พิมพ์หน้านี้ - DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: RiRi ที่ 05-06-2014 10:32:05

หัวข้อ: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 05-06-2014 10:32:05
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

**********************************************

นิยายเรื่องอื่นของริริ
เรื่องยาว
♥Pretty Boy II♥เจ้าชายตัวน้อยของผม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32589) (จบแล้ว)
♣Maybe...รักนี้อาจเป็นนาย♣ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=35404) (จบแล้ว)
◄▌Double-faced▐►เสแสร้งแกล้งรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37702) (จบแล้ว)
《Mafia 'n Doll》เล่ห์รักมาเฟีย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38472) (จบแล้ว)
DG.Series❁COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.0) (ยังไม่จบ)
DG.Series❁CATCH ME TIGER! เล่ห์ลวงพยัคฆ์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47389.0) (Coming soon...)


เรื่องสั้น
เหตุเกิดจากเสียง  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36857) (จบแล้ว)
◆◇เลี้ยงเด็ก◇◆ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37018) (จบแล้ว)
UNLOVEABLE● รักที่เป็นไปไม่ได้  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42413) (จบแล้ว)


เปิดจองนิยายเรื่อง DG.Series COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้ายอย่างเป็นทางการ ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2558
[/size][/color]

สนใจสั่งจอง
CLICK! (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49454.0)
หัวข้อ: Re: DG.Series❁COLD-HEART SNAKE by BloodyRomance{RiRi}
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 05-06-2014 10:41:22
(http://image.ohozaa.com/i/7c2/4qjdHD.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/g7a/ZNJEjh.png)

(http://image.ohozaa.com/i/fe0/4IbdRZ.png)


CONTENT
Prologue (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2727682#msg2727682)
ONE (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2731410#msg2731410)
TWO (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2733516#msg2733516)
THREE (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2735999#msg2735999)
FOUR (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2737901#msg2737901)
FIVE (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2739809#msg2739809)
SIX (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2741968#msg2741968)
SEVEN (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2744067#msg2744067)
EIGHT (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2746768#msg2746768)
NINE (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2748675#msg2748675)
TEN (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2751098#msg2751098)
ELEVEN (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2752740;topicseen#msg2752740)
TWELVE (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2754094#msg2754094)
THIRTEEN (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2755646#msg2755646)
FOURTEEN (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2756859#msg2756859)
FIFTEEN (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2758214#msg2758214)
SIXTEEN (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42385.msg2759790#msg2759790)



BloodyRomance
หัวข้อ: Re: DG.Series❁COLD-HEART SNAKE by BloodyRomance{RiRi}
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 05-06-2014 10:52:53
ติดตามค่า
หัวข้อ: Re: DG.Series❁COLD-HEART SNAKE by BloodyRomance{RiRi}
เริ่มหัวข้อโดย: mbpwn_ ที่ 05-06-2014 11:18:47
 :-[  มาลงชื่อติดตามก่อน 
หัวข้อ: Re: DG.Series❁COLD-HEART SNAKE by BloodyRomance{RiRi}
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 05-06-2014 11:22:14
ปูเสื่อ
หัวข้อ: Re: DG.Series❁COLD-HEART SNAKE by BloodyRomance{RiRi}
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 05-06-2014 12:07:23
พี่มาโบกป้ายไฟรอ :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: DG.Series❁COLD-HEART SNAKE by BloodyRomance{RiRi}
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 05-06-2014 12:18:32
รออ่าน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DG.Series❁COLD-HEART SNAKE by BloodyRomance{RiRi}
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 05-06-2014 12:42:00
มานอนรอจ้า

หัวข้อ: Re: DG.Series❁COLD-HEART SNAKE by BloodyRomance{RiRi}
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 05-06-2014 13:52:57
 :pig2: ตามติดด้วยอีกคน
หัวข้อ: Re: DG.Series COLD-HEART SNAKE❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE byBloodyRomance{RiRi}050614-P.1
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 05-06-2014 20:55:54
COLD-HEART SNAKE
PROLOGUE

I have died everyday waiting for you
Darling don’t be afraid I have loved you
For a thousand years
I love you for a thousand more
And all along I believed I would find you
Time has brought your heart to me
I have loved you for a thousand years
I love you for a thousand more


         ‘แปะๆๆ!’
         เสียง...ฝนอย่างนั้นเหรอ?
         ‘ซ่า!!!’
         เสียงฝนที่อยู่ๆก็ตกซู่ลงมาทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ท้องฟ้ายังแจ่มใสอยู่แท้ๆ แจ่มใสชนิดที่เรียกได้ว่าแดดเปรี้ยง แต่เพียงแค่ไม่กี่นาที ไม่สิ ไม่กี่วินาทีฝนกลับตกลงมาเสียอย่างนั้น โลกเราทุกวันนี้เป็นอะไรไปหมดแล้ว
         ‘เปรี้ยง!’ เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นจากด้านนอก ผมมองไปยังหน้าต่าง แต่น่าแปลก ปกติหน้าต่างบานนี้ไม่เคยเปิดไว้ แต่ทำไม...หน้าต่างถึงได้เปิดอยู่ ผมรีบเดินไปเพื่อหวังจะปิดมัน เม็ดฝนจากด้านนอกสาดกระเซ็นเข้ามาทำให้พื้นด้างล่างเปียกชื้น แต่พอเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างก็ต้องตาค้าง
         งู!!!
         ผมรีบกระชากหน้าต่างปิดทันที ก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวไปนั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่น ยกมือลูบอกตัวเองเพราะความหวาดกลัว ตำแหน่งของหน้าต่างบานนั้นตรงกับต้นไม้ใหญ่ซึ่งไม่รู้ว่าต้นอะไร เพราะตอนที่ย้ายบ้านมาใหม่มันก็ยืนโตสูงใหญ่แบบนั้นอยู่แล้ว แต่เมื่อกี้...บนต้นไม้นั่นกลับมีงูหลายตัวเลื้อยพันอยู่บนต้น เพราะเป็นชั้นสองจึงมองเห็นได้ชัด ก็ความสูงของต้นไม้กับบ้านสองชั้นมันเท่ากันเลยน่ะสิ เพราะอย่างนี้พ่อจึงไม่เคยเปิดหน้าต่างบานนี้เลยเพราะมันอยู่ใกล้กับต้นไม้มากที่สุด และก็มักมีงูมาเลื้อยพันอยู่บนคบคากิ่งไม้บ่อยครั้ง ไอ้ครั้นจะตัดต้นไม้ก็มีคนมาทักว่าต้นไม้ต้นนี้มีเจ้าที่ ห้ามตัดเด็ดขาด แต่ยังโชคดีที่งูไม่เคยย่างกายเข้ามาในบ้านเลย
         หวีดดด
         กึก! ปึง!
         “เฮ้ย!” ผมอุทานตกใจดังลั่น สะดุ้งจนตัวโยน หันไปมองต้นเสียง หน้าต่างบานนั้นมันเปิดออกอีกแล้ว คงเป็นเพราะลมแน่ๆ เสียงหวิดหวิวของลมดังน่ากลัวมากจนเรียกได้ว่าสยอง ทั้งๆที่เป็นตอนกลางวัน แต่ทำไมท้องฟ้าถึงได้มืดราวกับเป็นตอนกลางคืน ก้อนเมฆเป็นสีดำทะมึนชวนให้นึกถึงบรรยากาศในหนังแนวทริลเลอร์ที่ผมชอบดู
         ผมไม่อยากจะเดินเข้าไปใกล้หน้าต่างบานนั้นอีก สักนิดก็ไม่อยาก จะถ้าผมไม่เดินไปปิดมันอีกรอบ ดีไม่ดีงูพวกนั้นอาจจะเลื้อยเข้ามาในบ้าน และนั่นคงถึงกาลอวสารชีวิตผม แต่พอผมเดินไปอยู่ตรงหน้าต่างบานนั้น มือคว้าออกไปจับที่จับหน้าต่าง เพียงเสี้ยววินาทีที่ได้เห็น งูตัวหนึ่งจ้องมองมาที่ผม แม้จะมีเม็ดฝนบดบังแต่เด็กหนุ่มก็สัมผัสถึงความเยือกเย็นในแววตานั้นได้เป็นอย่างดี ทำไมกัน
         ปัง!
         หน้าต่างปิดงับอย่างแรงเพราะฝีมือผม
         บางทีผมอาจจะกลัวงูเข้าขั้นจิตตก งูเป็นสัตว์อันดับหนึ่งที่ผมเกลียดและกลัวมากที่สุด แค่เห็นในภาพยังขนลุกชูชัน ไม่กล้าที่จะมองแม้เพียงหางตา ไม่ต้องบอกเลยว่าการได้สบตางูจังๆแบบนั้นมันจะทำให้ผมรู้สึกอย่างไร
         ขยะแขยงจนขนลุกชูชัน!
         บรรยากาศรอบด้านเงียบสงัด ไฟที่เคยสว่างโล่ในบ้านอยู่ดีๆก็หรี่ลงเหลือเพียงไฟสลัวๆเท่านั้น เป็นอะไรอีกเนี่ย หรือว่าหลอดไฟจะเสีย พ่อกับพี่ยอร์ชไม่อยู่บ้านเสียด้วย และผมก็ถูกสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้ข้องเกี่ยวกับไฟ เพราะเคยถูกไฟดูดมาก่อน คงต้องรอให้พ่อกลับมาเปลี่ยนเท่านั้น วันนี้พ่อกับพี่ยอร์ชออกไปส่งสินค้าในตัวเมืองด้วย คงอีกสักพักเลยกว่าจะกลับ คงทำได้แค่รอ
         'ปิ๊บ!’ ผมหยิบรีโมตทีวีขึ้นมาเปิดดูเป็นการฆ่าเวลาและเพื่อไม่ให้บ้านเงียบเหงาเกินไป
         “เหตุการณ์น่าสะพรึงได้เกินขึ้นอีกแล้ว เมื่อช่วงเวลาตีสองกว่าๆของคืนที่ผ่านได้ ได้มีผู้พบศพหญิงสาวที่ลำตัวมีรอยเขียวช้ำเหมือนถูกรัด แต่ที่น่าตกใจหลังจากที่ได้พิสูจน์ศพคือกระดูกของเธอป่นละเอียดไม่มีชิ้นดี ซึ่งทางแพทย์ได้สันนิฐานว่าสภาพศพแบบนี้เหมือนถูกงูรัด แต่ยังไม่มี...”
         ปิ๊บ!!!
         งูอีกแล้ว!
         ไม่สิ ต้องพูดว่ามีคนตายอีกแล้ว
         ในช่วงเวลาสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวคนตายแบบแปลกๆ ติดต่อกันทุกวัน ทำให้ไม่มีใครกล้าออกจากบ้านตอนกลางคืนหรือไปไหนมาคนเดียว ยังไม่พอ ยังมีข่าวแปลกๆอย่างเช่นพบรูปปั้นคนที่มีท่าทางเหมือนตกใจอย่างสุดขีดหรือไม่ก็เหมือนกับกำลังหวาดกลัวกับอะไรบางอย่าง ถ้าไม่ติดว่าตำนานเมดูซ่าเป็นแค่นิยายปรำปราของกรีก ไม่แน่ว่าผมอาจจะเชื่อก็ได้ว่านี่เป็นฝีมือของเมดูซ่า
         ‘ซีดดดดดดดด’
         “...!!!!”
         สะ เสียง...เสียงอะไร!?
         ร่างกายเกร็งแข็ง ผมไม่ได้โง่ที่จะเดาไม่ออกว่าเสียงเมื่อกี้มันเป็นเสียงของอะไรถ้าไม่ใช่งู แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองวิตกกังวลจนประสาทหลอนเอาเองหรือเปล่า ไฟที่ลิบหรี่อยู่แล้วกลับริบหรี่เข้าไปอีกจนแทบจะมองไม่เห็นอะไร ความมืดที่ก่อตัวขึ้นทำให้ยิ่งนึกกลัว ถ้าไฟดับจนไม่สามารถมองอะไรได้ เกิดมีงูอยู่ในบ้านผมจะทำยังไง จะระวังตัวยังไงถ้าหากมองไม่เห็น
คงไม่ต้องรอให้พ่อกับพี่ยอร์ชกลับมา ผมก็รีบลุกขึ้นเงยหน้าขึ้นมองหลอดไฟบนหัวก่อนจะตัดสินใจเดินไปหยิบหลอดไฟอันใหม่พร้อมกับลากเก้าอี้มา เสี่ยงโดนไฟดูดก็ยังดีกว่าโดนงูกัด
         เก้าอี้ถูกวางลงในตำแหน่งด้านล่างของหลอดไฟ ผมเงยหน้ามองอีกครั้งก่อนจะเบิกตาโตกว้าง
         “เฮ้ย!!!”
         งู...!!!
         เพล้ง!!!
         หลอดไฟตกลงพร้อมกับร่างของผมที่ทรุดลงกับพื้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างไม่มีสติ การได้สบตากับงูในระยะไกลยังไม่เท่ากับตอนนี้ ที่งูอยู่ห่างจากหน้าไม่กี่เมตร งูตัวสีดำมันเลื่อมตัวโตพันขดอยู่บนโคมไฟบนหัว
         ‘ซี้ดดดดดดดด’
         หัวใจเต้นแรงอย่างน่ากลัวจนเจ็บร้าวช่วงอก สิ่งที่ฝังลึกในสมองก่อนที่ผมจะสลบไปคือ...แววตาสีทองของงูตัวนั้น แววตาที่จ้องมองนิ่งและความเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจที่ส่งผ่านมาจากดวงตาสีทองคู่นั่น แววตาที่เหมือนจะสะกดทุกอย่างเอาไว้ แต่มันมีบางอย่างผิดแปลกไป
         เหมือน...ไม่ใช่แววตาของงู





         “ไง กลับมาแล้วงั้นเหรอ ฉันคิดว่าคืนนี้แกจะนอนเฝ้าเด็กนั่นเสียอีก” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งรูปร่างดีราวกลับนายแบบชั้นแนวหน้าเอ่ยทักบุคคลที่เพิ่งกลับเข้ามาในบ้านพักทั้งๆที่เวลานี้เลยเข้าวันใหม่ไปแล้ว แววตาสีดำสนิทจับจ้องไปที่โทรทัศน์ที่กำลังรายงานข่าวคนตายแบบที่ทำทุกวันในระยะนี้ก่อนจะเลิกให้ความสนใจมันแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาพร้อมกับหลับตาลง
         “ทำไมแกไม่เข้าไปหาเด็กนั่นเลยวะ” มือสีขาวซีดแกว่งแก้วไวน์ในมือเบาๆก่อนจะยกขึ้นจิบ
         “มันยังไม่ถึงเวลา” เปลือกตาเปิดขึ้นเผยให้เห็นแววตาสีดำที่น่าหลงใหลที่จับจ้องไปยังเพื่อนที่นั่งอยู่ไม่ห่างกัน
         “แล้วเมื่อไหร่วะ ถ้าไม่คิดจะงาบก็ปล่อยๆไปเถอะ แม่งทำตัวเหมือนคนโรคจิต” ชายหนุ่มอีกคนเดินออกมาจากห้องๆหนึ่งเอ่ยขึ้น ผมสีเทาขับให้ใบหน้าของเขาดูโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตาคู่สวยสีเทาเป็นประกาย ที่ไม่ว่าใครเห็นก็ตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
         “รอมานานขนาดนี้ แกยังจะปล่อยเขาไปอีกเหรอไง แกทนได้เหรอวะ”
         “...” เจ้าของดวงตาสีดำไม่ได้ตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น ดวงตาจับจ้องออกไปนอกหน้าต่างที่มีสายฝนโปรยปรายอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะลุกขึ้นเดินขึ้นห้อง ทิ้งให้เพื่อนอีกสองคนมองตามอย่างไม่เข้าใจจิตใจของคนที่เดินจากไป
         และคิดว่าคงไม่มีวันเข้าใจด้วย



........
ในที่สุดก็ได้เขียนเรื่องนี้จริงๆจังๆ หลังจากที่ดองพล็อตมาครึ่งค่อนปี ดีใจมากๆที่ได้เขียนเรื่องนี้ ฟินตลอดการเขียนจริงๆ ตอนนี้แต่งไปได้แปดตอนแล้วนะคะ อันนี้เอาบทนำมาให้ส่องกันก่อน
แต่งค่อนข้างยาก ตอนหนึ่งใช้เวลากว่าเรื่องปกติมาก เลยอยากแต่งเก็บไว้เป็นสต็อคก่อน คนอ่านจะได้ไม่ต้องรอนานอย่างเรื่องก่อนๆ ขอบอกเลยว่าใครไม่รออ่านถือว่าพลาดอย่างรุนแรง (หรือเปล่า) 55555 :laugh:
และเมื่อได้อ่าน คุณจะหลงรับพระเอกเรื่องนี้อย่าถอนตัวไม่ขึ้น!!! เพราะพระเอกของเราร้าย แต่หัวใจหล่อมาก พูดเลย!!!
รอนะคะ รอน้า ริริจะทำให้เต็มที่ จะเอาทุกคำติดชมมาปรับปรุงใช้ให้เรื่องนี้ออกมาดีที่สุด เค้าจะพยายามทำให้เต็มที่นะตัวเอง เป็นกำลังใจให้ด้วยนะ  :katai4:
จุ๊บๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: platy ที่ 05-06-2014 21:17:53
โอ้ยยยยย ดิ้นๆๆๆๆๆ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: อยากอ่านต่อล้าวววววววววววว
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 05-06-2014 21:23:02
รอค่าาาา
แค่บทนำก็น่าติดตามแล้วววว
ถึงจะขนลุกนิดๆ แต่ไม่เป็นไรเรารับได้ อิอิ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 05-06-2014 21:29:40
ทั้งเกลียดทั้งกลัวงูเหมือนกัน  แต่แนวเรื่องน่าอ่านมากๆ  ที่แรกเห็นคำว่างูปุ๊ปกลัวมีภาพประกอบเกือบจะตัดใจไม่อ่านแล้ว  :hao5: แต่พออ่านปั๊ป น่าสนุกมากๆๆๆ จะรอติดตามนะค้าาา o13
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 05-06-2014 21:29:43
เดือนหน้าเลยหรอตัวเอง ;_;
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 05-06-2014 21:37:31
รออยู่และเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Pnomsod ที่ 05-06-2014 21:41:37
พอเห็นบอกเดือนก.ค.จะมาต่อ

ให้ความรู้สึกแบบ มาทำให้อยากแล่วจากไป

กระซิกๆ  :sad4: :sad4:

จะรอนร้าคร้าาาาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 05-06-2014 22:07:54
ให้ตายเถอะ เทอทำฉันค้างมาก มาต่อไวไว   :katai1: :ling1: :ling1: :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 05-06-2014 23:11:57
 :oo1: เค้าไม่ชอบงูอ่ะมันลื่นๆ แต่จะรออ่านค่ะเดือนหน้าเจอกัน
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 05-06-2014 23:22:35
กรี๊ดๆ ชอบเรื่องลึกลับๆแบบนี้จังเลย ดูท่าว่าพี่งูเรื่องนี้จะไม่ธรรมดาซะแล้ว
คงจะต้องมีความลับอะไรซ่อนอยู่แน่ๆเลย ว่าแต่ยังไม่รู้ชื่อพระเอกจของเรื่องเลย
แต่เดาว่าคงต้องพิเศษแน่ๆ แล้วพ่อพระเอกใช้ไรมัดใจนายเอกของเรื่องกันน้า
เรื่องนี้น่าติดตามมากๆ >< อยากอ่านต่อแล้วค่า มาต่ออีกไวๆน้า เราจะรอ สู้ๆ

P.S. Quoetตรง Prolougeกินใจมากเลยค่า ชอบๆ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 06-06-2014 00:16:13
จิ้มๆ เข้ามานั่วจับจองพื้นที่ด้วยอีกคน :z13:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 06-06-2014 00:24:14
โอ๊ยยยยย ขึ้นเรื่องมาก็รู้เลยว่าต้องสนุกแน่ๆ :mc4: :mc4:
ชอบอ่านแนวแฟนตาซี คึคึ :mew4:
อาทิตย์ละตอนก็กำลังดีค่ะ สู้ๆ
รอตอนต่อไป :katai5:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: McKnight ที่ 06-06-2014 05:17:42
น่าติดตามมากกกกก.....

เสือ สิงห์ หมาป่า งู
รวมบรรดาสัตว์ในดวงใจทั้งนั้นเลย
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 06-06-2014 06:16:29
อยากโดนงูรัดจัง^,^อร๊าย>////<พระเอกหล่อร้ายชอบอ่าาาา
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 06-06-2014 08:23:21
ขอเป็นอาทิตย์ละตอนแล้วกันนะ นะ

เดือนหน้ามันนานไปอ่ะ เดี๋ยวลงแดงซะก่อน 5555

นายเอกกลัวงูมากเลยนะเนี่ย แล้วจะทำไงต่อไปน้า

หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: mbpwn_ ที่ 06-06-2014 09:29:27
กรี้ดแบบ เค้าอยากอ่านแล้ว เค้าอยากอ่านนน     :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 06-06-2014 10:41:49
โดนใจมากับคำที่ว่า พระเอกร้าย แต่หัวใจหล่อมากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 06-06-2014 11:10:02
แค่อ่านหัวเรื่องก้อฟินเวอร์แล้วจ้า มาอัพตามสะดวกเลยจ้า ขอให้มาสม่ำเสมอเป็นพอจ้า น่าสนใจมาก ๆ สำหรับเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 06-06-2014 13:55:06
อ้าก ชอบแนวนี้ มาต่ออีกๆ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 06-06-2014 18:26:16
แอร๊ยยยยยยย หลงรักพ่องูตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียว   :hao7: 
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 08-06-2014 17:25:38
รอๆๆๆๆ อ่านน นะคร๊าาาาาาา  :katai4: :katai4: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 08-06-2014 19:07:51
กลัวงูแต่ก็จจะอ่าน 555
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 08-06-2014 22:50:33
แปะ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ PROLOGUE 050614 [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 09-06-2014 10:42:51
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ชอบมากแนวนี้ ฟินเลย
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 100614 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 10-06-2014 12:19:34
ONE




            ‘ข้ารักเจ้า’

            ‘ข้าก็รักเจ้าเช่นกัน’

            ‘ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ข้าก็จะยังรักเข้าอยู่แบบนี้ ข้าไม่มีวันที่จะลืมเจ้า แล้วเจ้าล่ะ เมื่อถึงวันนั้น จะลืมข้าหรือไม่’

            ‘ไม่ ข้าจะรักเจ้าเหมือนกับวันนี้ วันที่ข้ารักเจ้าสุดหัวใจ’

            ก๊อกๆๆ!!!

            เฮือก!

            “โยชิตื่นได้แล้วลูก พ่อจะเข้าไร่แล้ว” เสียงเรียกของพ่อที่ดังอยู่หน้าประตูปลุกผมให้ตื่นจากความฝัน ฝันที่เหมือนความจริงจนน่าใจหาย ความรู้สึกบอกว่าความฝันนั้นอาจเป็นความจริง ทุกอย่างแม้จะลางเลือนแต่ก็คุ้นเคย เหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อน ความฝันที่มีแต่เสียง ไม่อาจรู้ได้ว่าใครเป็นคนพูด แค่เสียงแต่ก็เพียงพอให้รู้สึกว่า...คุ้นเคย

            ผมสะบัดหัวไล่ความมึนงง ยกมือลูบหน้าลูบตาก่อนจะลุกเดินเข้าห้องน้ำอย่างง่วงงุน ความเคยชินที่ไม่ต้องลืมตาก็สามารถเดินเข้าห้องน้ำถูก ความคุ้นเคยคือสิ่งที่ผมรัก เพราะความคุ้นเคยเปรียบได้กับความปลอดภัย

            แต่หลังจากนี้มันไม่ใช่ อีกสองวันผมจะต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง บ้านของผมอยู่เชียงใหม่ แต่ที่ต้องย้ายไปเรียนที่กรุงเทพ แถมยังเป็นโรงเรียนเอกชนก็เพราะว่า...ผมได้รับคำเชิญ

            เป็นอะไรที่แปลกมาก จู่ๆก็มีจดหมายของทางมหาวิทยาลัยเชิญตัวผมให้ไปเรียนที่นั่นเพราะเห็นว่าผมสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์สาขาสัตววิทยา และด้วยผลการเรียนของผมที่ไม่เคยต่ำกว่าเกรดสี่เลยสักวิชา เขาจึงได้อยากให้ผมไปเรียน โดยมอบทุกการศึกษาให้ฟรีแบบไม่ต้องใช้คืน

            แน่นอนว่าไม่ต้องคิดให้มากความ ผมตัดสินใจตกลงคำเชิญทันที เพราะมีแต่ได้กับได้ แม้พี่ยอร์ชจะแซวว่าผมกำลังจะเข้าไปเรียนในฮอควอร์ด แต่นี่มันโลกแห่งความจริงนะครับ ไม่ใช่นิยาย ไม่มีเรื่องประหลาดแบบนั้นหรอก

            สาเหตุที่ผมยอมไปเรียนที่ Arch University ก็เพราะว่าที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยของต่างประเทศที่มาเปิดในไทย หมายความว่าระบกการศึกษาก็ย่อมต้องดีกว่า แถมยังได้ใช้ภาษาอังกฤษในระหว่างที่เรียนและได้เพื่อนต่างชาติต่างวัฒนธรรม ผมจะได้อะไรที่เขาว่ากันว่าดีที่สุดเท่าที่มหาวิทยาลัยชั้นนำอันดับห้าของโลกพึงมี และขอบอกเลยว่าค่าเทอมที่นี่แพงชนิดที่ขายบ้านเรียนก็อาจไม่จบ

            ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องลังเล แทบจะลืมความกลัวที่อาจจะต้องตกอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยที่ผมไม่ชอบเสียสนิท และอีกไม่กี่วันข้างหน้า ผมจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่น แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วครับ

             “พ่อครับ วันนี้มีอะไรกินบ้าง” ผมเดินเข้าไปกอดเอวพ่อไว้ก่อนจะหอมแก้มสองที พ่อลูบหัวลูกผมเบาๆก่อนจะก้มลงหอมแก้มลูกทั้งสองข้างด้วยความรักความห่วงใย ผมทำแบบนี้ประจำแหละ บ้านเรามีกันแค่สามคน พ่อกับพี่ยอร์ชดูแลผมอย่างดี เพราะผมมีโรคประจำตัวแบบแปลกๆ ทั้งสองคนเลยค่อนข้างสปอยผมมากพอควร ส่วนแม่ของผมท่านเสียตอนที่คลอดผม...พ่อเล่าให้ผมฟังตอนที่ผมเริ่มจำความได้ ตอนนั้นผมร้องไห้เศร้าโศกอยู่เป็นปีๆ กว่าจะเข้มแข็งได้รู้อีกทีพ่อกับพี่ยอร์ชก็เลี้ยงดูผมอย่างกับไข่ในหิน

             “มีของโปรดเรานั่นแหละไอ้ลูกชาย” พ่อขยี้หัวผมอีกครั้งอย่างหมันเขี้ยว

            “พ่อนี่รู้ใจโยจริงๆ” ผมยิ้มกว้างให้พ่อ ถึงจะไม่มีแม่ แต่ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองขาด กลับรู้สึกว่าได้รับความรักมากจนเกินพอดีด้วยซ้ำ แต่เป็นความเกินที่ผมชอบนะ

            “ฮ่าๆๆ พ่อต้องเข้าไปในไร่แล้ว มีอะไรก็โทรหาพ่อ อ่อ ของนี่ไม่ต้องเก็บนะ เดี๋ยวพ่อกับยอร์ชกลับมาเก็บให้เอง”

            “ครับ” อย่างนี้ทุกที งานหนักหน่อยผมไม่เคยได้แตะ แค่ตอนเด็กๆเคยเป็นหอบ รักษาจนอาการดีขึ้นจนแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ไม่ว่ายังไงพ่อกับพี่ยอร์ชก็ไม่ค่อยให้ผมทำอะไรที่ต้องลงแรงหนัก เพราะงั้นผมเลยไม่ค่อยได้ช่วยงานในไล่

            พ่อของผม ‘พ่อศิลา’ เป็นเจ้าของไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงมากในภาคเหนือ โดยมีพี่ยอร์ช พี่ชายสุดหล่อเป็นผู้ช่วยงานทุกอย่างในไร่ น้อยครั้งที่ผมจะได้ออกไปช่วยงาน ส่วนมากคือออกไปเดินเล่นเสียมากกว่า เพราะพ่อและพี่ยอร์ชได้กำชับคนงานทุกคนในสวนแล้วว่า ถ้าผมเข้ามาในไร่ต้องรีบบอกให้ทั้งคู่รู้ทันที และห้ามใครอนุญาตให้ผมทำงานไม่ว่าผมจะอ้อนแค่ไหนก็ตาม ดูนะครับดู ทำอย่างกับผมเป็นลูกสายไปได้ ทั้งๆที่ผมออกจากมาดแมนแฮนด์ซัม

            “ว่าไงตัวเล็ก ตื่นแล้วเหรอครับ” พี่ยอร์ชที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้านเอ่ยทักผมที่กำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่ นั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆแล้วก้มลงไปหอมแก้มผมสองฟอดใหญ่

            “ตื่นแล้วครับ พี่ยอร์ชไปไหนมา” ผมหอมแก้มพี่ชายคืนก่อนจะกลับมากินข้าวต้มที่ส่งกลิ่มหอมเรียกน้ำย่อยตรงหน้าต่อ

            “ไปทำธุระข้างนอกมาครับ” ปากตอบมือก็ลูบหัวผมไปด้วย พ่อกับพี่ยอร์ชชอบลูบหัวผมมาก ผมก็ชอบให้ลูบ

            “อืม พี่ยอร์ชกินข้าวหรือยัง เดี๋ยวโยชิไปตักให้นะ” ผมกระตือรือร้นลุกไปตักข้าวต้มให้พี่ยอร์ช เดี๋ยวพอผมไปเรียนแล้วก็ไม่ได้ดูแลทั้งสองคนอีก ทั้งพ่อและพี่ยอร์ชชอบบ้างานจนลืมกินข้าว เป็นผมที่ต้องคอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้ทั้งคู่

            “พี่เข้าไร่ก่อนนะตัวเล็ก ของพวกนี้ไม่ต้องทำเองนะ ตอนเย็นพี่จะกลับมาเก็บให้”

            เหมือนกันเลยพ่อกับพี่ยอร์ช

            ลับหลังผมก็ทำตัวเป็นเด็กไม่ดีไม่เชื่อฟังคำสั่งของพ่อกับพี่ยอร์ช จัดการเก็บข้าวของที่จำเป็นใส่กระเป๋าเดินทาง และของใช้บางอย่างที่จะขนเข้าหอของมหาวิทยาลัย เท่าที่หาข้อมูลดู หอพักของแอชยูสวยอย่างกับคอนโดใจกลางเมือง และผมได้อยู่แบบไม่ต้องเสียเงินด้วย งานนี้มีแต่ได้กับได้ คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

            “เฮ้อ กว่าจะเสร็จ” ทันทีที่ยัดรองเท้าคู่สุดท้ายใส่ลงกล่องผมก็ทิ้งตัวลงกับโซฟาในห้องนั่งเล่น ปาดเหงื่อบริเวณหน้าผากและไรผมทิ้ง เอนกายผิงโซฟาเงยหน้ามองเพดาน หลอดไฟกลางหัวเรียกความทรงจำเมื่อคืนให้กลับมา หลังจากที่ได้สติเพราะถูกพ่อเรียกอยู่สักพัก เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่ยอร์ชเปลี่ยนหลอดไฟเสร็จ บ้านทั้งบ้านก็พลันสว่างขึ้น

            ‘ฟะ ไฟดับ’

            ‘หลอดไฟขาดน่ะเจ้าตัวเล็ก ดีนะที่เราไม่เข้ามายุ่ง สายไฟมันขาดได้ไงไม่รู้ พี่เกือบถูกไฟดูดไปแล้ว’

            สายไฟขาด?

            ไฟดูด?

            จะบอกว่าเขาโชคดีที่งูตัวนั้นทำให้เขาสลบไปก่อนที่จะถูกไฟดูดงั้นเหรอ บ้าสิ้นดี!

            และที่แปลกไปกว่านั้น พ่อบอกว่าผมนอนหลับที่โซฟาไม่ได้นอนอยู่บนพื้น ทั้งๆที่ผมเป็นลมล้มพับใต้หลอดไฟ เป็นไปไม่ได้ที่จะละเมอไปนอนที่โซฟา

            คิดมากๆก็เริ่มฟุ้งซ่าน ผมสะบัดหัวไล่ความคิดงี่เง่าออกจากหัว ใครจะรู้ว่าแวบหนึ่งผมเผลอคิดไปว่า เจ้างูนัยน์ตาน่ากลัวนั่นช่วยชีวิตผมเอาไว้ 


            Three days later

            @ Arch University

            ถึงเวลาที่ผมต้องจากบ้านจากอ้อมอกของพ่อและพี่ยอร์ชไปใช้ชีวิตเพียงลำพังในเมืองหลวงที่แสนวุ่นวาย รถยนต์คันหรูสีดำมันเงาไปทั้งคันหยุดที่หน้าหอพักนักศึกษา ตามมาด้วยรถกระบะที่ขนของมาเต็มคันรถ

            Arch University ตั้งอยู่แทบจะใจกลางกรุงเทพ กินพื้นที่มหาศาลแบบที่เอามหาวิทยาลัยรัฐอันดับต้นๆของประเทศมารวมกับสามแห่งก็ยังมีพื้นที่น้อยกว่าที่นี่เสียอีก เมื่อห้าปีก่อนผมได้ดูข่าวการก่อตั้งแอชยู ทั้งปัญหาการกว้างซื้อที่ดินที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ต้องยอมรับว่าทางมหาลัยมีวิธีแก้ปัญหาที่ค่อนข้างดี จัดหาที่พักให้แก่ผู้ที่เดือนร้อนแทบทุกหลังคาเรือน เงินจำนวนมหาศาลที่ถูกจ่ายไปเพื่อให้ได้พื้นที่ตรงนี้มา ผมก็ไม่รู้ว่าแอชยูไปเอามาจากไหน มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ผมต้องรู้ เพราะสิ่งที่ผมต้องทำต่อจากนี้ก็คือ ผมจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัยป่าดงดิบกลางเมืองแห่งนี้ให้ได้

            ไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด ต้นไม้เยอะมากๆ แม้แต่ตามตึกอาคารเรียนที่แสนจะหรูหราด้วยการออกแบบสไตล์กรีกและโรมันก็ยังมีต้นไม่ขึ้นแซมราวกับโอเอซิส มีทั้งน้ำพุและสระน้ำ นี่ถ้ามีกวางหรือลิงสักหน่อย ผมคงคิดว่าที่นี่เป็นสวนสัตว์แทนมหาวิทยาลัย

            “ให้พี่ช่วยจัดของไหม” พี่ยอร์ชยืนท้าวเอวมองไปรอบๆห้องพักก่อนจะหันมาพูดกับผม หลังจากลงทะเบียนเข้าพักเสร็จพ่อก็ให้คนงานที่พามาขนของขึ้นมาให้ผม ห้องนี้อยู่สองคน แต่รูมเมทของผมยังไม่มา ขอบอกเลยว่าห้องพักนักศึกษาของที่นี่ใหญ่มาก มากจนกลายเป็นโอเวอร์ เพราะมันไม่ต่างอะไรกับอยู่คอนโดราคาห้าล้านอัพ

            เวอร์จริงๆที่นี่ -_-;

            “ไม่เป็นไรครับ โยชิจัดเองได้” ผมยิ้มตาหยี เดินไปที่ระเบียงของห้องพัก มองลงไปจะเห็นวิวทั่วมหาวิทยาลัย ดีที่เลือกห้องสูงๆ ถ้าอยู่ต่ำว่านี้ก็จะไม่เห็นวิวสวยๆในมุมกว้าง

            “อยู่ได้นะลูก” พ่อเดินไปยืนข้างๆ ลูบหัวผมเบาๆอย่างที่ชอบทำ ผมขยับกอดเอวพ่ออย่างออดอ้อน พี่ยอร์ชเองก็กอดผมไว้เช่นกัน

            “อยู่ได้สิครับ ลูกพ่อเก่งจะตาย” พูดแล้วก็หัวเราะเอง

            “ครับ ลูกพ่อเก่งที่สุด” แววตาของพ่อมันเต็มไปด้วยความเอ็นดูเสมอ และตอนนี้ผมก็เห็นความกังวลในแววตาของคนทั้งสอง ก็คงจะเป็นห่วงที่ผมต้องอยู่ที่นี่คนเดียว

            “มีปัญหาอะไรต้องรีบโทรบอกพ่อกับพี่รู้ไหม” พี่ยอร์ชกำชับเป็นรอบที่สิบเห็นจะได้ตั้งแต่รู้ว่าผมจะต้องมาเรียนที่นี่

            “ครับผม รอบที่ร้อยแล้ว” ผมแซวขำๆ เลยได้มะเหมกมาหนึ่งที

            “ไปๆ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า เดี๋ยวค่อยขึ้นมาจัดห้อง” พ่อโอบไหล่ผมเดินออกจากห้อง พี่ยอร์ชขับรถพาเราไปหาอะไรกินที่ห้างดัง หลังจากนั้นก็ไปเดินซื้อเสื้อผ้าและข้าวของอีกหลายอย่างก่อนจะพากลับมาส่งที่หอ

            “ดูแลตัวเองด้วยนะลูก” พ่อกอดลูกชายอีกครั้งก่อนจาก กอดพ่อเสร็จผทก็เดินไปกิดพี่ชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆกัน

            “ขับรถดีๆนะพี่ยอร์ช”

            “ครับ ไหนมาหอมทีสิ” จบคำขอของพี่ชายผมก็เขย่งเท้าขึ้นจุ๊บที่แก้มตอบได้รูปของพี่ยอร์ชตามด้วยหันไปหอมแก้มของพ่อ เมื่อล่ำลากันเรียบร้อยแล้วพี่ยอร์ชก็ออกรถกลับเชียงใหม่ ผมยืนมองรถของพี่ชายที่ขับออกไปจนแสงไฟท้ายรถหายลับไปในที่สุด

            ตะวันที่กำลังจะลับขอบฟ้าส่งผลให้รอบด้านมืดลงเรื่อยๆ สายลมยามเย็นพัดอ่อนๆ แม้มหาวิทยาลัยจะตั้งอยู่ในเมืองหลวง หาแต่ภายในปลูกต้นไม้และดอกไม้ไว้เป็นจำนวนมาก กลิ่นลมที่พัดโชยมาจึงหอมกลิ่นดอกไม้ใบหญ้า พาลให้รู้สึกสดชื่น ไร้ซึ่งมลพิษเหมือนได้อยู่ในป่าจริงๆ

            ผมหมุนตัวเดินกลับเขาหอ แต่เสี้ยววินาทีที่หมุนตัว หางตากลับแวบเห็นอะไรบางอย่าง

            เหมือน...มีคนกำลังจ้องมอง

            แต่พอหันไปดูก็ไม่พบใครอยู่ในรัศมีสายตา

            “ท่าจะตาฝาด” ส่ายหัวให้กำกับความขี้ระแวงของตัวเองก่อนจะเดินขึ้นห้องไปจัดของ คืนนี้กว่าจะได้นอนก็คงดึก แต่ไหนๆก็ไม่มีอะไรทำ ผมเลยกะจะจัดของให้เสร็จ เตรียมรับการเปิดเรียนที่จะมาถึงในอีกสองสามวันข้างหน้า

            ลับหลังโยชิที่เดินเข้าไปในหอพัก ร่างของผู้ชายคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นไม่ไกลจากหน้าหอพักมากนัก

            “สุดท้ายนายก็มาที่นี่จนได้” น้ำเสียงและแววตาที่ติดจะหวั่นวิตกลอยไปตามลมแล้วก็หายไปในที่สุด



            ทุกพื้นที่ในมหาวิทยาลัยในวันนี้เต็มไปด้วยความครื้นเครงทั้งนิสิตนักศึกษาใหม่และเก่าต่างกระจายอยู่ทั่วบริเวณ เสียงคุยจอแจ เสียงหัวเราะ สีสันของการเปิดภาคเรียนเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความสุข บรรยากาศไม่เหมือนกับการเปิดภาคเรียนแบบไทย ไม่มีการรับน้อง ไม่มีว๊าก แต่มันก็ไม่เลยเลนนะผมว่า

            “แกจะยิ้มอีกนานไหมไอ้โย แกจะยิ้มอะไรนักหนา”

            ‘เติร์ด’ เพื่อนหมายเลขหนึ่งที่ผมเจอเป็นคนแรกถามอย่างไม่เข้าใจในอารมณ์ของผมเลยสักนิด

            “ฉันยิ้มเพราะมีความสุข แล้วมันหนักหัวแกหรือไง” ผมเบ้หน้าใส่เพื่อนที่ไม่เข้าใจความสุข ไอ้พวกนี้มันโลกมืดมน ไม่มีทางเข้าใจคนโลกสวยอย่างผมหรอก

            เห็นผมเรียบร้อยเวลาอยู่กับพ่อกับพี่ยอร์ช แต่พออยู่กับเพื่อน ผมก็เป็นผู้ชายปกติทั่วไปที่มีเฮ้วบ้างมีซ่าบ้างตามประสา

            ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง ผมและเพื่อนอีกสองคนมานั่งเล่นที่ร้านค็อฟฟี่ที่อยู่ไม่ไกลจากคณะวิทยาศาสตร์ที่เรียนอยู่มากนัก แต่เป็นจุดที่มองเห็นบรรยากาศรอบได้ได้ดีเพราะเป็นร้านแบบโอเพ้นเฮ้าท์ มองไปทางไหนก็เจอแต่คนต่างชาติ เหมือนไม่ได้อยู่ประเทศไทย

            “ไม่หนักหรอก แต่แม่งเหมือนคนบ้าวะ”

            “เหอะ! ใครจะไปเหมือนแกไอ้เติร์ด วันๆไม่ทำหน้าหม้อก็ทำหน้ามึน” ผมกระแทกเสียงใส่เพื่อน

            “แหมๆ น้องโยก็พูดเกินไป พี่ทำหน้ามึนตรงไหนครับ” เติร์ดเอื้อมมือไปขยี้หัวทุยๆของผมจนยุ่ง ผมตีหน้ายุ่งใส่มัน

            “จิ๊! ผมยุ่งหมดไอ้เติร์ด! หมดหล่อกันพอดี” ประโยคท้ายผมพึมพำกับตัวเอง แต่เพื่อนสองคนบนโต๊ะก็ยังได้ยิน แล้วพากันส่ายหน้าเบาๆ

            “พูดมาได้ว่าตัวเองหล่อ ส่องกระจกบ้างไหมโยชิ หน้าอย่าแกเขาเรียกว่าน่ารัก!”

            “พูดถูกมากนิกกี้ อย่าไปเที่ยวบอกใครว่าตัวเองหล่ออีกล่ะ หน้าแตกกันพอดี ฮ่าๆๆ”

            พวกเพื่อนบ้า!!!

            “เออนี่ ได้ดูข่าวนั่นไหม...” นิกกี้เพื่อนอีกคนของผมเอ่ยเปลี่ยนเรื่องขึ้นกลางวง แต่ยังไม่ทันพูดอะไรมากกว่านี้ก็ถูกเติร์ดขัดก่อน

            “ข่าวอะไรวะ”

            “ก็ฟังให้จบได้ไหมไอ้เติร์ดแล้วค่อยถาม”

            “เอ้า เล่าสิ” แถวบ้านผมเรียกกวน

            “ก็ข่าวที่ว่ามีคนตายไง ช่วงนี้คนตายทุกวัน ตายอย่างน่าประหลาด พวกแกคิดว่าไงวะ” นิกกี้หยิบยกประเด็นร้อนสุดฮอตในตอนนี้ขึ้นมาเป็นประเด็น และแน่นอนว่ามันทำให้ผมและเติร์ดสนใจเป็นอย่างมาก

            “ฉันคิดว่าเป็นพวกโรคจิตแน่ๆเลย เหมือนในหนังเรื่องซอว์อะไรแบบนั้น” เติร์ดพูดแล้วก็ลูบแขนตัวเองทำท่าขนลุกกับเรื่องสยองขวัญนั่น

            “แต่ทางกองพิสูจน์หลักฐานแล้วก็หมอที่ชัณสูตรศพเขาบอกว่าเป็นร่องรอยบาดเจ็บที่ถูกกระทำจากสัตว์” ผมพูดในสิ่งที่ได้ฟังและอ่านจากหนังสือพิมพ์มา เป็นข่าวที่ผมให้ความสนใจมากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ จะไม่สนใจได้ไง ภัยใกล้ตัวขนาดนี้

            “มันก็จริงที่เขาบอกแบบนั้นนะเว้ย แต่ไม่คิดบ้างเหรอว่าพวกเสือหรือหมีควายที่ไหนมันจะมาเดินเล่นในกรุงเทพโดยไม่มีใครเห็นมันน่ะ” เติร์ดว่า ซึ่งมันก็จริง

            “ช่างมันเถอะ หวังว่ามันจะไม่มาเกิดแถวในมหาลัยนะ ไม่งั้นได้ย้ายที่เรียนกลางคันแน่” นิกกี้เอ่ยตัดบท บรรยากาศดีๆในวันเปิดเทอมวันแรกไม่ควรมาเสียไปกับเรื่องไม่จรรโลงใจแบบนี้ ซึ่งเราทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

            ผมทิ้งสายจับจ้องไปยังนอกร้าน แต่แล้วก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาบังภาพที่จับจ้องอยู่ กลุ่มชายหญิงจำนวนห้าคนนั่งลงที่โต๊ะด้านนอกร้านตัวหนึ่ง เด่นจนไม่ไม่ต้องเสียเวลาพิจารณาให้มากความ

            ‘หน้าตาดียังกันดาราแหนะ’

            ผมคิดในใจหลังจากที่ไล่มองใบหน้าของพวกเขาเหล่านั้นแล้ว จนมาถึงคนสุดท้าย คนที่เหมือนจะกระชากวิญญาณของผมให้ออกจากร่าง

            คนที่...จ้องมองผมอยู่ก่อนแล้ว

            รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นผิดปกติจนต้องรีบก้มหน้าลงเป็นการหลบสายตาดุดันที่มองมา...ชั่ววินาทีหนึ่งผมกลัวการเงยหน้าที่จะมองหน้าผู้ชายคนนั้น แววตาที่สะท้อนออกมาเพียงแค่แวบเดียว แต่มันเหมือนตอนที่ผมจ้องตากับงูตัวนั้น ในวันที่ฝนตกหนัก วันที่ผมได้จ้องตากับงูตัวใหญ่ในระยะใกล้แค่มือเอื้อม

            จะไม่เหมือนกันก็ตรงที่งูตัวนั้นมีนัยน์ตาสีทอง แต่ผู้ชายคนนี้มีนัยน์ตาสีดำสนิท ดำจนไม่อาจเดาได้ว่ามีอะไรปิดบังซ่อนเร้นอยู่ข้างใน

            และผมคิดว่าบางทีผมคงเพ้อพกเกินไปหน่อยที่คิดอะไรแปลกๆไม่ได้ความ แต่...

            ความรู้สึกตอนที่สบตากันนั้นมันเหมือนกันไม่มีผิด

            “แกมองอะไรวะโยชิ อ่า...คนห่าอะไรวะ หล่อฉิบหาย” เติร์ดมองตามสายตาผมแล้วก็อุทานอย่างลืมตัว แต่มันพูดไม่ผิดหรอก คนพวกนั้นหล่อมากจริงๆ

            “อะไรกัน...อ่อ” นิกกี้มองตามอย่างสนใจก่อนจะครางอุทานเสียงเบา

            “เขาเป็นใครเหรอ” ผมเบนสายตาหันหานิกกี้ที่ดูเหมือนตกตะลึงในความหล่อของคนกลุ่มนั้นไปแล้ว ถึงได้นั่งอ้าปากค้างทำตาโตหลังจากที่ได้เห็นว่าใครมานั่งอยู่ไม่ไกล

            “แกรู้จักเหรอนิกกี้” เติร์ดถามนิกกี้ด้วยคน

            “เอ่อ กลุ่มนั้นน่ะเหรอ ไม่เชิงรู้จักหรอก แต่ก็พอได้ยินข่าวมาบ้างก่อนที่จะมาที่นี่ เห็นเขาว่ากันว่า พวกนี้เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในมหาวิทยาลัย แต่ไม่ได้มีกลุ่มเดียวนะ ยังมีอีกสามกลุ่ม แบบว่าพวกเขาทั้งหน้าตาดีและเก่ง ความสามารถเพียบพร้อม ตระกูลสูงศักดิ์อะไรทำนองนั้น ขนาดหอพักของเขายังไม่อยู่รวมกับคนทั่วไปเลย” นิกกี้อธิบายเสียงเบาพลางโน้มตัวไปข้างหน้า ผมและเติร์ดจึงทำตาม กลายเป็นว่าพวกเราสามคนสุมหัวกันเมาท์อย่างลับๆล่อๆจนทำให้ใครหลายคนมองมาอย่างสงสัย

            “อ้าว แล้วไปอยู่ไหนล่ะ”

            “อยู่ด้านหลังของมหาวิทยาลัยนู่น เห็นว่าเป็นบ้านของพวกเขา ที่นั่นไม่มีใครเคยเห็น ว่ากันว่าเป็นเขตหวงห้าม ทั้งสี่ทิศของมหาวิทยาลัยจะมีบ้านพักของผู้สูงศักดิ์ทั้งสี่ตระกูล” นิกกี้หยุดพูด เหลือบตามองไปนอกร้าน ก่อนจะรีบเบนสายตากลับมาจ้องผม “คนพวกนี้ส่วนใหญ่มันเป็นคนต่างชาติ เห็นใช่ไหม และพวกเขาไม่ธรรมดา บางคนเป็นพวกเชื้อสายราชวงศ์ของต่างประเทศ บ้างก็ลูกประธานาธิบดี ลูกนักธุรกิจอันดับต้นๆของโลก ข้อมูลพวกนี้มีในเว็ปไซต์ของมหาวิทยาลัยเข้าไปดูได้”

            บอกผมที่ว่าผมยังอยู่ในเมืองไทย ไม่ได้หลุดออกไปอยู่ต่างประเทศหรือหลุดเข้าไปในกองถ่ายภาพยนต์เรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ มันเกินไปแล้วจริงๆ ยิ่งกว่าคำว่าเหลือเชื่อ เพิ่งรู้ว่าแบบนี้ก็มีอยู่ในเมืองไทย

            “นี่ขนาดไม่ค่อยรู้นะเนี่ย” คำพูดกระแหนะกระแหนของเติร์ดทำให้นิกกี้ถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจนิดๆ

            “ก็บอกว่าอ่านตามข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมา พวกนั้นดังจะตาย หาไม่ยากหรอก ไม่เชื่อก็ลองเซิร์ชหาดูสิ”

            “ไม่ละ ฉันไม่มีความจำเป็นต้องใส่ใจเรื่องคนพวกนั้น” เติร์ดทำหน้าไม่แยแส ยกแก้วน้ำดูดทีเดียวหมดแก้ว

            ผมเอนตัวกลับพิงเก้าอี้ พลางหันไปมองที่โต๊ะของบุคคลกลุ่มนั้นเพียงแค่แวบตาไม่กล้าที่จะจ้องมองนาน คนพวกนั้นดูมีเสน่ห์แบบแปลกๆ เป็นเสน่ห์ที่แฝงไปด้วยไอของความน่ากลัวไม่ว่าจะเป็นท่าทีที่หน้าเกรงขามของผู้ชาย หรือรังสีความหยิ่งยะโสของผู้หญิง แต่สิ่งเหล่านั้นกลับทำให้พวกเขาดูดีอย่างน่าทึ่ง

            “รู้ไหมว่าพวกเขาชื่ออะไร” ผมถามนิกกี้ เธอทำหน้าแปลกใจที่ผมถามก่อนจะพยักหน้า

            “ก็พอรู้ คนเสื้อสีน้ำเงินชื่อเวสตัน ส่วนผู้หญิงคนที่นั่งข้างคือแฟนเวสตัน หล่อนชื่อปารีส ส่วนผู้หญิงอีกคนกับผู้ชายผมสีเทาฉันไม่รู้”

            “แล้วคนผมสีดำที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ล่ะ” คำถามที่แม้แต่ผมก็ยังแปลกใจว่าทำไมถึงถามออกไป อยู่ๆปากมันก็ไปเอง

            “เขาชื่ออาซา ผู้ชายเย็นชาไร้ความรู้สึก หมอนั่นดูดีใช่ไหมล่ะ แต่มนุษย์สัมพันธ์แย่โคตรๆ นอกจากเพื่อนในกลุ่ม ก็ไม่มีใครได้ใกล้ชิดเขาหรอก เหมือนจะเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว พวกโลกส่วนตัวสูง”

            “...”พวกมนุษยสัมพันธ์แย่งั้นเหรอ ก็อาจจะจริง เพราะแววตาของอาซาดูแข็งกร้าวและไม่แยแสต่อโลก แม้จะเป็นตอนที่มองมาทางผมก็เถอะ

            “ทางที่ดีอยู่ห่างเขาไว้ดีกว่า พวกเขาเป็นตัวอันตราย”

            “อืม” ผมเผลอครางรับเบาๆอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เพราะทันทีที่อาซาหันมาสบตากับผมอีกครั้ง ร่างทั้งร่างก็ขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง

            ตึกๆๆๆๆๆๆ

            ทำไม...หัวใจถึงได้เต้นแรงขนาดนี้ มันไม่ได้เต้นแรงอย่างอาการตกหลุมรัก แต่...เต้นแรงเหมือนวันที่ได้สบตากับงูในระยะประชั้นชิด

            มีอะไรบางอย่างบอกผมว่าผู้ชายคนนั้นอันตรายมาก อย่าเข้าใกล้

            แต่อีกซอกลึกของความรู้สึก ผมกลับอยากที่จะรู้จักผู้ชายคนนั้น

            ผู้ชายที่ชื่ออาซา



................................
            จะเอ่ยยังไงดี เอาเป็นว่า...อ่านให้สนุกนะตัวเอง เรื่องนี้เป็นแนว โรแมนติกแฟนตาซีที่ดาร์กนิดๆ แต่มันก็ไม่ได้จะแฟนตาซีจ๋าเลยทีเดียว ไม่ได้อภินิหารสะท้านฟ้าขนาดนั้นนะ ทีแรกว่าจะรอเดือนหน้า แต่ไม่อยากให้ทุกคนรอนาน ก็จัดมาเลยดีกว่า  :laugh:
           ไม่ต้องเดาเนอะว่าใครเป็นพระเอก น่าจะรู้อยู่แล้วล่ะในตอนนี้ ส่วนเรื่องที่พี่อาซาของเราเป็นอะไร ก็ไม่ต้องบอกหรอกเนอะ รู้กันๆ ฮ่าๆๆ แต่เราต้องมารอดูกันว่าทั้งคู่จะรักกันได้ยังไง ในเมื่อหนูโยชิของเรากลัวงูเข้าไส้ขนาดนั้น บางรายละเอียดอ่านแล้วจับดีๆนะ เดี๋ยวไปอ่านหลังๆแล้วจะงง ไม่แนะนำให้อ่านข้ามนะคะ   :z2:
            อ่านแล้วชอบไม่ชอบตรงไหนบอกด้วยนะคะ บางประโยคอาจอ่านแล้วทะแม่งๆ คือริริติดเรียงแกรมม่าเป็นภาษาอื่นที่ไม่ใช่ไทย บางประโยคจะแปลกไปหน่อย แต่คือริริเองจะไม่ค่อยรู้ตัวว่ามันไม่ถูกนะ สมองปรับเปลี่ยนรูปประโยคจากไทยเป็นจีนและอังกฤษลำบาก ฮืออออ  :katai1:
            เจอกันอีกทีอีกสักสามสี่วัน แต่ถ้าอยากเร็วๆก็เม้นบอกกันรัวๆๆ แล้วจะรีบวิ่งมาลงให้อ่านนะจ้ะ จุ๊บๆ  :mew1:
 :กอด1: :L2: :L1: :pig4:

หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 100614 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 10-06-2014 12:44:59
 :mew1: มาแล้ว จิ้มๆๆๆ :z13: มาต่อไวๆนะค๊า
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 100614 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 10-06-2014 13:03:35
และแล้ว หนูโยชิ ก็ได้เจอเนื้อคู่

รอตอนต่อไปจ้า

หนูโยชิ จะเจออะไรบ้างน้า

หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 100614 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 10-06-2014 13:32:16
ไหวมั้ยโยชิ  :mew3: :mew4:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 100614 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 10-06-2014 13:33:53
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 100614 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 10-06-2014 13:41:41
 :hao4:สบตากันแล้ว หนูโยชิจะเป็นไงต่อ รอค่ะ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 100614 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 10-06-2014 15:12:39
อุ๊ยว๊ายยยยยย  :impress2: แบบว่าผูกพันกันมาแต่ชาติก่อน หรือภพก่อนรึเปล่าเนี่ย ใจเต้นแบบนี้ อีกไม่นานได้เผชิญหน้ากันแน่ :mew4:
มาต่อเร็วๆน้า ตื่นเต้นๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 10-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 10-06-2014 16:25:20
จะรอดไหมเนี่ย โยชิ กลัวซะขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 10-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 10-06-2014 17:38:37
ชอบ มาต่อเร็วๆ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 10-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 10-06-2014 17:58:59
โยชิหนูจะรอดมั้ยลูกกกก
กลัวงูแต่จะได้งูเป็นคู่เนี่ย 5555
สู้ๆนะโยชิ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 10-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 10-06-2014 19:30:49
อาซา....ฟังดูหล่อจังเลย  แค่ชื่อก็หล่อแล้ววววว    :hao7: 

ว่าแต่ใครกันนะ ที่บอกว่า มาที่นี่จนได้ อะไรประมาณนี้น่ะ   :katai1: 
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 10-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: graysia ที่ 10-06-2014 19:55:44
 ขอบอกว่าชอบมากจ้า ติดนามไรเตอร์ตลอดทุกเรื่องเลย และเรื่องนี้ก็โดนสุดๆๆ รีบมาต่อนะจ๊ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 10-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 10-06-2014 21:00:01
ไม่มีใครปองร้ายหนูโยใช่ป่าวอ่ะ คุณงูต้องดูแลหนูโยนะ ค่อย ๆ จีบอย่ารุกมากเดี๋ยวหนูโยตื่น 555
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 10-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 10-06-2014 21:54:02
น่าตื่นเต้นๆๆๆๆ รอติดตามๆๆ ชอบมากๆ ริริ ลึกลับดี อิอิ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ ONE 10-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 10-06-2014 22:28:06
มาต่อแล้วววว  ตามมาอ่าน
คุณอาซา กับน้องโยชิ กลัวอะไรได้อย่างนั้นนะคร๊าาา
ชอบคุณอาซา ชอบผู้ชายดุ อิอิ  :hao6: :hao6:
รอตอนต่อไปนะจ๊ะ จ๊วบๆ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 12-06-2014 19:51:54
TWO




         “แกได้ทำเรื่องอะไรวะโยชิ” เติร์ดมองหัวข้อในกระดาษของตัวเองแล้วทำหน้าเซ็งก่อนจะชะโงกหน้ามาดูกระดาษในมือผม
ตัวผมสตันท์แข็งค้างมากกว่าสองนาทีได้ตั้งแต่ที่เห็นข้อความพยางค์เดียวในกระดาษพร้อมภาพประกอบ

         ‘งู’

         ผมช็อคจนทำอะไรไม่ถูก ฟ้าโคตรจะกลั่นแกล้งผมเลยให้ตายสิ! สัตว์มีเป็นร้อยทำไมผมต้องจับได้งูด้วย!

         “ของฉันได้ตุ๊กแกวะ ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ น่าเกลียดน่ากลัวพอกัน”

         ผมมองเติร์ดที่เอามือถูแขนทั้งสองข้างทำท่าขนลุก ก่อนจะยื่นกระดาษของตัวเองไปตรงหน้าเพื่อน มันเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย

         “แลกกันไหม” ผมยอมอยู่กับตุ๊กแกอ่ะ กับงูนี่ไม่ไหวจริงๆ

         “ไม่เอาอ่ะ” เติร์ดสะบัดหน้าส่ายหวืด

         ขนทั่วร่างผมตั้งชันไม่ยอมลง รูปงูสีดำมะเมื่อมตัวใหญ่ในกระดาษทั้งน่ากลัวและสยดสยองเกินใจจะทน ยิ่งมองยิ่งนึกไปถึงงูในคืนนั้น ทั้งที่เป็นสิ่งที่เกลียดจับใจ แต่ทำไมเวลาเผลอต้องคิดถึงมันด้วยก็ไม่รู้

         “เอาน่า มันก็น่ารักออก” นิกกี้ให้กำลังใจผม เลยหันไปค้อนเข้าให้สักที

         “ถ้าน่ารัก งั้นเรามาแลกกันไหมล่ะนิกกี้” ผมประชดเล็กๆ นิกกี้ได้แต่หัวเราะแห้งแต่ก็ไม่ยอมแลก ก็แหงล่ะได้น้องแมวที่แสนน่ารัก เป็นผมผมก็ไม่แลกหรอก

         “เอาเถอะๆ แล้วตกลงเราต้องทำยังไงกับไอ้สัตว์พวกนี้เนี่ย” เติร์ดเกาหัวถามงงๆ ตอนต้นคาบอาจารย์แกพล่ามอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่ามันชวนง่วงมากเพื่อนหลายคนเลยเผลอหลับ ผมเองก็เกือบจะหลับเหมือนกันถ้าไม่เอาแต่...

         ...คิดถึงผู้ชายคนนั้น

         ผมนี่เพ้อเจ้อเข้าขั้นจริงๆ

         อย่าสงสัยว่าทำไมผมถึงมีโมเม้นต์นั่งคิดถึงผู้ชายราวกับเด็กสาวกำลังตกหลุมรัก ก็ผมชอบผู้ชายด้วยกัน ไม่รู้ทำไม รู้อีกทีผมก็คิดในทางชู้สาวกับผู้หญิงไม่ได้ บางทีอาจเป็นเพราะพ่อกับพี่ยอร์ชดูแลผมมากเกินไป เลยทำให้ผมติดนิสัยอยากได้คนมาดูแล ไม่ชินที่จะต้องดูแลใคร

         แต่ต่อให้ผมชอบผู้ชาย...เขากับผม มันเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้อย่างรุนแรง

         “เขาบอกว่าให้ศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการสืบค้นในหนังสือ หรือไปถามผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ใช่อาจารย์ หรือไม่ก็เลี้ยงด้วยตัวเอง” โยชิอธิบายให้เติร์ดกับนิกกี้ฟัง

         “ดีเลย ฉันจะไปหาแมวมาเลี้ยง!”

         “แล้วแกจะเลี้ยงยังไง อยู่หอเขาไม่ให้เลี้ยงสัตว์นะเว้ย” เติร์ดเก็บของใส่กระเป๋าหันไปมองนิกกี้งงๆ

         “ก็แอบเสี้ยงสิ เขาทำกันทั้งนั้นแหละ” นิกกี้ยักไหล่ไม่ใส่ใจ เดินออกจากห้องเรียนเป็นคนแรก

         พวกผมตรงไปที่หอสมุดกลางเพื่อหาหนังสือทำรายงานที่เพิ่งได้มาตะกี้ ขืนไปช้ามีหวังหนังสือหมด เพราะหัวข้อมันก็มีซ้ำๆกัน ที่คณะก็มีห้องสมุดแต่ขนาดเล็กกว่าเยอะ ที่หอสมุดกลางของมหาวิทยาลัยจะใหญ่กว่าและมีหนังสือให้เลือกอ่านเยอะกว่ามาก

         “ดูเหมือนว่าวันนี้ฝนจะตกนะ” นิกกี้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ผมเงยหน้ามองตาม ผมไม่ชอบฝน เพราะฝนจะนำพาสิ่งมีชีวิตที่ไม่พึ่งประสงค์ออกมา พวกสัตว์เลือดเย็น พวก...งู!

         ยิ่งช่วงหน้าฝนผมจะไม่เข้าไปในสวนในไร่เด็ดขาด เพราะจะเป็นช่วงที่งูชุมมากถึงมากที่สุด บางทีพี่ยอร์ชก็กลับมาเล่าให้ฟังว่าคนงานในไร่ถูกงูกัดบ้าง หรือไม่ก็เจองูเลื้อยพันอยู่บนเถาองุ่นห้าหกตัวบ้าง ด้วยเหตุนี้ผมจึงเกลียดฝนพอๆกับที่เกลียดงู

        “ตามรายงานข่าวเมื่อเช้าวันนี้ที่ผ่านมา ได้พบรูปปั้นคนที่มีท่าทางตื่นตระหนกอีกรายอยู่ข้างมหาวิทยาลัยT เราได้สอบถามคนที่อยู่ในระแวก แต่ไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์ในครั้งนี้เหมือนครั้งก่อนๆ เจ้าหน้าที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่านี่เป็นเพียงการก่อกวนเมืองหรือเป็นคำสาบตามที่....”

         อีกแล้วเหรอ...?

         ผมหยุดยืนฟังรายงายข่าวจากทีวีในหอสมุดชั้นล่างด้วยความสนใจ คราวนี้ดูเหมือนจะอยู่ใกล้มาก หลายคนที่ฟังข่าวต่างก็เริ่มจับกลุ่มคุยกันในเรื่องที่ประหลาดที่สุดในรอบหลายร้อยหลายพันปีมานี้

         “ไปเถอะ” นิกกี้จับแขนผมให้เดินตามเข้าไปในหอสมุด ขึ้นไปที่ชั้นสามก่อนจะจับกลุ่มกันที่โต๊ะมุมในสุด

         “แกคิดว่าไง จากที่เห็นในรูปมันเหมือนกับในหนังไม่มีผิด” เติร์ดเริ่มสันนิฐานขึ้นเป็นคนแรก

         ไม่มีใครหรอกที่จะไม่สนใจข่าวนี้ อาชกรรมที่เกิดขึ้นติดต่อกันมาสักพักและดูจะหนักขึ้นเรื่อยๆโดยที่ไม่มีใครสามารถหาเบาะแสได้ว่าเกิดจากอะไร เป็นภัยอันตารายในเงามืดที่เรามองไม่เห็น มันอาจอยู่รอบตัวเราและฆ่าเราได้ทุกเมื่อ เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นไม่ใช่หน้าที่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนต้องช่วยกันหาเบาะแส และผมคิดว่าผมก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น

         “ใช่ มันเหมือนกับ...” นิกกี้เว้นช่วงค้าง พูดเสียงเบาทำอารมณ์ระทึกขวัญก่อนจะมองมาที่ผม

         “โดนเมดูซ่าจ้องตา” ผมพูดต่อประโยคที่นิกกี้พูดออกมา

         “ใช่ ถูกต้องที่รัก ฉลาดที่สุด” นิกกี้ลูบหัวผมเหมือนอย่างชื่นชมก่อนที่เธอจะลุกออกจากโต๊ะไป สักพักเธอก็กลับมาพร้อมหนังสือสามเล่ม ผมหยิบมาดูเล่มหนึ่ง เป็นเรื่องที่ว่าด้วยเรื่องเทพเจ้าในตำนาน

         “อย่าบอกนะว่าแกคิดว่าเมดูซ่ามันมีจริง” เติร์ดพูดเหมือนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้

         “ก็มันน่าคิดน้อยเสียเมื่อไหร่ คิดดูนะ ใครจะบ้าปั้นรูปคนทำมีหน้าตาตื่นตกใจหรือกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่างสุดชีวิตแบบนั้น สถานการณ์แบบนี้มันเหมือนกับในตำนานไม่มีผิด” นิกกี้เปิดหนังสือที่เป็นตำนานเกี่ยวกับเมดูซ่ามาอ่านให้ฟัง แถมรูปในหนังสือยังเหมือนกับรูปในทีวีเมื่อกี้ราวกับถอดแบบกันมา

         “แต่ดูยังไงมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้วะ นั่นมันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น จะไปมีอยู่จริงได้ยังไง” เติร์ดส่ายหน้าไม่อยากเชื่อ แต่นิกกี้ก็ยังไงไม่คลายความสงสัย จึงได้เริ่มจับเรื่องนั้นเรื่องนี้มาวิเคราะห์เป็นประเด็นๆ ตั้งใจใฝ่ความรู้ยิ่งกว่าตอนเรียนหรือตอนที่รู้ว่าต้องทำรายงานเรื่องน้องแมวเสียอีก

         ผมนั่งฟังนิกกี้เล่าอย่างตั้งใจ แต่พอเงยหน้าขึ้นก็สบสายตาเข้ากับผู้ชายที่เคยเจอเมื่ออาทิตย์ก่อน

         “อาซา...” ผมเอ่ยชื่อของชายหนุ่มเบาๆในลำคอ

         ใบหน้าของเขาเชิญชวนให้หลงใหลและ...เป็นมิตร

         ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น แต่...รอยยิ้มบางๆที่แต่งแต้มอยู่บนริมฝีปากคู่งามมันช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

         ดวงตาสีดำสนิทจับจ้องผมไม่วางตา ในสายตานั้นสื่อแววแห่งความปรารถนาไว้ไม่มิด แวบหนึ่งของความรู้สึก ผมรู้สึกเขินเมื่อถูกอาซาจ้องมองนิ่งขนาดนั้น ผมจึงแสร้งก้มหน้าเปิดหนังสือในมือ เพราะทนสู้สายตาคู่นั้นไม่ไหว และพยายามอย่างหนักที่จะเบี่ยงความสนใจจากชายหนุ่มรูปงามตรงหน้า
   
         บาซิลิสก์(Basilisk) …ราชาแห่งงู

         ...หรือเจ้าแห่งอสรพิษ!


         ผมกวาดสายตาไล่อ่านตัวอักษรด้วยความสนใจทีละบรรทัดๆ โสตประสาทการรับรู้ทุกอย่างถูกตัดออกจากโลกภายนอก ไม่รู้ทำไมถึงสนใจ แต่จิตใต้สำนึกมันบอกว่าผมควรจะต้องอ่าน

         บาซิลิสก์ เป็นงูใหญ่ที่น่ากลัวและน่าสยดสยองในตำนานกรีกและยุโรป ซึ่งแค่มองผ่านเหยื่อก็ทำให้เหยื่อตายได้ ในทำนองเดียวกับ เมดูซ่า...

         “เหมือนเมดูซ่างั้นเหรอ...” ถ้าอย่างนั้นก็ต้องสาปคนให้เป็นหินได้เพียงแค่มองตาน่ะสิ

         ...การมองเห็นบาซิลิกก์นั้นน่ากลัวสยดสยองมาก ถ้าสัตว์ใดก็ตามได้เพียงเห็นมันมองผ่าน แม้แต่ทางกระจกก็อาจตายได้ทันทีเพราะความกลัว วิธีเดียวที่จะฆ่ามันได้ก็คือต้องถือกระจกไว้ข้างหน้าตัวมันก่อนที่มันจะมองผ่านมา เมื่อมันมองมาในกระจกนั้น มันก็จะเห็นเงาตัวมันเองในกระจกและตายในทันที...

         ถ้าอย่างนั้น วิธีฆ่าบาซิลิสก์ ก็คือทำให้มันยอมส่องกระจกสินะ

         พอผมเงยหน้ามองตรงไปยังตำแหน่งที่อาซาเคยนั่งอีกครั้ง เขาก็หายไปแล้ว หันซ้ายหันขวาก็ไม่เจอ ไปไหนของเขากันนะ

         “หาอะไรโยชิ”

         “ปะ เปล่า เดี๋ยวเราไปหาหนังสือทำรายงานก่อนนะ” ผมส่ายหน้าบอกนิกกี้แล้วก็ลุกจากโต๊ะไปหาหนังสือสำหรับทำรายงานโดยที่ในมือมีหนังสือเกี่ยวกับบาซิลิสก์ติดมาด้วย

         เดินเข้าไปในช่องที่เป็นหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ตามหมายเลขหนังสือที่เดินไปเสริชมาในระบบOPAC [1] ผมใช้นิ้วชี้ไล่ไปตามขอบหนังสือก่อนจะคว้าออกมาทั้งหมดสามเล่ม แต่เล่มสุดท้ายไม่ได้อยู่ในที่เดียวกัน กลับอยู่ในชั้นบนสุดซึ่งเป็นชั้นที่หนังสือมีขนาดความยาวกว่าชั้นจึงต้องวางในแนวนอน

         “บ้าจริง ทำไมต้องเอาไปวางไว้ซะสูงเลยนะ ไม่เห็นใจคนเตี้ยบ้างเลย” แล้วทำไมไม่วางต่ำๆ ไม่คิดบ้างเหรอว่ามันจะลำบากคนเตี้ยอย่างผม ที่พยายามเขย่งเท้าเพื่อจะหยิบแต่ก็ยังไม่ถึงอยู่ดี หันซ้ายแลขวาก็ไม่มีใครอยู่ใกล้พอจะขอความช่วยเหลือได้

         ผมก็ได้แต่บ่นก่อนจะเหยียบเท้าที่ชั้นหนังสือชั้นแรก ออกแรงปีนขึ้นไปหยิบ

         “ฮึบ อ๊ะ!” เสียงร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เพราะจังหวะที่กำลังเอื้อมคว้าหนังสือลงมา ทำให้หนังสือเล่มหนาข้างบนนั้นทำท่าจะเอนร่วงลงมาทั้งกอง แต่หนังสือเหล่านั้นก็ไม่ได้ร่วงลงมาใส่หน้าผม เนื่องจากมีมือปริศนามาจับหนังสือไว้ทัน

         ลำแขนยาวสีขาวผ่องดันหนังสือให้เข้าที่เข้าทางตามเดิม และเอื้อมไปหยิบหนังสือที่ผมต้องการลงมา ก้าวถอยเพียงครึ่งก้าว แผ่นหลังก็ชนกับหน้าอกของคนที่ซ้อนอยู่ข้างหลัง ลมหายใจร้อนๆเบารินรดที่ใบหูและลำคอ และนอกเหนือจากนั้นผมได้กลิ่นดินจากผู้ชายที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง

         “Be careful” เขาว่า

         “...”

         “This book, right?” น้ำเสียงเรียบนิ่งกระซิบแผ่วเบาที่ใบหู ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบกล้อมแกล้ม

         “umm..Yes, thank you”

         ผมยื่นมือไปรับหนังสือมาถือไว้ จังหวะเดียวกับที่คนข้างหลังถอยห่าง ผมลอบถอนหายใจเบาๆไม่ให้คนที่มาช่วยหยิบหนังสือรู้ว่าผมเกร็งเอามากๆ แต่พอหันกลับไปเพื่อที่จะมองหน้าคนที่เข้ามาช่วย ตัวทั้งตัวก็แข็งค้าง ริมฝีปากอ้ากว้างด้วยความตกใจ จนคนใจดีต้องใช้มือดันคางผมขึ้นเพื่อให้ปิดเหมือนเดิม

         “Do you get shocked a lot?”

         “A..Asa”

         “Hmm...you know me?”

         “เอ่อ...คือ...” ผมเกิดอาการใบ้กิน จะบอกได้ยังไงเล่าว่าพวกผมนินทาถึงพวกเขาก่อนหน้านี้ ก็ได้แต่หาทางแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน ผมหมายถึงหาข้ออ้างอ่ะนะ ไม่ใช่แก้ผ้าจริงๆ

         “ก็...นายดังออกจะตายไป” ผมพูดเสียงเบาพลางยกมือขึ้นลูบท้ายทอยแก้เก้อ

         “งั้นเหรอ” อาซาหรี่ตามองจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผม

         “ว่าแต่...นายชื่ออะไรละ”

         “ฉันชื่อโยชิ”

         “น่ารัก” อาซาเอ่ยชมเมื่อได้ยินชื่อของผม พอถูกชมแบบไม่ทันตั้งตัวก็รู้สึกเขินขึ้นมา ใบหน้าร้อนผ่าว เคยถูกชมเรื่องชื่ออยู่ก็บ่อย แต่ไม่เคยรู้สึกดีที่ถูกชมแบบนี้มาก่อน ผมคงบ้าไปแล้วจริงๆ

         “ครับ เอ่อ...ขอบคุณอีกครั้งที่หยิบหนังสือให้” ผมกอดหนังสือขึ้นแนบอกเพราะไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหน ยอมรับเลยว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นคนที่หล่อและดูดีมาก มากถึงขนาดที่ผมไม่กล้าที่จะมองจ้องหน้าหรือสบตาตรงๆในระยะห่างที่ใกล้กันเพียงแค่ก้าวเดียวแบบนี้

         เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างที่แฝงอยู่ในดวงตาสีนิลคู่นั่น ที่ทำให้ผมไม่อาจจ้องมองได้โดยตรง ทั้งที่อยากจะมองดวงตาที่สุดแสนจะล้ำลึกให้นานกว่านี้ แต่เหมือนร่างกายจะตอบสนองไปเองว่าไม่ควรมอง เขาทำให้ผมมีความรู้สึกต่อเขาได้มากกว่าหนึ่งหรือสองอารมณ์ในเวลาเดียวกัน

         ทั้งอยากอยู่ใกล้ อยากพูดคุย และก็อยากถอยห่างให้ไกล ไม่อยากจ้องตามองหน้าหรืออะไรทั้งสิ้น

         และอีกอย่างที่สร้างความแปลกใจให้ผมอยู่นิดหน่อยก็คงจะเป็นไอเย็นและกลิ่นดินที่มาจากตัวของอาซาเนี่ยแหละ เพราะปกติเวลาที่ผมอยู่ใกล้คนที่ตัวใหญ่กว่าอย่างพ่อหรือพี่ยอร์ชก็มักจะรู้สึกได้ถึงไออุ่น ไม่ใช่ไอเย็นแบบนี้

         “ไม่เป็นไร แต่ทีหลังเรียกใครมาช่วยจะดีกว่า ไม่อยากนั้นจะเจ็บตัวเองได้” อาซายืนล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบายๆ ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ผมยืนมองตามอยู่นานสองนาน

         รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เติร์ดเดินเข้ามาตามเพราะต้องไปเรียนวิชาต่อไป นั่นแหละผมถึงได้รู้สึกตัวว่าเขายืนยิ่งงันอยู่นานเกือบยี่สิบนาที
ไม่เห็นเหมือนที่ใครเขาบอกเลยสักนิด

         ก็ดูเป็นคนที่อัธยาสัยดีและนิสัยดีออก

         หรือว่าน้อยคนที่จะได้เห็น งั้นผมก็เป็นคนที่โชคดีสินะ

         แล้วตกลงเขาเป็นคนยังไงกันแน่นะ…ผมอาจจะต้องบอกอีกครั้งว่าผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เพราะผมอยากคุยกับเขาอีกครั้งและอีกครั้ง

         อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่โยชิดินกลับคณะไปพร้อมกับเพื่อนอีกสองคนแล้ว เขาก็เดินออกมาจากมุมมืดมุมหนึ่ง สายตาจับจ้องไปยังแผ่นหลังบางที่เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาได้มาไว้ในอ้อมกอด แม้เพียงน้อยนิด แต่มันก็ทำให้อาซาทั้งมีความสุขและทุกข์ปนกันอย่างไม่น่าเชื่อ

         “ไหนบอกจะไม่เข้าหาไง” น้ำเสียงเนือยๆของฟรินน์เอ่ยอยู่ข้างๆกัน

         “ก็มันจำเป็น...” ในเมื่อเด็กนั่นกำลังจะถูกกองหนังสือกองโตนั่นหล่นทับ จะไม่ให้เข้าไปช่วยได้ยังไง

         “ก็ถ้านายไม่คอยจับตาดูเจ้าเด็กนั่น นายจะรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง” ทำไมฟรินน์จะไม่รู้ว่าเพื่อนของตนแทบจะไม่ละสายตาจากคนตัวเล็กผิวขาวใสที่แทบจะไม่ต่างจากพวกเขาแทบไม่วางตา ไอ้ที่บอกว่าจะอยู่ให้ห่าง เห็นทีว่าจะยาก

         “ฉันคงต้องพยายามให้มากกว่านี้” อาซาได้แต่มองไปยังทางที่โยชิเดินจากไปอย่างเหม่อลอย

         “พยายามให้ตายยังไง แต่ถ้าหัวใจนายยังจะคอยแต่คิดถึงเจ้าเด็กนั่น เห็นทีว่านายคงจะทำไม่ได้อย่างที่ปากพูด” นี่ถือเป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่ฟรินน์เคยพูดมาเลยก็เป็นได้ ก็เห็นจากอาการของอาซา ต่อให้เป็นมนุษย์ผู้โง่เขลาก็ยังมองออกเลยว่าอาซาหลงรักเด็กหนุ่มหน้าขาวปากแดงตัวหอมนั่นเพียงใด

         อืม...ถ้าอาซาไม่หมายปองไว้ก่อนแล้ว บางทีฟรินน์อาจจะสนใจเจ้าเด็กนั่นก็เป็นได้

         “ยังไงก็เริ่มจากเลิกตามตัวเขาเป็นเงาก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”



         หลังจากเรียนเสร็จผมก็ขอแยกกับเพื่อนๆเพื่อกลับหอพัก แม้ว่าเพื่อนทั้งสองคนจะช่วยกันโน้มน้าวให้ไปดูหนังก็เถอะ แต่วันนี้ผมกลับไม่อยากออกไปไหน แถมไม่มีหนังที่ผมอยากดูอีกด้วย

         “กลับมาแล้วเหรอ” รูมเมตของผมเอ่ยทัก ผมพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะเดินเอากระเป๋าและหนังสือไปวางที่โต๊ะเขียนหนังสือของตัวเอง จากนั้นก็เดินไปล้างเท้าในห้องน้ำพลางเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงขาสั้นที่ยาวแค่คลุมต้นขากับเสื้อยืดผ้านิ่มที่ใส่สบายตัวแทน

         “วันนี้ไม่ออกไปไหนเหรอดาวเสาร์”

         รูมเมทต่างคณะของผมมีชื่อที่เพราะพริ้งว่า ‘ดาวเสาร์’ แต่เจ้าตัวไม่ยอมให้เรียกว่าดาว เพราะมันเหมือนผู้หญิง ทุกคนเลยเรียกว่าเสาร์ หรือไม่ก็ดาวเสาร์เต็มๆ

         “ไม่ล่ะ ขี้เกียจ แล้วนี่ขนหนังสืออะไรมาเยอะแยะ” ดาวเสาร์หยิบหนังสือขึ้นดูก่อนจะโยนทิ้งลงพื้นแทบจะทันที ผมได้แต่ตกใจกับสิ่งที่ดาวเสาร์ทำและถลาเข้าไปเก็บหนังสือ

         “อย่าโยนหนังสือทิ้งสิดาวเสาร์” ถึงจะไม่ชอบรูปงูที่อยู่บนหน้าปกหนังสือเท่าไหร่ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังสือก็ควรจะถนอมมันให้ดี คนอื่นจะได้อ่านต่อได้

         “ฉันเกลียดงู” ดาวเสาร์พูดแล้วก็เอามือทั้งสองข้างลูบแขนตัวเองไปมาเพราะรู้สึกขนลุกด้วยความขยะแขยง

         “ฉันก็เกลียด แต่ต้องทำรายงานเรื่องนี้”

         “เอาเถอะ นายอย่าเอามาวางให้ฉันเห็นเป็นพอ” ดาวเสาร์ล่าถอยกลับไปนั่งที่เตียงตัวเองตามเดิม พร้อมกับเปิดทีวีดูสารคดีสัตว์โลกน่ารักที่กำลังฉายเรื่องงูอนาคอนด้าอยู่พอดี ดาวเสาร์ทำท่าจะเปลี่ยนแต่ผมร้องห้ามเอาไว้

         “เดี๋ยว อย่าเพิ่งเปลี่ยน ฉันจะดูไว้ทำรายงาน”

         รูมเมทตัวโตจึงได้ยอมเปิดทีวีทิ้งไว้ ส่วนตัวก็นั่นดูข้างๆผมด้วยหน้าตาไม่สู้ดีนัก

         “มันไม่ยุติธรรมเลยว่าไหมที่ไอ้สัตว์ไร้ขาพวกนี้จะเป็นนักล่าอันดับต้นๆ แถมบรรพบุรุษของมันยังเป็นสัตว์ที่ร้ายกาจอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้วมันน่าหงุดหงิดรู้ไหม กลายเป็นว่าฉันอ่อนกว่ามัน ทั้งๆที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ บ้าบอสิ้นดี สักวันฉันจะทำให้มันรู้ว่าหมาป่าเก่งกว่างู!” ดาวเสาร์บ่นออกมาเสียยาวยืด ผมที่กำลังสนใจสารคดีงูหันมองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

         “นายพูดอะไรของนาย พูดเหมือนตัวเองเป็นสัตว์อย่างนั้นแหละ”

         “รู้ไหม ว่าหมาป่าไม่ถูกกับงู”ดาวเสาร์เลี่ยงไม่ตอบคำถามผม

         “นายรู้ได้ไง เป็นหมาป่าหรือไง”

         “หึหึ ก็คงงั้น”

         “ตลก” ผมส่ายหัวเบาๆก่อนจะหันไปสนใจสารคดีต่อ

         “นายพักผ่อนเถอะ อย่าดูไอ้สัตว์เลื้อยคลานพวกนี้เยอะละ มันน่ารังเกียจ” ร่างสูงเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ผมนั่งงงอยู่คนเดียว ใครกันแน่ที่ต้องพักผ่อน ผมยังสติดี มีแต่ดาวเสาร์นั่นแหละที่เพี้ยนไปแล้ว


..................................
[1] OPAC ย่อมาจาก Online Public Access Catalog ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลทางบรรณานุกรมของทรัพยากรสารสนเทศ ที่ห้องสมุดจัดหาเข้ามา นอกจากใช้สำหรับค้นหาข้อมูลทางบรรณานุกรมของทรัพยากรสารสนเทศ แล้วยังสามารถใช้ในการตรวจสอบข้อมูลการยืมของตนเองได้อีกด้วย



………
         เพิ่งรู้ว่าอาซาของเราผันตัวจากพระเอกเป็นสตอลเกอร์นะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ ก็เด็กมันน่ารักนี่เนอะ ไม่ตามติดได้ไง แต่ใจเย็นๆนะพี่นะ เดี๋ยวไก่ตื่น  :hao6:
         ช่วงแรกๆอาจจะยังไม่มีอะไรตื่นเต้นนะคะ แต่อีกไม่กี่ตอนก็ได้ลุ้นกันละ จะพยายามทำให้เต็มที่เลยนะคะสำหรับเรื่องนี้
         กระแสเรื่องนี้ไม่ดีเท่าไหร่ เม้นน๊อยน้อยยยย ไม่สนุกเหรอตัวเอง ริริแต่งตอนหนึ่งเกือบ 6 ชั่วโมงเลยนะ เพราะแต่งค่อนข้างยาก ถ้ายังไงให้กำลังใจกันนิดหนึ่งก็ยังดีนะคะ 2-3 นาทีน่าจะไม่เสียเวลาจนเกินไปเนอะ แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ ยังไงริริก็ลงล่ะ ไม่ต้องห่วง ได้อ่านกันอยู่แล้ว
         และขอขอบคุณคนที่เม้นให้ด้วยนะคะ รักฝุดๆไปเลยยย ^_^  :mew1:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 12-06-2014 19:57:05
     :z13:

พี่งูออกมานิดเดียวเองอ่ะ  แต่เอาใจไปเลย  :m1:   

ว่าแต่ฟรินน์เนี่ยเป็นตัวอะไรเอ่ย? งูด้วยรึเปล่า? หรืออย่างอื่น ? แล้วอะไรที่ถูกกับงูล่ะ?

โยชิที่แสนเกลียดงู ต้องมาทำรายงานเรื่องงูเนี่ยดูหนักไม่ใช่เล่นเลยนะ  แต่การศึกษาเรื่องงูอาจจะทำให้หนูเข้าใจงูมากขึ้นก็ดีอ่ะ  เรียนรู้ไปเดี๋ยวก็รัก ฮิ้ววววววว  :hao7:   

มีรูมเมทเป็นหมาป่าซึ่งไม่ถูกกับงูแบบนี้ต้องเกิดปัญหาในอนาคตอันใกล้นี้แน่ๆ

พี่งูจะทนทำไมอ่ะ หรือไม่อยากให้น้องมีอันตราย หรือยังไง  :katai4: 

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 12-06-2014 20:07:40
คุณพระเอกกับคุณรูมเมทจะได้ฆ่ากันตายไหมเนี่ยยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 12-06-2014 20:34:32
เรื่องนี้สนุกค่ะ น่าติดตามแปลกดีด้วย  ริริต้องมาอัพไวไวนะค่ะ
อยากรู้ว่าอาซากับโยชิเขามีความหลังอะไรกัน

เรื่องนี้คงไม่มีตัวละครคนไหนตายใช่ไหมค่ะ
จะดราม่าไหมเนี่ย แต่เราก็จะติดตามนะค่ะ
เรื่องนี้เราว่ามันดำเนินไปแบบมีอะไรคาใจเนื้อเรื่องค่อนข้างช้านิดหนึ่ง(แน่สิพึ่งสองตอน)
แต่มันทำให้เราอยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆ อยากรู้ว่ามันจะแฟนตาซีแบบปลอดโปร่ง(ปลอดโปร่ง?)
แฟนตาซีแบบดราม่า หรือว่าแฟนตาซีปนสยองขวัญ(ข่าวคนตายทำเราคิดไปไกลแล้วนะ)
เราชอบงานเขียนสไตล์ริริค่ะ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 12-06-2014 20:37:39
เรื่องใหม่ติดตามๆ
โยชิน่ารัก  :กอด1:

ปล. คนอ่านน้อย เม้นน้อยน่าจะเป็นเพราะชื่อเรื่องรึเปล่า เหมือนมันจะอ่านยาก มันเลยดูไม่ดึงดูดมั้ง ความเห็นส่วนตัวนะจ้ะ ยังไงก็ติดตามจ้า :mew3:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 12-06-2014 20:39:15
โอเช ตอนนี้เราก๊รู้แล้วว่าเรื่องนี้มีทั้งงู และหมาป่า :ruready
โอ้วววว เราอยู่ในมอนเตอร์ยูนิเวอร์ฯแน่แล้ว :laugh:

อาซาาาาาาา ตามติดชีวิตโยชิมากกก เห็นว่าสุขปนทุกข์ มีเรื่องออะไรน้อ? แถมพูดเหมือนจริงๆต้องห่างๆกัน  :hao4:
รอตอนต่อไปดีกว่าเนาะ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 12-06-2014 21:25:07
อาซาน่าร๊ากกก อิอิ
ตามติดชีวิตโยชิมาก
มีหมาป่าด้วยอ่ะ
รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 13-06-2014 00:13:29
สนุกค่า ช่วงนี้เราชอบแฟนตาซีแบบนี้มากเลย
แต่ยังจับประเด็นไม่ค่อยได้อ่ะ /ก็แหงล่ะเพิ่งมาได้ 2 ตอนเอง
ตอนนี้เราเลยมีแต่คำถาม อิอิ
รอเฉลยปมในตอนต่อๆ ไปอยู่นะคะ

ปล. พี่งูขรึมๆ แบบนี้เวลาหวานต้องมุ้งมิ้งแน่เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 13-06-2014 02:36:06
ชอบค่าาา
นานๆจะเจอแนวแฟนตาซีที
มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 13-06-2014 08:04:20
ดาวเสาร์เป็นหมาป่า รู้สีกถีงความไม่ปลอดภับของโยชิซะแล้วสิ
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 13-06-2014 08:56:21
อาซา จะเปิดเผยตัวตนให้ หนูโย ได้รู้จักเมื่อไรเนี่ย

รีบๆ นะเดี๋ยวเราจะรอฟิน

555
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 13-06-2014 10:10:10
อาซาน่ารักอ่ะ
ดูแบบรักใสๆมาก
แอบดูแอบช่วยเหลือโยชิตลอดเลย
ว่าแต่ถ้าโยชิรู้ความจริงขึ้นมาจะช็อกกว่านี้มั้ยเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 13-06-2014 23:51:36
 :hao3: o13 :bye2:ชอบโยชิอ่ะ น่าร๊ากกกกกก ริริแต่งได้สนุกน่าติดตามเหมือนเดิมคร่าาา มาต่อไวๆ นร้าาาาา อิอิ :katai2-1: :katai4:
หัวข้อ: Re: DG.Series-COLD-HEART SNAKE ❁S.E.C.R.E.T❁ TWO 12-06-14 [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 14-06-2014 13:48:57
โวๆ น่าสนุกแฮะ
เพราะมันคงลุ้นตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 15-06-2014 19:45:53
THREE



         แต๊กๆๆ

         เสียงแป้นพิมพ์ดังต่อเนื่องเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง ในที่สุดก็หยุดลง ผมยืดสองแขนบิดขี้เกียจ ใช้มือนวดต้นคอเบาๆที่เกิดจากความเมื่อยล้า รายงานครั้งก่อนที่ได้มา ผมเริ่มลงมือทำบ้างแล้ว แต่ดูเหมือนว่าหนังสือที่หามาได้จะไม่เพียงพอ พรุ่งนี้คงต้องไปหาอีกครั้งพร้อมกับเอาหนังสือที่ยืมมาก่อนหน้านี้ไปคืนด้วย

         พูดถึงหนังสือก็พาลนึกไปถึงข่าวในทีวีแล้วก็เนื้อหาในหนังสือ หลายครั้งที่ผมแอบคิดว่าที่คนกลายเป็นหินนั้นเป็นฝีมือของบาซิลิสก์ สัตว์ในตำนาน คิดมากถึงขนาดเก็บไปฝัน แต่ช่างเป็นฝันที่สมจริงเหลือเกิน

         ในฝันผมฝันว่าตัวเองจ้องตากับงูตัวใหญ่ยักษ์ ดวงตาของอสรพิษที่แสนโหดร้ายมันช่างน่ากลัวเกินกว่าจะหาอะไรเปรียบได้

         “พอๆ เลิกคิด” ใช้กำปั้นทุบที่ข้างขมับตัวเองเบาๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่านไปกันใหญ่

         ผมลุกออกจากโต๊ะเขียนหนังสือ เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ วันนี้ดาวเสาร์ไม่อยู่ไปนอนห้องเพื่อนที่อยู่อีกตึกหนึ่ง ผมเลยไม่ต้องเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำอย่างที่ผ่านมา

         เสื้อหลุดออกจากกายผม ยืนมองตัวเองในกระจกเงา สิ่งที่สะดุดตาคือรอยปานที่หน้าอกข้างซ้าย ปานที่ผมไม่ยอมให้ใครเห็นนอกจากพ่อและพี่ยอร์ช

         มันแปลกเกินไปที่จะให้ใครมาใครมารู้ว่าผมมีปานรูปงูอยู่ที่อกข้างซ้ายแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ว่ามันติดตัวมาตั้งแต่เกิด ผมคงคิดว่าตัวเองละเมอไปสักมา เพราะรูปร่างและลวดลายที่ทำให้เห็นเด่นชัดว่าเป็นงูที่ขดตัวเป็นวงกลม คงไม่มีใครเชื่อแน่ๆว่าเป็นปาน หรือถ้ามีคนเชื่อ คนพวกนั้นก็จะบอกว่ามันเป็นอาถรรพ์ที่ติดตัวผมมาเหมือนที่มีหมอดูเคยทักตอนเป็นเด็ก แต่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร เพิ่งจะมารู้สึกแปลกก็ช่วงนี้

         ดูไม่น่าจะเป็นเรื่องปกติที่จะปานรูปร่างแบบนี้ ทำให้บ่อยครั้งที่ผมรู้สึกกลัวตัวเองจับใจ

         ได้แต่ปลอบตัวเองว่ามันไม่มีอะไร

         ก็แค่...ปาน เท่านั้นเอง

         คืนนั้นผมเข้านอนแต่หัวค่ำเพราะรู้สึกเหมือนจะไม่สบายเพราะโดนฝนเมื่อช่วงบ่าย พอหาข้าวหายากินเรียบร้อย ก็ล้มตัวลงนอน พักการอ่านหนังสือเตรียมเรียนล่วงหน้าเอาไว้ก่อน อากาศเย็นจัดเพราะฝนที่ตกต่อเนื่องตลอดทั้งบ่าย บวกกับวันนี้มีเมฆมากเป็นพิเศษ จึงทำให้อากาศไม่ร้อน ผมเลยตัดสินใจไม่เปิดแอร์ แต่เปิดหน้าต่างเอาไว้แทน และไม่ต้องกลัวว่ายุงจะเข้า นั่นเพราะมีมุ้งลวดกั้นไว้อย่างดี

         ก่อนนอนผมไม่ลืมโทรหาพ่อและพี่ยอร์ชอย่างที่ทำทุกวัน ทั้งคู่ยังกำชับให้ผมดูแลตัวเองให้ดี เข้าหน้าฝนแล้ว จะป่วยเอาได้ง่ายๆ



         ด้วยฤทธิ์ยาทำให้โยชิหลับลึกกว่าปกติ ลึกจนถึงขนาดที่ไม่รู้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเลื้อยผ่านร่างเล็กของโยชิไป ดวงตาสีทองวาวโรจน์ท่ามกลางความมืด ส่วนหัวชูชันตั้งขึ้นหันหน้าไปทางเด็กหนุ่มที่กำลังนอนหลับอย่างเป็นสุข

         ซี่ๆๆ~

         ลิ้นสองแฉกแลบโผล่ออกมา เสียงที่ดังขึ้นท่ามกลามความเงียบเหมือนต้องการจะเอ่ยบางสิ่งบางอย่าง น่าเสียดายที่โยชิหลับไปแล้ว จึงไม่อาจเข้าใจได้

         ลำตัวยาวใหญ่เลื้อยคลอเคลียร่างของเด็กหนุ่มอย่างนุ่มนวลชวนเอาอกเอาใจ ยิ่งเป็นการขับกล่อมให้นอนหลับสบายมากขึ้น โยชิกระถดตัวเข้าความความอบอุ่นที่โอบรัดเอาไว้ทั้งตัวอย่างเผลอไผล

         ความอบอุ่นและสัมผัส

         ราวกับคุ้นเคยมานานแสนนาน...




         จิ๊บๆๆ

         เสียงนกร้องข้างหน้าต่างปลุกให้ผมที่กำลังหลับอย่างสบายอารมณ์ตื่นขึ้น หลังจากที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ อาการร้อนๆหนาวๆที่รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ก็หายไป

         “หาววว” ผมหาวพร้อมบิดตัวน้อยๆก่อนที่ทั้งตัวจะนิ่งค้าง เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรไปอย่าง

         แล้วผมลืมอะไรละ...

         ช่างเถอะ นึกไม่ออกก็ช่างมัน

         สลัดผ้าห่มออกจากตัวได้ก็พับไว้ที่ปลายเตียงอย่างเรียบร้อยก่อนจะเดินผิวปากเข้าห้องน้ำ เช้านี้ผมนัดกับเพื่อนที่โรงอาหารเพื่อกินข้าวเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากัน

         “มีอะไรดีๆหรือไงโยชิ หน้าตาอิ่มเอิบมาเชียว” สาวสวยประจำกลุ่มทัก พลางจับหน้าผมหันไปมาและใช้ดวงตากลมโตส่องสำรวจ

         “ไม่มีอะไรหรอก แค่เมื่อคืนหลับสบายมากๆก็เท่านั้นเอง” ผมบอก แต่นิกกี้ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ ทำท่าจะถามต่อแต่โดนเติร์ดชวนไปซื้อข้าว ปล่อยให้ผมนั่งเฝ้าโต๊ะ จนกระทั่งกลับมา นิกกี้ก็ยังไม่เลิกจ้องผม

         “อะไรของพวกแกวะ กินข้าวดิ” ผมปัดมือไปมาตรงหน้าไล่เพื่อน

         “แกบอกฉันมาดีๆว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนแกไปนอนกับใครมา” นิกกี้ยังคงคาดคั้น ว่าแต่เมื่อกี้หมายความว่ายังไง ไปนอนกับใครคืออะไร ผมงง?

         “อะไรวะนิกกี้” เติร์ดถามด้วยความสนใจ พลางสำรวจผมอย่างที่นิกกี้ทำ จนผมเริ่มรำคาญ อะไรของพวกมันกันวะ ผมก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติสักหน่อย วันนี้ผมโคตรจะโอเคเลยล่ะ

         “แกจะเล่าให้ฉันฟังดีๆหรือจะให้ฉันไปสืบเอง” นิกกี้คาดคั้นผม จนผมแทบอยากจะเอาเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผาก แค่ผมนอนเร็วตื่นเช้าแล้วรู้สึกสดชื่นหน้าตาสดใส มันเป็นที่ผิดสังเกตขนาดนี้เลยหรือยังไงนะ!

         “อะไรนิกกี้ พูดเรื่องอะไรเนี่ย ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ” เริ่มไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วเป็นผมหรือนิกกี้กันแน่ที่ไม่ปกติ -_-

         “อย่ามาทำอารมณ์เสียนะโยชิ ถ้าไม่มีอะไรแล้วไอ้รอยจูบที่คอมันหมายความว่าไง”

         หืม???

         ระ รอยอะไรนะ

         “ไหนวะ” เติร์ดกระชากคอผมไปดูใกล้ๆ ก่อนจะทำตาวิบวับ ผมดึงตัวเองกลับเต็มที่ ยกมือคลำที่ตัวเองหน้าตื่น

         “ระ รอยอะไร ไม่มี!”

         ผมนอนคนเดียว แฟนก็ไม่มี มันจะไปมีรอยจูบได้ยังไง พวกนี้ตาฝาดไปแน่ๆ หรือไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นรอยแมลงกัดก็ได้ เพราะเมื่อคืนผมเปิดหน้าต่างนอน แต่ถ้าโดนแมลงกันทำไมถึงไม่รู้สึกคันนะ?

         “จะไม่มีได้ยังไง” นิกกี้ทำหน้าขัดใจ มือเรียวบางล้วงหาของในกระเป๋าอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบกระจกขนาดกลางออกมาพร้อมส่องมาที่ผม

         “อ่ะ ดูซะ!”

         ผมจิ๊ปากเบาๆ ยกน้ำขึ้นดื่มและเงยหน้าขึ้นมองกระจก แต่พอได้เห็น ‘รอยจูบ’ ที่นิกกี้ว่ากับตา...

         พรวดดดดดดด!! ผมสำลักน้ำอย่างแรง

         นี่มันรอยอะไร แล้วเกิดขึ้นได้ยังไง?

         เมื่อคืนผมนอนอยู่ในห้องคนเดียวและดาวเสาร์ก็ไม่ได้กลับเข้าห้องมาอย่างแน่นอนเพราะผมลงตัวยูด้านในเอาไว้ ไม่มีทางที่ดาวเสาร์จะเข้าห้องมาได้โดยไม่เรียกให้ผมไปเปิดประตู

         ผมเม้มปากแน่น คิ้วขมวดเข้าหากัน คิดยังไงก็คิดไม่ออกมาได้รอยนี้มาตอนไหน

         “ทีนี้จะบอกได้หรือยังว่าไปแอบกิ๊กกั๊กกับใครไว้แล้วไม่บอกเพื่อน” นิกกี้พยายามคาดคั้นเอาความจริง แต่ความจริงก็คือ ผมไม่ได้ไปนอนกับใคร!

         “ไม่มีจริงๆนะเว้ย ฉันไม่รู้ว่าไอ้รอยบ้านี้มาอยู่บนคอฉันได้ยังไง” พยายามจะพูดให้เพื่อนเลิกเข้าใจผิด แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ นิกกี้หรี่ตาจ้องผมเขม็ง ส่;นไอ้เติร์ดยักไหล่แต่ก็มองผมไม่วางตาเช่นกัน

         ถึงผมจะไม่เคยมีแฟนมาก่อน แต่ก็พอจะรู้ว่าไอ้รอยแบบนี้มันเกิดจากอะไร เพราะเพื่อนเคยเอามาอวดตอนที่แฟนสาวสุดที่รักมันทำให้ เหมือนกันไม่มีผิด

         “เอาเถอะ ไม่อยากบอกก็ไม่อยากบอก ตามใจ พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน” เติร์ดมันคงรู้ว่าผมลำบากใจ เลยไม่คิดจะคาดคั้น นิกกี้ก็ไม่ได้คาดคั้นเอาความอะไรต่อ ผมถอนหายใจเบาๆ บอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ หลักฐานคาตาซะขนาดนี้ ผมมองรอยที่สะท้อนในกระจกอีกครั้ง

         เกิดขึ้นได้ยังไง?

         หลังจากนั้นทุกคนก็ไม่มีใครสนใจเรื่องรอยที่คอของผมอีก แต่ผมก็เอาแต่นั่งคิดทั้งวันว่ารอยจูบที่คอเกิดขึ้นได้ยังไง มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ ในห้องก็ไม่มีใคร ผมคงไม่บ้าละเมอขึ้นมาดูดคอตัวเอง เพราะความจริงมันก็ทำไม่ได้ คอผมไม่ใช่ยีราฟนะ ที่จะได้วกหัวกลับมาหาคอได้ง่ายๆน่ะ

         “หวังว่าวันนี้ฝนจะไม่ตกลงมาอีกนะ เมื่อคืนแม่งหนาวฉิบหาย” เติร์ดเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มจะครึ้มมาแต่ไกล

         “ไม่เห็นจะหนาวเลย อุ่นจะตาย” ผมแย้ง เมื่อคืนเป็นคืนที่ผมนอนหลับสบายที่สุดเท่าที่ย้ายมานอนที่หอมหาวิทยาลัย

         “อบอุ่นตรงไหนวะ ขนาดฉันนอนไม่เปิดแอร์ยังต้องคลุมโปงเลย”

         ก็อุ่นจริงๆนี่นา อุ่นเหมือนอ้อมกอดของพ่อและพี่ยอร์ชเลย

         หลังเลิกเรียนผมแยกกับเพื่อนไปที่ห้องสมุดคนเดียว เพราะนิกกี้ต้องกลับบ้าน ส่วนเติร์ดเห็นว่ามีนัดกับสาว ผมได้แต่ขำในความกระล่อนของเพื่อน ที่เปิดเรียนไม่กี่วันก็ตามจีบสาวติดเสียแล้ว

         ช่วงเปิดเทอมใหม่ๆหอสมุดยังคงเงียบเพราะไม่ค่อยมีคนมาใช้ เหมาะแก่การอ่านหนังสือมากกว่าช่วงสอบที่มีนักศึกษาแห่กันเข้ามาใช้บริการอย่างอุ่นหนาฝาครั่งเสียอีก และอย่าเพิ่งหลงผิดว่าผมขยับเสียหนักหนา ก็แค่ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองว่า บวกกับ...หวังอะไรลมๆแล้งๆนิดหน่อย

         ผมเดินไล่หาหนังสือไปเรื่อยๆ ได้ออกมาหลายเล่มก็ขนเอาไปวางไว้ที่โต๊ะก่อนจะกลับไปหาอีก เพราะบางเล่มก็มีเนื้อหาอยู่ไม่กี่หน้า เลยต้องหาดูหลายๆเล่ม เล่มไหนที่เนื้อหาไม่เยอะก็ไม่จำเป็นต้องยืม แค่เอาไปถ่ายเอกสารหน้าที่ต้องการใช้ก็พอ ยืมไปก็จะเสียแรงขนเปล่าๆ

         “สนใจเรื่องงูเหรอ” เสียงกระซิบข้างใบหูทำให้ผมสะดุ้ง

         น้ำเสียงแบบนี้ผมจำได้ขึ้นใจ อดดีใจแล้วก็ตื่นเต้นไม่ได้ ไม่รุ้ตัวเลยว่าริมฝีปากผมแย้มยิ้มบางๆ

         “อาซา”

         “ดีใจที่นายจำฉันได้” มือขาวซีดเอื้อมไปหยิบหนังสือเล่นหนาในมือของผมมาถือแล้วเปิดดูทีละหน้า ในขณะที่ผมยังยืนแข็งเป็นก้อนหิน กว่าจะตั้งสติได้ก็ตอนที่เสียงที่ติดจะเย็นชาเอ่ยเรียกผม

         “ว่าไง ฉันถามว่าสนใจเหรอ” อาซาเงยหน้าจากหนังสือขึ้นสบตาผม

         “เปล่าหรอก ผมต้องทำรายงานเรื่องนี้น่ะ” ผมตอบอย่างเคอะเขิน กี่ครั้งๆก็ไม่ชินสักทีที่ต้องอยู่ใกล้อาซาแบบนี้ และผมคงทำอะไรเปิ่นๆออกไป เขาถึงได้กระตุกยิ้มมุมปากคล้ายกับจะหัวเราะ แต่ให้ตายเถอะ มันทำให้เขาดูดีมากๆ

         “งั้นเหรอ ฉันช่วยนายได้นะ”

         “ช่วยทำรายงานนะเหรอ?”

         “อืม เรื่องของงู ฉันรู้ดีเลยล่ะ”

         “จริงเหรอ” เผลอกระโดดเกาะแขนอาซาอย่างลืมตัวด้วยความดีใจ

         “คุณช่วยผมได้จริงเหรอ”

         “อืม จริงสิ” อาซาเดินออกจากซอกหนังสือไปที่โต๊ะที่ผมนั่งก่อนหน้า ผมเอียงคอมองอาซาที่เดินมาถูกโต๊ะด้วยความสงสัย ทำไมเขาถึงรู้ว่าผมนั่งอยู่โต๊ะนี้

         ผมเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ เปิดหนังสือเพื่อเริ่มทำรายงานโดยมีอาซาคอยพูดเล่าเรื่องต่างๆเกี่ยวกับงูให้ฟัง ผมรู้สึกทึ่งที่อาซาสามารถบรรยายได้ว่าเวลาไหนงูจะรู้สึกยังไง ชอบอะไรไม่ชอบอะไร แต่ะละชนิดมีความแตกต่างกันอย่าง เขารู้ทุกอย่าง ราวกับว่าเขาเป็นแบบนั้นเอง ต้องยอมรับว่าอาซาช่วยได้เยอะมาก ข้อมูลหลายอย่างก็ไม่มีในหนังสือ เหมือนได้ศึกษาการชีวิตงูจริงๆประมาณนั้น

         “นี่ รู้ไหมว่างูมันหวงคู่ของมันมาก” อาซาว่า สายตาจ้องผมอย่างมีความหมาย แต่เป็นความหมายที่ผมตีความไม่ออก แต่เชื่อไหมรอยยิ้มนิดๆที่ปรากฏให้เห็นทำเอาผมใจกระตุกวูบ

         “งะ งั้นเหรอ” ผมเสมองไปทางอื่น รู้สึกขัดเขินกับสายตาหวานเชื่อมนั่น ต้องโทษอาซานั่นแหละที่ทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง

         “มันจะทำร้ายทุกคนที่เข้าใกล้คู่ของมัน” ทั้งน้ำเสียงและแววตาของอาซาดูจริงจังจนผมต้องกลืนน้ำลายดังเอือก

         “ดูน่ากลัวนะ” ผมยิ้มแหยะๆ

         “ไม่หรอก เพราะมันรักคู่ของมันมาก ถึงได้ไม่อยากให้ใครเขาใกล้ เพราะรักมากก็เลยหวงมาก”

         ผมได้แต่นิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ประโยคเมื่อกี้เหมือนอาซาจะบอกกับผมโดยตรง อาซาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในเขาวงกต ทั้งลึกลับและซับซ้อน น่าค้นหาในบางที แต่พอเข้าใกล้มากก็อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล

         อาซาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ก็ช่วยงานจนเกือบเสร็จ

         “ขอบคุณมากนะครับ ผมไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไง ไว้คราวหน้าผมขอเลี้ยงข้าวได้ไหมครับ” เพราะผมแทบไม่ต้องเสียเวลากรองข้อมูลจากหนังสือกองโตเลยด้วยซ้ำว่าใช้ได้หรือไม่ได้ ประหยัดเวลาและพลังงานไปได้เยอะ

         นี่ยังแอบสงสัยเลยว่าอาซากินหนังสือเข้าไปทั้งเล่มหรือเปล่า ถึงท่องจำได้มากขนาดนี้

         “เอาอย่างนั้นก็ได้” อาซายืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองผมเก็บของไปเรื่อยๆ

         “คุณ...”

         “ไม่ต้องเรียกคุณหรอก เรียกฉันว่าอาซาเถอะ”

         “เอ่อ ไม่ดีหรอกมั้งครับ”

         “อาซา” เขาพูดเสียงนิ่ง สีหน้าราบเรียบไม่สื่ออารมณ์ใดๆ แต่ผมรู้สึกได้ว่าอากาศเย็นขึ้น มองออกไปที่หน้าต่างหอสมุด ท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนถูกทาสีดำเอาไว้ ถ้าไม่รีบกลับฝนต้องตกแน่ๆ

         “คุณ เอ่อ..อาซา” ผมรีบเปลี่ยนสรรพนามเรียกเมื่อเจอสายตาดุๆของอาซา

         “เป็นวันไหนดีครับ” ถามกล้าๆกลัวๆ ตาเขาดุมากเลยอ่ะ ผมกลัวนะ

         “พรุ่งนี้แล้วกัน เลิกเรียนกี่โมง”

         “บ่ายสามครึ่งครับ”

         “งั้นบ่ายสามครึ่งฉันจะไปรับที่หน้าคณะ ไปกันเถอะ เดี๋ยวฝนตก”

         หนังสือที่ไม่ใช้แล้วถูกอาซาหอบใส่อ้อมแขนก่อนที่ผมจะคว้าไว้ เขาแวะเดินเอาไปวางไว้ที่รถเข็นสำหรับวางหนังสือ ผมได้แต่เดินตามหลังอาซาไปเงียบๆ สายตาจังจ้องที่แผ่นหลังกว้างพลางคิดไปว่า ถ้าได้โอบกอดแผ่นหลังนี้สักครั้งจะเป็นยังไงนะ

         บ้าอีกแล้วสิผม!

         ถ้าพ่อกับพี่ยอร์ชรู้ว่าผมมีความคิดบ้าๆพวกนี้จะต้องถูกดุแน่ สาบานได้เลยว่าผมไม่ได้อยากทำตัวใจแตกเอาแต่คิดถึงผู้ชายแบบนี้ แต่สาบานได้ว่าผู้ชายตรงหน้าผมเขามีพลังดึงดูดบางอย่างในตัวผมจริงๆ

         “ลานะครับ”

         “อืม...” เขาหมุนกายมองผม สีหน้ามีแววครุ่นคิด ผมเลิกคิ้วเป็นการถามเขากลายๆ

         “ฉันขออะไรอีกสองหนึ่งได้ไหม”

         “อ่า...ได้สิ” ถ้าเป็นเขา ขออะไรผมก็ให้ได้ทั้งนั่นแหละ

         เอ๊ะ...? นี่ผมคิดอะไรออกไปวะ

         “อย่างแรก” เขาเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น ร่นระยะห่างระหว่างเราให้เหลือเพียงแค่ก้าวเดียว ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลงมาจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆ ผมกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติก่อนจะสะดุ้งเมื่อนิ้วมือเย็นจัดเหมือนน้ำแข็งของเขาแตะที่ต้นคอผม ตรงตำแหน่งที่ผมจำได้ว่ามีรอยจูบ

         ขะ เขาคงไม่ได้คิดว่าผมไปนอนกับใครมาเหมือนที่นิกกี้กับเติร์ดคิดหรอกนะ

         “ไม่ต้องพูดภาษาสุภาพกับฉันขนาดนั้นก็ได้ มันเหินห่างเกินไป ฉันไม่ชอบ พูดกับฉันเหมือนที่นายพูดกับเพื่อนสิ ฉันชอบแบบนั้นมากกว่า” เหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจรอยที่คอผมเท่าไหร่ เพราะเขามองแค่หน้าผมเท่านั้น

         “เอ่อ...ก็ได้” ก็ผมเพิ่งเจอเขานี่หน่า แถมเขายังเป็นรุ่นพี่ด้วย นี่ถ้าพูดเป็นภาษาไทย ผมคงเรียกเขาว่าพี่ไปแล้ว

         “และอย่างที่สอง”

         ผมกระพริบตาปริบๆมองสบตาเขาเหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็น

         “นายมีกลิ่นสัตว์สี่ขาติดตัว อยู่ให้ห่างรูมเมตของนาย อย่าสนิทกับมันก็จะยิ่งดี”

         “หืม? อะไรนะ” อะไรคือสัตว์สี่เท้า แล้วเกี่ยวอะไรกับดาวเสาร์

         “เข้าใจไหม?” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความจริงจังที่ผมต้องทำตาม

         “เข้าใจครับ” พอผมทำตัวว่าง่าย เขาก็ยิ้มหล่อใส่ผม หัวใจผมเต้นแรงขึ้นทันที

         “So good my boy”

         เขาเป็นตัวอันตรายแบบที่นิกกี้บอกจริงๆด้วย...เขาอันตรายต่อหัวใจผมมาก

....................


         ASA

         ภายในบ้านหลังโตที่เงียบสนิท คนทั้งห้าคนรวมทั้งผมกำลังนั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่ในห้องนั่งเล่น ข่าวในโทรทัศน์เพิ่งจะจบลงเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา ความเคร่งเครียดเป็นกังวลฉายชัดอยู่บนใบหน้าของพวกเราทุกคน

         มันเกิดขึ้นอีกแล้ว และคราวนี้ดูเหมือนจะหนักหนากว่าทุกที เพียงแค่ข้ามคืนเดียว กลับมีคนกลายเป็นหินเพิ่มขึ้นอีกหกคน

         “ถ้าพวกเราไม่ทำอะไรสักอย่าง พวกเราจะต้องโดนพวกอื่นเล่นงานแน่” ในที่สุดฟรินน์ก็เป็นคนทำลายความเงียบที่ก่อตัวขึ้น และมันก็เป็นสิ่งที่พวกเราคิดเห็นตรงกัน

         “ตอนนี้พวกเจอร์โรมก็จ้องเล่นงานเราอยู่แล้ว โดยเฉพาะนายอาซา เพียงแต่มันยังไม่มีหลักฐานเพียงพอ” เวสตันพูดหน้าเครียด พวกเราทุกคนในที่นี้ไม่มีใครไม่เครียด แม้แต่ผมเอง เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น ใครๆก็จับตามองเราทั้งนั้น แม้ว่าคนที่ทำจะไม่ใช่ลูกน้องเราอย่างแน่นอน ผมมั่นใจ

         “ฉันว่าเราต้องลงมือทำอะไรสักอย่างก่อนที่เรื่องจะเกิดขึ้น” ปารีสแฟนของเวสตันว่า เธอนั่งอยู่บนพนักแขนโซฟาข้างเวสตันที่บีบมืออย่างให้กำลังใจ ผมถอนหายใจก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบแก้เครียดพลางคิดถึงทางแก้ปัญหา

         “อาซา...ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้สูบบุหรี่น่ะ มันไม่ดีต่อร่างกาย”

         “...” ผมไม่สนใจจูเลียตเพื่อนของปารีสที่เอ่ยห้ามผมทุกครั้ง ทุกคนในที่นี้รู้ดีว่า ผมหัวรั้นเกินกว่าที่ใครจะออกคำสั่งด้วยได้

         “เธอก็เลิกบ่นมันสักทีเถอะ พูดเป็นล้านรอบมันก็ไม่เลิกหรอก”

         “หุบปากไปเลยฟรินน์ นายก็อีกคน สักวันจะเป็นมะเร็งตาย ถึงเราจะไม่ใช่คนปกติธรรมดา แต่ของไม่ดีก็คือไม่ดี”

         “เงียบเถอะจูเลียต ไอ้อาซามันรำคาญล่ะ”

         ผมหัวเราะในรำคอ นับว่าเวสตันเดาใจผมได้ถูก ผมรำคาญจริงๆนั่นแหละ ก็เสียงจูเลียตแหลมจนแสบแก้วหู ผมชอบเสียงนุ่มๆเย็นๆมากกว่า

         เฮ้อ...ผมคิดถึงเขาอีกแล้ว

         ปิ๊บๆๆๆ

         “เฮ้...เกิดเรื่องแล้ว!!!” ฟรินน์เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์หน้าตาตื่น

         “อะไร” ปารีสถาม ฟรินน์ไม่ตอบ มันยื่นโทรศัพท์ส่งให้เวสตันและปารีสดู ก่อนที่ทั้งคู่จะหน้าซีด ผมสูบบุหรี่เข้าปอดทีเดียวจนหมดมวนก่อนจะรับโทรศัพท์จากมือสีขาวซีดขึ้นลายสีแดงราวอัญมณีมาดู ทันทีที่เห็นรูปที่ถูกส่งมา ร่างทั้งร่างก็เย็นวาบ


         “เราต้องออกไปล่ามัน ก่อนที่มันจะทำให้พวกอื่นมาล่าเรา”




.........

         วิ้ววววววว อะไรยังไงคะ พี่ขา คืนนี้น้องจะเปิดหน้าต่างทิ้งไว้บ้าง เพื่อว่าจะฝันว่ามีงูมารัดบ้างอะไรบ้าง ^_^ :hao6:

         ไม่ขอพูดอะไรมากแล้วกัน บอกแล้วว่ามันเพิ่งจะเริ่มต้น หรือยังไม่เริ่ม คึคึ เจอกันตอนหน้าอีกสักสองสามวันเนอะ ดีไหม หรืออยากอ่านวันไหนดี บอกได้น้าาาาาาาาา~~   :katai4:

         กอดๆคนที่เข้ามาอ่านและคนที่เม้นให้เน้อ จุ๊บๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 15-06-2014 20:00:47
คนที่ทำให้คนอื่นกลายเป็นหินไม่ใช่อาซาหรือว่าจะเป็นโยชิรึเปล่า เพราะโยชิมีปานรูปงูอยู่ พอโยชิหลับก็ออกไปทำให้คนอื่นกลายเป็นหิน//เดาล้วนๆ55555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: mbpwn_ ที่ 15-06-2014 20:15:36
ฟหกด่าสวฟหกด่าสว  :hao7: :hao7:

อาซาาาาา  o9
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 15-06-2014 20:29:08
แง่ะ ไหงปมเยอะอย่างงี้เนี่ย
แล้วมันมีกี่พวกอ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 15-06-2014 20:36:26
คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับโยชิหรอกนะ
ยังก็เอาใจช่วยอาซาอย่างเต็มที่
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 15-06-2014 21:18:55
อยากอ่านพรุ่งนี้ค้าาาาา  :z6://โดนถีบ
เค้าจะเปิดหน้าต่างห้องทิ้งไว้ นอนรอให้อาซาเลื้อยมาหาเลย  :beat://โดนตบ
แสดงว่า ตอนนี้ต้องมีคนใส่ร้ายกลุ่มอาซาใช่ไหม  :katai1:และอาจจะเป็นหนึ่งให้พวกที่มีอิทธิพลในโรงเรียนด้วย จากการที่อาซาไม่ถูกกับพวกสี่ขาแบบนั้น
อร๊ายยย ตื่นเต้นอะ แล้วรอยจูบ รอยจูบนั่นน่ะ อาซาแอบบเข้าไปตอดน้องโยใช่ม๊ายยยย :z3:
รอตอนต่อไปดีกว่า :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 15-06-2014 21:22:30
ปมปริศนาเยอะ ติดตามต่อไป
โยชิ เปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ระวังผู้ชายเลื้อยเข้าหานะลูก  :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 15-06-2014 21:34:19
ขออาซาใส่ห่อกลับบ้านได้ม๊ายยยยยย  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: anuruk97 ที่ 15-06-2014 22:29:57
จากเกลียดงูสุดชีวิต  อ่านเรื่องนี้สงสัยเราจะกลับใจ :mew1:  น่าติดตามมาก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: shinachan ที่ 15-06-2014 22:38:58
น่าติดตามมากค่ะ แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับงูอ่านไปก็กลัวไป แต่ก็ชักจะชอบ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 15-06-2014 22:52:12
เขาหนาวกันหมดมีหนูโยอุ่นอยู่คนเดียว :z1:
จำไว้นะหนูโย งูมันหวงคู่ของมันนะจ้ะ กรี๊ดอ่ะ
ออกมาไม่กี่ตอนเขายังไม่ได้หวานอะไรกันมากมายแต่ทำไมเราฟิน
คนเขียนบอกให้รออีกสามวัน :hao5:
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้อัพทุกวันค่ะ(โดนตบ)
แสดงว่าคนที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นหินนี่ไม่ใช่พวกอาซาซินะค่ะ
แบบนี่จะมีสู้กันดุเดือดเลือดสาดหรือเปล่าเนี่ย
จะรอลุ้นตอนต่อไปค่ะ
ว่าแต่รอยที่คอนี่มันกลบกลิ่นสัตว์สี่เท้าได้หรือเปล่าค่ะ อาซา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 15-06-2014 23:19:49
สนุกมากๆๆๆ อยากให้ริริอัฟทุกวันเรยยย อาซาลึกลับน่าติดตามมากๆๆ โยชิน่าร๊ากกก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 15-06-2014 23:23:39
 o13 น่ารักจริงๆ..  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: kururu ที่ 15-06-2014 23:25:04
ชอบมากกก เรื่องแนวนี้ หวังว่าจะไม่ดราม่านะคะ ทำใจไม่ไหวจริงๆ ภูมิต้านทานต่ำ
ตัวละครบุคลิกโดดเด่นดี บรรยากาศในเรื่องบรรยายซะเห็นภาพเลย เป็นมหาลัยที่น่าอยู่มาก ได้กลิ่นอายตะวันตกมาแบบรุนแรง
ชอบมากจริงๆค่ะ จะรอตอนต่อไปนะ  :กอด1:
แต่ไม่เอาดราม่าน้าาาา เหมือนได้กลิ่นความเศร้าจากพระเอกลอยมาติดจมูกอ่ะ :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-06-2014 23:27:44
 :L2: :L2: :hao3: :hao3:
มาติดตามเรื่องใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 16-06-2014 00:00:58
เอาอีกๆ      :m5: :m5: :m5:   
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 16-06-2014 00:40:00
เรื่องนี้สนุกมากอ่าาาาาาาา  :impress2:

หลงอาซา ><
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 16-06-2014 06:52:04
อาซาตอนอยู่กับโยชิดูอบอุ่นมากอ่ะ
น่ารัก ชอบบบบบบ
รักกันเร็วๆน้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 16-06-2014 09:04:30
ชักเริ่มสงสัยแล้วว่าใครกันที่จะตามล่าพวก อาซา น่ะ

รอตอนต่อไป 555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: KhunToOk ที่ 16-06-2014 12:09:32
 :hao5:  รอ.....
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 16-06-2014 13:08:52
มาลงทุกวัน เราชอบบบ  :katai2-1:

นึกถึงเรื่องทไวไลท์ค่ะ

โยชิน่ารักกกก  :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 16-06-2014 13:52:21
รอๆๆนะคะ. มาไวๆก็ดีนะคะ อิอิ :mew3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: จ๊ะจ๋า ที่ 16-06-2014 15:31:25
 :hao6: เราชอบเรื่องนี้ 
 น่ารักจัง เนื้อเรื่องสนุกมากค่ะ
ชอบงูๆๆๆ เพราะงูเป็นตัวแทนของความหื่น >_<

นักเขียนสู้ๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ติดตามเสมอ
จ๊วฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 16-06-2014 16:14:29
วรั๊ยๆๆ น้องโยรู้หรือป่าวว่าโบราณเค้าว่าไว้ว่าปาน คือสัญลักษณ์ที่คนรักในภพชาติก่อนได้ทำไว้
เพื่อให้ชาตินี้ได้ตามหากันเจอ หรือไม่ก็เป็นสัญลักษณ์ว่า "ใครเป็นของใคร" (นึกไปถึงปานรูปงูของโย....)
วรั๊ยๆ น้องโยเอ้ย ได้สามีเป็นงูชัวร์ อิอิอิอิ มันคือพรมลิขิตสินะ แล้วดาวเสาร์นี่เป็นหมาป่าชัวร์​ ฟันธง!!!!
ดูท่าว่าคนพิเศษๆแบบพี่อาซาจะมีอยู่หลายกลุ่ม แล้วคงยังมีทั้งดีไม่ดีชัวร์ ตายล้วๆ พี่อาซาจะจัดการไงเนี่ย
เราอยากอ่านต่อแล้วๆ > 0 < มาต่ออีกไวๆนะคะ เราจะรอน้า สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 16-06-2014 18:49:26
มาต่อเร็วๆนะจ๊ะ หลงเสน่ห์น้องงู
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 16-06-2014 19:07:09
โอ้ยยยยย อาซาาาาา น่ารักโฮกฮากเลยอ้ะ โยชิก็แบบ น่ารักเซม
อยากจะอ่านต่อวันนี้พรุ่งนี้เลยอ่าา ลงทุกวันได้ยิ่งดี
น่ารัก น่าติดตามสุดๆ//
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-06-2014 22:19:40
มีคนปองร้ายสินะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 17-06-2014 04:10:42
ว้าววว เนื้อเรื่องตื่นเต้นน่าอ่านดีมากค่ะ
เอาแบบตื่นเต้นลุ้นระทึกปนหวานกันไปเลยนะคะ อิอิ

ปล. เราว่าที่คุณริริเห็นคนอ่านน้อย เพราะเรื่องแนวนี้มันจำเป็นต้องปูเรื่องตอนต้นก่อน
ช่วงแรกจึงอาจจะเนิบกว่าเรื่องอื่นไปบ้าง แต่ถ้าอยู่ตัวแล้วจะชวนติดตามมากค่ะ
ยังไงก็สู้ๆนะคะ รับรองคนที่ตามอ่านต้องชอบแน่ ^-^
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Sakiloveanime2069 ที่ 17-06-2014 12:33:42
Love love I love this story thank you very much  :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 17-06-2014 13:39:23
ตื่นเต้นๆ เรื่องชักจะสนุกขึ้นทุกทีๆแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Sakiloveanime2069 ที่ 17-06-2014 13:54:42
ด้วยฤทธิ์ยาทำให้โยชิหลับลึกกว่าปกติ ลึกจนถึงขนาดที่ไม่รู้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเลื้อยผ่านร่างเล็กของโยชิไป ดวงตาสีทองวาวโรจน์ท่ามกลางความมืด ส่วนหัวชูชันตั้งขึ้นหันหน้าไปทางเด็กหนุ่มที่กำลังนอนหลับอย่างเป็นสุข

         ซี่ๆๆ~

         ลิ้นสองแฉกแลบโผล่ออกมา เสียงที่ดังขึ้นท่ามกลามความเงียบเหมือนต้องการจะเอ่ยบางสิ่งบางอย่าง น่าเสียดายที่โยชิหลับไปแล้ว จึงไม่อาจเข้าใจได้

         ลำตัวยาวใหญ่เลื้อยคลอเคลียร่างของเด็กหนุ่มอย่างนุ่มนวลชวนเอาอกเอาใจ ยิ่งเป็นการขับกล่อมให้นอนหลับสบายมากขึ้น โยชิกระถดตัวเข้าความความอบอุ่นที่โอบรัดเอาไว้ทั้งตัวอย่างเผลอไผล

         ความอบอุ่นและสัมผัส

         ราวกับคุ้นเคยมานานแสนนาน... :-[ :o8:  I love this
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 17-06-2014 15:28:37
ชอบจังเลย เพิ่งได้เข้ามาอ่าน รู้สึกพลาดมากที่เพิ่งเข้ามาอ่าน อยากบีบคอตัวเอง แอ๊ก  o18
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :m1: :m1:
เราชอบนิยายออกแนวแฟนตาซีอยู่แล้วมาเจอเรื่องนี้รักเลย อ่านไปมโนไปฟินได้อีก ได้กลิ่นอายเหมือนนิยายแปลของฝรั่งเลย
แอร๊ยยยยยยย เก๋  กู้ด เลิศมากค่ะ  :m4: :m4: ขอฝากตัวเป็นแฟนคลับด้วยน๊าา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁THREE❁ 15-06-14 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 17-06-2014 17:32:26
ชอบจุง  อยากค้นหาอาซาจังเลย   ทุกซอกทุกมุม  กริ๊วววววววววว

จะรออ่านอนที่เด็กน้อยโดนงู 'เขมือบ' นะจ๊ะ  อิๆ 

นิยายอ่านแล้วไม่งงนะคะ เข้าใจอยู่ 

เจอกันตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 17-06-2014 17:52:11
FOUR


           

           จังหวะการก้าวเดินของผมผ่อนช้าลงทันมีที่ได้เห็นใครบางคนยืนอยู่หน้าคณะ คนที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมาเยือนที่นี่ได้ และดูเหมือนว่าทุกคนกำลังคอยจับตามองว่าใครคือคนที่ชายหนุ่มสุดหล่อของมหาวิทยาลัยกำลังยืนรออยู่

           “เขามารอใครวะ” นิกกี้ตั้งข้อสงสัย ผมลอบกลืนน้ำลายลงเอื้อกใหญ่ คนที่อาซามารอจะเป็นใครถ้าไม่ใช่ผม เพียงแต่ผมคาดไม่ถึงว่าเขาจะมารอแบบโจ่งแจ้งด้วยการยืนโดดเด่นอวดความเท่ให้สาวๆมองกันอย่างคลั่งไคล้หลงใหล

           โดดเด่นราวกับมีเวทมนต์

           “ไง” อาซาเอ่ยทักก่อนทันทีที่ผมเข้าไปใกล้ ผมเลยได้แต่ตอบทักทายอ้อมแอ้ม เพื่อนอีกสองคนมองผมทีมองอาซาทีด้วยความตกใจระคนสงสัย คนแถวๆนั้นก็อ้าปากค้างไปตามๆกัน มันก็น่าจะตกใจอยู่หรอก คนอย่างอาซาควรจะมารอผู้หญิงที่สวยระดับนางงามนางแบบมากกว่าที่จะเป็นผู้ชายหุ่นเรียบเป็นไม้กระดานเรียกพี่อย่างผม

           “แกๆ ไอ้โยชิมันไปรู้จักเขาตั้งแต่ตอนไหนวะ” เติร์ดกระซิบถามนิกกี้ที่เบิกตาโตแทบจะถลนออกมาจากเบ้าตา แต่กระซิบซะเหมือนตะโกน มีเหรอที่ผมจะไม่ได้ยิน

           “นั่นดิ แล้วทำไมถึงมารอกันได้ล่ะเนี่ย แกรู้ป่ะ” นิกกี้กระซิบกลับ แต่ถ้าจะกระซิบดังขนาดนี้ ก็คุยกันตรงๆเลยเถอะ มันไม่ได้เงียบเลยสักนิด -_-;

           “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า! ก็เห็นอยู่ด้วยกันเนี่ย!” เติร์ดขึ้นเสียงดัง ผมหันกลับไปมองเพื่อน ที่พอเห็นผมมองก็สะดุ้งหัวเราะแหะๆ

           “ไปกันหรือยัง” อาซาถามผมก่อนจะหันไปพูดกับนิกกี้และเติร์ด

           “ฉันจะพาโยชิกินข้าว คงไม่มีปัญหาใช่ไหม” น้ำเสียงเรียบนิ่งฟังดูแข็งทื่อๆ ตอนนี้เขาเหมือนคนพูดไม่เก่ง ถ้าให้เดา ผมว่าเขาน่าจะวางตัวไม่เก่งเวลาอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆมากกว่า

           “อ่อ โอเค ไม่มีปัญหา” นิกกี้ที่ได้สติก่อนใครเอ่ยอนุญาต เติร์ดเลยก็เลยพยักหน้าตาม

           อาซากระตุกยิ้มมุมปาก พาลเอาหลายๆคนที่ได้เห็นถึงกับเข่าอ่อน แทบจะละลายลงไปกับพื้น แล้วนับประสาอะไรกับผมที่ได้เป็นเจ้าของรอยยิ้มอบอุ่นนั่นจะไม่ขาสั่นมือสั่นแทบเป็นลมทั้งยืน

           “ไปกันเถอะ”

           ผมค่อยๆก้าวเดินตามอาซาอย่างเงอะๆงะๆไปที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัย แอชยูสร้างตามแบบมหาวิทยาลัยในอเมริกา ไม่เหมือนมหาวิทยาลัยของไทยที่มีถนนตัดผ่านตรงกลาง หรือพาดผ่านแต่ละคณะ จะเป็นเหมือนโรงเรียนที่มีลานจอดรถแยกด้านหน้า และพื้นที่ข้างในจะเป็นสวน ลานกีฬาเป็นอาคารและทางเดิน ถ้าไม่เดินก็ปั่นจักรยานเอา แต่ขับรถเข้ามาไม่ได้เป็นอันขาด ถนนมีเพียงเส้นเดียวเท่านั้นที่มุ่งหน้าไปทางหอพัก

           และการที่ผมได้เดินเคียงข้างอาซา ค่อนข้างเรียกสายตาอยากรู้อยากเห็นจากคนรอบข้างให้หันมาสนใจพวกเรา

           น่าอายชะมัด

           ผมไม่ได้อายที่จะเดินกับเขา แต่อายที่ตัวเองไม่ดีพอให้เดินคู่กับเขาต่างหาก

           ถึงลานจอดรถอาซาก็เปิดประตูให้ผมขึ้นนั่งก่อนจะออกรถ ผมไม่เปิดปากพูดอะไรเพราะมัวแต่เขินและวางตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าป่านนี้คนในคณะจะมองผมยังไงบ้างที่ได้ใกล้ชิดกับคนดังของมหาวิทยาลัยแบบนี้ ไม่อยากจะคิดเท่าไหร่ เรื่องนินทามีในทุกวงสังคมไม่เว้นแม้หญิงหรือชาย

           “เป็นอะไร กังวลเหรอ” อาซาหันหน้ามาถาม ผมพยักหน้าเบาๆก่อนจะหันไปฉีกยิ้มให้เขา

           “ฉันกังวลนิดหน่อยน่ะ ไม่รู้เพื่อนๆและคนอื่นจะคิดยังไง”

           “ใครจะคิดยังไงก็ไม่เห็นจะต้องใส่ใจอะไรเลย ใส่ใจแค่ฉันก็พอ” คำพูดพร้อมสายตาพราวเสน่ห์ทำให้หัวใจผมเต้นแรง ใบหน้าร้อนเห่อจนกลัวว่ามันจะขึ้นสีแดงประจานอาการเขินอาย

           จู่ๆอาซาก็ถอนหายใจ ผมหยุดอาการเขินเอาไว้แต่เพียงเท่านั้น หันมองเสี้ยวหน้าด้วยความเป็นห่วงว่าเขาจะเป็นอะไร สีหน้าเขาดูเคร่งเครียดกับการจ้องถนน ทั้งๆที่ถนนก็ออกจะโล่ง ไม่มีอะไรน่าเครียดสักนิด

           “มีอะไรหรือเปล่า”

           “ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดอะไรนิดหน่อย”

           “แน่ใจนะ ถ้าวันนี้นายไม่สะดวก เราค่อยไปกันวันหลังก็ได้”

           “ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก และวันนี้ฉันว่าง”

           หมายความว่าวันอื่นเขาไม่ว่างหรือเปล่า แต่เอาเถอะ ถ้าเขาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร ผมก็เชื่ออย่างนั้น แม้ว่าผมจะเป็นห่วงเขาอยู่ลึกๆก็ตาม

           อาซาขับรถมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เป็นร้านอาหารแนวคันทรีอยู่แถบชานเมือง บรรยากาศเย็นย่ำที่ท้องฟ้าทอแสงประกายสีส้มอ่อนๆ บวกกับแสงไปสีเหลืองนวลที่ประดับอยู่ทั่วบริเวณร้าน ทำให้บรรยากาศยิ่งดีอบอุ่นและโรแมนติกมากยิ่งขึ้น

           “ร้านสวยจัง” ผมเอ่ยปากชม สายตากวาดไปรอบๆบริเวณ ยิ่งได้เห็นแบบนี้ยิ่งคิดถึงที่บ้าน ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนนี้ผมคงกำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวนโดยมีพี่ยอร์ชคอยปรามและพ่อคอยดุแบบไม่จริงจัง

           อ่า...คิดถึงบ้านจัง

           “คิดอะไรอยู่เหรอ”

           เสียงเนิบนาบของอาซาเรียกให้ผมรู้สึกตัว นี่ผมเผลอใจลอยในเวลาที่แสนมีค่าแบบนี้ได้ไงกัน

           “คิดถึงที่บ้านน่ะ บ้านฉันเป็นไร่องุ่นนะ แล้วก็เป็นรีสอร์ทเล็กๆด้วย อยู่บนเชิงเขาหน่อย อากาศดีสุดๆ ถ้าปิดเทอมนายไม่ได้ไปไหน ไปเที่ยวที่บ้านฉันได้นะ พ่อกับพี่ชายฉันใจดีมากๆ”

           ผมอยากให้ทุกคนได้ไปเที่ยวที่บ้าน เพราะผมภูมิใจมากๆที่ได้อยู่ในสถานที่ที่สวยงามอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ไม่ใช่มีแต่ตึกราแน่นเอียดและควันโขมงของรถจนไม่มีอากาศหายใจอย่างในกรุงเทพ ถ้าเพื่อนๆได้ไปเที่ยวที่บ้านของผม ทุกคนจะต้องหลงรัก ไม่เว้นแม้แต่อาซา ผมรับรองได้เลย

           นี่ผมเปล่าหาเรื่องชวนเขาเข้าบ้านนะ สาบานได้

           “เอาสิ ฉันอยากไป” อาซายิ้มตอบ แต่ผมยิ้มแก้มปริเลย ดีใจที่เขาตอบตกลง

           “จริงเหรอ ไปจริงๆนะ นายจะต้องชอบแน่ๆ”

           นี่ผมออกนอกหน้าเกินไปไหม แต่ผมดีใจจริงๆนะ ว่าก็ว่าเถอะ ยอมรับเลยว่าผมชอบเขา...ดูจะใจง่ายไปหน่อย แต่มันก็เป็นความจริง

           “จริงสิ ฉันอยากไปบ้านนาย”

           มื้อค่ำวันนี้ผ่านไปด้วยดี อาซาคอยดูแลผมทุกอย่าง ทำให้ผมรู้สึกสบายใจเหมือนที่ได้อยู่กับคนในครอบครัว บทสนทนาส่วนมากจะเป็นผมที่เป็นคนพูดเสียส่วนใหญ่ ส่วนอาซาก็ทำหน้าที่คนฟังที่ดี มีตอบและซักถามบ้าง แต่เขาพูดมากไม่เท่าผมหรอก

           “ฉันเล่าเรื่องของฉันหมดแล้ว นายก็เล่าเรื่องของนายบ้างสิ” ผมที่พูดจ้ออยู่คนเดียวเริ่มเหนื่อย รู้สึกคอแห้งจึงยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม อาซาเห็นแล้วคงเกิดอาการสงสารหรือไม่ก็เวทนา เขาถึงได้เรียกพนักงานเพื่อสั่งน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง ผมทำหน้างอใส่เขาเล็กน้อยที่โดนล้ออ้อมๆ

           “ฉันคงพูดมากเกินไปใช่ไหม ถ้ารำคาญก็บอกได้นะ”

           “ฉันชอบฟังเสียงของนายนะ”

           “จริงนะ ฉันกลัวนายรำคาญ”

           เขาไม่ตอบ แค่ยิ้มนิดๆแล้วส่ายหน้า ผมจึงเบาใจ

           “เล่าเรื่องของนายให้ฟังหน่อยสิ” ผมอยากจะรู้เรื่องของเขาจากปากของเจ้าตัวจริงๆ ไม่ใช่ฟังจากปากต่อปากของคนอื่น เท่าที่ได้คุย อาซาไม่เป็นเหมือนกับที่คนอื่นเล่ามาเลยสักนิด

           เย็นชาตรงไหน ออกจะเป็นคนที่อบอุ่น

           หยิ่งงั้นเหรอ นิสัยของอาซาเป็นกันเองจะตายไป

           คนพวกนั้นมั่วจริงๆ

           “ทำไมล่ะ เรื่องของฉันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก”

           “แต่ฉันอยากรู้นี่ นายรู้ไหมว่าคนอื่นพูดถึงนายว่ายังไง ฉันว่ามันไม่ยุติธรรมที่ฉันจะฟังความข้างเดียวโดยที่ไม่ฟังความจริงจากปากนาย”

           “ฉันไม่สนหรอกว่าใครจะมองฉันว่ายังไง”

           “แม้ว่าพวกเขาจะบอกว่านายหยิ่ง ไม่เป็นมิตร ไร้ความรู้สึกอย่างนั้นเหรอ” ผมเบิกตาโตกับท่าทางไม่ทุกข์ร้อนของอาซา

           “ช่างปะไร ฉันสนใจแค่ว่านายจะมองฉันยังไงมากกว่า”

           “เอ่อ...” ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกมองด้วยสายตาแบบนั้น ได้แต่หันซ้ายหันขวาแก้เขิน บอกเลยว่าถ้าใครได้สบตากับผู้ชายคนนี้แล้วไม่เขินก็คงเป็นเพราะตายด้านหรือไม่ก็ตาบอด

           “ว่าแต่...นายคิดยังไงกับข่าวที่เกิดขึ้นช่วงนี้” ผมเปลี่ยนเรื่องหาเรื่องคุย อาซาปล่อยช้อนในมือร่วงกระทบจานดังแกร๊งพลางเหลือบตามองผม ริมฝีปากของเขาเม้มสนิทแล้วก็ส่ายหน้า

           “ไม่คิดอะไร”

           “แต่ฉัน...”

           “ทางที่ดีนายไม่ควรเข้าไปยุ่งนะโยชิ มันอันตราย” เขาพูดเสียงนิ่งๆ แต่เปลี่ยนบรรยากาศให้วังเวงเหมือนอยู่ในป่าช้า ผมพยักหน้ารับแหยๆ แล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก เขาเงียบไปเลย ผมลอบสังเกตสีหน้าของเขาที่ดูเคร่งเครียดไม่ผ่อนคลาย

           หลังจากกินข้าวเสร็จและกำลังจะกลับ ผมก็เตรียมควักเงินออกมาจ่าย แต่อาซาดันชิงยื่นบัตรเครดิตจ่ายก่อน

           “อาซา ฉันต้องเลี้ยงนายไม่ใช่เหรอ” ผมท้วง ได้แต่มองตามหลังพนักงานเก็บเงินตาปรอย

           “ฉันชอบนะที่นายเรียกฉันแบบนั้น เรียกตลอดไปได้ไหม”

           “อาซา” ผมกดเสียงต่ำ ทำไมผมจะไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังเบี่ยงประเด็น

           “แค่มานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนฉันก็ถือว่าตอบแทนแล้วล่ะ”

           “แต่ฉันบอกว่าจะเลี้ยงนายนะ แบบนี้นายก็เสียเปรียบน่ะสิ”

           ผมยังคงไม่ยอม นอกจากจะให้อีกฝ่ายช่วยเรื่องรายงานที่เสร็จเรียบร้อยจนสร้างความอิจฉาให้เพื่อนๆหลายต่อหลายคนแล้ว จะให้อาซามาจ่ายค่าอาหารได้ไง แค่มานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนยังชดเชยอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

           “คนที่เสียเปรียบนะ มันนายต่างหากไม่ใช่ฉัน” พูดแล้วทำตาเจ้าชู้แบบนั้นใครจะไปมีสติทัดทานไหว

           เขาเดินนำผมที่บ่นงุ้งงิ้งๆไม่หยุดออกจากร้าน ให้ผมยืนรอที่สวนย่อมแถวหน้าร้าน เพราะอาซาเอารถไปจอดตรงที่จอดรถข้างหลังร้าน อย่างน้อยๆแสงไฟและกลิ่นดอกลีลาวดีก็ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้น ลมอ่อนๆพัดแผ่วเบา กิ่งไม้ใบหญ้าเอนลู่ไหวน้อยๆตามแรงลม

           เสียงเครื่องยนต์ดังอยู่ไม่ไกล ผมขยับเดินเตรียมจะขึ้นรถ แต่ก็ต้องชะงักเท้าเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า


          “งะ งู!”


           ลมหายใจแทบขาดห้วง ขาแข็งจนไม่กล้าก้าวหนี สายตาจ้องงูตัวสีดำสนิทที่ชูคอจ้องหน้าอยู่ ความกลัววิ่งพล่านไปทั่วร่าง หัวใจเต้นแรงสลับกับเต้นช้าจนแทบจะกลายเป็นหยุดเต้น

           ทำยังไงดี ตายแน่ๆเลยไอ้โยชิเอ้ย!

           อสรพิษร้ายจับจ้องผมไม่วางตา ผมกลัวว่าถ้าขยับตัวแล้วมันจะพุ่งเข้ามากัด แต่พอยืนนิ่งอยู่เฉยๆ งูตัวนั้นกลับเลื้อยเข้ามาใกล้มากขึ้น ผมก้าวถอยหลังด้วยความกลัวสุดขีด ดวงตาเบิกกว้าง เนื้อตัวสั่นไปทั้งตัว

           “อะ อาซา” ละล่ำละลักเรียกอาซาเบาๆ ไม่กล้าส่งเสียงดังเพราะกลัวว่างูจะตกใจแล้วพุ่งเข้ามากัด ในหัวคิดไกลไปต่างๆนานา ขนทั้งร่างลุกชัน น้ำตาแห่งความรังเกียจและหวาดกลัวรินไหลออกมา ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่นข่มเสียงสะอื้น ผมกลัว ใครก็ได้ช่วยที

           ซี่ ซี่ ~

           งูตัวใหญ่แลบลิ้นสองแฉกออกมา ยิ่งทำให้ผมกลัวจนแทบจะขาดใจ ขาทั้งสองข้างลากถอยหลัง แต่ดันไปเหยียบลงบนดินที่ชื้นแฉะทำให้ร่างทั้งร่างไถลลื่นไปกับพื้น

           “ฮืออออ อย่าเข้ามานะ อาซา ช่วยฉันด้วย!!!”

           บรื้นนน!

           เอี๊ยดดด!

           “โยชิ!!!”

           “ฮืออ อาซา ช่วยด้วย!” เมื่อเห็นว่ามีคนมีมาช่วยผมก็ร้องโฮออกมาอย่างน่าสงสาร ผมกลัว ผมเกลียดมัน ผมไม่อยากถูกงูกัดอีกครั้ง!

           ใครก็ได้เอามันออกไปไกลๆผมที!!!

           “ฮืออ ฉันกลัว ฮืออ พ่อจ๋าพี่จ๋า หนูกลัว” ผมเหมือนคนที่เสียสติ มือหนาที่เย็นจัดกอดปลอบผมเอาไว้ ลูบหลังลูบหัว กระซิบอย่างอ่อนโยน

           “ไม่เป็นไรแล้วนะคนเก่ง ฉันอยู่นี่แล้ว ชู่ว”


           .....................

           ASA

           ผมอุ้มโยชิขึ้นรถ แต่ต้องเข้าทางฝั่งคนขับเพราะโยชิไม่ยอมปล่อยตัวผมแม้แต่น้อย ผมให้เขานั่งคร่อมตักหันหน้าเข้าหาตัว เขากอดคอผมแน่น ซุกใบหน้าลงที่ซอกคอร้องไห้ไม่หยุด เสียงสะอึกสะอื้นน่าสงสารเหมือนมีดกรีดลงที่กลางใจ

           ไอ้งูสารเลวนั่น กล้าดียังไงมาทำให้ดวงใจของผมร้องไห้

           สมแล้วกับความตายที่มันควรได้รับ!

           โยชิร้องไห้จนเหนื่อยและหลับไป ผมขับรถมาถึงหน้าหอพักของเขา ลงจากรถโดยมีลูกงูตัวน้อยๆเกาะอยู่ ผมระวังมากที่สุดไม่ให้สะเทือนถึงคนที่กำลังหลับใหล เดินผ่านเข้าหอพักไปถึงตัวลิฟต์ ตรงขึ้นไปยังชั้นที่โยชิอยู่ เมื่อมาถึงหน้าประตู ผมเพ่งสายตาผ่านประตูมองเข้าไปด้านใน

           ไม่มีใครอยู่...

           ผมควานหากุญแจห้องในกระเป๋าของโยชิด้วยความทุลักทุเล แต่ดีที่พอจำได้ว่าเคยเห็นโยชิเก็บไว้ในช่องเล็กๆด้านในกระเป๋า คงเป็นเพราะทั้งเหนื่อยและตกใจสุดขีด เขาถึงได้หลับไม่รู้เนื้อรู้ตัวแบบนี้

           ไขเข้าไปในห้องได้แล้ว ก็อุ้มเด็กน้อยวางไว้บนเตียง แขนเรียวที่โอบรอบลำคอผมเกาะแน่นไม่ปล่อย ปากพึมพำละเมอออกมาเบาๆ

           “ไม่เอา ออกไป ช่วยด้วย” เขาหลับตาเบะหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ สีหน้าทรมานกับการอยู่ในฝันร้าย

           ผมได้แต่ถอนหายใจก่อนจะพยายามแกะมือโยชิออก คว้าเอาตุ๊กตามาให้เด็กน้อยของผมกอดแทน ก่อนจะหาผ้ามาชุบน้ำเช็ดตัวที่เปรอะเปื้อนโคลนให้ ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาบนร่างเจ้าเด็กขี้แยทีละเม็ดจนหมด นิ้วมือลูบไล้รอยแดงข้างลำคอที่กำลังจางหายไป ละสายตาจากรอยแดงมาที่เนื้อตัวขาวเนียนละเอียด รอยปานรูปงูบนหน้าอกข้างซ้าย ผมใช้มือลูบไล้อย่างเผลอไผล รอยรักที่สลักจารึกมาหลายปีหลายชาติ ความปราถนาค่อยๆจุดประกายขึ้นทีละน้อย แต่ผมก็ระงับมันได้ในทันที รีบดึงมือตัวเองกลับก่อนที่จะเลยเถิดไปไกล ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดเนื้อตัวขาวละเอียดเบามือเกรงว่าเขาจะตื่น เสร็จแล้วก็จัดการทาแป้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นชุดนอนที่สบายตัว

           “ไม่เป็นไรแล้วนะคนดี” ผมลูบกลุ่มผมนุ่มเบาๆอย่างอ่อนโยน ก้มหน้าลงไปประทับจูบที่หน้าผากสวยได้รูป ก่อนจะลากลงมาที่จมูกสวย และริมฝีปากแสนเย้ายวน กดจูบติดๆกันโดยไม่ลืมที่จะสร้างรอยสีกุหลาบจางๆไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ผมหวงเขา ยิ่งรู้ว่าไอ้ดาวเสาร์อยู่ห้องเดียวกับเขาผมก็ยิ่งไม่ไว้ใจ พวกผมกับพวกมันไม่ถูกกันเท่าไหร่ ผมไม่อยากให้มันมายุ่งกับคนของผม เพราะผมไม่อยากให้เกิดปัญหากับโยชิ ไม่อยากให้เขาต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องบ้าๆ เขาสมควรได้ใช้ชีวิตอย่างคนปกติสุขทั่วไป ไม่ใช่แบบพวกผม

           ตั้งแต่วันที่เขาตอบรับเข้ามาเรียนที่นี่ ผมก็กังวลจนไม่เป็นอันทำอะไร อยากจะอยู่ให้ห่างแต่ก็เป็นห่วงเหลือแสน ที่แห่งนี้ไม่เหมาะกับโยชิ ไม่เหมาะเลยจริงๆ

           “ข้ารักเจ้า รักเจ้าเหลือเกินดาร์เรล”


           “ทานข้าวอร่อยไหม” คำถามของเวสตันไม่ได้มีความล้อเล่นเลยสักนิด

           “ก็ดี” แต่ผมก็ไม่ใส่ใจน้ำเสียงที่แดกดันมากนัก

           “นายควรจะต้องระวังให้มากกว่านี้อาซา พวกมันจับตาดูนายอยู่” เวสตันตำหนิ เขาเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม แต่แทบจะไม่มีใครเชื่อฟังคำสั่งเขาสักคนทั้งผมและฟรินน์ แต่ส่วนมากจะเป็นผมมากกว่าที่ไม่ฟัง บอกแล้วไงว่าผมไม่ชอบให้ใครมาออกคำสั่งกับผม

           ผมอาจจะดูเป็นคนดียามที่อยู่ต่อหน้าโยชิ แต่ลับหลัง ผมมันก็แค่คนเลวๆนิสัยแย่ๆคนหนึ่งอย่างที่คนส่วนมากพูด คนพวกนั้นไม่ได้พูดเกินจริงแม้แต่น้อย พูดน้อยไปด้วยซ้ำ ผมน่ะ ร้ายได้มากกว่าที่มนุษย์งี่เง่าพวกนั้นพูดกันเสียอีก

           “ได้ยินที่ฉันพูดไหมอาซา”

           “ได้ยินแล้ว” ผมหยุดเดิน จากที่กำลังจะขึ้นห้องเลยเปลี่ยนไปทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาแทน

           “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมทำหน้าเครียด”

           มีเวสตันคนเดียวที่อยู่บ้าน ผมตัดสินใจเล่าเรื่องของวันนี้ให้เวสตันฟัง ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของโยชิมากเกินความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นปารีสหรือจูเลียตเพราะผมกับพวกเธอไม่ได้สนิทมากพอที่จะพูดเรื่องส่วนตัว

           ผมรู้จักพวกเธอหลังเวสตันกับฟรินน์อยู่ประมาณสามร้อยปีให้หลังมานี้ พวกเธอไม่รู้เรื่องราวของผมกับโยชิ และผมไม่อยากให้รับรู้ด้วย ถึงปารีสจะเป็นแฟนเวสตันและจูเลียตเป็นเพื่อนของเธอที่เพิ่งจะมาอยู่ด้วย แต่สำหรับผม...ไม่สนิทก็คือไม่สนิท ไม่ต้องจำกัดความให้ยืดยาว

           “วันนี้โยชิเจองูที่ร้านอาหารตอนที่กำลังจะกลับ เป็นพวกชั้นต่ำที่กำลังหิวโซ เลยจะเข้าไปทำร้ายเขา จากที่ได้สบตากับมันแล้ว ก็เบาใจได้เปราะหนึ่งว่าไม่ใช่สายสืบจากพวกไหน” เพราะถ้าเป็นพวกชั้นสูงฝีมือดีจะไม่มีทางกลัวจนขวัญหนีดีฟ่อเพียงแค่พูดขู่หรือจ้องตาก่อนที่จะตายลงง่ายๆ

           “แต่ยังไงก็ยังวางใจไม่ได้ นายไม่ควรออกไปไหนมาไหนกับโยชิอีก” เวสตันสั่งห้าม ผมถอนหายใจทิ้ง ผมก็อยากจะให้เป็นอย่างนั้น แต่ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้สักที โยชิเหมือนแม่เหล็กที่มีแรงดึงดูด ผมจะรู้ตัวและหันมองหาเขาเสมอเวลาที่เขาอยู่ใกล้ๆ ผมพยายามที่จะอยู่ให้ห่าง แต่รู้ตัวอีกทีก็เดินเข้าไปอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว จะให้ผมทำไง ไม่ว่าจะเป็นตัว หัวใจหรือสมอง ผมห้ามไม่ได้สักอย่าง

           “ถ้านายไม่อยากให้คนที่นายรักต้องตกอยู่ในอันตรายก็เชื่อฉัน” เวสตันทิ้งท้ายก่อนจะกลายร่างเป็นอสรพิษสีเหลืองทองทั้งตัวเลื้อยจากไป ทิ้งให้ผมยืนคิดตามคำพูดของเขาแต่เพียงลำพัง

           “ฉันรักนาย” คำรักได้ถูกสายลมพัดพาไปหาคนที่นอนหลับใหลและขับกล่อมให้คนรักนอนหลับฝันดี



            .....................

           ‘ข้ารักเจ้า’

           ‘ข้าก็รักเจ้าเช่นกัน’

           ‘ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ข้าก็จะยังรักเจ้าอยู่แบบนี้ ข้าไม่มีวันที่จะลืมเจ้า แล้วเจ้าล่ะ เมื่อถึงวันนั้น จะลืมข้าหรือไม่’

           ‘ไม่ ข้าจะรักเจ้าเหมือนกับวันนี้ วันที่ข้ารักเจ้าสุดหัวใจ’

           เสียงพูดคุยดังแว่วอยู่ไกลๆ แต่ทำไมความรักความอบอุ่นถึงได้ตราตรึงอวบอวลอยู่ในความรู้สึกที่แนบชิดถึงเพียงนี้

           ‘ข้ารักเจ้า รักเจ้าเหลือเกินดาร์เรล’

           มันแน่นอยู่ในอกราวกับสัตว์ร้ายที่ต้องการการปลดปล่อย น้ำเสียง คำรัก ความรู้สึก ทั้งหมดต่างอัดแน่นจนค่อยๆพลั่งพรูออกมาเป็นหยาดน้ำตา

           เสียงสะอื้นฮักราวจะขาดใจ ความเจ็บปวดเมื่อรักแต่มิอาจได้ใช่ชีวิตอยู่ร่วมกัน เขาคนนั้นเป็นใคร ใครกันที่มีรักจริงใจได้ถึงเพียงนี้

           “เฮือก!!”

           ผมผวาสะดุ้งตื่นเหมือนร่างทั้งร่างถูกกระชากออกจากห้วงความฝันโดยที่ยังร้องไห้สะอึกสะอื้นแม้ว่าจะตื่นขึ้นมาแล้วก็ตาม ยกมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ในใจสับสนไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงร้องไห้แบบนี้ แต่เหมือนจิตสำนึกข้างในบอกว่าให้ร้อง ผมทรมาน เหมือนมีบางอย่างหายไปจากชีวิตผม เจ็บปวดจนแทบจะขาดใจ

           “ ฮึกๆๆ ฮือออออ”

           นี่ผมเป็นอะไรกัน...ทำไมถึงได้เศร้าใจได้ขนาดนี้

           แล้วผมร้องไห้ทำไม...ร้องหนักจนเริ่มกลัวตัวเองเพราะผมหยุดมันไม่ได้ หัวใจที่เจ็บร้าวราวกับจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ ผมหยุดรู้สึกไม่ได้เลย รู้เพียงอย่างเดียวว่าผมต้องร้อง ร้องไห้สมกับความเจ็บปวดที่แสนทรมานเหมือนถูกพรากจากของสำคัญ

           “ฮึก ฮือออ!”

           ...เกิดอะไรขึ้นกับผม ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร...



………..

           ก่อนจะสิ่งอื่นใด ริริขอกราบขอบพระคุณคนอ่านที่ให้การตอนรับเรื่องนี้ด้วยความรักอย่างอบอุ่น ซึ้งใจมากๆ น้ำตาจะไหล  :pig4: พูดจากใจจริงเลยค่ะ วันนี้ของคุยกันยาวหน่อย ถ้าไม่รีบอยากให้อ่านทอร์คของริริ ซึ่งเหมือนเป็นการนั่งจับเข่าคุยกันแล้วกันนะคะ  :hao7:

          จากตอนนี้ ถามจริงว่า...โยชิจะรุกอาซา หรืออาซาจะรุกน้อง ไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆพระเอกนายเอกเรื่องนี้ ใจง่ายพอกันทั้งคู่ กร๊ากกกกกกก น่าร้อกอ่ะ  :m3:

           เพราะริริเชื่อว่า ‘งู’ เป็นสัตว์ที่หลายๆคนไม่พิสมัย ส่วนมากเลยล่ะ ริริก็เช่นกัน แต่ว่า...สาเหตุที่แต่งมีอยู่ในเนื้อเรื่องว่าทำไมริริถึงจับพี่งูมาเป็นพระเอก ไม่ได้จับขึ้นมาแต่งลอยๆแน่ละ และริริเชื่อว่า ตอนนี้หลายคนคงหลงรักพี่งูของเราไปแล้ว แต่ต้องเบรกก่อนว่า ต่อให้รักอาซาแค่ไหน ถ้าเจองูในชีวิตจริงอย่าเข้าไปกอดมันนะคะ นางอาจไม่ใจดีแบบพระเอกเราก็ได้ 5555  :m14:

           รายละเอียดเรื่องนี้เยอะมากจริงๆ ปมค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ จะค่อยๆเฉลยออกทีละนิดทีละหน่อย ขอเพียงอย่าอ่านข้ามก็พอ เพราะจุดที่ข้ามอาจเป็นจุดที่สำคัญก็ได้ ริริพยายามแต่งโดยคั้นเอาแต่เนื้อ ใส่น้ำบ้างพอให้คลุกคลิกแต่ไม่ถึงกับน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง ฟีลลิ่งของเรื่องก็จะออกแนวขมุกขมัว ฝนฟ้ามืดครึ้ม ดูหน่วงๆ แต่ไม่ดราม่าหนัก แค่หน่วงไปทั้งเรื่อง ไม่มีพระเอกนายเอกทะเลาะผิดใจกัน แต่จะหน่วงด้วยเหตุผลที่น่าจะรู้ๆกันอยู่นะ ต้องรอดู ภาคนี้ไม่ได้ยาวมาก จะกระชับแต่ค่อนข้างลุ้นเกือบจะทุกตอนเลย

           ตัวละครจะมีงอกมาเรื่อยๆ ยังไงริริจะทำเป็นแผนผังมาให้หลังจากที่ตัวละครที่เด่นๆและค่อนข้างเด่นออกหมด แต่ก็ไม่เยอะจนจำไม่ได้ ไม่ต้องห่วงค่ะ เรื่องนี้คัดกรองตัวละครแบบพอประมาณ ก็จะวนเวียนอยู่ไม่กี่คน ใครที่ไม่จำเป็นริริก้จะไม่ใส่ชื่อ จะได้ไม่ต้องจำกันให้วุ่นวายเนอะ แต่ไม่เสียอรรธรสแน่นอน (มันมีด้วยเหรอไอ้ของพรรค์นั้น555)  :m23:

           แน่นอนว่าเรื่องนี้จะมีบางส่วนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องทไวไลท์ และมาจากความฝัน (บ่งบอกว่าเป็นคนชอบมโน)  และจากจินตนาการ (บ้านเรียกเพ้อ) เวลาอ่านถ้าเปิดเพลง A Thousand years ไปด้วยก็จะได้ฟีลมากๆ ฮ่าๆๆ ริริใส่เพลงลงในหน้านิยายไม่เป็น โหลดเก็บใส่คอมใส่มือถือไว้ แล้วก็เปิดคลอเบาๆตอนอ่าน เปิดได้ทุกตอนยันจบเรื่อง เพราะมันฟีลเดียวทั้งเรื่องแหละ ฟีลไหน...คือฟีลที่ฟังเพลงนี้และรู้สึกอยากร้องไห้อ่ะ ฟีลนั้นเลย มีใครเป็นเหมือนริริไหม มันไม่ได้เศร้านะ มันซึ้ง!!!  :o7:

           เอ๋...เม้าท์ยาว บ้าไปแล้ว ขอบคุณอีกครั้งที่เปิดใจเข้ามาอ่านเรื่องนี้ของริรินะคะ ค่อนข้างกังวลว่าจะทำออกมาได้ดีไหม แต่จะทำให้เต็มที่ที่สุด

           คอนเซ็ปของเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก ประโยคเดียวเลย Their love’s so beautiful that make you want to cry. และสำหรับริริร้องไปเยอะแล้วสำหรับเรื่องนี้ เน้นอีกครั้งว่าที่ร้องไม่ใช่เพราะเศร้า แต่มันซึ้ง!!!  :monkeysad:

           ซึ้งยังไง ต้องติดตามนะคะ เรื่องนี้จะพยายามลงให้สม่ำเสมอ ช้าสุดไม่เกินอาทิตย์ ตอนนี้แต่งไปได้ครึ่งเรื่อง บางตอนแต่งยากมาก สามวันถึงจะเสร็จ แก้ไปแก้มา นู่นนี่นั่น บางตอนรู้ปลายทางแต่เริ่มไม่ได้ ตัวช่วยคือกระทิงแดงแรงฤทธิ์ ริริจะสู้เพื่อคนอ่านทุกคน ฮึบ!  :katai4:

           พอละสำหรับวันนี้ ฝนตกบ่อย ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ ต่อให้อยากเจออาซาขนาดไหน แต่ก็อย่าเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ให้ฝนสาดหรือยุงเข้านะตัวเอง เค้าเป็นห่วง  :oni1:

           รักคนอ่านและคนที่คอมเม้นติชมวิจารณ์ให้ทุกคนม้ากมากกกก

           กอดๆ  :กอด1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 17-06-2014 18:03:43
ตอนประชุมกันนี่ฟีลลิ่งจากทไวไลท์เลย (ไม่รู้ รุ้สึกไปเองหรือเปล่า)

ตามต่อค่าาาาา เชียร์อาซาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 17-06-2014 18:14:27
หน่วงใจตอนโยชิร้องไห้  :mew2: :m15:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-06-2014 19:44:13
สงสารโยชิ :heaven
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 17-06-2014 19:59:56
ก่อนอื่น ต้องบอกว่ารักคนเขียนเหมือนกัน
ริริไฟท์ติ้ง!!! :กอด1:

คู่นี้คงรักกันแล้วไม่ได้อยู่ด้วยกัน
แต่ถ้าริริบอกว่าซึ้ง เราก็เชื่อว่าคงจบแบบมีความสุขแน่
รอตอนต่อไปน้าา :mc4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 17-06-2014 20:15:08
กี๊ซซซ   ชื่อตัวละครโผล่มาอีกแล้ว   คงไม่แคล้วเป็นชื่อชาติก่อนของ หนูโยแน่ๆ 

แล้ว  แบบนี้แสดงว่า   พ่องู  ก็อายุหลายร้อยปี แล้วสิ หรือ อาจจะพันปีหว่า  ตามเพลงเลย อิๆๆ

สงสารพ่องู  อยากรักก็รักไม่ได้     

จับทำเป็นพวกเดียวกันเยยจิ    เหอๆๆ (เริ่มหื่นอีกและ) 

เจอกัลตอนหน้านะ 

ปล  พ่องูนี่  อ่อย  หนูโยตลอดอ่ะเวลาอยู่สองคน น่าร๊อกกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-06-2014 20:31:04
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 17-06-2014 20:45:40
ชอบฉากหวานๆ ที่สุด  :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 17-06-2014 20:58:49
เย้ๆ เรื่องใหม่ของคุณริริ เค้าอ่านของริริทึกเรื่องเลย นี่ก็กลับไปอ่าน pretty boy กับ maybe รอบที่สอง อิอิชอบมากกกกก อ่านน้องเค้กทีไรร้องไห้ทุกที อิอิ

คิดแล้วว่าเรื่องนี้มันคล้ายๆทไวไลท์เลยแฮะ แต่ก็อยากให้ถึงตอนที่อาซากับโยชิมุ้งมิ้งกันเร็วๆจังเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: จ๊ะจ๋า ที่ 17-06-2014 21:13:58
เรื่องนี้ทำให้คิดถึงอิโมนี้อ่ะ  :hao6: ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน 55

โยชิน่ารักจัง เราชอบงูนะ ในชีวิตจริงด้วย งูน่ารักจะตาย เวลาที่มันแลบลิ้น ส่งเสียงชี่ๆๆ และจ้องตาเรานะ น่าร๊ากกก
แต่กอดไม่ได้

ตอนสุดท้ายที่โยชิร้องอ่ะ เราน้ำตาคลอเลย(ไรเนี่ย) มันบีบๆ ตามอ่ะ
สนุกมากค่ะ
รอตอนต่อไป
จ๊วฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 17-06-2014 21:25:39
รออ่านตอนต่อไปจ้า
 :mew1:  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 17-06-2014 21:26:41
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 17-06-2014 21:32:56
อาซาอบอุ่นมากกกกกก
ดูแลโยชิดีมากอ่ะ เจ๋งมากพ่อพระเอก
แล้วก็อยากรู้หลายๆปมแล้วววว
อ่านแล้วแบบค้างคาใอยากให้ปมเฉลยเร็วๆ
อ่านไปลุ้นไป มาต่อเร็วๆน้าริริ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 17-06-2014 21:39:14
 o13 o13 :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 17-06-2014 22:15:52
อุตส่าห์ได้นั่งคร่อมตักทั้งทีทำไมต้องเป็นตอนหลับ  ขอรีเควสท่านี้แบบมีสติค่ะ  :hao6: 

พี่อาซาไม่วายตีตราจองอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 17-06-2014 22:22:23
ถ้าริริไม่เตือน เห็นงูก็คงจะเข้าไปกอดจริงๆ
อาซาต้องรุกสิ หนูโยเป็นรับไปเถอะนะลูก
ไม่รู้ทำไมยิ่งอ่านยิ่งหลงเสน่ห์อาซา
อยากเกิดมามีปานรูปงูบ้างจังเลย งุงิ :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 17-06-2014 22:39:41
เป็นปลื้มกับพ่องูมาก  :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-06-2014 00:48:21
มาขออ่านเรื่องนี้ด้วยคน

อยากบอกว่าสนุกมากๆเลย

โดยเฉพาะคาเรกเตอร์(เขียนถูกป่าว)ของพระเอกชอบๆ

แต่นายเอกเหมือนอ่อนไปหน่อย อิอิ

มาเป็นกำลังใจและติดตามแน่นอนครับ

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 18-06-2014 01:47:24
เรื่องเกี่ยวกับงูแฮะน่าสนุกมากๆ

รออ่านตอนต่อไปนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 18-06-2014 06:23:30
ลุ้นเนื้อเรื่องคะ ว่าจะออกมาแบบไหน รอๆๆๆๆนะคะ :mew4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 18-06-2014 06:35:36
อ่อนโยนและใจดีกับคนที่รักคนเดียว แอร้ยยย :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 18-06-2014 08:52:37
สงสาร หนูโย จัง โอ๋ๆๆ ไม่เป็นไรน้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 18-06-2014 19:03:07
รอติดตามตอนต่อไป
อยากรู้เรื่องในอดีตแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-06-2014 19:32:48
วันนี้จะมาป่าว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 18-06-2014 19:58:38
ปลื้มอาซา สงสารโยชิ แต่รักริริ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 19-06-2014 01:20:10
เรื่องนี้ทำให้ตื่นเต้นทุกตอน ชอบแนวนี้มากๆ เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า สู้ๆ ^^
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 19-06-2014 02:17:20
มาตามอ่านค่ะ 
ส่วนตัวก็ชอบเรื่องลึกลับแฟนตาซีแบบนี้อยู่แล้ว
ตอนนี้เพิ่งแรกๆ ยังไม่มีไรจะคอมเมนท์ค่ะ  อิอิ  เอาเป็นว่าจะคอยอ่านต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 19-06-2014 03:13:19
แฟนตาซีง.งู สินะ มีหมาป่า มีกลุ่มๆ รออ่านๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Sakiloveanime2069 ที่ 19-06-2014 12:41:36
Thank you very much I love this >__<
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: beer ที่ 19-06-2014 17:25:52
ชอบแนวนี้มาก อ่านแล้วลุ้นตาม เมื่อไหร่ปริศนาในอดีตจะเปิดเผยน้า
อยากรู้ว่าทำไมต้องแยกกัน เห็นอาซาบอกรอโยชิมานาน  :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 19-06-2014 20:44:02
พ่องูอบอุ่นจางงง ~
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FOUR❁ 17-06-14 [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 19-06-2014 21:34:50
สนุกค่า ชอบแนวนี้มากๆ เลย

ติดตามต่อไปแน่นอนค่ะ
หัวข้อ: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-06-2014 22:04:21
FIVE





              หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมอะไรไป ผมลืมเรื่องเมื่อวานไปเสียสนิท

              ตั้งแต่ตอนที่ตื่นจากฝันร้ายแล้วก็นอนลืมตาร้องไห้อย่างไม่รู้สาเหตุอยู่สักพัก หัวใจที่บีบรัดอย่างเจ็บปวดก็คลายตัวลง เมื่อน้ำตาบนหน้าเริ่มแห้ง ผมก็ตระหนักได้ว่าตอนเช้ามีเรียน และถ้าไม่ลุกออกจากที่นอนเดี๋ยวนั้นผมได้ไปเข้าเรียนสายแน่ๆ เลยรีบตวัดตัวลงจากเตียงเข้าห้องน้ำ ไม่ทันได้คิดอะไรทั้งสิ้น

              แต่ตอนนี้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานวิ่งผ่านสมอง เกิดทั้งภาพและเสียงที่ผมได้เผชิญหน้าอสรพิษร้ายอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง แต่ให้ความรู้สึกที่ต่างกัน ครั้งแรกในวันที่ฝนตก งูที่เลื้อยอยู่บนโคมไฟเหนือหัวไม่ได้มีแววตาที่จ้องจะทำร้ายเหมือนกับตัวเมื่อวาน ผมไม่ได้บ้าแต่ผมรู้สึกได้

              ผมรอดมาได้ยังไง

              แล้วอาซาล่ะ เขาช่วยผมไว้นิ

              ที่น่าแปลกคือผมกลับมานอนที่ห้องได้ยังไง แถม...เสื้อผ้ายังถูกเปลี่ยนอีกด้วย ตื่นมาก็มีผมอยู่คนเดียวในห้อง ไม่เห็นดาวเสาร์เลย แล้วใครล่ะที่จะเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ถ้าไม่ใช่...อาซา

              โอ้พระเจ้า! นี่ผมเขินเขาอีกแล้วเหรอ ไอ้โยชิเอ้ย แกโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ อาบน้ำกับเพื่อนผู้ชายด้วยกันก็เคยมาแล้ว ทำไมยังเขินได้มากขนาดนี้อีกก็ไม่รู้ ใครรู้เขาอายตายเลยเกิดเป็นผู้ชายเสียเปล่า

              “ช่างเถอะ ไว้ค่อยไปถาม” สะบัดหัวเรียกสติกลับเข้าร่าง มือหยิบกระเป๋าสะพายข้างขึ้นคล้องพาดบ่า ตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนจะออกจากห้อง

              กลิ่นน้ำค้างบนยอดหญ้ากับอาการเย็นๆ ผมสูดลมหายใจเข้าปอด แต่ต่อให้ที่กรุงเทพจะเช้าสักแค่ไหน อากาศก็ไม่ดีเท่ากับที่เชียงใหม่เลยสักนิดเดียว แม้ว่าในมหาวิทยาลัยจะเทียบเท่าได้กับป่าก็เถอะ

              ก่อนที่จะเดินไปถึงคณะ ผมเหลือบไปเห็นร่างคุ้นตาเดินอยู่ไม่ไกล แต่ทางที่อาซากำลังเดินไปมันเป็นป่าด้านหลังมหาวิทยาลัย จะเรียกว่าป่าก็ไม่ถูกนัก แต่เพราะด้านหลังเป็นพื้นที่ที่ปลูกต้นไม้ใหญ่โตเอาไว้มาก มองไปจึงเห็นแต่ต้นไม้ ทุกคนเลยเรียกว่าป่า แต่ที่พิเศษไปมากกว่านั้นคือที่นั่นเป็นส่วนหวงห้ามเพราะเป็นบ้านพักของพวกอาซา ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับอีกสามทิศ

              มาคิดๆดูแล้ว ผมว่ามหาวิทยาลัยนี้มันแปลกเกินไป หลายสิ่งหลายอย่างดูไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย

              ผมมองแผ่นหลังกว้างจนลับสายตาหายเข้าไปในป่าแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะก้าวตามไป คงไม่ได้เข้าเรียนคาบเช้าของวันนี้แล้ว ผมคิดว่าผมมีคำถามจะถามอาซา

              หันซ้ายแลขวาเพื่อดูว่ามีใครสังเกตเห็นผมหรือเปล่า แต่รอบๆบริเวณด้านหลังของมหาวิทยาลัยมักจะปลอดคน วางใจได้ว่าต่อให้ผมเดินเข้าไปในป่าตอนนี้ก็ไม่มีใครพบเห็นเอาไปฟ้องอธิการบดีแน่นอก ยกเว้นแต่คนที่ผมตามหาจะไปบอก

              ประตูรั้วสูงปิดไม่สนิท ผมเอื้อมมือผลักมันให้เปิดอ้าออก ทางเดินยาวไปข้าสงหน้า สองข้างทางมีแต่ต้นไม้สูงใหญ่ดูวิเวกวังเวงชอบกล แต่ผมก็ไม่ได้ตัดใจถอยห่าง เลือกที่จะเดินเข้าไป

              เมื่อเดินเข้ามาในป่าผมก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งรอบด้าน มีต้นไม้บางชนิดที่เคยเห็นในรูป แต่พ่อบอกว่าหาดูได้ในป่าที่อุดมสมบูรณ์เท่านั้น ซึ่งก็ควรจะเป็นบนป่าบนภูเขาใหญ่ถึงจะถูก ไม่ใช่ในเมืองกรุงที่มีแต่มลพิษแบบนี้

              โลกนี้ช่างแปลกขึ้นทุกทีๆแล้วสินะ

              โดยเฉพาะผมที่พาตัวเองเข้ามาอยู่ในที่แปลกๆ

              “หายไปไหนของเขานะ”

              ทั้งที่ก็เดินตามมาติดๆ แต่ผมกลับมองหาอาซาไม่เจอ เดินไปไหนของเขากันไวชะมัด

              สองเท้าย่ำลงบนดินที่ชื้นแฉะ กวาดสายตามองไปรอบๆสลับกับมองพื้นดิน เกรงว่าจะเดินสะดุดตอไม้เข้าจนเจ็บตัว แต่บนพื้นกลับปรากฏรอยลากที่คดเคี้ยวเป็นเส้นคลื่นยาวตรงไปข้างหน้า

              “รอยอะไร” ผมพึมพำกับตัวเอง ผมต้องการรอยเท้าของอาซา ไม่ใช่รอยแปลกๆอะไรแบบนี้ เหมือนรอยตัวอะไรสักอย่างที่เคยเห็นในหนังสือตอนที่ทำรายงาน...

              งู?

              แต่ใหญ่ขนาดนี้...ถ้าอยู่บลาซิลคงคิดว่ามีอนาคอนด้ามาเลื้อยเล่นให้ใจสั่นขวัญแขวน

              เพียงแค่คิดขนก็ลุกซู่ซ่าขึ้นมาเต้นแทงโก้ แทบอยากวิ่งหนีออกไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ถ้าผมหนีไปตอนนี้ แล้วอาซาล่ะ ผมควรจะต้องรีบหาอาซาให้เจอก่อนที่เขาจะถูกงูกัดตาย

              นั่นไง!

              ในพื้นที่โล่งกว้างพอประมาณ บริเวณนั้นมีต้นหญ้าปกคลุมและมีต้นไม้ต้นเล็กๆออกดอกอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเป็นกระจุก อาซานอนหงายกับพื้นหญ้าอย่างกับเอ็ดเวิร์ดในหนังเรื่องทไวไลท์ แต่ต่างกันตรงที่เอ็ดเวิร์ดเป็นแวมไพร์ ส่วนอาซาก็เป็นคนธรรมดา

              แต่ถ้าอาซาจะเป็นแวมไพร์ เขาก็คงเป็นแวมไพร์เจ้าเสน่ห์ที่ดูดีเอามากๆ และเชื่อว่าทุกคนจะยอมพลีกายให้เขาได้ดื่มเลือดทุกหยาดหยดด้วยความเต็มใจแม้แต่ผมเอง

              เอ๊ะ! นี่ผมคิดอะไรเพ้อเจ้ออยู่

              ไม่แปลกถ้าจะเก็บไปฝันเป็นตุเป็นตะขนาดนั้น

              เพิ่งได้สังเกตอาซาจริงๆจัง เขาตัวสูงกว่าผมพอสมควร ผมสูงร้อยเจ็ดสิบสาม เขาน่าจะร้อยแปดสิบกว่า รูปร่างเขาสูงใหญ่ตามแบบฉบับฝรั่ง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าบึกบึน ออกแนวสูงโปร่งมากกว่า ผมชอบนะ...กำลังพอดี กอดแล้วน่าจะอบอุ่น

              เอ๊ะ?...นี่ผมคิดอะไรไม่ดีกับอาซาอีกแล้วใช่ไหม

              ก่อนที่ผมจะคิดอะไรเลยเถิด ผมควรจะหยุดทุกอย่างไว้แค่ในความคิดเท่านั้น อย่าให้เผลอทำเชียว

              “เฮ้อ...อาซา” ผมเรียกอาซาที่นอนหลับตาอยู่ ขาก็ค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้ ไม่ให้เกิดเสียงดังจนทำให้เขาตกใจ

              แต่อาซาเพียงแค่ลืมตาขึ้นมองผมที่ยืนอยู่เหนือหัว เขาดูตกใจไม่น้อยที่เห็นผมอยู่ที่นี่ คิ้วเข้มขมวดเป็นปม ผุดลุกขึ้นนั่งทันที สีหน้าของเขาเหมือนจะปรามว่าผมทำไม่ถูก ผมจึงทำได้เพียงยืนก้มหน้าเหมือนเด็กมีความผิด จนเขาถอนหายใจเบาๆ ผมถึงได้ช้อนตาสบเข้ากับดวงตาสีดำเข้ม

              “มีอะไรเหรอ นั่งลงสิ” เขาพูดนิ่งๆ นิ่งมากจนผมเกรง

              “เอ่อ คือ...” แทบจะลืมไปหมดแล้วว่าตามอาซามาทำไมตั้งแต่เห็นรอยงูที่เลื้อยอยู่บนพื้น ใช่ไม่ใช่ผมก็ไม่รู้แหละ คนมันกลัว ยิ่งเจอจังๆสองครั้งสองคราในช่วงเวลาไม่ถึงเดือนก็ไม่แปลกถ้าผมจะจิตตกเข้าขั้นเกิดอาการหลอน

              “นายไม่ควรเข้ามาที่นี่คนเดียวนะ” อาซาเตือน ผมพยักหน้ารับรู้ ถ้าไม่ใช่เพราะอยากเจอ อยากพูดคุยถามไถ่จนลืมตัว ผมก็คงไม่เดินเข้ามาในนี้หรอก

              เพราะรู้สึกว่าอยู่กับอาซาเหมือนกับอยู่กับคนในครอบครัว คุ้นเคยและอบอุ่น ถึงได้อยากอยู่ใกล้ และความรู้สึกแบบนี้ก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นทุกที และยิ่งชอบอาซาแล้วด้วย...

              “บ้าๆๆ” คิดบ้าอะไรอยู่วะ!

              ผมสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดพิลึกพิลั่นออกจากหัว แต่หารู้ไม่ว่ามันไม่ได้หลุดออกจากใจเลยแม้แต่นิด

              “เป็นอะไรไป” เขาถาม

              “เปล่าหรอก แค่คิดอะไรบ้าๆน่ะ” ผมหัวเราะแห้งๆ อาซาทำหน้าสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถาม จะให้บอกได้ยังไงล่ะว่าคิดไม่ดีกับอีกฝ่ายอยู่ ถ้าอาซารู้ว่าผมแอบชอบ...

              ไม่! ไม่ได้เป็นอันขาด จะให้อาซารู้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมอีกก็ได้

              “แล้วตกลงมาทำอะไรที่นี่” อาซาถามอีกครั้ง

              “ก็ ตามนายมา” ผมสารภาพ สีหน้าเจื่อนลงเรียกความสงสาร กลัวจะโดนดุ

              “ตามฉันมา? มีอะไรหรือไง”

              “ก็ เรื่องเมื่อวาน...” ผมขึ้นต้น แต่ก็ถูกอาซาเอ่ยแทรกเหมือนเขาจะเดาใจได้ว่าผมต้องการจะพูดอะไร

              “ฉันขอโทษนะ ที่พานายไปเจอเรื่องแย่ๆ”

              แต่ผมไม่ได้จะโทษว่าเป็นความผิดเขาเสียหน่อย

              “ไม่ๆๆ มันไม่ใช่ความผิดของนายหรอก ฉันเองก็ไม่ระวัง อย่างว่าแหละ หน้าฝนงูชุมเป็นธรรมดา” ผมเบ้หน้าไม่ชอบใจ ต่างจากอาซาที่ทำหน้าเครียดเล็กน้อย ผมยิ้มเพื่อให้เขาคลายกังวล แต่แทนที่จะดีขึ้น ดวงตาของเขากลับเหม่อลอยไปไหนต่อไหน

              “อาซา” ผมเรียกอาซาที่ทอดสายตานั่งเหม่อ แววตาที่เคยดุดันน่าค้นหากลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

              “เป็นอะไรหรือเปล่า”

              “เปล่าหรอก ไม่มีอะไร” อาซาส่ายหน้า

              “งั้นเหรอ เราออกไปจากที่นี่กันเถอะ ฉันว่าที่นี่มีงู เกิดโดนกัดขึ้นมาตายเลย” พูดแล้วก็ขนลุกซู่ ยังไงๆ งูก็เป็นศัตรูกับผมอยู่วันยังคำ ศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้

              “ฉันไม่กลัวงูหรอก” อาซาตอบเสียงเอื่อยๆ ผมเชื่อนะ เมื่อวานตอนที่ผมตกใจสุดขีด เขาเข้ามาช่วยผมโดยไม่มีทางทีกลัวงูสักนิด

              “เมื่อวาน นายคุยกับงูงั้นเหรอ นายคุยกับงูได้ เหมือนในหนังเลย” ผมจำได้รางๆว่าตอนที่อาซาเข้ามาช่วย เขาพูดอะไรสักอย่าง เป็นภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่อง แต่เพราะตอนนั้นผมกำลังตกใจสุดขีดเลยไม่ทันได้สังเกตอะไรมากนัก

              “เปล่า ฉันไม่ได้คุย” อาซาปฏิเสธเสียงเรียบก่อนจะอธิบายต่อ

              “ฉันก็แค่ท่องคาถาไล่งูของคนไทย ไม่น่าเชื่อว่าจะใช้ได้ผล เพราะฉันเองไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ” อาซายักไหล่นิดๆ

              “อย่างนั้นเองเหรอ ถึงว่า...แล้วนายเป็นต่างชาติแท้ๆเลยใช่ไหม?” ผมหาเรื่องคุย ข้ามเรื่องที่ผมใส่ชุดนอนแทนที่จะเป็นชุดของเมื่อวานไป ไม่มีอะไรต้องกังวล ยังไงก็ผู้ชายด้วยกัน แต่แทนที่จะชวนคุยเรื่องอื่น ก็โง่ขนาดที่ถามเรื่องไม่เป็นเรื่อง ต่างชาติไม่ต่างชาติมันก็ปรากฏอยู่บนหน้าเขาเด่นหรา คงมีแค่ผมที่บ้าตั้งคำถามนี้

              “ฉันเป็นลูกครึ่ง แต่มีเชื้อไทยแค่เสี่ยว”

              อ่า มันก็ไม่ใช่คำถามที่บ้าสักเท่าไหร่

              “ลูกครึ่งอะไรอ่ะ”

              “ครึ่งคนครึ่งสัตว์” อาซาตอบหน้าซื่อ ผมฟังแล้วก็อึ้ง ก่อนจะขำออกมาพร้อมยิ้มกว้าง ไม่คิดว่าอาซาจะเล่นมุขอะไรแบบนี้เป็นด้วย คนเรามองแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ

              “นายนี่ตลกหน้าตายชะมัด ใครสอนมุขนี่เนี่ย ใช้ได้ๆ” ผมยกนิ้วโป้งให้

              “ว่าแต่ เป็นสัตว์ชนิดไหนล่ะ” ผมแกล้งแซวขำๆ เอาจริงนะ ไม่คิดเลยว่าคนอย่างอาซาจะตลกเป็น

              “งู” อาซาตอบสั้นๆ ผมหยุดยิ้มทันควันหรี่ตามองอาซานิ่งๆ แหม เห็นผมกลัวงูหน่อยเอามาล้อกันเล่นได้นะ

              “จะล้อฉันหรือไง เป็นอย่างอื่นสิ เป็นงูไม่เห็นเท่เลย”

              “แล้วเป็นอะไรถึงเท่ละ” เขาทำหน้าจริงจัง ผมกลั้นขำเพื่อรักษามารยาท

              “อืม...หมาป่าเป็นไง เท่จะตาย”

              “เหอะๆ ไม่ล่ะ ฉันเป็นลูกครึ่งอเมริกัน” อาซาส่ายหน้าพูดตัดบทไม่ให้ออกนอกทะเลไปไกล ผมกระแอมไอเล็กน้อย

              “ฉันก็เป็นลูกครึ่งนะ เป็นลูกเสี้ยวเหมือนกัน ฉันมีเชื้อสายจีนแค่เสี้ยวเดียว เพราะแม่เป็นลูกครึ่งไทยจีน” ผมบอกเรื่องของตัวเองบ้าง อาซานั่งฟังตาแป๋วเหมือนเด็กๆ น่ารักดีแหะ

              “ตกลงแล้วที่นี่มีงูจริงๆใช่ไหม” ผมยังคงระแวง คอยเงี่ยหูอยู่ตลอดว่ามีเสียงอะไรแปลกๆหรือเปล่า

              “มีสิ” อาซาพูดตอบอย่างเร็ว ผมทำหน้าเหวอ อาซาค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ ผมเอนตัวหนีเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้อีกฝ่ายเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกชนกัน หัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่อยู่

              “ยิ่งหัวใจเต้นแรงแบบนี้ งูจะยิ่งมาหานาย รู้ไหม”

              มือหนาทาบทับของบนหน้าอกของผม ลูบไล้เบาๆทำเอาวาบหวามไปทั้งร่าง ผมแทบจะกลั้นหายใจ รู้สึกว่าใจมันหวิวๆ ทั้งระยะใกล้และสัมผัสที่นุ่มนวล ยิ่งใบหน้าหล่อเหลาราวกับช่างปั้นใกล้เข้ามามากเท่าไหร่ ผมก็แทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ แก้มที่ขึ้นสีแดงของผมถูกริมฝีปากสีซีดแตะเบาๆ ผมหลับตาปี๋ ไม่ได้รู้สึกรังเกียจ แต่กลับรู้สึกแปลกๆ

              แบบนี้เขาเรียกว่ารู้สึกดีหรือเปล่า

              ทำไมใจง่ายจังวะเรา

              ผมนึกตำหนิตัวเองในใจ แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามปล่อยให้เขาหอมแก้มผมนานอยู่เกือบนาทีก่อนจะเคลื่อนมาที่มุมปปาก ผมยิ่งใจเต็นแรงเข้าไปใหญ่ กลิ่นดินเย็นๆจากตัวเขาทำให้ผมผ่อนคลาย และไม่น่าเชื่อว่าผมจะทำมัน

              ผมขยับริมฝีปากเพื่อให้ได้จูบกับอาซา...

              บ้าไปแล้ว!

              แต่รู้สึกดีชะมัด

              “ขอโทษ” อาซาผละออกมองหน้าผมอย่างสำนึกผิด

              “มะ ไม่เป็นไร” ผมก้มหน้าตอบเขินๆ ก็ผมเต็มใจนี่น่า ใบหน้าขึ้นสีแดงกล่ำ อาซายื่นมือเข้ามาจับและลูบแผ่วเบา บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม ผมมองด้วยความตะลึง นับว่าเป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

              “นายยิ้มสวยจัง” ผมมองรอยยิ้มอย่างเผลอไผล

              “นายก็ยิ้มสวย” นิ้วโป้งกร้านน้อยๆไล้ที่ริมฝีปากผม เขากำลังทำผมเขินตัวแทบแตก เขาจะรู้บ้างไหม ถ้าเขายังไม่เลิกยั่วผมละก็ ผมไม่รับประกันนะว่าเขาจะปลอดภัย >_<

              สวบบ!

              “เฮ้ย! เสียงอะไรน่ะ” ผมสะดุ้งตัวโยน ทั้งตัวกระถดเข้าหาอาซาอย่างลืมตัว คนกำลังหวานๆ เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย! สองตาผมกวาดมองทั่วบริเวณอย่างวิตกกังวล

              จะเป็นงูหรือเปล่า หรือตัวอะไรกันแน่

              “ไม่มีอะไรหรอก ใจเย็นๆ ไม่ต้องกลัว” อาซาลูบที่ต้นแขนผมเพื่อปลอบประโลม

              จนแน่ใจว่าไม่มีอะไรจริงๆ ผมถึงได้ผ่อนลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ลูบอกลูบคอตัวเองไปมา ผมกลายเป็นคนจิตผวาตั้งแต่ที่เผชิญหน้ากับงูอย่างจริงจังถึงสองครั้งสองครา จนแอบคิดไม่ได้ว่าผมกลายเป็นโรคประสาทไปแล้วหรือยัง

              “นายอยู่ที่นี่ไปได้ยังไงกัน น่ากลัวชะมัด”

              อยู่ก็หลังมหาวิทยาลัย มีแต่ต้นไม้ เดินเข้ามาก็ลำบาก แบบนี้ยิ่งเป็นที่ซ่องสุมของพวกสัตว์เลื้อยคลานมีพิษต่างๆมากมาย ดูยังไงก็อัตรายเกินกว่าจะมาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ได้ อะไรๆผมก็เผชิญหน้าได้ทั้งนั้นนะ ยกเว้นงูอย่างเดียวจริงๆ

              “ไม่หรอก ฉันชอบที่นี่”

              “นายนี่แปลกจริงๆ”

              อาซาทำให้ผมอึ้งกับตัวตนของเขาหลายต่อหลายอย่าง ทั้งนิสัยใจคอ คำพูดและการกระทำ ดูอย่างเมื่อตะกี้สิ ที่เขาหอมแก้ม และที่เราจูบกัน มันจะหมายความว่ายังไง หมายความว่าอาซาเองก็ชอบผมหรือเปล่า หรือแค่ลืมตัวไปชั่วขณะ

              “นายคิดยังไงกับสัตว์ที่เรียกว่า ‘งู’” อาซาเอ่ยถามขัดความคิด ผมหันไปมองหน้าอาซาเหล่อหลา เขาเลยต้องถามทวนอีกรอบ

              “นายคิดยังไงกับ ‘งู’” เขาถามหน้าเครียด ผมเอียงหน้าไปมาสองสามทีก่อนจะตอบด้วยอาการอึนๆที่จู่ๆเขาก็ถาม

              “นายรู้อะไรไหม ถ้าถามว่าสิ่งไหนที่ฉันเกลียดมากที่สุดในโลก สิ่งๆนั้นก็คือ ‘งู’” ตอบแบบไม่ต้องคิดไม่ต้องลังเลแม้เพียงเสียววินาทีที่จะตอบว่าอะไรคือสิ่งที่ผมเกลียด และไม่ใช่แค่ผมหรอก คนส่วนมากก็เกลียดงูกันทั้งนั้น

              “ทำไม” เสียงอาซาแผ่วเบาลง

              “มันน่าขยะแขยง น่าเกลียดน่ากลัว ถ้าโลกนี้ไม่มีงูก็ดีน่ะสิ โลกคงน่าอยู่กว่านี้เยอะ”

              “งั้นเหรอ”

              “ใช่ แค่พูดถึงยังขนลุกเลย” ผมทำท่าตัวสั่นลูบแขนสองข้าง

              “แล้วฉันล่ะ นายรังเกียจฉันหรือเปล่า”

              ผมกระพริบตาปริบๆมองอาซางงๆ เริ่มสับสนว่าตอนนี้เราทั้งสองคนกำลังคุยเรื่องเดียวกันอยู่หรือเปล่า จากที่ว่าชอบงูหรือไม่ชอบ กลายเป็นเรื่องของอาซาตั้งแต่เมื่อไหร่

              แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่ออีกฝ่ายถาม ผมก็ตอบจากใจจริง

              “ฉันจะไปรังเกียจนายได้ยังไง นายไม่ใช่งูสักหน่อย และนายก็นิสัยดีด้วย”

              เราไม่เคยรู้จักกัน แต่เขาก็ช่วยหยิบหนังสือ ช่วยทำรายงาน แถมยังพาผมไปเลี้ยงข้าว แม้เจ้าตัวบอกว่าเป็นการตอบแทนก็เถอะ แต่ผมรับความคิดแบบนั้นไม่ได้หรอก มิหนำซ้ำ อาซายังช่วยชีวิตผมเอาไว้ แล้วอย่างนี้จะให้ผมเกลียดอาซาได้ยังไง

              “แล้วถ้าฉันใช่ล่ะ” เสียงกระซิบแผ่วเบาปลิวลอยไปตามสายลมก่อนจะหายไป ผมรู้สึกเหมือนตัวเองหูแว่ว เลยเอ่ยถามว่าอาซาได้พูดอะไรหรือเปล่า

              “หืม เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะอาซา”

              “เปล่าหรอก ไปเข้าเรียนเถอะ นายไม่ควรโดนเรียนนะ เดี๋ยวฉันไปส่ง”

              “อืม”

              อาซาลุกขึ้นยืนก่อนจะยืนมือมาตรงหน้าเพื่อให้ผมจับ แต่ยังไม่ทันได้วางมือ เขาก็ชักมือกลับสอดไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหมุนกายเดินนำผมออกจากที่นี่

              เป็นอะไรของเขานะ ทำไมต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นด้วย

              ผมเดินให้ทันอาซา สอดมือเข้าประสานกับมือใหญ่ที่เย็นเฉียบเอาไว้ แบ่งปันไออุ่นให้กับเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้เขายิ้มตาม


.........

              หนูโยลูกแม่! หนูพูดอย่างนั้นได้ไงลูก  :katai1:พี่งูเขาเสียใจนะ ไม่ใช่ป่านนี้แอบไปหาที่ร้องไห้ละ น่าตีจริงๆเลย พี่อาซานี่ก็น่าสงสารเสียจริง อย่าโกรธน้องนะพี่ น้องมันไม่รู้วววววว  :m23: :m17:แต่ถ้าน้องรู้เมื่อไหร่...อูยยยย เรื่องใหญ่ ไม่อยากคิด แต่อีกไม่นานหรอก น้องก็จะรู้ความจริง ถึงตอนนั้นอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด  :o11:

              ทีแรกว่าจะมาพรุ่งนี้ แต่มีแพลนไปบวชชีพราหมณ์กะทันหัน เลยลงให้วันนี้เลย ริริกลับวันที่ 24 เพราะฉะนั้น ตอนต่อไปจะมาวันที่ 25 นะคะ แล้วจะเอาบุญมาฝากนักอ่านทุกคม จิตใจสงบคงแต่งนิยายได้ลื่นไหลขึ้น เกี่ยวกันไหม 55555

              รอกันหน่อยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นให้นะคะ กำลังใจดีริริก็มีแรงฮึดปั่นตอนต่อไปเร็วขึ้น จะได้อ่านกันแบบต่อเนื่องไม่ค้างเนอะ  :กอด1:

              คืนนี้ฝันดี ฝันว่างูรัดกันถ้วนหน้าค่า  :hao6:


(http://image.ohozaa.com/i/eae/lDNh3G.png)

(http://image.ohozaa.com/i/33d/ba3dS6.jpg)
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 19-06-2014 22:14:39
น้องเกลียดแต่เราชอบงูเหลือเกิน อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 19-06-2014 22:21:10
อิมเมจน้องโยน่ารักโครตๆเลยค่ะ นายแบบเค้าชื่ออะไรหรอคะ?
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 19-06-2014 22:21:51
ทำไมพูดออกไปแบบนั้นนนน :katai5:

สงสารอาชาอะช้ำใจน่าดู ฮือ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-06-2014 22:22:51
แอบลุ้นในใจ ถ้านุ้งโยรู้ว่า อาซาที่รักเนี่ยเป็นงู นุ้งโยจะรักงูขึ้นมาบ้างมั้ยเนี่ยย แล้วดาวเสาร์ เป็นตัวอะไรอ่า ทำไมอาซาถึงไม่ชอบกันนะ อิอิ รอตอนตาอไปค่า สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 19-06-2014 22:55:36
สงสารอาซา ชอบโยชิ รักริริเหมือนเดิม อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 19-06-2014 23:22:10
ตอนนี้มีจุ๊บ คึคึ เขิลแก้มจะแตก
สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยค่า
อยากฝันว่าโดนงูรัดอยู่นะ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: tityjiu ที่ 20-06-2014 00:17:51
 :monkeysad: :monkeysad: สงสารอาซาอ่าาเมื่อไหร่จะเข้าใจกันเนี่ย เง้ออออ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 20-06-2014 02:39:41
อยากรู้จริง ถ้ารู้ว่าอาซาเป็นงูแล้วโยชิจะทำไง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 20-06-2014 06:15:51
งูตัวอื่นน่ะไม่ชอบ ชอบแต่พี่อาซา(ตัว?)คนเดียว   :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 20-06-2014 07:50:21
โถ่วววว สงสารอาซา น้องมันไม่รู้วววววว :hao5:
อย่างนี้ต้องค่อยๆให้ความเคยชินนะ
รอตอนต่อไปวันที่ 24 ฮี่ๆๆ :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 20-06-2014 08:43:24
อ๊ากกกก ทำไมพูดแบบนั้นออกไป แงๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 20-06-2014 09:03:10
อาซาอย่าน้อยใจนะโยชิไม่รู้
แต่ถ้ารู้แล้วจะเป็นยังไงเนี่ย
โยชิถ้ารู้ความจริงแล้วอย่าใจร้ายกะอาซาน้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 20-06-2014 09:06:29
โธ่ พี่งู ของเราอย่าเพิ่งเศร้าไปน้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 20-06-2014 09:07:08
รอๆๆๆๆค้าบบบบ น่ารักสุด สุด :mew1: :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 20-06-2014 10:30:58
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-06-2014 12:52:34
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 20-06-2014 14:20:30
โอ๋ อย่าร้องนะพี่งู TT
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 20-06-2014 14:43:51
เรื่องนี้ก็น่าติดตามเหมือนเดิม

ว่าแต่ตอนสุดท้ายนี่ดูจะทำร้ายจิตใจอาซาพอดูเลยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Jo T^T Pannawit ที่ 20-06-2014 15:41:24
ไปได้เข้ามาอ่านนาน   ต้องรีบๆๆๆ :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 20-06-2014 15:47:04
เกลียดงูเหมือนกัน ... แบบว่าให้หล่อให้ดีแค่ไหนก็ไม่เอาอ่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 20-06-2014 19:40:39
คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด เนอะๆโยชิ
โยชิเกลียดงู เราชอบงูนะแต่เรากลัวมันอ่ะ
 :mew5:ค
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 20-06-2014 20:06:51
โถ่ะๆๆๆๆ พี่อาซาน่าฉงฉานนนนนน

เกิดเป็นงูต้องทำใจ รักเขามากเท่าไหร่ ต้องเตรียมใจโดนเกลียดกลับมาเท่านั้นนะจ๊ะ

แต่โยชิคงไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก(มั้ง? - - )
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-06-2014 20:14:58
พูดคำว่าเกลียด

คำนี้คงทำร้ายอาซาเหลือเกิน

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 21-06-2014 12:11:43
นี่ถ้าโยชิรู้ว่าอาซาเป็นงูนี้ อะไรจะเกิดขึ้นอะ
อ๊ากกก  :serius2: ไม่อยากคิด :sad4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 21-06-2014 20:31:35
มาต่อไวๆๆนะคะ สนุก น่าติดตามมากกกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ FIVE ❁ 19-06-14 [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: full ที่ 21-06-2014 23:51:30
หนูโยคำพูดหนู  :hao5: ได้ทำร้ายจิตใจพี่งูของเรามากเลยยยยย
ถ้าหนูรู้ว่าอาซาเป็นงูจะเกิดไรขึ้นเนี่ยยยย :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 22-06-2014 13:47:15
(http://image.ohozaa.com/i/70e/kUXQZ5.png)




SIX





            เกือบเดือนแล้วที่ผมไม่เจออาซา เดินไปที่ไหนในมหาวิทยาลัยก็คอยแต่จะมองหา แต่ยังมีอีกที่ที่ยังไม่ได้ไปดู ก็คือป่าหลังโรงเรียน ผมไม่กล้าเดินเข้าไปคนเดียวและที่นั่นยังเป็นเขตหวงห้าม เข้าไปแค่ครั้งเดียวก็เกินพอ เพราะถ้าถูกจับได้ก็ไม่รู้ว่าจะถูกลงโทษอะไรบ้าง ครั้งก่อนผมแน่ใจว่ามีอาซาเป็นเพื่อน แต่ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะอยู่ เกิดไปเจอเข้ากับเพื่อนของเขาได้เป็นเรื่องแน่ๆ
            “เฮ้! เป็นอะไร นั่งเหม่อนะแก”
            ผมสะดุ้งนิดๆ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนไม่ทันสังเกตว่านิกกี้มาถึงแล้วพร้อมกับตะกร้าใบขนาดย่อมใบหนึ่ง พอนิกกี้นั่งลงข้างๆผมตรงบันไดหน้าทางเข้าคณะ เติร์ดก็ตามมาติดๆ วันนี้เรามีพรีเซนต์งานเรื่องสัตว์ที่ได้หัวข้อมาคราวก่อน
            “นี่ๆ ดูนี่ น่ารักไหม” นิกกี้เปิดตะกร้าแล้วก็อุ้มแมวพันธ์Scottish Foldที่ผมก็ชอบออกมา
            “น่ารักอ่ะ ไปเอามาจากไหน” ผมถาม อุ้มน้องแมวมากอดเอาไว้ เจ้าแมวน้อยดูจะสงบเสงี่ยมเรียบร้อยมาก ไม่ดิ้นไม่ซน ยอมให้ผมอุ้มแถมยังซบหัวมันบนหน้าอกผมอีกด้วย
            “เก็บได้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน”
            “ไปเก็บที่ไหนมา มีเจ้าของหรือเปล่า ป่านนี้เจ้าของตามหาให้วุ่นแล้วมั้ง” เติร์ดพูด มือก็เอื้อมมาลูบหัวน้องแมว
            “นั่นสิ ประกาศหาเจ้าของไหม” ผมแนะนำ น้องแมวน่ารักขนาดนี้ยังไงก็ต้องมีเจ้าของแน่ๆ แถมดูจากขนาดตัวแล้วไม่น่าจะอายุเกินห้าเดือน เจ้าแมวน้อยที่แสนจะน่ารักมองผมด้วยแววตาติดอ้อน เจ้าของจะต้องรักมากแน่ๆเชื่อได้
            “โหย ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่ฉันอยากเลี้ยงมันไว้นี่นาเนอะๆปุยเมฆเนอะ” นิกกี้ยื่นมือออกมารับน้องแมวคืนไป ผมส่งคืนเธอแต่โดยดีก่อนจะจามออกมา ลุกขึ้นยืนปัดขนแมวที่ติดบนเสื้อผ้าออก ปกติพ่อกับพี่ยอร์ชไม่ค่อยให้ผมเข้าใกล้สัตว์มีขนเพราะกลัวอาการหอบกำเริบ
            “นี่เธอตั้งชื่อให้แมวชาวบ้านเขาด้วยเหรอ”
            “ทำไมยะ บอกไว้ก่อนเลยว่าปุยเมฆชอบชื่อนี้มาก เรียกทีไรเชื่อฟังทุกที”
            ผมปล่อยให้นิกกี้กับเติร์ดเถียงกันไป ชื่อปุยเมฆก็น่ารักดี แต่ไม่ค่อยจะเข้ากับเจ้าตัวเล็กเท่าไหร่ เพราะน้องแมวไม่ได้มีขนสีขาวสะอาด ขนของมันเป็นลายทางเหมือนเสือเสียมากกว่า
            กลุ่มคนจำนวนสามสี่คนเดินอยู่ไม่ไกล ผมจำได้ดีว่าคนพวกนี้เป็นเพื่อนของอาซา แต่ไม่มีเขาเดินอยู่ด้วย รอบข้างก็ไร้วี่แวว เขาหายหน้าไปเลย แม้แต่เงาก็ยังหายาก มองไปทางไหนก็ไม่พบ แถมยังไม่มีหนทางติดต่อ เบอร์โทรหรอ ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์กเหรอ หรืออีเมล ผมไม่มีข้อมูลสักอย่างยกเว้นที่พักหลังมหาวิทยาลัย ซึ่งมันไม่ใช่ทางเลือกที่ควรนัก
            ผมอยากจะเดินเข้าไปถามพวกนั้นว่าเห็นอาซาบ้างไหม แต่ไม่รู้สิ ความรู้สึกแวบหนึ่งบอกว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่ผมควรเข้าไปยุ่ง
            “มองหาอะไรวะไอ้โย”
            “นั่นดิ หลายรอบแล้ว แกกำลังหาใครอยู่หรือไง”
            “ไม่มีอะไรหรอก” ผมยกคำปฏิเสธที่พูดมาแล้วหลายสิบรอบขึ้นมาพูดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มีใครเชื่อและทั้งนิกกี้และเติร์ดไม่ยอมให้ปล่อยผ่านไปง่ายๆ
            “มีอะไรก็บอกมาเถอะ ถ้าพวกเราช่วยได้ก็จะช่วย” นิกกี้พูดอย่างใจดี ผมยิ้มนิดๆแต่ก็ส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่มีอะไรทั้งสิ้น
            จะให้บอกได้ยังไงว่าเขากำลังชะเง้อคอมองหาอาซาอยู่ แม้จะไม่มีอะไรเสียหายที่จะบอก แต่ผมก็กลัวที่จะบอกให้ทุกคนรู้ว่าผมสนิทกับชายหนุ่มชื่อดังอันดับต้นๆของมหาวิทยาลัยในระดับหนึ่ง และกลัวว่าตัวเองจะเผยอาการให้ใครต่อใครรู้ว่าผมรู้สึกดีกับอาซา เพื่อนจะคิดยังไงถ้าผมดันไปรู้สึกดีกับผู้ชายด้วยกัน ถึงสังคมจะเปิดกว้างแต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะยอมรับ
            “ถ้าไม่มีอะไรก็เลิกชะเง้อคอยมองทางนั้นทีทางนี้ทีเถอะ” นิกกี้มองอย่างจับผิด แต่ถ้าผมไม่ยอมปริปากพูดพวกเขาจะทำอะไรได้
            “อืม ขอบใจนะ” ผมอยากจะขอโทษเพื่อนทั้งสองคนสักพันครั้งที่ไม่ได้เล่าความจริงออกไป ตอนนี้มันคงไม่มีประโยชน์ที่จะพูด ผมกับอาซาก็คงเป็นมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่ทุกครั้งที่เผลอก็จะคอยมองหาเขาอยู่ตลอดเวลา
            ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความใจดีของอาซาที่คนอื่นไม่ได้สัมผัสแต่ผมกลับได้รับ หรือความอบอุ่นที่ใครก็บอกว่าเย็นชาแต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลยหรือเปล่า ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ ที่เราจะสามารถเป็นเพื่อนกันได้ พบเจอพูดคุยหรือนั่งกินข้าวด้วยกัน แต่จะจริงแท้แค่ไหน ผมไม่สามารถคาดเดาได้ ตอนนี้ผมรู้แค่ว่าอยากเจออาซาอีกสักครั้ง อยากพูดคุย อยากเห็นหน้า ก็พอแล้ว
            ในคาบเรียนผมตั้งใจเรียนบ้างไม่ตั้งใจเรียนบ้าง ถ้าสติอยู่ก็จดเลคเชอร์ที่เพื่อนกำลังพรีเซ็นต์ แต่ถ้าสติหลุดลอยหายไปไหนต่อไหนก็เหม่อลอยจนนิกกี้ต้องสะกิด จนกระทั่งถึงคิวผมออกไปรายงานหน้าหอประชุม ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะลุกขึ้นเดินไปข้างหน้า พร้อมพรีเซ็นต์งานตัวเองอย่างเต็มที่ จะทำให้ดีไม่ให้อาซาต้องผิดหวัง
            “ข้อมูลดีมาก ละเอียดครบถ้วน ไปหามาจากไหนเหรอ” โปรเฟสเซอร์ลูน่าถาม ผมยืนนิ่งก่อนจะยิ้มแล้วตอบ
            “เพื่อนผมที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเขาให้ข้อมูลมานะครับ”
            ขอบคุณนะอาซา ฉันต้องได้คะแนนเต็มแน่ๆ
            จบคลาสเรียนผมกับนิกกี้และเติร์ดตัดสินใจจะไปเลี้ยงฉลองที่พรีเซ็นต์งานผ่านไปได้ด้วยดีที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ ด้วยการดูหนังสักเรื่องและหาอะไรอร่อยๆกิน ผมลืมเรื่องของอาซาไปชั่วเวลา เพลิดเพลินกับการได้ดูหนังแนวที่ชอบ ที่ทั้งนิกกี้และเติร์ดถึงกับหน้าซีดตอนออกมาจากโรงหนัง แต่พอได้ของกินร้อนๆเป็นราเมงแสนอร่อยก็อาการดีขึ้น
            “แกชอบหนังแบบนี้เหรอวะ” เติร์ดถาม ใช้ตะเกียบคีมเส้นอุด้งร้อนๆเข้าปาก ผมกับนิกกี้กินอิ่มเรียบร้อย มีแต่เติร์ดที่ขอเบิ้ลชามที่สอง
            “ก็ตื่นเต้นเร้าใจดี” ผมชอบดูหนังสืบสวนสอบสวน ที่ต้องใช้ความคิดระหว่างที่ดู ได้ลุ้นไปพร้อมกับเรื่องที่ดำเนิน คาดเดาว่าเรื่องราวจะออกมาในรูปแบบไหน จุดจบจะเป็นยังไง ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง มันทำให้ผมตื่นเต้นตลอดเวลา
            “น่ากลัวล่ะสิไม่ว่า ไม่เหมาะกับหน้าละอ่อนอย่างนายเลยนะ”
            ผมแค่ยักไหล่เบาๆ
            เสมองออกไปนอกร้าน มองผู้คนที่เดินสวนกันด้วยใบหน้าและอารมณ์ที่หลากหลาย ผมมองผู้ชายสามคนที่เดินใกล้กับกระจกร้าน หนึ่งในนั้นมองผมแวบหนึ่งก่อนจะสะกิดเรียกเพื่อนแล้วชี้มาที่ร้านนี้ คนอื่นๆพยักหน้าแล้วพากันเดินเข้ามา เลือกโต๊ะนั่งอยู่ข้างหลังผม ผมเลิกสนใจเขา รอจนกว่าเติร์ดจะกินเสร็จ ว่าจะไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่สักหน่อย
            “คืนนี้มีปาร์ตี้ที่ Midnight เขาว่าจะมีอะไรดีๆด้วยวะ”
            “อะไรดีๆ คืออะไรวะ”
            “ก็วันนี้พวกเจอร์โรมมันจะเล่นงานพวกเวสตันไง”
            “จริงดิ แบบนี้ไม่ควรพลาด ฉันละอยากเห็นไอ้อาซาเล่นงานนัก หมันไส้มานานแล้ว”
            ผมไม่ได้อยากจะแอบฟังหรือยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่ชื่อที่คุ้นเคยเอ่ยออกมาจากปากผู้มาใหม่ จะไม่ให้ผมสนใจได้ยังไง และน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดี เกิดอะไรขึ้นกับอาซา ทำไมถึงมีคนวางแผนจะทำร้ายเขา
            “กี่โมงวะ”
            “ห้าทุ่มมั้ง พวกนั้นไม่เคยไปก่อนเวลานั้นอยู่แล้ว”
            เกิดอะไรขึ้นกันแน่




            @ Midnight
            เอาล่ะ ผมกำลังทำเรื่องที่บ้าสุดๆเท่าที่เคยทำมา เวลาสี่ทุ่มครึ่งแบบนี้ผมควรจะนอนอ่านหนังสือ หรือไม่ก็นอนดูหนังเรื่องโปรดอยู่ในหอพัก หรืออาจจะนอนหลับฝันดีไปเลย ไม่ใช่มายืนอยู่หน้าผับแหล่งรวมสิ่งอโคจรอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้
            เพราะคำๆเดียวแท้ๆ
            ...ห่วง
            ผมเป็นห่วงอาซา
            “ฮู้ว มีแต่คนหล่อๆทั้งนั้นเลย บอกฉันมานะว่าไปรู้จักที่นี่ได้ยังไง” นิกกี้ทำตาโตด้วยความตื่นเต้นดีใจ หลังจากลับจากห้างสรรพสินค้า ผมก็คิดแล้วคิดอีกว่าจะเอายังไงดี อาซาจะรู้ไหมว่ามีคนคิดจะทำร้ายเขา ผมกังวลจนอยู่เฉยไม่ได้ ตัดสินใจโทรตามนิกกี้ออกมาที่นี่เป็นเพื่อน โดยอ้างว่าเบื่ออยากเที่ยวแทนที่จะบอกว่ามาตามหาอาซา
            “รูมเมตบอกมา” ก็อ้างอะไรไปเรื่อย นิกกี้ไม่เชื่อผมหรอก เธอขยับมายืนตรงหน้าผม ยกมือกอดจ้องหน้ารอให้ผมสารภาพความจริงออกมา
            “จะไม่เชื่อก็ได้นะ ตกลงจะเข้าไปไหม” ผมเลิกคิ้วถามนิ่งๆ เหมือนไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไหร่ ทั้งที่ใจผมผลุบเข้าไปในผับนั่นเรียบร้อย ห้าทุ่มแล้วด้วย อาซาต้องมาถึงแล้วแน่นอน ผมต้องหาตัวเขาให้เจอก่อน จะได้บอกเรื่องที่แอบได้ยินมา
            “เข้าๆ ไม่คิดว่านายจะเที่ยวที่แบบนี้เป็นนะเนี่ย”
            ก็เที่ยวไม่เป็นน่ะสิ -_-^
            “ก็มีบ้าง” โป้ปดชัดๆ พระเจ้ายกโทษให้ผมด้วย
            ภายใน ‘Midnight’ ผับชื่อดังใกล้กับแอชยูค่อนข้างต่างจากละครที่ผมเคยดู ไม่เหมือนตั้งแต่เข้ามาในนี้แล้วแหละ เพราะผับแห่งนี้ห้ามคนนอกที่ไม่ใช่นักศึกษาแอชยูเข้า ต้องยื่นบัตรนักศึกษาให้การ์ดตัวใหญ่ด้านหน้าดู ข้างในก็ค่อนข้างน่าทึ่ง พื้นที่กว้างมาก แต่ผู้คนยั้วเยี้ยยังกับหนอนอัดกระป๋อง ทำให้สถานบันเทิงแห่งนี้เล็กลงถนัดตา พื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ต่ำเป็นแอ่งกระทะ ผมที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าจึงมองภาพได้ในมุมกว้าง
            “สุดยอดเลยแก ไอ้เติร์ดพลาดมากที่ไม่ยอมมาด้วย” เสียงใสพูดอย่างตื่นเต้น
            ผมพยักหน้าไปตามเรื่องตามราว แต่สายตากวาดมองหาอาซะและเพื่อนๆของเขา นอกจากชั้นแรกแล้ว เท่าที่ผมสังเกต ผับแห่งนี้ก็ยังมีชั้นสองและชั้นสาม ผมพนันได้เลยว่าคนพิเศษมีชื่อเสียงอย่างอาซาและพวกต้องไม่ได้อยู่ชั้นล่างแน่ๆ เขาต้องอยู่ในโซนที่พิเศษกว่านี้
            “เราไปชั้นสองกันเถอะ”
            ผมเดินนำขึ้นชั้นสอง คนน้อยกว่าชั้นล่างหน่อย ผมเลือกโต๊ะริมราวเหล็กเพื่อจะได้มองข้างล่างได้ชัดๆ ที่แน่ๆ ข้างล่างไม่มีอาซา เขามักโดดเด่นในท่ามกลางผู้คน ไม่ว่าจะเป็นผิวที่ขาวจนซีดเกือบจะสะท้อนแสงได้ หรือรูปร่างหน้าตาที่ดูดีไม่เหมือนใคร ถ้าอยู่จริงๆผมต้องสังเกตเห็นแน่
            “เอาอะไรดีโยชิ เหล้าหรือเบียร์” นิกกี้เลิกมองอาหารตาที่รายล้อมอยู่รอบตัวหันมาถามผม
            “อะไรก็ได้ สั่งเลย” เห็นแบบนี้ผมก็ดื่มเป็นนะ แอบกินกับเพื่อนที่โรงเรียนเก่าบ้าง ซึ่งให้พ่อกับพี่ยอร์ชรู้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นผมจะถูกตีก้นลาย
            “ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม” ผมไม่อยากทิ้งนิกกี้ไว้คนเดียว แต่เรื่องที่กำลังจะทำรั้งรอไม่ได้
            “ฉันอยู่ได้ ไปเถอะ ดีซะอีก หนุ่มจะได้คิดว่าฉันโสด”
            “ระวังจะไปเจอไอ้หนุ่มดีแตกเข้าล่ะ”
            “เออน่า”
            “ระวังตัวด้วยนะนิกกี้ เดี๋ยวฉันมา ห้ามไปไหนนะ” ผมกำชับเพราะความเป็นห่วง แต่เธอส่ายหน้าเหมือนผมเป็นเด็กๆ ถ้าเธอโอเคผมก็วางใจ
            ผมเดินหาอาซาในชั้นที่สอง ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ ไม่รู้ป่านนี้พวกนั้นเจอตัวอาซาหรือยัง เสียงเพลงดังกระหึ่มแทบไม่ได้ยินเสียงผู้คนคุยกัน แต่พวกเขาก็ดูมีความสุขจากใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ผมเดินวงรอบชั้นที่สองแต่ก็ไม่เจออาซา
            “เฮ้นาย...มาใหม่เหรอ ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้าล่ะ”
            เดินหาอาซาอยู่ดีๆก็มีผู้ชายหน้าตาทะเล้นเข้ามาทักผม ผมยิ้มแห้งๆยกมือโบกปฏิเสธเขาเล็กน้อย แต่เขาดูจะไม่เข้าใจ คว้าแขนผมที่กำลังจะเดินหนีดึงรั้งไวเบาๆ เสียงเพลงเฟรทต่ำลงเป็นจังหวะให้ผู้คนได้หยุดพักผมจึงได้ยินเสียงของคนที่ดึงผมไว้ชัดเจน
            “อย่าเพิ่งไปสิ” เขาว่า ยิ้มกว้างเผยให้เห็นเขี้ยวที่ยาวกว่าปกติเล็กน้อย แต่ขับให้ใบหน้าเขาดูสดใสทะเล้นยามยิ้มยิงฟัน ถ้าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เร่งรีบผมคงยอมคุยกับเขาด้วยความเต็มใจในฐานะที่เราเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ก็น่าจะเป็นเพื่อนกันได้
            “ขอโทษนะแต่ฉันรีบ ขอตัวก่อน” ผมดึงแขนออกจากมือสีขาวซีดของเพื่อนต่างชาติร่วมมหาวิทยาลัย ทำไมคนที่แอชยูถึงได้มีผิวขาวเป็นหิมะกันนะ คงเป็นเพราะในยูไม่ค่อยจะมีแดดเพราะมีแต่เงาร่มไม้ปกคลุม อีกหน่อยผมต้องมีสีผิวแบบนี้แน่ๆ
            ”เดี๋ยว...”
            “แกทำอะไรอยู่เฟลิกซ์ เลิกป้อเด็กสักสองนาทีแล้วไปกับฉันก่อนได้ไหม” ชายชาวต่างชาติรูปร่างสูงใหญ่ แม้จะสวมเสื้อเชิ้ตอยู่แต่ก็พอรู้ว่าข้างในเต็มไปด้วยมัดกล้าม และที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่ผมสังเกตได้ก็คือ ดวงตาของเขา...เรียวคมเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นที่ผมเคยอ่าน
            “เฮ้อ ขัดจังหวะจริงๆ เออๆ ฉันไปก่อนนะที่รัก ไว้เจอกัน”
            “เอ่อ...” ผมงงกับพวกผู้ชายพวกนี้จริงๆ กำลังจะหันหลังเดินไปอีกทาง ถ้าไม่ติดว่าได้ยินอะไรดีๆเข้าเสียก่อน
            “ได้ข่าวว่าไอ้เจอร์โรมมันหาหลักฐานเล่นงานพวกนากินีได้งั้นเหรอ มันเจาะจงแต่ไอ้อาซาเสียด้วยนะ นายคิดว่าไงคาร์เตอร์”
            “เรื่องของพวกนั้น เราอย่าไปยุ่ง”
            ใครคือเจอร์โรม..แล้วคนพวกนี้เป็นใคร เขารู้จักกับอาซาด้วยเหรอ
            “เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไป”
            ผมพุ่งเข้าคว้าแขนคนที่ชื่อเฟลิกซ์เอาไว้ เขาหยุดเดินหันมาเลิกคิ้วสูงมองผมก่อนจะยิ้มหวานใส่ เผยให้เห็นเขี้ยวสี่ซี่ ทั้งบนและล่าง
            “เด็กน้อยของฉัน...ฉันก็อยากอยู่กับนายนะ แต่วันนี้ฉันมีธุระ ถ้ายังไงฉันจะให้เบอร์ไว้...”
            เขาพร่ำบ้าอะไร เมาใช่ไหม?
            “ไม่ๆ ฉันแค่อยากถามว่า อาซาอยู่ที่ไหน”
            มือที่กำลังกดโทรศัพท์หยุดกึก ไม่ว่าจะเป็นเฟลิกซ์ หรือคนที่ชื่อคาร์เตอร์ต่างก็มองผมเหมือนเป็นสัตว์ประหลาด เสียงเพลงดังขึ้นอีกครั้งกลบเสียงพูดคุยระหว่างเฟลิกซ์ และคาร์เตอร์ แต่มันคงไม่ใช่เรื่องดีเพราะสีหน้าของพวกเขาดูเคร่งเครียดผิดปกติ
            ผมจะอ้าปากถามเฟลิกซ์ อีกครั้ง แต่ใบหน้าหล่ออย่างกับรูปปั้นเดวิดที่ชวนให้หลงใหลเลื่อนเข้ามาใกล้หน้าผมมาก ผมเผลอปล่อยมือเฟลิกซ์ ดวงตาเรียวคมของคาร์เตอร์สะกดผมให้ยืนนิ่ง น้ำเสียงชวนขนลุกกำลังคำรามเบาๆอยู่ข้างใบหูผม
            “อยู่ห่างจากพวกนั้นไว้ โดยเฉพาะอาซา มันไม่ใช่คนที่มนุษย์ธรรมดาอย่างนายควรเข้าไปยุ่ง ฉันขอเตือน”
            ผมว่าผมได้ยินจริงๆนะ เสียงคำรามจากผู้ชายคนนั้น
            ...คาร์เตอร์…
            กว่าจะรู้สึกตัวพวกเขาก็อันตรธานหายไปแบบไม่ทิ้งร่องรอย ผมยกมือลูบหน้าเรียกสติ เสียเวลาไปมาก แต่ยังหาตัวอาซาไม่เจอเลย หันรีหันขวางมองรอบตัว ชั้นสองไม่มี งั้นก็ต้องชั้นสาม
            Private Zone
            ว่าชั้นที่หนึ่งกับชั้นที่สองน่าทึ่งแล้วนะ ชั้นที่สามเป็นอะไรที่สุดๆ การตกแต่งดูเป็นงานหยาบๆคล้ายกับว่ายังไม่เสร็จ ทั้งอิฐบล็อก ผนังปูนที่ฉาบไว้หยาบๆแต่เกิดเป็นลวดลายสวยงาม มีป้ายบอกทิศทางว่าอะไรอยู่ตรงไหนเขียนในภาษาที่ผมไม่เคยเห็น แต่มันบ้ามากที่ผมอ่านมันเข้าใจ

            ...ห้องเก็บอาหาร…
            ...ห้องพยาบาล…
            ...ห้องเสพสม...


            อะไรคือห้องเสพสม?
            สาบานว่าผมยังอยู่ในผับ ที่นี่มันมีไว้ทำอะไรกันแน่
            ผมยืนจ้องป้ายตัวอักษรประหลาดอยู่นานเกือบห้านาที ผมเบนสายตามองไปที่อื่นแล้วมองตัวอักษรที่เขียนบนป้ายอีกครั้ง แล้วก็เหมือนเดิม...ผมแปลกมากที่ผมรู้ว่ามันหมายความว่าอะไรทั้งที่ผมอ่านมันไม่ออก!!!
            ผมอยากจะหาคำตอบให้กับเรื่องแปลกนี่ แต่ไม่มีเวลาแล้ว ผมเลิกสนใจสถานที่ประหลาดๆและชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังจูบกันดูดดื่มข้างๆ เพราะที่ฝั่งตรงข้ามผมว่าผมเห็นเขาแล้ว
            อาซา...!
            ผมรีบเดินแหวกฝ่าผู้คน ให้ตายเถอะ ผมว่าผมเห็นคู่รักชายหญิงคู่หนึ่งกำลังคลอเคลียกันในสภาพที่หลุดลุ่ย พวกเขาไม่อายบ้างหรือไง แต่คงไม่...ก็พวกเขาเป็นชาวต่างชาติ มันคงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขา ที่ไม่ใช่พวกผม และเชื่อเถอะว่าผมลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังอยู่เมืองไทย!
            ทางที่อาซาเดินหายไปเป็นทางเดินแคบๆ และมีบันไดขึ้นไปข้างบนที่น่าจะเป็นดาดฟ้า ผมหันมองข้างหลังไม่มีใครตามมา ก้าวเดินขึ้นบันไดตามไป มันเป็นทางบังคับ ยังไงอาซาก็ต้องอยู่ข้างบน
            “บอกฉันมาว่าใครสั่งให้แกทำ”
            ‘อ๊ากกก!’
            “เฮือก!”
            เสียงอะไร...ข้างบนนั่น?
            ‘ซี้ดดดด อ๊ากกกก! ฟ่ออออ!!!’
            ปึง!
            มือดันประตูเหล็กดาดฟ้าเปิดออกอย่างแรง ต้องขอบคุณหนังลึกลับที่ผมชอบดู ทำให้ผมค่อนข้างมีภูมิต้านทานต่อสถานการณ์แบบนี้ เสียงร้องโหนหวนเงียบไปแล้ว อาซาหันมามองผม สีหน้าเขาดูตกใจอย่างมากไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ เพื่อนเขาอีกคนมองผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ในมือที่ยื่นออกไปข้างหน้ากำคองูสีดำสลับแดงเอาไว้แน่น เลือดหยดลงบนพื้นเป็นสายน้ำ ผมสั่นไปทั้งตัวจนกระทั่งอาซาเดินมากอดผมไว้ ใบหน้าผมซุกอยู่กับอกเขา ผมจะไม่กลัวเลยจริงๆ ถ้าไม่มีงูเป็นตัวประกอบ!
            “ชู่ ไม่เป็นไรๆ” เขาปลอบ ผมถึงได้คลายความกลัวจนเลิกสั่น
            “เสียงนั่น...”ผมกระซิบราวกับเพ้อ แต่เขาก็ปลอบว่าไม่มีอะไร แค่ว่าพวกเขาเจองูเลยจัดการมันก่อนที่มันจะกัดใครเข้า พวกเขาทำได้ยังไง ไม่กลัวมันกัดบ้างเหรอ แต่เท่าที่ดูจากสภาพงูตัวนั้น ผมว่าคนที่ชื่อเวสตันน่ากลัวกว่างูเสียอีก เขาฆ่างูด้วยมือเปล่า!
            “ไม่มีอะไร แค่เสียงงู”
            ...แต่ผมว่ามันเป็นเสียงคน...
            เสียงคนแน่ๆ ผมได้ยินกับหู
            “เคลียร์กันไปก่อน ฉันจะไปตามพวกปารีส เสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านเลย เข้าใจไหม”
            ผมขยับตัวหนีเวสตันที่มายืนข้างๆผมกับอาซาเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่พอมองมือเขาที่ไม่มีงูแล้วก็เบาใจ ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
            “อืม” อาซารับคำสั่นๆ เวสตันพยักหน้ามองหน้าผมเคร่งเครียด และผมก็กำลังเครียดตาม ตั้งแต่กลางวันจนตอนนี้ ผมเจอแต่ผู้ชายทำหน้าเครียดใส่ผม แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมเครียดตามได้ไง
            อาซาปล่อยตัวผมให้เป็นอิสระเมื่อเราอยู่กันสองคนบนดาดฟ้า
            “นายไม่ควรมาที่นี่ คราวหลังอย่ามาอีก” เขาดุผมหน้าเข้ม
            “แต่...ฉันหานายไม่เจอ” ผมหน้าจ๋อยที่โดนดุ ก็ไม่ได้อยากมาหรอก ถ้าไม่ติดว่ามีเรื่องสำคัญ
            เออใช่! เกือบลืมไปเลย
            “เราไม่ควรเจอกัน มันไม่ปลอดภัยสำหรับนาย”
            “ทำไม...เพราะคนพวกนั้น ที่ชื่อเจอร์โรมอะไรนั่นหรือเปล่า...” ผมสะดุ้งเมื่ออาซาตวัดดวงตาดำสนิทมองผมอึ้งๆ ผมรีบบอกเขาก่อนที่เขาจะโมโหไปมากกว่านี้ เขาดูน่ากลัวแบบที่ผมไม่เคยเจอ เขาไม่ได้อบอุ่นอ่อนโยนอย่างก่อนหน้านี้ แต่...มันทำให้เขามีเสน่ห์เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
            “นายรู้อะไรมาโยชิ แล้วไปรู้จักไอ้เจอร์โรมได้ไง” มือหนาคว้าหมับที่ต้นแขน ออกแรงบีบจนผมรู้สึกเจ็บ ร้องโอยเบาๆไม่ได้ขัดขืนแม้แต่น้อย แต่อาซากลับปล่อยแขนผมราวกับโดนของร้อน
            “เอ่อ ฉันขอโทษ เจ็บไหม” เขาถามเสียงนุ่ม ผมยิ้มออก
            “ไม่หรอก แล้วฉันก็ไม่รู้จักไม่เคยเจอเจอร์โรมด้วย ฉันแค่แอบได้ยินคนสามคนพูดกันว่าเจอร์โรมจะมาเล่นงานนายคืนนี้ ก็เลยตามมาหานายที่นี่ นายยังไม่ได้เจอคนนั้นใช่ไหม” ผมถามด้วยความเป็นห่วง
            “ยัง”
            “เฮ้อ~โล่งอก”
            ถือว่าผมทำสำเร็จ ค่อยสบายใจหน่อย
            “ขอบใจนายที่มาบอก แต่ต่อไปนี้ห้ามมาที่นี่อีก” อาซาทำหน้าจริงจัง
            “ทำไม”
            “มันไม่เหมาะกับนาย และห้ามไปยุ่งกับไอ้เจอร์โรมเด็ดขาด อยู่แค่ในที่ของนายก็พอ เข้าใจไหม”
            ไม่เข้าใจ...แต่ก็ไม่ได้พูดแย้ง
            “แต่ฉันเจอนายได้ใช่ไหม”
            ไม่ให้เจอคนอื่นก็ได้ ผมก็ไม่อยากรู้จักคนอย่างเจอร์โรมอะไรนั่น ผมแค่อยากเจออาซา
            “แม้แต่ฉัน...นายก็ไม่ควรเจอ”
            “ทำไม”
            “เราไม่ควรเจอกันตั้งแต่ทีแรก” เขาหันหลังให้ผม แค่เพียงก้าวเดียวเท่านั้น แต่ผมรู้สึกเหมือนเขาอยู่ห่างจากผมมากเกินกว่าจะเอื้อมถึง
            “นายไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันเหรอ” ถามด้วยใจที่เจ็บหนึบลึกๆ
            “ใช่ ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับนาย...รู้แล้ว ต่อไปนี้ก็อยู่ให้ห่างฉันเอาไว้”
            ก็ไม่เจ็บเท่าไหร่...แค่น้ำตาไหลเท่านั้นเอง




………...............................

            Asa
            “โอ้ว เด็กน้อยที่น่ารักช่างน่าสงสาร”
            “Shit!” ผมสบถเบาๆ ไม่รู้ว่าไอ้เจอร์โรมมันโผล่มาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกติผมจะต้องได้กลิ่นสาบจากตัวมัน แต่นี่...ไม่มีทางที่การรับรู้กลิ่นของผมจะผิดพลาด
            “แกคงกำลังจะสงสัยว่าทำไมแกไม่ได้กลิ่นของฉัน ต้องขอบคุณเสื้อหนังงูตัวนี้ที่ดับกลิ่นของฉันเสียเกลี้ยง ฉันใช้งูตั้งสามสิบตัวเพื่อตัดเสื้อตัวนี้ เจ๋งดีไหมล่ะ”
            มันกำลังข่มขู่ผม
            “งั้นก็เชิญแกชื่นชมกับเสื้อหนังงูของแกไปคนเดียว” ผมเดินหนี มือคว้าที่จับประตูดาดฟ้า
            “ถึงแกจะฆ่าหลักฐานชิ้นสำคัญที่ฉันหามาได้ แต่อย่าคิดว่าจะรอด ฉันจะตามกัดแกไม่ปล่อย และจะค่อยๆถลกหนังสีดำมันเงาของแกมาทำรองเท้า คงจะสวยและใส่สบายดี ว่าไหม” ไอ้เจอร์โรมหัวเราะกลั้วในลำคอ ผมหันหน้ากลับไปหามัน เดินเข้าไปใกล้ๆ
            “แกคงไม่อยากให้ฉันฆ่าแกหรอกใช่ไหมเจอร์โรม” ถ้าไม่กลัวว่าจะผิดกฎและพวกผมทั้งหมดจะเดือดร้อน ผมฆ่ามันไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้มันทำตัวเป็นหมาคอยลอบกันอย่างทุกวันนี้หรอก
            “เหมือนที่แกเคยทำน่ะเหรอ หึหึ แต่ครั้งนี้ฉันจะเป็นฝ่ายที่ฆ่าแก และฉันจะทำให้ได้ด้วย รวมไปถึง คนที่แกรัก”
            ผมกำมือแน่น ผมไม่เคยกลัวถ้าต้องประจันหน้ากับมันและต่อให้ผมต้องฆ่ามันจริงๆผมก็ไม่คิดจะลังเล เพียงแต่ชีวิตผมไม่ได้มีไว้เพื่อดับสูญให้มัน แต่ชีวิตผมมีไว้เพื่อเขา ผมจะไม่ยอมให้มันทำอะไรโยชิ
            “งั้นก็อย่าลืมทำให้ได้ล่ะ”
            “แน่นอน ว่าแต่...เด็กคนเมื่อกี้ ถ้าแกไม่เอาแล้ว ฉันขอแล้วกันนะ...เนื้อหอมดี นานแล้วที่ไม่ได้ได้กลิ่นจิตวิญญาณมนุษย์ที่หอมขนาดนี้”
            หมับ!
            ผมกระชากคอเสื้อของมัน มืออีกข้างก็บีบคอมันแน่น ดวงตาของมันจ้องผมอย่างไม่ยอมแพ้
            “อย่ายุ่งกับเขา ไม่งั้นฉันจะเป็นฝ่ายที่ล่าแก!”
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 22-06-2014 14:06:24
ใจร้ายยยยยย :m17:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 22-06-2014 14:07:00
เอ่อ .. จบแค่ตรงนี้รึป่าว เราไม่ได้แทรกใช่มั้ย   :mew2:

ค้างไปอีก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin_23 ที่ 22-06-2014 14:31:28
โยชิเสียใจสงสารร
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 22-06-2014 14:53:03
อ่อย มันค้างอ่ะ

อาซา ไม่น่าพูดจาทำร้าย หนูโย เลยนะ

น่าสงสาร หนูโย จัง โอ๋ๆๆๆ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-06-2014 14:59:53
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 22-06-2014 16:03:29
 :pig4: ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
โอ้ยๆ อาซา รักมากหวงมาก T^T เลยต้องพูดแบบนั้นไป กระซิกกระซิก
 :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 22-06-2014 16:57:00
สงสารโยชิ เหนใจอาซา รอริริที่รักอัฟต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: cweanz ที่ 22-06-2014 16:59:17
แอบสงสารโยชิ... :sad4:

ขอบคุณ(คุณน้องชายของคุณริริ)นะคะ ที่มาลงให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 22-06-2014 17:50:34
โอ๊ยยยยย ทำร้ายจิตใจโยชิอะ!!!! :sad4:
แสดงว่าใกล้รู้ความจริงแล้วสินะ ฮึๆๆๆๆ :katai1:
RiRi สู้ๆนะ :กอด1:
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 22-06-2014 18:37:20
วรั๊ยๆ มีเคลียร์กันยาวชัวร์ ไม่อยากเป็นเพื่อนแต่อยากเป็นมากกว่าเพื่อนใช่ม้า อิอิ
น้องโยชิอย่าพึ่งเสียใจ พี่อาซารักหนูไปหมดหัวใจหมดไส้หมดพุงแล้วลูก >0<
อ๊ายๆ อยากอ่านต่ออีก ทำไมมันค้างคาขนาดนี้นะ ไม่ไหวแล้ว น้องโยกะพี่อาซา >v<
มาอัพไวๆน้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 22-06-2014 19:11:53
พูดแบบนั้นโยชิเสียใจแย่เลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 22-06-2014 19:21:38
ค้างอะ :sad4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 22-06-2014 19:27:05
 :hao4:อาชาพูดให้โยชิเสียใจ แต่ก็ออกอาการหวงซะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 22-06-2014 20:42:42
อ๊ากกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-06-2014 21:04:42
เข้าใจว่าที่พูดแบบนั้นเพื่อตัวโยชิเอง

โยชิก็เลิกกลัวงูไดแล้วนะ อิอิ

แบบว่าเกลียดอย่างไรได้อย่างนั้นนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 22-06-2014 22:45:52
โยชิอย่าเสียใจไป
อาซาเค้าทำเพื่อโยชินะ
ว่าแต่โยชิเกือบรู้ความจริงแล้วสิเนี่ย
ถ้าไปก่อนงูตัวนั้นตายนี่รู้แน่เลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 22-06-2014 23:07:14
ง่าาาา  พ่องูทำเด็กน้อยร้องไห้เบยยย

ปล  ขออนุโมธนาบุญนะคะ อิๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 22-06-2014 23:21:56
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 22-06-2014 23:49:13
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 23-06-2014 11:33:32
ถ้าทั้งสองคนผูกพันกันมาแต่ก่อนจริงๆ เมื่อก่อนโยชิก็น่าจะเป็นงูเหมือนกัน
เลยไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเกลียดงูมากๆ หรือมีเบื้องลึก เบื้องหลังซ้อนอยู่อีกอ่ะ
รออ่านต่อไปนะฮะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 23-06-2014 13:04:05
ยิ่งอ่านยิ่งงง ปนสงสัยมากกกกกกกกกกกกกก :mew5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 23-06-2014 20:46:58
สงสารโยชิอ้า  :hao5:  :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: จ๊ะจ๋า ที่ 23-06-2014 21:25:20
อิตา อาซา ใจร้าย เดียวปัด จัดหักคอเข้าห้องซะนี่  :laugh:

โอ๋ๆ โยชิ ร้องไห้ งอนไปนู้นแล้ว
เรื่องกำลังน่าติดตาม
รอต่อไป
จ๊วฟฟ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 23-06-2014 21:35:01
อ่าววววว เอาแล้วไงงงง

กล้าตัดขาดเลยหรออาซา นายจะทนได้เท่าไหร่
หึหึ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SIX❁ 22-06-14 [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: McKnight ที่ 24-06-2014 08:48:11
ตื่นเต้น ลุ้นและน่าติดตามมาก

น้องโยชิตกเป็นเป้า!!
อาซา ถ้านายกลัวโยชิเป็นอันตราย ก็เก็บไว้ใกล้ ๆ ตัวซะสิ
หัวข้อ: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 24-06-2014 19:55:34
SEVEN



             เขาใจร้ายแบบที่คนอื่นพูดจริงๆ พูดจาเย็นชาแบบนั้นแล้วก็หันหลังเดินจากไปแบบไม่ใยดี แต่อย่าคิดว่าผมจะยอมถอดใจเพียงแค่นี้ เรื่องนี้ต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็น ผมไม่เชื่อว่าเขาไม่อยากเป็นเพื่อนกันผม ในเมื่อ...เขาทำให้ผมรู้สึกดีขนาดนี้ และผมกับเขาก็จูบกันแล้วด้วย อย่างน้อยเขาควรจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้างสักนิดนึง
             “เฮ้อ”
             กลุ้ม!
             “โยชิ!!!” เสียงตะโกนของนิกกี้ดังมาก่อนตัวเสียอีก ผมสะดุ้งมองเธอหน้าซีด ซวยแล้ว...ก็ว่าแล้วเชียวว่าผมลืมอะไร นึกเท่าไหร่ก็นึกไปออกจนถึงตอนเช้า
             ผมลืมนิกกี้ไว้ที่ผับเมื่อคืนนี้!!!
             เสียงกลืนน้ำลายดังขนาดที่ตัวผมเองยังได้ยิน ใบหน้า ทะมึนทึงและสายตาอันขุ่นเคืองของนิกกี้ทำเอาผมอยากจะวิ่งหนี
             ปึก!
             นิกกี้กระแทกตัวนั่งลงบนขั้นบันไดข้างๆผมอย่างแรงจนผมกลัวว่าเธอจะเจ็บสะโพก ผู้หญิงเวลาโมโหก็พายุทอร์นาโดดีๆนี่เอง
             “เอ่อ...คือว่าฉัน...”
             “ไม่ต้องพูด!” นิกกี้สวนฉับ ผมรีบหุบปากตามคำสั่ง
             “เมื่อคืนหายไปไหนมา รู้ไหมว่าฉันเดินตามหานายเสียทั่วผับ สุดท้ายก็ไม่เจอ แทนที่ฉันจะได้มีเวลาทำความรู้จักกับหนุ่มๆสุดหล่ออีกสองสามคนที่น่าจะสานสัมพันธ์ด้วยได้ แต่เพราะนายโยชิ!”
             ผมสะดุ้งกับความเกรี้ยวกราดของนิกกี้ ตัวเริ่มจะหดลงทุกทีๆ
             “เฮ้อ...ช่างเถอะ พูดไปก็เสียอารมณ์ ว่าแต่นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม จะกลับก็น่าจะบอกกันก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้ฉันรอด้วยความเป็นห่วง”
             เธอทำผมรู้สึกผิดแบบจริงจัง ก็เพราะมัวแต่ช็อคกับคำพูดตัดเยื่อขาดใยของอาซา ผมถึงได้ไร้สติตรงดิ่งกลับห้องด้วยหัวใจที่สับสนไม่เป็นตัวของตัวเอง จนลืมไปเลยว่าผมไม่ได้ไปที่นั่นคนเดียว มานึกได้ก็สายเสียแล้ว
             “ฉันโอเค เธอโอเคนะนิกกี้ ขอโทษจริงๆที่ทิ้งไว้แบบนั้น พอดีฉันรู้สึกเวียนหัว มองอะไรก็เบลอๆเลยรีบกลับก่อน ขอโทษจริงๆนะ”
             ผมเป็นเพื่อนผู้ชายที่ไม่เอาไหน กล้าลืมเพื่อนที่เป็นผู้หญิงไว้ในผับคนเดียว
             “อย่าคิดมาก แค่นายไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ยิ่งเอ๋อๆอยู่ ฉันละกลัวนายจะถูกล่อลวง”
             ไม่ทันแล้วล่ะ...ผมโดนล่อลวงเต็มๆ
             เรื่องเมื่อคืนนิกกี้ไม่ได้ถือสาหาความที่ผมทิ้งเธอไว้คนเดียว ในทางกลับกัน เธอบอกว่าคราวหน้าจะต้องไปอีกให้ได้ เพราะเธอคุยกับพวกขาประจำจนได้เรื่องได้ราวมาว่า ในคืนวันศุกร์ที่สิบสามที่จะถึง จะเป็นคืนปล่อยของ ฟังดูน่าตื่นเต้นจนนิกกี้เอาแต่พูดว่าจะต้องไปให้ได้ๆ และคะยั้นคะยอให้ผมไปกับเธอเป็นการไถ่โทษ ผมก็ได้แต่รับปาก ทิ้งคำสั่งห้ามของอาซาไว้ข้างหลัง
             หมดชั่วโมงเรียน นิกกี้ลากผมไปกินข้าวที่แคนทีนของคณะวิศวะ คุณเธอบอกว่าหนุ่มหล่อที่เธอคุยด้วยเมื่อคืนอยู่คณะนี้ และนัดกันเอาไว้ว่าจะกินข้าวด้วยกัน ผมกับเติร์ดได้แต่ทำตามความต้องการของเพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่ม
             “ไกลก็ไกล รู้งี้ฉันไม่มาหรอก” เติร์ดบ่น ผมก็คิดแบบเดียวกัน พวกเราไม่มีใครมีจักรยานสักคน ทำได้แค่เดินและเดิน
             “แกจะบ่นทำไม ข้างหน้าก็ถึงแล้วนี่ไง” นิกกี้ที่เดินอยู่ข้างหน้าหันมาทำหน้าบึ้งใส่เติร์ด หมอนี่ก็บ่นหงุบหงิบไม่มีเสียง ผมมองสายตาของเติร์ดออกนะว่ามันคิดยังไงกับนิกกี้ แต่คู่นี้คงจะลงเอยกันยาก เติร์ดก็เจ้าชู้ตัวพ่อ ส่วนนิกกี้ก็สาวหัวสมัยใหม่ ผมมองไม่ออกเลยว่าจะมีทางไหนทำให้สองคนนี้ลงเอยกัน
             ทันทีที่พวกผมเดินเข้าไปในแคนทีนของคณะวิศวะ เกือบจะทุกสายตาเพ่งมองที่พวกผมเหมือนเรามีอะไรที่แตกต่างและแปลกแยก พวกเขาหยุดกินอาหารกลางวันกันไปชั่วขณะ
             “รีบหาคนๆนั้นของเธอให้เจอเถอะนิกกี้ ฉันไม่อยากตกเป็นเป้าสายตา”
             “อืม นั่นไง อยู่นั่น”
             จนกระทั่งพวกเราขยับตัว ทุกอย่างก็กลับเป็นปกติ พวกเขาเลิกสนใจพวกผมสามคน ก้มหน้าก้มตากินข้าว พูดคุยกันสนุกสนามเหมือนไม่มีเหตุการณ์แปลกๆแบบเมื่อกี้เกิดขึ้น เราเดินตามนิกกี้ไปที่โต๊ะหนึ่งที่มีผู้ชายที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกครึ่งนั่งอยู่คนเดียว เน้นว่าคนเดียวจริงๆ ไม่มีใครนั่งกับพวกเขา ทั้งๆที่โต๊ะก็แทบไม่พอให้นักศึกษาทั้งหมดนั่ง
             การแต่งตัวของเขาค่อนข้างจะแปลก ถึงตอนนี้จะเป็นฤดูฝน แต่อากาศก็อบอ้าวเกินกว่าที่จะใส่เสื้อโค้ทหนังตัวยาว และที่สำคัญหนังที่เขาใส่เหมือนหนังเกล็ดจระเข้ไม่ก็งู
             “ฉันคิดว่าเธอจะไม่มาเสียแล้วนิกกี้” เขาแจกยิ้มพราวเสน่ห์ใส่เพื่อนสาวของผม รวมไปถึงเผื่อแผ่มายังผมกับเติร์ดด้วย เรานั่งลงฝั่งตรงข้าม มีเพียงนิกกี้ที่เดินไปนั่งข้างเขา
             “พอดีเดินมาเลยเสียเวลา นายก็น่าจะรู้ว่าการเดินข้ามคณะมันไกลพอสมควร”
             “ฉันลืมไป ว่าแต่เพื่อนเธอชื่ออะไรกันบ้างล่ะ” เขาหันมาให้ความสนใจพวกเรา ผมแอบเห็นว่าไอ้เติร์ดเบ้หน้าไม่ชอบใจ ผมเองก็รู้สึกแปลกๆกับคนๆนี้เหมือนกัน แววตาของเขาไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด บางทีผมควรจะเตือนนิกกี้ให้อยู่ห่างๆเขาไว้
             “คนนี้เติร์ด คนนี้โยชิ ทุกคนนี่เจอร์โรม”
             จะ..เจอร์โรม!

             ‘วันนี้พวกเจอร์โรมมันจะเล่นงานพวกเวสตัน’
             ‘ฉันละอยากเห็นไอ้อาซาเล่นงานนัก หมันไส้มานานแล้ว’
             ‘ห้ามไปยุ่งกับไอ้เจอร์โรมเด็ดขาด อยู่แค่ในที่ของนายก็พอ เข้าใจไหม’


             บอกผมทีว่าเขาไม่ใช่คนเดียวกัน คงจะมีเจอร์โรมสักสองสามคนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
             ผมลอบมองหน้าเจอร์โรมแบบไม่ให้น่าเกลียดจนกลายเป็นการพิจารณา แม้ว่าผมกำลังทำแบบนั้นอยู่ก็ตาม เขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมาก และแน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนไทย เสื้อผ้าที่เขาใส่ก็ดูจะราคาแพง แค่เสื้อโค้ทของเขาก็คงราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
             เจอร์โรมคุยกับนิกกี้อยู่สองสามคำก่อนจะหันมามองหน้าผม เขาขมวดคิ้วนิ่งแต่มีรอยยิ้มที่มุมริมฝีปากบางๆ และจู่ๆขนแขนผมก็ลุกชัน
             “เอ่อ...ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ผมลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินดุ่มๆไปหาออกไปหาอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกสักหน่อย สายตาที่เจอร์โรมมองผมตอนที่นิกกี้แนะนำพวกเราให้รู้จักเขา เขามองผมเหมือนเหยื่อ
             หมับ!
             “เฮ้ย!” ผมสะดุ้งที่อยู่ๆก็มีคนคว้าแขนไว้ แต่ผมหันไปผมก็ต้องถอนหายใจอย่างแรง
             “ดาวเสาร์! ตกใจหมด” คิดว่าใคร ที่แท้ก็รูมเมตผมที่นานๆจะกลับห้องสักที เขาเลิกคิ้วทำหน้าสงสัย
             “นายมาทำอะไรที่นี่” เขาถาม ผมเหล่สายตามองไปยังโต๊ะที่เพื่อนผมนั่งอยู่ แต่กลับมีแค่เติร์ดกับนิกกี้นั่งกันแค่สองคน ไร้ร่างเจอร์โรมอยู่ตรงนั้น…หายไปไหน
             “ฉันมากินข้าวกับเพื่อน”
             “เพื่อน? นายมีเพื่อนอยู่คณะนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
             “ก็ไม่มี ฉันหมายถึงเพื่อนฉันมีนัดกินข้าวกับผู้ชายที่ชื่อเจอร์โรม” บอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยอยากจะเอ่ยชื่อนี้สักเท่าไหร่
             “ไอ้เจอร์โรมเนี่ยนะมีนัดกินข้าวกับเพื่อนนาย?!”
             “ทำไม ฉันมีนัดกินข้าวเที่ยงกับเด็กของฉันแล้วมันแปลกตรงไหน”
             เจอร์โรมโผล่มาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง เขาพูดแล้วก็ขยับมายืนตรงหน้าดาวเสาร์และผม พอยืนใกล้ๆเขาแบบนี้แล้ว ผมตัวเล็กลงไปถนัดตา ขนาดดาวเสาร์ที่สูงกว่าผมประมาณหกเจ็ดเซนก็ยังเตี้ยกว่าเจอร์โรม เขามองสบตาผมนิ่ง และเป็นผมเองที่หลบตาเขาก่อน แววตาเขาน่ากลัวแบบที่ต่างกับอาซา รายนั้นแค่น่ากลัวเพราะตาของเขาดุ แต่เจอร์โรม...แววตาเขาน่ากลัวชวนขวัญผวา
             “ฉันแค่สงสัย ปกติแกไม่เคยทำ” ดาวเสาร์ว่า
             “ครั้งแรกเกิดขึ้นได้เสมอ ว่าแต่แกรู้จักเด็กคนนี้ด้วยเหรอ” เจอร์โรมเหล่สายตามองผม ทำเอาผมสะดุ้งนิดๆ
             ผมกลายเป็นคนจิตอ่อนตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ บ้าชะมัด
             “โยชิเป็นรูมเมตฉัน”
             “โว้ว ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้ ฉันไม่คิดว่านายจะอยู่ใกล้ฉันขนาดนี้” เจอร์โรมพยักหน้าและยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยคล้ายว่าพึงพอใจกับอะไรสักอย่าง
             “แกหมายความว่าไงเจอร์โรม” ดาวเสาร์ขมวดคิ้วถาม
             “ก็ไม่มีอะไรนี่”
             “โยชิเป็นเพื่อนฉันอย่าคิดจะทำอะไร" ดาวเสาร์กระซิบกระซาบกับเจอร์โรม ผมเลยไม่ได้ยินว่าดาวเสาร์พูดอะไรกับเจอร์โรม ทั้งดาวเสาร์และเจอร์โรมมองหน้ากันเหมือนหยั่งเชิง ผมมองคนทั้งคู่สลับกันและกำลังสงสัยว่าผมจะยืนอยู่ตรงนี้ทำไม ในเมื่อผมรู้สึกไม่ถูกชะตากับเจอร์โรม และสายตาที่เขามองผมก็ไม่น่าไว้วางใจ เพราะฉะนั้นผมควรไปจากที่นี่ซะ
             “ฉันขอตัวก่อนนะ” พูดจบผมก็แยกตัวออกมา แล้วผมจะไปไหนต่อดี แดดเปรี้ยงเหมือนไม่ใช่หน้าฟ้า ฟ้าโปร่งแบบไร้เมฆ ข้าวกลางวันก็ยังไม่ได้กิน คงต้องหาซื้ออะไรกลับไปกินที่หอ ไม่ก็กลับไปกินบะหมี่ที่ห้องแล้วเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ  ผมล้วงโทรศัพท์ส่งข้อความหานิกกี้ว่าผมรู้สึกเพลียขอตัวกลับไปนอนพักก่อน ส่งเรียบร้อยก็เก็บโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์
             “ห้องน้ำไม่ได้ไปทางนั้น”
             ผมชะงักเท้าเมื่อเสียงของเจอร์โรมดังมาจากข้างหลังและเสียงอยู่ใกล้มาก ผมหันกลับไปมอง เขาสอดมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ทขยับเดินเข้ามาใกล้ผม เขาตามผมมาทำไม เขาควรจะกลับไปนั่งกินข้าวกับนิกกี้สิถึงจะถูก
             “นายมีอะไร” ผมมองเจอร์โรมด้วยความระแวดระวัง ผมเชื่ออาซานะ ต่อให้ก่อนหน้านี้เขาจะใจร้ายกับผม แต่ผมก็ยังเชื่อใจและเชื่อในคำพูดของเขา
             “นายคงไม่รู้ว่าห้องอยู่ที่ไหน ฉันจะพาไปเอง”
             “ไม่เป็นไร ฉันไปเองได้” ผมรีบตอบ
             “ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ คนกันเองทั้งนั้น” คำพูดคำจาเป็นกันเองแต่ความรู้สึกผมไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น ผมกำลังรู้สึกว่าตัวเองโดนคุกคาม และความจริงที่ว่าผมไม่ได้เกรงใจ ผมไม่อยากข้องเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ แต่เจอร์โรมไม่สนใจคำพูดของผม เพราะเขาบังคับผมทางสายตาให้เดินไปกับเขา
             “ฉันไปเองได้จริงๆ”
             “ไม่เอาน่า เป็นเด็กดีหน่อยสิ”
             “...”
             “เผื่อนายจะไม่รู้ว่าฉันไม่ชอบพูดซ้ำสอง”
             ผมนิ่วหน้าเมื่อเจอร์โรมเดินเข้ามาบีบต้นแขนผมและดึงผมให้เดินตามเขาไปอย่างเอาแต่ใจ ทั้งน้ำเสียงสีหน้าและแววตาทำให้ผมต้องยอมเดินตามแรงบังคับ มือที่จับอยู่ที่ต้นแขนของผมร้อนราวกับไฟ ผิวโดยรอบขึ้นสีแดงจางๆไม่รู้ว่าเป็นเพราะแรงเค้นหรือเพราะความร้อนกันแน่ แต่มันทำให้ผมค่อนข้างกังวลจนอยากจะสะบัดแขนเขาออกแล้ววิ่งหนีกลับหอให้รู้แล้วรู้รอด
             หมับ!
             “อ๊ะ!...”
             แขนอีกข้างถูกกระชากอย่างแรงจากข้างหลัง ผมหันไปก็เจออาซา ใจชื่นด้วยความโล่งอกปนดีใจ ผมยิ้มออกโดยไม่รู้ตัว แต่ใบหน้าอาซากับเกร็งเครียด แนวสันกรามขึ้นรูปเพราะเจ้าตัวขบฟันแน่น ได้ยินเสียงสบถเบาๆจากเจอร์โรมแต่เขายังกำรอบต้นแขนผมแน่น
             “ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้!” อาซากัดฟันพูดเสียงเข้มขึ้นเชิงออกคำสั่ง มือที่กำแขนผมแน่นไม่ต่างจากข้างที่ถูกเจอร์โรมบีบเอาไว้ แต่ที่ต่างคือ...มือของอาซาเย็นเป็นน้ำแข็ง
             “กล้ามากที่เข้ามาในถิ่นฉันคนเดียว” เจอร์โรมตาลุกวาวยอมปล่อยมือออกจากแขนผม อาซาดึงตัวผมให้หลบอยู่หลังเขา
             “ฉันจะกล้ามากกว่านี้ถ้าแกล้ำเส้น ฉันเตือนแกแล้วนะ”
             “แล้วไง ก็แกไม่ต้องการเด็กคนนี้แล้วไม่ใช่เหรอ เมื่อวานแกพูดเอง นายก็จำได้ไม่ใช่เหรอโยชิ” รายนั้นถามความเห็นจากผมโดยไม่ได้ละสายตาจากอาซา ผมปิดปากเงียบไม่ได้ตอบ แน่นอนว่าผมจำได้ จำได้แม่นด้วย แต่ถ้าถามว่าผมเชื่อไหม บอกเลยว่าไม่!
             “นั่นไม่ใช่เรื่องของแก อย่าให้ฉันต้องเตือนแกอีกรอบว่าอย่ายุ่งกับคนของฉัน”
             “ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งแกวะ”
             “ก็เพราะฉันสั่งให้แกทำ มันยากตรงไหน หรือถ้าฟังภาษาคนไม่เข้าใจ ฉันจะให้ลูกน้องของแกมาแปลเป็นภาษาหมาให้”
             “ไอ้อาซา!!!”
             “อย่าคิดลองดี แกก็รู้ว่าแกสู้ฉันไม่ได้”
             “งั้นก็ดูแลคนของแกให้ดีแล้วกัน พร้อมทั้งความลับของแกด้วย” เสียงเยาะหยันของเจอร์โรมดังไล่หลัง ดวงตากร้าวของอาซาดูโหดกว่าเดิมเมื่อคิ้วเข้มขมวดขึ้งเข้าหากัน ใบหน้าแดงเหมือนโกรธจัด เขาลากผมไปตามทางอย่างเร็วจนผมแทบเดินตามไม่ทัน
             “อาซาคือว่าฉันไม่ได้ตั้งใจมาเจอกับ...” อ้าปากได้แค่นั้นเขาก็ขึ้นเสียงสั้นๆใส่ผมคำเดียว
             “เงียบ!”
             คำเดียวแต่เสียวถึงไส้ติ่ง
             “แต่ฉัน...” ผมกำลังจะอธิบายให้อาซาฟังอีกครั้งว่าผมไม่ได้ตั้งจะใจขัดคำสั่งที่เขาบอกไม่ให้ผมยุ่งกับเจอร์โรม แต่มันเป็นเรื่องบังเอิญ
             “ฉันบอกให้เงียบ!” เขาหยุดเดินกะทันหัน หน้าผมกระแทกเข้ากับแผ่นอกแข็งอย่างจัง วินาทีต่อมากลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งในจมูก ผมยกมือขึ้นแตะความแฉะที่ไหลออกมาจากรูจมูกทั้งสองข้าง
             เลือดกำเดา...ไหล
             “Shit! บ้าเอ้ย เงยหน้าขึ้น!” อาซาตะคอกผมด้วยใบหน้าหวั่นวิตก แต่มือที่เชยหน้าผมขึ้นกับเบาราวไม่ได้สัมผัส
             ผม เงยหน้าขึ้นมองฟ้าอย่างที่เขาบอก แต่แล้วก็ต้องแปลกใจ เมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาแดดเปรี้ยง ได้ยินเสียงคนที่เดินผ่านไปมาซุบซิบถึงผมกับคนดังที่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดจากจมูกผม ผมทิ้งความสนใจเรื่องดินฟ้าอากาศและคนรอบข้าง เลือกสนใจแค่ผู้ชายที่กำลังทำหน้าเป็นห่วงผมเท่านั้น
             “อาซา”
             “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”
             “ทำไม”
             “มันจะทำให้ฉันยิ่งหงุดหงิด” ดวงตาสีดำสนิทสบตาผมนิ่งๆ ผมไม่เข้าใจ นี่เหรอคนที่บอกไม่อยากเป็นเพื่อนกับผม แววตาที่แสดงออกชัดเจนว่าเป็นห่วง คนที่ไม่อยากเป็นเพื่อนกันคงไม่มีความรู้สึกแบบนี้ ยังไงผมก็ไม่เชื่อเด็ดขาด
             “ฉันไม่เข้าใจ...เรื่องพวกนั้น”
             “โยชิ” อาซากดเสียงต่ำดุผม
             “นายไม่ชอบเวลาที่ฉันโมโหหรอก เชื่อสิ”
             เลือดกำเดาผมหยุดไหลแล้ว อาซาถึงได้จูงมือผมพากลับหอพัก ระหว่างทางเดินเราไม่พูดอะไรกันสักคำ ผมลอบมองเสี้ยวหน้าเขาหลายครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาที่ผมหลงใหลติดจะหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าหงุดหงิดเรื่องเจอร์โรมหรือเรื่องผม หรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง แต่ที่แน่ๆก็คือเขามีอะไรอยู่ในใจ
             กริ๊งงงง~
             เสียงโทรศัพท์มือถือของอาซาดังตอนที่มาถึงห้องหอพักผม เขามองหน้าจอด้วยสีหน้าเคร่งเครียดหนัก ผมลังเลว่าจะชวนเขาขึ้นไปบนห้องไหม แต่ก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างไหนดี
             “ขึ้นไปพักเถอะ”
             “อ่อ อืม”
             ผมหมุนตัวเดินกลับไปที่หน้าประตูหอพัก แตะนิ้วลงบนแป้นสแกน ไม่วายหันไปมองอาซาอีกครั้ง เขารับสายและหันหลังให้ผม ถึงมีเรื่องจะถามมากมาย แต่เวลานี้คงไม่สะดวกเท่าไหร่ ผมกลับขึ้นห้องด้วยความรู้สึกสองอย่างที่ตีวุ่นกันไปหมด อย่างแรกผมดีใจที่ได้เจออาซา อย่างที่สองผมอยากรู้ว่าเรื่องที่เขาพูดกับเจอร์โรมหมายถึงอะไร
             อะไรที่เป็นความลับของอาซา
             “เฮ้อ” เปิดประตูเข้าห้องและปิดมันลง สายตาก้มมองต่ำ ค่อยๆถอดรองเท้าออกก่อนจะเงยหน้าพร้อมกับผงะถอยหลังชนประตูด้วยความตกใจในวินาทีเดียวกัน
             “ดาวเสาร์! บ้าเอ้ย!! นายทำฉันตกใจ”
             มายืนประชิดไม่ให้สุ่มให้เสียง คนยิ่งมีเรื่องให้ต้องคิดอยู่ ผมเสยผมเซ็งๆ มองดาวเสาร์ที่จ้องหน้าผมนิ่ง คิ้วขมวดติดกัน
             “มีอะไรหรือเปล่า” ผมถาม เขาดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่จากที่เห็น
             “นายรู้จักอาซาตั้งแต่เมื่อไหร่โยชิ”
             “ก็...ตั้งแต่เปิดเรียน ทำไม” ผมแทรกตัวเข้าไปในห้อง ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงด้วยความเหนื่อย แค่ช่วงเที่ยงแต่เหนื่อยเหมือนเจอศึกหนักมาทั้งวัน เสียงท้องร้องทำให้ผมเพิ่งรู้ตัวว่าผมต้องหาอะไรใส่ท้องแต่ก่อนอื่นผมอยากจะอาบน้ำ
             “โยชิ ฉันขอเตือนนายว่าให้อยู่ห่างคนพวกนั้น ทั้งอาซาและเจอร์โรม คนพวกนั้นไม่ใช่คนที่นายควรจะไปยุ่ง” ดาวเสาร์ยืนเท้าเอวพูดจริงจังต่อหน้าผม ผมพ่นลมหายใจออกจากปาก
             “ฉันไม่เข้าใจ พวกเขาเป็นมาเฟียงั้นเหรอ หรือเป็นพวกสูงศักดิ์ที่คนระดับฉันไม่ควรยุ่ง ทำไมถึงมีแต่คนบอกให้ฉันเลิกยุ่งกับพวกเขา ทั้งอาซาบอกว่าฉันไม่ควรยุ่งกับเจอร์โรม คนที่ชื่อคาร์เตอร์บอกว่าฉันไม่ควรยุ่งกับอาซา และนายบอกว่าฉันไม่ควรยุ่งกับพวกเขาทั้งสองคน เอาตรงๆนะดาวเสาร์ ฉันไม่เข้าใจ กับเจอร์โรมฉันไม่เถียงนะ เพราะเขาก็ไม่น่าคบจริงๆ แม้เขาจะเป็นเพื่อนนายก็เถอะ แต่กับอาซา...เขาเป็นเพื่อนฉัน และเขาดีต่อฉัน” ผมพูดยาวเหยียดแบบใส่อารมณ์นิดหน่อย เพราะผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนนั้นต้องสั่งให้ผมไม่คบคนนี้ คนนี้สั่งให้ผมอยู่ห่างจากคนโน่น ผมควรมีสิทธิ์ได้เลือกเองสิว่าอยากจะคบใครหรือไม่คบใครก็ได้ ไม่ใช่ให้คนอื่นมาคอยสั่งคอยบอก มันเลยทำให้ผมค่อนข้างหงุดหงิด
             หรือที่ผมหงุดหงิด ความจริงแล้วก็มีคนถึงสองคนบอกให้ผมเลิกยุ่งกับอาซา อ่อ ไม่สิ...สามคนต่างหาก เพราะเจ้าตัวเขาก็พูดเองว่าผมไม่ควรยุ่งกับเขา แต่ตัดออกไปเถอะ ผมไม่เชื่อและไม่ทำตามด้วย ผมดื้อรั้นเพราะถูกพ่อกับพี่ยอร์ชตามใจจนเคยตัว มันก็ช่วยไม่ได้ที่ผมจะเป็นคนทื่สื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง
             “นายรู้จักกับคาร์เตอร์ด้วยเหรอ” ดาวเสาร์ทำหน้าตกใจเข้าไปใหญ่ ผมส่ายหน้าเซ็งๆ
             “ไม่รู้จัก”
             “แต่นายเอ่ยถึงเมื่อกี้”
             “ฉันไม่รู้จัก” ผมเน้นย้ำคำ
             “เฮ้อ ฉันจริงจังนะโยชิ เพราะนายเป็นเพื่อนฉันถึงได้เตือน อย่ายุ่งกับคนพวกนั้น เพราะนายจะมีอันตราย” ดาวเสาร์วกกลับเข้ามาเรื่องเดิม ผมกรอกตาไปมาก่อนจะถามสิ่งที่ทำให้เจ้าตัวสะอึก
             “แม่แต่นายด้วยหรือเปล่าที่ฉันไม่ควรคบ เพราะนายเป็นเพื่อนของเจอร์โรมนี่”
             เขานิ่งก่อนจะถอนหายใจ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
             “ใช่...รวมถึงฉัน นายก็ไม่ควรยุ่ง”


ต่อข้างล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 24-06-2014 19:56:11
             ฟองสีขาวลอยอยู่เต็มอ่างอาบน้ำและตอนนี้ฟองสบู่ปิดไปครึ่งหน้าของผม เป่าลงออกจากปากในน้ำจนเกิดเป็นฟอง ขยับเท้าไปมาเพื่อสร้างความผ่อนคลาย หลังจากดาวเสาร์พูดว่าแม้แต่เขาเองผมก็ไม่ควรยุ่งแล้วออกไปจากห้อง ผมก็เข้ามาอาบน้ำแช่ฟองสบู่อยู่ในห้องน้ำได้เกือบยี่สิบนาที ท้องยังคงร้องเพราะยังไม่มีข้างเที่ยงตกถึงท้อง ผมหยุดคิดเรื่องน่าปวดหัวเกี่ยวกับผู้ชายทั้งสามสี่คนที่เข้ามาในชีวิตผม แม้แต่อาซาเองก็เถอะ ผมแค่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป ไม่มีแรงจะคิดหรือทำอะไรทั้งนั้น
             พรึบ!
             ปึก!
             เสียงอะไร?!
             ใครอยู่ในห้อง ดาวเสาร์หรือเปล่า
             “ดาวเสาร์ นั่นนายหรือเปล่า” ผมลองตะโกนออกไป แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับ จะมีก็แต่เสียงข้าวของในห้อง เสียงเปิดตู้ และเสียงของหล่น ผมรีบลุกขึ้นออกจากอ่างอาบน้ำ หยิบชุดคลุมอาบน้ำสวมไว้ลวกๆ เดินไปที่หน้าประตูห้องน้ำ ค่อยๆเปิดแงมออกมอง เห็นขาคนแวบๆ ผมจึงเดินออกไปดูด้วยใจตุ่มๆต่อมๆ
             สิ่งที่เห็นทำเอาผมพูดไม่ออก
             “อาซา”
             เขาเข้ามาในห้องผมได้ยังไง ผมแน่ใจว่าไม่เคยบอกเขาว่าผมอยู่ห้องไหน
             แม้ผมจะหวามในอกทุกครั้งที่ได้พบอาซา แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป เขามาพร้อมสิ่งที่ทำให้ผมกลัวและตื่นตระหนก ท่าทางลุกลี้ลุกลนเก็บข้าวของของผมใส่กระเป๋าพร้อมใบหน้าเครียดขึง ทำให้ผมเริ่มคิดอย่างจริงจังอีกครั้งว่า มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขาและผม
             “เดี๋ยวอาซา” ผมเข้าไปห้ามเขา ยั้งมือที่กำลังจะเปิดลิ้นชักชั้นในของผมออก
             “อะไร” เขาเหลือบตาขึ้นมองผม
             “นายกำลังทำอะไร”
             ทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ของผมและหนังสือเรียนอัดแน่นราวกับจะย้ายห้อง ผมไม่เข้าใจว่าเขากำลังทำอะไร เก็บของๆผมไปไหน
             “นายอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ มันไม่ปลอดภัย”
             “ฉันไม่เข้าใจอาซา มันจะมีอะไรอันตราย ถ้าฉันไม่อยู่ที่นี่แล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหน”
             “แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ เอาเสื้อผ้านี่ไปเปลี่ยนซะ ฉันให้เวลาสองนาที”
             ไม่...มันต้องไม่ใช่แบบนี้
             “ไม่อาซา ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!”
             “อย่าเพิ่งดื้อตอนนี้โยชิ” ความโกรธในน้ำเสียงของเขาทำเอาผมขนลุก แต่ผมก็ทำใจแข็งบีบมือแน่นเชิดหน้าพูดต่อรองกับอาซา แทนที่ผมจะทำตามคำสั่งเขาอย่างว่าง่ายแบบที่เคยทำ นั่นมันก่อนหน้าที่เขาจะพูดจาทำร้ายจิตใจผม
             “ฉันจะไปกับนายก็ได้ ถ้านายสัญญาว่าจะตอบคำถามฉันทุกคำถาม” ผมรอคำตอบด้วยใจที่คาดหวัง เพราะเขานิ่งไปเลยเมื่อผมพูดจบ
             “ฉันจะตอบแค่ในสิ่งที่นายควรรู้ เพราะฉะนั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”
             ตอบแบบนี้เหมือนขอไปที มันไม่แฟร์นะผมว่า
             “หรือจะให้ฉันเปลี่ยนให้” เขาหรี่ตามองผมตั้งแต่หน้าไปถึงปลายเท้า และสายตาของเขาบอกว่าเขาทำแน่ๆถ้าผมจะดื้อแพ่งไม่เลิก
             “มะ ไม่ต้อง ฉันเปลี่ยนเองได้” ผมวิ่งเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ออกจากห้องน้ำอาซาก็เก็บของผมเรียบร้อย เขาลากผมออกจากหอพักโดยแจ้งกับผู้ดูแลหอว่าผมจะย้ายไปอยู่กับเขาที่ ผมได้แต่ตาโตอ้าปากค้าง
             หมายความว่า...
             “นายจะให้ฉันไปพักกับนายที่ป่าหลังโรงเรียนเหรอ”
             “ใช่ ที่นั่นจะปลอดภัยสำหรับนาย”

            ครืนนน เปรี้ยง!!!

             เสียงฟ้าผ่าดังสนั่น ท้องฟ้ากลายเป็นสีดำทะมึน เมฆสีดำก้อนใหญ่ลอยอยู่เนื้อหัวปกคลุมทั่วมหาวิทยาลัย ลมพัดแรงเสียงหวิดหวิวชวนผวา ใบไม้ต้นไม่ปลิวว่อน ท้องฟ้าคำรามราวกับเกิดอาเพศครั้งใหญ่ มันทำให้ผมกลัวจนต้องเบียดร่างเข้าหาอาซา เขากุมมือผมไว้แน่น พลางกระซิบเสียงเบา
             “อย่ากลัว ฉันจะปกป้องนายเอง”
             อาซา...เขาเป็นใครกันแน่
             ฝนตกลงมาระหว่างทางที่ผมกำลังเดินเข้าไปในบ้านพักของอาซา สองขายาวเดินนำหน้าผม จับมือผมแน่นให้เดินตาม ผมหวิดจะลื่นล้มอยู่หลายรอบเพราะดินแฉะ เสียงฟ้าร้องติดกันหลายต่อหลายครั้ง แถมลมก็พัดแรงจนกลัวว่าต้นไม้จะล้มลงมา
             ผมปัดหยาดน้ำฝนบนหน้าทิ้งเพื่อให้มองเห็นทางได้ชัดขึ้น แต่ฝนตกแรงมาก ต่อให้ปัดเท่าไหร่ก็ไม่ช่วย ผมเงยหน้าจากพื้นมองอาซาจากข้างหลัง ก่อนจะแปลกใจว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเขา ที่บริเวณต้นคอขาวผมรู้สึกว่าอีกอะไรติดอยู่ เป็นปืดสีดำเงา ผมสะบัดหน้าไล่น้ำฝนที่ทำให้ตาพร่าและพยายามจะเพ่งมองอีกครั้งหนึ่ง

             สวบ!!!

             ขวับ!


             ผมหันไปดูต้นเสียงแต่อาซาจับหน้าผมไว้แน่นไม่ให้หันไปมอง หางตาผมเห็นบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่รางๆ
             “อย่าหันไปมอง มันไม่มีอะไรน่าดูสำหรับนาย”
             “ปล่อย!” ผมไม่เชื่อเขา ถ้าผมยังฟังเขาทุกอย่างมันก็จะกำกวม ผมหันไปมองแม้ว่าอาซาจะออกแรงรั้งหน้าผมแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดแล้ว ผมอยากจะเปลี่ยนใจเชื่อฟังอาซาซะ แทนที่จะเห็นสิ่งที่น่ากลัวจนหลอนประสาทก่อนจะสลบ
             “โยชิ! Damn it! ฟรินน์ ฉันสั่งแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำแบบนั้นข้างนอก เวรเอ้ย!...”





            ………
            ไหนนนน มีใครเดาเนื้อเรื่องถูกบ้าง แล้วคิดว่าตอนหน้าจะเป็นยังไง หึหึ ใครเดาเนื้อเรื่องไว้ยังไงบอกกันมั้งนะ ดูสิว่ามีใครจะเดาได้ถูกบ้าง  :z1:
             ดูเหมือนนักอ่านบางคนจะงงๆกับเนื้อเรื่อง ดูเหมือนปมเยอะแยะมากมายและไม่กระจ่างสักเรื่อง (ก็มันเพิ่งจะแค่เจ็ดตอนเองนะ) จริงๆปมทุกอย่างมันจะค่อยๆคลายออกทีละนิดทีละนิด ไม่ได้มาแบบตู้มเดียว เหตุหนึ่งเพราะการบรรยายในแบบบุคคลที่หนึ่งค่อนข้างจำกัด เราทุกคนอ่านและรับรู้เรื่องราวผ่านโยชิ เพราะฉะนั้นเราก็จะเห็นแค่ด้านเดียวในสิ่งที่โยชิเห็น มันจะไม่เหมือนการบรรยายแบบบุคลที่สามที่สามรถมองได้กว้างกว่า รู้ว่าคนสองที่กำลังคุยกันคิดยังไง แต่บุคคลที่หนึ่งเราจะรู้แค่ความรู้สึกของคนที่เล่าเรื่อง จะไม่รู้อีกฝ่าย เรื่องราวมันเลยดูเหมือนไม่เคลียร์ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ปมเฉลยทุกปมแน่ หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจตรงไหน สงสัยตรงไหนก็เขียนบอกกันไว้ได้นะคะ ถ้าอันไหนไม่กระทบกับเนื้อเรื่องก็จะตอบให้ แต่เท่าที่ริริวางโครงเรื่องเอาไว้ ทุกข้อสงสัยที่ปรากฏในเนื้อเรื่องจะมีเฉลยแน่นอน
             #1 คอมเม้น เท่ากับ1 กำลังใจนะคะ  :mew2:
             ขอบคุณค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: Fellina ที่ 24-06-2014 20:12:02
I love it!!
Love both of Asa and Yoshi
Hope you will up next chapter soon≧◇≦
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 24-06-2014 20:16:12
บอกเลยเราเดาไม่ออก   :laugh:

สลบ อุ้มกลับ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เขิน งี้ป่ะ คือคิดไรซับซ้อนไม่ค่อยเป็น   :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 24-06-2014 20:16:23
โยชิรีบๆรู้ความจริงก็ดีนะ จะได้มีภูมิคุ้มกันงู
เพราะต้องอยู่กันไปอีกนานนะจ้ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 24-06-2014 20:16:32
 :hao7: ค้างงงงงง ><
น่าติดตามมากจ้าจัดไป+1เป็ด ขอบคุณค่ะ:)
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: momoku ที่ 24-06-2014 20:27:24
ยิ่งอ่าน ปมก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด
ตกลงนอกจากงูกับหมามันจะมีตัวอะไรออกมาอีกมั้ยเนี่ย??  :really2: :a5: :serius2:

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 24-06-2014 20:28:51
โยชิจะรู้ความจริงปะ จะได้มีภูมิคุ้มกันพ่อพระเอกของเรา :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 24-06-2014 20:36:15
 :katai1: ปมยังผูกแน่นหนา >||||< อร๊ายยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 24-06-2014 20:59:13
งงมากกก สับสนและคิดว่าโยชิก็คงสับสนเหมือนกัน เพราะมีแต่คนบอกว่า คนนั้น คนนี้ อันตรายไม่ควรยุ่ง บอกว่า ควรอยู่ห่างๆไว้ ไรงี้ คือแบบ เราเป็นโยชิ เราคง งงตาย 55555 ลุ้นละทึกดีค่ะ สนุกมาก อยากอ่านตอนต่อเร็วๆ อิอิ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: zizits ที่ 24-06-2014 21:05:02
ปมเยอะมากอ่าา :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 24-06-2014 21:42:17
โยชิ สลบอีกแล้ววว :hao4:


รอๆตอนต่อไปปป :mew1: :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 24-06-2014 21:45:32
ก็รีบๆรู้ความจริงได้แล้วนะ

เพราะปิดยังไงสุดท้ายก็จะได้รู้อยู่ดี

ขึ้นอยู่กะว่าจะช้าจะเร็ว

ที่อาซาเป็นห่วงโยชิเพราะโยชิมีอันตรายจากศัตรูอาซาไง อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 24-06-2014 21:46:47
อืมมมมมมมมมมมมม โดนน้ำแล้วเกล็ดขึ้นรึเปล่านะ? :ruready
รู้ละ สรุปตอนนี้มี 2 กลุ่มในม.
แล้วโยชิต้องมีอดีตร่วมกับอาซา เข้าใจค่ะๆ  :hao3: ปมมันต้องค่อยๆคลายไปแบบนี้แหละ ลุ้นๆ
ฟรินน์ต้องแปลงร่างเป็นงูละโยหันไปเจอแหงมเลย o22
อ่า.......ตอนหน้าจะโยได้รู้ไหม๊น้ออ ว่าอาซาเป็นอะไร
รอตอนต่อไปน้าาาา :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 24-06-2014 21:49:08
อ่า ฟินน์ออกมาข้างนอกในสภาพของงู อาจเป็นเพราะสภาพอากาศรึเปล่า? อันนี้ก็ไม่รู้สินะ  o16

แต่ถ้าให้เดา โยชิเห็นฟิน(?)ในร่างงู ด้วยความตกใจจึงสลบไป อาซาหงุดหงิดใจ"แกออกมาทำไมในสภาพนี้"....

ฟินน์รู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร แล้วแปลงกายเป็นคน.......

 อาซาอุ้มโยชิเดินไป ฝนตกน้ำไหลก็ยังอดทน.......

เจอร์โรมพยายามท้าทาย คงอยากจะได้ ตัวโยชิไป ...............

แต่อาซานั้นก็รู้ทัน รีบมาเร็วพลัน กลัวโยชิตาย.............(- - กูมั่วป่ะวะ)

เอาง่ายๆเราก็ยังคงงง โยชิมันโง่หรือว่ามันควาย

เค้าห้ามมันก็ยังรั้น คงเพราะนิสัยมันแก้ไม่หาย

อาซาก็แสดงชัดเจน จนคนเค้ารู้ทั้งตลาดแล้วจ่ะยาย .....

ส่วนเรื่องจะเป็นยังไงต่อนั้น เราไม่ขอเดา

อยากตามใจเขา(คนแต่ง) เชิญแต่งตามสบาย

เราจะขอนั่งลุ้นตัวโก่ง ไม่ขอคิดคดให้มันวุ่นวาย

เอิ่มมมม ขอจบการบรรยายเท่านี้ คิดดูอีกที Guเขียนลิเกชิ-หาย

(ขอจบแบบหยาบคาย น่าละอายตนเอง sorry จริงๆค่ะ  o1  :freeze: )

 :try2:  (ผลัวะ//โดนตบ   :fcuk: )
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 24-06-2014 22:00:30
งะยังไงอะ
ค้างติ่งแบบสุดๆ อยากให้โยชิรู้ความจริงแล้วอ่า
คึคึ โยชิจะได้เลิกกลัวงูสักที
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 24-06-2014 22:07:24
ลุ้นมากก ติดตามต่อไป มาไวๆๆนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: pim-lovemj ที่ 24-06-2014 22:19:45
 :-[ ว้ายโยชิลูกสาวดิชั้น หอบผ้าหอบผ่อนหนีตามผู้ชายซะแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 24-06-2014 22:25:58
โยชิจะย้ายไปอยู่กับอาชาแล้ววว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 24-06-2014 22:34:25
ปมเยอะจุง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: McKnight ที่ 24-06-2014 22:41:16
สงสารน้องโยชิจริงๆ มีแต่คนมาออกคำสั่งห้ามเข้าใกล้คนนู้นคนนี้คนนั้น แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลกันซักคน

ส่วนนายอาซา ปล่อยโยชิไว้ไกลตัวมีแต่จะห่วงหน้าพะวงหลัง
ศัตรูของนาย ดูท่าจะเยอะนะ จ้องน้องโยชิตาเป็นมันกันทั้งนั้่น
ดีแล้วที่เอามาเก็บไว้ใกล้ตัวจะได้ดูแลปกป้องได้

แล้วก็........หุหุ ๆๆ เผื่ออะไรๆจะได้คืบหน้า......ไปมากกว่าจูบอีกนิด คึคึ
นั่นๆ ผมไม่ได้คิดทะลึ่งนะ อะไรๆที่ว่านี่คือหมายถึงรู้จักตัวตนกันและกันมากขึ้น
อาซาเป็นงูแน่ๆ แล้วโยชิล่ะเป็นงูด้วยมั้ย??
รวมไปถึงโยชิอาจจะเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับความฝันประหลาดที่สงสัยอยู่ก็เป็นได้ (อดีตชาติ-ปัจจุบัน-อนาคต เกี่ยวข้องกัน???)

เรื่องนี้สนุกมากครับ ตอนแรกอ่านนึกว่าจะมาแนวแฮรี่พอตเตอร์(เนื่องจากมีคฤหาสถ์ของตระกูลชั้นสูง4 ทิศ)+ทไวไลท์(ศัตรูระหว่างเผ่าพันธุ์) 
แต่พออ่านจนถึงปัจจุบันเท่านั้นแหละ มันไม่ใช่แล้ว มันมีอะไรน่าค้นหาและน่าติดตามมากกว่านั้น
รอติดตามตอนต่อไปนะครับ ชอบที่ปมเยอะดี ยิ่งมีอะไรให้สงสัยเยอะยิ่งสนุกครับ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 24-06-2014 23:16:21
เดาไม่ออกอ่ะ
เรารอริริมาเฉลยละกัน อิอิ
ริริมาเฉลยเร็วๆนะว่าโยชิเห็นอะไรถึงได้สลบไปแบบนั้นอ่ะ
คงเป็นอะไรที่ไม่น่าดูมากๆสำหรับโยชิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 24-06-2014 23:53:16
ริริมาต่ออีกเร็วๆนะ อยากอ่านตอนต่อไปอ่ะ เนื้อเรื่องน่าติดตามมากๆจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 25-06-2014 00:12:57
รอคนเขียนมาเฉลยเองดีกว่าาา  รู้สึกเดาไม่ถูก         
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 25-06-2014 09:38:15
แล้วจะเป็นยังงัยต่อละเนี่ย

หนูโย ก็สลบไปแล้วซะด้วย

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: howru ที่ 25-06-2014 09:39:46
ไหนๆก็เลี่ยงงูไม่ได้แล้ว ทำใจยอมรับนะโยชิ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 25-06-2014 13:46:55
ก้อคนอยากรู้นิเนอะ โยชิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 25-06-2014 13:57:41
พากันเข้าบ้านแล้ว
โยชิจะเป็นยังไงบ้างนิ เข้าไปอยู่กับงูท้างงงน้านนน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 25-06-2014 15:36:40
 o13 กำลังสนุกเลย ปมเยอะ ตัวละครก็เยอะ พยายามเดาเรื่องราว แต่เดาไม่ถูก  :laugh:

ปล. ชอบเวอร์ชั่นในเฟส ที่น้องของขวัญเจอลุงอาซา  :laugh: งูผัดเผ็ด 555
อาซาถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 25-06-2014 18:46:10
เริ่ม ลึกลับและซับซ้อน  งง งวย   หลายพักหลายพวกเกิ๊นนนน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKE ปรารถนารักอสรพิษร้าย ❁ SEVEN❁ 24-06-14 [P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 25-06-2014 21:08:35
วันนี้จะได้อ่านป่าวเอ่ย....
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 25-06-2014 23:39:13
        แวะมาบอกกล่าวถึงกำหนดลงนิยายเรื่องนี้กันนิดหนึ่งนะคะ
        ก่อนหน้านี้จะมาให้วันเว้นวันเพราะมีสต็อคอยู่ ตอนนี้ก็ยังมีแต่เริ่มน้อยละ เพราะตั้งแต่ไปบวชชีพราหรณ์กลับมาก็ยังไม่มีเวลาแต่งเพิ่มเลย ตอนที่แปดเลยจะข้ามวันพรุ่งนี้ไป แล้วจะมาลงให้วันศุกร์ที่27นี้แทนนะคะ เวลาไหนยังไม่รู้ ต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด อยากให้รอกันหน่อย ถ้าลงถี่ๆกันตอนนี้เดี๋ยวตอนหลังๆเกิดตันขึ้นมาแล้วแต่งต่อไม่ได้ ทีนี้จะขาดกันไปเป็นอาทิตย์ๆ ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอะไรก็ไม่แน่ไม่นอน ถ้าหัวแล่นก็แต่งไว วันไหนว่างๆทั้งวันก็สามารถแต่งจบได้ตอนหนึ่ง แต่ถ้ายุ่งหน่อย หัวไม่ค่อยแล่นก็สองวัน ปมมันเยอะ เลยต้องละเอียดลออในการแต่งไม่ให้พลาดในจุดไหนไป และริริแต่งตามข้อมูลที่พยายามหาได้ ไม่ได้เมคเรื่องขึ้นมาลอยๆ หรือจินตนาการเองทั้งหมด เพราะฉะนั้นนอกจากแต่งเรื่องก็ยังต้องใช้เวลาหาข้อมูลอีกด้วย เพราะฉะนั้นเลยอยากแจ้งให้ทุกคนทราบ เดี๋ยวจะหาว่าแต่งไปบ้างแล้วแต่ทำไมไม่ลงนิยายต่อ มัวรออะไร ก็รอให้ตอนใหม่ๆมันงอกและจะได้เอาตอนเก่าๆลงเนี่ยแหละคะ

        หลายคอมเม้นเลยที่สงสัยว่ามันมีกี่พวก ทำไมมีหลายพวกจัง เฮ้ยูวววว มันก็ไม่กี่พวกนะ ถ้าดูจากรูปที่ริริลงไม่ต้องอ่านเนื้อเรื่องริริว่าก็น่าจะรู้แล้วปะตัวว่ามีกี่พวก และตัวละครที่ดูเหมือนจะเยอะ แต่ก็ไม่เยอะนะ แฟนตาซีมันก็มักเป็นแบบนี้ บุคคลที่ต้องจำและปรากฏตัวออกไปแล้ว ก็พวกอาซา แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นของพวกฮี พวกฮีออกบ่อยเดี๋ยวก็จำได้แม่น พวกโยชิ มีอยู่ห้าคนเนอะ เพื่อนสอง พ่อกับพี่ชาย ก็จำไม่ยาก พวกนางออกบ่อยอยู่ พวกเจอร์โรมและดาวเสาร์ และสองคนใหม่ที่เพิ่งโผล่มาในตอนที่7ก็คือคาร์เตอร์และเฟลิกซ์ คิดว่าคงเดากันได้ว่าเจอร์โรมและดาวเสาร์เป็นอะไร ถ้าเดาไม่ได้ แนะนำให้กลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น น้องบอกไปแล้วนะพี่ชายยยย!!! ส่วนคาร์เตอร์และเฟลิกซ์ ค่อยไปรู้กันทีหลัง อาจมีโผล่มาอีกนิดหน่อย ไว้ตอนนั้นริริจะแจกแจงให้อีกทีนะ มีแค่นี้เองหลักๆ

        เน้นอีกครั้งว่าริริอยากให้อ่านทุกตัวอักษรนะคะ เพราะอย่างที่บอกไว้แล้วว่าเรื่องนี้จะใส่เนื้อเยอะกว่าน้ำ เพราะฉะนั้นถ้าอ่านข้ามไปบรรทัดเดียวและเป็นจุดที่สำคัญก็อาจไม่เข้าใจได้นะ ปมดูเหมือนเยอะ แต่ความจริงไม่เยอะเลย พูดจากใจจริง

        ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านชี้แจงนี้นะคะ จะไม่สัญญาว่านิยายเรื่องนี้จะดีเลิศเลอ แต่จะทำให้ดีที่สุดของที่สุด :katai4:

        เลิฟๆยู
:mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 25-06-2014 23:56:18
รับทราบค่ะ เราอ่านเข้าใจนะ อ่านแบบเร็วๆ(ด้วยความตื่นเต้น)รอบนึง แล้วค่อยๆอ่านแบบละเอียดยิบอีกรอบ สนุกดี
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: DGseries.COLD-HEARTSNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ชี้แจงควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 26-06-2014 00:08:04
โอเค จิ๊กกะแรต เข้าใจตรงกันแล้วจ้าาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 26-06-2014 01:09:45
 :pig4: เข้าใจจ้า
สู้ๆนะคะ ><\\
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: McKnight ที่ 26-06-2014 05:14:40
รับทราบครับ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 26-06-2014 08:48:22
โอเชจร้า

จะรอต่อไปนะจ้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 26-06-2014 10:00:18
ติดตามทุกลมหายใจ 555555

 o13 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Gaem ที่ 26-06-2014 11:46:09
จะรอนะคะะะ :z2:

เดาเรื่องไม่ถูกแล้วว ถ้าให้เดาคงออกทะเลไปแหง๋ 555555555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Netimefii ที่ 27-06-2014 12:15:35
 :impress2: :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Alphas ที่ 27-06-2014 13:16:32
ชอบเรื่องนีสนุกดีน่าติดตาม
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 27-06-2014 14:46:17
มารอๆ สนุกมากกกกกกกก มาเร็วๆนะคะ :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 27-06-2014 15:18:32
ชอบเรื่องนี้มากเลย  ตอนแรกๆอ่านไปหลอนไป

แบบที่บ้านมีต้นไม้เยอะ ช่วงนี้ฝนตก  หลอนไปเลยเรื่องงู

สนุกมาก เนื่องเรื่องน่าสนใจ ปมเยอะมาก 

สู้ๆนะ นักเขียน เป็นกำลังใจให้นะ  ติดตามผลงานจ้า :hao7: :hao3:

เอาไปเลย  +1
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁SEVEN❁ ชี้แจง ควรอ่าน!25-06-14>P.8
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 27-06-2014 15:25:37
เลิฟยูวค่ะ จุฟๆ มาต่อไวๆน้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 27-06-2014 19:34:27
EIGHT

           



          Asa

          ผมอยากจะต่อยไอ้ฟรินน์แรงๆสักทีข้อหาทำอะไรไม่ระมัดระวัง แต่มันก็เท่านั้น โยชิสลบไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าเขาเห็นไอ้ฟรินน์ชัดแค่ไหนเพราะฝนตกหนักและเม็ดใหญ่จนทำให้เห็นรอบข้างลำบากสำหรับคนธรรมดา และแถวนี้ต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างสูง ผมก็ได้แต่หวังว่าเขาจะเห็นไม่ชัด

          ผมอุ้มร่างบางขึ้นแนบอก รีบเดินกลับไปที่บ้านด้วยใจที่ระส่ำ กลัวว่าโยชิจะเป็นอะไรมากกว่าที่ผมเห็น มาถึงหน้าบ้านผมก็รีบพาขึ้นห้อง ผิวกายสีขาวนวลซีดไร้สีเลือดจนผมใจคอไม่ดี

          “Hey!…” จูเลียตที่กำลังเดินลงบันไดมาปะหน้ากับผม เธอมองคนในอ้อมแขนผมงงๆ แต่ผมรู้ว่าเธอไม่พอใจ

          “Get out of the way” ผมจะเดินแทรกขึ้นไป แต่จูเลียตขยับบังทางไม่ยอมให้ผมเดิน

          “Human? Who is he?”

          “He is Yoshi, he will stay here with us for a while.

          “Why?”

          “Move!”

          เมื่อเธอยังคงขวางทางผมที่ร้อนใจราวกับไฟสุมอก ก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจ เดินกระแทกตัวเธอจนล้มลงกับพื้น ก้าวฉับๆไปที่ห้องนอน ผมไม่แคร์ว่าจูเลียตจะรู้สึกยังไง ในเมื่อเธอไม่เคารพเรื่องส่วนตัวของผม ก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจเธอ

          ห้องของผมอยู่ด้านในสุด ผมกระชับร่างเล็กในอ้อมกอดแน่น  ปล่อยมือข้างหนึ่งปิดลูกบิดให้ประตูเปิดออก ผมวางโยชิไว้บนเตียงก่อนจะลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าชุ่มน้ำฝนออก ถึงจะเป็นครั้งที่สองที่ผมได้เห็นเนื้อตัวเปล่าเปลือยของโยชิเต็มๆตา แต่ก็ยังไม่ชินอยู่ดี เรือนร่างผอมบางอย่างเด็กผู้ชายตัวเล็ก แต่ก็ไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐานเด็กไทยนอนนิ่งไม่ไหวติง ผมเป็นห่วงว่าเขาจะอาการหนัก ผิวซีดจนแทบไม่มีสีเลือด ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเบนสายตาหนีภาพน่ามอง

          กลัวระงับตัวระงับใจตัวเองไว้ไม่ได้ เผลอทำอะไรคนไม่มีสติเพราะแรงรักแรงปรารถนา

          ผมหาผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตามเนื้อตัวโยชิที่มีคาบน้ำฝนและเศษดินติดตามขาตอนที่สลบล้มลงไปกับพื้นให้สะอาด เขาเหมือนเด็กตัวน้อยที่ผมอยากดูแลเฝ้าทะนุถนอมเอาไว้ในอ้อมกอด กกกอดเอาไว้ไม่ให้ห่างกาย แต่ความปรารถนาคงไม่มีวันได้เป็นจริง ทุกอย่างที่หล่อหลอมออกมาเป็นโยชิ ผมรักหมดใจ อยากที่จะเผยความรู้สึกออกไป แต่ก็รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้

          เขาเกลียดงู

          เขาเกลียดในตัวตนที่ผมเป็น

          คงไม่มีอะไรทรมานไปกว่าการต้องเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้โดยที่ไม่สามารแสดงออกหรือบอกออกไปได้

          ถ้าเพียงแต่ผมจะเป็นมนุษย์คนหนึ่ง

          มนุษย์ผู้โง่เขลา ไม่มีพลังวิเศษใดๆ

          ก๊อกๆๆ

          แอ๊ด~

          เสียงเคาะประตูพร้อมเปิดออกในเวลาไล่เลี่ยกัน ผมรีบตวัดผ้าห่มคลุมร่างเปลือยเปล่าของโยชิป้องกันการถูกมองจากสายตาคนอื่น ไม่ว่าใครผมก็ไม่อนุญาตให้เห็นโยชิในสภาพน่าหลงใหลเช่นนี้ ฟรินน์โผล่หน้าเข้ามา ผมขยับตัวบังโยชิเอาไว้ด้วยความหวงแหน

          “มีอะไร”

          “เอ่อ โยชิเป็นไงบ้าง คือฉันขอโทษนะเว้ย ฉันแค่ออกไปตรวจตราความเรียบร้อย ไม่คิดว่าแกจะพาโยชิเข้ามานี่หว่า”

          “ช่างเถอะ ฝากลงไปบอกปารีสให้ทำอาหารเผื่อโยชิด้วย” ผมสั่ง ไอ้ฟรินน์พยักหน้ารับ สีหน้าติดจะรู้สึกผิดที่ก่อเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของมันเสียทีเดียว ทุกอย่างกะทันหันจนไม่ทันได้ระวังระไว คงต้องรอให้โยชิฟื้นก่อน ถึงจะรู้ว่าเขาเห็นฟรินน์ตอนเป็นงูหรือเปล่า

          “เออ เวสตันบอกว่าเสร็จแล้วให้แกลงไปหาด้วย เรื่องโยชิ” มันคงเห็นว่าผมทำหน้าสงสัยว่าเวสตันเรียกผมเรื่องอะไรจึงได้รีบบอก แต่ผมรู้อยู่แล้วว่าจะเวสตันไม่ยอมปล่อยให้ผมทำอะไรตามอำเภอใจถ้าหมอนั่นไม่ยินยอม

          “อื้อ” เสียงครางเบาๆดังเรียกความสนใจ ผมมองคนที่นอนกระสับกระส่ายด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ที่ผ่านมาผมจะเฝ้าดูแลเขาทำไม ในเมื่อท้ายที่สุดก็เป็นผมที่ทำร้ายเขา ให้เขาต้องอยู่กับความทรมานและนำพาเขาให้มาเจอกับอันตราย

          ‘มันน่าขยะแขยง หน้าเกลียดน่ากลัว แค่เห็นก็ขนลุกซู่ ถ้าโลกนี้ไม่มีงูก็ดีนะสิ’

          มือที่ยืนออกไปได้เพียงนิดเดียวหวังจะสัมผัสแก้มนุ่มรีบชักกลับ ผมกำมือจนแน่นเพราะกลัวมันจะยื่นออกไปสัมผัสกับคนตรงหน้า กลัวว่าจะทำให้โยชิต้องมีรอยด่างจากผมติดตัวไป

          ผมควรทำอย่างไรต่อไปดี

          ผมเฝ้าดูจนแน่ใจแล้วว่าโยชิไม่มีอาการย่ำแย่จนน่าเป็นห่วง จึงตัดสินใจลงไปหาเวสตัน ในห้องนั่งเล่นไม่ได้มีเพียงเขา แต่ทุกคนในบ้านหลังนี้อยู่ที่นี่ ผมไม่รู้ว่าเวสตันคิดอะไรถึงเรียกผมมาคุยพร้อมกับปารีสและจูเลียต

          “ฉันคิดว่าเราจะคุยกันส่วนตัว” ผมพูดขึ้น เดินไปนั่งที่โซฟาเดียวที่ว่างอยู่

          “ทุกคนจำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วอาซา” เวสตันพูดน่าเครียด แต่ถึงจะอย่างนั้น...

          “ว่ามา” ผมก็ไม่มีทางเลือก

          “เรากำลังจะพูดเรื่องอะไรกัน” ปารีสที่นั่งอยู่ข้างเวสตันพูดขึ้น ผมจุดบุหรี่สูบ แม้สายตาเขียวปั๊ดของจูเลียตกำลังจ้องผมเขม็ง ผมเลือกที่จะเมินเฉย เธอไม่เคยอยู่ในความสนใจของผม ไม่เคย และไม่มีวัน

          “เอาละเรื่องแรกทุกคนรู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ทั้งข่าวคนตายในสภาพกระดูกป่น ทั้งรูปปั้นคนในสภาพตกใจสุดขีดในทีวีและหนังสือพิมพ์ตอนนี้ ถึงแม้พวกคนธรรมดาจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่พวกลีโอ พวกไทกริส โดยเฉพาะพวกไลแคนปรักใจเชื่อไปแล้วว่าเป็นพวกเรา” เวสตันอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น อย่าว่าแต่พวกสามกลุ่มนั้นเลยที่คิดว่าเป็นพวกนากินีอย่างเราทำ เพราะพวกผมก็คิดเช่นกัน แต่เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ

          “แต่ไม่ใช่เรานี่” จูเลียตที่ยืนพิงราวบันไดขึ้นเสียงอารมณ์เสีย เวสตันยกมือเป็นสัญญาณให้จูเลียตหยุดพูด เธอทำตาเขียวใส่เขาก่อนจะเดินมากระแทกตัวลงนั่งกับโซฟาอย่างหงุดหงิด

          “มันก็ใช่ แต่อย่าลืมว่าเรื่องพวกนี้พวกระดับล่างทำไม่ได้ มีแค่พวกระดับสูงอย่างพวกเราเท่านั้น”

          “และกรุงเทพก็มีแค่เราที่เป็นเจ้าถิ่น และดูแลควบคุมพวกชั้นล่าง” ปารีสพูดเสริม

          “เมื่อครั้งก่อนที่ฉันกับอาซาออกไปล่ามัน แต่ทุกอย่างกลับเงียบเชียบ เหมือนมันจะรู้การเคลื่อนไหวของเรา” ฟรินน์พูดน้ำเสียงโมโห

          เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมตามรอยสถานที่เกิดเหตุและออกล่าตัวคนทำ แต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่าไร้หลักฐานไร้ร่อยรอย ผมไม่ได้กลิ่นพวกชั้นสูงที่พอจะสร้างเรื่องได้ และช่วงนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์คนตายแม้แต่คนเดียว จนกระทั่งรู้ข่าวว่าไอ้เจอร์โรมพวกไลแคนจับตัวพวกเราที่สร้างเรื่องได้ เวสตันก็เลยส่งปารีสกับฟรินน์ไปแย่งตัวมันมา แต่สุดท้ายก็เหมือนคว้าน้ำเหลว ไอ้งูตัวนั้นมันก็แพะรับบาป ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิง

          “แล้วเราจะทำยังไง” จูเลียตถามเสียงร้อนรน และไม่ใช่แค่เธอ แต่พวกเราทุกคนก็ต่างร้อนอกร้อนใจกับเรื่องนี้ มันไม่ใช่แค่ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากร แต่นั่นหมายความว่าเราทำผิดกฎเยโรม กฎเบื้องบนที่ว่าด้วยให้มนุษย์ที่สามารถกลายร่างเป็นสัตว์ได้แต่ละเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ปกติอย่างสันติสุข แม้พวกมนุษย์จะไม่รู้เรื่องด้วยก็ตาม

          “หนึ่งคือเราต้องตามล่าหาตัวคนทำให้เจอ สองระวังตัวจากพวกไลแคน โดยเฉพาะนายอาซา มันจ้องเล่นงานนายอยู่ รวมถึงพวกเราทุกคน เพราะฉะนั้นระวังตัวให้ดี แต่พยายามอย่างใช้กำลัง ไม่งั้นเราจะยิ่งตกเป็นเป้า”

          “พวกผู้ชายอย่างเราก็ออกตามหาตัวมัน ส่วนปารีสกับจูเลียตก็คอยสอดแนมดูพวกอื่นว่ามีใครจ้องจะหาโอกาสนี้เล่นงานเราบ้าง” ฟรินน์ออกความคิดเห็น

          “พวกไอ้เจอร์โรมฉันจะจัดการเอง” ผมบอกทุกคน เวสตันพยักหน้าเข้าใจ

          “แล้วเรื่องที่สองละ” ปารีสถามแฟนตัวเอง เขามองตาผมนิ่ง ผมรู้ได้ในทันทีเลยว่าเรื่องที่เขาจะพูดคืออะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องของโยชิ

          “เรื่องที่สองให้อาซาเป็นคนพูดแล้วกัน” เวสตันโยนมาให้ผม ผมมองหน้าทุกคนในห้องก่อนจะถอนหายใจ

          “ฉันจะขอให้โยชิอยู่ที่นี่สักพัก ไอ้เจอร์โรมต้องการตัวเขาเพื่อแก้แค้นฉัน มันต้องใช้เขาเป็นเหยื่อล่อแน่ๆฉันมั่นใจ และตอนนี้มันเจอโยชิแล้วด้วย เพราะฉะนั้น...”

          “เดี๋ยวนะ โยชิคือใคร” ปารีสเอ่ยขัด เลิกคิ้วสูงมองผมและเวสตันอย่างต้องการคำตอบ พวกผู้หญิงมักเป็นแบบนี้เสมอสงสัยและต้องการคำตอบไปทุกอย่าง และผมค่อนข้างหงุดหงิดกับนิสัยของปารีสและจูเลียตในบางที หรือไม่บางทีผมก็เคมีไม่ตรงกับพวกสิ่งมีชีวิตเพศเมีย

          “โยชิคือคนสำคัญของฉัน ฉันหวังว่าทุกคนจะดูแลเขาเหมือนคนในครอบครัว” จุดนี้ผมจงใจพูดเน้นย้ำกับจูเลียตเป็นพิเศษ ผมรู้ว่าเธอคิดยังไงกับผม และผมไม่ต้องการให้เธอคิดไม่ดีกับโยชิ

          “และที่สำคัญเลยคืออย่าให้เขารู้ว่าพวกเราเป็นอะไร โดยเฉพาะนายฟรินน์ ระวังตัวหน่อย อย่ากลายร่างสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่ระวังอีก ต่อให้อยู่ในเขตบ้านพักก็ตาม”

          “โอเค ฉันขอโทษ ต่อไปจะระมัดระวัง” ฟรินน์แบมือทั้งสองข้างและยกแขนขึ้นขอโทษขอโพย

          “ฉันก็เตือนนายแล้วนะอาซา สุดท้ายก็เป็นเรื่องจนได้ แต่เอาเถอะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็คงต้องดูแลกันไป” เวสตัสพูด

          “เดี๋ยวนะ ฉันสงสัยว่าทำไมเราถึงบอกเขาไม่ได้ว่าเราเป็นอะไร ในเมื่อเขาสำคัญกับนาย” ผมบอกแล้วว่าผู้หญิงน่ะน่ารำคาญ อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง โดยเฉพาะจูเลียต เธอมองผมตาขวางติดจะประชดประชันและตัดพ้อ

          “แล้วถ้าเด็กนั่นรู้ว่านายเป็นอะไร จะเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรออาซา” คราวนี้เธอใช้น้ำเสียงเหมือนเป็นต่อพูดกับผม ผมขบกรามแน่น จ้องเธอด้วยสายตาดุดันที่สามารถทำให้เธอสลดลงได้

          “อย่าคิดลองดีกับฉันจูเลียต แม้แต่เธอฉันก็ไม่เว้นถ้ายุ่งกับเขา”

          “ทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้”

          “ก็ถ้าเธอยังไม่อยากตาย”

          “อาซา!” เธอแผดเสียง ผมตวัดตามองมันนิ่งๆ

          “เขาต้องไม่รู้ ยังไงก็ให้รู้ไม่ได้”

          ถ้าให้รู้แล้วผมจะต้องเสียเขาไปพร้อมทั้งโดนรังเกียจ ก็ปล่อยมันไปแบบนี้นี่แหละ ผมจบการสนทนาของวันนี้โดยการลุกขึ้นเดินกลับห้อง

          “ความลับไม่มีในโลกอาซา สักวันเด็กนั่นก็ต้องรู้ว่านายเป็นอะไร” ไม่สนใจคำพูดของจูเลียตที่ลอยตามหลังมาแม้ว่าผมจะกังวลตามคำพูดนั้นก็ตามที

          “เชื่อคำพูดฉันได้เลย ไอ้เด็กนั่นจะทำให้นายเดือดร้อน!”




ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 27-06-2014 19:35:26
 ………………….

          ผมกำลังฝัน มันต้องใช่แน่ๆ ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ผมเห็นตัวเองในนั้น เมื่อตอนที่เป็นเด็กประมาณสักห้าขวบได้ ผมวิ่งเล่นรอบบ้านอย่างสนุกสนาน หัวเราะคิกคักเมื่อดอกไม้ที่ถืออยู่มีผีเสื้อบินมาเกาะดอมดมชิมน้ำหวานก่อนจะบินจากไป ผมวิ่งตามอย่างอารมณ์ดี ยิ้มกว้างแบบสุดๆจนเห็นฟันหลอ ก่อนที่ภาพจะเปลี่ยนไป ผมกำลังนั่งยองๆ เบื้องหน้าเป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างสีดำมันเลื่อมนอนขดตัวอยู่ใต้ต้นไม้

          “เอ๋...คุ้นจังเลย เหมือนจะเคยเห็น มันเรียกว่าอะไรนะ ตัวที่ยาวๆแล้วก็ขดได้เลื้อยได้...อ่อ งู! Snake snake โยชิจำได้แล้ว นี่ก็คือคุณงูนี่เอง!”

          “คุณงูบาดเจ็บมาเหรอ รอแปบนะ โยชิจะไปเอายามาทาให้”

          “ต้องทำแบบนี้ ใส่ยาทาแผล โยชิทำได้ พี่ยอร์ชทำให้โยชิบ่อยๆตอนหกล้ม แล้วก็เอาผ้าพันไว้แบบนี้ เรียบร้อยแล้ว หายไวๆนะคุณงู”

          “ขอบใจนะ”

          “เอ๊ะ? คุณงูพูดกับโยชิเหรอ”

          “ใช่ นายใจดีกับฉันจริงๆ”

          “คุณงูก็ทำใจให้ดีๆเหมือนกันนะ”


          ...ภาพเหล่านั้น มันคืออะไร?...


          “คุณพ่อฮะ น้องโยมีเรื่องจะบอก”

          “หืม เรื่องอะไรครับคนเก่ง”

          “น้องโยอยากมีสัตว์เลี้ยง”

          “ฮะๆๆ นึกว่าเรื่องอะไร น้องโยอยากเลี้ยงอะไรล่ะครับ”

          “เดี๋ยวน้องโยไปเอามาให้ดูนะครับ”



          ผมเห็นตัวเองวิ่งหายไปก่อนจะกลับมาพร้อมบางอย่างในอ้อมกอด งูตัวดำใหญ่กว่าแขนผมนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอด หัวของมันตั้งขึ้นมองหน้าผมนิ่ง


          “โยชิ! ปล่อยมันลงเดี๋ยวนี้ลูก เดี๋ยวมันกัด!!!”

          “คุณงูไม่กัด คุณงูใจดี น้องโยคุยกับคุณงูแล้ว คุณงูบอกว่าอยากจะมาอยู่กับน้องโย”

          “ไม่ได้ลูก ปล่อยมันลง วางมันลงเดี๋ยวนี้!!!”

          “แต่...”

          “ไม่มีแต่โยชิ วางมันลงก่อนที่พ่อจะตี!!!”



          ที่ต่อไปคือในห้องนอนของผม ห้องนอนในบ้านหลังเก่า


          “ฮึกฮึก ฮือ”

          “ไม่ต้องร้องไห้เลยนะโยชิ งูเป็นสัตว์อันตราย ไว้ใจไม่ได้ วันนี้มันไม่กัดลูก แต่งูก็คืองู อรสพิษที่ไว้ใจไม่ได้ ถ้าลูกอยู่ใกล้มัน มันอาจจะกัดลูกได้ทุกเมื่อ”

          “ฮึก ฮือ คุณพ่อใจร้าย คุณพ่อฆ่าคุณงู”

          “พ่อต้องทำ ไม่งั้นมันจะฆ่าลูกนะ”

          “ไม่ฆ่า คุณงูบอกน้องโย คุณงูจะไม่มีวันทำร้ายน้องโย ฮือ”

          “หนูจะไปคุยกับงูได้ไงโยชิ เพ้อเจ้อใหญ่แล้วเรา”

          “แต่คุณงูพูดกับน้องโยจริงๆนะพ่อ”

          “พอๆๆ พ่อของสั่งห้ามไม่ให้เราออกไปวิ่งเล่นข้างนอกหนึ่งอาทิตย์”



          ภาพความฝันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ผมจับรายละเอียดได้ไม่หมด ฝันซ้ำไปซ้ำมาว่าผมเคยจับเคยสัมผัสงู ยิ่งไปกว่านั้นผมยังพูดกับงูได้ เศษความฝันชิ้นเล็กๆไม่ปะติดปะต่อ ผมเริ่มอึดอัดกับสิ่งที่กำลังฝันจนรู้สึกหายใจไม่ออก ในท้องบิดเกร็งจนอยากจะอาเจียน จนกระทั่งภาพความฝันเริ่มจางและมีหมอกขาวมาปกคลุมจนแทบมองอะไรไม่เห็น สิ่งสุดท้ายที่ผมพอจะมองเห็นก็คือ...บ้านไม้ชั้นเดียวหลังหนึ่งกลางหุบเขาก่อนที่ฉันจะสะดุ้งตัวโยนหลุดออกจากฝันที่ประหลาด

          เหงื่อผุดขึ้นตามใบหน้าและลำคอ อากาศร้อนอบอ้าวแม้ว่าฝนข้างนอกจะยังคงตกหนัก ผมหายใจหอบรุนแรงเหมือนวิ่งมาราธอนมาสักสี่หรือห้าชั่วโมง หายใจไม่ทันจนสำลักอากาศที่กำลังกอบโกยเข้าปอด ในห้องมืดสนิท และคงจะค่ำมืด ไม่รู้ว่าผมสลบไปนานขนาดไหนเพราะสิ่งที่ผมเห็นกับตา

          สิ่งที่ผมเกลียดจับจิตจับใจตัวใหญ่ยักษ์มากกว่าขนาดตัวคน มันมีสีขาวแบบที่มองไกลๆก็สังเกตเห็นได้

          ผมเห็นไม่ชัด แต่คิดว่าผมไม่ได้ตาฝาด

          ไหนจะสิ่งที่ผมเพิ่งฝันอีก เป็นไปได้ไหมว่าผมจะกลัวมากจนเก็บเอาไปฝัน

          ผมครุ่นคิดเรื่องราวในความฝัน แต่หลังจากที่คิดอยู่นานสองนานก็คิดไม่ออก เพราะเมื่อผมพยายามจะปะติดปะต่อความฝันให้เป็นภาพจิ๊กซอร์ที่สมบูรณ์ กลายเป็นว่าผมรู้สึกแต่ความหวาดกลัวจนคิดต่อไปไม่ได้ สุดท้ายผมก็เลิกพยายาม หันมาครุ่นคิดถึงภาพยุ่งเหยิงปนเปที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนที่ผมจะมาอยู่ที่นี่จนกกระทั่งตอนนี้ มันสะเปสะปะกระจัดกระจาย รู้ว่ามีอยู่แต่อธิบายไม่ได้ แต่ผมแน่ใจประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นเลยว่าทั้งหมดนี่มันไม่ปกติ

          ไม่มีอะไรปกติ...ทั้งอาซา พวกของเขา เจอร์โรมและดาวเสาร์รูมเมตของผม รวมไปถึงมหาวิทยาลัยแห่งนี้ หรือที่ Midnight และสิ่งที่ไม่ปกติในความรู้สึกถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นก็คือ...ตัวผมเอง

          คิดมาถึงตรงนี้ผมขยับยกผ้านวมขึ้นคลุมหน้าเว้นไว้แค่ดวงตาที่หลุบต่ำ รอบด้านเย็นวาบแปลกๆ ผมไม่ใช่คนขี้กลัวขนาดนั้น ผมชอบดูหนังผี หนังลึกลับสยองขวัญ ซึ่งก็บอกได้ดีว่าผมไม่ใช่คนจิตอ่อน เพียงแต่สิ่งเดียวที่ผมกลัวก็คืองู

          แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูจะอยู่นอกเหนือการควบคุม บางสิ่งบางอย่างที่ไม่ปกติ และมันอยู่ใกล้ตัวผมมาก หรือไม่มันอาจอยู่ในตัวผม

          “หลับอยู่เหรอ” เสียงทุ้มแหบเอ่ยถาม ตาของผมเปิดพรึ่บ อาซายืนพิงกรอบประตู ผมผุดลุกขึ้นกระโจนลงจากเตียง แต่ร่างกายไร้เรี่ยวแรงจนแทบทรุดลงไปกับพื้น โชคดีที่อาซาพุ่งเข้ามาคว้าตัวผมได้ทัน

          “ฉันมีเรื่องจะถามนาย ฉันเห็น...”

          “เราจะยังไม่พูดอะไรตอนนี้ นายควรจะได้กินข้าวและกินยาเสียก่อน”

          “ไม่อาซา ไม่..ฉันต้องการรู้ตอนนี้ มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายกับฉัน และ...”

          “หยุด! โยชิ สงบสติอารมณ์ ไม่ต้องพูดอะไร หายใจเข้าลึกๆ อย่างนั้น...ดี” เขามองตาผม สะกดผมด้วยดวงตาดุจรัตติกาลเอาไว้อยู่หมัด ผมทำตามเขาแบบไม่เกี่ยงงอน ควบคุมลมหายใจและอาการตื่นตระหนกของตัวเองจนเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ

          “โอเคไหม...ดีขึ้นหรือเปล่า”

          “อืม” ผมพยักหน้า แม้ความจริงจะไม่ได้รู้สึกดีขนาดนั้น

          “ลงไปข้างล่าง ทุกคนรอนายอยู่”

          เขาหมุนตัวเดินไปที่ประตู ผมก้าวเร็วๆตามสองสามก้าวก็ถึงตัวเขา มือยื่นไปคว้าหมับมือใหญ่ที่เย็นเชียบ อาซาหยุดเดินก้มมองมือผมที่จับมือเขาอยู่ก่อนจะเงยหน้ามองตาผม

          “ถ้านายต้องการ ก็เรียกหามันได้ตลอดเวลา” เขาบีบกระชับมือผมแน่นจนเกิดสายธารที่อบอุ่น คล้ายจะบอกว่า มือของเขาจะมีไว้เพื่อปกป้องและดูแลผมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

          ภายในบ้านหลังนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษหวือหวา ไม่ได้ดูขลังหรืออลังการอย่างตัวตึกเรียนของมหาวิทยาลัย กลับเป็นแค่บ้านสไตล์โมเดิลธรรมดาๆที่ตกแต่งอย่างสวยงาม บนผนังมีรูปวาดเกี่ยวกับพระเยซูหรือเทพเจ้าต่างๆแขวนเรียงราย โคมไฟสีเหลืองนวลทำให้รูปภาพเหล่านั้นดูมีชีวิตชีวา กลิ่นหอมของดอกไม้ที่จัดไว้สวยงามในแจกันวางไว้ทั่วทุกมุมบ้านลอยอบอวล บันไดตรงหน้าทอดยาวมองเห็นประตูทางเข้า ผมเดินตามอาซาช้าๆ เหมือนเขาจะรู้ว่าผมอ่อนแรงไร้ความกระฉับกระเฉง จึงไม่ได้เร่งเร้า สุดทางบันไดเลี้ยวไปทางขวาไม่กี่ก้าวก็จะเจอประตู ทุกคนในห้องอาหารหันมองผม

          หัวโต๊ะคือเวสตันและด้านขวาของเขาคือปารีส ข้างๆเธอคือจูเลียต ตรงข้ามกับปารีสคือฟรินน์ เขายิ้มแห้งๆให้ผม ผมยิ้มตอบ อาซาให้ผมนั่งตรงข้ามกับจูเลียต และเขานั่งข้างผมอีกที ผมรู้ได้ทันทีว่าผมนั่งในที่ของอาซา แต่ก็ไม่ได้คิดเปลี่ยน และผมรู้อีกอย่างเลยตั้งแต่เข้ามาในห้องอาหารแห่งนี้

          จูเลียตเกลียดขี้หน้าผม

          ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่คนเราก็ต้องเคยเกลียดใครแบบไม่มีสาเหตุบ้างแหละ เพราะฉะนั้นผมจะทำเป็นไม่เห็นแล้วเลิกสนใจท่าทางฮึกฮัดของเธอซะ

          “ดีขึ้นแล้วใช่ไหมโยชิ ทานซุปสักหน่อย มันจะทำให้นายรู้สึกดีขึ้น แฟนของฉันปารีสทำอย่างสุดฝีมือ” เวสตัสพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ริมฝีปากของเขาคลี่ยิ้มบางๆอย่างใจดี ผมยิ้มรับพร้อมกับยิ้มช้อนตักซุปขึ้นกิน

          รสชาติอร่อยและทำให้ผมรู้สึกสดชื่อขึ้นจริงๆจากซุปรสเปรี้ยว ทุกคนลงมือกินมื้อเย็น มีเพียงคนเดียวที่ไม่ยอมแตะอาหาร คนที่นั่งตรงข้ามผม เธอมองจ้องผมด้วยความไม่พอใจ ผมมองตอบเธอและทุกคนบนโต๊ะรับรู้บรรยากาศมาคุระหว่างผมกับจูเลียตได้

          “ถ้าไม่กินก็ขึ้นไปบนห้องจูเลียต อย่าทำให้คนอื่นต้องกร่อย” เวสตันพูดโดยที่ไม่ได้มองเธอ มือที่จับมีดหั่นสเต็กเนื้อนุ่มอย่างชำนาญพร้อมทั้งใช้ส้อมจิ้มมันเข้าปาก ผมก้มมองอาหารของตัวเอง

          เฮ้อ อาหารคนป่วยชัดๆ

          “ทานเถอะจูเลียต อย่าให้เวสตันโมโห” ผู้หญิงที่ชื่อปารีสเอ่ย ผู้ชายอีกสามคนที่ไม่รวมผมไม่ได้ให้ความสนใจอย่างที่ควรเป็นนัก เหมือนพวกเขาชินเสียแล้ว

          “เหอะ! ทุกคนทำได้ยังไง ทั้งๆที่มีตัวปัญหานั่งอยู่ในบ้าน แต่กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!!!”

          ผมเกือบจะเผลอทำช้อนซุปหลุดมือ ที่จูเลียตพูดหมายความว่าอะไร เธอจะบอกว่าผมเป็นตัวปัญหางั้นเหรอ ทั้งๆที่ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิดเนี่ยนะ

          “หุบปากของเธอแล้วขึ้นห้องไปซะจูเลียต” คราวนี้เวสตัสเงยหน้ามองจูเลียตอย่างดุดัน เธอทำหน้าไม่พอใจก่อนจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วกระแทกเท้าเดินออกจากห้องอาหาร

          ผมมองตาม เวสตันบอกให้ทุกคนทานอาหารต่อได้ แต่ผมหมดความอยากอาหารไปเป็นที่เรียบร้อย

          “ฉันอยากรู้ว่าสิ่งที่จูเลียตพูดหมายถึงอะไร ฉันเป็นตัวปัญหางั้นเหรอ” ผมหันหน้าไปหาอาซา เขาแค่เหลือบตามองผมเท่านั้น

          “ฉันต้องการรู้เรื่องที่ฉันควรรู้เดี๋ยวนี้” ผมทำเสียงแข็ง เสียงช้อนกระทบจาน ความโกรธของผมคงไปสติต่อมรำคาญของปารีสเข้า เธอเหวี่ยงตาเฉี่ยวๆมองผมอย่างดูแคลน

          “เวลากินข้าวเราจะไม่พูดเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ ถ้าไม่อยากกินก็ออกไป” ปารีสพูดเสียงนิ่งๆ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยรู้สึกโกรธมากขนาดนี้มาก่อน พวกเขารู้ในสิ่งที่ผมไม่รู้ก็เลยสามารถนั่งนิ่งอยู่ได้นิ แต่คนที่ไม่รู้อย่างผม ผิดหรือยังไงที่จะรู้สึกกระวนกระวายนั่งไม่ติด

          “บอกฉันมาว่ามันไม่มีอะไร ฉันไม่ใช่ตัวอันตรายอย่างที่จูเลียตว่า และฉันไม่ได้เห็นงูยักษ์สีขาวข้างนอกนั่น! และฉันไม่ได้บังเอิญได้ยินนายเรียกมันว่าฟรินน์!” ผมกัดฟันแน่น เหลือบตามองฟรินน์ที่สะดุ้งนิดๆ

          “และข้างนอกนั้นไม่มีอะไรเป็นอันตรายที่ฉันต้องหนี บอกมาสิ ฉันจะได้กลับไปอยู่ตามทางของฉัน ไม่ต้องมาอยู่ที่นี่ให้พวกนายทำหน้ารังเกียจใส่!! บอกมาสิแล้วฉันจะไป!!!” ผมโกรธจนตัวสั่น โวยวายเสียงดังจนคนทั้งโต๊ะอาหารต้องหยุดกินมื้อค่ำ ทำยังกับว่าสน ผมไม่ใช่คนฉลาด แต่ก็พอรู้ว่ามันไม่ปกติ ไม่มีอะไรปกติกับชีวิตผมตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เหมือนกลายเป็นคนตาบอด ไม่รู้อะไร ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างจนผมอยากจะวิ่งหนีไปซะ ผมโกรธจนรู้สึกว่าน้ำตาจะไหล จึงพยายามกลั้นกลืนมันไว้ด้วยการกัดฟันแน่น

          “Please, just trust me…I’lll tell you everything you want to”

          “How can I trust you? When I feel like I don’t even know you”

          “Yoshi!”

          เราทำหน้าบึ้งใส่กัน ก่อนที่เขาจะลุกออกจากโต๊ะอาหารโดยที่ไม่ได้แตะมันสักนิด ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาด แต่เสียงในหัวคอยเอาแต่บอกว่าผมสมควรทำมัน อย่างน้อยก็ให้ตัวเองไม่เป็นกบอยู่ในกะลา ผมคิดแบบนั้น แล้วทำไมถึงได้รู้สึกเสียใจ

          “ไม่ว่านายจะรู้สึกยังไงนะโยชิ” เวสตันเอ่ยขึ้นขัดความเงียบ ผมเลิกมองไปทางประตูห้องทานข้าวแล้วหันไปมองเวสตันที่ทำหน้าคิดหนักไม่ต่างจากคนอื่นนัก

          “แต่คนเดียวบนโลกนี้ที่จะไม่มีทางทรยศนายก็คืออาซา เขาเป็นคนเดียวที่นายควรเชื่อใจยิ่งกว่าพ่อหรือพี่ชายของนายเอง จะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่ แต่ฉันพูดความจริง”

          ผมลุกตามอาซาออกไป ไม่รู้เขาเดินไปที่ไหน ผมไม่น่าพูดออกไปแบบนั้นเลย ถึงความรู้สึกจะบอกแบบนั้น ถ้าผมเป็นคนฟังก็คงเจ็บไม่ต่างกัน คิดแล้วก็อยากจะตบปากตัวเอง

          นอกบ้านเงียบกริบ ฝนซาลงแล้วแต่ยังตกอยู่ ได้ยินเสียงใบไม้สีกัน ผมเดาว่าน่าจะเป็นอาซาเลยเดินตามไป มีรอยเท้าอยู่บนดิน ต้องเป็นเขาแน่ๆ ฝนตกแบบนี้ออกมาทำไม ถึงจะงอนหรือโกรธที่ผมพูดไม่ถนอมน้ำใจ ก็ควรจะเดินหนีขึ้นบ้านสิ แบบนี้มันทำให้ผมเป็นห่วง

          “หายไปไหนของเขานะ รอยเท้าก็มาทางนี้ไม่ใช่เหรอ หรือว่า...” ผมมองหนองน้ำเบื้องหน้า เพราะเป็นตอนกลางคืนเลยไม่รู้ว่ามันสวยแค่ไหน รอยเท้าของอาซาสิ้นสุดที่ริมสระน้ำ หวังว่าเขาคงไม่ได้น้อยใจคำพูดของผมจนคิดจะทำอะไรบ้าๆหรอกนะ

          “อาซา! นายอยู่ไหนน่ะ” ผมมองรอบๆก็ไม่เห็นเขา มองจ้องไปที่สระน้ำอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจถอดรองเท้าและกางเกงยีนส์ออกจากตัว กระโดดลงไปในน้ำตามหาอาซา ผมดำผุดดำว่ายเหมือนคนโง่งม แต่ผมกลัวจริงๆ กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป

          “อ๊ะ!” ผมร้องตกใจ ปล่อยอากาศออกหมดปาก สะบัดขาเมื่อมีอะไรบางอย่างเสียดสี ตัวผมเหมือนจะถูกบางอย่างเลื้อยรัด ผมดิ้นหนีสุดแรงเกิดจนเผลอสำลักน้ำ และก่อนที่ผมจะตายจริงๆก็มีบางอย่างประกบปากผมพร้อมทั้งลมหายใจที่ค่อยๆแทรกผ่านเข้ามา ผมกอบโกยอากาศยื้อชีวิตตัวเองเอาไว้ ขยับเบียดริมฝีปากเข้าหาความอ่อนนุ่มที่ช่วยชีวิต ร่างกายถูกโอบรัดด้วยอ้อมแขนอันแสนคุ้นเคย ผมคลี่ยิ้มบางๆเมื่อรู้ว่าคนที่ช่วยผมไว้คืออาซา ริมฝีปากเราไม่ผละห่างจากกันแม้ว่าจะดีดตัวโผล่พ้นผิวน้ำ เขาจูบผมรุนแรงเหมือนจะลงโทษ และผมก็เต็มใจให้เขาทำเช่นนั้นอย่างไม่คิดต่อว่า โทษที่ผมทำก็สมควรได้รับแล้ว

          จ๊วบ~

          “อ๊ะ เจ็บ” อาซากัดปากผมจนได้เลือด ผมหอบตัวโยน ผิวน้ำกระเพื่อมตามแรงขยับเคลื่อนไหว ความอ่อนโยนประทับปลอบประโลมบนรอยแผลแผ่วเบา ไล้ลิ้นเลียหยาดเลือกเบาๆจนแห้งสนิท

          “ตามมาทำไม” เขาทำเสียงแข็ง พูดไปก็พรมจูบไปด้วย น้ำเสียงกับการกระทำช่างตรงกันข้าม

          “ฉันขอโทษ” ผมพูดเสียงแผ่วอย่างรู้สำนึก

          “แต่นายก็พูดถูก นายไม่รู้จักฉัน”

          “ไม่ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น คือ...ฉันอาจจะไม่รู้จักนาย แต่เราทำความรู้จักกันได้” ผมรีบกอดเอวเขาไว้แน่นกลัวว่าเขาจะผละออกห่าง น้ำเย็นมีอิทธิพลทำให้ผมเบียดตัวเขาหาเขา อาศัยตัวเขาเป็นแรงยึดเพื่อให้ยืดตัวได้สูงขึ้นจนหน้าเราเสมอกัน มองเข้าไปในดวงตาสีดำที่ตอนนี้สะท้อนแสงเปล่งประกายยามต้องแสงจันทร์

          “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหมายความแบบนั้น ฉันกลัว ฉันไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ฉันอยากรู้ในสิ่งที่ตัวเองควรจะรู้บ้างเลยเผลอตัวทำนิสัยแย่ๆออกไป อย่าโกรธฉันเลยนะ ฉันขอโทษ” ผมกดจูบที่ปลายคางของเขา ช้อนตาขึ้นมองอาซาด้วยแววตาอ้อนนิดๆแบบที่ชอบทำเมื่อต้องการให้พ่อและพี่ยอร์ชตามใจ

          “นายจะรอใช่ไหม ต่อให้อยากรู้มากแค่ไหนก็จะรอ จะไม่ดื้อกับฉันอีก สัญญาสิ” อาซาพูดนิ่งๆ แต่ผมรู้ว่าเขาจริงจัง ผมลังเลนิดหน่อย แต่พอเขาเริ่มขยับตัวผมก็รีบพยักหน้าตอบตกลงทันที

          “ฉันสัญญา! สัญญาว่าจะไม่เกเร ถึงอยากรู้แค่ไหนก็จะรอให้นายบอก สัญญาอย่างลูกผู้ชายเลย” ผมยืนยันเสียงหนักแน่น

          “ดีมาก เด็กดีของฉัน”

          อ่า...ผมชอบจริงๆที่เขาเรียกผมแบบนี้


…………………………..

          Weston

          “เป็นไงบ้าง พูดความจริงไปแล้วหรือยัง” ผมถาม หลังจากทั้งสองคนทำพ่อแง่แม่งอนใส่กันแล้วโยชิออกไปตาม ก่อนจะกลับมาด้วยสภาพเปียกโชกทั้งคู่ ผมก็ไล่ทั้งสองคนให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และขอให้ปารีสแฟนสาวของผมทำอาหารจานใหม่สำหรับอาซาและโยชิที

          “ยัง”

          “แล้วไม่อาละวาดหรือไง”

          “ก็ไม่ แค่ทำหน้าเป็นเด็กอยากรู้อยากถามตลอดเวลา ถึงจะไม่เอ่ยปากถามแต่ก็ส่งสายตาจะเอาคำตอบเป็นระยะๆจนน่าสงสาร หึหึ” พูดแล้วก็หัวเราะ ผมละทึ่งกับเด็กนั่นจริงๆ ทำอสรพิษร้ายอย่างอาซาให้เชื่องราวกับลูกแกะลูกกวางตัวหนึ่ง

          อาซาเหม่อมองไปไกล แววตามีความเจ็บปวดและอัดแน่นไปด้วยบางสิ่งบางอย่างที่ติดค้างอยู่ในใจ ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็มักเก็บไว้กับตัว เขาเป็นเสมือนน้องชายของผม แต่ผมกลับช่วยอะไรเขาไม่ได้เท่าไหร่ ผมพยายามมองให้ออกแต่ก็สูญเปล่า วางมือบนบ่ากว้างที่กำลังสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว ตบหนักๆให้กำลังใจ

          “บอกได้ไหม อะไรที่อยู่ในใจนาย อะไรที่นายปกปิดเอาไว้และยังไม่ได้บอก”

          “...”

          “ถ้ายังเห็นว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน  นายบอกกับฉันได้และฉันจะอยู่เคียงข้างและคอยช่วยเหลือครอบครัวเราอย่างสุดกำลัง”

          “นายรู้ว่าทำไมฉันถึงบอกโยชิไม่ได้ว่าฉันเป็นอะไร”

          ผมรู้เหตุผลที่อยู่ในสีหน้าที่เจ็บปวดนั่นเป็นอย่างดี มันไม่ใช่แค่เพราะโยชิจะรับไม่ได้ แต่มันหมายถึงความมั่นคงของพวกเรา พวกมนุษย์ต่างเห็นแก่ตัว และถ้าเรื่องของพวกเราเผยแพร่ออกไป พวกเราก็คงไร้แผ่นดินและกลายเป็นเหยื่อของพวกมนุษย์จอมหิวกระหายในอำนาจแบบไม่มีวันจบสิ้น

          “และเราให้ไอ้เจอร์โรมอยู่ใกล้โยชิมากกว่านี้ไม่ได้ ไม่งั้นมันจะรู้...” อาซาหยุดพูด เขาหันหน้าหนี ขากรรไกรขบกันแน่นทันที

          “รู้อะไร”

          “รู้ว่าโยชิไม่ใช่แค่มนุษย์ปกติ”

          “เขาเป็นเหมือนเราเหรอ ทำไมฉันไม่รู้สึก!” ผมค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ถ้าโยชิเป็นมนุษย์พิเศษอย่างเรา ผมก็ควรจะรู้สึกได้

          “ทั้งใช่และไม่ใช่ และถ้าไอ้เจอร์โรมรู้ โยชิก็ต้องรู้ เพราะมันต้องหาทางบอกเขาแน่ ฉันทนให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เวสตัน นายก็เห็นว่าโยชิกลัวงูขนาดไหน ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นอะไร...เขาจะต้องเจ็บปวดและทุกข์ทรมานเจียนตาย ฉันปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ ต้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้”

          “แต่มันอาจจะดีถ้าเขารู้ เขาอาจจะเลิกเกลียดและกลัวตัวตนของนายและของตัวเขาเอง แต่ฉันไม่เข้าใจอยู่อย่าง ทำไมโยชิกลัวงูขนาดนั้น ในเมื่อก่อนหน้านี้เขายัง...”

          “เพราะฉัน...”

          “...”

          “เพราะฉันทำให้เขาต้องกลัว ฉันเป็นคนทำให้ชีวิตเขาเป็นแบบนั้น ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับความหวาดกลัว ทั้งหมดก็เพราะฉันที่ทำร้ายเขา!”

          ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

          บางทีไม่ว่าสิ่งมีชีวิตหน้าไหนก็โง่เขลาด้วยกันทั้งนั้น ถึงได้ลืมไปว่า...ความลับไม่เคยมีอยู่ในโลก


         

          .......

          ตอนนี้ยาวมากกกกก มากกว่าทุกตอนที่ผ่านมา 12หน้าครึ่งเกือบ13หน้าเอสี่  :katai4:

          เฮ้อ คนเราทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง และมีจุดยืนของตัวเองทั้งนั้น เรื่องราวจะเป็นยังไงไม่รู้ อ้าววว ถ้าอยากรู้ต้องติดตามนะจ้ะ 5555 :katai3:

          แต่งเองนั่งอ่านนั่งเช็ครายละเอียดเองแล้วแบบว่า...มันดาร์กซะเกือบแปดสิบเปอร์เซ็น (หรือมากกว่านี้หว่า) มีหวานอยู่หน่อย หน่อยเดียวจริงๆ แต่ถ้าอะไรลงตัว ระดับความหวานจะพุ่งทะลุปรอทถึงกับเบาหวานขึ้นกันเลยทีเดียว  :m1:

          ปมค่อยๆคลายตัว คิดว่าตอนหน้าโยชิจะรู้ไหวว่าอาซาเป็นอะไร  :m29:

          บางประโยคสนทนาริริขอใช้ภาษาอังกฤษนะคะ เพราะรู้สึกว่าพอเขียนเป็นภาษาไทยแล้วรู้สึกแปร่งๆ ฟีลมันจะคนละอารมณ์เลย แต่ไม่เยอะหรอก นิดหน่อยๆ

          ถึงเนื้อเรื่องจะตื่นเต้นและดาร์กขนาดไหน แต่ด้วยนิสัยหื่นๆของพี่งู ฉากหวานๆปนหวิวก็จะมีโผล่มาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจทุกคนแน่นอนค่ะ คึคึ :hao6:

          ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจนะคะ ^_^ :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 27-06-2014 19:54:40
จูบแบบดุเดือดดูดดื่มในน้ำ  แอร๊ยยยยยยยย   :haun4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 27-06-2014 20:02:59
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:  ให้ดอกไม้น้องโยชิ งูน้อย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: howru ที่ 27-06-2014 20:11:17
คดีพลิกซะงั้น ช้าหรือเร็วโยชิก็ต้องรู้อยู่ดี
 :z10:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: mbpwn_ ที่ 27-06-2014 20:12:09
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

แอบฟังอยู่แน่ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 27-06-2014 20:18:03
ชอบมากค่ะ

ติดตามอยู่เสมอเลย

 o13 o13

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 27-06-2014 20:24:25
ว่าแล้วโยชิ มีอะไรพิเศษๆอยู่

ทั้งรอยคล้ายรอยสักที่อยู่ที่หน้าอก

และคำทะนายที่เคยพูดถึงเมื่อตอนเด็ก

รออ่านเสมอค่ะ


 o13 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 27-06-2014 20:48:43
ตกใจที่รู้ว่าโยชิไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา

โยชิเป็นงูเหรอ

อันนี้สงสัยจริงๆ

เรื่องสนุกและน่าติดตามมากๆ

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-06-2014 20:53:26
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 27-06-2014 21:12:03
ลุ้นโคตรๆๆๆๆๆ

สรุปโยชิเป็นงู   

ติดตามต่อไป รอๆๆนะคะ ชอบมาก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 27-06-2014 21:17:32
รอตอนหน้าดีกว่า มโนเองเดี๋ยวไม่ใช่ 555

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 27-06-2014 21:20:14
มีฉากจูบในน้ำด้วยอ้ะ
ดีๆๆ เอามาคลายเครียด 55555
ว่าแต่โยชิก็เป็นงูหรอ
งี้ถ้ารู้จะช็อกมั้ยเนี่ยโยชิเอ๋ย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 27-06-2014 21:27:37
รอคอยฉากหวานๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 27-06-2014 21:45:54
 :katai1: ขยุ้มหัว+เกาหน้า แก๊กๆๆๆๆๆ
T^T โยชิ โยชิ ทำไงดี ทำไงดี ............. รอตอนต่อไปนะคะ +1เป็ด

ขอบคุณค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 27-06-2014 22:01:25
เกิดรัยขึ้นอะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 27-06-2014 22:01:40
อ๊ากกกกกก มีศัตรู!!!!! หัวใจแล้วววว :ling1:
สรุปว่าสองคนเคยเจอกันตอนเด็กๆสินะ(รึเปล่า)
เริ่มจะเข้มข้นนนนนนขึ้นเรื่อยๆ :m31:
รอตอนต่อไป... :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 27-06-2014 22:05:32
ว่าแล้วโยชิก็ต้องไม่ธรรมดาเหมือนกันจริงๆด้วย     :katai4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 27-06-2014 22:14:21
อาซา นายไปทำอะไรโยชิ :katai1:
ทำไมรู้สึกหลงรักอาซาอย่างไร้สาเหตุ

เรื่องที่คุณพ่อฆ่าคุณงู ถ้าเป็นเรื่องจริงเราก็ว่ามันเป็นเรื่องปกตินะ
แต่ทำไมพอเป็นในนิยายคุณพ่อถึงดูโหดร้ายขึ้นมาทันที :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 27-06-2014 23:09:52
เนื้อเรื่องเข้มข้นและตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ น้องโยจะเป็นงูเหรอนี่
พี่อาซาลงโทษน้องเบาๆหน่อย น้องเจ็บนะ :hao6:
 อดใจรอตอนหน้าไม่ไหวแล้วววววว :ling1
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 27-06-2014 23:14:30
 :serius2:ลุ้นๆ จะเป็นยังไงต่อน๊า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: clock_nuchchee ที่ 27-06-2014 23:17:22
ใครแอบได้ยินแน่ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 28-06-2014 00:18:52
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 28-06-2014 00:38:44
โยชิก็เป็นงูด้วยหรอ โอ่ย อยากใหัสองคนนี้หวานกันเร็วๆจุงเบย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: McKnight ที่ 28-06-2014 05:44:39
โยชิเป็นทั้งงู และก็เป็นคนด้วย  เป็นยังไงหว่า?????
หรือตอนนี้เป็นคน และจะกลายร่างเป็นงูเมื่อถึงเวลา (เวลาของอะไร?)
แล้วนายอาซาไปทำให้น้องโยชิกลัวงูขั้นรุนแรงตั้งแต่เมื่อไหร่??? ทำไปทำไมล่ะเนี่ย

ตอนนี้ หวานน..เพราะโยชิออกตัวแรง แสดงออกโต้งๆเลยว่าอาซาสำคัญกับตัวเองแค่ไหน
ทั้งตามไปง้อ ทั้งกอดแน่น ทั้งจูบคางอ้อน โอ้ยถ้าผมเป็นอาซานะ ไม่ทนแน่ๆ  หุหุ

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 28-06-2014 06:37:11
ง่าาาาา  เศร้าาา   พ่องูมาซบเจ้ มามะ 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 28-06-2014 08:23:29
ได้ยินใช่ไหม :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Alphas ที่ 28-06-2014 09:53:47
สนุกจริงๆ ติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 28-06-2014 09:55:49
 :mew1:มีเรื่องให้หนักใจแต่ก็มีความหวานอยู่เหมือนกันจ้า :mew3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 28-06-2014 13:14:27
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Netimefii ที่ 28-06-2014 13:50:46
ชอบบ  :impress2: o13
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: pim-lovemj ที่ 28-06-2014 16:03:33
 :hao5: หนูโยชิไม่ใช่คน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 28-06-2014 18:35:04
ตมสปีดอ่านจนถึงต่อล่าสุดได้ล่ะ
เรื่องนี้ เปิดตอนแรกก็น่าสนใจแล้ว
รอดูกันต่อไปสิ โยชิจะรู้ความลับทั้งหลายเมื่อไหร่และเป็นยังไง
รวมถึงโยชิจะจะออดอ้อนอาชายังไงอีก
กอดมั้งล่ะ จุ๊บคางมั้งล่ะ อาชาทนได้เหรอออ ^^
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 28-06-2014 21:42:31
อยากอ่านตอนต่อไปมาก

ค้างค่าาาาาาาา

เป็นกำลังใจให้คนแต่งเน้อ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: miaoxian ที่ 28-06-2014 22:55:04
โยชิไม่ใช่คนนนน
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 29-06-2014 03:47:33
อ๊ายยยย เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ สนุกมากคะ เป็นคนนึงที่กลัวงูมาก แต่อ่านเรื่องนี้ละก็แอบสงสารเล็กๆ แต่ก็ยังมีขนลุกตอนที่จินตนาการตาม
สรุปคือโยชิเป็นงูสินะ อยากรู้ว่าจริงๆแล้วอาซาอายุเท่าไหร่กันแน่อะ ดูอยู่มายาวนานมาก เรื่องที่ทำโยชิทนทุกข์ขอเดาว่าที่โยชิเคยบอกว่าโดนงูกัด
ละบางทีอาจจะเพราะไปกัดโยชิเข้าเลยกลายเป็นครึ่งงูงี้ป่าวอะ เดาเอานะ เหมือนแบบโดนแวมไพร์กัดละเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ 55555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 29-06-2014 13:28:21
ตื่นเต้นเฟอร์ๆๆ ลุ้นๆ สนุกมากๆ อ่ะริริ มาต่อไวๆ นร้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHT❁ 27-06-14 [P.8]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 29-06-2014 13:55:45
โยชิเป็นงู ไอย๊ะ !! ><
หัวข้อ: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 29-06-2014 16:07:16
NINE


         

          ความสงสัยเรื่องก่อนๆยังไม่กระจ่าง เรื่องให้ต้องสงสัยเรื่องใหม่ก็ตามมาติดๆ ผมนั่งทานอาหารเช้าร่วมกับคนอื่นๆ ยกเว้นเวสตันและจูเลียตที่ออกไปคุยกันข้างนอก

          “ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันสั่งนะจูเลียต ก็เก็บข้าวของของเธอออกไปซะ”

          “เวสตัน นายทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ!”

          “ทำไมจะไม่ได้ เพราะเธอเป็นเพื่อนกับแฟนฉันน่ะเหรอ นั่นไม่สำคัญเลย ถ้าเธอจะช่วยคิดถึงเรื่องเก่าๆ ตอนที่เธอยังเป็นคนอื่นสำหรับพวกเรา เธอร้องขอความช่วยเหลือในลมหายใจเฮือกสุดท้าย และพวกเรายอมช่วยชีวิตเธอด้วยความเต็มใจ และในเมื่อตอนนี้คนในครอบครัวฉันเดือดร้อน เธอจะไม่ช่วยงั้นเหรอ”

          “แต่ฉัน...”

          “ถ้าเธอยอมรับกฎของฉันไม่ได้ ก็ออกไป ที่นี่ไม่ต้องการคนใจดำไร้น้ำใจ”

          เสียงฝีเท้าเดินกลับเข้ามาในห้องอาหาร ผมเหลือบมองเวสตันที่เดินหน้านิ่งกลับเข้ามากินมื้อเช้าแบบไม่รู้สึกอะไร สักพักจูเลียตก็เดินกระแทกเท้าตามเข้ามา เธอนั่งลงตรงข้ามผมเหมือนเดิม มองหน้าผมเหมือนผมไปฆ่าแม่เธออย่างไงอย่างงั้น

          “ก็ได้...ฉันจะทำ ฉันจะตามติดนายเป็นเงาโยชิ!” จูเลียตกัดฟันกรอด ผมลอบถอนหายใจ มองอาซาที่ทำหน้าไร้ความรู้สึกอยู่ข้างๆ

          เมื่อคืนหลังทานอาหารเย็นเสร็จเขาก็ส่งผมเข้าห้องนอนของเขา ที่อาซายอมสละเตียงฝากหนึ่งให้ผม ผมเห็นว่าบรรยากาศระหว่างเราเริ่มดีขึ้นจึงไม่ได้ถามสิ่งที่สงสัยให้เสียบรรยากาศ

          “ความจริงฉันไปเรียนเองก็ได้นะ” ผมบอกอาซาตอนเดินออกจากบ้านพัก คนอื่นๆเดินนำอยู่ข้างหน้า อาซาบอกผมว่าวันนี้ฟรินน์และจูเลียตจะไปเรียนกับผม เขาว่าสถานการณ์ไม่ค่อยปลอดภัย ผมไม่เข้าใจ อยากจะถามแต่ก็ติดคำพูดของตัวเองเมื่อคืนที่ว่าจะรอให้เขาบอกทุกอย่างกับผมเอง และผมก็ไม่รู้ว่าจะอดทนกับความอยากรู้ของตัวเองได้อีกนานเท่าไหร่

          “ทำตามที่เวสตันว่าเถอะ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ไม่ต้องใส่ใจ”

          “แต่...”

          “ห้ามดื้อ”

          “เฮ้อ...ก็ได้ แล้วเย็นนี้เราจะได้เจอกันใช่ไหม ฉันต้องไปซื้อของสักหน่อย”

          “จูเลียตจะพานายไปซื้อ เอาล่ะ ตั้งใจเรียนนะ แล้วเจอกันตอนเย็นที่บ้าน”

          มือใหญ่ลูบศีรษะผมเบาๆ ผมยิ้มรับแม้ใจจริงอยากให้อาซาเป็นคนไปรับผมที่คณะแล้วพาไปซื้อของก็เถอะ เขาเดินแยกไปเรียน ผมมองตามก่อนจะเดินไปอีกทาง

          “น่าเบื่อ” จูเลียตว่า ผมทำเป็นไม่สนใจ ฟรินน์เดินมาขนาบข้างผม เขายิ้มเป็นกำลังใจให้ ผมไม่รู้นะว่าตัวเองไปเหยียบชายกระโปรงจูเลียตตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอถึงได้ไม่ชอบขี้หน้าผมขนาดหนัก

          ผมค่อนข้างตกใจที่ตัวเองกลายเป็นเป้าสนใจเพียงแค่ฟรินน์และจูเลียตมาพร้อมผม แต่ผมไม่ควรแปลกใจนะ สองคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นคนดัง คนจำนวนไม่น้อยคงสงสัยว่าผมไปรู้จักมักจี่กับสองคนนี้ได้อย่างไร

          ตลอดคาบเรียนผมแทบจะประสาทกิน ผมพยายามไม่ยุ่งกับจูเลียต แต่เธอพยายามหาเรื่องผมตลอดเวลา ผมบอกให้เธอไปไหนก็ได้ไม่ต้องตามดูผม มีแค่ฟรินน์อยู่ก็พอ และผมยังสัญญาอีกว่าผมจะไม่บอกอาซาหรือเวสตันว่าเธอไม่ได้อยู่ดูผมตลอดเวลาตามคำสั่ง แต่ฟังแล้วเธอกลับหาว่าผมกำลังจะทำให้เธอเดือดร้อน ให้ตายสิ ประจำเดือนเธอไม่มาหรือไงนะ ถึงได้หงุดหงิดง่ายถึงเพียงนี้ นิกกี้และเติร์ดดึงตัวผมออกจากสองคนนั่นเมื่อมีโอกาส นิกกี้ถามผมใหญ่ว่าฟรินน์และจูเลียตมากับผมได้ยังไง ผมเลยโกหกออกไปคำโตว่าทั้งสองคนนี้ว่างและอยากได้ความรู้เพิ่มเติมเลยมานั่งเรียนด้วย และผมก็ยังคงเป็นคนที่หาข้ออ้างได้ห่วยแตกเหมือนเดิม

          ผมไม่ได้พูดคุยกับนิกกี้และเติร์ดอีกเพราะจูเลียตเอาแต่บ่นว่าเสียงพูดคุยของพวกผมมันน่ารำคาญ เราเลยหุบปากฉับ ก้มหน้าก้มตาเรียนไม่สนใจใคร

          ผมแทบไม่ได้ใส่ใจโปรเฟสเซอร์โจเซฟที่กำลังสอนอยู่หน้าชั้นเรียน ผมทำเพียงก้มมองสมุดที่มีตัวอักษรปรากฏอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ใช่เนื้อหาที่กำลังเรียน แต่เป็นเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้น

          ...ปานบนหน้าอก...

          ...ความฝัน...

          …แอชยู...

          …ข่าวคนตาย...

          …เจอร์โรม ดาวเสาร์...

          ...ภาษาบ้าบอที่ผับ...

          ...เสียงร้องของคนบนดาดฟ้า...

          ...สิ่งที่ผมกำลังหนี...



          ผมมองลายมือตัวเองบนกระดาษตลอดทั้งคาบเช้า มีอะไรที่ผมพอจะเข้าใจได้บ้าง และใครที่จะให้คำตอบพวกนี้กับผมได้ หรือผมควรรออาซาต่อไปดี รอจนกว่าเขาจะบอก แต่เมื่อไหร่กันล่ะ

          เสียงออดดังหมดเวลา จูเลียตลุกขึ้นทันทีแล้วก็เดินออกจากห้อง ผมเก็บของโดยมีฟรินน์ช่วย

          “เย็นนี้ฉันไม่เข้าเรียนนะโยชิ” นิกกี้เดินมาบอกผม มีเติร์ดทำหน้าเหมือนคนกินยาเบื่อหนูอยู่ข้างหลัง

          “ทำไม” ผมถาม

          “ฉันมีนัดกับเจอร์โรมน่ะ เขาจะพาฉันไปซื้อของให้ปุยเมฆ” เธอบอกสีหน้าเปรี่ยมสุข ฟรินน์ถึงกับจ้องเธอด้วยความสงสัย แน่ล่ะ ก็เธอเพิ่งจะพูดชื่อเจอร์โรมออกมา

          “ไว้ไปหลังเลิกเรียนก็ได้นี่” ผมรั้งนิกกี้ เธอยิ้มสวยอย่างกับนางฟ้าให้ผม

          “ฉันรู้จ้ะโยชิ แต่ว่าเจอร์โรมเขาไม่ได้ว่างตลอด และเขาว่างแค่วันนี้ตอนนี้เท่านั้น ฉันต้องไปจริงๆ” เธอสะพายกระเป๋าแล้วเดินจากไปแบบมีความสุข ผมมองเติร์ดแบบขอความเห็น เขาแค่ยักไหล่แล้วเดินนำออกไปนอกห้องเรียน บางทีผมควรเตือนนิกกี้ว่าอย่าอยู่ใกล้เจอร์โรม

          “เพื่อนนายรู้จักกับเจอร์โรมได้ยังไง” ฟรินน์กระซิบถามผม เราเดินพ้นออกจากนอกห้องเรียน จูเลียตเตรียมจะแว็ดใส่ผมข้อหาที่ออกมาช้า แต่ฟรินน์รีบยกมือห้ามเธอ

          “เธอเจอเขาเมื่อวันก่อนที่ฉันกับนิกกี้ไปผับMagic ด้วยกัน และตอนนี้สองคนนั้นน่าจะกำลังเดทกันอยู่”

          “เดท? เป็นไปไม่ได้ คนอย่างไอ้เจอร์โรมเนี่ยนะเดทกับมนุษย์” ท้ายประโยคฟรินน์เหมือนบ่นพึมพำจนผมฟังไม่ถนัด

          “นายว่าอะไรนะฟรินน์”

          “เปล่า ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเวสตันและอาซาถึงให้ฉันกับจูเลียตตามมาดูนาย” ฟรินน์ทำหน้าเป็นห่วง เขาเสยผมสีเทาควันบุหรี่ของเขาลวกๆ ผมหยุดเดินมองหน้าฟรินน์อย่างจริงจัง หางตาผมเห็นจูเลียตเงยหน้าโคลงหัวไปมาด้วยความรำคาญ

          “กลับไปเถอะจูเลียต ฉันเบื่อที่จะต้องพูดแบบนี้ แต่เธอคิดว่ารำคาญเป็นคนเดียวหรือไง ฉันก็รำคาญเธอเหมือนกัน ถ้าไม่เต็มใจช่วยก็ไปไกลๆ! เพราะเธอกำลังทำตัวน่าสมเพชให้ฉันคลื่นไส้!!!” คราวนี้ผมเลยใส่เธอเสียยกใหญ่จนนับคะแนนไม่ทัน

          “พอเถอะจูเลียต ฉันเองก็รำคาญเหมือนกัน” ฟรินน์พูดเซ็งๆ จูเลียสทำเสียงฮึดฮัดก่อนจะเดินหายไป ผมส่ายหน้าตามหลังเธอ เริ่มรู้สึกปวดหัวตุบๆ

          “เฮ้อ ปล่อยเธอไปเถอะ ว่าแต่...เมื่อกี้นายบอกว่านายรู้แล้วว่าทำไมอาซาถึงได้ให้พวกนายมาตามดูฉัน มันหมายความว่ายังไง” ผมเข้าเรื่องต่อ

          “อาซามันไม่ไว้ใจไง บางทีไอ้เจอร์โรมอาจจะเข้าหาเพื่อนเธอโดยใช้ให้เพื่อนเธอเป็นสะพานมาหานายก็ได้ เพราะอย่างนั้นฉันถึงต้องมาคอยตามดูนาย” ฟรินน์อธิบาย ผมขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม

          “แล้วทำไมเจอร์โรมต้องการตัวฉัน ฉันไม่เข้าใจ”

          “เรื่องนั้นนายไปถามไอ้อาซาเองดีกว่านะ ฉันไม่อยากเสี่ยงเวลามันโมโห” เขาหยิบตาทำเป็นเล่นให้ผม

          สุดท้ายก็ไม่มีใครบอกอะไรผมได้อยู่ดี สิ่งที่รู้ใหม่ก็อาจถูกหรืออาจจะผิด ถ้าเจอร์โรมเป็นอันตรายกับผมจริงๆ และเขากำลังหลอกใช้นิกกี้ ผมก็ควรเตือนเธอ แต่นั่นล่ะคือสิ่งที่ยาก ผมไม่สามารถเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมให้นิกกี้ฟังได้ และนั่นหมายความว่าผมจะไม่มีเหตุผลที่ดีพอที่จะทำให้เธอเลิกยุ่งกับเจอร์โรม ในทางกลับกัน ถ้าเจอร์โรมสนใจนิกกี้จริงๆ และเขาไม่ได้จะใช้เธอเป็นสะพานเข้าหาผมอย่างที่ฟรินน์ว่า ผมก็ไม่ควรกีดกันสองคนนั้นอย่างยิ่ง

          โอ้ย! มีแต่เรื่องน่าปวดหัว

          ปรากฏว่าคาบบ่ายเติร์ดก็ไม่เข้า บอกแค่ว่าไม่มีอารมณ์เรียน ให้เดาคงไม่พ้นเรื่องที่นิกกี้ออกไปกับเจอร์โรม ผมพยายามจดจ่ออยู่กับเรื่องที่กำลังเรียน แต่ในสภาวะที่มีแต่เรื่องเครียดๆลอยไปลอยมาในสมอง ผมไม่สามารถรับความรู้ได้อย่างเต็มที่

          จูเลียตหายหน้าไปเลย ซึ่งผมอยากจะกราบของพระคุณเธอมากที่ไม่โผล่มากวนประสาทผมให้เสียไปมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าเธอถูกบังคับ แต่ก็ใช่ว่าผมอยากจะให้เป็นแบบนี้

          “นายไม่ได้มีธุระใช่ไหมฟรินน์ พอดีฉันจะต้องไปซื้อของนอกมหาวิทยาลัยนิดหน่อย” ผมพูดกับฟรินน์หลังเลิกเรียน เขากดโทรศัพท์หยิกๆก่อนจะเงยหน้ามองผม แล้วเสียงโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น ผมผายมือเป็นเชิงว่าตามสบาย เขาจึงกดรับสายและเดินออกห่าง

          ผมหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาพ่อบ้างเมื่อวานผมไม่ได้โทรหาพ่อหรือพี่ยอร์ชเลย มีมิสคอลแต่ผมก็ไม่มีเวลาโทรกลับ ป่านนี้เป็นห่วงแย่แล้วมั้ง

          “โยชิ! ลูกพ่อ หนูเป็นอะไรหรือเปล่า เมื่อวานไม่โทรมา พ่อโทรไปก็ไม่รับสาย พ่อเป็นห่วงมากเลยรู้ไหม ทำไมหนูเพิ่งจะโทรหาพ่อ” พ่อกดรับสายปุบก็พูดร่ายยาวปับ น้ำเสียงร้อนรนด้วยความเป็นห่วงจนผมรู้สึกผิด

          “พ่อจ๋า ใจเย็นๆนะ โยไม่ได้เป็นอะไร คือ...เมื่อวานเพลียๆเลยเผลอหลับไปแต่หัวค่ำ แล้ววันนี้ก็มีเรียนทั้งวัน แต่พอเลิกเรียนปุ๊บก็โทรหาพ่อทันทีเนี่ยแหละ” ผมโกหกคำโต ผมทำผิดบาป แต่ผมไม่อยากให้พ่อกับพี่ยอร์ชเป็นห่วงผมมากไปกว่านี้

          “หนูไม่เป็นอะไรแน่นะโย ให้พ่อกับพี่ยอร์ชไปหาไหม พี่เขานั่งไม่ติดเลย กลัวหนูจะมีเรื่องมีปัญหา”

          “ไม่เป็นไร พ่อไม่ต้องมาหรอก โยสบายดี แล้วพ่อกับพี่ยอร์ชล่ะ สบายดีใช่ไหม โยไม่อยู่กินข้าวครบมื้อหรือเปล่า” ผมเปลี่ยนเรื่อง

          “แหะๆ ก็ครบนะ”

          “ไม่ครบสินะ”

          “เอาน่า ไม่ต้องสนใจคนแก่อย่างพ่อหรอก ดูแลตัวเองดีๆนะโย พ่อเป็นห่วง”

          “ครับพ่อ เอ่อ...พ่อครับ โยมีอะไรจะถาม”

          คำตอบของบางเรื่องก็ต้องหาจากคนใกล้ๆตัว ทั้งเรื่องปานที่มีแต่พ่อกับพี่ยอร์ชที่รู้ และความฝันเกี่ยวกับงู ผมอยากรู้ว่ามันเป็นแค่ความฝันจากอาการจิตตก หรือเป็นความจริงที่ผมลืมเลือนไป

          “อะไรเหรอลูก”

          “คือ...ปานที่อกข้างซ้าย มันไม่มีอะไรไม่ดีใช่ไหมพ่อ มันเป็นแค่ปานใช่หรือเปล่า” ผมถาม ยกมือขึ้นลูบหน้าอกตรงตำแหน่งที่มีปานรูปงูอยู่ รู้สึกกลัวตัวเองตงิดๆ

          “ทำไม มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” พ่อถามเสียงค่อนข้างร้อนรน ผมเม้มปากแน่น เผลอส่ายหน้าทั้งๆที่พ่อคงไม่เห็น

          “เปล่าครับ โยแค่สงสัยเฉยๆก็เลยถาม”

          “มันไม่มีอะไรหรอกลูก อย่าคิดมาก ไว้วางๆพ่อจะไปหานะ พ่อคิดถึงลูกนะ” พ่อรีบตัดบท ผมที่จะถามอีกเรื่องก็เลยต้องหยุด

          “ผมก็คิดถึงพ่อครับ ฝากบอกพี่ยอร์ชด้วยว่าผมคิดถึง”

          ผมวางสายพ่อ มองหน้าจอโทรศัพท์นิ่งจนหน้าจอดับสนิท กล่อมตัวเองว่ามันไม่มีอะไร ก็แค่ปานอย่างที่พ่อบอก คิดแบบนั้นผมก็เบาใจไปได้เรื่อง

          ฟรินน์คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเช่นเดียวกับผม เขาเดินหน้าเครียดเข้ามาใกล้ ผมเลิกคิ้วถาม เขามองหน้าผมเหมือนคนคิดไม่ตกก่อนจะเอ่ยปากพูด

          “ฉันมีธุระต้องไปทำกะทันหัน นายคงต้องไปซื้อของกับจูเลียต ฉันโทรตามเธอแล้ว”

          “ไม่เป็นไร ฉันไปเองดีกว่า ให้เธอไปด้วยฉันอาจจะถูกฆ่าตายระหว่างทาง”

          อย่างน้อยๆก็ทางคำพูดและสายตา

          “เธอจะไม่ทำแบบนั้นฉันสัญญา และนายต้องเชื่อฉัน นายไปคนเดียวไม่ได้โยชิ เข้าใจใช่ไหม” ฟรินน์จับไหล่ของผมไว้ทั้งสองข้าง โน้มหน้าลงมาพูดใกล้ๆ ผมหรี่ตามองก่อนจะถอนหายใจพลางพยักหน้ายินยอม

          “ก็ได้ ฉันเข้าใจ”

          ในเมื่อไม่มีทางเลือก ก็ทำได้เพียงแค่ยอมรับการอารักขาจากคนที่เกลียดผมเข้าไส้ จูเลียตยืนรอผมหน้ามหาวิทยาลัยพร้อมรถสปอร์ตของเธอ ฟรินน์เดินมาส่งผมถึงที่

          “อย่าก่อเรื่องนะจูเลียต”

          “รู้แล้วน่า” เธอทำเสียงฮึมฮำในลำคอ ผมยักไหล่ให้ฟรินน์ เดินไปขึ้นรถของจูเลียตที่เจ้าของรถนั่งคอยท่าอยู่ในตำแหน่งคนขับ และเสียงเร่งเครื่องยนต์ดังเตือนว่าถ้าผมยังชักช้า ผมอาจได้ไปนอนอยู่ใต้ท้องรถแทนที่จะไปถึงที่หมาย

          “รบกวนด้วยแล้วกัน ฉันซื้อของไม่นานหรอก” ผมพูดอย่างสุภาพ เพื่อแสดงให้จูเลียตรู้ว่าผมไม่ได้คิดร้ายกับเธอและผมเป็นมิตรมากพอให้พูดคุยด้วย จูเลียตแค่หันหัวมองผมนิดหน่อย แล้วก็หันกลับไปจ้องถนนเบื้องหน้า เป็นการปฏิเสธน้ำใจของผมโดยสิ้นเชิง ผมยังคงมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเธอ และประหนึ่งว่าสายตาเหลือบแลของผมเตือนว่าเธอควรจะมีมารยาทมากกว่าที่ควรเป็น

          “จะไปที่ไหน” เธอถามนิ่งๆ เสียงติดจะแข็ง แต่ก็นับว่าพัฒนาไปในทางที่ดี

          “ร้านขายหนังสือมือสอง ตรงถนน...” ผมส่งกระดาษที่วาดแผนที่ให้เธอดู เธอรับไปมองประมาณห้าวินาที แล้วเหลือบตามองผมแปลกๆ ก่อนจะยัดแผนที่คืนใส่มือผม

          “จะไปทำไมที่นั่น”

          “ไปซื้อหนังสือ”

          เธอคงจะเข้าใจเพราะไม่ได้ถามอะไรต่อ ร้านอยู่ไม่ไกลจากแอชยูมากนัก แต่ต้องเข้าซอยเล็กที่รถไม่สามารถขับสวนกันได้ เป็นทางแบบวันเวย์วิ่งได้ทางเดียว อาคารบ้านเรื่องภายในซอยเป็นตึกเก่าแก่ บ้างก็เป็นไม้ บ้างก็เป็นปูน ในซอยค่อนข้างเงียบ มีร้านค้าอยู่ไม่เท่าไหร่ เท่าที่เห็นมีร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านขายกาแฟแนวคลาสสิก และข้างหน้านั่นเป็นร้านหนังสือที่ผมกำลังตามหา

          “จอดตรงนี้แหละ แล้วเธอก็ลงไปหาอะไรดื่มรอก่อนละกัน ฉันน่าจะอยู่ในร้านนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง” ผมปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว เปิดประตูลงจากรถทันที เดินไปอีกสองช่วงตึกก็ถึงร้านที่ผมตามหา ตัวร้านสองชั้นสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ผมผลักประตูเข้าไปข้างใน เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังกรุ้งกริ้ง เจ้าของร้านที่กำลังปีนบันไดเหล็กก้มลงมองลูกค้าอย่างผม เขายิ้ม มือดันหนังสือเข้าชั้นแล้วค่อยๆปีนลงมา

          “ต้องการอะไรหรือพ่อหนุ่ม ถามฉันได้นะ” สำเนียงภาษาไทยแปร่งหู และหน้าตาที่ค่อนไปทางต่างชาติยิ้มอ่อนโยน

          “ผมกำลังหาหนังสือเล่มนี้น่ะครับ” ผมยื่นโน้ตที่จดชื่อหนังสือตามที่อาจารย์บอกให้หาอ่านเสริมส่งให้คุณลุงเจ้าของร้าน

          “อ่อ เหลือเล่มสุดท้ายพอดี ตามฉันมา” คุณลุงเดินนำขึ้นชั้นสอง บันไดไม่ค่อยจะแข็งแรง ยามที่ก้าวเท้าแต่ละทีก็ดังเอี๊ยดอ๊าด

          “ไม่ต้องกลัวพ่อหนุ่ม มันแข็งแรงพอจะรับน้ำหนักคนสิบคนได้เลยล่ะ ฮะๆๆ”

          “ครับ”

          ชั้นสองหนังสือเยอะกว่าชั้นแรกมาก ไม่คิดว่าจะมีร้านแบบนี้อยู่ในตัวเมืองด้วย หนังสือโดยส่วนมากค่อนข้างเก่า คุณลุงแยกไปหาหนังสือที่ซอกด้านใน ผมยืนรออยู่แถวชั้นหนังสือริมนอก กวาดตามองชื่อบนสันหนังสือแต่ละเล่ม แถวนี้มีแต่หนังสือเกี่ยวกับโหราศาสตร์และปรัชญาต่างๆ

          ‘Mysterious Birthmark’

          ผมเปิดหนังสือไปหน้าแรก หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือของประเทศไทย เนื้อหาข้างในเป็นภาษาอังกฤษหมด แต่ละหน้ามีรูปปานแต่ละแบบและมีประวัติบอก ผมแค่กวาดตามองคร่าวๆ คุณลุงเจ้าของร้านเดินเข้ามาใกล้ ผมปิดหนังสือในมือลง

          “สนใจเรื่องนี้เหรอพ่อหนุ่ม” คุณลุงพยักหน้ามาที่หนังสือในมือผม

          “นิดหน่อยครับ”

          “อ่ะนี้หนังสือที่เธอหา เล่มนั้นเป็นหนังสือเก่า ใช้ภาษาอังกฤษโบราณ อ่านยากหน่อย พยายามเข้าล่ะ”

          ผมลงไปจ่ายเงินข้างล่าง คุณลุงแถมหนังสืออ่านเล่นนอกเวลาให้ผมอีกเล่ม ผมเกรงใจจะไม่รับแต่คุณลุงก็คะยั้นคะยอ ผมเลยต้องรับมาพร้อมบอกว่าคราวหน้าจะแวะมาอุดหนุนอีก

          ออกจากร้านท้องฟ้าก็เริ่มมืด ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา หกโมงแล้วเหรอ ผมเดินกลับไปที่รถ หวังว่าผมคงไม่ได้ให้จูเลียตรอนานไปหรอกนะ ไม่งั้นผมคงโดนเธอด่าเละ

          “โอ๊ะ!”

          เดินไม่ระวังและไฟทางก็ไม่มี ผมจึงเหยียบอะไรบางอย่างเข้าอย่างจัง ผมกระโดดขาเดียวเข้าใกล้เสาไฟฟ้า เท้ามือข้างหนึ่งกับเสาไฟ อีกข้างถอดรองเท้าออกดู ที่แท้ก็เศษกระเบื้อง ผมหยิบมันออกจากรองเท้าก่อนจะสวมเท้ากลับเข้าไปอีกครั้ง เดินกระเพลกๆกลับไปที่รถ แต่จู่ๆก็มีใครบางคนรั้งแขนผมเอาไว้

          “โอ๊ย!” เขาจิกแขนผมอย่างแรง ผมหันไปมองด้วยความตกใจ นิ่วหน้าเพราะเล็บของเขากำลังทะลุเข้าไปในผิวหนัง ตาผมขยายกว้าง ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ไว้เคราเท่าที่ผมสังเกตได้จากความมืด เขามองผมด้วยแววตาเกรี้ยวกราด ผมดึงแขนตัวเองแต่กลายเป็นเพิ่มบาดแผลเสียอย่างนั้น น้ำตารื้อคลอด้วยความเจ็บ ผมใช้มือข้างที่ว่างเหวี่ยงหมัดใส่มันอย่างแรง แต่เหมือนเอามือไปชกกับกำแพงหินเสียมากกว่า ผมเจ็บร้าวที่มือจนคิดว่ากระดูกอยากจะแตก

          “ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยผมที จูเลียต ช่วยฉันด้วย!” ผมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ พวกมันยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นๆ มือที่จิกทะลุผิวหนังผมเค้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เลือดจำนวนไม่น้อยไหลลงพื้น ผมพยายามดิ้นเอาตัวรอด ขายกขึ้นถีบไอ้ตัวร้ายแต่มันไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิด ผมคงจะไม่ได้ถูกฆ่าตายที่นี่หรอกนะ

          “แกกล้าดียังไงเข้ามาในเขตเราไอ้พวกอสรพิษโสมม!” มันคำรามเสียงสูงใหญ่ ผมผวาตกใจตามแรงกระชากของมัน

          “โยชิ!”

          ผมแทบอยากจะร้องไห้ทันทีที่ได้ยินเสียงจูเลียต บางอย่างลอยมากระแทกหน้าคนที่จับแขนผมไว้ มันตกใจปล่อยมือผมออก ผมรีบวิ่งหนีทันที จูเลียตอยู่ข้างหน้าผม เธออยู่ในสภาพเหลือรองเท้าส้นสูงข้างเดียว ผมวิ่งไปหลบหลังเธอ ไอ้พวกนั้นเดินเข้ามาใกล้เรามากขึ้นทุกที เธอมองสภาพผมก่อนจะทำหน้าตกใจ จับแขนผมไปดม

          “นายเป็นอะไรโยชิ!?”

          “หมายความว่ายังไง” เลือดไหลออกจากแขนผมมากขึ้นจนรู้สึกได้เพราะกลิ่นคาวคละคุ้งไปทั่วบริเวณ

          “นายโง่หรือไง นายไม่ใช่มนุษย์!” เธอตะคอกเบาๆ แต่ทำเอาผมมึนตึบ ผมคงไม่ได้เมากลิ่นเลือดตัวเองจนได้ยินอะไรเพี้ยนๆใช่ไหม

          “เธอบ้าหรือไงจูเลียต พูดบ้าอะไรของเธอ ฉันเป็นมนุษย์!”

          แฮ่!!!

          “เวรเอ้ย! ถ้านายเป็นตัวถ่วงฉัน ฉันเอานายตายแน่!”

          จูเลียตพูดขู่ผมเสร็จเธอก็ล็อคคอผมแน่น ลากผมกลับขึ้นรถก่อนจะวิ่งไปที่ฝั่งคนขับ เธอสตาร์ทรถตอนที่พวกมันมาถึงตัวรถแล้ว พวกมันแยกเขี้ยวใส่ผม เขี้ยวแบบเขี้ยวจริงๆ ผมไม่ได้ตาฟาด แต่นั่นมันเขี้ยวของสัตว์ชัดๆ จูเลียตขับรถถอยหลังแต่ไม่รู้ว่าพวกมันมาจากไหนเยอะแยะ ล้อมหน้าล้อมหลังเราไปหมด เธอสบถไม่เป็นภาษายกใหญ่ เหยียบคันเร่งพุ่งชนพวกมัน แต่พวกมันอึดกว่าที่คิด ไม่มีใครล้มลงไปตามแรกกระแทก กลับส่งเสียงคำรามหนักขึ้นๆ ใช้มือทุบรถของเธอดังปั้ก เธอเอื้อมมือเปิดคอนโซลรถ หยิบวัตถุอันตรายออกมา ผมมองอึ้งๆ ทำไมจูเลียตถึงต้องพกปืน

          “ย้ายมาขับรถ!” เธอบอกอย่างฉุนเฉียว ผมรีบทำตามอย่างรวดเร็วด้วยความทุลักทุเล เลือดยังคงไหลไม่หยุดและผมเริ่มรู้สึกอ่อนแรง แผลฉกรรจ์ที่ข้อมือรุนแรงมากกว่าที่ผมคิด เพราะมันแสบร้อนเหมือนถูกไฟลามเลีย

          “ยื่นมือมา ไอ้พวกเวรเอ้ย! ถ้ารถฉันมีรอยฉันจะฆ่าพวกแก” เธอกระชากเสียงบอกผมพร้อมใช้ผ้าเช็ดหน้าของเธอมัดปิดบาดแผลให้ผม เธอออกแรงเยอะมากผมร้องโอยด้วยความเจ็บ

          “เหยียบให้มิดเลยเข้าใจไหม ฉันจะจัดการพวกมันเอง” เธอกดเสียงต่ำบอกผม ผมพยักหน้า เธอนับเลขให้สัญญาณกับผม ผมก็กดเท้าเหยียบคันเร่งมิด จูเลียตเปิดกระจกแล้วยิงพวกมันโดยไม่ลังเล เสียงปืนดังติดกันหลายต่อหลายนัด ผมตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ยังคงขับรถชนพวกมัน จนเราสามารถฝ่าวงล้อมของพวกมันมาได้ มือที่กำพวงมาลัยสั่นจนน่ากลัว จูเลียตอัดกระสุนเพลิงเข้าไปใหม่

          ปึก!

          มีบางอย่างอยู่บนหลังคารถ ก่อนที่มันจะกระโดดมาขวางหน้ารถเอาไว้ ผมเผลอเหยียบเบรกกะทันหัน จูเลียตด่าผมที่ทำให้เธอหัวโขกกับกระจกรถด้านหน้า ผมมองสิ่งที่ยืนอยู่ข้างหน้าตาค้าง หมาป่าร่างยักษ์สูงเท่าตึกสองชั้น มันเอามือดันรถเอาไว้ไม่ให้พวกเราขับฝ่าออกไปได้ จูเลียตมองด้านหลังตื่นๆ พวกมันตามมาฝูงใหญ่ ผมกำลังช็อคสุดขีด ออกแรงเหยียบคันเร่งอีกครั้ง แต่เร่งยังไงรถก็ไม่เคลื่อนที่ เสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนดังแสบแก้วหู คนแถวนี้ไม่มีใครสนใจหรือยังไง

          “ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว อาซาจะโทษฉันไม่ได้ ไม่งั้นเราตายกันทั้งคู่แน่” จูเลียตบ่นหัวเสีย มองหน้าผมโกรธๆ ก่อนจะเอี้ยวตัวไปเบาะหลัง หยิบเสื้อยืดมาตัวหนึ่ง ออกแรงฉีกจนขาดเป็นวิ่น ก่อนจะใช้ผ้านั้นปิดตาผมเอาไว้

          “เธอทำอะไร!” ผมร้องถามเสียงตื่นตระหนก

          “ถ้าไม่อยากตายก็หยุดพูดมากแล้วหยุดเหยียบคันเร่งซะ! รถฉันมันจะบ่องเท้งแล้ว!” เธอกระชากเสียงใส่ ผมทำตามที่เธอบอกทันที

           “ไม่ว่ายังไงก็ห้ามเปิดตาออกดู ถ้านายขัดคำสั่งฉัน ฉันจะฆ่านาย” เธอเอาปืนในมือขู่ผม ผมรีบพยักหน้าตอบตกลง ผมได้ยินเสียงเปิดประตูปละเสียงกระแทกปิดอย่างแรง ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ผมควรลงไปช่วยเธอ จูเลียตเป็นผู้หญิง เธอจะไปต่อสู้กับไอ้หมาป่าตัวใหญ่ยักษ์แบบนั้นได้ไง



          ‘อ๊ากกกกกก!!’



          เสียงร้องโหยหวนทุรนทุรายจากความเจ็บปวดปางตายของสัตว์ป่าดังก้องกังวาน ผมรู้สึกอึดอัดเหมือนจะหายใจไม่ออก เสียงร้องคำรามอย่างทรมานดังขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่อาจทนนิ่งเฉยได้ ด้วยความเป็นห่วงจูเลียต ผมขัดคำสั่งเธอ ดึงผ้าที่ปิดตาออก แต่ผมมองอะไรไม่เห็น กระจกหน้ารถเต็มไปด้วยเลือด ผมแทบอยากจะอาเจียนออกมาด้วยความสยดสยอง ผมเปิดประตูรถออกไปหวังจะไปช่วยจูเลียต



          ‘อ๊ากกกกกกก!!!’



          “...!” ผมเบิกตาโตเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังหยุดหายใจ งูตัวใหญ่พอๆกับหมาป่ากำลังใช่ลำตัวเลื้อยรัดร่างมันแน่นจนได้ยินเสียงกระดูกลั่นดังเปรี๊ยะ หัวงูอยู่สูงเท่ากับหัวของมัน ดวงตาอสรพิษยักปูดโปนเปล่งแสงจ้องหน้าหมาป่าที่กำลังร้องโหยหวนจนมันหยุดร้องเพราะสิ้นลมหายใจก่อนที่มันจะกลายร่างกลายเป็นผู้ชายตัวใหญ่แต่หน้าเละเหมือนถูกน้ำกรดสาด และมันเป็นคนเดียวกับคนที่จิกเล็บลงบนแขนผม

          ผมทรงตัวแทบไม่อยู่ จังหวะที่งูตัวใหญ่ยักษ์หันมองมาทางผม ตาของมันวาวโรจน์ ผมรีบมุดตัวกลับเข้าไปในรถ ยกมือทุบอกตัวเองให้มันรู้สึกและกลับมาหายใจอีกครั้ง

          มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง ผมต้องฝันไปแน่ๆ

          อสรพิษยักษ์และหมาป่ากลายร่างเป็นคน

          ผมหลับตาแน่นไม่กล้าลืมตามอง ลืมว่าตัวเองต้องออกไปช่วยจูเลียต...ใช่! ผมลืมเธอไปเลย ป่านนี้เธอไม่ถูก...

          ปึก!

          ผมสะดุ้งผวาจนแทบช็อค จูเลียตจ้องผมอย่างโกรธจัด เธอเอื้อมมือคว้าคอผมไว้แน่น ออกแรงบีบจนผมหายใจไม่ออก พยายามดิ้นให้เธอปล่อยผม

          “นายมันตัวปัญหา ฉันสั่งแล้วไงว่าไม่ให้เปิดผ้า! นายอยากตายมากสินะ!!!” แววตาของเธอเรืองรองกลายเป็นดวงตาของอสรพิษตัวนั้น ผมตาเหลือกด้วยความกลัว รู้สึกเย็บวาบไปทั้งร่าง หัวใจที่เหมือนจะหยุดเต้นกลับมาเต้นอีกครั้ง ทั้งเร็วและรัว เธอปล่อยมือออกจากคอผม ผมสำลักไอจนตัวโยน แต่ยิ่งไอก็ยิ่งเจ็บแผลที่แขน และเลือดก็ไหลทะลักมากขึ้นทุกที

          “นี่ไม่ใช่ความผิดฉัน อาซาจะมาโทษฉันไม่ได้ นายแส่ไม่เข้าเรื่องเอง!”




          …….

          บอกเลยว่าถ้าริริเป็นโยชิ ป่านนี้ผูกคอตายใต้ต้นหญ้าไปนานแล้วถ้าต้องมาเจอเรื่องสยองขวัญขนาดนี้  :katai1:เอาล่ะ...ตอนหน้าความจริงจะเปิดเผย น้องโยรู้แล้วพี่อาซาว่าพวกพี่เป็นอะไร รอลุ้นกันเลยว่าน้องว่าทำยังไงเมื่อรู้ตัวตนที่แท้จริงของพี่งูสุดหล่อของเรา  :hao5:

          เรื่องนี้เราจะไม่ปล่อยให้คนอ่านได้พักหายใจหายคอ ลุ้นระทึกไปทุกตอนเรื่อยๆ คนแต่งก็ตื่นเต้น คนอ่านก็ลุ้น มันดีพะยะค่ะ ฮ่าๆๆๆ :laugh:

          ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและคอมเม้นให้นะคะ ดีไม่ดียังไงบอกด้วยนะคะ ริริจะได้นำไปปรับปรุง พยายามจะพัฒนาฝีมือตัวเองแต่ก็ไม่รู้ว่าทำได้ดีแค่ไหน  :กอด1:

          เรามาเอาใจช่วยหนูโยชิและพี่อาซากันดีกว่า ฟ้าหลังฝนยอมงดงามเสมอ เนอะๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: mbpwn_ ที่ 29-06-2014 16:20:15

จิ้ม

โยชิ  :hao5:  :hao5: :hao5: :hao5:
จะรู้แล้วจะรู้แล้ว  ฟหกด่าสวฟหกด่าสว   :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 29-06-2014 16:25:40
ตอนนี้พี่งูออกน้อยอ่ะ  ตอนหน้าขอเต็มๆ    :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 29-06-2014 16:31:44
กลับมาต่อนะตัวเอง เค้าลุ้นมากอ่ะ :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 29-06-2014 16:39:43
เฮ้ออออออ โยชิ ถึงเป็นผช.ลูกก็อ่อนแอกว่าจูเลียตอีกนะ ไม่ต้องลงไปช่วยเค้าหร๊อกกก :เฮ้อ:
แต่ก็นั่นล่ะ ไม่รู้ความจริงตอนหน้าแล้วจะรู้ตอนไหน!!!  :laugh:
เป็นนายเอกสมัยใหม่ ห้ามหนีความจริง เราต้องพุ่งชนอย่างเดียวเท่านั้น :m31:
รอนตอนต่อไป มากกกกกกกก :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 29-06-2014 16:53:57
ตอนหน้าหนูโยจะรู้ความจริงแล้ววววว  :hao7:

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: finn~luv ที่ 29-06-2014 17:05:09
สนุกมากเลยยยยย ชอบๆๆ ลึกลับซับซ้อนและลุ้นทุกตอน
อ่านถึงตอนนี้แล้วรู้สึกชื่นชมน้องโยชิ  :hao5: :hao5:
เจอแต่เรื่องลึกลับ แปลกประหลาดเลือดสาดแต่ก็ยังมีสติอยู่ได้  เก่งมากหนู
แต่ไม่รู้หลังจากนี้จะเป็นยังไง น่าจะรู้ตัวจริงของพี่ๆงูแล้วสินะ
ว่าแต่โยชิก็ไม่ใช่มนุษย์เหมือนกันหรอเนี่ย ยิ่งไปกันใหญ่  o22 o22
นอกจากตกใจคนรอบตัว ยังต้องตกใจตัวเองด้วยนะเนี่ย  555555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 29-06-2014 17:27:05
โยชิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 29-06-2014 17:55:19
ลุ้นๆๆๆๆๆ มาต่อไวๆๆ นร้าสงสารโยชิมากๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 29-06-2014 18:00:54
มาให้กำลังใจเหมือนเดิม

เดี๋ยวมาอ่าน

ขอไปอาบน้ำแป๊บๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 29-06-2014 18:01:57
เราเป็นโยชิเราก็ทำแบบริริ
เกลียดงูกลัวงูแทบตายแต่มาเจอแต่ละสถาณการณ์ดิ
หัวใจจะวายแทน 555555
แต่ต้องทนนะโยชิ ถ้ายอมแพ้เดี๋ยวจะไม่ได้คู่กะพี่งูเค้า
เอาชนะความกลัวให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 29-06-2014 18:36:53
โยชิจะเป็นยังไงล่ะนี่
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 29-06-2014 18:57:27
 :pig4: +1เป็ด T^T สนุกจังเลยค่ะ
กระซิก กระซิก โยชิน้อยอย่าเพิ่งช๊อกนะคะ
ติดตามอยู่จ้า ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 29-06-2014 18:57:56
ติดตามอย่างใจจดใจจ่อเลย

มาไวไวนะ

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 29-06-2014 19:01:40
อ่านแล้วก้อสยองแทนโยชิ เหมือนยิ่งเกลียดยิ่งเจอ
แต่โยชิรู้เรื่องก้อดีนะ อย่กอ่านหวานๆ คึคึ
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 29-06-2014 19:04:00
เอาแล้วๆๆ แล้วโยชิจะรับคสามจริงได้ไหม? เนี่ย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 29-06-2014 19:07:29
โอ้ยยยยย หนูโยชิ!  จะเป็นอะไรไหมนั่นเลือดออกใหญ่แล้ว
แถมยังเห็นทั้งงูและหมาป่าตัวเป็นๆอีก :katai1:
จูเลียตฉันจะรักเธอก็ตอนนี้แหละ
สนุกมากกกกก ลุ้นสุดยอด เนื้อเรื่องน่าติดตามฝุดๆ สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 29-06-2014 19:18:30
ุอยากตบนังจู.. นังงูผี :m31:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 29-06-2014 21:20:24
โยชิไม่ธรรมดาจริงๆด้วย  หมาป่าบอกพวกอรพิษโยชิเป็นพวกเดียวกันกับอาชา?  แอร๊ยยยยยย ลุ้นค้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 29-06-2014 21:53:02
อ่านมันมากๆ

แต่ถ้าจะให้ดีต้องให้โยชิร่วมบู๊ด้วย อิอิ

ก็อยากให้รู้ความจริงเร็วๆนะ

อาซาจะว่าไง

ที่โยชิมีแผลกลับมา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: Isomer005 ที่ 29-06-2014 22:28:17
 :katai1: โอ้ววว  ลุ้นซะจน
เริ่ดจริงๆ น้องโยผู้ดึงดูดทุกสิ่ง มีแต่เรื่องเข้ามาสินะนับจากนี้
สู้ๆ นะโยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 29-06-2014 23:37:24
 :katai1: :katai1: :katai1:ต่อไปจะเป็นงัยเนี้ยยยยยยยยยย :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 30-06-2014 00:26:41
ตอนหน้ารู้แล้ว.....น้องโยชิต้องเข้มแข็งนะจ๊ะ ต่อสู้ไปด้วยกันกับพี่อาซานะ :hao5: :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 30-06-2014 01:10:14
ุลุ้นนนนน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 30-06-2014 01:22:15
อ่านแต่ละตอนแล้วซีเครียดเลย

เครียดเกร็งจนเยี่ยวจะราดแล้วจ้า

รอตอนหน้านะค้า น้องจะรู้ความจริงแล้ว

จะรับได้มั้ยเนี่ย

 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 30-06-2014 04:25:19
โยชิดื้ออะ

แต่แบบ ลุ้นแทนอะตอนนี้
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 30-06-2014 05:27:07
รอตอนต่อไป ลุ้นมาก :z10:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 30-06-2014 07:42:07
สนุกมาก ลุ้นมากกกกกกกกเลย รอตอนต่อไปน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 30-06-2014 09:11:03
ลุ้นจน เยี่ยวเหนียวอ่ะ โยชิจะรับความจริงได้รึป่าวนะ เฮ้อ!!!!!
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: crunkii3 ที่ 30-06-2014 15:05:55
เพิ่งมาตามเรื่องนี้ แงงง
หลงรักพี่งู

ตอนหน้าโยชิจะรู้เรื่องแล้วใช่มั้ยๆๆๆ
ใจนึงก็อยากให้น้องรู้ อีกใจก็ไม่อยากให้น้องกลัว
 
มาต่อเร็วๆนะคะ เราจะลงแดงแล้ว
:z3:  :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: Shadownights ที่ 30-06-2014 18:08:55
โยชินี่ช่างอยากรู้อยากเห็นเสียจริง งานเข้าอาซาซะและ อยากรู้จริงว่าโยชิจะทำยังไง ถ้ารู้ว่าตัวเองจริงๆแล้วเป็นอะไรกันแน่  :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 30-06-2014 19:30:48
วันนี้จะมาป่าว

รอๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 30-06-2014 23:48:05
เรื่อง สนุกมากค่ะ ติดตาม ติดตาม
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINE ❁ 29-06-14 [P.9]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 01-07-2014 10:00:01
รอตอนต่อไป :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 02-07-2014 01:55:50
ขอความกรุณาอ่านช่วงสนทนาพาทีท้ายบทด้วยค่ะ...นะคะที่รัก

TEN


         

          เลือดในกายผมพลุ่งพล่านและร้อนระอุเหมือนมีเตาไฟอยู่ในร่าง ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตาย อาการปวดแผลที่แขนรุนแรงหนักขึ้น หัวใจผมเต้นแรงสลับแผ่วเบาจนเกือบจะไม่เต็ม ลมหายใจติดขัด เสียงกรนด่าของจูเลียตดังแว่ว รถขับเบี่ยงซ้ายเบี่ยงขวาจนผมมึนหัวหนัก สายตาเริ่มพร่ามัว

          “ฮัลโหล อาซา! ขอบคุณพระเจ้าที่นายรับสายฉันเสียที ตอนนี้เกิดเรื่องแล้ว โยชิกำลังจะตายแล้ว ฉันกำลังจะพาเขาไปโรงพยาบาล ห๊ะ! อะไรนะ!? ถ้าไปโรงพยาบาลไม่ได้แล้วจะให้ไปไหน เลือดเขาไหลออกใหญ่แล้ว โดนไอ้พวกหมาชั้นต่ำมันทำร้ายเอาน่ะสิ! ได้...ฉันจะรีบพาเขาไปเดี๋ยวนี้ และนายจะต้องเล่าให้ฉันฟังทั้งหมดว่าไอ้เด็กจอมรั้นนี่เป็นใคร เข้าใจไหม นายติดหนี้ฉัน!”

          จูเลียตตะโกนเรียกผมและคอยตบให้ผมรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา ผมพยายามฝืนตัวเองเอาไว้ กังวลว่าตอนนี้เลือดคงไหลออกหมดตัวแล้ว ไม่นานรถก็จอดสนิท จูเลียตลงจากรถหายไปสักพักก็กลับมาพร้อมใครบางคน ผมเห็นหน้าเขาไม่ชัดเพราะอาการบาดเจ็บที่ทำให้ผมมึนและน้ำตาที่คลอเอ่อบดบังการมองเห็น

          “พาเข้าไปข้างในเลย เฟลิกซ์ เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม”

          เฟลิกซ์...หรือว่า...

          “โอ๊ย!” ผู้ชายคนที่จูเลียตพามากระชากผ้าที่ปิดแผลผมอย่างแรง ผมร้องเสียงหลง หดแขนเข้าหาตัวแต่เขายึดไว้แน่น

          “โดนพิษ ต้องรีบเอาออก ไม่งั้นแย่แน่”

          แล้วตัวผมก็ลอยหวืด ถูกอุ้มเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ผมเพ่งสายตามองคนที่กำลังอุ้มผมอยู่ เขาคือคนที่ชื่อคาร์เตอร์ คนที่ผมเจอในผับวันนั้น

          เขาวางผมลงบนเตียง ผมหลับตาแน่น กัดฟันข่มความเจ็บตอนที่คาร์เตอร์ใช้อะไรสักอย่างราดลงบนแผล แล้วตัวผมกระตุกอย่างแรงคล้ายอาการชัก ผมตกใจมาก เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของผม ผมเริ่มจะหายใจไม่ออกเข้าไปทุกที ก่อนที่จะค่อยๆสงบลงเพราะยาบางอย่างที่คาร์เตอร์ฉีดที่แขนผม

          “โยชิ!”

          เสียงอาซา ผมจำได้...ผมอยากจะเอ่ยเรียกเขากลับ แต่ผมไม่มีแรงเลย หนังตาหนักอึ้ง เห็นเขาอยู่ตรงหน้าแค่เลือนราง ขยับปากจะพูดแต่ก็พูดไม่ได้

          “อาซา เราต้องใช้เลือดพวกนาย...เด็กนี่ไม่ใช่คนปกติ นายรู้ใช่ไหม”

          “รู้...ใช้เลือดฉัน ให้เขา”

          พวกเขาหมายถึงอะไร ผมยังไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูดกันก็หมดสติไปเสียก่อน


          ....................

          ASA

          ผมมองโยชิที่นอนอยู่บนเตียงข้างๆ เลือดของผมกำลังไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง ผมยังไม่ได้คุยกับจูเลียตเพราะให้เธอกลับบ้านพักไปก่อน ส่วนผมจะอยู่ดูอาการของโยชิ แผลที่ข้อมือมีผ้าพันแผลพันปิดเอาไว้ แต่ก็ยังมีเลือดซึมเป็นวงกว้าง ไหนจะแผลที่เท้า ตอนนี้อักเสบจนบวมเป่ง ผมเห็นแผลแล้วรู้สึกสงสารเขาอย่างถึงที่สุด

          “ไง” คาร์เตอร์ทักผม ผมยืดตัวนั่งตรงบนเตียงที่โยชินอนพักอยู่

          คาร์เตอร์เป็นพวกไทกริส หรือพูดง่ายๆคือมันเป็นเสือ เป็นพวกที่จะรักสงบก็ไม่ใช่เป็นนักล่าก็ไม่เชิง เพราะหน้าที่ของพวกไทกริสคือเป็นผู้รักษา พวกนี้โดยส่วนมากจึงเรียนแพทย์ โดยใช้การรักษาคนบังหน้า งานหลักคือรักษาพวกพิเศษอย่างเราๆ และผมเป็นคงสั่งให้จูเลียตพาโยชิมาที่นี่ เพราะถ้าไปโรงพยาบาลปกติ โยชิตายแน่ๆ

          ผมกับพวกคาร์เตอร์ไม่ใช่มิตร แต่ก็ไม่ใช่ศัตรู พวกเราทั้งสี่กลุ่มต่างคนต่างอยู่เสียมากกว่า ยกเว้นผมและไอ้เจอร์โรมที่เป็นศัตรูกันอย่างเปิดเผย

          “เขาปลอดภัยแล้วใช่ไหม” ผมถาม สายตาจับจ้องไปยังคนที่กำลังหลับใหล ลมหายใจเข้าออกแผ่วเบาจนน่าเป็นห่วง

          “พ้นขีดอันตราย แต่พิษพวกแวร์วูฟค่อนข้างแรง พิษแพร่เข้าสู่กระแสเลือดบางส่วนต้องถ่ายออกแล้วให้เลือดใหม่เข้าไปแทน คงต้องรอให้ร่างกายปรับสภาพให้เข้าที่ก่อน แต่ไม่ต้องห่วง เลือดนายเข้ากับเขาได้ ไม่นานก็คงดีขึ้น”

          “อืม”

          พวกแวร์วูฟงั้นเหรอ...มันเป็นพวกหมาป่าชั้นต่ำ ต่างจากพวกไลแคน แต่ที่ผมกำลังแปลกใจอยู่ในตอนนี้ก็คือ โยชิไปเจอไอ้พวกแวร์วูฟได้ยังไง ในเมื่อพวกนั้นมีอยู่ไม่มากและมักอยู่กันลับๆ และพวกนี้ไม่มีไมตรีจิตให้พวกไหนทั้งนั้น ถ้าเจอกันต่อให้เป็นในร่างมนุษย์ก็คงได้วางมวยกันแน่นอน แต่ต่อให้โยชิเจอพวกมันเข้าจริงๆ มันก็ไม่น่าเกิดเรื่องขึ้น เพราะโยชิไม่ได้มีกลิ่นสายเลือดพิเศษชัดเจน ถ้าเลือดไม่ออกก็ไม่มีทางได้กลิ่นจากตัวเขา

          “เด็กนี่เป็นใคร” คาร์เตอร์ถามผม

          “เขาเป็นนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์” ผมตอบ

          “อย่ามากวนอาซา นายก็รู้ว่าที่ฉันถามหมายความว่าไง” คาร์เตอร์ตีคิ้วยุ่งทำหน้านิ่งๆ ต้องยอมรับเลยว่า หมอนี่เป็นคนที่สายตามีอำนาจกดดันคนอื่นอย่างร้ายกาจ ผมจ้องตากลับอย่างไม่กลัวเกรง

          “ถ้าไม่ตอบก็พากลับไป ฉันไม่รักษาให้”

          “ไม่ได้!”

          คิดจะเล่นแบบนี้เหรอวะ มันแสยะยิ้มร้ายแบบผู้ชนะ ผมพ่นลมหายใจหงุดหงิด ถ้าไม่ติดว่าโยชิกำลังแย่ ผมไม่มีทางยอมมันแน่ๆ

          “เขาเป็นคนสำคัญของฉัน และก็อย่างที่นายรู้ เขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา” ผมอธิบายเกี่ยวกับคนตัวเล็กแค่สั้นๆ แค่นั้นก็พอแล้วที่คนนอกอย่างมันควรรู้

          “แต่ก็ไม่เต็มตัว”

          “ใช่”

          “แล้วเจ้าตัวเขารู้หรือเปล่า” มันถามพลางเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียง ใช้มือจับชีพจรบริเวณใต้กรามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

          “ไม่รู้ แล้วก็ให้รู้ไม่ได้” ผมพูดพึมพำ ถ้าเป็นไปได้ ผมไม่อยากให้เขารู้เรื่อง ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่

          “แต่มันจะไม่ดีกว่าหรือไงถ้าจะให้เขารู้ อย่างน้อยก็จะได้ระวังตัวเองมากกว่านี้” มันไม่ง่ายขนาดที่คนปกติธรรมดาจะยอมรับได้หรอก ต่อให้จิตแข็งแค่ไหน แต่ถ้ารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนแท้ๆ แต่มีจิตวิญญาณของสัตว์แฝงกายซ้อนเร้นอยู่ในตัว ก็คงแทบสิ้นสติถ้าหากได้รู้ความจริง นับประสาอะไรกับโยชิ

          “ยังไงก็ไม่ได้ เรื่องนั้นช่างเถอะ เขาต้องรักษาตัวอีกกี่วัน” ผมตัดบท คาร์เตอร์ยืนท้าวเอวจ้องหน้าผม

          “อย่างเร็วก็สามวัน อย่างช้าก็อาทิตย์หนึ่ง ตื่นขึ้นมาก็คงจะปวดไปทั้งตัวเพราะพิษ ต้องรอจนกว่าเลือดจะล้างตัวมันเองจนสะอาด ระหว่างนี้ก็คงไม่มีเรี่ยวแรงขยับตัวไม่ได้สักวันสองวัน นายจะเฝ้าไหม”

          “อืม แต่ฉันต้องกลับบ้านก่อน ฝากดูสักสองชั่วโมง”

          “ได้”

          ผมมองหน้าโยชิอีกครั้ง คาร์เตอร์เดินออกไปจากห้อง ผมขยับตัวเข้าใกล้โยชิมากขึ้น ทุกครั้งที่ได้จ้องมองเขาผมมีความสุขทุกครั้งเว้นแต่ครั้งนี้ที่ใจผมกำลังเจ็บปวด ผมคอยบอกกับตัวเองว่าจะคอยดูแลเขาไม่ให้เจอเรื่องร้ายๆ แต่สุดท้ายผมก็ทำไม่ได้ ถ้าเพียงผมจะเป็นคนที่เจ็บแทน ก็คงจะดีกว่านี้

          “หายไวๆนะคนดีของฉัน” ผมก้มลงจรดริมฝีปากบนแก้มนุ่มไร้สี ก่อนจะกดจูบบนริมฝีปากสีซีด ไล้ลิ้นเลียเติมความชุ่มชื้นให้ก่อนที่มันจะแห้งผากแตกเป็นขุยมากไปกว่านี้

          ผมทำใจละสายตาจากโยชิ ลุกออกจากห้องนอนรับรองของบ้านไทกริส สวนทางกับเฟลิกซ์ที่กำลังจะเข้ามาในห้อง

          “ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวดูให้”

          “ขอบใจ”

          ผมเดินออกมาหน้าประตูทางเข้า มองจนแน่ใจว่าไม่มีคนจึงกลายร่างเลื้อยกลับบ้านอย่างรวดเร็ว เพียงแค่สองนาทีผมก็มาถึงหน้าบ้านของตัวเอง ไม่บ่อยที่ผมจะทำแบบนี้ภายในมหาวิทยาลัย เพราะมีพวกมนุษย์ปนอยู่ปะปราย ไม่สามารถทำอะไรที่จะเลี่ยงต่อการทำให้ความลับถูกเปิดเผย แต่ครั้งนี้มันจำเป็นเพราะผมใจร้อนต้องถามจูเลียตว่าเกิดอะไรขึ้น

          “อาซากลับมาแล้ว! โยชิเป็นไงบ้างวะ” ฟรินน์วิ่งเข้ามาถามผมเป็นคนแรก คนอื่นๆก็ส่งสายตาเป็นห่วงมา

          “ปลอดภัยแล้ว เหลือแต่รอดูอาการ มันเกิดอะไรขึ้นจูเลียต” ผมเดินไปยืนหน้าจูเลียต เธอเงยหน้ามองผมหน้าตึง

          “เฮ้อ...ฉันพาโยชิไปซื้อหนังสือที่ตรอกX เด็กนั่นเข้าไปดูคนเดียว ฉันรู้ว่าแถวนั้นมันเป็นถิ่นของพวกแวร์วูฟ ฉันเลยรอยู่แค่ในรถไม่ออกไปข้างนอก แต่ใครจะไปรู้ว่าเด็กนั่นไม่ใช่คนธรรมดา ทำไมนายไม่บอกฉันอาซา”

          “แล้วไอ้พวกแวร์วูฟมันรู้ได้ไงว่าโยชิมีสายเลือดพิเศษ”

          “จะไม่รู้ได้ยังไง ก็เล่นโง่ซุ่มซ่ามปล่อยให้เลือดไหล พวกมันก็เลยได้กลิ่น และฉันมีข่าวร้ายจะบอกนายนะอาซา และเรื่องนี้นายโทษฉันไม่ได้”

          “เรื่องอะไร”

          “เด็กจอมแส่ไม่เข้าเรื่องเห็นฉันตอนเป็นงู ตอนที่กำลังฆ่าพวกมัน”

          หัวของผมเหมือนถูกทุบด้วยหินก้อนยักษ์ทันทีที่สิ้นเสียงจูเลียต ก่อนที่ความเดือดดาลจะเข้าครอบงำผม

          “เธอปล่อยให้เขาเห็นได้ยังไง!” ผมตวาดเสียงดังถึงขนาดที่แจกันใบใหญ่ใกล้ตัวระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ

          “ฉันไม่ได้ปล่อย! ฉันปิดตาเจ้าเด็กบ้านั่นไว้แล้ว แต่มันดันพูดไม่รู้ฟัง เปิดผ้าแล้วก็ออกมานอกรถเฉย ฉันไม่ผิด!!!”

          “โธ่เว้ย!” ผมสบถดังลั่นบ้าน ทำไมเป็นแบบนี้วะ

          ตั้งแต่มีชีวิตมาจนป่านนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมกลัวจับจิตจับใจ กลัวจนทำอะไรไม่ถูก ตอนที่ผมเสียเขาไปในตอนนั้น ผมยังไม่กลัวมากเท่านี้มาก่อน ถ้าเขารู้ว่าผมเป็นอะไร ผมเสียเขาไปแน่ๆ และผมคงไม่มีทางได้เขากลับคืน เขาจะต้องเกลียดผมไปจนวันตาย

          ผมหมดแรง ทิ้งตัวลงนั่งกับโซฟา ขยี้หัวตัวเองอย่างแรงเพราะความรู้สึกข้างในมันกำลังอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง บ้านเงียบกริบไม่มีใครพูดอะไร มีเพียงเสียงตะโกนร้องจากข้างในอย่างทุกข์ทรมาน เมื่อไหร่คำสาปเวรนั่นจะหายไปเสียที จะต้องให้ผมทรมานเหมือนตายทั้งเป็นไปจนถึงเมื่อไหร่

          ‘เมื่อไหร่ก็ตามที่บังเกิดความรัก...เมื่อนั้นความเกลียดชังจะบังเกิดขึ้น’

          มันกำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ สิ่งที่ผมหลีกหนีมาตลอด

          “คราวนี้นายปิดเรื่องนี้ไม่ได้แล้วอาซา อะไรจะเกิดก็ต้องให้มันเกิด นายควรให้เขารับรู้ซะ” เวสตันพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ แม้แต่จูเลียตก็ไม่ได้เปิดปากให้ผมหัวเสียไปมากกว่านี้ เพราะครั้งนี้ผมเครียดจริงจัง

          ผมนั่งใช้ความคิดอยู่ชั่วครู่ ตั้งสติให้มั่นและคิดว่าตอนนี้มีอะไรที่ผมจะต้องทำ ผมยอมรับว่าผมกำลังอ่อนแอเพียงแค่รู้ว่าโยชิรู้เรื่องของผม ทำเอาผมเสียศูนย์จนคิดอะไรไม่ออก

          “ถึงโยชิจะรู้ว่าเราเป็นอะไร แต่จะให้เขารู้ไม่ได้ว่าเขาเป็นอะไร”

          ผมยอมให้เขาเกลียดผม แต่ผมจะไม่ยอมให้เขาเกลียดตัวเอง ผมไม่อยากเห็นเขาเป็นทุกข์

          “เอาล่ะอาซา ในเมื่อเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้ว นายควรพูดความจริงเกี่ยวกับโยชิให้หมด พวกเราจะได้ตัดสินใจกันว่าจะเอายังไงต่อไป” ปารีสพูด ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

          “เขาเป็นคนรักของฉัน” ผมตัดสินใจเล่า ทั้งๆที่ไม่อยากจะเล่า ผมไม่อยากให้ใครรู้เพราะมันไม่จำเป็นต้องพูดถึง แต่ใครจะรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงก็คือ ผมก็แค่กลัวอดีต...ผมถึงไม่อยากพูดถึงมัน

          "เมื่อสมัยกลางโยชิเขาเป็นเหมือนพวกเรา ฉันกับเขาเรารักกัน แต่มันผิดกฎธรรมชาติ เขาถึงได้ถูกทำลายเพราะถูกใส่ร้ายว่าเขาจะเป็นผู้ทำลายล้างพวกเรา เขาตายต่อหน้าต่อตาฉันโดยที่ฉันช่วยเขาไม่ได้เลย เขาเสียชีวิตพร้อมคำสาปติดตัว” ผมกล้ำกลืนฝืนทนพูดถึงอดีตที่แสนโหดร้าย

          “คำสาปงั้นเหรอ?”

          “ผู้ทำลายฝังคำสาปไว้กับจิตวิญญาณของโยชิ...เมื่อไหร่ก็ตามที่บังเกิดความรัก...เมื่อนั้นความเกลียดชังจะบังเกิดขึ้น”

          “แต่โยชิเกลียดงูมาตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ งั้นที่นายบอกว่านายทำให้โยชิกลัวงูมันหมายความว่ายังไง” เวสตันถามอย่างไม่เข้าใจ คงนึกถึงคำพูดที่ผมเคยบอก

          “ตอนโยชิเด็กๆ ฉันตามหาเขาจนเจอแล้วก็ตามเฝ้าดูเขาตลอด มีอยู่วันหนึ่งฉันไปมีเรื่องจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็อยากจะแวะไปดูโยชิ แต่เขาดันมาเจอฉันเขา เขาไม่กลัวฉัน กลับทำแผลให้ ฉันพูดกับเขาและเขาฟังฉันรู้เรื่อง พวกนายก็รู้ว่าพวกเราถ้าเกิดถูกทำลาย ต่อให้เกิดเป็นคนก็ยังจะมีคำสาปติดตัว”

          “เหมือนตราบาป แต่ไร้ซึ่งอำนาจ แต่ทำไมโยชิพูดภาษาพาเซลล์ได้” ฟรินน์ถาม

          “เพราะโยชิพิเศษกว่าคนอื่น แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม โยชิไปบอกพ่อตัวเองว่าจะเลี้ยงฉันไว้ ถ้านายจำได้เวสตัน ตอนที่ฉันหลังหักกลับมา นั่นแหละพ่อโยชิตีฉันเอง เพราะเขากลัวว่าฉันจะทำร้ายโยชิ ฉันไม่โกรธเพราะเข้าใจ แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น เพราะตั้งแต่นั้นโยชิก็เหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดงู พอเจองูก็จะเข้าไปเล่น เข้าไปคุย ฉันต้องคอยกันพวกงูออกห่างจากโยชิเพราะพวกมันเป็นงูโดยแท้ ไม่อาจควบคุมสัญชาตญาณแต่อยู่มาวันหนึ่งฉันไปหาโยชิที่บ้าน วันนั้นไม่มีใครอยู่ ฉันเข้าไปรอในห้องนอนของเขา จนกระทั่งโยชิกลับมา เขาเข้ามาเจอฉันแล้วก็ร้องลั่นด้วยความตกใจ ตั้งแต่วันนั้นโยชิก็เกลียดงูมาโดยตลอด”

          “แล้วมันเกี่ยวกับนายทำให้โยชิกลัวงูตรงไหน”

          “เพราะตั้งแต่วันที่เขาอุ้มฉัน กลิ่นฉันมันก็ติดตัวเขาจนทำให้งูเข้าหาเขา และทำให้เขารู้ว่าตัวเองพูดกับงูได้ โยชิเลยคิดว่างูไม่ใช่สัตว์ที่เลวร้าย ฉันแอบได้ยินพ่อและพี่ชายโยชิคุยกันจนรู้เรื่องว่าโยชิเผลอพูดภาษางูทั้งวัน พวกเขากังวลกับเรื่องนี้มาก สุดท้ายก็พาโยชิไปสะกดจิตเปลี่ยนความทรงจำทั้งหมด โยชิเลยมีปฏิกิริยากลัวและเกลียดงูโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้เจอ”

          “ตายห่า แล้วทุกวันนี้โยชิยังฟังภาษาพาเซลล์” ไอ้ฟรินน์ตีหน้ายุ่งกับเรื่องทั้งหมดที่ผมเล่า

          “ฉันไม่รู้ แต่ฉันไม่เคยเห็นเขาพูดอีกเลย”

          “มันไม่ใช่ความผิดของนายหรอกอาซา แล้วนายรู้ไหมว่าใครเป็นคนสะกดจิตโยชิ เผื่อว่าเราจะแก้ไขเรื่องนี้ได้” ปารีสถาม ผมส่ายหน้าช้าๆ

          “ฉันเคยสืบแล้ว แต่สายเกินไป คนที่สะกดจิตโยชิตายไปแล้ว ก่อนฉันจะตามเจอแค่วันเดียว”

          “เฮ้อ เรื่องมันซับซ้อนจังเว้ย”

          “ช่างมันเถอะ ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือเราต้องไม่ให้โยชิรู้ว่าตัวเองเป็นอะไร และกันโยชิออกห่างจากไอ้เจอร์โรมให้มากที่สุด พวกนายจะช่วยฉันได้ไหม ฉันขอร้อง” ผมทิ้งตัวคุกเข่าต่อหน้าทุกคน ผมยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง ก้มหัวขอร้องคนอื่นแบบที่ผมไม่เคยคิดทำ แต่ถ้ามันจะช่วยให้โยชิปลอดภัยจากสิ่งเลวร้ายทั้งปวง ต่อให้แลกด้วยชีวิตของผม ถ้าเป็นไปได้ ผมก็ยอม

          “นายไม่ต้องทำขนาดนั้นอาซา ลุกขึ้น พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน คนในครอบครัวเดือดร้อนเราก็ต้องช่วยอยู่แล้ว” เวสตันเน้นคำหนักแน่นอีกครั้ง

          “ฉันช่วยเต็มที่ ไม่ต้องห่วง” ฟรินน์เดินเข้ามากอดไหล่ผมแน่น

          “ฉันก็ด้วย” ปารีสยิ้มให้ผม

          “แล้วเธอล่ะจูเลียต เต็มใจจะช่วยคนในครอบครัวไหม” เวสตันถามจูเลียตสีหน้าจริงจัง ผมมองเธอที่มองออกไปทางอื่น ทุกคนรอคำตอบจากเธอ ก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจและคำตอบ

          “ก็ได้...จะคิดเสียว่าทำบุญ”

          “ขอบใจ...ทั้งล่วงหน้าแล้วก็วันนี้ ขอบใจที่ปกป้องเขา” ยังไงวันนี้จูเลียตก็ช่วยชีวิตโยชิเอาไว้ ไม่ได้เธอ หัวใจผมคงสลายเป็นผุยผงไปแล้ว

          “ฉันทำเพื่อตัวเองต่างหาก” เธอสะบัดเสียงแล้วก็ลุกหนีขึ้นห้อง ผมและคนอื่นๆมองหน้ากัน ทุกคนยิ้มให้ผม ทำเอาผมเกือบทำสิ่งที่หน้าอายด้วยการร้องไห้ต่อหน้าทุกคน ครอบครัวของผมจริงๆยังไม่เคยช่วยเหลือผมได้ขนาดนี้ มีแต่จะพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากผม และผมจดจำช่วงเวลาแสนอัปยศได้ไม่เคยลืม

          “เฮ้ทุกคน...ฉันว่าฉันมีแผน” เสียงของฟรินน์ปลุกผมออกจากความคิด

          “แผนอะไร”

          “แผนการกระตุ้นความทรงจำให้โยชิหายกลังงูไง เหมือนพวกความจำเสื่อม ไม่แน่นะ การที่โยชิรู้ว่าเราเป็นอะไร อาจทำให้เขาหายกลัวงูก็ได้”

          บอกตามตรงว่าผมไม่ไว้ใจความคิดของฟรินน์แม้แต่น้อย เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะมันไม่เคยใช้ได้ผลยังไงล่ะ

          ........

          อ่านต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 02-07-2014 02:07:09

          ผมแน่ใจว่าตัวเองบาดเจ็บที่เท้าและที่แขนเท่านั้น แต่ทำไมผมถึงรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัวเหมือนถูกรถสิบล้อแล่นทับทั้งร่าง ขยับตัวก็ไม่ได้ เวียนหัวทุกครั้งที่พยายามจะลืมตา เสียงกุกกักใกล้ๆทำให้ผมรู้ว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เลยพยายามส่งเสียงเรียก

          “นะ...”

          เสียงผมหายไปไหน ทำไมถึงได้เจ็บคอขนาดนี้

          “อื้อ...นะ...”

          โอ๊ย! หงุดหงิด ผมหิวน้ำจะตายอยู่แล้ว

          “หิวน้ำเหรอ...แปบนะ”

          อาซา...ผมดีใจที่ได้ยินเสียงเขา อยากกอดเขาให้หายกลัว ผมฝืนลืมตาขึ้นจนได้แม้จะทำให้ปวดหัวมากก็ตามที ห้องหมุนติ้วจนผมอยากจะอ้วก ดวงตาลึกลับสีดำมืดมิดจ้องผมด้วยความเป็นห่วง เขาค่อยๆประคองผมขึ้นพร้อมเอาหลอดดูดน้ำจ่อที่ปาก แต่เชื่อไหม แม้แต่แรงจะดูดน้ำยังไม่มีเลย ทำไมผมมันน่าสมเพชขนาดนี้ หงุดหงิดกับความเจ็บปวดจนอยากจะร้องไห้

          “เป็นอะไร ไม่มีแรงเหรอ” เขาถาม ผมกระพริบตาสองสามทีก่อนจะค่อยๆออกแรงพยักหน้า อาซาทำหน้าเครียดก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม นี่ผมหิวน้ำนะ แล้วเขากินน้ำของผมทำไม

          “...!”

          ผมยังไม่ทันได้โกรธอาซาที่แย่งน้ำผมกินมากไปกว่านี้ ริมฝีปากที่น่าหลงใหลของเขาก็โฉบวูบลงมา ค่อยๆปล่อยน้ำในปากให้ผมได้ดื่มกิน เขาปิดปากผมแน่นจนน้ำไม่ได้เล็ดลอดแม้ว่าผมจะใช้เวลากลืนน้ำทั้งหมดลงคอเกือบสองนาทีก็ตาม

          “พอหรือเปล่า เอาอีกไหม” เขาถาม ผมยังคงมึนอยู่แน่ๆ ถึงได้พยักหน้าตอบ และอาซาก็ป้อนน้ำให้ถึงปากผมอีกครั้ง วินาทีนี้ผมลืมแทบทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นจนกระทั้งอาซาถอนริมฝีปากออก เขาถามว่าผมหิวไหม ผมได้แต่ส่ายหน้าเบาๆเท่าที่เรี่ยวแรงพอมี สมองมึนเบลอคิดอะไรไม่ออกก่อนจะหลับไปอีกหน

          ผมรู้สึกว่ามีคนกอดรัดผมไว้ทั้งตัว แม้จะรู้สึกเหมือนโดนรัดทั้งตัวตั้งแต่หน้าอกไปจนถึงปลายขา คล้ายๆถูกเชือกเส้นโตมัดเอาไว้ แต่ก็คงเป็นเชือกที่นุ่มมาก เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่นชวนฝันหวาน แรงขยับเสียดสีคล้ายจะกล่อมผมให้หลับฝันดี ถ้าผมมีแรง ผมจะกอดอาซาเหมือนที่เขากอดผม สัญญาเลย

          ตื่นขึ้นมาอีกที ผมก็ไม่เจออาซาแล้ว เริ่มรู้สึกโอเคมากขึ้น อย่างน้อยผมก็พอจะขยับลุกขึ้นนั่งได้ ผมมองสำรวจรอบห้อง ที่นี่ไม่ใช่ห้องของอาซาและดูไม่คุ้นตาสักนิด ผมพยายามนึกถึงเหตุการณ์ครั้งล่าสุด ผมไปซื้อหนังสือก่อนจะถูกทำร้ายจาก...มนุษย์หมาป่าและ...งูยักษ์!!!

          ใช่แล้ว! หมาป่ากลายเป็นคนและตาของจูเลียตกลายเป็นตาของ...



          ปัง!



          “เฮือก! งู!!!” ผมสะดุ้งสุดตัวเพราะเสียงประตูกระแทกกับกำแพงห้อง ผมหันขวับมองไปทางประตู

          “จุ๊ๆ ไม่ใช่งู...ฉันเองเด็กน้อยที่แสนน่ารัก โทษทีที่ทำให้ตกใจ พอดีมือไม่ว่างเลยต้องใช้ขาเปิดประตูแทน แต่กะแรงผิดไปหน่อยเลยทำเสียงดังให้นายตกใจ”

          ผมมองเฟลิกซ์ที่เดินพูดยิ้มๆเข้ามาในห้อง ในมือถือถาดอาหารและอุปกรณ์ทำแผลเต็มสองไม้สองมือ เขาวางถาดอาหารลงบนโต๊ะมีล้อเลื่อนแบบในโรงพยาบาล ก่อนจะเลื่อนมาตรงหน้าผม กลิ่นอาหารเช้าหอมกรุ่นชวนน้ำลายสอ ท้องผมร้องครวญครางแทบจะทันที

          “หิวสินะ นายไม่ได้กินอะไรตั้งสามวันเต็ม หลับเป็นตายเลย ทำไม...ในฝันมันน่าอยู่จนไม่อยากตื่นหรือไง” น้ำเสียงเขาเหมือนจะแซวผม ผมแค่แค่นยิ้ม ก่อนจะหยิบมีดและส้อมมาถือไว้ เตรียมตัวจัดการแพนเค้กหน้าผลไม้หลายชนิดตรงหน้า ก่อนจะนึกบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้

          “เมื่อกี้นายบอกว่าฉันไม่ได้กินอะไรไปสามวัน”

          “ใช่ นายสลบไปสามวันหลังจากตื่นขึ้นมารอบหนึ่ง”

          คงเป็นวันที่ผมเจออาซา

          “อาซาล่ะ” ผมถาม

          “ไปเรียน เดี๋ยวมันก็มา มันเฝ้านายอยู่ตลอดแหละ แต่วันนี้มันมีสอบ ไอ้ฟรินน์เลยมาตามลากคอออกไปสอบ”

          “อ่อ...”

          ผมกินอาหารเช้าจนหมด หลังจากนั้นฟรินน์ก็ทำแผลให้ผม พร้อมทั้งเอายาให้ผมกิน พอซัดยาจำนวนห้าเม็ดลงท้อง ผมก็ลุกไปอาบน้ำอาบท่าก่อนจะกลับมานอนอีกครั้ง ยาทำให้ผมง่วงแม้ผมจะนอนมามากแค่ไหนก็ตาม ตื่นมาอีกทีก็เจออาซานั่งจ้องหน้าผมอยู่

          เขาเงียบ เลยทำให้ผมพลอยปิดปากเงียบไปด้วย เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่าง ห่างจากเตียงพอสมควร แสงแดดจ้าจากหน้าต่างทำให้ผมมองเห็นอาซาไม่ชัดเจนนัก ผมขยับลุกขึ้นนั่ง เขาจ้องอยู่อย่างนั้นจนผมเริ่มไม่กล้าสบตาเขา สีหน้าของเขาราบเรียบไร้ความรู้สึก เหมือนบรรยากาศที่สงบเงียบผิดปกติเตรียมต้อนรับพายุลูกใหญ่ที่กำลังจะมาถึง

          “อาซา” ผมลองเรียกเขาดู แต่เขาก็ยังคงนิ่ง

          “คือ...ฉัน” ผมไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดเรื่องที่เกิดขึ้นไหม บางทีจูเลียตอาจบอกอาซาแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่มีบางอย่างที่ผมอยากจะบอกเขา เรื่องที่เกิดขึ้นมันเกินกว่าที่ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่สนใจ มันไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา มันเป็นเรื่องผิดปกติจนถึงขั้นร้ายแรง และผมคิดว่าผมควรพูดให้อาซารู้ว่าจูเลียตเพื่อนของเขาแตกต่างออกไป

          “...”

          “คือฉันไปเจอกับหมาป่าตัวใหญ่ยักษ์ มันทำร้ายฉัน และจูเลียตออกไปสู้กับมัน ฉันไม่อยากเป็นผู้ชายขี้ขลาดที่ปล่อยให้ผู้หญิงสู้คนเดียว ฉันเลยคิดจะออกไปช่วย แต่ฉันเห็น...” ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ จู่ๆก็รู้สึกไม่กล้าพูดขึ้นมา กลัวว่าอาซาจะไม่เชื่อ

          “เห็นอะไร” อาซายอมเอ่ยปาก เขาถามเสียงนิ่ง แต่ทำไมผมรู้สึกว่าเขากำลังโกรธ

          “งูตัวใหญ่กำลังรัดหมาป่าอยู่ มันเหมือนมีพลังฆ่าหมาป่าได้เพียงแค่จ้องตา ฉันเห็นดวงตาของมัน ฉันจำได้ติดตา...และฉันเห็นว่าตาของจูเลียตเป็นแบบนั้น”

          “นายเลยกำลังคิดว่างูเลียตเป็นงูงั้นเหรอ” คราวนี้เสียงเขาแฝงแววเยาะหยัน และผมตอบเขาในทันทีว่า

          “ใช่” ผมคิดแบบนั้นจริงๆ

          “นายคิดผิด” เขาพูดทุกคำช้าๆชัดๆ อย่างคนยายามควบคุมความโกรธของตัวเอง

          “แต่หมาป่าตัวนั้นมันกลายเป็นคนได้ แล้วทำไมจูเลียตจะเป็นงูไม่ได้ เธอบอกว่าจะออกไปจัดการพวกมัน เธอปิดตาฉันเอาไว้ ตอนฉันเจองูนั่นเธอไม่อยู่ แต่พอฉันกลับเข้ามาในรถตอนที่หมาป่าตัวนั้นตายและกลายเป็นคนต่อหน้าฉัน เธอก็กลับเข้ามาในรถ แบบที่ไม่เป็นอะไรเลย” ผมพูดรัว ตัวสั่นเพราะแววตาโกรธขึงของอาซา เขาลุกเดินเข้ามาใกล้ผม ท่าทางสีหน้าและแววตาของเขากำลังทำให้ผมกลัว และมันทำให้ผมรู้สึกว่าเขากำลังปิดบังอะไรไว้ภายใต้ใบหน้าที่โกรธจัดจนขึ้นสีแดงกล่ำ เขาชะงัก ชั่วขณะสั้นๆนั้น ใบหน้าชวนให้หลงใหลของเขาฉายแววเจ็บปวดอย่างไม่คาดฝัน

          “แล้วยังไง ถ้าจูเลียตเป็นงู แล้วมันยังไง”

          “นายก็ควรต้องรู้ไว้ว่าเธอไม่ใช่คนปกติ นายไม่ควรอยู่ใกล้เธอ เธอไม่ใช่คน!” ผมต้องการเตือนเขาถึงเรื่องนี้ ให้เขารู้ว่าเพื่อนของเขาเป็นอะไร เพื่อที่เขาจะได้อยู่ห่างและห่างทางแก้ไขเรื่องพวกนี้ แต่อาการนิ่งเงียบไม่ตกใจของเขาทำให้ผมรู้ว่าผมกำลังคิดผิดพร้อมทั้งรู้ความจริงบางอย่างที่ตัวเองไม่ควรรู้

          “อย่าบอกนะว่านาย...”

          “ฉันทำไม” เขาถาม เสียงเหมือนรำคาญเสียเต็มประดา และสายตาของเขาก็เย็นชาไร้เยื่อใย บรรยากาศสุดแสนจะน่าอึดอัด ตึงเครียดและน่ากระอักกระอ่วนใจ ถ้าไม่หลอกตัวเอง ผมแน่ใจว่าความเงียบของอาซาเป็นหลักฐานยืนยันเรื่องประหลาดทั้งหมดได้ดี น้ำตาของผมไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

          “บอกฉัน ได้โปรด บอกฉันว่านายไม่ได้เป็นแบบจูเลียต”

          “...”

          “ขอร้องล่ะ”

          “...”

          ผมส่ายหน้ากับคำตอบที่ชัดเจนเสียยิ่งกว่าการพูดออกมา ก้มหน้าร้องไห้ เพิ่งรู้สึกตัวว่ามือทั้งสองข้างจิกผ้าปูเตียงแน่นจนยับย่น อากาศรอบข้างหนาวจนเสียดกระดูก หรือไม่ก็เป็นความรู้สึกของผมเองที่เย็บวาบไปทั้งร่างกาย ผมกำลังนึก นึกถึงอาซากับตัวตนของเขา





          “ยินดีด้วย ในที่สุดนายก็ได้รู้”




          ผมนั่งนิ่งไม่ขยับตัว รู้สึกกลัวเขามากกว่าที่เคยรู้สึก ผมไม่อยากเชื่อ อยากจะคิดว่าผมกำลังฝันไป และไม่มีอะไรเป็นความจริง ไม่มีหมาป่าฝูงใหญ่เคยยืนอยู่เบื้องหน้าผม ไม่มีการวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจากพวกมัน ไม่มีหมาป่ากลายเป็นคน และไม่มีงูตัวใหญ่ยักษ์ และสุดท้าย...อาซาเป็นคนปกติเหมือนผม

          “อยากเห็นฉันในร่างที่แท้จริงไหมล่ะ ไหนๆนายก็อยากจะรู้แล้วนี่” ผมไม่ชอบเลย ทำไมเขาต้องทำน้ำเสียงเย็นชาดุดันขนาดนั้นด้วย

          “ไม่...”

          “ฉันว่าฉันควรทำ เผื่อนายอาจจะไม่เชื่อ”

          “อย่า!” ผมร้องห้ามไม่ทัน ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผมผวากับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า กระถดตัวถอยหลังหนีจนติดเตียง สะอื้นร้องไห้เสียงดังร้องขอให้เขาหยุดทำแบบนี้ เขากำลังทำให้ผมกลัว กลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้น

          ตู้วางของล้มดังตึงเพราะลำตัวของเขาตวัดไปโดน ผมเบิกตาค้างจ้องมองงูตัวใหญ่สีดำนัยน์ตาสีทองตรงหน้า น้ำตาไหลพรากไม่หยุด ร่างกายเกร็งเครียดจนตะคริวขึ้นขา


          ‘รู้ความจริงแล้วจะไปจากฉันก็ได้นะ เพราะนายคงไม่อยากอยู่กับสิ่งที่เกลียด’


          เขาพูดทั้งๆที่อยู่ในร่างของงู เสียงที่ผมได้ยินมันไม่ใช่ภาษาอังกฤษอย่างที่เราพูดกันอยู่ทุกวัน และไม่ใช่ภาษาไทย มันเป็นเสียงร้องของงู มันไม่แปลกเลยที่อาซาจะส่งเสียงแบบนั้น แต่มันแปลกตรงที่ผมฟังเสียงนั้นรู้เรื่อง




          ………….

          มาซะเข้าวันใหม่ จู่ๆเน็ตก็ล่ม ต้องต่อจากมือถือแทน ช้าๆได้อีกเพคะ ง่วงงง! :z3:

          ตอนหลังๆลงรีพลายเดียวไม่เคยพอ ตัวอักษรเกินตลอด นี่ฉันแต่งยาวไปเหรอตอนๆหนึ่ง พี่ชายคิดว่าไง

          ช่วงนี้ขอแจกอีโมตัวเดียวนะคะ  :katai1:ให้ตัวนี้เลย กรุณาทำพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียงอีกครั้งค่ะ  :katai1:

          ในที่สุดน้องก็รู้ความจริงว่าอาซาสุดหล่อเป็นพี่งู คุณคิดว่ายังไง กดหนึ่งถ้าคิดว่าน้องยอมรับได้ กดสองถ้าคิดว่าน้องไม่กล้ายอมรับ กดสามถ้าคุณคิดไม่ออก  :m28:

          มีใครอ่านตอนนี้แล้วงงไหมค่ะ ถ้างงทิ้งคำถามไว้นะ ไว้จะมาตอบก่อนลงตอนที่11 จะได้อ่านต่อแบบไม่งง

          ตำนานเกี่ยวกับ แวร์วูฟและไลแคนคงมีคนรู้มาบ้างนะคะว่ามันแตกต่างยังไง แต่อย่าเพิ่งแย้งกับเนื้อเรื่องในตอนนี้นะตัวเองว่ามันไม่ตรงกับสิ่งที่รู้มา ริริดัดแปลงให้เกิดความแปลกใหม่ แต่มีบอกในเนื้อเรื่อง รออ่านเนอะๆ

          บางจุดที่อ่านไปแล้วคิดว่ามันเป็นปม แต่ที่จริงแล้วมันอาจจะเป็นกุญแจไขไปสู่ความลับ ขอให้อ่านกันอย่างมีสติ :amen:

          ฮุ่ย! อินิยายเรื่องนี้นี่มากเรื่องจริง อ่านให้คลายเครียดหรืออ่านให้ยิ่งเครียดกันแน่ฟ่ะเนี่ย แจกอีกโมตัวเดิมอีกรอบ  :katai1:

          ช่วงนี้อยู่ในช่วงกำลังไต่ขึ้นเกาะกลางจุดพีคของความหน่วง ก่อนจะค่อยๆดำดิ่งสู่ทะเลน้ำเชื่อม อดใจรอฉากหวานๆหน่อย เมื่อถึงเวลานั้นบอกเลยว่ามันคุ้มค่าสมการรอคอยแน่นอน เพราะริริแต่งแล้ว หวานแทบอ้วกแตก!  :oak: :laugh:คาดว่าอาทิตย์หน้าริริน่าจะแต่งจบเรื่อง เหลือแค่สี่ตอนสุดท้าย แต่ขุ่นพระช่วย ตอนนี้งานราษฎร์งานหลวงเทเข้าหา ไม่ทำก็ไม่ได้ ไม่งั้นเดี๊ยนจะเอาอะไรกิน กระดึบๆได้วันละสามสี่หน้าเพราะหมดแรง เฮ้อออ

          พอๆ ดึกจนป่านนี้ก็ยังจะเมาท์ยาว ถามสิมีคนอ่านไหม รอเช้าละกัน ตื่นมาคงได้ตาสว่างกันเป็นแถวๆ เจอพี่อาซาแปลกกายเข้าไปน้องโยถึงขั้นจะเป็นลม

          นายเอกเรื่องนี้ไม่ได้อ่อนแอ แต่สถานการณ์แม่งบังคับ ฉันละสงสาร อดทนต่อไปลูก หนูรับค่าตัวไปแล้ว แสดงต่อไปซะ ทุกคนเป็นกำลังใจให้หนูอยู่ สู้ๆลูก  :mew1:

          สุดท้าย(จริงๆ) ขอบคุณทุกคนที่ยังคงติดตามกันแม้เนื้อเรื่องมันจะชวนเครียดจนหัวใจวายตายก็ตาม ไหนๆตามกันมาขนาดนี้แล้วก็ตามอีกหน่อยละกัน จะได้ฟินไปถึงโลกหน้า :m10:

          เลิฟยูทุกคน จุ๊บๆ  :จุ๊บๆ:

ป.ล. พระเอกของเราชื่อ อาซา ซอโซ่ มิใช่ ชอช้าง น้องหญิงขอร้อง อย่าเปลี่ยนชื่อพระเอกน้องเลยยยยย!!
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 02-07-2014 02:24:10
5555555 ดีนะเนี่ย ยังไม่นอน เข้ามาเจอพอดีเลย

ตอนนี้กับตอนก่อนหน้าถือว่าเข้มข้นและมันส์สุดตั้งแต่เปิดเรื่องเลยค่า ชอบๆ
แต่แอบอยากให้มีพี่อาซามาบู๊ด้วยจัง

ยังไงก็ขอให้โยชิหลุดจากการถูกสะกดจิตนะคะ นี่ยังมีคำสาปรออยู่อีก
อะไรจะเคราะห์ซ้ำกรรมซัดขนาดนั้นนะหนูวววว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 02-07-2014 05:33:44
ที่อาซาทำนี่เขาเรียกว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่มใช่มั้ยนะ

รอตอนต่อไปนะค่ะ เนื้อหากำลังเข้มข้นเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 02-07-2014 05:35:09
 :katai1: ค้างงงงงงงงง อ๋อย ={}=
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 02-07-2014 06:06:00
จะเครียดๆแล้วก็มาฮาตรงชื่อพระเอกนี่แหละค่ะพี่น้องงง :z3:
แน่นอนว่ามันค้างงงงงงงงงง :katai1:
ทำลายการสะกดจิตโยชิซ้าาาาา
รอตอนต่อไป :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 02-07-2014 07:12:11
เป็นพระเอกเรื่องนี้นี่เจ็บปวดจริง  :katai1:   

พอรู้ว่ามีฉากหวานๆรออยู่ข้างหน้า อะไรจะเข้ามาก็บ่ยั่นแบ้วค่า     :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 02-07-2014 07:15:17
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 02-07-2014 07:43:58
โอ่ยยยย กลายร่างให้เห็นกันจะๆ จิเป็นลมแทนหนูโยชิ 5555
เค้าไม่รูว่า แวร์วูฟกับไลแคนต่างกันยังไง ต้องถามอากู๋ซะแล้ว อิอิ
รอตอนต่อไป ม๊วฟๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 02-07-2014 08:05:17
ต้อง 'รับ' ได้สิ ใช่ไหม โยชิน้อย  555555

อ่านตอนนี้แล้วไม่ งง จ้ะ  คุคิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 02-07-2014 08:50:32
เราจะอดทนและกล้ำกลืนมาม่าชามนี้ให้หมด

จะได้ต่อของหวานได้สะดวก 555

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 02-07-2014 09:04:51
 :katai1: :katai1: :katai1: เกาหน้า+ขยุ้มหัวด้วยความตื่นเต้น รอจ้า~~~
ตอนนี้กด3คิดไม่ออก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 02-07-2014 10:01:46
ความรักของคู่นี้ดูมีอุปสรรคเยอะมาก
ทั้งโดนสะกดจิตให้เกลียดงูแถมยังมีคำสาปอะไรอีก
แล้วก็พวกเจอร์โรม ตายๆๆๆๆ
อุปสรรคเยอะมาก
เอาชนะให้ได้นะทั้งสองคน
แต่ตอนนี้ต้องให้โยชิเอาชนะความกลัวงูให้ได้ก่อน สู้ๆนะโยชิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 02-07-2014 10:37:36
หนุโยชิรู้เรื่องทั้งหมดแล้วจะเป็นยังไงเหรอเนี่ย
อย่าเกลียดอาซานะ คุณงูเขาออกจะน่ารัก
เรื่องนี้มีคำสาปด้วย แถมหมอที่รักษาหนูโยยังตายก่อนอาซาไปเจอแค่วันเดียว
อยากรู้เรื่องนะเนี่ย รู้สึกอยากเผือกมาก

แต่รอทะเลน้ำเชื่อมอยู่นะค่ะ :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-07-2014 11:36:45
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 02-07-2014 11:40:52
 :katai1:   :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 02-07-2014 11:47:40
 :pig4: วิ่งมา +1เป็ด T^T
หนูโยชิ สู้ๆนะลูก !!
 :katai4: <<<< คุณริริ ค่ะ สู้ๆจ้า 555+
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 02-07-2014 12:17:38
กด 3 ยอมรับว่าคืดไม่ออก  เดาใจคนเขียนไม่เก่ง 5555

แต่แอบอยากให้โยชิรับไม่ได้ แล้วสุดท้ายรับได้นะ 55555 แอบโรคจิต

รออ่านฉากหวานๆ อย่างใจจดใจจ่อ แม้ว่าฉากป้อนน้ำจะฟินไปแล้วหลายตลบ  :hao6:

เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ สู้ๆ ชอบเรื่องแนวแฟนตาซีมากถึงมากที่สุด 55555

ติดตามเสมอค่ะ

 :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 02-07-2014 12:41:34
ติดตาม อย่างไม่มีข้อสงสัย

รอ...อิน อย่างเดียว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 02-07-2014 12:46:59
อยากอ่านต่อแล้วง่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 02-07-2014 14:01:43
เรื่องกำลังเครียด แต่คุยท้ายเรื่องฮากลิ้่ง 555+
ยังไงก็รอฮะ อย่าช้ามาก ลุ้นแล้วฉี่เหลือง อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 02-07-2014 14:11:46
โอ๊ยเครียดเลย ลุ้นมาก
โยชิใช้หัวใจเลือกที่จะอยู่กับอาซาน่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 02-07-2014 14:33:02
 :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 02-07-2014 15:29:33
ต้องกราบขออภัยเป็นอย่างสูง  :sad4:
พิมพ์ชื่อพระเอกผิด
จากงู เป็นม้าไปเลย  o22

คนเขียนบอกว่าให้ข่วนหน้าตัวเองพร้อมกัน โอเค  :katai1:
อาซา (ซอโซ่แล้วนะ!) กลายร่างเป็นงูแล้ว
โยชิต้องรับได้สิ กด1ๆๆๆ เรื่องกลัวงูเดี๋ยวคนอ่านกลัวแทนเอง  o7

นักสะกดจิตตายก่อนพี่งูไปถึง เกี๋ยวข้องกับคนใส่ร้ายโยชิและแอบลอบกัดมนุษย์ (ที่เป็นข่าว) หรือเปล่า
แต่ว่าถึงนักสะกดจิตคนเก่าลาโลกไปแล้ว คนใหม่มาคลายได้มั้ยน้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 02-07-2014 16:40:42
ดีใจที่หนูโยปลอดภัย เป็นเราช็อคตายไปแล้ว
พี่อาซาให้เวลาน้องหน่อยนะ หรือไม่ก็รีบหาทางแก้การสะกดจิตซะ น้องจะได้เลิกกลัวงู
แอบหวานนิดๆนะตอนนี้ มีการป้อนน้ำทางปากด้วย เขินจุงงง :hao6:
สนุกมากๆ ตื่นเต้นตลอดเวลา หน่วงต่ออีกสักพักก็ได้นะเราชอบ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 02-07-2014 19:42:36
กด 3 คร่าาาา สนุกมากมายลุ้นโคตรๆๆๆ สงสารโยชิ สงสารอาซาอ่ะ ริริมาต่อไวๆๆ นร้าาา อยากอ่านแร้วง่าาาาา   :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 02-07-2014 19:57:43
เอากำลังใจมาส่งจ้า

เดี๋ยวมา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 02-07-2014 21:51:18
คนที่สงสารที่สุด

ผมว่าก็อาซานะ

สงสารพระเอกจัง

ส่วนโยชิ ดีแล้วที่รู้ความจริง

จะช้าจะเร็ว ก็รู้อยู่ดี

ฉะนั้นรู้ตั้งแต่ตอนนี้ดีแล้ว

หวังว่าคงไม่มีมาม่าขนาดนั้นนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 02-07-2014 22:17:58
กดสามรัวๆ มึนไปหมดแล้ววว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 02-07-2014 22:28:45
ปมซับซ้อน

ผู้ทำลายคือใคร  :hao4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Plengaay ที่ 02-07-2014 23:18:52
โยชิรู้แล้วอ่าา
ว่าแต่ที่อาซาเป็นแบบนี้เป็นแผนของฟลินน์ใช่ป่ะะ o18
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Pnomsod ที่ 03-07-2014 02:03:08
ง่าาาาา

พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

ที่จริงก็เดาเนื้อเรื่องได้อยู่ว่ายังไง

แต่โยชิจะทำไงต่อไปเนี่ยซิ

อย่าทิ้งอาซาไปนร้าาาา  :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 03-07-2014 10:48:31
ในที่ทสุดโยชิก็รู้ความจริงจนได้
สาธุ! ให้โยชิรับอาซาได้ด้วยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 03-07-2014 15:10:27
รอค่าาาาาาาาาาา

อยากให้มาต่อเร็วๆจัง 5555

น้องโยชิจะรับได้มั้ยน้าาาาาาาาา

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 03-07-2014 19:52:49
มาดันจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 03-07-2014 20:53:35
สงสารอาซา ต้องทนเจ็บปวดมานาน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 03-07-2014 23:34:23
สนุกมาก อ่านรวดเดียวตามทันเลย รออ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TEN ❁ 02-07-14 [P.10]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 04-07-2014 00:17:51
เพิ่งเข้าไปดูในเฟส พรุ่งนี้จะรีบตื่นมาอ่านนะคะ :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 04-07-2014 13:03:21
ELEVEN



         

          อาซาหายไปเลยตั้งแต่วันนั้น ผมคอยแต่จะมองไปที่ประตู ทุกครั้งที่ประตูเปิดออกความรู้สึกสองอย่างบังเกิดขึ้นหนึ่งคือตื่นเต้น สองคือหวาดกลัว แต่มันก็จบลงด้วยอาการสงบนิ่งเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาคือคาร์เตอร์ไม่ก็เฟลิกซ์ พวกเขาแค่เข้ามาดูแผลและเอาอาหารมาให้ผมเท่านั้น จะมีบ้างที่เฟลิกซ์อยู่คุยเป็นเพื่อนผมบ้าง แต่ก็ไม่บ่อย เพราะเขาก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ ที่ผมไม่รู้ว่าคืออะไร และไม่อยากรู้ด้วย เพราะผมคิดว่าผมรู้สิ่งที่ไม่ควรรู้มากเกินพอแล้ว

          บอกตามตรงว่าผมเองก็ยังไม่พร้อมที่จะเจออาซา แต่การกระทำกับจิตใจช่างสวนทางกันสิ้นดี

          “เฮ้อ”

          ผมจะทำยังไงดี

          ทำไมอาซาถึงเป็นงู เป็นไปได้จริงเหรอ ผมเฝ้าถามตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่คำตอบที่ได้ก็คือ...เป็นไปได้หรือไม่ได้อาซาก็ทำให้ดูต่อหน้าแล้วไง ผมคงไม่ได้กินยาเกินขนานจนประสาทหลอนแน่ผมมั่นใจ

          “มีเรื่องทุกข์ใจอะไรนักหนา”

          “เฟลิกซ์” ผมหลุดออกจากภวังค์ เขายิ้มพราวเหมือนดวงอาทิตย์ที่สาดแสงจ้าให้โลกของผมไม่มืดมน อย่างน้อยๆ ช่วงสองสามวันนับตั้งแต่ที่อาซาเปิดเผยความลับเรื่องตัวตนที่แท้จริงของเขาให้รู้ คนที่คอยพูดคุยไม่ให้ผมหว้าเหว่ก็คือเฟลิกซ์ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันในผับ ก็คิดไม่ผิดจริงๆว่าคนๆนี้คงเป็นเพื่อนที่ดีได้ แต่ผมอาจจะต้องพิจารณาดูใหม่ เพราะไม่รู้ว่าเราสมควรจะเป็นเพื่อนกันไหม ถ้าหากเขาเองก็ไม่ใช่...มนุษย์

          “ฉันถามอะไรเรื่องสิ” ผมลังเลถึงเรื่องที่จะพูด

          “อะไรงั้นเหรอ เรื่องที่อาซาหายหน้าไปเลยหรือเปล่า แต่มันโทรมาถามอาการนายนะเมื่อเช้า”

          เขานั่งลงที่ปลายเตียง ผิวของเขาที่โผล่พ้นเสื้อไหมพรมแขนยาวขาวซีดเหมือนกับอาซา ผมไม่รู้ว่าเขาเองก็เป็นแบบอาซาด้วยเหรอเปล่า แต่เท่าที่เห็นเขาก็ดูเป็นคนปกติดี และยังไม่ได้กลายร่างให้ผมได้เห็น

          “นายคิดว่า...มนุษย์หมาป่ามีจริงไหม” ผมลองหยั่งเชิง เฟลิกซ์ชะงักเมื่อผมพูดถึงตำนานนั่น เขาโคลงหัวเหมือนใช้ความคิดก่อนจะหันหน้ากลับมาที่ผม

          “มีจริงสิ” เขาตอบยิ้มๆ

          “แล้วนายคิดว่ามีจริงไหมล่ะ” เขาถามกลับ

          “แล้วนอกจากหมาป่า นายคิดว่าคนสามารถแปลงเป็นอะไรได้อีก”

          ที่รู้แน่ๆก็คือ มีคนที่สามารถกลายร่างเป็นงูและหมาป่าได้ แต่ถ้ามีมากกว่านี้ล่ะ ที่ไม่ใช่สัตว์แค่สองประเภท คงไม่ใช่ว่าวันหนึ่งผมไปบังเอิญเจอหนอน เจอจิ้งจกไส้เดือนกิ้งกือกลายเป็นคนหรอกนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมจะฆ่าตัวตายหนีโลกนี้ไปซะ เพราะโลกนี้คงจะอยู่ยากเกินไปสำหรับมนุษย์ธรรมดาอย่างผม

          “อืม...อาจจะมีเสือ” เฟลิกซ์ตอบ

          “เสือ? ทำไมคิดงั้น”

          “ก็...มีตำนานเสือสมิงที่เขากล่าวกันไว้ ฉันก็เลยลองเดาดู” เขายิ้มจนเห็นเขี้ยว

          “แล้วนอกจากมีเสือแล้ว มีอย่างอื่นอีกไหม” ผมยังคงถามต่อ

          “ก็คงมีมั้ง ทำไมถึงอยากรู้ล่ะ” เฟลิกซ์กำลังจ้องผมอย่างสนใจ

          “อ่อ พอดีมีหนังเรื่องหนึ่งที่ฉันชอบ เรื่องมนุษย์หมาป่า ก็เลยชวนนายคุยเท่านั้น ถ้านายบอกว่าน่าจะมีเสือ แสดงว่าเสือก็ต้องเก่งกว่าหมาป่าสินะ”

          “มันแน่นอนอยู่แล้ว” เฟลิกซ์ยืดอกเหมือนเขากำลังภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ผมยังไม่ได้ชมเขาเลยนะ

          “แล้วจะมีสัตว์ชนิดไหนที่เก่งกว่าเสือไหม”

          “นายถามแปลกๆนะโยชิ มันก็ต้องมีสิ นายลืมไปแล้วหรือไงว่ายังมีสิงโตเจ้าป่า แม้จะไม่ค่อยอยากยอมรับหรอก แต่พวกนั้นมันก็เก่งจริงๆ” เขายักไหล่พูดเหมือนไม่ใส่ใจ

          ‘มันไม่ยุติธรรมเลยว่าไหมที่ไอ้สัตว์ไร้ขาพวกนี้จะเป็นนักล่าอันดับต้นๆ’
          ‘นายพูดอะไรของนาย พูดเหมือนตัวเองเป็นสัตว์อย่างนั้นแหละ’
          ‘รู้ไหม ว่าหมาป่าไม่ถูกกับงู’
          ‘นายรู้ได้ไง เป็นหมาป่าหรือไง’
          ‘หึหึ ก็คงงั้น’


          ผมนึกไปถึงเรื่องที่ดาวเสาร์เคยพูดไว้กับผม เรื่องที่ผมไม่เคยฉุกใจคิดเพราะคิดว่ามันคงไม่มีอะไร คิดว่าก็แค่เรื่องลอยลมทั่วๆไป แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ บางสิ่งบางอย่างก็ถูกพูดออกมาอย่างตั้งใจโดยที่เราไม่อาจคาดคิด

          ผมหรี่ตามองอย่างจับผิด ก่อนจะปล่อยประโยคสุดท้ายออกจากปาก

          “นายอยากเป็นมนุษย์งูไหม”

          เฟลิกซ์หันขวับมองผมแทบจะในทันที และเขาก็ตอบผมในทันทีเช่นกัน

          “แบบอาซาเหรอ? ไม่เอาหรอก”

          และเขาพลาดแล้ว

          สรุปนอกจากหมาป่า นอกจากงู ก็ยังมีเสืออีกสินะ

          หลังจากนั้นสิบวินาทีเฟลิกซ์เหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรออกมา คิ้วเข้มที่เลิกขึ้นสูงค่อยๆขมวดเป็นปมเขาทำสีหน้าไม่ถูก ชี้มือชี้ไม้มั่วไปหมด ก่อนจะเอามือมาเกาหัวยิ้มแห้งๆแทน

          “เอ่อ...ฉันจำได้ว่าต้มน้ำไว้ ขอตัวไปดูก่อนนะ”

          เขารีบร้อนออกจากห้อง ผมมองตามก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ พร้อมกับตั้งคำถามเดิมๆอีกครั้งว่า เรื่องบ้าๆพวกนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง ทำไมถึงมีมนุษย์ที่กลายเป็นสัตว์ได้ ผมต้องยอมรับเรื่องนี้ให้ได้หรือเปล่า และนอกจากผมแล้ว มีใครรู้ไหมว่ามีเรื่องบ้าๆพวกนี้อยู่บนโลก

          และที่บ้ามากกว่านั้น ก็คงมีมนุษย์สิงโตด้วยอีกอย่างหนึ่ง

          แอ๊ด~

          ประตูเปิดออกอีกรอบ ผมตวัดสายตามอง คราวนี้ไม่ใช่เฟลิกซ์และไม่ใช่คาร์เตอร์ แต่เป็น

          “ฉันมารับนายกลับบ้าน”

          “ฟรินน์”

         

ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 04-07-2014 13:07:16
         
          ฟรินน์บอกกับผมว่าอาซาสั่งให้เขามารับผม ผมมองหน้าฟรินน์อย่างชั่งใจ รู้สึกตัวเลยว่าตอนเขาเดินเข้ามาใกล้ ผมเผลอขยับตัวหนีห่างโดยอัตโนมัติ ก็เพียงแค่รู้ความจริง นั่นหมายความว่า งูสีขาวที่ผมเห็นท่ามกลางสายฝนในเขตบ้านพักหลังมหาวิทยาลัยเป็นฟรินน์จริงๆ
         
          แต่สุดท้ายแล้วผมก็ออกจากบ้านพักของคาร์เตอร์พร้อมกับฟรินน์ เพิ่งรู้ว่าที่ๆผมพักรักษาตัวอยู่เกือบอาทิตย์คือบ้านพักฝั่งตะวันออกของแอชยู

          ผมกลับมาที่นี่อีกครั้ง นึกภาพไม่ออกเลยว่าผมจะเข้าไปในนั้นได้ยังไง และจู่ๆผมก็คิดออกไปว่านี่มันดงงูชัดๆ!

          “ฉันอยากจะกลับไปอยู่ที่หอพัก” ผมพูดโพล่งขึ้น ฟรินน์ที่เดินนำเข้าบ้านพักของพวกเขาหยุดชะงัก หันกลับมามองผมด้วยสีหน้างงๆ

          “อะไรนะ” เขาถาม สีหน้างงเต็ก

          “นายก็รู้ว่านายทำแบบนั้นไม่ได้โยชิ โอเค ฉันรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยาก นายเกลียดงู และเราเป็นอะไร แต่สัญญาเลยว่าฉันจะไม่เลื้อยไปเลื้อยมาให้นายเห็นระหว่างที่อยู่ที่นี่แน่นอน สาบานได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวไปหรอก”

          “ไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบนั้น”

          “แล้วมันแบบไหน”

          ผมเองก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าผมยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความจริง หรือเปิดประตูสู่โลกกว้างที่มีคนกลายร่างเป็นสัตว์ได้ ผมต้องการเป็นเวลา...ต้องการมากด้วย

          มันไม่ใช่เรื่องที่ว่าพวกเขาเป็น เอ่อ...งูหรอกนะ ต่อให้อาซากลายเป็นลูกแมวตัวเล็กที่แสนน่ารัก มันก็ยากที่จะทำใจ ผมหมายถึง ผมแค่ต้องการเวลาคิดทบทวนอะไรหลายๆอย่าง ที่ไม่ใช่ที่นี่ ผมอยากกลับไปอยู่ที่ของผม

          “ฉัน...”

          “อ้าวอาซา แกกลับมาก็ดี ฉันไปรับโยชิมาให้แล้ว แต่เขาบอกว่าจะกลับไปอยู่ที่หอพัก”

          เหมาะเหม็ง ฟรินน์ฟ้องอาซาเข้าให้แล้วไง แล้วเขาก็เดินมายื่นตรงหน้าผม ผมก้มหน้ามองพื้น ขนาดไม่ได้มองหน้าเขายังรู้สึกได้ถึงรังสีกดดันจากคนตัวสูงกว่า คาดว่าตอนนี้ดวงตาของเขาต้องดุดันมากแน่ๆ

          “ทำไม” และคำถามนี้ก็คงถามผม

          “ฉันแค่อยากกลับไปอยู่ที่หอ” ผมพูดเสียงแผ่ว ทำไมผมต้องกลัวเขาด้วยนะ

          “ไม่ได้ ที่นั่นไม่ปลอดภัย” เขาพูดต่อผมแทบจะทันที และมันทำให้ผมต้องเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ

          “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันอยู่ได้” ผมยังคงดื้อดึง

          “นายจะกลับไปอยู่ห้องที่มีไอ้ดาวเสาร์อยู่ได้ไง อย่าลืมนะว่ามันกับไอ้เจอร์โรมเป็นเพื่อนกัน” อาซาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก้าวเดินเข้ามาใกล้ ผมขยับถอยห่าง ใบหน้าของเขาก้มต่ำลงมาจนเห็นเส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปนขึ้นสีเขียว

          “แล้วไง นายคิดว่าเจอร์โรมจะทำอะไรฉันเหรอ ทำไมฉันต้องหลบเขาได้ เขาจะทำอะไรฉันงั้นเหรออาซา” ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะมายืนเถียงกับอาซาด้วยเรื่องพวกนี้ทำไม ในเมื่อประเด็นหลักมันก็แค่ผมอยากได้พื้นที่ส่วนตัวเอาไว้คิด อยากจะอยู่อย่างสงบคนเดียวโดยไม่มีใครมายุ่ง แค่นี้มันยุ่งยากมากนักเหรอไง

          “ฉันเข้าใจนะโยชิว่านายรังเกียจที่จะอยู่กับฉัน แน่ละ นายเกลียดงูและฉันก็คือสิ่งที่นายเกลียด ไม่แปลกถ้านายอยากจะจากไป แต่ขอเถอะ ยังไม่ใช่ตอนนี้ ข้างนอกนั่นไม่ปลอดภัยสำหรับนาย”

          ไม่ได้รังเกียจ

          ถึงมันจะยากที่จะทำใจกับสิ่งที่เขาเป็น แต่ผมยืนยันได้ว่า ผมไม่ได้รังเกียจคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมได้เลยสักนิด

          “ถ้างั้น ฉันขอไปอยู่กับเติร์ดสักพัก อาซา ฉันแค่ต้องการเวลา ฉันเหนื่อย” ผมพูดเสียงแผ่ว จ้องตาอาซาตอบอยู่นานสองนานเพื่อรอคำตอบ และในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายหลบตาผมก่อน

          “ฉันจะให้ฟรินน์ไปส่ง”

          “ขอบคุณ”

          เก็บข้าวของเสร็จอาซาก็ไม่อยู่แล้ว มือที่ถือกระเป๋ากำแน่น แต่ในเมื่อผมเลือกแล้วก็ต้องยอมรับ ฟรินน์พาผมไปส่งที่หอเติร์ด ผมโทรศัพท์ให้มันลงมารับผม เติร์ดดูจะงงๆที่ผมหอบผ้าหอบผ่อนมาหาแล้วบอกว่าจะอยู่ด้วย พอผมเจอหน้าเพื่อนแล้ว ฟรินน์ก็กำชับผมอยู่สองสามเรื่องก่อนจะไป

          “เกิดอะไรขึ้นวะ” เติร์ดถามผมขณะอยู่ในลิฟต์ ผมเริ่มคิดหาข้ออ้างดีๆสักข้อ

          “ฉันทะเลาะกับรูมเมต”

          “ทะเลาะ? หนักเหรอวะ ถึงขั้นหอบผ้าหอบผ่อนออกมาเนี่ย”

          “ก็ไม่หรอก เพราะไม่อยากทะเลาะมากไปกว่านี้เลยแยกกันก่อนสักพักดีกว่า” พูดแล้วก็นึกไปถึงอาซา เขาคงจะโกรธพอตัวเลยที่ผมขอมาอยู่กับเพื่อน

          “เพื่อนเหรอผัววะ ทะเลาะกันแปลกชะมัด” เติร์ดบ่นเสียงเบา แต่ผมก็ยังได้ยิน มันเดินนำผมออกจากลิฟต์เข้าไปในห้อง ผมเดินตามไม่พูดอะไรต่อ

          “รกนิดหน่อย ไปนั่งบนเตียงไป ขอเก็บแปบ”

          ไม่รกหน่อยหรอก รกมากๆ ถึงมากที่สุด ผมวางกระเป๋าไว้ที่ปลายเตียง นั่งลงบนเตียงที่เป็นจุดเดียวที่พอจะนั่งได้ เติร์ดก็เก็บขยะใส่ถุงลวกๆ พร้อมเก็บเสื้อผ้าที่อยู่กระจัดกระจายใส่ตะกร้าผ้า บนเตียงผมเห็นมีบ็อกเซอร์และเสื้อยืดอยู่ เลยโยนไปให้มัน

          “เออ ว่าจะถาม หายไปไหนมาหลายวันว่ะ เห็นคนที่มาส่งแกไปบอกกับอาจารย์ว่าแกป่วย” เติร์ดถามขึ้น มือก็มัดปากถุงขยะก่อนจะเอาไปวางไว้ที่หน้าประตูห้อง

          “อ่อ อืม พอดีมีอุบัติเหตุนิดหน่อย หมอให้พัก” ผมชูมือข้างที่พันผ้าพันแผลให้เติร์ดดู มันร้องอ่อ เดินเข้ามาดูแผลผมใกล้ๆ

          “ไปโดนอะไรมา” มันถามน้ำเสียงเป็นห่วง

          “แก้วบาดน่ะไม่มีอะไรมาก มีการบ้านหรืองานอะไรไหมวะ” ผมเปลี่ยนเรื่อง เติร์ดมันคงอยากจะถามอะไรหลายๆเรื่อง แต่พอเห็นท่าทางของผมว่าไม่อยากจะเล่า มันก็ไม่ทู่ซี้ให้มากความ ลุกเดินไปหยิบกองงานมาให้ผม

          “มีอะไรก็บอกได้นะเว้ย เพื่อนกัน ไม่ต้องเกรงใจ” มันพูดจริงจัง ผมยิ้มให้มันด้วยความซาบซึ้ง

          “ขอบใจ”

          “ไม่เป็นไร ก็เพื่อนกัน”

          ในหัวของผมมีแต่เรื่องอาซาเต็มไปหมด ทั้งที่พยายามจะหันเหความสนใจทั้งหมดกับหนังสือตรงหน้า แต่หน้าของเขาก็ลอยเข้ามาในหัวอีก และดูเหมือนจะคงอยู่อย่างถาวร หนังสือเรียนจึงกลายเป็นเพียงของประดับฉากไม่ให้มือผมวางงาน

          เติร์ดนั่งเล่มเกมอยู่หน้าคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเมามันหลังจากที่หาข้าวหาน้ำให้ผมกิน และปล่อยให้ผมทำการบ้านเคลียร์งานในช่วงที่ผมขาดเรียน แต่ผมไม่มีสมาธิทำเลยให้ตายสิ

          นึกย้อนไปวันแรกที่ผมเจออาซา มันน่าขำจริงๆที่จะพูดว่าผมแอบชอบเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ เขาดูมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ ดูลึกลับน่าค้นหา คล้ายจะเย็นชาแต่ก็ไม่ เขาอบอุ่นและใจดี และที่สำคัญ เวลาอยู่กับเขาผมมีความสุขที่สุด สุขจนไม่เคยคิดว่าถ้าเรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ผมจะทำยังไง

          ตอนที่เขาบอกว่าไม่อยากเป็นเพื่อนกับผม ผมเจ็บจริงๆนะ และไม่เข้าใจด้วยว่าเหตุผลของเขาคืออะไร แต่วันนี้ผมรู้แล้ว ที่บอกว่าผมไม่ควรยุ่งกับพวกเขา ผมกับเขาเราไม่ควรเป็นเพื่อนกัน หรือเป็นอะไรที่มากกว่านั้น เพราะเขาไม่เหมือนผม โลกของเขาและผมมันต่างกันเกินกว่าที่จะยอมรับได้ ถ้าเพียงแต่เขาจะเป็นคนธรรมดา ผมคงไม่ต้องคิดหนักขนาดนี้

          เพราะผมชอบอาซามากจริงๆ

          ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น จะว่าไป ผมไม่มีเบอร์ติดต่ออาซา รวมทั้งฟรินน์ก็ด้วย เขาไม่เคยให้และผมก็ไม่เคยขอ 

          กริ๊งงงงง กริ๊งงงงง

          ผมสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์ในเมือแผดเสียงร้อง มองชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอ นิกกี้โทรมา ผมกดรับสาย

          “ฮัลโหล”

          “เป็นไงบ้างแก ไม่สบายหายยัง ตอนนี้ทำอะไรอยู่” นิกกี้กรอกเสียงใสถามไถ่มาตามสาย

          “ก็ดี ตอนนี้อยู่กับเติร์ด กำลังการบ้านอยู่”

          “จริงดิ! ทำเสร็จยัง คืนนี้ว่างป่ะ” นิกกี้ถามเสียงตื่นเต้น

          “ก็ว่าง ทำไมเหรอ”

          “ลืมไปแล้วเหรอ คืนนี้ศุกร์ที่สิบสามไง ที่ Magic มีปาร์ตี้สุดพิเศษ แกสัญญาแล้วนะจะไปกับฉัน ห้ามเบี้ยวด้วย ไม่งั้นฉันจะไปลากแกถึงที่นะหนูโย”

          นิกกี้พูดล็อคคอไม่ให้ผมได้ปฏิเสธได้ ผมชั่งใจคิดว่าจะเอายังไงดี ผมไม่ได้พิศวาสอยากจะไปเที่ยวอยู่แล้ว แต่ผมรับปากนิกกี้ไปแล้วนี่สิ อีกอย่างผมก็อยู่ในภาวะที่ไม่สมควรออกไปโฉบเฉี่ยวที่ไหนตามลำพัง สิ่งที่อาซาบอกผมเชื่ออยู่อย่างนะ ว่าข้างนอกนั่นมันอันตรายสำหรับผมจริงๆ พิสูจน์ได้จากแผลที่แขนผมและมนุษย์พิเศษอย่างพวกเขาไงล่ะ

          “เจอกันตอนสี่ทุ่ม เดี๋ยวฉันรับแกที่หน้าแอชยู โอเคไหม”

          “ก็ได้”

          มันก็คงไม่มีอะไรหรอก ไปถึงนู่นผมจะพยายามทำตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะไม่เดินเพล้นพล่านขึ้นไปที่ชั้นสามหรือดาดฟ้า จะนั่งอยู่กับที่จนกระทั่งถึงเวลากลับ มันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร

          “ดีมาก ลากไอ้เติร์ดออกมาด้วย แค่นี้ก่อนนะจ้ะที่รัก บาย”

          เธอกดวางสายอย่างรวดเร็ว ผมเอาโทรศัพท์ออกจากหู เติร์ดถามผมว่ามีอะไร ผมเล่าว่านิกกี้ชวนไปเที่ยว เติร์ดร้องอ่อเพราะว่านิกกี้บอกไว้แล้ว และผมคิดว่าเติร์ดเองก็คงเห็นว่าผมไม่ร่าเริงเท่าที่ควรเลยตกปากรับคำว่าจะไปด้วยอย่างแน่นอน ในเมื่อมันว่าแบบนั้นผมก็เบาใจมากขึ้น

          ผมปัดเรื่องของอาซาออกจากหัวชั่วครู่เพื่อทำการบ้านให้ได้มากที่สุดก่อนถึงเวลาออกไปเที่ยว จนกระทั่งถึงเวลา เสื้อผ้าที่ผมเอามาไม่มีตัวไหนพอจะใส่ไปปาร์ตี้ได้เลย นิกกี้ส่งข้อความมาบอกว่าให้แต่งตัวตามคอนเซ็ปต์ ‘Red Night’ เติร์ดก็เลยให้ผมยืมเสื้อเชิ้ตสีแดงสดใส่กับกางเกงยีนส์เข้ารูปสีดำ ส่วนมันใส่กางเกงสีแดงกับเสื้อเชิ้ตสีขาว

          สี่ทุ่มตรงผมและเติร์ดออกมายืนรอนิกกี้ที่หน้าแอชยู ความจริงเดินไปเองก็ได้เพราะมันไม่ไกลมาก แต่เท้าผมตอนนี้ก็ไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่ แม้แผลที่โดนกระเบื้องตำจะหายดี แต่เดินมากๆก็ยังรู้สึกเจ็บ คืนนี้ท้องฟ้ามีเมฆมากจนมองไม่เห็นดวงจันทร์และดวงดาว

          ประมาณห้านาทีได้ ออดี้สีดำมันปราบก็เคลื่อนตัวมาจอดอยู่ตรงหน้าพวกผม ผมมองจ้องก่อนที่กระจกจะเลื่อนลง ผมเห็นหน้านิกกี้เป็นคนแรก และพอมองลึกเข้าไปที่ฝั่งคนขับ ผมแทบอยากจะหันหลังเดินกลับหอ


          “ขึ้นรถเลย วันนี้เจอร์โรมอาสาเป็นเจ้ามือเลี้ยงพวกเราเอง”

          ผมลืมไปได้ยังไงนะว่านิกกี้กับเจอร์โรมเดทกันอยู่ ให้ตายเถอะ ถ้าอาซารู้ว่าผมไปกับเจอร์โรม มีหวังตายแหงๆ

          “ไปเถอะโยชิ” เติร์ดดันหลังผมขึ้นรถ ผมรู้ว่ามันเองก็ไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่จะไปทำอะไรได้

          บนรถออดดี้ราคาแพงไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ดีเท่าที่ควรเป็น ผมพยายามทำเป็นมองไม่เห็นสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองผ่านกระจกหลัง นิกกี้ชวนผมคุยตลอดทางผมก็คุยตอบโดยเลี่ยงที่จะตอบคำถามเจอร์โรม

          จากการคาดเดาผมคิดว่าเจอร์โรมคือมนุษย์หมาป่า เพราะเขาเป็นเพื่อนกับดาวเสาร์ ผมไม่รู้ว่านิกกี้รู้เรื่องนี้ไหม ซ้ำยังไม่รู้ว่าผมควรบอกเธอดีหรือเปล่า แต่คำเตือนของฟรินน์ทำให้ผมต้องปิดปากเรื่องนี้ให้เงียบ

          ‘อย่าแพร่งพรายเรื่องพวกเราหรือพวกไหนเด็ดขาดนะโยชิ’

          ขับรถมาถึงผับ เจอร์โรมพาพวกผมเข้างานในฐานะแขกวีไอพี เขาบอกว่าจะพาขึ้นไปชั้นสาม ผมขนลุกขึ้นมาทันที แต่ผมก็ทักท้วงอะไรไม่ได้ ผมทำได้แค่กวาดตามองหาพวกอาซา เผื่อว่าเขาจะอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่เห็น

          ภายในชั้นสามแตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง ผนังปูนสีแดงสดทำเอาแสบตา มีเสาสูงตั้งอยู่ห้าหกจุดและมีผู้หญิงเต้นรูดเสาประจำที่ ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นจนแทบไม่ได้ใส่ ผู้คนค่อนข้างเยอะมาก เจอร์โรมเดินนำไปที่มุมในสุดของชั้น และตรงนั้นมีดาวเสาร์นั่งอยู่ พอเห็นผมเขาก็ผุดลุกขึ้น ใบหน้าฉายแววตกใจก่อนจะเดินเข้ามาหาผม

          “มาทำอะไรที่นี่โยชิ!”

          มาหาหมอมั้ง

          ผมอยากจะตอบไปแบบนั้น แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาจะมากวนประสาทใคร

          “นิกกี้ชวนฉันมาเที่ยว แต่ฉันไม่รู้ว่าเธอจะมากับเจอร์โรม ถ้ารู้ก็คงไม่มา” ผมกระซิบบอกดาวเสาร์ แอบเห็นเจอร์โรมที่นั่งอยู่ที่โซฟาสีเลือดหมูมองมาทางผมกับดาวเสาร์ คงจะอยากรู้ว่าเราคุยอะไรกัน

          “นายควรกลับไปซะ” ดาวเสาร์กัดฟันบอก ผมลอบถอนหายใจ

          “ก็อยากทำอยู่ แต่ทำไม่ได้” ผมกระซิบ

          “ดาวเสาร์ แกจะปล่อยให้เพื่อนแฟนฉันยืนอยู่แบบนั้นหรือไง มีอะไรก็มาคุยกันที่โต๊ะ” น้ำเสียงของเจอร์โรมแฝงไปด้วยอำนาจคุกคามอย่างชัดเจน และทั้งๆที่เขาไม่ได้ตระโกน แต่เสียงของเขาก็ดังพอที่จะกลบเสียงเพลงที่เปิดอยู่ในขณะนี้

          ผมเดินผ่านดาวเสาร์ไปนั่งลงข้างๆเติร์ดที่อยู่ห่างจากเจอร์โรมพอประมาณ เขาสั่งเครื่องดื่มสีสันแปลกๆมาให้พวกผม เติร์ดกระดกกินเป็นคนแรก ผมกระซิบถามมันว่าเป็นไงบ้าง มันตอบแค่ว่าก็ดี ดาวเสาร์นั่งลงตรงข้ามผม มองผมด้วยสายตาเป็นห่วง

          “สนุกให้เต็มที่นะ อยากกินอยากดื่มอะไรสั่งเลย ฉันเลี้ยงเอง” เจอร์โรมบอกกับทุกคน นอกจากพวกผมและดาวเสาร์ ก็ยังมีเพื่อนของเจอร์โรมอีกสองคนแต่ผมไม่คิดจะใส่ใจ แค่นั่งให้มันผ่านค่ำคืนนี้ไปเท่านั้น แต่เจอร์โรมไม่เคยปล่อยให้ผมได้อยู่อย่างปกติสุข เขาพยายามให้ผมดื่มแอลกอฮอล์หลายๆแก้วติดกัน นิกกี้เองก็ร่วมด้วย ผมรู้ว่าเธออยากให้ผมสนุก เพียงแค่เธอไม่รู้ในสิ่งที่ผมรู้ นิกกี้เริ่มเมามาก เธอเกาะแขนเจอร์โรมแน่น ผมเองก็มึนไม่แพ้กันจนเริ่มอยากเข้าห้องน้ำ จึงขอตัวออกมาคนเดียว

          ผมเดินเซชนคนนู่นคนนี้ หยุดมองหาป้ายห้องน้ำ แต่ป้ายที่ผมเห็นเป็นป้ายเดิมกับครั้งก่อน ภาษาบ้าบอที่ต่อให้ผมเมาจนเดินไม่ตรงก็ยังอ่านเข้าใจ ผมหันซ้ายหันขวาแต่ก็ยังหาห้องน้ำไม่เจอ กำลังจะเอ่ยปากถามผู้หญิงเอเชียคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ แต่มีมือมาคว้าที่แขนผมเสียก่อน

          “อาซา” ผมเผลอเรียกโดยอัตโนมัติ แต่คนที่จับแขนผมไม่ใช่เขา แต่เป็น

          “เมามากจนเห็นฉันเป็นไอ้อาซาเลยเหรอ น้อยใจนะเนี่ย”

          “จะ เจอร์โรม”

          “ใช่ นั่นแหละชื่อฉัน จะไปเข้าห้องน้ำใช่ไหม ไปสิ ฉันจะพาไป”

          เขาลากผมไปตามทางเดิน ผมดึงแขนออกจากมือหนาแต่ก็ดึงไม่ออก โดนถูลู่ถูกังจนมาถึงห้องน้ำ เขาถึงได้ปล่อยผม ผมเลือกเข้าห้องน้ำที่เป็นห้องแทน ทำธุระเสร็จผมก็ยังไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับเจอร์โรม ถ้าเขาเป็นคนธรรมดาผมคงไม่กลัวหรอก แต่นี่...

          ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอ เริ่มรู้สึกมึนหัวหนักขึ้น มือล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา แต่ก็แทบจะเขวี้ยงทิ้ง แบตหมด!

          ปึงๆๆ

          “ออกมาได้แล้วโยชิ นายเข้าไปนานแล้ว”

          “...”

          “ถ้าไม่ออกมาฉันจะพังประตูเข้าไป” เสียงของเขาฟังดูน่ากลัว ผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า ค่อยๆเปิดประตูออกไป และจู่ๆแก้วน้ำบางอย่างก็ถูกยื่นมาตรงหน้า

          “ดื่มสิ มันจะช่วยให้นายรู้สึกดีขึ้น” พูดทั้งที่ปากยังแย้มยิ้ม แต่แววตาของเขามันไม่ได้ยิ้มไปด้วย แววตาของนักล่า ใครมันจะไปเชื่อ

          “ไม่ดีกว่า ฉันจะกลับแล้ว” ผมเดินเบี่ยง แต่มือของเจอร์โรมวางทาบกับประตูห้องน้ำ กั้นไม่ให้ผมเดินผ่าน แก้วใสที่มีน้ำสีขาวขุ่นถูกยื่นมาตรงหน้าผมอีกรอบ แทบจะจ่อติดปาก

          “ดื่มเข้าไปซะ” เขาบังคับ ผมหันหน้าหนีแล้วก็ผลักมือเขาออกห่าง ส่งผลให้แก้วน้ำในมือของเขาร่วงลงพื้นแก้วแตกกระจาย แววตาของเขาวาวโรจน์ สันกรามเครียดขึง ผมขยับถอยห่างแต่ทำได้ไม่มากนักเพราะพื้นที่ที่จำกัด

          “พูดดีๆไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลังสินะ” เจอร์โรมกำลังโกรธจัด ผมกำลังคิดหนักว่าผมจะต่อยเขาดีไหม เพราะถ้าเขาไม่ล้ม ก็คงเป็นผมที่จะล้มลงไปกองอยู่กับพื้นเอง ตัวเขาไม่ใช่เล็กๆ ใหญ่กว่าผมตั้งเยอะ

          “ปล่อยฉันเจอร์โรม นิกกี้รออยู่” ผมเอาเพื่อนตัวเองมาอ้าง แต่แทนที่เจอร์โรมจะหยุด เขากลับหัวเราะร่วนเหมือนเรื่องที่ผมพูดมันเป็นเรื่องตลกที่สุดในชีวิตเขา

          “ไมเอาน่าโยชิ อยู่กันสองคนนายอย่าพูดถึงคนอื่นให้เสียเวลาเลย นายก็รู้ว่าฉันสนใจนาย”

          “แต่ฉันไม่สนใจนายสักนิด ปล่อยฉันได้แล้ว” พยายามอย่างยิ่งที่จะซ่อนความระคายอารมณ์ไว้

          “ไม่ปล่อย ฉันรอมาตั้งหลายวันที่จะได้เจอนาย ไอ้อาซานี่ก็จริงๆ ซ่อนนายจากฉันเสียมิดเลยนะ แต่รู้อะไรไหม” นิ้วมือร้อนจัดของเขาเขี่ยที่แก้มผม ผมหันหน้าหนีปัดมือที่กำลังจะเลื่อนลงต่ำออกอย่างนึกรังเกียจ

          “อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันก็ต้องได้” เขากระซิบข้างใบหูผม ร่างกายผมเริ่มอ่อนแรง เขาจ้องตาผมนิ่ง ผมรู้สึกหวืดๆในหัว แต่มันก็เท่านั้น สีหน้าของเจอร์โรมคล้ายคนโกรธจัด เขาเขม่นตา คิ้วของเขากระตุกอยู่สองทีก่อนจะออกแรงต่อยประตูห้องน้ำที่เขาท้าวมืออย่างแรงจนมันพังครืน ผมสะดุ้งด้วยความตกใจ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง




          “นายพิเศษกว่าที่ฉันคิดนะโยชิ ไม่น่าล่ะ ไอ้อาซาถึงได้ไม่ปล่อยนายให้ฉัน ปกติแล้วฉันสะกดจิตใครไม่เคยพลาดนะ นายนี่คนแรกเลย ฮะฮะ”




          “หมายความว่ายังไง” ผมไม่เข้าใจเรื่องที่เจอร์โรมพูด

          “อยากรู้เหรอ” เขายกคิ้วสูง กระตุกยิ้มที่มุมปาก ผมส่ายหน้าไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น

          “แต่ฉันอยากให้นายรู้นะ เราจะไปคุยเรื่องนี้กันที่บ้านของฉัน ตกลงไหม” เหมือนจะเป็นคำถาม แต่แท้จริงมันคือการบังคับ เขาลากผมออกจากห้องน้ำ เดินกลับไปทางเดิม ผมยื้อตัวเอาไว้สุดแรง แต่เปล่าประโยชน์ ผมสู้แรงเขาไม่ได้ ตรงทางออกผมเห็นปารีสยืนอยู่ และเจอร์โรมเองก็คงต้องเห็น ผมกำลังจะตะโกนเรียก แต่มือใหญ่ที่ปิดปากผมอยู่ยิ่งออกแรงกดปิดปากผมสนิท เขาลากผมไปอีกฝั่งหนึ่งด้วยความรีบร้อน เสียงทุ้มต่ำสบถไปตลอดทาง ผมพยายามจะหันไปมองปารีสแต่เจอร์โรมล็อคคอผมเอาไว้แน่น

          “อย่าคิดจะเรียกนังนั่น มันช่วยอะไรนายไม่ได้หรอกโยชิ เพราะไอ้อาซามันไม่อยู่ที่นี่ ฉันล่อให้มันออกไปจับแพะ โชคร้ายหน่อยนะ ที่พระเอกของนายในคืนนี้จะเป็นฉัน”

          เขาลากผมขึ้นไปบนดาดฟ้า พาไปตรงขอบปูนริมตึก ลมข้างบนนี้แรงมากจนตัวแทบปลิว ผมขาสั่นมองพื้นด้านล่างด้วยใจหวิวๆ ถ้าผมตกลงไปไม่ตายก็พิการ ผมขยับเท้าถอยห่างแต่เจอร์โรมกลับดึงผมกลับมายืนที่เดิม

          “อย่ากลัว ฉันไม่ปล่อยให้นายตกลงไปหรอก แค่จะพานายเล่นอะไรสนุกๆก็เท่านั้นเอง”

          “ไม่..”




          พรึบ!



          “อ๊ากกกกก!”

          ร่างผมและร่างของเจอร์โรมพุ่งออกไปกลางอากาศ ดำดิ่งลงสู่พื้นดิน ผมหลับตาแน่นร้องไห้คิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ ใจหวิวจนแทบจะหยุดเต้น ผมจำไม่ได้ว่าเสียงร้องของตัวเองมันดังแค่ไหน ผมกลั้นหายใจด้วยความตื่นตระหนก ร่างทั้งร่างชาดิก ในหัวเอาแต่ร้องเรียกหาอาซาไม่หยุดหย่อน










          ‘อาซา ช่วยฉันที!’

         




          คงไม่มีใครรู้ว่า ดวงจิตที่ผูกพันกันมาหลายปีหลายชาติมีอานุภาพมากจนสามารถเชื่อมต่อหากันได้ เสียงร้องเรียกหาจากความกลัวดังสะท้อนอยู่ห้วงความคิดของสัตว์ร้ายร่างสูงใหญ่ที่กำลังเลื้อยตามล่าเบาะแสสำคัญ ร่างใหญ่หยุดเคลื่อนไหวชะงัก ส่วนหัวหันหวับเปลี่ยนทิศทางตามเสียงที่ได้ยิน

          ‘อาซา ฉันกลัว ช่วยฉันด้วย’

          เพียงแค่นั่นอสรพิษร่างยักษ์ก็เลื้อยตามเสียงร้องของดวงใจ ต้นไม้ใบหญ้าที่ถูกผิวกายสีดำนิลเลื้อยผ่านเผาไหม้และเหี่ยวเฉาลงในพริบตาพร้อมที่จะสังหารทุกอย่างที่เป็นต้นเหตุให้แก้วตาดวงใจของอสรพิษร้ายร้องไห้ ไม่ว่ามันเป็นใคร เขาขอสาบานว่ามันจะไม่ตายดี!




.............

          กว่าจะได้รักกันหวานชื่น หนูโยชิจะตายก่อนไหม พี่ชาย! ตามไปช่วยน้องให้ทันนะ อย่าให้น้องเป็นอะไรเลย งืออออออออ  :katai1: :katai1: :katai1:

          บอกในเพจว่าจะมาลงแต่เช้า แต่แม่ลากไปทำบุญในวันพระ เลยมาเอาป่านนี้ โทษทีนะคะ   :mew2:

          หนูโยอาจจะดื้อไปนิดนะ แต่ถ้าไม่ดื้อก็ไม่สนุกสิ ใช่มะๆ 5555 :hao7:

          เรื่องกำลังเข้มข้นสุดๆล่ะ มีคนบอกว่าอยากเห็นอาซาบู๊บ้าง ไม่ต้องห่วง บทบู๊พี่แกหนักอยู่ เลือดสาดกระเซ็นเปื้อนจอกันเลยทีเดียว งานนี้งูกับหมาป่าอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้!  :fire: :angry2: :m31:

          ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและทุกคอมเม้นกำลังใจนะคะ ไหนมากอดทีสิ  :กอด1:จุ๊บด้วย ม๊วฟฟฟฟฟ  :จุ๊บๆ:
 
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 04-07-2014 13:18:50
เป็นกำลังใจให้ อยากอ่านตอนต่อไปมากค่าาาาาาาาาาาาา

สู้ๆ

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 04-07-2014 13:23:35
อาชาไปช่วยโยชิด่วนๆเลยนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 04-07-2014 13:30:58
บทบู๊ นะฮะ ไม่ใช่บู้
รอคอยความจริง+ลับเปิดเผย มาต่อไวไวนะฮะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 04-07-2014 13:37:18
 :katai1: :katai1: :katai1:  อาซาไปช่วยโยชิน้อยเร็ว ๆๆ นะ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 04-07-2014 14:13:46
มาเร็วๆนะ อาซา โยชิจะแย่แล้วววว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: Sakiloveanime2069 ที่ 04-07-2014 14:48:51
Asa hurry up  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 04-07-2014 14:51:37
อะจ๊ากกกกก

โยชิแย่แล้ว

 :serius2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 04-07-2014 14:58:16
กรีสสสสส ลุ้นๆๆตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆ น่าติดตามมาต่อไวๆ นะริริ  :mew2: :z3: :sad4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 04-07-2014 15:53:54
ค้างไว้แบบนี้มาต่อด่วนเลยค่าาาาาา


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 04-07-2014 16:07:21
ช่วยให้ได้นะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 04-07-2014 17:15:18
อาซา ช่วยหนูโยให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 04-07-2014 17:28:27
 :katai1: เอามือเกาหน้า ขยุ้มหัว
อาซาไปช่วยโยชิด่วนๆเลยน่า><~
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 04-07-2014 17:44:12
อาซา ไปช่วย โยชิ ให้ทันน้าาาาาาา   :serius2: :serius2:



:katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 04-07-2014 18:04:25
ลุ้นนนนน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 04-07-2014 18:14:36
บทบู๊ นะฮะ ไม่ใช่บู้
รอคอยความจริง+ลับเปิดเผย มาต่อไวไวนะฮะ


อุ๊ตะ!!! รีบแก้โดยไว ขอบคุณที่มาบอกค่าาาา ^_^ :katai4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 04-07-2014 18:24:56
อ๊ากกกกก เริ่มจะเข้าช่วงบู๊แหลกแล้วววว  :z3:
ใครซักคนมาบอกโยชิทีเท้อออ ว่าตกลงแล้วน้องมันพิเศษอะไรกันแน่ คาใจจจจ :katai1:
รอตอนต่อไปปปปป  :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: squall ที่ 04-07-2014 19:50:30
กรี้ดดดด ขัดใจ หนูโยดื้อแพ่งนะคะ เตือนอะไรไม่เคยฟังอ่ะ (แต่ถ้าหนูโยฉลาดคงไม่มีประเด็นให้เกิดอ่ะเนอะ) อาซางานเข้าตลอดตามปกป้องหนูโยที่วิ่งเข้าหาอันตรายตลอดเช่นกัน ปกติชอบหมาป่านะ แต่เห็นเจอร์โรมแล้วอยากถลกหนังหมาเอามาทำพรมเช็ดเท้า... รอให้อาซาจัดเต็มเจอร์โรม (ฆ่าแม่ม) และจับกดหนูโยเร็วๆ !?  
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 04-07-2014 20:11:57
โว้ววววว เจอร์โรมทำงี้ได้ไงเนี่ยยยยย  :angry2:
ทำใจดีๆไว้นะหนูโย เดี๋ยวพี่อาซาก็ไปช่วยแล้ววววว :katai1:
ไม่แน่นะบางทีหนูโยอาจจะประทับใจพี่งูจากตรงนี้ก็ได้ :impress2:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-07-2014 20:38:11
เจอร์โรมสนใจโยชิหรือต้องการทำลาย

เพราะโยชิเป็นคนของอาซา

ว่าแต่อาซาไปให้ทันนะ

ถ้าสู้กันกับเจอร์โรม ก็เป็นห่วงอาซาอยู่นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 04-07-2014 20:57:07
ลุ้นๆ มาต่อเร็วๆๆนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: Plengaay ที่ 04-07-2014 20:59:42
อาซามาช่วยโยชิเร็วๆนะ :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-07-2014 21:29:21
 :katai2-1: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 04-07-2014 22:23:15
เห็นรูปตอนแรกนึกว่ามีพระเอกสี่คน
กำลังเดินหลงเข้ามาอ่านได้หนึ่งตอน เดวจะไล่ตามอ่านให้ทันตอนล่าสุดนะ
(ปล.เเอบอ่านผ่านๆตอนสุดท้ายสรุป พระเอกคือพี่งู หมาป่าคือตัวร้ายเรอะ แล้วพี่เสือกับสิงโตละจะ ฉะนั้นไปอ่านก่อนเผื่อเจอ เอิ๊กๆ)
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: ninghyuk ที่ 05-07-2014 08:13:52
ชอบแนวนี้มากกก แฟนตาซีกลายร่างลึกลับ 555555
โยชินี่รั้นที่สุดเลย สงสารอาซาต้องอยู่กับความเจ็บปวดมาเป็นร้อยๆปี ขอให้สมหวังกันเถอะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 05-07-2014 08:21:54
เมื่อไรริริจะมาแง้ๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 05-07-2014 11:02:06
ยังไงพระเอกของโยชิก็คืออาซาคนเดียวเท่านั้น เจอร์โรมนายอย่าหวังลมๆแล้งๆเลย  เอามันให้ตายเลยนะอาซา   :z6:   :beat:   :z6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 05-07-2014 11:36:11
โยชิโดนอีกแล้วววว
อาซาไปช่วยโยชิเร็วๆน้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: booo981 ที่ 05-07-2014 11:55:43
 :impress2: ชอบอ่ะ  :impress2: ชอบ ชอบ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 05-07-2014 12:33:32
กรี๊ดดดด  พี่งูไปโลดดดดดดด
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 05-07-2014 14:07:01
อ่านนนทันนนแล้ววววววว ลุ้นอ่ะ ยิ่งอ่านยิ่งเข้าโหมดดาร์กก 55555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 05-07-2014 17:21:05
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด........

เข้ามากรีดร้อง แล้วจากไป
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: Netimefii ที่ 05-07-2014 18:00:41
 :sad4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ ELEVEN ❁ 04-07-14 [P.12]
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 05-07-2014 23:33:28
น่าจับตีจริงเชียว

บอกก็ไม่ฟังนะโยชิ

อาซาไปช่วยน้องโยให้ทันนะ
หัวข้อ: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 06-07-2014 00:22:24
TWELVE





          “กลัวเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ฉันไม่ปล่อยให้นายตายง่ายๆหรอก เกมนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้น” น้ำเสียงยียวนกลั้วหัวเราะดังกระซิบข้างใบหู

          ผมเม้มปากตัวเองแน่น ออกแรงเท่าที่มีผลักเจอร์โรมออกห่าง ลุกขึ้นวิ่งหนีได้เพียงแค่สองก้าวก็สะดุดล้ม แต่ผมก็รีบยันฝ่ามือลงกับพื้นที่สกปรกและเฉอะแฉะดีดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะของปีศาจชั่วร้ายดังไล่หลัง ผมวิ่งหนีไม่คิดชีวิต มันเกินไปแล้ว ทุกอย่างที้กิดขึ้นมันเกินกว่าที่ผมจะรับได้ ผมอ่อนแอ ผมยอมรับ

          “ฮึก อาซา”

          ผมวิ่งไปปาดน้ำตาไป ลัดเลี้ยวเข้าซอยมืดเมื่อเริ่มได้ยินเสียงคนวิ่งตามมาข้างหลัง ท้องฟ้าร้องคำรามตามด้วยประกายไฟที่สว่างวาบทั่วฝืนฟ้า สิ่งที่แวบเข้ามาในหัวแวบแรกคือผมอยากกลับบ้าน แต่แปลกที่อีกสิ่งแวบเข้ามาในหัวซ้อนทับกับภาพบ้านของผม ก็คือบ้านของอาซา เหมือนลึกๆแล้วผมรู้ว่าที่นั่นปลอดภัยสำหรับผม

          ผมวิ่งสะเปะสะปะไม่รู้ทิศรู้ทาง เงยหน้าขึ้นอีกทีหัวใจก็หลุดออกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ขาหยุดวิ่งหัวแทบคะมำพื้น ผมออกแรงวิ่งมาตั้งไกล แต่เบื้องหน้าผมคือผู้ชายตัวสูงใหญ่คนเดียวกับคนที่ผมกำลังวิ่งหนี ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เขาโผล่มาได้ไวขนาดนี้ เพราะเขาไม่ใช่คนยังไงล่ะ

          “จะ เจอร์โรม” ผมครางเสียงสั่น ขยับเท้าก้าวถอยหลัง

          เสียงย่ำลงเท้าอย่างเป็นจังหวะของเจอร์โรมดังสะท้อนก้องตรอกซอยแคบๆ ก่อนจะตามด้วยเสียงขู่คำรามจากทางด้านหลัง ผมหันขวับไปมองหวาดๆ ฝูงหมาป่าจำนวนหนึ่งยืนแยกเขี้ยวหน้าเหี้ยมอยู่ข้างหลัง จะเดินหน้าก็ไม่ได้ จะถอยหลังก็ไม่รอด จนเจอร์โรมเดินเข้ามาใกล้จนเกือบประชิดตัว

          “ชอบเล่นวิ่งไล่จับก็ไม่บอก แต่เสียใจนะ คืนนี้เราออกกำลังกายกันแค่นี้ดีกว่า”

          ผมเบิกตาค้าง ก่อนร่างของผมจะถูกผลักติดกำแพงของบ้านหลังหนึ่ง เขาขยับเข้ามาใกล้ผม ออกแรงเค้นมือบีบคอของผม อาจจะไม่แน่นจนหายใจไม่ออก แต่ก็พอให้ทรมาน เจอร์โรมหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างพอใจที่สามารถทำให้ผมกลัวจนตัวสั่นได้

          “ปะ ปล่อยฉันเถอะได้โปรด” ผมอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

          “ปล่อยเหรอ ของเล่นที่น่าสนใจอย่างนาย ปล่อยไปก็คงเสียดายแย่” ริมฝีปากที่แสนจะหยาบโลนกระเซ้าแหย่ที่ใบหู มือทั้งสองข้างยกขึ้นดันแผ่นอกแข็งของคนตรงหน้าออก แต่เหมือนเอามือไปยันกำแพงหิน ผมโกรธตัวเองที่แค่นี้ก็ไม่มีปัญญาเอาตัวรอด

          เสียงเครื่องยนต์ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แสงไฟจ้าส่องเข้ามาจากปากทาง ฝูงหมาป่ากระโจนขึ้นไปยืนบนกำแพงเปิดทางให้รถยนต์ขับเข้ามาใกล้ เจอร์โรมปล่อยมือที่กำคอผมออก ผมทรุดตัวลงกับพื้นไอจนตัวโยน น้ำตารื้อคลอเต็มเบ้าตา

          “โยชิ! แกทำอะไรของแกวะเจอร์โรม” ผมเงยหน้ามองดาวเสาร์ที่วิ่งเข้ามาดูผม

          “ไม่ต้องยุ่ง พาเด็กนี่ไปที่รถ และถ้าแกขัดคำสั่งฉัน ต่อให้เป็นแกฉันก็ไม่เว้น” เจอร์โรมชี้หน้าดาวเสาร์ แล้วก็เดินไปขึ้นรถ ดาวเสาร์ส่ายหัวหงุดหงิดมองผมหน้าเครียด ก่อนจะพยุงผมตามไป

          “แกจะกลับหอพักหรือไปที่ไหน” ดาวเสาร์ถอยรถออกจากตรอกแคบ ผมที่นั่งข้างคนขับนั่งตัวเกร็ง มือบีบเข้าหากันวางไว้บนตัก อาซาจะรู้ไหมว่าตอนนี้ผมกำลังอยู่ในอันตราย แล้วเขาจะรู้ไหมว่าผมอยากเจอเขามากที่สุด

          “จะกลับไปในแอชยูให้โง่หรือไง เดี๋ยวไอ้อาซาก็ตามเจอหรอก ไปบ้านพักนอกเมืองโน่น”

          “เออ”

          ผมนั่งเงียบไปตลอดทาง ดาวเสาร์คอยหันมองผมเรื่อยๆ เสียงเพลงแจ็สที่เจอร์โรมสั่งให้ดาวเสาร์เปิดดังคลอเบาๆไม่เข้ากับบรรยากาศ อย่างน้อยๆก็ไม่ใช่ผมที่อยากฟัง สองข้างทางเปลี่ยนจากตึกรามบ้านช่องเป็นทางเปลี่ยวๆ มองแทบไม่เห็นอะไรเพราะก้อนเมฆบดบังแสงจันทร์ แถมไฟสองทางก็ไม่มี

          ถ้าผมเปิดประตูและกระโจนออกไปผมจะรอดไหม แค่คิดผมก็กลัวจนไม่กล้า เพราะถ้าทำอย่างนั้น นอกจากจะไม่รอดจากเงื้อมมือเจอร์โรมมนุษย์หมาป่าที่แสนร้ายกาจแล้ว ผมคงได้ตายก่อนจะหนี

          “ไม่ต้องกลัวหรอกนะโยชิ ฉันไม่ได้จะทำอะไรนาย นั่งเกร็งขนาดนั้นเดี๋ยวก็เป็นตะคริวหรอก”

          ไม่กลัวก็บ้าแล้ว โดนมนุษย์หมาป่าจับตัวมาใครบ้างจะไม่กลัว ผมคงหันไปยิ้มหน้าบานใส่เขาแล้วพูดอย่างยิ้มแย้มว่า ‘ยินดีให้บริการ อยากจับตัวเมื่อไหร่ก็ได้ทุกเมื่อ’ หรอกนะ

          “นายต้องการอะไรจากฉันเจอร์โรม”

          “อืม...อะไรดีล่ะ”

          ผมกัดปากตัวเองแน่นกับความยียวนกวนประสาทของเจอร์โรม ดาวเสาร์เพียงแค่ขับรถเงียบๆทำเหมือนไม่มีตัวตน

          “เพราะไอ้อาซาล่ะมั้ง ฉันถึงต้องการนาย” เขายื่นหน้ามาจากด้านหลัง ผมเอนตัวหนีทันที ผมกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าผมขยะแขยงสัมผัสจากเจอร์โรม อิมเมจดีงามของมนุษย์หมาป่าในหนังที่ผมเคยดูหายวับไปกับตา ตอนนี้ผมเกลียดสัตว์ชนิดนี้มากที่สุด!

          “นายรู้อะไรไหมโยชิ บาดแผลที่มันทำไว้กับฉันมันเจ็บแสบมาก มากจนฉันอยากจะฆ่ามันให้ตายด้วยน้ำมือของฉันเอง” 

          คำพูดและน้ำเสียงที่เอ่ยเบาๆเหมือนคนโรคจิตในหนังฆาตกรรม ผมแทบจะนึกภาพเจอร์โรมแสยะยิ้มด้วยความสะใจ ใบหน้าบูดเบี้ยวเปลี่ยนสีหน้าทุกๆสองวินาทีออก เขาน่ากลัวเกินไปแล้ว

          “แล้วมันเกี่ยวกับฉันตรงไหน!”

          ถึงผมจะไม่อยากให้เจอร์โรมทำอะไรอาซา แต่ที่เขาพูดมามันไม่เกี่ยวกับผมเลยสักนิด

          “เกี่ยวสิ เพราะนายเป็นคนสำคัญสำหรับมันไง สักวันฉันจะต้องฆ่ามันแน่ แต่ก่อนที่มันจะตาย มันจะต้องทรมานเหมือนตายทั้งเป็น และนายก็เป็นคนสำคัญสำหรับมัน ลองคิดดูสิ ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหนถ้าหากคนรักของมันต้อง...”

          “พอแล้วเจอร์โรม! เรื่องนี้โยชิไม่เกี่ยว นายช่วยอย่าเอามารวมกันได้ไหม อย่างน้อยก็เห็นแก่ฉัน เขาเป็นเพื่อนฉัน!”

          ดาวเสาร์ที่นั่งเงียบมานานตะโกนเสียงดัง มือที่จับพวงมาลัยกำแน่น เสียงของเขาฟังดูโกรธจัด ผมไม่คิดว่าดาวเสาร์มีใจอยากช่วยผม เพราะถึงเราจะเป็นรูมเมตกัน แต่ผมเจอหน้าเขาแทบนับครั้งได้ ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องทำให้ตัวเองเดือดร้อนเพราะผม

          “นายคิดผิดแล้วเจอร์โรม ฉันไม่มีความสำคัญอะไรกับอาซาทั้งนั้น เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” ผมพูด

          “ฉันดูโง่มากนักเหรอโยชิ” เจอร์โรมพูดสวนกลับ

          “แต่ฉันพูดความจริง ถ้าฉันสำคัญจริง เขาจะบอกว่าไม่อยากคบฉันเหรอ เขาปล่อยให้ฉันออกมาข้างนอกจนเจอนายกับหรือไง แล้วที่ฉันหายหน้าไปก็เพราะว่าฉันบาดเจ็บต่างหาก ไม่ใช่เพราะเขาซ่อนฉันไว!”

          “น่าเชื่อมาก ฉันปรบมือให้เลย” เขาปรบมือจริงๆ

          “แต่ขอโทษ ฉันเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง”

          บ้าเอ้ย! โง่บ้างไม่เป็นหรือไงวะ!

          กริ๊งงงงง กริ๊งงงงง

          เสียงโทรศัพท์ดังขัดบทสนทนา ไม่ใช่ของผมและไม่ใช่ของดาวเสาร์ เพราะงั้นก็คงเป็นของเจอร์โรม เขารับสายก่อนจะกรนด่าลั่นรถ ผมสะดุ้งตกใจ นับวันยิ่งขวัญอ่อนเข้าไปทุกที เจอร์โรมวางสายแล้วสั่งให้ดาวเสาร์เร่งเครื่อง ผมเหลือบมองหน้าเข็มตรงหน้าปัด จากหนึ่งร้อยค่อยๆเคลื่อนไปอยู่ที่ร้อยยี่สิบ และมันกำลังจะไปถึงร้อยสี่สิบเมื่อเจอร์โรมเร่งว่าให้ขับเร็วยิ่งขึ้น

          “พะ พอแล้ว เดี๋ยวก็ตายกันหมดหรอก!” ผมร้องประท้วง แต่ไม่มีใครฟังผม เจอร์โรมทำเพียงแค่หัวเราะแบบคนโรคจิต หรือที่แท้ก็คือเขาเป็นคนโรคจิตที่กำลังหัวเราะเยาะผมอยู่

          “ไม่ตายหรอก แต่ถ้าช้ากว่านี้ตายแน่ๆ” เจอร์โรมพูดเสียงเย็นเฉียบ แต่อุณหภูมิในรถกำลังสูงขึ้น ร้อนขึ้นเหมือนไม่ได้เปิดแอร์ ผมเสมองสองข้างทาง รถวิ่งผ่านอย่างเร็วจนมองอะไรไม่เห็น สายตาไม่สามารถจับภาพข้างนอกได้

          “ที่นายบอกว่านายไม่สำคัญสำหรับไอ้อาซา ฉันคิดได้สองอย่าง ถ้านายไม่โกหกฉัน นายก็เข้าใจผิดไปเองโยชิ”

          “หมายความว่าไง” ผมหันไปทางด้านหลัง ใบหน้าร้ายกาจของเจอร์โรมเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราด เขาถลึงตามองจ้องผม แล้วพูดเสียงลอดไรฟันช้าๆชัดๆว่า...

          “มันกำลังมา!”

          “ห๊ะ?”

          “มันรู้แล้วว่านั่นเป็นแผนของฉัน และมันกำลังมา ไหน...บอกฉันหน่อยสิว่าคนไม่สำคัญอย่างนาย มันจะมาช่วยทำไม!”

          “ฉะ ฉันไม่รู้”

          “เหอะ! แต่เอาเถอะ ถึงมันมา มันก็สู้ฉันไม่ได้ เพราะที่นี่ถิ่นของฉัน ฮ่าๆๆ”

          ผมยกมือขึ้นกอดตัวเอง รู้สึกดีที่ได้ยินว่าอาซาตามมาช่วยผม แต่อีกใจหนึ่งผมไม่อยากให้เขามาเลย ผมเป็นห่วง ไม่อยากให้เขาเป็นอันตราย ถ้าแถวนี้เป็นถิ่นของเจอร์โรม อาซาต้องแย่แน่ๆ เขาเป็นงูจะรับมือกับหมาป่าทั้งฝูงได้ยังไง

          รถหักเลี้ยวซ้าย ทางตรงหน้ามืดมิดไม่เห็นสิ่งใด ความเร็วรถลดลงแต่ก็ไม่มาก ผมนั่งเกร็งตลอดทาง สายตาก็คอยสอดส่องหาว่าอาซาจะมาที่นี่หรือไม่





          ‘โยชิ รอฉัน อย่ากลัวคนดี ฉันกำลังจะไปช่วยนาย’





          เสียงนั่น?!

          ผมหันไปเกาะกระจกรถมองออกไปข้างนอก เสียงอาซา ผมได้ยินเสียงเขา ไม่ใช่หูฝาดไปแน่ๆ ผมแน่ใจว่าผมได้ยิน


          “กลิ่นงู เวรเอ้ย! จอดรถ!”


          เอี๊ยดดด!!!!

          ปึก!!!

          “โอ๊ย!” หัวผมโขกเข้ากับกระจกหน้ารถเพราะดาวเสาร์เบรกรถกะทันหัน และมันแรงพอที่หัวผมจะแตกแล้วเลือดก็ไหลออกมาจากหัว ผมกำลังช็อคกับบาดแผลของตัวเอง แต่ดาวเสาร์ได้สติกว่าคว้าคอผมเข้าไปดู ก่อนที่หน้าของเขาจะช็อคตกใจยิ่งกว่าผม ยิ่งทำให้ผมเครียดหนักว่าบาดแผลของผมคงหนักกว่าที่คิด

          “โยชิ นายเป็น...”

          “หึหึ! พ่องูมาตามลูกงูสินะ”

          ตึ้ง!

          มีบางสิ่งบางอย่างกระแทกเข้ากับตัวรถอย่างแรง ทำเอาตัวรถไถลเข้าข้างทางที่เป็นป่า เจอร์โรมพุ่งออกไปนอกรถโดยสั่งทิ้งท้ายให้ดาวเสาร์ดูผมไว้ ผมประคองตัวเองให้เข้าที่ มือกดบาดแผลที่หัวห้ามไม่ให้เลือดไหลหนักยิ่งกว่าเดิม สายตามองออกไปนอกรถ แล้วผมก็ต้องเบิกตากว้างอ้าปากค้าง

          งูตัวใหญ่สีดำสนิทจนแทบกลืนไปกับความมืดชูคอสูงเท่าตึกสองชั้น ใหญ่ยิ่งกว่าตอนที่จูเลียตกลายเป็นงูเสียอีก นอกจากงูสีดำผมยังเห็นงูตัวสีขาวที่มีขนาดเล็กกว่าตัวสีดำอยู่พอประมาณ ถ้าให้ผมเดา ต้องเป็นอาซากับฟรินน์แน่ๆ ข้างหน้าพวกเขาคือหมาป่าร่างยักษ์จำนวนสองตัว กับหมาป่าตัวเท่าที่ผมเห็นในตรอกนั่นอีกนับไม่ถ้วน แสงไฟจากหน้ารถสาดส่องไปที่พวกเขา

          “นายต้องทำแผลโยชิ!”



          เปรี้ยง!!



          ฟ้าผ่าลงมาตรงกลางที่พวกอาซาและเจอร์โรมประจันหน้ากันอยู่ ผมไม่สนใจเสียงของดาวเสาร์ ไม่สนว่าเขาจะยุ่งกับหัวผมยังไง เพราะผมกำลังจ้องการต่อสู้ตรงหน้าไม่วางตา ใจผมเต้นแรงมากจนแทบจะกระเด็นออกมานอกอก ดวงตาสีอำพันเหลือบทองของอสรพิษร่างยักษ์มองสบตากับผมเหมือนเขาจะรู้ว่าผมอยู่ตรงไหน ก่อนที่เขาจะถูกเจอร์โรมในร่างหมาป่ากระโจนเข้าใส่แล้วงับที่ส่วนคอ ผมสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเหมือนโดนกัดเข้าเสียเอง แต่แวบเดียวอาซาก็สลัดเจอร์โรมออกจนร่างหมาป่าสีน้ำตาลทองลอยไปกระแทกกับพื้นอย่างแรง หมาป่าหลายตัวพุ่งทะยานเข้าเล่นงานอาซากับฟรินน์ด้วยความบ้าคลั่ง ผมเฝ้าดูอย่างหวั่นใจ ได้แต่ภาวนาให้อาซาและฟรินน์ชนะไอ้หมาบ้าพวกนั้น ต่อให้เจอร์โรมตายผมก็ไม่เสียใจให้หรอก เขาไม่มีความสำคัญที่ผมต้องห่วง เพราะผมเกลียดเขา!

          “โยชิ นายรออยู่นี่ ฉันจะไปช่วยเจอร์โรม!” ดาวเสาร์จับหน้าผมที่กำลังจ้องอาซาให้หันไปมองเขา ผมส่ายหน้าทันที

          “ไม่ได้ นายออกไปนายตายแน่!” ถึงผมจะเกลียดเจอร์โรม แต่ดาวเสาร์เป็นข้อยกเว้น อย่างน้อยเข้าก็เป็นรูมเมตของผม

          “แต่เจอร์โรมเป็นเพื่อนฉัน ฉันต้องไปช่วยมัน”

          “แล้วฉันล่ะ” ถึงอาซาจะมาช่วยผมแต่ผมคิดว่าต้องการเพื่อน



          “นายเป็นงู นายจะกลัวอะไร แต่ไม่ต้องห่วง พวกเราจะไม่ทำร้ายนาย เพราะเจอร์โรมต้องการจัดการแค่อาซา”



          ประโยคหลังๆผมแทบไม่สนใจ แต่ไอ้ประโยคที่ดาวเสาร์บอกว่าผมเป็นงูหมายความว่ายังไง

          “เดี๋ยว!” ผมรั้งแขนดาวเสาร์เอาไว้ก่อนที่เขาจะพุ่งจากรถ เสียงการต่อสู้ดังมากขึ้นทุกที พื้นสั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว ผมได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังระงม ไม่รู้ใครเป็นฝ่ายเจ็บ แต่เรื่องที่ดาวเสาร์พูดดึงความสนใจจากผมไปเสียหมด

          “นายบอกว่าฉันเป็นงู หมายความว่ายังไง!” ผมเผลอเสียงดังด้วยความลืมตัว และดาวเสาร์ยังไม่ทันได้ตอบคำถามผม ผมก็ตะคอกใส่หน้าเขาอีกรอบ

          “ฉันเป็นคน เป็นมนุษย์ธรรมดา ไม่ใช่งู!”

          “ใจเย็นๆโยชิ ฉันต้องรีบออกไปช่วยไอ้เจอร์โรมที่กำลังจะถูกไอ้อาซาฆ่าตาย! และเรื่องที่นายจะเป็นงูหรือไม่ เลือดของนายมันก็ฟ้องอยู่ทนโท่ นายมีเลือดงูอยู่ในร่างกาย เข้าใจไหม!”

          ปึง!

          ดาวเสาร์ลงไปแล้ว เขากระโดดทีเดียวก็กลายร่างเป็นหมาป่าสีแดงเพลิงตัวใหญ่เท่าๆกับเจอร์โรม ผมรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้หายใจอยู่ หมายความว่ายังไงที่บอกว่าผมเป็นงู

          ภาพที่อาซาตวัดลำตัวยาวใหญ่ฟาดเข้าที่หมาป่าหลายตัวอย่างแรงทำเอาพวกมันกระเด็นไปคนละทิศละทาง แต่บนตัวของเขาก็มีหมาป่าอีกหลายตัวกัดแน่นไม่ปล่อย ร่างใหญ่ยาวเลื้อยฟาดพวกมันหลายทีติดเหมือนเกิดพายุขึ้นบนพื้น พวกหมาป่ามีมาเพิ่มเรื่อยๆ ผมรู้สึกได้ว่าอาซากำลังโกรธจัด ตาของเขาฉายแสงเรืองรองก่อนที่เขาจะพ่นไฟออกมา ผมเผลอกระถดหนีเพราะตกใจคิดว่าไฟนั่นมันจะมาถึงรถ เสียงร้องของหมาป่าที่ถูกไฟเผาไหม้กรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาน


          ‘แกกล้าดียังไงเข้ามาในเขตเราไอ้พวกอสรพิษโสมม!’

          ‘นายเป็นอะไรโยชิ!?’

          ‘หมายความว่ายังไง’

          ‘นายโง่หรือไง นายไม่ใช่มนุษย์!’

          ‘อาซา เราต้องใช้เลือดพวกนาย...เด็กนี่ไม่ใช่คนปกติ นายรู้ใช่ไหม’


          ภาพเก่าๆแวบเข้ามาในหัวทับซ้อนกับภาพต่อสู้ระหว่างสัตว์สองชนิดตรงหน้า ผมหายใจแรงด้วยความหวาดกลัวต่อสิ่งรอบข้างและผมกำลัง...กลัวตัวเอง

          ผมเป็นเหมือนพวกเขาเหรอ

          “ไม่จริง...แกเป็นคนโยชิ แกเป็นคนปกติ!” ผมตะโกนลั่นรถ ยกมือขยุ้มหัวตัวเอง กัดฟันข่มเสียงสะอื้นเอาไว้ในลำคอ พยายามสงบสติอารมณ์ไม่ให้เตลิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพวกข้างนอกอีกครั้ง

          งูตัวสีเขียวยักษ์ปรากฏกายออกมาอีกตัว ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เขามาช่วยฟรินน์ที่กำลังถูกหมาป่านับสิบตัวรุมกัด แล้วหมาป่าพวกนั้นก็กลายเป็นหินก่อนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

          ทำไมกลายเป็นหิน?

          บาซิลิสก์ เป็นงูใหญ่ที่น่ากลัวและน่าสยดสยองในตำนานกรีกและยุโรป ซึ่งแค่มองผ่านเหยื่อก็ทำให้เหยื่อตายได้ ในทำนองเดียวกับ เมดูซ่า...

          หรือว่า...ข่าวคนตายพวกนั้น!?

          ปึก!

          “โอ๊ย!!!”

          แขนผมถูกกระชากลงจากรถอย่างแรง ตัวผมไถครูดไปกับพื้นดิน ผมรู้สึกได้เลยว่าก้อนหินจำนวนมากครูดและฝังลงไปในเนื้อผม ผมกัดฟันพยุงตัวขึ้นจากพื้น มองหน้าคนที่ลากผมลงมาจากรถ เขาเป็นเพื่อนของเจอร์โรม หนึ่งในสองคนที่ผมเจอในผับ Magic แต่ผมจำไม่ได้ว่าเขาชื่ออะไร เขาเหวี่ยงผมลงกับพื้น กระแทกอย่างแรงทั้งเจ็บและจุก ก่อนจะถูกน้ำหนักบางอย่างเหยียบเข้าที่กลางหลังอย่างแรงจนขยับตัวไม่ได้

          “ไอ้อาซา! ถ้าแกไม่ปล่อยไอ้เจอร์โรม คนรักของแกตายแน่!”

          ผมขยับตัวไม่ได้เพราะถูกกดทับเอาไว้แนบกับพื้น ฉับพลันทุกอย่างสงบนิ่ง พื้นไม่สั่นสะเทือน มีเพียงเสียงร้องโอดโอยของสัตว์ที่ใกล้จะตาย ผมผงกหัวขึ้นมอง อาซาในร่างงูสีดำมองมาทางผม หางของเขาเลื้อยรัดตัวหมาป่าสีน้ำตาลแน่นจนมันร้องคำรามเสียงต่ำด้วยความเจ็บปวด แววตาสีอำพันจ้องเหยื่อของตัวเองสลับกับผม

          “ปล่อยเขา!” เสียงอาซาดังกังวานด้วยความโมโห

          “ฉันปล่อยแน่ แต่แกต้องปล่อยเพื่อนฉันก่อน!” แรงเหยียบที่กดลงมาบนตัวหนักมากขึ้น ผมคิดว่ากระดูกผมกำลังจะร้าว ผมหายใจไม่ออกและอาซาก็คงรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังรู้สึกอย่างไร เขาส่งเสียงขู่ด้วยเสียงของงู มันดังจนทำให้หมาป่าร้องครางเพราะแสบแก้วหู แต่ผมกลับไม่เป็นอะไร ยิ่งตอกย้ำสิ่งที่ดาวเสาร์พูดให้ผมตัวชาวาบทั้งตัว

          “ปล่อยคนของฉันซะ แล้วฉันจะปล่อยไอ้เจอร์โรม แต่ถ้าแกไม่ทำ ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด ให้ราบเป็นหน้ากลอง!!!”

          “ได้!!!”

          ตัวผมถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ผมสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่พลิกตัวนอนหงายในเวลาเดียวกับที่พื้นสั่นสะเทือนอีกรอบเพราะบางสิ่งบางอย่างกระแทกพื้นโครมใหญ่ ผมไอจนกระอักเลือดออกมา ผ้าที่ปิดแผลที่หัวคลายตัวหลุด ปวดจนหัวแทบแตก ร่างกายก็เจ็บระบมร้าวไปทั้งตัว

          “โยชิ! เป็นอะไรไหม” เสียงอาซาดังเหนือหัว ผมกัดฟันลืมตา เขาไม่ได้อยู่ในร่างงู แต่อยู่ในร่างของคนปกติ ผมมองจ้องอาซาด้วยดวงตาที่สั่นระริก ใบหน้าของเขามีบาดแผลประปราย แต่ตามลำตัวก็มีรอยคมเขี้ยวเต็มไปหมด สุดท้ายผมก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ โผเข้ากอดอาซาร้องไห้เสียงดัง อาซากอดผมแน่น ลูบหัวผมเบาๆเหมือนจะกลัวผมเจ็บ

          “อาซา ฮือ ฉันกลัว กลัวเหลือเกิน”

          “ชู่ว์ ไม่เป็นไรแล้วคนดี ฉันอยู่นี่แล้วนะ




ต่อข้างล่าง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 06-07-2014 00:26:04
          ...................................

          ASA

          ผมก้มมองโยชิที่นอนหลับบนตักผมในรถของปารีสที่ขับมารับ หลังจากร้องไห้ปานจะขาดใจเขาก็ผล็อยหลับไปด้วยความเพลีย เนื้อตัวมีแต่แผล เลือดที่หัวก็ไหลไม่หยุด เห็นแล้วผมอยากจะกลับไปจัดการพวกไอ้เจอร์โรมอีกสักรอบ ฟรินน์ที่นั่งอยู่ข้างผมนั่งเช็ดแผลของตัวเองพลางคอยก้มลงมองโยชิด้วยความเป็นห่วง เวสตันที่นั่งหน้าคู่กับจูเลียตก็มีสีหน้าหนักใจไม่แพ้กัน

          ปารีสอ้อมเข้าทางด้านหลังมหาวิทยาลัยเพราะสามารถขับรถเข้าไปได้ ผมอุ้มโยชิขึ้นแนบอกพาเข้าไปในตัวบ้าน จูเลียตวิ่งออกมาดูด้วยความร้นรน พอเห็นสภาพพวกเราแล้วก็ทำหน้าตกใจ ผมสั่งให้เธอโทรตามไอ้คาร์เตอร์มาให้ที่นี่

          “เดี๋ยว! นี่พวกนายไปมีเรื่องจนบาดเจ็บเพราะโยชิอีกแล้วเหรอ!”

          “ถอยไปจูเลียต แค่ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ!”

          “นายจะพามันกลับมาทำไมอีก อยู่ไปก็มีแต่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน!”

          “หุบปาก!” ผมหันหลังกลับไปจ้องจูเลียตอย่าโกรธจัด กล้าดียังไงถึงพูดว่าคนที่ผมรักถึงขนาดนี้

          “พอๆจุเลียต ไปโทรหาไอ้คาร์เตอร์ซะ ส่วนนายอาซา พาโยชิขึ้นห้องซะ” เวสตัวเข้ามาแทรกระหว่างผมกับจูเลียต ผมไม่สนใจว่าเธอจะคิดยังไง ช่างเถอะ ผมไม่เคยสนใจ โยชิเป็นของผม ผมดูแลเขาเองได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งคนอย่างเธอ

          “อือ เจ็บ” เขารู้สึกตัวในขณะที่ยังอยู่ในอ้อกกอดของผม

          “ตื่นแล้วก็อาบน้ำก่อนนะ ฉันให้จูเลียตโทรตามไอ้คาร์เตอร์แล้ว เดี๋ยวมันก็มา” ผมวางเขาลงบนเตียง ก่อนจะผละไปที่ห้องน้ำ จัดการเตรียมน้ำอุ่นให้เขาอาบ แล้วก็ออกมาพยุงคนตัวเล็กที่คงจะมึนไม่น้อยเข้าห้องน้ำ ผมเปิดผมที่หน้าผากสวยเพื่อสำรวจแผล เลือดหลุดไหลแล้ว เพียงแค่ซึมเท่านั้น ผมใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดคราบเลือดเบามือ แต่คงจะเบาไม่พอเพราะคนตัวเล็กสะดุ้งหนีพลางทำหน้าเหยเก

          “เจ็บมากไหม” ผมถามด้วยความเป็นห่วง อยู่กับผมก็มีแต่ทำให้เขาเจ็บตัวและร้องไห้

          “เจ็บ” เขาพูดเสียงสั่น

          ผมพยายามทำให้เบามือขึ้น จนคราบเลือดออกเกือบหมด ผมถอดเสื้อผ้าเขาออก โยชิที่เหมือนคนไม่ได้สติยิ่งทำให้ผมร้อนรนกระวนกระวายใจเข้าไปใหญ่ ขนาดผมเปลื้องผ้าเขาจนเหลือแต่กายเปลือยเปล่าเขายังไม่รู้สึกตัวเลย แต่พอผมเปิดฝักบัวฉีดล้างเศษดินเศษหินที่ติดอยู่บนขาและแขนเขาก็สะดุ้งอีกรอบ ก่อนจะรู้สึกตัวว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าหลงเหลือบนเนื้อกาย

          “เอ่อ...” เขารีบหันหลังหนีสายตาผม ก่อนจะขยับขาก้าวลงไปในอ่างอาบน้ำที่ผสมครีมอาบน้ำเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

          “อาบเองได้ใช่ไหม” ผมถาม โยชิพยักหน้าอายๆ

          “มีอะไรต้องเรียกฉันนะ รู้ไหม” ผมบอกอีกรอบ เขาก็ทำตัวว่าง่ายเป็นเด็กดี ผมจึงยอมให้เขาอาบน้ำแบบส่วนตัว แต่ไม่ได้ล็อคห้องน้ำไว้เพราะกลัวเขาเป็นอะไร ผมจะได้เข้าไปช่วยทัน

          ส่วนตัวผมเองเดินไปอาบน้ำที่ห้องอื่น ผมรีบอาบน้ำลวกๆเพราะอยากรีบกลับไปดูแลโยชิ ไว้ให้อะไรเรียบร้อยก่อนแล้วผมค่อยอาบใหม่อีกรอบ

          กลับเข้าไปในห้อง ผมเจอจูเลียตนั่งอยู่บนเตียงของผม พร้อมอุปกรณ์ทำแผล แต่ผมไม่เห็นโยชิ

          “เรื่องเมื่อสักครูฉันขอโทษ ฉันแค่เป็นห่วงพวกนายมากไปเท่านั้น”เธอบอกด้วยแววตาสำนึกผิด

          “อืม”

          “ฉันเอาเลือดมาให้” จูเลียตยิ้มดีใจก่อนจะยืนแก้วที่มีเลือดเต็มปริ่มมาให้ ผมหรี่ตามองเธอด้วยความสงสัย ผมไม่ได้อยากดื่มสักหน่อย

          “นายเพิ่งไปต่อสู้มา นายก็รู้ว่าร่างกายนายต้องการมัน ดื่มสิ จะได้รู้สึกดีขึ้น” เธอพูด ผมหลุบตามองแก้วเลือดในมือเธอ เรื่องที่เธอพูดเป็นเรื่องจริง พวกผมก็ไม่ได้ต่างจากอมนุษย์ที่ทุกคนเรียกมันว่าแวมไพร์ พวกผมกินเลือด แต่นั่นมันอดีต ปัจจุบันพวกผมพยายามอยู่ให้ได้ด้วยอาหารมนุษย์ แต่ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว การดื่มเลือดสดๆแก้วหนึ่งเท่ากับผมกินอาหารของมนุษย์ปริมาณสิบจานถึงยี่สิบจาน นั่นหมายความว่าเลือดเพียงแก้วเดียวสามารถเพิ่มพลังให้กับผมได้อย่างรวดเร็วและเติมเต็มได้มากกว่า

          “ขอบใจ”

          ผมรับมาดื่มโดนไม่ทันได้สังเกตอะไรก่อนจะเดินไปที่หน้าประตูห้องน้ำ เตรียมจะเคาะเรียกคนข้างใน แต่ก็ต้องนิ่งค้างเพราะจูเลียตกอดผมจากด้านหลัง และที่ทำให้ผมตกใจก็คือ ตัวของเธอไร้เสื้อผ้า

          “เธอจะทำอะไรจูเลียต ไปใส่เสื้อผ้าซะ” ผมกัดฟันพูด ผมไม่รู้ว่าจูเลียตต้องการอะไร แต่จะเพราะเหตุผลอะไรก็ตามเธอก็ไม่สมควรทำแบบนี้

          “ฉันรักนายอาซา ฉันรักนาย ได้ยินไหม” จูเลียตพูดชิดติดแผ่นหลังของผม ผมเบี่ยงตัวหนีโดยที่ไม่หันไปมองเธอ แต่เธอไม่หยุดแค่นั้น เบี่ยงกายมายืนอยู่ตรงหน้าผม ออกแรงผลักผมไปทางเตียง ผมเพียงแค่ปัดป้อง จ้องหน้าเธออย่างเดียวไม่มองต่ำไปมากกว่านั้น

          “อย่าทำอะไรบ้าๆ ฉันเอาเธอตายแน่!”

          จู่ๆร่างกายผมก็อ่อนแรง ผมรู้สึกโมโหตัวเองที่หลงกลลูกไม้ตื้นๆพวกนี้ จูเลียตออกแรงผลักผมอีกครั้ง ถ้าเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคงไม่มีแรงมากขนาดนี้ ผมล้มลงไปบนเตียง ยังไม่ทันลุกเธอก็ขึ้นมานั่งคร่อมผมไว้ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย แต่คิดว่าผมจะสนใจหรือไง ผมดันเธอออกแต่ผมกลับรู้สึกปวดหนึบที่กึ่งกลางกาย และมันรุนแรงจนผมเองยังตกใจ

          “เธอทำแบบนี้ทำไม!” ผมกดเสียงต่ำ กลัวโยชิที่อยู่ในห้องน้ำจะได้ยิน

          “เพราะฉันรักนายไง นายเคยรู้บ้างไหม ฉันแอบรักนายมาตั้งเท่าไหร่ แต่นายไม่เคยเห็นไม่เคยมองเลย!” จูเลียตพูดทั้งน้ำตา เธอกดไหล่ผมลงกับเตียง บดเบียดร่างกายเข้ากับตัวผม แรงเสียดสีทำให้ร่างกายผมรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิม และมันยังทำให้ร่างกายอ่อนแรงมือไม้อ่อนปลวกเปียก

          ยาชนิดนี้...ผมรู้จัก!

          มันมีไว้ใช้กับผู้หญิงเท่านั้นเพราะจะทำให้ไม่มีแรงขัดขืนแต่มีฤทธิ์ให้มีอารมณ์ร่วม ไม่มีสีไม่มีกลิ่น และจูเลียตคงใส่ลงไปในเลือดแก้วนั้นไม่น้อย เธอก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างแก้มผม ผมออกแรงผลักเธอออก ผุดลุกขึ้น แต่ยิ่งออกแรงเรี่ยวแรงยิ่งหาย และมันคือสรรพคุณชั้นเยี่ยมของยาตัวนี้ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสรรพคุณชั้นเลว

          เวรเอ้ย!

          อย่าให้ผมเจอไอ้คาร์เตอร์คนคิดค้นยาสูตรนี้นะ ผมจะฆ่ามันก่อนคนแรกเลย!!!

          “ไม่ต้องห่วง ถ้านายยอมดีๆ ฉันจะเปลี่ยนเป็นยาที่ทำให้นายมีแรงมากขึ้น” เธอพูดทั้งน้ำตานองหน้า ผมคอยมองไปที่ประตูห้องน้ำ โยชิเงียบหายไปจนผมใจไม่ดีว่าเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า

          “ลุกออกไปจูเลียต!”

          “ไม่! นายเอาแต่มองโยชิ รู้ไหมว่าทุกครั้งที่ฉันเห็นสายตานายที่มองไอ้เด็กนั่นฉันเจ็บปวดขนาดไหน เป็นฉันไม่ได้หรือไงที่นายจะรัก ฉันเคยเตือนนายแล้วใช่ไหมว่าไอ้เด็กนั่นจะทำให้นายเดือดร้อน แล้ววันนี้เป็นไง นายบาดเจ็บกลับมา พวกเราบาดเจ็บเพราะมัน ฉันยอมไม่ได้หรอกนะ ฉันจะไม่ยอมยกนายให้มัน!”

          ความร้อนรุ่มในกายเพิ่มสูงขึ้น ผมออกแรงอันน้อยนิดดันเธอออก กระเถิบตัวจะลงจากเตียง แต่จูเลียตออกแรงล็อคคอผมทุ่มกับลงกับเตียงอย่างแรง

          “อย่าทำแบบนี้จูเลียต ไม่งั้นฉันจะฆ่าเธอแน่ และฉันจะทำมันจริงๆ เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยขู่”

          “ก็เอาสิ แต่หลังจากที่นายและฉันเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว อยากจะรู้นัก ว่าถ้าโยชิเปิดออกมาเจอนายกับฉันกำลังอยู่บนเตียงด้วยกัน มันจะเป็นยังไง ถ้าฉันจะตาย ฉันก็ขอตายไปกับความรักของพวกนาย!”

         


.......................................................

          ตอนนี้ไม่ค้างเนอะ :m20: #โดนถีบ :z6:

          ถามจริงนะ คาร์เตอร์แกเป็นคนยังไงเนี่ย ถึงคิดค้นไอ้ยาแบบนั้นขึ้นมา เสือหื่นเอ้ย! ใครได้เป็นคู่แกซวยแน่ๆ :m10:  :haun4:

          ตอนนี้คงไม่ได้สนทนาพาทีอะไรมาก เอาเป็นว่า มาลุ้นกันว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อไป เรามีตัวเลือกให้คุณ คำถามถามว่า “จากเหตุการณ์ข้างต้น คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้”

          ก.   อาซาผลักจูเลียตรวบรวมเรี่ยวแรงออกจากตัว ปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่า “ออกไป! ก่อนที่จะกลายร่างเป็นงู”
          ข.   อาซาสู้แรงจูเลียตไม่ได้เพราะฤทธิ์ยา ถูกนางกระทำชำเราไม่มีชิ้นดี
          ค.   โยชิเปิดประตูห้องน้ำออกมาก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น และช่วยอาซาของเราไว้ได้ทัน
          ง.   โยชิเปิดประตูออกมา เข้าใจผิด วิ่งหนีออกไปจากห้อง
          จ.   คาร์เตอร์เคาะประตูขัดจังหวะตอนที่จูเลียตยั่วอาซา และอาซาก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเอายังไง แต่ก็รอดหวุดหวิดเพราะเจ้าของยามาถึงที่
          ฉ.   คนอ่าน: ฉันคิดว่าไม่ใช่สักข้อ ความจริงมันต้อง...............(จงเติมเหตุการณ์ต่อไปลงในช่องว่าง)..................


          ส่งคำตอบมาได้ทางที่อยู่ข้างล่างนี้ (ล่างไหน?) ตอบถูกไม่มีรางวัล แต่มันหมายความว่าคุณ ฉลาดเอ่าะ! เดี๋ยวนะ อะไรนะโยชิ อ่อ....โยชิบอกว่าใครตอบถูกให้เอาพี่งูไปนอนกอดนอนเลื้อยกันได้คืนหนึ่ง กร๊ากกกกก พี่ขอตอบด้วยน้อง! #โดนถีบอีกรอบ :z6:


          ขอบคุณคนอ่านทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า ที่ไม่ว่าหน้าไหนก็น่ารัก อั๊ยย่ะ! เลิฟยูววววววว :mew1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 06-07-2014 00:37:27
ทะเลาะกันขนาดนี้โยชิไม่ได้ยินนี่หูหนวกแล้วนะ =[ ]=


นั่งฟังป้าจูปล้ำอาซา  แล้วออกมาช่วยอาซาแบบพระเอกหนังไทย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: platy ที่ 06-07-2014 00:40:59
ขอ ก กับ จ ได้มั้ยยย
ข้ออื่นน้องทำใจไม่ดั้ยยยยยยย  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Firebird ที่ 06-07-2014 00:51:07
ก+จ+ฉ กับโยชิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 06-07-2014 00:57:08
ตะเองงงงงมาเสียดึกเรยยยย มาต่อไวๆๆ นะ อย่าปล่อยให้เค๊าค้างนานล่ะ ริริจ๋าาา  :ling1: :mew2: :z3: :serius2: :angry2: :mew5: :katai1: :ling3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 06-07-2014 00:59:52
 :katai1: :katai1:  เอิ่ม...โยชิออกจากห้องน้ำกระโดดถีบขาคู่เข้ายอดอกป้าจูเลียตเป็นคำตอบสุดท้าย=3= ชิช๊ะ
+1เป็ดด้วยความค้าง 555 :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 06-07-2014 01:05:07
อยากให้เป็นข้อ ค. จุง

จูเลียตจะได้รู้ว่า โยชิ ไม่ใช่ เด็กๆนะ ชริส์ 

แต่อาจจะเป็นข้อ จ. ก็ได้
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 06-07-2014 01:06:48
โยชิออกมากเจอและช่วยอาซาไว้  (อย่าให้โยชิงี่เง่าโดยการวิ่งหนีไป หรือ เข้าใจผิด  )

และ ฉ . โยชิ เสร็จ อาซา  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 06-07-2014 01:15:08
เฮือกกก ใจร้ายยย ค้างอ่าาาา  :katai1:  :hao5:
คาดว่าที่น่าจะเป็นไปได้ คือ อาซาแกล้งยอม แม่จูจะได้ให้ยาที่มีแรง
ละพอมีแรงก็จัดการแม่จูที่กะลังเคลิ้ม คาเตอร์มาถึงพอดี ลากแม่จูนั้นออกไปได้
หนูโยชิออกมาแบบไม่รู้อะไร พ่ออาซาของเรายังอารมณ์ค้างอยุ่ หนูโยชิเลยเป็นผู้ที่โดนกระทำแทนแม่จู  :z1:  :haun4:
ยังไงก็แค่การมโน ที่สำคัญคือรอตอนหน้าใจจดใจจ่อนะคะ รีบมาต่อน้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 06-07-2014 01:20:35
ก่อนอื่นต้อง..... ไม่ค้างเลยค่ะ :katai1: :katai1: :z3: :z3: :z3: :katai4:
ย๊าาาาา ทำกับเราอย่างนี้ได้ยังไงง ฮื้ออออ มาทำให้ค้างเเล้วก็จากไปนะคุณริริ :fire:
ดาวเสาร์ใจหล่มากเลยย เราชอบจังง ไม่มีคู่มาคู่กับเราได้นะนายหมาป่า! #เขิน
แล้วก็เหตุการณ์ต่อไปขอเลือก ฉ.โยชิหน้ามืดเกิดอารมณ์หึงหวง ระเบิดพลังซูเปอร์ไซย่าไล่ตบจูเลียตจนทั้งบ้านเเห่เข้ามาาาา
ขอโยชิอย่าวิ่งหนีไปเลยนะ มาช่วยอาซาก่อนนนนนโอ้ย คุณริริพูดถึงคู่คาร์เตอร์เเล้วอยากอ่าน โอ้ยๆๆๆ อยากอ่านเเล้ว!
ยังไงก็รอนะค่ะคุณริริทำเราค้างนี้เสียใจจริงๆนะค่ะ สู้ๆค่ะจะรอที่ท่านํ้าทุกวันเลยนะค่ะ! :กอด1: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 06-07-2014 01:27:17
อย่าเป็น ง. แล้วกัน น้ำเน่าไป ถึงจะเข้ากับงูอย่างพวกอาซาก็เถอะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 06-07-2014 01:28:12
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าค้างมาก ส่วนตอนต่อไปคาดว่า ธบชิสามารถช่วยอาซาได้ทันนนและสองคนนี้ก้...กัน :z1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 06-07-2014 01:53:57
อยากตบยัยจูเลียตตตต
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 06-07-2014 02:04:15
ไม่ค้างเลยค่ะ ไม่ค้างเลยยยยยยยยยยยยยยย

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

อยากให้เป็นข้อค.นะ คึคึ

 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 06-07-2014 05:02:54
เอา ก กับ ค รวมกันได้มั้ยอ่ะ
แต่เปลี่ยนข้อ ก จากผลักเป็นถีบ
แล้ว ค โยชิออกมาแล้วมาช่วยกระทืบจูเลียตให้ตายไปเลย
เกลียดมันจังงงง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 06-07-2014 06:37:17
ตอบ จ. ละกัน แล้วคือมันค้างตัวเท่าบ้าน โอ้ยยยยย ยยยย โอ้ยยยยย      :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-07-2014 06:44:09
ค้างงงง ค่าาา แต่ไม่ขอ ข้อ ง.ได้มั้ยอ่า แบบว่า โยชิเจอเรื่องร้ยๆมาเยอะแล้ว ขอพักหน่อย เรื่องที่ตัวเองเป็นงูยังไม่เคลียร์เลยถ้าให้วิ่งเตลิดออกไปอีก อาซาคงกัดลิ้นตายพอดี
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 06-07-2014 07:06:52
เอาเป็นข้อ ก. สิ อ้าซ้ากลายเป็นงูและยำจูเลียตเสียสติ 55555555555 (คนอ่านเสียสติก่อน) =_=
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 06-07-2014 07:11:14
ค้างงงงงงงงงงง o22
มาต่อเลยน้าาาาาา :katai1:
ไม่งั้นเราจะให้อาซาเสียตัว ชริ!!!! :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 06-07-2014 07:13:12
เลือกข้อ ค. เป็นคำตอบสุดท้ายยย 555

รอๆต่อไปจะเป็นไงงง  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 06-07-2014 07:14:11
ไม่ตอบแต่ขอ พี่งูไปตอตกอดเลยได้มิๆๆ   ช่วงนี้หนาวใจ 55555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Sakiloveanime2069 ที่ 06-07-2014 07:30:49
จ. please!!! :mew2: :impress2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: LimousinX9 ที่ 06-07-2014 07:31:32
กำลังอ่านสนุกๆ-*- อ้าวค้าง !@#!@@#$%@$^#$
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 06-07-2014 08:48:42
งื้ออออออ ค้างอ่ะะะ
ขอให้ไม่มีอะไรเถอะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: KoTo_Nat ที่ 06-07-2014 09:44:41
ค้างงงง อย่างแรงหนิ

จะมีตอนที่เฉลยไหมว่าแม่ของนายเอกมีสานพันธุ์งู

แล้วอีกอย่างพ่อกับพี่ใช่ครอบครัวแท้ๆไหม คืออยากรู้ :hao3:

รีบมาต่อนะครับผมจะรอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 06-07-2014 09:47:31
ยัยป้าจูเลียตไปตามหาโรมิโอเอาข้างหน้าเลย อาซาไม่ใช่โรมิโอของหล่อนนะย่ะเดี๋ยวก็ :beat: :z6: :beat: :z6:ให้ซะหรอกยัยงูป้า ขอตอบข้อฉ. น้องหนูโยชิมาเจอฉากล่อแหลมแล้วเกิดอาการโกธรแปลงร่างเป็นงูยักษ์ เอาหางฟาดยัยป้าจูเลียตปลิวหายไปหาโรมิโอของหล่อนคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 06-07-2014 09:52:31
เลือก ค.
โยชิทำให้รู้ไปเลยว่าของเราอย่ายุ่ง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 06-07-2014 10:40:42
ฉ.   คนอ่าน: ฉันคิดว่าไม่ใช่สักข้อ ความจริงมันต้อง............... มาต่อโดยเร็วไม่เช่นนั้นชั้นจะฆ่าแก!!!! :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 06-07-2014 12:03:22
หลงคิดว่าเป็นคนดี ดีออกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :angry2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 06-07-2014 12:12:36
ค้าง เบาเบา  :hao7:
ติดตามน้าาาาาาาาาา มาต่อเร็วนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 06-07-2014 14:04:07
จ.  :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: full ที่ 06-07-2014 15:34:16
จูเลียต ร้ายนักนะ ผู้ชายเขาไม่เล่นด้วยก็วางยาน่าเกลียดที่สุด อร๊ายยยยย :m31:

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 06-07-2014 15:46:39
เราขอตอบข้อ ฉ.ฉันคิดว่าไม่ใช่สักข้อ ความจริงมันต้อง...นางโดยน้องโยโดด :z6: ก๊ากกกกกกกก  :jul3:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 06-07-2014 15:56:32
พูดกันขนาดนี้แปลกโยชิไม่ได้ยิน

รีบๆมาช่วยอาซาเร็วๆ

ข้อไหนก็ได้

แต่ไม่เอาข้อ ข. นะ

ขอตอบว่าข้อ ฉ.

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 06-07-2014 15:59:26
จูเลียตเล่นแบบนี้ เดี๋ยวได้เจอฉากมีดบินลอยไปปักหลังงู
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 06-07-2014 19:27:48
ขอเลือกข้อ ค. ค่ะให้น้องโยชิกระโดดถีบขาคู่เลย จากนั้นก็งอนอาซาให้อาซาง้อด้วยการพาไปซู่ซ่าบนเตียงค่ะ

ตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Plengaay ที่ 06-07-2014 19:37:42
ค้างงงงงงงงงมากกกกกกกกกกก :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 06-07-2014 20:20:36
ม่ายน้าาาาาาาาาา จูเลียตหล่อนทำแบบนี้ได้ยังไง :katai1:
เลือก ค ละกัน โยชิจัดการมันเลยลูก! :m31:
ค้างฝุดๆ ตอนหน้ามาเร็วๆนะ :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 06-07-2014 20:46:15
ค้างอย่างแรง เลือก ค. ค่ะ อยากให้โยชิออกมาช่วย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 06-07-2014 22:59:20
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:ทำอย่างนี้ได้งัยยยยยยยยยย :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:/color]
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 06-07-2014 23:53:28
ให้สามคำกับจูเลียต "ตาย ไป ซะ" เกลียดนางมาก มีนางทำไม ><
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 07-07-2014 06:27:57
ค้าง!!!!!!! ตอบแบบด่วนคือขอให้รอดจากป้าจู......แล้วได้รักกับน้องโย.....^^ :katai3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 07-07-2014 06:39:24
ข้อ ฉ. ได้มะ
ประมาณว่าหนูโยยืนอยู่ตรงประตูห้องน้ำกำลังจะออกมา
แต่พอดีได้ยินเสียงนังจูก่อนเลยหยุดฟังเรื่องที่เกิดขึ้น
แล้วพอพี่งูกำลังเข้าตาจนจะถูกอีนังจูข่มขืน หนูโยก็รีบเปิดประตูออกมาช่วย
ไล่อีนังจูไป แต่หนูโยเองก็โดนพี่งูไล่ให้ออกไปเหมือนกัน
เพราะเดี๋ยวพี่งูจะทนไม่ได้จับกดหนูโย แต่หนูโยทนเห็นพี่งูทรมาณทนไม่ไหวก็เลยๆๆๆ  :z1:
หึ หึ ที่เหลือขอให้มโนกันเอาเอง   :haun4:
เลิกเว่นเว้อรออ่านของจิงดีกว่า
รอๆๆๆๆๆคนเขียนอยู่น้า รีบมาเร็วๆคนอ่านรอยุจ้า
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 07-07-2014 09:25:44
ไม่ขอเลือกสักข้อ เพราะตอนนี้อยากกัดคอ ริริ มาก

มันค้างนะตัวเธอ มาต่อให้ไวเลย

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 07-07-2014 11:49:15
 :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 07-07-2014 12:24:45
มารอตอนต่อไปจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWELVE ❁ 06-07-14 [P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 07-07-2014 14:02:59
ข้อ ค. อยากให้โยชิได้ช่วยอาซาบ้าง และไม่ใช้อารมณ์จนเรื่องแย่ไปหมด (สักครั้ง)
ขอมากไปป่ะ 5555+
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 07-07-2014 18:33:44
THIRTEEN
   




         “อึก!”

         ผมสะดุ้งสำลักน้ำ เผลอหลับในอ่างอาบน้ำจนเกือบจมน้ำตายไม่รู้ตัว ผมไออยู่สองสามทีเพราะน้ำและฟองสบู่ไหลลงคอ เนื่องจากผุดลุกเพราะจะจมน้ำอย่างเร็วทำให้ผมรู้สึกเวียนหัว เริ่มรู้สึกถึงปวดร้าวระบมไปทุกสัดส่วนของร่างกาย เจ็บมากหน่อยก็ที่หัว

         ปึก!

         หือ? เสียงอะไรข้างนอก

         “ออกไป!!!”

         เสียงอาซาตวาดดังลั่น ผมตกใจรีบลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ มองจ้องไปที่ประตูเหมือนจะมองทะลุผ่านให้ได้เห็นว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น

         “ฮือออ”

         ตามมาด้วยเสียงผู้หญิงร้องไห้ ผมหันรีหันขวางมองหาผ้าเช็ดตัวมาพันเอวไว้ เปิดประตูผลั๊วออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

         “...!” ผมกำลังอึ้งสุดๆเมื่อเห็นสภาพของอาซากับจูเลียต...สองคนนี้ทำอะไรกัน ข้าวของในห้องระเกะระกะไม่เรียบร้อยโดยเฉพาะบนเตียง

         “ฮึก...” เสียงสะอื้นจากจูเลียตดังเรียกความสนใจ เธอนั่งอยู่บนพื้นโดยมีผ้าห่มของอาซาคลุมตัวเอาไว้ มือบางกำผ้าห่มปกปิดร่างกายแน่น ก้มหน้าสะอื้นไห้เสียงแผ่ว ผมหันกลับไปมองอาซาที่นอนหายใจหอบอยู่บนเตียงครางเสียงต่ำเหมือนกำลังทรมานกับอะไรสักอย่าง 

         ผมเดินเข้าไปดูจูเลียต นั่งยองๆอยู่ตรงหน้าเธอ ผมไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนี้ตอนที่ผมอาบน้ำอยู่ แต่ผู้ชายเวลาเห็นผู้หญิงร้องไห้ก็ย่อมทนเห็นไม่ได้

         “เป็นอะไรไหม” ผมถาม เธอเงยหน้ามองผมเคืองๆ เม้มริมฝีปากแน่น

         “อย่ามายุ่ง!” เธอผลักผมอย่างแรง เพราะไม่ทันตั้งตัวผมจึงหงายหลังลงไปกับพื้น เธอลุกขึ้นวิ่งออกไปจากห้องของอาซาทั้งๆที่ยังร้องไห้ ผมยันตัวลุกขึ้นมองตามหลังบางที่เปลือยเปล่าอย่างงงๆ

         อย่าบอกนะว่าตอนที่ผมอาบน้ำ สองคนนี้กำลังจะ...

         “อ๊าก!” เสียงอาซาทำผมสะดุ้งอีกรอบ ผมรีบลุกขึ้นไปดูเขาที่นอนทุรนทุรายบนเตียงกว้าง เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามเนื้อตัวเต็มไปหมดจนเปียกชุ่ม สีหน้าเขาดูทรมาน ผิวกายที่เคยเป็นสีขาวซีดลับสีแดงกล่ำ เส้นเลือดตามลำแขนปูดโปนจากอาการเกร็ง

         “อาซา เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม” ผมมองสำรวจร่างกายของอาซารนๆ ทั้งตัวเขามีเพียงกางเกงขายาวปกปิดร่างกาย อวดโชว์แผงอกให้ใจระส่ำเล่น แต่นี้ไม่ใช่เวลาจะมาเขิน ผมต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนหน้านี้เขายังดีๆอยู่เลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้

         ผมแตะมือบนหน้าผากของอาซาเช็คอุณหภูมิ แต่แตะได้แค่ผิวเผินเสียงตวาดก็ดังยับยั้งการกระทำของผม

         “อย่าแตะต้องฉัน! อื้อ โธ่เว้ย!”

         ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าอาซาเป็นอะไร เจ็บปวดที่ตรงไหน ผมพยายามจะโดนตัวเขาอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งอาซาก็จะกัดฟันพูดห้ามไม่ให้ผมแตะตัวเขา เหมือนกับว่าสัมผัสจากผมเป็นหนามแหลมที่คอยทิ่มแทงให้เขาเจ็บปวด เมื่อผมช่วยอะไรไม่ได้ ผมเลยตัดสินใจว่าจะไปตามคนอื่นมาช่วยเขา ต้องมีใครสักคนที่นี่ช่วยอาซาได้อย่างแน่นอน เพราะพวกเขาเป็นครึ่งคนครึ่งงูเหมือนกัน

         “อ๊ะ! คาร์เตอร์”

         เปิดประตูห้องเตรียมไปเรียกคนอื่นๆให้มาช่วยอาซา ก็เจอกับคาร์เตอร์ที่ยกมือขึ้นกำลังจะเคาะประตู เขาดูงงๆที่ผมเรียกชื่อเขาเหมือนดีอกดีใจ ผมลากแขนเขาเข้ามาในห้องตรงไปที่เตียงด้วยความรีบร้อน

         “มีอะไรโยชิ แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย...ไอ้อาซา” เขาถาม แต่พอเห็นอาซาที่นอนคู้ตัวส่งเสียงอื้ออ้าฟังไม่ได้ศัพท์ก็ถึงกับอุทานว่าเวรแล้ว ตกลงอาการที่อาซาเป็นมันร้ายแรงมากใช่ไหม

         “เขาเป็นอะไรเหรอคาร์เตอร์” ผมถาม มองคาร์เตอร์ที่วางกระเป๋าเครื่องมือบนเตียงแล้วก็เปิดรื้อหาของพร้อมไล่ให้ผมไปแต่งตัว ผมเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่อาซาเตรียมไว้ให้ในห้องน้ำมาใส่ลวกๆ เสียงคาร์เตอร์บ่นฟังไม่ได้ศัพท์ออกมาเสียยาวยืดเพราะหาของไม่เจอ เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงกดโทรออกหาใครสักคน ตาก็มองคนบนเตียงที่เริ่มจะแย่หนักเข้าไปทุกที

         ผมขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างอาซา จับตัวเขาพลิกนอนหงาย อาซาขืนตัวคำรามเสียงต่ำดื้อดึงไม่ยอมทำตาม ผมจิ๊ปากขัดใจออกแรงมากขึ้น อาซาต้านแรงผมไม่ได้ผมเลยจับเขานอนหงายได้สำเร็จ เขาเหมือนคนไร้เรี่ยวแรงจนน่าประหลาดใจ ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติที่เบื้องล่างกึ่งกลางตัว มันพองตัวตั้งตรงดันเนื้อผ้านุ่มของกางเกงจนโป่งนูนสังเกตเห็นได้ชัด

         “ไอ้ฟรินน์ เอายา...มาให้ฉันที่บ้านพักอาซาเดี๋ยวนี้เลย ด่วน! อะไรนะ...แล้วแกไปทำอะไรที่นั่นวะ รีบกลับเดี๋ยวนี้เลย”

         “เอ่อ...นาย” ผมมองส่วนนั้นก่อนจะกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ

         “ใครเอายาให้มันกิน” คาร์เตอร์ถามผม สีหน้าเขาเครียดนิดหน่อย

         “ยาอะไร?” ผมขมวดคิ้วถาม

         “ยาปลุกเซ็กส์ แต่ร้ายแรงกว่าเพราะมันมีฤทธิ์ทำให้อ่อนแรงแต่ความต้องการจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆถ้าหากไม่ได้ปลดปล่อย เอาไว้ใช้กับผู้หญิง ฉันเป็นคนคิดสูตรนี้เอง ตกลงว่านายไม่ได้เป็นคนเอาให้มันกินใช่ไหม”

         “เปล่า! ฉันไม่ได้เอาให้เขากิน” ผมส่ายหน้าแรงๆ ตกใจเรื่องที่อาซาโดนยาปลุกเซ็กส์พอๆกับที่รู้ว่าคาร์เตอร์ผู้ชายนิ่งๆดูสุขุมเป็นคนคิดค้นยาอะไรแบบนี้ ดูไม่ออกเลยว่าจะเป็นคนหื่น

         “ถ้าอย่างนั้นใครเอาให้มันกิน”

         “ฉันไม่รู้ เอ๊ะ...”

         “อะไร” คาร์เตอร์ถาม ผมส่ายหน้าปฏิเสธอีกรอบ

         “เปล่าๆ ไม่มีอะไร”

         หรือว่าจะเป็นจูเลียต แต่เธอจะทำแบบนั้นไปทำไม ยิ่งเห็นอาซาทรมานผมก็ยิ่งสงสาร ผมไม่เคยมีอารมณ์แบบนั้นเลยไม่รู้ว่ามันให้ความรู้สึกเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน แต่ก็คงหนักเอาการอยู่ จากภาพที่อาซานอนกระสับกระส่ายด้วยท่าทางอ่อนระโหย และสีหน้าอดทนอดกลั้น

         “เดี๋ยวฉันไปเอายาถอนเอง ส่วนนายก็ช่วยมันไปก่อน” เขาพูดแล้วเดินไปที่ประตู

         “เดี๋ยว แล้วฉันจะช่วยเขาได้ยังไง”

         “อะไรก็ได้ จะกอดจูบลูบคลำ หรือจะช่วยมันปลดปล่อยก็ได้ ทำไปเถอะ นายเป็นแฟนมันนี่ มันไม่ลำบากเกินไปใช่ไหม”

         “ห๊า?”

         คาร์เตอร์ออกจากห้องไปแล้ว ผมนั่งอึ้งกับคำแนะนำของเขา หันกลับไปมองอาซาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ รวบรวมกำลังแรงใจ เอาวะ...ก็คงไม่หนักหนาหรอก ยังไงก็ผู้ชายด้วยกัน เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่มีอะไรต้องกังวล ผมบอกกับตัวเอง

         แต่ความจริงผมโคตรจะกังวลเลย!

         “อาซา” ผมเรียก เขาลืมตามองผมแค่นิดเดียว พอผมขยับตัวเข้าหา เขาก็ขยับตัวออกห่าง แล้วอยู่ๆร่างของอาซาก็กระตุกอย่างแรง เขาร้องเสียงดัง ผมแทบไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ ก้มหน้าลงไปจูบอาซาทันที เขาขัดขืนแค่ตอนแรก แต่เพราะฤทธิ์ยาทำให้เขาเป็นฝ่ายบดเบียดริมฝีปากเข้าหาผมเอง ผมปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจเพราะความสงสาร และอีกความรู้สึกก็คือ ผมเองก็อยากจูบเขา

         เราจูบกันอยู่สักพัก และเหมือนว่าการกระทำแค่นี้มันไม่พอที่จะปลดปล่อยเขาออกจากความทรมาน ผมกอดอาซาเอาไว้แน่นรับรู้ถึงอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นของอีกฝ่าย ประสบการณ์การจูบของผมก็มีไม่มาก แต่ก็พยายามจะทำให้ดีที่สุดเพื่อช่วยเขา

         ผมถอนจูบออกเงยหน้าขึ้นสูงก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพราะรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง อาซาครางฮึมในลำคออย่างขัดใจ ผมเลยใช้มือสัมผัสเขาแทน ลูบไล้ที่หน้าอกตึงแน่น หัวคิดสะระตะไปว่าผมควรจะทำยังไงต่อไปดี ไม่เคยมีแฟนมาก่อนด้วยไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ผมจึงทำอะไรไม่ถูก

         “อาซา ไหวไหม”

         “อ๊า...” เขาไม่ตอบ แต่แสดงออกทางสีหน้าที่ดูก็รู้ว่าไม่ไหว

         ในเมื่อไม่รู้ก็ต้องลอง เริ่มแรกผมใช้นิ้วสะกิดหน้าอกของอาซา เขาครางเสียงต่ำทันทีที่ผมสัมผัส ผมอมยิ้มนิดๆ ลงมือจัดการกับเม็ดทับทิมสีเข้มหนักมือขึ้น มืออีกข้างก็เลื่อนต่ำลงข้างล่าง

         “ยะ อย่า...” อาซารีบห้าม เขาจับมือผมไว้เบาๆ

         “ทำไม” ผมถาม

         “มะ ไม่ใช่ตอนนี้...” เขากัดฟันกรอด ผมไม่เข้าใจ ในเมื่อร่างกายเขาต้องการขนาดนี้ ยังมีอะไรที่ต้องลังเล

         “แต่นายจะยิ่งทรมานนะ”

         “ช่างมัน...แต่ ฉัน จะ ไม่ ทำ เรื่อง แบบ นั้น ตอน ที่ ฉัน ควบ คุม ตัว เอง ไม่ ได้ เด็ด ขาด!” เขาพูดอย่างยากลำบาก ผมสงสารเขาจับใจ แต่แล้วประตูก็เปิดออก ผมหยุดเรื่องที่ทำอยู่หันไปมอง คาร์เตอร์เดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะยัดยาบางอย่างใส่ริมฝีปากที่แหบแห้ง อาซากลืนยาเข้าไป สีหน้าบูดเบี้ยวไม่คลายความกำหนัด

         “เขาจะดีขึ้นใช่ไหม” ผมถามคาร์เตอร์

         “อืม...มันจะมีแรงขึ้น ไม่ใช่นอนตัวอ่อนปลวกเปียกแบบนี้”

         “แล้ว...อาการอย่างว่าล่ะ มันก็จะหายไปหรือเปล่า” เพราะดูแล้วอาซาอาการไม่ดีขึ้นเลยหลังจากที่กินยาแก้ไปแล้วเกือบสิบนาที อาซาเริ่มขยับตัวและลุกขึ้น แต่บางอย่างที่กึ่งกลางตัวยังไม่คลายความสงบ กลับพองตัวใหญ่โตมากยิ่งขึ้น

         “ไม่หายหรอก ยาที่ให้กินไปมันเป็นยาที่ให้ผลตรงกันข้ามกับตัวก่อนหน้า แต่มีสรรพคุณเดียวกันคือ...ทำให้ซู่ซ่ากระปรี่กระเปร่า”

         หมอนี่! ยังจะมีหน้ามายิ้มสนุก ในเมื่ออาซากำลังจะแย่ 

         “ออกไป!” อาซาหันมาตวาดพวกผมสองคน สองมือกำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดสีเขียวขึ้นปูดโปนเห็นได้ชัด คาร์เตอร์หัวเราะเบาๆในลำคอ

         “ให้แฟนแกช่วยสิ เดี๋ยวฉันจะกลับไปรอที่บ้าน พร้อมทำแผลเมื่อไหร่ก็โทรไปเรียก”

         เขานี่มันกวนประสาทจริงๆ ทีนี้ก็เหลือแค่ผมในห้อง ผมกำลังจะเข้าไปใกล้ๆ แต่อาซาลุกออกจากเตียงถอยหนี ผมคู้ตัวหนีผม

         “ให้ฉันช่วยไหม” ผมอาสา เขาหันมาขึงตาใส่ผม กัดฟันกรอดเหมือนโกรธ แต่ผมว่าเขากำลังข่มอารมณ์ตัวเองมากกว่า

         “ไม่ต้อง ออกไปโยชิ”

         “แต่นาย...”

         “ออกไป! ไม่ต้องสนใจฉัน!!!” เขาขยับอีกครั้งพร้อมกับพ่นลมหายใจร้อนอย่างขัดเคือง ผมรั้งรอ แต่พอเขาตวาดใส่ผมอีกครั้ง และผมยังไม่ทันออกจากห้อง เขาก็กลายร่างเป็นงูขนาดตัวเท่าผมเลื้อยออกไปทางหน้าต่าง ผมรีบวิ่งตามไปดู แต่เขาเร็วมาก หายเข้าไปในความมืด ผมรีบวิ่งออกไปที่ห้อง เจอฟรินน์เดินขึ้นมาพอดี

         “ฟรินน์! อาซาเขาออกไปนอกบ้านแล้ว!” ผมรีบบอก

         “อะไรนะ ก็ไหนไอ้คาร์เตอร์บอกว่านายกับมัน...” เขาทำมือจิ้มกัน ผมไม่มีเวลามาเขิน รีบอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง ฟรินน์ดูไม่แปลกใจเลยที่อาซาไล่ผมออกจากห้องแล้วตัวเขาพุ่งทะยานหายไปทางหน้าต่าง

         “ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก มันแค่มีความต้องการ ปลดปล่อยสักหน่อยเดี๋ยวก็หาย” ฟรินน์พูด แต่ผมตัวแข็งเหมือนถูกน้ำแข็งเกาะ

         “ขะ เขา...จะอออกไปนอนกับคนอื่นเหรอ” ผมถามเสียงเบาจนน่าใจหาย ฟรินน์ยักไหล่ กดโทรศัพท์โทรตามคาร์เตอร์อีกรอบให้กลับมาทำแผลให้ผม

         “ก็อาจจะใช่แล้วไม่ใช่ อย่าทำหน้าเศร้าขนาดนั้น ที่มันทำแบบนั้นก็เพราะนาย” ฟรินน์ลูบหัวผมปลอบไม่ให้คิดมาก

         “เพื่อฉัน? ไม่เห็นเข้าใจ”

         “นายเป็นมนุษย์ปกติ อาจจะไม่รู้ว่าพวกนากินีอย่างเรา เวลาที่มีความต้องการจะมีมากยิ่งกว่ามนุษย์ถึงห้าเท่า แล้วมันโดนยาเข้าไปแบบนี้ ปลดปล่อยมากกว่าสิบรอบดูท่าว่าก็ไม่น่าหาย”

         ห๊า!? ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ

         “มันคงรู้ว่าถ้ามันทำนาย นายตายคาเตียงแน่ มันถึงได้ต้องออกไปข้างนอกยังไงล่ะ”

         อาซา...เขาทำเพื่อผมอีกแล้วหรอกเหรอนี่

         “ถ้านายนอนกับอาซาเมื่อไหร่ นายจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของมัน แต่ระวังไว้หน่อยนะ มันเป็นงูที่เก็บกดมาหลายชาติ คาดว่านายคงยับคาเตียงแน่ๆ”

         บอกผมทีว่านั่นเป็นคำบอกเล่าธรรมดา คำเตือน หรือคำขู่




อ่านต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 07-07-2014 18:34:20
         เมื่อคืนอาซาไม่ได้กลับมา ผมตื่นพร้อมกับอาการปวดหัว ผมนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะเอาแต่เป็นห่วงอาซา เช้านี้เลยตื่นสาย ผมกำลังจะลุกออกจากเตียง แต่ประตูห้องเปิดออกเสียก่อน ผมหันขวับมองคิดว่าเป็นอาซา แต่ไม่ใช่ กลับกลายเป็นจูเลียต เธอทำหน้าไม่ถูก แต่ก็เดินเข้ามาจนกระทั่งถึงเตียง เรื่องเมื่อคืนทำให้บรรยากาศระหว่างผมและเธอกระอักกระอ่วนแปลกๆ

         “มีอะไรเหรอ” ผมถามเธอก่อน จูเลียตไม่ได้มองหน้าผม เธอเหม่อลอยด้วยอาการเศร้าสร้อย

         “นายรู้ไหมว่าฉันรักอาซา” เธอเริ่มพูด ผมแปลกใจนิดหน่อยและพอจะเข้าใจว่าที่ผ่านมาทำไมเธอถึงไม่ชอบขี้หน้าผม

         “ฉันไม่รู้ ขอโทษทีนะ”

         “หึหึ แต่นาย...ทำให้ทุกอย่างพัง ตั้งแต่อาซาเจอนายเขาดูไม่เหมือนเดิม มีชีวิตชีวาจนฉันอิจฉา เขาไม่เคยสนใจใคร ไม่เคยใส่ใจใคร เย็นชากับทุกคน แต่ยกเว้นนาย เจ้าชายน้ำแข็งกลายเป็นดวงอาทิตย์ที่แสนอบอุ่น นายคงคิดไม่ออกแน่ๆว่าฉันจะรู้สึกเกลียดนายมากขนาดไหน”

         ใช่ ผมนึกไม่ออก แต่มันก็คงมากพอตัวในความรู้สึก เพราะถ้าผมเป็นเธอ ผมก็บอกไม่ได้หรอกว่าจะรู้สึกยังไงกับใครสักคนที่คนที่เราแอบรักมีใจให้

         “เมื่อคืนฉันลงทุนทำเรื่องน่าอับอายที่สุดในชีวิตลูกผู้หญิง เผื่อว่าเขาจะหันมองฉันบ้าง จะสนใจฉันบ้าง แต่ขนาดโดนยาเข้าไปขนาดนั้น เขายังไม่ยอมที่จะสัมผัสฉัน ไม่ยอมที่จะรักฉัน ทำไม...ทำไมถึงเป็นฉันไม่ได้! ทำไมต้องเป็นนาย!!!” แววตาเกรี้ยวกราดมองผมราวกับจะฆ่าจะแกง

         ผมนั่งเงียบฟังเธอระบายอารมณ์ เธอร้องไห้หนักจนตัวโยน จะว่าสงสารก็ใช่ แต่ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ในเมื่อความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้ ผมไม่คิดว่าตัวเองผิดที่ชอบอาซา และเธอก็ไม่ผิดที่จะรักเขาจนสามารถลงมือทำเรื่องแย่ๆแบบที่ใครต่อใครก็คงคาดไม่ถึง

         “ฮึก เกือบสองร้อยปีที่ฉันแอบรักเขา ไม่มีเวลาไหนที่ฉันไม่ทรมาน หวังว่าสักวันเขาจะหันมามองฉันบ้าง แต่วันนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันไม่มีความหวังเหลืออยู่เลย เขารักนาย...รักมาตลอด รักแค่นายคนเดียว ฮือ” เธอก้มหน้าร้องไห้อย่างหมดมาด ผมขยับเข้าไปใกล้เธอ วางมือลงบนไหล่เล็กที่กำลังสั่นเทา

         “ฉันขอโทษ แต่ฉันเองก็รักอาซาเหมือนกัน”

         “เหอะ! ทั้งๆที่เขาเป็นงู เป็นสิ่งที่นายเกลียด นายก็รักเขางั้นเหรอ” จูเลียตตวัดสายตามองผมเย้ยหยัน

         “...” ผมเงียบ ตอบไม่ได้ จูเลียตหยุดสะอื้น เธอกำลังควบคุมตัวเองให้หยุดร้องไห้ แต่มันยิ่งทำให้เธอดูน่าสงสารไปอีกเท่าตัว เหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ถูกพ่อแม่บังคับให้หยุดร้อง ผมเห็นเธอเป็นแบบนั้น

         “แล้วทำไมเธอมาบอกฉัน”

         การตัดสินใจทำเรื่องพรรค์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิง แม้ว่าเธอจะเป็นชาวต่างชาติก็ตาม แม้แต่ผมที่เป็นผู้ชาย ถ้าทำแบบนั้นก็คงน่าอาย แต่การที่เธอมาสารภาพกับผมด้วยตัวเอง ไม่รู้ว่าจะต้องรวบรวมความกล้าแค่ไหนให้คนอื่นรับรู้การกระทำที่น่าอายสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง

         “เมื่อคืน ฮึก...ฉันร้องไห้ระบายกับปารีส แล้วเธอเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฉันฟัง นายอยากรู้ไหมว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง” ดวงตาสีอ่อนเศร้าหมองยามจ้องตาตอบผม

         “ฉันอยากฟัง” ผมบอกเธอเสียงนุ่ม

         “เธอเล่าว่า เมื่อประมาณพันกว่าปีก่อน มีนากินีสองตัวรักกัน ทั้งๆที่เป็นเพศผู้ด้วยกันทั้งคู่ แต่พวกเขาก็รักกันมาก จับมือกันทำความดีไม่ว่าจะกับมนุษย์ที่พวกเราเกลียดหรือกับพวกเดียวกัน พวกเขาฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆที่คอยกีดกันความรักและช่องว่างระหว่างเพศ ไม่ว่ายามทุกข์หรือสุขพวกเขาไม่เคยทอดทิ้งกัน แทบจะยอมตายแทนกันได้ นากินีตัวเมียหลายตัวพยายามจะทำลายความรักของพวกเขา แต่ด้วยความรักและความเชื่อใจที่มีให้กัน ก็ไม่มีใครทำสำเร็จ จนกระทั่งวันที่เลวร้ายที่สุดมาถึง คู่ของเขาต้องตายเพราะถูกฆ่าจากผู้มีอำนาจ งูตัวที่เหลือเศร้าเสียใจ เขาพยายามจะฆ่าตัวตายตามแต่ก็ไม่สำเร็จ”

         ผมตั้งใจฟังเรื่องที่จูเลียตเล่าด้วยความรู้สึกหดหู่ หัวใจบีบรัดแน่น น้ำตาเอ่อคลออย่างไร้สาเหตุก่อนที่เสียงบางอย่างจะสะท้อนก้องในหัว

         
         ‘ข้ารักเจ้า’
         ‘ข้าก็รักเจ้าเช่นกัน’
         ‘ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ข้าก็จะยังรักเข้าอยู่แบบนี้ ข้าไม่มีวันที่จะลืมเจ้า แล้วเจ้าล่ะ เมื่อถึงวันนั้น จะลืมข้าหรือไม่’
         ‘ไม่ ข้าจะรักเจ้าเหมือนกับวันนี้ วันที่ข้ารักเจ้าสุดหัวใจ’



         “ตั้งแต่นั้นเขาก็ใช้ชีวิตด้วยความทุกข์ทรมาน เฝ้ารอแต่คนรักที่ไม่มีวันหวนคืน เฝ้าตาหาดวงวิญญาณของคนรัก ไม่ว่าเขาจะไปเกิดเป็นใคร มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร เขาก็ทำได้แค่เฝ้ามองด้วยความรักอย่างไม่เปลี่ยนแปลง คอยดูแลอยู่ห่างๆ ไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่รัก แม้ว่าการจมปรักอยู่กับเรื่องในอดีตจะทำให้เขามีแต่ทุกข์มากขึ้นทุกวันๆ”

         ผมร้องไห้หนักตามจูเลียต ร้องเหมือนวันที่ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝันแปลกๆ เจ็บปวดหัวใจราวจะแตกเป็นผุยผงยามที่ภาพบางอย่างฉายซ้ำในหัวอย่างเลือนลาง

         “พอปารีสเล่าจบ ฉันถึงได้รู้ว่า ความเจ็บปวดของฉันเทียบไม่ได้เลยกับความทุกข์ทรมานของอาซา”

         ผมเบิกตาโผลง หมายความว่าเรื่องที่จูเลียตเล่าคือเรื่องของอาซากับคนรักอย่างนั้นเหรอ แล้วคนรักของเขาเป็นใคร

         “ฉันไม่ได้อยากจะยอมรับหรอกนะ เพราะฉันรักเขามาก แต่พอรู้อย่างนี้แล้ว ความจริงที่ว่าฉันไม่มีทางแทนที่คนๆนั้นของเขาได้ ต่อให้ตายลงตรงหน้าเขาก็ไม่มีทางหันมามอง ถ้าไม่มีวันที่เขาจะรักฉัน ฉันก็อยากให้เขามีความสุข แม้ฉันจะเกลียดนายก็ตาม”

         ผมอึ้งอีกรอบ น้ำตาหยุดไหลแต่ใบหน้ายังเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ริมฝีปากของผมสั่นระริก ค่อยๆอ้าปากถามเธอด้วยหัวใจที่สั่นระรัว

         “เธอจะบอกว่าฉันเป็น...”

         “ใช่! นายคือคนรักของเขาเมื่อหลายพันปีก่อน แล้วนายมีดวงจิตของงู”

         ผมไม่อยากจะเชื่อ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ

         เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?

         “รู้อย่างนี้แล้ว นายควรเลิกทำหน้าตาจงเกียจจงชังเวลาเห็นงูได้แล้ว ไม่รู้หรือไงว่านายกำลังทำร้ายอาซา นายทำให้เขาทุกข์!

         ...ผม...

         “อย่ามองเขาแค่ภายนอกที่เขาเป็น เพราะเขาไม่เคยมองนายที่จุดนั้นเลย ต่อให้นายเกิดมาขี้เหร่ เขาก็ยังคงรักนายด้วยใจจริง” เธอปาดน้ำตาออกครั้งสุดท้าย ลุกขึ้นยืนก้มหน้าต่ำมองผมเขม็ง

         “ที่ฉันมาบอกก็เพราะฉันเห็นแก่อาซา แต่บอกไว้ก่อนว่าฉันกับนาย ไม่มีทางจะญาติดีกันได้ ถ้านายทำเขาเจ็บ ฉันจะเป็นคนฆ่านายด้วยมือของฉันเอง จำไว้!” เสียงแข็งติดสั่นจากไปพร้อมกับร่างบาง

         ผมหลับตา กดนิ้วบนขมับ พยายามไล่ความรู้สึกผิดและความสงสารออกจากหัว เสียงประตูห้องนอนปิดลง ผมลืมตามองพลางถอนหายใจเฮือก

         ไม่ผิดที่จูเลียตจะรักอาซา และผมก็ไม่ผิดที่ผมก็รักเขาและเลือกที่จะยืนอยู่เคียงข้างเขาแทนที่จะเสียสละ ผมไม่ใช่คนดีขนาดนั้น เพราะงั้นผมไม่เสียสละยกอาซาให้เธอแน่ๆ ยิ่งรู้ความจริงแบบนี้ ผมสาบานว่าผมจะไม่ยกเขาให้ใคร

         ถ้าเรื่องที่จูเลียตเล่าเป็นเรื่องจริง แสดงว่าความฝันพวกนั้นก็คือผมกับอาซาอย่างนั้นเหรอ พอหวนคิดถึงผมก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาจับใจทั้งๆที่ไม่สามารถจำเรื่องราวเหล่านั้นได้ แล้วอาซาที่จำทุกอย่างได้ขึ้นใจ จะเจ็บปวดทุกข์ทรมานกว่าผมกี่ร้อยเท่าพันเท่า

        ‘นายรู้อะไรไหม ถ้าถามว่าสิ่งไหนที่ฉันเกลียดมากที่สุดในโลก สิ่งๆนั้นก็คือสิ่งที่เรียกว่า ‘งู’’

         คำพูดเก่าๆแทรกเข้ามาในหัว ผมไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขารักอีกฝ่ายมากแค่ไหน ทั้งที่อาซาเป็นสิ่งที่ผมเกลียดมากที่สุด หวาดกลัว แต่ก็อยากอยู่ใกล้ ผมไม่สามารถตอบตัวเองได้ว่าจะรู้สึกยังไงถ้าอีกฝ่ายอยู่ในร่างของงู คงไม่ง่ายที่จะทำใจยอมรับ แต่ก็ยากที่จะปล่อยอาซาไป ถ้าเพียงนี้จะเป็นฝัน ถ้าเพียงว่าตื่นขึ้นมาแล้วอาซาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมจะไม่ลังเลที่จะรักผู้ชายคนนี้เลย

         แต่พอลองคิดว่าอาซาจะหันหลังให้ มันก็ทรมานจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว

         ‘มันน่าขยะแขยง หน้าเกลียดน่ากลัว แค่เห็นก็ขนลุกซู่ ถ้าโลกนี้ไม่มีงูก็ดีนะสิ’

         แทบไม่ต้องคิดเลยว่าอาซาจะรู้สึกแย่แค่ไหนกับคำพูดในครานั้น คำพูดที่เหมือนมีดคมที่กรีดหัวใจของอาซาอย่างไร้ความปราณี ด้วยน้ำมือของผมเอง ถ้าคำพูดสามารถฆ่าคนให้ตายได้ ผมก็ไม่ต่างอะไรจากฆาตกรเลือดเย็น

         คนที่น่ารังเกียจมันคือผมต่างหากล่ะ ทั้งที่อาซาพยายามจะไม่เข้าใกล้ผม แต่เป็นตัวของผมเองที่ไปยุ่งวุ่นวายกับเขา แถมพูดจาทำร้ายเขาอย่างเลือดเย็น และสุดท้ายผมก็ทำให้เขาเจ็บที่สุด

         ผมยอมรับว่าตนเองกลัวอาซา แต่หัวใจมันเรียกร้องที่จะรัก และที่แย่ยิ่งกว่าคือผมอยากให้อาซารักผม ทั้งๆที่ผมยังไม่อาจยอมรับตัวตนของอาซาเป็นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะผมยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ทุกครั้งที่เห็นอาซาในร่างงู เห็นแบบนี้แล้วผมมันน่ารังเกียจเสียยิ่งกว่าอาซาเสียอีก

         “อย่าร้องไห้เลย นายไม่ผิดหรอก ฉันผิดเอง”

         “อาซา” ผมครางเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่ว เขายืนอยู่ตรงหน้าประตู ผมลุกขึ้นวิ่งไปหาเขาแล้วกอดเขาไว้แน่น ร้องไห้ไม่อายใครอยู่ในอ้อมกอดของอาซา

         “ไม่ นายไม่ผิด ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง ฮึก”

         “อย่าร้องไห้เลยคนดี สิ่งเดียวที่ฉันปรารถนาที่สุดคือให้นายมีความสุข ได้เห็นนายยิ้ม ได้เห็นนายหัวเราะ นั่นแหละคือความสุขของฉัน”

         “อาซา...”

         “ถ้าวันนี้นายจะทิ้งฉันไป ฉันก็ยินดี ถ้ามันจะทำให้นายมีความสุข ฉันยอมทุกอย่าง...ขอแค่นายมีความสุข ฉันยอมทั้งนั้น”

         ผมมันเลวมากที่ทำร้ายผู้ชายที่รักผมมากขนาดนี้ได้ลงคอ

         คนเลวๆอย่างผมไม่สมควรได้รับความรักมากมายขนาดนั้น

         คนเลวๆอย่างผมไม่สมควรมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำไป...

         “ไม่ ฉันจะไม่ไปจากนาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น ฮือ ฉันรักนายนะ ฉันจะพยายาม...ที่จะไม่กลัวงู ฉันจะทำ ฉันสัญญา” ผมร้องไห้โยเยเป็นเด็กๆ บอกให้ผมไปจากเขาในตอนนี้มันก็สายไปแล้ว ผมทำไมได้ การเดินหันหลังให้เขามันยากๆพอๆกับบอกให้หยุดหายใจ

         “I will always make you cry, you damn well know that” เขาพูดเสียงพร่า ผมส่ายหน้าไม่ยอมรับ ต่อให้อยู่กับเขาแล้วต้องร้องไห้อีกสักเท่าไหร่ ผมก็เต็มใจ

         “ให้ฉันอยู่ด้วยนะ ขอร้อง อย่าไล่ฉันเลยนะ อย่าเกลียดฉันเลยนะอาซา”





         “นายก็รู้ว่าฉันไม่มีวันเกลียดนาย ฉันเป็นของนายอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ฉันก็เป็นของนายคนเดียว”



         อาซาแย่ที่สุด...เขาทำให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่ได้แล้วถ้าหากขาดเขา




..................................

         แงงงงงงงงงงงงงงงง ทำไมมันบีบหัวใจขนาดเน้! ผู้ชายแบบนี้มีที่ไหนอีก ต่อให้บุกน้ำลุยไฟน้องก็จะไปตามหาพี่ พี่อาซาของน้องงงงง!!! ผลั๊ว! โดนโยชิถีบ :z6:

         ตอนนี้เนื้อหาเบาๆ เหรออออออออออ  อย่างน้อยก็ไม่มีฉากเสียดเลือดเสียเนื้อ เสียอีกก็ไม่ไหวนะ โยชิตายแน่ๆ

         จูเลียต เธอทำดีแล้ว แม้ว่าฉันจะเคืองมากกับสิ่งที่เธอทำไว้ก็เถอะ  :beat:

         ความจริงแล้วนางก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกนะคะ นางแค่รักอาซามากเกินไปเท่านั้นเอง สองร้อยกว่าปีเนอะ ไม่ใช่เวลาสั้นๆ ก็มีบางที่จะหน้ามืดตามัน นี่แหละน้า ที่เขาว่าความรักทำให้คนตาบอด เห็นผิดเป็นชอบ เห็นกรงจักรเป็นดอกบัว เกี่ยว?  :katai2-1:

         เผื่อมีคนสงสัย อาซาสามารแปลงร่างเป็นงูได้สามระดับ รายละเอียดเรื่องนี้จะมีในเนื้อเรื่อง เพราะคงมีคนสงสัยแหละว่าอาซาเดี๋ยวเป็นงูตัวใหญ่ตัวเล็ก มันมีทีมาที่ไปนะตัวเอง :katai3:

         ตอนหน้าเขาจะหวานกันจริงจังแล้วนะ อยากอ่านกันไหม คึคึ ขอสปอยนิดหนึ่งเพื่อความตื่นเต้น :hao6:

         “บ้า ใครจะไปทำแบบนั้นได้ติดกันเป็นอาทิตย์”
         อย่างน้อยๆก็ต้องเหนื่อยกันบ้างแหละ
         “ฉันไง นายอาจจะจำไม่ได้นะ แต่เมื่อก่อนนายกับฉัน ‘รัก’ กันติดเป็นเดือนๆยังไม่มีปัญหาเลย นายมีแต่ชอบด้วยซ้ำ”
         ขะ เขามัน!
         “บ้า! ไม่คุยด้วยแล้ว!”
         ทำไมเขาทะลึ่งแบบนี้นะ งูหื่นเอ้ย!



         สุดท้าย มีข่าวดีมาบอก...คืนนี้กำลังจะแต่งตอนจบของเรื่องนี้ วิ้ววววว คืนนี้ฟินคนเดียวอีกแหละ ใครอยากฟินด้วยกันขอกำลังใจแรงๆเลยนะ งานเสียเลือดต้องมา พูดเลย!!!  :mc4:

         ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจ อ่านแล้วมีความสุขมากค่ะ บางคอมเม้นก็เม้นซะน่ารักเลย ฮาสุดๆ ขำแปบ 555555  :m20:

         เลิฟยูววววคนอ่านที่น่ารัก จุ๊บๆๆๆ :mew1: :กอด1:

         
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-07-2014 18:51:31
สงสารอาซา   :mew4: ยอมให้คนรักเกลียดตัวเอง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 07-07-2014 18:52:56
 :pig4: =////=:ขอบคุณค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ ลุ้นมากๆเลยจ้า +1เป็ด
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 07-07-2014 18:53:12
พี่งูน่าสงสารนะ แต่สงสัยจังตกลงพี่งูไปปลดปล่อยกับคนอื่นเหรอ ระวังน้องโยชิจะโกธรเอาน่ะ พี่งูกับน้องโยชิเข้าใจกันได้ก็ดีแล้วต่อไปคงมีแต่ความหวานและความหื่นนะ ยัยป้าจูหล่อนจงตัดใจจากอาซาซะให้เด็ดขาดแล้วไปตามหาพ่อโรมิโอของหล่อนเถอะยะแค่200ปีจะมาเทียบอะไรกับ1000ปีย่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 07-07-2014 18:53:29
กรี๊ดดดดดด เป็นเดือนๆเลยเหรอ
ดราม่าเล็กๆกับตอนนี้ พ่อมาอ่านสปอยเท่านั้นแหละ
เลือดกำเดาแทบพุ่ง
รอคอยตอนหน้าอย่างมีความหวัง :heaven
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 07-07-2014 18:54:49
 :z6:   ตอนแรกอยากจะถีบยัยจูเรียต แต่ก็อย่างว่าแหละเนอะ ตั้ง 200 ปี พอมาเจอแบบนี้ ใครมันก็ไม่ทนทั้งนั้นแหละ

แต่พอหล่อนได้ฟังนิทานจากปารีส แล้วสามารถคิดได้นั้น ต้องยอมรับเลยว่าเธอมีความคิดสูงมาก 

จะว่าไปก็แอบลุ้นเหมือนกันนะกลัวว่าโยชิจะเข้าใจผิด แต่ก็ว่าแหละนะนายเอกฉลาด  :laugh:

ต่อไปก็รอออออออออออออออออออออออออออออออ ......   :z1:   สินะ ชะม๊ะๆๆๆๆๆๆๆ 

ปล.อยากได้ผู้ชายอย่าง อาซา จะหาได้ที่ไหนอ่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 07-07-2014 18:55:51
อาชาน่าสงสาร :o12:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 07-07-2014 18:58:08
 :hao4: เรื่องซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ จริงๆโยชิเป็นอะไรกันแน่ อยากรู้มากๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 07-07-2014 19:03:09
ตอนหวานๆกำลังจะมา รอคอยยยย  :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 07-07-2014 19:09:44
อาซาน่าสงสารมากกกก รักพันปีจริงๆ อยากให้โยชิ เลิกเกลียดงูซะทีอ่า สมหวังกันเร็วๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 07-07-2014 19:23:15
โหยยยยยยย พี่งูมาดพระเอกอีกละ  งื้ออออออ แค่นี้น้องก็หลงหัวปักหัวปำแล้วจ้าาาา  นี่ถ้าโยชิรับไม่ได้กะจะเสียบแทนซะหน่อย

สปอยนั่นมัน แอร๊ยยยยยยย   :hao6:   ไม่ใช่แค่มาดพระเอ๊กพระเอกมุมหื่นๆพี่งูก็มีเหมือนกันนะ อร๊างงงงง  :pighaun:


#เคยคิดว่าRiRiแสนดีวันนี้ต้องคิดใหม่ ไปแอบฟินคนเดียวได้ไง ของแบบนี้มันต้องแจกจ่ายให้ฟินกันถ้วนหน้า แงงงงงง มาเร็วๆนะตัว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 07-07-2014 19:37:59
ง่าาาาาา  น่าสงสารอาซาอ่าาาาาาาา 

ขอหวานๆๆ  อิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 07-07-2014 19:42:58
ฟินยาวๆ รอตอนต่อปายยย 555555 -.,=
แอบเสียใจเบาๆ จะจบแล้วเหรอ~  :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 07-07-2014 19:43:01
 :mew1: :mew1: :mew1:

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 07-07-2014 20:06:27
อ๊าคคคคคคคค ตอนนี้หวานปนเศร้านิดๆ
รอตอนหน้า หวานปนหื่น เอิ๊กๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 07-07-2014 20:21:41
อาซา นายสุดยอดเลย
ยอมแพ้ในรักของนายเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 07-07-2014 20:40:28
อาซาสุดยอดแห่งความมั่นคงในรัก แอร๊ยยยย  :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-07-2014 20:45:42
รู้สึกทึ่งในความรักของอาซา

ประทับใจและสงสารปะปนกันไป

หวังว่าอาซาคงสมหวังซะทีนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 07-07-2014 20:49:14
รักอาซา รักริริ รักโยชิ ปล.จงเรียงลำดับความรักจากมากไปหาน้อย 5555 สรุปสงสารความรักของคู่นี้มากๆ เรย ~>\\\\\\<~
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 07-07-2014 20:50:35
ติดกันเป็นเดือน แม่เจ้า  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 07-07-2014 21:00:23
ห๊าาา!!!!  o22 ติดกันเป็นเดือน กรี๊ดดดดดดด ถ้าไข่ได้ก็มีลูกเป็นโหลแล้วนะเนี่ยย :m25:
เห็นสปอยละเนื้อเรื่องด้านบนปลิวหายไปเลย  :impress2:
รอตอนสวีท(ซะที)น้าาาา :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 07-07-2014 21:06:13
ฟินยาวๆ รอตอนต่อปายยย 555555 -.,=
แอบเสียใจเบาๆ จะจบแล้วเหรอ~  :hao5:

ยังงงงงง ยังไม่จบจ้าาา ใจเย็นๆ มีให้ฟินกันอีกยาว ริริหมายถึงริริแต่งมาจนถึงตอนจบแล้ว แต่ยังเหลือลงอีกหลายตอนกว่าจะจบ  :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 07-07-2014 21:08:54
ติดใจเรื่องนี้อ่ะ
หลงรักพี่งูจัง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 07-07-2014 21:11:27
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 07-07-2014 21:16:40
น้ำตาหยดแหมะ...ซึ้งในความรักของคนทั้งคู่
อยากให้โยชิกลายร่างได้บ้างจัง คงร้อนแรงกันพิลึก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 07-07-2014 21:19:39
 อาซาน่าสงสารจุง ขอให้สมหวังซัะทีนะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: KoTo_Nat ที่ 07-07-2014 21:21:47
อ่าจะรอนะ

แต่ตอนต่อๆไปขอไม่เลี่ยนมากนะไม่งั้นง่วงแน่ 55555

ขอแบบมีอุปสรรคบ้างนะพอมีสีสันแต่อย่าดุเดือดมากนะ โฮะโฮะโฮะ

แล้วที่บอกว่าเปลี่ยนได้สามร่างนี่ ร่างไหนใช้ร่วมรักเอ่ย 555555555 เรื่องนี้จะมีไหมที่ร่างสมบูรณ์เมื่อร่วมรักแล้วจะทำให้มีลูกได้

 :hao6: :hao6: :hao6:

สุดท้ายรักคนแต่งจ๊ะ รีบๆมาต่อนาาาาาาาาา รออยู่ :hao4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 07-07-2014 21:21:54
เราร่วมสนับสนุนให้โยชิ โดนกด อ๋อย  :o8: แอบหื่น เบาเบา  :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 07-07-2014 21:29:10
โอ๊ยยยยยยย...อิจฉาโยชิมากกกกกกกกกกกกกก.......
แต่ก็นะสงสารจูเลียตเหมือนกัน......ช่างเถอะก็จูเลียต
ไม่ใช่นายเอกนี่เนอะ.....มะมาฟินด้วยกันดีกว่า..อิอิ... :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: chandeliers.nun ที่ 07-07-2014 22:55:00
อยากอ่านตอนหน้าแล้วสิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 07-07-2014 23:25:37
คือซึ้งกับความรักของอาซามากกกก
อยากรู้มีผู้ชายแบบนี้อยู่บนโลกมั้ย 55555
โยชิคราวนี้ก็ได้เวลาตอบแทนความรักของอาซาคืนละนะ
เอาให้เต็มที่เลยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 07-07-2014 23:47:37
ขอเราฟินอีกคนด้วยได้ไหมค่ะคุณริริ โอ้ยยยยยย อยากอ่านตอนต่อไปเเล้วววววว
เเต่ตอนนี้มันก็บีบใจดีนะ เป็นไงโยชิพูดอะไรไว้อาซาเจ็บเเค่ไหนรู้ยังงง
ส่วนจูเลียตเธอเป็นชะนีอีกคนที่ฉันจะไม่เหม็นขี้หน้านะ ดีมากๆ o13
ย๊าาาา อยากอ่านตอนต่อไปเเล้ว เราจะรอคุณริริที่ท่านํ้าเเถวบ้านทุกวันเลยนะค่ะ
ด้วยรักเเละเคารพ จากนักอ่านผู้รอคอยตอนต่อไปของอาซาเเละโยชิ เผื่อเเผ่ไปถึงตอนของคาร์เตอร์ด้วย
เเล้วดาวเสาร์ขอร้องนะค่ะ เราขอเถอะ ให้ดาวเสาร์กับเรานะ 555555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 08-07-2014 00:04:34
T^T อาซา นายโคตรหล่อเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 08-07-2014 00:20:58
โล่งอกไปทีที่อาซาไม่เสียท่า :เฮ้อ:
หนูโยชิ ยอมรับพี่งูให้ได้เถอะนะ สงสารพี่งูเขา รักมากขนาดนี้จะหาที่ไหนได้อีก
ส่วนจูเลียต ฉันขอเตือนนะว่าถ้าเธอทำอะไรหนูโย ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่
ตอนหน้าขอหวานๆ แก้เครียดบ้าง คิดหนักมาหลายตอนแล้ว แต่สนุกมากเลยค่า
ขอบคุณนะคะ :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 08-07-2014 00:25:56
ไม่อยากให้จบเลยยยย อยากอ่าน นานๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: ninghyuk ที่ 08-07-2014 01:03:13
แง๊ น้ำตาไหลเลยทีเดียว สงสารอาซาจังงงงง มารักเราแทนมั้ยยย T////T
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: Sakiloveanime2069 ที่ 08-07-2014 01:42:18
 น้ำตาหยดแหมะ...ซึ้งในความรักของคนทั้งคู่ :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
อยากให้โยชิกลายร่างได้บ้างจัง :mc4: :mc4: คงร้อนแรงกันพิลึก  :mc4: :mc4:
         “นายก็รู้ว่าฉันไม่มีวันเกลียดนาย ฉันเป็นของนายอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ฉันก็เป็นของนายคนเดียว”
 :m15: :m15: :m15:   อาซา นายสุดยอดเลย นายโคตรหล่อเลยo13 o13 o13
I will wait for you everyday thank you
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 08-07-2014 05:17:47
เอิ่มมมมม สปอยมาแบบนี้ ตอนหน้าคงต้องได้เตรียมทิชชู่ไว้ซับเลือดแน่ๆ :impress2:
คนอ่านเสียเลือด แต่หนูโยคงจะเสียมากกว่านั้นเป็นอาทิตเลยนะนั่น
แต่เปนอาทิตยังพอไหวแต่เปนเดือนนี่สิ เอิ่มมมไม่มีคำบรรยาย พี่งูเราหื่นเกิ๊นนน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 08-07-2014 05:25:40
 :o12:ตอนนี้เรียกน้ำตาได้มากมายจริงๆๆๆเลยอ่ะ หืออออออ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 08-07-2014 08:41:34
ดีนะที่ไม่เกิดเรื่องขึ้นอ่ะ

อ่านตอนนี้แล้วอยากมีคนรักแบบ อาซา เลยอ่ะมั่นคงมากกกกกกก

รอตอนต่อไปจร้า มาเร็วๆ นะ

ม๊วฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-07-2014 09:22:36
ฉากสปอล์ยนั่น !!!!
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 08-07-2014 13:49:11
แทบจะรอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว........
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 08-07-2014 15:06:36
 :katai1: มานั่งอ่านอีกรอบ และก็ค้างต่อไป5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 08-07-2014 15:12:39
ดีที่รู้แล้ว
คือต่อจากนี้จะเจออะไรก็ต้องสู้ไปด้วยกันแล้วนะ
ฮืออออ
สู้!¡!
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 08-07-2014 15:35:10
อิจฉาโยชิจริงจัง แต่ไงก็สู้ไม่ได้ เป็นพันปีแล้วนี่
ดีใจที่แต่งถึงตอนจบแล้ว รออ่านอาซาภาคหื่นฮะ 555+
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 08-07-2014 16:28:36
แอร๊ยยยย หวังว่าโยจะจำเรื่องเก่าๆได้ในเร็ววัน  :mew6:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 08-07-2014 18:54:04
แล้วตกลง พี่งูหนีไปไหน ไปปั่มปั้มกับคนหรือ ไปสะกดตัวเองอะ คาใจนะ :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: full ที่ 08-07-2014 19:49:02
อร๊ายยยย พี่งู พี่หล่อมาก!! :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 08-07-2014 20:22:08
มาดัน

มาให้กำลังใจ

มาทวงด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 08-07-2014 21:29:51
วันนี้มาไหมตัวเอง รอนะคะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 08-07-2014 22:07:49
 :m4: :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ THIRTEEN ❁ 07-07-14 [P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 08-07-2014 22:18:34
รอพี่อาซา อยู่น้าา ^^
หัวข้อ: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 08-07-2014 22:45:39
FOURTEEN




         “นี่...ฉันถามอะไรหน่อยสิ”

         ผมขยับหัวที่ซบอยู่บนอกอาซาหามุมสบาย สายฝนเย็นฉ่ำโปรยปรายอยู่เบื้องหน้า วันพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ผมกับอาซาเลือกที่จะนอนดูฝนกันเงียบๆ พักทั้งกายและจิตใจ ทิ้งกายลงนอนเคียงข้างกันบนเก้าอี้หวายตัวใหญ่ที่อาซาเอาเบาะนุ่มขนาดใหญ่มาวางรองไม่ให้เจ็บหลัง และมีหมอนหนึ่งใบไว้ให้อาซาหนุน ส่วนผมก็ใช้อกแข็งแรงของอาซาหนุนต่างหมอน

         “อะไรล่ะ” อาซาหลับตานิ่ง ผมรู้ว่าเขาไม่ได้หลับ แค่พักสายตาเท่านั้น

         “ตกลงเมื่อคืนก่อน นายออกไปนอนกับคนอื่นมาเหรอ”

         “หืม?” อาซาลืมตาเหลือบตาต่ำมองผมงงๆ

         “ก็ที่นายโดนยาเข้าไปแล้วก็ออกไปข้างนอก นายไปให้คนอื่นช่วยมาเหรอ”

         ผมถามในสิ่งที่ยังค้างคาใจ เพราะในเช้าวันนั้นที่อาซากลับมา ผมก็เอาแต่ร้องไห้ แล้วก็หลับเนื่องจากฤทธิ์ยาและอาการบอบช้ำของร่างกาย ผมก็เลยไม่ได้ถาม แต่พอดีเมื่อคืนผมนอนไม่หลับ ส่วนอาซาออกไปเอายาที่บ้านคาร์เตอร์ ก็เลยหาอะไรทำแก้เครียดด้วยการหาข้อมูลเกี่ยวกับงูอีกครั้งนอกเหนือจากข้อมูลที่ผมเคยทำรายงาน ผมอยากรู้จักพวกเขาให้มากกว่านี้ อย่างๆน้อยๆก็พวกพฤติกรรมของสัตว์จำพวกงู แต่สิ่งที่ผมดันอ่านเจอโดยบังเอิญและเป็นข้อมูลที่ผมรู้อยู่แล้วแต่ไม่เคยสนใจเพราะวิถีชีวิตงูไม่เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตผม แต่หลังจากที่ผมตัดสินใจว่าจะรักอาซาแม้ว่าเขาจะเป็นงู เรื่องพวกนี้จึงจำเป็นต้องใส่ใจขึ้นมาทันที ซึ่งก็คือเรื่อง...

        ‘Snake Sex’

        ‘การดำเนินชีวิตของงูส่วนมาก จะอยู่ตัวเดียว แต่เมื่อต้องการผสมพันธุ์ ก็จะมารวมกลุ่มกัน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาส ในการผสมพันธุ์สำเร็จ จะผสมพันธุ์หลายเวลา เมื่อผสมพันธุ์กับตัวเมีย ที่เป็นคู่เสร็จแล้วก็จะแยกออกไป ผสมกับตัวอื่นได้อีก งูตัวเมียก็จะไป ผสมพันธุ์กับตัวผู้อื่นอีกเช่นกัน และหลายครั้งเมื่อออกลูก ลูกก็จะไม่เหมือนพ่อ…’

         ไม่เห็นจะเหมือนแบบที่เขาเคยบอกผมเลย

        ‘รู้ไหมว่างูมันหวงคู่ของมันมาก มันจะทำร้ายทุกคนที่เข้าใกล้คู่ของมัน เพราะมันรักคู่ของมันมาก ถึงได้ไม่อยากให้ใครเขาใกล้ เพราะรักมากก็เลยหวงมาก’

         โกหกทั้งเพ คืนนั้นเขาต้องออกไปนอนกับงูตัวอื่นมาแน่ๆ และอาจจะหลายตัวด้วย แค่คิดก็โมโหแล้ว

         ปึก!

         “โอ๊ะ ทุบฉันทำไม”

         ผมเผลอลืมตัวเลยทุบเข้าที่หน้าอกแน่นไปหนึ่งทีเน้นๆ จะลุกขึ้นนั่งอาซาก็ไม่ยอมปล่อย สอดแขนเข้ามากอดผมแน่น กดหัวผมให้ซบในตำแหน่งเดิม

         “ก็บอกมาสิว่าเมื่อคืนนั้นไปให้ใครช่วยมา” ผมพูดเสียงเขียว ถึงจะรู้ว่ามันจำเป็น แต่ก็อดหวงไม่ได้ เขาบอกว่าเขาหวงคู่ของเขา ผมก็หวงเขาเหมือนกันนะ

         “ก็...ให้ผู้หญิงข้างนอกสามสี่คนช่วย” เขาพูดยิ้มๆ แต่ผมฟังแล้วควันออกหู ถ้าพ่นไฟได้อาซาคงกลายเป็นงูเผาไปแล้วผมรับรอง!

         “ปล่อยเลย! ไม่ต้องมากอด” ผมสะบัดตัวออกจากกอดของอาซา ดีดตัวจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกเหนี่ยวคอจากด้านหลังอีกรอบ แต่คราวนี้ผมดิ้นไม่ยอม เขาทำได้ยังไง ออกไปนอนกับคนอื่นโดยที่ไม่คิดถึงความรู้สึกผม ไหนบอกว่ารักผมไง

         “โอ๋ๆๆ หึงเหรอ” เขากระชับกอดผมแน่น

         “เออ หึง!”

         “หึหึ ฮ่าๆๆ” อาซาหัวเราะดังลั่น คราวนี้เขาคลายอ้อมแขนออก ผมรีบลุกขึ้นนั่งมองอาซาเคืองๆ เห็นผมหึงมันมีอะไรตลกนักเหรอไง

         “งั้นถ้าฉันไปนอนกับคนอื่นนายก็จะไม่ว่าอะไรใช่ไหม” ผมพูดประชดเพื่อที่อาซาจะได้รู้สึกอะไรกับความผิดของตัวเองบ้าง ถึงตอนนี้อารมณ์ของผมก็เริ่มจะเดือดเหมือนกัน ผมจ้องเขาอย่างท้าทาย อาซาหยุดหัวเราะทันที จ้องผมเขม็งก่อนจะถอนหายใจ

         “ห้ามพูดแบบนั้นอีก” เขาสั่งเสียงแข็ง ผมเชิดหน้าใส่

         “ทีนายยังทำได้เลย”

         “ฉันเปล่า ก็แค่แกล้งเล่น โกรธเหรอ” เขาขยับตัวนั่งพิงพนักหลังของเก้าอี้หวายที่เรานั่งกันอยู่ ผมไม่มองหน้าเขา บอกให้รู้ว่าผมโกรธ ถึงจะแค่พูดเล่นก็ไม่ควร คนฟังมันเจ็บ

         “ฉันไม่ได้ไปนอนกับใครทั้งนั้น”

         “แล้วนายทำยังไงถึงหายอยาก” ผมหันขวับไปถาม ใจกับมาเต้นจังหวะเดิมพอรู้ว่าเขาไม่ได้ไปนอนกับใคร แต่ก็อดสงสัยไม่ได้

         “ช่วยตัวเองไง ฉันนอนอยู่ในสระน้ำหลังบ้านทั้งคืนกว่าฤทธิ์ยาบ้านั่นจะคลายตัว” เขาหัวเราะขืนๆ

         “นายทนไหวได้ไง” ผมทึ่งกับเขาจริงๆ

         “ทนไม่ไหวก็ต้องทน เพราะคนเดียวที่ฉันอยากทำอะไรด้วยมีแค่นายคนเดียว ถึงเป็นคนอื่นก็ช่วยให้ฉันรู้สึกดีไม่ได้หรอก”

         “แต่นายไม่ยอมให้ฉันช่วย”

         “นั่นเพราะฉันไม่อยากฆ่านายต่างหาก ฉันรู้ตัวเองดีว่าถ้าเป็นนายฉันคงควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันไม่อยากทำรุนแรงในตอนที่ร่างกายของนายยังไม่พร้อมรับศึกหนัก”

         “อืม”

         “ฝนสาดแล้ว เข้าบ้านกันเถอะ” เขาจับจูงมือผมเข้าบ้านขึ้นไปบนห้องนอน เขาว่าตัวผมเปียกฝน...ที่ผมเห็นว่ามันก็แค่เล็กน้อย แต่กลัวว่าผมจะไม่สบาย เลยอยากให้ผมเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็ตามใจเขาถ้ามันทำให้อาซาสบายใจ

         “นายเคยบอกว่างูหวงคู่ของมัน” ว่าจะไม่พูดแล้วเชียว มันกระดากปากยังไงไม่รู้ แต่สงสัยก็สงสัย

         “ก็ใช่...หวงมาก” พูดพลางหรี่ตามองผมจริงจัง แต่ทำไมผมรู้สึกว่าเขากำลังจะบอกว่าเขาหวงผมมาก มือที่กำลังกลัดกระดุมสั่นเล็กน้อย

         “แต่...ฉันไปอ่านเจอมา...เขาบอกว่าเวลาถึงช่วงผสมพันธุ์ของงู หลังจากที่ผสมกับตัวอื่นแล้ว ไม่ว่าจะตัวเมียตัวผู้ก็สามารถไปผสมพันธุ์กับตัวอื่นได้ พอลูกออกมาก็น่าตาไม่เหมือน แบบนี้เขาเรียกว่าคบชู้ชัดๆ” จากข้อมูลที่ผมอ่านมา ไม่เป็นอย่างที่อาซาเคยว่าไว้สักนิด

         “หึหึ ก็นั่นมันงู มันไม่คิดอะไรหรอก ทำอะไรไปก็ตามสัญชาติญาณของสัตว์ทั้งนั้น” ริมฝีปากสีชมพูซีดคลี่ยิ้มบางให้อารมณ์เหมือนกำลังเอ็นดูผม

         “แต่นายก็เป็นงูนี่” ผมพูดแล้วก็เหสายตามองไปทางอื่น

         “ใช่ฉันเป็นงู” เขาขยับเข้ามาใกล้ ผมขยับเท้าถอยหลังเพียงนิดก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา

         “แต่ฉันก็เป็นมนุษย์ครึ่งหนึ่งนะอย่าลืม เพราะฉะนั้นฉันมีจิตสำนึก และมันก็คอยบอกฉันว่า...ฉันเป็นของนาย และนายเป็นของฉันคนเดียวโยชิ” เขากดจูบที่ซอกคอผม นิ่งค้างอยู่นานปล่อยให้ลมหายใจร้อนๆรินรดบนผิวกายของผม

         “อย่าให้ใครแตะต้องนายเหมือนที่ฉันทำ เพราะมันจะทำให้ฉันคลั่งจนอาจปล้ำนายได้”

         “อาซา!” ผมเขินกับคำพูดของเขา พูดบ้าอะไรไม่รู้ ใครจะไปยอมให้ปล้ำกัน

         แม้ความจริงถ้าเขาอยากจะทำ...ผมก็ห้ามไม่ไหวหรอก เสน่ห์เขาเหลือร้ายจะตายไป

         “มันต้องมาถึงสักวัน ตอนนี้ฉันจะให้เวลาทำใจ...เมื่อถึงเวลาเมื่อไหร่ ฉันจะเขมือบนายลงท้องแบบไม่เผื่อแผ่ให้ใคร”

         “...!!!”

         “และฉันสัญญาว่าฉันจะทำ...ให้นายเป็นของฉันคนเดียว”

         ใบหน้าหล่อเคลื่อนมาอยู่ตรงหน้าเสมอกับใบหน้าของผม ใกล้ขนาดที่จมูกโด่งเป็นสันชนกับจมูกของผม อาซาขยับจมูกให้ถูไกกับผมเบาๆ แก้มร้อนเหมือนมีไฟนาบ ก่อนจะรู้สึกร้อนที่ริมฝีปากยามที่อาซาแนบริมฝีปากป้อนจูบหวานให้กับผม

         อาซาบดขยี้ริมฝีปากของผมก่อนจะใช้ลิ้นอันช่ำชองของเขาเปิดเปิดริมฝีปากของผมเพื่อค้นหาความหวานภายใน ผมทำได้เพียงแค่ร้องครางในลำคอ กับรสหวานที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ร่างของผมสั่นสะท้านด้วยรสจูบอันแสนหอมหวาน เร่าร้อนไปด้วยเพลิงราคะที่อันแน่นอยู่ภายใน

         มือเล็กของผมสะเปะสะปะไปทั่ว ก่อนจะหยุดลงที่สาปเสื้อเชิ้ตด้านหน้า ลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตสีดำของเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่

         “ซนเกินไปแล้วนะโยชิ” อาซากระตุกยิ้มล้อเลียนก่อนจะครอบครองริมฝีปากผมอีกครั้ง

         “อืม อาซา” ผมครางแผ่ว ลุ่มหลงไปกับรสจูบที่อาซาเฝ้าบำเรอไม่ห่าง ยามที่เขาถอยห่างผมยื่นหน้าตามด้วยใจที่พลั้งเผลอ อยากจะได้จูบมากกว่านี้

         “ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบหรอกนะ เรายังมีเวลาอีกเยอะ”

         มือหนาโอบกอดแน่นขึ้น ลูบหลังขึ้นลงด้วยน้ำหนักมือที่สม่ำเสมอ ปลอบประโลมอารมณ์ที่พุ่งทะยานสู่ที่ลงให้ค่อยๆลดลงช้าๆ เสียงหอบหายใจแรงของผมดังก้องห้องนอนของเขา มือที่กำเสื้อเชิ้ตเนื้อดีค่อยๆคลายเผยให้เห็นรอยยับย่น ขนกระทั่งผมสามารถควบคุมลมหายใจของตัวเองได้แล้ว อาซาจึงผละออกห่าง...เพียงนิด

         “แก่แดดเชียวนะ” เขาว่าผมขำๆ ผมทำหน้าบึ้งใส่ ยกเท้าขึ้นเตะขาเขาอย่างแรง สมน้ำหน้าอยากล้อผมดีนัก

         “เงียบไปเลย!”

         “หึหึ อย่างอนไปเลย ฉันต้องการนายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ฉันไม่อยากพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากนายในตอนนี้ นายยังเด็ก ยังไม่เหมาะที่แปดเปื้อน แม้ว่าฉันจะอยากกอดนายแทบขาดใจก็เถอะ”

         “ทำไม” คือผมสงสัยจริงๆถึงได้ถาม และผมอายุสิบเก้าแล้วนะ พ้นข้อหาพรากผู้เยาว์แล้วด้วย แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิดว่าผมอยากจะถูกอาซากอดหนักหนา เพียงแค่สงสัยเท่านั้นว่าวัยรุ่นต่างชาติอย่างเขาคิดอะไรแบบนี้ก็เป็นด้วยเหรอ ใครๆก็รู้ว่าเด็กอเมริกันโตไวจะตาย

         “ความต้องการของฉันมีมากกว่าที่นายคาดคิดเยอะ ฉันกลัวว่าถ้าทำวันนี้นายคงสลบแน่ๆ ไว้ให้ร่างกายของนายหายดีก่อน ถึงเวลานั้นต่อให้ร้องว่าไม่ไหวฉันก็ไม่หยุดหรอกนะ เพราะฉันกินจุ ไม่ว่าเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ ยิ่งเป็นนาย ทำติดต่อกันทั้งอาทิตย์แบบทั้งวันทั้งคืนคงไม่พอเลยมั้ง” เขากระซิบเสียงพร่าข้างใบหู ผมขนลุกเกลียวเพราะน้ำเสียงที่แสนเย้ายวนสุดเซ็กซี่ของอาซา

         “บ้า ใครจะไปทำแบบนั้นได้ติดกันเป็นอาทิตย์”

         อย่างน้อยๆก็ต้องเหนื่อยกันบ้างแหละ

         “ฉันเนี่ยแหละ นายอาจจะจำไม่ได้นะ แต่เมื่อก่อนนายกับฉัน ‘รัก’ กันติดเป็นเดือนๆยังไม่มีปัญหาเลย นายมีแต่ชอบด้วยซ้ำ”

         ขะ เขามัน!

         “บ้า! ไม่คุยด้วยแล้ว!”

         ทำไมเขาทะลึ่งแบบนี้นะ งูหื่นเอ้ย!

         “หึหึ อีกอย่าง ฉันอยากให้นายเลิกกลัวงูก่อน” จากที่เงียบไปสักพักเขาก็พูดกับผมเสียงจริงจัง ผมเลิกคิ้วสงสัย

         “แล้วมันเกี่ยวอะไรกันล่ะ” ผมถามเขาอย่างระแวดระวัง เดินไปนั่งบนเตียงเปิดทีวีที่อยู่ภายในห้องนอนดู อาซาเขาไม่ค่อยชอบดูเท่าไหร่ ไม่เห็นเคยเปิดสักที

         “เพราะเวลาพีคแบบสุดๆฉันมักลืมควบคุมตัวเองแล้วกลายเป็นงูยังไงล่ะ กลัวแต่ว่าเวลานั้นนายจะช็อคไปเสียก่อนหมดอารมณ์สนุกกันพอดี” เขาพูดติดตลก แต่ผมไม่ตลกด้วย เขาอาจจะไม่คิดอะไรที่พูดออกมาแบบนั้น แต่ผมคิด เพราะผมไม่รู้ว่าตัวเองจะเลิกกลัวงูเมื่อไหร่ แต่ถ้าเป็นอาซา บางทีผมอาจจะวางใจได้ เขาคงไม่มีทางทำร้ายผม

         “อาซา...”

         “หืม”

         “ลองกลายร่างเป็นงูหน่อยสิ ฉันอยากจะลอง เอ่อ...ลองดูว่ากลัวไหม”

         “แน่ใจเหรอ” เขาเลิกคิ้วถาม หน้าของเขาประหลาดใจขึ้นมา ผมพยักหน้าช้าๆ ในเมื่อผมเลือกที่จะรักเขา ผมก็ต้องมองข้ามสิ่งที่เขาเป็นและทำใจยอมรับมันให้ได้สิ ให้สมกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อาซาเสียสละเพื่อผม

         “เอาขนาดไหนดี” เขาเดินมายืนตรงหน้าผม ลูบศีรษะผมเบาๆ รอบตัวโอบล้อมไปด้วยไออุ่น ผมทำหน้าม้านใส่เขา เขาหัวเราะก่อนจะเลื่อนมือลงมาลูบแก้มขึ้นสี

         “เอาตัวเท่าแขนก็พอเนอะ” เขาพูดเอาใจ

         “นายปรับขนาดตัวเองตอนแปลงร่างได้ด้วยเหรอ”

         จะว่าไป ครั้งแรกที่ผมเห็นอาซาที่บ้านคาร์เตอร์กับคืนที่เขาโดนยาในร่างงู ก็ขนาดตัวพอๆกัน แต่ตอนที่เขาต่อสู้กับเจอร์โรม ขนาดตัวของเขาใหญ่โตมหึมามาก ผมก็ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย

         “ได้ ตัวเล็กสุดก็เท่าแขนนาย” เขาลูบมือที่แขนผม สายตาหวานเชื่อมจับจ้องเข้ามาในดวงตาของผมอย่างมั่นคง

         “ขนาดกลางก็เท่าตัวนาย และใหญ่สุดก็เท่าที่นายเห็นตอนที่ฉันไปตามนายนั่นแหละ แต่ก็ไม่ใช่ทุกตัวหรอกที่จะทำแบบนี้ได้ ต้องเป็นนากินีที่มีอายุห้าร้อยปีขึ้นไป”

         “งั้นเอาแค่แขนก็พอ”

         ผมชูแขนตัวเองให้เขาดู ใจจริงอยากได้แค่นิ้วชี้ แต่คงเป็นไปไม่ได้ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะเดินถอยห่าง ผมหลับตาและพยายามสูดลมหายใจช้าๆ รู้ตัวว่ากำลังกัดฟันแน่นข่มความกลัว ทันทีที่เขากลายร่างเป็นงูสีดำตัวเท่าแขนอยู่ผมพื้น ผมก็สะดุ้งตกใจเฮือกใหญ่ ใจเต้นแรงมาก การส่งเสียงหัวเราะเป็นเรื่องสุดท้ายที่ผมอยากทำในตอนนี้

         อาซาทำท่าจะเลื้อยเข้ามาใกล้ ผมรีบร้องห้าม

         “อย่าๆ อย่าเพิ่งเข้ามา”

         อาซาหยุดชะงัก เขาเอียงคอมองผมเหมือนสงสัย ผมหายใจเข้าออกลึกๆเงยหน้ามองเพดาน เมื่อกี้ตอนที่เขาเลื้อยเหมือนภาพจะยังติดตาอยู่เลย พอเริ่มควบคุมสติและลมหายใจได้ ผมก็ล้มหน้ามองอาซาที่นอนขดตัวอยู่ที่เดิม ผมค่อยๆกระเถิบตัวลงไปนั่งที่พื้น สายตามองไปทางอื่นสลับกับอาซาในร่างงู

         เกล็ดสีดำเงาวิบวับ ดวงตาสีทองอำพันดูท่าหลงใหลและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ผมขยับเข้าไปจนใกล้เขาพอประมาณ ก่อนจะกลั้นใจยืนมือออกไปสัมผัสผิวกายของอาซา

         เพียงเสียววินาทีเดียวที่ผมรวบรวมความกล้า เพียงแค่แตะเบาๆเท่านั้นผมก็ชักมือกลับทันที ทุกอย่างเป็นโดยอัตโนมัติ ผมไม่ได้บังคับมือตัวเอง มันเป็นเอง ผมพยายามจะลองอีกครั้ง แต่ความรู้สึกแรกยามที่แตะโดนเกร็ดของอาซา ร่างผมก็สะท้านเฮือก จิตใต้สำนึกสั่งว่าผมต้องกลัวและอยู่ห่างสิ่งมีชีวิตจำพวกนี้ให้ไกลที่สุด

         ปลายนิ้วเรียวของผมแตะบนตัวอาซาอีกครั้ง ก่อนที่ร่างกายจะแข็งทื่อเหมือนรูปปั้นหินไปในทันที ผมทำไม่ได้ ต่อให้พยายามแค่ไหนแต่ผมก็ยังคงกลัวอยู่ดี

         “ไม่เป็นไร ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็ได้”

         ลมหายใจติดๆขัดๆทำให้ผมเริ่มไม่สบายตัว

         “ขอโทษนะ ฉันขอโทษ” ผมพร่ำบอกทั้งทียังหลับตาปี๋ จนตัวผมถูกรวบเข้าไปกอดแน่น จมูกโด่งกดจูบที่ขมับบาง

         “ไม่เป็นไร ฉันรอได้ นานแค่ไหนก็รอได้”

         ผมมันแย่ แย่ที่สุด




                  “โทรแล้ว แต่เธอไม่อยู่บ้าน ถ้านิกกี้ติดต่อแกบอกฉันด้วยนะ”

         “ได้ๆ อย่าเพิ่งคิดมาก ไว้ฉันจะลองหาทางติดต่อนิกกี้ดู”

         “ขอบใจ”

         “ไปก่อนนะ เดี๋ยวมีเรียนต่อด้วย”

         ผมยิ้มให้กำลังใจเติร์ดก่อนจะเดินไปหาอาซา เขายืนมาฉวยเอากระเป๋าในมือผมไปถือ ผมแย้งกลับแต่เขาทำตาดุใส่ผม ผมก็เลยปล่อยให้เขาถือกลับไปเก็บไว้ที่รถ ผมยังต้องกลับไปเอาของที่หอจำพวกหนังสือเรียนและเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว

         “อ้าว...นายอยู่เหรอ”

         ผมไขประตูเข้าไปในห้องเห็นดาวเสาร์นั่งนิ่งอยู่ที่โซฟานั่งเล่นตัวเล็ก ดาวเสาร์เงยหน้ามองผมก่อนจะมองไปทางด้านหลัง อาซาที่เดินตามมาคว้ากอดเอวผมแน่น จ้องดาวเสาร์ไม่พอใจอย่างโจ่งแจ้ง

         “ไปเก็บของสิ” อาซาบอกผม ผมที่กำลังเอ๋ออยู่ก็ได้แต่พยักหน้างึกงักทำตาม

         “นายจะเก็บของไปไหน” ดาวเสาร์ถามเสียงเรียบ ใบหน้าอิดโรยของเขาทำให้ผมนึกเป็นห่วง สังเกตดีๆจะเห็นว่าร่างกายของเขายังคงมีบาดแผลหลงเหลือ

         “เขาจะไปอยู่กับฉัน” เป็นอาซาที่แย่งผมตอบ ผมยิ้มแห้งๆให้ดาวเสาร์ ก่อนจะเดินเลี่ยงบรรยากาศมาคุระหว่างคนสองคนไปเก็บหนังสือและชีทเรียนใส่ถุงผ้า พร้อมอุปกรณ์จำเป็นอย่างอื่น เก็บของเสร็จอาซาก็ลากผมออกจากห้องทันที หน้าของเขาบูดบึ้งจนน่ากลัว

         “เดี๋ยว” ดาวเสาร์เรียก ผมหันไปมอง ดาวเสาร์เดินเข้ามามาใกล้ มือที่โอบเอวผมอยู่ลงแรงเค้นหนัก ก็ไม่ถึงกับเจ็บแค่อึดอัดเพียงเล็กน้อย

         “ขอคุยด้วยหน่อย” ดาวเสาร์บอกผม แต่มองหน้าอาซาเหมือนจะขออนุญาต

         “ไม่มีอะไรหรอก แปบหนึ่งนะ” ผมบอกอาซา จับมือเขาบีบให้วางใจ อาซาถึงได้ยอมออกไปรอข้างนอกพร้อมกับทำหน้ายุ่งยาก

         ดาวเสาร์เดินไปปิดประตูห้อง ไม่ใช่แค่อาซาหรอกที่ไม่ไว้ใจเขา ผมเองก็รู้สึกเหมือนกัน เพียงแต่เสี้ยวหนึ่งของความรู้สึก ผมรู้ว่าดาวเสาร์ไม่ใช่คนเลวร้าย

         “ฉันมีเรื่องจะบอกนาย คือตอนนี้เพื่อนของนาย...” เสียงของเขาแหบหายไปตอนพูดคำสุดท้ายในจังหวะเดียวกับเสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมหยิบขึ้นมาเปิดดูข้อความที่นิกกี้ส่งมา แวบแรกที่เห็นชื่อเธอผมรู้สึกเบาใจ แต่พอเปิดดูผมก็แทบจะทำโทรศัพท์หลุดมือ ภาพนิกกี้นอนจมกองเลือดด้วยใบหน้าซีดเซียวถูกส่งมาพร้อมข้อความ



        ‘ถ้าไม่อยากให้เพื่อนของนายตาย คืนนี้มาหาฉันที่ร้านR ตอนสามทุ่ม
    ห้ามบอกใครทั้งนั้น ไม่งั้นเพื่อนของนายตายแน่
    เจอร์โรม’


      !!!


         

         .......................................

         นี่ไง ใครรอฉากเสียเลือดอยู่  :hao6: กร๊ากกกกกกกกกก เดี๋ยว! รองเท้าใครเขวี้ยงมาอย่าลืมเก็บกลับไปด้วย เดี๋ยวไม่ครบคู่  :laugh:

         รอหน่อยๆ อีกไม่กี่ตอนหรอก อาซาและโยชิได้อะซาบาฮ่ากันแน่ๆ แต่ตอนนี้เขาก็หวานกันอยู่นะ แหมๆ หนูโยชิใจง่ายแบบนี้ อาซาทนไม่ไหวหรอก  :m10:

         ชี้แจงแถลงไขเรื่องที่คนอ่านเข้าใจผิดกันนิดหนึ่ง ที่ริริบอกว่าจะแต่งตอนจบ คือแต่งจบภาคแรกนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องยาว ยาวมากๆๆๆๆ อ่านกันให้เบื่อไปข้าง แต่เพิ่งแต่งจบภาคแรก เหลือทยอยเอาลงให้อ่าน ไม่ต้องเครียดเนอะ ได้ฟินกันจุใจแน่นอน  :m3:

         ทิ้งท้ายก่อนจากวันนี้ ริริอยากถามว่า ระหว่างให้โยชิเป็นคนธรรมดาต่อไปกับสามารถกลายเป็นงูได้ คนอ่านชอบแบบไหนมากกว่ากัน จะได้เริ่มใส่รายละเอียดพล็อตภาคสอง ออกความเห็นกันหน่อยน้า พลีสสสสสส  :oni2:

         รักทุกคน ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจ เลิฟๆ จูฟฟฟ  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Eternal luv ที่ 08-07-2014 22:48:14
 :z13:

ไม่นะ เสียเลือดแบบนี้เค้าไม่เอา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 08-07-2014 23:00:10
อ่านตอนนี้แล้วฟินมาก น้องโยชิกับพี่อาชา :o8:

แต่ตอนท้ายมันอารายยยย เอาเจอร์โรมไปเก็บที :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 08-07-2014 23:00:41
 :z3:   เอาเถอะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ   


ไม่เป็นร๊ายยยยยยยยยยย     :m31:


ว่าแต่อิตาเจอร์โรมเนี่ยไม่จบสินะ   :katai1:


ปล.อยากให้เป็นงูเหมือน อาซาจร้า บอกตามตรงสงสารอาซา ถ้าโยชิเป็นมนุษย์ ก็จะมีอายุไข สุดท้ายก็ต้องจากกันอีกครั้ง  อยากให้อยู่คู่กันเหมือนเดิม อ่ะ  ตกลงให้โยชิเป็นงูนะ ๆๆๆๆๆ   :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 08-07-2014 23:01:43
อยากให้เป็นงูได้อ่ะ  แบบนึกภาพงูขดอยู่ด้วยกันแล้วดูโรแมนติกดี   :laugh:

อะซาบาฮ่าได้ทั้งแบบเป็นคนและเป็นงูฟังดูอีโรติกดีเหมือนกันนะ   :hao7:   


RiRi  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 08-07-2014 23:04:53
รอฉาก ซู่ซ่า ดี้ด้า ไปดีกว่า เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเรา หื่น อร๊ายย  :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: smilejapan ที่ 08-07-2014 23:05:13
ฟินอ่าห์

อยากให้โยชิแปลงร่างเป็นน้องงูได้ มันฟินไม่น้อย อรั๊งง  o13
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ninghyuk ที่ 08-07-2014 23:11:53
จริงๆเราเองก็ไม่ค่อยถูกกะงูเหมือนกัน คิดว่าให้โยชิเป็นงูได้ก็คงดึ๋ยๆ อธิบายไม่ถูก ตามใจคนเขียนเลยค่ะ 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-07-2014 23:15:50
งูก็ดีนะแปลกดี แต่ขอสีสวยๆนะ ไม่เอาดำมันๆไรงี้แค่คิดก็บึ๋ยละริริ :ling3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 08-07-2014 23:18:13
ตอนแรกๆก้หวานอยุ่ดีๆ  หลังๆไมมันลากเขาดราม่าอย่างงี้ล้ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: chandeliers.nun ที่ 08-07-2014 23:18:57
เลือดแบบนี้ม่ายอาวน้าาาาา  :serius2:

เอาแบบแปลงเปนงูได้ล่ะกันนะคับ เวลาพีคสุดๆกับอาชา....  :hao6:

แค่คิดก้อ  :haun4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 08-07-2014 23:20:22
มาไม้นี้อีกละเจอร์โรม  อาซาไม่ปล่อยให้ไปแน่อะ นิกกี้จะตายมั้ยเนี่ย
แอบดีใจที่เป็นเรื่องยาวว  อิอิ  อยากให้หนูโยชิค่อยๆเริ่มมีพลังละก็แปลงร่างได้
อยุ่คู่กะอาซาคงฟินน่าดู  รอตอนหน้าจ้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 08-07-2014 23:33:29
เสียเลือดอย่างนี้ก็ไม่ไหวน้าา  :a5:

อยากให้หนูโยชิเป็นงูได้อ่ะ คงจะน่ารักดี  :hao6:  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 08-07-2014 23:38:07
 :serius2: ว้ากกกก โดนริริหลอกอ่ะ
อุตส่ามโนเองไปถึงไหนต่อไหนล่ะ  :ling1: 5555
อยากให้โยชิกลายเป็นงูได้ จะได้อยูกับอาซาตลอดไป
แต่ว่าก่อนที่จะทำได้แบบนั้นมันต้องมีวิธีการหรือบททดสอบกันก่อนซักหน่อย
ก็แหมมมม ถ้าให้กลายร่างกันได้ง่ายๆมันก็ไม่มันส์นะสิ เนอะ :eiei1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 08-07-2014 23:40:05
อ๊ากกกกกกกก..... ถ้ากลายเป็นงูแล้วได้อยู่กับอาซานานๆ ก็ยอมนะคะ :katai3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 08-07-2014 23:53:28
อ่า..โล่งใจมากๆ

ที่อาซาไม่ได้ไปนอนกับใครที่ไหน

โดยส่วนตัวชอบพระเอกไม่มักมาก

โยชิ เลิกกลัวได้แล้ว

แบบว่าคนอ่านคนนี้ขัดใจมาก

เวลาโยชิบอกว่า กลัวงู เกลียดงู อะไรงี้

อยากให้โยชิเป็นงูได้จ้า

แต่เห็นบอกว่าโยชิโดนสาบจะเป็นงูไม่ได้ ไม่ใช่เหรอ

แต่คำสาบก็แก้ได้ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 09-07-2014 00:12:38
จะบ้าตายยยย  ติดตามต่อไปๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: full ที่ 09-07-2014 00:21:27
มาอย่างหวานน่ารัก จบท้ายด้วยเลือด :katai1:

ให้โยชิเป็นงูก็ดีนะเวลาอะจึ้กๆกับอาซา :pighaun:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 09-07-2014 00:33:51
แปลงเปนงูได้ก้อดีจ้าาา  มีเรื่องลุ้นนนนอีกแร้วววว มาต่อไวๆ นร้าริริจ๋าาาาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 09-07-2014 00:45:38
 :L1: :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-07-2014 01:04:10
แอ่ะหวังว่านายเอกเราจะไม่โง่นะ เฮ้อ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 09-07-2014 01:34:00
แง้งงงง ไม่เอาเสียเลือดแบบนี้สิ T^T
โยชิบอกอาซาสิ จะได้วางแผนช่วยกันหลายๆคน
ดาวเสาร์นายจะช่วยโยชิใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella ที่ 09-07-2014 02:09:04
อยากให้โยชิเป็นงูเหมือน อาซา จะได้อยู่ด้วยกันไม่ต้องจากกันอีก

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 09-07-2014 05:15:24
หวานกันสุดๆ  :-[

แต่ไหงตอนท้าย อีกอารมณ์นึงเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: KoTo_Nat ที่ 09-07-2014 05:45:19
โอ๊ะจะจบแล้วเหรอภาคแรก จะรอภาคสองและภาคต่อๆไปนะ

ที่ถามว่าภาคสองจะให้โยชิเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือเป็นงูนั้นขอบอกว่า

- ถ้าเป็นมนุษย์มันดูจะไม่มีสีสันเท่าไหร่น่าา ในความคิดนะ แต่ถ้าจะแต่งก็คงต้องเน้นด้านความมันส์และบริบทอื่นๆ ร่วมกับมีคู่อื่นๆด้วย หรือมีหลายๆ ปมให้มาแก้ปัญหากันมั้งถึงจะบอกว่าน่าติดตาม(ในความคิดเรานะ)

- ส่วนถ้าไม่ใช่เป็นมนุษย์อันนี้น่าสน เพราะเนื้อเรื่องเป็นแนวแฟนตาซีมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ภาคต่อไปคงมีอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ มาให้ชมแน่ เพราะแนวแฟนตาซีสามารถแต่งเรื่องขึ้นมาเกินความเป็นจริงได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ใช่มะ 5555+
(ที่สนใจแนวแฟนตาซีเพราะเคยอ่านเนื้อเรื่องคล้ายๆกันในเด็กดี เรื่อง "ดอกไม้เหล็กเผด็จไอ้บ้าอำนาจ" ซึ่งเรื่องนี้คนแต่งเขาทำเป็นหนังสือแล้วทำให้บางตอนมันอ่านแล้วขาดๆไปจะซื้อก็มีงบประมาณไม่พอเพราะมันหลายตังและหลายเล่ม ส่วนเนื้อเรื่องของเขามีคู่นึงที่เป็นงูเหมือนกันแต่ไม่ใช่คู่เอกของเรื่องเลยต้องลุ้นว่าตอนไหนคู่นั้นถึงจะออก 5555

จะสรุปเนื้อเรื่องย่อๆของเขาให้ คือ ในเรื่องมันมี สามคู่ มีหมาป่า งู และกระทิง แต่ละคู่ก็มีปมต่าง ๆ ให้น่าติดตาม
ภาคแรกจะเป็นคู่พ่อแม่ ภาคสองจะเป็นของลูกๆ ในส่วนตัวชอบคู่ของงูเพราะพระเอกดู จิต(หน่อยๆ)+หื่น :hao6: นายเอกก็ รั่ว+มึนๆ ทำให้สนุกดีตอนอ่าน มีลุ้นทุกตอน เขานำเสนอความรักระหว่างครอบครัว พี่น้อง และคู่รัก ออกมาได้ดี
บางตอนก็เครียดนิดหน่อย 55555+ แต่โดยรวมก็สนุก)


จะยังไงก็ตามแล้วแต่คนแต่งครับผม จะรออ่านภาคและตอนต่อ ๆ ไปครับ

 :mew1:ขอบคุณคนแต่ง :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 09-07-2014 05:50:33
อ่านตอนแรกๆหวานนะ โรแมนติกสุดๆ
แต่มาตอนสุดท้ายนี่มันอะไรรร
เจอร์โรมตายๆไปได้และ
อยู่ก็คอยรังควานเค้ากัน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 09-07-2014 06:15:08
เอาโยชิเป็นงูไปเล้ยยยยยย ไหนๆก็เคยเป็นมาก่อน
อาซาจะได้มีความสุขจิงจังซะที :hao5:
รอตอนต่อไปปปป โยชิอย่าไปหาเจอร์โรมคนเดียวน้าาาา :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 09-07-2014 06:49:31
บอกอาซาก่อนนะ บอกอาซาก่อนนะ บอกอาซาก่อนนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 09-07-2014 07:20:40
โยชิต้องบอกพี่งูนะโยชิ  อย่าทำอะไรคนเดียวนะ
เรื่องนี้อีกไม่กี่ตอนก็จะจบใช่ป่ะ
เรื่องต่อไปก็พี่เสือสุดหื่น
ตอบคำถาม ริริ ว่า อยากให้โยชิแปลงร่างเป็นงูได้ด้วย 
คิดถึงตอนโยชิเป็นงูอาซาเป็นงูแล้วพันกัน อ่าฟินๆ
แต่ยังสงสัยพ่อกับพี่ชายโยชิว่าทำไมต้องถึงขนาดพาโยชิไปสะกดจิตให้กลัวงู
 :ling2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 09-07-2014 08:19:53
อย่าโง่ไปคนเดียวล่ะ เป็นคนน่ารังเกียจจริงๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-07-2014 08:47:33
งานงอกแย้วว อยากจะยุให้อาซาจับกินให้หมดแรงเลย จะได้ไม่มีแรงออกไป55555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 09-07-2014 08:51:30
อิเจอร์โรมนี่กัดไม่ปล่อยสมกับเป็นหมาจริงๆ พี่งูกับหนูโยชิเพิ่งจะได้สวีทหวานกันต้องมีอันเสียเลือดกันอีกแล้วเหรอ ให้พี่งูจัดการเจอร์โรมให้ไปเกิดใหม่เลยดีกว่าจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับหนูโยชิอีก  โหวตให้หนูโยชิแปลงร่างเป็นงูได้คะเวลาสวีทกับพี่งูหื่นจะได้พัวพันกันให้ยุ่งไปเลยคึคึคึ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 09-07-2014 09:37:19
เจอข้อความที่ส่งมาในตอนสุดท้ายของตอนนี้

บอกเลยอารมณ์ดิ่งลงเหวมาก ตอนต้นเรื่องยังมุ้งมิ้งอยู่เลยอ่ะ

ริริ ทำร้ายเราอีกแล้ว แงๆๆๆ

ให้ หนูโย กลายร่างเป็นงูก็ดีนะ จะได้เลิกกลัวงูสักที

หุหุ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 09-07-2014 11:14:50
เสียเลือดจริง แต่มันไม่ใช่แบบนี้ป่ะ 5555
อยากรู้ว่านุ้งหนูโยชิแปลงร่างได้ป่าวอ่ะ อยากให้แปลงได้ อิอิ
สนุกมาก รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 09-07-2014 11:25:34
โยชิควรจะกลายเป็นงูได้ฮะ
เพราะยังไงๆ อาซา กับโยชิก็เป็นคู่กันมาหลายชาติ และคงจะเป็นต่อไป
ถ้าโยชิไม่สามารถเป็นงูได้ อาซาคงน่าสงสารมากกกกกก
ขอบคุณคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 09-07-2014 12:27:17
หลงรักอาซาอีกแล้ว อั๊ย :mew1:

เราอยากให้โยชิเป็นงูได้ เพราะถ้าเป็นคนต้องแก่ตายเราสงสารอาซา
แต่ถ้าเป็นคุณงูก็จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป แถม...เป็นเดือนๆ :haun4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 09-07-2014 13:11:06
อย่ามาม่านะ
ภาคสองยังไงก็ตามแต่ริริ เลยจ๋า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 09-07-2014 13:21:48
ก่อนอื่นเลยจะบอกว่า ฉันรักนายอาซาาาาาาาา ผู้ชายคนนี้ หนูจะเอาๆๆๆ
หนูโยก็น่ารักมุ้งมิ้งกรุ้งกริ้งมากกก แหม ก็อาซาเสน่ห์เหลือล้นนี่เนอะ คงไม่มีใครห้ามใจได้ :hao7:
หวานกันได้แปบๆเรื่องมาอีกและ อิตาเจอร์โรม! ฉันจะฆ่าแก :m31:
จะว่าไปโยชิเป็นงูก็ดีนะ เอาแบบน่ารักๆ ฟินตายเลยแบบนี้
 :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 09-07-2014 17:03:12
จะให้เป็นงูหรือคน งั้นหรือ
ภาคแรกก็เป็นคนไปก่อน พอภาคสองโยชิก็น่าจะกลัวงูน้อยลงจนเลิกกลัว
เมื่อนั้นก็กลายเป็นงู ไปให้อาซากอดรัดซะ^^
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 09-07-2014 19:18:21
อุ้ยตาย เดี้ยนก็มโนไปว่าตอนนี้น่าจะโรแมนซ์ ดั๊นมีดราม่าตอนท้ายเสียอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: pamnana ที่ 09-07-2014 20:59:38
มีภาค 2 ด้วยหรอ กี่ตอนเนี่ยเรื่องนี้ :hao7:
อีกฝ่ายเล่นไม่ซื่อหนิ  :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: omelet ที่ 09-07-2014 21:30:34
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ปกติอ่านเรื่องอื่นๆก่อนหน้านี้อยู่นะคะ แอบเป็นแฟนคลับลับๆ :mew1:

ชอบเรื่องนี้มากนะคะ เราว่าได้ฟีลแฟนตาซีกำลังพอดีค่ะ แต่ตอนแรกรู้สึกงงๆนิดหน่อยกับบรรยากาศ
เพราะเดี๋ยวจะไปทางแฟนตาซีแบบเมกา หรือทางแฟนตาซีเก่าๆคลังๆ แต่พออ่านผ่านไปสักห้าหกตอน
ก็เริ่มจับทางได้คะว่าไปแนวไหน
 
ลุ้นมากเลย อยากอ่านต่ออย่างใจจดจ่อ โดยเฉพาะฉากเรียกเลือด  :m25: 55+ ปมแอบเยอะแต่ก็ค่อยๆคลี่คลายดีค่ะ
ตื่นเต้น รอต่อนต่อไป


//แอบอยากให้น้องโยเป็นงูได้อะ จะได้มุ้งมิ้งกะพี่อาซาได้ร่างงู 555+  :ruready
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ๛゙★βra_11!☆゙ ที่ 09-07-2014 22:35:08
 :hao6: โยชิแซ่บนะเราน้ะ
อยากเห็นตัวเอกเป็นเหมือนพระเอก แปลงเป็นงูได้
ชีวิตจะยาวขึ้นมั้ยอ้ะ (?) จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 09-07-2014 23:43:33
 :hao5: ค้างจัง+1เป็ด 5555+
อยากให้โยชิเป็นงูจะได้อยู่กับอาซานานๆ>||||<♡
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 10-07-2014 04:37:44
สงสารอาซานะ ช่วงแรกๆ ไม่ค่อยชอบโยชิ รู้สึกว่าเป็นเด็กที่ดื้อ พูดอะไรก็ไม่ฟัง แต่มาช่วงหลังๆ ก็เริ่มน่าเห็นใจและน่าสงสารทั้งคู่ ขอให้รักกันโดยไม่มีอุปสรรคไวๆนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FOURTEEN❁ 08-07-14 [P.16]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 10-07-2014 20:08:49
มาดันจ้า

เผื่อได้อ่าน
หัวข้อ: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 10-07-2014 21:32:55
FIFTEEN




         เสียงนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตั้งพิงผนังมุมหนึ่งในห้องนั่งเล่นตีบอกเวลาหนึ่งทุ่มตรง เป็นเวลารับประทานอาหารเย็นของบ้านหลังนี้ และเป็นเวลาระทึกขวัญสำหรับผมในวันนี้เช่นกัน

         ‘ถ้าไม่อยากให้เพื่อนของนายตาย คืนนี้มาหาฉันที่ร้านR ตอนสามทุ่ม

         ห้ามบอกใครทั้งนั้น ไม่งั้นเพื่อนของนายตายแน่

         เจอร์โรม’


         ผมกดอ่านข้อความซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยใจที่ไม่เป็นสุข ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับอาซา หลังจากที่ได้รับข้อความ ดาวเสาร์บอกกับผมว่า เรื่องที่เขาจะพูดกับผมก็คือเรื่องของนิกกี้

        ‘ฉันเองก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ไอ้เจอร์โรมกำลังทำ ฉันรู้แค่ว่ามันมีปัญหากับไอ้อาซามานานมากแล้ว ปัญหาที่มีแค่พวกมันสองคนเท่านั้นที่รู้ ส่วนที่มันมายุ่งกับนายและเพื่อนของนาย นั่นก็เพราะว่านายเป็นคนสำคัญของไอ้อาซา มันถึงได้เลือกใช้นายเป็นเครื่องมือในการทำร้ายไอ้หมอนั่น ถึงฉันจะไม่เห็นด้วยเพราะนายคือเพื่อนของฉัน แต่ฉันห้ามอะไรไอ้เจอร์โรมไม่ได้ นอกจากความเป็นเพื่อน ฉันก็คือลูกน้องของมัน และพวกฉันเป็นศัตรูกับพวกอาซา เพราะอย่างนั้นสิ่งที่ฉันทำได้ก็แค่เตือนนายให้ระวังตัวเท่านั้น”

         ‘แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับนิกกี้’

         ‘เพราะเธอเป็นเพื่อนของนายยังไงล่ะ คนที่จิตใจดีอย่างนายก็ต้องไปช่วยเพื่อนอยู่แล้ว เจอร์โรมถึงได้ใช้เพื่อนของนายเป็นตัวต่อรองกับนายยังไงล่ะ’

         ‘แล้วฉันควรต้องทำยังไง ตอนนี้นิกกี้อยู่กำลังตกอยู่ในอันตราย’

         ‘เรื่องนั้นฉันบอกไม่ได้หรอก แต่ฉันจะแนะนำอะไรให้อย่าง บางทีคนเราก็ต้องเห็นแก่ตัวเพื่อความอยู่รอด เพราะถ้าไม่เห็นแก่ตัว อาจเป็นเราที่จะต้องตาย’


         ดาวเสาร์จะหมายความว่า ให้ผมเห็นแก่ตัวปล่อยให้นิกกี้ตายไป เพื่อที่ชีวิตจะได้ปลอดภัยอย่างนั้นเหรอ?

         ผมทำแบบนั้นไม่ได้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนิกกี้ด้วยซ้ำ ผมจะให้เธอมาเดือดร้อนแทนได้ยังไง จะให้เธอตายไปโดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องบ้าๆพวกนี้เลยเนี่ยนะ ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก

         ผมก้มหน้ามองข้อความจากเจอร์โรมอีกครั้ง ผมจะไปช่วยนิกกี้ได้ยังไง แม้แต่ที่ตั้งของร้านR ผมยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าผมจะเป็นพวกไร้น้ำยา ไม่มีอะไรดีสักอย่าง นอกจากชีวิตซวยๆที่เจอแต่ปัญหา นอกนั้นก็ไม่เห็นว่าคนอย่างผมจะมีอะไรดี ก็แค่คนไร้ประโยชน์

         เสียงเท้าวิ่งลงบันไดตึกตักมาจากชั้นบนของคนหัวสีเทาอ่อนดูจะเป็นอะไรที่คุ้นเคยแม้ผมเพิ่งจะมาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ไม่นาน ฟรินน์วิ่งผ่านหน้าผมไปที่ห้องรับประทานอาหารพร้อมเรียกผมให้ไปกินข้าว เห็นว่าวันนี้ปารีสลงมือทำมื้อเย็นชุดใหญ่เพื่อเลี้ยงต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างผม

         “ได้เวลากินข้าวแล้ว นั่งเหม่ออะไร” อาซาท้าวแขนกับพนักโซฟาคร่อมตัวผม โน้มหน้ามาถามใกล้ๆ ผมส่ายหัวก่อนจะลุกตามอาซาไปที่ห้องทานข้าว ผมก้มหน้าหลบตาอาซาตั้งแต่กลับมา เขามองผมเหมือนจะล่วงรู้ความคิดและสิ่งที่อยู่ในหัวผม เพียงแต่เขาไม่พูดมันออกมา ผมเลยไม่รู้ว่าเขารู้หรือเปล่าว่าผมกำลังคิดอะไร และมีเรื่องอะไรให้ต้องคิด ดังนั่นผมเลยยังตัดสินใจไม่ได้ว่าผมควรบอกเขาดีไหม

         เพราะคำขู่จากเจอร์โรมที่บอกว่าห้ามผมบอกใคร ไม่งั้นนิกกี้เพื่อนของผมจะตาย ผมถึงได้รั้งรอที่จะเอ่ยปากพูดเรื่องนี้กับใครสักคนที่พอจะช่วยผมได้ และคนๆนั้นก็คืออาซา แต่เมื่อผมคิดจะพูด ภาพนิกกี้ที่นอนจมกองเลือดก็ลอยมา ถ้าผมบอกอาซาแล้วเจอร์โรมรู้ และฆ่านิกกี้ทิ้ง ผมก็ไม่ต่างอะไรกับฆาตกร ที่แม้ผมจะไม่ได้เป็นคนจ้วงมีดลงไปบนกายของเธอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมคงเป็นคนที่ส่งมีดให้เจอร์โรมปลิดลมหายใจของเธอทิ้ง ราวกับชีวิตเธอไม่มีค่าให้อยู่ต่อ แต่ถ้าผมไม่หาคนช่วย ผมก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปช่วยเพื่อน ผมไม่มีพละกำลังหรือฤทธิ์เดชอะไรไปต่อสู้กับมนุษย์หมาป่าที่แสนโหดร้าย ที่ทำได้แม้กระทั่งผู้หญิงไม่มีทางสู้ นับประสาอะไรกับผม ที่ถ้าไปคนเดียวก็คงไม่ต่างกับเอาชีวิตไปตาย ซ้ำร้ายถ้าอาซารู้เรื่องเข้าทีหลัง ผมก็คงเป็นได้แค่คนที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน คนที่คอยแต่จะสร้างปัญหาให้ชาวบ้านคอยตามแก้ไม่จบไม่สิ้น

         ผมไม่มีทางเลือกเลย ไม่ว่าทางไหนก็เลือกยาก ไอ้ครั้นจะไม่เลือกเลยก็ไม่ได้ แต่ถ้าให้เลือก ไม่ว่าทางไหนก็มีแต่เสียกับเสีย ถ้าบอกอาซานิกกี้ก็ไม่รอด ถ้าไม่บอกผมก็อาจจะไม่รอดและอาซาก็ต้องร้อนใจเพราะปัญหาที่ผมก่อ

         ผมเครียดจนอยากจะร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆแล้วก็ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น อยากปัดทุกสิ่งทุกอย่างให้ห่างตัวโดยที่ไม่ต้องคิดและใส่ใจ แต่ผมก็ทำแบบนั้นไม่ได้ คนเราเมื่อเติบโตขึ้น ความซับซ้อนทางความคิดจะมีมากขึ้น จากที่ไม่ต้องคิดอะไรก็คิดมากขึ้น จากที่แต่ก่อนเคยมองเพื่อนร้องไห้ยามที่แม่ไม่ยอมซื้อของเล่นให้ด้วยความสงสาร แต่ก็ไม่คิดจะทำอะไรแม้ในมือผมจะมีของเล่นที่พี่ยอร์ชเพิ่งจะซื้อให้และผมก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนคนนั้นอยากได้ของเล่นก็ตาม ซึ่งถ้าเป็นในตอนนี้ที่ผมโตพอจะมีความคิด ผมก็คงจะคิดว่าผมไม่น่าบอกเพื่อนเลยว่าพี่ยอร์ชซื้อของเล่นให้ เพื่อนจะได้ไม่ต้องอยากได้แล้วก็ทะเลาะกับแม่จนร้องไห้ใหญ่โต ถ้าเพียงแต่ผมจะกลับไปเป็นเด็กก็คงดี จะได้ไม่ต้องมีอะไรให้คิดมากจนหัวใกล้ระเบิด

         ปึก!

         “เจ็บไหม เหม่ออะไรนักหนา” อาซาที่หยุดเดินกะทันหันจนผมไม่ทันตั้งตัวเดินชนแผ่นหลังกว้างอย่างจังหันมาดุผม ผมช้อนตามองด้วยความกลัว กลัวว่าอาซาจะรู้สิ่งที่ผมคิด และมันก็จริงอย่างที่ผมว่า อาซามองผมด้วยแววตาที่สามารถอ่านผมได้ทะลุปรุโปร่ง ผมส่ายหน้าโดยอัตโนมัติ

         “เรามีเรื่องต้องคุยกัน หลังจากที่กินข้าวเสร็จ เข้าใจไหม”

         ผมไม่ทันได้ตอบอาซาก็เดินนำเข้าไปในห้องอาหาร ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเขากำลังโกรธ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งซักไซ้เอาคำตอบจากผม เพราะทุกคนที่นี่รู้ดีว่าเวลากินข้าวคือเวลาที่ทุกคนจะต้องมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาโดยปราศจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง เวลากินข้าวต้องไม่มีเรื่องเครียดๆบนโต๊ะอาหาร เวสตันไม่ชอบ และทุกคนจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด

         ผมนั่งลงประจำที่เดิม คือที่ตรงข้ามจูเลียต ด้านข้างเป็นฟรินน์และอาซา อาหารบนโต๊ะเยอะราวกับจะเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องทานก็คือสเต็กที่ค่อนไปทางดิบแบบที่ยังมีเลือดชุ่มฉ่ำ ยกเว้นผมที่กินแบบสุกปกติ ฟรินน์เล่าว่าตอนที่ผมมาที่นี่ครั้งแรกเขาต้องทนกินเนื้อสุกๆด้วยความจำใจเพราะไม่อยากให้ผมตกใจกับอาหารการกินของพวกเขา แต่ตอนนี้ผมรู้ความจริงก็น่าจะยอมรับได้แล้ว ก็เลยเปิดเผยเต็มที่ไม่มีอะไรต้องปิดบัง

         แต่นอกจากสเต็กของแต่ละคนก็ยังมีไก่งวงตัวใหญ่ สลัดผักสำหรับผมโดยเฉพาะและอาหารหน้าตาน่ากินอีกหลายอย่าง ผมคงลงมือจัดการอาหารตรงหน้าให้ราบคาบถ้าหากว่าผมไม่มีเรื่องกลุ้มใจให้ต้องคิด

         แกร๊งๆๆ

         เสียงช้อนสแตนเลสอย่างดีดังกระทบแก้วเรียกให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารสนใจ เวสตันยืนขึ้น ในมือถือแก้วไวน์ชูขึ้นตรงหน้า พร้อมด้วยสุ่มเสียงทุ้มทรงพลังดังเอื้อนเอ่ย

         “ฉันดีใจที่ได้มีวันนี้” เวสตันเริ่มพูด และทุกคนก็ตั้งใจฟัง ยกเว้นผม ที่เหมือนจะตั้งใจฟัง แต่ก็ไม่ซะทีเดียว

         “วันที่คนที่เป็นทั้งเพื่อนรักและน้องชายของฉันมีความสุขจริงๆเสียที” เวสตันมองมาทางอาซา ทุกคนก็เลยมองตาม กระทั่งจูเลียตเองก็เช่นกัน ก่อนที่ทุกคนจะยิ้มแล้วหันกลับไปทางเวสตันเพื่อฟังสิ่งที่เขาจะพูดต่อ

         “และเป็นวันที่บ้านของเราจะมีสมาชิกครอบครัวคนใหม่ ขอให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ห้ามมีปัญหากันโดยเด็ดขาด เข้าใจตรงกันนะ” ถึงจะพูดไปยิ้มไป และเจือเสียงหัวเราะเบาๆ แต่คงไม่มีใครโง่จนฟังไม่รู้หรอกว่านั่นคือคำสั่งที่ห้ามฝ่าฝืนโดยเด็ดขาด

         “ขอบคุณนายนะโยชิที่ยอมรับอาซา ขอบคุณที่มอบความสุขให้เขา ฉันขอให้พวกนายทั้งคู่มีความสุข” ทั้งแววตาและน้ำเสียงของเวสตันเต็มไปด้วยความอบอุ่น มือที่ถือแก้วไวน์ยกขึ้นอวยพรให้กับผม ตามมาด้วยฟรินน์ที่หันมาพูดกับผมและอาซา

         “ฉันก็ดีใจกับพวกนายมาก อยู่ด้วยกันไปนานๆนะ ฉันชอบที่บ้านนี้มีนาย” ฟรินน์หมายถึงผม ผมยิ้มรับแม้ว่าจู่ๆจะมีความคิดไม่เข้าท่าว่าผมจะอยู่ที่นี่ได้ตลอดไปจริงหรือเปล่าโผล่เข้ามาในหัว

         “ตั้งแต่วันนี้นายคือครอบครัวของฉัน ดูแลอาซาให้ดีล่ะ” รอยยิ้มของปารีสทำให้ผมรู้สึกว่าเธอคือแม่ของบ้านหลังนี้ ผมไม่เคยอยู่กับแม่ จึงบอกไม่ถูกว่าความรู้สึกยามที่น้ำเสียงอ่อนโยนขัดกับหน้าตาเปรี้ยวจัดของปารีสพูดและมองผมมันให้ความรู้สึกดีขนาดไหน แต่มันอบอุ่นจนผมคิดว่า ถ้าแม่ยังอยู่ แม่ก็น่าจะพูดเหมือนปารีส และคนสุดท้ายที่ทุกคนรอคอยให้พูด แม้แต่ผมก็เถอะ

         “ตามนั้น” จูเลียตพูดสั้นๆ แต่ก็เพียงพอแล้ว เพราะผมเองก็ไม่อยากได้คำว่ายินดีหรือคำพูดยาวเหยียดที่ไม่ได้ออกมาจากความรู้สึกจริงๆของเธอสักเท่าไหร่

         “ขอบคุณมากที่ยอมรับฉัน” ผมพูดกับทุกคน อาซาไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่ใช้สายตาสื่อสารกับทุกคนที่รับรู้และเข้าใจเขาเป็นอย่างดี

         บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความสนุกสนานครึกครื้น แต่ก็ยังคงมีจุดบอดอยู่ที่ผม ผมพูดบ้างยิ้มบ้างแต่ก็น้อยครั้งถ้าไม่ถูกถามจี้ ผมเอาแต่หลงทางอยู่ในความคิดของตัวเองเรื่องของนิกกี้อย่างไม่รู้ทางออก

         ถ้าเพียงแต่จะไม่ใช่วันนี้ เวลานี้ที่อีกไม่ชั่วโมงจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น วันนี้คงเป็นีอีกความทรงจำผมจะจำไปตลอดชีวิต ภาพความประทับใจยามที่ทุกคนในที่นี้ยอมรับผมเป็นครอบครัว ไม่ต่างอะไรกับการอวยพรให้บ่าวสาวครองรักกันอย่างมีความสุข มันน่าซาบซึ้งใจจนอดไม่ได้ที่จะปล่อยให้น้ำตาไหล ถ้าเพียงแต่ไม่มีใครบางคนกำลังถูกทำร้ายเพราะเรา ผมคงยิ้มรับความสุขได้เต็มปากกว่าที่กำลังทำอยู่

         สุดท้ายผมก็ทนฝืนนั่งกินต่อไปไม่ได้ ผมขอตัวลุกออกมาจากโต๊ะอาหาร แสร้งบอกไปว่าอยากเข้าห้องน้ำ ไม่มีใครติดใจอะไรยกเว้นอาซา ผมรู้ว่าเขารู้เรื่องที่ผมกุขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้ขัดขาผมต่อหน้าทุกคน

         ผมเลี่ยงขึ้นมาบนห้อง ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงพลางมองดูนาฬิกา เหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงครึ่งด้วยซ้ำ ยิ่งเวลาเคลื่อนตัวเข้าใกล้เวลานัดมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งคิดอะไรไม่ออก ยิ่งตัดสินใจไม่ได้ว่าผมควรจะทำยังไงดี ชีวิตของนิกกี้อยู่ในมือของผม มันไม่ง่ายที่จะตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่คิดว่าสมควร เพราะอันที่จริงแล้วเราไม่สามารถรู้ได้ว่าถ้าเราลงมือทำมันลงไปแล้ว มันจะส่งผลเสียหรือผลดี ไม่อาจรู้ได้เลยจริงๆ

         หมับ!

         “อ๊ะ...อาซา!”

         โทรศัพท์ในมือผมถูกแย่งไปจากมือโดยคนที่ผมเรียกชื่อ อาซาจ้องหน้าผมนิ่ง เขากำลังโกรธจัด ยิ่งตอนที่เขาก้มมองโทรศัพท์ที่โชว์ข้อความพร้อมรูปถ่ายของนิกกี้ สีหน้าและแววตาของเขายิ่งเต็มไปด้วยไฟโทสะ

         “นายคิดจะทำอะไรโยชิ!” เขาพูดลอดไรฟัน ผมได้แต่ก้มหน้าตอบไม่ได้ เพราะผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะทำอะไร

         “นายคงไม่ได้คิดจะไปหามันคนเดียวโดยที่ไม่บอกฉันหรอกใช่ไหม”

         “...” เป็นอีกครั้งที่ผมให้คำตอบอาซาไม่ได้ เขาเดินเข้ามาจนใกล้พอที่จะคว้าไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้แน่นจนเจ็บ ความอบอุ่นกลายเป็นความหนาวเหน็บที่ยากเกินจะทน

         “ตอบสิโยชิ!” เมื่อเขาพูดออกมา เสียงของเขาเกือบจะเดือดดาล

         “ฉันไม่รู้ ฉันไม่คิดจะทำอะไร ฉันยังไม่รู้!” ผมเหมือนคนสติแตก ผมส่ายหน้าไปมาไม่หยุด จัดระบบความคิดตัวเองไม่ได้ ผมกำลังกลัว กลัวสิ่งที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้น ในหัวผมมีแต่คำว่าชีวิต ลมหายใจและความตาย

         “เฮ้อ ฉันขอโทษ ใจเย็นๆ ฉันจะช่วยนายเอง เพราะฉันจะไม่ยอมปล่อยให้นายไปคนเดียวแน่สาบานได้”

         “แต่ถ้านายไปเจอร์โรมก็จะฆ่านิกกี้นะ” ผมรีบแย้ง แต่กลับอุ่นใจยามที่อาซาบอกว่าจะไปเป็นเพื่อน

         “ถึงฉันไม่ไปมันก็ฆ่าเธอแน่ๆ มันไม่ปล่อยให้คนที่รู้เรื่องของมันรอด ฉันไม่ได้อยากจะพูดให้นายไม่สบายใจ แต่นายควรรู้ความจริงในจุดนี้ และเรื่องนี้มันมาจากความขัดแย้งระหว่างฉันกับมัน เพราะงั้นคนที่จะแก้ปัญหานี้ได้ก็ควรเป็นฉัน ไม่ใช่นาย”

         สุดท้ายผมก็เป็นแค่คนไม่เอาอ่าว จัดการอะไรไม่ได้สักอย่าง ผมได้แต่คิดน้อยเนื้อต่ำใจในความไร้ประโยชน์ของตัวเอง ถ้าผมแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องคนรอบข้างได้บ้างก็คงดีกว่านี้ อย่างน้อยๆก็ไม่ต้องมารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า และพาลคิดเลยเถิดไปว่า ต่อให้ไม่มีผมโลกนี้ก็คงไม่เดือดร้อนอะไร


อ่านต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 10-07-2014 21:35:08

         อาซาลงไปบอกกับทุกคน ผมได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาใคร หรือความจริงผมไม่อยากมองหน้าจูเลียตเสียมากกว่า ผมเดาได้ว่าเธอจะต้องมองผมด้วยสายตาตำหนิที่กล่าวหาว่าผมเป็นคนทำให้ทุกคนเดือดร้อน และถึงผมจะไม่เห็นแต่ผมเดาว่าเป็นแบบนั้นเมื่อได้ยินเสียงพ่นลมหายใจของจูเลียต


        ‘ใช่ว่าฉันอยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้! ใช่ว่าฉันเป็นคนก่อปัญหาเสียเมื่อไหร่! อย่ามาโทษฉันเพราะฉันไม่ผิด!!!’


         ผมอยากตะโกนออกไปแบบนั้นใส่หน้าเธอ แต่ผมก็เลือกที่จะไม่ทำ ทั้งๆที่ผมคิดนะ ว่านี่มันคือความผิดของผมเหรอ ผมเป็นคนก่อเรื่องอย่างนั้นเหรอ ผมรู้คำตอบดีว่าผมไม่ได้ทำ แต่ผมไม่อยากคิดหาคำตอบให้มากไปกว่านี้ เพราะสุดท้ายผมก็คงโยนความผิดไปให้อาซากับเจอร์โรม ซึ่งผมไม่อยากทำแบบนั้น ใครๆก็ปกป้องคนที่เรารักด้วยกันทั้งนั้น ผมถึงคิดหาคนผิดไม่ได้ เพราะผมไม่อยากโทษอาซา ถ้าจะโทษ ผมก็ขอโทษโชคชะตาที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี่ มาเป็นเพื่อนกับนิกกี้และทำให้เธอเจอเรื่องร้ายๆเช่นนี้

         โชคชะตาที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจหลีกเลี่ยง มันจะมาเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ ดีหรือร้ายก็ไม่รู้ ไม่มีใครล่วงรู้ได้ แต่เมื่อโชคชะตามาถึงตัว เราทำได้แค่เตรียมตัวเตรียมใจรับมือและดิ้นร้นไปตามทางที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว แม้ว่าความจริงเราจะเป็นได้แค่หมากบนกระดานที่ไม่มีค่าจนท้ายที่สุดต้องถูกกำจัดทิ้งก็ตาม

         “แยกย้ายกันไปตามจุด กลบกลิ่นตัวเองจากพวกไลแคนให้มิดชิด อย่าให้มันรู้ตัวว่าพวกเราซุ่มอยู่ แล้วจำไว้ ถ้าฉันยังไม่ได้สั่ง ห้ามใครใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด เว้นแต่พวกมันจะร่นหาเรื่อง รีบแยกย้ายกันซะ” สิ้นคำสั่งของเวสตัน ลูกน้องจำนวนเกือบยี่สิบคนก็แยกย้ายกระจายตัว ผมยืนอยู่ข้างอาซาและคนอื่นๆตรงหน้าบ้าน เวสตันหันมามองผมที่ยืนทำหน้ารู้สึกผิดที่ทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนอีกครั้ง

         “อย่าคิดมากเลยโยชิ นายคือครอบครัวของฉัน ถ้าคนในครอบครัวไม่ช่วยเหลือกันยามเดือดร้อนแล้วใครจะช่วย จริงไหม” เขาเดินมายืนอยู่ตรงหน้าผม รอยยิ้มบางๆแต่งแต้มอย่างใจดี ผมหันไปมองอาซาและปารีสก่อนจะตัดสินใจกระทำบางอย่าง

         ผมสวมกอดเวสตันเอาไว้แน่นด้วยความตื้นตันใจ

         “ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ” เวสตันอบอุ่นเหมือนพ่อ เหมือนพี่ยอร์ชและผมรักทุกคนที่นี่

         “ด้วยความยินดี”

         ผมปล่อยตัวเวสตัน ยกมือปาดน้ำตาทิ้ง ผมต้องไม่ร้องไห้ ผมต้องไม่ทำตัวอ่อนแอให้ใครเป็นห่วง พ่อและพี่ยอร์ชเคยสอนไว้ เจ็บได้ ร้องไห้ได้ แต่เป็นลูกผู้ชายห้ามท้อถอย ผมมองทุกคนที่ยืนเคียงข้างผมในตอนนี้ และสัญญากับตัวเองว่าผมจะไม่ทำให้คนในครอบครัวของผมผิดหวัง

         ผมนั่งรถออกจากบ้านพร้อมอาซาและฟรินน์ เวสตันปารีสและจูเลียตไปอีกคัน เรานั่งรถกันไปเงียบๆ ใจผมจดจ่ออยู่แต่กับความคิดของตัวเองจนเกือบลืมว่าไม่ได้มีผมอยู่คนเดียว จนกระทั่งรถมาจอดอยู่ที่มุมถนนมุมหนึ่ง

         ผมหันไปมองอาซาและฟรินน์ที่นั่งอยู่เบาะหลัง กำลังจะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด แต่อาซาดักทางเอาไว้เสียก่อน

         “ไม่ต้องพูดเลย ถ้าจะบอกว่าจะเข้าไปคนเดียวก็เงียบไปเลยนะ ฉันไม่ปล่อยให้นายเข้าไปข้างในนั้นคนเดียว” อาซาใช้ดวงตาสีนิลจ้องผมเขม็งเป็นการดุกลายๆ ผมเลยได้แต่ถอนหายใจ

         “แล้วถ้าเจอร์โรมมันเล่นตุกติกเพราะฉันพานายมาล่ะ” ใจผมนึกเป็นห่วงนิกกี้ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง เลือดที่ไหลนองจะหยุดหรือยัง เธอจะรู้ไหมว่าผมกำลังมาช่วย ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่คอเมื่อนึกไปถึงว่าพวกมันจะทำร้ายเธอยังไงบ้าง

         “ฉันไม่อยากจะพูดหรอกนะ แต่คนอย่างไอ้เจอร์โรมไม่เคยเล่นตามกติกา ให้ไอ้อาซาเข้าไปเป็นเพื่อนน่ะดีแล้ว จัดการพวกข้างนอกเสร็จขะเข้าไปช่วย” ฟรินน์ช่วยอาซาพูดโน้มน้าวผมอีกคน ผมไม่มีทางเลือกเพราะผมไม่รู้จักเจอร์โรมดีพอ และไม่อยากรู้จักด้วย ทางทีดีเชื่อพวกเขาดีที่สุดแล้ว

         “สัญญาได้ไหมว่าจะช่วยเพื่อนฉัน”

         “แน่นอน เพื่อนนายก็คือเพื่อนของฉัน”

         ผมเชื่ออาซา ผมเชื่อเขา

         อาซาเดินนำผมไปยังร้านที่เจอร์โรมนัด จากจุดที่เราจอดรถไว้ ต้องเดินไปอีกหนึ่งบล็อก เลี้ยวซ้ายก่อนจะเจอร้านที่ว่า เมื่อเดินมาถึงหน้าร้าน ผมเจอคนอยู่สี่ห้าคนยืนคุมหน้าร้าน พอพวกนั้นเห็นอาซาทุกคนก็ยืดตัวตรงทำหน้าเหี้ยมเดินเข้ามา แต่เวสตันกับปารีสและลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งตามมาสมทบกันพวกที่ขวางทางไม่ให้อาซาเข้าไปข้างใน ผมจึงรู้ได้ในทันทีว่าพวกนี้คงเป็นพวกของเจอร์โรม ดีไม่ดีป่านนี้คงมีพวกมนุษย์หมาป่าเข้าไปรายงานเจอร์โรมแล้วว่าผมพาพวกอาซาบุกมาที่นี่ คิดตรงนี้ผมก็ร้อนรน อาซาก็คงคิดไม่ต่างกัน เขาเดินนำผมเข้าไปในร้านที่ไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียว พวกข้างนอกก็ได้เวสตันกับปารีสเป็นคนจัดการ

         “แล้วฟรินน์กับจูเลียตล่ะ” ผมถามอาซา ตอนที่เขาเดินก้าวขึ้นบันไดมุมในสุดของร้าน ผมค่อยๆก้าวขาเดินตามไม่ให้เกิดเสียง

         “พวกมันไปดูที่ทางออกด้านหลัง” อาซาตอบเบาๆ มือเย็นเฉียบคว้ามือผมไปกุมไว้แน่น ให้ผมอุ่นใจว่ายังมีเขาอยู่ตรงนี้และจะไม่ทิ้งผมไปไหน

         ในร้านเงียบและวังเวง ทันทีที่ก้าวขึ้นพ้นบันไดมายืนอยู่บนชั้นสองของร้าน กลิ่นเลือดก็ตีเข้าจมูกจนแทบอยากจะอาเจียน อาซามองกวาดจนทั่วพื้นที่ชั้นสอง แต่นอกจากโต๊ะที่ล้มระเนระนาดและรอยคราบเลือดเป็นทางยาวลากหายเข้าไปในประตูบานหนึ่ง บนนี้ก็ไม่มีใครสักคน ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าเลือดที่แห้งกรังอยู่บนพื้นคือเลือดของนิกกี้

         “กรี๊ดดดดด”

         เสียงกรีดร้องดังออกมาจากหลังประตูบานนั้น ผมและอาซามองหน้ากันตื่นๆก่อนที่อาซาจะก้าวไปยังบานประตูที่ว่า ผมเดินตามด้วยใจที่เต้นระส่ำ กลัวที่จะนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังประตูบานนั้น ไม่รอช้าอาซาเปิดประตูเข้าไป ผมเดินตามใช้สายตามองลอดแขนอาซาที่ยกดันประตูให้เปิดกว้าง

         ฉับพลันที่สายตาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สมองผมหยุดคิดทุกอย่าง ขาก้าววิ่งเข้าไปหาร่างผู้หญิงที่นอนกระอักเลือดอยู่ที่พื้น ร่างกายผมชาดิกไปทุกสัดส่วน มือที่ประคองร่างบางขึ้นมากอดสั่นเทายากที่จะควบคุม

         ผมตวัดสายตามองเจอร์โรมที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยความเกรี้ยวโกรธ เขี้ยวแหลมคมถูกเคลือบไปด้วยเลือดสีแดงฉานจากหญิงสาวที่นอนหายใจโรยริน ดวงตาเบิกกว้างไม่ได้สติในอ้อมแขนของผม ผมมองนิกกี้แล้วรู้สึกสงสาร น้ำตาไหลกับสิ่งที่นิกกี้ต้องเจอ เธอจะต้องเจ็บมากแน่ๆ ผมต้องพาเธอไปหาหมอ

         “นายไม่ทำตามที่ฉันบอกเองนะโยชิ นายโทษฉันไม่ได้” เจอร์โรมพูดแบบไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาทำ เขากำลังจะฆ่าคนบริสุทธิ์คนหนึ่งตาย เขามันเป็นไอ้ฆาตกร อาซาทำท่าจะเดินเข้ามาหาผม แต่ถูกพวกของเจอร์โรมกั้นเอาไว้

         “ฆาตกรอย่างนายมีสิทธิ์พูดแบบนี้ด้วยเหรอ นายทำร้ายเธอทำไม! เธอไม่รู้เรื่องด้วย นายทำร้ายเธอทำไม! ไอ้เลว!!” ผมตะโกนใส่หน้าเจอร์อย่างเดือดจัด ลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้เจอร์โรม หางตาเห็นอาซาสะบัดตัวจากพวกที่เกาะกุมจะเข้ามาห้ามผม แต่ช้าเกินไป ผมเหวี่ยงหมัดใส่หน้าเจอร์โรมเต็มแรงสองทีโดยที่ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายตั้งตัว

         “พอโยชิพอ” อาซาที่ดิ้นหลุดลากผมออกห่างเจอร์โรม ผมโกรธจนไม่รู้สึกเจ็บมือที่ต่อยคนเลวอย่างไอ้เวรนั่น ใบหน้าแข็งกร้าวของคนที่ถูกผมต่อยหันมาทางผมช้าๆ ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตำแหน่งที่ถูกซัดไปสองที่ ดวงตาเรียวคมมองผมและอาซาอย่างเชือดเฉือน ก่อนจะแสยะยิ้มร้ายพร้อมหัวเราะในลำคอ มันยิ่งกระตุ้นให้ผมหมดความอดทน อาซาดันตัวผมให้หลบหลังเขา แล้วขยับเข้าไปประจันหน้ากับเจอร์โรมแทน ลูกน้องคนอื่นๆของเจอร์โรมทำท่าจะเข้าไปรุมแต่เจอร์โรมยกมือห้ามไว้ ผมเลยใช้จังหวะนั้นวิ่งเข้าไปดูนิกกี้ เธอเริ่มจะไม่ไหวแล้ว เธอไม่รู้ตัวจนผมต้องเอามือแตะที่จมูกเพื่อตรวจดูว่าเธอยังหายใจ แต่ก็เบาเต็มทนจนแทบไม่รู้สึกถึงลมอุ่นที่ออกมาจากจมูกรั้น

         “นิกกี้ ฟื้นสิ ฟื้น!” ผมตบแก้มซีดเรียกให้เธอรู้สึกตัว แต่เธอก็ยังแน่นิ่ง

         “ปล่อยเธอไปไอ้เจอร์โรม แกกับฉันมีปัญหากัน อย่างเอาคนอื่นมาเกี่ยว!”

         “หึหึ ยัยนั่นเป็นเด็กฉัน ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้”

         “เพราะแกเล่นสกปรก แน่จริงก็อย่าเอาคนไม่รู้เรื่องมาเกี่ยว ไม่ว่าจะโยชิหรือเพื่อนของเขา”

         “ทำไมฉันต้องทำตามที่แกสั่ง ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนที่จะทำให้แกเจ็บปวดเจียนตาย ฉันก็จะทำ!”

         “แกไม่มีศักดิ์ศรี สันดานหมาอย่างพวกแกมันเป็นอย่างนี้เองสินะ ไม่แน่จริงถึงขนาดต้องไปทำร้ายผู้หญิง พวกไลแคนอย่างแกมันไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดีเลยว่ะ!”

         “ไอ้อาซา!”

         “ทำไม ทนฟังความจริงไม่ได้สินะ เหอะ”

         “พูดไปเถอะ เพราะคนที่จะชนะในเกมนี้ก็คือฉัน”

         ผมละสายตาจากคนสองคน เพื่ออุ้มนิกกี้ขึ้น ผมต้องพาเธอไปหาหมอเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเธอจะต้องตายแน่นอน แต่พอผมอุ้มเธอขึ้นด้วยเรี่ยวแรงที่ผมมี เจอร์โรมก็ตวัดสายตามองผมก่อนจะเดินก้าวเข้ามา ผมก้าวถอยหลังหนีได้สองก้าว ตัวของเจอร์โรมก็ถูกอาซาเหนี่ยวไว้จากข้างหลังแล้วก็ชกหน้าเจอร์โรมเต็มแรง จังหวะเดียวกับที่ประตูเปิดออก ดาวเสาร์และผู้ชายอีกคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู พอเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นก็รีบเข้ามาช่วยพวกของตัวเอง อาซาโดนเจอร์โรมถีบเข้าที่เอวอย่างแรง จนเซไปสามก้าว ผมได้แต่มองเพราทำอะไรไม่ถูก แขนที่อุ้มนิกกี้ไว้ก็เริ่มอ่อนแรง เพราเอาเข้าจริงตัวนิกกี้ก็พอๆกับตัวผม เธอแค่ตัวบางกว่าผมนิดหนึ่ง ผิดที่ผมเองที่ตัวเล็กเกินไป ดาวเสาร์มองผมที่กระชับอุ้มนิกกี้ด้วยแววตาคิดหนักก่อนจะออกปากไล่พวกที่อยู่ข้างในไปช่วยพวกข้างนอก

         ดาวเสาร์เดินเข้าไปกระซิบบางอย่างที่ทำให้เจอร์โรมถึงกับโกรธควันออกหู มองหน้าอาซาและผมอย่างเครียดแค้น พริบตาเดียวเจอร์โรมก็พุ่งมาตรงหน้าผม ออกแรงปัดผมเหมือนปัดแมลงวันตัวหนึ่งที่เกะกะน่ารำคาญ ตัวผมไถลลงตึงล้มลงไปกับพื้น ร่างนิกกี้หลุดออกจากแขนผมกระเด็นห่างจากผมไม่ไกล

         “ในเมื่อนายไม่ทำตามสัญญา ฉันก็คงต้องทำอะไรบางอย่างให้นายรู้ว่าฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนาย” เจอร์โรมพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาน ร่างสูงในเสื้อหนังทำท่าจะเดินเข้าไปใกล้นิกกี้ที่นอนหายใจแผ่วบนพื้น แต่อาซาพุ่งเข้าไปลากตัวเจอร์โรมออกห่างจากนิกกี้ได้ทันแล้วพวกเขาก็ซัดกันนัว ดาวเสาร์และผู้ชายอีกคนกระโจนเข้าใส่อาซา แต่ถูกฟรินน์และจูเลียตที่โผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้สกัดเอาไว้ ผมขยับลุกขึ้นแม้จะเจ็บชายโครงมาก แต่พยายามที่จะคลานเข้าหานิกกี้ ผมเม้มปากแน่น จับเธอขึ้นลุกก่อนจะยันเท้าที่สั่นเบาๆลุกขึ้นยืน

         “ฟังฉันไอ้เจอร์โรม เรื่องของแกกับฉันเราจะเคลียร์กันตัวต่อตัว ถ้าแกยังมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่หมาลอบกัด ก็ช่วยทำตามที่บอก เพราะไม่อยากนั้น พวกฉันจะเอาจริง อย่าให้ฉันต้องเตือนแกซ้ำสองว่าหมาป่าอย่างพวกแกสู้พวกฉันไม่ได้!!!”

         “ถุย! อย่ามาสั่งคนอย่างฉัน”

         “ก็ลองดูได้ พวกแกข้างนอกเละเป็นโจ๊กไปแล้ว เหลือก็แต่แกและลูกน้องอีกสองคน ถ้ายังไม่อยากตายหมดตรงนี้ ก็ทำตามที่ฉันบอก!” อาซาจับตัวเจอร์โรมกระแทกกับพนังร้านจนกำแพงร้าว ก่อนจะเดินเข้ามาช่วยผมที่แบกนิกกี้ไว้บนหลัง ผมปล่อยเธอให้อาซาอุ้มแล้วเดินตามติดวิ่งด้วยความรีบร้อน ห่างตาผมมองเจอร์โรมด้วยความโกรธและเกลียดอย่างไม่ต้องปิดบัง ถ้านิกกี้เป็นอะไรผมจะสาปส่งให้เจอร์โรมไม่ตายดี

         เจอร์โรมจะพุ่งเข้ามาหาผมและอาซาเมื่อเราก้าวออกจากประตู แต่ถูกฟรินน์และจูเลียตที่กลายร่างเป็นงูขวางเอาไว้ ผมรีบหันกลับเร่งเท้าเดินตามอาซากลับไปที่รถ ด้านนอกมีร่างหมาป่าหลายตัวล้มตายอยู่ที่พื้นกับงูขนาดเท่าตัวผมหลายสิบตัว ซอยทั้งซอยเงียบเฉียบราวกับป่าช้า ไม่มีมนุษย์หน้าไหนโผล่ออกมาสักคนเดียว อาการนิกกี้แย่ลงทุกที อาซาเลยต้องออกแรงวิ่งกลับไปที่รถ ผมวิ่งตามด้วยอาการเหนิ่ยหอบและหวั่นกลัวกับพวกเวสตันในร่างงู ขึ้นรถได้อาซาก็ขับรถไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที ผมกอดนิกกี้เอาไว้ที่เบาะหลังรถ หัวใจผมแทบจะหยุดเต้น ร้องไห้ภาวนาขอให้เธอเป็นอะไร ขอให้เธอปลอดภัย

         เสียงบีบแตรและเสียงกรนด่าดังระงมทั่วท้องถนน อาซาขับรถแย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยนั่ง แต่เพราะเขากำลังรีบ ปาดซ้ายแซงขวาและเหยียบมิดเท้า ไม่ถึงยี่สิบนาทีเราก็มาถึงโรงพยาบาลในเครือของมหาวิทยาลัย อาซารีบลงจากรถ เปิดประตูหลังแล้วดึงตัวนิกกี้ออกไปส่งให้บุรุษพยาบาลที่เข็นเตียงมารอด้วยความรีบร้อน ก่อนจะเข็นเตียงคนป่วยเข้าไปข้างใน ผมวิ่งตามส่วนอาซาเอารถไปจอด

         บุรุษพยาบาลพานิกกี้เข้าไปในห้องฉุกเฉิน ผมตามเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ยืนหอบทั้งน้ำตาอยู่ข้างนอก สักพักอาซาก็ตามมา ผมหันไปหาอาซาแล้วกอดเขาไว้แน่น

         “เธอจะต้องไม่เป็นอะไร” อาซากระซิบบอกผม ผมพยักหน้าอยากให้เป็นแบบนั้น ไม่นานคนอื่นๆก็ตามมา ไม่มีใครพูดหรือถามอะไร เวลาผ่านไปห้านาทีเหมือนผ่านไปสักชั่วโมง ผมร้อนรนจนนั่งไม่ติด อาซาต้องกอดผมเอาไว้ไม่ให้ผมเดินไปเดินมาเป็นคนจิตตก

         ขอร้องล่ะ อย่าให้นิกกี้เป็นอะไรเลย อย่าให้เพื่อนผมต้องตาย

         แต่สุดท้ายคำขอของผมคงส่งไปไม่ถึงประเจ้าหรือเทพองค์ใดที่พอจะเมตตาผมและนิกกี้ได้บ้าง

         หมอเปิดประตูห้องฉุกเฉินออกมาด้วยสีหน้าไม่ยินดี บนเสื้อกราวน์สีขาวเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉาน ผมหลอกตัวเองว่าผมยังมีความหวัง เดินเข้าไปถามหมอว่าให้แน่ใจว่าเพื่อนของผมยังปลอดภัย เธอไม่ได้เป็นอะไร

         “หมอครับ เพื่อนของผมเป็นยังไงบ้าง!”

         สายตาของหมอแทนคำขอโทษอย่างที่สุด และทันใจนั้นน้ำตาเม็ดโตก็ไหลออกจากตาทันทีที่หมอพูด

         “เธอเสียเลือดมากครับ หมอเสียใจด้วยครับ เพื่อนของคุณเสียชีวิตก่อนจะมาถึงมือหมอ...”

         เสียชีวิต...นิกกี้ตายแล้ว อย่างนั้นเหรอ?

         “อึก...ฮึก ฮือ ไม่จริง ไม่!!!” ผมแทบไม่ได้ฟังว่าหมอพูดอะไรต่อ ร่างผมทรุดลงไปกับพื้น แข้งขาไร้เรี่ยวแรงที่จะทรงตัว มือทั้งสองข้างกำเสื้อของอาซาเอาไว้แน่นเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว ร้องไห้สุดเสียงกับความจริงที่ผมไม่อยากจะยอมรับ

         “โยชิๆ ชู่ว์ อย่าร้อง”

         “นิกกี้ เธอต้องไม่ตายสิ อย่าตายนะ ขอร้องละ อย่าตาย ฮืออ!!!”

         เสียงร้องไห้ดังก้องโรงพยาบาล ผู้คนที่พบเห็นต่างมองกันด้วยความสงสารและเวทนา ชีวิตไม่เคยมีความแน่นอน โชคชะตามักเล่นสนุกยามที่เราไม่รู้ตัวเสมอ แต่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอที่จะพรากชีวิตบริสุทธิ์ไป นิกกี้ทำผิดอะไรถึงต้องเอาชีวิตเธอไปด้วย

         “ฮือ ไม่จริง ฮือ นิกกี้ ฉันขอโทษ ได้ยินไหม ฉันขอโทษ ฮือออ กลับมา...อย่าตายสิอย่าตาย ถ้าเธอตายแล้วใครจะช่วยฉันเวลาที่ถูกไอ้เติร์ดแกล้ง ฮึก ถ้าเธอไม่อยู่แล้วใครจะเลี้ยงปุยเมฆ ฮือ ถ้าเธอไม่อยู่แล้วไอ้เติร์ดมันจะไปสารภาพรักกับใคร อย่าตายสิ กลับมา ได้โปรด ฮือออ”

         “อย่าร้องนะอย่าร้อง เธอไปสบายแล้ว” อาซาปลอบผม แต่ผมไม่ต้องการ ตอนนี้ผมอยากจะไปฆ่าเจอร์โรม เป็นครั้งแรกที่ผมอยากฆ่าคน ผมเครียดจัดจนเกิดอาการชัก อาซารีบเรียกหมอมาดูผม อาการหอบของผมกำลังจะกำเริบ โรคที่ผมไม่ได้เป็นมานับสิบปี ผมกำลังทรมานเพราะหายใจไม่ทันแต่มันคงไม่เท่านิกกี้ เธอคงจะทรมานมากกว่าผมร้องเท่าพันเท่า ความเจ็บปวดของผมยังเทียบเท่าไม่ได้ ผมจะบอกพ่อแม่เธอยังไง ผมจะบอกยังไงว่าผมทำให้ลูกของพวกเขาต้องตาย

         “โยชิ! นายอย่าเป็นอะไรนะ โยชิ!”

         “ฉะ ขอ...ขอโทษ...นิ...กี้...ฉัน...ขอโทษ”

         เพราะผม...ผมทำให้เธอตาย

         หลังจากที่โยชิถูกส่งตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกคน อาซาได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วงจับใจ เขาเข้าใจความรู้สึกของโยชิดี และก่อนที่จะมีใครต้องเดือดร้อนไปมากกว่านี้ เขาควรจะจบปัญหาความแค้นระหว่างเขากับไอ้เจอร์โรมให้มันสิ้นสุดลงเสียที ไม่มันก็เขาต้องตายกันไปข้างหนึ่ง เรื่องนี้ถึงจะจบ

         “ทุกคน ฉันฝากดูโยชิด้วย” อาซาหันไปบอกกับคนอื่นๆที่ยืนหน้าเครียดไม่ต่างกัน เวสตัวลุกขึ้นเดินมาตรงหน้าอาซาด้วยความเป็นห่วง

         “นายคิดจะทำอะไร”

         “ฉันจะไปทำให้เรื่องมันจบ”

         “อย่าวู่วามอาซา มันจะไม่มีอะไรดี” เวสตันเตือน ตอนนี้ภายในตัวอาซาเหมือนมีพายุลูกใหญ่ตีวนอยู่ข้างใน ยากที่จะดับ ยากที่จะหยุดยั้ง จนกว่าความบ้าคลั่งจะปลดปล่อยออกมา



         “ฉันจะไม่ให้โยชิเสียใจฟรี แด่วิญญาณที่ไม่รู้เรื่อง ฉันจะสังเวยชีวิตมันด้วยมือของฉันเอง!!!”


         
………

         เมื่อวานไม่ได้มา วันนี้ก็มาซะมืด ริริติดธุระนิดหน่อย และวันนี้ตลอดเย็นก็นั่งอ่านนั่งแก้ตอนนี้อยู่หลายรอบ บอกเลยว่าทุกตอนที่แต่งแม้แต่ตอนจบ ตอนนี้แต่งยากที่สุดแล้ว ยังมีอีกตอนคือตอนที่อาซากับเจอร์โรมสู้กัน แต่คิดว่าตอนนี้ยากกว่าเยอะ รู้สึกว่ามันยังไม่ลงตัว แต่ตอนนี้ยิ่งแก้ยิ่งเครียด เลยกะว่าหัวโล่งแล้วจะเอามารีไรท์ ใครที่อ่านตรงนี้แล้วคิดว่ามีจุดที่ต้องแก้ไข ยกเว้นคำผิด ถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่าขาดอะไรไปรบกวนบอกทีนะคะ ริริจะได้ปรับปรุงแก้ไข เครียดกับตอนนี้จริงจัง แต่ถ้ารู้สึกว่าตอนนี้โอเคแล้วก็บอกด้วยนะคะ

         สิบห้าตอนเข้าไปแล้ว เหลืออีกสี่ตอนจบภาคนี้ ลงอีกแปบๆก็เสร็จละ ใกล้เข้าสู่ความหวานที่ทุกคนรอคอย

         ตอนนี้คงไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพราะริริเครียด!!!

         สุดท้าย ขอไว้อาลัยให้แก่นิกกี้ R.I.P

         ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจ และทุกคนที่ตามอ่านตามทวง ริริรักทุกคน กอดดดดดด

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 10-07-2014 22:08:20
 :katai1:   บางครั้งก็สงสัยเหมือนกันนะ ว่า ดาวเสาร์ ไม่สามารถเลือกได้เลยหลอระหว่างเพื่อนกับความถูกต้อง  บางครั้ง

คำว่าเพื่อน อาจจะต้องมาทีหลังคำว่า ถูกต้องนะ  แต่ก็อย่างว่าแหละ ไม่ใช่แค่เพื่อนแต่เพราะเป็นลูกน้องของเจอร์โรมด้วย

มันสั่งอะไรก็ขัดไม่ได้อยู่แล้ว   สงสารก็แต่นิกกี้ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรแต่ต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้   :heaven   

สงสารโยชิที่จะจมดิ่งลงสู่ความรู้สึกผิดที่ว่า ตนทำให้เพื่อนต้องตาย เพราะตนเป็นต้นเหตุ 

อยากให้อิตาเจอร์โรมตายห่าไปเลย   :katai1:  แล้วเอาดาวเสาร์ ขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มแทน อาจจะเวิร์กกว่านี้ 

ปล.ตอนนี้ดาร์กมาอ่ะขอบอก   :sad4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 10-07-2014 22:11:28
ฆ่าไอ้เจอร์โรมเลยอาชา

เลวมากกกกกกกกก :m16:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 10-07-2014 22:14:29
 :fire: :fire: ไอ้หมาบ้า...เอามาถลกหนังส่งขายเวียตนามเลยนะ  อาซา.....
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Pnomsod ที่ 10-07-2014 22:19:20
 o13 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 10-07-2014 22:30:13
ไอ้หมาเลว TT
สงสารนิคกี้
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 10-07-2014 22:38:22
สงสารนิกกี้ คนดีๆต้องมารับเคราะห์ตลอดดดด :sad4:
อยากเห็นโยชิในบทดาร์กเบาๆ ไหนๆก็อาการกำเริบแล้ว ช่วยเอาไอ้ที่ถูกสะกดจิตไว้หายไปด้วยเท้ออออ :z3:
รอตอนต่อไปน้าาาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: chandeliers.nun ที่ 10-07-2014 22:45:17
อ๊ากกก เจอร์โรมม ไอ้หมาบ้าาาา  :angry2:

ดาวเสาร์ข่มขืนไอ้เจอร์โรมซะ จะได้หายบ้าาาซะที  :haun4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 10-07-2014 22:52:28
น้ำตาซึม สงสารทั้งนิกกี้แล้วก้อโยชิ  :o12: :o12:
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 10-07-2014 22:57:50
โอ้วมาก็อดดดดดด ไอ้เจอร์โรม แกทำแบบนี้ได้ยังไง!!! :fire:
โฮฮฮฮ นิกกี้...อย่าตายน้า โยชิ ไม่ใช่ความผิดหนูนะลูก อย่าโทษตัวเอง :sad4:
คนผิดคือไอ้หมาบ้าคนเดียว พี่อาซา ฆ่ามันซะ เอาให้ตาย เอาให้เละ!! :z6:
อย่านะอย่าให้พี่เจอหน้า จะจับทำหมาตุ๋นเสียให้เข็ด!!! :m31:
รอตอนหน้านะคะ ขอให้อาซาโชคดี :hao5:
 :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 10-07-2014 23:01:59
บู๊เลือดสาดดดดดดดดดด  นิกกี้ไปแล้ววววววว  :hao5:   แบบทรมาณซะด้วย  ฮรื้อออออ

อาซาจัดการเจอร์โรมให้หนักๆเลย   :z6:   :beat:   :m31:     


+ที่สี่ร้อยของRiRi    :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 10-07-2014 23:09:35
เจอโรมก้เหี้ยเกิ้นนนา :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 10-07-2014 23:23:20
สงสารนิกกี้อ่า
คนที่ไม่รู้เรื่องแต่เจอโรมก็ลากเข้ามา
เกลียดมันจริงๆ
ฆ่ามันให้ตายไปเลยอาซา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-07-2014 23:23:58
สงสารนิคกี้อะ จะเป็นงัยต่อเนี้ย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 10-07-2014 23:26:43
อยากบอกว่าตั้งใจอ่านตอนนี้สุดๆเลย เชื่อว่าคนเขียนพยายามมากอ่ะ ขอซูฮกเลย อยากอ่านตอนหวายๆแล้วเพราะชีวิตเก๊าขาดความหวาน อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 10-07-2014 23:34:27
ให้กำลังใจคนแต่ง ยังไงก็รออ่าน อยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 10-07-2014 23:39:22
สงสารนิกกี้ ลุ้นๆ สุดๆๆ มาต่อไวๆๆ นร้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 10-07-2014 23:40:29
 :z3: เจอร์โรมมมมมมม ไอ้เลว T^T
สงสารโยชิจัง :(
+1เป็ด
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 10-07-2014 23:56:02
ฆ่ามันเลยอาซา เอาให้ตายทรมานกว่านิกกี้อีก โยชิพอหนูตื่นขึ้นมา หนูต้องเข้มแข็งนะ
น่าสงสารทั้งนิกกี้ทั้งโยชิเลย  โยชิคงรุ้สึกผิดแบบนี้ไปตลอดชีวิตแน่
อยากเห็นหนูโยชิแบบดาร์กๆ 55555 รอตอนหน้าน้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 11-07-2014 00:00:03
ที่อ่านมาขัดใจโยชิหน่อยๆ

แบบว่าเอะอะๆก็ร้อง

ถึงเค้าเป็นเพื่อนกันก็เถอะ

คือหวังมากไปว่าโยชิ ต้องเข้มแข็ง ต้องสู้

ก็อย่างที่คนอื่นเค้าว่านั่นแหละ

โยชิทำให้คนอื่นเดือดร้อน

ปล ถึงพูดขนาดนี้ก็ติดตามและเป็นกำลังใจให้เสมอนะ แบบว่าชอบ(งงกับคัวเอง)
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: howru ที่ 11-07-2014 00:13:40
สงสารนิกกี้
ขอให้โยชิและอาซาปลอดภัย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 11-07-2014 00:59:20
 o22 :a5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 11-07-2014 01:12:04
เอามันตายไปเลย ไอ้หมาบ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ninghyuk ที่ 11-07-2014 03:32:27
อาซากับเจอร์โรมมีเรื่องอะไรกันแน่ สงสารนิกกี้จัง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 11-07-2014 06:33:59
มีความรู้สึกว่าอยากให้โยชิมีพลังแล้วกลายร่างเป็นงูบ้างเอาแบบเมพๆเลยนะ แบบพลังที่แท้จริงพึ่งจะตื่นไรแบบนี้อ่ะ แล้วจะได้ไปถล่มไอ่เจอโรมให้เลือดสาดไปเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 11-07-2014 07:19:56
ใจร้ายมากๆๆๆๆเลย ไอ้เจอร์โรม ชิชิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 11-07-2014 08:41:59
อาซากับเจอร์โรม มีเรื่องอะไรกันแน่น่ะเครียดเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 11-07-2014 10:13:39
เพิ่งตามอ่านจนทัน ปาดเหงื่อแป๊บ สนุกมากอ่ะริริ ชอบแนวนี้มากเลย  แล้วยิ่งฟังเพลง A thousand years : Chistina perri  ได้อารมณ์สุดๆ  :mew6:

ปล.รอตอนต่อไปคร่าาาาา  :3123:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Sakiloveanime2069 ที่ 11-07-2014 12:59:37
อยากเห็นโยชิในบทดาร์กเบาๆ ไหนๆก็อาการกำเริบแล้ว ช่วยเอาไอ้ที่ถูกสะกดจิตไว้หายไปด้วยเท้ออออ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 11-07-2014 14:28:46
ใช่นะริริ มันเหมือนขาดอะไรไปอย่าง
อย่างเรื่องในอดีตของอาซากับเจอโรมไง
ว่าไปมีเรื่องอะไรกันนักหนาถึงได้แค้นกันขนาดนี้
ถ้าจะช่วยเขียนบอกหน่อยก้อดีนะ
เพราะคิดว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่องความแค้นธรรมดาแน่
ทำไมเจอโรมถึงอยากให้อาซาต้องเจ็บปวดทรมาณ
อาซาเคยไปทำอะไรให้เจอโรมต้้องโดนอย่างนี้งั้นเหรอ :confuse:
ก้อเลยคิดว่าเนี่ยแหละที่มันขาดไป
ถ้าเขียนเพิ่มเนื้อหาช่วงนี้ลงไปอีกหน่อยก้อน่าจะโอเคแล้วนะ
เป็นกำลังใจให้ พยายามเข้านะจ๊ะ  :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-07-2014 14:46:52
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 11-07-2014 15:41:02
สงสาร นิกกี้ อ่ะ เธอไม่น่าตายเลย

อาซา ไปอัด ไอ้เจอร์โรม ให้เละเป็นโจ๊กเลยนะ

 :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ FIFTEEN❁ 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 11-07-2014 16:38:15
ใช่นะริริ มันเหมือนขาดอะไรไปอย่าง
อย่างเรื่องในอดีตของอาซากับเจอโรมไง
ว่าไปมีเรื่องอะไรกันนักหนาถึงได้แค้นกันขนาดนี้
ถ้าจะช่วยเขียนบอกหน่อยก้อดีนะ
เพราะคิดว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่องความแค้นธรรมดาแน่
ทำไมเจอโรมถึงอยากให้อาซาต้องเจ็บปวดทรมาณ
อาซาเคยไปทำอะไรให้เจอโรมต้้องโดนอย่างนี้งั้นเหรอ :confuse:
ก้อเลยคิดว่าเนี่ยแหละที่มันขาดไป
ถ้าเขียนเพิ่มเนื้อหาช่วงนี้ลงไปอีกหน่อยก้อน่าจะโอเคแล้วนะ
เป็นกำลังใจให้ พยายามเข้านะจ๊ะ  :กอด1: :pig4:

สำหรับความคิดเห็นของคุณ lovelypolly นะคะ ในตอนที่15ที่ริริรู้สึกว่ายังมีบางอย่างขาดไป มันไม่ใช่เรื่องปมระหว่างอาซากับเจอร์โรมนะคะ เพราะปมตรงส่วนนั้นที่ไม่มีในบทที่15 ริริวางไว้ที่ตอนที่16 เพราะจะเป็นจุดสำคัญจุดสุดท้ายของภาคแรกนี้ คือฉากที่ทั้งคู่ต้องมาสะสางเรื่องเก่าเก็บ และความลับความแค้นนี้ก็จะถูกเปิดโปงภายในตอนนี้นั่นเอง แต่ขอบคุณมากเลยนะคะที่ร่วมออกความเห็น คือริริไม่ได้ลงทุกตอนที่เดียวอ่านแล้วมันค้างคาก็อาจทำให้หลายคนสงสัยในจุดเดียวกัน ริริเข้าใจนะ เคยเป็น 55555

เพียงแต่สิ่งที่ริริรู้สึกขาดก็คือว่า...เหมือนอรรธรสในตอนนี้ที่ริริกำลังจะสื่อมันน้อยเกินไป หรือแม้แต่ฉากบู๊ที่รู้สึกว่ามันยังไม่ดีพอ (เนื่องจากขาดประสบการณ์การบู๊) ก็เลยคิดว่ามันอาจจะดูทะแม่งๆสำหรับคนอ่านหรือเปล่า และมันน่าจะดาร์กและกระชากอารมณ์ความรู้สึกได้มากกว่านี้ไหม นั่นคือสิ่งที่ริริกำลังพยายามทำอยู่ ถ้าใครที่อ่านแล้วพอจับจุดได้ว่าควรจะต้องเพิ่มเสริมตรงไหน รบกวนบอกทีนะคะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁FIFTEEN❁ตอบเม้น546 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 11-07-2014 18:48:43
สงสารนิกกี้อ่ะ
;_____;
ทำไมต้องทำร้ายกันขนาดนี้
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁FIFTEEN❁ตอบเม้น546 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 11-07-2014 19:56:46
อิเจอร์โรม อิหมานิสัยไม่ดี  อย่างนี้มันต้อง :z10:  :fire:
R.I.P.แม่คุณนิกกี้  สงสารเติร์ดกับโยชิอ่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁FIFTEEN❁ตอบเม้น546 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 11-07-2014 20:06:21
โอ้ยยยย เจอร์โรมนายนะนายย อุตส่าห์เป็นเพื่อน(เเละหัวหน้า)ดาวเสาร์กิ๊กฉัน ทำไมเเกรทำอย่างเนร้รร :fire: :fire: :m31:
สงสารนิกกี้จัง R.I.P นะค่ะ โยชิไม่เป็นอะไรนะ! ไม่ใช่ตื่นมาอีกทีกลายเป็นซูเปอร์ไซย่าส์ ระเบิดพลังไปตามล่าเจอร์โรมนะ!
ย๊าาาา คุณริริบอกว่าอีกสี่ตอนจะจบ อยากรู้จังค่ะจะมีให้โหวตพระเอกคนต่อไปไหมค่ะ จะโหวตคาร์เตอร์รรรร
ยังไงเราก็จะรอคุณริริมาอัพตอนต่อไปอย่างมุ้งมิ้งนะค่ะ :กอด1: :L2: เลิฟๆจากนักอ่านเเฟนดาวเสาร์
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁FIFTEEN❁ตอบเม้น546 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 11-07-2014 23:22:45
จริงๆเราชอบไลเคนนะ

แต่อ่่านเรื่องนี้เกลียดมันอ่ะ เกลียดมานนนนนนนนนนนนนนนนน

สงสารนิกกี้ ฮือ

ไอหมาบ้าเอ้ย ฆ่ามันให้ตายที

 :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁FIFTEEN❁ตอบเม้น546 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 12-07-2014 00:19:30
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁FIFTEEN❁ตอบเม้น546 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 12-07-2014 07:23:12
 :L2: มอบดอกไม้ให้ค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณริรินะคะ
><\\
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁FIFTEEN❁ตอบเม้น546 10-07-14 [P.18]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 12-07-2014 10:17:00
สงสารนิกกี้ และสงสารโยชิด้วย
แบกความรู้สึกผิดไว้มากมาย
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 12-07-2014 17:40:41
SIXTEEN




         ASA

         ถ้าหากเรื่องนี้จะมีใครผิดก็คงจะเป็นผม แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็เลือกที่จะทำอย่างเดิม ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต สามัญสำนึกไม่เคยมีอยู่ในตัวของมนุษย์พิเศษอย่างเรา และเราไม่มีเคยรู้จักการปล่อยวาง ไม่มีการให้อภัย ถ้าความผิดบาปนั้นมันร้ายแรงและคนทำผิดไม่เคยสำนึก การล้างแค้นดูจะเป็นนิสัยที่ฝังแน่นอยู่ในสันดานของพวกเราอย่างที่แก้ไม่หาย

         แต่วินาทีนี้ผมอยากให้มันยุติ เพื่อที่คนที่ผมรักจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด

         เข็มหน้าปัดชี้บอกความเร็วที่พุ่งทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าไปสะสางความแค้นครั้งเก่าให้จบสิ้น ไม่รู้ป่านนี้โยชิจะเป็นยังไงบ้าง สิ่งที่มนุษย์คนหนึ่งได้พบเจอกับตัวเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยาก ไม่ว่าจะเรื่องตัวตนของพวกเรา และสิ่งประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเขาที่เจ้าตัวไม่คิดจะปริปากถาม ผมรู้ว่าเขาก็อยากรู้ แต่ที่ไม่ถามเพราะเขาคงจะกลัวคำตอบ กลัวที่จะรู้ว่าเขามีสายเลือดพวกเราอยู่ในตัว เพียงแต่มันไม่มากพอให้สำแดงฤทธิ์

         ถ้าโยชิไม่อยากรู้ ผมก็จะไม่ให้เขารู้ เพื่อหวังให้เขามีความสุขเฉกเช่นมนุษย์คนหนึ่งจะต้องการ

         ผมขับรถมาจนถึงบ้านพักแถบชานเมืองของเจอร์โรม ที่ครั้งก่อนมันเคยคิดจะพาโยชิมาแต่ผมตามมาทัน ผมจอดรถอยู่ที่หน้าประตู พวกที่ดูแลบ้านมองเห็นผมและก็คงได้กลิ่นงูจากตัวผม พวกมันเดินปรี่เข้ามาด้วยอารมณ์โกรธจัดเมื่อมีผู้บุกรุก แต่ก่อนที่พวกมันจะเดินมาจนถึงประตู เสียงร้องห้ามจากบุคคลหนึ่งก็ดังขึ้น

         “หยุด! ฉันจัดการเอง”

         “คุณดาวเสาร์”

         มันเดินตรงมาหาผม หยุดยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของรั้วกั้น แววตาของมันเต็มไปด้วยคำขอโทษ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากได้ ต่อให้คนอื่นขอโทษสักกี่พันครั้งยังไง ถ้าคนทำไม่ได้ขอโทษออกมาจากปากและจากหัวใจมันก็ไร้ค่า

         “ไอ้เจอร์โรมอยู่ไหน” ผมถาม

         “มันไม่อยู่ที่นี่ แต่พรุ่งนี้มันก็คงกลับมา แต่นายคงต้องไปหาที่นอนรอ เพราะบ้านนี้ไม่ต้องรับพวกอื่น” ไอ้ดาวเสาร์พูดนิ่งๆ ผมกระตุกยิ้มมุมปาก

         “ก็ไม่คิดจะเข้าไป มันกลับมาเมื่อไหร่ ฝากมันบอกด้วยว่าฉันจะไปรอมันที่ป่าทางเหนือ ถ้ามันอยากจะล้างแค้นให้พ่อมันก็ตามไป แต่ถ้าขี้ขลาดไม่กล้าสู้กันต่อหน้า ฉันจะเป็นคนมาถล่มมันถึงที่เอง” ผมเน้นคำหนักให้รู้ว่าผมเอาจริง ไอ้ดาวเสาร์ไม่ได้ตอบรับอะไร แต่ผมรู้ว่ายังไงมันก็ต้องรายงานไอ้เจอร์โรม ผมกับไอ้ดาวเสาร์จ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร และผมจับกระแสบางอย่างจากตัวมันได้ ผมหันหลบตามันก่อนจะตวัดกลับไปจ้องอีกครั้ง

         “อย่าคิดจะอ่านใจฉัน หรือแม้แต่จะสะกดจิตฉัน หมาอย่างพวกแกนี่มันไร้มารยาทสิ้นดี”

         พวกไลแคนนอกจากจะบ้าพละกำลังและว่องไว ความสามารถพิเศษของพวกมันก็คือการสะกดจิตและการอ่านใจคน รวมไปถึงการหยั่งรู้อนาคต .พวกไลแคนดูจะสูงส่งกว่าพวกแวร์วูฟที่เป็นได้แค่นักล่าชั้นกระจอก แต่ถ้าเทียบกับพวกผมหรืออีกสองพวกอย่างไทกริสและลีโอ ฝีมือยังถือว่าห่างชั้นมากนัก

         หมดธุระที่นี่ผมก็หมุนตัวเดินกลับไปที่รถ ขับไปยังป่าทางด้านเหนือ ที่ๆไร้มนุษย์ปกติอาศัย และลึกลับซับซ้อนมากพอที่จะป้องกันตัวตนของพวกเราจากสายตาผู้คน

         ตลอดทั้งคืนที่ผมนั่งรอเวลาเช้า ผมนั่งขบคิดอยู่ทั้งคืนทั้งเรื่องราวในอดีตและปัจจุบัน มีไม่กี่เรื่องที่ผมจำได้ ระยะเวลาเป็นพันปีเกิดเรื่องราวมากมายในชีวิตผม  ชีวิตที่ต้องคำสาป ไม่มีคืนไหนที่จะหลับตาลงได้สนิทตั้งแต่ที่หัวใจได้ตายจากไป มันคือความทรมานที่ครั้งอยากจะตายก็ตายไม่ได้ หรือต่อให้มีหนทางตาย ก็ไม่มีพวกเราหน้าไหนกล้าร้องเรียกหา

         ความตายของเรากับของมนุษย์ไม่เหมือนกัน มนุษย์ตายแล้วเกิดใหม่ ชาวพุทธเรียกมันว่าใช้กรรม ชาวคริสต์มองกว่าการเกิดเป็นการเริ่มต้นใหม่ เหมือนการให้โอกาส แต่สำหรับเราแล้ว เราไม่นับถือศาสนาไหน แม้บรรพบุรุษจะบอกว่าเราต้องขอร้องอ้อนวอนชีวิตใหม่กับพระเจ้า แต่ทุกคนรู้ว่าเราต่างชิงชังพระเจ้า ไม่มีทางที่จะยอมก้มหัวให้

         ความตายดูจะเป็นสิ่งที่ง่ายที่จะปลดเปลื้องความทุกข์ดั่งที่มีข่าวฆ่าตัวตายจากทั่วทุกมุมโลก ผมไม่เคยดูถูกดูแคลนการตัดสินใจของคนเหล่านั้น ถ้าอยู่แล้วไม่มีความสุข จะอยู่ไปทำไม พวกเราก็เช่นกัน ถ้าอยู่แล้วไม่มีความสุขจะอยู่ไปทำไม แต่ความตายไม่ใช่ทางเลือกของพวกเรา เพราะต่อให้เราตายและเกิดใหม่ มันก็แค่เรากลับไปสู่จุดเริ่มต้น และเมื่อถึงเวลา เราก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมเห็นพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นนากินี ไลแคน ไทกริสหรือลีโอตายจากไป และเราได้เห็นสิ่งมีชีวิตถือกำเนิดขึ้นจากวิญาณเหล่านั้น แต่เส้นทางที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ที่ว่ากันไว้ว่าพระเจ้าเป็นผู้กำหนด เส้นทางนั้นจะนำทางให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม

         ชีวิตใหม่ถือกำเนิดพร้อมสิ่งพิเศษติดตัวและสิ่งยั่วยุคอยนำทางให้เดินเข้าหาตัวตนที่แท้จริง เหมือนที่โยชิเป็นตอนที่เจอผมในร่างงู เขาจะสื่อสารกับงูโดยที่ไม่ต้องมีใครบอก ทุกอย่างเป็นไปเพราะความเคยชิน เขาเริ่มที่จะเดินกลับสู่เส้นทางเดิมเหมือนชาติก่อนๆที่ผมคอยตามดูไม่ให้ตัวตนของเขาแสดงออกมา คอยปกป้องเขาจากคำสาปร้าย ไม่ต้องการให้เขามีชีวิตที่ไม่เป็นสุข

         ดังนั้นแล้วผมจึงเลือกที่จะมีชีวิตอยู่บนคำสาป นอกจากเพื่อคอยดูแลเขาแล้ว อีกเหตุผลก็คือผมไม่ต้องการลืมเลือกเรื่องระหว่าผมกับดาร์เรล ผมคงทนไม่ได้ที่จะให้ความรักของเราตายไป ถ้าผมอยู่ความรักของเราก็จะยังคงอยู่ มันจะยังอยู่ในใจผม ผมจะรู้สึกได้ทุกครั้งเพียงแค่หลับตาและรำลึก ว่าครั้งหนึ่งผมเคยมีความสุขมากขนาดไหนยามที่เราได้เคียงคู่กัน

         ความรักที่ผมไม่อยากจะลืมเลือน ต่อให้อีกกี่พันปี ผมก็จะปกป้องความรักของผมจนกว่าจะถึงวันที่ยื้อเอาไว้ไม่ได้

         ...จนกว่าจะถึงเวลานั้น...

         แสงแดดยามเช้าทอประกายแสง ผมนับเวลาถอยหลังรอให้ใครอีกคนมาถึง ผมก้าวลงจากรถมองดูรอบๆกาย เสียงใบไม้กิ่งไม้เสียดสีพัดไหวตามแรงลม หอบเอากลิ่นสาปเฉพาะตัวของพวกไลแคนลอยมากระทบปลายจมูก ผมหันไปตามทิศทางเตรียมตั้งรับกับสิ่งที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

         โครม!!

         ต้นไม้ใหญ่หักกลางล้มลงมาตรงตำแหน่งที่ผมยืนอยู่ ผมกระโดดหลบได้ทัน ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของหมาป่าขนสีน้ำตาลทองจะกลายร่างเป็นไอ้เจอร์โรม ที่เดินแสยะยิ้มเข้ามาหาผม

         “แกไม่ควรลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องมายุ่งกับเรื่องของเรา เผื่อว่านายอยากจะรู้ ผู้หญิงคนนั้น...นิกกี้ เพื่อนที่โยชิรัก เธอตายแล้ว!” ผมเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อไอ้เจอร์โรม ลูกน้องของมันที่ติดตามมาทำท่าจะเข้ามาช่วย แต่ผมตวัดสายตามองอย่างท้าทาย ผมไม่สนว่าวันนี้พวกมันจะต้องตายด้วยน้ำมือของผม ถ้าเพียงแต่มันจะทำให้เรื่องพวกนี้จบลง ผมก็จะทำ!

         “เหอะ! แล้วไง แกคงจะคิดว่าฉันเลวมากที่ฆ่าผู้หญิงคนนั้น หึหึ แกก็รู้ว่าเราจะไม่ฆ่ามนุษย์เว้นแต่จวนตัว ซึ่งก็ยังมีความผิด แกเอาผิดฉันเรื่องนี้ไม่ได้หรอกอาซา ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ...ด้วยมือของฉันเอง” เจอร์โรมยิ้มเยาะ ผมชะงักนิ่งมองค้นเข้าไปในดวงตาของมัน ก่อนจะกระตุกมือปล่อยคอเสื้อมันอย่างแรง

         เวรเอ้ย! ผมหงุดหงิดที่ตัวเองคิดได้ช้าไป คนอย่างมันไม่โง่พอที่จะทำให้ตัวเองเดือดร้อนด้วยการปลิดชีพมนุษย์ตัวเล็กๆคนหนึ่ง มันคงใช้ให้ลูกน้องมันทำ และตัวมันก็พ้นผิด

         ความโชคร้ายของพวกมนุษย์พิเศษอย่างเราก็คือการต้องอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของผู้นำ ใครไม่ทำตามและทำตัวคิดคดทรยศ ทางเลือกเดียวที่ได้รับคือความตาย พวกเราอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเป็นฝูง ถ้าอยู่เดี่ยวโดยไร้คนคุ้มครอง ก็จะถูกล่าทั้งพวกเดียวกันและพวกอื่น นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมไม่ไว้ใจให้โยชิอยู่ใกล้ดาวเสาร์ มันอาจจะเป็นคนดีและหวังดีต่อโยชิ แต่หน้าที่รับใช้ไอ้เจอร์โรมค้ำคอมันอยู่ ต่อให้โยชิเป็นน้องชายของมัน ถ้ามีคำสั่งให้ฆ่า มันก็ต้องฆ่า

         ความสับซ้อนทางสายพันธุ์และอำนาจหลากหลายที่พวกเรามี จำต้องคนคอยควบคุมไม่ให้พวกที่คิดว่าตนเก่งกาจกำเริบเสิบสาน ไม่ให้มีพวกหน้าใหม่เจ้ามาทำตัวกร่างวางอำนาจและระรานทั้งพวกเดียวกันและพวกมนุษย์ ดังนั้นในแต่ละพื้นที่ที่มีพวกเราอาศัยอยู่ก็จะมีการแต่งตั้งผู้ปกครองสายพันธุ์เพื่อดูแลคนในปกครอง แต่ถ้าผู้ปกครองมันไม่ดี นับเป็นความซวยของลูกน้องไป

         “สุดท้ายแกก็เป็นได้แค่ไอ้ขี้ขลาดจริงๆ” ผมกัดฟันพูด เบนสายตามองไปทางลูกน้องมันอย่างหยามเหยียด จนมันเอ่ยปากไล่ให้ลูกน้องมันกลับไป ทีนี้ก็เหลือแค่มันกับผมสองคน

         “งั้นเหรอ แล้วฆาตกรตัวจริงอย่างแกดีกว่าฉันตรงไหนวะ! ฉันจำได้ไม่มีวันลืมว่าวันนั้นแกทำอะไรกับครอบครัวฉันไว้บ้าง!!!”

         “หึ เรื่องที่ฉันฆ่าพ่อแกน่ะเหรอ ก็สมควรแล้วนี่!!!”

         ผมก็เลวไม่ต่างจากมัน เพียงแต่อาจจะมีเหตุผลดีๆที่ทำให้ผมดูเป็นคนดีมากกว่ามัน เหตุผลที่ว่าผมไม่เคยทำใคร ถ้าคนๆนั้นไม่ทำร้ายผมก่อน

         “พ่อแกฆ่าดาร์เรล ฆ่าคนรักของฉันกับมือ!!!  ในเมื่อฉันต้องเสียหนึ่งชีวิตที่รักยิ่งไป ก็ต้องแลกด้วยหนึ่งที่ชีวิตที่หยาบช้า!!!”

         ผมจำได้ไม่มีวันลืม วินาทีที่ผู้ชายคนนั้นปักมีดลงบนตัวของดาร์เรล ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่หวานราวกับน้ำผึ้งเบิกกว้างออกพร้อมเสียงกรีดร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด ดิ้นรนหนีอย่างทุรนทุราย วันนั้นผมไปช่วยเขาช้าไป ทันเห็นแค่ลมหายใจที่ค่อยๆขาดห้วงจนสุดท้ายแน่นิ่งไม่ไหวติง โลกทั้งโลกเหมือนพังครืนลงมาต่อหน้าต่อตา คำสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันชั่วนิจนิรันดร์ดูเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมและไม่มีทางสมความปรารถนานับตั้งแต่วินาทีนั้น ทั้งชีวิตผมที่มีเพียงดาร์เรลที่คอยเติมเต็มทุกส่วนที่ขาด ไม่มีเขาชีวิตผมก็ไร้ความหมาย

         จากความเสียใจกลายเป็นความเครียดแค้นที่สั่งสมมากขึ้นตามกาลเวลา ที่เขาว่าสินปีแก้แค้นก็ยังไม่สาย ความรู้สึกระหว่างคนตายและคนเป็นมันทรมานต่างกัน ผมก็แค่สนองให้พวกมันได้รู้รสชาติความเจ็บปวดจากการพัดพรากจากสิ่งที่รักว่ามันเป็นยังไง

         บุญคุณต้องทดแทน แค้นก็ต้องชำระ

         ผมตามหาจนเจอ ยิ่งเห็นพวกมันมีความสุขผมก็ยิ่งโกรธแค้นพวกมันเป็นเท่าทวี ในขณะที่ผมต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอ้างว้างเพราะคนที่รักถูกฆ่าตาย แต่พวกมันกลับมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ครอบครัวพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก ความยุติธรรมไม่เคยมี เหมือนสามัญสำนึกที่หาได้ยากกับทุกสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้

         ผมรอเวลาให้ลูกชายของมันออกจากบ้านไปตักน้ำ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ผู้ชายคนนั้นหันมองผมก่อนจะตกใจทำอะไรไม่ถูก เขาขู่คำรามใส่ผม ปากก็เอ่ยไล่ให้เมียออกจากบ้าน ผมเดินเข้าไปหามันเหมือนคนไม่มีชีวิตจิตใจ เพราะมันมีแต่ความแค้นที่สุมอก ผมไม่สนคำขอร้องของมันที่ขอให้ผมไว้ชีวิต ตอนนั้นที่ดาร์เรลดิ้นรนร้องขอชีวิตจากมัน ทำไมมันไม่ฟังเขาบ้าง มันกลับจ้วงมีดลงบนหัวใจของเขาอย่างเลือดเย็น คราวนี้มีหน้าอะไรมาร้องขอชีวิต

         ‘คนรักของแก และลูกของแก จะต้องจมอยู่กับความทุกข์ทรมานเหมือนที่แกทำไว้กับข้า!!!’

         จากรูปร่างของมนุษย์กลายเป็นงูตัวใหญ่สีดำกับดวงตาที่เต็มไปด้วยเพลิงแห่งความแค้นสีทองอำพัน ลำตัวใหญ่ยาวเกี่ยวรัดลำตัวของชายผู้นั้นที่กลายร่างเป็นหมาป่า ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงกรีดร้องของดาร์เรลก่อนตาย  ไม่สนใจแม้กระทั่งสายตาที่คล้ายจะขอลุแก่โทษที่ส่งผ่านทางแววตาว่ามันสำนึกผิดและยอมรับผลที่ตัวเองเคยก่อ แต่มันก็สายเกินไป ไม่มีอะไรหวนคืน ไม่มีคนที่รักกลับคืนมา แรงบีบรัดแน่นขึ้นจนร่างของมันป่นปี้ไม่มีชิ้นดี ผมปล่อยร่างมันทิ้งลงพื้นเหมือนสิ่งไร้ฆ่า ก่อนจะพ่นไฟเผาผลาญทุกสิ่งอย่างให้มอดไหม้เป็นจุล

         เสียงร้องไห้จากหญิงสาวและเด็กชายดังอยู่นอกบ้าน ผมกลายร่างเป็นคนธรรมดาอย่างเดิม ตรงไปยืนตรงหน้าเด็ก แม่ของเขาเข้ามาปกป้องลูกด้วยการกลายเป็นหมาป่าขวางหน้าผมไม่ให้ผมทำร้ายลูกของเธอ ผมเพียงกระตุกยิ้มแล้วปัดเธอให้พ้นทาง เด็กผู้ชายคนนั้นตัวสั่นร้องไห้หาพ่อและแม่ด้วยความขลาดกลัว ผมจ้องหน้าเขาด้วยความสมเพชทั้งตัวเขาเองและตัวผม

         ‘คนตายแล้วก็สบายไป แต่คนที่ยังอยู่ก็จงเจ็บปวดให้ได้ครึ่งหนึ่งของข้า ความเจ็บปวดที่พ่อเจ้าส่งต่อให้เจ้าเอง!’

         ‘ฮึก ฮืออ’

         ‘อาซาคือชื่อของข้า จำเอาไว้ให้ดี ว่าอย่าคิดลองดีอีกเป็นครั้งที่สอง’




         เด็กชายคนนั้นก็คือไอ้เจอร์โรม

         “แกก็เลยใช้เป็นข้ออ้างในการทำลายครอบครัวฉันอย่างนั้นสินะ!” มันพุ่งเข้าใส่ผม แต่ผมหลบได้ทันและเป็นฝ่ายกระโจนเข้าหามันเต็มแรง ร่างของผมกดทับอยู่บนตัวไอ้เจอร์โรมลงกับพื้นดิน มือกระชากคอเสื้อมันเอาไว้แน่นพร้อมกับดวงตาสีนิลกาฬกลายเป็นสีอำพันเหลือบทอง

         “มันไม่ใช่ข้ออ้าง มันคือผลตอบแทน!”

         ปึก! โครม!

         ร่างของผมลอยลิ่วกลางอากาศด้วยเท้าของเจอร์โรมที่ยกขึ้นปะทะกับยอดอกไปกระแทกเข้ากับต้นไม้ต้นใหญ่ก่อนจะร่วงสู่พื้นผมก็ตั้งตัวเอาไว้ได้ทัน เศษฝุ่นเศษดินกระจายฟุ้งอีกครั้ง

         “งั้นวันนี้เราก็มาจบเรื่องความแค้นและผลตอบแทนให้มันรู้เรื่องกันไป และที่แกเคยบอกให้ฉันจำ หึหึ ฉันอยากจะลองดีกับแกเป็นครั้งที่สองวะ ให้รู้กันไปว่าแกกับฉันใครมันจะอยู่ใครมันจะตาย!!!” คราบเลือดสีแดงที่ติดกรังอยู่บริเวณมุมปากถูกเช็ดออกด้วยความรวดเร็ว ดวงตาของเจอร์โรมจะวาวโรจน์ยิ่งกว่าเดิมก่อนที่มันจะกลายร่างเป็นหมาป่า ผมตอบรับคำเชิญของมันด้วยการกระทำเช่นเดียวกัน

         ไม่ว่าจะความแค้นหรือผลตอบแทน ทุกอย่างจะจบลงในวันนี้!
.......................................





หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 12-07-2014 17:43:46

         ผมไม่รู้ว่านี้คือความฝันหรือความจริง มือที่ถือหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ของวันสั่นเทาจนยากที่จะถือมันไว้ในมือ



         สลด เด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีฆ่าเพื่อนสาวตายอย่างอนาถ



         ไม่...ไม่จริง ผมไม่ได้ทำ

         หนังสือพิมพ์ถูกเขวี้ยงทิ้งลงกับพื้น มือทั้งสองข้างยกขึ้นปิดหูขวางกั้นคำต่อว่าต่อขานว่าเขาเป็นคนฆานิกกี้ตาย ดวงตาสั่นไหวปิดแน่นเมื่อเห็นภาพของพ่อแม่ของนิกกี้ เติร์ด และอีกหลายต่อหลายคนที่กำลังร้องไห้ด่าทอสาปแช่งให้เขาตายๆไปซะ จะได้ไม่ต้องมีชีวิตอยู่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน

         ไม่จริง ผมไม่ได้ทำ ไม่จริง

         “ไม่!!!”

         ผมสะดุ้งตื่นจากความฝันที่แสนโหดร้าย บนใบหน้ายังมีคราบน้ำตาไหลนอง เสียงเรียกดึงสติผมให้กลับเข้าร่าง ปารีสจับตามลำตัวผมดูอาการผิดปกติ ผมหายใจติดขัดจากความตกใจกลัว มองรอบตัวว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ผมกลับมานอนในห้องของอาซา ไม่ใช่ที่โรงพยาบาล

         “เป็นไงบ้าง ฝันร้ายเหรอ” ปารีสถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ผมพยักหน้า น้ำตาไม่ได้ไหลอีกต่อไป หมดเวลาของการอ่อนแอที่ไม่ช่วยให้อะไรดี มีแต่ทำให้เรื่องมันยิ่งแย่

         “นายอาการหอบกำเริบตั้งแต่เมื่อคืน แล้วก็สลบไปจนตอนนี้ก็เกือบเย็นแล้ว ฉันจะลงไปอุ่นข้าวต้มให้ อยากได้อะไรไหม” ปารีสที่นั่งอยู่ริมเตียงถามผม ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ

         เธอลุกเดินออกไปจากห้อง ความเงียบเริ่มเกาะกินจิตใจผมอีกครั้ง จังหวะการเต้นของหัวใจบอกให้รู้ว่าผมยังมีชีวิต ต่างกับนิกกี้ที่หัวใจของเธอไม่เต้นอีกต่อไป

        ‘สวัสดี ฉันนิกกี้ นายชื่ออะไร’
         ‘ฉันเหรอ?’
         ‘ใช่ นายนั่นแหละ’
         ‘ฉันโยชิ’
         ‘โยชิ ชื่อเหมาะกับน่านายมาก น่ารักจังเลย’ เธอทำเสียงร่าเริงแล้วกระโดดกอดผมไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน
         ‘เราเป็นผู้ชายนะ พูดว่าเราน่ารักได้ยังไง หยาบคายนะ’
         ‘ก็น่ารักจริงๆนี่น่า ช่างเถอะ ต่อไปนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ ฉันรู้เรื่องแถบนี้ดี ฉันจะดูแลนายเอง’


         ผมยังจำได้ วันแรกที่ผมเจอกับนิกกี้ระหว่างทางเดินไปเอาตารางเรียนที่ห้องกิจการนักศึกษา เธอเป็นฝ่ายเข้ามาทักผมก่อนอย่างร่าเริง รอยยิ้มของเธอทำให้ผมยิ้มออก ไม่ต้องเศร้าเพราะคิดว่าจะไม่มีเพื่อน นิกกี้เป็นคนคุยสนุก เธอมักจะช่วยผมคุยโน่นคุยนี่ตลอดเวลา

         ผมที่เป็นคนติดบ้าน ติดพ่อกับพี่ยอร์ช พอมีนิกกี้ ผมก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวที่ต้องย้ายมาเรียนในเมืองคนเดียว เธอทำให้ผมรู้ว่า ในเมืองหลวงที่ไม่น่าอยู่ก็มีคนดีๆแบบเธอแต่งเติมให้น่าอยู่ขึ้น

         ‘คิดถึงบ้านเหรอโยชิ หน้าเศร้าเชียว ไม่เป็นไรนะ คิดซะว่าฉันเป็นพี่สาวสิ ถ้านายเหงาโทรหาฉันได้ตลอดเวลา ฉันจะรีบมาหาทันที’

         แค่ผมทำหน้าไม่สบายใจเธอก็ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง หรือแม้แต่ตอนที่เธอเห็นรอยจูบที่คอของผม เธอยังโวยวายแทบเป็นแทบตาย เพราะกลัวผมไปพลาดท่าเสียทีคนไม่ดีเข้า

        ‘ไม่ว่านายจะเป็นอะไร นายก็คือเพื่อนของฉัน แต่นายควรรู้เอาไว้ พวกฝรั่งมักรักง่ายหน่ายเร็ว แถมผู้ชายในกรุงเทพก็เป็นพวกรักสนุก ขี้หลอกและหวังฟัน ถ้านายปิ้งคนไหนหรือมีใครมาจีบ นายต้องบอกฉัน ฉันจะช่วยดูให้’

         ตอนที่เราอยู่ด้วยกันสามคน เป็นช่วงเวลาที่ผมชอบมากที่สุด นิกกี้กับเติร์ดจะเถียงกันตลอดเวลา นิกกี้มักทำให้เราทั้งสามคนหัวเราะไปด้วยกัน เวลาไม่ถึงสองเดือน ผมกลับผูกพันกับเธอเหมือนเธอเป็นคนในครอบครัว

         พี่ยอร์ชชอบบอกว่าผมไว้ใจคนง่าย เชื่อใจคนง่ายและให้ใจคนง่าย แต่ผมก็แย้งในใจตลอดว่า เพราะผมรู้ว่าคนๆนั้นเป็นคนดี ผมถึงให้ใจพวกเขาได้ง่ายๆ แต่ใช่ว่าผมจะเป็นแบบนั้นกับทุกคน ไม่งั้นผมคงมีเพื่อนเยอะกว่านี้ เพื่อนผมมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย บางคนมีกลุ่มเพื่อนหกเจ็ดคน แต่เพื่อนตอนมัธยมผมมีแค่สามคนเท่านั้น ซึ่งก็แยกย้ายกันไปเรียนคนละทิศละทาง เราไม่ได้ติดต่อกัน แต่รู้ว่าเรามีกันและกัน

         นิกกี้กับเติร์ดก็เช่นเดียวกัน แค่มองตาผมก็รู้ว่าพวกเขาเป็นคนดี และผมอยากอยู่กับเพื่อนดีๆไปตลอดชีวิต

         ก๊อกๆๆ

         เสียงเคาะประตูดังขึ้น คราวนี้เป็นจูเลียตไม่ใช่ปารีส เธอเดินถือถาดอาหารเข้ามาให้ผม บอกว่าปารีสต้องไปคุยกับพ่อแม่ของนิกกี้กับเวสตันแทนผม เลยให้จูเลียตคอยดูแลผมแทนจนกว่าจะถึงเวลาประกอบพิธีฝังศพตามแบบคริสต์เพื่อส่งดวงวิญญาณของเธอขึ้นสวรรค์

         จูเลียตปล่อยให้ผมนั่งกินข้าวเงียบๆ จนพร่องไปแค่ครึ่งชามผมก็รู้สึกไม่อยากกิน เธอไม่ได้พูดว่าอะไร แค่เอาชามข้าวต้มวางไว้บนถาดอาหารและนั่งอยู่เป็นเพื่อนผมหลายนาที ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นพูดกับเธอ

         “เธอคงนึกสมเพชฉันสินะ ที่ฉันอ่อนแอและไม่เอาไหน” และเธออาจจะพาลนึกไปว่าผมไม่คู่ควรกับอาซา

         “ก็คงงั้น...”

         เธอยักไหล่คล้ายไม่ใส่ใจ แต่ไม่มีน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความไม่ชอบใจ หรือแววตาแข็งกร้าวที่บ่งบอกถึงความเป็นศัตรู

         “แต่นายก็ยังดีกว่าผู้ชายบางคน”

         เธอเริ่มพูดอีกครั้ง ซึ่งทำให้ผมแปลกใจ

         “ถึงนายจะเจ้าน้ำตา ไม่เอาไหน ไม่ได้เรื่อง แต่นายก็กล้าหาญพอที่จะเสี่ยงอันตรายช่วยเหลือใครสักคน กล้าหาญพอที่จะไม่หนีเอาตัวรอดแค่ฝ่ายเดียว”

         “...”

         “ก่อนที่ฉันจะรู้จักกับพวกเวสตัน ฉันอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆในแถบชานเมืองของรุฐหนึ่งในอเมริกา ตอนนั้นพวกคนในหมู่บ้านที่เป็นนากินีไม่ได้ควบคุมตัวเองได้อย่างทุกวันนี้ ถ้าเราโมโหหรือโกรธจัด หรือมีอารมณ์แบบใดแบบหนึ่งแบบขีดสุด เราจะกลายร่างเป็นงู โดยทันที เราไม่รู้วิธีควบคุมมัน และนั่นทำให้พวกมนุษย์รู้และล่าเรา”

         ยามที่จูเลียตเล่าดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ผมพอจะสัมผัสได้ เธอกำลังรู้สึกอ้างว้างกับอดีตเหล่านั้น ดวงตาที่ทอดมองออกไปนอกหน้าตาดูไร้จุดหมาย จนยากที่จะเข้าไปสัมผัสความรู้สึกนึกคิดของเธอ

         “ฉันหนีไม่ทันและถูกพวกมนุษย์ทำร้าย ฉันร้องเรียกให้พี่ชายของฉันช่วย แต่เขาปัดฉันทิ้งและหนีเอาตัวรอด ฉันยังจำแววตายามที่เขามองฉันได้ เขาชิงชังและรังเกียจที่จะช่วย เขามองฉันเป็นตัวถ่วง ถ้าช่วยฉันเขาก็จะไม่รอด ฉันตัดใจไปแล้วว่าตัวเองคงต้องตายจริงๆ แต่ดีที่เจอเวสตันกับปารีสเสียก่อน พวกเขาให้ชีวิตใหม่แกฉัน”

         “แล้วตอนนี้พี่ของเธอ...” ผมอยากจะถาม แต่รั้งปากของตัวเองเอาไว้ก่อน จูเลียตไม่ได้ว่า เธอเหมือนจะรู้สิ่งที่ผมอยากถาม ไหล่ที่ลู่ตกของเธอตั้งตรงขึ้นเป็นเครื่องบอกว่าเธอจะต้องเข้มแข็ง

         “ไม่รู้มัน จะไปตายอยู่ที่ไหนก็ไป ฉันกับมันไม่ใช่พี่น้องกันแล้ว”

         “เสียใจด้วยนะ”

         “เหอะ ไม่ต้องทำหน้าสงสารฉัน ฉันไม่ต้องการ แต่ที่เล่าให้ฟังเพราะมันไม่มีค่าอะไรสำหรับฉัน แต่มันอาจจะพอบอกนายได้ว่า บางทีคนเราก็ไม่ต้องเข้มแข็งอย่างวีรบุรุษหรอก แค่ไม่ขี้ขลาดตาขาวก็พอ”

         “ขอบใจนะ” มันอาจจะงี่เง่าที่ผมคิดแบบนี้ แต่ผมคิดว่าเธอคงกำลังปลอบผม

         “หึ การร้องไห้น่ะมันไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก อย่างน้อยมันก็ทำให้รู้ว่าเรายังมีหัวใจ”

         “ฉันขอโทษที่ทำให้เธอเดือดร้อน” เป็นอีกครั้งที่ผมพูดอย่างใจจริง

         “ก็ไม่เท่าไหร่หรอก ถ้าไม่นับเรื่องอาซาที่ฉันจะไม่มีวันญาติดีกับนาย เรื่องอื่นก็แค่ขี้ผง”

         ผมยิ้มหัวเราะให้กับคำพูดของเธอ ขนาดเธอไม่คิดจะญาติดีกับผม เธอยังเป็นคนดีขนาดนี้ แล้วถ้าเราเป็นเพื่อนกัน ผมเดาออกเลยว่าเธอจะเป็นเพื่อนที่ดีขนาดไหน แต่เอาเถอะ มันก็แค่ความคิด ผมกับเธอท่าจะเป็นเพื่อนกันได้ยาก เพราะลึกๆเธอก็คงอึดอัดใจไม่น้อยถ้าจะต้องทำดีกับผม

         “ฉันอยากไปที่ๆหนึ่ง ถ้าเธอว่าง...”

         “ก็เอาสิ”

         “ขอบใจ”

         ผมคงจะต้องขอบใจจูเลียตในอีกหลายๆครั้งในอนาคตข้างหน้าแน่นอนผมรับรองได้

         ผมอยากไปหาเติร์ด ไปบอกข่าวเรื่องนิกกี้กับเติร์ดด้วยตัวเอง ไม่รู้ว่ามันจะรู้เรื่องหรือยัง แต่ผมก็อยากไปบอกด้วยตัวของผมเอง โดยที่ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้เติร์ดเข้าใจโดยปราศจากความจริงบางส่วนได้ยังไง

         สาเหตุที่ทำไมเธอถึงตาย และใครเป็นคนฆ่าเธอ

         ระหว่างทางจูเลียตเล่าถึงสิ่งที่เวสตันและปารีสบอกกับแม่ของนิกกี้ ว่าการตายของเธอน่าจะเป็นสาเหตุเดียวกับข่าวคนตายในโทรทัศน์ ที่บ้างก็ว่าน่าจะเป็นฆาตกรโรคจิตหรือเป็นสัตว์ร้าย แต่บาดแผลของนิกกี้ที่เสียเลือดจากการถูกกัดทำให้หมอสันนิฐานว่าน่าจะเกิดจากรอยคมเขี้ยวของสัตว์ แม้จะมีข้อโต้แย้งที่ว่าสัตว์ร้ายที่ไหนจะเดินเผล่นพล่านในเมือง แต่เมื่อช่วงเช้าตำรวจพวกศพของสุนัขหมาป่าอยู่ที่ตรอกแห่งหนึ่ง เมื่อส่งไปตรวจสอบกับศพของนิกกี้ ปรากฏว่ามีเลือดของสุนัขหมาป่าตัวนั้นติดอยู่บนนิ้วมือของเธอ ครอบครัวของนิกกี้เสียใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทีแรกพ่อแม่นิกกี้ต้องการจะพบผม แต่เวสตัสบอกว่าผมยังไม่พร้อมที่จะคุยจึงไปคุยแทน

         ทั้งหมดที่จูเลียตเล่า ผมรู้ว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับนิกกี้ที่ความจริงบิดเบือน แต่ผมก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ผมไม่มีทางเลือก ได้แต่หวังว่าเธอจะยกโทษและให้อภัยผมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าอยากให้ผมชดใช้ให้ผมก็ยินดี

         ผมโทรเรียกเติร์ดให้ออกมาเจอกันที่ร้านกาแฟร้านหนึ่ง ผมไม่อยากไปหามันที่หอ ถ้าอยู่กันเพียงลำพังผมกลัวว่าผมจะทำใจแข็งเล่าเรื่องที่กุขึ้นอย่างไร้พิรุธไม่ได้ อย่างน้อยข้างนอกก็มีคนอื่นที่เป็นตัวบังคับให้ผมต้องโกหกได้อย่างแนบเนียน

         และดูเหมือนว่ามันเองก็รู้เรื่องแล้ว ตอนเจอเติร์ดนั่งอยู่ในร้านกาแฟ ดวงตาของเติร์ดบวมช้ำอย่างคนที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนัก ผมแทบหายใจไม่ออกเหมือนเห็นสภาพเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณของเพื่อน

         “พรุ่งนี้เราจะไปร่วมพิธีศพของนิกกี้กัน” ผมบอก เติร์ดพยักหน้า มันจ้องตาผมนิ่ง เราทั้งคู่ต่างมองเห็นความเศร้าในดวงตาของกันและกัน ไม่ต้องมีคำพูด ไม่ต้องเอ่ยถ้อยคำใดๆเราก็รู้ว่าเราไม่โอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้นสักนิด แต่เราไม่มีน้ำตา เราต้องเข้มแข็ง ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อคนที่จากไป

         “ฉันจะไปเอาปุยเมฆมาเลี้ยงที่หอ” เติร์ดพูดหลังจากที่นั่งเงียบไปนาน ผมเห็นด้วย เติร์ดคงจำได้ว่านิกกี้มีความสุขมากขนาดไหนที่ได้เลี้ยงปุยเมฆ ผมเองก็จำได้เช่นกัน และไม่รู้ว่าป่านนี้เจ้าแมวน้อยจะเป็นยังไงบ้าง

         “ฉันเพิ่งรู้ว่าเวลาไม่เคยคอยใคร” เติร์ดพูดแล้วก็หัวเราะเบาๆเหมือนจะเยาะเย้ยตัวเอง

         “ความรู้สึกที่เก็บไว้เพราะกลัวพูดออกไปแล้วจะเสียเพื่อน แต่ตอนนี้ ต่อให้อยากพูดก็ไม่รู้จะพูดให้ใครฟัง” ดวงตาของมันเอ่อคลอด้วยน้ำใส แต่มันเงยหน้าขึ้นให้น้ำตาไหลลงกลับ กระพริบตาถี่ๆขับไล่ความอ่อนแอ

         “ต่อไปนี้ฉันจะเลิกเป็นคนขี้ขลาด อยากทำอะไรก็จะทำ เผื่อที่วันหนึ่งจะได้ไม่ต้องพูดอีกครั้งว่า มันสายไปแล้ว”

         “อืม”

         เรานั่งเป็นเพื่อนกันและกัน แบ่งปันช่วงเวลาที่เราต่างก็มีความสุขที่ได้อยู่กับนิกกี้ และเราสัญญาว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เราจะไม่ลืมเธอ...ไม่ลืมว่าเราเคยมีกัน

         ในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาเติร์ดก็ขอตัวกลับ มันจะแวะไปที่หอนิกกี้เพื่อเอาปุยเมฆกลับไปเลี้ยง ผมยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม จนกระทั่งผมได้ยินโต๊ะข้างๆพูดคุยกันเสียงดัง

         “ตรงหัวมุมถนนคนเขามุงดูอะไรกันวะ”

         “มีงูตัวประมาณแขนสีดำสนิททั้งตัวตาสีทองแบบที่ไม่เคยเจอบาดเจ็บเหมือนไปฟัดกับหมาที่ไหนมาอยู่ข้างรถคันหนึ่ง ใครเข้าใกล้มันขู่ทั้งที่ใกล้จะตายแหล่ไม่ตายแหล่ คนแถวนั้นเลยโทรเรียก...”

         ตัวผมชาวาบ ไม่อยู่ฟังต่อให้จบก็รีบวิ่งออกจากร้านทั้งที่ยังไม่ได้จ่ายเงิน เดือดร้อนให้จูเลียตเข้าไปเคลียร์ค่ากาแฟให้แทน ผมรีบวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุ หาไม่ยากเพราะมีคนหลายคนมุงดูอยู่ ฝีเท้าของผมชะลอช้าลง เห็นรถคุ้นตาจอดอยู่ตรงหน้า ผมเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ หัวใจเต้นแรงอีกครั้ง ภาวนาไม่ให้เป็นอย่างที่ผมคิด แต่ตอนนี้พระเจ้าคงกำลังลงโทษผมที่เป็นต้นเหตุให้นิกกี้ต้องตาย

         “ขอ...ขอทางหน่อยครับ” ผมบอกคนที่ยืนขวางทางผมอยู่ ตรงหน้าคืองูตัวสีดำที่มีดวงตาสีทองที่ผมรู้จักดีที่สุด กำลังชูคอข่มขู่ทุกคนที่จะกำลังเข้าใกล้ เหมือนกลัวว่าจะมีใครทำร้ายตัวเอง หรือไม่ก็ทำไปเพราะอยากจะให้คนพวกนี้หลบไปให้พ้นทางไม่ให้เข้าไปยุ่ง ผมค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้ ทันทีที่ดวงตาสีทองมองเห็นผม หัวที่กำลังชูตั้งก็ลดต่ำลง แววตาที่ก้าวร้ายทอแสงหม่นทันตา

         “อย่าเข้าไปไอ้หนู งูนี่มีพิษร้าย!” ผมไม่สนใจคำเตือนของลุงคนหนึ่ง ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ต้นเหตุของความอลม่านมากขึ้น ก่อนจะค่อยๆนั่งยองๆตรงหน้ามันช้าๆ เม้มริมฝีปากแน่นเมื่อเห็นร่องรอยบาดแผลหลายจุด ไม่รู้ว่าผมไปเอาความกล้ามาจากไหน แต่ผมทนเห็นเขาเจ็บต่อไปไม่ได้ มือทั้งสองข้างยื่นออกไปช้อนตัวอสรพิษสีดำขึ้นสู่อ้อมอก ฝืนลุกขึ้นยืนกลืนก้อนน้ำตาไหลลงคอ

         เจ้างูสีดำเมื่อตกอยู่ในอ้อมแขนผมก็เหมือนงูสิ้นฤทธิ์ ทิ้งหัวซบลงบนอกผมเหมือนหมดแรง ผมรีบก้าวขากลับไปที่รถ ไม่สนใจเสียงเรียกของผู้คนที่ร้องห้ามไม่ให้ผมยุ่งกับงูในอ้อมแขน จนผมต้องหันกลับไปตวาดใส่คนพวกนั้นด้วยความรำคาญ




        “เขาเป็นของผม เขาเป็นงูของผม!!!”




         คนพวกนั้นชะงัก ผมรีบหันกลับไปทางเดิมและออกวิ่งด้วยใจที่ไม่สงบนิ่ง ด้วยความกลัวว่าอาซาจะเป็นอะไรไป จนกระทั่งมาถึงรถจูเลียต ผมเปิดประตูเข้าไปในรถ จูเลียตหันมามองก่อนจะทำตาโต ไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไรขึ้นเธอก็รีบออกรถอย่างเร็วทันที


         

         ............................

         หน่วงอีกแล้วค่าคุณผู้ชมมมมมมม แต่เป็นความหน่วงโค้งสุดท้ายแล้วจริงๆ บอกว่าว่าเรื่องนี้ไม่ดราม่า มีแค่หน่วง ซึ้งและเศร้า เหรอออออ :hao7:

         งานนี้พี่งูเจ็บหนัก อีกฝ่ายก็ไม่รอดแล้วหละคะ ดี! ตายไปเลยไอ้หมาบ้า! เรื่องนี้มีแต่เสียเลือดทั้งเรื่อง แต่การเสียเลือดครั้งสุดท้ายเป็นอะไรที่แบบ...คึคึ ไม่เล่าดีกว่า แต่ขอไปเรียนแปลงร่างเป็นจิ้งจกแปบ จะได้เกาะส่องทั้งวันทั้งคืน หรือเกาะเป็นเดือนๆ วิ้ววววววว แค่คิดก็ฟิน...ไปๆ จองตัวไปฟินแลนด์กันดีกว่าทุกคน หมดเรื่องเครียดละ  :m10: :mc1:

         ไหน เห็นมีคนบอกอยากได้ดาวเสาร์ เอาไปเลย ยกให้ กร๊ากกกก  :m20:

         ส่วนหนูโย หนูหายกลัวพี่งูแล้วใช่ไหมลูก พี่งูเราจะได้สมหวังเสียที  :impress2:

         ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ และขอบคุณทุกคนที่คอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้  :mew1: :กอด1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 12-07-2014 17:49:08
แล้วจะเป็นไงต่อล่ะหวังว่าพี่งูคงจะหายในเร็ววันแล้วมาสวีทกับหนูโยสักทีนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 12-07-2014 18:05:04
ริริคอมเม้นท์เอาใจเราไปเลยยยยยย :L2:
หนูโยชิเลิกกลัวงูแล้วววว ดีจังงงงงงเลยยนะอาซาาาา :hao5:
ว่าแต่......ขอตั๋วเที่ยวหน้าไปฟินแลนด์ด้วยคนสิ!!! เอาแบบเฟิรส์คลาสสสสเล๊ยยยยย อร๊ายย :impress2:
รอตอนหน้าาาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 12-07-2014 18:14:08
 อิเจอร์โรมหวังว่าโดนพี่งูจัดการขั้นเด็ดขาดไปแล้วนะพี่งูกลายเป็นงูเชื่องๆกับหนูโยชิเลยนะต่อไปงูโหดคงจะกลายร่างเป็นงูหื่น :hao6: :hao6:ว่าแต่หนูโยชิจะ....กับพี่อาซาได้เป็นเดือนเหรอยังเป็นมนุษย์อยู่นิ พี่งูยิ่งเก็บกดมาเป็นพันปีซะด้วยคึคึคึ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 12-07-2014 18:15:43
ตายๆไปซะ ไอ้เจอร์โรม ฮึ่มๆ :m16:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 12-07-2014 18:27:47
 o22 :sad4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 12-07-2014 18:28:58
รอเสียเลือดครั้งสุดท้ายนะ ครั้งนี้สงสารอาซามาก โยชิจะรุ่สึกอย่างไรหนอที่อาซาเจ็บหนักขนาดนี้
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 12-07-2014 18:36:40
ตายไหมไอ้เจอร์โรม ถ้านังจะไปซ้ำให้ แต่จะว่าไปก็คือการแก้แค้นที่ซ้ำไปซ้ำมา ถ้าเจอร์โรมมีคนรักก็อาจจะมีคิดแค้นอาซาอีก ไม่อยากให้โลกนี้มีความแค้น

สู้ๆ น่ะ อาซา แหมะ สลบลงอกโยชิพอดี  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 12-07-2014 18:47:43
ขอถามหน่อยได้ไหมครับ

ทำไมพ่อเจอโรมฆ่า ดาร์เรล ได้ง่ายจัง แล้ว อาซา ไปฆ่าพ่อเจอโรมมันก็ง่ายๆเหมือนกันแค่รัดก็ตายที่ตอนไปฆ่าดาร์เรลมันน่าจะเก่งนะ เป็นถึงหมาป่า ขยายหน่อยได้ป่ะอยากรู้ง่ะ

ขอถามอีกข้อ จะมีเฉลยไหมใครที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นหินในช่วงก่อนหน้านี้ ใช่เจอร์โรมไหม
แล้วเวสตัน คือบาสิลิสใช่ไหม
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 12-07-2014 19:22:24
 :z13:จิ้มไว้ก่อน กินข้าวแปบ เดี๋ยวมาอ่านนน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 12-07-2014 19:45:57
อาซาาาาาาา เป็นอะไรมากหรือเปล่า
อย่าเป็นอะไรมากนะ
ว่าเเต่ฉากบาดเจ็บแล้วโยชิอุ้มนี่แอบน่ารักนะ
คนอื่นขู่ แต่คนนี้ซบ :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-07-2014 19:51:01
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 12-07-2014 20:03:14
อาซาาา พี่ชาย พี่อย่าเป็นอะไรนะ :ling2:
โยชิ หนูทำดีแล้วลูก
รอความหวานนนนน :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 12-07-2014 20:07:58
เราอยากเสียเลือดอ่ะ บอกเลยยย รอออออ :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 12-07-2014 20:08:51
เสียเลือดคราวหน้านี่เป็นการเสียเลือดแบบฟินๆใช่ไหม อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 12-07-2014 20:15:41
หนูโยหายกลัวงูแว้วววววววว แบบนี้ก็ทำได้แล้วสิ    :haun4:   รอพี่อาซาหายดีก่อนแล้วจัดเลย   :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 12-07-2014 20:16:59
อาซาจะเป็นอะไรมั้ยเนี้ย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 12-07-2014 20:26:23
ต่อไปคงเป็นฉากสวีทแล้วซินะ หึ หึ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 12-07-2014 20:28:15
กลัวไม่กลัว อย่างน้อยก็อุ้มได้หละว่ะ โยชิสู้ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 12-07-2014 20:32:02
ตอนหน้าขอฟินน่าเร่นะเค๊อะ

ส่วนนิกกี้  ไปให้สบายนะ   อาซาจัดการแทนให้แล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 12-07-2014 20:33:31
พี่อาซาเจ็บหนักเลย
ดีใจที่โยชิก้าวข้ามความกลัวเข้าไปหาอาซาได้
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: Plengaay ที่ 12-07-2014 20:45:45
อาซาอย่าเป็นอะไรน้าาา :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 12-07-2014 21:20:39
อาซาหายไวไวน้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-07-2014 21:48:32
อ่านตอนนี้แล้วซึ้งมากๆ

เพราะความเป็นห่วง หรือเพราะความรักที่ทำให้โยชิกล้าช้อนงูด้วยตัวเอง

อาซา อย่าเปนอะไรไปนะ สู้ๆ เดี๋ยวก็หาย

มีโยชิเป็นกำลังใจให้แล้วนะ

โยชิไม่เกลียดงูแล้วนะ

เพราะฉนั้นรีบหายไวๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 12-07-2014 22:10:43
 :pig4: +1เป็ด ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
เรื่องกำลังเข้มข้นกินใจ โยชิอุ้มอาซา เลิกกลัวงูซะที
=3= ขอให้ทุกอย่างดีขึ้นโดยไว้ รอติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 12-07-2014 22:16:03
กรีสสสสสสสงสารโยชิ สงสารอาซาอ่ะ รอๆๆๆๆๆๆๆ ตอนต่อไปแอร๊ยยยยย :katai1: :katai2-1: :katai4: :ling1: :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 12-07-2014 22:16:45
อาซาอย่าเป็นอะไรน๊๊า....

เพราะว่าเค้า เค้า

เค้าจะจองตั๋วไปฟินแลน ถ้าเองม่องเค้าก็อดอ่าดิ

 :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 12-07-2014 22:21:50
แล้วเจอร์โรมตายป่ะนะ
;_____;) อาซาบาดเจ็บอีกแล้ว
โยชิดูแลดีๆนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 12-07-2014 22:25:31
เจอร์โรม ไปดีเถอะนะ ฮ่าๆๆๆ
อาซาหายเร็วๆ น้าาาาา
รอฉากเสียเลือดอยู่ คึคึ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 12-07-2014 23:49:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 12-07-2014 23:51:52
อืมมมม ดูท่าริริจะไม่ถนัดแต่ง ฉากบู๊จริงๆ
แบบนี้ต้องไปหาหนังแอ็คชั่นแฟนตาซีมาดูศึกษาไว้เยอะๆแล้วล่ะ
อย่างทไวไลดูหนังด้วย อ่านหนังสือด้วยเน้นตรงฉากต่อสู้
ก็น่าจะมำให้การแต่งพวกฉากบู๊ดูสมจริงขึ้น
ให้คนอ่านจิ้นตามไดง่ายขึ้น
ตั้งแต่เริ่มอ่านเรื่องนี้มาให้ความรู้สึกเหมือนอ่านแฮรี่ พอตเตอร์+ทไวไลท์เลยนะ 555
ฉากบู๊ทำให้พระนายของเราเสียเลือดไปแล้ว
แต่คนอ่านยังรอฉากหวานให้ได้เลือดนองกันอยู่นะ
จะห่วงก็แต่หนูโยนั่นแหละจะรับพี่งูเขาได้ไหวหรือเปล่าน้า :z1: คึ คึ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 12-07-2014 23:53:05
 :hao7:  อร๊ายยยตอนต่อไปได้ฟินสินะ  ตอนนี้หน่วงจริงๆน่ะแหละ  ไหนจะพี่อาซาเจ็บ  :sad4: 

ไหนจะโยชิที่ต้องไปบอกเติร์ดอีก  แล้วเติร์ดที่ต้องมาเสียคนที่แอบรักไป   :o12:  น่าสงสารทุกคนเลย

แต่แอบแค้นอิตาเจอร์โรม ทำไมไม่คิดบ้างว่าพ่อของตนไปทำเค้าก่อน อิพ่อเหมือนกัน ไปฆ่าคนรักของเค้าไว้

ทีเค้ามาเอาคืนจะมาร้องขอชีวิต  ไม่คิดล่ะเว้ยอิเห็บหมา  :katai1:   ตอต่อไปฟินสินะ อิคึ  อิคึ  อิคึ  อิคึ    :laugh:


ปล.ว่าแต่อิตาเจอร์โรมตายแล้วแบบนี้ ใครจะเป็นจ่าฝูงแทนล่ะ  ดาวเสาร์ป่ะ ใช่ป่ะๆๆๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 12-07-2014 23:53:48
ขอให้เรื่องร้ายๆผ่านพ้นไปโดยเร็ว
ขอให้ในินาคตมีแต่ความสุขรออยู่
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: ninghyuk ที่ 13-07-2014 01:42:57
แง๊ โยชิดูแลอาซาให้หายไวๆนะ คนอ่านรอคอยเสียเลือด 555555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 13-07-2014 01:46:26
ตอนนี้ดีอีกแล้ววว ชอบจุงเบย มีข้อคิดด้วยแหละ อยากอ่านตอนหวานแล้วอ่ะตะเอง เค้ารอนะ อิอิ

ขอให้พี่อาซาของโยชิหายเร็วด้วยเถอะ เพี้ยงๆ  :call:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 13-07-2014 10:39:24
ตอนเติร์ดพูดถึงนิกกี้นี่น้ำตาแทบไหล
มันเศร้ามากอ่ะ
ส่วนเจอร์โรมก็ตายซะได้ก็ดี
เกลียดแกมากๆเลย
หมดเรื่องสักที ต่อไปนี้ได้เวลาสวีทของอาซากะโยชิแล้วสิ ><
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 13-07-2014 13:59:15
หมดเรื่องหมดราวกันไปซะที หวังว่าคงไม่มีการแก้แค้นกันอีกนะ พอแหละเหนื่อยแทน

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ตอนหน้าขอกลายร่างเป็นแมงมุมดีกว่านะเห็นแบบ 360 องศากันไปเลย ซูมภาพได้อีกต่างหาก

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 13-07-2014 16:55:08
แงๆอาซาจะเป็นอย่างไรบ้าง
แล้วไอ้หมาบ้า มันตายไหม
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 13-07-2014 17:31:43
อาซาบาดเจ็บขอให้หายไวๆนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 13-07-2014 18:45:45
ริริจะมาเมื่อไรน้าาาาาาาา เค๊ารอ ส่อง ทั้งวันเรยยยยยยย คิดถึงอาซา โยชิ แร้วก้อริริแร้วง่าาาาาาาาาาาาา อิอิ วันนี้จะมาตอนไหนนน
 :ling1: :ling1: :katai4: :katai4: :katai2-1: :katai2-1: :hao5: :hao5: :z3: :z3: :hao3: :hao3: :call: :call: :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: wickedwoman ที่ 13-07-2014 18:54:37
อร๊ายยย พี่งูจะเป็นอะไรมากมั้ย สงสารจังเลยยย :o12:

แต่หนูโยชิเลิกกลัวงูแล้วสินะ กล้าจับอาซาแล้วนี่

รอตอนต่อไปนะค้าาา  :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 13-07-2014 20:41:59
วันนี้มาไหมมมม
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 13-07-2014 21:13:08
อาซา ทนหน่อยน้าาาาา  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 13-07-2014 23:09:25
ชอบเรื่องนี้อ่ะ ฟินมาก  พ่องูในเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ  อิอิ
แต่แอบเห็นแว๊บๆเดาว่าเรื่องเดียวน่าจะมีหลายคู่ ตอนนี้ก็แอบสงสัยว่าเจ้าปุยเมฆจะไม่ใช่แค่แมวน้อยซะแล้ว :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SIXTEEN ❁ 12-07-14 [P.19]
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 13-07-2014 23:45:04
 :hao5: งื้ออออ อาซาจะเปงไยไหมอ๊า
อย่าให้มีมาม่าบ่อยสิคร๊าคนแต่งจ๋า เดะคนอ่านจะน้ำตาไกลปริ่มกันหด  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-07-2014 01:48:52
SEVENTEEN





          เขาว่ากันเว่าเมื่ออะดรีนาลีนในกายพลุ่งพล่าน คนเราก็มักทำในสิ่งที่ตัวเองไม่คาดคิดเสมอ ผมก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเรื่องน่ากลัวที่ผมพบเจอมา ทั้งหมดมันไม่น่าตกใจเท่ากับการที่เห็นว่าอาซาได้รับบาดเจ็บ หัวใจผมบีบตัวแน่นจนหน้าอกเจ็บร้าว เป็นห่วงอย่างเดียวกลัวว่าเขาจะเป็นอะไร ผมไม่อยกาเสียใครในชีวิตไปอีกแล้ว กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไปก็ตอนที่ส่งผ่านร่างอาซาให้กับเวสตัน เมื่อนั้นผมถึงได้รู้ว่า ผมอุ้มงูกลับมาบ้าน!

          ผมกล้าอุ้มสิ่งที่ตัวเองเกลียดที่สุดด้วยความหวงแหน

          ผมได้แต่ก้มมองมือตัวเองเพราะไม่คิดว่าผมจะทำได้

          ไม่ใช่ว่าผมไม่กลัวงูแล้ว

          ผมยังคงกลัว เพียงแต่กลัวอาซาจะเป็นอะไรไปมากกว่า

          สรุปแล้ว...อาซาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่เสียพลังงานไปเยอะ บนเนื้อตัวเขามีรอยแผลแค่รอยถลอกและรอยเขี้ยวกัดแต่ไม่ลึกจนน่าเป็นห่วง คาร์เตอร์คุณหมอเจ้าประจำแวะเวียนมารักษาอาซาให้ ตามติดมาด้วยเฟลิกซ์ที่ชอบทำหน้ากระลิ้มกระเหลี่ยใส่ผม โดยมีอาซาที่นอนซมในร่างงูชูคอขู่ไม่ดูสังขารตัวเอง

          “โธ่เว้ย!  อยู่นิ่งๆได้ไหม เห็นไหมว่าฉันพันแผลไม่ได้!” คาร์เตอร์ดุอาซาที่ดิ้นหนีมือเขาไม่เลิก ทำท่าจะเลื้อยเข้ามาหาเฟลิกซ์ที่ยืนข้างผมเสียให้ได้ ตอนนี้อาซายังคงอยู่ในร่างงูเพราะพลังงานในร่างกายต่ำ ต้องให้ร่างกายแข็งแรงกว่านี้เขาถึงจะกลับเป็นคนปกติได้เหมือนเดิม ผมยืนอยู่ปลายเตียงข้างๆกับเฟลิกซ์ที่ยืนหัวเราะท่าทางของอาซาเหมือนคนบ้า

          ซี่!

          อาซาแลบลิ้นสองแฉกขู่คาร์เตอร์ แล้วตวัดหัวมาทางผม แววตาที่มองเฟลิกซ์เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ผมขยับก้าวห่างจากเฟลิกซ์นิดหน่อยเพื่อเว้นระยะ แต่แขนยาวๆของเฟลิกซ์เกี่ยวคอผมเอาไว้ก่อนจะดึงให้ไปยืนใกล้ๆ  เสียงร้องจากอาซาก็เลยยิ่งดัง

          ซี่ๆๆ ซี่!!!

          อาซาดิ้นอีกครั้ง ผ้าพันแผลที่คาร์เตอร์พันใกล้จะเสร็จแล้วและกำลังจะติดเทปให้เป็นอันต้องหลุดออกอีกรอบ ทำเอาคาร์เตอร์หัวเสียโวยวายที่อาซาอยู่ไม่สุข อาซาที่ตกอยู่ในเงื้อมมือใหญ่ของคาร์เตอร์ก็ไม่ได้ดูสังขารตัวเองเลยว่าไหวไม่ไหว ชูคอขู่ใส่คาร์เตอร์ด้วยท่าทางไร้เรี่ยวแรง

          “ดิ้นนัก เดี๋ยวปั๊ดเขวี้ยงออกนอกหน้าต่าง!” คาร์เตอร์ดูหงุดหงิดจริงจัง เป็นใครก็ต้องอารมณ์เสีย เพราะถ้าให้นับ รอบนี้กำลังจะเป็นรอบที่ห้าที่คาร์เตอร์ต้องพันแผลบริเวณช่วงกลางลำตัวให้อาซา

          เฟลิกซ์ก้มหน้าลงมาใกล้หน้าผมที่ยังคงจ้องอาซาในมือคาร์เตอร์ด้วยความกังวล เขาพูดด้วยน้ำเสียงเจือเสียงหัวเราะ

          “ไอ้อาซานี่ขี้หึงดีเนอะ เจ็บแล้วยังไม่เจียม”

          “หืม อะไรนะ”

          ผมละสายตาจากอาซามองเฟลิกซ์ หน้าเขาใกล้มากจนต้องเอนตัวถอยหลังหนี เสียงอาซาดังลั่นอีกรอบ ผมหันไปมองคิดว่าเขาจะเจ็บหรือเป็นอะไร ที่ไหนได้ เขาจ้องหน้าผมเหมือนไม่พอใจ

          “ไอ้เฟลิกซ์ เลิกจีบเด็กไอ้อาซาได้แล้ว ถ้ามันหายแล้วตามไปเล่นงานแก ฉันจะไม่ช่วย” คาร์เตอร์ปรายตามองผมกับเฟลิกซ์ ผมรีบเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียง อาซาถึงได้สงบลง หันหัวมองตามผม ยอมอยู่นิ่งๆให้คาร์เตอร์ทำแผลต่อจนเสร็จ

          “ฉันจัดยาแล้วก็อุปกรณ์ล้างแผลเอาไว้ให้ สักสองสามวันก็หายแล้ว หรือถ้าอยากให้หายเร็วๆมันก็พอมีวิธี...” คาร์เตอร์หยุดพูด ผมเลิกคิ้วสูงก่อนจะถาม

          “วิธีอะไร...”

          “หาเลือดมาให้มันกินซะ วิธีนั้นจะง่ายกว่า หรือไม่ก็ให้มันกินเลือดนายสักนิดสักหน่อย ขี้คร้านจะกลายเป็นคนในทันที"”

          คาร์เตอร์พูดเหมือนทำง่าย ผมจะไปหาเลือดคนมาจากไหนละ พูดถึงเลือดแล้วก็นึกถึงนิกกี้ในวินาทีสุดท้าย...ภาพเลือดของเธอที่เจิ่งนองเต็มพื้นและเปรอะเปื้อนตามตัวทำให้ผมรู้สึกเจ็บหน่วงในอก

          “เฟลิกซ์ เอาของลงไปเก็บที่รถ” คาร์เตอร์ส่งกล่องอุปกรณ์ทำแผลให้เฟลิกซ์ ก่อนไปเขายังเดินมาใกล้ผมแล้วพูดว่าเจอกันคราวหน้า อาซาที่กำลังจะเคลิ้มหลับด้วยฤทธิ์ยาที่คาร์เตอร์ฉีดให้ผงกหัวมองเฟลิกซ์ตาขวาง ผมละอยากจะขำความน่าเอ็นดูของงูที่จะหลับก็จะหลับ จะขู่ก็จะขู่

          “แม่ง ทำตัวเป็นจงอางหวงไข่ สักวันจะขโมยไข่มากิน!” เฟลิกซ์ส่ายหัวขำๆก่อนจะออกไปจากห้อง คาร์เตอร์หันกลับมามองอาซาที่สงบลงด้วยสีหน้าเอือมระอา

          “ช่วงนี้ไปบู๊กันมาหรือไง เดี๋ยวคนนั้นเจ็บเดี๋ยวคนนี้เจ็บ สนุกมากสินะ” คาร์เตอร์ถามผมทำหน้าสงสัย

          “ก็...ประมาณนั้นมั้ง”

          “เอาเถอะ บอกมันว่าอย่าลืมจ่ายค่ารักษาด้วย โอนเข้าบัญชีเดิม”

          “อืม”

          ผมเดินออกไปส่งคาร์เตอร์ที่ข้างล่าง เวสตันกับปารีสเพิ่งจะกลับเข้ามา ผมรีบเดินเข้าไปหาทั้งสองคนเพราะอยากรู้เรื่องงานศพของนิกกี้ ทั้งคู่ยิ้มให้ผม ปารีสขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เวสตันจึงเป็นคนอธิบายเรื่องกำหนดการทำพิธีศพให้กับผม

          พ่อแม่ของนิกกี้เลือกจะตั้งศพที่วัดคริสต์นอกเมือง เป็นเวลาสามวันก่อนจะทำพิธีฝังในสุสารของทางวัดเลย งานจะมีในตอนเย็น เวสตันอาสาจะไปเป็นเพื่อนผมทุกวันเพราะอาซายังไม่หายดี ผมรู้สึกซาบซึ้งใจในน้ำใจของเวสตันเป็นอย่างมาก

          ผมให้เวสตันได้พักผ่อนเพราะเขายุ่งกับธุระของผมมาทั้งวันแล้ว ก่อนจะขึ้นไปดูอาซาผมโทรหาเติร์ดเพื่อบอกกำหนดการเกี่ยวกับงานศพของนิกกี้ เติร์ดเองก็จะไปด้วย น้ำเสียงของเติร์ดยังคงเต็มไปด้วยความเศร้า ผมได้แต่ขอโทษในใจ พรุ่งนี้ผมคิดว่าค่อยไปคุยรายละเอียดอย่างอื่นในคาบเรียน ผมขาดเรียนบ่อยสุดๆตั้งแต่เกิดเรื่อง ไม่รู้ว่ามาเรียนหรือมาผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์

          ประตูห้องนอนของอาซาแง้มเปิดเอาไว้ ผมขมวดคิ้วฉับพลัน เพราะก่อนลงไปข้างผมจำได้ว่าผมปิดสนิท ความรู้สึกแรกบอกให้ระแวงระวังภัย แต่ผมก็คงจะวิตกจริตมากไปสักหน่อย นี่เป็นบ้านของอาซา ไม่มีใครเข้ามาทำอะไรได้หรอก อาจจะเป็นปารีสหรือไม่ก็เวสตันที่แวะมาเยี่ยม

          ผมผลักประตูเปิดออกกว้าง มองเข้าไปในห้อง แต่ผมไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นนอกจากงูตัวสีเทาตัวใหญ่หันหน้ามาทางผม จ้องมองพร้อมกับแลบลิ้นออกมา ผมตกใจผงะถอยหลังอย่างเร็วก่อนจะก้าวพลาดล้มลงไปกับพื้น ตาที่โตอยู่แล้วเบิกกว้างเข้าไปอีกเพราะความตกใจ ผมยังคงขยับถอยหลังจนไปชนกับประตูห้องฝังตรงข้ามที่เป็นห้องจูเลียต แล้วประตูข้างหลังก็เปิดออก ทำเอาผมหงายหลังทั้งที่ยังตกใจกลัวไม่หาย

          “ฟรินน์ นายเล่นอะไรของนาย” จูเลียตที่เดินข้ามตัวผมไปเผชิญหน้ากับงูตัวใหญ่ถามอย่างสงสัย เธอหันกลับมามองผมก่อนจะถอนหายใจพรืด

          “นี่ก็กลัวไม่เลิก เลิกกลัวได้แล้ว ทีตอนอุ้มอาซายังอุ้มได้เลย”

          มันเหมือนกันที่ไหนเล่า!

          “ส่วนนาย กลับเป็นคนเดี๋ยวนี้ก่อนที่จะมีใครช็อคตายในบ้าน” บ่นจบเธอก็เดินลงไปข้างล่าง ทิ้งให้ผมอยู่กับฟรินน์ในร่างงูแค่สองคน ฟรินน์สะบัดหัวของเขาไปมาก่อนจะยอมกลับสู่ร่างเดิม

          “ไหนจูเลียตบอกนายไม่กลัวงูแล้วไง”

          ฟรินน์พูดเหมือนงูคือแมว ต่อให้เป็นคนแล้วผมเปิดประตูเข้าไปเห็นแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เป็นใครก็ต้องตกใจ และความจริงผมก็ยังไม่ได้บอกเลยว่าผมไม่กลัวงูแล้ว แค่ผมตกใจจนอุ้มอาซาได้ไม่ได้หมายความว่าผมจะเกิดอาการรักงูจนโผเข้ากอดได้เสียเมื่อไหร่

          “ฉันยังกลัวอยู่ แล้วนายก็ห้ามเล่นแบบนี้อีก ขอร้อง” ผมผลักตัวเขาที่ขวางประตูให้หลีกทาง อย่างน้อยถ้าจะมาในร่างงูก็ช่วยบอกกันหน่อย ผมจะได้ตั้งตัวและเตรียมความพร้อมทั้งกายและใจรอ

          อาซายังคงนอนขดอยู่บนเตียง ผมห่มผ้าให้เขาก่อนจะนั่งเฝ้าข้างๆ ฟรินน์ที่แค่จะเข้ามาพิสูจน์ความกลัวของผมก็เดินออกจากห้องไปแบบเซ็งๆ มันไม่ใช่ความผิดผมนะที่จะทำให้เขาผิดหวัง คนเราใช่ว่าจะเลิกกลัวอะไรได้ง่ายๆ แต่กับอาซาในร่างงูตอนนี้ ผมก็บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงกล้าเข้าใกล้ คงเพราะผมรู้ว่าเขาไม่มีทางทำร้ายผม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไร ใจยังคงเต้นตุ้มๆต่อมๆเวลาจ้องมอง และอาการหายใจติดขัดก็ยังมีอยู่บ้างตอนที่ผมใช้นิ้วแตะที่ลำตัวของเขา เพียงแต่ผมข่มความกลัวแล้วบอกกับตัวเองว่างูตัวนี้คืออาซา คือคนที่ผมรัก ไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิด

          แต่พอเขาขยับตัวเบียดเข้าหาตัวผมก็ทำให้ผมสะดุ้งเป็นพักๆ พอให้เลือดได้สูบฉีดอย่างรุนแรงจนกระทั่งผมรู้สึกชินเวลาลูบหัวเขาเบาๆเป็นการกล่อม และชินยามที่อาซาเบียดกายเข้าหาคล้ายกำลังอ้อน

          ผมไม่เคยเห็นงูในกริยาแบบนี้ แน่ล่ะ เพราะผมไม่เคยคิดจะเข้าใกล้งู จะไปรู้แน่ชัดได้อย่างไรว่าปกติเวลางูนอนจะทำตัวคล้ายเด็กติดสัมผัสจำพวกให้ตบก้นหรือตบอกก่อนนอนหรือเปล่า แต่ตอนนี้อาซาก็ไม่ต่างกับเด็ก ตัวเขาเล็กเท่าแขนผมไม่ใหญ่เท่าฟรินน์เหมือนเมื่อตะกี้ เวลาที่เขาขยับตัวเข้าหามือของผมแล้วเสียดสีแผลตัวเองเขาก็จะส่งเสียงรำคาญเบาๆ จนอดไม่ได้ที่จะระบายยิ้มบางๆ

          ผ่านไปสามวันอาซาก็ค่อยๆดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงกลับกลายร่างเป็นคนได้ ทีแรกกะไว้ว่าวันนี้เขาจะดีขึ้นแต่ก็เปล่า หลายครั้งที่เขาพยายามจะกลับไปเป็นคน แต่สุดท้ายก็มีแต่จะหมดเรี่ยวหมดแรง จนผมต้องสั่งห้ามเพราะทนไม่ได้ที่จะเห็นเขาเจ็บ

          “ฉันจะรีบกลับแล้วกัน แล้วก็อย่าเลื้อยไปเลื้อยมาให้ผ้าพันแผลมันหลุดอีกล่ะ เพราะแบบนี้ไงแผลถึงไม่หายสักที”

          อาซาเป็นงูที่ดื้อสุดกำลัง ไม่ว่าผมจะไปไหน ไปกินข้าว ไปช่วยปารีสทำกับข้าว หรือจะออกจากบ้านไปเรียน แม้แต่จะเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำ เขาก็จะเลื้อยตามผมไปทุกที่ตลอดเวลา สุดท้ายผ้าพันแผลก็หลุดลุ่ยไม่อยู่กับตัว แผลก็ไถลไปตามพื้นไม่หายเสียที บ่นมากๆเข้าก็ไม่ยอมฟัง นี่ดีนะ ทุกเย็นที่ผมไปงานศพนิกกี้อาซาไม่ตามไปด้วย เพราะผมเพิ่งรู้ว่าพวกครึ่งคนครึ่งสัตว์ ถ้าหากอยู่ในร่างที่เป็นสัตว์จะเข้าไปในโบสถ์ไม่ได้

          ซี่ๆๆ ซี่ๆๆ

          อาซาที่เลื้อยไปมาบนเตียงส่งเสียงเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างกับผม หัวของเขาชูสูงขยับไปมา แต่เสียใจ ผมฟังเขาไม่รู้เรื่อง เคยพยายามจะตั้งใจฟังเผื่อว่าผมจะสามารถสื่อสารกับเขารู้เรื่องเหมือนในความฝัน หรือเหมือนตอนที่เขากลายร่างต่อหน้าผมครั้งแรกที่บ้านพักคาร์เตอร์ แต่จนแล้วจนรอดก็เปล่าประโยชน์ ยังไงผมก็ฟังอาซาที่เอาแต่ส่งเสียงซี่ๆทั้งวันไม่รู้เรื่องอยู่ดี ไม่รู้ว่าทำไม ไม่มีใครบอกผมได้ว่าทำไมครั้งนั้นผมถึงฟังเข้าใจ แต่คราวนี้ แม้แต่นิดเดียวก็ไม่รู้เรื่อง บ่อยครั้งผมต้องไปหาล่ามมาแปล ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล ก็คนในบ้านนี้ทั้งนั้น

          ผมมีเรื่องมากมายที่จะคุยกับเขา ถ้าเขายังไม่หายก็คุยกันไม่รู้เรื่อง ไหนจะเรื่องที่เขาออกไปสู้กับเจอร์โรมจนบาดเจ็บ ไม่รู้ฝ่ายนั้นยังอยู่ดีหรือเปล่า นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องจิปาถะที่ผมเคยอยากจะถาม เรื่องที่ใครต่อใครบอกว่าผมเป็นงู หรือเรื่องที่ผมเป็นคนรักของเราเหมือนหลายพันปีก่อน แต่จนวันนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้ถาม เขาหายเมื่อไหร่เราคงได้คุยกันอย่างจริงจัง จะมาอ้างว่ายังไม่ถึงเวลาไม่ได้อีกแล้ว เพราะมันเลยเถิดมาจนเกินพอ

          “แกนี่มันจริงๆเลยวะอาซา ฉันก็ไปเป็นเพื่อน เราไปกันทั้งบ้าน จะห่วงโยชิอะไรนักหนา” ฟรินน์เดินเข้าไปหาอาซาในชุดสีดำทั้งตัว ผมเองก็รีบแต่งตัวให้เรียบร้อยเพื่อไปร่วมงานฝังศพนิกกี้

          ซี่ๆๆ ซี่ๆๆๆ ซี่!

          ผมปล่อยให้ฟรินน์กับอาซาคุยกันไป เลี่ยงเข้าห้องน้ำเพื่อฉีดน้ำหอมและทำธุระส่วนตัว ออกมาอีกทีฟรินน์ก็ยืนยิ้มแป้นในมือถือผ้าพันคอส่งมาให้ผม ผมมองงงๆ ไม่เข้าใจว่าเขาจะยื่นให้ผมทำไม

          “คือไอ้อาซามันบอกว่ามันจะไปด้วย” เขาพูด ผมเหลือบไปมองอาซาบนเตียงที่นอนนิ่งไม่ได้เลื้อยไปมาอีกแล้ว

          “ไม่ได้ ก็เวสตันบอกว่า...” ผมยังพูดไม่จบฟรินน์ก็พูดแทรก

          “สุสานอยู่นอกเขตโบสถ์ เข้าได้”

          “แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ จะให้ฉันอุ้มเขาเดินเข้าไปโจ้งๆ คนอื่นก็ได้ตกใจกลัวกันพอดีสิ”

          ถึงยังไงคนปกติก็มักเป็นโรคไม่ถูกกับงูอยู่แล้ว น้อยคนที่จะไม่กลัวงู ถ้าพาอาซาไปก็มีแต่จะทำให้คนแตกตื่น และถึงจะบอกว่าอยู่นอกเขตโบสถ์ แต่ผมก็ไม่อยากเสี่ยงให้เขาหมดเรี่ยวหมดแรงไม่มากกว่านี้ เกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาแล้วเมื่อไหร่เขาถึงจะกลายเป็นคนได้สักที

          “แต่นายจะทิ้งให้มันอยู่บ้านคนเดียวเหรอ เราไปกันหมดเลยนะ”

          เอ่อ...นั่นสิ ผมลืมไปเลย

          มองไปทางอาซาอีกครั้ง ก่อนจะเหสายตามองฝ้าพันคอในมือฟรินน์

          “แล้วฉันต้องทำยังไง เอาผ้าห่อตัวเขาเหรอ”

          ทำแบบนั้นแล้วคนจะไม่สงสัยเหรอว่าผมหอบอะไรไว้ในผ้าแทนที่จะหอบดอกไม้ไปให้คนตาย

          ฟรินน์เดินกลับไปหาอาซา หิ้วตัวเขาขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวไม่ระวังเลยสักนิด หัวเขาห้อยต่ำจนผมกลัวว่าตัวอาซาจะไหลลงไปกระแทกพื้น จึงต้องเข้าไปแย่งมาอุ้มไว้แทน เลยถูกฟรินน์ยิ้มล้อ ก็ผมห่วงของผมนี่

          “เอามันพันไว้ที่คอนายแล้วก็เอาผ้าพันคอคลุมทับอีกทีสิ แค่นี้ก็ไม่มีใครเห็นแล้ว” ฟรินน์แนะนำ แต่เป็นวิธีที่ทำให้ผมคิดหนัก งูนะไม่ใช่สร้อย จะได้เอาไปคล้องคอ

          แต่ทางเลือกมีไม่มาก ผมเลยต้องเอาตามที่ฟรินน์พูด จับตัวอาซาคล้องคอเอาไว้ หัวของเขาซบอยู่บนบ่าผมก่อนที่เจ้าตัวจะขยับซุกหัวที่ซอกคอผม ผ้าที่คลุมปิดตัวเขาไว้ผมแหวกเปิดตรงจมูกให้เขาได้หายใจ

          เราเอารถไปสองคัน คันแรกของเวสตันมีปารีสและจูเลียตนั่ง ส่วนคันของอาซาที่ฟรินน์ไปเอากลับมาให้จากจุดเกิดเหตุที่ผมพบอาซา ก็พบว่าน้ำมันหมด แล้วอาซาก็เลยจะเลื้อยกลับบ้าน แต่เจอคนมุงเข้าก่อน เลยไม่ได้ไปไหน ไหนจะหมดแรงเลื้อยต่อไม่ไหวอีก ถ้าผมไม่ไปเจอ อาซาคงถูกส่งตัวไปสวนสัตว์โดยที่ไม่มีใครรู้เรื่อง

          “ขึ้นมาเลย” ฟรินน์ส่งเสียงเรียกเติร์ดที่อุ้มปุยเมฆยืนรออยู่หน้ามหาวิทยาลัยขึ้นรถ ผมหันไปมองมัน แต่ปุยเมฆแยกเขี้ยวขู่ผมอย่างที่ไม่เคยเป็น ส่วนอาซาที่หลบอยู่ใต้ผ้าพันคอก็ขยับตัวเหมือนอึดอัด ไอ้เติร์ดก็ดูจะแปลกใจกับท่าทางของแมวนิกกี้ที่ตอนนี้กลายเป็นแมวมัน

          “เป็นอะไรวะ ปกติก็ออกจะเลี้ยงง่าย”

          เติร์ดก้มมองปุยเมฆในอ้อมแขน ผมสบตากับฟรินน์อย่างขอความเห็น มือยกจับอาซาไม่ให้ขยับตัว เพราะมันเสียดสีที่คอจนจั๊กจี้

          “อาซามันไม่ชอบแมว แล้วอีกอย่าง...” ฟรินน์มองกระจกหลัง จ้องปุยเมฆเหมือนใช้ความคิด ส่วนเติร์ดก็กำลังลูบขนปุยเมฆให้สงบ

          “มีอะไรงั้นเหรอ” ผมถามเสียงเบา ไม่ให้เติร์ดที่กำลังคุยกับปุยเมฆที่ยอมสงบนอนนิ่งๆได้ยิน

          “เปล่าหรอก”

          ฟรินน์ส่ายหน้าเบาๆ เลิกสนใจปุยเมฆกลับไปจดจ่ออยู่กับถนน ผมต้องจับตัวอาซาเอาไว้ให้อยู่นิ่งๆ เขาก็ทำตามแต่โดยดี

          ท้องฟ้าวันนี้มืดครึ้มเข้ากับบรรยากาศที่แสนเศร้า ตลอดทางผมปล่อยอารมณ์ไปกับภาพนอกรถ ผู้คนที่เดินผ่านไปมา หรือแม้แต่หมาแมวที่บ้างก็เดินบ้างก็นอนอยู่ริมถนน มองเห็นชีวิตของมนุษย์ที่ต้องต่อสูดิ้นรนในวิถีทางที่ต่างกันออกไป ใครจะรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็น ใครจะรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้มีเพียงมนุษย์ผู้โง่เขลา ผมไม่รู้ว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมา จะมีใครที่ไม่ใช่มนุษย์ปกติแอบแฝงอยู่เปล่า หรือเผลอคิดไปว่า วันนี้จะมีใครโชคร้าย...หรือโชคดีที่ไม่ต้องดิ้นรนอีกต่อไป

          แต่ผมขอให้ไม่ใช่ผม ผมยังอยากมีชีวิตอยู่กับคนที่ผมรัก ไม่ว่าจะเป็นพ่อ พี่ยอร์ช หรืออาซา ผมยังอยากอยู่ตอบแทนคุณพ่อและแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว อยู่ดูพี่ยอร์ชมีความสุข อยู่เพื่อความรักที่อาซามีให้ผม และผมขอให้ผมเป็นคนโชคดีที่ยังมีลมหายใจ

          เพียงชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงโบสถ์ที่สามสี่วันมานี้ผมมาทุกวัน ฟรินนฺและเติร์ดลงจากรถก่อนผมพร้อมลูกแมวน้อย ผมกระชับผ้าพันคอให้เรียบร้อย ตรวจจนแน่ใจแล้วว่ามันจะไม่หลุดเผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน

          “อยู่นิ่งๆนะอาซา ห้ามกระดุกกระดิกโดยเด็ดขาดเข้าใจไหม” ผมกำชับ อาซาใช้หัวของเขาถูกซอกคอผมสองทีเหมือนจะบอกว่าเข้าใจแล้ว ผมถึงได้ลงจากรถ

          ในวันนี้คนที่มาพิธีฝังศพมีไม่มาก ดอกไม้ที่ปารีสแวะซื้อระหว่างทางถูกส่งต่อให้พวกเราทุกคน พ่อกับแม่ของนิกกี้เข้ามาต้อนรับพวกเราด้วยความยินดี แต่ละคนมีใบหน้าที่อิดโรย เต็มไปด้วยความเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รัก นิกกี้มีพี่น้องหลายคน เธอเป็นลูกคนที่สาม และยังมีน้องอีกสองคน ถือว่าเป็นครอบครัวที่ใหญ่พอสมควร

          วันนี้ผมมาเพื่อลานิกกี้เพื่อนที่ผมรักเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะกลายเป็นนางฟ้าที่แสนงดงามอยู่บนสวรรค์

          บาทหลวงเริ่มทำพิธีในการส่งดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ ผมยืนก้มหน้าต่ำเพื่อมองโลงที่อยู่ในหลุมฝัง นึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งสุขและทุกข์ที่ผมกับนิกกี้มีร่วมกัน ในเวลาอันสั้น ความทรงจำแม้จะมีไม่มาก แต่ก็เป็นความทรงจำที่มีความหมายเปรี่ยมล้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะเจอเพื่อนดีจนเรียกได้ว่าเพื่อนแท้ และเธอคือเพื่อนแท้ของผม

          ‘เกิดชาติหน้า ขอให้เราเป็นเพื่อนกันอีกนะ เมื่อถึงตอนนั้น ฉันสัญญาว่าฉันจะดูแลเธอให้ดีที่สุด จะไม่ให้เธอต้องเจอเรื่องแย่ๆอย่างชาตินี้ ฉันขอโทษ ได้โปรดยกโทษและอภัยให้ฉัน ฉันจะระลึกถึงเธอเสมอ’

          ดอกกุหลาบสีสาวที่นิกกี้ชอบ ผมค่อยๆวางมันลงพร้อมดินก้อนในหลุมศพ น้ำตาสักหยดไม่ได้ไหลออกจากตาของผม ผมสัญญากับเธอแล้วว่าผมจะเข้มแข็ง ผมจะไม่ทำให้เธอต้องผิดหวังอีกซ้ำสอง เสียงร้องไห้โฮจากแม้ของนิกกี้ดังยามที่กำลังจะผิดฝาหลุมศพเสียดหัวใจยามที่ ผมข่มความคิดแย่ๆให้ลึกที่สุด แต่มันคอยแต่จะตีตื้นขึ้นมาทุกครั้งยามที่ได้ยินเสียงร่ำไห้เรียกหาคนที่จากไป ว่าผมคนนี้พรากดวงใจไปจากพวกเขา

          อาซารัดคอผมแน่นเหมือนจะบอกว่ายังมีเขาอยู่ตรงนี้ เขากำลังปลอบไม่ให้ผมเศร้าใจ ผมเงยหน้ามองท้องฟ้า ที่เริ่มจะมีแสงอาทิตย์สีทองส่องผ่านก้อนเมฆสีคล้ำที่ค่อยๆแหวกตัวออกเผยให้เห็นท้องฟ้าเบื้องบนที่สดใส

          แด่เพื่อนรักที่จะไม่ตายจากหัวใจ

          ฉันจะคิดถึงเธอ







ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-07-2014 01:54:22
     เช้าวันหนึ่งหลังจากผ่านพ้นงานศพนิกกี้มาได้สองวัน ผมตื่นขึ้นมาโดยข้างกายไร้งูตัวสีดำที่มีผ้าพันแผลพันไว้ทั้งตัวเหมือนงูมัมมี่สีขาว ผมเป็นคนจับเขาห่อผ้าพันแผลเองกับมือ เพราะเขาอยู่ไม่เฉยเลย ฟรินน์บอกว่ามันเป็นอาการคันเพราะแผลเริ่มแห้งอาซาถึงได้เลื้อยไปเลื้อยมา ปกติช่วงเช้าๆแบบนี้อาซาจะต้องกวนผมจนนอนต่อไม่ได้ หลากหลายวิธีที่เขาจะหามาแกล้งผม ไม่ว่าจะแกล้งเลื้อยเข้าไปในเสื้อผ้าบ้าง เลื้อยผ่านหน้าผมบ้าง หนักสุดจะเลื้อยเข้าไปในกางเกง เห็นผมไม่กลัวเข้าหน่อยก็ได้ใจใหญ่ บางทีชอบโผล่มาไม่ให้สุ่มให้เสียงจนผมตกใจเกือบหัวใจวายก็มี

          และบอกตรงๆว่าครั้งแรกที่ตื่นเพราะอาซาเลื้อยคลอเคลียอยู่ที่คอผม ผมผวาตื่น ตกใจสุดขีดถึงขั้นคว้าตัวอาซาได้ก็โยนไปที่ประตูโดยไม่ทันได้คิดว่าเขวี้ยงอะไรทิ้งไป กว่าจะรู้สึกตัวและสติมาเต็มร้อย อาซาก็ลงไปนอนแหมบอยู่บนพื้นด้วยอาการที่น่าเป็นห่วง

          ก็ใครใช้ให้เขาทำแบบนั้นกันเล่า ไม่บีบเขาตายคามือก็ดีเท่าไหร่แล้ว

          หลังจากนั้นเขาก็พยายามเลื้อยไปมาให้โดนตัวผมบ่อยๆ เลื้อยผ่านขาไปมาเหมือนกำลังเล่นสนุก ฟรินน์บอกอีกว่าอาซาอยากให้ผมชิน ไหนๆก็ทำใจได้แล้ว ผมก็นั่งอ่านหนังสือปล่อยให้เขาทำไป ไอ้กลัวก็ยังกลัว แต่ก็ไม่หนักเท่าแรกๆ พอจะทำใจได้ว่างูที่ชอบขึ้นมานอนบนตัวผมแทนที่จะนอนอยู่บนเตียงคืออาซา ไม่ใช่งูที่ไหน

          ผมลุกออกจากเตียงไปอาบน้ำ ถือเป็นเช้าวันแรกที่ไม่ต้องตีกับอาซาที่ชอบทำตัวเป็นงูทะลึ่งจะตามผมเข้าไปอาบน้ำ พูดถึงตอนอาบน้ำ วันก่อนผมมีโอกาสเห็นอาซาอาบน้ำ ไม่อยากจะบอกว่าหลังจากนั้นแค่ไม่กี่วินาทีผมหัวเราะจนท้องแข็ง เพราะเขาอาบน้ำได้น่ารักสุดๆ เป็นงูที่รักสะอาดอย่างมาก ถ้ามีครั้งหน้าผมจะแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ลงยูทูป คงเรียกยอดไลค์ได้บาน

          อาบน้ำเสร็จผมลงไปตามหาอาซาข้างล่าง จูเลียตที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นกำลังดูข่าวเช้าหันมองผมแวบเดียวก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ ผมเลี่ยงไม่เข้าไปยุ่งกับเธอ ไม่อยากจะกวนให้เธออารมณ์เสียตั้งแต่เช้า เพราะหลังจากที่อาการของอาซาดีขึ้น และเรื่องวุ่นๆจบลง เธอก็กลับมาเป็นนางพญางูเขียวที่จ้องจะกัดจิกผมตลอดเวลา

          งานในครัวจึงเป็นทางออกที่ดี และเหมือนจะกลายเป็นหน้าที่ประจำของผมไปแล้วในช่วงเกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา และผมก็เต็มใจช่วยอย่างยิ่ง

          “ตื่นแล้วเหรอ อาซาคืนร่างแล้วนะรู้ยัง” ปารีสละสายตาจากกระทะหันมาบอกผม

          “จริงเหรอ” ผมทำเสียงตื่นเต้น นั่นหมายความว่าผมจะไม่ต้องทนให้อาซาในร่างงูแกล้งผมอีกต่อไป

          “นู่น ออกไปเล่นกับฟรินน์อยู่ข้างนอก”

          คำว่าเล่นของปารีสทำให้ผมประหลาดใจ เพราะอายุของอาซาไม่น่าจะใช้คำว่าเล่นได้ อย่างน้อยๆเขาก็ผ่านโลกมาเกินกว่าจะมีอารมณ์เป็นเด็กๆ

          ปารีสยกมือกอดอก เหม่อมองผ่านหน้าต่างห้องครัวไปยังสายฝนที่ตกเป็นม่านบางๆ ข้างนอกนั้นอาซาในร่างงูยักษ์สีดำและฟรินน์ในร่างงูสีเทาประลองฝีมือกันท่ามกลางสายฝน แต่ปารีสบอกว่าพวกเขากำลังเล่นน้ำ ดูน่ารักดีใช่ไหมล่ะ เหมือนได้ดูสารคดีสัตว์โลกน่ารัก

          ผมมองอาซาที่เลื้อยขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ เพิ่งเข้าใจเลยว่าทำไมในนี้ถึงปลูกต้นไม้สูงใหญ่เอาไว้ มีเพื่อให้พวกเขาปีนเล่นนี้เอง ร่างสีดำขึ้นเงาเลื้อยขึ้นไปในความสูงที่พอเหมาะก่อนจะเปลี่ยนทิศทางพุ่งลงข้างล่างเข้าหาฟรินน์แบบเต็มๆ

          ตู้ม!

          “อู้ยย” ผมละเจ็บแทนฟรินน์

          “แค่นั้นน่ะเบาะๆ อาจจะคันสักหน่อย แต่ไม่สาหัส” ปารีสว่าขำๆ มือคนสปาเก็ตตี้ในกระทะแล้วตักใส่จาน ผมช่วยเธอตกแต่งจานด้วยผักต้มหลากสีสัน ก่อนจะยกออกไปวางที่ห้องทานอาหาร อาซาและฟรินน์ในร่างคนเดินกอดคอเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดชื่น ทั้งคู่ไม่สวมเสื้อมีแต่ผ้าขนหนูพันเอว เขาเดินเข้ามาหาผมก่อนจะรวบเอวผมไปกอดไว้หลวมๆ ก้มหน้าลงมาจูบ ผมเงยหน้ารับด้วยความยินดี

          “อยากออกกำลังกายกับฉันบ้างไหม” เขาถามกระซิบชิดติดใบหู

          “นี่ น้อยๆหน่อย คนอิจฉาตาร้อนยังมี” ฟรินน์แซวกลั้วขำ อาซาเหล่ตามองก่อนจะข่มขู่ทางสายตา ฟรินน์รีบวิ่งหนีขึ้นห้องแต่ไม่วายแซวอีกคำโต

          “ไม่เอาด้วยหรอก ขืนนายพุ่งลงมาจากต้นไม้แล้วกระแทกหัวฉัน มีแต่ตายกับตาย”

          “เปล่า ไม่ใช่ข้างนอกนั่น”

          “หืม?”

          “บนเตียงต่างหาก”

          “งะ...งูหื่น!!!”

          ผมนึกไปถึงคำเตือนของฟรินน์เมื่อครั้งก่อน

          ‘ถ้านายนอนกับอาซาเมื่อไหร่ นายจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของมัน แต่ระวังไว้หน่อยนะ มันเป็นงูที่เก็บกดมาหลายชาติ คาดว่านายคงยับคาเตียงแน่ๆ’

          แค่นึกถึงผมก็กลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกใหญ่ อาซาหัวเราะกับสีหน้าของผม เขาก้มลงมาอีกครั้งจนหน้าผากเราจรดติดกัน

          “พร้อมหรือยัง” เขาถามกระซิบเสียงเบา ผมหน้าร้อนซู่ เขายิ้มบางๆที่มุมปากพรางมองผมด้วยสายตาแพรวพราวจนผมต้องทำเป็นมองไม่เห็นทั้งๆที่ใจสั่นไหว

          “ปล่อยก่อน จะไปช่วยปารีสทำอาหารเช้า” ผมไม่ตอบ เบี่ยงตัวออกจากแขนคนมือไว ที่เลื่อนลงไปวางผมสะโพกของผมพร้อมออกแรงบีบช้าๆเน้นๆ

          “หึหึ งั้นให้เวลาทำใจอีกครึ่งวัน คืนนี้ฉันเอาจริง”

          “เอาอะไร พูดอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่อง” ผมแสร้งบ่น เดินหนีเขากลับไปที่ครัว แต่เขาก็ยังเดินตามมา พร้อมกับพูดให้ผมได้อายอีกครั้งใหญ่

          “ทำอาหารเยอะๆนะ นายต้องบำรุงให้หนักหน่อย เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกกระปรี้กระเปร่าสุดๆ”

          “อาซา!” ผมถลึงตาใส่เขา เวสตันที่จะเข้าครัวมองผมสองคนยิ้มๆ ว่าอาซาทำผมอายแล้ว เวสตัสทำผมอายยิ่งกว่า

          “งั้นฉันกับคนอื่นๆคงจะต้องออกไปหาที่อื่นอยู่สักเดือน พวกนายจะได้ใช้เวลาและพื้นที่ในบ้านให้คุ้มค่า”

          “ฮ่าๆๆ ก็ดีนะ”

          ฮึ่ย!!!

          ผมชักอยากจะให้อาซากลับไปเป็นงูอีกครั้งแล้ว ผมว่าแบบนั้นชีวิตผมน่าจะปลอดภัยมากกว่า แล้วนี่ตกลงคืนนี้เขาจะเอาจริงใช่ไหม แล้วถ้าเขาคิดจะทำ ผมจะห้ามได้เหรอ ดูจากรูปการณ์ที่ผ่านมา บอกเลยว่ายาก! ผมแพ้สัมผัสของเขา ผมไม่เคยต้านทานเขาได้สักที โฮ!

          “ไม่ต้องกลัว ฉันจะถนอมนายอย่างที่สุด ฉลองให้กับเราทั้งสองคน”

          T^T

          งานนี้ตายแน่ๆ

          ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่า ระหว่างอาซาในร่างคนปกติกับอาซาในร่างงู แบบไหนน่ากลัวกว่ากัน



         

          ...................................

          โปรดอ่านข้อความสนทนาพาทีข้างล่างนิดหนึ่งนะค้าาาาาาาาาาาาาา

          ว้ายยยยยยยยยยยๆๆๆๆ ค้างสินะ กร๊ากกกกกกก  :laugh: ทำคนอ่านค้างคืนงานของเรา #โดนถีบ :z6: ตอนนี้พี่งูมุ้งมิ้งมากอ่ะ พูดเลยยยย น่ารักกกกก (พี่งูคงไม่อยากให้น้องกลัว):-[

          ใจเย็นๆ ของแบบนี้ต้องใจเย็นๆ รีบร้อนไม่ได้ แต่ตอนหน้าบอกเลยว่าเต็มอิ่มแน่นอน ยาวมากกกกกกกก เตรียมเลือดไว้เยอะๆเลย ใครที่ยังไม่ได้จับจองที่และยังเลือกไม่ได้ว่าจะแปลงร่างเป็นอะไรก็เลือกซะ ที่หมดอดไม่รู้ด้วย ส่วนริริขอบนเพดานตรงกลางเตียงเลย วิวดี ครั้งนี้ไม่ค้างแน่นอน โอ๊ยขำแปบ  :m20:

          สำหรับคอมเม้นที่ถามมาทั้งในเล้า ในเด็กดี และในเพจ สำหรับข้อสงสัยสามข้อนี้

          1.ทำไมพ่อเจอร์โรมที่เป็นหมาป่าถึงตายง่ายจัง

          2.ทำไมพ่อเจอร์โรมถึงต้องฆ่าโยชิ

          3.เจอร์โรมตายหรือยัง

          เอาคำตอบข้อแรกไปก่อน สาเหตุที่พ่อเจอร์โรมตายง่ายนั่นเพราะว่า ถึงจะเป็นถึงหมาป่า แต่เก่งไม่เท่างู เพราะหมาป่าที่แค่แรงที่เยอะ วิ่งเร็ว และมีความสามารถเกี่ยวกับการสะกดจิต ส่วนงูนั้น ถ้าย้อนไปตั้งแต่ที่จูเลียตสู้กับแวร์วูฟ กับตอนที่สู้กับเจอร์โรมนอกเมือง จะเห็นได้ว่าความสามารถของพี่งูมีหลากหลายมาก แต่บอกไม่ได้ว่าทำไมพี่งูถึงมีอิทธิฤทธิ์เก่งกาจกว่าชาวบ้านเขา จะมีเฉลยปมนี้ในภาคสอง ซึ่งจริงๆถ้าเชื่อมโยงได้ก็จะรู้ว่าพิเศษกว่ายังไง มีบอกไว้แล้วแหละ แต่แค่อ้อมๆ ใครหาเจอจัดว่าเก่ง ดังนั้นแล้ว หมาป่ากับงูจัดว่าเป็นมวยที่ห่างชั้นกันมากนัก

          เซต DGseries ริริเลือกสัตว์สี่ตัวเป็นตัวเอก แต่เก่งกันไปคนละแบบ ที่โหดสุด พระเอกสุด เก่งสุดก็พี่งูเนี่ยแหละ แต่ตัวอื่นก็มีความพิเศษที่แตกต่างกันไป ต้องรอติดตามเซตอื่น (ซึ่งอีกสักพักใหญ่ๆ) :katai5:

          ส่วนข้อสองกับข้อสาม ตอนหน้ามีเฉลยหลังจากที่เสียเลือดกันไปแล้ว เราก็จะแวะเติมเลือดพักยกกันนิดหนึ่งในส่วนของคำตอบข้อสองและข้อสาม ก่อนที่จะเสียเลือดกันอีกหน เอ๊ะยังไง??? :m10: :m10: :m10:

          เอาละ บอกแค่นี้พอ ไม่ต้องห่วงนะคะ ปมที่ริริวางไว้พยายามจะไขให้กระจ่างที่สุด บางอันที่เห็นแค่เลือนรางและดูไม่ชัดเจน เดี๋ยวมันจะไปชัดในตอนหลังๆแน่นอน บางปมจะไปเฉลยเอาในภาคสองนะคะ ทำใจให้สบาย ค่อยๆคิดตาม ริริจะพยายามทำให้ดีที่สุด :katai3:

          คุยยาวตลอดดดดดด อาจเป็นเพราะริริค่อยๆเฉลยปมทีละนิดทีละน้อย บางทีเฉลยแค่ครึ่งอีกครึ่งอยู่ในช่วงท้ายๆหรือจะไปโผล่เอาในภาคสอง เลยทำให้นักอ่านอาจจะหงุดหงิด และริริก้ต้องมาทอร์คยาวตลอด แต่ถ้าสงสัยก็ถามไว้ได้เลยนะคะ จะได้เป็นการย้ำเตือนริริไม่ให้พลาดจุดไหนที่คนอ่านยังไม่เข้าใจไปด้วย :katai2-1:

          ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านและเม้นให้กำลังใจ ริริอ่านหมดนะคะ ช่วยให้มีแรงแต่ภาคสองได้ :katai4: :katai4:

          เลิฟยู กอดๆๆ :กอด1: :กอด1: :กอด1:

          ป.ล. ไหน ใครอยากอ่านตอนต่อไปคืนนี้บอกหน่อย อาจจะใจดีลงให้นะ จุ๊บๆ :mew1: :mew1: :mew1:


(http://31.media.tumblr.com/tumblr_lpzv14N4r51r1bjugo1_500.gif)
พี่อาซา! ยิ้มแบบนี้ฉันระทวยนะพี่!!!
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 14-07-2014 02:06:05
 :hao6: อยากอ่านต่อแล้วววว เตรียมเลือดมาพร้อม  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 14-07-2014 02:32:34
ตอนนี้อาชาน่ารักมากกกกก

ดูเป็นงูเชื่องๆโมะเอะๆไปเลย555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 14-07-2014 02:36:13
ต่อเลยค้าาาา ตอนนี้อาซาดูมุ้งมิ้งมากๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 14-07-2014 02:37:33
เค้ารอตอนนต่อไปแล้วนะ ขอนั่งแถวหน้ารอชมเลย ว่าแต่ที่เวสตั้นบอกจะย้ายไปอยู่ข้างนอกเดือนนึง !!!

พี่อาซาเก็บกดขนาดนั้นเลยหรอออออออ โยชิ สู้ๆนะ อิอิ อ่านแล้วนึกถึงเรื่องทำไวไลท์ตลอดเลยอ่า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 14-07-2014 02:42:54
กรีสสสสอยากอ่านแร้วริริจ๋าาาา เหนแก่คนอ่านตาดำๆ มารอตั้งนานรอจนดึกเรยย ขอตอนต่อไปเรยนะๆๆๆ ริริใจดีที่ซูดดดด o13 :mew3: :mew4: :3123: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 14-07-2014 02:50:40
ยับคาเตียง
ท่องไว้
เขินนนนนนน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 14-07-2014 03:07:58
มาต่อเถอะ ช่วงนี้กำลังเศร้าจากบอล คนแต่งแต่งมาปลอบใจเค้าเถอะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 14-07-2014 03:19:14
 :laugh:พี่งูมุ้งมิ้ง 555 น่ารัก อะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: crunkii3 ที่ 14-07-2014 04:13:18
มาคืนนี้เลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ

เราชอบพี่งูอ่ะ จริงๆก็เป็นเด็กกลัวงูเหมือนโยชินะ
แต่แบบคืองูทั่วไปจะเป็นแบบนี้มั้ยอ่ะ
คงไม่เนอะ 5555555555555

อ่านมาหลายตอนมาก ไม่มีโอกาศเม้นสักที
วันนี้มาดึก แต่เราดูบอลไง เลยมาทัน ฮิ้วววว
ภาค 2 น้องโยชิจะกลายเป็นงูได้มั้ยคะ
อยากเห็นน้องกลายเป็นงูแล้วสู้พร้อมพี่อาซา
แบบกระโดดใส่กัน ตู้มมๆ 55555555555555

ิแล้วปุยเมฆนี่ยังไงอ่ะ ฟรินน์ทำเหมือนจะบอกอะไรสักอย่าง
อย่าบอกนะคะ ว่าแปลงร่างได้แบบพี่งู
หนูแปลงร่างได้คงมุ้งมิ้งน่าดูนะ

มาซะเยอะเลยอ่ะ เก็บกดๆๆ 555555555
มาต่อไวๆนะคะ ไม่ไหวแล้ว ติดเรื่องนี้มากกก

 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 14-07-2014 04:51:10
บอลว่าเข้มข้นแล้ว ตอนหน้าอาจเด็ดกว่า 55555555

ในที่สุดก็มีช่วงเวลาแห่งความฟินาเล่ซะที หลังจากบู๊สนั่นจอมานาน
ดราม่าจนต้องดองเก็บไว้อ่านรวดเดียวเลยค่ะ T^T (ขออภัยคนเขียนด้วย)

ยังไงก็ ขออักธงแถวไหนในบ้านก็ได้ค่ะ เพราะได้ยินว่าจะใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 14-07-2014 04:54:42
 :katai1: +1เป็ดด้วยความค้าง
555+ ขอบคุณริริมากเลยจ้า ><
สนุกจัง รอติดตามตอนต่อไป สู้ๆจ้า :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 14-07-2014 05:37:50
(._. )/ ยกมือรอคืนนี้
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-07-2014 05:48:33
ตอนเป็นงูป่วยก็น่ารักนะอาซา 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 14-07-2014 06:06:37
อาซาตอนเป็นงูน่ารักมากกกก
อ้อนเหมือนเด็กๆเลย ชอบๆๆๆ
แต่ตอนหน้าคงอ้อนกันกว่านี้แน่ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 14-07-2014 06:22:09
ขนาดไม่มีแรงยังจะขู่นะพี่งู~  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 14-07-2014 06:22:57
ตอนนี้เป็นวันสบายๆกับพี่งูเด็กน้อยสินะ :laugh:
อะไรจะหวงโยชิขนาดน้านนน ขู่ทุกคนอะ ดีใจจังที่โยชิเลิกกลัวอาซาแล้ว ถึงจะยังไม่เลิกกลัว 100 เปอร์เซนต์ แต่ได้เท่านี้ก็พัฒนามากๆละเนาะ :-[
แต่คืนนี้ ฉากที่ทุกท่านรอคอยยยยยยย จะมาไหมน้ออออ เพื่อนๆอาซาถึงชั้นจะทิ้งบ้านเป็นเดือนๆ โอ้วววว อะไรจะเก็บกดปานนั้นนนนน :a5:
เตรียมถุงเลือดสำรองพร้อม!!! รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อน้าาา :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 14-07-2014 06:32:37
เตรียมตัวเรียกเลือด
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: Sakiloveanime2069 ที่ 14-07-2014 06:36:37
 :hao6: :hao6: :hao6:อยากอ่านต่อแล้วววว เตรียมเลือดมาพร้อม  :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: ninghyuk ที่ 14-07-2014 07:17:57
งูหื่น!!! อร๊ายยยย รอไม่ไหวแย้ววววว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 14-07-2014 07:53:16
RiRi  ใจดีอยู่แล้ววววววววว  ลงคืนนี้เลยนะ อยากต่อๆ งื้อออออออออ

เค้าใช้เวลาเติมเลือด เตรียมอุปกรณ์เสริมไม่นาน 

โยชิ โชคดีนะลูก   :pigha2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 14-07-2014 08:23:08
เทส เทส โอเคไมค์พร้อม ด้านหลังเพิ่มไฟอีกนิด อีกนิดนึง โอเคดีแล้ว

อุ้ย!!!มีฝุ่นจับหน้ากล้อง เดี๋ยวแปปนึง เช็ดฝุ่นก่อน....อืมมม...ชัดแล้ว

พร้อมนะ....สาม....สี่....จัดมาเลย ฉากอัศจรรรย์ :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 14-07-2014 08:42:47
 :hao6: ต้องเตรียมเลือดก่อนคนเขียนบอกให้เตรียมไว้ตอนหน้าห้ามตัดฉับนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 14-07-2014 08:50:50
อยากอ่านต่อแล้วค้าบบบบ ไปตุนเลือดก่อนอ่านแล้วจ้า 55555 :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: chandeliers.nun ที่ 14-07-2014 08:53:09
ลงคืนนี้เลยนะๆๆๆ  :hao6:

จะรอบริจาคเลือดดดนะคับ  :haun4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 14-07-2014 09:45:44
โอ้ยยยยยยยยยยยพี่งูน่ารักมุ้งมิ้งมากกกอ้อนหนูโยชิได้น่ารักสุดๆ อยากเห็นตอนพี่งูอาบน้ำในร่างงูจัง เตรียมเป็นจิ้งจกตะกายข้างฝาในตอนหน้า ขอมาลงคืนนี้แต่หัวค่ำเลยนะคะริริ ปล.เค้าอยากให้หนูโยชิกลายร่างเป็นงู น้องหนูคงจะเป็นงูน้อยที่น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: may5658 ที่ 14-07-2014 09:56:23
 :sad4: ค้างๆ อยากอ่านต่อแล้ววว
(นี่ฉันหื่นสินะ) ขอเกาะที่มุมๆห้องได้ไหม เราว่าตรงนั้นเห็นชัดที่สุดนะ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 14-07-2014 10:03:49
ย๊ากกกกกกก!! อยากจะตะโกนดังๆว่า..
นิยายเรื่องนี้สนุกจังโว้ยยยยย!!
ให้ตายเถอะหลงพ่องูเกร็ดทองไปซะแล้ว
นิยายแนวแฟนตาซีที่สนุกๆอะไม่ค่อยมี
เรื่องนี้คือโดน! รออ่านตอนหน้า
คงจะมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง ปุอิ๊งๆน่าดู หุหุ =,.=

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 14-07-2014 10:06:55
อาซาตอนเป็นงูน่ารักมากอ่ะ  :man1:

ปล.ต่อเร็วๆนะ มั น ค้ า ง ม า ก  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 14-07-2014 10:11:42
พี่งูมุเงมิ้งกว่าที่คิด หรือเพราะอยู่กับโยชิ เลยออกแนวน่ารักโลกเป็นสีชมพูกันน้าา อิอิ มาปูเสื่อนอนรอพร้อมถังเลือดสำรองจ้า ริริใจดี มาลงต่อน้า อยากรู้ว่า อาซาจะใช้พื้นที่ในบ้านคุ้มมั้ย อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 14-07-2014 10:50:59
ฮา อาซาในร่างงู ฮ่าๆๆๆ
ซนไปไหน ทั้งแกล้งทั้งขู่ขำจริงๆ
รอตอนหน้าเสียเลือดเต็มสูบ เดวจะนั่งที่วีไอพีหัวเตียงเลย  :haun4:

ปล. ปุยเมฆ คือ ครึ่งคนครึ่งสัตว์อีกหรือเปล่า ฟริกพูดเหมือนว่ารู้อะไรบางอย่าง น่าสงสัยๆ
นอกจากพระเอกแล้วตัวละครที่ชอบ มากคือพี่เสือคาร์เตอร์ หล่อร้ายหื่น  :-[
แล้วอีกสองคน เฟริก กับฟริก สองคนนี้มีอะไรคล้ายๆกันตรงที่ ทะเล้นชอบแกล้งจุดนี้มองดูแล้วน่ารักดีอะ จิ้นคาร์เตอร์กับเฟริกแต่คงจะยาก ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 14-07-2014 11:30:57
คุณริริค่ะ งูเเบบอาซานี้หาซื้อที่ไหนเหรอค่ะ อยากได้บ้างงงง อาซาน่าร้ากกกกกก #โดนโยชิตบ
งั้นของูเเบบฟรินซ์ก็ได้ค่ะ เย้ จัตุจัสพอจะมีขายไหมค่ะ 555555 โอ้ยคือ ไม่ค้างเลยค่ะ ไม่ค้างเลยยยย :z3: :z3: :katai1:
ฮื้ออออออ รอคอยตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อนะค่ะ :katai2-1: สู้ๆนะค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 14-07-2014 11:45:26
เราขอไปยืมผ้าคลุมล่องหนของ แฮร์รี่ ก่อนนะ

จะเกาะขอบเตียงเลย

555555555555

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 14-07-2014 12:19:14
รออย่างใจจดใจจ่อ  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 14-07-2014 13:56:12
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: Rainchan ที่ 14-07-2014 14:12:38
เตรียมตัวหื่นนนนนน คึคึ  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 14-07-2014 14:49:20
ตอนนี้งูมุ่งมิ้งมากกกกก :o8:

เสร็จเเน่ๆโยชิ อยากให้โยชิกลายเป็นงูได้ด้วยจังต้องน่ารักแน่ๆ   :pighaun:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 14-07-2014 15:18:48
เค้าหวานกันแล้ว หวังว่าจากนี้คงไม่มีเรื่องอะไรมากวนใจอีกน่ะ อาซาจะได้ไปพบว่าที่พ่อตากับว่าที่พี่เมียน่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 14-07-2014 15:46:49
ก็อาซาบอกว่าให้ทำใจแค่ครึ่งวันนะคะ ก็ต้องมาคืนนี้ เซ่!!!! คนเขียน

อยากอ่าน อยากอ่าน อยากอ่าน อยากอ่าน

นึกถึง ตอน ริริ ถามว่า อยากให้ โยชิ กลายเป็นงู ไม๊
ใจนึง ถ้า เป็นงูได้ ก็คง. . .ดีกับ อาซามากมาย..!! อยู่รักกันไป นานหลายร้อยปี

แต่ถ้าไม่เป็นงู อาซา ก็คงตามรัก โยชิ ตลอด ไป พิสูจน์ รักแท้ จนนาที สุดท้าย....
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 14-07-2014 16:11:29
ทำไมถึงนึกถึงแมวหว่า...อาซาเป็นงูที่น่ารักฝุดๆ
นึกถึงอาซาเลื้อยพันตัวโยชิแล้วฟิน ฮ่าๆๆ
รอคืนนี้นะคะ เตรียมเลือดพร้อม!
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: Deery ที่ 14-07-2014 16:31:13
อยากรอรับบริจาคเลือดคืนนี้จัง พร้อม :pighaun:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-07-2014 16:45:50
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 14-07-2014 16:54:06
ค้างสุดๆ งือ :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 14-07-2014 16:56:12
อื้อหืออออออ พี่งูน่ารักมากกกกก มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งสุดๆ
คืนนี้ไม่รอดแน่หนูโย รอฉากเรียกเลือดดด :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 14-07-2014 17:06:12
ติดตามตอนต่อไป  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 14-07-2014 17:11:48
ยกมือรอข้างเวทีฮะ
หวังว่าจะได้อ่านแบบด่วนๆ
เอาใจช่วยอาซาให้สมหวังมาตั้งแต่แรก
งานนี้จะพลาดได้ไง ตื่นเต้นๆ 5555+
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 14-07-2014 17:39:06
อยากอ่านต่อ ได้โปรดมาลงให้ด้วยเถอะ แค่นี้ก็นั่งเฝ้าคอมทั้งวันทั้งคืนแล้ว

น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก ตอนนี้อาซากลายเป็นงูหื่นไปแล้ว กรี๊ดๆ

ขอให้คืนนี้หนูโชคดีได้อ่านด้วยเถอะ

คนแต่งอย่าใจร้ายน้าาาาาาาาาาาา   :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 14-07-2014 17:46:23
พี่งูอ๊อนนนนอ้อนอ่ะ น่ารักๆ รอตอนต่อไปใจจดจ่ออ อิ้อิ้
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 14-07-2014 17:57:13
ทิชชู่พร้อมสำหรับตอนต่อไป  :pighaun:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 14-07-2014 19:05:50
เตรียมเลือดมาพร้อมแล้วค่ะ จองโคมข้างเตียงค่ะ วิวน่าดีคิคิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 14-07-2014 19:08:37
กอดแข้งกอดขาคุณริริ ช่วยเอาอีกตอนมาต่อคืนนี้เถอะค่ะ
อยากดูคุณงู
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 14-07-2014 20:35:43
รออ่านฉากเสียเลือดดดดดด

-..-
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-07-2014 21:01:32
ตอนนี้พี่งูของเราน่ารักมากๆ

พี่งูไม่เปนไรมากก็ดีแล้ว

แล้วตลกตรงที่พี่งูอาบน้ำ คือว่าพี่งูอาบน้ำน่ารักยังไงเอย

ดีใจมากๆ ฉากที่รอคอยจะมาถึงแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ SEVENTEEN❁ 14-07-14 [P.21]
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 14-07-2014 22:10:39
 :hao6: มานอนรอตอนที่โยชิจะโดนจับกิน
หัวข้อ: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-07-2014 22:41:17
EIGHTEEN




         ไม่จำเป็นต้องกลัวหรือตื่นตระหนก มันไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด ผมบอกกับตัวเองแบบนั้น แต่สายตาผมยังคงจ้องไปที่บานประตูห้องน้ำที่อาซาอาบน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ส่วนผมอาบก่อนหน้าเขา และตอนนี้ผมนั่งอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกตื่นเต้น  พลางคิดไปว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆใช่ไหม ระหว่างผมกับอาซา

         มันค่อนข้างกระดากอยู่ไม่น้อยที่จะพูดว่าผมกำลังรอให้อาซาออกมาจากห้องน้ำเพื่อกระทำบางอย่างกับผม ผมถึงได้นั่งรอ แต่เปล่าเลย ผมไม่ได้นั่งรอ ผมวางตัวไม่ถูกต่างหาก ผมก็ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดีหากเราสองคนจะมีความสัมพันธ์ที่เลยเถิดกันเพียงถ้าเขาจะไม่บอกก่อนล่วงหน้า

         การต้องเตรียมใจหรือรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นไม่ช่วยให้ผมมีความพร้อมมากขึ้น กลับกัน มันยิ่งทำให้ผมประหม่า วางตัวไม่ถูกและไม่รู้ว่าจะเอามือไม้ตัวเองไปวางไว้ที่ไหน จะนอนรอก็คงน่าเกลียด แต่การนั่งรออยู่แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเชิญชวน ถ้าอาซาไม่บอกล่วงหน้า และคนทั้งบ้านไม่หอบผ้าหอบผ่อนไปพักร้อนในช่วงหน้าฝนตั้งแต่ตอนเย็น ผมคงไม่กระวนกระวายเช่นนี้

         ว่ากันว่าครั้งแรกจะเจ็บมาก เจ็บกว่าผู้หญิงเสียด้วย กับผู้หญิงผมยังไม่เคย ไม่ต้องพูดถึงกับผู้ชาย แถมผมยังไม่มีเวลาเตรียมตัวศึกษา แบบว่า...อย่างน้อย ก็เผื่อจะมีวิธีรับมือที่ไม่ต้องเจ็บหนัก หากว่าสิ่งๆนั้นจะเข้ามาอยู่ในตัวผม

         ฉ่า!

         แค่คิดหน้าผมก็ร้อนวูบวาบ ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ ผมคงได้ระเบิดตัวเองหนีความขลาดอาย

         แก๊ก!

         ผมที่มัวแต่คิดสะระตะถึงค่ำคืนนี้สะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิด อาซาทำให้ผมคอแห้งผากกับสภาพเขาในผ้าเช็ดตัวปกปิดท่อนล่างแค่ผืนเดียว ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นเขาในสภาพนี้ แต่ไม่มีครั้งไหนที่ร่างกายสมบูรณ์แบบเยี่ยงชายแท้ของอาซาจะดึงดูดผมได้ขนาดนี้ ซิกแพคที่เป็นลอนสวยแบบพอดีดูน่าหลงใหลจนยากที่จะถอนสายตา ขนาดผมเป็นผู้ชายด้วยกัน ผมยังรู้สึกว่ามันน่ามอง ถ้าผู้หญิงคนไหนได้เห็นอาซาในระยะประชั้นชิดในสภาพนี้ ก็คงยอมทอดกายถวายชีวิตอย่างง่ายดาย

         เดี๋ยวนะ...?

         ประชั้นชิด!

         “เอ่อ...” ผมมัวแต่มองกล้ามท้องสวยของอาซาจนไม่ทันสังเกตว่าเขาเดินเข้ามาใกล้ผมมากขนาดนี้

         “หึหึ ชอบเหรอ”

         ใบหน้าผมร้อนวาบ อาซายิ้มมุมปากนิดๆเหมือนจะรู้ทันความคิดของผม ร่างสูงกว่าเขยิบร่างเข้ามาใกล้ๆอีกจนสามารถก้มหน้าจูบที่หน้าผากผมได้ ผมช้อนตามองจ้องเข้าไปในดวงตาสีนิลเป็นประกาย หัวใจของผมเต้นถี่ และเขาก็คงจะได้ยิน ถึงได้กระตุกยิ้มใส่ผม

         “ใจเต้นแรงจังเลยนะ ไม่ต้องกลัว ฉันจะนุ่มนวลที่สุด” สำหรับอาซาคงเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีอะไรต้องอาย แต่สำหรับผม...เขินตัวจะแตกแล้ว!

         “จะทำจริงเหรอ” ผมถามเสียงเบา มือกำประสานไว้ที่หน้าตัก มองตามอาซาที่เดินไปตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เปิดลิ้นชักหยิบขวดแก้วเล็กๆออกมา เขาหันหน้ามองผมด้วยสายตาที่มีความต้องการอย่างเปิดเผย ผมตัวเกร็งเมื่ออาซาเดินกลับมาที่เตียง ขายาวภายใต้ผ้าขนหนูก้าวขึ้นมาบนเตียง ชายผ้าตามรอยแยกตวัดไปมาทำเอาใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ

         “ขอไม่ใช้ถุงยางนะ ฉันอยากสัมผัสนายแบบเต็มๆ แล้วไม่ต้องเป็นห่วง นอกจากนาย ฉันก็ไม่เคยนอนกับใคร” เขาพูดกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคน แต่นอกจากเราสองคนก็ไม่มีใครคนอื่นจะมาได้ยิน เพราะคนพวกนั้นหนีออกจากบ้านนี้ไปก่อนแล้ว

         “อย่ากลัวฉัน...ฉันรอเวลานี้มานานมาก ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ด้วยซ้ำ” มือหนาประคองใบหน้าผมเอาไว้ ดวงตาสบประสานสื่อความรู้สึกที่เก็บไว้ลึกมาแสนเนิ่นนาน ผมมองเห็นทุกอย่างผ่านดวงตาสีนิลกาฬชวนให้หลงใหลราวถูกต้องมนต์

         “ขอโทษนะ” จนตอนนี้ ผมก็ยังคงระอายแก่ใจที่เคยพูดจาไม่ดีดูถูกตัวตนของเขาเพราะความพลั้งปากเพราะความไม่ตั้งใจ แต่ผมรู้ว่าคนฟังเจ็บปวดกับมันเสมอ

         “ฉันไม่เคยโกรธ...และจะไม่มีวันโกรธ”

         น้ำใสซึมที่หางตาและได้ริมฝีปากสีชมพูเข้มจูบซับให้อย่างอ่อนโยน พรมจูบเรื่อยลงมาตามโครงหน้า ดอมดมแก้มหอมอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเคลื่อนเข้าหาริมฝีปากของผมที่อ้าเผยอออก มือทั้งสองข้างเลื่อนลงมากอดเอวผมไว้ อาซาเปลี่ยนท่านั่งขัดสมาธิก่อนจะดึงรั้งผมเข้าหาแนบชิด

         อาซาสอดลิ้นเข้ามาในปากผม ควานลิ้นเกี่ยวกระหวัดลิ้นผมอย่างเร่าร้อน พาลให้เกิดความรู้สึกวาบหวามวูบไหวไปทั่วท้อง ยิ่งผิวกายขยับเสียดสีให้ร้อนผ่าวยามที่ใกล้ชิดกัน จูบครั้งไหนๆก็ไม่เหมือนครั้งนี้ อาซาจงใจบดขยี้ริมฝีปากของผมอย่างหนักหน่วง ช่วงชิงทุกลมหายใจให้สมกับที่รอคอย แต่ในความร้อนแรงก็มีความอ่อนโยนคละเคล้าไปพร้อมๆกัน เย้ายวนชวนให้ผมอ้าริมฝีปากรับความพิศวาสที่เร้าจะเขย่าจิตใจ

         สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากนุ่มค่อยๆผละออกอย่างเชื่องช้าเมื่อผมหายใจไม่ทัน เขาพรมจูบนุ่มนวลลงไปที่หน้าผากสวยอีกครั้งก่อนจะหันเหความสนใจไปที่อื่น เป้าหมายต่อไปของเขาคือซอกคอของผม

         เสียงหัวใจเต้นเร่าบอกว่าผมรักอาซามากเพียงใด ผมจำไม่ได้ว่าเมื่อก่อนเรารักกันมากแค่ไหน แต่ถ้ามันมากกว่านี้ ครานั้นผมคงไม่ต้องกินไม่ต้องดื่มเพราะอิ่มเอมกับความรักที่เอ่อล้นท่วมจิตท่วมใจ

         “อื้ม...อาซา” ผมครางเรียกชื่อเขา หรี่ตาปิดยามที่ลมหายใจร้อนรินรดแอ่งชีพจรให้ความรู้สึกวาบหวามไปทั่วร่าง

         “หืม” อาซาแค่ส่งเสียงตอบรับในลำคอ เงยหน้าขึ้นเพียงชั่วครู่เพื่อสบตากับผม

         ดวงตาที่สะกดผมไว้ใต้อำนาจ ร่ายมนต์ให้หลงใหล

         ความรู้สึกแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับร่างกายของผม แบบที่ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะรู้สึก มันร้อนวูบวาบทั้งใบหน้าและลำตัว ท้องไส้บิดเกร็งยามที่มือเย็นแตะสัมผัส ลมหายใจเป็นสิ่งที่ผมควบคุมไม่ได้ในเวลานี้ รู้สึกสยิวซ่านจนเหนื่อย อยากจะหยุดยั้งแต่...ความสุขที่โอบล้อมผมจากสิ่งที่ร่างสูงมอบให้เหมือนอาหารมื้อดึกที่น่าหฤหรรษ์

         “มัน...จะดีใช่ไหม” ผมถามเสียงสั่น อาซาหัวเราะสองหึในคอ หยุดซุกไซ้ซอกคอผม เพื่อสบตากัน

         “ฉันจะทำให้มันดีสุดๆ” ทั้งแววตาและสีหน้ารวมไปถึงน้ำเสียงจริงจังว่าจะทำให้ได้อย่างที่พูด ผมพยักหน้ารับ ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้ ถอยหลังก็คงไม่ใช่เรื่อง และผมก็ไม่อยากถอยด้วย เพราะผมเองก็อยากจะสัมผัสเขาเช่นกัน

         “แรกๆมันอาจจะเข้ายากสักหน่อย แต่ฉันมีตัวช่วย ไม่ต้องห่วง” อาซาปลดกระดุมชุดนอนผมออกภายในพริบตาก่อนจะเขวี้ยงเสื้อผมลงไปที่พื้น เพราะมันคงเกะกะในสายตาเขา

         “ตัวช่วยอะไร” ผมเอนตัวนอนลงเมื่ออาซาจับขอบกางเกงของผมเอาไว้ และพอผมยกสะโพกขึ้นเขาก็ดึงรูดทีเดียวหลุดออกจากขา ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือแค่อันเดอร์แวร์ตัวเดียว ผมหนีบขาตัวเองแก้เขิน อาซาไม่ได้พูดล้อ เขากระถดตัวขึ้นจนใบหน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน

         “ไอ้นี่ไง” อาซาชูขวดแก้วขวดนั้นให้ผมดู ภายในมีน้ำสีใสๆอยู่เต็มขวด พอเห็นผมทำหน้างงอาซาก็ก้มลงจูบที่ปากผมแรงๆและกระซิบบอกอีกเบาๆ

         “น้ำมันหอม...มีเอาไว้ช่วยให้นายผ่อนคลาย และช่วยให้ตรงนั้นของนายขยายตัวได้ดี”

         ผมหน้าเห่อร้อนเพราะคำพูดไม่อายปากของอาซา

         “ไปเอามาจากไหน” ผมถาม เมื่ออาซาเริ่มก่อกวนอารมณ์ผมอีกรอบ

         “ไอ้คาร์เตอร์” เขากระซิบบอกติดริมฝีปาก ผมเบิกตากว้าง คาร์เตอร์อีกแล้ว เขาเป็นผู้ชายประเภทไหนกันแน่ ทำไมถึงได้หื่นขึ้นสมองถึงขนาดคิดค้นแต่ไอ้ของพรรค์นี้

         “พวกเราเวลาต้องการ มักมีอารมณ์ที่รุนแรงมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป ผู้หญิงผู้ชายหลายคนเจ็บหนักเพราะพวกเราหลังจากที่นอนด้วยกัน ไอ้คาร์เตอร์ก็เลยคิดค้นของพวกนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วย” อาซาพึมพำ ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นอะไรที่เข้าใจยาก

         มือข้างหนึ่งของอาซาวางไว้บนหน้าอก อีกข้างโอบกอดที่แผ่นหลังเนียนลูบไล้เพลินมือ ผมก็ทำไม่ต่างกัน ผิวของเขาเรียบลื่น แข็งและเย็น

         “อื้อ!” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อริมฝีปากเย็นฉ่ำขบลงมาบนยอดอก ผมกัดปากกลั้นเสียงร้องแปลกๆ นิ้วมือขยุ้มเส้นผมสีน้ำตาลเข้มเกือบจะดำของอาซาอย่างหนักหน่วง บิดกายเร้าๆตามเรียวลิ้นที่ดูดเน้น หัวใจเต้นกระหน่ำอย่างไม่สามารถร้องห้าม ผมผงกหัวมองอาซาที่พรมจูบปานของผม เขาเหลือบตามอง

         “รอยปานนี้...ฉันทำไว้เอง” เขากดจูบย้ำที่เดิมแล้วก็ดูดแรงๆจนขึ้นสีกุหลาบจางๆ

         “ทำไว้...เมื่อไหร่” ผมถามเสียงพร่า จำได้ว่าผมมีมันมาตั้งแต่เกิด

         “เมื่อก่อน...ตอนที่ฉันมีอะไรกับนายครั้งแรก ฉันทำมันไว้เอง” เขายังคงจูบรอยปานเหมือนรักใคร่สุดซึ้ง ผมกัดริมฝีปากแน่นไม่ให้หลุดเสียงร้องน่าอาย มือก็ลูบที่ต้นคอแกร่งไปมาเบาๆ วนนิ้วช้าๆตามแรงปรารถนา สองขาผมแยกออกจากกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ตอนนี้ตัวของอาซาคร่อมอยู่กลางตัวผม

         ‘ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ข้าก็จะยังรักเข้าอยู่แบบนี้ ข้าไม่มีวันที่จะลืมเจ้า แล้วเจ้าล่ะ เมื่อถึงวันนั้น จะลืมข้าหรือไม่’

         ‘ไม่ ข้าจะรักเจ้าเหมือนกับวันนี้ วันที่ข้ารักเจ้าสุดหัวใจ’


         ถ้าเสียงในความฝันที่ผมหลับใหลได้ยินเป็นเสียงของผมและอาซา เป็นผมกับเขาจริงๆ ผมก็ทำผิดต่อเขาอีกแล้ว

         ผมลืมความรักของเราเมื่อครั้งก่อน

         อยากจะไถ่โทษ...อยากชดเชยให้กับสิ่งที่อาซาต้องทุกข์ทน

         ผมมองหน้าอาซาให้ชัดๆอีกครั้ง วางแขนเรียวโอบบ่ากว้างเอาไว้ โน้มกายเข้าหา กดจูบที่แก้มตอบบางๆ พลางกระซิบคำขอเพื่อปลดเปลื้องทุกความทุกข์ในใจของคนบนกาย

         “กอดฉันที อาซา...ได้โปรดรักฉัน”

         อาซาผงกหัวมองผมอึ้งๆ แต่ผมแค่ยิ้มให้เขาทั้งน้ำตาที่เอ่อคลอ อาซาหยัดกายขึ้นด้านบน นัยน์ตาคมกริบทอด้วยแรงปรารถนา

         “อย่าเอ่ยถามในสิ่งที่นายก็รู้ดี ว่าทั้งโลกใบนี้ฉันรักนาย...และจะรักไปจนตาย”

         สิ้นคำยืนยัน ริมฝีปากร้อนก็ฉกจูบซ้ำอีกครั้ง มือหนานำพามือผมให้ลดต่ำลงไปจับที่ปมผ้าขนหนู เรียวลิ้นอุ่นสอดไล้เข้ามาในโพรงปากเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อดูดชิมความหวาน อันเดอร์แวร์ของผมหลุดออกจากร่าง คราวนี้เราทั้งสองคนมีเพียงเนื้อกายไร้สิ่งปกปิดขวางกั้น เราต่างสัมผัสกันและกันอย่างไม่รู้เบื่อ เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทำให้หัวใจเต็มอิ่มยามที่ถูกสัมผัส ผมไม่เคยคิดว่าการถูกรักจะให้ความรู้สึกที่แสนวิเศษขนาดนี้ เหมือนผมเป็นลูกโป่งอัดแก๊สที่ลอยลมได้ และกำลังจะลอยขึ้นไปแตะขอบฟ้า

         “มะ ไม่..อาซา อื้ออ” เสียงครางราวกับจะขาดใจของผมเป็นตัวเร่งเร้าให้อาซากดริมฝีปากครอบครองส่วนล่าง ผมพยายามจะห้ามเขาแต่อาซาไม่ฟัง และเมื่อถูกปรนเปรอผมก็ลืมทุกสิ่งอย่าง มือที่ทำท่าจะผลักไสกลายเป็นกดศีรษะทุยแน่น ใบหน้าร้อนวูบวาบขึ้นสีแดงกล่ำตามการชักนำของคนเบื้องล่าง ร้อนผ่าวไปทั้งเนื้อทั้งตัว ร่างสูงเงยหน้าจ้องมองร่างผมที่ดิ้นพล่านอยู่บนเตียงด้วยสายตาหื่นกระหายแบบไม่ปิดบังซ่อนเร้น รู้สึกอย่างไรเขาก็มองผมแบบนั้น เปิดเผยเกินไปจนผมนึกอายต่อสายตาร้อนแรง

         “อาซา...ฉัน จะ อึก” ผมน้ำตาคลอเมื่อรู้สึกว่าตัวเองไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป แต่อาซายังไม่คลายริมฝีปากออก เขาหยุดกระทำเพื่อพูดในสิ่งที่ทำให้ผมอายหนักขึ้นไปอีกขึ้น

         “ทนไม่ไหวก็ไม่ต้องทน ฉันอยากได้ความรักจากนาย” เขากระซิบเบาๆจบก็ก้มลงไปจัดการกับเบื้องล่างของผมต่อ เร่งเร้าจังหวะจนผมหยุดคิดถึงทุกสิ่งอย่าง ปล่อยอารมณ์ไปตามการชักนำ และในที่สุดผมก็ระเบิดทุกหยาดหยดให้อาซาได้ดื่มกินมันเข้าไป

         เสียงหอบหายใจของผมดังระงมห้องนอนกว้าง นอนทอดกายหมดเรี่ยวหมดแรง อาซาหยัดตัวขึ้นจูบผมเบาๆ มือจับขาผมแยกกว้างและยกสูงขึ้น ทันทีที่อาซาผละจูบออก ผมก็ทิ้งหัวลงกับหมอน สันจมูกโด่งซุกไซร้ไปที่ลำคอขาวสะอาดของผมช้าๆแต่เน้นหนักที่จังหวะ ก่อนจะแต้มรอยเอาไว้พอหอมปากหอมคอ บางอย่างแข็งขืนเสียดสีอยู่ตรงกลางตัวผม ผมรู้ว่ามันคืออะไร แค่...มันน่าอายเมื่อผมเหลือบตามองแล้วเห็นว่ามันใหญ่โตขนาดไหน

         “มัน...ใหญ่” ผมเผลอพูด แอบกระถดตัวหนีเมื่อริมฝีปากอุ่นจัดแนบไปตามต้นขาอ่อน ไล่จูบและขบกัดผิวเนื้อไปจนถึงขาอ่อนด้านใน ขบเม้มจนเรียวขาของผมเต็มไปด้วยรอยรัก

         “กลัวเหรอ” อาซาถามเสียงทุ้มพร่า ฟังดูเซ็กซี่ในความรู้สึก เขาเทของเหลวบางอย่างที่ส่วนด้านหลัง ผมซูดปากเมื่อนิ้วของเขาแตะลงบนกลีบช่องทางรัก กดย้ำๆเป็นการอุ่นเครื่อง แค่สัมผัสแผ่วเบาภายนอกยังไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไป เจ้าของร่างอย่างผมก็ไหวสะท้าน และเมื่อนิ้วแรกสอดเข้าไปความเจ็บก็แล่นปราดให้สะดุ้งเฮือก อาซาเหมือนจะรู้ เขาจูบผมอย่างหนักหน่วงทั้งจูบเลียและดูดดุนอย่างร้อนแรง นิ้วเรียวยาวก็สอดใส่เข้ามาในตัวผมช้าๆ ก่อนจะตวัดไปมาอย่างชำนาญ ผมคงจะรู้สึกเจ็บมากกว่านี้ถ้าอารมณ์ไม่เตลิดไปไกลเพราะริมฝีปากร้อนๆกับมือที่เย็นพอดีจับแก่นกายของผมไว้เต็มไม้เต็มมือ ผมหลงระเริงไปกับความอ่อนหวานที่อีกฝ่ายมอบให้ จดจำได้ทุกความรู้สึกถึงความรักของอาซา

         “อึก อ๊า...” เสียงครวญครางเหมือนจะขาดใจ เผลอจิกเล็บลงบนหลังกว้างระบายความเสียวสะท้านเมื่ออาซาเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าสู่ร่างกาย ช่องทางรักอ่อนตัวเพราะน้ำมันหอมที่อาซาใช้ชโลม ยิ่งไปกว่านั้นผมรู้สึกร้อนวูบวาบอยากจะหาอะไรที่ยิ่งกว่ามาเติมเต็ม

         “ฉันจะเอาเข้าไปแล้วนะ มันจะไม่เจ็บ ถ้านายไม่เกร็ง” อาซากระซิบติดริมฝีปาก ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ผมจะไปจัดการได้ยังไง ถ้ามันจะเกร็งเองผมจะไปทำอะไรได้ แต่ผมก็ทำแค่พยักหน้าตงลง อาซายิ้มเหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก เขาจูบนุ่มนวลที่หน้าผากผมเบาๆก่อนจะดึงนิ้วออก ผมเหมือนถูกกระชากวิญญาณทันทีที่นิ้วยาวทั้งสามนิ้วหลุดออกจากช่องทาง กลายเป็นว่ามันทรมานยิ่งกว่า ร่างกายร้องหาสิ่งเต็มเต็ม และไม่รอช้า อาซาจับแก่นกายของตัวเองจ่อที่ช่องทางด้านหลัง ผมขยับตัวพิงหัวเตียง มองทุกการกระทำที่อยู่เบื้องหน้า อาซาค่อยๆจ่อสิ่งที่ร้อนผ่าวกับทางเข้าแล้วกดลงช้าๆ

         “ผ่อนลมหายใจ หายใจเข้าลึกๆ” อาซาแนะนำ ผมทำตามอย่างตั้งใจ มุ่งมั่นยิ่งกว่าการอ่านหนังสือสอบเสียอีก อาซาค่อยๆกดเข้ามามากขึ้น เป็นผมเสียเองที่ดึงรั้งใบหน้าหล่อเข้ามาบดจูบเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากที่แห้งผากเหมือนคนหลงอยู่กลางทะเลทราย มือเผลอยกขึ้นแตะใบหน้าคมที่กำลังระดมจูบแบบหื่นกระหายโดยไม่ได้ตั้งใจ

         “หมดยัง” ผมถาม ตาปรือหลับ

         “หมดแล้ว เจ็บไหม” อาซาถาม ผมส่ายหน้า เจ็บนิดเดียว แต่จุกมากกว่า ของอาซาใหญ่มากจริงๆ ผมรู้สึกว่าอาซาต้องอดทนอดกลั้นพอสมควร เขากัดกรามแน่นตลอดเวลา ผมไม่อยากเอาเปรียบเขาแค่เพียงฝ่ายเดียว เจ็บกว่านี้ก็เคยมาแล้ว แค่โดนกอดแรงๆสักนิดสักหน่อยก็คงไม่ตายหรอก

         “ขยับเลย...แรงๆก็ได้ ฉันไม่เป็นไร” ผมบอก อาซาถึงได้เริ่มขยับเอวช้าๆแต่ก็ร้อนแรงอยู่ในที ผมแอ่นรับสัมผัสของร่างสูงด้วยความเผลอไผล ขยับขาเสียดสีเอวสอบกับความต้องการที่ไม่อาจซุกซ่อน ส่วนอ่อนไหวชูชันด้วยแรงปรารถนา

         “ระ แรงอีกก็ได้” ผมหอบหายใจถี่ระรัว ดวงหน้าและสีผิวกลายเป็นสีแดงระเรื่อไปทั่วกายที่ไม่อาจซ่อนความรู้สึกที่ร้อนรุมสุ่มเป็นกองเพลิงอยู่ในตัวได้

         “แต่นายจะไม่ไหว” เขาแย้ง แต่ก็ขยับเอวเข้าหาผมเร็วขึ้นอีกนิด แต่ผมยังจับสัมผัสได้ว่าเขายั้งตัวเองเอาไว้

         “ไหว” ผมกัดฟันตอบ

         “แน่ใจ” มือหนาของอาซากุมส่วนอ่อนไหวของผมไว้ จากตอนแรกที่เพียงจับเฉยๆ เปลี่ยนเป็นขยับรูดขึ้นรูดลงช้าๆ แล้วค่อยแรงขึ้นเรื่อยๆ

         อืม เอาเลย ตามสบาย”

         พอผมอนุญาต อาซาก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป เสียงหวานที่พยายามกลั้นมานานเปล่งเสียงออกมาด้วยความซาบซ่าน กระเซ้าออกมาไม่หยุดปาก บิดกายไปมาด้วยความเร่าร้อนของเพลงรักที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เสียงครางที่กำลังออกมาชุดใหญ่จึงถูกบทเบียดด้วยริมฝีปากเดิมอีกครั้ง

         “อาซา..อาซา” ผมร้องเรียกชื่ออาซาไม่ขาดปาก กอดรัดลำคอขาวเอาไว้ยึดเหนี่ยว นัยน์ตาสอดประสานซึ่งกันและกัน เฝ้าเผยความนัยที่เต็มเปรี่ยมไปด้วยคำว่ารักสุดหัวใจ

         “รัก...ดาร์เรล รักที่สุด” อาซาครางเสียงพร่า ขยับกายโจนจ้วงรุนแรงและเน้นหนัก ปลายขาแยกออกกว้างขึ้น แอ่นรับทุกสัมผัสด้วยความเสียวซ่าน ทางเบื้องหลังร้อนผ่าวยามถูกเสียดสีเข้าออกรุนแรง เอวบางถูกสองแขนแกร่งเกี่ยวกอดเอาไว้แนบกาย

         “อื้อออ อาซา” ลมหายใจติดขัดด้วยความรู้สึกอึดอัดเมื่อส่วนร้อนรุ่มเต้นตุบๆอยู่ในร่าง อาซาขบกรามแน่นเชยคางผมให้รับจูบจากเขาอีกหลายต่อหลายหน ผมเริ่มทนไม่ไหวกับสิ่งที่ได้รับ แรงที่โหมลงหนักหน่วงทำให้ตัวลอยผวาเฮือก เสียงผิวกายเสียสีดังก้อง ผมทำได้เพียงส่งเสียงร้องเพื่อปลดปล่อยความทรมานที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนในที่สุดผมก็ไม่อาจรั้งรอได้อีกต่อไป กระตุกอย่างแรงปลดปล่อยสายธารสีขาวออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องสวยของคนบนตัว

         “ดาร์เรล...ที่รักของฉัน” อาซาครางทุ่มต่ำ ในวินาทีต่อมา ความใหญ่โตที่ขยายคับแน่นเร่งจังหวะถี่เร็วจนจับจังหวะไม่ได้ปลดปล่อยสายธารร้อนอุ่นเต็มช่องทางคับแคบที่บีบตัวรับไว้ด้วยความเต็มใจ ผิวกายสั่นระริก เหงื่อเม็ดโตผุดตามใบหน้าและตามลำตัว อาซาทิ้งตัวทาบทับผมที่นอนคิดอะไรไม่ออก สมองว่างเปล่าขาวโพลน แรงขยับยังไม่มี เกือบสิบนาทีกว่าลมหายใจจะกลับมาเป็นปกติ

         “หิวน้ำไหม รอเดี๋ยวนะ ฉันจะไปเอามาให้” อาซาจูบที่แก้มผมหนักก่อนจะลุกออกจากตัวผม หยิบผ้าขนหนูพันช่วงล่างเดินออกไปจากห้อง ผมหลับตาลงช้าๆ พลางนึกถึงบทรักที่แสนจะร้อนแรงเมื่อครู่

         แต่เดี๋ยวนะ...

         ตอนที่อาซาปลดปล่อยเขาเรียกชื่อใคร...?

         ดาร์เรล...ทำไมชื่อนี้คุ้นหูผมจัง

         อยู่ๆผมก็รู้สึกโกรธ พออาซากลับมาที่ห้อง ผมก็พลิกตัวหันหลังให้ น้ำตาทำท่าจะไหลเพียงแค่นึกว่าเขาคิดถึงคนอื่นตอนที่กอดผมไว้ในอ้อมแขน

         “โยชิ กินน้ำก่อนนะ” อาซาเขย่าไหล่าผม แต่ผมสะบัดออก ไม่อยากจะทำตัวสะบัดสะบิ้ง แต่ผมรู้สึกเจ็บจริง” อาซาคงจับความรู้สึกได้ว่าผมผิดปกติไป ร่างสูงจึงล้มตัวนอนข้างๆดึงผมเข้าไปกอด ผมไม่ดิ้นหนี เพราะในใจอยากให้อาซากอดไว้แน่นๆ

         “เป็นอะไรทูนหัว”

         “เปล่า” ผมกระชากเสียงนิดๆ

         “อย่าโกหกกันเลยน่า งอนอะไรฉัน” ผมกระซิบข้างใบหู ออกแรงดูดดุนจุดอ่อนที่ผมเพิ่งรู้ตัว

         “โยชิ” เขากดจูบตามกระดูกสันหลังผมตั้งแต่คอลงไปจนเกือบถึงบั้นท้าย ผมเสียววูบวาบไปทั้งตัว กัดปากกัดฟันกลั้นเสียงครางอื้ออึง

         “ไม่บอกฉันก็ไม่รู้หรอกนะ”

         “ดาร์เรล...คือใคร”

         “หืม”

         “นายใจร้ายมากนะ กอดฉันอยู่แต่เรียกชื่อคนอื่นงั้นเหรอ!” ผมบันดาลโทสะ น้ำตาปริ่มจะไหลอยู่รอมร่อ และถ้าหากว่าอาซายังไม่รีบบอกผมว่าใครคือดาร์เรลในอีกหนึ่งนาที ผมจะเป่าปี่จริงๆด้วย

         คงไม่มีให้อยากให้สามีตัวเองเอ่ยชื่อคนอื่นตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มหรอก และผมก็ไม่ชอบด้วย

         “หึหึ หึงเหรอ”

         “อาซา!”

         “โอเคๆ ฉันยอมแล้ว นายจะหึงตัวเองทำไม หึหึ”

         “หึงตัวเอง? ยังไง ฉันชื่อโยชิ” ผมเน้นชื่อตัวเองหนักแน่น จ้องหน้าหล่อเหลาของอาซาอย่างเอาจริงเอาจัง

         “นายชื่อดาร์เรล...ดาร์เรลของฉัน” เขาไม่สนใจใบหน้าขุ่นเคืองของผมแม้แต่น้อย กระโจนเข้ากอดผมเต็มรัก พรมจูบไปทั่วใบหน้าและลำคอพลางเรียกผมว่าดาร์เรลๆอยู่นั่นแหละ แต่ให้ตายเถอะ น้ำเสียงอ่อนโยนปนเซ็กซี่ยามที่เรียกผมแบบนั้น มันชวนให้ร้อนรุ่มเสียจริงๆ ผมกำลังจะเสียตัวอีกรอบแล้วใช่ไหม

         “เดี๋ยว...อะ อย่าเพิ่ง”

         “ทำไม หืม?”

         “ดะ...ดาร์เรลแปลว่าอะไร” อดยอมรับกับตัวเองไม่ได้ว่าผมคุ้นหูกับชื่อนี้อย่างมาก

         “ผู้เป็นที่รักยิ่ง”

         “...!”

         “และฉันคือทาสความรักของนาย...ดาร์เรล My sweetheart”

         เอาละ วินาทีนี้ต่อให้ต้องเสียตัวอีกทั้งวันทั้งคืนผมก็ยอม!

         อาซาไม่ปล่อยให้ผมได้นอนทั้งคืนยันเช้า ผมแทบไม่รู้สึกอะไร รู้แค่ว่าอาซากลายเป็นงูแล้วก็เลื้อยพันผมไว้ทั้งตัว ห่อจนมิด เหมือนมีผ้าห่มผืนหนาห่มกาย ป้องการความหนาวเหน็บจากลมฝน ที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดกว้าง ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงอย่างช้าๆ หลับใหลในความอบอุ่นจากคนที่รักผมและผมก็รักเขา


ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-07-2014 22:43:06
         “อิ่มหรือยัง เอาอะไรอีกไหม” อาซาเติมนมลงในแก้วให้ผม ผมรับมาดื่มอึกๆรวดเดียว อาซาเช็ดคราบนมที่มุมปากให้ ก่อนจะดูดนิ้วตัวเองให้ผมหน้าร้อนเล่น ผมส่งแก้วคืนให้อาซา

         เช้านี้ตื่นมาผมโดนอาซาแกล้งไปอีกสามรอบเต็ม! รวมกับเมื่อคืนแล้วอย่านับเลยสิบนิ้วคงไม่พอ ไม่ต้องพูดอาซาก็บอกให้ผมรู้แล้วว่าเขาเป็นงูที่เก็บกดมานานจริงๆ นี่ถ้าผมไม่บ่นว่าหิวจนจะกินงูได้ทั้งตัว เขาก็คงไม่ปล่อยให้ผมได้พัก

         ผมนั่งแกว่งขาเบาๆเท่าที่มีแรงอยู่ที่โต๊ะกินข้าวเสริมเบาะนุ่ม บ้านทั้งหลังเงียบกริบเพราะไม่มีคนอยู่ แต่จะว่าไปก็ดีแล้ว นึกถึงเสียงร้องของตัวเองเมื่อคืนแล้วอยากจะบ้า ผมร้องเสียงดังมากจริงๆ ถ้าฟรินน์อยู่คงได้โดนล้อยันชาติหน้าแน่ๆ

         “ผลไม้ล้างปากสักหน่อยนะ” อาซาวางส้มที่หั่นไว้แล้วตรงหน้าผม ส่วนตัวเขานั่งลงข้างๆ ลมเย็นพัดพาเอากลิ่นดินชวนให้สดชื่น อาซาเปิดหน้าต่างทุกบานในห้องครัวเพื่อให้อากาศถ่ายเท

         “ไม่กินเหรอ” ผมถาม ปากก็อ้างับเนื้อส้มหวานฉ่ำเข้าปาก เขาส่ายหน้ายิ้มๆ ดวงตาหวานเชื่อมพอๆกับส้มมองผมไม่วางตา โดนจับจ้องแบบนี้ผมก็เขินเป็นนะ เลยหาเรื่องมาคุยเปลี่ยนบรรยากาศชวนเสียตัวอีกรอบ แค่นี้ผมก็ไม่มีแรงแล้ว รู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัว แต่อาซาให้ผมกินยาไปหลายเม็ด เป็นยาของคาร์เตอร์อีกนั่นแหละ เห็นว่าช่วยเรื่องอ่อนเปลี้ยเพลียแรงได้ดี และเป็นยาดักไข้ไปในตัว ผมเลยรู้สึกดีมีเรี่ยวมีแรงมากกว่าที่ควรเป็น เพราะถ้าไม่ได้ยา ผมคงกลายเป็นคนพิการนอนเดี้ยงอยู่บนเตียงไม่มีทางฟื้น

         “เวสตันบอกนายไปสู้กับเจอร์โรมมา เป็นไงบ้าง” ผมถาม อาซาทำหน้านิ่ง เคาะนิ้วลงกับโต๊ะกินข้าวก่อนตอบ

         “ก็...อย่างที่เห็น ฉันบาดเจ็บอย่างหนัก ส่วนไอ้เจอร์โรม...”

         “ตายเหรอ?” ผมอุทานตกใจ ก็ขนาดอาซายังเจ็บหนัก แล้วอีกฝ่าย...

         “เปล่า แต่มันเจ็บหนักกว่าฉันอีก ฉันก็อยากฆ่ามันเหมือนกันนะ แต่คิดว่าทำไปก็เท่านั้น รังแต่จะเพิ่งความแค้นเข้าไปใหญ่”  อาซาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีความโมโหหรือความโกรธเจือปน

         “ถามได้ไหม...นายกับเจอร์โรมมีความแค้นอะไรกัน”

         “กลัวว่านายฟังแล้วจะเลิกรักฉันเนี่ยสิ”

         “ไม่มีทาง” ผมพูดแม้จะไม่แน่ใจ แต่ผมจะไม่มีวันเกลียดเขาเด็ดขาด และจะไม่เลิกรักด้วย แม้ว่าเขาจะทำอะไรที่สาหัสจนยากที่จะยอมรับ แต่ผมจะเชื่อมั่นและรับฟังถึงเหตุผลของเขา คนเราต้องมีเหตุผลในการกระทำบางสิ่งบางอย่างเสมอ ผมเชื่ออย่างนั้น

         “ฉันฆ่าพ่อของเจอร์โรมตาย ฉันทำต่อหน้าเขาตอนที่เขายังเล็กๆ”

         ตุบ

         ผมเผลอทิ้งส้มในมือลงจาน ก่อนจะรู้สึกตัวกระพริบตาถี่ๆแล้วหยิบมันขึ้นมากินอีกครั้ง อาซาเพียงแค่ยิ้มแล้วก็เล่าต่อ

         “ฉันเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง และพ่อของเจอร์โรมที่เป็นคนรับใช้ของพ่อฉัน เมื่อก่อนเราอยู่รวมกันไม่แบ่งแยกสายพันธุ์ เขาสามารถมองเห็นอนาคตได้ เขาบอกกับพ่อของฉันว่าโตขึ้นฉันจะยิ่งใหญ่ได้ครองโลกบ้าบอ ฉันแอบฟังแล้วก็ได้แต่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่เหลวไหล ฉันไม่ได้อยากได้โลก ฉันแค่อยากได้คนที่รักฉัน แล้วคนๆนั้นก็คือนาย”

         ผมนั่งฟังเงียบๆ เอื้อมมือไปกอบกุมมืออาซาเอาไว้ทั้งสองมือ อาซาบีบมือตอบ แววตาของเขามีแต่ความทุกข์เมื่อพูดถึงเรื่องในอดีต แต่พอพูดถึงผม แววตาเขาฉายแต่ความสุข ผมดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกดี

         “แต่การรักเพศเดียวกันเป็นสิ่งที่ผิดบาปร้ายแรง พ่อฉันรู้เรื่องก็พยายามสั่งให้ฉันเลิกกับนาย ฉันไม่ยอมเลยหนีออกจากบ้าน”

         พอเขาเล่าถึงตรงนี้ผมก็ขำ เขาเองก็หัวเราะ ก่อนจะยิ้มขืน

         “วันหนึ่งฉันออกไปข้างนอก กลับบ้านมาก็ไม่เจอนายแล้ว ฉันตามหานายด้วยใจที่ร้อนรน เพราะฉันฝังรอยรักไว้ที่ตัวนาย” เขาวางมือทาบทับตรงตำแหน่งรอยปานบนหน้าอกของผม สีหน้าเขามีแต่ความเจ็บปวด ผมขยับเข้าไปใกล้แล้วดึงเขาเข้ามากอด

         “ฉันเจ็บหัวใจมากเมื่อรู้ว่านายอยู่ในอันตราย ฉันไปช่วยนายไว้ไม่ทัน พ่อของเจอร์โรมปักมีดลงบนหัวใจของนาย ร่างของนายถูกตรึงเอาไว้บนพื้น แล้วสุดท้ายนายก็ตายต่อหน้าฉัน ฉันโกรธมาก กลายร่างเป็นงู เตรียมจะเข้าไปฆ่าคนที่ฆ่านาย แต่ฉันไม่สามารถฝ่ากำแพงมนต์ของพวกลีโอเข้าไปได้ พวกเขาร่วมมือกันฆ่าดาร์เรล ซึ่งก็คือนายเมื่อก่อน ฉันแค้นใจมาก ออกตามหาพ่อของเจอร์โรมแต่ก็ไม่เจอ พ่อช่วยมันหลบหนี ฉันตามตัวมันนานเป็นปีๆในที่สุดก็หาเจอ ไม่มีนายฉันก็มีแต่ร่างที่ไร้ความรู้สึก แต่พอเห็นว่าพวกมันมีความสุข มีคนรัก มีลูก ฉันก็โกรธจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้...” พูดมาถึงตรงนี้เขาก็หยุด แรงกอดแน่นไปตามอารมณ์ของเขา

         “นายก็เลยฆ่าพ่อของเจอร์โรม แล้วเจอร์โรมก็เลยแค้นนายสินะ เหมือนในหนังเลยนะเนี่ย” ผมไม่อยากให้เขาจมปรักอยู่กับอดีตที่แก้ไขไม่ได้ เลยพูดตลกๆแทน อาซาหัวเราะตามผม เขาดันตัวออก ตาของเขาแดงกล่ำ แต่ไม่มีน้ำตา ยิ่งรู้ว่าเขาทำสิ่งที่ผิดพลาดเพราะความรักที่มีให้ผม ผมยิ่งไปไหนไม่รอด ถูกความรักของเขารัดตรึงเอาไว้หนาแน่น

         “แล้วตอนนี้พ่อของนายล่ะ” ผมถาม อาซาไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้ผมฟัง

         “อยู่นิวยอร์กกับพี่ชายฉัน ฉันไม่อยากอยู่กับพวกเขาเลยหนีออกมาอยู่ตัวคนเดียว ไม่ได้กลับมานานจนจำหน้าไม่ได้แล้ว”

         แต่ผมรู้ว่าเขาจำได้ เพราะเขายังคงเจ็บปวดเมื่อนึกถึง

                  “ตกลงแล้วพวกนายมีกี่สายพันธุ์กันแน่ มีงู เสือ หมาป่า แล้วก็สิงโตใช่ไหม มีอย่างอื่นอีกไหม” ผมดึงอาซาออกจากเรื่องเศร้าๆ การทนเห็นเขาเจ็บไม่ใช่ความน่ารื่นรมย์

         “ก็มี เช่น แมว หมา หมู ไก่ นก ปลาโลมา และอีกหลายชนิด แต่จำนวนมีไม่มากให้เกาะกลุ่ม แต่ส่วนมากพวกนี้มักไม่ค่อยรู้ตัว ถ้าเป็นคนก็จะกลายร่างไม่ได้ หรือถ้าเป็นสัตว์ก็จะกลายร่างเป็นคนไม่ได้”

         “แล้วทำยังไงถึงจะเป็นคนได้ล่ะ พวกนายบอกว่าฉันเป็นงู ไม่ใช่คน มันหมายความว่ายังไง มันไม่จริงใช่ไหม”

         “ค่อยๆถามสิ ฉันจะตอบยังไงหมด” เขาหัวเราะ ผมเบ้หน้าใส่

         “เอาเรื่องแรกก่อนแล้วกัน วิธีที่จะทำให้คนหรือสัตว์ที่มีสายเลือดพิเศษกลายร่างได้ มันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง สิ่งเร้า การถูกปลุกปั้นจิตวิญญาณ หรือเมื่อถึงเวลา บางคนก็กลายร่างได้ บ้างก็กลายร่างไม่ได้ มันไม่แน่นอน และพอกลายร่างได้ ส่วนมากก็จะทำตัวกลืนไปกับพวกมนุษย์เพราะไม่อยากแปลกแยกและแตกต่าง”

         “แล้วฉันล่ะ” ผมถามถึงตัวเองบ้าง

         “ส่วนนาย เมื่อก่อนนายเป็นงู นายก็เลยมีจิตวิญญาณของงู แต่ที่ผ่านๆมาฉันเป็นคนคอยดูแลไม่ให้เกิดสิ่งเร้าหรือเรื่องอะไรที่จะไปกระตุ้นจิตวิญญาณของนาย ฉันตามดูนายได้หกชาติ นี่ชาติที่เจ็ดแล้ว แต่มาตกม้าตายเอาชาตินี้” เขายิ้มขำให้ตัวเอง

         “เพราะ?” ผมถามถึงสาเหตุ

         “เพราะฉันทนคิดถึงนายไม่ได้ไง ยิ่งนายเข้ามาใกล้ ฉันยิ่งทนไม่ไหว สุดท้ายก็อย่างที่เห็น

         “แสดงว่านายตกหลุมรักฉันทั้งตัวสินะ”

         “หัวปักหัวปรำเลยล่ะ”

         “ฮ่าๆๆ” เราทั้งคู่หัวเราะให้แก่กัน ผมจนนึกขึ้นมาได้อีกเรื่องหนึ่ง

         “งั้น ถ้าฉันเป็นงู ทำไมฉันถึงกลัวงูล่ะ” ผมค่อนข้างแปลกใจในเรื่องนี้ ตั้งแต่ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นงูเหมือนอาซา เพราะสัตว์ชนิดอื่นที่ผมกลัว ผมก็ไม่เป็นขนาดนี้

         “ฉันเคยโดนงูกัดครั้งหนึ่ง เพราะแบบนี้หรือเปล่าฉันเลยกลัว” ผมเล่าให้อาซาฟัง แต่อาซาทำหน้างงก่อนจะส่ายหน้า

         “ถ้านายโดนกัดจริง นายเป็นงูไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว”

         “งั้นทำไมล่ะ” ผมเซ้าซี้ถามต่อ แต่อาซาก็ไม่ได้ทำท่าทางรำคาญ เขาตอบคำถามผมด้วยท่าทางสบายๆ

         “นายโดนสะกดจิต เมื่อก่อนนายเคยเจอฉันในร่างงู ฉันบาดเจ็บ แล้วนายก็คุยกับฉันได้แถมยังจะเอาไปเลี้ยง แต่พ่อและพี่ชายนายไม่ยอม หนักเข้าก็เลยพานายไปสะกดจิต ฉันไม่รู้อะไรมาก เพราะหลังจากที่ฉันโดนตีจนหลังหักเวสตันก็ลากฉันไปรักษา กลับไปหานายอีกทีนายก็กลัวงูไปแล้ว”

         ผมทำหน้าประหลาดใจเมื่อได้ฟัง พ่อกับพี่ยอร์ชเนี่ยนะ เป็นไปได้ไง

         “นายพูดจริงเหรอ” ผมถามย้ำ ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ แต่ก็รู้ว่าอาซาคงไม่โกหกผม

         “จริง...และคนที่สะกดนายได้ผลดีขนาดนี้ก็มีพวกเดียว...”

         “พวกไหน”

         “ไลแคน แต่เขาตายไปแล้ว ฉันเจอตัวเขาช้าไป”

         “แล้วมันจะส่งผลอะไรไหม” ถึงตอนนี้ผมจะไม่กลัวอาซา แต่ผมก็ยังกลัวงูตัวอื่นอยู่ดี

         “ฉันก็ยังไม่แน่ใจ ต้องรอดูต่อไป แต่ที่แน่ๆ นายจะเป็นงูไม่ได้ เพราะการสะกดจิตสกัดกั้นความสามารถนายเอาไว้เหมือนประตูที่ปิดตาย ต้องแก้ออกถึงจะหาย”

         “เฮ้อ...งั้นก็คงดีมั้ง”

         ผมก็ไม่อยากเป็นงูเท่าไหร่ ผมคงรู้สึกแปลกๆที่ต้องเลื้อยไปมาบนพื้นแทนใช้ขาเดิน หรือการต้องกินอาหารทางปากโดยไร้มือ หรือแม้แต่การอาบน้ำที่ต้องว่ายเอาตัวถูกไถ่กับฟองน้ำแบบอาซา นึกแล้วก็ขำ

         “ขำอะไร เรื่องที่ฉันเล่ามีอะไรน่าขำอย่างนั้นเหรอ” อาซาหรี่ตามองผม ผมไม่ตอบ แค่อมยิ้ม

         “หายเศร้าหรือยัง” ผมถามเขา ปิดหัวข้อทุกการสนทนาเอาไว้เพียงแค่นั้น แค่นี้ก็พอที่จะรับรู้

         “ยังเลย ปลอบหน่อยสิ” อาซาอ้อน! พระเจ้า...เขาช่างน่ารัก

         “ปลอบยังไงล่ะ” ผมถามอย่างเอาใจ เขายิ้มกริ่มก่อนจะลุกขึ้นตวัดตัวผมวางบนโต๊ะกินข้าว มือหนึ่งก็เลื่อนจานส้มออกไปไกลๆ

         “ปลอบฉันหน่อย ฉันอยากอีกแล้ว”

         โอ๊ยยย! สะโพกผมไม่ไหวแล้วนะ

         แต่สุดท้ายผมก็ยอมให้เขาทำตามใจตัวเอง ยอมปลอบให้เขาหายเศร้ากลางบ้านบนโต๊ะอาหาร!

         ในเวลาไม่ถึงสองนาทีเสื้อผ้าที่ผมเพิ่งใส่ก็หลุดออกจากร่างพร้อมทั้งเสื้อผ้าของอาซาที่กองอยู่บนพื้น เวลาเห็นผิวขาวๆกับร่างกายที่แสนจะสมบูรณ์แบบของอาซาทีไร หัวใจก็เต้นผิดจังหวะทุกที

         “ทำให้หน่อย” เขากระซิบบอกผม ผมไม่เข้าใจ เขาเลยเกลี่ยนิ้วบนริมฝีปากของผมช้าๆ หน้าผมก็ร้อนวาบเหมือนถูกไฟลามเลีย แต่ก็ยอมทำให้เขาเพราะเขาเองยังทำให้ผม ถึงจะไม่เป็น ไม่ประสา แต่อาซาก็คอยสอนผม เขาร้องครางเสียงสูงทุกครั้งที่ฟันผมครูดผิวของเขา

         “ดีมาก อย่างนั้น...อืม” เจ้าของเรียวปากหื่นกระหายเอ่ยชม ผมยิ่งได้ใจ พยายามช่วยเขาอย่างสุดความสามารถ ถ้าไม่ติดว่า

         กริ๊งงงงง

         เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมอ้าปากออก สิ่งใหญ่โตเลื่อนหลุด ผมมองไปทางโทรศัพท์ตัวเองที่นอนสั่นอยู่ในกางเกงสลับกับมองหน้าอาซา

         “อย่าไปสนใจเลย” เขาบอก สีหน้าเต็มไปด้วยความต้องการ ผมเลือกตามใจเขา แต่เอาใจเขาได้ไม่เท่าไหร่เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังอีกรอบและอีกรอบ จนผมต้องขอเวลานอก เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดู เบอร์ที่ขึ้นโชว์ทำเอาอารมณ์หวิวลดต่ำจนติดดิน

         “พะ พ่อโทรมา...” ผมบอกอาซา เขามองผมนิ่งก่อนจะถอนลมหายใจแรงๆ ทิ้งตัวนั่งลงกับเก้าอี้ ดึงผมนั่งคร่อมบนตักเขา

         “รับสิ” เขาบอก แต่ก็ซุกหน้าลงที่คอผม ขบเม้มเล่นซนไม่สนใจว่าจะทำให้ผมรู้สึกเสียวซ่านขนาดไหน

         “ฮัลโหล ครับ...พ่อ” ผมกรับสาย พยายามทำเสียงให้เป็นปกติ

         “โยชิ ลูกอยู่ไหน พอมาหาที่หอแต่ไม่เจอ”

         “ห๊า!! พ่อว่าอะไรนะ” ผมร้องเสียงหลง อาซาสะดุ้งตามแต่ก็ไม่เลิกคลอเคลีย

         “พ่ออยู่ที่หอ อยู่ไหนกลับมาด่วนเลย เรามีเรื่องต้องคุยกัน ทำไมเสื้อผ้าข้าวของหนูหายไป หนูไปอยู่ที่ไหนโยชิ!”

         ปิ๊บ!!!

         ผมกดวางสายทันที อาซาเงยหน้าจากซอกคอมองผมงงๆ

         “มีอะไรเหรอ” เขาถาม ผมกลืนน้ำลายลงคอช้าๆก่อนจะบอก

         “พ่อมา”




         ...................................

        อู้ยยยยยยยยยย เด็กไม่ดีโดนพ่อตีก้นแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ :z1: :oo1: :z1:

         ยังไงๆ พี่งูต้องเจอกับพ่อตาโดยไม่ทันตั้งตัว งานนี้เละคะเละ :laugh:

         ฉากมหัศจรรย์ไม่รู้ว่าทำได้ดีหรือเปล่า มีอะไรติชมได้น้า ตอนแรกพี่งูยั้งมืออยู่มากเลยทีเดียว เพราะอยากให้โยชิเริ่มชินก่อน แต่หลังจากนี้ร้อนแรงและดุเดือด ยังไงงูเก็บกดก็ไม่หยุดแค่นี้หรอก แม่พ่อตาจะมา กร๊ากกก :hao6:

         มีคำผิดขออภัย เดี๋ยวแก้ให้นะคะ :L1: :กอด1: :L2: :pig4: :mew1:


         
         
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-07-2014 22:49:54
มาให้กำลังใจก่อนครับ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 14-07-2014 23:02:54
กรี้ดดดดด
พี่งูหื่นจริงนะเนี่ย
แอบทำมิดีมิร้ายกับลูกเขา โดนตีหลังหักแน่
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: crunkii3 ที่ 14-07-2014 23:03:10
อูยยยพี่งู พ่อตามาแล้วทำไงอ่ะคราวนี้ 5555555555
พ่อมาแล้วพี่ชายมาด้วยรึเปล่านะโยชิ

หลงรักพี่งูมากขึ้นอีก 10 เลเวล
เฝ้ามาหลายชาติแล้ว
รักข้ามชาติจริงๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 14-07-2014 23:06:28
ลูกเขยหมาดๆจะโดนพ่อตาทำไรมั้ยนะ 555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: platy ที่ 14-07-2014 23:09:13
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:

ว่าแต่เพิ่งจะได้หวานไปไม่ถึงวัน พ่อตามาเร็วจุง :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: chandeliers.nun ที่ 14-07-2014 23:15:56
คุณพ่อมาทำไมขัดจังหวะ  :hao7:

ค้างแทนอาชา  :haun4:

เราก้อต้องการมากเหมือนอาชานะ เอาอีกๆ  :pighaun:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 14-07-2014 23:21:29
อื้อหืออออออออออ ร้อนแรง    :jul1:  เลือดท่วมกันเลยทีเดียว โยชิก็นะ อาซาให้ทำไรก็ทำหมดอ่ะ แงงงงงงง มีกินไอติมแท่งหญ่ายๆกันกลางบ้านเลยทีเดียว เสียดายที่พ่อโทรมาขัดจังหวะ  กำลังได้ฟีลเลย  :hao7:

มาเจออีกที ลูกโตเป็นสาวพอออกเหย้าออกเรือนได้แล้ว 

อาซาหื่นถูกใจเรามาก  ไม่ผิดหวังจริงๆ โยชิจะไปหาพ่อด้วยสภาพแบบไหน ตัวเหลืองไปเลยไหม  :laugh:

รัก RiRi จัง     :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 14-07-2014 23:24:52
ร้อนแรง  :hao6:

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 14-07-2014 23:27:31
 :haun4: :haun4: :haun4:  เร้าร้อนน
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 14-07-2014 23:51:48
 :jul1: ดีนะที่เราเตรียมเลือดไว้ไม่งั้นหมดตัวแน่
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 15-07-2014 00:05:11
โหหหห คุณพ่อ!!! ขัดจังหวะอ่าาาา พี่อาซา เจอพ่อตาระวังตัวด้วยนะ เดี๋ยวหลังหักอีกรอบ555 :hao6: :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 15-07-2014 00:10:03
ก๊ากกกก!!  มาฮากลิ้งเอาตอนจบ
หื่นได้ไม่ถึง2วันเองอาซา
เอาน่ะ ถ้าหาทางทำลายการสะกดได้ โยชิคงได้อยู่เคียงข้างอาซาไปอีกแสนนานล่ะนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: love AJ ที่ 15-07-2014 00:20:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 15-07-2014 00:26:05
อุ๊ บร๊ะเจ้า!!!!! เชื่อแล้วว่าอาซาเก็บกดจริง คึคึ  :hao7: :oo1:
คุณพ่อมาแล้ว อาซาฝากตัวด่วน เหอๆๆๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 15-07-2014 00:37:10
เขียนผิดหลายจุดเหมือนกันนะคะ

แต่เล่นในโทรศัพท์ บอกลำบาก แฮร่ๆ

ฉากเรียกเลือดมากค่าา อาซาเก็บกดสุดๆ   :pighaun:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 15-07-2014 00:40:16
อาซางานเข้าซะแล้ว พ่อตามาแบบไม่ทันตั้งตัว 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 15-07-2014 02:19:05
 :m20: :oo1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: ninghyuk ที่ 15-07-2014 02:25:59
พ่อต้องรู้อะไรบ้างแน่ๆเลยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 15-07-2014 02:33:43
มันคืออัลไล้คุณพ่อจะมาทำม้ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: ปังอุ่น ที่ 15-07-2014 03:41:17
แอร้ยยนยยยยยย ปี้งู (พี่งู)  :hao7: :hao7:

ฉากมหัศจรรย์คุณริริบรรยายได้ดี
แต่เอาแบบจริงๆนะ เรายังไม่ค่อยเห็นสัญชาตญาณดิบของพี่งูเท่าไหร่
เพราะพี่งูเป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์ เวลามีความต้องการ เราว่ามันน่ารุนแรง ร้อนแรง เร้าอารมณ์มากกว่านี้ <เอ๊ะ ยังไง>

มันยังไม่สุดค่าา คุณริริ
เพราะพี่งูเก็บกดมานาน เพราะฉะนั้นตอนหน้าจัดมาโลดดดด



 :hao7: :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 15-07-2014 04:41:36
 :hao7:  อร๊ายป๋าอาซามิมาแล้ว เอ๊ยๆ  อาซาเฉยๆ  :z1:  ตอนหน้า พ่อตากับลูกเขยจะฉะกันแล้วสินะ  แล้วไหนจะพี่เมียอีก  :laugh:   

พี่งูจะรับมือยังไงนะ   แต่แอบสงสัยว่า แมวของนิกกี้ที่ตอนนี้เป็นของเติร์ดเนี่ย ไม่ใช่แมวธรรมดาใช่มั้ย  เราคิดว่ามันต้อง

เหมือนพี่อาซาแน่ๆเลย พี่อาซาถึงทำเหมือนเขม่นๆ  หรือว่าเราคิดมากไปเองคนเดียวนะ 

ส่วนอิตาเจอร์โรม เนี่ยตอนแรกอยากให้ม่องๆไปเลย  แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วยกให้ดาวเสาร์ทันมั้ยนะ แบบว่า

หัวหน้ากับลูกน้องอ่ะ   :haun4:  คงจะฟินไม่เบา  ตอนนี้อยากจะอ่านตอนของท่านชายคาเตอร์แล้วสิ หื่นไม่บันยะบันยัง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 15-07-2014 04:59:32
พ่อตามา รีบไปฝากเนื้อฝากตัวเข้าล่ะอาซา  :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 15-07-2014 06:29:06
สมัยก่อน ไปคลอเคลียลูกเขายังโดนตีหลังหัก นี่ไปเอาลูกเขาเป็นเมีย ผัดเผ็ดแน่ๆอาซาเอ๊ย 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-07-2014 06:38:35
อ๊ยโหย...พ่อมา กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย โถๆๆๆ แล้วงี้จะกลับไปหาพ่อทันมั้ยอ่า โยชิ นายจะยอกพ่อยังไงเนี่ย...ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 15-07-2014 06:54:21
คุณพ่ออออออออ.......จะมาทำไม :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 15-07-2014 07:11:51
 :pig4: ขอบคุณค่ะริริ สนุกมากเลยจ้า อ่านไปเขินไป
ตอนนี้รอดูพ่อตากับลูกเขยว่าจะเจอกันได้อลังการแค่ไหน 5555+ สู้ๆนะจ๊ะอาซา อิอิ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 15-07-2014 08:43:05
โธ่ คุณพ่อ ขัดจังหวะมากมายอ่ะ (ไม่ค่อยหื่นเลยเรา 55555)

งานเข้าซะแล้ว อาซา สู่ขอเลยอย่าช้า ไหนๆ คุณพ่อก็มาแล้ว อย่าได้รอขอ หนูโย ไปเลยจร้า

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 15-07-2014 08:49:37
เอาแล้ว พ่อมานี่จะเกิดอะไรหริอเปล่า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 15-07-2014 08:57:00
พ่อตามาขัดจังหวะ หนูโยกำลังกินกล้วยจริงๆ :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 15-07-2014 09:35:34
เชื่อแล้วคะว่าพี่งูเป็นพวกเก็บกดจริงๆ แต่นับถือพี่งูที่รักมั่นอยู่กับโยชิอยู่มาเป็นพันปีไม่ยุ่งกับใครที่ไหน พอมายุ่งกับโยชิทีล่อซะนับนิ้วไม่ถ้วนเลย พ่อหนูโยมาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แล้วจะแก้ไขการสกดจิตหนูโยให้แปลงร่างได้ไหมอยากเห็นหนูโยเวอร์ชั่นงูน้อยแสนน่ารัก อยากเห็นหนูโยเป็นงูแล้วอาบน้ำแบบพี่อาซาบ้าง5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: mbpwn_ ที่ 15-07-2014 09:57:40
 :o8: ในที่สุด !!! 
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 15-07-2014 10:28:03
พี่งูอึดไปมั้ยยยยย
สิบนิ้วยังนับไม่พอเนี่ย
ท่าทางจะเก็บกดจริง 555555
ว่าแต่ตอนหน้าเจอพ่อแล้วงานจะเข้ามั้ยเนี่ย
อย่าเลยนะ หวานมั่งเศร้าพอแล้ววว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 15-07-2014 12:19:32
อุต๊ะ!! เลือดพุ่ง  :pighaun:  :pighaun: พี่งูหื่นมากค่า
ระวังสะโพกน้องโยชิจะครากเอานะคะ  :z1:
หนูน้อยโยชิหนีมาอยู่กับสามี
ระวังเจอคุณพ่อตีก้นนะคะ 5555  :mew4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 15-07-2014 12:34:21
 :call: :call: =3= โอม......จงลงตอนต่อไป ตอนต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 15-07-2014 13:30:43
เป็นเอ็นซีที่ละมุนละไมโรแมนติกมากๆ พี่งูใจเย็นนะ ไปหาพ่อตาฝากเนื้อฝากตัวก่อน แล้วค่อยจัดการเด็กต่อ :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 15-07-2014 13:35:24
เขียนได้ดีฮะ ชอบไม่เปิดเผยโจ่งแจ้งเกิน น่าติดตาม 555+
มีพิมพ์ผิดนะฮะ จากเขาเป็นผม เพราะเป็นบทของโยชิบรรยายแต่การกระทำเป็นของอาซา
อ่านแล้วเดาได้ฮะ แต่ถ้าต้องการความถูกต้อง ต้องไล่แก้เอานิดหน่อย
ขอบคุณนะฮะ ที่มาต่ออย่างไวไม่ให้ต้องรอจนเหงือกแห้ง อิอิ
รออ่านต่อตอนอาซาเจอพ่อตานะฮะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 15-07-2014 16:48:12
เขียนได้ดีฮะ ชอบไม่เปิดเผยโจ่งแจ้งเกิน น่าติดตาม 555+
มีพิมพ์ผิดนะฮะ จากเขาเป็นผม เพราะเป็นบทของโยชิบรรยายแต่การกระทำเป็นของอาซา
อ่านแล้วเดาได้ฮะ แต่ถ้าต้องการความถูกต้อง ต้องไล่แก้เอานิดหน่อย
ขอบคุณนะฮะ ที่มาต่ออย่างไวไม่ให้ต้องรอจนเหงือกแห้ง อิอิ
รออ่านต่อตอนอาซาเจอพ่อตานะฮะ

แก้แล้วค่ะ แต่ไม่รู้ถูกจุดหรือเปล่า ตาถั่วขนาดหนัก T^T :katai1:
ขอบคุณที่เตือนนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 15-07-2014 18:15:31
ไล่ตามอ่านรวดเดียวยาวมาจนถึงตรงนี้ เราชอบวิธีการเขียนบรรยายเรื่องนี้ของคุณริรินะคะ
ดูเรื่องนี้จะแหวกแนว ไปจากเรื่องก่อน อาจจะเป็นเพราะเนื้อหาด้วย ทำให้มันดูลึกลับซับซ้อนอยู่ในตัว
ชอบพี่งูมากๆ อะไรจะมั่นคงในรักขนาดนั้น แอบกรี๊ดตอนหนูโยหนีมาอยู่กับสามี โอววว สมใจคนอ่าน
เชื่อว่าคู่นี้ยังต้องผจญรักผจญภัยอีก แต่ต่อจากนี้ขอหวานเยอะๆเลยนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 15-07-2014 18:18:35
สมควรเเล้วที่พี่งูฆ่าพ่อเจอร์โร  :beat:
กริ๊ดเลือดสาด พี่งูอึดจริงอะไรจริง :pighaun: ถ้าหนูโยกลายเป็นงูมันคงเป็นเดือนๆเเบบในอดีต ฮ่าๆ :z1:

พ่อตามาตามเเล้ว จ๋า พี่งูระวังนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 15-07-2014 18:25:51
แอบสงสัยเรื่องพอ่กับพี่ของโยชิจัง ตอนอาซาเล่าอ่ะ
ได้กลิ่นเงื่อนงำอะไรบางอย่าง เช่นเรื่องสะกตจิตให้กลัวงู ปกป้องโยชิจนเกินเหตุ และต่างๆอีกมากมาย
ไม่ใช่ว่าคุณพ่อกะคุณพี่รู้อะไรมาก่อนป่าววววว
กลัวคดีพลิกกลายเป็นฝั่งไม่ดีจัง ภาวนาให้ไม่ใช่ 555555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 15-07-2014 18:45:01
โยชิโดนตีก้นลายแน่ แอบหนีมาอยุ่กะผู้ชายยยยวว  :z1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 15-07-2014 18:54:50
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 :L2: :L2: :L2: :L2:

อาซารักโยชิเยอะ ๆ นะ  กลัวมีดราม่าครอบครัวของอาซาอีก แล้วก็อยากให้โยชิแปลงร่างเป็นงูน่ารักๆด้วย  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: tityjiu ที่ 15-07-2014 19:10:47
ฟินเร่าร้อนฉ่าาาา  ให้ตายยากจะทนไหวน้าา  แบบนี้ :jul1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-07-2014 19:45:15
เดี๋ยวจะมาอ่านจ้า

เป็นตอนที่รอคอย

แต่ไม่กล้าอ่าน

หาโอกาสดี บรรยกาศเหมาะอยู่ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-07-2014 20:17:00
กำลังแซ่บ คุณพ่อตาโทรมาได้จังหวะจริงๆ
พี่อาซาจะช่วยโยชิรับหน้ายังไง
พ่อตาดุด้วย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 15-07-2014 20:18:35
โอ้ยยย ร้อนแรง 55555555
ตายละ พ่อมา -..-
จะทำยังไงกันดีล่ะะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 15-07-2014 20:23:27
 :jul1: :pighaun:...ใครว่าอาซาอึด....ไม่ใช่แน่นอน...
หนูโยชิเราอึดกว่า...แหม!!!!!! เป็นมนุษย์เดินดิน
ยังไม่สามารถเรียกพลังอะไรได้แต่รับซะสิบกว่ารอบนี่นะ...
โอ้แม่เจ้า....... o13 สุดยอดมากหนูโยของแม่...
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 15-07-2014 20:41:08
กรี๊ดดดดด  ตามมาอ่านสองตอนรวดเลยยยยยย   

อาซา น่าร๊ากกกกกอ่ะ    ยิ่งตอนเป็นงู ขู่ ฟ่อๆ ก็น่ารัก 555555

ส่วนตอนล่าสุด

เลือดพุ่ง    งูหื่นเอ้ย!!!    จัดเยอะๆนะ 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 15-07-2014 22:11:36
คุณพ่อมา!!!!!!  เอาไงดีอ่ะน้องโย เปิดตัวคุณสามีเลยดีไหมจ๊ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-07-2014 22:32:10
หนูโยชิเสร็จพี่งูเราแล้ว  ว่าแต่ลูกเขยเจอกะพ่อตาจะเป็นงัยล่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-07-2014 22:50:38
ในที่สุดก็อ่านแล้วอิอิ

หลังจากที่หาโอกาสอยู่นาน อิอิ

ชอบจ้า บรรณยายดี ไม่ติดขัดอะไร

พ่อโยชิ เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ป่าว

มันแปลกๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 15-07-2014 23:09:06
 :o แย่แว้วววว พ่อเมียมา
งานนี้หนูโยจะเลือกใค พ่อ หรือ ผสระอัว หมาดๆ :impress2:
รออ่านตอนหน้านะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 15-07-2014 23:19:17
มาให้กำลังใจริริค่ะ
เราติดตามผลงานของริริมาตลอด เราได้เห็นถึงความพยายามและการเขียนที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
ขอบอกเลยว่าชอบงานที่ริริเขียนมากค่ะ
เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่เราจะขออุดหนุนริริแน่นอน^_^//ขอเป็นกำลังใจและสนับสนุนผลงานดีๆแบบนี้ต่อไปนะคะ ติดตามจ้า: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 15-07-2014 23:34:16
โยชิเหมือนเด็กแอบหนีเที่ยวเลย

พ่อมา!!!

 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: Shadownights ที่ 16-07-2014 00:00:45
พี่งูเก็บกดมานานใช่มั้ย เล่นซะหนูโยชิแทบสลบ คุณพ่อตามาเคลียร์กับว่าที่ลุกเขยด่วนนนนน  :katai3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 16-07-2014 01:33:05
ริริแต่งได้ดีแร้วววว เนื้อหาตื่นเต้นสนุกสนาน น่าติดตาททุกตอนจ้าาาา กอดๆๆๆ ริริรักมากๆ เรย ^^ :กอด1: :กอด1: :L2: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: Viper_Wa ที่ 16-07-2014 11:07:15
โหยคุนพ่อ  :katai1: ลูกชายพ่อกำลังกินไอติมอยู่ ขัดฟิลเรย 555+  :hao7: ตามอ่านมาจนทันหมดละ หนุกมากคับ เปนกำลังใจให้ริริคับ รอติดตามตอนต่อไป :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 16-07-2014 15:06:41
พ่องู เร่าร้อน หวานแหว๋ว(?)  อ๊ายยย  :pighaun:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 16-07-2014 19:29:14
รู้สึกว่าพี่งูของเราจะเก็บกดมานานมากกกก :hao5: :hao5: :ruready
จัดซะ :m25: :jul1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 16-07-2014 19:36:43
วันนี้จะมาป่าวจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-07-2014 23:20:27
มาเป็นกำลังให้คุณริริอัพนิยายบ่อยๆ อัพนิยายทุกวัน ขอให้แต่งนิยายได้ลื่นไหลต่อเนื่อง สู้ๆนะคะมายด์เป็นกำลังใจให้อยู่นะคะ คุณริริอย่าท้อนะคะ มายด์ติดตามทุกเรื่องที่คุณแต่งเลย เริ่มตั้งแต่น้องเค้กเอาะๆ 555555 คุณริริทำได้ดีแล้วค่ะอย่าคิดมากเลยนะคะ ปล.ถึงมายด์จะไม่ค่อยเม้นเป็นตัวอักษรเท่าไหร่ แต่ยังไงก็อยากให้รู้ว่าติดตามอยู่นะคะ จุ๊บๆ รีบๆแต่งภาคสองให้จบน้า คืออยากอ่านเสือกับสิงโตอ่ะบอกตรง เอาจริงๆถึงอาซาจะแสนดี เก่ง เทพ มาดแมน อบอุ่น อ่านกี่ทีก็มดลูกสั่น 555555555 (แอบหื่น) แต่แบบหนูไม่ชอบงูอ่ะทำไมต้องสีดำ แค่คิดภาพก็หยองละเหอะ 55555 ชอบสัตว์หน้าขนอ่ะ ชอบตอนอาซาเป็นคนน่ะมายกด์อ่านละฟินนนน 5555555 ยังไงก็เต็มที่นะคุณริริ ขอบแบบหวานบ่อยๆ หน่วงนิดๆได้ แต่แบบหวานกุ๊กกิ๊กดีนะดีมากชอบบบบบ ไม่เอาแบบหักมุมและดราม่าจนโยชิน่าสงสาร ขอตอนจบแบบแฮปปี้นะคะ และหาคู่ให้สาวจูเลียตกับหนุ่มงูสีเทาด้วยนะ ส่วนเรื่องความคิดเห็นส่วนตัว มายด์ขอแสดงหน่อยเนอะ คือเนื้อหาดีค่ะ ภาษาใช้ได้เลยสวย คำผิดยังมีบ้างแค่เล็กน้อยเท่านั้น อ่านแล้วเข้าใจง่าย แต่ปมปัญหาเยอะเลยเนอะ บางปมเคลียแค่ครึ่งเดียวอันนี้เข้าใจนะ แต่อยากให้มันเคลียไวไวเพราะเดี๋ยวลืมปมเก่าเพราะจำปมใหม่อยู่ 555 แล้วอีกอย่างนายเอกฉลาดนะแต่บางครั้งก็งี่เง่าจนน่าเบื่อ คืออยากให้นายเก่งกว่านี้ มีฝีมือให้การจัดการปัญหาเองพอตัว เพราะอะไรๆมันก็ต้องพระเอกทุกที ขนาดนายเอกยังคิดว่าห่วย
คนอ่านอย่างเราคิดยิ่งกว่า คือจะบอกเลยมายด์ชอบนายเอกแนวน่ารักใสๆบอบบาง น่าถนอมแบบโยชิ น้องเค้ก น้องลีโอ มากๆเลยนะ แต่เรื่องนี้อยากให้นายเอกมีฝีมือสักนิด ตามนั้นค่า THANK YOU.
(นานๆจะเม้นยาวๆ)

 
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 17-07-2014 16:05:26
อูยยยย พ่อนี่ก็นะ ขัดจังหวะเจงงงงง    :hao7:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 17-07-2014 19:25:02
มารออ่าน

หวังว่าวันนี้คงมานะจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ EIGHTEEN❁ 14-07-14 [P.22]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 17-07-2014 22:29:57
 :mew1: ริริสู้ๆ ริริไฟท์ติ้งนะคะ
รอ ร๊อ รอ >||||<
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 17-07-2014 22:50:25
NINETEEN




          ผมอยากจะให้ตัวเองหายตัวได้ หายไปจากตรงนี้ ห้องพักที่เหมือนจะกว้างขวางแต่ตอนนี้แคบลงถนัดตา แคบทั้งในความรู้สึก ทั้งความเงียบที่แสนจะอึดอัด ใบหน้านิ่งเฉยของพ่อและพี่ยอร์ชให้ความรู้สึกเหมือนร่างกายถูกแช่แข็ง สายตาทั้งสองคู่จ้องผมอย่างคาดคั้น ยิ่งทำให้ใบหน้าที่ก้มต่ำอยู่แล้วก้มต่ำลงไปอีก

          ปวดหัวจัง เพราะความเครียดหรือเพราะเรื่องเมื่อคืนกันนะ หรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง ก็อาซาน่ะ...ใช้ร่างกายผมหนักเกินไป ทีแรกก็แค่รู้สึกเจ็บหน่วงที่ช่องทางด้านหลังและรู้สึกเหนื่อยร้า ก็คิดว่ายาของคาร์เตอร์ที่อาซาเอาให้กินกันเจ็บกันไข้จะได้ผลดี ที่ไหนได้ ผมกำลังจะเป็นไข้ ไม่รู้จะโทษยาที่ไม่ดีหรือโทษคนกระทำที่ไม่คิดจะยั้งแรง

          “บอกพ่อมาสิ ว่าของในห้องหายไปไหน แล้วไอ้หนุ่มนั่นเป็นใคร”

          ผมสะดุ้งตกใจที่อยู่ๆพ่อก็พูดขึ้นหลังจากที่เงียบมานาน ผมกำลังคิดหนักว่าควรจะเริ่มพูดยังไงดี เพราะไม่รู้ว่าพ่อรู้เรื่องมากแค่ไหนระหว่างผมกับอาซา แต่คนที่มีความผิดติดตัวแบบผม เวลาโดนถามจี้จุดก็มักจะร้อนรนเป็นธรรมดา และผมกำลังพยายามที่จะไม่ทำตัวเป็นไก่ตื่นให้พ่อจับไต๋ได้ เผื่อว่าความจริงแล้วพ่อกับพี่ยอร์ชจะไม่รู้อะไรเลย

          “คือ...พอดีว่า...”ผมกำลังคิดหาคำแก้ตัวดีๆ แบบดีจริงๆ พ่อกับพี่ยอร์ชเลี้ยงผมมากับมือ ถ้าข้ออ้างไม่เนียนต้องโดนจับได้แน่นอน

          “ว่าอะไร” เสียงพี่ยอร์ชชวนขนหัวลุกมาก แถมยังเดินมานั่งกดดันข้างๆผมอีก แต่สายตาจ้องไปทางอาซาที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าผม เท่ากับว่าตอนนี้อาซายืนอยู่หน้าเราสามคน เขาดูไม่ทุกร้อน ไม่เกรงกลัว แต่สายตาก็อ้อนน้อมอยู่ในที

          พูดอะไรไปอาซาก็ไม่เข้าใจหรอก ถึงเขาจะอยู่เมืองไทยมานาน แต่ผมไม่เคยได้ยินเข้าพูดภาษาไทยสักครั้ง และเขาก็ยังฟังไม่รู้เรื่องอีกด้วย เพราะฉะนั้นผมก็อ้างอะไรกับพ่อก็ได้

          “ห้ามโกหกนะ” พ่อพูดดักทาง ผมเงยหน้ามองพ่อ ถึงได้รู้ว่าตัวเองพลาดเข้าอย่างจัง

          “พ่อ โยขอเข้าห้องน้ำแปบนะ” ผมรีบลุกขึ้นแต่พี่ยอร์ชกดตัวผมเอาไว้

          มะ...ไม่ทันแล้วสินะ

          จะอะไรเสียอีก...ผมลืมไปได้ยังไงว่าอาซาทำรอยไว้เต็มตัวผม เพราะพ่อโทรมาบอกว่ามาหาผม แถมยังเรียกตัวผมกลับหอด่วนเพราะรู้แล้วว่าผมไม่ได้นอนที่ห้อง ผมก็เลยไม่ทันคิดอะไร แต่งตัวได้ก็รีบออกมา โดยมีอาซาที่คอยพยุงผมที่แข้งขาไร้เรี่ยวแรง

          และผมก็โง่จริงๆ ที่คิดว่าจะโกหกคนที่ผ่านโลกมาก่อนอย่างพ่อและพี่ยอร์ชได้ มีหรือว่าทั้งสองคนจะไม่รู้ว่าสภาพผมในตอนนี้เพิ่งจะผ่านอะไรมา

          ผมมองพ่อทีมองพี่ยอร์ชทีก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ผมสบตาพ่อด้วยความเสียใจปนขอร้อง

          “พ่อครับ โยขอโทษ พี่ยอร์ช โยขอโทษนะครับ ผมกับอาซา...เราคบกันอยู่”

          ผมก้มหน้ามองมือตัวเอง ไม่กล้าที่จะมองหน้าพ่อกับพี่ยอร์ช กลัวเห็นความผิดหวังอยู่ในดวงตาทั้งสองคู่นั้น ดวงตาที่คอยมองผมด้วยความชื่นชมรักใครและเอ็นดูในฐานะลูกรักและน้องชายมาโดยตลอด ผมคงรู้สึกแย่ถ้าหากว่าความรักที่พ่อและพี่ยอร์ชมีให้ผมจะเปลี่ยนไป

          “เรา...คบกันได้สักพักหนึ่งแล้ว...ข้าวของที่หายก็อยู่ที่บ้านพี่เขา”

          พูดแล้วก็กระดากอายเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองทำ แม้ว่าเบื้องหลังจะมีอะไรมากกว่าการหนีตามกันไปหรือลักลอบดูใจโดยไม่ให้ผู้ใหญ่รับรู้ แต่ทว่า ผมพูดออกไปไม่ได้ว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้ผมต้องย้ายไปอยู่กับอาซา ตอนนี้ผมจึงกลายเป็นเด็กชายอายุสิบแปดปีที่แอบไปอยู่กินกับผู้ชาย หนำซ้ำยังทำเรื่องไม่งามในคืนก่อนพ่อและพี่ยอร์ชจะมาหา ในสายตาของพ่อและพี่ยอร์ชผมในตอนนี้คงเป็นลูกชายและน้องชายที่ไม่ได้เรื่อง เป็นเด็กใจแตกไม่ได้ความ

          พ่อเงียบ พี่ยอร์ชก็เงียบ ยิ่งตอกย้ำความผิดที่ตัวเองได้กระทำ แม้ว่าอีกใจหนึ่งจะแย้งว่ามันก็ไม่ได้ผิดอะไรนักหนา แค่ผมมีแฟน และเรารักกัน แต่ก็เท่านั้น ความคิดของเด็กกับความคิดของผู้ใหญ่ก็ต่างกันวันยังค่ำ

          “ของยังอยู่ที่นู่นใช่ไหม” พ่อพูดหลังจากที่เงียบไปนาน ผมพยักหน้าและตอบสั้นๆ

          “ครับ”

          “อืม ยอร์ชไปกับเจ้าหนุ่มนั่น เอาของกลับมาให้น้อง”

          ผมมองพ่ออึ้งๆ

          “ครับพ่อ นายชื่ออาซาใช่ไหม พาฉันไปบ้านนาย”

          พี่ยอร์ชดูไม่ใจดีเหมือนเดิม ทั้งแววตานิ่งขรึมและน้ำเสียงเย็นชา เหมือนคนละคน ผมมองอาซาด้วยความเป็นห่วง ก็พี่ยอร์ชนะถึงจะพูดกับผมเหมือนคนปกติทั่วไป แต่คนในไร่และคนที่รู้จักก็มักพูดกันว่าพี่ยอร์ชเป็นพวกเย็นนอกร้อนใน เป็นพวกพูดน้อยต่อยหนัก ผมก็กลัวว่าทั้งสองคนจะไปมีเรื่องกันระหว่างทาง

          อาซาทำหน้าประหลาดใจเมื่อพี่ยอร์ชเดินไปใกล้แล้วพูดอะไรบางอย่าง เขามองสบตาผมด้วยแววตาเรียบเฉยก่อนจะเดินนำพี่ยอร์ชออกไปจากห้อง

          “ลูกจะต้องอยู่ที่นี่โยชิ พ่อไม่อนุญาตให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น”

          คิดไว้แล้วว่าต้องถูกห้ามแบบนี้ ผมจึงไม่แปลกใจ แต่ก็รู้สึกเสียใจและเสียดาย ผมอาจไม่เข้าใจความรู้สึกของพ่อ แต่ผมรู้ว่าพ่อทำแบบนี้เพราะอะไร พ่อและพี่ยอร์ชเป็นห่วงผมมาก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเสียใจเมื่อคิดว่าพ่อกับพี่ยอร์ชเกิดความไม่ไว้ใจในตัวผม

          “พ่อจะไม่ห้ามโยใช่ไหม ถ้าโยจะขอคบกับอาซา” ผมถาม คราวนี้มองหน้าพ่อ แต่พ่อก็ยังเงียบ

          “โย...ลูกแน่ใจได้ยังว่ามันคือความรักอย่างที่ลูกว่า” พ่อทำหน้าเครียด ผมเม้มปากแน่น ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงถามแบบนี้

          “โยอาจจะเด็กในสายตาพ่อกับพี่ยอร์ช แต่โยเชื่อว่ามันคือความรัก โยอายุสิบแปดแล้ว ไม่ได้เด็กถึงขนาดจะโง่ว่าเรารุ้สึกชอบใคร ใครที่ทำให้เรารู้สึกดีจนอยากจะอยู่ใกล้ๆ โยโตพอที่จะรู้ว่าความรักคืออะไร ถึงแม้คนที่ๆนั้นจะเป็นผู้ชาย พ่ออาจจะไม่พอใจตรงนี้...”

          “เปล่า พ่อไม่ได้คิดแบบนั้น” พ่อขัดขึ้น ผมหยุดพูดทันที แววตาของพ่อสั่นไหว ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆผมก่อนจะพูดต่อ

          “เรื่องเพศไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพ่อ ตั้งแต่โตมาลูกไม่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงสักคน พ่อกับยอร์ชทำใจแล้ว ต่อให้ลูกคบหรือรักผู้ชายด้วยกัน พ่อก็ไม่ได้จะกีดกันอะไร เพียงแต่ ลูกเพิ่งเจอกับอาซากี่เดือนกันเชียว แต่นี่...ลูกกลับ...”

          พ่อไม่พูดต่อ แต่ผมรู้ว่าพ่อหมายถึงอะไร ก็ได้แต่ยอมรับ ก้มหน้ารับผิด เพราะพ่อไม่รู้ในสิ่งที่ผมรู้ ก็ไม่แปลกที่จะรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับอาซามันเร็วเกินไป

          ผมกระถดตัวลงจากโซฟาเล็ก ก้มกราบที่ตักของพ่อ น้ำตาไหลช้าๆหยดกระทบลงบนตักของผู้มีพระคุณ ตั้งแต่เล็กจนโตพ่อเลี้ยงดูผมอย่างดี ตามใจผมเกือบทุกอย่าง เลี้ยงดูเยี่ยงไข่ในหิน เมื่อผมบอกว่าจะมาเรียนที่นี้ พ่อและพี่ยอร์ชก็เครียดกันอยู่หลายวัน กลัวสารพัดว่าผมจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงคนเดียว เป็นห่วงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ

          “โยขอโทษ...โยรู้แล้วว่าโยทำผิด พ่ออย่าโกรธ อย่าเกลียดโยเลยนะ”

          “พ่อไม่เคยโกรธหรือเกลียดลูก และไม่มีวันเกลียดลูกชายที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ พ่อแค่ไม่อยากให้ลูกผิดหวังถ้าหากว่าผู้ชายคนนั้นจะหลอกลูก แล้วก็ทิ้งลูกไป ลูกให้ทุกอย่างไปกับเขาแล้วนะโย ลูกรู้ได้ยังไงว่าเขาจะไม่ทิ้ง ไม่ทำร้ายให้ลูกพ่อต้องเสียใจ”

          ผมเงยหน้าขึ้นจากตักกว้าง กอดเอวพ่อเอาไว้แน่น ซุกหน้าลงกับกล้ามท้องแข็งๆที่ผมหนุนนอนมาตั้งแต่เด็ก

          “โยเชื่อว่าอาซาจะไม่ทำให้โยเสียใจ ให้เราคบกันนะพ่อ โยจะไม่ทำตัวไม่ดีอีก”

          ผมเลือกที่จะไม่สัญญา เพราะถ้าทำไม่ได้ขึ้นมาผมคงกลายเป็นลูกชั่ว และผมไม่คิดว่าอาซาจะทนได้ ถ้าผมไม่ให้กอด

          “เขาดีกับลูกใช่ไหม” พ่อถาม ผมพยักหน้าทันทีแบบไม่ต้องคิดเยอะ

          “ดีมาก อาซาดูแลและใส่ใจผมทุกอย่าง ดูแลดียิ่งกว่าผมดูแลตัวเองเสียอีก” ผมปาดน้ำตาทิ้ง ยิ้มกว้างให้ผมเมื่อมองเห็นความหวัง

          “ถ้าลูกมั่นใจพ่อก็จะเชื่อ แต่ถ้าเมื่อไหร่เขาไม่ดีกับลูก เขาทำให้ลูกเสียใจ สัญญาได้ไหมว่าจะบอกพ่อกับพี่ยอร์ช ห้ามเก็บไว้คนเดียว ห้ามทุกข์แค่คนเดียว”

          “ครับ โยสัญญา”

          แต่ผมคิดว่าคงไม่มีวันนั้น อนาคตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ แต่ผมเชื่อมั่นในตัวอาซา ว่าเขาจะรักผมเรื่อยไป

          เหลือบมองดูประตู อาซากับพี่ยอร์ชยังไม่กลับมา ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง สองคนนั้นจะคุยอะไรกันไหม แต่จะพูดคุยกันเรื่องอะไรก็ช่าง แค่ไม่ต่อยตีกันก็พอ

          “พ่อจะให้เราคบกับเจ้าหนุ่มนั่นต่อก็ได้ แต่...”

          ผมกำลังจะดีใจก็มาหยุดเอาในตอนหลัง

          “แต่อะไรอ่าพ่อ” ผมอ้อน พ่อเบะหน้าใส่ผม

          “โยต้องอยู่ที่หอ ห้ามไปอยู่กับเจ้าหนุ่มนั่น”

          “เขาชื่ออาซา”

          พ่อเรียกอาซาว่าเจ้าหนุ่มนั่นตั้งแต่เมื่อตะกี้นี้แล้ว

          “นั่นแหละ ห้ามเด็ดขาด พ่อจะโทรมาเช็คกับผู้ดูแลหอ ถ้าเขาบอกว่าลูกไม่อยู่หอละก็ เจอดีแน่”

          งานนี้พ่อผมคงเอาจริง ผมน่ะไม่เท่าไหร่หรอก อาจจะคิดถึงมาก แต่อยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน เดี๋ยวก็ต้องได้เจอกัน ถึงแม้ลึกๆผมอยากจะนอนอยู่ในอ้อมกอดของอาซาก็เถอะ

          แต่สำหรับอาซา ไม่รู้เขาจะว่ายังไงบ้างถ้ารู้เรื่องที่ผมต้องกลับมาอยู่หอพักกับดาวเสาร์

          “ได้ครับ” ผมยิ้มเผล่

          “อีกอย่าง พ่อไม่อยากจะห้ามลูกเรื่องเพศสัมพันธ์หรอกนะ แต่ก็อย่าให้มันโจ่งแจ้งมากนัก” พ่อแตะนิ้วที่คอผม ผมสะดุ้งเจ็บตรงรอยฟันที่อาซาขบกัดไว้เมื่อคืน

          “ครับ” คราวนี้ผมรับเสียงแผ่ว

          “แล้วก็ป้องกันด้วย อย่าเสี่ยงกับโรค เข้าใจไหม”

          “ครับ”

          ไว้ผมจะบอกอาซาแล้วกัน ไม่รู้ว่าจะยอมไหม แต่ผมมั่นใจนะว่าอาซาไม่น่ามีโรคร้ายหรอก ถ้ามีคงไม่อยู่มาจนทุกข์วันนี้หรอก หึหึ ก็อาซาเป็นพ่องูจำศีลมาตั้งนานจนกระทั่งเมื่อคืน

          อ่า คิดแล้วก็หน้าร้อนฉ่า รู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว ผมไม่ได้มีความต้องอาการแปลกๆพวกนั้น แต่ผมคิดว่าผมคงเป็นไข้เข้าให้แล้ว แอร์ที่เปิดไว้และไม่มีใครเร่งเพิ่มก็หนาวจนเริ่มสั่น

          “หน้าดูเพลียๆ ไหวไหมลูก ดูเหมือนไข้จะขึ้นนะ” พ่อถาม อังมือที่หน้าผากผมก่อนจะทำหน้าหนักใจ

          ช่วงที่อาซากับพี่ยอร์ชยังไม่กลับมา พ่อให้ผมนอนแล้วก็เช็ดตัวให้ผม ก่อนจะหายาที่ผมเองยังไม่รู้ว่ามีอยู่ในห้องเอามาให้ผมกิน คงเพราะพ่อเป็นคนจัดข้าวของที่จำเป็นบางอย่างให้ผมก่อนที่จะมาอยู่ และก็คงเป็นพ่ออีกนั่นแหละที่ยัดยาลงในกล่องเก็บของใบเล็กที่ผมเอาติดตัวมาด้วย

          ผมนอนคุยกับพ่อ เราเรื่องอาซาให้พ่อฟังคร่าวๆ โดยตัดบางเรื่องที่ไม่ธรรมดาออก รวมถึงเรื่องที่ผมตามอาซาไปที่ผับด้วย ผมเว้นเรื่องนั้นไว้ ไม่อยากเสี่ยงกับการถูกพ่อตี ผมบอกแค่ว่าอาซาช่วยผมทำรายงาน พาผมไปเลี้ยงข้าว ช่วยผมจากคนบ้า ในความคิดผมหมายถึงเจอร์โรม แต่ไม่ได้บอกหรอกเพราะพ่อไม่รู้จักคนแบบนั้น และเรื่องที่อาซาพาผมไปโรงพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บเพราะแก้วตำเท้า อาซาเป็นคนดี ผมอยากให้พ่อรักอาซาเหมือนที่รักผม

          ผมเกือบจะหลับถ้าพี่ยอร์ชไม่เปิดประตูเข้ามาในห้องนอนเสียก่อน พี่ยอร์ชดูหงุดหงิดแล้วก็หัวเสีย วางกระเป๋าที่บรรจุข้าวของของผมไว้ที่ปลายเตียง ก่อนจะเรียกพ่อออกไปคุยนอกห้องระเบียง ผมมองไปที่ประตู หวังให้อาซาเดินตามหลังพี่ยอร์ชเข้ามา แต่ไร้วี่แวว ผมไม่แน่ใจว่าเขาไม่ได้มาด้วย หรือนั่งรออยู่ที่ด้านนอก

          ประตูห้องนอนเปิดค้างเอาไว้ ผมชะเง้อมองเพราะเตียงผมอยู่เฉียงกับประตูห้องนอนนิดเดียว มองออกไปก็จะเห็นส่วนของห้องนั่งเล่นที่ผมไม่ได้ค่อยได้พอดี แต่อาซาไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างที่คาดหวังไว้

          อาซาจะว่ายังไงบ้างที่ผมต้องกลับมาอยู่ห้องเดียวกับดาวเสาร์ จะว่าไป วันนี้ดาวเสาร์ก็ไม่อยู่ห้อง ทีแรกผมก็ไม่ทันคิด เพราะปกติดาวเสาร์ก็ไม่ค่อยอยู่ห้องอยู่แล้ว หรือถ้าอยู่ก็จะอยู่ในห้องนอน ซึ่งก็เหมือนกับผม ถ้ากลับมาถึงห้องก็พุ่งเข้าห้องนอนเป็นอย่างแรก ส่วนข้างนอกก็ดูจะไม่สำคัญ เพราะในห้องนอนก็มีครบทุกอย่าง โต๊ะเขียนหนังสือก็อยู่ในนี้ แถมมีทีวีอีก บางทีแอชยูก็สิ้นเปลืองงบประมาณในการสร้างหอพักเกินจำเป็น

          แอ๊ด~

          “พี่ยอร์ช อาซาล่ะ” ผมถาม พี่ยอร์ชหน้าตึงทันตา เดินอาดๆมานั่งที่เตียงด้านข้าง

          “ถามหาแต่มัน คงไม่คิดถึงพี่เลยใช่ไหม โทรหาก็ไม่ค่อยรับ รอน้องโทรไปหาก็ได้แต่รอเก้อ ที่ไหนได้ มาติดหนุ่มอยู่กรุงเทพ ไม่สนใจพี่เลยสินะ” เสียงดุๆที่เต็มไปด้วยความน้อยใจพรั่งพรูใส่หน้าผมคำรบใหญ่

          “เปล่าน้า โยชิคิดถึงพี่ยอร์ชจะตายไป ขอโทษนะครับ โยเป็นเด็กไม่ดีเลย” ผมอยากจะลุกไปกอดพี่ยอร์ช แต่ลุกไม่ไหว หัวก็ปวดตุบๆเหมือนเสียงตีกลอง

          “เชื่อได้เหรอ” พี่ยอร์ชขมวดคิ้ว ผมรีบยิ้มเอาใจ

          “เชื่อได้สิครับ ต่อไปนี้โยชิจะโทรหาพี่ยอร์ชทุกวันเลยดีไหม”

          “ถ้าทำไม่ได้ล่ะหน้าดู”

          พี่ยอร์ชโนมตัวลงมากอดผม ผมลับตาลงช้าๆ ซึบซับไออุ่นจากพี่ยอร์ช พี่ชายที่แสนดีของผม

          “แล้วอาซาล่ะหะ”

          ผมไม่ได้อยากจะทำให้พี่ยอร์ชรู้สึกแย่ แต่ผมแค่อยากรู้ว่าอาซาหายไปไหนเฉยๆ เขาน่าจะกลับมาด้วยไม่ใช่เหรอ

          “พี่ให้มันกลับไปแล้ว แล้วไม่ต้องพูดถึงมัน พี่ยังไม่อยากได้ยิน” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยความเกรี้ยวกราด ผิดจากเมื่อตะกี้ลิบลับ

          “พี่ยอร์ชอ่า พี่ยอร์ชไม่ชอบอาซาเหรอ เขาเป็นคนดีนะ” ผมพึมพำประท้วง แต่ก็เลิกพูดถึงอาซา พี่ยอร์ชไม่พูดอะไร แต่ผมคิดว่าพ่อคงบอกพี่ยอร์ชหมดแล้ว เพราะไม่มีคำถามและคำต่อว่าจากคนตัวโตที่เอนตัวนอนลูบผมกล่อมให้ผมหลับ

          “พี่รักโยชินะ มีอะไรต้องบอกพี่รู้ไหม ถ้าเห็นว่าเราเป็นพี่ชายน้องชายกัน” พี่ยอร์ชกระซิบเบาๆ ผมกำลังเคลิ้มหลับก็เลยทำเพียงพยักหน้า

          พ่อและพี่ยอร์ชอยู่เฝ้าจนกระทั่งผมตื่นมาอีกทีก็ตอนเย็น อาการไม่ดีขึ้น แต่ที่ไร่มีปัญหา พ่อกับพี่ยอร์ชเลยต้องรีบกลับ เพราะที่ไร่ไม่มีคนดูแล ก่อนกลับก็กำชับผมอีกหลายอย่าง ฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง แต่เรื่องเดียวที่ผมฟังทันก็คือพ่อและพี่ยอร์ชบอกว่ารักผม

          อะไรจะดีไปกว่าการที่คนในครอบครัวเขาใจเรา

          ซี่!

          “อ๊ะ อาซา!!!” ผมอุทานลั่นห้อง นั่งคิดเรื่องพ่อกับพี่ยอร์ชเพลินๆก็มีตัวอะไรไม่รู้ไต่ขา ตวัดผ้าห่มออกดูก็เจองูตัวสีดำที่คุ้นเคยเลื้อยเข้ามาหาผม

          “กลับเป็นคนสิ ทำไมมาในร่างงูล่ะ” ผมถาม อาซาผงกหัวที่แนบอยู่กับขาผมขึ้น เขาแลบลิ้นลองทีก่อนจะเลื้อยขึ้นมาบนหน้าอกผม ก่อนจะรู้สึกหนักไปทั้งตัวเหมือนถูกก้อนหินทับ เพราะอาซากลับไปเป็นคนกะทันหัน

          “ก็พี่นายไม่ให้ฉันเข้ามา ล็อคห้องแน่นหนา ฉันก็เลยต้องมาวิธีนี้”

          “พยายามจังเลยนะ” ผมประชด เขาทำหน้านิ่งจนกระทั่งผมบ่นว่าจุกถึงได้ลงจากตัวผม

          “พ่อบอกว่าให้ฉันกลับมานอนหอ” ผมเล่าเรื่องที่คุยกับพ่อให้ฟัง อาซาที่นอนข้างๆฟังเงียบ ผมรอให้เขาพูดอะไรสักอย่าง แต่เขาก็ไม่ได้พูด ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะเอายังไง เพราะการที่อาซาไม่พูด อาจหมายความว่าเขารับรู้แต่ไม่ทำตาม กับรับรู้และยอมทำตามแต่โดยดี ซึ่งผมเดาใจเขาไม่ถูก

          “นี่ ได้คุยอะไรกับพี่ยอร์ชหรือเปล่า” ผมพลิกตัวกอดอาซา กลิ่นเย็นๆจากไอดินและกลิ่นหญ้าที่ตัวอาซาหอมโล่งจมูก

          “เปล่านี่ ไม่สบายเหรอ” เขาถาม เลี่ยงไม่ตอบคำถาม ผมก็เลยไม่ถามต่อ

          “อืม เพราะใครก็ไม่รู้”

          มาป่วยเอาแบบนี้ก็แย่เลย วันนี้ก็ขาดเรียน พรุ่งนี้จะหายทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขาดเรียนมากๆเขาผมคงหมดสิทธิ์สอบ หายไม่หายพรุ่งนี้ก็ต้องไปโรงเรียนให้ได้

          “แย่จังเลยนะ” อาซาบ่นพึมพำ

          “นั่นสิ” ผมเห็นด้วย

          “นายก็คิดเหมือนฉันเหรอ” อาซาทำหน้าสงสัย ผมงงไม่รู้เขาพูดถึงเรื่องอะไร

          “เหมือนยังไง”

          “ก็...”

          ผมลุ้นรอฟัง อาซาทิ้งตัวนอนลงข้างๆผมพร้อมกับตวัดตัวผมนอนทับบนตัวเขา ผมดิ้นไม่อยากนอนแบบนั้น ปวดตัวขนาดนี้ก็อยากนอนสบายๆ แต่ดิ้นไปก็เสียแรงเปล่า อาซากอดรัดผมแน่น

          “นายป่วยฉันก็แย่นะสิ เพราะฉันยังอยากรักนายอยู่เลย”

          “หะ ห๊า?”

          ผมจ้องเข้าไปในดวงตาของอาซาเพื่อค้นหาว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น ก็ได้คำตอบว่าเขาพูดจริง และเขากำลังจะทำจริงๆ โดยการเลื่อนมือที่โอบเอวผมลงไปที่สะโพก ขยุ้มก้นผมเบาๆ แรงสั่นสะเทือนทำให้เจ็บจี๊ด ผมครางเจ็บ แต่อาซามองว่ามันเป็นการกระตุ้นเรา พอจะห้ามเขาก็ปิดปากผมเสียสนิท

          “ฉันยังไม่เต็มอิ่มเลย” เขาพูดตอนที่เว้นช่วงให้ผมหายใจ

          “เอ่อะ...แต่ว่าฉันไม่ไหวแล้วนะ แล้วฉันก็เป็นไข้ต่อด้วย” ผมทำหน้าให้น่าสงสาร แต่อาซาที่หื่นขึ้นตาก็ไม่ได้สนใจ มือไม้กวัดไกว้ไม่หยุด

          “ไม่เป็นไร ฉันจะดูแลนายเอง”

          “ฉันขอพักก่อนไม่ได้เหรอ ไม่ไหวอ่ะ”

          “นายไม่รู้หรอก ฉันไม่ได้มีเรื่องพรรค์นี้มานาน พอเครื่องติด มันก็หยุดไม่ได้แล้ว”

          ผมหันหน้าหนีสายตาเร้าร้อน ของแข็งดุนนูนอยู่ไม่ไกลกลับของสำคัญของผม หัวผมหมุนติวกับคำพูดและลมหายใจร้อยๆที่ผสมกับพิษไข้ และอาซาก็เจ้าเล่ห์นักที่ใช้การเคลื่อนไหวเข้าหลอกล่อให้ผมติดกับ ทั้งมือที่บีบเค้นสะโพกผม หรือการขยับเอวให้ส่วนหน้าของเราเสียดสีกัน

          เขามันร้าย!

          “นะ...วันนี้ขออีกสักยกสองยก ไม่ให้เลยฉันทนไม่ไหว” ริมฝีปากของเขาแย้มเหมือนพยายามกลั้นยิ้ม ผมคาดโทษอาซาเอาไว้ในใจ

          “ถ้าพรุ่งนี้ฉันไม่หายไข้แล้วไปเรียนไม่ได้ อดไปเลยเดือนหนึ่ง!”

          ผลสรุปออกมาว่า ผมเป็นไข้หนักกว่าเก่า เดือดร้อนให้คาร์เตอร์ตามมาฉีดยาผมถึงหอพัก ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอาซาเรียกใช้แต่คาร์เตอร์ เพราะคาร์เตอร์เองก็หงุดหงิดทุกครั้งที่โดนเรียก ผมนอนซมพิษไข้อยู่ที่ห้องคนเดียว ส่วนอาซาไปนั่งเรียนแทนผม เมื่อเช้าไอ้เติร์ดโทรมาถามใหญ่ว่าทำไมผมไม่มา แล้วทำไมอาซาไปนั่งเรียนแทนผม ผมตอบแค่ว่าไม่สบายแล้วก็ตัดสายไป ไม่ใช่อะไร ผมแค่เขินเท่านั้น

          เมื่อเช้าผมโทรหาพ่อกับพี่ยอร์ชทันทีที่ตื่น พอรู้ว่าผมยังไม่หายไข้ก็ทำท่าจะมาหา แต่ก็ติดงานมาไม่ได้ ผมไม่ได้บอกพ่อหรอกว่าอาซาไม่ยอมทำตามที่พ่อบอก เขาไม่ยอมใส่ถุงยาง แล้วผมจะไปทำอะไรได้ เลยปล่อยตามเลย ผมคุยกับพ่อหลายเรื่อง แต่มีเรื่องหนึ่งผมไม่ได้คุย เรื่องในวัยเด็กของผม เรื่องที่พ่อพาผมไปสะกดจิต เพียงแค่คิดว่าการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด จะทำให้ผมและพ่อเกิดความเคลือบแคลงใจต่อกัน ผมก็ไม่อยากจะถามอีกต่อไป ผมเลยบอกตัวเองว่า ไว้ค่อยถามคราวหลัง เพราะผมเพิ่งทำให้พ่อผิดหวังไปหยกๆ ก็ไม่อยากให้มีเรื่องมาทำให้เราสามคนพ่อลูกต้องทะเลาะกันซ้ำอีก

          มันก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร ยังไม่ต้องรู้ก็ได้ ผ่านมาตั้งกี่ปีผมยังอยู่มาได้ ไม่รู้ก็คงไม่ตาย

          แต่ผมไม่อาจรู้เลยว่า ปัญหามันจะตามมาในภายหลัง


         

          .........................................

          ตอนนี้เบาๆ ไม่มีอะไรตื่นเต้นเร้าใจ เป็นบทพักเบรก แต่ก็มีความสำคัญ ตอนหน้าเป็นตอนจบของภาคนี้แล้วนะคะ

          มีคนสงสัยว่าภาคต่อไปเป็นเรื่องของใคร ภาคนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องของอาซาและโยชิ อะไรหลายๆอย่างยังไม่ได้เฉลย เรื่องราวก็ยังต้องดำเนินต่อไป ส่วนพี่คาร์เตอร์...เรื่องของเขาจะแยก อยู่ในขั้นตอนการวางโครงเรื่อง ซึ่งยังไม่สมบูรณ์ ช่วงนี้ยุ่งกับการสอนพิเศษและแต่งตอนพิเศษเรื่องเสแสร้งแกล้งรัก เลยไม่มีเวลาจับเรื่องนี้จริงจังเหมือนก่อนหน้านี้ แต่หลังจากจัดพิมพ์นิยายเสร็จแล้วก็จะแต่งภาคสองและเรื่องของคาร์เตอร์จริงจัง ไม่ต้องห่วงนะคะ ถึงจะแยกเรื่อง แต่ตัวละครก็จะมีหน้าเดิมๆเวียนซ้ำมา โดยเฉพาะอาซาและโยชิ มีโผล่ไปในเรื่องของคาร์เตอร์แน่ แต่มากหรือน้อยไม่บอก  :hao6:

          ขอบคุณทุกกำลังใจทุกคอมเม้นนะคะ รักทุกคน จุ๊บ~ :mew1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 17-07-2014 22:52:24
มาให้กำลังใจก่อนจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-07-2014 23:07:38
อาซางูหื่น ให้โยชิพักบ้าง
เครื่องฟิตจริงๆพ่อคุณ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 17-07-2014 23:07:55
 :hao6: พี่งูสุดหื่น จุ๊ฟๆ  :mew1: แวะมาให้กำลังใจ ริริ จ๊า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 17-07-2014 23:12:01
คุณพ่อใจร้ายยยยยยยยยย  ทำไมไปแยกห้องนอนน้องอย่างนั้น

แต่พี่งูก็อุตส่าเนอะ 555555

เป็นกำลังใจให้ค่า
 
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 17-07-2014 23:15:16
พี่งูหื่น   :hao6:   น้องโยก็ตามใจพี่เค้าตลอดดดดดด 

ดูเหมือนคาร์เตอร์จะแย่งซีน แม้จะโผล่มาแค่ชื่อ คือเอาความสนใจของเราไปจนหมด  :laugh:  อยากรู้จริงๆ คู่ของคาร์เตอร์เป็นคนแบบไหน  ถึงจะทนคนหื่นมากมายแบบนั้นได้   :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 17-07-2014 23:19:51
งูหื่นจร ิงๆ
อยากอ่านเรื่องคาร์เตอร์แล้วววววว ชอบพี่เสือ จะคู่กับใครนาาาา สิงโตละอิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 17-07-2014 23:35:47
พี่งูเก็บกดมาหลายชาติ :เฮ้อ:
โยชิ......คาดว่ากระทิงแดงก็คงช่วยอะไรไม่ได้ พักผ่อนเผื่อพรุ่งนี้โดนงาบอีกรอบดีกว่าค่ะ... :laugh:
รอตอนต่อไปน้าาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: Shadownights ที่ 17-07-2014 23:43:20
ิอาซาหื่นกับโยชิตลอด แล้วเมื่อไรจะหายป่วยล่ะนั่น ดีนะที่พ่อกับพี่ทำใจแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 17-07-2014 23:50:53
มาเบาๆ น่ารักเชึยว หลังจากเป็นงูจำศีลมานานมากกกก พอระเบิดมันเลยฉุดไม่อยุ่ซินะ 55555
หนูโยชิของเราคงลุกไม่ไหวไปอีกหลายวัน น่าสงสาร พี่งูเพลาๆหน่อยนะ
ตอนหน้าก็จะจบภาคซะละ แต่ไหงตอนท้ายเหมือนจะมีปมเพิ่มขึ้นมาอีกละ
รออ่านตอนจบจ้าาาา สู้ๆน้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 17-07-2014 23:51:26
ก็ยังสงสัยเหมือนเดิมว่าพี่ยอร์ชกับพ่อเป็นคนรึเปล่า   แล้วเป็นพ่อกับพี่แท้ๆไหม
แต่วาา  o22  ตอนหน้าจบภาคโยชิกับอาซาแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-07-2014 00:05:17
สงสัยๆ พ่อกับพี่ชายโยชิรู้เรื่องโยชิใช่มั้ย
รู้ว่าโยชิเป็นงูชัวเลย แล้วทำไมแม่โยชิถึงตายละ สงสัยๆ
ยังสงสัยในอีกหลายๆเรื่องเลยละ รอความชัดเจน 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 18-07-2014 00:07:57
ยังคาใจคุณพ่อกับพี่ยอร์ชแฮะ

แอบมีความลับอะไรกับหนูโยชิรึเปล่า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 18-07-2014 00:13:04
อาซาน่ารักอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 18-07-2014 00:30:08
โล่ง!!! นึกว่าจะได้กินมาม่าซะแล้ว
อาซานี่โดนนิดโดนหน่อยนี่ขึ้นตล๊อดดดดดด
ให้นุ้งโยชิพักหน่อยก้อดีนะ ก้อรู้นะว่าอดมานาน ฮ่าๆๆๆ
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 18-07-2014 00:34:04
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:หื่นได้อีกนะอาซา :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 18-07-2014 01:34:20
 :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 18-07-2014 01:35:10
ให้น้องโยได้พักบ้างก็ดีเหมือนกัน ไม่อย่างงั้นจะแย่เอานะจ๊ะ ^^ :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 18-07-2014 03:06:19
นี่ขนาดโยป่วยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 18-07-2014 05:21:05
 :-[ อาซา จัดหนัก T^T
ขอบคุณนะคะริริ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-07-2014 06:14:14
พ่อและยอร์ช ดูเกลียดอาซาจัง อย่างนี้อาซาจะพิชิตใจพ่อและพี่ชายโยได้มั้ยเนี่ยยยย รออ่านนะค้าา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 18-07-2014 06:28:22
อาซางูหื่น นี่โยชิป่วยอยู่นะ อด 1 เดือนแน่ๆ อาซาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 18-07-2014 08:10:09
โอเค พ่อไม่ว่าอะไร แต่น้องหนูโยชิโดนพรากจากอกคุณสามีซะแล้ว (เหรอ)
ขนาดโดนพรากพี่งูยังจัดไปยกสองยก จนน้องไข้ขึ้นกันเลยทีเดียว
พี่งูหื่นจริงไรจริงนะคะ นะคะ 55555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 18-07-2014 08:25:01
อาซา นี้คงเก็บกดมานานเล่นซะ หนูโย ไม่สบายเลย

5555

ติดใจตอนท้ายของตอนนี้อ่ะยังเหลือบทโศกอีกหรอ เพิ่งได้หวานเองนะ

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 18-07-2014 08:31:52
ทิ้งปมไว้ซะแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 18-07-2014 09:40:35
เรื่องนี้มีเงื่อนงำ พ่อกับพี่ยอร์ชน่าสงสัยมากไม่ใช่ว่าเป็นพวกเดียวกับพ่อของอาซาหรอกนะ พี่งูหื่นจริงๆน้องโยชิป่วยก็ยังไม่เว้นอีกแล้วดาวเสาร์หายไปไหน ถ้าภาค2มาอยากให้โยชิแปลงร่างกลับเป็นงูได้อยากเห็นน้องโยกับพี่อามุ้งมิ้งกันในร่างงู  :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: chandeliers.nun ที่ 18-07-2014 09:54:07
อ๊ากกกก อาชาหื่นนนนนนจังงงงง :-[
 
แต่เค้าก้อรักอาชาน๊าาา  :hao6: โยชิทำไมยอมตลอดเลยยย  :hao7:

เป็นเค้า เค้าก้อยอม เอิ๊กก  :haun4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 18-07-2014 11:44:05
พ่อกับพี่ยอร์ชมีอะไรปิดบังไว้แน่เลย
อยากรู้อ้ะ ตอนหน้าตอนจบแล้วคงเฉลยเนอะ
ส่วนพี่งูนี่กื่นเกิ๊น สงสารโยชิ 55555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: wi_OoO_wi ที่ 18-07-2014 12:16:57
โยชิ จากประสบการณ์นะ เจ้ว่าหนูจะท้องป่องเอานะลูก แต่แม่ก็เข้าใจ ถ้าผู้ชายมันจะไม่ใส่ ซื้อมาให้มันก็ไม่ใส่ลูก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 18-07-2014 14:11:25
อะ อะ ไอ้งูหื่น!!  ทำโยชิของเค้า(?) เป็นไข้หนักเลย เค้าจะฟ้องคุณพ่อกับคุณพี่ให้มาจัดการนาย  :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 18-07-2014 15:59:55
 :mew2:  เหมือนโยชิจะมีปมเรื่องครอบครัวด้วยสินะ  ว่าแต่จะเรื่องอะไรนั้นสุดจะเดาจริงๆ  :katai1:

แล้วยังอิตาอาซาอีก แหมๆ ทีกับโยชิบอกห้ามมีความลับ แต่ตัวเองกลับปิดมิดเชียวนะ  :z6:   :m31:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 18-07-2014 17:42:53
 :katai1: มาอ่านรอบ2แล้วขยุ้มหน้ารอ
มีปมให้สงสัยอีกแล้ว ~ รอ ร๊อ รอ จ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 18-07-2014 18:06:50
ต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 18-07-2014 19:25:05
พี่งูฉันหื่นจริงไรจริง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 18-07-2014 20:05:12
อาซาหื่นมากกก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 18-07-2014 20:47:54
อาซาหื่น...สงสารหนูโยหน่อยนะ ฮ่าๆ
พ่อกับพี่ยอร์ชก็หวงซะ แต่เข้าใจนะ คนเป็นพ่อเป็นพี่คงใจหายน่าดูที่ลูกกับน้องที่เลี้ยงดูมาอย่างดีตกเป็นของคนอื่นไปซะแล้ว ทั้งที่เข้าใจว่าเพิ่งเจอกันไม่นานเท่านั้น ริริทิ้งปมให้อยากรู้เรื่องที่พ่อพาโยชิไปสะกดจิตอ่ะ มันมีเบื้องหลังหรอ อย่ามีดราม่าอีกเลยนะ ไหน ๆ ตอนหน้าก็จะจบของคู่นี้แล้ว แอบลุ้นคู่หน้า จะเป็นเรื่องของใครน้า~
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 18-07-2014 20:55:38
 :hao6: พี่งูอาซาหื่นจริงๆ
:hao5: งื้อ จะจบแล้วหรอเนี่ย ไวจุงเบย
ตอนหน้าขอแบบอย่าค้างน๊า  :m5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 18-07-2014 21:42:52
พี่งูพอเครื่องติดนี่ก็หื่นเลยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 18-07-2014 22:24:21
โยชิ อาซา สู้ๆนะ  :m15:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: jae_joong-love ที่ 18-07-2014 22:38:37
อาซานี่หื่นจริง ๆ

ย่องมาหาโยชิอีก ><
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 18-07-2014 23:06:37
กรีสสสสอาซาหื่นได้ใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 19-07-2014 03:20:57
อาซาปล่อยให้โยชิพักบ้างดิ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 19-07-2014 12:55:30
ติดตามจ้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 19-07-2014 18:31:02
 :mew1: มาส่งกำลังใจให้คุณริริค่ะ >////<
มีปมเกี่ยวกับโยชิให้คิดต่ออีกแล้ว
ปูเสื่อรอ 5555+ :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: ckk ที่ 19-07-2014 18:47:32
อาซาหื่นมากกกก :z1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ NINETEEN ❁ 17-07-14 [P.25]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-07-2014 19:37:02
วันนี้จะมาป่าว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-07-2014 21:06:41
TWENTY




        ASA

         Arch University ก่อตั้งโดยบาทหลวงเยโรมที่13 เขาเป็นสายเลือดของบาทหลวงเยโรม นักบุญที่คอยช่วยเหลือคนทุกข์ยากทั้งทางกายและทางใจ พวกเขาพบเจอมนุษย์กลายร่างและได้ทำการช่วยเหลือ ไม่มองพวกมนุษย์กลายร่างเป็นปีศาจร้ายดั่งเช่นที่มนุษย์สามัญทั่วไปทำ

         และเขายังให้ความช่วยเหลือมนุษย์กลายร่างในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับมนุษย์กลายร่างสายพันธุ์อื่น จัดตั้งชุมชนและโรงเรียนให้เด็กพิเศษเกิดใหม่ได้มีที่เรียนรู้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครล่วงรู้ถึงความลับหรือเปล่า เพราะพวกเกิดใหม่ที่อายุยังน้อยจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ นักบุญเยโรมจึงอุทิศชีวิตครึ่งหนึ่งเพื่อช่วยเหลือพวกมนุษย์กลายพันธุ์แบบลับๆ เมื่อเขาตาย ลูกชายของเขาทั้งสามคนก็สืบทอดเจตนารมณ์นี้ต่อจากผู้เป็นพ่อ พวกเขาย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ เพื่อรวบรวมชาวเราให้ได้มากที่สุด ให้เรามีสักกัด รับรู้การมีตัวตนและการปฏิบัติตนให้อยู่ร่วมกันและอยู่ร่วมกับมนุษย์สามัญอย่างสงบสุข

         นับเวลาหลายร้อยปีเป็นหลายพันปี เวลาเปลี่ยนอะไรๆก็เปลี่ยน สังคมเริ่มมีแบบแผน ลูกแต่ละรุ่นของนักบุญเยโรมยังคงสืบทอดเจตนารมณ์ต่อจากพ่อของพวกเขา มนุษย์กลายร่างก็รวมกลุ่มกันกันมากขึ้นในแต่ละเมืองแต่ละประเทศ และในประเทศไทยก็ได้ตั้ง Arch University ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางของเหล่ามนุษย์กลายร่างและพวกเกิดใหม่ เพราะอย่างนั้นโยชิถึงได้รับเชิญให้มาเรียนที่นี่

         ผมไม่คิดว่าโยชิจะมาในทีแรก ผมตามติดเขามาตั้งแต่เด็กๆนับจากวันที่ย้ายมาอยู่ที่เมืองไทย และพบว่าเขาเองก็เกิดใหม่ที่นี่ น่าแปลก แต่ผมถือว่าเป็นโชคดี โยชิเป็นเด็กติดบ้านติดครอบครัว ไม่ค่อยไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนฝูงนัก เรียนเสร็จก็ตรงกลับบ้าน เป็นเด็กดีโดยตลอด แต่พอวันแรกที่โยชิย้ายเข้ามาที่นี่ ผมก็ตกใจไม่น้อย

         สามสิบกว่าปีก่อน ผมยังอาศัยอยู่ที่อเมริกาและดาร์เรลหรือโยชิก็อยู่ที่นั่น นานนับตั้งแต่ที่เขาจากไปเพราะพ่อของผมและพ่อของเจอร์โรม รวมไปถึงพวกอื่นๆที่เป็นลูกน้องของพ่อร่วมมือฆ่าดาร์เรล เพียงเพราะเขาเป็นผู้ชายและเขาไม่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างผู้หญิง พวกนั้นกล่าวหาว่าพวกผมทำสิ่งผิดบาป และดาร์เรลจะเป็นผู้ที่นำความเดือดร้อนมาให้เหล่ามนุษย์กลายร่าง พวกเขาจึงลงมือกำจัดดาร์เรลอย่างเลือดเย็น

         นับแต่นั้นผมก็ไม่เคยคิดจะเหยียบย่างกลับเข้าบ้าน ผมออกมาอยู่ตัวคนเดียวและคอยตามดูว่าดาร์เรลจะไปเกิดเป็นใคร จากหนึ่งปีเป็นสิบปี จากสิบปีเป็นร้อย จากร้อยเป็นสองร้อย และเป็นพันๆปี ผมเฝ้าตามดูดวงวิญญาณของดาร์เรล การตามหาไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งเจออีกทีเขาก็อายุยี่สิบกว่าเข้าไปแล้ว และกำลังจะกลับคืนสู่สภาพเดิม หลายครั้งที่ผมอยากให้เขากลับเป็นเหมือนเดิม เราจะได้มีกันและกัน แต่สุดท้ายผมก็ตัดใจ เพราะผมรู้ว่าพ่อตามดูผมอยู่ห่างๆ ผมไม่อยากพรากทุกอย่างไปจากเขาอีกแล้ว โดยเฉพาะชีวิต

         แต่ทว่า ความทรมานของผมก็ควรได้รับการเยียวยา และคนเดียวที่จะรักษาได้ก็คือโยชิ ดาร์เรลของผม

         ไม่ใช่ว่าตอนนี้ผมไม่ห่วงเขา แต่วันเวลาที่ผ่านมานานขนาดนี้ พ่อคงจะตัดใจไปแล้วเรื่องที่ผมจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลก ไร้สาระสิ้นดี เพราะงั้นก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง

         ยกเว้นแต่...

         “นายทำอะไร”

         เวสตันยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของผม เขามองกระเป๋าเสื้อผ้าบนเตียง ผมยัดเสื้อและข้าวของเครื่องใช้ใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว เมื่อเช้าผมโทรตามพวกเวสตันกลับบ้าน แผนการพักร้อนในฤดูฝนของพวกนั้นคงต้องพักเก็บไปชั่วคราว เพราะผมคงไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ในบ้านร่วมกับโยชิอีก

         “ฉันจะไปอยู่หอพักกับโยชิสักพัก มีอะไรก็โทรมาละกัน”

         พ่อและพี่ชายของโยชิรับรู้ว่าผมคบหากับลูกชายเขา และก็คงรู้ว่าผมได้ล่วงเกินเด็กตัวเล็กไปแล้ว ถึงได้สั่งให้โยชิอยู่ที่หอ ไม่อนุญาตให้กลับมาอยู่ที่บ้านผม ผมไม่ขัดเพราะเข้าใจ ก็ทั้งสองคนเลี้ยงดูโยชิมาอย่างดี ก็ต้องหวงและห่วงเป็นธรรมดา

        ‘ฉันไม่เคยห้ามถ้าโยชิจะมีคนรัก แต่สิ่งที่นายทำมันก็ไม่สมควร ฉันรักน้องฉันมาก มากกว่าที่นายคิด ฉันจะไม่สั่งห้าม แต่บอกไว้ก่อนว่าฉันยังไม่ยอมรับนาย และหลังจากนี้ห้ามนายทำอะไรน้องฉันอีกเป็นอันขาด โยชิยังเด็กเกินไปสำหรับเรื่องพวกนั้น หวังว่านายจะเข้าใจและทำตาม’

         ‘อืม’

         ผมเข้าใจ

         ‘เข้าใจก็ดี’

         แต่ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้ ผมคงจะทนต่อไปได้ ถ้าหากมันไม่มีครั้งแรก โยชิเป็นเหมือนสิ่งเสพติด ยิ่งเสพยิ่งอยาก ยิ่งได้ลิ้มลองยิ่งโหยหา

         ‘และอย่าได้คิดจะทำเรื่องเลวๆกับน้องฉัน ถ้านายทำโยชิเสียใจ นายเจอดีแน่’

         ‘จะไม่มีวันนั้นแน่นอน’

         ‘ให้มันแน่ อย่าดีแต่ปาก’


         ผมเลิกสนใจคำพูดของพี่ชายโยชิ เอาอะไรกับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว เพราะถ้ารู้ เขาคงไม่พูดแบบนี้ ผมไม่ใช่คนที่มั่นคงในความรัก ผมก็แค่คนๆหนึ่งที่รักคนๆเดียวหมดหัวใจ และไม่อาจรักใครได้อีก

         เวสตันว่าผมไม่เปิดใจรับคนอื่นที่เข้ามาในชีวิต แล้วมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้น ในเมื่อ...การรักเขาคือความสุขที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม

         คงไม่มีใครโง่ละทิ้งความสุขในมือไปหยิบเอาความทุกข์ใส่ตัว อาจจะมีแต่ผมขอเป็นคนฉลาดที่มีความสุข

         “ทำไมต้องไปอยู่หอพักด้วย ก็อยู่ที่นี่ด้วยกันอยู่แล้วนี่”

         “เมื่อวานพ่อและพี่ชายของโยชิมา พวกเขารู้เรื่องที่โยชิคบกับฉัน เลยสั่งให้โยชินอนหอ”

         “นายก็เลยจะหอบข้าวของย้ายตามไปด้วย”

         “ก็ประมาณนั้น”

         “ฮ่าๆๆ โอเค ไม่มีปัญหา ตามใจนายแล้วกัน ก็หัวใจอยู่นู่นนี่เนอะ”

         เวสตันยิ้มขำเบาๆเดินออกไป ผมเก็บของต่ออีกนิดหน่อยก็กลับไปที่หอโยชิ ผมทิ้งเขาไว้ตั้งแต่เช้าเพราะโยชิไข้ขึ้นจากฝีมือผม ผมก็อยากจะหักห้ามใจ แต่การได้สัมผัสผิวนุ่มลื่นและกลิ่นหายหอมเฉพาะตัวชวนปลุกเร้า โยชิทำให้เส้นความอดทนผมขาดสะบั้น ได้สติอีกทีก็ตอนที่โยชิสลบคาอกไปเรียบร้อยแล้ว

         วันนี้ผมเลยต้องไถ่โทษด้วยการเข้าไปเรียนแทนเจ้าตัว ความจริงคือแค่ไปเช็คชื่อแทนและนั่งจำหัวข้อของวันนี้เท่านั้น เรื่องที่โยชิเรียนผมเรียนมาหมดแล้วทั้งนั้นตั้งแต่อยู่ที่อเมริกา จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ผมจะสอนให้คนที่นอนป่วยอยู่บนเตียงเพื่อเตรียมสอบ

         “โยชิ ยังไม่ตื่นอีกเหรอ” ผมปลุกคนขี้เซา ไข้ดูจะลดลงนิดหน่อย แต่ก็ยังตัวร้อนพอควร ผมเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้โยชิอีกรอบ ซึ่งต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจที่จะยับยั้งชั่งใจตัวเอง พยายามมองร่างกายที่ไร้เสื้อผ้าปกปิดว่าเป็นเพียงรูปปั้นเท่านั้น แต่คงเป็นรูปปั้นที่สวยงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

         “อื้อ...อาซาเหรอ” เขาเรียกผมโดยที่ยังไม่ลืมตา ผมติดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้ายเข้ารังกระดุม

         “อืม หิวไหม ฉันแวะเอาอาหารเที่ยงมาจากบ้าน”

         “หิว แต่ไม่อยากกิน”

         “กินหน่อยแล้วกัน ฉันให้ปารีสทำซุปมาให้”

         ผมพยุงโยชิขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ก่อนจะออกไปเทซุปใส่ถ้วยและอาหารของผมวางไว้ที่โต๊ะกินข้าวเล็กๆสำหรับสองคน จากนั้นผมก็เข้าไปพยุงโยชิออกมากินข้าว ท่าเดินแปลกๆกับหน้าที่บิดเบ้ตามจังหวะก้าวเดินดูน่าสงสาร สงสัยผมคงต้องงดเรื่องอย่างว่าไปสักพัก

         “อร่อยไหม” ผมถาม เขาส่ายหน้า

         “ไม่รู้สิ มันขมคอ กินแล้วไม่รู้รสชาติ”

         “ทนเอาหน่อยแล้วกัน พรุ่งนี้ก็น่าจะหายแล้ว”

         “อืม”

         โยชิกินซุปไปได้ไม่เท่าไหร่ก็หยุด ผมคะยั้นคะยอให้กินอีกก็ทำหน้าบูด ผมเลยให้กินยาไปเลยก่อนจะพาไปนั่งที่โซฟา เปิดโทรทัศน์ให้ดูไปพลางๆระหว่างรอผมกินเสร็จ

         ผมติวเนื้อหาของวันนี้ให้โยชิที่นั่งฟังตาปรือ แต่เขาค่อนข้างเป็นคนหัวดี บอกอะไรสอนอะไรก็จำง่ายจำไว จนดูท่าจะไม่ไหวผมเลยหยุดติว โยชินอนหนุนตักผมหลับตาพริ้ม ไข้ลดลงหลังจากกินยาไปอีกชุดใหญ่ อุณหภูมิแอร์ถูกปรับให้เหมาะสมกับคนป่วย

         “นี่” เขาเรียก ผมละสายตาจากโทรทัศน์เพื่อก้มมองคนบนตัก

         “มีอะไร ปวดหัวเหรอ”

         “เปล่า ฉันแค่มีเรื่องที่สงสัยอยากจะถาม” เขาลืมตาแป๋ว

         “ว่ามาสิ”

         “ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ วันนั้นฝนตก พ่อกับพี่ยอร์ชไม่อยู่บ้าน แถมไฟก็ดับ ฉันกำลังจะปีนขึ้นไปเปลี่ยนหลอดไฟ แต่ดันมีงูพันอยู่บนนั้น งูตัวนั้นคือนายเหรอ”

         ผมนิ่งก่อนจะพยักหน้า ก็ผมรู้ว่าไฟมันรั่ว ถ้าโยชิเผลอจับก็อาจจะโดนไฟดูด ในบ้านก็ไม่มีคนพอที่จะช่วยเหลือหากโยชิเป็นอะไรไป ผมก็เลยต้องใช้วิธีนั้น

         "ตกใจมากไหม นายเป็นลมไปต่อหน้าต่อตาฉัน ขอโทษทีนะ”

         “ไม่เป็นไร ก็นายช่วยฉันไว้นี่”

         เขารู้ มันทำให้ผมค่อนข้างแปลกใจมากทีเดียว

         หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หลับ ผมอุ้มโยชิเข้าไปนอนในห้อง อาบน้ำอาบท่าก่อนจะทิ้งตัวนอนข้างๆโยชิ โอบกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมกอด โยชิขยับตัวหาท่าที่สบายแล้วก็หลับสนิททั้งคืน ผมเฝ้าดูอาการจนแน่ใจแล้วว่าตัวไม่ร้อนถึงได้หลับตาลงบ้าง เป็นอีกคืนที่ผมหลับสบายตั้งแต่มีคนๆนี้ก้าวเข้ามาในชีวิตอีกเป็นครั้งที่สอง

         “ขอบคุณนะ ที่ไม่รังเกียจฉัน”

         ...........................




        1 Month later

         “ฉันไปก่อนนะ ฝนเหมือนจะตกอีกแล้ว ถ้าไม่รีบคงไม่มีอาหารให้เจ้าปุยเมฆกินแน่ๆ”

         “อืม พรุ่งนี้เจอกันนะ”

         ผมโบกมือลาเติร์ดที่รีบวิ่งไปซื้ออาหารแมวให้เจ้าขนปุย เห็นว่าเป็นแมวที่เอาแต่ใจน่าดู อาหารไม่ถูกปากถูกกลิ่นก็ไม่แตะ จนพาลงอนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มาหา เติร์ดเลยต้องไปหาซื้ออาหารแมวยี่ห้อเก่าที่นิกกี้เคยซื้อให้เจ้าขนปุยกิน

         ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะถอนหายใจ เมื่อชั่วโมงก่อนที่ออกมานั่งกินเค้กกับเติร์ดท้องฟ้ายังแจ่มใสอยู่เลย แปบเดียวเองแท้ๆ

         “อย่าเพิ่งตกเลยนะ ขอสักครึ่งชั่วโมงเถอะ”

         หลังจากแยกย้ายกับเติร์ดแล้ว ผมก็เดินกลับแอชยูเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อน ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม ก้อนเมฆสีดำปกคลุมไปทั่วบริเวณ ลมพัดแรงจนเศษใบไม้และเศษดินเล็กๆลอยปลิวขึ้นจากพื้น ผมต้องรีบหลับตาแล้วเอี้ยวตัวหนีไม่อย่างนั้นพวกฝุ่นผงได้เข้าตาแน่ๆ

         “อ๊ะ!”

         เพราะจังหวะที่หลบฝุ่นแต่ยังก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าเลยไม่ได้มองทาง ทำให้ชนเข้ากับใครสักคน

         “เป็นอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงที่ฟังแล้วชวนขนลุกดังขึ้นข้างๆใบหู ผมหันไปมองด้วยความตกใจ แต่เมื่อได้สบตากับคนที่เดินชนแล้วผมก็รู้สึกตัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ก้าวถอยหลังออกห่าง

         “มะ ไม่เป็นอะไร”

         ผมรู้สึกแปลกใจที่ตนเองกลัวผู้ชายคนนี้มากๆ

         “อืม”

         ชายหนุ่มที่มีดวงตาสีเขียวมรกต จ้องมองผมที่ยืนตรงหน้าอย่างชั่งใจ คล้ายว่าเขากำลังสงสัยอะไรบางอย่างที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

         “เอเดน ไปได้แล้ว” เพื่อนของชายหนุ่มตาสีเขียวเอ่ยเรียก ผมสะดุ้งนิดๆ มองไปทางผู้ชายอีกคนที่เป็นคนพูดประโยคเมื่อกี้

         ผมกระตุกยิ้มนิดๆลาคนที่เขาเดินชนก่อนจะรีบเดินเข้ามหาวิทยาลัย ลมเริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่พยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้อากาศแจ่มใส แต่ทำไมถึงมีพายุเข้าได้นะ

        “เป็นอะไรเอเดน แกมองอะไรวะ” เมื่อเรียกแล้วเอเดนก็ยังคงอยู่ที่เดิม แถมยังมองตาหลังเด็กผู้ชายที่ไหนไม่รู้ อะไรของมันกัน ชายหนุ่มที่มาด้วยกันจึงเอ่ยถาม

         “เปล่า ไปเถอะ” เอเดนดึงสายตากลับมาแล้วก็เดินตามเพื่อนไปทำธุระสำคัญ เขาว่าเขาได้กลิ่นอันคุ้นเคยจากตัวของเด็กหนุ่มคนนี้ แต่มันเจือจางมากจนจับไม่ได้ว่ามันคือกลิ่นของอะไร

         เด็กคนนั้น....น่าสนใจจริงๆ






         มื้อเย็นของวันนี้ฝากเอาไว้ที่บ้านของอาซา ตั้งแต่พ่อสั่งให้ผมนอนอยู่ที่หอ อาซาก็ย้ายไปนอนกับผม ส่วนดาวเสาร์ทำเรื่องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ตอนนี้พ่อกับพี่ยอร์ชก็ยังไม่รู้เรื่อง ถ้าเกิดรู้เข้าผมคงโดนดุจนหูชา

         “คืนนี้เราไปปาร์ตี้ดีไหม” ฟรินน์ชวนขึ้นกลางโต๊ะอาหาร มองซ้ายทีขวาทีรอความเห็น

         “ก็ดีนะ ทุกคนคิดว่าไง”

         ปารีสเห็นด้วย เวสตันเองก็พยักหน้าตกลง ผมหันไปมองอาซา ผมเฉยๆไปก็ได้ไม่ไปก็ได้ แต่ถ้าอาซาอยากไปผมไปด้วยก็ได้ ไปกับคนพวกนี้ไม่น่าจะมีเรื่องยุ่งเกิดขึ้น

         “เอาสิ ไปคลายเครียดหน่อยก็ดีนะ” อาซาพูด ผมก็เลยตกลง

         ผมเพิ่งผ่านการสอบเก็บคะแนนวิชาหลักไปสองตัว ได้อาซาช่วยติดให้ก็ถือว่าสบายไปเยอะ แต่ก็สมควรช่วยผมอยู่หรอ เขาทำผมไปเรียนไม่ได้ตั้งสามวัน ดีที่โปรเฟสเซอร์ไม่ว่าอะไร ไม่ถามด้วยว่าผมหายไปไหน เพราะอาซาไปนั่งเรียนแทน และไม่ต้องห่วงว่าเขาจะขาดเรียน เขาไม่มีเรียนมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะมหาวิทยาลัยนี้อยู่ในความดูแลของพวกเขายังไงล่ะ แต่เรื่องนี้ให้ใครรู้ไม่ได้ นอกจากพวกที่มีหน้าทีเดียวกัน

         ทานข้าวเสร็จเราก็พากันเคลื่อนพลไปสถานบันเทิงแห่งเดิม ผมแหยงๆที่จะเข้าไป แต่ความอบอุ่นที่กุมมือทำให้ผมมีความกล้า เอาน่า มากับอาซาทั้งคนจะกลัวอะไร

         เวสตันนำขึ้นไปชั้นสาม จูเลียตเจอเพื่อนจึงแวบหายไปตั้งแต่ชั้นที่สอง ผมมองสภาพภายในผับที่คนยังน้อยและเสียงเพลงก็ยังเป็นเพลงเบาๆ อาจเพราะยังไม่ดึก นักทองราตรีทั้งหลายแหล่จึงยังไม่ปรากฏตัว

         ผมชะงักเท้าเมื่อขึ้นมาถึงชั้นสาม เหลือบตาขึ้นมองป้ายบอกทางเป็นครั้งที่สาม และผลสรุปก็คือ ผมก็ยังคงอ่านมันเข้าใจ

         “อาซา...ภาษาพวกนั้นคืออะไร ทำไมฉันอ่านมันเข้าใจ”

         ผมชี้ให้อาซาดู เขามองตามยกมือขึ้นเกาหางคิ้ว

         “อักษรรูนน่ะ เป็นภาษาโบราณที่เลิกใช้ไปแล้ว แต่คนสร้างที่นี่อยากจะให้พื้นที่ชั้นสามเป็นพื้นที่พิเศษสำหรับพวกเรา เลยใช้ภาษาที่แตกต่าง ส่วนทำไมนายถึงอ่านเข้าใจ ก็สัญชาตญาณไง”

         “สัญชาตญาณ? ไม่เห็นจะเข้าใจ”

         ยังไงผมก็มองว่ามันแปลกอยู่ที่ดีผมจะมองอักษรภาพแปลกๆพวกนี้รู้เรื่อง อาซาปล่อยให้ผมงง เขาจูงมือผมเดินไปสมทบกับพวกเวสตัน

         ฟรินน์จัดการสั่งเครื่องดื่มและของกินแปลกๆมาหลายอย่าง และเขาก็ยังใจดีพอที่จะสั่งของที่ธรรมดาๆมาให้ผมกินเป็นกับแกล้ม อาซาไม่ห้ามถ้าผมจะดื่ม เขาแค่มองทุกครั้งที่ผมยกแก้วเหล้าเท่านั้นเอง แต่ผมไม่สนใจ นานๆจะได้มานั่งดื่มแบบไม่มีเรื่องทุกข์ใจให้ต้องคิด

         “อาซา ฉันลืมบอก คราวก่อนที่ฉันไปพักร้อน บังเอิญพ่อนาย เขาถามถึงนายด้วยนะ” เวสตันพูด อาซาจ้องเวสตันนิ่งๆ คนอื่นพลอยไม่พูดไปด้วย พวกเขานิ่งมากจนอาซาเริ่มยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม คนอื่นถึงได้แอบถอนหายใจ

         “เวสตัน อย่าพูดเรื่องเครียดๆน่า วันนี้มาสนุกกันไม่ใช่เหรอ” ปารีสบ่นเวสตันเบาๆ เวสตันแค่ยิ้มรับเท่านั้น

         “ฉันก็แค่บอกเท่านั้น”

         “อืม”

         อาซารับคำในคอ ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ผมจะตามไปด้วยแต่เขาบอกว่าไม่ต้อง ผมก็เลยปล่อยให้เขาไปคนเดียว

         “เป็นแบบนี้ทุกทีเวลาที่เอ่ยถึงที่บ้าน” ฟรินน์กระซิบกับผม ผมไม่รู้จะพูดอะไรเพราะไม่ค่อยรู้เรื่องที่บ้านของอาซา ยังมีอีกหลายเรื่องเลยที่ผมไม่รู้เกี่ยวกับเขา รู้แค่ว่าผมกับเขาเคยเป็นคนรักกัน และพ่อของเขาสั่งให้พ่อของเจอร์โรมมาฆ่าผม ผมรู้แค่นั้นเท่าที่เขาบอก อาซายังคงเป็นคนที่ลักลับน่าค้นหาเหมือนวันแรกไม่ผิดเพี้ยน

         “เขาจะโอเคใช่ไหม” ผมถามฟรินน์

         “อืม มันไม่คิดอะไรหรอก เขาเรียกว่าชินชา” ฟรินน์ยิ้มกว้างให้เห็นว่าเรื่องอาซากับที่บ้านเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องเครียดหรือคิดมาก

         เกือบยี่สิบนาทีที่อาซาไปเข้าห้องน้ำ ผมคอยมองทางไปห้องน้ำทุกๆครึ่งนาที แต่อาซาก็ยังไม่มา จนทนไม่ไหวผมว่าจะลองไปดู แต่ในห้องน้ำว่างเปล่าไม่มีใครอยู่ ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ จูเลียตเงยหน้ามองผมที่ยืนค้ำหัวเธอ

         “อาซาหายไปไหนไม่รู้”

         ทุกคนหยุดสนทนาแล้วหันมองผม

         “คงไปสูดอากาศที่ดาดฟ้าละมั้ง เขาทำแบบนั้นประจำ” ปารีสเป็นฝ่ายบอก ผมเอ่ยขอบคุณเบาๆก่อนจะรีบไปหาอาซาบนดาดฟ้า แล้วก็เจอ

         เขายืนอยู่ใกล้กับขอบปูนริมดาดฟ้า มือข้างซ้ายล้วงในกระเป๋ากางเกง มืออีกข้างถือบุหรี่จ่ออยู่ที่ริมฝีปาก ควันสีขาวลอยพวยพุ่งไปข้างหน้า ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ไม่คิดมาก่อนว่าอาซาก็สูบบุหรี่กับเขาด้วย เพราะผมไม่เคยเห็นหรือได้กลิ่น

         “ขอมวนสิ” ผมพูด อาซาหันมามองผมงงๆ ผมเลยหยักหน้าไปทางบุหรี่ในมือเขา

         “ขอมวนสิ บุหรี่” ผมพูดประโยคเดิม คราวนี้อาซาหน้าตึง ไม่ทำตามที่ผมขอ ผมเลยแย่งบุหรี่ในมือเขามาสูบ ผมเคยลองแค่ครั้งเดียว ตอนนั้นไอเกือบตาย

         “แค่กๆๆ”

         ครั้งนี้ก็เหมือนเดิม อาซาแย่งบุหรี่กลับไป เขาทิ้งมันลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้

         “ใครใช้ให้สูบ สูบไม่เป็นแล้วยังจะทำ” เขาดุผมหน้าเครียด ผมไออีกสองสามทีก่อนจะทำเป็นไม่ได้ยินที่เขาดุ

         “ทีนายยังสูบได้เหรอ ไม่อยากให้ฉันทำตัวเองก็อย่าทำสิ”

         ผมไม่ได้เกลียดหรือแอนตี้บุหรี่ ใครจะสูบก็สูบไป แต่พ่อและพี่ยอร์ชห้ามสูบ ผมยังอยากอยู่กับคนที่รักไปนานๆ และตอนนี้ผมก็ไม่อยากให้อาซาสูบ

         “เฮ้อ จะบอกให้ฉันเลิกหรือไง” เขาหันกลับไปสนใจวิวยาวค่ำคืนตรงหน้า ผมยักไหล่เบ้ปาก

         “แล้วทำได้ไหมล่ะ เลิกเพื่อฉันได้ไหม” ผมลองถาม เขาเงียบไปนาน ดูท่าผมคงไม่สมหวัง

         “ถ้าทำได้แล้วจะให้อะไร”

         “อยากได้อะไรล่ะ ให้ทุกอย่าง”

         “อยากได้นาย ให้ไหม” เขาหันมาจ้องตาผมนิ่ง แววตาที่ทำให้ผมรู้สึกร้อนๆหนาวๆ แววตาที่คล้ายจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้หลุดล่วงลงไปกับพื้น แววตาร้อนแรงที่ผมมองเท่าไหร่ก็ไม่ชิน

         “ก็ได้ไปหมดแล้วไม่ใช่หรือไง” ผมทำเป็นหน้าหนาไม่เขินอาย ทั้งที่จริงคือตรงกันข้าม

         “งั้นฉันจะเลิกบุหรี่ แลกกับตัวนายตลอดชีวิต ให้หรือเปล่า” เขาถามเน้นอีกรอบ ขยับก้ามเข้ามาใกล้จนตัวเราแนบติดกัน

         “ถ้ากล้าทำก็กล้าให้”

         งานนี้ผมทุ่มสุดตัว เขากระตุกยิ้ม ก้มหน้าลงมาแนบริมฝีปากที่มีกลิ่นมิ้นต์จางๆ แต่ยังไม่ทันได้จูบลึกซึ้ง เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น ผมสะดุ้งผลักอาซาออก มองหาต้นเหตุ อาซาก็สงสัยเช่นเดียวกับผม เขาสอดสายตามองหาจนไปหยุดอยู่ที่มุมหนึ่ง ด้านล่างหัวมุมถนน ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกใครสักคนลากเข้าไปในซอยมืด

         ปึก!!!

         “อาซา แย่แล้ว!” จูเลียตวิ่งเขามาหาพวกเราด้วยใบหน้าแตกตื่น

         “มีอะไร” อาซาถามหน้าเครียด

         “มีคนพบเจอรูปปั้นคนอีกแล้ว อยู่ที่ตรงหัวมุมถนนนั่น” จูเลียตชี้ไปยังจุดที่มีเสียงกรีดร้องเมื่อตะกี้ อาซาฟังแล้วก็รีบวิ่งลงไปข้างล่าง ผมและจูเลียตวิ่งตาม พอไปถึงหัวมุม ก็เจอปารีสและเวสตันยืนอยู่ที่ตรงรูปปั้นคนที่มีสีหน้าตกใจกลัวสุดขีด เสียงวิ่งดังมาจากข้างหลังของเวสตัน

         “ในซอกนั้นมีอีกคน เป็นผู้หญิง” ฟรินน์พูดเสียงตื่น

         ผู้หญิง?

         หรือว่าจะเป็นผู้หญิงคนที่ผมกับอาซาเห็นที่ดาดฟ้า อาซาวิ่งไปในซอย ผมวิ่งตามจนไปผมกับรูปปั้นที่ว่า ในซอยแคบเงียบกริบไม่มีคนอยู่สักคน และที่สำคัญมันเป็นซอยตัน คนร้ายคนนั้นจะหายไปไหน ไม่ใช่คนร้ายสิ ต้องเป็นพวกงูเหมือนพวกอาซาแน่ๆ งั้นข่าวในทีวีก็คือพวกนากินีทำสินะ

         “อาซา พวกไหนทำเหรอ” ผมถามอาซาที่ก้มลงดูอะไรสักอย่างบนพื้น เขาหยิบมันขึ้นมาดู จี้สร้อยรูปวงล้อที่มีงูเลื้อยขดพัน

         “ของคนตายเหรอ”

         “เปล่า ไม่ใช่”

         อาซากำจี้นั่นแน่น ใบหน้าของเขาเครียด อาซาเดินกลับไปหาปารีส ผมมองแผ่นหลังกว้างด้วยความสงสัย เหมือนอาซาจะรู้ว่าเจ้าของจี้นั่นเป็นของใคร และใครคนนั้นก็คือคนร้ายที่ทำให้ผู้หญิงโชคร้ายกลายเป็นหิน

         “เวสตัน” อาซาส่งจี้อันนั้นให้เวสตันและเพื่อนคนอื่นๆดู ทุกคนเห็นแล้วก็มีปฏิกิริยาเดียวกับหมดคือนิ่งค้างและตกใจ

         “ฉันเจอมันข้างๆศพ” อาซาว่าแบบนั้น

         “หมายความว่า” ปารีสพึมพำ

         “ใช่ คนที่ทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดคือเอเดน” อาซาจ้องตากับเวสตันเมื่อเขาเอ่ยชื่อใครสักคนออกมา สีหน้าทุกคนยิ่งดูแย่กว่าเดิม ผมรู้สึกว่าชื่อเอเดนคุ้นๆหูยังไงชอบกล

         “นายแน่ใจนะอาซา” ฟรินน์ที่ปกติดูร่าเริงไม่ค่อยคิดมากกลับจริงจังผิดหูผิดตา

         “แน่ใจ” อาซาตอบเสียงเข้ม

         “เดี๋ยวนะ เอเดนคือใคร” ผมถาม มองหน้าทุนคนเพื่อหวังคำตอบ

         “พี่ชายของอาซา” เวสตันเป็นฝ่ายตอบ แต่ผมอึ้งไปเลย ตวัดหน้ามองอาซาที่ก้มมองจี้ในมือ สีหน้าบ่งบอกว่ากำลังโกรธ

         พี่ชายอย่างนั้นเหรอ

        ‘เอเดน ไปได้แล้ว’

         เอ๊ะ!?

         เดี๋ยวก่อนนะ หรือเอเดนพี่ชายของอาซากับผู้ชายคนนั้นที่ผมเดินชนจะเป็นคนเดียวกัน

         “เอเดน ใช่คนที่ตาสีเขียวผมสีทองหรือเปล่า” ผมถาม และทุกคนก็จ้องผมอย่างไม่เชื่อหู ผมเริ่มรู้สึกถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามาใกล้อีกหน

         “ใช่ นายรู้ได้ยังไง” เขาจ้องผมด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ แต่ใบหน้าของเขาแข็งขึง

         “วันนี้เมื่อเย็นฉันเดินชนกับเขาที่หน้ามหาวิทยาลัย เขามากับผู้ชายคนหนึ่ง ตัวสูงๆ ผมสีน้ำตาลและมีรอยสักที่คอ” ผมเล่า อาซาถึงกับหัวเสียสบถไม่เป็นคำ

         “เราจะเอาไงกันดี เขามาที่นี่แล้วทำเรื่องแบบนี้ทำไม” จูเลียตพูดแทนทุกคนที่คงคิดแบบเดียวกัน

         “จะมาทำไมก็ช่าง แต่เราต้องหาเขาให้เจอแล้วหยุดเขาซะ” อาซากัดฟันกรอด

         สัญชาตญาณบอกผมอย่างฉับพลันว่าการผจญภัยครั้งใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว



DGseries. COLD-HEART SNAKE Vol.1 S.E.C.R.E.T END

To be continuing… COLD-HEART SNAKE Vol.2 B.L.O.O.D.L.I.N.E




         

         
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-07-2014 21:07:29
ชี้แจงควรอ่าน!!!

        จบแล้วสำหรับภาคแรก อาจมีบางคนที่ไมได้อ่านพูดคุยตอนก่อนๆนะคะ ภาคแรกคือ S.E.C.R.E.T ส่วนภาคที่สองคือ B.L.O.O.D.L.I.N.E เป็นเรื่องราวของอาซาและโยชินะคะ มีคนถามมาว่าภาคต่อไปเป็นคู่ของใคร ยังคู่เดินค่ะ เพราะปมปริศนาที่ทิ้งไว้ตอนแรกเลยเรื่องราวคนตายก็มาเฉลยเอาในตอนสุดท้ายว่าเป็นฝีมือใคร แต่จะเพราะอะไรต้องรอติดตามนะคะ ลงในกระทู้เดิมนะคะ :katai2-1:

         ส่วนเรื่องของอื่นๆอีกสามคน เสือ หมาป่า และสิงโตจะตามมาทีหลัง ถ้าว่างคงได้แต่คาร์เตอร์ควบคู่ภาคสอง อาจจะนะ ไม่แน่ใจ เพราะความว่างเหมือนสายลม พัดมาแปบๆก็หายไป :katai1:

         ส่วนที่สงสัยกันว่าน้องปุยเมฆแมวน้อยเป็นมนุษย์กลายร่างหรือเปล่า...หึหึ ปล่อยให้งง ไม่บอกหรอก :hao6:

         ภาคสองรอหน่อยนะคะ อาจจะเดือนหน้า ริริแค่วางโครงเรื่องไว้แต่ยังไม่ได้แต่ง ขอพ้นสิ้นเดือนนี้ไปก่อน รับปริญญานั่นเอง อาจจะลงได้ช้ากว่าภาคแรก เพราะภาคแรกแต่งจบแล้วถึงลงให้อ่าน แต่ภาคสองยังไม่มีของในสต็อก ก็อดใจรอกันหน่อยนะ ใครอยากอ่านลงชื่อโชว์ตัวไว้ คนรอเยอะจะพยายามหาเวลาว่างรีบแต่งให้แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะยังมีคนอยากอ่านอยู่หรือเปล่า แต่เท่าที่วางพล็อตไว้ ฉากหวานๆมีมากอยู่ และไม่ต้องกลัวดราม่าครอบครัว ไม่มีนะจ้ะไม่มี แค่นี้ก็นองเลือดพอละ มีดราม่าครอบครัวอีกก็ไม่ไหวเนอะ เรื่องนี้จะมีแค่หน่วง ไม่มีดราม่านะจ้ะ ถึงมีก็น้อยมาก บอกไว้เลย สบายใจได้ :z2:

         มาถึงตรงนี้ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งไว แม้จะแค่ภาคแรก แต่เพราะกำลังใจดี แม้จะมีบางช่วงที่นอยไปบ้าง แต่คนอ่านก็ยังคอยอยู่เคียงข้าง ขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะคะ ริริอ่านทุกคอมเม้นต์ หลายรอบด้วย ดีใจที่ทำให้ทุกคนมีความสุขยามที่ได้อ่านพี่งู (มีหรือเปล่า? ไม่รู้? แหะๆ) :hao7:

         เอาไว้แต่งบทนำภาคสองเสร็จแล้วจะเอามาประเดิมให้อ่าน ซึ่งก็เดือนหน้านั่นแหละ 5555 รอกันหน่อยนะคะ อย่าเพิ่งลืมพี่งูนะ ไม่งั้นจะให้พี่งูไปเข้าฝัน! o22

         ขอบคุณอีกครั้งนะคะ รักคนอ่านและรักคนเม้นม๊ากมากกกกกกกกก :mew1: :กอด1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: jae_joong-love ที่ 19-07-2014 21:08:55
ขอจิ้มก่อน

---------------------------------------------------------------------------
จบภาคแรกแล้ว

แต่ปมยังเยอะอยู่เหมือนเดิม
หรือว่าพี่ชายของอาซาจะมาตามฆ่าโยชิ หรือว่า มาแย่ง ต้องรอดูต่อไป :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 19-07-2014 21:22:44
ภาคแรกจบไปแล้ว :katai2-1:
รอภาคสองกันต่อไป
อยากแกล้งลืมเรื่องนี้จัง อยากให้พี่งูมาเข้าฝัน(ขอเป็นอาซานะคะ)
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 19-07-2014 21:35:41
จบภาคแรกแล้ว  น้ำตาไหล
เอเดนคงมาสร้างความวุ่นวายอย่างมากเลยสินะนั่น
รอภาคสองจ้าาา
ปล.ภาคสองจะลงทู้เดิมหรือทู้ใหม่คัฟคุณริริ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 19-07-2014 21:39:23
มีแต่ปริศนาทำไมเอเดนต้องทำให้คนกลายเป็นหิน แล้วเอเดนจะทำอะไรกับโยชิ พ่อของอาซาจะขัดขวางอาซากับโยชิอีกไหมและหนูโยจะได้กลายร่างเป็นน้องงูพันเกี่ยวกับพี่งูรึเปล่า รอติดตามต่อภาค2ภาคหน้าน้องโยกับพี่อาซาคงจะหวานกันเยอะๆนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 19-07-2014 21:41:39
เดี๋ยวจะลืม พี่งูจะได้มาเข้าฝันนนน ฮี่ๆๆๆ  :z6: #โดนริริ+โยชิถีบ
เราก็เกือบลืมเรื่องคนเป็นหินไปเลย มัวแต่โฟกัสที่เรื่องอดีตของโยชิกับเจอร์โรม o22
รอติดตามตอนต่อไปน้าา คุณพี่เอเดนน :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 19-07-2014 21:43:07
จบก็เหมือนไม่จบ ปริศนาเหลืออีกเยอะแยะเลยยยยยยย   :hao7:   

รออ่านภาค 2 ค่ะ เป็นเดือนหน้าก็ดี เดือนนี้เราก็ยุ่งเหมือนกัน กลัวไม่ได้อ่าน ไม่ได้เม้นต์   :katai1: 

ขอแสดงความยินดีกับ RiRi ล่วงหน้าเลยค่ะ จะรับปริญญาแล้ว  ฮูเล่ ๆ เก่งจังเลยยยยยยยยย   :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 19-07-2014 21:44:01
 :L2: ภาคแรกจบแล้ว ขอบคุณริรินะคะ
สนุกมากๆเลยค่ะ รอติดตามตอนต่อไป 555+
 :mew1: ริริ สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ:)
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 19-07-2014 21:45:03
จบพร้อมกับปริศนา ตื่นเต้นๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 19-07-2014 21:48:08
อยากอ่านภาคต่อไปแล้วอ่ะ
ตอนนี้เกิดอาการลงแดงแล้วอ่ะ5555
 :mew6: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Plengaay ที่ 19-07-2014 21:48:37
รอ ร๊อ รอออ~~
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 19-07-2014 21:51:15
กี๊ซซซ  จบภาคแรกแว้ววววววววว

ภาคสองจะค่อยๆรู้เกี่ยวกับพี่งูมากขึ้นสินะ 

รีบๆมาต่อน้าาา   จะรออ่านจ้ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 19-07-2014 21:57:38
รอติดตามภาคต่อจ้า  :3123:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-07-2014 21:57:52
จบภาคแรกแล้ว  น้ำตาไหล
เอเดนคงมาสร้างความวุ่นวายอย่างมากเลยสินะนั่น
รอภาคสองจ้าาา
ปล.ภาคสองจะลงทู้เดิมหรือทู้ใหม่คัฟคุณริริ

ลงกระทู้เดิมจ้า ง่ายดี ไม่ต้องแยกเดี๋ยววุ่นวาย  :katai3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 19-07-2014 22:00:09
โยชิต้องแปลงร่างเป็นงูบ้างแล้วล่ะ จะได้สู้คนอื่นเขาได้
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 19-07-2014 22:05:37
อ่านตั้งแต่ตอนแรกๆ ชอบมากค่ะ  :hao6:

เดิมทีก็เป็นคนชอบอ่านแนวแฟนตาซีอยู่แล้ว ยิ่งงูนี่ยิ่งชอบใหญ่เลย 5555 (บ้าแฮร์รี่ พอตเตอร์มาก) แถมอีกสามเรื่องที่เหลือที่เป็นพี่เสือ สิงโต แล้วก็หมาป่า ขอบอกว่าจะติดตามให้ครบทุกตอนเลยค่ะ  ตั้งแต่เข้ามาอ่านตอนแรกๆ แล้ว บอกตามตรงว่าชอบภาษาการเขียนมากค่ะ บรรยายได้ดี อ่านได้ไม่ขัดเลย รื่นมาก  ตัวละครทุกตัวคงบทบาทของตัวเองแบบเสมอต้นเสมอปลายมาก ตอนแรกมายังไง ตอนหลังตัวละครก็ยังไม่สูญเสียความเป็นตัวตนของตัวเองไป อาซานี่ชอบมากอ่ะ เงียบๆ แต่มั่นคง เป็นผู้ชายในอุดมคติเลย อ๊ายยยยยยยยย ><

ติดตามเสมอนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่า
อีกเดือนนึงนะคะ มาเร็วๆ น้าาาาาาา  :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-07-2014 22:06:05
มาลงชื่อรอค่ะ รอพี่งูภาคสอง รอๆนะคะ รออย่างใจจดใจจ่อด้วย 55555555 หาเวลาว่างมาลงให้หน่อยน้าาาาาา อยากอ่านคาร์เตอร์อ่ะ เป็นหมอเป็นเสือเงียบแต่ดูหื่นๆเนอะ อ๊ายแค่คิดก้อฟินละ รออาซากับโยชิ อยากให้มาลงไวๆ จุ้บๆค่ะริริ เป็นกำลังใจให้น้าาาาา :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 19-07-2014 22:14:25
 จบแล้ววว
รอๆภาคต่อไป~  :mew1:


พี่งูมาเข้าฝันก้ดีหน่ะสิ~~~~  :mew3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: noongkwang ที่ 19-07-2014 22:22:44
รออ่านภาคสองนะคะ   :man1:

อ่านพี่งูแล้วมีความสุขมากๆ ชอบนิยายแนวนี้มากเลยคะ

รอลุ้นอยู่นะคะ เอเดนกับพ่อของอาซาจะเข้ามาทำอะไร คงไม่ฆ่าโยชิหรอกนะ  :hao4:

พี่งูภาคสอง พี่งูภาคสอง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 19-07-2014 22:30:37
อยากอ่านแร้วอ่ะ มาลงชื่อด้วยคน มาแต่งไวๆ นะริริ อิอิ ขอแสดงความยินดีเรื่องรับปริญญาด้วยจ้าาา  :katai4: :katai4: :katai1: :katai2-1: :กอด1: :L2: :L1: :pig4: o13
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 19-07-2014 22:32:45
เอาล่ะภาคแรกผ่านไป  รอภาคสองอย่างมีความสุข...
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 19-07-2014 22:34:31
ภาคแรกจบไปแล้วววว จบแบบค้างคา
อยากอ่านภาคสองต่อแล้นนน รอเดือนหน้าแหนะ
ไม่เป็นไรเค้ารอได้ เพื่อพี่งูกะหนูโยชิ
ลืมหรือไม่ลืมก็ส่งพี่งูมาหาได้นะจ้ะ 5555
ช่วงนี้คงเหนื่อยแย่เลย เป็นกำลังใจให้จ้า สู้ๆเน้อ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 19-07-2014 22:35:10
คุณพี่ชาย  งานนี้ท่าจะวุ่นอีกแล้วสิเนี่ย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-07-2014 22:35:20
จบแล้วภาคแรก

มาลงชื่ออ่านภาคต่อไป

เป็นกำลังใจให้ครับ

สู้ๆ ต่อไป
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 19-07-2014 22:42:04
อ่านสองตอนรวด ตอนที่แล้วไม่ว่างอ่านเลย แง้ๆๆๆ :sad4:
อาซา ฉันรักพี่ อ๋อยยยย อยากได้ผู้ชายคนนี้ ถ้าน้องเป็นโยชิ น้องก็ยอม :impress2:
มีเรื่องให้ลุ่นตลอดเลย แม้แต่ตอนจบ ค้างคาอยากอ่านต่อมาก :ling1:
เอเดน แกมาทำไมยะ ทำแบบนี้ทำมายยยยยย :fire:
รอน้าาาา รอ รอภาคต่อไป :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Firebird ที่ 19-07-2014 22:42:56
รอภาคสองอ่านะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 19-07-2014 22:53:57
แบบนี้นี่เองเฉลยตอนจบสินะว่าใครเป็นคนทำให้กลายเป็นหิน ว่าแล้วต้องเป็นพวกงูแต่เอเดนจะกลายร่างเป็นบาสิลิสเหมือนเวลตันไหม(เดานะว่าเวลตันคือบาสิลิสตอนที่มาช่วยฟรินน์)ภาคสองนิคาดว่าน่าจะเข้มข้นขึ้นดูตัวละครใหม่โผล่อีกเพียบเผลอๆเจอพ่ออาซาอีกฮ่าๆ คาดว่าพ่ออาซายังไม่วางมือแน่ๆคงจะมาฆ่าโยชิที่กลับมาเกิดอีกรอบ โยชิแปลงร่างเถอะลูกกก แล้วพ่นน้ำแข็งใส่มันซะ ฮ่าๆก็อาซามันพ่นไฟได้นิ

ปล๑.เข้าใจละรูปหน้าปกตอนแรกนึกว่ารูปหมาป่านั่นคือเจอร์โรมที่แท้ไม่ใช่หุหุ รูปมีสี่คน อาซา คาร์เตอร์ หมาป่า(คงไม่ใช่ดาวเสาร์หรอกนะเพราะมันเป็นหมาป่าสีแดง เอ๊ะหรือใช่) :hao4: แล้วก็สิงโต(พวกลีโอตอนที่อาซาเล่าให้ฟังว่าร่วมมือฆ่าดาร์เรนกับพ่อเจอร์โรม นึกว่าเป็นพวกไม่ดีซะอีก เอ๊ะหรือเป็นพวกไม่ดีอีกละ :hao4:) รอดูภาคต่อไปปปป :ruready
ปล๒.ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับบัณฑิตใหม่ :3123: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: seraty ที่ 19-07-2014 23:18:14

         ภาคสองรอหน่อยนะคะ อาจจะเดือนหน้า ริริแค่วางโครงเรื่องไว้แต่ยังไม่ได้แต่ง ขอพ้นสิ้นเดือนนี้ไปก่อน รับปริญญานั่นเอง อาจจะลงได้ช้ากว่าภาคแรก เพราะภาคแรกแต่งจบแล้วถึงลงให้อ่าน แต่ภาคสองยังไม่มีของในสต็อก ก็อดใจรอกันหน่อยนะ ใครอยากอ่านลงชื่อโชว์ตัวไว้ คนรอเยอะจะพยายามหาเวลาว่างรีบแต่งให้แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะยังมีคนอยากอ่านอยู่หรือเปล่า แต่เท่าที่วางพล็อตไว้ ฉากหวานๆมีมากอยู่ และไม่ต้องกลัวดราม่าครอบครัว ไม่มีนะจ้ะไม่มี แค่นี้ก็นองเลือดพอละ มีดราม่าครอบครัวอีกก็ไม่ไหวเนอะ เรื่องนี้จะมีแค่หน่วง ไม่มีดราม่านะจ้ะ ถึงมีก็น้อยมาก บอกไว้เลย สบายใจได้ :z2:
......................
RiRi รับของม. อะไรอ่ะ เค้าก้รับสิ้นเดือนนี้เหมือนกัน.....ยังงัยก้อ congratulations นะจ๊ะ RiRi
     :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 19-07-2014 23:18:15
รอภาคสองจ้า >< ให้กำลังใจคุณริริจ้า สู้ๆ ^^
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-07-2014 23:22:20
         ภาคสองรอหน่อยนะคะ อาจจะเดือนหน้า ริริแค่วางโครงเรื่องไว้แต่ยังไม่ได้แต่ง ขอพ้นสิ้นเดือนนี้ไปก่อน รับปริญญานั่นเอง อาจจะลงได้ช้ากว่าภาคแรก เพราะภาคแรกแต่งจบแล้วถึงลงให้อ่าน แต่ภาคสองยังไม่มีของในสต็อก ก็อดใจรอกันหน่อยนะ ใครอยากอ่านลงชื่อโชว์ตัวไว้ คนรอเยอะจะพยายามหาเวลาว่างรีบแต่งให้แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะยังมีคนอยากอ่านอยู่หรือเปล่า แต่เท่าที่วางพล็อตไว้ ฉากหวานๆมีมากอยู่ และไม่ต้องกลัวดราม่าครอบครัว ไม่มีนะจ้ะไม่มี แค่นี้ก็นองเลือดพอละ มีดราม่าครอบครัวอีกก็ไม่ไหวเนอะ เรื่องนี้จะมีแค่หน่วง ไม่มีดราม่านะจ้ะ ถึงมีก็น้อยมาก บอกไว้เลย สบายใจได้ :z2:
......................
RiRi รับของม. อะไรอ่ะ เค้าก้รับสิ้นเดือนนี้เหมือนกัน.....ยังงัยก้อ congratulations นะจ๊ะ RiRi
     :katai2-1:

ศิลปากรจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: chandeliers.nun ที่ 19-07-2014 23:26:03
ไม่ค่อยค้างเลยนะ (สตันคุณริริ 55)  :z6:

ลงชื่อรอคับบบบ นอกจากหวานเยอะ NC ก้อน่าจะเยอะ  :hao6: :hao7:

ดีใจกับคุณริริด้วยนะคับ congratulations!  :3123:

กลับมาต่อไวๆนะคับ  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 19-07-2014 23:43:44
โอ๊ยให้ตายๆ ค้างอ่ะ แงแง

อยากอ่นภาคสองแล้ว คนเขียนแต่งเก่งมาก

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: love AJ ที่ 20-07-2014 00:23:10
ค้างสุดๆๆๆๆๆๆๆ

รอภาค2ต่อไปค่ะ

มาเร็วๆนะคนอ่านใจจะขาด

 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: tityjiu ที่ 20-07-2014 01:41:11
ไรท์ทำเอาค้างนะค่ะงานนี้ซับซ้อนจูงรอติดตามภาคต่อไปจร้าา ขอบคุณสำหรับความสนุกอันนี้นะค่ะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Shadownights ที่ 20-07-2014 01:46:10
ก็นึกว่าคนหล่อที่ไหน ที่แท้คุณพี่ชายของอาซานี่เอง ทิ้งปมคนกลายเป็นรูปปั้นไว้ซะขนาดนี้ รอลุ้นภาคต่อไปไม่ไหวละ  :mew3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: ninghyuk ที่ 20-07-2014 01:55:22
ความรู้สึกที่อ่านนิยายเรื่องนี้อย่างกะดูซีรีส์แวมไพร์ไดอารี่ ลุ้นนน ตื่นเต้น ปริศนาเยอะสุดด
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 20-07-2014 02:15:10
ติดตามจ้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: pk11677 ที่ 20-07-2014 03:34:55
รออ่านด้วยคนค่าาาา
ติมตาม ชอบนิยายแนวนี้ o13

จบได้ค้างมากก กรี้ดด นอนไม่หลับบบบ :z3: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: ckk ที่ 20-07-2014 06:03:45
จบแล้ว
มารอภาค 2 ต่อค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 20-07-2014 08:25:12
รอตอนต่อไปจ้า มีปมให้คิดอ่ะ  o13
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 20-07-2014 08:28:38
ภาคแรกจบไปแล้ว
รอภาคสองค่ะ อิอิ
สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 20-07-2014 09:32:43
โอ๊ยยยยยย ตื่นเต้นรอภาคใหม่อยู่นีผุ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 20-07-2014 10:00:12
จบภาคแรกแล้ววว
แต่ยังคาใจอยู่หลายเรื่องเลย
รอเฉลยในภาคสองนะ
สู้ๆน้าริริ ^^
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 20-07-2014 10:39:09
รอภาคสอง อิอิ  :z2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 20-07-2014 11:22:27
 :pig4: จบภาคแรกแต่ยังมีเรื่องคาใจ จอภาคสองด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 20-07-2014 12:18:55
 :hao5: แง๊ จบแบบมีปมที่ขมวดกันเป็นก้อนเบิ้มๆเยยอ่า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 20-07-2014 13:22:56
อุตะภาคหนึ่งจบแล้ว ยังไงก็ติดตาม
อยากจะอ่าน ฉากหวานๆของพี่งู อิอิ
ไม่ทิ้งพี่งูแน่นอน ..... แต่อยากให้พี่งูเข้าฝันงะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: ๛゙★βra_11!☆゙ ที่ 20-07-2014 14:59:51
ชอบค่าา  :katai2-1:
อ่านแล้วฟินมากกๆ
โยชิเสน่ห์แรงรึเปล่าเนี่ย มีตาพี่ชายผมทองตาเขียวมาสนใจซะแล้ว

รอต่อภาค2เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 20-07-2014 15:09:33
ถ้าพี่งูจะเข้าฝันก็ช่วยบอกให้รักด้วยนะ จะได้เจอเนื้อคู่ :impress2:
รอภาค2 ต่อไปจะเป้นยังไงน้า

หวังว่าเอเดนนั้นจะมาแย่งโยชิไปจากอาซานะ
หมอนี่ไม่น่าไว้ใจเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: wi_OoO_wi ที่ 20-07-2014 19:44:32
ปูเสื่อรอภาค 2  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 20-07-2014 21:10:23
รอตอนต่อไป
เพิ่งได้มาอ่านสนุกมากเลยอ่ะ
ภาคต่อต้องมันส์หยดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 20-07-2014 21:15:39
 o13สนุกมากค่ะ ติมตาม ลุ้นสุดๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-07-2014 21:57:52
ภาคใหม่โยชิจะเป็นงูด้วยไหม

อยากให้กลายร่างเป็นงูบ้าง

ปล เจอคำผิด คำตกไป มีหลายคำอยู่นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: full ที่ 20-07-2014 23:10:53
จบแล้วชอบมว๊ากกกก  รอภาค 2 นะ สู้ๆๆนะ  :mew1:

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 20-07-2014 23:26:39
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:แล้วจะรอออออออน๊าาาาาาาาาาาา :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 21-07-2014 00:13:30
ทิ้งให้อยากแล้วจากปาย~~~~ :serius2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 21-07-2014 00:17:48
อุหวายยย  คุณพี่ชายจะมาทำอะไรเนี่ยยยย ชอบจังเลยเรื่องแฟนซีๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 21-07-2014 00:24:20
สนุกค่ะ ปมไม่ซับซ้อนจนน่ารำคาญ
อ่านแล้วลื่นดี
กลัวใจตัวเองจะชอบเอเดน ฮืออออ
รอภาค2 อยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 21-07-2014 00:33:21
สนุกมากกกกกกกกกกกเลยค่ะ ใช้เวลาอ่านหลายชั่วโมงทีเดียวกับเรื่องนี้
ยอมรับเลยว่าครั้งแรกที่เปิดมาเรากดปิดทันทีที่รู้ว่าพระเอกเป็นงู ฮ่าๆ
ก้นะ เป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยถูกโฉลกเท่าไหร่ แต่เพราะดูอะไรๆแล้วมันกลับน่าสนใจทีเดียว
เลยลองกลั้นใจอ่านดู พยายามไม่ใช้จินตนาการมากเดี๋ยวจะไม่รอด ฮ่าาา
สุดท้ายก้อ่านจบจนได้ ลุ้นกับหลายๆตอนและแน่นอนเราชอบอาซามากกกกก
เป็นพระเอกที่ใจหล่อที่สุด พันปีนี่ใครก้รู้ว่ามันยาวนานแค่ไหน
รู้สึกอิจฉาโยชิขึ้นมาตงิดๆแต่จะให้เอาอาซาตอนเป็นงู บอกเลยว่าไม่สู้
แต่ถ้าเป็นคนก้อยากจะสู้กับโยชิสักตั้ง ถึงจะรูว่าสู้ไม่ได้ก้เถอะ ฮ่าๆ
ปริศนายังไม่กระจ่างก้เยอะ มีมาอีกก้เยอะ ดังนั้นไม่ติดตามต่อคงไม่ได้
ยังไงจะรอภาคสองต่อนะคะ อยากรู้เรื่องราวต่างๆจะแย่ เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 21-07-2014 00:36:15
ภาคสองจะต่อในนี้ หรือ ขึ้นกระทู้ใหม่จะคนสวย?
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Alphas ที่ 21-07-2014 01:41:37
สนุกมากกกกกกกกกกกเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 21-07-2014 09:25:36
รอภาค2 น๊า อิอิ ว่าแต่เอเดนจะคู่กะพี่ชายของโยชิป่าวน๊า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 21-07-2014 09:41:41
จบภาคแรกพร้อมทิ้งท้ายด้วยปริศนา  :z3:
เอเดนจะมาแย่งหนูโยชิไปจากอาซามั้ยนะ
นายเอกของเรายิ่งเสน่ห์แรงอยู่ด้วย
อยากอ่านภาคสองต่อแล้วอ่ะ แต่ก็เข้าใจว่าคนเขียนยังไม่ว่างนี่เนอะ
ยังไงก็รออยู่นะจ๊ะ อย่าหายไปนานน้าาาาาา
เป็นกำลังใจให้คนเขียนสู้ๆนะจ๊ะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 21-07-2014 10:41:42
จบแต่ทิ้งปมอย่างนี้...โชคดีที่ริริไม่ไปคู่อื่นจนค้างนะคะ
รอเดือนหน้าค่ะ อีกไม่กี่วันแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 21-07-2014 14:53:18
มาลงชื่อรออ่านฮะ และขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ด้วย
Congratulations!
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: aimjungna ที่ 21-07-2014 19:09:37
สวัสดีคะ เพิ่งเย้ามาอ่าน ปกติเป็นคนไม่ชอบงูแต่พอาอ่านเรื่องนี้แล้วหลงรักงูหมดใจเลยคะ *0*
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 21-07-2014 21:08:24
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบบบ ริริแต่งแหวกแนวมาก อิอิ อยากอ่านตอนพิเศษหวานๆของคู่เน้^^
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 21-07-2014 21:20:41
รอภาคสองจ้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 21-07-2014 22:18:08
จบแล้ว สนุกมากจริงๆ ชอบแนวนี้มากจ้า
รอภาคสองของพี่งู และอีก 3 เรื่องนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 21-07-2014 22:43:54
สนุกมากครับ ไม่เคยอ่านเนื้อเรื่องแนวแบบนี้มาก่อนเลย มีอะไรให้ลุ้น ให้คิด ได้ตลอด

เป็นกำลังใจให้คนเขียนครับ

รออ่านภาค 2
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: nonbungsanovii ที่ 22-07-2014 01:08:04
 :o12:รอภาคต่อไป
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: pupee ที่ 22-07-2014 06:00:19
งื้อออออออออออออออ พิ่งมาอ่านได้ วันสองวันนี้ อ๊ากกชอบมากเลยแนวแฟนตาซีเนี้ยสนุกจังงงง  > <~
แต่แอบอยากให้ อาซากับโยชิ มีลูกด้วยกันจังเลยไหนๆมันก็แนวแฟนตาซีอยู่แล้วอะเนอะ อิอิ 5555555555+ รออ่านภาค 2 จ้า :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 23-07-2014 12:24:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 23-07-2014 19:08:19
รออออออออภาค2ต่อไปค่ะ แต่ค้างมาเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 24-07-2014 20:10:21
เป็นแฟนตาซีที่สนุกมาก ๆ เลยยย
ตอนอาซาเป็นงูก็ไม่ได้บรรยายแบบน่ากลัวอ่านแล้วรู้สึกน่ารักด้วยซ้ำ  :m3:

ชอบในความรักของอาซากับหนูโยจังรักกันมาตั้้งเป็นพันๆปี

จบภาค1 แล้วแต่บางปมก็ยังไม่คลี่คลาย

เดาว่าน้องแมวน้อยต้องเป็นครึ่งมนุษย์ด้วยแน่เลย 55555

รอภาค2นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: AoMSiN555 ที่ 25-07-2014 17:07:25
รออยู่นะ ติดตามๆ มาไวๆนะกัฟ :katai5: :katai5
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 26-07-2014 01:45:03
อยากอ่านภาคต่อไปแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 26-07-2014 02:30:22
สนุกมากค่าาาาาาาาาา ตามอ่านรวดเดียวจบ
จะรอภาคสองนะคะ ชอบอาซามาก
งูหื่นงูอบอุ่นงูแสนดี55555555555555
ตอนแรกแอบกลัวว่าจะมีดราม่าครอบครัว เตรียมทิชชู่เลยค่ะ
ไม่มีก็โล่งไปหน่อย แต่อยากอ่านคู่คาร์เตอรฉากฟีชเทอริ่งน่าจะดุเดือด
เห็นชอบคิดอะไรแปลกๆ55555555555555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 27-07-2014 00:26:08
 :L1:  =///=" คิดถึงริริจังค่ะ ติดตามภาคต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ >[]< ~
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 28-07-2014 09:36:02
สนุกขอรับ

อ่านแล้วอยากได้พี่งูแบบนี้สักตัว

ถึงจะร้ายแต่ร้ายเพราะรักเธอ(ช่างกล้า)

รอภาคต่อขอรับ


หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: zakimi ที่ 28-07-2014 21:54:23
กรี๊ด  รอภาคต่อไปฮาฟ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 28-07-2014 23:19:39
เอเดนทำแบบนั้นทำไม น่าสงสัยจริง ๆ แล้วโยชิจะกลายร่างได้ไหมนะเนี่ย อาซากับพวกจะทำยังไงกันนะ รอภาคสองค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 29-07-2014 00:02:57
เมื่อไรจะมาจ้า

ภาคสองอะ

รอๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 01-08-2014 10:38:19
 :call: :call: :call: โอม.......ภาค2จงมา
5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 01-08-2014 16:40:23
สนุกมากกกกกกกก ตามอ่านรวดเดียวตั้งแต่เที่ยงจนถึงตอนจบ ข้าวปลายังไม่ได้กิน อาการปวดหัววิ้งๆเริ่มมาละ
คือแบบว่าแต่งเก่งมากๆเลยค่ะ เป็นนิยายที่เท่อ่ะ ชอบบบบบบบบ เราไม่ชอบอ่านนิยายแฟนซีพวกสิงสาราสัตว์อะไรพวกนี้ แต่เรื่องมันเจ๋งๆจริงๆเลย รอภาคสองค่า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-08-2014 20:43:18
มาเป็นกำลังใจให้จ้า

และรออย่างใจเย็นๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: PaTtO ที่ 02-08-2014 01:14:13
หนทางจบ ยังอีกยาวไกลนัก :hao5:

บอกเลยว่ารักพี่งูสุดหัวใจ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 02-08-2014 14:33:08
เอ๊ ยังหนทางก็ยังอีกยาวไกลสิน๊าา  :hao7:
แบบอยากอ่านพี่หมอคาร์เตอร์มาก อยากรู้ว่าทำไมถึงคิดค้นยาแบบนั้นนนน  :hao6:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 03-08-2014 11:19:36
 :mew1: มาปักหลักรอภาค2 พี่งูทำให้เราว้าวุ่นไปทั้งใจ 555+ :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 03-08-2014 14:04:39
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: narakstory ที่ 08-08-2014 04:19:00
ตามมากดดันภาคสองด้วยคน
อยากรู้จังว่าถ้าเป็นงู โยชิจะเป็นงูสีอะไร
เอาใจช่วยงับ
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ TWENTY - END❁ 19-07-14 [P.26]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 08-08-2014 09:54:13
 :katai1: :katai1: :katai1: ขยุ้มหน้าด้วยความค้าง
ติดตามรอภาค2 ส่งแรงเชียร์ให้ริริจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: Manowkittyopeia ที่ 16-08-2014 02:24:16
สวัสดีค่ะคุณริริ :)

ติดตามผลงานของคุณริริมาหลายเรื่องแล้วตั้งแต่เรื่องแรกๆ
แต่ขอยกผลงานชิ้นนี้ให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของคุณริริเลยค่ะ
จากใจจริงเราอ่านผลงานคุณริริมาก็รู้สึกว่าเป็นนิยายที่ดี ที่เห็นชื่อคนเขียนแล้วยังมีใจจะกดเข้ามาอ่าน
เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะพลิกผันความรู้สึกเราได้ขนาดนี้

อึ้งมาก!

 :katai1:


เป็นแนวแฟนตาซีที่ยอดเยี่ยมมาก สำหรับเราเรามองว่าฝีมือคุณริริพัฒนาได้ดีจนน่าทึ่งเลยค่ะ
ืทั้งในแง่ภาษา พล็อต การเล่าเรื่อง ลำดับ การเรียบเรียง ทุกอย่างมันดีจนเราตกใจ
คุณริริสร้างปมและเก็บปมได้ดีมาก ทุกอย่างดูสมเหตุสมผล ทั้งเรื่องและตัวละคร
ทั้งๆที่โยชิดูเป็นผู้ชายขี้แย ร้องไห้บ่อย เป็นลมบ่อย แต่ก็ไม่น่ารำคาญ
เรายังมองว่าเขาเข้มแข็งเสียด้วยซ้ำ ส่วนอาซา ดูเป็นงูคลั่งรักมาก แต่เราก็ชื่นชมในความรักของเขามากกว่าจะค่อนแคะ
กระทั่งจูเลียตที่ดูน่าโมโห แต่เธอก็ดูเป็นสาวฝรั่งใจเด็ด รักเธอคนนี้มาก มีอารมณ์รักแต่ก็มีเหตุผล


เราเป็นคนเรื่องมากในการอ่านนิยายนิดนึง แล้วรู้สึกว่าไม่ได้เจอนิยายดีๆอย่างนี้มานานมากแล้ว
สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของนิยายแปลนิดๆ ชอบมากค่ะ คลั่งพี่งูเลย  :hao6:


อยากจะกรีดร้องให้มากกว่านี้ แต่พูดไม่ออก เต็มตื้นเต็มอิ่มจริงๆค่ะ
อาาาา ..ชอบมากจริง
รอติดตามภาคสองนะคะ (คืนนี้จะนอนเปิดหน้าต่างบ้างเผื่อมีพี่งูเข้ามานอนรัด  :hao7:)


ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 16-08-2014 10:25:58
เย้ๆ part II o13 I wait you always.
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 17-08-2014 00:35:04
ชอบมาก ๆสำหรับงานชุดนี้ริริพัฒนาฝีมือได้สุดยอดเลยรอติดตามภาคต่อน่ะจ้ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 19-08-2014 06:09:51
สนุกมากๆค่ะ ดีใจที่ได้มารู้จักเรื่องนี้ ขอบคุณคนเขียนมากนะคะ


เรารอภาค2 อยู่นะคะ  o13


ปล. เราสงสัยนิดหน่อยไม่รู้อ่านข้ามตรงไหนไปไหม ตอนที่อาซาบาดเจ็บแล้วต้องกลายเป็นงูตัวเล็กเพราะไม่มีพลังพอที่จะกลายร่างเป็นคน แล้วพอเวลาอาซาพูดภาษางู ทำไมโยชิถึงฟังไม่ออกคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-08-2014 08:23:04
รอภาคต่อไปน้าาาา คุณริริรีบๆมาต่อเลยยย
คิดถึงโยชิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 19-08-2014 08:52:17
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 19-08-2014 09:13:20
รอ รอ รอ เข้า มา รอ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 19-08-2014 09:19:43
ขึ้น Waiting แปลว่ามาลงหลักปักฐานรอไดิ อิอิ :mc4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 19-08-2014 21:13:56
อุ๊ตะ!!มันกะลังจะมาใช่ม้ายยยย รอคอยมาเนิ่นนานนนน รอคะๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 20-08-2014 22:54:32
 :hao6: รอร๊อรอต่อไปจ้าคนแต่งจ๋า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-08-2014 23:13:44
อ่าขึ้นมาแล้ว

กำลังจะมาใช่ไหม

รอๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: แกมแก่มแก้มแก๊มแก๋ม ที่ 20-08-2014 23:16:04
 :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 21-08-2014 08:33:00
-/////- :mew1:
มาปู่เสื่อรอคุณริริจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 21-08-2014 09:52:25
มาเจิมรอค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 21-08-2014 09:54:28
มารอ พี่งู ด้วยคน

 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 05-09-2014 10:33:34
 :mew1: คิดถึงพี่งูแล้วจ้า รอออออออ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 12-09-2014 10:44:21
มารอหนูโย กับพี่งู คิดถึงมากกกกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: AoMSiN555 ที่ 12-09-2014 22:32:01
รอติดตามอยู่นะ ให้กำลังใจนักเขียนนะกัฟ  นักอ่านก็ตั้งตารอนะ สู้ๆนะ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 13-09-2014 00:04:05
มารอจ้า

เมื่อไร่จะมาเอ่ย...
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: army_van ที่ 18-09-2014 23:55:02
ฟิ้ววววว   :amen: :amen:

รออ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 22-09-2014 21:05:57
รอน้องโยชิอยู่น้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 28-09-2014 19:59:29
คิดถึงริริ ปักหลักรอจ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: AoMSiN555 ที่ 05-10-2014 14:18:34
รออยุ่นะ :z2:  มามะ มาให้นักอ่าน อ่านหน่อยเถอะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: Nunng ที่ 05-10-2014 18:31:04
จะรอน้าาาา :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้าย❁ Waiting for VOL.2❁
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-10-2014 19:32:16
เธออยู่ไหน..........
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 06-10-2014 22:33:33
http://www.youtube.com/v/bhzJO34SCoc
จะให้ได้อารมณ์กรุณาเปิดเพลงฟัง ภาคนี้คืออารมณ์นี้เลยนะจ้ะ


DG.Series❁COLD-HEART SNAKE Vol.2
BLOODLINE

(http://image.ohozaa.com/i/199/Cx5sDF.jpg)




(http://image.ohozaa.com/i/f35/yEZrRX.png)



 :mew1:

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 06-10-2014 22:57:05
COLD - HEART SNAKE VOL.2 : B.L.O.O.D.L.I.N.E
PROLOGUE



All of my memories keep you near.
In silent moments,
Imagining you here.
All of my memories keep you near.
In silent whispers, silent tears.
Together in all these memories,
I see your smile.
All of the memories I hold dear.
Darling you know I'll love you,
Til the end of time.



       
         ผมกำลังจะแย่!!!
        แต่คนที่กำลังจะแย่กว่าคืออาซา...เอเดนกำลังจะฆ่าเขา!!!
        ขาทั้งสองข้างวิ่งสลับสับถี่เพื่อเร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ วิ่งไปหอบไปแต่ก็พยายามฝืนร่างกาย ฟันขบกัดแน่นข่มความเจ็บปวดตามร่างกาย ทั้งขาที่ชาดิก ท้องที่เกร็งปวดจากการเหนื่อยหอบที่ต้องวิ่งมายาวนาน แต่หยุดไม่ได้ ต่อให้ต้องวิ่งจนขาดใจตายก็ต้องทำ
        สถานที่รอบตัวผมแน่ใจว่าไม่เคยมา แต่ทุกอย่างกลับคุ้นเคย ผมรู้ว่าผมจะต้องวิ่งไปที่ไหน โบสถ์เก่าในเมืองที่ห่างไกลความเจริญเป็นสถานที่แรกที่แวบขึ้นมาในห้วงความคิด และตอนนี้อาซาอยู่ที่นั่น
        อาซา...ได้โปรดอดทนไว้ ฉันกำลังจะไปช่วยนาย
        เม็ดเหงื่อไหลโทรมกาย สรรพเสียงต่างๆรอบตัวดังอื้ออึงจนแสบแก้วหู หนึ่งในเสียงนั้นเป็นเสียงของอาซา ผมได้ยินมัน เขากำลังจะแย่!

        ‘อ๊ากกกกก นะ นายจะไม่มีวันได้สิ่งๆนั้น! ไม่มีวัน!!!’

        ผมเร่งความเร็วแต่ยิ่งวิ่งยิ่งรู้สึกว่าตัวเองหยุดยืนอยู่กับที่ ขาเหมือนถูกดึงไม่ให้ก้าวไปข้างหน้า สองข้างทางมีแต่ต้นไม้รกชัน มองแทบไม่เห็นสิ่งอื่นใดนอกจากความสิ้นหวัง
        ความอ่อนแรงจากการวิ่งทางไกลมาเป็นเวลานานทำให้ขาทั้งสองข้างหมดแรงทรุดลง ผมก้มหน้าหอบหายใจแรง พยายามระงับอาการใจเต้นระรัวจากความกลัว กลัวจะไปไม่ทันช่วยอาซา ผมสูดลมหายใจเข้าลึก กัดฟันลุกขึ้นยืนด้วยแข้งขาที่สั่นเทาแล้วออกวิ่งต่อ
        จนกระทั่งเจอโบสถ์ตรงหน้า สายลมอ่อนๆพัดเอากลิ่นคาวเลือดลอยเข้ากระทบจมูก ผมรีบก้าวเข้าไปข้างใน งูสีเงินสะท้อนแสงสองหัวตวัดมองผมด้วยดวงตาแดงฉาน นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกกลัวจับใจ แต่กลับเป็นร่างงูสีดำนอนหายใจรวยริน เกล็ดสีนิลถูกย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด ช่วงหัวถูกไอ้งูสีเงินสารเลวรัดพันแน่น
        “ปล่อยเขา!!!” ผมตะโกนสุดเสียง วิ่งเข้าไปใกล้อาซาอย่างไม่กลัวตาย “เขาจะตายแล้วได้ยินไหม ปล่อยเขานะเอเดน!!!”
        เอเดนไม่เพียงไม่ทำตาม แต่เขากลับออกแรงรัดอาซาแน่นขึ้น
        “ซี่!!!” ร่างงูของอาซากระตุกอย่างแรงด้วยความทรมาน ผมตัวสั่นสะท้านกับภาพที่เห็น เจ็บปวดหน้าอกจนแทบหายใจไม่ออก ผมกลัว...ความเจ็บปวดที่เห็นคนรักต้องถูกทำร้ายแปลเปลี่ยนเป็นความแค้น
        “อาซาเป็นน้องชายนายนะ!” ผมพยายามเกลี้ยกล่อม ร่างกายผมเริ่มร้อนรุ่มจนยากที่จะควบคุมได้
        “น้องงั้นเหรอ...โทษทีนะเด็กน้อย ฉันไม่เคยเห็นมันเป็นน้อง หึหึ อย่างมันสมควรแล้วที่ต้องตาย คนที่จะยิ่งใหญ่มีเพียงฉันคนเดียวเท่านั้น”
        ร่างกายเหมือนถูกแช่แข็งพร้อมกับเหล็กแหลมนับหมื่นนับพันเล่มพุ่งเข้าทิ่มแทงร่างกาย ทำไมเอเดนถึงได้ใจคอโหดเหี้ยมเย็นชาถึงเพียงนี้
        “หมดเวลาขอแกแล้วอาซา ไปตายซะ!”
        “ไม่!!!!” ผมตะเบ็งเสียงร้องสุดเสียงยามที่คมเขี้ยวแหลมฝังลงบนตัวของอาซา หยาดเลือดไหลทะลักชวนเขย่าขวัญ เสียงห้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดของเขาดังผสานกับเสียงร้องสะอื้นปานจะขาดใจของผมที่ทำได้เพียงกำมือแน่นตัวสั่นไหวรุนแรงมองภาพอาซาถูกทำร้าย
        ...ผมทำอะไรไม่ได้เลย...
        ...ทำไม…
        “ฮือออ ปล่อยเขา อย่าทำเขา ได้โปรด ฉันขอร้อง ฮือออ” ผมกระเสือกกระสนเข้าไปดึงเอเดนออกจากอาซา หัวใจแทบหยุดเต้นแล้ว ไม่ไหวแล้ว
        พรึบ!
        เอเดนปล่อยตัวอาซาลงกับพื้นอย่างแรง เขาแน่นิ่งไม่ไหวติง ผมกอดอาซาไว้แน่น แต่ดวงตายังคงจับจ้องอสรพิษสีเงินสองหัวอย่างคาดแค้น สิ่งที่หลุดออกมาจากร่างของอาซาในปากของเอเดนคือหัวใจที่ยังคงเต้น
        หัวใจของอาซา
        “ไม่!!!!!”










        “โยชิ!”
        “ไม่ ฮือออ ไม่นะ อย่าตายนะอย่าตาย ฮึกฮือ”
        “โยชิๆ คนดีตื่นเถอะ แค่ฝันร้าย โยชิ!”
        ‘เฮือก!’
        ผมสะดุ้งตัวโยน ตาเหลือกเบิกโผลง หัวใจยังคงเต้นแรงเหมือนจะกระเด็นหลุดออกจากกาย เหนื่อยหอบจนเกิดอาการเจ็บร้าวช่วงอก
        “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” เสียงปลอบที่อ่อนโยนเหมือนสายน้ำเย็นช่วยชโลมให้จิตใจที่กำลังตื่นตกใจอย่างหนักจากฝันร้าย
        ผมฝันไป...มันเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น
        แค่ฝันร้าย
        “ฮึกๆๆ ฮืออ อาซา” ผมร้องเรียกหาคนข้างกายที่ขยับเข้ากอดผมไว้ทั้งตัว ลูบหัวลูบหลังปลอบให้ผมสงบ
        ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณที่มันไม่ใช่เรื่องจริง แม้มันจะเหมือนจริงจนน่ากลัว
        ผมร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งอยู่นาน ปล่อยให้น้ำตาไหลจนร่างกายและจิตใจกลับสู่สภาพปกติ ผมสามารถหลุดพ้นออกจากความฝันได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ จากนั้นผมก็เล่าความฝันให้อาซาฟัง
        เพราะลึกๆแล้วผมยังคงเสียใจ แม้ทั้งหมดทั้งมวลมันจะเป็นแค่ความฝัน
        “อาซา...” ผมหยุดร้องไห้ เงยหน้าสบตาสีดำสีนิล รอยยิ้มอบอุ่นส่งตรงมายังผมพร้อมกับแววตาอ่อนโยน
        “หืม จุ๊บ” อาซาจูบที่หน้าผากผมเบาๆ
        “สัญญาได้ไหม ว่าจะอยู่กับฉันตลอดไป”
        “กลัวเหรอ”
        “กลัวสิ กลัวว่าจะเสียนายไป” มันไม่ตลกจริงๆ ยิ่งฝันตอนเช้ามืดด้วย ผมกลัวว่ามันจะเป็นจริง อาซาบอกว่าผมคงคิดมากไปกับเรื่องการมาของเอเดน
        “ฉันไม่ไปไหนหรอก สัญญา” มืออุ่นสอดประสานยามที่ให้คำมั่นสัญญา ผมกระชับมือหนาแน่น
        “ห้ามตายด้วยนะ” ผมเรียกร้องเอาแต่ใจ
        “อะไรกัน แม้แต่ตายก็ยังจะห้ามกันเหรอ เผด็จการไปหน่อยนะว่าไหม” อาซาขำในลำคอ เริ่มออกลายกอดรัดฝัดเหวี่ยงผมบนเตียงกว้าง
        “ก็...คิกๆๆ ไม่นะ” อาซาลวนลามคอผมอย่างที่เขาชอบทำ แถมยังไม่ยอมโกนหนวดด้วย ผมเลยจั๊กจี้ยามที่ตอหนวดถูคลอเคลียกับผิวกาย “ฮ่าๆๆ สัญญาก่อนสิ ฮึก อ๊า”
        “เอาเป็นว่า ฉันสัญญาว่าจะรักษาชีวิตตัวเองให้ดีก็แล้วกัน แต่ถึงจะตาย...ฉันก็จะไม่มีวันลืมนาย ต่อให้ตายก็ไม่มีวันลืมว่าฉันรักนายมากแค่ไหน”
        “สัญญาแล้วนะ” สายตาของเราประสานสบกันอย่างลึกซึ้ง สองแขนโอบรอบลำคอคนบนตัว
        “อืม สัญญาครับ” ผมถึงได้ยิ้มออก
        รอยยิ้มที่แสดงออกเพื่อให้อาซาสบายใจ และในด้านตรงกันข้าม รอยยิ้มนี้มีไว้ข่มความกังวลที่อยู่ลึกภายในใจ
        ถ้าในความฝันนั้นผมกลายเป็นงูแล้วสู้กับเอเดนได้ อาซาก็จะไม่ต้องตาย
        เพราะแม้เพียงความฝัน ผมก็ไม่ปรารถนาให้เขาจากไปไหน ไม่เลยสักนิด
        ผมภาวนา...โดยที่ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่า ความฝันในครั้งนี้จะทำให้ผมเปลี่ยนไปตลอดกาล


(http://image.ohozaa.com/i/401/r1skU8.jpg)

…..
Hey guys!!! I come back right now Wow!
ฮ่าๆๆๆ หลังจากผิดสัญญาไปเดือนกว่า ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ เดือนที่ผ่านมายุ่งมากจริงๆค่ะ ทั้งเรื่องหนังสือเสแสร้งแกล้งรักที่เพิ่งจัดส่งให้คนอ่านที่สั่งซื้อไป และงานที่หนักหนา เดือนนี้พอจะว่างให้หายใจหายคอบ้าง แต่ก็ยังทำงานนะ เลยมาได้ อาจไม่ได้มาถี่เหมือนภาคแรกนะคะ ก็สักสามวันหนึ่งตอน ไม่น่าจะเร็วกว่านี้ แต่อาจจะช้ากว่าบ้าง อ้าววว ขึ้นอยู่กับเวลาที่อำนวย มีในสต็อกแต่ไม่มาก เลยคิดว่าสามวันตอนนี่โอเคละ แต่ถ้าจะลงไม่ตรงก็จะแจ้งให้ทราบทางเพจ เน้นอีกครั้งว่าทางเพจนะคะ เข้ามาดูแล้วนิยายยังไม่อัพก็เปลี่ยนเส้นทางเข้าเพจนะคะ
เข้าสู้เนื้อหาของภาคนี้ อ่านอินโทรแล้วหลายๆคนอาจจิตตกกลัวว่าเรื่องนี้จะไม่แฮปปี้เอ็นดิ้ง หรือมีใครคนใดคนหนึ่งตาย ขอบอกไว้ตรงนี้ว่าแฮปปี้เอ็นดิ้งนะคะ บอกได้แค่นี้ แต่อาจจะมีให้ใจหายใจคว่ำกันบ้าง ภาคสองนี้พยายามจะให้มันเข็มข้นขึ้นจากพล็อตที่วางไว้ ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน แน่นอนว่าดาร์กกว่าภาคแรก แต่ฉากสวีทก็ยังมีนะตัว ฉากหื่นๆก็ตามมา จะทำให้ดีที่สุดนะคะ ช่วยเป็นกำลังใจให้ริริด้วยนะ ต้องบอกเลยว่ามันยากมาก ท้าทายฟุดๆ แต่เราจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้! เอ้าสู้!!!
สุดท้ายอยากบอกว่า คิดถึงทุกคนมากมายก่ายกอง กอดดดดด :กอด1: จุ๊บบบบ~ :mew1:
ตอนที่1เจอกันวันที่9นะคะ  :katai2-1:
สวัสดีค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: bankimpossible ที่ 06-10-2014 23:00:28
มาแล้ว ๆ จิ้ม ๆ :)

 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 06-10-2014 23:11:44
มาแร้วววววคิดถึงอาซา นู๋โย แร้วววก้อริริด้วยจ้ารอๆๆๆๆ อิอิ :mew3: :mew2: :mew1: :impress2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: wi_OoO_wi ที่ 06-10-2014 23:21:58
hey you  :mc4: :mc4: :mc4:

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 06-10-2014 23:40:50
ยินดีต้อนรับกลับค่า 555 คิดถึงคนเขียนกับคู่นี้จังเลย
เรื่องงานก็สู้ๆนะคะ รออ่านเสมอค่า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 06-10-2014 23:52:53
รอคอยมาเนิ่นนานนนนนน กลับมาแล้วววววว
เปิดมาก็เลือดชุ่มซะละ ดูท่าภาคนี้จะสุดๆเลยนะคะเนี่ย
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ รอตอนต่อไปจ้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 07-10-2014 00:56:44
กรี๊ดดดดภาคนี้มันส์แน่ๆ
ติดตามค่าาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: JY_JRB ที่ 07-10-2014 01:01:01
แลดูจะโศก ไหมหนิ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 07-10-2014 01:06:46
หืมมมมมมมมม นี่ขนาดแค่อินโทรก็บีบหัวใจแล้วค่ะ  ท่าทางจะบู๊ยังไงไม่รู้ แซ่บกว่าภาคแรกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 07-10-2014 02:32:39
แค่อินโทรก็ตื่นเต้นแล้ววว  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 07-10-2014 07:15:56
มาแล้วๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 07-10-2014 07:22:32
โอ้วววววว ริริพาพี่งูมาแล้ววววววว :mc4:
เปิดมาก็เลือดท่วมเลยทีเดียว แล้วเอเดนเป็นงูสองหัวว อื้อหือออออ  :a5:
 ว่าแต่เรื่องนี้มีคู่รองไหมคะ เพราะปกติโฟกัสไปแต่คู่หลัก เรายังแอบติดใจเรื่องแมวปุยเมฆ รึปุยฝ้ายนั่นอยู่เลย :hao4:
รอตอนต่อไปปปปปปปปป :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 07-10-2014 08:13:28
นี่แค่อินโทรนะ เนื้อเรื่องเต็มจะขนาดไหนเนี่ย

รอลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 07-10-2014 08:21:13
พี่งูกับโยชิกลับมาแล้ววว
สิ้นสุดการรอคอยละ
รอตอนแรกอยู่น้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 07-10-2014 08:25:36
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด Come backkkkkkkkkkk  :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 07-10-2014 08:32:34
ในที่สุดก็มาแล้ว
แต่โยชิฝันน่ากลัวจัง อย่าแยกพวกเขาอีกเลยนะขอให้รักกันตลอดไปยาวๆเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 07-10-2014 09:38:46
 :mew1: มาแล้วววววววว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: crunkii3 ที่ 07-10-2014 12:32:34
พี่งูมาแล้ว
อ๊ายยยย รอคอยเธอมาแสนนาน

 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 07-10-2014 12:59:16
รอจ้ารอ

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-10-2014 15:01:44
อาซากับโยชิมาแล้วววววว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 07-10-2014 17:20:06
Welcome back krab
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-10-2014 18:38:49
อ่านบรรทัดแรก

ใจหายใจควำ่

นึกว่าเปนเรื่องจริง

มาแล้วๆดีใจมากเลย

ติดตามเสมอจ้า

ปล ฉันรู้ว่าเธอเก่ง เธอทำได้ เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 07-10-2014 21:42:49
มาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 07-10-2014 21:58:16
คอยมานาน พอเห็นรูปก็มีความสุข แต่พอเปิดเพลงฟัง แล้ว
อ่านอินโทร..โอ้ละหนอ..อาซาของแม่...เอ๊ย...ของหนูโยจัง
มันจะเหมือนความของเพลงรึเปล่า....ฟังให้เศร้าก็เศร้า แต่จะ
ให้มันซึ้งก็ซึ้งได้เหมือนกัน.....เอาเป็นว่าจะเศร้าจะซึ้งบทสรุป
อีหนูโยจังของแม่ต้องแฮปปี้นะจ๊ะ....
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 08-10-2014 03:30:05
 :mc4: :mc4:เย้ๆๆๆ ฉลองภาค2
เปิดตัวให้คนอ่านได้ใจหายใจคว่ำไปนิ๊สสส :a5:
ที่แท้น้องโยชิก้อแค่ฝันร้าย
เอ๊ะ!!!หรือฝันบอกเหตุหว่า
อยากรู้คงต้องตามติดติดตามกันต่อไป
ริริสู้ๆ รออยู่นะจ๊ะ  :3123:
ปล.ได้รับหนังสือแล้ว ชอบรูปด้านในนะ แบบอ่านไป ฟินไป ดูรูปไป จิ้นกระจาย อะไรประมาณนี้อ่ะ อิ อิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 08-10-2014 05:45:19
แทบใจสลายตามโยชิไปเลย ภาคนนี้ขอเดาว่าโยชิจะแปลงร่างได้ใช่มะ เพราะความจะทำให้โยชิเข้มแข็ง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 08-10-2014 16:01:29
มาแล้วววว :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-10-2014 19:02:22
มารออ่านจ้า

รอๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁INTRO❁ 06102014[P.30]
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 09-10-2014 19:11:31
ในที่สุดก็มาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

แค่เริ่มต้นก็  ตื่นเต้นล่ะ

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 09-10-2014 23:17:10
B.L.O.O.D.L.I.N.E
ONE





        โลกนี้ไม่มีอะไรเท่าเทียม ไม่มีความยุติธรรมอย่างแท้จริง บางสิ่งอาจดูเหมือนว่าเท่ากัน แต่ความจริงแล้วมันแค่เกือบจะเท่า แค่เหมือน แต่ไม่มีทางเท่าเทียมกัน

        ความรักของอาซากับความรักของผมก็ไม่เท่ากัน และคิดว่าไม่มีทางที่จะเท่ากันได้

        เขารักผมมากกว่าที่ผมรักเขา นั่นเป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ต่อให้ผมรักเขามากขึ้นทุกวันเพื่อไล่ตามความรักของเขา แต่พ่อหนุ่มอเมริกันเจ้าเสน่ห์คนนี้ก็ทำให้ผมเห็นแล้วว่า ความรักของเขาที่มีต่อผมก้าวหน้าไปแบบก้าวกระโดด ล้ำหน้าแบบที่ผมไม่อาจตามทัน

        “ตื่นแล้วเหรอ หิวไหม” คำไถ่ถามแสนธรรมดา แต่ยิ่งตอบย้ำความคิดก่อนหน้า

        “หิวแล้ว” และผมก็ไม่ปฏิเสธเพราะท้องกำลังจะร้องประท้วงขออาหาร

        “ข้างหน้ามีร้านอาหารอยู่ไว้เราแวะพักกินข้าวเช้ากัน ดีไหม”

        “อืม ขอโทษนะ” ผมขยับกอดแขนยาวที่กำลังบังคับพวงมาลัยรถยนต์คันหรูราคาแสนเจ็บแสบ

        “หืม ขอโทษเรื่องอะไร” ดวงตาคมละจากถนนมองผมด้วยความสงสัย

        “ก็ฉันปล่อยให้นายขับรถคนเดียว ส่วนตัวเองเอาแต่หลับตั้งแต่ขึ้นรถ”

        “หึหึ คิดว่าเรื่องอะไร อย่าคิดมาก ฉันเป็นคนอยากขับรถไปเอง เลยทำให้นายต้องลำบากออกเดินทางแต่เช้าไปด้วย” ความใจดีของอาซาทำให้ผมรู้สึกกระดากใจมากขึ้นไปอีกเท่าตัว

        “แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ควรจะนั่งเป็นเพื่อนนาย”

        “แล้วก่อนหน้านี้นายไม่ได้นั่งเป็นเพื่อนฉันตรงไหน” ย้อนมาแบบนี้ผมถึงกับไปไม่ถูก “ถึงแม้จะนอนมาเป็นเพื่อนก็เถอะ” อาซาพูดต่อ ผมหยุดเถียงเรื่องนี้ทันที เถียงไปก็ไม่ชนะ

        หลังจากผ่านเรื่องเหนือฝันเหนือจินตนาการมาได้สามเดือน ก็ถึงช่วงเวลาของการปิดภาคเรียน ผมคิดถึงบ้านมากๆ จึงชวนอาซากลับไปด้วยกัน เขาไม่มีท่าทางลังเล ยอมทำตามใจผมแบบที่จูเลียตค่อนแคะว่าเขากำลังจะทำให้ผมเคยตัว เพราะตามใจผมเกินเหตุ ความจริงคือเธออยากให้อาซาไปเที่ยวเยอร์มันกับเธอและคนอื่นๆในบ้าน

        วันก่อนเราเถียงกับเกี่ยวกับวิธีกลับบ้าน ผมอยากนั่งเครื่องบินกลับ ไวกว่าขับรถกลับเองเป็นวันๆ แต่อาซาไม่ยอมนั่งเครื่องบิน เขายืนกรานว่าจะขับรถไปเองโดนใช้คำพูดหวานหูในการหว่านล้อมให้ผมเห็นด้วยกับเขา ว่าเขาต้องการใช้เวลาในการเดินทางกับผมยาวๆ เขาอยากใช้เวลาร่วมกับผมให้มากที่สุดเพื่อทดแทนช่วงเวลาที่ขาดหายไป ซึ่งผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจ ในเมื่อจะขับรถไปเองหรือนั่งเครื่องบินไปมันก็ไม่น่าจะต่างกันนัก เพราะยังไงช่วงหนึ่งเดือนต่อจากนี้ตัวของผมก็ต้องผูกติดกับเขาอยู่แล้ว แต่ก็นั่นแหละ เพราะเป็นอาซา ต่อให้ไม่ต้องขอร้อง ผมก็ยินดีตามใจทุกเรื่องขอเพียงเขาเอ่ยปากบอก

        เพราะผมเองก็กำลังชดเชยความรักในช่วงที่ขาดหายไปให้เขาอยู่

        ผมเคยคิดว่า...ถ้าหากผมจำเรื่องราวในอดีตได้ จะดีสักแค่ไหน ในความฝันที่แสนจะลางเลือนที่เคยหลับฝันถึง ผมรู้สึกได้ถึงความรักที่เปรี่ยมล้น คำรักที่เฝ้าเวียนบอกกันและกันเต็มไปด้วยความรู้สึก อิ่มเอมใจเพียงแค่ได้ยิน และก็บีบคั้นหัวใจให้ผมร้องไห้ทุกครั้งที่หลับฝัน ไม่ได้เอ่ยเกินจริงแม้แต่น้อย บอกใครไปก็คงจะดูเชื่อได้ยาก ทว่าผมรู้สึกได้จริงๆ แต่น่าเสียดายที่พักหลังมานี้ผมไม่เคยฝันถึงเรื่องราวในอดีตอีกเลย

        ขอให้อาซาเล่า เขาก็เอาแต่อมยิ้มแล้วไม่พูด ไม่ว่าผมจะอ้อนยังไงเขาก็เอาแต่ยิ้มเจ้าเล่ห์จนทำให้ผมไม่อยากรู้ขึ้นมาดื้อๆ

        ความหดหู่พลันหายไปชั่วขณะ ความประหลาดใจไหลหลั่งเข้ามาแทนที่ ผมมองป้ายบอกยินดีต้องรับสู่จังหวัดแพร่

        “อาซา นายขับรถไปบ้านฉันถูกได้ยังไง” ถึงจะแปลกใจที่อาซารู้เส้นทาง แต่ผมกลับแปลกใจตัวเองมากกว่าที่ว่าทำไมเพิ่งมานึกเอะใจ
อาซามองหน้าผมแวบหนึ่งก่อนตอบแบบไม่ต้องคิด “จำไม่ได้เหรอว่าฉันเคยไปบ้านนายตอนที่นายยังเด็กๆ ลืมหรือไง”
“อ่า นั่นสินะ” ผมอยากจะเอาหัวโขกกับคอนโซลรถเรียกสติที่ไม่ค่อยจะสมประกอบเท่าไหร่ แน่นอนที่สุดว่าไม่มีอะไรจะต้องสงสัยถ้าผมจะใช้ความคิดสักนิดหนึ่ง

        “ฉันไปบ้านนายบ่อยกว่าบ้านตัวเองอีก หลับตาไปยังได้”

        “เวอร์”

        “หึหึ”

        ใช้เวลาเกือบหนึ่งวันเต็มในที่สุดเราก็มาถึงเชียงใหม่บ้านเกิดเมืองนอนของผม เมื่อช่วงบ่ายผมโทรบอกพ่อกับพี่ยอร์ชแล้วว่าจะมาถึงดึก แต่ความจริงไม่ได้ดึกอย่างที่คิด บางทีอาจเป็นเพราะช่วงเวลาที่ผมผล็อยหลับไปแทนที่จะนั่งคุยเป็นเพื่อนอาซาในขณะขับรถ อาซาจึงได้โอกาสทำตัวเป็นนักขับตีนผี ตื่นมาอีกทีก็ถึงจังหวัดแพร่ จากนั้นผมก็อยู่เป็นเพื่อนอาซาจนกระทั่งถึงบ้าน

        ภาพที่พ่อและพี่ยอร์ชยืนรอผมอยู่ที่ชานระเบียงหน้าบ้าน ทำให้ผมตื่นเต้นแบบแปลกๆ พ่อและพี่ยอร์ชยังคงเหมือนเดิม ช่วงเวลาสองทุ่มที่คนอื่นควรจะต้องอยู่ในชุดเตรียมพักผ่อน แต่สำหรับพ่อกับพี่ยอร์ชแล้ว ทั้งคู่จะยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่เข้าไร่จนกว่าจะแน่ใจแล้วว่างานในวันนั้นเสร็จสิ้นเรียบร้อยดี

        “ว่าไงตัวแสบ นั่งรถเมื่อยไหมลูก” ผมตรงเข้าไปกอดพ่อเป็นคนแรก อาซาเป็นคนขนกระเป๋าเสื้อผ้าลงจากรถ

        “ไม่เท่าไหร่ฮะ ฟอดดด คิดถึงพ่อจังเลย คิดถึงพี่ยอร์ชด้วย” ผมผละจากพ่อเข้าไปกอดพี่ยอร์ช

        “คิดถึงพี่กับพ่อแต่ไม่ค่อยจะโทรมาเลยนะ” พี่ยอร์ชแซะพลางกอดตัวผมโยกซ้ายขวา ผมรีบเงยหน้ายิ้มกว้างเป็นการประจบ ช่วยไม่ได้ที่การอยู่กับอาซาจะทำให้ผมลืมทุกสิ่งรอบตัว เพื่อพุ่งความสนใจไปที่เขาเพียงคนเดียว

        “โธ่พี่ยอร์ช ก็โยยุ่งๆกับการสอบนี่ครับ เลยไม่ค่อยได้โทรหา อย่างอนเลยนะ”

        พี่ยอร์ชอมยิ้ม ผมหันไปมองอาซาที่ยืนเรียบร้อยต่อหน้าพ่อและพี่ยอร์ช

        “สวัสดีครับ” อาซาเอ่ยทักทายเป็นภาษาไทยอย่างที่ผมสอน เขาฟังภาษาไทยเข้าใจและพอจะพูดได้ เพียงแต่ไม่ยอมพูด ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม

        “ไปๆเข้าบ้าน คืนนี้ฉลองกันหน่อยดีไหม ว่าไงพ่อหนุ่ม” พ่อตบไหล่อาซาพาเข้าบ้าน ผมกับพี่ยอร์ชเดินตามหลัง

        พ่อกับพี่ยอร์ชยอมรับอาซาได้มากขึ้นเพราะเขาแสร้งว่าดูแลผมอย่างดีไม่มีล่วงเกิน วันไหนที่ครอบครัวผมไปหาที่แอชยู อาซาก็จะเก็บข้าวของของตัวเองออกจากห้องผมโดยเรียกฟรินน์และเวสตันมาช่วยกันเก็บและเมื่อพ่อกับพี่ยอร์ชกลับ พวกเขาก็ช่วยกันขนของกลับเข้าห้องผมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

        เพราะอย่างนั้นเขาจึงเกือบจะกลายเป็นลูกรักของพ่อโดยหารู้ไมว่าลับหลังเขารังแกผมขนาดไหน แม้ผมจะเต็มใจให้รังแกก็เถอะ และอาซายังเป็นน้องชายขี้เมาของพี่ยอร์ช ให้กล่าวกันตามจริง อาซาแก่กว่าพี่ยอร์ชเป็นพันๆปี ตลกดีที่ผมมีคนรักแก่กว่ายิ่งกว่ารุ่นปู่รุ่นทวด

        คืนแรกของการกลับบ้าน ปาร์ตี้งานเลี้ยงคือสิ่งที่ผมรอคอยและมันกำลังเดินอยู่ในบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน อาหารที่ผมโปรดปรานมีให้กินไม่อั้นโดยฝีมือของพ่อ พ่อผมทำอาหารอร่อยที่สุด รองลงมาก็คือผม และพี่ยอร์ชที่ไม่ค่อยจะได้ความเรื่องอาหารการกิน

        ลมเย็นๆพัดเอากลิ่นดินกลิ่นต้นไม้ใบหญ้าที่คุ้นเคยมาให้ชื่นใจ ท้องฟ้าเปิดไร้เมฆบดบังพระจันทร์กลมโตและดวงดาวที่ระยิบระยับทอแสง ในเมืองมองไม่เห็นดาวเยอะขนาดนี้ อาจเพราะสีแสงไฟจากตึกรามบ้านช่องมาแทนที่บนพื้นดิน พวกดาวเลยน้อยใจ หลีกหนีมาให้คนต่างจังหวัดได้เชยชมแทน

        “ยินดีตอนรับกลับบ้าน อืม...ในช่วงปิดเทอมนะตัวเล็กของพ่อ” พ่อที่เริ่มกรึ่มๆเพราะดื่มไวน์เข้าไปมากกว่าขวดพูดกับผมก่อนจะเบนสายตามองอาซาที่นั่งข้างผม “และยินดีตอบรับสู่ไร่องุ่นของเรา”

        “ขอบคุณครับ” อาซาตอบรับ

        แกร๊ง!

        แก้วไวน์ทั้งสี่แก้วชนกระทบกัน ก่อนที่จะหายวับลงท้องของแต่ละคน มีเพียงผมที่ทำแค่จิบ ถึงบ้านผมจะทำไร่องุ่น บ่มไวน์ขายส่งทั้งในประเทศและนอกประเทศจนมีชื่อเสียง แต่ให้ตายยังไงผมก็ไม่ถูกจริตกับรสชาติของมันเสียที พยายามหลายครั้งที่จะเข้าถึงรสชาติของไวน์ว่ามันล้ำลึกขนาดไหนถึงได้ราคาแพงนัก แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม ผมว่ากินน้ำองุ่นกล่องละสิบกว่าบาทยังรู้สึกอร่อยเสียกว่า

        “ไวน์ขวดนี้อร่อยดีนะครับ”

        “แน่นอน ขวดนี้พ่อแลอย่างดี พรุ่งนี้เข้าไปดูโรงบ่มไหมล่ะ” พ่อเอ่ยชวน อาซาทำตาวาววับเมื่อเจอสิ่งที่ถูกใจ

        “ได้เหรอครับ”

        “ได้สิ”

        ผมลุกออกจากโต๊ะไปย่างบาร์บีคิวมาเพิ่ม คนอื่นกินกันไม่เยอะ หนักไปทางดื่มไวน์มากกว่า ผมเห็นพ่อกับพี่ยอร์ชเข้ากับอาซาได้ผมก็ดีใจ แต่ไม่รู้ว่าถ้าทั้งสองรู้ว่าอาซาไม่ใช่มนุษย์ปกติธรรมดาจะเป็นยังไง แต่เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะคาดการณ์ เราต้องปิดเรื่องนี้ไม่ให้พ่อกับพี่ยอร์ชรู้เป็นอันขาด

        ผมถือจานบาร์บีคิวกลับมาที่โต๊ะ พ่อกำลังโม้เรื่องจะปลูกบ้านพักอีกหลังที่ท้ายไร่ ตรงนั้นมีน้ำตกสวยที่ผมชอบแอบไปเล่น

        “รู้ไหมว่าโยชิซนมาก ชอบหนีออกไปเล่นท้ายไร่เป็นประจำ พ่อกับยอร์ชตามจับกันหัวหมุน อยากจับตีก้นหลายที แต่ก็ทำไม่ลง เพราะโยชิชอบชิงร้องไห้ก่อนที่พ่อจะตี ฮ่าๆๆ” พ่อดูอารมณ์ดีกับการที่ได้ขายผม

        “พ่อก็พูดเกินไป โยไม่ได้ดื้อขนาดนั้นสักหน่อย” ผมแก้ต่าง บังเอิญสบตากับอาซา เขามองผมเหมือนจะบอกว่าเขาเชื่อว่าผมดื้อตามที่พ่อเล่า

        “น้อยไปสิเรา เผลอเป็นไม่ได้ หนีเข้าไร่เข้าป่าทุกที” พี่ยอร์ชเสริมทัพช่วยกันรุมผม อาซาพยักหน้าเห็นด้วย ผมชักสีหน้าใส่ทั้งสามคน แต่ไม่รู้จะเถียงอะไร ในเมื่อมันก็เป็นความจริง แล้วพ่อกับพี่ยอร์ชก็เล่าเรื่องน่าอายสมัยผมยังเด็กๆให้อาซาฟังหมดเปลือก เล่าหมดทุกเรื่องที่พวกเขาจะนึกออก

        พ่อ พี่ยอร์ช อาซา จำไว้เลย...ผมงอน!

        เวลาผ่านพ้นเข้าสู่วันใหม่ พ่อและพี่ยอร์ชกอดคอกันเข้านอน ผมกับอาซานอนห้องเดียวกัน ทีแรกพี่ยอร์ชจะจัดห้องให้ใหม่ แต่พ่อว่าไม่จำเป็น อาซาก็เลยได้นอนห้องเดียวกับผม

        “ฝันดีนะเด็กดื้อ” อาซากระซิบใกล้ริมฝีปากผม ผมจุ๊บปากเขาตอบแม้จะขัดเคืองกับคำเรียกที่เขาใช้เรียกผมก็ตาม

        “ฝันดีงูแก่!” ผมว่าฉายานี้เหมาะกับอาซาดีนะ

        อาซาหัวเราะหึในลำคอ สองแขนกอดรัดตัวผมแนบอกกว้างแน่น “ไม่อยากนอนก็บอกตรงๆเลย ถ้าหากอยากถูกงูแก่ๆอย่างฉันกินเรียบ” ดวงตาสีดำเป็นประกายของอาซาวาววับด้วยความหื่นกระหาย แต่ก่อนมาเขาก็กินผมไปแล้ว วันนี้ผมเหนื่อยจากการนั่งรถเป็นเวลานาน ให้ตายก็ไม่ยอม เพราะถ้ายอมอาจตายก่อน

        “นอนไปเลย!”




        ซ่า~!

        ฝนตกหลงฤดูหรือยังไง ไม่มีใครอยู่บ้านด้วย ทุกคนออกไปไร่กันหมด ทิ้งให้ผมอยู่บ้านคนเดียวพร้อมกระดาษโน๊ตบนหน้าผากจากอาซา

        -โยชิ ฉันจะออกไปไร่กับพ่อและพี่นาย ห้ามโกรธเพราะฉันปลุกนายแล้ว แต่นายไม่ตื่นเอง-

        พร้อมกับแผ่นที่สองหน้าตู้เย็นจากพี่ยอร์ช

        -ไม่ต้องเข้าไปในไร่นะ อยากได้อะไรโทรมา ช่วงนี้ฝนตกงูชุม แล้วพี่จะเก็บองุ่นไร้เม็ดมาให้กินนะตัวเล็ก-

        จะต้องให้บอกไหมว่าผมอายุใกล้จะยี่สิบแล้ว

        ผมนั่งกินโจ๊กในห้องนั่งเล่น เปิดโทรทัศน์ดูเคล้าเสียงฝนตกพรำๆ อากาศแย่ขึ้นทุกปีๆ เพราะภาวะโลกร้อนทำให้ฤดูกาลเปลี่ยนไปหมด หน้าหนาวแทนที่จะหนาวกลับฝนตกและแดดเปรี้ยง

        ‘แปะๆๆ’

        “ฝนสาดอีกแล้วเหรอเนี่ย” ผมมองหน้าต่างในห้องนั่งเล่นที่เปิดอ้าทิ้งไว้ ประจำเลยบานนี้ ผมว่ามันจะต้องเสียแน่ๆ เปิดเองตลอด

        ก่อนที่น้ำจะเจิ่งนองท่วมบ้าน ผมเดินไปจะปิด แต่สายตาเจ้ากรรมดันจ้องไปที่ต้นไม้ต้นใหญ่ใกล้หน้าต่าง สิ่งที่เห็นทำเอาตกใจไม่น้อย แต่ก็พอจะตั้งสติได้

        งูสองสามตัวตัวเลื้อยพันอยู่บนนั้น พอเพ่งดูดีๆถึงได้รู้ว่าเป็นพวกอาซา ที่รู้ก็เพราะตรงกลางตัวจะมีสัญลักษณ์รูปงูอ้าปากโชว์เขี้ยวประจำกลุ่มของอาซาปรากฏอยู่ หน้าประตูทางเข้าบ้านพักของอาซาก็มีสัญลักษณ์นี้ติดไว้ แต่ถ้าบนตัวงูจะมองไม่เห็นรายละเอียดมากนัก บนตัวอาซาก็มี มันจะฉากแสงวูบวาบเล็กน้อยบนหลังของเขายามที่เขาร่วมรักกับผม ผมเพิ่งจะเห็นได้ไม่นานนี้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยได้สังเกต

        สามสี่เดือนที่ผมรู้จักอาซา ผมยอมรับในตัวตนที่เขาเป็น และแค่เขาคนเดียวที่ผมยอมรับได้ ยังไงผมก็ยังกลัวและเกลียดงูมาก แค่มองก็พอทำใจได้ แต่ถ้าในระยะใกล้ผมยังรับไม่ไหว อาซาเลยสั่งให้พวกลูกน้องของเขาอยู่ให้ห่างจากผม

        แต่สงสัยอาซากลับมาผมต้องบอกเขาอีกเรื่อง ห้ามลูกน้องเขาขึ้นไปเลื้อยบนต้นไม้ต้นนี้อีก มันทำให้ผมหลอน!

        ‘ปึก’

        ผมดึงหน้าต่างปิด กำลังจะหมุนตัวกลับไปกินโจ๊กแต่ แต่หางตาเห็นความผิดปกติบางอย่าง ผมหัวขวับมองที่ต้นไม้ใหญ่อีกครั้ง

        งูเหรอ?

        งูสีเงินกำลังเลื้อยผ่านกิ่งไม้แล้วหายไปกับใบไม้ที่แผ่ตัวหนาทึบ ผมยกมือขยี้ตาแต่ภาพก็ไม่ได้เปลี่ยนไป เป็นงูสีเงินจริงๆหรือผมตาฟาดเพราะสายฝน

        สุดท้ายผมก็สรุปเอาเองว่าผมอาจจะมองผิดไปเอง มันจะไปมีได้ยังไงงูสีเงิน หรือถ้ามีก็คงเป็นพวกเดียวกับอาซานั่นแหละ ก็อยู่ด้วยกันนี่นา มันจะแปลกอะไร ในเมื่องูกลายเป็นคน คนกลายเป็นงูได้ จะมีงูเจ็ดสีหรือยี่สิบสีก็คงไม่แปลก

        ติ๊ดๆๆ

        ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดอ่านข้อความที่พี่ยอร์ชเป็นคนส่งมา บอกว่าติดฝนกลับมากินข้าวกลางวันที่บ้านไม่ได้ จะหากินจากในไร่แทน และยังบอกให้ผมทำกับข้าวสำหรับมื้อเย็นของวันนี้เพราะแม่ครัวขอลาหยุด

        ในเมื่อไม่มีอะไรทำผมก็เลยนอนเล่นอ่านการ์ตูนเรื่องโปรดอยู่ในห้องนั่งเล่นรอเวลาทำอาหารเย็น และรอเวลาที่สมาชิกคนอื่นกลับมาบ้าน ปิดเทอมก็ดีแบบนี้ ไม่มีอะไรต้องคิดมาก ไม่มีอะไรต้องเครียด

        ฟุบ!

        “อุก!”

        จุก!!!

        โอ๊ยเจ็บ นอนเล่นอยู่ดีๆก็โดนใครบางคนทิ้งตัวทับ ร่างแทบจมหายไปกับโซฟาที่ต่อให้นุ่มยังไงก็ไม่ช่วย กลิ่นกายผู้ชายแบบเย็นๆคุ้นจมูก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร

        “I miss you babe”

        จุ๊บ~

        “อาซา! นายทำบ้าอะไรของนาย ฉันหนักนะ!” ผมร้องโวยวายลั่นบ้าน ไส้จะปลิ้น แทนที่อาซาจะรีบลุกออกจากตัวผม เขากลับบี้ตัวผมให้แนบไปกับโซฟายิ่งกว่าเดิม ผมดิ้นๆแต่สู้แรงเขาไม่ได้

        “ปล่อย!” ผมตวาด ส่ายหน้าไปมา จะหายใจไม่ออกแล้ว

        อาซาคงเห็นว่าผมจะไม่ไหว เลยยอมลุกออกไป ผมพลิกตัวนอนหงายในทันที กอบโกยอากาศเข้าปอดอย่างเอาเป็นเอาตาย

        “จะฆ่ากันหรือไง!” ผมมองค้อนอาซาตาขวาง เขาทำหน้าเรียบไม่สะทกสะท้าน

        “นายก็รู้ว่าฉันไม่ฆ่านายหรอกน่า” เขาอมยิ้ม น้ำเสียงของเขาสงบปกติ นุ่มนวลแผ่วเบาราวขนนก ผมทำตาเหลือกใส่ แอบรู้สึกขัดเขินเล็กน้อย เหลือบมองนาฬิกา สี่โมงเย็นแล้วนี่นา

        “แล้วพ่อกับพี่ยอร์ชละ” ผมถามอาซาที่ทิ้งหัวนอนบนตักผมอย่างสบายใจ เสื้อผ้าเขาฉ่ำไปด้วยน้ำฝน ซึ่งถ้าเป็นผมหรือคนธรรมดาคงจะรู้สึกไม่สบายตัว แต่ไม่ใช่กับอาซา เขาชอบน้ำฝนยิ่งกว่าเด็กๆ

        “ออกไปซื้อของที่ในตัวเมือง ฝากมาบอกว่าให้นายทำกับข้าวเลย” เขาหลับตาพูด ปลายนิ้วเย็นเฉียบกุมมือผมเอาไว้แล้วบีบหนักเบาสลับกันก่อนจะยกจรดที่ริมฝีปาก

        “ผิวนายหอม ฉันชอบ” พูดพร้อมแสดงให้เห็นว่าเขาชอบมากแค่ไหนด้วยการไล้จูบตามท่อนแขนสีขาวเหลืองของผม เพราะพ่อกับพี่ยอร์ชออกไปข้างนอกนี่เอง อาซาถึงได้วางใจในการกระทำอุกอาจต่อลูกชายเจ้าของบ้านอย่างผม

        “ไปๆ ลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องซะ ฉันจะไปทำกับข้าวแล้ว” ผมดันตัวอาซาออกจากตัก เขายอมลุกขึ้นไม่อิดออด หันหน้าหาผม เอื้อมมือมาแตะใบหน้าผมเบามือ สัมผัสนุ่มนวลชวนเคลิบเคลิ้ม

        “จูบหน่อยสิ”

        ผมนิ่งเงียบ ปลายนิ้วเย็นลากไล้มาถึงริมฝีปาก นวดคลึงเรียกร้อง ตามด้วยใบหน้าที่แสนจะเร้าอารมณ์เคลื่อนเข้าใกล้จนลมร้อนกระทบใบหน้า

        ในวินาทีที่ริมฝีปากหยักกำลังจะประทับลงมา ผมก็ออกแรงผลักหน้าอาซาอย่างแรง เขาอึ้งทำหน้าตื่นที่ผมกล้าทำร้ายเขาเพราะปกติผมไม่เคยทำ

        “นี่ห้องนั่งเล่นนะ พ่อกับพี่ยอร์ชมาเห็นจะทำไง” ถึงทั้งสองคนจะยอมรับอาซา แต่เรื่องแบบนี้กับสังคมไทยไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้อย่างโจ่งแจ้ง

        อาซาควรจะระวังมากกว่า ในเมื่อเขาก็เป็นคนบอกผมเองว่า เวลาที่เขาสัมผัสร่างกายผม เขาไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้ และที่ผ่านมาเขาก็พิสูจน์ให้ผมเห็นแล้วว่า เขาไม่เคยอดทนความต้องการที่มากมายยิ่งกว่าลาวาร้อนๆในภูเขาไฟได้ หรือไม่เขาก็ไม่คิดจะอดทนอย่างจริงจัง

        “ไว้ฉันจะทบต้นทบดอกคืนนี้ทีเดียว” อาซากล่าวโทษผมแล้วก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำบนห้องผม

        “คิดว่าทำได้ก็ลองดู” ผมลอบยิ้มลับหลัง เดินผิวปากเข้าครัว ลืมไปเสียสนิทว่าจะบอกอาซาเรื่องงูลูกน้องของเขาและถามเกี่ยวกับงูสีเงิน ไว้เขาลงมาค่อยถามก็แล้วกัน





        ..........................

        พูดคุยกับนักเขียน
        เหนื่อยจัง นั่งปรับนู่นนี่ก่อนลง ไม่รู้เป็นเพราะเหนื่อยจนคิดอะไรไม่ออกเขียนไม่ถูก หรือเพราะไม่ได้เขียนมาระยะหนึ่งเลยเริ่มฝืด
        ถ้ามีคำผิดเยอะ ต้องกราบขอโทษไว้ ณ ตรงนี้เลย เพราะริริมีเวลาในแต่ละวันน้อยจริงๆค่ะ แต่จะพยายามให้ผิดน้อยที่สุดนะคะ เพราะฉะนั้น ใครอ่านเจอผิดตรงไหนแล้วใจดีบอกหน่อยนะคะ ถือเป็นการทำบุญให้คนอ่านคนอื่นๆรู้สึกเจริญหูเจริญตา ผลบุญก็ขอให้คุณเจอคนรักแบบพี่งู ^_^
        ตอบคำถามที่หลายคนสงสัยก่อนนะคะ
        1.   เรื่องนี้ไม่ดราม่านะ หมายถึงดราม่าหนักๆอ่ะไม่มี มีแค่อารมณ์ซึ้งกับพ่อแง่แม่งอนกันนิดหน่อย ถ้าจะดราม่าก็ไปดราม่ากับครอบครัวพระเอก ก็นะ...ปูทางมาตั้งแต่ภาคแรก แต่คู่พระนายส่วนมากมีแค่ซึ้ง โอเค เคลียร์นะ
        2.   นอกจากคู่หลักมีคู่รองไหม คำตอบคือ...มี! คู่ใครมีใบ้ไปแล้ว ส่วนคำใบอยู่ที่ตรงไหน ย้อนกลับไปดูเอาว่าภาคนี้ริริลงอะไรไปบ้าง
       3.   เรื่องน้องแมวปุยเมฆกับข้อสงสัยที่ว่านางเป็นมากกว่าแมวหรือเปล่า ไม่รู้ แต่ภาคนี้นางมีบทอยู่นะ ติดตามๆ
       4.   มีคนอยากอ่านเรื่องในอดูต เอ้อ อดีต (ก็ยังจะเล่น) เรารู้ทันหรอกว่าอยากรู้ตอนที่เขาเกี้ยวพาลาสีกันเป็นเดือนๆ มีน่ะมี มีตอนจบเรื่อง แต่...เราไม่แน่ใจนะว่าจะมีฉากอะซ่าบาฮึ่มกันหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้ ริริขอพิจารณาดูก่อนว่าสมควรแต่งหรือไม่
       5.   อย่างที่รู้กันว่าซีรีย์ Dangerous Guys มีทั้งหมด4เรื่อง ข้าพเจ้าของให้สัญญาว่า ข้าพเจ้าจะแต่งให้ครบทุกเรื่อง ไม่มีทิ้งหรือเลิกเขียน แต่อาจมีหายไป เนื่องจากอีกสามเรื่อง พี่หมาป่า พี่เสือและพี่สิงโต น้องยังคิดพล็อตที่ลงตัวที่สุดไม่ออก เลยอาจต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งในการสร้างจินตนาการที่สุดแสนจะล้ำเลิศ นั่นหมายความว่า เซ็ตนี้ใช้เวลานานค่า (ถ้าเป็นตอนที่ยังเรียนไม่จบ คงมีเวลาแต่งนิยายมากกว่านี้)
       6.   ริริจะลงนิยายหลังสี่ทุ่มในวันที่ได้แจ้งลงไว้ล่วงหน้า ทุกคนจงรับทราบ!
       ก่อนจากไปในค่ำคืนนี้
       เราจะต่อเรื่องของคาร์เตอร์พ่อเสือสุดหื่นหลังเรื่องนี้จบ ช้าหรือเร็วต้องขอให้ทุกคนร่วมมือกับริรินะคะ (ร่วมด้วยช่วยกันกดดันริริให้แต่งนั่นเอง งื้อออ)
       และสุดท้ายขอขอบคุณการตอนรับกลับบ้านที่แสนจะอบอุ่น เพราะคนอ่านน่ารักเนี่ยแหละ เลยกลับมาลงทั้งๆที่เหนื่อยจากงานและเวลาพักไม่ค่อยมี
       ขอบคุณที่ยังอยู่เคียงข้างกัน รักนะคะ :mew1:



.........................
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 09-10-2014 23:34:06
อาซาหื่นจริงๆ ถูกใจเค้าเลย     :hao7:     

รอคอยคาร์เตอร์จ้ะ   :m1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 10-10-2014 00:08:24
ชอบบๆ สนุกมากๆ ริริ ไม่ผิดหวัง รักพี่งูอาซา น้องโยชิค่าาาา แร้วววก้อรักคนแต่งที่สุดเรยยยยย  :mew1: :mew3: :mew4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 10-10-2014 01:58:35
ตอนแรกจะปิดคอมแล้วนอน แต่พอเห็นว่าอัพ ก็รีบทิ้งที่นอน

มานั่งอ่านเลยละค่ะ  :hao6:  :3123:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 10-10-2014 06:54:33
บอกเลย ว่ากลัวดราม่ามาก อ่านอินโทรแลเวแบบ
อาซาของฉัน!!! แล้วโยชิจะอยู่ยังไง แตถ้าจะม่าฝั่งครอบครัว
ก้ยังไหวอยู่ อิงูน้ำเงินนี่ะอเดนแน่!!

สู้ๆค่ะ

ปล.ได้รับดับเบิ้ลเฟสแล้วนะค่ะ ชอบพอกเกตพิเศษมาก
       พกสะดวก หยิบทุกครั้งที่ว่าง ขอบคุณค่ะ :))
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 10-10-2014 07:22:52
อาซาหื่นตลอดเว 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 10-10-2014 10:57:56
 :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 10-10-2014 11:28:59
งูสีเงินเป็นใครกันนะ ใช่พี่ชายอาซาหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 10-10-2014 12:45:12
งูสีเงินที่ โย เห็นจะใช่พี่ชายของ อาซา หรือเปล่านะ

หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-10-2014 13:12:58
งูสีเงินนั้นพี่ชายอาซาใช่มั้ย?
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 10-10-2014 13:40:21
อ่านอินโทรละกลัวดราม่าขึ้นมาทันที
55555555555555
เอเดนตามมาที่ไร่ใช่ไหมมม
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 10-10-2014 14:54:40
แหมอาซาาาา
ถนอมโยชิหน่อยสิ
แต่อยากอ่านตอนเค้าจีบกันจริงๆในอดีต55
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 10-10-2014 19:14:17
เมื่อคืนรอไม่ไหวนอนเสียก่อน

อาซายังหื่นๆเหมือนเดิม

แต่ชอบมากๆ เมื่อไรเอเดนจะออกโรง


ปล " อาซาเลยสั่งให้พวกลูกร้องของเขาอยู่ให้ห่างจากผม" คือ  อาซาเลยสั่งให้พวกลูกน้องของเขาอยู่ให้ห่างจากผม
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 10-10-2014 20:21:39
เมื่อคืนรอไม่ไหวนอนเสียก่อน

อาซายังหื่นๆเหมือนเดิม

แต่ชอบมากๆ เมื่อไรเอเดนจะออกโรง


ปล " อาซาเลยสั่งให้พวกลูกร้องของเขาอยู่ให้ห่างจากผม" คือ  อาซาเลยสั่งให้พวกลูกน้องของเขาอยู่ให้ห่างจากผม

ขอบคุณมากๆค่ะ เลิฟยูววว  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 10-10-2014 20:38:01
อ้าวววววว มาแล้วเหรอเนี่ยย. แปะไว้ก่อนนะ. เดี๋ยวมาตามอ่าน  :z2:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 10-10-2014 21:50:52
เพิ่งเริ่มตอนแรกก็ใจตุ้มๆต่อมๆละอ่ะ
งูสีเงินนั้นคือใครรร
มาจากไหน มาดีมาร้ายเนี่ย
ลุ้นจังงง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 11-10-2014 13:36:10
พี่อาซา คู่กับพี่โยชิ มโนไปเรื่อยอะ555 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: PorschePor ที่ 11-10-2014 14:31:11
อ่านยาวมาตั้งแต่ภาคหนึ่ง สนุกกกก ปมเยอะ แต่ชอบ 555+ อาซางูหื่นจริงๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 12-10-2014 19:47:41
งูสีเงินนั่นพี่ชายของอาซาใช่ไหมอ่ะ

ระวังตัวด้วยนะทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 12-10-2014 20:07:42
ไม่รีบบอกเดี๋ยวก็พลาดหรอก ขอให้เป็นพวกเดียวกันจริงๆเถ้อ

ไม่อยากให้เกิดเรื่องอ่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: moobarpalang ที่ 12-10-2014 20:50:29
น่ารัก้นอะคู่นี่
งูสีเงินต้องเป็นครอบครัวโยชิแน่เลย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ONE❁ 09102014[P.31]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 12-10-2014 22:29:12
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:รอตอนต่อไปปปปปป :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 12-10-2014 22:45:39
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWO





        ผมมีความสุขมากในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาของการได้กลับมาอยู่ที่บ้าน เคยบอกแล้วไงว่าผมชอบความคุ้นเคย ถึงหนึ่งเทอมที่ผ่านมาจะทำให้ผมคุ้นเคยกับแอชยูบ้าง โดยเฉพาะอาซา ผมคุ้นเคยเขาเป็นพิเศษในสถานที่แปลกใหม่ แต่ถึงอย่างนั้น บ้านคือสถานที่ที่วิเศษที่สุด ยิ่งได้อยู่กับคนในครอบครัวและคนที่เรารัก ที่แห่งนี้ก็เปรียบเสมือนสวรรค์บนดิน

        “เหนื่อยไหม” อาซาช่วยปัดเหงื่อตามไรผมออกให้เพราะมือทั้งสองข้างของผมไม่ว่าง ถือตะกร้าองุ่นตะกร้าใหญ่อยู่ ส่วนอาซามือหนึ่งถือร่ม มือหนึ่งคอยโอบเอวและเช็ดเหงื่อ

        บางทีเขาก็ดูแลผมดีเกินไปขัดกับบุคลิกแบดบอยของเขา จะพูดยังไงดีละ ไม่ใช่ไม่ชอบนะ แต่บางทีเขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองจะแตกหักได้ง่ายๆถ้าไม่ระวัง ยังไงผมก็ผู้ชายคนหนึ่ง แค่ดูแลตัวเองผมทำได้สบายมากอยู่แล้ว

        แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะขัดน้ำใจที่เขามีให้ สิ่งไหนเขาอยากทำก็ทำไป จนกว่ามันจะมากเกินพองามค่อยบอกกล่าวกันทีหลัง

        “ไม่เหนื่อยหรอก สนุกดี พรุ่งนี้ไปอีกนะ”

        ปิดเทอมมาได้อาทิตย์หนึ่ง ผมก็เพิ่งมีโอกาสได้เข้าไปในไร่ ฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ พ่อกับพี่ยอร์ชเลยไม่อยากให้ผมออกไปเสี่ยงกับลมกับฝนหรือพวกสัตว์มีพิษทั้งหลายแหล่

        วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าปลอดโปร่งมาก ถึงขนาดไม่มีเมฆสักก้อน ผมเลยชวนอาซาไปเก็บองุ่นเป็นเพื่อน ผมว่าเก็บกินเองอร่อยกว่าคนอื่นเก็บมาให้กิน

        “หึหึ ซนอย่างที่พ่อนายบอกจริงๆด้วย” อาซาพูดเสียงกระเซ้า มือหุบร่มเมื่อเราก้าวเข้าตัวบ้าน

        “เขาไม่ได้เรียกว่าซน เขาเรียกว่าใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์” สาบานได้ว่าผมไม่ได้แถ แค่พูดไปตามความรู้สึก

        “เป็นประโยชน์?” อาซาทวนคำเสียงสูง เลิกคิ้วสำทับ “ไปเก็บกินฟรีมันเป็นประโยชน์ตรงไหน”

        บางทีผมว่าอาซาก็พูดตรงไป

        “บอกว่าเป็นประโยชน์ก็เป็นสิ พูดมากไม่ต้องกินเลยนะ” ผมเดินหนีเข้าครัว จัดการล้างองุ่นเพื่อเอาฝุ่นออก วางใจได้ว่าไร้ยาฆ่าแมลง ถึงไม่ล้างก็กินได้ แต่ให้ดีก็ควรล้าง ผมเอาองุ่นส่วนหนึ่งเข้าตู้เย็นไว้กินหลังมื้ออาหาร อีกส่วนหนึ่งไว้ทำแยมองุ่น

        เสียงฝีเท้าดังใกล้ตัว ผมเหลือบตามอง อาซาเอนตัวพิงโต๊ะทำกับข้าว มือสองข้างกอดอกสบายใจ ดวงตาคมมองผมไม่วางตา พาลให้เกิดอาการประหม่าเล็กน้อย

        ผมเลือกที่จะทำเป็นไม่ใส่ใจ ผมไม่ได้งอน แค่แสร้งทำเป็นตั้งตัวแข็งข้อ อาซาเองก็รู้ว่าผมไม่ได้โกรธจริงจัง เขาถึงไม่เข้ามาง้อ

        ทำเสร็จผมก็ตัดใส่กระปุกแก้วแช่ตู้เย็น ระหว่างที่ทำมีสายตาหวานมองไม่คลาดสายตา ผมหวังว่าตัวเองจะไม่ได้กำลังหน้าแดง และหลายครั้งผมเห็นอาซาแอบลอบยิ้ม

        “มองอะไร” ผมถาม พยายามอย่างมากที่จะสร้างความจริงจังในน้ำเสียงเพื่อข่มความเขิน

        “มองแฟน” อาซาระบายยิ้มบางโชว์เขี้ยวเล็กๆที่ถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็น ผมไปต่อไม่ถูกได้แค่บ่นงึมงำเบาๆให้อาซาขำเล่น

        ผมชอบเขาในตอนนี้มากกว่าก่อนหน้า ไม่ใช่แค่ความรู้สึกข้างในจิตใจที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน แต่ช่วงเวลานี้อาซาดูผ่อนคลายไร้ความกังวล ไม่มีหัวคิ้วที่ขมวดติดกันเป็นปม ริ้วร้อยบนหน้าผากก็เห็นได้น้อยครั้งจากความเครียด สีหน้านิ่งๆก็ไม่ค่อยจะได้เห็น ที่เห็นก็มีแต่สีหน้าเจ้าเล่ห์เพทุบายกับสีหน้ายิ้มแย้มชวนขนลุกซู่

        เสียงโทรศัพท์ของอาซาดังขึ้น ผมเอนตัวพิงเคาน์เตอร์ทำอาหาร มือยกกอดอกมองอาซารับสาย เขาล้วงโทรศัพท์ดูชื่อคนโทรมาแล้วกดรับ

        “โยชิ มาช่วยพี่ขนของหน่อย” เสียงพี่ยอร์ชดังตะโกนมาจากหน้าประตู ผมสบตากับอาซาแวบหนึ่งแล้วเดินออกไปช่วยพี่ยอร์ช

        ตะกร้าของสดและผักหลากหลายชนิดวางกองอยู่ที่ขั้นบันไดบ้าน เยอะอย่างกับจะจัดงานเลี้ยง ตัวพี่ยอร์ชไม่อยู่เพราะเอารถไปเก็บในโรงจอดรถ เห็นเงาของพ่อแวบๆอยู่ข้างตัวบ้าน กำลังรถน้ำต้นไม้ดอกไม้ในแปลงปลูกของแม่

        ตั้งแต่จำความได้ผมก็เห็นดอกไม้แปลงนี้แล้ว มันอยู่ตรงกับหน้าต่างห้องนอนของพ่อและแม่ที่อยู่ชั้นล่าง พ่อเล่าว่าแม่ไม่อยากนอนชั้นบน อยากได้ห้องนอนที่มีระเบียงไว้นั่งดูดอกไม้ได้อย่างใกล้ชิด เห็นพ่อยังไงใส่ใจกับทุกสิ่งที่เกี่ยวกับแม่ผมก็มีความสุข เพราะว่าสิ่งที่พ่อทำคือความสุขของเราทั้งสามคน

        ผมขนของเข้าบ้าน อาซาไม่อยู่ที่ครัว ผมมองซ้ายแลขวาแต่ก็ไม่พบ ลงมือเก็บของสดเข้าตู้เย็น ส่วนพวกขนมอาหารสำเร็จรูปก็เก็บเข้าชั้นให้เรียบร้อย ถุงพลาสติกใส่ของก็พับเก็บใส่ลิ้นชักไว้ใช้งานซ้ำ

        “อ้าว ไปไหนมา” ผมถามอาซาที่มายืนซ้อนอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

        “คุยโทรศัพท์น่ะ” เขาบอก เสียงดูจริงจัง “เมื่อกี้เวสตันโทรมา”

        เดาได้จากสีหน้าและน้ำเสียงของเขา ต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นอย่างแน่นอน มีเวลาผ่อนคลายได้ไม่เท่าไหร่ ดูท่าจะมีเรื่องมาให้พ่อหนุ่มสุดหล่อของผมต้องจัดการอย่างไม่หยุดหย่อน

        “เกิดเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ” ผมถาม หางตาเห็นพี่ยอร์ชเดินเข้ามาในบ้าน คุยโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษ แต่ฟังไม่ถนัด อาจจะกำลังคุยกับลูกค้าต่างประเทศ ผมกลับมาให้ความสนใจกับอาซา

        อาซาส่ายหัวหงุดหงิด มือของเขายกขึ้นสางผมสีดำจนยุ่งเหยิง “เฮอะ!” แล้วก็พ่นลมหายใจแรงหนักหน่วง ผมรอเขาอย่างใจเย็น

        “เกิดเรื่องนิดหน่อยที่กรุงเทพ ฉันต้องกลับไปจัดการเดี๋ยวนี้”

        ต่างจากที่คิดไว้ตรงไหน แต่ว่า...จะกลับเลยเหรอ

        “ด่วนมากเหรออาซา” ผมยังอยากให้เขาอยู่กับผมที่นี่อีก ผมยังไม่หายคิดถึงบ้านเลย และผมอยากให้เขาอยู่ที่นี่ด้วยกัน

        “อืม ขอโทษทีนะ” อาซาขยับเข้าชิดใกล้ ยกมือลูบแก้มนิ่มของผมเบามือ “นายอยู่กับครอบครัวต่อเถอะ ฉันจะรีบกลับไปจัดการธุระ แล้วจะรีบกลับมารับกลับแอชยู”

        “ก็ได้”

        อาซาเดินขึ้นไปเก็บของในห้องนอน ผมเดินตามด้วยใจที่ห่อเหี่ยวแฟบเป็นลูกโป่งถูกปล่อยลม ผมช่วยอาซาเก็บของใส่กระเป๋า อาซาดูเร่งรีบ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรที่กรุงเทพ แต่ตอนนี้เรื่องเดียวที่พอจะทำให้อาซากระวนกระวายใจได้ก็คงมีแต่เรื่องของเอเดน

        “เป็นเด็กดีนะ แล้วฉันจะกลับมารับ” อาซากอดผมไว้ทั้งตัว ผมวาดแขนกอดตอบแน่น ซุกหน้าเข้าหาแผ่นอกกว้าง

        “เป็นเด็กดีอยู่แล้วแล้วน่า”

        เราต่างคนต่างเงียบ อาซาช้อยใบหน้าผมเงยขึ้น ผมหัวหมุนคิดอะไรไม่ออก ตอนที่ริมฝีปากเย็นแนบประทับ ผมทุ่มเพียงพลังในการหายใจเข้าออก และใช้สมาธิในการซึมซับรสจุมพิตให้อุ่นซ่านทั่วหัวใจและกาย เก็บไว้คิดถึงยามที่ต้องไกลห่าง

        ริมฝีปากเย็นสวยหยัดโค้งขึ้นตอนที่ผมทุ่มทั้งตัวเข้าหาจูบของเขา แตะเบาอ้อยอิ่ง เนียนหวานและนุ่มนวลแต่ก็หนักหน่วงอยู่ในที มือที่ประคองใบหน้าของผมอยู่เลื่อนออกปลดแขนเล็กทั้งสองข้างออกจากลำคอแข็ง เมื่อผมมีทีท่าจะไม่หยุดจูบ

        “ใจเย็น อย่าคิดมาก ฉันจัดการได้” เขาจับกระแสความรู้สึกในใจผมได้อย่างเชียบขาด ผมเป็นห่วงเขามากจริงๆ

        “ได้โปรด เป็นเด็กดี อย่างอแง” ลมหายใจของเขารินรดแก้มผม ผมพยักหน้ารับรู้ หัวใจเต้นแรง เสียงชีพจรดังตุ้บๆอยูในหู อาซาประทับจูบผมอีกครั้งก่อนจะผละตัวถอนห่างหนึ่งก้าว คว้ากระเป๋าออกจากห้อง

        ...ใจหาย...

        “อ้าว อาซา จะไปไหน” พ่อทักอาซาที่เพิ่งก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้าย

        “พอดีมีธุระที่ต้องกลับจัดการ แต่โยชิจะยังอยู่ที่นี่ ผมต้องขอโทษทีนะครับที่ไม่ได้อยู่จนกว่าจะเปิดเทอม” เขาตอบ พ่อเลิกคิ้วสูงก่อนจะพยักหน้าว่าเข้าใจ

        “โอ้ ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น ไปทำธุระเถอะ” มือของพ่อตบไหล่อาซาดังแป๊ะ

        “ขอบคุณครับ ไว้ผมจะมารับโยชิกลับ” เขาใช้สายตาเป็นห่วงมองผม

        “จะกลับแล้วเหรอ” พี่ยอร์ชเข้ามาถามอีกคน

        “อาซาเขามีธุระน่ะ รีบไปเถอะ ช่วงเย็นพายุเข้า ขับรถคนเดียวอันตราย” พ่อบอก

        “ผมลาล่ะครับ” อาซายกมือไหว้พ่อผมอย่างนอบน้อม แล้วก็เข้าไปกอดพี่ยอร์ชเพื่อล่ำลาตามวัฒนธรรมของเขา ก่อนจะหันมากอดผมอีกครั้ง

        “ถึงแล้วโทรหาฉันด้วยนะ”

        “อืม” อาซาจูบซับขมับ กระซิบเบาๆที่ข้างหู “I love you my Darel”

        ผมยืนมองจนกระทั่งรถยนต์คันหรูหายลับไปกับตา พอยอร์ชโอบไหล่ผมไว้ ก้อนเมฆสีดำทะมึนลอยอยู่เหนือหัว ลมเริ่มกรรโชคแรงส่งผลให้ต้นไม้ใบหญ้าไหวเอนคล้ายจะโค่น

        ‘พระเจ้าได้โปรดคุ้มครองอาซาของผมด้วย’
   




        ทำไมอาซายังไม่ติดต่อมา ทั้งคืนผมนอนไม่หลับเพราะเอาแต่เป็นห่วงอาซาที่ต้องขับรถฝ่าพายุในเวลากลางคืน โทรหาก็ไม่มีสัญญา เพราะพายุได้ทำให้ระบบสื่อสารทั้งประเทศมีปัญหา เพิ่งจะใช้ได้เมื่อเช้าที่ผ่านมา หวังว่าจะไม่เกิดอันตรายหรอกนะ แต่อาซาเป็นงูนะ เขาน่าจะเอาตัวรอดได้สิ

        บ้าเอ้ย! ผมเป็นห่วงอาซาเข้าขั้นจิตตกไปแล้ว ถ้าเมื่อคืนพายุไม่เข้า ผมคงไม่รู้สึกกังวลมากเช่นนี้

        ‘หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สะ...’

        ติ๊ด!

        “โธ่เว้ย!” ผมทิ้งตัวลงกับเตียงอย่างหงุดหงิด หันมองออกไปนอกหน้าต่าง ยังจำภาพคืนก่อนที่ผมกับอาซายืนดูดาวด้วยกัน

        ‘รู้ไหม เมื่อก่อนฉันกับนายสัญญากันเอาไว้อย่างหนึ่ง เป็นประเพณีที่เราจะทำร่วมกันทุกๆวันครบรอบชีวิตคู่’

        ‘อะไรเหรอ’ ผมถามด้วยความยากรู้ น้ำเสียงยามที่เขาเอ่ยบ่งบอกว่าเขามีความสุขกับช่วงเวลาดังกล่าว

        ‘เราพบกันในคืนเดือนดับ และเราสัญญาว่า เราจะนอนดูดาวด้วยกันจนกระทั้งดาวดวงสุดท้ายลับหายไปจากท้องฟ้า’ เขาโอบกอดผมเพื่อให้ความอบอุ่น แต่หารู้ไหม ตัวเขาเย็นตลอดเวลา มันไม่ทางให้ความอบอุ่นกับผมได้ กลับกัน ผมว่าผมชอบความเย็นมากกว่าความร้อน อย่างน้อยๆผมก็ไม่ต้องเจ็บตัวเท่าตอนที่เขาลุกเป็นไฟ

        “ถ้านายไม่กลับมาหาฉัน ปีนี้ฉันจะไม่นอนดูดาวกับนายแน่อาซา รู้เอาไว้ซะ” ผมพูดขู่เขาคนเดียวในห้องเว้งว้าง

        “เฮ้อ” ลงไปข้างล่างดีกว่า

        เมื่อเช้าพี่ยอร์ชแวะเข้ามาบอกว่าจะออกไปรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยี่ยมชมไร่ของเรา และเขาค่อนข้างสนใจที่จะทำธุรกิจร่วมด้วย พี่ยอร์ชตื่นเต้นใหญ่ที่จะได้ขยายกิจกรรมค้าไวน์ให้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น

        ผมเดินเล่นอยู่ในบ้านจนเริ่มเบื่อ จึงออกไปเดินเล่นข้างนอก แต่ไม่ถึงกับเข้าไปในไร่ ฟ้าเพิ่งจะโปร่งได้หมาดๆ บนพื้นยังมีน้ำขังเป็นจำนวนมาก ม้านั่งในสวนนั่งเล่นโซนรีสอร์ทที่มีไว้ให้นักท่องเที่ยวอยู่สามสี่หลังจึงถูกผมจับจ้องชั่วคราว

        ความคิดล่องอยเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมกำลังทำใจเย็นรออาซาติดต่อมา ป่านนี้เขาน่าจะถึงกรุงเทพได้แล้ว เขาเป็นคนขับรถเร็ว ไม่น่านานไปกว่านี้ แต่ร้อนอกร้อนใจไปก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็ทำได้แค่รอ

        เอาน่า รอแค่นี้จะเป็นอะไรไป อีกฝ่ายรอผมนานกว่านี้เขายังไม่บ่นสักคำ ผมคิดในใจ

        บรื้น

        เสียงรถยนต์ดังขัดความคิด ผมมองไปตามทาง เห็นรถที่ใช้พานักท่องเที่ยวเยี่ยมชมไร่องุ่นขับเข้ามาใกล้ คิดว่าคงจะส่งนักท่องเที่ยวกลับรีสอร์ทที่พัก

        “เอ๊ะ?” ผมแปลกใจเล็กน้อยที่พี่ยอร์ชเป็นคนขับรถแทนที่จะเป็นคนงาน ผู้ชายสองคนลงมาจากรถ ผมมองเห็นหน้าไม่ถนัด ด้วยความที่เบื่อๆเลยเดินเข้าไปทักทาย

        “พี่ยอร์ช” ผมเรียกพี่ชายตัวเอง พี่ยอร์ชหันมองผมแล้วยิ้มกว้าง

        “ว่าไงตัวเล็ก มานี่มา พี่จะแนะนำให้รู้จักกับเจ้าของร้านไวน์ชื่อดังในกรุงนิวยอร์ค” พี่ยอร์ชดึงผมให้ไปยืนเคียงข้าง ผมยิ้มตอบก่อนจะหันไปมองแขกทั้งสองคน

        เกิดความประหลาดใจขึ้นเพียงเสี้ยววินาที

        หน้าตาแบบนี้ ดวงตาแบบนี้...ไม่จริงใช่ไหม บอกทีว่าแค่คนหน้าเหมือน

        “คนนี้คือคุณเอเดน สเตนเบิร์ค และนี่คุณชาร์ล เลวิธ ทั้งสองคน...”

        ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น เพราะเสียงที่ดังกึกก้องอยู่ในหัวมีแค่ว่า





        ‘ซวยแล้ว!!!’



        ผมจำไม่ผิดแน่ๆ ดวงตาสีเขียวมรกตแบบนี้ไม่น่ามีใครเหมือน เขาคือเอเดน พี่ชายของอาซา ยิ่งนามสกุลสเตนเบิร์ค ยิ่งตอกย้ำว่าเป็นคนๆเดียวกัน เพราะอาซาก็ใช้นามสกุลนี้

        “มีอะไรเรียกผมได้นะครับ ถ้ายังไงเย็นนี้ผมขอเชิญพวกคุณสองคนร่วมทานอาหารเย็นที่บ้านผมนะครับ” พี่ยอร์ชเอ่ยชวนแขกทั้งสองคนอย่างเป็นกันเอง ผมอยากจะเอ่ยขัดแต่ก็ทำไมได้ ดูก็รู้ว่าพี่ยอร์ชดีใจที่พวกเขาบอกว่าจะติดต่อไวน์จากไร่เราไปลงที่ร้าน

        แต่...แน่ใจเหรอว่าเขามาเรื่องธุรกิจจริงๆ ไม่ได้มาเพราะเรื่องอื่น ในเมื่อ...

        “รู้สึกเป็นเกรียติอย่างมากสำหรับคำชวน ผมจะต้องไปร่วมโต๊ะกับพวกคุณอย่างแน่นอน ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ คุณยอร์ชและคุณโยชิ” เอเดนพูดเนิบๆอย่างคนมีเทคนิคในการเจรจา เขามองผมด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ น้ำเสียงของเขาฟังอีกครั้งผมก็ยังรู้สึกว่ามันน่าขนลุก

        เอเดนเปลี่ยนไปนิดหน่อยจากที่ผมเคยเห็นครั้งก่อน ผมที่เคยเป็นสีทองกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังดูดี แต่เป็นดูดีแบบแอบเปิ้ลเคลือบยาพิษ ถ้าเผลอกินไปก็คือตาย

        “ไปเถอะโยชิ ปล่อยให้คุณเอเดนกับคุณชาร์ลพักผ่อน วันนี้พี่รบกวนเราทำอาหารต้อนรับแขกสองคนนี้ทีนะ” พี่ยอร์ชบอกแล้วเดินกลับไปที่รถ ผมมองแขกของพี่ยอร์ชอย่างไม่ไว้วางใจ เอเดนเพียงยิ้มให้ผม ส่วนเพื่อนของเขามองผมแวบหนึ่งแล้วเบนสายตามองไปรอบๆรีสอร์ทแทน

        ผมก้าวตามพี่ยอร์ช แต่เท้าถูกดึงไว้ด้วยเสียงทุ้มก้องกังวานในห้วงความคิด

        “ยินดีที่ได้เจอกับอีกรอบนะหนุ่มน้อย”

        ต้องบอกอาซา เรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้

        แต่เดี๋ยวนะ...

        ภาพงูสองหัวสีเงินตัวใหญ่ในความฝัน มันฆ่าอาซา...งูตัวนั้นคือเอเดน

        แล้วงูสีเงินที่ผมเจอบนต้นไม้

        “บ้าเอ้ย!!!” ทำไมผมไม่ฉุกใจคิดให้เร็วกว่านี้ แบบนี่หรือเปล่าที่เขาบอกว่า ยามที่เรามีความสุข เรามักจะลืมป้องกันตัวเอง

        ผมต้องรีบโทรหาอาซาโดนด่วนเพื่อบอกเขาว่า เอเดนมาที่บ้านผม ‘ได้โปรดรับสายฉันด้วยก่อนที่ฉันจะร้อนใจตาย!’

        เรื่องนี้ถ้าไม่ใช่โลกกลม ก็คงเป็นจงใจ

       


(http://image.ohozaa.com/i/g86/ALIYLT.jpg)



………………..
ยังไม่ได้เช็คคำผิดหรือเกาภาษาเพิ่มเติมเนื้อหาในตอนนี้นะคะ ง่วงมากกกกกกกกกก ไว้วันหยุดวันอังคารคงได้หยิบมาขัดเกลาใหม่ ไม่รู้ว่าขาดอะไรไปตรงไหนบ้าง แต่เอามาลงให้ก่อนเพราะบอกไปแล้วว่าวันนี้จะมา กลัวคนอ่านรอ
ถ้าเจอคำผิดก็รบกวนแจ้งด้วยนะคะ ตอนที่แล้วต้องขอบคุณที่มีคนแวะเข้ามาอ่านนะคะ จะบอกว่าหลังจากนี้เนื้อหาเริ่มหนักละ ไอ้อารมณ์เรื่อยๆแบบตอนที่1คงไม่มีแล้วนะคะ ถึงมีก็น้อยมาก แต่มีฉากหวานอยู่นะ ยังมีอยู่ 555
ตอนที่แล้วต้องขอบคุณdeshiwaด้วยที่แจ้งคำผิดให้ได้ทราบ
ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจมากๆเลยนะคะ ริริจะทำให้ดีที่สุดค่ะ :mew1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 12-10-2014 22:52:55
ว่าแล้วววว ว่ายังไงงงงง๊โยชิก็ต้องลืมบอกอาซาแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆ :katai1:
งานเข้าแล้วลูกกกกกก ขอให้น้องปกป้องตัวเองได้ก่อนที่อาซาจะมา :sad4:
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 12-10-2014 23:04:23
:z13: จิ้มๆกระทู้บน  :hao7:

จะบอกตัวโตๆว่า ตอนที่3น่าจะมาวันที่ 15 หรือ 16
ยังไงจะแจ้งอีกทีทางเพจนะคะ

 :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: platy ที่ 12-10-2014 23:06:27
เจ็มจ้นมากกกก โอยยยยย โยชิลูกกกกก :z3: :z3: :z3: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 13-10-2014 00:51:23
Oh my gosh!!!  :a5:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 13-10-2014 01:14:38
จงใจชัดๆ ไม่มีบังเอิญหรอกโยชิเอ้ย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: ปังอุ่น ที่ 13-10-2014 01:27:08
พี่งูหายไปไหนนนน?
ว่าแต่อีตาเอเดนเนี่ยนางมาแบบแยบยลจริงๆ
มันคือแผนหลอกพี่งูกลับ กทม. ชิมิๆ?


 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 13-10-2014 06:01:09
จะมาทันมั้ยนะอาซา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 13-10-2014 06:49:20
ป้ากังวลใจมาก พูดเลย!!! มาเหนือเมฆจริงๆ
อาซาก็ติดต่อไม่ได้ อ๊ากกกกกก!!!

ปลอดภัยนะค่ะ ปลอดภั
สู้ๆน้า.ริริ.เป็นกำลังใจจ้า.
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 13-10-2014 06:49:31
ว่าแล้วมันต้องเกิดเรื่อง
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 13-10-2014 11:15:15
เอาแล้วงานเข้า

ยังงัย หนูโย ต้องระวังตัวเอาไว้ด้วยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-10-2014 12:11:14
เอเดนมันมาแล้วววว
อาซาหายไปไหนนะ
โอ๊ยยย ลุ้นค่าาริริ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 13-10-2014 15:09:56
งานเข้าถึงบ้านเลยโยชิ
คราวนี้อย่าลืมโทรไปบอกอาซาอีกน้า
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 13-10-2014 16:01:18
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:


เอเดนมา มันต้องมีไรแน่ๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 13-10-2014 16:17:10
โทรหาพี่งูด่วนๆเลยลูก
ระวังต้วไวด้วยนะ โยชิ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 13-10-2014 16:50:53
กรี๊ดดดดดอาซา!!!!!
มีโทรศัพท์ก็หันเปิดเครื่องชาร์จแบตด้วย
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 13-10-2014 18:31:24
 :katai1: :katai1: ใครจะทำอะไรไม่สน ขอแค่ว่า
อาซาจ๋าอย่าเป็นไรนะ....หนูโยจังต้องช่วยอาซาได้แน่...
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 13-10-2014 19:22:56
เอเดน จะมาดี มาร้าย..เนี้ย

อาซารีบไปแบบนี้

ต้องเป็นแผนของเอเดนแน่

เรื่องความฝันยังติดตาติดใจอยู่เลย

หวังว่าความฝันนั่นคงไม่เกิดขึ้นจริงหรอก
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 13-10-2014 22:20:48
โอ้วว  ม่ายยยยยยยย   อาซา!!!

 ตามมาอ่านแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 13-10-2014 22:28:00
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้
อ่านรวดเดียว
 สนุกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกมาก
อ่านแล้วหยุดไม่ได้
อ่านไปเราก็เดาไปเรื่อย

มีความรู้สึกว่าพ่อกับยอร์ช จะไม่ธรรมดา
โยชิอาจไม่ใช่ลูกจริงๆก็ได้
แต่คนเขียนบอกไมมีดราม่าครอบครัวนิน่า
เราคิดมากไป


เอเดน คิดจะทำอะไรยากจะเดา
แมวปุยเมฆ ก็น่าสงสัย
เรื่องน่าติดตามมากๆ ลุ้นปมเรื่องคลายทีละนิด


หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 14-10-2014 09:48:46
ลุ้นๆๆๆ อาซารีบกลับมา โยชิอย่าเปนไรนร้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 14-10-2014 13:46:38
ดีใจจังภาคสองมาแล้ว น่าสนจตีิท่่
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 15-10-2014 00:25:21
อื้อหือออออออ ต่นเต้นตั้งแต่ต้นขนาดนี้ หัวใจจะวายนะ
เอเดน! ห้ามทำอะไรหนูโยนะ ไม่งั้นจะให้อาซาจัดการซะให้เข็ด!
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 16-10-2014 20:14:13
เอเดนต้องการทำอะไรกันแน่

โยชิระวังตัวด้วยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.COLD-HEART SNAKEปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ 12102014[P.32]
เริ่มหัวข้อโดย: -Otto- ที่ 17-10-2014 12:51:29
อาซาา~ :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 18-10-2014 00:32:13
B.L.O.O.D.L.I.N.E
THREE



        พี่ยอร์ชให้การต้อนรับเอเดนและเพื่อนของเขาเป็นอย่างดี ในฐานะที่เขาสนใจไวน์จากไร่ของเรา มีไร่องุ่นหลายไร่ในประเทศไทยที่อยากนำเสนอให้โลกได้รู้ว่าไวน์ของพวกเขาก็เจ๋งไม่แพ้ไวน์ของประเทศมหาอำนาจหรือของประเทศที่เป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของโลก

        ผมว้าวุ่นใจในสิ่งที่เอเดนกำลังจะทำ ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรจากผมและครอบครัว ในเมื่อผมและเขาไม่รู้จักกันและไม่มีความเกี่ยวข้องกันสักนิด ผมรู้แค่ว่าเขาเป็นพี่ชายคนละแม่ของอาซา และเอเดนกับอาซาไม่ถูกกัน แค่นั้นที่อาซาบอกเล่าให้ผมได้ฟัง

        กับการมาประเทศไทยของเอเดน ดูจะเป็นสิ่งเลวร้าย ผมรู้แค่ว่าเขาไม่ได้มาดี และเขาเป็นเหมือนศัตรู เขาคืออาชญากรตัวร้ายที่ฆ่าคนบริสุทธิ์อย่างเลือดเย็น อย่างน้อยๆก็ผู้หญิงในคืนนั้น คืนที่เรารู้ว่าเป็นเขา แม้ว่าหลังจากนั้นจะไม่มีเหตุการณ์ประหลาดให้ลงข่าวในทีวีหรือหนังสือพิมพ์อีก แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะไม่กระทำซ้ำ ไม่ได้หยุดเพื่อหลอกให้เราตายใจ

        อันที่จริงพวกเราก็ยังไม่มีหลักฐานบ่งชัดว่า รายก่อนๆเป็นฝีมือเขา เพราะถ้าเขาเพิ่งจะมาเมืองไทย แล้วก่อนหน้านั้นใครเป็นคนทำ

        อาการเครียดค่อยๆดีดตัวสูงขึ้น เพราะผมกำลังกลุ้มใจที่พี่ยอร์ชไม่รู้เลยว่าเอเดนอาจเป็นตัวนำความยุ่งยากหรืออาจนำอันตรายมาให้ในอนาคตอันใกล้นี้

        และผมเองก็ไม่รู้ว่าจะบอกพี่ยอร์ชยังไงว่าเอเดนไม่ใช่บุคคลที่ควรคบหา อย่างที่บอก ผมคาดเดาว่าเขาไม่ได้มาดี ไม่งั้นพวกอาซาไม่ตื่นตัวถึงขนาดตามหาตัวเขาหลังจากที่รู้เลย แต่น่าเสียดายที่ไม่เจอ เอเดนหายเงียบไป และเพิ่งจะโผล่มาให้ได้เห็น

        ในเมื่อผมไม่สามารถบอกเหตุผลกับพี่ยอร์ชได้ว่าทำไมเราต้องอยู่ห่างจากเอเดน จะให้บอกเหรอว่าเอเดนเป็นมนุษย์งู พี่ยอร์ชคงได้ขำท้องแข็ง พี่เขาไม่มีทางเชื่อ และต่อให้เชื่อ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรบอกอยู่ดีว่าในโลกนี้แปลกประหลาดถึงขนาดที่มีมนุษย์สัตว์ปะปนอยู่ หรือจะให้บอกว่าอาซากับเอเดนไม่ถูกกัน เพราะงั้นเราจึงไม่ควรไปยุ่งกับเขา พี่ยอร์ชจะได้เขกหัวผมให้ ข้อหาคิดอะไรเป็นเด็กๆ

        ผมรู้ว่าพี่ยอร์ชมีเหตุผลมากพอ พี่ยอร์ชเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ความคิดและเหตุผลเป็นหลัก ถ้าไม่มีเหตุผลที่ดีพอ พี่ยอร์ชต้องทำธุรกิจกับเอเดนเป็นแน่

        “เฮ้อ” ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม

        แต่ยังไงก็ตาม เรื่องมนุษย์กลายร่างต้องเก็บเป็นความลับระดับชาติ เว้นแต่ว่าจะไม่มีทางออกแล้วจริงๆ

        ผมก้มมองโทรศัพท์ในมือ นิ้วกดโทรออกหาอาซาอีกครั้งเป็นรอบที่สิบที่ร้อย แต่เขาไม่รับสาย ผมว้าวุ่นอยู่ในครัวตั้งแต่บ่ายใจเกือบจะเย็นค่ำ เสียงน้ำเดือดทำให้ต้องตัดใจละสติออกจากโทรศัพท์ วางมันไว้บนโต๊ะทำกับข้าว ฝาหม้อกระเด้งขึ้นตามแรงดันไอน้ำในหม้อต้มยำ

        ผมเปิดฝาหม้อออก เทเม็ดพริกที่ตำให้แหลกพอประมาณใส่ลงไปเพิ่มรสชาติความเผ็ดร้อน คราวนี้ผมใส่ในปริมาณที่มากเสียหน่อยเมื่อนึกถึงใบหน้าของเอเดน จะเอาให้เผ็ดจนหาทางกลับบ้านไม่ถูก

        กับข้าวห้าอย่างเสร็จเรียบร้อยทันเวลาอาหารเย็น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้ง ไร้สรรพสิ่งใดๆไม่ว่าจะเป็นข้อความหรือสายโทรเข้า อย่างให้เจอหน้า ผมขอต่อว่าสักที ถ้ามีโทรศัพท์แล้วไม่คิดจะพกหรือใช่ ไม่ต้องมีเสียดีกว่า

        “ลูกชาย วันนี้ทำอะไรต้อนรับแขกบ้าง” พ่อก็คงรู้เรื่องแล้ว และนั่นมันยิ่งยากเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องของเอเดน

        ผมแกว่งโทรศัพท์ในมือ หันไปหาพ่อ ปลายตามองอาหารบนโต๊ะของวันนี้ “พ่ออยากได้อะไรเพิ่มไหม”

        “ไม่ แค่นี้ก็เพียงพอ พ่อไปอาบน้ำก่อนนะ” มืออุ่นขยี้หัวผมจนขึ้นฟู ผมยิ้มให้พ่อ ร่างสูงใหญ่เดินออกไปจากห้องครัว ผมถอนหายใจ ก้มมองมือถือ หูได้ยินเสียงพี่ยอร์ชแว่วใกล้เข้ามา

        เอเดนมาแล้ว

        ผมรีบกดโทรศัพท์โทรหาอาซาอีกครั้ง สัญญาณมี โทรติด แต่ไม่มีคนรับ ผมรู้ว่าอาซาไม่ชอบใช้โทรศัพท์มือถือ เขาเป็นพ่องูนักรักที่นิยมวิธีโบราณอย่างเช่นเขียนจดหมายจีบอะไรเทือกนั้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมอยู่ห่างเขา อาซาจะกลายเป็นพวกติดโทรศัพท์เขาขั้นหนัก เขาจะโทรหาผมและส่งข้อความซักถามตลอดว่าผมอยู่ที่ไหนหรือทำอะไร เพราะฉะนั้นการที่เขาไม่ติดต่อกลับมา

        “รับสิที่รัก ได้โปรด”

        “โยชิ เตรียมพร้อมแล้วใช่ไหมน้องรัก”

        ผมสะดุ้ง หันไปมองพี่ยอร์ชที่โผล่หัวเข้ามาในครัว สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข ผมพยักหน้ายิ้มรับแห้งๆ “เสร็จแล้วครับ”

        “เยี่ยมมากน้องรัก พี่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ” พี่ยอร์ชชักหน้าออกจากกรอบประตูก่อนจะโผล่มาอีกครั้ง “อ่อ เอเดนและชาร์ลอยู่ในห้องรับแขนนะ พี่วานไปดูแลเขาที พี่จะรีบอาบน้ำให้เร็วที่สุด” เสียงพูดเบาให้ได้ยินเพียงแค่สองคน ก็ไม่รู้ว่าพี่ยอร์ชจะทำเสียงกระซิบไปทำไมในเมื่อเอเดนกับเพื่อนของเขาไม่มีทางฟังรู้เรื่อง

        “ครับ” ผมครับพี่ ยอร์ชผละหายไปอาบน้ำ ผมยกมือกุมหน้าผากก่อนจะเสยผมแรงๆ

        “สาบานได้ว่านายแย่แน่เมื่อเราเจอกันอาซา” ผมกดโทรศัพท์อีกครั้งก่อนที่จะออกไปเผชิญหน้ากับเอเดนอีกรอบ “รับสายสิอาซา”

        กริ๊งงง~

        ‘ตู้ด ตู้ด’

        กริ๊ง กริ๊ง~

        ผมหยุดนิ่ง มือที่ถือโทรศัพท์อยู่บีบแน่น พ่นลมหายใจออกจากปากอย่างไม่อยากจะคาดคิดถึงสิ่งที่กำลังเกิด

        “จะโทรไปรายงานงั้นเหรอ”

        “เหอะ ให้ตายเถอะ” ผมกดวางสาย เสียงสั่นไม่อาจควบคุม หันหลับไปมองเอเดนที่ยืนก้มมองโทรศัพท์อาซาด้วยใบหน้าเรียบเฉย

        “สายที่...หนึ่งร้อยพอดี”

        ปึก!

        เอเดนโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ผมอึ้งไปสักพักหนึ่ง หัวคิดไปถึงอาซาว่าเขาจะเป็นยังไงบ้าง “นายเอาโทรศัพท์เขามาได้ยังไง” ผมกัดฟันถามเอเดน เขาเดินวนรอบตัวผมช้าๆคล้ายจะประเมิน ผมมองตามเขา จะว่ากลัวก็ใช่ แต่บทเรียนก่อนหน้านี้สอนผมว่า ความกลัวไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น เราต้องเผชิญหน้าเพื่อสู้กับมัน

        ผมกลัวเอเดน เขาน่ากลัว ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เขาจะกลายร่างเป็นงูแล้วฆ่าผม ทำให้ผมกลายเป็นหิน หรือเขาอาจจะพ่นไฟใส่ผม ความรู้ว่าอะไรเป็นอะไรถึงได้กลัว แต่ในที่นี้มีผมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ และผมจำเป็นต้องยืนหยัดเพื่อปกป้องคนที่ผมรัก แม้ว่าเสียงจังหวะหัวใจที่กำลังเต้นถี่จะดังกึกก้องอื้ออึงอยู่ในหัว

        “เดาว่านายคงรู้เรื่องของฉันหมดแล้ว จากปากอาซา” เขาเริ่มพูดกับผม เสียงทีวีดังจากข้างนอก ผมหันไปมองตามสัญชาตญาณ “และเดาว่านายรู้เรื่องของพวกเรา ว่าเราเป็นอะไร”

        “แล้วยังไง” ผมโต้กลับ เชิดหน้าถือดี “นายทำอะไรอาซา” นั่นเป็นสิ่งที่ผมปรารถนาที่จะล่วงรู้มากที่สุดในขณะนี้

        “เปล่านี้ ฉันไม่ได้ทำอะไรมัน”

        มัน งั้นเหรอ? นี่เขาพูดถึงน้องชายตัวเองโดยใช้คำว่ามัน ผมนึกโกรธที่เขาไม่ให้เกียรติอาซา “นายมีโทรศัพท์ของเขา บอกฉันมาว่านายทำอะไรเขา!” ผมกำมือแน่น น้ำเสียงแข็งกร้าวเล็ดลอดไรฟัน

        “ชู่ว์ ไม่เอาน่า อย่าเพิ่งโมโห” เขายกมือขึ้นหมายจะจับตัวผม มือของผมปัดมือเอเดนแรงจนเกิดเสียงดังเพี๊ยะ ผิวหน้าเขาแข็งขึง ดวงตาสีเขียวไหววูบเพียงเสี้ยววินาที

        “บอกสิว่าเขาปลอดภัย!” เสียงของผมขึ้นสูงไปตามอารมณ์ที่ปะทุอยู่ในอก

        เขานิ่งแล้วก็นิ่ง ผมเริ่มใจคอไม่ดี ริมฝีปากสั่นระริกเพราะความกลัว ผมไม่ได้กลัวเอเดน แต่กลัวอาซาจะกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่ใจหนึ่งคอยกระซิบอยู่ในหัวว่า อาซาไม่ใช่คนโง่ เขาเก่งและฉลาดมากพอที่จะเอาตัวรอด ผมต้องเชื่อใจเขา

        “โยชิ นายนี่เลือดร้อนกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เสียอีกนะ แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป ฉันยังไม่ได้ฆ่ามัน อย่างน้อยๆก็ตอนนี้ นายวางใจได้”

        วางใจงั้นเหรอ เขาพูดว่าให้ผมวางใจทั้งๆที่เขาเพิ่งจะพูดว่าเขาจะฆ่าอาซา

        “นายมันเลว” เกินคำบรรยาย

        “ขอบคุณที่ชม” เอเดนดูไม่สะเทือนกับคำด่า หรือไม่มันก็น้อยไปที่ให้คำจำกัดความคนอย่างเขา

        “นายต้องการอะไรจากฉัน จากครอบครัวฉัน” ผมสูดลมหายใจยาว พยายามกดน้ำเสียงให้ราบเรียบก่อนที่พ่อกับพี่ยอร์ชจะได้ยินสิ่งที่ผมพูดกับเอเดน

        “แล้วนายคิดว่านายมีอะไรที่ฉันต้องอยากได้ล่ะ” เขาย้อนถาม ไม่ตอบในสิ่งที่ผมต้องการรู้ ยิ่งเวลาผ่านไปนานผมก็ยิ่งร้อนรน กลัวพ่อกับพี่ยอร์ชจะลงมาก่อน

        “นั่นนายต้องเป็นฝ่ายตอบฉันไม่ใช่หรือไง” ผมใช้ความอดทนอดกลั้นมากจริงๆที่จะระงับโทสะไม่ให้พุ่งไปทำร้ายเอเดน รู้ตัวเลยว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากแค่ไหน หรือไม่แน่ผมก็ไม่ได้เปลี่ยนไป เพียงแต่สถานการณ์ที่ไม่ปกติทำให้ผมต้องใช้อีกด้านเข้าสู้

        “โยชิ นายน่าสนใจมากนะ หึหึ ฉันชักจะชอบนายแล้วสิ” เขาทำเล่นลิ้น ก่อนจะตีหน้าเข้ม “แต่ถ้านายอยากรู้ฉันก็จะบอก สิ่งที่ฉันต้องการจากนาย ก็คือหัวใจของนาย”

        บรรยากาศรอบข้างเย็นยะเยือกไปตามน้ำเสียงที่น่าหวั่นเกรง ผมกลืนน้ำลายลงคอช้าๆยามที่ใบหน้าสลักได้รูปเคลื่อนเข้าใกล้

        “นายจะฆ่าฉันเหรอ” แทบไม่รู้สึกตัวตอนที่เปล่งเสียง

        “ฉันจะฆ่าหัวใจของนายต่างหาก” มือใหญ่ของเขาบีบกำอยู่ตรงหน้าผม คล้ายจะบอกว่าเขาต้องการบีบหัวใจของผมให้แหลกคามือ

        เสียงพ่อพูดคุยกับพี่ยอร์ชดังมาจากด้านบน ผมเบนสายตามองไปที่ประตู เอเดนยืดตัวตรงเท่าความสูงแล้วกลับหลังเดิน

        “ถ้าเรื่องมันเกี่ยวกับฉัน อย่าเอาพ่อกับพี่ชายฉันเขาไปเกี่ยวข้อง” เอเดนหยุดเดินเมื่อผมเอ่ย เขาไม่หันกลับมามอง ผมพูดต่อ “เพราะถ้านายทำร้ายพวกเขา ทำร้ายคนที่ฉันรัก สาบานได้ว่าฉันฆ่านายแน่” ผมขู่เสียงคำรามใจคอ

        เอเดนหันหน้ากลับมาเพียงนิด ให้พอเห็นเสี้ยวหน้าและมุมปากที่ยกสูง จากนั้นเขาก็เดินออกไป

        ร่างของผมแทบทรุดลงไปอยู่ที่พื้น หายใจไม่คล่องจนทำให้เกิดอาการสำลักอากาศ ยังดีที่อาซาไม่เป็นอะไร แต่พ่อกับพี่ยอร์ช ผมคนเดียวจะปกป้องพวกเขาไหวหรือเปล่า ผมเองก็ยังตอบได้ยาก

        ช่วงมื้อค่ำเป็นอะไรที่เลวร้ายมากสำหรับผม พ่อกับพี่ยอร์ชคุยกับเอเดนและชาร์ลอย่างถูกคอ บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะ มีเพียงผมที่นั่งเงียบจนกระทั่งมื้อเย็นสิ้นสุดลง พ่อชวนเอเดนและชาร์ลดื่มต่อ แต่ผมใช้สายตากดดันบังคับให้เอเดนกลับไป ก็ไม่คิดว่าเขาจะทำตาม แต่โชคยังดีที่เขายอมล่าถอย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง แต่มันก็ดีแล้ว ผมอัดอัดจนแทบอยากจะล้มโต๊ะอาหารได้เมื่อ

        ผมทิ้งตัวนั่งลงกับโซฟา พ่อตามมานั่งข้างๆ หยิบรีโมตเปิดโทรทัศน์ ส่วนพี่ยอร์ชก็ออกไปส่งสองคนนั้นในฐานะเจ้าบ้านที่ดี สถานีข่าวกำลังรายงานเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

        ‘ในเวลาสิบแปดนาฬิกาที่ผ่านมาได้พบศพคนตายสภาพร่างกายถูกทำร้ายรุนแรง กระดูกช่วงขาแหละละเอียดกับใบหน้าที่ถูกไฟเผาที่ถนน...อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนานาชาติชื่อดัง จากการตรวจสอบพบรอยลากบนพื้นดินขนาดใหญ่ที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร ทางตำรวจ....’

        “นั่นมหาวิทยาลัยของลูกนิ ใช่ไหม” พ่อหันมาถาม

        “อ่า ใช่ครับ” ผมตอบงึมงำพลางผงกหัว

        “เดี๋ยวนี้อาชญากรรมมีอยู่ทั่วไปหมดเหมือนร้านขายลูกอม ไม่รู้เมื่อไหร่มันจะมาจ่อเคาะประตูอยู่ที่หน้าบ้านเรา” พ่อเริ่มบ่น แต่ความจริงแล้วพ่อคิดผิด มันมาถึงในบ้านแล้วต่างหาก

        “คุยอะไรกันอยู่” พี่ยอร์ชกลับมาหลังจากที่ไปส่งวายร้ายในคราบนักธุรกิจสองคนที่ห้องพัก ร่างสูงของพี่ยอร์ชทิ้งตัวนั่งข้างผม หยิบองุ่นบนโต๊ะเข้าปาก มืออีกข้างก็กอดคอผมไว้

        “ก็เรื่องข่าวคนตาย วันนี้อีกราย แถวมหาวิทยาลัยน้อง”

        “หืม” พี่ยอร์ชตีหน้าเครียด ผมแอบกรอกตาไปมา แถวนั้นไม่น่ากลัวหรอก ตอนนี้ที่บ้านเราน่ากลัวกว่าเยอะ

        เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้พ่อพูดว่าอีกราย หมายความว่านี่ไม่ใช่รายแรกในสองสามเดือนที่ผ่านมาหรอกเหรอ “เมื่อกี้พ่อหมายความว่ายังไงนะ” ผมถามย้ำ ใบหน้าคงเครียดจนทำให้พ่อและพี่ยอร์ชงง

        “พูดอะไร?”

        “ก็ที่พ่อบอกว่าอีกรายไง มีข่าวคนตายก่อนหน้านี้ด้วยเหรอ” ผมมองพ่อกับพี่ยอร์ชสลับกันรอคำตอบ

        “ใช่ เมื่อสองสามวันก่อนก็มีคนตาย ลูกถามทำไม” พ่อจ้องเขม็งมองผม ผมอ้าปากนิดๆ ส่ายหน้าว่าไม่มีอะไร

        “โยแค่สงสัย เอ่อ...ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ เริ่มง่วงแล้ว” ผมลุกจากโซฟาเดินเลี่ยงขึ้นห้องทันทีไม่ปล่อยให้ทั้งสองคนซักถามอะไรให้มากความ

        อย่าบอกนะว่าสาเหตุที่อาซาต้องกลับไปด่วนก็เพราะข่าวพวกนั้น และคนที่ทำก็จะเป็นใครไม่ได้ ถ้าไม่ใช่คนที่นอนพักสบายใจอยู่ในบริเวณบ้านผม ปล่อยไว้ไม่ได้ แค่นี้ก็แน่ชัดแล้วว่าเขาจะทำให้ใครต่อใครเดือดร้อน ผมต้องติดต่ออาซาให้รู้เรื่อง เพื่อปรึกษากับเขาว่าเราจะหาทางจัดการกับเอเดนยังไง ก่อนที่เขาจะฆ่าคนอื่นไปมากกว่านี้ และที่สำคัญเลย ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เขาจะฆ่าผม

        “เวรเอ้ย โง่จริง!” ผมสงบไม่เป็นคำ โทรหาอาซาไม่ติดแล้วยังไง ในเมื่อผมมีเบอร์ฟรินน์แล้วทำไมไม่โทรหาคนอื่นแทนเล่า

        ผมมันโง่!

        ผมไล่ดูเบอร์ที่ฟรินน์โทรเข้ามา ผมไม่ได้เซฟเบอร์เขาไว้ ภาวนาให้มันยังอยู่ และเมื่อหาเจอ ผมรีบกดโทรหาฟรินน์ทันที ไม่นานเขาก็รับสาย พระเจ้า นี่ถ้าผมคิดออกได้ตั้งแต่ทีแรกก็คงจบเรื่องไปแล้ว ทำไมผมจะต้องโง่ก่อนฉลาดทุกที

        “ว่าไงโยชิ คิดถึงฉันเหรอ” ฟรินน์ก็ยังคงเป็นมนุษย์งูที่กระดี้กระด้าได้ทุกวัน

        “ฟรินน์ อาซาอยู่กับนายไหม ขอสายเขาด่วนเลย เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” ผมพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน

        “ตอนนี้อาซาไม่อยู่ ออกไปทำธุระกับเวสตันข้างนอก มีเรื่องอะไรเหรอ” ฟรินน์น่าจะจับน้ำเสียงเจือความกังวลของผมได้ เขาหยุดเล่นแล้วถามกลับมาอย่างจริงจัง

        “เอเดน เขาอยู่กับฉัน ที่นี่ ที่บ้านของฉัน” ผมพูดช้าๆชัดๆ

        “อะไรนะ!” ฟรินน์ร้องเสียงตกใจ ผมหลับตาทั้งสองข้าง ควบคุมลมหายใจให้เป็นปกติ “นายไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”

        “เรื่องจริง” ผมตอบ

        “เวรแล้วไง!” เสียงสบถของฟรินน์ดังไม่เป็นภาษา

        “ฝากนายบอกอาซาให้ทีว่าเอเดนอยู่ที่บ้านฉัน ให้เขารีบมาหาฉันด่วนที่สุด”

        “ได้ ฉันจะรีบบอกมัน”

        “ขอบคุณ”

        “ดูแลตัวเองด้วยโยชิ เอเดนอันตรายมาก พยายามอยู่ให้ห่างจากเขา”

        ไม่บอกก็คิดจะทำอยู่แล้ว

        การปรากฏตัวของเอเดนทำให้ผมเริ่มคิดเกี่ยวกับความฝันอีกครั้ง ความฝันเกิดได้จากหลายสิ่ง ถ้าเราคิดมากกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเราก็จะฝันถึงเรื่องนั้น หรือถ้ามีปมอะไรอยู่ในใจ สิ่งนั้นก็จะคอยหลอกหลอนอยู่ในความฝัน แต่ถ้าเป็นฝันบอกเหตุล่ะ ถ้าความฝันกลายเป็นความจริง

        “อาซาได้โปรดอยู่กับฉัน” ผมยกมือลูกหน้าอก รอยปานรูปงูตรงตำแหน่งของหัวใจ เขารับรู้ได้เสมอถ้าหากผมมีเรื่องทุกข์ใจ เพราะเขาเป็นคนสลักมันลงบนผิวกายผมไว้กับมือ

        เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่า ผมอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม เป็นอย่างที่อาซาเป็น แต่มันคงเป็นได้แค่ความคิด สุดท้ายยังไงผมก็เป็นได้แค่มนุษย์ธรรมดา อ่อนแอ ไร้เรี่ยวแรง ไร้พลัง





       
.        .....................
        ตอนนี้เป็นอีกตอนหนึ่งที่เนื้อหาสั้น แต่ไม่หาสามารถเอาเนื้อหาของตอนที่4แบ่งมาใส่ได้ ตอนที่สี่เป็นต้นไปเนื้อหาจะยาวกว่านี้นะคะ
        ริริค้นพบแล้วว่า การลงนิยายสามวันหนึ่งตอนเริ่มเป็นไปได้ยาก การเหนื่อยล้าตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งกลับจากทำงานรวมกันแล้วสิบสี่ชั่วโมง ส่งผลให้การถ่างตาแต่งนิยายเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากจริงๆ นี่ก็เผลอหลับไปก่อน สะดุ้งตื่นมาอีกทีพร้อมกับคำอุทานที่ว่า “ฉิบหายแล้ว! ยังไม่ได้ลงนิยาย”
        ตอนที่4 ไม่แน่ใจว่าอีกสามวันจะมาลงได้ไหม ถ้าตอนที่8เสร็จเมื่อไหร่จะเอามาลงนะคะ เพิ่งเริ่มแต่งตอนที่8ไปได้หน้าเดียว แต่จะพยายามให้ถึงที่สุด เอามาลงให้อ่านกันแล้วก็ไม่อยากให้รอกันนานเลย รู้ว่าเวลาอ่านนิยายแล้วค้างมันเป็นยังไง
        ขอบคุณคนอ่านทุกคน ทุกคอมเม้น ทุกกำลังใจที่ส่งผ่านเป็นต้นอักษรมาให้นะคะ ช่วยให้มีแรงฮึดได้มาก ฮ่าๆๆ อย่างน้อยก็ใช้แทนกาแฟได้ เพราะจะให้กระดกกาแฟตอนเที่ยงคืนก็กะไรอยู่นะ พอดีไม่ต้องนอน
        อ่อ จะบอกว่า เดี๋ยวจะแก้หัวเรื่องหน่อย มันยาวไป เดี๋ยวตอนใส่เลขตอนที่ 13 หรือ 17 เป็นภาษาอังกฤษแล้วจะใส่ไม่ได้ จะเหลือแค่ DGseries. ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁TWO❁ นะคะ แจ้งก่อน เผื่อมีใครงุนงงสับสน
        ก่อนจากไปนอน ฝากนิดหนึ่ง ตอนนี้ริริเปิดจองนิยายเรื่อง Mafia ‘n Doll เล่ห์รักมาเฟีย (Shotacon) เผื่อมีนักอ่านคนไหนที่เคยอ่านเรื่องนี้ของริริแล้วอยากได้เก็บไว้ ก็เข้าไปอ่านรายละเอียดการสั่งจองได้นะคะ หรือถ้าใครยังไม่เคยอ่านจะแวะไปอ่านตอนที่รอพี่งูก็ยินดีอย่างยิ่งค่ะ สบายๆคลายเครียดมาก เป็นแนวมาเฟียที่ไม่เครียดเท่าไหร่ หรือไม่เครียดเลยก็ไม่รู้ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ
        ขอบคุณค่ะ :mew1: :L1: :กอด1:
       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 18-10-2014 00:48:43
งื้อออออ เอเดนจะทำอะไร
สู้ๆนะโยชิ อาซารีบมานะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 18-10-2014 00:53:12
นั่นน้ออออ กำลังคิดอยู่เลยว่าโทรหาอาซาไม่ติด ทำไมไม่ลองโทรหาเวสตันไม่ก็จูเลียดู :katai1:
ว่าแต่ ที่เอเดนต้องการหัวใจนี่คืออะไรหนอออออ
ริริ พักบ้างนะคะ ไม่ไหวก็พักผ่อนบ้าง
คนเขียนสำคัญเสมอน้าาาา สู้ๆค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 18-10-2014 01:10:08
โอยยยย หนูโยฃิจะเป็นไรมั้ยอ่าาา ตัวพ่ออยุ่ในบ้านเลย
สงสัยอยุ่อย่าง ทำไมอาซาไม่ติดต่อกลับโยชิเลยอะ
คือน่าจะรุ้ตัวนะว่ามือถือหาย เพราะยังไงก็ต้องโทรหาโยชิอยุ่แล้ว
ถ้ายังงั้นก็น่าจะใช้มือถือคนอื่นโทรหาก่อนก็ได้นี่นา
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ ตอนนี้ก็งานเยอะเหมือนกัน สู้ๆคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 18-10-2014 01:56:35
เอเดนจะรู้มั้ยว่าโยชิก็เป็นงู
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 18-10-2014 07:04:20
อาซามาอยู่กับโยชิด่วนๆเลยนะ
เฮเดนจะทำอะไรโยชิหรือเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 18-10-2014 07:25:17
เอเดน แมร่ง!! มีอะไรที่แจ็งแรงกว่สงูมั้ย
จะแปลงร่างเป็นสิ่งนั้น แล้วปกป้องอาซากับโยชิ (อินจัด)
ัข้มแข็งไวนะ ทั้งคู่

เป็นกำลังใจให้ริริ นะค่ะ :)))
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 18-10-2014 08:21:16
อาซามาช่วยโยชิเร็วๆนะ
ปล่อยไว้นานๆไม่โอเคแน่ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 18-10-2014 10:19:13
 :ped149: คนเขียน สู้ๆ เป็นกำลังใจให้นะ


เอเดนต้องการทำอะไร ยากที่จะเดา
คงไม่ใช่เรื่องดีแน่
อาจจะทำให้ครอบครัวโยชิ ผิดใจกับอาซา ใส่ร้ายป้ายสี อะไรทำนองนั้น

กลุ้มใจแทนโยชิจริงๆ มืดแปดด้าน  :เฮ้อ:



หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 18-10-2014 10:47:40
ภาวนา ให้อาซามาเร็วๆ  กลัวเอเดนจะทำร้ายโยชิจัง


ริริรักษาสุขภาพด้วยนะคะ

สู้สู้   o13 o13 o13 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-10-2014 11:37:21
เอเดนต้องการอะไรกันแน่
ขอความชัดเจนไอ้ตัวโกง!!!!
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 18-10-2014 11:40:04
สนุกลุ้นมากๆๆๆ เรยอ่ะตอนนี้ริริมาโพสไวๆ นร้าาาา :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 18-10-2014 14:18:17
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 18-10-2014 15:46:31
อาซาไปทำอะไรอยู่ไหนกลับมาดูแลน้องโยได้แล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-10-2014 20:00:38
อ่านตอนนี้แล้ว

รู้เลยว่าเอเดนไม่ได้มาดี

แล้วอาซาจะเป็นอะไรหรือเปล่า

และที่แน่ๆอย่าให้ความฝันของโยชิเป็นจริงเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 18-10-2014 20:55:59
อยากให้โยกลายร่างได้จังเลยน้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 18-10-2014 22:52:28
อ่านยาวรัวๆมาตั้งแต่ภาคแรก  สนุกมากค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 18-10-2014 23:45:37
 :katai1: :katai1: :katai1:   อร๊ายยยยย ลุ้นๆๆ   ที่เอเดนบอกว่าจะจัดการ หัวใจของโยชิเนี่ย คือ จะจัดการกับ

อาซาสินะ อร๊ากกกก พี่อาซาโดนหมายหัว  แล้วระหว่างที่ เอเดนรออาซาให้กลับมาหาโยชิเนี่ย จะป่วนโยชิขนาดไหนนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 19-10-2014 10:47:59
ชอบพี่โยชิคิดตอนสุดท้ายจัง
แบบดูรู้เลยว่ารักกันมากฮือ
ไอ้เอเดนอย่ามาป่วนนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 20-10-2014 12:07:36
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 20-10-2014 13:55:41
เข้ามาอ่านต่อขอรับ

อยากบอกว่า.....

มันบีบหัวใจจริงๆ

ลุ้นจริงๆ

จะเป็นอย่างไรต่อนะ

รอ ร๊อ รอ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 20-10-2014 23:53:01
เอเดนนนน. แกห้ามทำอะไรหนูโยนะ. ไม่งั้นแกตาย!
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 21-10-2014 17:15:56
วันนี้จะมาป่าวจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: AoMSiN555 ที่ 21-10-2014 20:27:46
 :เฮ้อ: อาชา.....ติดตามอ่าน รออยู่นะ~~~~ คิดถึง  :กอด1: มาลงให้นักอ่านให้ชื่นใจหน่อยเถอะนะ  :o12:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THREE❁ 18-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 22-10-2014 22:21:05
มารอค่ะ :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.33]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 22-10-2014 22:41:56
B.L.O.O.D.L.I.N.E
FOUR



        ASA

        ภายในห้องทำงานอธิการบดีของ Arch University แตกต่างจากที่อื่น อย่างน้อยๆห้องทำงานที่ไหนก็คงไม่มีหนังสือประดับฝาผนังนับพันเล่มอย่างที่ผมเห็น เป็นเวลาหลายสิบชั่วโมงที่ผ่านไป ผมหลับนอนกินข้าวและนั่งกระวนกระวายอยู่ในห้องนี้ โทรศัพท์ผมหายก่อนจะมาถึงแอชยู ยังไม่ทันได้ติดต่อกลับไปหาโยชิ ผมกับเวสตันก็ถูกเรียกตัวมาสอบสวนโดยคณะผู้บริหาร Arch University หรือที่พวกเรารู้ก็คือ คนเหล่านี้เป็นผู้คุ้มครองพวกเราในแผ่นดินประเทศไทย ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดคือบาทหลวงเยโรมที่สิบสามผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย ซึ่งเขาก็คืออธิการบดีคนแรกและคนปัจจุบัน

        เรื่องที่ทำให้ผมถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องนี้เป็นเวลาเกือบสองวัน ก็ด้วยเรื่องข่าวคนตายที่เกิดขึ้นอีกครั้งหลังหญิงสาวผู้โชคร้ายล่าสุดที่เราพบพร้อมกับการมาของเอเดน พี่ชายต่างสายเลือดที่แสนจะชิงชังน้องชายร่วมพ่อเดียวกันอย่างผมยิ่งกว่าอะไรในโลกหล้า

        พวกผู้คุ้มครองได้ตรวจสอบศพที่อยู่ในรูปแบบหลากหลาย และต่างก็ลงมติเห็นพ้องต้องกันแล้วว่า มนุษย์กลายร่างที่สามารถจัดการศพให้อยู่ในรูปแบบเหล่านี้ได้ก็คือพวกนากินี ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ศพแข็งเป็นหินเยี่ยงเมดูซ่า ศพที่ถูกรัดร่างกายจนกระดูกทั่วร่างแหลกละเอียด หรือศพที่ใบหน้าเละจากการถูกพิษของเรารินรดเสียชีวิต ซึ่งอย่างหลังเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่าเหล่านากินีเป็นคนทำ

        แต่นากินีที่จะทำได้ ต้องเป็นนากินีที่เป็นสายเลือดแท้หรือพวกชั้นสูงมีอายุมากกว่ากว่าห้าร้อยปีขึ้นไปเท่านั้น ดังนั้นพวกผมจึงน่าสงสัยที่สุด เพราะพวกเราเป็นเสมือนผู้ปกครองชาวนากินีในประเทศไทย นับรวมๆกันแล้ว มีไม่ถึงยี่สิบตนที่สามารถสาปให้มนุษย์กลายเป็นหินหรือแพร่พิษทางการมอง เพราะฉะนั้นทางผู้คุ้มครองจึงได้จับผมมาเค้นหาความจริงว่าใครที่เป็นคนก่อเหตุอาชญากรรมรุกรานเหล่ามนุษย์สามัญคนธรรมดา

        แน่นอนว่าพวกผมไม่ได้เป็นคนทำ ถึงจะมั่นใจกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าการตายของมนุษย์ธรรมดาทั้งหมดจะเป็นฝีมือของเอเดน แต่ก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าเขาทำมันจริงๆ จนกว่าเอเดนจะยอมรับจากปาก แต่คำถามต่อมาก็คือ เขาทำไปทำไม มันไม่มีเหตุผลที่เขาต้องทำแบบนี้ที่นี่ นอกเสียจากว่าเขาต้องการก่อกวนผม ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผมก็ยังคงไม่เข้าใจเหตุผลที่เขาทำอีกอยู่ดี

        เขาไม่ชอบผมไปจนถึงขั้นเกลียดเข้าไส้ ด้วยอะไรบางอย่างทำให้เขากลัวว่าผมจะแย่งทุกอย่างที่เป็นของเขา แย่งอำนาจที่เอเดนพึงได้รับจากพ่อ แต่ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่เคยคิดอยากได้ของๆเขา ไม่เคยต้องการความรักจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อ คนๆเดียวกับคนที่สั่งฆ่าคนรักของผมอย่างเลือดเย็นเยี่ยงกำพืดตามเผ่าพันธุ์ ผมไม่ต้องการอะไรจากตระกูลสเตนเบิร์ต ตระกูลที่เป็นนากินีสายเลือดแท้หรือเรียกอีกอย่างว่าสายเลือดราชวงศ์

        สิ่งที่ผมต้องการคืออยู่การได้อยู่กับคนที่ผมรัก อยู่ในที่ๆมีแค่ผมกับดาร์เรล ไม่ต้องการยิ่งใหญ่ ต้องการแค่อิสระในการดำรงชีวิต ไร้กฎเกณฑ์ข้อบังคับ ไร้เงาอำนาจของครอบครัว

        ผมถึงได้ตัดสินใจออกจากผืนแผ่นดินที่ตระกูลสเตนเบิร์คมีอำนาจควบคุม มาอาศัยอยู่ในเมืองไทยพร้อมกับดวงจิตของดาร์เรล นับแต่นั้นชีวิตผมก็สงบสุข แม้ชีวิตในแต่ละวันแต่ละปีจะผ่านไปด้วยการเฝ้ามองคอยคุ้มครองคนที่รัก แต่แค่มีเขา ผู้เป็นดั่งดวงใจ ชีวิตก็เต็มไปด้วยความสุขที่หาจากใครไม่ได้อีก

        บางสิ่งบางอย่างที่เชื่อมโยงให้ผมกับดาร์เรลอยู่เคียงข้างกันแม้ว่าเขาจะตายจากไป กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาเพื่อรอเวลาย้อนคืนสู่วังวนเดิม บางสิ่งบางอย่างที่เชื่อมโยงดวงจิตของเราสองคนเอาไว้ เขาอยู่ที่ไหนผมอยู่ที่นั่น ผมไปไหนเขาจะตามติดไปเกิดยังทุกหนแห่งที่ผมอยู่ ในกรณีที่ผมไม่ยอมให้เขากลับสู่วังวนเดิม เขาจะถือกำเนิดใหม่ในสถานที่ที่ใกล้ตัวผมที่สุด ที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด และมันจะเป็นตลอดไป

        ถึงอยากให้โยชิอยู่กับผมตราบนานเท่านาน ไม่มีวันพรากจากกัน แต่การได้เป็นมนุษย์ธรรมดา เปรียบเสมือนได้รับพรวิเศษจากพระเจ้า ไม่ต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ ชีวิตขาวสะอาดไร้คำสาปให้แปดเปื้อนหม่นหมอง การเป็นมนุษย์กลายร่างไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี ไม่สวยงามเหมือนที่ใครคิด และผมไม่มีวันให้โยชิตกนรกทั้งเป็น

        แกร๊ก!

        ผมหลุดออกจากความคิด หันมองไปที่ประตูไม้โอ๊คบานใหญ่ ร่างสูงใหญ่ในชุดนักบวชสีขาวสลับฟ้าหม่น ฮูทด้านหลังขลิบด้วยผ้าปักดิ้นสีทอง ผิวหนังมีริ้วรอยไปตามกาลเวลา เขาเป็นมนุษย์ปกติทั่วไปที่อยู่เหนือพวกเราที่นี่ นักบุญเยโรม

        “เบื่อแล้วสินะ ที่ต้องนั่งอยู่ในห้องแคบๆ” นักบุญเยโรมเอ่ยเมื่อก้าวเข้ามาใกล้ผม ก่อนจะเดินเลี่ยงไปที่มุมห้องเพื่อชงชา เสียงช้อนกระทบแก้วช่วยให้ห้องไม่เงียบ

        “ผลการตรวจเป็นยังไงบ้างครับ” ผมอดทนรอไม่ไหวจึงชิงถามถึงการตรวจสอบพิษของผมกับเวสตันว่าตรงกับเหยื่อที่ตายหรือไม่ ส่วนคนอื่นๆเพียงแค่รีดพิษมาตรวจสอบเท่านั้น

        นักบุญเยโรมหันมามองแต่ไม่ได้ตอบ เดินถือแก้วชากลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน ตรงข้ามกับผมที่นั่งรอมาเป็นวันๆ

        “แล้วเจ้าคิดว่าผลควรจะเป็นยังไง” ริมฝีปากหยักโค้งยิ้มอ่อนโยน ใช้สายตาอ่อนโยนแทนคำตอบ

        “ไม่ตรง เพราะผมกับเพื่อนไม่ได้เป็นคนทำ” ความจริงก็คือผมเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่คนร้าย

        “แต่พวกนากินีทำ เจ้ารู้ใช่ไหม” ท่านถามกลับ ผมพยักหน้าสองทีเห็นพ้อง

        “ผมรู้” พยักหน้าสองทีเห็นพ้อง “ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”

        นักบุญเยโรมมีสีหน้าพอใจเมื่อผมเอ่ยว่าจะเป็นคนจัดการเรื่องยุ่งยากที่เกิดขึ้น “ฉันจะปล่อยตัวเธอไปจัดการกับปัญหานี้ แต่อย่าลืมเสีย ห้ามฆ่าผู้ที่ทำ จับเป็นมาให้พ่อ พ่อและทางผู้คุ้มครองจะเป็นผู้จัดการเอง”

        “ครับ” ผมรับปากไม่เต็มเสียงนัก อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ยามที่ผมโมโห ไม่เคยสักครั้งที่จะควบคุมตัวเองอยู่

        “แล้วอย่าช้านัก พ่อไม่อยากให้ผู้บริสุทธิ์ต้องตายเพิ่มอีก ทุกชีวิตมีค่า ดูแลพวกเขาให้ดี” นักบุญเยโรมพูดพลางยกชาร้อนกลิ่นหอมกรุ่นขึ้นจิบ ผมนักรอคำอนุญาตออกจากห้องนี้ “ไปเถอะ จิตใจของเจ้าดูจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ทำอะไรก็ระวังตัวให้ดี มีสติตลอดเวลา” คำแนะนำสุดท้ายก่อนที่ผมจะถูกปล่อยตัวออกจากห้องสี่เหลี่ยมที่ใช้ควบคุมตัวผมเป็นเวลาถึงสองวัน

        ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้แทบจะทันทีที่จบประโยค เดินอาดๆไปที่ประตูไม้บานใหญ่ เวสตันยืนพิงกำแพงรอกึ่งสบายใจกึ่งกังวล

        “จะเอายังไงต่อ” เราสองคนเดินไปตามทางออก ผมครุ่นคิดถึงแผนการที่ไม่ได้มีไว้ล่วงหน้า ผมไม่ถนัดวางแผนหรือใช้สมองสักเท่าไหร่ ถ้าซึ่งๆหน้าละก็ขอให้บอก

        “ฉันจะไปคุยกับเอเดน” เพียงพูดชื่อเขา ไฟในตัวก็แทบจะแผดเผาเพราะโทสะ

        “เย็นไว้ อาซา อย่าตื่นไปกับหมากที่เขาวางไว้ให้นายเดิน นายต้องตั้งสติให้มากกว่านี้ถ้าคิดจะรับมือกับเอเดน” เวสตันยั้งไหล่เตือนสติ ผมถอนหายใจยาว หลุบตาต่ำแล้วลืมตาจ้องหน้าเวสตัน

        “ฉันจะกลับไปหาโยชิ” สองวันที่ผมไม่ได้ติดต่อไป คงทำให้เขาร้อนใจหรือไม่ก็โกรธ ก่อนอื่นผมต้องกลับไปดูว่าเขาปลอดภัยดีให้เห็นกับตา แล้วค่อยกลับมาสะสางปัญหา

        “แล้วนายจะบอกเรื่องนี้กับโยชิไหม” เวสตันเดินนำ เลี้ยวขวาก็เจอทางออก

        “เป็นไปได้ ฉันไม่อยากให้โยชิยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้” คราวเจอร์โรมถือว่าเด็กไปเลยถ้าเทียบกับความร้ายกาจของเอเดน ผมไม่อยากให้โยชิเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาสมควรใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย

        “ฉันว่ารับมือโยชิยากกว่ารับมือเอเดนนะ” เสียงหัวเราะขำของเวสตันพลางทำให้ผมยิ้มเมื่อนึกถึงเด็กแสบ ช่างขี้สงสัยอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่อง แต่ผมไม่เคยรำคาญ ก็แค่ต้องหาวิธีรับมือกับแววตาช่างถามที่คอยจะส่งมาตลอดเวลายามที่เจ้าตัวเกิดข้อสงสัย

        “ก็จริง แต่เพื่อความปลอดภัยของเขา ก็คงต้องยอมให้โกรธ” ผมส่ายหัวเนือยๆ

        “ฉันเอาใจช่วย”

        อย่างที่เวสตันว่า การรับมือโยชิหนักหนากว่าอะไรทั้งปวง เพราะผมไม่รู้จะหาวิธีไหนทำให้เขาอยู่ให้ห่างจากความยุ่งยากโดยที่เขายอมแต่โดยดีแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวและต้องไม่ให้เขาเสียใจน้อยใจ นักใจยิ่งกว่าต้องรับมือกับพี่ชายร่วมสายเลือดพ่อ

        ในตอนที่ผมกับเวสตันเดินออกมาที่หน้าตึกอำนวยการ เจอกับฟรินน์ที่ยืนรอผมด้วยใบหน้ากระวนกระวาย เมื่อฟรินน์หันมาเห็นผมทั้งสองคนก็รีบวิ่งตรงเข้ามา เสียงลมหายใจดังพรืด

        “ข่าวร้าย” ฟรินน์ว่าหน้าไม่สู้ดี

        “เรื่องอะไร” เวสตันเป็นคนถาม ฟรินน์สบตากับผม แววตาเปลี่ยนเป็นดวงตาของอสรพิษเพียงเสี้ยวนาที

        “เอเดนไปหาโยชิที่บ้าน ตอนนี้เขาอยู่ที่นั่น ที่ๆนายเพิ่งจะไปมา” ฟรินน์พูดกับผมเสียงเครียด ผมได้ฟังก็ถึงกับสมองชา เหมือนถูกกระแสไฟฟ้าช็อตเข้าที่หัว

        “ใครบอกนาย” เวสตันตั้งสติได้ดีกว่าผมเสมอ ผมขมวดคิ้ว นิ่งงัน สูดลมหายใจยาวและเรียกสติกลับคืน

        “โยชิโทรมาหาฉัน เขาติดต่อนายไม่ได้” ฟรินน์ล้วงโทรศัพท์ออกมาให้ ผมรับมากดโทรหาโยชิโดยพลัน สัญญาณดังแค่สองครั้งก็มีคนรับสาย

        “ฮัลโหลฟรินน์ นายบอกอาซาหรือยัง!”

        “โยชิ นี่ฉันเอง” ผมกรอกเสียงทุ้มต่ำลงไป ต้องใช้แรงอย่างมากในการยับยั้งร่างกายไม่ให้กลายร่าง เป็นทุกครั้งยามที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่ว่ามนุษย์กลายพันธุ์หน้าไหนก็เป็น เว้นแต่เป็นพวกใจเย็นที่จะเก่งเรื่องควบคุมความรู้สึก แต่ผมไม่ใช่ ผมใจร้อนยิ่งกว่าลาวาใต้พิภพ

        “อาซา! โอ้พระเจ้า!!! นายหายไปไหนมา ทำไมไม่ติดต่อกลับมาหาฉันบ้าง รู้ไหมว่าฉันจะบ้าตายอยู่แล้วที่ติดต่อนายไม่ได้!!!” โยชิใส่อารมณ์เต็มขั้น ผมดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหูนิดหน่อย เวสตันแหละฟรินน์ทำหน้าหวาดกลัวกับเสียงของโยชิที่เล็ดลอดให้ได้ยิน ผมกระแอมไอในลำคอ เตรียมอธิบายให้โยชิฟัง

        “ใจเย็นๆ ฉันขอโทษ จากใจจริงเลย” ผมใช้น้ำเสียงอ่อนโยนสยบโยชิ ได้ผล เขานิ่งเงียบไป ผมพูดต่อ “โทรศัพท์ฉันหาย และฉันมีเรื่องด่วนมากเลยไม่ได้ติดต่อไป ฉันจะเล่าให้นายฟังหลังจากฉันไปถึงบ้านนาย โอเคไหม” ผมจริงจัง เดินไปที่รถของฟรินน์เพื่อกลับไปเอารถที่บ้านพัก

        โยชิคงรับรู้ได้ เขาตอบรับสั้นๆ แม้น้ำเสียงติดจะฮึดฮัด “อาซา ฉันมีเรื่องจะบอก เอเดนเขา...”

        “ผมฉันรู้แล้ว” ผมพูดแทรก หลับตาและพยายามสูดลมหายใจช้าๆ รู้ตัวว่ากำลังกัดฟันกรอดๆ “ เขาทำอะไรนายไหม”

        ผมไม่เคยลืมช่วงเวลานั้น แค่ช่วงเวลาที่แสนสั้น แต่ติดตรึงในความทรงจำไม่เคยจาง ไม่มีวันลบเลือน เสี้ยววินาทีที่เลวร้ายที่สุด ภาพนั้นยังคงชัดเจน คมมีดแหลมปักบนร่างบาง กลิ่นเลือดยังลอดติดจมูก คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เสียงกรีดร้องยังคงสะท้อนก้องอยู่ในหู ลมหายใจแผ่วเบาแน่นิ่งโดยที่ผมไม่อาจช่วยอะไรนอกจากทุรนทุรายมองเขาจากไปต่อหน้าต่อตา

        “ฉันปลอดภัยดี แต่ฉันกลัว” ท้ายเสียงแผ่วเบา ผมหลุดออกจากอดีตกลับสู่ปัจจุบัน

        “อย่ากลัวที่รัก ฉันจะรีบกลับไปหานาย” ผมปลอบโยชิ “ระหว่างนี้นายต้องระวังตัว อยู่ให้ห่างจากเอเดนไว้ เข้าใจไหม” ผมสั่งกำชับหน้าเครียด ยังเดาไม่ได้ว่าเอเดนต้องการอะไรถึงได้ไปหาคนของผม

        “เร็วๆนะ”

        “อืม” โยชิเอ่ยล่ำลากับผมอีกสองสามคำก่อนจะวางสายไป รถฟรินน์จอดสนิทที่หน้าบ้าน ผมลงจากรถเดินไปที่รถของตัวเอง เวสตันเดินมายืนข้างตัวรถ

        “ให้ไอ้ฟรินน์ไปด้วย ฉันกลัวว่านายจะลงข้างทางก่อนไปถึงเชียงใหม่” ฟรินน์ถูกเวสตันจับยัดใส่รถผม จูเลียตเดินออกมาจากในบ้านพร้อมกระเป๋าหนึ่งใบ ผมลากสายตากลับมาที่พี่ใหญ่ของบ้าน “ฉันส่งข้อความให้จูเลียตจัดของที่จำเป็นให้นายกับฟรินน์”

        “ขอบใจ” สั้นๆ แต่ทั้งหมดที่ผมรู้สึกกับสิ่งที่เวสตันทำเพื่อผม

        “ด้วยความเต็มใจน้องชาย ขอให้โชคดี” เวสตันโบกมือลา ฟรินน์โยนกระเป๋าไปที่เบาะหลัง ผมกำมือชกกับเวสตันอีกทีก่อนจะกระชากรถมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือของประเทศไทย

        ‘นายแน่มากเอเดน ที่ทำให้ฉันหัวหมุนไปกับเกมของนาย แต่มันจะไม่ตลอดไป’

        ที่ผ่านมาผมไม่เคยตามเอเดนทัน เขาเก่งกว่าผมไปเสียทุกอย่าง แต่ถ้าเขาคิดจะทำอะไรคนที่ผมรัก ผมจะใช้ทุกอย่างที่ผมมีเพื่อทำลายเขา!



        ไม่เว้นแม้แต่บางสิ่งบางอย่างที่ผมจะเอามาใช้เพื่อปกป้องคนที่ผมรัก!
        กลัวก็แต่ว่า มันจะเป็นสิ่งที่เอเดนต้องการ






        YACHT

        “ถึงแล้วครับ ไร่สตรอเบอรี่” ผมหันไปบอกแขกคนสำคัญทั้งสองคน ที่ว่าสำคัญเพราะเอเดนและชาร์ล เพื่อนใหม่สองคนจากอเมริกากำลังจะทำธุรกิจร่วมกับผม โดยเขาสนใจจะรับไวน์ที่ไร่ไปขายที่ร้านของเขา ในกรุงนิวยอร์ก และในอีกหลายเมือง ผมจึงให้การต้อนรับทั้งสองคนอย่างดี

        “ที่นี่อากาศดีมาก ไม่หนาวและไม่ร้อนเกิน” ชาร์ลพูด เขาอยู่ในชุดสบายตาอย่างเสื้อโปโลสีขาวกับกางเกงขาสั้นพอดีเขา เอเดนก้าวลงมาจากรถ มือถอดแว่นกันแดดออก ดวงตาคมกริบกวาดตามองไร่สตรอเบอรี่สถานที่เที่ยวแรกของวันที่ผมอยากนำเสนอ

        เหตุผลแรกเพราะเป็นไร่ของเพื่อน เหตุผลที่สองคือใกล้กับไร่ของผม มาง่าย เดินทางสะดวก อีกเหตุผลก็คือ ผมคิดว่าเขาน่าจะสนใจ เพราะดูเขาน่าจะชอบอะไรเกี่ยวกับธรรมชาติ

        เอเดนและชาร์ลมีเวลาแค่วันนี้วันเดียวในการเที่ยวชมเมืองเชียงใหม่ เนื่องจากทั้งคู่มีธุระต้องกลับไปกรุงเทพกะทันหัน วันนี้จึงขอแรงให้ผมเป็นไกด์พาเขาเที่ยวก่อนกลับ

        “เป็นไงครับเอเดน คุณชอบไหม” ผมผายมือฉีกยิ้มนำเสนอ เอเดนหันกลับมามองผมก่อนจะกระตุกยิ้มบางว่าพอใจ

        “สวยดี เราเข้าไปดูข้างในกันเถอะ” เอเดนเดินลงไปในไร่ ผมโทรบอกเพื่อนเอาไว้แล้วแต่มันไม่อยู่ เลยให้ผมจัดการนำเที่ยวเอง คนงานในไร่ก็รู้จักผมกันหมด ทุกคนเอ่ยทักทายเมื่อผมและเพื่อนต่างชาติอีกสองคนเดินผ่าน

        ร่างสูงของเอเดนย่อตัวนั่งบนส้นเท้า จับลูกสตรอเบอรี่สีแดงฉ่ำน่ากินก่อนจะเด็ดแล้วกัดเข้าปาก ชาร์ลเห็นแบบนั้นก็เงยหน้ามองผมเหมือนจะถามความเห็น

        “ตามสบายครับ เด็ดทานได้เลย”

        สิ้นคำอนุญาต ชาร์ลก็เลือกผลไม้สีแดงลูกโตก่อนจะชิม

        “รถชาติเป็นยังไงครับ” ผมเลิกคิ้วถาม เชื่อในใจว่าทั้งคู่จะต้องชอบ

        “ดี ดีมาก” เอเดนเป็นคนตอบ เขาเลือกอีกลูกหนึ่งเพื่อชิมรสให้แน่ใจ

        “ไม่น่าเชื่อว่าเมืองไทยจะปลูกสตรอเบอรี่ได้อร่อยไม่แพ้ที่อเมริกา ลูกใหญ่ หวานฉ่ำ เปรี้ยวนิดๆกำลังดี” ชาร์ลเอ่ยชมคำโต

        “สตรอเบอรี่ที่เราปลูกเป็นพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งจะคิดค้นได้ กว่าจะได้ออกมาคุณภาพดีแบบนี้ก็ล้มลุกคุกคลานมาพอดู”

        เพราะอย่างนั้นผมถึงอยากให้เขามาได้เห็น ว่าบ้านเมืองเราก็ทำอะไรเจ๋งๆได้แม้จะเป็นประเทศเล็กๆที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศมหาอำนาจ

        กริ๊งงงง

        “ขอตัวสักครู่นะครับ” ชาร์ลปลีกตัวออกไปรับโทรศัพท์ เอเดนมองตามก่อนจะกลับมาให้ความสนใจพุ่มไม้เตี้ยตรงหน้า ผมส่งตะกร้าที่คนงานเอามาให้ให้เอเดน เขาไม่รับไปถือ เพียงแต่สบตาผม

        “ถือให้ผมหน่อย ได้ไหม” เขาขอ ผมเพียงแค่ยิ้ม

        “คงไม่ได้ครับ ผมก็ต้องถือของตัวเองเหมือนกันนะ” ผมชูตะกร้าอีกใบในมือให้เขาดู

        “โอเค” เอเดนไหวไหล่ หยิบตะกร้าไปถือเอง ผมลอบมองใบหน้าเขา รู้สึกแปลกกับอะไรบางอย่างที่เขาแสดงผ่านสีหน้า เหมือนจะเป็นคนสุภาพยิ้มง่าย แต่ออร่าบางอย่างแผ่ออกมาจากตัวทำให้ผมรู้สึกว่าเขาไม่ได้สุภาพอย่างที่ตาเห็น มีความแข็งกระด้างซ่อนอยู่ภายใน และมีความเอาแต่ใจอยู่ลึกๆ ในตอนนี้ผมยังมองเขาไม่ออก เขาลึกลับเกินกว่าจะมองให้ทะลุด้วยตาเปล่า

        “ถ้ามองผมนานอีกนิด ผมจะคิดว่าคุณสนใจผมนะยอร์ช”

        “อ่า” ผมครางในคอ สะดุ้งที่เขาจับได้ว่าผมแอบมอง และรู้สึกเขินแปลกๆที่ทำให้เขาเข้าใจผิดมหัน “ผมเปล่าชอบคุณ ผมหมายถึง ในแง่นั้น”

        เขาดูไม่ค่อยเชื่อ แต่ผมไม่สนใจ ผมเป็นผู้ชายเต็มร้อย ไม่เบี่ยงเบนไปทางไหน เขาจะเชื่อหรือไมก็ช่างเขา

        ผมเลิกจ้องเอเดน หันไปเก็บสตรอเบอรี่กลับไปฝากน้องชายแสนซนที่ไม่ค่อนจะซนเท่าไหร่ตั้งแต่อาซากลับกรุงเทพไปเมื่อสองวันที่แล้ว

        “เก็บไปให้ใคร” เขาชวนคุย ผมคิดว่านะ

        “เก็บไปให้น้องชายผม เขาชอบกินมาก คุณเชื่อไหม หมดไร่ก็ไม่พอให้โยชิกิน” ผมหัวเราะเมื่อนึกถึงน้องชาย นี่ถ้าไม่ห้ามเข้าไร่เพราะกลัวได้รับอันตราย องุ่นกว่าค่อนไร่คงหายไปอยู่ในท้องเล็กๆแทนเอาไปบ่มไวน์หรือส่งขาย

        “ผมเชื่อ” คราวนี้เขาทำผมแปลกใจอีกรอบ เรื่องที่น่าเชื่อกลับทำเหมือนไม่เชื่อ เรื่องที่ไม่น่าเชื่อกลับเชื่อ

        สงสัยผมคงออกอาการแปลกใจให้เขารับรู้ “ฉันเชื่อเพราะแววตานายดูจริงใจ” เอเดนกล่าวเสียงเบา ลมหนาวพัดผ่านเราสองคน ผมยกมือลูกหน้าจับตาตัวเองหาความจริงใจที่เขาว่า

        “ไม่เชื่อผมเหรอ” เขาเลิกคิ้ว ยกมือเสยผมที่ขยับไหวตามแรงลมให้เข้าที่

        “ก็เปล่า แต่จะให้ยอมรับโต้งๆ ก็ดูจะเป็นการถือดีเกินไปหน่อย” ผมละสายตาจากเอเดน มองดูชาร์ลที่ยังคุยโทรศัพท์ไม่เสร็จ ลุกเปลี่ยนไปเก็บผลไม้รสหวานซ่อนเปรี้ยวแถวถัดไป เอเดนขยับตามมา

        “ผมพูดตามที่เห็น และผมเชื่อในสิ่งที่ตาตัวเองเห็นเสมอ ถ้าคุณจะยอมรับความจริง ผมไม่คิดว่ามันเป็นการถือดีหรอกนะ”

        “งั้นเหรอ” ยิ่งพูดคุยมากเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกว่าเขาน่าทึ่ง เป็นผู้ชายที่น่าหลงใหล ทั้งรูปลักษณ์และคำพูดคำจา

        “คุณมีน้องชายไหม” ผมเปลี่ยนเรื่องคุย ตะกร้าของผมเต็มแล้ว แต่ของเอเดนยังเหลือที่ว่างอีกเยอะ ผมจึงเก็บสตรอเบอรี่ใส่ในตะกร้าให้เขา

        เขานิ่งคิดอยู่ราวสองนาทีเห็นจะได้ “ก็ไม่เชิง”

        “แปลว่ามี” ผมเดาความหมายที่เขาตอบ

        “มั้ง คนละแม่”

        “คุณดูไม่ค่อยอยากพูดถึงน้องชายเท่าไหร่ ไม่ถูกกันเหรอ”

        “ประมาณนั้น”

        “อืม” ผมรับรู้ ไม่ถามอะไรต่อ หลีกเลี่ยงหัวข้อที่ก่อให้เกิดความอ่อนไหวทางอารมณ์ หัวกำลังคิดอยู่ว่าจะชวนเอเดนคุยเรื่องอะไรต่อดีเพื่อให้บรรยากาศรอบตัวเราเงียบ เขาก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนอีกครั้งหนึ่ง

        “คุณรักน้องชายคุณมากไหม”

        “รักมาก รักมากรองลงมาจากพ่อผมนิดหนึ่ง” ผมไม่ลังเลที่จะตอบในสิ่งที่รู้สึกอยู่แล้ว

        “แล้ว...” เขาหยุด ผมหันตัวไปทางเขา รอฟังคำถาม “คุณ ไม่คิดบ้างเหรอว่าน้องจะแย่งความรักพ่อแม่ไปจากคุณ”

        “หืม?” คำถามของเขาทำให้ผมมึนตึบไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าจะโดนถามคำถามแบบนี้ เพราะไม่เคยมีใครถาม “ไม่ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น  ผมคิดอยู่อย่างเดียวว่า ต้องรักโยชิให้มากๆ ดูแลโยชิให้ดีที่สุดเท่าที่พี่ชายคนหนึ่งจะดูแลน้องชายได้”

        “ทำไม” ผมแอบเหลือกตามองฟ้า ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมพูดแม้แต่เด็กอนุบาลก็ยังเข้าใจได้ แต่ผมทำได้แค่อธิบายให้เอเดนฟังอย่างใจเย็น

        “ก็แล้วทำไมต้องกลัวว่าพ่อแม่จะรักน้องมากกว่าละ ในเมื่อพ่อแม่ไม่ได้ทิ้งขว้างเราไปไหน ทุกวันแม่ก็ทำอาหารเช้าไว้ให้พวกเรา ถึงแม่จะต้องคอยป้อนน้อง แต่นั่นก็เพราะน้องยังกินข้าวเองไม่ได้ ตอนเราเด็กๆ แม่ก็คงต้องทำแบบเดียวกัน ในเมื่อพ่อกับแม่ยังดูแลเหมือนตอนที่ยังไม่มีน้อง ก็แค่อาจจะต้องแบ่งเวลาไปดูแลน้องบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าพ่อกับแม่ไม่รักเราซะเมื่อไหร่ ก็ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัว”

        “งั้นเหรอ” ดวงตาสีเขียวเข้มมองจ้องลึกเข้ามาในตาผมราวกับต้องการค้นหาบางอย่าง ถ้าเขาบอกว่าเขาเห็นความจริงใจจากดวงตาผม เขาก็ต้องเห็นความรักที่ผมมีให้โยชิเช่นกัน

        “ให้เดา คุณคงเป็นพี่ชายขี้อิจฉา ใช่ไหม” ผมแค่พูดแหย่เล่น แต่เอเดนเปลี่ยนสีหน้าชั่วพริบตา ดวงตาแข็งกร้าวดุดัน ดวงตาคมกริบฉายแววไม่พอใจ “เอ่อ ขอโทษที ผมแค่พูดเล่น อย่าใส่ใจเลย”

        “ไม่เป็นไร” เอเดนตอบอย่างเย็นชา สีหน้าเขาสนทางกับคำพูดนิดหน่อย ผมยิ้มให้บางๆ จบประเด็นพี่ชายน้องชายไว้เท่านั้น

        ชาร์ลเดินกลับมา ผมยิ้มให้เขา บรรยากาศอึมครึมผิดกับสภาพแวดล้อมที่แสนจะสดชื่น ทั้งสองคนพูดคุยกันเสียงเบา ผมจับใจความได้แค่ว่าพวกเขามีธุระด่วน ก่อนที่ชาร์ลจะเป็นคนหันมาเอ่ยขอโทษผมเนื่องจากเขามีธุระต้องไปทำที่กรุงเทพกะทันหัน จึงอยู่เที่ยวต่อไม่ได้ ผมจึงพาเขาไปส่งที่สนามบินพร้อมกับความสงสัยที่ว่า

        พวกเขาเอากระเปาเสื้อผ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่?




        “ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง” เสียงเข้มถามเพื่อนคนสนิทเมื่อเอนหลังติดกับเบาะที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสบนเครื่องบิน

        “มันรู้แล้วว่าเราอยู่ที่นี่ และตอนนี้มันกำลังรีบกลับมา ส่วนคนของเรา เตรียมพร้อมอยู่ที่นู่นแล้ว” ชาร์ลยกขาขึ้นไขว้ห่าง สองมือยกกอดอก

        “ดีมาก ไปกัน กว่ามันจะรู้ตัวว่าช้า ทุกอย่างก็สายเกินแก้” ริยยิ้มเย้ยหยันพึงพอใจกับคำตอบ

        “แล้วเด็กนั่นกับพี่ชาย” ชาร์ลถาม

        “ปล่อยไว้ก่อน พวกนั้นมีประโยคต่อเราแน่ๆไม่ ทางใดก็ทางหนึ่ง”


       


...........................................
        ถามนิด  รบกวนให้ความเห็นกันหน่อยนะคะว่าการบรรยายแบบบุคคลที่หนึ่งสองสลับกันไปพา และบางทีก็จะมีติ่งห้อยเป็นการบรรยายแบบบุคคลที่สามแบบตอนนี้ มันโอเคไหม พอรับได้หรือเปล่า กลัวจะมีนักอ่านคนไหนไม่ชอบ ช่วยตอบกันหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
        ขอบคุณสำหรับคอมเม้น กำลังใจชั้นหนึ่งของริริเลยค่ะ ^_^

       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-10-2014 22:55:07
มาแล้วๆ

ขอไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 22-10-2014 23:13:29
เอ๋.......    :a5:   อย่าบอกนะว่า เอเดน × ยอร์ช

อร๊ายยยย เอาเลยๆ  ให้พี่ยอร์ชใช้ความรักเข้าดูแล

พี่ชายจอมอิจฉา  แต่ทำไมเหมือนคิดไปเองว่า ยอร์ชจะได้รับอันตราย  :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 22-10-2014 23:27:47
ดำเนินเรื่องแบบนี้ก็โอเคแล้วล่ะค่ะ
หลังจากนี้มันจะซับซ้อนนนนนนยิ่งกว่านี้ใช่ไหมเนี่ยยยย
แอบจิ้นคู่พี่ชายเบาๆ
รอตอนต่อไปแปปปป
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 22-10-2014 23:28:31
เรื่องมันชักจะซับซ้อน

เอเดน เค้าไปเกลียดอะไร อาซา ขนาดนั้นนะ

อยากรู้จัง

ปล.เราว่าเขียนแบบนี้ก็อ่านได้นะ ไม่รู้สึกว่ามันสะดุดจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 22-10-2014 23:39:58
ดูจะวางแผนไว้ใหญ่น่าดูเลยเนี่ย ล่อไปทางนู่นทีทางนี้ที
เป็นคนที่คาดเดาได้ยากสินะ แต่บางทีคนแบบเอเดนจะเข้าใจจริงๆก็ไม่น่าจะยากน้าาา
อีกอย่างอ่านตอนนี้ละให้ฟิลแบบเอเดนคู่กะยอร์ชไรงี้เลยอะ บรรยากาศตอนอยุ่ด้วยกันก็ได้อยุ่นะ
เขียนแบบนี้ก็โอเคแล้วคะ พอมีบรรยายบุคคลที่3 มันดูลึกลับไปอีกแบบ สู้ๆคะ รออ่านตอนหน้าจ้าา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-10-2014 23:57:45
เอเดนแผนสูงนะ

คิดจะทำอะไรที่กรุงเทพละ

หลอกให้อาซาไปๆมาๆ มันเหนื่อยนะ

ปล ก็แล้วแต่คนอ่านะ ว่าจะอ่านเข้าใจหรือป่าว

ส่วนตัวอ่านเข้าใจ(เพราะเป็นแฟนตัวยง อิอิ)

และชอบด้วย เพราะจะได้รู้ว่าบุคลที่3คิดอะไร ทำอะไรอยู่

+1จ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 23-10-2014 00:53:27
เอเดนxยอร์ช  o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 23-10-2014 01:35:22
มาแร้วๆๆๆ ตื่นเต้นๆ ลุ้นๆ น่าติดตามเหมือนเดิมนะริริ  :katai4: o13 :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 23-10-2014 01:39:54
ทำไมอ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าเอเดนน่ารักแบบแปลกๆ ที่แท้ก็กลัวพ่อแม่รักน้องมากกว่างั้นหรอ ที่ทำทั้งหมดนี่เนี่ยนะ 5555555
น่ารักเกินไปแล้วว

เราโอเคจ้า ไม่ได้รู้สึกอ่านยากอะไร เอาที่คนแต่งสะดวกเลยดีกว่านะคะๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 23-10-2014 08:26:08
เอเดนฟังพี่ยอร์ชพูดแล้วไม่สำนึกอะไรบ้างหรอออ
สำนึกเหอะนะ กลับตัวๆ
จะได้มาคู่กับพี่ยอร์ช 555555

ปล.อ่านแบบนี้ก็โอเคค่า ไม่สะดุดเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 23-10-2014 08:54:23
คิดว่าพ่อรักน้องมากกว่าหรอ แต่ก็เป็นไปได้น่ะนะเรื่องแบบนี้

เรไม่มีปัญหาค่ะ อ่านแบบนี้ทำให้เข้าใจง่ายขึ้นนะ เราว่า
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 23-10-2014 09:01:32
เอเดนxยอร์ช    ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:


เชียร์คู่นี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :oo1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: wi_OoO_wi ที่ 23-10-2014 14:18:53
 :a5: :a5:

หว๋ายยยๆๆ ขี้อิจฉาๆ พ่อไม่รักๆ หว๋ายๆ อ่ะโด่เอ๋ยยยย

เธอไม่ได้ดูน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนโลกิหรอกนะจะบอก หว๋ายๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 23-10-2014 14:47:02
แบบนี้ก็โอเคนะค่ะไม่สับสน
ว่าแต่ จะมีคู่พี่ชายไหมค่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 23-10-2014 14:56:19
อ่านตอนนี้แล้ว....อยากให้ยอร์ชเข้ามามีบทบาทที่จะทำให้
เอเดนคิดจะรักน้องขึ้นมาบ้างจังเลย  เพราะว่ายอร์ชน่ารักนะ...เอเดน....
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 23-10-2014 15:25:21
เพิ่งเข้ามาอ่าน รวดเดียวววว  สนุกมว๊ากกก  :katai4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 23-10-2014 15:56:33
เราว่า แต่งแบบนี้ โอเคนะ เราเข้าใจ
ได้อ่านในหลายมุมดีฮับ


พ่อกับยอร์ช รักน้องโยชิ แบบบริสุทธิ์จริงๆ
เรานิก็คิดมากเกินไป ว่าอาจมีลับลมคมใน
แบบ พวกเรื่องลี้ลับ มันชอบหักมุมคนใกล้ตัวกับร้ายที่สุด
เลยระแวง 55555

ค้างคาใจเรื่อง หมอที่สะกดจิตเป็นใคร
ลุ้นปมนี้มาก
พ่อกับพี่รู้เรื่องอะไรเกี่ยบกับโยชิที่เกี่ยบกับงูบ้าง



ยอร์ชอาจเปลี่ยนความคิดของเอเดนไปในทางที่ดีก็ได้นะ
หรือซุปเปอร์ทวดแกแก่เกินเยียวยาละ
ร้ายจนจบ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 23-10-2014 16:26:20
เอเดนดูเหมือนจะคิดการใหญ่

ยอร์ชต้องมาใช้ความรักช่วยดูแลจิตใจที่ไม่ดีขอเอเดนแน่

ปล.เขียนแบบนี้ก็โอนะคะ ไม่สะดุดอ่านแล้วลื่นไหลดี
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 23-10-2014 20:36:30
เอเดนช่างเจ้าเล่ห์ คิดแต่เรื่องเลวร้ายสินะ

อาซาสู้ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 23-10-2014 21:35:55
ไม่มีปัญหาจ้า อ่านได้หมด เป็นพี่ชายที่ขี้อิจฉาจริงๆ สินะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: มิวม๊าว ที่ 23-10-2014 21:58:24
เอเดน กับ ยอร์ช *ชูป้ายไฟ*

ปล.เราว่าแต่งแบบนี้ก็โอเคแล้วจ้า
เพราะส่วนตัวแล้วอ่านเข้าใจไม่มีงงตรงไหน
แถมเนื้อเรื่องสนุกน่าติดตามมากคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 24-10-2014 01:43:24
ยอร์ชพูดโดนใจ พี่ชายขี้อิจฉาแต่สงสัยเอเดนจะไม่ใช่พี่ชายขี้อิจฉาธรรมดา
ตอนนี้ทำให้แอบสงสัยว่าคุณพี่เอเดนจะคู่กับพี่ยอร์ชของเรารึเปล่านะ  หึหึ o18
ปล.บรรยายแบบนี้ก็ดีคะ  ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรกับการอ่าน  ยิ่งตัวละครแยกบุคลิกกันชัดเจนก็ยิ่งไม่มีปัญหา
   แต่ถ้ากลัวคนอ่านงงจะเขียนชื่อว่าใครเป็นคนบรรยายไว้ตอนต้นเหมือนหลายๆเรื่องก็ได้คะ การบรรยายผ่านหลายๆตัวละครก็ได้หลายอรรถรสดี แต่ก็ต้องระวังไม่เผยปมของเรื่องผ่านตัวละครตัวใดตัวหนึ่งไม่งั้นหมดสนุกแน่  สู้ๆคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-10-2014 06:48:16
เอเดนนี่คู่กับพี่ยอร์ชรึป่าว
แต่พี่เอเดนนี่พี่ชายขี้อิจฉาของจริง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 24-10-2014 09:43:51
อิพีชายขี้อิจฉา  ขอให้อาซาอย่เผ็นอย่างในฝันเลย  สาธุ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 24-10-2014 19:02:55
เราไม่งงน่ะเพราะก่อนม่าอ่านวายก้อ้ออ่านแบบนี้ตลอดน่ะ แอ่านตอนนี้แล้วอยาให้ยอร์ชคู่กับเอเดนจัง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 24-10-2014 19:48:27
เอเดนอะ เด็กขี้อิจฉา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 25-10-2014 00:39:32
ก็เคยเห็นนะนิยายบางเรื่องที่เขียนแบบนี้ ส่วนใหญจะเป็นนิยายที่ได้อ่านตามหนังสือแบบหมายถึงนักเขียนมืออาชีพอ่ะ บางทีนะเพื่อกำจำความงง คนเขียนเค้าก็จะระบุว่า "อีกทางด้านหนึ่ง" หรือ "ทางด้านของ..." เพื่อให้เรารู้ว่าจะกล่าวถึงใครต่อไป ถ้าเป็นแบบนี้ก็เข้าใจง่ายไม่มีปัญหา แต่มีบางพวกคือขึ้นประโยคสนทนา ต่อจากพาร์ทที่กำลังดำเนินเรื่องไปเลย พออ่านก็เลยงงว่ามันคุยอะไรกันเมื่องี้ยังเป็นอีกเหตุการณ์นึงแล้วตอนนี้มาอยู่นี่ได้ไง กว่าจะเก็ทว่าเป็นอีกพวกก็อ่านกลับไปกลับมาหลายรอบเลย แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้มีปัญหานะแต่แบบมันก็ต้องมีการขึ้นต้นประโยคแบบพิมพ์ตัวใหญ่หรือตัวหนาเพื่อให้แยกออกว่าเป็นคนละพาร์ทกันด้วยจริงมั้ย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 25-10-2014 01:04:10
 :a5:  o22

มีความรู้สึกว่าจะเกิดคู่รักคู่ใหม่ ระหว่างพี่ชายขี้อิจฉา กับ พี่ชายแสนดี (ความมโนสูงมาก  :katai1: )
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 25-10-2014 10:12:06
ทำไมเอเดนมันร้ายงี้
เซงจริง น้องเอ็งแท้ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: Inamning ที่ 25-10-2014 19:00:27
เอเดนจะทำอะไรอ่ะ ต้องสู้นะอาซา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 25-10-2014 20:26:38
โอ๊ยยยยยชอบมากกกกกค่ะคุณคนเขียน!
เราเพิ่งเปิดมาเจออออออ
อ่านตัังแต่ต้นจนจบอินไปกับทุกคนในนี้เลย
 :hao5:
ชอบมากกกก
ส่วนเรื่องของเอเดนขี้อิจฉา มารักกับยอร์ชก็ดีนะ
จะได้ซึมซับความน่ารักจากพี่ชายที่แสนดีไปบ้าง
 :mew4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FOUR❁ 22-10-2014[P.34]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 26-10-2014 09:05:10
อาซาสู้ๆ รีบไปหาโยชิเร็ว เอเดนมันจะหนีไปแล้ววววว :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 27-10-2014 00:02:55
B.L.O.O.D.L.I.N.E
FIVE





        รถคันสีดำสายพันธุ์ยุโรปแล่นเข้ามาในบ้าน ผมผุดลุกจากโซฟา ก้าวเดินได้เพียงสองก้าวก็เปลี่ยนเป็นวิ่ง ถึงจะเห็นว่าอาซามาถึงแล้ว แต่ความรู้สึกร้อนรนยังผลไปถึงขา ผมวิ่งด้วยความเร็ว เดี๋ยวเดียวก็พุ่งเข้ากอดเขาเต็มเปา

        “เขาอยู่ที่ไหน” อาซายิงคำถามทันทีที่มาถึงตัวผม ไม่ได้สนใจคำถาม เพราะกำลังดีใจที่ได้เห็นเขา ตอนที่ติดต่อเขาไม่ได้ ผมกังวลมากจริงๆ

        “โอ้พระเจ้า ฉันเกือบจะแย่แล้ว!” ผมพูดเร็วและรัวด้วยความดีใจเป็นล้นพ้น

        “ใจเย็นทูนหัว ฉันอยู่นี่แล้ว”

        “ฉันกลัว เขามาตอนที่นายไม่อยู่” ผมออกแรงกอดอาซาแน่น ให้แน่ใจว่าเป็นเขาที่ผมกำลังกอดอยู่

        “ไม่เป็นไร อยู่กับฉัน ไม่มีอะไรต้องกลัว” อาซากดจูบลงบนกลางศีรษะผม เสียงที่แสนอ่อนโยนทำให้ผมสงบ ผละใบหน้าออกจากซอกคอหอมกรุ่นของอาซาเพื่อมองหน้าเข้าชัดๆ

        “สวัสดีโยชิ”

        ผมหันมอง ฟรินน์ยืนอยู่ข้างหลังอาซา ผมไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่ใส่ใจคนที่กำลังโอบกอด

        “ขอโทษทีฟรินน์ ฉันไม่เห็นนาย”

        “ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจว่านายต้องการเขา” ฟรินน์พยักเพยิดหน้าไปทางอาซาเป็นการล้อเลียนผม ผมหลุดยิ้ม พาพวกเขาเข้าบ้าน หาน้ำหาท่าให้ทั้งสองคนดื่ม

        “เอเดนล่ะ อยู่ที่ไหน” ฟรินน์ถาม สายตาสอดสองไปทั่วบ้าน

        “เขาออกไปข้างนอกกับพี่ยอร์ช” ผมทิ้งตัวนั่งลงข้างอาซา เขายกแก้วน้ำดื่มรวด ก่อนจะหันมามองหน้าผม

        “หิว ทำอะไรให้กินหน่อย” เอาพูดเสียงอ่อน ท่าทางอิดโรยทั้งสองคน

        “ไม่ได้แวะหาอะไรกินหรอกเหรอ” ผมถาม

        “อาซากลัวนานรอนาน เลยเหยียบรวดเดียวไม่มีพัก” ฟรินน์ช่วยไขข้อข้องใจ ผมตวัดตาดุมองอาซา แต่ก็ลุกไปหาอะไรให้เขาทานฆ่าเวลารอพี่ยอร์ชพาเอเดนกลับมาที่นี่ ยังไม่รู้ว่าจะพวกเขาจะกลับมาตอนไหน

        ทันทีที่อาซาและฟรินน์กินข้าวเสร็จก็ถามเรื่องเอเดนทันที ผมพาพวกเข้าขึ้นห้องนอนเพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ถึงปกติแล้วพ่อจะไม่กลับเข้ามาในบ้านระหว่างวัน จะกลับทีเดียวตอนเย็น แต่อะไรก็ไม่แน่ไม่นอน ไหนจะพี่ยอร์ชกับเอเดนที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าพวกเขาออกไปไหน และจะกลับมาเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่ามีใครคอยแอบจับตาดูพวกเราหรือเปล่า ผมรู้ว่าถึงอยู่ในห้องนอนก็อาจไม่ปลอดภัย แต่มันน่าจะดีกว่าที่โล่งแจ้ง

        อาซาและฟรินน์นั่งอยู่ที่ปลายเตียง ผมยืนเดินซ้ายทีขวาทีอยู่ตรงหน้าพวกเขา

        “ฉันไม่รู้อะไรยังไง วันถัดมาหลังจากที่นายกลับไปกรุงเทพ ฉันก็เจอเขาอยู่กับพี่ยอร์ช เขาบอกว่าจะเอาไวน์จากไร่เราไปขายที่ร้านของเขาในกรุงนิวยอร์ก ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงไหม แต่พี่ยอร์ชเขาดีใจมากที่จะได้ร่วมงานกับเอเดน พี่ยอร์ชต้อนรับเอเดนดีมาก ฉันไม่รู้จะทำยังไงถึงจะกันเอเดนออกจากพี่ยอร์ชได้” ยิ่งเล่าผมก็ยิ่งเครียด ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ทั้งอาซาและฟรินน์ก็ไม่ได้สบายใจเมื่อได้ฟัง

        “เขาไม่ได้โกหกหรอก เขามีร้านไวน์อยู่ในนู่นจริง หลายสาขา” อาซาเฉลยข้อข้องใจข้อนี้ให้ผมรู้ ผมเพียงพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดี

        “เขาจะทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า ฉันไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันรู้แค่ว่าเขาไม่ใช่คนดี เขาฆ่าคนตาย!”

        อาซาทำหน้าหนักใจ “ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร”

        “คิดว่าถ้าถามเขา เขาจะบอกไหม”

        “ล้อเล่นเปล่าโยชิ ใครมันจะบอก” ฟรินน์หัวเราะขำกับความคิดของผม แน่ละ แม้แต่ผมเองยังคิดว่ามันโคตรจะโง่เลยที่พูดออกไปแบบนั้น

        “แล้วเราจะทำยังไง” ผมถาม อาซาก้มหน้าใช้ความคิดอยู่นาน เขาไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่นั่งนิ่งๆ สายตาเหม่อลอย ฟรินน์กับผมมองหน้ากัน เวลาค่อยๆผ่านไปช้าๆ ไม่มีใครเร่งเร้าอาซา เราว้าวุ่นใจเกินกว่าจะคุยอะไรกันมากมาย ผมรู้ว่าไม่มีใครในที่นี้รู้ว่าเอเดนต้องการอะไร คนที่รู้ก็มีแค่เอเดนและเพื่อนของเขาเท่านั้น เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ทำได้แค่รอเวลา

        “โยชิ ขออาบน้ำหน่อยได้ไหม ตั้งแต่เมื่อวาน เหนียวตัวจะแย่” ฟรินน์เบ้หน้า ก้มหน้าสูดดมตามผิวของตัวเอง

        “ได้สิ” ผมลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูให้ฟรินน์  “เข้าไปอาบก่อนก็ได้ ฉันจะไปหยิบเสื้อผ้าของพี่ยอร์ชมาให้” ผมบอก

        “ไม่เป็นไร” ฟรินน์ปฏิเสธ “ฉันเอาของมา อยู่ที่รถ ลงไปเอาก่อนนะ

        “อืม” ผมส่งเสียงรับรู้ในลำคอ

        ฟรินน์ออกไปจากห้อง ผมมองไปที่อาซา เขาทิ้งตัวนอนหงายบนเตียง เอามือก่ายหน้าผาก แสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้องจ้าเกินไป เขาควรได้พักหลังจากที่ขับรถมาทั้งคืน ผมปิดม่านมิดชิด เตียงหลังเล็กของผมคงไม่พอให้คนตัวโตสองคนนอน

        “อาซา อาบน้ำก่อนไหมแล้วค่อยนอน” ผมสะกิด เขาปรือตามอง แววตามีแต่ความง่วงงุน ผมลูบแก้มลูบเปลือกตาเขาแผ่วเบาด้วยความสงสาร

        อาซาผุดลุกขึ้นออกจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำตัวลอยๆ ผมปล่อยให้อาซาทำธุระส่วนตัว ออกไปเปิดห้องรับแขกให้ฟรินน์นอนพัก ผมสีขาวของฟรินน์โผล่พ้นราวบันไดแวบๆ ผมหยุดเดินรอเขา

        “ฉันจะเปิดห้องให้นอนพักก่อนนะ คิดว่าพี่ยอร์ชน่าจะกลับมาเย็นเลย เตียงฉันไม่น่าจะจุพวกนายสองคนพอ” ผมเดินนำไปที่ห้องรับแขก ฟรินน์โคลงหัวเดินตามหลัง

        “ลำบากนายเลย” ฟรินน์ทำเสียงเกรงอกเกรงใจ ผมส่ายหน้าเบาๆ

        “ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย ห้องน้ำอยู่ตรงข้ามห้อง ไปอาบก่อนได้เลย ฉันจะเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้”

        “ฝากด้วยนะ” ฟรินน์เดินหายไปในห้องน้ำตรงข้ามห้องรับแขก ก่อนที่เสียงน้ำจะดังขึ้น ผมค้นผ้าปูที่นอนในตู้เสื้อผ้าออกมาก่อนจะจัดการเปลี่ยนของเก่าออกแล้วใส่ของใหม่เข้าแทนที่ หลังจากนั้นก็เช็คแอร์ ยังใช้ได้ เย็นฉ่ำสบาย

        ผมกลับมาที่ห้อง อาซานอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ใส่กางเกงนอนขายาวแค่ตัวเดียว แผ่นหลังยังเต็มไปด้วยหยดน้ำ ผมก็เปียกชื้นโดยที่เจ้าตัวไม่คิดจะเช็ด ผมหยิบผ้าขนหนูแล้วก้าวขึ้นเตียง เช็ดน้ำที่เกาะบนตัวก่อนจะเช็ดเส้นผมสีดำให้หมาดน้ำ เปิดดรายเป่าผมเบอร์ต่ำสุด เสียงจะได้ไม่ดังเกินจนรบกวนคนนอน เป่าอยู่นานกว่าจะแห้ง

        “อาซา ขยับตัวหน่อย จะห่มผ้าให้” ผมเรียกอาซา พลิกตัวเขานอนหงาย อาซาสะลืมละลือขยับตัวให้ผมดึงผ้าห่มขึ้นห่มให้เขา ตาทั้งสองข้างปิดสนิท ผมทิ้งตัวนอนลงข้างๆ อาซาคงรู้ ดึงผมเข้าไปกอดเอาไว้แน่น ซุกใบหน้าอ่อนล้าลงที่ซอกคอ ขนลุกกรูเกรียว เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกตามด้วยแรงกดจูบอยู่สองทีแล้วนิ่งไป

        ผมเกือบจะเผลอหลับไปพร้อมอาซา ถ้าไม่ได้ยินเสียงรถของพี่ยอร์ชเสียก่อน ผมสะดุ้ง เหลือบตามองนาฬิกา เพิ่งจะสิบเอ็ดโมง อาซายังคงนอนไม่รู้สึกตัว ผมเริ่มใจสั่นเพียงแค่นึกว่าเอเดนอาจจะอยู่ใกล้ๆนี้ อยู่ในบ้าน ไปจนถึงเอเดนอาจจะรู้แล้วว่าอาซามา

        ผมมองอาซาแล้วก็เกิดความสับสน ที่ว่าผมจะปลุกเขาแล้วบอกว่าพี่ยอร์ชกลับมาแล้ว หรือผมจะลงไปดูลาดราวก่อนดี ผมนิ่งคิด แขนยาวที่กอดผมไว้ปล่อยออก พลิกตัวนอนหันหลังให้ ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ หมายความว่าเขากำลังหลับสนิท ผมเลยตัดสินใจลุกออกจากเตียง สะกดใจให้สงบ

        ด้านล่างเงียบเหมือนไม่มีใครอยู่ ผมก้าวท้าวระแวงระวังทั้งๆที่อยู่ในบ้านของตัวเอง เมื่อกี้เสียงรถพี่ยอร์ชไม่ผิดแน่ๆ แล้วเขาหายไปไหน หรือว่าเขาจะไปส่งเอเดนที่บ้านพัก

        “เฮ้!”

        “เฮือก!!!” ผมสะดุ้งหันหลังขวับ ตาโตเพราะความตกใจ

        “เป็นไรไป หาอะไรอยู่” พี่ยอร์ชยิ้มถามอย่างสงสัย ผมถอยหายใจยาวและเสียงดัง

        “พี่ยอร์ช โยตกใจหมด” ผมแทบหมดแรง ทิ้งตัวนั่งกับโซฟา ยกมือทั้งสองข้างปิดใบหน้าก่อนจะลูบเสยผมอย่างแรง

        “ตกใจอะไร” พี่ยอร์ชถาม

        “เปล่าครับ” ผมหลับตา กำลังควบคุมลมหายใจที่ขาดห้วงไปให้กลับมาเป็นปกติ ขวัญอ่อนเกินไป แบบนี้ไม่ดีเลย

        “แปลกๆนะเรา”

        ผมลืมตาขึ้น พี่ยอร์ชยืนมองผมเหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง ผมแค่นยิ้มหัวเราะเบาๆ คิดหาคำพูดดีๆสักประโยคเกี่ยวกับเอเดน

        “ไปเที่ยวมาเป็นไงบ้าง ทำไมกลับมาเร็วละ” ผมปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด พี่ยอร์ชคลายหัวคิ้วลง ไม่ติดใจกับท่าทางแปลกๆของผม

        “ก็ดี พี่พาเอเดนไปไร่สตรอเบอรี่ของเพื่อนมา แต่เขามีธุระเลยกลับไปก่อน”

        “กลับไปแล้ว!!!” ผมพ่นคำเสียงหลง พี่ยอร์ชสะดุ้งที่ผมทำเสียงดังใส่ ผมนั่งไม่ติด อ้าปากค้าง “พี่บอกว่าเอเดนกลับไปแล้วเหรอ” ผมถามซ้ำ

        พี่ยอร์ชขมวดคิ้วแต่ก็พยักหน้า “กลับไปแล้ว ทำไม มีอะไรหรือเปล่า”

        “เปล่า” ผมรีบตอบ อาซาตื่นขึ้นมาจะเป็นยังไง ถ้าเขารู้ว่าเอเดนกลับไปแล้ว เหมือนจะโล่งอกได้ที่เขาอยู่ห่างจากครอบครัวเรา แต่ลึกๆแล้ว ผมกลับรู้สึกว่า เขากำลังเลี่ยงที่จะเจอกับอาซา เหมือนไม่บริสุทธิ์ใจที่จะเจอหน้า

        “โยชิ” พี่ยอร์ชเรียก ผมหันมอง เผลอคิดอะไรเงียบๆคนเดียวให้พี่ยอร์ชจับสังเกต

        “มีเรื่องอะไรบอกพี่ได้นะ”

        “ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็แค่แปลกใจ เห็นเขาว่าจะทำธุรกิจกับพี่ยอร์ช เลยคิดว่าเขาน่าจะอยู่นานกว่านี้”

        “เรื่องนั้นเขาจะแจ้งมาอีกที แค่คุยๆรายละเอียดกันไว้”

        “อ่อ แล้ว...” ผมลากเสียง คิ้วเข้มหนาเลิกสูงเล็กน้อย “เขาบอกหรือเปล่าว่าเขาไปทำธุระอะไร”

        “หืม ไม่รู้สิ เขาไม่ได้บอก ถามทำไม สนใจเขาเหรอไงตัวเล็ก แล้วจะเอาอาซาไปเก็บไว้ที่ไหน”

        “เปล่านะ” ผมโบกมือปฏิเสธพัลวัน ส่ายหน้าจริงจัง “พี่ยอร์ชห้ามพูดแบบนี้ให้เขาได้ยินนะเชียว” อาซาขี้หึง ถึงจะรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ไม่มีทางเป็นจริง เขาก็จะยังคงหึงถ้าได้ยินเรื่องไม่เข้าหูเกี่ยวกับผมกับคนอื่น

        “รู้น่า แซวเล่น เห็นรถอยู่หน้าบ้าน กลับมาแล้วเหรอ”

        “ครับ นอนอยู่ข้างบน”

        “อืม พี่เข้าไร่ไปทำงานดีกว่า” พี่ยอร์ชหยิบหมวกใบเก่งที่สวมเข้าไร่ทุกวันมาใส่ “อ่อ พี่เก็บสตรอเบอรรี่มาฝาก อยู่ในตู้เย็นนะ”

        “ขอบคุณครับ” ผมออกไปส่งพี่ยอร์ชที่รถแทรคเตอร์สำหรับขับเข้าไปในไร่

        “โยชิ” พี่ยอร์ชเรียกผม

        “ครับ?”

        “มีอะไรไม่สบายใจ บอกพี่ได้ทุกเรื่องนะ พี่พร้อมจะรับฟัง” รอยยิ้มหล่อของพี่ยอร์ชส่งตรงมายังผมก่อนจะพี่ยอร์ชจะสตาร์ทรถขับเข้าไปในไร่ ไม่ใช่ผมไม่อยากบอก แต่ผมบอกไม่ได้ มันไม่ง่ายที่จะพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกที่บิดเบี้ยว

        หลังจากพี่ยอร์ชออกไปทำงาน ผมวิ่งกลับไปที่ห้อง อาซาตื่นแล้ว แต่เดาว่าเขาเพิ่งจะตื่นได้ไม่นาน ดวงตาสีดำลุ่มลึกปรือปรอย เขากวักมือเรียกให้ผมเข้าไปหา แล้วกอดเอวผมไว้แน่น

        “พี่ยอร์ชกลับมาแล้ว” ผมบอก อาซาเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาเบิกกว้างเป็นปกติ “แต่เอเดนไม่ได้กลับมาด้วย เขาไปแล้ว”

        “เฮ้อ” อาซาถอนหายใจยาว “ฉันคิดไว้อยู่แล้ว” เขาบ่นพึมพำ ดูไม่แปลกใจ

        “ทำไม” ผมถามอย่างอยากรู้

        “เซ้นส์มั้ง ฉันรู้จักเขามาค่อนชีวิต รู้เรื่องเกี่ยวกับเขาประมาณหนึ่ง แต่ที่แน่ใจได้เลยก็คือว่า เอเดนไม่เคยยอมให้ศัตรูก้าวก่อนเขาเสมอ”

        นั่นยิ่งบ่งชัดได้ว่า เราเป็นศัตรูกับเอเดน

        “แล้วนายจะเอายังไงต่อ” ผมนั่งลงเคียงข้างผู้ชายที่ผมรัก เขานิ่งก่อนจะตอบ

        “ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง จะก้าวอยู่ข้างหลังเขาไม่ได้ ฉันต้องกลับไปกรุงเทพ”

        มันตลกมากเมื่อเขาพูดว่าจะกลับไปกรุงเทพทั้งๆที่เขาเพิ่งจะมาถึงนี่ไม่เกินวัน แต่ผมก็รู้ว่าอยู่นี่ไปก็ไม่ได้เรื่องอะไร ในเมื่อคนสร้างเรื่องไม่อยู่ เจ็บใจอยู่ลึกๆที่เอเดนทำให้อาซาต้องวิ่งหน้าห่วงหลังไม่จบไม่สิ้น

        “ฉันจะไปด้วย” ผมออกตัวเต็มที่ อาซาตวัดตามองผม

        “ไม่ได้” คำตอบแสนสั้น แต่แน่นหนัก

        “ทำไม” ผมไม่เข้าใจ ผมอยากช่วยเขา ผมคิดว่าเราเหมือนลงเรือลำเดียวกันแล้ว

        “มันอันตรายเกินไปสำหรับนาย นายจะต้องอยู่ที่นี่ เข้าใจไหมโยชิ” ใบหน้าเขาไร้แววล้อเล่น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่เข้าใจ ทำไมผมถึงช่วยเขาไม่ได้

        “แต่ฉันจะไปกับนาย ฉันไม่เป็นอะไร ฉันอยากช่วยนาย” ผมพูดจริงจัง ให้เขารับรู้เจตนารมณ์ของผมผ่านน้ำเสียงและแววตา

        อาซาส่ายหน้าไม่ยอม

        “นายไม่ได้รับอนุญาตให้ทำตามใจตัวเอง โยชิ” เสียงเขาเคยทุ้มนุ่มดุจกำมะหยี่ แต่บัดนี้แข็งกร้าวดั่งหินผา หนักแน่น ดุดัน วางอำนาจข่มให้ผมยอมเชื่อฟังแต่โดยดี

        ผมเริ่มหงุดหงิดที่เขาสั่งห้าม รู้เลยว่าผมทำตาขวางใส่เขา

        “นายจะบอกว่า ฉันอ่อนแอเกินกว่าจะช่วยนายได้งั้นสิ” ผมหัวเราะเสียงหยัน

        อาซาหลับตาลง ผมคิดว่าผมได้ยินเสียงกรามเขาบดกัน “ฉันไม่มีวันพานายไปอยู่ในห้วงอันตรายอีก ฉันไม่เคยรู้สึกดีที่เห็นนายถูกทำร้าย และนั่นคือสิ่งสำคัญที่ว่าทำไมนายถึงต้องอยู่ที่นี่”

        ผมเดือดหนัก

        เขาไม่คิดบ้างเหรอ ว่าผมก็ไม่ได้รู้สึกดีที่จะปล่อยให้เขาเอาชีวิตไปเสี่ยงโดยที่ผมไม่อาจรับรู้การเคลื่อนไหว ไม่รู้ว่าเขาจะปลอดภัยหรืออันตราย คงไม่มีคืนไหนที่จะข่มตาหลับได้อีก

        “ถ้าเป็นนาย นายจะยอมให้คนรักของนายต่อสู้เพียงลำพังหรือยังไง” ผมรู้สึกลำคอตีบตันขึ้นมาทันใด

        ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนจะงดงามบิดเบี้ยวไปกับความเจ็บปวด “นั่นมันไม่เหมือนกัน”

        “ไม่เหมือนที่ตรงไหน ตรงที่ฉันเป็นแค่คนธรรมดา แต่นายเป็นงูงั้นเหรอ!” ผมตะโกนเสียงดังอย่างสุดกลั้น โกรธจนตัวสั่นที่เขาเหมือนจะดูถูกผม ดูถูกน้ำใจมนุษย์ธรรมดาอย่างผม

        “นั่นก็ด้วย” เขาตอบไม่รักษาน้ำใจ

        “เฮอะ!” ผมพ่นลมออกจากปาก “ฉันเป็นตัวถ่วงนายอย่างนั้นสินะ”

        “ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น”

        “นายไม่ได้พูดแต่นายคิด!”

        “โยชิ! ฟังฉัน นายต้องอยู่ที่นี่ แค่ทำตามที่ฉันสั่งมันยากนักเหรอ” อาซาคำราม เสียงทุ้มลึกในลำคอ

        “นายพูดง่ายเหลือเกิน!”

        “แล้วมันยากตรงไหน แค่รอฉันที่นี่!”

        เราต่างระเบิดพายุอารมณ์ใส่กัน คงจะเสียศักดิ์ศรีแน่ถ้าใครคนใดคนหนึ่งยอมก่อน

        “ตอนนายมา นายบอกว่าไม่มีอะไรต้องกลัวถ้าหากฉันอยู่กับนาย อาซา! นายจำคำพูดของตัวเองไม่ได้เหรอยังไง”

        “มันไม่เหมือนกัน มันอันตรายเกินกว่าที่นายจะคาดคิด” เขาพูดเสียงอ่อนอกอ่อนใจ เหมือนผมเป็นเด็กปัญญาอ่อนฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง แต่รู้ไหม เห็นได้ชัดว่าเรื่องที่เรากำลังทุ่มเถียงมันคือเรื่องเดียวกัน

        “ฉันจะไป”

        งานนี้ให้ตายก็ไม่ยอม ผมให้เขาปกป้องผมมามากแล้ว ถ้าผมไม่คิดจะเข้มแข็งวันนี้ แล้วเมื่อไหร่ผมจะยืนด้วยขาของตัวเองได้ จะต้องให้อาซาคอยปกป้องไปตลอดเลยเหรอ ผมก็ผู้ชายนะ ผมควรที่จะมีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัวเองและช่วยเหลือคนที่เรารัก ยามที่เขาเดือนร้อน

        “ฉันขอร้อง อย่าให้ฉันต้องโมโห”

        “ทำไม นายจะตีฉันงั้นเหรอ!!!”

        “ฉันใกล้จะหมดความอดทน และบอกได้เลยว่ามันไม่สนุกแน่”

        “เอาเลยสิ จะทำอะไรฉันละ นายทำได้อยู่แล้ว ถ้านายต้องการ!”

        “แล้วนายจะเสียใจที่พูดแบบนี้” เขาเหลือกตามองเพดาน อีกไม่กี่อึดใจ ผมก็ลงไปนอนจุกอยู่บนเตียง เพราะถูกอาซาใช้ตัวดันผมลงกับเตียงก่อนที่เขาจะลุกออกไป

        ทันใดนั้น ร่างกายมนุษย์ที่แสนจะเพอร์เฟ็คก็กลายร่างเป็นงูตัวเท่าผม ความโกรธของผมเปลี่ยนเป็นความกลัว ผมตาโตแทบถลน ใจหายวาบ กลัวจนลืมหายใจ

        ปังๆๆ!!!

        “เกิดอะไรขึ้น โยชิ อาซา!” เสียงฟรินน์ดังตะโกนมาจากหน้าประตู ผมไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว อาซาใช้ดวงตาสีทองจ้องผมเขม็ง คราวนี้เขาเอาจริง และผมเพิ่งสำนึกได้ว่าไม่ควรไปท้าทายพ่ออสรพิษอารมณ์ร้อนให้โกรธจัด

        ซี่!!

        เสียงร้องของอาซาดังก้อง ฟรินน์เงียบไปก่อนจะโวยวายกลับมาอีกครั้ง “แกจะทำอะไรโยชิ ทะเลาะกันก็ค่อยๆพูดค่อยๆจาสิวะ!”

        ซี่ๆๆ!!!

        “โอเค ฉันจะไม่ยุ่ง ตามสบาย!”

        ไม่นะ “ฟรินน์” ผมเผลอตะโกนเรียกฟรินน์เอาไว้ อาซาในร่างูตวัดหัวมองผมไม่พอใจ เอาละ ได้เวลาตายของจริง เขาทั้งโกรธและทั้งหึง แววตาที่จับจ้องผมแทบลุกเป็นไฟ จนผมรู้สึกร้อนไปทั้งตัวราวกับตกลงไปในกองเพลิง

        “อาซา ฉันขอโทษ” เสียงที่หลุดออกจากปากผมไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบ ไม่รู้อาซาพูดอะไรกับเพื่อนของเขา ฟรินน์ถึงได้เลิกยุ่งแล้วเงียบหายไป

        จนถึงวันนี้ผมก็ยังฟังภาษางูไม่ออกอยู่ดี ทั้งๆที่ใครต่อใครก็บอกว่าผมควรจะฟังออก อาจเป็นเพราะการสะกดจิตที่ทำให้ผมกลับไปเป็นแบบอาซาไม่ได้

        ผมหยุดคิดทุกอย่างเมื่ออาซาเลื้อยขึ้นมาบนเตียง เสียงสวบสาบยามที่ลำตัวของเขาเลื้อยบนพื้นไม้ขึ้นมาบนที่นอน ผมจ้องอาซาไมกระพริบตา ขยับถอยหลังนี้ทั้งๆที่หลังติดแนบไปกับหัวเตียง

        “พอเถอะ ขอร้อง ฉันยอมแล้ว ยอมทุกอย่าง!” ให้ตายเถอะ เขาไม่ฟังผมเลย ส่วนหัวของเขาที่มีขนาดเท่าหัวผมวางลงบนหน้าท้อง ผมตัวสั่นหนัก น้ำตาเอ่อคลอเตรียมไหล แต่อาซาไม่นึกเห็นใจ เลื้อยพันตัวผมแน่น ผมได้แต่ทำตัวแข็งทื้อแล้วร้องไห้เบาๆ ร่างกลมยาวแนบชิดผมไปทุกสัดส่วน พันปกปิดเหมือนงูรัดเหยื่อตัวเล็กๆ เขารัดแน่นขึ้นๆ แต่ไม่ถึงกับจะบดให้ร่างกายผมแหลกละเอียด

        ซี่~

        อาซาลงเสียงอยู่เหนือหัว ร่างผมเหมือนมัมมี่ ไม่เห็นส่วนใดนอกจากหัว ส่วนอื่นถูกร่างของอาซารัดจนเห็นแต่สีดำ ผมคลายความกลัวได้บ้างเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้จะฆ่าผม และผมรู้ ต่อให้โกรธผมมากกว่านี้สิบเท่าร้อยเท่า เขาก็ไม่มีวันฆ่าผม

        “ขอโทษนะ” ผมย้ำบอกอีกครั้ง จะว่าสำนึกหมดทุกอย่างไหม ก็ไม่ใช่ แต่ผมก็รู้ว่า เมื่อก่อนหน้านี้ผมงี่เง่าไปหน่อย แต่ผมแค่อยากให้เขารู้ว่าผมพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขา สู้ไปพร้อมกับเขา ผมไม่กลัวอันตราย ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆเขา แค่นั้นที่ผมต้องการ

        อาซากลายร่างกลับเป็นคนหลังจากที่เขาบดเบียดเลื้อยพันรัดผมจนหนำใจเพื่อระบายความโกรธ แต่เขาไมได้ลงโทษผมเพียงแต่นั้น ร่างกายเปล่าเปลือยของเขาโดดเด่นเผยโฉมสู่สายตา และเขาไม่ปล่อยให้ผมลอยนวล ไม่มีกี่อารมณ์ที่ทำให้เขาเกิดความต้องการ ไม่อารมณ์รักพิศวาส ก็อารมณ์โกรธดั่งพายุ อย่างหลังมักเป็นตอนที่เขาเกิดอาการหึง

        “ไม่เอานะ” ผมร้องขอ ยื้อยุดเสื้อผ้าที่กำลังจะหลุดออกจากร่างกาย จำได้ขึ้นใจว่าตอนที่เขากอดผมในอารมณ์หึงหวงมันเจ็บขนาดไหน มีแรงเท่าไหร่อาซาใส่เข้าตัวผมไม่ยั้ง

        “ไหนว่ายอมทุกอย่างไง” เย็นชา ไร้ความอ่อนโยน ผมไม่ได้ห้ามมากไปกว่านั้น รังแต่จะทำให้อาซาโกรธหนักเข้าไปอีก

        เสื้อผ้าหลุดออกจากร่างกายไม่เหลือสิ่งใดปกปิด อาซาปล้ำจูบผมไม่หยุดจนปากแตก กลิ่นคาวเลือดทำให้อาซาเกิดอารมณ์ความต้องการมากยิ่งขึ้น ริมฝีปากหยักดูดดึงกลิ่นเลือดผมเยี่ยงแวมไพร์

        “อ๊า...อาซา” ผมเพ้อเรียกหาคนบนตัวยามที่ความต้องการไหลวนเวียนสร้างความเร่าร้อนไปทั่วร่างกาย สะท้านเฮือกทุกครั้งที่เขี้ยวคมฟันกัดย้ำทั่วบริเวณผิวหนัง ปรากฏรอยฟันรอยจูบไม่ต่ำกว่าสิบจุด

        “จำเอาไว้ เมื่อไหร่ที่นายดื้อ นายจะถูกลงโทษอย่างวันนี้” เสียงแหบต่ำคำราม พร้อมฝังรอยฟันที่ซอกขาด้านในใกล้จุดอ่อนไหว ผมขยับอ้าขากว้างอย่างลืมตัว จึงเหมือนเป็นการเชิญชวนให้ร่างสูงกลืนกินความเป็นชายที่ตั้งตระหง่านรอเวลาปลดปล่อย และผมแทบจะขาดใจเมื่อเขาเริ่มใช้ลิ้น

        “อื้อ อ๊ะๆๆ” สองขาเกร็งแข็ง ปลายเท้าจิกบนที่นอน เสียงครางไล่ระดับดังสะท้อนไปทั้งห้อง ยามที่รู้สึกตัวก็ยกมือขึ้นปิดเพื่อไม่ให้ใครได้ยิน แต่อาซารู้ เขาแกล้งผมหนักมือขึ้น ปลายลิ้นร้อนซุกซนสร้างความเสียวซ่าน ผมยอมแพ้หมดรูป ยอมจำนนในสิ่งที่อาซากำลังปรนเปรอ

        “เจ็บ...” เขารุนแรง ดุดัน ออกแรงอย่างไม่ปราณี ดวงตาสีดำดุจอัญมณีราคาสูงหลอกล่อให้ผมมัวเมาไปกับบทลงโทษที่แสนวาบหวาม ร่างกายร้อนผ่าวเหมือนถูกราดด้วยน้ำมันถูกไฟแผดเผา

        เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำในขณะที่กอดผมอยู่บนเตียง สารพัดท่าที่เขาไม่เคยใช้กับผม คราวนี้เขาใช้มันลงทัณฑ์ความดื้อดึงของผมอย่างเอาแต่ใจ หัวใจผมเต้นถี่แรง ดวงตาปริ่มด้วยน้ำตาที่เกิดจากความเจ็บ ความเสียวซ่านทรวง และความสุข

        “ขยับขึ้นมา” เขาสั่งสั้นๆ ทิ้งตัวนอนหงาย เรียกให้ผมขึ้นไปคร่อมบนตัว ผมทำตาม สอดแทรกกายรับความแข็งขืนเข้ามาในตัว ขยับให้ชินแล้วขัดการขย่มทับไม่นับจังหวะ

        “อืม” เสียงแหบครางต่ำ เอื้อมมือขึ้นขยี้ปลายจุดสีอ่อนบนหน้าอกผมจนมันขึ้นสีแดงช้ำ เขาผงกหัวขึ้นมาใช้ลิ้นร้อนช่วยทรมานผมอีกแรง

        ไม่ต้องนับว่าผมปลดปล่อยความร้อนแรงในตัวออกมากี่ครั้ง ผมรู้แค่ว่าผมหมดสติไปก่อนที่อาซาจะสำเร็จโทษเสร็จ บทลงโทษที่แสนร้ายกาจแต่เคล้าไปด้วยความหวาน รุนแรงดุเดือดแต่ก็มีความอ่อนโยนซ่อนอยู่...แม้เพียงน้อยนิด

        ผมตื่นมาในสภาพที่เกือบจะสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ในเช้าวันถัดมา ที่นอนข้างกายเย็นชืด ฉับพลันผมรู้ได้ในทันทีว่า อาซาไม่อยู่แล้ว ผมกระวนกระวายมองไปทั่วห้อง เจอกระดาษหนึ่งแผ่นกับยาในถ้วยสองเม็ด มองแค่ปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นยาของคาร์เตอร์ที่เขาเคยให้ผมกิน แค่นี้ก็พอจะเดาได้ว่า ที่ผมเจ็บปวดร่างกายน้อยทั้งๆที่โดนกระทำไปขนาดนั้นมันเป็นเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะประสิทธิภาพยาขนานวิเศษที่คาร์เตอร์เป็นคนคิดค้น

        ผมคว้ากระดาษมาอ่าน กวาดสายตาอย่างรวดเร็วจนจบใจความที่มีแค่สามบรรทัด มือที่ถือจดหมายสั่นเทาเล็กน้อย

        Please stay at home, don’t go anywhere, just wait here until I come to pick you up. And I think you better know what will happen if you don’t obey the order.
If you love me, just trust me, because I love you so damn much, always have, always will.
        ASA’


        ผมกดจูบลงบนกระดาษแผ่วเบาพร้อมกล่าวเสียงแผ่วแต่หนักแน่น “I love you too”


.............
        ยังไม่ได้แก้คำผิด ถ้าพบเจอโปรดอภัย กลับมาจากทำงานก็งีบก่อน ไม่งั้นจะไม่มีแรงแต่งนิยายต่อในคืนนี้ เอามาลงก็เลยไม่ได้ตรวจคำผิดอย่างถี่ถ้วน ใครใจดีพบเจอโปรดแจ้งทีนะคะ
        ตอนนี้ก็ไม่เชิงดราม่านะตัว แค่ตีกันเบาๆ คนรักกัน ลิ้นกับฟันเป็นเรื่องธรรมดา เหรอออออออ
        เอาน่า ชีวิตคู่ที่ไม่ทะเลาะกัน มันจะไปสนุกอะไร เกี่ยวไหม แค่ปัญหาที่มีอยู่ตอนนี้ยังสนุกไม่พอเหรอไง บอกเลยว่าไม่พอค่ะ อิอิ ฮ่าๆๆ
        เนื้อเรื่องจะเข้มข้นมากขึ้นแล้วนะคะ ต่อจากตอนนี้ทุกอย่างจัดเต็มแน่นอน ปมใหญ่ที่วางไว้ตั้งแต่ภาคแรกจะค่อยๆเฉลย จะพยายามทำให้ดีที่สุดนะคะเพื่อคนอ่านที่น่ารักทุกคน
        คำถามทิ้งท้ายก่อนจาก คุณคิดว่าโยชิจะทำตามคำสั่งอาซาไหม?
               กด1 ทำตามแน่นอน หนูโยเขาเป็นเด็กดี รักสามีก็ต้องเชื่อฟัง
               กด2 เชื่อฟังก็บ้าแล้ว เดี๋ยวนี้หนูโยเขาพัฒนา สามีเขา เขาก็ต้องตามไปปกป้องดูแล
               กด3 ยังไม่ทันคิดทำอะไร อาซาก็กลับมาเสียก่อน ว้า เซ็งงงง อดลุ้นเลย
        ขอบคุณทุกกำลังใจทุกคอมเม้น ไอเลิฟยูโซมัช จุ๊บๆ :mew1: :กอด1:



       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: moobarpalang ที่ 27-10-2014 00:58:51
บทลงโทษของอาชาร้ายกาจมาก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 27-10-2014 01:05:16
แปะโป้งไว้ พรุ่งนี้เจอกัน :a12:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 27-10-2014 06:37:39
อืมมมมมมม
ตอบไม่ถูกเลยว่าโยชิจะเอาไง
ขอให้เลิกกลัวงูเร็วๆละกันนะ :เฮ้อ:
รอตอนต่อไปจ้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 27-10-2014 07:37:38
 :katai3:หนูโย กึ่งรับกึ่งสู้ อยู่เฉยๆสักแพปแล้วตามอาซาไป
เอร้ย โดนอาซาลงโทษอีกแน่ ขอให้ทุกคนปลอดภัย

ัลิฟริริ เวรี่มัช
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 27-10-2014 07:56:22
พี่งูดุจังงงงงง
แต่ก็นะเพราะเป็นห่วง
เพราะงั้นโยชิอย่าดื้อละ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 27-10-2014 08:16:12
กด 1 คิดว่าบทลงโทษทำให้โยชิเข็ด (หรือจะติดใจหว่า)
        ไม่ตามไปรอกลับมา คุยกันขนาดนี้ยังพูดไม่รู้เรื่อง
        ครั้งหน้าอาจหนักฟ้าเหลือกันเลยทีเดียว
     
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 27-10-2014 08:42:46
 :กอด1:เป็นห่วงอาซา *-* ปักหลักติดตามมมมมม
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 27-10-2014 09:14:29
กด 3 ได้ไหมอ่าาาา ดูไม่เครียดดีและราบรื่นเกินไปอ่ะ 5555

        ซึ่งๆจิงๆแร้ววน่าจะต้อง

กด 1 เห็นกันอยู่ว่าโยชิของเราทั้งคิดมาก และอ่อนไหวแค่ไหน๊!!!
        ต้องตามไปช่วย(??) อาซาเห็นๆ TT^TT
        เห็นแววมาม่ารำไรๆๆๆ
 
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 27-10-2014 11:40:08
ไม่รู้จะกดข้อไหนดี 5555

มาลุ้นกับ ริริ ดีกว่า

ว่าแต่บทลงโทษของ อาซา ชั่งร้อนแรงจริงๆ

 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 27-10-2014 11:42:48
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ปูเสือรอตอนต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 27-10-2014 14:44:02
อยากกด 2+3 คิดว่าหนูโยคงคิดจะทำอะไรบางอย่าง  แต่คงไม่ทันอาซาที่รู้ทันก่อนอยู่ดี  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 27-10-2014 18:28:22
บทลงโทษที่แสนเร่าร้อน......
ตามซิหนูโย   จะได้ถูกลงโทษแบบนี้อีก..555...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 27-10-2014 19:01:50
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 27-10-2014 19:35:47
ขอเลือกข้อ2 เพราะความรักที่มีให้กัน

และจากนิสัยโยชิแล้ว ต้องไปตามอาซาแน่นอน

ปล แก้คำผิดจ้า “หิว ทำอะไรให้กินหน่อย”เอาพูดเสียงอ่อน ท่าทางอิดโรยทั้งสองคน

  เป็น  “หิว ทำอะไรให้กินหน่อย”เขาพูดเสียงอ่อน ท่าทางอิดโรยทั้งสองคน

อาซากลัวนานรอนาน เป็น อาซากลัวนายรอนาน

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 27-10-2014 19:46:10
กด 1 ระรัว. . เพราะยังไม่ทันทำอะไร เอเดนก็กลับมา 555555 คดีพลิก ต๊ะแง่ววว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 27-10-2014 20:15:40
กด 2 จ้า หนูโยชิ เราพัฒนาแล้ว  อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 27-10-2014 20:16:08
อาซาลงโทษได้หื่นขึ้นมาก555555
ชอบที่เขียนให้โยชิมาก
แบบบบบทั้งหวงทั้งห่วง
รำเอเดนนนนน คนเขาจะมาความสุขก็มาขัด
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: หมูน้อย ที่ 28-10-2014 01:29:52
2 นะ
แต่ก่อนไปต้องหาวิธีทำให้มนต์สะกดคลายก่อนแล้วตามไปช่วย
และตอนกำลังหาวิธีอยู่กว่าจะเจออาซาก็กลับมาก่อน ว้าเซ้งอดลุ้นเลย.....




555555

ขอให้เป็นงูน้อยน่ารักของอาซาตลอดไปนะหนูโย

 :bye2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-10-2014 09:39:22
ขอกด 2 ค่ะ
โยชิดื้อจะตาย งานนี้แอบตามไปชัว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 28-10-2014 16:21:52
 กด2 เชื่อฟังก็บ้าแล้ว เดี๋ยวนี้หนูโยเขาพัฒนา สามีเขา เขาก็ต้องตามไปปกป้องดูแล


 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:


 :haun4: :hao7: :hao7: :pighaun: :pighaun: :z1: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 28-10-2014 20:19:06
อื้อหือออออ :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 28-10-2014 21:43:45
ถ้าเอเดนมันเจือกกลับมาตอนอาซาไม่อยู่ล่ะ :hao4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 28-10-2014 23:01:36
ตามทันแล้วววววววว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 29-10-2014 14:00:15
เลือก 2 นางเอกต้องดื้อเท่านั้น สามีฉันๆก็ปกป้องได้ หนูโยก็ผู้ชายนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ 27-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 29-10-2014 20:45:19
ข้อ 2 เหมาะกับหนูโยชิของเรา  ยิ่งดื้อยิ่งรักอ่ะ  5555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ แจ้งข่าวสาร 31-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 31-10-2014 23:23:14
สำหรับพี่งูตอนที่หกขอให้รอกันอีก 2-3 วันนะคะ พอดีว่าวันนี้ได้ทำการแก้พล็อตจุดเล็กๆบางจุดตั้งแต่ตอนที่หกไปจนถึงตอนที่ 9 (ซึ่งตอนที่9ยังคงไม่เสร็จ) และยังต้องกลับไปอ่านภาคแรกด้วย เนื้อหาจะได้เชื่อมโยงและไม่สดุด เพื่อให้พล็อตนิ่งจึงอาจใช้เวลาหลายวัน เพราะริริได้แต่นิยายวันละชั่วโมงนะ นั่งงงก็หมดเวลาล่ะ ล่าช้าสักหน่อย แต่อยากทำให้ออกมาดีจริงๆ ไม่อยากทำให้คนอ่านผิดหวัง เรื่องนี้ริริตั้งใจมากจริงๆ ขอให้คนอ่านอยู่เคียงข้างให้กำลังใจเค้าด้วยเน้อ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนตอนนี้
รัก :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ แจ้งข่าวสาร 31-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 31-10-2014 23:40:36
จ้า รออีกสักหน่อยก็ไม่เป็นไร

เป็นกำลังใจให้จ้า  สู้ๆ

ปลื้มและดีใจอย่างยิ่ง

ไม่ผิดหวังเลยที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้

เพราะทำให้คนอ่านคนนี้

ได้รู้ว่าคนเขียน(RiRi)ใส่ใจและมีความตั้งใจขนาดไหน

ปล+1
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁FIVE❁ แจ้งข่าวสาร 31-10-2014[P.35]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 01-11-2014 07:02:22
รับทราบบบบบ นั่งรอจ้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-11-2014 22:12:30
ยังไม่มา

รอๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 05-11-2014 22:16:38
B.L.O.O.D.L.I.N.E
SIX



        “ถ้าจะฝึกมวยก็ต้องแข็งแรงกว่านี้หน่อย ขาแข็งๆ มือตั้งการ์ดให้มั่น”

        ปึก!

        “อุ๊ก!” ขาแข้งทรุดลงกระแทกพื้น ผมงอตัวจุก

        “ลุกขึ้น อย่าทำใจเสาะ บอกเองไม่ใช่เหรอไงว่าอยากเป็นมวยเร็วๆ ลุกขึ้นมา” ครูฝึกมวย ลูกชายของเพื่อนพ่อใช้น้ำเสียงก้องกังวานพูดสั่ง ผมเงยหน้ามอง เม้มปากข่มความเจ็บปวดตามร่างกาย รอยช้ำม่วงปรากฏอยู่หลายที่อย่างน่ากลัว

        “ผมขอพักก่อนได้ไหม” ถ้าผมจริงผมก็ไม่คิดจะเอ่ยปากขอ แต่วันนี้ทั้งวันตั้งแต่แปดโมงเช้าจนใกล้จะหกโมงเย็น ผมยังไม่ได้พักไปกว่าการหาข้าวเที่ยงลงท้อง แค่จะหายใจยังเหนื่อย

        “ให้ตายเถอะ” ครูสอนสบถหงุดหงิด ทำตาขวางมองผม ผมค่อยๆพยุงตัว “โอเค พักก็พัก”

        “ขอโทษครับ” ผมก้มหัวแล้วเอ่ยขอโทษ ครูฝึกโบกมือว่าช่างมันก่อนจะเดินไปดูลูกศิษย์คนอื่นๆ ผมมองดูนักมวยตัวจริงและมือสมัครเล่นด้วยความทึ่งและชื่นชม พวกเขาแข็งแรงมาก ผมกลายเป็นเด็กเล่นขายของ ใส่แรงเตะครูฝึกเต็มแรงเขาก็ยังไม่สะเทือน นับประสาอะไรกับการจะเตะมนุษย์กลายร่างให้ล้มกลิ้ง ดีไม่ดีจะกลายเป็นผมที่ล้มลงไปกองที่พื้น

        ผมนั่งพักที่เก้าอี้มุมในสุดของค่าย ยกน้ำเย็นกรอกลงคอ น้ำใส่อักๆเข้าปากและบางส่วนไหลของคอ สร้างความสดชื่น ผมจึงถอดเสื้อและยกน้ำเย็นที่เหลือราดหัว ความเย็นแล่นจับผิวกาย ชวนให้นึกถึงสัมผัสที่แสนจะคิดถึง

        ปานนี้อาซาจะทำอะไรอยู่ เขาแค่ติดต่อมาว่าถึงกรุงเทพแค่นั้น กับข้อความถามไถและข้อความสั่งห้ามผมไปไหนอีกสองสามข้อความเท่านั้น ต่างกับผมที่หมั่นเพียรส่งข้อความไปหาเขา เขาอ่านช้าบ้างเร็วบ้างตามแต่สะดวก ผมรู้ว่าเขากำลังยุ่งมาก เลยใช้เวลาที่ผมจะเอาไปกังวลคิดมากมาเรียนมวยไทย

        ทีแรกพ่อกับพี่ยอร์ชห้ามกันยกใหญ่ บอกว่าไม่เห็นมีความจำเป็นที่จะต้องเรียน การฝึกมวยโหดมาก ไม่เหมาะกับผม แต่ผมให้เหตุผลว่า ถ้าหากผมถูกทำร้าย ผมจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร สมัยนี้ยิ่งอยู่ยากมากขึ้นทุกวัน มีคนตายจนนับไม่ถ้วน ถ้าไม่รู้จักปกป้องตัวเอง ภัยก็อาจมาถึงตัวได้ ผมพูดไปอย่างนั้น พ่อกับพี่ยอร์ชถึงยอมให้มาเรียน

        โชคดีที่เพื่อนของพ่อเป็นเจ้าของค่ายมวย พ่อเลยใช้เส้นสายในมือยัดผมเข้ามาเรียนในค่ายมวยที่ได้ชื่อว่ารับเด็กยาก ถ้าไม่เป็นมาอยู่แล้วก็ต้องหน่วยก้านดีเท่านั้นถึงจะรับ ผมเลยกลายเป็นของแปลกของที่นี้ ในท่ามกลางมนุษย์ผู้ชายตัวใหญ่ล่ำบึ้ก

        “หา” นี่ผมเรียกพวกเขาว่ามนุษย์ผู้ชายเหรอ พูดเหมือนกับว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์

        ประสาทไปแล้ว

        และที่มาเรียนมวยไทย อาซายังไม่รู้เรื่อง ผมกะว่าจะทำเซอร์ไพรส์เขาตอนที่เขามารับ ผมก็ยอมทำตามคำขอของอาซาแต่โดยดีแม้จะเป็นห่วงมากขนาดไหน จะกังวลคิดไปร้อยแปดพันเก้า กลัวว่าเอเดนจะทำอะไรอาซา กลัวเขาจะเสียท่าถูกทำร้าย ผมไม่อยากให้เขาเจ็บเหมือนคราวที่สู้กับเจอร์โรม ไม่มีใครรู้หรอกว่า ยามที่เขาบาดเจ็บ อาซาในร่างงูตัวเล็ก ผมหมายถึงเล็กเท่าที่เขาเป็นได้ แต่ความเป็นจริงจัดว่าตัวใหญ่มากอยู่ นั่นแหละ ตอนนั้นเขาหงุดหงิดมาก มีแค่ผมที่อยู่กับเขาได้ ใครก็เข้าหาไม่ค่อยติดไม่เว้นแม้แต่เวสตัน

        เขาอารมณ์ร้อน และผมก็ไม่อยากเจออาซาในเวอร์ชั่นนั้นเท่าไหร่ อย่างน้อยๆก็ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เลี่ยงได้ก็เลี่ยง

        อากาศในโรงฝึกร้อนอบอ้าว ผมใช้ผ้าเช็ดเหงื่อตามใบหน้าและลำคอ ไล่เลื่อยลงมาถึงลำตัว โบกพัดเล็กน้อยให้เกิดลมเย็น

        “สักด้วยเหรอ” เสียงผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยถาม

        ผมเงยหน้ามอง เกล้า...ผู้ชายตัวสูงผิวสีแทนใบหน้าคมคายยืนอยู่เบื้องหน้า เขาเป็นตัวเก็งที่จะได้รับคัดเลือกขึ้นเป็นนักมวยตัวจริงในปีหน้า ฝีมือเข้าขั้นมืออาชีพ ร้ายกาจน่าดู

        “อ่อ นี่น่ะเหรอ” ผมก้มมองรอยปานบนหน้าอก เกล้าพยักหน้าว่าใช่ “ก็ประมาณนั้น” ให้เข้าใจผิดว่าเป็นรอยสักดีกว่าถูกสักถามมากความถ้าหากบอกความจริงว่าสิ่งที่ติดอยู่บนหน้าอกเป็นปานรอยงูที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

        และคนที่ทำก็หนีไปปฏิบัติภารกิจระดับชาติอยู่คนเดียว

        แล้วทำไมผมต้องเอาแต่คิดถึงอาซา ไม่เข้าใจ

        “ไม่เข้ากับหน้านายเท่าไหร่ แต่สวยดีนะ สักที่ไหนมาหรือ” เขานั่งลงข้างๆ มองจ้องปานอย่างสนใจ

        “ก็...ที่กรุงเทพฯน่ะ”

        “งั้นเหรอ” เขาละความสนใจจากรอยสีดำรูปงูบนหน้าอกไร้มัดกล้ามของผม พูดเปลี่ยนเรื่อง “ฝึกเป็นยังไงบ้าง”

        ผมยักไหล่ “ก็พอได้ นิดหน่อย”

        “ฮ่าๆๆ มันต้องใช้เวลานะ แต่นายรีบฝึกไปทำอะไร” เกล้าหันมาถาม ผมกรอกตาคิดหาเหตุผล

        “ก็...” เป็นอีกครั้งที่ต้องขึ้นประโยคด้วยคำๆเดียวก่อนจะใช้หัวคิด “ถ้าเปิดเทอมแล้วก็ต้องกลับไปเรียน ถึงตอนนั้นคงไม่มีวลาฝึก” ผมพยักหน้าสนับสนุนคำพูด

        “อ่อ อยากมีคนคนปกป้องไหมล่ะ อย่างนายน่ะ ไม่เหมาะที่จะแข็งแกร่งหรอก” เกล้ามองสบตาสื่อความหมาย ผมเสตาหลบ ทำเป็นมองไม่เห็นความนัยที่ส่งผ่านมา ผู้ชายคนเดียวที่ผมยอมให้เข้ามาอยู่ในหัวใจ มีเพียงอาซาคนเดียวเท่านั้นที่ผมยอม

        ผมลุกขึ้น ไม่ได้มองหน้าเกล้า “นายดูถูกฉันเกินไปหน่อยนะ ฉันอาจจะไม่ได้ร่างใหญ่โตเท่านาย แต่ฉันไม่มีความจำเป็นต้องยืมมือยืมตัวใครมาปกป้องตัวเอง”

        ผมเดินกลับไปหาครูฝึก ผมไม่โง่และไม่ใส่ซื่อขนาดที่จะไม่รู้ว่าเกล้ารู้สึกยังไงกับผม อาจจะชอบ ถูกใจ หรืออะไรก็ตามแต่ สำหรับผมแล้ว เขาคือคนรู้จักคนหนึ่งเท่านั้น

        ซ้อมเสร็จผมก็เตรียมกลับบ้านด้วยร่างกายที่สะบักสะบอม ปวดเมื่อยตามร่างกาย จะก้าวขายังไม่มีแรง ผมเดินไปซื้อน้ำกินรอพี่ยอร์ชมารับ ระหว่างที่กำลังรอชามะนาวแก้เหนื่อย ก็รู้สึกว่ามีใครมายืนข้างๆ ผมหันไปมอง ผู้ชายร่างสูงใหญ่ ใบหน้าออกลูกครึ่ง ผมถูกเซตตั้งได้ทรง

        “มีอะไรเหรออเล็ก”

        อเล็กก็เป็นนักมวยในค่ายเหมือนกัน ฝีมือดีมากจนลุงชิดเจ้าของค่ายที่เป็นเพื่อนพ่อผมอยากให้เขาเป็นนักมวยเบอร์หนึ่ง แต่อเล็กไม่ต้องการ เขาขอทำหน้าที่สอนคนในค่าย ไม่ต้องการแข่ง

        “ใครๆอาจจะเชื่อนะ แต่ว่าฉันไม่เชื่อ” เขาพูดเสียงนิ่ง ใบหน้าก็นิ่ง โดยปกติผมก็ไม่เห็นอเล็กจะแสดงอารมณ์สักเท่าไหร่

        ผมส่ายหน้าเบาๆ “ฉันไม่เข้าใจว่านายหมายถึงอะไร”

        “รอยปานบนหน้าอกนายไง” อเล็กเลื่อนสายตาลงต่ำตรงตำแหน่งทางหน้าอกทางซ้าย

        “นายพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ”

        อเล็กเดินเข้ามาใกล้ เราห่างกันเพียงก้าวเดียว เขาก้มหน้าลงมอง ผมเขยิบก้าวถอยหลังเพราะใบหน้าของเขาใกล้กับแผ่นอกบางของผมจนเกินไป มันทำให้รู้สึกแปลก

        “มันมีความหมาย ฉันรู้ว่านายก็รู้”

        อเล็กทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ

        “นายรู้ได้ยัง” ผมมองเขาอย่างระแวดระวัง

        “เรื่องธรรมดา รอยปานทุกรอยมีความหมายในตัวมัน โดยส่วนมากเท่าที่มนุษย์ทั่วไปรู้ รอยปานเกิดจากใครสักคนทำตำหนิไว้บนตัวไว้เมื่อชาติที่แล้ว เพื่อให้จดจำกันได้ในชาติต่อๆมา”

        “ก็พอจะเคยได้ยินมา” ผมพูด แต่สิ่งที่ผมสงสัยไม่ใช่ความหมายของปาน ผมหรี่ตามอง จับคำพูดของเล็กมาคิดทุกคำ ผมกำลังคิดว่าอเล็กเป็นคนปกติธรรมดา หรือเป็นมนุษย์กลายร่าง และถ้าใช่ แล้วเขาเป็นอะไร

        “แต่มันไม่เหมือนกันหรอกนะ ปานของนาย กับของคนทั่วไป มันมีอะไรที่มากกว่านั้น”

         “มากกว่านั้นคืออะไร มันก็อาจเป็นเหมือนที่นายบอก ใครสักคนในชาติที่แล้วทำร่องรอยไว้บนตัวฉัน”

        “ฉันคิดว่า มันไม่น่าใช่แค่นั้น”

        “ยิ่งนายพูด ฉันก็ยิ่งงง” ผมควักเงินจ่ายแม่ค้า รับแก้วชามะนาวมาถือไว้

        “ไม่ต้องใส่ใจก็ได้ ฉันแค่คิดว่า รอยปานของนายน่าสนใจ รูปงูแบบนี้มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ หรือไม่ก็เป็นดวงชะตาที่มีมาแต่กำเนิด”

        ผมรู้ว่ามันแปลกที่คนเราจะมีรอยปานที่แสดงรูปร่างชดเจนจนเหมือนการวาดได้แบบนี้ ผมเคยกังวล ปกปิดไม่ให้ใครรู้ และเพิ่งจะหายคิดมากได้ไม่นานหลังจากที่รู้ว่ารอยนี้อาซาเป็นคนทำ แต่ดูเหมือนอเล็กต้องการจะบอกผมว่า มันไม่ใช่แค่รอยตำหนิ เขากำลังทำให้ผมนึกกลัวตัวเอง

        “นายเป็นใคร” ผมถาม ไม่ไว้ใจคนตรงหน้า อันตรายมีรอบตัว โดยเฉพาะเมื่อผมรู้ว่าโลกนี้มีสิ่งมีชีวิตที่นอกเหนือจากมนุษย์ปุถุชนธรรมดาและใช้ชีวิตเกี่ยวพันกับคนพวกนั้น ยิ่งต้องระวังตัว

        อเล็กไม่ตอบ เขาหมุนตัวเดินจากไป ผมมองตามด้วยความสงสัย ผมรู้เรื่องมนุษย์กลายร่างน้อยมากเพราะไม่คิดจะสนใจ พวกเขาอยู่รวมปะปนกับเรา แยกแยะไม่ออกถ้าไม่เห็นว่ากลายร่างกับตา ก็เหมือนอาซา ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นงูจนกระทั่งเขาแสดงให้ดู จะมีวิธีไหนไหมที่จะรู้ว่าใครเป็นมนุษย์กลายร่าง

        ปรี๊นนนน

        ผมสะดุ้ง ตื่นตระหนกกับเสียงบีบแตรยาวเหยียด หันตัวมองรถ พี่ยอร์ชเลื่อนกระจกลงเรียกผมที่ยืนเหม่อ ผมหันไปมองทางเดิม ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น อเล็กหายไปแล้ว ไวราวกับหายตัวได้

        กลับถึงบ้านผมแยกตัวขึ้นห้อง อาบน้ำแล้วลงไปกินข้าวเย็น ในหัวผมมีเรื่องให้ขบคิดมากมาย เลยปลีกตัวขึ้นห้องเพื่อพักผ่อน เรื่องเอเดนยังไม่เคลียร์ เรื่องอาซาก็ยังน่าเป็นห่วง ยังจะมีเรื่องรอยปานที่อเล็กมาพูดให้เกิดสงสัย

        ผมดีดตัวขึ้นนั่งบนที่นอน จำได้ว่าเอาหนังสือติดกลับมาด้วย ผมลงจากเตียงไปที่กระเป๋าเดินทาง ค้นเจอหนังสือเก่าเก็บ

        “Mysterious Birthmark” ผมอ่านชื่อหนังสือ ปีนกลับขึ้นไปบนเตียงอีกครั้งหนึ่ง เปิดหน้าแรกต่อไปจนถึงหน้าที่สองและสาม มีแค่ชื่อหนังสือ ปีที่เขียน แต่ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน และที่สำคัญ หนังสือเล่มนี้เป็นการเขียนไม่ใช่การพิมพ์

        ‘Birthmark Meaning’

        ผมกวาดตาอ่านหัวข้อนี้เพียงคร่าวๆ อ่านออกบ้างไม่ออกบ้าง อย่างที่คุณลุงคนขายบอกว่าหนังสือเล่มนี้อ่านยากเพราะใช้ศัพท์โบราณ ในหนังสือเขียนเอาไว้ว่า ปานเป็นลงบอกเหตุ บ้างหมายถึงความโชคดี บ้างหมายถึงโชคร้าย และอาจหมายถึงทั้งสองอย่าง ทั้งดีและไม่ดี ปานเกินจากอดีตที่ติดตัวมาจนถึงปัจจุบัน เรื่องพวกนี้ผมพอรู้ เลยเปิดข้ามไปที่หัวข้ออื่น

        ‘Birthmark Types’

        ในหัวข้อนี้ระบุถึงรูปแบบของปาน ทั้งปานแดงปานดำปานเขียวหรือปานสีขาว ผมอ่านอย่างรวดเร็วแค่พอเข้าใจ แต่ยังไม่มีเนื้อหาในสิ่งที่ผมต้องการรู้

        ผมเปิดอ่านเรื่องๆจนมาถึงหัวข้อหนึ่ง ‘Special Birthmark for Selected’

        “ต้องเริ่มจากตรงนี้สินะ” ผมสูดลมหายใจ มือที่จับหนังสือเริ่มสั่นเล็กน้อย เสียงลมหวีดหวิวด้านนอก ผ้าม่านปลิวไหว ผมมองรอบๆตัว ยอมรับว่ากลัวที่จะรู้ความจริง

        ...ปานเพื่อพานพบ...

        รูปร่างไม่ต่างจากปานทั่วไป ว่ากันว่าจะดึงดูดผู้ที่เป็นคนสร้างรอยและผู้ที่ถูกทำร่องรอยไว้บนตัวให้มาพบเจอกันอีกครั้ง


        ผมไล่สายตาดูรูปปานที่คนเขียนวาดเอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง มีทั้งที่เป็นรอยที่ไม่มีรูปร่างตายตัวแบบที่เห็นได้ทั่วไป ไปจนถึงที่ปรากฏรูปร่างชัดเจน แต่ก็ยังคงเป็นรูปแบบธรรมดาอย่างเช่นรูปหัวใจ รูปสีเหลี่ยมข้าวหลามตัด พร้อมทั้งมีเรื่องราวที่มาของปานเหล่านี้ อ่านแล้วได้ใจความว่า รอยปานที่ถูกวาดลงในหนังสือ เป็นของจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ผู้ที่ทำกับผู้ที่ถูกทำได้กลับมาพบเจอกัน

        รอยปานพิเศษประเภทที่สอง

        ...รอยปานเพื่อชดใช้...

        มีลักษณะหน้ากลัวเพราะถูกจารึกไว้ด้วยความแค้น ด้วยแรงอาฆาต มีสีเข้ม นูนโป่งน่ากลัว กล่าวไว้ว่าเจ้าหนี้ทำตำหนิเอาไว้เพื่อให้จดจำได้ว่าใครที่จะต้องชดใช้ให้กับตัวเอง


        แต่ทั้งหมดนี่ก็ยังไม่มีรอยปานที่เป็นรูปงู แปลกหน่อยก็เป็นรูปคล้ายดวงตาจ้องเขม็ง รูปเปลวไฟ ผมเปิดผ่านไปเรื่อยๆ รอยปานแบบที่สามก็คือ

        ...รอยปานประทานหน้าที่...

        ผู้ที่ได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้ปฏิบัติภารกิจจะมีรอยปานกำกับไว้บนร่างกาย จะแสดงรูปร่างที่ชัดเจนกว่าสองอันแรกเพราะมีความพิเศษที่มากกว่า ผู้ที่มีรอยปานจากเบื้องบน ถ้าทำความผิดแม้เพียงเล็กน้อยก็จะพบกับจุดจบที่น่าสลดหดหู่ กว่าจะรู้ว่าตัวเองมีหน้าที่ที่ต้องทำก็มักจะสายเกินไป


        ผมเพ่งพิจารณารอยปานชนิดนี้ด้วยความสนใจ มีทั้งปานรูปไม้กางเขน รูปกริช รูปพระอาทิตย์ รูปพระจันทร์เสี้ยว และอีกหลายรูปที่ปรากฏรูปร่างที่ชัดเจนมาก เหมือนที่ผมมี ความหวังที่จะล่วงรู้ความลับตามที่อเล็กบอกเริ่มจดประกาย ในขณะเดียวกันผมก็หวาดกลัวต่อความลี้ลับที่ไม่เคยล่วงรู้

        ผมเปิดดูจนกระทั่งถึงหน้าสุดท้าย หน้าที่มีเพียงหัวข้อและข้อความสั้นๆ พร้อมรูปตัวอย่างสองรูปโดยไร้คำอธิบายประกอบอย่างรอยปานสามแบบที่ผ่านมา

        ปึก!

        เสียงกระแทกปิดหนังสือดังสะท้อนในห้องนอนขนาดเล็กกำลังดีที่มีแต่ความเงียบภายใต้ลมหายใจหนักลึก ตามมาด้วยเสียงจังหวะเต้นของหัวใจที่คล้ายจังหวะกลอง

        ผมถอดเสื้อออก ก้มมองรอยประทับที่อยู่บนหน้าอก แววตาสั่นไหว ภาพหนึ่งในสองภาพติดตาทั้งที่มองแค่เพียงเสี้ยววินาที

        เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน รอยปานงูขดตัวเป็นวงกลม

        ปานต้องห้ามคืออะไร

        จะเกี่ยวกับที่ผมเป็นงูเมื่อก่อนหรือเปล่า

        ผมเปิดหน้าสุดท้ายอีกครั้ง เพ่งรูปภาพสองรูป รูปแรกเป็นรูปงูแบบที่ผมมี อีกรูปเป็นรูป เอ่อ...คล้ายกับสัตว์มีปีก ผมไม่แน่ใจว่ามันจะหมายถึงนกหรือมังกร ผมอ่านข้อความสั้นๆอีกครั้ง จ้องนานนับสิบนาทีเผื่อว่าจะเข้าใจความหมายที่แฝงมาในประโยคแต่ก็ไม่ ในหนังสือไม่ได้บอกอะไร มีเพียงประโยคสั้นๆได้ใจความแค่ว่า

        ‘สมบัติล้ำค่า ฝังติดตรึงตราใต้รอยจารึก’

        “สมบัติล้ำค่าคืออะไร” ผมยกมือลูบหน้าอก ก็แค่ร่างกายผิวหนังที่ห่อหุ้มอวัยวะภายใน มันจะมีอะไรในนี้ได้ยังไง แล้วรอยจารึกจะหมายถึงรอยปานหรือเปล่า

        พระเจ้า! ผมงงไปหมดแล้ว

        แล้วใครจะให้คำตอบในเรื่องนี้ได้ คนแรกคือคนที่แต่งหนังสือเล่มนี้ ลืมไปได้เลย ไม่มีชื่อระบุว่าใครเป็นคนเขียนขึ้น ให้ผมเดานะ เขาคงตายไปตั้งแต่ตอนที่ผมยังไม่เกิด ที่หน้าแรกของหนังสือระบุชัดเจนว่าเขาเขียนขึ้นในปี... นั่นหมายความว่าผมจะไม่ได้คำตอบจากเขา

        ผมไม่แน่ใจว่าพ่อจะรู้เรื่องนี้ไหม

        ผมใช้ความคิดอย่างหนักจนกระทั่งเสียงหนึ่งลอยแวบเข้ามาในหัว

        ‘ไปถามคนทำสิ เขาน่าจะรู้’

        “อาซา”

        แต่เขาไม่อยู่ ผมต่อสายหาอาซาทันที ไม่นานก็มีคนรับสาย ผมกรอกเสียงลงไปด้วยความร้อนรน

        “อาซา ฉันมีเรื่องจะถาม”

        “ขอโทษโยชิ อาซาออกไปข้างนอก เขาไมได้เอาโทรศัพท์ออกไปด้วย” เสียงขอปารีสที่ตอบกลับมาแทนเจ้าของโทรศัพท์ “เขาต้องออกไปลาดตะเวน เลยต้องเก็บโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน” ปารีสขยายความต่อ

        “งั้นเหรอ” ผมเสียงเหี่ยว หมดหวังในทันที

        “มีเรื่องอะไรสำคัญหรือเปล่า เสียงนายดูไม่ดีเลย” เธอถามกลับมาอย่างเป็นห่วง ผมเม้มปากแน่นสายหน้า

        “เปล่าหรอก แค่คิดถึงเขาน่ะ” บ้าชะมัด ผมอยากร้องไห้จัง

        “อ่อ หึหึ ไว้ฉันจะบอกเขาให้นะ”

        “ขอบใจนะ เขาสบายดีใช่ไหม” ผมถามไถ่ถึงคนรัก

        “สบายดี แม้จะเครียดไปสักหน่อย”

        “ก็คงงั้น” เขาต้องเครียดอยู่แล้ว ขนาดผมยังเครียดเลย

        ผมวางสาย ทิ้งตัวนอนลงกับเตียง ผมคิดว่าตัวเองคงทนรอถามอาซาไม่ไหว ผมต้องการเดี๋ยวนี้ว่าปานรูปงูมันหมายถึงอะไร แล้วใครจะให้คำตอบผมได้เร็วที่สุด

        อเล็ก...พรุ่งนี้ผมจะไปถามอเล็ก เขาจะต้องรู้เรื่องนี้แน่ๆ

        ผมออกจากบ้านอีกครั้งในเช้าวันถัดมาตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงดี ทั้งคืนผมเฝ้ารอให้พระอาทิตย์โผล่ขึ้นจากท้องฟ้า เพื่อที่ผมจะได้ออกไปที่ค่ายมวยเพื่อหาคำตอบให้กับปริศนาในตัวผม ความมั่นใจเกินกว่าครึ่งบอกผมว่าอเล็กรู้เรื่องเกี่ยวกับปานบนหน้าอก และที่แน่ชัดอีกอย่างก็คือ อเล็กไม่ใช่คนปกติ

        ผมวิ่งตึงตังลงมาข้างล่าง พี่ยอร์ชกับพ่อที่นั่งดูข่าวเช้าในห้องนั่งเล่นหันมามองผมก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาเรือนใหญ่บนผนัง

        “โยชิ จะไปไหนแต่เช้า” เสียงพ่อถาม

        “ไปค่ายมวยครับ พี่ยอร์ชไปส่งโยหน่อย” ผมบอกพี่ยอร์ชเสียงอ่อน พี่ยอร์ชทำหน้างงแต่ก็ลุกขึ้น

        “แต่เช้าเนี่ยนะ” พี่ยอร์ชพูดกับผมตอนเดินไปที่รถ

        “ครับ” แต่เข้าเนี่ยแหละ หาคำตอบให้มันรู้ๆกันไป จะได้ไม่อึดอัดเหมือนมีลูกโป่งอัดแก็สพองโตจนแน่นอก ให้มันรู้กันไปว่ารอยปานของผมหมายถึงอะไร และสิ่งใดที่ฝังตราตรึงอยู่ในนี้ ผมคงจะอกแตกตายถ้าหากไม่รู้ให้ชัดเจน

        “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” พี่ยอร์ชถาม สตาร์ทเครื่องยนต์ ออกตัวพาผมเข้าตัวเมืองไปที่ค่ายมวย

        “โยก็ยังไม่แน่ใจ” ผมไม่รู้ว่าพี่ยอร์ชกับพ่อจะรู้ตื้นลึกหนาบางกับปานบนหน้าอกผมมากขนาดไหน ถ้ารู้แล้วก็คงไม่เป็นอะไร แต่ถ้ายังไม่รู้แล้วผมถาม เกรงว่าจะเป็นการทำให้พ่อกับพี่ยอร์ชเกิดข้อสงสัย ผมยังไม่มีคำตอบในความแปลกประหลาดหลายๆอย่างในชีวิตให้กับคนที่ผมรักทั้งสองคน

        ผมหมกหมุ่นอยู่กับความอยากรู้จนกระทั่งรถหยุดสนิท โชคยังดีที่ค่ายมวยเปิดแล้วตอนที่ผมมาถึง ผมให้พี่ยอร์ชรออยู่ในรถ แม้พี่ยอร์ชจะพยายามลงมาดูให้ได้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้ผมต้องออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อมาที่นี่ แต่ผมพยายามชักแม่น้ำทั้งห้าว่ามันไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรง และผมจะบอกทุกอย่างเมื่อผมพร้อม พี่ยอร์ชถึงได้ยอม

        ผมลงจากรถ ค่ายมวยเงียบสนิท ยังไม่มีคนมามากนัก มีแค่คนที่มาเตรียมอุปกรณ์สำหรับซ้อม คนทำความสะอาด ผมเดินผ่านเวทีมวยไปที่ห้องรับรอง ห้องที่ครูฝึกเอาไว้พัก ผมจินตนาการว่าผมจะเห็นอเล็กกำลังเตรียมตัวอยู่ในห้องนั้น แต่พอเปิดเข้าไป ผมเจอแต่ความว่าเปล่า ไม่มีใครอยู่ข้างใน ผมอาจจะมาเช้าไปเพราะใจร้อน ผมคงต้องรอ

        “มาเช้าไปไหมโยชิ”

        “เฮือก!” ผมตกใจเมื่ออยู่ๆก็มีคนเรียกท่ามกลางความเงียบ เกล้ายืนอยู่ข้างหลังผมในระยะประชิด ผมถอยหลังเว้นระยะห่าง

        “อเล็กมาหรือยัง”

        เกล้าเลิกคิ้วสูง “อเล็กเหรอ วันนี้เขาไม่มานะ”

        “ไม่มา? ทำไม” ผมตีหน้ายุ่งให้กับสิ่งที่ไม่ได้เตรียมใจไว้

        “ไม่รู้ ปกติเขาก็ไม่มาวันอาทิตย์อยู่แล้ว นายก็น่าจะรู้ ฉันเคยบอกนายแล้ว” เกล้ากอดอกพูดอย่างสบายใจ

        “ใช่ ฉันแค่ลืม” มัวแต่ร้อนใจอยากได้คำตอบจนไม่ทันคิด อาทิตย์ที่แล้วที่ผมเพิ่งเข้ามาฝึก เกล้าแนะนำให้คนในค่ายให้ผมรู้จัก ร่วมไปถึงอเล็ก ผมจึงรู้ว่าอเล็กจะไม่เข้ามาที่ค่ายวันอาทิตย์เพราะมันเป็นวันพักผ่อนของเขา จะไม่มาโดยเด็ดขาด ห้ามใครโทรตาม ห้ามเรียกตัว

        ผมแค่ฟังแต่ไม่ได้ใส่ใจเพราะไม่เห็นว่าจะเกี่ยวกับผมที่ตรงไหนกับการมาไม่มาของอเล็ก ผมมาที่นี่แค่ต้องการฝึกมวย เพื่อใช้ปกป้องตัวเองและคนรอบข้าง แต่ใครจะไปคิดว่าวันใดวันหนึ่งอเล็กดันมีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตแปลกๆของผม

        และในวันที่ผมต้องการเขา เขากลับไม่อยู่

        “งั้นพรุ่งนี้เขาก็คงมา” ผมพูดกับตัวเอง แต่ก็ดังพอที่เกล้าจะได้ยิน เขากระตุกยิ้มเยาะ

        “เขาไม่มาหรอก”

        “หมายความว่าไง” ผมเริ่มจะเหม็นขี้หน้าผู้ชายคนนี้

        “เพราะเขาโทรมาลาหยุดกับลุงชิดเมื่อตะกี้นี่เอง”

        “อะไรนะ” ผมหลุดโวยวาย

        “เขาลาหยุดสามอาทิตย์ เสียใจด้วยนะ นายอาจจะไม่ได้เจอเขาก่อนนายจะกลับไปเรียนที่กรุงเทพ...เฮ้ นายจะไปไหน”

        ผมไม่อยู่ฟังเกล้าพล่ามจนจบ เดินฉับๆออกจากค่ายมวยด้วยความหงุดหงิด ไม่ผิดแน่ๆ อเล็กเป็นมนุษย์กลายร่าง และผมคิดว่าเขาหนีหน้าผม เขาจะต้องรู้ว่าผมจะต้องถามเรื่องนี้จากเขา แต่เขาผิดเองที่มาจุดประกายความสงสัยให้อยากรู้

        ก็ได้ ในเมื่ออเล็กไม่อยู่ให้ผมถาม ผมก็ยังมีอีกคนที่จะให้คำตอบ คนที่สร้างรอยปานต้องให้คำตอบผมได้แน่ อาซาเป็นคนทำ ก็อย่างที่อเล็กบอก ถ้าอยากรู้ ผมก็ต้องไปถามคนที่ทำ

        ขอโทษทีอาซา แต่เรื่องนี้ฉันจะต้องรู้ให้ได้


     


       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 05-11-2014 22:18:18
รู้แล้วนะว่าตอนที่แล้วต้องเลือกกดข้อไหน ฮ่าๆๆๆ
เริ่มสับสนว่าเป็นการเปิดปมปริศนาหรือเป็นการเพิ่มให้งงกันแน่ อยากรู้ต้องติดตามกันแบบชิดขอบเลยนะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม ขอบคุณทุกคอมเม้นที่มีให้กัน รักพวกยูทุกคนเลยยยยย :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-11-2014 22:38:54
ว้าย...พี่ริมาลงให้แล้ว

ขอตัวไปอ่านก่อน

กดบวก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-11-2014 23:02:07
อเล็กแปลกๆนะ

เหมือนไม่ใช่คน

ที่อยากรู้คือ

เมื่อไรโยชิจะกลายร่างเป็นงูได้

เอเดนหายไปไหน

คน คนนี้มีเสน่ห์แปลกๆ

มาแวบๆแต่คนอ่านโหยหา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 05-11-2014 23:35:57
 :katai1: :katai1: :katai1:  หวายๆๆๆ อารายเนี่ย พ่ออเล็กหนีไปแล้ว้ด้วย ว่าแต่อเล๊กเนี่ยตัวไรหว่า  :hao4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 06-11-2014 00:15:53
บวกเป็ดไป +1 55555555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 06-11-2014 05:14:13
ว่าแต่มันคืออะไรล่ะ ชักสงสัยตามโยชิแล้วสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 06-11-2014 05:44:43
เริ่มเครียดตามโยชิแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 06-11-2014 07:16:28
ลึกลับมากก ลุ้นตามจริงๆนะ สงสัยอะไรต้องรู้ให้ได้
ปลอดภัยทั้งคู่นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 06-11-2014 07:25:48
ปริศนามากขึ้นๆ เกาะขอบเวลาทีเพื่อติดตามเลยค่ะ!!
น้องโยมีเรื่องให้สงสัยอีกแล้วววว
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 06-11-2014 07:50:13
 :katai1: ปมเพิ่มมาอีกแล้ววววววววววว
อ่านแล้วเดาไม่ออกเลยว่า เรื่องราวจะเป็นไงต่อไป
อเล็ก มีความเกี่ยวข้องอะไร? คนดีไม่ดี
แง๊  :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 06-11-2014 08:23:12
ดูท่าจะมีเรื่องตามมาแน่ๆ เลย

หวังว่าการไปของ หนูโย จะไม่ใช่ฉนวนเหตุให้เกิดเรื่องหรอกนะ

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 06-11-2014 08:35:39
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นอ่ะ
เดาเรื่องไม่ออกเลย
แต่สนุกมาก ชอบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 06-11-2014 08:40:38
ปมมาอีกแย้ววววววว เกาะขอบรอต่อ

แก้ง่าย ๆ ก้อไม่มันส์สิเนาะ คุคุ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: ปังอุ่น ที่ 06-11-2014 09:30:55
อยากรู้ความหมายของปานที่พี่งูทำ
ริริเพิ่มปมมานะตัวเอง เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจ

 :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-11-2014 10:02:12
ปมมาอีกแล้ววววววว
สรุปรอยปานนี่มันยังไงกันแน่
แต่ติดใจตรงอเล็กเป็นใครนี่แหละ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-11-2014 10:03:38
ปมมาอีกแล้ววววววว
สรุปรอยปานนี่มันยังไงกันแน่
แต่ติดใจตรงอเล็กเป็นใครนี่แหละ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 06-11-2014 18:14:35
นั่นไงๆ ตายแน่ๆงานนี้
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 06-11-2014 19:34:59
อยากรู้จริงๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 06-11-2014 20:47:16
อเล็กอาจจะเป็นอินกหรือมังกรนั่น??  ส่วนอาซาทำไว้เพื่อสะกดร่างงูของโยชิ?
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 06-11-2014 20:51:53
คุณขา...ใครแนะนำให้แต่งแบบนี้คะ...รู้มั๊ย?..มันทำให้อิป้าเครียดไปกับหนูโยจังแล้สนะนี่..
เอาเลยลูกตามไปงัดแงะเอาความจริงให้ได้...เอ๊ย..ไม่ได้ยุนะ แต่อิป้าก็อยากรู้ไง...พนัน
ร้อยเอาสลึง  อีหนูโยจังตามจิกอาซาแน่ ๆ .....
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 07-11-2014 01:36:34
ชอบแนวนี้มาก สนุก
รอติดตามค่ะ ^^
ชอบอ่าา ชอบงู ชอบอาซา กะกะกรี๊ดดดด  :ling1: :ling1: :ling1:

เมื่อไหร่ความจริงจะปรากฏ
เมื่อไหร่เรื่องราวจะถึงจุดพีค โอยยย ตื่นเต้น
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-11-2014 18:45:47
จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 07-11-2014 22:22:40
สมบัติล้ำค่าก้อคือหัวใจไงจ๊ะโยชิ แว่วๆ เหมือนพี่ชายอาซาก้ออยากได้หัวใจโยชิเหมือนกัลนะ
#เดาล้วนๆ #มโนเก่งจ้าาาาาาา  :-[ o13 :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 09-11-2014 19:42:43
น้องโยขี้สงสัยอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-11-2014 21:25:49
มาให้กำลังใจจ้า

เรียนหนักละซิช่วงนี้

เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: AoMSiN555 ที่ 10-11-2014 23:29:25
 :impress2: :impress2: มายังๆ มาต่อนะ เค้ารอยุ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 10-11-2014 23:40:00
อยากอ่านต่อแล้ววว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIX ❁ 5-11-2014[P.36]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 11-11-2014 13:23:56
รอๆๆ รอต่อๆไป :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-11-2014 04:45:21
B.L.O.O.D.L.I.N.E
SEVEN






        เบื้องหน้าผมเป็นมหาวิทยาลัยนานาชาตืชื่อดังกลางเมืองหลวงของประเทศไทย ในที่สุดผมก็ขัดคำสั่งอาซาแล้วกลับมาที่นี่ก่อนที่เขาจะเป็นคนไปรับ

        บอกตรงๆเลยว่าผมทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว และผมคิดว่าผมรู้จักอาซาดีแม้ว่าจะกลับมาเจอกันอีกครั้งในชาตินี้ได้ไม่นาน ผมจะไม่มีทางได้คำตอบจากการโทรถาม ถ้าจะเค้นความจริงจากปากอาซา ผมคิดว่าพูดคุยกันต่อหน้าน่าจะได้เรื่องที่สุด

        ผมสงสัย สับสนและเป็นกังวลว่าจะมีสิ่งไม่ปกติกับตัวผมมากไปกว่าการที่ได้รับรู้ว่าตัวเองเป็นอย่างอาซา ถึงแม้อาซาจะบอกผมว่า ปานนี้เขาเป็นคนทำไว้ตอนที่เขากับผมลึกซึ้งกันครั้งแรกเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว เขาไม่ได้เล่าว่าทำไปเพื่ออะไร และผมก็ไม่เคยคิดสงสัยจนกระทั่งเมื่อวันก่อน

        ก่อนกลับกรุงเทพเขาสั่งหนักสั่งหนา ลงโทษผมที่ดื้อเพื่อเป็นการเตือนปนข่มขู่ ว่าห้ามผมขัดคำสั่งเขาโดยเด็ดขาด แต่จะให้ผมทำยังไงกับความอยากรู้ที่เพิ่มขึ้นทุกวินาที

        ผมกำลังคิดว่า ถ้ามันไม่มีอะไรจริงๆ ปานงูเป็นแค่ปานธรรมดาที่อาซาทำขึ้น ไม่ได้มีอะไรพิเศษ อเล็กจะกุเรื่องขึ้นมาทำไม เขาจะพูดให้ผมคิดมากไปทำไม คำพูดที่เหมือนจะรู้เรื่องทุกอย่างมันยากที่จะเลิกสนใจ กลับกัน ถ้าหากนี้ไม่ใช่ปานธรรมดา ทั้งความหมายและรูปภาพในหนังสือที่ระบุชัดเจน ทำไมอาซาไม่บอกผมตั้งแต่แรก ในเมื่อผมก็รู้เรื่องพวกมนุษย์กลายร่าง และรับรู้แล้วว่าตัวเองเป็นอะไรที่นอกเหนือจากมนุษย์สามัญ

        หรือแท้จริงแล้ว อาซาต้องการจะปิดบังผม

        มันบ้ามากกว่าที่ผมคิด

        ผมเลือกที่จะกลับไปที่หอพักของตัวเองก่อนไปหาอาซา ก่อนมาพ่อกับพี่ยอร์ชก็ซักไซ้ใหญ่โตว่าทำไมผมถึงขอกลับกรุงเทพเร็วกว่ากำหนด เพราะเหลือเวลาอีกตั้งสิบวันก่อนเปิดเทอม แต่ผมทนรออยู่เฉยๆต่อไปไม่ไหว กว่าจะหาข้ออ้างของการกลับมามอกะทันหันให้พ่อกับพี่ยอร์ชพาผมกลับมาที่แอชยูก็ต้องโกหกคำโตไปหลายคำ ในทั้งคู่ยอมให้ผมกลับก่อนเวลาแต่โดยดี

        ห้องพักของผมอยู่ในสภาพเดียวกับตอนที่กลับบ้าน แสดงว่าอาซาไม่ได้กลับมาที่ห้อง เขาคงจะพักอยู่ที่บ้านหลังแอชยู ผมวางกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ที่โซฟา แล้วทิ้งตัวนั่งลง ขากลับผมนั่งเครื่องบินกลับมาเพราะไม่อยากให้พ่อหรือพี่ยอร์ชขับรถมาส่งผมถึงที่นี่ และการนั่งเครื่องบินก็เร็วกว่าขับรถหลายเท่า แค่ชั่วโมงกว่าๆผมก็มาถึงที่หมาย

        ไม่รู้หรอกว่าอาซาจะรู้หรือยังว่าผมขัดคำสั่งเขาแล้วกลับมาที่นี่ ทุกฝีก้าวของผมไม่เคยรอดหูรอดตาของอาซา ที่จริงผมก็หวั่นๆอยู่เหมือนกันว่าจะต้องโดนอาซาโกรธหนักแน่ๆ แต่ถ้าให้ทนรออีกสิบวันผมก็ทนไม่ไหว ถ้าไม่รู้ให้ได้เร็วๆนี้ ผมจะต้องบ้าตายเพราะความเครียดรุมเร้า

        ก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ ยังไม่เที่ยงวัน ไม่รู้ว่าอาซาจะอยู่ที่บ้านพักของเขาหรือออกไปทำธุระจัดการปัญหายุ่งยากที่ไหนหรือเปล่า ผมไม่กล้าโทรไปหา ถ้าจะโดนดุโดนต่อว่าก็ขอให้เป็นต่อหน้าทีเดียวดีกว่า

        จะมานึกหวั่นอะไรตอนนี้โยชิ ลุยไปเลย! นายมีสิทธิ์รู้ความจริงเกี่ยวกับนายทุกเรื่อง ก็แค่อาซาที่อาจจะดุไปบ้าง ไม่มีอะไรต้องกลัวเลยสักนิด

        หรือเปล่า?

        ผมเลือกที่จะไปหาอาซาที่บ้านพักในทันที แม้ร่างกายจะเหนื่อยล้า บริเวณโดยรอบแอชยูเงียบเชียบ มีผู้คนอยู่ประปราย อาจเป็นเพราะยังไม่เปิดเทอม นักศึกษาโดยส่วนมากยังไม่กลับจากบ้าน

        ลมหนาวพัดแรงระลอกหนึ่งขณะที่ผมเดินไปตามทางเดิน ห่อไหล่เข้าหากันเพื่อหลบลมหนาว แต่มันก็แทบไม่ช่วยอะไร กลุ่มชายหญิงจำนวนห้าคนที่นั่งเล่นบนสนามหน้าใกล้ทางเดินที่ผมจะต้องเดินผ่านมีแววตาไม่ค่อยเป็นมิตร ผมเลี่ยงที่จะเดินเข้าไปใกล้ โดยการเดินอ้อมโถงทางเดินไปยังอีกฝั่ง แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายตรงไปยังป่าหลังมหาวิทยาลัย

        คนเหล่านั้นน่าจะเป็นมนุษย์กลายร่าง ผมก็แค่สังเกตเอาจากแววตาที่ทอประกายนักล่ามากกว่ามนุษย์ปกติ ที่เห็นได้บ่อยก็จากอาซานั่นแหละ เขาเคยบอกผมว่า พวกมือใหม่มักมีอคติกับพวกมนุษย์ธรรมดาจนถึงเข้าขั้นเกลียดชัง มากกว่าที่จะมีปัญหากับพวกเดียวกับหรือพวกอื่น

        ประตูทางเข้าบ้านพักของอาซาปิดสนิท ผมเริ่มตระหนักถึงปัญหาการเข้าไปข้างใน ทุกครั้งที่เคยเข้าออก ถ้าประตูไม่เปิดทิ้งไว้อย่างครั้งแรก ก็จะมีคนพาเข้าไปเสมอ ไม่ค่อยได้เข้าออกตามลำพัง ประตูนี้ไม่มีกุญแจไขเข้าออก ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันใช้ระบบอะไร รู้แค่ว่า ผมไม่สามารถเปิดมันได้ด้วยการผลัก

        “แย่ชะมัด” ผมมองลอดช่องว่างรั้วเหล็กเข้าไปข้างใน เผื่อจะเห็นฟรินน์ในร่างคนหรืองูเลื้อยเล่นตรวจตราความเรียบร้อยในบ้านผ่านมา แต่เท่าที่เห็น มดสักตัวยังไม่มีเดินผ่าน

        เงยหน้าสูงขึ้นอีกหน่อยจะเจอกับแผ่นเหล็กสี่เหลี่ยมที่เชื่อมติดบนประตูทางเข้า ประทับตราสัญลักษณ์กลุ่มของอาซา งูที่แสนดุร้ายอ้าปากกว้างโชว์เขี้ยวแหลม

        หรือว่า...

        ผมยกมือขึ้นสูงเสมอตราสัญลักษณ์ ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ ที่ผ่านมาผมไม่เคยสังเกต แต่ถ้าจำไม่ผิด เหมือนผมจะจำภาพได้ลางๆว่าอาซาและพวกเพื่อนของเขาจะเปิดประตูด้วยการแตะมือบนตราประจำกลุ่ม

        เรียวมือที่เล็กกว่าแผ่นเหล็กรูปงูอยู่มากสั่นไหวเล็กน้อย ค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้ที่ละนิดๆ

        ผมอาจจะเปิดได้ เพราะผมก็เป็นเหมือนพวกเขา

        เป็นนากินี

        หมับ!

        “เฮ้ย! อื้อ!!” ผมสะดุ้งโหยงกับมือใครก็ไม่รู้ที่วางหนักบนบ่า รีบหันหลังไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็พ่นลมหายใจออกจมูกดังพรืด “จูเลียต! ให้ตายเถอะ เธอเกือบทำฉันหัวใจวาย”

        “ขวัญอ่อนเกินไปหน่อยนะนาย”

        “เธอมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงต่างหาก เป็นใครก็ตกใจ” ยกมือลูบอกเรียกขวัญ หัวใจยังเต้นแรงอยู่เลย

        “นายมาทำอะไรที่นี่” จูเลียตทำหน้าหนักใจ หรือมองอีกทีเธอกำลังเหนื่อยหน่ายผม

        “มาหาอาซา” ผมตอบอย่างจริงจัง

        “เท่าที่ฉันรู้มา อาซาห้ามนายมาที่นี่เองไม่ใช่เหรอไง” เธอยกมือกอดอก พักขาข้างหนึ่ง ท่าทีสบายไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ก็อย่างว่า เธอจะเดือดร้อนไปทำไม ในเมื่อคนที่จะโดนลงโทษคือผมไม่ใช่จูเลียต แต่ไหนๆก็มาแล้ว ผมไม่คิดจะหันหลังกลับ

        “ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเข้าเลยต้องมา”

        “นายโดนดีแน่ๆ” รอบยิ้มเหมือนสะใจมากกว่าจะเห็นใจ ผมชินเสียแล้วกับการแสดงออกของจูเลียตที่มีต่อผม

        “ไม่บอกก็รู้”

        “ดื้อรั้นแบบนี้ระวังจะไม่ตายดี” เธอยกมุมปากขึ้นข้างเดียว

        “ขอบใจที่เตือน” ผมยียวนเธอทั้งๆที่ก็เครียดแทบบ้า

        “บอกไว้เลยว่าอาซาเอานายตายแน่”

        ผมเบ้หน้าเซ็ง เหอะ ก็คงจะอย่างนั้น

        “แล้วเมื่อกี้นายจะทำอะไร” จูเลียตตัดบทต่อล้อต่อเถียง เอนหน้ามองไปทางข้างหลังผม ผมหันมองตาม

        “อ่อ” ผมร้องครางในคอเบาๆ “จะลองเปิดประตูน่ะ”

        จูเลียตทำหน้างง “แล้วทำไมไม่เปิดละ เปิดซิ”

        เธอพยักหน้าให้ผมทำ ก็ว่าจะเปิดอยู่ถ้าเธอไม่เข้ามาขัดจังหวะให้ผมตกใจเสียก่อนอ่ะนะ ผมหันกลับที่ประตูอีกครั้ว เอี้ยวมองจูเลียตที่ยืนอยู่ด้านหลัง

        “เอามือแตะบนตรานี่ใช่ไหม” ผมถาม เธอพยักหน้าเนือยๆ เพิ่งมองเห็นร่องรอยความเหนื่อยล้า พวกเขาคงเหนื่อยกับปัญหาที่เกิดขึ้นมาก เพราะงั้นผมยิ่งรู้สึกว่าผมควรต้องช่วยเหลือพวกเขา ถ้าหากว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน

        ทันทีที่ผมแตะฝ่ามือลงบนแผ่นเหล็ก ประตูก็ปลดล็อกเสียงดังกริ๊ก แล้วอ้าออกเล็กน้อยให้ผมดันเปิดกว้าง ผมตื่นเต้นที่สามารถทำเช่นนี้ได้ ย้ำชัดว่าผมก็เป็นนากินีคนหนึ่ง

        มันก็รู้สึกดีนะที่ทำอะไรแบบนี้ได้ด้วย

        จูเลียตเดินนำหน้าเข้าบ้าน เราไม่ได้คุยกันอีก ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว และอีกอย่าง เธอคงเหนื่อยเกินกว่าที่จะหาเรื่องมาทะเลาะถกเถียงกับผม

        เดินฝ่าป่ามาจนถึงตัวบ้านได้ จูเลียตก็ทิ้งผมให้ยืนเคว้งคว้างกลางบ้านอยู่คนเดียว ส่วนเธอแยกตัวขึ้นห้องไปนอน แล้วทีนี้ผมจะเอายังไงต่อดี บ้านเงียบสนิทคล้ายไม่มีคนอยู่ ผมหันซ้ายหันขวา

        “โยชิ” เสียงหวานเรียก

        “ปารีส เอ่อ สวัสดี” ผมทักทายเธอ ปารีสเดินเข้ามาหาผม ในมือเธอมีโรสแมรี่ที่ปลูกไว้หลังบ้านติดมือมาด้วย เธอคงออกไปเก็บมันมาเพื่อทำอาหาร

        “สวัสดี” เธอยิ้มอบอุ่นเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะทำหน้าเครียด ผมยิ้มเก้อ “อาซายังไม่รู้ใช่ไหมว่าเธอมา”

        การมาของผมคงเป็นเรื่องเลวร้ายมาก

        “ยัง”

        “เฮ้อ” ปารีสถอนหายใจ

        “แต่ฉันมีเรื่องจำเป็นมากจริงๆที่ต้องมา”

        “เดาว่ามากพอให้เธอกระตุ้นต่อมอาละวาดของเจ้างูดำนั่น” ก็ฟังดูดีนะ

        ผมยิ้มแหย “เขาอยู่ไหนเหรอ”

        “อยู่บนห้องนะ เพิ่งกลับมาเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วเอง”

        “อ่อ ขอบใจนะ ฉันขอตัวก่อน”

        “ระวังตัวด้วยละ” ปารีสมองผมด้วยแววตาเป็นห่วง ผมยิ้มปลุกขวัญและกำลังใจ แล้วก็เดินขึ้นไปที่ห้องของอาซา ทุกอย่างในบ้านเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมเลิกมองสำรวจบ้านเมื่อมาถึงหน้าห้องที่คุ้นเคย หมดเวลาทำใจ

        ผมลองบิดลูกบิดดู ปรากฏว่าไม่ได้ล็อค ผมเปิดประตูออกช้าๆ ไม่ให้เกิดเสียงรบกวนคนที่นอนอยู่ด้านใน ผมแทรกตัวผ่านประตู ยืนค้างเติ้งอยู่กับที่ มือสองข้างที่อ้อมจับลูกบิดทางด้านหลังอออกแรงดันปิดประตูช้าๆ ดวงตาจับจ้องคนที่นอนทอดกายไร้เสื้อปกปิดท่อนบนอยู่บนเตียงหลังโต

        แกร๊ก

        “ฟู่”

        ใจเย็นไว้ที่รัก ใจเย็น

        ผมข่มความกลัว ย่องให้เกิดเสียงเบาที่สุดไปที่โซฟาริมหน้าต่าง ตายังคงมองอาซาว่าเขารู้สึกตัวหรือเปล่า ทุกอย่างในห้องยังคงนิ่งเงียบ ผมทิ้งตัวนั่งลงกับโซฟา รอให้เขานอนให้เต็มอิ่มก่อนแล้วค่อยคุย ถ้าอาซานอนไม่เต็มอิ่ม เขาจะอารมณ์เสียง่ายกว่าปกติสามถึงสี่เท่า

        ผมละสายตาจากอาซา มองสำรวจห้องอย่างไม่มีอะไรทำ เงียบเกินไป ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของคนนอนหลับ

        “...!!!”

        เวรแล้ว อาซาไม่ได้หลับ

        “ไง” เขาทักผมทั้งที่ยังหลับตา ผมฝืดคอจนกลืนน้ำลายลำบาก

        “...” ผมถึงกับพูดไม่ออก เม้มปากแน่น จนกระทั่งอาซาลืมลุกขึ้นนั่งจ้องผมตาดุ

        “คำพูดของฉันไม่มีความหมายสินะ” เสียงเขาน่ากลัวเกินไป พาลเอาใจร่วงไปอยู่ที่ปลายเท้า

        ผมรู้ว่าเขาโกรธมาก แต่ต่อให้รู้ร่วงหน้าว่ามันจะเป็นแบบนี้ ผมก็ยังยืนยันคำเดิมที่จะมา หลายๆอย่างไม่เป็นปกติ เอเดนไม่รู้จะมาไม้ไหน คนตายที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน และอยู่ๆผมก็เจอกับอเล็ก เขาบอกทำนองว่ารอยปานผมมีอะไรที่พิเศษ และหนังสือเล่มนั้นก็เขียนไว้ในทำนองเดียวกัน และเมื่อนึกย้อนไปถึงฝันร้าย ผมก็แทบไม่ต้องคิดอะไรอีก

        ถ้าหากว่ารอยปานจะเป็นตัวไขปริศนาให้ผมเลิกกลัวงูแล้วกลับไปเป็นนากินีเต็มตัว อะไรๆคงจะดีไม่น้อย ผมจะได้ยืนต่อสู้เคียงข้างอาซาได้อย่างเต็มภาคภูมิ

        ตอนนี้ให้ผมเป็นงูเป็นอะไรก็ได้ ที่สามารถปกป้องดูแลคนที่รักไม่ว่าจะเป็นพ่อ พี่ยอร์ช อาซา และเพื่อนรอบข้างคนอื่นๆ ผมก็ยินดีอย่างยิ่ง

        ผมยังจำได้ติดตา นิกกี้ที่ตายให้อ้อมอกผมโดยที่ผมช่วยอะไรเธอไม่ได้ เธอต้องตายไปเพราะเรื่องของเรา การสูญเสียเพื่อนที่แสนดีอย่างไม่มีวันหวนกลับตลอดกาล เป็นบทเรียนราคาแพงที่ผมไม่ต้องการให้เกิดกับใครซ้ำสอง

        ครั้งเดียวก็เกินพอ

        “ฉันรู้ว่านายไม่พอใจ แต่ฉันมีเรื่องจำเป็นจริงๆ ฉันร้อนใจมากจึงต้องรีบมาหานายที่นี่” ผมทำใจกล้าลุกไปหาอาซาบนเตียง แต่ทำได้แค่นั่งลงเคียงข้าง ไม่กล้าเข้าใกล้แนบชิด เขากำลังโกรธจัด ดูได้จากแววตาแข็งกร้าวและเย็ยชาดุจน้ำแข็ง

        เขาไม่พูดอะไร ผมจึงพูดต่อ “ตอนที่นายกลับมา ฉันก็ทำตามที่นายสั่งนะ ไม่ได้คิดจะมาที่นี่เอง”

        “แล้วมาทำไม” เสียงต่ำของเขาเย็นชาจนน่าใจหาย ความเดือดดานปรากฏอยู่ในดวงตาสีดำสนิทของเขา ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง

        “อาซา ฟังฉันหน่อย อย่าเพิ่งโมโห ขอร้องล่ะ” เสียงผมสั่น แววตาคงฉายชัดทุกความอัดอั้นที่ล้นทะลักในอก มีแต่ความกังวล ไม่เข้าใจ  เหมือนคนตาบอด มันช่างทรมาน

        “พูดมา” ใบหน้าของเขาแดงก่ำ สันกรามเครียดขึง

        ผมหลุบตาต่ำก่อนเล่า มือประสานกันแน่น “พอนายกลับมาที่นี่ ฉันก็ไปลงเรียนมวยไทย เพื่อไว้ป้องกันตัวเอง”

        อาซาตวัดสายตามองผมเขม็ง ผมยิ้มแห้งใส่ “แต่มีคนๆหนึ่งในค่ายมวยบอกกับฉันว่า ปานบนหน้าอกที่นายทำไว้ มันไม่ปกติ”

        “ใครบอกนาย” เขาถามรวดเร็ว ผมลังเลว่าจะบอกดีไหม แต่พอสบดวงตาวาวโรจน์คุกรุ่นแล้วก็ตัดสินใจได้ว่าผมควรบอกอาซาทุกอย่าง เพื่อความปลอดภัยของชีวิต

        “ครูสอนมวย เขาชื่ออเล็ก”

        “...” อาซานิ่งเงียบ

        “ปานของฉัน ที่นายทำไว้ มันมีอะไรมากกว่าที่ฉันรู้หรือเปล่า”

        “...” เขาเงียบไป ไม่นานแต่ก็ไม่ปกติ ก่อนที่เสียงแหบสั่นจะตอบกลับมา “ไม่มีอะไร”

        แต่ผมไม่คิดเช่นนั้น “แน่ใจนะอาซา ฉันเดาว่ามันไม่ใช่รอยปานธรรมดาที่นายสร้างเอาไว้เป็นที่ระลึก บอกฉันได้ไหม ฉันคิดว่าฉันควรต้องรู้”

        “มันไม่มีอะไร นายต้องเชื่อฉัน” คำพูดช่างคลุมเครือ ไร้ความกระจ่าง

        ผมส่ายหน้า “นายก็รู้ว่าฉันไม่เชื่อ”

        “ฉันเป็นคนทำ นายจะรู้ดีกว่าฉันได้ไง” เราเริ่มจะทะเลาะกันอีกรอบ ฟังจากน้ำเสียงเข้มต่ำแฝงไปด้วยความดุดันก็พอจะรู้ว่าผมไปกวนอารมณ์เขาเข้าให้อย่างจัง

        “ก็เพราะว่าฉันอ่านเจอในหนังสือ เกี่ยวกับความลับของปาน และมันมีรอยปานรูปอยู่ที่อยู่บนหน้าอกของฉันอยู่ในนั้น รอยปานที่นายทำไว้ คนเขียนวาดเอาไว้ในหนังสือพร้อมกับบอกว่า มันเป็นรอยปานต้องห้าม และยังเขียนเอาไว้ว่า สมบัติล้ำค่า ฝังติดตรึงตราใต้รอยจารึก มันหมายความว่ายังไงกันแน่” ผมคาดคั้นเอาคำตอบ อาซาเงียบไปอีกหนก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจ

        “อย่าไปสนใจมันโยชิ ไม่มีอะไรทั้งนั้น เลิกอ่านหนังสือบ้าบอ เลิกฟังใครก็ตาม เชื่อแค่ฉัน เท่านั้นที่นายควรต้องทำ” เขากัดฟัน พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะพูดแบบไม่ใส่อารมณ์หรือตะคอก

        “นายกำลังสั่งฉัน?” ผมย้อนถาม เขาหน้าบึ้งขึ้นมาทันควัน

        “ใช่ ฉันสั่ง และนายต้องทำตาม”

        “ทำไม มันต้องมีอะไรแน่ๆ นายบ่ายเบี่ยง มันร้ายแรงมากนักเหรอ” เราสองคนจ้องหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตาย อารมณ์ผมก็เริ่มไม่คงที่แล้วเหมือนกัน

        “ทำไมต้องมากเรื่องด้วย”

        นี่เขา...

        “นายไม่รู้หรอกว่าฉันพยายามปกป้องนายมากขนาดไหน ในขณะที่นายพยายามพุ่งเข้าหาอันตราย”

        ผมเบ้ปาก น้ำตาจะไหลลงเสียให้ได้ ผมเงียบ เป็นนัยยะว่าผมกำลังโกรธ ที่เขาไม่พูดความจริง ยิ่งเขาไมบอกผมก็ยิ่งอยากรู้ ยิ่งปิดบัง และผมไม่พอใจเอามากๆ แต่เพียงประโยคต่อมาที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปากสีซีด ทำเอาความโกรธทั้งหมดพลันมลายหายไป





        “You'll never love yourself half as much as I love you” น้ำเสียงของเขาเศร้าและเจ็บปวด





        และสิ่งที่ผมตอบกลับไปก็คือ






        “Because now I love you more than myself, more and more” ผมถ่ายทอดทุกความรู้สึกผ่านดวงตาให้เขาได้รับรู้และเข้าใจ



        สุดท้ายผมก็ไม่ได้คำตอบของคำถามที่ผมต้องการรู้ อาซาเดินออกไปจากห้อง เขาสั่งให้ผมนอนพักผ่อน ตื่นมาแล้วค่อยคุยกันอีกที ผมก็ได้แต่นั่งนิ่ง ไม่มีอะไรกระจ่าง มีแต่ทำให้สงสัยจนเกิดความทรมาน จิตใจผมจะสงบได้ยังไง ถ้าสมองยังเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีใครคิดจะให้คำตอบ ผมเริ่มปวดหัวเพราะอาการเครียด

        ยังไงผมก็ต้องรู้ให้ได้ว่าปานนี้มีความหมายว่ายังไง

        ถ้าอาซาไม่ยอมบอก ผมก็จะไปถามเอาจากคนอื่น ผมคิดว่าน่าจะมีอีกคนที่ช่วยผมได้

        เจ้าของร้านขายหนังสือ


        วันต่อมาผมแอบออกจากบ้านของอาซาตอนที่พวกเขาออกไปข้างนอกกัน เหลือแค่จูเลียตกับปารีสอยู่บ้านกันสองคน ผมบอกกับพวกเธอว่าจะออกไปหาเติร์ด พวกเธอก็เลยไม่ได้ถามอะไร

        เมื่อวานผมทำเป็นไม่ถามไม่ซักไซ้เรื่องปานต่อ อาซาเหมือนจะกังวลว่าผมจะถามเขาเช่นกัน เขาพยายามทำตัวให้ยุ่ง แต่เขาจะรู้ไหมว่ามันยิ่งทำให้ผมสงสัยหนักว่าอะไรที่เขากำลังปิดบัง

        ผมทำเวลาในการเดินทางกลับหอเพื่อไปเอาหนังสือแล้วมาที่ร้านหนังสือให้เร็วที่สุด ก่อนที่อาซาจะกลับบ้าน ตรอกแคบนี้เคยเกิดเรื่องราวการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวระหว่างผม จูเลียตและพวกแวร์วูฟ ผมเผลอก้มมองที่ข้อมือ ไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลือ แต่ผมยังคงจำความเจ็บปวดยามที่กงเล็บแหลมคมฝังลงบนเนื้อ

        แค่คิดก็ขนลุกซู่

        ผมหยิบน้ำหอมออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างแล้วพรมฉีดลงบนตัวอีกครั้งเพื่อกลบกลิ่นอาซาที่คิดตัว เมื่อแน่ใจแล้วว่าตัวผมมีแต่กลิ่นน้ำหอมคล้ายกับว่าใช้อาบแทนฉีด ก็รีบเดินจ้ำไปที่ร้านหนังสือเก่าอย่างรวดเร็ว ใครจะรู้ว่าพวกเจ้าตัวประหลาดจะโผล่มาตอนไหน คราวนี้ไม่มีจูเลียตอยู่ด้วย ผมคงสู้พวกมันไม่ไหว

        กริ๊ง~

        เสียงกระดิ่งดังเฉกเช่นครั้งแรก และภายในร้ายก็ยังคงเงียบราวป่าช้า ผมมองหาคุณลุงเจ้าของร้าน บนเคาน์เตอร์ไม้ยาวติดกับประตูร้านมีหนังสือวางซ้อนทับอยู่หลายกอง สูงเกือบเท่าหัวผม ผมเขย่งปลายเท้ามองผ่านหนังสือก่อนจะสะดุ้งตกใจก้าวถอยหลังเมื่ออยู่ๆคุณลุงก็โผล่พรวดขึ้นมา

        “อ้าว เธอนี่เองหรือพ่อหนุ่ม คราวนี้อยากได้หนังสืออะไรละ” คุณลุงยิ้มอย่างเป็นมิตร

        “เปล่าครับ คือว่า ผมมีเรื่องจะถาม ถ้าคุณลุงพอจะทราบเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้” ผมล้วงหนังสือ Mysterious Birthmark ใส่ให้คุณลุง ร่างท้วมสูงเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ นำไปที่โต๊ะๆเล็กๆติดกระจกมองเห็นถนนหน้าร้าน ผมนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม

        “อ่านตรงไหนไม่เข้าใจเหรอ” มือเหี่ยวย่นจับแว่นที่ห้อยที่คอขึ้นสวม เหลือบตามองผมก่อนจะก้มมองหนังสือ มือพลิกเปิดอ่าน

        “คุณลุงเคยอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วใช่ไหมครับ” ผมเริ่มต้นถาม

        “ใช่ ฉันอ่านตั้งแต่ยังเด็ก จดจำได้เกือบทุกบรรทัด ทุกตัวอักษร ฉันถึงได้ขายให้เธอ เพราะไม่มีความจำเป็นต้องอ่านมันอีกแล้ว”

        ผมยิ้มกว้าง รู้สึกมีความหวัง “ดีเลยครับ คือผมอยากรู้เกี่ยวกับเนื้อหาในหน้าสุดท้าย”

        คุณลุงเงยหน้ามองผมอีกครั้ง สายตาที่คุณลุงมองผมเปลี่ยนแปลกไป “หน้าสุดท้ายไม่มีเนื้อหาเขียนเอาไว้”

        “ผมทราบครับ แต่ว่า ผมอยากรู้ว่าปานต้องห้ามสองแบบที่อยู่ในหนังสือมันมีความหมายว่ายังไง คนที่เขียนไม่ได้บอกอะไรเพียงแค่...”

        “สมบัติล้ำค่า ฝังติดตรึงตราใต้รอยจารึก” คุณลุงเอ่ยแทนผม

        “ใช่ครับ” ผมพยักหน้า

        คุณลุงถอดแว่นออก ปิดหนังสือแล้วส่งคืนให้ผม “ขอโทษด้วยทีฉันต้องบอกเธอว่า ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเนื้อหาในหน้าสุดท้ายทั้งนั้น”

        “แต่เมื่อกี้คุณลุงบอกผมว่า คุณลุงอ่านเล่มนี้จนจำได้” ผมจับสังเกตสีหน้าของคุณลุง ถ้าหากไม่รู้ ก็ไม่น่าจะแสดงแววตาตกใจให้เห็น

        “ใช่ฉันพูด แต่เธอก็รู้ว่าหน้าสุดท้ายมันไม่มีอะไรเขียนไว้ ฉันว่าเธอไม่ต้องอยากรู้หรอก เว้นแต่ว่าเธอจะมีปานต้องห้ามบนตัว”

        “เปล่าครับ ไม่มี” ไม่รู้ทำไมผมถึงรีบปฏิเสธ คือผมไม่รู้ว่าผมควรบอกใครต่อใครไหมว่ามีรอบปานรูปงูต้องห้ามอยู่บนตัว

        “ถ้างั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใส่ใจ ฉันยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก ฉันขอตัวก่อน”




.....................
        หึหึ มาลงตอนนี้ไม่เรียกว่าดึกละเช้าเลยล่ะ บอกทีว่าการนอนยังจำเป็นอยู่ไหม
        ตอนหน้าจะเป็นพาร์ทของอาซา ทีนี้จะได้รู้กันล่ะว่าปานบนหน้าอกหนูโยชิหมายความว่ายังไง แล้วทำไมอาซาถึงไม่ยอมบอกให้โยชิรู้
        ที่จริงแต่งช่วงตอนที่เจ็ดแปดเก้านี่แบบเล่นเอาเครียดมากอยู่ เพราะมันเหมือนจะไขปริศนาให้กระจ่าง แต่ก็ไม่ได้เฉลย เลยกลายเหมือนดูยืดเยื้อ (หรือคิดไปเอง)  คือจุดแก้ปมมันมีช่วงของมันอยู่ ซึ่งยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าที่วางพล็อตไว้แบบนี้มันโอเคไหม กว่าจะเอาออกมาได้ก็แก้แล้วแก้อีก ตั้งแต่ตอนที่แล้วละ เขียนลบเขียนลบอยู่สี่ห้ารอบได้
        ที่จริงก็ยังลังเลที่จะเอาตอนนี้มาลง เพราะรู้สึกว่ามันยังไม่โอเคเท่าไหร่ ทั้งๆที่ก็ร่างพล็อตไว้แบบนี้ แก้ยังไงมันก็ได้แบบนี้ เลยคิดว่าเอามาลงให้คนอ่านๆก่อน แล้วก็แต่ต่อไปเรื่อยๆ บางทีถ้าพ้นจุดนี้ไปได้ อาจจะมองเห็นอะไรมากขึ้น ไม่งั้นก็ไม่ต้องไปไหนพอดี ติดมันอยู่แค่อีสองสามตอนนี้แหละ
        ฮุ่ยๆ การเขียนนิยายแฟนตาซีนี่มันยากจริงๆ ก็ได้แต่พยายามเพื่อนคนอ่านของเราต่อไป
        ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ ริริอ่านแล้วมีกำลังใจ ยิ่งมีคนทวงยิ่งอยากแต่งต่อเร็วๆ ตอนหน้าจะมาลงให้เร็วกว่านี้นะคะ ขอแต่งตอนที่ 10 ให้เสร็จก่อนแล้วกัน
        เลิฟยู จูฟฟฟ  :mew1:


       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 14-11-2014 06:53:41
ปานนี่ต้องมีอะไรแน่ๆๆๆๆๆๆ
ชักจะสงสัยมากขึ้นทุกทีๆ
รออาซามาเฉลยยยยยน้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 14-11-2014 07:36:26
มันแปลกๆนะ อาซา
ห่วงมาก แต่ไม่บอกอะไรเลยอ่ะ
มันก้อเหมือน ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ นั่นล่ะ
สุดท้ายโย คนที่เราเปนห่วง ก้อวิ่งเจ้าอันตรายเพร่ะความไม่รู้ อยู่ดีอ่ะ
ถ้าเป็นห่วงกันจิงๆ มันก้อต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผลไหม ดีกว่ามาสั่งๆๆให้ทำตาม มันไม่ได้ผลหรอก
เพราะเปนคนอ่าน คนอ่านก้อไม่ทำตามค่ะ -_-^^
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-11-2014 07:38:04
สงสารโยชิอ่ะ
สรุปรูปปานนั่นมันมีความหมายว่าอะไรกันแน่
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-11-2014 07:54:32
ลุ้นต่อไป รออาซามาบอกกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 14-11-2014 08:48:15
ยิ่งไม่บอกก็ยิ่งสงสัยหนัก กลัวโยชิจะเจอคนไม่ดีเข้า
มันร้ายแรงมากเหรอ?ถึงบอกไม่ได้เลย
สงสัยมากๆๆๆๆ

ปล. เป็นกำลังใจให้คนเต่งนะ สู้ๆ :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 14-11-2014 09:00:40
 :z3: ลุ้นมากๆๆๆ>////< ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 14-11-2014 09:12:08
อาซามาเฉลยเร็วๆน้า
ข้องใจกะปานนี้มากอ่ะ
โยชิน้อยน่าสงสารจริงๆ
ถามใครก็ไม่มีใครบอกเลยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 14-11-2014 09:24:23
ปานมีความลับอะไรกันแน่นะ ทำไมอาซาถึงไม่ยอมบอก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 14-11-2014 11:29:56
สงสัยว่าทำไม อาซา ถึงไม่บอก หนูโย ไปว่าปานนั้นมีความหมายว่าอะไร

ปิดบังอยู่แบบนี้แล้วจะได้อะไรขึ้นมานะ

หน่วงจิตดีจัง

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 14-11-2014 12:10:12
อยากเห็นโยชิกลายร่างเร็วๆจัง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 14-11-2014 13:13:45
รออ่าน พร้อมแอบไขปมในใจ...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 14-11-2014 14:41:10
 :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 14-11-2014 18:13:40
คิดว่าอาซาคงมีเหตุผลแน่ๆ แต่อาจจะเป็นเหตุผลที่ใหญ่ถึงบอกโยชิไม่ได้ งืมๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-11-2014 20:32:08
พี่ริมาแล้ว

ดีใจเดี๋ยวขอตัวไปอ่านก่อนจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-11-2014 21:44:02
ปานมันต้องมีอะไรแน่ๆ

อาจเป็นปานที่สะกดโยชิไม่ให้กลายร่างเป็นงูไหมเอ่ย

เดาๆไปก่อน

รอๆพาร์ทของอาซาจ้า

รออย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว

เป็นกำลังใจและติดตามเสมอจ้ากด+
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 15-11-2014 14:33:01
หนูโยจัง...ทำไงจะได้รู้ความจริง......
มาอิป้าจะช่วยไขความลับให้.....แต่ต้องไป
ขออนุญาตท่านอาซสก่อนน๊าาาา...หุหุ...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-11-2014 18:59:40
อาซาบอกเหอะนะ ไม่งั้นโยชิอาจจะมีอันตรายก้อได้
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-11-2014 19:08:08
มาให้กำลังใจจ้า

แล้วจะมาอีกตอนเมื่อไร

แบบว่าอยากอ่านมากๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 15-11-2014 21:22:24
โธ่ หนูโยชิที่น่าสงสาร พี่ยังอยทกรู้เลยว่าปานนั่นมันมีความหมายว่ายังไง   :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 16-11-2014 23:03:14
มาให้กำลังใจจ้า

แล้วจะมาอีกตอนเมื่อไร

แบบว่าอยากอ่านมากๆ
วันอังคารอาจจะมานะตัวเอง รออีกนิดๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVEN ❁ 14-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 18-11-2014 09:09:51
 :z13:
รับทราบ :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-11-2014 03:04:21
B.L.O.O.D.L.I.N.E
EIGHT





        ใบหน้าของชายหนุ่มวัยรุ่นผู้เคราะห์ร้ายเกร็งขึงอย่างทรมาน ดวงตาเบิกกว้างแทบถลน แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไอสีขาวขุ่นระเหยออกจากร่างกายที่เริ่มกลายเป็นสีเทาเข้มอย่างรวดเร็ว ผิวกายและเสื้อผ้าแปลเปลี่ยนจากความอ่อนนุ่มเป็นแข็งกระด้าง และในชั่วพริบตาเดียว ร่างที่เคยมีเลือดเนื้อก็กลายเป็นรูปปั้นหินสลัก ล้มลงกระแทกพื้นเสียงดังสนั่นซอยแคบ

        ตัวการก่อเหตุกลายร่างกลับเป็นคนก่อนจะยกร่างหินผ่านความมืดอย่างเงียบเชียบ นำไปทิ้งไว้หน้ามหาวิทยาลัยนานาชาติชื่อดังใจกลางกรุง ไม่มีผู้ใดรู้ ไม่มีผู้ใดเห็น นอกจาก...

        “นี่ก็เป็นรายที่สิบหกแล้ว” เสียงก้องใสบอกกับเพื่อนคนสนิท

        “ยังไม่พอ ต้องมากกว่านี้จนกว่ามันจะถูกไล่ออกจากสถาบัน ไอ้อำนาจของผู้ใดคุ้มครอง” เอเดนมองไปยังจุดเกิดเหตุนิ่งๆ ไม่มีความรู้สึกผิดใดๆทั้งสิ้นกับการกำจัดมนุษย์เยี่ยงมดปลวก

        “จะอยู่รอดูไหมว่าใครจะมาเจอศพหิน” อาซาเริ่มไหวตัวทัน ตามเก็บซากก่อนที่จะถึงหูคนในสถาบันเสมอ

        “ช่างมัน ใครจะเจอก็ช่าง แต่ยังไงคนที่ตายก็คือคนที่ตาย ถึงไม่เจอศพยังไงก็เป็นข่าวอยู่ดี”

        “แล้วกับนักฆ่า จะให้เอายังไง” ชาร์ลถาม ยกมือขึ้นแตะท้องแขนอีกฝ่ายแล้วเดินกลับไปที่รถยนต์ใหม่เอี่ยมป้ายแดงสีดำด้านที่จอดอยู่ไม่ไกล เอเดนเหลือบตามองชาร์ลแล้วตอบ

        “ฆ่าทิ้งซะ แล้วหาคนใหม่” เพื่อตัดปัญญาในภายหน้า การกำจัดผู้รู้เห็นเสียแต่เนิ่นๆเป็นทางออกที่เอเดนเลือก

        “ต้องเสียพวกฝีมือดีไปอีกหนึ่ง” น้ำเสียงเอ่ยอย่างแสนเสียดาย

        “หรือนายอยากตายแทนมัน”

        “ไม่ละ ขอบใจที่ทำให้ฉันตัดสินใจได้เด็ดขาดมากขึ้น” ก็อย่างที่เอเดนคิด ถ้าไม่กำจัดพวกสมรู้ร่วมคิดก่อน อาจเป็นพวกเขาที่แย่ก่อนที่จะได้ในสิ่งที่ต้องการ

        “ทำไมไอ้เบนยังไม่ติดต่อมาอีก” ดวงตาคู่งามแต่เต็มไปด้วยความเร้นลับมองทางข้างหน้าที่กำลังมุ่งกลับคอนโดหรู

        “มันไปถึงที่ซ่อนกายของผู้ชายคนนั้นแล้ว แต่ดันเป็นที่อยู่เก่า เลยต้องตามสืบเรื่องที่อยู่ใหม่” ชาร์ลตอบ

        “โทรบอกมันด้วยว่าให้เร่งมือหน่อย ก่อนที่ไอ้อาซามันจะไหวตัวทัน”

        “ก็โทรไปบอกมันเองสิ” ชาร์ลยียวน ทำให้เอเดนตวัดตามองตาขวาง

        “แกนั่นแหละจัดการ คนของแกไม่ใช่เหรอไง”

        “ฮ่าๆๆ จัดการได้ก็ดีสิ” ดุยังกับอะไรดี

        “แกตามไปช่วยเบนก็แล้วกัน” เอเดนเอ่ยหลังจากคิดถี่ถ้วนดีแล้ว ชาร์ลเลิกคิ้วสูงเหลือบตามองคนด้านข้าง

        “แล้วนายล่ะ?”

        เอเดนกระตุกยิ้มมุมปากบางๆ นัยน์ตาวิบวับ “ฉันว่าจะไปที่ไร่องุ่นนั่นอีกสักรอบ”

        “ไปทำไมวะ” ชาร์ลเกิดข้อสงสัยอีกครั้ง

        “ไปหาเบี้ยตัวน้อยในกระดาน”






        ASA

        สิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการที่จะรับรู้มากที่สุดก็คือ ‘ความจริง’ กลับกัน สิ่งที่มนุษย์กลัวและไม่อาจยอมรับได้ก็คือ ‘ความจริง’

        โยชิอยากรู้เรื่องปานบนหน้าอกที่ผมทำไว้ ผมยอมรับว่ามันไม่ใช่แค่ปานหรือรอยตำหนิที่ผมทำเพื่อแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ไม่ได้ทำเพียงเพราะเสน่ห์หา มันมีอะไรที่ซ่อนลึกลงไปมากกว่านั้น เกินกว่าที่โยชิจะรับได้เมื่อรับรู้ ตอนนี้เขายังไม่รู้ก็ย่อมอยากรู้เป็นธรรมดา แต่พนันได้เลยว่าเมื่อโยชิรู้ความหมายของมัน เขาจะต้องนึกเสียใจที่พยายามจะเค้นหาความจริง

        ผมรักโยชิมากก็จริง แต่ผมก็ทำให้เขาเห็นว่าผมไม่ได้ตามใจเขาไปเสียทุกเรื่อง ผมพร้อมที่จะใช้อำนาจและความแข็งแกร่งที่มีเพื่อดุและสั่งสอนให้โยชิเชื่อฟัง แต่ทั้งหมดก็เพื่อตัวเขาเอง ทั้งหมดที่ทำก็เพื่อเขาคนเดียวเท่านั้น ที่ผ่านมาผมพยายามมามากแค่ไหนที่จะปกป้องโยชิ ไม่ว่าจากอันตรายภายนอก หรือสิ่งที่ผมฝังใส่ในจิตวิญญาณ อยู่ใต้รอยปาน และมันคือเหตุผลหลักที่ว่าทำไมผมถึงไม่ยอมให้โยชิกลายร่างเป็นงู

        “อื้อ” เสียงหวานดังอื้ออึงเบาๆ

        “ชู่ไม่มีอะไร นอนซะ” ผมตบหลังโยชิกล่อมให้นอนหลับสบาย ดึงผ้าห่มคลุมให้จนถึงคอ

        ผมเพิ่งกลับมาจากออกลาดตระเวน และวันนี้ก็มีคนกลายเป็นหินอีกหนึ่งราย ดีที่ลูกน้องผมไปเจอก่อนที่จะมีใครมาพบ

        เอเดนเริ่มก่อกวนหนักขึ้น ผมพยายามตามหาตัวเขาเพื่อหยุดยั้ง แต่ยังไม่พบว่าเขาพักอาศัยอยู่ที่ไหน ลูกน้องที่ส่งไปเฝ้าที่บ้านของโยชิรายงานว่าเอเดนไม่ได้ไปที่นั่น และที่อื่นๆในกรุงเทพก็ยังหาไม่พบ

        สิ่งที่เขาต้องการและตามมาเอาถึงที่นี่ ผมคิดว่าผมรู้ว่ามันคืออะไร เพียงแค่ผมไม่รู้ว่าเขารู้ได้ยังไง ในเมื่อคนที่รู้มีแค่ไม่กี่คน ผม...ชายแก่เมื่อพันกว่าปีก่อน และสัตว์ร้ายในตำนาน

        นึกย้อนไปเมื่อวันที่ผมรู้ว่าผมเป็นใคร และผมมีอะไร วันที่เปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างในชีวิตผมไปตลอดกาล



        ภายในบ้านหลังเล็กกลางหุบเขา มีเพียงผมและดาร์เรลอยู่กันเพียงสองเรา หลังจากที่ผมหนีออกจากบ้านเพื่อมาใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รัก ผมไม่ลงรอยกับที่บ้าน และไม่คิดอยากจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเสตรนเบิร์ก

        ‘อาซา ตื่นได้แล้ว วันนี้ต้องออกไปหาอาหารไม่ใช่เหรอไง’ เสียงหวานใสเพราะหูดังปลุกผมในเช้าวันหนึ่ง

        ‘อีกนิดนะดาร์เรล’ ผมงัวเงียร้องขอ

        ‘ไม่นิดแล้ว ถ้าไม่ลุกขึ้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือนนะ’ ทำเสียงขู่ที่ไม่ได้น่ากลัวแม้แต่นิด

        ‘...’ ผมใกล้จะเคลิ้มหลับอีกรอบ

        ‘ข้าจะใจร้ายแล้วนะถ้าเจ้าจะหลับอีกรอบ!’

        ผมผงกหัวขึ้นจะก้อนนุ่นยัดในหนังสัตว์ขนฟูฟ่อง ‘เจ้าใจร้ายกับข้าตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วล่ะที่รัก’

        ‘อะไรของเจ้า ข้าไปใจร้ายกับเจ้าตอนไหนมิทราบ!’ ใบหน้าหวานเบ้เพราะเขินอายหรืออย่างไรไม่ทราบ แต่ในสายตาผม ดาร์เรลทำหน้าแบบไหนก็น่ารักน่าชังไม่เสียหมด

        ผมยิ้มกริ่มก่อนจะตอบ ‘.ใจร้ายตรงที่เมื่อคืนเจ้าใช้งานข้าหนักทั้งคืน พอข้าถามว่าพอไหมๆ เจ้าก็เอาแต่ร้องว่าเอาอีกๆ ข้าเหนื่อยล้าไปทั้งตัว ไม่มีแรงไปหาอาหารให้เจ้าแล้วเช้านี้’ ผมแหย่งูน้อยของผมคำโต ใบหน้าขาวกลายเป็นสีแดงจัด นั่นแหละ ที่ผมชอบ

        ‘เจ้างูดำบ้า!!!’

        ‘เจ้าก็งูน้อยสีขาวจอมลามก’

        ‘จอมลามกนั่นมันเจ้าต่างหากอาซา!!! อย่ามาใส่ร้ายข้านะเจ้างูดำนิสัยไม่ดี!!!

        ‘ยอมรับมาเถอะน่าว่าเจ้าต้องการข้ามากๆๆ มากแบบไม่มีที่สิ้นสุด’

        ‘ข้าจะเริ่มไม่ต้องการเจ้าก็ตอนนี้แหละ’ เขาทำหน้าเบื่อหน่อย

        ‘ฮ่าๆๆ เจ้านี่น่ารักจังเลยเมียข้า’

        ‘ยังไม่หยุดล้อข้าใช่ไหม ได้ งั้นเจ้าตาย!’ สิ้นเสียงโวยวาย ร่างบางก็กลายร่างเป็นงูสีขาวนวลทั้งตัวตัวใหญ่พร้อมกับสะบัดหางฟาดตัวผมปลิวไปติดกับฝาบ้าน แรงจุดเสียดทำให้หัวเราะไม่ออก

        ‘ยอมแล้วทูนหัว ใจเย็นๆ ข้าไปแล้ว จะไปล่าเนื้อกวางแสนอร่อยมาให้เจ้าสักสิบตัว อย่าเพิ่งโมโหหิวนะ ใจเย็นๆนะที่รัก ใจเย็นๆ’

        ผมรีบออกจากบ้านเพื่อไปหาอาหารมาให้ดาร์เรล ผมเดินผ่านเส้นทางคุ้นเคยเข้าไปในป่าลึก มองหาเหยื่อดีๆสักสองสามตัวเอากลับไปไว้ทำอาหาร เรากินทั้งแบบสดตอนที่อยู่ในร่างงู และกินแบบมนุษย์ธรรมดาตอนที่อยู่ในร่างมนุษย์ เราไม่มีปัญหาในการใช้ชีวิตแบบใดแบบหนึ่ง

        กวางสาววัยขบเผาะเดินผ่านม่านสายตา ผมหรี่ตาเล็งก่อนจะกลายร่างและพุ่งเข้าโจมตี ของโปรดของดาร์เรล เขาจะต้องดีใจกระโดดกอดผมแน่นสักทีที่หาของโปรดไปให้เข้าได้

        สวบ!

        เสียงแปลกประหลาดดังขึ้นไม่ไกล ผมหันหัวมองก่อนจะกลายร่างเป็นคน ในป่านี้มีแค่ผมกับดาร์เรลอาศัยอยู่ แต่ทำไมกลิ่นที่สัมผัสได้กลับเป็นกลิ่นของมนุษย์ แล้วมันใดนั่น ร่างสูงใหญ่ในผ้าคลุมสีดำก็เดินออกมาจากพุ่งไม้รกทึบ

        ‘เจ้าเป็นใคร เข้ามาในเขตของข้าได้อย่างไร!’ ผมถามเสียงดุร้าย ขู่คำรามผู้มาเยือน

        ‘โอ้บุรุษแห่งนายท่าน ข้ามาดี มิได้มาร้าย’ น้ำเสียงอ่อนโยนของคนแก่ไม่อาจทำให้ผมเกิดความไว้วางใจ เขาเดินมาหาผมช้าๆ ผมไมได้ถอยหนี ไม่กลัวสิ่งอื่นใดบนโลกใบนี้

        ‘เจ้าเป็นใคร’

        มือเหี่ยวที่โผล่พ้นผ้าคลุมกายสีดำยกดึงผ้าคลุมหัวออก เผยให้เห็นใบหน้าแปลกประหลาดอย่างที่คนปกติไม่มี ดวงตาปูดโปนไม่น่าดู ผิวหนังเหี่ยวย่นและแห้งติดกระดูก ริมฝีปากตกยกยิ้มบางๆ ทุกสัดส่วนเครื่องหน้าเต็มไปด้วยรอยบาดแผลผุผองเหมือนเหยื่อโชคร้ายที่เคยถูกผมสาดกรดพิษใส่ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็น่าจะตายไปแล้ว

        ‘ข้าคือผู้ส่งสารให้แก่บุตรของนายท่าน’

        ‘ที่นี่ไม่มีคนที่เจ้าต้องการตามหาหรือส่งสารให้ รีบออกไปจากบริเวณของข้าก่อนที่ข้าจะโมโห’ ถึงยังไงผมก็ไม่ไว้ใจใคร และไม่ชอบให้ใครหน้าไหนเข้ามาในเขตความเป็นส่วนตัว

        ‘มีสิและข้าก็พบเขาแล้ว’ เจ้าคนแก่หัวเราะเสียงน่าขนลุก ผมขมวดคิ้วหงุดหงิด

        ‘หาพบแล้วก็ออกไปจากพื้นที่ของข้าซะ ก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้า’ ผมหมุนกายก้มลงคว้ากวางป่าขึ้นแบกบนไหล่ แต่พอเงยหน้าก็พบกับผู้บุกรุกที่มายืนขวางทาง ทั้งที่อยู่ไกลกว่าสิบเก้า แต่ทำไมถึงได้รวดเร็วเพียงนี้ ผมเริ่มระวังตัวมากขึ้น นึกเป็นห่วงดาร์เรลที่บ้าน

        ‘ท่านอยากรู้ไหมว่าบุรุษแห่งนายข้าคือใคร’

        ‘ไม่ ข้าไปอยากรู้ ออกไปจากเขตของข้าเดี๋ยวนี้!!!’

        ‘แต่ข้าคิดว่าท่านจำเป็นต้องรู้’ ชายแก่เดินเข้ามาใกล้ กลิ่นสาบงูแบบที่ไม่เคยได้กลิ่นฉุนกึกเข้าจมูกอย่างจัง เต็มไปด้วยอำนาจความน่ากลัว ตามมาด้วยน้ำเสียงที่จะตามหลอกหลอนผมไปอีกนานแล้วนาน ‘เพราะท่านคือบุรุษแห่งนายข้า’

        ผมตรงกลับบ้านไม้หลังเล็กด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ความจริงอื้ออึงอยู่ในหัวทำให้เกิดความสั่นไหวข้างในอก คำทำนายของพ่อเจอร์โรมที่เคยพูดเอาดังสะท้อนสลับกับคำพูดของชายแก่

        ‘เด็กคนนี้ โตขึ้นจะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าแห่งโลกใบนี้ เขาจะครอบครองทุกอย่างไว้ภายใต้อำนาจของเขา’

        ‘ท่านคือบุตรของนายข้า ผู้ยิ่งใหญ่ที่แสนโหดร้าย บุตรแห่งบาซิลิสก์’


        นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกกลัวตัวเองจับใจ

        ยิ่งไปกว่านั้น ผมดันทำเรื่องที่ไม่ควรกับชีวิตของโยชิ ความหมายของปาน ความเลวร้ายที่ผมจับใส่ให้เขาโดยที่ตัวเองไม่รู้ ผมเก็บเป็นความลับไว้ให้ลึกที่สุด ไม่คิดไม่นึกถึง ผมคิดว่าผมลืมไปหมดแล้ว แต่ความจริงไม่ใช่ เมื่อโยชิถามถึงเรื่องปาน มันทำให้ผมร่า ผมไม่เคยหลีกหนีชะตากรรมของตัวเองพ้น และมันคงถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องถูกโยชิเกลียดเพราะสิ่งที่ทำไว้กับเขา

        “อื้อ!” เสียงครางสะดุ้งเรียกผมออกจากวังวนความคิด โยชิกระพริบตาปริบๆ หน้ามุ่ยคล้ายคนจะร้องไห้ ฟ้าเริ่มสร่างเมื่อเข้าสู่วันใหม่มาหลายชั่วโมง

        “ขอโทษ เจ็บเหรอ” ผมกระซิบถาม มัวแต่คิดเรื่องเก่าๆจนเผลอกดรอยช้ำบนตัวโยชิ รอยเขียวแกมม่วงดูน่ากลัวเมื่อปรากฏอยู่บนผิวกายขาว เจ้าตัวดีได้มาจากการที่แอบไปฝึกมวย

        “อาซา” โยชิเรียกชื่อผมเสียงง่วง ผมก้มจูบหน้าผากเขาไปที แทบไม่หลงเหลือความโกรธที่โยชิหนีกลับมาหาผมเพียงลำพัง

        ผมไม่ได้โกรธที่โยชิอยากรู้ความจริงที่เกี่ยวกับตัวเขา แต่ผมโกรธ ผมโมโหที่ตัวเองไม่กล้าที่จะพูดความจริงต่างหาก เพราะผมกลัวว่าจะเสียโยชิไป ผมยังไม่ลืมว่าก่อนที่โยชิจะตายคราวนั้น เขาจากไปพร้อมคำสาป เรากลับมารักกันอีกครั้ง แต่เขาไม่ยักเกลียดผม ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ครั้งนี้ผมเลยควบคุมตัวเองไม่อยู่ กลัวว่าความจริงที่โยชิอยากรู้จะเป็นบ่อเกิดให้คำสาปออกฤทธิ์

        ผมจะอยู่ยังไงถ้าเสียเขาไปอีกครั้ง

        “ฉันขอโทษนะ” ผมกระชับกอดโยชิแน่น ได้ยินเสียงสั่นของตัวเองชัดเจนก้องหู โยชิซุกหน้าลงกับอก สอดมือกอดเอวผมแน่น เงยหน้ามองผมทั้งที่ตาปรือปรอย

        “ฉันก็ขอโทษที่ไม่เชื่อฟัง” โยชิทำหน้าเหมือนเด็กสารภาพความผิด

        “รู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นห่วงนายมาก” ผมพูดเสียงอ่อนโยน

        “ฉันรู้ ฉันเองก็เป็นห่วงนายเหมือนกัน อยากดูแลนาย อยากอยู่เคียงข้าง ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปพร้อมๆกับนายนะอาซา” แววตาเว้าวอนน่าสงสารพาลเอาใจอ่อนยวบ

        “ฉันรู้ นายเลยต้องเจ็บตัวเพราะฉัน” ผมลูบมือไปตามผิวนิ่มมือ สัมผัสรอยช้ำแผ่วเบา ไม่กล้าลงแรง กลัวโยชิจะเจ็บ คนในอ้อมกอดก้มมองแผลของตัวเองแล้วหัวเราะเบาๆ

        “ไม่เป็นไรหรอกน่า แบบนี้ก็แมนๆดีออก” โยชิพูดติดขำ ผมรู้ว่าเขาไม่อยากให้ผมเครียด

        “ขอโทษนะ ที่เมื่อวานฉันว่านายแรงๆ” ถึงตอนที่โมโหจะพยายามทำใจเย็น แต่ก็ไม่วายพ่นคำเชือดเฉือนใส่โยชิ

        “ไม่เป็นไร ฉันไม่โกรธ”

        “ฉันเกลียดตัวเองจริงๆที่ทำให้นายเสียใจ”

        “ช่างมันเถอะนะ อย่าโทษตัวเองอีกเลย เราเริ่มใหม่ทุกอย่างได้”

        แม้จะมาเกิดเป็นคนใหม่ แต่โยชิไม่เคยเป็น เขาเป็นทั้งโยชิและดาร์เรลที่ผมรักยิ่งกว่าใครในโลกนี้

        ผมจูบโยชิเพื่อให้เขาปลอบประโลมคนที่ไร้แสงสว่างในชีวิตอย่างผม ขอเพียงความรักจากคนๆนี้ที่จะช่วยเยียวยาให้ผมหายกลัว ขอเพียงเป็นคนๆนี้ที่ผมจะอ่อนแอต่อหน้าเขา

        “บอกได้ไหมว่าปานที่นายทำไว้มันหมายถึงอะไร”

        ผมนิ่งงัน ยังมีอีกประโยคที่ชายแก่คนส่งสารพูดทิ้งท้ายไว้

        ‘ห้ามมิให้ผู้ใดล่วงรู้ถึงตัวตนของเจ้า แม้แต่คนที่เจ้ารักก็ตาม มิเช่นนั้น ชีวิตเจ้าจะพังพินาศย่อยยับ’

        ผมเกิดความลังเล แต่เมื่อคิดดูแล้ว ไม่มีอะไรจะทำให้ชีวิตย่อยยับได้ นอกจากการที่ไม่มีคนๆนี้อยู่เคียงใจเคียงกาย เพราะฉะนั้น อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ขอแค่เขาไม่ไปจากผมก็พอ

        “ถ้าบอกไปนายจะต้องเกลียดฉันแน่ๆ” ผมยิ้มเศร้า

        “ไม่มีทาง ฉันไม่มีวันเกลียดนาย” โยชิเช็ดหยาดน้ำตาให้ผม แล้วก้มลงจูบซับอย่างอ่อนโยน กระซิบอ่อนหวานให้จิตใจผมสงบ “ไม่ว่ามันจะเลวร้ายขนาดไหน ฉันสัญญาด้วยชีวิตที่มีค่าเพียงเล็กน้อยชีวิตนี้ ว่าฉันจะไม่มีทางเกลียดนาย ไม่มีทางเกลียดคนที่รักฉันมากอย่างที่นายเป็น เพราะฉันเองก็รักนายมากเหมือนกัน”

        ผมแนบแก้มกับมือบาง หลับตาลงซึมซับไออุ่นจากคนตัวเล็ก ก่อนจะลืมตาเพื่อเข้มแข็งให้ได้เฉกเช่นคนตรงหน้า

        “นากินีถือกำเนิดจากไอพิษของบาซิลิสก์ แต่ฉันไม่ใช่ ฉันคือบุตรที่ก่อกำเนิดจากเลือดเนื้อของเขา ฉันจะกลายเป็นคนที่ครองโลกอย่างที่คนที่ฆ่านายบอกกับพ่อของฉัน ถ้าหากว่าฉันไม่ฝังสิ่งหนึ่งลงไปพร้อมกับรอยปานบนตัวนายอย่างไม่รู้ตัว”

        “มัน...มันคืออะไร”  โยชิถามเสียงสั่นเล็กน้อย แต่แววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้ ผมวางมือลงบนหน้าอกบางข้างซ้าย ตรงกับตำแหน่งหัวใจที่แสนบริสุทธิ์

        “มันคือหัวใจของเขา หัวใจของบาซิลิสก์ ครึ่งหนึ่งมันอยู่ในตัวนาย ฝั่งแน่นไม่เสื่อมคลายตราบจนทุกวันนี้” ผมรอดูปฏิกิริยา โยชิค่อยๆเบิกตากว้างขึ้นเรื่อๆ เขาตกใจแทนที่จะช็อคอย่างที่ผมคาดคิด

        ผมยิ้มข่มขื่น “รู้แบบนี้แล้ว นายจะเกลียดฉันไหม”

        “เรื่องจริงเหรออาซา!” โยชิพูดแบบไม่ค่อยมีสติ

        “อืม คิดผิดหรือเปล่าที่อยากรู้” ผมบอกแล้ว คนเรามักเสียใจที่อยากรู้ความจริง

        “ไม่ๆ คือ มันเหนือความคาดหมาย แบบว่า ฉันเริ่มกลัวตัวเองนิดๆ” โยชิวางมือทับบนมือของผมที่ยังไม่เอาออกจากหน้าอกอีกฝ่าย

        “ฉันรู้ ฉันถึงไม่อยากบอกนาย” เพราะตอนที่ผมรู้เรื่อง ผมก็กลัวตัวเองเหมือนกัน

        “แต่ฉันไม่ได้เกลียดนายนะ” โยชิรีบบอก

        “ขอบใจ”

        “แล้ว...มันจะมีผลอะไรไหม แบบว่า บาซิลิสก์ที่ฉันเคยอ่าน เขาเป็นสัตว์ที่ร้ายกาจมาก มันจะเป็นอันตรายหรือเปล่า”

        ผมสูดลมหายใจแล้วครุ่นคิด

        “ฉันเองก็ไม่รู้อะไรมากไปกว่านี้” ตาลุงแก่คนนั้นไม่ได้บอกอะไรมากกว่านี้  หลังจากนั้นพออยากรู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นเมื่อผมดันฝังหัวใจอีกครึ่งไว้ที่ดาร์เรล เขาก็หายตัวไป ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ จนกระทั่งปัจจุบัน

        “แต่มันคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ก็อยู่มาตั้งขนาดนี้แล้ว” โยชิคาดคะเน ผมคิดตาม เห็นด้วยเล็กน้อย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยคิดเรื่องนี้จริงจัง ทำเพียงฝังกลบมันให้อยู่ในซอกหลืบที่เล็กที่สุดของความทรงจำ

        “ความจริงบอกฉันตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน” โยชิพูดหน้าเซ็ง

        “เพราะคนๆนั้นสั่งห้ามไม่ให้ฉันบอกนาย” ผมบอกแค่นั้น ไม่พูดให้จบทุกคำตามที่บุคคลผู้นั้นกล่าวเตือน “และที่จริงฉันยังกังวลอยู่อีกเรื่อง” ผมถอนลมหายใจยาวแต่ไร้เสียง

        “อะไรเหรอ บอกได้ไหม”

        “อยากรู้ไหมละ” ผมเย้าเสียงพร่า ทั้งที่มันไม่มีอะไรน่าจำหรือสนุก มันจะเป็นหายนะถ้าหากว่าสิ่งที่ผมคิดเป็นความจริง

        “ถ้านายอยากบอก ฉันก็อยากรู้”

        ผมยิ้มเอ็นดูเด็กน้อยของผม ก่อนจะที่รอยยิ้มจะเลือนหายไป

        “ฉันกำลังคิดว่า สิ่งที่เอเดนต้องการก็คือ...” ผมหยุดพูด แต่โยชิคงฉลาดมากที่จะเข้าใจว่าอะไรที่ผมเป็นกังวล

        “เขาต้องการหัวใจบาซิลิสก์งั้นเหรอ”

        “ฉันไม่แน่ใจ แต่ที่รู้ๆ ให้เขารู้ไม่ได้เด็ดขาดว่ามันอยู่ที่ตัวนายอีกครึ่งดวง”

        แต่ถ้าเอเดนต้องการมันจริงๆ ผมจะทำทุกทางเพื่อขัดขวางเขา เพราะถ้าเขาได้มันไป ไม่ใช่แค่ชีวิตผมเท่านั้นที่จะสูญสิ้น แต่โลกใบนี้คงย่อยยับเป็นจุล

         “ไม่เป็นไรนะอาซา เราจะปกป้องมันด้วยกัน หัวใจของเราสองคน ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้”

        ผมน่าจะรู้ ผมน่าจะจำได้ว่าคนรักของผมเขาเก่งเสมอเมื่อปราศจากความกลัวเกรง การสะกดจิตทำให้เขากลัวงูจนเหมือนจะกลายเป็นคนอ่อนแอ แต่แค่เหมือนเท่านั้น เพราะการสะกดจิตไม่อาจเกาะกินจิตวิญญาณแห่งนักสู้ของเขาได้ เราเคยต่อสู่ฝ่าผันอุปสรรคร่วมกัน ไม่มีสักครั้งที่เขายอมแพ้ และครั้งนี้โยชิทำให้ผมเห็นแล้วว่า เขาแข็งแกร่งพอที่จะสู้ไปพร้อมผมอีกครั้งหนึ่ง

        ‘ไม่เป็นไรนะอาซา เจ้ายังมีข้า ไม่มีใครรักเจ้าก็ช่างปะไร แต่รู้ไว้ว่าข้ารักเจ้าที่สุด ไม่ว่าอุปสรรคจะยากเย็นแค่ไหน ข้าสัญญา ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า ต่อสู้ไปกับเจ้า ขอแค่มีเรา ทุกเรื่องใหญ่จะกลายเป็นเรื่องเล็กเพื่อให้เราจัดการและข้ามผ่านมันไป เชื่อข้าไหม’

        พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า เราทั้งสองตระกองกอดกันหลับพักเอาแรง เพื่อต่อสู้ในวันข้างหน้าใกล้จะถึงนี้ ก่อนที่จะเคลิ้มหลับ ผมกระซิบคำหวานเป็นกำลังใจให้เราทั้งสองคน

       
        “Do you know? I like ‘US’”

        “I know”


        เสียงหวานตอบกลับให้ชื่นใจก่อนหลับฝันดี


       
.....................
        มีอะไรงงไหม ถ้างงสอบถามได้นะคะ แล้วจะมาตอบในตอนหน้า
        ปมเรื่องหัวใจบาซิลิสก์ไม่ได้มีเพียงแค่นี้นะคะ จะเฉลายส่วนที่เหลืออีก โปรดติดตามตอนต่อไป อิอิ
        รักคนอ่าน กอดๆ
:mew1: :กอด1: :pig4:
       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 19-11-2014 05:24:43
ร่วมกันสู้แล้วผ่านมันไปให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 19-11-2014 06:15:43
เริ่มเข้มข้นแล้ววว
ต้องติดตามๆ
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 19-11-2014 06:18:43
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:   

เอเดนนนนนนนนนนน  แกจะไปทำอะไรพี่ยอร์ชอ่ะ ห๊าาาา ตอบมาเลยนะ เค้ายอมให้แกทำพี่ยอร์ชได้กรณีเดียวคือจับทำเมีย  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 19-11-2014 07:02:24
เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ เข้มแข็งไว้

คนคิดร้าย ยังไงก็ต้องแพ้จ๊ะ

สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 19-11-2014 07:45:08
ทั้งสองคนต้องชวยกันดูแลหัวใจของกันและกันน้า
ฟันฟ่าอุปสรรคไปให้ได้
สู้ๆนะทุกคนนนน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 19-11-2014 08:17:02
อ้าปากกว้างๆแล้วงาบเอเดนลงท้องไปเลยลูก  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 19-11-2014 16:42:05
รักกันมากจนน้ำตาคลอ :sad11:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 19-11-2014 16:51:33
อ่านแร้วหนุกหนานชวนติดตามมากๆ เรยยย ลุ้นๆๆ อยากอ่านตอนใหม่แร้วง่าาาาา :katai4: :katai1: :katai1: :serius2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-11-2014 17:08:10
มาลงให้เมื่อไร่เนี้ยพี่ริ

เพิ่งเห็น ว้ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 19-11-2014 17:13:34
สู้ไปด้วยกัน ไม่มีอะไรยากเกินว่าจะผ่านพ้นไปไม่ได้

ลุ้นๆ รอเฉลยทีละปม

เอเดนจะกลับไปทำอะไรยอร์ชหว่า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-11-2014 19:20:22

แบบนี้นี่เองเอเดนถึงทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้มันมา

แต่แอบหวังไว้เล็กๆว่าอยากให้เอเดนคู่กับพี่ยอร์ช

ความรักระหว่างโยชิกับอาซายิ่งใหญ่มาก

ซึ้งกับที่ทั้ง2มีความรักและอยู่เคียงคู่กันไม่ว่ายามสุขหรือยามทุกข์

ปล คำผิดคำตก

รายงานว่าเอเดนไม่ได้ที่นั่น (คำตกไปไหม)

ผมเดินผ่านเส้นทางคุ้นเคยเข้ไปในป่าลึก เป็น ผมเดินผ่านเส้นทางคุ้นเคยเข้าไปในป่าลึก
ท่าคือบุตรของนายข้า เป็น ท่านคือบุตรของนายข้า

 เพราะที่ผ่านมาไม่เคนคิดเรื่องนี้จริงจัง เป็น  เพราะที่ผ่านมาไม่เคยคิดเรื่องนี้จริงจัง

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 19-11-2014 20:28:48
ครึ่งหนึ่งอยู่ที่น้องโยแล้วอีกครึ่งอยู่ที่ใครนะ :m28:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 20-11-2014 13:43:58
แบบนี้นี่เองเอเดนถึงทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้มันมา

แต่แอบหวังไว้เล็กๆว่าอยากให้เอเดนคู่กับพี่ยอร์ช

ความรักระหว่างโยชิกับอาซายิ่งใหญ่มาก

ซึ้งกับที่ทั้ง2มีความรักและอยู่เคียงคู่กันไม่ว่ายามสุขหรือยามทุกข์

ปล คำผิดคำตก

รายงานว่าเอเดนไม่ได้ที่นั่น (คำตกไปไหม)

ผมเดินผ่านเส้นทางคุ้นเคยเข้ไปในป่าลึก เป็น ผมเดินผ่านเส้นทางคุ้นเคยเข้าไปในป่าลึก
ท่าคือบุตรของนายข้า เป็น ท่านคือบุตรของนายข้า

 เพราะที่ผ่านมาไม่เคนคิดเรื่องนี้จริงจัง เป็น  เพราะที่ผ่านมาไม่เคยคิดเรื่องนี้จริงจัง

ขอบใจจ้า เดี๋ยวไปแก้นะ เลิฟยูวววว  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: mukkai ที่ 20-11-2014 15:57:40
ขอสมัครเป็นเเฟนคลับเรื่องนี้นะคะ
อ่านทันแล้วววว ><
ชอบเเนวเรื่อง ภาษา ตัวละครเรื่องนี้มากๆ
เเต่ละตอนเราลุ้นดี อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ
โยชิจอมซน :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-11-2014 18:30:47
จะมาต่ออีกวันไหนนนนนน
ผมอยากอ่านต่ออออออ
ปมเรื่อนหัวใจนี่อยากรู้มากก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 20-11-2014 19:52:40
W(`0`)W เหมือนหลงอยู่หนังสือแฮร์รี่ผสมกะทไวไฟท์เลย  o13

แต่งเก่งมากค่ะ ลุ้นตลอด ปมเยอะมากจนเราไม่อยากจะคิดไปเองว่าจะอะไรยังไง ขอตามติดๆน้องโยชิละกัน~

อร๊ายยย~พี่เอเดนกะพี่ยอร์ชนี้แบบดูเคมีเข้ากั้นเข้ากันน่ะค่ะ ยกป้ายไฟเชียร์เลย*\(^o^)/*

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 21-11-2014 13:13:24
เอาใจช่วยทั้งสองคนนะ มันจะผ่านไปได้ด้วยดี

สู้ๆ นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 21-11-2014 14:00:11
I knowwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwww


 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: AoMSiN555 ที่ 21-11-2014 17:41:37
ยังรออ่านอยู่นะ.. :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 21-11-2014 22:21:12
เอเดนนนนน แกวางแผนอะไรกันแน่ ห้ามทำอะไรพี่ยอร์ชนะ!!! :angry2:
อาซากับโยชินี่แบบ น่ารักกกกกก มีโกรธกันแต่ก็เข้าใจกัน ไม่งี่เง่าอารมณ์เสีย คือดีงาม :impress2:
มีปัญหาช่วยกันแก้น่ะถูกแล้ว สู้ไปด้วยกันเนอะ ความรักชนะทุกสิ่ง ฮิ้ววววว
ในอดีตแอบกุ๊กกิ๊กน่ารักเบาๆ น้องงูสีขาวจอมลามก ฮ่าๆๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 22-11-2014 00:15:06
ความหมายของปานสินะ หวานกันจัง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: i c u ที่ 22-11-2014 17:44:24
ลุ้นๆๆๆๆๆมาต่อเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHT ❁ 18-11-2014[P.37]
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 22-11-2014 20:04:17
อ่านแล้วรู้สึกนึกถึงคำ Intro ภาคสอง ที่โยชิฝันว่าอาซาโดนควักหัวใจเบยย  :ling3:
เชียร์ เอเดนยอร์ช กินกันเลยทั้งพี่ทั้งน้อง 5555  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 01-12-2014 05:51:18
B.L.O.O.D.L.I.N.E
NINE




        YACHT

        “นี่ใบเสร็จครับ” ผมส่งใบเสร็จค่าองุ่นให้กับซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังคุณภาพดีในเมือง เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตของไทย แต่จะขายของที่รับจากไร่โดยตรง ได้คุณภาพและราคาไม่แพง ไม่ว่าใครก็ซื้อกินง่าย นอกจากพวกผักผลไม้ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมากมายน่าซื้อใช้

        “พ่อยอร์ช อันนี้ป้าให้ ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ครีมอาบน้ำแบบมีสครับเปลือกองุ่น ของจากไร่เราเลยนะ ป้าๆเขาลองทำดู คุณภาพดีเทียบของนอกเลยเชียวละ” ป้าโอ๋เจ้าของร้านยิ้มกว้างอวดสรรพาคุณ ผมรับน้ำใจมาไม่ปฏิเสธ เพราะถึงบอกว่าไม่เอาเพราะความเกรงใจ ป้าแกก็ให้มาอยู่ดี เป็นประจำจนผมเริ่มชิน

        “ขอบคุณครับป้า ผมจะลองใช้ดูนะครับ”

        “จ้า อย่าลืมแบ่งให้หนูโยของป้าด้วยนะ ไปเรียนเมืองกรุงไม่ค่อยเห็นหน้า ป้าคิดถึง”

        ไม่ใช่แค่ป้าที่คิดถึง ผมกับพ่อก็ยังไม่หายคิดถึงเด็กแสบเลย กลับบ้านมาอยู่ให้ชื่นใจได้ไม่กี่อาทิตย์ก็รีบกลับกรุงเทพเพราะมีธุระ ตอนกลับก็ไม่ยอมให้ผมไปส่ง นั่งเครื่องกลับเอง ผมเป็นห่วงแทบแย่ แต่ดีที่ถึงมหาวิทยาลัยอย่างปลอดภัย

        “ได้ครับ ผมจะส่งไปให้น้องใช้ที่นู่น ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ลานะครับ”

        “จ้า ขับรถดีๆนะ”

        ผมหิ้วถุงขวดครีมอาบน้ำจำนวนห้าขวดกลับไปที่รถ ก่อนจะนึกออกว่ายังมีของอย่างอื่นที่ต้องซื้อกลับบ้าน จึงเก็บของไว้ในรถ จังวะที่ปิดประตู หางตาเห็นแวบๆคล้ายมีคนมองผมอยู่ แต่พอหันขวับไปดูด้านซ้ายมือ กลับมีแต่ความว่างเปล่า ผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาดูปกติดี และผมก็ไม่เห็นคนที่น่าจะรู้จักสักคน

        “สงสัยตาฟาด” ผมเลิกสนใจ เดินข้ามถนนไปที่ร้านขายยาฝั่งตรงข้าม

        “รับอะไรดีครับ” เภสัชกรหน้าหวานไม่เข้ากับเสียงทุ่มต่ำถาม

        “เอาแคลเซียมแบบเม็ดสามกระปุกครับ” ผมบอก เภสัชกรเดินไปหยิบ ผมกินเองกระปุกหนึ่ง อีกสองกระปุกของพ่อ ทำงานใช้แรงพวกแคลเซียมจำเป็นมากสำหรับร่างกาย

        “ทั้งหมดหนึ่งพันหกร้อยยี่สิบบาทครับ”

        ผมล้วงเงินในกระเป๋าสตางค์จ่ายแบบพอดี รับถุงใส่ของมาถือแล้วเดินออกจากร้าน มอง มองซ้ายขวาดูให้แน่ใจว่าข้ามถนนได้ก่อนจะเดินข้าม แต่ถุงยาในมือลื่นหลุดกลางถนน ผมรีบก้มลงเก็บ เสียงบีบแตรดังลั่นยาวเหยียด ผมสะดุ้งลุกขึ้นด้วยความตกใจ แสงแดดแยงตาพร่าจนมองอะไรไม่เห็น เสียงร้องโหวกเหวกโวยวายจากคนรอบข้างดังเซ็งแซ่ ผมก้าวถอยหลัง วินาทีนั้นคิดว่าไม่รอด ถ้าหากไม่ได้มือหนาที่เย็นเชียบของใครบางคนดึงถอยหลังอย่างแรง

        ตุ้บ!

        ล้มลงกระแทกพื้นทับคนที่เข้ามาช่วย ดวงตาผมปิดสนิท ได้ยินเสียงสบถดังข้างใบหู

        “damn it!!!”

        ปรี้นนนน

        โครม!!!

        ผมลืมตามองเหตุการณ์ตรงหน้า รถกระบะสภาพโทรมเกยอยู่บนถนน เกิดความชุลมุ่นวุ่นวาย ผมถูกฉุดให้ลุกขึ้นยื่นแบบที่ยังสติหลุด หันไปมองคนที่ช่วย ตกใจจนหายใจผิดจังหวะ

        “เอเดน” เขาคือคนที่ผมไม่คิดฝันว่าจะเจอในเวลานี้

        “ซุ่มซ่าม คุณอยากตายหรือไง” เขาบ่น ช่วยประคองตัวผมให้ยืนทรงตัวอยู่ “เป็นอะไรไหม” น้ำเสียงอ่อนลงนิดหน่อย แต่ก็ห้วนอยู่ดี

        ผมส่ายหน้า “ไม่ ผมไม่เป็นไร” เจ็บข้อเท้านิดเดียว เท้าคงพลิกตอนที่เขาดึงผมให้พ้นวิถีรถ

        ควันลอยโขมงออกจากรถที่เกือบจะชนผม มีคนเข้าไปช่วยคนขับออกมา ผมเดินเขย่งเท้าเข้าไปใกล้ เอเดนดึงตัวผมไว้ ผมบอกเขาว่าจะเข้าไปดูสักหน่อย เขาถึงเดินตามมา

        คนขับรถหัวแตกเลือดอาบหน้า เป็นผู้ชายอายุน่าจะสักสี่สิบ ตาของเขาดูลอยแปลกๆ ใบหน้าแดงกล่ำ พูดอ้อแอ้ร้องเจ็บฟังไม่รู้เรื่องคล้ายคนเมา

        ไม่นานก็มีตำรวจตามมาดูโดยที่ผมไม่รู้ว่าใครโทรแจ้ง ได้เรื่องว่าคนเมาขับรถฝ่าไฟแดงมาแล้วก็กลัวตำรวจตามจับเลยขับรถเร็วเกินกว่ากำหนดมากเพื่อหวังจะหนีแต่ดันมีผมขวางทางเอาไว้แบบไม่รู้เรื่องรู้ราว ผมก็เลยเป็นอย่างที่เห็น

        ผมไม่ได้เอาความหรือเรียกร้องค่าเสียหายจากคนขับรถ ไม่ใช่ว่าผมใจดี แต่ปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมายดีกว่า ดูท่าแล้วน้าแกก็ไม่มีเงินมาจ่ายค่ายาหรือค่ารักษาพยาบาลให้ผมหรือเอเดนที่มีแผลถลอกตรงแขนหรอก แค่โดนโทษขับรถในขณะที่เมาเหล้าจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ไหนจะโทษขับรถฝ่าไฟแดง ใบขับขี่ก็ไม่มี ผมว่าก็หนักเอาการ ไม่ต้องให้ผมไปฟ้องร้องอะไรเพิ่มเติม น้าแกก็คงเข็ดไม่กล้าทำอีก

        อีกอย่างผมก็ขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืด เจ็บนิดเดียวไกลหัวใจ คิดเสียว่าฟาดเคราะห์ แต่ใครอีกคนที่ช่วยผมไว้ดูจะไม่เห็นด้วย เขาหน้าขัดใจ ลากผมกลับรถ

        “ทำไมคุณไม่เอาเรื่องผู้ชายคนนั้น ผมคิดว่าคุณไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่นัก”

        “แล้วแต่คุณจะคิด” ผมบอกเรียบๆ มองเขาที่ไม่ยอมเดินอ้อมไปที่ฝั่งคนขับ “คุณจะไปไหน”

        เขาแบมือตรงหน้าผม ผมทำหน้างงให้เขาหงุดหงิดเล่น “เอากุญแจรถมา ผมขับเอง”

        “เอาไปทำไม รถผม ผมขับเองได้”

        เขาทำหน้าหน่าย “กุญแจรถ”

        “คุณจะไปกับผมเหรอ” ผมถาม ไม่ได้หวังกวนประสาท

        “ใช่ ที่นี้จะเอามาได้หรือยัง”

        ผมส่งกุญแจรถให้เขา ก็ดีเหมือนกัน ขาเจ็บแบบนี้ กว่าจะขับถึงบ้าน คงได้ระบมร้าวเดินไปได้เป็นวันๆ ผมเดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ ส่วนเขาก็นั่งแทนที่ผม สตาร์ทรถแล้วก็ออกตัวอย่างเร็ว ผมบอกให้เขาขับช้าๆลงหน่อย ซึ่งเขาก็ทำให้แบบที่เรียกว่าช้าลงนิดหน่อยจริงๆ

        เพิ่งรู้อีกอย่างว่าเขาเป็นคนที่กวนประสาทใช่ย่อย ผมแอบมองเขา ดวงตาสีเขียวเข้มคุกรุ่น เอเดนเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์แบบที่ผู้ชายแมนเต็มร้อยอย่างผมกล้าเอ่ยปากชมแบบไม่อิจฉาเลยว่า เขาดูดีแบบที่ผู้ชายหลายคนพยายามจะเป็นแต่ก็ไม่มีวันเป็นได้

        สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาดูน่าสนใจก็คือดวงตาของเขา

        จนผมอยากรู้ว่า อะไรกันที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ดวงตาที่แสนลึกลับคู่นั้นกัน

        “คุณมาทำอะไรที่นี่” ผมถาม เรียกว่าชวนคุยก็น่าจะได้ ภายในรถเงียบเกินไปจนเกิดความอึดอัด

        “...” เอเดนไม่ตอบ แต่ปรายสายตามองเหมือนจะถามกลับมาว่าผมจะอยากรู้ไปทำไม

        “ต้องไปหาหมอไหม” เขาไม่ตอบคำถาม เปลี่ยนเรื่องคุยเสียอย่างนั้น ผมไหวไหล่ ก็ไม่ใช่เรื่องของผมสักเท่าไหร่

        “ผมน่ะแค่ขาพลิกไม่ต้องหาหมอหรอก แต่คุณสิ แผลถลอกเลือดไหล จะไปให้หมอทำแผลให้ไหม” เลือดที่แขนของเอเดนไหลเป็นทางยาว เจ้าตัวแค่เหลือบมองเหมือนไม่ทุกข์ร้อน

        “แผลนี่เพราะคุณ เขาพูดนิ่งๆจนผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นการกล่าวโทษจริงจังหรือเพียงแค่ล้อเล่นหน้าตาย”

        “อ่า ผมขอโทษก็แล้วกัน และก็ขอบใจมากนะครับที่ช่วย” ถ้าไม่ได้เขา ผมคงเข้าไปนอนจมกองเลือดใต้รถกระบะคันเก่งสนิมเขรอะหรือไม่ก็อาจจะนอนสิ้นใจอยู่กลางถนน

        “ผมไม่เขาใจเลยจริงๆ คุณปล่อยผู้ชายคนนั่นไปได้ยังไง” อยู่ๆเขาก็โมโหขึ้นมา

        “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง” ผมถามความเห็น

        “สั่งสอนมันให้หลาบจำ” น้ำเสียงเขาชวนขนลุก ใบหน้าของเขาดุดันน่ากลัวแม้ผมจะเห็นเพียงด้านเดียว

        “กฎหมายจะเป็นตัวสั่งสอนเขาเอง ผมคิดว่านั่นเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว”

        เขาร้องเหอะเสียงขึ้นจมูก เหยียบคันเร่งเร็วขึ้น ผมไม่เข้าใจว่าเขาจะเป็นเดือดเป็นร้อนไปทำไม ในเมื่อคนที่ควรเดือดร้อนอย่างผมกลับไม่เดือดร้อนเท่าที่ควรนัก

        “นี่คุณ” ผมเรียก เขาไม่หันมามอง ทำเหมือนไม่ได้ยิน “เป็นห่วงผมเหรอ” ผมแกล้งแซวต่อ

        “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ” เขายกยิ้มมุมปาก ดูมีเสน่ห์และเจ้าเล่ห์ในเวลาเดียวกัน

        “ก็ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นห่วงผม แล้วทำไมคุณถึงต้องโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ” เอเดนเป็นคนที่เข้าใจยากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาตลอดอายุยี่สิบหกปี

        “เพราะผมเกลียดคนประเภทคุณมากที่สุดยังไงล่ะ”

        รถหยุดชะงักอย่างแรงเมื่อมาถึงบ้าน ต้องแปลกใจอีกครั้งที่เขาสามารถขับกลับมาที่ไร่และจอดตรงหน้าบ้านได้แบบไม่ต้องถามทาง และผมก็มัวแต่เถียงกับเขาจนลืมที่จะบอกทางกลับบ้าน แต่นี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจเรื่องที่เขาพาผมกลับมาบ้านถูก ที่สะกิดใจผม ทำให้ผมเริ่มตึงๆขึ้นมาก็ตรงที่เขาว่าผมแบบไม่มีสาเหตุ

        “ประทานโทษเถอะนะครับคุณ คนแบบผมมันเป็นยังไง” ผมฉุนเล็กน้อย

        “ประเภท อ่อนแอ ทำตัวเป็นพ่อพระใจบุญ ทำตัวน่าสมเพช สุดท้ายคุณก็จะถูกความใจดีงี่เง่าของคุณกลับมาทำร้าย คนประเภทคุณจะไม่มีวันได้เป็นผู้ล่า แต่จะเป็นได้แค่เหยื่อผู้หน้าสงสารตลอดชีวิต”

        ผมไม่เข้าใจที่เขาพูด ไม่รู้ว่าเขาต้องการสื่ออะไรกันแน่ แต่มันออกจะไร้สาระไปสักหน่อยนะผมว่า ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกันตรงไหนกับการที่ผมปล่อยให้กฎหมายจัดการคนผิด อย่างที่อารยะชนพึงกระทำ แทนวิธีป่าเถื่อนอย่างพวกคนป่า เขาต้องการให้ผมทำอะไร เข้าไปต่อยคนที่ขับรถผมเหรอ แบบนั้นมันไม่เรียกว่าเข้มแข็งหรอกนะ

        “คุณจะบอกว่าคุณเข้มแข็ง โหดเหี้ยม และใจร้ายสินะ ใช่ไหม คุณคงเป็นคนแบบนั้น ถ้ามีคนเดินเหยียบเท้าคุณโดยไม่ตั้งใจ คุณก็คงจะทำให้เขาเจ็บคืนสินะ” ผมย้อนถาม หัวเราะเยาะหยันในลำคอ แววตาสีเขียวเข้มขึ้นแปลกตา ผมรู้ว่าเขาโกรธจัดที่ผมพูดแบบนั้น แต่เขาทำให้ผมอารมณ์เสียเอง ช่วยไม่ได้

        “ก็ถ้าใครทำให้ผมเจ็บ มันก็ต้องได้รับผลตอบแทนที่สาสมเช่นเดียวกัน”

        “คุณจำเป็นต้องแก้แค้นทุกคนเลยเหรอ”

        “ก็เพื่อไม่ให้มันกล้าอีกซ้ำสอง”

        “ผมไม่คิดเลยนะว่าคุณจะมีความคิดที่เด็กขนาดนี้ คุณควรรู้จักให้อภัยบ้าง” 

        ผมว่าเขาเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ทำตัวกร่างวางอำนาจ ต้องการเป็นที่หนึ่ง เป็นใหญ่ ให้รู้ว่าข้าน่ะเจ๋งกว่าใคร เหมือนเด็กที่ถูกเพื่อนหยามหน้า ต้องซัดมันให้หน้าหงาย มันจะได้ไม่กล้าหือ อย่างที่เคยเห็นเด็กๆในรุ่นของโยชิเป็นตอนสมัยที่น้องชายผมอยู่อนุบาลสอง เอเดนทำให้ผมรู้สึกว่าเขาเป็นแบบนั้น

        “โตได้แล้วนะเอเดน  คุณต่างหากที่จะอยู่บนโลกใบนี้ลำบากถ้ามีความคิดแบบนี้ ไม่ใช่ผม” ผมสอน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาอายุมากกว่าผมไหม แต่เขาทำให้ผมอยากจับมาอบรมสักชั่วโมงสองชั่วโมง โดยไม่ทันได้คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ผมสมควรทำกับคนที่เพิ่งรู้จักกัน

        “คุณกำลังสอนผมอย่างนั้นเหรอ” เอเดนหันมาทางผมทั้งตัว น้ำเสียงสีหน้าและแววตาของคนตรงหน้าโหดเหี้ยมอย่างที่ผมกล่าวหาไว้เมื่อตะกี้ เขากลายเป็นคนที่ผมไม่เคยรู้จัก

        “เปล่า ผมแค่พูดในสิ่งที่ผมคิด”

        “คุณคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะมาวิจารณ์ว่าผมควรเป็นแบบไหนหรือไม่เป็นแบบไหนงั้นเหรอ”

        ผมอึ้ง นั่นสินะ เราไม่ได้สนิทกันจนถึงขนาดที่ผมจะพูดสั่งสอนเขาได้ ผมคงต้องบอกตัวเองสินะว่าคนตรงหน้าไม่ใช่น้องชายผมที่ผมจะว่ากล่าวตักเตือนด้วยความหวังดี เขาเป็นแค่นักธุรกิจที่ผ่านมาแล้วสนใจจะสั่งไวน์จากไร่ผมไปขายที่ร้านของเขาเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของเขา เพราะสิ่งที่ผมทำมันไม่ต่างอะไรกับการแส่ไม่เข้าเรื่อง

        “ผมแค่คิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้” ผมผ่อนเสียง ก้มหน้านิดหน่อยส่ายหัวเบาๆ “ผมก็แค่หวังดี แต่มันคงจะเกินไป ผมขอโทษด้วยก็แล้วกัน ต่อจากนี้ถ้าคุณยังสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ของผม ผมก็ยินดีร่วมงานกับคุณ แต่ถ้าคุณไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร ขอบคุณอีกครั้งสำหรับที่ช่วยผมในวันนี้ และขอโทษที่พูดจาเสียมารยาทกับคุณ”

        “...”

        “แต่ถ้าคุณไม่ลืม คุณตัดสินผมจากความคิดของคุณก่อน” ผมทวนสิ่งที่เขาเคยพูด ก่อนจะกระพริบตาทีหนึ่งช้าๆไล่ความไม่สบายใจ “ผมจะให้คนงานไปส่งคุณเข้าเมืองก็แล้วกัน ผมคงไม่รบกวนเวลาคุณไปมากกว่านี้”

        พูดจบผมก็เปิดประตูลงจากรถ เดินกลับเข้าบ้าน โทรสั่งลูกน้องให้พาแขกกลับไปส่งในตัวเมือง ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรมากมาย อาจจะแค่เสียดายถ้าหากเอเดนเลิกคิดที่จะนำไวน์ของผมไปขายที่ร้านของเขา อดสร้างชื่อเสียงให้กับไร่ที่ผมและพ่อพยายามมาทั้งชีวิต

        “ช่างมัน” ไม่มีใครผิดใครถูก เขาว่าผมก่อน ผมก็แค่ว่ากลับ ความคิดความเห็นไม่ตรงกัน บางทีทำธุรกิจร่วมกันอาจไปไม่รอด จบทุกอย่างไว้แค่นี้คงดีกว่

        ทางด้านเอเดนที่มองตามหลังลูกชายเจ้าของไร่องุ่นหายเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกแปลกๆในความรู้สึก

        “เพื่อนงั้นเหรอ” เสียงโทนต่ำพูดพึมพำ เพียงแค่สายลมหนึ่งหอบที่ผัดผ่าน เอเดนก็ขจัดความยุ่งเหยิงในจิตใจทิ้งเหลือเพียงคิดถึงสิ่งที่ต้องทำเท่านั้น

        “นายเป็นแค่หมากในกระดานของฉัน ไม่ใช่เพื่อน และไม่มีวันเป็น สุดท้ายเหยื่อก็เป็นได้แค่เหยื่อ ไม่มีทางลุกขึ้นมายิ่งใหญ่สู่นักล่าได้”

        “ขอโทษครับ คุณเอเดนหรือเปล่าครับ” สำเนียงภาษาอังกฤษสำเหนียงแปร่งๆฟังแทบไม่รู้เรื่องถามขึ้น เอเดนปรายตามอง ทำเอาคนงานถึงกับก้มหน้าหลบดวงตาที่แฝงไปด้วยอำนาจลึกลับด้วยความหวั่นเกรง

        “มีอะไร” เอเดนถามกลับ

        “คือคุณยอร์ชให้ผมพาคุณกลับเข้าเมือง” คนงานพูดเสียงสั่น

        “ไปบอกเขา ว่าผมจะค้างที่นี่ ให้เขาเตรียมห้องเดิมให้ผมด้วย เร็วที่สุด”

        “...” คนงานฟังไม่ทันเลยได้แต่ยืนอึ้ง เอเดนเห็นแล้วก็หงุดหงิด ตวาดออกไปเสียงดัง

        “บอกเขาว่าฉันจะนอนที่นี่ ไปเซ่!”

        “ครับๆ”

        เหอะ นี่แหละมนุษย์ ไม่ได้เรื่อง ไร้ประโยชน์ น่ากำจัดทิ้งให้สิ้นซาก



หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 01-12-2014 05:53:06


        ผมเดินเข้ามาในบ้านหลังจากที่สั่งให้คนงานไปพาเอเดนกลับเขาเมือง เขาไม่ผิดหรอก ผมผิดเองที่พูดอะไรไม่คิด ดูก็รู้ว่าเขาน่าจะอายุมากกว่าผม การที่ไม่พูดสอนเขาทั้งๆที่เราเด็กกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ใครจะชอบ

        แต่พอนึกถึงสิ่งที่เอเดนคิด ผมก็ยังรู้สึกขัดใจลึกๆอยู่ดี ผมไม่คิดว่าสิ่งที่ผมทำมันผิดร้ายแรง ถึงผมจะไม่ได้เอาเรื่องคนที่ขับรถเกือบชนผม พูดให้ถูกก็คือ ผมเองก็ไม่ระวัง นั่นแหละ ยังไงเขาก็ได้รับโทษในความผิดที่เขาก่ออยู่แล้ว ใช่ว่าคนทำผิดลอยนวลซะที่ไหน

        “คุณยอร์ชครับ” เสียงลุงคำดังมาจากข้างหลัง ผมหันไปมองด้วยใบหน้าที่ยังไม่หายหลุดหงิดจากการมีปากเสียงกับคู่ค้าคนสำคัญ

        “ลุงไปส่งเขาแล้วเหรอ” ผมเลิกคิ้วสูงถาม ลุงคำส่ายหน้า

        “คือคุณเขาบอกว่าจะพักที่นี่ครับ ให้ลุงมาบอกคุณ”

        ผมตีหน้ายุ่งหนัก ไม่เข้าใจว่าทำไมเขายังอยากอยู่ที่นี่ทั้งๆที่ผมเพิ่งเสียมารยาทกับเขาไป

        “ถ้างั้นลุงก็ไปทำงานเถอะครับ เดี๋ยวทางนั้นผมจัดการเอง”

        ลุงคำกลับไปทำงานในไร่ ผมถอนหายใจยาว หันซ้ายหันขวาว่าจะกลับเข้าไปทำงานในไร่ดีหรือไปหาเอเดน เปิดบ้านพักให้เขาพักผ่อน แต่การที่เขายังอยู่ ก็แสดงว่าเขาไม่ติดใจถือสาหาความ และยอมทำการค้ากับผมต่อ ผมก็ควรจะดูแลเขาให้ดีที่สุด

        ผมหยิบกล่องพยาบาลบนตู้โทรทัศน์ลงมา และเปิดตู้เก็บกุญแจบ้านพักในไร่มาดอกหนึ่ง เป็นหลังที่เอเดนและเพื่อนของเขาเคยมาพักเมื่อครั้งก่อน ผมคิดว่าเขาน่าจะเลือกหลังเดิม แล้วก็จริง เมื่อผมเดินไปถึง เอเดนยืนกอดอกรออยู่ที่หน้าบ้านพักหลังที่สวยที่สุด ผมเดินเข้าไปใกล้ เพราะเขาหันหลังให้ผมจึงไม่เห็นสีหน้าของชายชาวตะวันตก

        เสียงไขกุญแจดังกริ๊ก เสียงเท้าของคนตัวสูงข้างๆขยับตัว ผมหลีกทางให้เขาเดินเข้าไปข้างใน ส่วนตัวผมยืนอยู่ข้างนอก ผมสัมผัสได้ถึงความตรึงเครียดระหว่างเอเดนกับผม บางทีผมควรจะต้องเอ่ยขอโทษเขาอีกครั้งและเป็นฝ่ายชวนเอเดนคุย

        “ผมเข้าไปได้ไหม” บ้านพักก็ของผม แต่ผมกลับรู้สึกเกรงใจถ้าหากจะเข้าไปโดยที่คนข้างในไม่เอ่ยปากอนุญาต

        “เชิญ” เรียบ แสนสั้น

        ผมก้าวเข้าไปในบ้าน แสงตอนกลางวันส่องผ่านหน้าต่างทั้งสามด้าน ทำให้ห้องสว่างน่าอยู่ ผมวางกล่องยาไว้ที่โต๊ะนั่งเล่นขนาดกลางที่ตั้งชิดติดผนังข้างเตียงนอน ส่งกุญแจให้กับเอเดน ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะอยู่ที่นี่กี่วัน

        “เรื่องเมื่อตะกี้ ผมขอโทษอีกครั้ง คราวหน้าผมจะระวังคำพูดตัวเอง” ผมพูดอย่างรู้สึกผิดนิดๆ ไม่ทั้งหมด บอกแล้วไง ว่าผมกับเขาเราก็ต่างผิดคนละครึ่ง แต่ผมไม่หวังว่าจะได้ยินคำขอโทษจากปากเอเดนหรอก

        เอเดนเงียบ เขามองหน้าผมนิ่งๆ ผมเลยทำตัวไม่ถูก พยายามสั่งให้ตัวเองเลิกเกร็งและทำแผลให้เอเดน เขาบาดเจ็บก็เพราะช่วยผมไว้

        “ผมทำแผลให้นะ” ผมบอก เขาเอาแต่มองนิ่ง แต่ในที่สุดก็ยอมพยักหน้า ตาเขาดุมาก ดูมีอำนาจน่าเกรงขาม มาคิดๆดูแล้ว ผมกล้าแสดงความเห็นเชิงต่อว่าเขาได้ยังไง มาถึงตอนนี้ก็แปลกใจตัวเองไม่น้อย

        ผมนั่งลงข้างๆเอเดนบนเตียง ก้มมองแผลถลอกที่มีเศษฝุ่นและหินเม็ดเล็กๆติดตามแผล ผมทำความสะอาดแผลก่อนที่จะใส่ยา ไม่ได้ติดผ้าพันแผลเพราะเอเดนไม่ต้องการ

        “คุณก็ทายาซะสิ” เขาเหลือบมองเท้าผม ผมมองตามสายตาก่อนจะร้องอ้อในลำคอ ลืมไปเลยว่าตัวเองก็เจ็บตัวไม่ต่างกัน

        “ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวก็หาย” ผมขยับข้อเท้าหมุนไปมา เจ็บจี๊ดจนต้องนิ่มหน้า แต่คิดว่าไม่หนักหนาจนน่าเป็นห่วง

        “ทายาซะ” เขาออกคำสั่ง ผมมองจ้องตาเขาตอบ แต่ก็ต้องยอมทำตามเมื่ออีกฝ่ายพ่นลมหายใจฮึดฮัดไม่พอใจ จนผมทายาแก้ปวดบวมเสร็จ เอเดนถึงได้อารมณ์ดีขึ้น

        “คราวหลังก็ระวังตัวหน่อย ไม่งั้นจะตายก่อนที่จะได้มีชีวิตเพื่อช่วยน้องชายของคุณ” เขาพูดเร็ว แต่ผมรู้สึกแปลกๆ จับใจความที่เขาพูดไม่ทัน

        “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะเอเดน” ผมทวนถาม เขาส่ายหน้า

        “เปล่า ไม่มีอะไรแล้ว จะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ ผมจะพักผ่อน” เขาออกไปไล่กลายๆ ผมเข้าใจ ลุกขึ้นเตรียมออกจากห้องพัก แต่ยังมีคำถามที่ผมยังสงสัย

        “ตกลงแล้วคุณมาทำอะไรที่นี่กันแน่ แค่มาคุยเรื่องซื้อไวน์กับผมเท่านั้นเหรอ”

        เขาคิดก่อนตอบ “ประมาณนั้น คุณคงไม่ใจร้ายไล่ผมไปหาที่นอนที่อื่นหรอกใช่ไหม”

        “อ่อ งั้นก็เชิญตามสบายครับ มีอะไรก็โทรเข้าเบอร์ผม” ผมพูดทิ้งท้ายก่อนจะปล่อยให้เอเดนอยู่ตามลำพัง ส่วนตัวเองก็เลิกคิดเรื่องต่างแล้วกลับเข้าไร่เพื่อทำงาน ป่านนี้พ่อคงบ่นผมแย่เพราะหายออกมานาน




        เช้าวันต่อมา ผมเข้าไปในไร่แต่เช้าตรู่ เมื่อคนงานโทรมาบอกผมว่า ท่อส่งน้ำที่ใช้รดต้นองุ่นแตก เลยเรียกให้ผมออกไปดูว่าควรเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดไหม จะได้ทำการเปลี่ยนท่อส่งน้ำรดต้นไม้ที่เดียวทั้งไร่ ผมออกจากบ้านก่อนพ่อ ไม่ได้แวะไปดูแขก แต่ก็ให้คนงานคอยดูแลส่งข้าวส่งน้ำผมอำนวยความสะดวกทุกอย่าง

        ตรวจสอบท่อที่แตกและส่วนอื่นๆ ผมก็โทรเรียกช่างประจำที่อยู่ท้ายไร้ให้ออกมาคุยเรื่องการปรับปรุงแก้ไขส่วนที่มีความเสียหาย เมื่อเสร็จงานพ่อก็เข้ามาในไร่ ผมคุยกับพ่อนิดหน่อยเรื่องบ้านพักที่ท้ายไร่ที่จะทำให้โยชิ พ่อเพิ่งได้แบบบ้านไม้หลังเล็กน่าอยู่มาสามแบบ เลยเอามาให้ผมช่วยตัดสิน

        “พ่อฝากดูด้วยแล้วกัน” พ่อส่งแปลนทั้งสามแบบให้ผม

        “ได้ครับ วันนี้พ่อจะเข้าไปดูการตัดแต่งพันธุกรรมองุ่นสายพันธุ์ไหมในเมืองใช่ไหม” ผมถาม เก็บแปลนบ้านไว้บนรถใช้งานในไร่

        “ใช่ เดี๋ยวพ่อเข้าไปดูในโรงเรือนเบอร์รี่ก่อนว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าปลูกได้ในโรงเรือนที่ควบคุมความเย็น บ้านเราก็จะได้มีเบอร์รี่กินในราคาที่ถูกกว่าซื้อจากเมืองนอก” พ่อพูด ผมพยักหน้าเห็นด้วย

        “จริงพ่อ ถ้าทำได้ก็เยี่ยมเลย งั้นเดี๋ยวผมเข้าไปดูองุ่นที่จะส่งไปบ่มไวน์ก่อนนะครับ”

        “โอเค พ่อไปก่อนละกัน” พ่อยกมือสูงโบกลาแล้วก็กระโดดขึ้นรถจี๊บขับออกไป ผมขับรถเข้าไปในส่วนขององุ่นที่ปลูกเอาไว้บ่มไวน์ พวกนี้จะมีรสชาติเปรี้ยวแต่ก็ยังอมหวานนิดๆ บางสายพันธุ์ผมใช้ของต่างประเทศ และบางสายพันธุ์เป็นการปรับแต่งยรนส์ใหม่เพื่อให้ปลูกได้ในสภาพอากาศเมืองไทย เพื่อคงคุณสมบัติและรสชาติขององุ่น

        โรงบ่มไวน์ก็อยู่ใกล้ๆกัน เพื่อให้สะดวก แต่ที่เก็บไวน์จะมีสองที่ ที่แรกก็อยู่ข้างๆโรงบ่มไวน์ อีกที่ก็ตรงสำนักงาน จะเป็นจุดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเลือกซื้อและชิมไวน์ ซึ่งไวน์ทั้งหมดจะอยู่ในห้องใต้ดิน

        ผมเดินดูองุ่นที่โตเต็มที่ได้เวลาเก็บไปบ่มไวน์ เด็ดชิมเพื่อทดสอบรสชาติ ไม่มีผิดเพี้ยง ผมยังกังวลอยู่เพราะเมืองไทยร้อนขึ้นทุกวันๆ เกรงว่าจะทำให้องุ่นเสียรส

        “คุณยอร์ชครับๆ มีคนมาขอพบ” คนงานวัยรุ่นวิ่งกระหืดกระหอมมาหาผม ผมผ่อนกรรไกรตัดกิ่งที่ใช้ตัดพวงองุ่นลง หันไปมอง

        “มีอะไร” ผมถาม มองดูอีกฝ่ายที่หายใจหอบเบาๆ

        “มีคนมาขอพบครับ”

        “ใคร”

        “ไม่ทราบครับ เขาบอกแค่ว่ามีเรื่องด่วนจะคุยกับคุณยอร์ช”

        “งั้นเหรอ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”

        “รออยู่ที่หน้าบ้านคุณยอร์ช”

        “ผมไปดูเอง ขอบคุณมากครับ” ผมส่งกรรไกรให้คนงานต่อ แล้วเดินกลับไปที่รถ ขับกลับบ้านพลางคิดว่าใครกันที่มาหาผม ถ้าเป็นเพื่อน คนงานในไร่เกือบหมดก็รู้จัก หรือจะมาติดต่อเรื่องงาน

        ใช้เวลาสิบกว่านาทีผมก็ขับกลับมาถึงที่บ้าน มีชายครหนึ่งยืนรออยู่ด้วยท่าทีกระวนกระวาย ไม่ถึงกับร้อนรนแต่ผมก็พอจะสังเกตเห็น พอได้ยินเสียงเครื่องยนต์ เขาก็หันมาทางผม ผมจอดรถและเดินเข้าไปหา

        “สวัสดีครับ” ผมทักทาย พิจารณาคนตรงหน้าว่าผมเคยรู้จักหรือไม่ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าคุ้นหน้า

        “สวัสดีครับ คุณยอร์ชใช่ไหม”เขาถาม เดินเข้ามาใกล้ผม มองซ้ายขวาด้วยท่าทีระแวดระวัง

        “ใช่ครับ คุณคือ?”

        “ผมอเล็ก” เขาบอกชื่อมา แต่ผมก็ยังนึกไม่ออกว่าเขาเป็นใคร ผมคิดว่าผมไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน

        “เราเคยรู้จักกันมาก่อนเหรอครับ ขอโทษที พอดีผมจำไม่ได้” ผมยิ้มบางๆ

        “คุณไม่เคยรู้จักผมหรอก แต่ผมรู้จักคุณ” เขาพูด เสียงของเขาทุ่มหู ให้ความรู้สึกเหมือนจะสะกดคนฟังได้ “แต่ผมเชื่อว่าคุณจะต้องรู้จักพ่อของผมอย่างแน่นอน”

        “หืม พ่อของคุณ...?” ผมงงเข้าไปใหญ่ว่าผมไปรู้จักพ่อของอเล็กได้อย่างไร

        “พ่อของผมก็คือ...มิสเตอร์โทมัส เฮลน์”

        ชื่อของคนที่เคยรู้จักเมื่อนานมาแล้วทำให้ผมตกตะลึง เป็นเวลาสิบกว่าปีที่ผมเกือบจะลืมเลือนบุคคลคนนี้ไป คนที่ช่วยครอบครัวเราจากสิ่งแปลกประหลาด คนที่สะกดจิตโยชิให้เลิกเข้าใกล้งูและสร้างอาการเกลียดงูเข้าแทนที่

        โทมัส เฮลน์ นักสะกดจิตฝีมือฉกาจ ที่ตายจากไปแล้วในปีเดียวกับที่เขารักษาโยชิ

        และคนตรงนี้นี้คือลูกชายของเขา

        “คุณมีอะไรกับผมเหรอครับ” เมื่อรู้ว่าเขาเป็นใคร ผิวหนังผมก็เย็นเชียบ รู้สึกกลัวและกังวลไปถึงน้องชายอันเป็นที่รัก คงจะไม่มีเรื่องไม่ดีหรอกนะ

        “ผมคิดควรมีบางอย่างที่คุณต้องรู้ ก่อนที่ผมจะถูกตามตัวเจอ” เสียงของเขาแผ่วเบาลงทุกที เหมือนกลัวใครจะได้ยิน ผิดกับแววตาที่แข็งกร้าวมีพลัง

        เสียงฝีเท้าเท้าดังมาจากข้างหลัง ทั้งผมและอเล็กหันมองโดยอัตโนมัติ ร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามในชุดเสื้อโปโลสี่เข้มตัดกับผิวขาวสะท้อนแสง แสงแดดทแยงเข้าตาทำให้ผมเห็นผิวของเขาขึ้นลายแปลก และเดินสีเงินสะท้อนแสง แต่ก็หายไปในชั่วพริบตาเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้

        “ไง” เอเดนทัก ผมแอบเห็นว่าอเล็กตัวเกร็ง ใบหน้าของเขามีร่องรอยความเครียด

        “โทษทีนะเอเดน ผมติดธุระนิดหน่อยเลยไม่ได้ไปหา” ผมพูด เขายกมือกอดอก สายตาไม่ได้มองไปที่ผม

        “ไม่ยักรู้ว่านายรู้จักกับพวกสี่เท้าหน้าขนด้วย” ผมเบนสายตาเหลือบมองผม

        “หืม อะไรนะ” เมื่อตะกี้เขาพูดว่าผมรู้จักสัตว์หน้าขน ทำให้ผมงุนงงไม่น้อยเพราะไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของเอเดน

        “ผมขอตัวกลับก่อนนะคุณยอร์ช” อเล็กเอ่ยลาทั้งๆที่ยังไม่ได้พูดเรื่องสำคัญของการมาหาผมที่นี่ ผมกำลังจะอ้าปากถาม แต่เสียงเอเดนดังแทรกเสียก่อน

        “เดี๋ยวสิ ฉันว่าฉันคุ้นหน้านายนะ อเล็กใช่ไหม” เอเดนถามพลางหัวเราะหึ สีหน้าสนุกสนาน ผิดกับคนที่ถูกถาม ผมว่าอเล็กไม่ชอบเอเดน ดูได้จากสีหน้าและแววตาที่ไม่เป็นมิตร

        “เอเดน คุณรู้จักอเล็กด้วยเหรอ” ผมถามเอเดน พวกเขามองสบตากันอย่างเชือดเฉือน

        “ก็ถ้าใช้อเล็กคนเดียวกัน ก็คงรู้จัก” เอเดนพูดกับผมเสียงอ่อนโยน แล้วหันไปจ้องแขกผู้มาเยือน “ใช่ไหม คุณอเล็ก ผู้เก็บความลับ”

        ถ้าผมไม่ได้มองผิดไป สายตาที่เอเดนมองอเล็ก เหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังล่าเหยื่อ


(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpa1/v/t1.0-9/p350x350/10245432_741165022635714_8592221614802726055_n.jpg?oh=4d08377394fcc5c4c64f75a36ee2be6d&oe=54D73B5E&__gda__=1427847864_0d6b83b011bf0b646351152fa610c112)
       

......................
        ขอโทษที่มาช้านะคะ พอดีป่วย เลยพักผ่อนอย่างเดียว ไม่กระดิกตัวทำอะไร อยากให้หายขาดจะได้มีพลังแต่งนิยายต่อเต็มที่ ช่วงนี้โรครุมเร้าเพราะพักผ่อนไม่ค่อยพอ โดนหมอดุไปหลายดอก สบายใจ :z3:
        บางทีก็อยากให้มีพาร์ทเอเดนบ้าง แต่รู้สึกว่าถ้าเขียนพาร์ทของเอเดน มันอาจจะดูไม่ลึกลับ หรือทุกคนว่าไง แต่ก็คงมีแหละ หลังๆ หรืออาจจะเร็วๆนี้ เพราะไม่รู้ว่าควรจะแทรกพาร์ทของเอเดนในตอนที่สิบเอ็ดดีหรือเปล่า มีในสต็อคแค่ถึงตอนที่สิบเนี่ยแหละ ตอนที่สิบเอ็ดได้ไปแค่สองหน้า ป่วยก่อนเลยไม่ได้ต่อ แต่ขอเวลาคิดอีกสีกวันสองวันนะคะ มีใครอยากอ่านเป็นพิเศษไหม จะได้ตัดสินใจเร็วขึ้น
        อ่านแล้วเม้นให้กำลังใจกันหน่อยนะคะ ริริอ่านทุกเม้นเลยนะ ปลื้มปริ่มที่ยังมีคนอยากอ่านอยู่ จะได้แต่งต่อแบบมีเรี่ยวมีแรง มีกำลังใจ :impress2:
        ขอบคุณทุกคนที่ยังอยู่กันตอนนี้นะคะ :pig4:
        แอบสปอยนิดหนึ่งว่าตอนหน้ามีน้องแมวปุยเมฆโผล่มาด้วย ที่นี่ก็จะได้รู้กันว่านางเป็นแมวธรรมดาหรือนางเป็นแมวที่กลายร่างเป็นคนได้ อยากรู้กันไหม  :hao6:
        วันนี้ต้องไปทำงานละ แค่คิดก็เหนี่อยแบบไม่ต้องทำอะไร  :serius2:
        อรุณสวัสดิ์นะคะทุกคน ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 01-12-2014 06:11:51
รู้ตัวคนสะกดจิตแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 01-12-2014 07:33:29
มาต่อแล้ววววววว
กำลังคิดถึงริริเลยยยยยยยย :กอด1:
เอเดนกับพี่ยอร์ชนี่มีโมเม้นด้วยกันนะะะะ ฮี่ๆๆๆๆๆ :hao7:
ตัวละครใหม่โผล่มาแล้ววววว
จะมาช่วยโยชิให้เลิกกลัวงูไหมน้อออออ :hao4:
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: yokky34 ที่ 01-12-2014 07:48:07
แอะ รู้สึกสนใจเอเดนกับยอร์ชแล้วจิ
2 คนนี้เค้าคู่กันป่ะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 01-12-2014 08:22:16
เอเดนกะพี่ยอร์ชนี่จะมีซัมติงกันมั้ยเนี่ย
ถ้ามีก็ดีนะ
พี่ยอร์ชช่วยเอเดนให้กลับตัวกลับในที
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 01-12-2014 08:23:01
 :impress2: เอเดนกับยอร์ช อ๊ายยยยยย  :impress2
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 01-12-2014 08:43:35
เป็นแบบนี้จะได้รู้ความลับที่ถูกปกปิดมาตลอดมั้ยเนี่ย

ไม่ใช่ว่า เอเดน ฆ่า อเล็กซ์ ซะก่อนนะ

ปูลู อยากให้ พี่ยอร์ช คู่กับ เอเดน จัง 555

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 01-12-2014 13:15:55
จัดมาให้กรี๊ดอีกคู่แล้วใช่เปล่า... พี่ยอร์ชกะเอเดน..อย่าทำร้ายพี่ยอร์ชนะขอบอก
เอเดนต้องแพ้ความดีของพี่ยอร์ชซะดี ๆ ....ไม่อย่างนั้นพี่ยอร์ชไร่ออกจากไร่เลย..
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 01-12-2014 13:47:26
ชอบมากคะ อยากเสนอให้มีทำให้อีกเรื่องนึ่งเลย เอเดนxยอรช์   อ่านแล้วอ่านอีก ฟินมาก อยากให้ เอเดน ยอร์ชเยอะๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 01-12-2014 14:48:39
 อเล็กซ์ ไม่ปลอดภัยซะแล้วววววว
จะโดนเก็บมั้ยเนี่ย

เอเดน บอกเกลียดคนแบบยอร์ช
เกลียดอะไรจะได้อย่างงั้นนะ
 :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 01-12-2014 15:03:20
 :L2:อากาศเปลี่ยนแปลง ดูแลตัวเองนะคะ
แข็งแรง หายป่วยนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 01-12-2014 18:06:44
มันเจ้มจ้นมากกกก
เอเดน ว่าพี่ยอร์ชได้ไง เดี๋ยวตีตายเลยย :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-12-2014 18:27:25
มาอ่านแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 01-12-2014 19:09:20
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:   เอเดนนนนน แอบมุ้งมิ้งๆกับพี่ยอช นะเนี่ย   :z1:

แสดงว่าคนพี่จะได้พี่ คนน้องจะได้น้อง  สินะ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-12-2014 19:09:45
รู้สึกเอเดนจะอ่อนให้พี่ยอร์ชนะ

อยากให้คู่กันนะพี่ยอร์ชกับเอเดน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 01-12-2014 20:33:35
พี่ยอชนี่น่ารักนะ เอเดนยังไงกันเนี่ย

เราแอบเชียร์คู่นี้นะ พูดเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 01-12-2014 23:20:22
 :katai1: ค้างงงงงงงงง
เรื่องชักจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้ววววว
ปล.แอบเชียร์คู่เอเดนxยอร์ช
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: duckduckk3 ที่ 02-12-2014 13:16:19
ตามอ่านทันสักที  :heaven

หวังว่าอเล็กจะไม่ตายก่อนบอกความจริงนะ.......
ริริมาต่อไวๆนะะะะ ค้างงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-12-2014 14:55:48
เอเดนนี่ดีหรือร้ายยย
ไปทางร้ายมากกว่า หึหึ
ขอพาร์ทเอเดน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-12-2014 17:12:43
เอ๊ะๆๆๆๆ คู่ใหม่สิน๊าาาาาา *0*
น่าสนใจจิงๆ 2 คน(?)นี้ หุหุ
แต่อิ Dr. สะกดจิตไรนี่ ตัวร้ายชัดๆ ฮึ่มมมมม
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 03-12-2014 13:56:22
เรื่องลึกลับน่าติดตามฮะ ท่าทางจะเป็นเอเดน-ยอร์ชหรือเปล่า
รอลุ้นเหมือนกันนะ ท่าเอเดนมีความรักบ้างจะเป็นไง 555+
ขอให้คนแต่งหายเร็วๆ สุขภาพแข็งแรงนะฮะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINE ❁ 01-12-2014[P.38]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 08-12-2014 06:28:35
 :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 10-12-2014 00:01:57
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TEN






      Yoshi

      สิ่งพิเศษที่มาพร้อมรอยปานบนหน้าอก

      หัวใจครึ่งหนึ่งของบาซิลิสก์อยู่ในตัวผม อีกครึ่งอยู่กับอาซา

      อย่าได้ถามว่าผมรู้สึกยังไงกับความจริงที่อยากรู้นักหนา เพราะผมเองก็ไม่รู้ กลัวกับสิ่งที่ฝั่งอยู่ในตัว กลัวกับความลี้ลับผิดปกติ แต่ก็ตื่นเต้นกับความพิเศษที่ได้มาจากอาซา ผมดีใจที่เรามีหัวใจดวงเดียวกัน และคิดว่ามันไม่น่ามีปัญหาอะไร ในเมื่อผมก็อยู่กับมันมาได้ตั้งนาน

      บาซิลิสก์...ไม่คิดว่าจะมีอยู่จริง เพราะอาซาเป็นบุตรของอสรพิษผู้ยิ่งใหญ่ เขาถึงได้เก่งกว่าใคร เก่งกว่าเจอร์โรมที่ร้ายกาจ ป่านนี้ไปกบดานอยู่ที่ไหนไม่มีใครรู้ แต่ไม่มีเขาก็ดี ผมยังคงเกลียดเขา เพราะเขาฆ่าเพื่อนของผม

      ตอนนี้ผมรู้ความลับอะไรหลายๆอย่าง แต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีกว่าจะแก้ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ตราบใดที่เรายังไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของเอเดน

      เมื่อคืนผมบอกกับอาซาถึงข้อสันนิฐานที่ผมคิดหลังจากที่รู้เรื่องที่ตัวเองมีหัวใจแห่งบาซิลิซก์ในตัว บางทีเอเดนอาจจะรู้หรือเปล่าว่ามีอีกครึ่งอยู่ที่ผม เขาถึงได้เข้ามาวุ่นวายกับผมและครอบครัว แต่อาซาแย้งกลับว่า ถ้าเอเดนต้องการหัวใจบาซิลิซก์เพื่อให้ตัวเองมีอำนาจครองโลกจริง และรู้ว่าครึ่งหนึ่งอยู่ที่ผม เขาไม่มีทางปล่อยให้ผมลอยนวล หากแต่ว่า เอเดนไม่รู้เรื่องนี้เพียงพอ เขาถึงยังได้ไม่ลงมือทำอะไรไปมากกว่าสร้างความวุ่นวายให้อาซาด้วยการฆ่าคนบริสุทธิ์และโยนความผิดให้พ่องูของผมกลายเป็นแพะ

      “ตื่นแล้วเหรอ”

      “อืม” ผมครางตอบในลำคอ นอนมองคนตัวสูงที่สวมเพียงกางเกงยีนส์ทรงเดฟสีดำหน้ากระจก แผ่นหลังสีขาวซีดเต็มไปด้วยรอยเล็บลากเป็นทางยาว ไม่คิดว่าผมจะทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายที่แสนจะเพอร์เฟกต์ของอาซามากขนาดนี้ เห็นแล้วเจ็บแทน

      มากกว่าสิ่งอื่นใด ผมรู้สึกเขินกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจนไม่กล้ามองหน้าคนรักตรงๆ

      ก็ผม...เรียกร้องตั้งหลายครั้ง

      ก็...ก็

      ก็ใครใช้ให้เขาแกล้งผมกันละ พอกันที ผมควรจะเลิกเรื่องนี้ มีแต่จะทำให้หน้าร้อนเห่อ

      "คิดอะไรลามกอยู่เหรอไง" อาซากระซิบข้างหู ผมตกใจ มัวแต่คิดบ้าๆจนใจลอย

      แต่ใครจะไปยอมรับ “เปล่าสักหน่อย”

      “หึหึ” หัวเราะแบบนี้ แม้จะไม่ไดพูดล้อเลียน แต่ความหมายของมันก็บอกให้รู้ว่าเขาไม่เชื่อ

      ผมตีสีหน้าให้เป็นปกติ กระแอมไอเบาๆ “จะออกไปข้างนอกอีกแล้วเหรอ ไปทำอะไร” ผมอยากรู้ทุกอย่างที่อาซากำลังทำ ถ้าพอมีอะไรช่วยได้ผมก็อย่างช่วย

      อาซาถอนหายใจ ดึงผมเข้าหา โอบไหล่หลวมๆ “ออกไปคอยสังเกตการณ์หาเบาะแสคนร้าย เอเดนไม่ลงมือทำเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเองแน่ๆ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือล่าตัวคนที่ทำมือทำ”

      “แล้วรู้เหรอว่าใคร” ผมถามด้วยความสงสัย

      “ไม่รู้ แต่ก็ต้องทำ ไม่ง่ายและก็ไม่ยากที่จะหาตัว”

      “ยังไง” ผมคงดูโง่มากในสายตาใครหลายคน เรื่องแค่นี้ก็ยังไม่เข้าใจ

      “ไม่ว่าเราไปที่ไหน ถ้ามีพวกนากินีอยู่ในระยะใกล้ เรารู้แน่ๆ เมื่อรู้ว่าใครเป็น ขอบเขตในการเฝ้ามองก็จะน้อยลง”

      “แต่ถ้าคนที่ทำซ่อนตัวล่ะ”

      “นั่นแหละคือปัญหา แต่ฉันคิดว่ามันต้องลงมือทำอีก เพราะฉะนั้นเวลานี้ เราก็ต้องลงมือทำอะไรสักอย่างก่อนที่มันจะฆ่ามนุษย์บริสุทธิ์ไปมากกว่านี้”

      “แล้วนายรู้ไหมว่าตอนนี้เอเดนอยู่ที่ไหน”

      “ไม่รู้ ฉันยังหาไม่เจอ”

      “นายไม่ได้กลิ่นเขาเลยเหรอ”

      “ได้กลิ่นอยู่ แต่บางเบามากจนแทบสัมผัสไม่ได้ และบางทีก็ไม่ได้กลิ่นเลยอย่างตอนนี้”

      “นายดมกลิ่นได้ไกลแค่ไหน”

      “ถามเหมือนฉันเป็นสุนัข”

      “เปล่า ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” ผมรีบแก้คำพูดเพราะกลัวอีกฝ่ายเคือง “ฉันหมายความว่าระยะทางแค่ไหนที่นายสามารถได้กลิ่นพวกเดียวกัน”

      อาซายิ้มบางขำในลำคอ กดจูบที่ขมับค้าง “ฉันรู้หรอกน่า ถ้าอยู่ในระยะหนึ่งกิโลเมตร กลิ่นก็พอสัมผัสได้ แต่ถ้าเลยไปถึงสองกลิ่นจะเริ่มจาง และถ้าไกลมากกว่ารัศมีสามกิโลก็จะไม่ได้กลิ่น”

      “หมายความว่าตอนนี้เอเดนไม่ได้อยู่ที่นี่หรือ”

      “อาจจะใช่และไม่ใช่”

      “ยังไง” ผมจะต้องดูโง่อีกกี่ครั้งกันนะ ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า ไม่มีใครไม่โง่ก่อนฉลาด ต้องเริ่มจากการไม่รู้ พอเรียนรู้ก็จะเข้าใจได้ในภายหลัง

      “มันก็มีวิธีกลบกลิ่นอยู่บ้าง อย่างเช่น นายจำได้ไหม ทุกครั้งที่เจอเจอร์โรม เขามักใส่เสื้ออะไร”

      “เสื้อหนังอะไรสักอย่าง”

      “หนังงู”

      “หืม จริงเหรอ งูตัวขนาดไหนถึงจะได้เสื้อตัวใหญ่ขนาดนั้น”

      “ก็ใช้งูหลายตัวไง”

      “เขาใช้กลิ่นงูกลบกลิ่นหมาป่าของตัวเองเหรอ แต่ฉันไม่เห็นได้กลิ่นเลยตอนที่อยู่ใกล้เขา”

      “คนปกติไม่ได้กลิ่นงูหรอก แต่พวกเราจะได้กลิ่นกันเองตามสัญชาติญาณ”

      “ถ้าทำแบบนั้น แม้แต่พวกนายก็จะไมได้กลิ่นเอเดน แล้วเขาจะใช้อะไรกลบกลิ่นงูของตัวเองกัน”

      “ไม่รู้สิ”

      “แบบนี้ไม่แฟร์เลย มีแต่พวกเราที่หัวหมุน ทำอะไรก็มีแต่เสียเปล่า”

      “แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย”

      “ก็ใช่” ผมยอมรับต่อคำพูดที่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ “มีอะไรให้ฉันช่วยไหม” อาสาแข็งขัน อาซาเลิกคิ้วสูงทำหน้าฉงนใส่ผม

      “ช่วยอยู่เฉยๆดีกว่า”

      ผมทำหน้าเซ็ง หมดอารมณ์คุยต่อเมื่ออาซาพูดเหมือนน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของผมจะไปทำให้เขาเดือดร้อน มากกว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์

      “อย่ามาร้องให้ช่วยทีหลังก็แล้วกัน”

      “ไม่น่าเกิดขึ้นนะ”

      “อาซา!” ผมขึ้นเสียงแข็ง แต่อาซากลับหัวเราะร่า เลิกสนใจผม ลุกขึ้นไปแต่งตัวต่อ ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องผมลุกขึ้นอาบน้ำ

      โทรศัพท์ผมดังขณะที่กำลังแต่งตัว ผมวางหวีลงบนโต๊ะกระจก เดินไปหยิบโทรศัพท์มาดูและกดรับสายเติร์ด ตั้งแต่ปิดเทอมเราติดต่อกันน้อยครั้งมาก ส่วนมากเป็นข้อความสั้นๆมากกว่าที่จะโทรคุย

      “ไง” ผมทักปลายสาย ยกมือสางผมให้เข้าที่เข้าทาง

      “อยู่ไหน” เติร์ดถามสั้นๆ

      “อยู่แอชยู” ผมตอบ

      “ดีเลย” เสียงเติร์ดดีใจลิงโลด ได้ยินเสียงร้องเหมียวดังแว่วเข้ามา น่าจะเป็นปุยเมฆ “ฉันเพิ่งย้ายของเข้าคอนโดใหม่วันนี้ ว่าจะรบกวนนายมาช่วยจัดห้องหน่อย น้องปุย อย่าไปซนตรงนั้น มานั่งนี่”

      “จริงเหรอ ทำไมย้ายไปอยู่คอนโดละ” ผมถาม มองตัวเองในกระจกจนเป็นที่แล้วก็ทิ้งตัวนอนเล่นบนเตียง ตาก็มองประตูรออาซา

      “ก็อยู่หอข้างในฉันเลี้ยงน้องปุยไม่ได้ เลยซื้อคอนโดอยู่แทน”

      ก็รู้อยู่ว่าคนที่มาเรียนที่ได้ไม่ใช่คนธรรมดา ทุกคนต้องมีเงินมากๆ หรือไม่ก็มีความสามารถที่โดดเด่น ผมไม่เข้าข่ายทั้งสองอย่าง อาจจะรวยแต่ไม่มาก และผมก็ไม่ได้ฉลาดไอคิวสองร้อยกว่า เห็นได้จากเรื่องยุ่งเหยิงของอาซากับเอเดนที่ผมยังคงโชว์ความโง่ไม่จบไม่สิ้น

      แต่ที่ได้มาเรียนก็เพราะว่า...ตัวผมมีจิตวิญญาณของบาซิลิสก์ในตัว หรือเรียกว่าผมก็เป็นนากินีตนหนึ่ง

      “ลงทุนขนาดนั้น แต่คอนโดนี้เขาให้นายเลี้ยงสัตว์หรือไง ที่ไหนก็ไม่ให้เลี้ยงไม่ใช่เหรอ”

      “คอนโดนี้ของบ้านฉันเอง”

      อ่อ ต่อให้เลี้ยงก็คงไม่มีใครว่าหรือไล่ออก

      “ตกลงนายว่างมาช่วยฉันไหม”

      “ว่าง จะให้ฉันไปหาที่ไหน”

       “ที่ The Prior Condo ตรงถนน T ถ้ามาไม่ถูกก็โทรมานะ”

       “ได้ๆ แล้วเจอกัน”

       “ขอบใจมาก”

       ผมวางสาย พอดีกับที่อาซากลับเข้ามาในห้อง ในมือเขามีถาดอาหารเช้าสำหรับเราสองคน ที่หายไปคือไปเตรียมอาหารเช้ามาหรอกเหรอ

      “อาซา วันนี้ฉันขอไปหาเติร์ดนะ พอดีเขาย้ายเข้าคอนโด เลยให้ฉันไปช่วยจัดของ”

      อาซาขยับนั่งบนเตียง คิ้วขมวด “แถวไหน”

      “The Prior Condo ตรงถนน T”

      “อืม ห้ามก่อเรื่องนะ” เขาพูดเสียงดุ ผมหน้างอ

      “รู้แล้วน่า ย้ำจังเลยนะเรื่องนี้” ผมคว้าเอาแฮมเข้าปากเคี้ยวฉับๆ

      “ก็นายมันซน ชอบหาเรื่องตลอดเวลา”

      “พูดมาก กินเข้าไปเลย” เอาแฮมยัดปากเลยนี่




       อาซามาส่งผมที่คอนโดใหม่ของเติร์ด ตึกสูงออกแบบล้ำสมัย ลวดลายที่สร้างขึ้นจากวัสดุทั้งเหล็กหรือก่อนปูนเป็นรูปร่างแปลกประหลาดแต่ดูสวยงาม แต่ละมุมของคอนโดหรูประดับไปด้วยไม้ประดับเป็นแนวดิ่งลงมา สงสัยว่าใครจะเป็นคนลดน้ำ หน้าฝนคงไม่มีปัญหา แต่ในหน้าร้อนกับหน้าหนาวคงลำบากไม่น้อย

       คอนโดนี้ไกลจากแอชยูนิดหน่อย แต่เดินทางสะดวก เป็นเส้นที่รถไม่ติด คงเพราะแบบนี้ ทำให้คอนโดนี้ราคาเช่าต่อเดือนเกือบแสน คงไม่ต้องพูดถึงราคาเต็ม เป็นบุญจริงๆที่ได้มาเหยียบ

       ผมยืนรอเติร์ดหน้าคอนโด ข้างๆกันมีหนุ่มหล่อสวมแว่นกันแดดเรย์แบนยืนพิงประตูรถ เขาดูดีแม้อยู่ในเสื้อยีนส์สีอ่อนพับแขนเสื้อกับกางเกงยีนส์เข้ารูปสีดำ สวมรองเท้าหลังพร้อมตามล่าหาตัวเอเดน

       ผมออกแนวอิจฉา อาซาดูดีเกินไป ผมกลายเป็นเด็กกะโปโลไม่คู่ควร ยามมีคนเดินผ่านและมองคนข้างกายผมด้วยความสนใจ ความหึงหวงคืบคลานครอบงำจิตใจ ไม่อยากให้ใครก็ตามมองคนรักของผมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาจะครอบครอง

       แต่แล้วก็รู้สึกดีใจเกินจะเอ่ย กับความจริงที่ว่า อาซาเป็นคนรักของผม ‘คนเดียว’ และเขาก็รักผม ‘คนเดียว’

       เพียงผมเท่านั้นที่ได้ครอบครองหัวใจของพ่องูตัวร้าย

       “โยชิ!” เสียงทุ้มนิดๆแต่ก็ใสอยู่ในทีตะโกนเรียกผม เติร์ดเดินมายิ้มให้ผม สองแขนอุ้มปุยเมฆแมวที่นิกกี้เก็บไว้ได้เอาไว้อย่างหวงแหน

       แต่แค่ลงมารับผม ถึงกับต้องอุ้มเจ้าแมวตากลมลงมาด้วยเหรอ อะไรจะติดกันปานนั้น

       “แมวนั่น” เสียงอาซาดังเหนือหัวเหมือนกระซิบ ผมเหลือบตาสูงมองอาซาด้วยความแปลกใจ ท่าทีเกร็งๆเวลาเจอแมว คงไม่ใช่เพราะกลัวหรอกนะ

       จะว่าไป...เมื่อตอนนั้น บนรถระหว่างไปร่วมพิธีฝังศพนิกกี้ อาซาที่พันอยู่ที่คอผม ก็เกร็งตัวไม่ต่างจากตอนนี้เมื่อเติร์ดอุ้มปุยเมฆขึ้นรถ

       เป็นไปได้สองอย่าง ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวแมวก็แสดงว่าปุยเมฆต้องมีอะไรพิเศษที่พอจะกระตุ้นอาซาได้

       “ไฮอาซา” เติร์ดทักอาซาเมื่อเดินมาถึง

       “ไฮ” อาซาทักตอบ แต่ตามองปุยเมฆคล้ายกำลังประเมินสถานการณ์ ส่วนเจ้าแมวลายเสือจากที่เอนหัวซบอกเจ้าของ ก็ผงกหัวขึ้นมองอาซาไม่วางตา

       ไว้กลับไปค่อยถามอาซาว่าอะไรเป็นอะไร

       “วันนี้ฉันขอยืมตัวโยชิหน่อยนะ” เติร์ดพูดเหมือนขออนุญาตกับอาซา คนตัวสูงพยักหน้าเล็กน้อยยินยอม

       “ฝากด้วยแล้วกัน ตอนเย็นฉันจะมารับกลับ” อาซาพูดกับเพื่อนของผมก่อนจะหันสายตากลับมาหาผม “จะออกไปไหนก็โทรบอกฉันด้วย” ถ้าถอดแว่นกันแดดออก คงได้เห็นสายตาของเขากำลังแสดงความเป็นห่วง

       “อืม ไปทำงานเถอะ ระวังตัวด้วยนะ” ผมพูดเสียงเบากับอาซาให้ได้ยินกันเพียงสองคน เขาก้มลงจูบที่หน้าผากผมก่อนจะขึ้นรถขับออกไป เติร์ดล้อผมทางสายตา ผมเลยพูดไล่มันขึ้นคอนโดเป็นการกลบเกลื่อน

       ห้องของเติร์ดอยู่เกือบชั้นบนสุด อยู่ต่ำลงมาแค่สองชั้น ชั้นถัดไปเห็นว่าเป็นของแขกวีไอพีมากๆที่เช่าไว้ปีหนึ่งแบบจ่ายค่าเช่าเต็มจำนวน ทั้งสองห้อง เป็นเงินหลายล้านบาท ส่วนบนสุดเป็นของพ่อเติร์ด ส่วนชั้นที่เพื่อนผมอยู่มีสองห้องเช่นกัน ห้องหนึ่งของพี่ชาย อีกห้องก็ของเติร์ดที่เป็นน้องชาย

       “ห้องสวยดีนะ”

       ต้องชมคนออกแบบห้อง เป็นสัดเป็นส่วนลงตัว ไม่มีจุดให้ตำหนิ เฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลเข้มประดับให้องดูอบอุ่น ไม่เยอะชิ้น มองแล้วสบายตา

       เติร์ดวางปุยเมฆลงบนพื้น เจ้าเหมียวเดินวนคลอเคลียรอบขาเจ้าของ เอาหน้าถูไถไปมาออดอ้อน เติร์ดก็ได้แต่หัวเราะเอ็นดู

       “ขี้อ้อนจริงๆนะ ไปนอนบนเบาะดีๆไป เดี๋ยวพี่จะจัดห้อง” เติร์ดพูดกับแมว และเหมือนปุยเมฆจะฟังเข้าใจ เลิกเคล้าเคลียเดินไปนอนแหมะบนเบาะนุ่มข้างๆโซฟา

       “ดูมันเชื่อฟังนายดีเนอะ” ผมพูด หยุดสำรวจห้อง

       “หึหึ แรกๆก็รบกันอยู่นาน แต่เห็นอ้อนแบบนี้ บทจะดื้อขึ้นมาก็ไม่ฟังเหมือนกัน ข่วนได้แผลมาหลายที่แหละ” ปากบ่นแต่มองเจ้าเหมียวด้วยความเอ็นดู เจ้าตัวที่ถูกพูดถึง โงหัวขึ้นมองตาปริบๆก่อนจะส่งเสียงโต้ตอบ

       เหมียวว!

       “เปล่านินทา นอนไปซะ” นั่นละ ถึงได้ยอมนอนต่อแต่โดยดี

       ฉลาดเกินไปหรือเปล่านะ

       “ให้ช่วยทำอะไรบ้าง” ผมถาม มองข้างของที่วางเกลื่อนกระจัดกระจาย

       “ยังไม่รู้ แปบนะ กำลังงงอยู่” เติร์ดเกาหัว มองข้าวของก่อนจะเริ่มลงมือหยิบจับ ผมช่วยเอากล่องหนังสือเรียนเรียงเข้าชั้นหนังสือ ข้างๆเป็นโต๊ะไว้ทำงาน ผมช่วยเท่าที่ทำได้ เท่าที่พอจะรู้ว่าอะไรควรเก็บไว้ตรงไหน อย่างเช่นของในครัว ก็เก็บๆเข้าตู้เข้าลิ้นชัก ของกินก็เอาเข้าตู้เย็น งานง่ายๆไม่มีอะไร

       เติร์ดกำลังจัดของในห้องนอน ส่วนปุยเมฆก็นอนกลางวันสบายใจ จนกระทั่งเก็บจัดข้าวของเสร็จ ก็ได้เวลากินข้าวเที่ยง ที่เลยมาเกือบชั่วโมง

       เรานั่งกินอาหารตรงโซฟานั่งเล่น เปิดโทรทัศน์ดูที่กำลังฉายหนังทางช่องเคเบิลทีวี ทั้งผมและเติร์ดนั่งกับพื้นจัดการอาหารกันเงียบๆ มีพูดคุยกันบ้างตามประสา บนตักของเติร์ดก็มีเจ้าปุยเมฆนอนซบนิ่งๆ

       “คิดถึงนิกกี้เนอะ” ผมพูดหลังจากที่จัดการข้าวผัดหมดจาน เติร์ดชะงักมือ หันมองผม ดวงตาไหวสั่นเล็กน้อย เจ้าปุยเมฆเองก็ส่งเสียงเบาๆคล้ายจะออกความเห็นเรื่องที่ผมหยิบมาพูด

       “อืม” เติร์ดพยักหน้า ตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปาก เคี้ยวช้าๆจนหมดคำ ก่อนจะลุกเอาจากไปเก็บ แล้วกลับมานั่งที่เดิม

       “ป่านนี้คงนอนมองเราอยู่บนท้องฟ้าสายใจละ” เติร์ดยิ้ม ผมดีใจที่เพื่อนทำใจได้

       “ยังรักมากอยู่ไหม ไม่เป็นไรนะ” ผมแตะมือที่ไหล่กว้าง

       “รัก...แต่ทำใจได้แล้ว นิกกี้คือความทรงจำดีๆในช่วงเวลาหนึ่ง อย่างน้อยๆก็มีเจ้านี่ไว้ให้ดูต่างหน้า” เพื่อนตัวโตของผมก้มมองก้มกลมๆขนฟูฟ่องบนตัก แต่ดูเหมือนคำพูดจะไม่เข้าหู ปุยเมฆเงยหน้าร้องเสียงแข็ง แล้วก็ลุกเดินหนีไปเลย

       “อ้าว” ผมมองตามงงๆ เติร์ดก็ไม่ต่างกัน แต่ไม่ได้ตามกลับ “มันเป็นอะไร” ผมถาม

       “ไม่รู้สิ งอนมั้ง”

       “งอนเรื่อง”

       “ไม่รู้สิ”

       อ้าว แล้วตกลงมันยังไงเนี่ย

       “ปุยเมฆชอบเป็นแบบนี้ บางทีฉันก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็นะ จะเอาอะไรกับแมวมาก แค่เหมือนจะคุยกันรู้เรื่องในบางทีก็ดีแล้ว”

       “แต่ก็ช่วยทำให้ไม่เหงาใช่ไหมละ”

       “ช่วยได้ดีเลยล่ะ”

       ผมขยับตัวนั่งบนโซฟา เติร์ดเดินไปเอาผลไม้ในตู้เย็นออกมากินล้างปาก นอนดูทีวีรอให้ถึงตอนเย็น ผมเล่าเรื่องที่ไร่ให้เติร์ดฟัง เขาบอกว่าอยากไปบ้าง คราวหน้าคงไม่พลาดไปกับผม เราคุยกับเรื่องเปื่อย หลายต่อหลายเรื่องจนผมเริ่มง่วง เผลอหลับไปจนกระทั่งตอนเย็น เสียงโทรศัพท์ดังปลุก

       “รออยู่ข้างล่างนะตรงล็อบบี้นะ” อาซาบอกมาในสาย ผมอือออลุกนั่งงัวเงีย เติร์ดเลยไล่ผมไปล้างหน้าในห้องนอนให้สดชื่น

       เติร์ดมาส่งผมข้างล่าง ระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่แน่นหนามาก เกือบทุกจุดต้องใช้คียการ์ดในการเข้าออก ดูยุ่งยากวุ่นวาย แต่ก็ดูปลอดภัยมากทีเดียว

       ผมมองหาอาซาไม่ยาก เขาโดดเด่นอยู่ในสายตาเขาตลอดเวลา อาซามองเห็นผมก็ลุกขึ้นยืน เห็นตาเขาเหลือบมองไปทางข้างหลังผมที่มีเติร์ดอุ้มแมวเดินตามมา ผมรู้แล้วว่าทำไมเติร์ดต้องอุ้มปุยเมฆลงมาด้วย

       เจ้าแมวตัวนี้ไม่ชอบอยู่ลำพังในห้อง เติร์ดเล่าว่า ถ้าปล่อยทิ้งไว้ แม้เพียงไม่กี่นาที เจ้าปุยเมฆก็จะอาละวาดทำลายข้าวของเป็นการประกาศสงครามย่อมๆ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน เติร์ดจำเป็นต้องพาแมวลงมาด้วยทุกครั้ง

       แบบนี้จะไปเรียนยังไง คงไม่ได้ต้องพาไปด้วยหรอกนะ

       “ฉันไม่ได้ใช่งานแฟนนายหนักหรอกนะ วางใจได้” เติร์ดพูดกับอาซาขำๆ อาซาแค่ยิ้มบางๆ

       “กลับเลยไหม” เขาถามผม

       “อืม ไปก่อนนะเติร์ด ไว้เจอกันเปิดเทอม ไปก่อนนะเจ้าปุยเมฆขี้งอน” ผมขยี้หัวแมวด้วยความหมั่นเขี้ยว เติร์ดกลับขึ้นห้อง ผมกับอาซาก็เดินไปที่ลานจอดรถ ขึ้นรถมาได้อาซาก็ส่งกระดาษทิชชู่เปียกให้ ผมมองของในมือใหญ่งงๆ

       “เช็ดมือซะ ฉันไม่ชอบกลิ่นแมว” ผมถึงได้เข้าใจ รับมาเช็ดมือจนสะอาด

       “กลัวแมวเหรอ” อาซายังไม่ออกรถ แต่สตาร์ทเครื่องยนต์ติดเอาไว้

       “ไม่ได้กลัว แต่ไม่ชอบ” แล้วทำไมต้องทำหน้าเครียดด้วย

       “ไม่กลัวก็ไม่กลัว” ผมทำหน้ารู้ทัดอาซาเลยขยี้หัวผมแรงๆ ถอยรถออกจากที่จอด ขับช้าๆออกจากลานจอดรถขอคอนโด ก่อนจะเบรดเอี๊ยดอย่างแรง หัวผมเกือบจะทิ่มคอนโซลรถ แต่ดีที่อาซาเอามือมารองไว้ หัวผมเลยไม่แตก

       “เป็นอะไรอาซา” ผมถาม ใจเต้นเร็วเพราะตกใจ อาซาไม่ตอบ เอี้ยวตัวมองไปข้างหลัง ผมมองตาม มองเห็นผู้ชายสองคนเดินอยู่ ผมไม่รู้ว่าอาซามองใคร จนกระทั่งทั้งสองคนหันด้านข้างให้เห็น คนหนึ่งผมไม่คุ้นหน้า แต่อีกคนไม่มีทางที่จะลืม

       “ชาร์ล...” ผมเอ่ยชื่อคนๆนั้นเสียงแผ่ว

       “อยู่ที่นี่นี่เอง”

       บทจะเจอมันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ แสดงว่าเอเดนอยู่ที่นี่เองสินะ

       “ตอนที่นายมา นายไม่ได้กลิ่นพวกเขาเหรอ” ผมสงสัยเลยถาม อาซาส่ายหน้าเครียดจัด

       “พวกเขาคงทำอะไรสักอย่างให้ฉันไม่ได้กลิ่น แต่ช่างมัน ยังไงก็เจอตัวแล้ว” คนพวกนี้ร้ายกาจเหนือขั้น

       “อาซา เอายังไงต่อไปดี” ผมถาม อาซาขับรถต่อ แต่จอดเทียบฟุตบาตรหน้าคอนโดเติร์ด เขาใช้ความคิดอยู่สักพัก ก่อนจะมองผมด้วยสีหน้าจริงจังจนผมเครียดตาม

       “ฉันคิดว่าเรื่องนี้ต้องให้เพื่อนนายกับแมวของเขาช่วย” อาซาบอก แต่ผมไม่เข้าใจ

        “ยังไง เติร์ดกับปุยเมฆจะช่วยอะไรได้ แล้วพวกเขาจะไม่เป็นอะไรเหรอ” ผมกังวลใจ ไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเสี่ยงอันตราย ไม่อยากให้เติร์ดเป็นเหมือนนิกกี้

        “ไม่ต้องห่วง มันจะไม่เป็นเหมือนครั้งนั้น” อาซาลูบแก้มผมให้ความมั่นใจ เขารู้ว่าผมไม่สบายใจเรื่องอะไร

        “นายจะบอกเติร์ดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดเหรอ” ให้เติร์ดรู้เรื่องที่พวกเขาเป็นงูเนี่ยนะ

        “เปล่า ฉันแค่จะยืมตัวแมวของเขา”

        “ปุยเมฆนั่นเหรอ ยังไง” ผมไม่เห็นว่าแมวตัวแค่นั่นจะช่วยอะไรได้

        “เอเดนชอบแมวมาก ถ้าเราให้ปุยเมฆเข้าไปในห้องของเอเดน เราจะต้องรู้แน่ๆว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร” ยิ่งอาซาพูดผมก็ยิ่งงง

        “อาซา นั่นมันแมวนะ ต่อให้มันฟังเอเดนกับเพื่อนคุยกันรู้เรื่อง มันจะมาบอกเราได้ยังไง” ผมแย้ง ไม่เห็นด้วยกับความคิดแปลกๆของอาซา

        “อย่าโง่น่าที่รัก” เขาว่าผม ผมไม่โกรธ แต่หน้าตึงหน่อยๆ

        “ฉันโง่ตรงไหน” ผมเชิดหน้าย้อนถามเอาเรื่อง

        “แมวตัวนั้นมันไม่ใช่แมวปกติ” อาซาตอบนิ่งๆ แต่ผมนี่ขนลุกไปทั่วล่าง

        “นายว่าไงนะ” ถ้าไม่ใช่แมวปกติ แล้วเป็นแมวอะไร”

        “มันเป็นเหมือนพวกฉัน แต่ดูท่าว่าจะยังกลายร่างไม่ได้ แต่เพราะมันไม่ใช่แมวปกติธรรมดา มันจึงมีความสามารถพิเศษแบบที่แมวทั่วไปไม่มี เพราะงั้นฉันถึงบอกว่า ฉันต้องให้แมวของเพื่อนนายชั่ว” น้ำเสียงกระตือรือร้นมีความหวัง ผมรีบปรับความคิดให้เท่าทันอาซา

        “แล้วปุยเมฆมีความสามารถพิเศษยังไง”

        “ความพิเศษมีไม่มาก ก็แค่มีเก้าชีวิต แยกร่างได้เก้าร่าง เราสามารถใช้เจ้านั่นเข้าไปหาเอเดน โดยใช้ร่างใดร่างหนึ่งของมันเข้าไปหา เพื่อล้วงความลับ และเพราะเอเดนชอบแมวมาก ถ้าให้เจ้าแมวนั่นทำเป็นแมวหลงทาง ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องเลี้ยงไว้แน่ๆ”

        โอ้แม่เจ้า ไม่คิดเลยว่าแมวตัวเล็กๆแค่นั้นจะพิเศษได้ขนาดนี้

        “แล้วปุยเมฆจะยอมเหรอ นายคุยกับมันรู้เรื่องหรือไง” ผมถาม ถึงปุยเมฆจะช่วยได้ มันจะยอมช่วยเราหรือเปล่า ถูกจับได้มีแต่ตายกับตาย

        “ก็ต้องลองดู” อาซามีอาการไม่มั่นใจนิดๆ

        “แล้วเอเดนจะไม่รู้เหรอว่าปุยเมฆไม่ใช่แมวธรรมดา” ขนาดอาซายังรู้ นับประสาอะไรกับเอเดน เขาก็ต้องรู้สิ

        “ถ้าเป็นร่างแยก ไม่มีทางรู้แน่นอน แต่ที่ฉันรู้ เพราะที่ฉันเห็นคือร่างจริงยังไงละ”

        ซับซ้อนดี น่าเวียนหัวชะมัด

        “สรุปนายก็จะให้ปุยเมฆช่วยเรื่องนี้” ผมถามย้ำอีกครั้ง

        “อืม ไว้พรุ่งนี้เราค่อยมาที่นี่อีกครั้ง บอกเพื่อนนายด้วยแล้วกัน” อาซาขับรถกลับบ้าน ผมและอาซาต่างคนต่างตกอยู่ในความคิดของตัวเอง เขาคงกำลังคิดถึงแผนการที่จะล้วงความลับจากเอเดน โดยมีปุยเมฆแมวมหัศจรรย์แยกร่างได้ช่วย แต่ในหัวผมกำลังคิดว่า...ถ้าเติร์ดรู้ว่าปุยเมฆไม่ใช่แมวธรรมดา แต่เป็นครึ่งคนครึ่งแมว มันจะเป็นยังไง

        น่าคิดจริงๆ


.......................
        ไม่รู้จะพูดอะไรมาก ใครไม่เข้าใจตรงไหนถามนะคะ ต่อจากนี้จะมาอาทิตย์ละครั้งหมด หมดสต็อคละ แย่จุง :hao5:
        มีคนสงสัยว่า ตกลงอาซาเป็นนากินีหรือเป็นบาซิลิสก์กันแน่ อาซาเป็นนากีนี เพราะนากิกีเป็นชื่อเรียกของพวกงูกลายร่างได้ที่เกิดจากบาซิลิสก์ ไม่งงนะตัวเอง เพียงแค่อาซาพิเศษตรงที่ว่าอาซาเป็นเชื้อสายโดยตรงไม่ได้เกิดจากไอพิษเหมือนตัวอื่นๆ แต่เป็นการกำเนิดแบบเชื้อสายยังไง จะมีเฉลยในตอนหน้าๆนะจ้ะ  :katai3:
        ใครยังติดตามอยู่บ้าง ยังมีคนอ่านอยู่ใช่ไหมจ้ะ ริริไม่ได้หายไปไหนนะ ยังแต่งอยู่จ้า  :katai4:
        ขอบคุณคอมเม้นทุกคอมเม้นนะคะ อ่านแล้วชื่นใจ รักคนอ่านทุกคน  :mew1:






       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 10-12-2014 00:07:45
จิ้มคนแรกแล้วไปอ่านก่อน..55..
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 10-12-2014 00:09:16
จิ้มคนแรกแล้วไปอ่านก่อน..55..

 :z13: :z13: จิ้มคนมาคนแรก น่ายักที่ซู้ดดดดดดดดดดด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 10-12-2014 00:23:31
มีมาหลากหลายรูปแบบแล้วนิ....
แล้วหนูปุยเมฆจะยอมช่วยไหมหนอ......
รออ่านตลอดนะเจ้าคะ.....
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 10-12-2014 02:07:04
เจ้าปุยเมฆไม่ใช่ตัวแทนนิกกี้นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 10-12-2014 07:32:55
ลุ้นตลอดเวลาจริงๆ ปุยเมฆช่วยได้อยูุ่แล้วเราว่านะ

แล้วดูท่า นางจะชอบเติร์ดด้วยล่ะ หุหุ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 10-12-2014 08:39:57
ปุยๆก็ไม่ใช่แมวแท้ๆ!? จะมีพวกเพิ่มอีกแล้วซิ :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 10-12-2014 08:53:26
สายสืบปุยเมฆจะมาร่วมมือด้วยอีกคนแล้วววว
อาซาสู้ๆน้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 10-12-2014 09:15:26
คิดถึงริริจังงงงงงงงงงงง
ดีใจที่มาต่อเนาะ
ชอบปุยเมฆแหละ ฮี่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 10-12-2014 10:02:43
 ปุยเมฆต้องแอบชอบเติร์ด แน่ๆเลย
ปุยจะให้ความร่วมมือไหมหนอ
อยากอ่านอีกกกกกกกกก
เรื่องน่าติดตามมากเลย
 :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 10-12-2014 10:58:25
ที่ปุยเมฆงอนเพราะเติร์ดเอาไว้เป็นตัวแทนนิกกี้แน่เลยย แสดงว่านางชอบเติร์ดด 55555  :impress2:
#โยซาขอหวานๆได้ม้ายยยยย  :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 10-12-2014 12:29:17
ความหวังเราอยู่ที่ปุยเมฆสินะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 10-12-2014 13:29:34
สนุกมากริริ มาต่อไวๆ นร้าาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 10-12-2014 20:46:52
น้องเหมียวววว ช่วยพี่งูเขาหน่อยนะลูก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 10-12-2014 21:22:30
มาแล้วมาแล้ว

ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 10-12-2014 21:57:03
เอเดนนี่หาตัวจับยากนะ

สงสัยเอเดนจะอยู่กับพี่ยอชนะ

เมื่อคืนโยกับอาซาคงหวานกันน่าดู อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 12-12-2014 00:08:12
มีคนแนะนำมาว่าเรื่องนี้สนุกมาก
อยากบอกจากใจว่าทั้งตื่นเต้นและสนุกมากกกกกกค่ะ
อ่านมารวดเดียว ติดหนึบเลย
ชอบและชื่นชมพล็อตและจินตนการของคนแต่งนะคะ แบบว่าสุดยอดดดด  o13 o13 o13
+1  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-12-2014 00:26:26
มีคนแนะนำมาว่าเรื่องนี้สนุกมาก
อยากบอกจากใจว่าทั้งตื่นเต้นและสนุกมากกกกกกค่ะ
อ่านมารวดเดียว ติดหนึบเลย
ชอบและชื่นชมพล็อตและจินตนการของคนแต่งนะคะ แบบว่าสุดยอดดดด  o13 o13 o13
+1  :กอด1:

ใช่ๆเหนด้วยอย่างยิ่ง

มาเป็นกำลังใจให้จ้า

ยังไม่ลืม

ติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: kawaiineko ที่ 13-12-2014 23:07:07
เข้ามาจิ้มๆ ไว้ก่อนเดี๊ยวมาอ่านนะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 16-12-2014 20:00:26
ว่าแล้วเชียวว่าปุยเมฆต่องมีอะไรพิเศษแน่ๆ

โยชิก็พิเศษดูแลตัวเองดีๆด้วยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TEN ❁ 10-12-2014[P.39]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 17-12-2014 14:52:34
จะเป็นงัยต่อล่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 23-12-2014 00:08:36
B.L.O.O.D.L.I.N.E
ELEVEN






        มนุษย์กลายร่างมีอยู่หลายชนิด อาศัยอยู่ปะปนกับมนุษย์ ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ไม่รู้ว่าคนไหนมนุษย์แท้ คนไหนมนุษย์กลายร่าง หรือแม้แต่สัตว์ที่เราเห็น ก็ไม่อาจรู้ได้เช่นกัน ว่าตัวไหนเป็นเพียงแค่สัตว์ธรรมดา ตัวไหนพิเศษ

        อาซาบอกกับผมว่า พวกมนุษย์กลายร่างอาศัยอยู่ในสังคม โดยใช้ความพิเศษของเขาให้เป็นประโยชน์ ที่เห็นได้ชัดก็คือพวกไทกริส หรือเสืออย่างคาร์เตอร์  พวกเขามีพลังในการรักษา พวกเขาถึงเลือกเป็นหมอ พวกไลแคน นอกจากจะใช้พละกำลังของตัวเองให้เป็นประโยชน์ ก็ใช้การสะกดจิตและการคาดการณ์ให้เกิดประโยชน์ มีทั้งนักจิตวิทยา และหมอดู คนที่สะกดจิตผม น่าจะเดาได้ว่า เขาเป็นพวกไลแคน

        นากินี ความพิเศษของพวกเขาร้ายกาจ แต่ไม่อาจทำมาใช้ประโยชน์ได้มากนักในสังคม พิษที่แพร่โดยลมหายใจมีแต่ทำให้สิ่งมีชีวิตเสียชีวิต การพ่นไฟได้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี หรือแม้แต่การสาปคนให้เป็นหินด้วยการมองสบตา เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงทำหน้าที่ในการกำจัดพวกที่ไม่ดี ทำเรื่องเลวร้ายให้กับสังคม ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ปกติหรือมนุษย์กลายร่างก็ตาม

        ยังมีอีกพวก...เลโอ พวกนี้เก็บเนื้อเก็บตัว ผมรู้เพราะอาซาบอก เราไม่ค่อยเจอพวกเลโอในเมืองเท่าไหร่ เขาเป็นราชสีห์ ไม่สุงสิงกับพวกอื่นเกินความจำเป็น ความสามารถของพวกนี้ยอดเยี่ยม เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ ไม่อาจคำนวณได้ว่าทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ พวกเลโอมีอำนาจขจัดภูตผีปีศาจและเป็นพวกหยั่งรู้ มีจำนวนน้อย

        และอีกหนึ่งชนิดสดๆร้อนๆที่ผมเพิ่งจะรู้ก็คือ...แมว

        เวสตันเล่าว่า ตามบันทึกของบาทหลวงเยโรม แมวมีความสามารถพิเศษในการแยกร่างได้เก้าร่าง ร่างแยกจะมีแค่กลิ่นอายของแมวปกติ และนอกจากแยกร่างได้เก้าร่าง ก็ยังสามารถฟื้นคืนชีพได้เก้าครั้ง แต่น้อยมากที่เราจะเห็นแมวกลายร่างเป็นคนหรือคนกลายร่างเป็นแมว เพราะแมวจัดเป็นสัตว์เล็ก พละกำลังไม่ค่อยมี เว้นแต่จะมีสิ่งเร้า แต่ก็นั่นแหละ เท่าที่พวกอาซามีชีวิตอยู่มาเป็นพันๆปี พวกเขาเจอมนุษย์กลายร่างของสัตว์จำพวกแมวกลายร่างได้ไม่ถึงสิบตัว

        นั่นหมายความว่า...ปุยเมฆก็อาจจะกลายร่างเป็นคนได้

        แต่สิ่งที่พิเศษที่เชื่อมโยมพวกมนุษย์กลายร่างทุกสายพันธุ์ทุกชนิดไว้ด้วยกันก็คือความเข้าใจ พวกเขาสื่อสารกันได้ หรือเรียกว่าคุยกันรู้เรื่อง มิน่า อาซาถึงได้รู้ว่าปุยเมฆไม่ปกติธรรมดา

        เสียงรถยนต์ของเวสตันดังเข้ามาในบริเวณบ้านพัก เช้านี้อาซาออกไปหาคาร์เตอร์กับเวสตัน ส่วนอีกสามคนที่เหลือออกไปซุ่มสังเกตการณ์ข้างนอกตามปกติ เหลือผมอยู่ในบ้านพักของพวกเขาเพียงคนเดียว

        ทั้งคู่เดินเข้ามาในบ้าน เวสตันนั่งลงที่โซฟาเดียว ส่วนอาซานั่งข้างๆผม วางขวดน้ำหอมสองขวดลงบนโต๊ะ เขาหายไปแต่เช้าเพื่อออกไปซื้อน้ำหอมหรอกเหรอ ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับเรื่องเอเดนที่เรากำลังวางแผนอยู่

        “นี่อะไรเหรอ” ผมหยิบขวดแก้วขนาดเล็กทรงโค้งคล้ายแจกันย่อส่วน ข้างในมีน้ำสีเทาขุ่นกับสีเหลืองสว่างขึ้นดู

        “กลิ่นสุนัขกับกลิ่นแมว” เวสตันตอบ

        “เอามาทำอะไร” เสียงจูเลียตดังจากข้างหลัง ก่อนที่ร่างเพรียวบางในชุดคลุมผ้าซาตินเนื้อนุ่มสีครีมจะเดินอ้อมมา ทิ้งตัวนั่งโซฟาที่ว่างอยู่

        “เอามากลบกลิ่นงูของพวกเรา กับชาร์ลและเบนไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สองคนนั้นจำกลิ่นฉันกับเวสตันไม่ได้ แต่กับเอเดน เขารู้แน่ๆแม้ฉันจะอยู่แค่หน้าคอนโด”

        “หมายความว่าฉันไม่ต้องใช้มันใช่ไหม” จูเลียตทำหน้าแหยง เบ้ปากปรายตามองขวดสองขวดบนโต๊ะ ฟรินน์ที่เพิ่งกลับเข้ามาจากการออกไปออกกำลังกายข้างนอกพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเอี้ยวตัวไปรับถาดอาหารเช้าจากปารีส วางไว้บนโต๊ะ พวกเราจึงเริ่มมื้ออาหารเช้าตอนเจ็ดโมงในห้องนั่งเล่นแทนที่จะเป็นห้องรับประทานอาหาร

        “เราคงต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าพี่ชายนายต้องการอะไร” ปารีสเอ่ยขึ้นระหว่างมื้ออาหาร วันนี้ไม่มีใครสนกฎหรือระเบียบการในการทานข้าว ว่าห้ามคุยเรื่องงานหรือเรื่องเคร่งเครียด แต่สถานการณ์ช่วงนี้เป็นข้อยกเว้น และน่าจะยกเว้นไปอีกสักพักจนกว่าเราจะได้ความคืบหน้าอะไรมากกว่านี้

        ทุกคนในบ้านมองอาซา แน่นอนว่าสิ่งที่เอเดนต้องการต้องเกี่ยวข้องกับอาซาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะมาที่นี่ทำไม จะก่อร่างสร้างเรื่องใส่ร้ายคนรักของผมทำไม ถ้าไม่มีเจตนาที่จะประกาศสงคราม

        เพียงแต่ว่า นอกจากอาซาและผมแล้ว ยังไม่มีใครรู้เรื่องของหัวใจบาซิลิสก์ อาซาไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องนี้มาก มันจะเป็นเรื่องใหญ่โต เขาให้แน่ใจเสียก่อนว่าเอเดนต้องการมันจริงๆ เมื่อถึงเวลานั้นค่อยคิดอีกทีว่าจะทำยังไงต่อไป

        “ฉันรู้แล้วว่าเอเดนอยู่ที่ไหน The Prior Condo” อาซาบอกกับทุกคน ในเวลาเดียวกันก็จิ้มไส้กรอกชิ้นเล็กที่หั่นพอดีคำป้อนผม ผมกินที่อาซาป้อนอย่างยินดี

        “ใกล้แค่นี้?” ฟรินน์ว่าเสียงสูง ไม่ต่างจากคนอื่นที่ใบหน้าฉายแววแปลกใจ “ทำไมเราไม่รู้”

        “ฉันไปที่นั่นก็ไม่ได้กลิ่นเอเดนเหมือนกัน ส่วนกลิ่นของชาร์ลกับเบน พวกนั้นก็คงใช้วิธีเดียวกับเรา คือหากลิ่นมนุษย์มากลบแทน” อาซาอธิบาย ผมเป็นฝ่ายป้อนเขาบ้าง อาซาเคี้ยวช้าๆ มุมปากยิ้มให้ผมเหมือนจะขอบคุณ

        “ฉันเจอมนุษย์กลายร่างสายพันธุ์แมว เขาเป็นแมวของเพื่อนโยชิ ฉันเลยว่าวันนี้จะไปลองคุยให้เขาช่วยเรา” อาซาพูดต่อ

        “จริงสินะ มนุษย์แมวแยกร่างได้ อย่างนี้ถ้าให้แอบเข้าไปสืบก็คงไม่มีอะไรน่าสงสัย” เวสตันกล่าว อาซาพยักหน้า

        “แล้วจะให้เจ้าแมวนั่นเข้าถึงตัวคนพวกนั้นยังไง” จูเลียตที่นั่งจิกโกโก้ร้อนอย่างเดียวถามขึ้น “ประเด็นคือเจ้าแมวนั่นจะยอมช่วยเหรอ งานเสี่ยงขนาดนี้”

        ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่จูเลียตพูด นั่นแหละปัญหา ผมกลัวว่าปุยเมฆจะไม่ให้ความร่วมมือกับเรา เจ้าแมวลายเสือตัวเล็กไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลยสักนิด ผมไม่คิดว่าเขาจะยอมเอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือเรา

        “เอเดนถึงจะเป็นคนบ้าอำนาจ นิสัยดุร้าย แต่ว่าเขาก็มีมุมที่อ่อนโยน เอเดนชอบแมวมาก ฉันคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาถ้าให้ปุยเมฆแสร้งทำเป็นแมวไม่มีเจ้าของ ยังไงเอเดนก็ต้องใจอ่อนเก็บไปเลี้ยง ส่วนเรื่องที่เขาจะช่วยเราไหม ฉันคงต้องใช้ความพยายามสักหน่อย”

        “ลองดูก็แล้วกัน ถ้าเจ้าแมวนั่นไม่ยอมก็ลองยื่นข้อเสนอเป็นหนูตัวโตสำหรับมื้อกลางวันฟรีตลอดชีวิต ยังไงก็ยอม” ฟรินน์หัวเราะร่า ความอึมครึมเคร่งเครียดถูกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนในบ้านปัดเปล่าจางหายไปชั่วขณะหนึ่ง

        “ฉันว่าจะไม่ได้เรื่องเสียมากกว่า” จูเลียตเหน็บให้เจ็บๆคันๆ

        “ขัดได้ตลอดสินะจูเลียต” ฟรินน์ชักสีหน้าใส่แบบงอนๆ เราหยุดพูดคุย เริ่มทานอาหารเช้าอย่างจริงจัง ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง ส่วนผมกับอาซา ขับรถไปที่คอนโดเติร์ดอีกครั้ง โดยโทรบอกลูกเจ้าของคอนโดเรียบร้อย ใช้ข้ออ้างว่าอาซาอยากได้คอนโดที่นั่นสักห้อง เพื่อเป็นเหตุผลที่อาซาจะไปที่ห้องของเติร์ดอีกครั้งรอบเพื่อเจอกับปุยเมฆ

        อีกสองวันจะเปิดเทอมแล้ว ผมคงจะต้องกลับไปเรียนในขณะที่คนอื่นๆวุ่นเรื่องเอเดน เมื่อถึงตอนนั้นผมจะช่วยอะไรอาซาได้บ้าง




        ADEN

        ทุกอย่างง่ายกว่าที่คิด นึกว่าจะหาตัวยากกว่านี้เสียอีก

        ...ผู้กุมความลับ...

        แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ผู้กุมความลับของนากินีเป็นพวกไลแคน มนุษย์กลายร่างต่างสายพันธุ์กับงู ตามล่าหาตัวเสียนานคิดว่าจะเป็นพวกเดียวกัน มิน่าละถึงได้ตามรอยตามกลิ่นไม่เจอ จนกระทั่งโชคเข้าข้าง ที่เจ้านั่นมาหาเองถึงที่

        และเมื่อเจอตัวแล้ว ก็อย่าหวังว่าจะหนีไปได้ จนกว่าผมจะรู้เรื่องที่จะต้องรู้ เมื่อถึงเวลานั้น ผมจะละทิ้งชีวิตของมันอย่างสมเกรียติที่มันได้รับหน้าที่อันสูงสุดมาตั้งแต่เกิด

        หัวใจบาซิลิสก์...หัวใจที่อยู่ในร่างอาซา ผมจะแย่งมันมาด้วยมือของผมเอง

        “ฮัลโหล พวกนายอยู่ไหน” ผมต่อสายเมื่อกลับถึงห้องพัก ผู้กุมความลับกลับไปแล้ว มันเองก็คงรู้ว่าผมเป็นใครและต้องการอะไร แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดความสงสัยก็คือ อเล็กซ์มาหายอร์ชทำไม

        ทั้งคู่เกี่ยวข้องกันยังไง จะเป็นแค่คนรู้จักหรือว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องดวงใจของสัตว์ร้าย ไม่พ้นคืนนี้คงได้รู้กัน

        “อยู่คอนโด” มือถือชาร์ล แต่เบนเป็นคนรับสาย ทั้งๆที่เจ้านั่นควรจะต้องตามหาผู้กุมความลับ คนที่ผมเพิ่งจะเจอไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา

        “นายไปอยู่ที่นั่นได้ยังไงเบน ในมื่อฉันสั่งให้นาย...”

        “ตามหาผู้กุมความลับ” เบนพูดแทรกต่อท้ายประโยคได้อย่างถูกต้องทั้งที่ผมยังพูดไม่จบดี “ฟังก่อนเพื่อน ฉันได้ข่าวใหม่มา ก็เลยมาหานายที่นี่ แต่นายกลับไม่อยู่เสียอย่างนั้น ติดใจเด็กที่เชียงใหม่หรือยังไง จะหาว่าฉันอู้ นายไม่อู้เลยว่างั้น เรื่องของฉันก็ไม่ใช่เปล่าวะ” เสียงบ่นกวนประสาทของเบนน่ารำคาญในความรู้สึกผมเสมอ แต่เพราะชินชา จึงไม่ใส่ใจ

        “หยุดบ่น” ผมสั่งเสียงนิ่ง “เบาะแสของนายคงไม่น่ายินดีเท่ากับสิ่งที่ฉันเจอ”

        “นายเจออะไร”

        “ผู้กุมความลับ”

        “...!” เสียงของเบนเงียบหายไป ได้ยินเสียงตะกุกตะกักดังมาแทนที่ เสียงของชาร์ลดังลอดแว่วๆพร้อมกับเสียงแปลกๆ คล้ายเสียงแมว ถ้าผมหูไม่ฝาด จะต้องเป็นเสียงแมวแน่นอน

        ซัลซ่า...แมวตัวโปรดที่ตายไปนานแล้วก็ร้องเสียงแบบนี้ไม่ผิดเพี้ยน

        “เมื่อกี้นายว่ายังไงนะเอเดน นายเจออะไรนะ!?” เบนกลับมาในสายอีกครั้ง คงจะตกใจมาก

        “ฉันเจอผู้กุมความลับแล้ว อยู่ที่เชียงใหม่”

        “เชียงใหม่! แล้วที่ฉันลงใต้จนตัวแดงลอกเป็นขุยนี่เพื่ออะไรวะ” เบนโวยวายหัวฟัดหัวเหวี่ยง นึกภาพใบหน้าไม่สบอารมณ์นั่นออก

        “นั่นเป็นเพราะนายไม่ได้เรื่องเองไม่ใช่หรือไง”

        “อย่ามาว่ากันนะเว้ยเอเดน นายให้ข้อมูลฉันมาเยอะมาก พอจะตามได้จนรู้ว่ามันย้ายไปแถมยังเป็นพวกไลแคนไม่ใช่พวกนากินีอย่างเราๆฉันก็ถือว่าตัวเองเก่งมากพอแล้ว”

        “หึหึ”

        “แล้วไงต่อ จะให้ฉันไปหาที่นู่นไหม หรือยังไง”

        “ไม่ต้อง ฉันจะพามันกลับไปที่กรุงเทพ” ผมมีบ้านลับ ที่นั่นจะปลอดภัยในการทำทุกอย่างจากสายตามนุษย์

        “จะมาที่คอนโดเนี่ยนะ” เบนถามเสียงงุนงง ผมเกิดอาการเซ็งกับคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรมากมายอย่างเบน

        “ไม่ใช่ แต่เป็นบ้านพักที่ฉันให้ชาร์ลซื้อไว้เมื่อสองสามวันก่อน” ผมพูดอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

        “อ่อ โอเค”

        “งั้นแค่นี้...”

        “เดี๋ยว” เบนเรียก ผมยกโทรศัพท์ชิดใบหูอีกครั้ง

        “อะไร”

        เบนถอนหายใจเบา “แน่ใจนะว่าต้องการแบบนี้จริงๆ”

        “ถ้าไม่ต้องการ ฉันไม่มาไกลขนาดนี้ นายจะถอนตัวก็ได้นะ ในเมื่อพวกนายก็ไม่ได้ส่วนได้ส่วนเสียจากสิ่งที่ฉันต้องการ”

        “ไอ้หัวใจบาซิลิสก์นั่น ฉันกับชาร์ลไม่อยากได้หรอก ที่ช่วยก็เพราะนายเป็นเพื่อนของพวกเรา แต่ฉันแค่อยากแน่ใจ ว่านายจะไม่นึกเสียใจที่หลัง”

        “ไม่มีวัน อะไรที่ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันไม่มีทางถอยหลัง”

        “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี จะกลับมาพรุ่งนี้เลยไหม”

        “คงเป็นมะรืน นายก็รออยู่ที่คอนโดไปก่อน จนกว่าฉันจะโทรหาแล้วค่อยไปที่บ้านพัก”

        “ได้ แล้วเจอกัน”

        “อืม”

        ผมกดตัดสาย โยนโทรศัพท์รุ่นใหม่ทันสมัยลงบนเตียง มองฝาผนังที่ทำจากไม้เนื้อดีเงียบๆ ก่อนจะค้นหารูปในกระเป๋าสตางค์ออกมาดู

        “เป็นคนเดียวกันจริงๆ” ผมได้เบาะแสของอเล็กเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เรื่องหัวใจบาซิลิสก์ผมรู้เพราะแอบได้ยินพ่อพูดกับเลขาคนสนิทโดยบังเอิญ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าอาซา คนที่ผมไม่เคยยอมรับว่าเป็นน้องชาย และไม่มีวันยอมรับจะมีอำนาจมากกว่าผม อาซาไม่สมควรได้ในสิ่งที่เป็นของผม ผมรู้ว่าพ่อต้องการให้อาซาขึ้นแทนที่พ่อ ทั้งๆที่มันควรจะต้องเป็นของผม ในตอนนั้น เมื่อพันปีที่แล้ว ผมไม่เข้าใจ ผมเป็นลูกชายคนโตของเขา แต่เขากลับจะยกตำแหน่งของตัวเองให้ไอ้เด็กนอกคอกที่เกิดจากนากินีชั้นต่ำ ผมโกรธพ่อ และผมเกิดความรู้สึกเกลียดอาซาจับใจ มันเกิดมาเพื่อจะแย่งทุกอย่างไปจากผม และก่อนที่มันจะได้ใจมากไปกว่านี้ ผมยุแยงเรื่องอาซากับคนรักที่เป็นนากินีเพศเดียวกัน จนพ่อลงมือฆ่าเจ้างูคู่รักของอาซาตาย

        ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของผม อาซาเกลียดพ่อ และหนีออกจากไปไม่กลับมาอีก ถึงจะติดต่อกัน แต่ผมรู้ว่ามันไม่มีทางกลับมา และผมคือผู้ที่จะรับตำแหน่งประมุขของสกุลแทนพ่อ

        นากินีไม่ใช่อำมตะ มีอายุไข เพียงแต่ก็เป็นเวลานับหลายพันปี หากไม่ถูกฆ่าตายเสียก่อน

        แต่ใครจะไปรู้ ว่าที่พ่อทำเหมือนรั้งรอมานานขนาดที่ ไม่ยอมสละตำแหน่งเสียที เป็นเพราะพ่อรอมันกลับไป! เพราะอาซามีไอ้หัวใจบาซิลิสก์บ้าๆนั่นอยู่ที่ตัวมัน พ่อต้องการใช้อำนาจของมันในการปกครองพวกเราทั้งหมดทั่วโลก ผมไม่อยากยอมรับ แต่เมื่อสืบหาความจริง ตามหาตัวคนที่รู้เรื่อง เค้นเอาความจริงทุกทาง ฆ่านากินีฆ่ามนุษย์หลายต่อหลายคนเพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบ ในที่สุด ผมก็แน่ใจว่ามันคือเรื่องจริง เพียงแต่ยังไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับความลี้ลับของหัวใจบาซิลิสก์เพียงพอ รู้แค่ว่ามันมีอำนาจอย่างที่จอมร้ายอย่างบาซิลิสก์มี อำนาจทำลายร้างทุกอย่างให้พังพินาศ อำนาจที่ไม่ว่าใครก็ต้องเกรงกลัวไม่เว้นแม้แต่พวกเลโอ มนุษย์กลายร่างครึ่งคนครึ่งสิงโตที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่า

        และผมไม่มีทางยอมให้อาซาอยู่เหนือกว่าผม ให้ตายก็ไม่มีวันยอมรับ ผมจะแย่งมันมา ให้พ่อและทุกคนรู้ว่า คนที่สมควรเป็นใหญ่คือผม ไม่ใช่ไอ้เด็กนอกคอกนั่น!

        อาซาคือหนามหยอกอกอันโต ถ้าไม่กำจัดออกมันก็จะกลัดหนองไม่จบสิ้น

        ถ้ามีผมต้องไม่มีอาซา ถ้ามันอาซาต้องไม่มีผม!

        ก็อกๆๆ

        ความคิดต่างๆหยุดชะงักยามที่เสียงเคาะประตูดังแทรก ผมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง มองจดจ้องบานประตู คนที่มาไม่ใช่ยอร์ช พี่ชายของโยชิ คนรักของอาซา

        ผมจำกลิ่นของยอร์ชได้ นุ่มนวล ละมุน กลิ่นหอมเย็นอ่อนๆ แต่ก็...ติดจมูก เป็นกลิ่นกายเฉพาะตัวที่ผมเพิ่งจะได้กลิ่นแบบนี้เป็นครั้งแรก ยามเมื่ออยู่ใกล้ได้กลิ่น จิตใจที่ร้อนรุ่มของผมมักสงบลงอย่างน่าประหลาด ไม่ใช่กลิ่นที่หอมหวานอบอวลอย่างหญิงสาวในวัยแรกแย้ม แค่เจอกันวันแรกผมก็สามารถจดจำความหอมที่น่าสนใจนี้ได้ขึ้นใจ นับว่าเป็นเรื่องดี กลิ่นแบบนี้แหละตามรอยง่าย

        แต่กลิ่นมนุษย์ที่อยู่หลังบานประตู เหม็นสาบจนฉุนจมูกไม่น่าอภิรมย์ ยังมีกลิ่นดินกลิ่นปุ๋ยตามมาให้ระคายจมูก ช่างน่าหงุดหงิดเสียจริง

        “ใคร” เสียงแข็งกร้าวติดหงุดหงิดของผมเอ่ยนิ่งๆ

        “คุณยอร์ชให้...เอ่อให้ ผมมาบอกว่า ยะเย็นนี้...คุณเขาต้องออกไปธุระ...ที่...ข้างนอก เลยให้ผมมา...มา...ถามว่าคุณจะทานอะไรเป็นมื้อเย็น คือ...จะได้ให้แม่ครัวเตรียมไว้ให้” เสียงพูดภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น จับใจความได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะสำเหนียงแย่เกินเข้าใจ สิ่งที่เข้าใจก็คือ เย็นนี้เจ้าของไร่หน้ามนจะไม่อยู่ และเขาอยากรู้ว่าผมจะกินอะไรสำหรับมื้อเย็น

        แล้วทำไมไม่มาบอกด้วยตัวเอง ทำไมต้องฝากคนอื่นมาด้วย

        น่าหงุดหงิดเกินไปแล้ว

        ผมหยิบกระดาษและปากกาที่มีอยู่ในห้องตวัดลายมือเขียนคำตอบลงไป เพราะถ้าให้ผมพูด เจ้ามนุษย์โง่เง่าก็คงไม่เข้าใจและนำไปสื่อสารไม่ได้

        -I don’t want to eat anything, don’t let anyone interrupt me in this evening-

        ผมสอดกระดาษผ่านช่องประตูด้านล่าง ไม่คิดเปิดประตูออกไปดูหรือเสวนากับคนที่ไม่มีประโยชน์ในชีวิต ผมได้ยินเสียงพูดบ่นงึมงำเป็นภาษาที่ไม่เข้าใจก่อนที่มนุษย์กลิ่นตัวฉุนจะละกลับ

        ไม่อยู่ก็ดี จะได้ออกไปจัดการเรื่องอเล็กซ์แบบไร้กังวล

        เดี๋ยวนะ...แล้วผมมีอะไรให้ต้องกังวล

        รอจนตะวันลาลับขอบฟ้า ผมกลายร่างเป็นงู เลื้อยตามกลิ่นมนุษย์กลายร่างหน้าขนที่ยังมีกลิ่นทิ้งเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว จากสายตาคนปกติจะเห็นผมเป็นเพียงเส้นสีขาวปรากฏเพียงแวบเดียวจนยากที่จะสังเกต เส้นทางที่แกะรอยจากกลิ่นของผู้กุมความลับเข้าสู่เขตป่าที่เส้นทางสลับซับซ้อน กลิ่นของอล็กซ์เริ่มจางหายไปจนแทบไม่ได้กลิ่น มีเพียงกลิ่นดิน ต้นไม้และเหม็นของสมุนไพรฉุนจมูกตลบอบอวลเมื่อมาสิ้นสุดที่บ้านกึ่งไม้กึ่งปูนหลังหนึ่งในป่าลึก

        นี่เองคือที่หลบซ่อน เข้าใจเลือกสถานที่ ห่างไกลผู้คน ลึกลับซับซ้อน เข้าใจใช้กลิ่นต่างๆกลบกลิ่นของตัวเอง แต่ก็แค่นั้น ไม่ยากเกินกว่าที่คนอย่างผมจะหาพบ

        ผมกลับสู่ร่างคน ไม่ต้องกังวลว่าเหยื่อที่ตามหาจะรู้ตัวถึงการมาของผม เพราะผมเองก็ไม่ได้โง่ให้ใครตามกลิ่นเจอได้ง่ายๆ การหากลิ่นอื่นมากลบตัวตนหาไม่ยาก แต่ไม่ง่ายที่จะมีไว้ครอบครอง เพราะสิ่งแลกเปลี่ยนมักราคาสูงกว่าที่พวกชนชั้นล่างๆจะหาได้ ส่วนไอ้พวกที่รวยเอาๆก็คงเป็นพวกเลโอหน้าเลือดที่เป็นคนคิดค้นสกัดกลิ่นพวกนี้ขึ้นมา

        หน้าบ้านมีไฟดวงกลมๆสองดวงเปิดให้แสงสว่างแค่ร่ำไร ในบ้านเปิดไฟน้อยนิด แต่ก็พอทำให้รู้ว่ามีคนอยู่ข้างใน ผมก้าวเท้าขึ้นบันไดจนหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตู แตะมือที่ลูกบิด ก่อนจะเพ่งสายตาแพร่พิษละลายลูกบิดจนหายวับไปกับตา ประตูเปิดอ้าออกเงียบเชียบ ผมกวาดตามองอย่างรวดเร็ว ใช้สัมผัสจับความเคลื่อนไหวภายใน

        เงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่

        เสียงลมพัดใบไม้เสียงสีดังกลบเสียงฝีเท้ายามที่ย่ำเข้าตัวบ้าน ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นบนชั้นวาง บนโต๊ะ ตู้ มีถ้วยใส่สมุนไพรเครื่องเทศวางเกลื่อนบ้าน ตามหลักที่ว่า กลิ่นเครื่องเทศพวกนี้จะช่วยกลบกลิ่นคาวยามปรุงอาหาร และในทางเดียวกันที่ไม่มีมนุษย์ธรรมคนไหนรู้ก็คือ กลิ่นฉุนพวกนี้กลบกลิ่นสาปสัตว์อย่างเราได้ชะงักที่สุด ยิ่งกว่ากลิ่นปรุงแต่งที่ได้มาจากพวกเลโอ

        ฉลาดสมกับเป็นผู้เก็บความลับ แม้แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้กลิ่นของอเล็ก

        เคร้ง!

        หึหึ หมดเวลาเล่นซ่อนหาเสียที

        ผมเดินไปด้านในสุดของบ้าน ห้องครัว คนที่ผมตามหากำลังรินน้ำใส่แก้ว ก่อนจะค่อยๆหันทางผม สีหน้าของอเล็กตะลึงงันตกใจ ก่อนจะรีบซ่อมทุกอย่างภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง จิตใจมั่นคงใช่ได้ แต่ยังไม่มากพอ

        อย่าแสดงความกลัวต่อหน้าศัตรู เพราะมันคือการหยิบยื่นความตายให้ตนเอง

        “หมดเวลาเล่นซ่อนหาแล้วนะผู้กุมความลับ ต้องขอชมเชยเลยว่านายเก่งมากที่ทำให้ฉันตามหาตัวนายไปทั่ว แต่นายยังไม่เก่งพอที่จะทำหน้าที่นี้” ผมเดินเข้าไปใกล้ อเล็กซ์ไม่ได้ถอยหนี ดวงตาแน่วแน่มั่นคง

        “นายกับฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว” อเล็กซ์เอ่ยปากไล่ผมอย่างไร้มารยาทสิ้นดี

        “ฉันว่านายรู้ดีว่าฉันมาที่นี่ทำไม มันจะต้องมีสักวันที่ฉันจะต้องมาตามหาความลับที่นายเป็นคนเก็บมัน และนั่นเป็นภารกิจที่นายได้รับมาพร้อมกับรอยปานที่ข้อมือ รอยปานที่มาพร้อมหน้าที่อันใหญ่หลวงจากพระเจ้า

        “ฉันไม่มีอะไรที่นายต้องการ ออกไปจากบ้านฉันก่อนที่จะเจอดี” ดวงตาของไลแคนส่องประกายไหววูบ ดุดันข่มขู่ แต่เสี้ยวหนึ่งก็ยังเต็มไปด้วยความกังวล ไม่รู้ว่ากังวลที่ผมหาตัวอเล็กซ์เจอหรือกังวลเรื่องอะไร

        “แน่นอนว่านายมีสิ่งที่ฉันอยากได้ ความลับของหัวใจบาซิลิสก์”

        “...!” อเล็กช์หยุดชะงักก่อนจะกระตุกยิ้ม “ฉันไม่รู้ว่านายพูดเรื่องอะไร นายอาจจะสติไม่ดี ออกไปจากที่นี่ซะ

        ผมไม่สนใจท่าทางอวดดีนั่น “นายไปหายอร์ชทำไม” ผมถามในสิ่งที่สงสัยเป็นอันดับแรก ผู้กุมความลับของนากินีไม่น่าเกี่ยวของกับมนุษย์ธรรมดาอย่างยอร์ช

        “ไม่ใช่เรื่องของนาย ออกไปจากบ้านฉัน” อเล็กซ์กัดฟันข่มขู่ผมเสียงเบา ไม่ยอมตะโกนคำราม ผิดวิสัยจนน่าสงสัย เขาเดินเข้ามาใกล้ผม ใช้สายตาแฝงมนต์สะกดจิตสั่งให้ผมถอยหลัง ฤทธิ์เดชไม่เบา ทำเอาผมมึนถอยจนถึงหน้าประตู แต่ก็สลัดหลุดออกจากการถูกสะกดจิต

        “หรือว่า ความลับที่นายเก็บไว้จะเกี่ยวข้องกับยอร์ชและ ฉันได้ยิน นายพูดว่านายมีเรื่องต้องบอกยอร์ชก่อนที่นายจะถูกฉันตามตัว ถูกไหม” ผมย้อนถามสีหน้าเป็นต่อ อเล็กซ์หน้าซีด สิ่งที่สงสัยกลายเป็นความจริง

        “งั้นเหรอ” ผมพยักหน้าเข้าใจ “ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ไปเค้นเอาความจริงจากยอร์ชก็ได้สินะ มนุษย์ตัวเล็กๆ ไม่คณามือ น่าจะเค้นคอง่ายกว่าพวกมนุษย์หมาป่าอย่างนาย”

        “อย่ายุ่งกับพวกเขา พวกเขาไม่รู้เรื่อง!” อเล็กซ์หลุดโมโหคำรามก้องป่าอย่างลืมตัว กระโจรนร่างเข้าใส่ผมในร่างไลแคน ผมกลับสู่ร่างงูเช่นกัน แต่ก่อนที่จะเกิดการต่อสู้ฟาดฟัน เสียงคุ้นหูก็ดังมาจากทางเข้า

        “พวกนาย...ไม่ใช่คน!”

        อ่า...ความลับแตกแล้วสินะ

        ก่อนที่จะแน่ใจว่ายอร์ชเกี่ยวข้องยังไงกับผู้กุมความลับ ผมจำเป็นต้องลบล้างบางอย่างที่เขาเพิ่งจะได้เห็น เพื่อป้องกันตัวเอง

        ผมกลับสู่ร่างคนเช่นเดิน นั่นทำให้ยอร์ชตะลึงเพลิดไปใหญ่ ดวงตาเรียวเบิกกว้างแทบถลน ปากบางสั่นริกด้วยความกลัว







        “สะกดจิตให้เขาลืมซะ ฉันรู้ว่านายเองก็ต้องการ” ผมสั่งอเล็กที่ยังอยู่ในร่างหมาป่า

       




      “ไม่บอกก็จะทำอยู่แล้ว!”


.........
พี่ยอร์ชซวยแล้วววววววว!  :serius2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-12-2014 00:10:18
นึกว่าฝันไป

ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-12-2014 00:20:38
วันนี้อ่านไม่ไหวแล้ว

ไว้เดี๋ยวพรุ้งนี้มาอ่านใหม่จ้า

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 23-12-2014 00:44:40
ประมานว่าปมเริ่มคลายออกแล้ว แต่อาจจะมีปมใหม่มาอีก 5555 ภาคสองเล่มสะเจ้มจ้นเลยยย
#อยากอ่านฟินๆบ้าง555 แต่ดูจากการบรรยายของเอเดนเกี่ยวกับกลิ่นของพี่ยอร์ชทำให้เราคิดว่าคู่นี้มีสิทธิ์ที่จะเลิฟๆแน่นอน ประมานว่า พี่xพี่   น้องxน้อง 5555  :hao7:
ปล เอเดนขี้อิจฉานิสัยงูมากกกก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายย  :katai5:
ปล2 ไม่อยากให้เกิดเรื่องเหมือนที่โยชิฝันในอินโทรเล้ยยยยย  :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 23-12-2014 05:50:19
พี่ยอร์ชชชชชชชชชช :a5:
โผล่มาถูกเวลาพอดีเลยอ่ะ!!!!!
ขอให้เอเดนหลงพี่ชายเถอะ เพี้ยงๆๆๆ :call:
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 23-12-2014 07:16:35
โธ่ พี่ยอร์ช ทำไมถึงได้ซวยอย่างนี้ แต่สงสัยจะได้คู่โดยไม่รู้ตัวด้วยแน่ๆ ก็เล่นบรรยายกลิ่นพี่ยอร์ชซะอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 23-12-2014 08:11:17
แง้ววว มาต่อแย้ววว
แต่เอ๊ะ เหมือนจะค้างมากกว่าเดิม ง่ะ  :a5:
เอาใจช่วยพี่ยอชด้วยเนอะ เข้าไปได้จังหวะเหมาะเกิ๊นนน ความซวยเลยมาเยือนซะงั้น หุ หุ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 23-12-2014 08:49:19
 :hao6:l  :hao6: เอเดนกับยอร์ช ยอร์ชกับเอเดน side story เถอะเนาะ  :mew2
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 23-12-2014 09:10:42
พี่ยอร์ชโผล่มาได้จังหวะเลยย
แต่เดี๋ยวพี่ยอร์ชก็ต้องโดนลบความทรงจำอยู่ดี
เอเดนกลับตัวกลับใจเหอะ
เป็นคนดีซะแล้วก็คู่กะพี่ยอร์ช
ชีวิตจะได้มีความสุข
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 23-12-2014 09:41:53
เรื่องเข้มข้นนนนนนนนนนนนน
อยากรู้แมวจะช่วยอาซาหรือเปล่า
ยอร์ชโดนสะกดจิต แล้วจะเป็นยังไงต่อไป
เดาไม่ออกจริงๆ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 23-12-2014 10:58:02
เอาตรงๆเลยนะ อยากให้เอเดน คู่กับยอชมากกกก
คำพูดคำจาเอเดนนี่แบบ ป้าคิดไปไกลนะพูดเลยยย
ดีใจมากที่ได้อ่าน ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 23-12-2014 14:12:36
จะเป็นงัยต่อเนี้ย พี่ยอร์ชจะลืมป่าวอะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 23-12-2014 14:13:12
เริ่มแล้วซินะ..ความตื่นเต้นกำลังเริ่ม...
แต่ความกังวลของเอเดนนี่น่าสนใจ...
กังวลเกี่ยวกับพี่ยอร์ชมันน่าลุ้นนะ..
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 23-12-2014 16:56:50
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:   เอเดนนนน แกชอบพี่ยอร์ชแล้วช๊ายม๊าาาาาาา

แบบนั้นก็ต้องดีกับพี่แกให้มากๆนะ  อย่าทำร้ายพี่แกล่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-12-2014 19:19:59
หิหิ เอเดนชอบพี่ยอร์ชแต่ไม่รู้ตัวซินะ

อันนี้ชอบ เชียร์ใหรักกัน

แต่ที่ไม่ชอบเอเดนคือความเจ้าคิดเจ้าแค้น

ความมักใหญ่ใฝ่สูง มากไป

ทำให้เกิดความโลภ และความโลภนั้นบังตาบังใจ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 23-12-2014 20:29:22
อย่าทำร้ายพี่ยอร์ชน้าาาาาาาา
+1  :กอด1:

ปล.อยากให้พี่ยอร์ชเปลี่ยนใจอสรพิษคิดร้ายของเอเดนให้กลับมาคิดดีได้จัง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 24-12-2014 02:47:39
ดันมาเจอซะได้
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 24-12-2014 19:20:06
กรีสสสสสสจะมาต่อเมื่อไหร่ริริจ๋าาาาลุ้นมว๊ากกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 25-12-2014 18:17:37
อื้อหือ แอบชอบพี่ยอร์ชหรือเปล่าเอเดนพ่องูนิสัยเสีย พี่ยอร์ชจะไม่เป็นไรใช่ไหม :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 27-12-2014 22:54:07
หัวใจจะวาย :a5: พี่ยอร์ชของช้านนนน  :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: มิวม๊าว ที่ 27-12-2014 23:10:32
เอเดนชอบยอร์ชใช่ไหมเนี้ยย กิ้วกิ้ว
แต่เอเดนก็ดูไม่ได้ร้ายนะ ดูยังมีมุมอ่อนโยนอย่างที่อาซาบอก :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 28-12-2014 01:02:38
ริริ อยู่ไหนเอ่ย

มารอจ้า

มาลงใหก่อนปีใหม่หน่อยเร็วววว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ ELEVEN ❁ 23-12-2014[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 28-12-2014 20:29:24
พี่ยอชตะเป็นไรมั้ยเนี่ย พอจะได้รู้ความจริงมั่งจะโดนลบอีกละ
ยังไงก็ขอให้เอเดนชอบพี่ยอชเร็วๆนะ ติดตามฮะๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 04-01-2015 22:19:05
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWELVE






       เราเดินทางมาที่คอนโดของเติร์ดหลังจากที่พูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวของอาซาเสร็จ เพื่อทำการเจรจากับปุยเมฆ ส่วนที่เหลือจะออกเฝ้าสังเกตการณ์เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องน่าสลดซ้ำอีกครั้ง

        ผมยังนึกภาพไม่ออกเลยว่าแมวตัวเล็กจะเป็นมนุษย์กลายร่างได้ยังไง และจะมีฤทธิ์เดชยังไง การแยกร่างจะเป็นเหมือนแยกวิญญาณออกจากร่างแบบในทีวีหรือเปล่าก็ยากที่จะคาดเดา

        “โทรบอกเพื่อนนายสิ”

        “อืม” ผมโทรศัพท์หาเติร์ด ยังไม่ชัวร์ว่าเขาอยู่คอนโดหรือไปที่ไหนหรือไม่

        “ฮัลโหล” อีกฝั่งรับสาย

        “สวัสดี ฉันโทรมารบกวนหรือเปล่า” ผมถามอย่างเกรงใจ อาซามองหน้าผมตั้งใจฟังทั้งๆที่เขาก็คงไม่ได้ยิน

        “ไม่รบกวน ฉันกำลังนอนดูหนังอยู่คอนโด”

        เข้าทางเลย “พอดีเลย ฉันกับอาซาอยู่หน้าคอนโดนาย อาซาจะมาขอดูห้องกับรายละเอียดซื้อคอนโด เขาอยากได้เก็บไว้ บอกว่าน่าอยู่ดี” ผมพูดตามบทที่คิดเอาไว้แต่แรก

        “อ่อ ได้ดิ มาเลยๆ เดี๋ยวฉันลงไปรับ” น้ำเสียงกระตือรือร้น ผมพยักหน้าให้อาซารับรู้ว่าไปได้สวย

        “ฉันกับอาซารอที่ล็อบบี้นะ”

        อาซาลงจากรถ อ้อมมาเปิดประตูให้ ผมยิ้มขอบคุณสุภาพบุรุษของผม ในมือถืออาหารเล็กๆน้อยๆที่ปารีสทำมาให้เติร์ด ยังมีอาหารที่ปรุงสำหรับแมวเอาไว้แทนคำขอบคุณแม้คนช่วยจะไม่รู้เรื่องด้วย

        นั่งรอที่ล็อบบี้ไม่นานเติร์ดก็ลงมารับพร้อมกับปุยเมฆเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด เชื่อแล้วว่าคงทิ้งไว้ที่ห้องคนเดียวไม่ได้ คงต้องใช้คำว่าคน เพราะปุยเมฆเป็นแมวพิเศษ

        “รอนานไหม” เติร์ดเลิกคิ้วถาม

        “ไม่นานหรอก ขอโทษที่มารบกวนนะ”

        “เฮ้ๆ ไม่ต้องเกรงใจ เพื่อนกันทั้งนั้น ใช่ไหมคุณอาซา”

        “เป็นกันเองดีกว่านะ”

        “ฮ่าๆๆ เมื่อกี้ผมล้อเล่น งั้นโยชิ นายพาอาซาขึ้นไปรอที่ห้องฉันก่อน ฉันจะไปเอาเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับคอนโดในสำนักงาน” เติร์ดส่งคีย์การ์ดให้ผม ก่อนจะส่งปุยเมฆให้ด้วย ผมขมวดคิ้วงงๆ ปุยเมฆขืนตัวไม่ยอมมา แต่อาซายื่นมือไปคว้าหมับ เจ้าแมวน้อยดิ้นร้องเสียงแหลม

        “ฝากเอาขึ้นไปที พ่อฉันแพ้ขนแมว ถ้าเอาไปด้วยคงไม่ดี แค่ขนที่ติดตามตัวก็น่าจะทำให้พ่อฉันคัดจมูกไปทั้งวัน” เติร์ดลูบหัวปุยเมฆที่ทำตัวแข็งอยู่ในอ้อมแขนของอาซา ช่างน่าขัน แมวน้อยทำตาอ้อนใส่เจ้าของ “เดี๋ยวพี่ตามไปนะ หนูขึ้นไปกับเพื่อนพี่ก่อนนะเด็กดี”

        “เมี้ยวววว” เสียงอ้อน กระพริบตาปริบๆ

        “ฝากด้วยนะ จำห้องได้ใช่ไหม”

        “ได้สิ” ผมจำได้ว่าอยู่ชั้นที่สิบเจ็ด คอนโดนี้มีสิบเก้าชั้น แถมชั้นของเติร์ดก็มีแค่สองห้องเท่านั้น ยังไงก็ไปถูก

        เติร์ดเดินแยกไปอีกทาง ผมกับอาซามองหน้ากันก่อนจะมองแมวน้อยปุยเมฆอย่างพร้อมเพรียง โอกาสเป็นใจขนาดนี้ ไม่เรียกว่าโชคดีได้หรือ

        ผมรีบพาอาซาไปที่ห้องของเติร์ด ไม่รู้ว่าเติร์ดจะใช้เวลาไปเอาเอกสารนานเท่าไหร่ แต่เราต้องคุยกับปุยเมฆให้รู้เรื่องก่อนที่เติร์ดจะกลับมา

        ทุกย่างก้าวที่พยายามเร่งให้ถึงลิฟต์ ทุกจังหวะนาทีที่เคลื่อนตัวตามเลขลิฟต์ไม่ทันใจเท่าที่ควร ผมตบเท้าเคาะจังหวะ เหลือบมองอาซาเป็นระยะ เขายืนนิ่ง ใจเย็น รอแค่ให้ลิฟต์เปิดเมื่อถึงที่หมาย ส่วนเจ้าปุยเมฆ แมวตัวเล็กขดตัวเกร็งอยู่ในอ้อมกอดอาซา จนเมื่อผมเอื้อมมือไปลูบที่หัวและคาง เจ้าปุยเมฆถึงผ่อนคลายลงบ้างเล็กน้อย ผมมองสัตว์ตัวเล็กไร้พิษสงอย่างมีความหวังพร้อมกับวิตกกังวล

        ถ้าหากปุยเมฆไม่ยอมช่วย เราจะทำยังไง

        มาถึงห้องของเติร์ด ผมสอดคีย์การ์ดใส่ช่อง เสียงประตูเปิดดังคลิก ผมผลักประตูออกเบามือให้อาซาเข้าไปก่อน มองซ้ายขวานอกห้องจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณนี้ ผมจึงปิดประตู

        “โยชิ” อาซาเรียกผม

        “ว่าไง”

        “ฝากดูลาดเลาที่ประตูที ส่วนฉันจะคุยกับเจ้านี่เอง” อาซายังไม่ยอมปล่อยปุยเมฆลงแม้ว่าเจ้าตัวเล็กขนปุยจะเริ่มพยศดิ้นหนีอีกครั้ง “อยู่เฉยๆ ไม่งั้นฉันจะจับนายทุ่มลงกับพื้น” อาซาพูดขู่ แต่ปุยเมฆไม่ฟัง กางเล็บข่วนมือขาวซีดจนได้เลือด

        “รีบเถอะ ทางนี้ฉันจัดการเอง” ผมบอกอย่างร้อนรน กลัวเติร์ดกลับมาก่อน

        อาซาพาปุยเมฆหลบไปด้านในก่อนจะได้ยินเสียงทุ่มต่ำแหบพร่าพ่นพูดในภาษาที่ไม่อาจเข้าใจ...ภาษาพาเซล ถ้าผมหลุดจากการสะกดจิต  ผมกาจจะฟังเข้าใจ จากนั้นเสียงแมวร้องในโทนเสียงต่างกันเป็นจังหวะเร็วราวกับคนพูด ผมอยากเข้าไปดูว่าทั้งสองคนคุยกันยังไง พวกเขาเข้าใจกันได้ยังไง มันน่าทึ่งมากอย่างน่าเหลือเชื่อ

        ตาส่องตาแมวมองดูต้นทาง ถ้าเติร์ดกลับมาจะได้บอกอาซาทัน เสียงพูดคุยในภาษาสัตว์เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งเสียงขู่ฟ่อๆของอาซายามที่เขาอารมณ์ไม่ดีหรือโกรธจัด อีกทั้งเสียงของปุยเมฆที่ร้องขู่ในโทนเสียงคำราม มีข้าวของกระจัดกระจาย ผมกลัว

        “ซี่ๆๆ ซี่!!!”

        “เมี้ยว เมียว เมี้ยว เมี๊ยวววว!!!”

        ฟังแล้วน่าปวดหัวอยู่ไม่น้อย ต่อให้ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจว่าคุยอะไรกัน แต่รู้ได้อย่างหนึ่งเลยคือ การเจรจากับปุยเมฆไม่ราบรื่นอยากที่คิด

        ตึกๆๆ

        แปะ!

        “อึก” ผมสะดุ้ง อาซามาอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ใบหน้าเครียดจัด มือที่วางบนไหล่ผมเย็นเชียบเกินปกติ เขากำลังอยู่ในสภาวะอารมณ์โมโห

        “เพื่อนนายกำลังขึ้นมา ฉันได้กลิ่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว นายออกไปถ่วงเวลาไว้ก่อน”

        “ไหวหรือเปล่า ปุยเมฆไม่ยอมเหรอ”

        “ไม่เป็นไร ฉันจัดการได้”

        “ได้แน่นะ นายจะไม่ทำอะไรแมวของเติร์ดใช่ไหม”

        “ฉันไม่ฆ่ามันหรอกน่า อย่างน้อยๆก็ตอนนี้”

        “อาซา” ผมเรียกชื่ออาซาเสียงอ่อย

        “เอาน่า ไว้ใจฉัน ช่วยที่หน่อยนะที่รัก” อาซาก้มลงจูบปากผมเน้นๆแต่แค่ภายนอกทีหนึ่ง ก่อนจะกลับเข้าไปข้างใน ตามมาด้วยเสียงของหล่นโครมใหญ่ ผมไม่มีเวลามากพอให้เข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น รีบออกจากห้องเพื่อดักรอเติร์ดที่หน้าลิฟต์

        ช่วงเวลาสุดระส่ำระส่าย ใจเต้นเร็วรัว ทำตัวไม่ต่างจากโจรผู้ร้าย ทั้งที่ความจริงแล้วแค่มาขอความช่วยเหลือจากแมวตัวหนึ่ง อะไรๆอาจจะง่ายกว่านี้หากเติร์ดเองก็ไม่ใช่คนธรรมดา เราจะได้ไม่ต้องทำลับๆล่อๆปกปิดเรื่องที่สุดแสนจะยิ่งใหญ่

        ติ้ง!

        เสียงลิฟต์ทำลายความคิด ผมยืดตัวยืนตรง มือที่ประสานกันสั่นไหว เงาสะท้อนที่ปรากฏบนแผ่นโลหะที่ใช้ทำประตูลิฟต์ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองหน้าเหวอไม่น่ามอง ผมรีบปรับสีหน้า ไม่ถึงสองวินาทีประตูลิฟต์ก็เปิดอ้าออก ค่อยๆเห็นเสี้ยวหน้าของเติร์ดเป็นภาพสโลว์เชื่องช้า ผมใจเต้นแรงเป็นอีกเท่าตัว  เติร์ดสังเกตเห็นผม หัวคิ้วเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าผมจดจ้องเติร์ดไม่วางตาก็คงไม่มีทางสังเกตเห็น

        “ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ” เติร์ดถาม ผมฉีกยิ้มแห้งๆ

        “พอดี เอ่อ...ฉันกำลังจะ กำลังจะ” ผมชี้มือชี้ไม้มั่วไปหมด เติร์ดกดหน้าตั้งใจฟังสิ่งที่ผมจะพูด ผมไม่เป็นธรรมชาติ ตื่นตระหนกเกินไป ผมควรจะต้องสงบนิ่งมากกว่านี้

        ผมลอบสูดลมหายใจลึกๆก่อนจะเรียกสติกลับคืนมา “ฉันกำลังจะลงไปซื้อเครื่องดื่มสักหน่อย ข้างล่างมีร้านค้าไหม นายพาฉันไปหน่อยสิ”

        “เครื่องดื่ม? ในห้องฉันก็มีนี่” เติร์ดว่าทำหน้างุนงง

        “แต่ไม่มีของที่อาซาขอบดื่มน่ะ นายพาไปหน่อยสิ”

        “อ่อ ได้สิ” ผมรู้สึกได้ว่าเติร์ดเกิดความสงสัย แค่เขาไม่ถามออกมา ขนาดผมยังคิดเลย อาซาจะมาอยากกินน้ำอะไรตอนนี้ แต่ยังดีที่ข้ออ้างของผมยังไม่แปลกประหลาดเกินกว่าสถานการณ์ที่เราดำเนินอยู่

        ผมดันตัวเติร์ดกลับเข้าลิฟต์ หวังว่าจะพอถ่วงเวลาได้ ที่เหลือคงต้องให้เป็นหน้าที่ของอาซา ลงมาถึงชั้นล่าง ผมว่ามันเร็วเกินไปหน่อยจนอยากจะวนลิฟต์กลับขึ้นไปแล้วลงมาอีกรอบ โชคร้ายชั้นสองคือร้านสะดวกซื้ออยู่ห่างจากลิฟต์ไม่ถึงยี่สิบก้าว ผมไม่เคยสังเกตเลยว่าร้านตั้งอยู่ตรงนี้

        ผมยืนอยู่หน้าตู้ขายเครื่องดื่ม เติร์ดเดินไปดูขนมของกิน พร้อมกับนมให้ปุยเมฆ เขาบอกแบบนั้น ผมรู้ว่าอาซาชอบกินเกินไป แต่ยังไม่ได้เอื้อมมือไปหยิบ ผมอยากจะมีพลังวิเศษสื่อสารกับอาซาได้แม้เราจะอยู่กันคนละที่ จะได้รู้ว่าเขาคุยกับปุยเมฆไปถึงไหนแล้ว ได้เรื่องหรือยัง เจรจาพูดคุยสำเร็จอย่างที่หวังหรือเปล่า ผมคิดเพ้อเจ้อสะระตะไปเรื่อย จนเติร์ดเดินมายืนอยู่ข้างๆ

        “เลือกได้หรือยัง”

        “ฉันกำลังคิดอยู่น่ะ” ผมหันไปบอก ตัดสินใจเอาไงเอากัน ผมหยิบน้ำแอ๊ปเปิ้ล อาซาชอบกินมาก เขากินได้แทนน้ำเปล่า ผมหยิบมาสองขวดเล็ก

        “ในตู้เย็นฉันก็มีนะ” เติร์ดยื่นหน้ามามองของในมือผม

        “อาซาชอบกินยี่ห้อนี่น่ะ” ความจริงคือกินยี่ห้อไหนก็ได้ ถ้าไม่ถูกปากก็แค่เลิกกิน

        “ก็ยี่ห้อนี้เลยนะ ฉันก็ชอบ อร่อยดี”

        ผมยืนค้างไปเสี้ยววินาที “หรอ ทำไมฉันหาไม่เจอนะ ฮะๆๆ” หัวเราะแก้เก้อ

        ได้ของที่แอบอ้างว่าต้องการเป็นที่เรียบร้อย ก็ไปจ่ายเงิน รวมเวลาทั้งหมดทั้งสิ้นไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ เติร์ดเดินนำไปที่ลิฟต์ ผมไม่รู้ว่าจะหาข้ออ้างอะไรเพื่อถ่วงเวลา เพราะสาเหตุสำคัญที่มาที่นี่ก็คืออาซาอยากเป็นคนมาดูคอนโด ถ้าจะให้เติร์ดพาไปไหนมาไหน ก็ควรจะต้องพาอาซาไปไม่ใช่ผม ถ้ารู้ก่อนก็คงบอกว่าเป็นผมเองที่อยากจะซื้อ

         ลิฟต์เปิดออก คนที่ออกมาคือคนที่ผมไม่ควรให้พวกเขาเจอตัวว่าอยู่ที่นี่ ผมรีบหันหลังหนี ดีที่เติร์ดยืนอยู่ข้างหน้าผม เขาบังตัวผมพอสมควร

        “เอเดนมันจะกลับมาถึงนี่ตอนกี่โมง”

        “อีกไม่นานหรอก เห็นว่ามีเหตุขัดข้องนิดหน่อย ยอร์ชรู้เรื่องไม่ควรรู้ของพวกเราตอนที่เอเดนไปหาผู้กุมความลับ เลยเสียเวลาจัดการนิดหน่อย แต่ตอนนี้เรียบร้อยแล้ว น่าจะมาถึงสักเย็นๆ ตอนนี้เราก็ออกไปจัดการเรื่องอื่นๆก่อน ถ้ามาถึงมันคงโทรมาเองนั่นแหละ” เสียงพูดคุยค่อยๆเบาลงจากระยะห่างที่พวกเขาค่อยๆเดินห่างออกไปจนบริเวณที่ผมยืนอยู่ไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากความเงียบ

        เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีชื่อพี่ยอร์ชเอ่ยออกมาจากปากสองคนนั้น

        “เอ้า ยืนเหม่ออะไรโยชิ เข้ามาสิ จะไม่ขึ้นไปเหรอไง” เติร์ดเดินออกจากลิฟต์มาเรียกผม ผมหันมองไปตรงทางออก ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแม้แต่คนเดียว “ไปเถอะ” เติร์ดเรียกอีกรอบ ผมจึงเดินเข้าไปในลิฟต์แบบตัวลอยๆ

        กลับมาถึงห้องของเติร์ด เขาจัดการสแกนนิ้วลงบนแถบกระจกสีดำข้างๆตัวเสียบคีย์การ์ด ผมมึนตึ้บคิดอะไรไม่ออก สมองอื้ออึง อยากพุ่งเข้าไปหาอาซา บอกเล่าเรื่องที่ได้ยืนมาเมื่อตะกี้ให้เขาฟัง

        “กลับมาแล้วเหรอ” อาซาเดินออกมารับพวกเราด้วยท่าทีปกติแต่ที่ไม่ปกติคือดวงหน้าหล่อเคร่งเครียด ด้านหลังที่เดินตามมาก็คือปุยเมฆ ผมมองหน้าอาซาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี หน้าเขาเข้มขรึมยิ่งขึ้นเมื่อจับอาการของผมได้

        “มีอะไรหรือเปล่า” เขาถามผม พลางหันมองเติร์ดที่ก้มลงไปอุ้มปุยเมฆไว้ในอ้อมแขนแล้วก้มหน้าจุ๊บหัวเจ้าสัตว์หน้าขน

        “หืม อะไรเหรอ” เติร์ดทำหน้างง ผมปรับสีหน้าใหม่ แต่ก็ไม่คล้ายว่าจะดีขึ้น อาซาจ้องเขม็ง ผมยิ้มให้เขา

        “ฉันรู้สึกไม่ดีนิดหน่อยน่ะ ไว้ดูคอนโดวันหลังได้ไหม” อาซาเดินมายืนข้างๆผม ยกมือแตะแก้มเช็คอุณหภูมิ ผมช้อนสายตาขึ้นสบกับดวงตาสีเข้ม อาซามองผมอย่างเป็นห่วง ลูบศีรษะผมแผ่วเบา

        “ได้สิ” เขาบอกกับผมเสียงนุ่ม ผมแสบจมูกไปหมด กลั้นก้อนสะอื้นในลำคอ กลัวเหลือเกินว่าพี่ยอร์ชจะเป็นอะไร เอเดนจะทำอะไรพี่ชายผมบ้าง ทำไมต้องไปยุ่งกับพี่ยอร์ช พี่ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย

        “ขอโทษทีนะเติร์ด ไว้วันหลังฉันจะมาใหม่”

        “ไม่เป็นไร” เติร์ดพูดกับอาซา ก่อนจะหันมาพูดกับผม “ส่วนนายก็ไปพักผ่อนเถอะ เอกสารนี่เอากลับไปอ่านก่อนก็ได้ ไว้หายดีแล้วค่อยมาดู”

        อาซารับเอกสารมาถือไว้ มืออีกข้างโอบไหล่ประคองร่างกายเล็กบางที่ไร่เรี่ยวแรงของผม ผมพยายามหายใจเข้าลึกๆ ทำจิตใจให้เข้มแข็ง ตั้งสติควบคุมจิตใจ

        พ้นออกมาจากห้องของเติร์ด อาซารั้งผมให้หยุด แต่ผมส่ายหน้า “ไว้ไปที่รถก่อนนะ ฉันจะเล่าให้ฟัง”

        “ก็ได้” อาซาพาผมกลับไปที่รถ ขับพ้นคอนโดจนแน่ใจแล้วว่าน่าจะปลอดภัยที่จะคุย ไม่มีใครรู้ว่าจะมีพวกของเอเดนคอยจับตาดูอยู่หรือเปล่า ถึงอาซาจะใส่แว่นดำ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอำพลางออร่าที่แผ่ออกมาจากผิวกายสีขาวสะท้อนแสงแดด

        รถชะลอหยุดหยุดที่ตรอกเล็กแคบวิ่งเข้าออกได้ทางเดียว ไม่มีผู้คนเดินผ่านสัญจร ตึกทั้งสองข้างก็ร้างโทรมไร้คนอยู่อาศัย

        “โยชิ เกิดอะไรขึ้น” อาซาถามหน้านิ่ว

        “ฉันเจอกับพวกชาร์ลและเบนข้างล่างคอนโด” ผมกลืนก้อนน้ำลายลงคอ “เขาพูดถึงพี่ยอร์ชด้วย เขาบอกว่าเอเดนจัดการกับพี่ยอร์ช ฉันไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร แต่อาซา พี่ยอร์ชกำลังตกอยู่ในอันตราย!” ผมพูดรัวและเร็วจนอาซาต้องจับไหล่ของผมทั้งสองข้าง ในสายตามั่นคแน่นแน่สะกดให้ผมหยุดนิ่ง

        “ค่อยๆพูด ค่อยๆเล่า ช้าๆนะ” ผมปลอบผมทั้งๆที่เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกดี หรือเขาจะคิดมากกับท่าทางของผม

        ผมเม้มปากแน่น แล้วถอนหายใจแรง “ชาร์ลพูดว่าเอเดนจัดการกับพี่ยอร์ช และจับตัวผู้กุมความลับได้ อะไรสักอย่างทำนองนี้ แต่ฉันจับใจความไม่ได้ตั้งแต่ที่ได้ยินชื่อพี่ยอร์ชแล้ว อาซา พี่ยอร์ชจะเป็นอะไรไหม”

        “โทรไปถามสิ” เขาเสนอแบบไม่ต้องคิดนาน

        ผมเบิกตากว้าง สะบัดหัวไล่ความโง่เง่า หยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาพี่ชายที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต รอไม่ถึงห้าวินาทีด้วยซ้ำ ก็มีคนรับสาย

        “ไงเจ้าตัวเล็ก คิดถึงพี่หรือไง”

        เสียงแบบนี้ “พี่..พี่ยอร์ช” ผมเสียงสั่น ยิ้มทั้งน้ำตาคลอเมื่อรู้ว่าพี่ยอร์ชไม่ได้เป็นอะไร น้ำเสียงอย่างคนสบายดี อาซายิ้มดีใจร่วมกับผม ลูบหัวลูบแก้มผมอย่างอ่อนโยน

        “ก็พี่เองน่ะสิ เป็นอะไร เสียงสั่นๆ”

        “เปล่า พี่ยอร์ชไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม” ผมถามไถ่ให้ได้ความ

        “เป็นอะไรคืออะไร? พี่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย สบายดีมาก” เสียงชัดเจนมีชีวิตชีวา

        “แล้วเอเดน ไปที่นั่นหรือเปล่า” ผมถามถึงตัวการที่ทำให้ผมเครียด

        “เอเดนเหรอ เปล่านี้ เขาไม่ได้มานะ” พี่ยอร์ชตอบเสียงฉงน ผมแปลกใจ จะไม่ไปได้ยังไง ในเมื่อผมได้ยินมากับหู ได้ยินมาจากปากเพื่อนสนิทของเอเดนได้ไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ

        “พี่ยอร์ชแน่ใจเหรอ” ผมย้ำถาม

        “แน่ใจสิ ใครจะเข้าออกไร่เรา มีเหรอที่พี่จะไม่รู้ไม่เห็น”

        “ก็จริง” แต่สิ่งที่ผมได้ยินมา

        “มีอะไรหรือเปล่า ทำไมอยู่ๆถึงได้ถามถึงเอเดน”

        “อ่อ...เปล่าครับ ไม่มีอะไร ผมแค่โทรมาถามเฉยๆเท่านั้นเอง”

        “แน่ใจเหรอ” พี่ยอร์ชคงไม่เชื่อง่ายๆ

        “ก็...ผมเป็นห่วงพี่ยอร์ชกับพ่อ เขาอาจจะไว้ใจไม่ได้ก็ได้นะพี่ยอร์ช”

        “หึหึ เด็กน้อยของพี่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไม่มีใครทำอะไรพ่อกับพี่ชายคนนี้ได้ พวกเราจะดูแลตัวเองโอเคไหมครับ”

        “ครับ”

        “แต่เราก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ พี่กับพ่อก็เป็นห่วงโยชิมาก รักเรามาก รู้ใช่ไหม”

        “โยรู้ โยรักพ่อกับพี่ยอร์ชมากนะครับ”

        “ฮ่าๆๆ ขี้อ้อนจริงๆ ไว้แค่นี้ก่อนนะโย พี่มีงานเยอะทีเดียว เสร็จงานพี่จะโทรไปหาใหม่”

        “ครับ อย่าหักโหมมากนะ ทั้งพ่อและพี่ยอร์ชต้องพักผ่อนมากรู้ไหม”

        “ครับคุณน้องชาย บายนะ แล้วคุยกัน”

        “ครับ” ผมวางสาย ค่อยหานใจได้ทั่วท้องหน่อย

        “ว่าไงบ้าง” อาซาถาม ยังไม่ออกรถจากตรอกแคบ แสงแดดสลัวลงจนเกือบมืด เมฆก้อนใหญ่ลอยอยู่เหนือหัวเราเท่าที่สังเกต

        “ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่ยอร์ชสบายดี และที่สำคัญ เอเดนไม่ได้ไปที่นั่น มันจะเป็นไปได้ยังไงอาซา ก็ในเมื่อฉันได้ยินชาร์ลพูดแบบนั้นจริงๆ”

        อาซาถูปลายคางรุนแรงใช้ความคิด “เขาอาจจะไปที่นั่นจริงๆ แต่ที่พี่ชายนายไม่รู้ อันนี้สุดจะเดา แต่อย่าเพิ่งวางใจอะไรเด็ดขาด เขากำลังวางแผนใหญ่ ตอนที่นายไปถ่วงเวลาเติร์ด ฉันให้เจ้าปุยเมฆแอบแยกร่างไปที่ห้องของสองคนนั้น”  ดวงตาดำเกรี้ยวกราดดั่งพายุในมหาสมุทร

        “หมายความว่าปุยเมฆยอมช่วยนายแล้วเหรอ”

        “อืม”

        “แล้วได้เรื่องว่ายังไงบ้าง ทำไมเขาถึงยอมช่วยละ นายคุยกับเขาว่ายังไง”

        “ก็ไม่มีอะไร”

        ผมไม่เชื่อ ปุยเมฆมีท่าทีต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด “ไหนว่าจะไม่มีความลับกับฉันแล้วไง”

        “เฮ้อ” เขาถอนหายใจ ก้มหน้าลงต่ำจนเกือบชิดใบหน้าของผม”ฉันบอกนายไม่ได้เพราะมันเป็นความลับของเจ้าแมวนั่น”

        “ความลับ?” ผมรอฟังเหตุผล

        “เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอกนะ เรื่องที่เลวร้ายที่ฉันรู้มาจากเจ้าแมวนั่นมากกว่าที่ทำให้ฉันแทบบ้า”

        เขาดูไม่เหมือนอย่างที่พูด แต่อาซาควบคุมอารมณ์ได้ดีเสมอมา จนกระทั่งตอนนี้ เขาดูควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ อาจเป็นได้ว่า เมื่อตะกี้ผมกำลังจิตตกไร้ที่ยึดเหนี่ยว อาซาเป็นคนเดียวที่ช่วยผมได้ เขาจึงเลือกที่จะพับเก็บเรื่องเครียดของตัวเอง และหันมาเป็นที่พึงให้คนอ่อนแอเช่นผม

        “ความจริงแล้ว ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่เมื่อวาน เจ้าแมวนั่นก็ไปเยี่ยมเยียนสองคนนั้นเป็นที่เรียบร้อยมาแล้ว”

        “หมายความว่ายังไง”

        “ปุยเมฆบอกว่าได้กลิ่นแปลกๆ เป็นกลิ่นงูผสมกลิ่นแมว เลยแวบออกจากห้องไปดู แล้วก็เจอชาร์ลกับเบนในห้องชั้นข้างบน ตอนนั้นเบนกำลังคุยโทรศัพท์กับเอเดนอยู่ มีเรื่องผู้กุมความลับอย่างที่นายบอกด้วย และผู้กุมความลับเป็นพวกไลแคน...”

        “มั่นใจได้ไหมว่าเรื่องจริง” ผมถาม เผื่อว่าปุยเมฆอาจจะฟังผิด

        “มนุษย์กลายร่างครึ่งคนครึ่งแมวมีความจำที่ดีเลิศ จดจำสิ่งที่ฟังแม้จะเบามากและได้ยินเพียงครั้งเดียว ก็สามารถจำได้เหมือนอัดเทป”

        “จริงเหรอ” อะไรจะน่าทึ่งได้ถึงขนาดนี้

        “ใช่ สรุปได้คร่าวๆว่า พวกนั้นตามหาผู้กุมความลับที่เพิ่งจะมารู้ว่าเป็นพวกไลแคนไม่ใช่พวกนากินีมาตั้งแต่ต้น” อาซาหยุดเว้นวรรค ดวงตาสีดำมือสนิทแทบไร้เงาสะท้อน ดุดันน่ากลัวจนผมเกิดอาการหนาวสั่น “จริงอย่างที่ฉันคิดไว้”

        อย่าบอกนะว่า

        “เอเดนต้องการหัวใจบาซิลิซก์ เขากำลังจะแย่งชิงหัวใจของเรา” เขาพูดกัดฟันกรอด

        ไม่จริงใช่ไหม ถึงจะคิดไว้เกินครึ่งว่ามันจะต้องออกมาในรูปแบบนี้ แต่ก็ยังหวังอยู่ว่าสิ่งที่เอเดนต้องการใจไม่ใช่สิ่งลึกลับในตัวเราสองคน

        “แล้วเราจะเอายังไงต่อไป” ผมถามเสียงพร่า

        “เอเดนกำลังจะพาผู้กุมความลับมาที่นี่ ฉันคิดว่า คนๆนี้จะต้องรู้อะไรเกี่ยวกับหัวใจบาซิลิกส์ ไม่งั้นเอเดนไม่ตามหาตัวเขาแทบพลิกแผ่นดิน” สีหน้าแววตาของอาซาดุร้ายเกินไป ผมใจไม่ดี เอื้อมมือกุมมือที่เย็นจนคล้ายเหล็กแหลมของอาซาไว้ ถ่ายทอดความอบอุ่นน้อยนิดผ่ายผิวกายด้วยการสัมผัส

        “เขาจะมาวันนี้” ผมพูด

        “ใช่ และสิ่งที่เราต้องทำก็คือ...” เขาหยุด ผมคิดว่าเป็นการหยั่งเชิงให้ผมได้คิด

        “นายจะแย่งชิงผู้กุมความลับเหรอ” บอกทีว่าอาซาไม่ได้อยากให้ผมพูดแบบนี้

        “ฉลาดมากที่รัก”

        “อาซา...”

        “นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ”

        ดูจากอารมณ์ของอาซาแล้ว อะไรก็หยุดเขาไม่อยู่

        ปึก!

        แรงกระแทกจากหลังคารถทำผมสะดุ้ง อาซาไวกว่าผมมาก เขาดึงตัวผมเข้าไปกอด แขนที่รัดกอดเสมือนเขากางปีกปกป้องผมจากอันตราย บางอย่างร่วงลงมากระแทกหลังคารถเรา ผมและอาซาต่างกวาดสายตามองข้างนอกรถ และหางตาก็เห็นร่างคนกลิ้งลงมาทางฝั่งอาซา ใบหน้าที่แนบเกือบติดกระจกเกือบทำผมหัวใจวาย ถ้าใบหน้านั้นไม่ใช่ใบหน้าของคนที่เรารู้จัก

        “ไอ้ฟรินน์!!!” อาซาคำราม

        ฟรินน์เคาะกระจกเรียกอาซาอย่างร้อนรน อาซาลืมโกรธฟรินน์ชั่วขณะที่ทำให้เราตกใจ เขารีบปลดล็อคให้ฟรินน์เข้ามาในรถ กลิ่นคาวเลือดลอยเตะจมูก บนเสื้อสีดำเปียกเป็นวงกว้าง และนั่นคงเป็นคราบเลือด

        “เกิดอะไรขึ้น” อาซารีบถาม

        “ฉันเจอมันแล้ว คนที่ฆ่าพวกมนุษย์แล้วโยนความผิดมาให้เรา”

        “...!”

        “มันแข็งแกร่งมาก ฉันพลาดท่ามันเลยหนีไปได้”

        “นายไปเจอมันได้ยังไง” อาซาสตาร์ทเครื่องยนต์ออกรถ บาดแผลของฟรินน์น่าเป็นห่วงเล็กน้อย

        “มันกำลังจะลงมือฆ่าเด็ก ฉันไปเจอเข้าโดยบังเอิญ มันคงไม่หนีไปได้ ถ้าลูกน้องเราไม่ถูกมันจัดการตั้งแต่แรก แต่ฉันจำกลิ่นมันได้ ฉันคิดว่าถ้าคืนนี้เราออกล่าตัวมัน...”

        “ไม่ได้!” อาซาพูดแทรก รถกระตุกเล็กน้อยก่อนจะกลับเป็นปกติ

        “แต่นี่มันโอกาสของเรา” ฟรินน์แย้ง ผมเองก็อยากรู้เหตุผลของอาซา

        “นี่เป็นแผนลวงให้เราไปที่อื่น เอเดนกำลังจะพาผู้กุมความลับมาที่นี่ และเขาต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของเรา”

        อย่างนี้นี่เอง ผมเข้าใจแล้ว แต่ฟรินน์เป็นคนเดียวที่ตามไม่ทัน

        “ผู้กุมความลับคืออะไรอีกวะ”

        “ฉันรู้สาเหตุที่เอเดนมาที่นี่แล้ว เราจะคุยกันเรื่องนี้ทันทีที่ถึงบ้าน”

        ระหว่างทางผมคิดว่า วิชามวยที่เรียนไม่จบหลักสูตร จะช่วยอาซากับพวกได้บ้างไหม
 

        ………….

        สวัสดีปีใหม่กันอีกรอบ หลังจากที่ทักทายกันในหน้าเพจแล้ว :mc4:

        ตอนนี้แปลๆในความรู้สึกของริริอยู่บ้าง อาจมีได้ปรับแก้ในภายภาคหน้า แต่ตอนนี้ปัจจุบันนี้ออกมาได้เป็นแบบนี้

        จะพยายามมาให้เร็วกว่านี้นะคะ ขอบคุณมากๆสำหรับคนที่ยังตามอ่านแม้ว่าริริจะมาลงให้ช้ามากก็ตามที แต่ไม่ได้ทิ้งไปไหนนะคะ แค่ไม่มีเวลาเท่านั้นเอง  :katai1:

        เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หลายคนลุ้นให้พี่ยอร์ชกับเอเดนคู่กัน หึหึ ก็นะ ถ้ามันจะคู่กันแล้ว ก็ไม่แคล้วกันหรอก อิอิ :hao6:

        ถ้ามีคำผิดขอโทษด้วยนะคะ ยังไม่ได้เช็คคำ มาลงก่อน เพราะจะนอนแล้ว พรุ่งนี้ตื่นไปทำงานแต่เช้า  :mew2:

        รักคนอ่าน รักคนเม้น รักทุกกำลังใจที่ให้กันมา

        กอดๆ  :กอด1:เจอกันตอนที่13  :katai4:

        บาย :bye2:

       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-01-2015 22:57:10
ขอตัวไปอ่านก่อน

ดีใจมากๆเลยที่มาลงให้

กรี้ดดด
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 04-01-2015 22:57:45
  “อาซาต้องการหัวใจบาซิลิซก์ เขากำลังจะแย่งชิงหัวใจของเรา” เขาพูดกัดฟันกรอด
อันนี้ต้องเป็นเอเดนรึเปล่าคะ???

แหม แต่เรื่องพี่ยอร์ชนี่เราแอบเชียร์จริงๆน้าาาา :hao7:
ตอนนี้ลุ้น ลุ้นว่าปุยเมฆจะยอมไหม แล้วทำข้อตกลงอะไรกับอาซาน้าาาา
รอตอนต่อไปค่ะ เข้มข้นๆๆๆๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-01-2015 23:14:58
พี่ยอร์ชเสียงสดใจชัดเจน

แสดงว่าเอเดนไม่ได้ทำอะไร

เพียงแต่ลบความจำในเรื่องที่รู้ใช่ไหม

กลัวจังเลย กลัวว่าอาซาจะพลาดท่าใหเอเดน

หวังว่าเอเดนจะกลับตัวกลับใจได้นะ

แล้วไปคบกับพี่ยอร์ชเลย เชียร์ๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-01-2015 23:47:36
มาแล้วววววว อาซากับโยชิมาแล้วสววว
เป็นกำลังให้นะคะริริ
มาต่อบ่อยๆน้า
 
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 04-01-2015 23:58:15
กำลังจะปะทะกันแล้วววววว
อ่านไปตื่นเต้นไป
แป๊บๆๆจบตอนแล้ว
สนุกเข้มข้นเหมือนเคย
สวัสดีปีใหม่ค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
+1  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 05-01-2015 07:48:35
อ่าา่่ เพิ่งเห็นว่ามาลง เดี๋ยวมาตามอ่าน  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-01-2015 10:17:56
อ่านกำลังลุ้นๆ จบตอนซะแล้วอ่ะ ขอบคุณนะคะที่อัพให้อ่านและก็สวัสดีปีใหม่ด้วยค่ะริริ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 05-01-2015 10:18:37
ขออย่าให้เกิดเรื่องร้ายแรงมากนะ

เอาใจช่วยทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 05-01-2015 10:48:02
ยอร์ช โดนล้างความจำแล้ว หวังว่าจะไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นนะ
อยากให้อาซาเจอผู้กุมความลับแล้วคลายที่สะกดจิต
อยากเห็นโยชิกลายเป็นงูจัง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 05-01-2015 19:29:42
ยังไงๆ อยากอ่านต่อแล้ว เอเดนกลับตัวกลับใจซะ ที่บ้านให้อภัยละ  :z2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 06-01-2015 07:17:30
แหมะ ลุ้นตลอดเลยอ่าาา อยากให้พี่ยอชคู่กะเอเดนจริงๆนะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้ร่างกายแข็งแรง
สมปรารถนาทุกสิ่งอย่างนะค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 07-01-2015 12:13:18
กรี็ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
น้องปุยเมฆฆฆฆ


พี่ยอร์ช จะจำอะไรได้บ้างป่ะะะะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 08-01-2015 10:59:29
ขอให้อาซาได้ตัวผู้กุมความลับด้วยเถอะ ตื่นเต้นมากพูดเลย. เอเดน กลับตัวกลบใจเถอะ ไม่งั้นพี่ยอร์ชอาจไม่รักนะ :katai3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWELVE ❁ 04-01-2015[P.40]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 08-01-2015 14:50:58
มาต่อไวๆนะคะ
เอาใจช่วยโยชิ และอาซา นะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ T HIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 12-01-2015 18:07:43
B.L.O.O.D.L.I.N.E
T HIRTEEN





       ฟรินน์และอาซาจ้องหน้ากันนิ่งหลังจากที่อาซายอมเล่าความลับที่ตัวเขาเก็บมานานเท่าชีวิตเขาให้คนอื่นรู้เป็นครั้งแรก ไม่นับรวมผมที่เป็นอีกคนที่มีสิ่งนั้นอยู่ในตัว ความเงียบที่ก่อตัวขึ้นระหว่างคนสองคนชวนให้อกสั่นขวัญแขวน

       “เฮ้อ” สุดท้ายฟรินน์ก็เป็นคนที่เปล่งเสียงถอนหายใจทำลายความเงียบ บรรยากาศอันหนาวเหน็บคล้ายถูกความร้อนค่อยๆละลาย ผมหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น

       “นายนี่มัน” คำพูดของฟรินน์แผ่วเบามาพร้อมกับใบหน้าที่เหนื่อยล้า ผมเลิกเกร็ง ลุกเอากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บ เพราะหลังจากที่ทำแผลให้ฟรินน์เท่าที่จะทำได้ อาซาก็เอ่ยปากเล่าเรื่องที่ปกปิดมานานด้วยความลำบากใจ ผมรู้ว่าเขาไม่อยากเล่า แต่เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ปิดต่อไปก็รังแต่จะเสียหาย

       “ฉันจะไม่ขอโทษที่ไม่ได้บอกตั้งแต่แรก” อาซาพูดหน้าขึง เขาเกร็งเครียดจนเส้นเลือดข้างขมับขึ้นนูน

       “ฉันก็ไม่ได้โกรธที่นายไม่บอกหรอกนะ แต่มัน...” ฟรินน์จ้องตากับอาซาเพื่อถ่ายถอดสิ่งที่รู้สึกอย่างไม่อาจสามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้

       “ฉันเข้าใจ”

       “เฮ้อออ” ฟรินน์ถอนหายใจยาวเหยียดอีกครั้ง “เราต้องบอกเรื่องนี้กับคนอื่นด้วย ฉันกับนายไม่น่ารับมือเอเดนกับพวกไหว”

       “ฟรินน์ ที่ฉันบอกแค่อยากให้นายรับรู้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้นายเข้ามายุ่งเรื่องนี้”

       “หมายความว่ายังไง” น้ำเสียงของฟรินน์แข็งขึ้นมาฉับพลัน

       อย่าว่าแต่ฟรินน์ไม่เข้าใจ ผมเองก็ยังงง

       “ฉันแค่อยากให้พวกนายรับรู้ แต่ปัญหาในตอนนี้มันคือปัญหาของฉันแค่คนเดียว พวกนายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ฉันไม่อยากให้พวกนายต้องมาเดือดร้อน”

       “แล้วนายจะสู้กับพวกมันคนเดียวหรือไง!”

       “แต่มันไม่ใช่เรื่องของนาย!”

       จบคำไม่ทันได้วินาที ฟรินน์ก็พุ่งเข้าหาอาซา ต่อยอาซาหนึ่งหมัดก่อนจะใช้สองมือกำคอเสื้ออาซาแน่น ผมตกใจมากจะเข้าไปห้าม

       “อาซา ใจเย็นๆนะ” ผมเข้าห้ามทั้งคู่ ลูบแขนปลอบคนรักให้สงบ ก่อนจะหันไปพูดกับฟรินน์ “อาซาเขาไม่ได้ตั้งใจนะ อย่าทะเลาะกันเลย”

       ฟรินน์หายใจแรง ใบหน้าโกรธจัด มือยังไม่ปล่อยคอจากเสื้อแต่กลับเค้นแรงจนใบหน้าของอาซาแดงกล่ำ ร่างที่เล็กกว่าอาซาอยู่หน่อยคล้ายจะผองตัวได้ ผิวกายสีขาวขึ้นสีเหลื่อมเป็นเกร็ดงู

       เกรงว่าอารมณ์ฟรินน์จะสงบลงได้ยาก

       “ขอร้องละ หยุดทะเลาะกันเถอะ แค่นี้เราก็แย่พอแล้วนะ” ผมบอกทั้งคู่เสียงอ่อน แววตาฟรินน์อ่อนวูบเพียงนิด อาซาไม่หลบตาเพื่อน เขามั่นคงในคำพูดและการตัดสินใจของตัวเองว่าไม่ได้พูดอะไรผิด จนฟรินน์ยอมกระแทกมือปล่อยตัวอาซาอย่างแรง

       “แค่กๆ” อาซาไอเบาๆ ถึงจะไม่ได้กอบกำที่ลำคอโดยตรง แต่บนลำคออาซาก็ยังมีรอยแดงไปจ้ำปรากฏให้เห็น

       “แกกล้าพูดแบบนั้นได้ยังไงวะ! เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ไหม!!!”

       “ก็เพราะว่าแกเป็นเพื่อนไง ฉันถึงไม่อยากให้แกต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องส่วนตัวระหว่างฉันกับเอเดน!!!”

       “แกไม่เข้าใจคำว่าเพื่อนหรือไง เพื่อนกัน ก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน แต่นี่แก...แกจะให้ฉันหลบอยู่ในบ้านแล้วปล่อยเพื่อนที่รู้จักมาค่อนชีวิตของการเป็นมนุษย์ผิดแผกไปต่อสู้คนเดียวอย่างนั้นเหรอ แกอาจคิดว่ามันเป็นไปได้ แต่ฉันทำไม่ได้!!!” ฟรินน์ตะโกนเดือดดาน น้ำตาคลอเตรียมจะไหล

       “เพราะแกเป็นเพื่อน ฉันถึงได้เป็นห่วง แกจะให้ฉันพาเพื่อนรักที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมาซวยด้วยหรือยังไง ถ้าเป็นแกเอง แกจะทำยังไงฟรินน์”

       “...” ฟรินน์ไม่ตอบ ผมน้ำตาไหลเงียบๆอยู่ไม่ไกลพวกเขา ไม่เอ่ยปากเข้าไปยุ่ง ปล่อยให้เพื่อนรักทั้งสองคนพูดคุยกันจนกว่าจะเข้าใจ

       “แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ ฉันจะไม่ฟังแก ต่อให้แกไม่ให้ฉันเข้าไปยุ่งเรื่องของแก ฉันก็จะยุ่ง” ฟรินน์เอ่ยหนักแน่นดังภูผา “เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ความผูกพันธ์มันมากเกินกว่าเพื่อนไปแล้วเพราะเรากลายเป็นครอบครัว และฉันจะไม่ยอมปล่อยให้คนที่เป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายที่ฉันมีอยู่ไม่กี่คนในชีวิตต้องต่อสู้เพียงลำพัง” ผมสะอื้นเมื่อได้ฟังเสียงที่สั่นเครือ ฟรินน์ที่เคยยิ้มแย้มร่าเริงสดใส บัดนี้เหลือเพียงคนที่ร้องไห้อยู่ตรงหน้าอาซาอย่างไม่อาย

       อาซาเดินเข้าไปหาฟรินน์ ถึงใบหน้าเขาจะราบเรียบ แต่ผมมองเห็นความเจ็บปวดผ่านดวงตาสีดำสนิทคู่นั้น

       “ที่ห้ามไม่ให้นายเข้ามายุ่งก็เพราะเป็นห่วง เพราะนายก็เป็นน้องชายที่ฉันรักเพียงคนเดียว ฉันถึงไม่อยากให้นายเอาชีวิตไปสุ่มเสี่ยง”

       “การมีชีวิตจะไม่มีความหมาย ถ้าเราไม่ได้มีชีวิตอยู่หรือทำอะไรเพื่อคนที่เรารัก”

       “หมายความว่านายจะไม่ฟังฉัน”

       “ฉันโตพอที่จะคิดอะไรเองได้ ไม่จำเป็นที่นายต้องป้อนคำสั่งใส่สมองฉัน” ฟรินน์ทำตาดุ แต่เสียงสั่นเครือ

       “หึ” อาซากระตุกยิ้มมุมปาก “ก็ได้ ฉันยอมให้นายช่วย แต่นายต้องสัญญากับฉันก่อนข้อหนึ่ง”

       “อะไร”

       “อย่าทำอะไรเกินกำลังตัวเอง อย่าให้ตัวเองเป็นอะไร”

       “นายเองก็เหมือนกัน เพราะถ้านายเป็นอะไร เด็กแถวนี้ร้องไห้ขาดใจตายแน่”

       และอยู่ๆสายตาของทั้งคู่ก็เบนมาทางผม บรรยากาศอึมครึมหายไปเกือบหมด มีเพียงดวงตาล้อเลียนจากมนุษย์งูที่คุ้นเคยทั้งสอง

       “อะไรกัน เกี่ยวอะไรกับฉัน” ผมแหวใส่ไม่เต็มเสียง ทะเลาะกันแทบเป็นแทบตาย แล้วไหงมาจบที่ผมเสียได้

       “หึหึ หรือไม่จริง ถ้าอาซาเป็นอะไรไป นายคงร้องไห้ขี้มูกโป่ง” ฟรินน์พูดแบบไม่คิดอะไร แต่หารู้ไม่ว่าใจผมกระตุกวูบ

       สิ่งที่ไม่เคยหลุดออกจากความคิด ไม่เคยลืมทุกครั้งที่มีอะไรมาสะกิดก็คือความฝันที่แสนเลวร้าย ความฝันที่พรากอาซาไปจากเขา

       ไม่...มันจะไม่เกิดขึ้นจริง ผมไม่รู้ว่าเอเดนเก่งกาจมาจากไหน แต่ผมเชื่อว่าอาซาเองก็เก่งไม่แพ้ใคร เขามีสิ่งพิเศษอยู่ในตัว เขาจะต้องเก่งกาจกว่าเอเดน ผมเชื่ออย่างนั้น

       “โยชิ” เสียงเรียกอาซาดังใกล้ๆ ผมเหม่อจนไม่รู้ตัวว่าเขามายืนชิดผมตั้งแต่เมื่อไหร่

       “โทษทีๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจพูดให้นายคิดมากนะ” ฟรินน์ก็มายืนอยู่ใกล้ๆ เขายิ้มเผละ ฟรินน์คนเดิมกลับมาแล้ว “นายอย่าคิดมากเลยโยชิ อาซามันหนังเหนียวจะตาย ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก อีกอย่างยังมีฃฉันอีกทั้งคน แค่นี้สบายมาก” เขาปลอบโดยที่ตัวเองก็กรอกตาเหมือนจะไม่มั่นใจสิ่งที่พูดสักเท่าไหร่

       “ไม่เป็นไรนะ” อาซาถามเสียงนุ่ม

       “อืม” รับคำเพราะไม่อยากให้อาซาไม่สบายใจ

       “โอเค จบเรื่องดราม่า ฉันขอสรุปสิ่งที่นายบอกฉันอีกรอบนะอาซา” ฟรินน์จริงจังเข้าเรื่อง ผมและอาซานั่งข้างกัน อาซาโอบไหล่ผมไว้แน่น เขากำลังจะบอกผมว่าเขาอยู่ตรงนี้

       “นายมีหัวใจบาซิลิสก์ และอีกครึ่งอยู่ที่โยชิถูกไหม” ฟรินน์เดินไปเดินมาอยู่ตรงหน้าเรา ผมเวียนหัวนิดหน่อยที่ต้องหันเหสายตาตามร่างของฟรินน์ตลอดเวลา

       “และเอเดนก็ต้องการมันเพื่อที่เขาจะได้ยิ่งใหญ่เหนือใครในโลกหล้า” ฟรินน์พูดถึงสิ่งที่ตัวเองเข้าใจและเป็นสิ่งที่พวกเราก็รู้ในขณะนี้ “ให้ตายเถอะ พี่ชายนายดูหนังมากเกินไปหรือเปล่า ดราม่าครอบครัวและแผนการครองโลกมาเต็ม”

       ข้อสรุปนี้ผมเห็นด้วยอย่างที่สุด

       “แต่ฉันสงสัยอยู่อย่าง” ในที่สุดฟรินน์ก็หยุดเดิน ยืนอยู่ตรงหน้าเราสองคน “ถ้าเขาต้องการมันจริงๆ ทำไมเขาไม่จัดการนายไปซะ แล้วก็แย่งหัวใจบาซิลิสก์อะไรนั่นไปเลย จะต้องวางแผนนู่นนี่นั่น โฉบไปนู่น วูบไปนี่ ฆ่าคนป้ายความผิดให้เรา เขาทำไปทำไม เสียเวลาชัดๆ” ฟรินน์พูดเสียยาวเหยียด อาซาพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อสงสัย

       “ฉันเองก็สงสัย แต่ตอนนี้เราไม่มีทางรู้เพราะเราตามหลังเอเดนอยู่ เขาเป็นคนวางหมากในกระดาษ และเขากำลังควบคุมให้เราเดินตามเส้นทางที่เขาวางไว้ มันอาจจะมีอะไรมากกว่าการที่แย่งหัวใจบาซิลิสก์ไปจากฉัน กุญแจที่สำคัญก็คือ..ผู้กุมความลับที่ทั้งฉันและโยชิได้ยินมา”

       “ผู้กุมความลับ...” ฟรินน์ทำหน้าเหยเก “การมีพวกเราอยู่บนโลกใบนี้มันยังไม่พิสดารพอหรือไงวะ น่าปวดหัว”

       “ฉันไม่น่าปวดหัวกว่าหรือไง” ผมย้อนฟรินน์ขำๆในสถานการณ์ที่เคร่งเครียด อย่างเขาที่อยู่มาเป็นพันๆปี ยังไม่ชินหรือไงที่โลกนี้มันแปลกประหลาดกว่าที่เคยคิด

       ฟรินน์หัวเราะแก้เขิน “นั่นสินะ ฮะๆ”

       เมื่อไม่มีมุขตลกขำขันแก้เครียด ก็เกิดความเงียบขึ้นอีกรอบ

       “นายจะบอกเรื่องนี้กับคนที่เหลือไหม”

       “อืม” อาซาตอบ “แล้วพวกเขาไปไหน”

       “เฝ้าระวังอยู่แถบอื่น” ฟรินน์ว่า

       “ยังไม่รู้เรื่องที่นายเจอตัวไอ้คนร้ายใช่ไหม”

       “ยัง ฉันอยู่ใกล้นายที่สุดถึงได้ตกลงไปบนรถนายไง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้บอกใคร”

       “งั้นเอาอย่างนี้” อาซาขยับตัวนั่งในท่าทางเตรียมตั้งรับ สองมือวางประสานบนหน้าขา โน้มตัวไปข้างหน้า สายตามองผมและฟรินน์ “เราจะให้พวกเวสตัวไปล่าตัวคนร้าย ถ้านี่เป็นแผนที่เอเดนต้องการล่อเราไปทางอื่นจริง เราจะยังคงเดินตามแผนของเขาเพื่อไม่ให้เขารู้ว่าเราตามเกมเขาทัน”

       เมื่อเริ่มวางแผนผมเกิดอาการตื่นเต้น ตั้งใจฟังอาซาพูดและคิดตามไปด้วย อาซาถือเป็นน้องชายของเอเดน เขาเคยอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เพราะฉะนั้นคนที่จะไล่ตามความคิดเอเดนทันก็มีแต่อาซา เหมือนที่เอเดนรู้หลายๆอย่างเกี่ยวกับนิสัยใจคอของอาซา

       นี่หรือคนที่เกลียดกัน

       แต่แล้วความตื่นเต้นของผมก็ถูกกลบฝังมิดด้วยประโยคเดียวของอาซา

       “โยชิ อยู่ที่บ้าน ห้ามออกไปไหน เราจะเริ่มจาก...”

       ผมไม่สามารถตั้งใจฟังในสิ่งที่อาซากำลังพูดได้อีกต่อไป ความตั้งใจที่จะช่วยของผมถูกเขาทำลายยับ ตัวเริ่มสั่นด้วยความโกรธที่เริ่มจะปะทุและก่อเกิดความเสียใจที่อาซามองข้ามผม

       “ไม่!”  เสียงตะโกนของผมหยุดการสนทนาระหว่างบุคคลสองคน

       “โยชิ...” อาซาเข้ามาหมายจะจับตัวผม แต่ผมเบี่ยงตัวหนี ถึงจะไม่พ้นมือเขา แต่ทำให้เขารู้ว่าผมไม่ต้องการให้เขาถูกตัว

       “ที่นายพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไง” ผมพูดอย่างยากเย็น ก้อนเหนียวๆจุกอยู่ในลำคอ

       “พูดอะไร” อาซาทำไม่รู้เรื่อง ฟรินน์นั่งหน้าเหวอเงียบๆเป็นท่อมไม้ประดับห้องนั่งเล่น

       “ก็ที่นายบอกว่าให้ฉันอยู่บ้านไง นายหมายความว่ายังไง”

       “ก็หมายความว่าอย่างนั้น” เขาพูดย้ำเหมือนว่ามันถูกต้องที่สุด ไม่มีอะไรที่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับผม

       ผมหัวเราะเหอะ เป็นอีกครั้งที่เขาไม่คิดจะให้ผมเข้าช่วย “จะต้องให้ฉันย้ำไหมว่าฉันก็เป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง ฉันดูแลตัวเองได้ ถึงฝีมือมวยของฉันจะได้แค่พื้นฐาน แต่ฉันคิดว่ามันน่าจะต่อยนายให้ร่วงลงพื้นได้ อยากลองไหมละ” ผมชูกำปั้นหมายจะทำอย่างที่พูด เสียงฟรินน์ห้องเฮ้ยเบาๆ แต่อาซานั่งนิ่งจ้องผมตาเหี้ยม

       “ฉันรู้ว่านายดูแลตัวเองได้ และฉันไม่เคยมองนายเป็นผู้หญิงเลยสักครั้ง แต่โยชิ นายควรต้องเข้าใจ เรื่องนี้มันอันตรายมากเกินที่นายจะออกมาช่วยฉัน เพราะแม้แต่ฉันเองยังไม่แน่ใจว่าจะรับมือได้โดยที่ไม่เลือดตกยางออก” เขาอธิบายอย่างกังวลในขณะที่ผมเบือนสายตาหนีไม่อยากมองหน้าเขา

       “นายก็รู้ว่าฉันเป็นห่วงนายมาก เราทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้มาหลายต่อหลายครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่นายควรจะจำเอาไว้ให้แม่นยำก็คือ นายเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา ส่วนเอเดนและพวกเป็นมนุษย์กลายร่าง นายสู้เขาไม่ได้ ถ้านายไป รังแต่จะแย่”

       ผมเข้าใจ เข้าใจทุกอย่างที่เขาพูด รับรู้ถึงความจริงที่เขาพยายามพร่ำบอก แต่ผมก็ดื้อรั้นพอที่อยากจะทำตามใจตัวเอง

       “ขอให้ฉันไปกับนายเถอะ ให้ฉันรออยู่ในมุมใดมุมหนึ่งก็ได้ที่พอจะเห็นนายอยู่ในสายตา ฉันไม่อยากรอคอยอยู่ในบ้านโดยที่ไม่เห็นว่านายจะเป็นตายร้ายดียังไง ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ฉันคงเสียใจที่ตัวเองทำได้แค่รอ” ผมเองก็อยากให้เข้าใจในความเป็นผม 

       “ฉันขอเสนอ” ฟรินน์ยกมือขึ้นแทรก ผมและอาซาหันมองฟรินน์พร้อมกัน

       “อะไร” อาซาถามหน้านิ่ง

       “ก็ถ้าโยชิอยากไปด้วย ฉันว่าเราก็ยังพอมีทางอยู่บ้าง แต่นายน่ะ” เขาชี้นิ้วมาทางผม “ห้ามทำตัวให้ตกเป็นเป้าอันตรายโดยเด็ดขาด”

       “จะพยายาม” ผมพูด ฟรินน์เลยถลึงตาใส่ผมเคืองๆ

       “ว่ามา” อาซาที่เงียบไปพูดขึ้น

       “คือเราก็ยังไม่มีแผนการที่แน่ชัด เพราะเรายังไม่รู้เลยว่าชาร์ลกับเบนจะกลับไปที่คอนโดนั่นอีกไหม และเราไม่รู้ด้วยว่าเอเดนจะกลับมาเมื่อไหร่ สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้ก็คือไปคุยกับเจ้าแมวสายสืบ ในขณะที่ทางอื่นก็กระจายตัวลูกน้องให้ช่วยสอดส่อง ฉันว่าระหว่างนี้ก็น่าจะพาโยชิไปได้ คืออย่างน้อยก็คงจะไม่ได้ปะทะกันจังๆในเร็วๆนี้”

       “ก็ไม่แน่” อาซาพูดไปตามอารมณ์ที่เดือดจัดอยู่ข้างใน เพียงแค่เขาไม่แสดงออกมา

       “เออน่า หรือแกจะปล่อยให้โยชิอยู่บ้านสักหนึ่งชั่วโมงหลังเราคล้อยหลังออกจากบ้านแล้วเด็กแกก็แอบนี้ตามไปซนเนี่ยนะ”

       “ฟรินน์” ผมปรามฟรินน์เสียงต่ำที่ว่าร้ายผม แต่ดูเหมือนว่ามันจะช่วยให้อาซาตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

       “ก็ได้”

       เป็นอันว่าภารกิจนี้มีผมร่วมด้วย และอาซาจะต้องนึกเสียใจที่ไม่ให้ผมไปด้วยตั้งแต่ทีแรก

       


       ต่อข้างล่าง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ T HIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 12-01-2015 18:08:16
ฟรินน์โทรไปบอกเวสตันถึงเรื่องของคนร้าย ให้ข้อมูลที่มีกับเวสตันในการตามตัว ก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้อาซาคุยกับเวสตัน อาซาบอกเล่าเรื่องทั้งหมดให้เวสตันฟังคร่าวๆผ่านโทรศัพท์และเอ่ยปากให้ช่วยจัดการทางโน่นให้ที การพูดคุยกับเวสตันดูไม่มีปัญหา คงเพราะเวสตันเป็นพี่คนโตและมักใช้เหตุผลก่อนอารมณ์เสมอ จึงเข้าใจอาซาโดยง่าย

       ฟรินน์เป็นคนขับรถ อาซานั่งข้างๆ ส่วนผมนั่งเบาะหลัง แต่ผมนั่งเกาะเบาะอาซาไปตลอดทางเพราะอยากมีส่วนร่วม เส้นทางไปสู่ที่นัดหมายกับปุยเมฆค่อนข้างชวนสับสน เราเข้าซอยเล็กๆเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเป็นสิบรอบจนน่าสับสน ถ้าลองทิ้งผมไว้ตรงนี้ ผมคงไม่มีทางออกไปถนนใหญ่ได้ จนกระทั่งจอดรถหน้าตึกร้าง กำแพงที่ฉาบด้วยอิฐแดงแบบหยาบๆ ปูดที่ฉาบปิดเริ่มผุกร่อน ประตูทางเข้าเป็นประตูเหล็กขึ้นสนิม ไม่มีกุญแจคล้องปิดไว้

       “ที่นี่เหรอวะ” ฟรินน์กวาดตามองสภาพสถานที่นัด

       “อืม ลงไปกันเถอะ”

       สภาพภายในรกร้าง ฝุ่นบนพื้นหน้าเกรอะกรัง น่าจะเคยเป็นร้านอะไรสักอย่าง ดูได้จากหน้าต่างที่มีอยู่เกือบสิบบานรอบตึก แสงจากภายนอกจึงสามารส่องเข้ามาให้ความสว่างภายใน แต่กระจกได้แตกพังไปหมดแล้ว มีโต๊ะและเก้าอี้วางประปรายในสภาพล้มกองอยู่บนพื้น ฟรินน์และอาซาเดินสำรวจรอบๆ ก่อนจะก้มหยิบเก้าอี้ขึ้นมาตัวหนึ่ง แค่ขยับเก้าอี้ก็ดูเหมือนว่าพายุฝุ่นย่อมๆจะก่อตัวขึ้น

       “ออกไปรอข้างนอกไหม” ฟรินน์ออกความคิดเห็น

       เมี๊ยวววว

       เราทุกคนหันหลังขวับ เจอปุยเมฆเดินมาข้างหลัง จนกระทั่งหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเรา

       “ทำไมมีแต่กลิ่นแมวปกติ” ฟรินน์ถามอาซาเสียงเบา ผมมองปุยเมฆแล้วรู้สึกขนลุกแปลกๆ แววตาของแมวตัวนี้แข็งทื่อเหมือนไม่ใช่ตัวเดียวกับที่อยู่กับเติร์ด

       “ก็นี่เป็นร่างแยกไง” อาซาเฉลย

       “งั้นก็กลายร่างเป็นคนไม่ได้น่ะสิ”  ฟรินน์ย่อนั่งรถเสมอเจ้าแมวน้อย เอื้อมมือไปหวังจะลูบหัว แต่ปุยเมฆยกเท้าหน้าตบมือฟรินน์อย่างแรง “โหๆ หวงตัว ได้ข่าวว่าตัวผู้เหมือนกันเหอะ”

       “เขาฟังนายรู้เรื่องเหรอฟรินน์” เพราะฟรินน์พูดภาษาคนปกติ แต่จะว่าไป เติร์ดก็พูดกับปุยเมฆภาษาปกติแต่ปุยเมฆก็เข้าใจ แต่ทำไมอาซาถึงได้พูดภาษาสัตว์กับปุยเมฆเมื่อเช้า

       “รู้เรื่องสิ แต่จะไม่รู้เรื่องทุกคำ เพราะปุยเมฆกลายร่างเป็นคนไม่ได้ ถ้าพูดตามสัญชาตญาณสัตว์จะรู้เรื่องมากกว่า” อาซาเป็นคนตอบ

       เมี๊ยววววว!

       เริ่มรู้สึกว่าปุยเมฆเริ่มหงุดหงิด

       จากนั้นอาซาก็เริ่มคุยกับปุยเมฆอีกครั้ง มีฟรินน์พูดแทรกบ้างประปราย แต่เพียงแค่ไม่กี่ประโยคปุยเมฆก็หยุดพูด แต่เขียนอะไรสักอย่างโดยใช้เท้าหน้าลงบนพื้นที่มีฝุ่นหน้าเตอะแทน ภาษาอังกฤษค่อยๆประกฎชัดขึ้นทีละตัว จนกระทั่งเสร็จ

       599/3  Madtha alle, SukhumvitX Rd, Bangkok

       ที่อยู่ใคร เอเดนเหรอ ไม่ใช่คอนโดเดียวกับเติร์ดหรอกเหรอ

       เมี๊ยวๆๆ เมียวๆ เมี๊ยวว

       ซี่ ซู่ ชู่วว ซรี่

       จบการพูดคุยแค่นั้นแล้วปุยเมฆก็หายไป อาซาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปที่อยู่ไว้ก่อนที่ฟรินน์จะใช้เท้าเกลี่ยฝุ่นจนตัวอักษรหายไปจนไม่สามารถอ่านอะไรได้

       “ว่าไงบ้าง” ผมถามด้วยความอยากรู้

       “ปุยเมฆแอบเข้าไปในห้องของพวกนั้นตอนที่ไม่อยู่ จนไปเจอเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายบ้าน ก็คือที่นี่ และตอนนี้พวกนั้นอยู่ที่คอนโด ชาร์ลและเบนกำลังรอเอเดนอยู่ และตอนนี้เอเดนก็ยังมาไม่ถึงกรุงเทพ ปุยเมฆเลยคิดว่านี่น่าจะเป็นที่อยู่ที่เอเดนจะพาตัวผู้กุมความลับไปซ่อน”

       “ร้ายจริงๆเลยพี่ชายนาย” ฟรินน์บ่นเสียงเบา

       “เราจะไปที่นั่นกันเลยไหม” ผมถาม ยื่นหน้ามองที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือของอาซา แต่ให้ตายเถอะ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ตรงส่วนไหนของกรุงเทพฯ

       “มีใครไปถูกไหม” อาซาถามพวกเรา ผมและฟรินน์มองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้า ชีวิตผมอยู่แต่เชียงใหม่ ถ้าเป็นที่อยู่ที่นู่นผมอาจจะรู้หลายซอกหลายมุม แต่ที่กรุงเทพจนปัญญาจะรู้จริงๆ

       “งั้นเราก็ต้องสะกดรอยตามสองคนนั้นไป ถ้าเสียเวลาหาเองคงไม่ทัน”

       อาซาเดินนำกลับไปที่รถ ขับรถกลับไปที่คอนโด ฟรินน์ออกความเห็นว่าเราควรเปลี่ยนรถ โดยฟรินน์มีคนรู้จักเปิดอู่ซ้อมรถเลยไปยืมมาใช้ก่อนได้ ได้มาสองคัน แยกเป็นผมกับอาซาคันหนึ่ง และฟรินน์อีกคันหนึ่ง สภาพรถที่ยืมมาค่อนข้างดูดี เป็นรถแต่งที่ใช้แข่ง เครื่องยนต์แรง และที่สำคัญกระจกมืดทึบ มองจากข้างนอกจะไม่เห็นข้างใน แต่ถ้ามองจากข้างในจะเห็นด้านนอกชัดแจ๋วมาก

       เราจอดรออยู่หน้าคอนโดจนกระทั่งหกโมงเย็น ที่เราเห็นรถของชาร์ลและเบนขับออกมา ฟรินน์ที่จอดเลยจากคอนโดไปหน่อยพูดคุยกับอาซาผ่านบลูทูธ ฟรินน์จึงเร่งเครื่องแซงหน้าชาร์ลกับเบน ส่วนเราก็ขับตามหลังห่างๆ

       เหตุผลที่ต้องแยกรถเป็นสองคันก็เพราะว่า เพื่อพวกนั้นระแคะระคายคันใดคันหนึ่งในสองคัน จะได้ไม่พลาดท่าไปเสียทีเดียว ผมแอบเห็นเจ้าปุยเมฆอยู่บนรถของสองคนนั้นด้วย

       “ปุยเมฆไปอยู่บนรถพวกนั้นได้ไง” ผมถามไม่เข้าใจ

       “ฉันต้องการให้เขาสะกดรอยตามไปกับพวกนั้น แต่ตอนที่พวกก็ไม่คิดว่าจะทำได้”

       “แล้วปุยเมฆจะไม่เป็นอะไรเหรอ” ผมเป็นห่วงเจ้าแมวน้อยมาก

       “ไม่หรอก ถึงเป็นอะไร ร่างนั้นก็เป็นแค่ร่างแยก แต่ร่างจริงก็ยังอยู่กับเพื่อนนาย แต่ถ้าเกอดอะไรกับร่างแยก เก้าชีวิตที่เคยมีก็จะเหลือแค่แปด”

       “แล้วถ้าสมมุติว่าตายหมดทั้งแปดชีวิตโดยที่ไม่รวมร่างจริงละ” อันนี้ถามด้วยความอยากรู้ล้านๆ

       “ก็จะเหลือชีวิตเดียวก็คือร่างจริงไง ถ้าตายอีกก็ตายสนิท” อาซาตอบคำถามผมแค่นั่นก่อนจะเพ่งสมาธิในการขับรถตามชาร์ล

       จังหวะที่รถของศัตรูเลี้ยวไปตามแยก อาซาและฟรินน์จะสลับกันเปลี่ยนเส้นทาง เพื่อไม่ให้พวกนั้นสงสัยว่าเราขับตามเขาตลอดเวลา ถ้าอาซาขับไปทางอื่น ฟรินน์จะเป็นฝ่ายที่ขับอยู่ใกล้รถของฝ่ายตรงข้าม หรือถ้าฟรินน์แยกตัวไปคนละทางกับชาร์ล อาซาก็จะขับเข้าเส้นทางที่บรรจบกับรถของอีกฝั่งได้ราวกับถูกคำนวณเอาไว้

       “นายทำได้ยังไง” ผมถาม เหมือนพวกเขาได้เตี้ยมกันเอาไว้ มันดูเหมาะเจาะไปหมด

       “เวลาขับรถให้มองเส้นทางเป็นภาพในหัว บางเส้นฉันเคยขับผ่าน เคยซอกแซกก็จะรู้ว่าเส้นในจะไปโผล่ที่ตรงไหน นายยังไม่คุ้นเส้นทางในกรุงเทพก็จะมีงงบ้าง แต่ถ้าเป็นที่แถวบ้านนาย นายก็พอจะมองออกถูกหรือไม่”

       “อืม...ฉันตื่นเต้นจัง” ผมบรรยายความรู้สึกในตอนนี้ไม่ถูก เหมือนอยู่ในหนังสุดระทึก ใจเต้นสั่นตลอดเวลา แต่จะหนักยิ่งกว่าเพราะนี่เป็นสถานการณ์จริง แอบกลัวทุกขณะว่าจะถูกจับได้ แต่เท่าที่ดู พวกนั้นน่าจะยังไม่สงสัย เพราะยังขับรถตามปกติ ความเร็วไม่มากไปกว่าเดิม ไม่เร่งหนีหรือเล่นตุกติก

       จนกระทั่งรถของพวกนั้นเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางที่เป็นซอยหมู่บ้าน ค่อนข้างเปลี่ยว บ้านแค่ละบ้านอยู่ห่างกัน อาซาชะลอรถไม่เลี้ยวตามเข้าไป พร้อมคุยกับฟรินน์ “แก้เลยไปอีกซอยหนึ่ง จะเป็นซอยที่ละลุถึงกันได้ ถ้าแกขับตามทัน แกจะเห็นว่าพวกนั้นขับไปทางไหน” อาซาและฟรินน์โต้ตอบกันตลอดเวลา ไม่นานอาซาก็ขับรถตามเข้าไป มีรถคันหนึ่งจอดอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง อาซาจอดรถ ผมงงว่าเขาจะทำอะไร อาซาลงรถไป จัดการทำอะไรสักอย่างจนสามารถเปิดประตูรถคันนั้นได้

       “นายจะทำอะไรอาซา นายจะขโมยรถเหรอ” ผมอุทานเสียงเบา อาซาจุ๊นิ้วที่ปากให้ผมเงียบ ก่อนจะเปิดท้ายรถคันที่เราขับมา แล้วลงมือติดป้ายทะเบียนปลอมทับซ้อนป้ายจริง จนดูไม่ออกว่ามันซ้อนทับกันอยู่ ผมมองดูเขาจับนู่นเปลี่ยนนี่ด้วยความตื่นตระหนกจนเสร็จ เขาดันตัวผมให้เขาไปนั่งในรถคันใหม่ ต่างจากคันเดิมลิบลับ

       อาซานั่งประจำที่คนขับ ผมนั่งไม่เป็นก้นเพราะรู้สึกไม่ดี “อาซา ทำแบบนี้ไม่ดีนะ”

       “แค่ยืมใช้ เดี๋ยวเอามาคืน ถึงเราจะใช้วิธีขับรถตามแบบแนบเนียน แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะจำรถเราไม่ได้ ขนาดเมื่อกี้ฉันยังทำได้เลยว่ามีรถที่เคยผ่านตาไปแล้วกี่คัน พวกนั้นก็ต้องจำได้ ทางที่ดีเปลี่ยนรถไว้ก่อนดีกว่า”

       “แล้วฟรินน์ละ” อาซาเริ่มออกรถไปตามเส้นทาง

        “มันเองก็เปลี่ยนเหมือนกัน เดี๋ยวเพื่อนมันจะมาเอารถกลับ”

        “แล้วนายเอากุญแจที่ไหนขับรถชาวบ้าน” ผมไม่ได้สังเกตในตอนแรกว่าเขาสตาร์ทรถมาได้ยังไง

        “เพื่อนของฟรินน์เอากุญแจผีมาให้ พวกนั้นก็เป็นเหมือนพวกเรานั่นแหละ”

        ถ้าจะสุดยอดขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่าเป็นเรื่องจริง ผมจะคิดว่าตัวเองหลุดเข้ามาในกองถ่านหนัง ในโลกใบนี้มีอะไรที่ผมไม่เคยรู้ไม่เคยสัมผัสเยอะมาก อยู่อย่างตอนนี้สิ ผมกับอาซากลายเป็นโจรขโมยรถไปแล้ว

        “เห็นพวกนั้นแล้วใช่ไหม” อาซากลับไปคุยสายกับฟรินน์ “ดีมาก นายจอดรถอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวฉันขับไปดูเอง”

        อาซาขับรถตรงไปเรื่อยๆ ก่อนจะเลี้ยวขวา เจอรถอีกคันที่ฟรินน์ขับมาทีแรกจอดอยู่ แต่ในนั้นไม่มีคน อาซาเลี้ยวซ้ายและขับตรงไปเรื่อยๆราวห้านาทีก่อนจะเลี้ยวขวาและซ้ายอีกทีตามลำดับ ตรงไปประมาณสองห้าร้อยเมตร อาซาก็จอดรถตรงริมทาง สองข้างทางไม่มีบ้าน แต่จะมีอยู่หลังที่ข้างหน้าไกลออกไปไม่เท่าไหร่

        “หลังนั้นนะเหรอ” ผมถามเสียงเบา กลัวเสียงตัวเองจะเล็ดลอดให้คนอื่นที่ไม่ใช่อาซาได้ยิน ท้องฟ้ามืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากสองข้างทางเท่านั้นทีให้ความสว่าง แต่ก็ไม่มาก เพราะเป็นซอยเปลี่ยว

        “น่าจะใช่” อาซาหันมาปรับเบาะที่นั่งของผมไอ้เอนลงจนกลายเป็นนอนราบ ผมตกใจตาโต

        “นายจะทำอะไร”

        อาซาเลิกคิ้วก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ “แล้วนายคิดว่าฉันจะทำอะไร” เขาก้มลงมากระซิบที่หู ริมฝีปากเย็นขบเม้มใบหูเบาๆ

        ผมยกมือดันตัวอาซาไม่ให้ก้มต่ำลงมามากกว่านี้ ดวงตาของเขาเป็นกระกายหยอกล้อ

        “นี่! หน้าสิ่วหน้าขวานขนาดนี้นายยังจะลามกได้อีกเหรอ” ผมปราบเสียงเข้ม แต่เบาเท่าเสียงหมด

        “กับนาย ฉันลามกได้ทุกที่ทุกเวลานั่นแหละ” เขายักคิ้วหลิ่วตาได้น่าหมั่นไส้ที่สุด

        “มันน่าภาคภูมิใจนักเหรอไง” ผมทำตาขวาง

        “ภูมิใจสิ เพราะการที่ฉันได้ ‘รัก’ มันคือเรื่องพิเศษที่สุดในชีวิตฉันที่หาไม่ได้จากที่ไหน”

        “แต่มันต้องไม่ใช่เวลานี้” ผมผลักหน้าอาซาที่ก้มกระซิบติดริมฝีปากของผมออกและพูดด้วยเสียงที่ดังในระดับหนึ่ง นึกขึ้นได้ก็ต้องยกมือปิดปาก

        “ฮ่าๆๆ ก็อย่าทำตัวให้น่าแกล้งสิ” อาซาดึงตัวออกจากตัวผม เขาขยี้หัวผมจนขึ้นฟู

        “ก็ดูน่าทำเข้าสิ” ผมบ่นอุบ มองเขาปรับที่นั่งตัวเองเอนตามผม

        “ฉันแค่ปรับที่นั่งไม่ให้ใครเห็นว่ามีพวกเราอยู่กันบนรถ คันนี้ไม่ได้ติดฟิล์มหน้าทึบเหมือนคันนั้น เราต้องระวังตัว” เขาเฉลยบอก แต่ทำให้ผมหน้าร้อนเห่อกับอาการคิดไปเองคนเดียว แถมคิดเรื่องบ้าๆเสียด้วย

        อายไหมละโยชิ!!!

        บรื๊นนนนนนนนน

        ผมและอาซาทำตัวเกร็งเมื่อได้ยินเสียงรถดังเข้ามาใกล้มาขึ้นเรื่อยๆ จนรถคันนั้นขับผ่านเราไป อาซาผงกหัวขึ้นมอง ผมแอบทำตาม เห็นไฟแดงท้ายรถคันนั้นหายเข้าไปในบ้านตรงข้าม

        “ฉันได้กลิ่นหมาป่า และที่แน่ๆ แม้จะกลบกลิ่นตัวเองยังไง แต่ฉันว่าฉันได้กลิ่นเอเดนจากรถคันเมื่อตะกี้” 

        แสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว อาซาต่อสายหาฟรินน์อีกครั้ง บอกให้ฟรินน์เตรียมตัวมาสมทบ รอไม่นานฟรินน์ก็ตามมา

        “ฉันจอดรถอีกคันไม่ไกลจากนี้” ฟรินน์กระซิบบอก

        “ดี” อาซาล้วงหยิบขวาดแก้วขนาดเล็กของอาซาจากกระเป๋าเสื้อยีนส์ตรงหน้าอก เขาเขย่าขวดและใช้นิ้วแตะน้ำข้างในนั้นที่จุดชีพจรตามร่างกายผมและตัวเขาเองก่อนจะส่งให้ฟรินน์

        “นี่เป็นกลิ่นสุนัข จะช่วยพลางไม่ให้พวกนั้นไม่ได้กลิ่นเราในช่วงเวลาหนึ่ง” อาซาบอก ผมหยักหน้าหงึกหงัก

        “เมื่อตะกี้เวสตันโทรมาบอกว่าจับไอ้ตัวการฆ่ามนุษย์ได้แล้ว ตอนนี้กำลังจะพามันไปที่บ้านพักของเราแถบชานเมือง”

        “โอเค” อาซาหันมามองผม “รออยู่ที่นี่นะโยชิ ฟังสถานการณ์ข้างในไว้ให้ดีๆ ห้ามนายออกไปจากรถจนกว่าฉันและฟรินน์จะกลับมา ต่อให้ได้ยินเสียงอะไรก็แล้วแต่ห้ามออกมาจากรถ อย่าให้ใครเห็นนาย แถวนี้มีพวกมันคอยซุ่มดู นายจะไม่ปลอดภัย”

        “ได้” คราวนี้ผมไม่ดื้อดึง ทำตามแต่โดยดี แค่อาซาให้มาด้วยผมก็รู้สึกดีขึ้นที่ตัวเองพอจะช่วยอาซาได้บ้างแล้ว

        “อย่าลืมรักตัวเองเด็ดขาดนะโยชิ ฉันไม่อยากพรากจากนายอีกแล้ว เพราะฉะนั้น ฉันให้นายมาด้วย นายต้องรักษาสัญญา เข้าใจไหม” เขาย้ำกับผมเหมือนผมเป็นเด็กๆ แต่ผมก็รู้ดีที่สุดว่าเขาเป็นห่วงถึงได้กังวล

        “เอาละ ได้เวลาของเราแล้ว” อาซาหันไปพูกกับฟรินน์ ก่อนที่ทั้งคู่ลงจากรถแล้วกลายร่างเป็นงูตัวปกติเลื้อยไปตามทางในความมืด


        “ขอให้อาซาได้ตัวผู้กุมความลับอย่างปลอดภัยด้วยเถอะ”


       
…….
        ว่าจะลงให้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่เผอิญตอนนั้นลืมใส่รายละเอียดบางอย่างเลยออกไปทำงานก่อน วันนี้เลยแก้ไขและมาลงให้แทน กว่าจะลากออกมาได้แต่ละตอน แทบแย่เลย โทษตัวเองละกันที่เลือกแต่งนิยายยากๆ แต่เราจะไม่หยุด เราจะพยายามเพื่อคนอ่าน
        ใครยังอ่านอยู่ก็เม้นบอกกันหน่อยเนอะ ขอกำลังใจนิดหนึ่งนะคะ ผิดพลาดตรงไหนบอกกันได้นะคะ จะได้ปรับปรุง
        ใครที่รอน้องโยแปลงร่างเป็นงูน้อยได้ ก็รออีกนิดนะ ความฝันใกล้เป็นจริงละ อิอิ
        รักคนอ่าน  :mew1:
        ริริ
       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ T HIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 12-01-2015 18:29:43
เย้!!! กลับมาต่อแล้วววววววววว :mc4:
ตอนนี้แอบลุ้นอะ จริงๆหลังๆมาก็ลุ้นทุกตอน  :katai1:
ขอให้อาซาคำนวณได้ถูกต้องด้วยเถอะ
ปล. เอเดน × ยอร์ช นี่ยังอวยคู่นี้อยู่นะ :laugh:
รอตอนต่อไปน้าาาาาา สู้ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ T HIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 12-01-2015 20:33:53
โอ๊ยยยย คุณพระ!!!  ฉันลุ้น  :ling3:
รอตอนต่อไป ค้างคาในอารมณ์ :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ T HIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-01-2015 20:37:58
ว้าววว มาต่อให้แล้ว

ขอตัวไปอ่านก่อนจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ T HIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-01-2015 20:59:50
อ่านเพลิน จนรู้สึกว่าสั้นจัง อิอิ

ตอนหน้าจะสนุกและตื้นเต้นแน่ๆ

อยากให้ปุยเมฆกลายร่างเป็นคนได้จัง

พระเอกนายเอกของเราก็หวานกันตลอดเลย

อยากรู้เรื่อง เรื่องของเอเดนกับพี่ยอร์ชจัง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 12-01-2015 21:35:02
โอ๊ยยยยย.....ลุ้นสุด ๆ เลยนะนี่ห้าไปไรไปนะหนูโย.....
ถูกต้องอวยคู่นี้ด้วยคน  เอเดน+ยอร์ช....หุหุ....
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 12-01-2015 22:23:07
ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ T HIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 12-01-2015 22:26:18
เย้เย้ มาต่อแล้ว คืออ่านแบบลุ้นตลอดเวลา กังวลจริงๆ
กลัวจะเกิดอะไรที่ร้ายแรงกับพวกอาซา
ขอให้นำตัวผู้กุมความลับมาได้เถอะ ป้าอยากไขปริศนา

สู้ๆนะค่ะ ริริ จุ๊บบบ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 13-01-2015 01:12:04
อิอิ รอโยแปลงเป็นงูได้จ้า
ไม่ใช่ไร  อยากเห็นโยชิบู๊บ้าง ถ้าให้ต่อยมวยท่าจะไม่รุ่ง 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 13-01-2015 01:50:28
มาลงชื่อว่าประทับใจอีกคน ชอบอ่านแนวแฟนตาซีโรมาน์แบบนี้จัง
เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 13-01-2015 09:05:43
ตื่นเต้นอ่ะ
ฉากขับรถตามนี่เหมือนดูหนังอยู่เลย
ขอให้ทุกคนปลอดภัยน้า
เอเดนด้วย
กลับตัวกลับใจแล้วไปคู่กะพี่ยอร์ชซะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 13-01-2015 09:25:02
หูยย ตื่นเต้นมากก ลุ้นทุกขณะ
ขอให้อาซาและ โยชิผ่านเรื่องร้ายๆด้วยดีนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-01-2015 09:32:46
คุณริริสู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ
รอน้องโยชิแปลงร่างอยู่ค่ะ
ลุ้นมากเลยตอนต่อไปเนี่ย

ปล.คุณริริอย่าท้อนะคะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 13-01-2015 10:03:54
โยชิ เมื่อไหร่จะกลายร่างได้หนอ


หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 13-01-2015 18:25:20
สนุกมว๊ากกกกกกกก ริริทำเค๊าลุ้นตัวเกรงเรยนร้าาาาา ^^
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 13-01-2015 21:10:21
 :ling1:  ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี  :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 13-01-2015 23:00:21
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 14-01-2015 19:02:28
น้องโยแปลงร่างเป็นงูน้อยได้ด้วยเหรอ :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: Platinumz ที่ 15-01-2015 15:18:24
เจิมจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 18-01-2015 22:32:34
 :katai5: รอร้อรอ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: shinachan ที่ 19-01-2015 13:45:43
ลุ้นติดขอบจอเลยค่ะ ตามอ่านตั้งแต่ต้น ชอบมาก กลัวงูนะ อ่านไปก็กลัวไปแต่ชอบเรื่องนี้ง่า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ THIRTEEN ❁ 12-01-2015[P.41]
เริ่มหัวข้อโดย: foxfilix ที่ 19-01-2015 22:52:07
ตัดตอนแบบค้างมากบอกเลยโอ๊ยยยยยยย
พี่งูของบ่าววววววว
หมดความหน่วงจริงๆนะ ไม่หลอกกันนะ
ติดตามจ้าาาาาาาา :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-01-2015 23:59:53
B.L.O.O.D.L.I.N.E
FOURTEEN





        ASA

        การประเมินสถานการณ์ถือเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ เรามีกันมาแค่สองคน การจะต่อกรกับพวกเอเดนที่มีมากกว่ายี่สิบชีวิตคงไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าสู่ในร่างงูผมคิดผมอาจมีโอกาสชนะ แต่ผมไม่อาจกลายร่างสุ่มสี่สุ่มห้าในร่างอสรพิษตัวใหญ่โตกลางเมืองหลวง ถึงแม้ว่าแถวนี้จะมีบ้านคนน้อย แต่ก็ไม่มีว่าจะโล่งกว้างร้างเปล่าไร้ผู้คนอาศัย

        เรื่องสำคัญที่สุดที่ห้ามพลาดเป็นอันขาดก็คือ...ห้ามให้มนุษย์ล่วงรู้เรื่องของพวกเราเหล่ามนุษย์กลายร่าง

        “เราจะเข้าไปยังไงวะ” ฟรินน์กระซิบเสียงเบาเท่าที่จะเบาได้ ผมคิดหนัก รอบบ้านของเอเดนมีคนคุ้มกันหนาแน่น

        “ต้องเข้าไปข้างในโดยที่เอเดนไม่รู้ตัว” ผมพูด เท่าที่ดูจากสายตาแล้ว หน้าบ้านมีคนเฝ้าอยู่สาม เราต้องจัดการพวกนี้แบบเงียบๆ ไม่ให้พวกที่เฝ้าระวังอยู่รอบตัวบ้านภายในไหวตัวทัน

        “งั้นก็จัดการไอ้สามคนข้างหน้าก่อนแล้วกัน ฉันจะอ้อมไปฝั่งโน่น” ฟรินน์ว่าก่อนจะกลายร่างเป็นงูสีเทาขนาดเท่าท่อนแขนเลื้อยไต่กำแพงจนถึงขอบบนเพื่ออ้อมไปอีกฝั่ง

        ผมเองก็กลายร่างกลับสู่ร่างที่แท้จริง ก่อนจะเลื้อยเข้าไปใกล้พวกมันคนหนึ่งที่ยืนหันหลัง ได้จังหวะที่หนึ่งในสามคนที่ยืนอยู่ตรงกลางเดินกลับเข้าไปในบ้าน ผมและฟรินน์สบตากันผ่านความมืดก่อนจะตวัดตัวขึ้นรัดร่างพวกมันด้วยความรวดเร็วก่อนที่มันจะทันได้ตั้งตัวแล้วก็จัดการมันด้วยการพ่นพิษใส่จนร่างของพวกมันสองคนสลายกลายเป็นผุยผง

        นากินี แม้จะเป็นพวกเดียวกัน แต่การกำจัดนั้นก็ไม่ได้ยากไปกว่ามนุษย์ขอเพียงอย่าให้พวกมันได้ทันตั้งตัวกลายร่างเป็นงู ไม่อย่างนั้นความสามารถที่มีจะเป็นศูนย์

        ผมกับฟรินที่ยังคงอยู่ในร่างงูมองเข้าไปภายในบ้าน จากสายตาที่ประมาณดูคร่าวๆ น่าจะมีพวกเอเดนคอยเฝ้าระวังอยู่ประมาณสิบตนที่อยู่นอกบ้าน ส่วนในบ้านยังไม่รู้

        “อ๊ากกกกกกก!”

        เสียงผู้ชายร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังมาจากในบ้าน เสียงนั่นจะต้องเป็นเสียงของอเล็กซ์ คนที่เป็นผู้กุมความลับอย่างแน่นอน

        ซี่ๆๆ

        เสียงของฟรินน์กระซิบแผ่วเบา แต่มีความร้อนรนในน้ำเสียง

        ‘รีบเข้าไปเถอะวะก่อนที่ไอ้ผู้กุมความลับจะถูกสาวความลับของนายไปหมดเปลือก’

        ‘อย่าวู่วามฟรินน์ ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องทำตามหน้าที่อันสูงสุดที่ได้รับ ฉันเชื่อว่าเขาจะรักษาความลับของฉันเป็นอย่างดี เราเพียงแค่เข้าไปช่วยเขาอย่างฉลาด อย่างวิ่งตามเอเดนแบบคนสติแตก’


        ผมเตือนสติฟรินน์ ถ้าพลีพลามเข้าไปให้พวกนั้นทันตั้งตัว เกรงว่าผู้กุมความลับจะตกอยู่ในที่นั่งลำบากยิ่งกว่าเดิม อย่างที่บอก ผมเชื่อใจผู้กุมความลับแม้ว่าจะไม่เคยเจอ และอีกอย่างที่เชื่อ เอเดนจะไม่ทำอะไรเขาถ้าเขายังมีประโยชน์

        ตึกๆๆ

        เสียงฝีเท้าดังใกล้ประตู ฟรินน์เลื้อยหลบฉากว่องไวอย่างรู้งาน ถ้าไม่ใช้สีดำอย่างผม ก็จะเป็นที่สังเกตได้โดยงาน จนเมื่อนากินีตนหนึ่งในร่างคนเดินออกมา ผมและฟรินน์ก็จู่โจมทันทีไม่ให้มันได้ร้องส่งเสียง ชั่วพริบตาเดียวร่างสูงใหญ่ก็หายไปกับอากาศ

        ‘เราจะล่อพวกมันบางส่วนออกมาจากในบ้าน’

        ตรงข้ามบ้านของเอเดน เป็นสวนพักผ่อนธรรมดา มีสระน้ำเล็กๆตรงกลาง โชคดีที่คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด ดวงไฟที่ตั้งอยู่ริมทางก็มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย บางดวงไม่ติดอาจเพราะเสีย แต่แสงอันน้อยนิดก็ส่องไม่ทั่วถึง ต้นไม้สูงใหญ่มีอยู่หลายต้นปลูกเรียงราวติดถี่ ถ้าเป็นตอนกลางวันคงให้ร่มเงาเย็นสบาย แต่ข้อเสียในยามค่ำคืนคือบดบังแสงไม่ให้ส่องเข้าถึง

        “อ๊ากกก!!! ม่ายย ฮึกก!!!” เสียงร้องของผู้กุมความลับดังมาเป็นระรอก ผมพยายามอย่างหนักที่จะตั้งสติให้มั่นคง

        ขึ้นไปบนต้นไม้ หันเหความสนใจของพวกมัน’

        ถ้าเป็นที่ๆซ่อนตัวได้ง่าย ก็จะลงไม้ลงมือได้เต็มที่

        ผมแยกกับฟรินน์เลื้อยไปยังฝั่งตรงข้าม ขึ้นบนต้นไม้ก่อนจะเลื้อยผ่านใบไม้เพื่อให้เกิดเสียงและความวุ่นวายเรียกความสนใจจากลูกน้องของเอเดน และมันก็ค่อนข้างได้ผม เมื่อลูกนอกส่วนหนึ่งวิ่งออกมาดูสถานการณ์รอบบ้านหน้าตาเคร่งเครียด

        “เกิดอะไรขึ้นวะ มีอะไรอยู่บนต้นไม้” คนหนึ่งพูดกับพวก

        “อะไรก็ช่าง จัดการมันอย่าให้มันไปรบกวนคุณเอเดน”

        พวกมันข้ามฝั่งมาหาพวกผมที่ยังไม่ยุ่งสร้างเสียงสวบสาบและทำให้กิ่งไม้สั่นไหว เมื่อพวกมันเข้ามาใกล้ เงยหน้ามองหาความปิดปกติโดยไม่ทันได้ระวังตัว ผมก็โผล่หัวออกมาจากใบไม้ก่อนจะจัดการปล่อยไอพิษร้ายแรงใส่พวกมัน

        “เฮ้ย!!” คนที่ตามออกมาเห็นพวกพ้องถูกไอพิษร้อนกัดกร่อนสบายในชั่วพริบตาก็ร้องด้วยความตกใจ ไม่รอช้า ผมและฟรินน์ต่างพุ่งเข้าจัดการพวกมันด้วยความรวดเร็ว ไม่ยากเกินรับมือ นากินีฝึกหัดทั้งแปดตนก็สูญสลายหายไปจากโลก

        รอบด้านตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง แม้แต่เสียงร้องทรมานของผู้กุมความลับก็ไม่มี ผมเลื้อยนำฟรินน์กลับไปที่บ้านของเอเดน คนคุ้มกันด้านนอกที่เหลืออยู่ไม่กี่คน ผมกลายร่างเป็นตัวใหญ่แล้วจัดการกระจายพิษใส่พวกมันทีเดียว ฟรินน์ที่ตามมาติดๆหลบมุมไม่ให้โดนพิษของผม สุดท้ายก็เก็บเรียบ

        ผ่านมานับพันปี ผมไม่เคยสงสัยในฤทธิ์เดชของตัวเอง ไม่เคยสนใจว่าๆความสามารถพิเศษในการทำลายร้างมีมากกว่าหนึ่งอย่าง ผมมีครบทุกอย่างที่บาซิลิสก์มี แพร่พิษด้วยการมอง หายใจรดจนตาย พ่นไฟได้และสาปให้กลายเป็นหินด้วยการจ้องมองตา ยังมีพลังปกป้องไอพิษจากพวกเดียวกัน ในขณะที่นากินีตนอื่นจะมีแค่ความสามารถอย่างเดียว จนกระทั่งบัดนี้ผมได้รู้แล้วว่า ผมเหนือกว่านากินีตนใดในโลก เว้นแต่เอเดนที่ผมไม่เคยต่อสู้กับเขาอย่างจริงจัง จึงไม่รู้ว่าเขาจะเก่งกาจกว่าผมหรือไม่

        หรือความสามารถที่ผมมีมันอาจจะมาจากหัวใจบาซิลิสก์ สิ่งเหล่าที่นี้เอเดนอยากได้นักหนา

        พรึบ!

        ผมกลายร่างกลับเป็นคนอย่างเดิม ฟรินน์เดินมายืนข้างๆ “เข้าไปเลยไหม”

        “อืม” อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้ ผมเดินเข้าไปใบน้านสองชั้น บ้านธรรมดาไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ไม่เก่าไม่ใหม่ แต่นับว่าสวยน่าอยู่ ชั้นแรกมีลูกน้องของเอเดนอยู่สองคน พวกมันเจอผมกับฟรินน์ก็ตกใจ ตั้งท่าจะเข้าจัดการ แต่ช้ากว่าฟรินน์ไปก้าวหนึ่ง รายนั้นแปลงร่างอย่างรวดเร็วพร้อมตวัดช่วงหางรัดพวกมันแล้วแพร่พิษใส่พวกมัน ความสามารถเดียวที่ฟรินน์ทำได้ แต่พิษของฟรินน์ร้ายกาจไม่ต่างจากผม ไม่เกินสามวินาที ร่างสองร่างก็หายวับไปกับตา

        “กระจอกวะ” ฟรินน์กลั้วหัวเราะในลำคอ

        “ไม่หรอก แต่พวกมันไม่มีสมาธิต่างหาก” ผมบอก เดินตรงไปยังบันได

        “ขอบใจแกที่เตือนสติฉันก่อนหน้านี้ ไม่งั้นเราอาจจะแย่เพราะฉันวู่วาม”

        “ไม่เป็นไร มันอาจจะเสียเวลา แต่สิ่งที่ได้ไม่เสียเปล่า”

        การมาในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการทำสงครามเต็มตัว ผมมาแย่งชิงผู้กุมความลับ ถ้าทำอะไรเอิกเกริกให้พวกมันรู้ตัวและมีเวลาตั้งรับทันการ เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เอเดนไม่กระจอก ลูกน้องที่เขาหามาไม่ได้มีฝีมือเพียงแค่นี้ ให้เดา เขาเก็บลูกน้องฝีมือดีเอาไว้ใช้ภายหลัง พวกนี้ก็แค่พวกมีฝีมือแต่ได้รับการฝึกฝนที่ไม่เพียงพอ หมายความว่า เอเดนกำลังดูถูกพวกเราอยู่

        ผมเดินขึ้นชั้นบน ฟรินน์เดินตามคอยระวังหลังให้ ด้านบนมีทางแยกสองทางซ้ายและขวา ห้องที่เอเดนจับผู้กุมความลับมาหาไม่ยาก เสียงร้องเบาๆของผู้กุมความลับดังมาจากห้องด้านในฝั่งซ้ายมือ ผมหันไปมองหน้าฟรินน์ พยักหน้าให้ระวังตัว

        ผมก้าวเดินเข้าไปใกล้ห้องๆนั้น ทุกย่างก้าวเบาหวิวไร้เสียงฝีเท้า ผ่านห้องแรกไปยังห้องที่สองก่อนจะถึงห้องในสุด แต่เมื่อท้าวของผมอยู่ที่ตำแหน่งหน้าประตูห้องที่สอง ก็มีอะไรบางอย่างพุ่งออกมาจากประตูเข้าชนผมอย่างจัง ตัวผมแทบล่วงลงไปข้างร่าง ดีที่ได้หางของฟรินน์ตัวรัดตัวผมขึ้นมา

        ตัวที่ชนผมเป็นงูตัวเท่าคนลายแดงคาดดำ มันแยกเขี้ยวที่เต็มไปด้วยพิษพุ่งเข้าจู่โจมไม่ทันให้ผมตั้งตัว ฟรินน์ปล่อยตัวผมเป็นอิสระ ผมกลายร่างเป็นงูในขนาดเดียวกับอีกฝั่งเพื่อการต่อสู่ที่สมน้ำสมเนื้อ

        ไม่รู้ว่างูตัวนี้เป็นใคร แต่ฝีมือเหนือชั้นมากกว่าพวกข้างล่างที่ถูกกำจัดไปแล้ว มันชูคอสูงก่อนจะฉกไปทางฟรินน์ แต่ดีที่ฟรินน์เลื้อยหลบทัน ตามด้วยวิธีเดียวกับคือพุ่งฉกอีกฝ่าย ผมตวัดหางฝาดที่กลางลำตัวมันเต็มแรง ทำฝ่ายนั้นเสียหลังแต่ก็ใช้ความแข็งแรงโต้กลับมา ความได้เปรียบของผมคือมากันสองคน ฟรินน์ใช้ความไว้เข้ารัดตัวอีกฝ่ายแน่น ไม่ปล่อยให้เสียเวลา ผมเข้าจู่โจมด้วยอีกคน แต่พละกำลังของมันมีมากจนสามารถสะบัดฟรินน์ออกจากตัวได้ไม่ยากเย็น ตัวฟรินน์กระแทกผนังบ้านจนเกิดรอยร้าว

        ผมกับเจ้างูสีแดงดำเลื้อยรัดเพื่อหวังให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสิ้นแรงพร้อมหาจังหวะดีๆที่จะได้ฝังคมเคี้ยวที่ชุ่มโชคไปด้วยพิษลงบนผิวหนังเคลือบเกล็ด ฟรินน์เข้ามาช่วยผมอีกแรง ผมส่งคำพูดผ่านทางสายตาให้ฟรินน์ ฟรินน์รับรู้และเข้าใจ ผมจึงปล่อยงูร้ายฝีมือดีให้ฟรินน์จัดการ ก่อนที่ตัวผมจะพุ่งเข้าไปข้างในห้อง

        โครม!!!

        ประตูไม้แตกเป็นเสี่ยงๆ เอเดนที่กำลังทรมานชายผู้หนึ่งที่ถูกมัดบนเก้าอี้ด้วยแร่เงินวาววับ แร่เงินบริสุทธิ์ที่เป็นสิ่งที่ไลแคนหวั่นกลัว ตามเนื้อตัวมีรอยไม้ลุกลามสร้างความทรมานให้แก่คนที่ถูกจับตัวมา

        “อาซา!” เอเดนคำรามเสียงต่ำเมื่อเห็นผม “ชาร์ล จัดการมัน!” เอเดนตะโกนสั่งชาร์ลที่ยืนคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ ชาร์ลไม่ตอบรับคำสั่งแต่กลายร่างเป็นงูเพื่อจัดการกับผมตามที่เอเดนต้องการ

        ร่างของผมขยายใหญ่ขึ้นอีกนิดตามความร้อนรุ่มที่ปะทุอยู่ในกาย พ่นไฟเผารอบห้องจนมีแต่กองไฟลุกกระพือล้อมรอบพวกเรา

        ปึง!

        ผมเบี่ยงตัวหลบชาร์ลที่กระโจนกระแทกเข้ามา ผมใช้ส่วนหางตวัดฟาดไปทางชาร์ลก่อนจะยกตีเป็นวงกว้าง เอเดนกระโดดหลบแล้วกลายร่างในบัดดล เก้าอี้ที่มัดผูกติดกับตัวผู้กุมความลับล้มลงไปกับพื้น ควันไฟตลบอบอวลทั่วห้อง เสียงการต่อสู้ภายนอกยังคงดังเป็นระยะ ส่วนข้างในห้องก็ตึกเครียดพอควร

        “แค่กๆๆ” เสียงไอสำลักควันไฟ ผมไม่สนใจ พุ่งกายเข้าสู้กับเอเดน คร่าวนี้ผมถูกรุมบ้าง ทั้งเอเดนและชาร์ลต่างเข้าโจมตีผมอย่างดุเดือด ลำท่อนกายของทั้งสองฟาดเข้าหาผมพร้อมเพียงกันก่อนจะม้วนรัด ผมสะบัดออกจากการเกาะกุม ใช้แรงทั้งหมดในการต่อสู้ ผมฟาดเอเดนได้ทีหนึ่งก่อนจะฝังเคี้ยวลงบนตัวชาร์ล เสียงร้องเจ็บปวดคำรามกึกก้อง ผมปล่อยชาร์ลและทุ่มทั้งตัวใส่เอเดน เอาหัวงัดตู้ใบใหญ่ให้หล่นทับร่างของเอเดนเอาไว้

        ‘ซี่!!’

        ฟรินน์ตามเข้ามาช่วยผมด้วยสภาพที่สะบักสะบอมพอควร เข้าช่วยแก้มัดผู้กุมความลับที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นแร่ เมื่อหลุดพ้นผู้กุมความลับก็กลายร่างเป็นหมาป่าตัวใหญ่ เข้าจู่โจมเอเดนเท่าที่มีแรง

        ผมหันไปจัดการชาร์ลที่กำลังจะงับหัวฟรินน์ด้วยคมเขี้ยวอีกครั้ง งูร่างสีดำแกมแดงเลื้อยเข้ามา เมื่อเห็นว่าชาร์ลถูกผมและเอเดนรุมก็เข้ามาช่วย

        ‘แกไปช่วยทางนั้น ไอ้งูสองสีนี่เดี๋ยวฉันจัดการเอง’ ฟรินน์พูดสื่อการ ได้ยินเสียงงูสองเสียงที่ผมคิดว่าคือเบนสบถด่าและทั้งสองก็พุ่งเข้าใส่กันอีกรอบ

        ผมเข้าไปช่วยผู้กุมความลับที่กำลังตะลุมบอนกับเอเดนด้วยแรงที่มีน้อยกว่า ผมเอาตัวเข้าบังหมาป่าที่กำลังจะถูกเอเดนฝังเขี้ยวพิษ เลยกลายเป็นโดนเสียเอง

        ‘ซี่!!!’

        ความเจ็บปวดร้อนดั่งไฟเผาวิ่งเข้าสู้ร่างไปทั่ว ผมสะบัดตัวดิ้นก่อนจะข่มความเจ็บเลื้อยชนเอเดนติดกำแพง จังหวะเดียวกันนั้น ผู้กุมความลับพุ่งเข้ากัดที่ลำตัวของเอเดนและเหวี่ยงไปชนกับงูตัวที่สู้อยู่กับฟรินน์ ผมเริ่มไม่ไหวและเจ้าหมาป่าก็เช่นกัน ผมเลยรีบใช้ตัวรัดร่างผู้กุมความลับเอาไว้ ส่งเสียงเรียกให้ฟรินน์รีบออกจากที่นี่



        “ไอ้อาซา! ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!!!”



        เสียงเอเดนตะโกนไล่หลังตามมาด้วยเสียงโครมคราม ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายพุ่งตัวออกจากบ้านเอเดนด้วยความไวแสงในสภาพที่ยังเป็นงูตัวใหญ่ แวบเดียวเรากลับมาถึงรถที่จอดไว้ เราทั้งสามคนกลับกลายเป็นคน จับตัวผู้กุมความลับเข้ารถที่เบาะหลัง ฟรินน์แทรกตัวเข้าตาม ผมรีบวิ่งไปที่ฝั่งข้างคนขับ โยชิที่หลบตัวอยู่สะดุ้งช้ากว่าความไวของพวกผมเสียอีก

        “โยชิ ออกรถเร็ว!!!”

        ไม่ได้สนใจว่าโยชิจะขับรถได้ไหม แต่เจ้าตัวก็รีบสตาร์ทรถแล้วเข้าเกียร์เหยียบคันเร่ง

        “เลี้ยวออกๆ!!!” ผมสั่งเสียงดัง โยชิตกใจหักพวกมาลัยเต็มเหนี่ยว รถหมุนคว้าง ผมรีบช่วยจับพวกมาลัยให้ตรงทางในที่สุดรถก็พุ่งทะยายออกห่างจากบ้านของเอเดน

        “ตายๆๆ เลี้ยวๆ เลี้ยวทางไหนอาซา! เลี้วทางไหน!!” โยชิขับรถแทบไม่เร่งความเร็ว ผมที่เจ็บไปทั้งร่างฝืนช่วยโยชิบังคัวพวงมาลัยหักเลี้ยวตามเส้นทาง ชนถึงขยะชนต้นไม้บ้าง จนในที่สุดก็ทะลุออกถนนใหญ่

        “ฟรินน์ ดึงตัวโยชิไปข้างหลังทีก่อนที่เราจะรถคว่ำตาย” ผมหันไปสั่งฟรินน์ รายนั้นจัดการให้ผมทันทีที่พูดจบ ร่างโยชิลอยลิ่วไปข้างหลัง

        “เหวอๆๆ” โยชิร้องตกใจ ผมแทรกตัวเข้าแทนที่ และขับรถไปในเส้นทางที่สวนกับทางกลับบ้านทางปกติ

        “อ๊อก!”

        “เฮ้ๆ อาซา คนที่นายพามาเขา...” โยชิเรียกผมร้อนรน ผมมองผ่านกระจกมองหลัง เห็นผู้กุมความลับเริ่มหายใจอย่างทรมาน ร่างกายบิดไปมา ผมหักพวงมาลัยเข้าข้างทาง กวาดมองรอบตัวเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครติดตาม

        “นายโอเคไหม” ฟรินน์ตบแก้มผู้กุมความลับ อีกฝ่ายส่ายหน้า หัวเอนตกไปทางขวา เผลอให้เห็นรอบเขี้ยวสองจุด

        “นายโดนพิษเอเดนเข้า” ผมพูด

        “อึก นะ นายคงคืออาซา บุตรแห่งบาซิลิสก์สินะ ยินดีที่ได้พบ ฉันชื่ออเล็กซ์ อย่างที่นาย ฮึก นายรู้ ฉันเป็นผู้กุมความลับ” อเล็กซ์พูดอย่างยากลำบาก

        “ไม่ต้องพูดอะไร ฉันจะพายนายไปหาหมอ” ผมออกรถอีกครั้ง

        “ไม่ ไม่ต้อง” อเล็กซ์ร้องห้าม ผมไม่ฟัง ขับไปยังโรงพยาบาลที่มีพวกไทกริสให้การรักษาอยู่ พวกนั้นจะแยกรักษาเราจากคนปกติ

        “ทำใจดีๆไว้นะคุณอเล็กซ์ คุณจะต้องหาย” โยชิพูดปลอบคนเจ็บ ยังดีที่เขาไม่ตกใจจนรนทำอะไรไม่ถูก

        ผมเร่งรถเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขับปาดหน้ารถคันแล้วคันเล่าจนเสียงบีบแตรดังระงม

        “อึก อ๊าส์...” ร่างอเล็กซ์กระตุกเป็นพักๆ “ผม...ผมมีเรื่องจะบอกคุณ เกี่ยวกับความลับที่เอเดนต้องการมัน”

        “ว่ามา” ฟรินน์บอก ผมคอยมองถนนสลับกับมองกระจกหลัง

        “เขารู้ได้ใช่ไหม อึก” อเล็กซ์ถามผม

        “ได้ ฉันไม่มีความลับกับคนในครอบครัว” ผมตอบ เร่งเครื่องยนต์เข้าสู่ถนนที่มุ่งหน้าไปโรงพยาบาล

        “แค่กๆ หัวใจของนายที่แบ่งเป็นสองส่วน อีกส่วนหนึ่งอยู่ที่นายสินะโยชิ”

        “คุณรู้จักผม” โยชิถามเสียงสั่น

        “รู้สิ ผมเคยเห็นคุณตั้งแต่ตอนเด็กๆ ที่พ่อกับพี่ชายของคุณพาคุณมาให้พ่อผมสะกดจิต อ๊ากก” อเล็กซ์เล่าก่อนจะร้องเสียงหลงทุรนทุราย

        “สิ่งที่พี่ชายคุณต้องการรู้จากผมก็คือ...เขาจะฝั่งหัวใจบาซิลิสก์บนตัวเขาได้อย่างไร ผมไม่รู้ว่าเขารู้ได้ยังไงว่าสามารถย้ายหัวใจของสัตว์ร้ายในตำนานจากเจ้าของไปสู่บุคคลอื่น เพราะมันเป็นความลับปิดตาย นอกจากผู้ที่ได้รับมอบหมายก็ไม่มีใครล่วงรู้” เขาหยุดพูดเพราะอาการเหนื่อยล้า และความเจ็บปวดจากพิษบาดแผลที่ได้รับ

        “ผมบอกคุณไว้ตรงนี้เลยนะอาซาก่อนที่ผมจะลาโลกนี้ไป

        “ไม่นะ คุณต้องอดทน อาซากำลังจะพาคุณไปโรงพยาบาล” โยชิพูดแทรก

        อเล็กซ์ส่ายหน้าช้าๆ “ผมรู้ตัวดีว่าจะไม่รอด ผมจะบอกคุณไว้นะอาซา อย่าให้เขารู้ว่าหัวใจอีกครึ่งอยู่ที่โยชิ แต่ถ้าหากเขาล่วงรู้และแย่งชิงไปจากคุณได้ วิธีที่จะสมานหัวใจให้กลับกลายเป็นดวงเดียวดังเดิมก็คือนำมันไปให้ทายาทของพ่อมดเฮอร์โปผู้ที่สร้างบาซิลิสก์ขึ้น เขาอาศัยอยู่ในป่าต้องห้ามในเมืองบรักเซมส์ทางตอนใต้ของเม็กซิโก เขาเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับบาซิลิสก์และหัวใจของมัน และที่ร้ายไปกว่านั้นคือ เอเดนหาตัวเขาเจอแล้ว นายต้องระวังตัว อย่าให้หัวใจนายตกไปอยู่ในมือของเอเดน ไม่งั้นโลกใบนี้จะไม่มีทางสงบสุขได้อีกต่อไป”

        “มันเตรียมการเอาไว้ขนาดนี้เลยเหรอวะ” ฟรินน์สบถบ่นอึ้งๆ

        “ส่วนความลับของคุณโยชิ”

        เราทุกคนรอฟังเงียบๆ รถติดไฟแดงจนไม่สามารถขับเครื่องไปข้างหน้า

        “ผมนำข้อความที่พ่อผมบอกเอาไว้ก่อนตายเพื่อมาบอกคุณอีกที สำครับโยชิ พ่อผมได้ทำการสะกดจิตคุณให้กลัวงูตามที่พ่อกับพี่ชายคุณต้องการ แต่ตอนที่สะกดจิต พ่อมองเห็นบางอย่างในตัวคุณก่อนที่เขาจะระลึกได้ว่าคุณเป็นใคร และพ่อของผมเคยทำอะไรกับคุณไว้ เขาเป็นคนที่ฆ่าคุณและฝังคำสาปไว้ที่ดวงจิตคุณที่ว่าเมื่อใดที่คุณตกหลุมรักอาซาเมื่อนั้นจะก่อเกิดความรังเกียจต่อสิ่งที่อาซาและตัวคุณเป็น แฮกๆๆ” เสียงหอบหายใจแรงและถี่ส่งผลให้พวกเราเป็นกังวล เลขสัญญาณไฟแดงเหลืออีกหนึ่งนาทีกว่าๆ

        “พ่อของนายก็คือไลแคนที่ฆ่าดาร์เรลเมื่อหลายพันปีที่แล้ว?” ผมพูดทวนสิ่งที่ได้ยิน ไม่คิดว่าโลกจะกลมจนน่าใจหาย

        “ถ้าเป็นคนที่ฆ่าโยชิก็คือคนๆเดียวกัน พ่อฉันรู้ อึก รู้สึกผิด เลยถอนคำสาปให้นายโยชิ แต่เขาไม่แน่ใจว่าจะถอนได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ อั้ก! ผลกะ...การสะกดจิตนอกจากจะทำให้นายกลัวงูแล้ว ยังทำปิดกั้นความสามารถของนาย นายจะกลายร่างเป็นงูไม่ได้ ปิดกั้นความสามารถอย่างที่นากินีพึงมี นั่นคือผลข้างเคียง” เสียงของอเล็กซ์เริ่มแผ่วเบาลงทุกทีๆ ทันทีที่ไฟเขียวสว่างวาบ ผมก็เร่งตัวเครื่องชนิดที่เฉี่ยวรถบนถนนไปหลายคัน

        “แล้วมีทางแก้การสะกดจิตไหม” โยชิถามเสียงตื่น

        “นอกจากคนสะกดจิต ก็ไม่มีใครถอนการสะกดจิตได้ เพราะพ่อสะกดจิตนายแบบถาวร แต่...แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทาง”

        “อะไร” เป็นผมที่เป็นฝ่ายถาม อีกไม่ถึงห้าร้อยเมตรก็จะถึงโรงพยาบาล

        “ความกลัว...ความกลัวจะทำให้การสะกดจิตเสื่อม นายต้องเอาชนะความกลัวที่เกิดขึ้นจากการสะกดจิต อาการมันจะรุนแรงมากกว่าความรู้สึกกลัวของคนทั่วไป แต่นายต้องผ่านมันไปให้ได้ เมื่อจิตที่ถูกสะกดสั่นคลอน จนกระทั่งการสะกดจิตสลายมันจะหายไปเอง อ๊อก!”

        “คุณอเล็กซ์ ทำใจดีๆไว้!!!” อเล็กซ์สำลักน้ำลายที่ฟูมปาก ผมเลี้ยวรถเข้าจอดหน้าโรงพยาบาล ไอ้ฟรินน์ลงจากรถรีบพาอเล็กซ์ออกจากรถ บุรุษพยาบาลรีบเข็นเตียงมารอรับ ผมมองที่ข้อมือที่สักลายหัวเสือเอาไว้ก่อนจะบอกว่า “เขาเป็นไลแคน พาไปแยกรักษาที”

        “รับทราบ” บุรุษพยาบาลคนนั้นเข็นเตียงผู้ป่วยเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว พวกเรทั้งสามวิ่งตามไปติดๆจนไปถึงห้องฉุกเฉินพิเศษที่มีไว้เฉพาะการรักษาพวกมนุษย์กลายร่าง แต่ไม่มีมนุษย์คนไหนรู้

        “พวกคุณทั้งสองก็บาดเจ็บ รบกวนไปรักษาก่อน” หมอมีอายุยืนอยู่ข้างหลังพวกผม โยชิเริ่มสำรวจตามร่างกายของผมและฟรินน์ ก่อนจะปราดเข้ามาจับเนื้อตัวผมพิจารณาใกล้ด้วยสีหน้าตระหนกตกใจ

        “อาซา นายบาดเจ็บนี่!”

        “รออยู่นี่ ฉันขอไปทำแผลก่อน” ผมเดินตามหลังฟรินน์ที่เดินตามหมอไปอย่างง่ายดาย เพราะมันเองก็เริ่มจนบาดแผลไม่ไหว

        “ฉันไปด้วย!” โยชิไม่ฟัง วิ่งตามมาเกาะแขนผมแน่น “อย่าเป็นอะไรนะ” แววตาของโยชิเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ผมยกมือลูบหัวโยชิเพื่อปลอบขวัญ

        “ฉันจะไม่เป็นอะไร สัญญา อเล็กซ์ก็ด้วย เขาจะต้องปลอดภัย”




        ..........................................
        ช่วงนี้แต่งนิยายแล้วขัดใจตัวเอง รู้สึกว่าเขียนได้ไม่ดี โดยเฉพาะฉากต่อสู้ เซ็งงงงงง!!!! :katai1:
        ถ้าแต่งภาคนี้จบคงได้รีไรท์ครั้งใหญ่  :katai4:
        เอาละ มาร่วมลุ้นว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป :katai2-1:
        อ่านแล้วงงตรงไหนถามได้นะคะ
        และอย่าลืมส่งกำลังใจให้คนเขียนนิดหนึ่งถ้าหากยังรักกัน ตอนนี้นักอ่านในเล้าเริ่มหายไป ใครยังติดตามอยู่แสดงตัวหน่อยน้า จะได้รู้ว่ายังมีรออ่าน  :m5:
        รักๆ กอดๆ จุ๊บบบ  :กอด1: :impress:


       





หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-01-2015 00:09:48
มาแสดงตัวค่ะ
อยากให้ริริมาต่อทุกวันเลย
อยากเห็นโยชิกลายเป็นงู
เป็นกำลังใจให้ริริค่าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 20-01-2015 00:27:53
โหยย อุตส่าช่วยออกมาได้แล้วว อย่าตายนะอเล็กกก
ส่วนโยชิ ขอให้กลับเป็นงูได้เร็วๆนะ จะได้ช่วยคุณสามีสู้ได้ซะที > <
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 20-01-2015 00:48:28
มาส่งแรงใจให้คนแต่งค่ะ
อยากให้โยชิทลายกำแพงแล้วแสดงฝีมือออกมาเร็วๆจัง
อยากให้มาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับอาซา ถึงตอนนั้นคงมันส์กันน่าดู
โยชิจะมีฝีมือทางด้านไหนน้า
+1  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 20-01-2015 09:32:02
 :กอด1:  +1 เอาใจช่วยค่ะ แล้วมาต่ออีกนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 20-01-2015 11:33:49
ขออย่าให้ อเล็กซ์ เป็นอะไรไปเลยนะ

ต่อไป อาซา ต้องเตรียมรับมือกับ เอเดน ให้ดีแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 20-01-2015 12:20:42
หนูโยต้องกลัวสุดขีดถ้าเกิดอะไรขึ้นกับอาซา นั่นจะทไให้หนูโยคืนร่างและความสามารถแน่นอน
มาต่อบ่อย ๆ นะกำลังตื่นเต้น....
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 20-01-2015 14:54:22
ขอให้อเล็กซ์ปลอดภัยยยยยย
อยากให้โยชิคลายที่สะกดจิตได้
ลุ้นอยู่ๆ
เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะ
อิอิ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-01-2015 19:13:04
มาอ่านแล้วจ้า

ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-01-2015 19:33:01
ก็ไม่ได้หายไปไหน

อยู่แถวๆนี้แหละ

มารอทุกวันเลยจ้า

ลุ้นให้โยชิกลายร่างเป็นงูได้ อิอิ

หวังว่าอาซากับเอล็กจะไม่เป็นไรมากนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 20-01-2015 21:53:28
เอเดนตัวร้ายยย โอ้ยย รอคอยวันที่โยชิกลายเป็นน้องงู อาซาสู้ๆนะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 20-01-2015 22:42:10
เค๊ายังยุจ้าริริ อ่านสนุกมากกกกตื่นเต้นสุดๆ ขอให้อเลกซ์ปลอดภัยนร้าา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 21-01-2015 00:47:26
แทบอดใจรอ ตอนน้องโยกลายร่างไม่ไหวแล้วนะเนี่ย :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 21-01-2015 21:59:42
คือลุ้นมากกกก พูดเลยยย ไม่อยากให้ผู้กุมความลับเป็นอะไร
อยากให้คนที่กล่อมเอเดนได้คือ พี่ยอช!!! เอร้ยยย
เราลุ้นคุ่นี้นะ บอกเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 22-01-2015 00:05:15
หายไปนานเลยกว่าจะกลับมาอ่าน เพราะ มึนงงกับชีวิตตัวเองมาก ต้องขอบคุณ ๆ ริริที่ส่งเมลมาเตือนเรื่องการจองไม่งั้นคงได้พลาดครั้งใหญ่ วันนี้เลยมาตามอ่านเรื่องนี้จนทันเลย ความลับเริ่มคลี่คลายแล้ว เอเดนยังพอจะเยียวยาได้อยู่น่า พี่ยอร์ชจะเป็นผู้รักษาได้ไหมน่ะ สงสารอเล็กซ์จัง หวังว่าคงไม่เป็นไรน่ะ อาซ่ากับโยชิยังน่ารักเหมือนเดิมเลย แต่ชอบเติร์ดกับปุยเมฆจัง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FOURTEEN ❁ 20-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 23-01-2015 14:25:01
ลุ้นมากกกก ตื่นเต้นมากกกก.
สนุกฝุดๆ เชื่อว่าอเล็กซ์ต้องปลอดภัยเพราะเป็นคนดี
ส่วนเอเดน ร้ายกาจมากๆจะยุให้พี่ยอร์ชไม่รัก
โยชิ หนูเริ่มเก่งแล้วฃูก คอยช่วยอาซานะ สู้ๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 27-01-2015 22:32:03
B.L.O.O.D.L.I.N.E
FIFTEEN






        รอยช้ำสีป่วงแกมเขียวเด่นชัดอยู่บนผิวสีขาวของอาซาแม้ว่าจะผ่านมาสามวันแล้วก็ตาม บนร่างกายที่แสนจะเพอร์เฟ็คของพ่องูนักสู้ยับเยินไม่น่าดู ผมป้ายยาทาที่หมอให้มาลงบนรอยช้ำเหล่านั้นจนทั่วทุกจุด

        จุ๊บ~

        “ขอบใจนะ” อาซาผงกหัวขึ้นจูบปากผมอย่างรวดเร็วก่อนจะลุกขึ้นนั่ง หันมองผมที่นั่งทำหน้าละห้อย

        “ไม่เอาน่าโยชิ อย่าดื้อสิ เปิดเทอมแล้วนะ นายต้องไปเรียน”

        ประเด็นหลักในวันนี้ไม่ใช่ว่าเราจะไปตามล่าหาความจริงหรือไปชกชิงตัวประกันที่ไหน แต่เป็นเพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกสำหรับภาคเรียนที่สอง และสาเหตุที่ผมไม่อยากไปเรียนก็เพราะว่าเรื่องวุ่นวายยังคงค้างคาให้กวนใจ ผมรู้สึกว่าจิตใจตัวเองไม่พร้อมเรียนอย่างมาก

        เราได้ตัวอเล็กซ์มาจากเอเดนแล้วก็จริง และตอนนี้อเล็กซ์ก็ปลอดภัยกลับมารักษาตัวที่บ้านได้แล้ว เขานอนพักที่ห้องรับรองทางปีกขวาของบ้านพักหลังนี้ ทุกคนในบ้านก็ปลอดภัยดีหายห่วง แต่จะนิ่งนอนใจได้อย่างไร ในเมื่อตัวการสำคัญอย่างเอเดนยังมีชีวิตอยู่ และเขาก็ยังคงต้องการหัวใจบาซิลิสก์อย่างไม่มีวี่แววว่าจะกลับตัวกลับใจ ซ้ำร้ายจะยิ่งแค้นอาซาละไม่ว่า

        “ฉันคิดว่าฉันยังไม่พร้อม” ผมบอก อาซาหน้าเข้ม

        “นายต้องพร้อม เป็นเด็กไม่ควรโดดเรียน พ่อกับพี่ชายนายจะว่าฉันได้ที่ทำให้นายเกเร แล้วก็หยุดคิดเลยว่าฉันเห็นแก่ตัวเองที่อาจจะโดนว่า ฉันเห็นแก่นายต่างหาก การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นหน้าที่ของนายในตอนนี้ เข้าใจไหม”

        ร่ายมายาวเหยียดขนาดนี้ ไม่เข้าใจก็คงจะโง่เกินทน แต่ว่านะ...

        “แต่อารมณ์ฉันไม่ไม่อยากไปนี่” นั่นแหละคือปัญหา ผมไม่มีอารมณ์ไปเรียน ถึงไปก็ไม่เข้าใจ

        “ไม่เข้าใจก็ต้องไป”

        ผมอึ้ง “นายเดาใจฉันได้เหรอ” ทำไมเขาถึงรู้

        “ตลกน่า หน้านายต่างหากที่สื่อออกมา ไปเถอะ ไม่งั้นนายจะโดดหมายหัวจากโปรเฟสเตอร์ตั้งแต่วันแรก ถ้าเป็นเช่นนั้น ชีวิตนายจะหาความสงบสุขไม่ได้ตลอดเทอมนี้” อาซาพยายามเกลี่ยกล่อม ให้ความรู้ราวกับเด็กอนุบาลที่งอแงไม่ยอมไปโรงเรียน

        “ไม่ขนาดนั้นมั้ง”

        “ลองดูไหมล่ะ”

        ผมเริ่มกลัวกับคำขู่ คิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็แย้งอะไรไม่ได้ ยอมจำใจไปเรียนทั้งๆที่ไม่อยากไปแบบสุดๆ

        “เป็นเด็กดีนะ” อาซากอดผมโยกไปมาก่อนจะจุ๊บที่หน้าผาก ก่อนจะจูงมือผมออกจากห้องนอน เจอเข้ากับเวสตันพอดี ในมือของเวสตันถือถาดทำความสะอาดบาดแผลและถ้วยใส่ยา

        “ไปทำแผลให้อเล็กซ์มาเหรอ” ผมทัก เราเดินลงไปข้างล่างพร้อมกัน

        “อืม เพิ่งกินยาไป ร่างกายยังปรับสภาพไม่ค่อยได้เพราะถูกพิษของเอเดนทำลายไปพอควร”

        อาซาเองก็โดนพิษของเอเดน ดีที่ว่าร่างกายของอาซาแข็งแรงกว่าอเล็กซ์อยู่มาก รู้มาว่าหลังจากที่ผมตายไปแล้ว หมายถึงตอนที่ถูกพ่อของเจอร์โรมฆ่าตาย อาซาเกเรมากจนกระทั่งมาเจอกับเวสตันก็เกเรไม่เลิกกว่าจะเป็นผู้เป็นคนได้ อาซาบาดเจ็บจากการมีเรื่องต่อสู้ทั้งกับพวกนากินีด้วยกันและกลุ่มอื่นมานับไม่ถ้วน ทำให้ร่างกายของเขาชินชากับความเจ็บปวด ผมว่าเวสตันน่าจะหมายถึงเจ็บจนชิน แต่ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บ

        “ถ้าหากได้รักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อเนื่องก็คงจะดีกว่านี้ แต่เราปล่อยให้อเล็กซ์อยู่ที่นั่นแล้วกลายเป็นเป้าอีกรอบไม่ได้” อาซาพูดหน้าครึม

        ผมเทนมใส่ถ้วยตามด้วยซีเรียลธัญพืช วันนี้ปารีสกับจูเลียตออกไปข้างนอกแต่เช้า จึงไม่มีคนทำอาหารไว้ อะไรง่ายๆก็กินไปก่อน อีกอย่างความกังวลและความขี้เกียจทำให้น้ำย่อยของผมไม่ทำงาน ตักกินแค่ไม่กี่คำก็อิ่ม

        “อิ่มแล้วเหรอ นายกินไปห้าคำเท่านั้น” อาซาถามอย่างสงสัย

        “อืม ไม่ค่อยหิวน่ะ” ไม่อยากบอกเขาว่าท้องผมเต็มอืดไปด้วยความงอแง ถ้าลงไปชักดิ้นชักงอร้องว่าไม่ออกไปเรียนได้คงทำไปแล้ว

        “ไปกันเถอะ นายสายแล้ว” อาซาลุกขึ้นยืนเตรียมไปส่งผมที่คณะ ผมเงยหน้ามองหน้าอาซาแบบเซ็งๆ อาซาทำให้ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคุณพ่อจอมเข้มงวด กำลังเคี่ยวเข็ญให้ลูกจอมเกเรอย่างผมไปโรงเรียน

        ผมคว้าสายกระเป๋าคล้องที่บ่า เดินตามอาซาออกจากบ้าน มืออาซากวัดแกว่งอยู่ตรงหน้าผมแค่เอื้อม มีผ้าก็อตพันปิดแผล ผมเร่งก้าวขาให้ทันอาซา สอดมือเข้ากุมมือของอาซาเอาไว้ ไม่ลงแรงเพราะกลัวอีกฝ่ายเจ็บ แต่อาซากลับบีบกระชับมือผมเสียเอง

        “ฉันจะนั่งรอจนกว่านายจะเลิกเรียนดีไหม” อาซาให้ข้อเสนอที่น่าสนใจ

        แทบไม่ต้องคิด ผมตอบตกลงทันที “ดี...รอฉันนะ” ผมอ้อน

        “เด็กหนอเด็ก” เขายิ้มอ่อนโยน ครั้งนี้ผมไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดเหย้าแหย่ที่มักไม่ชอบได้ยิน อยู่ๆก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา

        เดินมาจนถึงหน้าคณะวิทยาศาสตร์ เติร์ดนั่งเหยียดขาอยู่ที่ทางริมซ้ายของบันไดทางขึ้น เขากำลังนั่งอ่านหนังสืออะไรสักอย่างเพราะผมมองเห็นไม่ชัด แต่พอเดินเข้าไปถึงตัวจึงได้รู้

        ‘คู่มือการเลี้ยงแมว’

        “ถึงกับต้องมาส่งเลยเหรอ” เติร์ดถามน้ำเสียงล้อ

        “ก็ทำไมละ” ผมทำเป็นไม่อะไรกับคำล้อเลียน

        “ก็ไม่ทำไมหรอก แค่นายกำลังทำให้ฉันอิจฉาเบาๆ เฮ้อ คนมีความรักนี่ดีจริงๆ” เติร์ดลุกยืนบิดขี้เกียจ แสงแดดส่องกระทบใบหน้าขาวใสของเพื่อนผม เมื่อขับกับผมสีน้ำตาลอ่อนทำให้เติร์ดดูเปล่งประกาย สาวๆข้างเคียงกระซิบกระซาบให้ความสนใจในตัวของเติร์ด เพียงแต่เจ้าตัวเลือกที่จะปิดกั้นตัวเอง เติร์ดอาจจะยังลืมนิกกี้ไม่ได้

        ผ่านมากี่เดือนแล้วนะ แต่ทำไมผมยังรู้สึกเหมือนกับว่า...เพิ่งจะเจอเธอเมื่อวาน

        กริ๊งงง

        “ไปเข้าเรียนกันเถอะ” เติร์ดก้มลงหยิบหนังสือขึ้นมาจากพื้น ผมหันไปหาอาซา เขาสอดมือทั้งสองข้างใส่ไว้ในกางเกงยีนส์ตัวเก่ง

        “ฉันไปเรียนแล้วนะ”

        “อืม ฉันจะนั่งรอที่ม้านั่งข้างๆตึก” เขาบอก

        “เลิกเรียนแล้วฉันจะรีบมาหาเลยนะ”

        “หึหึ ไปเรียนได้แล้ว” อาซาไล่ ผมเลยจำใจเติร์ดเข้าอาคารเรียน ตรงจุดนั้น ผมหันกลับไปมองอาซา เขายังไม่เดินไปไหนเพื่อยืนรอส่งผม

        “เลิกมองได้แล้ว รีบเดินเร็วเข้า” เสียงเติร์ดเรียกสติ

        “อืม” ผมจำต้องละสายตาจากอาซา

        หรือเป็นเพราะว่าเราไม่เคยห่างกันในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผมโหยหาเขามากยิ่งขึ้นทุกท่เวลาที่จะไม่เห็นอาซาอยู่ในสายตา

        เกิดเรื่องแปลกประหลาดกับผมตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอม เพื่อนรวมคลาสเรียนมีปฏิกิริยาแปลกๆต่อผม พวกเขามองผมและกระซิบกระซาบกันเบาๆ ถึงจะไม่ได้ยินว่าพวกเขาพูดว่าอะไร แต่จากสายตาและท่าทางลับๆล่อๆเวลาพูดคุยกันในขณะที่สายตาเหลือบมองผม ถ้าไม่โง่ทุกคนก็น่าจะคิดได้ว่ากำลังถูกนินทา เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าเรื่องอะไร

        “นายรู้สึกแปลกๆไหม” เติร์ดถามผมทันทีที่นั่งกับที่

        ผมพยักหน้า “อืม ฉันไม่มีอะไรผิดปกติใช่ไหม”

        อย่างเช่น ใส่เสื้อกลับหน้ากลับหลัง ซิบไปได้รูด หรือทรงผมไม่เป็นทรง การถูกจับจ้องในเชิงนี้ค่อนข้างทำให้ผมจิตตกจนเสียความมั่นใจ

        “จริงเหรอ คนนี้น่ะนะ” เสียงพูดคุยดังมาจากข้างหลัง ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมหันไปมอง

        “ที่แท้ก็เป็นพวกฆาตกร” อีกคนสำทับ ผมมองหน้าพวกเขานิ่งๆ ไม่ได้เป็นการท้าทาย แต่ผมแค่ไม่เข้าใจว่าพวกเขาหมายถึงอะไร ทั้งสองคนที่ผมเคยเห็นหน้าปะปรายในชั้นเรียนหยุดคุยและมองไปที่หน้าชั้น ผมหันกลับมาพลางครุ่นคิด

        เข้าเรียนได้ครึ่งชั่วโมง ผมไม่เป็นอันเรียน นักศึกษาบางส่วนยังคงให้ความสนใจผมอยู่เนืองๆ ผมเหลือบมองนาฬิกาเป็นระยะว่าเมื่อไหร่ชั่วโมงการเรียนการสอนจะจบลง ต่างกับเติร์ดที่ให้ความสนใจในเนื้อหาที่โปรเฟสเซอร์หนุ่มหน้าตาดีกำลังสอนอย่างจริงจัง เติร์ดเปล่าสนใจครูผู้สอน แต่เขาสนใจเกี่ยวกับเรื่องแมวที่โปรเฟสเซอร์กำลังพูดอยู่ต่างหาก ผมจึงเกิดความสงสัย ตั้งแต่ที่เห็นเติร์ดอ่านหนังสือเกี่ยวกับแมวเมื่อเช้านี้

        “เดี๋ยวนี้หันมาสนใจแมวจริงจังแล้วเหรอ” ผมกระซิบชวนเติร์ดคุย เติร์ดละความสนใจการโปรเฟสเซอร์มองผมก่อนจะเอนหน้ามาตอบ

        “ก็เปล่า แต่ช่วงนี้ปุยเมฆดูแปลกๆ นอนได้ทั้งวี่ทั้งวัน เรียกก็ไม่ตื่น หรือตื่นก็เหมือนไม่มีแรง ฉันกำลังคิดว่าปุยเมฆอาจจะกำลังป่วย แต่วันก่อนฉันพาไปหาหมอ หมอบอกว่าปุยเมฆปกติดี”

        เป็นอย่างนี้นี่เอง ผมรู้สาเหตุที่ปุยเมฆที่อาการอย่างที่เติร์ดเล่า แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นสาเหตุที่ไม่ปกติธรรมดาเท่าไหร่ จะให้บอกว่าที่ปุยเมฆเอาแต่นอนเพราะแยกร่างช่วยงานอาซาอยู่ และที่ไม่มีแรงเพราะใช้พลังงานมากเกินความจำเป็นก็คงเป็นไปไม่ได้ ทำได้แค่เก็บเงียบเป็นความลับ

        “คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง อย่างคิดมาก” ผมทำได้แค่ปลอบ

        “ก็ขอให้เป็นอย่างนั้น” เติร์ดพูดก่อนจะหันกลับไปสนใจบทเรียน

        ผมนั่งเหม่อลอยจนกระทั่งหมดคาบเรียน ถ้าอาซาจะใช้มือถือเป็นกิจวัตรอย่างคนปกติบ้าง สามชั่วโมงที่ผ่านมาก็คงไม่น่าเบื่อเช่นนี้ โดยเฉพาะสายตาของใครหลายต่อหลายคนที่มองผมอย่างไม่เป็นมิตรแบบโจ่งแจ้ง

        “กลับเลยหรือเปล่า” ผมถามเติร์ด

        “น่าจะ อาซารอนายอยู่ใช่ไหม”

        “อืม”

        “งั้นแยกกันตรงนี้เลยแล้วกัน” เติร์ดวางมือบนไหล่ผม

        “โอเค พรุ่งนี้เจอกัน บาย”

        “บาย”

        เติร์ดวิ่งเหยาะๆลงบันไดไป มองซ้านมองขวาก่อนจะข้ามถนนตรงไปยังหน้าประตูมหาวิทยาลัย ผมหมุนกายเดินไปหาอาซาที่บอกว่าจะนั่งรอที่ข้างตึก แต่พอเดินไปถึงกลับไม่พบใคร

        จึก!

        สัมผัสเย็นวาบที่ข้างแก้ม ผมสะดุ้งหันหลังทันที สายตาสบเข้ากับขวดน้ำเย็นเป็นสิ่งแรก ตามมาด้วยใบหน้าขาวสะท้อนแสง

        “อาซา” ผมครางเรียกอีกฝ่ายเสียงระโหย ตกอกตกใจหมด

        “ฉันไปซื้อน้ำมาให้ นายจะได้สดชื่น” เขาว่า ผมรับน้ำมาเปิดฝาดื่ม

        “ขอบใจนะ”

        “อยากแวะที่ไหนไหม หรืออยากกลับบ้านเลย” อาซาถาม ผมส่ายหน้า กลับบ้านเลยดีกว่า ผมไม่คิดอยากจะไปไหน

        น่าแปลกอีกแล้ว พอผมอยู่กับอาซา ไม่มีใครสักคนที่สนใจผม ไม่มีการเหลือบมองหรือชี้ชวนให้คนรอบข้างมองมาที่ผม ไม่มีการกระซิบกระซาบคล้ายกำลังนินทา ไม่มีใครสนใจเราสองคนด้วยซ้ำ หรือผมจะคิดมากไปเอง

        กลับมาถึงบ้านพักของอาซา ทุกคนลงมติกันแล้วว่าอยู่ที่นี่น่าจะปลอดภัยสุด ผมเลยไม่ได้กลับไปอยู่หอ ถ้าพ่อหรือพี่ยอร์ชมาหายังไม่รู้เลยว่าจะหาข้อแก้ตัวอะไรมาอ้าง

        “เป็นไงบ้างโยชิ เปิดเทอมวันแรก” ฟรินน์ทักผมเมื่อก้าวเข้าบ้าน เขากำลังนั่งดูรายการแข่งขันแข่งม้า ขาที่พันเฝือกเอาไว้วางอยู่บนโต๊ะโซฟา มือก็หยิบแอ็ปเปิ้ลที่จูเลียตกำลังนั่งปลอกเข้าปากคำแล้วคำเล่าจนจูเลียตหน้าหงิก

        “นี่! ฉันเป็นคนปลอกไม่คิดจะเหลือไว้ให้ฉันกินหรือไง”

        “เอาน่าๆ ฉันบาดเจ็บอยู่นะ เป็นน้องสาวคนเล็กของบ้านก็หัดทำตัวให้มีประโยชน์หน่อย”

        “เอาไปปลอกเองเลย น่ารำคาญ” จูเลียตโยนมีดใส่ตะกร้า ก่อนจะสะบัดหน้ามาทางผม อาซาเดินแยกออกไปตรวจตรานอกบ้าน

        ผมเดินไปทิ้งตัวนั่งลงข้างจูเลียต ก่อนจะเอื้อมมือหยิบแอ็ปเปิ้ลมาปลอก

        “เธอไม่ต้องไปเรียนเหรอ” ผมชวนจูเลียตคุย ยังไงๆเราสองคนก็ยังมีช่องว่างระหว่างกันและกัน มักรู้สึกเกร็งๆและเคอะเขินเวลาพูดคุย

        “นี่คิดคำถามดีแล้วเหรอ” จูเลียตย้อนเรียบๆ ยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้าง

        “ก็ไม่ดีเท่าไหร่หรอก” ผมยอมรับไม่อาย

        “นายนี่ตลกชะมัด”

        “ก็วันนี้ฉันเจอเรื่องแปลกๆในมหาวิทยาลัย อยากรู้ว่ามีใครโดนแบบฉันบ้าง” ผมเริ่มเปิดประเด็นที่สงสัย

        จูเลียตหันมองหน้าผมอย่างสนใจ “เรื่องอะไร”

        “พวกเด็กในแอชยูมองฉันแปลกๆ แถมยังกระซิบกระซาบถึงฉัน”

        “ก็ไม่แปลก” จูเลียตหมดความสนใจ เหมือนเรื่องที่ผมพูดไม่ใช่เรื่องแปลก

        “แต่ฉันว่ามันแปลก” ผมแย้ง

        “นั่นเป็นเพราะพวกเขารับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นมาว่าจากพวกนากินี เขาหาว่าเราจะทำให้ความมั่นคงของมนุษย์กลายร่างสั่นคลอน เลยเกิดความไม่พอใจและเริ่มหาเรื่องพวกเรา และนายเองก็เป็นนากินีถูกไหม ก็ไม่เห็นแปลกที่พวกนั้นจะหวาดระแวงนายไปด้วย” ฟรินน์ที่ให้ความสนใจกับโทรทัศน์เป็นฝ่ายตอบผม

        “รวมไปถึงฉันเนี่ยนะ ก็ไหนอาซาบอกว่า...” ผมหยุดคิด คนพวกนั้นไม่มีทางได้กลิ่นงูจากผม เพราะวันนี้ผมไม่ได้ทำเลือดตัวเองไหลสักหยด

        “ใช่ กลิ่นนากินีจากตัวนายจะไม่ลอยคละคลุ้งถ้าหากเลือดไม่ไหล แต่ขอบอกอะไรไว้อย่างหนึ่งเลยนะ บนตัวนายมีแต่กลิ่นของอาซา ไม่แปลกหรอกที่พวกนั้นจะเขม็งนาย ก็ในเมื่ออาซาเล่นแสดงความเป็นเจ้าของนายซะกลิ่นฟุ้งขนาดนี้” จูเลียตพูดหน้าเนือย ผมพยักหน้าเข้าใจ สรุปว่าผมเองก็กลายเป็นหนึ่งในบุคคลอันตรายที่ทุกคนในแอชยูกำลังไม่ไว้วางใจ

        “ไม่ต้องคิดมากหรอกโยชิ ตราบใดที่นายยังอยู่ภายในแอชยู ไม่มีใครทำอะไรนายได้นอกจากมองและนินทา ไม่ต้องไปสนใจ เราไม่ได้ทำอะไรผิด” ฟรินน์หันมาให้กำลังใจผม

        “ขอบใจ”

        อย่างน้อยก็โล่งใจได้เปราะหนึ่ง

        อาซาเดินกลับเข้ามาในบ้าน ตรงเข้ามาหาผมก่อนจะก้มหน้าลงกระซิบข้างหู “ขึ้นห้องกัน”

        “อืม” ผมคว้ากระเป๋าลุกขึ้นยืน เดินไปตามการจับจูงจากมือที่เย็นเชียบ

        “นี่” เสียงฟรินน์เรียกให้เราสองคนหยุด อาซาหันไปมองประมาณว่ามีอะไร ฟรินน์ยิ้มทำหน้ากรุ่มกริ่มก่อนจะพ่นประโยคที่ทำให้ผมหน้าร้อนฉ่า

        “อย่าหักโหมมากล่ะ ไม่งั้นนายอาจจะหมดแรงจนกลับไปเป็นงูนะอาซา และโยชิก็อาจจะไปเรียนไม่ไหว” ฟรินน์เป็นโรคจิตที่ชอบพูดจาทะลึ่งกลั้นแกล้งให้ผมอาย ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจ ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกแกล้ง

        “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่เห็นจะใช่ธุระของนายตรงไหน” อาซาพูดนิ่งๆ

        “แหมๆ งั้นก็ตามสบายเถอะ”

        ขึ้นมาบนห้อง อาซามองหน้าผมนิ่งๆ ค่อยๆสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้ ผมแปลกใจกับท่าทางของอาซา ไม่ได้เดินถอนหนีจนอาซาคว้าตัวผมไว้ได้

        “อะ อะไรกัน” ผมถาม ก็ใครใช้ให้อาซาก้มหน้าลงมาเหมือนจะจูบ ผมก็เลยเบี่ยงหน้าหนี

        “อาบน้ำกัน” เขาพูด ขยับหน้าใกล้อีกนิด สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนอุ่น

        “เอ่อ นายอยากอาบน้ำเหรอ งั้นเดี๋ยวฉันอาบให้” ผมเบี่ยงตัวหนีเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมเวลาอาซาทำเจ้าชู้ใส่ผมมักเขินจนทำอะไรไม่ถูก อาซาไม่ได้ทำพร่ำเพรื่อ ผมถึงไม่ชินสักที แต่ไม่ได้หมายความว่าผมอยากให้เขาทำเจ้าชู้หว่านเสน่ห์ใส่ผมตลอดเวลาหรอกนะ ผมกำลังหาเหตุผลให้กับความเขิน

        “เอางั้นก็ได้” อาซาถอนห่างหนึ่งก้าวให้ผมได้หายใจหายคอ “ถอดเสื้อผ้าให้ฉันสิ”

        ผมตะลึงกับคำสั่ง “นายก็ถอดเองสิ ฉันจะไปเตรียมน้ำให้”

        ผมเดินหนี แต่อาซาดึงแขนเอาไว้

        “ถอดเสื้อผ้าให้ฉันสิ” คำพูดคล้ายเชิญชวน แต่เรื่องที่ชวนทำมันไม่ใช่การนั่งเล่นเกมหรือดูหนัง เขาควรรู้ว่าไม่ง่ายที่จะตอบตกลง

        “นายก็ถอดเองได้นิ” ผมไม่ยอม

        “ฉันถอดเองกับนายถอดให้จะเหมือนกันได้ไง เถอะน่า ดูแลฉันหน่อย” ริมฝีปากของเขาแย้มคล้ายพยายามกลั้นยิ้ม

        “นายกำลังคิดอะไรทะลึ่งๆอยู่แน่ๆ”ผมเดาจากสีหน้าไม่น่าไว้วางใจของอาซา

        “ก็ประมาณนั้น” เขายอมรับ รอยยิ้มที่เต็มเปรี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่ทำให้ผมลมหายใจขาดห่วงทุกครั้งที่ได้เห็นปรากฏอยู่ใกล้สายตา

        เพียงดวงตาสีดำวาววับส่องประกายเว้วอน ผมก็ยอมสยบทุกอย่างแทบเท้าพ่องูตัวร้ายตนนี้

        มือเลื่อนขึ้นจับที่กระดุมเสื้อเม็ดบนสุดก่อนจะค่อยๆแกะออกทีละเม็ด สายตาผมไม่ได้ละไปจากอัญมณีสีดำแสนจะลึกลับคู่ตรงหน้า

        เสื้อเชิ้ตสีดำหลุดออกจากร่าง ผมเบนสายตามองต่ำไล่จากลำคอแกร่งมาที่บ่าทั้งสองข้างที่ตั้งตรงตั้งมั่น ถัดลงมาเป็นหน้าอกที่เต็มไปด้วยมัดเนื้อที่สวยพอดีกำลังเซ็กซี่ สายตาเจ้ากรรมไม่ยอมหยุดอยู่เพียงแค่นั้น กลับย้ายที่จับจ้องกล้ามหน้าท้องเป็นลอนชวนหวิวไหว

        อาซาจับมือทั้งสองข้างของผมแตะที่กระดุมกางเกงก่อนจะกระซิบข้างใบหู “แกะสิ นายจะได้มองต่ำมากกว่านี้ ของดีกำลังรอนายอยู่”

        ขะ เขามัน...

        “บ้า! ถอดเองไปเลย” ผมตวาดเสียงดัง เดินหนีเข้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงหัวเราะดังอยู่เบื้องหลัง ผมได้แต่สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ผมกำลังจะเป็นคนทะลึ่งเพียงแต่เห็นร่างกายท่อนบนไร้เสื้อผ้าของอาซา ไม่รู้ว่าถ้าเห็นอาซาเปลือยทั้งร่างผมจะทำใจอยู่เฉยๆได้ไหม ทำไมความคิดของผมถึงได้ชั่วร้ายนัก

        ผมเปิดน้ำอุ่นใส่อ่าง นั่งอยู่ริมขอบทำใจได้ไม่ถึงนาทีอาซาก็เดินเข้ามา ผมหันไปมองอย่างไม่คิดอะไร แต่กลายเป็นสิ่งที่ผมเพิ่งจะหลีกเลี่ยงปรากฏอยู่เบื้องหน้า

        อาซาแก้ผ้าเดินโทงๆแบบไม่มีความอาย ผมได้แต่มองค้างเหมือนร่างกายถูกไฟฟ้าช็อตสักสิบโวลต์

        อาซายิ้มขำ เดินผ่านหน้าผมก้าวลงไปในอ่างอาบน้ำ ผมพยายามตั้งสติ ไม่ต้องอาย จะอายทำไม เคยเห็นมาแล้วทั้งนั้น ใจเย็นไว้

        ผมหันกลับไปหาอาซาอีกทีหนึ่ง ก่อนจะเริ่มลงมืออาบน้ำให้อาซาอย่างตั้งใจมากกว่าครั้งไหนๆ เพื่อที่จะให้มันผ่านไปให้เร็วที่สุด อาซาก็ไม่ได้คิดกลั้นแกล้งผมมากไปกว่านี้ นั่นทำให้ผมเบาใจอาบน้ำให้อาซาจนสะอาดหมดจด ไม่ต้องห่วงเรื่องบาดแผล อาซาไม่มีปัญหากับการอาบน้ำทั้งที่แผลยังไม่หายดี

        “อาซา ถามอะไรหน่อย” มัวแต่ใจเต้นจนลืมเรื่องที่สงสัย

        “เอาสิ” เขาว่า เอนกายให้ผมบริการอย่างสบายใจ

        “ทำไมครั้งนี้นายไม่หมดแรงกลายร่างเป็นงูตัวเล็กล่ะ” ผมถามอย่างสงสัย ถ้าฟรินน์ไม่พูดขึ้นมาผมก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย

        “ทำไม อยากให้ฉันกลายร่างเป็นงูเหรอ” อาซาเปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว หันมาหลิ่วตาใส่ผมอย่างไหลลื่น

        “ไม่ใช่สักหน่อย แค่สงสัย” ผมทำหน้าจริงจัง อาซาหัวเราะในลำคอ

        “เพราะฉันไม่ได้กลายร่างที่ใหญ่ที่สุด ตอนสู้กับเจอร์โรมรุนแรงกว่านี้มาก แถมเคี้ยวของวพวกอื่นมักส่งผลร้ายแรงกว่าพวกเดียวกัน”

        “อ่อ” อย่างนี้นี่เอง ผมเข้าใจจึงไม่ได้ถามต่อ

        “ตานายแล้ว ฉันจะอาบให้นายบ้าง” อาซาพูดอย่างมีน้ำใจ แต่ผมส่ายหน้าปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดมาก

        “ไม่เป็นไร นายออกไปแต่งตัวเถอะ ฉันอาบเองได้” ผมดันหลังอาซาออกจากห้องน้ำ อาซาขืนตัวไม่ยอมขยับ ผมเลยทุบกลางหลังเขาไปที แต่อาซาไม่ยอม ตวัดตัวผมอุ้มขึ้นเดินกลับไปที่อ่างน้ำก่อนจะทิ้งร่างผมลงอ่างจนเปียกปอน แล้วเจ้าตัวก็ตามลงมา

        อาซาลงมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าผมอย่างรวดเร็วในขณะที่ริมฝีปากฉกวูบดูดกลืนลมหายใจคนอื่นอย่างถือดี ผมหมดเรี่ยวแรงเพราะรสจูบที่สร้างความวาบไหวให้สั่นสะท้านไปทั้งผิวกาย

        ไม่เหลือแล้วเสื้อผ้าปกปิดร่างกาย อาซาถอนจูบที่ยาวนานเกือบสิบนาทีให้ผมได้หายใจอย่างใครใกล้จะหมดลม เขาลงมืออาบน้ำให้ผมดังที่บอก เพียงแต่การอาบน้ำของเขาสร้างความปั่นป่วนในช่องท้องและบริเวณหน้าอกไม่น้อย

       

(ต่อด้านล่าง)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 27-01-2015 22:34:15
       
        “อืม...อาซา อย่าแกล้ง” ผมปรามเมื่ออาซาเริ่มแตะต้องช่วงกลางลำตัวของผมแบบจริงจัง

        “ไม่แกล้งก็ได้” อาซาหอมแก้มผมหนักๆ ก่อนจะอุ้มผมขึ้นจากอ่างอาบน้ำพาไปล้างตัวที่ใต้ฝักบัว แต่มือไม้ไม่หยุดสร้างความเสียวสะท้านให้แก่ผมที่ได้แต่โอนอ่อนตามความต้องการที่ถูกปลุก

        ชำระล้างคราบสบู่ออกจนหมดจด อาซาก็พาผมกลับไปที่เตียง ดันตัวผมเอนนอนหลัง เขาตามขึ้นมาติดๆ ประกบปากปิดกั้นการคัดค้าน ผมดิ้นเล็กน้อยไม่จริงจัง อารมณ์ถูกปลุกมาถึงขนาดนี้ ให้ถอยหลังกลับก็คงยาก ไม่วายต้องถูกอาซากอดจนไข้ขึ้น พนันได้ว่าผมป่วยแน่ๆ

        ร่างกายเปลือยเปล่าของเราสองคนสัมผัสเสียดสีจนแทบเกิดประกายไฟ ปากก็ดูดดึงขมเม้มกวาดหาความหวานจากริมฝีปากบางของผมไม่ขาดช่วง ผมสมองตื้อล่องลอยอยู่ในห่วงอารมณ์แห่งความสุขสมยามที่อาซาสัมผัสแตะต้อง

        “ฉันเจ็บแขน ช่วยหน่อยสิ”

        “ช่วยอะไร” ผมถามเสียงลอยๆ

        “จัดการมันด้วยตัวของนายเอง” เขาบอกความต้องการที่ผมรู้ได้ในทันทีถึงความหมาย

        “ไม่” ผมไม่กล้า ไม่ใช่ไม่เคย แต่ถ้าให้เริ่มเองมันก็เขิน

        “ไม่ได้เหรอ ทำให้ฉันหน่อยสิดาร์เรล”

        ใจผมอ่อนยวบเมื่อเขาพูดชื่อนั้น มันไม่ใช่ชื่อปัจจุบันของผม แต่ทุกครั้งที่ได้ยิน ใจจะรู้สึกอิ่มเอิบ เกิดความสุขที่สว่างวาบคล้ายแสงสายฟ้าที่ประกฎพียงชั่วครู่ในความรู้สึก

        “ไม่เอาหรอก เดี๋ยวนายเอามาล้อฉันที่หลัง” ผมแน่ใจสุดๆว่าเขาจะต้องล้อผมแน่ๆถ้าผมทำให้เขา

        “ฉันไม่ล้อหรอก” เขายืนยัน

        “นายล้อแน่” ผมแน่ใจสุดๆ

        “ได้โปรดเถอะที่รัก ฉันอยากให้นายกอดฉัน” เขากระซิบสียงพร่าสุดแสนจะเซ็กซี่ เอนตัวเข้าใกล้เรื่อยๆ ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวผมเอนนอนลงกับเตียงอยู่ในท่าทางชวนคิดไกล ถ้าผมเป็นน้ำตาลปั้นคงได้ละลายชุ่มเตียงเพราะถ้อยคำวิงวอนและสายตาหวานเชื่อมเกินคำบรรยาย

        ผมได้แต่มองเขาตาลอย หัวสมองว่างเปล่า พยักหน้าแทบคำตอบเฉย เขาทำได้ยังไงกัน

        “Touch my neck, and I’ll touch yours.”

        ผมชั่งใจ ก่อนจะทำสิ่งที่ผิดพลาดมหันต์ที่เงยหน้าขึ้นสบตาอาซา

        มือทั้งสองข้างยกกอดคออาซาโน้มลงมาหาแล้วเป็นฝ่ายจูบอาซาอย่างเร่าร้อนตามที่เขาเคยสอน อาซาครางหึ่มอย่างพอใจในลำคอ กอดผมเอาไว้มั่น ตวัดตัวผมขึ้นนอนทับบนตัว เขาปล่อยปากผมเป็นอิสระ เสียงครางก็หลุดแสดงอาการความรู้สึก

        รอยจูบค่อยๆเกิดขึ้นที่ละจุดสองจุดจนเด่นหราทั่วบริเวณลำคอและไหปลาร้า ร่างกายผมสั่นระริกหนักอีกครั้งเมื่ออาซาครอบริมฝีปากดูดไซ้ยอดอกอย่างหลงใหล

        “อ๊า..สะ เสียว” ผมเผลอหลุดคำน่าอาย แต่วินาทีนี้ผมไม่คิดเกรงอายอะไรทั้งนั้น ความปรารถนากำลังครอบงำผมทั้งร่างกายและจิตใจ

        ส่วนล่างของเราทั้งสองเสียดสีกันและกันอย่างจาบจ้วง ผมเริ่มทนไม่ไหว อาซาเองก็เช่นกัน เขากระซิบชิดริมฝีปากผมเสียงพร่า

        “จับของฉันเข้าไปในตัวนายเถอะ ฉันไม่ไหวแล้ว” อาซากำกับ ผมทำตามอย่างว่าง่าย จับสิ่งใหญ่โตไว้ในมือ รูดขึ้นลงเตรียมพร้อมก่อนจะนำมันเข้ามาในตัวผม คับแน่นเกินจะเอ่ยทั้งที่เพิ่งเข้าไปเพียงนิดเดียว อาซากัดฟันแน่น ผมไม่อยากให้ตัวเองและอาซาต้องทรมาน เลยกัดฟันกดตัวเองกลืนกินอสรพิษเบอร์สองที่ขนาดไม่เป็นสองรองใครเข้าไปในตัวรวดเดียว ฟ้าหมุนเป็นยังไงก็เพิ่งเข้าใจถ่องแท้ก็คราวนี้

        “ซี๊ด ไม่ต้องใจร้อน ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งขยับนะ” อาซากอบกุมบันท้ายกลมเด้งมือของผม ลูบวนปลอบโยน ดวงตาเร่าร้อนกลืนกินสติสัมปชัญญะผมจนหมดสิ้น เริ่มขยับตัวขึ้นลงโดนที่อาซาไม่ต้องชักนำ

        “อื้อ อ๊า แน่นจัง” ทุกความรู้สึกถูกพ่นออกมาเป็นคำพูดอย่างไม่รู้ตัว

        “เร็วอีก” อาซาเร่ง สวนกายขึ้นตอบรับ กอดผมแน่นจนแทบรวมร่าง

        ไอเย็นจากตัวอาซากลายเป็นไอร้อนที่เผาพลาญความต้องการให้ลุกโชนดั่งไฟลามเลีย ทุกจังหวะที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวชวนให้เมามายตักตวงไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย

        “ดีไหม เสียวหรือเปล่า” อาซาเป็นผู้ชายที่ทะลึ่งอย่างร้ายกาจยามอยู่บนเตียง และผมคงติดมาจากอาซาเพราะดันไปมีความรู้สึกวาบหวามกับคำพูดจาบจ้วงน่าอาบเหล่านั้น

        “แรง อื้อ อีก” ผมร้องขอเมื่อใกล้จะทนไม่ไหว และปลอดปล่อยเป็นคนแรง ทิ้งตัวซุกซบอาซาที่ยังคงเร่งเครื่องเมคเลิฟผมรุนแรงและเร็ว

        “อื้อออ” ผมหัวโล่งคล้ายมีพลุแตกกระจายในหัวในจังหวะที่อาซาหมุนตัวผมให้นอนตะแคง ขาข้างหนึ่งถูกยกสูงโดยทีมือหนาจับประคองเอาไว้ไม่ให้หล่น ผมไม่ต้องทำอะไรมากนอกจากนอนร้องครางเสียงหวานให้อาซาฟังและร่วมเป็นลูกมือในการบรรเลงเพลงรักในจังหวะที่รุนแรงดุเดือดขึ้น ผ่านไปสามกระบวนท่าอาซาถึงได้ปลดปล่อยหยาดน้ำแห่งรักเข้าสู่ตัวผม ภายใจอุ่นวาบที่ได้รับการเติมเต็ม ผมหมดแรงนอนหอบหายใจแรง ดวงตาปิดสนิทแต่รู้สึกตัว

        จุ๊บ~

        ความอ่อนนุ่มที่พาผมลอยขึ้นฟ้าและตกลงมาสู่ดินพรมจูบทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ ก่อนที่เขาจะถอนความใหญ่โตออกจากช่องทางคับแน่น พลิกตัวผมนอนหงาย เฝ้าคลอเคลียจูบไม่ห่างก่อนจะจับเจ้างูยักษ์เข้าครอบครองร่างกายผมอีกรอบ

        สำหรับอาซาไม่เคยจบอยู่ที่หนึ่งรอบ และสองรอบดูจะยังไม่เพียงพอ จนกระทั่งจะต่อในรอบที่หก ผมก็ร้องขอความเห็นใจ

        “อาซา ฉันไม่ไหวแล้ว ขอพักหน่อยนะ”

        “ให้ชั่วโมงหนึ่งนะ ฉันจะลงไปเตรียมอาหาเย็นให้”

        คืนนี้จะไม่มีต่ออะไรทั้งนั้น แค่นี้ผมก็แทบแย่แล้ว ถ้าอาซายังจะต่อผมคงได้ตายคาเตียง แต่จะทำยังไงได้ อาซามีความต้องการสูง เขาไม่ได้กอดผมบ่อย แต่ถ้าได้กอดเขาก็จะกอดไม่เลิก บางทีผมควรแอบไปขอยาคาร์เตอร์เพื่อความสบายของร่างกาย

        หลับตาคิดเพ้อเจ้อได้ไม่เกินนาทีผมก็ผล็อยหลับด้วยความอ่อนเพลีย

        สุดท้ายผมก็ไม่ได้ตื่นเพื่อกินอาหารเย็น อาซาก็ไม่ได้กวนผมไปมากกว่าเดิม แต่ถึงอย่างนั้น ห้ารอบที่เขาทำไว้เมื่อวานก็ทำให้ผมเดี้ยงอยู่ไม่น้อย

        วันนี้อาซาก็ไปส่งผมเข้าเรียน เช่นเคย เขาไม่ต้องการให้ผมขาดเรียนแม้ว่าตัวเองจะทำให้ผมอ่อนเปลี้ยเพลียแรง เขาก็ยังคงลากผมมาที่ตึกเรียน เพียงแต่วันนี้เขาไม่ได้อยู่เฝ้า เพราะต้องไปเอายาของอเล็กซ์ที่โรงพยาบาล

        ครืดดด

        โทรศัพท์ผมดังขึ้นระหว่างเรียน ผมหยิบออกจากกระเป๋า พี่ยอร์ชโทรมาผมรีบกดรับสายแล้วแอบคุย

        “โยชิ ยุ่งอยู่หรือเปล่า”

        “โยเรียนอยู่ครับ พี่ยอร์ชมีอะไรหรือเปล่า” ผมกระซิบเสียงเบา

        “พี่จะโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้พี่จะไปทำธุระที่กรุงเทพ เลยจะแวะไปหาเรา มีเรียนถึงกี่โมง” พี่ยอร์ชถาม ผมนึกก่อนจะตอบ

        “หลังสี่โมงเย็นครับ”

        “อยากได้อะไรไหม พี่จะได้ขนไปให้”

        ผมส่ายหน้า “ไม่เอา แค่พี่ยอร์ชมาหาก็พอแล้ว”

        “ปากหวานจริงนะตัวเล็ก งั้นเรียนต่อเถอะ พี่ไม่กวนแล้ว”

        “ครับ สวัสดีครับ”

        พี่ยอร์ชวางสายไปก่อน ผมเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า ต้องบอกอาซาว่าพี่ยอร์ชจะมา กลัวเหลือเกินว่าเอเดนจะรู้ ผมไม่อยากให้พี่ยอร์ชยุ่งเกี่ยวกับเอเดนต่อไปแล้ว จะต้องทำยังไงดี


       
...............................
        ตอนนี้เบาๆ กั้นความตรึงเครียด
        เดินเรื่องมาครึ่งค่อนทางแล้วนะคะ ใกล้เข้าสู่จุดพีคแล้ว เนื้อเรื่องจะเริ่มเข้มข้นมากกว่าเดิม
        ใครที่เชียร์ยอร์ชเอเดนก็รอลุ้นกันต่อไปว่าจะยังไง เราไม่บอก จะปล่อยให้คุณลุ้น
        แต่เรามีสปอบตอนนี้มาเรียกน้ำย่อยนิดๆหน่อยๆ

        ผมเหลือบมองดูนาฬิกา สองทุ่มแล้วหรือนี่ ผมเดินไปในห้องนอนของเอเดน คนป่วยนอนหลับบนเตียง เพื่อนของเขาทั้งสองคนก็ยังไม่กลับมา จะเอายังไงดี แต่ถ้าอยู่ดึกมากกว่านี้เกรงว่าผมจะกลับเชียงใหม่ลำบาก
        “เอเดน” ผมเรียกเขา เอเดนรู้สึกตัวอย่างง่ายดาย เขามองผมนิ่ง “ผมจะกลับแล้วนะ มืดแล้ว”
        “จะกลับยังไง” เขาถามเสียงแหบ ใบหน้าซีดเซียว
        “ผมขับรถมา ก็คงต้องขับกลับ” ผมตอบ
        “ดึกแล้วนะ” เขาว่า
        “ก็ใช่ไง ผมเลยว่าจะขอกลับก่อน”
        “ไม่ต้อง” เขาแย้ง ผมตีหน้างง ไม่เข้าใจ “คืนนี้นอนนี้ พรุ่งนี้ค่อยกลับ”
        ผมเลิกคิ้วงุนงง “ไม่ได้หรอก”
        “ได้สิ นายจะได้ช่วยดูแลฉันด้วย”
        “นี่คุณกำลังขอร้องผมอยู่เหรอ” ผมหรี่ตาถาม
        “แล้วคุณมีน้ำใจต่อลูกค้าไวน์รายใหญ่ในอนาคตของคุณหรือเปล่าละ” ช่างเป็นคนที่ใช้คำพูดได้เก่งกาจแม้ว่าจะป่วยก็ตามที
        “ก็ได้ นี่ผมเห็นแก่ผลประโยชน์นะ”
        “อะไรก็ช่าง แต่ตอนนั้นหิวแล้ว หาอะไรให้กินหน่อย”


        หึหึ
        ก็ไม่รู้สินะ :hao6:
        บายยยยย :bye2:
       


หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 27-01-2015 22:52:24
พี่ยอร์ชต้องเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่องแน่ๆ
อยากเห็นตอนเอเดนหวานแล้วสิ
แต่นี่อายุเอเดนก็เป็นร้อยๆ ปี ไม่ใช่ว่ามีลูกซุกไว้นะ 56566565555555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-01-2015 23:05:42
 :katai2-1: :katai2-1:
รอคู่คนพี่เนี่ยยยยยย อยากให้ถึงตอนคู่เอเดนหวานๆ  :hao6:

ริริสู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 28-01-2015 00:34:59
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 28-01-2015 06:39:44
ตอนหน้าพี่ยอร์ชกับเอเดนคงจะคืบหน้าไปอีกขั้นแล้วจิ อ่านสปอยด์แล้วแอบลุ้น
อาซากับโยชิหวานมุ้งมิ้งกันที่สุด ยิ้มฟินมากค่ะ
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ. เนื้อเรื่องพล็อตเรื่องสนุกมากๆเลยค่ะ
+1  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 28-01-2015 07:27:21
เฮร้ยพี่ยอร์ชชชช!! นั่นเอเดนอ้อนอยู่ป่ะน่ะ
นี่เป็นห่วงเขาใช้ม้าที่จะเดินทางกลางคืนน่ะ
อร้ายย ปริ่มเว่ออออออ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 28-01-2015 09:48:27
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย

คู่คุณพี่

กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด





คู่รองมักโดดเด่นเสนอ
อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 28-01-2015 10:23:12
พี่ยอร์ช ชูป้ายไฟ เจ๊ชอบคนเน้!!!!! :hao7:
ของเอเดนใช่ไหมๆๆๆๆ
รอตอนต่อไปน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 28-01-2015 10:26:27
อ้อนแบบงูงู..
พี่ยอร์ชจัดการเอเดนให้อยู่หมัดเลยนะ....
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 28-01-2015 18:30:48
ฟินเฟ่อออออ อาซานี่อ้อนโยชิใหญ่เลยน้า
รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 28-01-2015 22:32:51
^
^
^
แหมะ แต่ละคน  :katai3:
ดูท่าอาซากับโยชิจะหัวเน่าซะละมั้งงานนี้  :z10:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 29-01-2015 18:30:55
อาซานี่อ้อนใหญ่เลยนะ 5555+
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 29-01-2015 18:43:27
 :hao3:   อาซา = งูขี้อ้อน  :m20:   นางได้ที อ้อนใหญ่เลย  แต่ทำไมตอนนี้ เราสนใจแต่คู่พี่ยอร์ช กับเอเดนนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 29-01-2015 19:14:28
โยชิจะน่ารักขี้อ้อนไปถึงไหนกันนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 29-01-2015 21:36:15
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

หนูติดตามมาตั้งแต่เรื่องซีกับสเปเชียลแล้ว ชอบตั้งแต่ตอนนั้น แต่ที่ค่อยได้เมนต์เพราะอ่านในโทรศัพท์ รู้สึกว่าเป็นพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่ ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยได้ยินคำว่าซาไลย์มาก่อน แต่เนื้อเรื่องน่าสนใจมากเลยค่ะ สนุกมากกกกก ขอย้ำว่ามากกกกกก แต่ละคนมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนและเนื้อเรื่องก็ต่อเนื่อง สมเหตุสมผล รวมถึงการผูกปมให้น่าสนใจน่าติดตาม

เป็นนิยายที่แต่งดีจริงๆ ขอเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ เห็นข้อความในเฟสแล้วละค่ะ แต่ยังไงๆก็เคารพการตัดสินใจนะคะ ไม่ว่าจะเอาไปลงที่ไหน หนูก็จะกระเสือกกระสนตามไปอ่านค่ะ ^^ หนูรักเรื่องนี้มากเลย ไม่ว่ายังไงๆ ก็จะขอตามอ่านให้จบ และหวังว่าจะมีเรื่องของซาไลย์ตัวอื่นๆ ให้อ่านอีกนะคะ

สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจเสมอนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 29-01-2015 21:40:58
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

หนูติดตามมาตั้งแต่เรื่องซีกับสเปเชียลแล้ว ชอบตั้งแต่ตอนนั้น แต่ที่ค่อยได้เมนต์เพราะอ่านในโทรศัพท์ รู้สึกว่าเป็นพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่ ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยได้ยินคำว่าซาไลย์มาก่อน แต่เนื้อเรื่องน่าสนใจมากเลยค่ะ สนุกมากกกกก ขอย้ำว่ามากกกกกก แต่ละคนมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนและเนื้อเรื่องก็ต่อเนื่อง สมเหตุสมผล รวมถึงการผูกปมให้น่าสนใจน่าติดตาม

เป็นนิยายที่แต่งดีจริงๆ ขอเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ เห็นข้อความในเฟสแล้วละค่ะ แต่ยังไงๆก็เคารพการตัดสินใจนะคะ ไม่ว่าจะเอาไปลงที่ไหน หนูก็จะกระเสือกกระสนตามไปอ่านค่ะ ^^ หนูรักเรื่องนี้มากเลย ไม่ว่ายังไงๆ ก็จะขอตามอ่านให้จบ และหวังว่าจะมีเรื่องของซาไลย์ตัวอื่นๆ ให้อ่านอีกนะคะ

สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจเสมอนะคะ

เอ่ออออ
พี่วาผิดเรื่องนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 29-01-2015 21:57:46
 :L2: :L2: :L2: ส่งดอกไม้ให้กำลังใจ ริริ สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: Death Y ที่ 29-01-2015 22:41:43
พี่~~~~ หนูขอโทษ  หนูตั้งใจจะเม้นท์ให้พี่อ่ะ แต่เบลอไปชั่วขณะหนูตามอยู่สองเรื่องตอนนี้เลยสับสนนิดหน่อย หนูตามนิยายพี่จริงๆ นะ
โหยยยย หนูอยากให้พี่รู้สึกดีขึ้นแท้ๆ แต่กลับทำให้แย่กว่าเดิม หนูขอโทษนะพี่
 :mew4: :mew6:

ยังไงก็ ขอโทษนะพี่ แล้วหนูก็ยังยืนยันว่าจะเป็นกำลังใจให้พี่ สู้ๆคาะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 29-01-2015 22:46:33
มาแล้วๆ. โอ๋ๆ คนแต่งไม่งอนนะ
มีหวานๆมาบ้างก็พอให้กระชุ่มกระชวย. แต่ตอนหน้านี่สิ  ดูสิคู่พี่จะหวานน้อยหน้าคู่น้องไหม :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 29-01-2015 22:49:11
พี่~~~~ หนูขอโทษ  หนูตั้งใจจะเม้นท์ให้พี่อ่ะ แต่เบลอไปชั่วขณะหนูตามอยู่สองเรื่องตอนนี้เลยสับสนนิดหน่อย หนูตามนิยายพี่จริงๆ นะ
โหยยยย หนูอยากให้พี่รู้สึกดีขึ้นแท้ๆ แต่กลับทำให้แย่กว่าเดิม หนูขอโทษนะพี่
 :mew4: :mew6:

ยังไงก็ ขอโทษนะพี่ แล้วหนูก็ยังยืนยันว่าจะเป็นกำลังใจให้พี่ สู้ๆคาะ

ไม่เป็นไรจ้า แต่พี่จำได้เราได้นะในภาคแรก คิดว่าเลิกอ่านไปแล้วเสียอีก
ดีใจที่น้องยังอยู่นะ ^^
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 29-01-2015 22:55:40
โยชิ หนูอย่าอ้อนให้มากนักแค่นี้พี่งูก็หลงจะแย่แล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 29-01-2015 23:11:40
ติดตามมาตลอด  :กอด1: ขอบคุณที่จะลงต่อนะค้า   :L1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 30-01-2015 14:22:25
แวะมาให้กำลังใจค่า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: momoku ที่ 30-01-2015 19:23:10
ลุ้นมากก อยากอ่านต่อแล้ว

ริริสู้ๆๆนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 30-01-2015 21:17:32
มาตามอ่านแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: lazyvespa ที่ 30-01-2015 22:28:14
สนุกมากเลยค่าาา อ่านรวดเดียวจบเลยยย  คือแบบ ฟินอ่าาาา  คือมันมีทุกรสจีจี ตอนแรกนี่เกลียดเอเดนมากกก
 คือหมั่นไส่อ้ะ อ่านไปสาปแช่งไป 555555  แต่ตอนนี้กลับอยากให้เค้าคิดได้ซักที
กลับตัวกลับใจเถ้อะะะะะ พี่ยอร์ชรออยู่ แอร้ยยยยย  ><
เอเดนตอนมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งนี่คงจะน่าเอ็นดูมิใช่น้อย

คู่เอกคงไม่ต้องพูดถึง รักกันหวานชื่น น้องโยชิก็น่ารักน่าฟัด พี่อาซาก็หล่อกระชากจายยย แอบจิ้นน้องเหมียวกะพี่เติร์ด จิ้นได้ทุกคนจีจี 55555

ปล. มาอัพไวๆน้ะเค่อะะะ รออยู่ อิ้อิ้
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 30-01-2015 22:29:38
คู่น้องหวานเวอร์

ถ้ามีลูกได้ป่านนี้ลูกคงเต็มบ้า่นเต็มเมืองไปหมดแล้ว

โล่งใจที่อาซาไม่เป็นอะไรมาก

ต่อไปก็รอคู่ของพี่บ้างนะ

เพราะอ่านสปอยแล้ว

น่าลุ้น น่าอ่านมากๆเลย

รอคู่พี่นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 31-01-2015 00:42:58
สวัสดีจ้า คุณริริ
พยายามมาเม้นท์ให้กำลังใจเลยน่ะจ้ะ ยังรอและติดตามอ่านเสมอจ้า ถึงแม้จะไม่ได้เข้ามาเม้นท์ให้ก้อตาม ยังรักเรื่องนี้เสมอ จะพยายามเข้ามาบ่อย ๆ น่ะ เพื่อคุณริริโดยเฉพาะเลย :mew1: อย่าเพิ่งน้อยใจกันน้า อย่าทิ้งเล้าเป็ดน่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: Sha-em ที่ 01-02-2015 14:29:16
อ่านจบไปหนึ่งรอบ ยังไม่ได้เม้น แต่นี่กลับไปอ่านอีกรอบ ชอบอ่ะ ปกติไม่ค่อยชอบแนวแฟนตาซีสักเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้เป็นข้อยกเว้นเลย ตอนนี้ลุ้นคู่พี่ อยากให้จัดเรื่องรักเอเดนหนักๆเลยอ่ะ พวกไม่รู้จักความรักนี่ต้องโดน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ FIFTEEN ❁ 27-01-2015[P.42]
เริ่มหัวข้อโดย: wi_OoO_wi ที่ 01-02-2015 16:32:11
แง้งงงงง ได้คอมกลับมาเเล้ว
อ่านมาหลายตอนอยากเม้นมากเลย  :katai2-1:
พี่ยอดคะ น้องชอบพี่เเละไร่ของพี่มากค่ะ สนใจมาปลูกต้นรักกับน้องมั้ยค่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 06-02-2015 00:24:23
B.L.O.O.D.L.I.N.E
SIXTEEN






        YACHT

        ไม่น่าจะลืมอะไรแล้วนะ ผมนึกทบทวนของที่ต้องเอาไปส่งในเมืองและของฝากสำหรับโยชิ น้องชายหัวแก้วหัวแหวน พักนี้เราคุยกันไม่บ่อย ผมงานยุ่งและพ่อเองก็มีธุระกับเพื่อนร่วมรุ่นถี่ในระยะนี้ แต่เราไม่เคยขาดการติดต่อกันนานเกินสองวัน

        เมื่อวานมีออร์เดอร์จากกรุงเทพเข้ามากะทันหัน ไม่ว่าจะเป็นองุ่นหรือไวน์จากไร่ผม สตอร์เบอรี่จากไร่ของเพื่อน และตามตารางงานวันนี้ถือเป็นวันหยุดผม เลยถือซะว่าเข้าไปเยี่ยมน้องชายให้หายคิดถึง

        “ฝากขนมไปให้น้องด้วย นี่ถ้าพ่อไม่ติดว่านัดกับคุณกาจปลัดอำเภอเอาไว้ว่าจะไปดูโรงเพราะเห็ดให้ท่าน พ่อคงไปด้วย คิดถึงเจ้าตัวเล็กชะมัด” พ่อส่งถุงขนมของโปรดโยชิมาให้ผมเก็บใส่รถ

        “ไว้คราวหลังเราค่อยไปหาน้องพร้อมกัน ช่วงนี้บ้านเมืองไม่ค่อยปลอดภัย ผมเป็นห่วงโยชิยังไงไม่รู้” ผมละมือจากการตรวจเช็คเครื่องยนต์มองหน้าพ่อ

        “คงไม่มีอะไรหรอก ทางมหาวิทยาลัยเขาก็น่าจะมีการคุ้มกันที่แน่นหนา เห็นออกข่าวว่าจัดการตำรวจมาคอยสอดส่องดูแลรอบๆบริเวณ คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร”

        ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผมก็ยังอดกังวลไม่ได้

        “รถไม่มีปัญหาใช่ไหม” พ่อเดินเข้ามาช่วยเช็ครถ จนแน่ใจหายห่วงว่าไม่มีส่วนใดผิดปกติหรือเกิดอาการงอแงว่าจะเสีย “ตีหนึ่งแล้ว รีบไปเถอะ”

        “ครับ ถึงแล้วผมจะโทรหานะพ่อ” ผมยกมือไหว้พ่อ

        “ขับรถดีๆ ถ้าง่วงก็หาที่พักอย่าฝืนนะยอร์ช” พ่อเตือนอย่างเป็นห่วง

        “ครับพ่อ”

        ผมออกเดินทางในตอนมืด ไปถึงกรุงเทพก็น่าจะประมาณสิบเอ็ดโมงไม่ก็เที่ยง กำหนดส่งของตอนบ่ายโมง จากนั้นก็ค่อยแวะไปหาโยชิ ความจริง ถ้าไม่รีบผมคิดว่าจะพักกับน้องชายสักคืน

        ขับรถตอนกลางคืนต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง เครื่องเสียงในรถเป็นเพื่อนแก้เหงาได้เป็นอย่างดี แต่ขับไปสักพักผมรู้สึกแปลกๆกันสองข้างทาง คล้ายกับว่ามีอะไรสักอย่างเครื่องไหว ผมเหลือบตามองแต่ก็ไม่พบอะไรดึงดูดสายตานอกจากเงามืดจากต้นไม้ทั้งสองฝั่ง ผมจึงเลิกสนใจ จนกระทั่งเริ่มรู้สึกตาล้าๆ จึงแวะปั๊มหากาแฟดื่ม

        “ผมขอเอสเปสโซ่ร้อนแก้วหนึ่งครับ” ผมสั่งกาแฟกับพนักงาน

        “รอสักครู่นะคะ” เธอลงมือทำในทันที

        ผมนั่งรอกาแฟ สายตาก็มองออกไปข้างนอกร้านแล้วหยุดนิ่งอยู่ที่พุ่มไม้ ใครสักคนกำลังมองผมอยู่จากตรงนั้นพอเห็นว่าผมมอง เขาคนนั้นก็หลบฉากหายไป ผมลุกขึ้นยืนมองหาจากในร้าน แต่ใครคนนั้นหายไปแล้ว จะออกไปดูเสียงพนักงานก็ดังเรียกไว้ก่อน

        “คุณคะ กาแฟที่สั่งได้แล้วค่ะ”

        “อ่อ ครับ” ผมหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์จ่ายค่ากาแฟไปหกสิบบาท ผมหันไปมองตรงพุ่มไม้ที่เคยมีคนซุ่มมองผม แต่ขณะนี้วางเปล่าไม่มีใครสักคน

        ผมดื่มกาแฟด้วยความรวดเร็วแล้วกลับไปที่รถ สตาร์ทเครื่องรอไว้แต่ยังไม่ไปไหน ผมอยากแน่ใจว่าไม่มีใครแอบมองหรือแอบตาม แต่เท่าที่มองสำรวจก็มีเพียงความว่างเปล่า ผู้คนที่ขับรถแวะเข้ามาในปั๊ม ไม่ว่าจะเป็นคนที่เดินไปเข้าห้องน้ำ คนที่ยืนกินบะหมี่หน้าร้านสะดวกซื้อ หรือคนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล ทุกคนที่เห็นดูไม่มีท่าทีน่าสงสัย

        “ช่างเถอะ อาจจะตาฝาดไปเอง” ผมบ่นเบาๆ เลิกใส่ใจแล้วออกรถ

        ถนนตอนกลางคืนโล่งเงียบ ผมจึงเร่งความเร็วรถเกินกว่ากำหนดเพื่อที่จะได้ไปถึงกรุงเทพไวขึ้น กาแฟช่วยให้ผมไม่เกิดอาการง่วงระหว่างทาง รวมไปถึงเพลงร็อคที่คอยกระตุ้นสมองผมให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ผมมองกระจกข้างและกระจกมองหลัง ไม่มีรถคันไหนขับตามผม สองข้างทางก็ไม่มีจุดผิดสังเกต บางทีผมอาจคิดไปเอง อาการง่วงและล้าสายตาอาจทำให้ผมมองพุ่มไม้ที่ปั๊มน้ำมันกลายเป็นคน

        เป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้ ผมมาถึงกรุงเทพสิบเอ็ดโมงเช้า ผมกดโทรศัพท์โทรหาโยชิเมื่อขับมาถึงหน้ามหาวิทยาลัย ผมจอดรถข้างหอพักของโยชิ ลงมารอไม่นานโยชิและอาซาก็เดินออกมารับ

        ผมเริ่มจะทำใจได้มากขึ้นกับการที่ต้องเห็นน้องชายสุดรักสุดหวงมีคนรักคอยอยู่เคียงข้าง

        “พี่ยอร์ชหน้าง่วงมาก ทำไมไม่ขับมาตอนกลางวันละ” โยชิคล้องแขนผมพาเดินขึ้นหอพัก ปล่อยให้อาซาหอบหิ้วของฝากตามมาทีหลัง

        ถึงห้องพักของน้องชาย ผมก็ขอตัวเข้าไปนอนพัก โดยไม่ลืมกำชับว่าให้ปลุกผมตอนเที่ยงเพื่อเอาของไปส่ง

        “พี่ยอร์ชจะกลับมานอนกับผมไหม” โยชิถาม ข้างๆกันเป็นอาซาที่นั่งดูโทรทัศน์

        “ไม่แน่ใจนะ พี่ว่าจะกลับบ้านเลย”

        ตอนที่โยชิปลุก ผมเห็นข้อความในมือถือที่ส่งมาจากลูกน้องในไร่ ว่ามีคนอยากคุยเรื่องธุรกิจกับไร่ของเรา พ่อไม่อยู่ก็เลยไม่รู้จะให้ใครจัดการแทน

        “น่าเสียดาย พี่ยอร์ชน่าจะนอนกับโยสักคืน” โยชิทำหน้าหงอย ผมขยี้หัวน้องชายด้วยความเอ็นดู

        “ไว้คราวหลังนะ” ผมเตรียมตัวออกไปส่งของ กอดล่ำลาน้องชายจนหายคิดถึงก่อนจะฝากฝังโยชิกับอาซาให้ช่วยดูแลแทนผมกับพ่อ

        “ขับรถดีๆนะพี่ยอร์ช ถึงบ้านแล้วโทรหาผมด้วย” เจ้าตัวเล็กพูดเสียงสั่นเครือ ผมยิ้มพยักหน้ากับคำสั่ง

        ผลไม้ที่นำผมส่งขายเป็นผลไม้เกรดเอระดับส่งออกนอก แต่ไร่ของเราจะแบ่งขายในประเทศก่อนที่จะส่งขายออกนอกประเทศ ผมอยากให้คนไทยเราได้กินของดีมีคุณภาพในราคาที่ไม่แพง ซึ่งอาจจะต่างจากไร่อื่นที่มักผลิตเพื่อส่งออกนอกเพื่อให้ได้ผลกำไรจำนวนเยอะ แต่ผมกับพ่อคิดเห็นเหมือนกันว่า เราควรผลิตผลไม้คุณภาพดีเพื่อให้คนไทยได้บริโภค และราคาก็ต้องไม่แพง คนทุกระดับสามารถซื้อกินได้

        ครอบครัวเราไม่ได้ต้องการเงินทองมากมายมหาศาล ต้องการแค่ความสุข สุขจากการเป็นผู้ใช้และผู้รับ

        “ร้านสุดท้ายแล้วสินะ” ผมมองแผ่นที่ในกระดาษที่เพื่อนของผมส่งมาให้สลับกับร้านอาหารแนววิเทจที่น่าจะเป็นทั้งร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่และร้านอาหารไปในตัว เมื่อแน่ใจแล้วว่าเป็นที่เดียวกัน ผมก็นำสตอเบอร์รี่ที่ลูกค้าสั่งเข้าไปส่ง พร้อมกับองุ่นแดงลูกโตสายพันธุ์ใหม่หนึ่งถุงจากไร่...

        “ผมเอาสตอเบอร์รี่มาส่งครับ” ผมบอกกับผู้หญิงที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ แต่พอเธอเงยหน้าผมถึงกับก้าวเดินไม่ออกด้วยความคาดไม่ถึง

        “ยอร์ช” เธอเอ่ยชื่อของผม

        “แอนนา” ไม่คิดมาก่อนว่าจะเจอเธอที่นี่

        แอนนา...แฟนเก่าของผม

        “ไม่เจอนานเลยนะ” เธอเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ “วางบนโต๊ะก่อนสิ ท่าจะหนัก” เธอชี้มาที่กล่องผลไม้กล่องโตในมือผม

        “อ่อ” ผมวางตัวไม่ถูกนิดหน่อย การได้เจอกับแอนนาแบบไม่ทันได้ตั้งตัวทำผมไปไม่ถูกระดับหนึ่ง

        “ลูกโตมาก ไร่ยอร์ชเหรอ ไม่ใช่ไร่ของคุณพัชระเหรอ” เธอหยิบสตรอเบอรี่ขึ้นดูด้วยใบหน้าติดสงสัย เธอยังเหมือนเดิมทุกอย่าง

        “ไร่เพื่อนนะ พอดียอร์ชต้องเข้ามาส่งองุ่นในกรุงเทพพอดี พัชเลยฝากยอร์ชมา” ผมตอบ

        “แล้วนี่ล่ะ” เธอเปิดถุงองุ่นดู

        “ก็กะว่าจะเอามาให้ลองชิม เพื่อว่าจะเพิ่มลูกค้าได้” ผมทำแบบนี้ประจำเวลา เมื่อลูกค้าได้ลองแล้วชอบ เขาก็อยากจะสั่งและซื้อผลไม้จากไร่ของเรา และทุกรายก็กลายเป็นลูกค้าประจำที่ไม่คิดจะจากไปซื้อเจ้าอื่นอีกเลย

        “ฮ่าๆๆ ยอร์ชนี่หัวคิดเจ๋งนะ นายยังคงเก่งเหมือนเดิม”

        รอยยิ้มของเธอก็ยังเหมือนเดิม

        “แอนนา อาหารกลางวันเสร็จแล้วนะ ทานเลยไหม” เสียงผู้ชายดังออกมาจากด้านในร้านก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกมา

        ผู้ชายคนนี้คือแฟนใหม่ของแอนนา น่าจะสามปีได้แล้วที่ทั้งคู่คบกันหลังจากที่แอนนาเลิกรากับผม ผมดีใจที่เธอเจอคนที่คอยอยู่เคียงข้างเธออย่างที่แอนนาต้องการ

        “กินเลยสิ ยอร์ชจะอยู่ทานด้วยกันไหม” เธอเอ่ยชวน แฟนของแอนนายิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร

        “เพื่อนเหรอแอนนา” เขาถาม

        “ใช่แล้ว ลืมแนะนำให้รู้จักกันเลย นี่ยอร์ชเพื่อนแอนนา และนี่ก็บอสแฟนเราเอง”

        “สวัสดีครับ” ผมทักทาย เขาเองก็ทำเช่นเดียวกัน

        “อยู่ทานข้าวกลางวันด้วยกันนะครับ เลทหน่อย เพราะช่วงเที่ยงที่ร้านยุ่งมาก” บอสชวนผมพลางจัดเตรียมตั้งโต๊ะ

        ผมไม่ทันได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธ โทรศัพท์มือถือก็ดังขัดจังหวะ คนที่โทรมาทำให้ผมเกิดอาการแปลกใจเป็นรอบที่สอง

        ...เอเดน...

        “สวัสดีครับ” ผมรับสาย

        “นายอยู่ที่กรุงเทพใช่ไหม” เอเดมถามคำถามชนิดที่ไม่มีการเกริ่นนำใดๆทั้งสิ้น

        “ครับ” เขารู้ได้ยังไง

        “ว่างหรือยัง” คำถามต่อมาตามมาติดๆ น้ำเสียงของเขาไม่ดีเท่าที่ควร

        “เอ่อ...ก็ว่างนะครับ มีอะไรหรือเปล่า”

        “มาหาฉันหน่อยได้ไหม”

        “หืม อะไรนะครับ” ผมกำลังคิดว่าตัวเองอาจฟังผิดจนต้องถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

        “ฉันบอกให้นายมาหาฉันที แค่กๆๆ” เสียงไอจากปลายสายฟังดูรุนแรงและน่ากลัว

        “คุณอยู่ที่ไหน โรงพยาบาลเหรอ” ผมตกใจเล็กน้อยเพราะอาการไม่สู้ดีของเอเดน จนไม่ทันได้ตั้งข้อสงสัยในความแปลกหลายๆเรื่อง

        “เปล่า ผมอยู่ที่บ้าน ผมจะส่งที่อยู่ไปให้ หวังว่าคุณจะมาถึงอย่างรวดเร็ว”

        ติ๊ด

        วางสายไปแล้ว

        ผมเอาโทรศัพท์ออกจากหู ใช้สายตามองมันอย่างงุนงง จนกระทั้งแสงจากหน้าจอสว่างวาบพร้อมกับข้อความหนึ่งฉบับ มีที่อยู่กับข้อความสั้นว่า

        ‘อย่ามัวชักช้า รีบมาด่วน’

        “ยอร์ช ทานข้าวกัน” แอนนาเรียก ผมหันหลังไปทางแอนนาและแฟนหนุ่มของเธอ

        “ต้องขอโทษทีนะ พอดีฉันติดธุระนิดหน่อยคงต้องรีบกลับแล้ว” ผมรีบตอบแล้วรีบผละออกมาจากร้าน ไม่ได้สนใจท่าทางประหลาดใจจากคนทั้งสอง

        ผมขับรถออกมาได้ไม่นานก็เริ่มจะคิดได้ว่า เอเดนรู้ได้อย่างไรว่าผมอยู่กรุงเทพ เขาพูดเหมือนรู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ ว่างหรือไม่ว่าง

        “อย่ามัวชักช้างั้นเหรอ” ผมพึมพำกับตัวเอง “แปลกจังแหะ”

        แล้วทำไมเขาต้องให้ผมไปหาด้วย เท่าที่ได้ยินดูเหมือนว่าเขาจะไม่สบาย แล้วชาร์ลล่ะ เพื่อนของเขาไปไหน ทำไมถึงโทรตามผม ถ้าหากผมไม่ได้มากรุงเทพพอดี เขาคงไม่คิดจะโทรตามผมจากเชียงใหม่หรอกนะ

        แปลก...คำนี้คำเดียวลอยอยู่เต็มหัวไปหมด

        ไม่นานผมก็มาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่งตามที่เอเดนส่งแผนที่มาใหม่ เกือบหลงอยู่เหมือนกัน แต่ดีที่รถของผมมีอุปกรณ์ช่วยบอกทาง แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเร็วเท่าความต้องการของเจ้าของบ้านหรือเปล่า

        ผมกดกริ่งอยู่เกือบห้านาที แต่ไม่มีคนมาเปิดประตู จึงลองเลื่อนประตูรั้ว ปรากฏว่าไม่ได้ล็อค ดังนั้นผมเลยถือวิสาสะเข้าไปในบ้านโดยที่ไม่มีใครอนุญาต ก็ในเมื่อเอเดนเป็นคนเรียกผมมา ก็ไม่น่าจะมีปัญหา

        บ้านหลังโตเงียบเชียบ ไม่มีคนอยู่สักคน ผมต่อสายหาเอเดนเพื่อถามว่าเขาอยู่ที่ไหน

        “ขึ้นมาที่ห้องฉัน ชั้นสองขวามือสุด” เขาพูดทันทีที่รับสายแล้วก็วางไปเลย

        “เผด็จการไปหรือเปล่า” ผมบ่นกับตัวเอง แต่ก็เดินไปตามทางที่เขาบอก

        ห้องของเอเดนหาไม่ยาก ผมเคาะประตูตามมารยาทก่อนจะค่อยๆเปิดเข้าไป สัมผัสแรกที่ได้รับก็คือความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ผมเดินเข้าไปจนกระทั่งถึงเตียงนอน เอเดนอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่าสาหัส

        “คุณไปทำอะไรมา” ผมไล่สายตาสำรวจร่างกายอีกฝ่ายที่มีผ้าห่มผืนใหญ่ปิดตั้งแต่ช่วงเอวไปจนถึงปลายเท้า แต่แค่ช่วงบนก็ทำผมตกตลึงเป็นอย่างมาก

        ใบหน้าของเขาอิดโรย หัวแตก บริเวณช่วงหน้าอกมีผ้าพันแผลพันเอาไว้ แขนของเขาช้ำเป็นวงกว้าง บาดแผลคล้ายถูกทำร้ายอย่างแสนสาหัส

        “มีเรื่องนิดหน่อย” เขาตอบเสียงเบา ผมเลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้างเตียง

        “เพราะงั้นคุณถึงโทรเรียกผมมา อยากให้ช่วยอะไรไหม” ผมถามอย่างเป็นห่วง อย่างน้อยๆเขาก็เป็นคู้ค้าคนสำคัญ และผมถือได้ว่าเรารู้จักกันคล้ายจะเป็นเพื่อนเป็นรุ่นพี่ ถ้ามีอะไรที่ผมพอช่วยได้ผมก็อยากช่วย

        “วันนี้ชาร์ลออกไปทำธุระข้างนอก ไม่มีใครอยู่บ้าน เลยอยากให้นายช่วยอยู่เป็นเพื่อนที”

        “อ่อ ได้สิ ว่าแต่...คุณรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่กรุงเทพ” ผมถามในสิ่งที่สงสัยมาตลอดทาง

        “ชาร์ลโทรมาบอกว่าเห็นนายระหว่างทางไปทำธุระ” เขาตอบหน้านิ่ง ใบหน้าอิดโรยเพราะต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ

        ผมเข้าใจไม่ถามต่อ หมดข้อสงสัยทันที “คุณทานอะไรหรือยัง”

        “เรียบร้อยแล้ว”

        “ยาล่ะ ทำไมคุณไม่อยู่โรงพยาบาล ผมว่าอาการคุณหนักเกินว่าจะพักผ่อนได้เองที่บ้านนะ อย่างน้อยๆก็จนกว่าจะโอเคกว่านี้” ผมตั้งข้อสังเกตตามที่เห็น

        “ผมไม่ชอบโรงพยาบาล” เหตุผลของเขาชวนน่าขำเสียจริง

        ตุ๊บ!

        เมี๊ยววว

        สิ่งมีชีวิตบางอย่างหล่นลงจากเตียง ก้อนกลมๆสีเทาขยับลุกขึ้นยืนแล้วเงยหน้ามองผม

        “คุณเลี้ยงแมว?” ผมละสายตาจากเจ้าแมวตัวน้อยขึ้นมองเอเดนที่คงจะรู้เหมือนกันว่าแมวหล่นลงจากเตียง

        ภาพลักษณ์ภายนอกของเอเดนออกจะขัดอยู่บ้างกับสัตว์เลี้ยงไซต์เล็ก หากเขาเลี้ยงล็อตไวเลอร์ผมคงไม่แปลกใจ

        “ไม่เชิง” เขาตอบ ผมไม่หายสงสัย เขาจึงขยายความ “ชาร์ลเก็บได้แถวๆคอนโด มันตามติดไม่ปล่อย เป็นแมวไม่มีเจ้าของ ชาร์ลสงสารเลยเอามาเลี้ยง”

        “สรุปแล้วคือแมวชาร์ล” ผมมองแมวตัวเล็กที่กำลังพยายามปีนกลับขึ้นไปบนเตียง แล้วมันก็ทำสำเร็จ เอเดนใช้มือเกาคางเจ้าสัตว์หน้าขนจนมันเริ่มเลื้อยนอนลงข้างกายคนเจ็บ

        “อืม”

        ผมเข้าใจละ ถ้าเป็นรายนั้นก็พอโอเค บุคลิกของชาร์ลเหมาะที่จะเลี้ยงแมวมากกว่าคนตัวโตที่กำลังนอนหายใจแผ่ว

        “ผมว่าเอามันลงจากเตียงดีกว่า คุณไม่สบายอยู่”

        “เป็นห่วงเหรอ” เขาเลื่อนสายตาขึ้นสบกับผม แววตาอ่อนล้าแต่กลับมีเสน่ห์จนน่ากลัว เพราะขนาดผมที่เป็นผู้ชายยังรู้สึกแปลก ใจเต้นแรงขึ้นมาดื้อๆ

        “หึหึ ตลกน่า ผมแค่แนะนำตามที่เห็นสมควร” ผมเบนสายตาหนี ดวงตาสีเขียวสวยของเอเดนทำให้ผมหายใจผิดจังหวะ รู้สึกคับตึงช่วงอกแปลกๆ แต่ที่แน่ๆ ผมเริ่มวางตัวไม่ถูก

        “คุณนอนพักเถอะ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าเพื่อนคุณจะมา”

        สุดท้ายแมวตัวเล็กก็ยังคงนอนอยู่ที่เดิม แต่เอเดนหลับไปแล้ว ผมนั่งเฝ้าคนป่วยจนกระทั่งเย็น มีแอบงีบหลับบ้างเพราะผมเองก็พักผ่อนน้อย รู้สึกตัวตื่นอีกทีท้องฟ้าก็มืดสนิท

        สองทุ่มแล้วหรือนี่ ผมเดินไปในห้องนอนของเอเดน คนป่วยนอนหลับบนเตียง เพื่อนของเขาทั้งสองคนก็ยังไม่กลับมา จะเอายังไงดี แต่ถ้าอยู่ดึกมากกว่านี้เกรงว่าผมจะกลับเชียงใหม่ลำบาก

        “เอเดน” ผมเรียกเขา เอเดนรู้สึกตัวอย่างง่ายดาย เขามองผมนิ่ง “ผมจะกลับแล้วนะ มืดแล้ว”

        “จะกลับยังไง” เขาถามเสียงแหบ ใบหน้าซีดเซียว

        “ผมขับรถมา ก็คงต้องขับกลับ” ผมตอบ

        “ดึกแล้วนะ” เขาว่า

        “ก็ใช่ไง ผมเลยว่าจะขอกลับก่อน”

        “ไม่ต้อง” เขาแย้ง ผมตีหน้างง ไม่เข้าใจ “คืนนี้นอนนี้ พรุ่งนี้ค่อยกลับ”

        ผมเลิกคิ้วงุนงง “ไม่ได้หรอก”

        “ได้สิ นายจะได้ช่วยดูแลฉันด้วย”

        “นี่คุณกำลังขอร้องผมอยู่เหรอ” ผมหรี่ตาถาม

        “แล้วคุณมีน้ำใจต่อลูกค้าไวน์รายใหญ่ในอนาคตของคุณหรือเปล่าละ” ช่างเป็นคนที่ใช้คำพูดได้เก่งกาจแม้ว่าจะป่วยก็ตามที

        “ก็ได้ นี่ผมเห็นแก่ผลประโยชน์นะ”

        “อะไรก็ช่าง แต่ตอนนั้นหิวแล้ว หาอะไรให้กินหน่อย” เขาทำท่าจะขยับลุกขึ้นนั่ง ผมจึงช่วยประคอง ก่อนจะเอ่ยคำพูดจิกกัด

        “คุณนี่ใช้ผมเยี่ยงทาสเลยนะ”

        “แล้วคุณจะไม่ทำให้หรือไง” น้ำเสียงที่ใช้ก็ไม่ได้เว้าวอน แต่ทำมันผมรู้สึกว่าดวงตาและสีหน้าของเขาคล้ายจะออดอ้อนอยู่ในที ผมน่าจะคิดไปเองมากกว่า เพราะใบหน้าของเอเดนเรียบเฉยอย่างกับไร้ความรู้สึก ผมเผลอคิดอะไรน่าขนลุกแบบนั้นได้ยังไง

        ก่อนที่ผมจะเลอะเทอะไปมากกว่านี้ จึงตัดสินใจลงไปทำอาหารสำหรับคนป่วยและสำหรับตัวผม เป็นอาหารที่ทานง่ายๆสำหรับเราทั้งสองอย่างเช่นข้าวต้ม

        ...เราทั้งสองงั้นเหรอ...

        “บ้าเอ้ย!” แม้จะเป็นแค่ความคิดแต่คำๆนั้นมันไม่น่าขนลุกไปหน่อยหรือไงที่จะใช้กับผมและเอเดน “พอๆ เลิกคิดอะไรบ้าๆซะทีไอ้ยอร์ช”

        ผมปิดเตาแก๊สเมื่อข้าวต้มสุขได้ที่ เสียงร้องเมี๊ยวๆดังเข้ามาใกล้ เจ้าแมวตัวน้อยเดินเข้ามาในครัว มันคงจะหิว ผมมองหาอาหารแมวแล้วก็เจออยู่ที่พื้นข้างตู้เย็น ผมจัดการเทอาหารแมวใส่ภาชนะส่วนตัวของเจ้าตัวเล็ก แล้วปล่อยให้มันกินตามลำพัง ยังมีอีกคนที่รออาหารเย็นอยู่ข้างบน

        “ข้าวต้มมาแล้วครับ” ผมถือถาดใส่ข้างต้มทั้งสองถ้วยเดินเข้าใกล้เอเดนอย่างระมัดระวัง

        “ทำไมต้องข้าวต้ม” เขาเบ้หน้าคล้ายไม่ชอบใจ

        “เพราะคุณป่วย ห้ามแย้งอะไร ผมทำแล้ว คุณต้องกินมันเข้าไปซะ” เห็นเขาทำท่าจะพูดแย้งเลยขัดเอาไว้ก่อน ผมไม่มีทางตามใจเขาถ้าหากว่าเขาไม่อยากกินสิ่งที่ผมทำมาให้

        มีโต๊ะญี่ปุ่นอยู่ข้างเตียง คงมีไว้สำหรับการนี้ ผมหยิบออกมากางคร่อมช่วงตัวของเอเดน วางชามข้าวต้มไว้ตรงหน้าเขา ตามด้วยน้ำและยาเท่าที่ผมเห็นว่ามีบนตู้หัวเตียง

        ผมนั่งลงกับเก้าอี้ตัวเดิมแล้วจัดการกินอาหารมื้อเย็น แต่กินได้แค่สองคำก็ต้องหยุด เพราะเอเดนเอาแต่จ้องหน้าผมไม่ยอมแตะอาหารแม้แต่นิดเดียว

        “ทำไมไม่กิน ผมไม่ทำอย่างอื่นให้หรอกนะ” ผมดักคอเขาไว้ก่อน ถึงผมจะเห็นใจและเป็นห่วง แต่ก็ไม่ถึงขนาดยอมตามใจ ถ้าเขาเป็นโยชิน้องชายของผม ผมก็อาจจะทำให้อยู่หรอก แต่เผอิญว่าเขาไม่ใช่

        “ก็ไม่ได้อยากได้อย่างอื่น”

        “แล้วทำไมคุณไม่กิน”
       
        “คุณจะไม่ป้อนผมหน่อยเหรอ”

        “อะไรนะ” ถ้าผมกำลังกินข้าวต้ม ผมคงได้พ่นเม็ดข้าวใส่หน้าเอเดนไปแล้ว “ทำไมผมต้องป้อน”

        ผมไม่เข้าใจ

        เขาไม่ตอบ แต่พยายามขยับแขนที่ค่อนข้างใช้การลำบากให้ผมดู โอเค...ผมต้องทำมันสินะ

        “ก็ได้ๆ” ผมวางชามข้าวต้มบนตู้หัวเตียง ขยับเลื่อนเก้าอี้เข้าชิดของเตียงมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ถนัดอยู่ดี

        “ขึ้นมานั่งบนเตียงสิ” เขาบอก ผมทำตาม ระยะห่างจากเราเหลือไม่มาก อยู่ใกล้ขนาดนี้ ยิ่งทำให้ผมเห็นความน่ากลัวตามร่างกายของเขา ผมยังคงยืนยันว่าเขาควรจะไปโรงพยาบาล

        “ป้อนสิ อย่าเพิ่งมองสำรวจร่างกายผม เพราะเดี๋ยวคุณจะได้สำรวจมากกว่านี้แน่ๆ”

        ผมสะดุ้งเล็กน้อย คิดว่าเขาไม่น่าจะสังเกตเห็น “หมายความว่ายังไง”

        “เพราะวันนี้ชาร์ลจะไม่กลับมาที่บ้าน แล้วคุณก็จะต้องเป็นคนเช็ดตัวให้ผม”

        “ว่าไงนะ!” ผมอุทานเสียงดังอย่างลืมตัว เกือบปล่อยชามเข้าต้มหลุดจากมือถ้าหากไม่ได้มือเย็นชัดของเอเดนช่วยประคองเอาไว้

        “ก็อย่างที่บอก ฝากด้วยแล้วกันนะคุณคู่ค้า”





...........
        ตอนนี้เป็นคู่ค้า ภายภาคหน้าจะเป็นคู่ชีวิตหรือเปล่าก็ต้องติดตามและลุ้นเอานะ  :hao6:
        ใครอ่านอยู่เม้นทักทายกันให้ชื่นใจหน่อยนะ ได้โปรดเถอะค่ะ พลีสสสสสสสสส  :กอด1:



       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: platy ที่ 06-02-2015 00:40:57
เขาจีบกันอยู่ใช่มั้ย  :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: jay10-8 ที่ 06-02-2015 00:45:47
อีตาเอเดนนี่ ชอบ ยอร์ชเหรอไงเนี่ย    :m20: :m20:
โยชิ กับ อาซา จะทำไงดี จะมีพี่เขยเป็นคู่ปรับ :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 06-02-2015 00:53:22
มาให้กำลังใจก่อนจ้า

เดี๋ยวพรุ้งนี้มาอ่าน

คืนนี้ดึกมากแล้ว

ขอนอนก่อน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 06-02-2015 02:53:05
นี่คือเค้ากำลังจีบพี่ยอร์ช ใช่มั้ย ฮ่าๆๆๆ เนียนเชียวน๊า
 :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 06-02-2015 07:26:08
อ่านแล้วมันเขินเขินโน๊ะ หวังว่าเอเดนจะได้คู่ชีวิตในเร็ววัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 06-02-2015 07:26:45
เฮร่ยยย!! ภายภาคหน้าต้องเป็นคู่ชีวิตสิ บุคคลที่ทำให้เอขเดนอ่อนลง

เอเดนต้องให้ใครตามยอร์ชแน่ๆอ่ะ รู้ความเคลื่อนไหวขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: seraty ที่ 06-02-2015 07:33:02
โอแมะ....แต่ล่ะคนนะ.....ช่างคิดไปได้...... :a5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: seraty ที่ 06-02-2015 07:43:09
เค้าจีบกันมุ้งมิ๊ง....เน๊าะ... :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 06-02-2015 07:50:22
 :mew1:ช่วงนี้ทำแต่งาน ยังไม่ได่อ่านตอนก่อนหน้าอีกหลายตอนเลยค่ะ แอบมาอ่านตอนล่าสุดด้วยความงง =3= อยากมาให้กำลังใจริริ สู้ๆนะคะ  :katai1: อยากอ่านนนนนนน T_T ฮื่อ ไปทำงานก่อนจ้า ไฟท์ติ้งน่า  o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 06-02-2015 08:11:08
นี่เอเดนกะลังจีบยอชอยู่ ใช่ไหม~~~~!!???
อ้อนซะ -///-
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 06-02-2015 08:54:02
ทำไมเรารู้สึกระแวง เหมือนเอเดนมีแผนอะไรเกี่ยวกับยอร์ช
แต่สุดท้ายก็คงไม่ทำอะไรหรอก เพราะความดีของยอร์ช
อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 06-02-2015 09:42:50
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 06-02-2015 10:49:26
พี่ยอร์ชเสร็จเอเดนแน่ๆๆๆๆๆๆ

แต่กลัวอ่ะ กลัวเอเดนจะเอาพี่ยอร์ชเป็นข้อต่อรองเรื่องหัวใจ

อย่าทำอย่างนั้นเลยนะคุณเขียน

 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 06-02-2015 11:09:53
เอเดนมุ้งมิ้งไปมั้ยยยยย
กลับตัวกลับใจซะเหอะ
เป็นคนดีแล้วมาจีบพี่ยอร์ชซะ
นะๆเอเดนน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 06-02-2015 11:31:56
 :a5: กรี๊ดดดดดดดดดด พี่ยอร์ชของเจ๊จะถูกงูบ้ากามลวนลามจ้า!!!
นี่แหละ แสดงชัดเจนว่าอาซาและเอเดนเป็นพี่น้องกัน :hao7:
อย่ายอมนะพี่ยอร์ช อิตานี่มีแผนอะไรรึเปล่า! :katai1:
น่าสงสัยยยยยยย
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 06-02-2015 12:07:21
คู่ชีวิตคู่แท้ต้องคนนี้คนเดียว....
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 06-02-2015 12:57:45
ดูเหมือน เอเดน จะอ้อน ยอร์ช ใช่มั้ยเนี่ย

อย่าเพิ่งใจอ่อนนะ แลบนี้ต้องเล่นตัว 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 06-02-2015 18:26:31
ระแวงเอเดนจังเลย
ที่เข้าหายอร์ชนี่ต้องการอะไร
จะจับตัวไว้ต่อรองกับโยชิรึป่าว
._________.

แต่ก็นะ อ่านตอนนี้จบแล้วเขินเบาๆ
2 คนนี้เคมีเหมาะกันจัง
ชอบๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 06-02-2015 19:01:52
คู่นี้น่ารักนะคะ ถือป้ายไฟเชียร์
ขอให้ได้คู่กันทีเถอะ -/\-
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 06-02-2015 19:41:22
เป็นคู่ค้าที่อยากเชียร์

ให้เป็นคู่ชีวิตมากที่สุด

อยากจะรู้ว่าเวลาเอเดนเอาใจพี่ยอร์ชจะทำยังไง

อยากเห็นมุมอันอ่อนโยนของเอเดนบ้าง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 06-02-2015 22:03:19
เค้าจีบกันอยู่ใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 06-02-2015 22:06:39
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 06-02-2015 22:25:23
เอเดนกับยอร์ช เป็นคู่ที่ดูจะน่าสนใจกว่าอาซากับโยชิน่ะ เพราะดูตรงข้ามกันดีน่ะ คู่นั้นดูจะเลี่ยน ๆ ไปนิดนึง และตัวโยชิดูจะไม่ค่อยพัฒนาตัวเองแบบรูปธรรมเท่าที่ควรน่ะ อยากให้โยชิเปลี่ยนตัวเองให้ดูเข้มขึ้นสักนิดนึง ระวังคู่นี้จะแย่งซีนคู่หลักไปน่ะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 06-02-2015 22:31:43
เห้ยยย ไม่น่าเชื่อว่าไอ้โหดอย่างเอเดนจะมีมุมนี้กับเข้าด้วย กรี๊ดดดดด อ่ะ
โอ๊ยยย ออดอ้อนพี่ยอร์ชจนคนอ่านเคลิ้มตามพี่ยอร์ชไปด้วยเลย
พี่คุ๋กับพี่ น้องคู่กับน้อง ดองกันสองชั้นเลย  :mc4:
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ  o13 สู้ๆๆ รออ่านตอนใหม่อยู่น้า
+1  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 07-02-2015 13:00:11
ทำเป็นเข้าหาพี่ยอร์ชแบบมุ้งมิ้ง มีแผนร้ายใช่ไหมบอกมา!  :z6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-02-2015 15:33:19
เอเดนกลับตัวกลับใจเป็นคนดี
แล้วเราจะยกพี่ยอร์ชให้.
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 07-02-2015 21:14:36
ไม่อยากคิดว่าเอเดนก้อมีมุมนี้กับเค๊าเหมือนกัลนะ 555  :z1: :z1: :hao3: :hao3: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 07-02-2015 21:44:13
ลุ้นมากมายยยยยย ริริแต่งให้ได้ลุ้น ทำให้ตื่นเต้นตลอดๆ เป็นกำลังใจให้ริรินร้าาาาา สู้ๆๆ จร้าาาาาาา  :z3: :z3: :กอด1: :กอด1: :3123: :3123: :L1: :L1: :pig4: :pig4: :-[ :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-02-2015 23:55:18
แวะมาส่อง

พร้อมกำลังใจ

กด+
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 08-02-2015 00:48:09
หวังว่าเอเดนจะนึกถึงพี่ยอชมั่งนะตอนสู้กับอาซาแล้ว
ไม่ก็ การปะทะกันครั้งหน้าพี่ยอชอาจมีเอี่ยวด้วยก็เป็นได้ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 08-02-2015 10:47:06
พี่ยอร์ชเอเดนคู่นี้มีซัมติงกันหรอเนี่ย? ลุ้นกันต่อไปปปปป
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: Jo T^T Pannawit ที่ 08-02-2015 23:37:52
พี่ริริทำตกใจมากก ตอนบอกจะไม่อัพ :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 09-02-2015 10:24:14
รายตัวว่า ว่ากำลังติดตามค่ะ
เนื้อเรื่องตื่นเต้น ลำดับเหตุการณ์ได้น่าติดตามค่ะ
บางเหตุการณ์นี้ คิดเราไม่ถึงจริง ๆ เช่น ทำไมดาวเสาร์ต้องการทำตามเจอโรม
ทั้ง ๆ ที่ดาวเสาร์ดูเหมือนจะห่วงโยชิที่เป็นเพื่อนมาก เราคิดในแบบเรา ลืมคิดเรื่องสัญชาตญาณของสัตว์ว่าต้องตามผู้นำ

พี่ยอร์ชผิดอิมเมทที่เราคิดไว้ไปหน่อย คืออ่านภาคแรกคิดว่าเป็นผู้ชายที่ดูแข็งกว่านี้
พออ่านภาค 2 ทำไมดูอบอุ่นจัง  ตามความคิดเรานะฮ่าาาาาา
 
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 10-02-2015 17:25:06
 :hao7:   ว๊ายๆๆๆๆ พี่ยอร์ชกำลังจะได้เห็นเอเดนเวอร์ชั่นงูด้วยยยย อร๊ายยยยย จับกดเลยเอเดน  :z1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 11-02-2015 16:13:04
เอเดนนี่ก็รุกจังงงง ถ้าไม่จริงใจกับยอร์ชล่ะน่าดู อยากบอกว่าตําเเหน่งพระเอกของนายสั่นคลอนมากนะ รู้ยัง?
ฮึ้ย ถ้าทำเป็นเล่นล่ะน่าดูจะไม่เชียร์เลยคอยดู! พี่อร์ชน่ารักมากเลย ชอบๆ อารมณ์พี่ชายอบอุ่น รอดูตอนหน้านะค่ะ
อีตาเอเดนรุกพี่เขาหนักๆนะ เดี๊ยวจะมีคนมาเเย่งซะก่อน ถถถถถ รอตอนต่อไปนะค่ะคุณริริ กอดๆๆ ตามอ่านจบเเล้วเย้!
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: Sha-em ที่ 11-02-2015 20:11:04
อ๊ายยยย ป้อนข้าวกันบนเตียง :-[ :-[ นี่ถ้าเป็นคู่น้อง ข้าวเขิ้วคงไม่ต้องกินกันละ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 11-02-2015 20:50:33
ยังรอพี่ริ อยู่นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 13-02-2015 13:13:48
เอเดนนายจีบยอร์ชอยู่ใช่มั้ยเนี่ย เป็นการจีบที่มีเอกลักษณ์มวากกก แม่งสั่งอย่างเดียว ส่วนพี่ยอร์ชเราก็หน้ามึนทำตามเค้าซะงั้น. 55555 รอดูต่อไป
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะจ๊ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: momoku ที่ 13-02-2015 16:38:15
อ้ากกก ฟินไปอีก เอเดนจีบพี่ยอร์ชๆๆๆ

ริริสู้ๆน้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 13-02-2015 18:56:53
พี่ริอยู่ไหนเอ่ย

รออยู่นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SIXTEEN ❁ 6-02-2015[P.43]
เริ่มหัวข้อโดย: artemesbee ที่ 14-02-2015 18:45:13
กรี๊ดๆๆๆๆ เอเดนรุกยอร์ชแล้วค่าา ฟินเลยอ่าา >///<
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 18-02-2015 22:45:08
B.L.O.O.D.L.I.N.E
SEVENTEEN




       

        เอเดนปิดตาแต่ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้หลับ ผมเดาว่าเขาหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถาม ผมดูและปฏิบัติต่อเขาเหมือนที่ทำให้โยชิ ไม่ใช่เรื่องหนักหนาหรือน่าลำบากใจเพราะเขาเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกันผม อาจจะเหนื่อยหน่อยตรงที่ต้องออกแรงยกแขนขาและพลิกตัวเอเดนเนื่องจากเขาตัวใหญ่กว่าโยชิและผมมาโข

        หลังจากที่จับคนป่วยกินข้าวกินยาและเช็ดตัวต่อด้วยการใส่เสื้อผ้าเสร็จความอ่อนล้าก็เข้าเล่นงานผม คืนนี้ผมคงต้องอยู่เฝ้าเอเดน ยังไงก็คนรู้จักกันไว้ ไม่เหนือบ่ากว่าแรกก็ช่วยกันไป

        “คุณนอนไปเลยแล้วกัน ผมจะลงไปเอาเสื้อผ้าในรถ” ผมหมุนตัวเตรียมเดินไปที่ประตู แต่นึกบางเรื่องขึ้นมาได้เสียก่อนจึงหันหลับไปมองเอเดนที่ลืมตาแล้ว “คุณจะให้ผมนอนที่ไหน”

        “ที่นี่ ห้องของฉัน”

        ผมมองรอบห้องอีกครั้งแล้วหยุดสายตาที่โซฟาตัวยาว น่าจะพอเป็นที่นอนให้ผมได้ในคืนนี้

        “ได้” ผมตอบรับ จากนั้นก็ลงไปเอาเสื้อผ้าที่มีติดรถไว้ยามฉุกเฉิน

        คืนนี้คงไม่มีทางเลือกอื่น ผมโทรไปบอกพ่อตั้งแต่ตอนเย็นแล้วว่าจะค้างบ้านเพื่อน พรุ่งนี้ถึงจะกลับ ก่อนจะโทรไปบอกคนงานที่ไร่ว่าให้แจ้งแขกที่มาคุยธุระว่าผมไม่สามารถกลับไปคุยธุระได้ ถ้าสนใจก็ขอให้ค้างที่ไร่สักคืนสองคืนโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

        เอเดนกลับไปแล้วตอนที่ผมกลับขึ้นมาบนห้องนอนของเขาอีกครั้ง ผมใช้ห้องน้ำของเขาโดยคิดว่าไม่จำเป็นต้องขออนุญาต

        เหนื่อยมาตั้งแต่เมื่อคืนวานที่ขับรถมากรุงเทพ ไหนจะวันนี้ทั้งวัน ผมเพลียเกินกว่าที่จะคิดอะไร ช่วงจังหวะที่กำลังเคลิ้มหลับ อีกคนที่อยู่ร่วมห้องก็ส่งเสียงเรียก ผมปรือตาขึ้นช้าๆ เอียงหน้ามองคนบนเตียง

        “ผมคิดว่าคุณหลับไปแล้ว” ผมพูด

        “ผมนอนไม่หลับ” เขาว่า ผมถอนหายใจแผ่วเบา เขานอนไม่หลับ แต่ผมอยากหลับจะแย่

        เอเดนสบตาผมผ่านความมืด ความอ้างว้างเด็ดเดียวจากดวงตาคู่นั้นหมายถึงอะไร

        “คุยเป็นเพื่อนผมสักครู่หน่อยสิ”

        คิ้วของผมขมวดด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย “ผมง่วงนะคุณ จะมาคุยอะไรกันป่านนี้”

        “ขอสักสิบนาที” เขาพูดนิ่งๆ น้ำเสียงดื้อดึง ผมกรอกตามองเพดานด้วยความเซ็ง เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันเขาควรจะให้ผมได้พักผ่อนบ้าง

         “ร้านของคุณเป็นแบบไหน” ผมถามออกไปในที่สุด

        เขาคิดก่อนจะตอบ “เป็นร้านสองชั้น เน้นขายไวน์ที่สั่งมาจากทั่วโลกและกำลังจะมีไวน์ของไร่คุณไปอยู่ที่ร้านของผม มีอาหารเสิร์ฟตามแต่ชนิดไวน์ที่สั่ง ร้านสองชั้นขนาดสองบล็อก อยู่ใจกลางกรุงนิวยอร์ค ร้านเปิดเฉพาะช่วงเย็น ลูกค้าที่มาจะต้องโทรจองคิวล่วงหน้า เพราะร้านของผมคิวแน่นยาว”

        “ไม่เลวเลย ถ้ามีโอกาสผมอยากไปชิมไวน์ที่ร้านของคุณดูสักครั้ง”

        “ไม่เลวงั้นเหรอ?” เขาเลิกคิ้วสูง ตวัดตาจ้องผมคล้ายไม่พอใจ “ร้านผมน่ะเจ๋งที่สุดในนิวยอร์ค ผมใช้เวลาเพียงแค่ห้าปีเท่านั้น ร้านผมก็ขึ้นสู่อันดับหนึ่งร้านไวน์ที่ดีที่สุด มีแต่พวกคนร่ำรวยแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย ตอนนี้ผมมีสาขาอยู่สิบสามสาขาทั่วอเมริกา คุณใช้คำดูถูกผมไปหน่อยมั้ง” เขาฉุนขาด ในขณะที่ผมงงว่าตัวเองทำอะไรผิด

        “อ่อ ผมขอโทษแล้วกันที่ไม่รู้ว่าร้านของคุณมันสุดยอดแค่ไหน ถ้าคุณพูดพอแล้วผมขอตัวนอนนะ เหนื่อย!” ผมอารมณ์เสียกับอารมณ์ขึ้นๆลงๆของผู้ชายคนนี้ ผมไม่ใช่คนสุภาพนักหรอกถ้าเกิดว่าโมโหแบบสุดๆ ผมก็ผู้ชายคนหนึ่ง เลือดร้อนและแข็งกระด้าง แต่ที่ไม่เคยแสดงออกเพราะวันๆผมอยู่แต่กับครอบครัว ผมอยากเป็นพี่ที่แสนอบอุ่นให้โยชิและเป็นลูกที่ดีของพ่อ เพราะฉะนั้นผมถึงได้พยายามควบคุมตัวเองให้เป็นคนสงบนิ่งและอ่อนโยน

        แต่เอเดนกำลังปลุกอีกด้านผมขึ้นมาในทุกๆครั้งที่เราพูดคุยกันเพราะนิสัยแปลกๆขวางหูขวางตาของเขา มันทำให้ผมหงุดหงิดจริงๆเหอะให้ตาย

        “คุณทำไร่มากี่ปีแล้ว”

        ผมผลุดลุกขึ้นนั่งอย่างโมโห “คุณต้องการอะไรกันแน่ ผมขอนอนดีๆไม่ได้หรือไง”

        “ผมแค่อยากได้เพื่อนคุย” เอเดนพูดหน้าตาย ปรับอารมณ์เร็วยิ่งกว่าสายลมที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง เขาไม่มีทางหายป่วยในเร็ววันนี้ถ้าหากยังคิดที่จะเปิดหน้าต่างตอนนอน ผมกระแทกตัวนอนลง สองมือใช้หนุนศีรษะ

        “โอเค เมื่อกี้คุณถามว่าอะไร” คุยให้มันจบๆไป ถ้าผมทนไม่ไหวเมื่อไหร่ก็แค่หลับหนีการสนทนาไปเท่านั้น ไม่เห็นยาก

        “ผมถามว่าคุณทำไร่มากี่ปี”

        “หมายถึงอายุไร่หรือจำนวนปีที่ผมเริ่มทำงานในไร่”

        “ทั้งสองก็ได้”

        “ถ้าไร่ก็ประมาณเจ็ดแปดปีได้ ผมยังจำตอนที่พ่อเริ่มทำไร่ใหม่ๆได้ ผมช่วยพ่อตั้งแต่ถากดินถางหญ้า และไม่อีกปีต่อมาตอนที่ไร่เป็นรูปเป็นร่างอย่างสมบูรณ์โยชิก็เกิด”

        ผมหยุดช่วงเมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้น ผมได้น้องชายที่น่ารักน่าเอ็นดู แต่ต้องเสียแม่ไปเพราะร่างกายอ่อนแอระหว่างที่คลอดโยชิ ผมแย่ที่เคยคิดว่าเพราะน้องแม่ถึงต้องจากไป แต่พ่อก็พูดให้ผมได้เข้าใจ พ่อว่าโยชิไม่ผิด ไม่มีใครผิด ไม่ช้าไม่นานคนเราก็ต้องตายทุกคนเป็นสัจธรรมที่เลี่ยงไม่ได้ เมื่อแม่จากไปแล้ว เราอาจจะเสียใจ แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นคือเราต้องคิดถึงความทรงจำดีๆเกี่ยวกับแม่เอาไว้และมีความสุขกับมันเพื่อที่แม่จะไม่ต้องเป็นกังวล ยังไงแม่ก็อยู่กับเราเสมอ อยู่ในใจ

        ผมโชคดี พ่อว่าอย่างนั้น เพราะผมมีความทรงจำเกี่ยวกับแม่ จำได้ว่าแม่ป้อนข้าวป้อนยา อาบน้ำให้ผม กอดผมแน่นเวลาผมร้องไห้หรือมีเรื่องเสียใจ แม่ดูแลผมดี วันเกิดแม่ก็จะถือเค้กมาให้ผม แต่กับโยชิ น้องไม่มีวันที่จะมีความทรงจำเหล่านั้นกับแม่ได้ เพราะอย่างนั้นน้องน่าสงสารที่สุด ตั้งแต่นั้นมา พ่อกับผมต่างก็มอบความรักดูแลเอาใจใส่โยชิให้มากที่สุดจะได้ทดแทนในส่วนที่แม่

        “ตอนนั้นคุณอายุเท่าไหร่”

        ผมหลุดจากภวังค์ “คุณว่าไงนะ”

        “ผมถามว่าตอนที่คุณเริ่มถางหญ้าน่ะอายุเท่าไหร่”

        ตอนนี้ผมยี่สิบหก ตอนนั้นก็คงสัก “อ่อ ก็น่าจะสักแปดหรือไม่ก็เก้าขวบ ผมไม่แน่ใจ ฮาวววว” ผมอ้าปากหาวเบาๆ

        “ถ้าผ่านมานานขนาดนี้ ไร่คุณควรจะก้าวหน้ากว่าที่เป็น” เอเดนกำลังวิจารณ์คิดรู้สึกอย่างนั้น

        “ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันควรจะต้องก้าวหน้ามากขนาดไหน จะต้องเป็นที่หนึ่งในประเทศไหม...”

        “ใช่ มันควรต้องเป็นอย่างนั้น หรือไม่ก็ ถ้าเป็นผม ไร่ของคุณดังไปไกลถึงต่างประเทศแล้ว” เขาเอ่ยขัดได้อย่างไร้มารยาท และนั้นเป็นประโยคสุดท้ายที่เขาจะได้พูดในค่ำคืนนี้

        “นั่นมันก็เรื่องของคุณ แต่สำหรับผมแล้ว ผมพอใจที่เราเป็นอยู่กันแค่นี้ เติบโตแค่นี้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตผมกับคนในครอบครัวไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่าไร่เราไปไกลได้แค่ไหน แต่สำคัญที่ว่าเรามีความสุขกับมันมากขนาดไหนต่างหาก คุณอาจจะเป็นคนที่ต้องการเป็นที่หนึ่ง ยิ่งใหญ่ ก้าวหน้าเหนือใครๆ แต่อย่าเอาความคิดของคุณมาวัดความสุขของผม ถ้าคุณทำแบบนั้นแล้วมีความสุขก็ทำไป ความสุขกับการที่ต้องแข่งขันกับคนอื่น ต้องได้ดีกว่าคนอื่น ถ้านั้นคือความสุขที่แท้จริงของคุณก็ทำไปเลย ไม่มีใครว่าแต่อย่างมายัดเหยียดให้ผม เพราะความสุขของผมคือการที่ผมได้อยู่กับคนที่รักแค่นั้น อย่างอื่นไม่สำคัญ” ผมพูดยาวเหยียดไม่หยุดพักให้เอเดนได้พูดแทรก

        เขาจ้องผมเขม็ง ผมรู้เขาไม่พอใจ แต่ช่างปะไร

        “ผมถามจริงๆเถอะ ความสุขของคุรคืออะไรกันแน่”

        “...” เอเดนเงียบ

        “แล้วคุณอยากรู้ไหมว่าความสุขของผมคืออะไร ความสุขของผมไม่ใช่การทำให้ไร่เป็นที่หนึ่งในประเทศหรือโลก แต่ความสุขของผมก็การทำให้คนที่ผมรักมีความสุข นั่นก็คือพ่อและโยชิน้องชายของผม ความสุขของผมคือการได้อยู่กับคนที่ผมรัก ทำดีต่อเขา รักและดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด นั่นคือความสุขของผม ก็ใช่ ที่ว่าหน้าที่การงานที่สำคัญ แต่ผมไม่เห็นว่ามันจะแย่อะไรนักหนากับการที่ผมและพ่อของผมดูแลพัฒนาไร่มาได้เพียงเท่านี้ ผมทำเพราะผมมีความสุขที่จะทำ ไม่ใช่ทำเพราะอย่างได้ดีกว่าใครๆ คุณเข้าใจที่ผมพูดไหม” ผมหอบเล็กน้อยกับการพูดไปใส่อารมณ์ไป

        เอเดนหันหน้าหนีผมไม่พึงพอใจที่จะรับฟัง ผมคิดถูกคิดผิดที่จะร่วมงานกับเขา เราไม่น่าจะทำธุรกิจด้วยกันรอดเพราะวิสัยทัศของเขา จะต้องนำพาปัญหามาให้ผมในภายหลัง

        ผมตวัดผ้าห่มคลุมโปง จบแล้วสำหรับหน้าที่ในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นคนเฝ้าไข้หรือคนคุยแก้นอนไม่หลับ พรุ่งนี้ผมจะตื่นขึ้นมาแต่เช้าแล้วขับรถกลับบ้านไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น



        เสียงขยับตัวและเสียงเสียดสีของเนื้อผ้าไม่สามารถทำลายนิทรารมย์ของคนที่กำลังนอนหลับฝันดี แสงจากโทรศัพท์สว่างวาบก่อนจะดับแสงเมื่อแนบเข้ากับหู

        “ว่าไงบ้าง ยังไม่ตายสินะ ไม่เป็นไร ฉันไม่ต้องการรู้อะไรจากอเล็กซ์อีก เพราะตอนนี้ฉันเปลี่ยนแผนใหม่แล้ว เราจะกลับอเมริกากันเมื่อฉันหายดี และเราขะมุ่งหน้าไปเม็กซิโกเพื่อจัดการตามแผนใหม่” ดวงตาสีเขียวเข้มสะท้อนแสงยามมองจดจ้องคนที่นอนหลับบนโซฟา

        “อืม...” คนที่กำลังหลับสบายพลิกตัวนอนตะแคงเข้าหาผนัง

        ประกายสีมรกตวูบไหวเกิดความคิดที่ว่าเสียงของตนทำให้อีกคนรำคาญ “แค่นี้ก่อนละกัน ไว้คุยกันพรุ่งนี้ ติ๊ด”

        แสงจากโทรศัพท์สว่างวาบอีกครั้งก่อนจะดับลงเมื่อมันถูกปิดโดยเจ้าของ เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง มีเพียงเสียงลมหายใจของอีกคนที่อยู่ในห้อง

        จู่ๆหัวใจที่ด้านชามานานก็เต้นแรงขึ้น มือยกขึ้นกุมที่หน้าอกข้างซ้าย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีชีวิตที่รู้สึกว่าไม่เหงาในยามค่ำคืน

        ‘ความสุขของผมคือการได้อยู่กับคนที่ผมรัก ทำดีต่อเขา รักและดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด นั่นคือความสุขของผม’

        หยุดความคิดบ้าๆนั่นซะ!

        “หึ ในเมื่อพวกนายรักกันมาก ก็ช่วยแสดงให้ฉันเห็นหน่อยแล้วกันว่าน้องชายของนายจะรักนายมากที่นายรักเขาหรือเปล่า”



       


        Yoshi

        วันหยุดเรียนเปรียบเสมือนเวลาที่มีค่าที่สุดในช่วงเวลานี้ที่จะได้หายใจหายคอได้อย่างสะดวก อาซารู้เรื่องคนในแอชยูที่มีท่าทีแปลกๆต่อผม เขาแค่บอกให้ผมอยู่เฉยๆอย่าไปใส่ใจ จะไม่มีอันตรายเกิดกับผมอย่างแน่นอน เพราะคนพวกนั้นรู้แค่ว่าผมสนิทกับพวกของอาซา แต่ไม่รู้ว่าผมเองก็คือนากินีที่ยังไม่อาจกลายร่าง

        “อรุณสวัสดิ์อเล็กซ์” ผมเดินมาเจอกับอเล็กซ์ตรงบันได ผมและเขากำลังจะลงไปข้างล่างด้วยกันทั้งคู่

        “อรุณสวัสดิ์โยชิ” เขาทักทายผมกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดูสดใสขึ้น อาการเจ็บปวดและบาดแผลค่อยๆดีขึ้นตามลำดับการรักษา

        “คุณดูโอเคขึ้นมากเลยนะ”

        “ต้องขอบคุณพวกคุณมากที่ช่วยชีวิตผมไว้” เขาพูดอย่างนอบน้อม

        “นั่นเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำอยู่แล้ว เพราะคุณช่วยรักษาความลับของอาซาเอาไว้”

        “นั่นเป็นหน้าที่ของผม”

        เขายกมือแตะที่หน้าอกของตัวเองที่มีปานรูปประหลาดเฉกเช่นเดียวกับที่ผมมีปานรูปงู ของอเล็กซ์เป็นปานที่เขาได้มาพร้อมหน้าที่ในการเก็บความลับของอาซาไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้ อย่างน้อยก็พวกที่คิดไม่ดี

        อาซากับพรรคพวกนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ผมเดินไปนั่งข้างอาซาตามความเคยชิน อเล็กซ์นั่งลงข้างๆฟรินน์เพราะเหลือที่ว่างเพียงที่เดียว เช้านี้ผมยังไม่เห็นจูเลียตกับปารีสเลย

        “สองสาวหายไปไหนเหรอ” ผมถาม

        “ไปนวดผ่อนคลายนะ เห็นบ่นว่าปวดเมื่อยเนื้อตัวเพราะช่วงนี้ออกแรงบ่อยเลยขอตัวไปพักผ่อนบ้าง” เวสตันบอกขณะอ่านหนังสือพิมพ์

        “หิวไหม” อาซาถาม ผมส่ายหน้าก่อนจะหันไปถามอเล็กซ์บ้าง

        “อเล็กซ์หิวไหมครับ”

        “ไม่ครับ” อเล็กซ์ส่ายหน้า

        อาซาขยับตัวนั่งหลังตรงจากที่แรกเอนหลังสบายๆ ใบหน้าของเขาจริงจังยามที่จ้องหน้าอเล็กซ์ ฟรินน์เหลือบมองมาทางเราเป็นระยะ

        “คุณมีอะไรจะพูดกับผมหรือเปล่าอาซา” อเล็กซ์ถามด้วยใบหน้าและน้ำเสียงสุภาพ ภาพลักษณ์ของเขาในตอนนี้แตกต่างจากตอนที่สอนมวยในค่าย เพราะตอนนั้นเขาดูโหดและเย็นชา

        “ผมแค่อยากรู้เรื่องที่โยชิสะกดจิต” ผมหูผึงด้วยความอยากรู้ไม่แพ้ใครในบ้าน

        “ผมคิดว่าคุณจะถามเรื่องหัวใจของคุณเสียอีก”

        “เรื่องนั้นผมรู้ดีอยู่แล้ว คุณจะช่วยบอกเรื่องการสะกดจิตโยชิอีกครั้งได้หรือไม่”

        ผมเลื่อนมือเกาะกุมมือของอาซา บอกไม่ถูกว่าผมรู้สึกอย่างไร อาซาอยากให้การสะกดจิตคลาย ผมเองก็ต้องการเช่นนั้น แต่พอลองนึกดูว่า ถ้าการสะกดจิตคลายตัวผมจะต้องกลายร่างเป็นงู ก็เกิดความกังวล ท้องไส้ปั่นป่วนราวกับมีเกลียวคลื่นตีวนอยู่ในท้อง ถ้าผมเปลี่ยนเป็นนากินี มันจะเปลี่ยนไปตลอดกาล และถ้าเป็นเช่นนั้น ชีวิตผมจะเป็นอย่างไร ผมกังวลและก็กลัวการเปลี่ยนแปลง

        “ก็อย่างที่รู้ๆกัน สัญญาณการกลับคืนร่างเกิดตอนที่โยชิยังเด็กไม่ว่าจะเป็นความผูกพันจึงไม่กลัวงู และสามารถพูดคุยกับงูรู้เรื่องโดยใช้ภาษาพาเซล แต่นั่นไม่ใช่เรื่องปกติของมนุษย์ทั่วไป” อเล็กซ์เลื่อนสายตามองจ้องผม “พ่อกับพี่ชายของคุณจึงได้เสาะหาวิธีการรักษาจนมาเจอพ่อของผมเข้า พ่อของคุณเราเรื่องทั้งหมดให้พ่อผมฟัง พ่อจึงขอให้เขาพาคุณไปหา และเมื่อเจอคุณ พ่อจึงรู้ว่า...คุณคือใคร”

        “พวกมนุษย์กลายร่างต่อให้ตายไปแล้ว เกิดใหม่ก็จะระลึกเรื่องในอดีตถ้าหากกลายร่างกลับเป็นเช่นเดิมอีกครั้ง เป็นเรื่องปกติธรรมดา” เวสตันพูด เขาพับหนังสือพิมพ์วางบนโต๊ะเรียบร้อย ขาเปลี่ยนขึ้นไขว่ห้าง สองมือประสานบนหัวเข่า

        อเล็กซ์พยักหน้ายืนยันว่าเวสตันพูดถูกต้อง “พ่ออยากจะไถ่โทษ เลยทำการถอนคำสาปให้กับนาย แต่จะได้ผลหรือไม่ก็ต้องรอลุ้นตอนที่รู้ว่าคุณตกหลุมรักอาซาอีกครั้งและรับรู้ว่าเขาคืออะไร”

        “แต่ที่ไม่เกิดอะไรเพราะผมถูกสะกดจิตใช่ไหม ผมจำที่คุณบอกได้” ทุกอย่างซับซ้อนจนผมมึนงง

        “ใช่แล้ว เพราะพ่อจำเป็นต้องสะกดจิตให้คุณกลัวงู อยู่ห่างจากงู ผิดกั้นความสามารถของคุณเอาไว้ตามคำขอของคนในครอบครัวคุณ ทุกอย่างในตัวคุณจึงถูกปิดกั้นไปด้วย” อเล็กซ์มีสีหน้าหนักใจ

        “หมายความว่า จะรู้หรือไม่ว่าคำสาปถูกถอนออกไปหรือยังก็ต้องคลายการสะกดจิตเสียก่อน” อาซาสรุป

        “อืม” อเล็กซ์พยักหน้า “นั่นคือขั้นตอนแรกที่คุณจะต้องทำ”

        “แล้วเราต้องทำยังไงให้โยชิกลัวขนาดที่การสะกดจิตจะเสื่อมได้” ฟรินน์ที่นั่งฟังเงียบๆถามในสิ่งที่ผมก็อยากรู้

        “ก็คงเป็นวิธีเดียว” เวสตันมองหน้าผมให้กำลังใจ

        อาซาเบี่ยงตัวหันหาผมทั้งตัว ผมกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเข้าใจว่าอาซาต้องการให้ผมทำอะไร วิธีแก้คือทำให้ผมกลัวงูมากๆ กลัวจนแทบขาดใจตายแล้วการสะกดจิตจึงจะสบาย เพราะฉะนั้นความหมายเดียวก็คือ ผมจะต้องเผชิญหน้ากับงู

        “ฉันต้องทำแบบนั้นจริงเหรอ” ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอ

        “ไม่ต้องกังวลน่าโยชิ พวกฉันจะไม่รุนแรงกับนายมาก สัญญา” ฟรินน์ชูสามนิ้วเหมือนลูกเสือให้คำมั่น แต่รอยยิ้มกว้างของเขากำลังแสดงให้เห็นว่าเขาสนุกสนานกับเรื่องของผมพอตัว

        “แค่อาซาคนเดียวไม่ได้เหรอ” ผมต่อรอง ยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่าผมสามารถยอมรับอาซาในตัวตนที่แท้จริงตอนเป็นงูได้ แต่กับคนอื่น ไม่มีวันที่ผมจะชินและหายกลัว

        “ไม่ได้หรอก” เขาสั่นหัว “เดี๋ยวนี้นายไม่กลัวฉันด้วยซ้ำ ใช้ฉันคนเดียวนายไม่มีทางหายแน่ๆ”

        แล้วไม่หายไม่ได้เหรอ เป็นคนปกติไม่ได้เหรอ

        คำถามเหล่านี้ผมได้แค่เก็บไว้ในใจ

        ไม่เกินสองชั่วโมงต่อมา ทุกคนเตรียมพร้อมที่จะทดสอบผม แต่ผมไม่พร้อม มือเย็นเชียบเหมือนถูกแช่ในน้ำแข็ง ผมกลั้นหายใจเมื่อทั้งสามคนกลายร่างเป็นงูต่อหน้า เริ่มแรกเขาบอกว่าจะเริ่มจะตัวเล็กๆขนาดเท่างูปกติ แต่ต่อให้เล็กมากกว่านี้มันก็น่ากลัวในความคิดผม

        สวบ!

        ผมขยับก้าวถอยหลังทันทีที่ฟรินน์ในร่างงูสีเงินขยับเลื้อยเข้าหาผมอย่างรวดเร็วแต่เขาหยุดกลางคัน เขากำลังลองเชิงว่าผมจะทำอย่างได้ ซึ่งบอกเลยว่าผมไม่คิดจะทำอะไรทั้งนั้นนอกจากวิ่งหนี

        “วันหลังได้ไหม ฉันคิดว่าวันนี้ฉันไม่พร้อม” ไม่ต้องพยายาม เสียงของผมก็ย่ำแย่เกินฟัง ทั้งสั่นและแตกพร่า

        ข้างในตัวผมสั่นสะท้าน ผมคิดว่าผมสามารถเผชิญได้กับทุกอย่าง ผมมีความกล้ามากพอที่จะต่อสู้เอาตัวรอดจากนักเลงอันธพาล หรือยืนต่อหน้าหมาป่าตัวใหญ่ที่ผมเคยเจอในตรอกร้านขายหนังสือ แต่ไม่ใช่กับงูทั้งสามตัวที่ชูคอสูงเตรียมพร้อมพุ่งเข้าใส่ผมอย่างไม่ลังเล

        “ยิ่งไม่พร้อมเนี่ยแหละเหมาะที่สุดแล้ว” อเล็กซ์ที่ยืนอยู่ตรงชานบันไดบ้านบอก ผมหันหลังมองด้านหลังของตัวเอง เป็นทางออกไปที่ประตู บริเวณรอบบ้านก็มีแต่ต้นไม้สูงใหญ่ไม่มีที่ให้หนีหรือหลบซ่อน “อย่าช้าอยู่เลย เริ่มได้แล้ว”

        ผมเริ่มอยากให้อเล็กซ์เจ็บหนักจนลุกไม่ได้ก็ตอนนี้

        สีหน้าของผมบิดเบี้ยวตามการขยับตัวของฟรินน์และเวสตัส ส่วนอาซาอยู่นิ่งๆ แต่แววตาของเขาจ้องผมไม่ปล่อย

        ซี่ๆๆๆ ซู่ววว!

        “เฮือก ไม่!!!” ผมขยับเท้าออกวิ่งหนีทันทีที่เวสตันเลื้อยพุ่งเข้ามาหาผมไม่ทันให้ตั้งตัว เสียงสวบสาบดังใกล้เข้ามา ต้นไม้ที่ขึ้นถี่ทำให้การหลบหนีของผมเป็นไปอย่างยากลำบาก ผมพยายามสั่งให้ขาหยุดนิ่งและหันไปเผชิญหน้ากับอสรพิษที่กำลังไล่ล่าผมอย่างเอาเป็นเอาตาย สะกดจิตตัวเองว่าพวกนั้นคือเพื่อน พวกเขาไม่มีทางทำร้ายผม แต่ขาและจิตใจไม่ทำตามคำสั่ง ผมเอี้ยวหลังไปมอง มีเพียงฟรินน์และเวสตันตามผมมา อาซาหายไปไหน

        ฟี่!!!!

        ฟรินน์ที่เร่งเข้ามาใกล้ชูคอสูงแยกเขี้ยวคล้ายจะฉก ผมสะดุ้งตกใจร่างเกร็งก่อนจะหุนหันกลับหลังหันเตรียมวิ่งหนี แต่คิดไม่ถึงว่าโดนขวางหน้าด้วยร่างยาวสีดำ ผมเบรกขาสองข้างกะทันหัน หัวใจแทบหยุดเต้น

        “ไม่! หยุดเถอะ ฉันกลัวแล้ว!!!”

        แต่พวกเขาไม่หยุด ผมสะดุดล้มรีบเปลี่ยนทิศทาง อากาศรอบตัวคล้ายจะหมดลงทุกที เสียงในหัวตอบสนองต่อเสียงร้องของอสรพิษ บอกว่าผมต้องหนี ต้องหนีให้ถึงที่สุด ไม่งั้นผมจะต้องตาย

        ผมวิ่งเต็มฝีเท้า แทบจะควบคุมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว



       
        …………………….
        กราบขออภัยคนที่ฟินกับคู่พี่เมื่อตอนที่แล้ว ความร้ายกาจของเอเดนไม่อาจหยุดได้แต่เพียงเท่านี้ ฮ่าๆๆๆ  :laugh:
        สงสารน้องโยชิ ก็อย่างที่อเล็กซ์บอก ไม่มีทางที่โยชิจะเลิกกลัวงูจนกว่าจะคลายการสะกดจิตได้ เรามาเอาใจช่วยโยชิกันเถอะ :hao5:
        ป.ล. ริริแก้ไขเนื้อหาบางประโยคที่กำกวมทำให้ผู้อ่านสับสนในตอนที่14แล้วนะคะ ไม่ต้องย้อนไปอ่านก็ได้ เพราะในตอนนี้อธิบายใหม่ให้เข้าใจแล้ว :katai2-1:
        ป.ล.2 หากมีคำผิดขออภัย ไม่มีเวลาตรวจทานเลยค่ะ หากใครพบเจอช่วยบอกทีนะคะ ขอบคุณค่ะ :pig4:
        สุดท้ายก่อนจาก...ใครอ่านอยู่อย่าลืมทักทายแสดงความคิดถึงหรือความคิดเห็นให้กันบ้างนะคะ ขอกำลังใจนิสสสสนึง :กอด1:

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: jay10-8 ที่ 18-02-2015 23:01:58
 :z13: :z13: :z13:





 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 18-02-2015 23:05:55
อิป้าเจองูแค่ตัวเดียวก็จะแย่ นี่ตั้ง 3 โยชิ สู้สู้ อาซาอยู่เคียงข้างหนูเสมอ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 18-02-2015 23:15:13
 :serius2: สู้ๆ นะโยชิ คิดถึงที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 18-02-2015 23:18:17
สู้ๆนะโยชิ เลิกกลัวงูซักทีเน้อออ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-02-2015 23:24:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 18-02-2015 23:33:31
อยากให้โยชิเลิกกลัวงู ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆ
แต่มีลางว่าไม่น่าหายตอนนี้
กลัวสุดๆ อาจจะหายตอนเจอเอเดนในร่างงูก็เป็นได้
 :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 18-02-2015 23:39:30
เอเดนนี้มันเอเดนจริงๆเลย นี้ถ้าเห็นเเววไม่โอไม่ยกพี่ยอร์ชให้จริงๆนะนาย คิวพระเอกพี่อยร์ชเยอะนะจ๊ะ
เเล้วกลับอเมริกานี้จะเอาพี่ยอร์ชไปด้วยป่ะ ถ้าเอาไปก็ไปขอพ่อเขาก่อนล่ะไม่ใช่ฉุดไปเลยนะนาย
รอตอนหน้าค่ะ นี้ลุ้นคู่พี่นะค่ะ ส่องหน้าเพจทุกวันๆเลย เเล้วตอนหน้านี้โยชิจะเป้นยังไง เจอไปเบาๆ 3 ตัว ตายค่ะตาย
กอดๆๆๆคุณริรินะค่ะ :กอด1: :กอด1: :L2:รอตอนต่อไปทุกวันเลยนะค่ะ รอตอนต่อป รอเซตต่อไปด้วยนะ ฮาาาา
ตอนเเรกคิดว่าเอเดนจะให้พี่ยอร์ชนอนด้วยที่ไหนได้ พูดให้เขาโกรธอีก ขัดใจจริ๊งงง :a5: :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 19-02-2015 00:08:52
เริ่มสงสารพี่ชายโยชิแล้วอ่ะ

เอเดนจะต้องทำอะไรแน่นอนๆๆๆ

 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 19-02-2015 00:29:31
 :a5: ค้างเลยจ้า
>///< ลุ้นคู่เอเดนมากๆ แฮ่ๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 19-02-2015 07:11:58
สาธุ!!!!! ขอให้เอเดนหลงรักพี่ยอร์ชจนหน้ามืดตามัวด้วยเถอะะะะะะะ หมั่นไส้อิตางูคนพี่จริงๆ พี่ยอร์ชน่ารักจะตาย ชิชะ!!!
เอาใจช่วยโยชิ กลัวจนช็อคเลยๆ จะได้เป็นงูเร็ว(โหดร้ายยยย)
รอตอนต่อไปน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: seraty ที่ 19-02-2015 08:04:29
เอเดนเเล้ววันนึงนายจะเสียใจที่ทำกับคนที่พี่ยอร์ชรัก นายจะไม่ถูกรัก นายจะถูกคนเกลียดชังหากยังไม่เลิกนะ......
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 19-02-2015 09:33:01
เอเดนนนน
มีแผนอะไรอีก
กลับตัวกลับใจเหอะขอร้องงงง
ส่วนโยชิสู้ๆน้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 19-02-2015 10:09:16
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 19-02-2015 10:44:34
เราว่านะ เอเดน จะต้องลักพาตัว พี่ยอร์ช ไปด้วยแน่ๆ เลย

หนูโย พยายามเข้าน้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 19-02-2015 14:12:33
 :กอด1: มาต่อไวๆเลยค่าาาา ลุ้นจะแย่ยุแล้ว อ่านไปจิกตัวเองไปง่าาาาา โยชิอ่ะไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่หรอก แต่ยอร์ชนี่สิน่าห่วงกว่า เอเดนก็เหลือเกิน เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองซักที TT ไม่เอามาม่านะ เค๊าไม่อยากร้องไห้ฮือออออ  :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 19-02-2015 14:31:53
เอเดนจะทำอะไรอีกล่ะเนี่ย ป้าได้ปริ่มแค่แปปเดียวเองนะ

สู้ๆนะโยชิ ต้องผ่านไปได้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: lazyvespa ที่ 19-02-2015 14:58:31
คิดถึงน้องโยชิกับอาซาาา :mew1:
แต่มานิดเดียวเองง่ะ 55555  :katai1: :katai1:
รอตอนต่อปายยย ขอให้น้องโยชิทำสำเร็จจจจ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: Sha-em ที่ 19-02-2015 15:33:05
เห้อออ ไม่ไหวเลยเอเดน จะทำอะไรระวังจะเสียใจ ส่วนโยชินายวิ่งซะเหนื่อยแทน ถ้าเป็นเราคงกลัวจนก้าวขาไม่ออกแน่

ตอนนี้ติดเรื่องนี้มากอ่ะ เข้ามาส่องแทบทุกวันเลย ขอบคุณ RiRi ที่เขียนนิยายสนุกๆมาให้อ่านนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 19-02-2015 18:55:48
ร้ายมากๆจะให้พี่ยอร์ชสั่งสอนซะให้เข็ด :angry2:
โยชิ พยายามเข้านะ จะได้กลายเป็นงูเลื้อยพันกันอาซาสักที 555 :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-02-2015 19:50:30
เอเดนนิสัยเปลี่ยนไป

เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมากๆ

อย่างน้อยเอเดนก็มีความรู้สึก

ส่วนโยชิทำแบบนั้นจะดีเหรอ

ไม่ใช่ว่ากลัวจนกลายเป็นบ้าหรอกนะ(อันนี้ขำๆเน้อ)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 19-02-2015 20:21:18
กรี๊ดดดอ่ะ พี่ยอร์ชทำให้หัวใจน้ำแข็งของเอเดนค่อยๆละลายแล้วววววว
อ่านๆไป ไม่รู้ทำไมลุ้นคู่พี่ยอร์ชกับเอเดนสุดๆ
แต่โยชิกับอาซาก็ยังปลื้มมากๆอยู่น้า
ถ้าเป็นนิยายกำลังภายใน ตอนนี้คงใกล้ถึงช่วงที่โยชิจะทะลวงจุดหยิมต๊กของตัวเองได้แล้ว
คนแต่งสู้ๆนะคะ นิยายสนุกมากกกกกก
+1  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 19-02-2015 23:02:57
เอเดนอย่าทำเรืองเลวร้ายเกินให้อภัยนะ เพราะฟินกับคู่คุณพี่มากกกก
แอบสงสารโยชิกับวิธีฟื้นความจำ รู้สึกคิดถึงเรื่องนี้ทุกครั้งที่อ่าน ริริ มาต่อบ่อยๆสิค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-02-2015 10:42:47
เป็นกำลังใจให้คุณริริค่ะ

สู้ๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 21-02-2015 11:44:01
โยชิ หายกลัวงูสักทีนะะะะ
 :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: bluelatte ที่ 21-02-2015 23:23:08
ขออนุญาตรวบยอดคอมเม้นท์เลยนะคะ หลังจากที่ใช้เวลาค่อนวันตามอ่านจนทัน ไม่ว่ากันเนอะะ  :mew2:
คือแบบว่านิยายเรื่องนี้เป็นอะไรที่ แอร๊ยยยยยย ผิดคาดมาก คือแบบแปลกได้ใจอ่ะ
ไม่คิดว่าพระเอกจะเป็นคุณพี่งูตัวดำมะเมี่ยม คือเราเองเป็นคนที่กลัวงูมากนะ
พอมาอ่านนิยายเรื่องนี้เลยทึ่งๆ กับพี่งูที่อ่านแล้วจิ้นแบบเกล็ดเป็นเกล็ด ลิ้นเป็นแฉก ฮ่าา
แต่อ่านแล้วก็ไม่ได้กลัวพี่งูนะ แอบฟินแอบจิ้นซะอีก เนื่อเรื่องแบบอ่านแล้วลุ้นตามมาก
ยิ่งหลังๆ นี่แอบร้อง 'เหยดดดดดดด' ในใจหลายรอบเลย กับเนื้อเรื่องที่แบบปริศนาจริงจัง
คือแบบพี่อาซากับหนูดาร์เรลผ่านอะไรกันมาเนี้ยย เป็นปริศนาเยอะเหลือเกิน ลุ้นจนเมื่อยแล้วนะ ฮาา
ตัวละครในเรื่องแต่ละตัวนี่ก็ลึกล้ำมาก ขนาดปุยเมฆนี่ยังแอบสงสัยเลย อนาคตจะเปลี่ยนร่างมั้ยน้าา
ส่วนเอเดนนี่จะโดนพี่ยอร์ชปราบมั้ยเนี่ย แถมยังมีหน้าดึงพี่ยอร์ชเข้ามาก่อเรื่องอะไรกับหนูโยชิอีก
มีแต่เรื่องทั้งนั้น เอาเป็นว่าจะรอตอนต่อไปแล้วกันค่ะ จะทั้งกด(?)และดัน(??) ไปเรื่อยๆ น้า
เป็นกำลังใจให้ริริเน้อ แถมยังเหลืออีกสามหนุ่มให้รออ่าน จะตามไม่ปล่อยเลยจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 23-02-2015 20:36:34
ตื่นเต้นที่สุดดดดดดดดดดดด เอเดนต้องคิดทำอะไรไม่ดีแน่ๆ เอาพี่ยอร์ชไปเกี่ยวด้วย  :z3:
อีกด้านก็ตกอกตกใจกับพวกงู หนูโยชิทำใจดีๆไว้นะลูกกกกก :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-02-2015 20:49:11
มารอพี่ริริจ้า

อยู่ไหนเอ่ย

ออกมา ออกมา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: alien.aiiwz ที่ 24-02-2015 19:30:05
ตามอ่านตั้งแต่ต้นจนจบในคืนเดียว
จริงๆเราเป็นคนกลัวงูมากกก
แต่อ่านๆ ไปกลับเทใจให้อาซาพี่งูดำหมดใจ
น้องโยชิก็น่าร้ากกกก
 :hao5: :hao5:

ลุ้นว่าจะสำเร็จมั้ย
ขอให้โยชิกลายร่างได้ทีเถ้อะะะ
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 24-02-2015 21:26:42
ตอนนี้คำผิดเยอะจ้า แต่มิต้องกังวลรอตรวจทานตอนออกเป็นเล่มก้อได้จ้า :mew3: โยชิต้องสู้น่ะ เพื่ออนาคตที่ดีกว่าอยากเห็นโยชิกลายเป็นงูจังเลยน่ะ แล้วก้อร้อยรัดกับอาซา โอ๊ยฟินจริง ๆ  :mew4: เอเดนจะเปลี่ยนเพียงชั่วข้ามคืนได้ไง แค้นฝังหุ่นมานานซะขนาดนั้น  :katai3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ 18-02-2015[P.45]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 25-02-2015 20:35:44
ลุ้นๆๆๆ โยชิจะหายจากโรคกลัวงูไม๊ !!! ??? ริริมาต่อไวๆ นร้าาาา กะลังสนุกเรยยยยย :katai1: :katai1: :ling3: :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 03-03-2015 20:38:07
          หลังจากที่ลงไปตอนล่าสุด จน ณ ปัจจุบันก็ยังหาเวลาแต่งไม่ได้ เนื่องด้วยเวลาที่มีอย่างจำกัด และต้องเร่งทำหนังสือเรื่อง Mafia 'n Doll ที่กำลังจะส่งตีพิมพ์ให้เสร็จสิ้น จึงไมมีเวลาแต่งพี่งูของเราเลย วันนี้เลยว่าแจ้งว่า ขอเวลาอีกสิบวันนะคะ แล้วจะมาลงพี่งูให้ได้อ่านกัน
ขอบคุณนักอ่านที่เฝ้ารอและติดถาม คอยถามทวงกันมานะคะ อดใจรอกันอีกนิด ไม่ทิ้งไม่ไหนแน่นอนค่ะ
          จึงเรียนมาเพื่อทราบ
          ริริ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: BoJuNg ที่ 03-03-2015 20:51:04
รอค่าาาา   
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 03-03-2015 21:37:17
สู้ๆน้าคะะะะะะะะ
รออ่านพี่ยอร์ชกับเอเดน ฮี่ๆ ช่วงนี้เชียร์คู่นี้
เผื่อความรักจะทำให้อะไรๆมันดีขึ้นเนาะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 03-03-2015 21:43:56
มารอออออ  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 03-03-2015 21:49:45
รอได้แต่อย่านาน......
ช้าได้แต่ห้ามหาย.....
เพราะไม่ว่ายังไงอิป้าก็รักอาซา...เอ๊ะ..รักหนูโยจังดิ...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 03-03-2015 21:58:42
 :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: Sha-em ที่ 03-03-2015 22:03:03
รอได้ค่าา แค่ไหนก็รอได้
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 06-03-2015 11:24:55
รอนะรอๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 06-03-2015 11:52:40
รอตอนต่อไปนะจ๊ะ ส่งกำลังใจไปให้ริรินะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 06-03-2015 12:42:16
รอจ้า ^^
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 06-03-2015 19:09:58
รับทราบจ้า

ขอตอนเอเดนกับพี่ยอร์ชด้วยนะ

ชอบๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: bankimpossible ที่ 09-03-2015 18:06:30
 :katai1: :katai1:

ลงแดงแว๊ววว !! พี่งู

ง่อวววว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 10-03-2015 18:20:03
มารอริริกันเถอะ ๆๆๆๆ.  ^____^
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: alien.aiiwz ที่ 15-03-2015 20:53:28
สิบกว่าวันแล้วน้าา
คิดถึงพี่งูกับโชิแว้วววว
มาเร็วววว

 :call:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ SEVENTEEN ❁ แจ้งข่าว 3-03-2015[P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 19-03-2015 23:11:06
คู่พี่ชายนี่มัน..  ปาดน้ำลาย เอเดนเป็นงูที่มีอายุมากกว่าปู่ทวดของปู่ทวดของปู่ทวดยอร์ชเสียอีก แบบนี้ถ้าในอนาคตงูกับคนเกิดสปาร๊คกันขึ้นมาจริงๆจะถือว่าเอเดนกินเด็กรึเปล่าเนี่ย55+
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 25-03-2015 20:27:20
B.L.O.O.D.L.I.N.E
EIGHTTEEN





     
        “โยชิ”

        ‘ดาร์เรล’

        เสียงเรียกจากที่ไกลๆ อ่อนโยนคุ้นหู

        ทำไมรอบตัวอึดอัดคล้ายจะหายใจไม่ออกแบบนี้นะ ผมเหมือนถูกมัดด้วยเชือดเส้นใหญ่ จะขยับก็ขยับไม่ได้ ทรมาน คล้ายกับบางสิ่งบางอย่างในตัวกำลังจะระเบิด ร้อนเหมือนถูกไฟแผดเผา

        ปวดร้าวตามร่างกายจนแทบทนไม่ไหว

        “โยชิ! ตื่นสิ!”

        เฮือก!!!

        เสียงหอบหายใจของผมดังก้องห้องนอน หัวใจเต้นเร็วมาก ผมไม่สามารถควบคุมลมหายใจได้จนสำลัก

        “แค่กๆๆ”

        “ใจเย็นๆ ค่อยๆหายใจ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร”

        อาซาช่วยประคองตัวผมลุกขึ้นนั่ง แต่ทันทีที่เขาสัมผัสตัวผมก็เหมือนถูกจี้ด้วยไฟร้อนๆ ร่างกายสะดุ้งกระถดตัวนี้ อาซาก็ตกใจไม่น้อยกับปฏิกิริยาของผม เขาเอื้อมมือมาใกล้เผื่อหวังสัมผัสอีกครั้ง แต่เป็นผมที่เบี่ยงหนี

        “โยชิ” เขาครางเสียงชื่อผมเสียงพร่า

        ผมทำหน้าไม่ถูก ลูบหน้าตัวเองอ่อนแรง ในคอร้อนวูบวาบแห้งผาก “ขอน้ำหน่อยสิ”

        “ได้ๆ รอแปบหนึ่งนะ” อาซากระวีกระวาดรีบไปเอาน้ำมาให้ เขาใช้เวลาไม่นาน แค่คราวนี้ไม่ได้มีแค่อาซาคนเดียว คนอื่นๆก็เข้ามาด้วย รวมถึงอเล็กซ์ คนต้นคิดให้ทำเรื่องแบบนั้น

        วินาทีสุดท้ายที่ผมจำได้ก่อนสลบ...เขี้ยวที่เต็มไปด้วยพิษเตรียมจะฉกเข้าหาผมอย่างไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ว่าคนๆนั้นเป็นใคร แต่เป็นหนึ่งในห้องนี้ที่กำลังยืนสำนึกผิดรอบเตียงนอน

        “ดื่มน้ำก่อนนะ” อาซาค่อยๆป้อนน้ำให้ผมดื่ม เขาเกร็งกับการเข้าใกล้ผม ผมมองแก้วน้ำในมือขาวซีด จดจ้องอย่างใจเย็น ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อตะกี้ ตอนที่เขาโดนตัวผมทำไมถึงแสบร้อน

        มือเล็กบางค่อยๆวางทับมืออาซา รอดูอาการที่จะเกิดขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่เรื่องที่รู้สึกไปเอง

        ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ร้อนและไม่เป็นอะไรเลย อาซามีสีหน้าดีขึ้น เขากล้าที่จะโดนตัวผมและช่วยประคองให้ผมดื่มน้ำถนัดถนี่

        ผมกระหายน้ำอย่างนัก ทันทีที่หยดน้ำไหลลงสู่คอความยากและความต้องการกลับเพิ่มขึ้นไม่มีที่สิ้นสุด น้ำแก้วโตหมดเกลี้ยง แต่ผมกลับไม่หายอยาก น้ำเปล่าไม่ช่วยให้ผมดีขึ้น เหมือนเด็กกระหายน้ำอัดลม น้ำเปล่าที่กินไปจึงมีค่าเท่ากับศูนย์

        “อยากดื่มอีกเหรอ” อาซาถามเมื่อเห็นมองตามแก้วน้ำ

        “อืม”

        อาซารินน้ำให้ผมอีกแก้ว ผมรับมาดื่มอึกๆรวดเดียวเกลี้ยง แล้วก็เหมือนเดิม ทำไมผมถึงได้หิวน้ำขนาดนี้ เหมือนคนไม่ได้ดื่มน้ำมาแรมปี

        ผมไม่ได้ร้องขอน้ำอีกแก้ว แต่กลับถามสิ่งที่สงสัย “ฉันสลบไปนานแค่ไหน”

        “หนึ่งวัน” อาซาตอบ

        “เหรอ”

        แปลก...มันน่าแปลก

        ตึก

        “อ๊ะ!” ผมสะดุ้งอีกครั้ง เพียงแค่อเล็กซ์ขยับเข้ามาใกล้ และเมื่อหางตาเห็นวางฟรินน์ยกมือขึ้นผมก็ผวาหนีติดหัวเตียง

        ยิ่งผมมีอาการแปลกๆ เกือบทุกคนก็พยายามที่จะเข้ามาหาผมเพื่อดูอาการ แต่ทว่า ภาพยามที่ถูกเหล่างูไล่ล่าติดตาไม่อาจสลัดทิ้ง ผมเกิดความระแวงจนควบคุมตัวเองไม่ได้

        “ทุกคนออกไปก่อน โยชิกำลังกลัว” อาซาบอกกับทุกคนเสียงนิ่ง แววตาของเขาทอดมองผมด้วยความเป็นห่วง

        “พวกฉันขอโทษนะ ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้” เวสตันพูดจากใจ ผมมองเขานิ่งก่อนจะพยักหน้ารับรู้

        คนอื่นๆทยอยกันเดินออกจากห้อง เหลือเพียงอาซาที่ไม่ไปไหน แววตาของเขามีแต่ความเจ็บปวด เขาคงรู้สึกผิดที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้

        “ฉันขอโทษ ฉันแค่อยากให้การสะกดจิตคลายแต่ไม่ทันได้นึกว่าจะทำให้นายแย่”

        “ไม่เป็นไร” ถึงผมจะไม่โอเคกับความหวาดกลัวที่ยังหลงเหลือ แต่ผมไม่เคยคิดโกรธหรือกล่าวโทษอาซา เพราะรู้ว่าเขาต้องการทำไปเพื่ออะไร แต่มันค่อนข้างเป็นเรื่องยากสำหรับผม การเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัว ยิ่งเกิดจากการสะกดจิต ย่อมร้ายแรงกว่าความกลัวตามธรรมชาติ แบบนั้นผมอาจห้ามจิตใจตัวเองได้ แต่กับสิ่งที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะทำใจกว้าสักแค่ไหน แต่แค่เห็น แค่อยู่ใกล้ๆงูที่ไม่ใช่อาซา ความกลัวก็วิ่งริ้วๆเข้าจับจองทั่วร่าง เป็นไปเองโดยอัตโนมัติ อยู่นอกเหนือการควบคุมเสมอ

        “แล้วเราจะเอายังไงกันต่อ” ผลลัพธ์ที่ได้ไม่น่าพอใจ ถ้าจะให้ลองอีกหนผมกลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหว

        “เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ฉันอยากให้นายหายดี”

        “ขอโทษนะที่ฉันขี้ขลาดเกินไป”

        “ไม่เป็นไร นายไม่ผิดหรอกนะ”

        “เราจะผ่านมันไปได้ใช่ไหม” ถ้าผมจะแข็งแกร่งเพื่อสู้กับเอเดนเคียงข้างอาซาโดยพึ่งการคืนร่าง ผมก็ต้องทำมันให้สำเร็จ

        “ฉันเชื่อว่านายจะเอาชนะมันได้”

        ถ้าอาซายังเชื่อมั่นในตัวผม ผมก็จะเชื่อมั่นในตัวเอง

        ผมไม่หยุดกระหายน้ำและคอก็แห้งผากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมื้ออาหารเย็นมาถึง ของผมเป็นข้าวต้มร้อนๆ แต่ของพวกเขาเป็นสเต็กแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ ผมมองเห็นเลือดที่ชุ่มช่ำอยู่ภานในเนื้อ ลอบกลืนน้ำลายลงคอ ผมไม่เคยอยากกินแบบที่พวกเขากิน แต่ทำไมตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่า...มันน่ากิน

        ครืด

        “ฉันอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะ”

        ผมลุกหนีออกจากโต๊ะอาหารอย่างไร้มารยาท ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นและรู้สึกถึงความแปลกประหลาดของตัวเอง ผมยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง






        สองวันต่อมา

        ผมยังไม่หายดีเท่าไหร่ อาการหวาดผวาตลอดเวลาที่เห็นอะไรเคลื่อนไหวแบบไม่ได้ตั้งตัวเป็นผลข้างเคียงจากวิธีคลายสะกดจิต ผมสะดุ้งทุกครั้ง ให้เปรียบก็คงเหมือนกับคนบ้าจี้ที่ถูกจั๊กจี๋มากๆ เวลาเห็นใครยื่นมือเข้าใกล้ก็มักสะดุ้งตัวหนีตลอดเวลา ผมเป็นแบบนั้นเลย ช่วงนี้เลยขอให้ทุกคนในบ้านยกเว้นอาซาอยู่ห่างจากผมสักพัก ก่อนที่ผมจะสติแตก

        “โยชิ ว่ายังไง จะไปด้วยกันไหม” เติร์ดหยุดขวางหน้าผมที่เดินเหม่อลอย

        “อะไรนะ” ผมมัวแต่คิดมากจนไม่ได้ฟังที่เติร์ดพูด

        “ฉันถามว่านายจะไปที่คาเฟ่แมวกับฉันไหม”

        “อ่อ ไปสิ”

        “โทรบอกอาซาแล้วเหรอ”

        ผมส่ายหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาอาซา ผมอยากให้จิตใจผ่อนคลาย ตอนนี้สถานการณ์คงตัว ผมคิดเช่นนั้น เพราะอย่างน้อยๆเอเดนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไร อเล็กซ์ยังคงปลอดภัยดีอยู่ที่บ้านของเรา ผมเลยจะขอไปหายใจหายคอกับเติร์ดบ้างยามเลิกเรียน

        “เลิกเรียนแล้วเหรอ” อาซาถามเมื่อรับสาย

        “อืม เลิกแล้ว แต่ว่า...ฉันจะขอไปเที่ยวกับเติร์ดได้ไหม ที่คาเฟ่แมวไม่ไกลจากแอชยู” ผมเดินตามเติร์ดไปรถ เพื่อขับไปรับปุยเมฆที่คอนโดก่อน

        “ฉันว่าอย่าดีกว่าไหม” อาซาใช้น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย

        “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไปแปบเดี๋ยว นายจะตามไปหาก็ได้”

        “เอางั้นก็ได้ ถ้าฉันเสร็จธุระแล้วจะรีบไปหานะ”

        “อืม”

        ผมวางสายอาซาพลางถอนหายใจ อย่าว่าแต่ปุยเมฆเลยที่ไม่ค่อยร่าเริง ช่วงนี้ผมก็รู้สึกว่าตัวเองเหี่ยวเฉาไร้เรี่ยวแรง

        ผมนั่งรอเติร์ดในรถระหว่างที่เขาขึ้นไปเอาเจ้าปุยเมฆลงมา ผมยังไม่มีโอกาสได้ขอบคุณเจ้าแมวน้อยเลยที่ช่วยเหลือผมกับอาซา แหละสาเหตุที่ทำให้ปุยเมฆป่วยก็น่าจะเป็นเพราะเขาใช้พลังเยอะเกินไป การไปคาเฟ่แล้วครั้งนี้เป็นการพาปุยเมฆไปเปิดหูเปิดตาเจอเพื่อนๆบ้าง เพราะเติร์ดเล่าให้ฟังว่าช่วงนี้ปุยเมฆไม่ร่าเริงเท่าที่ควร

        คาเฟ่ที่ว่าเพิ่งเปิดใหม่ เจ้าของเป็นคนรักแมว แมวที่วิ่งเล่นอยู่ในร้านก็เป็นแมวของเจ้าของร้านทั้งนั้น ไม่ต่ำกว่าสิบตัวเท่าที่เห็น

        “Kitty Cat Café ยินดีต้อนรับค่า” เสียงหวานใสของพนักงานกล่าวต้อนรับ

        “สวัสดีครับ” เติร์ดหันไปทักทายก่อนจะเดินตรงไปโซนของเล่นแมว คล้านๆสนามเด็กเล่นที่ย่อส่วนให้พอเหมาะกับตัวเล็กๆของเหล่าขนปุยทั้งหลาย

        เมี๊ยวๆๆ

        “อะไรน่ะหืม ไม่ลงไปเล่นหรือไง เพื่อนเยอะแยะเลยนะปุยเมฆ” เติร์ดคุยกับปุยเมฆที่ใช้กรงเล็บเกาะตัวเติร์ดไม่ยอมลงไปเล่นข้างล่าง

        “แปลกที่หรือเปล่า อาจจะไม่ชิน” ผมสังเกตจากอาการ แมวตัวอื่นมองปุยเมฆอย่างสนใจก่อนจะส่งเสียงร้องกันระงม

        “ยังไงละเนี่ย” เติร์ดทำหน้าคิดหนัก ปุยเมฆสงบลงเมื่อเติร์ดไม่ได้จับเจ้าตัววางลงที่พื้น ผมมองปุยเมฆที่มองแมวตัวอื่นตื่นๆด้วยความสนใจ

        ปุยเมฆไม่ใช่แมวธรรมดา ปุยเมฆสามารถกลายร่างเป็นคนได้ แต่แค่ยังทำไม่ได้เท่านั้น เหมือนกับผม ต่างกันตรงที่ว่าผมถูกสะกดจิต ส่วนปุยเมฆ...ผมไม่ทราบสาเหตุ อาซาไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ตอนนี้ปุยเมฆจะรับรู้สิ่งรอบตัวได้เหมือนคนหรือเปล่า ฟังภาษาคนรู้เรื่อง เข้าใจทุกอย่างเหมือนที่มนุษย์เข้าใจแม้ว่าจะอยู่ในร่างแมว

        “คุณครับ ผมลงไปนั่งข้างในได้ไหมครับ” เติร์ดถามเจ้าของร้าน

        “ได้ค่ะ ตามสบายเลย” เจ้าของร้านบอกยิ้มแย้ม

        เติร์ดก้าวข้ามรั้วกั้นเตี้ยๆเข้าไปภายในสนามเด็กเล่นของแมว ค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงกับพื้นหญ้าเทียม เกาคางให้ปุยเมฆเคลิ้ม เจ้าเหมียวปรือตาพริ้ม เอียงคอเอียงหนาหามือกว้าง ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม

        “เด็กดีนะเด็กดี” เติร์ดอาศัยตอนที่ปุยเมฆกำลังเคลิบเคลิ้มวางเจ้าขนปุยลงกับพื้น เจ้าเหมียวตัวอื่นเห็นว่าเพื่อนใหม่อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ก็เดินเข้าหา ดอมดมกลิ่นแปลกอย่างสนอกสนใจ

        เติร์ดอ่อนโยนเสมอยามอยู่กับปุยเมฆ แต่เวลาปกติเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่แข็งกระด้างในบางครั้ง ร่าเริงในบางหน และจริงจังเมื่อเห็นสมควร อ่อนโยนเมื่ออยู่กับสิ่งที่รักใคร่

        “เอาอะไรไหม ฉันจะไปสั่งเครื่องดื่ม” ผมถามเติร์ดที่เพลิดเพลินกับการเล่นหยอกล้อกับเหล่าลูกแมวทั้งหลาย

        “โกโก้ปั่นสักแก้วก็ดี”

        ผมเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่ม ระหว่างรอก็มองสำรวจรอบๆไปเรื่อยๆ มองออกไปนอกร้าน รถราวิ่งผ่านฉิว จนกระทั่งถนนโล่งชั่วขณะ สามารถมองเห็นคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามท้องถนน

        “พี่ยอร์ช? เอเดน?” ผมครางเสียงหายในลำคอ ตัวชาวาบยากจะกระดิกตัว ยังไม่ทันที่จะมองให้ชัดว่าเป็นสองคนที่ผมเพิ่งจะเอ่ยหรือไม่ ก็มีรถคันหนึ่งวิ่งบดบังผ่านหน้า มองอีกทีก็ไม่มีใครยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว

        ผมไม่มีทางตาฝาด ผมเห็นแน่ชัดว่าสองคนนั้นที่ผมเห็นคือพี่ยอร์ชกับเอเดนแน่ๆ ถึงจะแค่แวบเดียว แต่กับพี่ยอร์ชที่เป็นพี่ชายของผม ไม่มีทางที่ผมจะจำพลาด และเอเดน ตัวร้ายที่ผมจำหน้าเขาได้ขึ้นใจ คนที่มีหน้าตาโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ขนาดนั้น ยังไงก็ต้องใช่

        ผมหันไปมองเติร์ดที่ยังคงให้ความให้ความสนใจกับปุยเมฆ เป็นไงเป็นกัน ผมต้องออกไปดูให้รู้เรื่องว่าเป็นสองคนนั้นแน่หรือเปล่า ถ้าใช่...แสดงว่าพี่ยอร์ชกำลังตกอยู่ในอันตราย

        ผมวิ่งข้ามถนนไปยังจุดที่เห็นเอเดนและพี่ยอร์ชยืนอยู่ เดินหาไปตามทางจนกระทั่งเริ่มได้กลิ่นคาวของเลือด เท้าทั้งสองข้างหยุดชะงัก หันหลังไปอีกทางอย่างรวดเร็ว ทางเดียวกับที่ลมพัดมา ลางสังหรณ์บอกว่าจะต้องเป็นทางนั้น ผมเดินตามกลิ่นเลือด จากช้ากลายเป็นเร็วเมื่อได้กลิ่นเลือดคละคลุ้งยิ่งกว่าเดิม ในกายรู้สึกปั่นป่วน อยู่ๆก็เกิดความกระหายขึ้นมาฉันพลัน กลับกลายเป็นรู้สึกว่ากลิ่นเลือดนั้นช่างหอมหวานและเย้ายวนให้ลิ้มลอง ผมเผลอลอบกลืนน้ำลายลงคอ ขาสองข้างเดินตามกลิ่นไปเรื่อยๆจนกระทั่งหยุดยืนอยู่ที่รอยเลือดจุดใหญ่บนพื้น รอยเลือดลากเป็นทางยาวไปไปข้างหน้า ผมเดินตามไปจนกระทั่งรอยเลือดหายเข้าไปในประตูของคลับแห่งหนึ่งเบื้องหน้าที่เงียบกริบรอเวลาเปิดในยามค่ำคืน

        “ไง ตามมาถูกด้วยนี่” เสียงดังจากเหนือหัว ผมเงยหน้ามองช้าๆ

        “...!” เอเดนอยู่ข้างบนนั้น เป็นเขาจริงๆด้วย ถ้าอย่างนั้นพี่ยอร์ชอาจจะอยู่ข้างใน

        ผมเปิดประตูคลับกว้างแล้วเดินเข้าไปข้างใน ข้างล่างไม่มีใครสักคน ถ้างั้นก็ต้องเป็นข้างบน จากเดินเปลี่ยนเป็นวิ่ง ระเบียงที่เอเดนยืนเป็นชั้นสามของคลับ ผมวิ่งผ่านชั้นสอง แต่ไม่ลืมที่จะกวาดตามองว่ามีใครหรือมีอะไรผิดสังเกตบ้าง เอเดนล่อผมมาที่นี่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ผมจะต้องช่วยพี่ยอร์ชให้ปลอดภัย

        “พี่ยอร์ชอยู่ที่ไหน!” ผมเดินเข้าไปหาเอเดนอย่างหงุดหงิด กลิ่นเลือดข้างบนนี้ตลบอบอวลไปทั่ว ถ้าเป็นปกติกลิ่นแบบนี้คงชวนคลื่นไส้ แต่เพราะผมไม่ปกติอีกต่อไป ถึงได้รู้สึกว่ากลิ่นมันหอมหวานจนน่ากลัว

        “หึหึ แล้วนายคิดว่าเขาอยู่ที่ไหนละ” เอเดนกระตุกยิ้มเยาะ

        “อย่ามาเล่นลิ้น บอกผมมาว่าพี่ผมอยู่ที่ไหน แล้วคุณทำอะไรพี่ผม!” ผมโกรธขึ้นเรื่อยๆ เป็นกังวลใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับพี่ยอร์ช

        “ฉันยังไม่ได้ทำอะไรพี่ของนายหรอกน่า แต่ต่อไปก็ไม่แน่” เขาเดินเข้ามาใกล้ผม ก้มหน้าพูดให้ผมได้ยินชัดเจนแล้วก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง “นั่งสิ ฉันมีเรื่องจะตกลงกับนาย”

        ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเรื่องอะไร

        “บอกผมมาก่อนว่าพี่ผมอยู่ที่ไหน เมื่อกี้เขาอยู่กับคุณ” ต้องรู้ให้ได้ว่าพี่ยอร์ชยังปลอดภัย

        “วางใจได้ ตอนนี้พี่ของนายยังอยู่ที่ไร่ แต่ที่นายเห็นก็แค่คนหน้าเหมือนที่ลูกน้องของฉันหามาเพื่อล่อนาย เป็นยังไง เหมือนดีใช่ไหม”

        ผมมองเอเดนอย่างไม่ไว้ใจ “ฉันจะเชื่อนายได้ยังไง”

        “ก็ลองโทรไปหาพี่ของนายดูสิ แล้วถามว่าเขาเป็นยังไงบ้าง”

        ผมหยุดคิดแต่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาพี่ยอร์ช โดยที่ไม่ได้ละสายตาไปจากเอเดน กลัวว่าเขาจะตุกติกเล่นไม่ซื่อ

        “ฮัลโหล เป็นไงว่าคนเก่งของพี่” เสียงพี่ยอร์ชดูปกติไปจนถึงมีความสุข

        “พี่ยอร์ชอยู่ที่ไหน” ผมเลียบๆเคียงๆถาม

        “อยู่ไร่สิครับ แล้วโยชิอยู่ที่ไหน สบายดีหรือเปล่า”

        “อยู่ในแอชยูครับ โยสบายดี พี่ยอร์ชแค่นี้ก่อนนะโยติดธุระเดี๋ยวโทรหาใหม่”

        “อ่อ ได้ๆ พี่ก็ทำงานอยู่ยุ่งๆ ไว้คุยกันนะตัวเล็ก”

        “ครับ” ผมวางสายพี่ยอร์ช ค่อยโล่งใจหน่อยที่พี่ยอร์ชไม่เป็นอะไร

        “หมดเรื่องแล้วก็นั่งลงซะ เราจะได้คุยธุระของเรา”

        “ไม่ใช่ของเรา มันของนายคนเดียว”

        ผมเดินไปกระแทกตัวนั่งที่เก้าอี้อีกตัว เผลอย่นจมูกด้วยความไม่ชอบใจ ไม่ชอบจริงๆที่ผมกลับรู้สึกชอบกลิ่นเลือดอย่างไร้สาเหตุ แต่พยายามไม่แสดงอาการให้ใครผิดสังเกต

        “มีอะไรก็ว่ามา แต่บอกไว้ก่อนว่าถ้าเป็นเรื่องหัวใจบาซิลิสก์ นายจะไม่มีทางสมหวัง” ผมเข่นเขี้ยวฟัน

        เอเดนทำตาขวาง “แม้ว่ามันจะแลกมาด้วยชีวิตของพี่นายอย่างนั้นสินะ”

        “ห้ามทำอะไรพี่ยอร์ชนะ!”

        “ก็ไม่แน่ ถ้าฉันไม่ได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ นายก็ไม่มีวันได้ชีวิตพี่ชายของนายกลับไป”

        “นายต้องการอะไร”

        “ก็อย่างที่นายเข้าใจ ฉันต้องการหัวใจบาซิลิสก์จากไอ้อาซา นายต้องไปพูดให้มันยอมยกให้ฉัน ถ้าสำเร็จพี่นายจะปลอดภัย แต่ถ้าไม่...เตรียมหลุมฝังศพเอาไว้ได้เลย”

        “เอเดน! นายมันเลว!!!”

        “ก็แล้วแต่จะคิด” เขาไหวไหล่ท่าทางสบายๆ ไม่สะทกสะท้านกับคำด่าทอ

        “แล้วนายคิดได้ยังไงว่าอาซาเขาจะยอม หัวใจบาซิลิสก์เป็นของเขา นายไม่มีสิทธิ์”

        “ยอมไม่ยอมมันอยู่ที่นาย ถ้าอยากให้ยอร์ชปลอดภัยนายก็ต้องทำให้สำเร็จ แต่ถ้านายพยายามไม่พอหรือไม่ให้ความร่วมมือแต่โดยดี ก็จงรู้ไว้ว่าที่พี่ชายของนายต้องตายก็เพราะนายเห็นคนอื่นดีกว่าพี่ตัวเอง”

        ผมกำมือแน่น ไม่รอช้า ชกเข้าที่หน้าของเอเดนเต็มแรงแบบที่ถูกสอนมาว่าต้องต่อยที่ตรงไหน เอเดนหน้าหัน ผมไม่รอให้เขาได้ทันตั้งตัว ผมลุกขึ้นยืนแล้วก็ยกเท้าถีบยอดอกเอเดนไปอีกหนึ่งทีด้วยความโมโห เขากล้าเอาพี่ชายของผมมาเป็นเครื่องต่อรอง เอาคนสำคัญของผมทั้งสองคนมาเป็นเครื่องมือ เขามันไม่มีหัวใจ

        ปึก!

        หมัดของผมที่กำลังจะกระแทกหน้าเอเดนถูกคว้าเอาไว้ได้ ก่อนจะถูกดันออกอย่างแรงจนผมหงายหลังไปกับพื้น ความเฉอะแฉะที่ข้างแก้มกลับกลิ่นเฉพาะทำให้รู้ว่ามันคืออะไร

        “เลือด...” เลือดใคร ไม่ใช่ของผมอย่างแน่นอน

        ผมหน้ามืดกะทันหันและรู้สึกเวียนหัว ท้องไส้ปั่นป่วน อยู่ดีๆก็กระหายน้ำอย่างที่สุด สติของผมบอกว่าให้กินเลือดตรงหน้าซะ

        ทำไม เพราะอะไรกัน?

        ผมสะบัดหัวไล่ความมึนงง ผมไม่ทันสังเกตเลยว่าบนนี้มีรอยหยดเลือดกระจายตัวอยู่ไม่น้อย

        “ท่าทางนายแปลกๆนะ”

        “ไม่ใช่เรื่องของนาย!” ผมตวาดเสียงดัง หยัดตัวลุกขึ้น บอกตัวเองว่าไม่ ผมไม่ได้ต้องการเลือด ผมไม่ได้กระหายเลือด ถ้าพวกมนุษย์กลายร่างดื่มเลือดเป็นอาหาร บอกเลยว่าการที่ถูกพวกอาซาในร่างงูไล่ล่าเพื่อให้หลุดจากการสะกดจิตในวันนั้นทำให้ผมมีอาการพิลึกพิลั่นแบบนี้ แม้จะยังกลายร่างไม่ได้ แต่ผลที่เกิดกับผมต้องเป็นเพราะวิธีนั้นอย่างแน่นอน วันนี้เพิ่งจะรู้แน่ชัด

        “งั้นเหรอ นายมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า” เหมือนเอเดนจะไม่เชื่อ เขามองผมที่เช็ดเลือดออกจากแก้มครุ่นคิด

        “กลิ่นเลือดงั้นเหรอ มันหอมหวานดีใช่ไหมละ นายมีปฏิกิริยากับมันนะโยชิ รู้ตัวหรือเปล่า”

        “ไม่” ผมปฏิเสธ ปกปิดความจริงไม่ให้เอเดนล่วงรู้

        “แน่ใจเหรอ” เขายังคงไม่เชื่อ

        ผมต้องรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เอเดนจะรู้ว่าผมเป็นอะไร

        “ฉันจะทำตามที่นายบอก แต่นายห้ามทำอะไรพี่ยอร์ช ขอตัว” ผมพูดไปส่งๆ เดินเลี่ยงอย่างว่องไว

        ฉึก!

        “โอ๊ย”

        แขนของผม!!

        “หึหึ ฮ่าๆๆๆ” เอเดนหัวเราะราวคนบ้า ก่อนจะจ้องผมด้วยแววตาสนุกสนาน ผมใช้มือขวากดบาดแผลที่ต้นแขนซ้ายไม่ให้เลือดไหลลงมามากกว่านี้ มองมีดสั้นที่อยู่ในมือเอเดนก่อนจะเลื่อนขึ้นมองหน้าเอเดนอย่างเคียดแค้น

        “นายเป็นนากินีหรือนี่ แถมยังกลายร่างไม่ได้ด้วย ไม่น่าละ ฉันถึงไม่ได้กลิ่นนาย” เขาเดินเข้ามาใกล้ กระชากแขนผมเข้าหาตัว ไหล่ที่มีแผลกระแทกกับหน้าอกแน่น เจ็บจนต้องร้องออกมา

        “อยากให้ฉันช่วยไหมละ สักวิธีหนึ่งที่จะกระตุ้นตัวตนของนาย เอาแบบไหนดีนะ”

        “ไม่ต้อง! ปล่อยผม!!!” ผมดิ้นให้หลุดจากมือใหญ่ที่แข็งแรงราวคีมเหล็ก

        “ก็ช่วยให้นายกลายร่างได้ยังไงละ นากินีตัวน้อย” คำพูดของเขาเหมือนจะปราณี แต่ไร้ความจริงใจสิ้นดี

        “ไม่ อย่ามายุ่งกับฉัน!” ผมจ้องเอเดนด้วยความแค้นเคือง มองการกระทำของเขาอย่างรังเกียจเดียดฉันท์

        ผมทั้งถีบทั้งสะบัดตัวแต่ก็ไม่หลุด แต่แค่เอเดนผลักผมเบาๆตัวผมก็ปลิวลงกระแทกพื้นอีกรอบ ผมนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ ลืมตามองเอเดนอย่างไม่ยอม เขายกยิ้มสนุกกับความเจ็บของผม ก่อนจะพูดด้วยภาษาแปลกๆที่ไม่ใช่ภาษาคน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงฟังมันรู้เรื่องทั้งหมด

        ‘ฉันจะทำให้นายกลับคืนสู่ร่างเดิม’

        “ไม่!”

        ผมร้องสุดเสียง ยามที่ร่างของเอเดนกลายเป็นงูตัวใหญ่ ใหญ่เท่าตัวคน งูสีเงินที่มีสองหัวเหมือนที่ผมเคยฝันเห็น ร่างกายของผมกระเสือกกระสนดิ้นรนหนีเอาชีวิตรอด ลุกขึ้นวิ่งไปที่ประตู แต่ถูกเอเดนใช้หางฟาดจนประตูปิดสนิทแน่น ตึกสามชั้นสั่นสะเทือนไม่ต่างจากแผ่นดินไหว ผมก้าวถอยหลังไม่เข้าใกล้หางของเขา แต่เมื่อหันหลังกลับก็เจอส่วนหัวที่จ้องอยู่ตรงหน้าผมแค่คืบ

        ดวงตากลมโตของผมเบิกโผลงแทบสิ้นสติ ปากของเขาอ้ากว้างเผยให้เห็นเขี้ยวใหญ่อาบหยาดพิษที่แสนน่าหวั่นกลัว

        พริบตาเดียวเอเดนก็เลื้อยเข้าใกล้ผมก่อนจะตวัดรัดร่างผมเอาไว้ ผิวหนังผมสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบที่เสียดสี รับรู้ได้ถึงเกล็ดแข็งที่ถูไถกับผิว เกิดกระแสความกลัวที่มีแต่ความขยะแขยงพาดผ่านร่างกาย เสียงร้องไห้ดังแทบจะขาดใจ ดิ้นรนให้พ้นจากร่างงูของเอเดนที่รัดผมแน่น เขากำลังจะบดกระดูกผมให้แหลกเป็นผุยผง

        ผมกลัว ผมไม่ไหวแล้ว เหมือนหัวใจเต้นแรงถึงขีดสุดแล้วดำดิ่งลงสู่ห้วงมหาสมุทรในฉับพลัน ผมเริ่มหายใจไม่ออก กายสะท้านเยือก แม้แต่ลืมตามองรอบตัวยังทำไม่ได้

        ผมกำลังจะตาย...ใครก็ได้ช่วยผมที ผมหายใจไม่ออก

        “ปล่อยผมไป ไม่เอาแล้ว ผมกลัว ฮือ” เสียงผมไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบ ไม่ได้ดังพอที่จะร้องขอให้ใครช่วย

        ความร้อนรุ่มในร่างกายเพิ่มมากขึ้นเหมือนมีเตาเผาอยู่ข้างใน แผดเผาให้เกิดความทุรนทุราย แล้วทุกอย่างก็ระเบิดเป็นเสี่ยงๆ การตระหนักรู้ค่อยๆหายไปทีละน้อย

        ผมตายแล้วจริงๆใช่ไหม

        ผมรู้สึกได้ว่าร่างกายของผมล่วงหล่นลงพื้น เจ็บร้าวเกินจะกระดิกตัว ลมหายใจรวยรินลงทุกที คำสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่ผมจะตายก็คือ

        “เลื้อยกลับไปหาไอ้อาซาแล้วอย่าลืมทำตามที่ฉันบอกด้วยล่ะ ถ้ายังอยากให้พี่ชายของนายมีชีวิต”

        ผมจะทำได้ยังไง ผมกำลังจะตาย

        อาซา...ฉันขอโทษ ฉันรักนาย



       
     



       
.......
         ริริผิดไปแล้ววววววววว  :hao5:ได้โปรดให้อภัยที่หายไปนาน เขายุ่งมากจริงๆอยากให้เข้าใจ แต่ก็กลับมาแล้วนะ จะพยายามมาลงให้บ่อยๆ ช่วงนี้ก็ยังยุ่งอยู่บ้าง แต่เคลียร์ตอนพิเศษที่กำลังพิมพ์เล่มมาเฟียแล้ว เลยมีเวลามากขึ้นที่จะแต่งพี่งูต่อ
         ไม่รู้คนอ่านยังรออยู่ไหมนะ ตอนนี้น้องโยก็กลายร่างเป็นงูอย่างที่ทุกคนรอคอยแล้ว แต่จะเป็นยังไงต่อไปต้องติดตาม เนื้อเรื่องกำลังเดินเข้าสู่จุดไคลแม็กซ์แล้วนะ กรุณากลั้นหายใจให้ดี เอเดนร้ายกาจมากขอบอก ฮ่าๆๆๆ (ไว้ให้พี่ยอร์ชปราบทีหลัง งุงิงุงิ :katai3:)
         ใครที่รออ่านอยู่เม้นบอกเขาหน่อยนะ ตอนหน้าจะรีบปั่นมาให้ได้อ่านกัน
         มีคำผิดต้องขอโทษด้วยนะคะ พิมพ์เสร็จแล้วลงเลย ไว้จะมาแก้คำผิดให้ทีหลัง  :katai4:
         ด้วยรักจากใจ  :mew1:
         ริริ  :กอด1:




หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 25-03-2015 20:51:22
โอ๊ยยยยยยยย ริริกลับมาแล้ววววว เย้!!!!
โยชิเปลี่ยนร่างซะแล้ว อาซาจะทำยังไงดี
พี่ยอร์ชคะ!!! มาปราบ(ว่าที่)แฟนพี่เดี๋ยวนี้เลย
เอาฉากมุ้งมิ้งๆของสองคนนี้เยอะๆน้าาา
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 25-03-2015 21:01:07
เอเดนแมร่งงง!! โยชิกลายร่างได้แล้ว
มันน่าตื่นเต้นตรงนี้แหละ ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
สู้ๆค่ะ และขอบคุณมากๆที่มาต่อนิยายเรื่องนี้นะค่ะ
เรารออยู่ทุกวัน เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 25-03-2015 21:02:48
เย้ๆ ริริกลับมาแล้ว เค้านั่งออนเฟสรอทุกวันเบยยยย  :katai4:
ในที่สุดหนูโยก็กลายร่าง แต่ดูจากบทพูแล้วก็ภาพประกอบในเฟส คงเป็นงูขาวที่ขนาดปกติใช่มั้ย หรือตัวใหญ่ / / อาซาเห็นคงอึ้ง ฮ่าๆ
แอบข้ามไปแต่งตอนที่ทั้งคู่รัดกันในร่างงูแทนได้มั้ย กรั้กๆๆ  :hao7:  ท่าจะแซ่บน่าดูเพราะในอดีตก็พันกันเป็นเดือนๆ  :katai5:  :hao6:
รอตอนต่อไปน้า คิดถึงมาก รอหนูเลโอด้วยยยยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: bankimpossible ที่ 25-03-2015 21:28:16
อ๊าก !!  :fire: :fire:
อยากบอกว่ารอตอนที่โยชิกลายร่างเป็นงูมาโดยตลอด
อ่านไปหัวใจก็เต้นแรงลุ้นระทึกไป ...
โดยส่วนตัวไม่ชอบอ่านนิยายแนวแฟนตาซี
แต่เรื่องนี้เป็นข้อยกเว้นจริง ๆ สนุกมาก !

ปล. เป็นกำลังใจให้ริริ นะคับ หวังว่าคงได้อ่านตอนต่อไปในไม่ช้านี้


 :a5: :a5: อยากอ่านตอนต่อไปเร็ว ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 25-03-2015 22:25:44
ว้าววววววววววววววมาแล้ววววววววว
คือเราสงสัย
เอเดนรู้ได้ยังไงว่า สะกดจิตจะคลายต่อเมื่อกลัวถึงขีดสุดโยชิจะกลายเป็นงู
อเล็กบอกแต่พวกอาซานิน่า

ตอนนี้อ่านแล้วลุ้นระทึกมาก
อยากอ่านตอนหน้าต่อแล้ว ว่าเจออาซาจะเป็นไง
แล้วจะกลับคืนร่างคนได้ไหม?
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-03-2015 23:15:30
โอ๊ยยยยยยย ลุ้นนนนน

สรุปน้องโยชิกลายเป็นงูแล้วช้ะ

ต้องขอบคุณเอเดน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 25-03-2015 23:29:49
อ่านานมากกว่าจะมา

รอจนลืมไปแล้วนะ อิอิ(ล้อเล่น)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-03-2015 00:10:45
 :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 26-03-2015 00:24:12
 :katai1: :katai1: :katai1: ฮือ ๆๆๆ โยชิ จะเป็นไงต่อไป
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 26-03-2015 01:47:19
ค้าง ค้าง ค้างมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ทำไมทำกับเราแบบนี้หล่ะ   :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 26-03-2015 03:19:45
 :z3: ค้างงงงงงง ริริมาต่อแล้ว
แต่เหมือนกับจะทำให้ยิ่งค้างมากขึ้นอีกเนี่ย รีบมาต่อเร็วๆน้าาาา รออยู่  :3123:
ปล. คำผิดเยอะจิง แต่ไม่เป็นไรเพราะรู้ว่าคนเขียนรีบแต่ง เพื่อคนอ่านที่เฝ้ารอ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-20 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 26-03-2015 05:55:40
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 26-03-2015 08:06:54
เอาล่ะเหวยทีนี้ จะทำยังไงล่ะทีนี้หนูโย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 26-03-2015 12:09:40
โยชิแปรงร่าง  :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 26-03-2015 15:46:25
 o18 หนูโยจะเป็นไงมั่งน๊า ลุ้นๆค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 26-03-2015 18:17:11
เห็นว่ามาแล้วก็ดีใจมากกกกก
พออ่านแล้วยิ่งดีใจใหญ่
น้องโยกลายร่างแล้วววว
รอๆๆ สนุกแน่งานนี้ ที่แน่ๆ
พี่อาซาคงดีใจมากกก รอฉากสำคัญ :hao6:
เลื้อยๆพันๆ เลื้อยๆพันๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 26-03-2015 21:28:11
ค้างมากบอกเลย เอาอีกๆ

หนูโย ทำใจดีๆ ไว้นะ

 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 26-03-2015 21:53:45
โยชิ ผู้น่าสงสาร :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 26-03-2015 22:34:24
ค้างงงงงงง
ฮือออ ริริจบได้ค้างมากก
โยชิจะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย
เอเดนไอเลววววว
เลวมากเดี๋ยวไม่ให้คู่พี่ยอร์ชเลยหนิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 27-03-2015 00:34:19
กรีสสสสริริมาแร้วววว เมื่อกี้นึกว่าตาฝาดดดด เรื่องนี้สนุกมากๆ คิดถึงริริกอดดดดดด มาต่อไวๆ นร้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 27-03-2015 00:54:42
น้องโยเปลี่ยนเป็นงูน้อยแล้วใช่ไหม
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 27-03-2015 01:29:02
 :katai1: :katai1: o22
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 27-03-2015 01:37:14
น้องโยชิกลายร่างแล้ว. จะเป็นยังไงต่อไปนะ. อาชาอยู่ไหนรีบมาช่วยโดยด่วนนะจ๊ะ ^___€ :mew6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: T_t⊙€i☜♥♡ ที่ 27-03-2015 07:21:34
ในที่สุดก้ออ่านตามทันแล้ว
ชอบเรื่องนี้มากเพราะส่วนตัวชอบงูอยู่แล้้วเรื่องนี้เลยโดนใจเต็มๆเลย
จะรอโยชิน๊า
 :hao7:   :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 27-03-2015 12:02:36
พี่ยอร์ชค่ะ มาเก็บเอเดนปด่วนเลยค่ะ วุ่นวายมากเพราะเอเดนคนเดียวเลยค่ะ :hao7:
ตอนหน้าโยชิเเปลงร่างเเล้วจ้าาาา รอค่ะรอ โง้ยยยยยย คุณริริหายไปนานมากกกกกก
นี้รอหน้าเพจทุกวันเลย เเต่เพิ่งได้มาอ่านก็วันนี้เเหละ รอตอนต่อไปนะค่ะ คุณริริสู้ๆนะ!
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 27-03-2015 18:48:40
โยชิกลายร่างแล้ว

แอบดีใจ อิอิ

แล้วอาซาจะว่าไงเอ่ย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: fernfabled ที่ 28-03-2015 18:26:07
โยเป็นน้องงูแล้วววว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: bankimpossible ที่ 30-03-2015 19:35:43
เข้ามาร้อน้องงู ! ...
5 วันผ่านไป .......
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 31-03-2015 13:12:23
สนุกๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 31-03-2015 17:03:28
มารองูน้อยตัวขาวๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ EIGHTTEEN ❁ อัพแล้วค่ะ 25-03-2015 [P.46]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 31-03-2015 17:11:24
โยชิจะแปลงร่างเป็นยอดมนุษย์ โดนอาซา  :z6:

จะเปลี่ยนร่างเป็นอะไรก็ขอให้น้องปลอดภัย  :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 31-03-2015 23:35:25
B.L.O.O.D.L.I.N.E
NINETEEN





        ผมอาจจะกำลังฝัน หรือผมอาจจะตายแล้วอยู่ในสวรรค์หรือไม่ก็นรกที่ใดที่หนึ่ง รอบข้างที่แต่หมอกและควัน ก้มมองพื้นดินที่ผมยืนอยู่ พื้นดินแห้งแตกระแหง ทั้งที่มันเคยเป็นทุ่งดอกยิบโซฟิล่าอย่างที่ผมเคยชอบ เขาคนนั้นเป็นคนปลูกมันให้ผม

        แสงสว่างเจิดจ้าส่องมาทางเบื้องหน้า ผมเงยหน้ามองแต่ก็ต้องยกมือขึ้นบังเพราะไม่อาจสู้แสงที่สาดส่องเข้าดวงตา จนแสงนั้นลดความเจิดจ้าลง มือที่ยกกั้นค่อยๆลดลงแนบข้างลำตัว

        สิ่งที่เห็นคือภาพฉายคล้ายหนังในโรงภาพยนต์อยู่เบื้องหน้า

        ใครในนั้นคือคนเดียวกับเขา คนที่ให้ทุกอย่างกับผม

        ‘เจ้าชื่ออะไร’
        ‘เดี๋ยวสิ ข้าถามชื่อเจ้าอยู่นะ’
        ‘ดาร์เรล’
        ‘ข้าชื่ออาซา’


        ผมกำลังตั้งใจดูแต่แล้วภาพก็ดับวูบหายไป เกิดภาพอีกภาพขึ้นทางขวา ผมหันไปมอง

       ‘ให้ข้าช่วย’
        ‘ไม่เป็นไร ข้าทำเองได้’
        ‘เอามาเถอะ’
        ‘เจ้าชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นแบบนี้ตลอดเลยเหรอ’
        ‘ไม่ ข้ายุ่งเฉพาะเรื่องของเจ้า’


        แววตาของเขาคนนั้น

        ตึกๆๆๆ

        อ่า...หัวใจเต้นแรงจัง เหมือนจะกระเด็ดหลุดออกมาจากอก

        ซาบซึ้งกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาได้ไม่นาน ภาพก็หายไปอีกครั้ง เกิดเสียงจากทางด้านหลัง ผมหมุนตัวกลับเพื่อมอง

        งูสีขาวขนาดเท่าท่อนแขนกำลังเลื้อยเล่นน้ำอยู่ในลำธารใส ฉากหลังคือดอกอะไรสักอย่างสีม่วงทิ้งช่อห้อยลงหนาแน่นเป็นม่านแพรดูละมุนละไม

        ‘เวลาเจ้าอยู่ในร่างงูนี่น่ารักดีนะ ขาวจั๊วะเลย’
        ‘ไม่เหมือนเจ้า ตัวดำน่ากลัว’

       
        เจ้างูตัวขาวเหน็บจบก็เลื้อยแหวกสายน้ำจากไป

        ภาพเริ่มไม่ชัดและเปลี่ยนไปอีกครั้ง

        ‘อย่าร้องไห้ เจ้ายังมีข้า’
        ‘ข้าคิดถึงพ่อกับแม่’
        ‘พ่อกับแม่ก็กำลังคิดถึงเจ้า’


        เขาโอบกอดคนที่กำลังร้องไห้ แต่ทำไมอยู่ๆผมก็พลันอุ่นวาบในอก รับรู้ได้โดยพลันว่าจะไม่มีทางโดดเดี่ยวบนโลกที่กว้างใหญ่และแสนอ้างว้าง

        ‘ข้ารักเจ้า’
        ‘ข้าก็รักเจ้าเช่นกัน’
        ‘ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ข้าก็จะยังรักเข้าอยู่แบบนี้ ข้าไม่มีวันที่จะลืมเจ้า แล้วเจ้าล่ะ เมื่อถึงวันนั้น จะลืมข้าหรือไม่’
        ‘ไม่ ข้าจะรักเจ้าเหมือนกับวันนี้ วันที่ข้ารักเจ้าสุดหัวใจ’


        ผมร้องไห้ท่ามกลางภาพที่ฉายอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ภาพทั้งหมดจะดับวูบ ผมรู้สึก เรื่องราวเหล่านั้นคือผมกับอาซา ถึงจะเห็นและจำได้ไม่ทั้งหมด แต่ผมรู้แน่ชัดว่านั่นคือเขาและผมอย่างแน่นอน

        ผมปวดหัวรุนแรง ไม่อาจลืมตามองสิ่งรอบตัว ปวดจนหัวจะระเบิด มือทั้งสองข้างขยุ้มหัวก่อนจะกรีดร้องด้วยความทรมาน

        อ๊ากกกก!!!

        ปึก!!!

        ร่างกายที่แน่นิ่งบนพื้นกระดุกชักหนึ่งทีก่อนที่ผมจะรู้สึกตัว

        ครืดดด~

        ซี่ๆๆ

        เจ็บจัง เจ็บเหมือนร่างถูกรถบรรทุกทับจนกระดูกป่นแหลกละเอียด ผมลองขยับตัวช้าๆ ค่อยๆหายใจเข้าออก หลับตาพลางคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ผมตามเอเดนมาเพราะคิดว่าพี่ยอร์ชอยู่กับเขา แต่ไม่ใช่ เขาต้องการให้ผมไปตกลงกับอาซาเพื่อแลกหัวใจบาซิลิสก์กับชีวิตของพี่ยอร์ช จากนั้นเขาก็บอกว่าเขาจะทำให้ผมกลางร่างเป็นงู

        เดี๋ยวนะ!

        แล้วตอนนี้ผมยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?!

        ผมลืมตาขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่ มันต้องไม่ใช่ภาพแบบนี้ การมองเห็นของผมเปลี่ยนไป ผมไม่สามารถมองเห็นภาพตรงหน้าอย่างที่เคย สิ่งที่เห็นเลือนรางคล้ายคนสายตาไม่ดี เห็นเป็นภาพแต่ไม่ชัด เห็นเป็นสีแต่มัวและเบลอจนไม่ขอบที่ชัดเจน

        บอกตามตรง ผมยังทำใจไม่ได้ นี่ผมเป็นงูแน่แล้วใช่ไหม แล้วเป็นงูแบบไหน

        ...หรือว่า...

        งูสีขาวในความฝันคือผมสินะ

        ร่างกายที่ร้าวรานของผมทำให้ผมขยับร่างกายอย่างลำบาก แล้วนี่ผมต้องทำยังไง ผมไม่มีขาทั้งสองข้างให้เดิน ผมต้องเลื้อยแบบที่งูทำกัน แล้วผมต้องทำยังไง ผมไม่กล้าขยับตัวด้วยซ้ำเพราะผมไม่ชิน ไม่รู้วิธีการเลื้อย ไม่มีใครบอกผมได้ว่าผมควรเคลื่อนที่ไปข้างหน้ายังไง

        บ้าเอ้ย

        ซี่ๆๆ

        แม้แต่เสียงพูดยังเป็นเสียงร้องของงู

        ผมแย่แน่ๆ

        อาซา...นายอยู่ที่ไหน ช่วยฉันที

        ตึกๆๆๆ

        “มีคนบอกว่าได้ยินเสียงมาจากชั้นสาม เสียงเหมือนของหล่นโครมใหญ่ หรือจะเป็นขโมยวะ” เสียงพูดของมนุษย์ดังแว่วมาจากชั้นล่าง และได้ยินเสียงก้าวเดินอย่างชัดเจน

        ผมต้องรีบหนี จะให้ใครเห็นผมในสภาพนี้ตอนนี้ไม่ได้ เพราะว่าพวกเขาอาจจะฆ่าผมด้วยการเหยียบผมให้แบนคาเท้า หรือไม่ก็อาจจะเอาโต๊ะหรือเก้าอี้แถวๆนี้ฟาดจนผมหลังหัก จากที่รอดชีวิตมาได้จะมาตายเอาเพราะเซ่อซ่าเลื้อยไม่เป็นก็ดูจะน่าสมเพชเกินรับได้

        “ไม่เป็นไร ถึงเป็นขโมยจริง เราก็เปิดกล้องวงจรปิดดูได้”

        “โทรแจ้งตำรวจหรือยัง”

        “แจ้งแล้ว เดี๋ยวก็คงมา”

        เสียงคนพูดใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จากที่ฟังน่าจะมีมากกว่าสองคน ผมไม่มีทางเลือก ยังไงก็ต้องเลื้อยให้ได้ ผมหลับตาแล้วลองจินตนาการว่าตัวเองกำลังคลานไปกับพื้นเหมือนว่าตัวเองเป็นมนุษย์ปกติ แล้วก็ได้ผล ผมเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้ ผมอดทนข่มความปวดตามร่างกายใช้เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดพาตัวเองไปหลบที่หลังกระถางต้นไม้ปลอม ตรงหน้าตรงกับซอกตู้วางแก้วพอดี คงจะพอใช้เป็นที่กำบังสายตาของพวกที่มาได้ชั่วระยะหนึ่ง

        วินาทีที่ผมพาตัวเองมาอยู่หลังกระถางต้นไม้ประดับใบใหญ่ พวกนั้นก็ก้าวพ้นบันไดขึ้นมาถึงชั้นสาม ผมลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ทั้งที่ความจริงแล้วทำไม่ได้ เป็นแค่เพียงจินตนาการของผมเท่านั้น

        อยากจะร้องไห้...ผมไม่ชินเลยที่ตัวเองต้องเป็นงู

        “เฮ้ย! ทำไมมันเละแบบนี้วะ นี่ร้านเราถูกพังเหรอวะ” เสียงแหบกร้าวดังลั่นร้าน ทำเอาผมสะดุ้งตกใจตามเสียง หดตัวเข้าหลบให้ลึกที่สุดไม่ให้ใครสังเกตเห็น ผมกลัวเหลือเกิน

        “แม่งเอ้ย ใครทำวะ มีรอยเลือดด้วย”

        เลือด...ใช่ กลิ่นเลือด

        พอใครสักคนพูดผมก็เพิ่งจะรู้สึกเพิ่งจะได้กลิ่น ความกระหายในตัวผมตีขึ้นมาจุกอยู่ที่อกอีกครั้ง ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัว เสียงร้องภายในสั่งให้ผมเลื้อยออกไปกินเลือดนั่นซะ แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้ ผมออกไปจากตรงนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะรู้ มนุษย์กับงูไม่ใช่เพื่อนร่วมโลกที่ดีต่อกัน ถ้าเขาเห็นผมในร่างงู เขาจะต้องหาทางกำจัดผมสักวิธี

        ตึกๆๆ

        “พวกนายมาดูตรงนี้เร็ว มีคนตาย!”

        “เฮ้ย!!! ไหนวะ จริงด้วย ใครเอาเขามาฆ่าที่นี่วะ!!!”

        “ชิบหายแล้วไง ในตัวไม่มีเลือดเลยสักหยด แม่งถูกสูบเลือดหรือไงวะ”

        “รีบโทรแจ้งรถเก็บศพมาดิ มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย”

        “ทำไมตำรวจยังไม่มาอีก”

        “ลงไปดูกันดิ พังๆ วันนี้คงต้องปิดร้าน”

        “ต้องหาพระมาสวดไล่วิญญาณด้วย ถ้าข่าวหลุดออกไปลูกค้าหายแน่ๆ”

        เสียงพูดคุยโหวกเหวกค่อยๆหายไปพร้อมกับเสียงฝีเท้าลงบันไดไปชั้นล่าง ผมโผล่หัวออกไปมองลู่ทาง ผมต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่คนอีกมากมายจะแห่มาที่เกิดเหตุ

        คนที่ตายจะต้องเป็นคนที่หน้าเหมือนพี่ยอร์ชที่ผมเห็น เอเดนคงทำอะไรกับเขาสักอย่าง และเลือดที่ผมตามกลิ่นมาก็ต้องเป็นเลือดของเขาอีกเช่นกัน

        ฉันขอโทษ ขอให้นายไปสู่สุขคตินะ

        ซี่ๆๆ ซีๆๆ~

        ผมออกจากที่ซ่อนเชื่องช้าเพราะแรงมีน้อย มองตรงบันไดอย่างระแวดระวัง กลัวจะมีใครเดินขึ้นมา เสียงพวกเขาดังก้องอยู่ข้างล่าง ไม่รู้ว่าชั้นหนึ่งหรือชั้นสอง ผมมีทางออกอยู่สองทางคือลงทางบันไดกับทางระเบียง แน่นอนว่าผมต้องเลือกทางบันได ถึงตอนนี้ผมจะเลื้อยได้ด้วยการคิดว่าตัวเองกำลังคลานอยู่กับพื้น แต่ผมยังไม่คิดว่าตัวเองจะเลื้อยลงทางเสาในแนวดิ่ง เพราะผมอาจจะหล่นหัวทิ่มพื้นแทนเลื้อยลงไปอย่างสวยงาม

        โอ๊ย!

        ซวี้!!

        เจ็บ...ร่างกายผมจะไม่ไหวแล้ว

        ผมกัดฟันเลื้อยลงบันได้ไปเรื่อยๆ ผมต้องทำได้ ผมต้องไม่ตายในตอนนี้ ผมยังต้องช่วยพี่ยอร์ช ต้องกลับไปหาอาซา กลับไปหาพ่อคนที่ผมรัก ผมต้องมีชีวิตรอด ผมบอกตัวเองและใช้มันเป็นแรงกายพาตัวเองลงไปสู่ชั้นล่าง กว่าจะลงมาถึงผมก็แทบขาดใจทุกครั้งที่ลำตัวของผมกระทบขั้นบันไดขั้นแล้วขั้นเล่า

        “ตำรวจใกล้ถึงแล้วนะ แล้วเติ้ลมันไปไหน” มีคนเดินมาทางที่ผมกำลังจะเลื้อยไปที่ประตูทางด้านหน้าที่ผมเข้า

        “ไปถามคนแถวนี้เผื่อว่าจะมีใครเห็นคนร้าย เพราะกล้องวงจรปิดเสียหมดทุกตัว ไม่เป็นอะไรสักอย่าง”

        “แม่งเอ้ย!”

        ผมคงออกไปทางด้านหน้าไม่ได้แน่ๆ ร้านแบบนี้จะต้องมีทางออกด้านหลัง ผมคงต้องลองไปทางนั้นดู อีกนิดเดียวเท่านั้นโยชิ กลั้นใจหน่อย แกจะต้องรอดต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้

        ผมกลั้นใจเฮือกสุดท้ายเลื้อยไปทางหลังร้าน นับว่าพระเจ้ายังเมตตาผมอยู่บ้าง ประตูทางเข้าหลังร้านเปิดอ้ากว้างไม่ว่าว่าเป็นใครที่เปิดเอาไว้ ผมก็ต้องขอขอบคุณอย่างมาก

        ในที่สุดผมก็ออกมาจากที่ร้านนั้น แต่ผมไม่สามารถที่จะไปได้ไกลกว่านี้ ผมเลือกที่จะเข้าไปหลบในพุ่มไม้ใกล้ๆ ซ่อนตัวเองอยู่ในนั้นก่อนที่สติจะดับวูบไปพร้อมกับเรี่ยวแรงที่มีเท่ากับศูนย์

        อาซามาช่วยฉันที ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันเจ็บเหลือเกิน

        ง่วงจังเลย ฉันขอหลับพักก่อนนะ ไว้มีแรงตื่นขึ้นมาฉันจะกลับไปหานาย...อาซา





        “โยชิ...โยชิ นายใช่ไหม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมนายถึงกลายเป็นงู โยชิ”

        ใครกัน ใครที่เรียกผม

        “นายแน่ใจนะว่าเป็นโยชิ”

        “ฉันแน่ใจ ฉันจำโยชิได้ไม่ว่าเขาจะอยู่ในร่างไหน จะเป็นใคร ฉันจำเขาได้แม่นยำ ฉันจะพาเขากลับบ้าน”

        ทำไมผมถึงลอยได้ อุ่นจังเลย เหมือนอยู่ในอ้อมกอดของอาซา

        อาซา

        ซี่ๆๆ

        หึหึ น่าขำ เรียกแบบนี้อาซาคงไม่ได้ยิน

        “โยชิ นายพูดกับฉันเหรอ ฉันได้ยินนายนะเจ้าโง่ ฉันเป็นงู จะฟังภาษางูของตัวเองไม่ออกได้ยังไง” เสียงคุ้นหูพูดกับผมร้อนรนปนดีใจ ผมเริ่มรู้สึกตัวมากขึ้น นี่ไม่ใช่ความฝัน อาซาหาผมเจอแล้ว

        อาซา ฉันกลายเป็นงู ฉันกลัว...ฉันไม่เหมือนเดิม

        ซี่ๆๆ ซู่ๆ ชวี้ๆๆ

        “ไม่ต้องกลัว นายเหมือนเดิมทุกอย่าง เหมือนครั้งแรกที่เราเจอกันเลยที่รัก กลับบ้านนะ นายปลอดภัยแล้ว”

        ดีเหลือเกินที่อาซาหาผมเจอ ผมอยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ได้ งูร้องไห้ได้ที่ไหน หรืออาจจะร้องไห้แต่ผมไม่รู้ ผมไม่ชินจึงทรมานเหลือเกินในความรู้สึก

        อาซากับเวสตันขับรถพาผมกลับบ้าน อาซาประคองตัวผมเอาไว้ในอ้อมแขนไม่ปล่อย ผมสัมผัสได้ยามที่เขาก้มหน้าลงกดจูบที่หัวของผม รับรู้ได้ถึงความรักใคร่ที่อีกฝ่ายมีให้แก่กัน เป็นความรู้สึกแรกที่ผมดีใจที่ตัวเองเป็นงู ได้อยู่ในอ้อมกอดอุ่นที่ผมชอบทั้งตัวก็คล้ายว่าจะไม่มีอะไรทำอันตรายผมได้แม้แต่ปลายก้อย...ไม่สิ ตอนนี้ผมไม่มีนิ้วสักนิ้ว ต้องเป็นแม้แต่ปลายเกร็ดต่างหากล่ะ

        ขอบคุณนะอาซา ขอบคุณที่ตามหาฉัน

        “ฉันต้องตามหาหัวใจของตัวเองอยู่แล้ว พักผ่อนเถอะ ใกล้จะถึงบ้านแล้ว” เขาปลอบผมด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มชวนให้จิตใจที่ว้าวุ่นสงบลง

        ฉันไม่อยากหลับ กลัวตื่นมาไม่เจอนาย

        “เจอสิ ฉันจะอยู่ข้างๆนายไม่ไปไหนแน่นอน ฉันสัญญา”

        อืม

        ผมไม่ได้หลับ งูไม่มีเปลือกตา เพราะฉะนั้นจึงเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่จะหลับโดยที่ตายังลืม ผมขยับหัวซุกซบเข้าหาอกแกร่งของอาซามากยิ่งขึ้น เขาเองก็กระชับอ้อมแขนที่กอดผมไว้อย่างหวงแหน คอยจูบปลอบประโลมผมตลอดทางจนกระทั่งถึงบ้าน

        “ฟรินน์ ฉันฝากโทรตามคาร์เตอร์ที บอกเขาว่าโยชิกลายร่างเป็นงู ร่างกายน่าจะบอกช้ำมาก ให้มาเร็วที่สุด” อาซาสั่งฟรินน์อย่างรวดเร็ว ผมเห็นทุกคนนั่งอยู่ในบ้านรวมไปถึงอเล็กซ์

        “ได้ๆ ฉันจะจัดการให้อย่างรวดเร็วที่สุด โยชิ...นายเป็นงูเหมือนพวกเราแล้ว ดีใจด้วยนะ!” เสียงตะโกนของฟรินน์ดังไล่หลังในขณะที่อาซาพาผมขึ้นห้อง

        เขาบรรจงวางผมลงบนเตียงเบามือก่อนจะมองผมอย่างเป็นห่วงหันรีหันขวางเหมือนทำอะไรไม่ถูก จากนั้นเขาก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมกะละมังใส่น้ำและผ้าขนหนู ผมขยับตัวเชื่องช้า แต่กลับทำให้ผมปวดร้าวร่างกายมากยิ่งขึ้น ผมส่งเสียงร้องระบายความเจ็บ

        “อย่าขยับสิ อยู่เฉยๆ” อาซาดุผมเสียงแผ่ว “เจ็บหน่อยนะ ฉันจะเช็ดตัวให้”

        อาซาใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆเช็ดลงบนตัวผม ทันทีที่ผ้าเปียกน้ำอุ่นสัมผัสลงบนตัว ผมก็สะดุ้งหนีความเจ็บแสบที่ผิวกาย

        “ตัวนายเป็นแผล ต้องเช็ดเอาดินออกก่อน อดทนหน่อยนะ” เขามองผมอย่างเป็นห่วง ก่อนจะลงมือเช็ดตัวผมอีกรอบ คราวนี้ผมอดทนจนกระทั่งอาซาเช็ดตัวเสร็จ บนผ้าขนหนูผืนเล็กมีคราบดินและรอยเลือดจางๆ ไม่รู้ว่าสภาพผมใจตอนนี้ยับเยินขนาดไหน แต่คาดว่าคงไม่น่าดู

        “อาซา คาร์เตอร์มาแล้ว” เสียงปารีสบอก อาซาหันไปทางเธอ ผมอยากหันไปมองแต่ไม่อยากขยับตัวแม้แต่น้อย

        “ไง ไหนงูน้อยเพิ่งกลายร่าง” ตามมาด้วยเสียงของคาร์เตอร์ที่ผมยังคงจำได้แม้จะไม่ได้เจอเขามาสักพัก น้ำเสียงของเขามีเสน่ห์เหลือร้าย เขาเดินเข้ามาพร้อมกับเฟลิกซ์เพื่อนของเขา ในมือมีกล่องเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการรักษา

        อาซาลุกขึ้นเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียง คาร์เตอร์นั่งลงที่ตำแหน่งเดียวกับอาซาเมื่อกี้ คนอื่นๆทยอยเข้ามาดูผมรอบเตียงด้วยความสนใจ ทำให้ผมอายไม่น้อยกับตัวเองในสภาพแปลกใหม่ ให้ความรู้สึกเหมือนเขากำลังดูโชว์งูตามงานวัดหรืองานประจำปี

        “ตัวสีขาวแบบที่นายเคยเล่าจริงๆด้วย” ฟรินน์ว่า มองผมยิ้มๆให้กำลังใจ

        “ไหน ดูหน่อยสิว่าอาการเป็นยังไงบ้าง” คาร์เตอร์พูดนิ่งๆ เขาจับตัวผมที่ขดอยู่ให้ยืดลำตัวออก ความเจ็บวิ่งพล่านไปทั่วร่างจนเผลอฉกเขาตามสัญชาตญาณ

        “โว้ๆ ใจเย็นๆ เมียแกนี่ดุใช้ได้เลยวะ” คาร์เตอร์เตือนผมก่อนจะหันไปพูดกับอาซา

        “แกก็จับโยชิเบาๆหน่อยดิวะ” อาซาพูดหัวเสีย

        “งั้นแกมาช่วยจับหัวโยชิเอาไว้ ฉันจะฉีดยาชาเข้าร่าง จะได้ไม่ต้องเจ็บจนหันหัวมาฉกฉันอีก” คาร์เตอร์หันไปทางเฟลิกซ์ที่รื้อหาเข็มฉีดยาชายื่นให้

        “ทนแปบหนึ่งนะเด็กดี เจ็บนิดเดียวเดี๋ยวก็หายแล้ว” อาซาใช้น้ำเสียงอ่อนโยนพูดกับผม เขาจับส่วนหัวของผมเอาไว้แน่น มองผมอย่างลุขอแก่โทษ ผมจึงพยายามที่จะอดทนยามที่เข็มทิ่มบนร่างกาย ความเจ็บจี๊ดขึ้นเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่ทั้งร่างจะชาดิกไร้ความรู้สึก

        “เอาละ ไม่เจ็บแล้วนะงูเผือก” คาร์เตอร์พูดกับผมเหมือนพูดกับเด็กๆ

        “โยชิในร่างงูน่ารักนะเนี่ย ตอนเป็นคนก็ว่าน่าหลงใหลแล้ว ในร่างงูนี่ก็น่าฟัดยิ่งกว่าเสียอีก”

        “ถ้านายยังไม่อยากถูกงูฉกช่วยหยุดความคิดของนายด้วย” อาซาว่าเฟลิกซ์เสียงดุดัน

        “อู้ววว นิดหน่อยๆน่า” เฟลิกซ์ยิ้มขำใส่อาซา

        “เมียฉันไม่ใช่ของสาธารณะที่นายจะคิดไม่ดีหรือพูดลวนลามไม่ให้เกียรติ อย่าให้ต้องโมโห” อาซาเริ่มโกรธเข้าให้แล้ว

        “โอเคๆ ขอโทษที” เฟลิกซ์ผายมือยินยอม

        คาร์เตอร์เริ่มตรวจผมอย่างจริงจัง เวสตันกับปารีสออกไปจากห้องเพื่อทำอย่างอื่น ฟรินน์คุกเข่าที่ปลายเตียงจ้องผมไม่วางตา ส่วนจูเลียตก็กอดอกมองผมนั่งอยู่ที่โซฟามุมห้อง เธอไม่พูดอะไรแต่ผมรู้ว่าเธอก็เป็นห่วงผมไม่น้อย จูเลียตน่ะ ปากร้ายแต่ใจดี อเล็กซ์ไม่อยู่ในห้อง ผมคิดว่าเขาคงไม่อยากให้คนอื่นเจอเขา

        “ไม่มีกระดูกส่วนไหนหัก แต่ภายในยังไม่รู้ พอจะเล่าให้ฟังได้ไหมว่าทำไมโยชิถึงกลายร่าง พวกนายไม่ได้เตรียมตัวเขาก่อนหรือไง” คาร์เตอร์หันไปถามอาซา

        “ฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรโยชิถึงกลายร่าง โยชิถูกสะกดจิตให้กลัวงู และถูกสะกดไม่ให้กลายร่างเป็นงูด้วย ก่อนหน้านี้ฉันพยายามจะทำให้เขากลัวงูมากๆจนกว่าจะกลายร่างได้ แต่ไม่สำเร็จ ส่วนวันนี้โยชิหายไปฉันไปตามหาก็เจอเขาในร่างงูแล้ว ฉันบอกนายได้แค่นี้ไม่ต้องถามต่อ” อาซาเล่าให้คาร์เตอร์ฟังคร่าวๆ คาร์เตอร์พยักหน้าเข้าใจและไม่ถามอะไรต่อ

        เขาลงมือตรวจผมอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากนั้นก็ฉีดยาอะไรสักอย่างให้ผมอีกสองเข็มก่อนจะบอกว่าเป็นยาแก้ปวดกับยารักษาอาการบอบช้ำภายใน ยังพันผ้าพันแผลให้ผมอีกด้วย

        “ถ้าจะให้ดีก็พาไปที่โรงพยาบาล ยังไงคืนนี้ก็ดูอาการไปก่อน ฉันฉีดยาให้แล้วก็น่าจะช่วยได้บ้าง แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะร่างกายของโยชิสูญเสียพลังงานไปมากเพราะเป็นการกลายร่างที่รุนแรงถ้านายบอกว่าโยชิจะกลายร่างได้ก็ต่อเมื่อเกิดความกลัวต่องูสุดขีด นั่นเลวร้ายมากนะฉันบอกเลย ทั้งมนต์สะกดจิตที่คลายมีผลต่อดวงจิตที่บอบบางเสี่ยงต่อการแตกสลาย ไหนจะเพราะโยชิกลายร่างอย่างกะทันหันไม่มีการเตรียมร่างกายให้พร้อม ทำให้อวัยวะภายในจึงบอบช้ำพอควร”

        อาการผมหนักถึงขั้นนั้นเลยเหรอ งั้นแสดงว่าโชคดีสินะที่ยังมีชีวิตรอดมาเจออาซาได้อีกครั้ง

        “นานไหมกว่าจะหายดี”

        “ก็อย่างน้อยน่าจะสักอาทิตย์ ฉันจะให้ยาไว้ เฟลิกซ์จัดยาให้ชุดหนึ่ง” คาร์เตอร์หันไปสั่งงานเพื่อนของเขาจนได้ยามาชุดใหญ่

        “ให้กินยาตามนี้ พรุ่งนี้อย่าลืมพาไปโรงพยาบาลด้วย ฉันจะตรวจเช็คอย่างละเอียดอีกที”

        “ได้ แล้วโยชิจะคืนร่างได้เมื่อไหร่”

        นั่นสิ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน ถึงการอยู่ในร่างงูจะไม่เลวร้ายเท่าไหร่เพราะไม่ใช่ผมคนเดียวที่เป็น แต่ยังไงการอยู่ในร่างมนุษย์ธรรมดาก็ดีที่สุด

        “ก็จนกว่าจะหายดี ทางที่ดีควรให้อยู่ในร่างนี้ไปก่อน อย่าเพิ่งให้กลายร่างกลับไม่อย่างนั้นจะทนไม่ไหว และเสียชีวิตได้”

        “ขอบใจพวกนายมาก” อาซาพูด

        “หน้าที่พวกฉันอยู่แล้ว อ่อ จะให้ดีนะ ให้เขาดื่มเลือดซะ จะช่วยให้ภายในหายได้เยอะ”

        “ฉันรู้” อาซามองผมไม่ละสายตา

        “ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อน” คาร์เตอร์เตรียมตัวกลับ

        “ฟรินน์ จูเลียต ฝากไปส่งคาร์เตอรก์กับเฟลิกซ์ทีนะ” อาซาหันไปไหว้วานสองคนที่อยู่ในห้องแทนตัวเอง

        “ไม่ต้องหรอก คนกันเองทั้งนั้น ไปเฟลิกซ์ หยุดส่งสายตาให้โยชิได้แล้ว แกนี่มันวอนเจ็บตัวเสียจริง” คาร์เตอร์บ่นเพื่อนจอมกระล่อนของเขาอย่างระอา

        “ขำๆน่า หายไวๆนะโยชิ บาย” เฟลิกซ์โบกมือลาผมก่อนจะเดินตามคาร์เตอร์ออกไปจากห้อง รวมถึงฟรินน์และจูเลียตด้วย เหลืออาซาอยู่คนเดียวในห้องกับผมที่เป็นงูนอนแหมบอยู่บนเตียง ยาชายังไม่หมดฤทธิ์ผมยังขยับตัวไม่ได้

        “ไม่เป็นไรแล้วนะเด็กดีของฉัน” อาซาขึ้นมานอนบนเตียงข้างๆผม ก้มลงจูบผมตั้งแต่หัวจนกระทั่งหางก่อนจะยกตัวผมวางบนหน้าอกของเขา อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาหรือไม่ก็การกล่อมขออาซาที่ทำให้ผมง่วงขึ้นมากะทันหัน

        “ฉันคิดถึงนายในร่างงูจริงๆ เหมือนฉันจะตกหลุมรักนายอีกครั้งเลย ดาร์เรลของฉัน”




       

ต่อข้างล่าง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 31-03-2015 23:37:12
ASA

        ผมมองเจ้างูสีขาวตัวน้อยที่หลับนิ่งบนเบาะข้างคนขับ ผมพาโยชิมาตรวจที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดตามที่คาร์เตอร์บอก ค่อยโล่งใจได้หน่อยที่โยชิไม่เป็นอะไรนอกเหนือไปจากที่คาร์เตอร์ตรวจเมื่อวาน

        “เป็นยังไงบ้าง” อเล็กซ์ถามเมื่อผมอุ้มโยชิเข้าบ้าน

        “ไม่มีอะไรบ้าง เหลือแค่รักษาร่างกายที่บอบช้ำจากการกลายร่างแค่นั้น ส่วนดวงจิตแข็งแรงดีไม่มีปัญหา” ผมบอกกับทุกคนที่รอฟัง ทำเอาพวกเราโล่งใจที่โยชิไม่เป็นอะไรมากอย่างที่กังวล

        “ฉันขอโทษที่ครั้งที่แล้วบอกให้พวกนายทำแบบนั้นกับเขาโดยไม่ได้ให้เขาเตรียมร่างกายก่อน” อเล็กซ์บอกอย่างรู้สึกผิด ผมส่ายหน้าเล็กน้อย

        “ไม่เป็นไร ถ้าจะผิดก็ผิดด้วยกันหมดนี่เนี่ยแหละ เพราะมัวแต่รีบร้อนอยากให้โยชิกลายร่างจึงไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ยังไงฉันขอตัวพาเขาไปพักผ่อนก่อนแล้วกัน”

        “อืม มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ”

        ผมพาโยชิขึ้นห้องนอน พอวางลงบนเตียงเจ้างูขาวตัวน้อยของผมก็ตื่น เขาขยับตัวเชื่องช้าคล้ายเกียจคร้านเต็มทน โยชิมองจ้องผมไม่วางตา ก่อนจะเลื้อยเข้ามาหาผมเท่าที่พอมีแรง

        “เอาละ เรามาคุยกันหน่อยดีกว่า ทำไมนายถึงกลายร่างเป็นงู เกิดอะไรขึ้น” ผมอยากจะถามตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่โยชิหลับยาวเพราะฤทธิ์ยาที่คาร์เตอร์ฉีดให้ และเมื่อเช้าผมก็รีบพาเขาไปโรงพยาบาลด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นว่าไม่รู้สึกตัวเสียที

        โยชินิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบคำถามผม

       ฉันไปที่คาเฟ่แมวกับเติร์ดใช่ไหม แล้วฉันเห็นพี่ยอร์ชกับเอเดน เลยตามออกไปดู

        “แล้วทำไมไม่บอกฉัน” ผมดุจริงจังเมื่อรู้ว่าโยชิทำอะไรที่สุ่มเสี่ยง

        ก็ตอนนั้นฉันไม่ทันนึกนี่ เป็นห่วงพี่ยอร์ช อย่าดุได้ไหม แค่นี้ก็แย่มากแล้วนะ

        โยชิทำท่าขึงขังใส่ผมที่ไปดุเขา

       “โทษทีๆ ไม่ดุแล้ว เล่าต่อสิ เอเดนทำอะไรนายหรือเปล่า แล้วพี่ยอร์ชละเป็นไง”

        คนที่เห็นไม่ใช่พี่ยอร์ช เป็นคนหน้าเหมือนที่เอเดนใช่ล่อฉัน เขาต้องการให้ฉันมาบอกนายให้ยกหัวใจบาซิลิกส์ให้เขาแลกกับชีวิตพี่ยอร์ช เราสู้กันนิดหน่อยจนฉันเลือดออกเขาเลยรู้ว่าฉันเป็นอะไร จากนั้นเขาก็กลายร่างและรัดฉันไว้ต้องการให้ฉันกลับคืนร่างเป็นงูเหมือนเดิม แล้วก็อย่างที่นายเห็น ฉันหนีออกมาจากที่คลับนั่นไปหลบในพุ่มไม้ แฮ่กๆ

        โยชิเล่าจบก็เหนื่อยหอบ ผมสงสารเลยไม่ถามอะไรมากไปกว่านี้ ใจนึกก็อยากจะนึกของคุณเอเดนที่ช่วยให้โยชิกลายร่างเป็นงู แต่ก็นึกโกรธมากกว่าที่เขาเกือบทำให้โยชิต้องตาย ถ้าผมไปช่วยไม่ทันไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะเป็นยังไง จะทนรอผมไหวไหม

        อาซา พี่ยอร์ชจะเป็นอะไรไหม ฉันกลัว

        ผมลูบหัวโยชิให้กำลังใจ “ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ปล่อยให้พี่ชายของนายเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน เชื่อใจฉัน เชื่อใจในพวกเรา เอเดนจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่เขาต้องการไม่ว่าจะเป็นหัวใจของพวกเรา หรือชีวิตของพี่ยอร์ช เขาจะไม่ได้สักอย่าง”

        ผมให้คำมั่นสัญญา

        “ตอนนี้ขอแค่นายรักษาตัวเองจนกว่าจะหายดี เรื่องอื่นอย่าเพิ่งไปกังวล ฉันจะส่งลูกน้องไปช่วยดูแลพ่อกับพี่ของนาย โอเคไหม”

        โอเค ขอบคุณนะที่ทำเพื่อฉัน

        “ด้วยความเต็มใจอย่างที่สุด”

        เราสองคนต่างนิ่งเงียบมองตากัน ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านดวงตาอย่างที่ไม่ต้องเอ่ยคำใดๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงโครกครากแปลกๆดังขึ้นเบาจนเกือบจะไม่ได้ยิน

        อาซา...ฉันหิว

        จริงสิ ตั้งแต่เช้าเขายังไม่ได้กินอะไรเลย

        “เอาอะไรดี นายควรดื่มเลือดสักหน่อย ฉันเตรียมอาไว้ให้แล้ว หรือว่าอยากได้หนูเป็นๆ เห็นว่าปารีสเตรียมไว้ให้นายด้วยนะ”

        อาการบาดเจ็บจะหายไวขึ้นถ้าหากโยชิได้กินสัตว์เป็นๆตามวิถีชีวิตของงู แต่ดูจากอาการนิ่งงันของโยชิและเสียงร้องประท้วงแล้ว หนูที่จูเลียตเตรียมมาคงได้มีชีวิตอยู่ต่ออย่างไม่ต้องสงสัย

        ไม่เอานะ ฉันไม่กินหนู ให้ตายฉันก็จะไม่กินมัน!!!

        “นายอาจจะชอบก็ได้นะ ลองหน่อยไหม” ผมนอนคว่ำลงกับเตียง ใบหน้าผมกับโยชิห่างกันไม่ถึงคืบ ผมยื่นหน้าจูบที่ปากโยชิหนักๆหนึ่งทีด้วยความหมั่นเขี้ยว อยากจะกลายร่างเป็นงูแล้วรัดโยชิแรงๆให้หายคิดถึง ผมไม่ได้แสดงความรักกับเขาแบบนั้นมานานเท่าไหร่แล้วนะ

        อ่า...คิดถึงจังเลย

        ไม่เอานะอาซา ฉันกินมันไม่ลงหรอก ขออะไรก็ได้ สเต็กก็ได้นะ แต่หันให้ด้วย ฉันไม่มีแรงอ้าปากกว้างๆหรอก

        ซี่ๆๆๆ ซี่~ ซวี่ซู่วว ชี่ๆๆ

        โยชิร้องขออย่างน่าสงสารและน่ารักไปในเวลาเดียวกัน หัวกลมเรียวยกขึ้นสายไปมาเล็กน้อยเป็นการออดอ้อนแบบที่เขาชอบทำบ่อยๆตอนที่เป็นดาร์เรล

        ให้ตายเถอะ...ผมรู้สึกว่าผมคลั่งเขามากขึ้นอีกเท่าตัว

        หัวใจเต้นแรงเหมือนหนุ่มเพิ่งมีความรัก

        “ก็ได้ๆ แต่อย่างน้อยต้องดื่มเลือดหน่อยนะ มันจะช่วยให้นายดีขึ้นเชื่อฉันนะ” ผมเกลี่ยกล่อมโยชิที่คนละครึ่งทาง

        ก็ได้...เร็วๆเถอะ ฉันหิวแล้ว

        “หึหึ จุ๊บฉันก่อนสิ แล้วจะรีบไปเอามาให้เลย” ผมต่อรองหาความสุขเล็กๆน้อยให้ตัวเอง

        เจ้าเล่ห์!

        จุ๊บ!


        ถึงจะบ่นแต่เขาก็ยังตามใจผม น่ารักจริงๆ ชักอยากจับกอดจนแทบทนไม่ไหวอยู่แล้ว
       


       
        ...........
        น่ารักเบาๆแก้เครียดเนอะ หลายคนเรียกร้องอยากเห็นงูเขารัดกัน ยังไงดีๆ ตอนหน้านี่ยังไงดี 555
        น้องโยชิของเราในร่างงูร้ายไม่ยอกนะจะบอกให้ ต้องรอให้น้องชินกับการเป็นงูก่อน
        ที่ถามมาว่าเอเดนรู้ได้ยังไงว่าโยชิต้องกลัวงูถึงจะกลายร่างได้ ริริได้เข้าไปเพิ่มเติมเนื้อหาเพื่อไม่ให้งงแล้วนะคะ แต่บอกอีกทีหนึ่งก็แล้วกันว่าวิธีกระตุ้นให้กลายร่างเป็นงูมีหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือทำให้กลัวสุดๆ แต่ของโยชิต้องทำให้กลัวมากกว่าคนอื่นหลายเท่าเพราะโดนสะกดจิตเอาไว้นั่นเอง
        และคำถามที่ว่าโยชิเป็นงูตัวขนาดไหน ตอนนี้ก็เป็นงูไซต์ปกติ แต่ถ้าร่างกายแข็งแรงและฝึกฝนมากๆก็จะกลายร่างเป็นตัวใหญ่ได้จ้า
        ไม่งงแล้วเนอะ สงสัยตรงไหนถามมาได้อีกนะคะเพราะไม่รู้ว่าแต่งตรงไหนกำกวมไม่ชัดเจนหรือเปล่า ก็อย่างว่า แต่งเองก็เข้าใจเองคนเดียวไง 555
        ขอบคุณคนอ่าน ขอบคุณคนเม้นให้มากนะคะ :pig4:
        จุ๊บๆ :mew1:
       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 31-03-2015 23:50:15
โยชิตอนเป็นงูนี่น่ารักอะ  :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: bankimpossible ที่ 31-03-2015 23:55:37
จิ้ม ๆ !!
รู้สึกเต็มอิ่มมากกับ 6 วันที่รอคอย :)
กดรีเฟรชรอตั้งแต่ 4 ทุ่ม 
เป็นกำลังใจให้นะคับ RiRi
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 31-03-2015 23:55:56
กำลังลุ้น.....  แต่อาซา นี่หื่นไม่เลือกเวลาจริงๆ
อดทนไว้ไอ้งู (ไอ้หนู)  ได้แอ้มแน่ๆ   รอเวลางูเค้ารักกัน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: platy ที่ 01-04-2015 00:01:55
โดยส่วนตัวนี้ชอบงูมากนะ อยากเลี้ยง  :ling1:
ยิ่งมาอ่านแบบนี้ อ่อยยยยยย ฟินอะไรขนาดนั้น  :z13: :z13: :z13:
มาต่อไวๆนะค๊า สู้ๆค่าา :katai4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 01-04-2015 00:07:31
อาซาหื่นตลอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

น้องโยชิต้องระวังตัวเพิ่มขึ้นละ

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 01-04-2015 00:25:33
โยชิกลายเป็นงูน้อยสีขาวแล้ว
คงจะน่ารักน่าเอ็นดูมากๆเลย
+1  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 01-04-2015 00:37:06
งื้ออออออ อยากอ่านตอนงูเขารัดกัน คงจะน่ารักกกกก อ่านเรื่องนี้มากๆเเล้วอยากไปซื้องูมาเลี้ยงเเบบจริงจัง
เเต่ตัวจริงจะนารักเเบบโยชิกับอาซาไหมน่อ ฮาาาา รอตอนหน้านะค่ะ รอเลยๆๆๆ อาซานี้เเฟนนคลับตัวจริงของโยชิเลยนะ
 :กอด1: :กอด1:กอดๆๆๆคุณริรินะค่ะ สู้ๆนะค่ะ ตอนหน้าเอาพี่ยอร์ชเรามาด้วยน้า รอนะค่ะ สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 01-04-2015 01:18:56
น้องงูโยชิน่ารักนะเนี่ย ตัวขาวจั๊วแล้วยังขี้อ้อนอีก
อยากเลี้ยงบ้างงงงงง
ปล.ตอนหน้าเค้าอยากอ่านงูรัดกันจัง ฮิๆๆ
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 01-04-2015 01:29:37
ฟินมาก  :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 01-04-2015 03:03:56
งูตัวน้อยๆ งูรัดกันก็น่าสนนะ :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 01-04-2015 06:34:57
น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 01-04-2015 06:55:09
:m12: อาซานิก็หื่นได้ตลอด เห็นโยชิร่างงูแล้วกระชุ่มกระชวยเหมือนย้อนวันวานเป็นหนุ่มอีกครั้ง

โอ้ยยยยยยยยไม่อยากจะคิดหายดีแล้วจะโดนอาซาจัดหนักขนาดไหน

หึหึ
อ่อโอเค เข้าใจเอเดนรู้ว่ากลับร่างมีหลายวิธี  บังเอิญเลือกถูกวิธีซะด้วย

เรื่องมีอะไรให้ลุ้นตลอด
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ววววววว อยากเห็นงูดำกับงูขาว ฟัดกันพอหอมปากหอมคอ 555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 01-04-2015 07:19:27
ในทีสุดดดดด หนูโยน่ารักมาก อาซานี้ยอมโยชิทุกอย่างเร้ยยย   :hao5:
อยากจะรัดหนูโย รัดแบบไหนคะ แบบนี้  :กอด1: หรือแบบนี้  :oo1: แต่เห็นบอกอยากรัดแรงๆ  ผมนี้แด้ดิ้นเลยครับบ  :ling1:
รอๆตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ ถ้าอยากให้หนูโยชินกับร่างงูก่อน ตอนหน้าก็เอาแค่พันๆรัดๆแสดงความรักแบบเบาๆก่อนก็ได้ พอหายค่อยจัดเต็ม กร้ากกกกกกก ไม่หื่นเลยยยย. :hao7:
ปล ถ้าอยู่ในร่างงูก็มี2อันใช่ปร้าริริ  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 01-04-2015 08:02:31
อยากเห็นรูป โยชิเป็นงูจัง

ปล  เอเดนนี่ จะมีคู่กับเขาไหมนี่
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 01-04-2015 09:39:16
เฮร้ยยยย!! น่ารักอ่ะอยากจะฟัดโยชิด้วยเลยอ่ะ
เดี๋ยวโดนอาซาเตะเสยหน้าเอาได้นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETTEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 01-04-2015 11:13:51
กรี๊ดดดดด โยชิตอนร่างงูเผือกน่ารักที่สู๊ดดดดด
อยากให้อยู่ในร่างนี้นานๆจัง
ประเด่น อยากเห็นทั้งสองฟัดกันในร่างงู โฮ่ะๆ  :m25:
เพราะงัน ตอนหน้าขอให้อาซาจับโยชิฟัดในร่างงูน๊า อยากเห็น
คงฟินน่าดูชม >.,<
เย้ๆ อีกไม่นานคงได้เห็นโยชิโหดบ้างล่ะ ปลื้ม
หลังจากที่โยชิปล่อยให้อาซาโชว์โหดคนเดียวมานาน 555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 01-04-2015 11:54:24
ว๊าววววว......นางพญางูขาวออกโรงได้แล้ว...
ใครคิดไม่ดีเดี๋ยวทำน้ำท่วมมันซะเลย......
เฮ๊ยยย...เกี่ยวกันมั๊ยนี่..555...แล้วจะมีลูกสมุนงูเขียว
โผล่มารึเปล่าเอ่ย......
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 01-04-2015 13:16:55
 :ling1: โอ๊ยๆ อยากอ่าน โยชิน่ารักมากเลย >~<
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 01-04-2015 14:53:34
 :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-04-2015 20:07:26
ชอบตอนนี้มากๆเลย

หวานซะ จนอิจฉา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-04-2015 22:27:30
ขอดันหน่อยเถอะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 01-04-2015 22:29:58
นี่งูจิงๆหรอ
ทำไมน่ารักแบบนี้อ้ะะะ ><
ตกหลุมรักโยชิในร่างงูด้วยคนนน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: Sha-em ที่ 01-04-2015 22:32:04
อาซานายอยากจะจับกอด หรือจับกดกันแน่นะ กร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 02-04-2015 00:51:14
รองูเค้ารักกัน  :z1:
แล้วโยชิจะกลับคืนร่างคนได้ยังไงหว่า??
รอติดตามตอนต่อไปจ้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 02-04-2015 09:20:12
โยชิลูกกกก. หนูน่ารักเกินไปแล้วว :-[
พี่อาซาใจเย็นๆนะ. น้องบาดเจ็บอยู่  รอหายก่อนค่อยรัด
งานนี้สนุกแน่  ขอหนูโยโหดๆเลย. เอเดนต้องถูกสั่งสอน
 :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 02-04-2015 13:24:08
ว้าวววว มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งมากเลยตอนนี้ ชอบๆ
พี่ละอยากเห็นโยชิบู๊แหลก ท่าทางน้องจะดุเอาเรื่องนะ
อยากอ่านต่อแล้ววววว :ling1:
(http://rs430.pbsrc.com/albums/qq26/wendhend/Angel2.jpg~320x480)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 02-04-2015 15:09:08
 :z1:เป็นงูที่มุ้งมิ้งน่ารักที่สุด ฮาาาาาาา อยากเห็นเค้ารัดกันเร็วจังเลย นี่ไม่ได้หื่นน๊าาาาา  :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: Nunutrsl28 ที่ 02-04-2015 23:39:58
รู้สึกอยากอ่านตอนดาร์เรลเป็นงูน้อย55555555 น่าร๊ากก เอาอีกๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: mukkai ที่ 03-04-2015 22:28:08
โง้ยยยย งูขาวที่รัก ทำไมมันดูน่ารักแปลกๆ :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 05-04-2015 14:28:56
แวะมาดัน >< สนุกมากๆ
อยากอ่านตอนต่อไปจังเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 05-04-2015 18:28:16
น้องงูของโยชิท่าจะสวยน่าดู แต่ชอบที่ดาร์เรลเหน็บแหะอาซาเป็นงูดำน่ากลัวๆ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 05-04-2015 23:40:32
เค้าอยากเห็นฉากอัศจรรย์งูอ่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 06-04-2015 06:19:05
อยากให้หนูโยชิมารัดเรามั้ง แต่สงสัยจะโดนอาซา  :z6: ซะก่อน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: bankimpossible ที่ 08-04-2015 21:12:08
8 วันผ่านไป ....
ข้ามารอน้องงูที่ท่าน้ำทุกวัน ..
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ NINETEEN ❁ 31-03-2015 [P.47]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 08-04-2015 21:15:33
มารอค่ะๆๆๆ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 08-04-2015 23:18:55
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY




         ASA

         ซี่!!!

         ‘อาซา! อย่ารัดแรงสิ อ๊า’

         ผมไม่ฟัง เลื้อยพันตัวโยชิเป็นเกรียว สองอาทิตย์กว่าโยชิจะหายดี ตอนนี้ผมทนไม่ไหวแล้ว ขอสักนิดสักหน่อยให้พอชื่นใจได้บ้าง

        ร่างกายเสียดสีสร้างความรัญจวนทั่วสรรพางค์ ผมใช้ลำตัวสีดำนิลเลื้อยรัดโยชิเป็นวงกลม สีดำกับสีขาวตัดกันน่ามอง ส่วนสำคัญที่ใช้สืบพันธ์ออกมาสู่ภายนอก ผมอยากจะนำพามันเข้าไปในตัวของโยชิ แต่คงจะยังไม่ได้ โยชิยังไม่คุ้นเคย ผมต้องทำให้เขาเคยชินที่จะร่วมรักในร่างงูทีละนิดทีละน้อย แม้มันจะหมายความว่า ผมจะต้องทรมานก็ตาม

         โยชิ เอามันออกมา’

        ผมบอกกับเจ้างูขาวที่เขินอายจนเกล็ดขึ้นสีชมพูอ่อน

         ‘อ๊ะ อะไรออกมา’

         โยชิเกร็งตัวไม่ขยับเคลื่อนไหว ผมคงรุกหนักเกินไป ถึงโยชิจะหายดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถดำเนินชีวิตในร่างงูได้เหมือนพวกผม เขายังเป็นมือใหม่ ถึงโยชิจะจำเรื่องราวเก่าๆได้บ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้เขาดำรงชีวิตเยี่ยงงูได้ดี

         โยชิขี้กลัว...แต่ผมจะค่อยๆสอนเขาเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป

         ‘อ๊า’ ผมไม่ได้ตอบ ขยับตัวเสียดสีส่วนที่อ่อนไหวทั้งสองของตัวเองกันผิวเกร็ดสีขาวเพื่อสำเร็จสุข ไม่รู้ว่าเพราะผมไม่ได้ทำมานาน หรือไม่ได้กอดรัดโยชิในร่างงูมานานหลายพันปีกันแน่ ผมถึงได้ถึงจุดหมายปลายทางไวกว่าที่เคย

         ทุเรศตัวเองชะมัด

        ‘อยากปลดปล่อยไหม’ ผมถามโยชิ เขาส่ายหัวแล้วเลื้อยเอาส่วนหัวมาเกยกับใบหน้าของผม

         ‘ไม่ แค่มันแปลก มันไม่เหมือนตอนเป็นมนุษย์’

         ‘ขอโทษนะที่ฉันเอาแต่ใจ’ ผมคลายตัวออกให้โยชิสบายตัว แต่ยังคงรัดพันยุ่งเหยิงไม่ปล่อย คลอเคลียไปตามร่างกายของอีกฝ่าย ผมชอบสัมผัสโยชิ ชอบที่จะกอดรัดเนื้อแนบเนื้อ อบอุ่นสุขซ่านและเต็มตื้น

         ‘ไม่เป็นไร แต่อาซา ฉันอยากกลับร่างเดิม อยากกลับเป็นคน’ โยชิทำตาอ้อน ผมไปไม่เป็น ได้แต่ตอบรับคำตามที่เขาต้องการ

         ‘พรุ่งนี้ฉันจะไปให้คาร์เตอร์นะ’

         ‘อืม’

         จุ๊บ~

         ผมหอมหัวโยชิทีหนึ่งจนชื่นใจ จากนั้นก็กลายร่างกลับเป็นคนเหมือนเดิม โยชิมองผมด้วยสายตาอิจฉา ผมไม่ได้สนใจ อุ้มโยชิไปอาบน้ำเพราะผมทำตัวเขาเปื้อนไปด้วยน้ำรัก แต่จะผิดไหมที่ผมมองว่า...โยชิที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำสีขุ่นอยู่น่าฟัดเป็นเท่าตัว

         “อาบน้ำนะ” ผมวางตัวโยชิไว้บนตัก เปิดน้ำร้อนและน้ำเย็นผสมจนอุ่นพอดี โยชิอาบน้ำเป็นแล้ว และก็เริ่มจะเลื้อยเล่นแหวกว่ายในน้ำอย่างร่าเริง ผมโยนเป็ดยางสามสี่ตัวลงไปในอ่างด้วย โยชิหันมามองค้อนที่ผมหาว่าเขาเป็นเด็ก แต่ก็เห็นเล่นกับเจ้าเป็นสนุกสนาน ผมหยิบฟองน้ำนุ่มกดครีมอาบน้ำใส่ ถูจนเกิดฟองนุ่มละมุน

         ผมจับโยชิขึ้นจากน้ำ โยชิหยุดนิ่งอยู่ในอุ้งมือผม ยอมให้ผมถูไถตัวด้วยฟองน้ำจนสะอาดหอมน่ากอด แล้วปล่อยให้เขาว่ายน้ำล้างฟองออกจากตัว ผมไม่อยากให้โยชิแช่น้ำนานนัก อาบน้ำเสร็จก็รีบพาไปเช็ดตัว

         “ฉันจะไปปรึกษาคาร์เตอร์เรื่องของนาย อยากไปด้วยไหม” ผมถามโยชิที่เลื้อยพันท่อนแขนผมประกอบกับอ้าปากเอาเขี้ยวทั้งสองข้างงับแขนผมเบาๆคล้ายเด็กคันเหงือก

         ‘ไม่ไป ฉันไม่อยากออกไปไหนสภาพนี้’ โยชิแลบลิ้นใส่ผมสองทีก่อนจะก้มหน้าก้มตาเล่นกับเนื้อผมต่อไป โดยไม่คิดว่าจะเป็นการยั่วยวนหรือกระตุ้นอารมณ์ของผมแม้แต่นิด

         “มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอกน่า นายน่ารักจะตาย” ผมก้มลงหอมหัวของโยชิที่มักจะเคลิ้มเมื่อผมหอมเขา

         ‘มีนายคนเดียวนั่นแหละที่คิดว่าฉันน่ารักในร่างงู คนธรรมดาเขาไม่คิดด้วยหรอก’

         “หึหึ น่ารักให้ฉันเห็นคนเดียวก็พอแล้วนี่นา ต้องน่ารักให้คนอื่นมองด้วยเหรอ” ผมยิ้มเจ้าชู้ใส่โยชิ เจ้าตัวเขินจนตัวแดง โยชิไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นดาร์เรลเมื่อก่อน หรือโยชิในร่างงูตอนนี้ เวลาที่เขาเขิน ตัวขาวๆของเขาจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ เป็นความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร

         ‘บ้า!’

         “ฮ่าๆๆ” ผมขำให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของโยชิ แต่ก็ต้องหยุดขำเพราะโยชิส่งสายตาอาฆาตมาให้

         “เอาเถอะๆ จะอยู่บนห้องหรือจะลงไปอยู่กับฟรินน์”

         ‘ไปอยู่กับฟรินน์ดีกว่า’

         “งั้นก็ไปกัน”

         ‘อุ้มหน่อย’

         “ไม่ละ นายต้องเลื้อยลงไปเองนะรู้ไหม ต้องทำจนกว่าจะชิน จนกว่าจะไม่รู้สึกว่ามันแปลก”

         ‘ใจร้าย’

         “ฉันทำเพื่อนาย”

         ‘รู้แล้วน่า ไปสิ’

         ผมมองโยชิที่เลื้อยลงกับพื้นไปที่หน้าประตู หันมองว่าผมจะเปิดประตูได้หรือยัง ผมยิ้มให้อีกฝ่ายเดินไปเปิดประตูให้โยชิเลื้อยลงชั้นล่าง ผ่านขั้นบันไดแต่ละขั้น โยชิเลื้อยอย่างระมัดระวัง ผมจึงเดินช้าตามไปด้วยจนกว่าจะแน่ใจว่าโยชิจะถึงพื้นโดยไม่เจ็บตัวอย่างคราวก่อน

         “อ้าวโยชิ เดี๋ยวนี้เก่งขึ้นแล้วนี่ ออกไปเล่นข้างนอกกับฉันไหม เล่นซ่อนหากัน” ฟรินน์เห็นมาเห็นโยชิที่เลื้อยขึ้นบนโซฟาแล้วเอ่ยชวนอย่างคึกคัก

         “ฉันฝากโยชิสักชั่วโมงสองชั่วโมงนะ จะไปคุยกับคาร์เตอร์เรื่องวิธีให้โยชิกลับคืนร่างเดิม” ผมฝากฝัง

         “ได้สิ ไปเหอะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าตัวเล็กนี่เอง”

         ฟรินน์ชื่นชอบโยชิในร่างงูเป็นพิเศษ มักเข้ามาหยอกเย้า ทั้งเล่นทั้งกวนประสาท แต่ก็ดีที่ทำให้โยชิไม่เหงาไม่รู้สึกแย่นักที่ต้องอยู่ในร่างของสัตว์เลื้อยคลาน และสิ่งที่ดีที่สุดก็คือโยชิเลิกกลัวงู

         ที่วิเศษที่สุดในชีวิตก็คือการที่มนต์สะกดจิตคลายแต่คำสาปไม่เกิดผลใดๆ

         โยชิไม่เกลียดผม...เขายังคงรักผมเหมือนเดิม

         สิ่งที่ผมกลัวมาตลอดชีวิตที่ได้แต่เฝ้ามองไม่กล้าเข้าหา ไม่กล้าขอความรักจากเขาเพราะกลัวจะยิ่งทำให้เราห่างไกลกันมากขึ้น วันนี้มันจบแล้ว

         ผมขับรถไปหาคาร์เตอร์ที่โรงพยาบาลของแอชยู พักหลังมานี่ผมสนิทกับมันมากขึ้น

         ก๊อกๆๆ

         ผมเคาะประตูห้องทำงานของคาร์เตอร์และเปิดเข้าไปโดยที่ไม่รอให้คนข้างในเอ่ยอนุญาตเพราะรู้ว่ามันอยู่ข้างในแน่ๆจากที่ได้กลิ่น

         “พวกนายนี่ไร้มารยาทกันหมดเลยหรือไง” คาร์เตอร์ไม่ได้เงยหน้าจากเอกสารบนโต๊ะมองผม แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับพวกเราที่จะรับรู้ว่าคนที่มาหาคือใครจากการดมกลิ่น

         “เอาน่า ฉันมีเรื่องจะปรึกษา” ผมนั่งลงตรงข้ามคุณหมอที่สวมใส่แว่นแลดูสุขุม แต่ยามกลางคืนกลับเป็นเสือล่าเนื้อตัวร้ายที่ทำลายหัวใจใครมากนักต่อนัก

         เป็นผู้ร้ายในคราบคนดี

         “ว่ามา อีกครึ่งชั่วโมงฉันต้องเข้าห้องผ่าตัด” คาร์เตอร์วางปากกาในมือลงบนโต๊ะ เงยหน้ามองผม สองมือประสานกันบนโต๊ะสีหน้าเอาจริงเอาจัง

         “โยชิกลายร่างเป็นงูด้วยตัวเองไม่ได้” เรื่องนี้น่าหนักใจ โยชิขาดเรียนจนอาจารย์ให้คำเตือน ไหนจะเติร์ดเพื่อนของโยชิที่มาถามหาโยชิกับผม และมีพ่อกับพี่ชายของโยชิที่โทรมาหลายวันแล้วแต่ไม่ได้คุย ถ้าโยชิยังคืนร่างไม่ได้ก็อาจทำให้เกิดความยุ่งยากกับชีวิตของเขาเอง

         “กระตุ้นหรือยัง”

         “ลองหมดทุกทางแล้ว แต่ไม่ได้ผล โยชิทำไม่ได้ ฉันอยากได้ยาที่ทำให้โยชิคืนร่าง”

         คาร์เตอร์มองผมนิ่งก่อนจะถอนหายใจ “แต่รู้ใช่ไหมว่าต่อให้ใช้ยาไป แต่ถ้าโยชิไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ มันก็จะไม่เป็นผล กลับคืนร่างเป็นคนได้ แต่ถ้าจะกลับคืนร่างเป็นงูอีกละ ไม่ต้องพึ่งยาไปตลอดเหรอ ไหนจะผลข้างเคียงอีก”

         ยาที่ว่าถ้าเกิดกินมากๆ ใช้มากๆ จะเป็นผลร้ายต่อภายใจจนอาจตายได้ เสี่ยงเกินไปผมรู้ แต่ผมก็สงสารที่โยชิกลายร่างกลับเป็นคนไม่ได้เสียที

         “แค่ครั้งเดียวก็พอ ฉันจะทำให้โยชิควบคุมการกลายร่างให้ได้ แต่ตอนนี้จำเป็นจริงๆวะ”

         ไม่อย่างนั้น ถ้าเกิดพ่อและยอร์ชเกิดความสงสัยว่าลูกชายตัวเล็กหายไปไหนทำไมไม่เคยมารับสายแล้วลงมาหาถึงทีนี่ ผมก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรไปแก้ต่างแทนบอกความจริงว่าโยชิกลายเป็นงู

         “ก็ได้ ฉันจะจัดยาให้ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าทรมาน ให้โยชิเตรียมตัวเตรียมใจไว้ด้วย”

         คาร์เตอร์หายออกไปจากห้องทำงาน ไม่นานก็กลับมาพร้อมยาเม็ดสีดำขนาดเท่าเหรียญบาทไทยสองเม็ดในห่อใสใส่ยากับอีกซองเป็นยารักษาพลังที่โยชิกินอยู่ทุกวัน คาร์เตอร์ส่งยื่นให้ผม

         “ที่นายเคยขอเอาไว้หนึ่งเม็ดก่อนหน้านี้”

         “เท่าไหร่” ผมถาม

         “หมื่นหนึ่ง ออกไปจ่ายที่ห้องจ่ายาพร้อมใบเสร็จนี่” คาร์เตอร์พิมพ์คอมพิวเตอร์อยู่สองสามทีก็ปริ้นใบสั่งยาให้ผม การทำงานที่นี่ไม่เหมือนโรงพยาบาลทั่วไป ยาลับเฉพาะจะไม่มีการจ่ายที่ห้องจ่ายยา หมอจะเป็นคนที่สามารถแตะต้องยาได้เท่านั้น เพราะกันการรั่วไหลของยา

         “ขอบใจมาก”

         ผมลาและออกไปจ่ายค่ายา เม็ดหนึ่งของโยชิ อีกเม็ดเป็นของปุยเมฆ เจ้าแมวนั่นอยากกลายร่างเป็นคนเพราะหลงรักเติร์ด แต่ข้อจำกัดของยาก็คือ ทำให้กลายร่างได้ แต่ถ้าจะกลับสู่ร่างเดิมต้องอาศัยความสามารถของตัวเอง ถ้าไม่สามารถฝึกจิตได้ ก็จะกลับสู่ร่างเดิมได้ยาก และการใช้ยาซ้ำสองก็เป็นอันตรายต่อร่างกายเกินไป

         ผมเข้าใจว่าปุยเมฆต้องการเสี่ยง แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะหัวหรือก้อย จะร้ายหรือดี การเป็นคนจะทำให้อยู่กับเติร์ดมากกว่าอยู่ในร่างแมวหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ ทุกอย่างคือความเสี่ยง ผมแค่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ที่เหลือก็ต้องให้เจ้าตัวตัดสินใจด้วยตัวเอง

         ผมแวะเอายาไปให้ปุยเมฆโดยการกลายร่างเป็นงูเข้าไปในคอนโด หมดธุระก็ตรงกลับบ้าน ไม่รู้ป่านนี้โดนฟรินน์แกล้งจนร้องไห้ไปหรือยัง แค่คิดถึงก็ทำให้ยิ้มกว้าง

         กลับถึงบ้านผมก็ต้องตกใจเพราะว่าฟรินน์ในร่างงูถูกเวสตันจับทำแผล ข้างๆคือโยชิที่เลื้อยไปมารอบๆตัวฟรินน์ ผิวหนังของฟรินน์เป็นรอยไหม้เหมือนถูกไฟเผา

         “เกิดอะไรขึ้น” ผมถาม

         เวสตันยิ้มขำก่อนจะตอบ “ก็แหย่เขานักไง เลยถูกโยชิพ่นไฟใส่”

         ผมหันไปมองโยชิรวดเร็วอย่างไม่อยากเชื่อ “จริงเหรอ”

         ‘ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็ฟรินน์ไม่ยอมให้ฉันจับตัวได้สักที เลื้อยหนีแกล้งอยู่ได้ มันโมโหก็เลย...ทำไปโดยไม่รู้ตัว’ โยชิรีบบอกเพื่อแก้ต่างความผิดให้ตัวเอง

         ผมเข้าไปอุ้มโยชิก่อนจะก้มลงฟัดพร้อมหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ นายเก่งมาก แต่จะเก่งกว่านี้ถ้าควบคุมตัวเองได้”

         ที่ถามไม่ใช่เพราะว่าจะตำหนิ แต่แค่ไม่อยากเชื่อว่าโยชิจะสำแดงฤทธิ์เดชต่างหาก น่าปลื้มใจจริงๆ

         “ฉันได้ยามาแล้ว นายจะกลับคืนร่างได้” ผมชูยาให้โยชิดู เลิกสนใจฟรินน์ที่นอนแหมบหยุดกวนประสาทเพราะอาการงอนที่โยชิทำรุนแรงใส่

         ‘จริงเหรอ ดีใจจังเลย!!!’

         “แต่มีข้อแม้” ผมเอ่ยขัด โยชิหยุดฟังอย่างตั้งใจ “นายต้องพยายามที่จะกลายร่างให้ได้โดยเป็นปกติ ยานี้อันตรายมาก ใช้ได้ครั้งเดียว ที่เหลือนายจะต้องพยายามด้วยตัวเอง และที่สำคัญ เมื่อกินยานี้เขาไป นายจะรู้สึกเหมือนตอนที่นายกลายร่างเป็นงู เจ็บและทรมานมาก ทนไหวไหม” ผมถามเสียงเป็นห่วง รู้ว่าเจ็บปวดแค่ไหน แต่โยชิต้องผ่านไปให้ได้ถ้าอยากกลับคืนสู่ร่างมนุษย์

         ‘ฉันจะอดทน’

         ผมเอายาออกจากซอง ป้อนให้โยชิที่สะดุ้งตกใจเมื่อเห็นขนาดของยา กว่าจะทำใจกินเข้าไปได้ก็ร่วมสิบนาที ผมและเวสตัน รวมไปถึงฟรินน์ที่ยังนอนระบบมองโยชิไม่วางตาเพราะรอดูอาการ

         ไม่ถึงห้านาทีโยชิก็เริ่มดิ้น ส่งเสียงร้องทุรนทุราย ผมมองด้วยความปวดใจ แต่ก็ต้องทนมอง ร่างของโยชิเลื้อยพร่านไปทั่วบริเวณ ผมจับโยชิเอาไว้แต่เพราะความเจ็บปวดจากภายในทำให้โยชิแว้งกัดผมแต่ผมหนีทันจึงไม่โดน

         “โยชิ ใจเย็นๆ ตั้งสติไว้ ไม่นานจะดีขึ้น” ผมบอกเสียงพร่า ผมอยากเป็นคนเจ็บแทน

         ซี่ๆๆ ซู้วว ซี่!!!

         ‘อาซา ฮื้ออ ฉันเจ็บ อ๊ากก มะ ไม่ไหว ช่วยที ช่วย...ฉันด้วย!!!’

         โยชิดิ้นอยู่สักพักก่อนที่จะหยุด พลันร่างสีขาวก็กลายเป็นเด็กหนุ่มในร่างมนุษย์นอนขดตัวในชุดนักศึกษาขาดวิ่นของเขา โยชิสงบไปไม่ได้สติ ผมประคองตัวเขาขึ้นพาขึ้นไปพักบนห้อง




         สองวันต่อมาโยชิก็หายดีเป็นปกติ และร้องจะไปเรียน ผมจึงไปเป็นเพื่อนโดยไปนั่งเฝ้าในห้องเรียน โยชิต้องตามงานหลายชิ้น เขาขอร้องให้ผมช่วยโดยที่ผมยืนข้อเสนอเล็กๆน้อยๆที่ทำให้โยชิเขินอายส่วนผมได้กำไรแลกกับแรงช่วยทำการบ้าน

         “เฮ้อ เสร็จสักที” โยชิบิดขี้เกียจไล่อาการเมื่อยขบเพราะนั่งทำการบ้านมานานนับร่วมสี่ชั่วโมง

         ครืดดด ครืดดด

         โทรศัพท์ของโยชิสั่น ผมหยิบส่งให้ผมเพราะอยู่ใกล้กว่า โยชิมองหน้าจอแล้วก็ยิ้ม ถ้าให้เดาน่าจะเป็นคนในครอบครัว ไม่พ่อเขาก็พี่ชาย

         “พี่ยอร์ช! คิดถึงจังเลย” โยชิเรียกชื่อปลายสายเสียงร่าเริง ผมเก็บงานของโยชิให้เป็นระเบียบและจัดใส่กระเป๋าโยชิเตรียมนำไปส่ง

         “ก็โยการบ้านเยอะมากเลย พี่ยอร์ชไม่งอนนะ ฮะ...อะไรนะ พี่ยอร์ชจะไปไหนนะ” เสียงร่าเริงกลายเป็นเสียงเคร่งเครียด โยชิหันมามองหน้าผมก่อนจะเดินมาใกล้ๆ

         “พี่ยอร์ชจะไปกับใครนะ” เจ้าตัวเล็กของผมพูดเสียงสั่น ดวงตาที่เงยหน้ามองผมมีน้ำตาคลอไหวระริก

         “พี่ยอร์ชห้ามไปนะ ห้ามไปกับเอเดนโดยเด็ดขาด”

         จบประโยคนั้น ผมก็พอจะเดาเรื่องได้ เอเดนเริ่มลงมือกดดันโยชิและผม ผมสั่งให้โยชิเปิดเสียงโทรศัพท์ให้ได้ยิน โยชิรีบทำตามที่บอก

         “มีอะไรหรือเปล่าโยชิ ทำไมพี่ถึงจะไปไม่ได้ เป็นโอกาสที่ดีเลยนะที่จะได้ไปศึกษาธุรกิจไวน์ที่นู่น เอเดนอาสาพาพี่เที่ยวชิมไวน์รสเลิศตามโรงบ่มต่างด้วย ถ้าไปพี่จะได้เอามาพัฒนาไวน์ของเรา” เสียงของยอร์ชดีใจจนโยชิไม่กล้าพูดขัด ผมเดาใจเขาออก

         “โยว่าเขาไม่น่าไว้วางใจ” โยชิพูด

         “ไม่มีอะไรหรอก โยชิอย่าคิดมาก พี่ไปแปบเดียวเดี๋ยวก็กลับ เอเดนเขาเป็นคนดีนะ แม้จะเป็นคนแปลกๆก็เถอะ”

         “แต่โยเป็นห่วง อย่าไปเลยนะพี่ยอร์ช”

         “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า พี่จะดูแลตัวเองดีๆตกลงไหม แค่นี้ก่อนนะโยชิ พี่ต้องรีบเตรียมของ ไว้พี่จะโทรหาใหม่นะ พี่รักน้องนะครับ บาย”

         “พี่ยอร์ช...อย่าไป” โยชิห้ามเสียงแข็ง แต่ไม่ทัน ยอร์ชวางสายไปแล้ว

         โทรศัพท์โยชิสว่างวาบอีกครั้งเพราะมีข้อความเข้า ผมกดเปิดอ่าน โยชิก้มมองข้อความที่ส่งมาจากเบอร์โทรที่ไม่ระบุ

         ‘ฉันให้โอกาสนายช่วยชีวิตพี่ชายของนายแล้ว แต่นายช้าเอง ถ้าอยากได้ศพกลับไป ก็ตามฉันไปสิ พาไอ้อาซาไปด้วยละ แล้วเจอกัน’

         “เอเดน!!!” โยชิคำรามเสียงก้องห้อง น้ำตาจวนจะไหลแต่ก็ไม่ล่วงหล่น โยชิกลั้นมันเอาไว้ มองผมด้วยสายตาโกรธจัด

         “อาซา เราต้องไปช่วยพี่ยอร์ช เราต้องไป” เขาพูดกับผมสีหน้าจริงจัง

         วินาทีนั้นผมรู้เลยว่าจิตวิญญาณที่แท้จริงของโยชิกลับมาแล้ว โยชิเป็นงูที่ใจดี แต่ถ้าใครกล้าแตะคนที่เขารัก เขาจะกลายร่างเป็นงูที่ร้ายกาจ ร้ายแบบที่ผมเองยังเคยยอมจำนน

         ผมไม่รู้ว่าเอเดนจะพายอร์ชไปทีไหน แต่เท่าที่ได้ฟังก็พอจะเดาได้ว่าจะต้องพาไปที่อเมริกา ที่แรกที่เขาจะพาไปก็น่าจะเป็นร้านไวน์ของเขา และโรงบ่มไวน์ทั่วอเมริกาที่เขากว้านซื้อมาเป็นของตนตามที่ผมให้ลูกน้องไปสืบ

         “พวกฉันจะไปด้วย” ทุกคนในบ้านบอก

         “ฉันจัดการจองตั๋วให้แล้ว เร็วสุดที่ห้าได้คือคืนนี้ห้าทุ่ม” จูเลียตที่นั่งจองเครื่องบินหน้าโน๊ตบุ๊คบอก

         “ขอบใจ” โยชิพูด

         “ฉันมีเรื่องจะบอกนายเรื่องหนึ่งโยชิ” อเล็กซ์เอ่ยตอนที่พวกเราทุกคนนั่งเงียบ โยชิหันไปสนใจอเล็กซ์

         “ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ เอเดนเคยบุกไปที่บ้านของฉันเพื่อถามเกี่ยวกับความลับของพวกนายหลังจากที่เขาเจอฉันไปหายอร์ช โชคไม่ดียอร์ชไปหาฉันที่บ้านและเขาเห็นความจริงทั้งหมด เอเดนสั่งให้ฉันสะกดจิตเขาให้ลืมสิ่งที่เห็น ตอนนั้นฉันไม่มีทางเลือกฉันเลยต้องทำ”

         “อะไรนะ” โยชิตกใจแต่ก็ยังควบคุมสติไว้ได้ ไม่เหมือนโยชิที่ยังไม่คืนร่าง ผมบีบมือให้กำลังใจเขาแนบแน่น “แล้วพี่ยอร์ชจะเป็นยังไง”

         “ที่ฉันจะบอกก็คือ ฉันไม่ได้สะกดจิตแบบถาวร แต่สะกดจิตแบบชั่วคราว ยอร์ชจะจำเรื่องทุกอย่างได้ก็ต่อเมื่อเขาเห็นเอเดนกลายร่างเป็นงูหรือเห็นฉันเป็นหมาป่าอีกครั้ง”

         ความวิตกกังวลของโยชิเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ผมและทุกคนรับรู้ได้จากไอที่แผ่ออกมาจากร่างบาง ผมดึงโยชิเข้ามากอดปลอบ

         “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะทำทุกอย่างให้พี่ยอร์ชของนายปลอดภัย”

         “พวกฉันจะช่วยอย่างเต็มที่ อย่าคิดอะไรมาก” เวสตันสำทับ

         “ขอบคุณนะทุกคน”

         ผมพาโยชิขึ้นไปเก็บของบนห้อง กล่องใบเล็กถูกเก็บไว้ในตู้อย่างดี ผมหยิบมันออกมา เปิดกล่องเผยให้เห็นสร้อยเส้นเก่า จี้คริสตัลสีแดงสว่างวาบสะท้อนแสงไฟ

         “เสร็จแล้วอาซา เรารีบไปที่สนามบินกันเถอะ” โยชิสะกิดเรียกผม

         “โยชิ ใส่นี่ไว้นะ ถึงเวลาที่ฉันจะต้องคืนมันให้นาย”

         โยชิมองสร้อยในมือของผม ก่อนที่น้ำตาจะรื้อแล้วร่วงหล่น

         “สร้อยของแม่”

         “พวกเขาจะคอยปกป้องนาย ใส่มันเอาไว้”

         โยชิเม้มปากแน่น หันหลังให้ผมสวมสร้อยให้ สร้อยเส้นนี้คือสิ่งของดูต่างหน้าชิ้นเดียวที่ผมมีหลังจากที่ดาร์เรลเสียชีวิต เป็นของที่แม่ของดาร์เรลให้ไว้ก่อนจะตาย

         “ได้เวลาที่นายจะได้กลับไปที่บ้านเกิดของนายเสียที” ผมพูกระซิบพลางกดจูบที่ต้นคอขาว

         “ทุกคนจะปลอดภัย” โยชิบอกกับผมและบอกกับตัวเอง


         
         .......................
         ยังไม่ได้เช็คคำผิดเลยนะคะ :z3:
         ขอบอกเลยว่าตอนนี้ต้องได้รีไรท์ชัวร์!!
         ถ้าอ่านแล้วติดขัดไม่สนุกยังไงขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
         ตอนนี้แต่งในขณะที่ร่างกายป่วยและเปื่อย แดดแรงๆทำให้ริริไม่ไหวจริงๆ
         ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามนะคะ
         รักคนอ่าน จุ๊บคนเม้น

         
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 08-04-2015 23:45:44
ตอนนี้อาชากับโยชิเลื้อยพันกันน่ารักมาก

หลงรักน้องโยชิร่างงูขาววว  :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 09-04-2015 00:41:51
แอบขัดใจกับยอร์ชจริงๆ = ='' เราว่าน้องซื่อแล้ว
พี่ชายก็ซื่อพอกัน ขนาดน้องพูดยังไม่ฟังเลยยยย
อยากให้โยชิคุ้นกับร่างงูด้วยตัวเองจัง ><
ตอนนี้สงสารอาซา กอดได้ไม่เต็มที่ 555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 09-04-2015 00:55:45
 :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 09-04-2015 02:10:04
 :z3: :z3: สงสารโยชิ  สู้ๆนะทุกคน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 09-04-2015 06:17:59
งูน้อย  :hao7:
คนพี่ก็ซื่อเกิ๊นนน น้องเป็นห่วงไม่ฟังน้องเลย  :m16:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 09-04-2015 07:00:23
สู้โยชิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 09-04-2015 07:24:49
จิ้มไว้ เดี๋ยวมาอ่าน :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 09-04-2015 07:52:59
เย้ๆๆๆ โยชิกลับมาเป็นคนได้แล้ววว
แต่ก็มีเรื่องเข้ามาทันทีเลย
เอเดนเมื่อไหร่แกจะจบสักทีเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 09-04-2015 08:04:03
เกือบลืมไปเลยมีคำสาปเรื่อง เกลียด
หวั่นใจอะ หวังว่าคงไม่เกิดขึ้นนะ
 :hao5:

ชอบตอนเป็นงู งุงงิ้งดีจัง
งูน้อยสีชมพู
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ตอนหน้าไปอเมริกาแล้ว
จะมีฉากโยชิตอสู้ไหมน้า
อยากเห็นโยชิพ่นไฟ :m31:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 09-04-2015 11:08:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 09-04-2015 11:33:33
อาซา หื่นตลอดเว 555

หวังว่า พี่ยอร์ช จะไม่เป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 09-04-2015 11:42:10
กรี้ดดดดดดด กลับร่างคนเร็วไป แต่ไม่เป็นไรรอโยชิเปลี่ยนร่างคล่องแล้วค่อยมาพันกันใหม่คราวนี้เอาแบบฟูลคอสเลยนะริริ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 09-04-2015 11:43:28
โยชิพ่นไฟได้ด้วย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 09-04-2015 13:54:04
โยชิของป้า เข้มแข็งไว้นะลูก สู้ๆค่ะ
ชอบโยชิ เว่อชั่นนี้อ่ะ เท่!!!
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 09-04-2015 17:13:07
แสดงว่าน้องโยเริ่มจำอดีตได้ละเนาะ
เอเดน!!! ขอให้ต้องตามตื๊อพี่ยอร์ชเยอะๆเลย!
ฮึ่มๆๆๆๆๆ โมโหอะ! รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: artemesbee ที่ 09-04-2015 19:21:19
ตอนนี้ดีมากค่ะ เท่าที่อ่านไม่เห็นคำผิดนะคะ
เป็นกำลังใจให้หายป่วยเร็วๆนะคะ
สู้ๆค่ะ  :L2:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-04-2015 20:04:06
เชื่อว่าเอเดนจะไม่ทำอะไรพี่ยอร์ช

โยชิกลายเป็นคนแล้วแถมพ่นไฟได้ด้วย

ชอบตอนที่กลายเป็นงูแล้วรัดกันไว้อะ อิอิ

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 09-04-2015 21:02:53
 :mew1 ชอบจังเลยหลังโยชิเป็นงูน่ะ น่ารักจังเลย ทำให้รู้สึกรักงูขึ้นมาเลยน่ะ อยากเห็นตอนงูรัดกันจังเลย อ่านแล้วฟินเวอร์เลยน่ะ ตอนที่อาซาหยอกเย้ากับโยชิตอนเป็นงูน่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: ronlbb ที่ 09-04-2015 22:40:10
ไม่ชอบงูเหมือนกัน
แต่ปฏิกิริยาของโยชิน่ารักดี

รอตอนถัดไป
แอบเชียร์คู่พี่เหมือนกันนะ
จะฆ่าเขาลงคิจริงๆรึเอเดน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-04-2015 22:54:45
ลุ้นกันต่อไป
เอเดนแกจะทำงี้จริงอ่ะ ตัวร้ายเลยนะเห้ยไม่ใช่พระเอก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 10-04-2015 11:31:44
เอเดนน่าจะซวยละ เพราะปลุกความโหดของโยชิเขา เอาเลยลูก จัดการเอเดนซะ แล้วค่อยส่งต่อให้พี่ยอร์ชดัดสันดาร 555 :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 10-04-2015 12:54:05
เค้าอยากได้ฉากงูอีก โยชิเป็นงูที่น่ารักที่สุดในโลกเบย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 11-04-2015 15:29:56
เข้ามารอหนูโยชิ
ขนาดไม่ได้ตั้งใจยังพ่นไฟได้
ถ้าคุ้นกับร่างงูแล้วจะขนาดไหน ปลื้ม >-<
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: bodun ที่ 11-04-2015 16:14:42
 :mew4:รอๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY ❁ 8-04-2015 [P.48]
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 15-04-2015 13:58:18
ตามอ่านทันแล้ววววว~
เฝ้ารอเวลาให้น้องคืนร่างนานมาก
ลุ้นทุกตอนเลย ชอบจินตนาการคนเขียนมาก
ขอสมัครเป็นแฟนคลับพ่องูอีกคนนะคะ 
:impress2:
รอ รอ รอ~
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-04-2015 02:33:21
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY-ONE







        YATCH

        “แล้วแมวของคุณล่ะ” ตั้งแต่ลงจากเครื่องเหยียบเท้าบนพื้นแผ่นดินนิวยอร์ก ข้าวของกระเป๋าเดินทางทั้งของผมและของเอเดนวางอยู่ตรงหน้ารอให้ชาร์ลมารับ แต่ผมไม่เห็นว่าจะมีแมวของเขาที่เห็นคราวก่อน

        “เจ้าแมวนั่น คงกลับไปหาเจ้าของที่แท้จริงแล้วแหละ หึ” เสียงพูดของเขา กลั้วเสียงหัวเราะแต่กลับดูขืนๆ ใบหน้าไม่ได้ยิ้มเหมือนเขาจะเสียใจ

        “ถ้าคุณอยากเลี้ยวแมว คุณก็ซื้อใหม่ก็ได้นิ” ผมออกความเห็น เอเดนไม่ได้ตอบอะไร ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ใบหน้าของเขาเรียบนิ่ง ดวงตาสีเขียวเข้มมองไปข้างหน้าตรงถนน ไม่นานก็มีรถยนต์สีดำติดฟิล์มหนาขับมาจอดเทียบฟุตบาท กระจกรถเลื่อนลง รอยยิ้มของชาร์ลเป็นสิ่งที่ผมเห็นเป็นสิ่งแรก

        “ไฮยอร์ช การเดินทางปลอดภัยนะ” ชาร์ลพูดกับผมเมื่อผมเข้านั่งในรถ เอเดนนั่งเบาะหน้าข้างชาร์ล เขานิ่งไม่สนใจจะร่วมบทสนทนา

        “ปลอดภัยดีทุกอย่าง ผมเพิ่งเคยได้นั่งแบบเฟิร์สคาร์สครั้งแรก สะดวกสบายกว่าที่เคยนั่งมาแต่ราคาน่าขนลุกมาก” ยอร์ชบ่นไม่จริงจัง ค่าตั๋วเครื่องบินเอเดนเป็นคนจ่าย ซึ่งหลังจากที่ผมรู้ว่าเอเดนซื้อตั๋วแบบเฟริสคาร์สผมก็ค้านทันที เพราะราคามันแพงเกินไป แต่เอเดนยืนคำขาดมาว่ายังไงผมก็ต้องนั่งเพราะเขาจะไม่นั่งชั้นอื่น จะจ่ายเงินให้เขาก็ไม่เอา คำสั้นๆที่เขาตอบกลับมาทำเอาผมเลือกเก็บเงินเอาไว้อย่างหมั่นไส้คือ “ผมรวย”

        “เรื่องปกติครับ เอเดนมันเป็นคนรักความสะดวกสบาย” ชาร์ลแซวเพื่อนขำๆ เหล่สายตามองคนข้างๆที่นั่งหน้านิ่งมองตรงไปข้างหน้าเท่านั้น ชาร์ลยักไหล่มองผมผ่านกระจกหลังเกี่ยวกับอาการของเอเดน ผมสงสัยว่าเอเดนน่าจะมีเรื่องให้เครียดพอตัว สังเกตได้จากการความเงียบและสีหน้าคิดไม่ตกตลอดการเดินทางที่ผมมักเห็นตลอดเวลา

        ตื้ดๆๆ

        เสียงโทรศัพท์ของเอเดนดังในจังหวะที่พวกเราทุกคนในรถเงียบ เอเดนหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดรับแต่ไม่ได้พูดอะไร ผมมองออกไปนอกรถมองวิวทิวทัศน์แทน ผมเพิ่งเคยมานิวยอร์กเป็นครั้งแรก ผมหยิบกล้องขึ้นเพิ่มเช็คความเรียบร้อยเตรียมตัวเก็บภาพถ้าหากว่ามีอะไรน่าสนใจ ผมยังไม่ได้โทรหาโยชิเลย กะว่าถึงที่พักแล้วค่อยโทร

        ก่อนมาผมคุยกับโยชิ เขาพูดอะไรแปลกๆเหมือนกับว่าเอเดนเป็นบุคคลอันตรายสำหรับผม ผมน่ะรู้ว่าเอเดนแปลกและเข้าถึงได้ยาก แต่ว่าเขาก็คงไม่ใช่อาชญากรอะไรพวกนั้น และผมก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ดูแลตัวเองได้ ไม่ใช่หญิงสาวที่จะต้องระวังการถูกล่อลวง แต่ผมก็รับรู้ความห่วงใยจากโยชิ และผมจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับน้องชายว่าจะดูแลตัวเองอย่างดีจนกว่าจะกลับเมืองไทย

        “ทำไม พ่ออย่ามายุ่งเรื่องของผม!” เสียงตะวาดก้องรถดึงความสนใจทั้งจากผมและชาร์ล

        “ผมจะบอกอะไรพ่อไว้อย่างนะ ผมคิดว่าผมมีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องของตัวเอง!”

        ผมรู้สึกหน้าชาเล็กน้อยกับคำพูดและน้ำเสียงที่เอเดนใช้พูดกับคนที่เป็นพ่อ ผมไม่ใช่คนดี ก็ผู้ชายทั่วไป ที่เกเร มีหยาบคายบ้างกับเพื่อนฝูง แต่กับพ่อ...ผมไม่เคยทำ

        “ฮึ่ย! ชาร์ล ไปที่ปราสาทแทน” เอเดนกระชากเสียงหงุดหงิด กดวางสาย ผมหยุดคิดทุกอย่าง ไม่แม้แต่จะออกความเห็นในความคิด คนเราไม่เหมือนกัน อยู่ในสถานการณ์ที่ต่างกัน เพราะฉะนั้น ผมจะไม่พูดหรือคิดว่าใครควรทำยังไงหรือไม่ควรทำยังไง เพราะเราไม่ได้ยืนอยู่ในจุดเดียวกับเขา มันก็ตอบยากนะ ว่าถ้าเราเป็นเขา เราจะทำแบบไหนหรือไม่อย่างไร

        ผมนั่งเงียบๆปล่อยอารมณ์ไปกับเสียงเพลงที่ดังผ่านสายหูฟัง ไม่ขอรับรู้บรรยากาศรอบนอก และผมคิดว่าเอเดนเองก็คงไม่อยากให้ผมสนใจเท่าไหร่

        “เกิดอะไรขึ้นวะ”

        “...”

        “อย่าบอกนะว่าพ่อนายรู้เรื่อง”

        “กลับบ้านเดี๋ยวก็รู้”

        เส้นทางในเมืองกรุงนิวยอร์กเหมือนกับภาพที่ผมเคยเห็นจากอินเตอร์เน็ต ตึกสูงขึ้นติดกับแต่เป็นระเบียบ ที่นี่มีทุกอย่างและเป็นทุกอย่างของโลกก็ได้ เมืองเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก ผู้คนต่างรีบเร่งในการใช้ชีวิตไม่ต่างจากกรุงเทพบ้านเรา วุ่นวายและจอแจ แต่ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ามันมีเสน่ห์มากกับการได้มองคนอื่นดำรงชีวิตในแบบที่เราไม่ได้เป็น

        รถเคลื่อนตัวออกจากในกลางเมืองเข้าสู่เส้นทางนอกเมือง ผมหลับตาลงเพื่อพักสายตากระทั่งไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับเพราะอาการของอาการเจ็ทแล็ก


        ชายหนุ่มทั้งสองคนเบื้องหน้าหันมองคนที่เบาะหลังพร้อมกัน และเมื่อแน่ใจแล้วว่ายอร์ชหลับไปแล้ว

        “งานนี้น่าจะไม่ง่ายแล้วนะ พ่อของนายรู้อะไรบ้าง” ชาร์ลถามหน้าเครียด พ่อของเอเดนไม่ธรรมดา ไม่งั้นไม่ครองตำแหน่งเจ้าของนากินีมาจนถึงทุกวันนี้

        “ไม่แน่ใจ แต่เขารู้ว่าฉันพายอร์ชมา และบอกให้กลับไปพักที่บ้าน”

        “พูดกันตามจริงเลยวะเอเดน ฉันว่าพ่อนายรู้ว่าตอนนี้เรากำลังจะทำอะไร”

        “ถึงรู้ก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างต้องดำเนินต่อตามแผน ไม่เปลี่ยนแปลง” 




        นี่มันจะเกินไปหน่อยนะผมว่า ไม่คิดว่าจะยังมีคนอาศัยอยู่ในสถานที่แบบนี้ ปราสาทที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าทำให้ผมอดคิดถึงการ์ตูนของวอลท์ ดิสนี่ ต่างกันก็ตรงที่ปราสาทนี่เก่าแก่แบบมีมนต์ขลัง แต่สภาพก็จัดว่าแข็งแรงดีไม่มีจุดชำรุดทรุดโทรมเท่าที่มองสำรวจ

        รอบๆปราสาทมีแต่ต้นสนสูงใหญ่หนาแน่นเต็มพื้นที่ แต่บริเวณตรงกลางได้รับการจัดให้เป็นสวนอย่างมีระเบียบ มีน้ำพุที่เป็นรูปปั้นนางฟ้าอยู่ตรงกลางน่าชมต่างจากรูปปั้นที่ประดับอยู่ตามตัวปราสาท รูปปั้นงูอ้าปากอย่างดุร้าย ตรงบริเวณท้องของงูมีสัญลักษณ์บางอย่างที่เลือนรางอยู่ทุกตัว

        ผมพยายามที่จะมองให้เป็นศิลปะ แต่ไม่ว่าจะมองยังไงก็น่ากลัวน่าเกลียดไม่เหมาะแก่การนำมาประดับที่อยู่อาศัย

        “คุณเป็นพวกเชื้อเจ้าเหรอ” ผมถามอย่างแปลกใจ อเมริกาไม่มีกษัตริย์ปกครองประเทศ นั่นหมายความว่าเอเดนไม่น่าใช่เจ้าชาย แต่ว่าปราสาทเบื้องหน้าทำให้ผมต้องคิดใหม่

        “หึหึ” เอเดนแค่หัวเราะแต่ไม่ตอบ ผมอยากถามต่อแต่ก็ไม่อยากจะเสียมารยาท ได้แต่เดินตามหลังตรงไปที่ประตูของปราสาท ชาร์ลขอตัวเอารถไปเก็บแล้วจะตามมาที่หลัง

        วูบ~!

        ผมห่อไหล่หนีความหนาวของลมที่พัดมาหนึ่งระลอก แดดแสงสุดท้ายดับลงทันทีที่ผมก้าวเข้าไปในปราสาท ห้องโถงกว้างขวาง ประตูโค้งเดินแยกไปตามทางทั้งฝั่งซ้ายขวาและตรงกลางเบื้องหลังของบันไดที่จะนำพาไปยังชั้นที่สองสามและสี่

        รอบตัวมีแต่ความเงียบ ได้ยินแม้กระทั่งเสียงก้าวเดินที่ดังกึกก้องสะท้อนให้ได้ยินชัดเจน ผมไม่เห็นใครนอกจากเรา ปราสาทใหญ่ขนาดนี้เป็นไปได้เหรอคนอยู่อาศัยจะน้อยจนหาแทบไม่ได้

        “คุณอยู่กับพ่อคุณแค่สองคนในปราสาทที่ใหญ่โตขนาดนี้หรอกเหรอ” อดไม่ได้จึงต้องถามออกไป

        “ผมไม่ชอบความวุ่นวาย พ่อของผมก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นคนรับใช้จะอยู่ในที่ที่ควรอยู่ไม่ออกมาเผล้นพล่านถ้าหากไม่มีใครเรียกใช้งาน”

        เอเดนเดินไปที่ประตูตรงกลางหลังบันได ผมหันมองข้างหลัง ไม่มีวี่แววว่าชาร์ลจะตามมา

        บานประตูเลื่อนเปิดโดยที่เอเดนไม่ได้สัมผัสมันแม้เพียงนิด หรือไม่ผมก็ไม่ทันมอง ทางเดินมืดสลัว มีเพียงโคมไฟริบรี่สี่ส้มให้ความสว่าง ผมคิดว่าตัวเองอาจจะหลุดเข้ามาในอดีต สมัยนี้วิวัฒนาการก้าวไกล ต่อให้ชอบความคลาสสิกโบราณยังไงแต่ก็ควรใช้ไฟนีออนเพื่อให้ความสว่างและปรับเปลี่ยนให้มันทันสมัยมากกว่านี้เพื่อความสะดวกในการพักอาศัย ไหนชาร์ลบอกว่าเอเดนชอบความสะดวกสบายไง ผมยอมรับว่าตกใจมากกับสถานที่ที่เข้ามาอาศัยอยู่ชั่วคราว

        ถ้าไม่เห็นกับตาคงไม่เชื่อว่าจะตั้งอยู่ในพื้นที่ของเมืองนิวยอร์ก

        ก๊อกๆๆ

        เอเดนเคาะประตูทีห้องๆหนึ่ง จากนั้นประตูก็เปิดออกด้วยตัวเองอีกครั้ง บางทีผมอาจจะเข้าใจผิด ปราสาทหลังนี้น่าจะติดเครื่องมือทันสมัยที่ช่วยในการเปิดประตูอะไรทำนองนั้น

        ในห้องมีผู้ชายวัยห้าสิบนั่งหลับตาฟังเสียงเพลงบรรเลงของโมสาทอย่างสบายอารมณ์ ไม่สนใจเอเดนและผมที่เข้ามารบกวน

        “พ่อ ผมพาเขามาแล้ว”

        ผมหันมองเอเดนทันที พามาแล้วหมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ

        พ่อของเอเดนลืมตามองลูกชายของเขาก่อนจะเลื่อนสายตามาที่ผม เขาจ้องผมอยู่นานมากจนผมรู้สึกเกร็ง ดวงตาของเขาเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่างจากผม และไม่สามารถหลบสายตาได้ราวกับถูกยึดด้วยเข็มหมุด ผ่านไปร่วมสิบนาทีพ่อของเอเดนถึงจะลายตากลับไปหาลูกชาย ผมกระพริบตาถี่ๆไล่อาการเมื่อยล้า ช่วงเลานั้นผมลืมกระพริบตานานเป็นสิบนาทีได้อย่างไร

        “พาเขาไปพักที่ห้องรับรองแขกชั้นสองปีกซ้ายข้างๆห้องนอนของอาซา พ่อให้คนเตรียมห้องเอาไว้แล้ว”

        ผมมองหน้าพ่อของเอเดนอีกครั้งที่เขาชื่อๆหนึ่งออกมา ชื่อเดียวกับแฟนของโยชิ จะใช่คนเดียวกันเหรอ อาจจะไม่ คนเราชื่อซ้ำกันได้ โดนเฉพาะฝรั่งที่ใช้ชื่อซ้ำกันเป็นเรื่องปกติ

        พ่อของเอเดนกลับมาให้ความสนใจผมอีกรอบ “สวัสดี ฉันชื่อจอร์ช เสตรนเบิร์ก เป็นพ่อของเอเดน”

        ผมรีบยกมือไหว้แบบตกใจ “สวัสดีครับผมชื่อยอร์ช”

        “จะมาดูร้านไวน์ของเอเดนใช่ไหม” คุณจอร์ชถามนิ่งๆแต่ดูเป็นมิตร

        “ครับ รบกวนด้วยนะครับ”

        “ที่นี่อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ ฉันชอบแบบบรรยากาศเก่าๆเลยไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมาก แต่อะไรที่ควรเปลี่ยนใหม่ก็เปลี่ยน”

        ผมพยักหน้าเข้าใจ เพราะภายในห้องนี้ดูจะทันสมัยอย่างที่ควรเป็นแตกต่างจากตัวอาคารและทางเดิน ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เว้นแต่โคมไฟเท่านั้นที่ดูเหมือนเป็นของเก่า

        “ไม่มีอะไรแล้วผมจะพาเขาไปพักนะ” เอเดนพูดขึ้นสั้นๆ ไม่รอให้คุณจอร์ชตอบก็เดินออกไปเลย ดูคุณจอร์ชจะไม่ถือสาในความไม่มีสัมมาคารวะของลูกตัวเอง ทำไม่ใส่ใจแล้วยิ้มบางๆให้ผม

        “ตามสบายนะ”

        ผมเดินออกจากห้องที่น่าจะเป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวองคุณจอร์ช เอเดนยืนอยู่อยู่ไม่ไกล เขาเดินนำผมกลับไปทางเดินแล้วขึ้นบันไดไปที่ห้องที่คุณจอร์ชบอกว่าเตรียมไว้ให้

        “พักห้องนี้ไปก่อน มีอะไรกดปุ่มสีแดงปุ่มนี่แล้วเรียกคนรับใช้ได้” เอเดนชี้นิ้วให้เห็นปุ่มสีแดงขนาดเท่าเหรียญสิบของไทยข้างๆสวิตช์ไฟ “เรียกใช้ได้ทุกอย่าง ไม่ต้องทำด้วยตัวเอง”

        ผมเลิกคิ้วสงสัย เอเดนถอนหายใจก่อนจะพูดต่อ “ข้อความของที่นี่ก็คือ ห้ามเดินเผล้นพล่านโดยไม่ได้รับอนุญาต ห้ามออกไปไหนคนเดียวโดยไม่มีฉันพาไป อยากได้อะไรเรียกคนรับใช้เอา หรือไม่ก็โทรไปที่ห้องฉันเบอร์0011”

        “อืม” แม้จะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็คงต้องทำตามอย่างเสียไม่ได้

        “ผมจะย้ำอีกครั้งว่าคุณต้องทำตามที่บอกอย่างเคร่งครัด ห้ามออกไปไหนไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรก็ตาม ห้ามออกจากห้องโดยเด็ดขาด!” เอเดนเน้นคำจริงจัง จากที่ไม่ได้อะไรก็เริ่มจะสงสัยจนอยากรู้

        “มีอะไรอย่างนั้นเหรอ”

        “ที่บอกคือให้ทำตาม ไม่ได้ให้ถาม เข้าใจนะ ตอนนี้ก็นอนพักไปก่อน อีกสักชั่วโมงผมจะเอาอาหารเย็นมาให้ทาน เชิญพักผ่อนตามสบาย”

        “เอเดน” ผมเรียกเอเดนที่กำลังจะเดินออกจากห้องที่กลายเป็นห้องผมชั่วคราว เขาหันมามองเป็นเชิงถามว่ามีอะไร

        “ความจริงแล้ว...ผมไปเช่าโรงแรมอยู่ก็ได้นะ”

        ผมว่าที่นี่ไม่น่าอยู่สักเท่าไหร่ในความคิดของผม ผมไม่ได้อยากจะยุ่มย่ามในบ้านหลังนี้ และก็ไม่ได้คิดอยากจะเที่ยวเล่นชมอะไรให้มากมาย แต่ก็ไม่อยากอยู่อย่างอึดอัด มานิวยอร์กทั้งที่ก็อยากได้ทั้งสุขกายและสบายใจ

        “ผมก็อยากจะทำอยู่เหมือนกันแหละ แต่พ่อผมอยากให้คุณมาพักที่นี่ ถ้าคุณอยากออกไปอยู่ข้างนอก คุณก็ไปบอกท่านเอาเอง” เอเดนพูดเสียงแข็งหน้ากระด้างก่อนจะปิดประตูตัดบทสนทนา ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่มาที่นี่

        ก่อนจะนอนหลับพักผ่อนผมโทรหาโยชิ แต่ติดต่อไม่ได้เหมือนกับว่าปิดเครื่องหรือไม่ก็แบตเตอรี่หมด ผมจึงโทรหาพ่อแทนเพื่อบอกให้รู้ว่าผมมาถึงแล้วอย่างปลอดภัยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผมไม่ได้เล่าให้พ่อฟังถึงความแปลกประหลาดของเอเดนและพ่อของเขาร่วมไปถึงเรื่องของปราสาทที่ผมพักอาศัยอยู่ คงไม่มีอะไร ผมแค่คิดไปเอง

        หลับได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตู ลืมตามองดูว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้อง เอเดนยืนกอดอกมองผม มีคนรับใช้เป็นเด็กผู้ชายที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับโยชิเลื่อนรถเข็นที่ใช้เสิร์ฟอาหารตามโรงแรมเข้ามาในห้อง ผมผุดลุกขึ้นนั่งด้วยสติที่ไม่เต็มร้อย

        “ไปล้างหน้าแล้วมากินข้าว”

        ผมลุกออกจากเตียงทำตามที่เอเดนสั่ง อาหารที่ทานก็เป็นอาหารฝรั่งทั่วๆไปอย่างขนมปังปิ้ง สปาเก็ตตี้ ซุปเห็ดอะไรเถือกนั้น ผมหิวผมก็กินโดยไม่ได้ใส่ใจว่าอาหารตรงหน้ามีอะไรบ้าง เอเดนรอผมกินข้าวนิ่งๆ ระหว่างนั้นผมก็ชวนเขาคุยไปด้วย

        “พ่อคุณดูไม่แกเท่าไหร่เลยเนอะ อายุเท่าไหร่ผมถามได้ไหม” คุณจอร์ชน่าจะแก่กว่าพ่อผมถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว พ่อผมอายุห้าสิบต้นๆ ผมจึงคาดเดาว่าพ่อของเอเดนน่าจะห้าสิบปลายๆ แต่ใบหน้าและผิวหนังดูจะเด็กกว่าพ่อผมเสียอีก

        “ไม่รู้สิ ไม่ได้สนใจ” เอเดนตอบแบบขอไปที ผมมองจ้องเขาอย่างไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก หลายครั้งที่ผมขัดใจในสิ่งที่เอเดนทำหรือสิ่งที่เขาเป็น เขาดื้อและหัวรั้นยิ่งกว่าเด็กหัวโจกในตัวเมืองบางคนที่ผมเคยเห็น

        “เฮ้อ...” ผมถอนหายใจอย่างลืมตัว เอเดนตวัดสายตาแข็งๆมองผม

        “ถอนหายใจทำไม” เขาถาม

        “คุณไม่อยากรู้เหตุผลหรอก” ผมจำได้ขึ้นใจ เขาไม่ชอบให้ใครไปสอน และผมก็ไม่คิดจะทำให้โดนว่าซ้ำสอง

        “พูดมา” เขาสั่ง ผมไม่ฟัง ก้มหน้าทานอาหารจนหมดเกลี้ยง อิ่มแล้วก็รู้สึกสบายจนอยากจะนอนพัก

        “ฉันคงไปทำอะไรให้นายไม่พอใจสินะ พูดออกมาสิ” เอเดนยกมือกอดอก ขายกไขว้ห่างสีหน้าจริงจัง

        “แน่ใจน่ะว่าอยากฟัง” ผมถามซ้ำ เขาพยักหน้า

        ในเมื่อเขาอยากฟังก็คงไม่มีอะไรต้องเกรงใจ “บอกตามตรงนะเอเดน ผมไม่ชอบที่คุณทำต่อพ่อคุณเท่าไหร่ ผมให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นที่หนึ่งไม่ว่าจะพ่อผมหรือโยชิ บุคคลในครอบครัวคือคนที่เราควรทำดีด้วยมากที่สุด ผมไม่เคยพูดจาตวาดตะคอกใส่พ่อ เวลาคุณพูดกับพ่อในรถผมคิดว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรทำสักเท่าไหร่ และให้ท่าทีไม่ใส่ใจเรื่องในครอบครัวอีก เรื่องนี้ผมรับไม่ได้” ผมพูดตรงไปตรงมา ไหนๆก็จะต้องทำธุรกิจร่วมกัน คุยเปิดอกกันไปเลย จะได้รู้ว่าไปรอดหรือไม่รอด

        “หึ พูดได้ดีนี่” เอเดนหัวเราะหยันแบบไม่เต็มใจ ดูท่าว่าคำพูดผมคงเข้าไปถึงแกนกลางสมองของเขา ผมอดอยากจะสั่งสอนเขาไม่ได้ พยายามทำใจเย็น

        “คุณต้องรักคนในครอบครัวคุณให้มาก เพราะพวกเขาจะเป็นคนที่คุณพึ่งพาและไว้ใจได้มากที่สุด”

        “คุณไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำ” สีหน้าของเขาดูแคลนความคิดของผมมาก

        “ใช่ ผมไม่รู้ ไม่รู้หรอกว่าคุณมีปัญหาอะไรกับน้องชายของคุณคุณถึงไม่ชอบเขา” ผมจำได้ที่เขาเคยพูดเหมือนกับว่าไม่ชอบน้องชายตัวเอง “ทั้งยังไม่รู้ว่าคุณกับพ่อคุณเป็นยังไง แต่คุณรู้ไหมสิ่งที่เดียวรู้ก็คือ”

        เอเดนหันสายตามองไปทางหน้าต่าง ทำเป็นไม่สนใจ ผมพูดต่ออย่างไม่แคร์ว่าเขาจะรับรู้หรือไม่ อารมณ์ของคนเป็นพี่ที่ชอบสั่งสอนกำเริบไม่รู้จักเวล่ำเวลาจริงๆ

        “สิ่งเดียวที่ผมรู้ก็คือ ถ้าเรารักและหวังดีกับใครสักคน เขาจะรักและหวังดีกับเราตอบแทน หรือต่อให้ไม่เป็นอย่างนั้น แต่ผมก็ถือว่าผมทำดีที่สุดแล้ว เพราะสุดท้ายแล้ว ผมเชื่อว่าคนที่ไม่เคยใส่ใจในความรักและความหวังดีของคุณอื่นเขาเหล่านั้นจะต้องนึกเสียใจในวันที่ทุกอย่างสายไป และเมื่อนั้นพวกเขาจะได้บทเรียนราคาแพงและสิ่งที่เราให้ก็ไม่ได้สูญเปล่า”

        ผมพยายามที่จะมองโลกในแง่บวกนับตั้งแต่ที่เสียแม่ไป การมองโลกในแง่ดีไม่ใช่การกระทำที่โง่งมและไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนต่อโลก แต่มันหมายความว่าคุณเลือกที่จะหยิบความสุขแทนความทุกข์ต่างหาก คิดเยอะทุกข์เยอะ คิดน้อยทุกข์น้อย

        “คนดีมักอายุไม่ยืน”

        “หึ คนชั่วที่อายุยืนก็ไม่ได้หมายความว่ามีค่าไปกว่ากัน”

        ผมต้องตาตอบกับเอเดนอย่างไม่ลดละ จนสุดท้ายเอเดนก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องไป แต่ก็ไม่ลืมกำชับอีกครั้งว่าห้ามผมออกจากห้องจนกว่าเขาจะมาปลุกในตอนเช้า

        ร้านไวน์ของเอเดนกว้างขวางพอสมควร ตกแต่งหรูหราต่างจากปราสาทที่เขาอาศัยอยู่ นึกถึงปราสาทหลังนั้นแล้วขนก็แทบลุก เอเดนปลุกผมออกมาตั้งแต่เช้าแล้วมาฝากท้องที่ร้านอาหารข้างนอกแทน ผมเพิ่งรู้ว่าความจริงแล้วปราสาทของเอเดนไม่ได้อยู่ในนิวยอร์ก แต่อยู่รอบนอกที่ไม่ไกลนัก จัดเป็นพื้นที่หวงห้ามที่ใครก็ห้ามเข้านอกจากคนที่มีผ่นตราประทับของตระกูลสเตรนเบิร์ก

        และเมื่อวานชาร์ลก็นอนพักที่ปราสาทหลังนั้น เช้านี้เราเลยออกมาพร้อมกันสามคน เอเดนพาผมเที่ยวชมร่านไวน์ของเขทั่วทุกซอกทุกมุม เปิดไวน์หลายขวดให้ผมได้ลิ้มชิมรสตั้งแต่ราคาไม่กี่สิบดอลล่าไปจนถึงราคาหลักหมื่น

        จากนั้นเขาก็พาผมไปต่างเมืองที่อยู่ใกล้ๆเพื่อเที่ยวชมโรงบ่มไวน์ที่เขาซื้อต่อมาเป็นของตัวเอง ผมศึกษาดูงานด้วยความตั้งใจ มีหลายเรื่องที่ผมไม่รู้และกะว่าจะทำไปปรับใช้ที่ไร่ของตัวเอง เรียนรู้งานไปก็ชิมไวน์ไปด้วยจนผมเริ่มจะเมา เอเดนจึงให้พักเรื่องงานไว้แค่นั้น เขาพาผมกลับที่ปราสาท ผมไม่รู้ว่าตัวเองดื่มไปเยอะขนาดไหน เพลินจนไม่รู้ตัวว่าเมา

        “เอเดน ไหวไหม” เอเดนปลุกผมให้ได้สติ เขานั่งย่อตัวอยู่ตรงประตูฝั่งข้างคนขับที่ผมนั่ง ผมลืมตามองไปรอบๆอย่างเชื่องช้า ชาร์ลไม่อยู่แล้ว ใช่ ผมจำได้ เขาบอกว่าเขาจะกลับบ้านของเขา และตอนนี้ผมอยู่ที่หน้าปราสาทของเอเดน

        ผมก้าวขาลงจากรถ แต่พอยืนทรงตัวก็เซไปหาเอเดน ดีที่เขารับผมไว้ทันและช่วยประคองผมไว้

        “ผมไม่คิดว่าคุณจะคออ่อน”

        “ผมก็ไม่คิดเหมือนกัน”

        เขาพาผมขึ้นห้องนอน ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียง เอเดนนั่งลงมองผมอย่างใช้ความคิด ผมมองสบตาตอบเบลอๆ ผมคงเมาจริงๆไม่งั้นไม่มีทางเห็นว่าใบหน้าของเอเดนเลือนเข้ามาใกล้หรอก ใกล้จนเหมือนห่างกันไม่ถึงคืบแล้วคาค้างไว้อยู่อย่างนั้น

        “ไม่ ฉันไม่รู้สึกอะไรกับนายทั้งนั้น ฉันไม่ได้อยากได้ความรักจากนาย ไม่มีวัน ”

        เสียงพูดของเอเดนเบาเหลือเกินจนจับใจความไม่ได้ว่าเขาพูดอะไรกับผม


        กรี๊ดดดด!!!

        ผมสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง

        ซี่ๆๆ ซีดดดดดด

        “เสียงอะไร” ผมผุดลุกขึ้นนั่ง ได้ยินเสียงโครมครามดังมาจากข้างนอก เสียงกรีดร้องเงียบไปเหมือนว่าไม่เคยเกิดขึ้นน ผมนั่งนิ่งรอฟังเสียง เอเดนสั่งเอาไว้ว่าไม่ให้ผมออกจากห้อง

        ตึก!!!

        เสียงเหมือนอะไรสักอย่างกระแทกกับตัวปราสาท ผมมองไปที่ประตูอย่างกังวล เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ยาวนานและโหยหวน อีกเสียงที่แทรกปนกันอยู่คือเสียงอะไรสักอย่างที่คล้ายกับเสียงของงู ผมลุกขึ้นไปยืนอยู่หน้าประตูเพื่อฟังเสียง จะได้ทนข่มตานอนต่อก็คงเป็นไปไม่ได้ เสียงดังขนาดนี้ไม่โง่ก็ต้องรู้ว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลข้างนอก

        เกิดอะไรกับผู้หญิงคนนั้น แล้วเสียงงูอีกเล่า

        อ๊ากกก เฮือก!

        คราวนี้เสียงผู้ชาย ผมยืนกำมือแน่นชั่วใจว่าจะออกไปดีไหม เผื่อว่ามีคนอยากได้ความช่วยเหลือเล่า ผมจะไม่ออกไปช่วยอย่างนั้นเหรอ คำตอบคือผมทนอยู่เฉยไม่ได้ ลองกดโทรศัพท์เข้าห้องของเอเดนแต่ไม่มีคนรับสาย

        “หรือว่า...” เขาจะตกอยู่ในอันตราย

        ผมเปิดประตูออกจากห้อง เดินไปที่ห้องของเอเดน ประตูไม่ได้ล็อค ผมเปิดเข้าไปดู เอเดนไม่ได้อยู่ข้างในนั่นทำให้ผมกังวลเพิ่มขึ้น เสียงงูชัดหูว่ามาจากชั้นสาม ผมค่อยๆเดินขึ้นไปดู เสียงหายไปแล้ว ผมมองรอบตัวระแวดระวัง ประตูบานใหญ่แบบสองบานเปิดอ้าไว้เล็กน้อย มีเสียงครืดคราดดังมาจากด้านใน

        ผมออกแรงดันประตูให้เปิดออกกว้าง สิ่งที่เห็นทำให้ผมผงะถอยหลังไปสองก้าว สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่สีเงินสะท้อนแสงเลื้อยพันอยู่กับเสาต้นใหญ่ ลำตัวของมันยิ่งกว่าอนาคอนด้และมันมีสองหัว ผมขยับตัวหนีไปไหนไม่ได้จนมันหันมาเห็นผม ทันที่ที่สบตากับมันตาผมก็พร่ามัว อยู่ๆภาพบางอย่างก็ซ้อนทับขึ้นมา ภาพบางอย่างที่ผมลืมไป หมายความว่ายังไง ภาพของผู้ชายที่ชื่ออเล็กซ์กับเอเดนที่อยู่ในร่างของหมาป่ากับงู

        ใช่...ผมไม่ได้สติหลอนจากอาการบาดเจ็บ ผมเคยเห็นมันกับตาและเอเดนเป็นคนสั่งให้อเล็กซ์สะกดจิตผม

        พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา พวกเขาไม่ใช่

        ปึก!

        ร่างของงูตัวใหญ่เลื้อยลงสู่พื้นตรงเข้ามาหาผมอย่างคุกคาม แววตามาดร้ายสีเขียวมรกตจับจ้องผมวาวโรจน์ แววตาที่เหมือนของเอเดนไม่ผิดเพี้ยนตอกย้ำให้รู้ว่ามันคือความจริง

        ซีๆๆ ซีดด

        “อะ เอเดน...นายใช่ไหม นายเป็นงูใช่ไหม!?”



        ………
        เสร็จ ณ เวลา 02:35 AM เพราะฉะนั้นยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ ได้โปรดให้อภัย พรุ่งนี้เย็นจะมาแก้
        เหอะๆๆ พี่ยอร์ชคงจะบอกว่า กูไม่น่านึกเป็นห่วงมันจนต้องออกจากห้องไปดูเลย
        อย่าหงุดหงิดที่พี่ยอร์ชไม่ฟังเอเดนแล้วอยู่ในห้องนะคะ ถ้าพี่ยอร์ชไม่ออกเรื่องก็ไม่เดินนะตัวเธอ ฮ่าๆๆ
        ตามนิสัยพื้นฐานที่เป็นคนจิตใจดีและนึกเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง พี่ยอร์ชก็ต้องเลือกออกไปดูสถานการณ์เผื่อเข้าช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว
        ตอนนี้ไม่รู้ว่าแต่งให้งงกันหรือไม่ ถ้างงก็ถามมานะ ถ้าอยากรู้ว่าพ่อเอเดนรู้เรื่องได้ยังไง ตอนหน้าเฉลยนะ ทุกอย่างมีที่มาที่ไป

       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 19-04-2015 02:48:33
อยากให้เอเดนหยุดซักที

ทุกคนจะได้สงบๆสุข
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 19-04-2015 05:21:39
รู้ได้สักทีนะพี่ยอร์ช จะได้เลิกทำให้น้องเป็นห่วงสักที
บางทีเราก็แอบขัดใจยอร์ชนะ น้องพูดอะไรไม่เคยเชื่อเลย
ลองคิดดู ถ้าเป็นน้องเรามาพูดว่าให้ระวัง เราก็จะเชื่อนะ
เพราะน้องเราไม่มีเหตุผลอะไรต้องมาหลอกเรา
ซื่อเกินไปมันก็ไม่ดีน๊า คุณพี่ชาย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 19-04-2015 06:36:54
มีคำผิดอยู่นิดๆ นะคะ  เอาไว้ค่อยแก้เนอะ 

ตื่นเต้น เรื่องจะเป็นไงต่อ รักต้องห้าม คนกับ นากินี เอิ๊กๆๆๆๆ   

ปล แอบชอบคู่เอเดนไงมะรุ้   5555 เอเดนเป็นหนุ่มซึนชิมิ???   
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 19-04-2015 06:42:00
พี่ยอร์ชของเจ๊!!!!! หมั่นไส้อิตาเอเดน
เฮอะ!! ไม่ต้องการความรักเรอะ! เดี๋ยวเหอะๆ
เอาให้ทั้งรักทั้งหลงพี่ยอร์ชเลยนะคะริริ
รอตอนต่อไปน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 19-04-2015 07:22:01
 :pig2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 19-04-2015 08:31:43
เอเดนคิดได้สักทีสิ
พี่ยอร์ชพูดขนาดนี้แล้วนะ
ระวังเหอะมาคิดได้ตอนสายจะไม่เหลืออะไรเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 19-04-2015 08:46:36
บอกเลยว่าอดไป 1 เดือน ห้ามแตะต้อง.  ....นี่คืออนาคตของเอเดนโทษฐานทำให้ยอร์ชมีน้ำโห..555..
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 19-04-2015 10:06:23
เอาแล้วเหวยยย รู้ความจริงแล้ววววว
เอเดนจะทำยังไงต่อไป อย่างลุ้นอ่ะ บอกเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 19-04-2015 10:29:00
จะยังไงต่อเนี่ยยยยยยยยยยยย
ยอร์ช คงไม่โดนทำร้ายหรอกมั้ง
โยชิกับอาซามาช่วยไว้พอดีเปล่าหว่า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 19-04-2015 11:46:11
 :katai2-1:พี่ยอร์ชออกไปน่ะดีแล้ว เพราะตัวเขาก้อนิสัยแบบนั้นแหละ เห็นใครเดือดร้อนก้อต้องช่วยเหลือ และในใจก้อมีความรู้สึกดีกับเอเดนอยู่แล้วด้วยน่ะ  :hao6: ดีจะได้รู้กันไปสักที ไม่งั้นก้อบื้ออยู่คนเดียวนี่แหละ แต่ดูจะตกใจน้อยกว่าที่คาดไว้น่ะ อยากอ่านตอนหน้าแล้วน่ะว่าจะเป็นยังไง อย่าเพิ่งตัดฉับไปฉากของโยชิน่ะ รอก่อน  :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 19-04-2015 11:54:27
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 19-04-2015 14:36:53
เยยยยย ดีใจจังพี่ยอชความจำกลับมาแล้ว

คุยให้ร้เรื่องไปเลยนะๆ พี่ยอชจะได้ลงสมรภูมิเต็มตัว ร่วมกับน้องเขยซะที 55
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: amisezmin ที่ 19-04-2015 15:01:27
พี่ยอร์ชจำได้แล้ว เอเดนจะทำยังไง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 19-04-2015 15:28:43
แล้วแบบนี้จะเป็นยังงัยต่อ

พี่ยอร์ช จะรอดจาก เอเดน ในร่างงูมั้ย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-04-2015 19:09:34
เดี๋ยวขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-04-2015 19:42:12
เอเดนมีความรู้สึกกับพี่ยอร์ชใช่ไหม

แต่ต่อต้านความรูสึกนั่นไว้เพราะไม่อาจยอมรับ

ความรู้สึกนี้ได้ เอาใจช่วยเอเดนนะ

ขอให้กลับตัวกลับใจได้นะเอเดน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 19-04-2015 21:10:06
ขุ่นพี่รู้เรื่องแล้ว เอเดนจะทำยังไงละเนี่ย  :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 20-04-2015 11:25:32
เอาแล้วงายยยย พี่่ยอร์ชระวังตัวด้วยนะ แต่คิดว่าคนที่จะแย่น่าจะเป็นเอเดน เพราะว่าเอเดนแอบรักพี่ยอร์ชโดยไม่รู้ตัว จัดการเอเดนให้อยู่หมัดเลยพี่ยอร์ช :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 20-04-2015 11:30:29
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: wi_OoO_wi ที่ 20-04-2015 13:39:55
อาซา ดูพี่เป็นตัวอย่างนะ จะคบใครก็พาเข้าบ้านเลย เข้าตามตรอกออกตามประตูอ่ะ รู้จักมั้ย  :hao3: :hao3:
//ยอร์ชบอก ผมไปคบกับเอเดนตอนไหนครับบบ
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 20-04-2015 21:12:17
เฮเดนอย่าทำร้าย ยอร์ชเด็ดขาด
มิเช่นนั้น คุณจะเสียใจ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 20-04-2015 22:07:34
เย้มาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: - lloJ!จิ้a - ที่ 21-04-2015 11:52:26
ตามมาจากเด็กดีค่ะ เห็นชื่อคนเขียนคุ้นๆว่าอยู่ในเล้าเลยตามมากดดัน  :hao6:

จิ้มจึกโยชิ อาซา คุณริริ   :z13:

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: mukkai ที่ 21-04-2015 12:19:45
ฮว๊ากกก รู้ความจริงแล้ว? :serius2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: bodun ที่ 21-04-2015 15:05:29
ทำให้ค้าง  ต้องมาต่อให้ไวนะ  อยากรู้จนส่องทุกวันแล้วเนี่ย                                                                 ค  ร                     
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 24-04-2015 22:08:06
ทันซะที  กำลังลุ้นเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 25-04-2015 15:36:36
ยอร์ชรู้แล้ว จิตที่ถูกสะกดไว้ก็คลายแล้ว แล้วทีนี้เฮียแกจะทำยังไงล่ะเนี่ย
โยชิเตือนแล้วว่าอย่ามาๆ ก็ไม่ฟัง
นี่ต้องลำบากให้โยชิตามมาช่วยอีก
555 แลดูเหมือนว่าเฮียยอร์ชแกผิดเต็มๆเลยเนอะ
รอตอนต่อไปจ้า น้องริริ สู้ๆน่ะ เป็นกำลังใจให้จ้า อย่าหักโหมมาก ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 25-04-2015 19:41:28
มารออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 29-04-2015 01:47:42
บ้านนี้เสร็จพี่งูหมดเลยแน่ๆ ดูทรงแล้วรอดยาก

ชอบเรื่องนี้มากจริงๆนะ วายแฟนตาซีสนุกๆนี้หาอ่านยากมาก
แต่ของคุณริริ ปมต่างๆ ตำนานที่หยิบมาใช้ คุณริริแต่งให้มันเข้ากันกลมกล่อม อ่านแล้วลื่นไหลสนุกมาก ประทับใจจริงๆ
ตอนแรกจะรอให้จบแล้วอ่านรวดเดีย แต่ทนไม่ไหว อ่านยาวจนถึงตอนปัจจุบัน
เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 02-05-2015 02:15:29
นักอ่านมารอคุณริริ และ พี่งูน้องงู ที่ท่าน้ำทุกวันเลยน้าาาาาา (ผิดเรื่องๆ)  :-[

รอน้าาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-ONE ❁ 19-04-2015 [P.49]
เริ่มหัวข้อโดย: zzom ที่ 03-05-2015 00:57:02
5555  พี่งูน่ารัก  :hao7: :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 05-05-2015 20:00:08
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY-TWO





        ADEN

        ร่างสูงโปร่งไถลลงกับพื้นสลบไสลไม่ได้สติ คงไม่มีมนุษย์คนไหนในโลกที่ไม่อยากรู้อยากเห็นแม้กระทั่งยอร์ช ผู้ชายที่ผมคิดว่าแปลกประหลาดกว่าคนอื่น แต่สิ่งที่เหมือนกับคนทั่วไปนั่นก็คือช่างสอดรู้

        ผมกลับคืนสู่ร่างเดิม กังวลใจไม่น้อยที่อีกฝ่ายเห็นผมในร่างงู ริมฝีปากบางที่พึมพำเมื่อสักครู่เอื้อนเอ่ยอะไรสักอย่างที่ผมฟังไม่ออกนั่นเพราะเจ้าตัวพูดเป็นภาษาไทย หวังว่าคงยังไม่รู้หรอกนะว่าผมเป็นมนุษย์กลายร่างนากินี แต่คงไม่มีทางรู้หรอก เพราะเรื่องแบบนี้ยังไงก็ยังเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือการคาดหมายของมนุษย์ปกติทั่วไป

        ผมคิดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ถ้ายอร์ชสงสัยเรื่องที่เขาเห็นงูตัวใหญ่กว่าอนาคอนด้า ผมก็จะบอกเขาว่า...

        “นายน่ะละเมอ หึ”

        ผมช้อนร่างของยอร์ชขึ้นอุ้มแนบอก ถึงจะตัวสูงและมีรูปร่างอย่างผู้ชายทั่วไปแต่กับมนุษย์ไม่ธรรมดาอย่างผม น้ำหนักตัวแค่นี้ไม่ระคายเลยสักนิ ผมอุ้มเขากลับไปนอนที่ห้องนอน นึกแปลกใจตัวเองว่าทำไมต้องกังวลว่ายอร์ชจะรู้ว่าผมเป็นอะไร ใช่สิ ที่ผมกังวลน่ะก็เพราะว่าแผนการยังไม่สำเร็จ ถ้ายอร์ชรู้เรื่องก่อน อะไรๆจะยากขึ้น ใช่แล้ว มันคงเป็นแบบนั้น ต้องไม่ใช่ความกังวลเพราะผมไม่อยากให้ยอร์ชรู้สึกกับผมไม่ดี

        แปร๊บ!

        “ต่อให้นายรู้ก็ช่าง ฉันไม่เห็นต้องสนใจว่านายจะรู้สึกยังไง” ผมก้มหน้าพูดกับเขาทั้งที่เขาหมดสติ ไล่มองตั้งแต่หน้าผากที่ชื้นเหงื่อ ลงต่ำมาที่ดวงตาทั้งสองข้างบัดนี้ปิดสนิท ไม่น่าเชื่อว่าขนตาจะหนาเป็นแพ ไม่ยาวมากแต่ก็งอนสวย เพราะแบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้บางครั้งผมรู้สึกว่ายอร์ชตาหวาน จมูกโด่งไม่ถึงกับเป็นสันที่ชัดเจนอย่างคนตะวันตก แต่มันช่างลงตัวเหมาะกับเขาพิลึก แก้มก็ใสไม่มีรอยตำหนิ มีไรหนวดจางๆแต่น่ามอง สุดท้ายก็ริมฝีปากอิ่มสีออกชมพูเข้ม เสี้ยวของความคิดที่ผุดขึ้นมากับการกระทำที่ยั้งใจไม่ทัน ผมก้มลงแนบริมฝีปากลงไปเพียงเพื่ออยากจะรู้ว่ามันจะน่ากินอย่างที่เห็นที่คิดหรือเปล่า

        เกิดความเงียบรอบตัว แต่เสียงในหัวดังอื้ออึงขึ้นมาแทน...หวานกว่าที่คิด

        กึก!

        ผมก้าวถอยห่างออกมายืนมองที่ปลายเตียง หัวใจเต้นโครมครามลมหายใจติดขัด รู้สึกร้อนซู่ไปทั้งตัว ผมรีบเดินออกจากห้องของยอร์ชกลับห้องของตัวเอง ผมเป็นอะไร ตั้งแต่มีชีวิตมายาวนานถ้านับตามเวลาของมนุษย์ก็หลายภพหลายชาติ ผมไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้ ไม่สิ ผมเคยเป็น ครั้งแรกที่ผมมีสัตว์เลี้ยงเพราะพ่อหามาให้เป็นของขวัญที่ผมสอบบททดสอบการเป็นนากินีผ่าน ตอนนั้นผมดีใจมาก ทันทีที่ผมเห็นเจ้าแมวตัวนั้นผมตกหลุมรักมัน ผมตั้งชื่อมันว่าซัลซ่า ผมดูแลมันอย่างดี มันติดผมมาก และผมก็รักมันมาก แต่ไม่นานมันก็ตาย อายุของสัตว์โลกนั้นสั้น โดยเฉพาะสัตว์ปกติ ผมทำใจไม่ได้ ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่คิดจะหาสัตว์อื่นมาเลี้ยง เพราะรู้ดีว่าไม่นานมันก็จะจากผมไป แต่นั่นก็นานมากแล้ว ขนาดเจอเจ้าแมวแปลกหน้าที่อยู่ๆก็มาแล้วอยู่ๆก็จากไป ผมยังไม่ใจเต้นแรงเหมือนที่เจอซัลซ่า แต่ผมกลับไปใจเต้นแรงกับเจ้ามนุษย์ตรงหน้า

        อย่าบอกนะว่า...เป็นไปไม่ได้

        ยังไงก็เป็นไปไม่ได้!

        เช้าวันต่อมา ผมตื่นเพราะมีเสียงเคาะประตู ผมรู้ว่าใครที่ยืนอยู่ข้างนอก มีเพียงคนเดียวที่เดี๋ยวนี้จุ้นจ้านเป็นเด็กๆ ผมลุกออกจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้ยอร์ช

        “มีอะไร” ผมถามหน้างัวเงีย เมื่อคืนกว่าจะข่มตานอนได้ก็เกือบเช้า

        “เอ่อ คือผม...” ยอร์ชอึกอักไม่กล้าสบตาผม

        “เป็นอะไร” ผมถาม จ้องปฏิกิริยาของอีกฝ่ายเพื่อดูท่าที เขาช้อนตาขึ้นมองสบกัน แววตาที่มีความกลัวและเต็มไปด้วยความเคลือบแคลง

        “เมื่อคืนผมว่าผมเห็นอะไรบางอย่างในบ้านคุณ” เขาพูด ผมเลิกคิ้วทำเหมือนสงสัยทั้งๆที่รู้ดีว่าอะไรที่ยอร์ชหมายถึง

        “เห็นอะไรล่ะ” ผมเอนตัวพิงกรอบประตูด้วยท่าทางสบายใจ แต่ลึกๆก็กังวลว่ายอร์ชจะรู้ความจริง

        “ผมเห็นงูตัวใหญ่ในบ้านของคุณ ที่ชั้นบนในห้องโถงใหญ่” ยอร์ชเล่าไม่เต็มเสียงนัก ผมทิ้งช่วงประมาณสิบวินาทีก็หัวเราะลั่นออกมา

        “ฮ่าๆๆ”

        “มีอะไรน่าขำไม่ทราบครับคุณ พวกคุณเลี้ยงงูขนาดใหญ่อย่างนั้นไว้ในบ้านได้ยังไง ไม่สิ พวกคุณเป็นใคร ผมเชื่อว่างูนั่นไม่ใช่งูปกติธรรมดาแน่นอน” ยอร์ชมองผมหวาดระแวง อยากจะขำ

        “คุณจะบ้าบอไปไหน เมื่อคุณแยกความฝันกับความจริงไม่ออกหรือยังไง”

        เขาจะทำได้แค่สงสัย จะไม่มีทางได้รู้ความจริงจนกว่าผมจะอนุญาตให้เขาได้รู้

        “ผมไม่ได้ฝัน!” เขายืนยันเสียงแข็ง ผมก้าวเดินเข้าไปใกล้เขา ยอร์ชยืนนิ่งไม่ได้ถอยหลังทั้งๆที่ในใจมีความหวั่นเกรง

        “คุณฝัน ร้องเสียงดังลั่นบ้าน จนทำให้คนในบ้านหลังนี้ตกใจ” ผมเล่าเรื่องราวที่ปั้นแต่งและยัดเยียดให้ยอร์ชยอมรับ

        “ไม่จริง ผมเปล่า”

        “ใช่ คุณฝัน ผมเข้าไปปลุกคุณในห้องแต่คุณไม่ตื่น คุณฝันร้ายผมรู้ แต่อย่าเหมารวมว่ามันคือเรื่องจริง”

        “คุณโกหก!”

        “งั้นก็ลองไปหาสิ ว่ามีงูในบ้านผมจริงหรือเปล่า แต่ช่วยเร็วๆด้วย อย่าลืมว่าคุณต้องออกไปข้างนอกกับผม” ผมจ้องหน้าเขานิ่งแสดงถึงอำนาจผ่านทางสายตา ยอร์ชนิ่งอึ้งไม่ขยับเคลื่อนไหวไปตามหาสิ่งที่เขายืนยันว่ามี

        “ตกลงจะยังไง จะไปหาไหมไอ้งูไม่ปกติของคุณน่ะ”

        ยอร์ชก้มหน้าลง มือที่กำแน่นคลายออก “ผมฝันเหรอ” เสียงเขาสั่นเครือคล้ายคนใจหาย

        “อืม” ผมยืนยันอีกครั้ง

        “งั้น...ผมก็ขอโทษ” เขาเงยหน้าสบตาผมอีกรอบ ถอนหายใจยาวเหมือนโล่งอก

        “หึหึ อยากให้ผมกอดปลอบไหม” ผมทำเป็นทีเล่นทีจริงเพื่อที่จะลากเขาออกจากประเด็นที่เจ้าตัวสงสัย

        “ไม่ต้อง ผมโตแล้วไม่ต้องให้ใครมาปลอบ” ยอร์ชกระแทกเสียงหน้าแดง หมุนตัวเดินกลับไปที่ห้องนอนของเขา เมื่อเขาหายเข้าไปในห้อง รอยยิ้มหยอกเย้าของผมก็หลุบลงฉับ

        เชื่อไหมว่าผมรู้ว่าเขาไม่เชื่อ แต่ที่ตัดบทเพราะต้องการจะตัดปัญหา แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมหรอก มนุษย์ตัวเล็กๆไม่มีพิษมีภัยอย่างยอร์ชจะทำอะไรได้ มนุษย์ที่บริสุทธิ์ทั้งกายและใจจะไปมีฤทธิ์เดชทำอะไรใครได้

        หนึ่งชั่วโมงต่อมาผมขับรถพายอร์ชออกจากปราสาท กระจกหลังรถสะท้อนภาพพ่อที่ยืนอยู่บนระเบียงจ้องมองผม พ่ออาจจะสงสัยในสิ่งที่ผมกำลังทำ แต่ไม่ว่าอะไรหรือใครก็หยุดยั้งผมไม่ได้แล้วในตอนนี้

        ความเจ็บปวดที่สั่งสมมานานนับพันปีมีแต่จะเลวร้ายขึ้น และคนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ก็คือพ่อและอาซา พ่อที่เห็นเมียนอกสมรสดีกว่าแม่ พ่อที่เห็นไอ้อาซาดีกว่าผมเพียงเพราะคำทำนายที่ว่ามันจะได้เป็นคนที่ยิ่งใหญ่ พ่ออยากให้มันขึ้นแทนที่พ่อโดยมองข้ามผม ผมที่ควรได้ทุกอย่างแต่ผมกลับไม่ได้ แต่ไม่นานนักหรอก อีกไม่นาน ทุกอย่างจะต้องเป็นของผมแต่เพียงผู้เดียว

        “คุณจะพาผมไปที่ไหน คือผมหิวมาก จะว่าอะไรไหมถ้าเราจะแวะร้านข้างหน้านั่นเพื่อหาอะไรลงท้อง” ยอร์ชถามหลังจากที่เขานั่งเงียบมานานตั้งแต่ขึ้นรถ ผมพาเขาออกมาโดยที่ไม่ได้ให้ทานเมื่อเช้าที่บ้าน เพราะผมรู้ว่าถ้าทานร่วมโต๊ะกับพ่ออาจทำให้อาจทำให้แผนการในวันนี้เสีย ผมคิดว่าพ่อรู้เรื่องแต่เขายังไม่พูด ผมก็จะไม่พูดแล้วทำเหมือนว่าไม่มีอะไร ทั้งๆที่สงครามมันกำลังจะเกิด

        “ก็ดี ผมเองก็หิวเหมือนกัน” ผมหักพวกมาลัยเลี้ยวเข้าร้านอาหารเช้าริมทาง

        ยอร์ชเลือกนั่งข้างนอก เท่าที่รู้ผมว่าเขาเป็นพวกรักธรรมชาติ ไม่ใช่คนติดเมือง เป็นเรื่องที่แปลกอีกเรื่องในความคิดของผม คนส่วนมากชอบวิถีชีวิตในเมืองแต่เขาไม่

        “วันนี้อากาศดีนะคุณว่าไหม” ยอร์ชพูดน้ำเสียงฟังสบายระหว่างที่รออาหาร เราทั้งคู่สั่งแบบอเมริกันเบรคฟาสต์ด้วยกันทั้งคู่กับกาแฟร้อนอีกคนละแก้ว

        “อืม ก็ดี” วันนี้ไม่หนาวเท่าไหร่ มีแสงแดดออกช่วยเพิ่มความอุ่น ยอร์ชหลับตาเงยหน้ารับแสงแดดที่สาดส่องลงมา ผมมองเขาเพลินตาจนได้ยินเสียงเรียกจากพนักงานถึงรู้สึกตัว รีบลุกไปเอาอาหารที่สั่งไว้ หยุดความคิดที่กำลังจะเดินหน้าไปไกล พร้อมบอกตัวเองว่า...ผมไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น




        YATCH

        “ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยเมื่อเอเดนวางถาดอาหารลงตรงหน้าพร้อมฉีกยิ้มกว้างให้เขา เอเดนทำเป็นไม่มอง นั่งลงทานอาหารเช้าเงียบๆ ผมเริ่มชวนคุยเป็นปกติ อีกเรื่อง ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ผมรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ซ้ำยังรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป

        เมื่อคืนผมแกล้งทำเป็นหมดสติไปต่อหน้างูตัวใหญ่ จากนั้นก็รู้สึกได้ว่าตัวลอยมีคนอุ้มผมขึ้น แล้วจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเอเดน แม้แต่คำพูดที่เขาพูดเพราะคิดว่าผมเป็นลมผมก็จำได้ขึ้นใจ ยอมรับว่าผมช็อกกับสิ่งที่รู้ ถามตัวเองเป็นร้อยรอบเมื่อเอเดนออกไปจากห้องความนี่คือเรื่องจริงหรือเปล่า เป็นไปได้เหรอที่โลกใบนี้จะมีมนุษย์ที่กลายร่างเป็นสัตว์ได้อย่างที่เคยดูในหนังจำพวกหมาป่าอะไรเถือกนั้น แต่ความจริงก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ไม่เชื่อก็คงจะเป็นการหลอกตัวเอง ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่สิ่งที่เห็นคาตาก็ไม่อาจลบออกจากความทรงจำได้

        เอเดนเป็นงู...เขาเป็นมนุษย์ที่กลายร่างเป็นงูได้ ผมยังจำได้อีกว่า ความทรงจำบางอย่างหายไปจากหัวของผม เสียงตะโกนที่บอกให้อเล็กซ์สะกดจิตผม ผมจำได้อีกครั้ง เอเดนเป็นงู และอเล็กซ์เป็นหมาป่า

        และความจริงเกี่ยวกับตัวตนของเขาที่เขาปกปิดกับคำสั่งห้ามไม่ให้ผมออกจากห้องตอนกลางคืน ผมจึงคิดว่า ทุกคนในปราสาทหลังนั้นต้องเป็นพวกเดียวกับเขา มันบ้ามาก บ้าจนยากเกินจะเชื่อ

        ผมนึกย้อนไปวันนั้นที่อเล็กซ์ไปหาผมที่ไร่พร้อมกับบอกว่ามีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับโยชิจะบอกผม แต่แล้วเอเดนก็เข้ามาขัดจังหวะ

        ‘ผมคิดควรมีบางอย่างที่คุณต้องรู้ ก่อนที่ผมจะถูกตามตัวเจอ’

        อเล็กซ์บอกแบบนั้น และเมื่อเอเดนเข้ามา อเล็กซ์ก็ขอตัวกลับเหมือนไม่อยากเจอเอเดน สุดท้ายผมก็ไปเจอพวกเขาอยู่ที่บ้านของอเล็กซ์ในสภาพไม่ใช่คน อย่าบอกนะว่าคนที่ตามล่าอเล็กซ์คือเอเดน ถ้าเป็นอย่างนั้นเอเดนล่าตัวอเล็กซ์ไปทำไม แล้วอะไรที่อเล็กซ์ต้องการที่จะบอกผม จะเกี่ยวข้องกับเอเดนด้วยหรือเปล่า

        หลังจากที่คิดเรื่องนี้ทั้งคืน ผมก็ฉุกคิดได้ถึงคำพูดของน้องชาย คำพูดที่โยชิห้ามก่อนที่ผมจะมาที่นี่ น้ำเสียงร้อนรนเหมือนรู้อะไรบางอย่าง หนำซ้ำยังบอกว่าเอเดนไม่น่าไว้วางใจ ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าโยชิรู้เรื่องอะไร หรือโยชิจะรู้ว่าเอเดนเป็นงู

        “ตกลงแล้วคุณจะพาผมไปที่ไหน” ผมทำเป็นถามไปเรื่อยๆเพื่อเก็บข้อมูล

        “ผมจะพาคุณไปดูร้านของผมที่ต่างเมือง” เอเดนพูด ผมทำหน้าเหมือนว่าเข้าใจ เขามาติดต่องานกับผมเรื่องธุรกิจ เรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เขาไม่ใช่คนธรรมดา ถึงเขาจะกลายร่างเป็นงูได้ เอาตรงๆ คิดตรงนี้ทีไรผมก็กระดากทุกที นั่นแหละ ถึงเอเดนจะเป็นแบบนั้น แต่ถ้าเขาต้องการที่จะใช้ชีวิตแบบมนุษย์ทั่วไป ทำการทำงานหาเลี้ยงตัวเองอย่างที่เขาต้องการติดต่อธุรกิจกับผมและพาผมมาศึกษางานที่นี่ มันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องการที่จะมีจุดยืนในสังคม เราไม่ควรไปตั้งแง่รังเกียจในสิ่งที่เขาเป็น แม้ว่ามันจะไม่ธรรมดาจนเกินความคาดหมายก็ตามที

        ทั้งหมดที่สันนิฐานมาข้างต้นใช้ได้กับในกรณีที่เอเดนไม่มีอะไรน่าสงสัย แต่ไม่ใช่ เขาน่าสงสัยมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ เขาตามล่าอเล็กซ์ทำไม และในเมื่ออเล็กซ์ต้องการบอกอะไรบางอย่างกับผม นั่นหมายความว่าเรื่องที่ผมควรรู้เอเดนก็ต้องการรู้อย่างนั้นใช่หรือไม่ ส่วนโยชิที่ดูไม่ไว้ใจเอเดน โยชิไปรู้อะไรมา ไม่ใครก็ใครสักคนในสามคนนี้ที่จะให้คำตอบผมได้ และแน่นอนว่าคนเดียวที่ผมสามารถหาคำตอบได้ก็คือโยชิ

        ผมหยิบโทรศัพท์ทำท่าว่าถ่ายรูปอาหาร ทั้งๆที่ปกติผมไม่ทำ แต่เปล่าเลย ผมส่งข้อความหาโยชิต่างหาก

        ‘โยชิ พี่มีเรื่องจะถามเกี่ยวกับเอเดน โยชิรู้อะไรมาบอกพี่ได้ไหม ทำไมถึงห้ามไม่ให้พี่มาที่นิวยอร์ก พี่รู้เรื่องที่ไม่ควรรู้บางเรื่อง บางทีอาจจะเป็นเรื่องเดียวกันเกี่ยวกับตัวตนของอาซา ถ้าใช่บอกให้พี่รู้ที’

        ผมส่งข้อความหาโยชิ พยายามไม่ให้ส่อพิรุธจึงกดถ่ายภาพอาหารจริงๆแล้วยืนให้เอเดนดู

        “สวยไหมคุณ” ผมยื่นรูปภาพที่ถ่ายไปตรงหน้าเขา เอเดนเงยหน้าขึ้นมอง

        “อืม ก็สวย แต่ถ่ายไปทำไม” เขาถาม ไม่ได้ให้ความสนใจนัก ซึ่งก็ดีมาก เขาจะได้ไม่รู้ว่าผมกำลังทำอะไรลับหลัง

        “ก็วัยรุ่นสมัยนี้ชอบถ่ายรูปอาหารลงโซเชียล ผมก็เลยลองทำบ้าง” ผมพูดไปเรื่อย กดเข้าไปเช็คข้อความอีกรอบว่าโยชิอ่านหรือยัง แต่น้องชายผมยังไม่ได้เปิดอ่าน ผมจึงกดปิดแล้วคว่ำหน้าจอลง ก่อนจะลงมือกินอาหารเช้าตรงหน้าให้เป็นปกติที่สุด

        “ไร้สาระ” เอเดนพ่นลมพรืด

        จากนั้นเราก็นั่งทานเงียบๆ มีเพียงผมที่ชวนเขาคุยประปราย ข้อสงสัยต่างๆนาๆในหัวกระจัดกระจายไม่เป็นเรื่องเป็นราว ทำให้ไม่สามารถสืบหาข้อมูลอะไรได้เต็มที่ ทานเสร็จเขาลุกไปจ่ายเงินแล้วเดินกลับไปที่รถ

        “อ่ะนี่ครับค่าอาหาร” ผมส่งค่าอาหารให้เขา

        “ไม่เป็นไร”

        “แต่...” ผมไม่เห็นด้วย

        “ผมเลี้ยง” เขาหันมาพูดเสียงดังฟังชัด ผมเลยต้องเก็บเงินลงกระเป๋า ระหว่างที่เดินกลับไปที่รถ พริบตาเดียวเขาก็พุ่งออกไปที่ถนน ภาพนั้นไวมา เห็นอีกทีในอ้อมแขนของเขาก็มีลูกแมวอยู่ในอ้อมกอด เขาช่วยมันไว้ไม่ให้ถูกรถที่วิ่งมาอย่างเร็วชนทั้งๆที่เขาอาจจะโดนรถชนแทน เขาคิดบ้าอะไรไม่รู้ และต่อให้เขากลายร่างเป็นงูได้ แต่ถ้างูถูกรถชนยังไงก็ต้องตาย

        ผมวิ่งไปดู เอเดนได้แผลถลอกนิดหน่อย สีหน้าเขาเหี้ยมโหดดูน่ากลัวมองรถที่จอดนิ่งตาไม่กระพริบจนเจ้าของรถเปิดกระจกออกมาถาม

        “เป็นอะไรไหมคุณ” เจ้าของรถถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง

        “ไม่” เอเดนตอบคำเดียวสั้นเสียงห้วน ผมลากเขากลับมายืนริมทาง เมื่อเห็นว่าทุกอย่างโอเครถคันนั้นก็ขับจากไป ผมมองกลับมาที่เอเดน เขาก้มมองลูกแมวที่ซุกซบอกเอเดนตัวสั่นระริก มือของเขาลูบหัวเจ้าแมวแผ่วเบา

        “ทีหลังก็ระวังหน่อยสิเจ้าเหมียว เดี๋ยวก็ได้ตายก่อนที่จะโตหรอก” เขาปลอบจนแมวหายกลัวก่อนจะวางมันลงที่พื้น ปล่อยให้มันวิ่งกลับไปที่ของมัน เอเดนมองเจ้าเหมียวจนลับสายตา แน่ใจว่ามันจะไม่ทะเลอทะล่าไปให้รถชนอีก แววตาที่อ่อนโยนขนาดนั้นก็ดูจะเป็นคนดีไม่ใช่หรือไง แต่ทำไมถึงได้นิสัยเสียคิดจะทำร้ายคนอื่น ผมไม่เข้าใจจริงๆ

        และยังไม่เข้าใจว่าจะใจเต้นแรงไปกับสายตาที่อ่อนโยนของเขาทำไม

        ผมเหลือบไปเห็นโทรศัพท์เอเดนหล่นอยู่ข้างๆ ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะยังไม่รู้ ผมก้มลงไปหยิบ จังหวะนั่นเองที่หน้าจอของเอเดนสว่างวาบ และเป็นจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์ในกางเกงผมสั่นเตือนว่ามีข้อความเข้า

        ‘โยชิกับอาซามาที่นี่ตามแผนแล้ว อเล็กซ์ก็...’

        ผมอ่านข้อความบางส่วนที่ขึ้นก่อนที่หน้าจอทันก่อนที่มันจะดับ เอเดนหันมาพอดี ผมควบคุมตัวเองไม่ให้ผิดปกติ ส่งโทรศัพท์คืนให้เอเดนเหมือนไม่ได้เห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น

        “ไปกันเถอะคุณ” ผมยิ้มแล้วเดินนำไปที่รถ สีหน้าผมขนาดที่ผมสามารถรับรู้ได้โดยไม่ต้องส่องกระจก ไม่ได้ ผมจะให้เอเดนสังเกตเห็นความไม่ปกติของผมไม่ได้ นิ่งไว้ๆ ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ เอเดนกำลังเดินมา ผมรีบเปิดโทรศัพท์ดูข้อความที่โยชิส่งตอบกลับมา

        ‘พี่ยอร์ชคิดว่ามนุษย์ที่กลายร่างเป็นสัตว์ได้มีจริงไหม’

        เดาได้ในทันทีว่าสิ่งที่ผมรู้กับสิ่งที่โยชิรู้เป็นเรื่องเดียวกัน ผมสุดลมหายใจเข้าปอดแรง ระงับอาการใจเต้น เอเดนเปิดประตูเข้ามาในรถ ผมเหล่มองเขาเล็กน้อย สีหน้าเขาดูสบายอารมณ์ต่างจากตอนออกจากบ้าน แผนการของเขาคืออะไร ทำไมต้องให้โยชิกับอาซามาที่นี่ด้วย ไหนจะอเล็กซ์อีก เขาวางแผนจะทำอะไรกันแน่ และมันคงไม่ใช่เรื่องที่ดี

        “ไกลไหมครับกว่าจะถึง” ผมถามเมื่อเขาออกรถอีกครั้ง ทำเป็นก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ซึ่งความจริงคือกำลังพิมพ์ตอบโยชิ

        ‘พี่เชื่อ ถ้านั่นนหมายถึงเรื่องที่เอเดนกลายร่างเป็นงูได้’

        ผมพิมพ์ตอบกลับไปหาโยชิ น้องอ่านข้อความแทบจะทันที ดีแล้วจะได้รู้เรื่องรู้ราวเร็วๆ

        “ก็ไกลอยู่ เราจะไปเม็กซิกัน”

        ผมเบิกตากว้าง โทรศัพท์ในมือสั่นเตือนข้อความใหม่ ผมกำของในมือแน่น อ้าปากถามเขาให้แน่ใจอีกครั้ง “คุณจะขับรถไปเม็กซิโกเหรอ”

        “คุณจะบ้าเหรอไง ผมกำลังจะไปที่สนามบิน ใครจะขับรถไปกัน”

        ผมไม่ได้พูดอะไร ยิ้มแหยะๆก่อนจะลอบแอบดูข้อความที่โยชิส่งมา

        ‘พี่ยอร์ชรู้ได้ยังไง ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน พี่รู้ไหมเขาพาพี่มาที่นี่ก็เพื่อล่อผมกับอาซาให้มาหาเขา’

        ผมงงกับเรื่องราวมากกว่าเดิม แต่รู้แน่ชัดแล้วว่า เอเดนเข้าหาผมอย่างไม่บริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าเขาจะต้องการให้น้องชายผมกับอาซามาหาเขาที่นี่ทำไม แต่ความจริงก็คือเขาหลอกใช้ผมมาโดยตลอด ผมผิดหวังจนปั้นหน้ายิ้มต่อไปไม่ได้ พิมพ์ข้อความตอบกลับโยชิก่อนจะหลับตาลง

        ‘เขากำลังจะพาพี่ขึ้นเครื่องไปที่เม็กซิโก ถึงที่นั่นพี่จะต้องการที่จะรู้เรื่องราวทุกอย่าง ช่วยบอกพี่ที ทั้งหมดทุกเรื่อง’

        “นอนพักไปก่อนก็ได้ ถึงสนามบินแล้วผมจะปลุก”

        ผมแทบไม่อยากได้ยินเสียงของเอเดน ความรู้สึกดีที่มีต่อเขาลดฮวบติดลบจนอยากจะเกลียด เขามีปัญหาอะไรกับโยชิกับอาซา ถ้าอย่างนั้น อาซาที่พ่อของเอเดนพูดถึงก็คือคนเดียวกับอาซาที่เป็นแฟนโยชิ และที่เขาเคยเล่าว่าเกลียดน้องชายตัวเองก็คงหมายถึงอาซา ผมไม่แคร์ว่าเขาจะเป็นคนยังไง จะมีความคิดยังไงถ้ามันไม่ได้ทำให้ผมกับครอบครัวเดือดร้อน แต่ตอนนี้จะไม่ใส่ใจก็ไม่ได้ ในเมื่อมันเกี่ยวข้องกับโยชิน้องชายที่ผมรักมาก ผมไม่มีทางยอมให้เขาทำอะไรโยชิ ถ้าจะทำต้องข้ามศพผมไปก่อน

        “น้องชายคุณอยู่ที่นี่ไหม” ผมถามเสียงพร่า เขาอาจรับรู้ความผิดปกติแต่ผมไม่มีกระจิตกระใจจะมานั่งปั้นหน้าเสแสร้งใส่เขาว่าผมไม่รู้เรื่อง ผมทำไม่ได้แล้ว

        “คุณถามทำไม” เสียงของเขากดต่ำไม่พอใจที่ผมถาม

        “ผมคิดถึงน้องชายผม โยชิ คุณรู้ไหมว่าผมรักเขามาก” ผมบอก เพราะหลับตาอยู่จึงไม่เห็นว่าเขาทำสีหน้ายังไง

        “คุณเคยบอกผมแล้ว”

        “คุณเชื่อไหมว่าผมรักโยชิมากกว่าชีวิตของตัวเอง ถ้ามีใครทำอะไรน้องผม ทำร้ายคนในครอบครัวผม ผมจะทำทุกวิธีเพื่อให้คนๆนั้นเจ็บมากกว่าที่เขาทำร้ายผมกับคนในครอบครัว ผมจะเกลียดและสาปแช่งให้เขาชีวิตของเขาไม่มีความสุข ไม่เจอคนที่จริงใจ ให้ชีวิตมีแต่พังพินาศไปตลอดกาล” ผมลืมตากัดฟันหันไปพูดกับเอเดน เขาทำหน้างงกับคำพูดบอกความนัยของผม

        “คุณพูดอะไรของคุณ” เอเดนทำหน้าเครียด

        “หึ ไม่มีอะไรหรอก ผมก็พูดไปอย่างนั้นแหละ แค่อยากบอกคุณเฉยๆ อย่าใส่ใจเลย”

        แต่ผมจะถือว่าผมเตือนคุณแล้วนะเอเดน ผมเตือนแล้ว

        ผมหันหน้าหนีไปอีกทาง ปิดปากเงียบสนิทจนกระทั่งถึงสนามบิน เอเดนจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้ผมเสร็จสรรพเรียบร้อย ทุกครั้งที่เขาเข้ามาใกล้ผม ผมเขยิบถอยห่าง ในเมื่อความรู้สึกของผมที่มีต่อเขามันติดลบไปแล้ว ทั้งที่เขาเป็นคนแปลกๆแต่ผมก็ยังคิดว่าเขาเป็นคนดีเป็นคนที่น่าคบหาคนหนึ่ง วันนี้ผมรู้แล้วว่าผมคิดผิดหมด เรามองคนแค่ผิวเผินไม่ได้ จิตใจคนยากแท้หยั่งถึงไม่เว้นแม้แต่มนุษย์กลายร่างได้อย่างเขา บางทีสัญชาตญาณของอสรพิษที่เขาว่าเจ้าเล่ห์เลี้ยงไม่เชื่องและเชื่อถือไม่ได้คงเป็นความจริง

        เอเดนเป็นสิ่งที่ผมเกลียด และก็ยังทำในสิ่งที่ผมเกลียด

        พอกันทีกับความรู้สึกดีๆที่มีให้ รวมไปถึงหัวใจที่เต้นแรงเพราะปลาบปลื้มที่เมื่อสักครู่เขาได้เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยแมวตัวนั้นเอาไว้ ผมไม่รู้เลยว่าเขาทำเพราะเขาใจดีมีเมตตาจริงๆหรือทำเพื่อตบตาผมให้เห็นว่าเขาเป็นคนดีกันแน่ ผมไม่มีทางที่จะเชื่อใจผู้ชายคนนี้ได้อีกแล้ว ทุกความรู้สึกของผมที่มีต่อเขา ผมขอคืนทั้งหมด

        ‘ต่อให้นายรู้ก็ช่าง ฉันไม่เห็นต้องสนใจว่านายจะรู้สึกยังไง’

        นับจากนี้ผมก็จะไม่สนใจแล้วเหมือนกันว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร และถ้ามีโอกาสผมจะต่อยปากเขาโทษฐานที่มาจูบผมอย่างถือวิสาสะ!
       

        .......
        ที่เขาว่ารักมากจึงเกลียดมากมันจริงไหมน้า :hao7:
        สรุปแล้วเรื่องนี่พี่ยอร์ชคือฮีโร่นะรู้ยัง 5555  :katai2-1:
        ตอนหน้าเข้มข้นสุดๆ ยังไม่ได้แต่งนะ แต่พล็อตที่วางไว้มันอื้อหือมากก มากยังไงต้องติดตาม :pig4:

       





หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 05-05-2015 20:07:48
เอาเลยพี่ยอร์ช จัดการอีตาเอเดนเลยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 05-05-2015 20:28:52
เดาว่าพี่ยอร์ชจะเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับเอเดน ถ้าเอเดนทำพี่ยอร์ชเสียใจได้โดนสาปแช่งแน่ๆหรือพี่ยอร์ชจะเป็นพ่อมด????
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 05-05-2015 20:33:00
เชื่อว่าเรื่องนี้ยอร์ชเอาอยู่

เอเดนหวั่นไหวกับยอร์ชแล้ว อะไรๆคงง่ายขึ้น(มั้ง)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 05-05-2015 20:52:42
พี่ยอร์ชเอาใจไปเต็มๆเลยตอนนี้ ชูป้ายไฟรัวๆ
สาปแช่งเอเดนแบบนี้ แสดงว่าพี่ยอร์ชกุมชีวิตพ่องูแล้วไหมน้อ
เพราะเราว่าความสุข คนจริงใจ ชีวิตที่ประสบความสำเร็จมันอยู่ในมือพี่ยอร์ชนั่นแหละ
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 05-05-2015 21:06:57
พี่ยอร์ชต้องเป็นคนทำให้เอเดนกลับตัวแน่ๆเลย
เพราะต่างฝ่ายต่างหวั่นไหวแล้ว
แต่พี่ยอร์ชมีสาปแช่งด้วย
อยากรู้จริงๆว่าพี่ยอร์ชเป็นคนปกติหรือว่าไม่ใช่
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 05-05-2015 21:10:30
ลุ้นๆ #ทีมพี่ยอร์ช  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 05-05-2015 21:12:31
คุณพระ!! มาลุ้นกันดีกว่า ว่าเอเดนจะเป็นยังไง
ตกหลุมยอร์ชเข้าแล้วไง!! มันส์เว่ย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-05-2015 21:33:33
 :pig4:

เป็นกำลังใจให้ริริค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 05-05-2015 21:43:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 05-05-2015 22:21:13
จะรออ่านะคะ อื้อหือ อออออออ   5555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 05-05-2015 22:32:43
พระเอกหรอ เราว่า พี่สะใภ้มากกวานะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-05-2015 22:47:47
มาแล้วๆ

ไปอ่านก่อนจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-05-2015 23:53:39
อ่านถึงตอนนี้แล้ว

อยากให้เอเดนกลับใจ

และอยากให้พี่ยอร์ชให้อภัยเอเดน

จงทำความดีชนะใจเอเดนนะ อิอิ แบบว่าไม่อยากให้เอเดนหลงผิดไปมากกว่านี้อีก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 05-05-2015 23:59:37
ลุ้นไปกับพี่ยอร์ช แต่เอเดนนี้แบบว่าเหมือนคนงอนพ่อ อิจฉาน้องจริงๆ
ลุ้นและตื่นเต้นครับ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 06-05-2015 00:16:44
เอเดนนายไม่รอดแน่ พี่ยอร์ชจัดการเลยค่ะ เชียร์ให้สั่งสอนงูขี้อิจฉา จนกลับตัวเลย  :hao7:  o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: mukkai ที่ 06-05-2015 00:54:07
เอเดนจะรู้ตัวมั่งไหมเนี่ยว่าโดนเขาเกลียดเข้าให้แล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 06-05-2015 04:52:18
พี่ยอร์ชจะทำไงต่อไป คึคึ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 06-05-2015 07:29:14
เอาแล้วไงเอเดน
โดนพี่ยอร์ชพูดขนาดนี้ถ้ายัลทำไม่ดีอีกเตรียมใจโดนเกลียดเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: bankimpossible ที่ 06-05-2015 08:57:47
เนื้อเรื่องตอนนี้กำลังเข้มข้นเลย อ่านไปด้วยเกร็งไปด้วย :(
จะรอติดตามตอนต่อไปนะคับ........
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 06-05-2015 12:16:09
อยากอ่านต่อออออ  :z3: :z3: :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 06-05-2015 13:03:55
 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 06-05-2015 17:29:25
จะเข้มข้นน่าติดตามยังไง ใครจะเป็นฮีโร่ ใครจะเป็นผู้ร้าย.......มันจะดีมากถ้ามาต่อเร็ว ๆ น๊าาาาาาาาาา.....
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: RUMINA ที่ 06-05-2015 17:29:52
เพิ่งมาตามอ่านรวดเดียวจนถึงตอนล่าสุด
สนุกมากค่ะ เนื้อเรื่องตื่นเต้น แล้วก็น่าติดตาม
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ <3
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 06-05-2015 19:01:58
ตอนหน้าๆๆๆๆๆ รอนะจ๊ะ ^____^
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 06-05-2015 22:35:46
เชื่อว่าเอเดนไม่หยุดหรอก กว่าจะสำนึกได้ก็คงสายเสียแล้ว จะมานึกเสียใจทีหลังไม่ได้นะถ้าพี่ยอร์ชจะโกรธจะเกลียดน่ะ แต่พี่ยอร์ชนี่ฉลาดมากนะ สุดยอดดด
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 06-05-2015 23:15:16
โอ้ยยยย พี่ยอร์ชสุดยอดมากคะ โดนใจหนูมากเลยพี่ เอาไป 100 คะเเนนเต็มเลยไป เอเดนก็เอเดนเหอะ ตามไม่ทันน่ะทีนี้ 55555
รอดูตอนหน้านะค่ะ ว่าพี่ยอร์ชจะจัดการกับเอเดนอย่างไร อยากบอกโยชิ หนูไม่ต้องห่วงพี่ยอร์ชมากนะลูก พี่เขาเอาอยู่ค่ะ!
เเล้วคุณพ่อจอร์ชค่ะ ที่ให้มาพักที่บ้านนี้ ถือว่ารับเป็นสะใภ้ใหญ่เเล้วใช่ไหมค่ะ ฮาาาา ไม่รู้ว่าเเมวเก่าของเอเดนคือพี่ยอร์ชหรือเปล่า
โอ้ย ลุ้นมากกกก อยากอ่านต่อเร็วๆมากเเลยค่ะคุณริริ รอนะค่ะเรื่องนี้ รอหมาป่า สิงโต เสือด้วยนะค่ะ กอดๆๆๆค่ะ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: hikky ที่ 07-05-2015 11:13:49
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ อ่านรวดเดียวจบภายในคืนเดียว
มาราธอนสุดๆ ปกติเราไม่ค่อยอ่านนิยายที่ยังไม่จบนะ กลัวค้าง
แต่เราหลวมตัวมาอ่านเรื่องนี้ แล้วก็ค้างจนได้ 555

อ่านมาถึงตอนนี้ เราชอบ ยอร์ช มากเพราะเขาดูเป็นผู้ชายธรรมดาๆคนนึง
และด้วยความธรรมดาเลยทำให้ยอร์ชดูมีเสน่ห์มาก อันที่จริงเราก็แอบคิดนะ
ว่าพี่ยอร์ชน่าจะเป็นมนุษย์แมวซะ อีตาเอเดนมันจะได้หลงหัวปักหัวปำไปเลย

เอาเป็นว่ารอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: rk ที่ 07-05-2015 18:13:04
อ่านรวดเดียวเลย
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-05-2015 19:29:27
มาให้กำลังใจ

กด+
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 07-05-2015 23:44:02
พี่ยอร์ช ระวังตัวด้วยนะ

อีกไม่นาน เอเดน จะต้องหลงรัก พี่ยอร์ช แน่ๆ เลย

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: ploylove1910 ที่ 08-05-2015 18:38:10
โอ้ยยยยยย พี่ยอร์ชของข้าาาาาาาาาาาาาา
ตอนหน้าจะเป็นยังไงละนิ ลุ้นๆ
แล้วพี่ยอร์ชจะเป็นงูแบบโยชิไหม โอ้วววววววว
ิติดตามๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 10-05-2015 10:04:21
ค้างอ่ะ มันลุ้นนะคนเขียน. พี่ยอร์ชสุดยอดมาก. ต้องช่วยน้องชายกับน้องเขยให้ได้นะพี่ยอร์ชคนแมน  o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: Viper_Wa ที่ 10-05-2015 19:44:34
ลุ้นจังเลย...เมื่อไหร่ยอร์ชจะสยบเอเดนได้  :hao6: :hao6: :hao6:
รอตอนต่อไป  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-TWO ❁ 05-05-2015 [P.50]
เริ่มหัวข้อโดย: wi_OoO_wi ที่ 11-05-2015 09:29:25
 o21 o21 o21 o21 :sad3: :sad3: :sad3: :sad3: :sad5: :sad5: :sad5:

//เดินจากไปเงียบๆ

พี่ชายเค้าโหดกันจริงงง ขนลุก ไม่เล่นด้วย ไปเล่นกับฝั่งน้องชายได้มั้ย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.51]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-05-2015 00:08:49
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY-THREE





        Yoshi

        ‘ตอนนี้พี่อยู่ในแม็กซีโกเขตเมืองบรักเซมส์ เอเดนบอกว่าจะพาพี่มาดูร้านไวน์อีกสาขาของเขาที่อยู่ที่นี่’

        ผมส่งโทรศัพท์ให้อาซาและคนอื่นๆดู เรากำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านของอาซา ใจจริงผมอยากจะตามพี่ยอร์ชพร้อมกับเวสตัสไปเลย แต่อาซาบอกว่าให้กลับไปที่บ้านก่อน คนที่จะช่วยเราในเรื่องนี้ได้และจะเป็นกำลังสำคัญนั่นก็คือพ่อของอาซา ก่อนมาอาซาได้ติดต่อกับพ่อทั้งที่ไม่ได้ติดต่อมาเป็นร้อยๆปีแล้ว ผมพูดไม่ออก อาซายอมทำในสิ่งที่ฝืนใจตัวเองเพื่อผม แต่สิ่งที่เขาบอกกับผมทำให้ผมเลิกคิดมาก

        ‘ครอบครัวของนายก็คือครอบครัวของฉัน และฉันจะต้องปกป้องครอบครัวของเราไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม’

        ตื้อดึง~

        “ที่นี่มันที่ไหนวะเนี่ย” ฟรินน์พูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ เขาส่งโทรศัพท์ต่อให้อเล็กซ์ที่มาด้วย เราแยกกันเป็นรถสองคัน คันแรกคือคือคันของเวสตัน มีปารีสและจูเลียตนำไปแม็กซีโกก่อนเพื่อคุ้มกันพี่ยอร์ชหากว่ามีอะไรเกิดขึ้น ส่วนคันของผมมีอาซา ฟรินน์และอเล็กซ์

        “ฉันรู้ว่าที่นี่มันที่ไหน”

        ผมหันขวับไปมองอเล็กซ์ที่นั่งเบาะหลัง ใบหน้าหวั่นวิตกและซีดเผือก เขาส่งโทรศัพท์คืนให้ผม ภาพที่พี่ยอร์ชส่งมาใหม่มีหลายภาพ เพื่อบอกถึงเส้นทางและตำแหน่งที่อยู่ และยังแชร์ตำแหน่งมาเสริมให้เพื่อความง่าย

        “จำที่ฉันเคยบอกพวกนายได้ไหม ว่าความลับที่เอเดนต้องการอยากรู้คืออะไร” อเล็กซ์หน้าเสียงขรึม ผมนิ่งคิด

        “เอเดนไปแม็กซีโกเพื่อไปหาคนที่จะฝังหัวใจบาซิลิสก์สินะ” อาซาไปคนตอบ อเล็กซ์พยักหน้าว่าคำตอบของอาซาถูกต้อง

        ตื้อดึง~

        ข้อความจากพี่ยอร์ชส่งมาอีกครั้ง ผมกดดูทันที แต่ละวินาทีที่เคลื่อนไปหัวใจผมก็ต้องทำงานหนักขึ้นเพราะทั้งกังวลและเป็นห่วงพี่ยอร์ชจนร้อนรุ่มเหมือนไฟสุ่มในอก

        ‘เอเดนพาพี่มาพักที่เพ็นท์เฮาส์ตรงถนนบรินชอฟฟ์ ชั้นที่สามชั้นบนสุด’

        “ว่าไงบ้าง” อาซาละสายตามาทางผมสลับมองถนน

        “พี่ยอร์ชบอกว่าเอเดนพาไปพักที่บ้านตรงถนนบรินชอฟฟ์ ชั้นที่สามชั้นบนสุด” ผมพูด มือก็กดพิมพ์ไปหาพี่ยอร์ช แอบกลัวทุกขณะว่าเอเดนจะรู้ไหมว่าพี่ยอร์ชรู้แล้วว่าเขาเป็นอะไร และตอนนี้กำลังหาทางช่วยผมกับอาซาอยู่

        ‘พี่ยอร์ช ระวังตัวด้วยนะ โยกลัวเอเดนจะจับได้แล้วพี่จะแย่ นานๆค่อยส่งข้อความหาโยก็ได้ เป็นอะไรก็ได้ให้รู้ว่าพี่ยังสบายดี โยเป็นห่วงพี่นะ’

        ผมกดส่งไป พี่ยอร์ชอ่านทันที ตามมาด้วยรูปถ่ายยิ้มกว้างที่แสนจะอบอุ่นของพี่ยอร์ชที่ส่งกลับมาให้ผมพร้อมกับข้อความที่ทำให้สบายใจได้นิด

        ‘พี่อยู่ในห้องน้ำ พี่จะดูแลตัวเองนะเด็กน้อยของพี่ ยิ้มเข้าไป ไม่รู้หรือไงว่าพี่ชายคนนี้เก่งแค่ไหน’

        ผมรู้ พี่ยอร์ชเก่งที่สุด พี่ยอร์ชน่ะเป็นฮีโร่ของผม พี่ยอร์ชต้องเอาตัวรอดได้แน่ๆ ผมจะเชื่อมั่นในตัวของพี่ชายที่คอยปกป้องผมมาแต่ไหนแต่ไรและทำได้ดีเสมอมา

        ‘โยรักพี่ยอร์ช พี่ชายที่เก่งที่สุดในโลกของน้องโย’

        ข้อความขึ้นมาว่ายอร์ชอ่านแล้วแต่ไม่มีอะไรตอบกลับ ผมเก็บโทรศัพท์ลง มือทั้งสองข้างกำโทรศัพท์แน่น อาซาคงรับรู้ความตึงเครียดของผมได้ เขาวางมือที่เย็นเชียบแต่อบอุ่นเสมอสำหรับผมลงบนมือเกร็งเครียด บีบกระชับให้กำลังใจ ผมหันไปยิ้มเฝื่อน

        ระหว่างทางไปบ้านของอาซา ผมไม่รู้ว่าพวกเรานั่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จากันนานเพียงไร อาจเป็นชั่วโมงๆที่ต่างฝ่ายต่างจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเอง ในที่สุดอาซาก็ขับรถมาถึงปราสาทขนาดใหญ่ เก่าแก่ต้องมนต์ขลัง ลึกลับและดูน่ากลัว โดยเฉพาะรูปปั้นประดับรูปงูที่บ่งบอกถึงตัวตนของเจ้าของปราสาทหลังนี้ว่าเป็นใคร

        “อาซาเดินนำเข้าไปในบ้าน เขาจับมือผมเอาไว้แน่น ภาพเก่าๆลอยเข้ามาในหัว แวบหนึ่งผมรู้สึกว่าคุ้นเคยเหมือนเคยมา อาจเพราะมางอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามวันและเวลา แต่สิ่งที่ผมสามารถจำได้ก็คือ ภาพที่ตัวเองและอาซาวิ่งขึ้นบนใดกลางห้องโถงนี้ไปที่ห้องนอนของเขา เสียงหัวเราะของเราสองคนยังคงกึกก้องอยู่ในความทรงจำ ในตอนนั้นก่อนที่พ่อของอาซาจะจับได้ว่าเราทั้งคู่รักกันอย่างที่ไม่ควรเป็น

        เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมได้มาเหยียบที่แห่งนี้ และคราวนี้ผมกลับมาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าพ่อของอาซาจะว่ายังไงบ้าง บางทีเขาอาจจำผมไม่ได้ ผมภาวนาของให้เป็นเช่นนั้น

        “ใครอยู่แถวนี้ ออกมาหน่อย” อาซาเปล่งเสียงทรงพลังจนน่าขนลุก ไม่นานก็มีผู้หญิงเดินออกมาจากประตูที่ทำเป็นทรงโค้งแกะสลักหินลวดลายสวยงาม

        “มีอะไรให้รับใช้ค่ะคุณอาซา”

        ผมเลิกคิ้วมองเธอที่ก้มหัวต่ำจนแทบไม่เห็นใบหน้า ทำไมเธอถึงรู้ว่านี่คืออาซา อาซาออกจากปราสาทหลังนี้นับตั้งแต่ที่เราหนีไปอยู่ด้วยกัน จนมาวันนี้ก็นานเป็นพันๆปี ไม่คิดว่าเธอจะจำเขาได้แค่ได้ยินเสียง

        “พาแขกของฉันไปพักที่ห้องรับรองแขก” อาซาสั่งเธอแล้วหันมาทางฟรินน์และอเล็กซ์ พวกนายไปรอฉันที่นั่น ฉันจะแวะไปคุยธุระกับเจ้าของบ้านหลังนี้ก่อน”

        เจ้าของบ้านหลังนี้ที่อาซาพูดคงหมายถึงพ่อของเขา ผมจำชื่อพ่ออาซาไม่ได้ ก็ไม่น่าจำเท่าไหร่เพราะเขาเป็นคนสั่งให้ฆ่าอย่างไร้หัวใจ

        ฟรินน์และอเล็กซ์เดินตามคนรับใช้ของบ้านไปทางประตูด้านขวามือที่คงเป็นเส้นทางไปสู่ห้องรับแขก อาซากระชับมือผมแน่นขึ้น เราสบตากันและเขาคงจับอารมณ์ผ่านทางสีหน้าของผมได้ อาซายกยิ้มมุมปากนิดๆให้อย่างอ่อนโยน

        “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ปล่อยให้เขาทำร้ายนายซ้ำสอง” เขารับรู้ได้เสมอว่าผมรู้สึกอย่างไร ในบางครั้งผมว่ามันไม่แฟร์ที่เขารู้เกี่ยวกับผมไปเสียทุกเรื่องแม้กระทั่งความคิดและอารมณ์ แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกดีมาก

        อาซาพาผมเดินอ้อมบันไดไปที่ประตูด้านหลัง เพียงแค่เขาเดินไปยืนห่างจากประตูแค่ไม่ถึงหนึ่งเมตร ประตูก็เปิดออกเหมือนมีกลไกบางอย่างจำพวกเซ็นเซอร์ตามประตูร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่เท่าที่เหลือบมองก็ไม่เห็นจะมี

        ทางเดินวังเวงจนน่าใจหาย ชวนให้นึกถึงหนังผีย้อนยุคอย่างพวกแวมไพร์ กำแพงหน้าทึบไม่มีช่องให้แสงแดดลอดผ่าน มีเพียงคบไฟให้แสง แต่มันก็สลัวจนเกินไป นี่ถ้าไม่รู้ว่าตอนนี้คือเวลาเที่ยงตรง ผมคงคิดว่าเที่ยงคืน

        ประตูบานแรกที่เราเจอ ยืนนิ่งไม่เคาะประตูแต่มันก็เปิดออกเองอย่างเชื้อเชิญ อาซาก้าวเข้าไปข้างใน มือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง อีกข้างจับมือผมไว้ ผู้ชายสูงวัยเงยหน้ามองเราสองคน เขาจ้องมองหน้าอาซา ดวงตาที่เหี่ยวย่นกระตุก แววตาสั่นไหว เขาลุกขึ้นช้าๆ แล้วเดินตรงมาหาลูกชาย อาซายินนิ่งไม่ขยับนี้ แม้กระทั่งชายแก่สวมกอดเขาก็ยังคงยืนนิ่งเป็นท่อนไม้ ผมปล่อยมืออาซาออก มองเสี้ยวหน้าของอาซาและพ่อของเขา เหมือนกันไม่ผิดแบบ

        “ไม่เจอกันนานเลยนะ” เสียงแหบของชายแก่ดังแผ่วเบาและสั่นไหวที่ปลายเสียง พ่อของอาซาคลายอ้อมกอด ยืนสำรวจหน้าของลูกชายด้วยความอาลัยคิดถึง ก่อนจะหันมาทางผม แววตาคู่นั่นแปลกใจเล็กน้อย ผมไม่รู้จะทำยังไงก็เลยยกมือไหว้เก้ๆกังๆ

        “ฉันว่าฉันรู้จักเธอนะ” พ่อของอาซาทักผม ผมไม่รู้จักชื่อของเขาเพราะอาซายังไม่ได้บอก และผมก็ไม่ได้ถาม

        “คุณต้องรู้จักอยู่แล้ว เพราะคุณเคยสั่งให้คนไปฆ่าเขาเพื่อพรากเขาไปจากผม” อาซากัดฟันพูด ผมรู้ เขาไม่เคยลืม ไม่เคยหายแค้นพ่อของตัวเอง เพราะเวลานี้ที่อาซามองพ่อของเขา ดวงตาสีดำสนิทดูมืดหม่นไร้แสง มีแต่ความโกรธแค้นให้คนตรงหน้า

        พ่อของอาซาตกใจแล้วหันมาทางผมอีกรอบ ผมปั้นหน้าไม่ถูก จึงมองพ่อของอาซานิ่งๆไม่แสดงความรู้สึกอะไร ถึงผมจะจำเรื่องราวในอดีตได้ แต่ต้องบอกว่าไม่หมดเสียทีเดียว เวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ซ้ำยังเกิดแล้วเกิดอีกมาหลายรอบ จะให้จำเรื่องทั้งหมดก็คงเป็นไปไม่ได้ ที่พอจะมีก็เป็นเพียงความรู้สึกที่คุ้นเคย

        “ฉันขอโทษกับเรื่องที่เคยเกิดขึ้น” พ่อของอาซาพูดกับผม เขาดูสำนึกผิดจริงๆ ผมไม่ได้ตอบอะไรเพราะไม่รู้ว่าคำไหนที่ควรจะพูด

        “ฉันเสียใจ” เขาก้มหน้าหลบซ่อนดวงตา

        “มาเสียใจตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วมั้ง!” อาซาโมโหขึ้นมา ผมเข้าไปจับแขนเขาให้ระงับอารมณ์ ถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อ เป็นผู้ให้กำเนิด

        ร่างกายของอาซาสั่นจนรู้สึกได้ มือของเขากำแน่นจิกลงไปบนเนื้อ ผมต้องยกมือของเขาขึ้นลูบปลอบให้อารมณ์เย็นลง

        “สิ่งที่คุณทำผมไม่มีวันลืม เพราะความละโมบของคุณทำให้เรื่องราวทุกอย่างแย่ไปหมด ดาร์เรลต้องตาย เอเดนอาฆาตแค้นผมเพราะคุณเห็นผมสำคัญกว่า แต่เขาไม่รู้ว่าคุณแค่อยากได้สิ่งที่ผมมีเพื่อสร้างความเป็นใหญ่ให้ตัวเอง เพราะคุณรักตัวเองมากกว่าที่จะรักใครอื่นเป็น คุณรู้ตัวไหม คุณทำให้เอเดนเป็นแบบนั้น แทนที่คุณจะยกตำแหน่งให้เขาไปซะ คุณกลับรั้งรอคนที่ไม่มีทางกลับมาอย่างผม ถ้าไม่ใช้เพราะคุณ เรื่องก็คงไม่เลวร้ายถึงเพียงนี้!!!”

        “อาซา ใจเย็นๆ” ผมกระซิบบอก

        “พ่อขอโทษ พ่อแค่อยากให้คนที่เหมาะสมกับตำแหน่งๆจริงขึ้นปกครอง”

        “เหอะ เหมาะสมไม่เหมาะสมคุณเอาอะไรตัดสิน ต่อให้ผมเหมาะผมแล้วยังไง ในเมื่อผมไม่อยากเป็น คุณคิดว่าผมจะทำได้ดีเหรอ กับคนที่อาจจะไม่เหมาะสมในสายตาคุณ แต่เขาพร้อมที่จะทำหน้าที่ คุณก็แค่คนโง่คนหนึ่งเท่านั้น” อาซาสาดโทสะใส่ผู้เป็นพ่อเต็มที่ จนผมทนไม่ได้ต้องดุเขา

        “อาซา ก้าวร้าวไปแล้วนะ!” ผมไม่ชอบที่เขาเป็นแบบนี้ ผมเข้าใจว่าเขาโกรธแต่คนตรงหน้าคือพ่อ ยังไงก็ไม่สมควร

        “ก็ดูสิ่งที่เขาทำสิ” อาซาหันมาเถียงผมไม่พอใจ

        “แต่เขาเป็นพ่อ ใจเย็นๆได้ไหม ฉันขอร้อง”

        อาซาสะบัดหน้าหนี แต่ไม่ได้สะบัดมือผมที่จับมือเขาออก เขาหายใจแรงระงับอารมณ์โกรธที่กำลังเดือดพล่าน ยังดีที่เขาฟัง

        “พ่อเข้าใจแล้ว ขอโทษที่ทำให้ลูกไม่มีความสุข พ่อยอมรับ ทุกอย่างพ่อผิดเอง”

        ผมอดทนฟังเฉยๆต่อไปไม่ได้ “เอาเถอะครับ นี่ไม่ใช่เวลามาหาว่าใครผิดใครถูก สิ่งที่เราควรทำตอนนี้ก็คือ ทำยังไงถึงจะหยุดยั้งเอเดนได้”

        ถ้าผมไม่เป็นฝ่ายเริ่มแล้วปล่อยให้สองพ่อลูกคุยกันคงไม่มีทางได้เรื่องไปมากกว่าการมายืนพูดจาประชดประชันถึงความหลังครั้งอดีต เราไม่มีเวลาแล้ว เอเดนก้าวนำหน้าเราไปทุกที แถมเขายังเอาพี่ยอร์ชไปเป็นตัวประกันด้วย เราไม่ควรมาเสียเวลาทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง

        “ฉันชื่อจอร์ช ขอโทษอีกครั้งกับที่ผ่านมา” คุณจอร์ชพูดกับผม

        “ช่างมันเถอะครับ ผมจำมันไม่ได้แล้ว” ผมพูดปัด

        “ทำไมคุณไม่รั้งเอเดนเอาไว้ คุณปล่อยให้เขาพาพี่ชายของโยชิไปแม็กซีโกได้ยังไง” อาซาถามเข้าเรื่อง

        “พ่อก็อยากจะทำนะ แต่ถ้าพ่อห้ามเอเดนก็ไม่ฟัง และอาจทำให้เขาโกรธหนักเพราะคิดว่าพ่อเข้าข้างลูกช่วยเหลือลูก นั่นอาจเป็นการเร่งเชื้อไฟให้เอเดนลงมือทำบางอย่างเร็วขึ้น”

        ผมคิดตาม ก็ถูกของคุณจอร์ช ในเมื่อเอเดนคิดว่าคุณจอร์ชเห็นอาซาดีกว่า ถ้าคุณจอร์ชเข้าไปห้ามก็คงยิ่งทำให้เอเดนเกิดความไม่พอใจมากขึ้น

        “ตอนนี้เอเดนไปแม็กซีโกแล้ว เขาต้องการหัวใจบาซิลิสก์ และกำลังหาวิธีฝังมันลงบนร่างของตัวเองผมอยากรู้ว่าเอเดรรู้ได้อย่างไรว่าผมมีอะไร คนที่นี่ที่รู้ก็มีคุณเพียงคนเดียว” อาซาถาม ไร้ซึ่งทิฐิ เป็นการหันหน้ามาปรึกษากันอย่างจริงจัง

        “สมุดบันทึกของนักทำนายที่มีเรื่องทุกเรื่องร่วมไปถึงเรื่องของแกและหัวใจบาซิลิสก์หายไป และพ่อคิดว่าเอเดนคงไปเจอมันเข้า”

        “เยี่ยมเลย” อาซาประชดประชันตาขวาง

        “แล้วทีนี้เราจะเอายังไงกันดีครับ คุณจอร์ชพอจะรู้ไหมว่าเอเดนมีจุดอ่อนอะไรบ้าง” ผมถาม คนเราย่อมมีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น ในเมื่อตอนนี้เราไม่สามารถคาดเดาความคิดของเอเดนได้ว่าเขาจะเดินเกมไปในทางไหน ซ้ำคุณจอร์ชก็เข้าไปจัดการด้วยตัวเองเต็มตัวไม่ได้อีก ทางเดียวที่พอจะเห็นก็คือปะทะกันซึ่งๆหน้าจนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผ่ายแพ้

        “ความจริงแค่อำนาจที่ลูกมีมันก็เพียงพอจะให้ล้มเอเดนอยู่แล้วไม่ใช่เหรออาซา”

        “ทำอย่างนั้นไม่ได้”

        “ทำไม” คุณจอร์ชไม่เข้าใจคำพูดของอาซา

        “ทำไม่ได้ก็แล้วกัน ผมไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลให้คุณรู้” อาซากำลังปกป้องความลับของเราไม่ให้มีคนรู้ไปมากกว่านี้กันความลับรั่วไหล

        คุณจอร์ชถอนหายใจ สีหน้าคิดหนัก เขามองอาซาในขณะที่ใช้ความคิดจนกระทั่งตัดสินใจ “ทุกคนไม่ว่ามนุษย์ปกติหรือมนุษย์กลางร่างก็ล้วนแต่มีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น” คุณจอร์ชหยุดช่วง หันหน้าไปทางอื่นยืนเอามือไขว้หลัง

        “อีกสองวันจะถึงวันพระจันทร์อาบเลือด พระจันท์จะกลายเป็นสีแดงเพียงแค่สิบห้าวินาทีเท่านั้น ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาเดียวที่ร่างกายของเอเดนจะอ่อนแอที่สุด ความจริงคือร่างกายของนากินีทุกคนจะอ่อนแรง แต่มีเพียงลูกเท่านั้นที่จะแข็งแกร่งเพราะลูกมีหัวใจบาซิลิสก์อยู่ในกาย...”

        “...”

        “พ่อขอเพียงอย่างเดียว อย่าให้ถึงตายได้ไหมถ้าทำได้ อย่าถึงกับต้องฆ่าเอเดนเลย แค่ทำให้เขารู้ก็พอว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด หลังจากนั้นพ่อจะรับผิดชอบดูแลเอเดนไม่ให้ไปวุ่นวายกับลูกอีกเป็นครั้งที่สอง”

        “...” อาซาไม่ตอบ

        “ได้โปรด พ่อขอร้อง”

        “ผมจะพยายาม” อาซาหันหนีตอบไม่เต็มเสียง

        ครื้นนนน!!!

        เสียงคล้ายพายุดังอยู่ข้างนอก ผมเลิกลั่กมองรอบตัว อาซาทำหน้าสงสัยแต่คุณจอร์จกลับยิ้ม

        “เครื่องบินส่วนตัวลงจอดที่ลานกว้างด้านหลังปราสาทแล้ว พ่อเตรียมไว้ให้ ไปเถอะ ไปช่วยพี่ชายของเจ้าหนูนี่และช่วยให้เอเดนกลับใจ”

        “อืม” อาซาหมุนตัวเดินไปทางประตูไม่ลืมที่จะคว้าแขนผมไปด้วย ผมก้มหน้าเป็นการบอกลาและขอบคุณคุณจอร์ชที่ยอมช่วยเหลือ

        “ขอบคุณนะครับ”

        อาซาพาผมเดินไปห้องรับแขก ฟรินน์และอเล็กซ์ยืนกันอยู่หน้าห้อง ผมว่าพวกเขาน่าจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่ข้างนอก

        “เราจะออกเดินทางกันเลย พะ...” อาซาชะงักคำพูด เขาลังเลที่จะพูดคำๆนั้น

        ผมจึงพูดแทนเขา “พ่อของอาซาเตรียมเครื่องบินส่วนตัวไว้ให้ด้านหลัง พวกเรารีบไปกันเถอะ”

        “จริงดิ วู้ววว เจ๋งโคตร” ฟรินน์วิ่งออกไปคนแรก ปล่อยให้อเล็กซ์หอบหิ้วสัมภาระคนเดียว อาซากระดิกนิ้วทีเดียวงูลายก็เลื้อยออกมาก่อนจะกลายร่างเป็นผู้ชายรูปร่างกำยำ

        “ขนของพวกนี้ไปไว้ที่เครื่องบิน”

        “ครับนาย”

        ชายผู้นั้นขนกระเป๋าสามใบคนเดียวแถมยังมือเดียว ท่อนแขนของเขาขนาดใหญ่มากเหมือนเอาแขนผมสักหกเจ็ดแขนมารวมกัน มันน่าทึ่งมากกับพละกำลังที่เขามี

        “หานากินีแข็งแรงขนาดนี้มาจากสนามรบหรือเปล่า” อเล็กซ์ถามอาซาติดตลก พวกเราเดินออกไปยังหลังปราสาทที่มีเครื่องบินส่วนตัวขนาดเล็กจอดรออยู่ ฟรินน์เดินสำรวจรอบๆเครื่องบินอย่างสนใจ

        “ขึ้นมาได้แล้วฟรินน์ อย่ามัวแต่เล่น” อาซาดุเพราะคนอื่นขึ้นเครื่องหมดแล้วเหลือแต่ฟรินน์ที่ยังตื่นเต้นกับเครื่องบินอยู่ข้างล่าง

        “เออๆ รู้แล้วน่า” ฟรินน์ส่ายหัวเหมือนเซ็งที่ถูกดุ

        ที่นั่งบนเครื่องมีทั้งหมดหกที่นั่ง แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกที่เดินเข้าไปเจอ ฝั่งซ้ายขวามีอย่างละสองที่นั่งหันหน้าเข้าหากัน เบาะกว้างใหญ่สะดวกสะบาย มีโต๊ะเล็กๆวางอยู่ตรงกลาง ถัดไปมีผ้าม่านกำมะหยีเนื้อดีสีดำกั้น

        อาซาแหวกม่านเปิดออก เป็นที่นั่งคล้ายโซฟาเบดขนาดใหญ่สองที่นั่งติดกัน หน้าต่างทั้งสองฝั่งก็ใหญ่กว่าปกติเพื่อให้ชื่นชมทัศนียภาพได้อย่างจุใจ

        “เรานอนกันในนี้แล้วกัน พวกนายนอนข้างนอกโอเคไหม”

        “ไม่โอเคได้ด้วยเหรอวะคุณลูกเจ้าของเครื่อง” ฟรินน์ยิ้มล้อกวนให้อาซาถลึงตาใส่ข้อหาพูดไม่หู

        “ข้างนอกก็สบายมากแล้ว พวกนายก็เข้าไปพักข้างในเถอะ” อเล็กซ์เลือกที่นั่งฟังขวา หยิบรีโมตที่เสียบอยู่ข้างที่วางแขนกดเปิดโทรทัศน์ มีโปรแกรมหนังอยู่หลายเรื่อง

        “ไปๆ เข้าไปสวีทหลังผ้าม่านกันสองคนไป” ฟรินน์ยิ้มกว้างดันหลังพวกผมสองคนเข้าไปด้านใน อาซาหมั่นไส้เลยยกเท้าถีบไปที ฟรินน์ล้มลงไปเพราะไม่ทันตั้งตัวแต่กลับหัวเราะออกมาเสียงดัง อาซาส่ายหน้าเบื่อหน่าย รูดม่านปิดสนิท

        “มันกวนประสาท” อาซาพูดเหมือนจะฟ้องผมและทำหน้าว่าสมควรแล้วที่โดนไปเมื่อตะกี้

        เวลาบนเครื่องสมควรพักผ่อนเก็บแรงให้เต็มที่ แต่ทั้งผมและอาซากลับไม่มีใครข่มตาหลับได้ ผมนอนทับอกอาซามองออหไปนอกหน้าต่างดูท้องฟ้าและก้อนเมฆ

        “ทุกอย่างจะโอเคใช่ไหมอาซา” ผมเป็นห่วงพี่ยอร์ช เป็นห่วงพวกเราทุกคน แต่เป็นห่วงพี่ยอร์ชมากหน่อย เพราะพี่ยอร์ชเป็นคนปกติหลายร่างไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นมาจะเอาอะไรไปสู้

        “เราต้องมีความหวัง แม้เพียงน้อยนิด แต่มันจะไม่มีสูญเปล่า อย่างน้อยที่สุด จิตใจเราจะเข้มแข็ง มีแรงกายแรงใจในการตอสู้เพื่อวันข้างหน้า”

        อาซากดจูบที่หน้าผาก แขนที่โอบกอดรอบตัวผมกระชับรัดแน่น

        “กลัวไหม” อาซาถามผมเสียงนุ่ม ผมพยักหน้ากับอกแกร่ง

        “ฉันเคยฝัน ฝันว่าเอเดนฆ่านาย แล้วฉันช่วยนายไม่ได้” นึกถึงความฝันที่แสนน่ากลัวนั่นทีไรผมรู้สึกแย่ทุกที

        “มันก็แค่ความฝัน” อาซาบอก ผมเงยหน้ายุ่งๆมองเขา

        “แล้วถ้ามันไม่ใช่แค่ฝันล่ะ”

        ถ้ามันเป็นความจริงขึ้นมาจะทำยังไง

        “แล้วนายจะปล่อยให้ฉันตายแบบในฝันหรือเปล่าละ” อาซายิ้มถามเหมือนเป็นเรื่องตลก ซึ่งผมไม่ขำด้วย

        “ไม่มีทาง ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้นายตายเด็ดขาด” ผมพูดหนักแน่น ถ้าเป็นอย่างในฝันจริงๆ ต่อให้ต้องผิดคำพูดต่อคุณจอร์จ แต่ผมก็ขอเลือกทำทุกอย่างให้เอเดนพ่าย แทนปล่อยให้อาซาตาย

        “กล้าหาญจังเลยนะงูน้อยของฉัน” อาซากอดผมแน่นขึ้น

        “ฉันจริงจังนะ” ผมพูดเสียงห้วน

        “รู้แล้วครับ นอนเถอะ ถึงแล้วฉันจะปลุก”

        ทำยังไงผมจะกลายร่างเป็นงูตามใจตัวเองแบบคนอื่นได้สักที ต้องทำยังไง คิดสิคิด โยชิ แต่ก่อนแกกลายร่างยังไง ถ้าแกเคยทำได้ ครั้งนี้แกก็ต้องทำได้

        ผมงีบหลับไปไม่นานเครื่องบินก็บินมาถึงแม็กซีโก อาซารีบติดต่อกับเวสตันที่ล่วงหน้ามาถึงแล้วทันที พวกเขาอยู่ที่โรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งเพื่อไม่ให้เอิกเริกหรือเป็นที่สังเกตการณ์ แต่ก็อยู่ไม่ห่างจากบ้านพักของเอเดนมากนัก ผมเองก็ติดต่อหาพี่ยอร์ชทางข้อความเช่นเดิม

        แต่พี่ยอร์ชยังไม่อ่านข้อความ ผมจึงได้แต่รอเท่านั้น เรามุ่งตรงไปยังโรงแรมที่ว่า เวสตันเป็นคนลงมารับพวกเรา พร้อมกับถุงเสื้อผ้าหนึ่งถุง เวสตันว่าเราต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในบางครั้งที่ออกไปข้างนอก เพื่อให้กลมกลืนไปกับนักท่องเที่ยว ห้องพักที่จองได้ก็ทั้งหมดสามห้อง ปารีสนอนกับจูเลียต เวสตันพักกับฟรินน์และอเล็กซ์ และสุดท้ายก็อาซาและผม ห้องผมกับจูเลียตอยู่ที่กัน ส่วนห้องของเวสตันอยู่ตรงข้ามกับห้องของจูเลียต

        เราต่างแยกย้ายกันเก็บของเขาห้อง และตกลงกันว่าอีกหนึ่งชั่วโมงเราจะไปเจอกันที่ห้องของเวสตันเพื่อวางแผนการต่อไป

        ตื้อดึง!

        ผมที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่รีบวิ่งไปหาโทรศัพท์ ดีใจสุดซึ้งที่พี่ยอร์ชตอบข้อความกลับมาเสียที

        ‘โยชิ ตอนนี้เรากำลังทำอะไร พี่แอบได้ยินเอเดนคุยกับชาร์ลว่าตอนนี้มีคนแกะรอยตามพวกเขา ใช่คนของเราหรือเปล่า’

        ผมพิมพ์ตอบกลับ เริ่มกังวลเล็กน้อยที่ดูเหมือนว่าเอเดนจะสังเกตความเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วเพียงนี้

        ‘คนของคุณจอร์ช พ่อเอเดนกับอาซา’

        ‘พี่ยอร์ช ตอนนี้ผมอยู่ในเมืองบรักเซมส์ ไม่ไกลจากบ้านพักของเอเดนที่พี่ยอร์ชส่งมามากนัก ตอนนี้พี่ยอร์ชอยู่ที่ไหน’

        ‘พี่อยู่ที่ร้านไวน์ของเอเดน ห่างจากบ้านพักพอควร คงกลับถึงบ้านพักดึก’

        ‘งั้นพรุ่งนี้เช้าตอนแปดโมงผมจะไปรอที่ร้านขายดอกไม้ตรงหัวมุมถนนวินเทมส์ พี่ยอร์ชหาทางหลบหนีออกมาให้ได้นะ อยู่กับเอเดนนานๆพี่ไม่ปลอดภัยแน่ๆ เรื่องนี้พวกอาซาจะเป็นคนจัดการต่อเอง’


        ตอนนั่งรถมาที่โรงแรมผมสังเกตเห็นร้านดอกไม้ขนาดเล็กที่ค่อนข้างทึบไม่โปร่งโล่ง น่าจะเป็นสถานที่นัดเจอที่ปลอดภัยที่สุดในความคิด

        ‘พี่จะลองหาทางออกไปให้ได้นะโยชิ แค่นี้ก่อนไว้คุยกัน เขาเรียกพี่แล้ว’

        ผมจ้องหน้าจอโทรศัพท์กับข้อความของเราสองพี่น้องอยู่นานจนอาซาเดินมาใกล้ เขาก้มหน้าลงอ่านก่อนจะขอให้ผมช่วยแปลให้เพราะเขาอ่านภาษาไทยไม่ออก



       
        .................................
        มารอลุ้นกันว่าใครจะร้ายกว่าใคร 5555 :laugh:
        มีคำผิดโปรดแจ้ง ข้าพเจ้าจะมาแก้ไขให้ทีหลัง :katai4:
        ขอบพระคุณทุกคอมเม้นที่ส่งมาให้กำลังใจกัน อ่านแล้วปลิ้มปริ่ม
        กอดดด
:กอด1: :mew1:
       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.51]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 14-05-2015 00:21:52
เอาใจช่วยหนูโยชิ อาซา แล้วก็พี่่ยอร์ชนะ

ขอให้กำราบอีตาเอเดนให้ได้ไวไว  :m16:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.51]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 14-05-2015 00:25:04
 :katai1: :katai1:  สถานการณ์บีบคั้นหัวใจสุดๆ  พี่ยอร์ช อย่าเป็นอะไรไปนะ  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.51]
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 14-05-2015 00:30:05
ฝันโยชิจะเป็นจริงมั้ย อาซาจะเป็นอะไรหรือเปล่า กรี้ดดดดดดดดด  :ling1:  :ling2:  :ling3: นังเอเดนแกต้องสำนึกผิดแล้วไปชดใช้กรรมกับพี่ยอชสะเข้าจายมั้ยยยยยยยยยย  :katai3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-05-2015 01:15:03
เอาใจช่วยโยชิ อาซา และพี่ยอร์ช

จัดเอเดนหนักๆนะหมั่นไส้
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 14-05-2015 04:49:29
ลุ้นมากๆ อยากให้โยชิกลายร่างด้วยตัวเองให้ได้
พี่ยอร์ชอย่าเป็นอะไรไปนะ ไม่งันพ่อกับโยชิคงเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น ><
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 14-05-2015 06:25:09
โยชิสู้ๆน้า ช่วยพี่ยอร์ชให้ได้
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 14-05-2015 06:45:52
เอาใจช่วยทุกคนให้ปลอดภัย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 14-05-2015 06:52:08
เอาใจช่วยโยชินะ ลุ้นๆๆ
ปล.แอบตกใจชื่อพ่อของอาซาแว้บนึง ตอนอ่านที่โยชิบอกว่า จำชื่อไม่ได้ เราคิดว่า ชื่อคนเมื่อหลายร้อยปีก่อนต้องอลังการแน่ๆเลย ขนาดชื่ออาซายังเพราะเลยนี่นา พอเจอว่า พ่ออาซาชื่อ จอร์ช แอบตกใจ ทำไมโยชิจำไม่ได้ ชื่อจำง่าย แถมเป็นคนสั่งฆ่าตัวเองด้วยนะ ..
รอติดตามตอนต่อไปจ้าา สนุกมาก อ่านแล้วลุนตลอดเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 14-05-2015 08:09:33
 :call: พี่ยอร์ช สู้ๆ พี่ยอร์ชสู้ตาย #ทีมพี่ยอร์ช
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 14-05-2015 09:12:01
พี่ยอร์ชของน้องงงงงงงง หนีออกมาให้ได้นะคะ
อบากเห็นเอเดนเจ็บปวด หึหึ
ถ้าทำอะไรโยชินะเอเดน ขอให้พี่ยอร์ชไม่รัก!!!
รอตอนต่อไปน้าาา ริริสู้ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 14-05-2015 10:02:20
พี่ยอร์ช ต้องปลอดภัยยย :katai5: หนีออกมาให้ได้
และขอให้โยชิกลายร่างเป็นงูได้ตามใจสั่งในเร็ววัน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: ploylove1910 ที่ 14-05-2015 12:44:45
เอาใจช่วยยย
อาซาอย่าตายเลย สงสารโยชิ
เอาใจไรท์สู้ๆนะ5555
ชอบมากกกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 14-05-2015 14:53:38
 งานนี้อิป้าว่า เอเดนต้องโดน.... พี่ยอร์ช.... จัดการแน่นอน เพราะเรื่องนี้.... พี่ยอร์ช... ร้ายที่ซู๊ดดดดด...(สำหรับเอเดนนะ)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 14-05-2015 15:04:32
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:  ลุ้นมากอ่ะ แอร๊ยยยย :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 14-05-2015 15:47:49
หวังว่าเอเดนรู้เรื่องยอร์ชทีหลังจะไม่มาโกรธยอร์ชหรอกนะ ตัวเองหลอกเขาก่อนเเท้ๆ ไม่มีสิทธิ์ไปโกรธเขานะโฟ้ย
ตอนหน้าบู๊เเล้วใช่ไหมค่ะ รอคะรอตื่นเต้นนนนนนกอดๆๆๆคุณริริ สู้ๆนะค่ะ รอตอนต่อไปน๊าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: foxfilix ที่ 14-05-2015 16:37:58
ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆ
พี่ยอร์ชสู้วววววววววววววว
โยชิสู้วววววววววววววว
 
ติดตามค่าาาา :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: hikky ที่ 14-05-2015 16:55:55
ไม่ว่าเอเดนจะเก่งมาจากไหน เชื่อว่าสุดท้ายนางก็ต้องแพ้ใจพี่ยอร์ช

แต่จริงๆเราสงสารเอเดนนะ ถ้าเราเป็นเอเดนก็คงน้อยใจพ่อไม่ต่างกัน อย่างว่าเรื่องนี้เอเดนมันไม่ใช่พระเอกเลยต้องทำใจ

แต่ถึงไม่ใช่พระเอกของเรื่องก็ขอให้ได้เป็นพระเอกของพี่ยอร์ชละกันนะ #ทีมเอเดนยอร์ช

รอตอนต่อไป เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นทีเดียวเชียว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-05-2015 19:39:41
มาแล้วๆ

ขอตัวไปอ่านแป๊บ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 14-05-2015 20:16:33
ขอให้ปลอดภัยนะทุกคนนนน
ส่วนเอเดนก็ขอให้พี่ยอร์ชไม่โกรธนานละกัน
เพราะยังไงก็โดนแน่ๆอยู่แล้ววว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 14-05-2015 21:02:19
ตื่นเต้นๆ รออ่านต่อนะครับ :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-05-2015 22:35:01
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า

ความดีของพี่ยอร์ช

จะช่วยให้เอเดนกลับตัวกลับใจนะ

รออ่านตอนต่อไปจ้า

ตอนหน้าจะบู๊แล้วใช่ไหม

และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างที่โยชิฝันนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 15-05-2015 02:56:08
ก่อนหน้านี้เราสอบไม่ได้อ่านเลย
เพิ่งได้มาตามอ่าน
เข้มข้นมากกกกกกกกก เอเดนเริ่มหลงพี่ยอร์ชแล้ว
หวังว่าจะกลับใจเร็วๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 15-05-2015 05:50:00
พี่ยอร์ช จะต้องปลอดภัยนะ

เราหวังว่า เอเดน จะคิดได้ก่อนที่จะสายเกินไปนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 15-05-2015 07:05:27
สู้ๆ พี่ยอร์ชตรงปลอดภัย เอเดนต้องไม่กล้าทำอะไร!!!
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 15-05-2015 12:19:09
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 15-05-2015 15:51:44
คิดให้ได้นะเอเดน ถ้าทำอะไรที่มันผิดพลาดไป
สุดท้านคนที่เสียใจที่สุดก็คือนายเองนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 19-05-2015 00:24:17
เท่าที่อ่าน แลดูพี่ยอร์ชจะชิลเหลือเกิน
เหมือนไม่ค่อยกลัวเอเดนเท่าไหร่
แต่ก็นั่นแหละเฮียยอร์ชแกอาจจะมีทีเด็ดเอามาใช้ปราบเอเดนก็ได้นี่เอง
รอลุ้นตอนหน้า  :pig4: หลายๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: bodun ที่ 19-05-2015 04:23:28
อยากเห็นเอเดน เป็นลูกงูของพี่ยอร์ช                                                 
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-THREE ❁ 14-05-2015 [P.52]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 27-05-2015 20:50:04
เข้ามากระดึบๆรอ :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 27-05-2015 22:24:31
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY-FOUR




        Yoshi

        เวลาสองทุ่มเรามารวมตัวกันในห้องของเวสตัน เพื่อวางแผนการจัดการกับเอเดน สิ่งที่เราพอจะคาดเดาได้ถึงความต้องการของเอเดนที่เอาตัวพี่ยอร์ชมานี่เพื่อเป็นตัวล่อให้เรามาหา ก็เพราะว่าเอเดนต้องการตัวอาซา เขาต้องการสิ่งสำคัญของอาซาที่จะทำให้เขากลายเป็นใหญ่เหนือใคร

        “นายมีแผนอะไรว่ามาเลยอาซา” เวสตันพูด สีหน้าเหมือนไม่เป็นกังวลกับศึกหนักที่กำลังเผชิญ

        “เอเดนจับตัวพี่ชายของโยชิไปเป็นตัวประกัน ก่อนอื่นเลยเราต้องเอาตัวพี่ยอร์ชมาก่อน”

        “ก็ออกบุกชิงตัวมาเลย”

        “ทำแบบนั้นไม่ได้”

        “พรุ่งนี้ฉันนัดพี่ยอร์ชให้ออกมาพบที่ร้านดอกไม้ตรงหัวมุมถนน”

        “นายคิดว่าพี่ชายนายจะออกมาได้เหรอ จะหลบออกมายังไงไม่ให้เอเดนรู้”

        “เธอตั้งคำถามได้ดีจูเลียต สิ่งแรกที่เราต้องทำในวันพรุ่งนี้ก็คือ ล่อเอเดนกับพวกไปที่อื่น”

        “แล้วถ้าหมอนั่นลากพี่ชายโยชิไปด้วยล่ะ”

        “ไม่น่าเป็นไปได้ เอเดนยังไม่รู้ว่าพี่ยอร์ชรู้เรื่อง เขาไม่มีทางพายอร์ชไปด้วยแน่ และจังหวะนั้นยอร์ชก็น่าจะออกมาหาโยชิได้ ทันทีที่เราได้ตัวยอร์ชมาแล้ว ฉันจะไปเคลียร์กับเอเดนด้วยตัวเอง”

        “อาซา”

        “เรื่องนี้มันต้องจบลงโยชิ”

        “นายจะเคลียร์กับเขายังไง” ปารีสถามในสิ่งที่ทุกคนก็อยากรู้

        “ก็คงต้องสู้กันซึ่งๆหน้า”

        “ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรออาซา”

        “เอเดนไม่คิดจะใช้ไม้อ่อนกับฉันหรอกโยชิ ถ้าเขาจะทำคงทำไปนานแล้ว ไอ้การที่จะเดินมาบอกว่าขอหัวใจของแนเถอะนะ แล้วฉันส่งให้ง่ายๆ ถ้าเป็นแบบนั้นเรื่องคงจบไม่นานแล้ว แต่ก็อยากที่เห็น เขาดึงดันจะเอา และวิธีที่จะเอามันไปจากฉันก็คงต้องใช้กำลังเข้าแย่ชิง วิธีเดียวเท่านั้นที่เขาจะเอามันไปจากฉันได้ ถ้าฉันแพ้”

        “แต่ถ้านายมีหัวใจบาซิลิกส์ที่ทำให้นายแข็งแกร่งกว่าใครก็ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวนี่” ฟรินน์เอนหลังลงกับเก้าอี้บุนวมที่ค่อนข้างเก่าคล้ายวางใจ

        “ไม่หรอก” อเล็กซ์เอ่ยขึ้น พวกเราหันไปมองเขา “อาซามีหัวใจบาซิลิสก์แค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งอยู่ที่โยชิ ถ้าไม่เต็มดวงก็ไม่ส่งผลอะไรมากหรอก” อเล็กซ์อธิบายความจริงซ้ำอีกครั้ง

        “แล้วเอากลับเข้าไปใส่ตัวอาซาให้มันเป็นดวงเดียวไม่ได้เหรอ ตอนนายเอาออกไปให้โยชินายทำยังไง”

        อาซาส่ายหน้า “ไม่รู้ รู้อีกทีครึ่งหนึ่งก็ไปอยู่ที่โยชิแล้ว”

        “เป็นการเคลื่อนย้ายผ่านความรู้สึกน่ะ เรื่องนี้มันพูดยาก ฉันก็ไม่เข้าใจ ตั้งแต่ฉันเกิดมาจนจำความได้ ฉันก็ฝันถึงคำสั่งที่ได้รับมอบหมายมาตลอดกับความหมายของปานที่มีมาติดตัว ไม่มีใครบอกได้เหรอว่าจะทำให้หัวใจบาซิลิสก์รวมเข้าเป็นอันหนึ่งอันดันเดียวกับเหมือนเดินได้ยังไงนอกจาก...” อเล็กซ์เว้นช่วงในขณะที่ทุกคนตั้งใจฟัง

        “เว้นแต่อะไร” จูเลียตถาม

        “ทายาทของพ่อมดเฮอร์โปร์” อาซาเป็นคนตอบคำถาม

        “ใช่ และการที่เอเดนเลือกมาในที่ๆเขาผู้นั้นอยู่ก็แสดงว่าเขาต้องการเปิดศึกกับนายอย่างเห็นได้ชัด” อเล็กซ์สบตาจริงจังกับอาซา อาซาพยักหน้าเข้าใจ

        “งั้นก็ตามนี้ พรุ่งนี้เช้าเราจะทำการล่อเอเดนออกจากรังของมันแล้วให้ยอร์ชออกมาหาโยชิ แล้วใครจะไปเป็นเพื่อนโยชิ” เวสตันหันมามองผมก่อนจะกวาดตามองทุกคน “อาซา นายอยู่กับโยชิไม่ได้ พวกนั่นอาจเดาเกมออก”

        “งั้นฉันอยู่กับโยชิเอง” อเล็กซ์เอ่ยอาสา

        “ก็ดีนะ” ฟรินน์เห็นด้วย

        “ฉันยังไงก็ได้” ผมบอก

        “โอเค ตกลงตามนี้ แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ศึกใหญ่รอเราอยู่” เวสตันปรบมือก่อนจะลุกขึ้นยืน ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน

        ผมและอาซากลับมาที่ห้องพัก ผมเปิดโทรศัพท์ดูอีกรอบเผื่อว่าพี่ยอร์ชจะส่งข้อความอะไรกลับมา แต่ไม่มี ผมจึงส่งข้อความไปหาเพื่อยืนยันการนัดหมายของเราอีกครั้ง

        ‘อย่าลืมนะพี่ยอร์ช พรุ่งนี้แปดโมงเช้าที่ร้านขายดอกไม้ ผมจะไปรอพี่ต้องมาให้ได้นะ’

        “นอนเถอะ ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย” อาซาดันตัวผมให้นอนลงกับเตียง เขาทิ้งตัวนอนเคียงข้าง ตวัดผ้าห่มห่มกายเราเอาไว้ ผมหันเข้าหาเขา กอดเอวสอบพลางซุกหน้าลงกับอกเปลือย

        “ฉันไม่อยากให้นายไปสู้กับเอเดนเลย” ผมบอกเสียงสั่น ผมกลัว กลัวว่าความฝันจะเป็นจริง กลับอาซาจะเป็นอะไรไป

        “ถ้าฉันไม่สู้ เราก็จะแพ้ เอเดนไม่ปล่อยฉันไว้แน่ๆ ฉันรู้ว่าเขาเอาจริง”

        “ไม่มีวิธีอื่นที่จะหยุดยั้งเขาไว้จริงๆน่ะเหรอ”

        “ไม่มีหรอก เขาไม่ฟังใครนอกจากตัวเอง”

        “ฉันกลัวว่านาย...”

        จะตาย

        ผมพูดต่อท้ายไม่ออก มันตื้อไปหมด

        อาซาเชยคางผมขึ้น แสงจากโคมไฟที่เปิดไว้ทำให้เห็นใบหน้าของเขาถนัดตา

        “Listen to me, before I start the war, I better know what’s I’m fighting for”

        มือของเขาเช็ดหยาดน้ำที่ซึมอยู่ตรงหางตาให้ ดวงตาของเขาที่จับจ้องผมสื่อทุกความหมาย ทุกความรู้สึกของเขา ผมไม่แม้แต่จะกระพริบตา อยากจ้องมองเขาให้นานแสนนาน ก่อนที่เสียงแหบต่ำของเขาจะช่วยเร่งให้น้ำตาไหลออกมา

        “It’s you, Darrel. I fight for you”

        “ฮึก” เสียงสะอื้นหลุดจากปาก ผมกลั้นเอาไว้ พยายามไม่ให้น้ำตาไหล เตือนตัวเองว่าจะต้องไม่อ่อนแอ

        “นอนซะนะ พรุ่งนี้นายต้องปฏิบัติภารกิจสำคัญ จะตื่นสายไม่ได้หรือไหม” เขาเปลี่ยนเรื่องให้ผมเลิกคิดมาก

        “บ้า” ผมบ่นกับอกเขา ก่อนจะปิดเปลือกตาลง ให้อ้อมกอดของเขาร่ายมนต์ให้ผมหลับฝันดี ฝันว่าเขาชนะเอเดน ฝันว่าอาซาจะคงอยู่กับผมตลอดไป

        เช้าวันถัดมา ผมตื่นตั้งแต่ยังไม่หกโมงดี คนอื่นก็เช่นกัน เพราะต่อให้พยายามจะพักผ่อนยังไง แต่ก็ไม่สามารถนอนหลับได้เต็มตา เพราะรู้ดีว่าที่นี่มีภัยรอบตัว เราไม่รู้ว่าเอเดนจะเล่นงานเราตอนไหน เขารู้อยู่แล้วว่าเรามาที่นี่ ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้ ในเมื่อเขาเป็นคนวางหมากให้เราเดินตามเกม แต่ในเมื่อเราต้องการพลิกกระดาน เราก็ต้องระวังตัวอีกเท่าหนึ่ง

        ผมติดต่อพี่ยอร์ชไม่ได้อีกเลยตั้งแต่ข้อความสุดท้ายของเมื่อวาน เช้าตรู่วันนี้เราตื่นแต่เช้าเพราะนอนไม่หลับ ผมเป็นห่วงพี่ยอร์ชจนทานอาหารเช้าที่น่าอร่อยตรงหน้าไม่ลง

        “ดูแลตัวเองด้วยนะโยชิ มีอะไรรีบโทรหาฉันทันที” อาซาบอกก่อนที่เขาและคนอื่นๆจะออกไปล่อเอเดนออกจากเพ้นท์เฮ้าส์

        “อืม นายก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ”

        “อืม”

        “ฉันฝากโยชิด้วย” อาซาหันไปบอกอเล็กซ์

        “ฉันจะดูแลเขาด้วยชีวิตของฉัน”

        “ขอบใจ”

        อาซากับพรรคพวกตรงไปที่ลิฟต์ ก่อนที่ไปเขาหันมาสบตากับผมจากนั้นจึงก้าวเข้าไปในลิฟต์ ถึงเวลาที่ผมเองก็ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองเช่นกัน

        ผมกลับเข้าไปหยิบหมวกในห้องมาเพื่อสวมอำพราง เสื้อผ้าก็ใส่ของที่ฟรินน์หามาให้ เสื้อผ้าฝ้ายสบายตัวกับกางเกงขาสั้นเสมอเข่าสีเทาเรียบ ยังดีที่ไม่ฉูดฉาดเตะตาใครต่อใครให้หันมามอง ไม่งั้นคงได้โดนพวกเอเดนจับได้ตั้งแต่ก้าวออกจากโรงแรม

        “ไม่ใส่หมวกเหรอ” ผมถามอเล็กซ์ เขาดูไม่กังวลเช่นผมที่ออกแนวหวั่นวิตกทุกคนที่เดินผ่าน

        “ฉันมีแว่น” เขาชูของที่พูดในมือให้ดู ทันทีที่เราก้าวเท้าออกจากโรงแรมเขาก็สวมมัน

        ผมหยุดยืนนิ่ง กดเช็คโทรศัพท์อีกรอบ แล้วก็ต้องยิ้มกว้างออกมาเมื่อได้รับข้อความตอบกลับจากพี่ชายเสียที ผมก็คิดไปต่างๆนาๆว่าที่พี่ยอร์ชไม่ตอบกลับมาอาจเป็นเพราะเอเดนจับได้ แต่เห็นแบบนี้ก็โล่งใจได้หน่อย

        “ไปกันเถอะ พี่ของฉันกำลังจะไปที่นัดหมาย” ผมหันไปบอกกับอเล็กซ์ มองซ้ายแลขวาจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดปกติแล้วจึงข้ามถนน เท่าที่สังเกตดูทุกอย่างดูปกติมาก ไม่มีใครสนใจผมกับอเล็กซ์ ทุกคนสนใจแต่กับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่

        เดินลัดเลาะไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงร้านขายดอกไม้แบบปิด  กระจกทึบมองแทบไม่เห็นข้างใน มีผ้าใบสีน้ำตาลอมส้มยืนออกมาจากหน้าร้าน ถ้าไม่ใช่เพราะป้ายร้ายขนาดใหญ่ที่เขียนเอาไว้ว่า Flowers for you กับดอกไม้หลากสีในถังไม้จำนวนหนึ่งที่ตั้งอยู่หน้าร้านก็คงไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นร้ายขายดอกไม้

        “นายเข้าไปรอข้างในเถอะ ฉันจะนั่งดูลาดราวที่ร้านกาแฟนี่” อเล็กซ์พูดถึงร้านกาแฟที่อยู่ทางด้านขวาของร้านดอกไม้ที่ผมนัดพี่ยอร์ชไว้

        “อืม”

        ผมเปิดประตูเข้าไปในร้าน กลิ่นของดอกไม้ที่อบอวลอยู่ในร้านหอมจนผมต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อซึมซับกลิ่น เหมือนจะมีกลิ่นหอมเย็นๆช่วยให้กลิ่นของดอกไม้ไม่น่าเวียนหัวนักอยู่ด้วย แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นกลิ่นของอะไร

        ดอกไม้ในร้านมีหลากหลายสายพันธุ์ทั้งที่ผมรู้จักและไม่รู้จัก จัดวางเรียงติดผนังทั้งสองทั้งที่อยู่บนพื้นและอยู่บนโต๊ะไม้แบบขั้นบันได  ตรงกลางก็ใช้โต๊ะแบบเดียวกันที่หันออกทั้งสองด้านที่ทำแบบนี้คงเพราะร้านไม่กว้างมากนัก จึงช่วยให้มีพื้นที่วางดอกไม้ได้เยอะขึ้น ตอนนี้ตัวผมจึงเหมือนกับถูกโอบล้อมไว้ด้วยดอกไม้ทั้งปวง

        แอ๊ด~

        พี่ยอร์ชหรือเปล่า!?

        ผมหันไปที่ประตูเมื่อคิดว่าคนที่เข้ามาในร้านอาจเป็นพี่ยอร์ช แต่ไม่ใช่ เป็นผู้หญิงแก่วัยน่าจะสักห้าสิบได้แล้ว เธออยู่ในชุดออกแนวยุคหกศูนย์ เดรสลายดอกสีฟ้าเขียวสดใส มีผ้ากันเปื้อนผืนเล็กสีขาวผูกไว้ที่เอว เธอยิ้มให้ผมตายีจนปิดอย่างเป็นมิตร ในมือของเธอมีตะกร้าสานใบเล็ก ข้างในนั้นมีขนมปังสามสี่ชิ้นที่ยังคงร้อนเพราะกลิ่นหอมโฉยมาเข้าจมูก กลิ่นเนยและกลิ่นคาราเมล ยังมีโกโก้ร้อนในแก้วกระดาษอีกหนึ่ง ชวนหิวเสียไม่มี”

        “ยินดีต้อนรับอีกครั้งนะพ่อหนุ่ม” คุณยายเอ่ยทักแล้วเดินตรงมาทางผมที่ยืนงง

        ยินดีต้อนรับ...อีกครั้ง?

        หมายความว่ายังไง

        “ทานด้วยกันไหม” เธอเอ่ยกับผม เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ วางตะกร้าลงบนนั้นก่อนจะส่งขนมปังให้ผมหนึ่งชิ้น ผมรู้แล้วคุณยายท่านนี้คงเป็นเจ้าของร้าน

        “ไม่เป็นไรครับ ผมเอ่อ ทานมาแล้ว” ผมตอบกลับไปอย่างเกรงใจ ยังคงแปลกใจคำพูดที่เหมือนว่าเธอเคยเจอผมมาแล้วครั้งหนึ่ง

        “อากาศวันนี้ดีนะ” คุณยายต่อบทสนทนาระหว่างเรา

        “ครับ ก็ดีครับ” ผมตอบครึ่งๆกลางๆ ตอนออกมาจากโรงแรมไม่ได้สังเกตหรือมีกะใจจะดื่อด่ำกับบรรยากาศเท่าไหร่เพราะใจที่พะวงถึงการนัดพบ

        “เสียอย่างเดียว” คุณยายถอนหายใจ “จะมีคนที่ต้องจากไปก่อน”

        “อะไรนะครับ”

        “หืม ฉันก็พูดไปเรื่อย อย่าสนใจเลย จะมาเลือกดอกไม้ใช่ไหมละ ตามสบายเลยนะฉันจะคิดราคาพิเศษให้สำหรับคนพิเศษเช่นเธอ เดี๋ยวนะ ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ฉันชื่อแอนนานะ ชื่อโหลไปสักหน่อย แต่ก็จำง่ายดี จริงไหม” รอยยิ้มขี้เล่นเข้ากับร้านดอกไม้ได้ดีในความคิดของผม

        “ผมชื่อ...” ผมหยุดเพราะคิดว่าไม่ควรเอ่ยชื่อให้คนแปลกหน้ารู้โดยเฉพาะในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ แต่สายตาที่คาดหวังอยากรู้ชื่อของผมก็ทำให้ผมปฏิเสธที่จะแนะนำตัวเองไม่ลง

        “ชื่อดาร์เรลครับ” ไม่นับว่าเป็นการโกหก ในเมื่อดาร์เรลเป็นชื่อของผมจริงๆ แม้จะเมื่อนานมาแล้วก็ตาม

        “ดาร์เรล อ่าใช่ ใช่แล้ว นั่นชื่อของเธอ ดาร์เรล”

        “คุณเป็นใคร” ผมตัวชาเมื่อรับรู้ความไม่ปกติ คิดผิดหรือเปล่าที่นัดพี่ยอร์ชมาที่นี่ ที่ๆดูท่าว่าจะไม่ปลอดภัย

        “เธอรู้อะไรไหม สิ่งเดียวที่เปลี่ยนทุกอย่างเปลี่ยนขาวให้กลายเป็นดำ เปลี่ยนดำให้กลายเป็นขาวคืออะไร” คุณยายไม่ตอบคำถามผม เธอถามกลับมาด้วยใบหน้าอ่อนโยน

        “เอ่อ ผมไม่ทราบครับ”

        “ง่ายนิดเดียวเด็กน้อยเอ้ย ความรักอย่างไรล่ะ จงใช้ความรักแก้ไขทุกสิ่ง แล้วทุกอย่างจะดีเอง”

        “...!?” ผมไม่เข้าใจ ยังไม่ทันได้รู้เรื่องใบหน้าของหญิงชราก็แปรเปลี่ยนเหมือนไม่ได้เพิ่งจะพูดความนัยทิ้งไว้ หรือไม่ก็เป็นการกระทำที่ต้องการจะตัดบท

        “เอ๋ ฉันเอาสมุดจดบัญชีไปไว้ตรงไหนน้า แหม ฉันนี่ก็แกมากแล้ว หลงๆลืมๆป้ำๆเป๋อๆ จนคนแถวนี้เขายังหาว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี ชอบพูดจาเพ้อเจ้อ เฮ้อ ฉันนี่มันแย่จริงๆ”

        ไม่หรอก คุณยายไม่ได้สติไม่ดีหรือพูดจาเพ้อเจ้อ ผมไม่คิดเช่นนั้นแม้แต่น้อย

        คุณยายหยั่งรู้เกินมนุษย์ปกติทั่วไปต่างหาก ซึ่งผมคิดว่าคุณยายน่าจะไม่ใช่คนปกติธรรมดา แต่ผมก็ไม่รู้ว่าคุณยายเป็นอะไร ระหว่างงู เสือ หมาป่า หรือว่าสิงโต

        แอ๊ดดด~

        “โยชิ”

        เสียงอ่อนนุ่มทุ้มหูเรียกผม พี่ยอร์ชมาแล้ว ผมหันขวับไปทางประตู สาวเท้าเร็วจนไม่ต่างอะไรกับวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายที่รักแน่น

        “พี่ยอร์ช ผมเป็นห่วงพี่แทบแย่”

        พี่ชายของผมกอดผมแน่นไม่ต่างกัน “พี่ขอโทษที่ไม่เชื่อเราตั้งแต่แรก”

        “ไม่เป็นไร ก็พี่ไม่รู้นี่น่า” ผมปล่อยตัวพี่ยอร์ช จับร่างสูงกว่าพลิกซ้ายและขวาเพื่อหาความผิดปกติ แต่พี่ยอร์ชดูปลอดภัยครบสามสิบสองไม่มีอาการบาดเจ็บตรงไหน

        “เขาไม่รู้ใช่ไหมว่าพี่ออกมา” ผมถามเสียงเบาอย่างร้อนใจ เหลือบมองคุณยายเจ้าของร้าน ท่านฮัมทำนองเพลงในลำคอก้มหน้าทำอะไรสักอย่างอยู่หลังเคาน์เตอร์

        “ไม่น่าจะ ก่อนพี่ออกมาเขาบอกกับพี่ว่ามีธุระต้องออกไปข้างนอก สั่งให้พี่อยู่แต่ในบ้านอย่างเดียวห้ามออกไปไหน กำชับด้วยว่าห้ามออกไปอย่างเด็ดขาด” พี่ยอร์ชหน้าเคร่งเครียด

        “อาซากับคนอื่นๆออกไปล่อให้เอเดนออกห่างจากพี่เอง พี่ยอร์ชจะได้ออกมาอย่างปลอดภัย” ผมเฉลย

        “เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่”

        ผมมองซ้ายขวา “เราคุยเรื่องนี้กันที่นี่ไม่ได้ โยว่าเรารีบกลับไปโรงแรมที่โยพักก่อนเถอะ แล้วโยจะเล่าทุกอย่างทุกเรื่องให้พี่ฟัง”

        “ก็ดี”

        “เดี๋ยวนะพี่” ผมกวาดสายตามองดอกไม้ก่อนจะเดินไปหยิบดอกไม้ชนิดหนึ่งมาหนึ่งช่อเล็ก ยิบโซฟิล่า...ผมเดินไปหาคุณยายเพื่อจ่ายเงิน เข้ามาอาศัยร้านเขาแต่ไม่คิดจะซื้ออะไรก็น่าเกลียด

        “เท่าไหร่ครับคุณยาย”

        “หืม อ่อ ดอกยิบโซฟิล่า เอาไปเถอะพ่อหนุ่ม ฉันให้ฟรี”

        ผมส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “อย่าเลยครับ ของซื้อของขาย ผมรับฟรีๆไม่ได้หรอกครับ”

        “ฉันให้ตอบแทนที่เธอคุยเป็นเพื่อนคนสติไม่ดีอย่างฉันในเช้าวันนี้” เป็นรอยยิ้มที่จริงใจขัดกับคำพูดเคลือบแคลงที่ยังค้างคาใจในตัวตนของหญิงชรา

        “แต่...” ผมรีบมาก แต่ก็ไม่อยากได้ไปฟรีๆ

        “รับไปเถอะ ถือเป็นกำลังใจจากฉันก็แล้วกัน”

        “กำลังใจ?” ผมทวนคำซ้ำ

        คุณยายไม่ตอบ แค่ยิ้มเท่านั้น ผมทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่อยากอยู่ที่นี่นานไปมากกว่านี้ ผมยกมือไหว้เป็นการขอบคุณ

        “ขอบคุณครับ”

        “ว่างๆก็แวะมาอีกนะพ่อหนุ่ม”

        ถ้าเราทุกคนในที่นี้สามารถเอาชนะเอเดนได้ ผมสัญญาผมจะกลับมาอีกครั้งนะครับ

        ผมตอบคุณยายในใจ เดินกลับไปหาพี่ยอร์ชที่ยืนมองนิ่ง เราก้าวไปที่หน้าประตูร้าน แต่ประตูกลับถูกเปิดจากด้านนอกอย่างรุนแรง ผมสะดึ้งตกใจ พี่ยอร์ชกอดไหล่ผมกระชับเข้าหาตัวพลางถอยห่างหนึ่งก้าว คนที่เปิดประตูไม่ใช่พวกของเอเดน แต่เป็นอเล็กซ์ในสภาพสีหน้าหวั่นวิตก

        “รีบไปเร็ว ฉันว่าพวกเอเดนรู้แล้วว่าพี่ของนายออกมาเจอเราที่นี่”

        “อะไรนะ!!!”

        รู้ได้ยังไง ในเมื่อ

        “ไม่มีเวลามาตกใจแล้ว ออกมาเร็ว เราต้องรีบกลับโรงแรม!” อเล็กซ์เปิดประตูกว้างขึ้นให้พวกเราเดินออกไป ก่อนจะพ้นขอบประตู ผมหันกลับไปมองคุณยายอีกครั้ง และครั้งนี้ผมแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าคุณยายไม่น่าไว้วางใจ เธอส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ ถ้าไม่มองโลกในแง่ร้ายจนเกินไปหนัก สาเหตุที่เอเดนรู้เรื่องที่ผมกับพี่ยอร์ชนัดเจอกันน่าจะเป็นเพราะคุณยายเจ้าของร้านคนนี้!

        ไม่อย่างนั้นเอเดนจะรู้ได้ยังไง

        ออกมาจากร้าน อเล็กซ์เดินไปคนละทางกับที่มา พี่ยอร์ชเดินคู่ผม มือก็จับที่ต้นแขนของผมให้ก้าวขาตามให้ทัน ผมหันไปมองด้านหลังเป็นระยะว่ามีใครตามมาไหม ทำไมผมรู้สึกต่างจากขามา เหมือนว่ามีคนกำลังจ้องมาจากทั่วทิศ

        “คิดว่าเราควรเดินริมถนนหรือตามซอยดี” อเล็กซ์หยุดเดินที่หน้าซอยๆหนึ่งเพื่อหาทางหนีกลับโรงแรมก่อนที่เอเดนจะตามมาเจอเรา

        “เดินตามริมถนนใหญ่จะเป็นที่สังเกตง่ายๆ แต่ตามซอยคนน้อยอันตรายไม่แพ้กัน” พี่ยอร์ชออกความเห็นพลางลอบมองรอบตัวไปด้วย

        “โยชิ เลือก” อเล็กซ์โยนสิทธิ์การตัดสินใจมาให้ผม

        “ทำไมต้องฉัน” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองงงๆ

        “เร็ว เลือกเลย เรามีเวลาไม่มาก ดูนู่น ฉันว่านั่นน่ะลูกน้องเอเดน” เขาชี้ชวนให้ผมกับพี่ยอร์ชมองไปทางด้านหลัง เห็นแล้วผมอยากจะสบถออกมาเป็นภาษาบ้าบออะไรก็ได้

        ผู้ชายกลุ่มใหญ่กว่าสิบคนเดินมุ่งหน้าตรงมาทางเรา มองจับจ้องเราเหมือนสัตว์จ้องล่าเหยื่อ ไม่ต้องไตร่ตรองอะไรมากว่าควรไปทางไหน เพราะวิธีที่ดีที่สุดตอนนี้ก็คือ...หนี!

        “ตรอก ฉันเลือกตรอก!” เพราะเป็นหนทางเดียวตรงหน้าที่เราสามารถเลือกและเร็วที่สุดที่จะกลับเข้าไปในโรงแรม

        ผมวิ่งสุดฝีเท้า มือพี่ยอร์ชเลื่อนมาจับมือผมไว้แน่นให้รู้ว่าพี่ยอร์ชจะไม่มีทางปล่อยมือ อเล็กซ์วิ่งซ้ายขวาอย่างไม่ต้องตัดสินใจมาก ไม่รู้ว่าเขารู้ทางไหม แต่ผมกับพี่ยอร์ชได้แต่วิ่งตามโดยไร้ซึ่งความสงสัย ขาเหมือนจะลดความเร็วลงไม่ได้ยามที่เราเจอสิ่งกีดขวางเป็นรั้วเหล็กความสูงเท่าเอวขวางกั้นอยู่ตรงหน้า อเล็กซ์กระโดดข้ามไปอย่างกับนักวิ่งกระโดดข้ามรั้ว พี่ยอร์ชปล่อยมือผมแล้วก็กระโดดตามไปอย่างปลอดภัย ผมเกิดความลังเลชั่วขณะว่าผมจะทำได้ไหม แต่ขาที่ไม่ได้หยุดวิ่งและสถาณการณ์เลวร้ายที่จวนตัวทำให้ตัวของผมลอยข้ามพ้นรั่วเหล็กมาได้ ทางตรงหน้าคือทางออกสู่ถนนใหญ่ และฝั่งตรงข้ามนั่นก็คือโรงแรมที่เราพักอยู่

        ผมยิ้มกว้างเหมือนรู้สึกว่าตัวเองรอด ก่อนที่รอยยิ้มจะเลือนหายไปเมื่อทางสว่างนั้นมืดมิดลงทันตาเพราะกลุ่มชายนับสิบยืนปิดเส้นทางออก เราสามคนหยุดวิ่งกระทันหันแบบไม่ต้องคิดจนได้ยินเสียงรองเท้าครูดกับพื้นปูน หันไปด้านหลังเพื่อที่จะวิ่งกลับทางเดิม แต่ก็มีคนกระโดดลงมาจากตึกเพื่อตัดหน้า เป็นคนที่...เรากำลังหนี

        “ฉันก็สั่งแล้วน้าว่าให้นายอยู่แต่ในห้องห้ามออกไปไหน รนหาที่จริงๆเลยนะยอร์ช”

       

.       .....................................
       เหอะๆๆ เอเดนมันร้ายกาจ ใครเอาอยู่นี่สุดยอด
       ไม่มีอะไรทอร์คแฮะ  :katai3:
       อ่านแล้วเม้นแสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะตัวเอง เค้าอยากอ่านเป็นกำลังใจ เดี๋ยวตอนหน้าจะมาให้ไม่เกินอาทิตย์เลย
       รักทุกคน จุ๊บบบ :จุ๊บๆ:
       ป.ล. ยังมิได้แก้คำผิด พิมพ์เสร็จแล้วเอาลงเลย จะมาแก้ให้ทีหลังนะคะ ขอตัวไปพักสายตาก่อน >.<
       

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 27-05-2015 22:43:33
ลุ้นๆ โดนเอเดนเจอแล้ววว ทำไงดี หนีให้พ้นน้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 27-05-2015 23:13:46
มาให้กำลังใจจ้า

ขอไปตามอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 27-05-2015 23:24:50
เอาแล้วไง สู้ๆนะพี่ยอร์ช
เอเดนทำพี่ยอร์ชได้ลงจริงๆเหรอ
ไม่ม๊างงงงง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 27-05-2015 23:32:07
ค้างงงมากมายเลยค่า หรือคนขายดอกไม้คือทายาทของพ่อมดเฮอร์โปร์  :L2:

รอตอนต่อน้าค่า ความรักชนะทุกสิ่ง  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 27-05-2015 23:48:48
เย้ยยยย!!! เอเดนมันร้ายวะ  :katai1:
ขอให้โยชิกับยอร์ชปลอดภัยด้วยเท้อออ
ให้อาซากลับมาช่วยเร็วๆด้วย
รอลุ้นตอนหน้ายุน้าาา รีบมานะจ๊ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-05-2015 00:14:28
เอเดนมันร้ายกาจจจจจจ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 28-05-2015 05:29:06
ความรักชนะทุกสิ่ง คุณยายบอกใบ้มาแล้ว
ความรักของพี่ยอร์ชรึเปล่าน้อออ
รอตอนต่อไปน้าาาา ริริสู้ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 28-05-2015 07:36:11
โฮ่ยยย~คือลุ้นมาก ไม่อยากให้พวกโยชิเป็นอะไร
สักคนอ่ะ อ๊ากกก อัดอั้นนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 28-05-2015 08:14:07
เอเดนนนนนร
ทำไมมาอยู่ตรงนี้
กำลังจะพ้นแล้วแท้ๆ
อาซาตามมาด่วนเลยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 28-05-2015 08:40:07
เอเดน จะทำอะไร  :katai1:
อยากอ่านต่อแล้วววววววววววววววว
คนขายดอกไม้บอกจะมีคนจากไปก่อน ใครกันนนนนนนนนน
ไม่อยากให้ใครต้องตายเลย
แง๊
 ปล.น้องโยอายุ50กว่าเรียกคุณยายเลยเหรอหนู
พี่อายุ30 หนูจะเรียกพี่ว่าป้าใช่ไหม 5555555
ในความรู้สึกเราเรียก คุณยายน่าจะอายุ70 อัพอะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 28-05-2015 10:28:28
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 28-05-2015 10:48:04
อิป้าโคตรลุ้นเลย คุณยายต้องเป็นทายาทแน่ ๆ แล้วเอเดนต้องสยบด้วยความรักของพี่ยอร์ช ไม่งั้นพี่ยอร์ชงอนแน่ ๆ ..มาเร็ว ๆ ลุ้นจัด
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 28-05-2015 15:07:28
ค้างๆ อยากอ่าน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 28-05-2015 16:30:06
เอเดนตั้งสติก่อนจะทำอะไรนะโว้ยยยยย นั่งว่าที่(เมีย)เเฟนนะ ลุ้นๆๆๆ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 28-05-2015 17:38:53
เอเดน ถ้ายังไม่อยากเสียความรักจากพี่ยอร์ชไป ห้่ามทำไรใครเด็ดขาด!!! :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 28-05-2015 19:08:12
รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: CielO ที่ 28-05-2015 20:19:02
ลุ้นมากกกกกก สุดท้ายเอเดนก็ไหวตัวทัน
มาป๊ะกันขนาดนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนี่เดากันไม่ถูกเลย
แล้วตกลงคุณยายที่ร้านเปนคนร้ายหรือดีกันแน่
นางแลจะเอนดูโยชิและเหมือนจะรุ้จักกันเมื่อนานมาแล้ว
นี่อ่านไปมีแต่คำถามเตมหัวไปหมด
จะรอตอนต่อไปนะคะ เรื่องนี้สนุกมาก ลุ้นมากจิงๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 28-05-2015 20:56:58
แล้วเอเดน ก็จับยอร์ช ไปขัง เหมือนจำเลยรัก แอร๊ยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 28-05-2015 21:18:47
เค้าอยากอ่านฉากอัศจรรย์ของงูอีกอ่าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 28-05-2015 21:32:27
เอเดน!!! นายมันคน..เอ้ย งูไม่มีหัวใจ!!!
 
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ยอร์ชสู้ๆ

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: amisezmin ที่ 28-05-2015 21:51:09
จะเป็นไงต่อเนี้ย เอเดนมาเจอแล้ว :mew5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: ronlbb ที่ 28-05-2015 22:45:03
 คนที่จะเปลี่ยนเอเดนผู้มีสีดำให้กลายเป็นสีขาวคือ 
ยอร์ชสินะ

ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 28-05-2015 23:37:31
คงต้องใช้ความรักของยอร์ชที่มีต่อเอเดนน่ะ ถึงแม้มันจะยังไม่ชัดเจนก้อตาม หรือไม่ก้อความรักของพ่อน่ะ เราว่าเรื่องของเรื่องเกิดจากตัวพ่อน่ะแหละที่ลำเอียงเห็น ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: mcooky ที่ 29-05-2015 09:47:18
เอเดนผู้น่าสงสาร แต่นายโผล่มาได้ไงงง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 29-05-2015 21:06:07
แย่แล้ว แบบนี้ทั้งสามคนจะปลอดภัยมั้ยอ่ะ

เรากลัวว่า อเล็กซ์ จะเป็นอะไรไปน่ะสิ

ที่ไม่กลัว พี่ยอร์ชกับน้องโย จะบาดเจ็บ เพราะมีตัวจริงอยู่อ่ะ

อาซา จีบมาช่วย น้องโย เร็วเข้าเถอะ

เอเดน เดี๋ยวนายก็จะรู้ซึ้ง เหอะ!!!
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: AutumnWind ที่ 02-06-2015 14:05:17
ตามอ่านตั้งแต่เมื่อคืน ในที่สุดก็ทันแล้ว
รู้สึกว่าหลงรักเรื่องนี้ตั้งแต่แรกอ่านเลยทีเดียว
เพราะนิยายวายแนวนี้หาอ่านได้ยาก และส่วนมากก็แต่งได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ื่ขอชื่นชมคนแต่งเลยว่าแต่งออกมาได้เยี่ยมมาก
ทุกอย่างดูสมจริงและสมเหตุสมผล ภาษาบรรยายก็ลื่นไหลมาก อ่านไม่สะดุด ไม่งงด้วย
เราชื่นชอบตัวละครทุกตัวเลย ทุกคนมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง
จำไม่ได้แล้วว่าตอนไหนที่คนแต่งบอกว่าเรื่องต่อไปของเซ็ตนี้เป็นเรื่องของคาร์เตอร์
เราดีใจจนอยากกรี๊ดดังๆ เพราะชอบคาร์เตอร์มาก

พออ่านมาถึงตรงนี้แล้วลุ้นระทึกมาก
หวังว่าทุอย่างจะจบลงด้วยดี
เราไม่ยากให้เอเดนตาย อยากให้อยู่คู่กับพี่ยอร์ชมากกว่า

ติดตามและเป็นกำลังใจใหคนแต่งค่ะ  :L2:

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: vamo ที่ 02-06-2015 20:08:25
 :z10: :z10: :z10: :z10:
เอเดนนายมัน....อ่าาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 02-06-2015 20:33:49
แงงงงงงง พี่ยอช  :ling3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FOUR ❁ 27-05-2015 [P.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 03-06-2015 13:57:49
ลุ้นอ่ะ เราว่าเอเดนน่าสงสาร
ไปๆมาๆคนทีทำให้เกิดเรื่องก็คือคุณจอร์ชพ่อของทั้งคู่นั่นเอง
หวังว่าทุกอย่างจะลงท้ายด้วยดีนะฮะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 09-06-2015 00:45:12
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY-FIVE





        YATCH

        “อยากได้ตัวพี่ชายนายคืนกับรักษาชีวิตอเล็กซ์ไว้ ก็เอาชีวิตไอ้อาซามาแลก!” เอเดนประกาศกร้าวให้ได้ยินกันทั่วหน้า เอเดนให้ลูกน้องเขาล้อมเราไว้ทุกทาง โยชิถูกผู้ชายร่างโตรวบตัวเอาไว้ ส่วนอเล็กซ์สลบไม่ได้สติ ไม่รู้เอเดนทำอะไรกับเขา เขาใช้ผู้หญิงคนหนึ่งในการทำร้ายจนอเล็กซ์หมดสติไป เรากำลังจนตรอก

        “ปล่อยผมเอเดน!”

        “ถ้าไม่อยากให้น้องชายคุณเป็นอะไร ไปกับผมเสียดีๆ” เอเดนกระซิบข้างหูผม ผมต้องยอมงั้นสินะ

        “ไปให้คุณเอาผมไปต่อรองเพื่อทำเรื่องเลวๆอย่างนั้นน่ะเหรอ!” ผมระเบิดอารมณ์ไม่สนใจว่าจะก่อให้เกิดผลร้ายต่อตัวเองอย่างไรในภายหลัง ถ้าหากว่าเอเดนอยากจะทำ

        ผมยังไม่ทันได้รู้เรื่องราวใดๆ ก็พลาดท่าโดนจับได้ พวกเราคงคิดน้อยเกินไปที่คิดว่าเอเดนจะหลงกล ผมยอมรับเลยว่าเขาฉลาด แต่มันไม่ใช่เรื่องเลยที่เขาเอาความฉลาดมาใช้ในทางที่ผิด

        “ก็แล้วแต่จะคิด เดินตามมา!” เอเดนกระชากแขนผมให้เดินตาม

        “ฮึก พี่ยอร์ช เอเดน! อย่าทำอะไรพี่ยอร์ชนะ นายอย่าทำแบบนี้”

        ผมหันไปมองโยชิ น้องชายของผมที่เอ่ยขอร้องวิงวอนอย่างน่าสงสาร พยายามดิ้นให้หลุดออกจากการจับกุมแต่น้องชายผมตัวเล็กขนาดนั้นจะไปสู้แรงคนตัวโตกว่าได้ยังไง ผมกลัวว่าคนพวกนั้นจะทำร้ายโยชิ

        “อย่าให้พวกเขาทำร้ายน้องผม” ผมบอกกับเอเดนเสียงเบา เขาหันมองไปทางด้านหลังที่ผมมองจ้องโยชิด้วยความเป็นห่วง “เอเดน ผมขอร้อง”

        เพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่คนอย่างผมยอมทิ้งศักดิ์ศรี

        “ห้ามทำอะไรเด็กคนนั้นเกินกว่าที่ฉันสั่ง” เอเดนพูดสั่งลูกน้อง ผมสบายใจมากขึ้น อย่างน้อยตอนนี้โยชิจะปลอดภัย ยอมเดินตามเอเดนอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจนัก

         “ขึ้นรถไป!” ผมสะบัดตัวหลุดออกจากแขนของเอเดน ถึงเขาจะตัวใหญ่กว่าผมอยู่หน่อย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาในการขัดขืน ถ้าคิดจะสู้จริงๆผมคิดว่าผมไม่มีทางแพ้ ถ้าเขาจะไม่กลายร่างเป็นงูเพื่อสู้กับคนธรรมดาอย่างผม ผมว่าผมกับเขาก็สูสีกันพอตัว

        ผมเข้าไปนั่งในรถแต่โดยดี เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของน้องชาย สำหรับผมแล้ว ผมให้โยชิได้ทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิต ผมจะไม่ยอมให้น้องชายสุดที่รักที่ผมเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เขาเกิดให้มีอันตราย ผมสัญญากับพ่อและแม่ไว้แล้วว่าจะรักและดูแลโยชิให้ดีที่สุด ดีเท่าที่พี่ชายคนหนึ่งจะทำได้

        “คุณต้องการอะไร คุณต้องการตัวอาซาไปทำไม” ผมถามดีๆ ข่มอารมณ์ให้เย็นดุจน้ำแข็ง สูดลมหายใจเข้าออกช้าๆลึกๆ ถ้าเจรจาได้ ผมก็ไม่อยากใช้กำลังในการระบายความโกรธ แต่ทว่า บางครั้ง ความหงุดหงิด สับสนและความไม่สบายใจก็ตีปะทุเหมือนน้ำที่เดือดจัดฟองล้นออกนอกขอบหม้อได้เหมือนกัน

        “คุณไม่จำเป็นต้องรู้” เอเดนปล่อยอำนาจก้าวร้าวในดวงตาใส่ผมยามที่ตวัดสายตามามอง

        “แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น เพราะตอนนี้ผมเข้ามาเกี่ยวเรื่องของพวกคุณเต็มๆ และผมควรจะต้องได้รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้คุณเป็นคนแบบนี้”

        “ผมสั่งให้คุณทำอะไรก็ทำไปเถอะ อย่าถามมาก น่ารำคาญ”

         “เหอะ โทษทีนะ ผมไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังคนที่ไม่เคยคิดจะเชื่อใครอย่าคุณหรอกน่ะเอเดน ไม่มีความจำเป็นสักนิด คนอย่างคุณน่ะ” ผมพูดเสียงแข็ง ห่างเหิน

        “คนอย่างผมมันทำไม!” เขาย้อนถามอย่างไม่พอใจ

        ผมยิ้มเยาะกวนประสาทเอเดนอย่างไม่กลัวตาย “ต้องให้ผมพูดถึงความสารเลวของคุณเหรอ อย่าเลย คุณน่าจะรู้อยู่แก่ใจ”

        “ยอร์ช!” เอเดนตวาดเรียกชื่อผมเสียงลั่น

        “ทำไม”

        “คุณไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับผม” เขากัดฟันพูดหน้าแดงอย่างโมโห

        “ใช่ ผมไม่รู้ หึ ไม่รู้จักคุณแม้แต่น้อย แต่ผมรู้ตัวช้าเกินไป ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ไว้ใจมากับคุณถึงที่นี่”

        เขาไม่ตอบอะไร หันหน้าหนีออกไปนอกหน้าต่าง ความเร็วรวดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

        “ไม่ว่าเหตุผลจะด้วยเหตุผลอะไรที่คุณทำลงไป ผมผิดหวังในตัวคุณมาก ผมเคยคิดว่าคุณไม่ได้เลวร้ายอะไร ความคิดผิดๆเพี้ยนๆของคุณในบ้างเรื่องไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาชี้วัดว่าคุณเป็นคนดีหรือคนเลว ผมจึงพยายามที่จะเข้าใจและมองคุณในแง่ดีมาโดยตลอด” ผมผิวหวังมากถึงมากที่สุด เพราะผมเปิดใจให้เขา ไม่ตัดสินเขาง่ายๆเพียงแค่จุดเล็กๆบางจุดของเขาที่ไม่ค่อยจะโอเค และเมื่อทุกสิ่งที่คิด ทุกสิ่งที่คาดหวังมันบิดเบี้ยวไปหมด เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่ผมคิด ก้อนความเสียใจและความผิดหวังจึงกดทับที่หน้าอกทำให้หายใจไม่ออก

        ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมต้องรู้สึกกับเขามากมายถึงเพียงนี้ เอเดนก็เป็นคนคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตโดยน้ำคำที่ว่าอยากร่วมธุรกิจกับผม ผมจึงคิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ และเพราะเขาไม่ได้ทำร้ายใส่ผมหรือเปิดเผยแผนการชั่วๆให้ผมได้รับรู้ตั้งแต่ที่แรก ผมจึงหลงผิดคิดว่าเขาเป็นคนดี

        “ผม...” เอเดนเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เขาไม่ยอมพูดมันออกมา เม้นปากแน่นด้วยใบหน้าเครียดขึง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ซึ่งไม่ควรเป็นแววตาของคนที่ทำผิดโดยไร้สามัญสำนึก

        เขาจะเสียใจไปทำไม ในเมื่อเขาไม่คิดจะหยุดทำร้ายคนอื่น จะเสียใจที่หลายๆคนหมดสิ้นความรู้สึกดีๆที่มีให้เขา ในเมื่อเขาไม่คิดจะกลับตัว

        “เลิกได้ไหม เลิกทำร้ายคนอื่นเสียที”

        “แล้วทีคนอื่นทำร้ายผมล่ะ ที่ผมต้องเจ็บปวด มีใครสนใจบ้าง!” ดวงตาของเอเดนแดงกล่ำน่ากลัว ผมเงียบไม่พูดอะไร ก็จริง ผมไม่รู้เรื่องราวของเขา แต่ผมก็ยังคงยืนยันคำเดิม

        “แต่การที่คุณทำแบบนี้ก็ไม่ช่วยทำให้คุณรู้สึกดีหรอก อาซาอาจจะทำให้คุณเจ็บช้ำ แต่แล้วยังไง ถ้าคุณฆ่าอาซา คุณจะหายเจ็บปวดอย่างนั้นเหรอ บอกผมสิว่าคุณจะรู้สึกดี”

        “ไม่มีมัน ผมก็จะยิ่งใหญ่ที่สุด”

        ผมไม่พูดอะไรอีกต่อไป หันหน้าหนีอย่างจนปัญญา เอเดนไม่คิดจะฟังใครหน้าไหนทั้งนั้น เขากำลังหลงทางกำลังเดินทางผิด ต่อให้ผมอยากช่วยฉุดรั้งให้เขาเดินไปในทางที่ถูก แต่ถ้าเจ้าตัวไม่ต้องการ ใครจะไปบังคับได้

        “เอาโทรศัพท์ของคุณมาให้ผม”

        “ทำไมผมต้องให้คุณ”

        “คิดว่าคุณไม่รู้หรือไงว่าคุณกับน้องชายติดต่อกันยังไง” เอเดนหัวเราะเยาะใส่ผม ใช่ ผมโง่มากที่คิดว่าเขาไม่รู้ไม่สงสัย

        “เอามา!” เขาพูดเสียงเข้ม

        “คุณจะสั่งผมได้ก็ตอนนี้เท่านั้น จำไว้” ผมล้วงโทรศัพท์มือถือส่งให้เอเดน เขารับไป มองหน้าผมนิ่งอย่างผู้ได้รับชัยชนะ ก่อนที่เขาจะกดปุ่มให้กระจกรถเลื่อนลงแล้วขว้างโทรศัพท์มือถือของผมออกไปนอกรถ ผมหันหลังมองทางด้านหลัง เห็นเพียงเศษซากโทรศัพท์มือถือที่เละไม่มีชิ้นดีอยู่กลางถนน

        “เอเดน!!!” ผมกระชากคอเสื้อเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี มือที่กำคอเสื้อของเขาจิกแน่น เส้นเลือดปูดขึ้นเห็นเป็นรอยตามผิวหนัง และเมื่อผมไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไป ผมฟาดหวัดใส่หน้าเอเดนอย่างแรงไม่มีออมน้ำหนัก หน้าเขาหันไปตามแรงมือ ผมกำเสื้อเขาเอาไว้แน่นอีกพร้อมจะส่งหมัดใส่หน้าเขาได้ทุกเมื่อ

        “มันจะเกินไปแล้วนะ!” ผมกรนเสียงต่ำในลำคอ เอเดนเพียงแค่ใช้ลิ้นกวาดไปมาที่กระพุ้งแก้ม มีเลือดไหลซึมตามมุมปาก “อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทน”

        “คุณคิดว่ามนุษย์ตัวเล็กๆอย่างคุณจะทำอะไรผมได้อย่างนั้นเหรอ”

        อ่อ ใช่สิ ผมลืมไปได้ยังไงว่าเขาเป็นอะไร

        “ผมอาจสู้คุณด้วยพละกำลังไม่ได้หรอกนะไอ้งูขี้อิจฉา แต่ว่า...ผมมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่คุณไม่มี”

        “...”

        “หัวใจที่ไม่เคยหลงผิดทำร้ายคนอื่นโดยเฉพาะคนในครอบครัวยังไงล่ะ และเสียใจด้วย คุณเสียสิ่งที่ผมเคยให้คุณไปแล้ว ความรู้สึกดีๆและความเป็นเพื่อน”




        รถมุ่งหน้าออกนอกเมืองเรื่อยๆ ผมไม่คิดที่จะพูดกับเอเดนต่อให้เสียความรู้สึกมากไปกว่านี้ ป่านนี้โยชิกับพวกของอาซาน่าจะกำลังตามมา ผมพยายามที่จะทำหัวให้โล่ง เลิกคิดในสิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้น

        นานร่วมสองชั่วโมงที่ผมนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนหรือเอื้อนเอ่ยสิ่งใด จนกระทั่งได้เห็นโบสถ์เก่าตั้งอยู่เบื้องหน้า เป็นสิ่งเดียวที่ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ขึ้นรถมากับเอเดน ระหว่างทางผมเอาแต่คิดว่าอะไรที่ผมควรทำได้ ซึ่งคำตอบก็คือ ไม่มีอะไรที่ผมพอทำได้ในตอนนี้

        เอเดนลงจากรถ ไม่ลืมลากผมลงไปด้วย ข้อมือของผมที่ถูกเขาจับแน่นถูกลากให้เดินตาม รอบด้านเป็นทุ่งกว้าง สภาพของโบสถ์เบื้องหน้าเหมือนโบสถ์ร้าง เก่าและจวนพัง ร่างไร้สติของอเล็กซ์ถูกห่ามผ่านหน้าผมกับเอเดนเดินเข้าไปในโบสถ์

        “คุณจะทำอะไรเขา” ผมไม่รู้จักว่าผู้ชายที่ชื่ออเล็กซ์เป็นใคร แต่ผมรู้ว่ามาเพื่อช่วยผมและเราทุกคน

        เอเดนปรายตามองผมว่าอย่ายุ่งเรื่องของเขา ผมถอนหายใจรำคาญใส่ ไม่พูดไม่บอก ใครจะไปเข้าใจว่าเขาคิดอะไร

        “เจ้านั่นยังอยู่ไหม” เอเดนถามชาร์ลที่เดินเขามาใกล้ ผมส่ายหัวเมื่อเห็นหน้าอีกคนที่รู้จัก ไม่น่าเลยจริงๆ

        “ยังอยู่ มันพยายามจะหาทางหนี แต่ก็หนีไม่พ้น สวัสดียอร์ช” เขาหันมาทักผมด้วยสีหน้าสบายใจ

        “ก็ดี อีกไม่นานอาซามันจะมาที่นี่ เราต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเพื่อต้อนรับมัน” เอเดนพากผมเข้าไปในโบสถ์ร้าง ภายในมืดและเหม็นอับ ที่นั่งทุกตัวมีฝุ่นจับทุกพื้นที่

        “นั่งตรงนี้” เอเดนกดตัวผมให้นั่งลงที่ม้านั่งด้านหน้าสุด เบื้องหน้าคือแท่นพระเยซูบนไม้กางเขนที่เต็มไปด้วยหยากไย้และฝุ่นผง

        “อ่ะ เอาไป” ผู้ชายอีกคน รูปร่างผอมสูงโปร่ง ดวงตาเรียวรีลุคดูเฉี่ยว เขาเพียงมองผมด้วยหางตา ท่าทางดูหยิ่งไม่เป็นมิตร เขาส่งโซ่เส้นใหญ่ให้เอเดน

        “ขอบใจ” เอเดนบอก เขาก้มมองดูโซ่เส้นใหญ่ประมาณหนึ่งในมือ

        “จะให้จัดการไอ้นั่นเลยไหม” ผู้ชายร่างผอมถามเอเดนพยักหน้าไปทางอเล็กซ์ที่ถูกจับให้นั่งบนเก้าอี้เหล็กเก่าๆตัวหนึ่ง ร่างกายของอเล็กซ์ถูกพันไว้ในโซ่ลักษณะเดียวกับเส้นที่อยู่ในมือของเอเดน

        ผมขมวดคิ้วมองพวกเขาสลับกัน พวกเขาจะทำอะไรกับอเล็กซ์ ผู้หญิงคนเดิม ผมสีน้ำตาลแดงของเธอยาวคลอเคลียใบหน้าไปจนถึงกลางหลัง เธอเดินเข้ามายืนใกล้พวกเรา มองจ้องผมอย่างไม่เป็นมิตร สายตาหน้ากลัวดูแลไม่ใช่สายตาของมนุษย์ หรือว่าเธอจะเป็นงูเหมือนเอเดน แต่ผมคิดว่าไม่น่าใช่ แววตาแบบนี้มันไม่เหมือนงู

        “ชู่ อย่ายุ่งกับคนของฉัน” เอเดนปรามเมื่อเธอแยกเขี้ยวใส่ผม เธอมีเขี้ยวและมันทำให้ผมมั่นใจเพิ่มขึ้นถึงร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าเธอไม่ใช่มนุษย์จริงๆด้วย “พาเธอไปทำหน้าที่ได้แล้วเบนก่อนที่พวกนั้นจะมาถึง” เอเดนสั่งผู้ชายร่างผอมที่เขาเรียกว่าเบน

        “ชาร์ล มาช่วยกันหน่อยดิ” เบนตะโกนเรียกชาร์ลที่ยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู

        ผมหันกลับมาทางเอเดน เมื่อเขาเอาโซ่ในมือพันร่างกายผม ผมผุดลุกยืนในทันที แต่เอเดนกดไหล่ผมให้นั่งลงจนเจ็บ ใช้ดวงตาดุร้ายของอสรพิษในการข่มขวัญให้ผมปฏิบัติตม ความรู้สึกของผมต่อต้านผ่านทางแววตา แต่จำต้องยอมให้ร่างกายทำตามความต้องการของเขา

        โซ่เส้นหนาพันรอบตัวของผม แขนทั้งสองข้างถูกไพร่ไปทางด้านหลัง เก้าอี้ตัวยาวที่วางตั้งในโบสถ์ไม่ถ้าเก้าอี้ตัวเล็กๆ แต่เอเดนก็พยายามอย่างมากที่จะมัดผมไว้กับมัน  ตามด้วยใช้กุญแจตัวใหญ่พันธนาการผมไว้ไม่ให้หลุดออกไปขัดขืน

        เขามองผมโดยไม่ได้มองตาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินตรงไปหาเพื่อนเขาที่ยืนล้อมอเล็กซ์เอาไว้ ผมหันไปมองทางประตูโบสถ์ มีลูกน้องของเอเดนจำนวนหนึ่งคอยเฝ้าดูต้นทาง โยชิกับอาซาและพวกน่าจะกำลังมา ผมรู้ได้จากนิสัยของน้องชายและคำพูดยั่วยุของเอเดน แต่คงไม่ใช่ภายในห้านาทีหรือสิบนาทีข้างหน้านี้ที่พวกเขาจะมาถึง

        ผมหันกลับไปมองจุดที่พวกเอเดนยืนอยู่อีกครั้ง ผู้หญิงผมสีแดงอยู่อยู่เบื้องหน้า เธอเอียงคอไปมามองจ้องอเล็กซ์อย่างสนอกสนใจ ไม่ต่างจากอเล็กซ์เป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง คนที่ชื่อเบนเดินอ้อมไปข้างหลังเก้าอี้ที่อเล็กซ์นั่งหมดสติ  เสียงพูดของเอเดนเอ่ยกับผู้หญิงคนนั้น ผมได้ยินไม่ถนัด เอเดนหันมามองผมอีกครั้ง ใบหน้าเขาเรียบนิ่งไม่บ่งบอกความรู้สึกนึกคิดใดๆ ไม่บ่งบอกว่าเขารู้สึกยังไงในเวลานี้

        และเมื่อเอเดนหันกลับไปทางเดิม เขาอ้าปากขยับเพียงคำสองคำกับผู้หญิง เป็นคำสั่งอะไรสักอย่างที่ทำให้เธอพุ่งเข้าบีบศีรษะของอเล็กซ์ด้วยมือทั้งสองข้าง มือมนุษย์เปลี่ยนเป็นมือของสัตว์ที่มีขนสีน้ำตาลอ่อน การสันนิฐานของผมเป็นจริง ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คน แต่เธอเป็นสัตว์อะไรสักอย่างที่ผมยังเดาไม่ได้

        มือที่เธอบีบศีรษะของอเล็ซก็เกร็งจนเห็นกล้ามเนื้อ เธอโน้มใบหน้าจรดที่หน้าปากของอเล็กซ์ และอยู่ๆอเล็กซ์ที่ไม่ได้สติก็สะดุ้งก่อนจะกรีดร้องเสียงโหยหวนอย่างทรมาน ร่างกายของผมขยับจะเข้าไปช่วย แต่ลืมนึกไปว่าผมถูกโซ่เส้นใหญ่มัดร่างกายเอาไว้กับโต๊ะ ทำให้ลุกออกไปไม่ได้ ใบหน้าของอเล็กซ์บิดเบี้ยวเข้าไปทุกที เขายังคงร้องไม่ได้สติ ทุรนทุรายก โลหิตสีแดงฉานไหลออกมาจากจมูกและปาก แสงสีขาวบางอย่างลอยออกมาจากจุดที่เลือดไหล

        “หยุด! หยุดทำร้ายเขาเดี๋ยวนี้ เอเดน!” ผมตะโกนห้ามพวกเขา แต่ไม่มีใครสักคนคิดจะใส่ใจฟังคำทัดทานของผม ผมกระชากแขนตัวเองอย่างคนสิ้นคิด ต่อให้ผมดิ้นมากกว่านี้ก็ไม่สามารถทำให้โซ่เหล็กขาดสะบั้นอย่างง่ายดายเช่นเส้นฟาง

        “อ๊ากก! อ๊อก!! อื้ออ!!!” เสียงร้องของอเล็กซ์ดังเสียแทงหูบีบคั้นความรู้สึก อเล็กซ์กระอักเลือดออกมาเรื่อยๆ ร่างกายของเขากระตุกสั่นจนตัวโยน ผมพยายามกระชากตัวออกจากโซ่ตรวนที่หนาแน่น แต่ไม่ว่าจะขยับยังไงก็ไม่หลุดพ้น ซ้ำแต่จะทำให้ร่างกายได้รับบาดแผลและความเจ็บปวด อเล็กซ์ทำเพียงปรายตามองผม แววตาเขาต่อว่าการกระทำที่งี่เขาไร้ประโยชน์ของผม แต่ต่อให้รู้ว่าทำไปก็เจ็บตัวเปล่า ผมก็ไม่อาจอยู่นิ่งนั่งมองคนใกล้จะตาไปต่อหน้าต่อตาเหมือนเอเดนที่ยืนมองนิ่งอย่างไม่สะทกสะท้าน

        แน่ละ เขาจะไปรู้สึกอะไรได้ยังไง ในเมื่อเขาเป็นคนออกคำสั่ง

        ปึกๆ! แกร๊ง!!

        “โธ่โว้ย!! หยุด บอกให้หยุดไง เอเดนอย่าทำร้ายเขา!!!”

        ผมตะโกนจนคอจะแตก แต่เสียงขอผมไม่เข้าไปถึงจิตใจของผู้ชายคนนั้น คนที่ผมเคยรู้สึกดีด้วย

        “เฮือก อั่ก!!!” ร่างของอเล็กซ์กระตุกจนตัวโยนเป็นครั้งสุดท้าย ผู้หญิงคนนั้นปล่อยมืออกจากหัวของเขา เธอหอบหายใจแรงเหมือนเหนื่อยจัด ผมเองก็ไม่ต่างกัน นั่งนิ่งๆหยุดขยับเคลื่อนไหว ผิวกายเต็มไปด้วยรอยช้ำจากการเสียดสีกับโซ่ ถลอกจนเลือดซิบ แต่ผมไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย กลับกัน ภาพของอเล็กซ์ทำให้ผมเจ็บมากกว่า อเล็กซ์ทำผิดอะไร ทำไมเอเดนต้องทำร้ายเขาอย่างเลือดเย็น

        “ได้ความอะไรบ้างวาเนสซ่า เล่าสิ มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับหัวใจบาซิลิสก์บ้าง” เอเดนพูดน้ำเสียงเร่งเร้ากับเธอ

        เธอสูดลมหายใจลึกก่อนจะพ่นพรืดเสียงดัง “หัวใจของบาซิสิก์ ของวิเศษที่บาซิลิสร่ายคำสาปเอาไว้ให้แก่คนที่ถูกเลือก เพื่อเป็นตัวแทนของมัน ถึงร่างจะตายสลายไป แต่ถ้าหัวใจยังอยู่ ก็เท่ากับว่ามันยังมีชีวิตอยู่”

        เสียงของวาเนสซ่าดังเป็นโทนเดียว ไม่มีจังหวะจะโคน ฟังดูเอื่อยเฉื่อยอย่างกับหุ่นยนต์ ไร้ชีวิตชีวา

        “อำนาจของหัวใจบาซิลิสก์ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาของงู ผู้ที่ถูกเลือกให้ได้ครอบครองจะมีพลังอำนาจทุกอย่างดังที่บาซิลิกซ์มี พลังทุกอย่างที่นากินีได้รับมาจากไอพิษของบาซิลิกซ์นั้นน้อยนิดกว่าอำนาจที่แท้จริงหลายร้อยเท่า พลังดั่งปีศาจทำให้ผู้ที่ครอบครองมีอำนาจพิเศษเหนือสิ่งมีชีวิตอื่นใดในโลก แต่ในทางตรงกันข้าม หากผู้ที่ครอบครองไมรู้จักวิธีควบคุมมัน...”

        เธอพูดเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ

        “ว่าต่อสิ เร็ว” เอเดนเอ่ยเร่งให้วาเนสซ่าที่หยุดช่วงพูด

        “ถ้าผู้ที่ครอบครองใช้อำนาจจากหัวใจบาซิลิกซ์ไม่ถูกวิธี ทุกอย่างบนโลกไปนี้จะพลังพินาศ สูญสิ้นไม่มีชิ้นดี ผูที่รู้ว่าหัวใจบาซิลิกซ์อยู่ที่ใคร ก็มีเพียงเจ้าตัว ผู้กุมความลับ และ ทายาทของพ่อมดเฮอร์โป”

        “ความทรงจำอะไรอีกที่เธอดึงออกมาได้”

        “ตอนนี้หัวใจบาซิลิกซ์เคยอยู่กับอาซา แต่ตอนนี้ ครึ่งหนึ่งถูกแบ่งไปอยู่ทีโยชิ...”

        ร่างของผมชาเหมือนถูกแช่แข็งเมื่อได้ยินชื่อน้องชายของตัวเองออกจากปากวาเนสซ่า โยชิเกี่ยวข้องอะไรกับหัวใจบาซิลิกซ์ที่พวกเขาว่า สรุปแล้วมันยังไงกันแน่ ทำไมน้องผมถึงมีหัวใจบาซิลิสก์อยู่ที่ตัวครึ่งหนึ่ง มันเป็นไปได้ยังไง ผมไม่เข้าใจ สิ่งที่พวกเขาพูดกันมันเกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาอย่างผมจะหยั่งถึง

        “อะไรนะ!?” เอเดนถามอย่างไม่อยากเชื่อหู

        “มันถูกแบ่งออกเป็นสอง ครึ่งหนึ่งอยู่ที่คนที่ชื่ออาซา อีกครึ่งอยู่ที่คนชื่อโยชิ” วาเนสซ่าย้ำอีกครั้ง

        หัวผมอื้อคล้ายถูกฟ้าผ่าลงกลางกระหม่อม หมายความว่ายังไง ถ้าสิ่งที่เอเดนต้องการอยู่ที่โยชิด้วย นั่นหมายความว่า เขาจะฆ่าน้องชายผมอย่างนั้นเหรอ

        “โยชิ” เอเดนพึมพำชื่อน้องชายที่รักของผมก่อนจะหันมามองผมด้วยแววตาอยากที่จะเข้าใจ แต่ผมรู้สึกด้วยประสาททุกเส้นในร่างกายว่าเอเดนเอาจริง

        “มีอะไรอีกไหม” เอเดนถามวาเนสซ่าอีกครั้ง

        “ไม่มี” เธอส่ายหน้าสองที

        “หึ ขอบใจมาก เบน ให้รางวัลแม่สาวเลโอฝึกหัดคนนี้หน่อยสิ” เอเดนแสยะยิ้มที่มองยังไงก็ชั่วร้ายที่สุด บางอย่างที่เลวร้ายครอบงำเขาจนไร้สตินึคิด

        เอเดนก้าวถอยห่างให้เบนเดินเข้าไปใกล้วาเนสซ่า เบนเดาะลิ้นที่กระพุ้งแก้ม แล้วกลายร่างเป็นงูอย่างรวดเร็วรัดร่างของวาเนสซ่าแน่น เสียงกรี๊ดร้องดังเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่ร่างของเธอจะสลายเป็นฝุ่งลงล่วงลงสู่พื้น

        ผมเบิกตาโตมองเบนและเอเดนอย่างไม่เข้าใจ นี่เหรอคือรางวัลตอบแทน อย่างน้อยเธอก็ช่วยเขา ทำไมต้องฆ่าเธอด้วย เอเดนยังมีหัวใจอยู่ไหม

        “คุณมันเลว” ผมพูดเสียงปกติให้เอเดนได้ยิน เขาเลิกคิ้วหันหน้ามาทางผม เสียงเอ่ยกับเบนที่กลายร่างกลับสู่สภาพมนุษย์

        “ไปพาตัวผู้ช่วยคนสำคัญมาที่นี่ที ใกล้จะถึงฉากสำคัญแล้ว”

        “ไอ้ทายามพ่อมดนั่นน่ะนะ มันจะมีแรงลุกขึ้นมาไหวหรือเปล่า ลูกน้องเราเล่นยังเสียขนาดนั้นเพราะมันไม่ยอมคลายความลับ” เบนบ่นหัวเสีย

        “ฉันมีวิธี ทำตามที่ฉันสั่งก็พอเบน”

        “เออ” เบนเดินออกไป เมื่อเขาเดินผ่านผม เขาเพียงส่ายหน้าและถอนหายใจใส่เท่านั้น

        เอเดนเดินมาใกล้ๆผม เขาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ผมไม่อยากแม้แต่จะอยู่ใกล้แต่ขยับตัวหนีไม่ได้

        “ที่คุณรังเกียจอาซาที่เป็นน้องตัวเอง เพียงเพราะเขามีหัวใจบาซิลิกซ์เนี่ยนะ” ผมกล้าพูดได้เลยว่า ต่อให้โยชิมีอะไรที่พิเศษหรือดีกว่าผมเป็นร้อยเท่า ผมก็ไม่มีวันที่จะเกลียด เพราะเขาเป็นน้องชายเป็นคนในครอบครัว แต่กับเอเดนมันคงไม่เหมือนกัน ผมรู้ จิตใจของคนไม่เหมือนกันไปหมดซะทั้งโลก

        เอเดนชะงัก ในชั่วขณะสั้นๆ ใบหน้าที่ดูดีจนเข้าขั้นยอดเยี่ยมของเขาฉายแววเจ็บปวดอย่างไม่คาดฝัน

        “คุณจะไปเข้าใจอะไรยอร์ช คนที่เกิดมาในครอบครัวอบอุ่นอย่างคุณไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของผม” เขากัดฟันพูดระบายความในใจ

        “พ่อคุณรักคุณ คุณภาคภูมิอยู่ในตำแหน่งลูกชายคนโตและพี่ชายที่แสนดีแล้วคุณคิดว่าคุณสามารถเอาชีวิตครอบครัวที่แสนเพอร์เฟ็คของตัวเองมาตีกรอบครอบครัวของคนอื่นได้เหรอ”

        เขาส่ายหน้าช้าๆ มองเข้ามาในดวงตาของผม “ผมเป็นลูกชายคนโต ถูกเคี่ยวเข็ญให้ทำทุกอย่างตามกฎระเบียบของตระกูลเพื่อวันหนึ่งจะขึ้นครองตำแหน่ง แต่แล้ว พ่อก็ไปคว้านากินีชั้นต่ำมาทำเมีย แม่ทนไม่ได้ฆ่าตัวตายจากไป ในวันที่แม่ตาย เป็นวันเดียวกับที่อาซาเกิด คุณไม่มีวันลืมวันที่น่าอัปยศที่สุดในชีวิต แค่หลับตาก็เห็นภาพที่แม่ตายอย่างโดดเดี่ยวเพราะพ่อมัวแต่ชื่นชมการเกิดมาของมัน!” เขาตะคอกสุดเสียง มือทั้งสองข้างกำแน่นขึ้นเห็นเส้นเลือดปูดโปน

        “และที่เลวร้ายมากกว่านั้น ผู้ตรวจดวงชะตาทำนายว่ามันจะเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเหนือใครในโลกใบนี้ พ่อดูจะดีกว่าการที่มีผมเป็นลูก ดูแลประคบประหงมมัน เตรียมให้มันได้ขึ้นครองตำแหน่งแทน แล้วผมล่ะ ฮะๆๆ ก็หมาหัวเน่าดีๆนี่เอง ทำไมต้องเป็นมัน ทำไมไม่เป็นผม ผมที่เกิดจากนากินีชั้นสูง เป็นลูกที่เกิดเมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย มันควรเป็นผมที่ได้ทุกอย่าง แต่พ่อกับประเคนไปให้มัน!!! คุณบอกผมสิ ว่าผมสมควรจะเห็นมันเป็นน้องอย่างนั้นเหรอ มันเกิดมาเพื่อที่จะแย่งทุกอย่างไปจากผม แย่งความรักจากพ่อจากคนรอบข้าง แย่งอนาคตที่พึงเป็นของผม แต่สุดท้ายก็กลายเป็นของมัน”

        ผมจุกกับสิ่งที่รับรู้จนพูดไม่ออก เอเดนพูดถูก ผมไม่รู้เรื่องอะไร  แต่ยังไงผมก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่

        “ผมน่ะ เจ็บกับการเป็นคนที่ถูกมองข้ามมาเกินพอแล้ว” สีหน้าเจ็บปวดของเขาดูเป็นสัญญาณอันตรายชอบกล

        “ถ้าผมได้มันมา ทุกคนจะต้องอยู่ในอำนาจของผม จะไม่มีใครลืมผม จะไม่มีใครเพิกเฉยต่อผม ทุกอย่างที่ผมอยากได้ผมจะได้!!!”

        “ใช่ คุณจะได้ทุกอย่าง ยกเว้นความรักและความจริงใจ ผู้คนอาจก้มหัวให้กับอำนาจของคุณ แต่ไม่ใช่เพราะเขารักหรือรู้สึกดีต่อคุณ แต่เพราะเขาเกรงกลัวต่างหาก” ผมพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พยายามชี้ทางสว่างให้กับเอเดนผู้ที่หลงอยู่ในความมืด

        “แต่อย่างน้อยอาซาก็เป็นน้องของคุณ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็คือคนในครอบครัว คุณต้องรู้จักปล่อยวางและพอใจในสิ่งที่คุณได้ ซึ่งมันมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ”

        “พ่อพระดีนี่” เขาทำเสียงประชดประชัน ใบหน้าของเขาแข็งขึง

        “แต่ขอโทษทีนะคุณยอร์ช คุณอาจมองโลกในแง่ดีจนเกินไป ผมถามหน่อย ถ้าคุณมาเป็นผม มายืนอยู่ในจุดที่ผมยืน คุณจะทำได้อย่างที่พูดจริงๆน่ะเหรอ คุณจะปล่อยวางทุกความทุกค์ความเสียใจนานนับพันปีได้อย่างนั้นเหรอ!” เอเดนกัดฟันกรอด

        “ถ้าคุณลองได้มาเป็นผมจริงๆนะยอร์ช คุณจะไม่มีทางพูดแบบนั้นเหรอ ไม่มีทาง” น้ำเสียงของเขาแฝงแววเยาะเย้ย

        “แต่ที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรดี เชื่อผมเถอะนะ หยุดเถอะ” ผมยืนกราน พูดทุกคำ ช้าๆชัดๆ เพื่อให้เขาเข้าใจ และพยายามระงับความโกรธของตัวเองไปในตัว

        “ผมมาไกลเกินกว่าจะถอยหลัง และผมไม่มีความจำเป็นต้องเชื่อคนอย่างนาย”

        ผมอึ้งไปพักหนึ่ง รู้สึกไม่ชอบใจตัวเองเล็กๆกับความสงสารที่ผุดขึ้นมาเมื่อสักครู่

        “ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น ก็เชิญ และจงจำเอาไว้ ถ้าคุณทำร้ายน้องผมแม้เพียงปลายเส้นผม ผมสาบานเลยว่าจะเป็นหนึ่งคนที่จะเกลียดคุณไปจนวันตาย!”



        ...........................
        ตอนนี้บอกได้เพียงว่า...เอาที่พี่สบายใจนะเอเดน เอาตามที่สบายใจเล้ยยยยยย
        ตอนหน้าใครรอน้องโยบู๊ หึหึ เจอกัน
        ป.ล. อ่านแล้วเม้นให้เขาหน่อยนะตัวเองงงงง ใกล้จบล่ะ ขอกำลังใจนิด  :กอด1:
        จุ๊บ~ :mew1:


หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 09-06-2015 00:59:23
โยชิ ปกป้อง อาซาด้วยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 09-06-2015 01:03:27
=_= เอเดน เมื่อไหร่จะสำนึกครัชชชชช
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 09-06-2015 01:32:04
 :o12: :sad4:  โถๆๆๆ พ่ออเล็กซ์ของช๊านนนน จะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย อย่าเป็นอะไรเลยเถอะ   :hao5:

เอเดนนนนน แกมันเลวยันวินาทีสุดท้าย  เอิ่มม อันนั้นคือแรกที่คิดนะ แต่พอมาฟังอดีตที่เอเดน เล่าแล้วแอบสงสารจับใจ

เหมือนกันนะ เพราะถ้า อาซา ไม่ได้มีนิสัย ไม่อยากได้อะไรจากผู้เป็นพ่อแล้วล่ะก็ เอเดนคงอยู่ต่ำเตี้ยกว่าอาซาไปหลายขุมจริงๆ

ดีนะที่อาซาไม่ใช่คนแบบที่บอกเอเดนจินตนการไปเอง ก็ได้แต่หวังว่าพ่องูใหญ่ของเรา จะรู้ตัวสักทีว่ามีเนื้อคู่อยู่ในมือแล้ววว

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 09-06-2015 01:35:58
รำคาญอีตาเอเดนจริงๆเลย โดนพี่ยอร์ชเกลียดแล้วจะรู้สึก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 09-06-2015 01:40:30
เมื่อไรเอเดนจะกลับตัวกลับใจสักทีเน้อ เราลุ้นแล้วลุ้นอีก
ระวังเถอะ โดนเกลียดขึ้นมาแล้วจะรู้สึก หึหึ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 09-06-2015 05:57:19
พี่ยอร์ชของเค้าาาาาาาาาาาาาาาาา เกลียดมันเลยค่ะ เกลียดมันเยอะๆๆๆๆๆๆๆ
บังอาจมาทำร้ายเรา แบบนี้ต้องเจอ!!!!
รอตอนหน้า น้องโยจะบู๊แล้วววววว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: janeyuya ที่ 09-06-2015 06:34:28
โอ้ยยยยยยยยยย เอเดน อิบ้าาาาาาาาาาา
อยู่มาได้ไงตั้งพันปีคะสมองคิดเป็นอยู่แค่เนี้ย
พี่ยอร์ชไม่ต้องไปสงสารค่ะ เสียความรู้สึกจริงๆ
ไอ้เราก็อุตส่าห์เคยคิดว่าน่าจะฝากผีฝากไข้พี่ยอร์ชเราได้ อิเลวววววววว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 09-06-2015 06:55:24
โห่  ดราม่าแล้ววว    พี่ยอร์ช กะ พี่เอเดน อิๆ
ชอบโมเม้น สองคนนี่กุ๊กกิ๊กกันนะ 
รอตอนหน้า น้องโย บู๊นะจ๊ะ
ปล จะจบภาคแล้วเหรอออ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 09-06-2015 08:47:31
สงสารเอเดนนะ
แต่การกระทำของเอเดนก็เกินไปอ่ะ
ทำคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยทำไม
ระวังเหอะจะโดนพี่ยอร์ชเกลียดเข้าจริงๆ

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 09-06-2015 08:49:59
อยากเห็นโยชิบู้ อย่าให้โมโหนะ!!


สงสารอเล็กซ์!!เจ็บไปด้วยเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 09-06-2015 11:06:24
ปัญหาทุกอย่างของเรื่องเกิดจากพ่อที่ไม่รู้จักพอ ทำให้แม่เอเดนช้ำใจ แถมยังฆ่าคนรักของลูกชายอีก
พ่อสำนึกผิดแล้วก็ควรแก้ไขปัญหาด้วยกันกับฝ่ายอาซา

ถึงเอเดนจะน่าสงสาร แต่ที่ทำมันก็เกิดไป ฆ่าคนเป็นว่าเล่น
ไม่คู่ควรกับยอร์ช เกลียดเลยยยยยผู้ชายแบบนี้


อยากเห็นน้องโยชิกลายเป็นงูขาวแล้วอะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 09-06-2015 11:07:20
งานนี้ขอเถอะค่ะ ขอกระทืบหน้า เอเดน สักล้านทีได้มั้ยค่ะ เอาให้สมองกลับเลยยิ่งดี เกลียดมันโว้ยยยยยยยย

 :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:

เดี๋ยวแกก็จะได้สำนึก เอเดน หึ!!!

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 09-06-2015 11:55:22
บางทีก็สงสารเอเดน บางทีก็อยากจะกระโดดเตะ อ๋อยยยยยยยยย  :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 09-06-2015 12:06:05
สมน้ำหน้าเอเดนโดนยอร์ชเกลียดซะเลย เดี๋ยวหาแฟนใหม่ให้พี่ยอร์ชดีกว่า...อิอิ..มโนว่าเป็นแฟนกันแล้ว..55555...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bodun ที่ 09-06-2015 16:54:09
 o13 รอดูลูกเจี๊ยบ เอ้องูดื้อสำนึกผิด                                                     ป         
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 09-06-2015 17:36:24
รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 09-06-2015 17:44:51
เพราะอำนาจ...เอเดนนายระวังจะไม่เหลือใครเลยนะ....

 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-06-2015 19:21:02
มาตามมาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-06-2015 21:05:24
ผมล่ะเพลียกับเอเดน
ฮีไมสำนึกซักที พี่ยอร์ชจัดไปซักทีดิ๊
จะได้รู้สึกตัวบ้างงงงง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ronlbb ที่ 09-06-2015 22:17:11
สรุปตัวร้ายคือพ่อสินะ  ทุกอย่างเลยนะๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Glitterycandy ที่ 10-06-2015 10:50:16
รอให้ยอร์ชเกลียดเอเดนจริงๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: vamo ที่ 10-06-2015 21:37:10
 :z6: :z6: :z6: :z6:
เอาล่ะ..เอเดนโดนพี่เขาเกลียดเลย
แล้วจะทำไงต่อดีล่ะเนี้ยะ..เอเดน



 :z3: :z3: :z3: :z3:
มาต่อเร็วๆน่า...ชอบมากๆเลยค่า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 11-06-2015 00:13:54
เฮ้อออ เอเดนนะเอเดน น่าสงสารและน่าหมั่นไส้ไปพร้อมๆกัน แต่ก็นะ ถ้าล้มเลิกง่ายๆก็คงยังไงอยู่ ในเมื่อเจ็บปวดมาตั้งเป็นพันๆปี แต่อย่าลืมนะ ถ้าทำตัวไม่ดีพี่ยอร์ชจะไม่รัก แล้วอย่าหาว่าเราไม่เตือน 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: p9hmiew ที่ 11-06-2015 02:00:18
สนุกมากกกค่ะ ชอบแนวนี้จัง
ส่วนตัวไม่ชอบอ่านนิยายที่ยังแต่งไม่จบด้วย เพราะเดี๋ยวลงแดงแบบตอนนี้ :ling1:
แล้วก็ปกติไม่เคยเม้นกดดันคนเขียนเลย เรื่องนี้เรื่องแรก เพราะฉะนั้นรีบมาต่อเถอะนะคะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 11-06-2015 02:12:04
 :katai1: โอ้ยยยย เกลียดเอเดนจิงเชียว
พี่ยอร์ชอุตส่าช่วยชี้ทางสว่างให้แล้วก็ไม่เอา แล้วเป็นไงล่ะ สนน.โดนพี่ยอร์ชเกลียดเลย ชิ
หนูโย รีบตามมาช่วยพี่เร็วๆนะ
แท็กทีมกันรุมเอเดนเลย
ข้อหาทำตัวหน้าหมั่นไส้  :13223:
 :pig4: คนเขียนมากและรอตอนต่อไปคร้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-FIVE ❁ 09-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 11-06-2015 12:19:20
เอเดนนนนน. โอ๊ยยยย. ไม่เห็น โลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 11-06-2015 23:16:26
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY-SIX

(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xat1/v/t1.0-9/11535841_846130618805820_6225374207230234475_n.jpg?oh=80f621c107b9fc6030280171350f40fe&oe=55E68586&__gda__=1442330713_82b365cac88a67ce22b842efa5ef3f09)




        YOSHI

        “ให้ฉันไปด้วยไม่ได้เหรอ” ผมเดินอ้อมหน้าอ้อมหลังอาซาที่กำลังจะออกไปช่วยพี่ยอร์ช คล้อยหลังเอเดนที่จับตัวพี่ยอร์ชไปอีกครั้งไม่นาน อาซากับคนอื่นๆก็วิ่งมาหาผมที่ทรงตัวลงหมดแรงอยู่กับพื้นท่าทางทีหัวเสีย เขาบอกว่าเอเดนรู้ทันเกมของเราทั้งหมด เขาแค่ออกไปเพื่อให้เราตายใจ แต่ใช้ให้ลูกน้องล่ออาซากับพวกไปทางอื่น ก่อนที่เอเดนจะย้อนกลับมาหาผมและพี่ยอร์ชและทำการจับตัวพี่ชายกับอเล็กซ์ไปได้ในที่สุด

        ผมรู้แล้ว การจะต่อกรเล่นแง่กับเอเดนไม่ง่ายอย่างที่คิด

        อาซาหันมาประจันหน้ากับผมหลังจากที่เขาหันซ้ายหันขวาอย่างรีบร้อนเพื่อตรวจเช็คห้องพัก“ไม่ได้ มันอันตราย นายยังกลายร่างให้เป็นปกติไม่ได้เลย รออยู่ที่นี่”

        ทางเลือกทางเดียวที่เขายื่นให้ผมหลังจากรู้ว่าพี่ยอร์ชถูกเอเดนจับไป เขาต้องการให้ผมอยู่ที่นี่แล้วรอเขากลับมา

        ผมจับใบหน้าของเขาไว้ให้อยู่นิ่ง จ้องเข้าไปในดวงตาคู่ดำสนิทดุจรัตติกาล “แต่ฉันเป็นห่วงนายนะอาซา ได้โปรดเห็นใจฉันบ้าง”

        มือหนาเย็นเชียบยกกุมทับมือเล็กบางของผม “แต่ฉันไม่ต้องการให้นายเป็นอะไร”

        “ฉันแค่อยากช่วยนายได้บ้าง ที่มากกว่าแค่รอ”

        “ฉันรู้”

        “ถ้าฉันกลายร่างเป็นงูได้ ถ้าฉันไม่ได้อ่อนแอในร่างมนุษย์ นายจะยอมไหม” ผมถามจริงจัง แต่อาซาแค่ยิ้มขำกับสิ่งที่ผมพูด

        ผมทำหน้าบึ้ง ที่อาซาเห็นความจริงจังของผมเป็นแค่เรื่องตลก “ฉันพูดจริงนะ”

        “งั้นก็ลองกลายร่างสิ ถ้าทำได้ฉันจะให้ไปด้วย แต่เร็วหน่อยนะ ฉันต้องรีบไปช่วยพี่ชายนาย” ใบหน้ายิ้มขำของเขาเปลี่ยนเป็นเครียด

        “ถ้านายเป็นห่วงฉัน นายต้องตั้งสติและสมาธิให้แน่วแน่ดึงทุกความทรงจำนายกลับมา ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความสามารถพิเศษดั่งเช่นนากินีหรือความสามารถของดวงใจบาซิลิสก์อีกครึ่งหนึ่งที่อยู่ในตัวนาย ตอนนายเกิดนายก็ไม่ได้กลายร่างได้เลย แต่ละคนมีวิธีที่ไม่เหมือนกัน ไม่มีวิธีตายตัวขึ้นอยู่กับปัจจัยรอบด้านในขณะนั้น ถ้านายทำได้นาโยชิ มันจะทำให้นายรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไร” อาซากระชับมือที่กุมหัวไหล่ของผมแน่น อธิบายวิธีที่จะทำให้ผมกลายร่างได้ให้อย่างใจเย็น ทั้งๆที่ตอนนี้เขาร้อนรุ่มเหมือนผม ผมรู้ได้เพราะผมก็เป็น

        “เหมือนนั่งสมาธิหรือเปล่า” ผมถามพาซื่ออย่างที่เข้าใจ

        “อะไรทำนองนั้น” เขาโคลงหัว “ทำจิตใจให้สงบ ดวงจิตจะผูกกันและรับรู้สิ่งที่อีกคนรู้สึกได้แม้จะอยู่ห่างกันเป็นร้อยไมล์”

        “ฉัน...” ผมเก็บคำว่ากลัวลงคอ ผมต้องไม่กลัว ผมต้องเป็นที่พึ่งให้อาซาได้บ้าง สักทางใดทางหนึ่ง “ฉันจะพยายาม ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด”

        “ขอบคุณ”

        ผมสวมกอดอาซาไว้แน่นอีกที ไม่อยากปล่อยมือให้เขาเดินออกไปหาอันตราย

        “ถ้านายทำได้ไม่เกินคืนนี้ก่อนพระจันทร์จะกลายเป็นสีเลือด ก็รบกวนตามไปช่วยฉันทีนะ” เขาบอกทิ้งท้าย กดจูบที่หน้าผาก ส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้ ก่อนที่เขาจะเดินออกไปและทิ้งผมไว้ในห้องพักเพียงลำพัง

        สุดท้าย ผมก็ยังเป็นโยชิคนเดิมที่ไร้ประโยชน์ ช่วยเหลือใครก็ไม่ได้

        “บ้าเอ้ย!” นี่ไม่ใช่เวลาจะมากรนโทษตัวเอง เวลามีไม่มาก ผมต้องหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองกลายร่างเป็นงูให้เร็วที่สุด ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

        ผมจะไม่ยอมให้ทุกอย่างเป็นดั่งความฝัน เรื่องเลวร้ายแบบนั้นจะต้องไม่เกิดขึ้น

        เอาล่ะ เริ่มแรกก็ต้องทำจิตใจให้สงบสินะ ถ้าทำตามที่อาซาบอก ผมต้องพยายามจำให้ได้ว่าผมเป็นใคร ตัวตนของผมคืออะไร

        ผมนั่งขัดสมาธิลงบนเตียง หลับตาลงช้าๆ ผมเองก็ยังไม่แน่ชัดว่าควรจับจุดที่ตรงไหน แต่ที่แน่นอนที่สุดคือจิตใจผมจะลนลานไม่ได้ เพราะอย่างนั้น ผมจะนั่งสมาธิก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อปรับจิตใจที่ร้อนรุ่มพะว้าพะวงให้สงบและเกิดสติ

        ลมหายใจผ่อนเข้าออกเป็นจังหวะ สมองว่างเปล่าไม่คิดอะไร กว่าหัวจะโล่งผมก็ใช้เวลาไปนานพอตัว พูดก็พูด ครั้งลาสุดที่นั่งสมาธิน่าจะเป็นตอนอยู่มัธยมปีที่ห้า ดังนั้นการนั่งสมาธิจึงไม่ใช่สิ่งที่ทำจนเคยชิน เป็นแค่สิ่งที่เคยทำ พอได้มาเริ่มอีกครั้ง ก็จับจุดอยู่นาน ในที่สุด ผมก็สามารละทิ้งทุกอย่างจนรับรู้ได้ถึงความโล่งกว้างที่ไหลเวียนอยู่ในหัว เหมือนตัวจะลอยได้อยู่กลางอากาศ

        ภาพบางอย่างที่สะท้อนออกมาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองลืมอะไรไปบางอย่าง อะไรที่ผมลืม ผมพยายามคิด แต่ยิ่งคิดภาพที่แตกตัวมองไม่ชัด

        แบบนี้ไม่ได้ ผมต้องทำจิตใจให้สงบ ต้องมีสติ ต้องมีสมาธิ อย่าร้อนรน ใจเย็นๆ

        จู่ๆก็รู้สึกเย็นวาบที่หน้าอก ผมยกมือจับก็เจอกับจี้คริสตัลสีแดง ผมลืมตามองสำรวจนิ่ง ไม่คิดอะไร เพียงแค่มองด้วยใจที่จดจ่อ ความเย็นที่แผ่ออกมาจากจี้ทำให้ผมสงบอย่างน่าเหลือเชื่อ ตาของผมที่มองจ้องแทบไม่กระพริบเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างภายในคริสตัล ก้อนแร่สีแดงสดกลายเป็นจอสะท้อนภาพอย่างน่าแปลกใจ ก่อนที่ผมจะถูกดูดเข้าไปให้เห็นภาพบางอย่างราวกับกำลังระลึกชาติ ร่างผมนั่งอยู่ที่เดิม แต่ดวงตาที่กำลังจ้องจี้ในมือกลับไม่เห็นสิ่งที่ถือ แต่เห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวที่แสนจะคุ้นชินในความรู้สึก

        ของในมือสิ่งที่อาซาบอกว่าเป็นสมบัติที่แม่ผมให้ไว้ แม่ที่เป็นนากินี ไม่ใช่คนที่ผมเกิดมาในชาติปัจจุบัน


        ‘ดาร์เรลของแม่ ออกมาทำไม ข้างนอกมันอันตราย ลูกยังกลายร่างเป็นคนไม่ได้นะ เกิดมนุษย์มาเห็นและทำร้ายลูกเขาเจ้าจะทำอย่างไร”

        “แม่จ๋า ข้ามารอแม่กลับมา”

        “แม่รู้จ้ะลูกรัก ตามแม่กลับเข้าถ้ำเถอะ เลื้อยดีๆล่ะ อย่าออกนอกทางที่แม่เตรียมเอาไว้ ไม่งั้นตัวเป็นแผลอย่ามาร้องงอแงนะ”


        “แม่ ทำไมข้ากลายร่างไม่ได้เหมือนเพื่อนๆ”

        “นั่นเพราะเจ้ายังไม่เข้าใจตัวเอง”

        “ยังไง”

        “เจ้าต้องเข้าใจและเจ้าถึงในสิ่งที่เจ้าเป็น”

        “แต่งูตัวอื่นไม่เห็นยุ่งยากเลย เมลปาบอกข้าว่า เขาตื่นมาก็กลายร่างเป็นคนได้เลย”

        “นั่นเพราะเขาเข้าใจในสัญชาติญาณทั้งของงูและของมนุษย์”

        “ข้าไม่เข้าใจ”

        “เด็กโง่เอ้ย เจ้าปิดกั้นตัวเอง เปิดใจสิเมื่อเจ้าเปิดใจ เจ้าจะทำได้”



        เปิดใจอย่างนั้นเหรอ?

        ภาพความคิดเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เห็นคือเด็กทารกในท้องมารดา ภาพเคลื่อนไหวเร็วเหมือนกดกรอ ผมเข้าถึงวิวัฒนาการของเด็กที่กำลังจะเกิด และเด็กที่ผมเห็นก็คือตัวผม จนกระทั่งผมคลอดและเติบโต สิ่งที่ผมเป็นผมเข้าใจมันได้อย่างไม่ยากเย็น แล้วตัวตนอีกด้านล่ะ...

        ‘เปิดใจสิ เมื่อเจ้าเปิดใจ เจ้าจะทำได้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ’

        พรึบ!

        ใช่...ใช่แล้ว แค่เปิดใจเท่านั้นผมจะทำได้ เพราะผมเป็นดาร์เรล นากินีคือตัวตนของผม

        ไม่ว่าสิ่งที่ปิดกั้นจิตใจผมจะเรียกว่าทิฐิ อคติ หรือความกลัวที่ก่อตัวเป็นกำแพงหนาทึบปิดกั้นความเป็นนากินี บัดนี้ได้ทลายลงไปแล้ว พร้อมกับร่างกายของผมที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม หยดเลือดทุกอย่างที่ไหลเวียนในร่าง ทุกอวัยวะในร่างกายผมรับรู้และสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ ตอนเป็นคนผมสามารถใช้มือใช้เท้าได้โดยไม่ติดขัดฉันใด มาตอนนี้ผมก็สามารถเลื้อยและใช้ทักษะของการเป็นงูได้อย่างง่ายดายไม่ผิดแปลกฉันนั้น

        “นี่ใช่ไหมแม่ แค่เปิดใจและเข้าถึงตัวตนของตัวเอให้ได้ ผมก็จะเป็นส่วนหนึ่งของมัน เป็นส่วนหนึ่งของนากินี”

        แต่แค่นี้ยังไม่พอ ผมต้องทำได้มากกว่านี้ ผมต้องลองจนกว่าจะกลายร่างได้คล่อง ผมลองตั้งจิตและสติเพื่อคืนสู่ร่างมนุษย์ ยากนิดหน่อยเพราะทำไม่สำเร็จในครั้งแรกที่ตั้งใจ แต่เมื่อลองอีกครั้งผมก็ทำได้ ผมตื่นเต้นมากที่ความตั้งใจบรรลุผล อยากจะอวดอาซา แต่เขาไม่อยู่ตรงนี้ นั่นไม่ใช่ปัญหา ผมกลายร่างได้แล้ว ผมจะตามไปช่วยเขาให้พ้นอันตรายจากพี่ชายของเขา

        ความหวังฉายชัดอยู่เบื้องหน้า ฝันร้ายที่ติดอยู่ในใจกำลังจะหายไป

        จุดมุ่งหมายต่อไปคือตามไปช่วยอาซาและพี่ยอร์ช ถึงผมจะยังเป็นนากินีฝึกหัด แต่ผมจะไม่ยอมแพ้ แม้ว่าจะต้องสู้กับเอเดน นากินีที่มีฝีมือร้ายกาจเข้าขั้นน่ากลัว

        ผมใช้เวลาไปมากโขสำหรับการเรียนรู้ที่จะเป็นนากินีอีกครั้ง ข้างนอกหน้าต่างที่เคยสว่างจ้ามืดมิดเพราะตะวันลาลับ พระจันทร์เต็มด้วงลอยเด่นอยู่บนฟ้า คืนนี้จะเป็นคืนที่พระจันทร์เป็นสีแดง เป็นช่วงเวลาที่นากินีจะอ่อนแรง ยกเว้นอาซาและผมที่มีหัวใจบาซิลิสก์อยู่ในครอบครอง ตอนนี้พระจันทร์ยังคงเป็นสีขาวนวลสว่างตา ลมด้านนอกพัดแรงเกิดเสียงหวีดหวิว ผมต้องตามหาอาซาให้เจอก่อนที่พระจันทร์จะกลายเป็นสีเลือด

        แต่ประตูห้องพักเป็นสิ่งขวางกั้นปราการด่านแรกที่ไม่ขัดขวางไม่ให้ทำได้ดั่งใจ คนที่ล็อคมันก็คงเป็นไม่ใช่ใคร อาซาคงไม่เชื่อว่าผมจะทำได้จริง แล้วเขาจะต้องขอโทษที่ประมาณความสามารถของผมต่ำจนน่าน้อยใจ

        ผมปล่อยมือที่จับลูกบิดออก กลายร่างกลับเป็นงูอีกครั้ง แต่ขนาดเล็กเกินไป ผมต้องตัวใหญ่กว่านี้ ห่างหายการเป็นงูมานานเป็นพันปี ไม่ต่างจากเครื่องจักรที่ขึ้นสนิท อาจต้องเคาะสักหน่อยถึงจะใช้ได้เหมือนเดิม แต่ตอนนี้จิตวิญญาณของการเป็นนากินีได้กลับคืนสู่ผม น่าแปลกมากที่พอกลายร่างได้ผมก็เข้าใจว่าต้องทำยังไง ไม่เหมือนกับว่าผมเพิ่งเป็น เหมือนผมเป็นมานานแล้ว ถ้าให้เทียบก็อาจจะเหมือนคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นแล้วไม่ได้ขี่มาเป็นสิบปี เมื่อถึงเวลาที่จะขี่ ก็สามารถขี่ได้ รู้ว่าต้องทำอย่างไร ต้องเริ่มจากตรงไหน อาจมีไม่มั่นใจบ้าง แต่ยังไงก็ทำได้

        แน่นอน ทฤษฏีที่ผมอาจจะคิดเองเออเองนั่น มันได้ผล

        ผมแพร่พิษสลายลูกบิดประตูได้อย่างง่ายดาย ประตูที่เคยถูกล็อคแง้มออกกว้างเชื้อเชิญให้ผมออกสู่โลกภายนอก

        ซู่ววว ซี่~

        ‘ชักสนุกแล้วสิ’


        ผมออกจากโรงแรมในสภาพคนธรรมดา ไม่งั้นคนอาจจะแตกตื่นถ้าผมยังเป็นงูแล้วเลื้อยเผล้นพล่าน แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่ว่า ตอนนี้อาซาอยู่ที่ไหนและผมจะไปยังไง ผมรู้แค่ว่าเป็นโบสถ์ที่อยู่ในเมืองนี้ แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน ผู้คนในเมืองบางตาลงมากเพราะต่างก็แยกย้ายกับเข้าบ้านใครบ้านมัน ร้านค้าต่างๆก็ปิด มีแค่ไม่กี่ร้านที่ยังเปิดอยู่

        พลันรอบตัวก็มืดลงกว่าที่เป็น ผมเงยหน้าขึ้นมองฟ้า เมฆก้อนใหญ่ลอยเคลื่อนบดบังดวงจันทร์ ปิดกั้นแสงสว่างที่ส่องสะท้อนลงมายังพื้นโลก ไฟตามบ้านเรือนดับลงทีละดวงๆ เหลือแสงสว่างเพียงน้อยนิดส่องทางให้แก่คนที่ยังอยู่ด้านนอก

        ฝั่งตรงข้ามมีชายผู้หญิงยืนสูบบุหรี่ เขาน่าจะเป็นคนที่นี่เพราะเมื่อตะกี้เขาพูดคุยทักทายกับชายอีกคนที่เดินสวนกับตอนเขาออกมาจากร้านอาหารอย่างสนิทสนมราวรู้จักกันมานานนม ถ้าไปถามชายคนนั้น เขาอาจจะรู้ว่าโบสถ์เก่าแก่ของเมืองบรักเซมส์

        ผมมองซ้ายขวาจนแน่ใจว่าไม่มีรถวิ่งมาในระยะใกล้จึงได้เดินข้าม เหลือเพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงตัวผู้ชาย แต่เสียงหวีดร้องที่ดังก้องอยู่ในหัวดังขึ้นให้สะท้านไปทั้งตัว

        ‘อ๊ากกกก! ฉะ ฉัน...ฮึก ไม่มีวัน...”

        ...เสียงนั่น…

        “ไม่มีวันยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้ อั่ก!’

        ผมหันขวับไปทางต้นเสียง รับรู้ได้ว่าร่างกายสั่นเทิ้มจนไม่อาจควบคุม เหมือนมีค้อนใหญ่ทุบเข้าที่หัวอย่างจัง เสียงมาจากตรงนั้น ขาที่แข็งค้างออกวิ่งก่อนที่สมองจะสั่งการ ผมวิ่งและวิ่งสุดแรง ได้กลิ่นเลือดของอาซาลอยมาแต่ไกล เห็นภาพว่าเขากำลังโดนทำร้ายยังไง รู้ได้ว่าโบสถ์นั้นตั้งอยู่ตรงไหนทั้งที่ก่อนหน้าผมยังไม่รู้และหาคนให้คำตอบอยู่เลยด้วยซ้ำ

        ความสามารถพิเศษเช่นนี้มาจากหัวใจบาซิลิสก์ใช่หรือไม่ ที่อาซาบอกผมไว้ว่าถ้าผมทำได้ ถ้าผมกลายเป็นนากินีอย่างสมบูรณ์ ผมจะสามารถรับรู้ได้ว่าเขาอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไร เมื่อครั้งที่ผมกลายเป็นงูเอเดน อาซาก็หาผมเจอได้เพราะใจเขาสื่อกับผม ใจของเราสื่อถึงกัน เพราะเรามีหัวใจเป็นหนึ่งเดียว

        ผมสิ่งแล้วก็วิ่ง ไม่มีหยุดพัก ไม่สนว่าระยะทางยาวกว่ากี่กิโลเมตร ผมอยากกลายร่างเป็นงูแล้วเลื้อยไปให้เร็วที่สุด แต่ผมยังคงกังวลว่าจะมีใครเห็น มันไม่น่าจะใช่เรื่องดีถ้ามีมนุษย์คนไหนเห็นงูตัวใหญ่เลื้อยไปตามท้องถนน จินตนาการได้ว่าเรื่องยุ่งเหยิงจะตามมาอีกเป็นกระพรวน

        จนผมเริ่มจะหายใจไม่ทัน วิ่งสะดุดลมหน้าหวิดจะทิ่มพื้นหลายรอบ แต่เสียงร้องของอาซา เสียงต่อสู้ดังกรอกหูผมเป็นระยะ ผมไม่อาจหยุดตัวเองได้ ผมเร่งความเร็ว สับเท้าถี่ด้วยใจที่ร้อนรน

        ผมกำลังจะแย่!!!

        แต่คนที่กำลังจะแย่กว่าคืออาซา...เอเดนกำลังจะฆ่าเขา!!!

        ขาทั้งสองข้างวิ่งสลับสับถี่เพื่อเร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ วิ่งไปหอบไปแต่ก็พยายามฝืนร่างกาย ฟันขบกัดแน่นข่มความเจ็บปวดตามร่างกาย ทั้งขาที่ชาดิก ท้องที่เกร็งปวดจากการเหนื่อยหอบที่ต้องวิ่งมายาวนาน แต่หยุดไม่ได้ ต่อให้ต้องวิ่งจนขาดใจตายก็ต้องทำ

        สถานที่รอบตัวผมแน่ใจว่าไม่เคยมา แต่ทุกอย่างกลับคุ้นเคย ผมรู้ว่าผมจะต้องวิ่งไปที่ไหน โบสถ์เก่าในเมืองที่ห่างไกลความเจริญเป็นสถานที่แรกที่แวบขึ้นมาในห้วงความคิด และตอนนี้อาซาอยู่ที่นั่น

        อาซา...ได้โปรดอดทนไว้ ฉันกำลังจะไปช่วยนาย

        กึก!

        ขาทั้งสองข้างหยุดวิ่งเหมือนภาพเดจาวูในความฝันกลับมาหาผม และผมกำลังทำตามมันอย่างไม่ฉุดคิด จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าผมดำเนินทุกอย่างตามความฝันที่วางเอาไว้ให้เดิน บทสรุปจะต้องเป็นแบบเดิม อาซาจะแย่ เขาจะจากผมไป ผมปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้

        ป่าสองข้างทางเป็นหนทางที่ดีที่สุด ผมวิ่งเข้าไปในป่ารกชันที่ทั้งทึบและเฉอะแฉะ มองเส้นทางแทบไม่เห็นถ้าหากผมใช้สายตาคนปกติมอง แต่ถ้าเป็นสายตาของอสรพิษที่สามารถใช้ได้ดีในความมืดมิดจากการตรวจจับความร้อนแล้วละก็ ไม่น่ามีปัญหา

        สวบ!

         ‘อ๊ากกกกก นะ นายจะไม่มีวันได้สิ่งๆนั้น! ไม่มีวัน!!!’

        ประโยคของอาซาที่ดังก้องโสตประสาทคล้ายเทปที่รีเพลย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต้องเร็วกว่านี้ เร็วอีก ไม่สนว่าลำตัวยาวขนาดใหญ่ของผมจะเลื้อยชนต้นไม้หักต้นแล้วต้นเรา ไม่เจ็บ ไม่รู้สึกอะไรกับร่างกาย มีเพียงใจเท่านั้นที่เจ็บร้าวเพราะเขา คนที่ผมรักกำลังได้รับอันตราย

        โบสถ์ที่กำลังตามหาอยู่ไม่ใกล้นักจากภาพที่ฉายแวบในความคิด ผมจะโผล่พ้นที่ด้านหลังของโบสถ์ ที่ด้านหน้าผมได้ยินเสียง เวสตัน ปารีส ฟรินน์ และจูเลียตกำลังต่อสู้กับลูกน้องของเอเดนที่มีอยู่นับร้อย ผมพยายามจับเสียงว่าพี่ยอร์ชอยู่ที่ตรงไหน

        ‘เอเดน หยุด อย่าทำร้ายอาซา!!! อย่าทำเขา’

        ขอบคุณพระเจ้า พี่ยอร์ชยังมีชีวิตอยู่ แต่อเล็กซ์ ผมไม่ได้ยินเสียงของเขาเลย แต่วางใจอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อยเมื่อเสียงร้องของอาซาดังโหยหวยยาวนานกว่าทุกที ผมพุ่งทะยายร่างกายเพียงเสี้ยวนาทีถึงโบสถ์ที่ว่า ผมพุ่งเข้าชนโดยไม่สนใจว่าสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่หลังนี้จะเสียหายหรือไม่

        โบสถ์พังผมสร้างให้ใหม่ได้ แต่ชีวิตอาซา ถ้าเสียไปใครจะหาคืนมาให้ผมได้ คงไม่มี

        กำแพงโบสถ์ส่วนหลังพังครืนลงมาเป็นแถบ ความโกรธเกรี้ยวของผมถูกกระตุ้นจากน้ำมือของเอเดน ไม่ผิดจากความฝัน ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้ว่าผมจะรีบมาให้ทัน

        ท่อนลำตัวสีเงินสะท้อนแสงจันทร์ที่สาดผ่านหลังคาโบสถ์ที่พังจะเปิดกว้างรัดร่างของเอเดนแน่น ตามตัวของทั้งคู่เต็มไปด้วยบาดแผล หัวหนึ่งของเอเดนอ้างับที่ลำคอของอาซา เลือดไหลลงกระทบพื้นไม่ต่างจากน้ำตกที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ส่วนอีกหัวเตรียมจะสังหารคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายของเขา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะลงมือ ผมที่โผล่เข้ามาขัดขวางทำให้เขาหันมามอง

        กระแสความโกรธตีวนในร่างกายผมรุนแรงยิ่งกว่าพายุ ผมพุ่งตัวเข้าหาเอเดนไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัว ร่างของผมกระแทกร่างของเอเดนเท่าแรงทั้งหมด ร่างอสรพิษใหญ่ทั้งสามของพวกเราพุ่งชนกับกำแพงอีกด้านหนึ่ง อาซาเป็นอิสระแล้ว เขามองผมก่อนจะเอ่ยเรียกเสียงโหย

        “โย โยชิ...”

        “อาซา”

        ร่างของอาซากลับคืนสู่ในร่างของมนุษย์ ผมอยากเข้าไปดูเขา แต่เอเดนกำลังตั้งตัวได้ ผมหันหัวกลับไปทางคนใจร้าย

        “อาซาเป็นน้องนายนะ!” ผมตะวาดเอเดนผ่านภาษาพาเซลไปพร้อมกับเข้าสู้กับเอเดนสะเปะสะปะ เลือดในกายสูบฉีดเดือดปุดเป็นลาวาร้อน

        “อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน!” เอเดนโต้กลับอย่างไม่รับรู้ถึงความผิดที่ตัวเองก่อ ผมพ่นไฟใส่เขา แต่เขาหลบหลีกได้ทัน เอเดนเลื้อยไปทางซ้ายสลับกับผมที่ไปทางขวาเพื่อหาจังหวะโจมตี

        “ทำใจไว้อาซา อย่าหมดสติ!”

        “โย โยชิ”

        “อะไรนะ โยชิทำไม โยชิไม่ได้อยู่ที่นี่”

        “เอเดน อย่าทำอะไรโยชิ อั๊ก!!!”

        “อาซา อย่าบอกนะว่า งูตัวสีขาวนั่นคือโยชิ คือน้องชายของฉัน”

        “ชะ ช่วยโยชิ อย่าให้เอเดนทำอะไรเขา อย่า...”

        “อาซา! มีสติไว้ อดทนไว้ อาซา!!!” เสียงของพี่ยอร์ชที่เรียกสติอาซาอย่างร้อนรนเร่งกระตุ้นให้กระแสเกี้ยวโกรธของผมแตกตัวจนถึงขีดสุด

        ผมหน้ามืดกระโจนเข้าหาเอเดน ผมไม่รู้ว่าพลังของตัวเองทำอะไรได้บ้าง แต่ผมใช้ทุกความสามารถที่มีเพื่อแก้แค้นให้อาซา ผมไม่มีวันปล่อยให้เขามีชีวิตรอดไปทำร้ายอาซาให้อีก ผมจะทำให้เอเดนได้รู้รสชาติของการจะถูกฆ่าให้ตายอย่าทรมาน ผมสาบาน ผมจะทำ!

        เลือดของเอเดนสาดกระเซ็นโดนลิ้นของผมยามที่ผมใช้ส่วนหางเลื้อยไปตวัดฟาดที่กลางลำตัวซ้ำตรงแผลเหวอะให้เจ็บหนักเข้าไปอีก ผมลิ้มรสความบ้าคลั่งของเอเดนผ่านปลายลิ้นสองแฉก ความกระหายทีไม่เคยมีแล่นพล่านไปทั่วร่าง นี่คงเป็นรสชาติของเลือด อาหารหลักของมนุษย์กลายร่างที่แท้จริง ช่างหอมหวานชวนให้ลิ้มลองอีกครั้งและอีกครั้ง

        ผมพุ่งเข้าใส่เพื่อที่จะแพร่พิษใส่เอเดน แต่เขาหลบทันและสะบัดตัวผมให้พ้นทาง เขาเลื้อยไปหาอาซาที่นอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้น พี่ยอร์ชลุกขึ้นเดินถอยหนีเอเดนที่เข้าไปใกล้ ไม่ทันที่เอเดนจะได้เข้าใกล้อาซา ผมกัดเข้าที่หางของเอเดนก่อนจะปล่อยพิษร้ายแรงเข้าสู่ร่างกายสีเงินจนเอเดนตัวกระตุกกระแทกพื้นอย่างแรง

        ผมรู้ว่าเอเดนต้องการอะไร เขาจะเอาหัวใจบาซิลิกส์ที่อยู่กับอาซา เขาไม่มีวันได้มันไป เพราะผมไม่ยอม หากจะมีใครที่ต้องสูญเสีย มันจะต้องเป็นเอเดน ไม่ใช่อาซา

        ซี่ๆๆ!

        เสียงร้องของเอเดน ร่างของเอเดนกระตุกแรงอยู่ที่พื้น ผมจ้องไปที่กลางลำตัวลงไปถึงช่วงหา ปล่อยพิษทำลายร่างของเขาจนเป็นแผลเหวอะหนัก ด้วยฤทธิ์ของหัวใจบาซิลิสก์อีกครึ่งที่อยู่ในตัวผม เขาไม่มีทางทนพิษที่รุนแรงกว่านากินีธรรมดาได้ เอเดนร้องลั่นเหมือนที่อาซาเคยร้อง ผมมองภาพนั้นด้วยความสะใจ ยังไม่พอ แค่นี้ยังไม่สาสม

        หัวของเอเดนยกขึ้นมองมาทางผม มองจ้องด้วยดวงตาสีแดงฉานทั้งสี่ข้างสองคู่ ผมทำให้เขายั๊วะ ผมไม่กลัว รอให้เขาลุกขึ้นมาเพื่อสู้

     

(ต่อข้างล่าง)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 11-06-2015 23:17:23
        พลันก้อนเมฆที่บดบังดวงจันทร์ก็เคลื่อนคล้อยเปิดเผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังทีละนิด ดวงจันทร์ทรงกรดที่เคยมีสีขาวนวลกลายเป็นสีแดงฉานดังสีเลือดของอาซาที่ไหลรินนองทั่วบริเวณ เส้นความอดทนเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นเมื่อผมจับลมหายใจและจิตวิญญาณของอาซามันไม่ได้ หายไป แล้วไปแล้วจากผม

        ผมหันไปมองร่างของอาซา ภายในกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งแทบขาดใจ ผมกลายร่างกลับเป็นคนวิ่งเข้าไปดูอาซา พี่ยอร์ชมองผมอย่างตกตะลึง

        “โยชิ...”

        “อาซา!!! ฮือ ไม่นะ นายอย่าเป็นอะไรนะ อดทนไว้ อาซา ฮืออ” ผมกอดร่างอาซาแน่น แต่เขาไม่รู้สึกตัวอีกต่อไป เขาไม่หายใจ

        ตึกๆๆ

        เสียงฝีเท้าวิ่งของคนหลายคนดังเข้ามา ผมกอดร่างอาซาแนบอก ร่างกายเจ็บปวดเหมือนกริชแหลมทิ่มแทง ไม่จริง เขายังอยู่กับผม ยังไม่จากไปไหน

        “อาซา! เอเดน!” เสียงของคุณจอร์จดังเข้ามาใกล้ ผมเงยหน้ามอง แวบหนึ่งผมโกรธผู้ชายแก่คนนี้ คนที่เป็นของอาซา เพราะเขาที่ทำให้อาซาต้องเป็นแบบนี้ เพราะพวกเขา ทั้งคุณจอร์จและเอเดน

        คุณจอร์จนั่งคุกเข่าเข้ามาดูอาซา จับตามจุดชีพจรก่อนจะเรียกให้คนมาพาอาซาออกไปเพื่อนำส่งหาหมอให้เร็วที่สุด แต่ทำไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะหัวใจเขาไม่เต้นอีกต่อไป

        ผมปล่อยตัวอาซาลงให้กับคุณจอร์จ ลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายตาเศร้าเสียใจของทุกคน เดินกลับไปหาเอเดนที่ยังคงไม่มีแรงลุก ตอนที่สู้กับอาซาเขาก็คงหมดแรงหมดพลังไปมาก แต่ถึงอย่างนั้นอาซาก็ไม่รอด

        “เขา...” ผมเสียงสั่นพูดกับเอเดน “อาซาเป็นน้องของนายนะ”

        ผมยังคงพูดย้ำประโยคเดิม ประโยคที่ต่อให้พูดเป็นร้องเป็นพันเอเดนก็ไม่มีทางซึมซับมัน

        “นายทำได้ยังไง นายฆ่าเขาได้ยังไง ตอบ!!!”

        “นั่นไม่ใช่เรื่องของนาย” เอเดนตอบกลับน้ำเสียงระโหย

        แรงกดดันในกายแตกตัวกระจ่ายซ่านไปทั่วร่าง พอกันทีสำหรับความอดทนและยับยั้งชั่งใจ การสั่งสอนเล็กๆน้อยๆไม่อาจทำให้คนชั่วรับรู้ถึงบทเรียน

        “นายฆ่าน้องชายนายได้ ฉันก็ฆ่านายที่เป็นใครไม่รู้ได้เหมือนกัน ฉันจะไม่ปล่อยให้นายรอดในขณะที่อาซาต้องตาย” ผมกระหยิ่มยิ้มในใจไปพร้อมกับน้ำตาที่ตกในเพราะความจริงตอกย้ำว่าอาซาไม่ได้อยู่กับผมอีกแล้ว

        พลังในกายทั้งหมดระเบิดออกจากกล่องที่กักขังมัน เกิดแสงจ้าจนใครก็ตามไม่อาจทนมอง อานุภาพสามารถทำให้คนที่จ้องตาบอดได้ ก่อนที่แสงจะดับลงเมื่อผมคืนสู่ร่างงู มีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม ปีกสีขาวทั้งสองข้างสยายกางออก ขนปีกที่แซมเป็นเหล็กแหลมพร้อมสังหารทุกสิ่งที่ขวางหน้า แม้ดวงใจบาซิลิสก์ในร่างผมจะมีเพียงครึ่ง แต่อานุภาพของมันทรงพลังมากกว่าที่จะคาดเดา

        เอเดนรวบรวมแรงที่เหลืออยู่ลุกขึ้นเพื่อหลบร่างผมที่ฉกวูบเข้าไปที่หัวข้างหนึ่งของเขา เขาหลบทันแต่ไม่ระวังอีกหัว ผมกัดงับก่อนที่จะแพร่พิษใส่อีกรอบ เอเดนร้องโหยหวนอย่างทรมาน

        ผมหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อเอเดนทำเหมือนไม่สู้ เขาไม่สู้ผม ทำไม จะทำอ่อนแอทำไม ผมรู้ว่าเขาไหว เขามีแรงที่จะสู้ผม แต่เขาไม่ทำ ท่าทางเหมือนจะยอมแบบนั้นทำให้ผมโมโหเกินบรรยาย ผมโถมทุกความโกรธแค้นลงบนร่างของเอเดน

        “สู้สิ สู้ให้เหมือนที่นายสู้กับอาซา ทำร้ายฉันให้เหมือนที่นายทำกับเขา ทำสิ!!!”

        “อย่า!!!” เสียงร้องห้ามของพี่ยอร์ชดึงความสนใจของเอเดน ผมใช้จังหวะนั้น ตวัดหางรัดที่เสาะต้นใหญ่ ออกแรงหักมันให้ล้มทับเอเดนจนไม่อาจขยับตัวหนีไปได้

        น่าแปลกที่เอเดนเหมือนไม่สนใจผม หัวทั้งสองข้างของเขามองไปทางพี่ยอร์ช ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลได้ ไม่มีอะไรที่สามารถหยุดผมได้ในตอนนี้

        “ถึงเวลาตายของนายแล้ว” พูดจบผมก็รวบพลังอำนาจไปที่ปีกทั้งสองข้าง เพื่อตรียมจะยกตัดร่างของเอเดนให้ขาดออกเป็นท่อนๆ ยามที่ปีกของผมยกขึ้นและวินาทีที่ฟาดฉับลงไปยังร่างสีเงิน ร่างเล็กๆร่างหนึ่งก็วิ่งเข้ามาบังเอาไว้

        “โยชิ อย่า! พอ พอได้แล้ว!!”

        พี่ยอร์ชเข้ามาขวางในจังหวะที่ผมกำลังจัดการเอเดนให้สิ้นซากจากโทสะที่ลุกโชนเกินต้านทานยับยั้ง แต่เพราะคนที่เข้ามาขวางเป็นพี่ยอร์ช สติจึงถูกดึงเข้าร่างได้ทันก่อนที่ผมจะทำผิดพลาดจนต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ถ้าผมยั้งไม่ทัน ร่างที่จะขาดสะบั้นก็คงเป็นพี่ยอร์ช ไม่ใช่เอเดน

        “พอแล้วโยชิ หยุดเถอะน้องรัก อย่าฆ่ากันให้มีบาปกรรมเลยนะ” พี่ยอร์ชมองผมอย่างหวาดกลัว ผมถอยหลังห่างออกไปหน่อยเพื่อให้ห่างจากร่างพี่ยอร์ชให้มากที่สุด

        ผมฟึดฟัดหัวเสียที่พี่ยอร์ชเข้ามาห้าม  แต่ถึงผมพูดอะไรออกไปพี่ยอร์ชก็คงไม่เข้าใจเพราะพี่ยอร์ชเป็นคนธรรมดาที่ไม่อาจเข้าใจภาษาพาเซล

        “โยชิ เชื่อพี่นะ พอเถอะ กลับคืนเป็นมนุษย์เถอะนะ อย่าฆ่าใคร พี่ขอร้อง” พี่ยอร์ชลุกขึ้นเดินเข้ามาหาผม มือใหญ่ที่บัดนี้เล็กกว่าตัวผมมากแตะลงบนเกร็ดสีขาวที่ทอแสงสว่าง มือคู่นั้นที่อบอุ่นเลี้ยงดูผมมา ดึงจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ให้กลับคืนสู่ร่าง ผมตั้งสติที่หลงระเริงไปกับสัญชาตญาณแรงอาฆาตแค้นของอสรพิษให้กลับคืนสู่ปกติและคืนร่างเป็นคนเช่นดังเดิม

        ผมหันไปมองทางเอเดน เขานอนหายใจโรยรินเป็นตายเท่ากัน แต่มันยังไม่สาแก่ใจ มันเทียบไม่ได้กับชีวิตอาซาที่สูญเสีย

        “พี่ยอร์ชห้ามโยทำไม เขาฆ่าอาซา ผมจะฆ่าเขา!” ผมยืนกำมือแน่ในอ้อมกอดของพี่ยอร์ช

        “ต่อให้โยฆ่าเขา มันก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น”

        “อย่างน้อยผมก็สะใจ!”

        “ไม่หรอก ถ้าโยทำจริง โยจะไม่รู้สึกแบบนั้น เด็กดีที่แสนใจดีของพี่ไปไหนแล้ว ทำไมเหลือแต่คนที่เต็มไปด้วยอาฆาตแค้น” พี่ยอร์ชเสียงสั่นจากแรงสะอื้น ผมทำให้พี่ชายร้องไห้

        “พี่ยอร์ช อาซาจากผมไปแล้ว เขาไม่อยู่แล้ว ฮึก” ผมกอดพี่ยอร์ชแน่น ร้องไห้กับอกพี่ชายเหมือนตอนเป็นเด็กตัวเล็กๆที่ร้องไห้เมื่อรู้ว่าพ่อตีงูที่ผมอยากเลี้ยงเพราะเขาพูดกับผมได้ตาย งูตัวนั้นคืออาซา ตอนนั้นเขาไม่ตาย แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เขาทิ้งผมไปแล้วไม่เหมือนครั้งนั้น

        เขาจะไม่มีวันกลับมาหากัน

        “โยชิ อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น คุณจอร์จพาอาซาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปหาหมอแล้ว อาซาจะต้องหาย” เวสตันมายืนอยู่ข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

        “แต่เขาไม่หายใจ” ผมพูดเสียงสั่น หางตาเห็นลูกน้องของคุณจอร์จเข้าไปดูเอเดน ยิ่งเห็นเขาผมก็ยิ่งอย่างเข้าไปฆ่าเขาให้ตายฆ่ามือ

        ทุกคนยืนล้อมผมกับพี่ยอร์ชเอาไว้ ส่งกำลังใจมาให้ผ่านดวงตา

        “ถ้าเป็นมนุษย์ก็คงหมดหวัง แต่กับมนุษย์กลายร่าง ถึงแม้ว่าจะไม่หายใจ แต่ก็ยังมีโอกาสรอด” เวสตันบอก

        ผมหยุดสะอื้น เบิกตาโต “จริงเหรอ เขาจะรอดเหรอเวสตัน”

        “อืม ถ้าโชคดี”

        หัวใจที่พองโตเหี่ยวลงทันที งั้นก็หมายความว่า ถ้าโชคไม่ดี อาซาก็จะไม่ฟื้นใช่ไหม

        “เรารีบตามไปดูอาซาเถอะ คุณจอร์จเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ให้ด้านนอกแล้ว” ฟรินน์พูด ไม่มีท่าทีขี้เล่นอย่างเคย

        ทุกคนวิ่งออกไปข้างนอกเพื่อจะตามไปดูอาซา ผมวิ่งไปได้สองก้าวก็ต้องหยุดเพราะพี่ยอร์ชกลับเดินไปทางในตรงกันข้าม

        “พี่ยอร์ชจะทำอะไร อย่าเข้าไปใกล้เขา เอเดนอาจทำร้ายพี่” ผมรีบห้าม จะสาวเท้าเข้าไปดึงพี่ยอร์ช แต่พี่ชายของผมแค่หันมายิ้มก่อนจะส่ายหน้า

        “เขาจะไม่ทำอะไรพี่ พี่แค่อยากพูดอะไรบางอย่างกับเขาเท่านั้น” สีหน้าและน้ำเสียงของพี่ยอร์ชหนักแน่น

        “แต่” ผมไม่ไว้ใจเอเดน เขามันงูพิษ ไว้เนื้อเชื่อใจไม่ได้

        “พี่เชื่อว่าเขาจะไม่ทำอะไรพี่ แต่ถ้าเขาทำ พี่อนุญาตให้โยฆ่าเขาได้ตามใจชอบ”

        เมื่อพี่ยอร์ชยืนยันมาแบบนั้น ผมจึงทำได้แค่ยืนออยู่ตรงนี้ มองพี่ยอร์ชและเอเดนไม่วางตา เฝ้าระวังเต็มที่เผื่อเอเดนคิดจะทำร้ายพี่ชายผมจริงๆ

        พี่ยอร์ชเดินไปหาเอเดนแล้วนั่งยองๆใกล้คนร้ายที่นอนเจ็บหนักในร่างคนธรรมดา ลูกน้องของคุณจอร์จถอยห่างเมื่อพี่ยอร์ชพูดอะไรสักอย่างกับพวกเขา เสียงพูดจากพี่ยอร์ชดังแว่วแต่จับใจความไม่ได้
 


        “คุณน่ะ เป็นหนี้ชีวิตผม”

        “ช่วยทำไม คุณน่าจะ...อยากให้ผมตาย”

        ยอร์ชส่ายหน้า “คุณอาจจะสมควรตาย แต่ถ้าคุณตายโดยยังไม่ได้สำนึก ผมคิดว่า นรกอาจจะพินาศเพราะมีคนอย่างคุณลงไปอยู่”

        “เหอะ ฮ่าๆๆ”

        “ต่อจากนี้เราไม่มีอะไรต้องข้องเกี่ยวกันอีก ทั้งเรื่องธุรกิจ ความแค้น และ...”

        “...” แววตาของเอเดนวูบไหวหม่นแสง

        “ช่างเถอะ ผมขอค่าตอบแทนที่ผมช่วยชีวิตคุณไว้แลกกับการเลิกจองล้างจองผลาญพวกเราสักที อาซาคือน้องเขย คือคนในครอบครัวของผม ผมรักเขาเหมือนที่รักพ่อและโยชิ เพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรเขาอีกต่อไป หากคุณต้องการทวงสิทธิ์อะไรที่ควรเป็นของคุณในครอบครัว ก็ไปทวงหาเอากับพ่อของคุณเอง เพราะนับแต่นี้ต่อไป อาซาคือคนในครอบครัวของผมที่ผมจะปกป้องดูแล”

        “ผมไม่ได้ขอให้คุณช่วยชีวิตผมสักหน่อย” เอเดนแค่นหัวเราะก่อนจะไอออกมาเป็นเลือดจำนวนมาก

        “จะบอกว่าเสียใจที่ผมไม่ปล่อยให้คุณตายงั้นสิ เสียใจด้วยนะ ที่ผมช่วยคุณเพราะหวังผลอยู่แล้ว คุณเป็นคนแรกที่ได้รับเกรียตินี้ สำนึกบุญคุณเอาไว้ด้วยล่ะ ถ้าคุณไม่ทำตามที่ผมสั่งเมื่อไหร่ มันจะไม่มีครั้งที่สองที่ผมจะปล่อยให้คุณได้หายใจหรือเที่ยวเร่ร้องหาความรักจากใคร ครั้งนี้ครั้งเดียว ครั้งสุดท้าย”

        เสียงปลายเท้าของยอร์ชดังห่างออกไปเรื่อยๆพร้อมกับเสียงกระซิบที่ไม่มีใครได้ยิน

        “ฉัน...ไม่ได้ทำร้ายน้องชายนายเลย ไม่เห็นหรือไง”



        ……………………………………
        ขอพระเจ้าจงคุ้มครองอาซา  :m15:
        หลังจากนี้เอเดนจะได้รับบทเรียนที่สาสม
        เรามาร่วมเป็นกำลังใจอาซาปลอดภัยกันเถอะ  :monkeysad:
        ป.ล. หากฉากบู๊แลดูทุเรศไปบ้างได้โปรดให้อภัย ริริพยายามสุดความสามารถแล้ว แต่งจนไมเกรนขึ้น  :katai1:จะทำการแก้ไขในภายหลังสำหรับฉากบู๊ทุกฉากในเรื่องนี้ อาเมน (ไว้อาลัยให้ตัวเอง) :sad2:
        ป.ล.2 หากมีคำผิด ใครใจดีโปรดแจ้ง ยังมีได้ตรวจ นั่งแต่งทั้งวัน สายตาเริ่มจะไม่สู้
        ขอให้ทุกคนรอตอนต่อไปอย่างมีความหวัง แล้วพบกันค่ะ :impress:


       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 11-06-2015 23:27:08
 :z3: ฮื่อๆๆๆๆ T^T เศร้าใจจังเลย เอเดนนนนนนนนนนนนนนนนT^T ทำไมนายทำแบบนี้
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 11-06-2015 23:28:10
 :pig4: เป็นกำลังใจให้ริรินะคะ ><
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 11-06-2015 23:34:18
 :hao3: ต๊ายยย พ่องูเอเดนยอมโดนนุ๊งโยซัดเอาๆ

เพียงเพราะไม่อยากทำร้ายคนที่เป็นครอบครัวของพี่ยอร์ช   :-[

ขอให้อาซาปลอดภัยด้วยเถ๊อะะะะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-06-2015 23:42:10
ริริสู้ๆนะเป็นกำลังใจให้นะ

โอ๊ยยยย พ่อเอเดนนนน :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 11-06-2015 23:46:03
แอบสงสารเอเดนนะ แต่ก็นะทำตัวเอง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 12-06-2015 00:01:20
ฮือ.อ่านไปน้ำตาซึมไป อาซาอย่าเป็นอะไรไปนะ
พี่ยอร์ชเอาคืนเอเดนให้หนักเลย

ปล.หนูโยชิเวลาโกรธนี่น่ากลัวมาก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 12-06-2015 00:14:31
อาซาาาา อย่าเป็นอะไรน้าาาา
โยชิไม่ต้องล้างแค้นละ ฝากพี่ยอชเอาคืนแบบจัดหนักเลยจ่ะ

ปล.สู้ๆนะคุณริริ เป็นกำลังใจและเฝ้ารออนต่อไปเสมอฮัฟ :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: miaoxian ที่ 12-06-2015 00:23:46
ประโยคสุดท้ายนี่มัน  กรี๊ดดดดด
แกรักพี่ยอร์ชใช่ไหมเอเดน เชื่อฟังเขามาก
แต่ก็ยังทำตัวเลวอะ มันน่านัก ! ขอให้พี่ยอร์ชงอนนานๆไปเลย

น้องโยตอนเป็นงูนี่สุดยอด โหดมากแกเอ้ยย
อาซาอย่าเป็นอะไรนะ ห้ามทิ้งโยชินะเว้ยย

ริริสู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ต่อไป
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 12-06-2015 00:30:22
โยชิหนูเก่งที่สุดเลยลูก มีปีกด้วย สวยม๊ากกกกกก
ว่าแล้วโยชิต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ 555 จากงูเลื้อยกลายเป็นงูบินได้แว้ว
เท่ขาดใจไปเลย >< แต่อาซาอย่าเป็นอะไรไปนะ อยู่กับโยชิก่อน
แต่ทำไมก็ไม่รู้ แอบสงสารเอเดน คงรักยอร์ชแล้วแน่ๆ แต่ปากแข็ง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 12-06-2015 06:00:31
ถึงจะสงสารเอเดน แต่ความหมั่นไส้มีมากกว่าค่ะ!!!!
เพราะงั้นแล้ว หาวิธีมาง้อพี่ยอร์ชของอิฉันด้วย!
รอตอนต่อไปน้าาา ริริสู้ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sakurako12 ที่ 12-06-2015 07:04:46
จะดีมากถ้าหนูโยจัดให้พ่อของเอเดนสักชุด
นั่นนะตัวตนเรื่องเลย  :fire:


หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 12-06-2015 07:14:50
โหยยย มันส์มากกกและลุ้นมากกกก

ขอให้อาซาปลอดภัยนะ ได้โปรด โยชินี่บู้ได้ใจมากอ่ะ อินสุดๆ

แอบสงสารเอเดนนะ นางคงรักยอร์ชเต็มหัวใจเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 12-06-2015 08:16:14
 :pig4: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 12-06-2015 09:03:03
แอบเจอคำผิด ตอนที่โยชิจะออกจากห้องที่อาซาขังไว้ #ขึ้นสนิท>>>>ขึ้นสนิม
ตอนนี้สงสารเอเดน(หลังจากโกรธนังเอเดนมาหลายตอน) ถึงว่าสิตอนโยชิสู้ เอเดนถึงไม่ค่อยจะตอบโต้โยชิเลย ยิ่งมาอ่านประโยคสุดท้าย สงสารนางมาก(แต่นางก็ทำผิดอะนะ) แบบประมาณว่า ร้ายกับคนทั้งโลกแต่แคร์แค่เธอคนเดียว แบบเอเดนทำตามคำพูดที่ยอร์ชเคยบอกว่าห้ามทำร้ายโยชิ นางก็ไม่ทำร้าย ประโยคสุดท้ายทำเอาน้ำตาคลอ ต่อจากนี้ก็กลับตัวสะนะ ยอร์ชคงให้อภัย อาซาก็คงไม่เกลียดพี่ตัวเองหรอก โยชิโหมดปกติก็คงเคืองๆนาย แต่ก็คงให้อภัยและยอมรับนายมาเป็นพี่เขยอะนะ 55555555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Glitterycandy ที่ 12-06-2015 09:35:48
เอเดน <3 พี่ยอร์ช

อาซา TT
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 12-06-2015 10:01:25
โยชิหนูร้ายที่สุดจริงๆด้วยต่อไปอาซาต้องระวังแล้วนะถ้าทำให้โยชิน้อยโกธรขึ้นมา เอเดนกว่าจะรู้ตัวก็สายซะแล้วจะทำยังไงให้ได้ความรักความเชื่อใจจากพี่ยอร์ชคืนมา หวังว่าอาซาพ่องูหื่นจะไม่เป็นอะไรนะไม่งั้นหนูโยร้องไห้เสียใจแย่เลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 12-06-2015 10:16:28
ขอให้อาซาไม่เป็นอะไร ปลอดภัยนะ

อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว อยากรู้ว่าเอเดนจะได้รับบทเรียนอะไร
สาสมที่ทำกับอาซา และคนอื่นหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 12-06-2015 11:07:45
ที่ เอเดน ไม่ทำร้าย น้องโย เพราะไม่อยากโดน พี่ยอร์ช เกลียดจขี้หน้าสินะ

แต่ว่างานนี้ เอเดน คงต้องเป็นฝ่ายตามบ้างแล้วสินะ

อาซา อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 12-06-2015 11:30:18
หนูโยของอิป้าร้ายที่สุด แต่น่ารักที่สุด..อิอิ ดูจากรูปไม่น่ากลัวซักนิด....
แล้วไงเห็นมั๊ยที่เอเดนต้องเข้าสมาคมงูกลัวเมีย...555...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 12-06-2015 13:41:50
ประโยคสุดท้ายของเอเดนนี่ทำเอาใจอ่อนยวบเลยอ่ะ น่าสงสาร และยอร์ชต้องสำคัญกับเอเดนมากๆ
จริงๆแล้วเอเดนน่าสงสารนะ อย่างที่อาซาบอก พ่อของทั้งคู่เป็นคนที่ทำให้เกิดปัญหาบ้าๆนี้
หวังว่าเอเดนจะหายและกลับใจไปหายอร์ชอีกครั้ง หัวใจด้านๆของเอเดนจะได้รับการเยียวยาซะที
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 12-06-2015 14:53:33
สองตอนหลังดูจะมีคำผิดเยอะน่ะ คุณริริไม่ต้องเครียดจ้ะ ฉากบู๊ก้อโอเคแล้วน่ะ แต่เสียดายที่ไม่มีฉากต่อสู้ระหว่างเอเดนกับอาซาน่ะ ดูมันห้วน ๆ ไปหน่อยน่ะ แต่ถ้าถือเอาตัวโยชิเป็นหลักก้อโอเคน่ะ โยชิอัดอั้นมากเลยน่ะ เอเดนเป็นตัวละครที่เราเกลียดไม่ลงจริง ๆ น่ะ เพราะยังฟินกับพี่ยอร์ชอยู่น่ะ อยากให้คู่กันแล้วเรารู้สึกว่าเอเดนน่าเวทนาน่ะ เพราะเขามัวแต่แค้นจนลืมที่จะรักคนรอบข้างรักครอบครัว งานนี้ต้องโทษพ่ออย่างเดียวเลยล่ะ ทำให้ลูกเกลียดกันน่ะ  :o12: หวังว่าอาซาคงไม่ตายน่ะ ส่วนเอเดนท่าทางจะหนักทั้งกายทั้งใจเลยน่ะ ทำตามที่รับปากยอร์ชไว้เลยน่ะว่าจะไม่ทำร้ายโยชิแต่ดันลืมไปว่าอาซาคือคนรักของน้องเขาน่ะ ทำร้ายคนในครอบครัวก้อคงไม่แตกต่างกันหรอกน่ะจ้ะเอเดน ก้ออย่างว่าเอเดนไม่รู้จักคำว่าครอบครัวเนี่ยสิ :katai1: จะจบแล้วเรอะ คงมีตอนหวาน ๆ ให้คึกคักบ้างน่ะจ้ะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 12-06-2015 15:55:53
โอ้ยยยยยย เเอบสงสารเอเดนเบาๆ ยังมีมาทวงสัญญากับเขาอีกพ่อคุณณณณณ
พี่ยอร์ชอย่าใจร้ายมากนะค่ะ เอเดนก็สำนึกผิดเป็นนะค่ะ ถถถถ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bodun ที่ 12-06-2015 15:57:57
เย้เย้ เชียร์พี่ยอร์ช          ค                   
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 12-06-2015 16:27:00
ลุ้นมาก ขอให้อาซาปลอดภัย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-06-2015 19:30:37
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 12-06-2015 19:54:01
สงสารเอเดนก็สงสารนะ
แต่ทำตัวเองจริงๆ
สู้ต่อไปละกันนะเอเดน
ส่วนอาซานี่อย่าตายนะ
ถ้าตายนี่ได้ร้องไห้ตามโยชิแน่นอน  :m15:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 12-06-2015 21:52:47
อาซาต้องหายสิ พระเอกจะตายไม่ได้ ไม่งั้นโยชิจะอยู่กับใคร คิดว่าอาซาคงไม่ปล่อยให้งูน้อยตัวขาวเสียใจแน่ๆ ส่วนเอเดน ใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับผลนะ แต่อย่าลืมไปง้อพี่ยอร์ชล่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-06-2015 22:06:57
อาซาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม

สงสารโยชิมากๆเลย และอาซาคงดีใจที่โยชิสู้เพื่ออาซา

เอเดนคนๆนี้จะโกรธจะเกลียดก็โกรธไม่ลง

เห็นแล้วน่าเห็นใจและสงสารเอเดนมากๆ

สู้ๆขอให้อาซาและเอเดนหายไวๆ

และเลิกแค้นต่อกัน

คนอ่านอยากเห็นฉากกุ๊กกิ๊กและฉากNC(5555)

ปล มาให้กำลังใจและกด+แล้วน้า...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 13-06-2015 01:12:29
เป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 13-06-2015 08:40:50
โยชิโหดดดดด  :fire: :fire: :fire:

รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: CielO ที่ 14-06-2015 23:22:39
ชอบประโยคสุดท้ายของเอเดนมากกกกกกก
ให้ความรุ้สึกว่าแคร์พี่ยอร์ชสุดๆ กัวเค้าจะเกลียดตัวเองเหมือนที่เคยได้ขู่เอาไว้ในตอนที่แล้ว ... หนทางของคู่นี้ดูจะอีกยาวไกล
แต่ชอบมากเรย ฮือออออออ

ตัดไปที่คู่หลัก คือน้องโยตอนโกรธนี่
น่ากัวม้ากกกกกกก พร้อมจะทำลายทุกอย่าง
แต่ดุๆแบบนี้ดีแล้วลูก จะได้ไม่มีใครมารังแก
อาซาหยุดหายใจไปแล้ว แต่ยังเชื่อว่า
พระเอกจะกลับมาหาโยชิจนได้ ลุ้นมากเลยค่ะ
ชอบเรื่องนี้มากๆ จะรอตอนต่อไปนะคะ  :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: love AJ ที่ 15-06-2015 00:00:39
แอบสะใจและสงสารเอเดนเบาๆ :hao5: :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: AutumnWind ที่ 15-06-2015 00:07:26
........(ไม่รู้จะพิมพ์อะไรดี)
คิดว่าอาซาน่าจะรอดล่ะ เพราะยังไงก็เป็นพระเอก ถูกไหม!?
เพราะงั้นก็ขอให้อาซาปลอดภัยในเร็ววัน
ส่วนเอเดน แอบสงสารเบาๆ ยิ่งประโยคสุดท้ายนะ จี๊ดเลย!
แต่ก็นั่นแหละ...ทำตัวเองทั้งนั้น ถ้ายอมหยุดตั้งแต่ที่ยอร์ชเตือนก็คงไม่ลงเอยเช่นนี้

ติดตามต่อไปค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 15-06-2015 02:49:17
โถถถถถ เอเดนประโยคสุดท้ายอ่ะ จะพูดกับตัวเองทำไม ไปพูดกับพี่ยอร์ชนู้นนนน :angry2:
งานนี้น้องโยบู้ได้ใจ เห็นทีต่อไปถ้าอาซารอดคงมีแววได้เกียมัว(กลัวเมีย)แล้วล่ะ ก็แหมมม น้องดุซะขนาดนี้ อย่างไปเผลอทำอะไรให้น้องฟิวขาดล่ะ อาซาก็อาซาเถอะ โดนน้อง :z6: แน่
 :pig4: คนเขียน และรอตอนต่อไป (ลุ้นๆอาซา ขอให้รอด)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: p9hmiew ที่ 15-06-2015 22:09:44
และแล้วโยชิของเราก็กลายร่างได้อย่างร้ายกาจ
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

ชอบที่ดำเนินเรื่องแบบเป็นเหตุเป็นผลดีค่ะ เชียรๆคนเขียน มาต่อไวไวน้าา  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SIX ❁ 11-06-2015 [P.54]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 18-06-2015 09:11:22
เอาหน่าเอเดน อย่าเสียใจไป
รีบหายแล้วไปง้อซะ
ส่วยอาซาแกอย่าเป็นไรนะ ต้องอยู่กับโยชิก่อนนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 18-06-2015 20:51:38
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY-SEVEN







        YOSHI

        ความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม มีมือนับสิบนับร้อยคอยจะคร่าชีวิตเราเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผมเหมือนจะตายเสียให้ได้ ไม่กล้าที่จะปิดตาหลับ กลัวปีศาจร้ายที่เรียกว่าความฝันจะพรากคนรักของผมไป

        ผมเริ่มกลัวการนอนหลับ กลัวการฝันถึงอะไรก็ตามที่อาจกลายเป็นเรื่องจริงในภายหลัง สุดท้ายก็ลืมตามองเพดานตลอดทั้งคืนจนเช้า อ่อนล้าจนแทบไม่มีแรงขยับขา มือที่กำลังเอื้อมหยิบเสื้อของอาซาสั่นไหว พอคว้าได้ผมก็เอามากอดแนบอกแน่น กลิ่นหอมเย็นอ่อนๆชวนให้คิดถึงคนเจ็บมากขึ้นไปอีก

        “โยชิ เก็บของเสร็จหรือยัง” พี่ยอร์ชยืนพิงกรอบประตูห้องพักในโรงแรม ในมือถือแก้วโกโก้ร้อน ควันลอยขึ้นเหนือแก้ว

        “ใกล้เสร็จแล้วครับพี่ยอร์ช” ผมปาดน้ำตาทิ้ง รีบเก็บข้าวของใส่ลงกระเป๋าแล้วเดินไปสมทบกับฟรินน์และจูเลียตที่ยืนรอหน้าประตู

         จบเรื่องเมื่อคืน อาซาและเอเดนถูกนำตัวไปรักษาที่ใดสักที่ คุณจอร์ชเป็นคนพาไปเพราะว่าอาการของอาซาน่าเป็นห่วง และโรงพยาบาลธรรมดาไม่สามารถรักษาอาซาให้หายได้ ต่อให้เป็นโรงพยาบาลสำหรับพวกมนุษย์กลายร่างก็ไม่สามารถรักษาได้ แผมไม่เข้าใจอะไรนัก แต่ดูจากท่าทางร้อนรนรีบพาอาซาและเอเดนไปหาคนเก่าคนแก่ของตระกูลที่มีฝีมือด้านการรักษาทำให้ทั้งใจหายและมีความหวัง

        เขาจะกลับมาหาผมไหมในเมื่อเขาไม่หายใจอีกต่อไป

        อเล็กซ์ที่คุณจอร์จส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลในตัวเมืองนิวยอร์ก เวสตันและปารีสอาสาไปเฝ้าไข้ โชคดีที่อเล็กซ์ไม่เป็นอะไรมากเขาได้สติตั้งแต่เช้า แต่ก็ต้องใช้เวลาพักฟื้นพอควรเพราะร่างกายอ่อนแอจากการถูกพวกเลโอดูดความทรงจำ

        “ฉันขอแวะไปที่ร้านดอกไม้สักหน่อยได้ไหม” ผมบอกกับคนอื่นๆเมื่อลงมาถึงรถยนต์คันหรู ที่ได้รับอนุญาตจากคุณยอร์ชให้เอามาใช้

        “อ่อ จะเอาไปตอนรับไอ้อาซากลับมาสินะ ได้ๆ ฉันกับจูเลียตจะรออยู่ที่รถ” ฟรินน์พยายามที่จะทำเสียงให้ร่าเริง แต่ใบหน้าของเขาอ่อนล้าและก็เศร้าสร้อย ดวงตาของเขาแดงกล่ำเพราะร้องไห้หนักทั้งคืน ความผูกพันที่อยู่ร่วมกับอาซามาพวกเขาจึงกลายเป็นครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียว ฟรินน์บอกกับผมว่าเขารักมากเพราะอาซาคือพี่ชายของเขา คือพี่น้องที่ร่วมสุขร่วมทุกข์ และเขาเสียใจที่ช่วยอาซาไว้ไม่ได้ แต่ผมรู้ว่าพวกเราทุกคนได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว

        “พี่จะไปเป็นเพื่อน” พี่ยอร์ชแตะที่หลังของผม เราก้าวเดินไปยังร้านขายดอกไม้ร้านเดิม ขาที่ก้าวเดินหนักอึ้ง ผมกลัวการเผชิญหน้ากับคุณยายเจ้าของร้าน สุดจะคาดเดาว่าคุณยายที่พูดเหมือนรู้เห็นเรื่องราวทั้งหมดนั่นเป็นพวกเอเดนหรือแค่คนสติไม่ดีอย่างที่เจ้าตัวว่า ดังนั้นแล้วผมไปที่ร้านนั้นอีกครั้งเพื่อผมเธอก็เพราะว่าต้องการรู้ความจริง

        “จะซื้อดอกไม้อะไรไปให้อาซาล่ะ” พี่ยอร์ชถาม

        “ผมมาพบเจ้าของร้าน” ผมมองจ้องตาพี่ยอร์ชที่เดินโอบไหลเคียงข้างผม  “วันที่พบนัดพี่ยอร์ชมาเจอที่นี่ คุณยายพูดแปลกๆกับผม พูดเหมือนว่าเคยเจอผมมาแล้ว ทั้งๆที่เราเพิ่งเจอกันครั้งแรก ซ้ำยังพูดว่าน่าเสียดายที่จะมีคนที่จากไปก่อน” พูดมาถึงตรงนี้เสียงผมก็สั่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกเผยความอ่อนแอ ถ้าหากว่าคนที่คุณยายพูดถึงจะเป็นอาซา ผมจะทำยังไรกับชีวิตที่เหลืออยู่

        ทั้งๆที่เราเพิ่งจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งแท้ๆ

        หรือว่าผมกับอาซาจะไม่มีวันได้อยู่ด้วยกันชั่วชีวิต

        “อย่าคิดมาก” พี่ยอร์ชลูบแขนลูบไหล่ปลอบผม

        “เขาบอกว่า...บอกว่าให้ใช้ความรักแก้ไขทุกสิ่ง แล้วทุกอย่างจะดีเอง แต่ผมไม่เข้าใจ เอเดนไม่รักอาซาด้วยซ้ำ และอาซาก็คงคิดเช่นเดียวกัน มันไม่ง่ายที่จะให้พี่น้องที่เกลียดกันมาเป็นร้อยเป็นพันปีญาติดีกันได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง” ผมเล่าเสียงพร่า พี่ยอร์ชนิ่งเงียบไป สีหน้าคิดไม่ตก

        ผมพูดต่อ “คุณยายบอกผมว่าเธอสติไม่ดี”

        “งั้นก็คงเป็นแบบนั้น” พี่ยอร์ชตอบแทรก ผมส่ายหน้า

        “ไม่ โยไม่คิดแบบนั้น คุณยายน่ะไม่ปกติ เธอไม่ใช่คนธรรมดา”

        “จะบอกว่าคุณยายเป็นงูเหมือนเรา เหมือนอาซากับเอเดนหรือไง” พี่ยอร์ชพูดติดขำ ก่อนที่แววตาจะหม่นแสง “คงมีพี่คนเดียวที่ปกติสุดในตอนนี้

        “ในโลกนี้ไม่ได้มีแค่นากินีเท่านั้น”

         พี่ยอร์ชทำหน้างง ผมรีบอธิบายเพิ่มเติม “ผมหมายถึง มนุษย์ที่กลายร่างเป็นงู เราเรียกว่านากินี นอกจากงูแล้วยังมีสัตว์อื่นด้วย เสือ หมาป่า และสิงโต”

        พี่ยอร์ชทำหน้าเหลือเชื่อ ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่ยอร์ชในขณะนี้ เพราะผมก็เคยเป็น เรื่องมนุษย์กลายร่างเป็นเรื่องเหนือจินตนาการของคนปกติที่จะหยั่งถึง

        “แล้วน้องกลายเป็นงูตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่ยอร์ชถาม ผมละสายตาจากพี่ยอร์ชมองร้านดอกไม้ที่อยู่เบื้องหน้า

        “เมื่อไม่นานนี้ ที่เหลือผมจะเล่าให้ฟังอีกที”

        “อืม”

        ป้ายหน้าร้านแขวนบอกเอาไว้ว่าร้านขายดอกไม้เปิดให้บริการ ความคิดก่อนหน้าที่จะมาถึงว่าคุณยายอาจปิดร้านหนีในกรณีที่เป็นพวกเอเดนถูกลบทิ้ง

        ผมเปิดประตูเข้าไปในร้าน ที่นี่ยังเหมือนเมื่อวานไม่มีอะไรแตกต่าง ดอกไม้ยังสดใสและส่งกลิ่นหอม กลิ่นเนยลอยมาจากด้านใน ผมเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อมองหาเจ้าของร้าน พี่ยอร์ชมือแตะที่กลีบดอกคาร์เนชั่นแผ่วเบาไล่หยดน้ำที่เกาะไหลลงสู่พื้น ผมได้ยินเสียงฮัมเพลงเบาๆจากด้านใน คุณยายคงอยู่ในนั้น

        “สวัสดีครับคุณยาย!” ผมตะโกนเสียงดังเพื่อเรียกหาคนที่ต้องการมาพบ เสียงฮัมเพลงหยุดและเงียบ ไม่นานนักร่างอ้วนท้วมของคุณยายในชุดที่ไม่ต่างจากเมื่อวานมากนักเพียงแต่วันนี้เป็นสีขาวดอกสีชมพูแลดูสดใสเดินออกมา เมื่อเห็นผม คุณยายยิ้มให้อย่างมีเมตตา

        “สวัสดีพ่อหนุ่มน้อย เราน่าจะมีเรื่องให้คุยกันเยอะแยะเลยจริงไหม”

        ผมกับพี่ยอร์ชมองหน้าพร้อมกัน ก่อนจะพยักหน้าตอบคุณยาย “ผมมีเรื่องอยากจะถาม”

        เธอยิ้ม “นั่งที่โต๊ะนั่นก่อนสิ ฉันเตรียมเอาไว้ อ่อ บัตเตอร์เค้กเสร็จพอดี ฉันจะเอามาเสิร์ฟพร้อมนมร้อนๆ ยังไม่ได้ทานอะไรมาไม่ใช่เหรอ นั่นรอก่อนนะ ฉันจะไปเอามาให้”

        “เอ่อ...” ผมไม่ทันได้เอ่ยห้าม คุณยายก็เดินหายเข้าไปข้างใน ผมมองพี่ยอร์ชที่ทำหน้าสงสัยพลางพยักหน้าว่านี่แหละที่ผมบอกว่าคุณยายน่ะไม่ปกติ ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวเล็ก มีเก้าอี้เตรียมไว้สามตัว เธอรู้ล่วงหน้าแล้วว่าผมกับพี่ยอร์ชจะมา

        “ทำไมคุณยายท่านถึงรู้” พี่ยอร์ชกระซิบถาม

        “นี่แหละ ผมกำลังคิดว่า บางทีคุณยายอาจมีความสามารถในการล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า” ผมกระซิบตอบ คอยมองว่าคุณยายออกมาหรือยัง

        “มาแล้วจ้ามาแล้ว”

        ผมกับพี่ยอร์ชหยุดกระซิบกระซาบทันที กลับไปนั่งหลังตรงพิงเก้าอี้ คุณยายแอนนาวางถาดที่มีบัตเตอร์เค้กร้อนๆหอมกรุ่นจานใหญ่ นมร้อนๆสามแก้วและจานใบเล็กกับส้อมตามจำนวนคน

        ผมช่วยคุณยายจัดโต๊ะอย่างมีน้ำใจ ร่างอวบของคนสูงวัยนั่งลงข้างๆผม ก่อนจะผายมือให้พวกเราลงมือทาน ผมยิ้มและยกแก้วนมร้อนขึ้นจิบเพื่อไม่ให้เสียมารยาท ความร้อนและรสชาตินุ่มๆของนมกับความหวานของน้ำผึ้งที่เติมเข้าไปชวนให้อยากอาหารจนท้องเริ่มร้องประท้วง

        “กินก่อนเถอะ เมื่อมีแรงเราค่อยมาคุยกันก็ยังไม่สายหรอกหนุ่มๆ” คุณยายแอนนาว่ามาแบบนั้น ผมกับพี่ยอร์ชก็ได้แต่จัดการกับอาหารมื้อเช้าตรงหน้าจนเกลี้ยงโต๊ะ

        “ขอบคุณสำหรับขนมและนมที่แสนอร่อยครับ” พี่ยอร์ชและผมยกมือไหว้ผู้ใหญ่เพื่อแสดงความขอบคุณจากใจจริง

        “ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย” รอยยิ้มใจดีไร้พิษสงใดๆให้กังวล “เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องดีกว่า โชคดีจริงๆที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี”

        “ผ่านไปได้ด้วยดีเหรอครับ?” ผมทวนคำย้ำว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิด มีอะไรที่ดีกัน ในเมื่ออาการของอาซาเป็นตายห่างกันแค่เส้นด้ายกั้น

        “ใจเย็นๆดาร์เรล” คุณยายเรียกชื่อเก่าก่อนของผมที่ผมบอกท่านเอาไว้ พี่ยอร์ชเลิกคิ้วมองอย่างสงสัยว่าทำไมผู้สูงวัยถึงได้เรียกชื่อผมด้วยชื่อนั้น และผมคงไม่สามารถอธิบายอะไรได้ในตอนนี้นอกจากการสอบถามบางอย่างจากคุณยายแอนนา

        “อาซา คนรักของผมบาดเจ็บหนัก ผมรู้ว่าคุณรู้ทุกเรื่อง เหมือนที่ผมรู้ คุณยายไม่ใช่คนที่สติไม่ดีอย่างที่บอก ผมรู้ว่าคุณน่าจะเป็นอะไรที่พิเศษเหมือนผมเพียงแต่ไม่รู้ว่าคุณเป็นอะไร ไม่ใช่นากินีกับไลแคนแน่นอน ความสามารถของคุณไม่เข้าข่าย อย่างน้อยผมก็ไม่สามารถพูดเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ และเพื่อนผมที่เป็นไลแคน เขาสะกดจิตผมได้แต่เขาไม่อาจรู้สิ่งที่กำลังจะเกิดเหมือนคุณยาย ได้โปรด บอกผมที่ ทุกอย่างที่คุณรู้ บอกทีว่าคุณไม่ใช่พวกเอเดน” ผมพูดอย่างร้อนรน พรั่งพรูคำพูดทั้งที่อยู่ในความคิดและไม่ทันคิดยาวเร็วจนฟังแทบไม่ทัน

        “ฮ่าๆๆ” เธอหัวเราะทั้งๆที่ไม่มีอะไรตลกสักนิด ผมหน้าเครียดจริงจังจนคุณยายยอมที่จะหยุดหัวเราะแล้วกระแอมไอ

        “ขอโทษที เธอน่ารักจนฉันเอ็นดู เอาล่ะ ฉันจะบอกความจริงก็ได้ ใช่แล้ว ฉันไม่ใช่คนธรรมดา แหละแน่นอน บางทีความสามารถของฉันก็อยากจะสำแดงเดชช่วยเหลือผู้อื่นทั้งที่มันผิดกฎเบื้องบนน่ะนะ แต่ถ้าอะไรที่เตือนก่อนเกิดการสูญเสียได้ฉันคิดว่าฉันควรทำ แต่เพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย ฉันจึงต้องทำเป็นว่าสติไม่ดี พวกเขาจะได้ไม่ใส่ใจมากนัก มนุษย์ทุกวันนี้โหดร้ายน่ะว่าไหม”

        “แล้วคุณยายเป็นอะไร” ผมถามใคร่รู้

        “ฉันไม่ใช่ไทกริส พวกนั้นมีพลังรักษา ซึ่งฉันไม่มี” คำตอบอ้อมโลกแต่ก็ทำให้รู้ว่าเป็นอะไร “พวกเราปกปิดตัวตนและจะไม่เอ่ยถึงการมีอยู่ถ้าไม่จำเป็น ไม่เหมือนพวกเธอๆ มันยากที่เธอจะรู้ว่าใครที่เป็น...เรา พลังของเราไม่ตายตัว ไม่เหมือนกันแม้แต่คนเดียว บางคนอาจทำอย่างพวกเธอที่เป็นนากินีได้”

        เรา..คงหมายถึงพวกเลโอ อย่างที่อาซาเคยบอก พวกเลโอเก็บเนื้อเก็บตัว หาตัวยาก และไม่ค่อยมีคนรู้พลังที่แน่ชัดของพวกเขา

        “และที่สำคัญ ฉันไม่รู้จักคนที่ชื่อเอเดน แต่ก็พอจะรู้ว่าเป็นเขาที่ทำให้เกิดเรื่อง จริงไหม”

        ผมพยักหน้า “เขาสู้กับคนรักของผม และคนรักของผมก็ได้รับบาดเจ็บ เขาไม่หายใจตอนที่ผมไปช่วย ผมกลัวว่าเขาจะเป็นอะไร แม้ว่าพ่อของเขาจะพาไปรักษากับหมอโบราณที่มีฝีมือเก่งกาจก็ตาม ผมไม่วางใจเลย ผมเลยอยากจะมาถามคุณยายว่าอาซาจะปลอดภัยไหม”

        มือเหี่ยวย่นลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน “ฉันต้องบอกไว้ก่อนว่าไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกที่ฉันจะล่วงรู้ ไม่อย่างนั้นในหัวของฉันก็คงจะมีแต่เรื่องของชาวบ้านเต็มไปหมดจริงไหม” คุณยายแอนนายิ้มล้อ “ก็บอกยากน่ะ แต่เอาเป็นว่าวางใจ ฉันรู้สึกได้ว่าทุกอย่างในวันนี้และอีกหลายๆวันข้างหน้าไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้น เขาจะปลอดภัยฉันมั่นใจ”

        ผมถอนหายใจ ทิ้งตัวลงกับเก้าอี้เพราะนั่งเกร็งตลอดการสนทนา ขอบคุณพระเจ้า ผมโล่งใจได้หน่อยหนึ่ง แต่ไม่ทั้งหมดเสียทีเดียวจนกว่าอาซาจะหายดีเป็นปกติแล้วมายืนอยู่ตรงหน้าผม บอกผมว่าเขาจะไม่ทิ้งกันไป

        “ฉันบอกแล้วว่าความรักจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น”

        ผมมองคุณยายอย่างไม่เข้าใจ แต่คุณยายหันไปมองพี่ยอร์ชอย่างพินิจพิจารณา จนพี่ยอร์ชรู้สึกประมาทจนผมสังเกตได้ ไม่ค่อยจะได้เห็นหรอกผู้ชายที่มั่นใจเต็มเปรี่ยมอย่างพี่ยอร์ชรู้สึกตื่นกับการถูกจ้องมอง

        “เรื่องของความรัก มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนที่สุดในโลก พลังของมันทำได้ทุกอย่างตั้งแต่เรื่องที่ดีที่สุดไปจนถึงเรื่องที่เลวร้ายที่สุด ถ้าเธอควบคุมมันได้ ฉันรับรองว่าจะมีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้น เขาน่ะโตแต่ตัว อายุปีที่อยู่บนโลกใบนี้อย่าไปพูดถึง จิตใจที่เปราะบางและถูกกดให้อยู่แต่ในอดีต หัวใจของเขาต่างหากที่เธอจะต้องช่วยเปิดมัน เปิดเพื่อรับสิ่งใหม่ๆ ถ้าไม่เกลียดกันจนเกินไปก็ถือเสียว่าทำบุญล่ะนะ”

        พี่ยอร์ชฟังอย่างตั้งใจ แม้จะงุนงงไม่น้อยแต่ก็พยักหน้ารับคำคุณยาย “ครับ”

        แต่ผมเนี่ยสิ ไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลยสักอย่าง

        “เอาล่ะ วันนี้ฉันพูดเยอะเกินไปแล้ว สวรรค์อาจลงโทษฉันได้ เอาเป็นว่าเราคงต้องจากกันเพียงเท่านี้น่ะหนุ่มๆ” คุณยายลุกขึ้น พวกผมลุกยืนตาม เธอเดินไปที่ถังใส่ดอกไม้ โอบยิปโซฟิลลาหมดถังห่อด้วยกระดาษน้ำตาลแล้วตรงมาหาผม

        “ฉันให้ไว้เป็นกำลังใจ อย่าหมดหวัง จงเชื่อมันในหัวใจของเขา”

        ผมรับช่อดอกยิปโซเอาไว้ในอ้อมกอด ผมอยากนำไปให้อาซา แต่คงเป็นไปไม่ได้ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาไปรักษาตัวอยู่ที่ไหน ทำได้อย่างเดียวคือรอ

        “แล้วเธอล่ะ อยากได้ดอกไม้อะไรไหม” คุณยายแอนนาถามพี่ยอร์ช แต่ตาก็มองดูดอกไม้แต่ละชนิดเหมือนกำลังจะเลือก

        “ไม่ดีกว่าครับ” พี่ยอร์ชตอบ แต่คุณยายแค่หันมายิ้ม

        “ดอกมัมดีไหม สำหรับเพื่อนที่ผูกพันกันทางใจ” คุณยายส่งดอกไม้ที่คุ้นหูคุ้นตาให้พี่ยอร์ช เพียงแต่เราไม่เคยรู้ว่าความหมายของมันคืออะไร

        พี่ยอร์ชลังเลแต่ก็รับดอกไม้มาถือไว้ “ขอบคุณครับ”

        “ขอให้โชคดีนะ” คุณยายเอ่ยเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่จะมีลูกค้าเข้ามาในร้าน ตัดจบการสนทนาระหว่างเรา ผมกับพี่ยอร์ชเดินออกมาจากร้าน เพิ่งนึกได้ว่าเราใช้เวลามาโขกับการพูดคุยกับคุณยายเจ้าของร้านดอกไม้

        มาถึงรถไม่มีใครบ่นทำนองว่าผมช้า ฟรินน์ขับรถพาเรากลับไปที่ปราสาท บนรถเงียบกริบราวป่าช้า ผมมองดอกไม้ในมือ ผมจะนำไปให้อาซา เขาจะได้มีกำลังใจต่อสู้กับความเจ็บปวด เขาจะต้องหายดี

        ลูกน้องของคุณจอร์จเดินทั่วบริเวณปราสาท มองยังไงผมก็ไม่ชอบที่นี่ การตกแต่งและรูปแบบปราสาทชวนขนลุกมากกว่าน่าอยู่ ชวนหดหู่ไม่สดใส

        “คุณโยชิครับ คุณจอร์จให้ผมมารายงานเรื่องคุณอาซาครับ”

        ผมหยุดเดินที่ตรงทางขึ้นบันได คนอื่นที่อยู่บนบันไดหยุดคาชะงักเท้า มองลูกน้องของคุณจอร์จดวงตาตื่นเต้นหวังจะได้ฟังข่าวดี

        “อาซาเป็นยังไงบ้าง หายดีแล้วใช่ไหม” ผมกระตือรือร้นถาม

        “ยังครับ คุณจอร์จให้ผมมาบอกว่า คุณอาซาอาการหนักมาก ตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย แต่ยังพอที่จะมีทางรอดอาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย เลยฝากมาบอกว่าคุณสามารถกลับประเทศของคุณก่อนได้ แล้วคุณจอร์จจะส่งข่าวให้อยู่ตลอดเวลา” ลูกน้องร่างใหญ่เอ่ยน้ำเสียงโทนเดียว ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

        “ฉันอยากไปพบอาซา” ผมอยากไปเห็นกับตาตัวเองว่าเขาเป็นอย่างไร

        “ต้องขอโทษด้วย ผมไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องนี้” เขาพูดเสียงขรึม

        ผมหน้าตึงอย่างไม่พอใจ “นายไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ แต่ฉันมี พาฉันไปหาอาซาเดี๋ยวนี้!” ผมแสดงอำนาจของตัวเองผ่านน้ำเสียงและสีหน้าให้รู้ว่าเขาไม่ควรขัดความต้องการของผม ผมไม่คิดอยากกดใครให้ต่ำเพียงเพราะตัวเองเหนือกว่า แต่บางทีมันก็จำเป็นต้องทำถ้าไม่มีทางเลือก

        เขาย่อตัวลง ก้มหน้าลงต่ำยอมจำนนต่อหน้าผม “ได้ครับ ผมจะพาคุณโยไป แต่ไปได้แค่คุณคนเดียวเท่านั้น”

        “ขอบใจ”

        ผมหันไปมองพี่ยอร์ชและทุกคน “ผมขอไปดูอาซานะ”

        “ไปเถอะ พี่จะรออยู่ที่นี่” พี่ยอร์ชแตะมือลงบนบ่าที่อ่อนล้าของผม ส่งมอบพลังใจให้ผมที่ใกล้หมดแรง

        “เอ่อ พี่ฝากดอกไม้ไปเยี่ยมเอเดนทีนะ” พี่ยอร์ชส่งช่อดอกมัมที่ได้มาจากคุณยายแอนนาให้ผม ผมรับมาถือไว้คู่กับดอกยิบโซฟิลล่าของอาซา

        “ได้ครับ”

        ผมนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปหาอาซากับผู้ชายคนเดียว ผมเพิ่งรู้ว่าเขาชื่อเดวิด เป็นลูกน้องคนสนิทของคุณจอร์จ มีอายุมากกว่าเอเดนเสียอีก

        เราใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงกว่าจะมาถึงกลางหุบเขาในป่าทึบ ดิบชื้นและหนาวเย็น สถานที่แบบนี้เนี่ยน่ะเหรอที่อาซารักษาอยู่ ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเหมาะสมกับการเป็นที่รักษาคนบาดเจ็บหนัก อากาศไม่ถ่ายเท ชื้นแฉะจนไม่น่าช่วยให้บาดแผลหายได้รวดเร็วมีแต่จะทำให้แผลอับเสียมากกว่า เสียน้ำตกดังแว่วมาตามสายลม ผมลงจากยานพาหนะเดินตามเดวิดไปตามทางเรื่อยๆ จนเห็นบ้านหลังใหญ่ดูหรูหราขัดกับที่ตั้ง ข้างๆตัวบ้านสไตล์โมเดิลยอดนิยมมีอาคารสีขาวชั้นเดียวขนาดใหญ่กินพื้นที่มากกว่าร้อยตารางวาเท่าที่กะทางสายตา เดวิดนำผมไปที่นั่น

        “คุณอาซากับคุณเอเดนรักษาตัวอยู่ในนี้ครับ” เดวิดบอก กดกริ่งหน้าประตูกระจกสีขุ่นรอให้คนข้างในออกมาเปิด สักพักประตูก็เปิดออกพร้อมกับชายแก่โผล่หน้าออกมาดู เขาทำหน้าสงสัยเล็กน้อยที่เจอผมแล้วเหสายตาตั้งคำถามกับอีกคน

        “คุณโยชิเป็นคนรักของคุณอาซาครับคุณหมอ เขาต้องการมาดูอาการของคุณอาซา”

        “ให้เขาเข้ามาได้คุณโทมัส เขาเป็นคนรักของลูกชายคนเล็กของผมเอง” เสียงของคุณจอร์จมาพร้อมกับตัวของเขาที่ยืนซ้อนหลังคุณหมอ

        คุณโทมัสหลีกทางให้ผมเดินเข้าไปข้างในก่อนจะถาม “อาซามีแฟนใหม่เหรอ”

        ผมหันหน้ากลับไปมอคุณหมอตาขุ่น คุณจอร์จยิ้มขำก่อนจะตอบ “คนเดิมนั่นแหละ ดาร์เรล เพียงแต่นี่เป็นร่างใหม่”

        “อ่อ ยินดีที่ได้เจอกับอีกครั้งน่ะเด็กน้อย มาๆ อาซาอยู่ทางนี้” ร่างเล็กไม่สูงของคุณหมอก้าวเท้ารวดเร็วแซงผมไปที่ห้องๆหนึ่ง ผมมองคุณจอร์จที่เดินอยู่ข้างๆ นึกขึ้นได้ว่าพี่ยอร์ชฝากของมาให้เอเดน ผมส่งต่อให้คุณจอร์จที่มองของในมือผมอย่างแปลกใจ

        “พี่ชายผมฝากมาให้เอเดน คุณเอาไปให้เขาที แต่ผมคงไม่เข้าไป ยังไม่ใช่ตอนนี้” ผมว่าผมทนเห็นหน้าเอเดนไม่ได้แน่ๆ ดีไม่ดีผมอาจจะโมโหแล้วเผลอลงมือทำร้ายเขาซ้ำสอง ความโกรธของผมไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อยจนกว่าจะรู้ว่าอาซาปลอดภัยหายห่วง

        “อาซาหลับอยู่ข้างในนี้” คุณโทมันยิ้มกว้าง เปิดประตูให้ผมก้าวเข้าไปข้างใน

        ห้องตรงหน้าเหมือนเป็นห้องพักคนไข้ ต่างกันที่มันออกแบบให้เหมือนกันถ้ำ ร่างยาวใหญ่สีดำสนิทขออาซานอนขดไม่ไหวติง ตามตัวเต็มไปด้วยผ้าพันแผลที่ปรากฏเลือดเป็นด่างดวง น้ำตาผมไหลโดยไม่ต้องสั่ง ผมเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ย่อตัวนั่งลงตรงส่วนหัวของเขา ดวงตาปิดสนิทหม่นแสง ผมกอดช่วงหัวของเขาเอาไว้ ซบหน้าแนบลงปล่อยให้หยดน้ำตาไหลรินลงบนเกล็ดสีดำเงา

        “ฮึก ไม่เป็นไรนะอาซา ไม่เป็นไรนะ นายจะต้องหาย” ผมสะอื้นพูดกับอาซา หวังในใจว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเพื่อบอกกับผมว่าทุกอย่างโอเค เขาไม่เป็นอะไร แต่ไม่มีอะไรเป็นไปดั่งหวัง อาซานิ่งสนิทไม่ไหวติง

        “เขาแค่ยังไม่รู้สึกตัว แต่หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง” คุณโทมัสบอก ผมเงยหน้าขึ้นจากหัวของอาซา

        “เขาจะหายใช่ไหมครับ”

        “หายสิ มีกำลังใจดีๆน่ารักๆรออยู่ขนาดนี้ ไม่หายได้ยังไง แต่อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย หัวใจของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส กว่าจะรักษาให้กลับมาเต้นได้อีกครั้งฉันแทบหมดแรงกลางคัน”

        “นานเท่าไหร่ครับ” ผมถาม ปาดน้ำตาทิ้ง อาซาคงไม่ชอบใจที่ผมร้องไห้

        “ไม่รู้สิ ฉันบอกไม่ได้หรอก” คุณโทมันส่ายหน้า

        ผมมองอาซา เปลี่ยนท่านั่งเป็นขัดสมาธิ คุณโทมัสปล่อยให้ผมอยู่กับอาซาตามลำพัง ผมยกหัวของเขาขึ้นหนุนตัก ลูบศีรษะของเขาเบามือก่อนจะก้มลงจูบปลอบให้เขาหายเจ็บ

        “หายไวๆนะ ฉันรออยู่ ฉัน...” ผมหยุดพูดเมื่อก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่คอ “ฉันน่ะ อยากให้นายกอดฉันแล้วบอกว่านายหายดีแล้ว เพราะฉะนั้น อย่าให้ฉันรอนานนะ”

        ผมนั่งดูอาซาหลายชั่วโมง ไม่ขยับ จ้องมองเขาไม่ละสายตาไปไหน ความทรมานของการรอคอยอย่างไร้ความหวังไร้ขอบเขตมันทรมานขนาดนี้เองเหรอ แล้วที่ผ่านมา อาซาที่เอาแต่จ้องมองผมอย่างไร้จุดหมาย ผ่านปีแล้วปีเล่าเป็นสิบปีร้อยปี เขาทำได้ยังไง เขาทนได้ยังไง เพราะแค่วันเดียวผมยังแทบทนไม่ได้



    “ตื่นมานะ ฉันจะชดเชยทุกความรักและเวลาทั้งชีวิตที่นายมอบให้ฉันด้วยความรักที่จะไม่มีวันแปลเปลี่ยนเป็นอื่นตลอดกาล เราจะอยู่ด้วยกันจนกว่านรกจะพรากเรา”


(http://i.telegraph.co.uk/multimedia/archive/01626/Gypsophila_1626016c.jpg)
ยิปโซฟิลล่า
(http://www.amulet.in.th/forums/images/2911.jpg)
ดอกมัม


        ......................
        จะลงตั้งแต่เมื่อคืน แต่ฝนตกหนักเน็ตต่อไม่ติด เลยมาลงวันนี้แทน
        ใกล้จะจบแว้วววว รู้สึกปลื้มปริ่มมาก กว่าจะแต่งมาขนาดนี้ได้ โอ้คุณพระ ฉันทุ่มเทมากจริงๆนะพี่ชาย
        มาๆเรามากอดอาซากอดน้องโยกันดีกว่า หายไว้ๆนะพี่งูดำจอมหื่น น้องงูขาวหน้าฟัดรอให้พี่ตื่นมากอดอยู่นะ อิอิ
        ริริเปิดเรื่องของคาร์เตอร์ไว้แล้วนะคะ แวะเข้าไปเจิมได้ จบเรื่องพี่งูเจอกันแน่
        DG.Series❁CATCH ME TIGER! เล่ห์ลวงพยัคฆ์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47389.0)
        ขอบคุณทุกการติดตาม เรารักคุณคนอ่าน


       






หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 18-06-2015 21:10:21
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: ><
ขอบคุณค่ะ ><  :L2: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: wi_OoO_wi ที่ 18-06-2015 21:22:03
 ใกล้จะจบเเล้วววว
คุณจอร์ดมีอะไรจะกล่าวมั๊ยค่ะ ในฐานะคนเปิดงาน  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 
เอเดนน่าสงสารไปอีกกกกกก จะมีโมเม้นพี่น้องเคลีร์ยปัญหาที่ไม่ได้ก่อกันมั๊ยคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-06-2015 21:26:34
หายไวๆนะ อาซา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 18-06-2015 21:32:36
อยากเห็นโยชิในร่างงูใหญ่อีกรอบจังเลย
เวลาทั้งสองคนอยู่ในร่างงู คงมีเสน่ห์มากแน่ๆ ><
เพราะงันอาซา นายต้องรีบฟื้นเร็วๆนะ ไม่งันเราจะยุให้โยชิหาคู่ใหม่ 55
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 18-06-2015 21:39:44
หลัง ๆ ทำไมเราสงสารเอเดนจังเลยอ่ะ เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่น่าสงสารน่ะ เพราะขาดความรักมาตลอดจมอยู่กับความแค้น อยากให้พี่ยอร์ชมาเป็นกำลังใจให้กับเอเดนน่ะ เพราะยังไงเอเดนก้อทำตามสัญญาน่ะ ส่วนโยชิดูและอาซาให้เต็มที่น่ะ
อยากให้มีโมเม้นท์เป็นงูกันทั้งคู่จังเลยน่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 18-06-2015 22:33:52
สู้เข้านะอาซา

อยากอ่ายยอร์ชกับเอเดน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 18-06-2015 22:39:46
คู่ยอร์ชจะเป็นไงต่อ...

อาซาหายไสๆ นะ

รออ่านนะคะ 

:mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 19-06-2015 03:34:03
อาซารีบฟื้นเร็วๆนะ  :hao5:
น้องโยรอให้กอดดดอยู่  หึ หึ :z1:
ส่วนพี่ยอร์ช คุณยายระบุมาชัดขนาดนี้ แถมความหมายของดอกไม้อีก "เพื่อนที่ผูกพันกันทางใจ" เอ๊ะ!ยังไงกันล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 19-06-2015 06:00:44
ความรักของพี่ยอร์ชจะช่วยโลกรึเปล่าน้ออออ
รอตอนต่อไป ริริสู้ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 19-06-2015 06:07:49
สู้ๆนะอาซา
โยชิและทุกคนรออยู่
ส่วนเอเดนก็สู้ๆเหมือนกันนะ
พี่ยอร์ชไม่น่าจะใจร้ายมาก
แต่คงต้องผ่านด่านโยชิให้ได้
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 19-06-2015 06:23:23
มันโดนตรงที่ คุณยายพูดกะพี่ยอร์ชอ่ะ และเอเดนก็หวังลึกๆให้ยอร์ชมาเยี่ยมอ่ะ หายเร็วๆนะ ทั้งสองคนเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 19-06-2015 06:30:19
จะไม่แต่งคู่ พี่ยอร์ช กับ เอเดนๆ เหรออออคะ   อิๆๆๆ  คู่หลักจบ ขอคู่รองมั่ง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 19-06-2015 06:44:29
อาซาหลายเร็วๆนะ
โยชิ กลายร่างเป็นงู แล้วนัวเนีย อาซาอาจจะฟื้นเร็วกว่าเดิมก็ได้นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 19-06-2015 11:21:47
โยชิรออยู่น้ารีบหายละอาซา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 19-06-2015 13:15:58
ว้าว รอลุ้นไปกับโยด้วย บรรยายซะเห็นภาพความทรมานที่อาซารอดาร์เรลเลยอ่ะ
ถ้าอย่างนี้ต้องให้โบนัสอาซาด้วยนะ สงสารจริงๆ
อย่าลืมคู่เอเดนกับยอร์ชนะฮะ ตอนนี้มาลุ้นคู่นี้แทน สงสารเอเดนอ่ะ
รอตอนต่อไปนะฮะ

*คำที่ถูก - แปรเปลี่ยน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: AutumnWind ที่ 19-06-2015 14:33:09
แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี
เอาใจช่วยทุกคนเลย

ติดตามต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: Glitterycandy ที่ 19-06-2015 15:28:45
ตื่นไวไวนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: mayyyy ที่ 19-06-2015 16:33:25
ผู้รู้ทุกคน...ช่วยด้วยค่าาาาาาา
คือเหมือนว่าอ่านแล้วในแต่ละตอน เหมือนจะยังไม่จบ แล้วมันตัดตอนออกไปดื้อๆเลย
ต้องทำยังไงคะ ถึงจะอ่านให้จบทั้งตอนได้  :sad4:

ช่วยคนอ่านตัวเลีกๆคนนี้ด้วยนะคะ
กราบบบบบ :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 19-06-2015 16:41:37
อาซาต้องหายเร็วๆนะโยชิรออยู่  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-06-2015 19:20:53
มาแล้วๆ

ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 19-06-2015 20:04:31
รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-06-2015 20:18:31
เบาใจไปอีกเปราะหนึ่ง

อาซาไม่เป็นไรมากแล้ว

รีบๆตื่นและหายไวๆนะ

โยชิรออยู่

เอเดนเป็นยังไงบ้าง

หวังว่าคงปลอดภัยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: bluebread ที่ 19-06-2015 20:40:27
เอดเดนจะเป็นไงหนอ  :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 20-06-2015 01:43:12
ตอนนี้ลุ้นเรื่องพี่ยอร์ชกับเอเดนมากกก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: rp.ppch ที่ 20-06-2015 03:17:54


 “ฉัน...ไม่ได้ทำร้ายน้องชายนายเลย ไม่เห็นหรือไง”


ฮือ น้ำตาซึมประโยคนี้อะไม่รู้ทำไม... :z3: :z3:
คนที่ดูเลวร้ายแบบเอเดน สุดท้ายแล้วไม่ว่ายังไงก็ยังมีหัวใจไว้ให้รู้สึกอะไรแบบนี้สินะ :hao5:
คนเคยมีปมมาก่อน สงสารเอเดนไงไม่รู้

ปล.อาซาเธอต้องรอดนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 20-06-2015 22:14:46
เอเดนทำตามสัญญากับยอร์ชนะ

เอเดนไม่ได้ทำร้ายอะไรโยชิ ไม่สู้

แอยสงสารตอนพูด 'ฉัน ไม่ได้ทำอะไรน้องนายไม่เห็นเหรอ' ป่ะ??

ขอให้หายทั้งคู่

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 18-06-2015 [P.56]
เริ่มหัวข้อโดย: puengmimsweety ที่ 21-06-2015 07:19:58
ร้องไห้เลย ตอนเอเดนพูดว่า ฉันไม่ได้ทำร้ายน้องชายนายสีชักนิด  ไม่เห็นหรอ ฮืออออ สงสาร  :o12:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-SEVEN ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 21-06-2015 23:06:59
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY-EIGHT






        YOSHI

        เวลาล่วงผ่านเข้าเดือนที่สองนับจากกลับมาจากอเมริกา ผมและทุกคนกลับมาที่นี่...แอชยู

        ยกเว้นเพียงอาซาแค่คนเดียวที่ยังต้องรักษาตัวอยู่ที่นั่น ตอนที่ผมจะกลับมาเมืองไทยเขายังไม่ฟื้นเลยด้วยซ้ำ ผมกลัวจับใจว่าจะสูญเสียหัวใจของตัวเอง ร้องไห้จนนับครั้งไม่ถ้วน สุดท้ายทำได้แค่เข้มแข็งและเชื่อมั่น

        “คืนนี้ฉันไปนอนด้วยอีกคืนนะ” ผมบอกกับเติร์ดในคาบเรียนช่วงบ่าย

        ผมนอนหลับคนเดียวไม่ได้อีกแล้วเมื่อไม่มีอาซาอยู่ใกล้ๆ ผมนอนฝันร้ายทุกคืน สะดุ้งตื่นกลางดึกในสภาพเหงื่อโทรมกาย หัวใจเต้นแรงแทบกระเด็นออกมานอกอก ลมหายใจติดขัดเหมือนคนจมน้ำ ฝันเหมือนเดิมซ้ำๆซากๆกับเหตุการณ์ที่ทำให้อาซาหมดลมหายใจไปต่อหน้าต่อตา ผมไม่สามารถสลัดมันออกจากห้วงความคิด แม้จะบอกตัวเองว่าทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว และอาซากำลังจะหายในไม่ช้า แต่ทุกค่ำคืนก็จะจบลงแบบเดิม สุดท้ายผมก็ต้องหอบข้าวของพาตัวเองไปนอนที่บ้านพักนากินีกับพวกฟรินน์หรือไม่ก็ไปนอนกับเติร์ด ซึ่งก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าอยู่คนเดียว

        วันแรกที่กลับมาถึงแอชยูแล้วเจอกับเติร์ดที่มานั่งรอผมหน้าหอ หมอนี่น้ำตาไหลแล้วเข้ามากอดผมแน่น และผมก็เพิ่งรู้ว่า เวสตันมาลาหยุดกับอาจารย์ในคณะให้เพื่อไปตามพี่ยอร์ชและสะสางปัญหากับเอเดน โดยใช้เหตุผลว่าผมนอนป่วยอยู่โรงพยาบาลเพราะเป็นไข้หวัดใหญ่ พร้อมใบแพทย์ที่ไปขอซื้อจากคาร์เตอร์ (คาร์เตอร์คงได้เงินจากการใช้บริการจากพวกผมไปมากโข) ผมว้าวุ่นใจเรื่องพี่ยอร์ชและเรื่องของอาซาจนลืมเรื่องเรียนไปเสียสนิท ไม่ได้คิดเลยว่าผมหยุดเรียนไปโดยไม่ได้ลาหรือบอกกล่าวใครไว้

        วันนั้นผมรู้สึกผิดจับใจที่ปล่อยให้เติร์ดเป็นห่วง เติร์ดกังวลมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เขาบอกว่าเสียนิกกี้ไปคนแล้วเขาไม่อยากเสียเพื่อนไปอีกคน ผมน้ำตาซึมเมื่อเขาระบายความรู้สึก เขารู้แค่ว่าผมป่วยเข้าโรงพยาบาล แต่เขาติดต่อผมไม่ได้ ไม่รู้ว่าอยู่โรงพยาบาลไหนอาการเป็นอย่างไร และพวกอาซาก็ไม่มีใครอยู่ให้เขาถามสักคน ผมก็ได้แต่บอกเติร์ดว่าผมหายดีแล้ว และเอ่ยขอโทษเขาเป็นสิบเป็นร้อยรอบที่ปล่อยให้เขาเป็นห่วง

        เติร์ดไม่ได้โกรธอะไรผมมากนัก เขาแค่ออกอาการงอนผมเล็กน้อย

        อีกคนหนึ่งที่ผมลืมไปช่วงยุ่งๆก็คือพ่อ ผมโทรไปด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ ว่าพ่อจะว่าอะไรผมไหมที่ผมหายไปไม่ติดต่อ และความจริงผมเองก็ไม่ได้รับสายจากพ่อสักสาย ทำให้ผมแปลกใจอยู่ไม่น้อย พ่อดูปกติมากเมื่อรับสายผม ถามไถ่ว่าผมซื้อโทรศัพท์ใหม่แล้วเหรอ มีข้อความส่งไปบอกพ่อว่าโทรศัพท์ของผมเสียเลยอาจติดต่อไม่ได้สักสามสี่วัน ผมงุงงงแต่ก็เออออไปตามน้ำ พี่ยอร์ชที่กลับไปที่ไร่แล้วทำเหมือนทุกอย่างเป็นปกติ แม้จะรู้ว่าผมเป็นอะไรและบอกกับพ่อว่าไม่ต้องเป็นห่วงผมเพราะพี่ยอร์ชแวะมาหาผมก่อนกลับบ้านแล้วพ่อเลยวางใจ ผมคุยกับพ่ออยู่นับชั่วโมงเพราะความคิดถึง โหยหาความอบอุ่นและกำลังใจจากพ่อจนรู้สึกว่าอยากจะร้องไห้จึงรีบขอวางสายก่อนที่จะแสดงความผิดปกติให้พ่อเห็น

        “ตามสบายเลย อย่าถามเหมือนว่าต้องเกรงใจอะไรขนาดนั้น มาอยู่ด้วยเลยก็ได้โยชิ บางทีอยู่คนเดียวก็เหงาวะ” เติร์ดหันมาตอบผม

        “ไม่เป็นไร แค่ช่วงนี้น่ะ” ตอนที่อาซาไม่อยู่ “แต่เดี๋ยวฉันตามไปทีหลังนะ พอดีต้องไปทำธุระก่อน”

        “ได้ๆ ฉันเองก็ต้องแวะไปซื้อของให้ปุยเมฆเหมือนกัน ยังไงก็เจอกันที่ห้อง”

        “อืม” เติร์ดให้กุญแจสำรองกับผมไว้ เขาให้อภิสิทธิ์ผมเข้าออกคอนโดได้ทุกเมื่อ ช่วงนี้ผมไปบ่อยจนยามและพนักงานทุกคนจำผมได้

        เลิกเรียนผมแยกกับเติร์ดที่หน้าคณะ หมุนกายเดินไปทางด้านหลังของมหาวิทยาลัย ตอนนี้ผมกลายเป็นส่วนหนึ่งของแอชยูเต็มตัว มหาวิทยาลัยนานาชาติชื่อดังติดหนึ่งในห้าอันดับของโลก มหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งเพื่อให้พวกมนุษย์กลางร่างร่ำเรียน แต่ก็ยังมีมนุษย์ธรรมดาปะปนเพราะทางสถาบันไม่อาจแบ่งแยกไม่อย่างนั้นก็จะถูกเพ่งเล็งและตั้งข้อสงสัย

        และเมื่อผมกลายร่างเป็นงูได้ เวสตันก็พาผมไปลงทะเบียนรายงานตัวการมีตัวตนของผมในฐานะนากินี เพื่อจะได้จำแนกความสามารถและทักษะต่างๆที่ต้องเรียนหลังเลิกเรียนคลาสปกติตามสายพันธุ์ พร้อมสวัสดิการอื่นๆ อาทิเช่น...เลือด

        สิ่งหนึ่งในร่างกายผมที่เปลี่ยนไปนั่นก็คือ ผมกระหายเลือดแทนความรู้สึกหิวอาหาร

        ปารีสอธิบายให้ผมฟังว่า มนุษย์กลายร่างที่เพิ่งกลายร่างได้ก็จะมีอาการเช่นนี้ บางคนถึงขนาดควบคุมตัวไม่อยู่ออกฆ่าคนเพื่อดื่มเลือดตามสัญชาติญาณ เป็นงานหนักที่พวกนากินีรับผิดชอบอยู่เบื้องหลังนอกจากทำตัวเป็นเหมือนครูฝ่ายปกครองที่คอยดูแลมนุษย์กลายร่างหน้าใหม่ๆทุกสายพันธุ์

        แต่ที่ผมเพิ่งเกิดอาการแทนที่จะเป็นตั้งแต่กลายร่างได้ก็เพราะว่าตอนนั้นสภาพจิตใจและร่างกายผมแปรปรวนจากความโกรธ ความกลัวและความเสียใจ ทำให้สภาวะของร่างกายทำงานผิดปกติ เมื่อทุกอย่างคงที่ ความต้องการเลือดก็เล่นงานผมเข้าโครมใหญ่

        เมื่อกลางวันที่กินข้าวกับเติร์ด ผมรู้สึกอยากดื่มเลือดมากจนสายตาเอาแต่จดจ้องอยู่ที่เส้นเลือดที่นูนขึ้นจากผิวหนังของเพื่อน สายตาของผมสามารถมองเห็นความร้อนในร่างกายและอาหารอันโอชะไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขาจนเติร์ดสงสัยว่าผมมองเขาทำไม กว่าจะกลั้นใจได้ก็แทบแย่

        ผมเร่งฝีเท้าจนกลายเป็นวิ่งกลับไปที่บ้านของอาซา วิ่งด้วยความเร็วแต่ไม่ทันใจต้องกลายเป็นงูแล้วเลื้อยไปที่ครัวให้เร็วที่สุด

        “วู้วววว กลับมาแล้วเหรอ รู้ได้เลยว่านายหิวมากโยชิ” ฟรินน์ที่นอนบนเก้าอี้เอนตรงเฉลียงหน้าบ้านเอ่ยแซวผม ผมกลับคืนสู่ร่างมนุษย์มองค้อนเขา

        “แหม ใครกันนะที่เกลียดงูยิ่งกว่าอะไรในโลก” ฟรินน์ยังล้อเลียนไม่เลิก ผมเดินเข้าไปใกล้เขาด้วยดวงตาดุๆ ฟรินน์ยกมือยอมแพ้หัวเราะท้องแข็ง

        “อย่ามาแซวฉันนะ อยากเจอดีเหรอไง” คนยิ่งหงุดหงิดเพราะหิวอยู่

        “อย่าไปแหย่โยชิน่าฟรินน์ ถ้านายยังไม่อยากเสียเลือด” ปารีสเดินออกมาพร้อมสิ่งที่ผมต้องการในมือ ผมไม่สนใจฟรินน์อีกต่อไป กระโจนเข้าหาปารีสคว้าแก้วที่บรรจุของเหลวสีแดงเข้มข้นหนืดขึ้นดื่มอึกใหญ่ไม่กี่อึกก็หมดเกลี้ยง

        “ใจเย็นๆ เดี๋ยวสำลัก” ปารีสพูดยิ้มๆอย่างอบอุ่นเหมือนแม่ เขาดูแลผมทุกอย่างเป็นอย่างดีเมื่อเรากลับมาถึงที่นี่โดยไร้เงาอาซา

        “เฮ้อ ฉัน...ฉันนึกว่าจะไม่รอดแล้ว ถ้าหิวมากกว่านี้ฉันอาจคว้าคอใครสักคนมากัดให้จมเขี้ยวได้” ผมบ่นเมื่อดื่มเลือดของสัตว์สักชนิดหมดแก้ว ไม่ค่อยเติมเต็มความยากเท่าไหร่ แต่ผมโอเคกับมัน เพราะผมไม่เคยดื่มเลือดมนุษย์

        จูเลียตว่า ถ้าผมได้ลอง ผมจะคลุ้มคลั่งและจะพยายามหาหนทางให้ได้ดื่มมันอีก เพราะมันหอมหวานยิ่งกว่าอะไรในโลก ฟังแล้วผมก็เกิดความกระหาย แต่ผมต้องข่มความต้องการลึกๆในใจให้ได้ แต่เวสตันบอกว่า เราจะได้รับสิทธ์ให้ดื่มเลือดมนุษย์ได้ปีละสองครั้ง และเลือดมนุษย์ก็ได้มาจากการบริจาค แต่เป็นเลือดที่ตรวจแล้วนำไปใช้การไม่ได้ ทางผู้บริหารแอชยูเลยติดต่อขอซื้อมาเพื่อพวกมนุษย์กลายร่างอย่างพวกเราในปกครอง

        “ฉันบอกให้พกไปกินด้วยก็ไม่เอา” ปารีสเคยนำให้ผมนำเลือดใส่กระบอกน้ำไปกินช่วงกลางวัน แต่ผมยังไม่กล้านำเลือดออกไปกินนอกบ้าน มันแปลก ถึงจะอยากมากจนเกือบใกล้คำว่าลงแดง แต่ผมก็ยังไม่ชิน

        “ไว้โอกาสหน้าแล้วกัน ฉันชินเมื่อไหร่จะลองพกเลือดไปดูดข้างนอกดู” ผมพูดขำขัน ปารีสและฟรินน์หัวเราะเสียงดัง กินอิ่มหายอยากผมก็อารมณ์ดี

        “แล้ว...มีใครได้ข่าวอาซาบ้างไหม คุณจอร์จได้ติดต่อใครมาบ้างเหรอเปล่า” ผมถามคำถามเดิมๆกับพวกเขา ปารีสถอนหายใจแล้วส่ายหน้า

        “ยังเลย ทั้งทางโทรศัพท์ อีเมล ข้อความ ไม่มีข่าวคราวอะไรสักอย่าง”

        หัวใจของผมฟีบแบนอย่างลูกโป่งถูกปล่อยลมล่วงลงสู่พื้น

        “ทางนู้นเป็นพื้นที่อับสัญญาณ เพื่อป้องกันการหาเจอของพวกมนุษย์ อาจจะทำให้ติดต่อเราไม่ได้ก็ได้” ฟรินน์ออกความเห็น

        “แต่ที่ปราสาทของอาซาก็มีสัญญาณปกตินี่นา ถ้าหากคิดจะติดต่อมาก็ย่อมทำได้” ผมแย้ง

        “บางทีคุณจอร์จอาจจะอยากแยกอาซากับฉันอีกครั้ง” ผมอดคิดในแง่ร้ายไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมคุณจอร์จถึงไม่ติดต่อมาบอกข่าวคราวอะไรผมเลย และไม่มีช่องทางไหนที่เราจะติดต่อเขาได้ ไม่มี

        “ไม่เอาน่าโยชิ อย่าคิดมากไปเลย อาซาต้องกลับมาหานายแน่ๆ ฉันมั่นใจ” ปารีสเข้ามากอดผม ผมพยักหน้าอยู่กับไหล่ของเธอ

        นายต้องกลับมาหาฉันนะอาซา ฉันรอนายอยู่



        ผมมาถึงคอนโดของเติร์ดเมื่อฟ้าครึ้ม เสียงพูดคุยและเสียงตะหลิวกระทบกับกระทะดังมาจากโซนครัว เติร์ดกลับมาถึงก่อนผมและกำลังลงมือทำมื้อเย็นตามกิจวัตรประจำวัน ผมคงต้องจำฝืนกินข้าวเย็นอีกแล้วสินะ ผมก็ไม่รู้จะบอกเขายังไงว่าผมไม่กินข้าวเย็น ผมกินเลือดมาจนอิ่มตื้อ พอบอกว่าไม่กินเขาก็ซักไซ้ถามว่าทำไม จะบอกว่าลดน้ำหนักก็ไม่ได้ ในเมื่อร่างผมบางจนแทบจะปลิวไปตามลม เติร์ดเลยคิดเอาเองว่าผมคิดถึงอาซาที่กลับไปเยี่ยมพ่อที่อเมริกาเลยทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ

        “เมี้ยววว~”

        หิวแล้วๆ

        “ใจเย็นๆ ใกล้เสร็จแล้ว วันนี้ไปเล่นที่ไหนมาละถึงได้หิวโซมาเชียว”

        “ม๊าวว เมี้ยววว” 

        หิวจังเลย กินหอมจัง~

        “เดี๋ยวนี้ซนเหรอ เป็นเด็กไม่ดีเหรอครับน้องปุย ถึงได้หนีเที่ยวทุกวันเลยน่ะ” เสียงดุๆของเติร์ดบ่นแมวเป็นหมีกินผึ้ง

        “เมี๊ยวๆๆ แหง้ววว!”

        อย่าบ่นได้ไหม ไม่ได้ออกไปเล่นซนเสียหน่อย

        “เหอะๆ” ผมเดินเข้าไปหาทั้งคู่ในคอ ผมฟังปุยเมฆรู้เรื่องแล้วนะ เราสื่อสารคุยกับบ่อยช่วงหลังๆมานี้ จนเติร์ดยังสงสัยเลยว่าทำไมดูเหมือนผมจะเข้าใจปุยเมฆและปุยเมฆดูจะเชื่อฟังผมมากกว่าเขา

        ผมรู้ว่าปุยเมฆหายไปไหนมาทุกวัน ผมได้ติดต่อให้อาจารย์ท่านหนึ่งในคณะให้ช่วยปุยเมฆในการกลายร่าง ท่านมีชื่อเสียงในการปลุกตัวตนที่หลับใหลไม่ว่าจะได้ตัวของมนุษย์หรือสัตว์ที่มีจิตวิญญาณของมนุษย์กลายร่างให้ฟื้นคืนเป็นปกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องถามความเห็นชอบจากเจ้าตัว แต่ไม่ว่าจะช้าจะเร็วก็ต้องเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา แต่บางคนเลือกที่จะยืดเวลาออกไปจนกว่าจะไร้ทางเลือก

        ผมรู้ความลับอีกอย่างของปุยเมฆที่ไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ ปุยเมฆแอบรักเติร์ด และเจ้าปุยเมฆน่ะเป็นเด็กผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง เจ้าตัวเล็กน่ะแอบชอบเติร์ดแต่ไม่กล้าเข้าหาเลยไปหานิกกี้แทนเพื่อที่บางครั้งจะได้อยู่ใกล้ๆเติร์ด ช่างเป็นแมวที่น่ารักนะว่าไหม

        “วันนี้ทำอะไร” ผมถามเติร์ด นั่งลงตรงเคาน์เตอร์บ้า เติร์ดหันมองผมแต่มือก็ง่วงกับการทำอาหาร

        “ทำข้าวผัดแกงเขียวหวานสำหรับเรา ส่วนเจ้านั่น วันนี้เป็นปลานึ่งกับผักต้ม”

        “ปุยเมฆ มานั่งรอตรงนี้มะ” ผมเรียกปุยเมฆที่เดินพันแข้งพันขาวๆของเติร์ดไม่หยุด ผมละกลัวเติร์ดพลาดก้าวขาไปเหยียบเข้า

        “เมี้ยว~” ปุยเมฆร้องยาวๆก่อนจะเดินมาหาผม กระโดดขึ้นมาบนเคาน์เตอร์อย่างง่ายดาย

        “ระวังตกนะน้องปุย” เติร์ดดุอีกแล้ว แต่มีเหรอปุยเมฆจะสนใจ เข้ามาคลอเคลียให้ผมลูบหัวลูบคาง

        เติร์ดกลับไปทำกับข้าวอย่างเดิม ผมลอบมองก่อนจะก้มหน้าลงกระซิบกับปุยเมฆไม่ให้เติร์ดได้ยิน

        “วันนี้เป็นไงบ้าง” ผมถาม ปุยเมฆต้องไปฝึกกลายร่างกับอาจารย์จอนห์นี่ทุกวัน ต้องฝึกทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะปุยเมฆไม่สามารถใช้วิธีหักดิบแบบผม แทนที่จะได้กลายร่างเป็นคน วิญญาณจะแตกสลายเสียก่อน

        ก็ดีจ้ะ แต่อาจารย์บอกว่าอีกนานกว่าจะกลายร่างได้ จิตต้องแข็งกว่านี้

        “สู้ๆนะ” ผมให้กำลังใจ ถ้าปุยเมฆกลายร่างได้ โอกาสที่ทั้งคูจะรักกันก็จะมีเปอร์เซ็นต์มากขึ้น ผมอยากให้เติร์ดมีความสุขสักที

        ครั้งก่อนที่ปุยเมฆช่วยผมและอาซาสืบเรื่องเอเดน ของตอบแทนที่อาซาให้ปุยเมฆก็คือน้ำยากลายร่าง แต่ปุยเมฆขลาดกลัวจึงไม่กล้าใช้

        ขอบคุณนะ น้องปุยจะพยายาม

        จบมื้อเย็นที่ผมแทบจะอ้วกออกมาเพราะต้องฝืนกินข้าวให้พร่องครึ่งจาน เติร์ดเอาแต่บ่นว่าผมกินน้อย ผมละอยากจะตะโกนใส่หน้าเขาเหลือเกินว่าช่วงนี้ผมไม่อยากอาหารของคน ผมอยากดื่มเลือด แต่จะไปทำอย่างนั้นได้ยังไงเล่า

        ผมเข้านอนแต่หัวค่ำ ผมอดหลับอดนอนหลายวันแต่ความเหนื่อยเพลียไม่เคยช่วยให้ผมข่มตานอนหลับได้ ผมนอนหลับตาคิดสะระตะไปเรื่อย เรื่องที่คิดก็มีแต่เรื่องเก่าๆที่ผมและอาซาอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันจนวันสุดท้ายก่อนจาก

        ซี่ๆๆ

        แกร๊กๆๆ

        ผมดึงสติกลับเข้าร่าง ตายังปิดแต่งูเงียฟังเสียงแปลกๆที่ดังขึ้นภายในห้องนอนอีกห้องที่เติร์ดสละให้ผมอาศัยนอน เสียงเงียบหายไปแล้ว ผมคงหูฝาด แต่ก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อมีเงาทาบทับบดบังใบหน้าของผม ผมลืมตาทันที กรอกตามองข้างเตียง เงาของผู้ชายยืนจ้องผมอยู่ข้างเตียง ผมคงนึกว่าเป็นผีเป็นวิญญาณ ถ้าหากว่ากลิ่นกายที่โชยมาพร้อมผมแอร์ไม่ใช่กลิ่นของคนที่คุ้นเคย

        “อา...อะ...” ผมพูดไม่ออก แค่จะเรียกชื่อคนที่บุกมายามวิกาลยังทำไม่ได้

        “อะไรกัน แค่สองเดือนนี่นายลืมชื่อฉันไปแล้วเหรอดาร์เรล” มีเพียงแสงจากดวงจันทร์เท่านั้นที่ส่องสว่างให้เห็นรอยยิ้มที่ผมเฝ้าคิดถึงทั้งวันทั้งคืน

        “ฮึก...” ผมสะอึก น้ำตารื้อและไหลลงทางหางตาอย่างรวดเร็ว

        “เอ้า ร้องไห้ซะงั้น” เสียงหัวเราะเบาๆแสดงความขบขัน

        “...” ผมยังคงเงียบ เม้มปากแน่นจนเจ็บ ดวงตาพร่าเลือนแต่ไม่กระพริบ กลัวว่าภาพอาซาจะหายไป

        “เซอร์ไพรส์ไหม”

        “...” ผมพยักหน้า ร่างกายขยับไม่ได้แม้แต่น้อย ผมนอนมองเขาน้ำตาไหลพราก เขากลับมาแล้ว กลับมาจริงๆใช่ไหม

        “ใช่นายจริงๆเหรอ” ผมถามราวละเมอ กลัวว่าจะเป็นภาพหลอนที่จิตผมสร้างขึ้นเองจากความคิดถึงที่เอ่อล้น

        “หึ คิดว่าฉันเป็นผีมาหลอกนายหรือไง” อาซานั่งลง น้ำหนักของเขาทำให้เตียงยวบตัว รู้ได้เลยว่าเป็นเขาจริงๆ ผมไม่ได้ฝันหรือจินตนาการไปเอง

        อาซาช้อนแผ่นหลังของผมให้ลุกขึ้นนั่งแล้วกอดผมไว้แน่น ผมกวาดมือกอดอาซาแนบตัวไม่ให้ร่างกายของเราทั้งสองเหลือช่องว่าง เมื่อแน่ใจว่าเป็นอาซาจริงๆ ผมจับต้องกอดเขาได้จริงๆไม่ใช่ภาพลวงหรอก ผมก็บ่อน้ำตาแตกร้องไห้กับอกอาซายกใหญ่ เผลอคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว

        “ไม่ร้องไห้สิ คนเก่งที่สู้กับเอเดนได้ขี้แยแบบนี้เหรอนี่”

        ผมทุบหลับอาซาด้วยแรงทั้งหมดที่มี เราร้องเจ็บแต่ผมไม่หยุดทุบหยุดตี อาซาไม่ได้ห้าม ปล่อยให้ผมทำร้ายร่างกายเขาตามอำเภอใจจนผมเหนื่อยและหยุดมือเสียเอง

        “กะ กลับมาได้ยังไง หายดีตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมปล่อยตัวอาซา เรานั่งใกล้กันมาก มือทั้งสองข้างกุมจับกันแน่น

        “นั่งเครื่องบินกลับมาสิ” เขาตอบ แต่ผมว่าคำตอบของเขามันช่างกวนประสาทสิ้นดีจนผมหน้างอ “ไม่เอาน่า อย่าโมโหสิ ฉันหายดีตั้งแต่สองอาทิตย์ที่แล้ว ทีแรกก็อยากจะกลับมาหานายทันที แต่หมอประจำตระกูลบอกให้ฉันพักฟื้นและตรวจสอบร่างกายจนกว่าจะแน่ใจ เมื่อเสร็จสิ้นก็รีบมาหายนายทันที” เขาเล่า มือเย็นเชียบของอาซาลูบมือผมเล่น บีบกระชับสลับผ่อนหนักเบา

        “ใจร้ายใจดำเลือดเย็นมาก” ผมต่อว่าตัวสั่น “หายดีแล้วทำไมไม่ติดต่อฉันกลับมาบ้าง รู้ไหวว่าเป็นห่วงแทบแย่ รู้ไหมว่าฉันรู้สึกแย่แค่ไหน”

        “ก็ฉันอยากรู้ว่านายจะรอฉันได้เหมือนฉันที่รอนายมาทั้งชีวิตหรือเปล่า รอทั้งๆที่ไร้ความหวัง” อาซาพึมพำ การหวนคิดถึงความหลังทำให้น้ำเสียงของเขาแหบห้าว

        “จะทดสอบฉันเหรอไง คิดจะแก้แค้นเหรอไง” ผมถามเสียงแข็งหน้าตึง เขายิ้มอ่อนๆ

        “โนวๆๆ อย่าคิดไปไกลสิ โอเค ฉันขอโทษ” เขายอมจำนนต่อความผิดที่อาจหาญดูถูกน้ำใจและความรักของผม

        “เหอะ! แต่เสียใจด้วยนะ ฉันชนะ” ผมพูดช้าๆชัดๆ

        ทีนี้อาซาหัวเราะร่วน ขยี้หัวผมจนผมฟูฟ่อง “ใช่ นายชนะ ขอบคุณน่ะที่รอฉัน”

        ผมเบ้หน้าใสก่อนจะอมยิ้มกับความคิดที่กำลังจะพูดออกไป “ไม่รอนายแล้วจะให้รอใคร ก็ฉันมีแต่นายคนเดียว นายยังรอฉันมาได้ตั้งนานนม แค่นี้ถ้าฉันรอไม่ได้ฉันก็ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่นายหรอก”

        ผมเก้อเขินกับประโยคเลี่ยนๆที่หลุดออกจากปาก

        “หึหึ พูดจาน่ารักจังเลยน้าเมียใครกัน”

        “ฉันจริงจังนะ” ผมบอกเขา อาซาโน้มหน้าเข้ามาใกล้ จูบที่แก้มของผม ใช้จมูกไล้เคลียอยู่ข้างแก้มและเลื่อนลงมาที่มุมปาก

        “ฉันรู้”

        “ฮึก” ผมสะอื้นเพราะความตื้นตันดีใจอีกครั้ง “ฉันคิดถึงนาย อาซา ได้ยินไหม ฉันคิดถึงนาย ฉันรักนาย”

        ผมโผเข้ากอดเขาอีกครั้ง แต่ไม่ได้ร้องไห้อีกแล้ว ผมซึมซับไอเย็นจากผิวกายและไออุ่นจากหัวใจของพ่ออสรพิษร้ายของผม โล่งเหมือนร่างไร้น้ำหนัก ไม่มีก้อนหินก้อนใหญ่ที่เคยถ่วงอยู่ในอกอีกแล้ว ผมเหมือนถูกปล่อยออกจากความทุกข์ทรมานของการรอคอย

        ความทุกข์สิ้นสุดลงแล้วเมื่อเขาอยู่ตรงหน้า

        “ฉันก็คิดถึงนายมาก ฉันกลับมากอดนายตามสัญญาแล้วนะดาร์เรล”

        ผมชอบเหลือเกินที่เขาเรียกผมด้วยชื่อนั้น

        “ต่อไปนี้เรียกฉันว่าดาร์เรลนะ” ผมเอ่ยขอ

        “ได้สิ” เขาก้มหน้าลงมา หยุดนิ่งในระยะห่างไม่ถึงสิบเซนติเมตร ตาของเขาจ้องริมฝีปากของผมเขม็ง ผมรู้เขาต้องการอะไร และผมจะตอบสนองความปรารถนาของเขาด้วยความต้องการของผมเช่นกัน

        ผมเป็นฝ่ายเคลื่อนใบหน้าเข้าหาเขาและเริ่มจูบก่อน แต่ก็ต้องยอมเป็นฝ่ายตามเมื่ออาซาโถมแรงดันผมลงนอนหงายบนเตียง ร่างสูงใหญ่ขยับขึ้นทาบทับ บดเบียดทุกส่วนเสียดสีร่างผมโดยเฉพาะริมฝีปากที่ร้อนดั่งไฟลามเลีย

        “ไม่เอา ไม่เอาที่นี่” ผมร้องห้ามเมื่ออาซาเริ่มจะทำมากกว่าจูบ นี่มันคอนโดของเติร์ดนะ จะมาทำเรื่องอย่างว่าที่นี่ได้ยังไง เราควรต้องเกรงใจเจ้าของห้อง

        “งั้นกลับห้องของเรากันนะ” อาซากระซิบเสียงพร่า เขากัดฟันข่มความต้องการ ผมลูบใบหน้าของเขาแผ่วเบาด้วยความสงสาร เขากำลังทรมานจากความต้องการที่อัดแน่นอยู่ในตัวของเขา ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้เช้าผมอาจจะถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพราะถูกอาซาใช้งานหนักเกินไป

        ผมกลืนน้ำลายลงคอเมื่อสามารถนึกถึงเหตุการณ์ร่วมรักที่ยาวนานที่สุดของเราเมื่อครั้งนานมาแล้ว

        “เรามารำลึกความหลังในความรักของฉันที่มีต่อนายอีกครั้งดีไหม” อาซาล่วงรู้ความคิดของผมและเขาหยิบมาขึ้นมาทำให้ผมเขินจนร้อนไปทั้งตัว

        “อยากให้ฉันตอบว่าดีหรือไม่ดีละ” ผมแกล้งทำใจกล้า ความกลัวผสมกับความตื่นเต้น

        เขาไม่ตอบแค่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วดึงตัวผมพากลับหอพักอย่างเงียบเชียบแต่รวดเร็ว




        …………………….
        ตัดฉับ 55555555 (โดนถีบ)  :z6:ไหน ใครรอหื่นแสดงตัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ  :z1:
        สำรองเลือดไว้ให้พร้อม ตอนหน้าจัดหนักจัดเต็ม  :oo1:
        พี่คนอ่านสงสัยและถามมาว่า โยชิมีความสามารถพิเศษจากอำนาจของหัวใจบาซิลิสก์เป็นปีกไว้ใช้ต่อสู้ แล้วความสามารถของอาซาคืออะไร ริริได้เขียนบอกไปแล้วไม่รู้ว่ามีใครอ่านเจอหรือเปล่า อาซามีความสามารถทุกอย่างที่บาซิลิสก์มีนะคะ ในขณะที่นากินีตัวอื่นทำได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น แต่เหตุผลที่ทำให้อาซาพ่ายแพ้ต่อเอเดนเราจะมีเฉลยภายหลัง
        คำถามที่สอง ที่ถามมาว่า เรื่องจะจบแล้ว จะไม่มีเรื่องของเอเดนกับพี่ยอร์ชเหรอ คำตอบคือมีนะคะ แต่จะเป็นตอนพิเศษ เรื่องนี้คือเรื่องของอาซาและโยชิเป็นหลัก ซึ่งนั่นก็ถึงเวลาอันเป็นสมควรที่จะจบแล้วตามพล็อต ส่วนเรื่องของเอเดนกับพี่ยอร์ช จะเป็นพาร์ทพิเศษของเรื่องนี้ รวมไปถึงคู่เติร์ดกับปุยเมฆเช่นกัน
        ดังนั้นแล้ว เรื่องนี้จะยังคงลงเรื่อยๆแม้ว่าพล็อตจะสมบูรณ์ตามที่วางไว้ แต่อาจจะลงไม่บ่อย เพราะริริจะได้แบ่งร่างไปแต่งพี่เสือคาร์เตอร์ด้วย ยังไงก็อยู่ด้วยกันต่อเนอะ
        ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะคะ เราปลื้มใจทุกครั้งที่ได้อ่านคอมเม้น ไหนๆ มากอดแน่นๆทีสิ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

       



หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: Glitterycandy ที่ 21-06-2015 23:28:39
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีดีมาให้อ่านนะฮะ

อ่านตอนนี้นี่อินนึกว่าตัวเองเป็นโยชิ พอจะได้ขึ้นสวรรค์ ตัดฉึบ! 555555555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 21-06-2015 23:35:05
อาซากลับมาแล้วววววววว  :hao7:

กลับมาก็  :hao6: จะเตรียมเลือดไว้หลายถุงเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 21-06-2015 23:46:31
น้องโยชิ!!!! อาซา!!!!  :m1: :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 21-06-2015 23:55:11
เราหื่น พูดเลย เพราะงันเอาตอนใหม่มาเลย นี้คือการปล้นนนนน (เอาปืนปลอมจี้)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: rp.ppch ที่ 22-06-2015 00:14:10
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดเ :jul1: :jul1: :jul1:
กลับมาแล้ว โห้ยยย น่ารัก :sad4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 22-06-2015 00:16:18
อ่านจบตอนนี้ รอตอนต่อไปนะจ๊ะ รอคำตอบของโยชิว่าจะดีหรือไม่ดี
แต่จะตอบแบบไหนก็โดนอยู่ดี 555
ขอบคุณนะคะ เป็นกำลังใจให้จ้า :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: janeyuya ที่ 22-06-2015 04:20:03
ในที่สุดอาซาก็กลับมาหาเมีย
ปล่อยให้ดาเรลคิดมากอยู่ตั้งนานนะพ่อ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 22-06-2015 05:15:12
 o18 ตอนหน้าต้องกลายร่างเป็นงูแล้ว กรุ้งกริ้งกันแน่ๆ  :o8:
เผ็ดร้อนนนนนนนนนนนนนนนนนน


รอเติร์ดกับปุยเมฆ ตอนพิเศษ คู่นี้น่ารักมากกกกกกกกกกก
จริงๆแล้วอยากอ่านเป็นเรื่องของ2คนนี้ด้วย
แต่คงไมมีโอกาสมั้ง

ส่วนคู่ยอร์ชกับเอเดน ไม่รู้ว่าตอนพิเศษจะออกมาในรูปแบบไหน
แต่ใจจริง เราไม่อยากให้คู่กันเลย ให้อภัยได้แต่เป็นเราคงรักไม่ลง
แคร์ยอร์ชคนเดียว แต่ทำร้ายคนรอบข้างแบบนี้ไม่ไหวนะ

สงสารเอเดนนะ แต่ที่ทำมันร้ายยมากมายจริงๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 22-06-2015 05:57:28
พ่องูหื่นกลับมาแล้ววววววววววว
ชอบปุยเมฆอะ น่าร๊ากกกกกกกกก
เตรียมถุงเลือดไว้ตอนหน้า พร้อม!!!
รอตอนต่อไป มาไวๆน้าาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 22-06-2015 06:53:35
ตัดชึ้บ!!!

กล้องแพนไปที่เอเดน+ยอร์ช

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 22-06-2015 07:49:14
อาซากลับมาแล้วววววว
กลับมาพร้อมความหื่นเต็มพิกัดเลยด้วย 5555555
น่วมแน่ๆโยชิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 22-06-2015 08:51:01
 :hao6: พี่งู กลับมาถึงก็หื่นเลยนะ
งานนี้น้องงูสู้ขาดใจ   :hao7:
ใครจะหื่นกว่าใคร รอดูตอนหน้ายุน้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 22-06-2015 09:26:20
ตัด ซะ ทึ้งหัวเลย อ๊ากกกกกส์ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 22-06-2015 12:29:30
ตัดฉับบบบบบบบบบบบบบบบบ.  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 22-06-2015 12:46:42
 :hao6: รีบวิ่งออกจากทู้ไปหาเลือดสำรองก่อน  :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 22-06-2015 13:37:42
เย้ ดีใจฮะที่จะได้อ่านคู่เอเดนกับพี่ยอร์ช หลังๆมานี้สงสารเอเดนยังไงก็ไม่รู้
ชอบคู่ของเติร์ดด้วยอ่ะ สงสารเติร์ดและปุยเมฆ รอเดาทางคู่นี้อยู่ว่าใครจะเป็นฝ่านไหน 555+
ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆให้อ่านนะคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 22-06-2015 14:35:20
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:ดีจังเลยตอนนี้น่ารักจังเลยน่ะ เตรียมพร้อมรับจัดเต็มแล้วจ้ะ  :impress3: เอาแบบภาคงูรัดด้วยน่ะจ้ะ อยากอ่าน  :hao6: รอด้วยใจจดจ่อ รอเฉลยน่า :hao3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 22-06-2015 16:17:59
ลุ้นให้อาซาหายเร็วๆๆ ดีใจมากเลยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 22-06-2015 17:29:45
แต่งคู่เสือเอางูไปแทรกบ้างก็ดีนะ....อิอิ...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 22-06-2015 18:32:16
กรี๊ดดดด ดีใจอ่ะ อาซากลับมาแล้ว

เป็นกำลังใจให้น้องปุยนะ สู้ๆจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-06-2015 18:53:47
มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

ทำไมฉันไม่เห็นนะ

มาตามอ่านจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-06-2015 19:38:47
อ่า..ดีใจแทนโยชิจังเลย

อาซากลับมาแล้ว

ตอนหน้่าบอกจัดหนักจัดเต็ม

คนอ่านคนนี้รออ่านอยู่นะจัดมาเลยแบบจัดหนักจัดเต็ม

ปล อยากอ่านคู่เอเดนกับพี่ยอร์ชมากๆเลย ริริ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: Pamphlet ที่ 23-06-2015 04:57:18
ตามอ่านมา2วันติดเลยค่ะกว่าจะตามอ่านได้ครบ
จะบอกว่าสนุกมากเลย อ่านแล้วอินจามไปด้วยทุกตอนเลย
ชอบคู่น้องโยกันอาซามาก แต่ก็แอบชอบคู่พี่ยอร์ชกับเอเดนมากเหมือนกันค่ะ แฮร่!
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 23-06-2015 06:47:35
เอเดนกับพี่ยอร์ช

อยากอ่านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 24-06-2015 08:43:20
ดีใจกับน้องโยชิจริงๆพี่อาซาปลอดภัยแล้วววว ต่อำปก็ หึหึ
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: p9hmiew ที่ 24-06-2015 12:10:18
น้องปุยขี้อ้อนจรุมอะ   :mew3::
สนุกทุกคู่ พูดเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: Chocobear ที่ 25-06-2015 14:16:09
ติดตามตอนต่อไปนะครับ ชอบแนวคนเขียนแต่งมาก ฉากบู๊ก็บบรยายออกมาได้สนุก
อ่านแล้วลุ้นดี มีช่วงหวานๆให้ฮิ้วกันด้วย ชอบทุกคู่เลย ถ้าจบคู่หลักไปรออ่านตอนพิเศษอยู่นะครับ
นี่อ่านคืนเดียวหมดม้วนเลย บ่ายโมงยันตีสาม ดีนะไม่เก็บกลับไปฝัน 55
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: p9hmiew ที่ 26-06-2015 00:18:33
(http://41.media.tumblr.com/958d6a775d5ed9322c82b5353c868ef0/tumblr_nammjdKR2w1s2j9azo1_500.jpg)
เห็นภาพนี้แล้วคิดถึงอาซากับโยชิเลยค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: Chocobear ที่ 27-06-2015 00:16:04
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: AutumnWind ที่ 27-06-2015 16:42:25
ในที่สุดอาซาก็กลับมาแล้วววว
ตอนหน้าสินะ... ต้องเตรียมเลือดไว้รอล่วงหน้า อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: BoJuNg ที่ 27-06-2015 19:41:23
ในที่สุดดดดดด 

 :heaven
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-EIGHT ❁ 21-06-2015 [P.57]
เริ่มหัวข้อโดย: bodun ที่ 27-06-2015 20:18:45
เช็คเช้าเช็คเย็นอ่ะ  ร อ  :เฮ้อ:                     
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 29-06-2015 21:16:06
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY-NINE






        YOSHI

        พรึบ!

        ไฟในห้องสว่างจ้าจากฝีมืออาซาทันทีที่เราเข้ามาพ้นประตูห้อง เขาเดินหน้าดันให้ผมเดินตรงไปที่เตียงโดยที่ตาของเขาจ้องประสานกัน ขาที่ก้าวถอยหลังจนกับขอบเตียง ผมหยุดแต่อาซาดันผมให้หงายลงไปกับเตียงแล้วหัวเราะเพราะผมหน้าเหวอตกใจ

        “อาซา!” ผมแยกเขี้ยวใส่เขา ผลักลงมาได้ ถึงจะไม่แรงก็เถอะ แต่มันควรงั้นเหรอไง มองหน้าเจ้าเล่ห์แล้วก็หมั่นไส้ เลยจะเอาคืนด้วยการยกเท้าถีบหน้าอกคนที่คลานขึ้นมาบนเตียง

        ผมยันเท้าเต็มแรงกระแทกกับอกแข็งๆดังปึก แต่ทำไมอาซาไม่สะเทือนเลยแม้แต่นิด ตัวเขายังอยู่ที่เดิม ผมจะดึงเท้ากลับแล้วยันโครมเขาอีกทีแต่ไม่ทันการ อาซาคว้าเท้าผมเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว

        หมับ!

        “อยากได้แบบรุนแรงหรือซาดิสม์ก็ไม่บอก” อาซาล้อผมกลั้วขำ “ฉันจะจัดให้นะ”

        “จะบ้าเหรอ!” ผมแหวเสียงดัง ยังไม่ทันได้ลุกหนีอาซาก็พุ่งมาทับผมทั้งตัวและใช้สองแขนกอดรัดผมแน่น

        “จุ๊บ อื้ม คิดถึงจังดาร์เรล”

        “อ่ะ อืม” จากเล่นๆกลายเป็นความรู้สึกอบอุ่นจนยากจะบรรยาย ผมหยุดดิ้น มือไม้ที่ทุบตีผลักดันอาซาหยุดโดยพลัน ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปโอบล้อมรอบต้นคอ สอดปลายนิ้วในกลุ่มผมดำสลวย แหงนหน้าขึ้นให้อาซาซุกใบหน้าที่ซอกคอได้อย่างสะดวก ขาทั้งสองข้างกางออกให้คนตัวโตแทรกลงมาอยู่ตรงกลาง

        “ดาร์เรล”

        การเรียกชื่อผมคงหมายถึงความพึงพอใจต่อปฏิกิริยาที่ผมแสดงเพื่อเขา

        ลมหายใจหอบแรงขึ้นทุกครั้งที่ริมฝีปากร้ายกาจของอาซาขบเม้มลงบนเรือนร่าง มือแสนซนปลดเปลื้องสิ่งกีดขวาง ผมไม่ได้ให้ความช่วยเหลือแต่ปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ

        “นี่ ใช้ปากให้หน่อยสิ”

        “ห๊ะ” เสียงแหบต่ำกระซิบข้างใบหูที่เริ่มจะแดงซ่านเพราะไม่ทันตั้งตัวกับสิ่งที่อาซาเอ่ย

        เขาเขี่ยนิ้วที่ริมฝีปากของผม ยกหน้าขึ้นมองด้วยแววตาขอร้องปนอ้อน ผมทำหน้าไม่ถูกแต่ก็ยอมพยักหน้าตกลง ร่างสูงพลิกกายลงนอนหงาย ผมเกาจมูกตัวเองแก้เขิน ใจเต้นแรงเป็นจังหวะกลอง ร่างกายสั่นเทาต่อสายตาร้อนแรงยามที่ผมขยับตัวลงไปตรงเบื้องล่าง

        ผมก้มมองความใหญ่โตตรงหน้า แอบลอบกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่ ถึงผมจะจำอดีตทั้งหมดได้ว่าเคยทำรักกับเขาแบบไหน ยาวนานเท่าไหร่ ที่ไหนบ้างที่เราเคยแสดงความรักต่อกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะเคยชินกับมันจนไร้ความขลาดอาย

        “เร็วสิ เอาแต่มองอยู่ได้ ฉันรู้ว่านายชอบแต่ถ้ามองอย่างเดียวมันไม่สุขเท่านายจัดการมันหรอกนะ” อาซาเร่งพร้อมพูดล้อได้ไม่อายปาก ผมเหลือบตาขึ้นมองค้นอาซางูหื่นก่อนจะคว้าจับลูกงูของเขาเต็มมือเต็มแรง

        “โอ๊ย! อย่ารุนแรงสิที่รัก”

        “หยุดพูดไปเลย” ผมบ่น ต่อจากนั้นอาซาก็ไม่มีเสียงเอาไว้ล้อผมต่อ เขาเอาแต่ครางเสียงต่ำตามจังหวะมือและปากผมที่กระทำต่อเขา ไม่ใช่ผมเพียงฝ่ายเดียวที่ทำให้อาซาสุขสม เขาโน้มตัวที่พิงหัวเตียงกอดแผ่นหลังผมเอาไว้ กระซิบชื่นชมที่ข้างหู ตามด้วยเอาอกเอาใจผมด้วยการเลื่อนมือลงไปกอบกุมสะโพกขาวที่ลอยเด่นจากท่านั่งคุกเข่าโน้มตัวต่ำ

        “อา...อาซา” ผมสะดุ้งเสียวจี๊ดขึ้นสมอง นิ้วมือของเขาหยอกล้อที่ปากทาง กดย้ำให้ขนลุกชันทั่วร่าง

        “ทำต่อสิ อย่าหยุด” เขาแนะ

        ผมพยายามตั้งสติที่ถูกกระชากออกไปโดยน้ำมือของวายร้าย ตั้งใจจดจ่อกับสิ่งตรงหน้า ขยับมือขึ้นลงสร้างความพร้อมก่อนที่จะครอบริมฝีปากกลืนกินเขาไว้ทั้งตัว ผมทำให้เราร้อน ผมเองก็ร้อนตามไปด้วย

        “หมุนมาทางนี้สิ” เสียงแหบพร่าบอก ผมขมวดคิ้วงงหยุดทุกการกระทำเงยหน้ามองอาซาเพื่อขอคำตอบ เขาหยัดตัวลุกขึ้น จับตัวผมหมุนให้ได้ท่าทางที่เขาต้องการ ผมขืนตัวเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเขาต้องการให้ผมอยู่ในท่าไหน แต่เขาก็ใช้แรงที่มีมากกว่าดึงดันจนสำเร็จ

        “ลงมือต่อได้”

        ดูเขาพูดสิ...ไม่อายปากหรือไงนะ

        “อ๊ะ!” ผมสะดุ้ง หนีบขาเอื้อมมือไปปิดก้นเอาไว้ อาซาร้องจิ๊ขัดใจ ปัดมือที่ปิดจุดน่าอายออก ผมจะหนีบขาก็ทำไม่ได้เพราะกางคร่อมช่วงอกของเขาอยู่

        “ไม่ต้องอายน่า เร็วเข้าสิ ฉันรอนายอยู่นะ” อาซาพูดคล้ายจะปลอบ ผมกำหนดลมหายใจเข้าเป็นจังหวะ เอาเถอะ แค่นี้เอง มีอะไรน่าอาย ใช่ว่าไม่เคยเสียเมื่อไหร่ เพื่อความสุขของอาซา มากกว่านี้ผมก็ให้ได้

        ผมลงมือจัดการกับงูน้อยที่ดื้อสู้มือ ใช้ปากกลืนกินมันอีกรอบ ด้านล่างก็ถูกอาซาคลอเคลียเหมือนที่ผมทำ แต่จะต่างกันตรงที่ว่า เขาสอดนิ้วยาวเข้ามาข้างในให้ผมรู้สึกมากกว่าเป็นเท่าตัว

        “อึก อ๊าส์” ผมบิดตัวเกร็งเพราะเสียววาบไปทั่วร่าง มือที่กุมของร้อนเอาไว้ขยับบ้างหยุดบ้างไม่มีสมาธิ ปากก็ร้องครางสลับปรบเปรออาซาน้อย สะดุดไปบ้างแต่เขาก็ไม่ได้ทักท้วง

        ผมทนไม่ไหวแตะเส้นชัยก่อนอาซา หยาดน้ำสีน้ำนมเปรอะเปื้อนเต็มหน้าอกแกร่ง ผมทิ้งตัวนอนทับอาซาไร้สภาพ เรี่ยวแรงถูกเขาดูดไปเสียหมด

        อาซาจับตัวผมให้นอนลง ลุกขึ้นมาคร่อมทับผมแทน เขาก้มใบหน้าหล่อที่น่าหลงใหลมาใกล้ จูบที่ผากฝากทิ้งรอยอบอุ่นก่อนจะเคลื่อนลงไปที่กลีบปากเพื่อเร่งเพลิงไฟที่แสนเร่าร้อน ขาทั้งสองข้างถูกอาซาดันให้อ้ากว้าง สัมผัสซาบซ่านแตะที่ช่องทางที่ปิดสนิทที่เขาเพิ่งจะใช้นิ้วมือเปิดทางให้พร้อมสำหรับตัวตนที่ใหญ่โต

        ความเป็นชายที่แข็งตัวพร้อมรบเริ่มสอดผ่านรอยแยกของช่องทางร่วมรักเพื่อมุ่งหาความสุขที่ปลายทาง ปลายจมูกและปากร้อนไล้หอมและจูบทั่วใบหน้า ลากเลื่อนไปยังซอกคอ ฝากรอยแดงเด่นตรีตราแสดงความเป็นเจ้าของ  ยอดอกถูกสะกิดพร้อมขย้ำปรากฏเป็นรอยมือจางๆ ผมเสียวซ่านทรมานบิดร่างกายเร้าๆอยู่ใต้ร่างสูง หายใจหอบแรง ร่างกายเหยียดเกร็งทุกครั้งที่อาซาเล่นกับจุดไวสัมผัส

        เขาขยับสะโพกเคลื่อนสิ่งนั้นเข้าในตัวผมรุนแรงถี่ยิบ ปากก็บดจูบเป็นนาน หนักหน่วงหยาบโลน ความกระหืนกระหายของเขากลืนกินผมไม่เว้นช่วงให้พักหายใจ ผมยกมือขึ้นดันแผงอกกว้างทักท้วงร้องหาอากาศ โชคยังดีที่เขาเห็นใจ ปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ ผมสูดอากาศเข้าปอดทั้งทางปากและจมูกเอาเป็นเอาตาย อาซาเมื่อหยุดจูบเขาก็เดินเครื่องโหมกายสอดใส่รุนแรงทำผมหัวสั่นหัวคลอน

        “อ๊า ดาร์เรล...” เสียงครางแหบต่ำของอาซาเร่งเปลวเพลิงในร่างกายของผมให้โหมกระพือ หัวสมองหมุนติ้วไม่นานผมก็ปลดปล่อยอย่างสุขสม บทรักอันเร่าร้อนไม่จบเพียงเท่านั้นในเมื่ออาซายังไม่ได้ปลดปล่อยความทรมานออกมาเลยสักครั้ง เขาจับตัวผมเปลี่ยนท่าและเริ่มบทรักรอบใหม่ที่ทำให้เนื้อกายและหัวใจผมสะท้านนับสิบนับร้อยเท่า

        ความสุขสมชวนให้ลุ่มหลงมัวเมาไม่ได้สติ ตัวตนของผมและอาซาที่กดกลั้นเอไว้ระเบิดแตกซ่านไปทั่วร่าง ลำตัวยาวเลื้อยรัดพันกัน เราไม่ได้กอดก่ายสอดใส่กันน่างมนุษย์แต่เป็นในร่างของอสรพิษ

        ...น่าแปลก...

        มันน่าแปลกเหลือเกิน

        ซี่ๆๆ!

        ‘อาซา...ฉัน....’

        ผมเรียกอาซาในภาษาพาเซลในร่างงู ทุกอย่างดูแปลก คุ้นเคยเกินไปทั้งๆที่ครั้งก่อนๆผมไม่เคยนอนกับเขาในร่างงูเช่นครั้งนี้ ผมแปลกใหม่ที่แสนจะคุ้นเคยสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผม และเมื่อตื่นเต้น เพียงแค่อาซาขยับกายเสียดสี คามเสียวซ่านก็วิ่งพล่านทั่วร่าง เลือดในกายพวยพุ่งเป็นน้ำร้อนเดือดร้อยองศา

        อึดอัดแต่วาบหวามยามที่เขาเคลื่อนอาซาน้อยทั้งสองอันเข้ามาในร่างของผม คุณคงไม่รู้และรู้ตั้งแต่ตอนนี้ซะว่าธรรมชาติของงูตัวผู้นั้นจะมีอวัยวะเพศสองอัน และเขาเอามันเข้ามาในตัวผมทั้งสองอัน และตอนนี้อาซาที่ไม่น้อยทั้งสองบดเบียดกับของผมอีกสองอันที่อยู่ภายในอย่างไม่สามารถเอาออกมาข้างนอกได้ ผมเสียวยิ่งกว่าทำกับเขาในร่างคนเสียงอีก เหมือนจะขาดใจเสียให้ได้

        ‘รู้สึกดีใช่ไหม เพราะฉันรู้สึกดีมาก ฉันคิดถึงยามที่เราทำกันแบบนี้ที่สุด’

        อาซาเผยความในใจ และผมเข้าใจลึกซึ้งถึงคำว่าคิดถึงที่แสนยาวนานของเขาผ่านเรือนร่างที่พันรัดกันเป็นปมยุ่งเหยิง แอบหวั่นใจว่าถ้าสงครามบนเตียงจบลงผมกับเขาจะออกจากกันได้ยังไงเพราะลำตัวเราพันกันอย่างไม่รู้ทิศรู้ทาง

        และกว่าอาซะจะหยุดรังแกผมก็ล่วงเข้าสู่เช้าวันใหม่ ไม่เข้าใจเลยว่าเขาไปเก็บกดมาจากไหน ในเมื่อครั้งล่าสุดก็ไม่ได้นานเป็นปีเป็นชาติ ถึงขนาดที่จะใส่ผมเอาๆไม่ให้ได้หยุดพัก

        “ถามจากใจจริงเลยนะ นายไม่เบื่อฉันบ้างเหรอ” ผมที่เพิ่งนอนหลับไปได้ไม่ถึงสองชั่วโมงงัวเงียตื่นเพราะถูกรบกวน

        อาซาทำหน้างง “เบื่อเรื่องอะไร” เขาถามโดยไม่มองตาแต่มองหน้าอกผมแทน เขาใช้นิ้วเล่นกับมันจนอารมณ์ใคร่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกรอบ

        “พอได้แล้วน่า เบื่อบ้างไหมเนี่ย” ผมเอ็ดแล้วพลิกตัวหนีหันหลังให้เขา แต่ไม่ได้ทำให้อาซาเกาะแกะผมน้อยลง

        “อ่อ” เขาลากเสียงยาว คงเข้าใจความหมายของคำว่า ‘เบื่อ’ ที่ผมถามเขา

        “ฉันไม่เคยเบื่อนาย ฉันกักเก็บความรักความคิดถึงมาจนตอนนี้ วันเวลาที่ผ่านไปทำให้ฉันโหยหาจนแทบขาดใจ นายคิดว่าแค่ฉันกอดนานไม่กี่ครั้งจะทำให้เบื่อได้เหรอ ไม่มีทาง” เขาชะโงกหน้าหาผมยิ้มกริ่มสีหน้ากวนประสาท

        “ก็เปล่า...แต่ฉันเหนื่อยมาก ให้ฉันนอนพักบ้างสิ”

        “ไม่เอาน่าดาร์เรล ฉันรู้ว่านายไหว” ฝ่ามือกร้านลูบที่แก้ม ขาก็สอดเกี่ยวกับเรียวขาของผม อีกมือดึงตัวผมขึ้นไปนอนทับบนตัวเขา ผมรู้ต่อได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น ร่างกายที่ไม่มีเสื้อผ้าหรือสิ่งอื่นใดปกปิดเสียดสีแนบชิดจนแทบเกิดประกายไฟ อาซาพร้อมรบอีกรอบแล้วล่ะ

        อาซาดูดดึงริมฝีปากบวมเจ่ออย่างย่ามใจ ถึงผมจะเหนื่อยเพลียจนยากที่จะขยับร่างกาย แต่พอโดนปลุกเร้าร่างกายก็ตอบสนองตามธรรมชาติ

        “ฉันไม่มีทางเบื่อนาย ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากนี้ ฉันน่ะอยากจูบนายตลอดเวลา” แล้วเขาก็สาธิตให้ดูว่าเขาโปรดปรานริมฝีปากของผมมากแค่ไหน

        “อื้อ อืม พอ...พอแล้ว รู้แล้ว” ปากผมเจ็บระบมและมันคงจะปริแตกจากความแสบที่รับรู้ได้

        “และตรงนี้ฉันมีแต่จะชอบมันขึ้นทุกวันๆ” เขาเลื่อนตัวลงต่ำ ใบหน้าเสมอแผ่นอกบางไร้กล้าม แลบลิ้นเลียเพื่อสนับสนุนคำพูดที่ว่าเขาชื่นชอบมากจริงๆ สัมผัสจากลิ้นสากร้อนทำให้ยอดอกแข็งขึ้นเป็นตุ่มไต ผมเผลอแอ่นอกส่งให้เขาถึงปาก

        ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ ผมต้องห้ามตัวเองและต้องห้ามเขาด้วย!

        “พอเลย ไม่เอาแล้ว” ผมขยับตัวลงจากร่างใหญ่ข้างใต้ แต่แขนยาวรัดเอวผมแน่น ขาของเขาก็เกี่ยวรัดขาของผมไว้ไม่ให้ขยับเคลื่อนหนี

        “วันนี้นายไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ” สายตาเจ้าชู้ของเขาไม่น่าไว้ใจสักนิด

        “รู้ได้ยังไง” ผมตีคิ้วยุ่ง

        “ฉันรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับนาย” เขายิ้มได้ใจ ผมเบะปากหมั่นไส้

        “งั้นนายก็ควรจะรู้ว่าตอนนี้ฉันเพลียมาก!”ผมลากเสียงยาวให้รู้ว่าผมไม่ไหวแล้วจริงๆ “ขอฉันพักก่อนไม่ได้เหรอไง”

        อาซาทำหน้างอ เขาละมือข้างหนึ่งที่ลูบก้นผมเล่นมากุมมือผมไว้ ผมก็คิดว่าเขาจะยอมเชื่อฟัง ที่ไหนได้ เขาเลื่อนมือลงไปจับตัวอันตรายกลางกายของเขา ผมจะปล่อยก็ไม่ได้เพราะเขาจับซ้อนกุมมือผมแน่น

        “ดูสิ มันแข็งอีกแล้วเนี่ย นายจะปล่อยให้มันทรมานหรือไง”

        ดูพูดเข้า เขาน่ะจะสบายแต่ผมจะทรมาน

        “อาซา” ผมอ้อน

        “ดาร์เรล~” เขาเลียนแบบตาม มันไม่ได้น่าดูเลยสักนิด แต่มันทำให้ผมใจอ่อนยวบเกินครึ่ง “ทำเถอะนะ ฉันไม่ไหวแล้ว”

        ไม่ต้องพูดก็รู้ เต้นๆตุบๆสู้มือยังกับม้าพยศขนาดนี้

        ผมหลุบตาต่ำถอนหายใจ “ก็ได้ อีกแค่รอบเดียวนะ”

        สุดท้ายผมก็ต้องยอม

        “จุ๊บ~ หึหึ ความจริงนายเองก็อยากใช่ไหมละ”

        “นี่!” ผมถลึงตาใส่คนปากดี

        “ฮ่าๆๆ ไม่ล้อๆ ขอโทษครับ” เขาหยุดยิ้มแล้วทำหน้าหื่นจริงจัง ตาหวานเชื่อมสบตายามที่เขาใช้นิ้วมือกรีดลงที่ร่อง หยุดที่ทางเช้าที่เพียงแค่แตะโดนผมก็สะดุ้งเพราะเจ็บปนเสียว

        “อย่าจ้องสิ” ผมทนมองตาเขาโดนที่มือเขากลั่นแกล้งผมไม่ได้ หันหน้าหนี อาซาหัวเราะในคอ ลงน้ำหนักมือมากขึ้น

        “ก็เมียน่ารักน่ามอง” คำพูดคำจาหวานเลี่ยนไม่ได้เขากับหน้าตาแสนเย็นชาของเขาเลยสักนิด

        “อื้อ...” ผมเกร็งเมื่อนิ้วอาซาชำแรกเข้ามาในร่าง

        “อย่าเกร็งที่รัก ปล่อยตัวตามสบาย” เขาพูดก่อนจะประกบจูบปากที่เผยอหายใจ จำนวนนิ้วถูกเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ขยับเข้าออกช้าเกินไม่ทันใจ ผมที่เริ่มจะหลงระเริงไปกับความหฤหรรษ์ที่ถูกปลุกปั่นขยับสะโพกเข้าหานิ้วแข็งด้วยตัวเอง

        “ชอบเหรอ” เขาถอนจูบเพื่อถาม ผมหน้าร้อนไม่ตอบ ซบหน้ากับบ่า กัดเนื้อแน่นเอาคืนที่เขาแกล้งผม แต่ต่อจากนั้นผมโดนเขาเอาคืนแบบไม่ไดพักหายใจ

        ผมจะไม่มีทางเชื่อคำว่ารอบเดียวของอาซาอีกต่อไป เพราะรอบเดียวของเขายาวนานไปร่วมสามชั่วโมง!

        โชคยังดีที่อาซาไม่ทำเมื่ออดีต แต่เชื่อเถอะว่าถ้าชีวิตผมว่างไม่ต้องเรียนหรือทำอะไร เขาคงจะกกกอดผมเป็นอาทิตย์เป็นเดือนเหมือนที่เขาเคยทำมาแล้ว แต่เพราะว่าปัจจุบันนี้ผมมีภาระหน้าที่นอกเหนือจากการนั่งๆนอนๆทำกับข้าวและเที่ยวเล่นไปวันๆเมื่อครานั้น ผมถึงได้มีข้ออ้างในการอ้างกับเขา


        “อาซา ถามอะไรอย่างสิ” ผมถามเขาระหว่างที่กำลังจะเดินกลับหอพัก เขาย้ายมาอยู่กับผมที่หอพักนักศึกษาแทนบ้านพักของพวกเขาที่หลังแอชยู แต่ก็มีบ้างที่กลับไปนอนที่นั่น

        วันนี้เขาใจดีเข้าไปนั่งเฝ้าผมในห้องเรียนด้วย...อยากจะบอกว่าผมประชด

        “ถามมาสิ” เขาโอบรอบไหล่ผมดึงเขาหาตัวเมื่อคนที่เดินสวนมาใกล้เกือบจะชนกัน

        “เรื่องเอเดน ทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหม” ผมยังคงโกรธและเกลียดเอเดนอยู่มาก และคิดว่าคงอยากที่จะให้อภัยถ้าหากเขายังไม่สำนึกผิด ลองคิดดูว่าถ้าผมไปช่วยอาซาถ้าแม้แต่วินาทีเดียว เขาคงไม่มีชีวิตรอดมาเดินเคียงข้างผมแบบตอนนี้ ผมคงจะสูญเสียเขาไปตลอดกาล

        “อืม น่าจะ”

        “ทำไม มีอะไรอย่างนั้นเหรอ”

        “ก็เปล่าหรอก” อาซาส่ายหน้า “ฉันบอกกับพ่อและเอเดนไปแล้วว่าฉันขอออกจากตระกูลและจะไม่ขอเป็นส่วนหนึ่งอีก ไม่ขอเป็นใหญ่อะไรทั้งนั้น ฉันพอใจที่จะมีแค่ชีวิตและได้อยู่กับนาย”

        เขาจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผม ที่สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาต้องการมีเพียงผมคนเดียวเท่านั้น

        “แล้วเอเดนว่ายังไงบ้าง” ผมถาม

        “ฉันก็เคลียร์กับเขา ไม่อยากให้ปัญหามันคาราคาซัง ฉันบอกกับเขาแล้วว่าฉันไม่มีอะไรจะให้ และไม่มีอะไรที่เขาอยากจะได้จากฉัน เพราะทุกสิ่งที่เป็นของเขาก็ยังเป็นของเขา ตำแหน่ง อำนาจในตระกูล ฉันไม่เคยอยากได้ แต่ฉันคิดผิด สิ่งที่เอเดนต้องการน่ะ ไม่ใช่ของพวกนั้นเหรอ”

        ผมรอฟังอย่างตั้งใจ อาซาหยุดเดินหันมาหาผมทั้งตัว

        “สิ่งที่เขาต้องการคือคนที่รักแหละเห็นความสำคัญของเขาจริงๆ ฉันมองเห็นทุกความเจ็บปวดจากแววตาของเขา”

        “นายให้อภัยเขาเหรอ” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ ทั้งๆที่เอเดนทำกับเขาขนาดนั้นเนี่ยนะ ผมไม่คิดว่าอาซาจะใจดีดั่งเทพบุตร

        “ก็ไม่เชิง แต่ความจริงฉันก็ไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรเขา เราทั้งคู่อาจเหมือนกัน คนที่เราโกรธและเกลียดคือพ่อ ต่างกันตรงที่ว่า ฉันได้รับความรักความสนใจจากพ่ออย่างที่ไม่ต้องร้องขอ แต่เอเดน...คนที่ต้องการความเอาใจใส่แต่กลับไม่ได้อย่างที่หวัง ย่อมผิดหวังเป็นธรรมดา”

        ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่ผมก็ยังโกรธเขาอยู่ดี

        “เขาสัญญาแล้วว่าจะไม่ยุ่งกับฉันอีก จากนั้นเขาก็หายตัวไป ติดตามหาไม่ได้ ไม่รู้ไปไหน” อาซากุมมือผมออกเดินอีกครั้งจนมาถึงหน้าหอพัก

        “แล้วนายแน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะหยุดแล้วจริงๆ” ผมยังไม่วางใจเลยว่าเอเดนจะสำนึกผิด

        “ก็ถ้าเขาผูกใจเจ็บ เขาจะเหมือนนายในตอนนี้ไง ฉันไมได้ใจดีหรอก แต่เอเดนไม่สำคัญพอให้ฉันเก็บมาใส่ใจ” อาซาขยี้หัวผมจนยุ่ง ผมเบ้ปากไม่ชอบใจเลยแม้แต่นิด

        “บาดแผลทางจิตใจ คงต้องรักษากันยาว ความจริงฉันก็เริ่มสงสารเอเดนนะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ เขาสร้างปัญหาให้ตัวเองเอง ก็ต้องจัดการเอาเอง”

        “แต่ฉันยังยืนยันว่าฉันเกลียดเขา ทำตัวเป็นเด็กมีปมมีปัญหา เฮอะ” ผมพ่นลมหายใจแรงๆ “นายไม่รู้หรอกว่ามันทรมานแค่ไหนตอนที่นายบาดเจ็บไม่ได้สติ” ผมเสียงสั่นเล็กน้อย

        “ตอนที่นายยังไม่กลับมา ฉันมีเพียงแค่ความทรงจำเท่านั้นที่ช่วยให้มีกำลังใจ ความทรงจำร่วมกับนายเหมือนเป็นตัวแทนนายที่มาอยู่ใกล้ๆ ทุกๆความเงียบ ฉันหลับตาและจินตนาการเสมอว่านายอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆฉัน”

        เขายิ้มเศร้า “ขอโทษที่มาหาช้า”

        “ไม่เป็นไร ขอแค่นายมา นานกว่านี้ก็รอได้”

        “แต่เป็นฉันเองเนี่ยแหละที่ทนรอไม่ได้ ห่างนายแค่นิดเดียวก็คิดถึงจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” ริมฝีปากเย็นกระซิบข้างแก้ม กดจูบเน้นๆเมื่อลิฟต์ปิดสนิท ดวงตาที่พร่างพราวทำให้ผมตาพร่าเลือน

        อาซาเป็นแบบนี้เสมอ เขาดึงผมตกลงไปใบหลุมพรางที่เขาขุด ด้วยแววตาที่ชวนใจสั่นไหว ด้วยรอยยิ้มมุมปากที่แย้มขึ้นเพียงน้อยนิดแต่ตราตรึง

        เขาทำให้ผมตกหลงรักเขาเป็นรอบที่ร้อยที่พัน เป็นไปไม่ได้แล้วที่จะถอนตัว




       
        .............................................
        เหอะๆๆ ไม่รู้ว่าเอ็นซีจะพอใจนักอ่านหรือเปล่า แต่พยายามสุดความสามารถละ นิยายแต่ละเรื่องที่แต่งเอ็นซีน้อยแสนน้อย ก็เพราะแต่งไม่เก่งเลยไม่ค่อยจะแต่ง 55555555
        ตอนหน้ามาฟังความในใจของพี่ยอร์ชกันบ้าง และจะบอกว่า ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้วนะ
        ผมนี่ใจหายวาบเลยครัช!
        หยุดๆ หยุดโวยวายเดี๋ยวนี้ ถึงจะเป็นตอนจบ แต่อย่างที่บอกว่ามีตอนพิเศษรออยู่ เพราะฉะนั้นยังได้เจอะได้เจอกันอีกสักพักนะ คริๆ  :katai2-1:
        อ่านแล้วเม้นให้เค้าด้วยนะ กระพริบตาอ้อนปริบๆ o15
        ด้วยรักและคิดถึง :กอด1:


       







หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 29-06-2015 21:34:10
อื้อหืออาซา
อึดไปมั้ยลูกกกกกก
สงสารโยชิเลย 5555555
รอลุ้นตอนหน้า
พี่ยอร์ชจะใจอ่อนกะเอเดนมั้ยเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 29-06-2015 21:39:36
เย้วววว   ฟินเวอร์ อาซาจอมหื่น   โยชิก็หื่นนะ 555

รอตอนพี่ยอร์ชชชจ้ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 29-06-2015 21:53:22
 :haun4: อึดเกินไปแล้วนะ อาซา 5555555555555555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 29-06-2015 21:56:43
มาแล้วๆ

ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 29-06-2015 22:13:08
อ่านไปฟินไป ไม่อยากให้จบเลยยย
เอเดนไปง้อยอร์ชแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: hikky ที่ 29-06-2015 22:16:39
รอตอนของพี่ยอร์ชค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 29-06-2015 22:30:17
เลือดกระชูดอ่ะ พูดเลย ประเด็นที่รอคือ

พี่ยอร์ชกะเอเดนจ้า คงรู้ใจตัวเองแล้วใช่ป่าว

คิดถึงอ่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-06-2015 22:31:36
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 29-06-2015 22:35:17
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 29-06-2015 22:38:46
ดีที่สำรองเลือดไว้เยอะ :hao7:
ก่อนอ่านเรื่องนี้ถึงขั้นไปหาอ่านเลยนะว่างูผสมพันธุ์กันยังไง จริงจังมากกกกกกกก :laugh:
ตอนหน้าของพี่ยอร์ช กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด :z3:
มาตามง้อพี่ชายชั้น(?)เดี๋ยวนี้นะยะเอเดน!!!!!
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 29-06-2015 22:43:33
รออ่านพี่ยอร์ชชช  :-[

 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: bookie ที่ 29-06-2015 22:55:37
เอเดนนางแอบไปหาพี่ยอร์ชรึเปล่า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 29-06-2015 23:11:19
อาซา อดอยากมานาน เล่นสะอ่วม
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: mcooky ที่ 29-06-2015 23:13:46
อยากรุ้คู่ของเอเดนจังเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 30-06-2015 00:04:24
 :m25: แถมท้ายแบบเต็มๆ อึดกันจริง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 30-06-2015 00:08:49
กลับมาก็จัดไม่ยั้งเลยนะอาซา
อึด ถึก เกืนไปแล้ว เลือดเราไหลหมดตัวแล้วเนี่ย  :impress2:  :-[

ปล.อยากอ่านคู่เอเดนจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 30-06-2015 00:23:52
อาซา น่าจะเป็นม้า มากกว่างูนะคะ  เพราะ ฮี คึกเหลือเกิน

รอต่อตอนค่ะ สงสาร เอเดน เบาๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Chocobear ที่ 30-06-2015 01:12:44
ขอฉากพี่ยอร์ชกับเอเดนด้วยครับ.....
ไหนๆ คนน้องก็ทำแต้มแซงขนาดนี้แล้ว  พี่เอเดนอย่ายอมแพ้นะ
ศึกแห่งลูกผู้ชายพี่ต้องสู้!!
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 30-06-2015 01:16:53
 :jul1: :jul1: :jul1: ฟินส์มากๆคร่าาาาา เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: miaoxian ที่ 30-06-2015 01:22:52
ในส่วนของเอ็นซีนั้น ...  :jul1: :o8: :hao5:
.
.


รออ่านตอนของเอเดนกับพี่ยอรช์นะคะ > __ <
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 30-06-2015 03:41:12
อื้อหือ! เชื่อแล้วว่าริริไปแอบส่องรูงูมาจริงๆ :3129: 555
รู้สึกเหมือนอ่านนิยาย+ดูสารคดีสัตว์โลกเรื่องงูไปด้วยเลย
เพิ่งรู้เนี่ยแหละว่างูมีอวัยวะเพศสองอัน
ลูกงูน้อยที่ไม่น้อยแค่อันเดียวก็ว่าแย่แล้ว แต่นี่มีถึงสอง เหอะ เหอะ :z1: ไม่อยากคิดเล้ยยยย ว่าน้องโยเราจะสุขแค่หนายยย ฟินฝุดๆ :m3:
 :pig4: จ้า และรอตอนต่อไป
ปล. อยากอ่านคู่เอเดนกะยอร์ชมวากกกก :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 30-06-2015 05:14:51
คู้นี้สมหวังแล้ว อยากรู้ความรู้สึกของยอร์ชล่ ว่าเป็นยังไงมั่ง หลังจากเอเดนทำแบบนี้ ชอบเรื่องนี้มากๆเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: ☾❤Nyanpire❤☽ ที่ 30-06-2015 07:51:30
 :pighaun: งูอึดหื่นนนนนนนนนนนนนน

ตอนหน้าจบแล้วเหรอ ใจหายจัง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 30-06-2015 11:10:48
 :haun4: พอใจจ้า ชอบตอนงูรัดกันจังเลยน่ะ คิดถึงเอเดนเหมือนกันน่ะเนี่ย รอตอนหน้าต้องไปฟังความในใจของพี่ยอร์ชแหละ ตอนหน้าจบแล้วเรอะ ใจหายเหมือนกันน่ะเนี่ย เพราะอยู่กับน้องงูมานานมากเลยน่ะ  :mew6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 30-06-2015 12:13:37
รอพี่ยอร์ช ~~~~~~~~~

 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 30-06-2015 12:39:44
หนูโยชิไหวมั้ยเนี่ย
อาซาอึดไป๊ สงสารหนูโยชิ  :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
จะจบแล้วเหรอเนี่ยย ขอตอนพิเศษเยอะๆเลยนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 30-06-2015 13:16:37
รอพี่ยอรช์เหมือนกันคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 30-06-2015 16:04:00
โว้ย.โว้ย.โว้ย.....อย่าเพิ่งจ๊บบบบบบบ...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 30-06-2015 17:01:05
อาซากลับมาหาโยชิซะที ขอฉากหวานๆหน่อยนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: artemesbee ที่ 01-07-2015 08:21:52
นี่ขนาดพี่ริริบอกว่าแต่งไม่เก่งนะคะ อื้อหือ  :haun4: :pighaun: :jul1: :z1: :m25:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 02-07-2015 15:54:19
 :jul1: ฉันฟินจังเลยพี่ชายยยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Chocobear ที่ 03-07-2015 22:29:48
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 08-07-2015 11:18:18
สนุกค่ะ น่าติดตามมาก
แต่ละตอนมีเรื่องราวให้ต้องลุ้นกันตลอด นับถือความมั่นในรักของอาซาเลย
 โถ พ่องู ความรักกับความหื่นนี่ช่างมีมากล้น 5555
น้องโยก็ค่อยๆพัฒนาความเป็นงูไปเรื่อยๆ จนตอนนี้น่ากลัวล่ะ โย ><
ติดตามต่อค่ะ ทั้งอาซา โยชิ 
และเรื่องของ เอเดน พี่ยอร์ช เติร์ดและน้องปุย ~~~~
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-07-2015 08:59:27
 :mew2:  รออาซากับโยชิตอนจบนะ อยากรู่ว่าเอเดน พี่ยอร์ช เติร์ดและน้องปุย จะเป็นยังไงต่อแล้ว :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: CielO ที่ 15-07-2015 20:09:39
ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอคะ อยากจะบอกว่าชอบเรื่องนี้มากกกกกกก สนุก ลุ้น ตื่นเต้นทุกตอนเลย
อยากรุ้ความในใจของพี่ยอร์ชจัง ระหว่างพี่ยอร์ชกับเอเดนจะเปนยังไง แอบเชียร์คู่นี้มากอะไรมาก ถึงแม้มีแววว่าจะไม่ง่าย แต่ชอบอย่างบอกไม่ถูก   :o8:

รอคอยตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁ TWENTY-NINE ❁ 29-06-2015 [P.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Nunng ที่ 15-07-2015 21:52:27
ขอคู่เอเดนกับพี่ยอร์ชไม่ไหวไม่ไหวแล้วววว :z3:

ตอนที่เอเดนบอกว่า 'ฉันไม่ได้ทำร้ายน้องชายนายเลยไม่เห็นรึไง' มันจุกมากอ่ะน้ำตาไหลแบบกลั้นไม่ได้

สอนให้เอเดนรู้จักรักดีๆบ้างเถอะ ที่เอเดนทำก็มีเหตุผลของเขาแค่ว่ามันไม่ถูกต้อง

เอาใจช่วยให้โยชิใจอ่อนเร็วๆ

อินแบบไม่ไหวละค่ะ55555555555

มาต่อไวๆน้า เป็นกำลังใจให้ค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 16-07-2015 22:42:23
B.L.O.O.D.L.I.N.E
THIRTY



        YATCH

        กลางวันเวลาเที่ยงตรง แสงแดดส่องจ้าร้อนแรงพร้อมแผดเผาทุกสิ่งอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวที่ไม่มลายหายไปกับความร้อน ก็คือความอึดอัดในใจ

        “ยอร์ช เหม่ออะไร เที่ยงแล้วไปกินข้าว”

        “...” เสียงพ่อเรียกผม เพราะมัวแต่ใจลอย ปฏิกิริยาโต้ตอบจึงแสดงผลเชื่องช้า

        “ได้ยินที่พ่อพูดไหมยอร์ช” พ่อสะกิดแขนผมเพื่อเรียกสติ “พ่อถามจริงเถอะ เราเป็นอะไร ตั้งแต่กลับมาจากดูงานไวน์ที่อเมริกา เราก็เอาแต่เหม่อลอยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หงุดหงิดง่ายจนลูกน้องเข้าหน้ากันไม่ติดไปหมดแล้ว เป็นอะไรไหนพูดมาสิ”

        ผมส่ายหน้า “เปล่าครับพ่อ ผมแค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”

        “เรื่องอะไรล่ะ” พ่อซักไซ้หาความจริง

        ผมหลบสายตา แต่คงเลี่ยงไม่ได้ “เรื่องไร้สาระน่ะพ่อ ไปกินข้าวกันเถอะ”

        ผมเดินหนีกลับไปที่แคร่ตัวใหญ่ใต้ต้นไม้สูงที่ช่วยบดบังแสงแดด พ่อเดินตามมา ผมรู้ว่าพ่อไม่เชื่อและยังคงรอให้ผมพูดความจริงอยู่ เรานั่งกินข้าวเที่ยงกันเงียบๆ ผมลอบถอนหายใจหลายครั้งโดยที่ไม่รู้ตัว ผมห้ามตัวเองไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงช้อนดังกระทบจานข้าว พ่อหยุดกิน มองผมเขม็ง

        “ถ้ามันไร้สาระน่ะยอร์ช เราจะไปเก็บมาคิดมากทำไม แต่ที่คิดมากจนเหม่อลอย จิตใจติดแหงกอยู่กับเรื่องนั้น และการถอยหายใจเป็นสิบๆรอบ บอกตามตรงว่าพ่อไม่เชื่อที่เราพูด ทำไม เราโตขึ้นทำให้ช่องว่างระหว่างพ่อลูกเพิ่มขึ้นไปด้วยอย่างนั้นเหรอ” น้ำเสียงและสีหน้าของพ่อแสดงให้เห็นถึงความผิดหวังเล็กๆ

        ผมรู้สึกผิดและเสียใจ “ผมไม่รู้พ่อว่าผมเป็นอยู่ตอนนี้มันเพราะอะไร ผมไม่รู้”

        “เฮ้อ มีอยู่แค่สองอย่างเท่านั้นนะยอร์ช หนึ่งคือลูกไม่รู้จริงๆ กับสอง...ลูกกำลังหลอกตัวเองอยู่ว่าลูกไม่รู้”

        พ่อลุกกลับไปทำงาน ปล่อยให้คำพูดของพ่อหลอกหลอนผมไปทั้งวัน

        ตกเย็นกลับบ้าน ผมเดินสะโหลสะเหลกลับเข้าบ้าน พ่อนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นกับรายการสุดโปรด โดยปกติผมก็คงนั่งดูกับพ่อ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นตามประสาชายโสดที่ชีวิตไม่มีอะไรหวือหวานอกจากทำงานและกลับมาพักผ่อน แต่วันนี้เปลี่ยนไป กำแพงสูงตั้งขีดขวางระหว่างผมกับพ่อ และมันไม่มีทางหายไปถ้าหากผมไม่กำจัดความฟุ้งซ่านที่ลอยอยู่เต็มหัวทิ้ง

        ผมอาบน้ำเพื่อหวังให้หัวโล่ง แต่ผมทำแบบนี้มาตลอดหนึ่งสามเดือนที่ผ่านมาหลังจากกลับมาจากที่นู่น ที่ๆผมได้รู้อะไรที่ไม่เคยคิดว่ามีอยู่บนโลกมาก่อน

        มีมนุษย์ครึ่งคนครึ่งสัตว์อยู่ในโลก และโยชิน้องชายของผมก็เป็นหนึ่งในนั้น สาเหตุที่แม่เสียชีวิตเพราะพลังชีวิตที่เป็นนากินีของโยชิดูดกลืนพลังชีวิตของแม่ แม่ไม่ได้เสียชีวิตเพราะร่างกายอ่อนแอระหว่างคลอดแบบที่ผมเข้าใจมาโดยตลอด แต่ถึงจะรู้ความจริงทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผมยังรักโยชิอย่างที่ผมรักมาตลอด ผมยังคงรักแม่และรักมากขึ้นแม้ว่าท่านจะไม่ได้อยู่กับผมในตอนนี้ และพ่อที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ผมทำให้ท่านทุกข์ใจกับความงี่เง่าของผม

        “นี่เราเป็นอะไร”

        ผมไม่รู้จริงๆว่าผมเครียดเรื่องอะไรอยู่ สมองคล้ายกล่องใบใหญ่ที่อัดแน่นด้วยบางสิ่งบางอย่างที่รอการระเบิดตัว ทรมานและหาทางออกไม่พบ

        แผ่นหลังไถลไปตามผนังห้องน้ำทิ้งตัวลงเบื้องล่าง ผมนั่งอยู่ที่พื้นปล่อยให้สายน้ำชะล้างร่างกายและน้ำตาที่ไหลรินอย่างน่าสมเพช

        จริงของพ่อ ผมรู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเพียงแต่ผมไม่ยอมรับ ไม่อยากยอมรับเลยจริงๆว่าคนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้คือนากินีที่แสนชั่วร้ายที่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับผมและคนในครอบครัว คนที่มีอิทธิพลอยู่เหนือจิตใจตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

        ...เอเดน...

        ทุกค่ำคืนที่นอนหลับ ผมฝันถึงเขา การกระทำที่เลวร้าย ภาพที่เขาฆ่าผู้หญิงคนนั้น ภาพที่เขาต่อสู้กับอาซาและลงมือทำร้ายน้องชายของตัวเอง ยิ่งเห็นยิ่งบีบรัดความรู้สึก เขาทำได้ยังไง ทำร้ายคนในครอบครัวตัวเองอย่างเลือดเย็น

        กับโยชิ ผมไม่เคยแม้แต่จะตีด้วยซ้ำ จะดุจะว่าก็ต้องหาถ้อยคำที่ไม่ทำร้ายน้ำใจ กับคนอื่นผมไม่แคร์ ผมพูดว่าตามที่เห็นสมควร หรือถ้าหนักหนานักก็ใช้กำลังเข้าตัดสิน แต่อย่างน้อยคนที่ผมมีเรื่องด้วยก็ต้องเป็นฝ่ายผิดและสมควรได้รับโทษทัณฑ์

        แต่เอเดนทำร้ายคนอื่นโดยไม่ยั้งคิด ผมเคยเผลอคิดด้วยซ้ำว่าเขาคงจะฆ่าผมให้ตายๆไปเพราะดันไปรู้ความลับและแผนการของเขา แต่ก็เปล่า มันไม่ได้ทำให้ผมดีใจเลยสักนิด กลับกัน ผมเสียใจที่มีชีวิตอยู่แล้วช่วยเหลือใครไม่ได้ แม้แต่จะเกลี่ยกล่อมให้เอเดนกลับใจผมไม่มีความสามารถมากพอ

        สิ่งที่ผมกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ก็คือ...ความผิดหวัง

        ผมเผลอคาดหวังในตัวเอเดนแบบไม่รู้ตัว คงไม่มีอะไรบีบคั้นความรู้สึกหากว่าผมไม่ได้รู้สึกดีกับเขา มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้ ผมแน่ใจว่าระยะเวลาสั้นๆที่ผ่านมาผมกับเอเดนไม่ได้คบหากันฉันท์ชู้สาว เราคบหากันเหมือนเพื่อน ผมทั้งรู้สึกดีและรู้สึกหมั่นไส้เขาในคราวเดียวกัน บางครั้งนึกเป็นห่วง บางครั้งก็โมโหในความคิดไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างกับเด็กตัวร้าย เขาไม่มีอะไรให้น่าหลงรักเลยสักนิด ผู้หญิงก็ไม่ใช่ เป็นแค่ผู้ชายตัวใหญ่กับปมปัญหาชีวิต

        แต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกกับเขาเกินกว่าเพื่อน เกินกว่าคนที่รู้จักกัน และนั่นก็คือสิ่งที่ผมไม่กล้าที่จะยอมรับกับตัวเอง ผมรักเอเดนไม่ได้ ผมจะไม่มีวันรักผู้ชายเลวร้ายแบบนั้นเป็นอันขาด

        ผมปล่อยให้น้ำตาไหลอยู่อย่างนั้น ไม่ร้องไม่สะอื้น แค่ให้มันไหลให้ผมเผื่อว่าความทุกข์มันจะหายไปด้วย

        ผมถามตัวเองว่าผมต้องการอะไร สุดท้ายคำตอบที่ได้มีเพียงความเงียบงันและก้อนหินหนักอึ้งในอกที่ยังคงถ่วงอยู่ในอก

        อาการผมแย่กว่าที่เห็นจนพ่อทนไม่ไหวในสองวันต่อมาหลังจากนั้น สภาพผมเหมือนซอมบี้ผีตายซาก โหมทำงานไม่พักผ่อน เพราะทุกครั้งที่สมองว่างผมจะคิดถึงคนที่ไม่ควรคิด พ่อทนมองสภาพไร้วิญญาณที่แสร้งทำว่าไหว

        “ไม่ต้องทำมันแล้วไร่น่ะ กลับบ้านกับพ่อ” พ่อยืนคำขาด สีหน้าเหนื่อยหน่ายกับผมเกินทน

        “ทำไมพ่อ ผมยังต้องทำงานนะ ออเดอร์เพียบเลยจะทิ้งได้ยังไง” ผมไม่สบตาพ่อ เงยหน้ามองพวงองุ่นที่สุกได้ที่ถึงเวลาเก็บเกี่ยวส่งลูกค้า

        “ยืนยังจะไม่ไหวอยู่แล้ว และเลิกสักทีนะไม่ต้องหาลูกค้าเพิ่มแล้ว ไม่เห็นหรือไงว่าองุ่นมันจะหมดไร่เอาไปทำไวน์ไม่พอ ลูกมองดูสิ มองไปรอบๆดูสิว่าองุ่นมันเหลือน้อยแค่ไหน”

        ผมลดมือที่กำลังจะลงคมกรรไกรกับก้านพวงองุ่น ลูกน้องในไร่บริเวณใกล้เคียงหนุดมือหันมาสนใจเราสองพ่อลูก เถาองุ่นที่เคยเต็มไปด้วยองุ่นสามสีบัดนี้เหลือพวงผลเพียงประปราย ที่ยังคงอยู่ที่ต้นเพราะยังไม่สุขดี ภายในไม่กี่วันผลผลิตหายไปเกือบหกสิบเปอร์เซ็นต์ และความผิดพลาดก็มาจากผมเอง

        “พ่อ ผมขอโทษ” ไหล่ที่เคยผึ่งผายลู่ตกหมดแรง เสียงถอนหายใจของพ่อดังก่อนเสียงคำสั่งให้คนในไร่หยุดมือเก็บองุ่นไปทำอย่างอื่นแทน กรรไกรในมือที่กำจนแน่นหลุดออกไปอยู่ในมือของพ่อศิลา

        “พอเถอะยอร์ช พ่อว่าเราต้องคุยกันอย่างจริงจังกับอาการของลูก และพ่อจะไม่ฟังคำบ่ายเบี่ยงหรือปฏิเสธอะไรทั้งนั้น สิ่งที่พ่อจะต้องได้จากลูกคือความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับซากคนใกล้จะหมดแรงล้มลงไปต่อหน้าพ่อตอนนี้”

        พ่อเดินนำผมไปที่รถแทรกเตอร์ ขึ้นประจำที่นั่งคนขับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ผมก้มหน้าถอนหายใจ เดินไปนั่งบนรถข้างๆพ่อ รถออกตัวขับกลับบ้านพัก ผมถอดรองเท้าหนังที่หน้าบ้าน พ่อนำลิ่วเข้าไปข้างใน วูบหนึ่งผมหน้ามืดจนเซเกือบจะล้ม แต่มือคว้าราวบันไดหน้าบ้านเอาไว้ได้ ผลเกิดจากการที่พักผ่อนน้อยและความเครียดสะสม

        ผมพยุงตัวเดินเข้าบ้าน พ่อไม่ได้อยู่ในห้องนั่งเล่น เสียงน้ำไหลดังมาจากห้องครัว พ่อกำลังดื่มน้ำเย็นจัดจากตู้เย็น ดื่มเสร็จก็ส่งขวดต่อมาให้ผม มือยื่นออกไปรับมากระดกกื่มอึกใหญ่ ความเย็นของน้ำช่วยให้ร่างกายตื่นตัวสดชื่น

        “ว่ามา เรื่องที่เครียดอยู่” พ่อเข้าเรื่องไม่รอช้า

        ผมจ้องตากับพ่อนิ่งเพื่อรวบรวมจิตใจ ดวงตาของพ่อเด็ดเดี่ยวเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง พ่อเป็นคนเข้มแข็งและพ่อถ่ายทุกอย่างที่พ่อเป็นให้แก่ผมลูกชายคนโต ดวงตาผมไหววูบเล็กน้อยเมื่อคิดได้ว่าตัวเองอ่อนแออย่างน่าสมเพชแค่ไหน ไม่สมกับการเป็นลูกของพ่อศิลาคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเลยสักนิด

        “ผมขอโทษ” ผมพูดจริงจัง ทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะทานข้าว พ่อนั่งลงตรงข้ามกัน ประสานสองมือไว้ด้านหน้า สายตายังคงเฝ้ารอคำตอบอย่างใจเย็น

        “คนเราอ่อนแอได้ทั้งนั้น แต่คนที่ตั้งสติและก้าวต่อไปได้เร็วกว่าคือผู้ชนะ” พ่อสอน

        “ผมไม่รู้จะพูดหรืออธิบายกับพ่อยังไงว่าตอนนี้ผมเป็นอะไร”

        “ก็เล่ามา พ่อคิดว่าพ่อเก่งพอจะปะติดปะต่อเรื่องได้”

        ผมหายใจเข้าปอดให้ลุกที่สุดก่อนจะเอ่ยเล่า “มีคนๆหนึ่งเข้ามาในชีวิตผมและทำให้ผมรู้สึกดีด้วย”

        ถ้าจะเล่า ผมต้องเล่าแค่คร่าวๆไม่เจาะเข้าไปในเรื่องของมนุษย์กลายร่าง ผมจะพูดแค่เรื่องความรู้สึกของตัวเองและความผิดหวังที่มีต่อเอเดนเท่านั้น ป้องกันไม่ให้เรื่องบานปลาย

        “เรื่องผู้หญิง?” พ่อเลิกคิ้วสูงทำสายตาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

        “เปล่าครับ” ผมขี้ขลาดเพียงเสี้ยวนาที แต่ก็ไม่คิดจะปิดบัง เพราะยังไงระหว่างผมกับเอเดนก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว “ไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นผู้ชาย”

        เสียงผมเบากว่าที่คิดเอาไว้ ตาที่หลุบต่ำอย่างเด็กทำความผิดค่อยๆเหลือบมองพ่อ พ่อนิ่งไปเลยเหมือนไม่ตกใจ แต่ผมรู้ว่าพ่อกำลังตั้งตัวไม่ถูก

        “เขาเป็นผู้ชายครับพ่อ” ผมย้ำอีกครั้ง พ่อสะดุ้งเพราะถูกปลุกออกจากภวังค์

        “ผู้ชาย...นี่จริงจังใช่ไหม” พ่อถามเสียงเบา ผมพยักหน้า

        “ครับ ขอโทษอีกครั้งครับพ่อ” พ่อยกมือโบกพร้อมส่ายหน้า

        “ไม่เป็นไร พ่อ...เอ่อ พ่อเข้าใจ” พ่อกรอกตาโครงหัว “ความจริงก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ กับโยชิพ่อพอจะเข้าใจ แต่ยอร์ช ลูกเคยคบผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?!” คราวนี้พ่อทำเสียงสูง ตกใจขนานแท้

        “ผมถึงได้เครียดไงพ่อ” คิ้วของผมขมวดจริงจัง

        “ก็น่าเครียดอยู่ แล้วไงต่อ ยอร์ชเครียดเพราะกลัวว่าพ่อจะรับไม่ได้เหรอ” พ่อเดา

        “เปล่าครับ แต่...ผมผิดหวังในตัวเขา ผมคิดว่าเขาจะเป็นคนดี แต่ก็เปล่า เขาทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัย”

        “แล้วเขาคนนั้นทำผิดอะไร พ่อรู้จักลูกนะ ยอร์ชไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น อภัยให้เขาไม่ได้”

        ผมคิดหาคำพูดไม่ถูก จะเล่ายังไงให้ไม่โยงเข้าไปสู่เรื่องที่เอเดนเป็นงูและต้องการเป็นงูที่ยิ่งใหญ่จนได้คิดแผนแย่งหัวใจบาซิลิสก์จากอาซา ขืนเล่าพ่ออาจจะคิดว่าผมเครียดจนเป็นบ้า

        “เขาทำผิดต่อครอบครัวของเขา เขาทำร้ายน้องชายตัวเองจนเจ็บหนัก ทั้งๆที่ผมห้ามปราบและเตือนสติ แต่เขาก็ไม่ฟัง ผมอยากรู้ว่าจิตใจเขาทำด้วยอะไร ถึงได้คิดทำร้ายคนในครอบครัวตัวเอง”

        “ถ้าเขาไม่ได้ทำร้ายลูก ยอร์ชให้อภัยเขาไม่ได้เหรอ”

        “เขาเป็นคนแบบที่ผมเกลียด”

        “ถ้าอย่างนั้นก็เกลียดเขาไปเลยไหม เกลียดไปเลยดีกว่าพ่อว่า”

        ผมอึ้งไม่น้อยเมื่อพ่อพูดมาแบบนั้น เมื่อกี้ยังบอกให้ผมให้อภัยเขาอยู่เลย

        “เอ้า ตกใจอะไร ก็ถ้ามันเลวขนาดนั้นก็เกลียดไปเลย เลิกคบเลิกสนใจ คนเลวๆแบบนั้นไม่ให้อภัยก็ดี”

        ผมรู้สึกเหมือนว่าพ่อไม่ได้ไปหมายความอย่างที่ปากพูด ผมมองพ่อนิ่งๆค้นหาคำตอบ ประกายแวววาวส่องวูบไม่นานให้ทันได้ค้นหาเพราะมันกลับมาราบเรียบจริงจัง

        “หึหึ ไม่ได้อยากจะเกลียดเขาใช่ไหมล่ะ” พ่อคล้ายจะเข้าใจความรู้สึกของผมทุกอย่างอย่างง่ายดาย จนผมรู้สึกงงงวย

        “ผมทำใจให้อภัยเขาไม่ได้”

        “ยอร์ช พ่อน่ะเข้าใจความรู้สึกของลูกน่ะ เพราะลูกรู้สึกดีกับเขา แต่พอเขาไม่เป็นอย่างที่ควรเป็น เป็นในแบบที่ลูกชื่นชน ก็ไม่แปลกที่จะผิดหวัง แต่ยอร์ชต้องเขาอย่างหนึ่ง” พ่อพูด ผมตั้งใจฟังต่อ

        “ก่อนที่เราจะตัดสินการกระทำของเขาว่าควรหรือไม่ ให้ดูให้ลึกว่าเค้าเจออะไรมาถ้าหากลูกต้องการวิจารณ์ พ่อไม่ได้บอกว่าคนทำความเลวไม่ผิดนะ แต่ทุกอย่างย่อมมีที่มาที่ไป คนจะเลวมันไม่ได้เลวมาตั้งแต่เกิดหรอก มันต้องมีแรงจูงใจให้เลว เช่นกัน คนจะดีไม่ได้ดีมาตั้งแต่เกิด แต่อยู่ที่การบ่มเพาะและปลูกฝังจากคนใกล้ตัว”

        ผมพูดไม่ออก ที่พ่อพูดก็ถูก แต่ใจผมังคงแย้งอยู่ตลอดเวลา ถ้าเขาไม่ทำ ถ้าเขาจะยอมฟังผมบ้าง ก็ใช่ที่ว่าผมไม่ได้ไปยืนอยู่ในจุดที่เขายืนผมจึงไม่เขาใจความเจ็บปวดของเขา แต่ขอให้รู้ไว้เถอะ ตอนนี้ผมรู้สึกแย่ไม่แพ้กัน

        “ฟังพ่อนะยอร์ช ใครๆก็ทำความผิดได้ ผิดมากผิดน้อยก็ถือว่าผิด อาจจะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ เจตนาหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่ไม่ว่าจะทำไปด้วยเหตุผลใด ถ้าหากวันหนึ่งเขาสำนึกผิด ต้องการการให้อภัย ต้องการพื้นที่เล็กๆที่จะยืนอยู่ในสังคม หรือใครสักคนที่ยอมรับในวันที่เขาคิดได้และพร้อมที่จะกลับตัวกลับใจยอร์ชคิดว่าเราควรจะโกรธเกลียดอาฆาตแค้นหรือว่ายกโทษให้เขาดี”

        “ผม...”

        “กับอีกคนที่อาจทำผิดเล็กน้อยอย่างเช่นทิ้งขยะไม่ลงถัง ซื้อของไม่ต่อคิวและไม่คิดจะปรับปรุงตัว ไม่รู้สำนึกว่าตัวเองทำผิด กับฆาตกรฆ่าคนตาย แต่สุดท้ายเขาก็สำนึกผิด ผันตัวมาทำความดีเพื่อประโยชน์ต่อสังคม คนแบบไหนเลวกว่ากันยอร์ชคิดเอานะ สิ่งที่พ่อพูดก็ไม่ถูกเสมอไป เพราะคนที่ทำผิดเล็กน้อยอาจคิดได้ และคนทำผิดใหญ่หลวงคิดไม่ได้ก็มีเยอะแยะ แต่ที่พ่อจะบอกก็คือ ขอแค่คนทำผิดสำนึกและกลับตัวกลับใจ เขาสมควรได้รับโอกาสได้รับการให้อภัย”

        “แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเขากลับตัวเป็นคนดีแล้ว”

        “มองตาเขาสิลูก ดวงตาไม่เคยโกหก เหมือนที่พ่อมองออกว่า ลูกแค่เสียใจและผิดหวังในตัวของคนๆนั้น ลูกไม่ได้เกลียดเขาอย่างที่ปากพูด พ่อถึงรู้ไงว่ายอร์ชไม่สบายใจ พ่อมองทุกอย่างออกจากทางแววตา และถ้าลูกอยากรู้ว่าเขาคนนั้นคิดอะไรอยู่ เปิดใจและมองให้เห็นตัวตนของเขา และยอร์ชจะเข้าใจที่พ่อพูด”

        ผมเข้าใจคำสอนของพ่อ แต่ไม่แน่ใจเลยว่าผมจะให้อภัยเอเดนได้ไหม ในเมื่อไม่มีทางรู้เลยว่าเขาสำนึกผิดแล้วหรือยัง เพราะเราสองคนคงไม่มีทางโคจรมาเจอกันอีกเป็นครั้งที่สอง
 




        หนึ่งปีต่อมา

        “คุณยอร์ชครับ มีคนมารอพบอยู่ที่หน้าบ้านครับ” เสียงพูดจากคนงานในไร่ดังด้านหลัง

        “ใคร” ผมถาม

        “เอ่อ ผมไม่ทราบครับ แต่ผมคุ้นๆเหมือนเคยเห็นเขามาก่อน อาจจะเป็นลูกค้าของคุณยอร์ชก็ได้นะครับ อ่อ เขาเป็นฝรั่งด้วยนะครับ”

        ฝรั่ง..ชาวต่างชาติเหรอ

        “สงสัยจะเป็นคุณริชาร์ด ขอบใจมาก”

        ผมเดินไปที่รถแทรกเตอร์แล้วขับกลับบ้าน แปลกใจเล็กน้อยกลับการมาของคุณริชาร์ด ลูกค้ารายใหม่ที่ต้องการผลไม้จากไร่ของผมไปใช้ในร้านอาหารของเขาในตัวเมืองเชียงใหม่

        เมื่อถึงหน้าบ้านผมจอดรถเข้าที่ ถอดหมวกออกจากศีรษะก้าวเท้าลงเดินไปที่หน้าบ้าน ชายร่างสูงใหญ่ รูปร่างต่างคุณริชาร์ดที่เป็นชาวต่างชาติรูปร่างสูงโปร่งผอมบางไม่บึกบึนเหมือนคนที่ยืนหันหลังให้ตรงบริเวณหน้าบ้าน

        ผมหยุดยืนอยู่ด้านหลังของเขาห่างกันประมาณสองก้าว มายืนอยู่ใกล้แบบนี้ มองแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าชวนให้นึกถึงคนๆหนึ่ง และเมื่อเขาหันมาไฟฟ้าก็วิ่งแปลบไปทั่วร่าง

        “ไง ไม่เจอกันนานนะ” ผู้ชายคนนี้เอ่ยทักผมด้วยใบหน้าที่ราบนิ่ง ลูกแก้วสีเขียวมรกตคู่สวยทอประกายดีใจไหวระริก

        “เอเดน” ผมเอ่ยชื่อเขาในลำคออย่างไม่อยากจะเชื่อ

        เขายิ้มกว้าง “ดีใจนะที่คุณจำชื่อผมได้”

        ผมแค่นยิ้ม ก้าวถอยห่างจากเอเดนอีกหนึ่งก้าว “ชื่อคนเลวที่คิดจะทำร้ายคนในครอบครัวของผมต่อให้อยากลืมก็ลืมอยาก”

        ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มหายวับ เอเดนทำหน้าเครียดคิ้วขมวด เขายืนนิ่งไม่พูดจา เอาแต่ยืนมองหน้าผมจนตัวผมเองเริ่มจะวางตัวไม่ถูก

        “คุณมาทำอะไรที่นี่ บอกไว้ก่อนว่าไร่ของผมไม่ต้อนรับคุณไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็แล้วแต่” ผมพูดดักคอ กลัวว่าเขาจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางธุรกิจขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการทำเรื่องเลวๆซ้ำสอง

        เอเดนอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่างแต่เขาก็ปล่อยผ่านเลยไป ผมอยากหันหลังแล้วเดินออกไปจากตรงนี้ หนึ่งปีที่ผ่านมาไม่ช่วยให้ผมรู้สึกดีต่อเขามากนัก ผมแค่ทำใจไม่เอาเรื่องของเขามาคิด เมื่อได้พบเขาในวันนี้ทำให้ผมรู้เลยว่าความโกรธของเขายังคงติดอยู่ในใจไม่มีวันลางเลือนจนกว่าเขาจะชดใช้ให้ผมเห็น

        เอเดนปรับสีหน้าเคร่งเครียดให้เป็นปกติ เขาทำได้ดีกว่าผมที่ยืนคิ้วขมวดเหมือนคนท้องผูกที่ได้เจอกัน

        “แล้วถ้าผมจะมาเป็นลูกค้าเขาพักที่นี่ล่ะ” เอเดนถาม สองมือล้วงไว้ในกระเป๋ากางเกง ผ่อนขาข้างหนึ่ง ท่าทางสบายใจของเขาทำผมหมั่นไส้อยากชกหน้าเอเดนขึ้นมาตงิดๆ

        “อยากชกหน้าผมเหรอ เอาสิ ตามสบาย”

        ผมตกใจที่เขาล่วงรู้ความคิดของผม

        “ไม่ต้องตกใจหรอก คุณคิดอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าหมด เหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ เจ้าเด็กน้อยนั่นเก็บอาการไม่เก็บเลยสักนิด”

        “อย่ามาเอ่ยถึงน้องชายผม คุณไม่มีสิทธิ์!” ผมกัดฟันพูด มือกำหมัดแน่น และไม่ต้องรอให้เขาเอ่ยชวนหรือพูดจากวนโมโหเป็นรอบที่สอง ผมก็ฟาดหมัดเข้าหน้าเอเดนอย่างจัง ตัวเขาล้มลงไปกับฟื้นเพราะไม่ได้ตั้งตัว เขาคงไม่คิดว่าผมจะทำ หรือไม่ดูถูกความเดือดดานขอผมเกินไป

        “ออกไปจากไร่ของผม ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ” ผมตะวาดขับไล่ไสส่งเมื่อไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ใจเย็นได้อีกต่อไป

        “แล้วทำยังไงผมถึงจะมีสิทธิ์” เขาเช็ดเลือดที่ปากตัวเอง ลุกขึ้นยืนไม่แสดงอาการโกรธเคืองที่โดนผมต่อยเข้าให้ที่หน้าจนเลือดไหลออกจากปากและจมูก

        “คุณพูดว่าอะไรนะ” ผมอาจฟังผิด คงตลกเหลือร้ายถ้าเขาหมายความตามที่พูดจริง

        เขาหน้าแดง เสมองไปทางอื่น “ผมขอจองห้องพักห้องหนึ่ง”

        ผมรู้ว่าเขาเปลี่ยนเรื่อง แต่ก็ดีแล้ว ผมไม่ต้องการจะฟังเรื่องบ้าบอคอแตก

        “ขอโทษด้วย ผมบอกคุณไปแล้ว ไร่เราไม่ต้อนรับคุณ” ผมถอนหายใจ “ไม่ว่าคุณจะมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร ได้โปรดไปซะ ผมไม่ต้องพบเจอคุณอีก”

        เขาเดินเข้ามาใกล้ผม ซึ่งผมไม่ได้ขยับหนี เอเดนสูงกว่าผมไม่มากและต่อให้ตัวเขาจะใหญ่และหนากว่าผมแต่ผมก็ไม่เกรงกลัว เราทั้งสองคนจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ผมท้าทายเขาทางสายตาให้รู้ว่าผมจะไม่มีวันยอมให้เขาก้าวเข้ามาในชีวิต สุดท้ายเขาก็ล่าถอยหลุบตาต่ำสะกดกั้นอารมณ์ เขาคงจะหงุดหงิดไม่น้อย จากนิสัยของเขาที่ผมรู้จัก เอเดนเป็นคนที่ไม่มีความอดทนเลยแม้แต่น้อย ก็ยังประหลาดใจอยู่ที่ครั้งนี้ดูใจเย็นกว่าที่คิด

        ผมสะดุดกับความคิดของผมเอง ผมไม่ควรจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับเอเดนได้แม่นยำราวกับไม่เคยลืม

        “นี่ผมมาดีนะยอร์ช” เขากดเสียงต่ำ เส้นเลือดตามแขนไปจนถึงลำคอปูดนูนจากความเกร็ง

        “แล้วไงครับคุณ ผมไม่แคร์หรอกว่าคุณมาทำไม ผมแค่ต้องการให้คุณออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้แล้วไม่ได้กลับมาอีก อย่าต้องให้ผมใช้ความรุนแรง นู่น ปากทางออกจากไร่ เชิญ!” ผมชี้นิ้วขึ้นเสียงโกรธจัดไปทางออกไร่

        เอเดนสูดลมหายใจยาว สะกดใจให้สงบ

        “ผมอยากคุยกับคุณ” เขาว่า

        “แต่ผมไม่มี”

        หมดธุระที่จะพูดคุย ผมหันหลังเดินกลับที่รถแทรกเตอร์เพื่อกลับไปทำงาน ทิ้งแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างไม่สนใจใยดี จังหวะการเต้นของหัวใจผ่อนช้าตามก้าวแต่ละก้าวที่เพิ่มระยะห่าง

        “ผมจะไปประกาศบอกทุกคนว่าไร่คุณไล่ลูกค้าที่จะมาพักผ่อนอย่างใจจืดใจดำ!”

        เอเดนไม่หยุด เขาหาเรื่องผมด้วยการข่มขู่ แต่จะทำอะไรก็ตามสบายผมคิดว่าคนที่นี่รู้จักผมและพ่อดีพอที่จะไม่เชื่อคำพูดของคนไม่รู้จักมักจี่อย่างเอเดน ดีไม่ดีที่เขานั่นแหละจะโดนเล่นงานจากแฟนคลับในจังหวัดนี้ของผมและพ่อเสียเอง

        “ผมจะทำจริงๆ” เอเดนตะโกนประท้วง

        “...”

         “ระวังตัวและหัวใจของคนายไว้ยอร์ช ฉันจะทำทุกวิธีเพื่อให้ได้อยู่ตรงนี้...กับนาย” เอเดนพูดเสียงเบา

        ผมหยุดเดิน ผมได้ยินทุกอย่างที่เขาพูด หลังจากนั้นคำพูดที่เร็วยิ่งกว่าความคิดก็ลอยค้างกลางอากาศแล้วหายไปกับสายลม

        “คุณก็ต้องระวังไว้ด้วย เพราะผมจะทำทุกวิธีให้ตัวและหัวใจของคุณแหลกลานยับเยินร้องไห้กลับไปยังปราสาทอสรพิษแทบไม่ทันถ้าหากคุณยังดึงดัน ถ้าคิดว่าทนได้ก็ลองดู”

        เสียงหัวเราะของเอเดนฟังดูมั่นใจในตัวเองเหลือเกิน

        “ตกลง”

        คำท้าของพวกเขาในวันนี้ จะมีใครรู้หรือไม่ว่าจะกลายเป็นคำสัญญาในอนาคตที่กำลังจะมาถึง

        Maybe this not the end for you and me…
        …MY YATCH…




        THE END


        .............
        ตอนนี้อยากให้รับรู้ถึงความรู้สึกของพี่ยอร์ชที่มีต่อเอเดน และการกลับมาพบกันอีกครั้งของคนทั้งคู่ ดังประโยคที่ลงไว้ตอนท้าน จุดจบของเรื่องนี้จะเป็นจุดกำเนิดของความรักที่สวยงามไม่แพ้ความรักของอาซาและโยชิ ไม่รู้ว่าจะถูกใจใครหลายคนไหม แต่เพราะริริอยากให้ออกมาเป็นแบบนี้ หวังว่าคนอ่านทุกคนจะน้อมรับ
        อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าเรื่องของพี่ยอร์ชกับเอเดนนั้น จะลงเป็นตอนพิเศษแทน ซึ่งไม่ต่ำกว่าสิบตอน ไม่ต่างอะไรกับการเรียกว่าภาค3 แต่ที่ไม่ทำเพราะว่ามันไม่ใช่พล็อตใหญ่โตอย่างภาคหนึ่งและภาคสอง เป็นแค่พล็อตความรักของคนทั้งคู่แค่นั้น จึงจัดมาอยู่ในตอนพิเศษแทน ริริจะอัพคู่กับพี่เสือไปเรื่อยๆ แต่คงตอบไม่ได้ว่ามาได้บ่อยแค่ไหน และนอกจากตอนพิเศษของพี่ยอร์ชแล้ว จะมีตอนพิเศษของอาซากับโยชิในอดีตมาให้ได้ฟินกันด้วย  :o8:
        ดังนั้นแล้ว เรื่องนี้จะยังคงอัพอยู่เรื่อยๆตามเท่าที่ริริจะมีกำลัง (จะพยายามลงให้ได้บ่อยที่สุดนะคะ)
        สำหรับเรื่องทำหนังสือที่มีคนถามเข้ามาพอควร ริริทำแน่นอนค่ะ เพราะฉะนั้น ใครที่สนใจเก็บเงินไว้ได้เลยค่ะ
        ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาถึงตอนจบ เรื่องนี้ใช้เวลายาวนานมากทั้งๆที่จำนวนตอนไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไร หรือมาก 5555 :laugh:
        ริริรู้สึกตื้นตันใจ มีทั้งสุข ทั้งทุกข์และเสร้า แต่ที่มากที่สุดก็คือความสุขที่ได้จากกำลังใจของคนอ่านที่ส่งมาให้กันอยู่เนืองๆ อาจมีนักอ่านบางคนหายไปแต่ก็หวังว่าสักวันเขาจะกลับมาแวะเวียนอ่านอีกครั้ง :pig2:
        ไม่รู้จะพูดอะไรต่อและ สุดท้ายของบอกว่ารักคนอ่านทุกคนมากค่ะ :L1:
        ข้อความจากใจริริส่งต่อให้คนอ่านที่แสนน่ารัก :mew1: :กอด1:

       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 16-07-2015 22:50:17
 :กอด1: :กอด1: ขอบคุณที่แต่งนิยายดีดีมาให้อ่านค่ะ

ปล.ชอบฉากเอ็นซีงูกับงูมาก  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: KhunToOk ที่ 16-07-2015 23:15:21
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้ได้อ่านค่ะ เราชอบเนื้อเรื่องแนวนี้มาก

ถึงไม่ค่อยได้เม้นบ่อย แต่เข้ามาอ่านบ่อยมากกกกก  :hao7: :hao7:

คนเขียนอย่าว่ากันนะคะ เราคุยไม่เก่ง อิอิ

นิยายสนุกมากค่ะ จะรอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่าาา.  :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 16-07-2015 23:18:52
รอดู งูกลับใจ กับคนที่พร้อมจะให้อภัย นะคะ

รออ่าน อาซากับโยชิด้วย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 16-07-2015 23:23:19
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณมากๆคร่าาาาา ><
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 16-07-2015 23:46:46
พี่ยอร์ชใจแข็งจริงๆค่ะ
เอาหนักๆ ให้เอเดนมาง้อเยอะๆเลยนะคะ
ให้มันรู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผผผผผ :laugh:
ดีใจที่ยังมีตอนพิเศษเพิ่มค่ะ ริริน่ารักมากกก :กอด1:
รอติดตามทั้งเรื่องนี้แล้วก็พี่เสือเลยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 16-07-2015 23:47:21
ใจแข็งเข้าไว้อย่าเพิ่งใจอ่อนกับเอเดน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: numberll ที่ 17-07-2015 01:09:36
เอิ่ม.. รู้สึกเราจะชอบคู่รองมากกว่าคู่หลักแฮะ 555
แอบรอฟินเบาๆ กะพี่ยอร์ช   :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 17-07-2015 03:15:49
 :m4: :m4: จบไปแล้วอีกภาคสำหรับงูดำ งูขาว
แล้วก็ขอต้อนรับภาคใหม่ของ เอเดนกับยอร์ช ด้วยยยย
 :pig4: :pig4: :pig4: คนเขียนมากๆคร่า
รอเป็นกำลังใจให้เอเดน กับคนเขียนกันต่อไป o19
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 17-07-2015 06:10:58
คู่น้องแฮปปี้ไปแล้ววว
คู่พี่ต้องพยายามต่อไปนะเอเดน จนถึงตอนนี้ พี่ยอร์ชนึกออกยัง
ว่าตอนที่ต่อสุ้กันระหว่างเอเดนกับโยชิ
เอเดนเป็นกระสอบทรายให้โยชิใส่เอาๆเลยนะ กลัวพี่ยอร์ชเกลียดอ่ะดิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 17-07-2015 07:42:35
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย

คู่พี่ค้างมากอ่า อยากได้มากกว่านี้~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Glitterycandy ที่ 17-07-2015 08:10:41
แอบอยากเห็นคู่นี้รักกันนะ 5555 ยอร์ชเอเดน

ขอบคุณมากๆนะฮะที่แต่งนิยายดีดีมาให้อ่าน สนุกมากๆ

ขอบคุณฮะ >/\<
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-07-2015 09:21:28
ขอคู่เอเดนอีกกกกกกก :ling1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 17-07-2015 11:10:57
รู้สึกดีจนไม่รู้จะเม้นยังไง...โคตรรักเรื่องนี้เลย... :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 17-07-2015 12:36:19
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: เย้ จบแล้ว เราก้อชอบน่ะจบแบบนี้น่ะ และเป็นตอนพิเศษเพิ่มเข้ามา ยังไงจะรออ่านน่ะ เพราะ อยากอ่านคู่นี้น่ะ เอเดนแบด ๆ ดีน่ะ สุดท้ายรู้ว่าตัวเองทำผิดยังซ่าเลยน่ะเนี่ย  :mew4: ยังไงจะรอติดตามหนังสือน่ะจ้ะ อยากจะลองอ่านทบทวนจากหนังสือดูน่ะ ว่ามันจะเพิ่มดีกรีขึ้นไหม เพราะ เรารู้สึกช่วงภาคสองเรื่องจะดูเนือยมาก ๆ อาจเป็นเพราะกว่าจะมาอัพแต่ละตอนมันช้าทำให้ขาดอรรถรสไปพอสมควร จะรอติดตามน่ะจ้ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 17-07-2015 13:43:45
อีกสิบกว่าตอนของพี่ยอร์ชนี่เอาให้เอเดนกระอักเลยนะ
หมั่นไส้จิงๆ
เล่นตัวเยอะๆเลยนะพี่ยอร์ชชช
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 17-07-2015 14:56:43
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ห่ะ สู้ๆนะเอเดน ถึงจะยากสมกับเรื่องที่นายทำ
แต่มันก็ต้องดีขึ้นน่ะ พี้ยอร์ชใจดีนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 17-07-2015 16:29:05
ขอบคุณฮะ รออ่านพี่ยอร์ชกับเอเดนนะคร้าบบบบบ
ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมไปๆมาๆถึงมาลุ้นเอาใจช่วยเอเดนไปซะได้
ขอหวานๆให้เอเดนบ้างนะฮะ ชีวิตฮีก็ไม่ได้ดีมาตั้งแต่เด็ก ขอให้ยอร์ชเยียวยาหัวใจอสรพิษร้ายๆตัวนี้ด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 17-07-2015 22:48:08
รอค่าาาา สนุกมากกกกก :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: CielO ที่ 18-07-2015 18:11:09
โอยยยยย ชอบคู่เอเดนกับพี่ยอร์ชมากเรย
นี่อ่านไปกลั้นใจไปเปนระยะๆ ลุ้นมากอะไรมาก
จบแบบนี้นี่รอตอนพิเศษเรยค่าาาาา
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆเรื่องนี้นะคะ
ชอบอ่านแฟนตาซีมาก แล้วคุณริริก็เขียนได้สนุกมากเลย
เปนกำลังให้สำหรับตอนต่อๆไปค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-07-2015 19:35:00
เข้ามาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-07-2015 20:48:03
ไม่ว่านานแค่ไหน

ก็จะรอตอนพิเศษของเอเดนกับพี่ยอร์ชนะ ริริ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lahlunla ที่ 25-07-2015 15:20:08
รออ่านเรื่องของพี่ยอร์ช
สาบานว่าตอนแรกนึกว่ายอร์ชรุก ก็กำลังงว่าเราอ่านข้ามตรงบรรยายารูปร่างหรืออ่านแล้วแต่ลืม
เอเดนน่าจะสูงกว่ายอร์ชเพราะเป็นคนต่างชาติ พอฉากเช็ดตัวนี่เลยสูบฉีดเลยค่า
ยอร์ชโดนรุกแน่ๆ แต่เมื่อไหร่ล่ะที่จะตกเป็นของเอเดน o18
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายVOL.2❁THIRTY❁ The END 16-07-2015 [P.59]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 30-07-2015 00:02:33
รอตอนพิเศษนะ :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 02-08-2015 21:42:17
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

ONE



       YATCH

       ผมหลับใหลนอนฝันถึงเหตุการณ์การต่อสู้ระหว่างเอเดนกับอาซา ภาพทุกเหตุการณ์ไหลวนเวียนอยู่ในหัว ทรมานในจิตใจจนต้องปลุกตัวเองให้ตื่น

       ผมลืมตาในความมืดมิด ลมหายใจถี่กระชั้น หน้าต่างห้องเปิดอ้าปล่อยให้ลมพัดเข้าออกตามอำเภอใจ ผมแน่ใจว่าผมปิดก่อนที่จะนอนเพื่อกันไม่ให้ยุ่งหรือแมลงเข้ามารบกวนการนอน

       มีผู้บุกรุก

       "นายชักจะล้ำเส้นเกินไปแล้วนะเอเดน" ผมลุกขึ้นไปปิดหน้าต่างอย่างอารมณ์เสีย นี่ไม่ใช่คืนแรกที่เขาแอบมาดูผมในยามนอนนับตั้งแต่เขาปรากฏตัวที่นี่อีกครั้ง ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เขาตีซี้พ่อผมให้กลายเป็นพวกเขา ผมที่คอยกีดกันและไล่เขาให้ออกไปจากไร่และครอบครัวของเรานั่นกลายเป็นคนใจร้ายแล้งน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ที่มาพักอาศัยในต่างแดน

       ในยามเช้าของวันนี้ ผมคิดว่าผมควรจะต้องคุยกับพ่อเรื่องของเอเดนอย่างจริงจัง เพื่อยุติความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวเราและเอเดนให้จบลงเพียงเท่านี้ ผมจะไม่พูดถึงความรู้สึกของผมที่มีต่อเขา มันควรจบแบบไร้การสานต่อไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ เขาคือบุคคลอันตรายต่อหัวใจและความรู้สึก

       เขาร้ายกาจขนาดไหนละ ถึงทำให้ผมที่ชอบผู้หญิงหันมาชอบเขาที่เป็นผู้ชายได้ ตลกร้ายสิ้นดี

       "ฮ่าๆๆ น่าสนใจๆ" เสียงหัวเราะของพ่อดังมาจากในครัว ผมแปลกใจที่เช้าอย่างนี้มีคนมาที่บ้าน และเมื่อคิดได้ว่าใครที่กำลังคุยอยู่กับพ่อผมก็รีบวิ่งไปที่ห้องครัว

       "พ่อ" ผมเรียก พ่อและแขกไม่ได้รับเชิญหันมามองผม

       "คุณมาทำอะไรที่นี่" ผมถามเอเดนเสียงแข็งสีหน้าโกรธเคือง เดินอาดๆไปยืนข้างเขา เสียงหัวเราะของคนทั้งสองหยุดฉับพลัน พ่อผมยกแก้วกาแฟยกจิบเลี่ยงไปอ่านหนังสือแทน

       “ผมมีนัดกับพ่อคุณไปตกปลา” เอเดนตอบนิ่งๆ หน้าตาไม่มีความละอายแก่ที่ผมจับได้ว่าเขาแอบมาวุ่นวายกับคนในครอบครัวของผมโดยไม่ได้รับอนุญาต

       “ตกปลา?” ผมทวนคำ ยืนกอดอกมองพ่อสลับกับเอเดน “ทั้งชีวิตนี้คุณยังทำความเลวไม่พอหรือไง แล้วยังจะมีหน้ามาชวนพ่อผมไปทำบาปอีกนะ”

       “พ่อคุณชวนผม” เอเดนเอ่ยแทรก ผมหันไปมองหน้าพ่อตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผมหน้าแตกยับเมื่อเอ่ยต่อว่าผิดคน แต่คำพูดที่หลุดออกจากปากไปแล้วเรียกกลับคืนมาไม่ได้ ก็ได้ปล่อยผ่าน

       “ไม่เอาน่ายอร์ช กิจกรรมยามว่างสนุกๆ นานๆพ่อจะเจอคนหนุ่มที่ชื่นชอบอะไรเหมือนพ่อ”

       “พ่อครับ ผมขอคุยด้วยหน่อย” ผมบอกกับพ่อเครียดๆ เดินนำออกไปหน้าบ้าน ไม่นานพ่อก็เดินตามออกมา ผมยืนเท้าเอวมองวิวรอบบ้านหาจุดที่สามารถสงบสติอารมณ์ที่พลุ่งพล่านให้ลดต่ำลงสู่จุดปกติ

       “ทำไมลูกทำเหมือนไม่ชอบเอเดน” พ่อก้าวมายืนอยู่ด้านข้าง “พ่อว่าเขาก็นิสัยดีนะ”

       ผมหันหลังมองเข้าไปบ้านเพื่อให้แน่ใจว่าตรงนี้จะมีเพียงผมกับพ่อเท่านั้นที่จะรับรู้บทสนทนาต่อจากนี้ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ถึงเรื่องที่พ่อยังไม่รู้และผมคงต้องพูดเพื่อให้พ่อเข้าใจถึงเหตุผลที่ผมไม่ต้องการให้พ่อไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายในบ้าน

       “พ่อจำคนที่ผมเล่าให้ฟังได้ไหม คนที่ทำผิดเกินให้อภัยแต่ผมดันไปชอบเขา” เขาหลับตาพูด กระดากใจที่จะต้องพูดมันอีกครั้ง

       พ่อมองตาผมอย่างตกตลึง “คนนี้เหรอ เอเดนเนี่ยนะ”

       “ใช่ครับพ่อ”

       “โอ้พระเจ้า” พ่อกรอกตาขึ้นบน “เขาเองก็ชอบลูกนี่”

       ผมตีคิ้วมุ่น “ทำไมพ่อคิดอย่างนั้น เขาไม่ได้ชอบผม เขาแค่...ต้องการอะไรบางอย่างเท่านั้น”

       เหตุผลที่เขาตามติดผมในตอนนี้ เขาแค่ต้องการบางอย่างจากผมที่ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร มาแก้แค้นอาซา หรือทำร้ายคนที่ผมรักเป็นครั้งที่สอง

       “อะไรบางอย่างที่ลูกบอก พ่อเดาว่าคือลูก” พ่อยังคงสันนิฐานแบบมั่วๆ

       “มันไม่มีทางเป็นแบบนั้นพ่อ เขาไม่ได้ชอบผม” ผมกลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ พูดซ้ำๆย้ำกับตัวเองว่าผมจะไม่ก้าวเข้าไปหาเขา และไม่ให้เขาก้าวเข้ามาในชีวิตมากไปกว่านี้

       “แล้วอะไรทำให้ลูกคิดว่าเขาไม่ชอบลูก เขากำลังเข้าหาลูกทางพ่อ อันนี้พ่อรู้ เขาถามเกี่ยวกับลูกเยอะมาก” พ่อพูดอย่างมั่นใจว่าตัวเองคิดถูกต้อง

       “อะไรนะ แล้วพ่อได้บอกอะไรเขาไหม”

       พ่อส่ายหน้า ผมรู้สึกโล่งอกในแวบแรก ใช่ ผมควรจะโล่งอกถ้าไม่ใช่เพราะประโยคถัดมา “ไม่เหลือ พ่อบอกหมดเลย ทุกอย่างที่เกี่ยวกับลูก”

       “พ่อ!”

       “ไม่เอาน่ายอร์ช โอเค พ่อขอโทษลูก พ่อไม่รู้ แต่เขาบอกกับพ่อว่าเขาทำผิดต่อลูกและอยากขอโอกาสให้ลูกให้อภัยเขา ให้เขาแก้ตัว”

       “ถามจริงนะพ่อ เอเดนจ้างพ่อเท่าไหร่ให้มาเกลี้ยกล่อมผม” นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ผมใช้น้ำเสียงแข็งกร้าวพูดกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาผู้ให้กำเนิด

       “พ่อที่ลูกรู้จักเป็นแบบนั้นเหรอ” คราวนี้เป็นพ่อที่ทำเสียงดุ ผมรู้สึกผิดได้ไม่ยาก

       “ผมขอโทษครับ”

       “พ่อไม่รู้แน่ชัดว่าเรื่องที่เอเดนทำผิดจนลูกไม่อาจให้อภัยได้คืออะไร แต่พ่อเคยสอนยอร์ชไปแล้ว การให้อภัยหรือการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สำหรับคนที่ทำผิดแล้วสำนึกผิดและร้องขอโอกาสในการแก้ไขปรับตัว เขาสมควรได้รับโอกาส”

       “แต่ผมไม่มั่นใจในตัวเขาเลยสักนิด”

       ตัวตนของเอเดนทำให้ยากที่จะเชื่อใจ

       “ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปสิ ให้เขาพิสูจน์ตัวเองไปเรื่อยๆ แต่แค่อย่าใช้ทิฐิเข้าสอนเขา จำตอนเด็กๆที่ลูกพาน้องไปเที่ยวจนตกเขา ตอนนั้นลูกอยากได้โอกาสในการปรับปรุงตัวที่จะดูแลน้องให้ดีแค่ไหน คราวนี้ถึงคราวที่ลูกจะต้องให้บ้างแล้ว”

       “ผมจะพยายาม” ผมเบนสายตามองต้นไม้ใบหญ้า พ่อเดินกลับเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้ผมได้จมจ่ออยู่กับความคิด

       ผมเลือกที่จะเข้าไปในไร่แทนที่จะกลับเข้าไปหาข้าวกินในห้องครัว อาหารส่วนกลางที่มีไว้เลี้ยงคนานก็พอจะประทังชีวิตในมื้อเช้าได้อิ่มท้อง วันทั้งวันผมทำงานอย่างไม่เป็นสุขเพราะเอาแต่พะวงเรื่องพ่อ กลัวเอเดนจะทำร้ายท่าน เป็นห่วงจนต้องวางมือจากงานกลับบ้านเพื่อรอเวลาที่เอเดนและพ่อจะกลับมา

       เวลาเคลื่อนตัวจนถึงสี่โมงเย็น รถกระบะของพ่อก็ขับกลับมาที่ไร่ และเมื่อเท้าพ่อแตะพื้นดินอย่างปลอดภัยไร้ร่องรอยถูกทำร้าย ก้อนหินก้อนใหญ่ที่ถ่วงอยู่ในอกก็ถูกยกออก เอเดนที่เพิ่งลงจากรถมองมาทางผม ระยะทางที่ไกลพอควรแต่ผมก็ยังเห็นว่าเขายิ้ม

       “วันนี้อู้งานหรือไงลูกชาย” พ่อทักผมอารมณ์ดี ในมือมีถืออุปกรณ์ตกปลามาด้วย

       “เปล่าครับ ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่จึงกลับมาพัก” ผมปดคำโต ร่างกายผมสบายยิ่งกว่าม้าคึก แตจิตใจต่างหากที่ไม่ค่อยสบายเพราะเอาแต่กังวลว่าเอเดนจะเล่นไม่ซื่อ

       “อ่อ วันนี้เราจะย่างปลากินกันหน้าบ้านนะ เอเดนอยู่กินและดื่มด้วยกันก่อนนะ อย่าเพิ่งรีบกลับ ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อน ดูแลเขาด้วยนะยอร์ช” พ่อฝากฝังเขาไว้กับผมแล้วก็ขึ้นบ้านไปจัดการธุระส่วนตัว

       “ไม่สบายเหรอ” เขาถาม ผมไม่ตอบ ก้มมองกระป๋องใส่ปลาขนาดใหญ่ในมือเขา มีปลาไซต์ใหญ่อยู่เกือบสิบตัว แต่เขาใช้เพียงมือเดียวถือตะกร้าอย่างไม่ลำบาก

       “คุณต้องการอะไรเอเดน พูดมาตรงๆเลย” ผมถามเสียงเด็ดขาด

       แต่เอเดนกลับเงียบ เขาแค่มองจ้องตาผม เขากำลังจะบอกผมผ่านทางสายตา แต่ไม่รู้ทำไมผมไม่อาจมองสบตาของเขาได้นานๆ เพราะทุกครั้งที่มอง ผมเหมือนถูกหลุมดำไร้ตัวตนดูดเข้าไป สุดท้ายผมก็ติดกับอย่างที่เป็นอยู่

       “พูดสิ เงียบทำไม” ผมเร่ง

       เอเดนวางถังใส่ปลาลงกับพื้น ก้าวเข้ามาใกล้ผมอีกหนึ่งก้าว ผมยืนนิ่งไม่ถอยหนี ผมจำไม่ได้ว่าเราเคยใกล้กันเพียงแค่คืบหรือไม่ เพราะผมเพิ่งสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างเรา เขาสูงกว่าและตัวหนากว่าที่เคยเห็น

       “ผมต้องการ...” เขาหยุด หลบสายตามองไปทางอื่น

       “ต้องการอะไร” เห็นไหม ผมบอกแล้วว่าเขาต้องมีจุดประสงค์แอบแฝง

       เขาพ่นลมหายใจให้รู้ว่าที่จะพูดมันหนักหนา ตามด้วยสิ่งที่ผมไม่คิดว่าเขาจะทำ เอเดนก้าวหาผมอีกหนึ่งก้าวจนเราตัวติดกัน ท่อนแขนแข็งแกร่งทั้งสองข้างก็ตวัดตัวผมเข้าไปกอด

       “ผมอยากอยู่ใกล้ๆคุณ” เขากระซิบชิดใบหู ผมแทบกลั้นหายใจ รีบดึงสติกลับร่างพลักเอเดนออกจากตัว

       “อย่ามาล้อเล่น”

       เพราะผมไม่ตลกด้วย

       “ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมคิดว่าเราน่าจะรู้สึกเหมือนกัน และถ้าเราสองคนขยับเข้าหากันมากกว่านี้อีดนิด ผมหมายถึง คุณให้โอกาสผม ผมให้โอกาสตัวเอง แล้วเราก็เข้าหากันมาขึ้น” คำพูดของเอเดนชวนงุงงงสับสน ไม่ประติดประต่อสักเท่าไหร่

       “คุณคิดผิดหรือเปล่าที่ว่าผมก็คิดเหมือนคุณ ความจริงมันอาจจะตรงกันข้ามก็ได้” ผมบอกอย่างเย็นชา

       “ถ้ามันตรงกันข้ามจริงคุณใจเต้นแรงเวลาอยู่ใกล้ผมทำไม” เอเดนพูดย้อนเหมือนเป็นต่อ "คุณไม่ต้องก้าวมาก็ได้ เพราะผมจะเดินเข้าไปหาคุณเอง เข้าไปจนกว่าเราจะใกล้กันและกลายเป็นหนึ่งเดียว"

       “คุณคิดผิดมากไปหน่อยเอเดน” ผมพูด เขาทำหน้าสงสัย “ผมใจเต้นแรงเพราะผมเกลียดคุณ และผมไม่มีทางเดินเข้าไปหาคุณ และถ้าคุณเดินเข้ามาใกล้ผมมากกว่านี้ ผมเตะคุณกระเด็นแน่”

       “ก็ถ้าคุณมีแรงดีดผมออกไปได้น่ะนะ” เขาไหวไหล่น่าหมั่นไส้

       “ไม่ต้องห่วง ผมแรงเยอะกว่าที่คุณคิด”

       เอเดนกระตุกยิ้มมุมปาก แต่สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อย “สารภาพตรงนี้เลยนะ เพราะสิ่งที่ผมจะพูดผมก็ไม่เคยคิดว่าจะได้พูดกับใคร” เอเดนจริงจังจนผมกลัว

       “ผมไม่อยากให้คุณมองผมไม่ดี อยากให้คุณลืมว่าผมเคยทำอะไร ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องแคร์คุณ ซ้ำไม่รู้ว่าทำไมคุณต้องมีอิทธิพลเหนือความคิดของผม คุณอยู่นอกเหนือการควบคุม”

       “...”

       “ก็แค่อยากให้รู้เอาไว้ว่าคุณสำคัญจนผมไม่อยากปล่อยคุณไป” เขายกมือลูบแก้มผมเพียงแผ่วจนแทบไม่รู้สึก ก่อนจะก้มลงหยิบถังใส่ปลาเดินเข้าไปในบ้าน ผมยิชืนค้างเติ่งอยู่หน้าบ้านเกือบสิบนาทีเห็นจะได้

       แล้วไม่ทราบว่าผมจะไปใจเต้นแรงกับคำพูดที่เชื่อไม่ได้ของเอเดนทำไม

       ผมเดินตามเอเดนไปที่ห้องครัว เขายืนกอดอกพิงเคาน์เตอร์รอผม ผมคิดแผนการได้ในเวลาอันรวดเร็ว บทเรียนที่จะพิสูจน์ว่าเขาเปลี่ยนไปไม่ใช่เอเดนคนก่อน

       “คุณบอกว่าคุณอยากได้โอกาสแก้ตัว” ผมเก๊กหน้าขรึมให้ดูว่าจริงจัง

       “ใช่ ผมขอมันจากคุณ” เอเดนยอมรับอย่างตรงไปตรงมา

       “คุณบอกว่าคุณชอบผม”

       “ใช่ ผมพูด”

       “คุณจะทำทุกอย่างที่ผมต้องการเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจว่าคุณกลับตัวกลับใจแล้วจริงๆ”

       “ผมยอม ยกเว้นเรื่องเดียว” เอเดนชูนิ้วชี้ตรงหน้า “ห้ามบอกให้คุณออกไปจากชีวิตคุณ คุณคงไม่ใช่มุขละครน้ำเน่าหรอกใช่ไหม”

       “ก็ไม่แน่”

       “ยอร์ช” เขาเรียกผมเสียงดุ หน้าตาก็เข้มขรึม ทำอย่างกับว่าผมสน

       “ทำไม”

       “โอเค ผมยอม ว่ามาเลย อยากให้ผมทำอะไร” สีหน้าของเขาออกแนวกล้ำกลืนฝืนทน ก็ไม่แปลก คนที่อีโก้สูง ยึดมั่นแต่ตัวเอง ไม่ต้องต้องตามใคร เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง ก็คงรู้สึกไม่พอใจที่มีคนอื่นมากำหนดความคิดและชีวิตของตัวเอง แต่ถ้าเขาอยากให้ผมยอมรับ เขาก็ต้องแลก

       “ก็เริ่มจาก งานในครัวเป็นไง” ผมผายมือออกกว้าง เอเดนขมวดคิ้วมองไปตามมือของผม

       “อย่าบอกนะ”

       “ใช่ครับ ทำปลาสำหรับย่างในมื้อเย็น อย่าลืมก่อไฟด้วยล่ะ งานง่ายๆแค่นี้คุณทำได้ไหม” ผมแสยะยิ้มมุมปาก

       เอเดนดูหงุดหงิดขึ้นทันตา “ไม่เกี่ยวกับการพิสูจน์ตัวเองตรงไหน”

       “ถ้าอย่างนั้นอะไรคือสิ่งที่คุณจะทำเพื่อพิสูจน์ตัวเองล่ะ”

       เอเดนเงียบตอบไม่ได้

       “ลงมือซะ เร็วๆหน่อยนะ บ้านผมทานมื้อเย็นเร็ว”

       ผมปล่อยเอเดนไว้ในครัวตามลำพัง ผมก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่สั่งให้เขาจัดการนั้นมันเกี่ยวกับการทดสอบจิตสำนึกของเขาอย่างไร แต่อย่างน้อยเขาก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำตามคนอื่นบ้าง เขาควรได้รู้ว่าไม่มีอะไรเป็นไปตามที่ใจนึกไปเสียทุกอย่าง

       ผมเดินไปนั่งรอในห้องนั่งเล่น หางตาเห็นว่าเอเดนเดินออกมา ผมหันไปมองเขาส่สายตาแทนคำถาม

       “ผมจะถาม เตาอยู่ที่ไหน”

       “เดินลงจากบ้านไปทางซ้ายมือ จะเจอห้องเก็บของ เตาและถ่านอยู่ในนั้น ตามสบายนะครับ” ผมยิ้มเหมือนจะจริงใจ แท้จริงแล้วสะใจต่างหาก

       พ่อเดินลงมาจากบ้าน เห็นหลังเอเดนเดินกลับเข้าไปในครัวไวๆ พ่อมองผมชี้นิ้วโป้งไปทางเอเดน ผมเลยกวักมือเรียกพ่อให้เดินมาหาผมที่ห้องนั่งเล่น

       “ไม่ไปทำปลาหรือไง จะเย็นแล้วนะ” พ่อทิ้งตัวลงนั่งข้างๆถาม

       “ผมให้เอเดนทำ” ผมตอบ พ่อทำหน้าตกใจ

       “เฮ้ย! ให้แขกทำได้ยังไง” ผมลุกขึ้นทำท่าจะเดินไปช่วยเอเดน ผมดึงแขนพ่อไว้

       “อย่าพ่อ ผมจะให้โอกาสเขา แต่ถ้าเขาจะพิสูจน์ตัวเองก็ต้องเป็นวิธีของผมเท่านั้น”

       “ให้เขาไปทำเนี่ยนะ”

       ผมรู้ว่ามันเป็นวิธีที่ไม่สร้างสรรนัก แต่น้อยๆก็ได้เอาคืน

       “เอาน่าพอ คอยรอกินอย่างเดียวก็พอ” ผมดึงแขนพ่อให้นั่งลงอีกครั้ง พ่อส่ายหน้าแล้วมองไปทางห้องครัว มีเสียงดังโครมครามออกมาติดกันเป็นระยะ เจ้าชายผู้เย่อหยิ่งกลายมาเป็นพ่อครัวก็อาจไม่ใช่วิถีที่เลวร้ายนัก

       กว่ามื้อเย็นของวันนี้จะผ่านพ้นไปได้ พ่อก็ต้องยืนมือเข้าไปช่วยเอเดนหลายต่อหลายครั้ง เพราะเขาดันลงมีดเข้านิ้วตัวเองในขณะที่เอาไส้ออกจากตัวปลา ได้แผลขนาดใหญ่เลือดเจิ่งนองที่นิ้วโป้กับนิ้วชี้ พ่อผมเป็นคนทำแผลให้เพราะผมปฏิเสธ ต่อจากนั้นผมก็ยังยืนยันให้เขาจัดการติดไฟจุดเตาโดยที่ผมแค่นั่งกระดิกเท้ารอ กว่าจะเสร็จเอเดนก็มอมแมมเปรอะเปื้อนไปด้วยเขม่าถ่านสีดำเต็มหน้าเต็มตัว เขาถูกไล่ให้ไปล้างหน้าก่อนจะมาร่วมโต๊ะอาหารกลางแจ้ง

       “หมดเวลาสำหรับวันนี้ เชิญคุณกลับไปได้แล้วครับ” ผมเอ่ยทันทีที่เขาเก็บล้างจานเสร็จ

       “ผมขอนอนนี่ได้ไหม” เขาพูดด้วยเสียงต่ำๆ เขาดูเหนื่อยล้าเท่าที่สัมผัสได้ทางสายตา แต่ถึงอย่างนั้น ยังไม่ใช่ตอนนี้ที่ผมจะใจอ่อน

       “คุณรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา ที่นี่บ้านหลังนี้ยังไม่มีที่ว่างสำหรับคุณนะครับ ได้โปรดตระหนักไว้ด้วย”

       ผมพิจารณาเขานานกว่าครั้งใดที่เคยจ้องมองเขาโดยเฉพาะแววตา จริงอย่างที่พ่อพูด ถ้าผมต้องการรู้อะไรสักอย่างให้มองตาของเขา ดวงตาไม่เคยโกหก ผมเคยเห็นความโกรธแค้น ความดื้อรั้นอยากเอาชนะในดวงตาคู่สวยสีเขียวมรกต แต่ครั้งนี้มีแววตาของเขามีแต่ความอ้อนวอน สำนึกผิด ขอโทษและ...จริงใจ

       ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะเห็นสิ่งเหล่านี้จากคนที่ชื่อว่าเอเดน งูสองหัวตัวร้ายที่คิดจะฆ่าได้แม้แต่น้องชายตัวเอง แต่ระยะเวลาแค่สั้นๆไม่อาจตัดสินอะไรได้ เอเดนอาจมีลูกเล่นแพรวพราวที่จะกลบเกลื่อนความร้ายกาจเอาไว้ไม่ให้ผมมองเห็น เขาอยู่มานานกว่าชีวิตผม นึกมาถึงตอนนี้ผมก็อยากจะร้องโอ้พระเจ้าดังๆ เขาแก่กว่าพ่อ แก่กว่าตา และเขากว่าทวดของผมตั้งกี่ร้อยปี ถ้าเราจะสานต่อความสัมพันธ์กัน โอ้...ผมว่าผมต้องการเวลาไตร่ตรองเรื่องนี้อีกเยอะ

       “ผมว่าคุณควรกลับไปได้แล้ว ก่อนที่จะดึกไปมากกว่านี้” ผมหมุนกายแต่นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่จะบอกเขาอีกเรื่อง “อ่อ แล้วก็อย่ามาแอบดูผมตอนนอนอีก มันเสียมารยาท”

       ผมเดินเข้าบ้านโดยไม่สนใจว่าเอเดนจะทำสีหน้ายังไง ผมถือว่าผมให้โอกาสเขาแล้ว แค่นั้นก็เพียงพอ ถ้าเขาอยากได้มากกว่านั้น เขาก็ต้องทำตัวให้เป็นเด็กดีเข้าไว้ อย่างน้อยผมอาจจะสงสารและเห็นใจในสักวัน




       ............................
       ไม่รู้จะพูดอะไรแหะ ขอให้ทุกคนรายงานแทนแล้วกว่าจะอยู่ที่ใคร ระหว่าง ทีมยอร์ช หรือ ทีมเอเดน
       ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ พบเจอโปรดแจ้ง
       ด้วยรัก
       ริริ

       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: Glitterycandy ที่ 02-08-2015 21:49:33
#ทีมเอเดน

ทั้งๆที่พี่แกเป็นงู แต่ทำไมรู้สึกเหมือนนางเป็นหมาหงอยเลย 555

ง้อเยอะๆนะ เดี๋ยวยอร์ชก็ใจอ่อน เพราะเรายังใจอ่อนย้ายทีมเลยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 02-08-2015 21:54:10
ทีมโยชิค่ะ 555  // เหมือนจะไม่เนนอคำผิดนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 02-08-2015 22:28:42
#ทีมยอร์ช    o18  เอาตรงๆ พี่ยอร์ช แกเตือนเรื่องอาซา ไปหลายรอบละ แต่ดื้อเองนิ

ตอนนี้จงรับผลของการกระทำของตัวเองซะ   :hao3:

ปล. มีคำถามจร้า ในระยะยาวถ้าพี่ยอร์ชได้คบกับเอเดน พี่ยอร์ช มีโอกาส เปลี่ยนเป็นงูมั้ย ถ้าได้คบกัน ก็อยากให้ได้อยู่ด้วยกันนานๆอ่ะ เพราะถ้าพี่ยอร์ช เป็นคนก็อยู่ด้วยกัน ราวๆ 50 เอง  :mew2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-08-2015 22:31:00
มาจิ้มก่อนเลยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 02-08-2015 22:51:12
55555555555555 #ทีมเอเดนละกันนะ เห็นว่าสำนึกแล้ว
พี่ยอชก็แกล้งเบาๆหน่อยแล้วกันนน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 02-08-2015 23:00:26
#ทีมเอเดน ไม่รู้สิแต่คิดว่าเอเดนมุมนี้น่ารักดี

ยอร์ชจ๋าอย่าใจร้ายกะเอเดนนักเลย เอเดนง้อเยอะๆ ทำตัวน่าสงสารเข้าไว้
ยังไงยอร์ชก็ต้องใจอ่อนอยู่แบ้ว  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 02-08-2015 23:00:53
เอเดนสู้นะ แต่เรา #ทีมยอร์ช นะเออ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 02-08-2015 23:40:00
ถ้าเฮียแกมีหางมีหู คงได้เห็นเฮียแกหูลู่ หางตกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 03-08-2015 01:11:59
 :laugh: สะใจ #ทีมยอร์ช
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 03-08-2015 02:01:06
#ทีมเอเดน ครัช... ความรักเปลี่ยนได้ทุกสิ่งจริงๆ จากงูกลาเป็นแมวเลย เฮียเอเดน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 03-08-2015 02:53:47
แอร๊ยยยย เลือกข้างไม่ถูกอ่ะ
ใจหนึ่งก็สงสารเอเดน
แต่อีกใจก็แอบสะใจนิดๆ
แต่เพื่อความหวานขอเชียร์เอเดนล่ะกัน
พี่ยอร์ชรีบใจอ่อนเร็วๆนะ
เอเดนเค้าทำตัวน่าเอ็นดู ยอมพี่ยอร์ชสุดๆแล้วน้าาาา เห็นใจเค้าเหอะ :impress:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 03-08-2015 06:03:25
พยายามเข้านะเอเดน ก็เข้าใจพี่ยอร์ชแหละว่าคงอภัยง่ายๆไม่ได้
พยายามต่อไปนะพ่อคุณ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 03-08-2015 06:57:55
แหมะ แอบสะใจอ่ะ หงอเชียว กร๊ากกกก

แต่เป็นกำลังใจให้เอเดนนะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 03-08-2015 07:24:29
ทีมเอเดน 555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: lahlunla ที่ 04-08-2015 09:16:21
เอเดนสู้ๆ นะ
ยอร์ชก็ทำใจแข็งไปแบบนั้นเอง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 04-08-2015 09:54:18
ถึงจะสงสารเอเดนแต่ขออยู่#ทีมยอร์ชละกัน
ขอลงโทษเอเดนก่อน
ตอนนั้นพี่ยอร์ชเตือนเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง
ให้พี่ยอร์ชลงโทษไปก่อนนะเอเดนน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 04-08-2015 15:07:51
ทีมเอเดนคะ เพราะเราถือคติที่ว่า ร้ายกะคนทั้งโลกแต่แคร์เธอคนเดียว.
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 04-08-2015 15:31:38
เอเดน เอเดน เอเดน
น่าสงสารเอเดนอ่ะ คนจะกลับตัว ต้องการกำลังใจมากๆ
พี่ยอร์ชที่อ่อนโยน และใจดี หายไปไหน อย่าแกล้งเอเดนมากนักเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-08-2015 20:07:34
มาอ่านแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-08-2015 20:42:54
อ่านตอนนี้แล้วสงสาร

และเห็นในความพยายามของเอเดน

เอเดนไม่เคยมีความรักแบบนี้มาก่อน

ยอร์ชน่าจะเห็นใจและให้อภัยเอเดนนะ

หวังว่าตอนต่อไปยอร์ชจะไม่ต่อต้านเอเดนอีกนะ

ทีมเอเดนจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 04-08-2015 20:51:23
 o18 o18 รอดูคนนนถูกงูกินค่ะ #ทีมเอเดน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁ONE❁ 2-08-2015 [P.60]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 05-08-2015 21:10:19
เอเดน อย่าเพิ่งท้อไปนะ แม้ตอนนี้ พี่ยอร์ช จะยังไม่ให้อภัยแต่ยังไงก็อย่าท้อล่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 07-08-2015 00:27:21
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

TWO





        ผมมองชายต่างชาติกับข้าวของของเขา กระเป๋าเดินทางสองใบใหญ่ และกล่องไม้แกะสลักอย่างดีอีกหนึ่งกล่อง ผมที่กำลังจะออกไปไร่เจอเข้าแบบนี้ก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก

        “อะไร” ผมชี้นิ้วไปที่ข้าวของของเอเดนที่วางกองอยู่หน้าบ้าน

        “ผมจะมาอยู่ที่นี่” เขาตอบอย่างมั่นใจว่าเขาจะทำได้อย่างที่ต้องการโดยที่ผมจะยินดี 

        “ใครอนุญาตคุณไม่ทราบครับ” ผมถามกลับ ยืนเท้าเอวตีหน้ายียวน

        “พ่อเอง เอเดนเขามีความรู้เรื่องไวน์เยอะมาก พ่อเลยให้เขามาทำงานกับเราเลย” พ่อผมในชุดพร้อมเข้าไร่บอกพร้อมกับเรียกคนงานที่อยู่ใกล้ให้มาช่วยขนกระเป๋าของเอเดนไปไว้ที่ห้องพัก

        “เดี๋ยวนะ” ผมหยุดพ่อและลูกน้อง

        “เราคุยกันแล้วนะพ่อ” ผมหันไปหาพ่อ เริ่มจะหงุดหงิดตั้งแต่เช้า เดินเลี่ยงเพื่อคุยกับพ่อสองคนอีกทาง

        “ก็ใช่ แต่ลูกบอกว่าจะให้โอกาสเขา” พ่อพูด เหลือบตามองเอเดน ผมก็มองด้วย เขามองผมกับพ่อด้วยความอยากรู้อยากเห็น สีหน้าเขาไม่ได้แสดงออก แต่ผมอ่านได้จากแววตา เวลาเอเดนสนใจอะไร ดวงตาสีเขียวมรกตของเขาจะแวววาวสีอ่อนลง ดูสดใสเปร่งประกาย ผมหันหน้าหนีเมื่อรู้สึกว่าตัวเองสนใจเขามากเกินไป

        “ให้โอกาส นั่นหมายถึงผมจะจัดการเขาเอง”

        “อ่อ ลูกจะบอกว่าพ่อยุ่งว่างั้น” สีหน้าของผมเครียดขึ้ง

        “เปล่า แต่พ่อ เรื่องเอเดนขอผมจัดการเองได้ไหม”

        ผมอยากต่อท้ายเหลือเกินว่า พ่อตามเล่ห์เหลี่ยมเอเดนไม่ทันหรอก เขามันเจ้าวางแผน

        “แต่เรื่องที่จะให้เขามาช่วยงานที่โรงบ่มไวน์ พ่อจริงจังนะ เขาน่าจะช่วยพลักดันเราเรื่องนี้ได้ พ่ออยากให้ลูกรับเขาไว้ เพราะเขาจะเป็นประโยชน์ต่อเราเรื่องการพัฒนาไร่และสินค้า”

        ผมคิดหนัก ที่พ่อพูดมามันก็จริง เอเดนมีความรู้เรื่องการผลิตไวน์มามากกว่าผม เขาเจนจัดเรื่องนี้ แถมยังมีเครือข่ายทั่วโลก ถ้าได้เข้ามาช่วยอนาคตไร่และไวน์ของเราจะต้องก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ติดอย่างเดียวเท่านั้น

        “ถ้าอย่างนั้นผมขอคุยกับเขาก่อน” ผมเดินกลับไปหาเอเดนที่ยืนนิ่งมองผมไม่วางตาเลยแม้แต่วินาทีเดียว พ่อยืนเท้าเอวหย่อนขาข้างหนึ่งอย่างสบายๆ ส่งยิ้มให้เอเดนอย่างเป็นมิตรต่างจากผมที่หน้าบึ้ง

        “ถ้าคุณอยากอยู่ที่นี่ทำงานที่นี่ ผมจะต้องเป็นคนสัมภาษณ์คุณก่อน ต่อให้พ่อผมจะอยากได้คุณมาช่วยงานแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่ผ่านการสัมภาษณ์งานกับผม คุณก็เก็บของกลับไปในที่ของคุณซะ ว่ายังไง” ผมเลิกคิ้วสูงถามเอเดน เขาทำหน้านิ่งก่อนจะยกยิ้มบางๆ

        “ก็เอาสิ ยังไงผมก็ผ่านอยู่แล้ว”

        ผมเกลียดความมั่นใจของเขาเหลือเกิน

        “ถ้าคิดว่าเจ๋งก็ลองดู ตามผมมา”

        ผมเดินนำเอเดนไปที่ห้องสำนักงานที่ตั้งอยู่ระหว่างทางเดินไปไร่ ฝีเท้าของเอเดนดังอยู่ด้านหลังและใกล้ๆเข้ามาเรื่อยๆ เพียงแค่ไม่กี่ก้าวเขาก็เดินทันผม เราเดินเคียงข้างกัน ผมหันไปมองก็เห็นของมองผมอยู่ก่อนแล้ว

        “คุณเคยใจดี” เขาพูด

        “ผมใจดีกับคนที่ควรได้รับ” ผมตอบ หันหน้ามองตรง

        “ผมก็คนเดิม อันที่จริง ก็ไม่เหมือนเดิมเท่าไหร่ ผมเปลี่ยนไปแล้ว” เสียงของเขาแผ่วในตอนท้าย

        “ผมไม่เห็นคุณจะเปลี่ยนไปตรงไหน” ผมแย้งเสียงแข็ง

        “ผมรู้ว่าคุณรู้”

        ผมไม่พูดอะไรต่อ เดินมาจนถึงห้องสำนักงาน ผมจะแวะมาที่นี่ในตอนเช้าบ้างหรือเย็นบ้างถ้ามีงานเกี่ยวกับเอกสาร ซึ่งที่นี่จะมีคนทำอยู่แล้ว คุณกันยาเลขาของผมจะเป็นคนจัดการเรื่องเอกสารทั้งหมดกับพนักงานบัญชีอีกคนชื่อคุณขวัญพร พนักงานในไร่ไม่เยอะ เพราะส่วนมากผมจะทำเองเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเงิน ผมไม่รับพนักงานเข้ามาทำเพราะอยากดูแลเรื่องนี้เอง ไว้กิจการขยายมากขึ้นกว่านี้ค่อยคิดเรื่องหาคนมาดูแทน

        “สวัสดีค่ะคุณยอร์ช” คุณกัญญาเอ่ยทักผม แม้จะอายุสี่สิบแล้วแต่เธอก็ยังสวยอยู่ บางครั้งเธอจะพาลูกสาวมาเล่นที่นี่ด้วย แต่ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอม น้องลูกแก้วจึงไปเรียนไม่ค่อยได้มาเที่ยวเล่นที่ไร่บ่อยนัก

        “สวัสดีครับ วันนี้มีงานอะไรเพิ่มเติมไหมครับ” ผมถาม

        “มีออเดอร์ใหม่เข้ามาค่ะ เดี๋ยวพี่จะส่งรายละเอียดให้อีกทีนะคะ”

        “ขอบคุณครับ” คุณกันยาจะคัดกรองลูกค้าให้ผมก่อนหนึ่งรอบเพื่อพิจารณาว่าควรรับหรือไม่ก่อนจะส่งให้ผมดูและอนุมัติอีกที

        “อ่อ วันนี้ขวัญพรลาป่วยนะคะ เห็นว่าไม่สบาย”

        “ได้ครับ” ผมรับเรื่อง คุณกัญญายิ้มให้เอเดนนิดๆ แต่คิดว่าคนอย่างเอเดนจะสนใจคนอื่นรอบตัวไหม บอกเลยว่าไม่ ผมถึงบอกไงว่าเขายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

        ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง กดเปิดแอร์ให้เพิ่มความเย็น ผมนั่งลงที่ก้าอี้ประจำตำแหน่ง ผายมือให้เอเดนนั่งฝั่งตรงข้าม ระหว่างผมกับเขามีแค่โต๊ะทำงานตัวเดียวขวางกั้น บรรยากาศเก่าๆย้อนเข้าเล่นงานผมอีกครั้ง ยามที่เราเคยปรึกษากันเรื่องงาน ผมชื่นชอบยามที่เอเดนจริงจัง ผมเคยรู้สึกอย่างนั้น แต่ปัจจุบันความโกรธบดบังทุกเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นแม้จะเป็นช่วงสั้นๆก็ตาม สุดท้ายผมก็หลอกตัวเอง ที่ผมทำใจแข็งก็เพราะว่าผมกลัวว่าเขาจะทำให้ผมหวั่นไหวและทำร้ายจิตใจกันซ้ำสอง

        “ผมไม่มีเอกสารนะ คุณอยากรู้อะไรถามมาได้เลย” เขาพูดเมื่อเวลาผ่านไปห้านาทีตั้งแต่เข้ามาในห้องทำงาน

        “ไม่จำเป็นหรอก ข้อมูลพื้นฐานแค่นั้นผมไม่ต้องการ” ในความคิดผม เรซูเม่ก็เหมือนหน้ากากนั่นแหละ อยากให้ตัวเองดูดีขนาดไหนก็ปั้นแต่งได้ตามใจชอบ แต่ก็นะ ระบบการรับคนเข้าทำงานมันจำเป็นต้องรู้สิ่งเหล่านั้น เพราะตอนผมรับพนักงานผมก็ยังต้องขอดู แต่กับเอเดนผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ หนึ่งเลยผมไม่ได้อยากให้เขามาทำงานที่นี่ และสอง ระดับเอเดนถ้าคิดจะทำงานที่นี่จริงๆ ผมต่างหากที่ต้องเชิญเขามาเขาเก่งกว่าผมหลายเท่าตั้ว จะดูเอกสารเหล่านั้นไปทำไมให้เสียเวลา

        “แล้วคุณต้องการให้ผมทำอะไร ผมต้องแนะนำตัวไหม” เขาดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก แต่ผมมองว่าเขากำลังกวนประสาท

        “จะกวนผมเหรอ”

        “เปล่า ก็คุณบอกจะสัมภาษณ์” เขายิ้มยิงฟันในขณะที่ผมไม่คิดว่าบรรยากาศในห้องน่ารื่นรมย์ที่ตรงไหน

        “อะไรที่ทำให้คุณคิดว่าผมควรจะต้องรับคุณเข้าทำงาน” ผมยิงคำถามแรก เอเดนอึ้งไปนิด เขามองสบตาผมยามที่ใช้ความคิดกลั่นกรองคำตอบ

        “ผมมีความรู้เรื่ององุ่น วิธีทำไวน์เป็นอย่างดี หลายเรื่องที่คุณไม่รู้และไร่ของคุณยังขาด ผมสามารถเติมให้เต็มได้ด้วยสิ่งที่ผมมี รวมไปถึงผมสามารถพลักดันผลิตภัณฑ์ทุกอย่างในไร่คุณไปสู่ตลาดในอเมริกาและยุโรป” เขาพูดอย่างคล่องแคล่ว และเมื่อใดก็ตามที่เขามั่นใจน้ำเสียงของเขาจะไพเราะน่าฟัง

        “น่าสนใจมาก ดูเหมือนว่าความสามารถของคุณจะมีมากเกินไปกับไร่เล็กๆของผม ผมไม่มีเงินจะจ้างคนเก่งระดับคุณหรอกนะ” แต่น้ำเสียงของเขาใช้หลอกล่อผมไม่ได้ มันยังไม่เพียงพอที่จะทำผมยินยอม

        “ผมไม่ต้องการเงิน” เขาเขม้นตาต่อว่า

        “แล้วคุณจะได้อะไรตอบแทน ไม่มีใครในโลกนี้ทำอะไรให้ใครโดยไม่หวังผล โดยเฉพาะคุณ” ผมจ้องตาเขาชนิดไม่มีใครยอมใคร

        “คุณเห็นผมเป็นคนยังไง” ดวงตาสีเขียวที่หม่นแสงกระพริบพร่า

        “ไม่รู้สิ ผมไม่รู้จักคุณ” ผมเบือนหน้าหนีเพราะมันจะทำให้ผมเขวจนใจอ่อน

        “ยอร์ช” เขาถอนหายใจ ส่ายหน้าราวกับเบื่อหน่าย “ผมยอมรับนะ ว่าผมหวังผล แต่สิ่งที่ผมหวังก็แค่...คุณ”

        ผมไปต่อไม่ถูก จึงเลือกที่จะเงียบ

        “คุณก็รู้ว่าผมไม่ค่อยชอบพูด และคิดว่าคุณคงไม่เชื่อแค่ลมปาก ผมขอโทษไปแล้วไง แต่ผมก็อยากให้คุณรับรู้ความรู้สึกของผมบ้าง ผมไม่ต้องการให้คุณเข้าใจอดีตของผม ผมทำผิดผมรู้ แต่ผมไม่เคยทำผิดต่อคุณ นั่นคือสิ่งที่ผมรู้และคุณควรตระหนักรู้ด้วย เพราฉะนั้นผมจึงคิดว่าคุณไม่ควรโกรธผม” เอเดนพูดลอดไรฟัน เสียงของเขาไม่ได้ดัง แต่ความโกรธมาเต็มยิ่งกว่าถูกตะโกนใส่หน้า

        “อ่อ งั้นผมจะไปฆ่าใครตายก็ได้ คุณก็จะไม่รู้สึกอะไรงั้นสิ ไม่รู้สึกผิดหวังในตัวผม ไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดี และปล่อยให้ผมทำเรื่องเลวๆโดยไม่คิดจะห้ามจะเตือน อย่างนั้นสินะ” ผมย้อนตามอารมณ์ที่เดือดพล่าน

        “มันไม่เหมือนกันนะยอร์ช นั่นมันเรื่องของผมกับอาซา!” เอเดนไม่ระงับความโกรธอีกต่อไป เขาบันดาลโทสะดังลั่นห้อง ป่านนี้คุณกัญญาที่อยู่ข้างนอกคงสะดุ้งตัวโยน เสียงของเอเดนหน้ากลัวจนขนลุก

        “แต่เขาเป็นคนในครอบครัวของผม และผมก็เตือนคุณแล้วว่าไม่ให้คุณทำ ทำไมคุณยังทำร้ายเขา” ผมพูดให้เขานึกย้อน ถ้าเขาคว้าโอกาสไว้ตั้งแต่ตอนนั้น ระหว่างเราคงไม่แย่จนมองหน้ากันไม่ติด

        “คุณไม่เข้าใจผมเลยสักนิดยอร์ช” เขากัดฟันกรอด

        “ทำไม คุณบอกว่าผมควรจะต้องสงสารคุณสินะ”

        “ผมไม่เคยอยากให้คุณมาสงสาร ผมไม่เคยต้องการ!” เขาตะวาดใส่ผม สาดความโกรธมาเต็มๆทางน้ำเสียง “คุณไม่เป็นผมคุณจะเข้าใจอะไร”

        “ต่อให้ผมเป็นคุณผมก็จะไม่ทำแบบนั้น” ผมส่ายหน้ากัดฟันแน่น

        เอเดนยกมือลูบหน้าลูบหัว “ผมว่าเรากำลังเถียงในเรื่องที่งี่เง่าที่สุด”

        “สำหรับผมมันไม่ได้งี่เง่าเลยสักนิด ทุกวันนี้ผมก็ยังคงเอาแต่คิดว่าคุณทำลงไปได้ยังไง เอเดน...คุณฆ่าผู้หญิงคนนั้น คุณฆ่าใครต่อใครเพื่ออำนาจ คุณคิดจะฆ่าน้องชายตัวเองเพียงเพราะอยากได้หัวใจของเขา คุณทำลงไปได้ยังไง! ชีวิตทุกคนมีค่า และคุณกลับทำร้ายพวกเขาเพียงเพื่อความต้องการบ้าๆของตัวเอง รู้ไหมว่าการฆ่าคนตายมันผิดบาปขนาดไหน!”

        ปึก!

        มือใหญ่ของเอเดนกำแน่นทุบลงบนโต๊ะทำงานจนจนแผ่นไม้หนาแตกเป็นรอย ไม้ที่แยกตัวออกจากกันทิ่มเข้าไปในมือของเขา เลือดสีแดงไหลนองเต็มโต๊ะและหยดลงบนพื้น สีหน้าเขาโกรธจัด ฟันขบกันแน่นขึ้นเป็นแนวสันกราม เส้นเลือดปูดนูนตามไรขมับและท่อนแขน ผมยั่วจนเขาโมโหจัดเสียแล้ว

        “คนที่เกิดมาในครอบครัวที่แสนอบอุ่นอย่างคุณจะเข้าใจผมได้ยังไง ผมไม่เคยต้องการให้คุณมาเข้าใจ แต่ช่วยมองข้ามมันไปหน่อยไม่ได้หรือไง ต้องให้ผมชุบชีวิตคนพวกนั้นขึ้นมาไหมคุณถึงจะพอใจจะให้อภัยผมได้”

        “แต่คุณเลือกได้ เพียงแค่คุณไม่เลือก”

        ชั่วขณะสั้นๆ ใบหน้าชวนให้หลงใหลของเอเดนฉายแววเจ็บปวดอย่างไม่คาดฝัน

        “ก็ผมทำผิดไปแล้ว ผมย้อนเวลาไม่ได้ โอเคไหมโอเคไหม” เอเดนพูดเสียงแผ่ว

        “...”

        “ผมจะมาเอาคำตอบของคุณในวันพรุ่งนี้” อยู่ๆเขาก็ตัดบทแล้วหันหลังเดินจากไป

        “เอเดน เดี๋ยวก่อน!” ผมตะโกนเรียกเขา แต่เขาไม่กลับมา ประตูปิดตัวลงเองอัตโนมัติ ปิดกั้นผมกับเอเดนเหมือนแยกเราออกจากคนละโลก ความเจ็บปวดทางแววตาของเขาเพิ่งจะมีฤทธิ์ทำร้ายผม เขาเจ็บปวดแสนสาหัส ผมรู้ และผมก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน

        ผมทำงานไม่รู้เรื่องเลยทั้งวัน เพราะเอาแต่เป็นห่วงเอเดน ป่านนี้เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขารู้สึกไม่ดี ถึงจะไม่คิดว่าตัวเองผิดอะไรที่พูดไปแบบนั้นก็เถอะ ผมโล่งอกขึ้นเมื่อได้ระบายความรู้สึกของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องของเขาให้เจ้าตัวได้รับรู้ ว่าผมเสียใจ ผิดหวังและโกรธการกระทำของเขามากเพียงใด ผมโล่งใจและผมถึงได้รู้ว่า ที่ผ่านมาที่ผมอึดอัดก็เพราะว่าผมอยากให้เขารับรู้บ้างว่าสิ่งที่เขาได้ทำนั้นส่งผลต่อความรู้สึกของผมอย่างไร มันไม่ต่างจากหินที่ถูกโยนลงน้ำแล้วเกิดคลื่นสะท้อนเป็นวงกว้าง

        คำตอบของคำถามที่ผมไม่คิดจะยอมรับมันมาตลอด ว่าเขาไม่คิดถึงความรู้สึกของผมบ้างเหรอ ผมไม่สำคัญพอที่เขาจะเชื่อเลยใช่ไหม ความหวังดีของผมทำไมถึงเข้าไปไม่ถึงใจของเขา ทั้งหมดกลายเป็นว่าผมให้ความสำคัญกับเขามากมายโดยที่เขาไม่ได้คิดเช่นเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ผมจึงหลอกตัวเองว่าผมแค่โกรธที่เขาทำเลว ไม่เกี่ยวกับเรื่องของความรู้สึกที่มีต่อเขาเลยสักนิด

        และในตอนเย็นผมก็โดนพ่อจับความผิดปกติได้ ผมเล่าเรื่องที่ผมทะเลาะกับเอเดนให้พ่อฟัง และแน่นอน ผมโดนพ่อดุเหมือนตอนเด็กไม่ผิดเพี้ยน จนผมอดน้อยใจไม่ได้ว่า ใครกันแน่ที่เป็นลูกพ่อ

        “พ่ออยากได้เอเดนมาเป็นลูกแทนผมไหมละ” ผมพูดแดกดันพ่ออย่างที่ไม่เคยทำ บางทีผมก็ไม่ใช่ลูกที่ดีเท่าไหร่ อย่างเช่นตอนนี้ที่ความน้อยใจเข้าครอบงำ

        “รู้สึกยังไงล่ะ ที่พ่อเข้าข้างเอเดน” พ่อไม่โกรธ แต่กลับถามอย่างใจเย็น

        “พ่อจะให้ผมรู้สึกยังไง  ทำไมพ่อต้องไปเข้าข้างเขาด้วยล่ะ” ผมยังคงไม่ยอม

        “โกรธพ่อเหรอ”

        “เปล่า”

        “น้อยใจ” พ่อถามอีก

        “...” ผมเงียบ ผมน้อยใจแต่จะให้พูดเหรอ

        “พ่อทำแค่นี้ลูกยังน้อยใจ กับเอเดนลูกคิดว่าเขาจะรู้สึกยังไงที่พ่อตัวเองเห็นน้องต่างแม่ดีกว่า”

        ผมตวัดตาขึ้นมองพ่ออย่างตกใจ อึ้งไปชั่วขณะ“พ่อรู้ได้ยังไง”

        “เอเดนเล่าให้พ่อฟัง ก่อนหน้านี้เขาสารภาพผิดกับพ่อพร้อมกับขอโอกาสให้เขาพิสูจน์ตัวเองกับเรา พ่อถึงยอมให้เขาเข้าไปหาลูกยังไงล่ะ”

        “เขาเล่าอะไรให้พ่อฟังบ้าง”

        คงไม่ได้บอกใช่ไหมว่าตัวเองเป็นอะไร ถ้าบอกพ่อไม่นั่งนิ่งไร้อาการตกใจเช่นนี้

        “เขาบอกว่าเขาทะเลาะต่อยตีกับน้องชายต่างแม่เพราะเหตุผลที่ว่าพ่อรักน้องชายมากกว่า เขาโกรธและเกลียดน้องตัวเอง และยังบอกว่าลูกโกรธเขาเพราะเขาไม่ยอมเชื่อฟังสิ่งที่ยอร์ชบอกสิ่งที่ยอร์ชเตือน เขาก็บอกพ่อแค่นี้แหละ ซึ่งรายละเอียดอาจจะมากกว่านี้ที่พ่อไม่รู้ และแน่นอนว่าลูกต้องรู้มากกว่าพ่อ เพราะฉะนั้นลูกน่าจะเข้าใจเขาดีกว่าที่พ่อเข้าใจ”

        “พ่อเชื่อสิ่งที่เขาเล่าเหรอ” ผมถามแม้พ่อจะพูดถูก ผมรับรู้ทุกอย่างมากกว่าพ่อ และตอนนี้ผมเกลียดตัวเองที่เกิดความรู้สึกสงสารเขาในจิตใจ

        “พ่อเปล่าเชื่อ และไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ พ่อรับรู้แต่ไม่ขอออกความเห็นว่าสิ่งที่เอเดนทำต่อน้องชายเขาว่าถูกหรือผิด พ่อรักยอร์ชกับโยชิมาก พ่อรักลูกเท่ากันไม่มีรักใครมากกว่าหรือน้อยกว่า แต่รู้ต้องรู้ว่าโลกนี้พ่อแม่ทุกคนไม่ได้เหมือนพ่อไปหมดทุกคน ไม่อย่างนั้นจะมีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์พ่อข่มขืนลูก หรือเหตุการณ์จากคนรอบตัวที่เราต่างก็เคยเห็นไอ้ประเภทรักลูกไม่เท่ากัน พ่อถึงบอกไง เราไม่ได้เป็นเขา ไม่ได้ยืนอยู่ในจุดที่เขาเจ็บปวด เราไม่มีทางรู้ว่ามันเลวร้ายต่อความรู้สึกและจิตใจเขามากขนาดไหนถึงทำให้เขาลงมือกระทำสิ่งที่ผิดได้”

        “ผมทำผิดใช่ไหมพ่อที่ผมว่าเขาไปแบบนั้น” ผมคอตกอย่างรู้สึกผิด เสียงโทรทัศน์ยังคงดังแต่ไม่สามารถแทรกเข้ามาในโสตความคิดที่ยุ่งเหยิงไร้ระเบียบ

        “ก็ไม่ได้เรียกว่าผิดหรอก เรียกว่าระบายอารมณ์มากกว่า ลูกไม่พอใจเขาลูกก็ทำร้ายเขาทางคำพูด เขาเคยไม่พอใจน้องชายเพราะคิดว่าแย่งความรักไปจากพ่อก็ทะเลาะโกรธแค้นกันเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ เห็นไหม ใครๆก็ทำ ขึ้นอยู่กับแค่วิธีเท่านั้นที่ว่าร้ายแรงกว่ากันแค่ไหน แต่ถึงยังไงสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ คนทำผิดนั้นสำนึกผิดหรือเปล่า ตอนนี้พ่อรู้ว่าลูกรู้สึกผิดและลูกอยากให้เขาให้อภัยใช่หรือไม่”

        ผมไม่ตอบแต่พยักหน้าแทน พ่อโอบมือรอบบ่าตบไหล่ผมปลอบใจ

        “นั่นแหละ เขาก็กำลังสำนึกผิดและรอคอยการให้อภัยจากลูกอยู่เช่นกัน”

        ถึงเวลาจริงๆแล้วใช่ไหมที่ผมจะเปิดใจให้อภัยเขา เกิดความเงียบยาวนานพยายามต่อสู้กับข้อขัดแย้งทั้งหลาย ฝ่ามือที่ประกบกันบีบแน่นก่อนจะค่อยๆผ่อนคลาย ความโล่งบังเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมก็แค่ต้องทิ้งทิฐิลง ไม่มีอะไรยาก ผมทำได้ สิ่งที่พ่อเพิ่งจะพร่ำสอน ผมต้องทำได้แน่ๆ

        “ผมจะให้อภัยเขา” ผมตัดสินใจได้ในที่สุด “แต่ผมคิดว่าผมยังคงต้องสอนเขาในบ้างเรื่อง”

        “บอกพ่อได้ไหมว่าลูกจะสอนอะไรเขา” พ่อยิ้มอย่างอ่อนโยน

        “ผมอยากสอนให้เขารู้จักการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น สอนให้เขายอมรับความคิดเห็นของคนอื่นนอกเหนือความต้องการของตัวเองเป็นหลัก อยากให้เขามีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์” ผมหมายมั่นจะทำตามที่พูด

        “ก็ลองดูสิ ถ้าเขาเกเรเพราะโหยหาความรัก ลูกก็ต้องเยียวยาเขาด้วยสิ่งที่เขาขาด พ่อว่ายอร์ชทำได้ กับยอร์ชเอเดนเหมือนลูกหมาตัวโตที่มีดีแค่ตัวใหญ่ แต่พอเจอเจ้าของดุเข้าไปก็หงอยซ่าไม่ออก ฮ่าๆๆ เหมือนนะ ว่าไหม” พ่อหัวเราะอารมณ์ดี ผมยิ้มตาม

        “ขอบคุณนะครับพ่อที่คอยสั่งสอนผม” ผมพนมมือกราบกับไหล่พ่อ พ่อกอดผมไว้เหมือนตอนที่ผมยังเล็กๆ กอดของพ่ออบอุ่นเสมอ แวบหนึ่งอดคิดไม่ได้ว่า เอเดนเคยถูกโอบกอดแบบนี้บ้างไหม

        “พ่อทำเพื่อลูกด้วยความรัก”

        ผมโชคดีที่เกิดเป็นลูกของพ่อศิลา ผมเลือกเกิดไม่ได้แต่ผมก็ยังโชคดี และผมจะยอมแบ่งปันความโชคดีให้เอเดนสักหน่อยก็ได้ถ้าหากว่าเขาสำนึกผิดอย่างที่พูดจริงๆ

        สี่ทุ่มตรงผมกับพ่อแยกย้ายเข้าห้องนอนใครห้องนอนมัน ผมทิ้งตัวลงบนที่นอน กดตัวเลขสิบหลักคาทิ้งไว้ ชั่งใจอยู่ว่าจะพูดอะไรเมื่อเจ้าของเบอร์รับสาย จนเวลาเคลื่อนผ่านเข็มยาวชี้เลขหก และก่อนที่จะวนกลับไปหาเลขสิบสองอีกครั้ง ผมควรจะกดโทรออกได้เสียที ผมยอมโทรหาเอเดนก่อนเพื่อแทนคำขอโทษที่พูดจาไม่ดีใส่เขาเมื่อเช้า ผมนอนฟังเสียงสัญญาณไม่ถึงสามครั้งเขาก็รับสาย

        “ฮัลโหล”

        “...” เขาน่าจะรับช้ากว่านี้ ผมว่าผมตั้งตัวไม่ทัน

        “มีอะไรหรือเปล่ายอร์ช ดึกแล้วคุณยังไม่นอนเหรอ”

        ผมไม่แปลกใจที่เขารู้ว่าเป็นเบอร์ผม ไม่รู้สิน่าตกใจยิ่งกว่า ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆและผ่อนออกเชื่องช้าก่อนกรอกเสียงบอกกับอีกฝ่าย

        “พรุ่งนี้อย่าลืมมาเริ่มงาน ที่ไร่ของผมเริ่มงานแปดโมงตรง ถ้ามาสายคุณจะอดข้าวกลางวัน” ผมพูดจบก็ตัดสายทันที

        บ้าเอ้ย หัวใจเต้นแรงชะมัด

       

        .............................................
        มาลงช้าเพราะนั่งรีไรต์ใหม่เพราะที่แต่งไว้ไม่โดนใจ เลยยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ พี่ยอร์ชอ่ะใจอ่อนจะตาย แต่ต้องทำเป็นใจแข็งเพื่อที่จะปราบพ่องูดื้อ มาดูสิว่าเขาจะสอนกันอย่างไร อิอิ :hao6:
        ริริอัพตอนแรกเรื่องพี่เสือคาร์เตอร์แล้วนะคะ ใครยังไมไ่ด้อ่านตามไปอ่านได้เลยน้าาาา  :katai2-1: DG.Series|CATCH ME TIGER! เล่ห์ลวงพยัคฆ์  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47389.0)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 07-08-2015 01:16:36
อยากอ่านต่อเร็วๆ จังเลย พี่ยอร์ชจะเปิดใจให้เอเดนแล้ว
ถึงเวลาน่ารักฟรุ้งฟริ้งที่รอคอย  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 07-08-2015 05:35:53
เอเดนเหมือนลูกหมาตัวโตๆสินะคะ พี่ยอร์ชต้องดูแล อบรม เลี้ยงดูด้วยความรักด้วยล่ะ
รอตอนต่อไปน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 07-08-2015 06:45:49
กรี๊ดดด   เอเดนรอโทรศัพท์อยู่ล่ะสิ รับไวเลย 5555
 ทีมเอเดนนน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 07-08-2015 06:54:59
พี่ยอร์ชใจอ่อนซะแล้ว รอๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 07-08-2015 07:06:51
แหมะ แอบสงสารเอเดนอ่ะ เงือดออกเยอะนะนั่น

เอาล่ะ พี่ยอร์ชเปิดทางแล้ว ลุยเลย!!
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-08-2015 09:07:58
 :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 07-08-2015 09:09:30
พี่ยอร์ชใจอ่อนเร็วกว่าที่คิดนะเนี่ย
เห็นเอเดนเจ็บละทนไม่ได้ล่ะสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 07-08-2015 09:20:56
อยากรู้ว่าพี่ยอร์ชจะทำให้เอเดนกลายเป็นงูเชื่องๆได้ยังไง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 07-08-2015 16:56:18
รอออออออออออ

จะรอดูเขาสองคนน่ารัก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 07-08-2015 17:20:25
เย้ เอเดนต้องขอบคุณพ่อศิลาเลยนะงานเนี่ย ไม่งั้นพี่ยอร์ชยังโมโหต่อแน่ๆ
รอตอนต่อไปนะฮะ อยากให้เอเดนมีกำลังใจบ้าง อิอิ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 07-08-2015 18:29:25
พี่บอร์ชจะคาแรคเตอร์ อบอุ่น+ซึน+บราค่อนใช่มั้ย 555 :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-08-2015 20:01:42
มาให้กำลังใจ

และมาตามอ่าน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-08-2015 20:46:31
ดีใจกับเอเดนด้วยนะ

ที่พี่ยอร์ชเปิดใจและให้อภัยเอเดนแล้ว

ขออีกๆ ขอตอนหวานๆ NC ด้วยก็ดี
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 07-08-2015 21:57:48
พี่ยอร์ช พร้อมจะให้อภัย เอเดน แล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 08-08-2015 06:37:57
เอเดนห้ามมาสายนะ ไม่งั้นอดข้าวไม่มีแรงง้อพี่ยอร์ชไม่รู้ด้วย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 08-08-2015 15:37:30
พ่อศิลาน่ารักจัง  :katai2-1: เราก้อคิดเหมือนพ่อศิลาน่ะ เราไม่ได้เป็นเขาเราไม่รู้หรอก แต่ละคนแต่ละสถานะมันเปรียบเทียบกันไม่ได้ เราอย่าไปคิดหรืออย่าไปพูดเลยว่าถ้าเราเป็นเขาเราจะไม่ทำหยั่งงี้หรือจะไม่ทำอย่างนั้น ตอนนี้ในเมื่อเขายอมรับผิดเราก้อควรจะให้อภัย และช่วยให้เขาได้ก้าวเดินไปในหนทางที่ถูกต้องน่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 11-08-2015 00:32:57
พ่อตาเชียร์ลูกเขยฝุดๆ  :m4:
แล้วอย่างนี้ยอร์ชจะเหลือเร้อออ
ใจอ่อนยวบ  :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 12-08-2015 03:44:12
พี่ยอร์ชเริ่มใจอ่อนแล้วสิ เอเดนรุกเต็มที่เลย เข้าทางพ่อด้วย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 17-08-2015 02:02:45
อย่างงี้มันต้องรุกเนอะ เอเดนเนอะ ยอมรับผิดแล้ว เชียร์ได้เต็มที่
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 17-08-2015 03:59:56
เรื่องนี้สนุกจนหยุดอ่านไม่ได้รู้ตัวอีกทีก็ตี 4 ...  :ruready
อาซาหล่อมาก ชอบในจิตใจที่มั่นคง อิจฉาโยชิสุดๆ ><

ตอนนี้กำลังลุ้นไปกับเอเดน ตื่นเต้นๆ มาต่อไวๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁TWO❁ 06-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 18-08-2015 08:08:55
อีกไม่นานต้องสมหวังอย่างแน่....แต่งได้ดีดีมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 22-08-2015 16:26:48
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

THREE






        เสียงไก่ขันในยามเช้าบอกเวลาว่าควรตื่นนอน นาฬิกาธรรมชาติไม่เคยผิดพลาดเวลาตอนนี้ก็คงจะตีห้า แต่ที่ผิดปกติก็คือผมง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น พยายามอยู่สองสามครั้งก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายก็เลิกฝืนแล้วปล่อยลมหายใจทิ้งตัวสม่ำเสมออีกครั้ง ตื่นช้ากว่าเดิมสักชั่วโมงคงไม่เป็นอะไร

        แต่เอาเข้าจริงผมไม่ได้หลับต่อเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงอย่างที่ตัวเองคาดหวังไว้ ผมสะดุ้งตื่นตอนที่แสงแดดสาดจ้าเข้ามาในห้อง โผลงลืมตามองนาฬิการ่างก็ลุกพรวดอย่างรวดเร็วจนเกิดอาการหน้ามืด สิบโมงกว่าแล้วหรือนี่

        “ผมคงไม่อดข้าวกลางวันแน่ เพราะผมมาก่อนที่คุณจะตื่น”

        “...!” ผมหันศีรษะมองเจ้าของเสียงอีกด้านหนึ่งทันที ผมปวดหัวจี๊ดเมื่อเห็นหน้าคนบุกรุก

        “ใครอนุญาตให้คุณเข้ามาในห้องผมไม่ทราบ!” ผมกระแทกเสียงโมโห ลุกจากที่นอนจ้องหน้าเอเดนเอาเรื่อง ถึงผมจะยอมให้โอกาสเขาได้แก้ตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้เขาทำตามอำเภอใจถึงขนาดลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผม

        "ผมแค่จะมาปลุก คุณไม่ตื่นสักที พ่อคุณบอกว่าผมจะต้องรับงานจากคุณคนเดียวเท่านั้น”

        ผมยืนเท้าเอวเงยหน้าขึ้นแล้วหลับตา ข่มความฉุนเฉียวในอกให้สงบลง และลืมตามองสบกันเอเดนอีกครั้งด้วยความจริงจัง

        “ผมขอบอกคุณเอาไว้เป็นอย่างแรก หากคุณต้องการจะอยู่ที่นี่ พื้นที่ห้องนอนของผมเป็นเขตหวงห้าม ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาไม่ว่าจะกรณีใดๆทั้งสิ้น”

        “แม้ว่าคุณอาจเกิดอันตรายในห้องของตัวเองงั้นเหรอ” เขาเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อถามคำถามนั้น

        “มันจะเกิดก็เมื่อคุณนั่นที่เข้ามา” ผมสวนกลับแบบที่ใจคิด

        เอเดนหน้าตึงฉับพลัน “ผมไม่ได้จะทำร้ายคุณ”

        “ใครจะไปรู้” เขาไม่ใช่คนที่จะไว้ใจได้ง่ายๆ ในตอนนี้ผมรู้เพียงเท่านี้

        “ยอร์ช!”

        ผมไม่สนใจเสียงดุดันที่กดต่ำจากพายุอารมณ์ เพราะตอนนี้ผมเองก็ไม่พอใจเช่นกัน

        “เอาละ ออกไปจากห้องผมได้แล้ว เมื่อผมจัดการตัวเองเสร็จผมถึงจะบอกว่าคุณต้องทำอะไรบ้างหากจะอยู่ที่นี่ เพื่อเป็นการชดใช้ความผิด”

        “ก็ไหนคุณบอกว่าให้อภัยแล้วไง”

        “ผมบอกว่าให้โอกาสต่างหาก จะทำไม่ทำครับ”

        “...” เขาเงียบใช้ความคิด หัวคิ้วเข้มรกไม่เป็นทรงแต่ก็ดูเข้ากับใบหน้าของเขาขมวดจนยุ่งเหยิง

        “กลัวเหรอไง ถ้ากลัวจะกลับไปก็ได้นะ ผมไม่มีอะไรต้องแคร์อยู่แล้ว”

        “โอเค ตกลงผมจะทำ”

        “หึหึ ก็ดี ออกไปได้แล้ว ผมต้องการ ค ว า ม เ ป็ น ส่ ว น ตั ว !” ผมเน้นเสียงทีละคำ เดินก้าวไปเปิดประตูกว้างให้เอเดน เขาหมุนตัวมองผมก่อนจะยอมออกไปจากห้องนอนแต่โดยดี

        คล้อยหลังเขาผมลอบถอนหายใจแผ่วเบาอย่างโล่งอก คิดจะรุกก็รุกจนน่ากลัว ถ้าผมยังไม่เห็นว่าเขากลับตัวกลับใจดีแล้วจริงๆ ดีทั้งจิตใจและกาย อย่าหวังว่าผมจะยอมอ่อนข้อให้ง่ายๆ นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น แล้วเขาจะสำนึกที่ไม่ฟังคำเตือนของผมตั้งแต่ทีแรก

        ผมจัดการทำความสะอาดร่างกายจนสดชื่นพร้อมที่จะออกไปทำงาน อาการเวียรหัวมีวูบๆขึ้นมาบ้างเพราะนอนไม่พอ ต่อให้มานอนหลับสนิทเอาช่วงเช้าก็ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นกว่าที่ควรเป็น

        เอเดนทำให้ผมทึ่งเล็กน้อยเมื่อเห็นเขานั่งรอผมนิ่งๆที่ห้องนั่งเล่น ไร้แววหงุดหงิดที่ต้องรอนาน นับว่าเป็นสิ่งที่ผมก็ไม่คาดหวังว่าเขาจะปรับปรุงตัวดีขึ้นสักเท่าไหร่ แต่ถ้าปรับปรุงนิสัยได้ก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ไม่เลว ขอเพียงอย่าดีแตกก่อนก็พอ

        ผมคิดว่าจะเริ่มทำข้อตกลงกับเขาเลยเกี่ยวกับการเข้ามาทำงานที่นี่ แต่เสียงท้องร้องก็ดังประท้วง ผมจึงเลือกที่จะเดินเข้าครัวแทนเพื่ออาหารเช้าลงท้อง

        ผมนั่งจัดการข้าวต้มที่พ่อน่าจะเป็นคนเตรียมไว้ให้อย่างใจเย็น กางหนังสือพิมพ์อ่านไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อนตามกิจวัตรประจำวันที่ทำเป็นปกติสม่ำเสมอ

        สักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา ไม่ใช่พ่อแน่นอน ผมจดจำน้ำหนักฝีเท้าของพ่อได้ตั้งแต่ยังเล็ก ก็เหลือเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังอยู่ในบ้าน

        “ผมบอกให้คุณนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นไม่ใช่เหรอ” ผมพูด แต่ตายังคงกวาดอ่านข่าวสารบ้านเมือง นอกจากข่าวดีก็ยังมีข่าวร้ายเกิดขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะข่าวคนตายอย่างเป็นปริศนาที่ยังมีอยู่เนืองๆให้ผู้คนได้อกสั่นขวัญแขวน ผมรู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ไม่สามารถบอกอะไรใครได้ เรื่องมนุษย์กลายร่างอยู่นอกเหนือจินตนาการของมนุษย์ ขืนพูดออกไปนอกจากคนจะหาว่าผมเป็นบ้า พวกโยชิกับอาซาก็จะอยู่กันลำบาก

        อ่อ เดี๋ยวก่อนนะ คนที่เคยทำให้เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่ก็ยืนอยู่ในห้องนี้ด้วยนี่น่า คิดได้ก็รู้สึกโกรธขึ้นโดยไม่อาจห้ามความรู้สึก

        “ผมรอนานแล้ว” เขาพูดเหมือนเด็กๆที่ไร้ความอดทน

        “ถ้ารอไม่ได้ก็กลับไปสิครับคุณ ใครรั้งขาไว้ล่ะ” และผมก็ยังคพูดโต้ตอบกับเขาโดยไม่ได้มองหน้าอีกฝ่ายแม้เพียงเสี้ยว

        เอเดนเงียบ ผมได้ยินเสียงลมหายใจฟึดฟัด ผมรอว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะสติแตก แต่เขาก็ไม่ทำ กดข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้ระเบิดออกมา ทั้งที่ผมรู้ดีว่าความกวนประสาทของผมเป็นสายลมที่ช่วยให้เปลวไฟในอกของเขาพัดโหมกระพือรุนแรง

        “ผมจะออกไปรอข้างนอก” เขากดน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อยแล้วเดินออกไป

        ผมปล่อยให้เขารอต่อไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมงถึงได้เดินออกไปหา เขานั่งเอนหลังพิงโซฟาหลับตานิ่งๆ และทันทีที่ผมทิ้งตัวนั่งลงเขาก็ลืมตาหันมามองผม ใบหน้าเขาเรีบยเฉยไม่มีแววขุ่นมั่วเหมือนก่อนหน้านี้

        “เรามาเริ่มทำข้อตกลงกันเลยแล้วกัน”

        “เดี๋ยว ก่อนคุณจะพูด ผมขอพูดอะไรสักอย่าง” เขาหยุดก่อนจะทำสีหน้าคล้ายจะเก้อเขินเมื่อพูดประโยคถัดมา “ขอ...ให้ผมพูดสักนิด...นะ”

        อย่าบอกนะว่าเขากำลังขอร้องผม คนอย่างเอเดนเนี่ยนะ เหลือเชื่อ

        “ว่ามาสิ”

        “เอ่อ” เขากลายเป็นคนที่ขาดความมั่นใจ หันเหสายตาหลบไม่สบจ้อง ผมไม่ได้เร่งเร้าให้เวลาเขาทำใจตามแต่สะดวก

        ผมก็พอจะเข้าใจว่านิสัยหรือสันดานคนเราเปลี่ยนได้ยากและคนโดยส่วนมากมักเปลี่ยนไม่ได้ง่ายๆ เอเดนก็คงไม่ต่างกันนัก เอาตรงๆผมไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยนตัวเองได้ด้วยซ้ำไม่ว่าจะเพื่อใคร นิสัยไม่ใช่ของที่นึกอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้ ความเป็นผมบางอย่างที่เติบโตมาอายุยี่สิบหกผมยังแก้ไขไม่ได้ นับประสาอะไรกับเอเดนที่มีอายุอยู่มายาวนานขนาดนี้ นั่นแหละผมถึงได้กังวลยังไงล่ะว่าเขาจะทำได้จริงเหรอ

        “ผมมาที่นี่ไม่ได้มีอะไรไม่ดีแอบแฝง วางใจได้” เขาพูด แต่ทำไมผมรู้สึกว่านั่นไม่ใช่ความจริงที่เขาต้องการสื่อในที่แรก

        “แล้วคุณมาทำไม” ผมถาม

        “...” เขาเงียบอีกแล้ว แต่ไม่ได้หลบตา แต่เมื่อถูกเขาจ้องเอาๆไม่วางตาพร้อมทั้งประกายแวววาวบางอย่างที่ชวนให้ใจเซรวน ภาพสะท้อนในดวงตาสีเขียมมรกตของเขาในขณะนี้มีเพียงใบหน้าของผมปรากฏ และผมก็ป็นฝ่ายหลบตาหนีเสียเองเพราะไม่อยากมองเห็นความนัย

        “ผมว่าคุณรู้นะยอร์ช ว่าผมมาทำไม” เขาพูด เสียงของเขาเรียบนิ่งแต่ทุ้มชวนฟัง

        ผมส่ายหน้า  “คุณอาจคิดผิด ผมไม่รู้เหตุผลที่คุณไม่คิดจะพูดมันออกมาหรอก”

        เอเดนถอนหายใจใส่ผม เขาไม่พูดอะไรต่อ เป็นการบอกกลายว่าเขาจะไม่พูดมันออกมา และต่อให้ผมอยากรู้แต่ผมก็จะไม่มีวันถาม และต่อให้ถามคิดเหรอว่าเขาจะพูด

        “เอาละ ถ้าคุณไม่มีอะไรจะพูด ผมก็ขอเริ่มสิ่งที่ผมจะพูดเลยแล้วกัน”  ผมเปลี่ยนเรื่อง เขาขยับนั่งใหม่ หันข้างมาทางผม ขายกขึ้นไขว้ห้างและสองมือกอดอก ลำคอตั้งตรงวางมาดจนน่าหมั่นไส้

        “คุณบอกว่าอยากจะมาทำงานที่นี่ใช่ไหม” ผมถามทวนความต้องการของเขา เป็นการเริ่มการสัมภาษณ์งานอย่างจริงจังหลังจากที่เมื่อวานล่มไม่เป็นท่า

        “ใช่” เอเดนตอบเสียงแข็งขัน

        ผมพยักหน้า “ช่วยบอกหน่อยสิว่าเพราะอะไรคุณถึงอยากทำงานกับเรา”

        เอเดนกระพริบตาหนึ่งทีใช้เวลาราวสิบวินาทีก่อนตอบ “เพราะคุณ”

        และคำตอบของเขาทำผมไปไม่เป็น

        “เอ่อ...” ผมไม่ควรจะหน้าร้อนวูบวาบเพราะความเขิน ไม่ควรเลยจริงๆ และผมจะไม่ถามประเด็กนั่นต่อ จึงเปลี่ยนไปพูดถึงเรื่องอื่นแทน

        “พ่ออยากให้คุณมาเป็นผู้ช่วยในเรื่องการผลิตไวน์ แต่ผมจะยังไม่ให้คุณทำในส่วนนั้น”

        “แล้วคุณจะให้ผมทำในตำแหน่งไหน”

        “คนสวน” ผมพูด

        “ห๊ะ อะไรนะ” เขาถามคิ้วย่น “คุณพูดผิดหรือเปล่า”

        “เปล่า ผมพูดถูกต้องแล้ว ถ้าคุณจะอยู่ที่นี่ เพราะผม...” ผมกระดากปากเล็กน้อยที่จะต้องเอ่ยชื่อตัวเอง “คุณก็ต้องทำตามที่ผมต้องการ”

         ผมคิดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ตำแหน่งนี้เหมาะที่สุดสำหรับด่านแรก มีหลายอย่างทีเอเดนควรจะเรียนรู้และบทเรียนแรกก็คือ เขาจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นโดยปราศจากความเย่อหยิ่งจองหอง

        “ทำไมผมต้องไปเป็นคนสวนด้วย”

        “เพราะผมอยากให้คุณเป็น”

        “เป็นอย่างอื่นไม่ได้เหรอ”

        “ทำไม คุณจะบอกว่าคุณทำไม่ได้ คนที่เขาไม่เก่งกาจแข็งแรงเช่นคุณยังทำได้เลย แค่นี้ก็จะยอมแพ้งั้นเหรอ”

        “โธ่ยอร์ช มันเกี่ยวกันตรงไหน” เขาพึมพำประท้วง

        “และตรงไหนที่ไม่เกี่ยว คุณอยากอยู่ที่นี่ ผมเสนอให้คุณอยู่ในฐานะคนสวน ที่เหลือก็อยู่ที่การตัดสินใจของคุณแล้วว่าจะรับข้อตกลงนี้หรือไม่ ถ้ารับ คุณก็จะได้อยู่ที่นี่ต่อ แต่ถ้าไม่ ก็เชิญครับ ผมจะไปส่งที่ทางออก”

        ข้อตกลงที่ผมกำหนดขึ้นผมเองก็ไม่มั่นใจว่าเอเดนจะรับหรือไม่ แต่ก็อย่างที่บอก ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวเขาทั้งนั้น ผมมีทางเลือกให้เขาเพียงเท่านี้ เขาจะหวังให้ผมเปิดใจรับเขาอีกครั้งหลังจากผ่านความทรงจำที่เลวร้ายในทันทีก็เป็นไปไม่ได้ ทางเลือกที่ผมเลือกให้เอเดน ผมคิดดีแล้วว่ามันจะดีต่อเราทั้งสองคนในภายหน้า แต่หากเขาจะยุติผมก็คงต้องทำใจยอมรับ

        “ผมจะเป็นคนสวนก็ได้ แต่ผมต้องได้นอนที่บ้านของคุณ”

        “ผมให้คนงานจัดห้องพักให้คุณแล้ว ห้องที่คุณเลยอยู่”

        “ไม่เอา ผมจะนอนกับคุณที่นี่”

        “เฮ้ย!” ผมตกใจอุทานเสียงดัง

        เอเดนยิ้มขำ “ผมหมายถึงไม่ต้องห้องเดียวกันก็ได้ แต่ผมอยากอยู่ใกล้ๆคุณ”

        “ผมก็ไม่มีทางให้คุณนอนห้องเดียวกับผมอยู่แล้ว” ผมพูดด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น

        “หึ ทำเป็นไม่เคยไปได้”

        “เอเดน อย่าพูดแบบนี้อีกผมไม่ชอบ”

        “โอเคๆ ตามนั้นแหละ ผมจะทำงานเป็นคนสวน” เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น “และผมจะต้องได้อยู่ในบ้านหลังนี้ กับคุณ”

        ผมหันหน้าหนีเขาพลางถอดถอนหายใจทันที ปวดหัวขึ้นมาทันทีกับความดื้อด้านเอาแต่ใจของผู้ชายต่างชาติตรงหน้า ผมจะเปลี่ยนนิสัยเขาได้หรือไม่ก็ยังเป็นเรื่องที่ผมต้องคิดหนัก

        “ก็ได้” ผมยอมตกลงในที่สุด ขี้เกียจต่อปากต่อคำให้ยืดยาว

        “ดีล”  เอเดนยื่นมาออกมาตรงหน้าผม ผมมองอย่างชั่งใจก่อนจะเชคแฮนด์ตอบ หลังจากนี้ชีวิตผมคงจะวุ่นวายจนหาความสงบไม่ได้

        “ส่วนค่าจ้าง...”

        “ผมไม่ต้องการ” เขาพูดอย่างรวดเร็ว “ผมรวยมากอยู่แล้วคุณก็รู้”

        “ก็ดี ไม่เสียเงินผมออกจะชอบ” เขามันทำตัวน่าหมั่นไส้เกินใคร

        ผมให้เอเดนพักที่ห้องรับรองแขก เขาอยากจะนอนที่ห้องของโยชิเพราะเป็นห้องที่ติดกับห้องผม แต่ผมยืนยันเสียงแข็งว่าเขาอยู่ห้องนี้ไม่ได้ โยชิยังใช้ห้องทุกครั้งที่กลับมาพักผ่อนที่บ้านพร้อมกับอาซา นี่ก็ใกล้จะถึงวันที่โยชิจะปิดเทอม เขาบอกกับผมแล้วว่าจะมาพักที่นี่พร้อมกับเพื่อนคนอื่นนอกจากอาซา ผมยังไม่ได้บอกน้องชายเลยว่าเอเดนมาที่นี่ ถาเกิดรู้เรื่องไม่รู้ว่าโยชิจะโมโหมากแค่ไหน ถึงผมจะไม่ได้กลัวงู แต่เอาเข้าจริงผมก็ไม่พร้อมที่จะเห็นน้องชายกลายร่างเป็นอสรพิษตัวใหญ่ยักษ์

        เอเดนผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหมาะที่จะทำงานตากแดดในไร่ จะรอดหรือเปล่าก็ไม่รู้ เอเดนกวาดสายตามองรอบๆตัว พื้นที่ของไร่ที่ผมพาเขามาเป็นแปลงดินว่างเปล่าที่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้งาน

        “คุณจะให้ผมทำอะไร” เอเดนยกมือปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นตามไรผม ตากแดดแค่ครึ่งชั่วโมงผิวของเขาก็แดงเพราะโดนแดดลามเลีย

        ผมชี้นิ้วไปนี่พื้นก่อนสั่ง “ปรับพื้นดินตรงนี้ให้เรียบ ผมจะให้คุณใชพื้นที่ตรงนี้ใรการสร้างโรงเพาะผักไฮโดรโปนิกส์”

        ผมว่าทำเป็นแปลงปลูกผักก็ไม่เลว ที่ท้ายไร่ก็มีแปลงผักสวนครัวจำพวกข่า พริก โหระพา กระเพรา ผักที่ใชในครัวเล็กๆน้องๆ แต่แปลงนี้ผมจะทดลองทำการเกษตรแบบอื่นดูบ้าง

        “ให้ผมทำเนี่ยนะ” เอเดนชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ผมพยักหน้าว่าใช่ ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร

        “เครื่องมืออยู่ที่โรงเก็บอุปกรณ์ตรงนู้น มีทุกอย่างที่คุณต้องการแน่นอน วันนี้ก็ปรับหน้าดินไปก่อนแล้วกัน ส่วนพวกโครงเหล็กและของที่จะใช้สร้างโรงเพาะพรุ่งนี้ค่อยไปซื้อ” ผมบอกสรุปรวบรัด

        “เริ่มงานได้” ผมเตรียมจะเดินแยกไปทำงานของตัวเอง แต่มือหนาเย็นคว้าแขนผมเอาไว้ไม่ให้ไปไหน

        “ผมทำไม่เป็น” ใบหน้าของเอเดนเคร่งเครียด หยาดเหงื่อไหลจากใบหน้าสู่ลำคอ ผมเลือกที่จะเผิกเฉย เขาเป็นผู้ชายตัวโตๆ เรื่องแค่นี้คงทนได้

        “ไม่ยากหรอก คุณสงสัยตรงไหนถามคนงานที่นี่ได้ทุกเมื่อ แต่เขาพูดอังกฤษไม่ได้นะผมบอกไว้ก่อน อ่อ แล้วก็ โทรศัพท์มือถือของคุณก็คงเข้าอินเตอร์เนตได้ ลองหาวิธีด้วยตัวเองสิ ไม่ว่าจะทำอะไรเราทุกคนต้องใช้ความพยายามของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกก่อนที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น” ผมสอนเขาทันที

        เอเดนคงเคยชินกับการที่เอ่ยปากสั่งทุกอย่างที่ตนเองต้องการโดยที่ไม่ต้องลงมือ เขาเคยอยู่จุดที่สูงที่สุด และผมกำลังจะดึงเขาลงมาเป็นมนุษย์ธรรมดาที่เริ่มทุกอย่างจากตัวเอง

        “แต่ผมเจ็บมือ” เขาชูมือตัวเองที่มีผ้าพันแผลสีขาวพันเอาไว้ บาดแผลจากเมื่อวานอย่างน้อยเขาก็รักตัวเองมากพอดูที่จะรักษามัน

        “ผมรู้ว่าคุณทนได้” แผลแค่นี้ทำเอาเขาไม่ได้หรอก อย่างมากก็แค่เลือดซึมหรือไม่แผลก็ปริแตก

        “ผมทำกก็ได้” เขาพูดหน้าตึง ดูก็รู้ว่าไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ เขาเลือกเองก็ไม่มีสิทธิ์อิดออด

        “ขอให้สนุกกับการทำงาน” ผมอวยพร เดินไปทำหน้าที่ของตัวเองไม่ไกลจากจุดที่เอเดนยืนอยู่นัก

        ผมทำงานไปคอยมองเขาไปด้วยความเป็นห่วง ให้โกหกตัวเองยังไงว่าไม่อยากจะสนใจคนอย่างเขา แต่เมื่อเผลอตัวสายตาก็เอาแต่จะคอยมอง

        “สักวันคุณจะต้องขอบคุณผม”

        ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเอเดนยังไม่สามารถจับงานได้เป็นชิ้นเป็นอัน เขาเดินไปที่โรงเก็บอุปกรณ์แล้วหยิบจอบอออกมา นับว่ายังฉลาดที่หยิบเครื่องมือได้เหมาะกับงาน เขาทำท่าฟันจอบลงไปในดินอยู่สองสามทีแต่ไม่สามารถงัดดินขึ้นมาได้ มีคนงานเดินผ่านไปใกล้ๆเขา เอเดนถึงเรียกคนงานผมให้เข้าไปช่วย มองจากตรงนี้ก็พอจะรู้ได้ว่าเขากับคนงานคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงเลือกใช้ภาษามือแทนและในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจกันและกัน คนงานคนนั้นจึงสาธิตการฟันดินให้เอเดนดู เอเดนเรียนรู้อยู่นานกว่าจะเริ่มเข้าที่เข้าทาง

        ผ้าพันแผลที่เคยเป็นสีขาวบัดนี้เปื้อนสีเลือดเป็นหย่อมๆ ผมอยากเข้าไปห้ามให้เขาหยุดทำ แต่ขากลับถูกอะไรบางอย่างตรึงไว้ ทำได้แค่มองอย่างร้อนรน

        “เป็นห่วงเขาก็เข้าไปดูสิครับคุณยอร์ช” ผู้ช่วยของผมเดินมายืนอยู่ข้างๆกันเมื่อไหร่ก็ไม่ทันรู้ตัว

        “เงียบไปเลยไอ้ใหญ่ งานที่ให้ทำเสร็จแล้วเหรอไง” ผมพูดดุๆ แต่มันไม่เคยกลัวผมเลยสักครั้ง

        “งานผมน่ะเสร็จแล้วครับ แต่งานของคุณยอร์ชน่ะดูจะไม่คืบหน้าเลยนะ ค้างแถวนี้เมื่อไหร่จะเสร็จครับ พรุ่งนี้ต้องลงองุ่นรอบใหม่แล้วนะ” ใหญ่ทำหน้าทำตาล้อเลียนที่งานผมไม่เดินเพราะมัวแต่มองไปทางคนตรงนู้น ผมเลยไล่เตะมันไปที่ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำงานอย่างจริงจัง สลัดเอเดนออกจากหัวช่วยคราว บอกกับตัวเองว่าแค่นี้ไม่ทำให้เขาตายหรอก เพราะขนาดที่โดนโยชิเล่นงานไปอย่างหนักหน่วงเขายังรอดกลับมากวนประสาทผมได้ นับประสาอะไรกับอีแค่แผลเล็กน้อยที่มือ

        แต่พอลงมือทำงานได้ไม่เท่าไหร่ โทรศัพท์มือถือของผมก็แผดเสียงร้องจนตองหยิบออกมารับสาย เห็นชื่อคนที่โทรมาคอก็แห้งผากเอาเสียดื้อๆ

        “ว่าไงครับตัวเล็ก โทรหาพี่มีอะไรหรือเปล่า” ผมกดรับสายโยชิ ตอนนี้เองที่ผมหันสายตามองเอเดนอีกครั้งด้วยความกังวล

        “พี่ยอร์ช! สายของอาซาบอกว่าเอเดนไปที่ไร่ เขาทำอะไรพี่ยอร์ชหรือเปล่า ทำไมพี่ยอร์ชไม่บอกโยล่ะ” เสียงโวยวายของโยชิดังลอดโทรศัพท์จนแม้แต่ผู้ช่วยที่ยืนห่างกันไปสองก้าวยังได้ยิน แต่ผมยังไม่ได้ได้ตอบอะไร เสียงของน้องชายสุดที่รักก็ดังมาอีกระลอก

        “พี่ยอร์ชระวังตัวด้วยนะ ผมกับอาซากำลังจะไปที่นั่น พี่ยอร์ชต้องอยู่ให้ห่างเอเดนนะครับ โยชิจะกลับไปจัดกสนเขาให้พี่เอง ไม่ต้องเป็นห่วง”

        ใช่ โยชิน่าไม่น่าเป็นห่วงหรอก คนที่น่าเป็นห่วงคือคนที่กำลังทำงานกลางแดดอย่างตั้งอกตั้งใจต่างหาก ผมเดินก้าวเข้าไปหาเอเดนทันที อย่างน้อยก็ต้องขอให้เขาออกไปจากไร่ก่อนชั่วคราวก่อนที่โยชิจะมาถึง ไม่รู้ทำไมผมต้องปกป้องเขาด้วย ผมไม่เข้าใจตัวเองแม้แต่น้อย





(http://www.mx7.com/i/541/Fv7Yzt.jpg)
......................

        มาแล้วค่า ตอนหน้าจะเป็นความในใจฝั่งเอเดนบ้างนะ ขอโทษที่ให้รอนาน
        อ่านแล้วคอมเม้นให้เค้าหน่อยนะ ขอกำลังใจปั่นต่อนิดหนึ่ง
        ขอแจ้งข่าวการจัดทำหนังสือนิดหนึ่ง ตอนนี้ริริได้เปิดให้ลงชื่อจองคร่าวๆสำหรับการจัดทำเล่มนิยายเรื่องพี่งูนี้ เข้าไปอ่านรายละเอียดได้ตามลิ้งค์ในเพจที่แนบมานะคะ หากใครต้องการก็ลงชื่อเล่นหรือชื่อจริงก็ได้พร้อมอีเมล ริริจะรวบรวมจำนวนคร่าวๆค่า
        ลิ้งค์ https://www.facebook.com/RiRiWorld143/posts/874501319302083?comment_id=876576732427875 (https://www.facebook.com/RiRiWorld143/posts/874501319302083?comment_id=876576732427875)
        ขอบคุณทุกคนที่ยังแวะเวียนมาอ่านนะคะ

       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: aikawa_k ที่ 22-08-2015 16:53:05
เอเดนต้องไม่หนีนะ อยู่ปรับความเข้าใจกับอาซาให้รู้เรื่อง
ไม่งั้นเรื่องจะเลบเถิดไปใหญ่ ไม่จบไม่สิ้นสักที
ส่วนเรื่องของยอร์ชนะค่อยว่ากัน ยังไงรายนั้นเค้าก็อ่อนให้ตั้งนานแล้ว
 o22
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: ioohja ที่ 22-08-2015 16:55:13
เอาใจช่วยเอเดน ถึงแม้จะหมั่นไส้ก็เหอะ ฮาาาาาาาาา  :mew3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 22-08-2015 17:12:21
คิดไปเองรึเปล่านาาาา รู้สึกว่ามันสั้นยังไงไม่รู้...

เอเดนสู้ๆๆๆๆ :3123:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 22-08-2015 17:15:39
เอาแล้ว น้องจะมาหาแล้ว. พี่ชายจะห้ามยังไงอ่ะ ระหว่างน้องกับคนสวนรูปหล่อ อิอิ :mew4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 22-08-2015 19:44:04
ร๔้สึกสงสารเอเดน ... #ทีมเอเดน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 22-08-2015 20:14:21
มาจุ๊บพี่ยอร์ชที น่ารักที่ซู๊ดดดดดดดดด
ใจแข็งให้ได้ตลอดเถอะนะพ่อคุณ
รอตอนต่อไปน้าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-08-2015 20:57:47
มาให้กำลังใจจ้า

ติดตามเสมอนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: miniStrom ที่ 22-08-2015 21:44:00
จริงๆก็แอบสงสารเอเดนน้าาา เอเดนก็สำนึกผิดแล้วยอร์ช(พยายาม)ใจแข็งมากเลย เอาใจช่วยให้หวานกันเร็วๆ ฮี่~  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 22-08-2015 22:29:31
ปรับความเข้าใจกันเลย พี่น้องน่ะ ทั้งอาซาทั้งเอเดน ไหนๆ เอเดนก็ตั้งใจจะจีบยอร์ชอยู่แล้ว ต้องอยู่กับอาซาไปนานแน่ๆ คุยกันซะห้เคลียร์ดีกว่านะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: seraty ที่ 22-08-2015 22:35:14
แง่ะ.....สั้นอ่า...คราวหน้าขอยาวววววววววหน่อยน้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-08-2015 22:35:57
เอาใจช่วยคู่นี้ :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 23-08-2015 00:14:51
ยอร์ชอ่ะ อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆสินะ เอเดนก็อดทนมากขึ้นแล้วนี่
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 23-08-2015 01:51:47
พี่ยอร์ชใจร้ายอ่าาาา
เอเดนเค้าน่าฉงฉารน้าาาาา
อย่าใจร้ายนักซิ
ส่วนเอเดนก็อ้ำอึ้งอยู่ได้
มีอะไรก็บอกไปเซ่
โอ้ยยยย :ling1: สองคนนี้มันน่าขัดใจซะจริง
ขอบคุณ :pig4: และรอตอนหน้าจ้า
ปล. น้องโยจะได้บู้อีกมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 23-08-2015 14:17:09
 :mew1: เอเดน สู้ ๆ น่ะ เพราะยังไงเราก้อยังรักคุณน่ะ ยอร์ชห่วงก้อห่วงน่ะ แต่ก้อยังเก๊กไว้ก่อน  :mew4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 23-08-2015 15:14:31
สู้ๆนะเอเดน
เจอศึกสองด้านเลย
ทั้งพี่ทั้งน้อง 55555555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 24-08-2015 10:54:31
กลายเป็นคนสวนซะแล้ว เอเดน

เอาน่าสู้ๆ เพื่อ พี่ยอร์ช
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 26-08-2015 07:12:17
ขอขอบคุณผู้แต่งนิยายสนุกมาก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 26-08-2015 10:54:52
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: wiwari ที่ 26-08-2015 17:16:54
ยอร์ชดูเหมือนไม่สนใจแต่ก็ห่วงเอเดนมากๆ เอเดนแอบมีอ้อนด้วย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 26-08-2015 17:54:25
เป็นกำลังให้เอเดน

ตั้งใจเปลี่ยนแปลงตัวเองทั้งที  สู้สู้

 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 28-08-2015 00:06:21
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁THREE❁ 22-08-2015 [P.61]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-08-2015 13:01:07
 :pig4: :pig4: :3123: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 31-08-2015 22:09:58
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

FOUR






        ADEN

        ชีวิตของผมกำลังจะไม่เหมือนเดิม มันค่อยเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ ใครคนหนึ่งที่ผมก้าวเข้าไปในชีวิตเขาเพราะจุดประสงค์หลักที่เคยตั้งเป้าหมายทำบางอย่างกับความรู้สึกของผมโดยที่ผมไม่ทันได้รู้ตัว และเมื่อรู้อีกทีหัวใจผมก็ถลำลึกจนยากจะถอนตัว

        ‘อาซากลับไปเมืองไทยแล้วนะยอร์ช์’ พ่อเดินมาบอกผม ระหว่างที่เราทั้งคู่รักษาตัว แม้จะอยู่ในบริเวณเดียวกันแต่เราไม่เคยเจอกันเลยสักครั้ง จนเมื่อวานก่อนที่อาซาจะของจากไปและไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนในตระกูลสเตรนเบิร์กอีกไม่ว่าจะทางได้ก็ตาม ผมควรจะดีใจที่ผมสามารถกำจัดเสี้ยนหนามในชีวิต ก้างขวางคอชิ้นใหญ่ที่กดทับไม่ให้ผมเป็นใหญ่เหนือใครให้พ้นทางได้เพียงเพราะพ่อเห็นว่ามันเหมาะสมกับตำแหน่งผู้นำตระกูลมากกว่าผมที่เป็นลูกชายคนโต

        แต่มาวันนี้ วันที่ทุกอย่างจะเป็นของผม ผมกลับไม่อยากได้ ไม่รู้สึกดีใจที่จะได้ครอบครองทั้งๆที่ผ่านมาผมทุ่มเทแรงกายแรงใจทำเลวไว้ตั้งเท่าไหร่ คงเป็นเพราะว่าผมมีสิ่งหนึ่งที่อยากได้มากกว่าอำนาจและความยิ่งใหญ่

        ผมเฝ้าโกหกตัวเองว่าผมดีใจ ไม่มีสิ่งใดที่ผมต้องการไปมากกว่าเป็นนายเหนือนากินีทุกตนบนโลก แต่ทำไมผมถึงไม่สามารถยิ้มได้จากใจจริง ไม่สามารถกู้ร้องดีใจว่าผมทำสำเร็จแล้ว แต่ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้อย่างหมดรูป

        ทำไมใจผมถึงเอาแต่นึกถึงคนๆนั้น ทำไมผมต้องนึกถึงแต่ยอร์ชพี่ชายของโยชิคนรักของคนที่เป็นศัตรูของผม ทำไมผมต้องคิดถึงแต่เขา มองเห็นแต่ภาพเขา คำพูดของเขา และความรักของเขาที่มีต่อน้องชาย ไม่เว้นแม้แต่อาซาที่ยอร์ชก็ยังรัก

        ทำไมอาซาถึงเป็นที่รักของใครต่อใคร และกลายเป็นผมที่เป็นที่เกลียดชัง สุดท้ายผมก็ยังเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการอยู่วันยังค่ำ

        “พรุ่งนี้พ่อจะดำเนินเรื่องพิธีแต่งตั้งลูกขึ้นเป็นผู้ปกครองตระกูลคนใหม่”

        “ผมไม่ต้องการ”

        “อะไรนะ”

        “ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นอีกแล้ว”

        “แต่ลูก” พ่อเรียกผมเสียงอ่อนโยน มือแตะลงบนท่อนแขนที่ยังคงมีรอยบาดแผลจากการต่อสู้กับเจ้างูน้อยโยชิ ถ้าผมคิดจะสู้ ผมคงไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ นี่เป็นอีกเรื่องที่ผมไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมต้องไปแคร์คำพูดยอร์ชด้วย ผมสับสนและไม่อาจหาคำตอบ

        “ที่จริงก็ถูกต้องแล้ว ตำแหน่งและทุกอย่างมันควรเป็นของลูก” พ่อพูดอย่างรู้สึกผิด ผมมองไปเบื้องหน้าอย่างเดียว รับฟังแต่ไม่มีความคิดเห็น จุดมุ่งหมายผมเปลี่ยนไปแล้ว

        “ถึงพ่อจะรู้ แต่มันก็สายเกินไป ผมไม่ต้องการอะไรสักอย่างจากพ่ออีกต่อไป”

        “ทำไมละเอเดน เรามาเริ่มต้นกันใหม่ไม่ได้เหรอ พ่อพร้อมที่จะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด”

        ผมส่ายหน้า กระตุกยิ้มเล็กน้อย หันกลับไปมองพ่อด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า ผมเคยอยากให้ผู้ชายตรงหน้ารักผมที่สุด เห็นผมเป็นลูกชายที่รักและให้ความสำคัญแต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าจะทำอะไรก็อยากได้รับคำชื่นชม ตั้งใจทำได้ความหวัง แต่สุดท้ายก็ถูกดับความหวังด้วยประโยคเดิมๆ

        ‘ก็ดีแล้วนี่’

        เพียงแค่นั้นสั้นๆ

        ‘ก็ดีแล้วนี่’ ไม่ใช่ ‘เก่งมากลูกพ่อ’

        ช่างแตกต่างจากคำพูดนึกคิดถึงลูกชายอีกคน

        ‘อาซาเป็นยังไงบ้าง ชีวิตการเป็นอยู่กับเด็กผู้ชายคนนั้นเป็นยังไง’

        ‘ลูกชายข้าไปมีเรื่องกับใคร ไปจัดการพวกนั้นเดี๋ยวนี้’

        ‘เมื่อไหร่อาซาจะเลิกคบกับเด็กคนนั้นกัน เขากำลังเดินทางผิด ฉันเป็นห่วงเขาเหลือเกิน’

        ผมเคยนึกสมเพชตัวเองอย่างถึงที่สุด เพราะความห่วงใยที่พ่อมีให้อาซาผมไม่เคยได้รับ และเมื่อไม่เคยได้ก็ต้องการที่จะได้ ต้องการทุกอย่างจนไม่รู้ตัวเลยว่าความต้องการไม่มีวันเป็นจริง

        จนวันนี้ที่ผมไม่ต้องการอีกแล้ว พอแล้วกับความฝันลมๆแล้งๆพ่อกลับหยิบยื่นมันให้ผม ผมจึงทำได้เพียงแค่ยิ้มอย่างสมเพชให้ตัวเองอีกครั้งหนึ่ง

        “ผมขอโทษกับทุกเรื่อง แต่...ผมจะไม่อยู่ที่นี่อีกแล้ว ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นจากคุณอีก หลังจากนี้ผมจะไปตามทางของผม”

        “ลูกจะไปไหน”

        ผมไม่ตอบ เดินจากมาและไม่หันหลังกลับไปอีกแล้ว ไม่มีวันที่จะกลับไปยืนอยู่ตรงนั้นที่ที่ดำมืดหาความสุขไม่เคยได้แม้เสี้ยวลมหายใจ

        พ่อพยายามหาทางติดต่อและขอให้ผมกลับไป แต่ผมก็เป็นคนที่มีจุดยืนเป็นของตัวเองแบบแน่วแน่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถ้าผมเลือกแล้วผมจะไม่มีเดินกลับหลัง ผมเคยเลือกอำนาจ ผมก็ลงมือทำจนถึงที่สุด และวันนี้ผมเลือกที่จะจบกับพ่อ นั่นหมายความว่าผมจะไม่กลับไป ถ้าหากจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมันก็คงจะต้องใช้เวลาเยียวยานานเท่าที่ผมเคยเจ็บปดหรือมากกว่า  บาดแผลที่เหวะหวะจนใกล้จะเป็นเนื้อร้ายรักษาให้หายขาดไม่ได้ในวันสองวันหรือเดือนสองเดือน และไม่สามารถรักษาได้ด้วยเพียงคำพูดที่หวานหู

        รอยร้าวที่แตกไปแล้วไม่มีทางผสานกลับมาได้ดังเดิม

        ผมหลบไปอยู่ที่บ้านพักตากอากาศที่ฮาวาย หลีกหนีความทุกข์ไปใช้ชีวิตเสเพลอย่างที่ครั้งหนึ่งเมื่อตอนเป็นวัยรุ่นเคยทำ กินดื่มเที่ยวผู้หญิงเมามายอย่างที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งควรทำ และเกเรจัดการพวกหน้าใหม่ไร้การควบคุมหนึ่งในหน้าที่ของนากินีรับผิดชอบอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ตัวเองไม่ว่างเผื่อให้ลืมใส่ใจความว้าวุ่นใจที่ไม่มีตัวตน

        ทุกครั้งที่เผลอ ทุกครั้งที่ว่าง ใบหน้าของใครคนหนึ่งก็ลอยเข้ามา เสียงของเขา คำพูดของเขาลอยวนเวียนอยู่แต่ในหัว สลัดอย่างไรก็ไม่หลุด แม้แต่ในความฝัน คนๆนั้นก็ยังตามมาหลอกหลอน

        คืนวันหนึ่งที่ผมกำลังเที่ยวราตรีเมามายไปตามประสากับชาร์ลและเบน เด็กวันรุ่นท่าทางคึกคะนองเดินเหยียบเท้าผม ตอนนั้นผมโกรธจัดมาก กระชากคอเสื้อหมอนั่นขึ้นมา จิตใจที่ว้าวุ่นอยู่แล้วก็ร้อนรุ่มดังไฟเผา ทุกอย่างดูขวางหูขวางตาไปซะหมด เด็กคนนั้นคงจะจากโลกนี้ไปถ้าหากเสียงทุ้มอ่อนโยนของเขาไม่แวบเข้ามาในห้วงความคะนึง

        ‘คุณจะบอกว่าคุณเข้มแข็ง โหดเหี้ยม และใจร้ายสินะ ใช่ไหม คุณคงเป็นคนแบบนั้น ถ้ามีคนเดินเหยียบเท้าคุณโดยไม่ตั้งใจ คุณก็คงจะทำให้เขาเจ็บคืนสินะ’

        ใช่ ผมกำลังจะทำให้มันเจ็บคืน

        ‘คุณจำเป็นต้องแก้แค้นทุกคนเลยเหรอ’

        เสียงนั้นถามกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงของผมที่ตอบกลับไป

        ‘ก็เพื่อไม่ให้มันกล้าอีกซ้ำสอง’

        ‘ผมไม่คิดเลยนะว่าคุณจะมีความคิดที่เด็กขนาดนี้ คุณควรรู้จักให้อภัยบ้าง’

        ‘โตได้แล้วนะเอเดน คุณต่างหากที่จะอยู่บนโลกใบนี้ลำบากถ้ามีความคิดแบบนี้ ไม่ใช่ผม’

        ผิวมือที่สัมผัสกับปกคอเสื้อของคนเมาร้อนเหมือนเอาไปอังเปลวไฟ ผมปล่อยมันลงกับพื้น ระงับลมหายใจที่ถี่กระทั้น มือสองข้างกำเข้าหากันแน่นจนแม้แต่ชาร์ลและเบนยังต้องแปลกใจที่ผมเลือกที่จะไม่เอาเรื่องแล้วกลับบ้านโดยที่ไม่มีใครบาดเจ็บ

        เพราะผมไม่ได้จำได้แค่คำพูด แต่ผมยังจำได้ถึงแววตาที่ผิดหวังได้ติดตา

        ‘ต่อจากนี้เราไม่มีอะไรต้องข้องเกี่ยวกันอีก ทั้งเรื่องธุรกิจ ความแค้น’

        อย่ามองผมแบบนั้น ผมไม่ต้องการ

        ผมไม่รู้จักเขาดี แต่เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆที่ผมได้รู้จัก เขาเป็นคนที่อ่อนโยนพร้อมกับเข้มแข็งในเวลาเดียวกัน แววตาของเขาจริงใจไม่เสแสร้ง จิตใจดีเกินไปจนน่าขำและเขาเป็นคนที่รักน้องชายอย่างมาก ผมยังจำได้ถึงสิ่งที่เคยถามเขา

        ‘คุณรักน้องชายคุณมากไหม’

        ‘รักมาก รักมากรองลงมาจากพ่อผมนิดหนึ่ง’

        ‘คุณ ไม่คิดบ้างเหรอว่าน้องจะแย่งความรักพ่อแม่ไปจากคุณ’

        ‘ไม่ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น ผมคิดอยู่อย่างเดียวว่า ต้องรักโยชิให้มากๆ ดูแลโยชิให้ดีที่สุดเท่าที่พี่ชายคนหนึ่งจะดูแลน้องชายได้’

        ผมจำไม่ได้ว่าเคยรักอาซาอย่างที่พี่ชายควรรักไหม จำความได้ผมก็เกลียดจนอยากให้หายไปจากโลกนี้ เพื่อที่ทุกคนจะได้สนใจแค่ผม แต่ยอร์ชคิดตรงข้ามกันเขา เขารักโยชิมากเสียจนผมอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากเขารักผม ถ้าเขารักผม ถ้าผมได้รับความรักและความห่วงใยจากเขา ผมจะมีความสุขมากแค่ไหนที่ถูกใครสักคนรักจากใจจริงบ้าง

        มันทำให้ผมอยากรู้และอยากลอง สุดท้ายก็กลับมาเหยียบที่นี่อีกครั้ง ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับตัวตนผมทุกอย่าง ไม่รู้ทำไมผมอถึงได้อยากได้ความรักขากผู้ชายคนนี้ มนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีพลังวิเศษใดๆ แต่เขามีหัวใจที่พร้อมจะมอบให้คนที่เขารักอย่างแท้จริง

        ผมอิจฉาโยชิ อิจฉาอาซาที่ได้รับสิ่งดีๆ ผมกลายเป็นคนโลภมากอีกครั้ง

        ถ้าหากเขาจะแบ่งความรักให้ผมสักหน่อย ผมคงจะมีความสุข

        แต่ถึงผมจะคิดแบบนั้น ผมก็เลือกที่จะอยู่กับตัวเอง เบนและชาร์ลตามแวะมาดูผมบ่อยครั้งเพราะมันเป็นห่วงกลัวผมก่อเรื่อง แต่ก็ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นจนสองคนนั้นแปลกใจถึงนิสัยของผมที่ไม่เหมือนเดิม

        ผมมีเวลาที่จะทบทวนตัวเองมากขึ้น และแน่นอนว่าผมมีเวลาคิดถึงยอร์ชมากขึ้นเมื่อเลือกที่จะเที่ยวให้น้อยลง เพราะก่อนหน้านี้จิตใจผมไม่สงบเลยแม้แต่น้อยเพราะมียอร์ชเข้ามาทำให้วุ่นวาย ผมหนีเขาทุกทางแต่สุดท้ายเป็นผมเองที่เอาแต่คิดถึงเขาไม่มีวันจบวันสิ้น และในเมื่อหลบไม่ได้ก็ทำได้แค่เผชิญหน้ายอมรับความเป็นจริงว่าผมคิดถึงเขา อาการเหม่อลอยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของผมหนักขึ้นจนเพื่อนสองคนจับสังเกตได้ ผมไม่รู้จะหาทางออกให้ตัวเองอย่างไร ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้มากก่อน มีชีวิตอยู่ได้มายาวนานเพียงเพื่ออำนาจที่เคยคิดว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่ไม่เคยมองความรักฉันท์ชู้สาวว่าเป็นเรื่องน่าอภิรมย์ ไม่เคยมีคู่ควงหรือคู่นอนคนไหนทำให้ผมอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วย ไม่เคยคิดถึงพวกเธอเหล่านั้น จนมาวันนี้ที่คำว่าคิดถึงยังน้อยไปที่จะยกขึ้นมาเปรียบ

        ‘แกรักยอร์ชเข้าให้แล้วไง’ ชาร์ลสรุป

        ‘แกรู้ได้ยังไง’ ผมถามหน้าเครียด ผมเนี่ยนะจะรักยอร์ช มันจะเป็นไปได้ยังไง

        ชาร์ลถอนหายใจ ‘ฉันคาดการณ์จากอาการของแก แต่คนที่รู้ว่ารักหรือไม่ก็คือแก เอเดน’

        ‘ฉันไม่รู้’ ผมส่ายหน้า สับสนไปหมด

        ‘ฉันเข้าใจนะเว้ย แกไม่เคยรักใคร อาจจะโง่ไปบ้าง’ ไอ้เบนยักคิ้วกวนประสาท

        ‘ไอ้เบน’ ผมข่มมันเสียงต่ำที่มากวนประสาทผม

        ชาร์ลจึงรีบห้ามเราสองคน ‘เฮ้ย อย่าเพิ่งทะเลาะกัน เอาสั้นๆง่ายๆเลย แกคิดถึงยอร์ชใช่ไหม ตอบตามความจริงห้ามโกหก’ มันทำเสียงเข้ม ผมหยุดคิดอยู่พักใหญ่ ทั้งๆที่มีคำตอบแต่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเอาแต่เลี่ยง จนชาร์ลถามจี้อีกผมถึงได้ตอบ

        ‘อืม’ ปฏิเสธไม่ได้ผมก็ต้องยอมรับว่าผมคิดถึงเขา

        ‘แกอยากเจอเขาใช่ไหม’ ชาร์ลถามอีกรอบ

        ‘ก็ ใช่’

        ความจริงคืออยากเห็นหน้าเสียตอนนี้เลยด้วยซ้ำ

        ‘แล้วถ้าเขามีคนรักหรือมีแฟนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือสามี แกรับได้ไหม’ ชาร์ลถามหน้าเจ้าเล่ห์ ผมหยุดคิด

        แค่จินตนาการว่ายอร์ชจะมีใครสักคนยืนอยู่ด้วยข้างๆ อาจเป็นสาวสวยที่เหมาะสมกับเขา หรือผู้ชายที่จิตใจดีแบบที่เขาน่าจะชอบ ผมว่าผมทนไม่ได้ ผมเห็นเขาทำดีกับคนอื่นในฐานะคนรักไม่ได้

        ‘แกทนไม่ได้ใช่ไหม’

        ‘ใช่ ฉันทนไม่ได้’ ผมสวนอย่างรวดเร็ว อยู่ๆก็หายใจไม่สะดวก

        ‘นั่นเพราะแกหึง ต่อให้แกอาจจะไม่รัก แกก็ชอบยอร์ชเข้าให้แล้วให้เพื่อนยาก’ ชาร์ลและเบนยิ้มขำ ในขณะที่ผมเครียดจนเริ่มปวดหัว

        ‘แล้วฉันต้องทำยังไง’ ผมไม่เคยชอบใครมาก่อน ผมทำตัวไม่ถูก

        ‘ก็ไปหาเขาสิวะ คิดถึงก็ไปหาเลย ถ้าชอบก็จีบเลยมันจะไปยากอะไร’

        ‘แต่เขาคงเกลียดฉันไปแล้วว่ะ’

        ภาพสุดท้ายก่อนที่ผมจะไม่เจอเขาอีก ผมยังจำแววตาสีหน้าและคำพูดของเขาได้ขึ้นใจ เขาเกลียดผมแล้วที่ผมไม่ฟังคำเตือนของเขา ไม่ยอมปล่อยวางจนพลาดพลั้งทำร้ายน้องชายร่วมสายเลือด เขาเกลียดความเลวร้ายของผมไปแล้ว แล้วผมจะต้องทำยังไง ผมไม่กล้ากลับไปเพราะกลัวว่าจะถูกปฏิเสธกลับมา แต่ชาร์ลก็ให้กำลังใจผม

        ‘ไม่ลองแล้วจะรู้เหรอวะ ก็ลองไปหาเขาดู ถ้าแกรักเขาก็แค่ลุยให้เขาเห็นความจริงใจ แต่ถ้าไม่ก็กลับมา มันจะไปยากอะไร แกจะได้รู้ด้วยไงว่าแกรู้สึกยังไงกับเขากันแน่’

        ไม่มีใครให้คำตอบผมได้ชัดเจนว่าสรุปแล้วผมรักยอร์ชจริงๆใช่หรือไม่ แม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่รักจริงไหม ผมรู้แค่เพียงว่าผมอยากเจอ อยากเห็นเขา อยากให้เขาดูแลเหมือนตอนที่ผมบาดเจ็บ เป็นห่วงเป็นใยแม้ว่าผมจะทำผิด ผมอยากรู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง ผมจะได้แน่ใจว่าผมรักเขาเข้าให้แล้วจริงๆ ผมถึงได้กลับมายืนอยู่ที่นี่ตอนนี้

        และผมจะไม่มีทางไปไหนอีก แม้ว่าเขาจะกำลังหว่านล้อมให้ผมกลับไปโรงแรมเนื่องจากโยชิกำลังจะเดินทางมาที่นี่ก็ตามที

        “ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น” ผมโต้กลับเสียงจริงจัง หลังจากที่ยอร์ช บอกกับผมว่าโยชิและอาซากำลังมาที่นี่ เพราะพวกนั้นรู้แล้วว่าผมกลับมาหายอร์ชอีกครั้ง

        “แต่โยชิกำลังจะมานะ คุณอยากตายเหรอไง!” ยอร์ชกำหมัดแน่นขึ้นเสียงดังใส่ผม คงเป็นอีกเรื่องที่ผมให้อภิสิทธิ์แก่คนตรงหน้า ทั้งๆที่ผมเกลียดคนที่ตะคอกใส่หน้าผมที่สุด แต่กับยอร์ชผมได้แต่โกรธแต่ไม่กล้าลงมือทำรุนแรง

        “แต่ถึงอย่างนั้นผมก็จะไม่ไปไหน” ผมเลิกสนใจใบหน้าหล่อแบบนุ่มนิ่มใจดี มือทั้งสองข้างที่เนื้อเริ่มปริแตกจับจอบให้ถนัดมืออีกครั้ง กว่าจะยอมรับใจตัวเองได้ผมก็เจ็บมาพอควร เจ็บเพิ่มที่ร่างกายอีกสักนิดจะเป็นไร ถ้ามันจะทำให้เขาหันมาสนใจผมบ้าง

        “คุณมันดื้อด้าน โยชิเกลียดคุณมากรู้ไว้ด้วย” ยอร์ชเท้าเอวพูดอย่างหงุดหงิดที่ผมไม่ยอมทำตามที่เขาบอก

        ถ้าผมหนีก็เท่ากับยอมแพ้ คนอย่างเอเดนฆ่าได้หยามไม่ได้

        “เป็นห่วงผมเหรอ” ผมหันไปเย้ายอร์ชแทน ผมตัดสินใจแล้วว่าจะรอให้โยชิกับอาซามาเจอ

        “อะไร” ยอร์ชสะดุ้งทำหน้าเหลอหลา เขาน่ารักดีนะ

        “คุณน่ะ ถ้าเป็นห่วงผมก็ช่วยผมสิ น้องชายคุณต้องเชื่อฟังคุณอยู่แล้ว” ผมช่วยเขาหาทางออก แต่ยอร์ชกลับถลึงตาใส่ผมแทนคำขอบคุณ

        “คุณไม่เข้าใจ ผมไม่เหมือนพวกคุณน่ะ ถึงตอนนั้นถ้าโยชิจะลงไม้ลงมือกับคุณขึ้นมาคุณคิดว่าผมที่เป็นมนุษย์ธรรมดาจะห้ามนากินีอย่างโยชิได้เหรอ”

        “ไม่ต้องห่วงหรอก” ผมพูดเสียงเรียบ ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือกังวล เพราะเตรียมใจไว้อยู่แล้วว่าถ้ามาหายอร์ช มาอยู่ข้างกายเขายังไงผมก็ต้องเจอโยชิไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องเจอ เพราะไม่ใช่แค่ยอร์ชที่รักน้องชาย แต่โยชิก็รักพี่ชายของเขามาก จะแปลกอะไรที่โยชิจะไม่ไว้ใจและเป็นห่วง

        “เหอะ ตามใจคุณแล้วกัน”

        ผมมองตามยอร์ชที่สะบัดหน้าเดินหนีกลับไปทำงาน ผมยิ้มที่ใจแต่ไม่แสดงออกทางริมฝีปาก กว่าที่ผมจะมายืนอยู่ตรงนี้ ตรงหน้ามนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีอะไรพิเศษเกินกว่าใคร ผมต้องต่อสู้กับตัวเองหนักขนาดไหน หนึ่งปีที่ต้องทนทุกข์ทรมานเพราะต่อต้านความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเขา หลอกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกอะไร ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมโหยหาเขามากกว่าใครที่เคยเจอ

        ผมเลือกแล้วและผมไม่มีวันยอมแพ้ ผมจะไม่แพ้อีกเป็นครั้งที่สอง

        เรื่องยากก็คือ ไม่ใช่ว่าทำยังไงให้ยอร์ชรักผม แต่ทำอย่างไรให้โยชิยอมรับผมให้ผมได้ใช้เวลาแสดงความจริงใจกับพี่ชายของเขาต่างหาก ผมแอบหวั่นใจลึกๆไปมากกว่าครึ่งว่าโยชิไม่มีทางยอมรับผม วันนี้ผมจะอดทน แต่ถ้ายอร์ชเป็นของผมอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อไหร่ ผมจะเอาคืนให้ครบทั้งต้นทั้งดอกให้คุ้มกับความเหนื่อยยากที่ผมกำลังจะเจอในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้




        ..............................
        มาได้แค่นี้เพราะว่าริริไม่ว่าง ตอนต่อๆไปจะพยายามให้ยาวกว่านี้นะคะ  :katai4:
        เนื้อเรื่องยังไม่คืบหน้าเพราะอยากให้ฟังความในใจจากพ่องูร้ายกันบ้าง นางน่าสงสารเนอะ 555 :laugh:
        ริริอ่านคอมเม้นแล้วรู้สึกว่า ทุกคนเริ่มจะหลงรักเอเดนกันแล้ว ให้อภัยกันง่ายจริงเชียว 5555
        ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามนะคะ สอบถามนิดหนึ่งว่าอยากอ่านคุ๋พี่ยอร์ชเอเดนยาวๆจนจบตอนพิเศษที่ริริจะลงทางเว็บแบบรวดเดียว หรือว่าจะอ่านคู่โยชิกับอาซาสลับคู่กันไปด้วย ริริจะได้ลงให้ถูก เผื่อมีคนคิดถึงน้องโยและพี่อาซาของเรา บอกกันหน่อยน้า :katai2-1:

       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-08-2015 22:10:53
 :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 31-08-2015 22:23:18
 o22 ขอบคุณมากๆเลยนะคะ !!  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 31-08-2015 22:29:18
เอเดนน่าสงสารอ่ะ  :sad4:
สู้ๆนะเอเดน เดี๋ยวยอร์ชก็ใจอ่อนแล้ว  o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 31-08-2015 22:30:50
  ขอเอเดนแบบรวดเดียวไม่เอาโยชิคั่นกลางคะ  เพราะมีตอนโยชิยาวๆมาทั้งเรื่อแงแล้ว  ขออ่านเอเดนแบบจุใจบ้าง  แบบอ่นเอเดน  มาตลอด  พอมีคู่อื่นมาขัด  มาดูฟฟิลลิ่งขาดๆอ่าคะ
ขอเอนรวดเดียวเถอนะคะ  พลีส  กอดเข่าเลบ
คะขบอกเลย เอเดนตอนนี้   มกินขาดพระเอก  ทุกเรื่อง   มาแรวงแซงทางโค้ง  ชอบรและรักนายมากเอเดน มาไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 31-08-2015 23:04:57
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: numberll ที่ 01-09-2015 00:26:15
อยากอ่านพี่ยอร์ชเอเดน แบบรวดเดียวเบย

รอมานานคู่นี้  :impress2: :hao5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 01-09-2015 01:38:52
ขอแบบรวดเดียวจบแบบไม่ต้องลุ้นได้ไหมคะ ใจจะขาดดดด
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 01-09-2015 01:48:16
เชียร์เอเดนก็ได้!!! อยากเห็นพี่ยอร์ชมุ้งมิ้งหรอกนะ
ไม่ได้ให้อภัยยย  o18
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 01-09-2015 07:42:02
อยากอ่านรวดเดียวจบอะลุ้นๆๆๆๆๆๆๆสุดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 01-09-2015 08:38:14
ขอพี่ยอร์ชกับเอเดนยาวๆก่อนน้า
ให้เค้าง้องอนกันให้จบก่อนค่อยต่อด้วยโยชิ
พี่ยอร์ชใจอ่อนได้แล้วนะ
คนอ่านนี่ใจไปอยู่ข้างเอเดนหมดละนะพี่ 5555555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 01-09-2015 09:58:19
ค้างง ขอรวดเดียวเลยค่ะ  :call:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-09-2015 14:36:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 01-09-2015 17:30:32
อยากอ่านคู่เอเดนกับยอร์ชฮะ สงสารเอเดนอ่ะ ผู้ร้ายกลับใจต้องช่วยเหลือกันหน่อย 555+
อาซากับโยชิเขาคู่กันมาหลายชาติแล้ว รักกัน หวานชื่นไปแล้ว ดังนั้นขอเอาใจช่วยเอเดนดีกว่าฮะ อิอิ
รออ่านตอนต่อไปนะคร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 01-09-2015 21:00:20
เอเดน สู้ๆ รักต้องชนะนะ

ป้าให้อภัยเอเดน นิดนึงแล้วนะ วู้วววว~
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 01-09-2015 21:33:21
ขอเอเดนก่อนนนนกำลังจะมุ้งมิ้ง?
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 01-09-2015 21:41:43
ขอแบบ เอเดน รวดเดียวเลยจร้าไม่อยากค้างคาอ่ะ

เอาใจช่วยนะ เอเดน มาถึงขั้นนี้แล้ว พยายามเข้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 02-09-2015 22:31:54
อยากอ่านเรื่องยอร์ชกับเอเดนไปเลยจ้ะ จะได้ไม่ขาดช่วง สงสารเอเดนตรงที่เขาไม่เคยโดนใครรักอย่างจริงใจเลยน่ะ แต่ก้ออย่างว่าก้อทำตัวเองด้วยส่วนหนึ่งแต่ก้ออย่างว่าตัวเขาก้อคงอดที่จะน้อยใจและเก็บเอาไปเป็นปมด้อยไม่ได้น่ะ และโลกของนากินีก้อเหมือนโลกของสัตว์ป่าที่ใครเก่งกาจก้อคือผู้ที่อยู่รอดน่ะแหละ :katai1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 08-09-2015 00:10:30
กรี๊ด!!! เราชอบเรื่องแนวนี้มากเลย
โอ๊ย มันเต็มตื้นและฟินมาก เราชอบอ่านแนวแฟนตาซีค่ะ ไม่ต้องบรรยายเลิศหรู ขอแค่ลื่นไหลไม่ติดขัดก็เวิร์คมากแล้ว
ชอบโยชิมากเลย มโนออกเลยตอนเป็นงูน้อยๆ เข้าใจความรู้สึกเอ็นดูที่อาซามีให้โยชิอย่างเต็มเปี่ยม น่ารักได้โล่  :mew1:
คู่พี่ยอร์ชกับเอเดนก็ไม่น้อยหน้า ไม่รู้จะสมน้ำหน้าเอเดนหรือสงสารดีนะ 55555 แอบสะใจลึกๆแต่ก็น่ารักน่าเอ็นดูไปในตัว
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อมากๆ บอกเลยชอบมากจริงๆค่ะ เป็นกำลังให้น้า  :กอด1: รัดคนแต่งแน่นๆซักที
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 08-09-2015 02:25:03
ขอคู่เอเดนxยอร์ชแบบยาวๆๆๆๆ
แล้วพอจบก็ค่อยลงตอนพิเศษคู่โยชิx อาซา ก้อได้เนอะ
รอตอนหน้า เมื่อพี่เขย เจอะ น้องสะใภ้ เรื่องจะเป็นยังไงต่อไป รอๆอยู่จ้า
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: AutumnWind ที่ 11-09-2015 15:46:22
#ทีมเอเดน ค่ะ เชียร์เอเดนนะ สู้ๆ
ยอร์ชก็ใจอ่อนเร็วๆน้า สงสารเอเดนอ่าาา
เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FOUR❁ 31-08-2015 [P.62]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 11-09-2015 20:25:33
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 13-09-2015 22:23:16
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

FIVE



        เอี๊ยดดด!

        ปึก!

        “เอเดนอยู่ไหนพี่ยอร์ช” โยชิถามผมเสียงดังเมื่อก้าวลงจากรถ ผมคำนวนเวลาที่โยชิจะมาถึงที่นี่ถ้าหากพวกเขาขับรถมาเอง ซึ่งผมก็คาดการณ์ไว้ถูกต้อง เวลาสามทุ่มอาซากับโยชิก็ขับรถมาถึง ไม่ต้องเดาว่าเร่งเครื่องกันมาแรงขนาดไหน  ผมออกมายืนรอรับโยชิที่หน้าบ้าน และตัวการที่น้องชายผมเรียกหาก็อยู่ข้างใน นั่งคุยกับพ่ออย่างสบายใจไม่ทุกข์ร้อน

        “โยชิ ใจเย็นๆก่อน” ผมเอ่ยเตือนน้องชายที่กำลังร้อนใจ แต่โยชิไม่ได้ใส่ใจฟังคำพูดของผม อาซาเดินลงจากรถมายืนอยู่ข้างๆโยชิ เจ้าเด็กตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะจ้องไปในบ้านพร้อมกับที่อาซาชี้นิ้วไปในทิศทางเดียวกัน

        “ในบ้าน” โยชิกัดฟันพึมพำ เดินผ่านผมจะเข้าไปในบ้าน แต่ผมรั้งแขนน้องชายเอาไว้

        “ฟังพี่ก่อนโยชิ”

        “พี่ยอร์ช ปล่อยผม”

        “โยชิ!” ผมดุเสียงดัง น้อยครั้งที่จะใช้น้ำเสียงแบบนี้กับโยชิถ้าหากว่าเขาไม่ดื้อจริงๆ และได้ผล โยชิหยุดยืนเฉย มองหน้าผมเขม็งหายใจเข้าออกรุนแรง การที่น้องชายตัวน้อยของผมกลายเป็นนากินีทำให้นิสัยเปลี่ยนไปด้วยเหรอเนี่ย ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แหะ เพราะโยชิที่เป็นแบบนี้ผมรับมือยาก

        “ฟังพี่นะโยชิ เอเดนอยู่ที่นี่ แต่เขาไม่ได้มาร้าย ใจเย็นๆ ค่อยๆพูดค่อยๆจา” ผมพยายามที่จะอธิบายให้โยชิใจเย็นลงมากกว่านี้ แม้จะไม่ได้ผลนัก โยชิหันมามองหน้าผม แววตาเต็มไปด้วยความเครียด นัยน์ตามีน้ำใสเอ่อคลออยู่ภายใน

        “พี่ยอร์ชคิดแบบนั้นได้ยังไง เอเดนอันตรายขนาดไหน เขาเป็นคนไม่ดีเขาอาจจะทำร้ายพี่ ซึ่งโยยอมไม่ได้ โยจะไม่มีวันปล่อยให้เข้าทำร้ายใครอีก” โยชิพูดเสียงสั่น ผมขยับก้าวเข้าไปใกล้ มือทั้งสองข้างจับไหล่บางที่เกร็งขึงอย่างเบามือ

        “เขาไม่มีทางทำร้ายพี่ เพราะฉะนั้นโยอย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่าม” ผมปลอบ

        “ไม่จริง โยไม่มีทางเชื่อ เอเดนคิดไม่ได้แน่ๆ เขาจะมาทำร้ายพี่ ทำร้ายพ่อ ทำร้ายอาซา ทำร้ายพวกเราทุกคน” โยชิยังคงดึงดันเชื่อในสิ่งที่เขาคิด

        “อย่าปรักปรำกันได้ไหม ฟังแล้วมันหงุดหงิดนะ” เสียงของบุคคลที่สี่ดังแทรกขึ้นกลางวง ดวงตาทั้งหกคู่เบนทิศทางไปยังเจ้าของเสียง

        ออกมาทำไมวะเนี่ย แส่หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ

        ผมสบถอยู่ในใจ

        “เอเดน” เสียงกัดฟันเรียกชื่อของโยชิดังพร้อมกับตัวของโยชิที่พุ่งเข้าไปหาเอเดน ผมคว้าร่างน้องชายเอาไว้ไม่ทัน  โยชิกระชากคอเสื้อโปโลเอเดนเข้าหาตัวลากเขาลงมาจากตัวบ้าน เอเดนไม่ได้ขืนตัว แต่ก็ทุลักทุเลไม่น้อยที่ถูกลาก

        “มาทำไม กลับมายุ่งกับพวกเราทำไม!!!” โยชิใช้น้ำเสียงตะวาดใส่หน้าเอเดน ผมกลัวว่าพ่อจะมาได้ยินจึงเดินเข้าไปปราม คิดว่าพ่อคงขึ้นนอนแล้วเอเดนถึงได้ออกมา

        “จะทะเลาะจะตีกันก็ไปในไร่ พ่อยังอยู่ในบ้าน” ผมปรามเสียงดุ โยชิเหลือบสายตามองผมก่อนจะลากเอเดนให้เดินตามไป ผมมองตามหลังส่ายหน้าเครียดก่อนจะมองไปทางอาซาที่เดินตามทั้งคู่อย่างสบายใจ

        “ทำไมไม่ห้ามโยชิ” ผมพูด เร่งฝีเท้าให้ทันโยชิและเอเดน ตอนนี้มืดมิดมีเพียงแสงไฟไม่กี่ดวงที่ให้แสง

        “ทำไมผมต้องทำอย่างนั้น”

        “นั่นแฟนนายกับพี่ชายนายนะ”

        “คุณห้ามโยชิได้ไหมละ แล้วอีกอย่าง ผมกับเอเดนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว และเราไม่เคยเป็นพี่น้องกัน” น้ำเสียงของอาซาเรียบเฉยสบายๆต่างกับสถาณการณ์ที่โยชิจับเอเดนเหวี่ยงลงพื้น ผมหยุดเท้ายืนอึ้ง ตกใจกับพละกำลังของโยชิที่เพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว

        น้องชายตัวน้อยที่น่าทะนุถนอมไม่มีอีกต่อไป กลายเป็นน้องชายที่แสนจะแข็งแกร่ง

        “โยชิ!” ผมเรียกชื่อโยชิแต่ไม่ทัน หมัดเล็กๆกระแทกเข้าหน้าของเอเดนอย่างจังโดยที่หมอนั่นก็ไม่ได้หลบแม้แต่น้อย เลือดสีแดงไหลซึมที่มุมปาก ผมจะเข้าไปห้ามแต่ขาก้าวไม่ออก

        “นายต้องการอะไรอีก พูดมา!” โยชิสาดเสียงกร้าวใส่ไม่ยั้ง กระชากคอเสื้อเอเดนเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน

        “ต้องการพี่ชายนาย” เอเดนพูดตรงไม่มีอ้อมค้อม

        ผมปวดหัวตุบๆกับคำตอบของเอเดน โยชิหันมาทางผมแวบเดียวเท่านั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชัง

        “ถ้าจะมาเอาชีวิตพี่ชายฉัน ก็ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ” โยชิปล่อยตัวเอเดนลงกับพื้น ร่างเล็กของน้องชายผมยืดตัวยืนตรง ก้าวถอยหลังออกจากเอเดนเพียงหนึ่งก้าว ผมคิดว่าโยชิจะหยุด แต่เปล่าเลย ผมคิดผิด โยชิกระโจนเข้าใส่เอเดนอีกครั้งในร่างของงูตัวใหญ่ ผมตะโกนห้ามเสียงดังจะวิ่งเข้าไปห้ามแต่อาซาดึงแขนผมเอาไว้

        “ปล่อย” ผมหันไปตวาดอาซา สะบัดแขนที่ถูกเกาะกุมเพื่อให้หลุดแต่มือของอาซากำแขนผมแน่น

        “อย่าเข้าไปจะดีกว่า โยชิตอนโมโหจัดอะไรก็ห้ามไม่อยู่” อาซาพูด ผมหันไปมองเหตุการณ์ เอเดนในตอนนี้ก็กลับคืนร่างเดิม ในพื้นที่วงกว้างงูทั้งสองตัวก็ลังต่อสู้กัน แต่ถ้าพูดให้ถูกคือโยชิไล่เข้าฉกเอเดนเพียงฝ่ายเดียว โดยที่เอเดนหลบได้บ้างและไม่ได้บ้าง มีบ้างที่ตอบโต้กลับเพื่อผลักโยชิให้พ้นทาง

        “แล้วเมื่อไหร่โยชิจะหยุด โธ่เว้ย” ผมได้แต่ยืนร่างแข็งมือกำหมัดแน่น หงุดหงิดที่ตัวเองเข้าไปห้ามไม่ได้ ถ้าเกิดคนงานมาเห็นจะทำยังไง และถ้าพวกเขาทั้งสองคนเจ็บตัว

        ร่างสีขาวชูท่อนหัวขึ้นสูงพุ่งฉกใส่หัวข้างหนึ่งของเอเดนที่หลบไม่พ้น โดนกระแทกอย่างจังจนร่างสีเงินไถลไปกับพื้น โยชิเข้าไปซ้ำ อ้าปากกว้างคาบเอาตัวของเอเดนชูขึ้นสูงเหนือฟ้าแล้วก็กระแทกลงกับพื้นดินจนสั่นสะเทือนไม่ต่างกับแผ่นดินไหว ผมทนดูแทบไม่ได้

        “โยชิ หยุดได้แล้ว! พี่บอกให้พอ!” ผมตะโกนเสียงดังแต่เสียงของผมกลับจางหายไปกับฟุ่นที่ฟุ้งตลบ

        “อาซา ทำอะไรสักอย่างสิวะ” ผมหันไปสาดเสียงแข็งใส่แฟนน้องชายที่ยืนทำหน้าเครียดไม่ต่างกัน

        แต่ไม่มีเวลาให้คิดหาหนทางมากพอ โยชิยกหางของตัวเองเตรียมฟาดใส่เอเดนที่หมอบราบอยู่ที่พื้น ผมไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องตะโกนร้องห้าม แต่ขาทั้งสองข้างวิ่งเข้าไปขว้างเอาไว้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าผมถึงทำแบบนั้น ผมห้ามร่างกายตัวเองไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็เข้าไปยืนแทรกระหว่างเอเดนกับโยชิแล้ว ท่อนหางสีขาวของโยชิเตรียมฟาดลงมาตรงจุดที่ผมยืน ผมหลับตาโดยอัตโนมัติเตรียมรับแรงปะทะ

        ปึก!

        แรงฟาดรุนแรงจนทำให้ร่างผมทรุดลงกับพื้น แต่ไม่ได้โดนร่างกายของผมแม้แต่นิดเดียว ที่ล้มเพราะพื้นดินสั่นสะเทือนไปตามแรงกระแทก

        “พี่ยอร์ช! พี่ทำอะไรของพี่ เข้ามาขว้างทำไม เมื่อกี้ถ้าโยยั้งเอาไว้ไม่ทันพี่รู้ไหมว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร” โยชิเดินเข้ามาใกล้ผมที่ทรุดเข่าลงอยู่กับพื้น ผมค่อยๆเงยหน้ามองน้องชาย หางตาเห็นร่างเอเดนกลับสู่ร่างคน สภาพไม่น่าดูเท่าที่ควรนัก

        “รู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรลงไปโยชิ” ผมดุน้องชายด้วยเสียงดังระดับปกติแต่เต็มไปด้วยความจริงจัง

        ดวงตากลมใสของน้องชายตัวเล็กไหววูบขยายกว้าง “พี่ยอร์ช ทำไม”

        โยชิคงจะตกใจไม่น้อย ผมที่ใจดีไม่ค่อยจะต่อว่าหรือทำหน้าดุดันใส่บ่อยนัก นับครั้งได้ที่ผมจะแสดงออก แต่ครั้งนี้โยชิทำเกินไปจริงๆ ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากแค่ไหน แต่การจะลงมือทำร้ายผู้อื่นไม่ใช่ทางออกที่ดี

        “พี่คงทำหน้าที่อะไรบกพร่องไป เราถึงไม่เชื่อฟังคำของพี่แล้ว คำพูดพี่ไม่มีความสำคัญแล้วใช่ไหมโยชิ” ผมกดเสียงต่ำถามน้องชายสุดที่รัก โยชิหลุบตามองต่ำ ริมฝีปากเม้มแน่น

        “ยอร์ช ไม่ต้องไปดุน้องหรอก” เสียงขาดหายเสียงแผ่วของคนที่นอนเจ็บอยู่ที่พื้น

        “เรื่องของผมกับน้องชาย คุณอย่ามายุ่ง” ผมว่าเสียงแข็ง ตามองโยชิไม่วางตา ไม่สนใจว่าเอเดนจะเป็นยังไง คนอย่างเขาที่ไม่ฟังคำเตือนก็สมควรอยู่หรอก

        ผมจ้องน้องชายเขม็ง อาซาทำท่าจะเดินเข้าใกล้โยชิแต่ผมใช้สายตาปราม ผมคงห่างโยชิมากเกินไปช่วงที่เขาไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ทำให้เกเรถึงขนาดนี้ เห็นที่วันนี้จะต้องอบรมสั่งสอนกันหน่อย

        “ว่ายังไงโยชิ บอกพี่ที่สิว่าพี่บกพร่องตรงไหน น้องถึงได้ไม่เชื่อฟังพี่”

        “ฮึก...” เสียงสะอื้นดังขึ้นเป็นสัญญาตัวน้องชายตัวน้อยร้องไห้เข้าให้แล้ว อาซามองคนรักอย่างเป็นห่วง แต่ยังไงคนผิดก็ต้องรับโทษไม่มีข้อยกเว้น

        “ตอบพี่สิ”

        “ไม่ พี่ยอร์ชไม่ได้บกพร่อง ฮือ”

        “ร้องทำไม กล้าทำต้องการรับผิด ในเมื่อคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งพอที่จะทำอะไรก็ได้โดยไม่คิดถึงผลที่ตามมาจะร้องทำไม”

        “ยอร์ช” เสียงอาซาเรียกผม

        “อย่ายุ่ง” ผมตอบสั้นๆไม่ได้เหลือบตาไปมอง

        “ก็โย ฮึก ก็โยเป็นห่วงพี่ยอร์ช เอเดนเขาเคยทำอะไรไว้ พี่ยอร์ชก็รู้ โยกลัวว่าเขาจะมาทำร้ายพี่ทำร้ายเรา” โยชิพูดไปสะอื้นไปดูแล้วน่าสงสาร แต่ไว้ค่อยโอ๋ตอนที่สั่งสอนเสร็จแล้วก็ยังไม่สาย

        “พี่รู้ แต่ทำไมไม่คุยกันดีๆ ทำไมต้องใช้กำลัง เราเป็นอะไร เขาเป็นอะไร คิดบ้างไหมว่าถ้าทำแบบนี้แล้วพ่อหรือคนอื่นมาเห็นเรื่องมันจะใหญ่โตแค่ไหน พี่อาจจะทำใจยอมรับได้ถึงสิ่งที่เราเป็นแต่คนอื่นเขาจะชินหรือ งูตัวใหญ่เท่านั้น คิดว่ายังไง ทำไมถึงขาดสติได้ขนาดนี้หะ”

        “ฮึก โยขอโทษ พี่ยอร์ชอย่าโกรธน้องเลยนะ” โยชิเดินเข้ามาหาผม กอดเอวผมไว้เอาหน้าแนบอก ร่างเล็กสั่นไหวตามเสียงสะอื้น ไม่นานน้ำตาก็ชุ่มเสื้อบริเวณหน้าอก

        “เรื่องของเอเดน พี่จะจัดการเอง” ผมหลับตายกมือกอดโยชิเอาไว้อย่างทะนุถนอมด้วยแขนทั้งสองแขน สองมือนี้ที่โอบอุ้มน้องน้อยมาตั้งแต่เขาเกิด เพราะรักถึงไม่อยากให้โยชิกระทำในสิ่งผิดๆ

        “แต่เขาอาจทำร้ายพี่ได้” โยชิบ่นอยู่กับอก

        “เขาจะไม่มีวันทำได้” ผมพูดหนักแน่น

        “แต่โยไม่เชื่อเขา” โยชิยังคงดื้อรั้น ผมดันตัวโยชิออก มือจับไหล่บางทั้งสองข้าง มองจ้องเข้าไปในดวงตาที่หม่นแสงลงเพราะความเสียใจ

        “ถ้าเขาจะหน้าไม่อายไร้ศักดิ์ศรีใช้พละกำลังที่มีมากกว่าทำร้ายคนธรรมดาอย่างพี่ก็ให้เขาทำ จะได้รู้ว่าเขามันเลวเกินเยียวยา เพราะถ้าเขาคิดจะทำจริงๆ ก็ทำได้ไม่ยาก โยอยู่เฝ้าพี่ตลอดไม่ได้ ถ้ามีช่องโหว่ คนธรรมดาอย่างพี่จะทำอะไรได้เหรอ แค่เขาแพร่พิษนิดเดียวตัวพี่ก็คงกลายเป็นผุยผง จริงไหม” ผมปรับน้ำเสียงให้อ่อนนุ่มขึ้น

        แววตาของเจ้าตัวเล็กยังคงดื้อรั้น หันขวับมองเอเดนที่ลุกยืนอยู่ไม่ไกล ผมรู้ว่าโยชิเย็นลงแล้วจึงได้ปล่อยมือไม่รั้งเขาไว้ ผมทำดีที่สุด เขาจะเชื่อฟังหรือไม่ก็ให้เขาตัดสินใจเอง

        โยชิเดินเข้าไปหาเอเดน หมอนั่นก็ยืนจ้องตาโยชิอย่างไม่มีใครยอมใคร แววตาเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่ผมไม่รู้ความหมายว่าเพราะอะไรเขาถึงได้ไม่เกรงกลัว

        “คุณมาทำอะไรที่นี่ มายุ่งกับพวกเราอีกทำไม” โยชิถามเสียงแข็ง ใบหน้าเชิดรั้นขึ้น

        เอเดนมองมาทางผมก่อนะเอ่ยตอบโดยที่สายตาของเขาไม่ได้ละไปจากใบหน้าของผม

        “ฉันชอบพี่ชายนาย”

        ความเงียบเข้าครอบงำ เราทุกคนต่างตกตะลึงยกเว้นคนที่พูด

        “คุณ...ว่าอะไรนะ” โยชิถามซ้ำ เอเดนที่เอาแต่จ้องผมเบนสายตาไปมองโยชิแทน

        “ฉันบอกว่า ฉันชอบพี่ชายของนาย ที่มาไม่ใช่เพราะว่าจะมาทำร้ายได้โปรดเข้าใจใหม่ด้วย”

        “ผมไม่เชื่อ!” โยชิโวยขึ้น ส่ายหน้าไปมา

        “ก็แล้วแต่ นายจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เพราะคนที่ฉันอยากให้เชื่อมีแค่พี่ของนายเท่านั้น”

        “ไม่! ถึงคุณจะพูดความจริงผมก็ไม่มีวันยกพี่ยอร์ชให้คุณหรอก คุณไม่คู่ควรกับพี่ชายของผม!” น้ำเสียงของโยชิกลับมาเกรี้ยวกราดอีกครั้ง

        “เรื่องนั้น ไว้ให้พี่นายตอบแทนดีกว่านะ” เอเดนยังคงควบคุมอารมณ์เอาไว้ ซึ่งมันทำให้ผมค่อนข้างแปลกใจที่คนอารมณ์ร้ายเช่นเขาสามารถสะกดอารมณ์

        “พี่ยอร์ช โยไม่เอานะ พี่เขยแบบนี้ไม่เอาเด็ดขาด” โยชิวิ่งกลับมาหาผมแทน จับมือผมเขย่าพูดเอาแต่ใจเป็นเด็กๆ ผมถอนหายใจเบาๆ ตวัดดวงตามองเอเดนคาดโทษที่พูดอะไรออกมาไม่คิด หรือถ้าคิดแล้วก็เป็นความคิดที่โง่เง่าสิ้นดี

        “ใจเย็น อย่าเต้นไปตามคำพูดเขาสิโยชิ เขาจะพูดอะไรก็ปล่อยใหเขาพูดไป ใจของพี่ถ้าพี่ไม่ต้องการใครจะบังคับได้” ผมบอกอย่างใจเย็น 

        “โยไม่เอาจริงๆนะพี่ยอร์ช” โยชิเริ่มงอแง

        “ครับๆ ไปพักผ่อนเถอะ ทางนี้พี่จัดการเอง อาซา พาโยชิไปพักไป” ผมบอก อาซาที่อยู่นอกลงมานานก็เข้ามาพาโยชิกลับไปที่บ้าน แต่น้องชายของผมก็ยังคงไม่ยอมเดินไปแต่โดยดี

        “ไม่เอาน่า พี่ยอร์ชโตแล้ว อย่าดื้อรู้ไหม” อาซาโอบไหล่โยชิลากกลับไปที่บ้าน แต่โยชิยังหันมามองผมเหมือนไม่วางใจ

        “อาซา ฉันไม่ยอมนะ”

        “รู้แล้วๆ ไม่มีใครยอมทั้งนั้นแหละ ไปๆเข้าบ้าน”

        เสียงโยชิงอแงไปตลอดทางกลับบ้าน จบเรื่องโยชิไปเรื่องก็เหลืออีกคนที่ต้องจัดการ ผมหันไปหาเอเดนที่ยืนจับแก้มตัวเองที่บวมช้ำจนน่ากลัว ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำและแผลถลอก เขาดูอ่อนแรงแต่ยังคงประคองตัวยืนให้ตรง

        “ผมว่าคืนนี้คุณไปพักที่ห้องของรีสอร์ทดีกว่า อย่าเพิ่งเข้าไปที่บ้านให้โยชิโกรธจะดีกว่า” ผมบอก

        “ก็ได้” เขายอมแต่โดยดี “แต่...คุณต้องไปทำแผลให้ผมด้วยนะ”

        ก็ว่าอยู่ว่าคนอย่างเอเดนหรือจะยอมง่ายๆโดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยน

        “ความจริงผมไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น ในเมื่อคุณไม่เชื่อที่ผมเตือนเองว่าให้เลี่ยงไปก่อน เจ็บตัวจนได้” ผมบ่นอุบอย่างอดไม่ได้

        “ก็ถ้าผมหนีก็เท่ากับขี้ขลาดสิ เรื่องอะไรจะทำแบบนั้น”

        “เอาเถอะ ผมจะทำแผลให้ก็ได้ คุณไปรอที่หน้าห้องพักได้เลย ผมจะไปเอากุญแจกับกล่องปฐมพยาบาลที่บ้าน” ผมบอกเขาแล้วเดินกลับไปที่บ้าน ในหัวหนักอึ้ง

        โยชิยืนรอผมที่ปากประตู พอเห็นผมก็รีบวิ่งมาหา ส่วนอาซายืนกอดอกพิงกรอบประตูส่งยิ้มบางๆให้ผม ดูว่าเขาก็คงอาน้องชายผมไม่อยู่เหมือนกัน ยิ่งโตยิ่งดื้อจริงๆเด็กคนนี้

        “มายืนทำอะไรตรงนี้หืม” ผมลูบหัวน้องชายกอดคอพาเข้าบ้าน พ่อไม่อยู่ โยชิบอกว่าพ่อนอนไปแล้ว ผมค่อยวางใน อย่างน้อยเหตุการณ์วันนี้ก็ไม่มีใครเห็น ไม่งั้นเป็นเรื่องใหญ่แน่

        “มารอพี่ยอร์ช พี่ครับ โยกลัว” โยชิบอกเสียงเบา

        “กลัวอะไร” ผมถาม

        “กลัวเขาทำอะไรพี่ยอร์ช บอกตามตรง โยไม่ไว้ใจเลย”

        “พี่ก็ไม่ไว้ใจเขา แต่เราอย่าทำอะไรวู่วาม ตอนนี้เอเดนเหมือนเป็นแขกของพ่อ พ่อคงสงสัยแน่ถ้าเราทำท่าไม่ชอบเอเดน”

        “เฮ้อ ทำไมเขาต้องมายุ่งกับเราด้วย”

        “คุณชอบเขาหรือเปล่า” อาซาถามผม เขาเป็นคนพูดน้อยแต่ถ้าพูดทีก็เจาะเข้าตรงประเด็นไม่มีอ้อมค้อม

        ผมตอบคำถามขออาซาไม่ได้ในทันที ทำให้โยชิทำหน้าบึ้งใส่ผม

        “อย่าบอกนะว่าพี่ยอร์ชชอบเอเดน”

        “พี่เปล่า” ผมรีบพูดกลัวว่าโยชิจะคิดมาก

        “เอเดนน่ะ เป็นคนที่พูดจริงทำจริง ถึงจะเล่ห์เหลี่ยมเยอะ แต่เขาเป็นพวกที่ไม่โกหก ถ้าอะไรที่ออกมาจากปากของเขาก็เชื่อได้ว่าคือความจริง”

        “อะไร นายจะเข้าข้างเอเดนเหรอ เขาทำร้ายนายอย่างไม่ปราณีนายจำไม่ได้เหรออาซา” โยชิหัวไปแหวเสียงใส่อาซา

        “เปล่า ฉันจะไปเข้าข้างเข้าทำไม แค่พูดเฉยๆว่าที่เขาบอกว่าจะไม่ทำร้ายยอร์ชและที่เขาบอกว่าชอบน่ะ น่าจะเป็นความจริง อย่างน้อยนายก็เบาใจได้ว่าเขาไม่มีทางทำร้ายพี่ชายของนายแน่ๆ เข้าใจไหมเด็กน้อย” อาซาขยี้หัวโยชิทำหน้าหมั่นเขี้ยว

        “ไม่ชอบเลย โยไม่ชอบเลยจริงๆ” โยชิบ่นหงุงหงิงไปตามเรื่องตามราว ก่อนจะปลีกตัวขึ้นไปพักก็ไม่ลืมกำชับผมว่าห้ามชอบเอเดนโดยเด็ดขาด ก็นะ ถ้าผมทำได้จริงๆอย่างที่โยชิบอกก็คงจะดี

        ผมออกจากบ้านอีกครั้งพร้อมกุญแจห้องพักห้องเดิมที่เอเดนเคยอยู่กับอุปกรณ์ทำแผล ผมเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเล็กน้อยเพราะกลัวว่าโยชิจะเรียกหาผมถ้าหากว่าเขารู้ว่าผมมาทำแผลให้เอเดนเขาจะต้องโวยวายใหญ่โตแน่ๆ คิดอย่างนั้นผมก็ระบายยิ้มบางๆ เดี๋ยวนี้ผมต้องให้น้องชายตัวเล็กคอยปกป้องแล้วเหรอ นั่นมันน่าที่ผมนะ ผมต่างหากที่ต้องปกป้องน้องชาย ส่วนตัวผมเอง แค่เอเดนคนเดียวผมว่าผมน่าจะเอาอยู่

        ...กึก...

        อีกไม่ไกลก็จะถึงห้องที่ผมให้เอเดนไปรอ แต่เบื้องหน้ามีแขกไม่ได้รับเชิญขวางหน้าไม่ให้เดินต่อ อสรพิษที่ใครก็รู้จักกันดีอย่างงูเห่าชูคอแผ่แม่เบี้ยขู่ดังฟ่อ ผมจ้องตากับมันใจเต้นไม่เป็นระส่ำ กับงูที่อยู่ตรงหน้าผมกลับรู้สึกกลัวต่างจากเอเดนที่ผมไม่ได้รู้สึกหวาดหวั่นอะไร หรือเพราะผมเองก็รู้แล้วว่าเขาไม่มีทางทำร้ายกัน

        เมื่อผมขยับขา เจ้างูตัวใหญ่ก็ขยับเลื้อยเข้าใกล้ ผมคงไปไหนไม่ได้แน่ๆ ดูท่าแล้วมันกะเล่นงานผมเต็มที่ และถ้าผมขยับมากกว่านี้ผมคงโดนฉกแน่ๆ ระยะห่างจากผมและงูที่อยู่ตรงหน้าห่างกันแค่สองก้าวเท่านั้น

        ในยามที่ต้องการความช่วยเหลือ ใบหน้าของใครคนหนึ่งก็ลอยมาพร้อมกับปากที่เปร่งเสียงเรียกชื่อ

        “เอเดน”

        ช่วยด้วย

        สวบ!!!

        ร่างสีเงินพุ่งมาจากด้านข้าง หัวข้างหนึ่งคว้ากัดเข้าที่คองูเห่าแล้วโยนมันขึ้นไปบนฟ้าจากนั้นเอเดนก็จัดการกำจัดเจ้างูตัวนั้นจนมันสลายวับไปกับตา

        “เอเดน...” ผมเรียกชื่อเขาอย่างลืมตัว เขาได้ยินเสียงเรียกของผม

        “ไม่เป็นอะไรใช่ไหม เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เขาเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะคว้าตัวผมไปกอดไว้แน่น กระซิบเสียงสั่นถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าผมปลอดภัยดีไหมอย่างร้อนรน



        ..................................
        คิดถึงกันไหม นี่มาเร็วแล้วนะ ฮ่าๆๆๆ เร็วได้เท่านี้อ่ะ อย่าว่ากันน้า :mew1:



       


หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 13-09-2015 22:51:05
อ๊ายยยย

ชอบบบบบบบ

รอตอนที่ 6 นะ

อยากให้เป็นเรื่องยาวๆ จัง อยากอ่านเอเดนกับยอร์ชเยอะๆ

 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 13-09-2015 22:54:34
เอเดนทำดีมาก รู้สึกว่าน่ารักขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: AutumnWind ที่ 13-09-2015 23:02:03
แอร๊ก....ค้าง55555
ชอบเอเดนมากขึ้นทุกวัน  :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 13-09-2015 23:31:42
ว่าแล้ววววววว โยชิมาแบบพายุเลยทีเดียว
เอเดนไม่โต้ตอบด้วย!!!! ซื้อใจได้ดี เอาไป 10 คะแนนละกัน
ชอบที่พูดตรงๆ ชอบก็บอกว่าชอบสิเนาะ
ยิ่งตอนมาช่วยพี่ยอร์ช แค่ได้ยินเสียงเรียกนี่แบบบบบ
เอาไปอีก 20 คะแนนค่ะ อร๊ายยยยยยย
รอตอนต่อไปน้าาาา ฮิๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 13-09-2015 23:35:24
โยชิ นายช่างมั่นขึ้นเยอะเลยน่ะ  :a5: เอเดนเท่เชียวน่ะ แย่งซีนอาซาไปเลยอ่ะ งานนี้ปล่อยให้  :o8: เอ้าได้ใจยอร์ชไปอีกแล้ว ทำคะแนนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 14-09-2015 00:00:28
น้องโยชิเป็นห่วงพี่ยอร์ชแบบนี้ น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: aikawa_k ที่ 14-09-2015 00:25:59
ตะกรุยฝารอ  :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 14-09-2015 03:44:35
น่ารักกกกกก โอ๊ยฟิน น้องห่วงพี่หรือนี่  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 14-09-2015 06:07:20
เข้าใจโยชินะ เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมา มันรุนแรงจริงๆ

เอเดนก็ต้องพิสูจน์ให้โยชิเห็นอ่ะนะ ถ้าจริงใจจริงจัง โยชิใจอ่อนแน่

สู้ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 14-09-2015 06:39:24
แอบหวานตอนท้ายยยยยยยนะเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 14-09-2015 07:09:23
งูเห่ามาจากไหนนนน
ตอนนี้เป็นศึกของพี่เขยน้องชายสินะ หุห
 
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 14-09-2015 07:39:42
เอเดนเปลี่ยนไปแล้วนะโยชิ
เปิดใจหน่อยน่า
แค่พี่ยอร์ชคนเดียวก็แย่แล้วยังมาโดนโยชิขัดขวางอีก
น่าสงสารจิงๆเอเดน 5555555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 14-09-2015 07:45:52
เอเดนน่ารักขึ้นนะเนี่ยย แต่ยังทีมยอร์ชอยู่นะ
เอเดนต้องพิสูจน์ให้โยชิเห็นแล้วล่ะว่ารักพี่ชายเขาจริงๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 14-09-2015 07:49:14
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-09-2015 08:23:06
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: mukkai ที่ 14-09-2015 09:25:47
ตัดชึบเลยเอร้ยยย

เอเดนสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-09-2015 09:45:54
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 14-09-2015 10:00:15
น่าตีจริง ๆ เด็กคนนี้ ทำร้ายพี่เขยมันบาปรู้มั๊ย?....เอ๊า..มาเร็ว ๆ ตอน 6 7 8 9 และสิ๊บบบบบบบ...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 14-09-2015 21:01:26
ใกล้จะรักกันเข้าแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: janeyuya ที่ 14-09-2015 21:18:58
พี่ยอร์ชห้ามใจอ่อนนะ จำไม่ได้เหรอเอเดนมันทำอะไรน้องพี่อ่ะ
#อินี่ก็ชอบเป่าหู/โดนเอเดนกลืนลงท้อง#
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-09-2015 21:45:39
มาให้กำลังใจจ้า

ชอบมาก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: £.Ma|e¥ ที่ 14-09-2015 22:18:12
อร๊ายยยยยยยย เอเดนขาาาา  :hao6:  :hao6:
  :hao7:  :hao6: น่ารักกกกก น่ารักๆๆๆๆๆๆ
พี่ยอร์ชยอมเอเดนเร็วๆสิ
เอเดนน่ารักขนาดนี้ อิอิ  :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 15-09-2015 11:35:14
งานนี้ต้องพยายามอย่างหนักนะ เอเดน

เพื่อ พี่ยอร์ช
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: PaPoPaPo ที่ 19-09-2015 14:47:58
รออยู่น้าาาาาาาา  อีพไวๆๆ อ่านไปแล้วบางทีหัวใจจะวายมันลุ้นมากกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 21-09-2015 01:11:30
โธ่..... นุ้งโยชิ :m12: ถึงจะเกลียดเอเดนยังไงก็ทำใจซะเถอะ
ก็เพราะพี่ยอร์ชเค้าชอบเอเดนเข้าไปเต็มๆหมดแล้วน่ะสิ แอร๊ยยยย :impress2:
รอตอนต่อไป ลุ้นให้พี่ยอร์ชใจอ่อน
และให้หนูโยเค้ายอมรับพี่เขยคนนี้ด้วยยย
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: lahlunla ที่ 21-09-2015 17:30:44
เอเดนเขามาพิสูจน์หัวใจ
โยชิก็หยวนให้พี่เขานิดนึงน่า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 21-09-2015 17:52:19
เอเดนเอาชนะใจพี่ยอร์ชให้ได้นะ  :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁FIVE❁ 13-09-2015 [P.63]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 05-10-2015 18:20:14
ค้างอ่าาาาาาาาา :a5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 06-10-2015 12:13:11
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

SIX



        YACHT

        ผมตื่นมาในเช้าวันใหม่ วันนี้ไม่สาย ออกจะเช้ากว่าทุกวันเสียด้วยซ้ำ เมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับ เหตุการณ์เมื่อคืนสร้างหลากหลายความรู้สึกในใจผม บุคคลอันตรายที่สุดกลับทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยเพียงแค่เขาโอบกอด หัวใจผมยังคงเต้นผิดจังหวะทั้งเกิดจากอสรพิษร้ายที่หวังจะปลิดชีวิตผมและเอเดน

        เขาบอกกับผมว่า งูตัวที่เขาจัดการไม่ใช่งูธรรมดา แต่เป็นนากินีที่ยังควบคุมตัวเองไม่ได้หลงมา และมันกำลังกระหายเลือดอย่างหนัก ซึ่งโดยปกติแล้วในเขตรอบบ้านจะมีนากินีที่เป็นลูกน้องของอาซาที่คอยจับตาดูให้อยู่ตั้งแต่แรกกับลูกน้องของเอเดนที่เพิ่งมาช่วยดูแลผมและพ่อเมื่อเขามาที่นี่

        ผมไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย นับว่าโชคยังดีที่เอเดนเข้ามาช่วยไว้ทัน ไม่อย่างนั้นผมคงไม่รอด

        แม้ว่าผมจะนอนหลับๆตื่นๆมาตลอดทั้งคืน แต่จะให้นอนต่อก็นอนไม่หลับ จึงลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปวิ่งรอบไร่เป็นการเรียกเหงื่อในตอนเช้า

        ผมออกกำลังกายเป็นกิจวัตรประจำวันถ้าไม่สุดวิสัยจริงๆ เริ่มต้นจากการวิ่งไปรอบๆไร่ แสงสีทองค่อยๆโผล่พ้นขอบฟ้า เป็นภาพที่ผมเห็นมาตั้งแต่เล็กๆแต่ก็ไม่เคยเบื่อ ยามที่ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นก็เหมือนได้เติมพลังและกำลังใจ ครั้งแรกที่ผมได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นก็ตอนอายุห้าขวบที่แม่พาออกมาดู ผมอาจจะเคยดูแล้วก่อนหน้านั้น แต่ที่ผมจำความได้ก็ตอนนั้นวันเกิดอายุห้าขวบ

        เสียงสวบสาบจากด้านหลังทำผมสะดุ้งหันไปมองทันควัน ปฏิกิริยาทางร่างกายตื่นตัวเตรียมระวังภัยหากว่าต้นตอของเสียงเป็นเจ้าสัตว์ร้ายอย่างที่ผมเจอเมื่อคืน สิ่งที่เห็นเป็นสิ่งแรกคือท่อนขาของใครบางคนในกางเกงผ้ายืดหนาสีเทาอ่อน ไล่มองขึ้นไปเรื่อยๆจนกระทั่งเห็นใบหน้าคนที่เข้ามาขัดจังหวะ

        “เอเดน” เป็นเขาเองที่โผล่มาทำให้ผมหวาดหวั่น

        “ตกใจเหรอ” เขาถาม เดินล้วงมือในกระเป๋ากางเกงมายืนข้างๆผม สายตาของเขาจับจ้องไปที่ดวงอาทิตย์

        “ก็ใช่น่ะสิ ผมคิดว่าเป็น...” ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก

        “อย่าห่วงเลย มีผมอยู่ทั้งคน ต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อคืนอีก”

        “อืม” ผมตอบรับในลำคอ หันกลับไปมองดวงตะวันที่โผล่พ้นขอบฟ้ามาได้ครึ่งดวงอีกครั้ง

        “อากาศที่นี่สดชื่นดีผมชอบ” เอเดนพูด

        “พูดเป็นเล่น ที่ๆคุณอยู่อากาศดีกว่านี้อีกไม่ใช่เหรอไง” บ้านเกิดของเขาที่ผมเคยไปเหยียบย่าง อากาศดีกว่าเมืองไทยหลายเท่า เพราะปราสาทของเขาตั้งอยู่ในบริเวณเชิงเขา มลพิษแทบจะแทรกกายเข้าไปไม่ถึง ไร่ของผมยังอยู่ติดถนนมีรถวิ่งผ่านไปมา มีควันพิษที่ลอยปะปนในอากาศอยู่พอสมควร

        “ไม่หรอก ที่นี่ดีกว่าเยอะ” เขาพูดก่อนจะเหลือบตามองผม ดวงตาสื่อความนัยอย่างชัดเจน

        “ไม่คิดว่าคุณจะตื่นเช้าขนาดนี้” ผมชวนคุย

        “ผมได้กลิ่นคุณวิ่งผ่านห้องพักผม”

        “กลิ่นตัวผมแรงขนาดนั้น” ผมยกแขนขึ้นดมแถวๆรักแร้

        เอเดนหัวเราะ “อย่าตลกได้ไหม ผมเป็นงู ย่อมดมกลิ่นได้ดีกว่าคุณ และมันก็ไม่ใช่กลิ่นแบบที่คุณเข้าใจหรอกน่า”

        “ผมจะไปรู้หรือไง ผมเป็นคนธรรมดา คุณเดินมาใกล้ผมยังไม่ได้กลิ่นเลย”

        “หึหึ” เอเดนหัวเราะขำ ยามที่เขาทำตัวสบายๆในชุดเรียบง่าย ก็มีเสน่ห์ชวนมองให้คล้อยเคลิ้ม

        ดวงตะวันดวงโตโผล่พ้นขอบฟ้าอวดโฉมกลมโตสีแดงอมส้มท้าทายสายตาคนมอง ผมเผลอตกอยู่ในภวังค์ รำลึกถึงความหลังพร้อมอธิฐานคำขอเดิมๆ

        ‘ขอให้ผม แม่ พ่อ และโยชิ เกิดเป็นครอบครัวเดียวกันตลอดไป ขอให้ครอบครัวเรามีแต่ความสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ พ่อและน้อง ยอร์ชจะดูแลเอง’

        คำอธิฐานเดียวที่ผมขอมาตลอดยี่สิบเอ็ดปี

        “คุณคงชอบดวงอาทิตย์มาก” เอเดนพึมพำถาม

        ผมยกยิ้ม “ดวงอาทิตย์มีความหมายสำหรับผม”

        “เล่าได้ไหม” เสียงของเขาดูกระตืนรือร้น ขยับเข้ามาใกล้จนแขนเราติดกัน

        “ก็ถ้าคุณอยากฟัง” ผมหันไปมองสบตาของเขา ดวงตาสีเขียวยามที่ถูกแสงแดดยามเช้าส่องดูสว่างขึ้นและเปร่งประกายชวนมอง

        “ผมอยากฟัง” เขาจ้องตาตอบอย่างลึกซึ้ง ผมหันกลับไปมองดวงตะวัน ใช้เป็นเครื่องหันเหความสนใจก่อนที่ผมจะตกลงไปในบ่วงพลางที่เขาวางไว้มากกว่าไปกว่านี้ เพราะแค่ตอนนี้หัวใจก็เต้นแรงจนควบคุมร่างกายลำบาก

        “แม่เคยพาผมมาดูตอนผมห้าขวบ เป็นครั้งแรกที่ผมสามารถมองดวงอาทิตย์ได้เต็มตา เป็นอะไรที่วิเศษมาก วันนั้นเป็นวันเกิดของผม ผมอธิฐานบางอย่างกับดวงอาทิตย์ว่าขอให้ผมมีน้องชายที่น่ารัก และผมก็ได้จริงๆ จากนั้นไม่กี่ปีแม่ก็ท้องและคลอดโยชิออกมา เพราะร่างกายแม่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว พอคลอดน้องเสร็จแม่ก็จากไปทั้งที่ยังยิ้ม แม่ได้มอบของขวัญชิ้นสุดท้าย ของขวัญที่ดีที่สุดไว้ให้ผมได้ดูแล ตั้งแต่นั้นมา ผมจะมายืนมองพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าเพื่อบอกเล่าให้แม่รู้ว่า ผมดูแลน้องตามที่ได้ให้สัญญาเอาไว้”

        “เพราะอย่างนั้นคุณถึงรักโยชิมาก”

        “เขาคือพรที่ผมได้จากฟ้า”

        โยชิคือคำขอแรกในชีวิตผมที่เกิดขึ้นจริง

        “แล้วไม่นึกเสียใจเหรอที่คุณขอให้มีโยชิแต่แม่คุณกลับต้องจากไป”

        “ร่างกายแม่อาจไม่ได้อยู่ตรงนี้ แต่ผมรู้ว่าแม่อยู่กับผมเสมอ” ผมยิ้มและมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าโยชิ แต่ถ้าหากจะต้องโทษใคร คนที่ผิดก็คือผมที่เป็นคนร้องขอ คำขอที่ทำให้แม่จากไปและทำให้โยชิเกิดมาโดยไม่ได้มีความทรงจำร่วมกับแม่ เป็นผมคนเดียวที่ทำร้ายทุกคน เพราะฉะนั้น ผมจึงต้องชดเชยด้วยความรัก

        “คุณเป็นคนดี” เขาบอก จับไหล่ทั้งสองข้างของผมให้หันหน้าตรงไปทางเขา

        ผมยิ้มบางๆ หลบซ่อนความหวั่นไหวในดวงตา “ไม่หรอก ผมแค่เลือกที่จะมีความสุข”

        “แล้วถ้าผมอยากมีความสุข คุณจะช่วยผมได้ไหม”

        “คุณลองอธิฐานกับดวงตะวันดูสิ”

        “แล้วผมจะได้รับพรไหม” เขาถามอีก

        ผมวางมือบนท่อนแขนของเขาข้างหนึ่ง “ขึ้นอยู่กับว่าคุณจริงใจแค่ไหน”

        เขาก้มหน้าลงมากระซิบคำตอบข้างใบหู “มากที่สุดเท่าที่เคยมีชีวิตมา”




        จบกิจกรรมในยามเช้า ผมแยกกลับมาที่บ้าน เอเดนก็กลับไปที่ห้องพัก แต่ผมไม่ลืมกำชับว่าบ้านเราทานข้าวเช้าตอนเจ็ดโมงตรง เขาดูดีใจที่ผมบอกให้เขามาร่วมมื้อเช้าด้วยกันแทนสั่งอาหารให้เขาทานที่ห้องพัก

        ที่บ้านจะมีแม่ครัวจากในไร่มาทำอาหารให้ทุกเช้า พ่อนั่งดูข่าวในโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น บนตักมีหัวทุยของเด็กตัวน้อยนอนหนุนอยู่

        “พ่อ ทำไมวันนี้น้องตื่นไว” ผมทัก

        พ่อหันมามองผมก่อนจะก้มมองเด็กที่นอนหนุนตัก โยชิเองก็เปิดเปลือกตามองผมทั้งอาการง่วงงุน

        “เด็กบอกว่าพี่ยอร์ชหาย เลยลงมานอนรอ” พ่อแซวขำๆ “กลับมาคราวนี้อ้อนเหลือเกิน จะเอาอะไรครับคุณลูกชาย”

        “ไม่เอาอะไรเลย โยคิดถึงพ่อกับพี่ยอร์ช”

        “ช่างออเสาะ พี่เขากลับมาแล้ว ไปล้างหน้าล้างตาไปแล้วลงมากินข้าว” พ่อลูบหัวตบก้นโยชิเบาๆอย่างรักใคร่

        “ครับ” โยชิลุกขึ้นยืนโงนเงน เดินลากขามาหาผม สองแขนเกาะเอวผมไว้ให้พาขึ้นบนบ้าน ผมโอบกอดน้องชายก้มลงหอมหัวทุยไปที

        “พี่ยอร์ช” โยชิเรียกขณะที่กำลังก้าวไปตามขั้นบันได

        “ครับ”

        “ทำไมมีกลิ่นเอเดนติดตัวพี่ยอร์ชมาด้วย” เจ้าตัวเล็กดมฟุดฟิดตามตัวผม หน้ามุ่ยลงสิบระดับ

        ผมเลิกคิ้วสงสัย “ถามจริงนี่เป็นหมาหรืองู ทำไมชอบดมชอบได้กลิ่นกันจัง”

        “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย พี่ยอร์ชไปเจอเอเดนมาใช่ไหม”

        เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนของโยชิ แต่เขาเกาะผมแน่นไม่ยอมปล่อย ผมเคาะประตูเรียกอาซาให้ช่วยมาพาเจ้าตัวยุ่งไปจัดการที

        “พี่ไปออกกำลังกายไงครับแล้วบังเอิญเจอ ไม่เอาน่า เช้าๆแบบนี้อารมณ์เสียไม่ดีนะ ยิ้มหน่อยสิน้องชาย” ผมหลอกหล่อให้โยชิอารมณ์ดีขึ้น

        เสียงเปิดประตูกับคนรักของน้องชายโผล่ตัวออกมา อาซามองโยชิแบบที่คนนอกอย่างผมก็ยังรับรู้ได้ถึงความรักความเอ็นดู ก่อนที่เขาจะหันมาทักทายผม

        “อรุณสวัสดิ์ครับ”

        “อรุณสวัสดิ์” ผมทักทายตอบ

        “อาบน้ำแปรงฟันแล้วเจอกันที่โต๊ะอาหารตอนเจ็ดโมงนะ” ผมบอก อาซาพยักหน้ารับ เอื้อมมือดึงแขนโยชิให้กลับเข้าไปในห้อง

        ผมอาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคล สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับการทำงาน กางเกงยีนส์และเสื้อเชิ๊ตสีน้ำตาลพับแขนจนถึงศอก หวีผมให้เป็นทรงและผัดแป้งที่หน้าเล็กน้อย ผมส่องกระจกมองสำรวจตัวเอง ก่อนจะหยุดมองนิ่ง ใบหน้าของผมไม่มีความเคร่งเครียดและเหนื่อยล้าทั้งที่ชีวิตก็ไม่ได้สงบราบเรียบอะไร ออกจะวุ่นวายจนน่าปวดหัวด้วยซ้ำ แต่ทำไม...ผมถึงรู้สึกว่าตัวเองมีความสุข

        บนโต๊ะอาหารมีพ่อนั่งอยู่หัวโต๊ะ ผมนั่งใกล้ๆฝั่งซ้ายมือ และโยชินั่งติดพ่อฝั่งขวา อาซานั่งอยู่ข้างๆเจ้าตัวแสบ เอเดนมาถึงโต๊ะก่อนผมนั่งอยู่ข้างผม โยชิมองเอเดนพลางขมุบขมิบปากเหมือนบ่นอะไรสักอย่าง แต่เอเดนก็ทำเป็นมองน้องชายผมนิ่งๆแล้วหันไปคุยกับพ่อผมแทน

        “วันนี้พ่อจะไปงานโครงการแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องขยายพันธุ์องุ่นนะ ยังไงพ่อฝากยอร์ชดูแลบ้านและไร่ด้วย” พ่อบอก เราเริ่มลงมือกินอาหารเช้าแบบง่ายๆ ข้าวต้มรวมมิตร มีนมสดร้อน ขนมปังปิ้งทาเนยกับแยมองุ่นจากไร่เราเองอีกอย่าง

        “ได้ครับ พ่อกลับวันนี้เลยหรือเปล่า” ผมถาม

        “คงค้างที่ชลบุรีคืนหนึ่ง โยชิจะกลับวันไหนลูก” พ่อหันไปถามโยชิที่สวีทกับอาซาอยู่ในโลกส่วนตัว

        “กลับเย็นนี้ครับพ่อ โยมีเรียนวันพรุ่งนี้ โยอยากปิดเทอมไวๆจะได้กลับมาอยู่กับพ่อกับพี่ยอร์ช” ร่างเล็กเอนไปซบไหล่พ่อยิ้มหวานตาปิด พ่อยิ้มกว้างมีความสุขที่โดนลูกชายสุดที่รักอ้อน

        “ตั้งใจเรียนนะลูก แล้วกลับมาช่วยพ่อกับพี่ยอน์ชทำงาน”

        “ครับพ่อ โยจะตั้งใจเรียน”

        “แล้วเอเดนเป็นไงบ้าง งานที่นี่โอเคไหม” พ่อหันมาถามไถ่เอเดนบ้าง โยชิเหลือบมองหลายต่อหลายครั้งที่พ่อกับเอเดนคุยกัน

        “ก็ดีครับ” เขาตอบสั้นๆ คงจะพูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำล่ะมั้ง แต่ก็ช่วยไม่ได้ ผมเองต่อให้ยอมรับว่าชอบเขาอยู่บ้าง แต่ผมไม่รู้จักนิสัยใจคอและความเป็นเอเดนมากพอ เพราะฉะนั้นก็ต้องขอทดสอบและศึกษาสักหน่อยว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่ เพราะที่เคยเห็นก็มีแต่ด้านแย่ๆเท่านั้น ด้านดีเห็นได้น้อย

        มื้อเช้าจบไปพ่อให้คนงานขับไปส่งที่สนามบิน ผมและโยชิยืนส่งพ่ออยู่หน้าบ้าน วันนี้ผมยังคงต้องทำงานไม่มีเวลาไปเที่ยวเล่นกับโยชิแบบที่น้องชายต้องการ

        “ไปเที่ยวกับอาซาแทนแล้วกันนะ แล้วจะกลับกรุงเทพตอนกี่โมง” ผมถาม อาซาเดินถือหมวกและเสื้อคลุมออกมาจากบ้าน สวมใส่ให้โยชิพร้อมบ่นที่เจ้าตัวเล็กละเลย

        “น่าจะสักหกโมงเย็น โยจะรอพี่ยอร์ชกลับมาที่บ้านก่อน” โยชิบอก

        “ใส่เอาไว้ แดดร้อนเดี๋ยวจะไม่สบาย”

        “อย่าบ่นน่า ก็ใส่แล้วนี่ไง” โยชิจับหมวกบนหัวให้เข้าที่

        ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามา เราทุกคนหันไปมองก็เจอเอเดนในชุดพร้อมลุยออกไปซื้อของข้างนอกตามที่ผมสั่ง

        “พี่ยอร์ช ห้ามไปหลงกลเอเดนเด็ดขาดนะ” โยชิขยับเข้ามาใกล้แล้วกระซิบบอกกับผม

        “หึหึ” ผมหัวเราะกับท่าทางเป็นห่วงของเขา

        “พี่ยอรช โยไม่ขำนะ”

        “ครับคุณน้องชาย” ผมขยี้ผมนุ่นอย่างหมั่นเขี้ยว

        เอเดนเดินมาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ โยชิหันไปใส่เขาทันที “แล้วก็คุณ...ห้ามอยู่ใกล้พี่ชายผมด้วย บอกไว้ตรงนี้เลยว่าผมไม่มีวันยอมรับคุณแน่ๆ”

        เอเดนเพียงไหวไหล่ “ก็ตามใจ”

        “ฮึ่ย!”

        “เราไปกันเถอะ ผมพาโยชิไปเที่ยวก่อนนะครับ” อาซาลากโยชิไปที่รถ เสียงโยชิยังตะโกนว่าเอเดนไปตลอดทางจนกระทั่งรถยนต์คันหรูขับออกไป

        “น้องคุณจะห่วงอะไรคุณนักหนา คุณเป็นพี่ไม่ใช่เหรอไง” เอเดนบ่นบ้าง ใบหน้าที่เรียบนิ่งกลายเป็นหงุดหงิดเล็กน้อย

        “ก็เพราะมีคนไม่น่าไว้วางใจอย่างคุณมาอยู่ใกล้ผมยังไงละ” ผมพูดแล้วเดินนำไปที่รถกระบะ เอเดนเดินเข้ามาแย่งกุญแจรถไปจากผม

        “ผมขับให้” เขาอาสา

        “ขอบคุณ” ผมปล่อยให้เขาทำหน้าที่เป็นคนขับรถ แต่ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือคิดถูกที่ให้เขาเป็นคนขับ เพราะวันนี้บนท้องถนนมีรถจำนวนมาก ก็มีบ้างที่จะเจอคนที่ขับรถแย่ๆที่ทำให้การจราจรรวนเร

        “fuck!” เอเดนสบถลั่นรถ ทุบแตรบีบใส่รถคันข้างหน้าเสียงดัง

        ผมสังเกตตั้งแต่แรกแล้วว่ารถันข้างหน้าขับได้แย่มาก ขับคล่อมเลน ซ้ำตอนที่เบี่ยงมาเลนขวาที่รถผมวิ่งอยู่ก็ไม่ยอมเปิดไฟเลี้ยวขอทาง และตอนนี้ยังขับช้ามากทั้งๆที่วิ่งเลนขวาไม่ใช่เลนซ้าย

        “shit! ไอ้เวรเอ้ย” เอเดนตะโกนด่าทำยังกับว่าคนขับรถคันนั้นจะได้ยิน เขาเร่งเครื่องยนต์จี้ท้ายรถคันข้างหน้า มือที่จับพวงมาลัยรถกำแน่น ริมฝีปากขบกัดเคร่งเครียด แววตามาดร้ายเต็มไปด้วยความโมโห รถของเราใกล้คันหน้าเข้าไปทุกทีจนเกือบจะชนเข้าให้ เห็นท่าไม่ดีผมรีบหยุดเอเดน

        “เอเดน ลดความเร็วลงเดี๋ยวนี้ นายกำลังจะชนเขาอยู่แล้ว” ผมเตือน

        “ใช่ ผมจะขับชนมัน” เขากัดฟันพูดหน้าตาเฉย ผมตกใจ

        “คุณชนเขาไม่ได้นะเอเดน” หมอนี่ใจร้อนเกินไปแล้ว

        “ทำไม” เขาถามกลับเสียงห้วน

        ผมหลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ “เอเดน ใจเย็นๆ ผ่อนความเร็ว ผมสั่ง”

        “...” เขาไม่ฟัง ดูเหมือนคันข้างหน้าจะรู้ตัว จึงเร่งความเร็วเพื่อขับหนี เอเดนยังคงเร่งความเร็วตาม

        “ผมบอกให้หยุดไงเอเดน ใจเย็นๆ” ผมขึ้นเสียงแข็งอีกเล็กน้อยหวังให้เขารู้ตัวและเชื่อฟัง

        “คุณจะให้ผมใจเย็นได้ไง คุณดูไอ้บ้านั่นมันขับรถสิ” เขาชี้ไปที่คันหน้าหน้าก่อนจะตบแตรดันลั่นถนนติดกันอีกสามสี่ครั้ง ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะปวดหัว

        “ผมก็เห็น แต่ผมบอกให้ใจเย็นไง คุณทำแบบนี้มันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกนอกจากความสะใจน่ะ” ผมใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ถ้าหากผมร้อนตามเขาก็มีแต่จะยิ่งแย่

        “ก็ดีออกไม่ใช่หรือไง” เขาแค่นเสียงน่าหมั่นไส้

        “เอเดน ผมขอ...ลดความเร็วลงเดี๋ยวนี้ อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำอีกครั้ง” ผมหมดความอดทน พูดกับเอเดนเสียงแข็งหน้าบึ้ง เอเดนหันหน้ามามองผมแวบหนึ่งก่อนจะยอมผ่อนเท้าที่เหยียบคันเร่งจนเข็มหน้าปัดกลับมาอยู่ที่แปดสิบ

        “ทำไมคุณต้องไปยอมมันด้วย” เอเดนพูดเสียงหงุดหงิด เขาตบไฟเลี้ยวเบี่ยงเข้าเลนขวา

        “แล้วทำไมถึงจะยอมไม่ได้” ผมย้อนถามหน้าเฉย

        “เราควรทำให้มันรู้ว่ามันขับรถแย่แค่ไหน” เขากระแทกตัวพิงกับเบาะรถ

        ผมส่ายหน้ามองเอเดนที่ทำตัวเป็นเด็กวัยรุ่นใจร้อน ทั้งๆที่อายุเขาก็เลยคำนั้นมานานโข “แล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นมาล่ะ”

        “นี่คุณกวนประสาทผมเหรอยอร์ช ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์มาเล่นด้วยหรอกนะ”

        “เฮ้อ เพราะงี้ไงผมถึงไม่อยากยุ่งกับคุณ”

        “อะไร” เขาตวัดตามองผมอย่างขุ่นเคือง

        “หัดใจเย็นลงหน่อยเอเดน ขอเพียงคุณใจเย็น ทุกอย่างก็จะดีเอง วันนี้เราก็ไม่ได้รีบอะไร รถคันข้างหน้าเขาอาจจะเพิ่งหัดขับรถก็ได้ ถึงได้ยังไม่คล่อง เขาจะขับช้าก็ให้เขาขับช้าไป คุณก็เบี่ยงออกเลนขวาแซงหน้าเขาได้นี่ ถ้าคุณขาดสติได้ง่ายๆทุกอย่างมันจะยิ่งแย่”

        “มองโลกในแง่ดีเกินไปหน่อยไหม เฮอะ”

        “ก็ดีกว่ามองโลกในแง่ร้ายไม่ใช่เหรอ”

        เอเดนนั่งนิ่ง เขาเหมือนกำลังต่อต้านความคิดใหม่ที่ผมกำลังป้อนให้

        “เชื่อผมเถอะน่า แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น”

        เอเดนเงียบไปเลยไม่พูดอะไรต่อ ผมบอกให้ขับไปตามทางที่ผมบอก จนมาถึงระแวกที่มีร้านขายพวกอุปกรณ์เครื่องมือช่าง

        “คุณชอบคนใจเย็นเหรอ” เขาโผล่งถามขึ้นมาหลังจากที่บทสนทนาของเราขาดห่วงไปนาน

        “อะไร”

        “ผมถามคุณก็ตอบสิ” เขาเร่งเร้า

        “ก็เปล่า แต่บางครั้งเราก็ต้องควบคุมอารมณ์เพราะต่อให้โมโหไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ต้องดูเป็นสถานการณ์ไป ก็ถ้ายังไม่ถึงขั้นที่รถคันนี้เปิดกระจกชูนิ้วกลางและตะโกนด่าคุณละก็นะ ปล่อยๆไปเถอะ ชีวิตจะได้ไม่เครียด”

        ผมเองก็เป็นคนใจร้อนเหมือนกัน แต่เมื่อผมกลายเป็นเสาหลักของครับผม ผมก็เริ่มรู้จักใจเย็น คงตั้งแต่ตอนที่ผมบวชละมั้ง อะไรๆก็ดีขึ้นเมื่อเรามีสติและรู้จักมองโลกบนความเป็นจริงรวมไปถึงการมองโลกในแง่ดี

        “ก็ถ้ามันทำแบบนั้นผมไม่ปล่อยมันแน่” เอเดนพูดบ่นเสียงเบาเหมือนเด็กๆที่ไม่ได้ดั่งใจ

        “เอาเถอะ คุณลงไปซื้อของพวกนี้มา” ผมยื่นโพยกระดาษที่จดรายการของทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษส่งให้เอเดน

        เขาหยิบไปดูก่อนถาม “ร้านไหน”

        “แถวนี้มีประมาณสองสามร้าน หาดูเอา เอาของในราคาที่ผมจดไว้ให้ แพงกว่านี้ไม่ซื้อ หรือถ้าถูกกว่านี้ก็ต้องดูที่คุณภาพของ ส่วนนี้เงิน”

        “คุณจะไม่ลงไปช่วยผมเหรอ”

        “ไม่ล่ะ นี่คืองานที่ลูกจ้างอย่างคุณจะต้องทำ ผมเป็นนายจ้าง ผมจะไปทำอย่างอื่น” ผมยังต้องไปตรวจเช็คตลาดว่าผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง และมีร้านไหนที่ต้องการจะสั่งของเพิ่ม

        “แต่ผมจะคุยกับพวกเขารู้เรื่องได้ยังไง พวกเขาพูดภาษาอังกฤษได้เหรอ” เอเดนเบ้หน้าขัดใจ

        “ไม่รู้สิ” ผมปลดล็อคเข็มขัดเตรียมตัวลงจากรถ

        เอเดนคว้าแขนผมจับไว้แน่ “ยอร์ช คุณจะทิ้งผมแบบนี้ไม่ได้นะ”

        ผมก้มมองมือเขาก่อนจะยิ้ม

        “ผมทิ้งคุณที่ไหน ผมก็อยู่แถวนี้แหละ ไปเถอะ อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้เลย”

        ผมลงจากรถ เผลอยิ้มไม่รู้ตัว

        เอเดนเขาเหมือนเด็กจริงๆ เด็กไม่รู้จักโตด้วย





        ........................
        ตอนนี้บรรยากาศชิวมากนะ เขาสวีทกันพอยัง อยากได้มากกว่านี้ไหม อิอิ :katai2-1:

 :mew1: :กอด1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 06-10-2015 12:48:17
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 06-10-2015 13:23:42
แหมมมมม เค้ารู้นะว่าพี่ยอร์ชหวั่นไหว
แต่ให้ไปซื้อของเองนี่.......จะได้ของถูกและดีกลับมาไหมคะเนี่ย ขี้แกล้งจริงๆ
ขอสวีทกว่านี้ ไหนๆเดี๋ยวโยชิก็จะกลับละ :hao7:
รอตอนต่อไปเน้อออ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 06-10-2015 14:11:31
เอเดนบอกเลยนายเจอแม่คนทื่สองแล้ว  :hao7:
ดูสิยอช์รเด็นดูและนะ น่ารักน่าหยิกจริงๆ :m20:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 06-10-2015 14:11:59
โอ้ยยยยย เวลางูเชื่องนี้น่ารักเเบบนี้ทุกตัวหรือเปล่าคะ คือเเบบว่าเอเดนน่ารักมากกกกกกกกก
พี่ยอร์ชใจอ่อนเร็วๆ ลืมๆไปเถอะ (ถ้าจะเปลี่ยนชั้วเร็วขนาดนี้) เเต่เอเดนน่ารักจริงๆอยากลักกลับบ้าน
มีมาถามด้วยว่าชอบคนใจเย็นเหรอ เราชอบบรรยากาศเเบบชิวๆอย่างนี้มากเลย คุณริรสู้นะคะ ต้องปั่นให้จบนะ!
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 06-10-2015 14:50:48
 :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 06-10-2015 15:42:57
น่ารักอ่าาา

ชอบมาก

รออ่านฉากเรทททท
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 06-10-2015 16:23:51
หวานนนนน  :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: mukkai ที่ 06-10-2015 16:44:18
จะรอดไหมหนอเอเดน :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 06-10-2015 17:13:28
โธ่ เอเดน ช่างน่าสงสาร แล้วจะคุยกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้ารู้เรื่องมั้ยล่ะเนี่ย

พี่ยอร์ช ก็อย่าแกล้ง เอเดน มากสิค้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 06-10-2015 19:50:49
จัดมาเลย.....เอาให้มันเลี่ยนตายคาความหวานกันไปเลย...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: wiwari ที่ 06-10-2015 19:53:47
พี่ยอร์ชใจอ่อนแล้วใช่ป่าว  :hao7: รักผู้ชายแบบพี่ยอร์ช :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-10-2015 19:54:41
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 06-10-2015 21:58:51
เอเดน พยายามเข้าน่ะ สู้ ๆ  :mew1: แต่ตอนนี้เหมือนกับคำผิดเยอะมากน่ะ ไม่ต้องรีบร้อนน่ะจ้ะคุณริริ ใจเย็น ๆ จ้า :katai3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 06-10-2015 22:11:35
สู้ๆเอเดน
พี่ยอร์ชคงใกล้จะใจอ่อนเต็มที่ละ
อดทนอีกนิดน้าา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 07-10-2015 00:32:39
เค้าไม่ยกพี่ยอร์ชให้เอเดนหรอก!!! #ทีมน้องโยชิ  :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 07-10-2015 02:34:50
ยอร์ชกำลังพยายามค่อยๆ สอนเอเดนสินะ สู้ๆ นะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 07-10-2015 09:21:20
ขอหวานกว่านี้ อยากเป็นเบาหวานแล้วววววว :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 07-10-2015 12:46:19
แหหมะ ออกปากแล้วนะว่าชอบเอเดนเหมือนกัน

เอาน่า ช้าๆได้พร้าเล่มงามนะเดน สู้ๆเด้อ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: ศตรัศมี ที่ 07-10-2015 22:46:23
ึกรี๊ดดดด พ่องูแอ๊บแบ๊ว 555 อย่าลืมคู่น้องปุยพี่เติร์ดนะฮ๊าฟฟ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 08-10-2015 14:52:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: k_keenny ที่ 08-10-2015 18:32:51
อ่านวันเดียวจบ ตอนนี้ค้างมากกกก 555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 08-10-2015 19:38:49
แบบเอเดนต้องเอาคืนให้หนักกก 555555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: yashaoashura ที่ 09-10-2015 02:04:21
 :impress2: จะรอติดตามนะคับ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-10-2015 16:38:15
สงสัยเอเดนคงต้องใช้ภาษามือช่วยตัวเองในการซื้อของ

ว่าแต่จะไม่กินเวลาไปเป็นวันเลยเหรอกว่าจะซื้อเสร็จ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 11-10-2015 10:00:38
เอเดนน่ารักขึ้นเยอะเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 11-10-2015 17:37:43
 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 13-10-2015 11:24:04
 o13 :mew1: :katai4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 13-10-2015 13:15:39
รวดเดียวจบเลย
ค้างมาก! เอเดนน่ารักมาก บอกเลย
ยอร์ชเหมือนคุณแม่เลยอ่ะ
อยากอ่านต่อเร็วๆจัง
คุณริริรีบมาต่อเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 13-10-2015 18:25:12
อ่านรวดเดียวต้นยันจบเลยค่ะ และเพิ่งจะรู้ว่า งู
เป็นสัตว์มุ้งมิ้งก็ตอนนี้แหละ โฮะๆๆ เชียร์เอเดนมากกกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 14-10-2015 04:19:45
โอ๊ยยยยยย
ทำไมเพิ่งรู้จักเรื่องนี้
รู้สึกว่าผลาดอย่างแรง
สนุกมากๆค่ะเรื่องนี้
ชอบความอบอุ่น ของครอบครัวโยชิ มากๆ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SIX❁ 06-10-2015 [P.64]
เริ่มหัวข้อโดย: Aunttk ที่ 14-10-2015 13:10:18
โยชิหวงขี้หวง น่ารักกก :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-10-2015 22:33:25
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

SEVEN




        Aden


        “ถูกกว่านี้ไม่ขาย ผมขายของดีมีคุณภาพ ราคานั้นไปซื้อของกะลั่วๆไป๊”

        รำคาญโว้ย! พูดบ้าอะไรวะฟังไม่รู้เรื่อง!

        ผมหันไปมองหน้าอีกคนเพื่อขอคำตอบ

        “เขาบอกว่าไม่ขายราคาที่คุณบอกค่ะ” หญิงสาวหน้าหมวยที่รับอาสาเป็นล่ามเฉพาะกิจบอกกับผมพร้อมรอยยิ้มเจื่อน ผมหงุดหงิดหนักมากขึ้น นี่เป็นร้านที่สองแล้วที่ขายราคาไม่ตรงกับที่ยอร์ชระบุไว้

        ผมไม่ค่อยรู้ราคาของพวกนี้ อะไรก็ไม่รู้ เหล็กชุบกัลป์วาไนซ์ และของอีกหลายอย่าง ผมเคยรู้จักที่ไหน ถึงผมจะเป็นนักธุระกิจคนหนึ่ง ทำธุรกิจไร่องุ่นและผลิตไวน์ แต่เวลาผมทำงาน ผมแค่บอกในสิ่งที่ตัวเองต้องการและก็ให้ลูกน้องไปจัดการ และทุกอย่างก็มาอยู่ในมือผม เพราะผมมีอำนาจและเม็ดเงินอยู่ในมือ ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้ ผมได้ทุกอย่างเพียงแค่เอ่ยปากสั่ง ไม่มีลูกน้องคนไหนกล้าหือหรือกล้าตุกติกกับผม เพราะทุกคนรู้ดีว่าถ้าทำงานพลาดไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์จะมีจุดจบอย่างไร ผมเพิ่งมารู้เอาวันนี้ว่าคนที่ต้องรับคำสั่งให้ให้จัดการงานมันลำบากไม่ใช่เล่น

        “แถวนี้มีร้านอื่นอีกไหม” ผมกดอารมณ์หงุดหงิด กัดฟันถามอย่างใจเย็น

        “ก็ มีอีกร้านหนึ่งค่ะ” เธอบอก ไม่รู้ว่าเธอไม่เก่งภาษาอังกฤษหรือยังไงถึงได้พูดตะกุกตะกักตลอดเวลาจนน่ารำคาญ

        ผมรำคาญไปหมดทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว จนอย่างอาละวาดให้ราบเป็นหน้ากลอง

        “ร้านนั้นอยู่ไหน นำทางหน่อย” ผมบอก มองหน้าเจ้าของร้านอีกครั้งอย่างไม่ชอบใจก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากร้าน อากศข้างนอกก็ร้อนเกินทน

        “ทางนี้ค่ะ” เสียงเรียกของล่ามเฉพาะกิจบอก ผมเดินตามไปด้วยสีหน้าขวางโลก ยอร์ชนะยอร์ช ทำไมต้องให้ผมมาทำอะไรแบบนี้ด้วย

        “ร้านนี้?” ผมมองร้านเก่าๆค่อนข้างทรุดโทรมตรงหน้า รั้วเหล็กเก่าจนสนิมเขลอะ ด้านหน้ามีทั้งกองไม้กองเหล็ก ผู้หญิงที่มาช่วยเดินเข้าไปข้างในกวักมือเรียกผม ผมเดินตามไป พลางบ่นในใจ ร้านค้าประสาอะไรไม่ทำให้ดี แบบนี้ใครจะอยากซื้อ

        แต่ตอนนี้ผมกำลังจะเดินเข้าไปซื้อ หากว่า...ราคาและของมีตรงตามที่ยอร์ชต้องการ

        คนงานในร้านเดินขนของขนไม้กันไปมา บางครั้งหวิดจะชนผมจนอยากจะเดินออกจากร้านนี้ซะ

        “นี่คุณ รีบๆหาเจ้าของร้านสิ” ผมบอกกับผู้หญิง

        “อ่ะ โอเคค่ะ น่าจะทางนี้” เธอก้มหน้าแดงๆเดินไปทางซ้ายมือ เป็นอาคารปูนสองชั้น ชั้นล่างเปิดโลงมีกล่องใส่อุปกรณ์ต่างๆวางเรียงรายเป็นชั้นสูง และมีตู้กระจกใส่ตรงเป็นแนวยาวอยู่ตรงกลาง ชายแก่คนหนึ่งยืนกดเครื่องคิดเลข ปากก็ตะโกนอะไรสักอย่างเสียงดังที่ผมฟังไม่เข้าใจ

        “แป๊ะๆ ถามสินค้าหน่อย” ผู้หญิงที่นำทางมาพูดกับคนขายต่อด้วยหันมาหาผม “ฉันขอกระดาษรายการของหน่อยค่ะ”

        ผมส่งให้เธอ เธอก็ยื่นให้คนขายอีกต่อ ชายแก่ขยับแว่นตาแล้วก้มมอง แล้วก็พูดกับผู้หญิงยาวยืด หางตาเหลือบมองผมบ้าง

        พอเจ้าของร้านพูดจบผมก็ถามเพื่อเอาความ “ว่าไง มีของไหม แล้วราคาตามที่เขียนหรือเปล่า”

        “บางอย่างมีทั้งถูกกว่าและแพงกว่า เอ่อ ถ้าคุณจะซื้อฉันแนะนำให้ดูคุณภาพสินค้าก่อนดีกว่าไหมคะ เพราะว่าของร้านนี้บางอย่างอาจจะราคาถูก แต่ว่าของคุณภาพไม่ค่อยดี ร้านเมื่อตะกี้แพงกว่าก็จริงแต่คุณภาพของดูดีกว่าที่นี่” เธอบอก แต่สบตาผมบ้างหลบตาผมบ้าง

        ผมถอนหายใจทิ้ง มองรอบๆร้านอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินไปกระชากกระดาษในมือคนขายกลับคืน

        “ผมจะกลับไปร้านเดิม” ผมเดินนำไปไม่รอ กลับไปที่ร้านที่สองที่เพิ่งเดินออกมา ผู้หญิงหน้าหมวยวิ่งตามผมมาติดๆ ผมกลับเข้าไปในร้าน เจ้าของร้านที่อายุน้อยกว่าร้านที่สาม น่าจะอายุประมาณสามสิบกว่าได้มองผมอีกครั้งด้วยใบหน้าและแววตานิ่งๆไม่บ่งบอกอารมณ์

        “บอกเขาว่าเอาตามจำนวนนี้ ราคาจะเท่าไหร่ก็ว่ามา” ผมส่งกระดาษให้เจ้าของร้าน ตาก็จ้องเขาตอบ ยื่นกระดาษให้แบบส่งๆ ผมเริ่มไม่มีอารมณ์จะคิดหรือทำอะไร ล้วงกระเป๋าสตางค์หยิบเงินไทยที่มีติดตัวเพิ่มให้พอกับค่าของทั้งหมดรวมถึงค่าจัดส่งถึงไร่

        ผมมองหญิงสาวข้างที่เป็นธุระให้ผมจนเสร็จ “ขอบคุณมากที่ช่วย ไม่มีอะไรต้องรบกวรคุณต่อแล้ว เชิญคุณกลับได้เลย”

        “อ่อ ค่ะ ยินดีค่ะ ว่าแต่คุณพักอยู่แถวนี้เหรอค่ะ” เธอยังไม่ไป ถามคำถามกับผมพร้อมรอยยิ้มหวาน ก็ดูดีอยู่หรอกแต่ผมเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร

        “ใช่” ผมตอบสั้นๆ เดินไปนั่งที่ชุดเก้าอี้ที่น่าจะมีไว้รับรองลูกค้า เธอเดินตามมานั่งข้างๆด้วย ผมมองหน้าเธอกับคำถามว่าทำไมเธอไม่ไปเสียที

        “ถ้าไม่รังเกียจ เรานัดเจอกันคราวหน้าได้ไหมค่ะ ฉันอยากรู้จักคุณ เผื่อว่าเราจะเป็นเพื่อนกันได้”

        ผมคิดว่าผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงยังอยู่ตรงนี้แล้วถามนู่นนี่กับผม

        “ผมไม่สะดวกครับ และผมไม่ต้องการมีเพื่อนใหม่” ผมพูดแล้วหันหน้าหนีมองไปทางอื่น ผมแค่ขอความช่วยเหลือและก็ตอบแทนด้วยคำขอบคุณไปแล้ว ไม่ได้อยากจะสานสัมพันธ์อะไรต่อ

        ผมมองนู่นมองนี่รอเวลา มองหน้าร้านที่มีคนเดินผ่านไปมาไม่ได้สนใจผู้หญิงคนเดิมที่ยังไม่ลุกออกไปไหน แสงแดดส่องเข้ามาทางหน้าร้านทำผมตาพร่าเล็กน้อย ผมโดดแดดมากเกินไปช่วงนี้ งูอย่างผมมักไม่ชินกับแสงแดดที่แผดจ้า

        แสงแดดที่แยงตาทำให้ต้องเบนสายตาหนี แต่กลับมีคนเดินเข้ามาบดบังให้ ผมมองผู้มาใหม่ ผมไม่เห็นหน้าแต่รู้ว่าเป็นใครเพราะกลิ่นของเขา

        “ยอร์ช” ผมลุกขึ้นเดินเข้าไปหา

        “ได้ของไหม” เขาถาม ไม่มองหน้าผมแต่มองรอบร้านแทน

        “ได้” ผมดีใจที่เขามา แต่คิดอีกที ผมควรจะซื้อของให้เสร็จก่อนที่เขาจะมาเจอ ไม่อย่างนั้นเขาก็รู้น่ะสิว่าผมใช้จ่ายเงินค่าของเกินกว่าที่เขากำหนด

        “ของที่คุณสั่งได้ครบแล้วครับ อ้าวยอร์ช มาซื้อของเหรอ แปบนะ”

        “สวัสดีครับเฮีย ผมไม่ได้มาซื้อของหรอกครับ เพราะผมส่งคนมาซื้อของแล้ว”

        “ใคร”

        ยอร์ชปรายตามองมาทางผม เจ้าของร้านก็มองตามมาก่อนจะทำหน้าตกใจ ผมไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันเพราะผมฟังไม่ออก อยากรู้แต่แสร้งทำหน้านิ่ง

        “เอ่อ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” ผู้หญิงข้างๆสะกิดเรียกผม ผมมองแขนตัวเองที่ถูกเธอแตะ ผมไม่ชอบให้คนไม่รู้จักมาโดนตัว และผมคงแสดงความไม่พอใจออกทางสีหน้าเธอถึงได้หน้าเสียแล้วรีบลุกออกไป น่าจะไปได้ตั้งนานแล้ว

        “คุณรู้จักกันเหรอ” ผมถามยอร์ช มองร่างโปร่งกับเจ้าของร้านสลับกัน

        ยอร์ชมองผมแล้วเขาก็ยิ้ม “ผมเป็นคนที่นี่นะ ย่อมต้องรู้จักเป็นธรรมดา” ยอร์ชตอบแล้วก็หันไปคุยกันอีกคนต่อ พูดกับเป็นภาษาไทยโดยมีผมนั่งมองอย่างไม่เข้าใจ

        “เขาซื้ออะไรไปราคาเท่าไหร่บ้าง เฮียได้ให้ราคาที่ผมเขียนมาไหม”

        “เปล่า เฮียขายให้เขาราคาปกติ เพราะเฮียไม่รู้ว่าเป็นคนจากไร่ยอร์ช”

        “แล้วเขาทำยังไงครับ”

        “ก็ทำหน้าหงุดหงิดแล้วก็เดินออกไปสักพัก มีผู้หญิงมาช่วยแปลด้วยนะ แต่ก็กลับมาที่ร้านแล้วเอาของในราคาปกติ”

        “ผมให้เงินเขามาพอดีกับราคาพิเศษ หึหึ สงสัยจะเอาเงินตัวเองออก”

        “มีอะไรเหรอ”

        “เปล่าครับ ของครบแล้วใช่ไหมครับเฮีย”

        “ครบแล้ว แต่เดี๋ยวรอก่อน เฮียคิดราคาเดิมให้”

        “ไม่เป็นไรครับเฮีย ตามนั้นแหละ เขาเป็นคนจ่ายเพิ่ม ผมไม่ได้เสียหายอะไร ตามนั้นแหละครับ”

        “จะดีเหรอยอร์ช เฮียดูแล้วไม่น่าจะใช่คนงานใหม่นะ ดูดีไป เพื่อนหรือเปล่า” เจ้าของร้านเหลือบตามองผมแวบหนึ่ง สีหน้าไม่เป็นปกติ

        “คนงานใหม่ครับ” ยอร์ชพูด แล้วยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา

        “อืม เหรอ”

        “ถ้ายังไงผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ต้องพาคนงานกลับไปทำงาน”

        “อ่อ ได้ๆ รถส่งของจะขับตามไปนะ ครับ ขอบคุณครับ”

        ยอร์ชยกมือไหว้ อีกฝ่ายก็ยกมือตอบรับแล้วเดินหายไปสั่งงานลูกน้อง ผมมองตามหลัง ถึงผมจะไม่รู้ว่าเขาพูดกันว่าอะไร แต่ผมรู้สึกว่ามันจะต้องเกี่ยวกับผมแน่นอน

        “ไปเถอะ กลับไร่ได้แล้ว” ยอร์ชเรียกผม

        ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังยอร์ชกลับไปที่รถ เขานั่งเงียบไม่โวยวายเหมือนไม่รู้เรื่องที่ผมซื้อของเกินราคา หรือว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดกันเรื่องนั้น อาจจะเป็นไปได้ ผมถอนลมหายใจอย่างโล่งอก ออกรถขับกลับไร่

        “ที่ผมไม่พูดถึงอย่าคิดว่าผมไม่รู้นะเอเดน”

        ผมสะดุ้ง คิดว่าจะรอดแล้วเชียว ยอร์ชช่างร้ายกาจ ไม่รู้ว่าผมหลงรักคนแบบนี้ไปได้ยังไง คนที่ขัดใจผมเสียทุกอย่าง แต่สุดท้ายผมก็อยากที่จะอยู่ใกล้ๆ ได้เห็นหน้า ได้สัมผัส

        หัวใจไม่รักดี ถึงได้ไปรักคนใจร้าย

        “คุณจะพูดอะไร” ผมแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

        “เงินที่คุณออกไปเพิ่ม ผมไม่จ่ายคืนให้หรอกนะ”

        “เขาบอกคุณเหรอ” ผมถามเสียงสูง โมโหเจ้าของร้านหน้าเลือดจนควันแทบออกหู ขายแพงแล้วยังปากสว่าง น่าสั่งสอนนัก

        “แล้วก็หยุดคิดที่จะไปเอาคืนเจ้าของร้านด้วย ผมรู้นะคุณคิดอะไรอยู่” ยอร์ชพูดดักหน้า ผมได้แต่ครางหึ่มในลำคอ

        “ผมไม่ผิด เขาขายของเกินกว่าราคาที่คุณให้มา ผมไม่มีทางเลือก” ผมว่าให้เสียงแข็ง มือที่จับพวงมาลัยกำแน่นขึ้น

        “แล้วทำไมคุณไม่บอกเขาว่ามาจากไร่ของผม”

        ผมชะงัก “ก็คุณไม่ได้บอก”

        “เอเดน ให้ตายเถอะ คุณไม่ฉลาดหรือยังไง” ยอร์ชเหวี่ยงเสียงเล็กน้อย

        ผมหน้าตึง ยอร์ชกำลังด่าผมว่าโง่

        “อยู่กับผมไม่ง่ายนะเอเดน ถ้าคุณจะทำเป็นแต่ชี้นิ้วสั่งก็กลับไปอยู่ในที่ของคุณ ที่นี่ทุกคนต้องรู้งานและทำงานเป็น โดยเฉพาะคุณถ้าอยากอยู่ในตำแหน่งสูงๆของไร่นี้ก็ต้องทำเป็นทุกอย่างตั้งแต่งานระดับล่างสุดไปจนถึงงานระดับสูงสุด หรือว่าคุณจะนั่งมองผมทำงานทุกอย่างโดยที่คุณนั่งสบายตากแอร์ อย่างนั้นหรือเปล่า”

        แต่ก่อนผมก็เคยใช้ชีวิตแบบนั้นก่อนจะมีเจอคนที่กำลังบ่นผมข้างๆ ชีวิตที่เคยสุขสบาย ผมมาทำอะไรที่นี่กัน แต่ต่อให้อยากกลับไปก็คงยาก ยากที่จะทำใจยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ที่ยากยิ่งกว่าคือเดินจากผู้ชายข้างกายไป

        “เฮ้อ” ผมพ่นลมหายใจไปไม่รู้กี่ครั้งในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน

        “ยอมแพ้หรือยัง จะล้มเลิกก็ได้นะผมไม่ซีเรียสอยู่แล้ว”

        “อย่าพูดแบบนี้ได้ไหม ใครจะยอมแพ้” ผมเหวี่ยงตาขวางมองยอร์ชที่เอาแต่หาเรื่องผมไม่หยุด

        “ก็ดูหน้าตัวเองเสียก่อนสิคุณ”

        “ผมทำได้” ผมยืนยันหนักแน่น

        ยอร์ชเลกคิ้วสูง รอยยิ้มของเขาเบะเหยียดไม่เชื่อ “ทำให้ผมเห็นสิ อย่าดีแต่ปากพูด”

        ผมมองจ้องทางไม่เหลือบมองคนข้างกาย หงุดหงิดแต่ทำอะไรไม่ได้มันเป็นความรู้สึกที่แย่

        “เอาเถอะ คราวนี้ผมจะไม่ว่าอะไรก็แล้วกัน แต่จะบอกให้คุณรู้ไว้ ครอบครัวผมประกอบธุรกิจ ต้องซื้อของพวกนี้บ่อยอยู่แล้ว นั่นหมายความว่าไม่ว่าจะร้านไหนผมก็ต้องเคยซื้อ และของที่ผมให้คุณซื้อก็เป็นของที่ในไร่ ไม่ได้ซื้อน้อยๆ ซื้อจำนวนเยอะแบบนี้ ยังไงราคาก็ต้องลดหย่อน และหากคุณมีไหวพริบมากกว่านี้เอ่ยบอกเฮียเจ้าของร้านว่ามาจากไร่ผม คุณก็จะได้ราคาที่ผมบอก”

        ผมคิดตามที่เขาพูด ซึ่งที่เขาพูดมาก็ถูก ผมเองก็ใช้วิธีนี้ ในการส่งไวน์ตามรานปลีกย่อย ถ้าเป็นร้านที่ซื้อขายประจำก็จะใหราคาที่ดีกว่า ทำไมผมถึงคิดไม่ได้

        “ผมไม่ได้คิดจะกลั้นแกล้งอะไรคุณหรอกนะ แค่อยากจะรู้ว่าคุณจะจัดการกับปัญหาอย่างไรก็เท่านั้น”

        “และวิธีของผมคงทำให้คุณผิดหวัง” ผมพูดแทรก แค่นหัวเราะใส่ตัวเอง

        “ก็ไม่นะ หึหึ ก็คุณไม่รู้นี่ เอาเถอะ ค่อยๆศึกษางานไหมก็แล้วกัน ผมจะสอนให้เอง ต่อไปคุณจะมีสติและรอบคอบมากกว่านี้”

        ผมคงบ้าไปแล้ว อยู่ดีไม่ว่าดี เติบโตมาเป็นพันๆปีกลับต้องให้คนอายุแค่ยี่สิบหกมาสั่งสอน

        ผมได้แต่กรนด่าตัวเอง น่าไปตายแล้วเกิดใหม่ ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง



        หมดก้างขวางคอ เด็กแสบอย่างโยชิไม่อยู่กลับไปเรียนที่กรุงเทพพร้อมคนรัก ผมก็รุกหน้าจีบยอร์ชอย่างสะดวก แม้ว่าโยชิจะโทรหายอร์ชวันหนึ่งไม่ต่ำกว่าสามครั้งเพื่อย้ำเตือนคนพี่ว่าไม่ให้ชอบผม ผมไม่ใส่ใจ ไม่มีอะไรล้มความตั้งใจของผมได้ หากผมเลือกที่จะทำสิ่งไหน ผมทุ่มเทสุดตัว ก็เหมือนเรื่องที่ผมเคยอยากกำจัดอาซาไง

        และเรื่องยอร์ช ต่อให้มีโยชิสิบคนก็ทำให้ผมล้มเลิกความตั้งใจไม่ได้หรอก

        ผมยังคงใช้ชีวิตอยู่ในไร่เยี่ยงทาส ทำงานเหงื่อท่วมตัวตั้งแต่เช้าจรดเย็น ฝ่ามือผมแตกเป็นแผลลุพองเพาะต้องจับจอบจับเสียม ทำงานตากแดดเปรี้ยงๆ หมดคราบเจ้าของธุรกิจไวน์ที่โด่งดังเลื่องชื่อ

        ผมเงยหน้ามองแสงแดดช่วงบ่ายโมง มื้อเที่ยงที่ผ่านมาผมทาน•กับคนงาน หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมายอร์ชและคุณศิลาไม่ได้กลับไปทานข้าวเที่ยงที่บาน แต่ทานอาหารง่ายๆร่วมกับคนงาน วันแรกๆผมวางตัวไม่ถูกและทานอะไรไม่ลงเพระไม่ชินกับการกินข้าวร่วมกับคนอื่น คุณศิลาชี้ชวนให้ผมกินเยอะๆ แต่มีเพียงยอร์ชคนเดียวที่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงไม่มีความอยากอาหาร แต่เขาก็ปล่อยให้ผมกินอะไรไม่ลงมาสองวันเต็มโดยไม่ถามไถ่อะไรสักคำ ผมรุ้ว่าเขากำลังรอให้ผมปรับตัว และผมก็พยายามที่จะเปลี่ยน และในที่สุดผมก็พอจะทำใจได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ค่อยชอบอยู่ดี และอาจจะดีขึ้นเรื่อยๆถ้าหากว่าวันนี้ยอร์ชอยู่แต่เปล่า เขาหายไปไหนไม่รู้ ถามคุณศิลาที่ยังทานข้าวอยู่ข้างๆเขาก็ตอบว่าไม่รู้ ผมจะลุกไปเดินหาก็ถูกพ่อของยอร์ชรั้งตัวให้กินข้าว จนกินข้าวเสร็จกลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง ผมก็เพิ่งจะเห็นยอร์ชอยู่ไกลๆยืนคุยกับลูกน้องคนสนิท

        เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลเข้าตาสร้างความแสบและระคายเคืองในดวงตา ผมยกแขนขึ้นเช็ด ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงโยนถุงมือที่สวมอยู่ทิ้งลงพื้นแล้วก็ขับรถกลับโรงแรมไปนอนตากแดดเย็นๆ เรียกหาใครสักคนมาช่วยให้ผ่อนคลาย แต่ตอนนี้คนที่ทำให้ผมหายเหนื่อยมีแค่คนเดียว

        ความเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้งเพียงแค่เห็นหน้าเขา

        “งานไปถึงไหนแล้ว” ยอร์ชเดินมาถาม ผมดีใจที่เขาเดินมาหาผมแม้จะเป็นการถามไถ่เรื่องงานก็ตามแต่

        “ก็ เหลือเอาต้นอ่อนลงราง” ผมตอบ ผลงานสร้างโรงเรือนปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ไปได้สวย ผมมองผลงานของตัวเองแล้วก็ยกยิ้มอย่างภูมิใจ เป็นผลงานชิ้นแรกที่ผมลงมือทำตั้งแต่ขั้จตอนแรกด้วยตัวเองโดยไม่มีใครช่วย และมันกำลังไปได้สวย

        “ดีแล้ว วันนี้ผมจะไปไม่อยู่ไร่นะ คุณทำงานต่อให้เสร็จก็พักได้” ยอร์ชพูดกับผมแล้วเดินไปสั่งงานลูกน้องอีกทาง ผมทวนคำพูดของยอร์ชในใจ

        ไม่อยู่ไร่ แล้วเขาจะไปไหน

        ผมเดินไปหายอร์ชแล้วถาม “ยอร์ช คุณจะไปไหน”

        เขาหันมามองผม ก่อนจะหันไปสั่งงานคนงานจนเสร็จถึงได้หันกลับมาตอบคำถามผม “ผมจะออกไปทำธุระในเมือง”

        “ไปทำอะไร” ผมถามย้ำ ยอร์ชเลิกคิ้วผ่อนขาทิ้งขาหนึ่งมองผมนิ่งๆ

        “เรื่องงานไง” เขาตอบ แต่มันยังไม่ใช่คำตอบแบบที่ผมอยากได้ ตอบแบบนี้เหมือนผมไม่สำคัญพอที่จะรู้ ผมมัวแต่คิดบ้าบออยู่คนเดียวรู้ตัวอีกทียอร์ชก็เดินไปยังรถที่จอดรอท่าอยู่ ผมวิ่งตามไปติดๆ คว้ามือจับประตูรถได้ทันก่อนที่ยอร์ชจะดึงปิด

        “ยอร์ช ผมไปด้วย” ผมบอก

        “งานคุณเสร็จแล้วเหรอ” เขาถาม ผมขมวดคิ้ว

        “แต่ผมอยากไปด้วย” ผมพูด

        “แต่นี่ไม่ใช่งานของคุณ กลับไปทำหน้าที่ของคุณซะ” ยอร์ชแกะมือผมออกแล้วปิดประตู ผมยืนอึ้งกับท่าทางเย็นชา ทำได้เพียงยืนมองรถกระบะที่ยอร์ชใช้งานประจำขับออกไป ผมยืนแตะฝุ่นจนฟุ้งอย่างหงุดหงิด เดินกลับไปกลับมาอย่างหนูติดจั่น สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ เอาความหงุดหงิดไปลงกับแปลงผัก ผมก้มหน้าก้มตาทำงาน แค่ชั่วโมงเดียวผมก็ทำงานของผมเสร็จ คนงานที่เดินผ่านไปผ่านมามองผมอย่างหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งวุ่นวายกับผม ด้วยใบหน้าและอารมณ์ที่คุกรุ่นพร้อมระเบิด

        ผมกลับบ้านพัก บ้านของยอร์ชที่ผมได้รับอนุญาตให้อยู่ในห้องรับแขก อาบน้ำใหม่จนสะอาดไร้คราบเหงื่อใคร่มีแต่กลิ่นหอมสดชื่นพร้อมเสื้อผ้าชั้นดีใส่สบายตัว ผมนั่งรอยอร์ชในห้องรับแขกที่เปิดแอร์จนเย็นช่ำ ไว้สิ้นเดือนผมจะจ่ายค่าไฟให้เพราะผมไม่ค่อยชินกับอากาศร้อนอบอ้าวของเมืองไทย ยังไงก็ไม่ชิน

        ผมคิดว่าสักห้าโมงเย็นยอร์ชก็คงจะกลับมาบ้าน แต่เปล่าเลย หกโมงเย็นก็แล้วยอร์ชยังไม่กลับ จนคุณศิลาเรียกผมให้ไปกินข้าวเย็น ผมถามว่าไม่รอยอร์ชเหรอ คุณศิลาตอบว่ายอร์ชกำลังทานข้าวกับลูกค้าผมกับเขาทานกันได้เลยไม่ต้องรอ ผมแทบหมดอารมณ์กินข้าว แต่ไม่อยากเสียมารยาท ถ้าไม่ใช่พ่อยอร์ชผมคงคว่ำโต๊ะไปแล้ว

        รอจนกระทั่งสามทุ่มยอร์ชก็ยังไม่กลับมา ผมโดนคุณศิลาไล่ให้เข้าห้องนอนเพราะว่าพรุ่งนี้เราต้องเอาของไปส่งแต่เช้า ผมอาสาไปด้วยเพราะเห็นว่ายอร์ชก็ไป

        กว่ายอร์ชจะกลับมาก็ห้าทุ่ม แต่เขาไม่ได้กลับมาพร้อมรถที่ขับออกไป ผมมองผ่าหน้าต่างในห้องนอน กลิ่นนากินีที่ไม่คุ้นลอยโฉยเข้าจมูกก่อนที่แขกไม่ได้รับเชิญจะปรากฏตัว

        ยอร์ชมากับมันได้ยังไง

        “ขอบคุณที่มาส่งนะครับ” ยอร์ชบอกและส่งยิ้มให้ผู้ชายคนนั้น

        “ไม่เป็นไรครับ ส่วนรถคุณผมจะเรียกช่างมาดูให้นะครับ”

        “รบกวนด้วยนะครับ คุณรีบกลับเถอะครับดึกแล้วมันจะอันตราย”

        “ครับ ฝันดีนะครับยอร์ช”

        “ฝันดีครับคุณกริน”

        ผมยืนมองคนสองคนล่ำลากันเหมือนไม่อยากจะห่างจากด้วยความหมั่นไส้ หมายหัวไอ้งูขี้ขโมยจ้องจะฉกของคนอื่นว่าผมจะจัดการมันในวันใดวันหนึ่งขอหามายุ่งกับคนของผม ส่วนพ่อตัวดี คืนนี้ถ้าไมได้รับบทลงโทษจากผม เรียกผมว่าไอ้อ่อนเถอะ

        ผมรอเวลาอย่างใจเย็นที่จะลงโทษเด็กไม่รักดีแอบไปพลอดรักกับชายอื่น ยิ่งชายผู้นั้นเป็นนากินีด้วยแล้ว ช่างไม่รู้เอาเสียเลยว่ากำลังเล่นกับอะไรอยู่ ทำไมชอบทำให้เป็นห่วงนักก็ไม่รู้

        ผมมองดูนาฟิกาเรือนใหญ่บนผนังห้อง ทันทีที่เข็มยาวกระดิกตรงที่เลขสิบสองบอกเวลาตีหนึ่งตรง ริมฝีปากผมกระตุกยิ้มก่อนจะกลายร่างในความมืดที่ไร้เสียง เลื้อยออกจากหน้าต่างห้องไปยังจุดหมาย กลอนหน้าต่างที่เข้าล็อคไม่ใช่ปัญหา ผมเคยแอบเข้าห้องนี้มาแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้ก็ไม่มีทางพลาด

        ภายในห้องนอนของคนใจร้ายมีเพียงแสงจากดวงจันทร์ช่วยนำทาง แต่กับผมที่เป็นงู ต่อให้มืดกว่านี้ก็มองภาพทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ตำแหน่งของคนที่นอนหลับหายใจอย่างเป็นสุข โดยที่ไม่รู้เลยว่าทำให้ใครอีกคนกระวนกระวายใจ

        หึงจนไม่เป็นสุข!

        ร่างของผมแทรกกายเข้าไปในผ้าห่มผืนหนาที่ช่วยให้ความอบอุ่นแก่คนนอน เลื้อยรัดพันตั้งแต่ท่อนขาเรียวยาว แลบลิ้นเลียสัมผัสตีตราแสดงความเป็นเจ้าของ ยอร์ชเป็นของผมคนเดียว ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ถ้าผมไม่อนุญาต




        ..................................
        มาไวมะ วันนี้วันเกิดเค้าแหละ เลยให้ของขวัญแก่ทุกคนด้วยเลย
        เอเดนเป็นเด็กโข่งขี้น้อยใจ แต่เขาเป็นคนที่มั่นคงในสิ่งที่ตัวเองต้องการมากๆเลยนะ ถ้าใช้ในทางที่ดีก็ดี และดูท่าว่าการติดพี่ยอร์ชจะเป็นเรื่องดี (ของชาวเราที่ไม่ใช่พี่ยอร์ช ฮ่าๆๆ)
        อีกหนึ่งความเป็นเอเดนก็คือ เอเดนเป็นคนที่ผันเปลี่ยนตามสิ่งที่ยึดติด ก่อนหน้านี้ยึดติดเรื่องพ่อ แต่ตอนนี้ยึดติดที่พี่ยอร์ชคนเดียวค้า แน่นอนว่าพี่ยอร์ชชี้นกเป็นกบ เอเดนก็จะว่ากบนะคะ
        อนาคตไม่ต้องเลยว่าจะกลัวเมียหรือไม่ อิอิ :laugh:
        ตอนนี้หึงหนักนะ มารอดูกันว่าตอนหน้าพี่ยอร์ชจะรับมือกับงูหึง โหด หื่น ยังไง :hao6:
        เอิ้กๆๆ
        ขอให้ทุกคนอ่านอย่างมีความสุข แล้วอย่าลืมเม้นให้เค้าด้วยน้าที่รัก จุ๊บๆ :mew1:


(http://www.mx7.com/i/8d5/VMyd34.jpg)
       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: tangtang ที่ 14-10-2015 22:42:23
สุขสันต์วันเกิดค่าาา :L2:

รู้สึกว่าเอเดนมุ้งมิ้งน่ารักขึ้นเรื่อยๆ55
รออ่านต่อค่า~~
 o13 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: k_keenny ที่ 14-10-2015 22:46:42
 o13  o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 14-10-2015 22:55:36
 :o12: :o12: เอเดนนนนนนน งูน้อยๆของยอร์ช  :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 14-10-2015 23:05:52
อ่านแล้วก็ยิ่งรู้สึกสมน้ำหน้าเอเดน ไม่เคยสงสารเอเดนเลยซักนิด!!!  :hao3:

ปล.แอร๊ย คิดถึงน้องโยชิที่สุด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: amisezmin ที่ 14-10-2015 23:13:22
happy birthdayจ้า

รอตอนต่อไป :z1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-10-2015 23:13:47
 :b:

เอเดนไม่กล้าหือเลยอ่ะ แววกลัวเมียลอยมาเห็นๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 14-10-2015 23:32:56
เอเดน หึงขึ้นหน้ารึงัยจร้า กลายเป็นงูเชื่องซะแล้ว

น่าสงสัยว่า พี่ยอร์ช ไปเรียนวิชาฝึกงูมาจากไหนนะ 555

Happy birthday นะจร้า ริริ มีความสุขมากๆ สมหวังทุกความปรารถนาจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 14-10-2015 23:46:03
happy birthday นะคะ

ยอร์ชจะรับมือเอเดนตอนหึงไหวไหมเนี๊ยะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 14-10-2015 23:53:45
 :3123: สุขสันต์วันเกิดน่ะจ้ะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ ในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป คิดสิ่งใดสมปรารถนาจ้า  :mew1: ยอร์ชโหดน่ะเนี่ย เอเดนสู้ ๆ น่ะ มีเลื้อยไปรัดและทำรอยด้วยอ่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 15-10-2015 06:19:01
กกกกกกก กรี๊ดดดดดดด ริริ ตอนหน้าขอ NC แบบจัดเต็ม
แต่เราว่าพี่ยอร์ชจะจัดเอเดนจนเลือดท่วมมากกว่า.
 HBD สุขภาพแข็งแรงนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 15-10-2015 07:27:18
เอเดนจะเข้าใจไหมว่า
ยอชบอกว่าถ้าจะอยู่ด้วยกันตลอดไปก็ต้องช่วยกันทำงาน
ไม่ใช่นั่งทำงานบริหาร ตากแอร์สบายใจนะจ๊ะ
 

ตอนหน้าจะเป็นไงน๊าาาาาาา
พี่งูหึงแล้ว  จะโมโหหื่นเหมือนกันมั๊ย พี่น้องคู่นี้


สุขสันต์วันเกิดนะคะ พี่ให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามา พบเจอแต่สิ่งที่ดี สุขสมหวังในทุกสิ่งที่หวัง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 15-10-2015 07:46:18
อ้ายย งูโข่งขี้หึงงง รอค่ะรอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 15-10-2015 08:58:35
เห้ยยจริงง  เกิดวันเดัยวกันเลยยย งั้นเค้าขอของขวัญวันเกิดดด  HBD~~♡♡
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 15-10-2015 10:28:48
พี่ยอร์ชตื่นมาจะช็อคมั้ยน่ะ
เจองูพันรอบตัวงั้นอ่ะ 5555555

สุขสันต์วันเกิดนะค้าาา
มีความสุขมากๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรง
เจอแต่สิ่งดีๆในชีวิตนะค้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-10-2015 11:51:55
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 15-10-2015 12:06:17
เดเอนนนนนนน น่ารักจุง หึงได้น่ารักชะมัดเลย  :hao7:
โดนยอช์นดัดนิสัยซะ กร๊ากกกกก แอบซะใจเล็กๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 15-10-2015 12:06:27
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:  HBD....ย้อนหลังนะจ้ะ....มีความสุขมาก ๆ สุขภาพแข็งแรง เอาแรงมาแต่งนิยายให้เรา ๆ อ่านกันต่อไปนะคนดี
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 15-10-2015 13:20:42
เย้ ๆ สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังหนึ่งวันนะค่ะ

มีความสุขมากๆ ร่างกายแข็งแรง แต่งนิยายมาให้อ่านกันเรื่อยๆนะค่ะ

มาคราวนี้ เอเดนใจเย็นเยอะเลย สู้ๆน้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-10-2015 14:06:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 15-10-2015 21:07:11
เอเดนงูหื่น 555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: yoki ที่ 15-10-2015 23:44:25
HBD คะ

เอเดนน่ารักเกิ๊นปัยละอยากรู้พี่ยอร์ชตื่นมาจะเป็นงัยหนอ5555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 16-10-2015 01:46:21
HBD นะจ้ะ มีความสุขมากๆอยู่กับคนอ่านนานๆนะ

รอดูเอเดนหึงยอร์ชหนักๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 16-10-2015 13:10:03
Happy Birthday นะฮะ ขอให้มีความสุขมากๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: mukkai ที่ 16-10-2015 14:59:54
ว๊ากกกกก ยอร์ชจะโดนเอเดนจัดการแล้ว!!  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: plugie ที่ 16-10-2015 18:17:17
เริ่มสงสารเอเดนแล้วสิ สู้ๆนะ ถ้าไม่ยอมใจอ่อนสักทีก็จับกินไปเลย :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 16-10-2015 21:51:59
สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณนักเขียน  :กอด1:
อยากเห็นเอเดนหึงโหดดด อนาคตกลัวเมียสินะ อยากเห็นแล้วสิ  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 17-10-2015 09:48:37
เริ่มช้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้าย Special ADEN&YATCH ❁SEVEN❁ 14-10-2015 [P.65]
เริ่มหัวข้อโดย: indyska ที่ 18-10-2015 07:54:15
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะคร้าาาาาา

สนุกมากเลย แต่มีคำผิดอยู่บางช่วงนะอ่านแล้วขัดๆ (แต่ก้จำไม่ได้ว่าตรงไหน)

รอนะจ้า :D จิ้มๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁SEVEN❁14-10-15 [P.65] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 18-10-2015 18:43:43
เอเดนน่ารักกกกกก
ยอร์ชตื่นมาคงลายพร้อยทั้งตัว อิอิอิ
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁SEVEN❁14-10-15 [P.65] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 19-10-2015 23:30:36
 :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁SEVEN❁14-10-15 [P.65] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kat.dog ที่ 21-10-2015 08:52:52
อุ๊ย :o8:
เอเดนจะเล่นผีผ้าห่มหรา :hao3:
อิอิ รอเอาใจช่วยต่อไปค่ะ :oo1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁SEVEN❁14-10-15 [P.65] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 21-10-2015 14:47:21
กรีดดดดด
รอเอเดน  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁SEVEN❁14-10-15 [P.65] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: yashaoashura ที่ 22-10-2015 02:32:13
 :o8:รอๆๆๆๆ และรอต่อปาย  :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁SEVEN❁14-10-15 [P.65] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 23-10-2015 18:17:42
เย้ๆๆ ในที่สุดก็ตามอ่านจนทันนนน  :mc4: ที่จริงชอบแนวแฟนตาซีอยู่แล้ว พอมาอ่านล่ะบอกเลยสนุกมากครบทุกอารมณ์ ชอบอาซามากเป็นรักที่มั่นคงดีจริงๆ แต่ตอนนี้ต้องบอกเลยชอบคู่พี่ๆ สุด ยังไงมาต่อไวๆนะ เป็นกำลังใจให้ สมัครตัวเป็นแฟนคลับ  :3123:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁SEVEN❁14-10-15 [P.65] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 23-10-2015 20:41:28
ตามอ่าน 2 วันจนทันแล้ว สนุกมากกกก
สงสัยอยู่เรื่องนึง....คือ อาซากับอาเดนมีอายุยืนมานานนับร้อยนับพันปี
แล้ว ต่อไป ทั้งโยชิ และยอร์ช ก็ต้องหมดอายุขัยก่อนน่ะสิ เพราะเป็นมนุษย์
กรณีโยชิ ไม่แน่ใจ แต่ยอร์ชน่ะ แน่นอน....ถึงตอนนั้นคงเศร้าเนอะ
ดูคนรักจากไป แล้วอยู่ต่ออย่างทรมาณ   :sad11:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁SEVEN❁14-10-15 [P.65] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 23-10-2015 21:46:43
 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁SEVEN❁14-10-15 [P.65] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Pairin ที่ 25-10-2015 23:38:58
รอดูงูหื่นอย่างใจดใจจ่อค่ะ  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 28-10-2015 12:52:50
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

EIGHT




        YACHT

        ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นกลางดึกเพราะมีบางอย่างรบกวนการนอนของผม สติสัมปชัญญะค่อยๆเพิ่มขึ้นจนสามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ก่อกวนให้ผมตื่นจากการหลับใหลขยับเคลื่อยกายอยู่ใต้ผ้านวม บางอย่างที่ขยับเสียดสีร่างกายของผมคล้ายการเลื้อยส่งผลให้ผมตัวแข็งทื้อไม่กล้าขยับตัว ผมลืมตามองแต่จับจ้องไปที่จุดเดียวคือช่วงหน้าอกของตัวเอง

        แทบไม่ต้องจินตนาการว่ามันคือตัวอะไร เป็นงูแน่นอน งูจริงๆ งูตัวเป็นๆ

        ผมไม่รู้จะทำอย่างไร สติแตกกระเจิงหลุดออกจากร่างทำอะไรไม่ถูก ส่วนหัวของมันเลื้อยขึ้นสูงเรื่อยๆมาถึงแผ่นอก ขนกายลุกชัน เลือดในกายวิ่งพล่านจากความกลัว ร่างลื่นๆเลื้อยขยับตัวขึ้นสูงอีกจนมาถึงลำคอ และโผล่หัวขึ้นออกมาจากผ้านวมผืนหนาที่ทำหน้าที่ปิดคลุมร่างกาย ดวงตาสีแดงวาววับท่ามกลางความมืด ดวงตาทั้งสี่ข้างสองคู่จ้องผมก่อนที่ลิ้นของมันจะแลบถี่ๆออกจากปาก

        ผมยังไม่ทันที่จะได้ขยับตัวหรือแม้แต่จะคิดถึงสิ่งใด ร่างงูสีเงินสองหัวก็หายวับไปกลายเป็นชายหนุ่มตัวใหญ่โตหนักอึ้งอยู่บนร่างกายแทน

        “คุณ!” ตาของผมขยายกว้างขึ้นไปอีกเมื่อเห็นใบหน้าของคนบนตัวอย่างชัดเจน

        “ชู่ว” เอเดนยกนิ้วชี้จ่อปากไม่ให้ผมเสียงดัง ผมปัดมือเขาทิ้งทันที ถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่

        เกือบไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เอเดนแต่เป็นงูจริงๆผมจะเป็นอย่างไร แต่เอาเข้าจริงนั่นไม่ใช่เรื่องที่จะวางใจได้เลย เพราะปัญหามันอยู่ที่ว่าเอเดนเข้ามาในห้องผมได้ยังไงแล้วทำไมเขาถึงทำกับผมอย่างนั้น ถ้าผมหัวใจวายช็อคตายขึ้นมาเขานั่นแหละที่จะรู้สึก และผมก็จะโกรธจะเกลียดเขายันชาติหน้า

        “คุณเข้ามาในห้องผมทำไม ผมบอกแล้วไงว่าห้ามคุณเข้ามาในห้องผมโดยไม่ได้รับอนุญาต!” น้ำเสียงที่ใช้เต็มไปด้วยความโมโห มือทั้งสองข้างก็ดันเขาออกห่างจากตัว เอาเดนไม่ได้คร่อมผมเอาไว้ แต่เขานอนทับผมจนแทบจะหายใจไม่ออก ร่างของเราทั้งคู่แนบชิดสนิทกันจนไร้ช่องว่าง ผมพยายามขยับตัวและดิ้นรนให้เขาลุกออกไป แต่เอเดนกลับกระชากแขนทั้งสองข้างของผมชูขึ้นเหนือหัว และกดทิ้งน้ำหนักลงมามากกว่าเดิม

        “ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร” เขาถาม ผมขยับหัวคิ้วขมวดเข้าหากัน

        “ใคร?” ผมหยุดดิ้น มันทำให้ผมหายใจไม่ออก เอเดนเหมือนจะรู้ ยอมผ่อนแรงทับแต่ก็ยังคงไม่ถอยออก

        “ก็ไอ้คนที่มาส่งคุณไง มันเป็นใคร” เขาทำตาขวาง ผมนึกคิดก่อนจะเข้าใจคำถาม

        “เขาเป็นลูกค้า คุณลักลอบเข้าห้องผมเพราะเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ” ผมกรอกตามองเพดาน คุณกริน ลูกค้ารายใหม่ที่เพิ่งจะเซ็นสัญญาซื้อขายไวน์กับทางไร่ศิลาของเราเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อไปขายที่ร้านอาหารที่มีบาร์ไวน์ในจังหวัดข้างเคียง วันนี้ผมไปคุยกับเขาเพื่อโน้มน้าวให้เขายอมตกลงเซ็นสัญญา เพราะนอกจากจะได้ลูกค้ารายใหม่แล้วอย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่งปีต่อจากนี้ผมก็มีแหล่งส่งไวน์เป็นประจำเป็นหลักเป็นแหล่งเพิ่มอีกหนึ่งที ยอดกำไรปีนี้จะต้องเพิ่มขึ้นผมมั่นใจ

        “มันไม่แค่นี้นะยอร์ช  มันเป็นเหมือนผม!” เอเดนตวาดใส่ผม เขาใส่อารมณ์ไม่พอใจด้วยการกระชับมือที่กำรอบข้อมือของผมทั้งสองข้างกระแทกลงกับที่นอน เขาไม่ได้ทำให้ผมเจ็บ แต่เขาทำให้ผมหงุดหงิด

        “เหมือนยังไง” ผมออกแรงอีกครั้งหลังจากหายเหนื่อยทั้งดันทั้งถีบให้เอเดนออกไปจากตัว ร่างของเอเดนถอยห่างออกไปเพียงเล็กน้อย แต่ก็มากพอให้ผมขยับลุกขึ้นนั่งไม่ต้องตกอยู่ภายใต้การกักขัง เอเดนมองผมเขม็ง ผมยังไม่ทันตั้งตัวเขาก็กระโจนใส่ผมอีกรอบ

        “เอเดน! ปล่อยผม” ผมกดเสียงต่ำให้เขารู้ตัวว่าผมเริ่มโกรธแล้วจริงๆ แต่เอเดนไม่สนใจสักนิดถึงสัญญาณที่ผมเตือน

        เขาแย้มยิ้มหยัน “ผมเพิ่งรู้ว่าคุณไม่ฉลาด”

        “หมายความว่ายังไง”

        “มันเป็นนากินีไงเล่า!” เขาบอก ผมอึ้งเล็กน้อย

        “คุณรู้ได้ยังไง อีกอย่างคุณไม่ควรเรียกเขาว่ามันนะ” ผมตีรวนตำหนิถึงความไม่สุภาพของเขา ตอนนี้เราต่างเล่นสงครามประสาท เรื่องพูดกันดีๆด้วยเหตุผลน่ะเหรอลืมไปได้เลย

        “คุณปกป้องมันเหรอ” เขาเลิกคิ้วถามผม มองมองสบตากับเขาแต่ไม่ตอบ ซึ่งการกระทำของผมเป็นเสมือนคำตอบที่ไม่ต้องพูด ผมยั๊วะเอเดนสำเร็จ แต่พลาดไปนิดเมื่อบลงโทษที่ได้ไม่ได้อยู่การคาดการณ์

        เขาปิดปากของผมด้วยปากของเขา แรงกระแทกแรงพอให้เจ็บจนชา ผมชะงักและเมื่อตั้งสติได้ก็ออกแรงพลักเขาออก แต่มันไม่ได้ผล เอเดนแรงเยอะมากกว่าคนปกติอย่างผม ผมเพิ่งรู้ว่าถ้าเขาเอาจริงผมก็ทำอะไรเขาไม่ได้ต่อให้ตัวเองเป็นคนแข็งแรงแค่ไหนก็ตาม

        ผมพยายามเม้มปากแน่นไม่ให้เขานำลิ้นเข้ามารุกล้ำในปากของผม แต่แรงบดเบียดทำให้ผมเจ็บและรู้สึกชาที่ริมฝีปากจนบังคับไม่ได้ ปากผมอ้าเผยอเพราะหมดแรงทำให้เอเดนจูบผมได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

        “อ๊ะ...” ผมครางสะดุ้งเมื่อลิ้นของเขาแตะโดนลิ้นของผม เหมือนไฟฟ้าช็อต ร่างกายหยุดต่อต้านชั่วขณะ เขากลืนกินริมฝีปากผมอย่างจาบจ้วง แต่กลับรู้สึกดี ผมเคยจูบกับผู้หญิงมาก่อนแต่เหลือเชื่อว่ามันไม่หวามไหวเท่านี้ ผมเคลิ้มไปกับรสจูบของเขา แต่อ้าริมฝีปากขยับตามการชักจูงของผู้นำ มือยกขึ้นวางบนบ่าหนา แลกลิ้นตอบอย่างไม่น้อยหน้า

        “ยอร์ช...” เอเดนครางเรียกชื่อผม ริมฝีปากเขายังคงแนบชิดไม่ได้ผละห่าง

        แรงกดทับบนตัวค่อยๆเบาลง คงเพราะเอเดนเห็นว่าผมให้ความร่วมมือ ผมยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อได้จังหวะผมก็ยกขาขึ้นถีบเอเดนเต็มแรง คนร่างใหญ่ไม่ทันตั้งตัวปลิวตกลงไปกระแทกกับพื้นปลายเตียง ผมขยับลุกขึ้นนั่งทันทีเตรียมตั้งรับไม่ให้เขาเข้าถึงตัวได้อีก เอเดนเหมือนจะงงๆ แต่หลังจากที่เขารู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ตีหน้ายักษ์ขุ่นเคืองใส่ผม

        “ยอร์ช นี่คุณกล้าถีบผมเหรอ!” เขาลุกขึ้นยืนตรงหน้าผม ท่าทางคุกคามเอาเรื่อง

        “เออ แล้วคุณทำบ้าอะไรไม่ทราบ!” ผมขึ้นเสียงกลับ อย่าคิดว่าคนอย่างเขาจะโกรธเป็นคนเดียว ถึงผมจะเผลอรู้สึกดีกับจูบเมื่อตะกี้ แต่ก็ไม่ได้หมายว่าผมยินยอมพร้อมใจให้เขาทำเต็มร้อย

        “ก็จูบคุณไงเล่า” แต่เอเดนกลับตอบกลับหน้าด้านๆ เขาคงคิดว่าสิ่งที่เขาทำไปมันไม่ผิด

        “คุณไม่ควรทำแบบนี้” ผมเอ่ยเตือนเขา หอบหายใจแรง

        “ทำไม คุณเองก็จูบตอบผม” เขายักคิ้วใส่ว่าตัวเองเป็นต่อ

        ผมชักสีหน้า “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”

        เอเดนกรอกตาไปมา สีหน้าที่เขาแสดงไม่ต่างกับการด่าผมว่าผมมันงี่เง่า เข้าใจอะไรยาก

        “ยอร์ช ผมบอกไปแล้วนะว่าผมคิดยังไงกับคุณนะ และบอกตามตรงผมโมโหคุณมากๆด้วย”

        “เหอะ เอาเป็นว่าคุณมาจูบผมผมก็ถีบคุณ ถือว่าหายกัน” ผมตัดจบบท ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง ผมเหนื่อยมาทั้งวัน แทนที่จะได้พักกลับต้องมาสู้รบปรบมือกับเอเดนกลางดึกดื่น มันใช่เรื่องเหรอถามหน่อย

        “ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย” แต่เอเดนยังคงไม่ยอมหยุด “ผมโกรธที่คุณให้ไอ้หมอนั่นมาส่ง แถมยังพูดจาปกป้องมันอีก คุณต้องอยู่ข้างผมสิ”

        ผมหลับตาข่มอารมณ์ หากผมยังอยู่กับเอเดนต่อไปเรื่อยๆ ผมคงไม่แก่ตายเพราะวันหนึ่งผมถอนหายใจมากกว่าสิบครั้ง

        “นี่คุณเอเดนครับ ไม่ทราบว่าคุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ไม่มีข้างใครทั้งนั้นแหละ เขาก็อยู่ส่วนเขา คุณก็อยู่ส่วนคุณ”

        ผมรู้ว่าโลกเรามันไม่ปกติ มนุษย์เช่นเอเดนปะปนอยู่กับมนษย์ธรรมดาอย่างผม ผมไม่รู้หรอกว่าใครเป็นแบบไหน คุณกรินอาจจะเป็นคนดีและถึงแม้เขาจะเป็นนากินี ควรเหรอที่จะแบ่งแยกและตัดความสัมพันธุ์เพียงเพราะเขาไม่เหมือนผม มนุษย์ธรรมดามีทั้งดีทั้งชั่ว นากินีก็คงไม่ต่าง ดูอย่างอาซากับเอเดนสิ ยังต่างกันเลย

        “นี่คุณกะจะควบทั้งผมและเขาเลยเหรอ” เอเดนกำลังทำให้ผมประสาทเสีย เขาหลงประเด็นไปกันใหญ่แล้ว

        “ผมว่าคุณควรกลับไปพักผ่อน คุณชักจะเพ้อเจ้อเกินไปแล้วนะเอเดน” ผมลุกออกจากเตียง เดินไปเปิดประตูห้อง แต่ผมชะงักมือก่อนแล้วหันไปทางเอเดน

        “คุณเข้าห้องผมทางไหน” ผมถาม

        เอเดนทำเป็นไม่มองผม ตอบเสียงขุ่น “หน้าต่าง”

        ผมเดินไปที่หน้าต่างแทน เปิดออกกว้างแล้วพยักหน้าให้เขาลงไป

        “ออกไป ผมจะพักผ่อนแล้ว”

        “ทางหน้าต่างเนี่ยนะ” เขาทำหน้าเหรอ

        “แล้วไง ก็คุณเข้ามาทางไหนก็ต้องออกทางนั้น เร็ว” ผมเร่งหน้าดุ เอเดนบ่นเสียงเบาแต่ก็ยอมเดินทางที่หน้าต่าง เขามองหน้าผมที่เพยิดหน้าให้เขาลงไปจะด้วยวิธีไหนก็ตามแต่

        “ยอร์ช ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่” เขาพูดเข็ญเขี้ยว และก็ก้มหน้าลงมาจูบริมฝีปากผมอีกครั้งอย่างรวดเร็วก่อนที่ตัวของเขาจะกลายเป็นงูแล้วเลื้อยออกทางหน้าต่างไป

        หน้าต่างถูกปิดไล่หลังเขาดังปัง ล็อคลงกลอนอย่างแน่นหนา มือยกจับปากก้าวเดินกลับไปที่เตียง คอยดูเถอะ พรุ่งนี้ผมจะให้ช่างมาทำหน้าต่างใหม่ เอาให้หาช่องโหว่เข้ามาทำรุ่มร่ามกับผมไม่ได้อีก



        สองวันต่อมา คุณกรินมาขอเยี่ยมชมไร่องุ่น เมื่อวานผมเพิ่งส่งไวน์ล็อตแรกไปให้เขาที่ร้าน เห็นว่าผลตอบรับคิอนข้างดี วันนี้เลยอยากจะมีเยี่ยมชมไร่อย่างจริงจังเพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติม

        “มันมาทำไมอีก คุณอยากจะทะเลาะกับผมให้ได้สินะ” เอเดนละมือจากหน้าที่ของตัวเองเดินมาหาผมหน้าถามอย่างหาเรื่อง

        ผมทำหน้านิ่ง มองคุณกรินที่กำลังลองตัดพวงองุ่นอยู่กับคนงาน

        “ระวังตัวไว้เถอะยอร์ช คุณยั่วโมโหผมมากๆเมื่อไหร่ ผมจะจับคุณผสมพันธุ์โดยไม่รอคำว่ารักจากปากคุณ” เอเดนคำรามในลำคอ

        “คิดว่าทำได้งั้นเหรอ” ผมยักคิ้วกวน แต่ก็หวั่นอยู่ไม่น้อย

        “คุณคิดว่าอย่างผมเนี่ยทำไม่ได้เลย มนุษย์ตัวน้อยๆ” เอเดนยิ้มแยกเขี้ยวข่มขู่ผม

        “ทำไมต้องเป็นผม ทำไมคุณไม่ไปหางูตัวเมียผสมพันธุ์เล่า” ผมว่ากลับ หน้าร้อนวูบวาบเหมือนถูกไฟนาบแก้ม

        เอเดนกระตุกยิ้มกวนประสาท โน้มมาเข้าใกล้จนใบหน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ “ผมผสมพันธุ์กับงูตัวเมียมาทั้งชีวิตแล้ว อยากลองผสมพันธุ์กับมนุษย์ผู้ชายน่ารักๆดูบ้าง”

        ผมพลักเขาออกห่าง

        “คุณไม่ควรชมผู้ชายด้วยกันว่าน่ารักนะเอเดน โดยเฉพาะผม” ผมกัดฟันพูด รู้สึกไม่ชอบใจกับคำชื่นชม

        “เพราะคุณเขินสิถึงไม่อยากให้ผมพูด” เอเดนยกมือลูบแก้มผมเบาๆ ผมปัดมือเขาออกอย่างหงุดหงิด เอเดนเลยชี้หน้าคาดโทษ ผมเลยพ่นลมออกจากจมูกใส่

        “คุณยอร์ชครับ ผมอยากเข้าไปดูส่วนของการทำไวน์แล้ว” คุณกรินเดินกลับมาหลังจากที่สนุกสนานกับการทดลองตัดพวงองุ่นที่สุกได้ที่พร้อมนำไปทำไวน์

        “ผมได้มาหลายพวงเลยครับ” คุณกรินชูกระบะไม้สนที่ใส่พวงองุ่นจนเต็มให้ผมดี

        “เหอะ แค่นี้ทำมาอวด” เอเดนพูดลอยๆ ผมตวัดตามองเอเดนเขม็ง

        “อะไรนะครับ” คุณกรินถามเอเดน เขาทำหน้าสงสัยต่างกับเอเดนที่ทำหน้าเหมือนจะเข้าไปชกอีกฝ่าย

        “ไม่มีอะไรหรอกครับคุณกริน เราไปกันเถอะ”  ผมผายมือให้คุณกรินเดินไปทางโรงผลิตไวน์ “เอเดน คุณกลับไปทำงานของคุณได้แล้ว”

        “เดี๋ยว” เอเดนไม่ฟังผม เขาตะโกนเรียกคุณกรินที่เดินห่างออกไปไม่กี่ก้าว ผมกำลังจะเอ่ยปากห้ามเอเดนไม่ให้พูดอะไร แต่เขายกมือขึ้นขัดไม่ให้ผมพูด

        คุณกรินหันกลับมาทางเอเดนก่อนจะถาม “อะไรครับ” น้ำเสียงสุภาพไร้ที่ติ

        “อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่านายคิดอะไรอยู่”

        คุณกรินนิ่งไปก่อนจะยิ้มกว้าง “งั้นเหรอครับ แล้วผมคิดอะไรล่ะ”

        “อยากลองดีว่างั้น” เอเดนขึ้นเสียงสูง

        “หึหึ คนอย่างผมไม่กลัวพวกงูที่ทำได้แค่หวงเนื้อเสียด้วยสิครับ” คุณกรินยียวนกลับ หากคุณกรินเป็นนากินีก็พอกันทั้งคู่

        ผมมองหน้าเอเดนขอร้องให้เขาหยุดแล้วเดินไปหาคุณกริน แต่เอเดนดึงข้อมือผมไว้ ผมสะบัดออกแต่เขาก็ยกจับอีก ก่อนจะยกมือผมขึ้นจูบ ผมตกใจรีบมองรอบตัวว่ามีใครสังเกตไหม

        “อย่าอยู่ใกล้มันให้มากนัก จำเอาไว้ว่าผมไม่ชอบให้ตัวคุณมีกลิ่นของใครที่ไม่ใช่ผม”

        ไอ้บ้านี่ชอบทำอะไรโจ่งแจ้งเสียจริงๆ น่าโมโหนัก!



        ผมสลัดเอเดนออกจากหัว หันมาสนใจหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ผมคุณกรินเข้าไปในส่วนของโรงผลิตไวน์ ในนี้จะมีห้องสำหรับคั้นน้ำองุ่น ผมใช้เป็นเครื่องจักรไม่ได้ใช้แรงคนโดยการเหยียบองุ่นให้ได้น้ำ เมื่อได้น้ำองุ่นสำหรับทำไวน์เราก็จะเข้าไปในห้องถัดไปคือห้องหมักก่อนที่จะนำลงถังไม้โอ๊คแล้วนำไปเก็บไว้ในcellarหรือห้องบ่ม

        “คุณกรินจะลองทำเองไหมครับ” ผมถามหลังจากที่อธิบายส่วนต่างๆของโรงผลิตไวน์ให้คุณกริน ความจริงโรงผลิตไวน์ของผมจัดว่าเป็นโรงผลิตขนาดเล็กมาก ไม่ได้ใหญ่โตหรือมีเครื่องไม้เครื่องที่เยอะนัก อาศัยทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ผมเน้นค่อยๆเติบโตไปทีละนิด พออยู่พอเพียงไม่ได้ต้องการพัฒนาก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด คงเพราะแบบนี้แหละมั้ง เอเดนถึงด่าผมว่าผมทำไร่ไม่ก้าวหน้า

        แต่ผมไม่สนใจหรอก ผมลงมือทำด้วยตัวเองทุกกระบวนการ เข้าไปศึกษาเรียนรู้ทุกจุดอย่างจริงจัง แต่ผมมั่นใจอย่างหนึ่งว่าถึงไร่ของผมจะเติมโตช้า แต่เติบโตอย่างมั่นคงแน่นอน

        “ก็ดีครับ ผมอยากได้ไวน์ที่เป็นของตัวเองไว้เป็นที่ระลึก”

        “มาครับ ผมจะสอน” ผมนำคุณกรินไปที่โต๊ะตัวยาว สอนให้คุณกรินล้างองุ่นและเด็ดขั้วออก ไม่อย่างนั้นไวน์ที่ได้จะมีรสฝาดมากจนเกินไป จากนั้นก็ล้างน้ำให้สะอาด หมดห่วงเรื่องสารเคมีเพราะไร่ผมไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ใช้แต่ของที่มาจากธรรมชาติทั้งสิ้น จากนั้นก็ก็ให้คุณกรินเริ่มลงมือคั้นน้ำองุ่นด้วยมือโดยมีผมร่วมช่วยด้วย

        เมื่อคั้นน้ำองุ่นจนได้ที่ก็เทใส่ลงในถังไม้ขนาดเล็ก ผมเตรียมถังไม้ไซต์เล็กไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะทำไวน์ของตัวเองเป็นที่ระลึก และเมื่อครบกำหนดผมก็จะจัดบรรจุลงขวดและตรีตราชื่อผู้ทำลงบนขวดเพื่อแสดงให้เห็นว่าไวน์ขวดนี้ใครเป็นคนทำและถูกทำเมื่อไหร่ จึงจัดส่งไปให้ถึงที่อยู่ ในส่วนนี้ค่อนข้างได้ผลตอบรับอย่างดี ทุกคนที่มาเที่ยวไร่ศิลามากขึ้นส่วนหนึ่งก็เพราะอยากได้ไวน์ที่ตนได้ทำเองเป็นที่ระลึก

        “ถ้าคุณชอบหวานก็เติมน้ำตาลในปริมาณที่มากหน่อย แต่ถ้าชอบหวานนิดๆก็เติมแต่น้อย แต่ถ้าชอบรสชาติธรรมดาก็ไม่ต้องเติมก็ได้ครับ” ผมแนะนำ คุณกรินพยักหน้าเข้าใจ เติมน้ำตาลในปริมาณที่พอเหมาะและเติมยีสต์ในสัดส่วนที่ผมแนะนำ

        จบขั้นตอนของการหมักก็จะเป็นการนำไปบ่มในเซลล่าเป็นระยะเวลาสามเดือน โดยผมได้ให้คุณกรินเขียนชื่อ วันที่ผลิตติดลงบนถังไม้เพื่อจะได้รู้ว่าถังนี้เป็นของใคร เมื่อถึงระยะเวลาที่พอเหมาะก็จะเปิดไวน์ออกมาชิมว่ารสชาติเป็นที่พอใจหรือไม่

        “ไว้เมื่อไวน์ได้ที่ผมจะโทรไปบอกนะครับ คุณกรินจะลงมารับเองหรือจะให้ผมส่งไปให้ที่นู่น” ผมถาม เราใช้เวลาไปเกือบสองชั่วโมงในการทำไวน์

        “ผมมาเอาเองดีกว่าครับ ผมอยากมาที่นี่เพราะผมชอบที่นี่” คุณกรินว่า มองผมอย่างที่เอเดนมอง ผมรู้ความหมายแต่เลือกที่จะมองเมินไม่สนใจ ผมเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิง แต่มีผู้ชายเพียงคนเดียวที่ผมเผลอใจให้

        “ยอร์ช!” เสียงเข้มเรียกผมดังมาจากประตูโรงผลิตไวน์ เอเดนเดินหน้าเข้มเข้ามาใกล้ผมกับคุณกริน ผมลอบถอนหายใจ ผมอยากจะถามเขาเหลือเกินว่างานของเขาเสร็จแล้วหรือไง ถึงได้คอยตามติดผมตลอดทั้งวัน จะหวงอะไรกันนักกันหนา

        “มีอะไร” ผมถาม เอเดนไม่มองผมเลย มองคุณกรินตาเขม็ง แต่คุณกรินมองแค่ผมเท่านั้น เข้าใจยั่วโมโหเอเดนจริงๆ เกิดเอเดนขาดสติชกเขาขึ้นมาผมช่วยคงช่วยอะไรไม่ได้

        “ผมมาตามไปกินข้าว เที่ยงแล้ว” เอเดนพูดเสียงแข็งหน้าบึ้ง

        “อ่อ เข้าใจล่ะ” ผมเป็นไกด์พาลูกค้าเที่ยวไร่เสียเพลินจนลืมดูเวลา “ทานข้าวด้วยกันไหมครับคุณกริน” ผมหันไปชวนแขก แต่ทำให้คนตัวโตไม่พอใจ

        “งั้นผมขอฝากท้องสักมื้อนะครับ” คุณกรินตอบรับคำอย่างยินดี

        ผมเดินนำเอเดนและคุณกรินไปที่พักที่คนงานต่างนั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่ ผมถามคุณกรินแล้วว่าสามารถนั่งทานกับพวกคนงานได้ไหม แต่จริงๆคือมีผม ผู้ช่วย เอเดนและคุณกรินเพียงสี่คนกินร่วมวงเดียวกัน ส่วนคนงานล้อมอีกวงอยู่ไม่ห่างนัก

        “ผมทานได้ครับ ผมไม่ถืออยู่แล้ว ดีเสียอีก บรรยากาศเป็นกันเองเหมือนครอบครัวแบบนี้ผมชอบ”

        ผมยิ้มตอบ คุณกรินเป็นคนอารมณ์ดี อัธยาศัยดี และเป็นกันเองเป็นคนง่ายๆ นั่นคือสิ่งที่ผมสัมผัสได้ตั้งแต่รู้จักเขา ผมรู้ว่าผมไม่อาจตัดสินว่าใครดีหรือไม่ดีในเวลาแค่ไม่กี่วันที่ได้เจอกัน แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ควรตัดสินว่าใครดีหรือไม่ดีตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน เราต้องใช้วเลาศึกษาเขาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้จักเขาดีพอ

        ดูอย่างเอเดนสิ เริ่มแรกที่ผมรู้จักเขา เขาก็ไมได้ดี เรียกได้ว่าเขาทำให้ผมรู้สึกแย่ออกบ่อย แต่ผมก็เลือกที่จะมองข้ามเพราะแค่จุดสีดำที่เราเห็นอาจไม่ใช่ทั้งหมดในความเป็นเขา เขาอาจมีสีชาวซ่อนอยู่ ผมถึงให้โอกาสเขาในการพิสูจน์ตัวเอง และให้โอกาสตัวเองเรียนรู้เขาให้มาก

        “ผมขอคุยอะไรด้วยหน่อย” เอเดนกระซิบบอกผม เขาจับแขนผมให้ลุกขึ้นออกจากวงทานข้าวเดินเลี่ยงห่างออกจากคนอื่นพอควร ผมเลือกต้นไม้ใหญ่เป็นกำแพงเราให้พ้นจากสายตาคนอื่น

        “มีอะไร” ผมถาม

        “ผมอยากให้คุณเลิกยุ่งกับมัน” เอเดนเปิดประเด็นอย่างเอาแต่ใจ ก็ไม่ผิดจากที่คิดมากนัก

        “ผมเลิกยุ่งไม่ได้ เขาเป็นลูกค้าผม คุณต้องเข้าใจเอเดน ผมทำธุรกิจจะไม่ให้ติดต่อกับลูกค้าได้ยังไง” ผมพูดอย่างใจเย็น ให้เอเดนเย็นนะเหรอ ผมเย็นเองเสียจะง่ายกว่า

        เอเดนฮึดฮัด ยกมือเท้าเอวเตะฝุ่นระบายอารมณ์ “งั้นก็อยู่ห่างๆมันหน่อยเซ่”

        ผมกอดอกเชิดมอง “ไหนลองบอกเหตุผลมาสิว่าทำไมคุณถึงอยากให้ผมอยู่ให้ห่างจากคุณกริน”

        “มันเป็นนากินี” เอเดนตอบอย่างรวดเร็ว

        ผมเลิกคิ้วว่าแค่นี้น่ะเหรอเหตุผลของเขา “ถ้าอย่างนั้น ผมก็ควรจะเลิกยุ่งกับคุณเพราะคุณเป็นนากินี”

        “ไม่ใช่แบบนั้นยอร์ช คุณไม่เข้าใจ” เอเดนทำท่าจะเข้ามากัดหัวผม ผมเข้าใจความหมายของเขา แต่แกล้งทำเป็นมึน

        “ก็ถูก ผมไม่เข้าใจ แค่เขาเป็นนากินี ผมไม่เห็นว่าจะใหญ่โตตรงไหนถ้าเขาเป็นคนดี หรือคุณจะบอกว่าไม่ใช่” ผมย้อนถามเอเดน

        “แต่ผมดูออกว่ามันชอบคุณ ผมไม่ชอบ” เอเดนกัดฟันพูด

        “แค่นั้น?”

        “มันไม่แค่นั้นยอร์ช ผมจีบคุณอยู่ ผมไม่ชอบให้คนอื่นมาชอบคุณหรอก” ลูกแก้วเขียวสีสวยเพ่งจ้องผมจริงจัง

        “คุณบังคับคนทั้งโลกไม่ได้ และการที่คุณกรินชอบผมก็ไม่ได้เสียหายที่ตรงไหน คุณต้องเข้าใจและแยกแยะให้ออกนะเอเดน เรื่องงานก็ส่วนเรื่องาน เรื่องส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัว ผมติดต่อสานสัมพันธ์กับเขาก็แค่เรื่องงานในฐานะลูกค้า และถ้าจะมากกว่ากว่านี้ก็แค่ฐานะเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น ที่คุณทำที่คุณไปหาเรื่องเขา มันจะทำให้ผมเสียลูกค้า” ผมเริ่มสอนบทเรียนต่อไปให้เอเดน เขาต้องมีใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ และหัดที่จะเชื่อใจ

        “แต่เขาชอบคุณนอกเหนือจากงาน”

        “ที่จริงก็ดีนะที่เขาชอบผม เรื่องธุรกิจก็จะง่าย”

        มีคนชอบก็ดีกว่ามีคนเกลียด นั่นคือสิ่งที่ผมคิด แต่เอเดนเข้าใจไปแบบผิดๆ

        “ทำไม คุณชอบมันงั้นเหรอ” เขาเริ่มจะหาเรื่องผมอีกรอบ

        “ก็ชอบ” ผมแกล้งตอบ

        เอเดนฟังแล้วก็ถลึงตาเข้าใส่ ขึ้นเสียงโวยวาย “ยอร์ช ทำไมคุณทำกับผมแบบนี้ ผมชอบคุณก่อนนะ!”

        ผมลอบหัวเราะในใจ “ผมชอบเขาเพราะเขาก็ดูจะเป็นคนดีและเขาก็เป็นลูกค้าของผม ไม่ได้ชอบแบบนั้นหรอกนะ”

        “แบบไหนก็ไม่เอา” เอเดนเบ้หน้า ดื้อเป็นเด็กๆ

        แกล้งแค่นี้พอก่อนที่เขาจะโวยวายมากไปกว่านี้ ผมยังไม่อยากซวยหนักเพราะไปแหย่งูอารมณ์ร้ายให้สติขาด ผมว่าผมคงต้องปลอบใจเด็กโข่งสักหน่อย

        “คุณจะคิดมากไปทำไม อย่างนั้นคนที่ผมยอมให้อยู่ใกล้ๆตลอดเวลา อยู่ในบ้านเดียวกันกับผมและยอมให้จีบก็มีอยู่แค่คนเดียว”

        “ผมเหรอ” เขาถาม สีหน้าดีขึ้น ดวงตาสีเขียวมรกตที่ขุ่นเคืองเริ่มใสวาววับระยิบระยับท่ามกลางแสงแดดที่ส่องลอดกลุ่มใบไม้ลงมา

        “หมาล่ะงั้น”

        “ไม่ใช่ งูต่างหากล่ะ” เขาก้าวหนึ่งก้าวหล่นระยะห่างตรงกลาง ก่อนที่สองมือของเขาจะโอบเอวผมแนบชิด ผมเกร็งตัวมองรอบด้าน ถึงเราทั้งคู่จะหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยจากสายตาคนอื่น

        “ยืนยันหน่อยสิว่าผมพิเศษ” ดวงตาของเขาช่างอ้อนวอนจนน่าสงสาร

        “ก็บอกไปแล้วไง” ผมขืนตัวไม่ให้ใกล้ร่างกายกำยำมากไปกว่านี้

        “ไม่พอหรอก เขาว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด”

        ผมเงียบ เสตามองไปทางอื่น

        “ก็ได้ คุณไม่ทำผมทำเองนะ” เขาว่า ผมจึงมองตาเขาอีกครั้ง และพลาดมากที่ทำแบบนั้น เอเดนยิ้มล้อผมอยู่ ปล่อยมือข้างหนึ่งจากเอวไล้แก้มผมเล่น

        “คุณเขินแก้มแดงแล้วน่ารัก กินองุ่นแดงเยอะเกินไปหรือไงหืม” เขากดใบหน้ากระซิบติดแก้ม กดจูบเน้นๆตามด้วยไรฟันขบกัดหยอกเอิน
       
        “จูบนะ” เขาขอ ริมฝีปากเย็นเคลื่อนเข้าใกล้มุมปาก

        ผมไม่ตอบแต่ไม่ได้ดิ้นหนี ยืนนิ่งให้เขาทำตามอำเภอใจ

        และเอเดนก็ไม่โง่ที่จะไม่รู้คำตอบ “ขอบคุณครับ” เขาพูดและเริ่มทำตามในสิ่งที่เขาขอ

        “อื้อ ห้ามใช้ลิ้น” ผมเบี่ยงหน้าหนีเมื่อเอเดนทำท่าจะลอดลิ้นเข้ามาในปากผม ผมยอมให้แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ก็บอกแล้วไงว่าให้เป็นของรางวัลปลอบใจ เสียจูบอีกทีหนึ่งแลกกับการที่เขาจะไม่อาละวาดโวยวายให้ผมปวดหัวก็ดูจะคุ้มอยู่







(http://www.mx7.com/i/53b/crcHRB.gif)




       
        .......................
        เค้าว่าคู่นี่หวานไปแหระ เอามาม่าหน่อยไหม ฮ่าๆๆ ล้อเล่น
        พี่ยอร์ชอ่อนให้เอเดนเยอะแล้ว แต่ก็ยังต้องเอาคืนเอเดนอีกเยอะ แต่การแก้แค้นดูมุ้งมิ้งไปหน่อยนะ อยากได้แบบเลือดสาดไหม น่าจะมัน 55555
        อย่าลืมนะคะ ริริเปิดจองพี่งูแล้ว รายละเอียดตามโพสนี้ ขอให้อ่านรายละเอียดให้ถี่ถ้วนนะคะจะได้เข้าใจ
        ป.ล. อ่านคอมเม้นแล้วปลื้มปลิ่ม กอดๆ
       

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 28-10-2015 14:47:11
ยอมให้จูบด้วยอ่าาา,,แสดงว่า ใจเริ่มอ่อนล่ะ

มาลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 28-10-2015 15:36:16
ยอมซะขนาดนี้แล้ว อย่าหวง & หึง เยอะ เดี๋ยวยอร์ชไม่รักเอานะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 28-10-2015 16:26:01
ยอร์ชอ่อนให้เยอะมาก เอาหวานๆนี่แหละค่าา ไม่เอามาม่านะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 28-10-2015 16:46:21
พี่ยอร์ชน่ารักอ่ะ
อ่อนให้ขนาดนี้แล้ว
เอเดนไม่ต้องน้อยใจละนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 28-10-2015 18:56:43
 :-[   ว๊ายยยยย เอเดนได้รางวัล คนอ่านก็ได้ฟินกันไปสิ เมาส์แทบแหลกคามือ  :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-10-2015 19:09:18
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: smoking ที่ 28-10-2015 19:18:45
ทีงี้ละมุ้งมิ้งเชียวน่ะค่ะ เอเดน   :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 28-10-2015 21:10:02
เอเดนทำไมน่ารักมุ้งมิ้งแบบนี้ล่ะ เขินแทนพี่ยอช์นเลย
เอาจริงก็อยากให้เลือดสาดนะค่ะ ท่าจะมันส์ สาดแบบกระฉูดเลยได้ไหม  :pighaun: ไม่รู้สาดเดียวกันหรือเปล่า 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 28-10-2015 21:17:09
เอาอีกกกกก เอเดนน่าร้อกกกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 29-10-2015 00:05:54
เอเดนดูเป็นเด็กขี้หวงนะ ยอร์ชใจอ่อนลงมากแล้ว ตั้งใจจีบต่อไป เดินหน้า สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 29-10-2015 00:32:39
ยอร์ชเริ่มใจอ่อนแหละ แต่เอเดนนี่ใจร้อนสุด ๆ เลยน่ะเนี่ย ตอนเป็นงูแล้วเลื้อยเข้าไปในเตียงนี่ ก้อสมควรโกรธแหละ เป็นเรา ๆ จะช็อคตายก่อนน่ะ  o22
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mukkai ที่ 29-10-2015 00:43:25
เย้ มาแล้ว :katai2-1:

อูยยย  คุณนักเขียนคะ ใจเย็นๆค่ะ
อย่าพึ่งสาดมาม่าจัดหนัก ขอให้คนอ่านกระชุ่มกระชวนสักตอนสองตอน :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 29-10-2015 00:52:01
นี่บอกเลย........
ทุกวันนี้พี้ยอร์ชกำลังเลี้ยงหมาตัวโต เอาแต่ใจ หวงเจ้าของ แถมหยิ่งผยองสุดๆ
ต้องดัดนิสัยเข้าไปอีกเยอะๆ เอาให้อยู่ในโอวาทเลยนะคะะะะ :laugh:

เอเดน** แอบเข้าห้องทั้งที ได้แค่จุ๊บเหรอยะะะะ โถถถถถถถถถ  :z3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 29-10-2015 10:31:47
หาแบบเอเดนได้ที่ไหนเนี่ย พี่ยอร์ชก็ใจอ่อนได้แล้วน๊าา o18 ไม่เอามาม่านะค่า  :really2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 29-10-2015 12:22:14
อ้ายยยยยเอเดน เอาคะแนนหัวใจไปเลยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Re-ya ที่ 29-10-2015 16:01:40
ชอบมากกกก  :ling1:

รอตอนต่อไปอยู่น่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 29-10-2015 17:50:06
อรั๊ยยย เอเดนเด็กโข่งเอาแต่ใจ พี่ยอร์ชก็เอาใจเด็กโข่งเขาหน่อยนะ หุหุ  :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 29-10-2015 18:45:15
เอเดนเด็กมาอ่ะ เอเดนน่ารักที่สุดเลย เหมือนเด็กโข่งมาเลย ใจละลายเเทนพี่ยอร์ชเลยค่า
เขายอมให้จูบด้วยอ่ะเเกร เขินตัวเเทบขาด เอเดนตอนนี้น่ารักสุดๆเลยค่ะ ไม่เอามาม่านะคะคุณคนเเต่ง
เอาเเบบนี้ เราขอ เยะอๆเลย คุณคนเเต่งต้องสู้นะคะ ฮึบๆส่งเอเดนไปปปปปป
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 29-10-2015 22:31:09
เอเดน มุ้งมิ้งอะ คึคึ หึงตลอด
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 30-10-2015 10:49:20
ไม่เอามาม่าน๊าาาาา....แบบนี้แหละกำลังดีอ่านไปยิ่มไปมีความสุขม๊ากมาก...
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 30-10-2015 11:30:52
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 31-10-2015 18:15:36
พ่องูเริ่มรุกหนักขึ้นแล้วนะเนีืย
ส่วนยอร์ชเองก็ยอมอ่อนลงให้เอเดนตั้งเยอะ เริ่มใจอ่อนลงเรื่อยๆแล้ว :haun5:
ขอบคุณคนเขียนและรอตอนต่อไปค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 31-10-2015 23:56:02
โอ๊ยยยย หวานค่า จะละลายแทน คนน้องโดนกินแล้ว เหลือแต่คนพี่ใกล้จะโดน อิอิ ตระกูลนี้คงถูกโฉลกกับงูค่า. รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: makiri ที่ 01-11-2015 08:08:50
เลือกอ่านแต่นิยายจบแล้วเพราะไม่อยากเผชิญกับสกิลค้าง
คนเขียนหลอกล่อให้อ่านหลงไหลแบบโง่หัวไม่ขึ้น
สนุกจนอ่านว่างไม่ลงชอบมากๆเลยคะ
แต่แอบเสียดายที่ต้องมาลวแดงกับการรออ่านตอนต่อไป
ตัวเรื่องแฟนตาซีวาย ที่ตามหาอ่านมานาน ถูกใจมาพที่สุด การว่างลำดับ โครงเรื่องน่าติดตาม ฉากมาม่าปวดตับนิดๆก็กำลังดี
หวานๆก็ฟินจิกหมอน ยิ้มหัวเรากับความน่ารักของน้องโย ชอบความมั่นคงในรักของอาซา ชอบมุมมองการมองของพี่ยอร์ช ชอบความเอนแต่ใจของเอเดน ชอบความรักที่พ่อมีต่อลูก ทุกอย่างมีเส่นห์ให้ติดตาม ประทับใจมากคะ

ขอบคุณที่มาแต่งเรื่องราวดีๆให้อ่าน รีบมาต่อไวๆนะ เราไม่อยากอยู่กับสกิลค้างนาน

รออ่านฉากศึกเลือดพุ่งของพี่เอเดนอยู่นะคะ ช่วงนี้ต้องตุ้นเลือดสำรองเยอะๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 02-11-2015 16:01:48
(http://f.ptcdn.info/267/012/000/1384756334-fiftyshade-o.jpg)
เอเดนของเค้าาาาา :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 02-11-2015 16:04:19
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Sailordews ที่ 02-11-2015 23:16:09
มาต่อเร็วๆนะคะ อยากเห็นพี่ยอร์ชโดนแกล้งคืนบ้างซักที ไม่ได้หื่นนะคะเนี่ยจริงจริ๊ง 555555555  :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 04-11-2015 19:48:53
ลุ้นระทึกทั้งเรื่อง มันตื่นเต้น มันลึกลับ o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 06-11-2015 08:25:46
เป็นงูที่ทั้ง ขี้อิจฉา ขี้หึง ดีจริง  :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 09-11-2015 00:19:28
สนุกมากกกกกกกก :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 09-11-2015 00:59:58
เอเดนน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁EIGHT❁28-10-15 [P.66] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: wiwari ที่ 09-11-2015 12:20:45
พี่ยอร์ชน่าร๊ากกกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-11-2015 23:06:01
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

NINE





        YACHT

        เป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่านับตั้งแต่เอเดนเริ่มทำงานในไร่ศิลาเต็มตัว วันนี้ผมคลุกตัวอยู่แต่ในออฟฟิตเพื่อเคลียร์เอกสารและเงินเดือนของลูกน้องแต่ละคนในไร่ ผมยังคงใช้ระบบจ่ายเงินเดือนแบบเป็นเงินสดใส่ซองมากกว่าที่จะโอนเข้าธนาคารเต็มจำนวน แต่ก็จะหักสิบเปอร์เซ็นต์จากรายได้ออมใส่บัญชีไว้เพื่อเป็นเงินออมให้คนงาน

        และอีกเหตุผลที่ผมเลือกจะจ่ายเป็นเงินสดคือหลายครอบครัวไม่ได้อยู่ในตัวเมือง การเดินทางไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในเมืองดูจะเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะฉะนั้นแล้วผมเลยจ่ายเงินเดือนแบบนี้มาโดยตลอด ไม่มีอะไรยุ่งยากวุ่นวาย เพราะไร่ของผมเองก็ไม่ได้มีคนงานเป็นร้อยคน แค่ยี่สิบกว่าคนเท่านั้น

        ก๊อกๆๆ

        “คุณยอร์ช! เกิดเรื่องแล้วคุณ” เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังมาก่อนที่ประตูห้องทำงานผมจะเปิดออกเสียอีก คนงานในไร่ชื่อเมฆมองผมเอามือกุมท้องหอบหายใจแรง คงจะวิ่งมาอย่างเร็วโดยไม่ได้หยุดพัก ผมลุกออกจากโต๊ะทำเงินเดินอ้อมไปยืนตรงหน้า

        “เกิดอะไรขึ้น” ผมถาม เห็นอีกคนร้อนรนผมก็ร้อนใจตามไปด้วยแม้ว่าจะยังไม่รู้เรื่อง

        “ลุงกิตจ้ะ ลุงกิตแกอยู่ดีๆก็เป็นลมล้มตึงไปเลย”

        “อะไรนะ” พอได้ยินกว่าลุงคนงานที่เป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่เป็นลม ผมก็รีบเดินนำเจ้าเมฆอออกไปขึ้นรถจี๊บเข้าไร่ เมฆกระโดดขึ้นมานั่งข้างๆ เล่าให้ผมฟังว่าเกิดอะไรขึ้น

        “ช่วงหลังนี้ลุงแกเหนื่อยง่าย ใครๆก็บอกให้ลุงแกไปหาหมอ แกก็ไม่ยอมไป” เมฆเล่า

        “แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง” ผมถาม เร่งเครื่องยนต์เข้าไร่จนฝุ่นตลบ

        “ผมก็ไม่รู้ครับคุณยอร์ช พี่ใหญ่ให้ผมรีบมาบอกคุณ” เมฆว่าสีหน้าเป็นกังวล

        ผมขับเข้าไร่มาได้สักพักก็เจอกลุ่มคนงานยืนมุงอยู่เป็นจุดเดียว ผมจอดรถแล้วกระโดดลง พอทุกคนเห็นว่าผมมาถึงก็หลีกทางให้

        “ลุงกิตเป็นไงบ้างใหญ่” ผมถาม

        ใหญ่เงยหน้ามองผม ใช้หมวกสานพัดและเอายาดมจ่อที่จมูก ผมทรุดตัวนั่งลงข้างๆ จับลมหายใจและชีพจรดูคร่าวๆก็วางใจได้ว่าลุงแกยังอยู่ไม่ได้จากไปไหน

        “เราต้องพาแกไปส่งโรงพยาบาล ผมว่าอาการแกน่าเป็นห่วงน่าจะเป็นโรคหัวใจ” ใหญ่สันนิษฐาน ผมพยักหน้าเข้าใจ ถ้าอย่างนั้น ก่อนอื่นก็ต้องเอารถมารับ แต่รถกระบะที่ใช้ในไร่สองคนเอาออกไปส่งของหมด เหลือแต่รถของผมที่จอดอยู่ที่บ้าน ซึ่งต้องพาลุงไปขึ้นรถจี๊บแล้วขับออกไปขึ้นเปลี่ยนรถที่บ้านผม

        ผมลุกขึ้นยืนมองซ้ายมองขวา เห็นเอเดนยืนมองอยู่ไม่ไกล ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาเขา เอเดนยืนอยู่ใต้ต้นไม้ในชุดเสื้อเชิ๊ตสีเขียวเข้มและกางเกงยีนต์เข้ารูป ตามใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เขาดูสบายๆไม่ทุกข์ร้อน

        “เอเดน คุณช่วยผมหน่อย” ผมบอกเขา

        “ช่วยอะไร” เขาถาม สีหน้าเฉยชาไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเหมือนคนอื่นๆที่เห็นว่าลุงกิตล้มป่วย

        “ช่วยแบกคุณลุงกิตไปที่รถหน่อย แล้วคุณกับผมก็พาเขาไปโรงพยาบาล” ผมบอก เท่าที่เห็น เอเดนเป็นคนเดียวที่มีพละกำลังพอที่จะแบกลุงกิตได้อย่างสบาย เพราะเขามีเรี่ยวแรงมากกว่ามนุษย์ปกติจะมี

        “แล้วทำไมต้องเป็นผม” เขาถามไม่ยี่หระ ผมหรี่ตาคิ้วขมวดมองเขา ไม่คิดว่าเอเดนจะย้อนถามอย่างไร้น้ำใจ

        “ช่วยดูด้วย จะมีใครมีแรงแบกลุงเขาได้นอกจากคุณ” ผมขึ้นเสียงเล็กน้อย แต่ก็พยายามใจเย็น

        เอเดนยืนมองไปทางลุงกิตนิ่ง คนอื่นๆกำลังช่วยกันประคองลุงขึ้น

        “คุณจะไม่ทำก็ได้นะ ผมไม่ได้ว่าอะไร แต่อยากให้รู้ไว้ ทุกคนในที่นี่คือคนในครอบครัวของผม เรามีกันแค่ไม่กี่สิบชีวิต ที่นี่อยู่กับแบบครอบครัว และหากใครสักคนที่ผมจะรักและรักผม คนๆนั้นก็ต้องรักคนในครอบครัวผมด้วย” ผมบอก ไม่รอคำตอบว่าเขาจะช่วยหรือไม่ บังคับคนที่ไม่เต็มใจช่วยเหลือผู้อื่นจะไปมีประโยชน์อะไร

        ในเมื่อเขาไม่อยากจะช่วยก็ไม่เป็นไร ผมทำเองก็ได้ ผมหมุนตัวเดินห่างจากเอเดนอย่างหงุดหงิด

        “เดี๋ยว” เอเดนเรียกผมเอาไว้ เขาเดินมายืนข้างผม

        “ผมจะช่วยก็ได้” เขาบอก

        “ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไร ผมไม่ได้ว่าอะไร” ผมเดินต่อ ใหญ่ทำท่าจะแบกลุงกิตขึ้นหลัง ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยประคอง

        “ผมทำเอง” เอเดนแทรกตัวเข้ามาแย่งตัวลุงกิตไปแบกไว้เองอย่างง่ายดาย ทุกคนต่างตกตะลึงที่เห็นเอเดนจับตัวร่างอ้วนใหญ่ของลุงกิตขึ้นหลังอย่างง่ายดายแล้วเดินไปที่รถจี๊บ ทุกคนช่วยกันเอาร่างของลุงกิตขึ้นนั่งในรถ

        “มาขับรถสิยอร์ช” เอเดนเรียกผม ผมเลยรีบวิ่งไปที่รถแล้วสตาร์ทเครื่อง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาต่อล่อต่อเถียง ชีวิตของคนๆหนึ่งสำคัญกว่าจะมาเสียเวลาไร้สาระ

        ระหว่างทางไปโรงพยาบาลผมและเอเดนต่างคนต่างเงียบ เขาอาสาขับรถให้ ผมประคองตัวลุงกิตอยู่ที่เบาะหลัง เอเดนเหยียบคันเร่งเร่งเครื่องเพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลเร็วที่สุด

        มาถึงโรงพยาบาลลุงกิตถูกพาตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ผมแยกไปติดต่อข้อมูลของลุงแกกับทางโรงพยาบาล เสร็จเรียบร้อยก็เดินไปดูที่ห้องฉุกเฉิน เอเดนนั่งรออยู่หน้าห้อง ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างเขา สายตาจับจ้องไปที่ห้องฉุกเฉิน ป่านนี้ภรรยาและลูกของลุงกิตคงจะรู้เรื่องแล้ว

        “ทำไมคุณถึงดูเป็นห่วงเขาขนาดนั้น” เอเดนทำลายความเงียบระหว่างเรา

        “ลุงกิตไม่ใช่แค่คนงาน แต่เขาคือผู้ใหญ่ในไร่ที่ผมนับถือ ถึงเขาจะเป็นแค่คนงานแต่ผมรู้จักแกมาทั้งชีวิต โตมาผมก็เจอลุงกิตแล้ว เขาเป็นเสมือนเพื่อนพ่อผมและเป็นคนในครอบครัว” ผมตอบ ตายังคงจ้องมองเหล่านางพยาบาลวิ่งเข้าออกห้องฉุกเฉินจนน่าเวียนหัว

        “ผมไม่เคยให้ความสำคัญกับใครที่ไม่ได้สำคัญกับผม” เอเดนพูดลอย ผมละลายตาจากบานประตูมองเสี้ยวหน้าคม “ไม่เคยมีใครให้ความสำคัญกับผมหรอก”

        “ทำไมถึงคิดอย่างนั้น” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ “พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ต้องมีสักคนสิที่เห็นค่าของคุณ”

        “เพื่อนอาจจะใช่ อย่างน้อยเบนและชาร์ลก็ไม่เคยหักหลังความไว้ใจของผม คุณก็รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงได้เกลียดอาซาและเกลียดพ่อ” เขาพูด แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ผมสะอึกกับคำพูดแสดงความในใจของอีกฝ่าย

        “ผมไม่รู้หรอกน่ะว่าครอบครัวมันสำคัญขนาดไหน และคนในครอบครัวต้องมีอิทธิพลต่อผมยังไง ผมไม่เคยได้รับความรู้สึกดีๆจากคนในครอบครัวผมเลยไม่รู้ว่าต้องกระทำต่อพวกเขาอย่างไร”

        “ผมขอโทษ” ผมบอก รู้ซึ้งถึงความหมายความต่างของแต่ละคน อดีตที่ต่างกันทำให้เราคิดและรู้สึกไม่เหมือนกัน บาดแผลเรื่องพ่อของเอเดนคงรักษาให้หายไม่ได้ในเร็ววัน อาจจะต้องนานเท่าที่เขาเคยเจ็บปวด

        เอเดนกระตุมยิ้มมุมปาก “ขอโทษผมทำไม”

        “คุณอาจจะผ่านเรื่องแย่ๆมา แต่อย่างน้อยทุกคนที่นี่จะจริงใจกับคุณตราบเท่าที่คุณจริงใจกับเขา และถ้าคุณรักพวกเขา พวกเขาจะรักคุณ”

        “เหมือนที่ผมรักคุณแล้วคุณจะรักผมใช่ไหม” เอเดนย้อนหน้าเจ้าเล่ห์ ไม่มีแล้วเอเดนคนเศร้า เหลือแต่เอเดนจอมร้ายที่นั่งอยู่เคียงข้างกัน

        “ก็ต้องดูว่าคุณทำตัวให้น่ารักขนาดไหน” ผมยักคิ้วใส่เอเดน เขาส่ายหัวยิ้มๆ

        รอไปก่อนเถอะ ให้เราได้ศึกษาเรียนรู้กันมากกว่านี้ ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายด้านของผมที่เขาไม่เคยเห็นและมีอีกหลายด้านของเขาที่ผมยังไม่เคยเจอ หากคิดจะคบกับเขาผมก็ไม่อยากให้ความรักครั้งนี้เป็นไปอย่างฉาบฉวย

        ผลสรุปการตรวจของลุงกิตคือแกเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ช่วงนี้ต้องงดทำงานหนักงานออกแดด ต้องพักและกินยาหาหมอเป็นประจำสม่ำเสมอ ผมคุณกับคุณหมอเสร็จลุงกิตก็รู้สึกตัว

        “เป็นไงบ้างครับลุง” ผมถาม ลุงแกดูงงๆ

        “ลุงเป็นอะไรเหรอยอร์ช ทำไมลุงเหนื่อยจัง” ลุงกิตถาม มองผมและเอเดนสลับกันรอคำตอบ

        “ลุงเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง หมอให้ลุงพักงาน” ผมบอก

        “ไม่ได้นะยอร์ช ลุงหยุดไม่ได้หรอก ถ้าลุงไม่ทำงานแล้วเมียกับลูกลุงจะเอาเงินที่ไหนใช้เอาที่ไหนกิน” ลุงแกว่าเสียงสั่น นี่คงเป็นสาเหตุที่แกไม่ยอมมาหาหมอเสียที

        “เรื่องนั้นลุงไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ผมจะให้ลุงหยุดพักอยู่ที่บ้านหนึ่งอาทิตย์ ถ้าอาการดีขึ้นแล้ว ลุงค่อยมาทำงานเล็กๆน้อยๆในไร่ งานหนักก็ให้เด็กๆแรงดีมันทำไป” ผมพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดให้ลุง ลูกแกเรียนอยู่กรุงเทพ ต่อให้หาเงินพิเศษได้เองแต่มันก็ไม่พอ ลุงกิตก็ต้องส่งไปให้อีกทาง

        “แต่นั่นจะเป็นการเอาเปรียบยอร์ชนะ” ลุงแกพูดเหมือนเกรงใจ

        ผมยิ้มให้แก “ลุงคิดแบบนั้นยอร์ชเสียใจนะ ลุงก็เหมือนญาติผู้ใหญ่ ทำอะไรตั้งหลายอย่างให้ยอร์ชให้พ่อให้ไร่ของเรา ลุงล้มป่วยมาผมก็ต้องช่วยเหลือดูแล อย่าคิดมากเลยครับ ถ้าลุงไม่รับน้ำใจจากผมไว้ ถ้าพ่อรู้เข้าพ่อเองก็จะเสียใจนะครับ” ผมพูด

        “ขอบใจมากนะยอร์ช ลุงขอบใจมากจริงๆ” ลุงแกทำท่าจะยกมือไหว้ผม แต่ผมรีบจับมือแกไว้ ลุงกิตอายุมากกว่าพ่อผมเสียอีกจะให้มายกมือไหว้ผมได้ยังไง ผมจะได้อายุสั้นเอาน่ะสิ

        “ไม่เป็นไร คืนนี้ลุงต้องนอนโรงพยาบาลคืนหนึ่งนะครับเพื่อดูอาการ ผมจะให้เมฆมันมานอนเป็นเพื่อน” ผมบอก

        “ขอบใจมากนะยอร์ช”

        “ถ้าลุงขอบใจผมอีกครั้งเดียวผมจะโกรธ” ผมพูดติดขำ ก่อนจะฝากให้เอเดนดูแลลุงกิตเพราะผมจะออกไปติดต่อหมอเรื่องห้องพิเศษ

        ติดต่อเรื่องกับทางโรงพยาบาลและโทรให้เมฆมาเฝ้าลุงแล้วผมก็รอจนใหญ่พาเมฆมาถึงโรงพยาบาล พ่วงมาด้วยภรรยาของลุงที่บอกว่าจะนอนเฝ้าเอง ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ให้ใหญ่ไปจัดหาข้าวของเครื่องใช้ให้ลุงกิตกับภรรยาของแกไม่ให้มีอะไรขาดตก

        เสร็จเรื่องผมก็ขับรถกลับไร่เพื่อทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน เอเดนพัฒนาฝีมือไปเร็วมาก ผักที่เขาปลูกพร้อมเก็บขายแล้วในวันพรุ่งนี้ ผมจะพาเอเดนไปขายที่มาร์เก็ตเสรีในเมือง อยากเห็นจริงๆว่าเอเดนในคราบพ่อค้าขายผักจะเป็นอย่างไร

        ผมกลับเข้าออฟฟิตสะสางงานที่คั่งค้างอีกครั้งจนกระทั่งเย็น ถึงเวลาที่จะแจกจ่ายเงินเดือน คนงานค่อยๆทะยอยเข้ามาในห้องทำงานของผมเพื่อรับผลตอบแทนของเดือนนี้ และตามธรรมเรียมผมจะพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานของแต่ละคนว่าใครทำงานดีหรือใครทำงานบกพร่องเพื่อให้ได้ไปพัฒนาปรับปรุงตัว

        ผมแจกจ่ายเงินเดือนจนกระทั่งเหลือซองสุดท้าย แต่เจ้าของเงินเดือนไม่มาปรากฏตัว ผมเก็บของแล้วถือซองเงินเดือนเดินกลับบ้าน เอเดนคนรักความสะอาดเดินตัวหอยฉุยลงบันไดมา เขามันเจ้าสำอางค์ ทำงานเสร็จต้องรีบกลับมาอาบน้ำ เขาบอกว่าทนไม่ได้ที่จะให้เนื้อตัวเต็มไปด้วยเหงื่อไคล

        “อ่ะนี่ เงินเดือนของคุณ” ผมยืนซองเงินให้เขา เอเดนมองซองในมือผมก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นสบกับผม

        “ผมไม่รับ ผมบอกคุณแล้วไงว่าผมไม่ได้ต้องการเงิน” เขาเว้นช่วง “แต่ผมต้องการคุณ”

        บางทีผมก็เบื่อคำหยอดของเขาจากใจจริง

        “แต่คุณเป็นคนงานในไร่ผม ก็ต้องได้รับเงินเดือนเหมือนคนอื่นๆ เอาไป” ผมจับมือเขาแบออกแล้ววางซองเงินเดือนใส่มือเขาไม่ให้เขาปฏิเสธ

        แต่เอเดนกลับเอามันยัดคือใส่มือผมจนซองยับย่น “ผมไม่อยากเหมือนคนอื่น และผมไม่ใช่คนงาน”

        “ไม่ใช่เหรอ” ผมเลิกคิ้วสูง

        เอเดนกรอกตาไปมาคล้ายจะเบื่อหน่าย “ใช่ก็ได้ แต่ยอร์ช คุณก็รู้ว่าผมมาที่นี่ทำไม”

        ทำไมเขาจะต้องวกเข้าเรื่องนี้ตลอดเวลา ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเขามาทำไม มาที่นี่เพื่อมาจีบผม แต่ผมเองก็คิดว่าผมไม่ควรเอาเปรียบเอเดนใช้งานเขาฟรีๆ มันไม่แฟร์เท่าไหร่

        “ยังไงคุณก็ต้องรับ เงินก้อนนี้คุณจะเอาไปทำอะไรก็ได้ ถึงจะเป็นแค่เงินก้อนเล็กๆ แต่สำหรับบางคนบางครอบครัว เงินก้อนนี้สำคัญมาก ผมถือว่าผมให้เงินตอบแทนค่าแรงของคุณแล้ว หลังจากนี้จะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของคุณ”

        เอเดนครุ่นคิด เขามองสบตาผมยื่นมือมารับซองเงินเดือนไปเปิดนับ ผมให้เงินเขาจำนวนหนึ่งหมื่นห้าพันบาทสำหรับตำแหน่งและหน้าที่ที่เขาทำ ซึ่งเงินแค่นี้สำหรับเอเดนคงเป็นแค่เศษเงิน แต่อย่างน้อยเขาก็จะได้รู้ว่า เศษเงินเล็กๆนี้ กว่าเขาจะได้มาจะต้องเสียหยาดเหงื่อแรงกายไปมากขนาดไหน

        “เอาเงินนี่ไปช่วยลุงกิตก็แล้วกัน ครอบครัวเขามีปัญหาไม่ใช่เหรอ” เอเดนส่งเงินให้ผม

        “คุณรู้ได้ยังไง” ผมงุงงนเพราะไม่เคยพูดเรื่องครอบครัวลุงกิตกับเอเดน

        “ใหญ่บอกผม”

        “อ่า...” ใหญ่เป็นอีกคนนอกจากผมที่เอเดนคุยได้ นั่นเพราะใหญ่พูดอังกฤษได้ แต่คนงานคนอื่นพูดได้แค่ hello yes no okay แค่นั้น

        ผมมองเงินที่เอเดนยืนให้ผม และเมื่อผมมองตาของเขา เขาก็ยืนยันว่าจะให้เงินก้อนนี้แก่ครอบครัวลุงกิต ผมจึงรับไว้

        “ผมขอบคุณแทนลุงกิตด้วยแล้วกันนะ” ผมพูด เดินตามเอเดนไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น

        “ผมก็แค่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นบ้างแบบคุณ” เขาพูด

        ผ่านมาเดือนกว่าไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นว่าเอเดนเปลี่ยนไปมากแค่ไหน สำหรับคนอื่นอาจจะคิดว่ามันเล็กน้อย แต่กับไม้แก่ที่ดัดยากอย่างเอเดน แค่เขายอมเปิดใจยอมรับความผิดพลาดและพร้อมที่จะปรับปรุงตัว สำหรับผมแค่นั้นก็ดีมากแล้ว แต่ก็มีบ้างที่เขาจะหลุดกลับไปเป็นเอเดนคนเดิมอย่างเมื่อตอนกลางวัน ที่เลือกจะยืมมองสถานการณ์นิ่งๆเหมือนไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ต่างจากคนอื่นที่ดูเป็นเดือดเป็นร้อนกันทั้งไร่

        ก็ไม่แปลกหรอก คงต้องให้เวลาเขาปรับตัวให้ชินสักหน่อย ผมเชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะเคยชินกับการใช้ชีวิตในแบบที่ผมชี้นำ

        “อ่อ ผมมีอีกเรื่องจะบอก คืนนี้ผมจะออกไปข้างนอกกับเพื่อนนะ คุณจะอยู่บ้านหรือจะไปด้วย” ผมถาม ตอนนี้มีผมและยอร์ชอยู่บ้านแค่สองคน

        พ่อผมไปเที่ยวกับแก็งเพื่อน เพราะท่านวางใจที่ผมมีเอเดนคอยช่วยงาน ผมก็ไม่รู้ว่าพ่อคิดได้ยังไงว่าการมีเอเดนจะช่วยให้งานของผมราบรื่นตรงไหน แต่เพราะอยากให้พ่อปลดเกษียรแล้วไปพักผ่อนมากกว่าที่จะเป็นกังวลกับเรื่องไร่เรื่องงาน ผมเลยเออออไปตามประสาแล้วปล่อยให้พ่อไปเที่ยวพักร้อนที่ญี่ปุ่นกับแก๊งเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม

        “ไม่น่าถามนะยอร์ช ผมไม่อยู่บ้านคนเดียวหรอก ผมจะไปกับคุณด้วย” เอเดนทำหน้าขึงขัง

        “ก็ตามใจ”

        “คุณรีบไปอาบน้ำเถอะ ไม่เหนียวตัวหรือไง” เอแดนไล่ให้ผมไปอาบน้ำ ผมไม่ใช่คนสกปรกนะแต่มาเจอเอเดนผมนี่ยอมใจเลย

        มื้อเย็นผมทำอาหารง่ายๆอย่างผีดซีอิ้วรองท้องก่อนไปเมามายในคืนนี้ คืนวันศุกร์สิ้นเดือน คนวัยทำงานหลายคนคงเตรียมตัวออกไปฉลองเงินเดือนออกกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ดีหน่อยที่เพื่อนของผมเปิดร้านเหล้า เพราะฉะนั้นแล้วปัญหาเรื่องโต๊ะเรื่องร้านก็ตัดออกไปได้เลย

        ได้เวลาผมก็ออกจากบ้าน เอเดนบอกให้เอารถของเขาออกและแน่นอนว่าเขาเป็นคนขับให้ผมนั่นสบายๆ เพื่อนของผมโทรมาตามสองสายเร่งให้ผมไปถึงเร็วๆทั้งที่ตอนนี้เพิ่งจะสามทุ่มเท่านั้น ไปถึงร้านเจ้าของร้านที่ชื่อว่าอาทิตย์เดินออกมาตอนรับลูกค้าอย่างอบอุ่นแนบแน่น

        “มาแล้วโว้ย เจ้าของไร่องุ่นที่โด่งดังที่สุดในประเทศไทยอยู่ตรงนี้แล้วครับ” อาทิตย์กอดผมแน่นแล้วรีบพาผมเข้าไปพาเพื่อนๆที่โต๊ะ ผมเอี้ยวตัวมองเอเดนที่เดินตามมาหน้านิ่ง สายตาของเขามองแขนยาวๆของอาทิตย์ที่พาดกอดไหล่ผมเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

        “มาๆ นั่งเลย” เพื่อนผมอีกคนที่ชื่อว่าวุฒิชัยหรือวุฒ ทนายหนุ่มประจำเมืองเชียงใหม่ที่สาวๆตามกรี๊ดมากที่สุด หล่อคมเข้มตามแบบชายไทยแท้

        ผมยิ้มให้เพื่อนก่อนจะเบียงตัวเผยให้เห็นใครอีกคนที่ตามมา เพื่อนผมทั้งสี่คนมองเอเดนพร้อมเพรียงกัน จากนั้นก็ระดมถามคำถามผมไม่หยุด

        “ใครวะ”

        “แกพาใครมาวะยอร์ช”

        “เขาฟังไทยได้ไหม เฮลโล่”

        “ใจเย็นดิวะ นั่งๆ” ผมบอก ทิ้งตัวนั่งลงข้างวุฒิ และเหลือที่ให้เอเดนนั่งข้างๆกัน

        “เพื่อนแกเหรอวะ” ริว เพื่อนหน้าตี๋พนักงานธนาคารถาม ยกมือโบกทักทายเอเดน รายนั้นเอาแต่มองคนอื่นเงียบๆไม่คิดจะทักทายใคร

        “เงียบๆดิวะ” ผมยกมือขึ้นห้ามปราบทุกคน ความจริงที่พวกมันตื่นเต้นคงเพราะว่าเอเดนเป็นชาวต่างชาติมากกว่า

        “นี่เอเดนเพื่อนฉัน ตอนนี้เขาก็มาช่วยงานในไร่ด้วย” ผมแนะนำเอเดนให้เพื่อนๆรู้จักแค่นั้น เพราะพวกผมทุกคนไม่มีใครเป็นเกย์ และไม่มีแนวโน้มว่าจะเป็น แม้แต่ผมเองก็คบผู้หญิงมาตลอดแม้ว่าจะมีผู้ชายมาจีบบ้างก็ตาม

        “เอเดน นี่เพื่อนๆของผม คนที่ออกไปรับเราคืออาทิตย์ เป็นเจ้าของร้านนี้” ผมบอก

        “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเอเดน” อาทิตย์ทัก ยืนมือมาเตรียมจะเช็คแฮนด์

        “เช่นกันครับ” เอเดนเอ่ยแล้วยืนมือออกไปจับกับอาทิตย์

        “ส่วนข้างๆอาทิตย์คือเท็น คุณครูโรงเรียนประจำจังหวัด” เท็นเป็นคนที่ฉลาดที่สุด เรียนเก่งทุกอย่างยกเว้นภาษาอังกฤษ

        “เฮลโล่ นะ ไนซ์ทูมีทยู” เท็กทักทายกระท่อนกระแท่น เพื่อนๆต่างขำให้กับท่าทางประหม่าของเจ้าตัว

        “คนต่อมาคือริว ทำงานธนาคาร อีกหน่อยคุณก็จะได้เจอเขาบ่อยๆ” ผมแนะนำต่อไป อยากให้เขารู้จักกับเพื่อนๆของผม เหมือนที่ผมรู้จักกับเพื่อนของเขา

        “สวัสดี” ริวยกมือทักทายตอบเป็นภาษาไทย

        “อืม สะ สวัสดี” เอเดนเลยทักเป็นไทยกลับบ้าง เรียกร้อยยิ้มเพื่อนๆบนโต๊ะได้ดี

        “คนสุดท้ายที่นั่งข้างๆผม ชื่อวุฒิ เป็นทนายความ” มาถึงคนสุดท้าย

        “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเอเดน ผมวุฒิ มีปัญหาด้านกฏหมายสามารถติดต่อผมได้นะครับ” วุฒิพูดตามแบบฉบับของตัวเอง เพื่อนๆได้แต่ส่ายหน้าแม้แต่ผมเอง ไม่มีใครรักในอาชีพที่ทำได้เท่าเพื่อนคนนี้แล้วครับ ไม่ว่างงานเล็กงานน้อยวุฒิรับทำหมดไม่เกี่ยงเลยหากคดีที่รับสะอาดไร้เงื่อนงำ

        “ขอบคุณครับ” เอเดนจับมือกับวุฒิ

        เมื่อทุกคนรู้จักกันเป็นที่เรียบร้อย การสังสรรเฮอาในวงสุราก็เริ่มต้นขึ้น ผมพูดคุยแชร์เรื่องราวต่างๆกับเพื่อนอย่างออกรสออกชาติ มือก็ถือแก้วบรรจุแอลกอฮอล์ยกดื่มเป็นระยะ เอเดนนั่งเงียบๆตอบคำถามเพื่อนผมบ้าง แต่โดยส่วนมากคือนั่นเงียบเพราะพวกผมพูดคุยกันเป็นภาษาไทย

        ทุกเดือนผมกับเพื่อนจะนัดมีตติ้งพบปะกันหนึ่งครั้ง เป็นอันรู้กันว่าห้ามใครคนใดคนหนึ่งเบี้ยวนัดไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นพวกผมจึงเต็มที่เหมือนเด็กๆที่ได้ปลดปล่อยภาระและความเครียด

        ยิ่งดึกยิ่งเมาทุกคนก็เริ่มเปลี่ยนไป คนแรกเลยคือวุฒิเพื่อนที่นั่งข้างๆผม มือของมันยกพาดไหล่รั้งตัวผมเข้าไปใกล้ ในขณะที่ยังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ผมเองไม่ได้คิดอะไรเพราะก็เพื่อนกันทั้งนั้น อีกอย่างวุฒิเองก็มีภรรยาและลูกตัวน้อยอยู่แล้ว การกระทำแบบนี้ก็แค่การกระทำของเพื่อนที่สนิทกัน แต่คนข้างๆผมอีกคนกลับไปคิดเช่นนั้น เขาถึงได้ทำตาขวางใส่ผมและเพื่อน

        “บอกให้เขาเอาแขนออกเดี๋ยวนี้” เอเดนกระซิบบอกผม

        “ไม่มีอะไรหรอกน่าคุณ นี่เพื่อนผมนะ” ผมกระซิบตอบ

        “แต่ผมไม่ชอบให้ใครกอดคุณ” เอเดนว่า ผมไม่อยากมีปัญหาเลยแกล้งทำเนียนเอาแขนวุฒิออกจากไหล่ เอเดนถึงได้ทำหน้าพอใจ

        เชื่อเขาเลย กับเพื่อนผมก็ยังจะหึง ชักไม่แน่ใจแล้วว่าอนาคตผมจะเป็นอย่างไรหากตกลงปลงใจกับผู้ชายตาสีเขียวข้างๆ

        ผมลุกออกจากโต๊ะเพราะอยากเข้าห้องน้ำ ทีแรกเอเดนจะตามมาด้วย แต่ผมห้ามเอาไว้ แค่มาเข้าห้องน้ำผมโตพอที่จะมาเข้าคนเดียว เขาทำเหมือนผมเป็นเด็กๆ บอกเลยว่าผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่

        “คุณยอร์ช” ใครบางคนเรียกผม ผมหันไปตามเสียง ก็เจอกับคุณตริน เขายังคงดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนเดิม

        “สวัสดีครับคุณตริน มาเที่ยวเหรอครับ” ผมถาม

        “ใช่คุณ คุณก็เหมือนกันเหรอ”

        “ครับ” ผมตอบ เราสองคนเดินออกมาจากห้องน้ำให้คนอื่นได้ใช้บริการบ้าง

        “จะว่าอะไรไหมครับถ้าผมจะเชิญคุณไปที่โต๊ะสักหน่อย” คุณตรินชวน ผมเตรียมจะตอบตกลงแต่มีเสียงใครอีกคนดังแทรกเสียก่อน

        “ผมไม่อนุญาต” เอเดนแทรกกายยืนขวางผมกับคุณตรินเอาไว้

        “เอเดน” ผมเรียกเอเดนเสียงเบา

        “ไม่ต้องมาห้ามผมเลยยอร์ช คุณต้องกลับไปที่โต๊ะกับผมเดี๋ยวนี้” เอเดนไม่ว่าเปล่า จับแขนผมลากกลับโต๊ะด้วย ผมเลยได้แต่หันไปขอโทษคุณตรินทางสายตา และเมื่อจะต่อว่าคนที่ทำอะไรไม่ปรึกษา เสียงเข้มก็เอ่ยขึ้นก่อนเหมือนจะนึกรู้

        “ไม่ต้องมาว่าผมเลย คืนนี้คุณทำผมหึงเกินไป คุณยิ้มให้คนอื่นเสียกว้างแบบที่ไม่เคยยิ้มให้ผม ให้เพื่อนคุณกอดอย่างเต็มใจแต่กับผมกว่าจะได้กอดสักทียังยาก แล้วนี่อะไร คุณจะไปกับมันเหรอ...เห็นใจผมหน่อยสิ ผมหึงจะแย่แล้วนะ” เอเดนโวยวายด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก เหมือนเขากำลังควบคุมอารมณ์ตัวเอง

        ผมที่จะโกรธก็เลยโกรธไม่ลง จึงยกเลื่อนมือกระชับมือประสานกับมือหนาที่เริ่มจะด้านเล็กน้อย เป็นผมที่ทำให้มือที่สวยงามของเขามีรอบตำหนิ

        “แต่คุณได้ใกล้ชิดกับผมมากกว่าคนอื่นนะ แค่นี้ไม่พอหรือไง” ผมถามเสียงนุ่ม เอเดนหยุดบ่นแต่ยังหน้าบึ้ง

        “แค่นิดเดียวเอง” เขาพูด

        “แล้วจะต้องมากขนาดไหนล่ะ”

        “ให้ผมนอนห้องเดียวกับคุณสิ” เขาว่า ผมส่ายหน้าให้กับความเอาแต่ใจ

        “ฝันไปเหอะไอ้งูบ้า” วันๆคิดแต่เรื่องบ้าบอหรือยังไง

        ผมเดินหนีเอเดนกลับไปที่โต๊ะ เขาจะคว้าแขนผมไว้อีกแต่ไม่ทัน



       
        .........................
        เอเดนค่อยๆปรับปรุงตัวเป็นเด็กดี ริริก็ดีใจ พี่ยอร์ชต้องใจเย็นๆนะ เลี้ยงเอเดนไม่ยากหรอก แค่เลี้ยงด้วยความรัก กิ๊ววววว สิ่งที่พี่ยอร์ชทำอยู่ตอนนี้ ที่ยังไม่ยอมใจอ่อนมันมีเหตุผลนะคะ แค่ยังไม่ได้เฉลยแค่นั้นเอง
        แอบสปอยนิดหนึ่งว่าตอนหน้าพี่ยอร์ชหวั่นไหวแบบเสาบ้านแทบล้ม อะไรยังไงมาดูกัน
        ป.ล. ยังไม่ได้แก้คำผิด พบเจอโปรดแจ้ง

       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 14-11-2015 23:51:16
นับวันๆ เอเดนยิ่งเชื่องขึ้นเรื่อยเลยนะ
พ่องูตัวนี้น่ารักจริงๆ พี่ยอร์ชรีบใจอ่อนได้แล้วน้า  :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 15-11-2015 00:59:33
 และตามธรรมเรียม // ธรรมเนียม

รอดูยอร์ชหวั่นไหว นี่ยอร์ชก็ใจอ่อนมากล่ะน๊า มากกว่านี้ก็เหลือแค่ตกลงปลงใจแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 15-11-2015 01:50:32
เอเดนน่ารักจริงๆ เป็นงูเริ่มเชื่องนิดนึง(รึเปล่า)555 :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 15-11-2015 02:28:13
ทำไมเราเห็นเอเด็นเหมือนเด็กตัวเล็กๆที่เรียกร้องความสนใจสุดๆ น่ารักชะมัด  :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 15-11-2015 07:23:16
เอร้ย ใกล้เข้ามาแล้วนะเอเดน

สู้ๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-11-2015 08:36:45
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 15-11-2015 10:59:44
 :mew1:เอเดนเริ่มเปลี่ยนแหละ แต่ยอร์ชยังใจแข็งอยู่น่ะเนี่ย นับถือ ๆ  :mew4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: wiwari ที่ 15-11-2015 16:00:59
เลี้ยงให้เชื่องเลยค่ะพี่ยอร์ช ให้กลายเป็นงูเฝ้าบ้านเลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 15-11-2015 16:27:34
เอเดนทำดีมากค่ะ นึกถึงงูเชื่องๆขึ้นมาแล้วเขิล
เอ๊ะๆ อยากอ่านตอนหน้าแล้วสิ  :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mukkai ที่ 15-11-2015 18:56:24
แหมมม เเค่เตียงเดียวกันเองยอร์ช :m26:
ให้ๆเขาไปเถอะ55555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 15-11-2015 20:07:13
พ่องูเชื่องของน้อง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 16-11-2015 00:08:52
เอเดนเหมือนเด็กเลย น่ารักกกก รอนะคะคุณริริ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 16-11-2015 09:01:40
พี่ยอร์ชของบ่าววววววววววว ต้องดัดนิสัยต่อไปนะคะ
เอเดนก็.........พยายามเข้าละกันนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 16-11-2015 21:27:42
อะไรคือหว้่นไหวแบบเสาบ้านแทบล้ม
อยากอ่านต่อแล้ว
มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 17-11-2015 00:18:56
แบบเสาบ้านแทบล้ม มันเป็นยังไงเน้อ. ชวนให้อยากแล้วจากไป :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 17-11-2015 00:36:00
น่ารักอ่ะ เอเดนเอ้ยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-11-2015 09:04:45
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 17-11-2015 14:30:43
สมัครสมาชิกเสร็จปุ๊บ รีบมาคอมเม้นปั๊บ  :laugh:

ขอบคุณคุณริริที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆมาให้อ่านมากนะคะ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

ตอนนี้รีบเก็บเงินเอาหนังสือเลย
ต้องเอามาอยู่ในอ้อมอกให้ได้  :o8:
ชอบการบรรยายเนื้อเรื่อง การดำเนินเนื้อเรื่อง
ถึงแม้จะมีคำผิดนิดๆหน่อยนี่มองข้ามไปเลยค่ะ
 o13

ปูเสื่อรอเอเดน x ยอร์ช  :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 17-11-2015 22:15:17
 :-[

เค้าง้องอลดันน่ารักเชียว
พี่งูขี้หึง
ยอชก็ง้อแบบน่ารักๆโอ๊ยยยยยยยย
ชอบๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Mmxiah ที่ 18-11-2015 09:13:13
เอเดน พ่องูสุดโหด เก่งกับทุกคนยกเว้นยอร์ช :-[
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Kitsune1st ที่ 18-11-2015 17:41:33
ตอนนี้ดูเรียบๆ อยากอ่านตอนหน้าแล้ว
อยากเห็นพี่ยอร์ชหวั่นไหวจนเสาบ้านแทบล้ม
คริคริคริ >.,<
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: smartmome ที่ 19-11-2015 01:34:42
เอเดน น่ารักมากๆเลยอ่ะ อ๊ากกกกก  :ling1:   :ling1:   :ling1:
ยังไงก็จะรอตอนต่อไปนะครับบบ  สนุกมากเลยชอบๆ :katai2-1:  :katai2-1: 
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 19-11-2015 11:56:04
อยากรู้ว่าเสาจะล้มเป็นไงรีบมาเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: moko ที่ 21-11-2015 00:47:51
มารอเหมือนกันค่ะ
เรื่องนี้น่ารักกก.  :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 22-11-2015 09:22:41
ชอบมากกกก รอตอนพิเศษนะคะขอบคุณที่ทำนิยายดีๆแบบนี้ม่ให้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 24-11-2015 02:42:20
เอิ้วววว รอดูเสาบ้านเฮียยอร์ชล้มตอนหน้า 555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁NINE❁14-11-15 [P.67] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 26-11-2015 09:43:10
เอเดน เวลาอยู่กับยอร์ช น่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 26-11-2015 21:40:23
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

TEN






        YACHT

        ผมว่าผมตื่นเช้าแล้วนะ แต่กลับมีคนตื่นเช้ากว่า ผมออกมาวิ่งเช่นปกติทุกวัน แต่วันนี้มีคนมารออยู่หน้าบ้านในชุดพร้อมออกกำลังกาย เพราะทุกวันผมออกวิ่งคนเดียว คนที่ทำงานใช้แรงแบบเอเดนถึงเลือกที่จะนอกพักเอาแรงให้เต็มอิ่ม แต่ถึงเขาไม่ออกกำลังกาย เขาก็แข็งแรงกว่าผมหลายสิบเท่า

        “ผมไปด้วยนะ” เอเดนพูด ใบหน้าของเขาดูเต็มอิ่มยิ้มแย้มแจ่มใส ผมเพิ่งสังเกตว่าเขาเปลี่ยนไป คนที่แววตามีแต่ความเกลียดชัง บัดนี้แววตาของเขาใส่สว่างและเป็นประกาย

        “เอาสิ” ผมเดินไปหาเขาแล้วเราก็ออกเดินพร้อมกัน จากนั้นก็ค่อยๆเร็วขึ้นจนกลายเป็นวิ่ง ระยะทางวิ่งเข้าไร่เริ่มจากวิ่งผ่านโซนรีสอร์ทที่นักท่องเที่ยวยังคงหลับใหล รีสอร์ทของไร่ศิลามีกฏสำคัญอยู่ข้อหนึ่งที่ว่าห้ามส่งเสียงดัง เราอยากให้ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนจริงๆ ไม่ต้องการความวุ่นวาย จำนวนบ้านพักจึงมีแค่ไม่กี่หลังเท่านั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนมากก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

        ต่อมาวิ่งผ่านส่วนสำนักงานก่อนที่จะเข้าไร่ วิ่งไปมององุ่นทั้งสองข้างทางไปด้วยแม้ว่าจะมองอะไรไม่ค่อยเห็นเนื่องจากพระอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นของฟ้าดี จากนั้นก็ลัดเลาะไปทางด้านหลังของไร่ จุดเดิมที่สามารถมองพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างแจ่มชัด

        “ต่อไปนี้ผมจะมาวิ่งกับคุณทุกวัน” เอเดนบอก มองผมตาเชื่อม ผมแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นเพื่อไม่ให้ตัวเองเกิดความปั่นป่วนในอก พักหลังมานี้เอเดนเล่นกับหัวใจผมเกินไป

        “คิดยังไงล่ะคุณ” ผมถามขำๆ สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด

        “ผมอยากสร้างความเคยชินให้คุณ”

        “ความเคยชิน”

        “ใช่ หากวันไหนผมไม่อยู่วิ่งกับคุณ คุณจะได้คิดถึงผมตอนที่ดูตะวันไง”

        ผมทำหน้าไม่ถูก เขาหวานเลี่ยนขึ้นเรื่อยๆจนทำให้หวั่นใจ

        “ตะวันขึ้นแล้ว” ผมชี้ชวนให้ดูเปลี่ยนเรื่อง และน่าตกใจ ผมกลับเห็นตะวันเป็นใบหน้าของเอเดนแทนที่จะเป็นเรื่องราวความหลังอย่างทุกวัน

        บ้าไปแล้ว

        “เอ่อ ผมว่า...เรากลับกันเถอะ” ผมบอก หันซ้ายหันขวาทำตัวงกๆเงิ่นๆ ออกตัววิ่งโดยไม่รอใครอีกคน เอเดนตะโกนเรียกแล้วก็วิ่งตามมา ผมเร่งความเร็วไม่ให้เขาตามทัน

        ทำไมตอนวิ่งหัวใจไม่เต้นแรงเท่าตอนฟังคำพูดของเขานะ

        ผมเลี่ยงการเจอหน้าเอเดน สั่งงานเขาเสร็จก็ไปทำงานของตัวเอง ให้เอเดนเก็บผักพร้อมขายของเขาใส่กระบะพลาสติกเตรียมไปขาย สมองถูกเติมเต็มด้วยเรื่องงาน ไม่นานเอเดนก็หายไปจากสารบบความคิด

        ผมเดินตรวจงานความเรียบร้อยตั้งแต่โซนรีสอร์ท หยุดพูดคุยกับแขกที่มาเที่ยวพักบ้าง ก่อนจะเข้าออฟฟิต วันนี้น้องลูกแก้วลูกสาวคนสวยของคุณขวัญตามาเที่ยวเล่นด้วย พอเห็นผมเด็กตัวน้อยก็รีบวิ่งมากอดผมทันที

        “อายอร์ช ลูกแก้วคิดถึง” เสียงใสพูดเจื้อยแจ้วซบหน้าที่ไหล่ขวา สองแขนกอดคอแน่น ลูกแก้วเป็นลูกครึ่งไทยเยอรมัน เห็นอายุแคหกขวบอย่างนี้ แต่เก่งมากๆเลยครับ พูดได้สามภาษา ไทยอังกฤษและเยอรมัน นี่เห็นว่าโรงเรียนจะเพิ่งวิชาภาษาจีนในหลักสูตร ภายภาคหน้าได้สี่ภาษาอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าผมมีลูกสาวผมก็อยากจะได้น่ารักๆและฉลาดแบบน้องลูกแก้วนี่แหละ

        “อายอร์ชก็คิดถึงลูกแก้วครับ ดูสิ ยิ่งโตยิ่งสวย” ผมหอมแก้มใสสองฟอดใหญ่ ก่อนจะพาเด็กน้อยไปนั่งเล่นในห้องทำงานของผม ให้เธอนั่งเล่นเกมส์ในไอแพตส่วนผมนั่งเคลียร์งานให้เสร็จ เพราะเมื่อสักครู่บอกกับลูกแก้วไว้แล้วว่าจะพาเข้าไปเล่นในไร่

        ผมใช้เวลาเคลียร์งานอยู่สองชั่วโมง ลูกแก้วดีดตัวลุกขึ้นทันทีที่เห็นผมปิดแฟ้มสุดท้ายลง เจ้าตัวเล็กถือไอแพตในมือมาคืนผมแล้วเกาะแขะให้พาไปเที่ยว

        “อายอร์ชงานเสร็จแล้วใช่ไหมคะ”

        “ใช่คะ”

        “งั้นเราก็ไปเล่นในไร่กันเถอะค่ะ”

        “มาครับ อ่ะขี้หลังอานะ” ผมนั่งย่อตัวลงให้ลูกแก้วปีนขึ้นหลัง ซึ่งลูกแก้วดูจะชอบเป็นพิเศษ

        ผมอุ้มลูกแก้วเดินไปเรื่อยๆแทนที่จะขับรถจี๊บเข้าไร่ บนหลังของผมคือสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มในชุดเสื้อลูกไม้แขนยาวสีฟ้าอ่อนกับกางเกงขายาวผ้ายืดสีน้ำตาลใส่สบาย ในมือถือร่มคันขนาดกลางให้ร่มเงาแก่เราสองคน โชคดีที่วันนี้เมฆเยอะแถมก้อนใหญ่ แสงแดดที่มักจะแผดเผาให้ผิวไหม้จึงอ่อนกำลังลงมาก

        มาถึงไร่ผมปล่อยลงลูกแก้วลงยืนด้วยตัวเอง เด็กก็วิ่งเข้าไปในไร่ คนงานเห็นก็ห้อมล้อมกันใหญ่เพราะรู้จักสนิทกันดีอยู่แล้วแม้ว่าลูกแก้วจะมาไม่บ่อย ทุกคนในไร่เห็นลูกแก้วมาตั้งแต่เกิดก็เลยให้ความรักใคร่เอ็นดู สักพักเจ้าตัวเล็กก็วิ่งกลับมาพร้อมองุ่นในมือหนึ่งพวง

        “อายอร์ช กินด้วยกันไหมคะ” มือเล็กป้อมเด็ดองุ่นหนึ่งลูกส่งให้ผม ผมย่อตัวอ้าปากรับ ลูกแก้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

        “อร่อยไหมคนเก่ง” ผมลูบผมยาวสลวย ลูกแก้วพยักหน้าหงึกหงักเคี้ยวองุ่นแก้มตุ้ย

        “อร่อยค่ะ” ลูกแก้วตอบยิ้มแก้มปริ

        ผมพาลูกแก้วเดินเล่นไปเรื่อยๆ ผ่านรีสอร์ทนักท่องเที่ยวที่เห็นความน่ารักของลูกแก้วก็เข้ามาทักทายมาคุยเล่น เด็กสาวก็ไม่มีท่าทีเขินอาย คุยกับคนไม่รู้จักเจื้อยแจ้วน่ารักน่าเอ็นดู จนอากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆเลยกะว่าจะพาลูกแก้วกลับไปที่สำนักงาน และเมื่อพาเดินอ้อมมาอีกฝั่งก็เจอเอเดนที่กำลังเก็บผักอยู่

        “ไงคุณ” เอเดนทักผม และสายตาก็เลื่อนมองเด็กตัวเล็กข้างๆ

        “อายอร์ช ฝรั่งนี่ค่ะ เฮลโล่คุณอาสุดหล่อ” ดูสิครับ เดินเข้าไปทักทายเอเดนเฉยเลย คนโดนทักหันมองมาทางผมและลูกแก้วที่โบกมือหยอยๆ

        เขาดูประหลาดใจที่เห็นผมอยู่กับเด็กเล็ก คิดๆแล้วก็อยากรู้เหมือนกันว่าเอเดนกับเด็กจะเข้ากันได้ไหม ผมก็เลยจูงมือเล็กเดินไปหาคนงานหน้าต่างชาติ

        “ลูกแก้วครับ นี่คุณอาเอเดนเป็นเพื่อนอายอร์ชเอง”

        “สวัสดีค่ะคุณอาเอเดน” ลูกแก้วยกมือไหว้พร้อมเอ่ยทักทายผู้ใหญ่เป็นภาษาไทย เอเดนที่ฟังไม่เข้าใจก็ได้แต่งุนงง

        “เอเดน นี่ลูกแก้ว ลูกกสาวของคุณกัญญา” ผมภูมิใจนำเสนอเต็มที่

        “ไฮ” เอเดนทักแกนๆ เมื่ออีกฝ่ายเหมือนจะให้ความสนใจ เด็กนิสัยร่าเริงเข้ากับคนง่ายก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปเล่นด้วย

        “what are you doing?” ร่างเล็กกระโดดเข้าเกาะแขนใหญ่ เอเดนสะดุ้งถอยหนี แต่เห็นผมมองอยู่เขาเลยไม่กล้าสะบัดเจ้าตัวเล็กออก หึหึ เอเดนกลัวเด็ก

        “I’m harvesting vegetables” เอเดนตอบเสียงสั่น

        “Wow, Could you hold me to see?” ลูกแก้วถามเสียงสูงอย่างสนใจ เอเดนทำหน้าเป็นปลาขาดน้ำ มองผมคล้ายจะขอความช่วยเหลือ

        “อุ้มแกสิคุณ” นอกจากผมจะไม่ช่วยแล้วผมยังแกล้งเขาซ้ำ เอเดนเลยเช็ดมือกับกางเกงตัวเอง อุ้มร่างเด็กน้อยขึ้นดูผักบนราง

        “อี๊ ผักใบเขียว ลูกแก้วไม่ชอบกินเลย อาเอเดนชอบเหรอคะ” ลูกแก้วไม่ชอบกินผัก เห็นทีไรทำหน้าหยีทุกที

        “ผักมีประโยชน์” เอเดนตอบหน้านิ่ง แขนข้างหนึ่งอุ้มลูกแก้ว อีกข้างก็เก็บผัก ผมเข้าไปช่วยเขาเก็บ เหลือเวลาอีกไม่มากเพราะเราต้องไปเปิดบูธอีก

        “แต่ลูกแก้วไม่ชอบ”

        “เด็กกินผักจะมีคนรักเยอะ” เอเดนว่า ผมเลิกคิ้วมองเขา ตำราไหนล่ะนั่น

        “ไม่จริง ลูกแก้วไม่กินผักก็มีคนรัก” ลูกแก้วแย้งแก้มป่อง

        “แต่มีคนรักน้อยกว่าคนกินผัก” เอเดนยังคงเถียงกับเด็ก ก่อนจะเด็กผักใบเขียวหนึ่งใบจ่อที่ปากผม ส่งสายตาให้ผมกินมันเข้าไปซะ ผมเองก็อยากให้ลูกแก้วกินผักบ้างเลยอ้าปากงับผักที่เอเดนปอนเข้าปาก

        “นี่ไง ยอร์ชกินผักก็จะมีคนรักเยอะ” เอเดนชี้ให้เด็กน้อยบนแขนเขาดูผม

        “ใครรักอายอร์ชเยอะกว่า ทุกคนรักลูกแก้วกับอายอร์ชเท่ากัน” ลูกแก้วเริ่มหน้างอ เอเดนยิ้มมุมปากใส่ผม

        “ก็ฉันไง ฉันรักอายอร์ชมากกว่าหนู เพราะอายอร์ชเป็นเด็กดี”

        ขะ เขา...!!!





        “คุณอยู่ขายไปนะ ตอนเย็นผมจะมารับ” ผมพูดกับเอเดนนิ่งๆ หลังจากที่ช่วยเขาตั้งบูธเสร็จ ขณะนี้เป็นเวลาบ่ายโมงครึ่ง เริ่มมีผู้คนมาเดินเล่นจับจ่ายใช้สอย

        ความจริงทีแรกก็ว่าจะอยู่ช่วยหรอกนะ แต่เพราะเขาดันมาทำท่าเจ้าชู้หว่านเสน่ห์ใส่ผมต่อหน้าลูกแก้ว เจ้าตอนนี้เขารู้กันทั้งไร่แล้วว่าพ่อหนุ่มตาเขียวร่างสูงจีบผมอยู่ มันน่านัก

        “คุณจะไม่ช่วยผมเหรอ!?” เขาอึ้งดูตกใจไม่น้อย

        “ไม่ คุณต้องทำเอง ขายให้หมดด้วยนะตามราคาที่ผมบอก ห้ามโกงเด็ดขาด ผมให้คนของผมจับตามองคุณอยู่”

        “นี่ยอร์ช คุณจะทิ้งผมอีกแล้วนะ!”

        “ไม่เอาน่า คุณโตแล้วนะ ถามจริงเถอะ ปกติที่คุณทำธุรกิจคุณงอแงแบบนี้ใส่เพื่อนคุณหรือเปล่า หรือที่ผ่านมาคุณต้องมีเพื่อนช่วยทำงานคอยโอ๋เป็นเด็กๆ” ผมถามเพราะอยากรู้จริงๆ ที่ให้เขาขายของคนเดียวส่วนหนึ่งคืออยากเอาคืน อีกส่วนคืออยากให้เขาลองทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง

        “ไม่...” เอเดนตอบหน้าบึ้ง คงงอนเข้าให้แล้ว “ผมแค่อยากให้คุณอยู่กับผม”

        พูดมาแบบนี้คนฟังอย่างผมก็แอบสงสารนะ แต่ยังไงผมก็ยังจะยืนยันเจตนารมณ์เดิม

        “แต่ผมก็มีงานของผมที่ต้องทำและนี่คืองานของคุณ”

        “...” เอเดนเงียบ ทำหน้าไม่พอใจอย่างเดียว

        “เข้าใจใช่ไหม” ผมถามอีกครั้ง เขาเบือนหน้าหนีแต่ก็พยักหน้าเข้าใจ

        “ก็ได้ ผมจะทำให้คุณเห็นว่าผมทำได้ด้วยตัวเอง และเผื่อคุณจะลืมไป ว่าผมอายุso7j’พันกับอีกร้อยยี่สิบเก้าปีนะครับ คิดว่าเรื่องแค่นี้คณามือผมหรือไง” เขาพ่นลมออกจากลำคอ

        “ครับคุณปู่ คุณเก่งมากครับ เชิญแสดงให้เห็นความเก่งกาจของคุณหน่อยก็แล้วกัน ขอให้โชคดีนะคนแก่”

        “ยอร์ช!”

        สงสัยจะไม่พอใจที่ผมว่าเขาแก่ แต่เขาก็แก่จริงๆนี่หรือใครจะเถียง

        “ถึงทีผมเมื่อไหร่ ผมจะเอาคือให้สาสม” เขากัดฟันพูด

        ผมยิ้มยั่ว “รออยู่ครับ”

        เอเดนถูกทิ้งให้ขายของถามกลางผู้คนมากมาย เขายืนหันซ้ายหันขวาทำหน้าไร้เดียงสา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นต่อสายหาใครสักคนที่ไม่ใช่ผม

        อันที่จริงผมไม่ได้มีงานที่ไหนหรอก และไม่มีลูกน้องคอยจับตาดูเอเดนด้วย มีแต่ตัวผมเองนี่แหละที่แอบมองเขาจากร้านกาแฟชั้นสองของฝั่งตรงข้ามลานที่พ่อค้าแม่ขายมาออกร้านกันอย่างครึกครื้น

        มือก็สไลด์ไอแพดดูนู่นนี่ไปเรื่อย ตาก็คอยมองเอเดน เขาดูได้รับความนิยมจากสาวๆเป็นอย่างมาก เพราะตอนนี้เขากำลังถูกผู้หญิงถ่ายรูป เห็นเขาพอจะขายของได้ผมก็เบาใจ บางทีผมเองอาจจะมองเขาผิดไป เอเดนอาจจะเอาแต่ใจ เอาตัวเองเป็นใหญ่และติดกับความสบายจนเคยตัว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นคนไม่เอาอ่าวทำอะไรเองไม่เป็น ถ้าเขาคิดจะทำอะไรเขาก็ทำมันออกมาได้ดี เสียที่ว่าที่ผ่านมาเขามักจะออกคำสั่งให้ลูกน้องไปจัดการเสียมากกว่า

        การนั่งอยู่เฉยๆ ทอดสายตาทิ้งไปยังจุดเดียวเป็นเวลานานๆก็ทำให้ผมรู้ความจริงบางอย่างว่าผมไม่เบื่อเลยที่จะจ้องมองเสน่ห์ของผู้ชายตัวสูงที่กำลังขายผักอย่างขยันขันแข็ง

        แม้ว่าเขาจะไม่ยิ้มแย้ม ทำหน้านิ่งๆ มือไม้หยิบผักใส่ถุงส่งให้ลูกค้า รับเงินมาและทอนกลับไป ไม่โวยวายที่มีคนมาถ่ายรูป พอถึงตอนไม่มีคนก็เดินไปซื้อน้ำผลไม้ปั่นใกล้ๆมาดื่มแก้กระหาย หรือถ้าหิวหนักหน่อยก็ไปซื้อBurger Truck มากิน

        เอเดนนั่งบนเก้าอี้ อ้าปากกัดเบอร์เกอร์คำโต มองซ้ายมองขวามองดูรอบตัว เหงื่อที่ไหลย้อยเพราะอากาศร้อนๆของเมืองไทย ในเมื่อไม่มีผ้าเช็ดหน้าก็เลยใช้หลังมือซับเหงื่อแทน มีบางครั้งที่เขาฝากฝังให้แม่ค้าบูธข้างๆดูร้านแล้วปลีกตัวออกไปทำอะไรไม่รู้ ผมคาดเดาว่าเขาน่าจะไปเข้าห้องน้ำ ผมมองพฤติกรรมของเอเดนแล้วรู้สึกสงสารและเอ็นดูไปพร้อมๆกัน โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองนั่งยิ้มเป็นคนบ้า

        จนกระทั่งเขาขายผักจนหมดในเวลาห้าโมงกว่าๆ โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ผมกดตัดสายทิ้งแล้วส่งข้อความไปแทนว่ากำลังจะถึง เขาก็เลยส่งข้อความมาเร่งพร้อมบอกด้วยว่าร้อนและเหนื่อย ก็เห็นๆอยู่หรอกน่า

        ผมยังคงนั่งดูดกาแฟปั่นแก้วที่สองของวันต่ออีกครึ่งชั่วโมงค่อยทำเนียนขับรถไปจอดไว้ใกล้ๆแล้วเดินไปหาเอเดน พอเห็นผมเขาก็ลุกขึ้นยืนยิ้มกว้าง ไม่เห็นใจคนมองว่าจะแสบตากับรอยยิ้มที่สว่างไสวของเขาหรือไม่ แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่เขาได้ใจผมไปมากกว่าครึ่งแล้ว

        “คุณมาช้า” แม้จะบ่นแต่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดีใจ

        “ก็มาแล้วไงครับ” ผมบอก

        “ผมขายหมดเกลี้ยงเลยเห็นไหม”

        ผมละอยากจะหลุดคำกับการโอ้อวดเป็นเด็กๆของเอเดน แต่ขอเก็บอาการไว้สักหน่อย

        ผมช่วยเอเดนเก็บของและขนขึ้นรถ ขามาเขาเป็นคนขับ ขากลับผมขับเองให้คนตัวใหญ่เอนกายนอนพักให้หายเหนื่อย และเมื่อขับออกนอกเมือง ผมก็ปิดแอร์และเปิดกระจกรถแทน สายลมตีเข้ามาในรถพอให้เย็นสดชื่น เอเดนเอียงหน้ามาทางผม เขายกยิ้มทั้งๆที่ตาปิด ผมเลยพลอยยิ้มตามไปด้วย

        กลับมาถึงบ้านสิ่งแรกที่เอเดนทำหลังจากชวนขนของลงแล้วคือรีบวิ่งกลับเข้าบ้านไปอาบน้ำ ให้ตายเถอะ เหลือเกินจริงๆ

        ไหนๆผมก็ไม่ต้องเข้าไร่อีกก็เลยขึ้นไปอาบน้ำล้างตัวด้วยเหมือนกัน ก่อนจะลงมาทำอาหารอร่อยๆเป็นรางวัลให้งูแก่ทานแทนของรางวัล

        วันนี้เขากินมื้อเย็นไปสามจานพูนๆ กับข้าวสี่อย่างที่ผมทำเกลี้ยงจานเกลี้ยงหม้อ ผมเองเต็มที่สองจานก็โบกมือลาแล้ว แต่เอเดนดูท่าจะไม่อิ่มด้วยซ้ำ เห็นเขาพึมพำกับตัวเองว่าต้องไปหาเหยื่ออะไรสักอย่างที่ผมแอบฟังแต่ได้ยินไม่ถนัด

        เราย้ายจากโต๊ะกินข้าวมารที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูทีวีและพักผ่อน เอเดนเล่าว่าคนมาซื้อเยอะ ผักมีน้อยเลยไม่พอขาย ผมกะว่าให้เขาทำงานนี้ก็เป็นอันจบการทดสอบความอดทน หลังจากนี้จะให้เขาเข้าไปทำงานในโรงบ่มไวน์แทน งานที่เขารักและถนัด

        “อ่ะ ผมให้” ยอร์ชยื่นเงินปึกหนึ่งให้ผม

        “อะไร” ผมถาม แต่ก็พอรู้ว่าเงินตรงหน้าเป็นเงินที่ได้มาจากการขายผักในวันนี้

        “ผมให้คุณ เงินที่ขายผักได้” เขาบอก

        “ให้ผมเนี่ยนะ” ผมรับมานับ “ทำไมได้มาน้อยอ่ะ ต้องได้มากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ”

        อย่างน้อยๆเท่าที่ผมคำนวน น่าจะได้เกือบสองพันอยู่

        “ก็...เอาน่า...” เขาเลี่ยงไม่ตอบ ทำท่ามีพิรุธจนรู้สึกได้

        ผมหรี่ตาจับผิด “บอกมา”

        “ไม่มีอะไรหรอก” ยิ่งเขาหลบตายิ่งฟ้องว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ

        “พูดสิ” ผมขยับนั่งหันหน้าเข้าหาเขาเพื่อแสดงว่าผมจริงจังและต้องรู้ความจริงให้ได้

        “ผม...” เอเดนอึกอัก

        “ผมอะไร”

        เขาถอนหายใจแล้วก็กรอกตาอย่างเหนื่อยอก “ผมเอาเงินไปให้ลุงคนหนึ่งตอนที่ไปเข้าห้องน้ำ แกไม่ใส่เสื้อและผอมแห้ง แกยกมือไหว้แล้วพูดอะไรสักอย่าง ผมเดาว่าแกน่าจะหิวข้าว” เขาเกาแก้มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อยามที่พูด ผมใจกระตุกวูบ รู้สึกตื้นตันในใจอย่างประหลาด

        “คุณก็เลยเอาเงินให้เขา”

        “อืม”

        ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้ม

        “ก็แค่นี้ ทำเป็นอมพะนำ”

        “ก็ผมเขิน” เขายอมรับโต้งๆ คราวนี้ผมหลุดขำเลยโดนเจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตค้อนขวับเข้าให้

        “หะๆ ทำความดีน่ะไม่ต้องเขินหรอกคุณ ไว้ทำความชั่วแล้วค่อยรู้สึกระอาย ผมดีใจนะที่คุณรู้จักเมตตาคนอื่น” ผมตบบ่าเอเดนให้กำลังใจให้เขาทำความดีต่อไป

        “งั้นเงินนี่คุณก็เก็บไว้เถอะ เงินก้อนแรกที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงเลยนี่น่า” ผมส่งเงินคืนให้เขา แต่เอเดนดันมือผมกลับ

        “ไม่ ผมให้คุณ”

        “คุณจะให้ผมทำไม”

        “ให้ว่าที่เมีย ยังไงวันหนึ่งผมที่เป็นสามีต้องเลี้ยงคุณอยู่แล้ว ก็ให้ไว้ก่อนเลยแล้วกัน” เอเดนวางมาดกวนยักคิ้วข้างเดียวมองผมดวงสายตากรุ่มกริ่มเจ้าเล่ห์ ผมเลยทุบแขนเข้าให้

        “เอเดน!”

        “เรียกทำไมเสียงดัง ผมอยู่แค่ตรงนี้เอง” ทีนี่เขาเป็นฝ่ายหัวเราะร่า

        “ก็คุณพูดจาเพ้อเจ้อ” ใบหน้ายังร้อนวูบวาบไม่หาย เป็นเมียเขาเนี่ยนะ กระดากใจชะมัด

        “เพ้อเจ้อตรงไหน ผมพูดความจริง”

        “เหอะ” ผมหยุดต่อล้อต่อเถียง ไม่ให้เขาแกล้งผมไปมากกว่านี้

        “ไม่ค้านนี่คือยอมรับแล้วใช่ไหมว่าจะยอมเป็นเมียผมน่ะ” แต่เอเดนกลับไม่หยุด

        “ไม่” ผมลุกเดินหนีไม่อยากจะคุยด้วย ขึ้นห้องนอนดีกว่า แต่เสียงหัวเราะของเอเดนยังคงตามมาข้างหลังจนน่ารำคาญ ผมเลยหันไปขึงตาใส่เขากะว่าถ้ายังไม่หยุดหัวเราะจะชกปากสักทีสองที

        “หัวเราะทำไม” ผมถามอย่างเอาเรื่อง คนที่ทำผมเขินไม่ได้รู้สึกผิดเลยสักนิด

        “คุณน่ารัก” เอเดนเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ผมว่าจะไม่ก้าวหนี แต่พอหน้าของเขาจะชนกับใบหน้าของผม เท้าก็ก้าวขยับหลบหนีเอง ถอยห่างไม่กี่ก้าวก็มาถึงทางตัน

        บทละครน้ำเน่ามีอยู่จริง ประเภทเดินถอยหลังมาชนกำแพงจนไร้ทางหนี แล้วก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย

        “ยอมรับเถอะ ยังไงคุณก็ต้องอยู่ใต้ร่างผม”

        ถึงผมจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ไม่เคยหน้าด้านพูดเรื่องใต้สะดืออย่างโจ่งแจ้ง

        “ยอร์ช” เขาเรียกชื่อผมเป็นเสียงกระซิบ บรรยากาศไม่น่าไว้วางใจอย่างมาก แต่เพราะไม่อยากดูสาวแตกก็เลยทำเป็นหน้านิ่งไม่ถอยห่าง เขาผู้ชายผมก็ผู้ชายมีอะไรต้องกลัว

        “ผมยังไม่ดีอีกเหรอ”

        ผิดคาด ผมคิดว่าเขาจะทำท่าทางทะลึ่งตึงตังใส่ แต่กลายเป็นบทดราม่าแทนซะงั้น

        “อะไรของคุณ” ผมถาม มองสบดวงตาที่แสนจะเว้าวอนของเขาพาลเอาใจอ่อนยวบ ร่างกายหมดสิ้นแรงขัดขืนแม้ว่าเขาจะก้าวขยับเข้ามาใกล้ก็ไม่ได้ออกแรงดันออก ปล่อยให้ผิวกายบางส่วนของเราสัมผัสกันจนเกิดประกาบไฟร้อนวูบวาบบนผิวหนัง

        “ผมเป็นเด็กดีของคุณหรือยัง”

        เขาถามมาแบบนี้ผมก็พูดไม่ออก

        “ว่ายังไง ผมเป็นเด็กดีบ้างหรือยังในสายตาคุณ” ผมเชื่อว่าหากใครโดนเอเดนพูดจาเสียงอ่อนใสคงไม่กล้าใจร้ายปฏิเสธ

        “อืม” ผมครางตอบในลำคอ

        “อืมอะไร” ถึงอย่างนั้นเอเดนก็ยังไม่พอใจในคำตอบ

        “คุณดีแล้ว นี่ เอาหน้าออกไปห่างๆหน่อยเถอะครับ” ผมว่าเข้าให้เพราะจมูกสูงโด่งของเขาจะจิ้มหน้าผมเข้าให้อยู่รอมร่อ

        “ไม่อยากห่าง อยากอยู่ใกล้ๆ” แล้วไม่เข้าใจว่าทำไมตอนพูดต้องทำเสียงกระเส่า

        “คุณกลายเป็นคนพูดมากตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกติคุณไม่ใช่คนเปิดเผยความรู้สึกพร่ำเพรื่อไม่ใช่หรือไง”

        เอเดนหัวเราะ “ไม่หรอก คุณรู้ดีว่าผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร ผมคิดยังไงพูดและแสดงความรู้สึกออกมาแบบนั้น”

        ใช่สินะ ตอนเขาเกลียดอาซาก็แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งทั้งความรู้สึก สีหน้าท่าทางและคำพูด แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ ผมตั้งรับไม่ทัน เอเดนที่หวานเลี่ยนยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าผมรับมือไม่ไหว

        “ถ้าผมดีแล้ว คุณจะเลื่อนขั้นให้ผมได้หรือยัง” ช่างเป็นการทวงถามที่เอาแต่ใจ แต่ผมไม่ยักนึกโกรธ แค่หมั่นไส้เล็กน้อย

        “ไม่อยากเป็นคนปลูกผักแล้วเหรอครับคุณเอเดน”

        “ผมจริงจังนะยอร์ช” เอเดนทำดุทั้งสีหน้าและคำพูด ผมยิ้มแห้งๆ

        “ขอโทษ”

        “ว่ายังไง เลื่อนขั้นให้ผมหน่อยสิ นะ”

        เขาอ้อน และผมต้านไม่ไหว ไม่เคยรู้ตัวว่าความโกรธที่มีต่อเอเดนเลือนหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็อยากให้เขาเป็นคนดี ทั้งที่อยากจะแก้แค้นแทนโยชิและอาซา เอาคือให้สาสม สุดท้ายตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมมีแต่ความหวังดีให้กับพ่องูจอมร้าย

        ผมคิดหนักเล็กน้อย แต่ก็เลือกที่จะตอบให้อีกฝ่ายดีใจ “ก็ได้”

        “เยส” เอเดนตะโกนดีใจดึงตัวผมเข้าไปกอดแล้วกดริมฝีปากจูบแก้มผมฟอดใหญ่ลงท้ายด้วยกดจูบหนักๆบนริมฝีปาก

        “ถ้างั้นตอนนี้เราเป็นคนพิเศษที่ดูใจกันอยู่นะ โอเคไหม”

        เขาพูดเองเออเอง แต่ความต้องการของเขาค่อนข้างทำให้ผมประหลาดใจ เอเดนเป็นคนโลภมาก ผมไม่คิดว่าเขาต้องการเพียงเท่านี้

        “คนพิเศษที่ดูใจเหรอ” ผมทวนถามเผื่อว่าจะฟังผิด 

        “ก็ใช่ไง หรือคุณต้องการมากกว่านั้น งั้นเราจะเป็นสามีภรรยากันเลยไหม”

        “เกินไปคุณ คนพิเศษก็พอ”

        อาจจะดูเป็นการใจร้าย แต่บางอย่างในใจผมดึงรั้งเอาไว้ให้อยู่เพียงเท่านี้ ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบเอเดน และบางทีอาจถึงขั้นรัก แต่ว่า...เมื่อเราโตขึ้น สตินึกคิดก็เพิ่มตามไปด้วย ผมตระหนักรู้ดีถึงความจริงที่ว่าเราไม่ควรคู่รักกัน เขาเป็นอะไรผมเป็นใคร เราต่างกันแค่ไหน ตอนนี้ผมยังไม่อาจก้าวข้ามกำแพงที่ว่าได้ แต่เพราะอยากมีความสุขไม่อยากปิดกั้นตัวเองถึงได้ยอมเขามากเกินที่ควรเป็น

        ดังนั้นแล้ว ขอเวลาผมอีกหน่อยให้เข้มแข็งมากพอที่จะก้าวข้ามทุกกฏเกณฑ์ต่างๆเพื่อใช้ชีวิตกับมนุษย์งูราวกับว่าเราไม่มีอะไรต่างกัน

        ราวกับว่าเราทั้งสองไม่ได้ทำผิดธรรมชาติ

        ราวกับว่าเราสองคนไม่ได้ทำสิ่งผิดบาป

        ราวกับว่ามันสมควรแล้วที่เราจะรักกันตลอดไป

        “ผมรู้ว่าคุณยังคงไม่เชื่อใจในตัวผมอีกหลายอย่าง แต่ขอให้เชื่อ ทุกอย่างที่ผมทำที่ปรับปรุงสันดารแย่ๆของตัวเองก็เพราะคุณ”

        “ขอบคุณที่เข้าใจผม”

        “แน่นอน ผมเข้าใจคุณอยู่แล้วว่าคุณชอบผม”

        ความโรแมนติกหายวืดไปกับความกระล่อนของคนที่กอดผมอยู่ แต่ไม่เป็นไร เพราะผมเองก็รู้ว่าเขารักผมมากเช่นกัน




        ...................................
        ไม่มีอะไรจะพูดมาก พี่ยอร์ชไม่ใช่ว่าอยากใจร้ายหรืออะไร เพียงแต่อีกฝ่ายที่เป็นครึ่งคนครึ่งงู การยอมรับในความไม่เหมือนกันมันเลยทำใจยากเล็กน้อย แต่เท่านี้ก็ถือว่าใจอ่อนลงมากแล้วนะตัว  :impress2:
        เบื่อคู่นี้จริงๆ มีแต่จะหวาน ไม่มีดราม่าไม่ว่ากันเนอะ ไม่ค่อยถนัดต้มมาม่าพูดเลย 555 :laugh:
        เหลืออีกสองตอนเท่านั้นนะคะสำหรับตอบพิเศษเอเดนกับยอร์ช เพราะอยากที่แจ้งในโพสรวมเล่มแล้วว่าจะลงแค่ 12 ตอนเท่านั้น ที่เหลืออีกประมาณ 10+ ตอนจะอยู่ในหนังสือเท่านั้นนะคะ  :katai2-1:
        และตอนพิเศษต่อจากเอเดนยอร์ชจะเป็นพี่เติร์ดกับน้องแมวเหมียวปุยเมฆนะคะ
        ป.ล. หากมีคำผิดขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ
        ป.ล. 2 ตอนหน้ามาฟังพี่เอเดนบรรยายกันบ้างเนอะ  :katai3:
        ขอขอบพระคุณทุกคอมเม้น ทุกการติดตามค่ะ         :L2: :กอด1: :L1:

หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 26-11-2015 22:08:07
 :-[  โอ๊ยยย งูหนุ่มน่ารักแบบนี้ หาได้จากที่ไหนเนี่ย อยากได้ๆๆๆๆ  :ling1:  เอเดรเทคโฮม 1 ที่ คร่าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 26-11-2015 23:25:49
อ้ายยยยยยย
เอเดนน่าร้ากกกกก :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 27-11-2015 00:40:17
 :-[ ได้เลื่อนขั้นแล้วนะเอเดน เห็นพี่ยอร์ชใจอ่อนยวบแบบนี้ ก็รอวันที่จะได้อยู่ใต้ร่างเอเดนไปเลย 555 :z1:
ปล. พยายามเก็บเงินไว้ซื้อหนังสืออย่างแข็งขัน 555 แต่ช่วงนี้อะไรไม่เป็นใจซะเลยอีเว้นเยอะเกิ๊นนน  :really2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 27-11-2015 08:16:10
พี่ยอร์ชเลื่อนขั้นให้ละนะเอเดน
ดีใจด้วยยยย
แต่ก็นะ พ่องูมันน่ารัก
มาโดนตื้ออย่างงี้ใครมันจะไปใจแข็งได้เนอะพี่ยอร์ช
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 27-11-2015 11:17:09
หวานจนตัวลอยแล้ว ฟินน  :heaven
ยอร์ชเลื่อนขั้นให้เอเดนแล้ว
ตอนหน้าเอเดนจับกดเลยค่ะ เอ๊ยยยย
 :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 27-11-2015 15:42:47
เขิลลลลล กรี๊ดด มันน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 27-11-2015 17:45:47
ทีมเอเดน ฮิ้้วววว. เฮียสมหวังแล้วว ิอิๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 27-11-2015 19:39:29
กลับมาอ่านย้อนตั้งแต่แรกก็ยังฟินเหมือนเดิม ปูเอดนน่ารัก ฮือออ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 28-11-2015 15:17:10
เอเดนสู้ๆ จีบเด็กต้องขยันนะ 5555555555555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: 14th-friedegg ที่ 29-11-2015 00:45:39
โอ้ยยยยย หวานหวานมากคะ

พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก ตกหลุมรักเลยยย

ตอนแรกไม่ชอบเอเดนเลยนะ
แต่ก็อย่างว่าไรไม่เคยไปอยู่จุดเดียวกับเขาเพราะฉะนั้นเราก็ไม่มีทางที่จะรู้สึกถึงความรู้สึกจริงๆ ของเขาได้หรอก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 29-11-2015 20:28:58
อ่านรวด ตั้งแต่ภาคหนึ่งและภาคสอง ชอบมากๆค่ะ อ้ายยยยยยยยย
ขอบคุณที่เขียนนิยายสนุกมาให้ชื่นมื่นหัวใจ
ติดตามอ่านนิยายคุณริริมาสักพักแล้ว พลาดเรื่องนี้ไปได้ไงนะ
กระชุ่มกระชวยจริง จะวาปไปอ่านพี่เสือหมอหื่นด้วยอิอิ

 :กอด1: :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 29-11-2015 21:10:51
ปรบมือค่ะ!! ได้เลื่อนขั้นแล้ว

เพราะเอเดนเป็นเด็กดี หุหุ ชอบคำนี้จังเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 01-12-2015 03:56:48
เอเดนนะกว่าจะได้เลื่อนขั้น เป็นเด็กดีของยอร์ชไปนานๆนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: The darkness ที่ 03-12-2015 11:42:45
ช็อคนะเนี่นที่เอเดนชอบแมว คือลักษณะ นิสัย เฮียแกไม่ให้เลยนะ มุ้งมิ้งเกินไป  o22
 
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 10-12-2015 20:35:28

กลิ้งรอคุณริริมาต่อ    :katai5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 12-12-2015 09:07:12
มานอนรอยคอ  :t3: คิดถึง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TEN❁26-11-15 [P.68] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 14-12-2015 20:23:52
ได้เลื่อนขั้นแล้วนะ เอเดน ดีใจด้วย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 22-12-2015 22:21:16
R.E.V.E.N.G.E
[/color][/size]
ELEVEN[/font][/center]







        ADEN

        ผมมองตามแผ่นหลังของยอร์ชที่เดินห่างออกไป เหลือเชื่อเลย เขาทิ้งผมให้อยู่คนเดียวในสถานการณ์แปลกๆอีกแล้ว ถึงผมจะอยู่มานานเป็นพันปี แต่ไม่เคยมีเสี้ยววินาทีไหนที่ผมจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ ขายผัก...ให้ตายเถอะ เสียชื่อคนอย่างเอเดนชะมัด

        ผมกดโทรศัพท์ต่อสายหาเพื่อนอย่างไอ้เบน ดีที่มันรับสายเร็วไม่ให้ผมหงุดหงิดไปมากกว่านี้ แต่จะให้ทำยังไงได้ ถ้าผมไม่รักผู้ชายที่ชื่อยอร์ชจริงๆ ผมก็คงไม่ยอมขนาดนี้

        ผมว่าผมเปลี่ยนไปจนน่าหัวเราะว่าไหม

        “โทรมามีอะไร อย่าบอกนะว่ายังมัดใจชายไทยนิสัยดีคนนั้นไม่ได้ น้องยอร์ชใช่ไหม”

        ผมว่าผมอาจจะคิดผิดที่เลือกโทรหาเบนแทนที่จะเป็นชาร์ล จะได้เรื่องหรือเปล่าผมชักไม่แน่ใจ

        ผมกรอกตาเล็กน้อย รับรู้ถึงสายตาคนรอบข้างที่มองมาแต่ผมไม่สนใจเพราะตอนนี้กำลังหงุดหงิดอยู่

        “แกคิดว่าคนอย่างฉันจะกระจอกขนาดนั้นหรือไง”

        “แล้วแกได้เขาหรือยังล่ะ” มันสวนกลับมา

        ผมเลยได้แต่นิ่ง

        “เห้ย เงียบนี่คือฉันพูดเรื่องจริงเหรอ แกยังไม่ได้แอมน้องยอร์ชอีกเหรอวะ” ไอ้เบนทำเสียงตกใจจนหน้าหมันไส้

        “เขาเรียกว่าให้เกีรยติเว้ย” ผมโกหกใครจะอยากให้มันรู้กันว่าผมทำให้ยอร์ชใจอ่อนด้วยไม่ได้ ทั้งๆที่ตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตมาไม่เคยมีใครปฏิเสธเสน่ห์ของผมได้สักคน เน้นย้ำว่าไม่มี ยอร์ชเป็นคนแรกที่ทำให้ผมหัวหมุนเป็นเด็กน้อยริรักได้ขนาดนี้

        เหอะ ทุกวันนี้ผมเฉียดเข้าห้องเขาได้ที่ไหน ขู่ฟ่อๆเตรียมจะกัดท่าเดียว

        “พอๆ ฉันไม่ได้จะโทรไปหาเพื่อให้แกซักไซ้เรื่องคนของฉัน” ผมตัดบทก่อนที่จะออกนอกเรื่องไปมากกว่านี้

        “แล้วแกโทรหาฉันมีเรื่องอะไร ฉันยังไม่ได้ด่าแกเลยที่โทรมากวนเวลาพักผ่อนของฉัน”

        “เออน่า ฉันแค่อยากให้แกช่วยอะไรฉันหน่อย”

        “ช่วย? ว่ามาเลยเพื่อน” น้ำเสียงของเบนกะตือรือร้นเป็นอย่างมาก

        “ยอร์ชให้ฉันมาขายผักที่ตลาดนั้น เขาทิ้งฉันไว้กับแผงร้านและผักจำนวนหนึ่ง ถึงฉันจะเป็นนักธุรกิจ แต่แกเข้าใจใช่ไหมว่าฉันไม่เคยขายของแบบนี้มาก่อน”

        “อ่า ก็คงยากพอควร”

        “เออ เพราะฉะนั้นแกต้องช่วยฉัน”

        “ช่วยยังไง”

        นั่นไง ผมว่าแล้วว่าผมต้องคิดผิด

        “ฉันว่าฉันโทรหาไอ้ชาร์ลน่าจะดีกว่า” ผมเตรียมจะกดวางแต่เสียงร้องห้ามของเบนดังลอดมาตามสายเสียก่อน

        “เฮ้ยๆ เดี๋ยวดิวะเอเดน อย่าวางสายนะโว้ย”

        “เออ”

        “ก็ไม่ยากหรอก แกก็ใช้เสน่ห์ให้เป็นประโยชน์ คือร้านเปิดแผงคล้ายๆตามงานเฟสติวัลประจำปีใช่ไหม แต่ก็เอาผักมาวางบนแผง แล้วก็ทักทายคนที่เดินผ่านไปมา”

        “ต้องทักทายด้วยเหรอวะ” ผมรีบถามแทรก เพราะผมคิดภาพตัวเองกับสิ่งที่เบนบอกไม่ถูก ทักคนที่ไม่รู้จักเนี่ยนะ ให้ตายก็ไม่ทำหรอก ผมไม่เคยทำ

        “เออดิ ก็แบบ สวัสดีครับ สนใจผักสดๆไหมครับอะไรแบบเนี้ยอ่ะ”

        “ฉันพูดไทยไม่ได้เผื่อว่าแกจะลืม”

        “เออวะ” มันทำเสียงเหมือนตกใจ “ แต่ก็ภาษาอังกฤษก็ได้ พูดไปเถอะ นี่สมัยไหนแล้ว น่าจะมีคนฟังออกแหละ”

        “อืม” ผมได้แต่หวังว่าจะเป็นแบบที่ไอ้เบนว่า

        “อย่างต่อไปก็ อย่าทำหน้าโหด ฉันรู้นะเว้ยว่าแกไม่ชอบยิ้ม แต่ทำหน้าเฉยๆก็พอ ไม่งั้นลูกค้าไม่เข้าร้านแน่ๆ”

        “อืม แล้วไงต่อ” ผมถามโดยใช้น้ำเสียงที่ติดจะเร่ง เพราะเริ่มจะร้อน อากาศช่วงบ่ายของเมืองไทยนรกที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ผมเป็นคนติดอากาศเย็น อากาศร้อนจัดเป็นของแสลง

        “ก็นั่นแหละ พอมีลูกค้ามาซื้อ แกก็พูดกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ ทำไม้ทำมือก็ได้ ขายไปรับเงินทอนตัง เอาผักใส่ถุง ง่ายๆนะ แกทำได้” เบนพูดให้กำลังใจเหมือนผมเป็นเด็กตัวเล็กๆ

        ข้อดีของเบนอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมคบมันเป็นเพื่อนก็คือ ต่อให้ปกติจะเป็นคนขี้เล่นที่กวนประสาทคล้ายจะพึ่งพาไม่ได้ แต่ถ้าถึงเวลาที่ผมต้องการการช่วยเหลือหรือคำแนะนำอย่างจริงจัง มันจะช่วยผมอย่างเต็มที่ ให้กำลังใจและหยุดที่จะล้อ ซึ่งทำให้ผมไม่รู้สึกแย่มากนักที่บางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องง่ายของคนอื่นแต่ผมทำไม่ได้

        “ขอบใจ”

        “อืม โชคดีเผื่อ ได้ผลยังไงอย่าลืมรายงาน แล้วก็ขอให้เผด็จศึกน้องยอร์ชได้ในเร็ววัน อย่าลืม หยอดได้หยอดไป คิดถึงตอนที่แกจะได้กอดเขา แกก็จะทำได้เอง หวานเข้าไว้รับรองว่ารายไหนก็ไม่รอด สู้ๆ” เบนร่ายยาวทิ้งท้ายก่อนจะรีบวางสายเพราะบอกว่าง่วงนอน

        ก็อย่างที่อีกฝ่ายพูดนั่นแหละ คนอย่างผมหวานได้อ้อล้อเป็นก็เพราะไอ้เบนที่แหละที่เป็นครูสอนให้ผม ไม่อย่างนั้นทุกวันนี้ผมอาจจะไม่ได้จูบจากยอร์ชเลยสักจูบก็ได้ ตอนแรกที่มันแนะนำผมก็ค้านหัวชนฝา แต่พอลองเข้าจริงผลลัพธ์มันดีกว่าที่คิด ทีนี้ผมก็เลยกลายเป็นคนหน้าด้านไม่ลังเลที่จะทำตัวในแบบฉบับที่เรียกได้ว่าไม่ใช่ตัวของตัวเอง

        ผมยืนทำตัวไม่ถูกอยู่สักพัก ก็มีผู้หญิงสองคนเดินมายืนหน้าร้าน พวกเธอมองผมก่อนจะยิ้มเขินอาย ผมเข้าใจความหมายของอาการเหล่านั้น เธอสอบถามเรื่องผักและซื้อกันไปคนละเล็กน้อย จากนั้นก็ขอถ่ายรูปกับผม ทีแรกผมคิดจะปฏิเสธเพราะผมไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้ แต่สุดท้ายผมก็ยอมให้เธอถ่ายรูปแบบหน้านิ่ง อย่างน้อยพวกเธอก็ยังมาช่วยผมซื้อผัก

        ผ่านไปสักพักผมก็เริ่มจับจุดได้ โอเค มันไม่ได้เลวร้ายเสียทีเดียวหากไม่นับอากาศร้อนๆและความไม่คุ้นเคยที่จะต้องให้บริการใครในฐานะคนขาย เพราะเมื่อก่อนที่ผมดำรงตำแหน่งเจ้าของร้านไวน์ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งผมก็แค่ชี้นิ้วสั่งเท่านั้น ไม่เคยต้องออกมารองรับลูกค้าหรือให้บริการด้วยตัวเอง หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ผมเป็นนากินีตัวตนที่แท้จริงของผม ผมก็เป็นหัวหน้าที่มีลูกน้องนับพันตนที่คอยจะรับคำสั่งผมตามแต่ที่ผมต้องการ ผมอยู่กับอำนาจมาจนเคย พอตองมาเป็นเบี้ยตัวเล็กไร้อำนาจก็ทำให้เซอยู่บ้าง แต่คนที่สอนให้ผมยอมรับได้ก็คือคนเดียวที่ผมยอมรับให้เข้ามาอยู่ในใจ

        ผักที่ผมนำมาขายพร่องไปกว่าครึ่งก็รู้สึกหิว เห็นรถขายเบอร์เกอร์ตั้งร้านขายอยู่ใกล้ๆกันผมก็เลยไปซื้อเบอร์เกอร์มากิน รสชาติไม่เลว ผมยกหลังมือซับเหงื่อ ทานจนหมดก็อยากเข้าห้องน้ำ และไม่สามารถทนกลั้นเอาไว้ได้ ผมจึงต้องฝากเจ้าของร้านข้างๆดูร้านให้แล้วรีบไปเข้าห้องน้ำ แต่หลังจากที่ทำธุระเสร็จกำลังจะเดินกลับไปที่ร้าน ผมเจอชายคนหนึ่งที่จัดอยู่ในประเภทโฮมเลส ผมเจอคนไร้บ้านไร้ครอบครัวมาเยอะมากกว่าหมื่นกว่าแสนคน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมจะรู้สึกเหมือนครั้งนี้

        ผมไม่เคยนอนข้างถนน ผมนอนพักในบ้านตัวเองตลอด หรือถ้าจะพักที่อื่นก็ต้องที่ดีๆที่สะดวกสบาย ได้อาบน้ำทุกครั้งที่รู้สึกไม่สบายตัว ต่างจากชายคนนี้ที่เนื้อตัวดำจากเศษดินเศษฝุ่น เสื้อผ้าสกปรกยิ่งกว่าผ้าขี้ริ้วเสียอีก ถ้าเป็นผมคงทนไม่ได้ แต่กับคนที่ไม่มีเงิน หากจะเอาเงินไปซื้อเสื้อผ้าเอาไปซื้อข้าวกินไม่ดีกว่าเหรอ รูปร่างของชายคนนี้ผอมซูบเกินกว่าที่จะได้กินอาหารครบทุกมื้อ ทำให้ผมนึกถึงเมื่อสักครู่ที่ผมเพิ่งจะกินเบอร์เกอร์เข้าไปจนอิ่ม แค่นิดเดียวผมยังทนไม่ไหว ถ้าหากผมต้องอดมื้อกินมื้อมันจะเป็นอย่างไร คงทรมานมาก

        ผมหยุดยืนมองนิ่ง มองทุกการกระทำของชายผู้นั้นที่ยกมือไหว้ทุกคนที่เดินผ่าน บางคนเดินหนีบางคนหยิบยื่นเศษเงินให้ สิ่งเดียวที่ผมคิดในตอนนี้คือ ถ้ายอร์ชมาเห็นผู้ชายคนนี้ยอร์ชจะทำอย่างไร เพราะตัวผมเองผมไม่รู้หรอกว่าควรทำอย่างไรดี

        และน่าอัศจรรย์ใจที่เมื่อผมนึกถึงยอร์ช ผมกลับเดาได้ว่าเขาจะต้องเข้าไปช่วยเหลือผู้ชายคนนี้อย่างแน่นอน คนจิตใจดีอย่างยอร์ช ต่อให้รู้ว่าคนที่กำลังเดือดร้อนทุกข์ยากจะเป็นพวกหลอกลวง แต่เขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือโดยที่ไม่หวังผมตอบแทน

        ขาของผมก้าวเข้าใกล้ชายคนนั้นโดยอัตโนมัติ ผมไม่ต้องคิดอะไร ลวงเงินที่ขายผักได้จำนวนหนึ่งให้กับเขา อย่างน้อยเงินจำนวนนี้ที่ไม่มีค่ากับผมเลยแม้แต่นิดอาจจะทำให้เขามีข้าวอีกได้สักสามสี่มื้อ

        แบบนี้หรือเปล่าที่ยอร์ชเคยบอกไว้...แบ่งปัน

        ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองหลุดยิ้มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จะโอเวอร์เกินไปหรือเปล่าถ้าผมจะบอกว่าผมกำลังมีความสุข ผมคิดว่าผมได้ทำความดีแล้ว และถ้ายอร์ชรู้เขาจะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวผมบ้างไหม

        ผมแค่อยากให้เขามองผมในแง่ดีบ้าง

        เกินคาด เมื่อเขารู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้

        ‘ถ้างั้นตอนนี้เราเป็นคนพิเศษที่ดูใจกันอยู่นะ โอเคไหม’

        ไม่มีอะไรที่ผมจะรู้สึกดีใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่ถ้าถามใจจริงผมก็อยากที่จะข้ามขั้นตอนไปเลย อยากทำให้ยอร์ชเป็นของผมแบบเต็มตัวซะ แต่ดูเหมือนว่ายอร์ชจะมีอะไรบางอย่างที่ปิดกั้นอยู่

        ถ้าเป็นผมคนเดิมคงไม่ต้องมานั่งใส่ใจความรู้สึกของอีกคนมากเท่านี้ แต่เขาทำให้ผมเปลี่ยนไปจนมองข้ามเรื่องเล็กน้อยที่เกี่ยวกับเขาไปไม่ได้

        หลังจากวันนั้นผมไม่ได้เป็นคนปลูกผักอีกต่อไป ผมเข้าไปทำงานในโรงบ่มไวน์แทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมถนัดมากที่สุด ผมมีความรู้ทางด้านพวกนี้ และผมถนัดงานที่ต้องใช้หัวคิดในการวางแผนมากกว่างานออกแรงด้านนอก แทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากก็ทำให้ยอร์ชมองเห็นความสามารถในตัวผมที่มีมากกว่าตัวเขาเอง พักหลังมานี้ยอร์ชจะเรียกผมไปปรึกษางานบ่อยมาก

        อย่างในคืนนี้ที่ยอร์ชมาคุยงานขยับขยายโรงบ่มไวน์ที่ผมเสนอไปที่ห้องของผม เผลอแปบเดียวเขามาหลับคาโต๊ะทำงานในห้องผมเสียได้

        และแน่นอนผมไม่ใช่ผู้ชายที่ดี เรื่องคิดจะฉวยโอกาสมีอยู่เต็มหัวสมอง และในเมื่อเหยื่อมานอนหลับตาพริ้มให้เชยชิมอยู่ตรงหน้าขนาดนี้คิดว่าผมจะโง่ปล่อยเขากลับไปนอนที่ห้องอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทาง

        ในเมื่อผมเข้าไปนอนที่ห้องเขาไม่ได้ ก็ให้เขานอนกับผมที่ห้องของผมก็สิ้นเรื่อง

        “กล้าหลับในห้องผมนี่ผมจะคิดว่าคุณเองก็ยิมยอมพร้อมใจนะยอร์ช” ผมกระซิบเบาก่อนจะอุ้มยอร์ชขึ้นไปนอนบนเตียง

        ผมยืนร่างโปร่งที่นอนหายใจสม่ำเสมอจากปลายเตียง กำลังคิดว่าเขาไว้ใจผมมากขนาดที่หลับสนิทแบบไม่รู้ตัวเลยเหรอ ผมถอดเสื้อยืดออกจากตัวเหลือเพียงกางเกงขายาว เพราะเป็นคนขี้ร้อนผมเลยไม่เคยใส่เสื้อนอนเลยสักครั้ง และกับอากาศเมืองไทย บางครั้งผมก็เปิดแอร์เย็นช่ำแล้วเปลือยกายนอนก็มี

        พอผมขยับตัวขึ้นเตียงคล่อมร่างยอร์ชเอาไว้ เขาขยับตัวเล็กน้อยแต่ยังคงหวงช่วงเวลาหลับใหลไม่ยอมตื่นขึ้นมาระวังตัวเอง วันนี้เขาวิ่งวุ่นทั้งวัน ทั้งไปส่งของด้วยตัวเองถึงสามที่ ก่อนจะไปตรวจเช็คตลาดในตัวเมืองและจังหวัดข้างเคียง กลับมาถึงไร่ก็ตอนเย็น แทนที่จะหยุดพักก็ไปช่วยคนงานคัดแยกองุ่นด้วยตัวเอง จากนั้นก็ลากผมไปคุยเรื่องงานในออฟฟิต กว่าจะกลับเข้าบ้านได้ก็ตอนที่คุณศิลาพ่อของยอร์ชออกมาตามไม่อย่างนั้นก็ทำงานไม่เลิก

        สุดท้ายแทนที่จะพักก็มาคุยเรื่องแผนงานใหม่กับผมที่ห้องอีก  อดทนไหวก็อึดเกินมนุษย์ปกติจะทำได้

        ชอบทำอะไรเกินตัว และมากกว่านั้นคือชอบทำให้ผมเป็นห่วง

        ใบหน้าของยอร์ชก็เหมือยผู้ชายปกติธรรมดาทั่วไปที่ดูจะแตกต่างคือจิตใจของเขาที่เอาชนะผมได้ แก้มใสที่ไม่ขาวมากเพราะทำงานตากแดดแทบทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีฝ้ากระหรือขี้แมลงวันกวนใจสักนิด กลิ่นหอมอ่อนๆที่โฉยออกมาจากเรือนร่างที่นอนนิ่ง ยิ่งก้มลงไปใกล้ยิ่งได้กลิ่น

        จุ๊บ

        “หอม” ผมพูดอย่างล่องลอย ไล้จมูกเกลี่ยแก้มใสทั่วใบหน้าทั้งซ้ายและขวา อดใจไม่ไหวกดจูบลงไปเน้นๆ และลงน้ำหนักแรงกดหนักขึ้นเรื่อยๆ

        “หมันเขี้ยว” ผมกัดแก้มยอร์ชแรงๆ แต่เขามีแก้มไม่เยอะเท่าไหร่ไม่เหมือนน้องชายเขา เจ้าตัวสะดุ้งและทำท่าจะปรือตาตื่นผมเลยใช้โอกาสนี้จูบลงบนริมฝีปากยอร์ชและเพิ่มจังหวะที่หนักหน่วงไม่ให้เขาได้ทันตั้งตัว

        ยอร์ชได้แค่ครางในลำคอ เขาดูสับสนงุนงงว่านี่คือความฝันหรือความจริง ผมลูบหลังกล่อมยอร์ชไปในตัว จากที่แสดงอาการขัดขืนก็ผ่อนคลายจนกลายเป็นโอนอ่อนตาม

        ริมฝีปากขยับกลืนกินความอ่อนนุ่ม ดูดดึงขบเม้มอย่างไม่รูจักเบื่อ กลีบปากของยอร์ชคล้ายผลไม้เชื่อมรสหวาน ยิ่งได้ส่งลิ้นเข้าไปทักทายถึงภายในยิ่งมีแต่จะถลำลึกกับรสชาติที่ได้สัมผัส

        เกิดเสียงจ๊วบจ๊าบสยิวหู ผมจูบจนอีกฝ่ายเกือบจะหายใจไม่ออก เลยต้องให้เขาได้พักหายใจ เปลี่ยนไปซุกไซ้ที่ซอกคอแทน ไล้เลีย ขบกัด และสร้างคิสมาร์ค ผมหวงทุกอย่างที่อยู่บนร่างกายนี้ คนๆนี้เป็นของผม มีแค่ผมคนเดียวที่สัมผัสเขาได้ และบนร่างของเขาจะต้องมีเพียงกลิ่นของผมเท่านั้นที่แสดงความเป็นเจ้าของ

        “อย่า ออกไป” เสียงของยอร์ชดังขัดการกระทำ แต่ผมก็ไม่ได้หยุด เลื่อนลงต่ำเลิกเสื้อยืดเนื้อบางขึ้นแล้วระดมจูบทั่วหน้าท่องที่มีกล้ามเนื้อร่ำไรอย่างคนออกกำลังกายเป็นประจำ

        “จะนอน!” ยอร์ชโวยวายเสียงเบาอีกครั้ง ผมเงยหน้าขึ้นดู เขายังไม่ตื่นดีแต่คงจะรำคาญที่ผมกวน

        “งอแง” ผมว่ายิ้มๆ ยกตัวขึ้นจูบยอร์ชอีกครั้งให้หนำใจ และคราวนี้ยอร์ชรู้สึกตัวตื่น เขาปรือตามองแบบงงๆ ผมเลยดึงร่างโปร่งเข้ามากอดไว้แน่นให้ใบหน้าของเขาแนบอยู่ที่อก

        หัวใจของผมเต้นแรง หวังว่ายอร์ชจะได้ยินว่าผมรู้สึกดีที่ได้นอนกอดเขาบนเตียงเดียวกัน

        “เอเดน” เขาเรียกชื่อผมเสียงง่วงงุน

        “นอนเถอะ คุณต้องพักผ่อน” ผมบอกทั้งๆที่เป็นคนก่อกวนการพักผ่อนของยอร์ชจนตื่น

        “ผม...จะกลับไปนอนที่ห้อง” ดูท่าว่ายอร์ชจะเริ่มได้สติ เพราะเขาเริ่มทำตัวเป็นสาวเวอร์จิ้นที่ไม่ยอมนอนห้องเดียวกันผู้ชายอย่างผม แต่จะว่าไปยอร์ชก็น่าจะเวอร์จิ้นอยู่ในฐานะของการเป็นภรรยา

        พอเขาเริ่มดิ้นและทำท่าจะลุกขึ้น ผมก็ออกแรงกอดเขาแน่นไม่ให้เขาขยับตัว แน่นอนว่ายอร์ชสู้แรงผมไม่ได้อยู่แล้ว

        “นอนที่นี่แหละ นอนกับผม” ผมพูดเสียงอ่อนให้ยอร์ชทำตามความต้องการ

        “แต่...”

        “นะ”

        “...”

        “นอนกับผมนะยอร์ช”

        “อืม”

        ยอร์ชผ่อนอาการเกร็ง ยอมนอนอยู่ในอ้อมกอดของผมโดยไม่ขัดขืน ผมหลุดยิ้มท่ามกลางความมืด ยอร์ชบ่นเล็กน้อยว่าอึดอัดที่ผมกอดแน่น ผมเลยยอมปล่อยช่องว่างให้เขาได้หายใจแต่ยังคงกอดเข้าไว้อยู่ และเมื่อยอร์ชหลับสนิทอีกครั้ง ผมถึงทำเพียงแค่โอบกอดเบาๆ จูบซับที่ขยับเอื้อนเอ่ยขอให้เขานอนหลับฝันดี

        ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาผมได้รับโทรศัพท์ด่วนจากชาร์ล ให้ผมรีบบินกลับนิวยอร์กไปจัดการด้วยตัวเองเป็นการด่วน ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ มีคนไปกระจายข่าวเรื่องความไม่น่าเชื่อถือในตัวผม เนื่องจากภาพที่ผมไปขายผักที่ตลาดหรือภาพที่ผมไปเดินซื้อของในเมืองถูกส่งต่อไปยังกลุ่มนากินีในอเมริกา ทำให้พวกนั้นเห็นว่าผมกลายเป็นเบี้ยล่างมนุษย์อย่างยอร์ช จึงนึกจะก่อกบฏขึ้น

        ผมไม่ใช่คนใจดี และไม่เคยใจดี การที่พวกมันเห็นว่าผมอ่อนให้ยอร์ชเลยคิดว่าจะโค่นผมได้ง่ายๆ บอกเลยว่าพวกนั้นคิดผิด

        “ยอร์ช” ผมเรียกคนที่นอนหลับเสียงเบา ช่างใจว่าจะปลุกเขาดีไหม แต่นี่ถึงเวลาที่ผมจะต้องรีบไปสนามบิน

        แต่ยอร์ชนอนนิ่งไม่ได้ยิน ผมไม่มีเวลาแล้วเลยตัดสินใจปล่อยให้เขานอนไป แต่เขียนข้อความวางไว้บนโต๊ะหัวเตียงแทน และอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ลืมจะทำก็คือประทับจูบเพื่อขอกำลังใจ

        ทุกอย่างระหว่างผมกับยอร์ชกำลังไปด้วยกันได้ดี แต่พวกลูกน้องชั่วมาทำเป็นมารขวางทางรัก ผมจะเอาชีวิตพวกมันมาสังเวยให้กับเวลาที่ผมจะต้องเสียไป

        “ผมจะรีบกลับมาหาคุณนะยอร์ช ผมสัญญา”

        ผมจูบแก้มนิ่มอีกรอบ ตัดใจออกจากบ้านขับรถตรงไปยังสนามบินเชียงใหม่ เพราะมัวแต่อ้อยอิ่งอยู่กับยอร์ชจนเกือบจะมาเช็คอินไม่ทัน ในเวลาเร่งรีบแบบนี้ถ้าไม่ได้อำนาจเม็ดเงินก็คงไม่สามารถหาตั๋วได้ในเวลาฉิวเฉียด

        ตลอดการเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดผมเอาแต่คิดถึงคนที่อยู่เมืองไทย ป่านนี้คงจะตื่นขึ้นมาเป็นสุขแล้วละมั้งเพราะไม่มีผมอยู่กวนประสาทเขา แต่ทางที่ดี ผมอยากให้ยอร์ชคิดถึงผมมากกว่า

        ปัญหาที่นิวยอร์กไม่ระคายสมองผมแม้เพียงนิด ทันทีที่เครื่องลงจอดบนพื้นสนามบิน ผมก็ต่อสายหาชาร์ลให้เตรียมการให้พร้อม คนขับรถประจำตัวผมมาจอดรอรับถึงที่ ถึงแม้ผมจะประกาศต่อหน้าพ่อไปแล้วว่าผมจะไม่กลับไปที่คฤหาสถ์อีก แต่พ่อก็ยังคอยให้คนของท่านตามดูแลผมอยู่ไม่ห่าง ผมไม่ปฏิเสธและไม่ได้แสดงว่าเต็มใจรับ พ่ออยากทำอะไรก็ทำ ผมจะรับหรือไม่ก็เรื่องของผม

        ผมกลับมาถึงที่พัก ไอ้ชาร์ลและเบนนั่งรอในห้องนั่งเล่น สีหน้ามันดูเรียบเฉยไม่เครียดแม้แต่นิดเช่นเดียวกับผม

        “เป็นไงบ้าง”ผมถามถึงสถานการณ์ทันที เตรียมพร้อมที่จะสะสางปัญหา ริมฝีปากผมยกยิ้ม ชาร์ลและเบนมองหน้ากันก่อนจะฉีกยิ้มหัวเราะร่า

        “แกดูไม่กังวลเลยนะ” ชาร์ลว่า

        “ฉันกำลังสนุกต่างหาก ไม่ได้ยืดเส้นยืดสายตั้งนาน มีเรื่องสนุกก็ต้องรู้สึกดีสิ หรือพวกแกกลัว”

        “ไม่เลยสักนิด” ชาร์ชตอบยิ้มๆ

        ผมนั่งลงที่โซฟาเดียว ยกขาขึ้นไขวห่างอย่างสบายอารมณ์ ปล่อยให้ชาร์ลรายงานข่าวคราวพวกที่อยู่ข้างนอก

        “พวกนั้นเห็นว่าแกที่ไม่เคยมีจุดอ่อนกลับมีช่องโหว่ขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาที่อยากจะแสดงอำนาจ อย่าจะโค่นพวกเราเพื่อขึ้นมาอยู่เหนือกว่า ต้องทำใจวะ อยู่ในที่สูงย่อมมีคนหวังร้ายเป็นเรื่องธรรมดา”

        ผมพยักหน้าเข้าใจ “พวกที่คิดจะลองดีมีอยู่เท่าไหร่”

        “ไม่น้อย ส่วนมากเป็นพวกเกิดใหม่ที่เหิมเกริมในพลังที่เพิ่งจะมี เพราะมีนากินีบางพวกไปเป่าหูลากพวกมันเข้าพวก บอกว่าอยู่ภายใต้พวกเรามีแต่จะเป็นขี้ข้าไม่มีบทบาทในสังคมบ้าบออะไรของมันนั่นแหละ” เบนพูดติดจะหงุดหงิดเล็กน้อย

        “ไม่เป็นไร ปล่อยให้มันเพ้อฝันไป เพราะเดี๋ยวพวกมันจะได้รู้ว่าคิดจะท้าทายอำนาจของฉันจุดจบจะเป็นอย่างไร” ผมแสยะยิ้มร้าย

        “ตอนนี้ฉันรวบรวมพวกเราไว้แล้ว มีน้อยกว่าพวกกบฏอยู่เกือบเท่า แต่ฝีมือไม่กระจอกแน่นอน” ชาร์ลรายงาน

        “ดี บอกให้พวกนั้นเตรียมตัวให้พร้อม คืนนี้เราจะออกไปอบรมเด็กน้อยที่กล้ามาปีกกล้าขาแข็ง”

        “เราจะจัดการมันที่ไหนดี” เบนถาม

        “ให้คนกระจายข่าวออกไปว่าเราจะไปเจอกันที่ป่าทางใต้ ใครที่ต้องการเด็ดหัวฉันให้มันมา ฉันจะรอให้มันไปขย้ำถึงที่ ใครที่คิดว่าตัวแน่ให้มันมา!”

        ผมรู้สึกกระปรี้กระเปร่ายิ่งกว่าครั้งไหน อยู่เมืองไทยก็อยู่แต่ในร่างของมนุษย์ จะกลายร่างคืนสู่ร่างนากินีก็ลำบาก แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่จะได้คืนร่างแต่ผมจะได้ออกกำลังด้วย ช่างรู้สึกดีจริงๆ



        ............................
        เอเดนเหมือนเด็กหนีเที่ยวไหม ดูร่าเริงน่าดู
        ความจริงตอนนี้จะเป็นตอนที่เอเดนแสดงบทโหด แต่งเสร็จแล้ว และเตรียมลงตามที่บอกไว้ทางเพจ แต่มาแงะพล็อตดู ชิหาย พล็อตแหว่ง เลยต้องนั่งแต่ใหม่ สุดทายเลยยืดมาตอนนี้ แต่วันนี้เรามาพิเศษนะยูววว เราลงพี่เสือพร้อมกันเลย หากใครที่ตามอ่านอยู่ก็แวะไปอ่านด้วยนะคะ
        หนังสือยังเปิดให้จองให้โอนอยู่นะคะ ใครสนใจห้ามพลาด ตอนพิเศษจุใจมากจริงๆ แต่งให้ถึงสองเล่มหนาๆ
        อ่านแล้วเม้นให้กำลังใจกันหน่อยนะคะ  :katai2-1:
        รัก :L1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 22-12-2015 22:30:06
ไปแล้วไปลับไม่ต้องกลับไทยเลยนะ!!  :fire: :angry2:

#ทีมน้องโยชิ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 22-12-2015 22:43:42
เอเดนน่ารักตอนบอกว่ายอร์ชงอแง  :o8: :o8:
ไปไม่บอกเจ้าตัวเป็นๆแบบนี้โดนงอนแน่เอเดนนน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: k_keenny ที่ 22-12-2015 23:05:12
คิดถึงมากๆเยยยยยยย เอเดนน่ารักกว่าเดิมเยอะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 22-12-2015 23:39:49
เอเดนหนีเที่ยว กลับไทยมาโดนยอร์ชดึงหูยานแน่  :katai3: เก็บเงินโอนค่าหนังสือก่อน ฮรือออ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 23-12-2015 00:30:13
อู๊ยยยยยย อดทนได้ดีมากเอเดน อดเปรี้ยวไว้กินหวานนะ
ว่าแต่หนีเที่ยวแบบนี้ พี่ยอร์ชตื่นมาจะเจอโน๊ตข้างๆรึเปล่าน้อ
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 23-12-2015 10:11:32
อุ้ยๆๆๆรอลุ้นๆๆๆตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 23-12-2015 10:48:10
เอเดนหนีเที่ยวก็พอนะ
อย่าไปทำอะไรไม่ดีๆให้พี่ยอร์ชโกรธอีกนะ
ถ้าโกรธอีกนี่ความหวังริบหรี่เลยนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 23-12-2015 11:51:16
เอเดนจะโดนยอร์ชโกรธมั้ย 555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: N-T ที่ 23-12-2015 12:18:21
รอจ้ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Praykanok ที่ 23-12-2015 14:59:54
อ่านรวดเดียวตั้งแต่แรกเลยยยย กรี๊ดดดด สนุกมากค่าาาาา
น่ารักทั้งอาซาทั้งโยชิ ชอบมากๆค่ะะะ
ส่วนเอเดนนี่...ได้บู้ซักทีหลังจากไปทำตัวเป็นงูเชื่องซะนาน หวังว่ายอร์ชจะไม่โกรธนะ 555
รอค่าาาาๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 23-12-2015 18:54:31
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 23-12-2015 20:11:13
เด็กน้อยงอแงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 23-12-2015 20:54:42
หมั่นไส้เอเดนอ่ะ อย่าเพิ่งรับรักนะพี่ยอช
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 23-12-2015 23:20:46
พอยอร์ชตื่นขึ้นา. ยอร์ชจะกับวลใจนิดนึง แต่ที่แอบห่วงคือ

พวกกบฎจะวกกลับมาทำร้ายยอร์ชนี่สิ โอยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: indyska ที่ 23-12-2015 23:24:26
ริริ ... ขออีกๆ ๆ ๆ ๆ อยากให้เอเดนบู๊มานานละ 5555555 บับว่า"ยอมแค่เมียคนเดียวนะ"  :man1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 24-12-2015 12:30:22
ขอบคุณค่ะ RiRi  o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 01-01-2016 11:27:53
เอเดนสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 04-01-2016 02:15:05
แอบหนีเที่ยวนะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁ELEVE❁22-12-15 [P.69] เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 04-01-2016 16:03:01
ขอบคุณค่าาา
 :pig4:

นอนรอคุณริริ  :katai5:

ปล. สวัสดีปีใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 11-01-2016 13:54:28
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

TWELVE








      ADEN

      ผมกดต่อสายหายอร์ชทันทีที่เข้ามาในห้องพักเพื่อรอเวลาออกไปสะสางปัญหา สายแรกเขาไม่รับ ผมเหลือมองนาฬิกาที่บ่งชี้เวลาเที่ยงวัน ที่ไทยตอนนี้ก็คงจะเที่ยงคืน

      คงจะหลับแล้ว แต่ถึงจะรู้อย่างนั้นแต่ผมก็ไม่หยุดโทรไปกวนคนที่น่าจะกำลังนอนหลับสบาย เพราะว่าผมน่ะคิดถึงยอร์ชมากเหลือเกิน

      “ฮัลโหล” และเขาก็รับสาย แต่น้ำเสียงห้วนไปหน่อยนะ ผมกระตุกยิ้ม คิดว่าผมรู้ว่าเขาจะทำหน้ายังไง

      “หลับแล้วเหรอ” คำถามโง่ๆ แต่เพราะอยากกวนอีกฝ่ายให้อารมณ์เสียเล่น

      ยอร์ชเงียบไป ได้ยินเสียงสวบสาบจากผ้าห่มและการขยับตัว

      “โทรมาทำไม” เสียงนี่ห้วนมาเชียว

      “ผมคิดถึง” ปากเอ่ยพูดโดยที่ผมเองไม่ทันได้รู้ตัว ผมและยอร์ชปล่อยใหความเงียบกลืนกินเรา เป็นความเงียบที่ไม่ได้อึดอัด แต่ปล่อยให้เราสองคนซึมซับความหมายของการคิดถึง

      จวบจนกระทั่งยอร์ชถามคำถามทำลายความเงียบ

      “คุณไปทำอะไรที่นิวยอร์ก”

      ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียง มือข้างหนึ่งรองหนุนหัว อีกข้างถือโทรศัพท์แนบหูแน่น “มาทำธุระนิดหน่อย”

      “ธุระอะไรถึงรีบไปขนาดนั้น ไม่คิดจะบอกกันสักคำ” น้ำเสียงงัวเงียเต็มไปด้วยความสงสัย คงยังไม่รู้ตัวว่าถามอะไรออกมา ยอร์ชในภาคปกติจะไม่ค่อยถามเซ้าซี้

      ผมใช้เวลาคิดอยู่ไม่กี่วินาทีว่าควรบอกยอร์ชดีไหม แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะพูดความจริง แต่อาจจะไม่ทั้งหมดโดยเฉพาะตนเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น สำหรับผม ผมไม่คิดว่าเป็นเพราะยอร์ช แต่ถ้าให้เล่าทั้งหมด ยอร์ชจะต้องคิดว่าเป็นเพราะเขาอยู่ด้วยกันมาสักระยะหนึ่งทำไมผมจะไม่รู้ว่ายอรชเป็นคนอย่างไร

      ว่ากันตามความจริง คนอย่างยอร์ชดีเกินจะคู่กับผม

      และ

      ผมก็เลวมากพอที่จะไม่ปล่อยคนดีๆอย่างยอร์ชไปเจอคนที่ดีกว่าผม

      ซึ่งผมไม่แคร์เลยสักนิด

      ผมเต็มใจที่จะเป็นคนเลว และเลวได้มากกว่านี้หากมันทำให้ยอร์ชอยู่กับผม

      “ลูกน้องผมที่นี่ก่อกบฏนิดหน่อย ก็อย่างว่าพอผมไม่อยู่ก็คิดจะก่อกวนท้าทายอำนาจ ผมเลยต้องจัดการ ไม่โกรธผมใช่ไหมที่ไม่ได้บอกคุณ ผมไม่อยากปลุกไม่อยากกวนคุณตอนนอน”

      “แล้วทำไมตอนนี้โทรมากวนผมตอนดึกดื่นได้” ยอร์ชกระชากเสียงเล็กน้อย

      “หึหึ งอนผมเหรอ”

      “ผมเนี่ยนะ ฝันหรือไง”

      “ไม่ฝันได้ไหมละ คุณจะงอนก็ได้ แล้วผมจะกลับไปง้อทีเดียว” เดี๋ยวนี้ผมง้อเขาบ่อยจนเริ่มจะชินกับตัวเองในภาคไม่ปกติ

      “จะกลับมาได้เหรอ เดี๋ยวก็มีปัญหาอีก”

      “ทำไม ไม่อยากให้ผมกลับไปเหรอ” ผมย้อนถามกลับจริงจัง

      “มันก็แล้วแต่คุณไม่ใช่เหรอไง ผมห้ามแล้วคุณจะฟัง?”

      “ไม่”

      “หึ ไม่อยากให้ผมเกเรก็กลับมาคุมเองสิ”

      ผมเลิกคิ้วคิดตามที่ยอร์ชพูด “อ่อยผมเหรอ”

      “ผมจำเป็นต้องทำอย่างนั้นเหรอ” ฟังเสียงกวนๆของเขาแล้วมั่นเขี้ยว อยู่ใกล้มือคงได้มีจับมาจูบบ้างละ

      “ผมจัดการปัญหาแค่วันสองวันเท่านั้นแหละ ไม่นานหรอก” เพราะผมไม่มีทางจะให้มันนานไปกว่านั้น

      “คุณจะ...” ยอร์ชคล้ายจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูด

      “อะไร” ผมถาม ผ่อนเสียงให้อ่อนโยนนิดหนึ่ง

      “คุณจะไม่ทำอะไรรุนแรงใช่ไหม”

      ผมแทบหลุดหัวเราะ แต่ก็พยายามกลั้นขำเอาไว้ เพราะสำหรับยอร์ช สิ่งที่ผมจะทำคงไม่น่าขำ และสิ่งที่ผมเคยทำคงติดฝังอยู่ในใจไม่น้อย มาคิดอีกทีก็ไม่น่าขำสักเท่าไหร่ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมเคยทำยอร์ชคงไม่มีวันลืม และผมก็ไม่ขอใหเขาลืม แค่เขาเปิดใจให้ก็ดีแล้ว นั่นคือความคิดแบบพระเอกนะ แต่พอดีผมไม่ใช่

      “ผมไม่สัญญาหรอกนะว่าจะไม่มีนากินีตัวไหนตาย แต่ผมจะพยายามยั้งมือไว้ให้มากที่สุด เพราะกับนากินีบางตัวมันก็ยั่วโมโหจนน่ากำจัดทิ้งจริงๆ”

      “ผมไม่อยากให้คุณทำร้ายใคร”

      “แล้วคุณจะให้มันทำร้ายผมอย่างนั้นเหรอ” ผมถามเพราะความอยากรู้จริงๆ ไม่ใช่เพราะไม่พอใจ

      “ไม่ใช่!”

      “แล้วยังไง”

      “เฮ้อ ช่างเถอะ เรื่องของคุณนี่ ไม่ใช่เรื่องของผม อยากทำอะไรก็ทำเถอะ แต่บอกไว้ก่อนเลยว่า ถ้าจะทำตัวไม่ดีละก็ อย่าให้ผมรู้ ไม่งั้นคุณเตรียมตัวเก็บข้าวของออกจากบ้านได้เลย”

      “หึหึ” ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เพิ่งรู้ตัวว่าผมชอบฟังยามที่อีกฝ่ายมีอารมณ์ฉุนเฉียว ยิ่งถ้าเป็นกับผมแล้วยิ่งชอบใหญ่

      “เป็นห่วงผมเหรอ ความจริงคือเป็นห่วงผมใช่ไหม”

      “...”

      “เอาเป็นว่าผมสัญญาก็แล้วกันว่าจะพยายามใจเย็นที่สุด และคุณก็ต้องสัญญากับผมด้วยว่าจะเป็นเด็กดี”

      “เด็กดีอะไรของคุณ”

      “ห้ามอ่อย ห้ามให้ใครมาก้อล้อเกาะแกะ ห้ามมีกิ๊ก โอเคไหมครับ”

      “เหอะ ไม่รู้สิ ถ้าเขาน่าสนใจผมอาจจะพิจารณา อย่าลืมนะว่าคุณยังไม่ได้เป็นแฟนผม”

      “นี่...”

      แล้วสายก็ตัดไป ผมเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูมาดู ยอร์ชตัดสายผมทิ้ง แล้วไอ้ประโยคก่อนจะวางสายนี่คืออะไร แล้วอาการว้าวุ่นในอกเหมือนไฟสุมทรวงนี่อีก สรุปแลวเขาอยากให้ผมฆ่าคนหรือไม่ฆ่าคนกันแน่ มาทิ้งระเบิดไว้แล้วก็จากไป

      “รอผมกลับไปก่อนเถอะ คุณโดนหนักแน่ยอร์ช”






      ผมและพวกพ้องมาถึงที่หมายก่อนเวลานัด แต่ดูเหมือนพวกกบฏมันจะเลือดร้อนมาถึงก่อนผมเสียอีก แต่ทำเป็นซุกซ่อนตัวแอบดูลาดเลา

      “เหอะ คิดจะมาสู้ทั้งๆที่ทำตัวขี้ขลาด” ไอ้เบนแสยะยิ้มว่าเข้าให้เสียไม่เบานัก คาดว่าพวกมันคงได้ยินกันทั่ว

      ดวงตาของพวกมันวาวโรขน์ แต่ก็ยังคงไม่กล้าออกมา จากที่ประเมินทางสายตา พวกที่มาซุ่มดูคือพวกไร้ฝีมือระดับล่างหากหัวหน้าพวกมันไม่ก้าวออกมาพวกมันก็คงจะทำได้แค่หางจุกตูดเท่านั้น

      “น่าสมเพช” ผมพ่นลมออกจมูก นึกหงุดหงิดอยู่ลึกๆที่ผมเคยมีไอ้พวกนี้เป็นลูกน้อง

      ผมกลายร่างเป็นงูอย่างรวดเร็วแล้วเลื้อยขึ้นไปบนกิ่งไม้สูง ก่อนจะคืนร่างสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง พวกมันกำลังเคลื่อนพลมา ส่วนลูกน้องผมรอบตัวมีน้องกว่าพวกสวะอยู่สามเท่าไดแต่นั้นไม่ได้ทำให้ผมเป็นกังวล เพราะลูกน้องที่ยังอยู่กับผมตรงนี้ไม่ได้มีดีแค่สมอง แต่ความสามารถและพละกำลังก็ไม่เป็นสองรองใคร

      ส่วนพวกที่เลือกจะเป็นปฏิปักษ์คือพวกเกิดใหม่ที่มีอายุไม่ถึงสองร้อยปีด้วยซ้ำ เหมือนเด็กห้าควบที่คิดจะเทียบรุ่นกับผู้ใหญ่ ไม่ดูกำลังตัวเอง ผมถึงได้บอกไงว่าพวกมันน่ะน่าสมเพช

      พวกมันเคลื่อยตัวใกล้เข้ามา และไอ้หัวแดงตาแดงที่จ้องมองมายังผมอย่างท้าทายก็คงจะเป็นหัวหน้าการก่อกบฏ และผมรู้จักมันดี

      รอน ไคลสตัน

      ถ้าบอกว่าชาร์ลกับเบนเป็นมือขวากับมือซ้ายของผม ไอ้รอนก็คงเป็นเท้าขวากับเท้าซ้ายละมั้ง เพียงแต่ผมไม่ค่อยเจอมันเพระให้มันช่วยดูความเรียบร้อยทางตอนใต้ของอเมริกาให้ ไม่คิดว่ามันจะคิดไม่ซื่อถึงเพียงนี้

      หรือไม่ มันก็คงประเมินความใจดีของผมไว้สูงเกินไป

      บอกแล้วไง ผมยอมให้ยอร์ชคนเดียวเท่านั้นที่อยู่เหนือกว่า คนอื่นอย่าหวัง

      จวบจนรอนเดินเข้ามาใกล้ เบนดูโมโหจัดที่รูว่าคนที่หักหลังพวกเราเป็นใคร จึงพร้อมพุ่งเข้าชนกับรอนเต็มที่ แต่ชาร์ลเป็นคนรั้งเอาไว้ ไอ้คนทรยศเงยหน้ามองผม มันแสยะยิ้มไม่เกรงกลัว ก็ดี ถ้ามันกลัวจะไปสนุกอะไร

      “รอน แกเองเหรอที่ก่อความวุ่นวาย” ผมถามเสียงปกติแต่ดังกังวาลทั่วผืนป่า

      “ฮ่าๆๆๆ” รอนหัวเราะเสียงดังลั่น ส่งผลให้พวกลูกน้องของมันหัวเราะตาม ไอ้เบนฉุนเฉียวหนักกับความกวนประสาทของอีกฝั่ง ถ้าเป็นผมเมื่อก่อนคงจะพุ่งไปฆ่าไอ้รอนตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นหน้ามันแล้ว ไม่รอให้มันมาหัวเราะเยาะผมหรอก

      “มันหมดยุคของนายแล้วเอเดน นิกินีผู้สูงศักดิ์ที่เดินตามหลังมนุษย์งี่เง่าต้อยๆๆ มีอะไรให้พวกฉันควรเคารพบ้าง คำตอบคือไม่มี” ท่าทางอวดดีใช่ได้

      “ใช่ ไม่มี!” เสียงลูกน้องของมันเอ่นสนับสนุน

      “เอเดนที่ฉันเคยยอมเป็นลูกน้องไม่ได้ตัวนาสมเพชแบบนี้ นายกำลังจะทำให้เราต่ำต้อยเพราะไปเป็นข้ารับใช้ของพวกมนุษย์ แบบนี้น่ะเหรอที่สมควรเป็นหัวหน้าแห่งชาวนากินีของอเมริกา ไม่มีอีกต่อไป พวกฉันไม่ยอมรับ!”

      ผมปล่อยให้รอนมันพล่ามอย่างสบายใจและยอมใหลูกน้องของมันส่งเสียงอึกกระทึกได้ใจไปก่อน ผมแค่ส่งสัญญาให้ลูกน้องรอเวลาเท่านั้น พวกเกิดใหม่จะเลือดร้อน มุทะลุ บ้าคลั่งและหัวรุนแรง แต่ทว่าเป็นแค่เด็กฝึกหัดไม่เป็นมวย ต่อสู้ได้แต่สะเปะสะปะ ดังนั้นผมควรจะต้องเอ็นดูพวกมันไว้ให้มากๆ ก่อนที่มัจจุราชจะเข้าสิง

      ผมกระโดดลงจะต้นไม้ลงตรงหน้ารอน มันผงะถอยหลังหนึ่งก้าว พวกลูกน้องหน้าโง่ของมันพากันถอยห่างแล้วตั้งรับ ผมมองไอ้รอนตั้งแต่หัวจรดเท้า ริมฝีปากกระตุกยิ้มดูถูกดูแคลน

      “ฉันจะบอกอะไรแกไว้อย่างหนึ่งก่อนที่แกอาจจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อ ฉันยังคงเป็นนากินีที่ชิงชังมนุษย์เช่นเดิม และคนอย่างฉันไม่เคยเปลี่ยนแปลง แกเคยเห็นฉันเป็นยังไงวันนีฉันยังเป็นอย่างนั้น มันไม่ใช่เพราะฉันยอมอยู่ใต้คำสั่งของมนุษย์แค่คนเดียวหรอกที่ทำให้แกทรยศฉัน แต่เพราะสันดารที่เลียงไม่เชื่องของแกต่างหาก ในวันนั้น ฉันน่าจะปล่อยให้แกโดนมนุษย์หน้าโง่ฆ่าตายเนอะ ว่าไหม วันนี้จะได้ไม่มีทำจองหองอวดดีใส่ฉันแบบนี้”

      “แกจะบอกว่าแกมีบุญคุณกับฉันอย่างงั้นเหรอ!” รอนกัดฟันอย่างโกรธแค้น มือทั้งสองข้างกำแน่นขนเส้นเลือดตามท่อนแขนปูดโปน

      “ใช่สมองโง่ๆของแกคิดดูสิ”

      “เอเดน!”

      “แต่เอาเถอะ ไหนๆแกก็ลงทุนทำมาขนาดนี้แล้ว ก็ช่วยแสดงฝีมือให้เห็นหน่อยแล้วกันว่าแกเหมาะสมที่จะมายืนแทนตำแหน่งฉัน

      ไอ้รอนเดินเข้ามาใกล้ผมจนระยะของผมกับมันห่างกันแค่หนึ่งก้าว มันยกมือพลักตัวผมแล้วเริ่มเปิดศึกอย่างเป็นทางการ ร่างงูที่แท้จริงของมันเป็นสีดำสลับน้ำตาลแดง ขยายร่างใหญ่สุดหวังจะประกาศความน่าเกรงขาม ผมสบตากับชาร์ลและเบนเพียงพริบตา ลูกนองที่รอท่าก็เริ่มจู่โจมทันที

      รอนฉกวูบลงที่ตัวผม ผมเพียงเบียงหลบเท่านั้น มองมันด้วยความสมเพชผ่านดวงตามนุษย์ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะกลายร่างเป็นนากินี

      ความพิเศษของผมไม่ใช่แค่การที่เป็นงูมีสองหัว แต่เพราะมีถึงสองหัวจึงมีความพิเศษมากกว่าหนึ่ง ผมรู้จุดอ่อนของรอนดีเพราะเป็นคนสอนมันมากับมือ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเอาหัวส่วนไหนคิดมาต่อกรกับคนอย่างเอเดน

      ผมเลื้อยขึ้นต้นไม้สูง และพ่นไฟจากมุมบน ไอ้รอนหลบได้ทัน มันเป็นนากินีที่เคลื่อนที่ได้เร็ว มีความสามารถในการพ่นไฟเช่นเดียวกันผม แต่สิ่งหนึ่งที่มันไม่มีคือความรอบคอบ และความสามารถในการแพร่พิษด้วยการหายใจรด

      พวกลูกน้องของไอ้รอนจำนวนหนึ่งจบชีวิตลงเพราะฤทธิ์ไฟของผม ก็ช่วยไม่ได้นะ ผมทำเพราะป้องกันตัวเอง ยอร์ชจะมาว่าผมหากรู้เรื่องที่หลังไม่ได้เพราะผมจะไม่ยอมรับความผิด

      ไอรอนที่โดนไฟของผมลามเลียถากๆเกิดอาการโมโห พุ่งเข้าใส่ผมแต่โดนไอ้ชาร์ลใช้ส่วนห่างปัดจะเซ ผมให้ชาร์ลจัดการไปก่อนแล้วลงไปเล่นกับลูกงูตัวน้อยๆที่ยังอ่อนหัด

      พอร่างของผมแตะถึงพื้นเท่านั้น งูนับร้อยก็เล่งเป้ามาที่ผม งานหนักเอาเรื่อง ท่อนหางของผมถูกวพกมันกดทับไม่ให้ขยับตัว รุมกันแพร่พิษใส่ ไอ้เบนและลูกน้องคนอื่นๆเข้ามาช่วย ผมทำใจเย็นไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้ แต่เพราะกำลังสนุกอยู่ต่างหากล่ะ

      ผมปล่อยให้พวกมันเกาะแกะก่อนจะสะบัดร่างที่เดียวพวกมันก็กระเด็กกันไปคนละทิศละทาง ผมมองตากับไอ้เบน มันส่ายหัวขำกับความนึกสนุกของผม

      ‘กี่นาทีดี’ ไอ้เบนถาม

      ผมโคลงหัวทั้งสองเล็กน้อยก่อนตอบ ‘ห้านาทีก็เกินพอ’

      ‘ชาร์ล ห้านะทีนะโว้ย’ ไอ้เบนตะโกนไปหาชาร์ลที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับไอ้รอนอย่างดุเดือด

      ดวงตาสีเหลืองอำพันของชาร์ลยามเอาจริงจังจังสบตากับผม มันแลบลิ้นหนึ่งทีเพื่อน้อมรับคำสั่ง

      ‘Deal!’

      ในที่สุดเพียงแค่สามนาทีกว่าๆผมก็จัดการกับพวกไอ้รอนได้อย่างราบคาบ บ้างตายบ้างบาดเจ็บหนักโดนเฉพาะไอ้รอนที่เจ็บหนักสุดเพราะถูกพวกผมสามคนจัดการอย่างสนุกสนาน

      “ไง เก่งนักไม่ใช่เหรอ อยากเป็นใหญ่แทนฉันไม่ใช่เหรอไง ลุกขึ้นมาสิ” ผมใช้เท้าเขี่ยร่างของมันที่ยังคงอยู่ในร่างงู

      ‘ฆ่าฉันสิ แกรออะไร’

      ผมพยักหน้าเดาะลิ้นที่กระพุ้งแก้ม นับถือในความใจกล้าของมันจริงๆ “สะบักสะบอมขนาดนี้ยังจะกล้าอวดเก่ง ฉันควรส่งนายกลับไปนรกอีกครั้งไหม”

      ‘ก็ทำเส่!’

      “ไม่ละ แบบนั้นมันไม่ทรมานสะใจฉัน ชาร์ล”

      “อืม” ชาร์ตตอบกลับ สายตาจ้องไอ้รอนไม่วางตา มันคงแค้นน่าดู เพราะไอ้รอนคือคนที่ชาร์ลไว้ใจให้ช่วยงานมากที่สุดรองจากไอ้เบน

      “ส่งมันไปให้ลูกน้องพ่อฉันจัดการ พวกเขารู้ว่าเขาจะขังมันไวที่ไหนไม่ให้ออกมาเพ่นพร่านสร้างความวุ่นวาย”

      “ได้ ฉันจัดการเอง”

      “ส่วนแกไอ้เบน พรุ่งนี้เรียกนากิทีทั่วทั้งอเมริกามาพบฉันในวันถัดไป ฉันมีเรื่องสำคัญจะประกาศ”

      “เรื่องอะไรวะ” ไอ้เบนถามอย่างสงสัยตามนิสัยของมัน ผมหรี่ตามอง มันเลยยิ้มแหะๆก่อนจะอือออรับคำสั่ง

      ผมแยกตัวกลับที่พัก ส่วนไอ้เบนและชาร์ลแยกกันไปทำตามที่หน้าของใครของมันก่อนจะกลับมาที่บ้านพัก หมอประจำตระกูลรอคอยท่าอยู่ที่บ้านทั้งๆที่ผมไม่ได้เรียกหา จะเป็นใครไปไม่ได้ที่ทำเรื่องพวกนี้นอกจากคนที่เคยสำคัญที่สุดในชีวิตของผม แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

      ผมปล่อยให้หมอทำตามหน้าทีของเขาแม้ว่าผมจะไม่ได้บาดเจ็บหนักอะไรก็ตาม แค่รอยถลอกฟกช้ำเล็กๆน้อยเท่านั้น ผมสนใจอยู่อย่างเดียวก็คือ

      การโทรกลับไปหาคนที่อยู่ประเทศไทย

      แต่ครั้งนี้ยอร์ชไม่รับสาย โทรไปกี่ครั้งก็ไม่รับ ทั้งๆที่เวลานี้เป็นเวลากลางวันของที่นั่น เขาทำอะไรอยู่ ผมร้อนรนจนเริ่มจะหงุดหงิด เลยเปลี่ยนไปต่อสายหาลูกน้องที่ให้คอยดูความเรียบร้อยทางนั้นแทน

      “ครับนาย” เดวิด ลูกน้องที่ไทยรับสาย

      “ตามดูให้หน่อยว่ายอร์ชทำอะไรอยู่ เขาไม่รับสายฉัน” ผมสั่ง

      “ได้ครับนาย อีกสิบนาทีผมจะโทรไปรายงาน”

      “ห้านาที” ผมแก้เวลา สิบนาทีนานเกินไป ผมรอไม่ไหว

      “ครับนาย ห้านาที”

      ผมกดวางสาย นั่งรับลมหายใจเข้าออกแสร้งทำเป็นใจเย็นทั้งๆที่ร้อนรุ่ม ผมไม่ชอบเลยจริงๆ เป็นความรู้สึกที่น่ากลัวเมื่อคุณรู้ตัวว่าหัวใจของคุณไม่ได้อยู่ในร่างกายของคุณแบบที่ควรจะเป็น

      และหัวใจของผมตอนนี้มันอยู่ที่เขา...ยอร์ช

      “คุณมีอิทธิพลต่อความรู้สึกผมมากเกินไปแล้วนะยอร์ช ช่วยรับผิดชอบด้วย” ผมคาดโทษอีกฝ่ายเบาๆ เขาจะรับรู้หรือไม่ผมไม่สน ผมสนแค่ว่าเขาต้องชดใช้ที่ทำให้ผมเป็นบ้าเพราะเขาได้ถึงเพียงนี

      เฮ้อ ผมแย่แล้วจริงๆ

      ห้านาทีต่อมาเดวิดโทรมารายงานว่ายอร์ชคุยงานกับลูกค้าในตัวเมือง คงไม่มีอะไรที่จะต้องเป็นกังวลหากภาพที่เดวิดส่งมาไม่ใช่ความที่ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้ส่งยิ้มหว่านเสน่ห์ใส่คนของผมอยู่ และคนของผมดูท่าแล้วว่าจะชอบเธอเสียด้วย ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว

      ร่างของผมสั่นไปหมด ผมรู้ตัวว่าผมเป็นอะไร ผมกำลังหึง และแรงหึงทำให้ผมอยากจะขึ้นเครื่องบินกลับไทยมันเสียตอนนี้ ถ้าไม่ติดว่ายังมีอีกเรื่องต้องสะสางผมกลับเดี๋ยวนี้แน่

      “จับตาดูเอาไว้ให้ดี ถ้ามีผู้หญิงหรือผู้ชายที่ไหนเข้ายอร์ชเกินพอดี รีบรายงานฉันทันทีเข้าใจไหม” ผมสั่งเสียงเข้ม

      “ได้ครับ ผมจะรีบรายงานทันทีหากมีใครมายุ่งกับคุณยอร์ช”

      “ดี ฉันฝากด้วย”

      “ครับ สวัสดีครับ”

      คืนนั้นผมนอนไม่หลับทั้งคืน เอาแต่ดูรูปยอร์ชที่เดวิดส่งมารายงาน ทีหับคนอื่นละยิ้มกวางหัวเราะอย่างมีความสุข ทีกับผมละทำเป็นนิ่งไม่ตอบรับความรู้สึก

      “มันจะเกินไปแล้วนะยอร์ช!” ผมตะโกนอยู่คนเดียวในห้องนอนกว้าง

      บอกแล้วไงว่าให้เป็นเด็กดีไม่ให้เกเร นี่อะไร ตอนกลางคืนคุยกับผม ตอนกลางวันไปหว่านเสน่ห์ใส่สาว ดูท่าว่าเขาจะไม่เกรงกลัวผมเลยสินะ

      ได้ ผมจะไม่รอแล้ว กลับไปเมืองไทยครั้งนี้ผมจะทำให้ยอร์ชเป็นของผมให้ได้ ไม่มีวันที่เขาจะเป็นของใครอื่น



      ……………………………………..
      ความจริงตอนพิเศษที่จะลงในเว็บจะต้องจบที่ตอนที่12 แต่ทว่าจากที่บอกไว้ครั้งที่แล้วว่าริริรื้อพล็อตใหม่ตอนมันก็เลยขยายออกไป คิดว่าคงจะชอบกันแหละเนอะ เพราะในส่วนของตอนพิเศษในหนังสือก็ขยายเพิ่มด้วยเช่นกัน
      ตอนนี้ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะคะ อ่านหนังสือเตรียมสอบเทรนเสร็จก็มาจิ้มๆแต่งๆ มึนๆเบลอ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ


     
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 11-01-2016 14:10:51
คุณริริมาแล้วววว  :heaven

จิ้มก่อนอ่าน  :z13:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 11-01-2016 14:47:37
อย่างพี่ยอร์ชนี่จะเป็นโมเม้นแบบบบ
ยั่วให้หึง จะได้กลับมาไวๆ รึเปล่าน้ออออ 5555
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Hanaki ที่ 11-01-2016 16:21:10
รักมากก็ทุรนทุรายมากอ่ะเนอะเอเดน โธ่... พ่อคุณ! (ว่าที่)เมียไม่เห็นคุณค่า :o12:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 11-01-2016 18:44:19
จะกล้าทำจริงๆ หรอ เอเดน

เราจะรอลุ้นนะ 555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 11-01-2016 21:25:52
ยอร์ชโดนแน่ๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 11-01-2016 22:44:19
ยิ่งนานวัน ความรักก็เพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา

สู้ๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 12-01-2016 07:24:52
ขอบคุณจ้า รอตอนต่อไปจ้า.  :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-01-2016 10:30:50
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 12-01-2016 12:53:18
ขอบคุณค่RiRi  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 12-01-2016 14:13:28
 :กอด1: ขยายตอนก้อดีจ้ะ เพราะเราว่าเรื่องของยอร์ชกับเอเดนนี่ ท่าทางจะยาวน่ะ ไม่อยากให้ห้วนน่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 12-01-2016 15:08:25
 :L2: :L2: :L2: :L2: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁TWELVE❁111215 [P.69]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 12-01-2016 15:09:08
อ้ายยยย มาแล้วววว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 24-01-2016 21:50:56
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

THIRTEEN





YACHT
        วางกดวางสายของเอเดนที่โทรมากวนเวลานอนหลับ กวนจิตใจผมมาทั้งวันยังไม่พอยังจะมากวนเวลาพักผ่อนอีก จากที่นอนหลับสนิทจากอาการเหนื่อยล้าอันแสนสาหัสจากร่างกาย ตอนนี้ดวงตาของผมเปิดโพล่งทางกลางความมืด ยากที่จะข่มตาให้หลับได้อีกครั้ง ซึ่งสาเหตุก็เพราะว่าสมองเอาแต่คิดวนเวียนถึงคนที่อยู่อีกฝากฝั่งโลก
        “คุณไม่ควรมีอิทธิพลต่อผม ไม่ควรเลยจริงๆ”
        ทั้งความคิดและจิตใจ ในตอนนี้ มีแต่ชื่อเอเดนลอยเต็มไปหมด
        คิดว่าผมจะรู้สึกยังไงเมื่อตื่นมาในตอนเช้าแล้วพบว่าคนที่นอนอยู่กับผมหายไปพร้อมกระดาษแผ่นหนึ่งที่เขียนไว้แค่ว่าจะไปทำธุระที่นิวยอร์ก อีกไม่กี่วันก็จะกลับ มีแค่เพียงข้อมูลเท่านี้ที่เขาบอกให้ผมรู้ ซึ่งผมพยายามเข้าใจว่าคนเราก็ต้องมีธุระส่วนตัวที่ต้องสะสาง แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เรื่องอะไรถึงทำให้เขารีบร้อนไปโดยไม่บอกผมด้วยตัวเองเช่นนี้
        ผมพยายามไม่คิดอะไร ผมควรเป็นเช่นนั้น แต่เพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้ผมคิดถึงแต่เอเดนทั้งวัน ผมตัดสินใจโหมงานทุกอย่าง ลงมือเองทุกขั้นตอนจนคนในไร่งงกันไปหมด วิธีนี้ก็พอจะทำให้ลืมคนชื่อเอเดนได้อยู่บ้าง
        กลับถึงบ้านอาบน้ำกินข้าวเย็นที่แม่ครัวทำเตรียมไว้ให้คนเดียว บ้างดูเงียบเหงาไปถนัดเมื่อมีเพียงแค่ผม พ่อยังคงสนุกอยู่กับการเที่ยวกับเพื่อนๆ มีโทรกลับมาบ้างตามแต่ท่านจะสะดวก ส่วนใครอีกคน ไม่รู้ว่าตอนนี้จะทำอะไรอยู่
        ผมกดโทรศัพท์ต่อสายหาน้องชายสุดที่รัก พักหลังมานี่ผมกับโยชิคุยกันไม่ทุกวันเหมือนแต่ก่อน แต่โยชิก็ยังคงแสดงออกอย่างค่อนข้างชัดเจนว่าไม่พอใจในตัวเอเดนผ่านน้ำเสียงที่ทำให้พอจะเดาสีหน้าออก
        “พี่ยอร์ช โยคิดถึง”เสียงใสมาเลย ได้ยินแบบนี้ผมก็สบายใจ ผมโชคดีที่ได้อาซาเป็นน้องเขย เพราะเขาดูแลโยชิได้ดีจริงๆ เผลอๆดีกว่าคนเป็นพี่ชายอย่างผมด้วยซ้ำ
        “คิดถึงพี่ไม่เห็นจะกลับมาหาพี่บ้างเลย” ผมแกล้งทำเสียงงอนใส่แต่ริมฝีปากยิ้มกว้าง ผมเอนกายเอาแขนข้างหนึ่งรองหนุนหัวบนเตียง หน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้มีสายลมอ่อนๆพัดเข้ามาทำให้ผ้าม่านปลิวไสว ร่างกายและจิตใจค่อยๆผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า
        “ก็โยมีเรียนทุกวันเลยนี่น่า ปีสองแล้วงานก็เยอะ อยากปิดเทอมจะแย่แล้วเนี่ย” โยชิทำเสียงโอดโอยจนน่าหมั่นเขี้ยว
        ผมหัวเราะ ได้ยินเสียงแบบนี้แล้วอยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงหอมแก้มนุ่มให้หนำใจ แต่คงจะเป็นไปยากสักหน่อย เพราะอาซาหวงเหลือเกิน หวงแม้กระทั่งคนเป็นพี่ชายอย่างผม
        “แล้ว ไม่ได้กลายร่างเป็นงูออกไปเกเรที่ไหนใช่ไหม” ผมถาม เรื่องมนุษย์กลายร่างเป็นสัตว์เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากที่จะรับรู้ แต่ผมก็พยายามที่จะยอมรับความเป็นจริง ซึ่งตอนนี้ก็พอจะมองเป็นเรื่องปกติได้บ้างในบางครั้ง หากเป็นคนใกล้ตัว
        “จะให้โยออกไปเลื้อยเล่นที่ไหนได้เล่า เดี๋ยวก็ได้โดนคนจับเข้าสวนสัตว์พอดี”
        “ดีแล้วล่ะ ระวังตัวด้วยนะพี่เป็นห่วง”
        “ครับ แต่โยต้องไปหาหมอและทำการประเมินสภาวะร่างกายทุกสองอาทิตย์ เซ็งมากเลย” เด็กน้อยบ่น
        “ไปโรงพยาบาลปกติได้ด้วยเหรอ” ผมถามด้วยความสงสัย
        “โรงพยาบาลของแอชยูนั่นแหละพี่ยอร์ช รักษามนุษย์กลายร่างโดยตรง และที่จริงก็มีโรงพยาบาลข้างนอกอีกสองสามแห่งที่แอบเปิดรักษามนุษย์กลายร่างแบบลับๆไม่ให้คนธรรมดาทั่วไปรู้”
        “อ่า” ผมครางรับรู้ “ก็ดีแล้ว จะได้ไม่มีปัญหา”
        ผมเองก็กลัวเหมือนกัน ถ้าหากว่าความลับของพวกเขาจะถูกเปิดเผยให้คนอื่นรู้แล้วจะนำภัยมาให้ แน่นอนละถ้าหากว่าโลกนี้รู้ว่ามีคนแบบพวกเขาอยู่คงไม่มีใครยอมรับ ดีไม่ดีอาจก่อเกิดเป็นสงครามขึ้น แต่สำหรับผมแล้วไม่ว่าโยชิจะเป็นอะไร ความจริงก็คือเขาเป็นน้องชายของผม
        “พี่ยอร์ช”
        “หืม”
        “เรื่องเอเดน”
        “ทำไม มีอะไรเหรอ”
        “เขาไปแล้วใช่ไหม คนของอาซาบอกว่าเขาขึ้นเครื่องกลับนิวยอร์กไปแล้ว”
        “อ่อ อืม” เรื่องนี้เองเหรอ ผมก็คิดว่าเรื่องอะไร
        “โยรู้ว่าพี่ยอร์ชหวั่นไหวกับเอเดนและคงชอบเขาไปแล้ว แต่ปล่อยเขาไปเถอะพี่ ถ้าเขาอยากจะไปก็ปล่อยเขาไป อย่างพี่ยอร์ชจะหาผู้หญิงสวยๆหรือผู้ชายหน้าตาดีๆนิสัยดีและเป็นคนดีได้ยิ่งกว่าเขาได้อยู่แล้ว อย่าเสียใจเลยนะ” คำปลอบประโลมของโยชิทำให้ผมงุนงงไม่น้อย
        “เดี๋ยวนะโยชิ คือพี่งง เราพูดถึงเรื่องอะไรพี่ไม่เข้าใจ” ผมถามน้องชายอีกครั้ง ได้ยินเสียงสูดน้ำมูกกับเสียงสะอื้นเล็กน้อย ผมว่ามันชักจะไปกันใหญ่ละ
        “พี่ยอร์ชอย่าเสียใจเลยนะ ฮึก คนเลวๆแบบนั้นไม่เหมาะกับพี่หรอก” โยชิยังคงพูดไปสะอื้นไปไม่ฟังอะไร ผมต้องรีบเบรคเด็กขี้แยก่อนที่จะเรื่องราวบานปราย
        “โยชิ ฟังพี่ เอเดนไม่ได้ทิ้งพี่ โอเค๊ เขาแค่กลับไปทำธุระที่นิวยอร์ก” ผมบอกไปตามข้อความที่เอเดนทิ้งไว้ให้
        “ไม่ ไม่จริง เขาต้องหลอกพี่แน่ๆ”
        แม้ว่าในใจจะหวั่นว่าจะเป็นแบบที่โยชิคิดก็ตาม แต่ทว่า เมื่อคิดดูอีกที เอเดนไม่มีความจำเป็นต้องโกหก คนอย่าเอเดนถ้าคิดจะทิ้งผมไปจริงๆ ถ้าเขาเบื่อคนอย่างผมเขาก็คงพูดว่าเบื่อและจากไปโดยที่ไม่ต้องแสร้งโกหกอะไร เขาเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผมถึงมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าเขาจะต้องกลับมา
        “หึหึ เด็กน้อย ขอบคุณที่เป็นห่วงพี่นะครับ แต่ว่า เอเดนน่ะติดกับพี่เข้าเต็มๆ เขาไปไหนไม่รอดหรอก สุดท้ายก็ต้องกลับมาอยู่ดี”
        “เอาจริงๆเหอะ โยไม่อยากให้เขากลับมาเลย โยไม่อยากให้เขาเป็นแฟนพี่ โยไม่อยากยอมรับ โยขอโทษแต่โยไม่ชอบเขาเลยจริงๆ”
        “...” ผมไม่พูดอะไรได้แต่นิ่งฟังน้องชายระบายความรู้สึก
        “เขาเคยจะฆ่าอาซา เขามันร้าย โยไม่ชอบเขาเลย แต่...ฮึก แต่ถ้าพี่ยอร์ชชอบเขา โยยอมก็ได้”
        “ยอมจริงเหรอ”
        สิ่งที่สำคัญกว่าความรู้สึกของตัวเอง ก็ความรู้สึกของคนในครอบครัวเนี่ยแหละ ทั้งพ่อและโยชิ ถ้าผมจะรักใครผมก็อยากให้พวกเขารักด้วย
        “ก็ยอม แต่ขอเวลาโยทำใจหน่อยนะ บางทีอารมณ์มันอาจจะขึ้นบ้าง แต่โยจะไม่ขัดขวางหรอก ไม่ขัดขวางแล้ว โยอยากให้พี่ยอร์ชมีความสุข โยรักพี่ยอร์ชนะครับ รักมาก”
        “พี่ก็รักโยชิมากนะครับเด็กน้อยของพี่”
        “ฮึก คิดถึงพี่ยอร์ช”
        “ฮ่าๆๆ งอแงอะไรกัน เป็นนากินีงอแงได้ด้วยเหรอไง” ผมแกล้งกระเซ้า
        โยชิสูดน้ำมูกเสียงดังตอบเสียงอู้อี้ “งอแงได้เพราะเป็นห่วงพี่ยอร์ช”
        น้องชายผมจะน่ารักเกินไปแล้ว
        ครับๆ พี่รู้แล้วว่าน้องเป็นห่วง แล้วนี่อาซาอยู่ด้วยไหม” ผมถามหาถึงคนรักของน้อง
        “อยู่ ฮึก อยู่ข้างๆเนี่ยแหละ”
        “ขอพี่คุยกับอาซาหน่อยสิ” ผมบอก เสียงสะอื้นของโยชิเบาลง แทนที่ด้วยเสียงแหบแห้งที่ฟังแล้วรู้สึกว่าคนๆนี้มีเสน่ห์
        “ไฮ” คำทักทายของอาซายังคงนิ่งและสั้นเหมือนเดิมไม่หลุดคอนเซ็ป
        “ฝากโยชิด้วยนะ ส่วนเรื่องเอเดนฉันขอโทษด้วย” ผมเองก็รู้สึกไม่ดีเช่นเดียวกันที่ความต้องการของตัวเองทำให้คนอื่นๆพลอยลำบากใจไปด้วย
        “ผมไม่คิดอะไรแล้วครับ ไม่เคยอะไรมาตั้งแต่แรก ถ้าเขากลับตัวได้ผมก็โอเค”
        “อืม ขอบคุณนะ ฝากปลอบโยชิแทนผมที” ผมฝากฝัง
        “ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลเขาเอง”
        “ขอบคุณอีกครั้งนะ”
        ผมวางสาย กลับมาคิดทบทวนว่าควรจะเอายังไงต่อดีกับเรื่องของผมและเอเดน ตั้งแต่เล็กจนโตมีเรื่องให้ต้องตัดสินใจมากมาย แต่ไม่มีครั้งไหนยากเท่าครั้งนี้
        ผมผล็อยหลับไปอย่างง่ายดาย แต่ตกดึกนั่นแหละถึงได้โดนก่อกวนจากคนที่ทำให้ผมต้องครุ่นคิดเรื่องของเขาเป็นร้อยๆรอบ และครั้งนี้ผมก็ได้คำตอบให้ตัวเองแล้วว่าควรจะเลือกอะไรระหว่างความรักกับความถูกต้อง
        โยชิเป็นกังวลเรื่องเอเดนมากผมรู้และเข้าใจ เพราะผมเองก็กังวลไม่ต่างกัน ไม่ใช่เรื่องสิ่งที่เขาเคยทำ แต่เป็นสิ่งที่จะเกิดหลังจากนี้ต่างหากที่ทำใหผมกังวลจนไม่กล้าที่จะยอมรับว่าผมก็รู้สึกเหมือนกันกับเขา
        ผมไม่ใช่โยชิที่เป็นเหมือนอาซา
        ผมเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่มีอายุขัยเต็มที่ก็แต่100กว่าปีตามสถิติคนที่อายุมากที่สุดในโลก
        สำหรับมนุษย์เราแล้วอายุเท่านั้นเรียกกว่ามากเกินความคาดหมายด้วยซ้ำ แต่เมื่อเทียบกับมนุษย์กลายร่าง เอเดนมีอายุตั้งเท่าไหร่ มากกว่าผมกี่เท่าตัว แต่เขายังดูหนุ่ม มองจากภายนอก เขาเหมือนคนอายุสามสิบต้นๆด้วยซ้ำ ต่างจากผมที่อายุน้อยกว่า แต่อีกไม่นานมก็จะแก่กว่าเขา ผมจะไม่เหมือนเดิม จะเป็นคนแก่คนหนึ่ง เมื่อถึงตอนนั้น จะให้ผมเดินเคียงคู่กับเขาน่ะเหรอ ใครมองก็คงคิดว่าพ่อกับลูกเดินคู่กัน และอีกอย่าง หากผมตายจากไปล่ะ
        ในเช้าวันต่อมาผมทำทุกอย่างเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งช่วงเช้าผมต้องเขาตัวเมืองไปส่งของด้วยตัวเอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้นหลังจากที่ผมส่งของเสร็จ ผมคิดว่าจะเป็นเอเดนที่โทรมา แต่ไม่ใช่ เมื่อผมรับสาย เสียงหวานใสที่เคยก้องกังวานอยู่ในอกดังลอดโทรศัพท์ออกมาให้ได้ยินอีกครั้ง
        “ฮัลโหล ยอร์ชใช่ไหม แอนนาเองนะ”
        “แอนนา” ผมตกใจไปเล็กน้อย เกือบจะเหยียบเบรคไม่ทันเพราะไฟจราจรที่เปลี่ยนมาเป็นสีแดงในจังหวะที่ผมเหม่อลอย
        “ใช่ แอนนาเอง ยุ่งอยู่ไหม” เธอถามเสียงติดจะเกรงใจ และที่มากไปกว่านั้นเสียงของเธอเหมือนคนกำลังเศร้า
        “ขับรถอยู่นะมีอะไรหรือเปล่า” ผมถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ถึงจะเลิกรากันไปแล้ว แต่ความรู้สึกดีๆที่ผมเคยมีให้แอนนานั้นยังเหมือนเดิม เพียงแต่ไม่ใช่อย่างคนรัก ตอนนี้เธอคือเพื่อนผมคนหนึ่ง
        “ตอนนี้แอนนาอยู่ที่สนามบินเชียงใหม่” เธอตอบ
        “มาเที่ยวเหรอ”
        “ก็ ไม่เชิงน่ะ” เสียเธอฟังดูไม่ดีจริงๆ “ว่างไหม มารับที่สนามบินหน่อยสิ”
        “ได้สิ” ผมตอบทันที เปลี่ยนเส้นทางตรงไปยังสนามบินประจำจังหวัด ไปถึงเธอออกมายืนรอพร้อมกระเป๋าเดินทางใบเล็กหนึ่งใบคนเดียว ผมเปิดกระจกบอกให้เธอขึ้นรถ
        แอนนาผอมลงไปมากนับจากที่เราเจอกันครั้งล่าสุด ใบหน้าของเธอเศร้าและใต้ตาดำคล้ำเล็กน้อยเหมือนคนพักผ่อนไม่พอ แต่ถึงอย่างนั้น โดยรวมก็จัดว่ายังสวยอยู่ดี
        “พาไปหาอะไรกินหน่อยสิ หิวมากเลย” แอนนาหันหน้ามาบอกผม
        “อยากกินอะไรล่ะ” ผมถาม แอนนาคุ้นชินกับที่นี่เป็นอย่างดี เธอไม่ใช่คนเชียงใหม่ แต่ว่าตลอดช่วงเวลาที่คบกัน ผมพาเธอสำรวจทนทั่วจังหวัด อาจมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปแต่ก็ไม่ได้ห่างไกลจากที่เคยเป็น
        “อยากไปกินข้าวจิบกาแฟที่คาเฟ่อะไรสักอย่างที่ยอร์ชเคยพาไปน่ะ จำชื่อไม่ได้แล้ว”
        “ได้สิ” ผมจำได้ว่าเป็นร้านไหน เพราะเป็นร้านที่โยชิเองก็ชอบเหมือนกัน”
        ผมขับรถพาแอนนาไปหาอะไรกินที่คาเฟ่ชื่อดังของเมือง เป็นร้านสไตล์โมเดิร์นผสมวิจเทจ แต่งร้านด้วยอุปกรณ์และสิ่งของที่ชาวฮิปสเตอร์ชอบ เดี๋ยวนี้ใครๆก็ชอบอะไรแบบนี้ พวกเขาเรียกการมาจิบกาแฟในร้านคาเฟ่สวยๆว่าการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ผมเองไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า บางทีการได้มานั่งทอดอารมณ์จิบเครื่องดื่มที่ชอบในที่ๆสบายหูสบายตาก็ให้ความรู้สึกที่ดีมากๆเช่นกัน
        แอนนาสั่งอาหารเช้าพร้อมสลัดและกาแฟมอคค่าแบบที่ชอบมาทาน ส่วนผมทานข้าวเช้าและกาแฟมาแล้วจากบ้าน แต่ก็ยังคงสั่งลาเต้มาดื่มอีกแก้ว
        ผมคอยลอบสังเกตสีหน้าและท่าทางของแอนนา ทุกการกระทำและคำพูดเธอยังคงเป็นแอนนาคนเดิมที่มีรอยยิ้มที่สวยและร่าเริงแจ่มใส แม้ผมจะดูออกก็ตามว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ในอก
        “แอนนา” ผมเรียกเมื่อเธอทานเสร็จ
        เธอรู้สิ่งที่ผมต้องการรู้ มือเรียวสั่นเทาเล็กน้อยค่อยๆวางแก้วกาแฟลง ริมฝีปากสีชมพูดอ่อนเม้มเข้าหากันก่อนจะคลายออกเป็นยิ้มบางที่ไม่สอดคล้องกับแววตาสั่นไหว
        “เรากำลังจะแต่งงานกับบอส” เธอพูดถึงเรื่องทีน่ายินดีด้วยใบหน้าที่สวนทาง
        “ก็ดีไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงทำหน้าไม่มีความสุขล่ะ”
        ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย หากพวกเขากำลังจะแต่งงานกันด้วยความรัก น่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากกว่าที่จะเศร้าเสียใจ
        “ไม่อยากแต่งงานเหรอ” ผมถาม
        แอนนาส่ายหน้า “อยากสิ อยากแต่งจะตาย แต่ว่า...บอสยังไม่อยากมีลูก เมื่อสองวันก่อนเราลองเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เราอยากมีลูกแต่บอสกลับบอกว่าไม่อยากมี”
        “ทำไมล่ะ”
        “ไม่รู้” เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ถ้าเป็นยอร์ช ยอร์ชอยากมีลูกไหม”
        ผมคิดตามที่เธอถาม ภาพที่เกิดขึ้นในหัวก็คือ ใครจะเป็นคนท้องในเมื่อผมกับเอเดนเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่ถ้าผมมีแฟนเป็นผู้หญิงล่ะก็ ต้องมีมีลูกที่น่ารักแน่ๆ
        “อยากสิ” ผมตอบตามที่ใจคิด
        “แล้วทำไมบอสถึงไม่อยากมีล่ะ” เธอถามผมจริงจัง ผมส่ายหน้า จะไปรู้ได้ยังไงผมไม่ใช่เขานิ
        “ถามเหตุผลเขาหรือยัง คุยกันละเอียดแล้วเหรอว่าทำไม”
        “ไม่รู้”
        “อ้าว”
        “เราก็ถามเขานะยอร์ชว่าทำไมไม่อยากมี เขาตอบแค่ว่ายังไม่พร้อม ทั้งที่บอสก็เป็นคนชอบเด็ก แต่เราไม่เข้าใจว่าไม่พร้อมคืออะไร ทั้งที่เราก็โตกันแล้ว งานการก็มี เงินทองก็มี บ้านก็มี พอเราถามเขาก็พูดแค่ว่าไว้ก่อนๆ เขาไม่รีบ เรารีบเหรอ ก็ต้องรีบสิ เราอายุจะสามสิบแล้วนะ ถ้าท้องตอนอายุมากกว่านี้มันก็จะยิ่งมีความเสี่ยงมาก บอสเองก็รู้ แต่ก็ยังคงยืนยันว่ายังไม่อยากมีตอนนี้ พอเราถามว่าต้องรออีกนานเท่าไหร่ หนึ่งปีพอไหม เขากลับเงียบ ทั้งๆที่อีกสองเดือนข้างหน้าเรากำลังจะแต่งงานกันแล้วแท้ๆ”
        ผมได้แต่รับฟังแอนนาระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจโดยที่ไม่รู้ว่าจะปลอบใจหรือช่วยแก้ปัญหายังไงดี เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนแค่สองคน ผมเข้าใจแอนนาว่าเธอรู้สึกยังไง คงมีแต่ความไม่เข้าใจว่าทำไมแฟนของเธอถึงไม่มีเหตุผลที่ดีกว่านี้ให้
        “เราผิดเหรอยอร์ชที่เราอยากมีลูก”
        “ไม่ผิดหรอก อย่าคิดแบบนั้น ใจเย็นๆยอร์ชคิดว่าเขาคงมีเหตุผลของเขาแหละ ให้เวลาเขาหน่อยก็แล้วกัน แอนนามีเหตุผลว่าทำไมถึงอยากมีลูกเร็วๆ เขาก็คงมีเหตุผลของเขาว่าทำไมถึงยังไม่อยากมีลูกตอนนี้ เมื่อถึงเวลาเขาก็คงบอกเองนั่นแหละ”
        “เฮ้อ” ร่างเล็กทิ้งตัวลงกับพนักเก้าอี้ “ยอร์ช คิดเหมือนกันไหมว่า ถ้าหากเราไม่เลิกกัน ป่านนี้เราจะน่าจะมีลูกไปแล้วนะ ว่าไหม”
        ผมเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินแอนนาพูดแบบนั้น เธอยิ้มให้ผมแบบไม่มีความหมายแฝง
        “แล้วบอกเลิกเราทำไมล่ะ จะมาเสียดายตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วนะ” ผมยักคิ้วกวนๆใส่ แอนนาหัวเราะเสียงดังใส่ผม ก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น แอนนาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าถือออกมาดู ทันใดนั้นเสียงหัวเราะสดใสก็หายไปในวินาทีต่อมา ผมคิดว่าคนที่โทรมาคงเป็นคนที่เราพูดถึงอยู่
        ผมผายมือให้เธอคุยกับเขาซะ หันหลังให้กันก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น แอนนาถึงได้ขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกร้าน ผมมองตามเธอก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมโทรศัพท์ไว้ในรถ แต่เพราะว่าส่งของเสร็จตั้งแต่เช้าแล้ว และคงไม่มีธุระอะไรให้ต้องใช้จึงไมได้คิดจะไปเอา
        แอนนากลับมาด้วยใบหน้าที่ดีขึ้น เธอไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่าจะกลับกรุงเทพแล้วทั้งๆที่เพิ่งจะมาถึงเชียงใหม่ได้ไม่เกินสองชั่วโมง ผมคิดว่าเธอคงได้รับข่าวดีจากคนของเธอ ซึ่งผมก็ได้แต่แสดงความยินดีและตอบรับว่าจะไปร่วมงานแต่งของเธอในอีกสองเดือนข้างหน้า
        ผมขับรถไปส่งแอนนาที่สนามบินอีกครั้ง ผมอยู่เป็นเพื่อนเธอเพื่อซื้อตั๋วใหม่ และรอจนกระทั่งเช็คอิน ผมส่งกระเป๋าเดินทางของเธอให้เมื่อได้เวลา
        “ไว้จะโทรมาบอกเรื่องงานแต่งอีกทีนะ”
        “อืม เดินทางดีๆแล้วก็คุยกันดีๆล่ะ” ผมบอก
        “ขอบใจมากนะยอร์ชที่ช่วยรับฟังเรา”
        “เรื่องเล็กน้อยน่า”
        “ขอกอดหน่อยได้ไหม” เธอถาม
        ผมยิ้ม อ้าแขนออกกว้าง “มาสิ”
        เธอเดินเข้ามากอดผม ผมยกมือขึ้นกอดตอบ ผมเคยคิดว่าผมยังไม่ลืมแอนนา ผมยังคงรักเธอแต่ตอนนี้ผมแน่ใจแล้วว่า เรื่องระหว่างผมกับแอนนามันจบลงแล้วจริงๆ ไม่หลงเหลือแม้เพียงเศษเสี้ยวตะกอนของความรู้สึกทางชู้สาว เหลือไว้เพียงความรู้สึกดีในฐานะเพื่อนเท่านั้น


[ต่อด้านล่าง]
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 24-01-2016 21:56:51

        โทรศัพท์ผมปรากฏเบอร์โทรที่ไม่ได้รับมากกว่าสามสิบสาย ผมทำเพียงมองแล้วปล่อยมันทิ้งไว้ไม่คิดจะโทรกลับ ถ้าอยากคุยกับผมจริงๆก็กลับมาคุยกันที่นี่สิ
        “ขำอะไรเหรอครับคุณยอร์ช” เสียงบุคคลที่นั่งฝั่งตรงข้ามดังขึ้น
        “ไม่มีอะไรหรอกครับคุณริชาร์ด” ผมตอบ
        “งั้นก็เลือกอาหารเถอะครับ” คุณริชาร์ดเจ้าของร้านอาหารชื่อดังเลื่อนเมนูอาหารมาให้ผม
        “ที่จริงไม่ต้องเลี้ยงข้าวผมก็ได้นะครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย” ผมเปิดเมนูอาหารไปพลางพูดไปพลาง
        “ผมเกรงใจนะครับที่ต้องโทรไปขอให้คุณยอร์ชเอาองุ่นมาส่งให้กระทันหันในเวลาที่จำกัดแบบนี้ ให้ผมเลี้ยงข้าวเพื่อตอบแทนเถอะครับ” คุรริชาร์ดแสดงคำขอโทษผ่านทางสีหน้าและแววตา
        ผมสั่นหัวเบาๆ “อย่าคิดมากครับ เรื่องแค่นี้เองไม่ได้หนักหนาเลย”
        “ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ แต่ผมไม่สบายใจ”
        “งั้น ขอเป็นเมนูเด็ดของร้านแล้วกันครับ” ผมปิดเมนูแล้ววางลงกับโต๊ะ
        “ได้ครั้บ งั้นรอสักครู่ผมจะไปทำมาให้ รอแปบเดียวนะครับ” คุณริชาร์ดรีบลุกออกไปจากโต๊ะ วิ่งไปในครัวเพื่อทำอาหารมาให้ผม
        เมื่อช่วงสายได้รับสายด่วนจากเขากะทันหันขอให้เอาองุ่นและไวน์มาส่งให้ที่ร้านเพราะของขาดและร้านก็ใกล้ได้เวลาเปิด ผมที่ติดพันงานที่ไร่ต้องวางมือแล้วนำของมาส่งให้คุณริชาร์ด พอจะกลับเขาก็เลยรั้งผมเอาไว้เพื่อที่จะเลี้ยงมื้อกลางวันเป็นการตอบแทน
        ระหว่างที่นั่งรอคุณริชาร์ด โทรศัพท์ของผมก็สั่นขึ้นอีกครั้ง ต่างจากครั้งก่อนๆตรงที่ว่า สายที่โทรมาเป็นเบอร์โทรศัพท์หมายเลขประเทศไทย และชื่อที่บันทึกเอาไว้ก็เป็นชื่อของเอเดน
        ผมกดรับสายแต่ไม่ได้เอ่ยพูดอะไร จนกระทั่งปลายสายจะทนไม่ไว้ ใช้น้ำเสียงดุดันพูดขึ้น
        “ออกมาจากร้านเลยตอนนี้ ผมจะรออยู่ข้างนอก”
        ผมอยากจะมองออกไปดูว่าเขาอยู่จริงหรือเปล่า แต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นนั่งนิ่งเพื่อรอดูอะไรบางอย่าง ขอผมพิสูจน์อีกสักหน่อยให้แน่ใจ คงจะไม่ว่ากันนะเอเดน
        “ไม่ ผมจะอยู่ทานข้าวก่อน” ผมพูดชิลล์ๆ
        “ยอร์ช ผมบอกว่าให้ออกมา” เขาเน้นน้ำเสียงหนัก
        “ผมไม่ออก หิวข้าวไหม มาทานด้วยกันสิ”
        “ออกมาสิ เดี๋ยวผมพาไปทานที่อื่น” เสียงสั่งของเอเดนช่างน่ากลัว แต่ผมทำเป็นข่มใจไม่รู้สึกอะไร
        “ทานที่นี่ก็ได้นี่”
        “ยอร์ช”
        “เมนูเด็ดของร้านมาแล้วครับยอร์ช” เสียงของคุณริชาร์ดนำมาก่อนที่ตัวของเขาจะเดินถือถาดใส่อาหารมาเสิร์ฟให้ผมถึงที่ด้วยตัวเอง
        “ขอบคุณมากครับ” ผมเงยหน้าพูดกับคุณริชาร์ด เขายิ้วกว้างแล้วนั่งลงตรงข้ามกับผม “แค่นี้ก่อนนะผมจะทานข้าว”
        ผมกดตัดสาย วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ นับหนึ่งถึงสิบในใจ ก้มมองอาหารใจจาน แต่ความสนใจทั้งหมดเพ่งไปยังใครคนที่ถูกผมยั่วโมโหทางสายโทรศัพท์ ผมได้ยินเสียงเปิดประตูร้าน เสียงก้าวเดินในขณะที่ผมกำลังใช้ส้อมพันเส้นพาสต้าสูตรเฉพาะของร้านที่ทำเองรสชาติและความเหนียวนุ่มต่างจากที่อื่นเพื่อที่จะเอาเข้าปาก
        หมับ!
        ข้อมือผมถูกมือหนารั้งเอาไว้ ปากที่อ้าค้างก็เลยได้แต่รับลม ผมช้อนตาขึ้นมองเอเดน เอาเข้าจริงผมนับถึงแค่เลขเก้าเองด้วยซ้ำ เข้ามาไวกว่าที่คิด
        ที่ผมทำแบบนี้ ผมอยากรู้ว่าเอเดนจะทำยังไงกับผม อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องที่เขาให้ลูกน้องของเขาจับตาดูผมอยู่ตลอดเวลาจนให้ความรู้สึกเหมือนผมเป็นคนร้ายที่ต้องมีผู้คุมคอยจับตามอง แต่ที่ไม่พูดไม่ทักท้วงก็เพราะว่าผมเข้าใจเจตนาของเขาที่นอกเหนือไปจากอยากรู้ว่าผมไปไหนกับใครและไปทำอะไรก็คือเขาเป็นห่วงผม
        ผมเองก็อยากรู้ว่าเขาจะเข้าใจผมมากน้อยแค่ไหน จะรับฟังเหตุผลของผมเหมือนที่ผมเป็นไหม เรื่องนี้สำคัญสำหรับผมมาก ผมก็แค่อยากจะแน่ใจ และในตอนนี้ที่ผมแค่จะกินข้าวในร้านอาหารของเพื่อนคนหนึ่ง มันจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรให้เขาแสดงอาการฟาดงวงฟาดงา ถึงเขาจะรักจะชอบผม แต่ผมก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง ผมอยากให้เขารู้ว่าผมไม่ต้องการให้เขาควบคุมชีวิตผม แต่ผมอยากให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมให้ได้ ผมมีสังคมของผมและเขาก็ต้องทำความเข้าใจเหมือนที่ผมพยายามเข้าใจสังคมของเขามาโดยตลอด ไม่ใช่จะห้ามผมเข้าใกล้คนอื่นแม้แต่คนรู้จัก ผมว่าแบบนั้นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนัก เขาอาจจะหวง แต่ผมจะทำให้เขารู้ว่าคนอย่างยอร์ชไว้ใจได้ อาจจะมีใครต่อใครมาชอบผม แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะสนใจตอบ ถ้าผมคิดจะคบใครสักคน ผมก็จะคบแค่คนเดียว ซึ่งเอเดนในขณะนี้ขี้หวงเกินกว่าที่จะเข้าใจในจุดนี้
        คุณริชาร์ดมองผมสลับกับเอเดนด้วยความงุนงนเล็กน้อย ผมส่งยิ้มให้เขา เลยได้เสียงขู่คำรามในลำคอจากผู้มาใหม่แทน
        “ปล่อยครับ ผมจะทาน”
        “...” เอเดนยังคงจ้องผมนิ่ง และเมื่อผมยังไม่ยอมทำตามความต้องการของเขา คือกลับไปพร้อมเขาเดี๋ยวนี้ เอเดนเลยเบนเป้าหมายไปหาเจ้าของร้านแทน
        “ไฮ” คุณริชาร์ดก็อัธยาสัยดีเกินไป ทั้งๆที่สายตาของเอเดนแทบจะเขมือบหัวเขาได้อยู่แล้ว
        “เขาทักทายคุณอยู่นะเอเดน” ผมวางส้อมในมือลง พักเรื่องอาหารเอาไว้ก่อน
        “ไฮ” เอเดนทักกลับ แต่ใบหน้าบึ้งตึง มือของเขายังคงจับที่ข้อมือผมอยู่ ผมดึงแขนตัวเองออก เขาไม่พอใจถลึงตาใส่ผม ผมเลยจ้องตาเขากลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
        “ยอร์ชครับ คือ...มีอะไรกันหรือเปล่าครับ” คุณริชาร์ดเปิดปากถามตามที่ตัวเองสงสัย
        “ไม่มีอะไรครับ นี่เอเดน ผู้ช่วยของผม” ผมแนะนำเองเสียเลย ถ้าให้เอเดนอ้าปากก่อนคงต้องรอชาติหน้า
        “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเอเดน ผมเป็นเจ้าของร้านนี้แหละเป็นเพื่อนกับคุณยอร์ชด้วย” คุณริชาร์ดลุกขึ้นยืนและยื่นมือออกไปเพื่อทักทายอย่างเป็นทางการ แต่เอเดนยังคงนิ่ง เอาแต่มองหน้าผม เขาคงรู้สึกไม่ชอบที่ผมแนะนำเขาไปแบบนั้น
        ผมยื้อข้อมือตัวเองออกจากมือใหญ่ได้สำเร็จ ก้มหน้าเริ่มทานอาหารตรงหน้าอีกครั้งทำเป็นไม่สนใจว่าเอเดนจะทำอะไร
        เอาสิ ทำอะไรก็ได้ที่คุณอยากทำ
        “ยินดีมากเช่นกันครับ” เสียงของเอเดนเอ่ยช้าๆและเน้นน้ำหนักทีละคำอย่างคนสะกดกลั้นอารมณ์
        “ทานอะไรไหมครับ ผมจะได้ไปทำมาให้” คุณริชาร์ดรีบอาสา แต่ถูกเอเดนขัดเอาไว้
        “ไม่ต้อง ผมไม่หิว” เขาพูด ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆผม ขยับเก้าอี้เข้ามาเสียใกล้
        “งั้นรับเป็นเครื่องดื่มอะไรไหมครับระหว่างรอคุณยอร์ช” คุณริชาร์ดยังคงนำเสนอ ผมคนกลางก็อยากจะหลุดขำ คุณริชาร์ดที่เป็นชาวต่างชาร์ตมาอยู่เมืองไทยก็คงอยากจะทำความรู้จักกับชาวต่างชาติด้วยกัน เหมือนคนไทยไปต่างประเทศแล้วเจอคนชาติเดียวกัน แต่เอเดนเนี่ยสิไม่สนใจอะไรเลย เอาแต่นั่งกดดันผม
        “ไม่ต้องครับ” เขาพูดเสียงแข็งกับริชาร์ด “รีบๆทานเลยยอร์ชก่อนที่ผมจะหมดความอดทนแล้วลากคุณออกจากร้าน” เอเดนกระซิบให้ผมได้ยินเพียงคนเดียว
        “ก็ทำสิ กล้าหรือเปล่า” ผมท้า เพิ่งประกายไฟในดวงตาสีเขียวเข้ม
        “ผม...”
        ผมรอฟังว่าเขาจะพูดว่าอะไร เอเดนมองนิ่งแล้วถอนหายใจ หลุบตาลงต่ำ วางมือไว้บนหน้าขาผม ออกแรงบีบเบาๆเหมือนจับไว้เป็นหลักยึด
        “ผมขอร้อง ทานเร็วๆเถอะนะ” เสียงของเขาแผ่วเบาราวกับคนไร้เรี่ยวแรง
        และบททดสอบของผมก็จบลง ผมวางส้อมในมืออีกครั้งเพราะคราวนี้คิดว่าคงต้องกลับจริงๆเสียที
        “ผมคิดว่าผมต้องขอตัวกลับไปทำงานต่อแล้วครับ ยังไงไว้วันหลังผมจะมาชิมฝีมือคุณริชาร์ดใหม่นะครับ” ผมเอ่ยกับเจ้าของร้าน คุณริชาร์ดทำหน้าเสียดายเล็กน้อยที่ผมยังไม่ทันแตะต้องอาหารของเขาแม้แต่คำเดียว
        “ไม่เป็นไรครับ แต่คราวหน้าต้องมาให้ได้นะครับ คุณเอเดนด้วย ผมถือว่าผมชวนแล้วนะ”
        “ด้วยความเต็มใจครับ” ผมตอบรับคำชวน แล้วก็เดินนำคนตัวโตหน้าเข้มออกจากร้าน เพียงพ้นประตูร้านเท่านั้น เอเดนรีบคว้ามือผมไว้แล้วดึงให้เดินไปที่รถสปอร์ตคันหรูที่จอดเตะสายตาชาวบ้าน ผมยื้อตัวเอาไว้เพราะผมก็เอารถมา แต่พอหันไปมองที่ๆเคยมีรถกระบะของไร่จอดอยู่ก็พบว่าเป็นรถคันอื่นไม่ใช่ของผม
        “รถผมไปไหน” ผมถาม
        “ผมให้คนงานที่ไร่มาเอากลับไปแล้ว” เอเดนตอบพลางดันผมเข้าไปในรถสปอร์ตป้ายแดงคันหรูที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
        เอเดนเข้ามานั่งประจำที่คนขับ ไม่พูดไม่จาออกรถตรงกลับไร่ ผมมองสำรวจรอบๆรถ ราคาหลายล้านแน่นอน ลองใช้มือจับนู่นสัมผัสนี่ ถ้าอยากจะลองขอเจ้าของขับดูบ้างเขาจะให้ผมไหม
        “ผมคิดว่าคุณจะอาละวาดจนร้านพังเสียอีก” ผมพูดขึ้น ลอบมองเสี้ยวหน้าคนด้านข้างไปด้วย
        “อยากให้ผมกลับไปทำแบบนั้นไหมล่ะ” เขากัดฟันถาม ดูก็รู้ว่าอารมณ์เสียเอามากๆ
        “คุณริชาร์ดเขาเป็นลูกค้าผม เราไม่มีอะไรกัน ถ้าคุณจะมองแบบคนฉลาดสักนิด”
        “แล้วทำไมคุณถึงไม่รับสายผม”
        คราวนี้ผมไม่ตอบ แต่หันไปยิ้มให้เขาแทน
        “ทำไมกลับมาไว” ผมเปลี่ยนเรื่องถาม
        “อย่ามาพูดทำเหมือนตัวเองไม่รู้ไปหน่อยเลยยอร์ช คุณทำให้ผมเป็นบ้า!”
        “อ่อ เหรอ”
        “คุณรู้จักผมน้อยไปยอร์ช” เอเดนพูดประโยคสุดท้ายและหลังจากนั้นระหว่างเราก็ไม่มีการโต้ตอบอะไรทั้งสิ้น
        ด้วยสมรรถภาพรถที่ออกแบบมาให้เป็นรถแข่งอยู่แล้ว มันจึงพาผมกลับมาที่ไร่ในเวลาที่เร็วกว่ารถของผมถึงสองเท่า
        ผมลงจากรถเดินกลับเข้าบ้าน เอเดนเดินตามมาติดๆ ผมคว้าแขนผมไว้ ทำหน้าดุใส่อีกต่างหาก
        “ผมบอกคุณว่าไง ไม่ให้ไปยุ่งกับใครใช่ไหม” เอเดนเริ่มเปิดประเด็น ผมหันกลับไปมองเขาตรงๆ เอเดนขยับเข้ามาใกล้จนช่องว่างระหว่างเราค่อยๆลดลง ผมไม่ได้ถอยหลังหนี ยืนนิ่งดูว่าเขาจะทำอะไร
        “ผมก็ไม่ได้ยุ่งกับใคร” ผมพูดความจริง เอเดนแสยะยิ้มเหมือนไม่เชื่อ เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดอะไรบางอย่างให้ผมดู เป็นรูปผมกับแอนนาที่นั่งคุยกันในร้านอาหารและที่สนามบิน รวมไปถึงภาพที่ผมแวะคุยกับคนรู้จักเวลาเข้าไปในตัวเมือง ผมหลุบตามองต่ำข่มความโกรธที่กำลังจะปะทุขึ้น
        “คุณจะอธิบายว่ายังไงยอร์ช” มือทั้งสองข้างของเอเดนคว้าเข้าที่ไหล่ผมและบีบเอาไว้แน่น ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเจ็บแต่ก็อึดอัด
        ผมพยายามจะเข้าใจความรู้สึกของเอเดน เผื่อให้ตัวเองใจเย็นลง
        “หึงเหรอ” ผมถาม
        เอเดนอึ้งชะงักไปกับคำถามของผม เอาอึกอักก่อนจะตอบเสียงดังฟังชัด “ก็ใช่นะสิ คุณเป็นของผมน่ะ ไปนั่งหัวเราะกับผู้หญิงคนอื่นได้ไง คุณชอบเขาเหรอ”
        “ขี้โวยวาย” ผมบ่น “จะฟังผมไหม ถ้าผมเล่าแล้วจะเชื่อผมหรือเปล่า” ผมถาม
        เอเดนปล่อยมือออกจากไหล่ไปท้าวเอว
        “ว่าไง จะเชื่อผมไหม” ผมถามย้ำอีกครั้ง
        “ถ้าคุณพูดความจริงผมจะเชื่อคุณ แต่ผมขอบอกคุณเอาไว้อย่าง ผมให้ใจกับคุณไปแล้ว ต่อให้คุณโกหกผมก็ต้องเชื่ออยู่ดี” น้ำเสียงของเขาเบาจนแทบไม่ได้ยิน
        “ผมกับแอนนาเราเคยเป็นแฟนกัน” ผมพูดแค่ประโยคนี้ ดวงตาก็เอเดนก็เหมือนมีประกายไฟลุกโชนน่ากลัว
        “เขามีปัญหาก็เลยมาที่นี่ ผมเป็นเพื่อนก็เลยไปนั่งเป็นเพื่อนเธอ ฟังเธอระบายและให้คำปรึกษาก็แค่นั้น ไม่มีอะไรที่คุณจะต้องคิดมากเลยสักนิดเอเดน แอนนามีแฟนแล้วและพวกเขากำลังจะแต่งงานในอีกสองเดือนข้างหน้า ผมกับแอนนาเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น”
        “คุณยังรักเธอไหม” ปากพูดแต่ใช้สายตามองเพื่อหาคำตอบจากดวงตาของผม ผมจึงมองตอบด้วยความจริงใจ
        “ผมเคยคิดว่าผมยังรักเธอ”
        “...” ดวงตาสีเขียวสวยหม่นแสงลง
        “แต่ผมคิดผิดมาตลอด ผมไม่ได้รักเธอแล้ว ผมรู้สึกดีๆกับเธอในฐานะเพื่อน ในฐานะคนเคยมีช่วงเวลาดีๆด้วยกันเท่านั้น ไม่ได้รู้สึกมากไปกว่านี้ หรือไม่ก็เป็นเพราะว่าผมอาจจะรักคนอื่นอยู่ก็ได้”
        “ใคร” คราวนี้ถามเสียงเขียวเชียว
        “ใครดีล่ะ” ผมย้อนถามกลับยิ้มๆ
        เอเดนรั้งเอวผมไปกอดเอาไว้ “รักผมสิ”
        ดูเป็นประโยคที่เอาแต่ใจนะว่าไหม
        “คุณแน่ใจแล้วเหรอเอเดนที่เลือกจะรักผม ผมเป็นแค่มนุษย์ธรรมดานะ อีกไม่กี่สิบปีผมก็จะแก่และตาย ผมไม่ได้มีอายุยืนยาวแบบคุณ คุณรับได้เหรอ ผมแก่ลงได้ทุกวันและเมื่อผมอายุหกสิบ คุณจะทำยังไงกับตาแก่อย่างผมในขณะที่คุณยังคงดูหล่อเหลาเป็นหนุ่ม มีอะไรรับประกันได้บ้างว่าสุดท้ายแล้วมันจะโอเค”
        ผมรู้สึกไม่มั่นใจเลยตลอดเวลาที่พูด ผมบอกกล่าวความกลัวของผมให้เขารู้ ผมอยากรู้ว่าเขาจะจัดการกับความคิดของผมอย่างไร จะทำยังไงให้ผมมั่นใจว่าผมตัดสินใจไม่ผิดที่รักเขา
        “คุณอาจจะไม่เชื่อผมนะยอร์ช แต่ว่าผมรู้จักตัวเองดี ผมรู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ และผมรู้ว่าผมจะไม่เปลี่ยนใจไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนไปยังไง ผมไม่ได้รักคุณที่รูปลักษณ์ภายนอก ผมรักคุณที่ข้างใน คุณทำให้คนเลวๆอย่างผมอยากเป็นคนที่ดีพอที่จะอยู่ข้างๆคุณ คุณอาจจะยังไม่ต้องเชื่อในตอนนี้ แต่ขอให้ผมได้พิสูจน์ ผมอาจนิสัยเสียบ่อยครั้ง แต่นั่นเพราะคุณมีอิทธิพลต่อผมมากเหลือเกิน”
        “...”
        “ขอแค่คุณใจตรงกับผม ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”
        “มันจะดีใช่ไหม ผมคิดมาตลอด ผมไม่ได้อยากเล่นตัว แต่ผมกลัว ผมไม่มั่นใจอะไรสักอย่าง ผมเป็นคนธรรมดาส่วนคุณเป็นากินี เราจะรักกันได้ยังไง”
        “แล้วคุณรักผมไหม”
        ผมไม่ตอบแต่พยักหน้าแทน และทำให้เอเดนยิ้มกว้างทั้งตา
        “คุณอาจจะรู้ตัวหรืออาจจะไม่รู้ตัว แต่ผมอยากจะขอบคุณคุณ  ขอบคุณที่คุณสอนให้ผมเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิต เรียนรู้ความสวยงามของโลกใบนี้ ให้ผมได้เห็นในมุมที่ไม่เคยเห็น ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เป็นในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะเป็น”
        ในขณะที่เขาพูด ผมสามารถสัมผัสได้จริงๆว่าเขารู้สึกเช่นนั้น
        “แล้วรู้สึกยังไง” ผมถาม เป็นฝ่ายลดระยะห่างเสียเองด้วยการยกมือขึ้นกอดเขา
        “ผมภูมิใจในตัวเองมาก และภูมิใจที่สุดที่ได้รักคุณ” เขาใช้สายตาหวานเชื่อมมองเข้ามาในดวงตาของผม
        ผมอยากบอกกับเขาเช่นกันว่าผมก็ภูมิใจที่เขาไม่ทำให้โอกาสที่ผมหยิบยื่นให้สูญเปล่า ผมเดิมพันความรู้สึกตัวเองกับเอเดนไว้สูงมาก ถ้าเขาไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ หรือไม่ได้ต้องการที่จะอยู่กับผมจริงๆ ผมคงเจ็บปวดที่ยอมรับความรู้สึกตัวเองและคงปวดใจ
        “ยอร์ช เป็นแฟนผมนะ”
        “คุณไม่อยากรอแล้วเหรอ” ผมดันตัวเองออกห่างเพราะรู้สึกเมื่อยที่ต้องยืนท่านั้นนานๆ
        “ใช่ผมไม่อยากรอ” เอเดนตอบเสียงหนักแน่น ความจริงจังสะท้อนผ่านแววตา “คนเราจะมีพรุ่งนี้อีกกี่วัน คุณก็บอกเองว่าคุณแก่ลงได้ทุกวัน  และถึงผมจะเป็นนากินีที่มีอายุยืนยาว แต่ไม่ใช่ว่าจะตายไม่ได้ เพียงแต่ยังไม่มีใครแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าผมเท่านั้น เพราะฉะนั้นผมไม่อยากให้เรื่องระหว่างเรามันสายไป ผมอยากใช้วันพรุ่งนี้กับคุณ ”
        ผมสบตาเอเดน ดวงตาของเขาช่างน่าหลงใหล เกิดคำถามขึ้นในใจหลายต่อหลายครั้งว่าภายใต้ดวงตาที่แสนจะลึกล้ำน่าค้นหานี้มีอะไรซ่อนอยู่ วันนี้สิ่งที่ผมเห็นก็คือ เงาสะท้อนของตัวผม
        “คุณจะไม่ทำใหผมผิดหวังใช่ไหม” ผมถามอีกครั้งเพิ่มเติมความมั่นใจให้ตัวเอง
        “ขอใช้ชื่อเอเดนเป็นประกัน ผมรักใครรักจริง และจะรักจนวันตาย”
        “น่าจะยากนะนั่น” ผมพูดติดตลก ความจริงคือพูดแก้เขิน
        “เป็นแฟนกับผมนะยอร์ช”
        “...”
        “Please be my babe”
        คำวิงวอนอ้อนขอความรักกับแววตาที่แสนจะออดอ้อน ถ้าหากใจร้ายได้มากกว่านี้ ผมคงจะปฏิเสธ แต่ทว่า ผมไม่ใจร้ายขนาดนั้น
        “yeah, I am yours”
        หลังจบประโยคตอบรับ ผมคาดหวังเล็กน้อยที่จะเห็นท่าทางกระโดดโลดเตhนของเอเดน แต่เปล่าเลย เขากลับยิ้มกว้างและหันหลังให้ผมเสียอย่างนั้น ผมเลิกคิ้วอย่างฉงนใจ ตอนนี้ผมเห็นแค่แผนหลังที่สั่นเทา ก็พอจะเดาได้แล้วว่าเอเดนเป็นอะไร
        ผมระบายยิ้ม สวมกอดเขาจากด้านหลัง ปล่อยให้เขาร้องไห้เงียบๆ
        ความรักของผมกับเขาในวันนี้มันอาจไม่ถูกต้อง แต่รักครั้งนี้กลับใช่ในความรู้สึกจนไม่อาจปฏิเสธ และผมหวังว่าเขาจะทำให้มันพิเศษคุ้มค่าที่ผมกล้าที่จะเสี่ยง
   


        ...............................................
        คงไม่ต้องบอกเนอะว่ายอร์ช คือ “เมียงู” และเอเดนคือ “งูกลัวเมีย” 55555  :impress2:
        นี่เป็นตอนพิเศษของเอเดนยออร์ชตอนสุดท้ายที่ริริจะนำมาลงที่เว็บให้ได้อ่านนะคะ เนื้อหาต่อจากนี้อ่านได้แค่ในหนังสือเท่านั้นค่ะ ซึ่งหากใครสนใจอย่างได้หนังสือชุดนี้เก็บไว้ยังคงเปิดให้จอง-โอนอยู่ ดูรายละเอียดได้ที่หน้าแรกนะคะ
        ต่อไปจะเป็นตอนพิเศษของเติร์ดและปุยเมฆนะคะ
        ขอบคุณนักอ่านที่ติดตามอ่านค่ะ   :mew1:


       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 24-01-2016 22:23:11
ในที่สุดก็เป็นแฟนกันสักที เอเดนใจเย็นลงมากแล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: บี๋น้อย ที่ 24-01-2016 22:57:43
สนุกม๊ากภาษาสวย จะไปสอยหนังสือเเน่ๆคร๊าไม่พลาด จะไปอ่านงูเกี้ยวกัน1เดือน :haun4: งานนี้เลือดเตรียมพร้อมละ :oo1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 24-01-2016 23:58:35
ฮือ นางปี่แตก เอเดน เจ้าช่างน่ารักน่าตี 5555 คิดถึงๆทุกคน ทุกๆตัวะครเลย
ตอนยอร์ชคุยกับโยชิ นี่เรามีความรู้สึกว่าคิดถึงแบบ ไม่ได้เจอกันนาน 5555 อินทำไม

สุดท้ายก็ลงเอยกันด้วยดี อร้ายยย
นี่นึกเติร์ดและปุยเมฆไม่ออกเลย
นางแมวยั่สวาทแน่ๆ ติดตามค่ะ
และขอบคุณนะคะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 25-01-2016 08:08:08
โถถถถถถถถ น้ำตาท่วมเลยเนาะพี่งู
แต่เรายังมีหนทางเปลี่ยนพี้ยอร์ชใช่ไหมน้าาาา
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 25-01-2016 08:44:19
อือหือออพี่งูถึงขั้นร้องไห้ :heaven
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 25-01-2016 09:55:03
อ้ายยย รออ่านในเล่มต่ออออ รักคู่ เมียงู งูกลัวเมีย ฮือออ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-01-2016 10:21:57
โอ้ยยย หวานสุดๆ ผู้ชายเถื่อนๆอย่างเอเดนก็หวานได้เนาะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: monkeytwin ที่ 25-01-2016 17:38:21
เป็นคนที่โคตรจะกลัวงูเลย แต่ก็อ่าน

เพราะ "ความสนุก" มันมีมากกว่า "ความกลัว"

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-01-2016 17:56:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 25-01-2016 21:04:03
ในที่สุดพี่งูของเราก็ชนะใจพี่ยอร์ชได้
แถมยังร้องไห้ด้วย
น่ารักจิงๆเลย
ยินดีด้วยน้าเอเดนพี่ยอร์ชช
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 25-01-2016 21:26:23
เอเดนคืิอนากินีผู้แข็งแกร่ง และกลัวเมียมากค่ะ

ปรบมือให้กับความมันคงของท่านค่ะ

เจอกันตอนต่อไปในหนนังสือนะค่ะ จุ๊บบบ!!
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 25-01-2016 23:53:45
ตอนจบนี่รุ้สึกว่าเอเดนนางน่ารักมาก5555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 26-01-2016 12:52:17
คงต้องเก็บตังถอยหนังสือซะแล้ว อร้ายยย  :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 26-01-2016 18:16:14
ชอบตรงงูกลัวเมีย  :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 26-01-2016 20:37:10
ขอบคุณคุณริริมากค่ะ... :pig4:

แต่ว่า...เหมือนมันขาดไปอย่างนะคะ

...ขาด NC...  :oo1:


อุ๊บส์ ! สายหื่น  :m20:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mukkai ที่ 27-01-2016 23:46:30
ขอบคุณนะคะคุณริริที่เอามาให้อ่านกัน :pig4:


ปลื้มเเทนเอเดน ตื้นตันใจมากแน่ๆที่ยอร์ชตอบตกลง
คนอ่านก็ลุ้นเหมือนกัน กลัวยอร์ชจะเปลี่ยนใจไม่โอเคด้วยซะเเล้ว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายADEN&YATCH❁THIRTEEN❁240116 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 31-01-2016 21:56:06
อเลก ผู้กำความลับ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁ONE❁8-02-16 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 08-02-2016 23:30:54
คำเตือน : ตอนพิเศษของน้องปุยและพี่เติร์ด ริริจะลงเพียงห้าตอนเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกสิบกว่าตอนที่เหลือจะอยู่ในหนังสือนะคะ ดังนั้นแล้วหาตอนที่ลงจะไม่ครอบคลุมเนื้อหาถึงตอนที่ทั้งคู่ลงเอยกันนะคะ เลยขอแจ้งเอาไว้ก่อน


SPECIAL
F.L.U.F.F.Y

ONE

(http://image.free.in.th/v/2013/il/160208043917.jpg)




        PUIMEK
        สวัสดีครับ ผมชื่อบราวนี่ ผมเป็นแมว ผมรู้ได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมมีชีวิต แต่เมื่อผมโตขึ้น ผมกลับแตกต่างไปจากแมวตัวอื่นๆทั่วไป ผมไม่รู้ว่าแมวตัวอื่นจะเป็นเหมือนผมไหม แต่ผมเข้าใจภาษามนุษย์มากกว่าห้าเปอร์เซ็นต์ ภาพที่ผมมองเห็นชัดเจนต่างจากตอนเด็กๆ
        และเมื่อวันเวลาผ่านไปจากหนึ่งปีเป็นห้าปี ห้าปีเป็นสิบปีและยาวนานไปจนถึงปีที่สิบหก ผมยังคงเป็นแมวที่ตัวโตจากเดิมเพียงนิดเดียว เจ้าของของผมที่เป็นยายแก่ๆเก็บผมมาเลี้ยงไว้ เธอตายจากไปเพราะวัยที่ล่วงเลยไปเกือบจะอายุแปดสิบ ผมกลายเป็นแมวเร่ร่อน เพราะแม้แต่เพื่อนซึ่งก็คือแมวตัวอื่นๆก็พากันตายจากไปเพราะอายุขัยที่แสนจะสั้น
        ผมเริ่มสงสัยในตัวเอง ผมไม่เพียงแต่ไม่แก่ ผมเหมือนแมวที่เพิ่งจะโตได้แค่สามเดือนเท่านั้น ทั้งๆที่ผมอยู่บนโลกใบนี้มาสิบหกปีแล้ว
        นั่นยังไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจที่สุด ร่างกายผมเกิดปฏิกริยาต่อต้านต่อดวงจันทร์ที่กลมโตส่องแสงสีเหลืองนวล หากร่างกายผมต้องแสงจันทร์ บางอย่างที่ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่มันหลบซ่อนอยู่ข้างในตัวผมจะประท้วง ผมจะเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย กระดูกคล้ายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ กล้ามเนื้อที่มีอยู่ไม่มากเจ็บเหมือนเกิดแผลปริแตก
        ผมทรมานทุกค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง และทรมานขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งวันหนึ่งผมอาการกำเริบและสลบไป รู้สึกตัวตื่นมาอีกทีก็เจอใบหน้าของผู้ชายหน้าตาใจดีคนหนึ่ง
        ผมสะดุ้งตกใจกับกลิ่นสาปของสัตว์ใหญ่ที่น่าเกรงขาม ผมกลัวจนตัวสั่นเตรียมจะหนี แต่มือของชายแปลกหน้าจับตัวผมเอาไว้เสียก่อน
        “ใจเย็นๆ ไม่ต้องกลัว”
        ผมไม่ได้อยากกลัว แต่มันเป็นไปเองตามสัญชาติญาณเวลาเจอสัตว์ที่ใหญ่กว่า ผมเองก็แปลกใจที่ร่างกายเกิดการต่อต้านต่อผู้ชายตรงหน้าทั้งๆที่เขาเป็นมนุษย์
        ‘เมี๊ยววววว’
        ‘คุณเป็นใคร’
        อยู่ๆผมก็อยากจะลองถามเขาดู แม้ว่าเสียงที่ผมเปล่งออกไปจะเป็นแค่เสียงร้องของแมวธรรมดาที่ไม่ว่ามนุษย์หน้าไหนก็ไม่มีทางเข้าใจ แต่ถ้าคนๆนี้ไม่ใช่คนธรรมดาล่ะ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงคิดแบบนั้น แต่เพราะกลิ่นของสัตว์ใหญ่ที่ออกมาจากตัวเขาซึ่งไม่ควรจะมีทำให้ผมสงสัย
        “หึหึ” เขาหัวเราะ ใช้มือใหญ่ลูบหัวผมเหมือนมนุษย์ที่เอ็นดูสัตว์เล็ก “ฉันเป็นสัตว์แพทย์ ชื่อของฉันก็คือ ปฐวีร์ หรือหมอวีร์ เราละชื่ออะไรตัวเล็ก”
        ผมขยับตัวถอยห่างมือใหญ่เมื่อเขาตอบในสิ่งที่ผมถาม ถึงแม้ผมจะฟังออกแค่คำว่า...ฉันเป็น...ก็เถอะ แต่นั่นก็หมายว่าเขาฟังผมออกอยู่ดี
        ‘บราวนี่’
        “ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกแมวน้อย เพราะเราเป็นพวกเดียวกัน แต่ถึงไม่ใช่พวกเดียวกัน ฉันก็ไม่ทำอะไรเธออยู่ดี” เขาพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
        ‘ม๊าววว เมียววว’
        ‘พวกเดียวกัน หมายความว่ายังไงครับ’
        ผมมองประเมินคนตรงหน้า เขาดูไม่มีพิษมีภัย ไม่น่าจะเป็นคนไม่ดี แต่ว่า พวกมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตไม่น่าไว้วางใจ วันหนึ่งเป็นอย่างอีกวันเป็นอย่าง มนุษย์เพียงคนเดียวที่ผมไว้ใจและรักก็คือคุณยายที่เลี้ยงดูผม นอกนั้นก็มันจะกลั่นแกล้งผมเพียงเพราะผมเป็นแมวตัวเล็กที่ไม่อาจตอบโต้
        “เธอไม่ใช่แมวธรรมดา แต่เธอเป็นครึ่งคนครึ่งแมว”
        ‘คุณล้อผมเล่นเหรอ’
        “หน้าฉันเหมือนคนล้อเล่นหรือยังไง”
        ‘ผมไม่เชื่อ ผมเป็นแค่แมว คุณอย่ามาพูดบ้าๆ’
        “งั้นฉันจะให้ดูอะไรเอาไหม”
        ‘…’
        นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นสิ่งที่น่าตกใจที่สุดเท่าที่ชีวิตเคยพบเจอมา คุณหมอกลายร่างเป็นเสือได้ และเขาก็กลับคืนสู่ร่างคน พร้อมกับบอกว่าผมเป็นเหมือนเขา เพียงแต่ผมเป็นแมว และยิ่งไปกว่านั้นยังมีสัตว์อีกหลายประเภทที่เป็นเหมือนเรา ไม่ว่าจะเป็น งู หมาป่า หรือสิงโต
        แม้ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ ผมเชื่อว่าเขาเป็นเสือ แต่กับตัวเองผมไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าสิ่งที่คุณหมอพูดจะเป็นเรื่องจริงเพราะว่าผมไม่เคยกลายร่างเป็นคนได้เลยสักครั้งตั้งแต่เกิดมา
        พี่หมอวีร์ทำให้ผมรู้จักกับตัวเองมากขึ้น สอนให้ผมใช้ความสามารถของตัวเอง เริ่มต้นจากการให้ผมดื่มเลือด ตอนนั้นผมวิ่งหนีพล่านเพราะไม่อยากดื่มและไม่คิดว่าจะต้องดื่ม แต่เพียงแค่หยดสองหยดที่กระเด็นเข้าปากโดยไม่ทันระวังร่างกายที่เป็นปกติก็เกินปฏิกริยาบางอย่าง สุดท้ายความสามารถที่แท้จริงของผมก็เปิดเผยออกมาให้ได้รู้ แต่มีอย่างหนึ่งที่พี่หมอวีร์ไม่สามารช่วยผมได้ก็คือให้ผมกลายร่างเป็นคน ซึ่งผมก็ไม่ได้อะไรมาก เป็นแมวแบบนี้ก็สบายดี ตอนนี้ผมทำอะไรได้หลายอย่าง แยกร่างได้และสังเกตตัวเองมากขึ้นว่าผมสามารถจดจำสิ่งที่ได้ยินหรือเห็นแม้ว่าสิ่งนั้นจะผ่านหูผ่านตาแค่ครั้งเดียวก็ตาม
        หลังจากนั้นผมก็สนิทกับคุณหมอมาเรื่อยๆแต่ผมก็ยังคงเป็นแมวจรจัดแม้ว่าเขาจะอยากรับเลี้ยงผมไว้ก็ตาม  ผมคิดว่ายังหาเจ้าของๆตัวเองไม่เจอ ของแบบนี้สัญชาตญาณจะเป็นตัวบอกเราเอง และตอนนี้มันบอกผมว่าคนๆนั้นไม่ใช่คุณหมอ แต่เป็นใครบางคนที่ผมเจอโดยบังเอิญตอนที่เดินเตร็ดเตร่เป็นแมวหลงทางในมหาวิทยาลัยชื่อดัง
        เขาเป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ดูแบดๆแต่บางมุมเขาก็ขี้เล่น บางมุมเขาก็ดูเก๊กๆ แต่ว่าผมชอบดวงตาของเขา ดวงตาที่หนักแน่นปนอ่อนโยน ผมรู้ได้ในทันทีเลยว่าเขาจะดูแลผมได้
        แต่ผมกลายเป็นแมวที่ขี้ขลาดที่จะเข้าหาเขาโดยตรง ผมจึงลอบสังเกตการณ์อยู่ห่างๆจนได้เจอกับเพื่อนของเขาที่เป็นผู้หญิง และเธอดูจะรักสัตว์มากเลยทีเดียว
        ผมก็เลยไปเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวๆหน้าอาคารสูงๆที่พี่สาวคนนี้อาศัยอยู่ จนเธอเดินมาถึงและกำลังจะเข้าหอผมก็เลยออกจากพุ่มไม้ เธอเห็นผมแล้วทำหน้าประหลาดใจ จากนั้นเธอก็รีบวิ่งเข้ามาลูบหัวลูบหางผมเล่น ผมโอนอ่อนทุกอย่างแม้จะไม่ใช่นิสัยจนเธอเก็บผมไปเลี้ยงและตั้งชื่อใหม่ให้ผมว่า ‘ปุยเมฆ’
        ผมไม่เคยมีเหตุผลให้อยากเป็นมนุษย์ ไม่อยากใช้ชีวิตที่สลับซับซ้อน ผมพอใจที่จะเป็นแค่แมวตัวเล็กๆ ที่นั่งมองการเปลี่ยนไปของโลก มองพฤติกรรมของมนุษย์ที่มีต่อสิ่งต่างๆรอบตัว ผมพอใจที่จะทำเพียงแค่นั้น จนกระทั่งผมได้เจอกับเขา
        มนุษย์ผู้ชายที่ชื่อว่า เติร์ด ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแม้แต่ใจของผม
        พี่นิกกี้พาผมไปพบกับเพื่อนๆของเขา ซึ่งก็คือพี่เติร์ดกับพี่อีกคนที่ชื่อโยชิ กว่าผมจะสามารถฟังและจำชื่อของพี่ๆได้ก็ใช้เวลานาน ในวันนั้น ตอนที่พี่เติร์ดลูบหัวผม ความรู้สึกบางอย่างก่อขึ้นในจิตใจ ผมชอบมือของเขายามที่โดนตัวผม มือของเขาไม่นุ่ม แต่มือของเขาใหญ่พอที่จะปกป้องผมได้
        ในตอนนั้นผมเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงให้ได้อยู่กับพี่เติร์ด เพราะตอนนี้ผมอยู่กับพี่นิกกี้ และการอยู่กับพี่นิกกี้ก็มีความสุขดี ผมสัมผัสได้ถึงความรัก ผมก็เลยคิดว่าอยู่กับพี่นิกกี้ก็ได้ เพราะต่อให้ผมชอบพี่เติร์ดยังไงผมก็คงทำได้แค่ชอบ เพราะผมเป็นแมว
        ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ผมรับรู้ได้ว่าพี่เติร์ดชอบพี่นิกกี้ ตอนนั้นผมรู้สึกเศร้าแต่ผมก็ดีใจ เพราะทั้งสองคนคือคนที่ผมรัก แต่แล้วพี่นิกกี้ก็มาจากผมไป ในตอนแรกผมไม่รู้เหตุผล ผมเสียใจมาก ทำไมคนที่ผมรักต้องจากผมไปทุกคน มีคนหนึ่งที่ช่วยปลอบโยนผมก็คือพี่เติร์ด เขาตัดสินใจรับเลี้ยงผมต่อ ตอนนั้นผมก็ดีใจมาก และก็เสียใจมากเช่นกันที่เขาเลี้ยงผมไม่ใช่เพราะเขาอยากเลี้ยง แต่เพราะเขารักพี่นิกกี้เลยไม่อยากทิ้งขว้างผม
        ผมเป็นแมวที่แย่ที่รู้สึกอิจฉาพี่นิกกี้ ผมไม่ควรรู้สึกแบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไม ทุกครั้งที่พี่เติร์ดพูดว่าผมเป็นแค่ตัวแทนพี่นิกกี้ผมก็จะเสียใจ
        ผมได้แต่ขอโทษพี่นิกกี้อยู่ในใจ ขอโทษที่รักผู้ชายคนนี้ คนที่เห็นผมเป็นแค่สัตว์เลี้ยงที่เอาไว้ดูต่างหน้าแทนผู้หญิงที่เขารัก
        อยู่ๆผมก็อยากจะเป็นมนุษย์ขึ้นมาเมื่อได้รู้ว่า...พี่เติร์ดไม่ได้ชอบแค่ผู้หญิง แต่เขาก็ชอบผู้ชายเช่นกัน ผมได้ยินเขาคุยกับเพื่อนคนอื่นที่ไม่ใช่พี่โยชิ
        และผมรู้สึกมีความหวัง...ถ้าผมกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ ผมกับพี่เติร์ดอาจรักกันได้
        ผมไปปรึกษาพี่หมอวีร์ว่าทำยังไงผมถึงจะกลายร่างได้ พี่หมอวีร์ส่ายหน้าแล้วบอกว่าเขาไม่มีความสามารถมากพอที่จะปลุกตัวตนผมขึ้นมาได้ ผมได้แต่เดินกลับห้องของพี่เติร์ดซึ่งเป็นคอนโดเดียวกันกับพี่เติร์ดด้วยใจที่ห่อเหี่ยว
        ความหวังของผมดับลงอย่างรวดเร็วแล้วก็พุ่งพรวดในเวลาหลังจากนั้นไม่นาน โอกาสที่ผมได้รับมาก็คือต้องช่วยพี่อาซาแฟนของพี่โยชิสืบเรื่องสำคัญเพื่อแลกกับยาที่ช่วยทำให้ผมกลายร่างได้ ผมตอบตกลงอย่างไม่ลังเล แม้ว่าตอนแรกไม่อยากจะเอาชีวิตไปเสี่ยงกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง โดยเฉพาะอีกฝ่ายที่เป็นมนุษย์งู ผมตกใจมากที่รู้ว่าแฟนของพี่ยอร์ชเป็นอะไร แต่นับตั้งแต่ที่ผมรู้ว่าผมเป็นอะไรและพี่หมอวีร์เป็นอะไรก็พอจะทำให้ปรับตัวยอมรับได้อย่างรวดเร็ว
        และมาตอนนี้ที่ผมทำงานสำเร็จแล้ว ผมได้ยาที่จะช่วยให้กลายร่างมาอยู่ในมือพร้อมกับคำเตือนที่พี่อาซาทิ้งท้ายเอาไว้ 
        ‘ยานี้หากกินเข้าไปจะทรมานมาก ช่วยให้กลายร่างเป็นคนได้จริง แต่ถ้าจะกลับคืนสู่ร่างเดิมนายจะต้องอาศัยความสามารถของตัวเอง ยานี้เป็นยาอันตราย ถ้ายังไงคิดให้ดีก่อนจะกิน’
        ผมลังเลเมื่อได้ยินคำเตือน เอาไปให้พี่หมอวีร์ดู เขาตกใจถามเสียใหญ่โตว่าผมไปเอายานี้มาได้ยังไง ผมไม่บอกแม้ว่าเขาจะถามซักไซ้หลายรอบก็ตาม จนสุดท้ายเขาก็ยอมแพ้แต่สั่งห้ามเด็ดขาดว่าไม่ให้ผมกิน ยานี้ถ้าไม่ได้อยู่ในความควบคุมของหมออาจเกิดผลข้างเคียงได้ ร้ายแรงอาจถึงตาย ผมฟังแล้วก็ได้แต่คอตก หมอบอกว่าจะเก็บยานี้ไว้ให้ ผมกลับห้องด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว เท่ากับว่าความพยายามทั้งหมดสูญเปล่า
        “น้องปุย ไปไหนมา” เสียงเข้มเรียกถาม ผมเงยหน้ามองพี่เติร์ดที่ยืนกอดอกอยู่ตรงประตูระเบียง ที่ๆเป็นทางให้ผมออกไปเที่ยวเล่น แม้ว่าพี่เติร์ดจะล็อคยังไงผมก็ออกไปได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหรือต้องใช้ความสามารถพิเศษอะไร แค่ตะครุบผ้าม่านขึ้นไปให้ได้ระดับเดียวกับที่ล็อก ยื่นขาหน้าไปงัดตัวล็อคขึ้นจากนั้นก็ใช้เท้าเขี่ยๆให้ประตูเปิดออก แค่นี้เอง สบายมาก ผมฝึกตั้งแต่อยู่กับคุณยายแล้ว
        ‘เมี๊ยวววว’
        ผมเดินเข้าไปคลอเคลียที่ท่อนขายาว เอาตัวถูไถด้วยความคิดถึงหวังให้พี่เติร์ดอุ้มผมไปกอด แต่พี่เติร์ดกลับนิ่ง ผมเงยหน้ามองพี่เติร์ดอีกครั้ง หน้าโหดๆจ้องผมดุดัน ผมใช้ลูกอ้อนเข้าช่วย เงยหน้านั่งลงแล้วร้องเรียกความสนใจ
        ‘หม่าวววว เมียวว’
        และเป็นดังเช่นทุกครั้งที่พี่เติร์ดไม่เคยทนได้ ย่อตัวลงนั่งลงลูบหัวผมก่อนจะอุ้มผมขึ้นเบามือแล้วกอดผมไว้ให้อยู่แนบอกกว้างที่อบอุนสำหรับผมเสมอ
        “พี่ต้องให้ช่างมาเปลี่ยนประตูระเบียงใหม่ไหม เราจะไม่ได้ออกไปข้างนอก ปีนระเบียงมันอันตรายนะน้องปุย ตกลงไปตายจะทำยังไง ไม่ใช่ชั้นสองชั้นเว้ย”
        บ่นอีกแล้ว พี่เติร์ดขี้บ่นตลอด แต่ผมก็ชอบให้พี่เติร์ดบ่นอยู่ตลอดเหมือนกัน  อย่างน้อยๆมันก็แสดงให้ผมเห็นว่าพี่เติร์ดเป็นห่วงผม
        ผมแลบลิ้นเล็กเลียมือเลียแขนพี่เติร์ด และเขาก็ยกตัวผมขึ้นเสมอหน้าแล้วจุ๊บปากผมหนึ่งที ถ้าผมเป็นมนุษย์หน้าผมต้องแดงมากแน่ๆ นึกคิดไปว่า หากผมเป็นคนแล้วไม่สามารถกลับร่างเป็นแมวได้ ผมอาจจะไม่มีวันถูกจุ๊บแบบนี้แน่นอนหากพี่เติร์ดไม่ชอบผมในร่างของคน
        บางทีการเป็นแมวแบบนี้ไปเรื่อยๆก็ไม่เลว หรือเปล่า
        “เราออกไปเที่ยวได้ พี่ก็จะออกไปเที่ยวบ้าง คืนนี้อยู่บ้านคนเดียวไปละกันนะน้องปุย” พี่เติร์ดดีดนิวใส่จมูกผมด้วยความหมั่นไส้ แต่ทว่าแรงไม่น้อย ผมเจ็บก็เลยเอาขาหน้าเล็กๆของตัวเองตบไปที่แก้มขึ้นไรหนวดแล้วกระโจนลงพื้น เดินหนีคนขี้แกล้ง พี่เติร์ดหัวเราะเสียงดังแล้วก็หายเข้าไปในห้อง
        ผมกระโดดขึ้นโซฟานอนกลางวันไปจนถึงตอนเย็นที่ได้กลิ่นของอาหาร ผมวิ่งกระกระดุกกระดิกไปในครัว ร้องเรียกพี่เติร์ดที่กำลังอยู่หน้าเตา
        “ตื่นแล้วเหรอแมวขี้เซา หิวสิท่าตามกลิ่นมาเลย”
        ‘ม๊าววววว’
        ผมกระโดดไปมาอย่างดีใจที่จะได้กินของโปรดอีกแล้ว ปลาสีส้มย่าง ของโปรดของผม พี่เติร์ดรู้ใจตลอดเลย วิ่งเล่นรอไม่นานของโปรดของผมก็ถูกนำมาวางไว้ในชามอาหารของผม ผมรีบกินทันทีพร้อมส่งเสียงร้องขอบคุณพี่เติร์ดไปด้วย เลยได้รับฝ่ามือใหญ่ๆลูบหัวเป็นของรางวัลที่ผมกินเก่ง
        “กินซะ คืนนี้พี่ไม่อยู่ห้องนะ เป็นเด็กดีห้ามหนีออกไปเที่ยวรู้ไหม” พี่เติร์ดบอกเสียงร่าเริง
        ผมหยุดกินทันที เงยหน้าร้องประท้วงไม่อยากให้พี่เติร์ดออกไป อยากให้อยู่กับผม
        “ไม่ต้องมาร้องเลย ทีตัวเองหนีไปเที่ยวได้ คืนนี้พี่ก็จะหนีเที่ยวเหมือนกัน” พี่เติร์ดพูด ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจแล้วเดินออกไปจากห้องครัว “เฮ้อ คืนนี้ไปหาสาวๆหนุ่มๆแก้เหงาหน่อยดีกว่า
        อะไรนะ หาสาวๆหนุ่มๆเหรอ
        ผมทิ้งตัวนอนแหมะ ของโปรดถูกทิ้งเอาไว้อย่างนั้นทั้งๆที่ยังกินไปไม่ถึงครึ่ง พี่เติร์ดยังไม่มีใครในใจ เพราะคนที่พี่เติร์ดรักคือพี่นิกกี้ที่จากไปแล้วอย่างไม่มีวันหวนกลับ
        สักพักเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมเสียงปิด พี่เติร์ดออกไปแล้ว ผมเดินไปดูที่หน้าประตู ดมกลิ่นพี่เติร์ดแถวๆนั้น ผมเป็นแมวที่ใช้ชีวิตกินและนอนไปวันๆ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือ รอเจ้าของกลับมา
        รอแล้วรอเล่าก็ไม่กลับ พื้นที่ผมนอนเริ่มเย็น เลยย้ายตัวเองกลับไปนอนรอบนเตียงที่ทั้งนุ่มและอุ่น แต่ไม่สบายเท่าข้างกายของใครบางคน
        ผ่านไปค่อนคืนและผ่านเข้าวันใหม่มาได้สี่ชั่วโมง ในที่สุดพี่เติร์ดกลับมาแล้ว ผมเงยหัวขึ้นมองพี่เติร์ดที่เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ แล้วไม่นานก็ออกมาในสภาพที่มีแค่ผ้าเช็ดตัวพันเอวเอาไว้ก่อนที่มันจะลงไปกองอยู่ที่พื้นแล้วร่างกายก็ถูกปกคลุมด้วยกางเกงขาสั้นผ้ายืดแทน
        ร่างสูงเดินมาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงจนเกือบจะทับผม กลิ่นเหล้าลอยหึ่ง พี่เติร์ดกระเถิบตัวนอนดีๆแต่ก็ยังเกือบจะทับผมหลายรอบ ผมขยับหนีจนตกลงไปที่พื้น ผมคิดว่าพี่เติร์ดจะรู้สึกตัวแล้วรีบอุ้มผมขึ้น เปล่าเลย พี่เติร์ดไม่สนใจผมเลยสักนิด นอนหายใจนิ่งหลับสนิท
        ผมกระโดดขึ้นไปบนเตียงอีกครั้ง ถึงแม้ว่าพี่เติร์ดจะอาบน้ำแล้ว แต่ว่าบนตัวของเขา นอกจากกลิ่นกายเฉพาะตัวที่ผมชอบแล้ว ยังมีกลิ่นเหล้าและอีกหนึ่งกลิ่นแปลกปลอมที่ผมไม่คุ้น เป็นกลิ่นน้ำหอมหรือกลิ่นตัวของคนอื่น ผมไม่ชอบ มันเหม็น
        คืนนี้ผมเลยลงไปนอนที่เบาะของตัวเอง จนกระทั่งตื่นในตอนเช้า พี่เติร์ดก็ยังคงนอนหลับไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ผมขึ้นไปปลุกแบบที่น้อยครั้งจะทำเพราะปกติพี่เติร์ดจะตื่นก่อนแล้วออกไปวิ่ง ผมไปยืนบนหน้าอกของเขา เหยียบๆย่ำๆ แต่ก็ไม่ตื่น ผมเลยใช้สองขาหน้าตะกุยๆที่หน้าอกของพี่เติร์ดเหมือนเวลาที่ผมตะกุยลังกระดาษที่พี่เติร์ดซื้อมาให้เล่น คราวนี้ได้ผล พี่เติร์ดตื่นและหน้าอกของเขาก็แดงเป็นรอยเล็บผม
        “น้องปุย พี่เจ็บนะ!” พี่เติร์ดโวยใส่ผมหงุดหงิด ปัดตัวผมลงจากตัวแล้วพลิกตัวหันหนี ผมตกใจรีบเดินอ้อมไปอีกทาง มองใบหน้าของพี่เติร์ดแล้วเลียเบาๆเป็นการขอโทษ ก็ผมอยากให้เขาตื่นมาเล่นกับผมนี่นา ผมสัญญาเลยว่าวันนี้ผมจะเป็นเด็กดีไม่ออกไปเที่ยวเล่นที่อื่น
        ‘เมี๊ยวววว’
        ‘พี่เติร์ด ตื่นมาเล่นกับน้องปุยหน่อย’
        ผมไถลขานอนแหมะอยู่ตรงหน้าเขา ส่งเสียงร้องเรียกเบาๆ บางครั้งก็เอาขาหน้าไปสะกิด ผ่านไปสักพักพี่เติร์ดก็ลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าผม ก่อนจะคว้าตัวผมเข้าไปกอดและฟัด ถึงจะชอบแต่ว่าวันนี้พี่เติร์ดตัวเหม็นมากจริงๆ มีแต่กลิ่นที่ผมไม่ชอบติดอยู่บนร่างกายสูงใหญ่
        จุ๊บๆๆๆ
        พี่เติร์ดหอมหน้าผมหัวผมไปหมดก่อนจะเอาขาข้างหนึ่งของผมไปงับหนึ่งที
        “กวนตลอดเลยนะตัวเล็ก พี่ไปเมามานะเมื่อคืน ขอนอนอีกหน่อยไม่ได้หรือยังไง” เขาบ่น
        ผมอยากบอกว่าไม่มีใครใช้ให้เขาไปเมาสักหน่อย
        “กี่โมงแล้ววะเนี่ย” พี่เติร์ดเอียงหน้ามองนาฬิกาก่อนจะสบถเบาๆว่าสายๆอะไรสักอย่าง เขาดีดตัวลุกขึ้นก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ไม่สนใจผมอีกต่อไป
        ผมเดินออกจากห้องนอนไปรอในครัว ปลาสีส้มยังคงอยู่ในชามข้าวเพราะไม่มีใครเก็บ ไม่นานพี่เติร์ดก็วิ่งออกมาในขณะที่ถือโทรศัพท์แนบหูเอาไว้
        “พี่ขอโทษนะครับน้องบิว เดี๋ยวพี่จะรีบไปหาเลยนะ พี่ตื่นสายนิดหน่อย ดีนะที่แมวพี่ปลุกไม่งั้นพี่ผิดนัดเราแน่ๆเลย ครับๆ พี่จะรีบไปเลยนะครับเบบี๋”
        ผมมองพี่เติร์ดที่วิ่งพล่านปากก็พูดกับคนในสาย ผมฟังออกไม่ทุกคำ แต่จับจำเสียงได้ว่าอ่อนโยน คล้ายว่าคนในสายจะมีความสำคัญมากจนผมอยากรู้ว่าคนที่พี่เติร์ดคุยด้วยเป็นใคร
        แล้ว...เบบี๋...คืออะไร
        “ปุยเมฆ วันนี้กินอาหารเม็ดนะพี่รีบมากเลย นัดเดทครั้งแรกก็สายแล้วกู” พี่เติร์ดเดินไปหยิบอาหารเม็ดในตู้แล้วเทใส่ชามใบใหม่ให้ผม เอาชามใบเก่าที่มีปลาสีส้มอยู่เต็มโยนใส่อ่างล่างชามโดยที่ไม่ทักท้วงหรือบ่นสักคำที่ผมกินอาหารไม่หมด
        แปลก...พี่เติร์ดแปลกไป ทำไมไม่บ่นผมล่ะ
        ชามอาหารวางลงตรงหน้าผมบนโต๊ะทานข้าว ผมดมๆแต่ไม่นึกอยากกิน พี่เติร์ดบ่นอะไรอีกสองสามคำไม่รู้แล้วรีบออกไป ทิ้งให้ผมอยู่บ้านคนเดียวอีกแล้ว เป็นเสาร์อาทิตย์ที่น่าเบื่อที่สุดเมื่อผมต้องการเป็นแมวที่นอนเหงาอยู่คนเดียว ได้แต่หวังว่าพี่เติร์ดจะกลับมาไวๆ
        ผมเหงาจนอยากจะลงไปเล่นกับคุณหมอที่ห้อง แต่ผมก็กลัวว่าพี่เติร์ดกลับมาแล้วจะไม่เห็น ผมก็เลยเลือกที่จะรออยู่ในห้องอย่างใจจดใจจ่อ
        แต่สุดท้ายวันนี้พี่เติร์ดก็ไม่กลับห้องเลยทั้งคืนยันเช้า ผมอดคิดไม่ได้ว่าพี่เติร์ดคงอยู่กับคนที่เรียกให้พี่เติร์ดออกไปทั้งคืน




        ……..
      เหอะๆๆ ยังไงทาสแมวก็คือทาสแมว ทิ้งน้องได้อีกไม่นานหรอกไอ้พี่เติร์ด!
ขอบคุณสำหรับุกคอมเม้นนะคะ  :mew1:



       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁ONE❁8-02-16 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-02-2016 00:17:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁ONE❁8-02-16 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 09-02-2016 01:18:43
คำว่าทาสแมวนั้นตรงตัวมาก ไม่นานพี่เค้าก็ต้องสยบให้กับน้องปุย  :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁ONE❁8-02-16 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: indyska ที่ 09-02-2016 02:47:04
หึหึึหึหึหึหึหึ ทาสแมวววจงสถิตตต
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁ONE❁8-02-16 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 13-02-2016 00:05:33
น้องปุยน่ารักจังเลย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁ONE❁8-02-16 [P.70]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 15-02-2016 13:40:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 16-02-2016 22:10:53
SPECIAL
F.L.U.F.F.Y

TWO

(https://blog.eduzones.com/images/blog/rabbitsmile/20140204174101.jpg)





        PUIMEK
        ผมยังคงเป็นแมวที่มีหน้าที่กิน นอน เที่ยวเล่นและรอเจ้าของกลับบ้าน ผมเงยหน้ามองนาฬิกา ใกล้เวลาที่พี่เติร์ดจะกลับมาแล้ว ผมเฝ้าวนเวียนอยู่ตรงหน้าประตูรอว่าเมื่อไหร่พี่เติร์ดจะกลับมา ปกติพี่เติร์ดจะกลับตรงเวลาตลอด แต่วันนี้สายไปเกือบสามชั่วโมงแล้ว ผมเดินกลับไปนอนในที่นอนแสนนุ่มของตัวเอง แต่เทียบเท่าไม่ได้เลยกับตักกว้างๆของเขา
        ‘ติ๊ด’
        หูเล็กสองข้างตั้งตรงเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ผมวิ่งไปรับพี่เติร์ดไปที่หน้าประตูโดยอัตโนมัติ กระโดดไปมาด้วยความดีใจ แต่คนที่เข้ามาในห้องกลับไม่ใช่พี่เติร์ด เป็นใครก็ไม่รู้ ผู้ชายผิวขาวตัวเล็กและน่ารักเขาไม่ใช่พี่โยชิ และกลิ่นของเขาฉุกกึกแบบที่ผมไม่ชอบ ผมจำได้แล้ว กลิ่นนี้เคยติดตัวพี่เติร์ดกลับมาที่บ้าน
        “แมว น่ารักจังเลย” เขาเห็นผม ทำท่าจะเข้ามาจับ จังหวะเดียวกับที่พี่เติร์ดเข้ามาในห้อง ผมใช้มือที่กางกรงเล็บออกตะบบเข้าให้หลายทีที่มือขาวแล้ววิ่งไปหาพี่เติร์ด ผมไม่ชอบให้คนไม่รู้จักโดนตัว อย่างมายุ่งกับผม
        “โอ๊ย” มนุษย์หน้าขาวร้อง “แมวพี่ข่วนผมอ่ะพี่เติร์ด ได้เลือดเลยดูสิครับ” แล้วเขาก็ฟ้อง
        เมี๊ยว!
        สมน้ำหน้า
        ผมกางเล็บออกทำท่าจะข่วนเขาอีกครั้งเพราะเขาขยับเข้ามาใกล้พี่เติร์ด แต่ว่าตัวผมกับลอยวืดขึ้นจากพื้น ผมสงบแล้วเตรียมจะหันไปอ้อน แต่ทว่าเสียงที่เคยอบอุ่นมาครานี้ระคายหูจนทนไม่ไหว
        “ทำอย่างนี้ได้ไงปุยเมฆ ไม่น่ารักเลยนะ ไปข่วนพี่บิวเขาทำไม!”
        “ผมเจบอ่ะพี่เติร์ด”
        “เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะปุยเมฆ เอะอะข่วนเขาไปทั่ว ขนาดพี่ยังโดนบ่อยๆเลย เคยตัว!” พี่เติร์ดหันมากระแทกเสียงใส่ผม
        “...” ผมเงียบ มองเขาดวงสายตาตัดพ้อ แต่เขาก็คงไม่มีทางเข้าใจแมวอย่างผม
        “มันน่าตีจริงๆเลย ทำไมดื้ออย่างนี้ห๊ะ ชักเกเรบ่อยไปแล้วนะ เดี๋ยวก็ไม่เลี้ยงซะหรอก” เขาว่าผมใหญ่โต ผมทนไม่ไหวโมโหก็เลยข่วนแก้มเขาไปทีหนึ่ง พี่เติร์ดตกใจสะบัดมือปล่อยผมออกจากอ้อมแขน ตัวเล็กๆของผมกระแทกกับตู้ใส่รองเท้าแล้วหล่นลงพื้นจนเจ็บร้าวไปทั้งตัว เขาตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นผมตกลงมาเสียแรง ทำท่าจะเข้ามาจับ ผมร้องแง้วใส่แล้ววิ่งหนี
        ไม่เอาแล้ว คนใจร้าย
        “เดี๋ยวปุยเมฆ หยุด อย่าวิ่ง! ปุยเมฆกลับมานี่!”
        ผมไม่ฟัง วิ่งหนีออกจากประตูห้องที่ยังเปิดคาไว้อยู่ แม้จะเจ็บตัวเจ็บขาแต่ผมก็ไม่หยุด เสียงฝีเท้าวิ่งตามมา ผมวิ่งไปทางบันไดแล้วไปตะกุยประตูห้องๆหนึ่งเผื่อเรียกคนข้างใน
        ก่อนที่พี่เติร์ดจะตามมาทัน คนในห้องก็เปิดประตูให้ผมได้เข้าไป เสียงพี่เติร์ดดังแว่วมาไล่หลังพร้อมกับบานประตูใหญ่ที่ปิดลง
        “ไง งอนอะไรเจ้าหนุ่มนั่นมาอีกล่ะ” คุณหมอถาม ผมทิ้งตัวลงกับพื้นเพราะหมดเรี่ยงแรงจะเดินต่อ อีกทั้งยังเจ็บตัวอีกด้วย ผมตกลงมาสูงมากเลย ผมเจ็บ
        “อ้าว ร้องไห้ซะงั้น”
        ‘เมี๋ยววววว’
        ‘ฮึก ผมเจ็บ เขาโยนผมลงพื้น ผมเจ็บมากเลย ทำไมเจ็บอย่างนี้’

        ทำไมพี่เติร์ดถึงทำกับผมแบบนี้ ถึงผมจะข่วนเขา แต่เขาไม่เคยปล่อยผมออกจากมือแบบนั้นเลยสักครั้ง เขาต้องไม่รักผมแล้วแน่ๆเลย
        “แล้วไปทำอะไรเขาล่ะหืม”
        ‘ม๊าววว!’
        ‘คุณหมอ!’

        “โทษทีๆครับ มานี่มะ มาให้หมอตรวจหน่อยว่ากระดูกหักไหม”  คุณหมอเข้ามาจับตัวผมแตะหาจุดบาดเจ็บจนมาถึงข้อเท้า แค่แตะยังไม่ทันที่คุณหมอจะลงแรง ความเจ็บก็แล่นปราดไปทั่วทั้งขา ผมสะดุ้งน้ำตาเม็ดโตไหลออกจากตา นึกถึงคนที่ทำให้เจ็บแล้วผมก็ได้แต่เสียใจ
        พี่เติร์ดไม่รักผมแล้ว
        “ขาน่าจะหัก รอแปบนะ เราต้องไปคลีนิคกัน ที่นี่ไม่มีอุปกรณ์” คุณหมอพูดแล้วก็ลุกขึ้นไปแต่งตัว
        ผมนอนนิ่งๆ ขยับไม่ได้เลย ขยับแล้วเจ็บ สักพักคุณหมอก็กลับมาพร้อมตะกร้าใบใหญ่ คุณหมอค่อยๆเอาตัวผมลงไปในนั้นที่มีผ้าผืนหนาและนุ่มรองอยู่ ผมเจ็บจนต้องร้องออกมาหลายต่อหลายครั้ง  ไม่รู้ว่าตอนที่วิ่งหนีผมไปเอาแรงมาจากไหน รู้แค่ว่าผมตกใจและเสียใจมากจนกลายเป็นความกลัว กลัวพี่เติร์ดจะตีผมซ้ำอีกเหมือนที่ผมเคยโดน แต่ต่างกันที่ว่าครั้งนี้เจ็บกว่าหลายเท่า เพราะคนที่ทำคือคนที่ผมรัก
        คุณหมอรีบพาผมไปที่คลีนิคและทำการรักษาผมโดยด่วน ผมหมดสติไปเพราะยาสลบ แต่ถึงจะไม่รู้สึกตัว แต่หัวใจของผมก็เอาแต่วนเวียนถึงคนใจร้าย
        ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ผมไม่ได้สติ กระพริบตาตื่นขึ้นมาก็เห็นหน้าของคนใจร้าย ผมขยับหัวหันสายตาไปอีกทางก็เจอกับคุณหมอ ผมร้องเรียกหาคุณหมอทันที
        “ไงเจ้าตัวเล็ก รู้สึกตัวแล้วเหรอ ไม่ได้สติไปตั้งสองวันแหนะ” คุณหมอพูดกับผม ผมไม่ได้ตอบอะไร แค่นอนมองนิ่งๆ เหมือนว่าผมจะยังคงเมายาที่หมอฉีดให้ ผมมองสำรวจรอบๆ ที่นี่ไม่ใช่คลีนิค แต่เป็นห้องของคุณหมอ
        “น้องปุย” ผมได้ยินเสียงเรียกตัวเองจากเขาคนนั้น แต่ผมไม่หันไปมอง พอเขาเอื้อมมามาจะแตะตัวผม ผมก็กระเถิบหนีให้ตัวเองเจ็บอีกรอบ
        ‘เมี๊ยวววว’
        พี่เติร์ดทำหน้าสลด “พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจปล่อยเราออกจากมือ พี่ขอโทษนะครับ”
        ไม่ยกโทษให้หรอก ผมปี่แตกอีกแล้ว และพี่เติร์ดก็เห็นชัดว่าน้ำตาผมไหล หนำซ้ำผมยังไดกลิ่นของคนๆนั้นติดตัวพี่เติร์ดมาอีก ผมไม่ชอบเลย ผมอยากให้ตัวพี่เติร์ดมีแค่กลิ่นของเขาและกลิ่นของผมเท่านั้น
        “เขาคงเสียใจน่ะครับ เกิดอะไรขึ้นเหรอ ทำไมเจ้าบราวนี่ถึงเจ็บมาแบบนี้” คุณหมอถาม ผมหันหน้าหนีไม่อยากมอง หลับตาซะแต่หูยังคงฟังอยู่  รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง
        “น้องชื่อปุยเมฆครับ อย่าเรียกชื่อเขาซี่ซั้ว”
        “อ่าครับๆ ปุยเมฆก็ปุยเมฆ ตกลงแล้วเรื่องเป็นมายังไงครับเขาถึงได้เจ็บหนักแบบนี้”
        “เขาข่วนรุ่นน้องผมแค่รุ่นน้องแค่จับเขาเท่านั้นเอง และพอผมดุเขาก็ข่วนผมน่ะครับ ผมตกใจเพราะครั้งนี้เขาข่วนแรงมากเลยเผลอสะบัดเขาไปกระแทกกับตู้รองเท้าแล้วตกลงพื้น คือผมไม่ได้ตั้งใจ” พี่เติร์ดทำเสียงเศร้า
        คุณหมอถอนหายใจ
        “แมวเป็นสัตว์หวงตัวนะครับ เขาจะไม่ค่อยยอมให้คนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของจับหรอกหรือคนที่เคยเล่นด้วย ซึ่งนั่นเป็นธรรมชาติของเขา ไม่ใช่เพราะเขาเกเร และนอกเหนือจากนั้นเขาเป็นสัตว์ที่รักและหวงเจ้าของมาก ถึงอย่างนั้นถ้าเจ้าของทำเหมือนจะไม่รักเขาก็จะต่อต้าน เพราะเขาจะรักตอบคนที่รักเขาเท่านั้น แมวเป็นสัตว์ขี้อ้อนและขี้น้อยใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นสัตว์ที่เชื่องไปซะกับทุกคนหรือทุกสถานการณ์นะครับ ก่อนจะเลี้ยงคุณไม่รู้เหรอครับ” คุณหมอพูดเสียงคล้ายจะตำหนิ ผมจับใจความได้ไม่ทั้งหมด รับรู้ได้จากน้ำเสียงที่คุณหมอพูดเท่านั้น
        “ผมขอโทษครับ” พี่เติร์ดพูดเสียงเบา
        “ไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ ขอโทษเจ้าตัวเล็กเถอะ และทำใจไว้หน่อยนะครับ ต่อจากนี้คุณกับเขาอาจจะเหมือนคนแปลกหน้ากันเพราะคุณทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจของเขาที่มีต่อคุณหายไปเยอะเลยทีเดียว ตัวเขาก็แค่นี้เอง เขาอาจจะกระโดดลงจากที่สูงเองได้อย่างปลอดภัยนะครับ แต่ไม่ใช่กับการโยนลงพื้นไม่ให้ตั้งตัวแบบนี้”  คุณหมอบ่นแทนผม ยิ่งทำให้ผมน้ำตาไหล ที่คุณหมอพูดอาจจะไม่ได้หมายถึงแมวทั่วไป แต่หมายถึงความรู้สึกของผมเอง
        “ตัวเล็ก พี่ขอโทษนะ” พี่เติร์ดพูด ผมไม่เห็นว่าเขาจะลูบหัวผมก็เลยสะดุ้งอีกครั้ง เขาหดมือกลับทันที ผมหันไปมองแล้วก็หันกลับเอนลงนอนต่อ
        “น้องปุย พี่ขอโทษ”
        “ถ้ายังไงให้เขาอยู่กับผมจนกว่าขาเขาจะหายแล้วกันนะครับ หมอทำการผ่าตัดดามเหล็กที่ขาให้แล้ว” หมอบอก
        “ผมเอาน้องกลับห้องไม่ได้เหรอครับ” เสียงพี่เติร์ดถาม
        “เอากลับไปแล้วคุณจะมีเวลาดูแลเขาเหรอครับ คุณยังต้องไปเรียนนี่”
        “ถ้างั้นตอนเย็นผมจะมารับเขาที่นี่แล้วตอนเช้าผมจะพาน้องปุยมาฝากไว้กับหมอ” พี่เติร์ดบอก
        คุณหมอเงียบไปก่อนจะทำทีเป็นถามผมเหมือนถามลอยๆ ก็มีคุณหมอแต่คนเดียวนี่ที่คุยกับผมรู้เรื่อง “เอาไงเจ้าตัวเล็ก จะไปหรือเปล่า”
        ผมนอนนิ่งไม่ขยับไม่โต้ตอบ
        “น้องปุย กลับห้องกับพี่เถอะนะ”
        “...”
        “ผมอุ้มเขาได้ใช่ไหมครับ”
        “ครับ แต่ระวังขาเขาหน่อยก็ดี”
        พี่เติร์ดนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าผม แต่ผมยังคงกลัว ไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมยังจดจำใบหน้าที่เกรี้ยวกราด น้ำเสียงที่ดุว่า และความเจ็บปวดตอนที่ตัวกระแทกกับพื้นได้ดี ทำให้ร่างกายมีปฏิกริยาต่อต้านเองโดยอัตโนมัติ แต่ต่อให้ร่างกายยินยอม แต่ใจผมไม่มีทางโอนอ่อนเด็ดขาด
        ถึงผมจะเป็นแมวผมก็มีความรู้สึก ผมจะไม่ให้เขาจับตัวผมเลยคอยดู เอาคืนที่เขาใจร้ายกับผมก่อน
        “ผมอุ้มไปส่งที่ห้องดีกว่าครับ”
        ‘เมียวว เมี๊ยววว’
        ผมส่งเสียงร้องให้คุณหมอว่าผมไม่อยากไป
        คุณหมอเพียงแค่ยิ้ม ต่างจากอีกคนที่ทำหน้าหงุดหงิด ผมไม่ใจอ่อนง่ายๆหรอกคอยดู
        “กลับห้องเถอะนะแมวเหมียว มาหมออุ้มนะ”
        ผมขยับตัวร้องบอกว่าผมไม่อยากไป แต่คุณหมอทำเพียงส่ายหน้า ผมเลยก้มหน้าซบลงกับที่นอน ปล่อยให้คุณหมอยกเบาะนอนขึ้นพาผมกลับห้องของพี่เติร์ด พอถึงห้องพี่เติร์ดก็สั่งให้คุณหมอพาผมไปนอนบนเตียง ที่ๆผมนอนอยู่ทุกคืน นอนซุกขอไออุ่นจากคนตัวโต แม้ว่าผมจะอยากนอนซุกพี่เติร์ดมาแค่ไหน แต่วันนี้ผมจะไม่นอนเด็ดขาด ผมจะงอนให้ถึงที่สุด
        ‘ไม่ ผมไม่นอนบนเตียง’
        ผมบอกกับคุณหมอ ทำให้ขายาวๆทั้งสองข้างชะงัก
        “คุณเติร์ดครับ ผมวางเจ้าตัวเล็กไว้ข้างเตียงนะครับ”
        “ไม่ครับ ให้เขานอนบนเตียงเลย ปกติเขาก็นอนบนเตียง”
        คุณหมอมองพี่เติร์ดทีก้มมองผม  ส่วนผมมองคุณหมอตาแป๋วว่ายังยืนยันคำเดิม แต่คุณหมอก็ชอบแกล้งผม จับผมวางลงบนเตียง ผมขยับลุกเดินหนีทันที แต่ด้วยความที่ว่าขาผมเจ็บอยู่ผมจึงเดินไปได้ ล้มแหมะอยู่บนเที่นอน ได้แต่ส่งเสียงร้องระบายความเจ็บเท่านั้น
        “ดูเขาจะไม่อยากนอนบนเตียงนะครับ” คุณหมอพูดในสิ่งที่ผมต้องการ
        “แต่ผมอยากให้เขานอนบนเตียงกับผม เขานอนอยู่ทุกคืนไม่มีทางที่เขาจะไม่นอนหรอกครับ น้องปุยจะไม่นอนที่อื่นนอกจากบนเตียง”
        “แต่ตอนนี้เขาดูเหมือนอยากนอนบนเตียงเหรอครับ”
        “...” ผมยังคงพยายามที่จะพาตัวเองลงจากเตียงแม้จะต้องคลานก็เถอะ ไม่เห็นจะต้องมองว่าผมสำคัญเลย ในเมื่อพี่เติร์ดเห็นคนอื่นดีกว่าผม
        ตัวเขายังคงมีกลิ่นของมนุษย์คนนั้นอยู่  ถ้าอย่างนั้นผมก็จะไม่เข้าใกล้เขาหรอก ผมไม่ชอบกลิ่นของคนๆนั้น กลิ่นที่บอกว่าจะแย่งพี่เติร์ดไปจากผม
        “อีกอย่างตอนนี้เขานอนบนเตียงกับคุณคงไม่สะดวกเพราะคุณอาจจะนอนทับเขาโดยไม่รู้ตัวได้ ให้เขานอนบนพื้นน่ะดีที่สุดแล้ว”คุณหมออุ้มผมอีกครั้ง
        “งั้นให้เขานอนในเบาะนอนของเขา” พี่เติร์ดวิ่งออกไปจากห้องแล้วกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมเบาะนอนของผม เขาวางไว้ที่พื้นข้างเตียง คุณหมอจึงค่อยๆวางตัวผมลงช้าๆเพื่อไม่ให้กระทบโดนขา
        “ค่ารักษาทั้งหมดเท่าไหร่ครับ”
        “ไม่ต้องหรอกครับ ปุยเมฆก็เหมือนแมวของผม ผมรักและเอ็นดูเขาเพราะเขาก็มาหามาเล่นกับผมบ่อย แค่นี้ผมไม่คิดตังหรอกครับ”
        “ไปหาคุณ?”
        “ครับ บางทีเขาก็ไปเล่นกับผมที่ห้องน่ะครับ”
        “อ่อ แต่ยังไงเขาก็เป็นแมวของผมไม่ใช่ของคุณ บอกค่ารักษามาเถอะครับ ผมจะจ่าย”
        “ถ้าคุณว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ ค่ารักษาทั้งหมดก็หนึ่งหมื่นบาท รวมหมดแล้วทุกการรักษาและการล้างแผลต่อจากนี้”
        พี่เติร์ดหยิบเงินสดในกระเป๋าสตางค์ให้คุณหมอแบบไม่ขาดไม่เกิน ผมนอนมองเงียบๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เติร์ดต้องทำหน้าเหมือนไม่ชอบคุณหมอด้วย
        “พรุ่งนี้พาเจ้าตัวเล็กไปหาผมก่อนแปดโมงเช้านะครับ เพราะผมต้องไปเปิดคลีนิคตอนเก้าโมง”
        “ครับ ไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวผมไปส่งที่หน้าประตู”
        “ครับ” คุณหมอรับคำแล้วย่อตัวนั่งลงลูบหัวผม ผมหลับตาพริ้มรับสัมผัสที่แสนอ่อนโยน “เป็นเด็กดีนะ ระวังตัวด้วยอย่าซนนักล่ะไม่งั้นจะไม่หายรู้ไหมตัวเล็ก”
        เมี๊ยววๆๆ
        “หึหึ หมอไปแล้วนะครับ พรุ่งนี้เจอกัน” หมอพูดแล้วก็ก้มลงจุ๊บหน้าผากผมหนึ่งที ก่อนจะลุกเดินตามพี่เติร์ดออกไป สักพักพี่เติร์ดก็กลับเข้ามาในห้อง เขาทิ้งตัวลงนั่งใกล้ๆกับผม แววตาไม่ดุดันเหมือนตอนที่มองคุณหมอ แววตาของพี่เติร์ดเหมือนคนเดิมก่อนที่เขาจะพาคนๆนั้นมาที่ห้อง
        ดูเอาเถอะ ในห้องยังมีกลิ่นที่ผมไม่ชอบเลย บนเตียงนั่นก็ด้วย มีแต่กลิ่นที่ไม่ชอบ ผมหลบหน้าซุกลงกับที่นอน พอพี่เติร์ดจะจับผมก็ยกหัวหนีแล้วขู่ไม่ให้ยุ่ง
        “น้องปุยโกรธพี่เหรอครับ หายโกรธพี่เถอะนะพี่ขอโทษ”
        “...”
        เขาจะจับอีกผมก็ขู่อีก ไม่ฟังกันบ้างเลยหรือไง ทีตอนอยากให้จับกลับเขวี้ยงทิ้ง ทีตอนนี้ละอยากจะจับ
        “ขอพี่จับหน่อยไม่ได้เหรอ เราไม่ใช่คนแปลกหน้ากันนะ”
        ‘เมี้ยวว!’
        ‘ไม่ ไม่ให้จับ!’

        ผมยกขาหน้าปัดมือพี่เติร์ดออกห่าง ทำให้พี่เติร์ดหน้าเสีย มองผมอย่างตัดพ้อ ผมเกือบใจอ่อนแต่สุดท้ายก็ข่มใจไม่ให้ยอมหายงอนพี่เติร์ดง่ายๆ
        “น้องปุย” พี่เติร์ดเรียกผมเสียงอ่อน “ทำไมที่กับไอ้หมอนั่นยอมให้จับล่ะ พี่เป็นคนเลี้ยงเรามานะ”
        เชอะ ทีตอนนั้นยังบอกว่าจะไม่เลี้ยงแล้วอยู่เลย คิดแล้วผมรู้สึกเสียใจขึ้นมาอีกแล้ว


        ‘มันน่าตีจริงๆเลย ทำไมดื้ออย่างนี้ห๊ะ เดี๋ยวนี้ชักเกเรบ่อยไปแล้วนะ เดี๋ยวก็ไม่เลี้ยงซะหรอก’


        ผมจำได้ขึ้นใจ พี่เขาว่าผมแบบนี้ บอกว่าจะไม่เลี้ยงแล้ว พี่เติร์ดว่าผมเพราะคนอื่น เขาจะรู้บ้างไหมว่าผมเสียใจแค่ไหน
        พี่เติร์ดพยายามจะจับผมอยู่หลายรอบแต่เพราะผมไม่ยอมเขาก็เลยยอมแพ้ ไปอาบน้ำอ่านหนังสือ แต่เขาไม่ได้นั่งอ่านบนโต๊ะเขียนหนังสือเหมือนทุกที โดยที่มีผมนอนอยู่บนตักเขา แต่ครั้งนี้เขามานอนอ่านบนพื้นข้างๆผม ผมทำเป็นไม่สนใจ หลายครั้งที่เคลิ้มหลับเขาก็จะลูบหัวผม ทำให้ผมรู้สึกตัวตื่นไม่ได้นอนสักที สุดท้ายเขาก็เลิกทำ
        “นอนซะเด็กน้อย พี่ไม่จับแล้วครับ ไม่ต้องตื่นแล้วนะ นอนนะพักผ่อนนะครับ”
        แล้วคืนนั้นผมก็หลับยาวยันเช้าด้วยความเพลีย ตื่นเช้ามาเจอพี่เติร์ดนอนขดตัวอยู่รอบๆเบาะนอนของผม บนตัวเขาไม่มีผ้าห่มคลุมกาย ช่างปะไร ผมไม่สน แต่ตอนนี้นี่สิ ผมเจ็บไปทั้งตัว แค่ขยับก็เจ็บจนต้องเปล่งเสียงร้องโดยที่ไม่อาจอดทนได้ พี่เติร์ดรู้สึกตัวเพราะเสียงครางเบาๆของผม เขางัวเงียมอง ผมหลับตาลงไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น
        เสียงดังก๊อกแก๊กในห้อง วันนี้พี่เติร์ดมีเรียนผมจำได้ ต่อมาผมก็ได้กลิ่นของคุณหมอ ผมลืมตาเงิยหน้าขึ้นแล้วส่งเสียงร้องเรียก พี่เติร์ดกระแอมไอจ้องผมเหมือนจะโกรธ ผมไม่สนใจหรอก ผมโกรธอยู่ก่อน พี่เติร์ดห้ามโกรธกลับ
        “พอดีวันนี้มีเคสเข้ามาที่คลีนิคเช้าผมเลยมารับก่อนเวลา”
        “ครับ
        “ผมจะพาน้องปุยไปที่คลีนิคด้วย คุณจะไปรับที่คลีนิคหรือจะรอผมกลับคอนโด น่าจะสักราวๆหนึ่งทุ่ม” คุณหมอบอก อุ้มผมขึ้นกอดไว้ในอ้อมแขน มือข้างหนึ่งก็เกาคางผมเบาๆชวนให้เคลิ้ม
        “ผมเลิกเร็ว สักบ่ายสามผมจะไปรับเขาที่คลีนิคเอง ไม่ทราบว่าคลีนิกคุณอยู่แถวไหน” พี่เติร์ดถามเสียงเข้ม ผมไม่ได้มองพี่เขา
        คุณหมอบอกที่อยู่ของคลีนิคให้พี่เติร์ดเสร็จก็จะพาผมออกจากห้อง แต่ถูกพี่เติร์ดเรียกไว้ คุณหมอหันไปหาเขา พี่เติร์ดมองผม เอื้อมมือมาสัมผัสที่หัวผมเบาๆเหมือนจะลองเชิง คราวนี้ผมใจดีไม่หนีมือ พี่เติร์ดถึงกับยิ้มออก ลูบหัวผมสองสามทีพร้อมพูด
        “เลิกเรียนแล้วพี่จะรีบไปรับน้องปุยเลยนะครับ”
        ผมรับรู้ในใจ ผละหัวออกจากมืออุ่นซบลงบนท่อนแขนของคุณหมอ ผมไม่ได้อยากจะใจร้ายกับพี่เติร์ด แต่เขาใจร้ายกับผมก่อน ถึงผมจะรักพี่เติร์ดมากจนบรรยายไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ได้ใช่จะยอมทุกอย่าง ยังไงผมก็เป็นแมว ทุกอย่างที่ผมทำที่ผมแสดงออกมันเป็นไม่ตามสัญชาติญาณ
        ผมอยู่กับคุณหมอทั้งวันในคลีนิค มีช่วงที่พี่หมอวีร์ฉีดยาอะไรสักอย่างให้ผม ผมก็ค่อยๆหลับไปเพราะฤทธิ์ยา ตื่นมาอีกทีผมก็รู้สึกดีขึ้นจนน่าตกใจ ผมลุกขึ้นเดินได้จนเกือบจะเป็นปกติแต่ก็มีติดขัดบ้างเพราะท่อนเหล็กที่อยู่ในขา
        “เป็นไง ยังเจ็บอยู่ไหม แต่น่าจะหายแล้วนะ” พี่หมอวีร์ถาม
        ‘ผมหายแล้วเหรอครับ ทำไมผมไม่เจ็บแล้ว’ ผมถามอย่างสงสัย เมื่อเช้าผมยังทั้งเจ็บทั้งปวดอยู่เลย
        “ฉันฉีดยาสูตรพิเศษให้ยังไงล่ะ อีกอย่างเราเองก็ยังเด็ก แบบในฐานะของมนุษย์กลายร่างน่ะนะ อายุแค่ไม่กี่สิบปีที่ถือว่าเด็ก เพราะฉะนั้นแล้วกระดูกก็จะสมานตัวง่าย ยิ่งได้ยาสูตรพิเศษเข้าไปก็เลยเห็นผมเร็วแบบนี้” พี่หมอวีร์อธิบาย ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้างเพราะกำลังตื่นเต้นกับขาตัวเอง
        ‘ยานี่ก็ฉีดให้แมวตัวอื่นเหรอครับ’ ผมถามเมื่อลองเดินจนพอใจ
        “ไม่หรอก ยาพวกนี่ใช้กับมนุษย์กลายร่างเท่านั้น แต่ราคาสูงลิบลิ่วเพราะเป็นยาที่สกัดจากเสือดของไทกริสสายเลือดบริสุทธิ์ที่มีฤทธิ์รักษาแบบสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็ต เป็นยาที่พ่อของฉันให้ไว้ติดตัวน่ะ แต่ไปหาซื้อไม่มีขายหรอกนะ”
        ‘อ้าวแล้วแบบนี้คุณหมอเอามาใช้กับผมจะไม่เป็นไรเหรอครับของหายากแบบนั้น’
        “ไม่ต้องกังวล กับเธอน่ะฉันใช้แค่สองหยดเองก็หายเป็นปลิดทิ้ง หายห่วงได้ ฉันยังมียาเหลือ”
        ‘ขอบคุณคุณหมอมากนะครับที่ดีกับผมขนาดนี้’
        ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินเอาตัวถูกกับแขนของคุณหมอพร้อมกับแลบลิ้นเลียมือไปด้วย พี่หมอวีร์ยิ้มแล้วก็เกาคางให้ผม
        “รู้สึกเสียดายไหมที่ไม่ยอมอยู่กับฉันตั้งแต่แรก” พี่หมอวีร์กระเซ้า
        ‘ก็ผมรักเขา’ ผมพูดเสียงเบา
        บทสนทนาระหว่างผมกับคุณหมอถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของคนที่เป็นเจ้าของผม ผมหันไปมองอย่างดีใจ แต่แล้วก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างกระทันหันเมื่อเห็นคนที่เดินเคียงข้างพี่เติร์ด
        ผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว!




        ……………………………….
        น้องปุยเป็นแมวขี้หึงนะ แต่ความจริงพี่เติร์ดเป็นมนุษย์ผู้ (สามี) ที่ขี้หึงยิ่งกว่า นี่ไม่ได้แอบสปอยเนื้อหาเลยนะ ไม่ได้สปอยจริง 555555  :laugh:




       



หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: k_keenny ที่ 16-02-2016 23:13:18
งอนไปเลยยยย 55555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 16-02-2016 23:49:26
เอาเลยน้องปุยงอนหนักๆ ให้พี่เตริด์เครียดจนทิ้งกิ๊กบิวไปเลย แลดูชั่วร้าย  :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: indyska ที่ 17-02-2016 03:00:17
ขอต่ออีกได้ไหมมม อย่าปล่อยให้ชั้นค้างไป
เธอก้รู้ทั้งหัวใจ ชั้นเป็นทาสแมวหมดแล้วตอนนี้ ... :man1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-02-2016 12:44:29
 :pig4 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 19-02-2016 08:09:50
สนุกมากเลยครับ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 20-02-2016 00:39:48
 :impress3: น่ารักจังเลยน้องปุยเมฆกับเติร์ดน่ะ ยังไงน้องปุยเมฆต้องอดทนน่ะ เติร์ดก้อแค่พยายามหาคนมาดามใจตัวเองน่ะแหละ  :katai3:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 20-02-2016 14:06:03
สมัครสมาชิกเพื่อเรื่องนี้เลย สนุกมากๆ บรรยายดีมากเลยอ่ะ ดำเนินเรื่องน่าติดตามมากกก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 21-02-2016 22:17:58
 :mew1:   :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 22-02-2016 13:22:38
น้องปุยงอนหนักๆไปเลยลูกก เอาให้ไอพี่เติร์ดขาดใจไปเลย จะได้รู้ว่าใครสำคัญเนอะ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 28-02-2016 15:18:09
ไม่เข้ามาแปปเดียว
เอเดนเราร้องไห้ดีใจซะงั้น
ส่วนน้องปุยอย่ายอมเติร์ดนะ
ต้องให้รู้ว่าอะไรสำคัญ
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ศตรัศมี ที่ 29-02-2016 22:27:31
หมั่นไส้เติร์ดกับมนุษย์ฝ่ายรับหน้าขาวกลิ่นฉุนสุดๆ น้องปุยอย่ายอมง่ายๆนะ งอนให้สุด #ทีมทาสแมว
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 03-03-2016 03:28:50
มารอน้องปุย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 03-03-2016 21:21:56
ถึงเติร์ดจะทำเพราะย้อมใจ ก็เถอะ น้องปุยฝ้ายงอนไปเลยค่ะ   o13 ทาสแมว  :mew4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: N-T ที่ 08-03-2016 12:48:53
 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 09-03-2016 14:56:40
สนุกมากกกกค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁TWO❁16-02-16 [P.71]เปิดจองหนังสือ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmay ที่ 13-03-2016 23:18:06
รออยู่น้าาาา   :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁THREE❁06-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 06-04-2016 00:08:59
SPECIAL
F.L.U.F.F.Y

THREE





        THIRD

        บรรยากาศในรถค่อนข้างมาคุแบบแปลกๆ ผมเหลือบมองเจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่เบาะข้างๆมองสำรวจนู่นที่นั่นพลางทำจมูกดมฟุดฟิด ส่วนบิว...เด็กใหม่ของผมนั่งอยู่ที่เบาะหลังด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่

        เหตุการณ์เมื่อสิบนาทีที่แล้ว ตอนที่ผมอุ้มปุยเมฆมาที่รถ ปกติเจ้าแมวเหมียวก็จะนั่งบนที่นั่งข้างคนขับ แต่วันนี้บิวมาด้วยเพราะน้องเขาขอให้ผมไปส่งที่บ้านซึ่งเป็นทางผ่านผมพอดี แต่ดันเกิดเรื่องตรงที่ว่า พอบิวจะนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ น้องปุยก็ร้องขู่เสียงเล็กดังคับรถ กางเล็บเอาขาหน้าทั้งสองตะกุยแขนผมลงไปนั่งบนเบาะ ไม่ยอมให้ใครอีกคนมานั่ง พอผมจะอุ้มออกก็ไม่ยอม ผมกลัวน้องปุยที่ขายังไม่หายดีจะเจ็บก็เลยขอให้บิวไปนั่งที่เบาะหลังแทน เพราะเจ้าตัวเล็กขยับตัวเยอะเกินไปจนผมใจหาย

        เป็นแมวที่หวงของจริงๆ แค่เบาะนั่งก็ให้คนอื่นไม่ได้

        “บิวไม่เข้าใจ”

        เสียงบิวดังขึ้นมาจากด้านหลัง ผมมองผ่านกระจกส่องหลังสบตากับบิวที่นั่งหน้างอ ผมกับบิวยังไม่ใช่แฟนกัน จะว่าแค่คบกันเล่นๆก็ได้ ผมแค่ถูกใจแต่ยังไม่ถึงกับว่ารัก เขายังไม่ใช่ทุกอย่างที่ผมต้องการ เรานอนด้วยกัน เดทกันบ้างแต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่พิเศษอะไร

        “อะไร” ผมถาม

        “ทำไมพี่ต้องตามใจแมวขนาดนี้ ไม่สิ พี่ทำเหมือนว่าเจ้าแมวนั่นมันสำคัญกับพี่มาก มากกว่าบิว” บิวขึ้นเสียงใส่ผมเล็กน้อย และเขาทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง

        ผมมองถนนนิ่งๆ ก่อนจะมองไปทางน้องปุย เจ้าตัวเล็กขนสีเทาลายคล้ายเสือนอนหมอบอยู่บนเบาะนุ่มมองผมตาแป๋ว ผมเอื้อมมือไปลูบหัวเจ้าตัวน้อย แลtครั้งนี้เจ้าตัวยอมให้ผมจับแต่โดยดีไม่เหมือนเมื่อคืน ผมระบายยิ้มไม่รู้ตัว

        “พี่เติร์ด! บิวถามพี่อยู่นะ พี่ยังจะไปเล่นกับแมวอีกเหรอ” บิวชะโงกหน้ามาถามผม ปัดมือผมออกจากตัวแมว ผมตวัดตามองหน้าบิวอย่างไม่พอใจ แต่ก็ต้องรีบหันกลับมามองถนนก่อนที่รถจะไปชนกับคันอื่น

        “อย่าขึ้นเสียงใส่พี่ พี่ไม่ชอบ และแน่นอน ตอนนี้น้องปุยสำคัญกว่าบิว” ผมตอบตามความจริง และเป็นความจริงที่อีกคนรับไม่ได้

        “ทำไมพี่เติร์ดพูดแบบนี้ แบบนี้ไม่ได้ บิวต้องสำคัญกว่า” อีกฝ่ายดื้อดึงไม่ยอม

        ผมเลี้ยวรถเข้าซอยบ้านบิว ก่อนจะจอดรถตรงหน้าบ้านสองชั้นขนาดใหญ่หลังหนึ่ง ปลดล็อคประตูแล้วหันไปมองคนที่นั่งกอดอกทำหน้าบึ้งหันหน้าไปทางอื่น

        “ก็ถ้าทำตัวไม่น่ารักแบบนี้อีก ระหว่างเราจะจบลงทันที” ผมพูดเสียงนิ่ง ผมถูกใจเพราะบิวเป็นเด็กขี้อ้อน แต่พอมาเห็นอีกมุมหนึ่งผมก็เลยคิดว่า อาจจะต้องคิดดูใหม่

        “บิวขอโทษ” สีหน้าของบิวอ่อนลง

        “ช่างเถอะ ถึงบ้านแล้ว” ผมไล่กลายๆ

        “งั้น พรุ่งนี้เจอกันนะครับ” บิวพูดก่อนจะชะโงกหน้ามาหอมแก้มผมอย่างเร็ว

        ‘เมี๋ยวว!!!’

        น้องปุยลุกขึ้นยืนโซเซ ทำขนพองส่งเสียงขู่บิวที่มาหอมแก้มผม ส่วนบิวก็หันไปแลบลิ้นใส่แมวเป็นการเยาะเย้ย

        “ไอ้ลูกแมวบ้า!” ว่าแมวผมจบก็ลงจากรถไปพร้อมโบกมือลาให้ผม

        ผมได้แต่ถอนหายใจ มองเจ้าแมวตัวเล็กที่มองผมตาเขม็ง

        ตาเขม็งงั้นเหรอ...?

        ผมรีบละสายตาจากถนนมองดูตาของน้องปุยใหม่อีกครั้ง แต่ทุกอย่างดูปกติไม่เหมือนที่ผมเมื่อสักครู่ที่แววตาของน้องปุยคล้ายกับแววตาของบิวยามที่มองผมด้วยความไม่พอใจ ง่ายๆคือ...เมื่อกี้ผมเห็นแววตาของคน

        “น้องปุย” ผมครางเรียกชื่อเจ้าเหมียว บางทีผมอาจจะตาฝาดไปเอง แววตาแมวไม่เหมือนแววตาคนเลยสักนิด และไม่มีทางเหมือนกันได้ ผมหัวเราะเบาๆให้กับความคิดบ้าบอที่ไม่มีวันเป็นไปได้

        “กลับบ้านเรากันนะครับ”

        อาการของน้องปุยก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เจ้าตัวเดินเหินไปมาได้สะดวกขึ้น แต่ผมยังไม่เห็นน้องวิ่งเล่นเลย คงจะยังเจ็บอยู่ ทุกเช้าผมยังคงเอาน้องปุยไปฝากไปที่หมอวีร์ และไปรับกลับในตอนเย็น น้องปุยไม่ค่อยดื้อกับผมเท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่มาเล่นมาเคล้าคลอเคลียกับผมอย่างเคย

        ผมคงทำให้น้องปุยโกรธมาก ถึงได้ทำห่างเหินกับผมเหมือนคนไม่รู้จักกัน จากที่เคยนอนกับผมบนเตียงทุกคืน เดี๋ยวนี้เจ้าตัวเล็กเลือกที่จะนอนในเบาะที่นอนของตัวเอง ผมอุ้มขึ้นเตียงก็เดินลง เป็นสิบๆรอบจนผมอ่อนใจปล่อยให้เขานอนในที่ๆเขาอยากนอน

        “ตัวเล็ก มาหาพี่สิ” ผมออกมาจากห้องนอน เรียกเจ้าแมวน้อยที่นอนดูการ์ตูนที่ผมเปิดทิ้งไว้ให้ตั้งแต่เช้า ปุยเมฆชอบดูทอมแอนด์เจอร์รี่เป็นที่สุด ความจริงสัตว์คงจะดูอะไรแบบนี้ไม่รู้เรื่องหรอก และไม่มีวันรู้เรื่อง แต่ว่าพอเป็นการ์ตูนเรื่องนี้ทีไร ปุยเมฆจะขึ้นไปนั่งบนโซฟาแล้วจ้องจอโทรทัศน์ตาไม่กระพริบ จากซนๆชอบหนีออกไปเล่นซนที่อื่นจะกลายเป็นตุ๊กตาแมวนั่งนิ่งเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้

        “น้องปุย” ผมเรียกอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวเล็กยังคงไม่สนใจผม และก็ยังคงไม่คิดสนใจอีกต่อไป ผมเลยเดินไปหาที่โซฟา ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆก่อนจะอุ้มเจ้าแมวดื้อขึ้นมาฟัด

        ‘ม๊าวววววว!’

        หึ มีร้องขู่

        ผมทั้งหอมทั้งจุ๊บแล้วก็ฟัดตามตัวตามพุง ตัวไม่โตสักที ผมจะเล่นแรงๆด้วยก็ไม่ได้ นี่ขาก็หายดีเพราะหมอวีร์เอาเฝือกออกให้แล้ว นึกถึงหมอวีร์แล้วผมก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ น้องปุยดูจะติดหมอวีร์มากกว่าผมเสียอีกช่วงนี้ หมอวีร์แค่เรียกครั้งเดียวเจ้าแมวดื้อก็เดินไปหาไม่อิดออด แต่กับผมน่ะเหรอ ดื้อสุดพลัง ถ้าเป็นคนละก็จะจับตีก้นเสียให้ไม่กล้าดื้อกับผมแม้แต่น้อย

        ผมทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาแล้วให้ปุยเมฆนอนบนพุง ตาก็ดูการ์ตูนไปพร้อมกับเจ้าแมวน้อยสลับกับมองและลูบหัวเจ้าตัวเล็ก

        “เมื่อไหร่จะหายโกรธพี่หืมน้องปุย พี่ขอโทษจะร้อยครั้งแล้วนะ”

        “...”

        เงียบ ไม่มีแม้แต่จะหันมามอง บอกตามตรงเลยว่าผมง้อแมวยิ่งกว่าง้อเมียเสียอีก เฮ้อ

        ผมนอนเล่นกับแมวเพลินๆ เสียงออดหน้าห้องก็ดัง ผมผุดลุกขึ้นนั่งจับปุยเมฆวางไว้บนโซฟาส่วนตัวเองก็เดินไปเปิดประตู คนที่มาก็ไม่ใช่ใครที่ไม่รู้จัก

        “พี่เติร์ด บิวทำมื้อเที่ยงมาให้ด้วยแหละ วันนี้บิวมาทานข้าวเที่ยงด้วยนะ” บิวยิ้มอย่างร่าเริง

        ผมชั่งใจว่าจะให้บิวเข้าห้องมาดีไหม กลัวมีปัญหากับปุยเมฆ แต่คิดไปคิดมาก็อยากจะขำใส่ตัวเองที่คิดได้ว่าคนกับแมวจะตีกัน

        “อืม แล้วขึ้นมาได้ยังไง” ผมเบี่ยงตัวให้บิวเข้ามาในห้อง

        “พี่รปภ.เขาจำบิวได้ เลยให้บิวเข้ามา และพอดีมีคนที่จะขึ้นมาชั้นนี้พอดีบิวเลยตามเขามาด้วย”

        “อืม เอาของมานี่สิ เดี๋ยวจะเอาไปใส่จาน”

        ผมรับถุงผ้าที่ใส่กล่องอาหารไว้ข้างในแล้วเดินเข้าครัว ไม่ลืมที่จะมองดูปุยเมฆที่ยังคงอยู่ในโลกของตัวเองดูการ์ตูนนิ่ง นิ่งจนคิดว่าเป็นตุ๊กตาไร้ชีวิต นั่งนิ่งไร้การเคลื่อนไหว

        อาหารที่บิวเอามานันน่ากินหลายอย่าง ค่อนข้างแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าคนอย่างบิวที่ดูเป็นลูกคุณหนูเอาแต่ใจแบบนั้นจะทำอาหารได้ หรือว่าให้แม่บ้านทำให้แล้วแอบอ้างเอาว่าทำเอง แต่ผมไม่สนใจอยู่แล้ว เอาเข้าปากแล้วกลืนได้รสชาติไม่แย่ก็โอเค ผมไม่เคยคาดหวังให้ใครทำอาหารให้ แต่ถ้าคนที่จะมาเป็นคนรักผมที่จะอยู่กับผมไปจนตายนั้นก็อีกเรื่องนึง

        ‘เมี๊ยววว!’

        อยู่ๆเสียงร้องขอปุยเมฆก็ดังลั่นห้อง ผมตกใจรีบวิ่งออกไปดู เห็นน้องปุยยืนร้องบนโซฟาร้องไม่หยุด เมื่อบิวหยิบรีโมทโทรทัศน์มาเปลี่ยนช่อง ผมยิ้มให้กับเจ้าแมวน้อย กับผมก็เป็น ถ้าเจ้าตัวดูทอมแอนด์เจอร์รี่อยู่ละก็ ห้ามเปลี่ยนช่องเป็นอันขาด

        “บิว มาทานข้าวสิ” ผมเดินเข้าไปใกล้ทั้งคนและแมว บิวรีบลุกขึ้นมาเกาะแขนผม ผมต้องดันมือเล็กของบิวออกเพราะผมจะอุ้มปุยเมฆไปกินนมในครัวด้วย

        “แมวพี่เติร์ดนี่ไม่น่ารักเลย ขู่ใส่บิวตลอด แมวอะไรร้ายชะมัด”

        บิวเดินตามหลังมาบ่นปุยเมฆให้ผมฟัง  ผมยกยิ้มมองเจ้าขนฟูในอ้อมแขนที่เอาคางเกยอกผมแล้วร้องเสียงเบาๆเหมือนต้องการจะฟ้องเช่นกัน 

        “งั้นเหรอ”

        แต่ผมไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ ปุยเมฆดื้อก็จริง แต่ก็น่ารักมากๆ ไม่เห็นจะเป็นแมวร้ายสักนิด ก็แค่แมวขี้หวงเท่านั้นเอง

        “ฮึๆๆ” ผมหัวเราะเบาๆ วางเจ้าแมวน้อยบนโต๊ะอาหารที่มีชามนมวางตั้งไว้อยู่

        “พี่เติร์ดขำอะไร บิวไม่ขำด้วยเลย”

        ผมไม่ตอบอะไร นั่งลงตรงข้ามบิว ปุยเมฆค่อยๆแลบลิ้นเลียนมเข้าปากช้าๆ ขนนุ่มรอบปากเล็กรวมไปถึงหนวดเปื้อนไปด้วยหยาดของเหลวสีขาวขุ่น

        “นี่ พี่เติร์ด” เสียงของบิวเรียกสติผมให้กลับมาสนใจคนตรงข้ามและมื้อกลางวันตรงหน้า

        “ว่าไง”

        “ผมหาแมวตัวใหม่ให้เลี้ยงไหม”

        มือที่กำลังจะเอาข้าวเข้าปากชะงักค้าง ผมเงยหน้ามองบิวช้าๆ ก่อนจะหลุบมองปุยเมฆที่ตอนนี้หยุดกินข้าวจ้องไปที่บิวไปต่างจากผมเมื่อตะกี้

        “พูดอะไรระวังด้วย” ผมปรามเสียงเข้ม แล้วหันมาสนใจเจ้าตัวเล็กแทน “กินครับกิน กินนมนะเด็กดี”

        ผมเลื่อนจานนมเข้าใกล้ปากเล็กแล้วลูบหัวปลอบ ถึงเขาจะเป็นแค่แมว แต่ผมว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็รับรู้ได้ว่าใครชอบเขาหรือไม่ชอบ คงเพราะแบบนี้ปุยเมฆถึงได้ไม่ชอบบิว เพราะบิวเองก็ไม่ชอบเขาผมเหมือนกัน แต่ก็ดูจะเกินไปหน่อยนะว่าไหมที่จะมาบอกให้ผมเลี้ยงแมวตัวอื่น

        ระหว่างนั้นผมนั่งกินข้าวเงียบๆแม้ว่าบิวจะพยายามชวนผมคุยก็ตามแต่ แต่ผมไม่มีอารมณ์จะคุยด้วย นั่งทานข้าวไปเงียบๆจนอิ่ม จากนั้นผมก็ปล่อยปุยเมฆลงกับพื้นให้น้องเดินย่อยและเดี๋ยวก็คงจะขึ้นไปนอนกลางวันบนโซฟาเหมือนทุกๆวัน ส่วนบิวผมปล่อยเลยตามเลยเพราะยังรู้สึกตึงๆกับคำพูดของบิวบนโต๊ะอาหารอยู่ จนไม่มีแม้แต่อารมณ์จะพูดดีๆด้วย

        ผมล้างจากเก็บทำความสะอาดโต๊ะทานข้าวไม่ได้ใส่ใจอะไรจนกระทั่งได้ยินเสียงร้องของปุบเมฆและเสียงบ่นของบิวดังมาจนโซนห้องนั่งเล่น ผมรีบล้างมือแล้ววิ่งไปดู เห็นบิวพยายามจะนั่งบนโซฟา แต่แมวผมไม่ยอม ก้มหัวต่ำจ้องมองอีกฝ่ายแล้วขู่ ทันทีที่ร่างของบิวหย่อนตัวนั่งปุยเมฆก็ยกมือตะปบแขนเล็กนั่นทันที แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อบิวฟาดมือลงบนตัวของเจ้าตัวเล็กจนเกือบกลิ้งตกโซฟา

        “บิว! ทำอะไรน่ะ!!!”

        ผมรีบเข้าไปอุ้มปุยเมฆขึ้นแนบอก มองหน้าบิวด้วยความโมโหจัด ปุยเมฆร้องอยู่กับอกผม ยิ่งทำให้ผมโกรธจนเหมือนไฟสุมอก ปุยเมฆยังไม่หายดีก็จะมาเจ็บตัวอีกแล้วเหรอผมเริ่มชักจะทนไม่ไหวขึ้นมาแล้ว

        “พี่เติร์ด คือ...”

        “ออกไป”

        “อะไรนะ”

        “พี่บอกให้ออกไป”

        “พี่เติร์ด พี่ไล่บิวเหรอ”

        “เออ ออกไป!”

        ผมโมโหมาก โมโหมากจริงๆ

        โมโหทั้งบิวที่กล้าทำร้ายเจ้าขนฟูของผม และก็โมโหแมวเด็กที่ไม่ระวังตัวเองจนเกือบจะเจ็บตัวซ้ำสอง ถึงจะมีกรงเล็บแต่อย่างปุยเมฆหรือจะสู้กับมนุษย์ตัวโตกว่าตัวหลายเองสิบเท่าได้ เจ้าแมวนิสัยไม่ดีชอบทำให้ผมเป็นห่วง



        PUIMEK

        ดูเหมือนว่าผมจะทำให้พี่เติร์ดไม่พอใจ ไม่รู้เป็นเพราะว่าผมไปตะปบมือผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า แต่พี่เติร์ดก็ไม่ได้ดุผม แถมยังไล่คนๆนั้นออกจากห้องอีก ตอนนั้นผมดีใจมาก แต่หลังจากนั้นพี่เติร์ดก็ทำเมินเฉยใส่ผม คือไม่พูดไม่จา ไม่เรียกหาหรือกอดผมเลย พี่เติร์ดทำให้ผมงงว่าสรุปแล้วเป็นผมหรือเขากันแน่ที่ควรจะโกรธ

        แบบว่าผมก็ยังงอนไม่หายที่เขาทำให้ขาของผมหัก แม้ว่าอาการบาดเจ็บจะหายเพราะได้ยาดีของหมอวีร์ก็ตาม แต่เพราะว่ามันเร็วเกินไปพี่หมอเลยบอกให้ผมแกล้งทำเป็นยังเจ็บขาแบบเดินช้าๆเซๆอะไรแบบนี้

        ตอนกลางคืนผมก็อยากจะไปนอนกับพี่เติร์ดบนเตียงมากๆ แต่เพราะว่าผมยังเจ็บขา ผมหมายถึงพี่เติร์ดเห็นว่าผมยังไม่หายดี เลยทำให้ตอนนอนเขาต้องระวังและตื่นมาดูผมหลายรอบ พี่เติร์ดกลัวว่าตัวเองจะนอนทับผม เพราะพี่เติร์ดไม่ใช่ผู้ชายที่นอนนิ่งๆ ติดจะนอนดิ้นด้วยซ้ำ นั่นแหละ ผมก็เลยตัดสินใจมานอนที่เบาะนอนของตัวเองเพื่อที่ให้พี่เติร์ดนอนหลับสบายมีแรงที่จะตื่นไปเรียนและดูแลผม

        ผมนอนแหมะอยู่บนโซฟาตัวนุ่ม มองตามร่างกายสูงสวยงามที่เดินเข้าออกห้องนอน อยู่สองสามรอบ อวดความหล่อเหลาจนผมไม่อาจละสายตา ลอบมองเพลินจนรู้ตัวอีกทีพี่เติร์ดก็อุ้มผมขึ้นเดินเข้าห้องนอนแล้วตรงเขาห้องน้ำ ผมรู้ได้เลยว่าพี่เติร์ดกำลังจะทำอะไรกับผม

        ห้านาทีต่อมา ตัวของผมก็ถูกยัดลงในห่วงยางขนาดเล็กพอดีกับตัวผม เป็นห่วงยางที่ไว้สำหรับอาบน้ำแมวทำให้ผมลอยตัวในน้ำได้แบบไม่ต้องกลัวจม

        พี่เติร์ดบีบน้ำยาสำหรับอาบน้ำให้ผมลงบนกลุ่มขนแล้วค่อยๆใช้มือเกาๆแล้วก็ขยี้เบามือ น้ำอุ่นกำลังดีผสมกับน้ำหนักมือที่ช่วยให้ผมผ่อนคลายจนอยากจะหลับ หนังตากค่อยๆปรือปิดแต่ผมก็พยายามฟื้นลืมตาขึ้นเพื่อมองหน้าคนที่ผมแอบรัก สักพักพี่เติร์ดก็ใช้แปรงขนนุ่นแปรงทำความสะอาดให้ผม ค่อยๆแปลงอย่างช้าๆ เบามือพร้อมเสียงฮัมเพลงในลำคอเป็นโทนทุ่มสบายหู

        มีความสุขจังเลย ผมอยากอยู่แบบนี้ไม่นานๆ กับช่วยเวลาที่พี่เติร์ดมีแค่ผมนั้น

        ผมเป็นแมวที่เริ่มจะมีแต่ความโลภเสียแล้ว


        นับจากวันนั้นที่พี่เติร์ดไล่คนชื่อบิวไป ผมก็ไม่เจอเขาอีก และไม่ได้กลิ่นของผู้ชายคนนั้นติดตัวพี่เติร์ดกลับมา มีเติร์ดไม่ทำตัวเย็นชากับผมแล้ว ดูแลผมดีเหมือนเดิม และผมก็กลับขึ้นไปนอนบนเตียงกับพี่เติร์ดแล้วด้วย ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติ รวมไปถึงชีวิตของพี่เติร์ดที่ต้องพบเจอผู้คนมากมายอยู่ทุกวัน ด้วยใบหน้าของพี่เติร์ดก็หล่อเหลาไม่แพ้ใคร ไม่แปลกเลยที่จะมีคนมาชอบ และนั่นทำให้ผมว้าวุ่นใจไม่น้อย

        ทุกครั้งที่พี่เติร์ดพาผมเข้าไปในที่ๆเขาไปเรียน หรือออกไปเที่ยวข้างนอก ผมก็เริ่มจะตระหนักรู้ว่าผู้ชายที่เป็นเจ้าของชีวิตผมนั้นเป็นที่คลั่งไคล้ของหนุ่มๆและสาวๆอยู่ไม่น้อย ส่วนผมก็เป็นได้แค่แมวที่ได้แค่มองดูตอนที่มีคนผู้หญิงเข้ามาขอเบอร์พี่เติร์ด และเด็กผู้ชายที่เข้ามาทำความรู้จักกับเขา

        ผมเฝ้าถามตัวเองอยู่ทุกวันว่า แค่เพียงผมได้อยู่กับเขาผมก็มีความสุขแล้ว แต่ทำไมเวลาเห็นพี่เติร์ดเหมือนจะสนใจคนอื่น แค่คิดว่าพี่เติร์ดอาจเจอและพบคนที่จะมายืนเคียงข้าง เป็นคนรัก เป็นคนที่พี่เติร์ดอยากจะดูแล ผมก็เริ่มจะทนไม่ไหว ถึงขนาดที่ผมอยากจะกลายเป็นมนุษย์ได้บ้าง

        ไม่กี่วันต่อมาพี่โยชิก็มานอนค้างที่คอนโดพี่เติร์ดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยพร้อมกลิ่นงูติดตัว ผมจึงได้รู้ว่าความจริงแล้วพี่โยชิก็เป็นมนุษย์กลายร่างเหมือนกันและเป็นงู ข้อดีคือผมสามารถใช้ภาษาสัตว์สื่อสารกับพี่โยชิได้ง่ายและเข้าใจกันมากขึ้น แต่ข้อเสียคือผมไม่ค่อยชอบกลิ่นงูเท่าไหร่

        พี่โยชิมานอนค้างกับพี่เติร์ดบ่อยขึ้นและพี่เขาก็ได่เล่าให้ผมฟังว่าพี่อาซาบาดเจ็บหนักอยู่ที่ๆไกลมาก พี่โยชิกำลังรอให้พี่อาซาหายดีแล้วกลับมาหา ผมทำได้แค่เลียมือเลียหน้าพี่โยชิเพื่อปลอบใจและคอยอยู่ติดกับเขาตอนที่พี่โยชิมานอนที่นี่จนพี่เติร์ดบ่นว่าผมเป็นแมวแปรพรรค์ ซึ่งผมไม่เข้าใจความหมายเอาเสียเลย

        “นี่ ไม่อึดอัดบ้างเหรอ” พี่โยชิที่นั่งดูการ์ตูนเรื่องโปรดของผมเป็นเพื่อนถามขึ้น ผมจำใจต้องละสายตาจากเจ้าหนูตัวเล็กที่วิ่งหนีทอมแมวตัวใหญ่อย่างเอาเป็นเอาตาย

        ‘เมียวว’

        ‘อึดอัด?’

        ผมกำลังสงสัยว่าพี่โยชิหมายถึงอะไร ทำไมผมต้องอึดอัด

        “ก็เราน่ะ ชอบเติร์ดไม่ใช่หรือไง”

        ถึงผมจะรู้อยู่แล้วว่าทั้งพี่โยชิและพี่อาซารู้ว่าผมคิดยังไงกับพี่เติร์ด แต่พอมาโดนถามตรงๆผมก็ไปไม่ถูก

        “ช่วงนี้เติร์ดมันค่อนข้างเนื้อหอมนะ ไม่หึงบ้างเลยเหรอ”

        ‘หึง?’

        ผมทวนซ้ำในสิ่งที่ไม่เข้าใจ

        พี่โยชิทำหน้าครุ่นคิด “ก็แบบ ไม่พอใจเวลาที่เติร์ดอยู่กับคนอื่น หรือแบบทำท่าจะสนใจคนอื่นแบบคนรักอะไรแบบนี้”

        แบบคนที่ชื่อบิวนะเหรอ?

        ‘ไม่ น้องปุยไม่ชอบ’

        ผมตอบ ขยับลุกขึ้นยืนบนตักพี่โยชิก้าวย่ำขาหน้าแรงๆให้รู้ว่าผมไม่ชอบและไม่พอใจ แล้วร่างของผมก็ลอยขึ้นสูงเพราะถูกมือบางนุ่มอุ้มขึ้นให้ใบหน้าของผมกับเขาใกล้กัน

        “อยากกลายร่างเป็นคนได้ไหม” พี่โยชิกระซิบถาม เหลือบมองไปทางห้องนอนที่มีพี่เติร์ดอยู่ในนั้นเพราะยังนอนไม่ตื่น

        ‘เป็นคนเหรอครับ’

        ผมไม่ได้ฟังไม่รู้เรื่องหรือไม่เข้าใจ แต่เพราะถูกถามในสิ่งที่ตัวเองก็ต้องการเลยอยากแน่ใจว่ามันจะเป็นไปได้จริง

        “ใช่ กลายร่างเป็นคน ถ้าปุยอยู่ในร่างแมวแบบนี้จะมีวันได้สมหวังเหรอไง”

        ผมรู้ว่ายังไงก็ไม่มีทางสมหวัง

        ‘แต่...น้องปุยไม่รู้จะทำยังไง ปุยอยากกลายร่างเป็นคนได้ หมอวีร์ก็ช่วยปุยเรื่องนี้ไม่ได้ ยาที่ได้มาจากพี่อาซาหมอวีร์บอกว่าถ้ากินเข้าไปน้องปุยอาจตายได้ น้องปุยอยากเป็นคนแต่...’

        ผมสับสน หนทางที่จะไปสู่สิ่งที่ต้องการมีแต่ความมืดมิดจนผมหาทางออกไม่เจอ

        “ไม่ต้องห่วง พี่รู้จักคนที่จะช่วยเหรอเราได้ ถ้าเราตกลงพี่จะพาไปหาคนๆนั้น”

        ‘ใครเหรอครับ’

        ‘อาจารย์ในมหาวิทยาลัยพี่ ท่านเก่งเรื่องช่วยให้ตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์กลายร่างตื่นขึ้นมา สนใจไหม แค่เราบอกว่าสนใจ พี่จะพาไปทันที’

        ผมมองหน้าพี่โยชิอย่างดีใจ แววตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง ถ้าผมเป็นคนผมคงจะยิ้มได้กว้างที่สุดเท่าที่มนุษย์จะยิ้มได้

        ‘ช่วยน้องปุยด้วย ช่วยให้น้องปุยกลายร่างเป็นคนทีนะ’



       
        ......
        ตอนนี้ตอนที่สามแล้ว เคยบอกไว้ว่าจะลงถึงตอนที่ห้า ก็จะจะที่เหลือให้วันเว้นวันนะคะ ก็จะเป็นการสิ้นสุดตอนพิเศษที่จะเอาลงในเว็บแต่เพียงเท่านี้
        ดูก็รู้ว่าต่อไปที่น้องปุยเป็นคนแล้ว พี่เติร์ดจะหลงขนาดไหน
        #พี่เติร์ดทาสแมว #พี่เติร์ดทาสเมีย?  :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁THREE❁06-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 06-04-2016 08:06:40
อยากเห็นน้องปุยกลายเป็นคนไวๆ ยั่วพี่เติร์ดให้หนักๆเลย เป็นแมวยั่วสวาทเลยน้องปุย #เสี่ยมแต่เด็กเลย  :z1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁THREE❁06-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 06-04-2016 12:03:44
 :pig4: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁THREE❁06-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 06-04-2016 22:17:53
ทาสแมวมารอ 555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁THREE❁06-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 07-04-2016 07:57:27
น้องปุยย :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁THREE❁06-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 07-04-2016 15:57:12
อ่านตอนที่ 11 โยชินางจะตายเพราะตวามอยากรู้นี่แหล่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁THREE❁06-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 07-04-2016 18:49:28
น้องปุยน่ารักน่าเอ็นดู น้องเป็นคนแล้วต้องน่ารักมากแน่ๆ พี่เติร์ดทาสแมวและทาสเมีย  :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FOUR❁08-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 07-04-2016 23:56:18
SPECIAL
F.L.U.F.F.Y

FOUR



       


   ในวันหยุดของพี่โยชิแต่พี่เติร์ดมีเรียน พี่โยชิพาผมออกจากห้องไปหาคนที่จะช่วยให้ผมกลายร่างเป็นคนได้ เอาเข้าจริงผมก็กังวลไม่น้อย เริ่มจะลังเลว่าผมควรจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนจริงหรือ จะมีปัญหาอะไรตามมาหรือเปล่า ผมจะตายไหมแล้วผมจะกลายร่างเป็นคนได้ยังไง

        ผมมัวแต่กังวลและคิดไม่ตก จนกระทั่งพี่โยชิพาผมเข้ามาอยู่ในห้องๆหนึ่ง และกลิ่นของสัตว์นักล่าก็โชยเข้าจมูก กลิ่นของผู้มีอำนาจที่ทำให้ผมตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

        “ชู่วว ไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรหรอกนะ” พี่โยชิปลอบผม ก่อนจะส่งเสียงเรียกผู้ชายที่กำลังก้มหน้าเอาตาจ่อกับเครื่องอะไรสักอย่าง “ขออนุญาตครับอาจารย์จอนห์นี่”

        อาจารย์ของพี่โยชิเงยหน้าขึ้นจากอุปกรณ์ ผินหน้ามาทางเราแล้วยืดตัวยืนตรง

        “ว่าไงโยชิ มีอะไรหรือเปล่าถึงมาหาฉันถึงที่นี่ แล้วนั่น” สายตาของเขามองมาทางผม อาจารย์ท่านนี้เป็นคนต่างชาติ มนุษย์ในที่นี้ก็เป็นคนต่างชาติมากกว่าครึ่ง

        “เขาไม่ใช่แมวธรรมดา แต่เป็น...”

        “ฉันรู้ๆ เขาคือพวกเรา” ผู้ที่เป็นอาจารย์เดินเข้ามาใกล้ผม แววตาของเขาดูอบอุ่นเหมือนเวลาที่พ่อมองลูก ผมจิตนาการว่าเป็นแบบนั้น และรอยยิ้มอ่อนโยนช่วยปลอบประโลมความตื่นกลัวในใจผมได้ในระดับนึง

        “น้องแมวชื่อปุยเมฆ เป็นเพศชาย” พี่โยชิแนะนำผมสั้นๆ

        “ยินดีที่ได้รู้จักนะปุยเมฆ” อาจารย์จอนห์นี่โน้มตัวเข้ามาใกล้แล้วยกมือขยี้หัวผมเบาๆ ผมหลับตารับสัมผัส  “นั่งก่อนสิ”

        อาจารย์เดินกลับไปนั่งหลังโต๊ะทำงาน และพี่โยชิก็นั่งที่ฝั่งตรงกันข้าม วางผมลงบนโต๊ะ ผมนั่งหมอบไม่กล้าขยับตัว ได้แต่หันหน้าไปมองพี่โยชิเพื่อขอกำลังใจ ก็เลยได้รอยยิ้มหวานๆมาช่วยให้ผมกล้าที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองกำลังกังวลมากขึ้น

        “อยากให้ฉันช่วยอะไรอย่างนั้นเหรอ” อาจารย์ถาม

        “ผมอยากให้อาจารย์ช่วยให้ปุยเมฆกลายร่างเป็นคนได้น่ะครับ” พี่โยชิบอกจุดประสงค์หลักในการมาพบอาจารย์ ท่านเลิกคิ้วสูง พยักหน้าเบาๆสองทีว่ารับรู้ สายตาสุขุมจองมองผมอย่างพิจารณา และยื่นนิ้วมาเขี่ยขนสีเทาเข้มของผมตั้งแต่หัวไปจนถึงหาง

        “อาจจะได้และอาจจะไม่ได้” อาจารย์ชักมือกลับแล้วตอบ

        “ยังไงครับ” พี่โยชิถามอีกครั้ง

        “มนุษย์กลายร่างที่เป็นแมว หนึ่งในพันเท่านั้นที่จะกลายร่างได้ ส่วนมากจะถูกตัวตนภายในฉีกทึ้งจิตวิญญาณจนตายเพราะหลุดออกจากสิ่งที่กลบฝังมันไม่ได้ ต้องมีจิตที่แข็งแกร่งและร่างกายที่แข็งแรง ถึงจะเอาชนะความเจ็บปวดนั้นได้” ท่านอธิบาย ผมกับพี่โยชิมองหน้ากัน สีหน้าของพี่โยชิเริ่มมีความกังวลไม่ต่างจากผม

        “แต่ก็พอจะทำได้ใช่ไหมครับ”

        “ก็ใช่” ท่านตอบ แล้วมองหน้าผม “คิดว่าตัวเองทนไหวไหมเจ้าแมวน้อย เธอจะเจ็บมากและทรมานมากจนอาจจะร้องหาความตายแทนก็ได้”

        ผมไม่ตอบในทันที ถ้าเป็นความทรมานที่ผมเคยเจอ ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนได้ไหม แต่ทว่าผม ถ้าให้ผมอยู่ในร่างแมวไปจนตาย โดยไม่ได้พยายามที่จะได้ยืนเคียงข้างพี่เติร์ดมากกว่าการเป็นสัตว์เลี้ยง ผมก็ไม่อยากให้ตัวเองหยุดอยู่แค่นี้ นับผมผมยิ่งรักพี่เติร์ดมากขึ้นจนน่าตกใจ

        อย่างน้อยผมก็อยากจะพยายาม ถ้าผมกลายเป็นคนแล้วไม่สามารถทำใหพี่เติร์ดรักผมแบบคนรักได้ ผมก็จะกลับคืนสู่ร่างแมวแล้วเป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเขาไปชั่วชีวิต

        เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าผมควรลองเสี่ยง

        ‘เมียวว ม๊าวๆ เมี๊ยววว’

        ‘ถ้าอาจารย์สัญญาว่าผมจะไม่ตาย เจ็บแค่ไหนผมก็ทนได้ ได้โปรดช่วยผมทีนะครับ’

        ผมตัดสินใจสู้ โดยที่ไม่รู้เลยว่าความเจ็บปวดที่ผมจะได้รับมันยิ่งกว่าตายทั้งเป็น



        ‘ม๊าววววว!!!!!’

        แม้เสียงกรี๊ดร้องของตัวเองจะดังก้องมากแค่ไหน แต่ผมไม่ได้ยินอะไรเลย ยาบางอย่างที่อาจารย์ฉีดเข้ามาในตัวผมมันกำลังทำปฏิกริยาอย่างหนัก ทั้งเจ็บและปวด แขนขาเดี๋ยวชาเดี๋ยวกระตุกเกร็ง ร่างกายเริ่มจะทนไม่ไหว ผมกำลังจะตายและผมก็พยายามที่จะวิ่งหนีออกจากความเจ็บปวดนี้ แต่กลายเป็นว่าตัวของผมวิ่งชนกรงเหล็กขนาดใหญ่อย่างแรง กรงที่อาจารย์ขังผมไว้ จำกัดพื้นที่ไว้ไม่ให้ผมวิ่งพล่านเตลิดแบบไม่รู้ทิศรู้ทาง

        “ใจเย็นๆเจ้าแมวน้อย ต่อสู้กับมัน เอาชนะมันให้ได้”

        “สู้ๆปุยเมฆ พยายามเข้า”

        ไม่ ผมทำไม่ได้!

        เจ็บเหลือเกิน ผมน้ำตาไหล วิ่งพล่านไม่สนว่าร่างกายตัวเองจะชนกับอะไร ความเจ็บภายนอกเทียบเท่าไม่ได้เลยกับบางอย่างที่กำลังกัดกินเนื้อในของผม

        “อีกนิดนึงเจ้าเหมียว อดทนไหว อย่ายอมแพ้”

        นานนับชั่วโมงที่ผมดิ้นทุรนทุรายอยู่ในกรงเหล็ก ความรู้สึกเหมือนนานนับเป็นปีที่ผมต้องต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่อยู่ในตัวผม มันกรีดร้องไปพร้อมกับผมและมันทำให้ผมเจ็บปางตาย สุดท้ายตอนที่ผมกำลังจะหมดแรง มันก็สงบลง

        “มันหยุดลงแล้ว” เสียงของอาจารย์เบาเหลือเกิน

        “เก่งมากเด็กดี”

        ‘พี่ยะ โย...เจ็บ’ผมครางเสียงแหบสั่น

        ร่างของผมถูกอุ้มขึ้น ผมปรือตามอง อาจารย์จอนห์นี่ยิ้มให้ผมพร้อมถ้อยคำชมเพื่อให้กำลังใจอีกยาวเหยียด พี่โยชิเองก็เข้ามาปลอบผมที่น้ำตาค่อยๆซึมไหล วันแรกของการปลุกจิตวิญญาณมนุษย์ให้ตื่นขึ้นเกือบทำให้ผมตายจากไปตลอดกาล

        พี่โยชิรีบต่อสายหาพี่หมอวีร์ให้มารับผม เรื่องที่ผมตัดสินใจจะไปฝึกให้กลายร่างเป็นคนได้พี่หมอวีร์ก็รับรู้เพราะผมเล่าให้เขาฟัง แรกๆเขาก็ไม่เห็นด้วยที่ผมจะทำเพื่อพี่เติร์ดขนาดนี้ แต่ผมก็บอกพี่หมอไปว่า ผมทำเพื่อตัวผมเอง และยืนกรานว่าผมจะไม่เปลี่ยนใจ พี่หมอถึงได้ยอมและรับปากว่าจะช่วยดูแลผมจนกว่าผมจะกลายร่างเป็นคนได้สำเร็จ

        ผมนอนพักไม่นานพี่หมอก็รีบมาอุ้มผมจากมือพี่โยชิไปตรวจเป็นการใหญ่ ตอนนั้นผมถึงได้รู้ว่าภายในผมบอบช้ำพอสมควร โชคดีหน่อยที่พี่โยชิพาผมมาฝึกวันแรกเป็นวันที่พี่เติร์ดต้องกลับบ้านไปหาครอบครัวและต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ซึ่งทีแรกพี่เติร์ดจะพาผมไปด้วยแต่พี่โยชิขอไว้ว่าให้ผมอยู่เป็นเพื่อนพี่เขา พี่เติร์ดถึงได้ยอมทิ้งผมไว้กับเพื่อน

        “ร่างกายบอบช้ำมาก ผมต้องพาเขาไปโรงพยาบาล” หมอวีร์ตอบ

        “รักษาตัวเองดีๆนะเด็กน้อย แข็งแรงแล้วเราจะได้มาฝึกกันใหม่” อาจารย์จอนห์นี่บอกกับผม

        ‘มิ มิววว’

        ‘ผมจะ พยายาม’ เสียงของผมช่างอ่อนแรง และพละกำลังของผมก็ลดถอยจนหมดสติในที่สุด

        ผมใช้เวลาร่วมสองอาทิตย์ในการพักฟื้น สองวันแรกผมสลบไม่ได้สติ วันที่สามถึงได้รู้สึกตัว ผมกลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องพี่เติร์ด มีพี่โยชิและพี่หมอวีร์คอยดูแลอย่างใกล้ชิดจนอาการของผมดีขึ้นมานิดนึง แต่ที่แย่ก็คือผมต้องทำตัวเป็นปกติไม่ให้พี่เติร์ดรู้ตอนที่เขากลับมา แต่พี่เติร์ดก็สงสัยไม่น้อยเพราะผมเอาแต่นอนหลับนิ่งไม่เดินไม่ขยับ พอเขาจับตัวผมผมก็สะดุ้งเพราะเจ็บ เป็นพี่โยชิที่เข้ามาช่วยดุพี่เติร์ดไม่ให้กวนผม

        “จะนั่งจ้องน้องปุยอีกนานไหม นี่มันกี่โมงแล้วเติร์ด”

        ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงพี่โยชิ ค่อยๆปรือตามอง เห็นพี่เติร์ดนั่งอยู่ข้างเบาะนอนของผม ดวงตาเข้มจับจ้องผมไม่กระพริบ ผมเลยส่งเสียงร้องทักทาย จากหน้าบึ้งๆก็ยิ้มออกมา ครบอาทิตย์แล้วอาการผมก็ดีขึ้นเรื่อยๆ พี่หมอวีร์ให้ยารักษายาบำรุงรวมทั้งวิตามินพิเศษเยอะแยะมากมายให้ร่างกายผมหายเร็วขึ้น

        “น้องปุยตื่นแล้วเหรอครับ” พี่เติร์ดยิ้มกว้าง จับตัวผมอุ้มขึ้นแล้วกอดรัดฟัดเหวี่ยงไม่ออมแรง ทำเหมือนหมั่นเขี้ยวผมมากจนต้องเล่นกับผมแรงๆ แต่เขาทำให้ผมเจ็บและจุก

        “ไอ้เติร์ด! มึงทำบ้าอะไรวะ” พี่โยชิรีบวิ่งมาแย่งผมจากมือพี่เติร์ด ประคองผมไว้ในมืออย่างอ่อนโยน ผมเจ็บมากแต่ไม่กล้าร้องนั่นก็เพราะกลัวพี่เติร์ดจะเป็นห่วง

        “อะไรโยชิ ฉันแค่เล่นกับแมว โวยวายทำไม เอาน้องปุยมานี่เลย” พี่เติร์ดจะเข้ามาแย่ง แต่พี่โยชิเบี่ยงตัวหนี

        “ไม่ต้องเล่นแล้ว มัวแต่นั่งจ้องจนจะไปเรียนสายแล้วเนี่ย” พี่โยชิบ่นวางผมลงบนเบาะนอนเบามือ

        “ก็น้องปุยยังไม่ตื่นมาทานมื้อเช้าเลย นี่ครับตัวเล็ก หิวไหม กินเยอะๆนะ” พี่เติร์ดเลื่นจากปลาสีส้มของโปรดของผมมาตรงหน้า ผมฝืนขยับลุกขึ้นยืนช้าๆ เดินออกจากเบาะนอนไปตรงจานอาหาร แล้วค่อยๆกินให้พี่เติร์ดพอใจ เขาจะได้ออกไปเรียนเสียทีแล้วปล่อยให้ผมพักผ่อน

        “ทำไมช่วงนี้กินน้อยจังเลยครับ หืม” พี่เติร์ดก้มลงมาถามผม ผมเงยหน้าแล้วก็ร้องเหมียวๆให้เขาเป็นการตอบรับ

        “ไปได้แล้วเติร์ด สายแล้ว” พี่โยชิบ่นพลางส่งสายตาเห็นใจมาให้ผม แต่ดวงตาที่เคยสดใสบวมเปล่ง เมื่อคืนพี่โยชิคงจะร้องไห้เพราะคิดถึงพี่อาซาอีกแล้วสินะ

        “อืมๆ พี่ไปเรียนก่อนนะน้องปุย” พี่เติร์ดก้มหน้าลงจุ๊บจมูกของผมหนึ่งทีแล้วก็พากันออกไปจากห้องพร้อมพี่โยชิ ทิ้งให้ผมชะงักค้างกับสัมผัสเมื่อสักครู่

        จวบจนกระทั่งผมหายดี นัดครั้งใหม่กับอาจารย์จอนห์นี่ก็เกิดขึ้น พี่โยชิเป็นคนพาผมไปอีกครั้งในช่วงกลางวันที่ทั้งพี่เติร์ดและพี่โยชิมีเรียน แต่พี่โยชิแอบแวบมาพาผมที่ออกไปยืนรออยู่ที่พุ่มไม้หน้าคอนโดไปพบกับอาจารย์ที่บ้านของเขา จากนั้นพี่โยชิก็รีบกลับไปเข้าเรียนให้ทันเวลา

        “เป็นอย่างไงบ้างเจ้าแมวน้อย” อาจารย์ถามผมทันทีที่เหลือเราแค่สองคนในบ้าน

        ‘ดีขึ้นมากแล้วครับ’

        “ขอฉันเช็คหน่อยสิ”

        อาจารย์จอนห์นี่แตะนิ้วที่บริเวณหัวใจ หลับตาลงชั่วครู่แล้วระบายยิ้มลืมตามองผม “ถูกต้อง เจ้าแข็งแรงพอแล้วสำหรับบทเรียนใหม่”

        ‘วันนี้เราจะทำอะไรกันเหรอครับ แบบเดิมหรือเปล่า’

        นึกย้อนถึงความเจ็บปวดก็ทำเอาผมขยาดเหมือนกัน

        ท่านส่ายหน้า “ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว เพราะครั้งที่แล้วฉันต้องการเห็นว่าเธอจะเป็นอย่างไรหากสิ่งที่อยู่ภายในพร้อมที่จะระเบิดออกมา ซึ่งเธอก็ทำให้ฉันเห็นว่าเธออดทนต่อมันได้ดีเยี่ยม ซึ่งหมายความว่าเธอมีโอกาสที่จะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้อย่างที่เธอต้องการ”

        ‘แล้วถ้าวันนั้นผมทนไม่ได้ล่ะครับ’

        “เธอก็จะตาย”

        ‘ตาย!?’

        ผมอุทานเสียงหลง

        “ขอโทษทีนะที่วันนั้นไม่ได้บอกเธอก่อน ฉันต้องการรู้ว่าเธอจะทนได้มากแค่ไหนหากสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ข้างในตัวเธอมันจะระเบิดออกมา และต่อให้มันระเบิดจริงๆ หากเป็นมนุษย์กลายร่างตนอื่นก็คงจะกลายเป็นร่างอีกร่างที่แอบแฝง อย่างเช่นคนก็กลายเป็นสัตว์ หรือไม่สัตว์ก็กลายเป็นคน แต่สำหรับเธอ ถ้าเธอทนไม่ไหว เธอจะตาย แต่เธอก็ผ่านมันมาได้นะปุยเมฆ”

        ผมพูดไม่ถูกเลย ตอนนี้สมองผมตื้อไปหมดตั้งแต่ได้ยินว่าผมเกือบจะตายไปแล้ว ตอนนั้นผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอดทนได้ยังไง เพราะถึงไม่ตายแต่ความทรมานที่ได้รับก็เหมือนตายทั้งเป็น เป็นความเจ็บปวดที่บรรยายไม่ได้เพราะมันเกินกว่าความเจ็บทั้งหมดที่ผมจะเคยเจอหรือจินตนาการออก

        แล้วถ้าวันนั้นผมตาย ผมคงไม่ได้เจอพี่เติร์ดอีกตลอดไป

        “ตกใจเหรอ”

        ผมดึงสติตัวเองกลับมา

        ‘ครับ’

        เสียงของผมแผ่วลงเล็กน้อยจนอาจารย์หัวเราะขำเบาๆ มือใหญ่ลูบหัวผมแล้วไล่ลงมาเกาคางให้ผมรู้สึกสงบ ผมขยับหัวถูมืออาจารย์เพื่อขอบคุณ เรื่องนี้จะโทษอาจารย์ก็ไม่ได้ เพราะผมเองที่เป็นฝ่ายต้องการให้ท่านช่วยเหลือ

        “จงจำความเจ็บปวดนั้นไว้ให้ดีหลังจากนี้ทุกวันที่พระจันทร์เต็มดวง ตัวตนของเธอจะคอยท่าเตรียมระเบิดออกมาเหมือนที่เธอเคยเป็นแต่ว่าจะรุนแรงกว่ามาก เธอจะต้องฝึกควบคุมจิตใจตัวเอง และต้องฝึกจิตให้เข้าถึงตัวตนเพื่อที่เธอจะได้ควบคุมมันได้ มันจะมีผลต่อการควบคุมการกลายร่างในอนาคต”

        อาจารย์อุ้มผมพาเดินเข้าไปส่วนในของบ้าน ตรงเข้าห้องๆหนึ่งที่มืดมิด ไม่มีแสงเล็ดลอดเข้าแม้เพียงนิดเดียว แต่ผมสามารถมองเห็นทุกอย่างอย่างชัดเจนเพราะผมเป็นแมว แต่ถึงอย่างนั้นห้องๆนี้ก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากเก้าอี้สองตัว อาจารย์จอนห์นี่วางผมบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง และท่านนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่หันหน้าเข้าหาผม

        “สิ่งที่เธอจะต้องฝึกไม่ใช่สิ่งที่ยาก สิ่งง่ายๆที่มนุษย์เรียกว่าการนั่งสมาธิ เธอจะต้องฝึกโดยไม่คิดอะไรเลย และจะต้องไม่วอกแวกกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นรอบตัว พร้อมไหม”

        ผมฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไร แค่ทำตามที่อาจารย์บอก ฟังดูแล้วเหมือนว่าจะไม่ยาก แค่นั่งหลับตานิ่งๆแล้วไม่คิดอะไร

        “อย่าลืมว่าห้ามคิดอะไร ถ้าเธอทนได้ถึงหนึ่งชั่วโมงก็เป็นอันผ่าน”

        หนึ่งชั่วโมงเองเหรอ ผมคิดว่ามันง่ายมากๆ

        “หลับตาลง แล้วเริ่ม”

        สิ้นเสียงของอาจารย์ ผมก็ปิดตาลง และเริ่มทำตามที่อาจารย์บอกก็คือ ไม่คิดอะไร สองสามนาทีแรกทุกอย่างดูง่าย ผมไม่คิดอะไรเลย แต่พอเวลาเริ่มผ่านไป สติผมเริ่มจะหลุด สมองเริ่มจะคิดนั่นคิดนี่ แต่ผมก็ยังพอดึงสมองและจิตใจของตัวเองให้สงบนิ่ง ผมกำลังจะทำได้แต่ฉับพลันผมก็ได้ยินหวี่ๆดังขึ้นข้างหู ผมลืมตามองทันทีแต่แล้วเสียงนั้นก็หายไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม และคนที่นั่งตรงข้ามผมเพียงแค่มองมายิ้มๆเท่านั้น

        “อดทนต่อสิ่งเร้า จงมีสติ”

        ผมหายใจเข้าออกลึกสุดปอด แล้วเริ่มฝึกสมาธิอีกครั้ง เรื่องที่คิดว่าง่ายกลับยากถึงยากที่สุด ครั้งนี้ไม่มีเสียงหวี่ๆของแมลงดังที่ข้างหู แต่เป็นแสงไฟที่สว่างวาบส่องเข้าดวงตา ผมสะดุ้งหยีตาทั้งๆที่ยังปิด สุดท้ายสติก็หลุด

        “เริ่มใหม่”

        แต่ละบททดสอบที่ผมไม่คาดคิดเกิดขึ้นภายในห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่มีอะไรเลย แต่ไม่รู้ว่ากลิ่นไฟไหม เสียงรบกวน คลื่นไฟฟ้าบางอย่างที่ทำให้ผมมึนงง สุดท้ายผมก็ไม่สามารถประคองสมาธิตัวเองให้อยู่นานเกินสิบนาทีไปได้ แค่เพียงสองชั่วโมงที่ผมฝึก ผมเหนื่อยแทบขาดใจเหมือนกับว่าผมวิ่งรอบเมือง

        อาจารย์ให้ผมพักแต่เพียงเท่านี้ ให้น้ำให้นมผมดื่มเรียกพลัง ผมแทบหมดแรงและรู้สึกมึนงงในหัว ผมฟุบหมอบบนโซฟานุ่มในห้องรับแขกจนเผลอหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกทีอาจารย์ท่านก็บอกผมว่าวันนี้พี่โยชิมารับผมไม่ได้และท่านจะไปส่งผมเอง ผมให้ท่านปล่อยผมลงที่หน้าคอนโดแล้วผมจะเดินเข้าไปเองโดยไม่ลืมที่จะขอบคุณทิ้งท้าย อาจารย์จอนห์นี่กำชับผมไว้ให้ผมหมั่นไปฝึกฝนบ่อยๆหากว่าผมอยากจะกลายร่างได้ในเร็ววัน

        ผมกำลังเดินเข้าหอก็เจอกับพี่หมอวีร์ พี่เขาอุ้มผมขึ้นแล้วก็พาเข้าลิฟต์ ผมดีใจมากเพราะไม่ต้องเดินขึ้นบันไดหลายๆชั้นให้เหนื่อย

        “เป็นไงวันนี้” พี่หมอถาม

        ‘ไม่ได้เรื่องเลย ผมฝึกสมาธิไม่ได้’

        “เดี๋ยวก็ได้ ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบร้อน”

        แต่ผมอยากกลายร่างเป็นคนได้เร็วๆนี่นา

        ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นของห้องพี่เติร์ด พี่หมอวีร์กำลังจะก้าวออกจากลิฟต์ แต่ติดคนที่ยืนขวางอยู่แล้วก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นผู้ชายหน้าหล่อเจ้าของผมเอง

        ‘เมี๊ยววว’ ผมร้องหาพี่เติร์ด ผมพุ่งตัวเองไปหาเขาจนเกือบจะหลุดออกจากมือของพี่หมอวีร์ แต่พี่เติร์ดก็รับผมไว้ได้ทัน

        “ผมเจอน้องปุยที่ชั้นล่างน่ะ เลยอุ้มขึ้นมาส่ง” พี่หมอวีร์บอกกับพี่เติร์ด

        ผมเอาใบคลอเคลียตามแขนแล้วก็คอของพี่เติร์ด ชอบจังเลยกลิ่นของเขาที่ทำให้ผมอุ่นใจ

        “ขอบคุณครับ” พี่เติร์ดบอกกับพี่หมอแล้วอุ้มพากลับห้อง พร้อมกับบ่นผมไปด้วย แต่ผมไม่สนใจเพราะผมกำลังมีความสุข

        “ทำไมซนก็ไม่รู้ รู้ไหวมาเราทำพี่ตกใจแค่ไหนที่เราหายไปน่ะหึ อยากให้พี่ตีเราจริงๆใช่ไหมน้องปุย เมื่อไหร่จะเลิกหนีออกจากห้องไปเล่นซนสักที พี่ชักจะโมโหแล้วนะ”

        ผมยิ้มคนเดียวในใจ มีความสุขที่พี่เติร์ดเป็นห่วง แล้วก็อยากจะบอกเขาว่าตราบใดที่ยังมีช่องระบายอากาศในห้องน้ำกับประตูระเบียงยังเป็นแบบเดิมที่ผมเปิดเข้าออกจนชิน ผมก็ออกไปเที่ยวเล่นได้อยู่ดีนั่นแหละ





(http://s12.favim.com/orig/160223/gif-kitten-Favim.com-4033642.gif)
พี่เติร์ด แกล้งน้องปุยทำไม 5555
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FOUR❁08-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: k_keenny ที่ 08-04-2016 00:12:15
 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FOUR❁08-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 08-04-2016 06:47:58
รอวันปุยเมฆกลายเป็นคน
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FOUR❁08-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 09-04-2016 19:14:58
รอจ้าาา
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FOUR❁08-04-16 [P.71]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 09-04-2016 22:50:09
สู้ศนะน้องปุย ท่องไว้ทำได้ๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-04-2016 01:52:37
SPECIAL
F.L.U.F.F.Y

FIVE






        ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ผมต้องหลบหนีไปอยู่ที่ห้องพี่หมอวีร์จนกว่าร่างกายตัวเองจะเป็นปกติ แม้จะเคยทรมานและเจ็บปวดอย่างหนักมาแล้วหนึ่งครั้ง ก็ไม่ได้ช่วยให้ครั้งต่อๆมารู้สึกดีหรือชินชากับสิ่งที่พร้อมจะฉีกทั้งร่างกายของผมให้ขาดสะบั้นและแตกสลายทั้งร่างและวิญญาณ สิ่งที่อาจารย์จอนห์นี่ได้ฝึกให้กับผม ทั้งเรื่องสมาธิ และการเข้าถึงอีกส่วนหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในกายผมมันไม่ง่ายเลย อาจารย์จอนห์นี่ให้ผมจับตัวตนอีกหนึ่งร่างให้ได้ ถ้าผมสัมผัสมันได้ผมจะควบคุมมันได้ ผมก็จะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ แต่ช่วงเวลาเดียวเท่านั้นที่ผมจะสามารถทำได้ก็คือววันที่พระจันทร์เต็มดวง วันที่ความเป็นมนุษย์ที่หลับใหลได้ตื่นขึ้นมาและพร้อมจะอาละวาดจนกว่าจะได้เป็นอิสระ

        ความน่าสงสารก็คือผ่านมาสองครั้งแล้ว แต่ผมไม่สามารถจับสัญญาณอะไรได้เลย สุดท้ายก็ได้แต่นอนหอบหายใจแรงกับร่างกายที่สะบักสะบอมจากความเจ็บช้ำจากภายใน

        “ไหวไหม” พี่หมอวีร์ถามพลางอุ้มผมขึ้นไปนอนบนโซฟา ผมผงกหัวขึ้น ฝืนลืมตาขึ้นมองพี่หมอและรอบๆตัว

        ‘ผมทำห้องพี่หมอเละอีกแล้ว’

        ผมบอกอย่างอ่อนแรง

        “ไม่เป็นไร แค่นี้จ้างแม่บ้านมาเก็บได้” พี่หมอบอก

        ผมฝืนร่างกายต่อไปไม่ไหว จึงทิ้งหัวลงกับโซฟานุ่มหลับตานอนพักเอาแรง แม้ว่าตอนนี้พี่เติร์ดอาจจะกำลังตามหาผมอยู่ ผมก็ได้แต่ขอโทษและปล่อยให้พี่เติร์ดเป็นห่วงต่อไปจนกว่าเรี่ยวแรงจะกลับมา

        ช่วงกลางดึกหลังจากที่ผมพักฟื้นร่างกายและได้วิตามินจากพี่หมอที่ช่วยให้ผมสดชื่นขึ้นมีแรงขึ้น ผมเดินกลับมาที่ห้อง ระเบียงห้องเปิดทิ้งเอาไว้เผื่อรอผมกลับมา หลังๆมานี้พอพี่เติร์ดรู้ว่าห้ามผมไม่ให้ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกไม่ได้ เขาก็จำยอมที่จะไม่ล็อกประตูระเบียงหรือประตูห้องน้ำช่องทางประจำของผมเพื่อให้ผมออกไปเที่ยวเล่นและกลับมาได้อย่างไม่ลำบากหรือออกแรงแงะประตูเองมากนัก

        พี่เติร์ดหลับไปแล้ว ผมกระโดดขึ้นไปบนเตียงแล้วขึ้นไปอยู่บนท้องกับหน้าอกของพี่เติร์ด เดินวนเวียนหาที่ๆเหมาะกับตัวเองแล้วทิ้งตัวลงนอนลงช้าๆ

        “อืม น้องปุย” พี่เติร์ดรู้สึกตัวตื่น

        ‘เมี๊ยวว’

        ผมขานตอบ

        “กลับมาแล้วเหรอครับ ไปเที่ยวไหนมาหืมเด็กดี” เสียงของเขางัวเงียสุดๆ “นอนนะครับนอน”

        ในค่ำคืนที่แสนจะเหนื่อยล้า แต่ผมก็หลับอย่างเป็นสุขในอ้อมกอดของคนที่ผมรัก




        ผ่านไปสองเดือน การฝึกฝนของผมก็เริ่มจะสำเร็จผมจนอาจารย์จอนห์นี่เอ่ยปากชม ผมเริ่มสัมผัสได้ถึงบางอย่างในตัวที่ไหลเวียนรวมกับเลือด เป็นหนึ่งเดียวกับกล้ามเนื้อและโสตประสาททั้งห้า หรือแม้แต่ลมหายใจเข้าออกที่วิ่งผ่านไปทั่วร่างผมก็เริ่มจะสัมผัสได้ และในทุกๆคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ผมยังคงเจ็บและทรมาน แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือพอผมเริ่มจับอีกร่างหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวได้ ผมก็เริ่มที่จะควบคุมร่างกายปัจจุบันไม่ให้ต่อต้านอีกร่าง อาจารย์จอนห์นี่บอกว่าสิ่งที่ทำให้ผมกลายร่างไม่ได้ มันก็เป็นกลไลของธรรมชาติที่ป้องกันเราจากอันตราย คล้ายกับว่าถ้ามีฝุ่นผงจะเข้าตา ดวงตาของเราก็จะปิดฉับในทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้มีอะไรเข้าไปทำร้ายดวงตาได้ หรือถ้าบางคนอยากฆ่าตัวตายด้วยการกลั้นหายใจและสุดท้ายก็มักจะไม่เป็นผล เพราะร่างกายก็จะทำทุกทางให้กลับมาหายใจ ตัวของผมเองก็เช่นกัน หากผมสามารถควบคุมให้ร่างกายไม่ต่อต้านจิตวิญญาณของอีกร่างที่พยายามจะแสดงตัวตนได้ ผมก็จะกลายร่างได้ หากผมไม่สามารถยับยั้งได้ ร่างทั้งสองร่างที่อยู่ในร่างเดียวนั้นจะต่อสู้กันจนในที่สุดก็จะเสียชีวิตลงเนื่องจากอวัยวะภายในฉีกขาด

        “วันนี้พอแค่นี้ก็แล้วกันนะปุยเมฆ เธอฝึกมาห้าชั่วโมงแล้วมากกว่านี้ร่างกายจะไม่ไหวเอา” อาจารย์จอนห์นี่เขามาห้ามผมหลังจากที่ปล่อยให้ผมใช้เวลาอยู่กับการฝึกฝนตัวเองในห้องมืดมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยที่ผมยืนกรานที่จะไม่หยุดพักจนกว่าตัวเองจะพอใจ

        ‘อาจารย์ครับ ต้องฝึกอีกกี่วันผมถึงจะกลายร่างเป็นคนได้’

        จะว่าผมใจร้อนก็ได้ แต่ผมอยากกลายร่างเป็นคนได้เร็วๆ ไม่รู้ทำไม แต่ผมคิดว่าถ้าผมอยู่ในร่างของมนุษย์ผมก็อาจจะทำให้พี่เติร์ดสนใจผมได้มากกว่าที่เป็นแค่สัตว์เลี้ยง

        ทุกวันนี้พี่เติร์ดยังไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตน แต่ไม่ใช่ว่าพี่เติร์ดจะไม่มีคนคุยด้วย มีคนมากหน้าหลายตาเข้ามาหาเขาเพราะสนใจเขา เทียบกับผมที่อยู่กับพี่เติร์ดแค่ในห้อง มีบางครั้งที่พี่เติร์ดจะพาผมออกไปข้างนอกด้วยแต่ก็ไม่บ่อย ผมจึงไม่อาจรู้ได้เลยว่าตอนที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันพี่เติร์ดจะไปถูกใจใครหรือเปล่า

        ผมมองตาอาจารย์อย่างมีความหวัง ท่านมองตอบผมนิ่งๆ เดินเข้ามาใกล้แล้วลูบหัวผมพร้อมใช้นิ้วเกาบนเส้นขนเบาๆ ผมที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันรู้สึกเคลิ้มไม่น้อยกับสัมผัสที่อ่อนโยน

        “ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอนะปุยเมฆ แต่ว่า...เธอจะต้องใจเย็นๆ ฉันบอกไม่ได้ว่าอีกกี่วันกี่คืนที่เธอยังจะต้องพยายามต่อไป แต่ฉันเชื่อว่าถ้าเธอมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ อีกไม่นานเธอจะต้องกลายร่างได้แน่ๆ”

        “ครับ ผมจะพยายาม”

        ตราบใดที่ยังกลายร่างไม่ได้ ผมก็ยังต้องฝึกต่อไป

        อาจารย์จอนห์นี่ขับรถมาส่งผมที่หน้าคอนโดพี่เติร์ดเช่นเคยในตอนเย็น ผมไม่รีบกลับขึ้นห้องเลยเดินเล่นเตร็ดเตร่อยู่ด้านล่างคอนโด เพราะคิดว่าวันนี้พี่เติร์ดคงจะกลับเย็น ให้อยู่ห้องคนเดียวผมเบื่อ พอไม่มีเพื่อนเล่นห้องว่างๆก็ไม่น่าอยู่

        เอ๊ะ นั่น...!

        ผมวิ่งตามเจ้าตัวเล็กสีฟ้าที่บินได้ มันบินเร็วมาก ผมต้องวิ่งตามแล้วกระโดดสูงๆเพื่อไล่จับมัน แต่ก็จับไม่ได้สักที เจ้าตัวสีฟ้ามีปีกสวยบินไปเกาะดอกไม้ ผมหยุดเอียงคอมอง ผมอยากเล่นด้วยแต่เจ้าผีเสื้อพวกนี้ชอบบินหนีผมทุกที ซึ่งผมไม่เข้าใจเสียเลยว่าทำไมพวกมันไม่อยากเล่นกับผม

        ผมวิ่งเล่นอยู่ในสวนหย่อมของคอนโดจนเหนื่อยเลยตัดสินใจกลับห้อง จะกลับขึ้นไปที่ห้องพี่เติร์ดจะต้องเดินผ่านลานจอดรถ ผมมองสำรวจสิ่งต่างๆรอบตัวไปด้วย มีมนุษย์บางคนจำผมได้ก็โบกมือทักทายผม ผมเดินต่อไปเรื่อยๆจนได้กลิ่นที่แสนจะคุ้นเคย

        ‘พี่เติร์ดกลับมาแล้ว’

        ผมจำกลิ่นพี่เติร์ดได้ ก็เลยวิ่งไปตามกลิ่นพี่เติร์ด เราจะได้ขึ้นห้องพร้อมกัน ผมเห็นรถพี่เติร์ดมาก่อนตัว ผมรีบวิ่งเข้าไปใกล้ แต่ทว่า...สิ่งที่ผมเห็นเบื้องหน้าไม่เป็นอย่างที่ผมคิด พี่เติร์ดไม่ได้อยู่คนเดียว เขากำลังกอดจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งข้างๆรถของเขา ผมยืนมองในมุมมืดอยู่นาน เห็นทุกการกระทำที่พี่เติร์ดทำกับผู้หญิงสาวสวย ริมฝีปากที่เคยจุ๊บจมูกผม ตอนนี้กลับจูบคนอื่น จุ๊บจมูกและแก้มของคนอื่น มือที่เคยกอดผมกล่อมผมให้หลับฝันดี ขณะนี้กำลังกอดคนอื่นอยู่

        น้ำตาของผมค่อยๆไหล ผมอยากวิ่งออกไปแล้วก็กัดผู้หญิงที่พี่เติร์ดกอด อยากไล่เธอไปไกลๆพี่เติร์ด ไม่อยากให้พี่เติร์ดไปยุ่งกับเธอ แต่ผมเป็นแค่แมวตัวเล็กๆ ผมจะไปทำอะไรได้

        “เคทรักเติร์ดนะ” เสียงหวานใสบอกกับพี่เติร์ด ขาหน้าของผมขยับไปข้างหน้าเมื่อพี่เติร์ดกำลังอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง

        ไม่นะพี่เติร์ด อย่าบอกว่ารักเธอ ห้ามพูด ผมขอร้อง

        “หึหึ พี่จะไปส่งที่บ้านนะครับ”

        ผมหมุนตัวกลับหลัง หลบหนีภาพบาดตาแล้วเลือกที่จะกลับขึ้นห้อง แต่เสียงโทรศัพท์ของพี่เติร์ดดังขึ้นเสียก่อน แล้วก็ไม่รู้ทำไมผมถึงหยุดยืนอยู่กับที่อย่างอยากรู้อยากเห็น แม้สิ่งที่กำลังจะได้รู้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเจ็บปวดที่สุดก็ตาม

        “ที่ Gentle roughงั้นเหรอ กี่ทุ่ม เออได้ แต่เดี๋ยวฉันพาใครคนหนึ่งไปด้วย หึหึ เออแฟน จะพาไปเปิดตัว แค่นี้นะ ไว้เจอกับเพื่อน”

        “...!!!”

        แฟน?

        คนรัก?

        ไม่จริงใช่ไหม

        ผมเหมือนถูกคำสาป พี่เติร์ดโอบเอวเธอพาขึ้นรถแล้วขับออกไป ผมมองตามจนสุดท้ายก็มองไม่เห็นอะไรนอกจากความมืดมิด หยาดน้ำตาได้บดบังการมองเห็น ผมยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน ขาทั้งสี่ข้างถูกยึดเอาไว้ด้วยโซ่ตรวนขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็น ตอกย้ำให้ผมรู้ว่าผมไม่มีทางก้าวไปได้มากกว่านี้ ผมไม่มีทางก้าวออกจากสิ่งที่ตัวเองเป็นแล้วไปยืนแทนที่ผู้หญิงคนนั้น

        ผมเป็นแมว แต่เธอเป็นมนุษย์...มนุษย์ก็ต้องคู่กับมนุษย์ ถ้าผมสามารถกลายร่างเป็นคนได้ในตอนนี้ ผมเองก็อยากบอกพี่เติร์ดเหมือนกันว่าผมรักเขา

        ผมรักพี่ ได้ยินเสียงของผมไหม

        เสียงเล็กๆที่ดังได้แค่ในหัวใจแต่ไม่อาจส่งไปถึงคนที่อยากให้ได้ยิน

     
ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-04-2016 01:53:02
ต่อ



  ผมไปหาพี่หมอวีร์ที่ห้องด้วยร่างที่เหมือนจะไร้วิญญาณเพราะจิตใจทั้งหมดของผมลอยหายไปพร้อมกับพี่เติร์ด ผมหยุดอยู่ที่หน้าห้องของพี่หมอวีร์ แรงจะส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ข้างในยังไม่มี แต่ประตูค่อยๆเปิดออก ผมเงยหน้ามองเจ้าของห้อง ฝืนแรงส่งเสียงเรียกเบาๆ

        ‘พี่หมอ ช่วยผมด้วย ฮึก’

        พี่หมอทำหน้าตกใจ ก้มตัวลงอุ้มผมขึ้นพาเข้าห้อง ผมร้องไห้อยู่กับอกพี่หมออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงจนเหนื่อยโดยที่พี่หมอไม่ได้ถามอะไร และผมก็ไม่มีใจจะเล่า ผมแค่อยากร้องไห้ อยากปลดปล่อยความอัดอั้นที่มันถักทอพันกันยุ่งจนแก้ไม่ออก จนผมหยุดร้องไห้พี่หมอถึงได้เริ่มถาม ผมก็เล่าใหพี่หมอฟังทั้งหมดจนจบ พี่หมอไม่พูดอะไร บอกแค่ว่าให้ผมพักแล้วจะไปอุ่นนมมาให้ผมดื่ม

        ระหว่างที่รอพี่หมอวีร์ไปเอานมในโซนครัวมาให้ผม ผมก็นึกขึ้นได้ว่ายากลายร่างของผมอยู่ที่พี่หมอวีร์ และเขาเก็บมันไว้ในลิ้นชักที่วางโทรทัศน์ ผมลอบมองดูว่าพี่หมอกำลังทำอะไรอยู่ ก่อนจะตัดสินใจปีนขึ้นไปบนชั้น ออกแรงใช้เท้าเขี่ยตรงที่จับลิ้นชักให้เปิดออก ผมเห็นแล้ว ยาของผมวางอยู่ในกล่องใส่ขนาดเล็ก ผมใช้เท้าเตะมันให้พลิกคว่ำแล้วเปิดออก เกิดเสียงดังเล็กน้อย พี่หมอรีบเดินออกมาดูพร้อมถ้วยใส่นม

        “ปุยเมฆ จะทำอะไร!” พี่หมอเหมือนจะรู้เท่าทันความคิดผม เขามองผมหน้าเครียดแล้วรีบสาวเท้าเข้ามาใกล้ ผมไม่รอช้าอ้าปากงับยาเม็ดนั้นเข้าปากแล้วกลืนลงคอเพียงแค่เสี้ยววินาทีก่อนที่จะถึงตัวผม

        ‘แค่กๆ’ ผมไอสำลักเพราะยาติดคอ พี่หมอพยายามจะง้างปากผมให้คายยาออกมา แต่ผมไม่ยอม กลั้นใจกลืนจนยาเม็ดใหญ่ไหลลงสู่ท้อง

        “ทำบ้าอะไรปุยเมฆ เป็นบ้าไปแล้วเหรอ!”  พี่หมอวีร์ด่าตวาดใส่ผมเสียงดัง ผมน้อมรับคำต่อว่า แต่ผมไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ

        ‘ผมขอโทษ แต่ผมรักเขา’ ผมบอกเสียงแผ่ว

        “แต่ก็ต้องรักตัวเองไหมปุยเมฆ กินเข้าไปได้ยังไง ยามันอันตรายมากก็รู้ไม่ใช่หรือไง”

        ผมรู้ แต่ผมทนไม่ไหวแล้ว ทำไมคนอื่นถึงมีโอกาสที่จะได้ยืนอยู่เคียงเขา แต่ผมไม่สามารถทำได้ เพราะผมเป็นแค่แมว ต่อให้อยากจะสู้ดูสักตั้งก็ไม่อาจทำได้

        “ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาฉันจะตีซ้ำ ไอ้แมวดื้อ” พี่หมอบ่นผมอย่างมีอารมณ์โมโห

        ผมหลับตาลงเพราะฤทธิ์ยาเริ่มทำปฏิกริยาบางอย่างกับร่างกาย เกิดอาการมึนงงในหัว ห้องเริ่มไม่อยู่กับที่และหมุนเป็นวงกลม จากนั้นภายในร่างกายผมก็เริ่มแปรปรวน อวัยวะภายในเดี๋ยวบีบรัด เดี๋ยวคลายตัวจนเริ่มเจ็บ เป็นความเจ็บปวดที่ผมพบเจออยู่ทุกคืนที่พระจันทร์เต็มดวง แต่ไม่นานความทรมานก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีแบบที่ผมไม่เคยเจอ ร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมที่ดิ้นไปมาอยู่บนพื้นแค่ไม่กี่ตาราง ก็ชักกระตุกอย่างรุนแรงจนผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อย่างที่เคยฝึกกับอาจารย์จอนห์นี่ คราวนี้เหมือนผมกำลังจะตายจริงๆ

        “ปุยเมฆ! หยุดๆ เฮ้ย ปุยเมฆ!” เสียงของพี่หมอตะโกนเรียกผม แต่ผมบังคับตัวเองไม่ได้

        ผมเริ่มหายใจไม่ออก มีอะไรบางอย่างมารัดอยู่ที่คอผม จากนั้นเส้นประสาททุกเส้นในร่างก็ขาดสะบัน ผมได้ยินเสียงทุกความเคลื่อนไหวในร่างกาย ผมรับรู้ได้ทุกอย่างก่อนที่ร่างของผมจะกระแทกเข้ากับกำแพงแล้วร่วงหล่นสู่พื้นอย่างจัง

        “ปุยเมฆ!” เสียงพี่หมอดังอยู่ข้างหู

        “ผม...ผมจะตายแล้วใช่ไหม” ผมถาม

        ชาตินี้ผมคงไม่มีวันได้อยู่กับพี่เติร์ดอีกแล้ว

        “ใจเย็นๆ นายยังไม่เป็นอะไร ใจเย็นๆนะ ตอนนี้นายอยู่ในร่างคนแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง” เสียงพี่หมอวีร์ถามอย่างร้อนรน พลางจับตรวจตามร่างกายผมไปด้วย ผมได้ยินว่าผมกลายเป็นคนแล้ว ผมก็ฝืนลืมตาขึ้นแล้วขยับลุกเผื่อที่จะก้มมองดูตัวเอง

        “โอ๊ย” ผมร้องเสียงหลงเพราะแค่ขยับนิดเดียวก็เจ็บร้าวไปทั่วร่าง

        “อย่าเพิ่งลุกสิ”

        ผมทิ้งตัวลงนอนตามเดิม ได้ยินเสียงพี่หมอบ่นแล้วผมก็ยิ้มออกมาให้พี่หมอบ่นอีกคำโต ผมกำลังดีใจอย่างสุดแสน ตอนนี้ผมกลายเป็นคนแล้วจริงๆ

        แต่แล้วพอนึกถึงพี่เติร์ด นึกถึงภาพที่เขากอดจูบกับผู้หญิงคนนั้นที่เขาเรียกว่าแฟน เรี่ยวแรงที่เหือดหายก็เหมือนจะกลับมาทันควัน ร่างของผมดีดลุกขึ้นโดยไม่ได้สนใจอะไร หันหน้าเข้าหาพี่หมอวีร์ โผเข้าเกาะท่อนแขนใหญ่แน่น

        “พี่หมอ ช่วยผมด้วย ผมต้องไปหาพี่เติร์ด” ผมพูดรัวเร็ว

        “อะไรนะ พูดใหม่สิ”

        “พี่เติร์ดไปที่นั่น กับผู้หญิงคนนั้น ผมต้องไปหาเขา พี่หมอวีร์ ช่วยผมที พาผมไปหาเขาที”

        พี่หมอวีร์เริ่มจะเข้าใจความต้องการของผม เขาถอนหายใจ เปลี่ยนท่านั่งเป็นนั่งขัดสมาธิจ้องหน้าผมนิ่ง

        “ไปทำไม ไปแล้วจะได้อะไร”

        “...” ผมตอบคำถามของเขาไม่ได้

        “ทำไมต้องทำร้ายตัวเองเพื่อเขาขนาดนั้น ฉันไม่เข้าใจ”

        ผมยิ้มให้พี่หมอวีร์และตอบคำถามนั้นทั้งน้ำตา “ชีวิตผมหลังจากที่คุณยายจากไป ต่อมาก็พี่นิกกี้ที่ทิ้งผม ผมก็มีแค่เขา ผมไม่มีใคร เขาคนเดียวเท่านั้นที่เป็นทุกอย่างในชีวิตแมวอย่างผม”

        ชีวิตที่วนเวียนอยู่แค่ตื่นขึ้นมากินข้าว ต้องการการใส่ใจจากคนที่เป็นเจ้าของ ถึงผมจะชอบออกไปเที่ยวเล่น แต่สุดท้ายผมก็ต้องกลับมาหาเจ้าของผม มาให้เขาดูแลหาอาหารให้ทาน และปล่อยให้ผมหลับไปภายใต้การขับกล่อมของเขา ชีวิตผมก็มีเท่านี้ และคงจะเป็นแบบนี้ไปจนกว่าเราจะตายจากกัน แต่ในวันนี้ตอนนี้ผมขอแค่ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อความรักของตัวเอง ผมไม่อยากเสียใจในภายหลังที่มีโอกาสแต่ไม่พยายาม

        “พี่หมอวีร์ ช่วยผมหน่อย ได้โปรด” น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกจากดวงตา

        พี่หมอถอนหายใจแล้วยอมตอบตกลงในที่สุด “ก็ได้ แต่ฉันจะถือว่าครั้งนี้เธอติดหนี้ฉันนะ”

        “ขอบคุณครับ”

        พี่หมอชีวิตยาที่ทำให้ผมมีแรงเป็นปกติ แต่เป็นยาอันตรายที่จะใช้ได้แค่ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และพี่หมอยังช่วยหาเสื้อผ้าให้ผมใส่ สำหรับออกไปข้างนอก พี่เขาว่าจะไปที่แห่งนั้นที่เรียกว่าคลับสำหรับให้คนไปเที่ยวสนุกสนานในยามค่ำคืนต้องแต่งตัวให้เหมาะสม

        พี่หมอวีร์ใช้เวลาหาพิกัดของร้านที่ว่านั้นอยู่นานพอควร พี่หมอเล่าว่า มนุษย์กลายร่างถึงจะมีความเป็นมนุษย์ แต่ถ้าเลือกได้ก็จะไม่อยู่ร่วมกลุ่มกับมนุษย์ปกติ และเลือกที่จะไปเที่ยวคลับสำหรับมนุษย์กลายร่างโดยเฉพาะมากกว่า เพราะยามที่เมาบางคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้อาการก็จะออกจนไปถึงกลายร่างเป็นสัตว์โดยไม่รู้ตัว แต่สำหรับผมนั้นอาการเมาเป็นยังไงก็ยังไม่รู้ แต่ถ้าเป็นอาการมึนงงเวียนศีรษะผมว่าผมพอจะนึกภาพออก

        “ถึงแล้ว” พี่หมอวีร์จอดรถลานจอด

        ร้านที่พี่เติร์ดมาเป็นสิ่งก่อสร้างสี่เหลี่ยมคล้ายลูกเต๋าซ้อนทับกันอยู่สามชั้น ด้านนอกประดับไฟหลากสีสันสวยงาม ผู้คนเดินเข้าเดินออกสวนกันเยอะแยะ มีทั้งคนสวยคนหล่อ ทุกอย่างดูใหม่ต่อชีวิตผมและทำให้ผมตื่นตระหนกได้พอควร เพราะเป็นสถานการณ์ที่ผมไม่คุ้ยเคย ผมไม่เคยเป็นมนุษย์ ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง

        “แล้วจะเอายังไงต่อ” เสียงพี่หมอถาม

        ผมมองไปยังประตูที่คนเดินเข้าออก พี่เติร์ดคงอยู่ในนั้น และถึงผมจะกลัว ถึงผมจะยังเป็นมนุษย์ไม่เนียนเพราะติดการขยับการนั่งแบบแมวอยู่ แต่ในเมื่อผมเลือกที่จะกินยาที่ช่วยให้กลายเป็นมนุษย์ และในวันหนึ่งผมจะต้องเป็นมนุษย์ให้ได้ เรื่องแค่นี้ผมก็ไม่ควรจะกลัวแล้วล้มเลิกกลางคัน

        “ผม...ขอเข้าไปในนั้นคนเดียว” ผมบอกก่อนจะหันไปมองสบตากับพี่หมออย่างจริงจัง ใบหน้าของพี่หมอวีร์เต็มไปด้วยความกังวล แต่เหตุผลที่ผมไม่ต้องการให้เขาเข้าไปด้วยก็เป็นความรู้สึกคล้ายกับว่าเวลาที่คุณต้องการจะทำอะไรสักอย่างที่งี่เง่า คุณก็ไม่อยากให้ผู้ปกครองหรือคนที่ไม่เห็นดีเห็นงามในสิ่งที่ทำอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ผมจึงอยากจะเข้าไปหาพี่เติร์ดเพียงตัวคนเดียว

        ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันไร้สาระและงี่เง่าสิ้นดี แต่ต่อให้คนอื่นจะหาว่าผมบ้าบอกับพี่เติร์ดเกินไปก็ช่างปะไร เพราะเขาไม่ได้มาเป็นผมพวกเขาไม่มีทางเข้าใจในความรู้สึกของผม ว่าพี่เติร์ดมีความสำคัญมากที่สุดแล้วต่อชีวิตผมในปัจจุบันและจะสำคัญตลอดไปในอนาคต

        “ตามใจ” พี่หมอวีร์ถอนหายใจใส่ผมอีกเฮือกใหญ่ ก่อนจะส่งสิ่งที่มนุษย์เรียกว่าโทรศัพท์มาให้ผม “พกนี้ไว้ ถ้ามีอะไร กดตรงนี้แล้วโทรออกมาที่เบอร์ฉันทันทีเข้าใจหรือไม่” พี่หมอสั่ง

        ผมรับโทรศัพท์มาพลิกดู ลองกดโทรตามที่พี่หมอวีร์บอก จากนั้นเสียงเพลงก็ดังมาจากโทรศัพท์อีกเครื่องที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขา

        “แบบนี้ใช่ไหมครับ” ผมถาม

        “ใช่ ฉันจะรออยู่ในรถ เสร็จแล้วก็กลับมา ห้ามไปไหนต่อเองโดยไม่ได้บอกฉันเป็นอันขาด เข้าใจไหม”

        “เข้าใจครับ” ผมพยักหน้ารับแข็งขันให้พี่หมอรู้ว่าผมจะทำตาม

        “ไม่ว่านายคิดจะทำอะไร ฉันก็ขอให้โชคดีก็แล้วกัน” พี่หมอเอนหลังลงกับเบาะที่นั่งพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายขึ้น

        “ขอบคุณครับ” ผมเอ่ย เปิดประตูลงจากรถ เดินห่างออกไปแค่สามก้าวผมก็หันกลับมามองพี่หมอวีร์อีกครั้ง เขามองผมอยู่และส่งยิ้มมาให้ ผมยิ้มตอบและรับกำลังใจจากอีกฝ่ายก่อนจะหันกลับมุ่งหน้าเข้าไปในคลับที่ว่า

        ความรู้สึกแรกที่ผมเข้ามาในคลับนี้คือผมไม่ชอบ คนเยอะเบียดเสียด กลิ่นควันบุหรี่และกลิ่นเหม็นหลายๆอย่างผสมปนเปกันมั่วไปหมดในอากาศจนแทบหายใจไม่ออก แต่มนุษย์พวกนี้เหมือนจะไม่รู้สึกอะไรเลยเช่นที่ผมรู้สึก พวกเขายังคงโยกโยกย้ายร่างกายตามจังหวะเพลงอย่างบ้าคลั่ง จนบางครั้งก็มีใครบางคนเหยียบเท้าผม เดินชนผมจนผมเซ และส่งเสียงโหวกเหวกใส่หูผมราวกับคนบ้า

        ผมรีบเดินไปข้างหน้าแล้วสอดสายตามองหาพี่เติร์ด นอกจากนั้นผมก็ยังใช้การดมกลิ่นช่วยในการค้นหาไปด้วย แต่ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะกลิ่นของมนุษย์หลายคนปนรวมกัน มีกลิ่นน้ำหอม กลิ่นควัน และกลิ่นอื่นๆอีกมากมายที่เข้ามาในจมูกผมทำให้ผมหากลิ่นของพี่เติร์ดไม่เจอ ผมเดินวนอยู่หลายรอบจนเท้าระบมจากการถูกเหยียบ ผมเริ่มถอดใจแล้วหันหลังกลับจังหวะนั้นเองที่ผมได้เจอคนที่ผมมาตามหาเสียที

        ผมเห็นพี่เติร์ดแล้ว เขาอยู่ตรงนั้น กำลังเต้นอยู่กับผู้หญิงคนเดียวกับที่ผมเห็นที่ลานจอดรถ พวกเขาใกล้ชิดกันมากจนร่างกายของพวกเขาแนบติดกันไปทุกสัดส่วน ชิดติดกันชนิดที่เรียกได้ว่าพวกเขาแทบจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน ความไม่พอใจวิ่งเข้าก่อกวนความรู้สึกผมเป็นอย่างแรก ถ้าเขากลับห้องไปแล้วมีกลิ่นของผู้หญิงคนนี้ติดตัวกลับไปละก็ ผมจะไม่ยอมให้พี่เติร์ดกอดผมเลย

        จากนั้น ความไม่พอใจก็เปลี่ยนเป็นความเศร้า ผมนึกถึงคำถามของพี่หมอวีร์ที่ถามผมว่า ผมมาที่นี่ทำไม มาแล้วจะได้อะไร มาเพื่อยืนมองพวกเขากอดจูบกันอย่างนั้นเหรอ แล้วถ้าผมเข้าไปกระชากผู้หญิงคนนั้นออกมาจากพี่เติร์ด ไม่ให้เธอเข้าใกล้คนที่ผมรัก ผมจะทำอย่างนั้นได้เหรอ มีหรือที่พี่เขาจะยอมให้ผมทำเช่นนั้น และถ้าผมทำ มีหรือที่เขาจะไม่ชกผมหรือเตะผมเข้าสักที เพราะในตอนนี้ผมเป็นคนที่พี่เติร์ดไม่รู้จัก ไม่เหมือนผมในร่างของแมวที่ต่อให้ข่วนคนที่มาเข้าใกล้เขาหรือทำตัวดื้อเอาแต่ใจขนาดไหน ก็ยังได้รับการลดหย่อนโทษหรือได้รับการตามใจ แต่ในร่างมนุษย์คงไม่มีหวัง ดีไม่ดีพี่เติร์ดอาจจะเกลียดผมไปเลยก็ได้

        สุดท้ายผมก็ทำได้แค่ก้มหน้ามองเท้าตัวเองแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ ร่างกายถูกเบียดชนไปมาจากคนรอบข้างที่กำลังเต้นกันอย่างบ้าคลั่ง แต่พอเงยหน้าขึ้นมองพี่เติร์ดอีกที พี่เขาก็หายไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่อยู่แล้วด้วย พวกเขาหายไปไหน ผมเริ่มร้อนรน เดินเร็วๆไปยังจุดที่พี่เติร์ดเคยยืนอยู่แล้วหมุนมองรอบตัว แต่ก็ไม่เห็นวี่แววพวกเขาแม้แต่เงา

        ในขณะที่ผมกำลังทำอะไรไม่ถูก แขนของผมก็ถูกดึง ผมหันไปมองอย่างตกใจ เป็นใครก็ไม่รู้ที่ผมไม่รู้จัก เขาเป็นผู้ชายและเขากำลังยิ้มให้ผม แต่สัญชาตญาณของผมมันบอกว่าคนๆนี้อันตราย ให้ออกห่างโดยด่วน

        “ปล่อยผมนะ” ผมบอก แต่เขาไม่ยอมปล่อย

        “เดี๋ยวสิ คุยด้วยกันหน่อย”

        “ไม่ ผมไม่คุย เราไม่รู้จักกัน” ผมพยายามสะบัดมือออกแต่เขาบีบแขนผมแน่นจนผมเจ็บ กลิ่นไอคุกคามที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้ผมกลัวจนตัวสั่นอยากจะวิ่งหนี แต่ก็ทำไม่ได้ ผมได้แต่คิดว่าตัวเองกำลังแย่ การเป็นมนุษย์วันแรกก็ดูเหมือนว่าจะยากเสียแล้ว

        ผมใช้มืออีกข้างที่ว่างล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงเตรียมกดเบอร์พี่หมอวีร์ แต่ว่าคนตรงหน้าก็แย่งไปแล้วกดปิดไปต่อหน้าต่อตาผม เขาจับแขนผมทั้งสองข้างแล้วกระชากผมเข้าหาตัว

        “ปล่อย ผมบอกให้ปล่อย” ผมดิ้นจะหนีจากมือแข็งๆ เสียงเพลงบ้านี่ก็ดังจนผมต้องตะโกน แล้วก็กลายเป็นการเปิดจังหวะให้กับคนไม่ดีตรงหน้าโน้มหน้าเข้ามาใกล้ผม

        “หืม ว่าอะไร”

        ริมฝีปากของเขาเฉียดแก้มผมแผ่วเบา ร่างของผมสั่นสะท้านด้วยความตื่นตระหนกและไม่ชอบ ทันใดนั้นร่างของผมก็ถูกกระชากอย่างจังจนแผ่นหลังผมชนกับแผงอกแข็งๆของคนที่มาช่วย คนที่เป็นเจ้าของกลิ่นกายที่แสนอบอุ่น คนที่ให้ผมนอนซุกหาไออุ่นอยู่ทุกคืนวัน

        “รังแกเด็กหรือไงวะไอ้แพท” เสียงพี่เติร์ดถามคนนิสัยไม่ดีตรงหน้าผมเสียงห้วน ผมแทบไม่ได้สนใจ เอาแต่เงยหน้ามองพี่เติร์ด ภาพพี่เติร์ดที่ผมเห็นตอนเป็นแมวเทียบไม่ได้กับตอนนี้เลยแม้แต่นิด ต่อให้ข้างในนี้จะมืดจนแทบมองอะไรไม่เห็น แต่ผมกลับมองใบหน้าที่ดูจะอารมณ์เสียของเขาได้เด่นชัด

        พี่เติร์ดหล่อมากกว่าที่ผมเคยเห็น

        “แล้วแกมายุ่งอะไรด้วยวะ เด็กนี่ฉันเจอก่อนนะเว้ย”

        “เจอก่อนแล้วยังไงวะ ดูเหมือนน้องเขาจะไม่เต็มใจเลยนะ” พี่เติร์ดพูดกวนๆ แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถามผม ผมส่ายหน้าพรืด

        “ผมไม่เต็มใจ พี่เติร์ดช่วยผมได้” ผมร้องขอ

        พี่เติร์ดอึ้งไปเล็กน้อยเพราะผมหลุดเอ่ยชื่อเขาทั้งๆที่เขาคงคิดว่าเราไม่รู้จักกัน แต่พี่เติร์ดก็ไม่ได้แย้งอะไร กลับหันไปพูดกับคนนิสัยไม่ดีด้วยน้ำเสียงของคนที่เหนือกว่า

        “แกอาจจะเจอน้องเขาก่อนนะ แต่โทษทีวะ ฉันกับน้องเขารู้จักกัน ถ้าแกไม่อยากมีปัญหาก็ถอยออกไปซะ ไม่อย่างนั้นจะมาหาว่าฉันไม่เตือนไม่ได้”

        คนพาลมองหน้าพี่เติร์ดอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ก็ยอมถอยฉากออกไปด้วยความไม่พอใจ “ฝากไว้ก่อนเถอะ”

        ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่หลุดพ้นจากคนที่มาแกล้งได้ และคนที่ช่วยผมไว้ก็เป็นพี่เติร์ด ผมดีใจมากจนอยากจะโผเข้ากอดเขาแน่นๆพลางจุ๊บแก้มขอบคุณสักสองที แต่...ก็ทำไม่ได้

        “อายุยังไม่ถึงทำไมมาเที่ยวแบบนี้ล่ะ มันอันตรายรู้ไหม”

        ผมสะดุ้งเพราะพี่เติร์ดก้มลงมาพูดข้างหูผม ริมฝีปากของเขาแตะใบหูผมด้วย บริเวณที่โดนสัมผัสร้อนฉ่ายังกับโดนไฟลวก

        “เอ่อ...”

        “ว่าไง พี่ถามว่าทำไมมาที่แบบนี้ แล้วเรารู้จักพี่ได้ยังไง หรือว่า...”

        “ปุยเมฆ!”

        ผมกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่พี่เติร์ดถาม แต่เสียงของคุณหมอก็ลอยมาแต่ไกล ไม่นานพี่หมอวีร์ก็แทรกตัวผ่านผู้คนมาถึงตัวผม ในมือของเขากำโทรศัพท์เอาไว้แน่น

        “เกิดอะไรขึ้น” พี่หมอวีร์ถาม ผมไม่ได้ตอบแต่เลื่อนสายตาไปมองพี่เติร์ดแทน ทำให้พี่หมอมองตามจนเจอกับคนที่เป็นเจ้าของผม

        “อ้าวเติร์ด”

        “สวัสดีครับ นี่เด็กพี่เหรอครับ” พี่เติร์ดชี้นิ้วมาทางผม

        พี่หมอมองหน้าผมก่อนจะตอบ “เปล่า นี่น้องชายฉันเอง ชื่อ...ปุย”

        “ปุยเหรอ” พี่เขาทวนชื่อแล้วมองหน้าผมก่อนจะยิ้มหล่อมาให้ “ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

        สัมผัสที่ลูบศีรษะผมอย่างอ่อนโยนทำให้หัวใจผมเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมานอกอก และเวลานี้ผมต้องขอบคุณที่ในนี้เปิดเพลงดังกระหึ่ม ไม่อย่างนั้นพี่เติร์ดจะต้องได้ยินแน่ๆ...เสียงหัวใจเต้นแรงที่ช่างน่าอาย



       
        ........
        ตอนพิเศษที่จะลงในเว็บจบสิ้นเท่านี้นะคะ ไม่มีลงต่อแล้ว ถ้าใครค้างก็ขอโทษด้วย แต่ริริบอกไว้แต่แรกแล้วว่าจะลงแค่ห้าตอนสำหรับน้องปุยเมฆ ที่เหลืออีกสิบสี่ตอนจะอยู่ในเล่มของหนังสือชุดพี่งูเท่านั้น
        ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านผลงานของริรินะคะ จากนี้ก็คงจะไม่ได้มาอัพอะไรอีกแล้ว แต่ยังไงเราก็จะไปเจอกันในเรื่องอื่นๆแทนนะคะ เรื่องพี่เสือริริคงต้องขอเวลาสักเดือนสองเดือนในการแงะพล็อต แงะโครงเรื่อง อ่านทวนที่แต่งซ้ำและศึกษาปมนิยายที่ตัวเองวางไว้ใหม่ ไม่ใช่อะไร ไม่ได้แต่งนาน ลืม! อารงอารมณ์ก็ต้องสร้างกันใหม่ทั้งหมด ไม่งั้นแต่งต่อไม่ได้ มันเป็นงานยาก ใครที่รอพี่เสืออยู่ก็รอกันไปก่อนอีกนิดนะคะ อ่านพี่งูวนไปก่อนก็แล้วกันค่ะ 555
        :pig4: :กอด1:
 
       
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 14-04-2016 13:30:28
โอ๊ยยยยย ลุ้นๆรอปุยเมฆกลายเป็นคนได้ด้วยตัวเองไวๆ เป็นการพบกันในร่างคนที่ทำให้เรารู้ว่าพี่เติร์ดกินเด็ก!! รออ่านในหนังสือเลยค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-04-2016 14:28:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 18-04-2016 07:36:59
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-04-2016 22:24:05
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 27-04-2016 20:37:19
ทั้งโยชิแลยอร์ชมีนิสัยน่ารำคาญมาก แต่เพราะมีนิสัยน่ารำคาญเลยทำให้มีเรื่องราว อาซาพระเอกดี ขี้โมโห
อ่านไปอ่านมาก็คิดว่ายอร์ชนายมันช่าง ยิ่งกว่าโลกสวย  สุดโต่งมาก  เอเดนก็สุดท้ายก็รู้สึกว่าสิ่งที่ทำมามันไร้ค่าเปล่า ไม่ได้รู้สึกดีที่ฆ่าน้องชายตัวเอง
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: SaNip015 ที่ 28-04-2016 00:11:32
 :hao7: :hao7: :hao7:
 :katai5: :katai5: :katai5: :ling1: :ling1: :ling1: :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 30-04-2016 11:09:52
 o13 รักเลยเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 30-04-2016 15:12:45
ตามอ่านจนทัน ชอบแนวแฟนตาซี อาซาหล่ออ่า :mew5:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 02-05-2016 13:44:27
สนุกมากค่ะ อารมณ์เหมือนอ่านแฮรี่ พอตเตอร์
พระเอกเท่ นายเอกน่ารัก คู่เอเดนกับยอร์ชก็ซึ้งดี เหมือนเทวดากับซาตาน สุดท้ายซาตานก็กลับใจเพราะเทวดา :mew6:
คู่แมวปุยเมฆก็น่ารักดี
บวกๆค่ะ^^
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: peppermintt ที่ 02-06-2016 23:36:46
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 09-07-2016 17:35:27
เพิ่งได้เข้ามาอ่านรวดเดียวจบ..
เสียดายที่เพิ่งได้มาอ่านเอาตอนนี้  :ling2:
สนุกมากกก ลุ้นสุดๆ น่ารักทุกคู่เลย แต่เราชอบเอเดนยอร์ชเป็นพิเศษ หลงเสน่ห์พ่องูตัวร้ายเข้าแล้ว  :o8:
แต่ตอนพิเศษของสองคู่รองค้างมากๆ.. ตอนนี้หนังสือยังสั่งได้อยู่มั้ยอ่ะคะ อยากได้มากกก  :hao5:
เดี๋ยวตามไปอ่านเรื่องของคาร์เตอร์ต่อ ขอบคุณมากนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: qoxity ที่ 13-07-2016 11:20:20
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z13: :z13: :katai1: :katai1: :mew2: :mew2:

งื้ออออออน้องปุยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 07-09-2016 10:52:28
ฉันไม่ได้ทำร้ายนายเลย ไม่เห็นหรือไง  โอ๊ยย ประโยคนี้ของเอเดนมันช่างแทงใจจึ๊กๆ :hao5: :mew6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 07-09-2016 12:36:17
อิมเมจเอเดน หุ่นแซ่บ6ห่อน่ากินมากก :hao6:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 14-09-2016 21:09:21
กลับมาอ่านอีกรอบ
รอหนังสือ ~  :laugh:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 24-09-2016 16:43:23
 o13 o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 04-07-2017 21:22:27
 o13 สนุกค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: patpattle ที่ 27-08-2017 20:38:35
 :hao5:กรี๊ดดด ชอบเรื่องนี้มากค่ะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 10-10-2017 03:03:34
สนุกมากกกค่ะ
ชอบความรักของอาซามากกๆ มันดูมากล้นจนอธิบายไม่ถูก
คนที่ถูกรักด้วยความรักที่มากมายขนาดนั้นจะต้องเป็นคนที่โชคดีขนาดไหน
โยชิตอนเป็นงูน่ารักมากก เข้าใจที่อาซาบอกเลยว่าเหมือนหลงรักคนๆเดิมอีกครั้ง
เป็นคู่ที่ความรักชนะทุกสิ่งจริงๆค่ะแม้แต่กาลเวลา
ส่วนคู่ของเอเดนกับพี่ยอร์ชนี่เอาจริงๆคือสงสารเอเดน แต่ก้เข้าใจว่าต้องดัดนิสัยจริงๆแหละ
ชอบในความเด็กไม่รู้จักโตของเอเดนอะ ชแบความทุ่มเทกับอะไรก้ทุ่มสุดตัว
แต่ก้สงสารพอคิดตามยอร์ชเรื่องอายุขัยของมนุษย์ที่สั้นเหลือเกิน
กว่าเอเดนจะพบสมบัติของตัวเองก้เกือบสายไปแล้ว
แล้วพอพบก้มีเวลาแห่งความสุขที่จำกัดขนาดนี้อีก สงสารเลยยอะ
แรกๆแอบคิดว่าเอเดนไม่ได้ร้ายขนาดนั้นหรอก มันต้องมีกลับมาดีสิงี้
เพราะเอเดนน่ะ คือชื่อของสวนบนสวรรค์ของพระเจ้าเลยนะ เอเดนต้องมีความดีซ่อนอยู่สิน่าา
 แล้วก้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ พอกลับใจแล้วน่ารักมากกก
ส่วนคู่สุดท้ายไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่าสงสารปุยเมฆจนแอบโกรธเติร์ด ทั้งๆที่นางก้ไม่ได้ผิดอะไร
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 16-10-2017 05:28:15
เรื่องของน้องปุยเป็นอะไรที่เรียกน้ำตามาก

แต่ทำไมเราเชียร์พี่หมอวีร์ น้องปุยจะไม่เสียใจเลยถ้าเลือกผู้ชายคนนี้

เรื่องหลักสนุกครับ ผูกปมได้น่าสนใจครับ

ว่าแต่ฟรินน์น่าจะมีคู่ จูเลียตเลยเหมาะ จะได้มีน้องงูตัวใหม่

ขอบคุณมากครับคุณริริ  :pig4:


เรื่องพี่เสือคาร์เตอร์ลบแล้วหรือครับ?
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: gibebk ที่ 07-11-2017 16:38:27
 :impress2:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 20-02-2018 19:50:49
เดินทางกันหลายภพหลายชาติ ยังรักไม่เสื่อมคลาย
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: Sasiwan ที่ 26-09-2018 16:25:43
สนุกมากเลยจ้าาา งื้อออออ :mew1: :katai2-1: :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: GustY ที่ 01-10-2018 14:09:29
ปักๆๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: suginosama ที่ 22-10-2018 11:33:07
สนุกมากๆเลยค่ะ
เนื้อหาน่าติดตามมากๆค่ะ  :pig4: o13
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 12-08-2019 11:48:13
ตามมาอ่านอีกรอบที่
สามเพราะไปอ่านในธัญวบัยไม่อิ่ม  ...555....
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 26-08-2019 15:27:18
กลับมาอ่านอีกรอบก็ยังสนุกเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: songsa1234 ที่ 19-09-2019 12:34:13
อ่านทีเดียวรวดเลย สนุกมากๆค่า
นับถือความรักที่ยาวนานของอา.ากับโยชิมากๆ
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: lostinthelight ที่ 04-11-2019 04:27:47
สนุกมากถึงมากที่สุด ชอบมากเลยค่ะ :katai4:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 08-11-2019 15:37:56
อ่านเป็นรอบที่2สนุกและตื่นเต้นไปพร้อมกัน แต่ค้างตอนเตริ์ดกับปุยเมฆอ่ะไม่ได้ซื้อหนังสือก็คงจะค้างที่ตอนนี้เศร้าเลยกำลังสนุกเชียว :ling1:
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: kangbanyaza ที่ 20-12-2019 23:36:32
 :L1: ชอบๆ​ สนุกมากกกก
หัวข้อ: Re: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 27-12-2019 01:10:32
สนุกดีค่ะ​ คำผิดก็เยอะค่ะ

ขอบคุณ​มาก​ค่ะ​ :pig4: :pig4: