ากัน ฉันก็เหมือนกับว่า พังน่ะ)” ไอติมนึกทบทวน จำได้ว่าเขาเคยบอกว่าตัวเองเป็นคนโรแมนติกมาก วาดฝันความรักไว้นั่นนี่
   

“Why? (ทำไมล่ะ)”
   

“They are the love icon for me. They spend the life together for almost thirty years. I saw them in love with each other and I am so happy. But suddenly, like it was out of the blue, you have no clue about breaking up. They both told me that they will be separate soon and they think that I can handle this because I’m grown up. (พวกเขาคือสัญลักษณ์ความรักของฉัน พวกเขาใช้ชีวิตด้วยกันเกือบสามสิบปี ฉันเห็นพวกเขารักกันแล้วก็มีความสุขมาก แต่ทันใดนั้น เหมือนว่าไม่ทันตั้งตัวน่ะ แบบว่านายไม่มีสัญญาณของการเลิกกันเลย พวกเขาทั้งสองคนมาบอกฉันว่าจะแยกกันอยู่เร็ว ๆ นี้ และพวกเขาคิดว่าฉันจะรับมันได้ เพราะฉันโตแล้ว)” ไอติมทำเพียงนั่งฟัง กุมมือแซ็คเอาไว้ แซ็คยิ้มเศร้าแต่ก็เล่าต่อ
   

“Yes, I’m twenty, I guess, at that time. But I can’t handle it. I’m disappointed and I ran away from them. And then I met Jake and he taught me how to release my feeling. Yeah, he lets me play porn, teach me that I can live without love if I have sex. I live with that thing for long time and I get used to it. (ใช่ ฉันโตแล้ว ฉันยี่สิบได้มั้งตอนนั้น แต่ฉันรับมือกับมันไม่ได้ ฉันผิดหวังแล้วก็หนีพ่อกับแม่มา แล้วฉันก็มาเจอเจค เขาสอนฉันให้ปลดปล่อยความรู้สึก นั่นแหละ เขาให้ฉันเล่นหนังโป๊ สอนฉันว่าฉันอยู่ได้โดยไม่ต้องมีรักถ้ามีเซ็กซ์ ฉันอยู่กับอะไรแบบนั้นมานานจนฉันชินกับมัน)”
   

“He is like your father in that time. (เขาเหมือนพ่อคุณในช่วงเวลานั้น)” ไอติมพูดเสียงเบา
   

“And sometimes he is like my mother. (แล้วบางครั้งเขาก็เป็นเหมือนแม่ฉัน)” ไอติมพอจะนึกออก พอจะจินตนาการได้ว่าทั้งสองคนมีช่วงเวลาร่วมกันมายาวนาน เจคคงอุ้มชูแซ็คไว้มากมาย ก็ไม่น่าแปลกถ้าเขาจะแค้น
   

“You love him? (คุณรักเขามั้ย)” แซ็คก้มหน้าลง เงียบไม่ตอบ แล้วเขาก็ส่ายหัวช้า ๆ แต่ไม่ใช่เป็นการปฏิเสธว่าไม่
   

“I don’t know, (ฉันก็ไม่รู้)” แซ็คเงยหน้าขึ้นสบตากับไอติม
   

“He saved my life. I’m fucking fuck up and he pulled me from the dark time. (เขาช่วยชีวิตฉัน ฉันโคตรพัง แล้วเขาก็ดึงฉันขึ้นมาจากช่วงเวลาอันมืดมิด)” 
   

“And he becomes your dark time instead. (แล้วเขาก็กลายมาเป็นช่วงเวลามืดมิดของคุณแทน)” แซ็คขยับปากเป็นอาการขำน้อยๆ
   

“You got the point. (แบบนั้นแหละ)” ไอติมถอนหายใจ
   

“And you pull me out from that time with your white soul. (แล้วนายก็ดึงฉันออกมาจากช่วงเวลานั้นด้วยจิตวิญญาณอันขาวบริสุทธิ์ของนาย)” ไอติมยิ้มขำมุมปากซ้าย
   

“And do I am going to be like Jake? I’m pull you out and then you leave me. (แล้วผมจะเป็นเหมือนเจครึเปล่า ผมดึงคุณออกมาแล้วจากนั้นคุณก็หนีผมไป)” แซ็คยื่นมือซ้ายไปวางบนแก้มขวาของไอติม ถึงจะรู้ว่าเจ้ากระต่ายพูดเล่น แต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ
   

“I can’t guarantee anything, but I will do my best as I said to you. I will try for you, bunny. (ฉันไม่สามารถการันตีอะไรได้เลย แต่ฉันจะทำให้ดีที่สุดเหมือนที่ฉันพูดกับนาย ฉันจะพยายามเพื่อนาย บันนี่)” ไอติมคลี่ยิ้มแก้มอิ่ม ยกมือขวาขึ้นจับหลังมือของแซ็ค
   

“Yeah, okay. (ก็ยังดี)” แซ็คยิ้มอ่อน
   

“Doctor give medicine to you? (หมอให้ยามั้ย)”
   

“For philophobia, no. It is about my mental, like a crux in life. They say I have to keep going, open my mind for relationship. They always say the same that it’s not scary. (สำหรับโรคกลัวความรัก ไม่ได้ให้ มันเกี่ยวกับจิตใจฉันเอง เหมือนปมในชีวิต พวกเขาบอกว่าฉันต้องก้าวต่อไป เปิดใจให้กับความสัมพันธ์ พวกเขามักพูดเหมือนเดิมเสมอว่ามันไม่ได้น่ากลัว)” ไอติมกำลังคิดว่า แซ็คไม่น่าจะไปหาหมอแค่คนเดียว เพราะเขาพูดว่า they
   

“But you are still scare. (แต่คุณก็ยังกลัว)” แซ็คพยักหน้า
   

“When someone told me that they wanted to be in a relationship with me I will think about my parents and then I’m screw it up. (เวลามีคนบอกว่าอยากคบกันฉับ ฉันจะนึกถึงพ่อกับแม่ แล้วฉันก็จะทำมันพัง)”
   

“Is it like a เอ่อออ panic? (มันเหมือนกับ เอ่อออ แพนิคงี้เหรอ)” แซ็คพยักหน้า ไอติมพยักหน้า แม้จะนึกภาพไม่ชัดนักหรอกว่ารูปแบบอาการมันมากแค่ไหน แต่จากการที่เห็นเขามีอาการหวาดกลัวผ่านสีหน้าและแววตา ก็พอจะเก็ทอยู่บ้าง
   

“What is the latest time that you go to see doctor? (ไปเจอหมอครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ฮะ)”
   

“After I came back from Thailand. (หลังจากที่ฉันกลับจากไทยน่ะ)” ไอติมพยักหน้าด้วยความเข้าใจ แซ็คหน้าเครียดขึ้นนิดหนึ่ง เขาดูอึดอัดที่จะพูดต่อ
   

“It’s okay if you don’t want to talk about it. (ไม่เป็นไรนะถ้าคุณไม่อยากพูดแล้ว)” แซ็คขบกรามพร้อมกับส่ายหัวช้าๆ
   

“One of doctor, a psychiatrist, that I met gave me medicines for satyriasis. (หนึ่งในหมอที่ฉันพบให้ยาฉันสำหรับสไตเรียสิส)” ไอติมงงกับชื่ออาการนี้ตั้งแต่เจค็อบพูดแล้ว ไม่คุ้นหู ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
   

“How is that? (มันเป็นยังไง)”
   

“It’s like a sex addicted. (มันเหมือนกับโรคเสพติดเซ็กซ์)” ไอติมอ้าปากหวอ กะพริบตาปริบ ๆ มองแซ็ค
   

“But it’s not on that level yet. Doc told me that I am just have more energy about sex, having too much, and can’t get enough, and—. (แต่ก็ยังไม่ถึงเลเวลนั้นหรอก หมอบอกว่าฉันมีพลังกับเซ็กซ์มาก มากเกินไป แล้วก็ไม่รู้จักพอ แล้วก็…)” แซ็คเม้มปาก มองไอติมอย่างไม่แน่ใจ จนไอติมพยักหน้าถึงพูดต่อ
   

“And I like to seek new taste of sex with new woman. (แล้วฉันก็ชอบหารสชาติเซ็กใหม่ ๆ กับผู้หญิงใหม่ ๆ ด้วย)” ไอติมค้างเติ่ง มองแซ็คที่มองตัวเองกลับมาด้วยสีหน้าสลด
   

“Oh, wow.” ไอติมไม่รู้จะพูดยังไง ที่รู้ก็คืออึ้ง เพิ่งเคยเจอคนที่มีอาการแบบนี้ในชีวิตของตัวเอง
   

“I don’t know if it is my mental or my nature. (ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องของจิตใจฉันหรือธรรมชาติของฉันเอง)” ไอติมยังคงอึ้งค้าง แซ็คคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคลานเข่าไปใกล้กับตู้ข้างหัวเตียงฝั่งตัวเอง เปิดลิ้นชักแล้วหยิบถุงกระดาษสีน้ำตาลออกมาก่อนกลับมานั่งที่เดิม เขายื่นถุงนั้นให้ไอติม หนุ่มเอเชียรับมาแล้วเปิดออกดู เห็นซองยาอยู่ในนั้นสี่ห้าซอง ไอติมหยิบขึ้นมาอ่านฉลากยา
   

“From the doctor? (จากหมอเหรอ)” แซ็คพยักหน้า ไอติมเพ่งอ่านฉลากยาอีกครั้ง แปลไม่ค่อยจะออก เพราะคำศัพท์ยาก แต่ก็มีบางคำที่แปลได้ เช่น ยาทำให้ง่วง แต่ก็ยังงงว่าทำไมถึงต้องให้ง่วง ไอติมเพ่งอ่านฉลากยาจนครบ และคิดว่าแซ็คคงไม่โกหก จัดฉากซื้อยามา ไอติมพลิกอีกด้านของยา ก็เห็นว่ายาแต่ละซองถูกใช้ไปน้อยมาก
   

“ทำไมยาเหลือเยอะจัง” แซ็คก้มหน้าท่าทางไม่กล้าตอบ ไอติมก้มหน้าลงไปมอง แซ็คมองตาไอติมแล้วก็ถอนหายใจ
   

“I use the weed instead. (ฉันใช้กัญชาแทน)” ไอติมอ้าปากค้าง ไม่ได้ตกใจที่เขาใช้กัญชา เพราะเห็นกับตามาแล้ว แต่แปลกใจมากกว่าว่าทำไมเป็นกัญชาแทนยา
   

“There are more medicines. It could help my mind and my brain, but I don’t like to take it. I use only one and it could help me forget sex desire for many hours. I think it is better. (มันมียาเยอะมาก ยาช่วยจิตใจและสมองของฉัน แต่ฉันไม่ชอบกิน ฉันใช้กัญชาตัวเดียวเลย แล้วมันก็ทำให้ฉันลืมความอยากเรื่องทางเพศไปได้หลายชั่วโมง ฉันคิดว่ามันดีกว่า)” แซ็คบอกเสียงเบาเหมือนเด็กที่กำลังสารภาพผิด ไอติมไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงถึงจะถูก เพราะไม่เคยเจออาการแบบนี้ และไม่เคยใช้กัญชาว่ามันดีแค่ไหนสำหรับอาการนี้หรืออาการไหน หรือกับคนไหนๆ
   

“Stop using it, Zach. Use medicine, okay? (เลิกใช้มันเถอะนะแซ็ค ใช้ยานะ โอเคมั้ย)” แซ็คหลุบตาลงต่ำ พยักหน้าเพียงน้อยนิด
   

“As I said, I will try for you. (อย่างที่ฉันบอก ฉันจะพยายามเพื่อนาย)” ขวัญใจไอติมเงยหน้าขึ้นมองกระต่ายตัวจ้อยที่คลี่ยิ้มด้วยความดีใจ แซ็คคลี่ยิ้มบางเบาตอบ
   

“Why don’t you tell me about your sick? I have asked you. (ทำไมคุณไม่บอกผมเกี่ยวกับเรื่องที่คุณป่วย ผมถามคุณแล้วนะ)” แซ็คพ่นลมหายใจ
   

“I don’t want to place the blame on it. I think it’s because of me than them. (ฉันไม่อยากจะโทษอาการป่วย ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะตัวฉันมากกว่าอาการพวกนั้น)” ไอติมมองแซ็คด้วยความเข้าใจ ตอนนั้นเขาถามไปแล้ว แต่แซ็คตอบว่าเป็นเพราะตัวเขาเอง และแซ็คก็ไม่เคยเล่า ไม่เคยพูดเรื่องอาการประหลาดนี้ให้ฟัง จนกระทั่งเจค็อบพูดออกมา ไอติมถึงรู้ว่าแซ็คมีอาการนี้ และเพิ่งรู้ว่ามีอาการแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้ด้วย
   

แล้วฟังแรก ๆ ก็ดูไม่น่ามีอะไรมาก แต่ฟังไปสักพักมันมีอะไร แถมยังมียามาให้กินอีก แต่คนป่วยดันไม่ใช้ยา กลับไปใช้กัญชาแทนเพราะคิดว่าใช้อันเดียวจบแทนการใช้ยาหลาย ๆ เม็ด
   

“Zach, you need to love yourself first before you are going to love someone. (แซ็ค คุณต้องรักตัวเองก่อน ก่อนที่คุณจะรักใคร)”
   

“But I already love you before I love myself. (แต่ฉันรักนายไปแล้วก่อนที่จะรักตัวเอง)” แซ็คยิ้ม แม้ว่าหน้าตาเขาจะทรุดโทรมและอิดโรย แต่รอยยิ้มเขาก็น่ามอง
   

“Don’t sweet mount. (อย่าปากหวาน)”
   

“Look like your old English is back. (เหมือนภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นเดิมของนายจะกลับมานะ)” ไอติมเลิกคิ้ว
   

“ฮะ?” แซ็คขำเบา ๆ เมื่อกี้คงอยู่ในห้วงอารมณ์จริงจัง และคงกลัวจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังจะเล่าเลยใช้สมาธิเต็มที่ สงสัยตอนนี้สมาธิคงแตกกระจายแล้ว
   

“I love this version than official version. (ฉันรักเวอร์ชั่นนี้มากกว่าเวอร์ชั่นทางการ)” แซ็คยิ้ม ไอติมยิ้มตอบ แซ็คยกแขนขวาโอบร่างไอติมแล้วดึงให้ไอติมกลับมานั่งบนตักตัวเองตามเดิม หอมหัวกระต่ายไปหนึ่งครั้ง
   

“Thank you. Thank you so much. (ขอบคุณ ขอบคุณมากจริงๆ)”

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.41 : ฺCondition. : 01.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-06-2019 19:10:26
V
v
v


เมื่อคืนไอติมนอนค้างกับแซ็ค แค่นอนเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่าการกอดการหอมกัน แม้กระทั่งจูบกันยังไม่มี ไอติมทำกับข้าวให้แซ็คกิน ซึ่งแซ็คกินอาหารได้มากที่สุดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และไอติมก็ได้ทำเยลลี่ในน้ำเป๊บซี่แช่แข็งให้ได้กินตามที่บอก แต่ปรากฏว่าแซ็คยี้ ไม่ชอบ เพราะเยลลี่มันแข็งเกินและไม่เข้ากับน้ำอัดลมเลย ไอติมเลยเป็นคนจัดการทั้งหมดแทน
   

เช้าวันต่อมาไอติมก็ออกมาทำกับข้าวหลังจากอาบน้ำเสร็จ และปล่อยให้แซ็คเป็นฝ่ายเข้าไปอาบน้ำบ้าง ระหว่างที่กำลังทอดไข่ดาว ลูคัสก็เคาะห้องตามเวลานัดหมายคือตอนเก้าโมงเช้า แต่ที่เซอร์ไพรส์ก็คือเจมส์มาด้วย
   

“พี่รู้เรื่องแล้ว วันนี้พี่ต้องได้กัดมัน ไม่งั้นพี่นอนไม่หลับ” เจมส์พูดอย่างแค้นเคือง
   

“ขอบคุณนะครับที่มา…” ไอติมหันไปมองลูคัสพร้อมกับคลี่ยิ้มบาง
   

“Thank you for coming today. (ขอบคุณที่มาวันนี้นะครับ)”
   

“We are in the same team. (เราทีมเดียวกันนี่)” ลูคัสรู้เรื่องเพราะแซ็คต้องคุยเกี่ยวกับเรื่องระงับการทำงานกับทางลูคัสไว้ก่อน เนื่องจากจะยิ่งทำให้แซ็คเป็นฝ่ายแย่ ความโชคดีคือสภาพแซ็คแย่จนไม่ได้เริ่มงานชิ้นแรกกับลูคัส จุดนั้นเลยปลอดภัยไปว่าเจค็อบจะเอามาเล่นงานแซ็คไม่ได้ว่าหนีไปทำงานกับที่อื่นก่อนสัญญาหมด แม้เขาบอกว่าจะยกเลิกสัญญา แต่คำว่าเงื่อนไขของเขานั้นยังคงมีอำนาจอยู่


ไอติมกับแซ็คเลยตกลงกันว่า จะยังไม่เริ่มงานกับลูคัสจนกว่าจะตกลงกับเจค็อบได้ และควรจะบอกเล่าให้ลูคัสฟังว่าเกิดอะไรขึ้น อีกอย่างยังไงก็ต้องให้เวลาแซ็คฟื้นคืนชีพกลับมาเป็นคนเดิมหรือไฉไลกว่าเดิมก่อน ขายออกไปทั้งอย่างงี้ มีทติ้งที่คิดจะมีคงแป้กเพราะพระเอกสภาพแย่มาก


“แล้วเป็นไงบ้าง ไอ้นี่มันโรคจิตของแท้ว่ะ” แทนคำตอบ ไอติมดึงเสื้อยืดตัวใหญ่ของแซ็คขึ้นพร้อมกับหันหลังให้เจมส์ เป็นจังหวะเดียวกับที่แซ็คเดินตัวเปลือยท่อนบนออกมาจากห้องน้ำ


“โห รู้นะว่ามันเป็นคนจริงไม่พูดเล่น ๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะเจ้าคิดเจ้าแค้นหนักด้วย” เจมส์ปล่อยเสื้อยืดลง หันไปมองลูคัสที่พ่นลมหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองเพื่อนตัวเองที่ยืนเงียบๆ


“ได้ข่าวว่าแกก็ได้แผลเตือนใจมาเหมือนกัน” แซ็คหันตัวด้านซ้ายและยกแขนขึ้นโชว์แผลที่ว่า เจมส์จึ๊ปากพร้อมกับส่ายหัว


“กะให้จำไปตลอดสินะว่าทำอะไรไว้กับเขา” ลูคัสพึมพำหน้าตาตึงเครียด


“วันนี้ลุ้นระทึกอีกรอบ” แซ็คหันมองไอติมที่กำลังจัดการไข่ในกระทะก่อนหันกลับไปมองเพื่อนทั้งสองคน


“เขาบอกจะไม่ตามรังควานฉันและปล่อยให้เวลาเป็นตัวจัดการ” แม้จะไม่หน้านิ่วคิ้วขมวด แต่อีกสองคนก็ครุ่นคิดจนหน้าตึงเครียด


“รอดูแล้วกัน ถ้าเจคเล่นไม่สะอาดนัก ก็ต้องเอาเรื่องที่เขาสั่งให้นายไปนอนกับใครต่อใครเป็นการสู้กลับ” แซ็คยิ้มเยาะ


“ฉันเต็มใจนะ อย่าลืม”


“แต่อย่างน้อยเจคก็ต้องโดนอะไรบ้างแหละ”


“หมอนั่นมีเส้นสายเยอะแยะ ก็คงรอดอะ” ลูคัสพ่นลมหายใจหน้าตึง


“ก็ดีกว่าเราไม่ทำอะไรเลย อยู่เฉย ๆ ให้เจคเล่นฝ่ายเดียวก็ไม่ได้นะ”  บรรยากาศตึง ๆ ลอยอบอวลไปรอบตัวทั้งสามคนก่อนจะถูกทำลายด้วยเสียงใส ๆ พร้อมรอยยิ้มของกระต่าย


“Break is ready. (อาหารเช้าพร้อมแล้วฮะ)” ลูคัสยิ้มรับ เจมส์เข้าไปช่วยไอติมวางอาหารใส่จาน แซ็คเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า


บรรยากาศการทานอาหารเช้าเป็นไปอย่างเรียบง่าย แต่ทั้งหมดก็รู้สึกผ่อนคลาย กินไปดูซีรีส์บนจอทีวีไปแล้วก็คุยกันเรื่องงานด้วยนิดหน่อย ลูคัสเอารูปเพื่อนตัวเองที่ไปชวนมาร่วมงานด้วยให้ไอติมดู ไอติมสนใจอยากเจอตัวจริง เจมส์ก็ช่วยแนะนำนายแบบซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกันห่าง ๆ ให้ไอติมไปหนึ่งคน ซึ่งไอติมสนใจเพื่อนของเจมส์มาก อยากจะเห็นตัวจริง เจมส์เลยบอกจะนัดให้


“Lukas, I’m thinking about to upload me and Bryan’s porn in Thailand on website, (ลูคัสฮะ ผมกำลังคิดว่าจะอัปคลิปผมกับแซ็คที่เมืองไทยลงในเว็บ…” ลูคัสเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เจมส์มองไอติมด้วยความตกใจนิดหน่อย


“ผมหมายถึงเว็บไซต์ของเขาเองนะ ที่ต้องเสียเงินสมัครสมาชิกเข้าไปดูน่ะฮะพี่เจมส์” เจมส์ร้องอ๋อก่อนจะอธิบายให้สองฝรั่งได้เข้าใจไปด้วยกัน


“Seriously? (เอาจริงเหรอ)” ลูคัสถาม ไม่ได้ตกใจ แค่แปลกใจกับความคิดของไอติม


“Is that not a good idea? (ไม่เข้าท่าเหรอฮะ)” ไอติมมองลูคัสตาปริบๆ


“It’s good. The chemistry between you and him is perfect, but it is about your parents. (มันดีสิ เคมีนายกับไบรอั้นเข้ากันจะตาย แต่มันเกี่ยวกับผู้ปกครองของนายต่างหาก)”


“Yes, your culture is different from us. Your mother will accept this? And Pan too. (ใช่ วัฒนธรรมนายต่างจากเรานะ แม่นายจะรับได้เหรอ แล้วยังแพนอีก)”


“น้า Pan can talk easy easy. Mom must explain more, and she will understand. (น้าแพนคุยง่ายง่าย แม่ต้องอธิบายเยอะ แล้วแม่จะเข้าใจ)” ไอติมยกน้ำส้มคั้นขึ้นดื่มไปหลายอึก


“ติม ถ้าลงไปเท่ากับติมเป็นนางเอกหนังโป๊เลยนะ แล้วบ้านเรา ติมก็รู้” ไอติมยิ้มกว้าง


“เอาจริง ๆ นะพี่เจมส์ ติมไม่ถือ ติมหน้าด้าน…” เจมส์หันไปอธิบายให้อีกสองคนฟังว่าไอติมพูดอะไร พอสองหนุ่มรู้ก็หัวเราะ


“…เจค็อบเคยบอกว่าไอ้คลิปนั่นจะสร้างเงินได้เยอะมาก ติมก็เลยคิดว่าถ้ามันทำเงินได้เยอะจริง ก็เอาลงไปเลยดีกว่า เก็บไว้กับติมก็บ๋อแบ๋” เจมส์พูดกับฝรั่งอีกสองคน ทั้งสองคนไม่ได้แสดงท่าทีอึดอัดหรือจะขัดขวางอะไร สำหรับแซ็คคือเป็นห่วงว่าไอติมจะถูกมองยังไงมากกว่า


“แล้วถ้ามันออกมาดี ออกมาดัง เดี๋ยวติมต่อยอดเอง” เจมส์แปลต่ออีกที ลูคัสพยักหน้าเบาๆ


“คุยกับผู้ปกครองของนายให้เข้าใจก่อน ถ้าเขายินยอม ฉันก็โอเค ยังมีเวลา ยังไงเราก็ต้องรอไบรอั้นฟื้นตัวก่อนถึงจะเปิดเว็บได้” ไอติมพยักหน้าและอมยิ้ม พอหันไปมองแซ็คก็ขยับยิ้มกว้าง แซ็คยิ้มตอบและพยักหน้าหนึ่งครั้ง


“If you are happy to do that. (ถ้านายทำแล้วมีความสุข)” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ เป็นการบอกว่ามีความสุข


“แล้ว ยังไงกันเนี่ย เราสองคน” ไอติมหันกลับไปมองเจมส์


“ก็ไปด้วยกันได้พี่เจมส์ ตกลงกันว่าก็จะใช้ทั้งชีวิตรัก และชีวิตเซ็กซ์ในงานไปด้วยกัน นอกงานแซ็คบอกจะพยายามเลิก แต่ติมไม่เร่งรัดหรอก ค่อย ๆ ทำไป”


“แล้วคบเลยป้ะเนี่ย” ไอติมย่นคิ้ว


“อืม… ไม่คบก็เหมือนคบ แต่ก็ไม่ได้คบกันแบบที่พี่เจมส์เป็นกับโจ…” หนุ่มเอเชียรุ่นพี่ขมวดคิ้วหน้างง ไอติมหัวเราะ


“…แปลก ๆ เนอะ แต่ติมกะแซ็คก็ตกลงกันจนได้” ไอติมหัวเราะอีกที เจมส์ขำทั้งที่หน้ายังขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปคุยกับลูคัสว่าเรื่องราวเป็นมายังไง ลูคัสยิ้มกริ่มและพยักหน้า


“แบบนี้นายก็เสียเปรียบสิ ให้หมอนั่นได้ฝ่ายเดียวได้ไง” ไอติมยิ้มกว้าง แซ็คละสายตาจากจอทีวีไปมองค้อนลูคัสไม่จริงจังนัก


“ใครว่าล่ะฮะ ผมก็มีสิทธิ์เหมือนกัน แต่เขาขอสิทธิ์หวงมากกว่าหน่อย” เจมส์ตั้งท่าจะอธิบายอีกที แต่ดูเหมือนลูคัสจะเข้าใจได้ว่าไอติมพูดอะไร


“อิ๊งคล่องขึ้นนะเนี่ย ดี ๆ เดี๋ยวก็ปร๋อแล้ว” ไอติมยิ้มด้วยความดีใจ


พอกินอาหารเช้าเสร็จไอติมกับเจมส์ก็ช่วยกันเก็บจานไปล้าง ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งดื่มนั่งคุยกันหน้าทีวี แต่แซ็คงดแอลกอฮอล์เพื่อฟื้นฟูร่างกายอยู่เลยดื่มน้ำผลไม้แทน


ก๊อกๆๆ


เสียงเคาะประตูดังขึ้น และโดยไม่มีใครพูดอะไรเลยสักคำ แต่ทุกคนก็หันมองหน้ากันนิ่งสักพักก่อนที่เจมส์จะฮึดขึ้นมา


“เตะเป็นเตะ ตบเป็นตบเว้ย” ไอติมหัวเราะกับท่าทีฟึดฟัดของเจมส์ หนุ่มเอเชียรุ่นพี่ของไอติมเป็นคนไปเปิดประตู ผายมือหน้าตายให้เจค็อบกับผู้ชายร่างท้วมใส่สูทเดินเข้ามาในห้อง


“สวัสดีลูคัส…” เจค็อบเอ่ยอย่างอารมณ์ดี แต่ก็ไม่ได้ดีจนเว่อร์หรือลายใหญ่


“…มาเป็นสักขีพยานด้วยก็ดีนะ”


“มาเฝ้าระวังจะถูกกว่า” เจค็อบยิ้มอย่างไม่ถือสา เดินนำผู้ชายใส่สูทผมบางไปตรงโซฟา และมองไปรอบห้องเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง สุดท้ายเจค็อบกับลูคัสก็เลยลุกขึ้นยืนเพื่อให้ทั้งสองคนได้นั่ง เจมส์ยกเก้าอี้ตรงเค้าน์เตอร์ไปให้ลูคัสกับแซ็คนั่งหน้าทีวี ตรงข้ามกับอีกสองคน


“นายสองคนคงจำได้อยู่แล้วว่าเขาเป็นทนายของฉัน” สองหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้ตัวสูงพยักหน้าพร้อมกัน ไอติมกับเจมส์ยืนอยู่ด้านหลังโซฟา ไอติมน่ะคอยมองเฉย ๆ ว่าเขาจะตกลงอะไรกันยังไง แต่เจมส์จ้องจะฟาดกลับทันทีถ้ามีอะไรชวนฟาด


“ไม่เข้าใจตรงไหนถามพี่ได้เลยนะติม” เจมส์กระซิบ ไอติมพยักหน้า และรู้สึกว่าดีแล้วที่พี่เจมส์มา


“เชิญคุณทนายได้เลย” เจค็อบหันไปบอกทนายที่มาด้วย แซ็คหยิบรีโมตขึ้นมากดลดเสียงทีวี


“เจค็อบกับแซ็ค ไนท์ฮู้ด เซ็นสัญญาการทำงานร่วมกันที่ xxx ทั้งหมด xx ปี โดยที่ตอนเซ็น คุณไนท์ฮู้ดมีสติครบถ้วน และได้อ่านข้อกำหนดทุกอย่างในสัญญาแล้ว…” แซ็คพ่นลมหายใจแต่ก็พยักหน้าลงหนึ่งครั้ง


“…แต่คุณทำผิดสัญญาด้วยการทำงานไม่ครบตามระยะเวลาที่ระบุไว้ โดยการจะไปเริ่มงานใหม่กับที่อื่นทั้งที่ยังมีสัญญากับคุณเจค็อบ”


“ยังไม่มีผลงานใด ๆ เกิดขึ้นระหว่างแซ็คกับค่ายใหม่” ลูคัสแทรกขึ้นมาอย่างสุภาพ ทนายของเจค็อบนั่งนิ่งไม่ได้มีท่าทีใดเป็นพิเศษ พอแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะไม่พูดอะไรต่อ ชายร่างท้วมผมบางจึงพูดในส่วนของตัวเองต่อไป


“โดยคุณไนท์ฮู้ดจะถูกปรับเป็นเงิน xxxxxx ดอลล่าห์ตามที่ได้เซ็นรับรู้เอาไว้หากมีการทำผิดสัญญาเกิดขึ้น…” ไอติมขมวดคิ้วกับตัวเลขที่ได้ยิน ละสติจากจุดนั้นให้ทั้งสี่คนคุยกันไปแล้วหันไปหาเจมส์ที่ทำหน้าตะลึงอยู่


“คิดเป็นเงินไทยกี่บาทอะพี่เจมส์”


“xxxxxxxx บาท เชี่ย ล่มจมชิบหายเลยนะงานนี้” เจมส์พึมพำด้วยความอึ้ง ไอติมเองพอรู้ว่ามันเป็นเงินกี่บาทในไทยก็อ้าปากค้างตะลึง ลืมกะพริบตาไปเป็นนาที หัวใจวูบวาบ หูอื้อจนได้ยินเสียงทั้งสี่คนคุยกันแบบไม่รู้เรื่องอะไร


“ปะ… แปดหลักไทยเลยเหรอ” ไอติมพึมพำเสียงแห้ง


“เฮ้… เฮ้ ใจเย็น ฉันรู้น่าว่าข้อนั้นกฎหมายไม่รับรอง แต่ถ้าเอาข้อได้เปรียบ ยังไงฉันก็ได้เปรียบ ถูกมั้ย” ไอติมไม่เห็นว่าเจค็อบมีสีหน้ายังไง แต่เห็นว่าอีกสองคนมีสีหน้าเอือมระอา โดยเฉพาะลูคัส


“วันนี้ฉันถึงมาต่อรอง…” เจค็อบมองแซ็คแล้วยิ้มอ่อน ทนายความหยิบกระดาษออกมาสามแผ่น


“…เราจะใช้กฎหมายในการพูดนิดเดียว ที่เหลือเป็นข้อตกลงระหว่างเราสองคนเท่านั้น”


“สัญญาฉบับนี้เป็นสัญญาหนี้สินระหว่างคุณเจค็อบกับคุณไนท์ฮู้ด” แซ็คย่นคิ้ว ยื่นมือไปรับกระดาษมาจากมือทนายความแล้วก้มลงอ่านสักพัก ก่อนที่จะคลายคิ้วออกแล้วก็เปลี่ยนเป็นจำยอม


“ขอฉันดูหน่อยสิ” ลูคัสพูดกับแซ็ค พระเอกรุ่นน้องยื่นให้ไป ลูคัสรับไปอ่านอย่างคร่าว ๆ แล้วก็ไปจบตรงยอดรวมของหนี้สินที่ว่า เขาย่นคิ้วเมื่อเห็นตัวเลข


“xxxxxx ดอลล่าห์?” ไอติมหันไปมองคนข้าง ๆ เจมส์ขมวดคิ้วไม่ต่างหากลูคัส


“เลขต่างกันขนาดนั้น ใครก็ต้องเลือกเลขน้อยเปล่าวะ” เจมส์พึมพำ ไอติมมองด้านหลังเจค็อบและนึกเห็นด้วยในใจกับความคิดของเจมส์


“ใช่” เจค็อบตอบหนักแน่น


“นายต้องการแบบไหน” ลูคัสถามเข้าประเด็น


“ฉันจะให้แซ็คเลือกว่าจะรับผิดชอบเงินส่วนไหน ถ้านายเลือกรับผิดชอบจ่ายแค่ค่าหนี้สินที่ติดค้างฉันอยู่ และยอมรับเงื่อนไขของฉัน สัญญาการทำงานจะถูกยกเลิกทันที”


“เงื่อนไขคืออะไร” หัวใจไอติมเต้นตึกตักหลังจากได้ยินว่าแซ็คถามอะไร


‘…จะไม่ฟ้องร้องเขาหากเขาทำตามเงื่อนไขของฉัน…’


“นายยังต้องไปนอนกับทุกคนที่ติดต่อเข้ามาหาฉันหรือถ้ามีติดต่อผ่านนายมา นายต้องแจ้งให้ฉันรับรู้ และนายก็ต้องไป…” ไอติมตัวเย็นเฉียบ แซ็คเงยหน้าขึ้นมองไอติมทันที กระต่ายตัวจ้อยยืนนิ่งราวกับโดนแช่เข็ง


“…เงินทุกบาทที่ได้จากงานนี้ ฉันยกให้นายทั้งหมด แล้วขึ้นอยู่กับว่านายจะแบ่งจ่ายใช้หนี้เท่าไหร่ในแต่ละครั้ง”


“แล้วเงินจากทางอื่นล่ะ” เจมส์ถามเสียงเหวี่ยง เจค็อบไม่ได้หันมองคนด้านหลังเลยสักนิด แต่ก็ตอบคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว


“ฉันไม่รับ ฉันรับเงินแค่ทางนี้ทางเดียว และฉันจะเป็นคนแจ้งรายละเอียดของลูกค้าแต่ละคนเอง…” ลูคัสเปิดสัญญาหนี้นั้นอีกรอบเพื่อหาระยะเวลาที่ว่านั้น


 “…นี่คือข้อเสนอของฉัน ถ้าเขาตอบรับ เขาจะไม่ถูกฟ้องร้องด้วยเงินจำนวนนั้น แล้วก็มาใช้หนี้ด้วยจำนวนเงินนี้แทน”


‘…หนทางอันเหมาะสมกับเขาที่ฉันจะหาให้…’


ช่างเหมาะสมแล้วจริงๆ


“ห้าปีงั้นเหรอ”


“ใช่”


“แล้วเขาเลือกเองไม่ได้รึไง…” ลูคัสเงยหน้ามองไอติมที่ยืนหน้าอึน และหันกลับมามองแซ็คที่หน้านิ่ง


“…แบบว่า เอาแล้วก็รับเงินมา หาลูกค้าเอง”


“ลูคัส นายเองก็ใช่ว่าไม่เคยทำ และนายรู้อยู่แล้วว่าลูกค้าของแซ็คเงินหนาแค่ไหน นายน่าจะเชื่อใจฉันได้นะในจุดนี้น่ะว่าแต่ละคนที่ฉันเลือกมาให้ แซ็คจะได้เงินก้อนโตแน่นอน” ลูคัสพ่นลมหายใจ หันไปมองแซ็คที่พ่นลมหายใจออกมาเช่นกันก่อนจะเงยหน้ามองไอติมที่ยืนอยู่ตรงข้ามกัน ไอติมสบตากับแซ็ค สีหน้าครุ่นคิด กำลังหาข้อสรุปอะไรบางอย่างให้กับตัวเอง


“อย่างที่บอกไป เรื่องนี้กฎหมายไม่รองรับ นี่เป็นการคุยกันระหว่างพวกเรากันเอง แล้วไม่ต้องกลัวว่าฉันจะให้ทำงานทั้งปี หรือทำทุกเดือน ฉันมีวันหยุดให้อยู่แล้ว” เจค็อบเอ่ยอย่างอารมณ์ดี แซ็คเลื่อนสายตาจากไอติมมามองหน้าเจค็อบแล้วขบกรามแน่น เจค็อบนั่งรอคำตอบอย่างใจเย็น แซ็คกำสองมือแน่น ท่าทีกระอักกระอ่วน หลุบตาลงต่ำก่อนปิดเปลือกตาไปครู่หนึ่ง พอลืมตาขึ้นเขาก็เอ่ยปากเสียงแหบทุ้ม


“ตกลง” บรรยากาศเงียบไปพักใหญ่ได้ยินแต่เสียงทีวีด้านหลังดังชัดที่สุด


‘…ฉันมั่นใจว่านายจะตอบรับมัน…’


เพราะเขารู้ว่าแซ็คเป็นยังไง


“ถ้างั้นก็เซ็นรับรู้ร่วมกันในสัญญาฉบับนี้ จะให้คนที่อยู่ในห้องนี้เซ็นในช่องพยานด้วยก็ได้ และเมื่อนายเซ็นสัญญาฉบับนี้เสร็จแล้ว ฉันจะทำลายสัญญาการทำงานนั้นทิ้ง” ไอติมได้ยินเสียงเจมส์พ่นลมหายใจแรง ๆ ด้วยความหงุดหงิด คลิปที่ให้เขาพูดว่าจะยกเลิกสัญญาไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเขาจะได้มาสนุกกับสัญญาฉบับนี้แทน ไอติมยืนทบทวนอีกพักจนแน่ใจกับสิ่งที่อยากจะพูดถึงได้เดินไปยืนข้างแซ็ค


“พี่เจมส์ช่วยแปลหน่อยนะ ติมขี้เกียจคิดอิ๊งฮะ” เจมส์พยักหน้าอย่างแข็งขัน ไปยืนตรงกลางระหว่างลูคัสกับแซ็ค


“คุณควรเอาโน้ตบุ๊กขึ้นมาพิมพ์ตามนะคุณทนาย ละไม่ต้องห่วง ผมมีเครื่องปริ้นอยู่บนรถ พิมพ์เสร็จปริ้นได้เลย แล้วก็เซ็นสัญญาได้เลย” เจมส์บอกอย่างยิ้มแย้มและมองจิกเจค็อบที่นั่งนิ่งไปที ไอติมมองทนายความเปิดโน้ตบุ๊กสีดำที่หยิบออกมาจากกระเป๋าของเขา พอเขาเงยหน้าขึ้นและพยักหน้าให้ ไอติมก็เริ่มพูด


“ช่วยเขียนไว้ในสัญญาตามนี้ด้วย…” ไอติมหันมองแซ็ค ขวัญใจไอติมยื่นมือซ้ายไปจับมือขวาของเจ้ากระต่าย


“…แซ็คมีมีสิทธิ์รับรู้สุขภาพของลูกค้าคน ๆ นั้นก่อนที่จะมีอะไรกัน และแซ็คมีสิทธิ์ปฏิเสธลูกค้าคน ๆ นั้นหากสุขภาพเธอมีความเสี่ยง หรือประวัติของเธอมีความเสี่ยงต่อชีวิตของแซ็ค…” ไอติมเว้นวรรคให้เจมส์แปลและให้คุณทนายความได้พิมพ์ พอแน่ใจว่าเรียบร้อยแล้ว ไอติมก็พูดต่อ


“…ห้ามไม่ให้แซ็คเอาสด ต้องใส่ถุงยางทุกครั้ง รับงานได้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงต่อค่าตัวที่กำหนดไว้ ถ้าเกินนั้นต้องเพิ่มค่าตัว และค่าตัวที่ได้รับ ถ้าในเมื่อคุณบอกว่าให้สิทธิ์ขาดกับแซ็คในเงินจำนวนนี้ งั้นคุณห้ามเข้ามายุ่ง ให้แซ็คจัดการเงินได้ด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องลูกค้า เรื่องคิวให้คุณเป็นคนจัดการ” เจมส์แปลอย่างว่องไว และแอบใส่ความแซะเจค็อบด้วยนิดหน่อย แต่อดีตเจ้านายแซ็คก็ทำเพียงยิ้ม


“Of course. It is his right. (แน่นอน สิทธิ์ของเขาอยู่แล้ว)”


“ในระยะเวลาห้าปี ห้ามแซ็คมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหน ยกเว้นผมคนเดียว ลูกค้าทุกคนต้องเป็นผู้หญิงทั้งหมด” ไอติมมองตาเจค็อบที่มองนิ่งกลับมา ครู่หนึ่งไอติมรู้สึกได้ถึงความเชือดเฉือนออกมาจากดวงตาของเจค็อบ


“Okay. Fine. (โอเค ได้)” เจค็อบว่าเสียงห้วน


“ภายในห้าปี แซ็ครับงานได้เดือนละครั้งเท่านั้น อยู่ที่คุณจะจัดตารางมา…” ไอติมปล่อยให้เจมส์แปลอย่างรวดเร็ว


“…และถ้าภายในห้าปี หนี้สินที่มียังใช้ไม่หมด แต่สัญญาจบลงแล้ว ก็ถือว่าจบกัน ห้ามยืดเยื้อ ห้ามต่อรองใด ๆ อย่าลืมว่าคุณจะเป็นคนหาลูกค้ามา ถ้ามัวแต่อืดอาดยืดยาดจนสัญญาหมดไป นั่นคือความผิดของคุณ…” ไอติมมองเจค็อบอย่างเฉยเมยในระหว่างที่ปล่อยให้เจมส์แปลจนจบ


“…และถ้าเดือนไหนไม่มีลูกค้า ห้ามนำไปคิดรวมกับเดือนต่อ ๆ ไปเด็ดขาด เดือนไหนไม่มีก็คือไม่มี คุณหาไม่ได้ก็เรื่องของคุณ” เจค็อบยกยิ้มมุมปาก


“Don’t worry. (ไม่ต้องห่วงหรอก)” ไอติมพ่นลมหายใจเบาๆ


“ลูกค้าเหล่านั้นต้องจ่ายค่าตัวของแซ็คได้ในราคา xxxx เท่านั้น” เจค็อบยกยิ้มมุมปาก


“ค่าตัวปกติของเขามากกว่าที่นายบอกอีก” แวบหนึ่งไอติมหน้าเหวอ เพราะคิดว่าราคาที่ตัวเองคิดมาก็มากแล้ว


“Anything else? (มีอะไรอีกมั้ย)” ไอติมส่ายหัว เจค็อบหันไปสอบถามทนายความว่าโอเคหรือไม่ ทนายความพยักหน้า และเงยหน้าบอกให้เจมส์ไปเอาเครื่องปริ้นมาได้เลย เจมส์แบมือขอกุญแจรถจากลูคัสก่อนรีบเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้คนที่เหลืออยู่ด้วยกันไปก่อน


“แล้วฉันขอเพิ่มอีกหนึ่งข้อ…” แซ็คพูดขึ้นมา เจค็อบยักไหล่ขวาชิลๆ


“…ห้ามยุ่ง ห้ามทำร้าย หรือรังควานไอศกรีม ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม เขาไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้” เจค็อบหัวเราะแบบไร้เสียง


“ข้อนั้นไม่ต้องเขียนในสัญญาหรอก ฉันบอกแล้ว ว่าแค่นายรับปากเงื่อนไขของฉัน ก็เป็นอันว่าจบ…” เจค็อบยกยิ้มเยาะมุมปากซ้าย


“…เพราะเวลา จะทำหน้าที่ของมันเอง” แซ็คขบกราม จ้องเจค็อบตาแข็ง หนุ่มแว่นสูงวัยยิ้มอ่อนแล้วหันไปมองไอติม


“What if he wants to make a relationship with client? (แล้วถ้าเขาอยากจะสานสัมพันธ์กับลูกค้าเองล่ะ)” คนถูกถามยืนนิ่ง ไม่หันไปมองแซ็คที่หันมองอยู่


“It’s up to him. (มันแล้วแต่เขา)” เจค็อบยิ้มขำ


“Let’s see what the time could make to both of you. Five years of judgement, right? (งั้นมาดูกันว่าเวลาจะทำอะไรเธอทั้งคู่ได้บ้าง ห้าปีแห่งการตัดสิน ใช่มั้ย?)”


ปล่อยให้เวลาทำงานของมัน…


“มา เครื่องปริ้นมาละ” เจมส์กลับเข้ามาในห้องพร้อมกับเครื่องปริ้นสีดำและกระดาษเอสี่ปึกใหญ่ เป็นคนจัดการเชื่อมต่อโน้ตบุ๊กกับเครื่องปริ้นให้เสร็จสรรพ


“I’m sorry. It’s again and again, but I am sorry for chose that choice. (ฉันขอโทษ มันซ้ำซาก แต่ฉันขอโทษที่เลือกตัวเลือกนั้น)” ไอติมยิ้มอ่อน บีบมือแซ็คกระชับอีกนิด


“I understand. (ผมเข้าใจ)” แซ็คมีสีหน้าและแววตาสลดหม่นหมอง ไอติมยิ้มให้กำลังจีอกฝ่ายก่อนหันกลับไปมองเจค็อบที่หันกลับมาจากวิวริมระเบียงพอดี เจค็อบยิ้มเย็น ไอติมทำเพียงนิ่งตอบกลับไป แม้ใจจะหวั่นไหวกับสัญญาฉบับนี้ก็ตาม


ผู้หญิงที่เจค็อบจะหามาให้ ต่างจากนักแสดงทั่วไปที่ไอติมจะได้เห็นผ่านจอมอนิเตอร์ทุกครั้งที่กำกับงานของแซ็คหรือไปดูแซ็คที่กอง หรือแม้แต่ดูผ่านคลิปวิดีโอ


ภายในห้าปี อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ไอติมไม่เตรียมใจ ไม่เตรียมตัวรับอะไรทั้งนั้น อย่างที่เจค็อบว่า ปล่อยให้เวลาทำงานของมัน อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด ประโยคจำเจ แต่เป็นเรื่องจริง 






เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


สำหรับบทกฎหมาย ตอมพยายามเอ่ยถึงให้น้อยที่สุด เพราะไม่ได้รู้ลึกมากมาย พยายามเอ่ยถึงในจุดที่พวกเรารู้กันอยู่แล้ว เช่น ผิดสัญญาจะต้องถูกฟ้องตามที่ได้ระบุไว้ในสัญญา อะไรประมาณนี้ค่ะ นอกนั้นก็เป็นไปตามเส้นเรื่องที่เกิดจากนิสัยและพฤติกรรมของตัวละครพาไปจ้าา 


แท็กเรื่องนี้ #ประสบกามประสบรัก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.41 : ฺCondition. : 01.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 01-06-2019 20:06:04
ง่าาา สัญญาซาตานฉบับใหม่มาแล้ว

บททดสอบความสัมพันธ์เหมือนกันนะเนี่ยย

น้องติมสู้ๆ เอาชนะไอ้เจคมันให้ได้!!

ส่วนแซคพยายามดีแล้วทำต่อไป เฮ่!! //เรียกกำลังใจ
 :z3: o11 :interest:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.41 : ฺCondition. : 01.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 01-06-2019 20:58:17
น้องติม ทำให้สุด เรื่องชนะเจค็อบคงยาก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.41 : ฺCondition. : 01.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-06-2019 21:44:56
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.41 : ฺCondition. : 01.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-06-2019 23:18:23
นังเจคคคค ตายยยยยย  :pigangry2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.41 : ฺCondition. : 01.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 02-06-2019 19:01:33
เป็นช่วงเวลาพิสูนจ์ใจสินะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.41 : ฺCondition. : 01.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 03-06-2019 00:41:21
ไล่อ่านจนจบแล้ว  รอตอนต่อไปจ้า
บอกได้คำเดียวว่า เจคเอี้ยมาก!!!
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.41 : ฺCondition. : 01.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 04-06-2019 10:33:32
เอาเถ่อะเนาะ อย่างน้อยๆ ผู้ชายก็จะมีแต่ไอติมล่ะ ฮึบ สู้ไปพร้อมกัน เส้นทางต่อไปก็แค่รอและเดินไปด้วยกันเท่านั้นเอง  o13
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 09-06-2019 19:45:36
Fall in lust - Chapter 42 :: Last jigsaw. (จิ๊กซอว์สุดท้าย)




  “ฮัลโหลเดน”

           

 

[เออ ว่าไง]

           

 

“วันมะรืนนี้กูบินกลับไทยแล้วนะ”

           

 

[อ้าว ไม่ใช่ต้นเดือนหน้าเหรอวะ]

           

 

“เลื่อนเข้ามาอะ งานที่ต้องทำก็คุยไว้เรียบร้อยแล้ว ลูคัสให้กลับไปพักผ่อนแล้วก็รอเอกสารเรื่องงาน คิดว่าคงเสร็จหลังสงกรานต์ อีกอย่าง จะพาแซ็คกลับไปฟื้นฟูด้วย”

           

 

[ฮะ เป็นไรวะถึงต้องฟื้นฟู]

           

 

“เรื่องยาว แต่ไม่ใช่จะไม่เล่านะ แต่มันเรียบเรียงไม่ถูกจริง ไว้เจอหน้ากูจะเล่าเป็นฉาก ๆ เลย”

           

 

[เออ ๆ แล้วมึงกับเขายังไง กลับไทยด้วยกันคือคบกันแล้วหรืออะไร]

           

 

“ยังไม่คบ แต่ก็เหมือนคบ” ไอติมถอนหายใจ แต่ก็ตามด้วยรอยยิ้มขำขัน

           

 

[ยังไงวะ อันนี้เล่าตอนนี้ได้มั้ย ต่อมเสือกกูทำงานแล้ว] ไอติมยืนคิดอยู่พักหนึ่งว่าจะเล่ายังไงดี ก็เลยเล่าต่อจากจุดที่ค้างไว้กับเดนตอนที่อีกฝ่ายมารับกลับไปอยู่หอน้องโรเบิร์ต เล่าตกหล่นไปบ้างแต่ใจความสำคัญก็ยังอยู่ว่าสรุปก็จะเดินไปด้วยกันท่ามกลางอีสัญญาบ้าบอนั่น และท่ามกลางการปรับปรุงพฤติกรรมของแซ็ค ซึ่งไอติมไม่ได้เล่าอาการป่วยของแซ็คให้เดนฟังเนื่องจากมันเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไอติมคิดว่าไม่ควรพูดต่อ ก็เล่าแค่ในสิ่งที่เดนเองก็รับรู้อยู่แล้ว และขยายความให้เดนนี่เข้าใจเพิ่มเติมมากขึ้นในบางจุด

           

 

[ไอ้เหี้ย สัญญาห่าอะไรวะน่ะ]

           

 

“เออ ก็สัญญาห่าไงล่ะ”

           

 

[นี่มันระเบิดเวลาชัด ๆ วันไหนถ้าขวัญใจมึงไปเจอคนถูกใจเข้าก็ตู้ม]

           

 

“อือ เขาตั้งเวลาไว้แล้ว ตัดสายไหนก็เหมือนกัน จะแดงหรือน้ำเงิน แดงก็ระเบิด น้ำเงินก็หยุด แต่ที่หยุดคือแค่ตัวระเบิด แต่ตัวแซ็คอาจจะไปต่อ” ไอติมพูดราวกับว่าผ่านการกรรมฐานมาแล้วเป็นร้อยปีจนปลดปลงเป็น

           

 

[ไอ้เหี้ยติม ในฐานะเมีย มึงโคตรใจกว้างนะ แต่ในฐานะเป็นเพื่อนกู มึงเกือบจะโง่ มึงเสียเปรียบนะเนี่ยเอาจริงๆ] ไอติมหัวเราะเสียงแผ่ว

           

 

“กูไม่ได้รู้สึกอย่างงั้น กูก็มีสิทธิ์กับชายอื่นนะ คือตัวกูเองก็อยากลองกับบางคน ก็ยอมรับแหละว่าแรด หรือแรง ๆ หน่อยก็ร่าน แต่ก็ไม่ได้คิดเก็บแต้มขนาดนั้น แบบว่าถ้าคนไหนมันน่าจริง ๆ ก็อยากลอง” เดนนี่ถอนหายใจ

           

 

[แล้วแบบนี้มันจะไปหยุดที่ตรงไหน หยุดเมื่อไหร่ หมายถึงทั้งเขาแล้วก็มึงด้วยนะ] ไอติมถอนหายใจสั้น ๆ หน้าตาอึน

           

 

“ไม่รู้หรอกเดน ต่อให้สัญญาหมดยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นไง…” ไอติมนิ่ง อึกอักพักหนึ่งแล้วก็เปิดปากพูดต่อ

           

 

“…นอกจากเขาจะได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ ระหว่างนั้นกูก็หวังให้เขาปรับตัวไปด้วย กูเลย เอ่อ…”

 

 

[…เอ่อ อะไรวะ มึงติดอ่างตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย] ไอติมย่นคิ้ว

 

 

“มึงก็ใจเย็นสิ กูเรียบเรียงอยู่นิ…” ไอติมหน้าบู้ ได้ยินเสียงหัวเราะของเดนนี่มาตามสาย ถอนหายใจอีกทีแล้วก็ว่าต่อ

 

 

“…กูเลือกให้เขามีงานแค่เดือนละครั้ง ซึ่งกูไม่รู้ว่าที่คิดไปมันจะได้ผลหรือเปล่า”

 

 

[มึงคิดว่าอะไร] ไอติมกำลังคิดว่าจะหาประโยคไหนที่ไม่ใช่เป็นการบอกเล่าเรื่องอาการป่วยของแซ็คมากจนเกินไป แต่ทบทวนอย่างรวดเร็วแล้วก็รู้สึกว่ามันเสี่ยงต่อการโยงเข้าหาอาการของแซ็คมากไปเลยพูดกว้าง ๆ ไว้ก่อน

 

 

“อีกแง่นึงมันอาจช่วยเขาได้ กูได้แต่หวังว่าเขาจะรู้ตัว” เดนนี่นิ่งเงียบ ไม่ได้ทักท้วงหรือดึงดันจะให้ไอติมพูดขยายความ แต่ประโยคที่เดนนี่พูดออกมาก็ทำให้ไอติมใจแป้ว

           

 

[มึงหวังได้นะติม แต่มึงอาจจะผิดหวัง…] หัวใจไอติมเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ

           

 

[…มันอาจจะไม่รู้ตัวอะไรเลยก็ได้ อย่าลืมว่าสัญญานี้เป็นประโยชน์กับขวัญใจมึงมาก]

           

 

“อือ กูไม่ลืม”

           

 

[ยังดีที่มึงเป็นคนร่าน ไม่ให้มันเอาได้ฝ่ายเดียว] จากที่กำลังใจแป้ว หัวใจอ่อนแอ ไอติมเปลี่ยนเป็นหัวเราะอารมณ์ดี

           

 

“ไอ้บ้าเดน”

           

 

[กูคนนึงแหละที่มึงต้องให้เอา เข้าใจป้ะ] ไอติมเม้มปาก ใบหน้าเห่อร้อน

           

 

“บ้าาา” เดนนี่หัวเราะในลำคอ

           

 

[เสียงอย่างงี้กูได้เอาแน่นอน] ไอติมห่อไหล่เขินอาย หัวเราะคิกคักสักพักแล้วตั้งสติพูดต่อ

 

 

“ก็คือตอนนี้ทั้งกูและเขาก็ไปตามสัญญาก่อน ซึ่งในช่วงเวลานี้กูก็ไม่อยากเป็นเมียหลวงแบบดร.วิกันดาอะไรขนาดนั้น มึงรู้จักดร.วิกันดาใช่ป้ะ”

           

 

[รู้ ที่เป็นเมียหลวง สวย เก่ง เป็นผู้ดี มีผัวเจ้าชู้ แต่ใจโคตรนิ่ง ผัวเทิดทูนเหนือหัว] ไอติมหัวเราะกับการที่เดนนี่รู้จักตัวละครชื่อดังในละครชื่อดังเป็นอย่างดี ถึงจะไม่ใช่ขาละคร แต่เรื่องไหนดัง เดนนี่ก็ดูตามกระแสบ้าง ถ้าถูกใจก็ดูต่อจนจบ ไม่ถูกใจก็จอด

           

 

“ส่วนกูจะหยุดเมื่อไหร่ก็ ดูท่าทีแซ็คอีกที กูก็ไม่ให้ตัวเองเสียเปรียบหรอกน่า ใช่ป้ะ”

           

 

[เออ ดีแล้ว ใช้ความร่านตัวเองให้เกิดประโยชน์] ไอติมหัวเราะ

           

 

“มึงนี่ชอบย้ำคำว่าร่านใส่กูจัง ไอ้นี่…” ถึงจะว่าอย่างงั้นแต่ไอติมก็หัวเราะชอบใจ

 

 

“…แล้วก็ ถ้าเกิดว่าก่อนหมดสัญญาระเบิดมันทำงานจริง ก็ต้องดูสถานการณ์นั้นว่าสภาพบอบช้ำจากระเบิดแค่ไหน”

           

 

[โวะ ไอ้ช่างเปรียบเทียบ]

           

 

“แหม ทีมึงยังเปรียบเทียบคนกับสะพานโกลด์เด้นท์เกจเลย กูพูดมั่งไม่ได้ไงล่ะ” เดนนี่หัวเราะ

           

 

“เอ้อ เดี๋ยวกูลืม พูดก่อน เจ้านายกูเขาชวนมึงมาเป็นตากล้องถ่ายหนังอะ”

           

 

[หนังโป๊อะนะ]

           

 

“อือ กูพรีเซ้นต์มึงไปว่ามึงเรียนมากับกูเขาเลยสนใจ กูก็อยากให้มึงมาทำนะเดน หนุกๆ”

           

 

[ได้เห็นนม ได้เห็นอันนั้นของผู้หญิงแบบจริง ๆ เลยดิ] ไอติมเบ้ปากย่นจมูกทั้งที่เดนนี่ไม่เห็น

           

 

“เออ เห็นหมดนั่นแหละ ถ่ายหนังโป๊มึงจะเห็นอะไรล่ะ” เดนนี่ครางเสียงแหบทุ้มอย่างคนกำลังครุ่นคิดทบทวนกับตัวเอง

           

 

[ตารางงาน เงินเดือน เขาเป็นไงมั่งวะ]

           

 

“อันนี้เดี๋ยวกูส่งให้ในอีเมล มึงจะได้อ่านเพื่อประกอบการตัดสินใจ”

           

 

[โอ้โห เดี๋ยวนี้ทางการนะ] ไอติมทำปากยื่น เชิดคางขึ้นเชิดๆ

           

 

“ก็มีการมีงานทำอะเนาะ”

           

 

[อยู่ต่อหน้ากูจะถีบให้]

           

 

“มึงกล้าถีบเมื่อนมึงเหรอ” เดนนี่หัวเราะกับคำเถียงของไอติม

           

 

[เออ ไอ้เมื่อน กูสนใจ ถ้าอ่านรายละเอียดแล้วกูโอเค กูตอบรับ] ไอติมยิ้มดีใจ เพราะรู้ว่าไอ้เดนมันมีฝีมือ เรียนด้วยกันมา ทำงานคู่กันมาทำไมจะไม่รู้ล่ะ

           

 

“แจ๋ว”

           

 

[แต่ที่กูสนใจกว่างานคืออีกอย่างนึง] ไอติมขมวดคิ้ว

           

 

“อะไรอะ”

           

 

[มึงยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกับไอ้พระเอก ในช่วงห้าปีนี้ กูมีสิทธิ์เอากับมึง อยู่กับมึงเหมือนที่พระเอกมึงเป็นกับมึง] ไอติมอ้าปากหวอ

           

 

“ฮะ ยังไงอะ”

           

 

[สามคนผัวเมียไง มึงเป็นเมีย แล้วมีผัวสองคน] ไอติมตาโต อ้าปากกว้างกว่าเดิม

           

 

“ฮึ้ยเดน ได้เหรอ”

           

 

[ได้ดิ มึงจะให้มันลอยตัวฝ่ายเดียวได้ไง มึงต้องทำให้มันเห็นว่ามึงก็มีทางเลือกรอไว้แล้วถ้าเกิดมันทิ้งมึงไป]

           

 

“โอ้…”

           

 

[กูรู้แหละว่าความรู้สึกมันอาจจะไม่ได้ดีนักหรอกถ้าเกิดมันทิ้งมึงไปจริง ๆ ในช่วงสัญญาค้าขายนั่นอะ แต่อย่างน้อย มันจะได้ไม่คิดว่ามึงเป็นของตาย คิดว่าจะทำยังไงก็ได้]

           

 

“แล้วถ้าครบห้าปีแล้ว เขาไม่ไปไหน แล้วมึงล่ะ จะอยู่กับกูกับเขาต่อเหรอ”

           

 

[ถ้ามึงให้กูอยู่ กูก็อยู่ แต่ถ้ามึงอยากอยู่กันสองคน กูก็ไป] ไอติมยิ้มซึ้ง น้ำตาคลอเบ้า

           

 

“เดน มึงจะแย่งซีนแซ็คไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ”

           

 

[กูมีซีนของกูเองเหอะ]

           

 

“แต่ถ้ามึงเกิดถูกใจใคร มึงก็บอกกูนะ”

           

 

[เออ บอกอยู่แล้ว] ไอติมนึกแล้วก็หัวเราะ

           

 

“ยุ่งเหยิงดีเนาะ แต่กูก็ขอบคุณมึงมากจริง ๆ เดน ไม่ว่าจะเพราะมึงหวังดีหรือแค่อยากปี้กูก็เถอะ” เดนนี่หัวเราะก๊ากกับคำเปรียบเปรยของเพื่อน

           

 

[ก็สองอย่างอะ กูก็ได้ของกูด้วย]

           

 

“แล้วถ้าเกิด เอ่อ มึงกับกูเกิดรักกันขึ้นมา มันจะยุ่งกว่าเดิมมั้ยวะ”

           

 

[รอให้มันเกิดขึ้นจริง ๆ ก่อน] ไอติมพยักหน้าหงึกๆ

           

 

“เอาเป็นว่าเดี๋ยวค่อยมาเปิดตัวก็แล้วกัน กูเลวกว่าแซ็คมั้ยเนี่ย กูมีเป็นตัวเป็นตนเลยอะ แซ็คยังแค่ว่าร่วมงานละผ่านไป” ไอติมคันปากยิบ ๆ อยากเล่าถึงอาการของแซ็คให้เดนนี่ฟังเพื่อที่มันอาจจะเก็ทมากขึ้นว่ามันมีผลอะไรยังไงต่อตัวแซ็คบ้าง แต่ก็ยังคิดว่ามันไม่ควรเล่าเรื่องส่วนตัวขนาดนี้ของแซ็คให้ใครฟัง เพราะขนาดเจ้าตัวยังไม่ค่อยอยากจะเล่าให้ใครฟังเลย เจค็อบที่รู้นั่นก็เพราะอยู่ด้วยกันมานาน

           

 

[กูก็ไม่ได้จะเข้าไปปุบปับนะ เอาเป็นว่าถ้าสถานการณ์ร่อแร่ กูพุ่งตัวเข้าไปตอนนั้นแหละ]

           

 

“อ่อ โอเค ๆ งั้นค่อยดีหน่อย…” ไอติมชะงักแล้วย่นคิ้ว

           

 

“…เราคุยกันเหมือนเราจองทริปเที่ยวอะ” เดนนี่หัวเราะ

           

 

[ก็จะคุยให้มันเครียดทำไมอะ สนุก ๆ น่า] ไอติมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก

           

 

“เออ สนุกจริง งั้นเดี๋ยวแค่นี้ก่อน กูบินกลับจากนี่เลย ถ้ามึงไม่ได้กลับไทยก็ค่อยนัดเจอกันตอนกูกลับมานี่ต้นเดือนพฤษภาคมอะ แต่ถ้ามึงกลับไทยบ้างก็เจอกันมึง”

           

 

[เออ เดินทางปลอดภัย] ไอติมกดวางสาย หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องโถงที่มีเสียงทีวีดังอยู่ และมีเจ้าของห้องกำลังนั่งมองจอทีวีหน้าตาคร่ำเครียด

           

 

“What’s the matter? (เป็นอะไรเหรอ)” แซ็คหันมองไอติมแล้วถอนหายใจ

           

 

“I don’t like the way you laugh with your friend. (ฉันไม่ชอบที่นายหัวเราะกับเพื่อนนายเลย)” ไอติมย่นคิ้วแต่ริมฝีปากก็ขยับเป็นรอยยิ้ม

           

 

“Why? He is my close friend. (ทำไมล่ะ เขาเป็นเพื่อนสนิทผมนะ)”

           

 

“You look happier than you are with me. (นายดูมีความสุขมากกว่าอยู่กับฉัน)” ไอติมเดินไปนั่งข้างกายฝั่งซ้ายของแซ็คแล้วยิ้มกว้างขำขัน ยื่นหน้าไปหอมแก้มตอบของเขา

           

 

“Make me happy more than him. (ทำให้ผมมีความสุขมากกว่าเขาสิ)” ไอติมยิ้มกริ่ม แซ็คหันมองไอติมด้วยสายตาจริงจัง ยื่นมือขวาไปวางบนแก้มเนียนนุ่มของไอติม

           

 

“I don’t know how much I can do but I will do my best. (ไม่รู้ว่าฉันจะทำได้มากแค่ไหน แต่ฉันจะทำให้ดีที่สุด)” ไอติมยิ้ม ยกมือซ้ายจับข้อมือขวาของเขา

           

 

“We have to make a deal. (เราต้องทำข้อตกลงกัน)”

           

 

“A deal what? Like Jake did? (ข้อตกลงอะไร เหมือนที่เจคทำน่ะเหรอ)” แซ็คยิ้มขื่น ดวงตาทั้งสองข้างอ่อนไหว ไอติมยังคงยิ้มแล้วส่ายหัวช้าๆ

           

 

“Not like that. Just a promise between you and me. (ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ก็แค่สัญญาระหว่างคุณกับผมน่ะ)” แซ็คพ่นลมหายใจแผ่วเบาพร้อมกับพยักหน้า มือขวาลดลงไปวางบนตักตัวเอง ไอติมลดมือซ้ายตัวเองลงวางบนหลังมือของแซ็ค

           

 

“Promise me that you will wear condom every time. (สัญญากับผมว่าจะใส่ถุงยางทุกครั้ง)”

           

“Absolutely. (แน่นอนที่สุด)” แซ็คมองไอติมด้วยสายตามุ่งมั่น ปากไอติมยิ้ม แต่แววตาไอติมนั้นแสนจะหวั่นไหว

           

 

“Don’t make any girls to become a mother and you are a father. (อย่าทำให้ผู้หญิงคนไหนกลายเป็นแม่แล้วคุณก็เป็นพ่อ)” แซ็คส่ายหัวซ้ายขวา สีหน้าแววตาดังเดิม

           

 

“I don’t fit with that thing anymore. I won’t do that. (ฉันไม่เหมาะกับสิ่งนั้นเลยสักนิด ฉันจะไม่มีทางทำแบบนั้น)” แววตาไอติมรู้สึกดีขึ้นมากกว่าเดิม

           

 

“Don’t fuck any guys. (อย่าเอาผู้ชายคนไหน)” แซ็คยื่นหน้าไปหอมหน้าผากไอติมหนึ่งที

           

 

“Only you and you are only one of mine. (แค่นาย และนายก็เป็นหนึ่งเดียวของฉัน)” ไอติมอมยิ้มเขิน แต่ก็พูดต่อ

           

 

“Don’t use the weed or any drugs. (อย่าเล่นกัญชาหรือยาเสพติดใด ๆ อีก)”

           

 

“Not again. (ไม่อีกแล้ว)”

           

 

“Don’t hurt me, (อย่าทำร้ายผม)” แซ็คสั่นหัว ไอติมยกมือขวาขึ้นแตะคางแซ็คเอาไว้

           

 

“Body and heart. (ทั้งร่างกายและจิตใจ)” แซ็คมองไอติม กำลังนึกสงสัยว่าทำไมกระต่ายตัวจ้อยถึงคิดว่าเขาจะทำร้ายร่างกาย แล้วสักพักก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยทำให้ไอติมเจ็บจนลูคัสต้องเข้ามาปกป้อง พอนึกได้ดังนั้นแววตาของแซ็คก็สลดลง

           

 

“I’m sorry but I won’t do that again. Never ever. (ฉันขอโทษ แต่ฉันจะไม่ทำแบบนั้น ไม่อีก ไม่เลย)” แซ็คมองไอติมด้วยสายตาอ้อนวอน ไอติมยิ้มบางและพยักหน้า

           

 

“And if you have special feeling with some client, just tell me, don’t lie to me. You can leave but don’t lie. (และถ้าคุณมีความรู้สึกพิเศษกับลูกค้าบางคน ก็บอกผม อย่าโกหกกัน คุณไปได้เลย แต่อย่าหลอกกัน)” ไอติมมองตาแซ็คอย่างจริงจัง

           

 

“Don’t hurt my heart. (อย่าทำร้ายใจผม)” แซ็คพ่นลมหายใจ เขาอยากออกปากสัญญา อยากบอกว่าจะไม่มีทาง ไม่มีวัน และไม่มีใคร แต่เขาเคยสัญญาแนวนี้มาแล้วครั้งนึงกับคน ๆ หนึ่ง และสุดท้ายเขาก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ไม่ได้ จนคน ๆ นั้นต้องสร้างสัญญาแห่งเวลาขึ้นมาใหม่อีกอัน

           

 

“I don’t know the future, but I won’t lie to you. (ฉันไม่รู้อนาคต แต่ฉันจะไม่โกหกนาย)”

           

 

“Thank you. And if you break one of our promises—it’s me, who will leave you instead. (ขอบคุณฮะ และถ้าคุณทำผิดหนึ่งในสัญญาของเรา เป็นผมเองที่จะเดินไปจากคุณ)” แซ็คมองไอติมด้วยสายตาสั่น ๆ แต่ก็พยายามใจนิ่งเข้าไว้

           

 

“I will try to hold you to be with me. (ฉันจะพยายามรั้งนายไว้ให้อยู่กับฉัน)” ไอติมยิ้มกว้างแต่ไม่ถึงกับกว้างจนตาหยี แซ็คยิ้มตาม

           

 

“And this is so important, (และอันนี้สำคัญอย่างมาก)” แซ็คมองไอติมด้วยสายตาเป็นคำถาม

           

 

“I have the right to fuck other guys. Don’t forget that. (ผมมีสิทธิ์ที่จะเอากับชายอื่น อย่าลืมซะล่ะ)” แซ็คไม่ถูกใจนัก แต่ก็แสดงออกด้วยความนิ่งจนหน้าเรียบตึง

           

 

“We are not in relationship yet. (เรายังไม่ได้คบกัน)” ไอติมยิ้มกริ่ม มองแซ็คด้วยสายตาประมาณว่าจำได้ใช่มั้ย แซ็คกลอกตาช้า ๆ แล้วก็พ่นลมหายใจแผ่วเบา

           

 

“You have to let me know all that guy. (นายต้องให้ฉันรู้จักผู้ชายพวกนั้นด้วย)” ไอติมพยักหน้าตาใส

 

 

            “You can suggest me some guy. (คุณแนะนำผู้ชายให้ผมได้นะ)” แซ็คเบ้ปากอ่อน ๆ ไอติมหัวเราะ

           

 

“Never. (ฝันไปเถอะ)”

           

 

“And don’t worry I will use condom every time. (แล้วไม่ต้องกังวลนะ ผมจะใช้ถุงยางทุกครั้ง)” แซ็คทำได้เพียงพ่นลมหายใจอีกครั้งก่อนจะดึงไอติมเข้ามากอด ไอติมวางหัวลงตรงซอกคอข้างขวาของแซ็ค แขนขวาวางบนหน้าท้องแข็งแรง สองแขนของแซ็คโอบตัวไอติม สายตามองทีวีที่กำลังรายงานข่าวอยู่แต่สติเขากลับไม่ได้โฟกัสสิ่งบนหน้าจอเลย

           

 

“What we should call this status between us? (เราควรเรียกสถานะระหว่างเราว่าอะไรเนี่ย)” ไอติมนิ่งเงียบ แซ็คก้มลงหอมหัวไอติมหนึ่งครั้งด้วยความอ่อนโยน

           

 

“No need the status. Just us. (ไม่ต้องมีสถานะหรอก แค่เรา)” แซ็คยิ้มอ่อนโยน

           

 

“Okay. It’s us. (โอเค คือเรา)” ไอติมยิ้มบาง กระชับอ้อมกอด แซ็คกระชับกลับ เอาแก้มแนบลงบนหัวไอติม

 

 

            ทั้งสองคนไม่พูดอะไร ทำเพียงนั่งกอดกัน และนั่งฟังเสียงจากทีวีแบบที่ไม่รู้เรื่องว่านักข่าวสาวกำลังพูดอะไร เพราะสมาธิจดจ่ออยู่กับความรู้สึกดี ๆ ความรู้สึกอบอุ่นที่ส่งผ่านกันและกันจากสัมผัสทางกายและหัวใจ นั่งกอดกันอยู่อย่างนั้นท่ามกลางความรู้สึกดี ๆ โอบล้อมรอบตัวอยู่หลายนาทีจนไอติมนึกอะไรขึ้นได้

           

 

“Zach,”

           

 

“Hmm? (หืม)” ไอติมยกหัวขึ้นมองหน้าแซ็คที่มองกลับมาด้วยความอ่อนโยน

           

 

“I have another thing to ask you. (ผมมีอีกอย่างที่อยากจะขอคุณ)” ไอติมมองแซ็คด้วยความรู้สึกหวั่นใจ

 
V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 09-06-2019 19:46:18

V
v
v



“แซ็ค คุณอยู่นี่แล้วนะ” ไอติมบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ยื่นมือซ้ายไปวางบนไหล่ขวาของอีกคน แซ็คมองกล่องแหวนกำมะหยี่สีน้ำเงินด้วยสายตาครุ่นคิด

           

 

“ฉันว่ามันไร้ประโยชน์ที่ทำแบบนี้”

           

 

“แต่อย่างน้อยคุณก็ได้ให้…” ไอติมลูบไหล่แซ็คเบาๆ

           

 

“…คุณตั้งใจเก็บเงินเพื่อซื้อแหวนวงนี้ให้แม่ไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอได้รับ เธอต้องดีใจมากแน่ๆ” แซ็คในสภาพที่ยังโทรมหันมองไอติมด้วยสายตาเศร้า ฝรั่งตัวโตส่ายหัวช้า ๆ หนุ่มไทยลดมือลงจากไหล่ของแซ็ค

           

 

“ผมแค่อยากให้คุณได้ทำในสิ่งที่คุณตั้งใจไว้แต่แรกน่ะ ผมคิดเอาเองว่ามันน่าจะรู้สึกดี ถ้าเราได้ทำอะไรที่ค้างคาอยู่ให้สำเร็จ” แซ็คมองไอติมตาละห้อย ไอติมยิ้มอ่อน

           

 

“พอเอาเข้าจริง ๆ ฉันก็กลัว” เมื่อคืนไอติมเอ่ยปากว่าอยากให้เขาเอาแหวนวงนี้มาให้แม่ ไอติมไม่ได้บังคับ แค่อยากเห็นความตั้งใจของเขาถูกทำให้สมความตั้งใจจริง ๆ สักที

           

 

“เหมือนเติมเต็มสิ่งที่มันยังว่างเปล่าอยู่” ไอติมย้ำประโยคเดิมที่พูดกับแซ็คเมื่อคืนนี้ เพราะคิดเอาว่าแซ็คน่าจะยังรู้สึกติดขัดกับตรงนี้ เหมือนจิ๊กซอว์ที่รอการเติมชิ้นสุดท้ายลงไป ไอติมไม่ได้คิดว่ามันคือการบำบัดอาการหรือรักษาอะไรให้เขาทั้งนั้น เขาแค่จำสีหน้าและความรู้สึกของแซ็คตอนพูดเรื่องแหวนวงนี้ได้ว่ามันเป็นยังไง

           

 

ก็แค่สัมผัสได้ว่าแซ็คยังติดใจเรื่องการให้แหวนกับแม่อยู่ เพียงแต่เวลามันเนิ่นนานเกินจนไม่กล้ากลับมาทำสิ่งที่ค้างไว้ต่อ

           

 

“ก็ได้” ไอติมยิ้ม แซ็คเปิดประตูฝั่งตัวเอง ไอติมเปิดฝั่งตัวเองบ้าง ปิดประตูเสร็จก็เดินอ้อมหลังรถไปหาแซ็ค ก้าวเท้าเดินข้ามถนนไปบ้านสีขาวชั้นเดียวหลังขนาดกลาง รอบบ้านถูกตกแต่งอย่างสวยงามและมีระเบียบ ไอติมเดินไปยืนหน้ารั้วบ้านกับแซ็ค หันไปมองพ่อฝรั่งตัวสูงก็เห็นว่าเขามีสีหน้าไม่มั่นใจนัก ไอติมมองหากริ่งหน้าบ้านจนเจออยู่บนเสาประตูรั้วบานเล็กของบ้าน ไอติมยื่นมือซ้ายไปกดกริ่งสองที แล้วก็ยืนรอ

           

 

“มันจะต้องโอเค” ไอติมบอก แซ็คพยักหน้า ทั้งคู่ยืนรอไม่นาน ประตูบ้านก็เปิดออก หญิงวัยกลางคน ผิวขาว หน้าตาสวย ตัวสูงผอมเพรียว ผมสีน้ำตาลอมแดงเดินออกมาจากบ้านและมองมาที่เขาสองคน เธอขมวดคิ้วมองครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินลงบันไดหน้าบ้าน เดินผ่านสนามหญ้ามาตรงถนนของโรงจอดรถ และพอเธอเดินมาได้ครึ่งทางเธอก็ชะงักอยู่กับที่ เธอมองหน้าแซ็คด้วยความตะลึง เท้าที่ชะงักเมื่อครู่ค่อย ๆ ก้าวเดินมาตรงรั้ว ไอติมหันไปมองแซ็คก็เห็นว่าเขากำลังยิ้มบาง พอไอติมหันกลับไปมองผู้หญิงคนนั้นก็เห็นว่าเธอกำลังน้ำตาคลอทั้งที่สองมือกำลังดันประตูรั้วบ้าน

           

 

“Mom.” น้ำตาเธอร่วงเผาะก่อนจะโผเข้ากอดลูกชายหลังจากเปิดประตูได้กว้างมากพอ

           

 

“My son.” แซ็คยิ้มอ่อนโยน เขาหลับตาลงและกอดร่างแม่ตัวเองแน่น ไอติมเห็นแบบนั้นก็ยิ้มด้วยความอบอุ่นใจ

           

 

“I’m glad to see you again. (แม่ดีใจที่ได้เจอเราอีก)” ผู้เป็นแม่พึมพำ ลูบหลังลูกชายตัวเองขึ้นลง

           

 

“I’m sorry I’m not strong enough. (ขอโทษที่ผมไม่เข้มแข็งพอ)” เธอดันตัวลูกชายออก น้ำตาเธอไหลอาบแก้ม สองมือยกลูบหน้าตอบของลูกชาย เธอมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง แต่ก็เลือกที่จะไม่ถาม ทำเพียงยิ้มเท่านั้น

           

 

“My son is always handsome. (ลูกแม่หล่อเสมอนั่นแหละนะ)” แซ็คยิ้ม มองแม่ด้วยสายตาคิดถึงสุดใจ

           

 

“I did not mean to bother you. (ผมไม่ได้ตั้งใจจะมารบกวน…)”

           

 

“No, you don’t. (…ไม่ ไม่เลย)” เธอยิ้มปริ่มใจ สองมือลูบหน้าลูกชายด้วยความคิดถึง สัมผัสเขาราวกับกลัวว่านี่จะเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น

           

 

“How could you say that? We can have lunch together if you want. (จะรบกวนได้ยังไงกัน อยู่กินข้าวกลางวันกับแม่ก่อนได้นะ)” แซ็คยิ้มแล้วก็สั่นหัวน้อย ๆ ผู้เป็นมารดาเม้มปาก ก่อนจะพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

           

 

แซ็คหันมองทางไอติมที่ยืนยิ้มตาใสก่อนหันกลับไปมองแม่ตัวเอง “This is Ice-cream. I mean his name is Ice-cream. (คนนี้คือไอศกรีม หมายถึงว่าเขาชื่อไอศกรีมน่ะครับ…)”

           

 

แม่ของแซ็คหันมองไอติมแล้วยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ ไอติมยื่นมือขวาออกไปเช็กแฮนด์ เธอยื่นมือกลับมาจับมือไอติมพร้อมกับยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด “He is my positive vibes. (…เขาเป็นพลังงานบวกของผม)”

           

 

แม่ของแซ็คปล่อยมือออกจากมือไอติมแล้วหันไปมองลูกชายด้วยสายตาเป็นคำถาม แต่พอเห็นสายตาที่ลูกชายมองเด็กผู้ชายอีกคน เธอก็ได้คำตอบแล้วคลี่ยิ้ม “Welcome to the loving world. (ขอต้อนรับสู่โลกแห่งความรัก)”

           

 

แซ็คยิ้มขำแผ่วเบา มารดาของเขายิ้มกว้าง สองมือยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้ม หันไปมองไอติมด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรอีกครั้งก่อนหันกลับมามองลูกชายอีกรอบ

           

 

“ผมเอานี่มาให้…” แซ็คชูกล่องแหวนกำมะหยี่สีน้ำเงินขึ้นพร้อมกับเปิดฝากล่องออกจนเห็นแหวนที่อยู่ด้านใน

 

 

            “…ผมตั้งใจจะให้แม่ตั้งช่วงไฮสกูล เพราะอยากให้แม่มีแหวนเพชรใส่แบบแม่คนอื่น” แม่ของแซ็คมีสีหน้าทึ่ง เธอมองลูกชายด้วยสายตาซาบซึ้ง ไอติมคิดว่าเธอคงเข้าใจดีว่าแซ็คสื่อถึงอะไร และกำลังพูดถึงช่วงเวลาไหนของชีวิตของทั้งสองคน นั่นจึงทำให้เธอหลั่งน้ำตาออกมาอีกครั้งทั้งที่เพิ่งเช็ดจนแห้ง

           

 

“โอ… ลูกแม่”

           

 

“แต่เพราะผมโกรธแม่ที่เลิกกับพ่อ แล้วก็โกรธพ่อด้วย ผมเลยไม่อยากให้” หญิงสาวพยักหน้าน้ำตาไหลพราก เธอเข้าใจความรู้สึกของลูกชาย เข้าใจมันอย่างดี และเธอเองก็รู้สึกผิดมาเป็นสิบปีกับสิ่งที่เกิดขึ้น

           

 

“แม่ขอโทษ แม่ขอโทษจริงๆ”

           

 

“ไม่เป็นไรแม่ ถึงผมจะยังไม่เข้าใจ แต่ไม่เป็นไรจริงๆ” หญิงสาวเช็ดน้ำตาออกจากแก้มอีกครั้ง

           

 

“แม่ไม่ขอให้เราเข้าใจนะแซ็ค อย่าเข้าใจมัน…” เธอหันมองไอติมแล้วยิ้ม ไอติมยิ้มตอบ มารดาของแซ็คหันกลับไปมองลูกชายและเปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง

 

 

“…แม่ขอให้ความรักของลูกยืนยาวจนหมดลมหายใจ ไม่ต้องตลอดไป ขอแค่อยู่ต่อไปจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต” แซ็คมองหน้าแม่ด้วยสายตาอ่อนไหว เขาพยักหน้า ก่อนจะยื่นกล่องแหวนให้กับผู้เป็นแม่ หญิงวัยกลางคนก้มลงมองของสิ่งนั้นแล้วก็คลี่ยิ้มพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า

 

 

“ผมขอโทษที่โกรธแม่ แต่ผมไม่เคยหมดรักแม่เลย” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองหน้าลูกชายแล้วยิ้มกว้าง ยื่นหน้าไปหอมแก้มทั้งสองข้างของลูก

 

 

“ขอบใจนะลูกชาย” หญิงสาวยื่นมือออกไปรับกล่องแหวน ก้มลงมองแหวนในกล่องแล้วก็ยิ้มด้วยความปลาบปลื้ม

 

 

“แม่ชอบมั้ยครับ” เธอเงยหน้ามองลูกชายแล้วพยักหน้ารัว ๆ รอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยความสุขความดีใจ แซ็คยิ้มละมุนเมื่อเห็นรอยยิ้มและแววตาของแม่ เขาหันไปมองไอติมที่ยิ้มกริ่มและพยักหน้ากลับมาให้เขา ไอติมเลื่อนสายตามองมารดาของแซ็คแล้วยิ้มให้กับเธอ เธอยิ้มตอบกลับมา ยื่นมือขวาออกไปจับมือซ้ายของไอติม แล้วใช้มือซ้ายที่ถือกล่องแหวนยกมือซ้ายของแซ็คขึ้นมาวางบนมือไอติม แซ็คกุมมือกระต่ายตัวจ้อยของเขา

 

 

“Thank you my two sons. (ขอบคุณลูกชายทั้งสองคนของแม่)” ไอติมคลี่ยิ้มเขิน มารดาของแซ็คยิ้มอิ่มใจและพยักหน้าเป็นการยืนยันอีกที ไอติมหันไปมองแซ็คก็เห็นว่าเขายิ้มกว้าง แววตาเป็นประกาย สดใสเกินใบหน้าทรุดโทรมไปมากโข

 

 

“If you don’t believe in love, then believe in him. (ถ้าลูกไม่เชื่อในความรัก งั้นเชื่อในตัวเขานะ)”

 

 

 

 

เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



ชอบเวลาเดนด่าไอติมว่าร่าน 555555 ไม่ได้รู้สึกว่าหยาบคาย บรรยากาศเหมือนเพื่อนด่าเพื่อนทั่วไป แต่เดนแค่ย้ำเก่งไปหน่อย 55555

ไม่ง่ายนะคะพี่แซ็ค น้องติมเองก็แรดไม่แพ้กัน พี่ได้ น้องเขาก็ต้องได้ด้วย น้องเขาไม่ยอมเสียเปรียบในเรื่องนี้จริงๆ  :hao7:

แท็กเรื่องนี้ #ประสบกามประสบรัก

เจอกันตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 09-06-2019 20:01:36
แซคจะผิดสัญญาข้อไหน ที่ทำให้ไอติมจากไป  :mew6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-06-2019 22:03:32
หมดปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้กับไอติมแล้ว  :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 09-06-2019 22:13:50
รอวันที่เดนจะได้เป็นผัวน้องไอติมคนร่าน 2019
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 09-06-2019 23:28:44
บางทีก็แอบคิดว่าเดนนี่รักไอติมมากกว่าเพื่ิอน
 :katai1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 09-06-2019 23:29:33
ถ้าตอนหน้าแดนมาขอแซ่บๆเลยนะคะ
น้องติมห่างหายจากความแซ่บมาหลายตอนละ
จัดให้น้องสักหน่อยนะคะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 09-06-2019 23:37:36
เห็นด้วยกับคุณ t2009 สุดๆครับ (ฮะๆ)

โอ้โห จะมีใครเคมีน่าหวีดขนาดนี้อีกไหมครับเนี่ย คุยกันได้เข้าใจ มีมุมตลกๆอยู่ด้วยกัน ขนาดแซ็คยังสัมผัสได้เลยว่าต่อให้ไอติมเฟล พอมาอยู่กับเดนนี่มันจะเหมือนเขาได้กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง เพราะว่ามีคนที่อ้อนได้ และเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น รวมถึงรู้จักกันดีและหยอกเล่นกันได้ สองคนนี้ให้อารมณ์คล้ายๆคู่ในเรื่อง Brother's Love by Noir ซึ่งน่าหวีดมาก แต่จะเห็นชัดว่าคู่นี้มีมุมทะเล้นและเข้าขากันได้ดีกว่า ด้วยเพราะอายุเท่ากัน ประโยคเด็ดตอนนี้ที่ผมชอบใจที่สุด คือตรงนี้ครับ

“แล้วถ้าเกิด เอ่อ มึงกับกูเกิดรักกันขึ้นมา มันจะยุ่งกว่าเดิมมั้ยวะ”

[รอให้มันเกิดขึ้นจริง ๆ ก่อน]

ประโยคตรงนี้มันสื่อถึงนัยยะด้วยว่าทั้งสองคนโอเคกับความรู้สึก เพราะรู้จักกันมานาน ถ้าสมมุติเลยเถิดขึ้นมา ก็เตรียมใจไว้แล้วและไม่น่าจะมีปัญหา มันเป็นประโยคสั้นๆที่เรารู้สึกว่าความสัมพันธ์น่าประทับใจครับ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 10-06-2019 00:38:53
เดนนี่ แซ่บอ่า :-[
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 10-06-2019 00:44:09
ชอบคู่เผื้อน-เมื่อนนี้จริงๆเลย 5555

เอาจริง ก็โอเคกับดีลนี้ของไอติมนะ แล้วตัวน้องติมเองก็

ค่อนข้าง 'ไปเรื่อยๆ' อยู่แล้วแหละ ให้เวลาเป็นตัวตัดสินละกัน

ว่าระเบิดใครจะถูกจุดชนวนก่อนกัน
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 13-06-2019 11:19:23
นังหมีถ้าแกไม่มีลูกติมแกแย่แน่ ดูแลให้ดีให้ได้อย่างที่พูดล่ะ คู่แข่งแกไม่ธรรมดานะว้อยยย  :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.42 : ฺLast jigsaw. : 09.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 14-06-2019 17:00:45
เดนนี่!!!! หวีดดดดดด ในที่สุดพระเอกของเรื่องก็ได้ซีนออกมาสักที :laugh:
ชอบความอ้อล้อและหยอกเย้าของคู่พระนายก็คือเดนนี่และน้องติม (อิตาแซ็คคือใครไม่รู้จัก) :laugh:
โอ้ยยยๆๆ ถ้ามาอยู่คู่กัน3p อิตาแซ็คอกแตกตายแน่ๆเด้อ :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.43 : ฺHome. : 18.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 18-06-2019 19:02:40
Fall in lust - Chapter 43 :: Home. (บ้าน)





“แมมมม่! น้าแพ๊นนน!” ไอติมยืนเกาะรั้วบ้านและตะโกนเรียกสองสาวของบ้านตัวเองด้วยความตื่นเต้น

           

 

“อะโฮ่! จัมโบ้! ปีโปปป้!” ไอติมตะโกนเรียกเจ้าหมาสองไซซ์ที่วิ่งหน้าตั้งแข่งกันออกมาพร้อมกับเห่าต้อนรับเขา มันส่ายหางรัว ๆ ด้วยความตื่นเต้นไม่แพ้นายน้อย เจ้าจัมโบ้กระโดดเกาะรั้วเลียหน้าไอติม นายน้อยหัวเราะแล้วยื่นมือไปลูบหัวมัน ส่วนเจ้าปีโป้ที่ตัวเล็กกว่า ก็เห่าเรียกร้องความสนใจและพยายามเขย่งแบบพี่ชายบ้างแต่ก็มาไม่ถึง ไอติมเลยพยายามโน้มตัวลงไปจับหัวปีโป้ แต่เพราะโน้มมากเกินไปขาเลยลอยเกือบหน้าคว่ำ ดีที่ได้แซ็คเข้ามาคว้าไว้ทัน

           

 

“Easy, bunny. (ใจเย็นน่า บันนี่)” ไอติมหันไปหัวเราะคิกคักกับแซ็คที่ยิ้มขำ

           

 

“เอ้า น้องติม”

           

 

“แม่!” แม่แป้งมีสีหน้าเหลอหลาแต่ทว่าริมฝีปากก็ขยับเป็นรอยยิ้มกว้าง ด้านหลังคือน้าแพนที่ยิ้มกว้างไม่แพ้กัน แต่ความตื่นเต้นนั้นมีน้อยกว่าเพราะว่ารู้อยู่แล้วว่าหลานชายจะกลับมาถึงเมืองไทยวันนี้

           

 

“ไม่เห็นโทรบอกว่าจะกลับ”

           

 

“เซอร์ไพรส์ไงแม่!” ไอติมบอกเสียงสดใส ท่าทีคึกคัก แซ็คมองไอติมแล้วก็ขำ สองสามวันก่อนยังมีท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง แต่พอได้กลับมาถิ่นเกิดตัวเองก็กลับไปเป็นเด็กร่าเริงเหมือนเดิม

           

 

“โอ้ พ่อฝรั่งมาด้วยเหรอเนี่ย” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ และหันหน้าไปหาแซ็ค ชี้แม่เป็นเชิงบอกว่าแม่พูดถึง แซ็คจำได้ว่าต้องทักทายยังไงเลยยกมือขึ้นไหว้ แม่ของไอติมหัวเราะด้วยความเอ็นดู

           

 

“พี่แป้ง เปิดประตูเถอะ ไอ้โบ้กับไอ้โป้จะตายแล้ว”

           

 

“เออ ลืม ๆ มา ๆ เปิดประตู” แม่แป้งดันประตูรั้วบ้าน เจ้าหมาสองตัวออกมาวิ่งวนไปรอบเจ้านายน้อยด้วยความตื่นเต้น ทั้งครางหงิง ทั้งส่ายหาง ไอ้ปอมตัวเล็กวิ่งไปเห่าใส่ฝรั่งและยกสองขาหน้าขึ้น แซ็คหัวเราะ ก้มตัวลงอุ้มเจ้าหมาขึ้นมา มันพยายามเลียหน้าแซ็คด้วยความตื่นเต้น

           

 

“จำเขาได้ด้วยเหรอน่ะปีโป้” ไอติมถามพลางกอดเจ้าจัมโบ้เอาไว้

           

 

“หิวมั้ย” แม่แป้งถาม

           

 

“หิวมากกก อยากกินหมูกระทะ จัดให้หน่อยนะ นะๆๆ”

           

 

“อะได้ เดี๋ยวจัดให้” ไอติมยิ้มกว้าง ลุกขึ้นยืนแล้วกอดแม่ตัวเองแน่น ฝ่ายมารดาก็หอมแก้มลูกชายด้วยความชื่นใจ (แก้มที่เพิ่งโดนหมาเลียมานั่นละ)

           

 

“How are you, Bryan? (สบายดีมั้ยคะ ไบรอั้น)” คนถูกถามวางเจ้าหมาปอมลงกับพื้น มันวิ่งไปหาเจ้านายของมัน แซ็คยิ้มแล้วตอบ

           

 

“I’m good now, and hope will be better soon. (ก็ดีครับ แล้วก็หวังว่าจะดีขึ้นอีกเร็ว ๆ นี้)”

           

 

“You will not disappoint if you are here. (คุณจะไม่ผิดหวังเลยถ้าคุณอยู่ที่นี่)” แซ็คยิ้ม และพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

           

 

“I believe that. I had a hard time, but I got a good time because of him. (ผมเชื่องั้นแหละครับ ผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ผมก็ได้ช่วงเวลาที่ดีกลับมาเพราะเขา)” แพนยิ้มและพยักหน้าด้วยความเข้าใจก่อนผายมือไปทางบ้าน

           

 

“Come in. (เข้าไปข้างในเถอะค่ะ)” แซ็คยกกระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นมาสะพาย แล้วก็ลากกระเป๋าเดินทางของไอติมไปด้วย กระต่ายตัวจ้อยหันมากะว่าจะยกกระเป๋าตัวเองก็ชะงัก แซ็คเลยบอกให้ถือแต่กระเป๋าเป้ไป ไอติมยิ้มขอบคุณแซ็ค หมุนตัวเดินเข้าบ้านพร้อมกับแม่และหมาทั้งสองตัว

           

 

“พาพี่เขาขึ้นไปเก็บของเถอะไป เดี๋ยวแม่ให้เด็กที่ร้านจัดการเรื่องหมูกระทะให้” ไอติมยิ้มท่าทางตื่นเต้นระริกระรี้ หันไปกวักมือเรียกแซ็คให้เดินตามขึ้นบันไดบ้าน โดยที่ตัวเองวิ่งตัวปลิว ปล่อยให้แซ็คแบกกระเป๋าของตัวเองตามขึ้นไป

           

 

“พ่อฝรั่งเขาผอมลงเนาะ”

           

 

“ได้อาหารพี่แป้ง แปบเดียวเดี๋ยวก็กลับมาอ้วน” แพนบอกพี่สาวด้วยรอยยิ้ม แม้ในใจจะสงสัยแต่เธอก็ไม่คิดถาม เพราะหลานชายขอร้องก่อนเดินทางกลับมาว่า เพื่อนชายคนนี้ขอมาพักพิงด้วยอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป นอกจากจะมาพักผ่อน ยังมาขอฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจด้วย

           

 

“ให้แพนสั่งหมูกระทะมั้ย หรือพี่แป้งจะทำให้ติมเอง”

           

 

“เดี๋ยวให้เด็กไปสั่งให้ดีกว่า ไม่น่ามีเวลาทำ ร้านถัดจากบ้านเราไปสองซอยอร่อยอยู่นะ เคยสั่งมาเลี้ยงเด็ก ๆ ที่ร้าน” แพนพยักหน้า

           

 

“แม่! น้องติมขอหมูเยอะ ๆ เลยนะ” สองพี่น้องแหงนหน้าขึ้นมองตรงบันได ได้ยินแต่เสียงแต่ไม่เห็นตัว

           

 

“จ้า เดี๋ยวเอามาให้สิบโลเลย”

           

 

“อะโฮ่!” ไอติมได้ยินเสียงหัวเราะของแม่กับน้าแล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนตัวเอง แซ็ควางกระเป๋าไว้บนโซฟาปลายเตียงและกำลังเอาเสื้อผ้าออกมาวางบนเตียง

           

 

“Wait a little and you will can eat. (รอนิดหน่อยและคุณจะได้กิน)” แซ็คเงยหน้าขึ้นมองไอติมแล้วยิ้มกริ่ม

           

 

“I love you speak English this version than the right version. (ฉันชอบนายพูดภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นนี้มากกว่าเวอร์ชั่นที่ถูกต้องนะ)” ไอติมยิ้มกว้าง เดินเข่าขึ้นเตียงไปนั่งกลางเตียงตรงข้ามกับแซ็ค

           

 

“ผมเก่งขึ้นเพราะอยากเถียงกับเจค็อบได้อะ…” ไอติมยิ้มห่อไหล่เขิน แซ็คยิ้มขำอ่อน ๆ นึกเอาเองว่ามันคงเป็นแรงผลักดันอะไรสักอย่างที่ส่งผลให้ภาษาอังกฤษของเจ้ากระต่ายพัฒนาขึ้นมา

           

 

“…แต่ก็ยังไม่เก่งมากพอหรอก”

           

 

“แค่ฉันไม่ต้องคอยแปลให้นายอีกทีก็เก่งมากแล้ว” แซ็คว่าพลางหยิบกางเกงยีนออกมาวางบนกองเสื้อผ้า ไอติมยิ้มขำ

           

 

“คุณเป็นดิคชันนารีที่หล่อมาก” แซ็คคลี่ยิ้มขำตามไอติม กระต่ายตัวจ้อยสั่นตัวดุ๊กดิ๊ก แซ็คมองแล้วก็ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มเศร้า

           

 

“ขอโทษนะที่ทำให้ช่วงนึงนายหมดสนุกไปเลย”

           

 

“ผมคิดว่าชีวิตกำลังสอนให้ผมโตขึ้นแหละ แต่พอได้กลับมาที่นี่…” ไอติมมองไปรอบห้องแล้วยิ้ม ก่อนวกกลับไปมองแซ็ค

           

 

“…เหมือนได้ชาร์ตพลัง ต้องขอบคุณลูคัส เจ้านายผู้ใจดีที่ยอมให้มาพักผ่อน” แซ็คบดปากเบา ๆ กำลังครุ่นคิด แต่พยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า

           

 

“นายกับลูคัส มีอะไรกันรึยัง” ไอติมตาโต แซ็คยักคิ้วหนึ่งครั้ง แล้วสักพักแก้มขาว ๆ ของไอติมก็แดงระเรื่อ แซ็คทำปากเป็นเส้นตรงแล้วกลอกตา

           

 

“เกือบมีอะ แต่ยังไม่มีหรอก…” แซ็คหรี่ตามองเจ้ากระต่ายตัวจ้อยที่ยิ้มตาแป๋วกลับมา

           

 

“…ผมคิดถึงคุณ เลยเบรกก่อน” แซ็คกระตุกยิ้มมุมปากซ้าย

           

 

“พูดซะฉันไม่กล้าทำงานเจคเลย”

           

 

“แต่ของคุณห้ามคิดถึงผม” แซ็คย่นคิ้ว สองมือหยุดหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า

           

 

“ทำไมล่ะ” ไอติมคลี่ยิ้ม

           

 

“เพราะคุณจะไม่กล้าทำยังไงล่ะ” กระต่ายตัวน้อยห่อไหล่เขิน ยิ้มเขินจนตาหยี แซ็คชะงักไปพักหนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มขำ ฝรั่งตัวใหญ่นั่งลงบนโซฟา นั่งหันหน้าไปทางไอติมที่หน้าแดงก่ำ แซ็คยิ้มด้วยความรู้สึกดีๆ

           

 

“ขอบคุณนะที่เข้าใจฉัน” ไอติมคลานเข้าไปนั่งใกล้แซ็ค

           

 

“ถ้ามันเป็นแค่งานแล้วจบ ผมเข้าใจจริงๆ…” ไอติมยื่นมือขวาไปลูบหลังมือซ้ายของแซ็ค

           

 

“…แต่ถ้ามันมากกว่านั้น ผมก็เข้าใจ และคุณเองก็ต้องเข้าใจด้วยถ้าผมจะไป” แซ็คเลื่อนมือขวาขึ้นไปวางทับมือของไอติมและลูบแผ่วเบา

           

 

“ฉันจะพยายามไม่ทำอะไรให้นายจากไป” ไอติมยิ้มกริ่ม

           

 

“ไม่ต้องพยายามจนไม่มีความสุขล่ะ…” แซ็คก้มลงจูบหลังมือไอติมแล้วเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าขาวใส เจ้ากระต่ายหรี่ตา สีหน้ามุ่งร้ายแบบน่าเอ็นดูแทนน่ากลัว

           

 

“…แต่อย่ามีความสุขมากไป” แซ็คยิ้มกว้างขำขัน ไอติมแยกเขี้ยวทำหน้าขู่ แซ็คหัวเราะ ยืดตัวขึ้นนั่งชันเข่าบนโซฟาแล้วยื่นหน้าไปหอมหน้าผากไอติมหนึ่งที ไอติมยิ้มกว้างแล้วก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มของแซ็ค

 

           

 

 

ไอติมช่วยแซ็คเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ รอบนี้มาอยู่สองเดือนเต็ม แต่แซ็คก็ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามามากมาย เพิ่มจากรอบก่อนไม่กี่ชุด เพราะคิดว่าอยู่บ้านไอติมก็วนซักวนใส่เอา ถ้ามีทริปต่างจังหวัดแทรกเข้ามาก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะซื้อเสื้อผ้าเพิ่มอีกมั้ย แซ็คคุยกับไอติมไว้แล้วว่าจะทิ้งเสื้อผ้าติดบ้านไอติมไว้ เพราะต่อจากนี้คงมาเมืองไทยบ่อยขึ้นแน่นอน

           

 

“แต่ฉันคิดว่าบางวันเราคงไม่ได้ใส่เสื้อผ้าหรอกมั้ง” ไอติมหันไปมองแซ็คขณะที่กำลังหยิบเสื้อใส่ไม้แขวน กระต่ายตัวจ้อยอมยิ้มขำ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แซ็คยิ้มกริ่ม ไม่ได้พูดเพราะในหัวคิดแต่เรื่องแบบนั้น พูดแซวเพื่อให้แก้มขาว ๆ นั่นแดงมากกว่า

           

 

ก๊อกๆ

           

 

“น้องติม”

           

 

“เข้ามาเลยฮะแม่” ประตูถูกดันเข้าไป แม่แป้งมองลูกชายตัวเองกำลังช่วยหนุ่มต่างชาติเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ก็ยิ้ม

           

 

“หมูกระทะมาแล้ว ของวางอยู่ในครัว จัดการเอาเลยนะลูก” ไอติมยิ้มตื่นเต้นตาเป็นประกาย แค่คิดถึงของโปรดก็น้ำลายเหนียวแล้ว

           

 

“ฮะแม่” มารดาของไอติมยิ้ม หันไปยิ้มให้พ่อฝรั่งที่ยิ้มมาให้ก่อนจะดึงประตูปิด

           

 

สองหนุ่มต่างไซซ์ช่วยกันจัดการเสื้อผ้าจนเสร็จเรียบร้อยก็ลงมาในครัวเพื่อมาทำหมูกระทะกิน และเนื่องจากด้านนอกแดดยังร้อนอยู่ ไอติมเลยพาแซ็คมาตั้งเตาที่หลังบ้านริมสระว่ายน้ำอันน้อยของไอติม โดยเลือกตั้งเตาในมุมอับลมเพื่อที่จะได้ไม่มีเศษถ่านปลิวไปลงสระน้ำ

           

 

“You can swim whenever you want. Don’t need to wear swimsuit. (อยากว่ายตอนไหนก็ว่ายได้เลยนะฮะ ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดว่ายน้ำก็ได้)” ไอติมว่าขณะที่กำลังใช้พัดพัดถ่านที่จุดไฟแล้ว

           

 

“Do you still keep my swimming trunk? That we bought from the last trip. (ยังเก็บกางเกงว่ายนำฉันไว้มั้ย ที่เราซื้อจากทริปก่อน)” ไอติมจับกระทะวางบนเตาแล้วเงยหน้าพยักหน้าให้แซ็ค

           

 

“Of course. And I have never wash it. (เก็บไว้สิ แล้วผมก็ไม่เคยซักด้วย)” แซ็คหัวเราะขณะที่แกะถุงหมูหมักเทใส่ถ้วยกระเบื้องสีขาวอันใหญ่

           

 

“Wash it and smell it from me instead. (ซักเถอะแล้วก็ดมจากฉันแทน)” ไอติมยิ้มขำตาหยี

 

 

เนื่องจากแซ็คไม่เคยกินอาหารชนิดนี้มาก่อน และเป็นครั้งแรกที่ได้กินจึงทำตามที่ไอติมบอกทั้งหมด ปกติไอติมจะตำน้ำจิ้มกินเอง เพราะชอบรสเผ็ดเปรี้ยวหวานในแบบของตัวเอง แต่เพราะความหิวและโหยหาเนื่องจากไม่ได้กินมานาน ไอติมก็เลยใช้น้ำจิ้มจากทางร้านซึ่งชิมแล้วก็รสชาติจัดจ้านดีมาก

           

 

“I don’t know how to use chopsticks. (ฉันใช้ตะเกียบไม่เป็น)” แซ็คบอกพลางพยายามใช้ตะเกียบคีบหมูบนกระทะเพื่อพลิกไปอีกด้านแบบที่ไอติมทำแต่ก็ทำไม่ได้ ไอติมหัวเราะความด้วยความเอ็นดูก่อนลุกเดินไปหยิบที่คีบแบบเหล็กบนโต๊ะหินอ่อนมาให้เขา

           

 

“It’s better. (ดีกว่ากันเยอะเลย)” ไอติมใช้ตะเกียบอีกคู่คีบหมูแล้วจิ้มน้ำจิ้มป้อนแซ็คหนึ่งชิ้น ฝรั่งรับเข้าปากไปแล้วเคี้ยวนิ่ง ๆ อยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าและยกนิ้วโป้งข้างซ้ายให้ไอติมในขณะที่มือขวาก็พลิกหมูไปด้วย

           

 

“My favorite food. (ของโปรดผมเลย)”

           

 

“Then you are my favorite food. (งั้นนายก็เป็นอาหารโปรดของฉันเลยละ)” ไอติมเบ้ปาก มองแซ็คด้วยสายตาหมั่นไส้ ฝรั่งหน้าตอบโหนกแก้มแหลมยิ้มหวาน คีบหมูบนกระทะใส่จานให้ไอติมหนึ่งชิ้นใหญ่ ไอติมที่กำลังเคี้ยวหมูกับผักอยู่ในปากพยักหน้าเป็นการขอบคุณ

           

 

อาหารต้อนรับกลับบ้านของกระต่ายตัวจ้อยเต็มไปด้วยความอร่อย ฝรั่งที่เพิ่งเคยกินครั้งแรกก็อร่อยไปด้วย ทั้งเพราะรสชาติของอาหารและเพราะเพื่อนร่วมโต๊ะอาหารที่เคี้ยวจนแก้มอูม เคี้ยวเนื้อหมู เคี้ยวอาหารทะเล เคี้ยวผัก และซดน้ำซุปได้น่ากินจนรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วย แซ็คกินไปน้อยมากเมื่อเทียบกับไอติมเพราะเขาคอยคีบเนื้อหมู เนื้อกุ้ง เนื้อปลาหมึก คีบผัก ตักไข่ให้ไม่ขาด หนุ่มอเมริกันมองหนุ่มไทยด้วยสายตาเอ็นดูแล้วก็ยิ้ม

           

 

จากที่ช่วงนึงเขารู้สึกว่ากระต่ายตัวจ้อยโตขึ้น พอได้กลับมาที่นี่ดูเหมือนว่าความเป็นเด็กจะกลับคืนมาอีกครั้ง ที่ต้องโตขึ้นคงเพราะสถานการณ์รอบข้างด้วย ถ้าถามเขา แซ็คชอบไอติมเวอร์ชั่นตอนโตมากกว่า แต่ก็ไม่อยากให้โตจนแข็งกระด้างเกินไป

           

 

“เอาวางไว้หน้าบ้านฮะ เดี๋ยวที่ร้านเขามาเก็บเอง” ไอติมบอกหลังจากล้างทุกอย่างเสร็จ แซ็คเอาเตากับกระทะเดินไปวางตรงนอกประตูรั้วหน้าบ้านแล้วเดินกลับเข้าไปข้างใน ไอติมกำลังยกกระป๋องน้ำเป๊บซี่ดื่มอึก ๆ อยู่ในครัว

           

 

“นายจะไปหาหมอเพื่อตรวจเลือดเมื่อไหร่เหรอ” แซ็คถามพลางนั่งลงบนเก้าอี้นั่งทานข้าวในครัว ไอติมลดกระป๋องเป๊บซี่ลงแล้วหันไปมองคนถาม

           

 

“ทำไมล่ะ”

           

 

“ฉันอยากจะไปตรวจด้วยน่ะ” ไอติมร้องอ๋อ

           

 

“พรุ่งนี้ก็ได้ฮะ” แซ็คทำหน้าประหลาดใจ

           

 

“เข้าไปได้เลยเหรอ” ไอติมพยักหน้า

           

 

“ได้เลยฮะ เข้าไปแจ้งว่าเราจะขอตรวจเลือด ตรวจสุขภาพ”

           

 

“นึกว่าต้องนัดก่อน ปกติฉันต้องนัดน่ะ”

           

 

“ก็มีบางเคส บางหมอ บางโรงพยาบาลที่ต้องนัดแหละฮะ แต่ส่วนมากก็เข้าไปรอพบหมอที่โรงพยาบาลได้เลย”

           

 

“ดีจริง” ไอติมเคยฟังจากเดนนี่ว่าระบบการพบหมอของเมืองนอกนั้นยากกว่าเมืองไทย ใช่ว่าป่วยแล้วจะเดินเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อพบหมอได้ง่าย ๆ หรือใช่ว่าจะได้รับการตรวจเลย เดนนี่เคยบอกว่า ครั้งนึงเคยเป็นหวัดอยู่สี่วันแล้วอาการไม่ดีขึ้นเลยคิดจะไปหาหมอ แต่ว่าโทรนัดหมอยากมาก เพราะคนรับสายสัมภาษณ์อยู่นานเพื่อประเมินอาการว่าหนักหนามากน้อยแค่ไหน แล้วพอได้เข้าพบหมอ ก็เร็วปานม้าวิ่ง หลังจากนั้นเดนนี่เลยทำประกันสุขภาพเอาไว้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการพบหมอ แม้ต้องแลกกับเงินอันแสนแพงก็ตาม

           

 

“อยากออกไปไหนมั้ยฮะ” ไอติมถามและหย่อนกระป๋องเป๊บซี่ลงในถังขยะ

           

 

“ไม่ล่ะ นอนพักดีกว่า” ไอติมพยักหน้า

           

 

“งั้นคุณนอนคนเดียวได้มั้ย ผมจะออกไปหาแม่ที่ร้านน่ะ”

           

 

“ไม่นอนด้วยกันเหรอ” แซ็คมองไอติมตาละห้อย ไอติมอ้าปากหวอ ก่อนจะเปลี่ยนใจ

           

 

“ก็ได้ฮะ” แซ็คยิ้ม

           

 

ไอติมพาแซ็คกลับขึ้นไปบนห้องนอน เปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ พอหันไปมองแซ็คที่กำลังยืนเขย่าตัวขึ้นลงและพ่นลมออกจากปากติด ๆ กันก็มองด้วยความสงสัย แซ็คหยุดเขย่าตัวเอง กำมือสลับกับแบมือ พ่นลมหายใจออกทางปากยาว ๆ อีกสามสี่ครั้งก่อนเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ไอติมเดินไปนั่งบนเตียง มองแซ็คใช้สองมือรองน้ำจากก๊อกอ่างล้างหน้าขึ้นลูบหน้าอยู่หลายนาทีถึงเดินกลับออกมาข้างนอก

           

 

“Are you okay? (คุณโอเคมั้ย)” แซ็คพยักหน้าแต่ยังคงหายใจแรงอยู่ ไอติมลุกเดินไปหยิบผ้าขนหนูจากราวไม้ในห้องมายื่นให้แซ็คเช็ดหน้า แซ็ครับไปซับหน้าจนแห้ง หันไปมองไอติมก็เห็นว่ากระต่ายตัวจ้อยยืนมองด้วยสายตาสงสัย แซ็คหลับตาลงและพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ ก้าวเท้าเดินไปนั่งบนโซฟา ไอติมเดินตามไปนั่งข้างๆ

           

 

“I’m thinking about weed, (ฉันกำลังคิดถึงกัญชา)” แซ็คเหลือบมองไอติมแวบหนึ่ง ไม่กล้าสบตาใส ๆ ของเจ้ากระต่าย

           

 

“I need it. (ฉันอยากน่ะ)” ไอติมยื่นสองมือไปจับหน้าแซ็คให้หันมามองตัวเอง สองมือประกบแก้มของเขา มองใบหน้าที่เริ่มฟื้นจากสภาพทรุดโทรม

           

 

“No. You need me. (ไม่ คุณต้องการผมต่างหาก)” แซ็คคลี่ยิ้ม ยกมือขวาจับข้อมือซ้ายไอติมแล้วหันหน้าไปจูบฝ่ามือไอติมแผ่วเบา

           

 

“You are going to make me addict you instead. (นายกำลังจะทำให้ฉันเสพติดนายแทนนะ)” ไอติมพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบางเบา

           

 

“Yes, addict me. (ใช่ เสพติดผมได้เลย)” ไอติมลุกขึ้นยืน แซ็คเงยหน้ามองตาม ไอติมนั่งคร่อมตักแซ็ค สองมือลูบไปทั่วใบหน้าของฝรั่งตัวโต ขวัญใจไอติมเอนหัวกับพนักพิงโซฟา เปลือกตาปิดลง ใบหน้าผ่อนคลายกับฝ่ามือนุ่ม ๆ ของไอติมที่กำลังลูบวนไปทั่วใบหน้าตัวเอง

           

 

“You are still a tricky bunny. (นายยังเป็นกระต่ายเจ้าเล่ห์เหมือนเดิมเลยนะ)” ไอติมยิ้มกว้าง ก้มหน้าลงเอาจมูกแนบกับหน้าผากของแซ็คก่อนที่จะไล่หอมตั้งแต่หน้าผากลงมาแก้มขวา แซ็คหัวเราะทั้งที่ยังหลับตา ไอติมหอมผ่านคางขึ้นไปบนแก้มซ้าย ไปที่ขมับก่อนกลับไปตรงหน้าผากอีกครั้งแล้วก็ดึงหน้าออก พ่อฝรั่งลืมตาขึ้นมองกระต่ายตัวขาวพร้อมกับยิ้มละมุน

           

 

“I want to know our blood test now. (ฉันอยากรู้ผลเลือดเราสองคนตอนนี้เลย)” ไอติมยิ้ม ยกสองมือประกบแก้มของแซ็คอีกรอบ

           

 

“Why? (ทำไมล่ะ)”

           

 

“You know the reason. (นายรู้เหตุผลน่า)” ไอติมหัวเราะคิก

           

 

“Now it’s you who want to fuck me. (ตอนนี้เป็นคุณแล้วสินะที่อยากเอาผมน่ะ)” ไอติมห่อไหล่สองข้างขึ้นแล้วยิ้มเขิน แซ็คยิ้มละมุนและพยักหน้า ไอติมหัวเราะ แซ็คยกมือขวาขึ้นลูบหัวไอติม มองด้วยสายตาอ่อนโยน

           

 

“Thank you for following me until you met me and we have each other now. (ขอบคุณที่ติดตามฉันจนเราพบกัน และเรามีกันในตอนนี้)”

           

 

“Thank you your cock. (ขอบคุณจ้อนคุณเถอะ)” แซ็คขำพรืด ไอติมหัวเราะ เอาหน้าผากชนกับหน้าผากของแซ็ค ขวัญใจไอติมเอาจมูกเกลี่ยปลายจมูกไอติมไปมา

           

 

“Your cockrot, bunny. (ควxร็อทของนายยังไงล่ะบันนี่)”

 

 





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้





หากไม่ดูเป็นการรบกวน ก็จะชวนเธอมาเสพติดกัน กิ๊ๆ

จากตามขอให้เขาเอา มาวันนี้น้องโดนผู้คนนั้นขอเอาเองแล้วนะคะ ฮิฮิ้ว -..-



เจอกันตอนหน้าค่า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.43 : ฺHome. : 18.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-06-2019 19:23:02
สงสารแซคนะ นางเหมือนไม่มีเป้าหมายในชีวิตมาก่อน พอมาเจอน้องติม นางแบบก็แก้ตัว กลับลำอะไรก็ยากอ่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.43 : ฺHome. : 18.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 18-06-2019 20:29:03
น้องติมนางสตรองและใจกว้างมากจริงๆ  ที่เหลือก็แซคต้องช่วยเหลือตัวเองให้กลับมาแข็งแรงไวไว

อุตส่าห์ได้วิตามินรสไอติมมาบำรุงแล้ว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.43 : ฺHome. : 18.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 18-06-2019 21:37:05
หมูกระทะจะเยียวยาทุกสิ่ง   :pigwrite:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.43 : ฺHome. : 18.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 18-06-2019 22:35:46
ขอให้เป็นแบบนี้ละมุนตุ้มไปเรื่​อยๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.43 : ฺHome. : 18.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 19-06-2019 02:16:11
เดนนี่~เรารอนายอยู่
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.43 : ฺHome. : 18.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-06-2019 06:40:51
 :ling3: 
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.43 : ฺHome. : 18.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 19-06-2019 08:39:47
ไป!! สู้ก็สู้  o13 o13
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.43 : ฺHome. : 18.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 19-06-2019 19:07:56
เดินทางไปเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้ว่าบทสรุปจะเป็นยังไง
เป็นกำลังใจให้ไอติมกับแช๊คให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้

อย่าได้ดีแตกก็แล้วกัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.44 : ฺPrivate show. : 23.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 23-06-2019 19:53:54

Fall in lust - Chapter 44 :: Private show. (โชว์ส่วนตัว)





Special from Ice-cream



   ผมไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบกับใคร ไม่เคยมีใครมาจีบ ไม่เคยคิดไปจีบใคร ไม่เคยชอบใครถึงขั้นอยากเป็นแฟนด้วย ในหัวและในความรู้สึกผมไม่เคยมีความคิดนั้นอยู่เลย แม้กระทั่งกับแซ็ค ผมก็ไม่ได้เริ่มต้นความคิดด้วยความชอบมากเกินกว่าความชอบของติ่งคนหนึ่งที่อาจจะชอบมากเกินไป จนถึงขั้นอยากเสียบริสุทธิ์กับเขา ผมคิดแค่นั้นจริง ๆ ไม่ได้คิดจะมาถึงขั้นที่ว่าความรู้สึกเราสองคนมันมากกว่านักแสดง (หนังโป๊) และแฟนคลับไปแล้ว
   

ผมไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกนั้นมันเกิดขึ้นได้ยังไงและมาตอนไหน คือผมก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้ไปจับผิดความรู้สึกหรือจับตาความรู้สึกประหนึ่งเป็นกล้องวงจรปิด ผมรู้อีกทีก็คือรู้แล้วว่าความรู้สึกตัวเองเปลี่ยนจากแฟนคลับมาเป็นแนวหัวใจ หัวใจที่ชุ่มฉ่ำราวกับมีน้ำหล่อเลี้ยงไม่ขาดสาย เป็นดั่งกุหลาบสีแดงที่คู่รักมักให้กันในวันวาเลนไทน์ หรือเป็นความหวานเหมือนช็อคโกแล็ตที่ไม่ได้ผสมไวน์จนขม
   

ผมไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไง เปรียบเทียบกับอะไร ก็หยิบสิ่งที่มันดูเกี่ยวข้องกับความรักมาเทียบ ๆ กันไปเรื่อย ไม่รู้จะบอกยังไงเพื่อให้รู้ว่านี่คือความรักที่มันเกิดขึ้นมาแล้ว แต่ผมไม่อยากปวดหัว ผมเลยคิดว่า ช่างเถอะ สิ่งสำคัญคือ มันเกิดขึ้นแล้วระหว่างเราสองคน และเราสองคนใจตรงกัน 
   

ที่ตลกคือเราสองคนต่างไม่เคยคบใครเป็นแฟนมาก่อน โอเค แซ็คอาจจะมีโมเม้นต์ความเป็นคู่มากกว่าผม แต่เขาก็ไม่เคยคบใครเป็นจริงเป็นจัง อันนี้ยืนยันได้จากแม่เขาเองอีกหนึ่งเสียง ซึ่งเป็นเสียงสำคัญมาก
   

ถ้าแซ็คเป็นโรคกลัวความรัก ผมก็คงเป็นโรคไม่รู้จักความรักในแบบหนุ่มสาว หนุ่มหนุ่ม สาวสาว หรือจะคู่แบบไหนก็ตามที่เป็นความรักสีชมพูทำนองนั้น ไม่รู้จักในที่นี้ไม่ใช่ว่าไม่รู้เลย ผมเคยเห็นคนคบกัน รักกัน มีความสัมพันธ์ต่อกัน เพียงแต่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับผม ผมเลยไม่รู้ว่าจริง ๆ มันเป็นไง เคยได้แต่มองผ่านตาผ่านความทรงจำเท่านั้น
   

วันนี้พอมามีเองก็เป็นความรู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจดี แม้ความสัมพันธ์ของเราสองคนจะแปลกประหลาดและรับไม่ได้สำหรับใครหลายคน แต่สำคัญกว่าใครหลายคนนั้นคือเราสองคนที่ต้องเข้าใจและตอบรับไปด้วยกันก่อน
   

“ฮะๆๆ ฮิๆ” ผมหลับตาหัวเราะเพราะโดนแซ็คดันน้ำในสระว่ายน้ำเข้าใส่ แม้จะพยายามสู้แต่ก็สู้พ่อฝรั่งกล้ามใหญ่ไม่ได้ ดันมาทีน้ำกระจายรดต้นไม้รอบสระหมดแล้ว (เว่อร์)
   

“พอแล้ว พอแล้ววว!” ผมยกสองมือปิดหน้าและร้องเสียงดัง จัมโบ้กับปีโป้ยืนเห่าอยู่ริมสระ สองตัวนั้นถูกสอนว่าไม่ให้ลงสระนี้ แต่จะมีสระสูบลมให้ลงเวลาสองพี่น้องร้อน
   

“สู้กลับสิ จะได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย”
   

“โอโห ก็เพิ่งกลับมาจากฟิตเนสมั้ยล่ะ” เราสองคนออกไปฟิตเนสข้างนอกบ้านมา เป็นฟิตเนสแถวบ้าน ขับรถจากบ้านไปก็สิบห้านาทีถึง เป็นอาคารเดี่ยวตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล เราไปออกกำลังกายที่นี่เพราะน้าแพนเป็นหุ้นส่วนของที่นั่น พอกลับมาก็พากันมาลงสระเพื่อดับร้อน และให้ความสดชื่นแก่ร่างกาย
   

“วันนี้เทรนเนอร์สอนดีมั้ย” ผมมองคนถามแล้วก็หัวเราะ
   

“ดีมากเหมือนทุกวัน” แซ็คยิ้มกริ่ม
   

“แล้วนายชอบเขามั้ย”
   

“มากเลยละ” ผมหัวเราะอารมณ์ดี แซ็คยิ้มกว้าง เดินตรงเข้ามายืนตรงหน้าผมแล้วย่อตัวลงให้สูงเท่ากับผม
   

“ถ้าชอบมากก็คบเขาเป็นแฟนสิ” ผมย่นจมูกพร้อมกับเบ้ปาก เพราะเทรนเนอร์ที่ว่าก็คือเขาเองนั่นแหละ
   

“ไม่ละ เป็นอย่างนี้สบายดีแล้ว” แซ็คมองบนและทำหน้าเซ็ง
   

เขาขอผมคบเป็นแฟนหลังจากเราไปพบจิตแพทย์ในไทยเกี่ยวกับโรคทางใจที่เขาเป็นอยู่ ไม่รู้หมอหนุ่มคนนั้นแนะนำอะไรมา ถึงได้อ้อนขอผมเป็นแฟนมาสองอาทิตย์แล้ว ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกก็ตกลงกันไปแล้วว่าจะอยู่ด้วยกันแบบไหน และอยู่ยังไงให้เราสบายใจกันที่สุด แต่จู่ ๆ ก็ไม่รู้คึกคักอะไรขึ้นมาถึงขอผมเป็นแฟนไม่เหนื่อยเลย
   

“ไม่อยากคบกับฉันเหรอ” ผมย่นคิ้ว
   

“เราก็เหมือนคบกันแล้วนะ”
   

“ก็เป็นทางการไง” ผมยิ้มขำแบบไม่เปิดปาก มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กลับมาสดใสเต็มอิ่มอีกครั้งหลังจากหยุดใช้กัญชาและกลับมาออกกำลังกายบวกกับกินอาหารที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งผมก็ถือโอกาสนี้ดูตัวเองไปด้วย โดยมีเขาคอยช่วยดูแลเป็นอย่างดี
   

“ไม่ต้องมีคำนิยาม แค่เรา” ผมยกสองมือประกบแก้มของเขาแล้วบีบเข้าหากันจนปากเขายู่ แซ็คบึนปากและหลับตาลงหน้าตาคล้ายเด็กกำลังงอน ผมยิ้มกว้าง ยื่นหน้าไปหอมหน้าผากเขาหนึ่งครั้ง
   

“สถานะไม่ได้การันตีความรู้สึกหรือความสัมพันธ์ของเราสองคนซะหน่อย” แซ็คมองผมตาใสซื่อ
   

“ฉันรู้ แต่ถ้านายตอบตกลงคบกับฉัน เราก็เป็นแฟนกัน” ผมหัวเราะกับการเถียงหน้างอนของเขา
   

“ผมก็อยู่ข้างคุณ หน้าคุณ หลังคุณ รอบตัวคุณแบบนี้แหละ จะไปไหนล่ะ” ดวงตาสีเทาของแซ็คมองผมนิ่งเนิ่นนานจนผมรู้สึกเขินเลยเลิกคิ้วขึ้นและยิ้มปากเป็นเส้นตรง ในหัวคิดหาเรื่องคุยเพื่อจะได้หลุดจากสถานการณ์ตรงนี้
   

“คุณเป็นเทรนเนอร์ที่ดีได้เลยนะ ลองเอาเป็นอีกอาชีพมั้ย เผื่อรีไทร์จากหนังโป๊”
   

“จริงเหรอ ฉันเป็นเทรนเนอร์ที่ดีจริง ๆ เหรอ” ผมพยักหน้า
   

“ดีสิ ตัวคุณเองก็รูปร่างดี คงสร้างความเชื่อถือให้ลูกค้าได้มากเลยแหละ” แถมหน้าก็ดีอีกต่างหาก
   

“ฉันขอศึกษาให้มากกว่านี้ ตอนนี้ขอดูแลนายคนเดียวก่อนนะ” ผมยิ้มกว้างตาหยี
   

“ปากหวานอีกแล้ว”
   

“คนจีบกันต้องปากหวาน ๆ ไม่ใช่เหรอ” เขาพูดหน้าซื่อ เหมือนเด็กที่เพิ่งเรียนรู้กับความรู้อะไรใหม่ ๆ สักอย่าง
   

“ปากหวานไม่เท่ากับการกระทำนะ” แซ็คหรี่ตามอง
   

“หวังว่าคงไม่ได้จะสื่อถึงอะไรเป็นพิเศษ” ผมหัวเราะแล้วก็ส่ายหัวรัวๆ
   

“เปล่าสักหน่อย” แซ็คเบ้ปากแล้วยืดตัวขึ้นเต็มความสูง เผยให้เห็นกล้ามเนื้อของเขาที่กลับมาเติมเต็มเต่งตึงอีกครั้ง อาจจะยังไม่แน่นปึ้กเหมือนเดิม แต่ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามระยะเวลา ซึ่งจากที่ผอมจนเนื้อแทบติดกระดูกแล้วเนื้อกลับมาขนาดนี้ภายในสองอาทิตย์ผมถือว่าเขามีวินัยมาก ๆ แล้ว
   

“ขัดจังหวะหวานแปบนึงนะจ๊ะ…” ผมที่ลอยคออยู่ในน้ำหันไปมองน้าแพนที่ยืนยิ้มอยู่ตรงกรอบประตูหลังบ้าน
   

“…มะรืนนี้น้องติมอยากทำบุญที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”
   

“กับสัตว์พิการฮะน้าแพน น้องติมหาข้อมูลไว้แล้ว”
   

“ต้องซื้อของมั้ย” ผมพยักหน้า
   

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปซื้อกัน”
   

“Tomorrow is his birthday. We are talking about our plan on his day. (พรุ่งนี้วันเกิดของเขาน่ะค่ะ เรากำลังคุยกันเกี่ยวกับแพลนในวันของเขา)” แซ็คหันมามองผมด้วยความประหลาดใจ
   

“Why don’t you tell me? (ทำไมนายไม่บอกฉันล่ะ)”
   

“ผมไม่รู้จะบอกตอนไหน อีกอย่างไม่รู้จะบอกยังไง จู่ ๆ จะให้ผมพูดขึ้นมาเหรอว่าเดี๋ยวจะวันเกิดผมแล้ว”
   

“เคลียร์กันเอานะลูก” น้าแพนว่าขำ ๆ ก่อนหมุนตัวเดินจากไป
   

“นายพูดกับฉันตอนไหนก็ได้นี่ ฉันไม่ว่าหรอกน่า” แซ็คไม่ได้มีทีท่าโกรธเคืองหรือไม่พอใจ เขาพูดปกติธรรมดาแต่ก็หน้านิ่วคิ้วย่นอยู่เหมือนกัน
   

“ผมพูดไปก็เหมือนอยากได้ของขวัญนี่หน่า”
   

“ฉันอยากให้ วันเกิดแรกของนายที่เราอยู่ด้วยกันเลยนะ รู้กระชั้นชิดแบบนี้ฉันจะไปหาของขวัญที่ไหนให้ดีละ” ผมยิ้มด้วยความเอ็นดู ที่หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะเรื่องนี้สินะ
   

“ไม่ต้องให้สิ่งของก็ได้ เอาเงินมา เดี๋ยวผมไปซื้อเอง” ผมหัวเราะ แซ็คยิ้มขำตาม
   

“ฉันขอคิดก่อน ถ้าคิดไม่ออก เดี๋ยวเอาเงินให้ไปซื้อ แต่เงินไม่เยอะหรอกนะ ฉันต้องจ่ายค่าอพาร์ทเม้นต์อีก” ผมหัวเราะ และพยักหน้าด้วยความเข้าใจ แซ็คยื่นมือขวามาขยี้หัวผมเบาๆ
   

“ไปอาบน้ำกันเถอะ” แซ็คเดินนำไปขึ้นขอบสระ เขายื่นมือมาช่วยอุ้มผมขึ้นไปยืนด้านบน เราพากันไปอาบน้ำใต้ฝักบัวริมสระ เปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าขนหนูคนละผืน เอาเสื้อผ้าเปียกตากบนราวหลังบ้านไว้ก่อนค่อยออกมาเก็บไปซักอีกที
   

“น้องติม อาบน้ำเสร็จแล้วลงมาหาน้าหน่อยนะ” ผมหันไปพยักหน้าให้น้าแพนที่โผล่หน้าออกมาจากห้องโฮมเธียเตอร์ของบ้านก่อนจะเดินขึ้นบันไดตามแซ็คไป
   

เราอาบน้ำด้วยกัน แต่ไม่ได้ล่วงเกินกันและกัน ไม่ใช่ว่าอารมณ์ทางเพศของผมที่มีต่อเขามันหายไปแล้ว มันยังมีอยู่ ยังคงไหลเวียนในเส้นเลือดผมเหมือนเดิม แค่ช่วงนี้พักเบรกเฉย ๆ แซ็คก็เพิ่งฟื้นฟูร่างกาย และสภาพจิตใจก็กำลังปรับไปตามคำแนะนำของจิตแพทย์ เขาบอกว่าเขาชอบหมอคนนี้มากกว่าหมอที่เขาเคยเจอตอนอยู่ที่โน่น ผมเลยรู้สึกว่าช่วงนี้เป็นช่วงปรับตัวให้สภาพความรู้สึกของเขามันเข้าที่เข้าทาง
   

“ผมลงไปหาน้าแพนก่อนนะ” ผมที่แต่งตัวเสร็จแล้วบอกแซ็คที่กำลังนั่งเช็ดหัว เขาพยักหน้ารับรู้ ผมเดินออกจากห้องนอนลงไปข้างล่าง เดินไปเคาะประตูกระจกห้องโฮมเธียเตอร์ก่อนที่จะเลื่อนเปิด เข้าไปก็เจอน้าแพนกำลังนั่งกินผลไม้และดูหนังอยู่
   

“มีอะไรเหรอน้าแพน” ผมเดินไปหยิบจานชมพู่ขึ้นมาวางบนตักแล้วหยิบชมพู่ที่หั่นแล้วเข้าปาก
   

“น้าคุยกับแม่แล้วเรื่อง…” น้าแพนสะบัดมือขวาขึ้นเป็นเกลียวสองสามที ผมขำกับการออกลีลาของน้า
   

“…ความสัมพันธ์ของเรากับแซ็ค เรื่องงานของติม แล้วก็เรื่องที่ติมจะมีหนังอย่างนั้นกับเขา” ผมเล่าทุกอย่างให้น้าแพนฟังละ มีแซ็คอยู่ด้วยตอนเล่า ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ ผมก็ไปนั่งเล่าเอาแซ็คไปนินทา ส่วนตัวผมถือว่าอาการที่แซ็คเป็น ต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าตัวก่อนว่าพูดได้หรือไม่ และที่ผมเลือกพูดให้น้าแพนฟังเพราะน้าจะได้เข้าใจเรื่องราวและช่วยพูดกับแม่ได้นี่แหละ
   

น้าแพนแสดงอาการตกใจน้อยมากเมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วก็ด่าเจค็อบไปสามสี่คำ ขนาดผมพูดถึงเรื่องเว็บไซต์ส่วนตัวของแซ็คแล้วก็การลงคลิปหนังของผมกับเขา น้าแพนยังเหมือนพยายามเค้นให้ตัวเองตกใจและช็อค ก่อนจะบอกกับผมว่า น้าแพนมีเดา ๆ ไว้บ้างว่าคงมีคลิปอะไรกันเพราะเดาจากสถานการณ์การทำงานของแซ็ค แล้วก็ความเป็นเด็กฟิล์มของผม แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นอัปลงเว็บขายเป็นเงินจริงจัง
   

“แม่ว่าไงอะน้าแพน”
   

“หน้าซีด…” ผมยิ้มยิงฟันแบบแห้ง พยักหน้าด้วยความเข้าใจความรู้สึกของแม่


“…น้าพยายามไม่อ้อมโลกมาก แต่ก็ไม่ได้ว่าตรง ๆ เกินไป ให้ชีนึกออกเอง เรื่องความสัมพันธ์น่ะแม่เขาไม่ติด แล้วแต่ติม เรื่องงานแม่เขาก็ไม่ได้คิดขวางอะไรอยู่แล้ว แต่เรื่องมีคลิปด้วยกันแล้วลงขายในเว็บ แม่เขาคิดหนัก เขาเป็นห่วงติมนั่นแหละ กลัวว่าจะถูกมองไม่ดีนั่นนี่” 


“น้าแพนได้บอกมั้ยว่าคนเข้าไปดูต้องเสียเงิน” น้าแพนพยักหน้าพลางจิ้มสัปปะรดชิ้นพอดีคำเข้าปาก


“ก็บอกอย่างที่เราคุยกัน ชีก็โอเคนั่นแหละในจุดที่ติมทำแล้วได้เงิน แต่เนาะ ชีเป็นแม่อะ ก็ห่วงลูก”


“น้าแพนว่ายังไงดี เจ้านายติมเขาก็ถาม ๆ มา คือยังไม่เร่งรัดเอาคำตอบภายในเดือนนี้หรอก เพราะต้องรอแซ็คกลับไปถ่ายรูปลงเว็บอีก” น้าแพนถอนหายใจ วางจานผลไม้ไว้บนตัก หยิบน้ำผลไม้ขึ้นดื่มก่อนว่าต่อ


“น้าก็ใช่ว่าไม่คิดเยอะนะ คือน้ารู้แหละว่าเป็นแฟนกันมันต้องมีอะไรแบบนั้น แต่ไอ้เผยแพร่ให้คนอื่นดูด้วยนี่สิ น้าว่ามันก็สยิวกิ้ว” ผมอ้าปากยิ้มแล้วแลบลิ้นทะเล้น


“แต่ได้ตังค์นะน้าแพน สมาชิกรายเดือน เดือนนึงก็จ่ายเยอะอยู่ แล้วแซ็คเขามีฐานแฟนคลับรอซัพพอร์ตอยู่แล้วด้วย” น้าแพนพ่นลมหายใจอีกที สีหน้าคิดไม่ตกแต่ก็ไม่ใช่ว่าหน้าเครียดมากจนรู้สึกเครียดตามไปด้วย ผมหยิบชมพู่ขึ้นมากิน เพิ่งเห็นว่ามีพริกเกลือด้วยเลยโน้มตัวไปหยิบมาจิ้ม


“ถ้าติมยืนยันว่าติมไม่สนใจสายตาคนที่มองติมเวลาเขาจำติมได้จากคลิป ก็ทำไปลูก…” ผมอ้าปากแล้วยิ้มหน้าแช่มชื่น น้าแพนยกนิ้วชี้ข้างซ้ายขึ้น


“…แต่ว่า ต้องทำให้สำเร็จแล้วดัง ๆ เลยนะ ดังในที่นี้คือดังในวงการนั้น เป็นซูเปอร์สตาร์ไปเลย”


“โวะโฮ้ววว” ผมร้องด้วยความตื่นเต้นกับคำพูดของน้าแพน


“โกยเงินเยอะ ๆ ทำให้แม่เขาเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ให้เงินกับติมได้จริง ๆ ไม่ใช่แค่ทำเอาสนุก คึกคะนอง” ผมยิ้มทั้งที่ยังเคี้ยวชมพู่อยู่เต็มปาก


“ดาราเนอะ น้าแพน”


“เออ ดารา ถึงจะหนังโป๊แต่ก็ดาราล่ะวะ ทำให้ดีทำให้ดังนะ จะได้เชิดใส่พวกผีเจาะปากได้เริ่ดๆ”


“แต่น้าแพนไม่ต้องดูนะ น้องติมเขินอะ” น้าแพนหัวเราะขณะจิ้มแอปเปิ้ลเข้าปากหนึ่งชิ้น


“น้าไม่ต้องดูหรอก เชื่อสิ เดี๋ยวก็มีคนมารีวิวให้น้าฟังเอง” ผมยิ้มเขิน และคิดว่าหน้าคงกำลังค่อย ๆ แดงขึ้น


“ส่วนเรื่องเขากับเราน่ะ เอางี้แน่ใช่มั้ย” ผมเข้าใจสิ่งที่น้าแพนถาม เพราะประเด็นนี้น้าแพนยังเป็นกังวล ยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่


“เอางี้แหละน้าแพน ก็ลองเรียนรู้กัน ถ้าเขาทำเกินหน้าที่ ทำเกินงานเมื่อไหร่ ก็แยกย้าย…” ผมเคี้ยวชมพู่จิ้มพริกเกลือหงับ ๆ แล้วพูดต่อ


“…อีกอย่าง น้องติมรักเขาไปแล้วอะ ต้นรักกำลังโตเลย รากแน่นมากด้วย” น้าแพนหัวเราะอ้าปากกว้าง


“ฮู้ยยย มีความรักกับเขาสักทีนะ นึกว่าจะไม่เอาใครแล้ว”


“แต่พอมีทีก็สีสันเลยเนอะ” ผมหัวเราะไปกับน้าแพน ในใจรู้สึกตลกกับสิ่งที่ตัวเองพูดจริง ๆ ไม่ได้ประชดหรือมะนาวหวานองุ่นเปรี้ยวใดๆ


“เป็นความรักอีกรูปแบบแหละ ฟังครั้งแรกอาจจะเฮ้ย อะไร แต่ฟังไปสักพัก ก็เออ ได้แหละ ถึงไม่ได้มันก็ได้ไปแล้ว และถ้ามันเจิดก็ยาวไป” น้าแพนไม่กีดกันหรือว่าพยายามดันออกให้ห่างจากตัวผม แต่น้าแพนเลือกที่จะคอยดูอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ส่วนแม่ก็รู้ว่าระหว่างผมกับแซ็คเป็นยังไง แต่แม่ไม่รู้ดีเทลเท่าน้าแพน ไม่ใช่ว่าจะปิดบังแม่หรือกันแม่ออกนอกวงโคจร แต่อะไรที่จะส่งผลต่อความรู้สึกแม่ ผมก็ไม่อยากให้แม่รับรู้ เลือกให้แม่รับรู้ในสิ่งที่แม่ควรรู้จะดีกว่าในความคิดผมน่ะ


“ก็เดินไปด้วยกันเรื่อย ๆ ถ้าถึงจุดที่รู้สึกว่าควรหยุด ก็บอกตัวเอง แต่ถ้ามันไปได้ดี ก็มีความสุขกับมัน…” ผมยิ้มกริ่มพร้อมกับพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง


“…แม่กับน้าอยู่ข้างติมเสมอ ทั้งข้าง ๆ และเข้าข้าง” ผมหัวเราะตาหยี น้าแพนขยิบตาซ้ายหนึ่งที


ก๊อกๆ


“เปิดเลยจ้า!” น้าแพนตะโกนบอกคนเคาะ ประตูกระจกสีดำเข้มถูกเลื่อนออกช้า ๆ แล้วร่างสูงใหญ่ของแซ็คก็ปรากฏให้เห็น


“ขอโทษที พอดีเห็นว่าไอศกรีมหายไปนาน เลยลงมาตามหาน่ะ”


“เอ้า แฟนมาตามแล้วพ่อหนุ่ม” ผมยิ้มกว้างพร้อมกับหัวเราะเอิ๊กอ๊าก

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.44 : ฺPrivate show. : 23.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 23-06-2019 19:54:23
V
v
v


“Hey, buddy. (ว่าไงเพื่อน)” ผมหันไปมองแซ็คนั่งลงทักทายกับน้องหมาพันธุ์ไทยหูตั้งตัวสีน้ำตาลเข้มที่เสียตาไปทั้งสองข้าง แม้ว่าเจ้าหมาจะมองไม่เห็นแต่มันก็ส่ายหางเมื่อได้ยินเสียงของแซ็ค พอเขายื่นมือออกไปลูบหัวมัน เจ้าหมาน้อยก็เอาหัวถูกับมือของแซ็คด้วยความออดอ้อน


“เดี๋ยวผมเข้าไปจัดการเรื่องบริจาคของก่อน คุณนั่งเล่นอยู่กับหมาก็ได้” แซ็คพยักหน้าขณะที่กำลังเกาพุงเจ้าหมาตาบอดขี้อ้อน


เมื่อช่วงเช้าตรู่ผมทำบุญตักบาตรไปแล้ว พอสักเก้าโมงก็ออกจากบ้านมาที่มูลนิธิสัตว์พิการเพื่อเอาอาหารและของใช้จำเป็นต่อหมาแมวพิการทั้งหลายมาบริจาค ผมไม่ได้ทำแบบนี้ทุกปีหรอก บางทีก็แค่ทำบุญอย่างเดียวแล้วก็จบ ส่วนปีนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ แค่เห็นมูลนิธินี้ในอินเตอร์เน็ตเลยอยากมาทำ


“แม่ เงินที่น้องติมฝากไว้” แม่ผมหยิบซองสีขาวออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นมาให้ ผมตั้งใจเอาเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการทำงานกับลูคัสมาบริจาค คิดเอาเองว่าจะได้เป็นการเริ่มต้นที่ดี และต่อยอดให้ดีต่อ ๆ ไป ฮิๆ


“ขอบคุณมากเลยนะคะที่ร่วมทำบุญกับน้องๆ” พี่เจ้าหน้าที่หน้าตาใจดียื่นประกาศนียบัตรทำความดีกับมูลนิธิมาให้ ผมยิ้มกว้างแล้วรับไว้


“เราอุปถัมภ์น้องหมาได้มั้ยฮะ”


“ได้ค่ะ แต่ทางเราต้องขออนุญาตตรวจสอบประวัติผู้ที่จะอุปถัมภ์สักเล็กน้อยนะคะ เพราะบางคนมาเอาน้องไปแล้วใช่ว่าจะดูแลดี แถมบางคนยังทำไม่ดีกับน้องอีกทั้งที่น้องก็ไม่สมประกอบอยู่แล้ว” จู่ ๆ หัวใจผมก็แป้วและรู้สึกใจหาย ขนาดหมาเกิดมาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ยังมีคนคิดทำร้ายซ้ำเติมอีกงั้นเหรอ


“น้องติมจะรับเลี้ยงหมาเหรอ” ผมหันไปมองน้าแพนกับแม่แล้วยิ้มบาง


“ถามดู เผื่อมีคนอยากรับไปเลี้ยง” ผมหันไปมองผ่านประตูกระจกสีทึบของตึกสำนักงานที่มองเห็นด้านนอกได้ แซ็คนั่งอยู่บนพื้นหญ้าและมีเจ้าหมาตัวนั้นนอนเอาคางเกยตักเขาอยู่และเขาก็กำลังใช้มือขวาลูบหัวมัน


“ถ้ารับไปก็เอาไปอยู่บ้านเรา แต่แม่แค่กลัวไอ้จัมโบ้มันกัดเขา ปีโป้น่ะมันไม่กัดหรอก”


“ถ้ามีหมาที่บ้านอยู่แล้ว ทางเราก็ต้องขอศึกษาพฤติกรรมหมาที่บ้านผู้อุปถัมภ์ด้วยน่ะค่ะ ว่าจะเข้ากับน้องใหม่ได้มั้ย” ผมหันไปยิ้มให้พี่พนักงานและพยักหน้าด้วยความเข้าใจ


หลังจากพนักงานผู้ชายของมูลนิธิขนกระสอบอาหารและของใช้ที่ผมนำมาบริจาคลงจากรถกระบะเพื่อนน้าแพนเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินเข้าไปเยี่ยมน้องหมาน้องแมวในสถานที่เลี้ยงของทางมูลนิธิ บางตัวต้องอยู่ในกรงเป็นพิเศษ แต่บางตัวก็ถูกเลี้ยงในลานกว้าง


“บางตัวอาการสาหัสมาก แต่ใจเขาก็สู้น่ะ ก็เลยอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้” ผมหันไปพูดให้แซ็คฟังว่าพี่พนักงานพูดอะไร เขายิ้มบางและพยักหน้า


“ฉันดีใจที่ตัวเองสู้ไม่แพ้หมากับแมว จนรอดมาถึงตอนนี้เช่นกัน” ผมยิ้มให้กำลังใจ ยื่นมือซ้ายไปลูบต้นแขนขวาของเขา แซ็คยืนมองหมาตัวสีขาวแซมส้มที่ขาหน้าขาดทั้งสองขากำลังวิ่งเล่นกับเพื่อนตัวอื่นสนุกสนานแล้วคลี่ยิ้ม


“คุณเก่งมาก” แซ็คหันมามองหน้าผมด้วยสายตาอ่อนโยน


“ขอบคุณที่นายเข้ามาเป็นความหวังให้กับชีวิตฉัน”


“ไม่ใช่ผมหรอก ตัวคุณเองต่างหากที่มีหวัง ถึงได้ฮึดสู้และผ่านมันมา”


“แต่ถ้าไม่มีนาย ฉันก็คงไม่สู้ขนาดนี้” ผมยิ้มกว้าง


“โอเค ผมรับความดีนี้ไว้ก็ได้” ผมยักคิ้ว แซ็คขยับมุมปากสองขึ้นสูงจนหางตาย่น ผมหันกลับไปมองเจ้าหมาสองขาหน้าขาดหายไปที่ตอนนี้นั่งพักเหนื่อยลิ้นห้อยด้วยความเอ็นดู





“ผมเข้าไปได้หรือยังเนี่ย” ผมถามแซ็คทางโทรศัพท์


[โอเค! เข้ามาได้เลย] ผมขำคิกคักทั้งที่ยังไม่เห็นว่าเขาจะทำอะไรให้


เนื่องจากไม่มีเพื่อน ๆ คอยช่วยเหลือ แซ็คจึงบอกผมตรง ๆ ว่าจะเซอร์ไพรส์วันเกิด แต่จะไม่ให้ผมเห็นก่อนจนกว่าเขาจะอนุญาต ผมเลยต้องออกมานั่งดูหนังรอตรงพื้นที่เอนกประสงค์บนชั้นสองหน้าห้องพระ เมื่อกี้โทรเช็กกับเขาหลังจากรอเขาจัดการอะไรอยู่ในห้องนอนมาเกือบชั่วโมง


ก๊อกๆ


“ผมเข้าไปแล้วนะ” ผมตะโกนบอก ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ กลับมา ผมยืนรออีกอึดใจหนึ่งถึงบิดลูกบิดประตูและดันเข้าไปในห้องนอน


ภายในห้องมืดสนิท มีแสงสว่างเพียงจุดเดียวคือเทียนรูปตัวเลขอายุของผมที่ปักอยู่บนเค้ก แต่ที่ทำเอาผมผงะไปในแวบแรกคือหัวกระต่ายอันใหญ่สีขาวหูสีชมพู ตาโตสีฟ้าและยิ้มโชว์ฟันกระต่าย ใจผมหายวาบเพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนหนังฆาตกรรมที่ฆาตกรจะใส่หน้ากากประหลาด ๆ แล้วตามฆ่าคน


“Happy birthday, bunny!” เสียงอู้อี้ดังมาจากในหัวกระต่าย ผมหัวเราะแล้วเดินเข้าไปยืนตรงหน้ากระต่ายยักษ์ ยิ้มขำเมื่อเห็นว่าสองมือที่กำลังถือเค้กอยู่นั้นใส่ถุงมือขนสีขาวอันใหญ่ไว้ด้วย แถมกระต่ายตัวนี้เซ็กซี่สุด ๆ ด้วยการผูกโบว์สีทองไว้ตรงคอและไม่ใส่เสื้อโชว์หุ่นล่ำให้ชวนน้ำลายไหล


“Oh, this bunny is so hot! (โอ้ว กระต่ายตัวนี้ฮ็อตจัง)” ผมแกล้งแซว


“Make a wish! (อธิษฐานสิ!)” ผมหลับตาลงและอธิษฐานไม่ยาวมากก่อนจะเป่าเทียนดับทีเดียว


“Yayyy!” เสียงกระต่ายร้องด้วยความดีใจ ผมหัวเราะแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มกระต่ายเป็นการขอบคุณ


“Thank you, big bunny. (ขอบคุณนะเจ้ากระต่ายตัวใหญ่)”


“Turn on the light. (เปิดไฟสิ)” ผมเดินไปเปิดไฟตามที่เขาว่าแล้วพอหันมาก็ต้องหัวเราะอ้าปากกว้างด้วยความรู้สึกหวิว ๆ ในท้อง


“Surprised!”


“อ้ากกก” ผมร้องด้วยความเขินกับภาพตรงหน้าที่เห็น แซ็คถือเค้กด้วยมือขวาแล้วกางแขนทั้งสองข้างออก เพราะเมื่อกี้อยู่ในความมืดผมเลยไม่ได้สังเกตว่าท่อนล่างเขาใส่แค่กางเกงชั้นในทรงสามเหลี่ยมสีทองมันเลื่อมตัวจิ๋วที่รัดเป้าเขาตึงแน่นเปรี๊ยะ ผมหัวเราะถูกอกถูกใจก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพ กระต่ายตัวโตยืนเก๊กหล่อ (แม้ว่าไม่เห็นหน้า) ให้ผมถ่ายเต็มที่


“This is a video. Show your step a little bit. (อันนี้วิดีโอ เต้นหน่อยสิ)” พ่อกระต่ายตัวใหญ่เด้งเป้าขึ้นลงเบา ๆ หลายทีติดกัน ผมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก กระต่ายตัวใหญ่เปลี่ยนเป็นหมุนเอวไปตามเข็มนาฬิกาซึ่งทำได้พลิ้วสมกับเป็นนักเต้นระบำเปลื้องผ้า


“คิๆๆๆ” ผมห่อไหล่เขินเมื่อกระต่ายตัวโตเดินเข้ามาหาผมแบบที่เดินไปด้วยเด้งเป้าไปด้วย จนกระทั่งเจ้ากระต่ายยักษ์เดินมาติดตัวผมชนิดที่เป้าตุง ๆ นั้นแนบไปกับต้นขาผมแล้ว


“ว้ากกก” ผมร้องด้วยความสยิวกิ้วเมื่อแซ็คถูเป้าขึ้นลงกับต้นขาผมช้า ๆ จนขนผมลุกชันไปทั้งร่าง สักพักก็เปลี่ยนเป็นจับผมหันหลังก่อนจะเด้งเป้าใส่ก้นผมแรง ๆ หลายทีติดกัน


“วะอะๆๆๆ” ผมหัวเราะอ้าปากกว้าง ตัวสั่นไปตามแรงเด้าของเขา


“Okay, okay, take some photo. (มา มา ถ่ายรูปกัน)” ผมหยุดถ่ายวิดีโอแล้วเปลี่ยนเป็นโหมดกล้องหน้า เดินไปเอาไม้เซลฟ์ฟี่มาจัดการใส่โทรศัพท์และเปิดสัญญาณเชื่อมกัน พอเสร็จเรียบร้อยก็เข้าไปยืนซ้อนหน้าพี่กระต่าย เอนตัวเอาหัววางบนไหล่ซ้ายของเขา กระต่ายตัวใหญ่ใช้แขนซ้ายโอบเอวผมไว้ ผมชี้ไปที่กล้อง ดวงตาสีฟ้าของเจ้ากระต่ายมองกล้องไม่กะพริบ เมื่อได้ภาพที่กว้างแบบเห็นกระต่ายถือเค้กและหัวกระต่ายไม่ขาดแล้ว ผมก็กดรีโมตเล็ก ๆ ของไม้เซลฟ์ฟี่ถ่ายภาพไปหลายภาพ


“Sexyyyy” ผมยิงฟันยิ้มกว้างแล้วก็กดถ่ายภาพคู่กับแซ็คในร่างพี่กระต่ายไปหลายช็อต ผมดึงโทรศัพท์ออกจากไม้เซลฟ์ฟี่แล้วก็ใช้แขนตัวเองถ่ายรูปแทนไม้ในมุมใกล้ไปอีกสี่ห้าภาพ


“Thank you, big bunny.” ผมลดแขนลง หันไปหอมแก้มกระต่ายทั้งสองข้าง พี่กระต่ายเอาเค้กวางบนโซฟาปลายเตียง ก่อนจับไหล่สองข้างของผมแล้วดันให้ไปนั่งอีกซีกของโซฟา ยกมือทำท่าบอกว่าให้ผมนั่งนี่ก่อนที่จะเดินไปตรงตู้เก็บของ เขาถอดถุงมือข้างขวาออกเพื่อใช้กดแม็คบุ๊กของผมที่วางอยู่กับลำโพงสีดำสองอัน


“Wowww!” ผมปรบมือเมื่อได้ยินเสียงดนตรี เป็นดนตรี EDM ที่ไม่ได้หนักหน่วงหรือเสียงแตกแบบในผับบางผับที่ผมเคยไปกะเดน อันนี้เป็นจังหวะกำลังดี เสียงทุ้มหนัก


“ฮะฮ้าวววว” ผมร้องด้วยความตื่นเต้นเมื่อแซ็คยกสองมือกระต่ายปุกปุยขึ้นจับหัวแล้วก็เด้งไปซ้ายทีขวาทีตามจังหวะเพลงอยู่เกือบนาทีก่อนที่เขาจะปล่อยมือออกจากหัว หยุดเด้งเป้าแล้วยืนหันหลังครู่หนึ่งก่อนจะย่อเข่าลง สองมือวางบนหัวอีกครั้ง เหมือนว่าพอเขาจับจังหวะเพลงได้ก็เด้งก้นแน่น ๆ งอน ๆ ใส่ผมตามจังหวะดนตรี


“อ๊า อะๆๆๆ” ผมหัวเราะไปปรบมือไปด้วยความถูกใจ สักพักแซ็คก็เปลี่ยนท่าด้วยการยังย่อเข่าไว้เหมือนเดิม แต่ปล่อยมือสองข้างออกจากหัว แล้วก็หมุนเอวไปด้านขวาเป็นวงกลมและค่อยหมุนมาหาผมทั้งที่เอวยังวนหวานไม่เลิก


“วู้วว วู้ว วู้ว!” แซ็คเด้งตัวยืนขึ้น ยกสองมือจับหัวอีกรอบ เด้งเป้าฝั่งละสองทีตามจังหวะดนตรีสลับกับที่สองเท้าก้าวเดินมาข้างหน้า เดินสลับเด้งอยู่เป็นนาที พี่กระต่ายก็มายืนตรงหน้าผม แล้วพี่กระต่ายก็ทำให้ผมร้องเสียงหลงตกใจ


“โว้ววว โฮ่ววว” พี่กระต่ายแกโดดขึ้นคร่อมผมบนโซฟา เป้าสีทองตุงมันเลื่อมอยู่หน้าผมพอดี แล้วสักพักพี่กระต่ายก็จับหัวผมไว้จากนั้นก็เอาเป้าถูไปรอบหน้าผมจนผมหัวเราะตาปิด


“อ๊าๆ อ้าๆๆๆ” ผมยกสองมือตีก้นของแซ็คหลายทีติดกันเพราะขำกับสิ่งที่เขาทำ เขาเอาเป้าถูหน้าผมอยู่เป็นนาทีถึงค่อยกระโดดลงไปยืนบนพื้นตามเดิม ตรงกับจังหวะที่เพลงหยุดเล่นพอดี ผมที่ยังหัวเราะหน้าแดงหน้าร้อนปรบมือให้เขารัว ๆ กระต่ายยักษ์โค้งหัวลงเป็นการขอบคุณ


“Bad ass!” แซ็คดึงหัวกระต่ายออกจากหัวตัวเอง เผยให้เห็นหน้ายิ้มแย้มของเขากับเส้นผมที่เปียกเหงื่อเบา ๆ ผมปรบมือดังขึ้นกว่าเดิม


“วุฮู้ววว”


“You like it? (ชอบมั้ย)” แซ็คถามตาเป็นประกาย ใบหน้าสดใส ผมพยักหน้ารัวๆ


“I love it!” แซ็คยิ้มกว้าง หมุนตัวเดินเอาหัวกระต่ายไปวางบนหลังตู้ข้างแม็คบุ๊ก และถอดถุงมือปุกปุยวางไว้ข้างกัน ผมยิ้มขำตาหยีกับโบว์สีทองตรงคอและกางเกงในตัวจิ๋วสีทองมันเลื่อมตรงเป้า


“ท่าเต้นอาจจะไม่เป๊ะมาก มีเวลาซ้อมไม่กี่ชั่วโมงเอง” เขาเดินมายืนเท้าเอวตรงหน้าผม เป้าสีทองตรงกับปากผมเป๊ะ และผมก็เห็นว่าเจ้าสิ่งนั้นขยายตัวใหญ่ขึ้นจนหัวโผล่ออกมานอกขอบกางเกงในแล้ว


“แค่นี้ผมก็ประทับใจมากแล้วพ่อกระต่ายตัวโต” แซ็คยิ้มกว้าง หันไปมองเค้กช็อคโกแล็ตที่วางอยู่บนโซฟาก่อนหันกลับมามองหน้าผม


“กินเค้กมั้ย” ผมพยักหน้า


“อื้อ เอาสิ กินด้วยกัน” แซ็คเดินไปหยิบเค้กขึ้นมาถือ เขานั่งคุกเข่าลงแทนที่เค้ก ผมหันไปเตรียมจะตักเค้กกิน แต่ก็ต้องอ้าปากหวอเมื่อแซ็คดึงกางเกงในลงจนแคร็อทที่แข็งตัวเด้งออกมา


“ฉันตักให้” แซ็คบอกเสียงแหบพร่า แววตาที่มองผมนั้นคมกล้า มือขวาลดเค้กลงมาอยู่ใต้แคร็อทอันเขื่อง มือซ้ายจับแก่นกายของเขาจิ้มลงไปบนหน้าเค้กช็อคโกแล็ตจนเป็นรู เขาใช้มือซ้ายจับตรงนั้นแล้วพยายามช้อนเค้กขึ้นมาจนได้เนื้อเค้กกับช็อคโกแล็ตติดส่วนหัวแคร็อทมาประมาณหนึ่ง


“กินสิกระต่าย” เขายกเค้กออกไป ผมสบตาเขาแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม เขายิ้มมุมปากพร้อมกับยักคิ้วขวาข้างเดียว ผมอ้าปากแล้วงับของโปรดตัวเอง ใช้ลิ้นเลียเค้กกับช็อคโกแล็ตที่ติดอยู่บนนั้น รูดปากเข้ารูดปากออกสักพักจนรู้สึกว่ากวาดเนื้อเค้กกับช็อคโกแล็ตหมดแล้วก็ถอนปากออก ผมเลียลิ้นรอบปากมองแคร็อทที่ยังมีช็อคโกแล็ตกับเศษเค้กติดอยู่ประปรายแล้วก็ยิ้ม


“ขอฉันชิมเค้กบ้างสิ” ผมเงยหน้าขึ้นมองแซ็ค เขาวางเค้กลงบนพนักพิงโซฟาก่อนก้มลงมาประกบปากกับผม ลิ้นของเขากวาดในปากผมเชื่องช้าราวกับกำลังเก็บรายละเอียดรสชาติเค้กที่ยังคลุ้งอยู่ในปากของผม


“อืม…” แซ็คดึงหน้าออกไป เรายิ้มให้กัน มีช็อคโกแล็ตติดริมฝีปากบนของเขาเป็นจุดเล็กๆ


“…หวานกำลังดีเลย” ผมคลี่ยิ้ม แซ็คยื่นสองมือมาถอดเสื้อยืดของผมออกจากตัว เขาก้าวเท้าลงจากโซฟาและลงไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าผม ดึงกางเกงผมออกไปจนผมตัวเปลือยเปล่า


“เริ่มมีเต้านมแล้วนะ” เขายิ้มแซว ผมยิ้มเขิน แซ็คยื่นหน้าเข้ามาดูดนมข้างซ้ายของผมหนึ่งที แต่ก็เล่นเอาผมเสียววูบวาบ ผมยกสองแขนคล้องคอเขา แซ็คเอาสองมือวางลงบนโซฟาคร่อมตัวผมไว้ ก้มหน้าลงซุกไซ้คอผมอย่างอ่อนโยน ผมแหงนหน้าหลับตาพริ้ม ปล่อยให้ความรู้สึกอุ่นวาบแล่นไปทั่วตัว


“อืม…” ผมครางเสียงเบา ในหัวปลอดโปร่งโล่งสบาย หัวใจเบาหวิวราวกับไร้น้ำหนัก ปลดเปลื้องทุกอย่างออกไปแล้วปล่อยให้ใจไปตามความรู้สึกดี ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น


แซ็คเลื่อนลงจากคอผมไปจูบที่กลางอก และไล่จูบลงไปเรื่อยจนถึงหน้าท้อง ลงต่ำไปอีกจนเจอไอติมแท่งตั้งแข็งตระหง่าน เขาจูบส่วนหัวสีแดงอ่อนหนึ่งครั้งแล้วก็จับผมนอนบนโซฟาครึ่งตัว ตรงก้นแอ่นขึ้น แซ็คใช้สองมือแหวกก้นผมก่อนก้มลงใช้ลิ้นเลียกลีบเนื้อสีน้ำตาลอ่อน


“Ha…” ผมครางเสียงแผ่ว หลับตาพริ้มอย่างรู้สึกดี ลิ้นสีแดงของแซ็คเลียกลีบเนื้อรัวต่อเนื่องกันอยู่นานก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นแยงลิ้นเข้าออกรูตรงนั้นจนมันเปิดเป็นโพรงเล็ก ๆ เขาตวัดสายตาขึ้นมองขณะที่ปลายลิ้นของเขาแหย่เลียอยู่ข้างในไม่หยุด ผมกัดริมฝีปากแล้วยิ้ม แซ็คยิ้มในดวงตาจนผมรู้สึกเขิน เขาทำแบบนั้นสักพักก็หยุดมองผลงานตัวเองแล้วคลี่ยิ้มพอใจ


“พร้อมแล้ว” ผมเม้มปากยิ้มเขิน แซ็คผละออกจากตรงนั้น จับขาขวาผมยกขึ้น ก้มลงจูบเนื้อต้นขาด้านใน ไล่จูบตามเนื้อขาไปเรื่อยจนกระทั่งไปถึงปลายเท้าเขาก็หยุดแล้วลืมตามองผมที่มองเขาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น หัวใจเต้นตึกตัก เขาคลี่ยิ้มละมุนก่อนก้มจูบลงบนหลังเท้าของผมอย่างแผ่วเบาและเนิ่นนาน


“แซ็ค…” เขาลืมตามองผมและยิ้มอ่อน วางเท้าผมไว้บนไหล่ของเขา แซ็คหยิบเสื้อยืดผมไปเช็ดแคร็อทที่เปื้อนเค้กจนสะอาด จากนั้นเขาก็ถ่มน้ำลายใส่มือจนชุ่มแล้วเอาไปวนรอบหัวแคร็อท ทำอย่างนั้นอยู่สามครั้งจนแคร็อทเยิ้มไปด้วยน้ำลายแล้วเขาก็ยื่นมือขวามาหาผมพร้อมกับพยักหน้า ผมยกเท้าลงจากไหล่ของเขา เด้งตัวลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นมือซ้ายไปจับมือเขา เดินเข้าไปหาแซ็คอีกแค่ก้าวเดียว จากนั้นก็อ้าขาคร่อมตัวเขา


“Don’t worry. I got you. (ไม่ต้องกังวล ฉันเอาอยู่)” เขาใช้มือซ้ายจับแก่นกายให้ตั้งมั่น ผมย่อตัวลงจนกระทั่งรู้สึกถึงส่วนหัวทิ่มอยู่ตรงทางเข้า ผมยกสองแขนโอบรอบคอของเขา เรามองตากัน แซ็คพยักหน้าหนึ่งครั้ง ดวงตาสีเทาเต็มไปด้วยความเร่าร้อนอันแสนละมุนละม่อม ผมกลืนน้ำลายลงคอขณะที่กลีบเนื้อของตัวเองค่อย ๆ กลืนกินแคร็อทของโปรดเข้าไปจนเต็มลำ ผมหายใจหอบอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็สงบลงเมื่อแซ็คยกมือขวาลูบหัวผมและจูบหน้าผากผมไปที


“Welcome back. (ยินดีต้อนรับกลับมา)” แซ็คกระซิบ ผมยิ้มไม่เห็นฟัน เรามองตากัน ส่งผ่านความรู้สึกมากมายผ่านสายตา หัวใจผมเต้นถี่รัว ผมเลื่อนมือขวาลงมาแนบบนอกซ้ายของแซ็ค หัวใจของเขาเต้นเป็นจังหวะเดียวกันกับผม


“Happy birthday, bunny.” ผมพยักหน้าตอบ แกล้งตอดรัดเขาไปหนึ่งทีจนแซ็คย่นคิ้วชวนให้หัวเราะแผ่วเบา แซ็คคลี่ยิ้มเมื่อเห็นผมหัวเราะ


“You are my first love. I love you so much. (นายเป็นรักแรกของฉัน ฉันรักนายมากนะ)” ผมหอมแก้มเขาไปข้างละทีก่อนที่จะกอดเขาไว้ และกระซิบข้างหูซ้ายของเขา


“You are my first love, too. I love you so much, too. (คุณเป็นรักแรกของผมเช่นกัน ผมรักคุณมากเช่นกัน)” แซ็คกอดผมแน่น ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มในลำคอ


“And I love your grammar so much. (และฉันก็รักแกรมม่าของนายมากเลย)”


“And I love my dick-tionary so much!” ผมหัวเราะคิกคักและตอดรัดเป็นสัญญาณว่าให้เขาเริ่มได้แล้วเพราะตอนนี้ท้องน้อยผมหน่วงเหลือเกิน








เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้





แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะจ๊ะน้องกระต่ายของพี่แคร็อท ^____^ ได้ดูพี่อั้นเต้นแบบเอ็กซ์คลูซีฟเลยน้าาา

อีกสี่ตอนจะจบละเด๊อออ



เจอกันตอนหน้าค่า

 :mew1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.44 : ฺPrivate show. : 23.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 23-06-2019 21:32:47
แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ไอติม
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.44 : ฺPrivate show. : 23.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 23-06-2019 22:03:05
เป็นการป้อนเค้กที่...  :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.44 : ฺPrivate show. : 23.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 23-06-2019 22:18:18
ต่อไปนี้การชิมเค้กจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เขินแทนน้องต่ายมากๆเลยค่ะ
แต่แอบงอนขุ่นเจ้แล้ว ตัดไปจบได้แบบค้างอารมณ์มากกก
กำลังอินกับตอนสวีทที่ห่างหายไปนานเลย
อีก4ตอนจะจบแล้วเหรอคะ ยังไม่อยากให้จบเลยยยย
ว่าแต่แดนนี่คนแซ่บจะมาทวงบัลลังค์พระเอกคนยังคะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.44 : ฺPrivate show. : 23.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-06-2019 22:33:05
พอทุกข์หายไป ก็ลัลลาเลยนะ ไอติม  :a3: :a11:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.44 : ฺPrivate show. : 23.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 24-06-2019 09:25:38
 :pighaun: กว่าจะหมดเค้กก้อนนั้น
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.44 : ฺPrivate show. : 23.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-06-2019 11:00:30
เป่าเค้กได้เอ็กซ์มาก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.44 : ฺPrivate show. : 23.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 25-06-2019 00:43:01
มีความสุขนานๆนะ น้องติม นี่แหน่ะๆๆๆ :oo1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.44 : ฺPrivate show. : 23.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-06-2019 23:45:05
ได้ของขวัญวันเกิดเป็นแครอทของโปรดด้วยน้าน้องติม  :impress2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.44 : ฺPrivate show. : 23.06.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-07-2019 05:38:11
บีบหัวใจมาหลายตอนเลยค่ะ เอ็นดูไอติมมากเลย
ไอติมโตขึ้น และใจแข็งมากขึ้น เรียนรู้เยอะขึ้น
ไอติมเป็นห่วงแซ็ค เพราะรักมาก รักแรกด้วย
ต่อให้พยายามห่างยังไงก็ยังห่วง ยิ่งแซ็คเป็นแบบนี้ยิ่งห่วง

แต่ต้องยินดีที่แซ็คพยายามเพื่อไอติมและเพื่อตัวเองนะ
เสียใจนิดนึงที่แซ็คผิดสัญญาอีกแล้ว ตอนไอติมแวะซื้อของ
ตอนนี้ก็ทำได้ดีขึ้น พยายามหาอะไรทำ และมีกำลังใจดี
อดทนไว้นะ เพื่อตัวเอง เพื่อคนที่รักและหวังดี

สถานะที่ไม่ชัดเจน และตกลงกันชัดเจน เพื่ออนาคตที่สดใส

เจคร้ายกาจมาก เจครักแซ็คหรอ บ่อเงินบ่อทองก็เข้าใจ
แต่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ คือเกินคำว่าแย่ไปไกล
สภาพจิตไม่ปกติแล้ว เหมือนดิ่งลึก และต้องเอาคืนให้ได้น่ะ

ไอติมและแซ็คโชคดี ที่มีคนรักมาก ลูคัสและเจมส์มาถูกวัน
และโชคดีที่บอก จะได้มาช่วยกัน

ตลกเดน จะยังไงก็แล้วแต่ ไม่มีใครก็ยังมีเดน และให้เป็นเมื่อนนะ

น้าแพนคือคนที่เข้าใจทุกอย่างได้ดีและคอยช่วยเหลือตลอด
แอบสงสารแม่ ที่ไอติมเลือกบอก ก็รักอะเนาะ ไม่อยากให้เสียใจหรือคิดมากไป
แต่แม่ก็เข้าใจ ให้ไอติมเลือกทางเดินทางเอง แม่แค่ห่วง

ว้าววว เค้กนี้ดีจังเลยนะ เป็นวันเกิดที่สนุกสุด สุขสันต์สุดแล้วมั้งไอติม  :hao3:
แถมมีดาวเต้นมาโชว์พิเศษให้อีก ฟรีทุกรายการ และได้แต้มเบอร์แรงด้วยจ้า


หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.45 : ฺYou missed it. : 01.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-07-2019 19:27:39
Fall in lust - Chapter 45 :: You missed it. (พลาดแล้ว)







ก่อนปัจจุบัน
Castro Street, San Francisco




   
“Woohooo! Yeah! That’s right, Bryan!” ผมสีดำตัดอันเดอร์คัท ข้างบนซอยสั้นรับกับใบหน้าเรียวสวยแต่ไม่ใช่สวยแบบผู้หญิงกำลังยิ้มเริงร่า เต้นไปตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน หลายสายตาจากชายหนุ่มต่างชาติมองร่างสูงโปร่งตัวขาวสะอาดตาในเสื้อเชิ้ตขาวตัวใหญ่ทับในกางเกงยีนส์สกินนี่รัดรูปสีดำที่เนื้อผ้าขาดเป็นจุด ๆ ด้วยความสนใจ แต่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเพราะสายตากำลังมองไปที่ฝรั่งตัวสูงล่ำใหญ่ที่ตอนนี้มีรอยสักบนแขนขวาเพิ่มอีกหนึ่งลายทำให้ดูมีความดิบขึ้นมาอีกนิด
   

ผู้ชายคนนั้นอยู่บนเวทีกับกางเกงชั้นในทรงสามเหลี่ยมลายทหาร ใส่รองเท้าคอมแบ็ทสีดำ บนหัวใส่หมวกแก๊ปลายเดียวกับกางเกงชั้นใน กำลังออกสเต็ปกับเพื่อนชายฝรั่งไซซ์ตัวล่ำบึ้กพอ ๆ กันไปตามจังหวะเพลงที่เปิด สีหน้าของหนุ่มอเมริกันตาสีเทาอ่อนบนเวทีเต็มไปด้วยเอเนอร์จี้แห่งความยั่วยวน ท่าเต้นแข็งแรง ยิ่งท่าเด้งเป้าก็ยิ่งแข็งแรง สายตาที่กวาดมองเกย์เก้งและสาว ๆ นั่นแพรวพราวยิ่งกว่าสมัยก่อน
   

“กรี๊ดดด!!! กรี๊ดดด!!!”
   

เสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อหนุ่ม ๆ เหล่านั้นเดินไปคนละมุมของเวที แซ็คเดินมาตรงปลายเวทียาวแล้วค่อย ๆ ร่อนเอวลงไปคุกเข่าบนพื้นช้า ๆ จากนั้นแอ่นเป้ายั่วมือที่ยื่นมาไขว่คว้าลูบคลำ บางมือก็ยัดแบงค์สีเขียวตรงขอบกางเกงใน และบางมือก็ใจป้ำให้แบงค์เทาดำ แซ็คนั่งอยู่ตรงนั้นราวห้านาที พอลุกยืนอีกทีก็มีแบงค์เหน็บรอบขอบกางเกงจนเหมือนกำลังนุ่งกระโปรงบาน ๆ เขาถอดหมวกออกจนเผยให้เห็นทรงผมสั้นเกรียนเหมือนนายทหารในกองทัพ แซ็คโยนหมวกไปท่ามกลางฝูงชนที่ยื่นมือแย่งกันรับ จุ๊บใส่ฝ่ามือแล้วส่งจูบโปรยเสน่ห์ให้เหล่าเกย์และสาว ๆ กรี๊ดกันสนั่น เพื่อน ๆ ของเขาก็รวยไม่แพ้กัน มีเงินติดตามขอบกางเกงในกันทุกคน
   

“THANK YOU!”
   

หนุ่ม ๆ ทั้งเจ็ดคนยืนจับมือกันแล้วก็โค้งหัวลงพร้อมกันก่อนดึงตัวยืนตรงและชูมือขึ้น ไอติมหมุนตัวเดินออกจากบริเวณหน้าเวที แหวกฝูงชนจนกระทั่งหลุดพ้นออกมา ก้าวเท้าเดินไปทางห้องแต่งตัวด้านหลังเวที บอดี้การ์ดเอ่ยทักทายเขาด้วยความคุ้นเคย ไอติมทักทายกลับพร้อมกับรอยยิ้ม พอเดินถึงห้องแต่งตัวไอติมก็เดินไปตรงโต๊ะกระจกของแซ็ค หยิบโทรศัพท์มือถือทั้งของตัวเองและแซ็คขึ้นมาเช็ก ของเขามีอีเมลเข้ามาเกือบสิบฉบับ ส่วนของแซ็คมีสายไม่ได้รับจากเจค็อบ
   

“Hey, bunny!” เสียงคึกคักดังขึ้น ไอติมวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ หันตัวไปมองก็เห็นแซ็คยิ้มกว้างและอ้าแขนรออยู่แล้ว ติมหัวเราะคิกคักแล้ววิ่งเข้าไปหาแซ็คก่อนจะกระโดดกอดแซ็คไว้ สองขาเรียวแข็งแรงตวัดรอบเอวแซ็ค สองแขนคล้องคอเขาแน่น แซ็คใช้สองแขนโอบรอบเอวไอติมขณะที่เท้าก็ก้าวเดินไปอย่างไร้จุดหมายช้าๆ
   

“You are super-hot!” ไอติมบอกเสียงตื่นเต้น แซ็คคลี่ยิ้ม
   

“And are you horny when you watch it? (แล้วเงี่xนมั้ยตอนดู)” ไอติมยิ้มกริ่ม
   

“You are always turn me on dancer feet fire. (คุณทำให้ผมหงี่ตลอดแหละพ่อนักเต้นเท้าไฟ)” แซ็คหัวเราะกับฉายาตัวเองจากแกรมม่าของไอติม
   

“Let’s fire burn our bed then! (งั้นเดี๋ยวทำให้เตียงเราไฟลุกกัน!)” แซ็คฟาดมือขวาลงบนก้นเด้ง ๆ ของไอติมที่เขาปั้นให้กับมือ ไอติมแหงนหน้าหัวเราะและยิ้มเริงร่า แซ็คยื่นหน้าไปไซ้คอไอติมด้วยความมันเขี้ยว
   

“น้อย ๆ หน่อยน่า เดี๋ยวพวกฉันเกิดอารมณ์ขึ้นมา กระต่ายของแกจะโดนรุมจนแย่นะ” ไอติมมองหน้าบรูซแล้วหัวเราะกับประโยคของเขา บรูซขยิบตาให้ไอติม กระต่ายตัวจ้อยขยิบตากลับ
   

“เอาเลย เดี๋ยวฉันถ่ายคลิปให้ จะได้มีคลิปใหม่ไปลงเว็บ” แซ็คหัวเราะยิ้มกว้าง ไอติมแยกเขี้ยวใส่แซ็คแต่ก็ขำไปด้วย
   

“แกพูดแล้วนะ” บรูซยกมือชี้หน้าเพื่อน แซ็คหัวเราะพร้อมกับปล่อยไอติมลงไปยืนบนพื้น ไอติมหันไปยิ้มให้กับทีมเต้นของแซ็คคนอื่น ๆ ที่กำลังดึงเงินออกจากขอบกางเกงชั้นใน เห็นแบบนั้นเลยใช้มือดึงของแซ็คออกมาบ้าง
   

“โดนปล้นอีกตามเคยสินะ” บรูซแซว ไอติมยิ้มขำขณะที่ดึงเงินออกจากขอบกางเกงในตรงร่องก้น แซ็คแกล้งทำหน้าร้องไห้ ไอติมถือเงินทั้งหมดไว้ในมือแล้วก็จูบเงินไปหนึ่งที
   

“แม่คุมเงินเองจ้ะ” ไอติมขยิบตาให้แซ็ค ฝรั่งมองแล้วยิ้มก่อนจะอุ้มไอติมขึ้นในท่าเจ้าสาวแล้วพาเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะกระจกของตัวเอง
   

“หยิบสร้อยให้ทีสิ” แซ็คบอกหลังจากนั่งลงบนเก้าอี้และมีไอติมนั่งตัก ไอติมยัดเงินลงไปในกระเป๋าเป้ของตัวเองก่อนหยิบสร้อยจี้กระต่ายสีทองอ่อนออกมาสวมใส่ให้กับแซ็ค เขาจะถอดออกทุกครั้งเวลาทำงาน ทั้งงานเต้น งานถ่ายหนัง (โป๊) หรือตอนไปเจอลูกค้าที่เจค็อบส่งมาให้ เพราะเขากลัวทำหาย
   

“เจค็อบโทรมา คงจะบอกนัดใหม่” แซ็คกลอกตา ไอติมยิ้มเบ้ปาก ยื่นมือซ้ายไปหยิบโทรศัพท์ของแซ็คมาเปิดดู หน้าจอของแซ็คเป็นรูปของไอติมใส่ชุดหูกระต่ายสีชมพูหันก้นขาว ๆ ที่มีจุกหางกระต่ายสีเดียวกับหูมาทางกล้อง สายตามองตากล้องรูปหล่อด้วยความเย้ายวน ไอติมเห็นทีไรก็ขำกับรูปนี้
   

“ว้าว รอบนี้สาวแม่ม่ายลูกสอง อู้ แซ่บน่าดูเลยนะ” ไอติมหันรูปผู้หญิงคนนั้นให้แซ็คดูหลังจากเปิดรูปในวอทสแอพที่เจค็อบส่งมาพร้อมกับข้อมูลของลูกค้าและวันเวลาที่นัด
   

“นายอย่าทำอย่างงี้น่าไอศกรีม” แซ็คพ่นลมหายใจแล้วก็ส่ายหัว ยกมือซ้ายขึ้นเสยผมหน้าไอติมขึ้นจนเห็นหน้าผาก แซ็คยื่นหน้าจูบหน้าผากไอติมหนึ่งที
   

“ผมไม่เป็นไรสักหน่อย ” ไอติมยิ้มพลางเลื่อนดูข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นที่เจค็อบส่งมา
   

“แต่นั่นคือผู้หญิงที่ฉันกำลังจะไปนอนด้วย” สีหน้าของแซ็คไม่ค่อยสบายใจ ไอติมเงยหน้าขึ้นมอง
   

“ผมรู้ ผมอยู่กับคุณนะ วันที่คุณทำสัญญาฉบับนี้…” ไอติมหอมแก้มแซ็คและยิ้มให้ พยายามทำให้เขาสบายใจ
   

“…ผมช่วยตรวจสอบไงว่าเจคจะไม่ส่งโรคอะไรมาให้คุณเพื่อให้คุณมีแผลเพิ่มเติมจากจุดนี้” ไอติมชี้ไปที่แผลเป็นจากรอยบุหรี่จี้บนผิวของแซ็ค
   

“นายโอเคจริง ๆ ใช่มั้ย” แซ็คยังคงรู้สึกไม่สบายใจ ไอติมยิ้มให้กำลังใจแซ็ค
   

“แซ็ค นี่มันครึ่งทางของสัญญาแล้ว หนี้สินก็ลดลง และคุณเองก็จบกับพวกเธอจริงหลังจากเสร็จกิจกาม…” ไอติมย่นคิ้วพร้อมกับหรี่ตามองแซ็คที่กำลังทำหน้าเลิ่กลั่ก
   

“…ก็มีบ้างบางคนที่คุณอาจจะจบลงยากสักหน่อย แต่ก็ถือว่าทำได้ดี” ไอติมยิ้มเบ้ปากเล็ก ๆ แซ็คถอนหายใจแล้วก้มหน้าลงซุกอกไอติม
   

“แต่ฉันไม่เคยรักพวกเธอนะ”
   

“รักก็ได้ถ้าคุณอยาก ผมก็แค่ไป” แซ็คดึงหน้าขึ้นมองไอติมแล้วทำหน้ามุ่ยใส่ ไอติมยิ้มหัวเราะ
   

“ฝันไปเถอะ” ไอติมยิ้มขำ สองมือยกประกบหน้าของแซ็ค
   

“อย่าคิดว่าตัวเองไม่ดีน่า ผมก็ใช่ว่าจะดีไปกว่าคุณ” ช่วงแรกแซ็คมองหน้าไอติมนิ่ง แต่สักพักพอไอติมหันไปมองอีกทาง แซ็คก็หรี่ตาก่อนหันไปมองทางที่ไอติมมองแล้วก็เห็นว่าไอติมกำลังยิ้มให้บรูซที่ยิ้มตอบกลับมา แซ็คกลอกตาแล้วยกมือซ้ายดันหน้าไอติมให้กลับมามองตัวเอง
   

“บรูซมันชอบนายยิ่งกว่าเลโอ ฉะนั้นคือไม่” ไอติมยิ้มกว้าง
   

“แต่คุณก็ให้เลโอมีอะไรกับผมอีกรอบนะ เลโอก็ยังไม่ได้แย่งผมไปสักหน่อย”
   

“ไม่ ลูคัส บรูซ และไอ้เดนนี่ เป็นข้อห้าม ข้อห้ามที่อันตรายมากด้วย” แซ็คพูดสีหน้าจริงจัง ถ้าไอติมสกรีนผู้หญิงให้เขา เขาเองก็สกรีนผู้ชายให้ไอติมเช่นกัน แซ็ครู้ว่าคนไหนแค่นอนด้วยกัน ถ่ายคลิปด้วยกันแล้วจะจบแค่นั้น และรู้ด้วยเช่นกันว่าคนไหนจะมากกว่านอกเตียง กับไอ้เลโอเขารู้ว่ามันไม่ได้คิดกับไอติมเหมือนตอนไปเที่ยวด้วยกันแล้ว เขาจึงยอมให้เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อตอนวันเกิดของมัน โดยที่เขาพาไอติมไปเซอร์ไพรส์มันเอง
   

“ทำอย่างกับเราคบกันแล้วงั้นแหละ” ไอติมแกล้งแซว และเป็นประเด็นที่พอแซวแล้วแซ็คจะฟึดฟัด ครั้งนี้ก็เช่นกัน แซ็คถลึงตาใส่ไอติมพร้อมกับตีก้นเขาไปที
   

“งั้นก็เป็นสิ ฉันขอนายคบมากี่ครั้งแล้ว” ไอติมเบะปากแล้วสั่นหัว แซ็คมองด้วยความหมั่นไส้ก่อนพุ่งหน้าซุกไซ้คอไอติมจนไอติมหัวเราะคิกคัก
   

“No!”
   

“Fuck!” แซ็คคำรามและขยี้จมูกลงบนเนื้อคอของไอติมแรงๆ



   





มันไม่ใช่สิ่งที่ไอติมกลัว ไม่ใช่สิ่งที่ไอติมคาดการณ์ไว้ หรือคิดเอาไว้ว่าจะต้องเกิดขึ้น ไอติมใช้ชีวิตในแต่ละวันของตัวเองเท่าที่อยากจะใช้ อยากกินก็กิน อยากนอนก็นอน อยากคิดงานก็คิด อยากทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าวันไหนต้องทำงานก็ทำตามหน้าที่ของตัวเอง ไม่ได้มานั่งหวาดระแวงหรือนับวันรอว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่กับการที่แซ็คจะเกิดความรู้สึกพิเศษกับลูกค้าสักคนหนึ่ง
   

“คุณคิดว่าไงเหรอฮะแซ็ค”
   

“…” ไม่มีการตอบรับกลับมา ไอติมจึงหันหน้าจากจอแม็คบุ๊กไปมองอีกคนที่นอนเหยียดตัวยาวอยู่บนเตียงข้างกัน แซ็คกำลังพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์
   

“แซ็ค…” แซ็คกดส่งข้อความก่อนหันไปมองไอติมหน้าตางุนงง ไอติมย่นคิ้วแล้วยิ้มมุมปาก
   

“…วันนี้รอบที่สี่แล้วนะที่ผมเรียกหรือถาม แล้วคุณจดจ่อกับการพิมพ์ข้อความในมือถือ” ไอติมไม่ได้พูดเสียงเหวี่ยง จับผิดหรือขุ่นเคือง พูดเหมือนประโยคปกติทั่วไป
   

แซ็คกะพริบตาพร้อมกับหลบตาไอติมแล้วค่อย ๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงก่อนหันไปคุยกับกระต่าย “ว่าไง”
   

“ผมถามว่าทริปบาฮามาสช่วงซัมเมอร์นี้น่าสนใจมั้ย” ไอติมหันหน้าจอแม็คบุ๊กให้แซ็คดู หนุ่มฝรั่งมองรายละเอียดบนหน้าจอครู่หนึ่งก่อนเม้มปากและมีทีท่าลังเล
   

“วันที่ xx ฉันน่าจะยังอยู่มัลดีฟส์” ไอติมเลิกคิ้วขึ้น
   

“โอ้ว คุณจะไปมัลดีฟส์เหรอ” แซ็คมองหน้าไอติมด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนแต่ก็พยักหน้าลงหนึ่งครั้ง ไอติมหรี่ตามองแซ็คแวบหนึ่งแล้วก็ยิ้มบาง
   

“ไปกับใครเหรอ” ไอติมไม่ได้จี้ถาม ไม่ได้ใช้น้ำเสียงใดเป็นพิเศษ ถามเหมือนถามทั่วไป
   

“คือ เธอซื้อเวลาต่อน่ะ แต่ขอเป็นนอกสถานที่บ้าง” ถึงแม้จะพูดอยู่บ่อย ๆ ว่าเข้าใจ แต่หัวใจไอติมก็กระตุกไปวูบหนึ่งจนรู้สึกเหมือนอกโล่ง ๆ ไป
   

“แม่ม่ายคนนั้นน่ะเหรอ” หัวใจไอติมเต้นเป็นจังหวะหน่วง ๆ ร่างกายเย็นเฉียบ แซ็คหลบสายตาไอติมแล้วก็พยักหน้าลงเป็นการยอมรับ ไอติมยิ้มอ่อน หันมองหน้าจอแม็คบุ๊กแล้วยิ้มมุมปากก่อนจะกดดีลีทแพลนทริปบาฮามาส
   

“งั้นบาฮามาสก็ไม่ต้องแล้ว แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมหาทริปใหม่”
   

“บันนี่” แซ็คเรียกเสียงแผ่ว ไอติมยกมุมปากทั้งสองข้างขึ้นเป็นรอยยิ้ม
   

“ฮึ? ว่าไง”
   

“มันยังคงเป็นงาน แค่เธอขอขยายเวลา และเปลี่ยนสถานที่ใหม่” ไอติมยิ้มอ่อนโยน
   

“แซ็ค ต่อให้คุณจะติดใจรสชาติของเธอคนไหน แต่คุณไม่เคยไปเที่ยวกับพวกเธอ และไม่เคยกดส่งข้อความทั้งวันแบบนี้…” ดวงตาของแซ็คสั่นไหว
   

“…ยังไงซะ เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว ขอแค่คุณบอก ว่าคุณจะจริงจังกับเธอหรือไม่” แซ็คมีสีหน้าสับสน
   

“ฉันไม่รู้ แต่…” แซ็คมองไอติมด้วยความไม่แน่ใจ แต่พอเห็นว่าไอติมพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าให้พูดต่อก็เลยเปิดปากพูด
   

“…เหมือนอยู่กับแม่” ไอติมยิ้มขำน้อยๆ
   

“เพราะเธออายุเท่าแม่คุณหรือเปล่า โอ้ว มุกตลกน่ะ” ไอติมพับจอแม็คบุ๊กลงแล้วเอาไปวางบนโต๊ะทำงานที่เป็นโต๊ะไม้ฝั่งเตียงตัวเอง
   

เหมือนแม่ ผู้หญิงที่เขารักมากสินะ…
   

“บันนี่…”
   

“ไปเที่ยวให้สนุกเถอะแซ็ค และอย่าลืมป้องกันทุกครั้ง ต่อให้คุณจะรู้สึกพิเศษกับเธอแค่ไหน แต่ถ้ายังไม่ถึงขั้นตกลงปลงใจจริงจังต่อกัน ก็ต้องระวังไว้”
   

“ฉันยังสับสนอยู่” ใบหน้าของแซ็คยุ่งเหยิงตามความรู้สึก
   

“ตลอดระยะเวลาเกือบสามปีที่ผ่านมา คุณผ่านลูกค้าเจค็อบมามากมาย นี่เป็นคนแรกที่ทำให้คุณสับสน…” สีหน้าแซ็คหม่นลง แววตาหมองเศร้า ไอติมยังคง (พยายาม) ยิ้มเหมือนเดิม
   

“…ไปเที่ยวกับเธอครั้งนี้ รีบหาคำตอบให้ชัดเจนซะ”
   

“แล้วนายล่ะ” ไอติมทำหน้างง
   

“ผมทำไม?”
   

“นายจะยังไปเที่ยวไหนหรือเปล่า” ไอติมหัวเราะ แต่ครั้งนี้เป็นการหัวเราะที่ผสมความหงุดหงิดเอาไว้ด้วย
   

“ผมไปอยู่แล้วละแซ็ค แต่แค่ทริปนั้นไม่มีคุณด้วยไง” ไอติมว่าจบก็ล้มตัวลงนอน ดึงผ้านวมขึ้นมาห่ม แซ็คพ่นลมหายใจพร้อมกับพลิกตัวนอนหงาย โทรศัพท์ของเขาสั่นเพราะมีข้อความเข้า แซ็คกำลังจะกดพิมพ์แต่ก็ชะงักเพราะโคมไฟฝั่งไอติมดับวูบลง เหลือแสงโคมไฟฝั่งเขา แซ็ครีบพิมพ์ข้อความแล้วกดส่งก่อนจะปิดโคมไฟฝั่งตัวเอง และนอนหลับทั้งที่ไม่รู้สึกอยากจะหลับ



   






หลังจากคืนนั้นไอติมกับแซ็คก็คุยกันนับครั้งได้ ไอติมไม่ได้มึนตึงใด ๆ ใส่แซ็ค ยังคงทำตัวตามปกติ แต่ก็ยอมรับว่าเปิดปากพูดด้วยยากและลำบากใจจะพูดอย่างไรก็ไม่รู้ แซ็คที่เหมือนจะรู้ตัวว่าสถานการณ์เป็นยังไงจึงเงียบกว่าปกติ แต่ก็ชวนคุยบ้างตามเวลาและโอกาสที่หาได้ แต่ก็ไม่ใช่การคุยกันแบบแนบชิดสนิทนัก
    

ช่วงนี้แซ็คไม่มีถ่ายหนัง ทั้งของสตูดิโอและกับไอติม เว้นระยะมาก็เดือนแล้ว แต่ยังมีโชว์เต้นทุกสัปดาห์กับทีมเต้น ทั้งที่ร้านประจำและร้านใหม่ มีบินไปเวกัสบ้างในบางครั้ง และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาเมื่อเขามีเวลาคือการไปอยู่กับเธอคนนั้น ไอติมไม่ได้ถามไถ่ต่อหรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติมว่าเธอซื้อเวลาเพิ่มขนาดนี้เลยหรือว่ายังไง ไอติมปล่อยให้แซ็คใช้ชีวิตของเขา
   

“ผมดีใจมากที่คุณสองคนตอบรับเข้ามาเป็นนักแสดงของค่ายเรา” ไอติมพูดกับชายหนุ่มฝาแฝดรูปหล่อและหุ่นล่ำบึ้กตามมาตรฐานของค่ายด้วยความตื่นเต้น เพราะเขาเล็งคู่แฝดอเมริกันคู่นี้มานานแล้ว


ไอติมเจอแฝดคู่นี้ในอินสตาแกรม และให้ลูคัสจัดการคุยให้ก่อน ลูคัสใช้เวลาสามเดือนในการเข้าหาฝาแฝดคู่นี้ พูดคุยกันจนฝาแฝดยอมเปิดใจ และสุดท้ายก็ได้พามาคุยกับไอติมแบบยังไม่จริงจังนักเมื่อเดือนก่อน ไอติมพูดถึงคอนเซ็ปต์สำหรับสองคน จำนวนหนังที่ต้องแสดงในระหว่างที่มีสัญญากับทางค่าย และตอบคำถามที่ทั้งคู่สงสัย ไอติมถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเพราะอย่างน้อยเขาก็ยอมรับฟัง แม้ว่าหลังจากคุยกันเสร็จพวกเขาจะขอเวลาตัดสินใจก่อนก็ตาม แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ตอบตกลง
   

“ก็ต้องยอมรับว่าชีวิตเราสองคนอยู่ในช่วงวิกฤติน่ะ ได้งานนี้มาคงช่วยเราได้เยอะ แต่ถ้าข้อเสนอและคอนเซ็ปต์งานไม่น่าสนใจ เราก็ไม่ตอบรับหรอก จริงมั้ยล่ะ” ไอติมยิ้มด้วยความปลื้มใจ หันไปมองลูคัสที่นั่งอยู่ข้างกันด้วยสายตาขอบคุณ ลูคัสยิ้มมุมปากพร้อมกับยักคิ้ว
   

“Then welcome to BEEFFET studio. (งั้นก็ขอต้อนรับสู่สตูดิโอบีฟเฟ่ต์นะฮะ)” ไอติมยื่นสองมือออกไปข้างหน้า สองหนุ่มฝาแฝดยิ้มอย่างเป็นมิตรและยื่นมือคนละข้างมาเช็กแฮนด์กับไอติม
   

“วันนี้ก็ถ่ายพอร์ตเทรตตามที่บอกนั่นแหละ พร้อมนะ” หนุ่มแฝดรูปหล่อพยักหน้าพร้อมกันเป็นคำตอบให้กับคำถามของลูคัส
   

จากค่ายที่เริ่มต้นมีนักแสดงในสังกัดเพียงสามคน และทีมงานไม่ถึงสิบคน วันนี้ค่ายหนังของลูคัสขยายใหญ่มากขึ้น ด้วยการมีนักแสดงชายในสังกัดทั้งหมดสิบห้าคน และตอนนี้เพิ่มมาเป็นสิบเจ็ดคนแล้ว โดยที่ทุกคนเป็นพระเอกฝ่ายรุกทั้งหมด ซึ่งจริง ๆ สามารถมีได้มากกว่านี้ แต่เพราะเซ็กซ์ครีเอทีฟมีมาตรฐานในการเลือกพระเอกเข้าสังกัดค่อนข้างซับซ้อน


ไม่ได้สูง แต่เป็นซับซ้อน เพราะเลือกจากเซ้นส์จากความรู้สึกของเจ้าตัวล้วน ๆ ไม่ใช่เพียงมองแค่หน้าตาหรือรูปร่างแล้วจบ บางคนหน้าตาหล่อเหลามากแม้แต่ผู้ชายแท้ ๆ ด้วยกันยังชื่นชม แต่ครีเอฟทีฟก็ส่ายหัวปฏิเสธ เพราะไม่จับใจเขา ไม่มีอะไรดึงดูดได้อีกเลยนอกจากหน้า แม้จะเรื่องมากในการเลือก แต่ส่วนมากที่เซ็กซ์ครีเอทีฟคนเก่งของลูคัสเลือกมาก็มักจะเป็นที่นิยมชมชอบของคนดูจริง ๆ ลูคัสเลยแทบไม่เคยขัด เพราะผลงานของลูกสาวนั้นดีมากกว่าเสีย แม้ทุกวันนี้จะยังไม่เข้าใจว่าไอศกรีมเลือกจากจุดไหนกันแน่


ส่วนทีมงานจากไม่ถึงสิบคน ตอนนี้ก็มีสิบคนพอดี โดยอาศัยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ใครว่างก็ไปช่วยอีกตำแหน่งแบ่ง ๆ กันไป เพราะจะได้เป็นการประหยัดงบของค่าย แม้จะขยายใหญ่ขึ้นแต่ก็ยังไม่ใช่ค่ายใหญ่มหาอำนาจเท่ากับของเจค็อบหรือค่ายที่อยู่มาเนิ่นนานแล้ว
   

แต่ไอติมก็พึงพอใจมาก ๆ แล้วกับสิ่งที่เป็นอยู่ ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่เกิน อยู่ในระดับที่พอดี แต่มีแฟน ๆ ติดตามกันเหนียวแน่นด้วยเนื้องานและนักแสดงที่คัดมาอย่างดี เว็บไซต์ของค่ายหนังมีสมาชิกแบบทั้งจ่ายรายเดือนและจ่ายรายปีรวมกันแล้วก็เกินครึ่งหมื่นคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก
   

“เพื่อนเราที่เป็นเกย์การันตีว่าค่ายของคุณเจ๋ง มันเชียร์อัพให้เรามา ช่วยพวกคุณกล่อมเราอีกแรง” หนึ่งในฝาแฝดพูดขึ้นขณะที่กำลังถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกาย
   

“ขอบคุณเพื่อนคุณคนนั้นเหลือเกิน” ไอติมยิ้มเป็นปลื้ม สองแฝดยิ้มหล่อ ชวนให้ไอติมใจเต้นตุบ ๆ หน้าตาทั้งสองไม่ใช่คนหล่อจัด แต่มองแล้วไม่เบื่อทั้งคู่ หุ่นลีนกำลังสวยงาม ลูบแล้วลื่นมือดั่งที่นึก
   

แต่ก็ใช่ว่าเซ้นส์ไอติมจะลงล็อค ถูกเป๊ะไปทุกครั้ง ถูกบ้างผิดบ้างสลับกันไป แต่ส่วนใหญ่จะได้ที่ถูกที่ใช่มา ที่สำคัญเลยคือไม่ใช่ทุกคนที่ไอติมเล็งหรืออยากได้มาเป็นนักแสดงจะตอบรับกับสายงานนี้ ซึ่งเมื่อเป็นแบบนั้นก็ต้องทำใจและปล่อยพวกเขาไป เดินหน้าหาหน้าใหม่ ๆ เข้ามาประดับค่ายและวงการหนังโป๊ ซึ่งไอติมยังคงยืนหยัดแนวคิดที่ว่า ค่ายนี้จะไม่มีฝ่ายรับ มีแต่ฝ่ายรุก นักแสดงชายคนไหนอยู่ในพาร์ทหนังเกย์ก็จะได้แสดงร่วมกับนักแสดงฝ่ายรับนอกสังกัดหรือพวกอิสระเท่านั้น เช่นเดียวกับพระเอกที่แสดงในพาร์ทหนังชายหญิงก็จะได้แสดงกับนักแสดงหญิงนอกสังกัดหรืออิสระ
   

และสิ่งนี้ทำให้ไอติมคิดถูกตรงที่มันเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจให้กับค่ายของลูคัส ในโลกวงการหนังโป๊ ค่ายลูคัสถือว่าเป็นค่ายขนาดกลางที่โดดเด่นไม่แพ้ค่ายใหญ่ ๆ ที่อยู่มานาน ไอติมดีใจที่ทุกคนพากันเดินทางมาถึงจุดนี้ พากันรอดมาจนได้ ไม่ได้ล้มลงกลางทางหรือว่าเจ๊งไปซะก่อนแบบที่กลัวกันไว้
   

“เดน มึงขึ้นไปยืนบนเตียงแล้วถ่ายเขาสองคนได้ป้ะ…” เดนนี่พยักหน้าให้กับคำบอกของเพื่อนและขึ้นไปยืนบนเตียง เล็งกล้องไปที่ฝาแฝดที่ตอนนี้ตัวเปลือยเปล่าไปทั้งตัวแล้ว
   

เดนนี่รับงานเป็นตากล้องทั้งภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งให้กับค่าย เดนนี่ต้องปรับตัวเยอะมากกับการทำงานในวงการนี้ เพราะไม่เคยทำจึงทำให้ต้องเรียนรู้กันพักใหญ่ ประเด็นสำคัญที่เดนนี่พยายามเรียนรู้คือการห้ามไม่ให้เกิดอารมณ์ทางเพศระหว่างถ่ายนักแสดง แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เดนนี่จึงปล่อยไป ครั้งไหนมันเกิดก็ให้มันเกิด แต่ครั้งไหนไม่เกิดก็สบายตัว


เดนนี่ยังไม่ใช่ตากล้องประจำเหมือนดัสติน เพราะเดนนี่ยังต้องช่วยกิจการของบ้านอยู่ ซึ่งลูคัสไม่ได้ติดขัด เพราะถึงยังไงก็ใช่ว่าจะมีถ่ายทุกวัน อาทิตย์นึงถ่ายมากสุดก็สี่เรื่อง นอกนั้นก็วันตัดต่อ คิดการตลาด และพักผ่อนตามอัธยาศัย


“ไบรอั้นมันไปมัลดีฟส์เหรอ” ลูคัสถามไอติมระหว่างที่เดนนี่กำลังถ่ายภาพพอร์ตเทรตให้ฝาแฝดตรงฉากแบ็คกราวด์สีขาว ไอติมหันไปยิ้มอ่อนให้ลูคัสแล้วพยักหน้าหนึ่งครั้ง


“ไปหนึ่งอาทิตย์ฮะ แล้วก็อาจจะไปต่อที่อื่นด้วย” ลูคัสมองไอติม เห็นว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าเรียบเฉย สายตามองการทำงานตรงหน้าด้วยความปกติ


“เราไปเที่ยวกันมั่งมั้ยล่ะ ชวนกันทั้งค่ายนี่แหละ ใครว่างก็ไป ใครไม่ว่างก็ไม่เป็นไร” ไอติมหันไปยิ้มกว้างกับลูคัส


“ก็ดีนะฮะ แต่แซ็คก็ไม่ได้ไปด้วยน่ะเหรอ” ลูคัสเบะปาก


“ช่างหมอนั่นสิ ยังไงเขาก็ได้ไปเที่ยวมัลดีฟส์อยู่แล้วนี่”


“ใครไปมัลดีฟส์วะ” เดนนี่ที่เดินไปเช็กภาพบนหน้าจอแม็คบุ๊กโปรถามไอติมเป็นภาษาไทยโดยที่ไม่ได้มองหน้าคนถูกถาม สายตากำลังจับจ้องภาพของฝาแฝดบนจอ ไอติมหันไปหาสองแฝดแล้วบอกว่าเดี๋ยวจะไปถ่ายตรงฉากสีน้ำเงินอีกห้องหนึ่งแล้วก็สวนด้านนอก เจมส์เดินเอาผ้าขนหนูเข้าไปยื่นให้สองแฝดรับไปพันช่วงล่าง ไอติมหันกลับไปมองเดนนี่ที่ยืดตัวขึ้นสูงแล้วหันมามองเขาพอดี


“แซ็คอะ” เดนนี่ย่นคิ้ว


“อ้าว แล้วมึงไม่ไปกับเขาล่ะ”


“ไปได้ไงอะ เขาไปกับสาว” เดนนี่ย่นคิ้วอีกที หันไปมองฝาแฝดพากันเดินออกไปจากห้องแล้วหันกลับมาหาไอติม


“เดี๋ยวคุยกัน” เดนนี่เดินตามออกไป ไอติมหันไปหาลูคัส


“ผมสนใจเรื่องทริปนะฮะ ไปพักผ่อนก็ดีเหมือนกัน ถือว่าเป็นทริปทัวร์กับบริษัท”


“ดีล” ลูคัสยกมือซ้ายขึ้น ไอติมยื่นมือขวาไปแตะมือกับลูคัส เจ้านายไอติมกุมมือครีเอทีฟคนเก่งก่อนเดินจูงมือกันออกไปข้างนอก

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.45 : ฺYou missed it. : 01.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-07-2019 19:28:11
V
v
v


“เดน แน่ใจเหรอ” สีหน้าของไอติมไม่แน่ใจตามคำถาม


“กูอะแน่ใจ มึงล่ะ”


“มันก็ได้แหละ ยังไงกูกับมึงก็ได้กันแล้ว แล้วก็ มึงก็ยังโสด กูก็ยังถือว่าโสดแหละมั้ง”


“มึงโสด มึงยังไม่ได้คบกับมันอย่างที่มึงบอกไง ถ้ามึงจะมีกูอีกคนก็ไม่เป็นไร มันยังมีเลย” เดนนี่พูดเสียงเข้ม สายตามองจอทีวีในอพาร์ทเม้นต์ของไอติมกับแซ็คตาวาววับราวกับจอทีวีตรงหน้าคือแซ็ค


“มึงยังไม่ลืมข้อเสนอนั้นอีกเหรอเนี่ย” ไอติมมองด้านข้างเดนนี่แล้วยิ้ม


“ไม่ลืม แซ็คมันเปิดโอกาสให้กูเอง ก็ทำให้มันรู้ไปเลยว่ามึงก็มีทางเลือก” ไอติมยิ้มขำ ยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายของหนุ่มลูกครึ่ง เพื่อนสนิทของกระจ่ายตัวจ้อยหันมามอง


“ถามจริงเดน มึงชอบกูรึเปล่า” เดนนี่มองตาไอติมนิ่ง เดนนี่ไม่ตอบคำถามนั้นแต่ยื่นหน้าเข้าไปประทับริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากสีแดงของไอติมอย่างอ่อนโยน


แกร๊ก!


“Hey!” เสียงดังขึ้นจากตรงประตู ไอติมกับเดนนี่ผละออกจากกัน เดนนี่เงยหน้าขึ้นมอง ไอติมหันหลังไปมองก็เจอแซ็คยืนหน้าตึงก่อนใช้เท้าซ้ายถีบประตูดังปัง เจ้าของบ้านลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาวางตรงตู้เย็น และวางกุญแจห้องไว้บนเค้าน์เตอร์บาร์แล้วก้าวเท้ามายืนใกล้กับโซฟาห้องโถง


“Why did you let him in, bunny? (ให้เขาเข้ามาได้ยังไงบันนี่)”


“Denny came to stay with me, (เดนนี่มาอยู่เป็นเพื่อนผม…)”


“While you were with another woman at Maldives. (…ช่วงที่คุณไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นที่มัลดีฟส์)” เดนนี่พูดแทรกประโยคจนจบและมองตาของแซ็คสงบนิ่งด้วยความไม่สะทกสะท้านใดๆ


แซ็คพ่นลมหายใจ สีหน้ายังตึง ๆ อยู่ “Then you can go back now. I’m already here. (งั้นก็กลับไปได้ละ ฉันกลับมาแล้ว)”


“He can’t. He will spend the night at here. (กลับไม่ได้หรอก เดนนี่จะนอนนี่)” ไอติมชิงพูดก่อนที่เดนจะพูด แซ็คขมวดคิ้วหน้าตาไม่พอใจ


“He has the car. Let him back to his brother’s dorm. (เขามีรถนี่ ให้เขากลับไปหอน้องชายเขาสิ)”


“I want to stay with my boyfriend. (ผมอยากนอนกับแฟนผม)” แซ็คชะงัก มองท่านั่งของทั้งสองคนให้ชัด ๆ ก็เห็นว่าไอติมนั่งพิงเดนนี่โดยที่เดนนี่กำลังกอดคอไอติม


“Boyfriend? What the heck? (แฟน? นี่มันห่าอะไรกัน)” แซ็คพูดด้วยความหงุดหงิดทั้งน้ำเสียงและหน้าตา ไอติมมองด้วยสายตาปราม แซ็คขบกรามแน่น พยายามระงับความขุ่นเคืองในอก


“You have that chic widow. Ice-cream has me. It’s a balance. (คุณมีเจ๊แม่ม่าย ไอติมมันก็มีผม มันคือความสมดุล)” ใบหน้าของแซ็คเรียบตึง


“ฉันไม่ได้มีเธอ เธอไปแล้ว ฉันขาดเธอได้ ไม่ใช่นาย ไอศกรีม” ไอติมยังคงนิ่ง ไม่มีอาการหวั่นไหวทั้งแววตาและสีหน้า ไอติมลุกขึ้นเดินไปยืนตรงหน้าแซ็คช้าๆ


“ถึงยังไงเดนนี่ก็จะอยู่ ผมตกลงคบกับเขาไปแล้ว ถ้าคุณรับไม่ได้ ผมยินดีออกไปอยู่กับเดน แต่ถ้าคุณโอเค เราจะอยู่ด้วยกันสามคน” แซ็คมองไอติมด้วยความตะลึง เลื่อนสายตาไปมองเดนนี่ที่ยักคิ้วกลับมา สีหน้าที่เรียบตึงตอนแรกของแซ็คเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิดทันที


“ไอศกรีม นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรือประชดประชันนะ” ไอติมมองแซ็คตาไม่กะพริบ


“ผมไม่ได้ล้อเล่น และถ้าคุณรู้จักผมมากพอ คุณจะรู้ว่าผมไม่เคยประชดประชันคุณเลยสักครั้ง” แซ็คมองไอติมด้วยความสับสน หัวใจหล่นวูบไปไหนต่อไหน


“ไอศกรีม ฉันหาความชัดเจนเจอแล้วตามที่นายบอก แต่ทำไม…”


“…คุณควรรู้ไว้นะแซ็ค คุณไม่ใช่คนเดียวที่มีทางให้เลือกไป ไอติมมันก็มีเหมือนกัน และทางนั้นก็คือผม” เดนนี่พูดแทรกขึ้นน้ำเสียงราบเรียบ แซ็คไม่ได้มองเดนนี่เลย สายตาของเขามองไอติมด้วยความเจ็บปวดและความหวาดกลัว ไอติมหันมองทางอื่นเพื่อหลบสายตาของแซ็ค


“แล้วถ้านายคบกับหมอนั่น แล้วฉันล่ะ ฐานะอะไร” หัวใจไอติมวูบวาบ หันไปมองแซ็คที่มองกลับมาด้วยความเศร้า ไอติมตีหน้านิ่งแต่แววตานั้นสั่นไหว


“เราก็ยังเป็นเหมือนเดิม เรารักรัก ดูแลกัน หวังดีต่อกัน และยินดีต่อกันเมื่อใครเจอคนที่ใช่” แซ็คมองตาไอติมด้วยความหมดหวัง แววตาของเขาเป็นแววตาเดียวกันกับตอนที่เขาอยู่ในช่วงแย่ทั้งร่างกายและจิตใจ


“ทางเลือกฉันตอนนี้คือให้นายอยู่กับฉัน…” แซ็คพูดเสียงแผ่วเบา ขยับเท้าเข้าไปใกล้กับไอติมที่เบ้าตามีน้ำตาคลอ


“…ได้ ไอศกรีม เราจะอยู่ด้วยกันสามคน” แซ็คดึงไอติมเข้ามากอด หลับตาลงด้วยความเจ็บใจและต้องทำใจ พอลืมตาขึ้นก็มองสบตากับเดนนี่ที่นั่งนิ่งยักคิ้วเย้ยเขา แซ็คขบกราม สองมือกำแน่น อาการไม่ชอบขี้หน้าเพื่อนสนิทของกระต่ายตัวจ้อยพุ่งพล่านอยู่ในอก


เขาพลาดที่ไปดึงมันเข้ามาเองทั้ง ๆ ที่กันมันไม่ให้เข้าใกล้กระต่ายของเขาแทบตาย







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


 :mew5:

หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.45 : ฺYou missed it. : 01.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: atitayalnw ที่ 01-07-2019 20:27:34
จุก คำนี้คงอธิบายความรู้สึกตอนนี้ได้ดีสุด
ว่าแล้วไงอิคลื่นใต้น้ำของคุณตอมพร้อมน็อคเราเสมอ
น้องติมต้องเจ็บจนชาขนาดไหน ถึงเป็นน้องติมที่โนสนโนแคร์ขนาดนี้
เหมือนถูกชกตรงลิ้นปี่ตอนแซ็คเปลี่ยนไปและหวั่นไหวต่อแม่ม่ายคนนั้น
มันอึดอัดไปหมด โชคดีที่น้องติมเข้มแข็งนี่เลยไม่ดิ่งมากเท่าไหร่
ไม่แปลกใจที่น้องติมเลือกคบกะเดนนี่ น้องไม่ได้ทำเพื่อประชดดูจากอาการแล้ว
คือน้องพร้อมเดินจากมาจริงๆ กลัวใจแทนแซ็ค เพราะไม่รู้ว่าน้องจะทนได้ถึงเมื่ิอไหร่
มันไม่มีสัญญาณเตือนใดๆทั้งสิ้น อารมณ์มันหลากหลายตีกันไปหมด. สงสารแซ็คนะ
แต่มันก็เป็นผลจากการกระทำของนางทั้งนั้น โอ๊ยหัวใจชั้น ปกติคือต้านทานต่อดราม่าต่ำมาก
พยายามไม่อ่านเรื่องดราม่า แต่พอเป็นนิยายคุณตอม. เออคุ้มที่จะเจ็บ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.45 : ฺYou missed it. : 01.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: poshbear ที่ 01-07-2019 20:47:43
เราว่ามันไม่จบง่ายๆ แค่นี้แน่ รู้สึกว่ามันจะหนักกว่านี้55
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.45 : ฺYou missed it. : 01.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-07-2019 22:14:15
เฮ้อ...ออออออออออออออออออออออออออออออออออ   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.45 : ฺYou missed it. : 01.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-07-2019 22:40:58
ติมลูก  ลัลลาได้ตอนเดียว สลดอีกแล้วตอนนี้  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.45 : ฺYou missed it. : 01.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 01-07-2019 23:28:17
พูดไม่ออกเลยยยยย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.45 : ฺYou missed it. : 01.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Pamaipraewa ที่ 02-07-2019 00:22:15
แต่เรากลับมองอีกแบบแฮะ

รู้สึกว่าไอติมก็ไม่ได้มีความมั่นคงอะไรให้แซ็คเลยอ่ะ แซ็คขอคบก็ไม่ให้คบ แต่จู่ๆก็ไปตกลงคบกับเดนนี่เฉย งง ทำไมต้องปฏิเสธแซ็คตลอด

ถ้าไอติมยอมคบกับแซ็ค บางทีแซ็คอาจจะไม่ต้องไปหาความมั่นคงอะไรที่อื่นแล้วก็ได้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.45 : ฺYou missed it. : 01.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 02-07-2019 07:34:51
รอบนี้น้องหนู ทำได้ดีมาก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.45 : ฺYou missed it. : 01.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 02-07-2019 11:49:22
 o22 :a5: o22 :a5:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.45 : ฺYou missed it. : 01.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 05-07-2019 15:42:38
ทางเลือกที่2คนเลือกมาแบบนี้นี่ได้แต่หวังว่าคือการดัดหลังแซคในตอนนี้ เพราะแซคมันก็กำลังหลงผญมากเกินทั้งๆที่สัญญาไว้กับไอติมแล้ว(อันนี้น่าตบ) จริงที่ว่าอาจทำให้แซคมันทุรนทุรายได้ แต่.....กลัวนะว่าระหว่างไอติมกับเดนนี่จะมีคนหนึ่งที่จริงจังกับความสัมพันธ์นี้ไม่อยากให้มีคนเจ็บปวดกับความรักเลย
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 11-07-2019 19:26:21

ปัจจุบัน

New York, South Manhattan เวลาตามไทม์โซน



   
“And are you going to leave me, at the end? (ท้ายที่สุดแล้ว นายจะไปจากฉันมั้ย)” น้ำเสียงที่ถามนั้นเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน แต่เพราะคุยกันแค่สองคนจึงทำให้ไอติมได้ยินทุกคำ ไอติมยกยิ้ม เป็นยิ้มที่แซ็คเคยเห็นมาแล้ว
   

เห็นก่อนที่ไอติมจะเดินจากไปในตอนนั้น 
   

[We don’t know the future. (เราไม่รู้อนาคตหรอก)] แซ็คกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกในอกกลวงโบ๋ว่างเปล่าแปลกๆ
   

“I’m afraid again. (ฉันกลัวอีกแล้ว)” ไอติมกระตุกยิ้ม เป็นรอยยิ้มนิ่งสงบ แบบที่แซ็คเห็นแล้วก็รู้สึกนิ่งจนเหมือนเป็นเหน็บชาเพราะคำพูดของอีกฝ่าย 
   

“You should. (ก็สมควร)”
   

ไอติมกดตัดสัญญาณไปแล้ว ทิ้งความหนักอึ้งไว้ในสมองและในใจของแซ็ค เขานั่งนิ่งอยู่กับที่ครู่ใหญ่โดยที่ไม่ได้มีความคิดอะไรไหลผ่านในหัว ไม่ได้มีความรู้สึกนึกคิดอะไรเป็นพิเศษ เป็นการนั่งเพื่อปล่อยให้ทุกอย่างมันตกตะกอนแล้วก็รอเทออกทีเดียวเพื่อที่จะได้โล่ง
   

Ringgg!
   

มีสายเรียกเข้า แซ็คยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเจค็อบโทรมา แซ็คพ่นลมหายใจ สีหน้าออกอาการรำคาญ แต่ก็กดรับสายแล้วก็เปิดลำโพง วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวเอง
   

“มีอะไร”
   

[นายอยู่นิวยอร์กงั้นเหรอ]
   

“ใช่”
   

[ไปทำอะไรล่ะ] แซ็คยิ้มเยาะ
   

“ฟิตเนสที่นี่เชิญฉันมาเป็นเทรนเนอร์ระยะสั้น ต้องขอบคุณนายนะ ที่ทำให้ฉันมีชื่อเสียงขึ้นมา” แซ็คได้ยินอีกฝ่ายหัวเราะในลำคอ และเขารู้ว่าเจค็อบไม่ได้สะทกสะท้านนักหรอก
   

[งั้นฉันก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนทำให้นายโด่งดัง จากเทรนเนอร์ธรรมดา ๆ กลายมาเป็นเซเลบริตี้เทรนเนอร์ที่ฮ็อตที่สุดในตอนนี้] แซ็คยิ้มกริ่ม ไม่สะทกสะท้านกลับบ้าง
   

“ขอบคุณที่ปล่อยข่าวเรื่องฉันเล่นหนังโป๊ ทั้งที่นายรับปากไว้แล้วว่าจะไม่ทำเกินสัญญาที่เราคุยกัน” เสียงหัวเราะดังมาตามสาย เป็นเสียงหัวเราะสุขุมและยังคงสงบ
   

[ถ้าฉันไม่ปล่อยข่าวจนนายเกือบไม่มีคนจ้าง…] แซ็คยิ้มมุมปาก


[…แล้วพระเอกชื่อดังคนนั้นจะมาจ้างนายไปเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวจนนายโด่งดังขนาดนี้เหรอ] 
   

“ฉันถึงได้ขอบคุณนายอยู่นี่ไงล่ะเจค นี่ความดีความชอบของนายเลยนะ” แซ็คเบะปาก ทั้งนึกขอบคุณเจค็อบจริง ๆ และนึกเจ็บใจในเวลาเดียวกันกับสิ่งที่เขาทำ


ช่วงเวลานั้นไม่ได้หนักหนาเท่าไหร่ แต่ทว่าก็ไม่ราบรื่น แซ็คไม่ได้ว่าจำฝังใจ หรือปล่อยมันไป ก็เป็นเหตุการณ์หนึ่งในชีวิตที่เขาสามารถนำกลับมาพูดได้อย่างสบาย ๆ ไม่ได้จิตตก อาจเพราะเขาโชคดีที่ได้แฟนของแมท หนุ่มไทยคนหนึ่งที่เขาบังเอิญรู้จักตอนบินไปหาไอติมที่เมืองไทย ซึ่งแฟนของแมทเป็นพระเอกชื่อดังในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด ตัวเขากำลังดิ้นรนอย่างหนักกับการเริ่มเต้นเส้นทางใหม่ แล้วก็ได้นักแสดงคนนั้นยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการให้เขาเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัว เลยทำให้เขาเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการ จากที่ต้องดิ้นรนสู้หนักหน่วงกลายเป็นว่ามันได้เปิดทางและโอกาสให้เขามากมาย


[ฉันขอรับความดีนี้ไว้ด้วยความยินดี] แซ็คยิ้มหึ นึกหมั่นไส้กับอาการชอบทำคูลทำเท่ของเจค็อบ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเจค็อบเป็นพวกเก็บอาการได้เก่งและสติมั่นคงมาก แต่จิตใจนั้นไม่ค่อยจะปกติ 


“แล้วนายมีอะไร”


[ลูกค้าน่ะ]


“คนนี้พิเศษยังไงถึงขนาดต้องโทรมา”


[เขาเป็นคนสุดท้ายแล้ว พิเศษพอมั้ย] แซ็คชะงัก ในหัวเกิดอาการวิ้งประหลาด เหมือนมีอะไรกระแทกใส่หัวจนรู้สึกโงนเงน เขาคลำหาสติในหัวตัวเองสักพักจนเจอถึงได้พูดโต้ตอบกลับไปได้


“คนสุดท้ายแล้ว?”


[ใช่ ดีใจหรือเสียใจล่ะ…] แซ็คกำลังครุ่นคิด เพราะเขากำลังนึกได้ว่าตัวเองลืมจำวันเวลาของระยะเวลาสัญญา คือเขาจำได้ แต่ว่าเหมือนตัวเองจะไปจำว่ามันยืดออกไปกว่านี้


[…นายกำลังจะใช้หนี้หมด สัญญากำลังจะสิ้นสุด แต่ตัวนายจะสิ้นสุดไปตามสัญญาหรือเปล่าอันนี้แล้วแต่นายเลย] แซ็คเม้มปากแล้วพ่นลมหายใจแผ่วเบา ก่อนจะทำหน้าเอือมเมื่อได้ยินเสียงเจค็อบหัวเราะ


หัวเราะราวกับรู้ทัน


“ส่งข้อมูลมาตามเดิมนั่นแหละ” แซ็คตัดบท เพราะไม่อยากพูดกับจเค็อบยาวๆ


[ไม่ต้องหรอก นายคุ้นเคยกับเธออยู่แล้ว] แซ็คขมวดคิ้ว ความรู้สึกระแวงโอบล้อมตัว


“หมายความว่าไง”


[ก็เคยไปเที่ยวมัลดีฟส์ด้วยกันไม่ใช่เหรอ ครั้งนี้เธอจะไปเที่ยวไทยกับนายด้วย] แซ็คนิ่ง ใบหน้าอึ้งกิมกี่ ปากค้างราวกับคนใบ้พูดไม่ออกเพราะไม่รู้จะพูดอะไร


[แต่ถ้านายอยากปฏิเสธ ฉันก็ไม่ว่า แล้วแต่เลย ตัดสินใจเอาแล้วกัน ได้คำตอบยังไงโทรบอกเธอเอาเองนะ] เจค็อบวางสายไปแล้ว ทิ้งความรู้สึกหนักอึ้งไว้ให้แซ็คอีกรอบทั้งที่ก่อนหน้านี้เหมือนจะเทออกไปจากตัวจนหมดแล้ว




‘ฉันนึกว่าใจเธอจะตรงกับฉันซะอีก’


‘ผมเชื่อว่าเรารู้สึกดีต่อกันเหมือนกัน แต่…” แซ็คเม้มปาก ก้มหน้ามองพื้นครู่หนึ่งก่อนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสวยคมของหญิงสาวอายุคราวแม่ของเขา


'…ผมไม่ได้รักคุณ’


‘จริงเหรอ’ แซ็คสบตากับเธอแล้วเงียบ หญิงสาวมองกลับมาด้วยสายตาที่มองแล้วมักทำให้เขาอุ่นในใจอย่างประหลาด แต่เขาไม่ตอบคำถามของเธอ และไม่คิดทบทวนคำพูดนั้นของตัวเอง


เขาไม่อยากทบทวนมันซ้ำเพราะมันอาจจะได้คำตอบใหม่


‘เราพบกันเท่านี้แหละ’







“Hi, Lukas and Dustin. Welcome to Thailand! (สวัสดีฮะลูคัสแล้วก็ดัสติน ยินดีต้อนรับสู่ไทยแลนนนด์!)” กระต่ายตัวจ้อยกล่าวเสียงสดใสแล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดดัสตินเป็นคนแรก ตากล้องหนุ่มกอดตอบแล้วตีก้นไอติมไปที


“ไอ้ไบรอั้นมันเก่งจริง ๆ ปั้นหุ่นให้นายซะน่ากินไปทั้งตัว” ดัสตินมองไอติมด้วยสายตาชื่นชมก่อนหันไปยกนิ้วโป้งให้แซ็คด้วยความชื่นชมเช่นกัน แซ็คยิ้มเท่และยักคิ้วสองข้าง


“Hi, daddy!” ไอติมหันไปทักคุณพ่อที่เป็นเจ้านายของตัวเอง ลูคัสอ้าแขนกว้างและย่อเข่าลง ไอติมหัวเราะแล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดลูคัส หนุ่มกล้ามใหญ่โอบสองแขนรอบตัวไอติมแล้วยืดตัวขึ้นจนทำให้ไอติมลอยขึ้นไปด้วย


“I miss you so much, my daughter. (คิดถึงมากเลยลูกสาวพ่อ)” ไอติมยิ้มตาหยี ลูคัสหอมแก้มไอติมไปหนึ่งฟอด ไอติมหอมแก้มลูคัสกลับบ้าง


และแม้จะเห็นสองคนนี้ชอบแสดงความรักราวกับเป็นพ่อลูกกันจริง ๆ จนบ่อยแล้ว แต่แซ็คก็ยังคงกลอกตาและทำหน้าเอือมจนดัสตินขำ


“เฮ้ คุณพ่อพอได้แล้วมั้ง ให้สามีของลูกได้ทักทายภรรยาเขาบ้าง” ลูคัสหันมองแซ็คแล้วขำพร้อมกับปล่อยไอติมลงยืนบนพื้น ไอติมเดินยิ้มกว้างเข้าไปหาแซ็คแล้วยกสองมือขึ้นประกบแก้มของพ่อฝรั่งหน้าบึ้ง


“คุณได้บ่อยและเยอะกว่าสองคนนั้นอีก แบ่งกันบ้างน่า” ไอติมแกล้งแซว แซ็คเบะปากแล้วก้มลงจูบปากไอติมไปที ไอติมหัวเราะในลำคอเสียงเบา


“อ้าว เฮ้ อยู่ที่นี่ด้วยเหรอเดนนี่” แซ็คเงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่เพิ่งเดินลงบันไดมาจากชั้นสองในสภาพเปลือยท่อนบน ด้านล่างใส่บ็อกเซอร์สีน้ำเงินขาสั้น และสภาพเส้นผมราวกับคนเพิ่งตื่น


“มาตั้งแต่เมื่อวานนี้น่ะ” เดนนี่ตอบดัสติน ตากล้องคู่หูคู่ใจ แต่กว่าจะกลายมาเป็นคู่หูและรู้ใจกันก็ผ่านการเรียนรู้สไตล์ของแต่ละคนและจังหวะใครจังหวะมันอยู่นานเช่นกัน


“ทริปนี้ลูกสาวฉันพกสามีไปทั้งสองคนเลยเหรอ” ไอติมยิ้มกว้าง ส่วนแซ็คหน้าบึ้งเหมือนเดิม


“ก็มีสองคนนี่ฮะ เอาไปคนเดียว อีกคนก็น้อยใจแย่” ไอติมไหวไหล่ขวาหนึ่งครั้งและทำหน้าประมาณว่าสวยเหลือเกินก่อนจะหัวเราะตัวเอง ทำเอาลูคัสและดัสตินหัวเราะไปด้วย


“เอาของขึ้นไปเก็บข้างบนมั้ย ผมจัดห้องไว้ให้แล้ว” เดนนี่บอก ลูคัสกับดัสตินตอบรับ ยกกระเป๋าเป้กับกระเป๋าเดินทางของตัวเองขึ้นมา


“กูกินข้าวก่อนนะ กูหิว” เดนนี่บอกไอติม เจ้าของบ้านพยักหน้าและเดินนำทั้งสามหนุ่มขึ้นบันไดไป แซ็คที่เดินรั้งท้ายมองหน้าเดนนี่ด้วยความเซ็ง เดนนี่ยิ้มมุมปากแล้วยักคิ้ว


“อะไรกัน อยู่ด้วยกันมาสองปีแล้วนะ ยังไม่เลิกเกลียดหน้าผมอีกเหรอ” แซ็คพ่นลมหายใจ


“อย่าเพิ่งขึ้นไป ฉันขอเวลาคุยกับไอศกรีมก่อน” เดนนี่ยักคิ้วพร้อมกับผายมือซ้ายไปทางบันได แซ็คเป็นคนเดียวที่เอากระเป๋าเป้ใบเล็กมาใบเดียว เพราะเขามีเสื้อผ้าและของต่าง ๆ เก็บไว้ที่บ้านไอติม


แซ็คเดินตามขึ้นไปบนบ้าน ไอติมกำลังแนะนำอีกสองหนุ่มที่เพิ่งเคยมาบ้านตัวเองว่าจะต้องทำอะไรยังไงบ้าง ลูคัสกับดัสตินนอนห้องเดิมที่เลโอเคยนอน แต่ดัสตินขอลงไปนอนข้างล่างเตียงเพราะไม่อยากเบียดกับลูคัสที่ตัวใหญ่จนแทบจะเกินครึ่งเตียง ดีที่ไอติมเตรียมเตียงปูพื้นไว้ให้อยู่แล้ว


“ถ้ามีอะไร ห้องผมอยู่ตรงข้ามนะครับ เคาะเรียกได้เลย แล้วก็ถ้าหิวข้าว ลงไปกินกับเดนนี่ได้ ผมเตรียมอาหารไว้แล้ว” ไอติมเดินกลับไปห้องนอนตัวเอง เปิดประตูเข้าไปก็เจอแซ็คนั่งพิงพนักโซฟามองเหม่อไปยังประตูระเบียง ไอติมเดินไปนั่งข้างแซ็ค พ่อฝรั่งหันมามองด้วยสายตาเอื่อยเฉื่อย ไอติมยกมือซ้ายขึ้นไปจัดทรงผมของแซ็คให้เป็นระเบียบ


“ทรงผมนี้เข้ากับคุณ” แซ็คแค่นยิ้ม ก้มหน้าลงมองตักตัวเอง


“ดูมีอะไรในใจนะ” แซ็คหันหน้าขึ้นมองไอติม สายตาเหม่อผ่านใบหน้าไอติมไปทางอื่นแล้วพึมพำเสียงเบา


“ลูกค้าคนสุดท้ายแล้ว…” ไอติมยิ้มอ่อนและพยักหน้า แซ็คเลื่อนสายตามองไอติมแล้วพูดต่อ


“…เป็นเธอคนนั้น อีกครั้ง” ไอติมนิ่งพักหนึ่งแล้วก็พยักหน้าอีกครั้ง


“แล้ว?”


“เธอจะตามมาที่เมืองไทย เราจะไปพบกันอีกครั้ง และเป็นครั้งสุดท้าย”


“ครั้งสุดท้ายในฐานะผู้ซื้อกับผู้ขาย แต่ไม่ใช่ในฐานะคนรักกัน” สายตาของแซ็คสั่นไหว


“บันนี่ ไม่ใช่”


“ผมไม่รู้หรอกว่าใช่มั้ย แต่จากตอนนั้นที่คุณเจอเธอจนถึงวันนี้ก็เกินปีแล้ว คุณยังดูหนักใจและไม่แน่ใจเรื่องเธออยู่เลย…” แซ็คกลืนน้ำลายลงคอ ไอติมมองแซ็คด้วยความนิ่งสงบ


“…นี่คือสิ่งที่เจค็อบต้องการให้เกิดขึ้น และมันเกิดขึ้นแล้ว คุณรักเธอ” แซ็คขมวดคิ้ว


“ไม่ ไม่ใช่ คือฉัน…” แซ็คสูดลมหายใจเข้าปอด สีหน้ากำลังนึกคิด คิดว่าจะบรรยายออกมายังไงดี


“…ฉันยอมรับว่าพอรู้ว่าจะได้เจอกับเธออีก ฉันรู้สึกหวั่นใจ ไม่แน่ใจอะไรหลายอย่าง แต่ฉันแน่ใจว่าฉันไม่ได้รักเธอ ไม่งั้นฉันจะผ่านช่วงเวลาสองปีกว่านั้นมาได้ยังไง!” แซ็ครู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย


“คุณกับเธอก็ไม่ต่างอะไรกับพวกถ่านไฟเก่านั่นแหละ ถ้าได้เจอกันอีกครั้ง ไฟก็ลุกท่วมอีกรอบ” แซ็คระบายลมหายใจออกทางจมูกยาวๆ


“ฉันแค่อยากระบายให้นายฟัง แล้วก็…” แซ็คมองไอติมด้วยสายตาหม่น แต่ริมฝีปากกำลังฝืนยิ้ม


“…ฉันอยากให้นายหึงฉันบ้าง” ไอติมที่ตีหน้าเรียบเฉยและแววตาไร้ความรู้สึกชะงักกึก มองแซ็คด้วยงุนงงปนความตะลึง แซ็คยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเศร้า


“นายเอาแต่บอกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ในขณะที่นายเป็นแฟนกับเดนนี่”


“เราเป็นคนที่รักกันไง” แซ็คยิ้มขื่น


“นายไม่เคยแสดงออกเลยว่าหึงและหวงฉัน แต่กับเดนนี่ แค่เขาเอ่ยปากว่าอยากเล่นหนังโป๊บ้าง นายก็โกรธเขาไปตั้งหลายวัน…” ไอติมกลับมานิ่งอีกครั้งและรอฟังแซ็คพูดต่อ


“…นายแข็งแรง แข็งแกร่ง แล้วก็แข็งกระด้างใส่ฉันมากรู้มั้ย”


“มันยากกับผมมากเหมือนกันรู้มั้ย…” แซ็คหันมองไอติม กระต่ายตัวจ้อยถอนหายใจ


“…ผมรักคุณ เพราะอะไรผมก็หาเหตุผลที่ชัดเจนไม่ได้ แต่ผมรัก ผมเข้าใจในอาชีพของคุณ แบบที่ผมเข้าใจจริง ๆ ในส่วนการทำงาน และผมก็เข้าใจเรื่องอาการทางใจของคุณด้วย…” ไอติมเม้มปาก มองเห็นสร้อยสีทองคล้องคอเขาแล้วก็ยิ้มมุมปากซ้าย


“…ผมหึงคุณสิ ขนาดบางทีถ้านางเอกคนไหนสวยจัด ๆ ผมยังลืมไปเลยว่าตัวเองเข้าใจการทำงานของคุณ…” แววตาของแซ็คสดใสขึ้นจากที่ช่วงแรกดูขุ่นมัว


“…แต่ถ้าผมแสดงออกว่าหวง คุณก็จะไม่ทำงานตามหน้าที่ และไม่ไปทำตามสัญญาของเจค็อบ และผมไม่รู้ว่ามันจะส่งผลอะไรกับจิตใจคุณหรือเปล่า ผมกลัวว่ามันอาจจะทำให้คุณหงุดหงิด หรือรู้สึกถูกกักขังแบบที่คุณเคยเจอมา แล้วมันก็จะวนกลับมาที่ว่าผมรักคุณ ผมเลยกลัวว่าคุณจะทิ้งผมไป” ตั้งแต่ตกลงปลงใจว่าความรู้สึกของทั้งสองคนคือรัก และตัดสินใจจะก้าวเดินไปด้วยกันจนมาถึงวันนี้ ไอติมไม่เคยแสดงออกเลยว่าอ่อนแอ กระต่ายตัวจ้อยยังคงเป็นกระต่ายตัวเดิม น่ารักเหมือนเดิม เพียงแต่ไม่เคยเห็นช่วงเวลาที่เขาอ่อนไหวเลยสักครั้ง น้ำตาของเขามีแค่คลอแต่ไม่เคยไหลออกมา ซึ่งน้ำตาคลอก็ยังไม่ถึงสิบครั้งเลยด้วยซ้ำ


“เหนื่อยรึเปล่า” แซ็คถามพร้อมกับยื่นมือขวาไปจับมือซ้ายของไอติม คนถูกถามส่ายหัว


“ไม่เหนื่อย”


“ต้องถึงขั้นอดทนมั้ย” ไอติมส่ายหัว


“ไม่ ผมอยู่ด้วยความเข้าใจ อยู่ไปตามปกติ ไม่อยากบังคับตัวเองหรือว่าใคร อยากทำอะไรก็ทำ แค่นั้นเอง” แซ็คยิ้มและบีบมือไอติม กระต่ายตัวจ้อยยิ้มตอบ


“ขอบคุณที่อยู่มาด้วยกัน” ไอติมระบายลมหายใจ


“เจค็อบสมหวังมั้ยกับสิ่งที่เขาอยากให้มันเกิดขึ้น กับการที่เขาปล่อยให้เวลาเป็นตัวตัดสินเราสองคน…” แซ็คเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง


“…คุณรักเธอรึเปล่า” แซ็คถอนหายใจ


“ไปครั้งนี้ ฉันคงแน่ใจมากขึ้น” ไอติมพยักหน้า ยกมุมปากเป็นรอยยิ้ม แต่ก็เป็นยิ้มเศร้า


“จริง ๆ ไม่ใช่เธอคนนั้นหรอกที่จ่ายให้คุณอีกครั้ง เพราะช่วงที่ผ่านมา คุณก็ยังเป็นเพื่อนกับเธอมาตลอด เพียงแต่ไม่ได้พบกันเพื่อทำอะไรแบบนั้นอีก…” แซ็คพยักหน้าด้วยความรู้สึกอึน


“…เจค็อบคงอยากเล่นบทพระเจ้าอีกตามเคย ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะตอบรับประสงค์ของพระเจ้ามั้ย” แซ็คบีบมือไอติม สบตากับไอติมอย่างแน่วแน่


“ฉันขอไปนะ” ไอติมพยักหน้าอย่างไม่มีลังเล ไอติมไม่เคยขัด ไม่เคยขวาง ไม่เคยงอน ไม่เคยสอบถามถึงหากวันไหนแซ็คไปพบกับลูกค้าเหล่านั้น ไอติมปล่อยให้มันหายไปจากชีวิตประจำวัน ไม่นับมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต


“จะไปก่อนทริปหรือหลังล่ะ”


“ขอไปเที่ยวกับนายก่อนก็แล้วกัน” ไอติมพยักหน้าและยิ้มบางก่อนจะพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ แซ็คบีบมือไอติมไว้ ไอติมบีบมือใหญ่ของฝรั่งตอบ


แกรก


“คุยกันเสร็จยัง?” รอยยิ้มแซ็คหุบลงแล้วกลอกตาไปที เดนนี่เบะปาก ปิดประตูห้องแล้วเดินไปนอนบนเตียง หยิบหมอนมาวางบนตักหนึ่งใบและเอาแม็คบุ๊กวางทับด้านบนอีกที


“สองคนนั้นลงไปกินข้าวป้ะ” เดนนี่พยักหน้า


“กินกันอยู่ข้างล่างอะ” เดนนี่ตอบพลางกดแป้นพิมพ์รัว ไอติมหันหน้าไปมองแซ็ค


“กินข้าวมั้ย” แซ็คพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นและดึงให้ไอติมลุกตาม


“เดน กูพาแซ็คไปกินข้าวก่อนนะ” เดนนี่เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอแม็คบุ๊กแล้วยิ้มเบ้ปาก


“ไปเถอะ เมื่อคืนกูตวงจากมึงแล้ว” เดนนี่ยักคิ้วให้แซ็ค หนุ่มอเมริกันมองหนุ่มลูกครึ่งด้วยความหมั่นไส้ เดนนี่พยายามกลั้นยิ้มขำ แซ็คจิ๊ปากแล้วพาไอติมที่ขำด้วยคนเดินออกไปจากห้อง

V
v
v
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 11-07-2019 19:26:44
V
v
v


ทริปมาทะเลคราวนี้ไอติมมีเดนนี่คอยช่วยอีกแรง ไม่ต้องสรรหาข้อมูลด้วยตัวคนเดียว รอบนี้ไอติมกับเดนพาฝรั่งทั้งสามคนมาเที่ยวเกาะแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ อันเป็นเกาะที่สวยเลื่องชื่อลือชา และเป็นเกาะที่ไอติมเห็นรีวิว เห็นภาพในอินเตอร์เน็ตมานาน หาเวลามาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ลงตัว จนสุดท้ายก็ได้มาเพราะเจ้านายของไอติมอยากมาพักผ่อน อันที่จริงลูคัสชวนนักแสดงและทีมงานคนอื่นในค่ายมาเที่ยวด้วย โดยจะออกค่าที่พักให้พรี มีจะบินตามมาอีกเกือบสิบคน แต่ในเกือบสิบคนไม่มีเลโอมาด้วย เพราะอีกฝ่ายจองทริปไปดูแสงเหนือเอาไว้ก่อนจะเกิดทริปเมืองไทย 


“รอบนี้นายเป็นแค่ตากล้องพอ ฉันไม่ได้เจอกับไอศกรีมมาเดือนนึงแล้ว” แซ็คคุยกับเดนนี่เสียงเบาขณะที่กำลังเดินตามไอติมไปบนชายหาด โดยที่กระต่ายตัวจ้อยกำลังพูดกับกล้องหน้าของมือถือที่กำลังอัดวิดีโออยู่


“ไม่รับปาก” เดนนี่ตอบหน้าตาย แซ็คมองตาแทบจะขวาง เดนนี่ยักคิ้วและยิ้มมุมปาก สร้างความขุ่นเคืองให้กับหนุ่มอเมริกันจนคิ้วกระตุกตุบๆ


“เฮ้ สองหนุ่มนั้นทะเลาะอะไรกันอีกแล้วใช่มั้ย” ไอติมยกมือถือขึ้นไปจับภาพสองหนุ่มที่กำลังมีสีหน้าต่างกัน คนนึงบึ้งตึง อีกคนกำลังยิ้มขำ


แฟน ๆ ที่ติดตามแซ็คกับไอติมและเดนนี่จะคุ้นเคยกับภาพสองหนุ่มชอบทะเลาะกัน ใช่แล้ว ทุกคนรู้ว่าทั้งสองคนเป็นแฟนของไอติม ถึงแม้เบื้องหลังกล้อง เบื้องหลังคลิปส่วนตัวของพวกเขาทั้งสามคน ไอติมกับแซ็คจะยังไม่ได้เอ่ยปากคบกันเป็นแฟน แต่ทุกคนก็มองเห็นเป็นอย่างอื่นไม่ได้จากความสัมพันธ์ของทั้งสองคนที่ทุกคนเห็น ซึ่งเลยทำให้หลายครั้งแซ็คก็จะชอบตีเนียนว่าไอติมตอบตกลงคบกับตัวเองไปแล้ว


“มุมนี้ดูเงียบ ๆ คนไม่ผ่านมาดีนะ” ไอติมชี้ตรงกลุ่มโขดหินเกือบสุดหาดที่พวกเขาเดินมา มีต้นไม้แผ่กิ่งก้านให้ความร่มรื่น แต่ทว่าก็มีลำต้นไม้หักพาดลงน้ำ และตามโขดหินจนทำให้ดูรกรุงรัง


“ลองสำรวจดู” เดนนี่บอกพลางเปิดกล้องถ่ายวิดีโอ จับภาพไอติมที่กำลังมองสำรวจพื้นที่ที่จะใช้งาน


“ได้อยู่ แต่โอ๊ะ ถัดไปเหมือนจะมีหาดกว้างอยู่นะ” ไอติมว่าเสร็จก็เดินลุยทะเลเพื่อเดินผ่านกลุ่มโขดหินและเศษต้นไม้หักไปตรงหาดที่ว่า มีสองหนุ่มเดินตามหลัง เดนนี่หันกล้องไปหาแซ็ค หนุ่มอเมริกันสบถคำหยาบใส่หน้ากล้องเสียงเบา


“So rude. (หยาบคายมาก)” เดนนี่หัวเราะ แซ็คเบะปากและก้าวเท้าเดินตามไอติมไปจนถึงตัวกระต่ายที่กำลังยืนมองชายหาดขนาดเล็ก เลยหาดตรงนี้ไปก็เป็นกลุ่มต้นไม้ขึ้นแน่นขนัด


“ร้อนไปรึเปล่า” แซ็คถามและเดินเข้าไปยืนกอดไอติมจากทางด้านหลัง ก้มหน้าลงหอมแก้มขวาไอติมไปที


“เราทาครีมกันแดดมาแล้ว ไม่เป็นไรหรอก…” แม้ปากจะถามว่าร้อนไปรึเปล่า แต่แซ็คก็นั่งลงพร้อมกับดึงกางเกงขาสั้นของไอติมลงไปข้างล่าง ไอติมยกขาสองข้างขึ้นเพื่อให้แซ็คดึงกางเกงออกไปจากขา แซ็คโยนกางเกงของไอติมไปบนก้อนหิน และจับไอติมนั่งลงบนพื้นทราย


“…อ๊า เดี๋ยวทรายเข้ารูตูดนะ” ไอติมหัวเราะเพราะแซ็คจับเขานั่งลงใกล้กับพื้นทรายที่คลื่นซัดมาถึงพอดี แซ็คคลี่ยิ้มแล้วถอดกางเกงออกจนเห็นกางเกงว่ายน้ำสีขาวเนื้อด้านอีกชั้นที่ตอนนี้เป้าทั้งตึงและตุง


“เดนหามุมวางโทรศัพท์ให้ที” เดนนี่ที่กำลังยืนถ่ายวิดีโอทั้งสองคนอยู่ เดินไปหยิบโทรศัพท์มาจากมือไอติมแล้วเอาไปวางตรงก้อนหิน จัดวางจนโทรศัพท์ตั้งเห็นภาพเป็นมุมกว้างแล้วก็เดินกลับไปยืนถ่ายสองคนนั้นต่อ


“อื้อ ไบรอั้น…” ไอติมนั่งแบะขาคุกเข่าบนพื้นทราย สองมือขยุ้มผมแซ็คที่กำลังไซ้คอเขาอย่างอ่อนโยน นิ้วมือข้างขวาแหย่เข้าไปในรูก้นจนไอติมรู้สึกหน่วง แซ็คขยับปากขึ้นจากคอขาว ๆ ไปสู่ริมฝีปากสีแดง ไอติมเปิดปากให้แซ็คสอดลิ้นเข้าไปในปากและกวาดข้างในครู่หนึ่งก่อนที่ปลายลิ้นของทั้งสองคนจะคลอเคลียเกลี่ยไล้กันไปมาจนน้ำฉ่ำเยิ้ม


ซ่า ซ่า ซ่า…


แอว่ก แอว่ก อี้


เสียงคลื่นทะเลและเสียงนกนางนวลร้องดังเป็นแบ็คกราวด์มิวสิคขณะที่สองหนุ่มตัวต่างไซซ์กำลังดูดคลึงลิ้นของกันและกันอย่างอ่อนโยน มือขวาของแซ็คยกขึ้นแบมือไปตรงหน้าของเดนนี่ที่กำลังทำหน้าที่ตากล้องจับภาพทั้งสองคนนัวเนียกันอยู่


“What? I won’t give my dick to you. (อะไร ผมไม่ให้คxxคุณหรอก)” แซ็คหยุดใช้ปลายลิ้นเกลี่ยลิ้นของไอติมแล้วทำหน้าเซ็ง ไอติมที่หน้าแดงก่ำและหายใจแรงขึ้นก้มหน้าซุกไซ้คอแซ็คขณะที่หนุ่มอเมริกันกำลังทะเลาะกับหนุ่มลูกครึ่ง


“ฉันไม่คิดจะขอคxxนายหรอกน่า ของฉันก็มี ฉันจะขอเจลหล่อลื่น” เดนนี่หัวเราะเสียงทุ้มในลำคอ หยิบเจลหล่อลื่นออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วยื่นให้แซ็ค พระเอกหนังผู้ใหญ่มองเดนนี่ด้วยความเอือม รับขวดเจลมาเปิดฝา บีบของเหลวลงบนฝ่ามือ ปล่อยให้ไอติมไซ้คอดูดคอตัวเองไปเรื่อย


“ขอบใจ” แซ็คยื่นหลอดเจลคืนเดนนี่ หนุ่มลูกครึ่งเก็บใส่กระเป๋าไว้ตามเดิม นั่งลงคุกเข่าถือกล้องถ่ายสองคนนั้นต่อไป แซ็คทาเจลหล่อลื่นลงบนแก่นกายตัวเอง และมีเอาไปทาให้ไอติมตรงช่องทางเข้าด้านหลัง แซ็คครางเสียงเบาตอนที่ไอติมดูดหัวนมข้างซ้ายในขณะที่เขาก็ยัดนิ้วชี้กับนิ้วกลางเข้าไปในรูของไอติม


“มึงไม่เห็นดูดนมให้กูมั่งเลยตอนเอากันล่าสุดอะ” เดนนี่พูดเป็นภาษาไทย ไอติมละจากนมแซ็คหันหน้าไปมองเดนนี่ที่ยิ้มกวน ไอติมแยกเขี้ยว


“กวนตีน”


“Yes ก่วนตีน” เดนนี่กับไอติมหัวเราะเมื่อแซ็คด่าเป็นภาษาไทยด้วยสำเนียงแปล่ง แซ็คเบะปากแล้วบอกให้ไอติมหันหลัง ไอติมทำตามที่บอก คนข้างหลังใช้สองมือดันเสื้อกล้ามขาวขึ้นไปถึงหน้าอก สองมือกอบกุมเต้านมน้อยของไอติมก่อนจะใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างขยี้หัวนมไอติม ในขณะที่ไอติมก็จับแท่งแคร็อทเคลือบเจลยัดเข้าไปในรูก้นตัวเองแล้วก็ดันก้นเข้าหาแซ็คจนแคร็อทเสียบรูมิดด้าม


“อ้า…” ไอติมครางหน้าพริ้ม แซ็คก้มลงดูดคอด้านขวาของไอติมครู่หนึ่งแล้วถอนออก กดหลังไอติมให้โน้มตัวไปข้างหน้า ไอติมก้มตัวลงไปใช้ข้อศอกสองข้างยันตัวเอง เดนนี่ลุกขึ้นยืนและกอดกางเกงออกจนของกลางลำตัวที่แข็งปักเด้งตัวออกมา


“เฮ้ ฉันบอกว่ารอบนี้ฉันขอคนเดียวไง” แซ็คหน้ามุ่ยแต่ก็เริ่มขยับเอวใส่ไอติม


“แค่อมน่า” เดนนี่ไม่รอแซ็คพูดต่อ นั่งลงตรงหน้าไอติม ของแข็งจ่อปากไอติมพอดิบพอดี ไอติมอ้าปากขำก่อนเสียงขำจะหายไปเพราะเดนนี่กดหัวไอติมลงจนแก่นกายอัดเข้าไปเต็มปากไอติม


“นึกถึงตอนเราเอากันบนชายหาดครั้งแรกเลยว่ามั้ย” แซ็คโน้มหน้าลงมาหอมแก้มขวาของไอติม กระต่ายตัวจ้อยปล่อยปากออกจากของเดนแล้วหันไปยิ้มกับแซ็ค


“คลิปนั้นเป็นที่นิยมมากเลย” แซ็คยิ้มกว้าง หอมหน้าผากไอติมไปที


“ไม่จูบปากนะ ไม่อยากได้รสชาติคxxหมอนี่” แซ็คเด้งตัวกลับขึ้นไป เดนนี่ขำเสียงทุ้ม


“ก็กินไปหลายครั้งแล้วป้ะวะ เวลาเงี่ยน ๆ แล้วไอติมอมควxผม คุณจูบมันต่อตั้งหลายหน” ไอติมหันไปมองเดนนี่แล้วหัวเราะ หนุ่มลูกครึ่งยักคิ้ว ไอติมหันกลับไปมองหนุ่มอเมริกันที่หน้าตาถมึงทึงแล้วยกมือขวาขึ้นคล้องคอแซ็คจากด้านหน้า


“โอ๋ววว พ่อแคร็อท อย่าหน้าบึ้งสิ เอาต่อนะ หยุดแบบนี้อารมณ์ไม่ต่อเนื่องเลย” แซ็คมองค้อนเดนนี่ไปทีแล้วก้มลงหอมแก้มไอติม ดึงไอติมออกจากแก่นกายเดนนี่ จับให้ไอติมนั่งข้างบน หันหน้าออกทะเล จากนั้นก็รัวเอวใส่ไอติมจนกระต่ายตัวจ้อยครางไม่เป็นภาษา


สองคนนี้ชอบเถียงกัน ทะเลาะกัน แต่ไม่เคยถึงขั้นชกต่อยแตกหักกัน แม้กระทั่งเอากันอยู่ก็ยังสามารถเถียงกันได้ เลยกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่แฟน ๆ ชอบดู ชอบที่ได้เห็นทั้งสองคนแย่งความรักความสนใจจากไอติม แต่ไอติมก็ฉลาดมากพอที่จะไม่ใส่ไปทุกคลิป นาน ๆ ทีใส่ที แม้จริง ๆ บางคลิปจะมีเถียงกันจริง แต่เวลาตัดต่อไอติมจะตัดออกทุกครั้ง เพราะไม่งั้นคนจะเบื่อเอาได้


เว็บไซต์ส่วนตัวของแซ็คโด่งดังในโลกของหนังโป๊มาก ยอดสมาชิก ณ ปัจจุบันคือเกือบสามพันคนแล้ว รายได้จากเว็บไซต์นั้นเป็นไปด้วยดี แม้ค่าใช้จ่ายในการทำเว็บจะสูง แต่เพราะผลตอบรับออกมาดี เลยทำให้มีเงินหมุนเวียนตลอด ถือว่าปังและเป็นดาวเด่นเช่นที่น้าแพนเคยบอกกับไอติมไว้ว่าถ้าจะทำ ถ้าจะเดินทางนี้ก็ต้องเอาให้ดังและเด่น ซึ่งจากระยะเวลาเกือบห้าปีเต็มที่เปิดเว็บมา ไอติมคิดว่าน่าจะเด่นเป็นดาวพอสมควรแล้ว


ไอติมพยายามช่วยแซ็คต่อยอดแฟน ๆ ให้มากขึ้น ด้วยการพยายามครีเอทคลิปออกมาให้ดูมีเรื่องราวในแต่ละคลิปแบบที่ไอติมชอบ และพอมันเป็นเรื่องของพวกเขาเองเลยไม่ต้องคิดอะไรเยอะ นอกจากจะได้ดูพวกเขาเอากันแล้ว ยังเหมือนได้ดูฉากฟิน ๆ ในซีรีส์สักเรื่อง ซึ่งแต่ละฉากไอติมจะไม่ยัดเยียดมันลงไป ถ้าคลิปไหนไม่มีเลย ก็คือไม่มี


เว็บไซต์ของแซ็คมีคอนเท้นต์ไม่ถึงสิบคอนเท้นต์ มีคลิปแบบเดี่ยวของแซ็ค ทั้งคลิปแบบเบื้องหน้าและเบื้องหลัง มีภาพถ่ายแบบตามแต่ละคอนเซ็ปต์ให้แฟน ๆ ได้สะสม มีคอนเท้นต์แซ็คเอากับผู้หญิงซึ่งเป็นหนังของค่าย และคอนเท้นต์สุดท้ายอันเป็นห้องที่มีราคาสูงกว่าห้องอื่นก็คือคอนเท้นต์เรื่องราวส่วนตัวของทั้งสามคน


ในตอนแรกทาร์เก็ตคอนเท้นต์นี้ก็เป็นกลุ่มชายรักชายทั่วไป แต่หลังจากเข้าปีที่สี่มาได้สักระยะก็พบว่ามีสมาชิกเป็นสาว ๆ มากขึ้น และกลายเป็นทาร์เก็ตหลักไปเลย สองหนุ่มประหลาดใจว่าทำไมสาว ๆ ถึงเข้ามาดู ไอติมเลยอธิบายว่าส่วนมากเป็นสาววาย หรือสาว ๆ ที่ชอบเห็นผู้ชายกับผู้ชายรักกันและได้เสียกันคือยิ่งฟิน แล้วทั้งสามคนอยู่ด้วยกันแบบสามผัวเมียจึงยิ่งน่าสนใจชวนติดตาม


“อูม ออม…” ไอติมดูดเลียแท่งเนื้อสองแท่งสลับไปมาเพื่อดูดเลียน้ำสีขาวข้นของทั้งสองอันที่ติดอยู่ตามส่วนหัวและส่วนเนื้อ ไอติมเงยหน้ายิ้มให้กล้องในมือเดนนี่ทั้งที่รอบปากเลอะน้ำสีขาว แซ็คก้มลงอุ้มไอติมให้ยืนขึ้นแล้วหอมแก้มไอติมไปที เดนนี่หอมแก้มอีกข้างของไอติม กระต่ายตัวจ้อยยิ้มกว้าง เดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือ


“Thank you for watching. I hope you will be enjoying,” ในขณะที่ไอติมกำลังพูด แซ็คก็เดินเข้าไปซ้อนหลังไอติมแล้วก็ดันแคร็อทเข้าไปในรูแดงฉ่ำอีกรอบ


“สองรอบได้ไงเนี่ย” เดนนี่ประท้วง ไอติมที่ตัวสั่นเพราะแรงกระแทกพูดปิดคลิปด้วยความทุลักทุเลแล้วหันตัวไปหาแซ็ค ยกแขนควาคล้องคอเขาไว้


“เดน มานี่สิ” ไอติมเรียกเสียงอ้อน เดนนี่ปิดกล้องแล้วเดินเข้าไปจูบปากกับไอติม และรอบที่สองของทั้งสามคนก็เริ่มต้นขึ้น






เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



เหลืออีก 2 ตอนจบตอนหลักค่ะ





 :mew1:



หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-07-2019 20:16:33
เราสองสามคนก้อดี..ไม่อยากให้เดนนี่เสียใจ   :mew2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: nisaday ที่ 11-07-2019 22:55:38
สุดท้ายแล้ว อยุ่กัน3คนแบบนี้อาจจะเวิคสุดก็ได้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-07-2019 23:10:42
งานนี้น้องติมได้ประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยนะจ๊ะ

สงสารแซ็คนะ นางก็ยังดูงงกับชีวิตนางอยู่ดี
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-07-2019 23:21:33
ว้าว ว้าว ว้าว  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 11-07-2019 23:26:03
bad end มั้ยนะะะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-07-2019 11:53:49
อยู่กันสามคนเลยจ้า
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-07-2019 14:19:08
ถ้าไอติมสดชื่นสามพีก็ฟินได้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 12-07-2019 16:13:13
ฮ่วย อิพี่นี่ ยังสับสนอะไรอี๊กกกกกกกกกก นึกว่าจะเลือกได้แล้วซะอีก วุ๊ ดีนะที่ลูกยังร่าเริงได้ไม่งั้นอิแม่นี่แหล่ะจะขอสาบแก
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-07-2019 22:39:20
รออ่านรอลุ้นตอนจบ
ใจนึงก็สงสาร..อีกใจนึงก็อยากกระทืบ

แซ็คคนโลเล..กลับไปกลับมา
อะไรของเธอ เอาแน่เอานอนไม่ได้
เพื่อ????

ก็สมควรแล้วที่จะอยู่อย่างอึดอัดแบบนี้
..ทำตัวเอง..
สองใจ ชิสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 22-07-2019 14:33:50
กรี๊ดดดดดดๆๆๆๆๆๆๆๆ ชอบมากกกกกๆๆๆๆๆๆ :katai4:
รักความ3p โหยยยย ไอติมลูกแม่แซ่บมากกกกกกกก :sad4:
ทำใจนะแซ็คไม่มั่นคงเอง(ตบบ่าๆ) อยู่แบบ3คนให้เดนแกล้งไปนั่นแหละ :laugh:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 30-07-2019 21:15:20
 :mew2:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.46 : ฺOne last time. : 11.07.19 :
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-09-2019 00:36:39
รออยู่น๊าาา
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.47 : ฺTri-happiness-love. :06.10.19:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-10-2019 17:23:05

Chapter 47 :: Tri-happiness-love. (รักสามสุข)





Special from Zach Knighthood

           

 

“เราไม่ต้องการพบแก!” ผมตะโกนใส่เจค็อบที่นั่งอยู่บนโซฟารับแขกในฟิตเนสของเราด้วยความโมโห ผมคุยกับเขาได้ ผมพบกับเขาสองคนได้ แต่ผมไม่อยากให้เขามาเจอเจ้ากระต่าย เพราะมันเหมือนเป็นการกวนน้ำใสที่สงบให้ตะกอนที่มันตกลงไปแล้วขุ่นขึ้นมาอีกครั้ง การที่ได้เจอเขาเหมือนเป็นความชัดเจนว่าความสัมพันธ์ของเราทุลักทุเลมาตลอด

 

 

เราสองคนรวมถึงเดนนี่และคนรอบข้างต่างไม่พูดถึงเจค็อบ ถ้าพูดก็พยายามพูดถึงให้น้อย เพราะไม่อยากให้เขาเข้ามามีส่วนในชีวิตเราแม้แต่การพูดถึง เนื่องจากแค่สัญญานั้นก็มีส่วนในชีวิตเรามากพอแล้ว มากตามที่เขาต้องการให้เกิดขึ้น

           

 

“ไปให้พ้นไอ้แม่เย็x!” ไอศกรีมสบถแต่ก็หลบอยู่ข้างหลังผม นี่เป็นการเจอหน้ากันครั้งแรกตั้งแต่เซ็นสัญญานั้นไป ไอศกรีมคงตกใจมากกว่ากลัว แถมบนตัวเราสองคนยังมีแผลเป็นที่เจค็อบต้องการทิ้งไว้ให้เราจำว่าการทำให้เขาเจ็บนั้นเป็นยังไง เขาไม่ได้จะให้เราเจ็บจากรอยจี้ของบุหรี่ แต่เขาให้เราจำสาเหตุของรอยบุหรี่มากกว่า

           

 

“อู้ว น่ารักเป็นมิตรอะไรอย่างนี้” เหมือนพอตั้งสติได้ ไอศกรีมก็เดินออกมายืนข้างผม ท่าทียังตื่นกลัวอยู่นิดหน่อย แต่ผมคิดว่าอีกสักพักเขาจะสงบลงเอง

           

 

“มีอะไร มาทำไมเนี่ย” ผมถามเจค็อบที่ยังยิ้มกวนอารมณ์ เขาขยับแว่นและนั่งเอนหลังพิงโซฟา มองไปรอบห้องรับรองของฟิตเนส

           

 

“กิจการดูดีนะ ได้ข่าวว่าลูกค้าเพียบจนต้องประกาศรับเทรนเนอร์เพิ่มเลยเหรอ” ผมหันมองไอศกรีม แววตาของเขาไม่ได้ใสซื่อเหมือนปกติ เขาจ้องเจค็อบตาแข็งแต่ไม่ถึงกับกระด้าง

           

 

“ดูคุณจะติดตามชีวิตของพวกเราเหลือเกินนะ” ไอศกรีมถามกลับเสียงตึง พอ ๆ กับสีหน้าของเขา เจค็อบคลี่ยิ้ม

           

 

“นายรู้อยู่แล้วนี่ว่าทำไมฉันต้องติดตามเรื่องของนายสองคน…” เจค็อบอ้าปากค้าง เขาแกล้งทำเป็นเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้

           

 

“…อ้อ ลืมไป ไม่ใช่สอง แต่เป็นสาม…” เจค็อบเลิกคิ้วขึ้นและยิ้มริมฝีปากบาง แล้วสักพักสายตาของเขาก็ย้ายมาจับจ้องผมคนเดียว

 

 

“….หรืออาจจะเหลือแค่สอง โดยที่มีคนนึงเดินจากไป” มุมปากของเขายกขึ้นสูงจนดูเป็นยิ้มโรคจิต

           

 

“เข้าเรื่องสักทีเจค” ผมตัดบทด้วยความอดทนอดกลั้น เจค็อบหัวเราะเสียงทุ้ม

           

 

“ฉันมาแสดงความยินดีที่สัญญาของเราจะจบลงแล้ว…” เขาหยิบซองสีน้ำตาลที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาชูให้พวกเราดูแล้วเอาวางไว้ตามเดิม

           

 

“ในนี้เป็นสัญญาการทำงานที่ระบุไว้แล้วว่าจะไม่มีผลใด ๆ ต่อไป และยังมีเอกสารการใช้หนี้ที่ระบุไว้แล้วว่าเราหมดหนี้สินต่อกัน” ผมย่นคิ้ว มองเขาด้วยความระแวง

           

 

“ฉันยังไม่ทันได้ไปพบลูกค้าคนสุดท้ายเลย” เจค็อบคลี่ยิ้ม เขาเหลือบตาไปมองทางไอศกรีมที่สีหน้าหม่นลงและกำลังมองไปทางอื่นก่อนหันกลับมามองผมที่ยังย่นคิ้วเหมือนเดิม

           

 

“เพราะฉันรู้ว่านายจะไป…” เจค็อบยืนขึ้น เดินมายืนตรงหน้าเจ้ากระต่าย

           

 

“…แต่จะกลับมารึเปล่า อันนี้ฉันไม่รู้” ผมคลายคิ้วออก หันมองไอศกรีมที่หันมามองผมและยกยิ้มเศร้า ผมหันกลับไปมองเจค็อบที่เลิกคิ้วขึ้นเหมือนกับกำลังนึกสงสัยอะไรอยู่

           

 

“นายมีความสุขกับเด็กคนนี้ดีใช่มั้ยแซ็ค นายไม่เคยเกิดความรู้สึกกลัวเลยใช่หรือเปล่าล่ะ…” ผมยืนมองเจค็อบตาสั่น เขายกยิ้มมุมปาก หันหน้ากลับไปมองไอศกรีมที่ยืนนิ่ง

           

 

“…สงสัยบ้างมั้ยว่าเขาตอบรับสัญญานั่นเพราะอะไร เพราะไม่อยากโดนฉันฟ้องร้อง หรือเพราะมันเข้าทางเขา โดยที่เขามีทั้งนายและได้ผู้หญิงคนอื่น” ผมมองไอติมด้วยความหวาดกลัวและหวาดระแวง เขาพ่นลมหายใจก่อนเงยหน้าขึ้นตอบเจค็อบ

           

 

“ผมรักเขา เหมือนที่คุณเคยรัก” เจค็อบชะงักไปก่อนที่สายตาเขาจะเปลี่ยนเป็นวาววับ

           

 

“ฉันไม่เคยรักเขา” เจค็อบตอบเสียงเย็น ไอศกรีมยิ้มหึ

           

 

“ถ้าคุณไม่ได้รักเขา คุณฟ้องร้องเขาไปแล้ว เรื่องราวทุกอย่างจะจบลงในชั้นศาล เป็นไปตามกฎหมาย…” หัวใจผมเต้นวูบวาบ รู้สึกเหมือนว่ามันจะหล่นออกจากอก เจค็อบยืนมองไอศกรีมนิ่ง แต่ผมรับรู้ได้ว่าเขากำลังโกรธ

 

 

“…สัญญากฎหมายไม่รองรับที่คุณคิดขึ้นมา เพราะคุณรู้จักแซ็คดีกว่าใคร คุณรู้ว่าเขาจะตอบรับมัน คุณรู้ว่าเขาจะไม่ปฏิเสธมัน เพราะคุณต้องการให้ผมโดนเหมือนที่คุณโดน”

 

 

“แล้วโดนรึยังล่ะ” เจค็อบถามกลับสีหน้าเรียบเฉย กระต่ายตัวจ้อยยิ้มเศร้า

 

 

“ยัง และผมเชื่อว่าผมจะไม่โดนแบบคุณ เพราะเขาอยู่กับผมด้วยความรัก ไม่ใช่แบบที่อยู่กับคุณ” หัวใจผมกระตุกหนึ่งครั้งแล้วก็กลับมาเต้นเป็นจังหวะปกติ ผมมองไอศกรีมแล้วยิ้ม เจค็อบขบกราม แต่มุมปากขวาก็ยกขึ้นเป็นยิ้มเยาะ

 

 

“นายเก่งดีที่อยู่กับคนเห็นแก่ตัวอย่างงั้นได้” ไอติมยิ้มขำ

 

 

“ข้อนี้ผมเห็นด้วยว่าเขาเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว สัญญาฉบับนั้นทำให้เขาได้ผลประโยชน์กับตัวเขาเต็มๆ” ผมเหมือนโดนไอศกรีมตบบ้องหูจนมึน

 

 

“นายเป็นคนมีความอดทนดีนะ” เจค็อบยิ้มน้อย ๆ ไอศกรีมส่ายหัว

 

 

“คุณอาจจะไม่เข้าใจ แต่ผมอยู่กับเขาด้วยความเข้าใจจริง ๆ ผมอาจจะมีช่วงเวลาเศร้า คิดมากเรื่องเขากับผู้หญิงบางคนไปบ้าง แต่ก็เป็นปกติใช่มั้ยล่ะที่จะต้องมีคิด…” กระต่ายตัวจ้อยไหวไหล่ทั้งสองข้างขึ้น

 

 

 “…ผมไม่เคยคิดจะปล่อยมือเขาตราบเท่าที่เขายังอยากจับมือผมแล้วเดินไปด้วยกัน แม้ว่ามืออีกข้างของผมจะมีมือของเดนนี่จับไว้ด้วยก็ตาม” จากตอนแรกผมกลัวและระแวงอะไรไปเรื่อย ตอนนี้กลายเป็นผมหมั่นไส้เจ้ากระต่ายแทนแล้ว

 

 

เจค็อบสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วก็พ่นออกมา เขายิ้มขำ เลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้น “มีสถานที่ท่องเที่ยวในไทยเด็ด ๆ แนะนำบ้างมั้ย”

 

 

“ผมไม่ใช่ไกด์ แต่กูเกิลคงช่วยคุณได้” เจค็อบยังคงยิ้มด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน

 

 

“โชคดีนะ ขอให้รักกันนานๆ” ผมรู้ว่าเขาไม่ได้อวยพรจริงหรอก

 

 

“ขอบใจ คำอวยพรของนายจะเป็นจริง” แต่ผมก็รับไว้เพราะอยากกวนตีนเขาเหมือนกัน

 

 

เจค็อบเดินออกไปจากห้องรับรองแขกในฟิตเนส ผมเดินเข้าไปหากระต่ายตัวจ้อย เขาพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ หน้าตาเหนื่อยหน่าย

 

 

“ขอบใจที่เชื่อมั่นในตัวฉัน”

 

 

“ถ้าครั้งนี้คุณไปแล้วไม่กลับมา คำพูดผมก็คือเสียงหมาเห่าดี ๆ นี่เอง” ผมดึงเขาเข้ามากอดแล้วก้มลงหอมหัวเขาหนึ่งที

 

 

“นายจะเป็นหมาได้ยังไง นายเป็นกระต่าย…” ประตูห้องถูกดันเข้ามา เดนนี่ยืนมองผมสองคนด้วยสายตาตื่นๆ

 

 

“…อีกอย่างฉันไม่ยอมให้ไอ้เดนนี่ได้ครองนายคนเดียวหรอก” ผมกระซิบกับกระต่ายตัวจ้อย เขาหัวเราะในลำคอ

 

 

“เจค็อบมานี่เหรอ” ผมพยักหน้า

 

 

“แต่เราจัดการได้แล้ว” เดนนี่พ่นลมหายใจ หรี่ตามองเราสองคนแวบหนึ่งก่อนจะเดินเข้ามาหาแล้วก็กอดไอศกรีมทับผมอีกที ผมกลอกตาทำหน้าเอือม

 

 

“เราเป็นครอบครัวเดียวกัน กอดผมก็มีค่าไม่ต่างจากคุณ” เขายักคิ้วทำหน้าท้าทาย ผมมองเขาด้วยความหงุดหงิดและหมั่นไส้ ยิ่งได้ยินกระต่ายตัวจ้อยหัวเราะก็ยิ่งหมั่นไส้

 

 

 

 

 



ผมนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง มีร่างเปลือยของเธอนอนทับผมอีกที แม้เธอจะอายุเทียบเท่าแม่ผมแล้ว แต่เพราะเป็นคนดูแลตัวเองได้อย่างมีระเบียบ รูปร่างของเธอจึงยังสวยงามและเร่าร้อนในแบบฉบับของสาวมีอายุ

 

 

“แผลเป็นนี้มีมาได้ยังไง เธอไม่เคยตอบฉันเลย” นิ้วของเธอลูบแผลเป็นใต้ราวนมซ้ายใกล้กับซี่โครงของผม

 

 

“แผลแห่งความทรงจำ…” เธอเงยหน้าขึ้นมองผม ใบหน้าที่มีกรอบหน้าชัดเจนอย่างสวยงามกำลังมีความสงสัย

 

 

“…ให้ผมจำได้ว่ามีคนรักผมและเสียสละเพื่อผมแค่ไหน” แววตาของเธอสลดลง เพราะเธอรู้ว่าผมหมายถึงใคร

 

 

“แซ็ค ฉันเองก็รักเธอ” ผมคลี่ยิ้มบาง

 

 

“ผมขอบคุณความรักจากคุณ แต่ผมแน่ใจแล้วว่าระหว่างคุณกับผมต้องจบลงแล้ว” เธอมองผมด้วยความเศร้า

 

 

“พอแล้วจริง ๆ เหรอ” ผมพยักหน้า เธอไม่รู้เรื่องสัญญา ฉะนั้นเธอไม่รู้ว่าผมหมดภารกิจตรงนี้แล้ว สัญญาจบผมเองก็จะจบด้วยเช่นกัน

 

 

“แม้กระทั่งความเป็นเพื่อนกัน” สีหน้าของเธอช็อค

 

 

“อะไรนะ”

 

 

“ผมมาหาคุณ เพราะผมมีเหตุผลที่ต้องมาและต้องทำ แต่กับคนรักของผม เหตุผลเดียวของผมคือผมรักเขา และผมอยากให้เขาสบายใจ”

 

 

“โดยการตัดความสัมพันธ์กับฉันแม้แต่ความเป็นเพื่อนกันน่ะเหรอ” ผมพยักหน้า เธอมองผมด้วยความเหลือเชื่อ เธอลุกขึ้นนั่งจนหน้าอกเต่งตึงของเธอเด่นชัด

 

 

“เธอเห็นแก่ตัวได้ร้ายกาจจริงๆ” เธอว่าเสียงสั่น น้ำตาคลอเบ้าตา ผมลุกขึ้นนั่งและมองเธอด้วยความรู้สึกผิด

 

 

“ผมขอเห็นแก่ตัวเพื่อคนที่ผมรักเถอะนะ เพราะเขารับความเห็นแก่ตัวของผมมานานแล้ว” น้ำตาของเธอไหลอาบแก้ม แต่เธอไม่ได้สะอึกสะอื้น เธอทำเพียงนั่งนิ่งให้น้ำตาไหลของมันเอง

 

 

“ไปเถอะ” ผมไม่ได้ว่าอะไรต่อ ลุกออกจากเตียง หยิบกางเกงยีนส์บนพื้นขึ้นมาสวมในขณะที่เธอนั่งเช็ดน้ำตาจนแห้งแล้วพ่นลมหายใจ

 

 

“Good luck. (โชคดีนะ)” ผมบอกเธอหลังจากที่ใส่เสื้อยืดเสร็จเรียบร้อย เธอหันมองผมและพยักหน้าให้เพียงนิด ริมฝีปากของเธอพยายามขยับเป็นรอยยิ้มแต่ก็ทำได้ไม่ดีนัก

 

 

“You too. (เธอก็เช่นกัน)” ผมพยักหน้าและยิ้มอ่อน

 

 

“Good bye. (ลาก่อน)”

 

 

“Bye.” ผมหมุนตัวเดินไปเปิดประตูห้องพักโรงแรมย่านใจกลางกรุงที่เป็นสถานที่ที่เธอนัดมา ผมดึงประตูออกและก้าวเท้าเดินออกไป ปิดประตูตามหลังโดยไม่ได้หันไปมองอีกเลย

 

 

 

 



“แซ็ค วันนี้คุณมีนัดกับหมอนี่ ไม่ไปหาแล้วเหรอ” ผมหันไปมองไอศกรีมที่นอนอยู่บนตัวไอ้เดนนี่ที่กำลังนอนกินป๊อบคอร์นดูหนังอีกที กระต่ายตัวจ้อยหันหน้าจอโทรศัพท์ที่เป็นหน้าปฏิทินและมีข้อความบันทึกไว้ว่าเป็นวันนัดพบจิตแพทย์ของผม

 

 

“ขอโทษที ฉันลืมบอก” ผมดึงโทรศัพท์ออกจากมือเขา วางไว้บนโซฟาหนังในห้องโฮมเธียเตอร์แล้วก็เอื้อมตัวไปอุ้มเขาจากตัวเดนนี่มาไว้บนตัวผมแทน เดนนี่มองผมด้วยหางตาแต่ก็ไม่ว่าอะไร ผมยิ้มเบ้ปากก่อนหันมามองหน้ากระต่ายตัวจ้อยที่นั่งคร่อมตัวผม

 

 

“หมอปรับตารางการนัดเป็นสามเดือนครั้งน่ะ แต่ถ้ามีอาการวิตกกังวลเกิดขึ้นก็ให้โทรไปนัดด่วนได้” กระต่ายตัวจ้อยมองผมตาแป๋ว

 

 

“ทำไมล่ะ ปกตินัดเดือนละครั้ง…” ไอศกรีมตาโต

 

 

“…โอ๊ะ หรือว่าอาการคุณดีขึ้น” ผมคลี่ยิ้ม

 

 

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ตั้งแต่มาหาหมอที่ไทย เขาไม่เคยให้ยาฉันมากินเลยนะ เขาบอกว่าอยู่ที่ใจฉันล้วนๆ”

 

 

“แล้วก็อยู่ที่ความเงี่ยนของคุณด้วย” ผมที่กำลังยิ้มอ่อนโยนให้กับไอศกรีมหุบยิ้มลงทันทีแล้วหันหน้าไปมองเดนนี่ที่ยักคิ้วกลับมา กระต่ายตัวจ้อยหัวเราะ

 

 

“จริง ๆ คุณไม่ต้องไปพบจิตแพทย์เลยเหอะ ได้ไอ้กระต่ายนี่เป็นเมีย แถมยังได้เอาผู้หญิงคนอื่นเรื่อย ๆ อีก สุขภาพจิตคุณแม่งควรดีอะ”

 

 

“ไอ้เดน ตอนแรก ๆ แซ็คเป็นจริง ๆ นะ” กระต่ายตัวจ้อยพูดภาษาอังกฤษกับแฟนอีกคน เขาจะพยายามไม่พูดภาษาไทยกันสองคนเวลาเราอยู่ด้วยกัน เพราะเขาไม่อยากให้ผมรู้สึกแปลกแยก ก็มีบ้างบางครั้งที่พวกเขาเผลอพูดภาษาไทยใส่กัน แต่ก็จะแปลให้ผมฟังอีกที

 

 

“แต่ควรหายตั้งแต่เขารู้จักรักมึงแล้ว ไอ้อาการกลัวนั่นก็หายไปแล้วเปล่า ส่วนเรื่องสัญญา ก็แค่ยืดเวลาให้เขาปรับตัวลดอาการเงี่ยนแค่นั้นแหละ” ผมอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง ไอศกรีมก็เช่นกัน เราหันมองกันด้วยความตะลึงก่อนหันกลับไปมองเดนนี่อีกที

 

 

“ทีนี้อยู่ที่ใจคุณล้วน ๆ แบบที่หมอบอกแล้วแซ็ค อาการพวกนั้นบางทีมันอาจเป็นแค่เรื่องรอง หลัก ๆ คือใจ…” เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ผมนิ่งฟังเขาและรู้สึกคล้อยตาม

 

 

“…และตอนนี้ไม่มีสัญญาอันนั้นผูกมัดแล้ว คุณหาข้ออ้างไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้ละนะ อ้อ ได้ในหนังโป๊อีกนี่หว่า” เดนนี่ยัดป๊อบคอร์นเข้าปาก ผมหันหน้ากลับไปมองไอศกรีมที่ยิ้มบางตาใส ผมถอนหายใจและยกมือขวาขึ้นลูบหัวเขา

 

 

“รอดูฉันนะ” กระต่ายตัวขาวพยักหน้า ประตูห้องถูกเคาะ ไอศกรีมลงจากตัวผมแล้วก็เดินไปเปิดประตู

 

 

“น้องติม มาช่วยแม่ในครัวหน่อยได้มั้ยลูก”

 

 

“ได้ซี่ ป่ะๆ” ไอศกรีมเดินออกไปนอกห้อง แม่ของกระต่ายตัวจ้อยยิ้มให้เราสองคนก่อนจะดันประตูจะปิดตามเดิม รอยยิ้มผมลดลงก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่งแล้วหันตัวไปทางเดนนี่

 

 

“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” เดนนี่ลุกขึ้นนั่งและวางถ้วยป๊อบคอร์นไว้บนโต๊ะกระจก

 

 

“ว่า”

 

 

“นายจะไม่ไปจากไอศกรีมจริง ๆ ใช่มั้ย” เขาส่ายหัว

 

 

“ผมเป็นผัวมันนะ และคงเลิกเป็นไม่ได้ง่ายๆ” ผมปิดเปลือกตาลงแล้วถอนหายใจ ก่อนลืมตาขึ้นมองเขาอีกครั้ง

 

 

“เราจะอยู่ด้วยกันสามคนแบบนี้จริง ๆ น่ะเหรอ”

 

 

“ทำไมจะอยู่ไม่ได้อะ เอากันแบบทรีซัมยังมีเลย รักกันสามคนก็ไม่แปลกป้ะ”

 

 

“ไม่แปลก แต่ฉันไม่ชอบ” เดนนี่เลิกคิ้วขึ้น

 

 

“คือยังไง คุณต้องการให้ไอติมมันรักคุณคนเดียว มีคุณคนเดียว เอากับคนอื่นได้เป็นบางครั้งตามที่คุณอนุญาต ส่วนคุณมีอิสระมากกว่ามันงี้เหรอ”

 

 

“ก็ตอนนี้ฉันมีแค่เขาคนเดียว”

 

 

“แต่กว่าจะมาถึงตอนนี้ ไอ้ติมมันผ่านความรู้สึกอะไรมามั่งอะ แล้วคุณจะหวังให้มันรักเดียวใจเดียว มีคุณคนเดียวไม่ได้หรอก ผลลัพธ์มันไม่ออกมาสมปรารถนาคุณหรอกนะ”

 

 

“สามคน คือผลลัพธ์ของฉันงั้นสิ” ผมถามด้วยความประชด

 

 

“ใช่ คุณหวังว่าในท้ายที่สุดแล้วจะมีแค่สอง…” ผมหยักหน้าลงหนึ่งครั้งด้วยความจริงจัง เดนนี่ยิ้มเยาะ

 

 

“…แต่ไม่ใช่หรอกแซ็ค ของแบบนี้มันมีราคาที่ต้องจ่าย”

 

 

“ฉันถึงอยากจะขอร้องว่าให้นายออกไปได้มั้ย” เขาส่ายหัวหน้าตาจริงจังทันที

 

 

“ผมเข้ามาอาจจะเพื่อบอกให้คุณรู้ไว้ว่าเพื่อนผมมันมีทางอื่นไปเสมอ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว ผมรักไอติม เหมือนที่คุณรักมันนั่นแหละ” ผมขมวดคิ้ว

 

 

“จะอยู่กันยังไง รักกันสามคนแบบนี้ รักสามเส้ารึไงกัน”

 

 

“ทำไมต้องเศร้าด้วยอะ เป็นรักสามสุขไม่ได้เหรอ” ผมพ่นลมหายใจหน้าตาบึ้งตึง

 

 

“เดนนี่…”

 

 

“…อย่าคิดดิว่าตัวเองจะดวงดี โชคดี และสมหวังดังใจหลังจากผ่านการกระทำของตัวเองมา คุณได้อย่างนึง คุณก็ต้องแลกอย่างนึง จะได้หมดทุกอย่าง เป็นไปไม่ได้” เขามองตาผมจริงจัง เป็นการบอกว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น และเขาจะไม่จากไป ผมยกมือขวาขึ้นนวดขมับทั้งสองข้างเบา ๆ ระหว่างนั้นความคิดก็ไหลไปวนมาอยู่ในหัว สุดท้ายผมปล่อยมือออกจากขมับและเงยหน้าสบตาเขาอีกรอบ ซึ่งเดนนี่ยังคงมองผมด้วยสายตาแน่วแน่ตามเดิม

 

 

“ได้ ฉันเข้าใจ ฉันต้องเข้าใจ” ผมพึมพำด้วยความรู้สึกสั่นคลอนภายในอก

 

 

 “เจค็อบมันก็เหมือนซาตานอะไรทำนองนั้น มันประทานพรให้คุณ แต่พรที่มันให้คุณก็มีสิ่งแลกเปลี่ยน และนี่แหละคือข้อแลกเปลี่ยนของมัน” ผมหลับตาลง ถอนหายใจยาว ๆ ลืมตาขึ้นมองเดนนี่ที่ยักคิ้ว หัวใจผมเต้นระส่ำ มันเกิดความกลัว แต่ในขณะเดียวกันมันก็รู้สึกอุ่นใจ

 

 

อุ่นใจที่ข้อแลกเปลี่ยนของเจค็อบไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการในรูปแบบที่เขาคาดหวัง แต่ดันมาในอีกรูปแบบหนึ่งที่ (ผม) ไม่ได้คาคคิดไว้เลย

 

 

“ก็ได้ เราจะอยู่ด้วยกัน” เดนนี่ไหวไหล่ทั้งสองข้าง หน้าตาท่าทางชิลๆ

 

 

“น้าแพนรู้เรื่องนี้แล้วว่าเราสองคนอยู่กับไอติมยังไง คุยกันนานกว่าน้าแพนจะเข้าใจ ส่วนแม่ไอ้ติม น้าแพนจะช่วยอธิบาย แต่ถึงไม่อธิบาย ผมว่าแม่ก็มองออก ลูกชายมีผู้ชายสองคนตามติดด้วยตลอดเวลาขนาดนี้”

 

 

“ถ้าฉันจะขอไอศกรีมแต่งงาน เท่ากับว่านายเองก็พร้อมจะแต่งด้วยใช่มั้ย” เดนนี่ยิ้มขำ

 

 

“เราสองคนเป็นผัวมันนะ คุณแต่งแล้วผมไม่ได้แต่งได้ไงอะ” ผมยกยิ้มมุมปาก

 

 

“ได้ งั้นตอนนี้นายก็คงพร้อมที่จะทำอะไรให้ไอศกรีมพร้อมกับฉันแล้ว” อีกฝ่ายขมวดคิ้ว

 

 

“ทำอะไร”

 

 

 

 

“โอ๊ย ไอ้เหี้ยเอ๊ย เจ็บชิบหาย” ผมยืนกอดอกมองเดนนี่ที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงและกำลังร้องโอดครวญ มีไอศกรีมนั่งอยู่ข้าง ๆ และกำลังมองแผ่นหลังของเดนนี่ที่มีรอยสักอันใหญ่อยู่บนกลางหลัง

 

 

“น่ารักอ้า!” กระต่ายตัวจ้อยยิ้มร่า ยื่นมือไปจับรอยสักบนหลังเปลือยเปล่าของเดนนี่

 

 

“โอ๊ย! ไอ้เหี้ยติม อย่าซน” ไอศกรีมนั่งหัวเราะคิกคักแล้วเงยหน้าขึ้นมองผม

 

 

“ของคุณก็ลายนี้เลยเหรอ” ผมพยักหน้าแล้วหันหลังให้ไอศกรีมดูรอยสักบนแผ่นหลังของผมที่ไปเพิ่งสักมาสด ๆ ร้อน ๆ พร้อมเดนนี่

 

 

“ผมใช่มั้ย?!”

 

 

“จะมีใครอะ กระต่ายขี้เงี่ยนในชีวิตกูสองคนจะมีใครได้นอกจากมึง” ผมได้ยินเสียงไอศกรีมปรบมือด้วยความดีใจพร้อมกับหัวเราะเริงร่า

 

 

“น่ารักอ่า”

 

 

“เป็นการบอกว่าเราสองคนมีเมียคนเดียวกัน” ผมเอี้ยวหน้าไปบอกเขา กระต่ายตัวจ้อยกวักมือเรียกผม

 

 

“แซ็ค มานอนข้างเดนนี่เร็ว ผมจะถ่ายรูปน้องกระต่ายสองตัวบนหลังของคุณสองคน” กระต่ายตัวจริงที่ไม่ได้อยู่บนหลังผมกับหลังเดนนี่บอกอย่างตื่นเต้น ลุกลงจากเตียงเพื่อหลีกทางให้ผมไปนอนคว่ำหน้าข้างเดนนี่

 

 

เราสองคนไปสักที่แผ่นหลังด้วยกัน เป็นรูปกระต่ายตัวสีขาวอมเทานั่งหันหลังแล้วเอี้ยวหน้ามามอง รอบตัวมีดวงดาวสีขาวดวงเล็กระยิบระยับจับตา เป็นกระต่ายตัวใหญ่ตัวเดียวกัน ช่างสักเข้าใจว่าผมกับไอ้เดนนี่เป็นแฟนกัน จนต้องอธิบายว่าเรามีเมียคนเดียวกันต่างหาก

 

 

“สวยมากกก!” กระต่ายตัวจ้อยนั่งลงตรงกลางระหว่างเราสองคน นั่งมองรูปในมือถือด้วยสายตาตื่นเต้น

 

 

“ฟินเลยดิมึง ไม่เคยมีผัวมาเกือบครึ่งชีวิต พอมีทีมีพร้อมกันสองคนเลย” เดนนี่ยิ้มขำ ผมยิ้มขำตาม กระต่ายตัวจ้อยฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี ดวงตาของเขาเปล่งประกายแข่งกับดวงดาวรอบตัวกระต่ายบนหลังเราสองคน

 

 

“ห้ามถามว่านี่รักใครมากกว่ากัน ห้ามให้เลือกด้วย รักทั้งคู่ เลือกทั้งคู่ โอเค๊” ผมยกมือขึ้นว่าโอเค เดนนี่ยกขึ้นตามบ้าง

 

 

“ยอมคบกับฉันแล้วใช่มั้ย” กระต่ายตัวจ้อยถลึงตาใส่ผม

 

 

“ไม่มั้ง!” ผมกับเดนนี่หัวเราะ ไอศกรีมก้มลงหอมแก้มเราสองคนคนละข้างด้วยความดี๊ด๊า

 

 

“เอาไหวกันมั้ยอะ เดี๋ยวอยู่ข้างล่างให้จนเสร็จเลย จะได้ไม่ต้องเอาหลังลงเตียง”

 

 

ผมสองคนคิดถูกแล้วละที่สักลายกระต่าย เพราะเมียเราสองคนเป็นกระต่ายนี่นา

           

 

 

 

เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


Rabbitch is back !



แท็กเรื่องนี้ #ประสบกามประสบรัก





หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.47 : ฺTri-happiness-love. :06.10.19:
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 06-10-2019 20:26:34
หายไปนานมาก..กกก  กลับมาสมการรอคอย   o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.47 : ฺTri-happiness-love. :06.10.19:
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 06-10-2019 22:27:21
้จ้ากระต่ายก็ยังคงเป็นเจ้ากระต่ายหื่นอยู่เหมือนเดิม :hao3:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.47 : ฺTri-happiness-love. :06.10.19:
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-10-2019 22:50:22
ชอบความหมั่นหน้าและหมั่นใจของปัวกระต่าย  :hao6:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.47 : ฺTri-happiness-love. :06.10.19:
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 06-10-2019 23:13:39
น้งต่ายกลับมาแล้ววววววว
ตอนแรกเลยเราชอบเดนนี่นะ
แล้วก้เชียร์ให้ได้กับนุ้งต่ายด้วย
แต่พอมาเป็นแบบเราสามคนงี้ละกลับไม่เป็นดังที่คิดเลย
แอบสงสารแซ็คอะ คือแบบกว่าจะผ่านอะไรมาจนได้ลงเอยกัน
กลับต้องมาพบว่านุ้งต่ายมีใครอีกคนงี้เหรอ
เฮ้อออออออ อินขั้นสุดเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.47 : ฺTri-happiness-love. :06.10.19:
เริ่มหัวข้อโดย: Moonoii ที่ 06-10-2019 23:23:38
 :hao6: :hao6: nc ต้องมาแล้ ณ จุดๆนี้
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.47 : ฺTri-happiness-love. :06.10.19:
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-10-2019 23:59:23
ตอนนี้น้องต่ายน่าจะเป็นคนที่ฟินสุดๆ แระ  o18
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.47 : ฺTri-happiness-love. :06.10.19:
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 07-10-2019 02:03:17
น้องติมแซ่บเวอร์
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.47 : ฺTri-happiness-love. :06.10.19:
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 08-10-2019 22:51:14
อยู่กันสามคน ชีวิตคือดี

3p จงมาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อิอิ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.47 : ฺTri-happiness-love. :06.10.19:
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 12-10-2019 23:36:29
ก็ตามนั้นนะแซ็ค ลูกเราแซ่บขนาดนี้จะมีเธอคนเดียวไม่ได้ๆ อีกอย่างเดนนี่เป็นพระเอกมาแต่แรกแล้ว :laugh:
รักความ3P และเฝ้ารอ nc 3p นะคะ แอร๊ยยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 29-10-2019 20:16:36
Chapter 48 :: How do you feel? (รู้สึกยังไง)



 

“ไอ้ติม มึงมาแต่งตัวให้กูมั่ง อย่าลำเอียง มึงมีผัวสองคนนะ” เดนนี่ที่นั่งรออยู่บนเตียงมองไอติมกำลังช่วยแซ็คจัดเนคไทอย่างประณีต

           

 

“ใจเย็นเดน กูมีผัวสองคน แต่กูมีแค่สองมือ หรือมึงจะให้กูใช้ตีนทำให้มึงล่ะ” แซ็คยิ้มเย้ย เดนนี่เบ้ปาก เหวี่ยงเนคไทสีดำในมือขึ้นพาดคอ

           

 

“เรียบร้อย” แซ็คก้มลงหอมแก้มไอติมข้างซ้ายไปหนึ่งที ไอติมเดินไปหาเดนนี่บนเตียง ไม่ต้องรอไอติมผูกเนคไทให้เสร็จ เดนนี่ก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มอีกข้างของไอติม

           

 

“โอ่ยยย! มึงนี่”

           

 

“เพื่อความเท่าเทียม”

           

 

“มึงแข่งกันเป็นเด็กเหรอ เดี๋ยวมึงเรียกร้องมั่ง เดี๋ยวแซ็คเรียกร้องมั่ง” ไอติมบ่นในขณะที่สองมือก็ผูกเนคไทให้เดนนี่ไปด้วย

           

 

“บางทีมึงก็ให้ไม่เท่าเทียมกันจริง ๆ อะ”

           

 

“ใช่ บางทีนายให้หมอนั่นมากกว่าฉันอีก” ไอติมผูกเนคไทให้เดนนี่เสร็จแล้วก็อ้าปากกว้างเหมือนก็อตซิลล่ากำลังพ่นไฟ

           

 

“ถ้าไม่พอใจก็ออกจากประเทศนี้ไปเลยยย!” ไอติมชูสองมือขึ้นแล้วโบกมือไล่ชิ่ว ๆ แซ็คเดินไปนั่งข้างไอติมแล้วกอดเอวเจ้ากระต่ายเอาไว้

           

 

“ฉันจะออกไปได้ไง นี่มันประเทศบ้านเกิดฉัน” แซ็คยักคิ้วให้เดนนี่ หนุ่มลูกครึ่งเบะปากเล็กๆ

           

 

“นี่ก็ประเทศที่พ่อกูเกิดเช่นกัน และบ้านกูก็อยู่ในประเทศนี้” เดนนี่กอดไอติมจากอีกข้าง แขนของสองหนุ่มชนกันและทับซ้อนกันอยู่ แซ็คที่อยู่ข้างล่างไม่ยอม ดึงแขนตัวเองออกแล้วกอดทับแขนเดนนี่ พอไอติมเห็นว่าเดนนี่จะทำมั่งก็เลยรีบเบรกไว้ทันที

           

 

“แอะ ๆ อย่าตีกัน รักทั้งคู่…” ไอติมหอมแก้มแซ็คแล้วก็เดนนี่คนละฟอด

           

 

“…อะไรที่มันเล็กน้อย ปล่อยผ่านให้หน่อยสิ ไม่อยากให้บันนี่สบายใจเหรอ” ไอติมมองสลับสองหนุ่มด้วยสายตาออดอ้อน แฟนหนุ่มของไอติมทั้งสองคนมองหน้ากันแวบหนึ่งแล้วก็กลับไปมองไอติม

           

 

“ฉันขอโทษ”

           

 

“กูด้วย” ไอติมยิ้มกว้าง สองหนุ่มปล่อยแขนออกจากตัวไอติมแต่ยังคงนั่งอยู่ข้างๆ

           

 

“และอย่าลืม ข้อกำหนดของเราสามคนคือ…”

           

 

“…ห้ามถามว่ารักใครมากกว่ากัน ห้ามให้ไอศกรีมเลือกว่าจะเลือกใคร” แซ็คพูดก่อน และตามด้วยเดนนี่

           

 

“ห้ามเรียกร้องความสนใจด้วยการเงียบ” ไอติมพยักหน้ายิ้มกับเดนนี่

           

 

“ฉะนั้นก็สงสารกูบ้างนะเดน…” กระต่ายตัวจ้อยหันไปหาแซ็ค

           

 

“…นะแซ็ค ผมมีคนเดียว ผมอาจจะละเลยใครสักคนไปบ้างในบางครั้ง แต่ผมรักทั้งคู่นั่นแหละ”

           

 

“ฉันรู้” แซ็คยิ้ม

           

 

“กูก็รู้” ไอติมหันไปยิ้มให้เดนนี่ที่ยกยิ้มมุมปาก สักพักไอติมก็หรี่ตามองทั้งสองหนุ่ม

           

 

“แล้วไม่ใช่ได้กันเองซะล่ะ กระต่ายกลายเป็นหมาเลยนะ” แซ็คกับเดนนี่หัวเราะ ก่อนจะแกล้งหยอกไอติมด้วยการทำปากจู๋แล้วยื่นหน้าเข้าใกล้กันจนปากเกือบโดนกัน ไอติมเบิกตากว้างอ้าปากหวอ

           

 

“ว้ากกก! ไม่โอเคคค” สองหนุ่มดึงหน้าออกจากกันก่อนที่ปากจะโดนกันแล้วก็หัวเราะเมื่อกระต่ายตัวจ้อยยกสองมือกุมหัวและทำหน้าตื่นตระหนกตกใจ

           

 

“มึงระวังไว้เถอะ คนที่ไว้ใจร้ายที่สุด กูบอกแค่นี้” เดนนี่แกล้งขู่ ไอติมย่นคิ้วหน้ามู่ทู่ หันไปมองแซ็คที่คลี่ยิ้มกว้างแล้วจู่ ๆ ก็ยกมือส่งจูบให้เดนนี่ที่รับรอยจูบนั้นไว้อย่างรวดเร็ว

           

 

“สองคนนี้นะ ถ้าจะได้กันขึ้นมาจริง ๆ ห้ามปิดบัง บอกด้วย เดี๋ยวออกไปจากประเทศนี้เองก็ได้” แฟนหนุ่มทั้งสองคนของไอติมหัวเราะลั่นด้วยความตลกขบขัน ไอติมรู้สึกวูบ ๆ คล้ายคนจะเป็นลม

           

 

“สัญญาของเราสองคนในระหว่างสัญญาของเจคที่นายตั้งไว้ ฉันเคยทำไม่ได้เหรอ…” ไอติมหันมองแซ็คตาแป๋ว

           

 

“…ไม่มีผู้หญิงคนไหนท้อง ฉันไม่มีโรคทางเพศสัมพันธ์ ไม่เล่นยา ไม่มีอะไรกับผู้ชายคนอื่น…”

           

 

“…จะบอกว่าตัวเองเป็นคนดีว่างั้น” เดนนี่แทรกขึ้นด้วยท่าทีกวนโอ๊ย แซ็คละสายตาจากไอติมไปมองเดนนี่แล้วเบ้ปากพร้อมกับไหวไหล่

           

 

“ก็ดีจริง” เดนนี่ยิ้มเยาะ ก้มหน้าลงมองไอติมที่นั่งหน้ามู่ทู่

           

 

“ก่อนจะมาเป็นผัวเมียกัน มึงเห็นกูแทบทุกซอกทุกมุม เชื่อว่ามึงรู้จักกูดีพอ” ไอติมหันมองทั้งสองคนแล้วก็พ่นลมหายใจและตามด้วยคลี่ยิ้มโล่งใจ

           

 

“เด็กดีทั้งสองคนเลย” ไอติมหันไปกอดเดนนี่ก่อนเป็นคนแรกแล้วตามด้วยหันไปกอดแซ็ค กอดแฟนทั้งสองคนเสร็จ ไอติมก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงสแล็คสีดำสีเดียวกับสูทตัวนอก และเป็นสไตล์เดียวกันกับสองหนุ่มแต่ไซซ์เล็กกว่า

           

 

“ถ่ายรูปครอบครัวกัน” ไอติมยื่นโทรศัพท์ให้แซ็คเพราะเขาแขนยาวที่สุด

           

 

“ฝั่งนายแสงสวยกว่า” แซ็คยื่นโทรศัพท์ให้เดนนี่หลังจากลองหันกล้องหน้าเข้าหาพวกเขาทั้งสามแล้ว เดนนี่รับโทรศัพท์ไป เบี่ยงแขนไปทางแสงจนได้ภาพสีนวลตาก่อนกดภาพคู่รักสามสุขไปหลายภาพ

           

 

“ไปกัน พวกลูคัสถึงแล้วมั้ง” ไอติมว่าทั้งที่ยังก้มหน้าเลือกรูปเพื่อจะอัปลงอินสตาแกรม

           

 

“เมื่อกี้ไอติมกอดผมก่อน” เดนนี่กระซิบบอกแซ็ค

           

 

“เมื่อคืนตอนนายหลับ เราสองคนไปเอากันตรงระเบียง ตื่นเต้นน่าดูเลยละ” แซ็คยิ้มกริ่มและยักคิ้ว เดนนี่หน้าตึง มองแซ็คตาแทบไม่กะพริบ หนุ่มอเมริกันคลี่ยิ้มกว้างก่อนเดินไปปิดแอร์ในห้องนอนแล้วเดินตามไอติมออกไป ทิ้งให้หนุ่มลูกครึ่งพ่นลมหายใจออกทางจมูกแรงๆ

 

 

 

           

            “จริงหรือเปล่าครับไบรอั้นที่ผลงานชิ้นนี้เป็นชิ้นสุดท้ายในวงการหนังผู้ใหญ่แล้ว” แสงแฟลชวูบวาบขณะที่แซ็คกำลังยืนสัมภาษณ์กับ

แม็กกาซีนในวงการหนังโป๊ชื่อดังเจ้าหนึ่งใกล้กับประตูทางเข้าโรงภาพยนตร์ที่กำลังจะฉายภาพยนตร์เรียลลิตี้ของค่ายหนังลูคัส และหลังจากหนังจบลงก็จะเป็นการประกาศหญิงสาวผู้ชนะของรายการนี้ ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลและรางวัลอย่างอื่น รวมทั้งการเป็นนักแสดงหญิงคนแรกและคนสุดท้ายในสังกัดของลูคัสด้วย   

 

 

“เป็นเรื่องสุดท้ายครับ จริง ๆ ผมรีไทร์มาได้สองปีแล้ว แต่งานนี้แฟนผม (boyfriend) ขอให้มาช่วย เพราะเป็นเรียลลิตี้ของค่ายเรา เขาอยากได้นักแสดงชายที่พอจะมีชื่อเสียงมาดึงดูดคนดูน่ะ”

           

 

“โอ้ว งานนี้แฟนคุณเป็นคนดูแลเองด้วยนี่” แซ็คยิ้มกว้างอารมณ์ดี

           

 

“เขาเป็นคนกำกับฉากเซ็กซ์ให้ผมกับผู้เข้าแข่งขันด้วยซ้ำ”

           

 

“ต่อจากนี้เราก็จะตามดูคุณได้จากผลงานเก่า ๆ เท่านั้นสินะครับ” แซ็คยิ้มกริ่มพร้อมพยักหน้าสองสามครั้ง

           

 

“คิดถึงผมก็ตามดูผลงานเก่า ๆ ได้ในเว็บไซต์ของผมเองได้เลย แต่ผลงานใหม่ ๆ กับแฟนผมยังมีไปเรื่อยๆ” นักข่าวหนุ่มสัมภาษณ์แซ็คไปเรื่อยในขณะที่อีกมุมไอติมกำลังยืนคุยกับลูคัส

           

 

“เจคยอมให้งานเก่า ๆ ของแซ็คมาลงเว็บเราแล้วนะ” ไอติมมีสีหน้าประหลาดใจ

           

 

“เกิดอะไรขึ้นฮะ ทำไมจู่ ๆ เขายอมล่ะ ทั้งที่เราพยายามเจรจามาตลอด”

           

 

“ฉันเดานะว่าเขาคงสนุกมากพอแล้ว…” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงุนงง ลูคัสยิ้มพร้อมยักคิ้ว

           

 

“…เขาพยายามทำลายความรักเธอสองคนด้วยการใช้นิสัยของไอ้ไบรอั้นมาเป็นตัวหลักแล้วก็ยื้อเวลาถึงห้าปี แต่สุดท้าย มันไม่เป็นอย่างที่เขาหวังไว้”

           

 

“และเขาก็หมดแพชชั่นในการพยายามไปเลยน่ะเหรอฮะ” ลูคัสพยักหน้า

           

 

“ก็ถ้าทำเต็มที่แล้วมันไม่สำเร็จ เขาก็คงไม่อยากเสียเวลากับสิ่งนั้นแหละ” ไอติมยิ้มเศร้า ยกมือซ้ายอ้อมอกไปจับตรงแผลเป็นบริเวณแผ่นหลังของตัวเอง

           

 

“อย่างน้อยเขาก็ทำสำเร็จด้วยการฝังความทรงจำผ่านรอยแผลเป็นไว้”

           

 

“ความทรงจำในชีวิตของนายมีเรื่องนั้นเรื่องเดียวซะเมื่อไหร่”

           

 

“เฮฮฮฮ!” เสียงดังสนั่นแข่งกับเสียงเพลงดังขึ้นตรงบริเวณหน้าแบ็คดร็อปของงาน ไอติมหันไปมองก็เห็นหนุ่ม ๆ นักแสดงในสังกัดกำลังโพสต์ท่าให้เดนนี่ที่รับหน้าที่ช่างกล้องภาพนิ่งอีกคนของงานถ่ายภาพเพื่อเอาไปลงเว็บไซต์ของค่าย ไอติมสำรวจด้วยสายตาเร็ว ๆ ก็คิดว่าน่าจะครบทุกคนในสังกัดเลย

           

 

“ความทรงจำที่มันไม่ดี ลืมมันไม่ได้ ก็อยู่กับมันให้เป็น ซึ่งฉันว่านายอยู่กับมันเป็นมานานแล้วนะ” ไอติมคลี่ยิ้มและพยักหน้า

           

 

“ส่วนหนึ่งก็คงต้องขอบคุณเขาแหละครับ ไม่มีเขา ผมก็ไม่ได้รู้จักกับแซ็ค”

           

 

“ฉันว่าขอบคุณความหงี่นายจะดีกว่า” ลูคัสขยิบตาซ้าย ไอติมหัวเราะร่วน

           

 

พอถึงเวลาหนังใกล้จะฉาย สตาฟของงานก็ประกาศเรียกทุกคนที่มาร่วมงานให้เข้าไปด้านในโรงภาพยนตร์  ไอติมเดินไปนั่งกับลูคัสและพระเอกคนอื่น ๆ ในสังกัดตรงแถวบนสุด มีหกคนซึ่งรวมถึงแซ็คที่ต้องลงไปนั่งกับสาว ๆ ผู้เข้าแข่งขันรายการเรียลลิตี้ทั้งหกคนที่นั่งอยู่บริเวณแถวกลาง และจะพากันไปยืนด้านหน้าจอภาพยนตร์ด้วยกัน ส่วนเดนนี่กับดัสตินรับหน้าที่เป็นตากล้องคอยเก็บภาพบรรยากาศในงานเลยไม่ได้มานั่งด้วย

           

 

“Good evening everyone!” ไอติมปรบมือพร้อมกับยิ้มกว้างเมื่อเห็นเลโอและพี่เจมส์ในฐานะพิธีกรวันนี้เดินออกมาคู่กัน ทั้งคู่ใส่สูททับเสื้อเชิ้ตขาวแต่คนละสี เลโอใส่สีเทาและไม่มีเนคไท ส่วนพี่เจมส์ใส่สีแดงไวน์เบอร์กันดี้มีเนคไทสีเดียวกันผูกตรงคอเสื้อ

           

 

“สำหรับวันนี้ก็เป็นวันที่เราจะมีดาวรุ่งหญิงเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของสตูดิโอ BEEFFET…” ทั้งสองคนรับส่งกันได้ดี เจมส์พูด เลโอตอบรับ หรือเลโอส่งมุก เจมส์ก็จะตบมุกกลับ

           

 

งานนี้ถือว่าลูคัสกับไอติมเล่นใหญ่น่าดู เรียกความสนใจจากสื่อและสปอนเซอร์เข้าค่ายได้ไม่น้อย และถือเป็นการเปิดตัวนักแสดงหญิงคนแรกและคนสุดท้ายในเวลาเดียวกันของค่ายได้อย่างสมเกียรติ แต่จริง ๆ เห็นว่าลูคัสดีลไว้ทั้งหกคนนั่นแหละ เนื่องจากคะแนนโหวตพอ ๆ กัน และฝีมือทางการแสดงก็โดดเด่นทั้งหกคน เพียงแต่ผู้ชนะก็จะได้รับเงินรางวัลและรางวัลพิเศษอื่น ๆ ไปด้วย

           

 

“Enjoy!” เลโอบอกเสียงทุ้มก่อนจะเดินออกจากหน้าจอพร้อมกับเจมส์ บนจอเริ่มฉายภาพยนตร์เรียลลิตี้ซึ่งเป็นอีกหนึ่งงานที่ไอติมทุ่มเทและตั้งใจทำสุดความสามารถเพื่อไม่ให้ลูคัสหรือใครผิดหวัง

           

 

“Wowww!” เสียงร้องว้าวมาพร้อมกับเสียงปรบมือและเสียงผิวปากเมื่อซีนแรกเริ่มขึ้น ไอติมนั่งหัวเราะคิกคักด้วยความเขินอายเมื่อคิดได้ว่าตัวเองตัดต่ออะไรไปบ้าง

           

 

หนังมีความยาวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ไม่ใช่มาเพียงเอากันแล้วจบ แต่ภาพยนตร์เรียลลิตี้เรื่องนี้มีเรื่องราวให้เล่า ซึ่งเป็นแบบที่ไอติมชอบและถนัด ไอติมนั่งมองผลงานตัวเองแล้วยิ้มอิ่มใจ พอได้เห็นบนจอภาพยนตร์ใหญ่ ๆ แบบนี้ก็แอบชมตัวเองในใจว่าทำได้ไม่น่าเบื่อเลย

           

 

“วู้วววๆๆๆ” เสียงหนุ่ม ๆ นักแสดงในสังกัดดังขึ้นเมื่อเป็นซีนที่แซ็คกับบรูซนำทัพอีกสี่หนุ่มเข้ามาในฉาก ผมกับลูคัสปรบมือและยิ้มขำไปด้วยกับการเปิดตัวราวกับเป็นเจมส์ บอนด์หรือทีมอเว็นเจอร์สอะไรทำนองนั้น

           

 

“I want to perform with Bryan. He is so fucking hot! (ฉันอยากแสดงกับไบรอั้นน่ะค่ะ เขาโคตรแซ่บเลย!)” ไอติมขำกับท่าทีที่นักแสดงหญิงคนหนึ่งพูด แต่สุดท้ายเธอคนนี้ไม่ได้แสดงกับแซ็คหรอก

           

 

หนังดำเนินไปด้วยความสนุกแทรกมุกตลกขำ ๆ มีดราม่าบ้างนิดหน่อย แต่เป็นดราม่าที่อ่อนมากจนเหมือนแทรกมาเป็นสีสันมากกว่า ฉากอย่างว่าทำให้หลายคนในโรงร้องอู้ว อ้า โอ้ว อ้าว และอีกหลายเสียงระงม ไอติมรู้สึกขอบคุณที่ไม่มีใครลุกขึ้นมาเอากันสด ๆ ในโรงหนัง

           

 

The End.

           

 

เมื่อประโยคบอกว่าหนังจบแล้วปรากฏขึ้นบนจอ เสียงปรบมือและเสียงผิวปากก็ดังระงมไปทั่ว เลโอกับเจมส์เดินออกมาแล้วเริ่มดำเนินงานต่อไป โดยเริ่มจากการเรียกนักแสดงหญิงและนักแสดงชายที่แสดงคู่กันออกไปยืนด้านหน้าจอภาพยนตร์และสัมภาษณ์ทีละคู่ทีละคน นักแสดงหญิงที่แซ็คแสดงด้วยเรียกได้ว่าเธอสวยที่สุดและแซ่บสุด ๆ ในบรรดาหกผู้เข้าแข่งขัน

           

 

“His cock is so fine, fucking fine. (จู๋ของเขานั้นดีมากค่ะ ดีเหี้ย ๆ เลยค่ะ)” เธอกล่าวอย่างอารมณ์ดี สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ชมในโรง แซ็คที่ยืนข้าง ๆ หัวเราะเริงร่าก่อนจะทำท่ายืดอกด้วยความภูมิใจ

           

 

พิธีกรทั้งสองคนสัมภาษณ์นักแสดงทุกคนด้วยเวลาที่จัดสรรมาอย่างดี ไม่ให้ยืดเยื้อจนน่าเบื่อเกินไป และไม่ได้รวดเร็วจนอารมณ์ค้าง หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ ก็เข้าสู่ช่วงประกาศผลการแข่งขันเลยเพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลา และที่สำคัญจะได้ไม่เกินเวลาที่เช่าโรงภาพยนตร์ไว้

           

 

“And the winner goes to…” มีเสียงซาวด์กลองดังประกอบก่อนการประกาศผลจะดังขึ้นด้วยความกระหึ่มและชวนฮึกเหิม พอเสียงดนตรีหยุดลง เลโอก็เป็นคนประกาศออกไมค์เสียงดังฟังชัด

           

 

“Pristine and Bruce!” บรูซกับนักแสดงหญิงของเขากระโดดกอดกัน เศษกระดาษสีทองหล่นโปรยปรายจากด้านบนลงมาตรงบริเวณที่ทั้งสองคนยืน คู่อื่น ๆ ปรบมือแสดงความยินดี ลูคัสลุกเดินลงไปด้านล่างเพื่อไปมอบโทรฟี่กับของรางวัลให้แก่ผู้ชนะ ไอติมนั่งยิ้มกว้างและปรบมือจากด้านบน มองผลงานอีกหนึ่งชิ้นในวันนี้ด้วยความภาคภูมิใจ

           

 

เพราะทำด้วยใจรัก จึงมีความสุขเวลาที่ได้ทำ เมื่อทำด้วยความสุข ผลงานเลยออกมาดีอย่างที่ใจคิด แล้วก็ทำให้รู้สึกภูมิใจ

           

 

“Bunny. / ไอ้ติม” เจ้าของชื่อที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ หันไปมองหวานใจทั้งสองคนของตัวเองที่เดินขึ้นมารับเขาถึงด้านบน ไอติมคลี่ยิ้มปริ่ม ลุกเดินออกไปจากแถว กำลังจะเดินเข้าไปควงแขนสองหนุ่มแต่ก็หยุดชะงักแล้วหันไปมองเหล่าพระเอกในค่ายของลูคัส

           

 

“Hey, go to take a lot of photo together, boys! (เฮ้ ไปถ่ายรูปร่วมกันเยอะ ๆ เลย หนุ่มๆ)” เหล่าหนุ่ม ๆ บอกต่อกันไปแล้วก็ลุกเดินเรียงออกมาจากที่นั่ง ไอติมควงแขนหนุ่มข้างกายทั้งสองคนเดินลงไปข้างล่างโดยมีหนุ่มไม่ข้างกายอีกนับสิบคนเดินตามหลัง เจมส์ที่ยืนมองอยู่ด้านล่างยิ้มขำ

           

 

“โอ่โห ไม่มีใครมีความสุขเท่าเราแล้วมั้ง” ไอติมหัวเราะคิกคักก่อนจะยิ้มกว้างด้วยความเขิน

           

 

“It should be me on that side. (ข้างนั้นควรเป็นฉัน)” เลโอชี้ไปฝั่งซ้ายมือที่เดนนี่ยืนอยู่พร้อมกับทำหน้าเซ็ง ไอติมหัวเราะขำแล้วหันไปมองแซ็คที่เบ้ปากใส่เลโอ หนุ่มคิงคองมองค้อนเพื่อนสนิทไปวงใหญ่

           

 

“I’m not worry about my daughter anymore because he has two husbands to take care of him. (ฉันไม่กังวลใจกับลูกสาวฉันเลย เพราะมีสามีคอยดูแลถึงสองคน)” ลูคัสเดินเข้ามาแซวพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เจ้าของค่ายหนังโป๊มาแรงชี้สองหนุ่มที่ยืนข้างลูกสาวตัวเอง

           

 

“ดูแลลูกสาวฉันให้ดีนะ ไม่งั้นฉันเล่นงานนายสองคนหนักแน่” ลูคัสแกล้งทำหน้าขู่

           

 

“ฉันจะดูแลอย่างดี ไม่ให้ลูกสาวนายไปมีสามีคนที่สามแน่นอน…” แซ็คยักคิ้วหน้าตาย ทุกคนหัวเราะ มีเพียงเดนนี่ที่ยิ้มขำอ่อนๆ

           

 

“…โดยเฉพาะแก ไอ้เลโอ แล้วก็ไอ้บรูซด้วย อย่าหวัง รูก้นกระต่ายยัดแคร็อทได้แค่สองอัน” แทนที่จะมองเพื่อนด้วยความระอาหรือรำคาญ แต่รอบนี้เลโอหัวเราะก๊าก แม้กระทั่งนักแสดงหนุ่ม ๆ บางคนที่เผลอได้ยินยังหัวเราะด้วย ไอติมยืนอ้าปากแล้วห่อไหล่ ใบหน้าแดงแจ๋

           

 

“เบา ๆ กับลูกฉันหน่อย ลูกฉันตัวเล็กแค่นี้…” ไอติมมองหน้าลูคัสแล้วยิ้มกว้าง อดีตพระเอกหนังโป๊หันไปมองหน้าจอภาพยนตร์แวบหนึ่งก่อนหันกลับมาหาเหล่านักแสดงของตัวเอง

           

 

 

“…เฮ้ ไปรวมกลุ่มถ่ายรูปไป เดี๋ยวจะได้เอารูปลงเว็บไซต์ นายก็ไปด้วยไบรอั้น” หนุ่ม ๆ กรูกันเข้าไปบริเวณหน้าจอภาพยนตร์เป็นกลุ่มใหญ่ ไอติมปล่อยแขนออกจากแขนเดนนี่กับแซ็ค ปล่อยให้สองหนุ่มไปทำหน้าที่ของตนเอง

           

 

“ถ้าเจค็อบมันอยากเอาชนะติมกับไอ้ไบรอั้น พี่ว่ามันแพ้” ไอติมหันไปมองเจมส์แล้วคลี่ยิ้มบาง

           

 

“เขาแพ้จริง ๆ แหละ และติมเชื่อว่าเขารู้ตัว…” เจมส์ยิ้มให้กับรุ่นน้อง

           

 

“…ติมดีใจที่แซ็คไม่ยอมแพ้อย่างที่เจค็อบหวังให้เป็น และขอบคุณเดนนี่ที่อยู่ข้างติมมาตลอด” ไอติมยิ้มกว้าง มองหนุ่ม ๆ ทุกคนกำลังโพสต์ท่าให้เดนนี่ลั่นชัตเตอร์ใส่

           

 

“ขอบคุณตัวติมเองด้วยนะ เพราะถ้าติมยอมแพ้ ติมเองก็คงไม่สมหวังแบบตอนนี้เช่นกัน แถมสมหวังแบบคูณสองอีกต่างหาก” กระต่ายตัวจ้อยยิ้มกว้าง

           

 

“ติมดีใจนะที่ได้เจอพี่เจมส์ที่นี่…” หนุ่มไทยอีกคนพยักหน้า ไอติมหันไปมองลูคัสที่ยืนคุยกับทีมจัดงานคนหนึ่ง ไอติมยกแขนขึ้นควงลูคัสจนเจ้าตัวหันมามองด้วยความประหลาดใจ

           

 

“I’m so glad that I met you, daddy. (…ลูกสาวดีใจมากเลยที่ได้เจอกับคุณพ่อ)” ลูคัสยิ้มกว้าง แอบหันไปมองสองหนุ่มของไอติม พอเห็นว่าทั้งสองไม่ได้มองมาทางนี้เลยก้มลงจูบปากลูกสาวตัวเองไปหนึ่งทีให้ไอติมหัวเราะคิก

           

 

“Hey, are you going to steal your son-in-law’s wife? (เฮ้ คุณจะแย่งเมียลูกเขยเหรอ)” ลูคัสเงยหน้าขึ้นหัวเราะกับเจมส์

           

 

“We just show the love between daddy and daughter. (เป็นการแสดงความรักระหว่างพ่อกับลูกเฉย ๆ น่า)”

           

 

“I could live with that memory, because good memory happens to me every day. (ผมอยู่กับความทรงจำนั้นได้ เพราะผมมีความทรงจำที่ดีเกิดขึ้นทุกวันเลยฮะ)” ไอติมยิ้มแล้วหันไปมองบรรยากาศสนุกสนานตรงหน้าที่หนุ่ม ๆ กำลังถ่ายรูปด้วยท่าประหลาดกันอยู่ก่อนหันกลับมามองลูคัสที่ก้มหน้ามองเขาด้วยรอยยิ้มและสายตาแสนอ่อนโยน

           

 

“That’s good for you. (ดีกับตัวนายแล้วละ)” ไอติมพยักหน้า ลูคัสมองใบหน้าเรียวสวยก่อนจะนึกขันขึ้นมาเพราะนึกถึงประโยคของไบรอั้นที่พูดดักคอเลโอ

           

 

“How do you feel when they put their cock in your ass together? (รู้สึกยังไงเวลาที่สองคนนั้นยัดไอ้จ้อนเข้าไปในก้นนายพร้อมกัน)” ไอติมกัดริมฝีปากล่างแล้วก็หัวเราะด้วยความซุกซน แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าขาวใสก็แดงก่ำ ไอติมหันไปมองทางกลุ่มหนุ่ม ๆ อีกครั้ง ก็เห็นว่าแซ็คกับเดนนี่ที่ยืนกันคนละมุมกำลังพร้อมใจกันมองเขม่นมาทางตัวเองกับลูคัส ไอติมหัวเราะร่วนก่อนหันกลับไปตอบคำถามของคุณพ่อ

           

 

“I’M HAPPY!”

 




เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



จบแล้วววววว!

การเดินทางอันแสนขรุขระของน้องกระต่ายสุดท้ายก็จบลงแล้วนะคะ

มิได้หักมุมใด ๆ ไม่ได้หลอกเรื่องสามพี แต่ถ้าบอกแต่แรกก็รู้กันหมดอะจิ -..- แม่ยกเดนนี่ก็ต้องลุ้นกันโหน่ย ฮุ ๆ

ก็ขอให้น้องกระต่ายแฮปปี้มีความสุขกับสองสามีมากมายนะคะ มีสามีทั้งทีก็มีตั้งสองงง ว้าวววว *O*

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ตามเรื่องนี้กันมาตั้งแต่ต้นยันจบนะคะ บางคนอาจจะเพิ่งมาตาม ซึ่งไม่ว่าจะตามตั้งแต่ตอนไหนช่วงไหนก็ขอขอบคุณมาก ๆ ที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนสุดท้ายของนิยายเรื่องนี้

ขอบคุณกำลังใจทุกรูปแบบที่มีให้กับคนเขียนค่ะ เขียนมาได้จนจบส่วนหนึ่งและเป็นส่วนใหญ่เลยก็เพราะคนอ่านนี่แหละค่ะ ถ้าไม่มีคนติดตามกันเราเองก็คงท้อแท้ คงไม่เขียนต่อ แต่เพราะรู้ว่ามีคนรออยู่ จึงเขียนได้จนจบ จะมากจะน้อยยังไง แต่ก็เป็นกำลังใจที่ดีเสมอของคนเขียน

แฮปปี้แบบสุด ๆ สักทีเนอะน้องติม และขอให้คนอ่านทุกคนแฮปปี้เช่นเดียวกับน้องติมนะคะ ^____^

บ๊ายบายค่า  :bye2:



ปล.เดี๋ยวจะมาทิ้งท้ายแบบท้ายสุดด้วยตอนพิเศษจากในหนังสือหนึ่งตอนนะคะ



แท็กเรื่องนี้ #ประสบกามประสบรัก




หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-10-2019 22:38:12
จ้า  งานนี้น้องติมแฮปปี้ฝุดๆ คนเดียวเลยจ้า. ดีใจด้วยที่ผ่านอุปสรคคต่างๆ มาได้ด้วยความเข้าใจและอดทนจนถึงวันที่มีความสุขกันทั้งหมด  :katai2-1:

ขำที่สองสามีจะเล่นกันเองให้น้องติมดู 55555
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 29-10-2019 23:01:45
ดีใจกับน้องติม   :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 30-10-2019 02:00:14
รักในความ 3p ไอติมแฮปปี้ ชั้นก็แฮปปี้ ดีใจที่เดนนี่เป็นพระเอก เดนนี่คือความสบายใจของติม ส่วนตาแซ็คยินดีด้วยนะคะนึกว่าจะเป็นตัวเดินเรื่องอย่างเดียวซะแล้ว :laugh: (หยอกเล่นนะแซ็ค :กอด1:)

ขอบคุณขุ่นเจ้นะคะ เรื่องสนุกมากกกกก รักในความมุ่งมั่นของไอติมที่จะทำตามฝันให้ได้ รักเดนนี่ที่ซัพพอร์ตติมตลอด รักแซ็คที่พยายามเพื่อติม รักแม่และน้าของติมที่เข้าใจในสิ่งที่น้องทำ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 31-10-2019 03:09:58
 :pig4:  :pig4:  :pig4:ได้
ยอมใจในความอดทนของนาง
เลยทำให้ได้ผัว2 มาแบบสวยๆ
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 07-12-2019 16:17:46

   “I’M HAPPY!”
 

ก่อนอื่น อ่านจบต้องบอกประโยคเดียวกับไอติมข้างบนเลย ในที่สุดไอติมก็ได้อยู่ด้วยกันจริงๆสักที นี่ไงการเดินทางที่รอคอย :L1:

แต่สารภาพว่าพึ่งเห็นเลยว่าเรื่องนี้จบแล้ว  (:beat: <<ตัวเอง) :sad4: 



หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 11-12-2019 22:49:37
เอาจริงๆคือแอบเชียร์เพื่อนสนิทคิดเสียบคนนี้ไว้อยู่แล้ววว แต่พอเดินเรื่องไปมาก็ลืมคิดเรื่อง 3P ไปเลยอะ นึกว่าจะจบแบบ opening by bunny boy ไปซะละ

ฉากที่จำแม่นสุดคือฉากในห้องน้ำของน้องติมกับพ่อพระเอกตอนไปเที่ยวซักเกาะด้วยกันน่ะนะ คือมันไม่ได้จำได้เพราะความประทับใจนี่สิ จากสำนวนลีลาการเขียนที่ออกมามันไปในเชิง rape ที่เรามองว่าขัดมู้ดของเรื่องกับฉีกคาแรกเตอร์ตัวละครไปนิดนึงง่าคุณคนเขียน แต่สำหรับฉากอื่นๆคือโอเคเลย ชอบภาษาเขียนมาก เหมือนได้ฝึกอิ้งไปในตัวเลยอะ ศัพท์ในชีวิตประจำวันทั้งนั้น~ ได้เห็นพัฒนาการของแต่ละตัวละครชัดดี ถึงจะเสียดายพ่อฝรั่งพูดไทยได้นิหน่อยอย่างแอนโทนี่ก็เถอะ ไม่น่าอยู่ฝั่งเจคเลยจริงๆ  :katai1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 17-12-2019 17:42:49
I'm happy,!!!!  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-01-2020 04:10:46
Happyสมใจกระต่ายน้อยแล้ว
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: mrsnikiforov ที่ 17-01-2020 18:13:37
 :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 18-01-2020 08:44:10
I'm happy  :hao7:   :pig4:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: maedaekoara ที่ 22-01-2020 16:33:58
 :o8: :-[ :impress2:  :pig4:   I'm Happy  :hao7:
หัวข้อ: Re: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 13:36:33
 :pig4: