พิมพ์หน้านี้ - [Shot Story] เรื่องบังเอิญของความรัก by OgaRyu
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 23-10-2007 16:34:27
-
ผมเดินไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง มันรู้สึกโหวงเหวง โดดเดี่ยว หรืออาจจะเป็นความรู้สึกขุ่นเคือง มันผสมปนเปกันไปจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้
การที่เขากระทำกับผมแบบนี้ มันแสดงให้เห็นชัดแล้วว่าเขาไม่เคยมีใจให้ผมเลย เขาเห็นผมเป็นแค่ตัวละครที่เขากำกับ สั่งให้ทำนั่น ทำนี่ โดยไม่คิดถึงจิตใจของคนๆ นี้เลยสักนิด
แม้ผมจะรักเขามากมายแค่ไหน...
เขาก็ไม่เคยรู้สึก...
ไม่เคยรับรู้...
แม้เพียง...
สักนิด...
สายลมที่พัดผ่านมาไม่ทำให้ร่างกายของผมสะท้านต่อมัน ขาที่กำลังก้าวดูจะทำงานไปด้วยกลไกของร่างกายมากกว่าสมองที่สั่งการออกไป เสียงสวบสาบที่ได้ยินล้วนมาจากการย่ำเท้าก้าวไปของผมไปเรื่อยๆ
พระจันทร์ดวงโตบนท้องฟ้าถูกบดบังด้วยหมอกเมฆกลุ่มใหญ่ที่พัดผ่านมาด้วยสายลมนำพา แสงสว่างน้อยๆ ของมันหายไปแล้ว ผมแหงนใบหน้าขึ้นท้องฟ้ากว้างโดยบังเอิญ พลางยกมือขึ้นปัดเส้นผมบนที่ระใบหน้าให้พ้นไปจากสายตา
ความรู้สึกที่ผมจะพยายามลืม ซึ่งมันหายไป ตอนนี้เริ่มจะกลับมาอีกครั้ง แม้ตอนแรกผมจะวิ่งเข้ามาโดยไม่ได้มองว่าคือที่ไหน แต่พอหันไปสำรวจดูซ้ายขวาชัดๆ ผมถึงได้รู้ว่าคือสวนป่า
"สวนป่าสินะ..."
สวนป่าแห่งนี้ใหญ่เกินกว่าจะสามารถเดินให้รอบภายใน 1 วัน เป็นสวนป่าอนุรักษ์ที่ปลูกพันธุ์ไม้นานาไว้เพื่อให้นักศึกษาคณะวนศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยได้ศึกษาโดยใช้สถานที่จริง
ส่วนงานที่ผมเพิ่งก้าวจากมาก็คืองานบายเนียร์พี่ปี 4
ที่ซึ่ง ทำให้ผมเห็นอะไรดีๆ!
ดีซะจนคาดไม่ถึง!
“หึหึ”
ผมได้หัวเราะขื่นๆ อย่างสมเพชตัวเอง ที่ทำอะไรให้เขาเสียมาก หากกลับเห็นอีกฝ่ายกำลังระเริงหัวเราะรื่น กอดจูบกับใครอีกคนอยู่ภายนอกงาน โดยที่ไม่สนใจผมสักนิด
คนที่รักเขาหมดใจคนนี้...
ลมพัดมาอีกระลอกทำให้ผมยะเยือกหนาวขึ้นมาอย่างรู้สึกได้ จนต้องยกมือขึ้นโอบรอบตัวไว้อย่างที่สามารถทำได้ แม้กระนั้นก็ไม่สามารถปิดกั้นความหนาวเหน็บที่เข้ากระทบกายได้มากนักก็ตาม
จู่ๆ ผมได้ยินเสียงสวบสาบตามมา เป็นเสียงของอะไรบางอย่างที่อยู่ภายหลังผม ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ หากแต่เร็วมากในความรู้สึก
ผมตัดสินใจ นับ 1-3 ก่อนจะหันกลับไปมองอย่างเพ่งพินิจ
“1”
“2”
“3”
‘พรึ่บ’
“อ้าว”
หากพบแต่เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
...มันคืออะไร...
ผมหันหลังกลับมา แต่ความรู้สึกคราวนี้ มันเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ภายหลัง สายตาที่น่าเคารพ และน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน ลมพัดมาอีกระลอกพาให้ขนแขนของผมลุกชันขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
...ไม่มีอะไรหรอก...
ผมบอกตัวเองในใจอย่างหมายมั่น พลางตั้งสติ ไม่คิดโน่นคิดนี่ไปให้มากกว่านี้ ก่อนจะสาวเท้าเดินต่อไปข้างหน้า พยายามรีบๆ เดินออกจากสวนป่านี้ไปให้เร็วที่สุด
“ทำไมทางออกมันไกลจังวะ”
ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง
...ทุกวันก็น่าจะเจอทางออกแล้วนี่ แต่ทำไมวันนี้ผมถึงรู้สึกว่ามันไกลจนหาทางออกไม่ได้เสียที
หากแล้วความรู้สึกที่เป็นอยู่ยังคงเดิม
..การเคลื่อนที่เร็วทางด้านหลัง สายตาที่ทิ่มแทงพาให้ผมรู้สึกหวาดกลัวและผวาได้ทุกอณูขุมขน
ความหนาวเริ่มแผ่ซ่านเข้ามายังร่างกายผมมากเป็นเท่าทวี ตอนนี้พระจันทร์ดวงโตได้กลับมาส่องแสงน้อยๆ ของมันแล้ว ผมพยายามเร่งฝีเท้าของตนเองให้เร็วขึ้น พลางกระชับมือที่กอดตัวเองไว้ให้แนบชิดกับตัวยิ่งกว่าเดิม
ต้องวิ่ง...ต้องวิ่งแล้ว...
ผมคิดอย่างมาดมั่น พลางสาวเท้าเร็วขึ้นกว่าเดิม แม้จะเหน็ดเหนื่อยเต็มที แต่กระนั้นความรู้สึกที่ทิ่มแทงมาจากเบื้องหลังก็เป็นแรงผลักดันอย่างดีให้ผมก้าวเท้าเร็วๆ ต่อไปอย่างมุ่งมั่น
จะถึงแล้ว...จะถึงแล้ว
ผมให้กำลังใจตัวเอง พยายามหลับหูหลับตาวิ่งไปให้เร็วที่สุด
“อ๊ะ!”
‘พลั่ก’
“โอ๊ย!”
ผมรู้ได้ทันที ว่าสะดุดอะไรสักอย่างเข้าอย่างจัง
...ก่อนทุกอย่างจะมืดสนิทลง
---
-
“ตื่นแล้วเหรอ”
ผมได้เสียงใครบางคนดังขึ้นใกล้ๆ มันเป็นเสียงทุ้ม นุ่มหูอย่างไรบอกไม่ถูก
ผมจึงต้องพยายามลืมตาขึ้นมาเพื่อหาต้นเสียงนั้น พยายามกะพริบไปมาเพื่อให้มันคุ้นเคยต่อแสง หยีตาเล็กน้อยก่อนจะลืมขึ้นมองเห็นคนตรงหน้า
“อ๊ะ!”
ผมผวาลุกขึ้นเมื่อเห็นใครคนนั้นเต็มตา ตะลีตะลานมองไปรอบๆ ตัวอย่างรวดเร็ว รอบๆ ตัวผมยังคงเป็นสวนป่าสีเขียว แต่เอ๊ะ! ที่นี่มันดูสวยกว่าเป็นไหนๆ
มันกลับกลายเป็นสวนสวยๆ ที่จัดตกแต่งได้อย่างลงตัวต่างหาก
เบื้องหน้าผมมีอ่างน้ำตกใหญ่โตตั้งอยู่ไม่ไกลไปนัก มีรูปปั้นเทพองค์หนึ่งแกะสลักได้อย่างงดงามตามแบบโรมันประดับตกแต่งไว้ตรงกลาง น้ำพุเป็นสายเคลื่อนไปตามกลไกที่ตั้งไว้ แสงจากโคมไฟลายสวยส่องแสงสว่างสวยงามยิ่งนัก
...ที่นี่ที่ไหนกัน...
ผมหันกลับไปมองหน้าคนข้างๆ ที่ยืนอยู่อีกครั้ง ผู้ชายคนตรงหน้ากำลังยิ้มให้ ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ตอบ ไม่ทันได้ถามคำถามแรก คำถามที่สองก็โผล่มาเสียแล้ว
...แล้วเขาเป็นใคร ทำไมแต่งตัวแปลกๆ แบบนี้ล่ะ
“ดีขึ้นหรือยังล่ะ”
เสียงทุ้มนุ่มนั่นถามผมต่อ เมื่อผมไม่พูดอะไรออกไปเสียที ผมพยักหน้าน้อยๆ ยังมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ
ด้วยความอยากรู้ ก็แหงล่ะ ดูการแต่งตัวเขาเข้าสิ สูทสีขาวอย่างดี แถมมีอะไรสักอย่างกลมๆ
อยู่บนหัว อย่างกับทูตสวรรค์ของฝรั่งอย่างนั้นแหละ
หรือว่า...จะเป็นนักแสดงของงานบายเนียร์คณะข้างๆ กัน
“คุณเป็นใครเหรอ”
ผมถามต่อไปอย่างอยากรู้ เขายิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนจะตอบ
“คนที่คอยปกป้องตัวนายไงล่ะ”
“หา?”
ผมขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ ‘คนที่คอยปกป้อง’ ผมทวนคำนี้อีกครั้งอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ...ทำอย่างกับเป็นซินเดอเรลร่าต้องมีนางฟ้าปกป้องอย่างนั้นแหละ
นี่พวกเพื่อนๆ มันรวมหัวกันหลอกผมไหมเนี่ย??
“ปกป้องทำไมกัน”
“ก็เมื่อนายเกิดอันตรายไงล่ะ”
“แล้วทำไมต้องเป็นคุณที่ปกป้องผมล่ะ”
“ก็สวรรค์เป็นคนกำหนดคู่ให้น่ะสิ”
“สวรรค์เหรอ?”
ผมทวนคำอีกครั้งอย่างงงหนักเข้าไปอีก นี่มันยุคไหนกันแล้ว 2007 จะมีสวรรค์ นรกอะไรกันอีกเหรอ? หรือหมอนี่จะบ้ากัน แต่หน้าตาก็ดีนะ ไม่น่าจะบ้าเลย ผิวขาว ตัวสูงล่ำ หน้าตาหล่อเหลา ผิดกับผมที่ตัวเล็กขนาดนี้
“และฉันก็ต้องเป็นคนดูแลนาย จนกว่า...”
“จนกว่า?”
ผมถามต่ออย่างอยากรู้ เมื่อคนข้างหน้าพูดประโยคนั้นค้างไว้ อย่างให้ผมถามต่อ
เขาพยักหน้ายิ้มให้อีกครั้ง
“จนกว่านายจะมีคู่ครองไงล่ะ”
“หา?”
คราวนี้ผมต้องแสดงอาการตกใจออกมามากกว่าเดิม มีคู่ครอง? ผมแทบจะตาเหลือก อย่าบอกนะว่า มีคู่ครองนี่ต้องเป็น ‘ผู้หญิง’ เท่านั้น
“ใช่ มีคู่ครอง”
“แต่ผม...เอ่อ...”
“ฉันรู้ นายไม่ได้ชอบผู้หญิง”
ผมได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก อดจะหลบตาคนตรงหน้าไม่ได้ ถึงแม้ผมจะไม่ได้ปิดบังใคร แต่การมายอมรับกันซึ่งๆ หน้าแบบนี้ก็อดรู้สึกวาบๆ ในใจหน่อยๆ ไม่ได้ ก่อนจะอุบอิบถามต่อเสียงเบา
“แล้วแบบนั้นจะทำยังไงล่ะ”
“ก็ต้องดูก่อน แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ฉันก็ต้อง...”
“ต้อง...?”
ทำไมนายคนนี้ชอบพูดค้างไว้ให้ผมพูดต่อหนักหนาวะ
“ฉันจะต้องลงมาเป็นคู่กับนายไงล่ะ”
“ห๊ะ?”
ผมว่าเสียงอุทานอย่างตกใจของผมคราวนี้คงจะดังกว่าครั้งก่อนๆ เป็นแน่ ผมมองคนข้างหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา อะไรเนี่ย? จะลงมาเป็นคู่กับผมเองเนี่ยนะ คนตรงหน้าผมยิ้มแปลกๆ ก่อนจะพูดต่อ
“แต่ฉันว่า ไม่ต้องไปหาหรอก ฉันคู่กับนายเลยดีกว่า”
นั่น...มีการตัดบทซะเองอีก จนผมต้องปฏิเสธเป็นพัลวัน จนไม่ได้สังเกตเห็นอะไรรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าคนตรงหน้าที่ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง
“ไม่เอา!”
“หรือนายจะไปหาคู่ล่ะ ต้องเป็นผู้หญิงนะ”
คราวนี้ผมก็ได้แต่อึกอัก จะทำยังไงล่ะ?
...รู้สึกเหมือนหมอนี่จะทำให้ผมจนมุมเลยแฮะ
“งั้นถ้าหาจริงๆ ผมจะต้องทำยังไง”
ผมถามอย่างมาดมั่น แต่ความมั่นใจกลับติดลบ ผมจะไปหาเนื้อคู่ได้ที่ไหนล่ะเนี่ย แถมเป็นผู้หญิงซะอีก แต่ถ้าใช่เธอคนนั้นจริงๆ แล้วผมจะรักเธอได้อย่างไร ในเมื่อผม...ไม่ได้...
“นายก็ต้องหาคนที่มือนายกับมือเธอแตะกัน แล้วเกิดประกายแปล๊บเหมือนไฟช็อตไปในตัวนาย”
เขาอธิบายยืดยาว ผมพยักหน้ารับรู้ พลางคิดตาม...แตะมือ? แตะมือก็เหมือนจะจับมือน่ะสิ อ้าว...แล้วแบบนี้ผมจะไปจับมือเธอได้อย่างไรล่ะ
“แล้วผมไม่ต้องหาโอกาสจับมือผู้หญิงไปทั่วรึไง”
“ใช่”
“เฮ้ย..ผมก็โดนพวกเธอตบให้อ่ะสิ ไปแต๊ะอั๋งเธออ่ะ”
“ไม่รู้ไม่ชี้”
เฮ้ย! เทวดาเขาทำท่าแบบนี้กันได้ด้วยเหรอ ?
“นี่คุณมีหน้าที่ช่วยผมไม่ใช่เหรอ ทำไมทำแบบนี้เล่า”
“สวรรค์ให้เวลานายมา 3 วันในการหาคู่ครั้งนี้ ไม่งั้น...” คนพูดทำหน้าเจ้าเล่ห์ “นายต้องคู่กับฉัน” แล้วเทวดาหน้าเป็นก็คลายมือที่ไขว้กันออก หึหึ
“เฮ้ย! ทำไมเวลาน้อยขนาดนั้นเล่า”
“ก็ไม่รู้”
“อ้าว...”
“เราไปกันได้แล้ว”
คนตรงหน้าผมตัดบทซะเฉยๆ ก่อนจะเอามือมาจับตัวผมไว้...แล้วผมก็รู้สึกเหมือนโลกมันหมุนๆ อย่างแรงจนหัวหมุนไปหมด ก่อนจะหยุดนิ่งจนเป็นปกติ
ผมสะบัดหน้าไปมาคลายความมึนงง ...นี่ผมมาอยู่ไหนอีกแล้วเนี่ย ก่อนจะสังเกตไปรอบๆ ดีๆ ถึงได้รู้ว่าผมมาอยู่ในห้องของตัวเองแล้ว
“นี่คุณรู้จักห้องผมด้วยเหรอ”
“แน่นอน ก็ฉันเป็นคนดูแลนายนี่”
“ว่าแต่คุณชื่ออะไร ยังไม่ได้บอกผมเลย”
“นาคินทร์”
ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะบอกชื่อตัวเองต่อ “ส่วนผม...ชื่อ...”
“ตฤณ”
“อ้าว รู้จักชื่อผมแล้วเหรอ”
นาคินทร์พยักหน้าก่อนจะหายแว้บไปจากตรงหน้า ไปโผล่ที่เตียงนอนของผมเสียอย่างนั้น “แล้วก็รู้ด้วยว่า นายเพิ่งอกหักมา”
เขาว่าต่ออย่างรู้ดี จนผมแทบสะอึก เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ในงานบายเนียร์แล่นเข้าไปในหัวผมเป็นฉากๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เหตุการณ์ที่เหมือนการผจญภัยในสวนป่าของผมทำให้ลืมไปหมดแล้ว
น้ำตาที่ไม่คิดจะไหลมาก่อน มันกลับไหลออกมาจนผมห้ามไม่ได้ ผมพยายามเข้มแข็งมาตลอด แต่กลับมาเสียน้ำตาเสียง่ายๆ แบบนี้จนได้
พยายามยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้หมดไป หากไม่สามารถทำได้ง่ายนัก
แล้วก็ต้องรู้สึกถึงอ้อมกอดอุ่นๆ ของใครบางคนที่ดันให้ผมซบลงบนหน้าอกของเขา กระนั้นน้ำตาผมก็ยิ่งไหลออกมาอีกเมื่อได้รับความอ่อนโยนแบบนั้น สองมือใหญ่ตระกองกอดผมไว้เต็มอ้อมแขน
“ร้องซะให้พอนะ แล้วอย่าร้องไห้อีกล่ะ น้ำตาไม่เหมาะกับนายหรอกนะ”
ผมยังคงสะอื้นอยู่ แต่ได้ยินทุกคำพูดของคนที่กำลังกอดตัวเองอยู่
"ตฤตแปลว่าต้นหญ้า
...แต่ต้นหญ้า ต้องเข้มแข็ง เพื่อต่อต้านกับลมแรง หรือ พายุนะ"
เสียงนุ่มๆ เจ้าของอ้อมกอดปลอบโยนผม พลางลูบศีรษะไปมา แม้มันจะไม่ใช่คำปลอบโยนสวยหรูนัก แต่ผมกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
ในชีวิตที่ผ่านมาผมแทบไม่มีโอกาสได้กอดกับพ่อแม่มากนัก เพราะท่านต้องคอยไปทำงานต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ จนต้องทิ้งให้ผมอยู่กับน้อง และอาที่นานๆ จะกลับบ้านครั้งหนึ่งอยู่ตลอด
“ฮึก...ฮึก...”
ผมพยายามกลั้นก้อนสะอื้น
ก่อนจะผละออกมาจากอ้อมกอด ยิ้มขอบคุณให้คนหน้า ที่กำลังยิ้มอ่อนโยนให้จนผมรู้สึกได้
“ขอบคุณครับ”
“ไปล้างหน้าล้างตาซะ” ผมพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
---
-
“นี่ใช่ไหม...”
ผมแอบกระซิบให้อีกคนได้ยิน เมื่อผมกำลังจะก้มลงช่วยเก็บสมุดให้เพื่อนสาวในคณะของผมคนหนึ่ง ระหว่างที่มือของผมกับเธอสัมผัสกัน แต่นาคินทร์กลับส่ายหน้าไปมา บอกว่าไม่ใช่
“เหรอ”
เพียงเสี้ยววินาทีผมก็ผละจากการแตะมือเธอ ไม่อยากจะบอกว่า ตั้งแต่สัมผัสมาผมไม่เคยรู้สึกอาการ ‘แปร๊บๆ’ กับมือใครสักคน จนต้องให้อีกคนดูให้นั่นแหละว่าใช่หรือไม่
“เฮ้อ...นี่ก็วันที่ 2 แล้วนะ”
ผมทอดกายลงบนเก้าอี้ม้าหินอ่อนหน้าคณะอย่างหมดแรง นี่ก็เป็นวันที่สองแล้วที่ผมพยายามจะแตะมือกับสาวๆ เพื่อหาคู่ครอง แต่ก็ไม่เจอสักที มือที่แตะไปก็สักประมาณ 25 ได้แล้วมั๊ง ก็แหงล่ะ เวลา 3 วันผมจะไปแตะมือใครกันมากมาย แค่ 25 นี่เยอะเกินคาดไปแล้วสำหรับผม
“นี่ ไม่คิดจะช่วยกันมั่งหรือไง”
ผมว่านาคินทร์อย่างฉุนๆ เมื่อเขากำลังนั่งสบายๆ ไขว่ห้างผิวปากอย่างไม่รู้หนาวรู้ร้อนกับสิ่งที่ผมกำลังบอก ทำไมไม่รู้จักช่วยเหลือกันบ้างเลยนะ ทั้งๆ ที่บอกว่าเป็นผู้ดูแลผมแท้ๆ
“ก็เป็นหน้าที่ของนาย ไม่ใช่ของฉัน”
“อ้าว...ก็นายเป็นผู้คุ้มครองนี่”
สรรพนามที่ผมใช้เรียกเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกที่พบกัน เพราะเขาต้องการให้ผมเรียกเขาว่าแบบนั้น เขาว่าเรียก ‘คุณ’ กับ ‘ผม’ มันดูห่างเหินกันเกินไป ว่าแล้วเขาก็จับมือผมทำตาหวานใส่ซะงั้น จนผมต้องรีบสะบัดออก
ฉวยโอกาสตลอดไอ้เทวดานี่!
“ก็ฉันอยากคู่กับนายนี่หว่า...แล้วจะช่วยทำไม”
“นายกับฉัน...เทวดากับมนุษย์ คู่กันได้เรอะ?”
ผมถามอย่างกวนๆ แต่จริงๆ ก็อยากรู้คำตอบอยู่เหมือนกัน
เขาทำหน้าครุ่นคิดนิดหนึ่งก่อนจะตอบ
“ได้สิ...ในเมื่อนายกับฉันก็เป็นคู่กันอยู่แล้ว เพียงแต่คนละฐานะเท่านั้นเอง สวรรค์ได้กำหนดไว้แล้วว่า หากบุคคลนั้นหาคู่ไม่ได้ภายในเวลาที่กำหนด เนื้อคู่ของของบุคคลนั้นก็คือเทวดาผู้ดูแลนั่นเอง”
“ง่ะ”
ผมอดจะตกใจกับคำบอกเล่าจากสวรรค์นั่นไม่ได้
คู่กับเทวดาจอมฉวยโอกาสนี่น่ะเหรอ? เผลอไม่ได้ จับนิด จับหน่อยตลอด ขอให้ได้ลวนลามเถอะ นี่ไม่นับที่พยายามจะแอบเข้ามาในห้องน้ำที่ผมกำลังอาบน้ำด้วยอะนะ ลามกซะไม่มีอะ
ผมถามต่ออย่างอยากรู้
“แล้วนายจะกลายเป็นมนุษย์รึเปล่าล่ะ”
“แน่นอน...ฉันจะกลายเป็นมนุษย์ทันที เมื่อเวลาที่กำหนดไว้หมดลง”
“อืม...”
ผมพยักหน้ารับรู้ อดจะรู้สึกตกใจนิดๆ กับคำบอกเล่าที่ได้รับทั้งหมดไม่ได้ อย่างนี้ก็แสดงว่า ถ้าพรุ่งนี้ผมหาคู่ครองไม่ได้ผมก็ต้องคู่กับนาคินทร์น่ะสิ ให้ตาย! ผมจะอยู่กับคน เอ้ย เทวดาแบบนี้ได้ยังไงนะ
“งั้นไปหากันต่อเถอะ!”
---
“เฮ้อ....เหนื่อยๆ”
ผมทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน ก็วันนี้มีสอบตอนเช้า ผมต้องรีบตื่นตั้งแต่ 7 โมงทั้งๆ ที่เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปตี 2 เพราะไอ้เทวดาดูแลเนี่ย คอยพาผมเล่นอยู่ตลอด ไหนจะปาหมอนกัน เอาหมอนข้างไล่ตีกันอีก พาผมเล่นเป็นเด็กๆ ไปได้
“เหนื่อยเหรอ...”
เสียงทุ้มๆ มาพร้อมกับแก้วน้ำเย็นๆ ที่เขาส่งให้ ผมยิ้มขอบคุณ ก่อนจะรับมาดื่ม
เฮ้อ...ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อยนึง นับวันผมยิ่งจะสนิทกับนาคินทร์มากขึ้น อย่างเมื่อวานมีปัญหาที่คณะนิดหน่อย ผมก็ปรึกษาเขา ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นได้มาก
เขาเป็นที่ปรึกษาที่ดีเชียวล่ะ...
แถมยังเป็นคนอบอุ่น คอยดูแลผมอีกด้วย...
“ตฤณ”
อยู่ๆ เขาก็เรียก จนผมต้องลืมตาขึ้นจากการพักสายตา ก่อนจะลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง หลังจากแผ่หราลงไปนอนอีกรอบเมื่อดื่มน้ำเสร็จ นาคินทร์นั่งลงข้างๆ ผม จนผมต้องมองเขาอย่างงงๆ
“หือม์”
“ให้ฉันอยู่กับนายนะ”
“หา?”
ผมได้แต่ทำหน้างงอย่างไม่เข้าใจ ...อยู่?
“ฉันอยากอยู่กับนาย นายไม่ต้องหาเนื้อคู่ได้ไหม”
ผมได้แต่อึกอึก วันนี้นายนี่มาแปลกๆ มาแนวหงอยๆ อ้อนๆ พิกลอยู่นะ
“เอ่อ...คือ...ฉัน”
“ฉันรักนาย”
‘เฮ้ย!’
อยู่ๆ เขาก็โพล่งประโยคเด็ดขึ้นมา จนผมได้แต่อุทานในใจ เพราะตอนนี้ตาผมค้าง ปากนิ่งงันไปเป็นที่เรียบร้อย สมองรีบประมวลผลสิ่งที่ได้ยินอย่างเร็วจี๋
‘ฉันรักนาย’...ประโยคนี้ก้องอยู่ในสมองผมเป็นสิบๆ รอบ
“ฉันรักนายจริงๆ รักตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกส่งมาคุ้มครองนายแล้ว...”
ประโยคต่อไปของเขาส่งมาเรื่อยๆ หากผมไม่สามารถจับใจความอะไรได้มากนัก เพราะสมองผมตื้อไปหมดจากประโยคก่อนหน้านี้
“ให้โอกาสฉันได้ไหม
...นะ...นะครับ”
คราวนี้ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ เขยิบเข้ามาใกล้ใบหน้าผมทุกที จะหลบก็โดนมือใหญ่จับไว้เสีย จนไม่สามารถทำได้ จนผมต้องเสหลบตาแทน จะด้วยเสียง สัมผัส หรือความรู้สึกภายในที่มีให้คนตรงหน้าก็มิอาจทราบได้ ผมได้พยักหน้าตกลงไปเสียแล้ว
“อื้อ”
จุมพิตหอมหวานประทับลงบนริมฝีปากของผมอย่างนุ่มนวล ก่อนจะบดเบียดรุนแรงมากขึ้น หากยังคงหวานล้ำลึกที่สุดในความรู้สึก
ผมรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศที่เวิ้งว้าง ทว่ากลับรู้สึกอบอุ่นไปทั้งร่างกาย
นานเท่านานกว่าจูบนั้นจะถอนออก ผมหอบน้อยๆ พยายามหายใจเอาอากาศเข้าปอดให้มากที่สุด
รู้สึกหน้าร้อนจนจะไหม้ เมื่อหันไปก็สบตากับอีกคนที่มองอยู่ก่อนหน้า
สายตาหวานๆ ที่ทำให้ผมต้องหลุบตาลงอีกครั้ง
“ขอบคุณนะครับ...ที่ให้โอกาส...
ฉันไม่สัญญานะ ว่าจะรักนายตลอดไป เพราะคงไม่มีใครอยู่ในโลกได้ตลอดกาล
แต่สัญญาว่าจะรักนายให้ดีที่สุด
...ให้คุ้มค่ากับโอกาสที่นายให้ฉัน...”
---
จบ...
-
:a4: :a3: :a10:
เรื่องเก่าเล่าใหม่ครับ
ค้นๆ เจอ ในเครื่องฯ
อ่านเล่นๆ ขำๆ นะครับ
อย่าเอาสาระกับมันเล้ยยยย อิอิ
:m5:
ขอบคุณครับ!
-
หุหุ สนุกดี มีหลง ๆ ในเครื่องอีกมั๊ย :m13: อยากอ่าน :m1:
-
ริว ไปค้นเรื่องเก่า ๆ ในเครื่องมาอีกซิ เผื่อจะมีหลงเหลืออยู่อีก
เอ แต่พี่ว่าไม่ต้องไปหาหรอก เสียเวลา แต่งใหม่ดีกว่า นะ นะ เอาเรื่องใหม่ ๆ
-
สนุกดี ขอบคุณครับ
-
:m1: น่ารักดีคับ
-
ว่าแล้วเนื้อเรื่องคุ้นๆเชียว เคยอ่านแล้วอ่า
นี้แสดงว่าคนแต่งเริ่มหัวตื้อแต่งเรื่องใหม่ไม่ออกล่ะจิ
เอาเรื่องที่ค้างให้จบก่อนเหอะ หึหึ
ปล. ไม่ได้เร่งนะพี่ อิอิ
-
น่ารักดี อยากมีเทวดาแบบนี้บ้างจัง
อิอิ :m1: :m1: :m1: :m1:
-
อืม...เป็นอะไรที่น่ารักอีกมุมมองนึงอ่ะ
-
:m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:
อบอุ่น...
นุ่มนวล....
เหมือนล่องลอยไปในอากาศ....
อืมม... ทำไมเราจะมีความรู้สึกนี้บ้างนะ :o8:
-
:m1: :m1: น่ารักจัง
-
:m13:
โอ้ น้องริว
เค้าก้หลงรักน้องริวแล้วอ่ะ
ผ่านตัวหนังสืออ่ะนะ
หลงรักมาซักสองชั่วโมงแล่วค๊าบ
:m14:
-
:m4:
-
o13>>>สนุกครับ เขียนเก่งจัง...
-
คงไม่สายไปใช่มั้ยน้องริวที่พี่....พึ่งหลงเข้ามา :jul1:
:jul3:
-
เขียนเก่งจังคับ
หนุกเดอ่ะ :oni2: :oni2: :oni2:
-
หุหุ
น่ารักอ่ะ :m1: :m1:
อยากเจอเทวดาแบบนี้บ้างงงงงงงงงงงงงงงจัง :o8: :o8:
อิอิ :bye2:
-
:m4:
-
:m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:
อยากได้เทวดาแบบนี้มั่งอ่ะ คิคิ :a2: :a2: :a2:
-
เปิดเรื่องมาเหมือนๆจะเศร้าแต่กลับจบได้น่ารักจัง :-[
-
หว๊านนน หวานน สนุกดี ๆ
หาคู่ครองไม่ได้เหมือนกัน
สวรรค์คงไม่กล้าส่งมาให้ 5 55+ :z3:
-
อบอุ่นดีจัง
ขอบคุณมากเจ้าค่ะ
-
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยย
เทพ
รักกับเทพว้อยยยยยยยย
-
จามีไม๊น้อออออ
:L2:
-
:o8: น่ารักอีกแล้ว
-
:-[ น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อยากอ่านต่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
รอน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อิอิ
^ ^
-
อ๊ายยย
อบอุ่นจังเลยเรื่องนี้
แล้วเทพประจำตัวเราอยู่ไหน
โปรดแสดงตัวที
-
น่ารักมากเลยค่ะเรื่องนี้ :L1: :L1:
น่าแต่งเป็นเรื่องยาวจังเลย
-
ฮ่าาาา ... รู้นะ ..
ว่า....
รออ่านเมนท์อยุ่อะ ฮ่าๆๆ ...
--------------------
ทำไมมันสั้นจริงอะไรจริงงงงง :z3: กำลังเคลิ้มเลยทีเดียว ฮ่าๆ
ชอบเทวดา ขอได้มั้ย สักคนสองคนนนน จะไม่ปฏิเสธเล้ยยย
เริ่มตอนแรกๆไอเราก็นึกว่า เห้ย .. เศร้าปะวะ ไรงี้ อ่านไปอ่านมา ..
อ่าวละเหวยย.. หวานๆๆ กำลังน่ารัก .. กุ๊กกิ๊กกำลังดี ในใจนี่นึกไปว่า คงมีเยอะ
พอให้รู้ว่ากุ๊กกิ๊กกัน .. ยิ้มๆละ สงสัยต้องเรื่องยาวสัก 5-6 ตอนจบแน่เลย
พอมาถึง ฉันไม่สัญญานะ ว่าจะรักนายตลอดไป เพราะคงไม่มีใครอยู่ในโลกได้ตลอดกาล ชอบอ่ะ o13 เจ๋งๆๆ อ่านตอนนี้ ยิ้มเลยทีเดียว
แต่อารมณ์มาหดก็ตอนเมื่อมันบอกว่า จบที่แหละ อ๊ากกกกกกกกก
ขอยาวๆหน่อยก็มิได้ แต่ไงก็ ขอบคุณนะค้าบบบบ :กอด1:
-
อบอุ่นนะ อบอุ่นจัง
หลงรักคนเเต่งเเล้วสิ
ไม่ใช่รักเเบบน้าน อย่าเพิ่งงง
รัก ในงานเขียนนั่นล่ะ
รัก ในการเรียบเรียง
รัก ในการคิดฝัน
เเล้วก็ รัก ในการที่สร้างมันขึ้นมา
^
^
^
^
^
^
^
เอ๊ยยย อ่านเเล้วซึ้ง ก็เเล้วออกมา เเปลกๆเเบบนั้นล่ะ
ไม่ต้องใส่ใจๆ
-
ขอบคุณครับที่เอาเรื่องสนุกๆมาแบ่งปันกันอ่าน
-
น่ารักจังเลยค่ะ อบอุ่นมากกก o13
ว่าแต่ เทวดาของเราอยู่หน้ายยยยยยยยย :dont2:
-
น่ารักมากเลยอ่าเรื่องนี้
ขอบคุนคับที่ได้เอามาให้อ่าน
-
อ่านจบแล้ว
ทำให้รู้สึกว่า...อยากมีความรักดูสักครั้งจังน้า....
-
น่ารักอ่ะ น่าจะแต่งเป็นเรื่องยาวนะคะ อยากอ่านอีกเรื่อยๆ
-
จบแล้วเหรอ
น่ารักดีเสียดายมันสั้นไปหน่อย
น่าจะมีช่วงตอนที่เทวดาคนนั้นกลายมาเป็นมนุษย์ ท่าจะน่ารักดีเนอะ ^_^
-
อยากได้แบบนี้สักคน
-
น่ารักมากเลยค่ะเรื่องนี้...อ่านไปยิ้มไป :-[
-
น่ารักอ่ะ น่าจะแต่งเป็นเรื่องยาวนะคะ อยากอ่านอีกเรื่อยๆ
ขอบคุณค้าบบบบ
จบแล้วเหรอ
น่ารักดีเสียดายมันสั้นไปหน่อย
น่าจะมีช่วงตอนที่เทวดาคนนั้นกลายมาเป็นมนุษย์ ท่าจะน่ารักดีเนอะ ^_^
ขอบคุณที่เสนอแนะฮะ :)
อยากได้แบบนี้สักคน
อยากได้เหมือนกันเลยครับ หุหุ
น่ารักมากเลยค่ะเรื่องนี้...อ่านไปยิ้มไป :-[
ขอบคุณนะครับ หวังว่าคงจะทำให้ยิ้มได้ไม่มากก็น้อย
-
น่ารักอีกแล้ว .. อิจฉาตฤณ
ไม่รู้เทวดาประจำตัวเราจะเป็นแบบนี้รึเปล่า? อิอิ
ขอบคุณนะคะ แต่ละเรื่องที่แต่งน่ารักๆทั้งนั้นเลย อ่านแล้วรู้สึกดีจนยิ้มตาม :กอด1:
-
น่ารักอีกแล้ว .. อิจฉาตฤณ
ไม่รู้เทวดาประจำตัวเราจะเป็นแบบนี้รึเปล่า? อิอิ
ขอบคุณนะคะ แต่ละเรื่องที่แต่งน่ารักๆทั้งนั้นเลย อ่านแล้วรู้สึกดีจนยิ้มตาม :กอด1:
ขอบคุณค้าบ
ยินดีนะครับ ที่อ่านแล้วยิ้มได้ อิอิ
-
:o8:น่ารักอ่ะ หุหุ เนื้อคู่แบบไม่ต้องตามหาเลย...
-
หวานมากมีกำหนดคู่ให้ก็ดีซิเราจะได้มีหวังที่จะมีคู่บ้างขอบคุณครับ
-
ชอบจังเลย ดูแลกัน ว้ายยยยยย!! กรี๊ดค่ะ
-
น่ารักมากกกกอ่ะ
-
น่ารักสุดยอด ชอบมากเลย o13
-
น่ารักจัง :กอด1:
-
ขอบคุณมากๆ ครับ ^^
-
โปรดส่งใครมารักฉันที
สวรรค์ ส่ง นาคินทร์ มาให้ตฤณแล้วววว
-
โปรดส่งใครมารักฉันที
สวรรค์ ส่ง นาคินทร์ มาให้ตฤณแล้วววว
นั่นสิครับ
เฝ้ารอเหมือนกัน อิอิ
-
แอร๊ยยยยยยย น่ารักมากมาย
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุก ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟฟ
-
แอร๊ยยยยยยย น่ารักมากมาย
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุก ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟฟ
ค้าบผม ^^
-
น่ารักจัง ชอบมาก รักตั้งแต่ได้มาดูแลแล้ว :-[ :-[ :-[
-
น่ารักจัง ชอบมาก รักตั้งแต่ได้มาดูแลแล้ว :-[ :-[ :-[
ขอบคุณนะครับ อิอิ
-
ชอบ...
-
น่ารักจังไม่ต้องดิ้นรนเทวดาก็หล่นมาตรงหน้าเลย
-
ชอบ...
ขอบคุณที่ชอบนะฮะ
น่ารักจังไม่ต้องดิ้นรนเทวดาก็หล่นมาตรงหน้าเลย
คนมันโชคดีเนอะ อิอิ
-
ขอเทวดาอย่างงี้สักคนเห๊อะๆๆ
-
ขอเทวดาอย่างงี้สักคนเห๊อะๆๆ
หาเจอไหมครับ อิอิ
-
คู่นี้น่ารัก :impress2:
-
คู่นี้น่ารัก :impress2:
ขอบคุณครับบบบ
-
ขอบคุณมากค่ะ น่ารักจัง ถ้ายาวกว่านี้คงดี แอบโลภ อิอิ
-
อั้ยย่ะ! ฟินแปป :katai2-1:
-
:jul1:
-
น่ารักครับ
-
เรื่องเก่าๆก็ดีนะ ^^
-
อ่านแล้วคิดถึงเพลง โปรดส่งใครมารักฉันที อยู่อย่างนี้มันหนาวเกินไปปปปป :hao7:
-
น่ารักจังงงง
-
น่ารัก น่ารัก น่ารัก
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
-
:mew1: