Rule of Survival
สังคมลามไข่...ใครก็ได้ฆ่ากูที!!!
กฎข้อที่ 1 : ละทิ้งครอบครัวซะ!
"..ม..แม่.."
เด็กชายตัวเล็กอายุราวๆ5-6ขวบ พูดเสียงสั่นเทิ้ม เมื่อเห็น'แม่'ของตนเดินเข้ามาหา..ในสภาพเลือดท่วม..ข้อมือที่หักแล้วบวมเป่ง..
ผมมองภาพตรงหน้าอย่างชินชาก่อนจะดึงไอ้หนูตัวน้อยไปข้างหลัง
"ปัง!"
กระสุนนัดเดียวและเเม่นยำ เจาะกลางกบาล'มัน'พอดี..
"แม่เอ็งตายแล้ว ไอ้หนู"
ผมพูดก่อนจะตบหัวเด็กน้อยเบาๆสองสามทีเพื่อปลอบ
ร่างเล็กร้องไห้จนตัวโยน..
"ฮึกก.. ม..แม่..แม่...ม่ายยยยย"
"เฮ้ยๆๆ อย่าร้องสิวะ! เดี๋ยวเสียงเอ็งไปเรียกพวกมันมาอีก! อยากกลายเป็นอาหารรึไง!!"
"ฮึกก..ฮึก..ลุง..ลุงฆ่าเเม่ผม!! ..ลุงหนวดครึ้ม!! ลุงบ้าา ไปตายซะ!! ลุงบ้า!!"
ผมมองเด็กน้อยที่แหกปากร้องอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจ.. แถวนี้ก็มี'พวกมัน'อยู่ไม่ใช่น้อยๆเสียด้วยสิ..
"เอ็งจะเงียบปากไปหรือจะให้ข้าปิดให้"
ผมพูดเสียงห้าวก่อนจะยกปืนขึ้น...เก็บใส่ย่ามสะพาย!
(โถ..ใครจะไปมีความคิดแบบนั้นกับเด็กตัวน้อยๆ!!)
"ฮึก..แง้งงงงงงงงง!!!!!"
ผมดึงผ้าพันแผลออกมาจากย่ามอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจับไอ้เด็กน้อยมา หมุนตัวมัน แล้วใช้ผ้ามัดปิดปากมันไว้!
"อื้ออ!! อื้ออ..!"
"ค่อยสบายหูหน่อยว่ะ"
ขณะที่ผมคิดว่าจะทำอย่างไรให้ไอ้เด็กนี้สลบไปดี..ก็มีเสียงคุ้นเคยดังขึ้น
"ทำไมสภาพคนที่จะมาช่วยครอบครัวที่ติดอยู่ในตึก
ถึงได้เหมือนโจรลักพาตัวเด็กขนาดนี้วะ.."
เมื่อผมหันไปก็เห็นร่างเพรียวบางของคู่หูยืนพิงผนังทำท่าที่(มันคิดไปเองว่า)เท่ อยู่..
"จิน .. ได้ของมาหรือเปล่ามึงน่ะ"
"กูเคยพลาดด้วยรึไง"
ร่างบางพูดก่อนจะโยนกุญแจสีเงินดอกเล็กให้กับผม
แล้วเดินมายังเด็กชายตัวน้อย..
และเเล้วคู่หูของผมก็ทำสิ่งที่ผมไม่คาดคิด..
"เด็กดี"
ร่างบางกล่าวก่อนจะกอดเด็กชายคนนั้นไว้เเน่น..
"ไม่ต้องร้องนะ.. ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อหรือเปล่า.."
ผมเห็นคู่หูใช้อีกมือกำปืนในกระเป๋ากางเกงหลังไว้..
เด็กชายตัวน้อยส่ายหัว..สิ้นหวัง
ร่างสูงโปร่งพยักหน้าก่อนจะยกปืนขึ้นมา..
แต่ผมเดินไปคว้าข้อมือเขาไว้ก่อน
"มีปัญหาอะไร ,วอดก้า"
"เราส่งเขาไปศูนย์กลางได้"
"มึงก็รู้ที่นั่นเป็นยังไง มันทำกับเด็กกำพร้าเหมือนเป็นมนุษย์เหรอ"
ผมมองดูเด็กน้อยที่น้ำตาไหลอาบแก้ม..
ตัวสั่นเทิ้มเพราะความหวาดกลัว..
"ที่มึงจะทำนี่ก็ไม่ใช่มนุษย์สักเท่าไหร่.."
ผมพูด
"เก็บปืนไว้ใช้กับพวกเหี้ยข้างนอกนั่นเถอะ"
ร่างบางมองผม สักพักก็ยักไหล่
"มึงรับผิดชอบนะ"
ผมพยักหน้า
มองไอ้หนูที่ตอนนี้เลิกส่งเสียงอืออา ก่อนจะคลายผ้าปิดปากออกให้เขา
"ละทิ้งครอบครัวซะ..ไอ้หนู"
ผมพูดก่อนจะอุ้มเขาขึ้นนั่งบนบ่ากว้าง
"อยู่กับพวกข้าอย่าแม้แต่จะร้องไห้"
"'พวกข้า'เรอะ? ..มึงเเม่ง เอาแต่ใจว่ะ"
จินบ่นให้ผมก่อนจะเดินนำออกไปพร้อมกระชับปืนในมือแน่น..
เมื่อเราโผล่ออกจากตัวตึก..ซอมบี้ 3-4 ตนก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆ ..
ร่างเล็กที่นั่งบนบ่ากอดคอผมแน่น..
ผมยังไม่ทันได้ยกปืนขึ้นด้วยซ้ำ
ร่างบางตรงหน้าก็ก้าวยาวๆเข้าไปก่อนจะแนบปากกระบอกปืนกับกะโหลกเน่าเฟะของซอมบี้แต่ละตัว..
พวกมันร่วงลงราวกับใบไม้
รวดเร็ว...เงียบเชียบ..
สมกับเป็นจิน
ผมมองภาพตรงหน้า..จะกี่ครั้งก็ยังประทับใจไม่หาย
"ไม่ได้ทำเพื่อมึงนะ.."
ร่างบางพูดก่อนจะเช็ดเลือดที่กระเด็นติดหน้า
ผมยิ้ม
..............................
เรากลับมายังที่พักชั่วคราว ที่ผมกับจินสร้างไว้..
มันสะดวกสบายพอควร..มีอาหาร มีน้ำ มีผ้าห่ม..
และไม่ใหญ่จนเกินไป.. พร้อมจะเคลื่อนย้ายได้ทุกเวลา..
ปกติแล้วเราจะย้ายกันทุกๆเดือนหรือสองเดือน
การปักหลักอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานๆไม่ใช่แผนของผมกับจิน
หลังจากจัดการให้เจ้าหนู'แดเนียล' กินข้าวปลากระป๋องแล้วนอนเรียบร้อยแล้ว ผมกับจินก็ออกมานั่งผิงไฟที่จุดไว้..
"จริงๆแล้วมึงนอนเลยก็ได้นะ.."
ร่างบางพูดก่อนจะหันมามองผม
"ปากบอกให้เด็กมันทิ้งครอบครัว..แต่มึงเองยังทิ้งไม่ได้เลยใช่ไหม"
คนข้างๆยังคงพูดต่อ .. ผมไม่พูดอะไร
สายตาจับจ้องไปที่เปลวไฟ..
..คิดถึงอดีต..
"ละทิ้งครอบครัวซะ ..วอดก้า"
ร่างบางพูดก่อนจะจูบผม.. ลิ้นของเขาชำนาญและร้อนแรง..
ผมไม่ยอมปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายนำ..
ไม่นานนัก..ผมก็คร่อมอยู่บนตัวของคนข้างล่าง
เหนื่อยหอบ..และ..ต้องการ
"จริงๆวันนี้กูไม่มีอารมณ์ว่ะ"
จินพูดก่อนจะครางเบาๆเมื่อผมใช้มือกระตุ้นอารมณ์คนข้างล่าง..
"พอคิดๆดูแล้ว..ไอ้การที่ต้องมาเป็น'ผู้หญิง' ให้มึงเนี่ย..อะ..อ๊าา.."
ผมขยับตัวให้ส่วนใหญ่ร้อนเข้าไปในช่องทางจนสุด..
อย่างน้อยจินจะได้เงียบ..ช่วงหนึ่งก็ยังดี
เมื่อผมเริ่มขยับตัว เสียงเนื้อกระทบกันกับเสียงครางของจินที่ดังขึ้นมาเป็นระยะก็ช่วยทำให้สมองผมปลอดโปร่งขึ้นได้..
...ไม่มีอดีต...ไม่มีอนาคต...
"อ.ะ..วอดก้า..ช้า..ช้าลงหน่อยดิวะ"
ร่างบางพูดก่อนจะกรีดร้องเมื่อผมเร่งจังหวะกระเเทกกระทั้นเร็วขึ้น..
เมื่อคนข้างล่างกระตุกตัวสองสามครั้ง..ผมก็เสร็จ..
"เวรเอ๊ย! ข้างในอีกแล้วนะ"
จินบ่นให้ผมก่อนจะลุกขึ้น..แผ่นหลังของเขาเปลือยเปล่า..
ร่างเพรียวระหงส์เดินไปเพื่อหาน้ำ..
ผมเห็นของเหลวสีขาวขุ่นไหลออกมาเปรอะต้นขาของเขา.
ผมกลืนน้ำลาย..
"อย่าแม้แต่จะคิด"
จินพูดเสียงเข้มก่อนจะหายเข้าไปในบังกะโล
ผมมองดูเปลวไฟที่ไหววูบไปตามเเรงลม
สักพักร่างบางก็ออกมา นั่งข้างๆอีกเช่นเคย..
"บุหรี่ไหมมึง?"
จินยื่นบุหรี่ที่สูบไปได้ครึ่งมวนมาให้ผม..
ผมรับมาสูบต่อ
"อีกนานเท่าไหร่วะ..จิน"
อยู่ๆผมก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย..
เเต่ผมรู้ว่าคนข้างๆเข้าใจเป็นอย่างดี..
"จนกว่ามึงจะตาย"
ร่างบางพูดก่อนจะเหลือบสายตามองผม
เปลวไฟจากกองไฟลุกโชนที่สะท้อนในดวงตาเขา..
ไม่ได้ให้ความรู้สึกอบอุ่นแม้แต่น้อย
Rule of Survival
สังคมลามไข่...ใครก็ได้ฆ่ากูที!!!
กฎข้อที่ 2 : อย่าเลือกกิน!!
"..ผมไม่กิน!"
เด็กชายตัวน้อยร้องเมื่อเห็นลูกแมวย่างวางตรงหน้า..
"ไม่งั้นก็ตายห่าไปซะ"
ร่างบางพึมพำเบาๆและผมส่ายหน้า
"เอาน่า..ไอ้หนู ..มันเป็นโปรตีนไม่กี่อย่างที่เรายังหาได้.. ถ้าเอ็งไม่กินเอ็งจะอดตายเอานา"
ผมพยายามเกลี้ยกล่อมเด็กน้อย..ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าตัดสินใจถูกหรือไม่ที่เก็บเขาเอาไว้
จินมองผมกับแดเนียลน้อยที่กำลังดื้อดึงก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาเดินมาหยิบถาดที่มีลูกแมวย่าง..สีกำลังเกรียมๆน่าอร่อยออกไป..
"เดี๋ยวมา"
ร่างบางพูดก่อนจะใช้ยางมัดผมรวบเส้นผมสีอ่อนที่ปรกต้นคอขึ้น ก่อนจะหยิบมีดขนาดเล็กสีเงินเล่มหนึ่งออกไปด้วย..
..................................
จินกลับมาอีกครั้งพร้อมกับ ..เนื้อแมว.. ที่หั่นเป็นชิ้นอย่างสวยงาม..
สีของมันน่าทานเหมือนกับไก่ย่างในภัตตาคารอย่างไรอย่างนั้น..
"นี่..ไอ้หนู ข้าทำขนาดนี้แล้ว..ขืนเอ็งยังเรื่องมาก เอ็งจะได้กลายเป็นโปรตีนหลักมื้อต่อไป!"
จินพูดก่อนจะเก็บมีดวางบนชั้น..
หนูน้อยเเดเนียลพยักหน้าแสดงความเข้าใจอย่างสุดซึ้ง
ก่อนจะค่อยๆหยิบเนื้อลูกแมวเข้าปาก..
"ก็แค่นั้น"
ร่างบางพูดก่อนจะมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง
"กูแค่ไม่อยากใช้ความรุนแรงกับเด็ก"
ผมพูด
"ใจดีจนปล่อยให้มันตายน่ะสิ"
ผมไม่ต่อล้อต่อเถียงกับคนตรงหน้า..ไอ้ที่พูดมากๆไม่ใช่นิสัยผมอย่างหนึ่ง
อีกอย่างคือผมรู้จักเขาดีเกินกว่าจะเสียเวลาต่อล้อต่อเถียง..
"ธนาคารร็อทไชด์..ตู้นิรภัยหมายเลข 127.."
ผมพูดก่อนจะก้มลงมองกุญแจสีเงินในมือ..
ผมต้องการบางสิ่งบางอย่างในตู้นิรภัยนั่น..
บางสิ่งที่สำคัญ
บางสิ่งที่อาจเปลี่ยนแปลงโลกบัดซบใบนี้ได้..
"อือ.. จริงๆมันต้องสแกนรูม่านตา.. แต่วิธีการดั้งเดิมใช้ได้เสมอในกรณีนี้"
จินพูดก่อนจะเขย่งตัวเอาเลื่อยโลหะ..สว่าน..ไขควง และลูกกระสุนให้ผม
"เท่าที่กูไปสำรวจทางเข้าคร่าวๆเมื่อวาน..แถวนั้นเป็นเขตสีส้มเลยล่ะ"
เขตสีส้ม..ในความหมายของจิน คือเขตที่มีซอมบี้อยู่ค่อนข้างแออัด ..ทางหนีทีไล่น้อย ... อัตราการสะท้อนเสียงมาก
..และอันตราย
ผมรับของจากจิน กระชับย่ามเข้ากับตัว
"แล้วจะรีบกลับมา"
ผมบอก ..แต่คนตรงหน้าขมวดคิ้ว
"หมายความว่าไง..?"
"ต้องมีใครสักคนดูแลเเดเนียล"
"..Fu**.. เด็กเวร.. งั้นเอาของมา!
จินพูดก่อนจะกระชากย่ามไปจากผม แต่ผมไม่ยอม
"กูไปเอง มึงอยู่นี้แหละ"
เมื่อคนตรงหน้ากำลังทำท่าจะเถียง ผมก็มองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง..
"งานนี้เหมาะกับกูมากกว่า"
"แล้วหน้าตากูเหมาะกับเป็นพี่เลี้ยงเด็กรึไง"
ผมมองจิน.. ร่างเพรียวบางระหงส์ ใบหน้าคมคายดูไม่สบอารมณ์
ผมสีทองอ่อนยาวประบ่าที่ถูกมัดไว้อย่างลวกๆดูชื้นนิดๆ..
"ก็เหมาะนะ"
..................................
ผมกระชับปืนกับท่อนเเขนแกรงแน่น..
ผมเป็นพวกไม่ถนัดต่อการเคลื่อนไหวแบบเงียบเชียบเท่าจินก็จริง..
แต่ขนาดร่างกายและพละกำลังโดยรวมของผม เหมาะแก่การต่อสู้ประเภท 'ถูกรุม' มากกว่า..
แต่ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากถูกโอบล้อมด้วย'ความรัก'อย่างเหลือล้น
แบบตอนนี้หรอกนะ..
ศพเดินได้ที่ดวงตาไร้เเววยื่นเเขนมาทางผม ผมล็อกแขนมันไว้..ก่อนจะบิดไป 180 องศา..
'เผละ..'
ใครบอกว่าซอมบี้ฆ่ายากกัน..มันก็แค่มนุษย์ตัวเปื่อยร่างเหลวเท่านั้นเอง!!
ผมจ่อกระบอกปืนไปที่กระโหลกศรีษะมันก่อนจะเหนี่ยวไกอย่างรวดเร็ว
'ป๊อก!..'
เสียงเหมือนเวลาเปิดจุกก๊อกไวน์..
..น่าอภิรมย์จริง..
จินเลือกปืนที่เสียงเบาที่สุดมาให้ผม..
แต่ต่อให้เสียงจะเบาอย่างไร การจ่อปลายกระบอกปืนให้แนบสนิทกับกระโหลกก็ยังคงเป็นวิธีเก็บเสียงที่ดีที่สุดอยู่ดี..
งานจัดการซอมบี้สำหรับผมไม่ใช่เรื่องยาก
เราแค่ต้องคอยระวังอย่าให้มันกัดเราได้ก่อนเท่านั้น..
แต่เอาเข้าจริง..การติดเชื้อนี้ไม่ได้เกิดจากการกัด
มันแค่เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้เชื้อผ่านเข้ากระเเสเลือดได้ง่ายที่สุด..
ดังนั้น .. การมีบาดแผลแล้วสัมผัสกับเลือด,การใช้เข็มฉีดยา หรือมีเซ็กส์กับซอมบี้(โดยที่ซอมบี้เป็นฝ่ายรุก)
ย่อมมีความเสี่ยงมากพอๆกัน..
แต่ถ้าซอมบี้เป็นฝ่ายรับก็มีความปลอดภัยมากโขอยู่..
..แล้วนี่กูจะมานั่งคิดเรื่องมีเซ็กส์กับซอมบี้ไปทำไมกันวะ..?!
ผมหยิบเก้าอี้รับเเขกของธนาคารมาฟาดหัวพวกซอมบี้ไป 3-4 ตัว..
ผมชอบวิธีนี้นะ..พอเหงื่อออกแล้วหัวผมจะโล่งขึ้นมาหน่อย..
ความลำบากของแผนการนี้คือ ขณะที่ผมเจาะห้องนิรภัยเฮงซวย
ผมจำเป็นต้องใช้มืออีกข้างล็อกเป้ายิงไปด้วย..
..ทำไมไม่มีสว่านเก็บเสียงบ้างนะ..
หลังจากที่ต้องยิงซอมบี้ซึ่งทยอยเดินเข้ามาตามเสียงสว่านแบบไม่ได้หยุดมาร่วม 10 นาที..
ผมก็คิดว่าผมอาจจะต้องตายอยู่ที่นี้แน่..
ผมจึงหยุดการใช้สว่าน และลากศพซอมบี้ตัวหนึ่งมา..
คุณเคยเห็นการเจาะสว่านแบบไร้เสียงไหมครับ?
มันก็เหมือนเวลาคุณจะยิงปืนแบบเก็บเสียงแต่ไม่มีปลายกระบอกเก็บเสียงนั่นแหละ
ที่คุณต้องทำก็แค่หาอะไรนุ่มๆ เช่น หมอน / ผ้านวม มากั้นระหว่างกระบอกปืนกับกระโหลกคนที่คุณอยากฆ่า..
สำหรับผม ในกรณีนี้.
สมองซอมบี้ที่เริ่มเน่า รวมถึงน้ำหนองของมัน.. ผมว่าน่าจะใช้เก็บเสียงได้ดีทีเดียว
ผมเจาะสว่านผ่านกะโหลกศพซอมบี้
มันใช้ได้ผลดี.. ไม่มีซอมบี้มากวนใจผมอีก
...................................
หลังจากเข้ามาในห้องนิรภัย ผมก็เห็น ศพเเห้งเหี่ยวของพนักงานธนาคาร..
หล่อนคงจะขังตัวเองไว้ในนี้..
ยอมอดอาหารตายดีกว่าออกไปให้พวกซอมบี้กินสินะ..
ผมนิ่งไว้อาลัยให้หล่อน 3 วินาที
แบบที่เพื่อนมนุษย์ควรมีต่อกัน
หลังจากนั้นจึงออกเดินหาตู้นิรภัยหมายเลข 127..
เมื่อหาพบ..ผมก็ค้นพบว่า มันจำเป็นต้องกรอกรหัส สแกนรูม่านตาไม่ต่างกัน..
ให้ตายสิ..จินว่ายังไงนะ..แบบดั้งเดิมใช้ได้เสมอ..
ผมมองสว่านในย่ามสะพาย
ศพซอมบี้ที่ใช้เก็บเสียงสว่านก็ดันเอาวางทิ้งไว้ข้างนอกประตูนั้น..
ผมหันไปมองศพเหี่ยวแห้งของพนักงานธนาคารสาว..
"เพื่อนมนุษย์ต้องช่วยเหลือกันใช่ไหมครับ"
ผมพูดก่อนจะเดินตรงไปยังร่างของเธอ..
...................................
จนพระอาทิตย์ใกล้ตกดินนู้นเเหละผมถึงได้กลับที่พัก
คราบเลือดเกรอะกรัง สภาพค่อนข้างอิดโรย ..ไม่สู้ดีนัก..
จินเดินมารับของจากผมก่อนจะไล่ให้ผมไปอาบน้ำ..
หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็เดินเข้ามาในบังกะโลที่พัก
เห็นแดเนียลกำลังนั่งวาดรูปเล่นอยู่ ..โดยมีจินนั่งดูแผนที่อยู่ใกล้ๆ..
ภาพที่เห็นทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา..
พวกเขาเหมือนครอบครัวเดียวกันเลยแฮะ..
จินหันขวับเมื่อรู้สึกได้ว่าผมมองอยู่
..ปฏิกิริยาเขาเร็วจนน่ากลัว..
"แดน..ไปเอาอาหารมาสิเจ้าหนู"
"..ฮะ"
ผมมองไอ้หนูแดเนียลจอมเถียงที่มีท่าทีเชื่อฟังขึ้นอย่างประหลาดใจ..
"ดูแลเเดเนียลได้ดีนี่.."
ผมพูดก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ร่างบาง..แต่เขาใช้มือกั้นหน้าของเราไว้
"จูบใช้แค่ตอนจะมีเซ็กส์"
ร่างบางพูดก่อนจะหันไปทางอื่น ..ผมเม้มปาก
"อ่า..แล้วของที่ได้มาเป็นไงบ้าง"
ผมถามเพราะเห็นเขาเช็คสภาพของได้ระยะหนึ่งแล้ว..
สิ่งที่ผมนำออกมาจากตู้นิรภัยหมายเลข 127 คือแบบแปลนซับซ้อนของห้องเเลป ATAG ..ห้องแลปมรณะที่ได้ชื่อว่าเป็นแห่งแรกที่ทำเชื้อไวรัสมรณะนี้แพร่ระบาดออกมา..จนทำให้โลกตกอยู่ในสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน..
"..งานหนักเลยล่ะ..มันไม่ได้เขียนชัดเจนว่าห้องไหนใช้ทำอะไร..มีทั้งแผนผังใต้ดินและทางออกสู่ทะเล..
แต่ยังดีที่แบบแปลนอธิบายทางเข้า-ออก ไว้อย่างละเอียด"
ดูท่าว่างานถัดไปของผมกับจินจะไม่ง่ายเสียแล้ว..
แต่ทุกงานที่ผ่านมาก็ไม่เคยง่าย เพราะฉะนั้นสำหรับเราเเล้วจึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจนัก..
"เราอาจใช้เวลาเป็นปี หรือนานกว่านั้น.."
"เรามีเวลาเท่าไหร่"
ผมถามจิน
"จนกว่าเราจะตาย"
เขาตอบ
และเจ้าหนูแดเนียลยกถ้วยมันฝรั่งต้มเข้ามา..
รสชาติของมันฝรั่งต้มมันแย่เหมือนทุกครั้ง
แต่รสชาติของการมีชีวิตนั้นเยี่ยมยอด..
"วันนี้คุณไปไหนมาเหรอฮะ"
"ไปธนาคารน่ะ..เอ็งอยู่กับจินสนุกดีไหมล่ะ"
จินเลิกคิ้วมองเเดเนียล เด็กน้อยรีบพยักหน้า.. ผมหลุดขำพรืด
"จินบอกว่าถ้าวอดก้าไม่กลับมาก่อนพระอาทิตย์ตก เขาจะทิ้งผมแล้วไปตามหาคุณ"
ผมมองจินที่ตอนนี้ทำท่าเหมือนอยากจะกินไอ้เด็กตรงหน้า..
"ก็เอ็งนะเป็นภาระ!..แล้วนี่ยังจะฟ้องเรื่องข้าอีก.. ไม่จับโยนเป็นอาหารซอมบี้ก็บุญแล้ว"
"อ้อ..แล้วก็ไม่ใช่ว่ากูเป็นห่วงอะไรมึงด้วย .. ภารกิจน่ะสำคัญกว่า เข้าใจใช่ไหม"
จินหันมามองผมก่อนจะทำหน้าเคร่งเครียด ผมเผลอยิ้มอย่างผ่อนคลาย
"กูเข้าใจน่า"
"ก็แค่นั้น"
..................................
หลังจากแดเนียลหลับสนิท ผมก็รวบตัวจินมาไว้ในอ้อมแขน..
เขาไม่ขัดขืนแต่อย่างใด..
ถ้าว่ากันตามขนาดตัวเเล้ว..มันคงเป็นเรื่องยากที่จะขัดขืนอยู่เหมือนกัน
ผมกดจมูกซุกไซ้ไปตามซอกคอ..ผ่านเรือนผมสีทองอ่อนนุ่ม
"ข้างนอกไหม..เดี๋ยวไอ้เด็กบ้านั่นตื่น"
เสียงต่ำๆที่เกือบเป็นเสียงกระซิบแต่พร่าไปด้วยอารมณ์ของร่างบาง ปลุกสัญชาตญาณดิบเถื่อนในตัวผมขึ้นมา..
ผมล็อกตัวเขาไว้แน่น..
ก่อนจะใช้มือหนาลากผ่านร่องด้านหลังร่างบาง
"..วอดก้า..?"
"ตรงนี้แหละ..อย่าเสียงดัง"
ผมพูดเบาๆ ก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปช่องทางด้านใน..
"มึงรู้ใช่ไหมว่าเจลหล่อลื่นแม่งหายากพอๆกับถุงยางน่ะ.."
"งั้นกูไม่ใช้ถุง.."
"พูดเหมือนปกติมึงใช้.."
ผมขยับนิ้วเร้าอารมณ์คนในอ้อมแขน ..
เนื่องด้วยประสบการณ์.. ความคุ้นเคย.. และสัญชาตญาณส่วนตัว..
ผมรู้ว่าจุดที่จะทำให้เขาเงียบเสียงนั้นเป็นที่ไหน..
เงียบเสียงพูดปกติ..และครางได้แต่ชื่อของผม..
"อ๊ะ!..วอดก้า..ตรงนั้น.."
ผมขยับนิ้วเข้าออกแรงและเร็วขึ้นเรื่อยๆ ร่างบางขยับสะโพกไหวตามจังหวะที่ผมมอบให้..
เสียงครางชื่อผมทั้งสุขสมปนทรมานดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง..
"ชู่ว.."
ผมกระซิบ
"..แดเนียลนอนอยู่.."
"อือ..อะ..วอดก้า..ไม่เอา..ไม่เอานิ้ว.."
ร่างบางพยายามลดเสียงลงก่อนจะขอร้องบางสิ่งที่จะเติมเต็มความต้องการของเขาได้มากกว่า..
ผมดึงนิ้วออกพรวดเดียวก่อนจะใส่ส่วนใหญ่ร้อนเข้าไปจนสุด..
"อ๊ะ!!..อ๊า.."
ร่างบางเชิดหน้าขึ้นก่อนจะครางเสียงหวาน ช่องทางของเขาบีบรัดผมจนแน่นไปหมด..
"..จิน..ผ่อนคลาย.."
ผมพูดเบาๆก่อนจะสูดปาก แล้วกระทุ้งตัวเขาหนักๆสองสามครั้ง
"..อ..ไอ้เวร"
ร่างบางกระซิบด่าผมเสียงหวาน ตัวสั่นระริก..
ผมค่อยๆขยับตัว..ตอนแรกก็เป็นไปอย่างช้าๆ.. สักพักจังหวะกระเเทกจึงรุนเเรงขึ้น..
เสียงเนื้อกระทบกันสลับกับเสียงครางของร่างในอ้อมแขนดังขึ้นเป็นระยะๆ
แต่จินเลือกที่จะกัดแขนผมแทน..เพื่อไม่ให้เสียงที่ปล่อยออกมาดังเกินไป..
ก็ยังดีกว่าซอมบี้กัดละวะ..
"อื้อ..วอดก้า..เร็ว..เร็วกว่านี้อีก.."
ร่างบางครางด้วยความขัดใจก่อนจะขยับสะโพกนำจังหวะผมไป..
ผมเลื่อนข้อมือแกร่งมาจับสะโพกเขาไว้แน่น..
"อย่าดิ้น"
ผมบอก ก่อนจะจับสะโพกร่างบางขยับเข้าออกจากตัวด้วยความเร็วและเเรงจนร่างบางสั่นตัวโยนครางไม่ได้ศัพท์..
เมื่อช่วงอารมณ์รุนแรงผ่านไป..เราสองคนก็หอบ..เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อและกลิ่นอายร้อน..
ผมยังคงค้างส่วนล่างไว้ในตัวของเขา..
จินเลียเลือดออกจากแขนของผม..
"กัดยังกะซอมบี้..ซาดิสม์หรือไง..หือม์"
ผมพูดก่อนจะใช้มืออีกข้างที่ว่าง รวบเส้นผมของเขาไปพาดบ่าระหงส์ และจูบซอกคอร่างบางเบาๆ
"อย่าเรื่องมาก..มีอะไรให้กินก็กินไปเหอะ"
ร่างบางพูดเสียงพร่า..
"อย่าเลือกกิน"
ผมพูดและนึกถึงสิ่งที่บอกเจ้าหนูแดเนียลไปเมื่อเช้า..
"ขอกินอีกได้ปะวะ"
ผมพูดเบาๆ อารมณ์เริ่มคุกรุ่นอีกครั้ง..
อยู่ๆร่างบางก็กัดเเขนผมเข้ามาเต็มเขี้ยว!!
"ประหยัดหน่อยดิวะ ไอ้ห่า"