EP.32 ครูเขมชาติXคริสโตเฟอร์ เพื่อนผมโดนทำร้ายผมก็ต้องเอาคืน
คริสโตเฟอร์ วันนี้ผมกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้งหลังจากที่พากันหนีไปสวีทกันมาสามคู่ มีคู่ผมกับพี่เขม อาร์ทโจและคู่ปันปันกับไอ้โป้ง มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของผมกับพี่เขม แม้ระยะเวลาจะน้อยไปหน่อยแต่มันก็คุ้มค่าสำหรับผม มันทำให้ผมแอบคิดว่าถ้าถ้าผมต้องไปอยู่ไกลๆจากพี่เขมผมจะทำยังไง ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว
“พี่เขม” ผมเดินไปหาพี่เขมเหมือนเช่นทุกวัน วันนี้พี่เขมของผมก็แต่งตัวหล่อกว่าทุกวัน ผมยืนมองพี่เขมเดินลงมาจากบ้านพัก
“พี่เขมอาทิตย์หน้าวันเกิดผมนะเราไปเที่ยวผับกันไหมพี่เขม พี่ปืนบอกจะเช็คให้ก่อนว่ามีตำรวจไหม” ผมถามพี่เขม พี่เขมมองหน้าผม
“ทำไมวันเกิดต้องเมาไม่เห็นเข้าใจเลย เข้าวัดทำบุญซิถึงจะถูก” พี่เขมพูดกับผม
“ใส่บาตรอย่างเดียวได้ไหมไม่ต้องถึงกับเข้าไปถือศิลในวัด” ผมพูดกับพี่เขมแบบขำๆแต่พี่เขมกับปั่นหน้านิ่งมาก
“อืมม....”พี่เขมพูดแค่นั้นแต่ก็ไม่ได้มีท่าที่จะสนใจอะไรมาก วันเกิดผมแท้ๆนะ ผมยังจะน้อยใจนิดๆ แล้วซิ ผมเดินไปด้วยกัน ผมถือกระเป๋าถุงผ้าให้ครูเขมเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้ทำไมมันรู้สึกเหมือนผมเดินอยู่คนเดียวยังไงก็ไม่รู้
“แต่ว่าเรื่องไปเที่ยวผับนะพี่เขมไปนะผมอยากไปกับพี่ผมอยากควงพี่ไปแบบแฟน” ผมพูดพี่เขมมองหน้าผมยิ้มให้ผมแปลว่าไป
“วันนี้พี่อาจจะมาไม่ทันตอนเย็นค่อยติวกันนะคริส” พี่เขมบอกผม ผมขมวดคิ้ว เมื่อวานไปประชุมวันนี้ไปไหนอีกเนี๊ยะ
“พี่มีธุรพี่จะพาอนุชิตไปสำภาษณ์เรื่องรับทุนนะคริส” พี่เขมหันมาบอกผม ผมพยักหน้าเบาๆ
“หมูนี้เราไม่ได้ทานข้าวเที่ยงด้วยกันเลยอะพี่เขมงานเยอะไปหรือเปล่า” ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าผมเริ่มน้อยใจแล้วนะ
“ไม่เอาคริส...วันหยุดเราก็ได้อยู่ด้วยกันตลอดนะ” ครูเขมพูด ผมรู้แต่มันไม่พอสำหรับผมอยากอยู่กับพี่เขมมากกว่านี้ ผมสองคนเดินมาจนถึงด้านหลังห้องอาหาร ตรงที่ผมนั่งกันประจำ
“พี่ไม่ทานอาหารเช้าด้วยนะพี่รีบพาอนุชิตไปรอเข้าคิวสัมภาษณ์และคงจะหาอะไรทานที่ศาลากลางเลย” ครูเขมพูดผมพยักหน้าเบาพร้อมกับส่งกระเป๋าผ้าคืนให้พี่เขม พี่เขมรับไปถือก่อนจะยื่นมือมาแตะที่หัวผม มันก็ยังดีทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นแต่ก็ยังแอบน้อยใจอยู่ดี
“พรุ่งนี้พี่ว่างแล้วจะมาทานด้วย...พี่ไปนะ...อย่าไปซ่าที่ไหนละ” ครูเขมพูดและรีบเดินไป ผมก็เดินแยกมาหาพวกไอ้โจและอาร์ท มันนั่งทานอาหารเช้ากันอยู่ แต่ก่อนผมชอบเห็นมันนั่งก้มหน้าก้มตากับมือถือส่งข้อความหาแฟนแต่ตอนนี้มือถือคงเอาไว้โทรมากกกว่าแล้วจะมีแค่โจนี้แหละที่ชอบโพสรูปนั้นรูปนี้ โดยเฉพาะรูปหมา แต่ทว่าวันนี้มันนั่งเงียบนิ่ง
“ดีวะโจ..อาร์ท” ผมทักทั้งคู่ไอ้อาร์ทเงยหน้าขึ้นมมองผมพยักหน้าแต่โจ้มันยังก้มหน้าก้มตาเขี่ยอาหารในจาน
“เมียมึงเป็นอะไรว่ะ” ผมถามไอ้อาร์ท
“หมาเมียกูน้อยใจกระโดดให้รถชนตาย” ไอ้อาร์ทพูด
“ขวับ” เสียงหันไปมองไอ้อาร์ทดังขวับแต่ว่าผมนั่งถัดจากไอ้อาร์ทก็เลยเหมือนโดนหางเล่ไปด้วยยังไงก็ไม่รู้
“เว้ยย !!!” ไอ้อาร์ทและผมร้องออกมาพร้อมกัน
“หมาเมียกูประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์วะ..เสียชีวิตคาที..มึงว่างไหมไปงานศพหมาของเมียกูหน่อย” ไอ้อาร์ทมันรีบเปลี่ยนคำให้การทันทีเลยนะหลังจากที่มันเจอสายตาพิฆาตของโจเมียรักมันเข้าไป ผมก็เบ้ปาก อาการหนักนะผัวเมียคู่นี้
“กูเศร้านะพวกมึง” ไอ้โจพูด มองหน้าผมกับไอ้อาร์ท
“เมีย...ผัวรู้ว่าเศร้าแค่หมามันตายไปแล้วจะให้ผัวไปทำยังไงอะ...ผายปอดก็ไม่ขึ้น...ร้องหายยังกะผัวตายเองซะงั้นนะ” ไอ้อาร์ทมันพูด
“เออ ...งั้นกูไปหาอะไรทานก่อนนะ ..อาร์ท ...โจ” ผมพูดและลุกขึ้นดีกว่าเหมือนกับว่าผัวเมียนี้มันจะตีกัน กะอีแค่เรื่องหมาโดนรถชนตาย สงสัยตัวที่วิ่งมาหาไอ้โจวันนั้นแน่ๆเลย นี้หมาไม่อยากเป็นลูกสองผัวเมียนี้ถึงขนาดกลั้นใจกระโดนให้รถชนเลยเหรอ( ผมคิดเองในใจ) ผมเดินไปสั่งโจ๊ก
“พี่คริส...แก้มได้เป็นตัวแทนถือคฑาปีนี้ด้วยพี่คริส...เขาเรียกดรัมเมเยอร์อะ” แก้มวิ่งแจ่นมาบอกผมทันที ตอนนี้แก้มน่ารักขึ้นมากแต่ผมก็มองเธอแค่น้องสาวแค่นั้น และแก้มมันก็ดีกับครูเขมขึ้นด้วย
“ดีใจด้วยนะว่าแต่ใครเลือกลิงอย่างแกไปถือว่ะแก้ม” ผมหันมาแสดงความดีใจแต่พอผมว่าเป็นลิงเท่านั้นแหละแก้มมันหน้างอทันทีทันใด อันที่จริงผมแกล้งว่าไปอย่างนั้นแหละ ความจริงแก้มมันน่ารักและยิ่งตอนนี้ยิ่งน่ารักมาก
“พี่ล้อเล่น...น้องแก้มพี่ออกจะสวยงามเรียบร้อย” ผมพูดบอกแก้ม
“เหมือนประชด” แก้มพูดทำท่างอนผม
“พี่พูดจริง น้องสาวพี่สวยและเหมาะสมกับตำแหน่งดรัมเมเยอร์ด้วย” ผมพูดกับแก้ม พร้อมกับยิ้มให้และเอามือลูบหัวเบาๆ
“ปันปัน....” ผมเห็นปันปันเดินเข้ามาก็เลยโบกมือเรียกให้มาหาผม ปันปันเดินตรงมาก็หยุดมองแก้ม
“พี่ปันปันแก้มได้เป็นดรัมเมเยอร์ปีนี้ด้วยแหละ” แก้มหันไปบอกปันปัน ผมยักไหล่ให้ปันปันมัน ไอ้ปันปันมันก็พยักหน้าตอบและ
“เหรอ....นี้เขาหลับตาเลือกแกมาหรือเปล่าแก้ม” ปันปันพูด ทำเอาคนที่ยืนยิ้มหน้าบึ่งทันที
“เบื่อ..ผู้ชายสองคนนี้อะ...ไม่คุยด้วยดีกว่า..พอเบี่ยงเพศไปชอบผู้ชายมองแก้มเป็นลิงเป็นข้างเลยนะ” แก้มยืนเอาแขนกอดอกทำท่าจะงอน
“แก้มพี่ล้อเล่น ...” ปันปันรีบแก้ตัว
“แก้มนะสวยเหมาะสมอยู่แล้วดีใจด้วยนะ” ปันปันพูด แก้มค่อยยิ้มได้หน่อยที่นี้
“แก้มไปหาเพื่อนนะเย็นนี้ซ้อมวันแรกไปดูหน่อยนะ” แก้มพูดและเดินออกไปหาเพื่อนๆ ของเธอ ผมเห็นสีหน้าปันปันมันไม่เหมือนทุกวันและวันนี้ทำไมมาคนเดียววะ
“โป้งอะ” ผมถามไอ้ปันปัน
“ไปหาพ่อนะ....พ่อเจ็บแผลหน้าอกเมื่อคืนแม่ของโป้งเลยโทรมาให้ไปขับรถให้หน่อย โป้งมันขึ้นไปลาครูแล้วก่อนจะขับรถออกไปเมื่อสักครู่นี้แหละ” ปันปันพูด
“นี้มึงงอนที่มันไม่ได้เอามึงไปเหรอว่ะ” ผมถามไอ้ปันปัน
“ก็นิดหน่อย...แต่กูเข้าใจมันไม่อยากให้กูขาดเรียนบ่อย” ปันปันพูด น้ำเสียงน้อยใจแน่ๆ
“เอานะเดี๋ยวมันก็กลับแล้ว....มึงอยู่ก็ดีนะจะได้รับงานไว้ให้มัน มันขาดหายคาบแล้วถ้าขาดทั้งคู่ก็ไม่มีใครรู้กันซิว่าต้องอะไรส่งครูบ้าง” ผมกอดไหล่ปันปันพูด มันก็พยักหน้าตามผม สักพักผมกับปันปันก็เดินออกไปนั่งกับพวกอาร์ทและโจ้ด้านนอกด้วยระหว่างที่ผมเดินผ่านประตู ผมเห็นพี่กาย ไอ้พี่อั๋นและพี่เอกยืนคุยกันดูสีหน้าพี่เอกไม่ค่อยดี ผมได้ยินไอ้โป้งมันพูดว่าพี่เอกแตกคอกับพี่กายแล้วหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่พี่เอกออกตัวรับผิดชอบกี้ ผมคิดว่าพี่กายนั้นแหละพ่อเด็กแต่ไม่ยอมารับ เขาเรียกหน้าตัวเมียซินะ
“กูไม่ทำแล้ว..พอทีเถอะกาย..ถ้ากูไม่ช่วยมึง...แล้วมึงจะตัดเพื่อนอย่างกูก็ได้นะ...” พี่เอกพูดออกมาแสดงว่ามันยังรู้ตักปฏิเสธที่จะทำอะไรชั่วๆกับไอ้กายเป็นแล้วซินะ
“ไปเถอะว่ะคริสอย่าไปยุ่งกับแม่งเลย สมน้ำหน้าแล้วที่มันแตกหักกันเอง” ไอ้ปันปันพูด ผมก็เดินตามปันปันออกไป กลับไปนั่งทานอาหารเช้ากับพวกอาร์ทและโจ้
“วันเกิดปีนี้มีอะไรพิเศษไหมว่ะคริส..พี่ที่แล้วมึงเมารั่วมากว่ะ” ปันปันพูดใช่ทุกปีผมมีแต่พวกนี้แหละที่ฉลองวันเกิดและก็รั่วทุกปี ผมเดินมานั่งทานอาหารกัน ปันปันมันก็ส่งข้อความคุยแชทกับโป้งไปด้วย
KissKhem : พี่เขมถึงหรือยัง ...ทานอะไรหรือยัง
My Love : พี่ถึงได้สักพักแล้วนี้กำลังจะพาอนุชิตไปหาอะไรทาน..เอาไว้คุยกันนะ..ตั้งใจเรียนละ
KissKhem : ครับพี่เขม ผมรักพี่เขมนะ
My Love : พี่รักเรานะคริส
“ไปเตรียมตัวเข้าแถวกันเถอะว่ะ” ไอ้อาร์ทพูดผมก็พยักหน้าผมทานเกือบจะหมดพอดีเลย ผมก็ถือชามเอาไปเก็บไว้ ผมไม่ลืมเอาเศษอาหารเทลงกระป๋องที่ผมทำไว้ ผมมักจะมาเอาไปเทเลี้ยงสุนัชจรจัดที่ไม่มีใครดูแลทั้งในโรงเรียนและด้านนอก
“พี่คริส” เสียงเล็กๆหวานหู ผมเคยได้ยินเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้เสียงนี้กลับมาดังอีกครั้ง ผมหันไปมองต้นเสียงที่เรียกผม อาร์ทและโจ ปันปันก็หยุดมอง ผู้หญิงผมยาวแต่งตัวเปรี้ยวในชุดกระโปรงแซกสั้นร้องเท่าส้นสูงทาปากแดง เส้นผมเป็นลอน การแต่งหน้าที่จัดจ้านขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังคงไว้ซึ้งความหวานของ เชอรี่ เธอเดินตรงมาหาผม
“ใครวะโคตรสวยเลยวะ...แต่งตัวแรงได้” ปันปันกระซิบกระซาบถามผม
“พี่คริส...เชอรี่กลับมาแล้ว” เธอตรงเข้ามาจับมือผม กุมไว้ แววตาดีใจที่ได้เจอผมแต่ผมซิ มันกลับไม่เป็นเหมือนที่เธอจากไปแรกๆผมอยากให้เธอกลับมาแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว
“เชอรี่กลับมาเที่ยวบ้านเหรอครับ”
“เปล่าค่ะ....เชอรี่กลับมาอยู่นี้ ...กลับมาหาพี่คริสไง...เชอรี่ยังรักพี่คริสอยู่นะและเชอรี่ก็กำลังจะหาที่เรียนที่นี้..เชอรี่อยากกลับมาเรียนที่นี้มาเรียนต่อม.สี่ที่นี้ เชอรี่เบื่อเมื่องนอก” เชอรี่พูดสายตามองผม เขาก็กอดผมแต่ผมรีบดันเชอรี่ออกทันที
“ทำไมละพี่คริสไม่คิดถึงเชอรี่เหรอคะ” เชอรี่ทำหน้าตา ตกใจที่ผมดันเธอออกไม่เหมือนเคยที่คงรีบโผ่กอดเธออย่างเร็ว
“คิดถึงคะแต่ไม่ได้คิดถึงแบบคนรัก”
“อะไรกันไปแค่ปีเดียวเองและเชอรี่ก็พยายามต้อต้านคุณพ่อคุณแม่เพราว่าเชอรี่อยากกลับมาหาพี่คริสนะ..พี่มีคนอื่นเหรอ” เชอรี่ถามผม น้ำเสียงไม่พอใจ
“ใครกันนางแก้มหรือเปล่า..หนอยนางนี้ทำท่าจะงาบพี่คริสตอนนั้นพอเชอรี่ไปนี้มันมายุ่งกับพี่เลยเหรอ”
“ไม่ใช่เชอรี่ไม่เกี่ยวกับแก้ม .....แต่พี่ไม่ได้รักเชอรี่แล้วและเชอรี่กลับไปเรียนตามที่พ่อแม่ของเชอรี่ต้องการเถอะครับ ..เลิกยุ่งกับพี่...เพราะว่าพี่ไม่อยากมีปัญหากับพ่อแม่เชอรี่” ผมพูดพร้อมกับแกะมือเธอออก
“พี่ต้องไปเข้าแถวแล้วนะเชอรี่...พี่ขอโทษนะ” ผมพูด ผมหันไปจับต้นแขนปันปันและรีบเดินไปเข้าแถวทันที พวกอาร์ทและโจ ก็แค่ยิ้มๆให้เชอรี่ที่ยืนหน้าตาไม่พอใจ ที่ผมกลับเป็นฝ่ายปฏิเสธเขาในวันนี้ ผมยืนเข้าแถวเคารพธงชาติวันนี้มีชั่วโมงของภาษาอังกฤษตอนบ่าย พี่เขมคงกลับมาทันนะ
“ปันปัน...เจอกันตอนเที่ยงนะ” ผมบอกปันปัน มันก็โบกมือให้ผมว่าโอเค ผมเดินไปขึ้นห้องเรียนตามปกติ ผมเห็นเชอรี่มองผมและมองปันปัน สายแปลกๆ ผมแยกขึ้นห้องเรียน เรียนตามปกติ ทำไมเชอรี่ถึงได้กลับมาเพื่อจะมาเรียนที่นี้อีก พ่อแม่เธอยอมให้กลับมาได้ยังไง ตลอดช่วงเช้านี้ผมเรียนหนังสืออย่างตั้งใจ เพราะว่าผมกำลังจะไปสอบ GED อาทิตย์หน้าวิชาแรกคือวิชาคณิตศาสตร์และเย็นนี้ผมก็มีเรียนติวคณิตกับครูถาวร
หลังจากพักเที่ยงผมเดินลงมาซื้ออะไรทาน ผมไม่เจอปันปันในห้องอาหาร ส่งสัยมันจะไปโทรหาไอ้โป้งแน่ๆ ทำยังกับยาก่อนอาหาร ระหว่างที่กำลังเดินเข้าห้องอาหาร ผมเห็นพี่เอกกำลังดูแลกี้อยู่ ข่าวที่เธอตั้งครรภ์ในโรงเรียนและครูเขมก็เป็นคนยื่นข้อเสนอให้เธอเรียนทั้งที่เธอท้อง มันดังกระฉ่อนไปทั้งโรงเรียน แต่ก็ยังดีที่มีพี่เอกคอยดูแลใกล้ๆ พี่เอกก็เป็นผู้ชายหน้าตาดีแต่อาจจะไม่รวยเหมือนไอ้พี่กาย
“คริส” พี่เอกเดินมาหาผม
“วันนี้โป้งมาโรงเรียนหรือเปล่า” พี่เอกถามผม ผมมองหน้าพี่เอก
“ไม่มามีอะไรเหรอ” ผมถามพี่เอกห้วนๆ เพราะว่าผมก็ยังไม่ไว้ใจพี่เอกเท่าไหร่ เพื่อว่าไอ้พี่กายมันให้พี่เอกทำอะไรให้มันอีก ถึงยังไงก็เพื่อนกัน
“ปันปันละ” พี่เอกถามผมถึงปันปัน
“ก็คงไปโทรศัพท์หาไอ้โป้งทำไมอะ” ผมถามพี่เอก
“เห้ย...คริส...พี่ถามดูพี่ได้ยินพวกไอ้กายและอั๋นมันเรียกพวกมันไปทางห้องน้ำชายที่ไม่ได้ใช่แล้ว” พี่เอกพูด ผมก็หยักไหล่
“คงไปเสพยามั้ง...พี่อยากให้ผมแจ้งครูฝ่ายปกครองให้เหรอ...แตกคอกันแล้วนิ” ผมพูดจาประชดประชันพี่เอก
“พี่รู้ว่าพี่เคยพูดไม่ดีกับนายไว้และพี่ก็เคยเป็นเพื่อนกายเราเลยยังมองพี่ไม่ดีอยู่แต่...พี่เลิกแล้วว่ะ” พี่เอกพูด ผมเห็นพวกไอ้โจและอาร์ทเดินเข้ามา มันกดโทรศัพท์เข้ามาด้วย
“มีอะไรโจ” ผมหันไปถามหน้าที่ตาตื่นของไอ้โจ้
“ปันปันไปหนวะ ไอ้โป้งมันโทรเข้ามือถือกูว่าโทรหาแล้วมันก็ไม่รับสาย พอรับก็ไม่พูดได้ยินเสียงคนเยอะแยะไปหมด” ไอ้อาร์ทพูด ผมหันมามองหน้าพี่เอก ตอนนี้แหละที่ผมหน้าตาตื่น ผมก็วิ่งออกจากห้องอาหารทันที ไอ้โจและไอ้อาร์ทมันก็วิ่งตามผม
“คริส! ...มีอะไรวะ สัส..วิ่งไม่พูดไม่จากเลยไอ้เชี้ย” ไอ้อาร์ทมันวิ่งตามและด่าผมตามหลัง ผมก็ยังวิ่งอยู่ ไม่นะ ต้องไม่ใช่อย่างทีไอ้พี่เอกพูดซิ ถ้าไอ้ปันปันเป็นอะไรผมรู้สึกผิดมากเพราะว่าไอ้โป้งมันฝากปันปันกับผมและมันสองคนมีปัญหาก็เพราะว่าผมด้วยเช่นกันเขาเรียกว่าติดร่างแหไปด้วย ผมวิ่งมาจนถึงห้องน้ำที่รอปรับปรุงใหม่ ห้องน้ำนี้ถูกปิดตายมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ผู้อำนวยการสร้างห้องน้ำใหม่ให้ใช้ ประตูห้องน้ำถูกคล้องกุญแจไว้
“ปันปัน!!” ผมตะโกนเรียก
“แฮ้ก! ...มึงจะบอกว่าไอ้ปันปันมันอยู่” ไอ้โจ้ ผมก็มองหาอะไรที่จะทุบกุญแจที่คล้องเอาไว้ออก
“ปันปัน!...ปันปัน!” ไอ้อาร์ทมันพยายามตะโกน เรียกอยู่ด้านนอก ผมก็หยิบเอาเหมือนแท่งเหล็กมาทุบกุญแจที่คล้องไว้
“เสียงคนร้องไห้ว่ะ” ไอ้อาร์ท
“ปันปัน!..” มึงอยู่ในนั้นเหรอว่ะ..บอกกูดิว่ะ” ไอ้อาร์ทตะโกนแข่งกับเสียงของแข็งที่ผมใช่ทุบประตู จนกุญแจที่คล้องหลุดออก กว่าจะออกได้มือผมก็เจ็บไปหมด ผมรีบถีบประตู พอผมเข้าไปไอ้โจเข่าทรุดลงกับพื้นปันปันนอนกองอยู่กับพื้นสภาพบอกได้ว่ามันโดนอะไรมาบ้าง
“ปันปัน” ผมเข้าไปหามัน กางเกงที่หลุดไปจนจากตัวโคนขาก็มีเลือกไหล
“คริส...มันทำกูอะ...ฮือๆ” ปันปันพูดไปมันร้องไห้ ผมนั่งย่อตัวลง ผมดึงมันเข้ามากอดเนื้อตัวมันสั่นไปหมด
“ปันปัน กูขอโทษปันปัน.. ” ผมพูดไปก็ปลอยมันไปด้วย ไอ้โจมันก็เข้ามากอดอีกคน
“ฮือๆ..” ปันมันร้องไห้ใหญ่เลย
“ให้ปันปันมันใส่เสื้อผ้าก่อนเถอะว่ะ” ไอ้โจพูดเสียงมันสั่นๆ มันสงสารปันปัน อาร์ทและโจกับมันก็ช่วยแต่งตัวให้ปันปัน
“ใครทำมึงปันปัน...บอกกู!!” ผมถามปันปัน ผมมองหน้ามันน้ำตามันก็ไหล
“มึงให้กูโทรหาไอ้โป้งไหมวะปันปัน ...มันโทรหามึงมันเป็นห่วงมึงมากนะปันปัน “ ไอ้อาร์ทท พูดและมองปันปัน
“อย่านะอาร์ท...ไม่เอา...ไม่..” ปันปันส่ายหัวมันร้องไห้ ผมก็กอดมันไว้
“ใครทำมึงปันปัน” ผมถามปันปันอีกครั้ง
“กูไม่รู้อะ กูไม่รู้จักแต่มันทำตามคำสั่งมันเหมือนเป็นพวกข้างนอกอะ คริส “
“แล้วมึงมาตรงนี้ทำไมวะปันปัน”
“เออ..กูหลบมาจะโทรศัพท์หาไอ้โป้งอะ...มึงอย่าถามกูอีกเลยนะ..ฮือๆ..กูไม่อยากอยู่แล้วอะ..ฮือๆ” ไอ้ปันปันมันก็ยิ่งร้องไห้ ผมกำหมัดแน่น
“ไอ้กาย” ผมพูด
“มึงพาปันปันกลับบ้านพัก...”
“อย่าบอกเรื่องนี้กับโป้งนะคริสกูขอร้อง..กูรับไม่ได้...โป้งมันก็คงรับไม่ได้ฮือๆ” ปันปันมันร้องไห้เหมือนเด็กเลยผมก็เอามือลูบหัวมันกันทุกคน ทำไมไอ้พวกระยำมันต้องทำกันแบบนี้ด้วยวะ
“ปันปัน แต่..”ไอ้โจมันพูด มันมองหน้าพวกผมแบบนี้ผมจะกล้าบอกไหม
“มึงต้องบอกมันแต่มึงควรจะบอกเอง กูว่าโป้งมันรักมึงมาก กูไม่เคยเห็นมันรักใครเท่ามึงเลยนะปันปัน เชื่อกูดิ” ผมพูดบอกไอ้ปันปัน ผมรู้ว่ามันยาก เป็นใครโดนแบบนี้แล้วจะกล้าบอกคนที่ตัวเองรักเหรอว่ะ
“ตอนนี้กูไม่พร้อม” ไอ้ปันปันพูดทั้งน้ำตา
“ไอ้คริสมึงจะไปไหน” ไอ้อาร์ทมันถามผม
“กูจะไปจัดการมันเอง” ผมพูดโดนไม่หันหลังกลับไปมองพวกมัน
“ไอ้คริสแต่ว่า” ไอ้อาร์ทมันเรียกผม ผมไม่ฟังแล้วผมเดินออกจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ผมมองไปที่พื้นที่เปียก มีรอยรองเท้ามากมายคงหลายคนเลยซิท่า มันยิ่งทำให้ต่อมเดือดผมทำงานมากขึ้น ผมมั่นใจว่าเป็นพวกไอ้กายแน่ๆ และต่อให้ครั้งนี้ผมถึงกับต้องออกจากโรงเรียนผมก็ยอม เพราะว่าสิ่งที่มันทำกับเพื่อนของผมมันเกินไป เกินคำว่าคน และมันก็เกินกว่าที่ผมจะอดทนอยู่เฉยๆแบบนี้ได้ เป็นไงก็เป็นกัน
EP.4ุ7 (ครูเขมXคริส)We are family!
Part คริสโตเฟอร์ ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีคนมาเคาะประตูห้องพักของผม ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นพี่เขมแน่ๆ ผมก็เลยรีบลุกขึ้นไปเปิดทันที สงสัยจะคิดถึงผมแน่ๆเลย แต่พอผมเปิดประตูออกมา ก็พบว่าคนที่มาเคาะประตูห้องพักของผมนั้นคือแด้ด
“มีเรื่องอะไรเหรอครับแด้ด?” ผมเหมือนกับว่ามีเรื่องหรือเปล่า
“ไม่นิ แค่จะมาบอกว่าจะให้เราย้ายไปอยู่ห้องนอนเดียวกับเขมนะและพ่อจะยกเลิกห้องนี้.” แด้ดบอกกับผมว่าเขาจะยกเลิกห้องพักของผมและให้ผมไปอยู่ห้องเดียวกับพี่เขมได้ ผมแถบจะกระโดดเซย์เยส
“หรือว่าเราไมอยากไปละ?” พ่อเลิกคิ้วสูงถามผม มีเหรอที่คริสจะไม่อยากไปนอนกับพี่เขม
“ รักเลยแหละแด้ด ขอบคุณครับแด้ด ” ผมพูดและรีบเข้าไปหยิบกระเป๋าเป้ของผม ผมยังไม่ได้เอาอะไรออกจากกระเป๋าเลย พ่อหันมามองผม ผมเดินไปยังห้องพักที่พี่เขมอยู่ แด้ดก็ยืนมองผม แด้ดทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่แด้ดก็เลือกที่จะไม่พูดแค่ยืนเอามือล้วงกระเป๋าและส่งยิ้มให้ผม พ่ออยู่ถัดไปอีกห้องหนึ่ง นั้นแปลว่าห้องตรงกลางก็ไม่มีใครอยู่ซินะ จัดหนักจัดเต็มได้เลยคิดในใจ
“ก๊อกๆ “ ผมเคาะประตูห้องนอน ไม่นานพี่เขมก็เดินมาเปิด พี่เขมมองผมด้วยสีหน้าแปลกใจเพราะว่าผมมีกระเป๋าเป้ของผมมาด้วย
“พ่อบอกว่าจะยกเลิกห้องพักของผมนะพี่เขมและพ่อให้ผมมาอยู่ห้องนี้แทนกับพี่เขม” ผมพูดพี่เขมก็ยิ้มให้ผมและพยักหน้าเบาๆ ผมเดินเข้าไปในห้องนอน ผมวางกระเป๋าลง สิ่งแรกที่ผมอยากจะทำคือตรงเข้าไปหาพี่เขมและกอดพี่เขมพร้อมกับประทับรอยจูบที่ริมฝีปากนั้น แปลกนะพี่เขมไม่ต่อต้านเลยพี่เขมจูบผมกลับ พี่เขมถอดเสื้อยืดผมออกไปทันที ผมก็มองพี่เขมทำไมพี่เขมดูเร้าร้อนยังไงก็ไม่รู้ พี่เขมผลักร่างผมขึ้นไปบนที่นอนพร้อมกับตามขึ้นไปค่อมผมไว้ทันที
“พี่เขม วันนนี้มาแปลกนะ หรือว่าบรรยากาศมันเป็นใจกว่าตอนไปเชียงใหม่อ่ะ” ผมถามพี่เขม พร้อมกับเม้มริมฝีปากพี่เล่นแบบหยอกเย้า
“สงสัยมันค้างมาตั้งแต่เมื่อคืนมั้ง ไม่อยากทำเหรอ” พี่เขมถามผม
“ฮู้ ! ใครทำอะไรครูเขมหรือเปล่าเนี๊ยะ ฮะ “ผมพูดและใช้นิ้วเขี่ยที่แผ่นอกของพี่เขม ผมสังเกตุริมฝีปากพี่ขยับ เหมือนกับว่าพี่เขมว้อนมาก พี่เขมก้มลงจูบผมและไซ้ไปที่ซอกคอผม มือพี่เขมก็จับแกนกายผมบีบคลึ้ง มือผมก็ปลดกางเกงขาสั้นพี่เขม มือก็คลึ้งน้องรักพี่เขมแม้จะมีกางเกงยางยืดอยู่ก็ตาม
“พี่รักคริสนะ รักมากด้วย แต่พี่ก็อยากให้เรามีอนาคตที่ดีนะ ไปเรียนกับพ่อและตั้งใจเรียนพี่จะรอนายที่นี้” พี่เขมพูด ผมก็มองพี่เขม
“พี่มีอะไรหรือเปล่า บอกผมได้นะ” ผมใช้แขนดันตัวเองให้อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึงนอน ผมมองใบหน้าพี่เขม แม้ว่าจะมีรอยยิ้มเปื้อนอยู่แต่มันแฝงไว้ซึ่งบางสิ่ง
“ พี่กลัวนายไม่ไปเรียนกับพ่อนายนะ พี่อยากเห็นอนาคตของนาย “ พี่เขมพูดและก้มลงจูบผม แต่ผมกลับนิ่งไม่ได้จูบพี่เขมตอบ พี่เขมก็พยายามจูบผมอีกครั้งแล้วครั้งเล้าแต่ผมก็นิ่งๆไม่โต้ตอบ
“พี่เขม บอกผมมาตรงๆ พ่อคุยอะไรกับพี่” ผมดันพี่เขมและผมมองหน้าพี่เขมด้วยแววตาที่จริงจัง
“พี่เขม!!” ผมขึ้นเสียงกับพี่เขม
“ผมจะไปถามพ่อเดี๋ยวนี้ “ ผมลุกพร้วดขึ้นทันที ผมสวมกางเกงอย่างไว พี่เขมก็ลุกขึ้นและพยายามดึงรั้งแขนผมเอาไว้แต่ผมก็สะบัดแขนพี่เขมออก ผมรีบเดินออกมาและตรงไปที่ห้องพักของพ่อผมทันที
“ปังๆ” เสียงกระหนำเคาะประตูดังก้องไปทั้งชั้น จนแขกที่พักในชั้นเดียวกันกับพวกผม ต้องเปิดประตูออกมาดู พ่อก็เปิดกระตูออกมาเช่นกัน พ่อมองหน้าผมและชะโงกออกมามองห้องพักอื่นๆ พร้อมกันหันมามองหน้าผมเช่นกัน
“What it’s going on?” พ่อเอ่ยถามผมด้วยสีหน้าที่ตกใจ ผมเดินแทรกพ่อเข้าไปในห้อง พ่อผมหันไปโบกมือขอโทษแขกห้องอื่นๆและปิดประตูลง พ่อหันมามองหน้าผมที่ยืนอยู่หลังประตู
“What was wrong with you,Christ ?” พ่อถามผมอีกครั้ง
“What did you talk with Khem ? Tell me the truth,Dad! “ ผมถามพ่อผม พ่อก็มองหน้าผม
“บอกผมซิแด้ด! “ผมขึ้นเสียงถามพ่อผม ผมรู้ว่ามันไม่ดีแต่ผมต้องรู้ให้ได้
“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น พ่อกำลังจะหันไปเปิดแต่ผมดันประตูเอาไว้ผมอยากรู้ว่าพ่อคุยอะไรกับพี่เขมก่อนที่จะเปิดให้พี่เขมเข้ามา ผมมองหน้าพ่อผม ผมยอมรับว่าผมโกรธพ่อผมมากจริงๆ
“เขาไม่ได้บอกอะไรผมหรอกแด้ด แต่ผมคิดว่ามี แด้ดบอกมาซิ ถ้าแด้ดไม่บอกผมจะไม่ไปไหนกับแด้ดทั้งนั้น ผมจะอยู่ที่นี้ กับพี่เขม” ผมพูดพ่อมองหน้าผม
“นายและเขาเป็นอะไรกัน” พ่อถามผม ผมพยักหน้าเรื่องนี้นี่เอง
“เขาเป็นแฟนผม ผมรักเขา รักเขามากด้วย และแด้ดก็ไม่เข้าใจผมหรอก เพราะว่าเราห่างกันไปนานเกินไป แด้ด “ผมพูดพ่อมองหน้าผมอีกครั้ง
“ก๊อกๆ” แต่เสียงเคาะประตูยังคงดังอยู่ ผมว่าพี่เขม
“เปิดให้เขมเข้ามา” พ่อบอกผม ผมหันไปเปิดประตู
“คริส นายไม่ควรพูดจากแบบนั้นกับพ่อนายนะ” พี่เขมเข้ามาถึงก็ต่อว่าผมทันที
“แล้วพ่อพูดอะไรกับพี่ละบอกผมซิ ถ้าพ่อเขาไม่บอกพี่ก็บอกผมซิพี่เขม” ผมหันมาพูดภาษาไทยกับพี่เขม พ่อมองผมกับพี่เขมสลับไปมา พี่เขมก็นิ่งไม่ตอบผมอีกคน
“โอเค!”กลายเป็นพ่อผมเองที่ยกมือยอมแพ้
“พ่อบอกเขมว่า ให้เขาไม่ติดต่อนายหนึ่งปี พ่ออยากรู้ว่าที่นายเป็นอยู่มันแค่ชั่วครั้งชั่วคราวหรือเปล่า เพราะว่านายอายุยังน้อยเกินไปคริส นายหาตัวเองเจอแล้วแน่ๆเหรอที่จะ ชอบแบบนี้นะ และพ่อเองก็ไม่เคยคิดว่า ..”พ่อพูด ก่อนะจะหันหน้าหนีผม
“ฟู่” พ่อผมพ่นลมหายใจออกมา พี่เขมมองหน้าผม
“ผมเองก็ไม่เคยคิดว่าผมจะเป็นแบบนี้แด้ด แต่ผมรักผู้ชายคนนี้ แด้ดรู้ไหมว่าผู้ชายคนนี้ทำอะไรให้ผมบ้าง เขาทำให้ผมที่ไม่เคยขึ้นเรียกภาษาอังกฤษเลย จนผมตกทุกภาคเรียน “ ผมพูดบอกพ่อผม พ่อหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าตกใจ
“ใช่ผมเกลียดมันมากจนไม่อยากเรียนแต่มันดันมาเป็นวิชาภาคบังคับไงแด้ด “ ผมพูดและมองพ่อผม
“และพี่เขมยังพยายามทำให้ผมแก้ที่ผมตกให้ผ่านโดนการสอนพิเศษผม ให้ผมเรียนเพิ่มทุนั่งสอนผมพิเศษทุกวัน พี่เขมไม่เคยเรียกร้องเงินจากผมเลยนะแด้ด “ ผมพูดบอกพ่อผม
“และเวลาผมมีเรื่อง พี่เขมก็อยู่ข้างผมตลอด แด้ดไม่เคยรู้หรอกว่าผมเจออะไรบ้าง ผมถูกมองว่าแตกต่างตั้งแต่หน้าตาลงไปแล้ว แด้ด!” ผมพูดพ่อหันมามองผมกับพี่เขมสลับกันไปมา
“ผมโดนบลูลี่จนผมมีเรื่องชกต่อยเกือบโดนไล่ออกแต่พี่เขมก็เข้ามา คอยห้ามปรามผม คอยสอนผมให้ผมใจเย็นไม่ก่อเรื่องเพิ่ม “
“แต่ผมกับพี่เขมก็ซวย ดันมีคนเอาเรื่องผมกับพี่เขมไปบอกผู้อำนวยการพี่เขมเกือบโดนพักการสอนหรือไม่ก็เกือบโดนไล่ออกจากการเป็นครู แด้ด! “
“เหตุผลเพราะว่าพี่เขมกับผมเรารักกัน แต่ผมสองคนก็ผ่านกันมาได้อ่ะแด้ด”ผมพูด
“แต่แด้ดจะมาจบความรักของผมสองคนด้วยแบบนี้เหรอแด้ด แด้ดเห็นแก่ตัว! “
“คริส!!” กับเป็นพี่เขมเองที่ขึ้นเสียงเอ็ดผม
“ตกลงนายแน่ใจแล้วเหรอคริสว่านายเป็นแบบนี้จริงๆ” พ่อถามผม ผมรู้ว่าพ่อผมผิดหวังแต่ผมก็พยักหน้าตอบไปว่าผมเป็นจริงๆ
“ผมรักพี่เขมแด้ด ความรักของผมไม่ได้เกิดจากการที่พ่อหายไปแล้วผมโหยหามันมาทดแทนมันไม่ใช่ แต่ความรักของผมเกิดเพราะผู้ชายคนนี้ ที่มอบแต่สิ่งดีดีให้ผม “ผมพูดบอกพ่อผม ผมหันไปดึงแขนพี่เขม พี่เขมก็หันหน้าหนีผม ผมรู้ว่าพี่เขมไม่อยากให้ผมกับพ่อทะเลาะกัน
“ และพี่เขมยังเป็นคนพาผมไปสอบเทียบ เพราะปํญหาความรักระหว่างครูและลูกศิษย์ และพี่เขมก็พยายามติดต่อแด้ดเพื่อให้ผมไปเรียนต่อจะได้มีอนาคตที่ดี เขาทำให้ผมขนาดนี้แด้ด ผมจะไม่รักเขาได้ยังไงละแด้ด ก็เขาดีกับผมขนาดนี้แด้ด ”
“และแม่ก็รู้เรื่องผมกับพี่เขมแล้วด้วย แม่ก็ยังรับผมได้เลยนะแด้ด” ผมพูดบอกพ่อ
“พ่อไม่ได้ห้าม!” พ่อพูด ผมหันไปมองหน้าพ่อผม
“แต่แค่อยากให้เราแน่ใจแล้วว่า นายเป็นจริง และถ้านายมั่นคงกับเขมจริง พ่อจะให้ทุกอย่างที่นายต้องการ ขอแค่ให้นายไปและตั้งใจเรียนให้จบ ไม่ใช่เพื่อตัวนายคนเดียว เพื่อคนที่นายรัก!” พ่อผมพูด พ่อมองหน้าผม
“ คริสรู้ไหมว่าพ่อมีนายโดยที่พ่อยังไม่พร้อม ยังไม่มีอะไรเลย แต่พ่อก็มีนายแล้ว แม้กระทั้งจะรับผิดชอบแม่เราพ่อยังทำไม่ได้ในตอนนั้น ดังนั้นพ่อไม่อยากให้นายเป็นเหมือนพ่อ ทำตัวเองให้ดีพร้อมก่อนที่จะดูแลเขมเขา” พ่อผมพูด ผมหันไปมองพี่เขม
“พ่อไม่ได้ห้ามคบแต่ขอเวลาเท่านั้น และพ่อก็บอกเขมว่าพ่อจะเป็นคนติดต่อเขาแทนนาย นั้นไม่ได้แปลว่าพ่อให้นายกับเขมเลิกกัน” พ่อผมพูดบอกผม
“แต่…”
“ตอนแรกพ่อบอกเขมว่าหนึ่งปี เอาเป็นว่าแค่หกเดือด แค่นั้น ทำได้ไหม ไม่ใช่เพื่อเรา แต่เพื่อเขมเขา ถ้านายไม่มั่นคงแสดงว่านายไม่ได้เป็นแบบนั้น และเขมเขาก็จะได้มีโอกาสเจอคนอื่นที่ใช่ ไม่ใช่มาเสียเวลารอเราแต่สุดท้ายได้ความว่างเปล่า และเราเองก็ยังเด็กเกินไปจะดูแลเขมในตอนนี้” พ่อผมพูด พี่เขมพยักหน้าให้ผมแต่ผมอยากจะ
“พ่อไม่ได้หมายความว่านายจะทำไม่ได้แต่แค่ให้นายไปทำตัวให้พร้อม ที่จะดูแลใครสักคนจริงๆ “
“คนรักมันต้องมีช่องว่างเพื่อให้ความรักมันได้เติบโต…คริส” พ่อผมพูดบอกผมและหันไปมองพี่เขม พี่เขมพยักหน้ากับผม
“แต่ผมรักพี่เขมจริงๆนะแด้ด”
“พ่อรู้ ดูจากการกระทำพ่อก็พอเดาได้แล้ว แต่ความรักมันมีมากกว่านั้นคริส “พ่อผมพูดและเดินเข้ามาแตะไหล่ผมและแตะไหล่พี่เขม
“เขมก็เหมือนส่วนหนึ่งของครอบครัวเราคริส ช่วงที่นายดูแลเขาไม่ได้พ่อก็จะดูแลเขาให้ก่อน ส่วนนายก็ตั้งใจเรียน เรียนให้จบภายในสามปี แค่นี้ ทำได้ไหม “ พ่อถามผม พี่เขมยังคงมองหน้าผม
“พี่จะรอคริส พี่รอได้ พี่เคยพูดแล้วว่านานแค่ไหนพี่ก็รอ และที่พี่ตั้งใจคืออยากเห็นอนาคตของเรานะ ถ้าการรอเพื่อสิ่งที่ดีกว่าพี่ยินดีจะรอนะ” พี่เขมพูด ผมหันไปมองหน้าพี่เขม ผมก็ต้องก้มหน้าลง และผมก็โผ่เข้าไปกอดพี่เขมทันที
“แต่….”ผมทำท่าจะค้าน
“พี่ยังคงอยู่ตรงนี้ คริส เชื่อใจพี่ไหม “ พี่เขมพูดกับผม ผมรู้ว่าพ่อยืนมองผมกอดพี่เขม
“ขอโทษพ่อเขาด้วยนะคริส” พี่เขมพูดและดันผมออก ผมหันไปมองพ่อผม ผมรู้ว่าพ่อหวังดีแต่ผมแค่เสียใจ ที่เหมือนกับว่าพ่อไม่เข้าใจผมจริงๆ พี่เขมพยักหน้าให้ผมอีกที ผมก็ต้องเดินเข้าไปและไหว้ขอโทษพ่อผม พ่อคงพอจะรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของคนไทย พ่อผมรับไหว้ผม พ่อกอดผมกลับ และพ่อก็กางแขนเรียกพี่เขมเข้ามากอด พี่เขมพยักหน้าเบาๆ
“We are family “ พ่อผมพูดว่าพี่เขมคือครอบครัวของเรา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Part เขมชาติ หลังจากที่ได้เปิดอกพูดคุยกันระหว่างพ่อของคริส คุณเดนิส นายคริสและผม เราสามคนก็ตกลงกันว่าผมจะปล่อยให้คริสเขาค้นหาตัวแต่ พ่อของเขาจะคอยติดต่อกับผมเอง ส่วนนายคริสตั้งใจเรียน ช่วงแรกเขาต้องเรียนปรับพื้นฐานภาษาก่อน สิบสัปดาห์ที่TAFE พ่อของเขาติดต่อเอาไว้ให้แล้ว พ่อของคริสเขาติดต่อพูดคุยกับแม่ของคริสเรียบร้อยแล้วได้เอกสารที่จำเป็นจากแม่ของเขาเพื่อนำไปติดต่อมหาวิทยาลัย
“เอาละ วันนี้วันเกิดเขมทั้งที เต็มทีนะ ผมเลี้ยงเอง” พ่อของคริสโตเฟอร์พูด ผมนั่งเลือกเมนูอาหารอยู่ แม่ของคริสโตเฟอร์ก็เดินเข้ามาในร้านอาหารพร้อมกับฟิลิปส์ แฟนใหม่แม่ของคริสและเด็กผู้ชายที่ผมเจอวันนั้น
“สตีเวน สวัสดีครับพี่เขมซิลูก” แม่ของคริสโตเฟอร์หันไปบอกน้องชายคริสโตเฟอร์ เขาเงยหน้ามอง และหันไปมองคริสโตเฟอร์ที่เข้าไปเช็คแฮนด์ทักทายฟิลิปส์ ฟิลิปส์ก็เข้าไปทักทายเดนิสต่อ แต่สตีเวนยังคงมองผม
“เพี๊ยะ” ผมหันไปมองคนที่ทำให้เกิดเสียง นั้นคือคริสแม้จะไม่ดังก็เถอะ
“ไหว้พี่เขมดิวะมึง “ คริสโตเฟอร์ตบหัวน้องชายไปแบบไม่ดัง เบาๆแต่ก็คงเจ็บหน่อยๆ เห็นเอามือลูบหัวก่อนจะยกมือไหว้ผม
“คริสไปตบน้องทำไมเนี๊ยะ” ผมกระซิบถาม แม่คริสเขาก็พยักเพย้อ สงสัยจะทำบ่อย
“แม่ดาสวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้แม่ของคริสโตเฟอร์
“สวัสดีจ๊ะลูกเขม สบายดีไหมลูก ดูผอมไปนะ งานครูเยอะเหรอลูก”แม่ของคริสท้กผม แม่ผมเองก็ทักว่าผมผอมไปหน่อย สงสัยเพราะว่าฟิตหุ่นแข็งกับคริสแต่ผมดันไม่ได้กล้ามเพิ่มขึ้นมาเลยมีแต่แห้งลง
“พี่เขมเขากำลังฟิตหุ่นตามผมนะแม่ “ คริสโตเฟอร์พูดขึ้น
“อะนี้ของขวัญวันเกิดนะ แม่รู้ว่าเราบอกว่าไม่ต้องซื้ออะไรให้แต่แม่อยากให้นะ ขอบคุณที่ดูแลคริสเขา” แม่ของบคริสโตเฟอร์ส่งกล่องเล็กมาให้ผม ผมก็รับมาเป็นสร้อยทองคำขาวเส้นเล็กๆมีจี้อยู่ด้วย แม่ของคริสใส่รูปคริสเอาไว้แต่อีกอันไม่มี
“แม่ไม่มีรูปเขมแม่คิดว่าเขมใส่มันเองนะ “ แม่ของคริสโตเฟอร์บอกผม ผมก็ยกมือไหว้ขอบคุณ ผมก็สั่งอาหารเป็นสเต็กปลาแซลมอนมาทานกับคริสโตเฟอร์ ผมเห็นเดนิสกับฟิลิปส์เขาก็คุยกันถูกคอดีนะ ฝรั่งเขาคงไม่น่าเจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนคนไทย ส่วนแม่ของคริสก็ยังคงทิ้งไว้ซึ้งมิตรภาพที่ดีกับพ่อของคริสแม้จะไม่ใช่ในฐานะคนรักก็ตาม ส่วนนายคริสก็เอาแต่แกล้งน้องจนผมแอบตีหลายครั้งแล้ว
“Stop it! You an idiot! “น้องชายนายคริสคงโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว ผมว่าเวลาเขาโมโหนี้หน้าเหมือนนายคริสโตเฟอร์เลยนะ แต่หล่อคนละแบบ นายคริสนี้เขาหล่อไปทางเชื้อไทยปนอิตลี่ แต่น้องนายคริสนี้ออกไปทางไทยเยอะกว่านายคริสแต่ยังมีเค้าพ่อของเขาที่เป็นคนเยอรมัน
“พลึบ” จู่ๆไฟก็ดับลง หมันไปเห็นพนักงานถืออะไรสักอย่างแต่มีไฟเย็นมาด้วยพอเข้ามาใกล้ๆผมถึงได้เห็นว่าเป็นเค้ก และทุกคนก็ลุกขึ้นร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดให้ผมกัน ผมก็กำลังจะเป่าเค้กแต่หันไปไม่เจอคริสโตเฟอร์แล้ว ไปไหนก็ไม่รู้
“เป่าเค้กซิเขม อธิษฐานด้วยนะลูก”แม่ของคริสเดินเข้ามาบอกผมแทน
“สตีเวน ถ่ายรูปให้พี่เขมเขาหน่อยซิ” แม่ของคริสหันไปบอกลูกชายคนเล็กที่หยิบมือถือคริสโตเฟอร์ไปถ่ายรูปให้ผมแต่ผมหันไปมองหาคริสไม่เจอ ไม่รู้ไปไหน จนกระทั้งทางร้านเปิดไฟอีกครั้ง ผมถึงได้รู้ว่าเขาขึ้นไปนั่งอยู่บนเวทีพร้อมกีต้าร์
“ผมขอมอบเพลงนี้ให้กับ คนพิเศษของผม เขาเป็นคนสอนให้ผมรู้จักทุกอย่าง รู้จักยอม รู้จักอดทนอดกลั้น รู้จักการให้อภัยคน และสิ่งที่สำคัญคือเขาสอนให้ผมรู้จักคำว่ารักที่แท้จริง ผมอยากจะบอกว่า ผมรักเขามากที่สุด และเพลงนี้ผมขอมอบให้ สุดที่รักของผม”
All of me (https://www.youtube.com/watch?v=Mk7-GRWq7wA&feature=emb_logo)
What would I do without your smart mouth
Drawing me in, and you kicking me out
Got my head spinning, no kidding, I can't pin you down
What's going on in that beautiful mind
I'm on your magical mystery ride
And I'm so dizzy, don't know what hit me, but I'll be alright
“พี่เขม ผมอยากให้พี่ขึ้นมาร้องเพลงนี้กับผมได้มั้ยครับ” คริสโตเฟอร์พูดออกไมล์เรียกผมขึ้นไปร้องบนเวทีกับเขา ทุกคนก็ปรบมือและมองมาทางผมกันหมด ผมก็ต้องลุกขึ้นและเดินไปบนเวที ผมก็ไปนั่งที่เก้าอี้ที่พนักงานเครียมเอาออกมาให้ผม ผมนั่งร้องเพลงนี้กับคริสจนจบเพลง พร้อมกับเสียงปรบมือดังไปทั้งห้องอาหาร
“สุขสันต์วันเกิดครับที่รักของผม “ คริสโตเฟอร์พูดออกไมล์
“ผมอยากจะขอบคุณทุกอย่างที่ผู้ชายคนนี้ทำให้ผม พร่ำสอนผม ดูแลผมยามที่ผมเจ็บป่วย ยามที่ผมรู้สึกท้อ ห่วงใยผมไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนทำอะไรคอยถามไถ่ คอยดูแลผมไม่ห่าง “
“ วันพรุ่งเป็นต้นไปผมจำเป็นต้องเดินทางไปเรียนเมืองนอกแล้ว ผมคงไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันเหมือนเช่นเคย แต่ผมจะกลับมาเพื่อมาดูแลผู้ชายคนนี้เป็นการตอบแทน ผมสัญญา วันนี้อาจจะเป็นคำสัญญาจากเด็กผู้ชายคนหนึ่งอีกไม่นาน มันจะเป็นคำพูดของผู้ใหญ่คนหนึ่ง ที่พี่พร้ำสอนให้ผมเป็นคนดีอย่างที่พี่ต้องการ “
“ผมรักคุณครูเขม “ คริสโตเฟอร์พูดออกใมล์ ผมหันมาแอบปาดน้ำตามันซึ้งมาก คริสโตเฟอร์เขาพูดภาษาไทยและผมก็คิดว่าแม่ของคริสเขาแปลเป็นภาษาอังกฤษให้เดนิสและฟิลิปส์ฟังอีกที
“หมับ”คริสโตเฟอร์ลุกขึ้เนมากอดผม ทางกลางสายตาของคนในร้านอาหาร มีผู้ชายคุ่หนึ่งลุกขึ้นปรบมือให้ผมสองคนและตามมาอีกหลายคนทั้งผู้หญิงผู้ชาย ผมรีบปาดน้ำตาที่ซึมออกมา
“ขอบคุณนะ มันเป็นของขวัญวันเกิดที่มีค่าที่สุดของพี่เลยคริส” ผมบอกคริสโตเฟอร์ ผมกลับมานั่งที่โต๊ะ อาหารและทานอาหารกัน ไม่นานแม่ของคริสก็ขอตัวกลับก่อนเพราะว่าพรุ่งนี้แม่ของต้องทำงาน ทำงานแบบนี้วันหยุดก็ต้องทำเพราะว่านักท่องเที่ยวเยอะและส่วนใหญ่มาใช้บริการกันในวันหยุดทั้งนั้น ผมก็ล่ำลาแม่ของคริส ฟิลิปส์และน้องชายนายคริส ส่วนพ่อของเขาขอตัวไปเช็คงานก่อน
“ไปเดินเล่นกันนะครับ” คริสโตเฟอร์หันมาถามผมพร้อมกับแบมือขอเดินจับมือผม
“วันนี้ผมไม่ใช่นักเรียนของพี่แล้วผมคงทำได้แล้วใช่ไหมครับ จับมือในฐานะแฟน แฟนของพี่เขม “ คริสโตเฟอร์พูดผมพยักหน้าว่าใช่และเราสองคนก็เดินจับมือกัน ผมเดินลัดเลาะไปตามชายหาด และไปหาที่นั่งมองทะเลในยามค่ำคืน มันก็สวยงามไปอีกแบบ สายลมเย็นที่พัดโชยมาจากมหาสมุทร ผมรู้สึกเย็นๆที่ต้นแขนของผมเป็นระยะก็เพราะว่าผมสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น คริสโตเฟอร์โอบไหล่ผมให้เข้าไปหาอกแน่นๆของเขา
“หนาวปะ” คริสโตเฟอร์ถามผม ผมพยักหน้าเบาๆ
“ดีขึ้นมั้ยครับ “ คริสโตเฟอร์กระชับอ้อมกอดของเขาเข้าไปอีก ผมพยักหน้าว่าผมอุ่นพอแล้ว
“ผมสัญญาว่าพี่จะเป็นผู้ชายคนแรกเพราะว่าที่ผ่านมานะผู้หญิงทั้งนั้น” ผมเกือบจะซึ้งน้ำตาไหลแต่มาตกม้าใต้ตรงที่บอกว่าที่ผ่านมานะผู้หญิงทั้งนั้น
“พี่ควรจะภูมิใจใช่ปะ” ผมหันไปถามคริสโตเฟอร์
“ไม่ชอบเหรอ ใครก็บอกว่าผมดูเหมือนสายฝอ ดังนั้นตอนนี้พี่ก็เป็นเมียสายฝอแล้วนะ” คริสโตเฟอร์พูด ผมเลยเอนตัวออก และทำท่าจะลุกไปขึ้นห้องนอนดีกว่า
“พี่เขมนี้ งอนได้น่ารักดีนะ ผมนี่ชอบเวลาพี่เขมงอนที่สุด” คริสโตเฟอร์รีบดึงรั้งตัวผมเอาไว้ไม่ให้ลุกขึ้น แต่เพราะว่าผมลุกไปได้หน่อยแล้วไงเลยเสียหลักและคริสก็ใช้แขนของผมรองรับตัวผมเอาไว้ สายตาของผมกับเขาประสานกัน คริสก็ดึงรั้งผมเข้าไป ริมฝีปากนั้นก็ประกบจูบผม ผมก็จูบเขากลับเช่นกัน ผมยันตัวเองให้นั่งให้ตรงและเราสองคนก็จูบกันท่ามกลางแสงจันทร์ในคืนสลัวที่ริมหาด พระจันทร์ดวงโตๆที่ลอยเหนือน้ำ แสงจันทร์สาดส่องมาที่ผมสองคนไม่มากแต่พอให้เห็นเป็นเงาๆ ไม่รู้ว่าเนิ้นนานแค่ไหนแต่มันดูดดื่มที่สุด เพราะว่าผมกับเขาจูบกันโดยไม่มีสิ่งใดมาเป็นกระจกกัน ของคำว่าครูและลูกศิษย์ เราจูบกันโดยไม่รู้สึกผิด