พิมพ์หน้านี้ - ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ไมเลอร์ ที่ 06-02-2019 20:47:39

หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 06-02-2019 20:47:39
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


สวัสดีครับ มาเปิดเรื่องใหม่(ที่เขียนจบแล้ว) ฝากติดตามกันด้วยน้า
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ บทนำ [Up. 06-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 06-02-2019 20:48:10
บทนำ



‘ไอร์’ กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองดูลูกสาววัยสี่ขวบตักไอศกรีมเข้าปากคำแล้วคำเล่าอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งสองอยู่ในร้านไอศกรีมแห่งหนึ่งย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพมหานคร วันนี้เขามีนัดกับ ‘ต๋อง’ เพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันมานานสี่ปีหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย

ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ช่วงมัธยมปลายจนถึงมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยจนถึงวันนี้ ไม่นานหลังจากนั้นคนคุ้นเคยที่ไม่ได้เจอกันเสียนานก็เดินยิ้มมาแต่ไกล

“โทษทีว่ะพอดีติดรถมันติด” เมื่อเดินมาถึงเสียงเข้มก็เอ่ยขอโทษเพื่อนที่มาช้ากว่ายี่สิบนาที ช่วงเวลาสี่ปีที่ห่างกันทำให้ความสนิทสนมและคุ้นเคยในอดีตมันไม่แน่นแฟ้นเหมือนแต่ก่อน ทั้งสองยังอายๆ ไม่กล้าสบตากันดีนักได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กัน

“ไม่เป็นไรทำอย่างกับกูไม่เคยรอมึงงั้นล่ะ” ไอร์ยิ้มเหมือนที่เคยยิ้มให้ก่อนจะหันไปหาลูกสาว “น้องอันดาไหว้ลุงต๋องสิคะ” เขาบอกกับลูกสาวตัวเล็กที่กำลังสนใจไอศกรีมในถ้วยอยู่

“สวัสดีค่ะลุงต๋อง” เจ้าตัวเล็กยกมือไหว้อย่างนอบน้อม สมกับที่ถูกเลี้ยงดูสั่งสอนมาเป็นอย่างดี

“สวัสดีครับคนสวย หนูกี่ขวบแล้วครับ”

“น้องอันดาสี่ขวบแล้วค่ะ”

“น่ารักน่าชังเชียว” ต๋องมองลูกสาวของเพื่อนรักด้วยความเอ็นดู พลางนึกสงสัยในใจว่าเพื่อนแต่งงานตั้งแต่ตอนไหนทำไมเขาไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน และที่สำคัญมันไม่น่าเป็นไปได้ที่เพื่อนจะ...แต่งงานกับผู้หญิง “นี่มึงแต่งงานตอนไหนวะกูไม่เห็นรู้เรื่อง” เมื่อได้ยินคำถามเจ้าตัวถึงกับหน้าชาขึ้นมาทันที เขากลัวเหลือเกินว่าจะมีพิรุธจนอีกคนสงสัย

“อย่าถามถึงเรื่องนี้เลยกูไม่อยากพูดถึงมันอีก รู้แค่ว่ากูมีลูกสาวที่น่ารักคนนี้ก็พอแล้ว” เขายิ้มให้เพื่อนก่อนจะถามต่อ “แล้วมึงล่ะแต่งงานมีลูกรึยัง” เขาไม่อยากถามคำถามนี้เลยเพราะกลัวคำตอบที่ได้ยินมันจะทำให้เจ็บปวด แค่ห่างกันมาสี่ปีเขาก็เจ็บปวดมากพอแล้ว

“นี่ล่ะที่กูนัดมึงมาวันนี้ กูจะเอาการ์ดงานแต่งมาให้มึง” แม้จะเป็นการแจ้งข่าวที่น่ายินดีให้กับเพื่อน แต่สายตาคมกลับไม่กล้ามองใบหน้าที่คุ้นเคยนั่น เพราะกลัวจะเห็นความเจ็บปวดของอีกคน เขาไม่แน่ใจว่าไอร์ยังคิดกับเขาแบบนั้นอยู่อีกหรือเปล่า แต่แต่งงานทั้งทีเขาก็อยากให้เพื่อนคนนี้ไปร่วมแสดงความยินดีด้วย เขาหยิบการ์ดออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เพื่อน

ไอร์พยายามบังคับมือไม่ให้สั่นแต่มันก็ทำไม่ได้อยู่ดี เขาเอื้อมมือที่สั่นเทาไปรับการ์ดสีชมพูใบนั้นมา ส่วนใบหน้าสวยก็ยิ้มแห้งๆ ให้อย่างฝืนทน

“ยินดีด้วยนะเพื่อน ในที่สุดมึงก็เจอคนที่ใช่ซะที แล้วผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นเป็นใครกันวะ” เขาพยายามฝืนถามออกไปแม้ข้างในจะร้องไห้โฮอยู่ก็ตาม

“เป็นรุ่นน้องที่ทำงานว่ะ” ต๋องตอบกลับอย่างไม่เต็มเสียง

ระหว่างที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดอยู่นั้น ลูกสาวตัวเล็กของไอร์ก็เอ่ยขึ้นมา...

“คุณแม่คะน้องอันดาหิวน้ำ”

ต๋องหันขวับไปมองหน้าเพื่อนรักด้วยความสงสัย เขาได้ยินไม่ผิดใช่ไหมที่เด็กคนนั้นเรียกเขาว่าแม่

“ทำไมลูกถึงเรียกมึงว่าแม่...บอกกูมา!” เขาจ้องหน้ารอคำตอบอย่างไม่วางสายตา หวังว่าเด็กคนนี้คงจะไม่ใช่ลูกของเขาเหรอกนะ แค่ครั้งเดียวในคืนนั้นมันจะเป็นไปได้ไหมนะ...ต๋องคิดในใจ

“เอ่อ....คือว่า”



8 ปีก่อนหน้านี้..........
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ บทนำ [Up. 06-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 06-02-2019 21:39:20
 :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ บทนำ [Up. 06-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 06-02-2019 21:41:57
ตัดแบบใจร้ายไปหน่อยไหมคะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ บทนำ [Up. 06-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-02-2019 01:09:16
ย้อนไปตั้ง 8 ปีเชียวนะเรื่องนี้  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ บทนำ [Up. 06-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 07-02-2019 01:55:31
ตัดจบแบบนี้มันน่านัก  :a5: :z6:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ บทนำ [Up. 06-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 07-02-2019 07:26:32
ชอบแนวนั้มากกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.1 เพื่อนรัก [Up. 07-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 07-02-2019 10:04:13
:: ๑ ::
เพื่อนรัก


โรงเรียนเซนท์วิมส์ฟอร์ด โรงเรียนชายล้วนกางเกงน้ำเงินชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่หก ค่าเล่าเรียนที่นี่ค่อนข้างสูงทำให้เด็กนักเรียนส่วนมากเป็นลูกผู้มีอันจะกินทั้งนั้น สำหรับเด็กที่มีฐานะยากจนแต่เรียนดีโรงเรียนก็เปิดโอกาสให้สอบชิงทุนเรียนฟรีจนจบหลักสูตร แต่ต้องรักษาคุณภาพให้ดีอย่างสม่ำเสมอไม่อย่างนั้นจะต้องจ่ายค่าเทอมคืนมาทั้งหมด

ออดดดด!!!!

เสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาเลิกเรียน นักเรียนชายหัวเกรียนนับพันต่างก็เก็บกระเป๋าแล้วเดินขวักไขว่ออกมาจากห้องเรียนเพื่อขึ้นรถกลับบ้าน ไม่ต่างจาก ‘ไอร์’ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ผู้มีผลการเรียนเป็นอันดับหนึ่งของชั้นและได้รับทุนเรียนฟรีจนจบหลักสูตร เขากำลังเดินจูงจักรยานออกมาจากข้างโรงอาหารซึ่งเป็นที่จอดประจำทุกวัน

เมื่อจูงรถจักยานออกมาถึงถนนคอนกรีต ก็มีกลุ่มนักเรียนชายสามคนกำลังเดินเข้ามาด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร เขาจำได้ดีว่านั่นคือแก๊งสามออ ซึ่งมีไอ้ออฟ ไอ้อ้น และไอ้อิท กลุ่มเพื่อนในชั้นเรียนที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาสักเท่าไหร่ นั่นเพราะหมั่นไส้ที่เจ้าตัวเป็นแค่ลูกแม่ค้าขายข้าวแกง แต่กลับมีผลการเรียนที่โดดเด่นกว่าจนขึ้นแซงเป็นอันดับหนึ่งของห้อง

“พวกมึงมีปัญหาอะไร” ไม่ใช่เก่งแค่เรียนแต่เขาก็เก่งเรื่องต่อยตีเหมือนกัน

“ปากดีนักนะไอ้ลูกแม่ค้าขายข้าวแกง” ‘ออฟ’ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก

“พวกมึงมีปัญหาอะไรก็ว่ามากูจะรีบกลับบ้าน” คนที่กำลังจูงจักรยานอยู่นั้นมองหน้าทั้งสามคนอย่างไม่เกรงกลัว สมัยเด็กๆ เขาเองยอมใครซะที่ไหนท้าต่อยตีกับคนอื่นไปทั่ว

“อยากรู้เหรอวะ...พวกมึงจับมันไว้” สิ้นเสียงคำสั่งของลูกพี่ อิทกับอ้นก็เดินตรงไปหาคู่อริทันที

เมื่อรู้ว่ากำลังจะโดนเล่นงานไอร์ก็ทิ้งจักรยานจนล้มลงแล้วตั้งการ์ดรอ

“มึงลองเข้ามาสิกูสู้ไม่ถอยแน่”

“มึงจะกลัวอะไรวะเข้าไปสิ” ออฟเห็นลูกน้องทั้งสองกล้าๆ กลัวๆ ก็ส่งเสียงตะโกนสั่งย้ำอีกที

ผัวะ!

พลั่ก!

คนแรกที่เข้ามาถูกหมัดของคนตัวเล็กกว่าซัดเข้าให้จนล้มลงกับพื้น ส่วนอีกคนไอร์จัดการด้วยการถีบไปที่หน้าท้องจนล้มกองทับกัน แต่คนที่มันเป็นมวยนั้นคือไอ้หัวหน้าแก๊ง ออฟรอจังหวะเผลอเข้าไปล็อคคอคนที่ตัวเล็กกว่าส่วนอีกมือก็รวบแขนทั้งสองข้างเอาไว้

“เก่งนักนะมึง ไอ้ลูกแม่ค้าวันนี้กูจะจัดมึงให้หนักเลย” เสียงเข้มพูดข้างใบหูจนเจ้าตัวนั้นขนลุกชัน

“มึงจะทำอะไรกู ปล่อยนะเว้ย” ไอร์พยายามขัดขืนแต่สู้แรงของออฟไม่ได้ ไอ้คนนั้นมันเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน แถมยังฝึกเทควันโดจนได้สายดำอีกต่างหาก

“เดี๋ยวก็รู้” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นข้างใบหูอีกครั้ง ก่อนจะหันไปเอ่ยกับลูกน้องทั้งสองคน “พวกมึงมาจับมันไว้เร็ว คราวนี้อย่าให้พลาดนะเว้ย” เจ้าสองตัวนั้นรีบลุกขึ้นมาจับตัวคู่อริไว้โดยเร็ว

ออฟยืนจ้องหน้าไอ้เด็กหัวเกรียนที่เรียนได้อันดับหนึ่งของห้องแทนที่เขา ก่อนจะซัดหมัดเข้าที่ใบหน้าเต็มแรง

ผัวะ!

“มึงเก่งนักใช่ไหม กูขอเตือนมึงเอาไว้เลย เทอมนี้ถ้ามึงยังสอบได้ที่หนึ่งอีกกูจะไม่ทำแค่นี้แน่” มือหนาจับที่ศีรษะไอร์เอาไว้แล้วตบเบาๆ ที่แก้มขาว ใบหน้าที่หล่อเหลาตอนนี้เริ่มแดงช้ำขึ้นมาชัดเจนแล้ว

“ทำไมกูต้องทำอย่างนั้นด้วยวะ ถ้ามึงแน่จริงก็สอบให้ได้ที่หนึ่งสิ อย่างนี้มันไอ้ขี้แพ้นี่หว่า” แม้หน้าตาจะบวมช้ำแต่ไอร์ก็ยังไม่หมดฤทธิ์ เขายังคงแสยะยิ้มให้กับเพื่อนร่วมชั้น

“กูสอบได้ที่หนึ่งมาตลอดแต่พอมึงเข้ามากูกลับร่วงไปที่สอง มึงรู้ไหมเพื่อนคนอื่นมันหัวเราะเยาะกูก็เพราะมึง” เจ้าตัวบอกสาเหตุที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าให้รับรู้

“แล้วมันเป็นความผิดของกูตรงไหนวะ” ไอร์ทำหน้างง

“ถ้าไม่มีมึงสักคนกูก็จะเป็นที่หนึ่งไงล่ะ” มือหนาจับที่คางแล้วบีบเต็มแรงจนไอร์เริ่มเจ็บขึ้นมา เขาต้องกัดฟันข่มความเจ็บปวดเอาไว้

“ปล่อยเพื่อนกูเดี๋ยวนี้เลยไอ้ออฟ!” ในที่สุดฮีโร่ของไอร์ก็มาสักที ‘ต๋อง’ เพื่อนสนิทหนึ่งเดียวของเขาที่กำลังเดินเข้ามาอย่างนักเลง

“กูไม่ปล่อย!”

“ไม่ปล่อยใช่ไหมด้ายยยย!!!!” เจ้าตัววิ่งเข้าไปแล้วกระโดดถีบจนทั้งสี่คนล้มระเนระนาดก่อนจะดึงคอเสื้อออฟเข้ามาสวนหมัดใส่ไม่ยั้ง

เมื่อไอร์เป็นอิสระก็จัดการกับไอ้สองคนนั้นทันที หลังจากนั้นทั้งหมดก็ตะลุมบอนผลัดกันสวนหมัดไปมา ไม่นานไอ้นักเลงทั้งสามคนก็นอนกองรวมกันอยู่ที่พื้น โดยมีต๋องและไอร์ยืนมองอย่างผู้มีชัย

“ถ้ามึงยังเป็นลูกผู้ชาย มึงต้องเอาชนะกูด้วยผลการเรียนไม่ใช่มาขู่กูอย่างนี้ กูบอกไว้เลยถึงมึงจะฆ่ากูให้ตายกูก็ไม่ยอมแพ้มึงเรื่องเรียนหรอกโว้ย” ไอร์ตะโกนใส่หน้าออฟ

“ต่อไปห้ามมายุ่งกับเพื่อนกูอีก...จำไว้” ต๋องชี้หน้าเรียงตัวราวกับเป็นมาเฟียซะอย่างนั้น

เจ้าสามคนที่นั่งกองอยู่พื้นไม่พูดตอบโต้แม้แต่คำเดียว เพราะมัวแต่ร้องโอดโอยกับใบหน้าที่ปวดระบม



หลังจากจัดการไอ้พวกนั้นเรียบร้อยแล้ว ต๋องก็ปั่นจักรยานไปส่งเพื่อนรักที่บ้าน บ้านของไอร์อยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณหนึ่งกิโลเมตร การปั่นจักรยานจึงเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด

“แล้วมึงจะกลับบ้านยังไงวะไอ้ต๋อง” คนที่นั่งซ้อนท้ายอยู่เอ่ยถามขึ้นมา

“กูให้คนขับรถไปรอที่บ้านมึงแล้ว” เจ้าตัวยิ้มแป้นขาก็ปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ

ต๋องเป็นลูกเศรษฐีที่บ้านมีฐานะร่ำรวยเพราะครอบครัวมีธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศ แต่เจ้าตัวกลับชอบใช้ชีวิตติดดินมากกว่า นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาได้เป็นเพื่อนสนิทกับไอร์

“กูแนะนำให้มึงบอกพ่อกับแม่ว่าไม่ต้องให้คนมารับหรอก กูสงสารคนขับรถที่จะต้องมาตามใจคนอย่างมึง”

“จริงๆ กูอยากได้บิ๊กไบค์สักคันแต่ม๊ากูไม่ยอมน่ะสิ เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ” ต๋องทำหน้ามุ่ยเมื่อนึกถึงวันที่เข้าไปขอให้แม่ซื้อบิ๊กไบค์ให้ แต่โดนปฏิเสธหน้าหงายกลับมา

“เป็นกูก็ไม่ซื้อให้ขนยังไม่ขึ้นเลยริอาจอยากจะมีบิ๊กไบค์” ไอร์ว่าให้เพื่อนพร้อมกับขำออกมา

“มึงรู้ได้ไงว่าขนกูยังไม่ขึ้นไอ้ไอร์เอามือมึงมานี่เลยยยย” เมื่อโดนหยามทำให้เจ้าตัวถึงกับอดไม่ได้ที่จะจับมือเพื่อนล้วงเข้าไปในกางเกงนักเรียน

“ไอ้เหี้ยต๋องมึงทำบ้าอะไรเนี่ย..อี๋” คนที่โดนจับมือไปล้วงในกางเกงถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความขยะแขยง แก้มที่เคยขาวใสแต่ตอนนี้กลับแดงเป็นลูกตำลึงไปซะแล้ว

“ฮ่าๆ ๆ ๆ สะใจโว้ย” เมื่อแกล้งเพื่อนได้สำเร็จเจ้าตัวก็หัวเราะออกมาเสียงดัง แต่ไม่ทันไรก็ต้องร้องเสียงหลงออกมา “โอ๊ยๆ ๆ กูยอมแล้วๆ เดี๋ยวรถแม่งล้มไอ้ไอร์!” มีหรือที่ไอร์จะยอมให้เพื่อนแกล้งได้เพียงฝ่ายเดียว อยากให้ล้วงดีนักใช่ไหมไอร์คว้าหมับเข้าที่เป้าแล้วบีบที่พวงไข่จนเจ้าตัวจุกไม่น้อย

“ถ้ามึงยังทะลึ่งกับกูอีกกูจะบีบให้มึงมีลูกไม่ได้เลยคอยดู” ถึงจะนั่งซ้อนท้ายแต่เจ้าตัวก็ชี้หน้าขู่อีกฝ่าย

“โอเคๆ กูยอมมึงก็ได้แต่วันเดียวนะเว้ย” ตอนนี้มาถึงบ้านของไอร์เรียบร้อยแล้ว ต๋องจอดรถแล้วรีบทิ้งรถลงไปไหว้แม่ของเพื่อนทันที ปล่อยให้คนที่นั่งซ้อนท้ายอยู่นั้นแทบจะจับจักรยานไว้ไม่ทันเพราะคนขับทิ้งไปกลางคัน

“สวัสดีครับแม่” เขามาที่นี่จนเหมือนเป็นลูกชายของบ้านนี้ไปอีกคนแล้ว

“สวัสดีจ๊ะต๋อง อ้าว! ไปมีเรื่องกับใครมาเนี่ยหน้าช้ำมาเชียว” ปิ่นแก้วมองใบหน้าทั้งสองคนสลับไปมา

“เอ่อ...คือ” เมื่อโดนถามเจ้าตัวก็ก้มหน้าแล้วหันไปมองเพื่อนทันที

“พอดีผมมีเรื่องกับเพื่อนที่โรงเรียนครับแม่ ไอ้ต๋องเลยเข้ามาช่วย เลยเป็นอย่างที่เห็น” เขาตอบไปตามความจริงเพราะไม่เคยมีความลับกับผู้เป็นแม่

“พาเพื่อนเข้าไปทายาข้างในก่อนเร็ว” เธอบอกกับลูกชายขณะเก็บร้าน

“ครับแม่...เดี๋ยวผมรีบออกมาช่วยเก็บนะ”

“จ้ารีบๆ ไปเดี๋ยวจะบวมกว่านี้” เธอไม่ถามว่าเพราะอะไรลูกชายถึงไปมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่น เพราะมั่นใจว่าลูกคนนี้ไม่มีทางเกเรไปทำร้ายคนอื่นก่อนแน่ เธอจะสอนให้ลูกเอาตัวรอดเป็นหากไม่มีเรื่องเป็นดีที่สุด แต่หากยอมมากเกินไปเราก็จะเป็นฝ่ายโดนกระทำเพียงฝ่ายเดียวไม่จบไม่สิ้น เพราะฉะนั้นหากจะสู้ก็ต้องสู้อย่างมีสติ

เดินเข้ามาในบ้านแล้วไอร์ก็หยิบยานวดมาจากตู้ยาประจำบ้านก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ ตอนนี้ทั้งสองกำลังนั่งจ้องหน้ากันแล้วก็ยิ้มออกมา เพราะตลกกับใบหน้าที่บวมเป่งของแต่ละคน

“เดี๋ยวกูทาให้มึงก่อนละกัน ยื่นหน้ามาใกล้ๆ เร็ว” ต๋องรีบยื่นหน้าเข้ามาโดยเร็วแล้วทำแก้มป่องใส่ ตอนแรกก็นวดเบาๆ แต่ด้วยความหมั่นไส้ไอร์จึงลงน้ำหนักที่มุมปากจนเพื่อนต้องร้องเสียงหลงออกมา

“โอ๊ย! เบาๆ สิวะกูเจ็บนะเว้ย”

“ก็กูหมั่นไส้หนังหน้ามึงไง เสร็จแล้วเอาหน้าเน่าๆ ของมึงกลับไป”

“ไอ้ตาถั่วอย่างกูนี่หน้าเน่า สาวๆ คอนแวนต์หลงกูกันเกือบทั้งโรงเรียน อย่างนี้ไม่เรียกว่าเน่าโว้ย” คนพูดหลงตัวเองซะเต็มประดา

“ก็สำหรับกูมึงหน้าเน่าโคตรๆ กูไม่ใช่สาวๆ ของมึงนะเว้ยที่จะมองว่ามึงหล่อโคตรๆ หล่อสัดๆ หล่อเหี้ยๆ” พูดจบก็ขำออกมา

“นี่มึงหลอกด่ากูเหรอวะ” เจ้าตัวชี้หน้าเพื่อนทันที

“ก็เออสิวะ กูไปช่วยแม่เก็บร้านดีกว่า” ไอร์รีบวิ่งไปก่อนจะโดนเพื่อนรักสวนกลับ

“แล้วมึงไม่ทายาเหรอวะ” ต๋องตะโกนตามหลังแต่ไม่ทันเสียแล้ว เขาตั้งใจจะเอาคืนสักหน่อย ไอ้เพื่อนตัวดีนี่มันฉลาดล้ำกว่าใครจริงๆ

ต๋องเก็บยานวดไว้ในตู้ยาประจำบ้านแล้วเดินตามออกมา เขามาที่นี่บ่อยจนเข้านอกออกในได้เหมือนกับคนในบ้าน

“ผมกลับก่อนนะครับแม่” เจ้าตัวยกมือไหว้หลังจากเดินออกมาหน้าบ้าน

“ไว้วันหลังมาทานข้าวเย็นกับแม่นะต๋อง” ปิ่นแก้วยิ้มให้เพื่อนลูกชาย

“ครับแม่” เขายิ้มให้ก่อนจะหันไปทำหน้ายักษ์ใส่เพื่อนแล้วชี้หน้าคาดโทษ

“เจอกันพรุ่งนี้เว้ยไอ้ต๋อง” ขณะเพื่อนกำลังเปิดประตูรถที่จอดรออยู่หน้าบ้าน เจ้าตัวก็ตะโกนไปต๋องไม่ตอบเพียงแต่เอานิ้วชี้เฉือนที่คอหอยตัวเองเหมือนบอกเป็นนัยว่า ‘มึงตายแน่’ ประมาณนั้น มีหรือที่ไอร์จะยอมกลับแลบลิ้นปลิ้นตาใส่



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

สวัสดีคร้าบทุกคน วันนี้ลงให้ตอนแรกแล้วน้า ไรท์จะลงวันเว้นวันนะ ฝากคอมเม้นต์กันด้วยน้าจะได้มีกำลังใจลง หากมีคนติดตามเยอะก็อาจจะลงวันต่อวันไปเลยก็ได้(555 แอบขำ) จุ๊บๆๆ



หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.1 เพื่อนรัก [Up. 07-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 07-02-2019 10:27:35
มาเป็นกำลังใจให้คนเขียน
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.1 เพื่อนรัก [Up. 07-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-02-2019 10:37:57
อยากอ่านมาก ดราม่าเยอะมั๊ย
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.1 เพื่อนรัก [Up. 07-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 07-02-2019 13:12:57
ถ้าเป็นลูกของต๋องจริงๆจะทำไงอ่ะ กำลังจะแต่งงานอยู่แล้วด้วย :ling3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.1 เพื่อนรัก [Up. 07-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 07-02-2019 14:27:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.1 เพื่อนรัก [Up. 07-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-02-2019 21:31:18
อ้าว ถ้าเป็นลูกของต๋องจริงๆ แล้วจะจัดการเรื่องนี้ยังไงอ่ะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.1 เพื่อนรัก [Up. 07-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 07-02-2019 22:59:28
ติดตามจ้าาา
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.1 เพื่อนรัก [Up. 07-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-02-2019 23:01:53
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.1 เพื่อนรัก [Up. 07-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-02-2019 23:03:44
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.1 เพื่อนรัก [Up. 07-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-02-2019 02:50:44
ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนสนิทกันนิ ต่อไปจะมีอะไรทำให้เกิดผิดใจกันนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.1 เพื่อนรัก [Up. 07-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 08-02-2019 03:04:57
อยากรู้ว่าเป็นยังไงต่อไปอีกกกกก



ติดตามต่อไปค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.2 ความฝัน [Up. 08-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 08-02-2019 10:02:33
:: ๒ ::
ความฝัน

ถึงแม้ต๋องและไอร์จะมีความชอบเหมือนกันในหลายๆ อย่างแต่สิ่งที่แตกต่างกันนั่นคือกีฬา ต๋องเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนไอร์ไม่ชอบเล่นกีฬาแม้แต่ชนิดเดียว วันไหนที่เพื่อนไปเล่นฟุตบอลในช่วงเที่ยงที่โรงยิม ไอร์ก็จะนั่งทบทวนตำราเรียนรอในห้องอยู่คนเดียวเป็นประจำ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมไอร์จึงมีผลการเรียนเป็นอันดับหนึ่งของห้อง

“ทำไมผู้ชายถึงท้องไม่ได้เหมือนผู้หญิงนะ” ตอนนี้ไอร์กำลังนั่งอ่านวิชาชีววิทยาเรื่องระบบสืบพันธ์ุ นั่งอ่านได้สักพักก็เกิดความสงสัยว่าทำไม ผู้ชายถึงไม่สามารถตั้งท้องได้เหมือนผู้หญิง ทั้งๆ ที่ก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน “มดลูกกับรังไข่งั้นเหรอ ถ้าผู้ชายมีก็สามารถตั้งท้องได้สินะ” เจ้าตัวทำท่าคิดพร้อมกับขมวดคิ้ว นั่นคือความคิดของเด็กชั้นมอปลาย ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงที่ถูกสร้างขึ้นมาจากธรรมชาติ

“เหี้ย!” อยู่ๆ เจ้าตัวก็ต้องร้องเสียงหลงออกมา เมื่อมีมือปริศนามากอดรัดที่เอวคอดเอาไว้ ตอนนี้ต๋องแทรกตัวเข้ามานั่งซ้อนหลังบนเก้าอี้ โดยใส่กางเกงนักเรียนเพียงตัวเดียวส่วนเสื้อพาดที่บ่าเอาไว้ รูปร่างกำยำที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ขึ้นรูปชัดเจนบวกกับเนื้อตัวที่เปียกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ สัมผัสที่หลังของไอร์อย่างแนบแน่น

“ทำไมตัวมึงห๊อมหอมวะ” ใบหน้าคมยื่นเข้ามาสูดกลิ่นที่ซอกคอของไอร์อย่างถือวิสาสะ เจ้าตัวไม่รอช้ารีบฟาดไปที่กลางศีรษะเพื่อนเต็มแรง

“เพราะตัวมึงเหม็นไอ่สาดออกไป๊”

“ไอ้ไอร์นี่มึงกล้าเล่นหัวกูเหรอวะ เดี๋ยวมึงโดนกูแน่” ไม่พูดพล่ำทำเพลงต๋องก็เอานิ้วมือไปจี้ที่เอวเพื่อนทันที ไอร์อยู่ไม่สุขเริ่มดิ้นพล่านจนเก้าอี้โคลนเคลน

“ฮ่าๆ ๆ ไอ้ต๋องกูจั๊กจี้หยุดสิวะ ฮ่าๆ”

“ไม่จนกว่ามึงจะขอโทษกูก่อนที่มึงบังอาจมาตบหัวกู” เจ้าตัวไม่ยอมปล่อยให้เพื่อนเป็นอิสระได้แม้แต่น้อย มือหนึ่งก็กอดที่เอวไว้ส่วนอีกมือก็จี้เอวไปเรื่อยๆ

“มึงเป็นเพื่อนกูจะต้องขอโทษทำไมวะ ทีมึงทำกูไว้เยอะกว่านี้กูยังไม่บังคับให้มึงมาขอโทษกูเลย”

“แต่มึงเป็นเพื่อนที่อยู่ในโอวาทกูไงวะ กูสั่งอะไรมึงต้องทำ”

“ไม่โว้ย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้กูเหม็นเหงื่อมึงจะแย่แล้วเนี่ย” เหงื่อเกือบทุกเม็ดของต๋องถูกซับไปด้วยเสื้อนักเรียนของไอร์จนเกือบหมดแล้ว

“เหม็นเหรอ ได้! งั้นกูจะให้มึงเหม็นกว่านี้อีก” ต๋องรีบดันศีรษะเพื่อนเข้ามาดมที่รักแร้ของตัวเองทันที

“อี๋!!! ไอ้เหี้ยต๋อง” ไอร์พยายามกลั้นหายใจเอาไว้ พร้อมกับหลับตาปี๋ ส่วนไอ้เพื่อนตัวดีก็หัวเราะชอบใจอย่างอารมณ์ดี

ถุย!

เมื่อทำอะไรไม่ได้แล้วไอร์ก็ถ่มน้ำลายใส่รักแร้เพื่อนทันที มีหรือที่ต๋องจะไม่ยอมปล่อยเขาให้เป็นอิสระ

“ฮ่าๆ ๆ เป็นไงล่ะอยากแกล้งกูดีนัก” ไอร์รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วยืนหัวเราะเยาะเพื่อนเสียงดังท่วมห้อง

“อี๋...ไอ้สกปรก มึงกล้าถ่มน้ำลายใส่จั๊กแร้กูได้ไงวะ” ต๋องง้างแขนไว้ไม่กล้าหุบลงมา สีหน้าบิดเบี้ยวรังเกียจน้ำลายที่เปื้อนอยู่ที่ง่ามแขนซะเต็มประดา

“หายกันกับที่มึงมาทำให้เสื้อนักเรียนกูเหม็นเหงื่อมึงไปด้วย รีบๆ ไปล้างตัวเร็วเดี๋ยวอาจารย์ก็เข้ามาสอนแล้วเนี่ย” ไอร์ปัดมือไล่เพื่อนขณะที่ใบหน้ายังเปื้อนยิ้มไม่ยอมหยุด

“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง” ต๋องชี้หน้าเพื่อนก่อนจะรีบวิ่งแจ้นออกไปล้างตัวที่ห้องน้ำ

“รีบกลับมาเอาคืนนะโว้ย” ไอร์ตะโกนตามหลังเพื่อนไป ก่อนจะอมยิ้มอยู่คนเดียว

ทำไมเวลามึงถึงเนื้อถึงตัวกูหัวใจมันต้องสั่นแปลกๆ ด้วยวะ....



*-*-*-*-*-*-*-*



เวลา 15.30 น.

“รีบเก็บกระเป๋าเร็วเดี๋ยววันนี้กูพาไปเที่ยว” ต๋องยืนยิ้มแฉ่งรอเพื่อนอยู่ก่อนแล้ว

“กูไปไม่ได้วันนี้ก็ต้องไปช่วยแม่ขายของ” เจ้าตัวรีบปฏิเสธไป

“ไม่ต้องห่วงก็โทรขออนุญาตแม่มึงตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว” ต๋องยักคิ้วให้เพื่อน

“ไอ้เพื่อนเลวทำอะไรไม่ไปรึกษากูเลย ถึงยังไงกูก็ไม่ไปอยู่ดีโว้ย” เมื่อเก็บสัมภาระเสร็จแล้วไอร์ก็รีบลุกขึ้นยืนสะพายกระเป๋าทันที

“อย่าดื้อได้ไหมวะ วันนี้กูตั้งใจจะพามึงไปเปิดหูเปิดตาซะหน่อย ไปกับกูเถอะนะขอร้องล่ะ” ต๋องทำท่าทางงอแงอย่างกับเด็กซะเต็มประดา

“ถ้ากูยังยืนยันจะไม่ไปล่ะ” ไอร์เหลือบตามองเพื่อนเพราะรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นต่อ

“ถ้ามึงไม่ไปกับกู...” ต๋องพูดเสียงเข้มก่อนจะค่อยๆ เดินเข้ามาหา “ก็จะจับมึงทำเมียตรงนี้ล่ะ หึๆ”

“มะ...มึงไม่กล้าหรอกอย่ามาขู่กูซะให้ยาก” ไอร์มั่นใจว่ายังไงเพื่อนก็ไม่มีทางทำเรื่องอย่างนั้นแน่ เขายืนยิ้มระรื่นเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร

“มึงคิดว่าคนอย่างกูจะไม่กล้าจับมึงกดอย่างนั้นเหรอวะ ยิ่งตัวเล็กๆ อยู่ด้วยอย่างนี้ถนัดมือนักล่ะ” ต๋องแสยะยิ้มจนไอร์เริ่มกลัวขึ้นมาแต่เจ้าตัวก็ยังทำใจดีสู้เสือต่อไป

“เอาซี้มึงจะได้รู้ว่ากูก็ไม่ใช่เล่นๆ”

“อย่างนั้นเหรอวะ” พูดจบก็กอดตัวเพื่อนแล้วปล้ำลงที่พื้น

“ไอ้เหี้ยต๋องมึงบ้าไปแล้วเหรอวะ เสื้อกูเลอะไปหมดแล้วเนี่ย” ไอร์เริ่มโวยวายเสียงดัง แต่หลังจากนั้นก็ต้องเงียบปากเอาไว้เพราะตอนนี้ใบหน้าคม โน้มลงมาอยู่ใกล้แค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น

“กูจะให้โอกาสมึงอีกครั้ง มึงจะยอมไปกับกูไหม?” เจ้าตัวเริ่มพูดเสียงต่ำเหมือนพยายามต้อนให้อีกฝ่ายจนมุม

“ถ้ากูตอบว่าไม่ล่ะ มึงก็รู้ว่าแม่กูไม่มีคนช่วยขายของ”

“ก็แค่วันเดียวเองกูขอแม่มึงให้แล้วด้วย อย่าให้กูต้องจับมึงกดจริงๆ นะไอ้ไอร์ ตามใจกูสักวันเถอะน่า”

“มึงไม่กล้าหรอกโว้ยกูเป็นผู้ชายอกสามศอกเหมือนมึงทุกอย่าง มีจู๋แถมใหญ่กว่ามึงด้วย มึงจะกล้าเอากูได้ลงคอก็ให้มันรู้ไป” เจ้าตัวยิ้มเยาะเพราะคิดว่ายังไงเพื่อนก็ไม่มีทางทำเรื่องอย่างว่าแน่นอน

“ไอ้อ่อนมึงรู้จักกูน้อยไปซะแล้ว ไหนว่าใหญ่กว่ากูขอดูหน่อยสิ” ต๋องรีบถอดเข็มขัดเพื่อนอย่างรวดเร็ว จนมือน้อยๆ นั่นรีบมาจับตะขอกางเกงเอาไว้ด้วยความหวงแหน

“พอแล้วๆ กูยอมไปกับมึงแล้ว” ในที่สุดไอร์ก็ยอมความร้ายกาจของเพื่อนไม่ไหว

“ก็แค่นั้นทำเป็นเล่นตัวอย่างกับผู้หญิงไอ้ห่า” ต๋องรีบลุกขึ้นแล้วปัดมือไล่ฝุ่นทันที ก่อนจะยืนมือมาให้คนที่นั่งอยู่จับเพื่อดึงให้ลุกขึ้นตาม

“มึงนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ”

“กูนึกว่ามึงรู้ตั้งนานแล้วซะอีก” ต๋องยิ้มให้เพื่อนแล้วกอดคอเดินลงไปข้างล่าง



เมื่อนั่งรถมาถึงที่หมายแล้วทั้งสองก็เดินตรงมาที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทันที บรรยากาศช่วงเย็นๆ มีผู้คนจำนวนมากที่มานั่งรับลมกันอย่างหนาตา ม้านั่งริมตลิ่งแทบไม่มีที่ว่าง ทั้งสองจึงยืนพิงราวกั้นแล้วชมทิวทัศน์สวยๆ ของวัดพระแก้วและวัดโพธิ์ฝั่งตรงข้าม

“ทำไมมึงพากูมาที่นี่วะ” ไอร์หันไปมองหน้าเพื่อนที่ยังคงจ้องมองไปข้างหน้าอย่างสบายใจ

“มึงเป็นเพื่อนที่กูรักที่สุดในฃีวิต กูถึงกล้าบอกกับมึงได้ทุกเรื่อง รู้รึเปล่าวันนี้เมื่อหลายปีมาแล้ว ป๊ากับม๊าพาเคยกูมานั่งเล่นที่นี่วันนั้นกูมีความสุขมากที่สุดในชีวิต โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นวันสุดท้ายที่พวกกูจะได้มาเที่ยวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน มึงยังคงไม่รู้ว่าที่จริงแล้วป๊ากับม๊ากูมีครอบครัวใหม่ตั้งนานแล้ว แต่ที่อยู่ด้วยกันก็เพราะหน้าตาทางสังคมและเพื่อตัวกูด้วย” เจ้าของเสียงมีใบหน้าเศร้าสร้อยเมื่อนึกถึงครอบครัวที่แตกแยก บางครั้งเขารู้สึกเหมือนเป็นตัวถ่วงในชีวิตของพ่อกับแม่ เพราะหากไม่มีเขาสักคนทั้งสองคนก็คงใช้ชีวิตกับครอบครัวใหม่ได้อย่างเต็มที่

“อย่าทำหน้าเศร้าสิวะ มึงยังมีกูอยู่ข้างๆ ยิ้มสิวะยิ้มๆ” ไอร์เอื้อมมือไปจับที่มุมปากของเพื่อนยกขึ้น แล้วก็ยิ้มตาม

“ถ้าชีวิตกูไม่มีมึงอยู่ข้างๆ กูจะอยู่ได้รึเปล่าวะ” ต๋องหันมาถามเพื่อน

“อยู่ได้สิวะเพราะมันจะไม่มีวันนั้น ทำไมมึงถึงคิดแบบนั้นล่ะ”

“ในอนาคตพวกเราก็ต้องมีชีวิตของใครของมัน มึงจะอยู่กับกูได้ตลอดไปจริงๆ เหรอวะ” ต๋องถามเพื่อนด้วยความไม่แน่ใจ เขารู้สึกว่าไอร์คือส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว มันเกินคำว่าเพื่อนแต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่รู้ว่าขาดไอ้เพื่อนตัวดีคนนี้ไม่ได้

“กูไม่มีทางออกไปจากชีวิตมึง ยกเว้นว่ามึงจะเป็นคนบอกกูไปจากชีวิตมึงเอง” ไอร์ให้สัญญากับเพื่อน

“กูจะทำอย่างนั้นทำไมวะในเมื่อชีวิตกูขาดมึงไม่ได้ขนาดนี้ไอ้ไอร์”

“ถ้าถึงขนาดนั้นมึงมาเป็นเมียกูเลยไหมวะ ฮ่าๆ ๆ” ไอร์พยายามสร้างบรรยากาศให้ดูสนุกสนานขึ้นมา

“มึงนั่นล่ะที่ต้องมาเป็นเมียกู ตัวแค่นี้กูจับกดได้สบายๆ อย่าทำเป็นเก่งๆ” ต๋องชี้หน้าเพื่อน

“อย่าทำเป็นเก่งไปไอ้ต๋องมึงเคยได้ยินจิ๋วแต่แจ๋วไหมวะ”

“เคยได้ยินแต่มันใช้ไม่ได้สำหรับมึงโว้ย” ต๋องยื่นหน้าหล่อเข้ามาใกล้ๆ จนทั้งสองเผลอจ้องตากันอยู่ครู่หนึ่ง ต๋องค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ แต่ไอร์กลับตั้งสติได้ทันก่อนจะผละหน้าออกไปมองที่แม่น้ำเจ้าพระยาแทน

“วันนี้วิวฝั่งโน้นสวยจังเลยนะมึงว่าไหม”

“อืม..สวยมากเอาไว้วันหลังกูจะพามึงมาอีกดีไหมวะ” ต๋องเอ่ย

“ไม่เอา...กูต้องเป็นคนพามึงมาสิวะ วันนี้ในทุกๆ ปีเดี๋ยวพ่อจะพาลูกมาเองนะครับคนดี” ไอร์ตบที่ท้ายทอยของเพื่อนเบาๆ

“ได้ครับพ่อ ถุ๊ย! มึงชักจะมากเกินไปแล้วนะไอ้ไอร์” ต๋องเบิ๊ดกะโหลกเพื่อนคืนซะเต็มแรง จนศีรษะโน้มไปข้างหน้าตามแรงมือ

“เป็นลูกมาตบหัวพ่อได้ไงวะ ไอ้ลูกทรพี” ไอร์ทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ

“เดี๋ยวกูจะเป็นลูกคนแรกในโลกที่เอาพ่อทำเมียลองไหมล่ะ” พูดจบก็เดินเข้ามาประชิดจนใบหน้าหล่อทั้งสองห่างกันแค่เพียงนิดเดียว

ไอร์ทำท่าอึกอักเพราะรู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูก

ไอ้เพื่อนเลวทำไมมึงชอบทำให้หัวใจกูสั่นอยู่เรื่อยเลยวะ...

“ทำไมมึงถึงชอบพูดว่าจะจับกูทำเมียบ่อยจังวะ กูยั่วสวาทมึงขนาดนั้นเลยเหรอวะไอ้ต๋อง” ไอร์ถามออกไปตรงๆ

“ก็มึงยั่วเยกูไง”

“ตรงไหนวะ” เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรให้ไอ้เพื่อนตัวดีพิศวาสตอนไหน

“ทุกตรง! เวลากูพูดอย่างนี้แล้วหน้ามึงตลกอ่ะ ฮ่าๆ ๆ”

“ตลกพ่องมึงดิ” ปากไวเท่าความคิด ไอร์รีบด่าเพื่อนกลับทันที

“เอ๊ะ! ไอ้นี่ด่าพ่อกูอีกแล้ว มึงโดนดีแน่” พูดแล้วก็เอานิ้วชี้ไปจิ้มที่เอวเพื่อน เพราะรู้ว่าไอ้เพื่อนตัวดีคนนี้มันบ้าจี้มากขนาดไหน

“ฮ่าๆ ๆ โอ๊ยๆ กูยอมแล้วๆ ๆ ขอโทษครับคุณชายต๋อง” หลังจากโดนรุกหนักไม่เลิก ไอร์ก็ยกมือไหว้เพื่อนปรกๆ หากไม่ยอมศิโรราบมีหวังได้ขาดใจตายตรงนี้แน่นอน

“ถ้าขืนมึงยังปากดีอยู่อีกคราวนี้กูจัดมึงจริงๆ แน่” ต๋องชี้หน้าเพื่อนทีเล่นทีจริง

“คร้าบๆ ๆ ผมจะไม่ทำผิดซ้ำสองแล้วครับเจ้านาย” ไอร์ก้มหัวให้รัวๆ

“ดีมาก เชื่อป๋าแล้วทุกอย่างจะดีเอง มายืนใกล้ๆ ป๋าดิ๊” เจ้าตัวกวักมือเรียก ไอร์เห็นอย่างนั้นก็เดินเข้าไปเอาใจเพื่อนโดยการยืนข้างๆ จนทั้งสองร่างแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกัน

“มีอะไรครับป๋า” ไอร์เอียงศีรษะไปซบไหล่เพื่อนพยายามอ้อนเต็มที่

“อนาคตมึงอยากเป็นอะไรวะ” อยู่ๆ ต๋องก็ถามถึงอนาคตอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไอร์ผงกศีรษะขึ้นแล้วมองหน้าเพื่อนทันที

“อนาคตหรอ...กูอยากเป็นหมอกูจะได้ดูแลแม่กูได้”

“เก่งๆ อย่างมึงจะเลือกเรียนอะไรก็ได้ทั้งนั้น”

“แล้วมึงล่ะอยากเป็นอะไร” ไอร์ถามกลับ

“ป๊าม๊าอยากให้เรียนบริหารแล้วมาช่วยกิจการที่บ้าน แต่กูคงไม่เอาด้วยเพราะกูอยากเป็นวิศวกร จะสาขาไหนก็ได้กูชอบ แต่ไม่รู้จะสอบติดรึเปล่าน่ะสิกูเรียนไม่เก่งเหมือนมึงนี่นา”

“เหลือเวลาอีกตั้งหลายปีกูจะช่วยติวให้มึงเอง ขอแค่มึงตั้งใจซะอย่างความสำเร็จจะไปไหนเสียไอ้เพื่อนรัก” มือน้อยๆ ยกขึ้นไปกอดคอเพื่อนรักเอาไว้อย่างเก้ๆ กังๆ เพราะสวนสูงที่ต่างกันมาก

“กูขอบใจมึงมากนะเว้ย แต่มึงช่วยเอามือลงจากคอกูได้ป่ะ” ต๋องหันมายิ้มให้เพื่อน

“ทำไมวะ” ไอร์มองหน้าเพื่อนแล้วกะพริบตาปริบๆ

“กูรำคาญน่ะสิ ตัวก็เตี้ยเสือกกระแดะอยากมากอดคอกู” ต๋องยกมือเพื่อนลงมาไว้ที่ข้างลำตัว ก่อนจะเอื้อมมือหนาไปกอดคอเพื่อนแทน “ต่อไปนี้กูจะเป็นคนกอดคอมึงเอง...เข้าใจ๊”

“คร้าบบคุณชายต๋อง”

“กลับกันเถอะเดี๋ยวแม่มึงจะรอนานจริงๆ แล้วกูไม่ได้โทรขออนุญาตท่านไว้หรอก ฮ่าๆ ๆ” เมื่อหลอกเพื่อนออกมาได้แล้วต๋องก็บอกความจริงออกไป

“ไอ้เหี้ยต๋องมึงทำอย่างนี้ได้ไงวะ ไอ้เพื่อนเลวกูจะไม่เชื่ออะไรมึงอีกแล้ว” เมื่อรู้ว่าเพื่อนโกหกไอร์ก็หน้าบึ้งขึ้นมาทันที ก่อนจะเดินดุ่มๆ ออกมาจากตรงนั้นเพื่อขึ้นรถ

“โอ๋ๆ ๆ อย่างอนนะครับคนดีของป๋า เดี๋ยวป๋าไปช่วยนะครับวันนี้”

“ป๋าแม่มึงดิกูอุตส่าห์ไว้ใจ” เจ้าตัวไม่ยอมอ่อนลง

“เค้าขอโทษน้า อย่าโกรธเค้าเลย ฮ่าๆ ๆ ขึ้นรถเร็วเดี๋ยวแม่ก็ด่าเอาหรอก” ต๋องหยุดขำไม่ได้ก่อนจะดันตัวเพื่อนขึ้นรถไป

บางครั้งคำว่าเพื่อนมันอาจจะน้อยเกินไป หากในอนาคตใจของใครคนหนึ่งมันเปลี่ยนแปลง



หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.2 ความฝัน [Up. 08-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 08-02-2019 11:10:32
อะไรจะทำให้สองคนนี้ในวัยเด็กแตกหักกันหน๋อ? :sad11:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.2 ความฝัน [Up. 08-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 08-02-2019 12:37:13
ติดตามจ้าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.2 ความฝัน [Up. 08-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 08-02-2019 13:38:11
ไรท์รีบมาต่อนะคะ.. รออยู่ๆๆๆ..  :hao5:  :katai4:  :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.2 ความฝัน [Up. 08-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-02-2019 15:10:06
ก็รักกันดีนิ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.2 ความฝัน [Up. 08-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-02-2019 23:43:39
 อะไรคือจุดเปลี่ยนของสองเพื่อนรักกันนะ
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.3 ความในใจ [Up. 09-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 09-02-2019 22:51:27
:: ๓ ::
ความในใจ


ในที่สุดวันหยุดสุดสัปดาห์ก็มาถึง ครั้งนี้ไอร์เป็นคนมาหาต๋องถึงที่ นั่นเพราะถูกเพื่อนตัวดีรบเร้าให้มาติวหนังสือให้ที่บ้าน เจ้าตัวยืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็เห็นจะได้ นั่นเพราะบ้านหลังนี้ใหญ่โตและหรูหรากว่าบ้านทั่วๆ ไป มือเรียวกดที่กริ่งหน้าบ้านไม่นานนักก็มียามเฝ้าประตูเดินมาหา

“ผมมาหาต๋องครับลุง” ไอร์ยิ้มให้อย่างคุ้นเคย

“อ้าวเพื่อนคุณต๋องนี่เอง เชิญครับๆ” เมื่อรู้ว่าแขกผู้มาเยือนเป็นเพื่อนของลูกชายเจ้าของบ้าน ลุงยามก็เปิดประตูให้ทันที

“ขอบคุณครับลุง” เจ้าตัวยิ้มให้แล้วเดินสะพายกระเป๋าผ้าเข้าไปด้านใน

ไอร์มาบ้านหลังนี้หลายต่อหลายครั้งจนทุกคนจำหน้าได้ โชคดีที่พ่อกับแม่ของต๋องไม่รังเกียจที่เขาเป็นแค่ลูกแม่ค้าขายข้าวแกง ท่านทั้งสองเอ็นดูเขาไม่ต่างจากลูกชายแท้ๆ เลยแม้แต่น้อย

เมื่อเดินมาถึงประตูหน้าบ้านก็พบไอ้เพื่อนตัวดีกำลังยืนยิ้มแฉ่งรออยู่ก่อนแล้ว ต๋องโบกไม้โบกมือให้ด้วยความดีใจ

“ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอวะที่เห็นกูมา...ทำตัวอย่างกับหมาเห็นเจ้านายซะอย่างนั้น” พูดแล้วไอร์ก็อดขำไม่ได้

“อ่าวๆ ๆ มาถึงก็ปากหมาซะแล้วเดี๋ยวกูจับขังไว้ที่นี่ซะเลย” คนพูดทำหน้ายุ่งใส่ทันที

“ลองขังกูดูดิรับรองมึงไม่ได้ผุดได้เกิดแน่ มึงก็รู้ว่าป๊ากับม๊ามึงเชื่อกูมากกว่าลูกแท้ๆ ซะอีก”

“อย่าเอาพ่อแม่ก็มาอ้างกูไม่กลัวหรอก รีบเข้ามาเร็วๆ กูอยากติวจะแย่แล้วเนี่ย”

“คร้าบบไอ้คนขยัน”

ไอร์เดินตามเพื่อนเข้าไปข้างใน สงครามน้ำลายยังไม่จบแค่นี้แน่ เขาไม่แน่ใจว่าวันนี้จะได้ติวสมใจอยากคุณชายต๋องรึเปล่า เกรงว่าจะต่อปากต่อคำกันจนไม่มีเวลาติวซะมากกว่า

เมื่อเดินขึ้นมาถึงห้องนอนของต๋องแล้วไอร์ก็วางกระเป๋าผ้าลงบนโซฟา ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงในท่าทีสบายๆ ส่วนเพื่อนรักก็ไปหยิบน้ำดื่มในตู้เย็นมาให้

“อ่ะดื่มน้ำเย็นๆ จะได้สดจื้นนนนน” คนที่ยื่นน้ำให้ลากเสียงยาวพร้อมกับทำหน้าตลกๆ แต่ทว่าเพื่อนรักกลับมองหน้านิ่งไม่ได้ตลกตามเลยแม้แต่น้อย “ไม่ขำเหรอวะ?”

“ขำบ้าขำบอมึงสิ มุขจืดๆ” ไอร์เบ้ปากใส่เพื่อน

“แล้วทำยังไงมึงถึงจะขำอ่ะ” ไม่ว่าเปล่าต๋องรีบเดินเข้ามานั่งข้างๆ เพื่อนทันที

“ไม่รู้โว้ยรีบๆ ติวดีกว่ากูจะได้รีบกลับบ้าน เอาหนังสือมึงมา” ไอร์รีบตัดบทก่อนที่เพื่อนจะเล่นพิเรนทร์อีก

“ก่อนติวกูจะทำให้มึงขำให้ได้ ไม่งั้นก็ไม่มีการติวเกิดขึ้น” เจ้าของห้องไม่ยอมแพ้

“โอ้ยย ไอ้ต๋องกูปวดกบาลกับมึงจริงๆ จะติวไม่ติว” ไอร์ตบเข้าที่หน้าผากตัวเองสองสามครั้ง เพราะปวดหัวกับความดื้อรั้นของเพื่อน หากไม่ติดว่าเคยสัญญาไว้เขาไม่มีทางยอมมาที่นี่แน่นอน มาหาที่บ้านทีไรต๋องก็อ้อนเอาแต่ใจอย่างกับเด็กทุกครั้งไป

“ติวสิวะแต่กูขอทำให้มึงอารมณ์ดีขึ้นมาก่อนไง” ต๋องมาหน้าเพื่อนอย่างเจ้าเล่ห์ สองมือก็จับหมับเข้าที่เอวของเพื่อนแล้วเอานิ้วจิ้มทันที

“ฮ่าๆ ๆ ไอ้เหี้ยต๋องปล่อยกูดิวะ มันจั๊กจี้ ฮ่าๆ ๆ”

“ขำยากมากนักใช่ไหม นี่แหนะๆ”

ต๋องยังคงจี้ที่เอวของเพื่อนไม่ยอมหยุด จนไอร์ต้องดิ้นพล่านเพื่อหาทางให้หลุดพ้นจากมือหนานั่น ไม่นานนักเจ้าตัวก็ต้องนอนราบลงบนโซฟาโดยมีเพื่อนรักคร่อมตัวเอาไว้ ส่วนมือก็ไม่ยอมห่างจากเอวเลยแม้แต่น้อย พอรู้ตัวอีกทีใบหน้าทั้งสองก็เกือบจะสัมผัสกัน เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองสบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจ และเป็นอีกครั้งที่หัวใจของไอร์มันเต้นแรงมากกว่าปกติ

“พะ..พอแล้ว รีบติวเถอะเสียเวลานานแล้ว” ไอร์หลบตาแล้วรีบลุกขึ้นนั่งในท่าปกติก่อนที่ใจมันจะเต้นแรงมากกว่านี้

ส่วนต๋องก็ยอมฟังเพื่อนโดยง่าย อาจเป็นเพราะการจ้องตากันเมื่อสักครู่ ทำให้ความเขินอายมันเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“วันนี้มึงจะติววิชาอะไรให้กูวะ”

“เอาเคมีละกัน รีบๆ ไปหยิบหนังสือมาเลยให้ว่องๆ”

“เออๆ รอแป๊บมึงนี่เวลาดุยิ่งกว่าหมาอีกนะ”

“ถ้าไม่ดุแล้วจะเอามึงอยู่ได้ไงไอ้เพื่อนเลว”

“ถึงเค้าจะเลวแต่เค้าก็รักตัวเองนะ” ต๋องยื่นมือมาบิดที่แก้มเพื่อนจนแดงไปหมด

“กูเจ็บนะเว้ย” ไอร์ปัดมือหนาของเพื่อนออกโดยเร็ว

ต๋องไปหยิบหนังสือวิชาเคมีมานั่งลงข้างๆ หลังจากนั้นไอร์ก็เริ่มติวให้เพื่อนทันที

“วันนี้กูจะติวเรื่องพันธะเคมีให้ละกัน เห็นตอนเรียนในห้องมึงนั่งทำหน้างง”

“มึงนี่ช่างสังเกตกูจริงๆ ไม่ใช่ตอนเรียนแอบมองกูทั้งคาบเลยนะเว้ย”

“ใครจะบ้าไปแอบมองมึง หน้าตาก็ไม่ดี แถมยังปากหมาอีก”

“เหรอออ!! ถ้างั้นมึงก็ไม่ต่างจากกูหรอกถึงคบกับกูได้..ใช่ป่ะ?” ต๋องยักคิ้วให้เพื่อนทันที

“แล้วแต่มึงจะคิดละกันกูขี้เกียจคุยกับพวกหลงตัวเองแล้ว เปิดหนังสือขึ้นมาเร็ว!” หากไม่มีสติมากพอวันนี้คงไม่ได้ติวเป็นแน่ ต๋องคงจะชวนคุยนอกเรื่องอยู่เรื่อยๆ

“พันธะเคมีประกอบไปด้วยพันธะหลักๆ อยู่สามพันธะนั่นคือ พันธะโลหะ พันธะไออนิกและพันธะโควาเลนซ์ ซึ่งเกิดจากแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอม มึงเข้าใจป่ะ” ไอร์มองหน้าเพื่อนหลังจากพูดจบ

“เข้าใจสิวะระดับนี้แล้ว ต่อๆ ๆ” ต๋องยักคิ้วให้เพื่อน

“ให้มันจริง ไม่ใช่ว่าวันสอบนี่งงเป็นไก่ตาแตกนะเว้ย ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนให้ถามเคป่ะ”

“เคๆ”

เจ้าตัวนั่งค้ำคางมองหน้าเพื่อนรักอธิบายไปเรื่อยๆ อย่างเพลินตา บางจังหวะก็แทรกคำถามกวนๆ เพื่อให้คนที่ติวนั้นดุให้ มันรู้สึกสนุกมากที่เห็นเพื่อนทำหน้างองุ้มใส่



ในที่สุดการติวครั้งนี้ก็สิ้นสุดลงไปอย่างทุกลักทุเล ไอร์ปิดหนังสือลงก่อนจะเก็บเข้าไปในกระเป๋าผ้าของตัวเอง แล้วหันไปเอ่ยกับเพื่อนทันที

“ถ้ามึงมีอะไรไม่เข้าใจก็เขียนเอาไว้ไปถามกูที่โรงเรียนละกัน วันนี้พอแค่นี้กูจะกลับบ้านละ”

“เฮ้ยกินข้าวกับกูก่อนวันนี้ป๊ากับม๊าไม่อยู่บ้านกูไม่มีเพื่อน” เจ้าของบ้านก้มหน้าเศร้า เป็นมุกเดิมๆ ที่เคยใช้แต่ไอร์ก็ไม่อาจปฏิเสธได้แม้แต่ครั้งเดียว

“เฮ้อ..มุกเดิมๆ ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ” ไอร์ปรายตามองเพื่อนอย่างไม่สนใจ

ต๋องเงยหน้าขึ้นมามองดูว่าเพื่อนจะใจอ่อนเหมือนทุกครั้งหรือเปล่า

“มึงไม่สงสารกูบ้างเหรอวะ” อีกครั้งกับเสียงอ่อยๆ ที่ดังขึ้น ไอร์ถึงกับขำในใจ

ไอ้เพื่อนบ้าเล่นซะกูไปไม่เป็นเลยเนี่ย

“โอเคๆ กูจะกินข้าวกับมึงก่อนกลับก็ได้”

“เย้!!! ป่ะลงไปข้างล่างกัน” ต๋องชูกำปั้นขึ้นด้วยความดีใจ ก่อนจะกอดคอเพื่อนเดินลงไปข้างล่างทันที



บนโต๊ะอาหาร

“กินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ” ต๋องใช้ช้อนกลางตักผัดผักใส่จานให้เพื่อนรัก

“ถึงตัวกูจะยังไม่โตเทามึงแต่สมองกูนำมึงไปหลายโยชน์แล้วเพื่อน”

“ได้ทีข่มกูเลยนะมึง อย่าให้กูสอบได้ที่หนึ่งแซงมึงละกัน กูจะหัวเราะให้ฟันร่วงเลย”

“คงไม่มีวันนั้นว่ะไอ้ต๋องเพราะกูจะเอาที่หนึ่งจนจบมอหก”

“เออไอ้คนเก่งทำให้ได้ละกัน กูจะคอยเป็นกำลังใจให้มึง” เจ้าตัวยิ้มให้

“เป็นกำลังใจให้ตัวเองเหอะ เอาให้ได้อ่ะวิศวะอย่าให้เสียถึงคนติวอย่างกู”

“ถ้างั้นมึงก็ต้องมาติวให้กูบ่อยๆ นะ” พูดจบก็หม่ำข้าวคำใหญ่เข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย

“ไม่เว้ยเอาตามที่กูพอมีเวลา ไม่ใช่ตามใจมึงรู้ไว้ด้วย”

“คร้าบบตามใจเพื่อน”

“เคียวข้าวให้หมดก่อนค่อยพูด เดี๋ยวได้กระเด็นใส่กูหรอก” ไอร์ดุให้เพื่อน

ต๋องกำลังจะตอบกลับแต่โดนเพื่อนรักชี้หน้าห้ามไว้ก่อน จึงพยายามเคี้ยวข้าวในปากให้หมดแล้วดื่มน้ำกลั้วคอลงจนหมด

“หมดแล้วพูดได้ป่ะ”

“กูเอามือปิดปากมึงไว้เหรอ”

“ไอ้ห่ามึงนี่กวนตีนกูขึ้นทุกวันเลยนะ ที่กูจะบอกนี่คือซอสติดปากเมิงงง คนอุตส่าหวังดี”

“ออกหมดยัง” ไอร์พยายามเลียรอบๆ ริมฝีปาก

“ยังไม่หมด มานี่เดี๋ยวกูเช็ดออกให้” ต๋องหยิบกระดาษทิชชู่บนโต๊ะไปเช็ดซอสพริกออกจากปากให้เพื่อนอย่างใส่ใจ

ทำไมมึงชอบทำให้ใจกูสั่นอยู่เรื่อยเลยวะไอ้ต๋อง...

“หมดยัง”

“หมดแล้วคร้าบบ ทำไมมึงหน้าแดงเขินกูเหรอ” ต๋องทำหน้าล้อเลียนเพื่อนเมื่อเห็นแก้มที่เคยขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

“กะ...กูหน้าแดงเหรอวะไม่เห็นรู้สึกเลย” ไอร์พยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุด ทั้งที่ภายในใจมันสั่นแปลกๆ

“ไอ้สัสเวลามึงเขินก็น่ารักนะเนี่ย ดูเหมาะมือเหมาะตีนจริงๆ”

“สรุปมึงจะชมหรือด่ากูวะเนี่ย กูอิ่มแล้วจะกลับล่ะ” ไอร์ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารแล้วสะพายกระเป๋าทันที

“เดี๋ยวกูไปส่งที่บ้าน”

“ไม่เป็นไรกูกลับได้ ขืนมึงไปด้วยไม่มีทางกลับมาง่ายแน่ๆ”

“กูสัญญาว่าจะไปส่งแล้วก็กลับมาเลย ไม่อยู่รบกวนมึงกับแม่หรอกน่า” ต๋องพยักหน้าหงึกๆ เพื่อให้เพื่อนตอบรับ

“โนเวย์มึงมันเจ้าเล่ห์ กูไม่มีทางไว้ใจมึง”

“กูไปล่ะ” ไอร์โบกมือให้แล้วเดินออกไปที่ประตูหน้าบ้าน

“เดี๋ยวๆ ๆ กูไม่ไปส่งก็ได้แต่ให้คนขับรถไปส่งมึงนะ มึงมาติวให้กูทั้งทีจะให้นั่งรถเมล์กลับเองมันก็ไม่ใช่ป่ะวะ” ต๋องยื่นข้อเสนอใหม่ให้ อย่างน้อยให้คนขับรถไปส่งเพื่อนที่บ้านเขาก็ยังพออุ่นใจ

“ถ้างั้นก็โอเค”

“แล้วเจอกัน” ต๋องเอ่ย

“เคกูไปล่ะ”



*-*-*-*-*-*-*



เมื่อคนขับรถมาส่งถึงหน้าบ้าน ไอร์ก็เอ่ยขอบคุณแล้วเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่ทันที วันนี้เป็นวันหยุดลูกค้าในร้านค่อนข้างจะเยอะ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงต้องรีบเร่งกลับมาที่บ้าน

“ติวหนังสือให้ต๋องเสร็จแล้วเหรอลูก”

“ครับแม่ ติวเสร็จก็รีบกลับมาช่วยแม่ทันทีเลย”

“ไม่ต้องเป็นห่วงแม่หรอกแค่นี้สบายมาก” ปิ่นแก้วยิ้มให้ลูกชาย

“ถ้าไม่ห่วงแม่แล้วจะให้ห่วงใครล่ะครับ ก็เรามีกันแค่นี้นี่นา” พูดแล้วก็เข้าไปกอดผู้เป็นแม่แล้วหอมแก้มทันที

“จะไม่ให้รักได้ไงลูกคนนี้ขี้อ้อนซะเหลือเกิน” ปิ่นแล้วยิ้มให้ลูกชายแล้วลูบที่เรือนผมอย่างเบามือ

“ผมจะตั้งใจเรียนในอนาคตแม่จะได้ไม่ลำบากครับ”

“อย่ากดดันตัวเองมากนะลูก ไม่ว่าในอนาคตลูกจะเป็นยังไงก็ช่างขอแค่อยู่ข้างๆ แม่อย่างนี้ แม่ก็มีความสุขที่สุดแล้ว”

“ครับแม่ ช่วงที่ลูกค้ายังไม่มาเดี๋ยวผมไปล้างจานก่อนนะครับ”

“จ้าลูกรัก”

ไอร์ผละจากผู้เป็นแม่แล้วยกกาละมังที่เต็มไปด้วยจานที่ลูกค้าทานไว้ไปล้างในครัว หลังจากนั้นก็ออกมาช่วยแม่ขายข้าวแกงจนหมดแล้วช่วยเก็บร้านจนเสร็จไปอีกวัน



ช่วงค่ำหลังจากทานข้าวเย็นและอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไอร์ก็นั่งทบทวนตำราเรียนอยู่บนเตียงนอนเหมือนเช่นทุกวัน แต่แปลกที่วันนี้ภาพของเพื่อนรักลอยมาในหัวอยู่เรื่อยๆ จนไม่มีสมาธิเลยแม้แต่น้อย สักพักเจ้าตัวก็ลุกขึ้นจากเตียง แล้วก้มลงไปหยิบกล่องไม้ใบขนาดกลางๆ ขึ้นมาวางไว้บนเตียง

ไอร์นั่งทอดสายตาจ้องมองไปยังกล่องที่วางอยู่ข้างหน้า เขาเก็บของพวกนี้เข้าไปในกล่องโดยไม่รู้ว่าเหตุผลมันคืออะไรกันแน่ แต่รู้เพียงแค่ว่ามันคือของที่มีคุณค่าทางจิตใจ ที่ไม่ควรให้ใครมาเห็นโดยเฉพาะเพื่อนรักที่ชื่อต๋อง

กล่องถูกเปิดออกมาอย่างช้าๆ ในนั้นเต็มไปด้วยรูปถ่ายของเพื่อนรักทั้งภาพเดี๋ยวและภาพคู่ รวมถึงภาพที่แอบถ่ายเวลาที่ต๋องเผลอ ไม่เว้นแม้กระทั่งตั๋วหนังที่เคยไปดูด้วยกันมาทุกรอบ กุหลาบที่เคยได้มาในวันวาเลนไทน์ แม้ว่ามันจะแห้งกรอบจนไม่เหลือสภาพความสวยงามแต่เขาก็เก็บมันห่อใส่ถุงอย่างดี

ไอร์พยายามถามตัวเองมาตลอดว่าเก็บของพวกนี้ไว้ทำไม ช่วงแรกๆ เขาก็ยังงงกับความรู้สึกเช่นนี้ แต่นานวันเข้าทุกอย่างมันค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเวลาที่ไอ้เพื่อนตัวดีเข้ามาใกล้ชิดจนตัวแทบจะติดกัน ใจที่มันสั่นไหวและเต้นรัว ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีมาตลอดมันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเขารู้แล้วว่ามันคือออะไร ความรู้สึกทั้งหมดมันคือ ‘ความรัก’ นั่นเอง เขาแอบหลงรักเพื่อนคนนี้ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันอาจจะไม่สมหวัง แต่ก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าและใกล้ชิดกัน...ได้แค่นี้มันก็ดีแล้ว

ต๋องกูรักมึงเข้าให้แล้ว...ไอ้เพื่อนรัก





หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.3 ความในใจ [Up. 09-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 09-02-2019 23:51:38
 จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.3 ความในใจ [Up. 09-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 10-02-2019 00:21:04
 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.3 ความในใจ [Up. 09-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-02-2019 01:56:05
รักเพื่อนเข้าแล้ว เพื่อนรู้ตัวปะเนี่ย  :hao4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.3 ความในใจ [Up. 09-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-02-2019 06:48:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.3 ความในใจ [Up. 09-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 10-02-2019 08:00:52
รออ่านต่แ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.3 ความในใจ [Up. 09-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-02-2019 13:35:22
เพื่อน กูรังมึงว่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.3 ความในใจ [Up. 09-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 10-02-2019 14:24:17
หู้ยยย..
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 13-02-2019 08:46:23
:: ๔ ::
รูมเมท


สามปีต่อมา

“ไอ้ต๋องตื่นนนน!!!” เมื่อได้ยินเสียงตะโกนปลุกดังแว่วเข้ามาในหู คนที่กำลังนอนกอดหมอนข้างอยู่บนเตียง กลับเอาหมอนที่หนุนอยู่มาปิดที่ใบหูเอาไว้ ไม่ทีท่าว่าจะยอมลุกจากเตียงนอน

“อืออคนจะนอนเว้ย อย่ามากวน...”

“มึงมีสอบไม่ใช่เหรอวะลุกเร็ว!” ไอร์ไม่ยอมตามใจเพื่อนแน่นอน เพราะวันนี้ต๋องมีสอบกลางภาค หากเขายอมให้นอนต่อไปมีหวังมันได้ลงเรียนใหม่อีกแน่นอน

“เฮ้ย! วันนี้กูมีสอบนี่หว่า” เมื่อได้สติต๋องก็ลืมตาแล้วลุกพรวดขึ้นมาทันที

“ก็เออดิวะมึงมีสอบรีบลุกไปอาบน้ำเร็ว เดี๋ยวกูจะออกไปก่อนนะ”

“รอกูก่อนเดี๋ยวไปส่งที่คณะ”

“ขืนรอมึงกูได้เข้าเรียนสายแน่นอน”

“รอแป๊บนึงน่านะ” เจ้าตัวพูดขณะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อที่จะเข้าไปอาบน้ำ

“เออๆ อย่านานนะมึง”

ในที่สุดไอร์ก็เป็นฝ่ายยอมไอ้เพื่อนตัวดีเหมือนทุกครั้ง ตอนนี้ทั้งสองคนเรียนอยู่ชั้นปีที่สี่ ที่มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร หลังจากใช้ความพยายามอย่างหนักหน่วงในการเตรียมตัวอ่านหนังสือ ไอร์ก็สามารถสอบติดคณะแพทย์อย่างที่ตั้งใจไว้ ส่วนต๋องก็สามารถสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้เช่นเดียวกัน ตั้งแต่เป็นเฟรชชี่มาจนถึงตอนนี้ทั้งสองยังคงเป็นรูมเมทกันมาตลอด และความสัมพันธ์ยังแน่นแฟ้นเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง

หลังจากนั้นไม่นานต๋องก็เดินนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำ เผยให้เห็นเรือนกายที่กำยำแข็งแรงและซิกแพ็คที่ขึ้นรูปอย่างชัดเจน ดูเป็นหนุ่มขึ้นมากกว่าสามปีก่อนหน้านี้และที่สำคัญความหล่อนั้นพุ่งปรี๊ดขึ้นเป็นหลายเท่าตัวอีกด้วย

“วันนี้มึงเลิกเรียนกี่โมง” พูดพลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมอย่างลวกๆ

“กูเรียนเสร็จตั้งแต่ช่วงเช้าแต่ต้องไปช่วยอาจารย์ทำวิจัยต่อน่าจะดึกอ่ะ ทำไมเหรอวะ”

“เปล่า...กูว่าจะไปรับมึงอ่ะ”

“ไม่ต้องกูกลับเองได้”

“ได้ไงวะยิ่งดึกกูยิ่งต้องไปรับเผื่อมึงโดนฉุดจะทำยังไง”

“ไอ้สัสอย่างกูใครจะกล้าทำ แมนทั้งแท่งซะขนาดนี้”

“แมนห่าอะไร มึงคงไม่รู้หรอกเพื่อนๆ คณะกูจ้องมึงตาเป็นมันเลย”

“แล้วไงวะ” เจ้าตัวทำหน้าสงสัย

“ก็มึงมันดึงดูดพวกผู้ชายหื่นๆ ไง ตัวก็เท่าแมวยังจะทำเป็นเก่งอีก เอาเป็นว่าจะกลับตอนไหนก็โทรมาหากูละกันเดี๋ยวออกไปรับ” ตอนนี้ต๋องใส่เสื้อช็อปสีกรมท่าคู่กับกางเกงยีนส์ยี่ห้อดังเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เคๆ กูไม่เคยเอาชนะมึงได้อยู่แล้วนี่” เป็นอย่างที่พูดเวลามีเรื่องขัดใจกัน คนที่เป็นฝ่ายยอมแพ้นั่นคือเขาตลอด ไอ้เพื่อนรักลูกคุณหนูมันไม่เคยอ่อนข้อให้แม้แต่ครั้งเดียว

“เสร็จแล้วไปกันเถอะจะเดี๋ยวสายเอา” คนที่พูดยืนสะพายกระเป๋าเตรียมพร้อมที่จะออกไปจากห้องแล้ว

“กูต้องเป็นคนพูดประโยคนี้ป่ะวะ”

“ใครพูดมันก็เหมือนกันล่ะน่า รีบๆ ไปเหอะ” ต๋องเอ่ยขณะดุนหลังเพื่อนให้นำหน้าออกไปจากห้อง



*-*-*-*-*-*-*



มหาวิทยาลัย

หลังจากเรียนเสร็จในช่วงเช้าแล้ว ไอร์ก็เดินมุ่งหน้าไปยังห้องวิจัยลับของคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของอาคารยี่สิบชั้น หลังจากรู้ว่ามันเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับอะไรเขาก็ขอเข้าร่วมเป็นทั้งผู้ช่วยและอาสาสมัครของโครงการวิจัยนี้ทันทีเมื่อปีที่แล้ว และคนที่เป็นหัวหน้านักวิจัยนั่นคืออาจารย์ที่ปรึกษาของเขานั่นเอง

“สวัสดีครับอาจารย์หมอ” เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยจอมอนิเตอร์และเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย ก็เจอกับศาสตราจารย์ นายแพทย์ สมิธ ประสิทธิ์พรกุล อาจารย์หมออายุอานามก็ห้าสิบห้าปีพอดี

“อ้าวไอร์ อาจารย์กำลังต้องการผู้ช่วยพอดี” อาจารย์หมอยิ้มทักทายลูกศิษย์ที่เขารักเหมือนลูกชายแท้ๆ

“มีอะไรให้ผมช่วยทำครับ” ไอร์วางกระเป๋าเป้ไว้ในลิ้นชักที่ประจำ ก่อนจะเดินเข้าไปยืนข้างๆ เพื่อรอรับคำสั่งจากอาจารย์ที่ปรึกษา

“ช่วยไปฉีดฮอร์โมนให้อาสาสมัครที่อยู่ในห้องด้วยนะ พอดีอาจารย์ติดธุระต้องคุยวิดีโอคอลกับอาจารย์หมอที่อเมริกาก่อน”

“ได้ครับอาจารย์”

“ส่วนไอร์เดี๋ยวอาจารย์จะเป็นคนฉีดให้เอง นี่เข็มสุดท้ายแล้วนะขั้นตอนต่อไปก็เข้าสู่กระบวนการสร้างมดลูกและรังไข่เทียมแล้ว”

ไอร์ถึงกับยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินอาจารย์หมอบอกอย่างนั้น ในที่สุดวันที่เขารอคอยก็มาถึง แม้ไม่รู้ว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่อย่างน้อยมันก็มีโอกาสที่จะเป็นความจริงได้

“ผมดีใจที่สุดเลยครับ”

“อาจารย์ก็รอให้ถึงวันนี้มาตลอดแต่เผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะไอร์ ตลอดหลายปีที่อาจารย์ทำงานวิจัยนี้มา มันไม่เคยประสบผลสำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียว” อาจารย์หมอสมิธบอกกับลูกศิษย์ ตอนแรกเขาก็ค้านหัวชนฝาเพราะไม่อยากให้ไอร์เข้ามาเป็ดนอาสาสมัครในงานวิจัยนี้ เพราะหากมันไม่ประสบความสำเร็จขึ้นมาเขากลัวว่าลูกศิษย์จะเสียใจกับสิ่งที่ได้ตั้งความหวังเอาไว้

“ผมเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ครับว่าครั้งนี้จะต้องประสบผลสำเร็จแน่นอน อาสาสมัครทั้งยี่สิบคนรวมทั้งผมก็จะมีความสุขกันถ้วนหน้า อาจารย์เองก็จะถูกยกย่องให้เป็นศาสตราจารย์คนแรกที่สามารถทำให้ผู้ชายตั้งครรภ์ได้” ไอร์บอกกับอาจารย์

“ถ้ามันสำเร็จขึ้นมาจริงๆ อาจารย์คงจะเก็บไว้เป็นความลับ เพราะหากคนทั้งประเทศรู้เข้ามันคงจะวุ่นวายน่าดู” ที่เขาทำโครงการวิจัยนี้ขึ้นมาเพราะอยากรู้แค่ว่าผู้ชายจะสามารถเป็นผู้ให้กำเนิดทารกได้เหมือนผู้หญิงหรือไม่ก็เท่านั้น หากในอนาคตมันเกิดวิกฤติเรื่องการสืบพันธุ์ของมวลมนุษยชาติขึ้นมาจริงๆ เขาถึงจะรื้องานวิจัยนี้ขึ้นมาอีกครั้งและทำในสเกลที่เยอะกว่าเดิมหลายเท่าตัว

“อ้าวแล้วที่ทำมาทั้งหมดมันก็ไม่มีประโยชน์เลยสิครับอาจารย์” ไอร์มองหน้าอาจารย์ด้วยความสงสัย

“ใครบอก อย่างน้อยอาสาสมัครทั้งยี่สิบคนก็จะสามารถมีลูกกับคนที่เขารักได้ แค่นั้นก็ถือว่าเป็นประโยชน์ที่คุ่มค่าที่สุดแล้ว” อาจารย์หมอสมิธยิ้มให้กับลูกศิษย์

“ขอบคุณอาจารย์หมอมากนะครับที่ทำเพื่อพวกเราขนาดนี้”

“เอาไว้ให้มันสำเร็จค่อยมาขอบคุณอาจารย์ก็แล้วกัน”

“ครับอาจารย์ เดี๋ยวผมไปฉีดฮอร์โมนให้อาสาสมัครคนอื่นๆ ก่อนนะครับ”

ไอร์เดินเข้าไปในห้องแล็ปที่มีอาสาสมัครผู้ชายยี่สิบคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ทั้งหมดเข้ามาเป็นอาสาสมัครในโครงการนี้อย่างเต็มใจ เพราะในชีวิตจริงต่างก็มีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันและตั้งใจอยากจะมีทายาทไว้สืบสกุล เมื่อถูกชักชวนให้เข้ามาเป็นอาสาสมัครก็ทำให้ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

“เดี๋ยววันนี้ผมจะเป็นคนฉีดฮอร์โมนให้กับทุกคนเองนะครับ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการสร้างมดลูกและรังไข่เทียมแล้ว” ไอร์ว่าพลางเตรียมอุปกรณ์ไว้บนโต๊ะ

“พวกเราใกล้จะได้มีลูกสมใจอยากแล้วใช่ไหมครับ” หนึ่งในอาสาสมัครเอ่ยถามขึ้น

“ผมก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นครับ เอาเป็นว่าทุกคนพยายามอย่าเครียดแล้วก็ทานอาหารที่มีประโยชน์ พยายามออกกำลังกายให้แข็งแรง มันอาจจะมีโอกาสสูงที่จะทำให้พวกเราสามารถตั้งครรภ์ได้แน่นอนครับ” ไอร์บอกกับทุกคน

เมื่อได้ยินอย่างนั้นสีหน้าของแต่ละคนก็ดูมีความหวังขึ้นมาทันที

ไอร์เริ่มลงมือฉีดฮอร์โมนเข็มสุดท้ายให้กับอาสาสมัครคนแล้วคนเล่าจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็ให้คำแนะนำนิดๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับการดูแลตัวเอง เพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างมดลูกและรังไข่เทียมในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้



“อาจารย์หมอครับผมฉีดฮอร์โมนให้ทุกคนเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ” ไอร์เดินเข้ามาหาอาจารย์หมอ ที่กำลังนั่งอ่านเอกสารบางอย่างด้วยความตั้งใจในห้องทำงาน

“ออ...ไปรอในห้องแล็บนะเดี๋ยวอาจารย์ตามไป”

“ครับ”

ไอร์เดินเข้าไปในห้องแล็บก่อนจะนั่งครุ่นคิดถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป หากถึงเวลาที่ร่างกายเขาพร้อมที่จะรับน้ำเชื้อเพื่อการปฏิสนธิแล้ว เขาจะใช้วิธีไหนเพื่อที่จะเอาน้ำเชื้อจากไอ้เพื่อนตัวดีมาได้นะ

“โทษทีที่ให้รอนาน” เสียงอาจารย์หมอดังขึ้นทำให้ไอร์หลุดจากภวังค์ แล้วหันไปมองยังต้นเสียง

“ไม่เป็นไรครับอาจารย์”

“ไอร์บอกกับทุกคนแล้วใช่ไหมว่าการฉีดฮอร์โมนเข็มนี้มันอาจจะมีผลข้างเคียงมากกว่าเข็มก่อนๆ”

“บอกแล้วครับ”

“เอาล่ะยื่นแขนมา”

อาจารย์หมอสมิธหยิบไซริงค์ขึ้นมาแล้วดูดฮอร์โมนในขวดแก้วเล็กๆ ออกมาจนหมด ก่อนจะใช้นิ้วดีดที่เข็มหนึ่งครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศออกไป หลังจากนั้นก็จัดการฉีดเข้าไปที่ต้นแขนของลูกศิษย์ทันที

“เสร็จแล้วนอนพักก่อนนะค่อยมาช่วยอาจารย์ทำแล็บต่อ”

“ไม่เป็นไรผมไหวครับอาจารย์”

“เชื่ออาจารย์เถอะนอนพักสักครู่ก่อน”

“ก็ได้ครับ”

ไอร์นอนพักบนเตียงได้สักพักเมื่อไม่มีอะไรผิดปกติกับร่างกาย จึงลุกขึ้นแล้วกลับเข้าไปช่วยอาจารย์ในห้องแล็ปต่อทันที

“อ้าวทำไมมาเร็วจัง” เมื่อเห็นลูกศิษย์เดินเข้ามาเจ้าตัวก็ผละจากการส่องกล้องจุลทรรศน์

“ผมโอเคแล้วครับ เดี๋ยวช่วยงานอาจารย์เลยละกันนะครับ” พูดจบก็นั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ แล้วสวมถุงมือยางทันที

“วันนี้งานเยอะหน่อยนะเดี๋ยวเสร็จแล้วอาจารย์จะไปส่งที่หอพัก”

“ไม่เป็นไรครับอาจารย์เดี๋ยวเพื่อนผมจะมารับ” ไอร์รีบปฏิเสธทันควัน

“เพื่อนคนที่เราอยากให้เป็นพ่อของลูกใช่ไหมล่ะ” อาจารย์หมอสมิธรู้เรื่องนี้ดี เพราะก่อนที่จะเข้าร่วมโครงการ อาสาสมัครทุกคนต้องบอกเหตุผลที่อยากจะเข้าร่วมในการวิจัยครั้งนี้ด้วย และนั่นก็คือเหตุผลของไอร์

“ใช่ครับ” พูดไปก็จัดการไปเปตตัวอย่างลงบนแผ่นไลสด์ก่อนจะหยดสีย้อมลงไป ปิดด้วยกระจกปิดสไลด์อีกทีแล้วนำไปส่องกล้อง

“นี่ก็ใกล้เวลาแล้วหาวิธีบอกเพื่อนเราได้รึยังล่ะว่าต้องการน้ำเชื้อเขา” อาจารย์หมอถาม

“ผมกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ครับ”

“ถ้ามันเป็นไปไม่ได้อาจารย์ว่าลองหาคนอื่นดูไหม”

“ถ้าไม่ใช่มันผมไม่มีทางตั้งท้องกับใครเด็ดขาดครับอาจารย์” เจ้าตัวพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว

“ถ้าอย่างนั้นอาจารย์ก็เอาใจช่วยละกันนะ”

“ขอบคุณครับ”



ไอร์ช่วยอาจารย์หมอทำแล็บจนเสร็จเรียบร้อย ตอนนี้เวลาก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว เขายืนรอเพื่อนรักอยู่หน้าคณะเพียงลำพัง ไม่นานนักรถหรูยี่ห้อดังก็มาจอดเทียบตรงหน้า ไม่รอช้าเจ้าตัวก็รีบเดินไปเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งทันที

“รอนานป่ะวะ” เมื่อล้อหมุนเจ้าของรถก็เอ่ยถามขึ้นมาทันที

“แล้วมึงว่านานป่ะละ”

“กวนตีนล่ะ กูถามมึงก่อนนะเว้ย” ต๋องหันมาทำหน้าดุให้เพื่อน

“มึงก็รู้ว่าไม่นานแล้วยังจะมาถามกูอีก”

“ก็กูไม่รู้จะคุยอะไรกับมึงนี่หว่า”

“กินข้าวรึยัง แล้วทำไมไม่ถามล่ะ”

“แล้วมึงกินข้าวยังล่ะ” เมื่อโดนเพื่อนชงให้เจ้าตัวก็ถามต่อทันที

“ยังสิวะก็เพิ่งจะออกมาจากห้องแล็บ”

“เออว่ะ...เรื่องนี้กูว่าจะถามมึงหลายครั้งแล้ว สรุปมึงช่วยอาจารย์ทำวิจัยเรื่องอะไรวะ เห็นกลับดึกดื่นๆ เกือบทุกวันเลย” ต๋องขมวดคิ้วขณะถามคำถามนี้

“เอ่อ..ก็งานวิจัยทั่วไปของคณะนั่นล่ะมึงสงสัยอะไรมากมายวะ กูยังไม่เคยถามเรื่องของมึงเลย” ไอร์ตอบกลับไปเสียงดุ

“ถามแค่นี้ทำไมต้องดุด้วยวะ กูชักจะสงสัยซะแล้วสิว่างานวิจัยที่มึงทำเกี่ยวกับอะไรกันแน่”

“ก็กูบอกไม่มีอะไรไงวะ!” ไอร์เริ่มขึ้นเสียงจนคนที่ขับรถอยู่ถึงกับชะงัก แล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

มันจะอะไรนักหนาวะก็แค่ถามเฉยๆ ...

“กูว่ามึงเริ่มจะจริงจังเกินไปแล้วว่ะ”

“มึงก็เลิกถามเรื่องนี้ซะทีสิวะกูขี้เกียจจะตอบแล้ว” ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้อารมณ์เสียหนักขนาดนี้ อยู่ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาหรือนั่นอาจจะเป็นผลข้างเคียงของการฉีดฮอร์โมนเมื่อช่วงบ่าย

“เออๆ เดี๋ยวกูพาแวะไปกินข้าวก่อนละกันแป๊บนึงก็จะถึงตลาดแล้ว” ต๋องรู้ตัวว่าหากเขาต่อปากต่อคำอีก อาจจะมีเรื่องทะเลาะกันหนักกว่านี้ก็เป็นได้ ช่วงหลังมานี้เพื่อนรักยิ่งอารมณ์แปรปรวนอยู่ซะด้วย

“ซื้อกลับไปกินที่ห้องได้ป่ะกูรู้สึกเวียนหัวอ่ะ” ไอร์ไม่ได้แกล้งพูดเพื่อเรียกร้องความสนใจแต่อย่างใด อยู่ๆ เขาก็รู้สึกเวียนศีรษะขึ้นมากะทันหัน หลังจากแสดงอาการหงุดหงิดออกไปเมื่อสักครู่

“ได้ๆ เดี๋ยวกูลงไปซื้อให้ละกันรออยู่บนรถนี่ล่ะ งอแงอย่างกับเป็นแฟนกูซะอย่างนั้น”

ถ้ากูเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีสิวะ...

เมื่อหาที่จอดรถข้างทางได้แล้วต๋องก็ลงไปซื้อข้าวให้เพื่อนรัก ไม่นานหลังจากนั้นก็เดินมาพร้อมกับถุงข้าวกล่องและผลไม้ เขาวางของไว้เบาะหลังแล้วเข้ามานั่งที่ฝั่งคนขับตามเดิม ก่อนจะเหลือบตามองไปข้างๆ ก็พบว่าเพื่อนได้หลับไปเสียแล้ว เจ้าตัวยิ้มกริ่มพร้อมกับจ้องมองใบหน้าขาวใสนั้นด้วยความเอ็นดู

“สงสัยจะเพลียจัดหลับไปซะแล้ว ไอ้อ่อนเอ๊ย” เอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนจะขับรถออกไป

หลังจากนั้นไม่นานรถหรูก็เคลื่อนตัวมาจอดที่ลานจอดรถของคอนโด ต๋องดับเครื่องแล้วหันไปมองเพื่อนที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่อย่างไม่รู้เรื่อง

“ไอ้ไอร์ถึงคอนโดแล้ว” เสียงเข้มเอ่ยปลุกเพื่อนรัก

“............”

คนที่นอนนิ่งอยู่นั้นดูท่าทางคงจะหลับลึก จนไม่สามารถใช้เพียงแค่เสียงปลุกให้ตื่นได้ ต๋องจึงใช้วิธีเขย่าตัวเพื่อปลุกอีกที

“ไอ้ไอร์ตื่นก่อนเร็ว” เมื่อมือหนาสัมผัสที่ต้นแขนของเพื่อนก็ต้องตกใจทันที “เชี่ยตัวร้อนฉิบหาย”

ไม่รอช้าต๋องรีบอุ้มเพื่อนออกจากรถแล้วขึ้นไปบนห้องทันที



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*





หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 13-02-2019 09:28:15
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 13-02-2019 13:12:44
ขออีกกกกกกกอยากอ่านต่อต่อแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-02-2019 00:07:38
ต่อด่วนนนนนนนนนนนนนนน  :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 14-02-2019 06:41:42
เอาอีก ๆ  :call:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 14-02-2019 09:19:34
หืมมม...
ยังไง.. อ่าาาา..  :katai1:
ไรท์รีบมาาาาา.. :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-02-2019 11:05:34
เอาใจช่วยนะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 15-02-2019 01:10:48
นี่คือเหตุผลที่ไอร์ท้องได้สินะ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 15-02-2019 03:55:09
 :pig4: :pig4: :3123: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-02-2019 05:37:19
อ๋อออ นี่เป็นเหตุที่ทำให้ไอร์สามารถท้องได้ รอตอนต่อไปค่ะจะขอน้ำเชื้อต๋องยังไง
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 15-02-2019 11:22:51
ลุ้นนๆๆ  :katai4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.4 รูมเมท [Up. 13-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 15-02-2019 18:56:16
ต่อออออออ
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 15-02-2019 22:00:37
:: ๕ ::
ง้อ


ชามน้ำอุ่นถูกวางไว้ข้างเตียงนอน ผ้าขนหนูผืนเล็กจุ่มลงก่อนจะถูกบิดจนหมาด ต๋องจับแขนเพื่อนขึ้นมาเช็ดย้อนรูขุมขนแรงๆ เพื่อระบายความร้อนออกจากผิวหนัง จากแขนก็เปลี่ยนเป็นใบหน้ารูปไข่ที่ดูซีดเซียว มือหนาจับผ้าเช็ดอย่างทะนุถนอมสัมพันธ์กับสายตาคมที่จ้องมองใบหน้าละมุนนั้นแล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

“อืออ” เหมือนคนที่นอนซมอยู่เริ่มจะงอแงขึ้นมา เจ้าตัวส่ายศีรษะไปมาทำให้ต๋องถึงกับทำหน้ายุ่ง

“อยู่นิ่งๆ สิวะ” เสียงเข้มเอ่ยพร้อมกับใช้สองมือพยุงใบหน้าเพื่อนเอาไว้ “นี่มึงเป็นไข้หรือเมากันแน่วะ” เจ้าตัวบ่นขณะจ้องไปที่ใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากหยักได้รูป จะว่าสวยก็ไม่ใช่จะว่าหล่อก็ไม่เชิงซะทีเดียว

ต๋องรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้าเมื่อเจ้าเพื่อนรักเม้มปากสีชมพูนั่น ไปพร้อมๆ กับการเอื้อมมือมาคล้องคอเอาเขาไว้ เจ้าตัวทำอะไรไม่ถูกได้แต่อึ้งกับการกระทำของคนที่นอนอยู่บนเตียง ‘มึงยั่วกูเองนะไอร์’ เขาคิดในใจก่อนจะโน้มใบหน้าคมเข้าไปจุมพิตที่ริมฝีปากบางอย่างช้าๆ

“อืมมม” คนที่กำลังนอนซมเพราะพิษไข้อยู่นั้นส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ มือเรียวก็รั้งต้นคอของเพื่อนเข้ามากอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย รสจูบที่หอมหวานทำให้ต๋องถึงกับเคลิ้มและลืมตัวไปว่าไม่ควรปล่อยให้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น

ต๋องพยายามบอกตัวเองซ้ำๆ ว่านี่คือเพื่อนรัก แต่ลิ้นสากกลับไม่ยอมหยุดมันถูกสอดเข้าไปซุกซนในโพรงปากของเพื่อนอย่างดูดดื่ม เสียงลมหายใจดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่สามารถหยุดการกระทำนี้ได้ยิ่งพยายามคิดจะผละตัวออกมา มือหนายิ่งกระชับตัวเพื่อนเข้ามากอดไว้แน่น ไม่ต่างจากไอร์ที่แม้จะไม่ได้สติแต่ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี

“นี่กูทำบ้าอะไรลงไปวะเนี่ย!” ในที่สุดต๋องก็ตั้งสติได้แล้วรีบลุกขึ้นยืนมองเพื่อนอย่างเสียดาย มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นมากุมใบหน้าคมเอาไว้อย่างรู้สึกผิด ก่อนจะพยายามเช็ดตัวให้เพื่อนอีกครั้งจนเสร็จเรียบร้อยเพื่อที่จะได้ออกไปจากตรงนี้เสียที

ต๋องหยิบยาพาราเซตามอลมาป้อนให้เพื่อนทานสองเม็ดก่อนจะห่มผ้าให้ หากคืนนี้เขาอยู่ที่นี่ต่อไปมีหวังได้สติแตกแน่นอน เจ้าตัวจึงหยิบเสื้อแจ็คเก็ตพาดบ่าแล้วมองไปยังเพื่อนรักที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทันที



รุ่งเช้า

แสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ แล้วมองไปรอบๆ ห้องด้วยความงัวเงีย ก่อนจะสะดุดตากับชามน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่วางแอ้งแม้งอยู่

ไอร์จำได้ว่าเมื่อคืนเขานั่งรอเพื่อนอยู่บนรถ อยู่ๆ ทุกอย่างก็ดับวูบลงไปตื่นขึ้นมาอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงซะแล้ว แถมเสื้อผ้ายังถูกเปลี่ยนอีกต่างหาก แล้วไอ้เพื่อนตัวดีล่ะหายไปไหน? ปกติหากเขาไม่สบายอย่างนี้มันจะอยู่ด้วยทั้งคืนไม่ยอมไปไหน ไอร์หันไปมองที่ราวแขวนเสื้อก็ไม่เห็นเสื้อแจ็คเก็ตตัวโปรดที่ต๋องชอบใส่ไปเที่ยว คิดแล้วก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาทันที

กูไม่สบายมึงยังมีหน้าออกไปเที่ยวข้างนอกได้อีกเหรอวะ แถมยังไม่กลับมานอนที่ห้องอีกต่างหาก ไอร์คิดในใจ ตอนนี้ไม่มีอาการวิงเวียนศรีษะเหมือนเมื่อคืนแล้ว แถมอุณหภูมิร่างกายยังอยู่ในภาวะปกติดีอีกด้วยเจ้าตัวจึงค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นจากเตียง

“ในเมื่อมึงไม่เป็นห่วงกู กูก็จะกลับบ้าน”

ไอร์จึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับไปหาแม่ที่บ้าน



*-*-*-*-*-*-*



ลงจากรถเมล์หน้าปากซอยแล้วไอร์ก็นั่งวินมอเตอร์ไซต์ตรงมาที่บ้าน เขาเห็นแม่กำลังตักอาหารใส่ถุงให้กับลูกค้าอยู่จึงเดินเข้าไปหาทันที

“หวัดดีครับแม่” ไอร์ยกมือไหว้แล้วเข้าไปกอดจากด้านหลัง

“มาก็อ้อนเลยนะเนี่ย” ปิ่นแก้วยิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าลูกชาย มือก็รัดถุงแกงให้กับลูกค้าไปด้วย

“ใกล้จะจบรึยังล่ะเจ้าไอร์” ลูกค้าขาประจำเอ่ยถามขึ้น

“อีกสองปีครับลุง” เจ้าตัวยิ้มให้

“อีกหน่อยลุงคงจะไม่ได้กินข้าวแกงฝีมือแม่ปิ่นแล้วมั้ง ลูกชายเรียนจบหมอคงจะนั่งนับเงินสบายเลย”

“ฉันไม่มีทางเลิกขายแน่นอนลุงไว้ใจได้ ว่าแต่ลุงนั่นล่ะอย่าเพิ่งเบื่อฝีมือฉันก่อนละกัน”

“ถ้าเอ็งยังขายลุงก็จะมาซื้อบ่อยๆ ไม่มีทางเบื่อแน่นอน”

“พูดแล้วนะลุง”

“จ๊ะ”

หลังจากลูกค้าเดินออกจากร้านไปพร้อมกับถุงแกง ปิ่นแก้วก็หันมาคุยกับลูกชายต่อ

“วันนี้ทำไมกลับมาได้ล่ะไม่มีเรียนเหรอลูก”

“วันนี้ไม่มีเรียนครับผมจะมาอยู่กับแม่สักสองวันให้หายคิดถึงเลย” อย่างน้อยสองวันนี้อาจจะทำให้เขาลดระดับอารมณ์ฉุนเฉียวลงได้ ยิ่งนานวันอารมณ์ยิ่งเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกที ขี้งอนและหงุดหงิดง่ายโดยเฉพาะเวลาอยู่กับไอ้เพื่อนตัวดี เขากลัวเหลือเกินว่ามันจะจับผิดได้เข้าสักวันและตีตัวออกห่างก่อนที่จะถึงวันนั้น

“แล้วต๋องล่ะลูกไม่มาด้วยเหรอ” ปกติหากลูกชายกลับมาเยี่ยมบ้านก็จะมีเพื่อนรักติดสอยห้อยตามกลับมาด้วยเกือบทุกครั้ง หล่อนจึงเอ่ยถามเหมือนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

“มันคงกลับบ้านไปแล้วมั้งครับ” ไอร์ตอบแบบส่งๆ ไปเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ต๋องอยู่ที่ไหน

“มีปัญหาอะไรกันรึเปล่าลูกปกติไอร์จะรู้ตลอดว่าต๋องอยู่ไหนไม่ใช่เดาเอาแบบนี้”

“เปล่าครับแม่ผมกับมันสนิมกันมานานจนคิดว่าบางทีมันอาจจะนานเกินไป มันต้องมีชีวิตของมันบ้าง ส่วนผมก็อยากมีชีวิตส่วนตัวบ้างก็เท่านั้นเองครับ” เจ้าตัวยิ้มให้กับผู้เป็นแม่

“ไม่มีอะไรก็ดีแล้วแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เข้าไปเก็บของข้างในก่อนนะแล้วค่อยลงมากินข้าวเดี๋ยวแม่เตรียมไว้ให้”

“คร้าบบแม่” ไอร์เดินสะพายกระเป๋าขึ้นไปที่ห้องนอนของตัวเอง

บ้านไม้สองชั้นที่กันแดดกันฝนมาตั้งแต่เด็กจนโตตอนนี้ก็เริ่มโทรมมากขึ้นทุกวัน หลังจากเรียนจบและมีงานทำแล้วเขาตั้งใจจะสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับแม่ โดยไม่ลืมที่จะทำร้านขายข้าวแกงให้เหมือนเดิม

ไอร์วางกระเป๋าไว้บนโต๊ะคอมพ์แล้วนั่งลงบนเตียงนอนเล็กๆ ที่เคยเอนกายมาตั้งแต่ด็กจนโต ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูว่ามีสายของเพื่อนโทรเข้ามาบ้างหรือเปล่า เมื่อมองหน้าจอแล้วก็ต้องผิดหวังเพราะทุกอย่างยังคงว่างเปล่าไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น

“กูคงไม่สำคัญสำหรับมึงแล้วสินะไอ้ต๋อง” พูดจบเจ้าตัวก็ปิดเครื่องทันที ในเมื่อไม่โทรมาก็ไม่ต้องคุยกันอีก เขาคิดอย่างนั้น ช่วงนี้ขออยู่ช่วยงานแม่เพื่อให้สบายใจขึ้นก่อนที่จะกลับไปเจอหน้าไอ้เพื่อนตัวดีอีกครั้ง



“มาแล้วคร้าบบ” ไอร์ตะโกนเสียงดังพร้อมกับวิ่งลงมาจากข้างบน สวมเสื้อยืดกางเกงบอลเหมือนที่เคยใส่เป็นประจำ

“แม่เตรียมกับข้าวไว้บนโต๊ะให้แล้วนะ” ปิ่นแก้วตะโกนบอกลูกชายขณะขายของอยู่หน้าร้าน ตอนเที่ยงๆ อย่างนี้ลูกค้าค่อนข้างเยอะพอสมควร

“เดี๋ยวผมช่วยแม่ขายก่อนค่อยกินละกัน” แทนที่จะนั่งลงที่โต๊ะสำรับที่แม่เตรียมไว้ให้ ไอร์กลับเดินไปยืนข้างๆ ผู้เป็นแม่

“ไม่เป็นไรแม่ขายคนเดียวไหวไปกินก่อนเถอะ” เธอบอกกับลูกชายด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เอาผมจะช่วยแม่ก่อน”

“โอเคๆ ดื้อจริงๆ เลยลูกชายคนนี้”

ไอร์ช่วยแม่ตักแกงราดข้าวให้กับลูกค้าที่ทยอยมาในช่วงเที่ยง ส่วนมากจะเป็นคนหาเช้ากินค่ำและชนชั้นแรงงานซะส่วนมาก เพราะปิ่นแก้วขายในราคาที่ไม่ค่อยแพงมากเหมือนที่อื่น เพราะต้องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนั่นเอง

หลังจากลูกค้าทานข้าวเสร็จแล้วไอร์ก็ช่วยเก็บจานที่วางอยู่บนโต๊ะไปล้างอย่างขะมักเขม้น สมกับที่เคยช่วยทำมาตั้งแต่เด็กจนโต

ผ่านช่วงเที่ยงไปแล้วลูกค้าเริ่มซาลงไปเรื่อยๆ จนหมดในที่สุด ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เจ้าตัวจะต้องทานข้าวแล้ว ไอร์นั่งที่โต๊ะก่อนจะเปิดฝาชีออกมาเมื่อเห็นกับข้าวแล้วท้องก็ร้องขึ้นมาทันที

“แม่กินข้าวคร้าบบ”

“กินเลยลูกแม่ไม่ค่อยหิว”

ได้ยินอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่รอช้ารีบคดข้าวใส่จานแล้วนั่งทานอย่างเอร็ดอร่อย ไม่ถึงนาทีหลังจากนั้นก็มีแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งลงตรงข้าม ไอร์เงยหน้าขึ้นมามองแล้วก็ต้องเชิดหน้าหนีทันที เพราะคนที่กำลังนั่งยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้าคือเพื่อนรักนั่นเอง

“กูกินด้วยนะไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้าแล้ว” ไม่พูดเปล่าต๋องรีบคดข้าวใส่จานดูก็รู้ว่ากำลังหิวโหยมาขนาดไหน

“กูอิ่มล่ะ” พูดแล้วก็จะลุกขึ้นแต่โดนคนที่นั่งอยู่ดึงแขนเอาไว้ก่อน

“อย่าทำอย่างนี้สิวะกินข้าวก่อนมีอะไรค่อยคุยกัน” เพื่อนรักจ้องตาพร้อมกับพยักหน้าให้

“ไม่! กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึงแล้ว” แม้จะยังปากแข็งแต่ก็ไม่ยอมเดินไปไหน

“กินก่อนเร้ววว เดี๋ยวแม่มึงก็รู้หรอกว่ามึงกำลังงอนกู” ต๋องพยายามรบเร้าเพื่อน ราวกับว่าตัวเองไม่ได้มีความผิดเลยซะอย่างนั้น

“กูไม่ได้งอนเว่ย” คนที่โดนกล่าวหาทำหน้าบึ้งใส่ทันที

“ไม่ได้งอนก็นั่งลงกินต่อสิคร้าบบ” ต๋องพยักหน้าหงึกๆ

“ก็ได้” ไอร์นั่งลงอย่างจำยอมแต่ก็ไม่ยอมพูดจากับเพื่อนแม้แต่คำเดียว เอาแต่ก้มหน้าทานข้าวอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนไอ้เพื่อนตัวดีก็ทานไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี



ตอนเย็นวันนั้น

“มึงนี่หน้าด้านจังอยู่ๆ ก็หอบผ้าหอบผ่อนมานอนบ้านกูทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาต” คนที่พูดกำลังนั่งอยู่บนเตียงส่วนเพื่อนตัวดีนั่งยิ้มแฉ่งอยู่บนพื้น

“ใครบอกว่ากูหน้าด้าน แม่มึงอนุญาตแล้วต่างหาก มึงเป็นเจ้าของบ้านรึไงวะ” ต๋องยักคิ้วให้อย่างเย้ยหยัน ปกติถ้าต๋องมานอนที่บ้านทั้งสองจะนอนพื้นด้วยกัน แต่ครั้งนี้เจ้าของห้องกลับขึ้นไปนอนบนเตียงปล่อยให้แขกนอนอยู่ที่พื้นเพียงลำพัง บ่งบอกว่าทั้งสองกำลังไม่ลงรอยกันอย่างชัดเจน

“แต่ห้องนี้เป็นห้องกูนี่หว่า”

“แล้วไงก็อยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ใช่เหรอ หรือมึงจะเถียงกู”

“กูไม่พูดกับมึงแล้วนอนดีกว่า” พูดแล้วก็นอนห่มผ้าหันหลังให้เพื่อน

“มึงนี่ขี้งอนอย่างกับผู้หญิงจริงๆ ลุกมาคุยกับกูก่อนดิ”

“ไม่!” พูดขณะนอนหันหลังให้

“ถ้างั้นมึงก็ไม่ต้องนอนกูจะร้องเพลงทั้งคืนเลยคอยดู” ต๋องรู้ดีว่าเสียงตัวเองไม่บันเทิงหูสักเท่าไร ร้องเพลงแต่ละทีคนที่ได้ฟังแทบจะกระอักเลือด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเอาเรื่องร้องเพลงมาป็นข้ออ้าง

“...........”

“คืนที่ดาวเต็มฟ้าฉันจินตนาการถึงหน้าเธอ ละเมอไปไกลมองไม่เห็นดวงดาว จันทร์ที่เคยสดใสนั้นเป็นดั่งใจเธอหรือเปล่า หากมันเป็นจริง จะเก็บเอาจันทร์มาใส่ใจ.....”

ไอร์นอนเอามือปิดหูไว้ด้วยความหงุดหงิด คนอะไรจะร้องเพลงได้เหี้ยขนาดนี้นะ โสตประสาทเขาเริ่มรับมันไม่ไหวแล้ว

“หยุดร้องได้แล้วกูหนวกหู!” เจ้าตัวลุกขึ้นหันมาตวาดใส่เพื่อนเสียงดัง

“จุ๊ๆ ๆ เบาๆ ดิวะเดี๋ยวแม่มึงก็ได้ยินเข้าหรอก” ต๋องเอานิ้วจุ๊ที่ปากไว้

“มึงมีอะไรก็ว่ามากูง่วงแล้ว” หากไม่ยอมให้ไอ้เพื่อนตัวดีพูดในสิ่งที่มันอยากพูด คืนนี้เขาคงไม่ได้หลับได้นอนเป็นแน่

“วันนี้ทำไมมึงมาไม่บอกกูแถมยังปิดเครื่องอีกต่างหาก รู้รึเปล่ากูเป็นห่วง” ต๋องเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจังแล้ว

“เรื่องของกูอย่าเสือก” พูดพร้อมกับเชิดหน้าใส่

“เรื่องของมึงก็คือเรื่องของกู เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย”

“แล้วมึงล่ะหายหัวไปไหน กูนอนไม่สบายอยู่ห้องถ้ากูตายขึ้นมาล่ะจะทำยังไง ไหนมึงบอกว่าเป็นห่วงกู” ไอร์จ้องหน้าเพื่อรอฟังคำแก้ตัวของเพื่อน

“คือ...กูมีธุระ” เมื่อได้ยินคำถามก็ทำให้ต๋องนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ที่เขาเผลอจูบเพื่อนโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง มันน่าละอายใจยิ่งนักเมื่อนึกถึงภาพนั้น

“ธุระของมึงสำคัญกว่ากูงั้นเหรอวะ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะเว้ยมึงสำคัญที่สุดสำหรับกู แต่กูจำเป็นต้องไปจริงๆ”

“แล้วมึงไปทำอะไรล่ะบอกกูได้รึเปล่า” ไอร์พยายามเค้นความจริงจากเพื่อน เขาอยากรู้ว่าธุระที่ต๋องทิ้งไปนั้นคืออะไรกันแน่ เดาว่าคงไม่พ้นการไปเที่ยวเตร่กับพวกเพื่อนวิศวะของมัน

“คือ...กูไปกินเหล้ากับเพื่อนมา” ในที่สุดต๋องก็บอกความจริงแม้จะรู้ว่าเพื่อนคงโกรธไม่น้อย

“นี่ไงธุระสำคัญของมึง กูเข้าใจแล้วนอนเถอะ” ไอร์นอนหันหลังให้แล้วหลับตาลง นี่ไอ้นั่นมันทิ้งเขาไว้ในห้องคนเดียวเพื่อไปกินเหล้ากับเพื่อนงั้นเหรอ มันน่าโมโหจริงๆ อย่าหวังว่าจะญาติดีด้วยเป็นอันขาด

“กูขอโทษนะอย่าโกรธกูเลย”

เสียงเข้มเอ่ยข้างใบหูพร้อมกับเสียงลมหายใจที่เป่ารดแก้มขาวนวลอย่างแผ่วเบา นี่ไอ้เพื่อนตัวดีมันขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหมมันกำลังสวมกอดจากด้านหลัง

[มึงทำอย่างนี้...จะไม่ให้กูยกโทษให้ได้ไงวะ]



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 15-02-2019 22:18:25
 :hao5: :hao5:
รีบมานะ.. เค้ารออยู่..  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-02-2019 22:18:56
ต๋องเพื่อนกันเค้าไม่ทำแบบนี้นะเห้ย  :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-02-2019 22:31:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 15-02-2019 22:40:05
รอครับ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 15-02-2019 23:19:26
มาบ่อยๆน้าาาาอยากอ่าตต่อแช้ววว
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 15-02-2019 23:22:30
ฮึกก น้องไอร์ฮอร์โมนเปลี่ยนแน่เลยอ่ะะ  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-02-2019 00:03:24
ไอส์งอแงเก่งนะพักนี้  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-02-2019 07:01:34
สงสารน้อง เข้าใจอารมณ์คนที่เป็น แบบนี้เลย
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 19-02-2019 19:55:46
 :katai2-1:  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 19-02-2019 21:24:34
รอตอนต่อไปน้าา ลุ้นๆว่าจะท้องยังไง
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.5 ง้อ [Up. 15-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 19-02-2019 21:29:03
ไหนว่าจะมาสองวัน1ตอนอ่ะ รอออ
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 20-02-2019 19:38:01
:: ๖ ::
แผนรีดน้ำเชื้อ



“กลับก่อนนะครับแม่” ต๋องยกมือไหว้อย่างมีสัมมาคารวะ

“เอาไว้แวะมาเยี่ยมแม่อีกนะต๋อง”

“คร้าบบ”

ปิ่นแก้วยิ้มกริ่มให้กับลูกชายทั้งสองคนขณะมาส่งที่หน้าบ้าน สองวันที่ผ่านมาทั้งต๋องและไอร์ช่วยงานปิ่นแก้วได้ดีเลยทีเดียว แถมยังทำให้เรื่องที่ผิดใจกันกลายเป็นฝุ่นผงไปในพริบตาอีกด้วย

“ผมไปนะครับแม่” ไอร์ยกมือไหว้แล้วเดินเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่

“ตั้งใจเรียนนะลูกแล้วก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยล่ะ”

“แม่ก็เหมือนกันนะครับเหนื่อยก็พักบ้าง”

“จ้า...รีบไปเถอะเพื่อนรอนานแล้ว”

ไอร์ขึ้นไปนั่งบนรถแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยจนเสร็จเรียบร้อยแต่ไอ้เพื่อนตัวดียังไม่ออกรถเสียที จึงหันไปมองหน้าด้วยความสงสัย

“รอเหี้ยอะไรรีบๆ ไปดิ”

“ปากดีแต่เช้าเลยนะมึง”

“เออแล้วไงวะ” ไม่พูดเปล่าเจ้าตัวยังกำหมัดยกขึ้นจะชกอีกด้วย

“แหมๆ ๆ ทำเป็นเก่ง ที่กูยังไม่ออกรถเพราะรอให้มึงนั่งคิดก่อน ว่าลืมอะไรรึเปล่าจะได้ไม่ต้องวนกลับมาอีก”

“กูไม่ได้ลืมอะไรโว้ย นี่บ้านแม่กูถึงลืมก็ไม่มีปัญหาอะไรเคนะ”

“ถ้างั้นกูออกรถละนะ”

“เออๆ จะไปก็รีบไปกูจะงีบละ” พูดแล้วเจ้าตัวก็หลับตาลงทันที ต๋องไม่ได้ตอบโต้อะไรเพียงแต่ยิ้มที่มุมปากเท่านั้น



เมื่อมาถึงคอนโดแล้วคนที่นอนหลับยังคงนอนนิ่งไม่มีท่าทีว่าจะตื่นง่ายๆ เห็นอย่างนั้นต๋องก็ไม่อยากจะกวนใจเพื่อน จึงอุ้มเจ้าตัวออกจากรถในท่าเจ้าสาวอย่างระแวดระวัง ขณะต๋องยืนรออยู่หน้าลิฟท์สาวๆ หลายคนต่างก็มองมาแล้วยิ้มให้ เพราะคิดว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน

“น่ารักจังเลยนะคะคบกันมานานรึยังเนี่ย” หญิงสาวรายหนึ่งเอ่ยถามหลังจากยืนมองอยู่นาน

“นานแล้วครับ” ต๋องยิ้มแห้งๆ ให้ เขาไม่รู้ว่าคบของเจ้าหล่อนนี่คือคบแบบไหน

ก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยปากถามอีกครั้งลิฟท์ก็มาพอดี

ติ๊ง!

“ชั้นไหนคะ”

“ชั้นสิบห้า ขอบคุณครับ”

เมื่อเข้ามาในลิฟท์แล้วหญิงสาวรายนั้นกลับยังไม่จบ เจ้าหล่อนยังคงอยากรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจึงยอมเสียมารยาทเอ่ยถามอีกครั้ง

“ดูท่าทางคุณจะรักแฟนมากๆ เลยนะคะ ขนาดหลับยังอุตส่าห์อุ้มขึ้นมาบนห้อง” เจ้าหล่อนยิ้มให้ด้วยความฟิน

“ไม่ใช่แฟนครับนี่เพื่อนผมเอง มันนอนขี้เซาผมเลยขี้เกียจปลุก” ตอนนี้ต๋องภาวนาให้ถึงชั้นสิบห้าเร็วๆ เพราะเริ่มรู้สึกลำบากใจที่จะตอบคำถามเหลือเกิน

“โทษทีค่ะนึกว่าเป็นแฟนกันซะอีก แต่ถึงไม่ใช่แฟนแต่ฉันก็ว่าพวกคุณเหมาะสมกันดีนะคะ” เจ้าหล่อนขอโทษขอโพยยกใหญ่

“ไม่เป็นไรครับ ผมชอบผู้หญิงเผื่อเจอกันคราวหน้าจะได้ไม่เข้าใจผิดอีก” ต๋องยิ้มให้

ติ๊ง!

ในที่สุดก็ถึงซะทีทำเอาต๋องเหงื่อตกหลังเดินออกมาจากลิฟท์ เจ้าตัวไขกุญแจห้องอย่างทุลักทุเลก่อนจะค่อยๆ เบียดตัวเดินตรงเข้าไปในห้องนอนของเพื่อนแล้ววางไว้บนเตียงอย่างนุ่มนวล

ต๋องยืนมองหน้าเพื่อนรักด้วยความรู้สึกสับสนในใจ ‘ทำไมชอบมีคนบอกว่ามึงกับกูเป็นแฟนกันตลอดเลยวะ หรือถึงเวลาที่กูควรจะมีแฟนแล้วซะที” ไม่นานก็เดินออกมาแล้วเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง

จริงๆ แล้วไอร์รู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่ต๋องอุ้มออกมาจากรถแล้ว เจ้าตัวได้ยินทุกประโยคที่เพื่อนรักพูดกับหญิงสาวขณะอยู่ในลิฟท์ ประโยคที่ต๋องบอกว่าชอบผู้หญิงทำไมมันถึงได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้นะ ความรักครั้งนี้มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย แต่อีกไม่นานทุกอย่างก็จะจบลงแล้วไอร์สัญญากับตัวเอง



*-*-*-*-*-*-*



คณะแพทยศาสตร์

และแล้ววันที่ไอร์รอคอยก็มาถึง วันนี้เจ้าตัวรีบมาคณะตั้งแต่เช้าแล้วตรงดิ่งมาที่ห้องแล็บทันที เมื่อคืนแทบนอนไม่หลับเพราะตื่นเต้นที่จะเข้าสู่กระบวนการสังเคราะห์มดลูกและรังไข่เทียม จากเครื่องมือที่มีชื่อว่า ‘Artificial Reproductive Maker’ เป็นนวัตกรรมที่อาจารย์หมอสมิธพัฒนาขึ้นมา โดยอาศัยโมเดลของเครื่องพิมพ์สามมิติเป็นต้นแบบ เพียงแต่พัฒนามาใช้กับมนุษย์ก็เท่านั้น ในอนาคตอาจจะใช้เจ้าเครื่องนี้ในการรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากการสูญเสียอวัยวะในช่องท้องได้

ไอร์สวมชุดของทางหน่วยวิจัยซึ่งคล้ายๆ กับชุดผู้ป่วยในโรงพยาบาล เพียงแต่มันผลิตจากเส้นใยที่ถักทอมาจากแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาการสังเคราะห์อวัยวะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ได้รับอันตรายจากการยิงเลเซอร์อีกด้วย

“พร้อมแล้วนะไอร์” อาจารย์หมอเอ่ยถามขณะเจ้าตัวยืนอยู่หน้าเครื่อง Artificial Reproductive Maker

“ครับอาจารย์หมอ”

“ถ้างั้นก็เข้าไปนอนได้เลย” ไอร์พยักหน้าให้อาจารย์หมอแล้วเดินเข้าไปนอนที่เตียงไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครื่อง Artificial Reproductive Maker

เมื่อไอร์นอนลงที่เตียงแล้วอาจารย์หมอก็ฉีดยาสลบให้ หลังจากนั้นก็เดินไปที่จอควบคุมแล้วใช้นิ้วสัมผัสสองสามครั้ง ไม่นานเตียงไฟฟ้าก็เคลื่อนตัวพาไอร์เข้าไปในเครื่องที่มีลักษณะคล้ายกับแคปซูลอวกาศ

คนที่อยู่ในเครื่องนอนหลับตาแล้วนึกถึงหน้าผู้เป็นแม่ เขาตั้งใจจะบอกความจริงหลังจากเรื่องทุกอย่างผ่านไปด้วยดีแล้ว และก็หวังว่าแม่คงจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ

ไม่นานเจ้าตัวก็หลับด้วยฤทธิ์ยาสลบ หลังจากนั้นเครื่อง Artificial Reproductive Maker ก็เริ่มทำงานโดยการยิงแสงเลเซอร์เข้ามาที่ช่องท้องเป็นร้อยๆ เส้น ส่วนอาจารย์หมอก็ยืนควบคุมกระบวนการทำงานที่หน้าจอมอนิเตอร์ เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงก็มีเสียงสัญญาณดังขึ้น บ่งบอกว่าการสังเคราะห์มดลูกและรังไข่เทียมเสร็จสิ้นกระบวนการเรียบร้อยแล้ว

ไอร์ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือก่อนจะเอามือคลำที่ท้องของตัวเอง ตอนนี้เขาพร้อมที่จะเป็นแม่คนแล้วหรือนี่ เตียงไฟฟ้าค่อยๆ เลื่อนออกมาจากตัวเครื่อง เมื่อเตียงไฟฟ้าหยุดเคลื่อนไหวแล้วไอร์ก็ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ

“โอ๊ย!” เมื่อขยับตัวก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ที่ท้องทันที เขารู้สึกอึดอัดในช่องท้องนั่นเป็นเพราะว่าตอนนี้มีอวัยวะเพิ่มเข้ามาอีกสองอย่าง

“ระวังเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายหน่อยนะ ไอร์ต้องพักฟื้นร่างกายประมาณหนึ่งสัปดาห์เพื่อให้มดลูกเข้ากับร่างกายเราได้ซะก่อน” อาจารย์หมอแนะนำ

“ขอบพระคุณอาจารย์มากนะครับ”

“ไม่เป็นไร ไปนอนพักก่อนนะแล้วค่อยกลับ”

“ครับอาจารย์” ว่าแล้วก็ค่อยๆ เดินไปนอนบนเตียงผู้ป่วยที่มุมห้อง

หลังจากอาจารย์หมอเดินออกไปแล้วไอร์ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เพื่อโทรบอกเพื่อนรักให้มารับเหมือนทุกครั้ง

“มึงทำอะไรอยู่วะ”

[“ตอนนี้กูกำลังประชุมอยู่คณะมึงมีอะไรรึเปล่า”]

“เย็นนี้มารับกูหน่อยสิ”

[“ได้สิกี่โมงล่ะ”]

“ประมาณสี่โมงเย็นเดี๋ยวกูจะไปรอที่หน้าคณะ”

[“เคๆ แล้วเจอกันเดี๋ยวกูต้องวางแล้วนะ”]

“เออๆ แค่นี้ล่ะ”

หลังจากวางสายเพื่อนแล้วไอร์ก็นอนพักต่อจนหลับไปในที่สุด ด้วยความเพลียจากการสังเคราะห์มดลูกเทียมทำให้เจ้าตัวนอนหลับไปหลายชั่วโมงจนเลยเวลาที่นัดกับเพื่อนเอาไว้ รู้สึกตัวอีกทีก็เกือบจะสามทุ่มแล้วไอร์จึงรีบลุกออกจากมาเตียงแล้วลงไปที่หน้าคณะทันที

ขณะยืนอยู่หน้าคณะไอร์มองหารถของเพื่อนรักแต่ก็ไม่เจอ ในใจก็คิดว่าไม่น่าจะอยู่รอจนถึงขนาดนี้จึงเดินจากหน้าคณะไปที่ถนนใหญ่เพื่อเรียกแท็กซี่กลับ แต่ระหว่างนั้นก็เห็นรถหรูที่คุ้นตาจอดอยู่ในลานจอดรถ เจ้าตัวถึงกับยิ้มออกมาแล้วเดินเข้าไปหาทันที

รอยยิ้มถูกแทนที่ด้วยน้ำตาเมื่อเจ้าตัวเดินมาถึง แสงสว่างจากเสาไฟข้างทางทำให้ภาพที่เห็นในรถมันชัดเจนมาก ไอ้เพื่อนตัวดีกำลังจูบกับผู้หญิงอย่างดูดดื่มอย่างไม่อายฟ้าดิน ในที่สุดก็มีวันนี้วันที่ต๋องมีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตและเขาคงจะตกกระป๋องในอีกไม่ช้าแน่นอน ไอร์พยายามตั้งสติแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น ปล่อยให้เพื่อนได้มีความสุขกับผู้หญิงของมันให้เต็มที่ ส่วนเขาขอเลือกไปตามทางของตัวเองก็แล้วกัน



*-*-*-*-*-*-*



ปัง!

ไอร์มาถึงก็ปิดประตูเสียงดังอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะรีบอาบน้ำแล้วเข้านอนเขาไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น แต่ก็ดีเหมือนกันที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น มันจะได้ช่วยให้การตัดสินใจอะไรง่ายขึ้นกว่าเดิม

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“ไอร์มึงนอนรึยังวะ!” ต๋องยืนเท้าสะเอวอยู่หน้าห้องด้วยอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะรออยู่นานแถมโทรมาก็ไม่รับสาย แต่เพื่อนรักกลับแอบมาถึงก่อนซะอย่างนั้น

“............”

“กูรู้ว่ามึงยังไม่หลับออกมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้”

“...........” เจ้าตัวยังเงียบ

“ถ้ามึงไม่ออกมากูจะพังประตูเข้าไปนะ” ต๋องตะโกนเสียงดังบ่งบอกว่าตอนนี้อารมณ์กำลังเดือดพล่านเต็มทนแล้ว

“หนึ่ง....สอง....สะ”

แอ๊ดดด!!

“มีอะไรว่ามากูจะนอน” ไอร์กอดอกพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“มึงจะกลับมาก่อนทำไมไม่โทรบอก มึงรู้ป่ะว่ากูรอมึงนานแค่ไหน”

“แล้วก่อนหน้านั้นทำไมมึงไม่โทรหากูเลยล่ะ กูนึกว่ามึงคงไม่รอแล้วก็เลยกลับมาเอง”

“คือกู....ไปทำธุระเลยลืมโทรหามึง แต่มึงเองก็ไม่โทรหากูนี่นา กูเลยนึกว่ามึงอาจจะเลิกดึกเลยรอที่ลานจอด” ความโมโหในตอนแรกหายไปหมดเมื่อได้รู้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน

“สรุปเราเข้าใจผิดกันไปเอง หมดธุระแล้วช่ะกูจะนอน”

“เดี๋ยว! มึงกินอะไรมารึยังกูซื้อข้าวมันไก่มาเผื่อมึงด้วย”

“กูไม่หิวขอตัวนะ”

ปัง!

เจ้าของห้องรีบกลับไปนอนบนเตียงร้องไห้ระงมเพื่อระบายความเจ็บปวดที่อยู่ในใจ ทำไมมึงต้องทำเหมือนเป็นห่วงกูด้วย รู้ไหมว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหน ไอร์นอนคิดถึงแต่เรื่องของเพื่อนรักจนหลับไปในที่สุด



*-*-*-*-*-*-*



หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

ความสัมพันธ์ระหว่างไอร์และต๋องเริ่มย่ำแย่ลงเรื่อยๆ หลังจากวันนั้นไอร์ก็เริ่มพยายามตีตัวออกห่างเพื่อนรักมากขึ้น ปล่อยให้ต๋องได้มีเวลาไปอยู่กับแฟนที่เพิ่งตกลงคบกันเมื่อไม่นาน เพราะอีกไม่นานช่วงเวลาแห่งความสนุกในรั้วมหาวิทยาลัยก็จะหมดลงแล้ว แต่นั่นมันสำหรับต๋องเพียงคนเดียว สำหรับไอร์ยังคงต้องเรียนต่อไปอีกสองปีกว่าจะได้รับใบปริญญาบัตร

ตอนนี้สภาพร่างกายของไอร์พร้อมแล้วที่จะรับน้ำเชื้อเพื่อการตั้งครรภ์ วันนี้จึงตัดสินใจโทรหาต๋องเพื่อจะได้ทำตามแผนที่วางไว้ หากผ่านคืนนี้ไปแล้วไม่ว่าผลจะเป็นยังไงเขาก็จะยอมรับมันให้ได้

“ต๋องมึงว่างคุยไหมวะ”

[“คุยได้มึงมีอะไรวะ”]

“คืนนี้มึงมีนัดที่ไหนรึยัง กูว่าจะชวนมึงมาทานข้าวที่ห้อง”

[“ได้สิคืนนี้กูไม่ได้มีนัดที่ไหน” / ให้ดาวไปด้วยคนนะคะ] เสียงแฟนสาวของต๋องดังแทรกเข้ามาทำให้คนที่ได้ยินถึงกับเจ็บจี๊ดๆ ที่หัวใจ

“ต๋องคืนนี้กูขอให้มีแค่มึงกับกูเท่านั้นได้ไหมวะ ถือว่ากูขอร้อง”

[“.......อื้มได้สิเดี๋ยวกูบอกดาวให้ละกัน”] ได้ยินเพื่อนบอกอย่างนั้นต๋องเองก็ลำบากใจเพราะกลัวว่าแฟนสาวจะน้อยใจ

“ขอบใจมากแล้วเจอกันนะเว้ย”

[“แล้วเจอกัน”]

ต๋องรู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆ เพื่อนรักก็โทรมาคุยกับเขาทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เอาแต่หลบหน้าไม่พูดไม่จา แต่ก็ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะได้ปรับความเข้าใจกัน ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเพื่อนกำลังโกรธเขาเรื่องอะไรกันแน่





เย็นวันนั้นไอร์เตรียมกับข้าวมื้อพิเศษที่ลงมือทำด้วยตัวเอง วางเรียงรายไว้บนโต๊ะพร้อมกับขวดเหล้ายี่ห้อดังที่เคยชอบดื่มกันเป็นประจำ เขาจัดแจงทุกอย่างให้สุดฝีมือเพราะนี่มันอาจจะเป็นมื้อสุดท้ายที่เขาและเพื่อนจะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน

“กูขอโทษที่ต้องทำอย่างนี้นะต๋อง” ในมือก็ถือยาปลุกเซ็กส์ขวดเล็กๆ ก่อนจะหยดลงไปในแก้วเหล้าของเพื่อนทันที

แอ๊ดดด!!!

เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูไอร์ก็รีบเก็บขวดเอาไว้ทันที แล้วทำทุกอย่างให้เป็นปกติที่สุด

“มึงมาเร็วจังวะ” ไอร์ถามเพื่อน

“กูกลัวมึงจะรอไง โอ้โหนี่มึงทำเองทั้งหมดเลยเหรอวะ” ต๋องทำหน้าตื่นตาตื่นใจกับอาหารที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ

“ใช่เพื่อมึงเลยนะเนี่ย”

“วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรเหรอวะ”

“ไม่มีอะไรพิเศษหรอกแค่กูอยากจะขอโทษมึงกับหลายวันที่ผ่านมากูมันงี่เง่าเอง”

“เฮ้ย! อย่าคิดมากดิวะกูไม่ได้โกรธมึงเลยเว้ย”

“กูดีใจที่มึงไม่โกรธกู ดื่มฉลองให้กับมิตรภาพของเราหน่อยสิ” ไอร์ยกแก้วเหล้าที่ใส่ยาให้เพื่อนรัก

แกร๊ง!

แก้วสองใบกระทบกันเสียงดังก่อนที่ของเหลวสีชาจะถูกกรอกลงไปในลำคอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนหมด ไม่นานหลังจากนั้นยาปลุกเซ็กส์ก็เริ่มออกฤทธิ์ ต๋องมองเพื่อนรักด้วยสายตาหวานเยิ้ม ร่างกายรู้สึกร้อนวูบวาบด้วยความกระสัน สัมพันธ์กับแก่นกายที่กำลังตื่นตัวจนแข็งแน่นคับเป้ากางเกง ต๋องรีบกระโจนเข้าไปหาเพื่อนรักแล้วอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวทันที หากไม่ได้ปลดปล่อยวันนี้มีหวังเขาได้ตายอย่างแน่นอน

“ไอร์มึงต้องช่วยกูนะกูไม่ไหวแล้ว” ต๋องพูดเสียงกระเส่าใบหน้าแดงก่ำ

“วันนี้กูยอมทำตามใจมึงทุกอย่างเลยต๋อง” พูดแล้วก็ยิ้มหวานให้เพื่อน

ต๋องยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจก่อนจะอุ้มเพื่อนรักเข้าไปในห้องนอนของตัวเองทันที



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



ขอโทษที่ลงช้านะครับ ลืมไปเลยว่าเคยบอกจะลองสองวันตอน 555

หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 20-02-2019 20:36:29
 เค้าจะทำยังไงกันนนนนน
แผนไอซ์จะสำเร็จไหม
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-02-2019 21:42:29
ถึงว่าซิ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 20-02-2019 23:01:39
ฮื่ออ สงสารไอร์อ่ะ
สงสารน้องอันดาที่กำลังจะเกิดมาด้วย
 :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 20-02-2019 23:12:39
ทำไมไอร์ถึงอยากมีลูกมาากขนาดนั้น?
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 20-02-2019 23:35:37
หายไปนานเลย
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 20-02-2019 23:44:07
ไอร์ใจเด็ดมากกกกกกกกกก :z3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-02-2019 02:14:01
ขอให้แผนสำเร็จนะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-02-2019 02:17:34
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 21-02-2019 09:38:18
ยังไงเนี้ยยยย... หรือว่าต้องทำวิจัยเรื่องตั้งท้อง หืมมมม..  :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 21-02-2019 11:52:47
 :katai1:
ตามอ่าน6ตอนรวด
วงวารน้องไอร์ จะต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งหลายปี
แต่ว่าตอนหน้าขอ NC แซ่บๆนะคะ กิกิ :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.6 แผนรีดน้ำเชื้อ [Up. 20-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-02-2019 12:51:56
ตามนั้นอ่าน้อ ตามเป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 22-02-2019 20:49:55
:: ๗ ::
ร้องไห้ครั้งสุดท้าย



“อื้อ ซี๊ดส์!”

“อ๊ะๆ ๆ”

ร่างเปลือยเปล่าของทั้งสองคนกำลังกอดก่ายกันอยู่บนเตียงนุ่มด้วยความร้อนแรง ด้วยฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กส์ทำให้ต๋องใช้เพื่อนเป็นที่ระบายความใคร่อย่างจัดหนักจัดเต็ม แม้จะรู้ว่าคนที่กำลังถูกสอดใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้นจะเป็นเพื่อนรักก็ตาม แต่เจ้าตัวก็ไม่สามารถหยุดการกระทำนั้นได้

“กะ..กูไม่ไหวแล้ว อ๊ากกกส์!!!”

น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งกระฉูดเข้าไปในช่องทางจนไหลเยิ้มออกมา ช่องทางบวมเป่งบ่งบอกว่าผ่านการถูกใช้งานมาอย่างหนักหน่วง เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เพื่อนรักยัดเยียดมันเข้ามาในตัวเขา

แฮ่กๆ ๆ

เสียงลมหายใจหอบเหนื่อยของทั้งสองคนดังขึ้นประสานกัน ร่างกำยำทับทาบอยู่บนร่างเล็กอย่างหมดแรง ก่อนที่ทั้งสองจะนอนหลับไหลไปด้วยความเมื่อยล้าในเวลาต่อมา



เช้าวันใหม่ทั้งสองยังคงนอนกอดก่ายกันในสภาพเปลือยเปล่า มีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปกคลุมส่วนล่างเอาไว้ ไอร์รู้สึกตัวมาได้สักพักแล้วตอนนี้เจ้าตัวกำลังจ้องมองใบหน้าคมที่กำลังนอนหลับไหลอยู่ข้างๆ เขาจะจ้องมองใบหน้าคมนี้ให้นานที่สุด เพราะหากเพื่อนรักลืมตาขึ้นมานั่นหมายถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองก็จะเปลี่ยนไปไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว

ช่วงเวลาแห่งความสุขของไอร์ได้หมดลงเมื่อต๋องเริ่มรู้สึกตัวแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ก่อนจะผลักร่างเล็กของเพื่อนให้ออกห่างจากตัว

“เชี่ยย!!”

“มึงรังเกียจกูขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ไอร์ทำหน้าเศร้าเมื่อเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่าย

“คือ...กูไม่ได้รังเกียจมึงนะเว้ย แต่กูรับตัวเองไม่ได้ที่ต้องมามีอะไรกับเพื่อน ขอโทษนะไอร์ กูขอโทษจริงๆ ที่ทำกับมึงแบบนี้” ต๋องพูดออกมาจากใจจริงใบหน้าที่เศร้านั้นน้ำตาแทบจะไหลลงมาอยู่แล้ว

“แต่กูดีใจที่ได้มีอะไรกับมึง ไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้นเพราะกูไม่ได้เสียใจเลย” ไอร์ยิ้มให้เพื่อนก่อนจะลุกออกจากเตียงไปนอกห้อง แล้วเดินกลับเข้ามาพร้อมกับบางอย่างในมือ

“นี่มึงไม่รู้สึกเสียใจบ้างเลยเหรอที่มีอะไรกับกู กูทำร้ายมึงนะเว้ย”

“กูต่างหากที่ต้องขอโทษมึง”

“มึงพูดอะไรกูงงไปหมดแล้ว มึงบอกกูมาสิวะไอ้ไอร์ว่ามันเกิดเหี้ยอะไรขึ้นกันแน่!” ต๋องตวาดใส่เสียงดัง

“นี่ไงสิ่งที่ทำให้มึงควบคุมสติไม่ได้ กูเอาไอ้ยานี้ใส่เหล้าให้มึงกินเองล่ะ” ไอร์ชูขวดยาปลุกเซ็กส์ให้เพื่อนดูแล้วโยนไปที่เตียง ต๋องหยิบมาดูแล้วก็เลือดขึ้นหน้าพร้อมกับขบฟันแน่นด้วยความโมโห นี่เขาโดนเพื่อนรักที่ไว้ใจมาตลอดวางยางั้นเหรอ มันทำไปเพื่ออะไรหรือว่ามันจะ...

เพล้ง!

ต๋องขว้างขวดยาปลุกเซ็กส์ไปที่ผนังห้องจนแตกกระจุย คนที่ยืนใส่ผ้าขนหนูอยู่นั้นกลับยืนยิ้มพร้อมทั้งน้ำตาที่เพื่อนแสดงอาการเกรี้ยวกราดออกมา เขาตั้งใจที่จะทำให้ต๋องโกรธเกลียดเพื่อที่จะได้เดินออกจากชีวิตเพื่อนได้โดยง่าย

“ไอ้เหี้ยไอร์มึงแบบแบบนี้ทำไมวะ!”

“กูชอบมึงมาตั้งนานแล้วไอ้เหี้ยต๋อง กูขอโทษแต่มึงไม่ต้องห่วงว่ากูจะไปบอกเรื่องนี้กับใคร กูจะไปตามทางของกู มึงก็ใช้ชีวิตแบบคนปกติของมึงต่อไป จากนี้ไปถือซะว่าไม่เคยรู้จักคนอย่างกูละกัน”

“กูไม่นึกเลยว่ามึงจะกล้าทำขนาดนี้ ถ้ามึงจะไปกูก็คงไม่ห้ามเพราะถ้าขืนอยู่ต่อกูคงไม่ไว้ใจคนอย่างมึงแล้ว” แม้จะพูดอย่างนั้นออกไปแต่ภายในใจก็รู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย เขายอมรับว่ารักไอ้เพื่อนคนนี้มากแต่ในฐานะเพื่อนเท่านั้น ที่ผ่านมามันอาจจะเป็นความผิดของตัวเองด้วย ที่ทำตัวสนิทสนมเกินเลยคำว่าเพื่อนไปหลายครั้ง

“ลาก่อนนะเว้ย ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ” ไอร์ยิ้มให้เพื่อนอย่างเนือยๆ พร้อมกับน้ำตา แล้วเดินออกไปจากห้อง

“มึงไม่น่าทำอย่างนี้เลยไอร์ ฮึก ฮือๆ” ในที่สุดต๋องก็ห้ามน้ำตาตัวเองไว้ไม่ได้มันไหลลงมาอย่างหนักหน่วง นี่เป็นการร้องไห้ที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตตั่งแต่เกิดมาก็ว่าได้



หลังจากช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดผ่านไปแล้ว ตอนนี้ไอร์เดินถือกระเป๋าออกมาจากห้องนอน ของใช้และเสื้อผ้าถูกเก็บออกมาจนหมด เขาเห็นเพื่อนรักนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาก็จ้องมองจากด้านหลัง กำลังคิดว่าจะเอ่ยประโยคไหนเพื่อล่ำลาเป็นครั้งสุดท้ายดี หรือว่าควรจะเดินออกไปอย่างเงียบๆ เมื่อหาคำตอบได้แล้วก็เลือกที่จะเดินถือกระเป๋าออกไปโดยไม่เอ่ยคำลาแม้แต่คำเดียว

“นี่มึงไม่คิดจะลากูเลยเหรอ” คนที่ทนไม่ไหวนั่นคือต๋อง เจ้าตัวนั่งหน้าบึ้งอยู่หน้าจอทีวีแต่ไม่ยอมหันไปมองหน้าเพื่อนแม้แต่เสี้ยวเดียว

“กูไปก่อนนะ” ไอร์พูดสั้นๆ พร้อมกับยิ้มน้อยๆ ให้เพื่อน แม้ว่ามันจะไม่ยอมหันมามองก็ตาม

“อืม” พูดแค่นั้นแม้ในใจอยากจะพูดว่า ‘ให้กูไปส่งมึงนะ’ ก็ตาม



ไอร์นั่งแท็กซี่มาที่หอพักแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคณะแพทย์มากนัก เมื่อถึงที่หมายเจ้าตัวก็จ่ายเงินแล้วขนของลงมาจากรถ หลังจากนั้นก็เดินไปที่สำนักงานหอพักเพื่อติดต่อขอรับกุญแจ หลายวันก่อนเจ้าตัวได้มาติดต่อจองห้องพักและชำระค่ามัดจำไว้เรียบร้อยแล้ว

ห้องพักอยู่ชั้นสองซึ่งสามารถเดินขึ้นลงได้สะดวก มีขนาดไม่ใหญ่มาก โดยภายในห้องมีเพียงเตียงนอนและตู้เสื้อผ้าเก่าๆ เท่านั้น ไอร์รีบทำความสะอาดห้องและจัดของเข้าตู้จนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะนั่งพักบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่อดหลับอดนอนมาจากเมื่อคืน และแน่นอนเจ้าตัวอดที่จะคิดถึงเจ้าเพื่อนรักไม่ได้ ป่านนี้จะทำอะไร อยู่ที่ไหน อยู่กับใครกันนะ คิดแล้วก็อดห่วงไม่ได้

Rrrrr….

เสียงเรียกเข้าทำให้เจ้าตัวหลุดจากภวังค์แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอนั่นคือเพื่อนรักนั่นเอง ไอร์นั่งมองอย่างชั่งใจว่าจะรับสายดีหรือไม่ หากรับสายแล้วมันจะทำให้เจ็บปวดอีกก็ควรที่จะตัดขาดทุกอย่างให้จริงจัง ไอร์เลือกที่จะตัดสายทิ้งแล้วปิดเครื่องทันที

“ต่อไปนี้มึงจะเป็นแค่ความทรงจำดีๆ ของกูเท่านั้น”



*-*-*-*-*-*-*



สองเดือนผ่านไป

ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา ไอร์พยายามลุ้นว่าเจ้าตัวเล็กจะมาตอนไหน พยายามทานอาหารที่มีประโยน์และรักษาสภาพจิตใจไม่ไห้เครียด และวันนี้ก็ได้รับข่าวดีเพราะตื่นเช้ามาก็รู้สึกเวียนศีรษะและอาเจียนอยู่ตลอดเวลา เขารู้ดีว่ามันเป็นสัญญาณบ่งบอกอาการของคนท้อง และการที่จะรู้ผลแน่ชัดที่สุดคือการมาตรวจที่โรงพยาบาล

“อาจารย์หมอครับผลเป็นยังไงบ้าง” ตอนนี้เจ้าตัวนั่งลุ้นตัวโก่งจนนั่งเก้าอี้แทบไม่ติด ขณะอยู่ในห้องตรวจกับอาจารย์หมอสมิธในโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย

“ยินดีด้วยนะไอร์ เธอกำลังตั้งท้องสามสัปดาห์แล้ว” เมื่อได้ยินเจ้าตัวก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจจนน้ำตาซึม ไม่ต่างจากอาจารย์หมอที่รู้สึกปลื้มปริ่มกับความสำเร็จในครั้งนี้ด้วย

“เธอโชคดีมากเพราะในอาสาสมัครยี่สิบคน ตั้งท้องเพียงแค่สามคนเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ ต้องเข้าสู่กระบวนการกำจัดมดลูกและรังไข่ทิ้งเพราะไม่สามารถเข้ากับเนื้อเยื่อร่างกายได้”

“ต้องขอบคุณอาจารย์หมอมากๆ นะครับ” ไอร์ยกมือไหว้อีกครั้ง

“แล้วจะบอกพ่อของเด็กรึเปล่าล่ะ”

“คือผมกับเพื่อนตอนนี้เราไม่ได้คุยกันแล้วครับ และคงจะไม่ได้เจอกันอีกตลอดชีวิต” เจ้าตัวพูดแล้วก็ทำหน้าเศร้า

“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอไอร์ แล้วจะบอกลูกว่ายังไงล่ะเรื่องพ่อ”

“ผมคิดว่าลูกคงเข้าใจแน่นอน ผมจะสอนแกให้เป็นคนดีและไม่ขาดความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย”

“ถ้าไอร์คิดดีแล้วอาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าเป็นไปได้ถ้าลูกโตแล้วควรจะให้เขารู้ว่าพ่อของแกเป็นใครนะ” อาจารย์หมอแนะนำ

“เรื่องนั้นเอาไว้ให้ถึงเวลาก่อนละกันครับ”

“เดี๋ยวไปรับยาแล้วก็กลับบ้านได้นะ ส่วนเรื่องเรียนไม่ต้องห่วงเดี๋ยวอาจารย์จะเป็นคนรับรองให้เอง”

“ขอบคุณอีกครั้งนะครับอาจารย์”

ไอร์ยกมือไหว้แล้วออกไปรับยาที่ห้องจ่ายยา ก่อนจะกลับห้องไปเก็บกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้านไปบอกข่าวดีกับผู้เป็นแม่ เขาหวังว่าแม่จะเข้าใจในสิ่งที่ทำมาทั้งหมด แม้ลึกๆ ในใจจะรู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกตั้งแต่แรกก็ตาม



*-*-*-*-*-*-*-*



หลังจากนั่งวินมาถึงหน้าบ้านแล้วไอร์ก็น้ำตาร่วงทันที เขาเห็นแม่กำลังยืนยิ้มให้เหมือนทุกครั้ง ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดทันที ปิ่นแก้วเองก็ตกใจที่ลูกชายมาแปลกกว่าทุกครั้ง

“ฮือๆ ๆ”

“ไอร์เป็นอะไรไปลูกไม่ร้องนะ” เธอกอดลูกชายเอาไว้แน่นมือเรียวก็ลูบหลังเบาๆ เพื่อปลอบใจ

“ถ้าผมทำอะไรผิดไปแม่จะอภัยให้ผมได้ไหมครับ...ฮึก” ไอร์เงยหน้าขึ้นไปมองผู้เป็นแม่ด้วยดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้มาอย่างหนัก

“เรามีกันแค่สองคนนะลูก แม่ไม่มีวันโกรธลูกชายของแม่เด็ดขาด ตั้งแต่เกิดมาไอร์ไม่เคยทำให้แม่ผิดหวังเลยสักครั้ง หากลูกตัดสินใจทำไปแล้วแม่ก็คิดว่าลูกคงคิดดีแล้วแน่นอน” เธอยิ้มให้ลูกชาย

“คือ...ตอนนี้ผมกำลังท้องได้สามสัปดาห์แล้วครับแม่” เจ้าตัวพูดเสียงอ่อย

“ท้อง! เป็นไปได้ยังไงลูก” แม้จะรับในสิ่งที่ลูกชายพูดมาได้ แต่เธอก็ยังสงสัยอยู่ดีเพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ

“ผมเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครงานวิจัยกับอาจารย์หมอครับ เลยทำให้ผมสามารถตั้งท้องได้” ไอร์อธิบายให้ผู้เป็นแม่ฟัง

“แล้วพ่อของเด็กล่ะลูก”

“ไอ้ต๋องครับแม่”

“ต๋องเนี่ยนะ!” เมื่อได้ยินลูกชายบอกปิ่นแก้วถึงกับตกใจอีกครั้ง

“จริงๆ แล้วผมแอบรักไอ้ต๋องมันมานานแล้วครับแม่ แต่ไม่กล้าบอกมันเพราะกลัวว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนจะเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้ผมไม่มีอะไรจะต้องปิดบังมันแล้ว ผมเลวเองครับแม่ผมวางยาเพื่อมีอะไรกับมัน เพราะผมอยากมีลูกกับมัน ฮือๆ” ยิ่งพูดน้ำตายิ่งไหลลงมาไม่ขาดสาย บ่งบอกว่าเจ้าตัวรู้สึดผิดกับเรื่องนี้มากเหลือเกิน

“แล้วแบบนี้ต๋องไม่โกรธแย่เลยเหรอไอร์ แล้วตอนนี้ต๋องรู้รึเปล่าลูกกำลังท้อง” ปิ่นแก้วถาม

“ตอนนี้ผมย้ายออกมาจากคอนโดมันแล้วครับแม่ ผมก็ไม่มีทางให้มันรู้เรื่องลูกเด็ดขาด ตอนนี้มันมีแฟนแล้วผมอยากให้มันมีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป”

“ไม่เป็นไรนะลูก หลานคนเดียวแม่เลี้ยงได้ ดีซะอีกแม่จะได้ไม่เหงา” ปิ่นแก้วยิ้มให้ลูกชาย

“ขอบคุณครับแม่ที่เข้าใจผม ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้แม่เสียใจอีก”

“แม่ไม่เคยเสียใจสิ่งที่ไอร์ทำเลยสักครั้ง ถึงแม้ว่าครั้งนี้มันจะเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่หากลูกตัดสินใจแล้วแม่ก็ยอมรับการตัดสินใจของลูก เราจะเลี้ยงเจ้าตัวเล็กไปด้วยกันนะ” เธอกอดลูกชายเอาไว้

“ครับแม่” ในที่สุดเจ้าตัวก็ยิ้มได้

ระหว่างนั้นไอร์ก็เห็นรถหรูกำลังขับมาแต่ไกล เขาจำได้ดีว่ามันคือรถของเพื่อนรัก

“แม่ไอ้ต๋องมันกำลังมาครับ” ปิ่นแก้วมองไปยังถนนก็เห็นรถหรูที่คุ้นตากำลังวิ่งเข้ามา

“ลูกอยากเจอเพื่อนไหมล่ะ”

“ไม่ครับแม่ บอกว่าผมไม่อยู่นะครับ แล้วก็บอกมันด้วยว่าอย่ามาที่บ้านเราอีก ผมขอร้องนะครับแม่”

“ได้เดี๋ยวแม่จัดการให้ลูกไปหลบก่อนเร็ว”

ไอร์รีบวิ่งเข้าไปหลบหลังตู้แล้วแอบมองผ่านช่องเล็กๆ

ต๋องขับรถมาด้วยความเร็วก่อนจะเบรคกะทันหันจนล้อเสียดสีกับพื้นถนนเกิดเสียงดัง หลังจากนั้นก็เดินลงมาจากรถในชุดนักศึกษา ใบหน้าคมที่เคยสดใสตอนนี้กลับดูหม่นหมองและเต็มไปด้วยหนวดเครา

“สวัสดีครับแม่” ต๋องยกมือไหว้

“สวัสดีจ๊ะต๋องมีอะไรรึเปล่าถึงได้มาหาแม่ที่นี่” ปิ่นแก้วพยายามพูดเหมือนกับว่าไอร์ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย

“ผมมาหาไอร์ครับแม่ ผมมีเรื่องจะพูดกับมัน”

“ไอร์ไม่ได้กลับมาบ้านนานแล้วลูก นี่ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกเหรอ”

“แม่ไม่ได้โกหกผมนะครับ” เขามั่นใจว่าเห็นเพื่อนรักวิ่งเข้าไปในบ้านก่อนหน้านี้และตาไม่ฝาดแน่นอน

“มะ...แม่ไม่ได้โกหกจริงๆ ลูก ไอร์โทรมาเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟังแล้วนะ”

“ผมขอโทษที่ทำร้ายไอร์นะครับแม่” เจ้าตัวก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด และรู้ว่าเพื่อนคงไม่อยากจะเจอหน้า จริงๆ เขาควรจะโกรธแต่ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายมากเมื่อไม่มีไอร์อยู่ในห้อง เขาอยากให้ทุกอย่างมันกลับมาเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าจะให้เลิกกับแฟนคนปัจจุบันก็ยอม

“ต๋องไม่ต้องขอโทษแม่หรอกลูก เพราะไอร์เองก็ใช่ว่าจะไม่มีความผิดเอาเป็นว่าต่อจากนี้ไป....” ปิ่นแก้วถอนหายใจเสียงดังเพราะไม่อยากจะพูดประโยคนี้เลย เพราะหล่อนเองก็รักต๋องเหมือนลูกชายคนหนึ่ง “ต๋องไม่ต้องมาที่บ้านหลังนี้อีกแล้วถือว่าแม่ขอนะ”

“จะให้ผมทำอย่างนั้นได้ไงครับแม่ในเมื่อผมกับมันยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันเลย”

“เรื่องบางเรื่องถึงจะพูดไปมันก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นหรอกนะลูก บางครั้งการจากกันไปแบบนี้มันอาจจะมีผลดีกับเราทั้งสองคนก็ได้นะ”

“ถ้าอย่างนั้นผมฝากบอกมันด้วยนะครับ” ต๋องรู้ว่าเพื่อนรักจะต้องแอบฟังอยู่ที่ไหนสักแห่งในบ้าน เจ้าตัวจึงพูดเสียงดังเพื่อให้อีกฝ่ายได้ยินถนัด “มันเป็นเพื่อนที่ผมรักที่สุดในชีวิตและจะไม่มีใครแทนที่มันได้ ถึงแม้จะมีเรื่องคืนนั้นเกิดขึ้น แต่ผมก็พร้อมที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมยังรอมันเสมอ ถ้าไม่มีคนที่ชื่อไอร์อยู่ข้างๆ ชีวิตผมก็ไม่มีความหมายอะไรเลย แค่นี้ล่ะครับที่ผมอยากจะบอกมัน” ต๋องพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลลงมาต่อหน้าแม่ของเพื่อน

“ถ้ามันไม่ไหวก็ร้องออกมาเถอะลูก เดี๋ยวแม่จะบอกไอร์ให้ก็แล้วกันนะ” เธอเห็นอย่างนั้นก็เจ็บปวดแทนทั้งสองคนไม่น้อย

“ขอบคุณครับแม่ ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” เจ้าตัวยกมือไหว้แล้วเดินคอตกปาดน้ำตากลับไปที่รถ ก่อนจะขับออกไปด้วยความเร็ว

พอรถขับออกจากหน้าบ้านไปแล้วปิ่นแก้วก็หันกลับไปมองลูกชาย ที่กำลังเดินร้องไห้ออกมาหล่อนจึงรีบเดินเข้าไปสวมกอดทันที

“ฮึก ฮือๆ ๆ แม่ครับผมเสียใจจริงๆ”

“ร้องออกมาเลยลูกแล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง”

“วันนี้จะเป็นวันที่ผมร้องไห้วันสุดท้าย พรุ่งนี้ผมจะสู้เพื่อลูกครับแม่”

“ดีแล้วลูกถ้าตัดสินใจแล้วก็ต้องทำให้ได้ เมื่อครู่เห็นสภาพต๋องแล้วใช่ไหม”

“ครับ...เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้วมันจะได้ไปมีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป อีกไม่นานมันเองก็คงจะลืมผมได้เหมือนกัน”

“คนเรารักกันทำไมจะต้องลืมกันด้วยล่ะ เราเองก็เหมือนกันควรจะจดจำสิ่งดีๆ ที่เคยทำร่วมกันมา ในอนาคตเมื่อเจอกันอีกครั้งไอร์เองก็จะรู้ว่าความรู้สึกดีๆ มันไม่เคยจางหายไปจากชีวิตเราแน่นอน” เธอบอกกับลูกชาย

“ผมจะจำคำแม่เอาไว้ครับ”

นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ไอร์เสียน้ำตาให้กับเพื่อนรักเหมือนอย่างที่เคยพูดไว้จริงๆ



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 22-02-2019 21:31:25
เรื่องราวจะเป็นยังงต่อนะ ติดตามมมม
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 22-02-2019 22:11:31
ตัดสินใจแบบนี้แล้วก็สู้ๆนะไอร์
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 22-02-2019 23:18:44
รอครับ
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 23-02-2019 00:07:27
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-02-2019 01:25:44
ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 23-02-2019 01:40:54
รอนะคะ..  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 23-02-2019 02:17:19
ง่ะ ทำไมแม่ไม่สอนอะไรไอร์หน่อยอ่า
แถมยังยอมไล่ต๋องไปจากชีวิตไอร์อีก  :ling1: :ling1:
ยังไงก็ขอให้ทางที่ไอร์เลือกเป็นทางที่ดีแล้วกันนะ  :ruready
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-02-2019 04:49:11
จบเรื่องในอดีต เข้าสู่ปัจจุบันแล้วซินะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 23-02-2019 05:44:21
ต๋องดูชัดเจนว่าไม่ชอบไอย์เกินเพื่อนเลยอ่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 23-02-2019 08:46:22
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 23-02-2019 09:03:26
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.7 ร้องครั้งสุดท้าย [Up. 21-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 23-02-2019 20:57:41
 :pig4:
หัวข้อ: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 24-02-2019 19:51:44
:: ๘ ::
ความลับไม่มีในโลก


สี่ปีต่อมา

ไอร์ขับรถไปรับลูกสาวที่จากโรงเรียนก่อนจะมุ่งหน้ากลับมาที่บ้าน ‘อันดา’ เด็กหญิงหน้าตาน่ารักวัยสี่ขวบ เจ้าตัวเล็กเป็นเด็กดีและฉลาดสมกับที่ไอร์เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูมาอย่างดี

หลังจากเรียนจบและได้เป็นนายแพทย์สมใจ ไอร์ก็เก็บเงินสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับแม่อย่างที่เคยตั้งใจไว้ โดยไม่ลืมที่จะทำร้านขายข้าวแกงไว้หน้าบ้านให้แม่เหมือนเดิม

ไม่นานหลังจากนั้นสองแม่ลูกก็มาถึงบ้าน

“อันดาคิดถึงคุณยายจังเลยค่ะ” เมื่อลงจากรถแล้วอันดารีบวิ่งเข้าไปกอดก็ผู้เป็นยายที่กำลังยืนยิ้มรออยู่หน้าบ้าน

“ปากหวานจริงๆ หลานสาวคนนี้ห่างกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง” เธอหยิกแก้มหลานสาวเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว

“น้องอันดาไม่ได้ปากหวานซะหน่อย” เด็กหญิงพูดขณะถูกผู้เป็นยายอุ้มไว้

“เข้าไปเปลี่ยนชุดก่อนลูกแล้วค่อยออกมาหาคุณยาย” ไอร์พูดกับลูกสาว

“ค่ะคุณแม่” ปิ่นแล้ววางหลานสาวลงที่พื้นแล้วเจ้าตัวเล็กก็วิ่งขึ้นไปเปลี่ยนชุดด้านบน

“วันนี้ลูกค้าเยอะไหมครับแม่”

“วันนี้มาหนาตาเลยล่ะ” ปิ่นแก้วบอกกับลูกชาย

“ผมว่าจะหาคนมาช่วยแม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย” ใจจริงไอร์อยากให้แม่เลิกขายเสียมากกว่า แต่ก็พอจะเข้าใจว่าท่านคงไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ เพราะเคยทำมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“ไม่ต้องหรอกลูกแม่ยังไหว เปลืองเงินเปลืองทองเปล่าๆ ถ้าวันไหนแม่เหนื่อยมากก็แค่ไม่ขายเท่านั้นล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง” เธอยิ้มให้กับลูกชาย

“ถ้าแม่เหนื่อยอย่าฝืนนะครับ ผมไม่อยากให้แม่ลำบากแล้ว”

“ได้จ๊ะลูก”

“เดี๋ยวผมขึ้นไปดูอันดาก่อนนะครับ” พูดแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน

“ไอร์!” เธอทำท่าอึกอักเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง

“มีอะไรครับแม่”

“คือวันนี้...ต๋องมาหาแม่ที่บ้านน่ะลูก” ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาสี่ปีแล้ว หากเป็นไปได้หล่อนก็อยากให้ทั้งสองได้กลับมาพูดคุยกันเหมือนเดิม

“อ้าวเหรอครับ...แล้วมันมาทำอะไรครับแม่” เมื่อได้ยินชื่อนี้อีกครั้งก็ทำให้ไอร์ถึงกับชะงักทันที นานแล้วสินะที่เขาไม่ได้ยินชื่อนี้

“ต๋องฝากเบอร์โทรเอาไว้ให้ลูก บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยแต่อยู่ไม่นานก็กลับ” ปิ่นแก้วยื่นนามบัตรที่ต๋องฝากเอาไว้ให้ลูกชาย ไอร์รับมาแล้วก็ยัดใส่กระเป๋ากางเกงทันที

“เดี๋ยวยังไงผมจะโทรหามันก็แล้วกันครับแม่”

“ลูกโอเคใช่ไหม?”

“ครับแม่ผมทำใจได้นานแล้วแม่ไม่ต้องห่วง” เจ้าตัวยิ้มให้

“ได้ยินอย่างนี้แม่ก็อุ่นใจ...แล้วเรื่องอันดาล่ะ”

“เรื่องอันดาผมคงไม่มีทางให้มันรู้หรอกครับ มันจะเป็นความลับตลอดไป”

“แต่ความลับมันไม่มีในโลกหรอกนะลูก”

“รอให้ถึงวันนั้นก่อนละกันครับ แต่ผมคิดว่ามันคงไม่มีวันนั้นแน่นอน” เจ้าตัวพูดด้วยความมั่นใจ

“แม่ว่าอันดาควรจะได้รู้ว่าพ่อของตัวเองเป็นใครนะ หรือไม่ก็ได้เห็นหน้าสักครั้งก็ยังดี”

“ผมว่าไม่จำเป็นหรอกขอตัวนะครับแม่” ไอร์เดินออกมาด้วยความรู้สึกสับสน ยิ่งคนใกล้ตัวแนะนำเรื่องนี้ยิ่งทำให้ความมั่นอกมั่นใจลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เขาจะรั้งตัวอันดาไว้ในอ้อมอกคนเดียวได้นานแค่ไหนนะ คิดแล้วก็รู้สึกหวั่นใจไม่น้อย



เย็นวันนั้นหลังจากลูกสาวตัวน้อยนอนหลับไปแล้ว เจ้าตัวก็เดินออกมาที่ระเบียงก่อนจะมองไปที่ท้องฟ้าในยามค่ำคืนด้วยความผ่อนคลาย ในมือทั้งสองข้างก็กำโทรศัพท์มือถือและนามบัตรใบนั้นเอาไว้ ไม่นานก็ยกมันขึ้นมาอ่านและก็รู้ทันทีว่าตอนนี้ต๋องมาช่วยงานที่บริษัทในตำแหน่งรองประธาน มือเรียวตัดสินใจกดเบอร์ที่อยู่ในนามบัตรก่อนจะโทรออก

“ฮัลโล...” ทำไมหัวใจมันต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วยนะ เจ้าตัวได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อไล่ความตื่นเต้นออกไป

[“สวัสดีครับนั่นใครพูด”] เสียงที่คุ้นเคยตอบกลับมา อยู่ๆ น้ำตามันก็ไหลลงมาโดยอัตโนมัติ เสียงทุ้มนั่นยังคงเหมือนเดิมเขาจำได้เป็นอย่างดี

“นี่กูเอง” พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น

[“ไอร์! นี่มึงจริงๆ ใช่ไหม”] น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจนั่นทำให้ไอร์ถึงกับยิ้ม

“อื้ม กูเองมึงมีอะไรรึเปล่า”

[“มึงไม่คิดจะถามสารทุกข์สุขดิบกูบ้างเลยเหรอวะ”] เจ้าตัวพูดเหมือนน้อยใจ

“โทษทีว่ะมึงสบายดีไหม”

[“กูสบายดีแล้วมึงล่ะ”]

“กูสบายดี...รีบพูดธุระของมึงมาเถอะกูง่วงแล้ว”

[“พรุ่งนี้มึงว่างไหมกูมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”]

“กี่โมงล่ะพรุ่งนี้กูต้องไปตรวจคนไข้ที่โรงพยาบาล”

[“อ้าวหมอไม่ได้หยุดเหรอวะพรุ่งนี้วันเสาร์นะเว้ย”]

“เป็นหมอต้องทำงานตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเห็นคนไข้ที่ไหนก็ต้องรักษาโว้ย” ตอนนี้ความสนิทและคุ้นเคยเริ่มหวนคืนกลับมาทีละน้อย

[“กูดีใจแทนคนไข้ที่มีหมอดีๆ อย่างมึง เอาเป็นว่ามึงว่างตอนไหนล่ะ”]

“ช่วงบ่ายพอได้ มึงว่างรึเปล่าล่ะ”

[“กูว่างทั้งวันอยู่แล้ว”]

“ถ้างั้นเจอกันที่ร้าน XXX ละกัน”

[“กูไม่ยักรู้ว่ามึงชอบกินไอติมด้วย”]

“บางทีกูอาจจะชอบกินตั้งแต่แรกแล้วก็ได้เพียงแต่มึงอาจจะไม่รู้ ถ้าไม่มีอะไรแล้วกูจะวางละนะ”

[“แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะเว้ย มึงอย่าเบี้ยวนัดกูล่ะ”]

“เออกูไม่ลืมหรอก...บาย”

[“บาย”]

ต๋องวางสายแล้วก็ยิ้มกริ่มด้วยความดีใจ ในที่สุดก็จะได้เจอกับเพื่อนที่เขารักมากที่สุดในชีวิตอีกครั้ง

ไอร์ยืนมองพระจันทร์บนท้องฟ้าสักพักก่อนจะเดินเข้ามานอนกอดลูกสาวตัวเล็กบนเตียง พรุ่งนี้เขาจะพาอันดาไปด้วย อย่างน้อยถึงแม้จะไม่รู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน แต่ได้เห็นหน้าแค่นี้มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว



วันรุ่งขึ้นไอร์ปลุกลูกสาวมาอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้าเพราะจะพาไปที่โรงพยาบาลด้วย ตกช่วงบ่ายก็จะให้เจ้าตัวเล็กได้เจอหน้าพ่อเป็นครั้งแรกอีกด้วย

“ลูกมั่นใจนะว่าจะให้เจอกันตอนนี้”

“ครับแม่...ผมนึกถึงคำพูดของแม่แล้วก็เห็นด้วย อย่างน้อยให้พ่อกับลูกเจอหน้ากันก็ยังดี แต่ผมคงไม่บอกหรอกว่านี่คือลูกของมัน”

“ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนะลูก”

“ขอบคุณครับแม่”

“มาแล้วค้า” เสียงเจื้อยแจ้วดังมาแต่ไกล ขณะที่เจ้าตัวเล็กกำลังเดินลงมาจากบันได

“อย่าวิ่งอย่างนั้นสิเดี๋ยวก็ได้ล้มเอาหรอก” เมื่อได้ยินผู้เป็นแม่บอกอย่างนั้นอันดาก็หยุดวิ่งแล้วเดินมาปกติ

“อันดาไปก่อนนะคะคุณยาย” อันดายกมือไหว้

“อย่าดื้ออย่าซนล่ะเจ้าตัวเล็ก”

“ค่ะน้องอันดาจะเชื่อฟังคุณแม่” ปิ่นแก้วนั่งลงแล้วหอมแก้มหลานสาวทั้งสองข้างสลับกัน ก่อนจะลุกขึ้นแล้วพาไปที่รถ

“ผมไปทำงานก่อนนะครับแม่” ไอร์เองก็ยกมือไหว้ผู้เป็นแม่เช่นกัน เจ้าตัวทำแต่เรื่องดีๆ เป็นตัวอย่างให้ลูกสาวดู เพราะเด็กมักจะเลียนแบบจากผู้ใหญ่และสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัว



*-*-*-*-*-*-*



ช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็วในที่สุดช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับทั้งสองคนก็มาถึง ไอร์กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองดูลูกสาวตักไอศกรีมเข้าปากคำแล้วคำเล่าอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งสองอยู่ในร้านไอศกรีมแห่งหนึ่งย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพมหานคร ไม่นานหลังจากนั้นคนคุ้นเคยที่ไม่ได้เจอกันเสียนานก็เดินยิ้มมาแต่ไกล

“โทษทีว่ะพอดีติดรถมันติด” เมื่อเดินมาถึงเสียงเข้มก็เอ่ยขอโทษเพื่อนที่มาช้ากว่ายี่สิบนาที ช่วงเวลาสี่ปีที่ห่างกันทำให้ความสนิทสนมและคุ้นเคยในอดีตมันไม่แน่นแฟ้นเหมือนแต่ก่อน ทั้งสองยังอายๆ ไม่กล้าสบตากันดีนักได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กัน

“ไม่เป็นไรทำอย่างกับกูไม่เคยรอมึงอย่างงั้นล่ะ” ไอร์ยิ้มเหมือนที่เคยยิ้มให้ก่อนจะหันไปหาลูกสาว “น้องอันดาไหว้ลุงต๋องสิคะ” เขาบอกกับลูกสาวตัวเล็กที่กำลังสนใจไอศกรีมในถ้วยอยู่

“สวัสดีค่ะลุงต๋อง” เจ้าตัวเล็กยกมือไหว้อย่างนอบน้อม สมกับที่ถูกเลี้ยงดูสั่งสอนมาเป็นอย่างดี

“สวัสดีครับคนสวย หนูกี่ขวบแล้วครับ”

“น้องอันดาสี่ขวบแล้วค่ะ”

“น่ารักน่าชังเชียว” ต๋องมองลูกสาวของเพื่อนรักด้วยความเอ็นดู ทว่ากลับนึกสงสัยในใจว่าเพื่อนแต่งงานตั้งแต่ตอนไหนทำไมเขาไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน และที่สำคัญมันไม่น่าเป็นไปได้ที่เพื่อนจะ...แต่งงานกับผู้หญิง “นี่มึงแต่งงานตอนไหนวะกูไม่เห็นรู้เรื่อง” เมื่อได้ยินคำถามเจ้าตัวถึงกับหน้าชาขึ้นมาทันที เขากลัวเหลือเกินว่าจะมีพิรุธจนอีกคนสงสัย

“อย่าถามถึงเรื่องนี้เลยกูไม่อยากพูดถึงมันอีก รู้แค่ว่ากูมีลูกสาวที่น่ารักคนนี้ก็พอแล้ว” เขายิ้มให้เพื่อนก่อนจะถามต่อ “แล้วมึงล่ะแต่งงานมีลูกรึยัง” ไอร์มองหน้าเพื่อนเหมือนไม่ได้รู้สึกว่าเจ็บปวดแต่อย่างใด

“นี่ล่ะที่กูนัดมึงมาวันนี้ กูจะเอาการ์ดงานแต่งมาให้มึง” แม้จะเป็นการแจ้งข่าวที่น่ายินดีให้กับเพื่อน แต่สายตาคมกลับไม่กล้ามองใบหน้าที่คุ้นเคยนั่น เพราะกลัวจะเห็นความเจ็บปวดของอีกคน เขาไม่แน่ใจว่าไอร์ยังคิดกับเขาแบบนั้นอยู่อีกหรือเปล่า แต่แต่งงานทั้งทีเขาก็อยากให้เพื่อนคนนี้ไปร่วมแสดงความยินดีด้วย เขาหยิบการ์ดออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เพื่อน

ไอร์พยายามบังคับมือไม่ให้สั่นแต่มันก็ทำไม่ได้อยู่ดี เขาเอื้อมมือที่สั่นเทาไปรับการ์ดสีชมพูใบนั้นมา ส่วนใบหน้าคมก็ยิ้มแห้งๆ ให้อย่างฝืนทน

“ยินดีด้วยนะเพื่อน ในที่สุดมึงก็เจอคนที่ใช่ซะที แล้วผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นเป็นใครกันวะ” เขาพยายามฝืนถามออกไปแม้ข้างในจะร้องไห้โฮอยู่ก็ตาม

“เป็นรุ่นน้องที่ทำงานว่ะ” ต๋องตอบกลับอย่างไม่เต็มเสียง

ระหว่างที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดอยู่นั้น ลูกสาวตัวเล็กของไอร์ก็เอ่ยขึ้นมา...

“คุณแม่คะน้องอันดาหิวน้ำ”

ต๋องหันขวับไปมองหน้าเพื่อนรักด้วยความสงสัย เขาได้ยินไม่ผิดใช่ไหมที่เด็กคนนั้นเรียกไอร์ว่าแม่

“ทำไมลูกถึงเรียกมึงว่าแม่...บอกกูมา!” เขาจ้องหน้ารอคำตอบอย่างไม่วางสายตา หวังว่าเด็กคนนี้คงจะไม่ใช่ลูกของเขาเหรอกนะ แค่ครั้งเดียวในคืนนั้นมันจะเป็นไปได้เหรอ...ต๋องคิดในใจ แต่อายุของอันดากับช่วงเวลาการมีอะไรกันในครั้งนั้นมันก็ช่างน่าคิดเสียจริงๆ

“เอ่อ....คือกูบอกให้ลูกเรียกเองล่ะ เพราะอันดาชอบบ่นถึงแม่ตลอดลูกจะได้ไม่รู้สึกคิดถึงแม่” ไอร์หลบตาและพยายามหาข้ออ้าง

“แล้วแม่ของเด็กเป็นใคร”

“มึงไม่รู้จักหรอกเลิกพูดถึงเรื่องนี้เถอะกูต้องขอตัวกลับก่อน” ไอร์เก็บการ์ดเชิญเข้ากระเป๋าก่อนจะหันไปหาลูกสาว “น้องอันดาเรารีบกลับไปหาคุณยายกันเถอะค่ะ”

“ค่ะคุณแม่” ไอร์พยายามไม่มองหน้าเพื่อนเพราะกลัวอีกฝ่ายจับผิดได้

“มึงรู้ไหมว่ากำลังมีพิรุธ” ต๋องสังเกตท่าทางของเพื่อนก็พอจะเดาออกว่ามีเรื่องที่ปิดบังอยู่ในใจ

“กูเปล่า!” เจ้าตัวทำหน้ายุ่งใส่เพื่อนก่อนจะหันไปหาลูกสาวอีกครั้ง “อันดาลุกขึ้นเร็วลูก” ไอร์จูงมือลูกสาวจะเดินออกจากร้าน

“กูรู้แล้วนะว่างานวิจัยที่มึงทำตอนปีสี่คืออะไร” ได้ยินอย่างนั้นไอร์ก็ชะงักทันที ต๋องรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกันเพราะมันเป็นความลับที่มีคนรู้แค่เพียงไม่กี่คน

“มะ...มึงรู้ได้ไงใครบอก”

“มึงไม่ต้องรู้หรอกว่าใครเป็นคนบอก รู้แค่ว่ากูรู้เรื่องที่มึงทำทั้งหมดแล้ว”

“กูไม่มีทางเชื่อมึงหรอกถ้ามึงไม่บอกว่ารู้จากใครกูก็ถือว่ามึงคิดเองเออเอง”

“อาจารย์หมอสมิธเป็นคนบอกกูเอง” ในที่สุดต๋องก็จำใจเอ่ยชื่ออาจารย์หมอออกมา หลายวันก่อนเขาได้เจอกับอาจารย์หมอสมิธโดยบังเอิญขณะพาพ่อไปหาหมอที่โรงพยาบาล และเพิ่งได้รู้ว่าอาจารย์หมอเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับพ่อของตัวเองซะงั้น จริงๆ แล้วอาจารย์หมอไม่เคยเห็นหน้าต๋องเลยสักครั้ง แต่ต๋องเคยเห็นหน้าอาจารย์หมอบ่อยๆ ตอนไปรับไปส่งไอร์ที่คณะแพทย์ จึงทักทายพร้อมกับถามข่าวคราวของไอร์ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อาจารย์หมอต้องยอมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังเพราะรู้สึกสงสาร

“มึงรู้จักอาจารย์หมอได้ไงกูไม่เคยแนะนำให้มึงรู้จักสักครั้ง” เมื่อได้ยินชื่ออาจารย์หมอก็ทำให้ไอร์ถึงกับใบหน้าซีดเซียว ไม่นึกเลยว่าความลับที่ปิดมาตลอดสี่ปีจะต้องถูกเปิดเผยในวันนี้

“อาจารย์หมอเป็นเพื่อนพ่อกูเอง ท่านเล่าเรื่องมึงให้กูฟังแต่....ท่านไม่ได้บอกว่ามึงมีลูก”

อันดามองหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองคนสลับไปมาด้วยความสงสัย ต๋องเองก็มองไปที่เด็กหญิงอย่างไม่วางตาก่อนที่ไอร์จะจับตัวลูกสาวไปซ่อนไว้ข้างหลัง

“กูไม่อยากพูดถึงเรื่องในอดีตอีกแล้ว ต่อไปนี้มึงกับกูไม่ต้องมาเจอกันอีก เดี๋ยวซองกูจะให้คนไปส่งที่บ้านให้ละกัน” พูดจบก็หันหลังเดินออกไปหน้าร้าน แต่ต๋องไม่ยอมแน่นอนวันนี้เขาต้องรู้ความจริงให้ได้ว่าอันดาเป็นลูกของตัวเองรึเปล่า เจ้าตัวเดินตามหลังไปแล้วจับที่ข้อมือเพื่อนเอาไว้

“มึงบอกกูมาก่อนว่าอันดาเป็นลูกกูรึเปล่า”

“มึงหยุดพูดเดี๋ยวนี้” ไอร์ชี้หน้าทันทีเพราะกลัวลูกสาวจะสับสน อันดาเป็นเด็กฉลาดต้องมีคำถามแน่นอนเมื่อกลับถึงบ้าน

“ไม่! กูต้องรู้ให้ได้ว่าอันดาเป็นลูกกูรึเปล่า” ต๋องรีบคว้าตัวลูกสาวมาอุ้มไว้ทันที ด้วยความตกใจทำให้อันดาร้องไห้เสียงดัง ส่วนไอร์เองก็ตกใจไม่น้อยแล้วพยายามแย่งตัวลูกสาวกลับคืนมา

“ไอ้ต๋องเอาลูกกูคืนมาดี๋ยวนี้นะ” เขาไม่น่าเอาลูกสาวมาด้วยเลย มันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต

“คุณแม่ช่วยอันดาด้วย แงๆ” เด็กหญิงตัวน้อยพยายามดิ้นเพื่อมาหาแม่

“ถ้ามึงยังไม่ปริปากกูจะพาอันดากลับบ้านด้วย”

“เออ! อันดาเป็นลูกมึง แล้วไงวะมึงจะแต่งงานอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมจะต้องมาวุ่นวายกับกูและลูกด้วยวะ ต่างคนต่างอยู่มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ฮือๆ” เมื่อโดนกดดันอย่างหนักไอร์ก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างไม่มีกั๊ก

“กูยอมทิ้งทุกอย่างได้เพื่อมึงกับลูก!”



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-02-2019 20:01:59
เริ่มจะไม่น่าสงสารแล้ว ต๋อง  :z6:
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 24-02-2019 21:06:33
จะเป็นยังไงต่อนะ ลุ้นนนนนนน
น้องอันดาน่ารัก
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-02-2019 21:13:27
อีต๋องมันใช่เหรอที่จะมาทำต่อหน้าลูกเนี่ย ไปเคลียร์กันดีๆไป๊
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 24-02-2019 21:26:28
แล้วจะทิ้งเจ้าสาวมาได้ไง
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 24-02-2019 21:31:50
เรื่องเริ่มยุ่งแล้วว สงสารน้องอันดา  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 24-02-2019 22:25:31
เอ้าเครียดเลยแบบนี้ เรื่องยุ่งตามมาแน่ๆๆ รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 24-02-2019 22:38:56
จะทะเลาะอะไรกันก็นึกถึงจิตใจเด็กบ้าง จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-02-2019 23:18:16
เอ้า
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 25-02-2019 00:52:29
อะไรของต๋อง แรกไม่คิดอะไรกับเขานิ
ตอนนี้มาบอกว่าเจ้าสาวได้เลยอะเหรอ
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 25-02-2019 02:38:04
คดีพลิก!!!!
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 25-02-2019 08:10:32
 :katai1:
ต๋องงงง อัลไลยังไงของแก๊
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 25-02-2019 11:46:50
ยังไงเนี้ยย..  :hao5:
รีบมาต่อนะคะ..  :katai4:
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 26-02-2019 21:55:22
อะไรของนาง
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-02-2019 22:51:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.8 ความลับไม่มีในโลก [Up. 24-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 27-02-2019 08:20:06
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: ❤️::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 27-02-2019 08:41:43
:: ๙ ::
กูรักมึงนะ



“มึงอย่าเอาทั้งชีวิตมาทิ้งเพราะกูกับลูกเลย กูไม่อยากให้ใครมาสงสารหรือเห็นใจอะไรทั้งนั้น เพราะเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกูเป็นคนเลือกเอง มึงไม่ต้องมารับผิดชอบ กลับไปทำหน้าที่เจ้าบ่าวให้สมบูรณ์แบบเถอะนะ”

“กูเคยบอกแล้วไงว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมึง ได้ยินอย่างนี้แล้วมึงยังจะคิดว่ากูสงสารมึงอีกเหรอวะ”

“แต่มึงก็ไม่ได้รักกูอยู่ดี กูไม่อยากทำร้ายจิตใจใครอีกแล้ว มึงก็เป็นซะอย่างนี้ไม่เคยเห็นใจใครเลย ถ้าว่าที่เจ้าสาวมึงมาได้ยินเข้าเธอจะเสียใจมากขนาดไหนมึงรู้รึเปล่า อย่าเห็นแก่ตัวต่อไปอีกเลยต๋อง มึงชอบผู้หญิงก็ไปใช้ชีวิตอย่างคนปกติซะเถอะ ส่วนลูกกูเลี้ยงได้กูสัญญาว่าจะไม่กีดกันมึงกับลูก มึงจะมาหาอันดาตอนไหนก็ได้ แต่ขอให้มึงกลับไปรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้นเถอะนะ” พูดจบไอร์ก็คว้าตัวลูกสาวมากอดไว้แล้วเดินไปที่รถทันที

ส่วนต๋องได้แต่ยืนมองตามหลังลูกเมียตาละห้อย ยังถือว่าโชคดีที่วันนี้เขาได้รู้ความจริงก่อนที่อะไรมันจะสายไปเสียก่อน เขาจะกลับไปตั้งหลักเพื่อเคลียร์ปัญหาส่วนตัวให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็จะเดินหน้าตามง้อเพื่อให้ได้ลูกกับเมียกลับคืนมาให้ได้

[กูจะตามหัวใจกูกลับคืนมาให้ได้ วันนี้กูรู้แล้วว่าที่ผ่านมาชีวิตไม่มีความสุขเพราะอะไร เพราะกูไม่กล้าบอกรักมึงอย่างที่ใจกูคิดไงล่ะไอร์ จากวันนี้ไปกูจะบอกรักมึงทุกวันเลยนะ]



*-*-*-*-*-*-*



“เกิดอะไรขึ้นลูกทำไมกลับมาในสภาพนี้” ไอร์อุ้มลูกสาวที่กำลังหลับเดินเข้ามาหาผู้เป็นแม่ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

“ไอ้ต๋องมันรู้แล้วครับแม่ว่าอันดาเป็นลูกมัน”

“รู้ได้ยังไง! ไหนไอร์ว่าจะไม่มีทางบอกเรื่องนี้” ปิ่นแก้วเอ่ยถามขณะปูที่นอนให้หลานสาว ก่อนที่ไอร์จะวางตัวอันดาลงอย่างเบามือไม่ให้เจ้าตัวเล็กตื่น

“ผมพลาดเองที่พาอันดาไปด้วยครับ พอเห็นอันดามันก็สงสัยแล้วบังคับให้ผมพูดความจริงครับแม่” ไอร์มีสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จากนี้ไปเขาต้องหาวิธีตั้งรับเพราะต๋องคงจะมาระรานไม่ยอมหยุดแน่นอน

“อย่าคิดมากเลยลูกถือซะว่าทำเพื่ออันดาละกัน อย่างน้อยแกจะได้มีพ่อเหมือนคนอื่นเขาซะที”

“ผมกลัวว่ามันจะยกเลิกงานแต่งน่ะสิครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงรู้สึกผิดกับผู้หญิงคนนั้นมาก”

“นี่ต๋องจะแต่งงานหรอกเหรอ?”

“ครับแม่…ที่มันนัดผมไปก็เพราะจะมาแจกการ์ดให้ แต่หลังจากรู้ความจริงมันก็บอกว่ามันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อผมกับลูกได้ แต่ผมไม่อยากให้มันทำอย่างนั้นเพราะตอนนี้ทุกอย่างมันก็ดีอยู่แล้ว ถึงไม่มันผมกับลูกก็อยู่ได้” ถึงแม้ว่าจะรักต๋องมากแค่ไหนก็ตามแต่เขาคงไม่ยอมให้ใครต้องมาเจ็บปวดกับเรื่องนี้อีกแล้ว

“แต่แม่ว่าถ้าต๋องตัดสินใจแล้วมันก็น่าจะเป็นผลดีกับผู้หญิงคนนั้นมากกว่านะ” ปิ่นแก้วบอกกับลูกชาย

“ดียังไงครับแม่” ไอร์มองหน้าแม่ด้วยความสงสัย

“แม่มั่นใจว่าต๋องรักลูก จำวันที่ต๋องมาบ้านเราได้ไหมแววตาของต๋องมันบอกว่ารักลูกมากเหลือเกิน แต่อาจจะสับสนว่ารักแบบเพื่อนหรือรักแบบคนรักกันแน่ จนมาถึงวันนี้ต๋องบอกว่าสามารถทิ้งทุกอย่างได้เพื่อลูก มันก็ชัดเจนแล้วนะ นั่นถ้าต๋องแต่งงานไปก็เหมือนเป็นการหลอกผู้หญิงคนนั้น การเป็นม่ายขันหมากมันคงจะดีกว่าการได้แต่งงานกับคนที่เขาไม่ได้รักนะลูก” ปิ่นแก้วพูดตามความรู้สึกที่ได้รู้ได้เห็นทุกอย่างมาตลอด

“ผมไม่เชื่อว่ามันจะรักผมแบบคนรักได้ ผมเคยได้ยินกับหูมันพูดกับว่ามันชอบผู้หญิง” เจ้าตัวยังจำเหตุการณ์วันนั้นที่อยู่ในลิฟท์ได้ดี

“ถ้างั้นก็ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ละกัน แต่ลูกคงจะไม่ใจร้ายกีดกันพ่อกับลูกหรอกนะ”

“ไม่หรอกครับผมเองก็อยากให้อันดามีความสุข แต่สำหรับตัวผมคงไม่มีทางยอมรับมันเป็นอย่างอื่นได้นอกจากเพื่อน เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้แล้วครับแม่” แม้จะพูดออกไปอย่างนั้นแต่เจ้าตัวกลับถอนหายใจเสียงดัง เพราะมันขัดกับความรู้สึกภายในใจ

“แม่ยังเคารพการตัดสินใจของไอร์เสมอ ไม่ว่าผลออกมามันจะเป็นยังไงแม่ก็ให้กำลังใจลูกเสมอนะ” ปิ่นแก้วสวมกอดลูกชายเพื่อให้กำลังใจ เธอภาวนาให้ไอร์ทำตามคำเรียกร้องของหัวใจมากกว่าสิ่งอื่นใด “ขอบคุณครับแม่” ไม่ว่าชีวิตจะผ่านเรื่องราวที่ทำให้ทุกข์ใจมากแค่ไหนก็ตาม แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เคยที่จะอยู่ห่างเขาเลยสักครั้ง ไอร์จะเป็นแม่ที่ดีเหมือนกับที่แม่ของเขาทำให้ดูเป็นตัวอย่างตลอดมา



*-*-*-*-*-*-*-*



หลังจากแยกกับลูกและเมียมาแล้วต๋องก็บึ่งรถกลับมาที่บ้าน เขาตั้งใจจะมาบอกความจริงทั้งหมดกับพ่อและแม่ เพื่อที่จะได้ขอยกเลิกงานแต่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ โชคดีที่วันนี้ทั้งสองคนอยู่บ้านอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน มันเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นไม่ได้บ่อยมากนัก

“พ่อครับ แม่ครับ” เมื่อเดินเข้ามาในบ้านเจ้าตัวก็ยกมือไหว้แล้วเดินไปนั่งที่โซฟา

“มีอะไรรึเปล่าลูกดูท่าทางแปลกๆ นะเรา” กานดาเอ่ยถามหลังจากจิบชาในถ้วยแล้ววางไว้บนโต๊ะกระจก

“คือผมมีเรื่องจะบอกครับ” ก่อนเข้ามาข้างในเจ้าตัวทำใจมาบ้างแล้วหากจะโดนพ่อกับแม่ด่าก็ยอม แต่เขาไม่มีทางให้งานแต่งครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“งานแต่งมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ” วีระพลเอ่ยกับลูกชายแต่สายตายังจ้องอยู่ที่หน้าจอแท็บเล็ต

“ผมจะขอยกเลิกงานแต่งครับ”

“ว่าไงนะ!” กานดาหันขวับไปมองหน้าลูกชายด้วยความตกใจ ไม่ต่างจากวีระพลที่วางแท็บเล็ตลงบนตักแล้วหันหน้ามามองทันที

“แกจะทำให้พ่อกับแม่เสียหน้ารู้รึเปล่า” วีระพลว่าให้ลูกชายพร้อมกับมองหน้าด้วยความไม่พอใจ

“ผมขอโทษที่ต้องทำอย่างนี้ เพราะผมต้องไปรับผิดชอบเมียกับลูกครับ”

“เมียกับลูก! ทำไมแกไม่บอกเรื่องนี้ก่อนล่ะปล่อยให้เรื่องเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ได้ยังไงกัน” กานดาเริ่มขึ้นเสียง

“ผมเองก็เพิ่งจะทราบวันนี้ว่าผมมีลูกสาวอายุสี่ขวบแล้วครับ” เจ้าตัวรับสารภาพแต่โดยดี

“สี่ขวบแล้ว! นี่แกไปไข่ทิ้งไว้ตั้งแต่เรียนมหาลัยเลยเหรอเนี่ย ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครบอกแม่มา” กานดาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกชายจะมีพฤติกรรมอย่างนี้ แม้จะไม่ได้อยู่เลี้ยงดูเต็มเวลาเหมือนแม่คนอื่นๆ แต่เธอก็รักและห่วงลูกชายมาก หากเป็นเรื่องจริงเธอก็พร้อมที่จะรับฟัง

“ไอร์ครับ คนที่เป็นแม่ของลูกผมคือไอร์”

“นี่แกล้อแม่เล่นใช่ไหม หนูไอร์จะมีลูกได้ยังไงกัน” กานดาหัวเราะขึ้นมาเพราะคิดว่าลูกชายแกล้งพูดตลกเล่นเท่านั้น

“มันเกิดขึ้นแล้วครับแม่ ไอร์มีลูกได้จริงๆ ผมกับไอร์เรามีอะไรกันตอนปีสี่ก่อนจะเรียนจบแค่ไม่กี่เดือน”

“ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับหนูเบลเพราะพ่อกับแม่อุตส่าห์ไปสู่ขอด้วยตัวเอง” วีระพลรับเรื่องดังกล่าวไม่ได้จึงไม่มีทางให้งานแต่งครั้งนี้ล่มแน่นอน

“พ่อกับแม่ห่วงแต่หน้าตาทางสังคมไม่เคยห่วงผมเลย ผมกับน้องเบลเราไม่ได้รักกัน พ่อกับแม่ก็ยังบังคับพวกเราเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง น้องเบลเองมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็ต้องยอมเพราะโดนบังคับ ผลของการอยู่อย่างไม่ได้รักกันมันเป็นยังไงพ่อกับแม่ก็รู้ดีนี่ครับ ผมนี่ไงที่ต้องมารับผลกรรมที่พ่อกับแม่สร้างไว้ ครอบครัวแตกแยกพ่อไปทางแม่ไปทาง พ่อกับแม่ไม่เคยรู้เลยว่าผมต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตลอด มันเจ็บปวดมากแค่ไหนรู้รึเปล่าครับ แล้วทีนี้จะมาหวังอะไรกับผมอีกงั้นเหรอ ให้ผมทำตามใจตัวเองบ้างสักครั้งเถอะนะ” เจ้าตัวระบายความในใจที่เก็บเอาไว้มาตลอดชีวิตให้พ่อกับแม่ฟัง น้ำตาของลูกผู้ชายไหลลงมาต่อหน้าผู้มีพระคุณทั้งสอง ต๋องนั่งก้มหน้าปล่อยให้น้ำตามันไหลลงพื้นอยู่อย่างนั้น

ทั้งกานดาและวีระพลมองหน้ากันด้วยความรู้สึกผิด มันก็จริงต่างฝ่ายต่างไปมีครอบครัวใหม่ ทิ้งให้ลูกชายอยู่บ้านกับคนรับใช้จนกลายเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว อีกทั้งเรื่องแต่งงานทั้งสองก็แสวงหาลูกสาวของเพื่อนนักธุรกิจที่บังเอิญเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทาลัยของต๋องด้วย ทั้งๆ ที่รู้ว่าเด็กทั้งสองคนไม่ได้ชอบพอกัน แต่ก็ยังบังคับเพราะเห็นว่าเหมาะสมกันดี พอได้ยินอย่างนั้นกานดาก็เดินเข้าไปโอบกอดลูกชายเอาไว้ เธอเองก็ห้ามน้ำตาตัวเองไว้ไม่ได้ ยิ่งเห็นลูกชายร้องไห้อย่างนั้นก็ยิ่งทำให้รู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก

“แม่ขอโทษนะที่ไม่เคยใส่ใจลูกเลย แม่ขอโทษจริงๆ ฮึก ฮือๆ”

วีระพลยืนเท้าสะเอวเงยหน้าขึ้นเพื่อกลั้นน้ำตาเอาไว้ หลังจากมองดูลูกกับเมียกอดกันอยู่อย่างนั้น

“ผมรักไอร์ครับแม่ผมอยากมีลูกมีเมีย มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนกับคนอื่นบ้าง ฮึก” เจ้าตัวพูดพร้อมกับสะอื้นออกมาเป็นระยะๆ อย่างกับเด็กน้อย

“แม่จะเป็นคนไปคุยกับทางโน้นให้เอง ไม่ต้องห่วงนะลูกแม่จะไม่ให้ลูกต้องฝืนใจทำอะไรอีกแล้ว”

“ขอบคุณครับแม่ ผมรักแม่นะครับ” ต๋องยิ้มทั้งน้ำตาพร้อมกอดผู้เป็นแม่เอาไว้แน่น แม้ที่ผ่านมาเขาจะคิดว่าแม่ไม่เคยใส่ใจแต่ครั้งนี้ความคิดเหล่านั้นมันได้หายไปหมดแล้ว

“เดี๋ยวพ่อจะไปกับแม่ด้วยละกัน” วีระพลเอ่ยเสียงเข้มแม้จะอยากกอดลูกชายมากเหลือเกิน นานแล้วสินะที่เขาไม่เคยมอบอ้อมกอดนี้ให้ลูกชายเลย คิดแค่ว่าให้เงินใช้อย่างเต็มที่มันอาจจะทดแทนกันได้ แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดเขาละเลยหน้าที่ความเป็นพ่อที่ดีมาตลอด

“ขอบคุณคุณพ่อที่เข้าใจผมนะครับ” ต๋องแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลย ผู้เป็นพ่อที่เคยห่วงหน้าตาทางสังคมมากกว่าสิ่งอื่นใด แต่ครั้งนี้กลับยอมบากหน้าไปยกเลิกงานแต่งให้ซะอย่างนั้น ถึงแม้ที่ผ่านมาครอบครัวจะไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนใครๆ แต่วันนี้ต๋องก็ได้รู้แล้วว่าคนทั้งสองรักเขามากขนาดไหน

“พรุ่งนี้พาไอร์กับลูกมาหาแม่ได้ไหม แม่อยากเห็นหน้าหลานจะแย่แล้ว”

“คงยังไม่ได้ครับแม่เพราะตอนนี้ไอร์เค้ายังไม่ได้เปิดใจรับผมเหมือนแต่ก่อน แต่ไอร์ก็ไม่ได้กีดกันผมกับลูกหรอกนะครับแค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว”

“ลูกรักไอร์ไหมล่ะ”

“รักสิครับ ตอนแรกผมก็คิดว่ารักมันแบบเพื่อน แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมรักมันมากกว่านั้น เพราะสี่ปีที่เราห่างกันไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงมันเลย” ต๋องเปิดอกคุยกับแม่

“ถ้ารักก็ไปง้อลูกสะใภ้แม่ให้ได้นะ แม่เชื่อว่าลูกทำได้” กานดาจับที่ต้นแขนทั้งสองข้างของลูกชายแล้วบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ ใบหน้าสวยก็ยิ้มออกมาไม่ยอมหยุด

“ผมจะทำให้ได้ครับแม่”

“เร็วๆ ด้วยล่ะพ่ออยากเห็นแกพาลูกกับเมียมาไหว้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน” ทำหน้าเข้มแต่ก็ยอมเอ่ยให้กำลังใจลูกชายทางอ้อม

“ครับพ่อ” ต๋องหันไปยิ้มให้ผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเอ่ยประโยคที่อยากพูดมานานแล้ว “ผมขอกอดพ่อกับแม่พร้อมกันได้ไหมครับ”

วีระพลไม่รอช้ารีบเดินมาหาลูกชาย แล้วทั้งสามคนก็ยืนกอดกันด้วยความเข้าใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ต๋องรู้สึกได้ถึงความป็นครอบครัว มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ก็ตามแต่นี่คือความสุขที่สุดในชีวิตแล้ว หลังจากนี้เขาจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ไอร์และลูกมาอยู่ข้างกายให้ได้



*-*-*-*-*-*-*



หลังจากเคลียร์ปัญหาส่วนตัวกับพ่อแม่เรียบร้อยแล้ว เช้าวันต่อมาต๋องก็ไปที่ร้านดอกไม้ก่อนจะบึ่งรถมาที่บ้านของไอร์พร้อมกับดอกกุหลาบช่อใหญ่

“สวัสดีครับแม่” วันนี้ต๋องแต่งตัวหล่อเป็นพิเศษ ครั้งนี้เจ้าตัวไม่ได้มาในฐานะเพื่อนของลูกชายแต่มาในฐานะลูกเขย เพราะตั้งใจจะมาทำคะแนนและเริ่มต้นจีบไอร์ใหม่อีกครั้ง

“อ้าวมาตั้งแต่เช้าเชียวต๋อง” ปิ่นแก้วกำลังเตรียมเปิดร้านก็เห็นเพื่อนลูกชาย ไม่สิตอนนี้ต้องเรียกว่าพ่อของหลานเดินหล่อถือดอกกุหลาบช่อใหญ่เข้ามา

“ผมมาหาไอร์ครับ”

“ยังไม่ลงมาเลยคงแต่งตัวให้อันดาอยู่มั้งจ๊ะนั่งรอก่อนนะ”

“ครับแม่แล้วมีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า” ต๋องวางช่อกุหลาบไว้บนโต๊ะแล้วก็เดินมาหาปิ่นแก้วเหมือนกับอยากเอาใจเพื่อทำคะแนน

“ไม่มีจ๊ะ” ปิ่นแก้วยิ้มให้เหมือนจะรู้ว่าอีกฝ่ายพยายามเอาอกเอาใจ

“ปกติแล้วไอร์กลับบ้านกี่โมงครับแม่” เจ้าตัวเริ่มตะล่อมถามเพื่อเก็บข้อมูล

“เวลาไม่แน่นอนหรอกลูกเพราะบางทีคนไข้เยอะก็จะกลับเย็นหน่อย แต่วันไหนคนไข้น้อยก็จะไปรับอันดาที่โรงเรียนถึงบ้านก็เกือบห้าโมงเย็นจ๊ะ”

“ขอบคุณครับแม่” ต๋องยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะมีแผนในหัวเรียบร้อยแล้ว

“ทำไมต้องยิ้มขนาดนั้นด้วยล่ะลูก”

“เปล่าครับแม่ไม่มีอะไร”

“แม่รู้ทันหรอกน่า” ปิ่นแก้วมองหน้าอย่างรู้ทันก่อนจะยิ้มให้

“แม่ไม่ว่าใช่ไหมครับที่ผมจะมาที่นี่บ่อยๆ”

“แล้วว่าที่เจ้าสาวเราไม่ว่าเอาหรอกเหรอ?” หล่อนต้องถามเพื่อเตือนสติอีกครั้ง หากมันยังคาราคาซังก็ไม่อยากให้ต๋องมาที่นี่บ่อยมากนัก

“เรื่องนั้นผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับแม่ จริงๆ แล้วเราโดนผู้ใหญ่บังคับให้แต่งงานกัน แต่ตอนนี้พ่อกับแม่ผมท่านไปคุยกับทางโน้นให้ยกเลิกงานแต่งแล้วครับ”

“ต๋องคิดดีแล้วใช่ไหมลูกที่จะทำอย่างนี้”

“ครับแม่ผมอยากจะดูแลไอร์กับลูกตลอดไปครับ”

“ถ้าต๋องตั้งใจขนาดนี้แม่ก็เปิดไฟเขียวเต็มที่จ๊ะ”

“ขอบคุณมากๆ นะครับแม่” เมื่อได้ยินอย่างนั้นต๋องก็ยกมือไหว้ยกใหญ่ด้วยความดีใจ อย่างน้อยเขาก็ผ่านด่านแรกไปได้เรียบร้อยแล้ว

“คุณยายค่ะอันดามาแล้ววว” เสียงเด็กหญิงตัวเล็กดังเจื้อยแจ้วมาแต่ไกล ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองทันที

“ลูกสาวพ่อมาแล้ว” ต๋องมองลูกสาวด้วยความเอ็นดูก่อนจะเดินเข้าไปหา เมื่อไอร์เห็นอย่างนั้นก็กันตัวลูกสาวไว้

“มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย” ไอร์ชักสีหน้าใส่คนที่กำลังยืนยิ้มให้อยู่ตรงหน้า

“คงไม่ได้หรอกเพราะวันนี้กูตั้งใจจะมาบอกว่า...กูรักมึงนะ” พูดพร้อมกับยื่นช่อกุหลาบให้ทันที



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Rach ที่ 27-02-2019 11:23:40
ซึ่ง อ่าาา 
อย่าพึ่งยอมนะไอร์
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 27-02-2019 12:11:10
ง้อหนักๆนะต๋อง
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 27-02-2019 12:20:34
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 27-02-2019 13:03:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 27-02-2019 13:45:10
เข้าทางคุณแม่ใจแข็ง
ก็เข้าทางลูกน้อยน่ารักก็ได้ครับต๋อง
คุณพ่อสายเปย์ อันดาอยากมีคุณพ่ออยู่แล้ว
+1 ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 27-02-2019 13:57:56
หืมมม..
หายไปสี่ปี.. กลับมาอีกที บอกรัก..
ผมงง.. 555+
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-02-2019 14:23:02
ของงแทนน้องอันดาได้ไหมคะ พ่อแม่เล่นหนังอินเดียกันอยุ่ป้ะ
ปมมาตั้งแต่เรียกผช.ว่าแม่แล้วเด้อ เวลาลูกเข้าโรงเรียนจะเอาไงล่ะ
อิต๋องก้อดูพึ่งไม่ได้จ้า
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 27-02-2019 15:10:28
ภารกิจง้อเมียเริ่มแล้วจ้าาาา
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 27-02-2019 17:29:22
รีบง้อร้าาา
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-02-2019 18:32:14
แล้วถ้าไอส์ไม่มีลูก มันจะต่างจากนี้ไหม  :hao4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-02-2019 20:39:57
 :pig4: :pig4: :pig4:

งง ๆ กับไทม์ไลน์

ย้อนหลังไปแปดปี ตอนนั้นอยู่ ม.สี่  ถัดมาอีกสามปีอยู่มหาวิทยาลัยปี่สี่

ตอนที่เหลือก็เป็นการง้องอนสินะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 27-02-2019 20:48:03
หืมมมม บอกรักเลยเหรอ  :a5:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 27-02-2019 21:03:23
จร้าา ต๋อง อย่าหวังว่าไอร์จะกลับไปง่ายๆ :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-02-2019 23:56:04
ไปไวมาไว
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 28-02-2019 03:02:31
 ถ้ารักกันจริงๆต๋องก็ต้องออกมาง้อไอร์ตั้งแต่แรกๆแล้วสิ นี่ปล่อยผ่านมาตั้ง 4 ปีเลยนะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.9 กูรักมึงนะ [Up. 27-02-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 28-02-2019 09:02:19
โอ๊ยยยย จะง้อไอร์ได้มั้ยเนี่ยยต๋องงงง
ไอร์จะใจแข็งนานมั้ยอ่ะะะะะะะะ
 :katai1:
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.10 ช่อดอกไม้ [Up. 01-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 01-03-2019 11:55:32
:: ๑๐ ::
ช่อดอกไม้


“เก็บไว้ใช้กับผู้หญิงของมึงเถอะ” ไอร์เมินหน้าแล้วหันไปพูดกับผู้เป็นแม่ต่อ “แม่ครับผมไปแล้วนะ” เจ้าตัวยกมือไหว้

ต๋องยิ้มเจื่อนเหมือนใบหน้าแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นับล้านชิ้น

“ขับรถดีๆ ล่ะลูก” ปิ่นแก้วบอกกับลูกชายก่อนจะปรายตามองแขกผู้มาเยือนด้วยความเห็นใจ

“ครับแม่”

“อันดาไหว้คุณยายเร็วลูก”

“อันดาไปโรงเรียนก่อนนะคะคุณยาย” เด็กหญิงตัวน้อยยกมือไหว้อย่างนอบน้อม

“อย่าซนล่ะวันนี้เดี๋ยวยายทำขนมไว้รอ”

“น้องอันดาจะเป็นเด็กดีค่ะคุณยาย” อันดาพูดกับยายแล้วหันไปมองหน้าผู้เป็นพ่อ ที่กำลังส่งยิ้มมาให้เจ้าตัวเห็นอย่างนั้นก็ทำหน้านิ่งเพราะยังรู้สึกตื่นกล้วกับเหตุการณ์เมื่อวาน

“อันดามาหาพ่อสิลูก” ต๋องนั่งยองๆ กับพื้นแล้วอ้าแขนรอ

“คุณแม่บอกว่าพ่อของอันดาอยู่บนสวรรค์” เด็กหญิงพูดหน้าซื่อแล้วมองหน้าผู้เป็นแม่

ปิ่นแก้วมองลูกชายแล้วพยักหน้าสื่อว่าให้บอกความจริงเสียที

“น้องอันดาคะ...แม่มีอะไรจะบอก จริงๆ แล้วพ่อของหนูไม่ได้อยู่บนสวรรค์หรอกลูก แต่คนที่อยู่ตรงหน้านี้ต่างหากที่เป็นพ่อของหนู” ไอร์นั่งลงแล้วพูดต่อหน้าลูกสาว

“เข้าไปหาพ่อสิอันดา” ปิ่นแก้วบอกกับหลานสาว

ต๋องยิ้มกริ่มพร้อมกับอ้าแขนรอลูกสาวอย่างใจจดใจจ่อ อันดาค่อยๆ เดินเข้าไปก่อนจะสวมกอดผู้เป็นพ่ออย่างช้าๆ ผู้เป็นพ่อรู้สึกมีความสุขมากจนน้ำตาซึมออกมา ก่อนจะผละตัวลูกสาวออกมาหอมแก้มทั้งสองข้างด้วยความเอ็นดู

“อันดาลูกพ่อ”

“คุณลุงเป็นพ่ออันดาจริงๆ ใช่ไหมคะ”

“ใช่ค่ะ...พ่อต๋องเป็นพ่อของอันดาจริงๆ ไหนเรียกพ่อต๋องให้พ่อชื่นใจหน่อยสิ” ต๋องยิ้มกริ่มจ้องหน้าลูกสาวรอฟังคำที่อยากได้ยินมากที่สุดในชีวิต

“พ่อต๋อง” อันดายอมทำตามคำสั่งโดยง่ายก่อนจะยิ้มน้อยๆ ออกมา ในที่สุดความฝันของเด็กหญิงก็เป็นจริงขึ้นมา อันดาอยากมีพ่อเหมือนคนอื่นบ้าง โดยเฉพาะเวลาไปโรงเรียนเพื่อนมักจะมาพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก แต่ตัวอันดาเองกลับมีแค่แม่เท่านั้น

“อันดาของพ่อ” ต๋องกอดลูกสาวอีกครั้งอย่างแนบแน่น

“อันดารีบไปโรงเรียนกันเถอะลูก” ไอร์เอ่ยเรียกลูกสาวเพราะให้เวลากับต๋องมากเกินไปแล้ว

“อันดาอยากให้คุณพ่อไปส่ง” เด็กหญิงอยากจะอวดเพื่อนๆ ว่าตัวเองก็มีพ่อเหมือนกัน

“ไม่ได้อันดาต้องไปกับแม่” ไอร์ดุให้ลูกสาวเสียงดังจนเจ้าตัวเล็กถึงกับหน้าเสีย

“ทำไมมึงต้องดุลูกด้วยวะ เดี๋ยวกูจะไปส่งลูกเอง” ต๋องอุ้มลูกสาวขึ้นทันที

“ไม่ได้ลูกต้องไปกับกู” ไอร์ไม่ยอมก่อนจะเดินไปแย่งตัวลูกสาวมา

“ไอร์ให้ต๋องไปส่งอันดาเถอะ อยากให้ลูกมีความสุขไม่ใช่เหรอ” ปิ่นแก้วปรามลูกชายไว้ ไอร์เริ่มได้สติจึงพยายามสงบสติอารมณ์

“กูให้มึงไปส่งอันดาก็ได้แต่ไม่ยอมให้อันดาคลาดสายตาแน่นอน เดี๋ยวกูจะขับรถตามไปด้วย”

“ทำไมไม่ไปคันเดียวกันเลยล่ะ เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่โรงพยาบาลด้วย” ต๋องยิ้มให้

“ไม่จำเป็นกูไปเองได้”

“ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับแม่” ต๋องยกมือไหว้

“จ๊ะ” ปิ่นแก้วยิ้มให้

ต๋องอุ้มลูกสาวเดินไปที่รถโดยมีไอร์เดินตามหลัง

“มึงไม่ไปกับกูจริงๆ เหรอวะ”

“ไม่ล่ะ” พูดจบก็เดินไปที่รถของตัวเอง ส่วนต๋องก็พาลูกสาวขึ้นรถแล้วขับออกไป



ขณะอยู่บนรถ

“น้องอันดาเรียนที่ไหนคะ” ต๋องถามลูกสาว

“อันดาเรียนที่ XXXX ค่ะ”

“น้องอันดาอยากให้พ่อมาส่งทุกวันรึเปล่าน๊า”

“คุณพ่อมาส่งอันดาทุกวันได้เหรอคะ” เจ้าตัวเล็กหันหน้าไปมองผู้เป็นพ่อ

“ได้สิคะเพื่ออันดาพ่อทำได้ทุกอย่างเลยนะ”

“เย้! อันดาจะได้อวดเพื่อนว่ามีพ่อเหมือนกัน เพื่อนชอบล้ออันดาว่าไม่มีพ่อตลอดเลย” เด็กหญิงแก้มป่องเอ่ยออกมา

ต๋องได้ยินก็สะอึกทันทีเขาทำให้ลูกต้องมีปมด้อยมาตลอดเลยงั้นเหรอ ต่อไปนี้ใครหน้าไหนก็ไม่มีทางว่าลูกสาวได้อีกแล้ว

“ต่อไปนี้พ่อจะมาหาอันดาทุกวันเลยดีไหมคะ”

“ดีที่สุดเลยค่ะคุณพ่อ”

“พ่อจะไม่จากอันดาไปไหนอีกแล้วพ่อสัญญา”

“สัญญาแล้วนะคะ” เด็กหญิงชูนิ้วก้อยขึ้นมา ต๋องเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มแล้วผละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยมาเกี่ยวก้อยลูกสาว

“พ่อสัญญาค่ะ”

หลังจากรู้ว่าตัวเองมีพ่อเหมือนคนอื่นๆ อันดาก็ร่าเริงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างทางเจ้าตัวชวนผู้เป็นพ่อคุยไม่ยอมหยุดแม้แต่วินาทีเดียวจนถึงโรงเรียน





เมื่อถึงหน้าโรงเรียนต๋องก็จอดรถไว้ข้างถนน แล้วจูงมือลูกสาวมายืนรอไอร์ที่กำลังจอดรถ

“อันดามาหาแม่เร็ว” เมื่อเดินมาถึงไอร์ก็เอ่ยกับลูกสาวทันที แต่ไม่ยอมมองหน้าอีกคน

“คุณแม่นั่นล่ะมานี่ค่ะ” อันดากวักมือเรียก

ต๋องมองหน้าแล้วก็ยิ้มที่มุมปาก ตอนนี้อันดาเห่อเขาเป็นที่สุดนั่นทำให้เป็นต่อในทุกๆ เรื่องเพราะมีลูกสาวให้ท้าย

“เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อฟังแม่แล้วใช่ไหม” ไอร์ดุลูกสาวอีกครั้งจนเจ้าตัวก้มหน้าลง

“ทำไมต้องดุลูกด้วยล่ะ ไม่ดีรึไงที่ลูกของเราจะได้มีทั้งพ่อและแม่มาส่งที่โรงเรียนอย่างพร้อมหน้าเหมือนคนอื่นๆ” ต๋องกอดลูกสาวเอาไว้

“มึงไม่ต้องมายุ่งเลยกูจะสอนลูกเอง”

“อันดาก็เป็นลูกกูเหมือนกันทำไมกูจะยุ่งไม่ได้”

“บอกไม่ได้ก็ไม่ได้สิวะ” ไอร์เริ่มขึ้นเสียงใส่

“เถียงกันต่อเลยนะคะอันดาจะเข้าไปแล้ว” เมื่อเห็นพ่อและแม่ยืนเถียงกันอยู่ตรงหน้า อันดาก็เดินหน้าบึ้งไปหาคุณครูที่ยืนรออยู่หน้าโรงเรียน แทนที่วันนี้จะได้อวดเพื่อนๆ แต่พ่อกับแม่กลับยืนเถียงกันซะอย่างนั้น

“อันดา!” ทั้งสองคนตะโกนขึ้นพร้อมกันแล้วรีบเดินตามหลังลูกสาวไป

“แม่ขอโทษนะลูก” ไอร์บอกกับลูกสาวเมื่อเดินมาถึง

“พ่อก็ขอโทษนะลูก ต่อไปนี้พ่อกับแม่จะไม่เถียงกันต่อหน้าลูกอีกแล้วนะ พ่อกับแม่จะมาส่งอันดาทุกวันเลยดีไหม” ต๋องใช้โอกาสนี้โอบไหล่ไอร์เอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เจ้าตัวเห็นอย่างนั้นก็ทำหน้าดุใส่แต่ต๋องกลับยิ้มหน้าระรื่นให้ “จริงไหมครับที่รัก” ตอนนี้อยู่หน้าลูกสาวไอร์จำต้องยอมตอบรับแต่โดยดี

“จริงครับ” เจ้าตัวกัดฟันพูดเสียงต่ำ แล้วหันไปยิ้มให้ลูกสาว

“เย้ๆ อันดาดีใจที่สุดเลยค่ะ” พูดแล้วก็แทรกตัวเข้ามาตรงกลางก่อนจะจูงมือทั้งสองคนเดินเข้าไปหาคุณครู

“สวัสดีค่ะคุณครู” เด็กหญิงอันดายกมือไหว้แล้วมาจับมือพ่อกับแม่ไว้เหมือนเดิม

“สวัสดีค่ะน้องอันดาทำไมวันนี้ยิ้มมาแต่ไกลเชียว”

“ก็วันนี้อันดามีคุณพ่อมาส่งที่โรงเรียนด้วยนี่คะ” เจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นไปมองผู้เป็นพ่อแล้วยิ้มกว้าง

“ว้าวครูดีใจด้วยนะคะ”

“ขอบคุณค่ะคุณครู”

“สวัสดีครับผมชื่อภูวดลหรือเรียกว่าต๋องก็ได้ครับ ผมเป็นพ่อแท้ๆ ของอันดาครับ” ต๋องแนะนำตัวกับคุณครู

“สวัสดีค่ะคุณต๋อง ครูดีใจที่น้องอันดามีทั้งพ่อและแม่มาส่งเหมือนกับคนอื่นซะที ตอนอยู่ในห้องเรียนแกก็ชอบบ่นให้ครูฟังบ่อยๆ ว่าอยากมีพ่อเหมือนคนอื่นเขา” คุณครูกล่าว

“ต่อจากนี้ผมจะมาส่งแกทุกวันเลยครับไม่ต้องห่วง” ต๋องยังไม่คลายมือจากไหล่บางนั่นเลย

“ครูดีใจด้วยนะน้องอันดา”

“ขอบคุณค่ะ ต่อไปนี้น้องอันดาจะไม่บ่นเรื่องพ่อให้คุณครูฟังแล้วน้า” เจ้าตัวเล็กยิ้มให้กับคุณครู

“ฝากด้วยนะครับคุณครู” ไอร์พูดก่อนจะเอื้อมมือไปลูบเบาๆ ที่เรือนผมลูกสาว

“ไม่ต้องห่วงค่ะน้องอันดาเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซนแถมยังฉลาดอีกด้วย”

“ได้ยินคุณครูพูดอย่างนี้ผมก็ดีใจครับ” ต๋องเอ่ย

“น้องอันดาเข้าไปแล้วนะคะ” เจ้าตัวเล็กยกมือไหว้พ่อกับแม่

“ตั้งใจเรียนนะคะเดี๋ยวตอนเย็นแม่จะมารับ” ไอร์พูดกับลูกสาว

“พ่อก็จะมารับด้วย” ต๋องแทรกเสียงเข้ามาทำให้ไอร์ถึงกับหันขวับไปมองด้วยหางตา

“คุณพ่อสัญญาแล้วนะคะน้องอันดาจะรอทั้งสองคนเลยน้า” พูดจบก็โบกมือให้พ่อกับแม่แล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนพร้อมกับเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ

ทั้งสองคนยืนมองดูลูกสาวด้วยร้อยยิ้มอยู่นาน จนไอร์ลืมไปว่าตอนนี้กำลังโดนอีกคนยืนโอบไหล่อยู่ เมื่อรู้ตัวก็กระทุ้งศอกไปที่ท้องอย่างเต็มแรง

“โอ๊ย! เจ็บนะครับ” ต๋องปล่อยมือออกจากไหล่ทันที

“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเพราะเลย เห็นลูกให้ท้ายแล้วเอาใหญ่เลยนะ”

“แล้วไอร์ไม่อยากให้ลูกมีความสุขเหรอครับ” ต๋องทำหน้าระรื่นใส่

“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเพราะเลยกูไม่มีทางใจอ่อนให้มึงหรอกโว้ย” พูดแล้วก็เดินกลับไปที่รถ

ต๋องรีบเดินตามหลังไปหยิบช่อดอกกุหลาบที่รถของตัวเอง แล้วรีบวิ่งเข้าไปนั่งในรถของไอร์ก่อนที่จะขับออกไปเสียก่อน

“เฮ้ย! มึงออกไปจากรถกูเดี๋ยวนี้เลย”

“ไม่! จนกว่ากูจะตกลงกับมึงได้” ต๋องนั่งนิ่งไม่ยอมลุกไปไหน

“แต่กูไม่มีอะไรจะตกลงกับมึง ลงไป!”

“ไม่! จนกว่ามึงจะรับปากว่าจะให้กูมารับมาส่งลูกไปโรงเรียนทุกวัน”

“กูไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่นอน”

“แล้วมึงไม่อยากให้ลูกมีความสุขเหรอวะ”

“อยากสิวะ”

“ถ้างั้นก็ถือว่าทำเพื่อลูกละกันนะ กูเองก็อยากให้ลูกมีความสุขเหมือนกัน”

ไอร์นิ่งหยุดคิดสักพักก่อนจะตอบกลับไป

“ก็ได้ถือว่ากูทำเพื่อลูกมึงอย่าคิดว่าลูกให้ท้ายแล้วจะได้ใจ”

“ไม่หรอกน่ากูไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย กูรักลูกแต่ก็เคารพเมียนะเว้ย” ต๋องยิ้มกวนๆ เมื่อได้รับอนุญาต

“ใครเมียมึง!” คนที่พูดมองค้อนใส่

“กูก็พูดไปลอยๆ ไม่ได้เอ่ยชื่อใครสักหน่อย ถ้ามึงจะรับไปกูก็ไม่ว่าหรอกนะ” เจ้าตัวพูดอย่างลอยหน้าลอยตา

“พอใจแล้วก็ลงไปสักทีสิวะ”

“ไม่!” ต๋องยังนั่งทำหน้าตายไม่ยอมขยับเขยื้อน

“โอ๊ย! มึงต้องการอะไรจากกูอีกกกก” ไอร์หน้าแดงก่ำเพราะความดื้อด้านของอีกฝ่าย

“จนกว่ามึงจะรับช่อดอกไม้กูก่อน”

“ไม่รับโว้ย! เอาไปให้ว่าที่เจ้าสาวมึงเถอะ” ไอร์ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้จัดการปัญหาเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว

“เรื่องนี้กูคุยกับพ่อแม่กูแล้ว ท่านจะไปยกเลิกงานแต่งให้...กูลืมบอกมึง”

“ทำไมมึงทำอย่างนี้วะต๋อง กูบอกแล้วไงว่ามึงไม่ต้องมารับผิดชอบกูกับลูก” ไอร์พูดอย่างเหลืออด

“มึงจะให้กูแต่งงานกับคนอื่นได้ไงวะในเมื่อกูรักมึง กูรักมึงได้ยินไหมไอร์” ต๋องตะโกนใส่หน้าบ้าง

“มึงเคยบอกว่าชอบผู้หญิง”

“กูหลอกตัวเองมาตลอด กูขอโทษที่ทำให้มึงเสียใจนะเว้ย”

“ช่างเถอะมันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วเพราะตอนนี้กูไม่ได้รักมึงแบบนั้นแล้ว”

“กูไม่เชื่อสายตามึงมันฟ้อง มึงหลอกกูไม่ได้หรอกไอร์ มึงยังรักกูเหมือนเดิม”

“มึงหลงตัวเองเกินไปไหมวะ”

“กูไม่เคยหลงตัวเองนะเว้ย มีแต่มึงนั่นล่ะที่มาหลงกูใครกันน้าที่เคยบอกรักกู มึงจำไม่ได้แล้วรึไง” ต๋องยิ้มที่มุมปากแล้วมองหน้าเพื่อนรักปานจะกลืนกิน

“นี่ล่ะที่เขาเรียกว่าหลงตัวเอง จะลงไปดีๆ หรือจะให้กูถีบมึงลงไป” ไอร์ทำหน้าโหดใส่

“มึงกล้าถีบกูได้ลงคอเหรอวะ” ต๋องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ไม่ได้เกรงกลัวคำขู่นั้นเลย

“ทำไมกูจะไม่กล้าล่ะ”

“ถ้ามึงกล้ากูก็ยอมให้มึงถีบเอาเลยสิวะ ถีบตรงหัวใจกูเลยยิ่งดี” ต๋องหลับตาลงยอมให้อีกฝ่ายทำตามอำเภอใจได้ทุกอย่าง

เห็นอย่างนั้นไอร์ก็ไม่กล้าทำอะไรอย่างที่พูด เขาโน้มตัวไปเปิดประตูรถอีกฝั่งแทน

“ครั้งนี้กูจะไม่ทำอะไรมึง แต่ถ้ามีครั้งหน้ามึงไม่รอดแน่ ลงไป!”

ต๋องลืมตาขึ้นมาแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย

“เห็นไหมล่ะว่ามึงยังรักกู”

“กูเป็นหมอมีหน้าที่รักษาคนไข้ ไม่ใช่มาทำร้ายคนอื่นอย่างนี้เข้าใจด้วยนะ” เขาเอาเรื่องหน้าที่มาเป็นข้ออ้าง

“ถ้างั้นคุณหมอช่วยรักษาแผลใจผมหน่อยได้ไหมครับ” พูดพร้อมกับกุมมือที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย

“หยุดเพ้อเจ้อแล้วลงจากรถกูไปซะ” เจ้าตัวทำหน้าเบื่อหน่ายกับคนที่ยังดื้นด้านนั่งอยู่ในรถ

“กูลงไปก็ได้แต่มึงช่วยรับช่อดอกไม้กูหน่อยเถอะกูตั้งใจซื้อมาให้มึงจริงๆ นะเว้ย” ต๋องยังยืนยันที่จะให้ไอร์รับช่อดอกไม้ให้ได้ เพื่อตัดรำคาญเจ้าตัวก็รับมาแต่โดยดีแล้วโยนไปไว้เบาะหลังอย่างไม่ใยดี

“พอใจยังลงไปได้แล้วเดี๋ยวกูจะสาย”

“ถึงมึงจะทิ้งมันไปอย่างไม่ใยดี แต่กูก็ดีใจที่มึงยอมรับมันไว้ ขับรถดีๆ ล่ะครับกูเป็นห่วง” พูดแล้วก็ลงจากรถไปแล้วยืนโบกมือให้นอกรถ

วันแรกก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ลูกสาวที่เขาไม่เคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กกลับยอมรับในไม่กี่ชั่วโมงที่เจอกัน ส่วนไอร์น่ะเหรอเขารู้ว่ายังมีความรู้สึกดีๆ ให้ นั่นมันไม่ยากเลยที่จะเอาชนะใจไอ้เพื่อนรักที่เปลี่ยนสถานะเป็นเมียและเป็นแม่ของลูกให้ได้อีกครั้ง



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.10 ช่อดอกไม้ [Up. 01-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 01-03-2019 12:47:33
ตีกันแบบนี้ลูกจะดกนะ555
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.10 ช่อดอกไม้ [Up. 01-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 01-03-2019 18:37:21
มาๆ น้องอันดาอยากมีน้องมั้ยลูกก  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.10 ช่อดอกไม้ [Up. 01-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-03-2019 19:23:24
จะไปรอดไหมเนี่ย  :mew2:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.10 ช่อดอกไม้ [Up. 01-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 01-03-2019 19:54:27
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่...คุณพ่อคุณแม่  พูดกันต่อหน้าลูกสาวไม่ไพเราะเสนาะหูเลย  ใช้กูมึงวะโว้ย  เป็นตัวอย่างไม่ดีนะครัช
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.10 ช่อดอกไม้ [Up. 01-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 01-03-2019 21:23:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.10 ช่อดอกไม้ [Up. 01-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-03-2019 21:37:23
ตื้อเข้าไปต๋อง
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.10 ช่อดอกไม้ [Up. 01-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-03-2019 01:36:53
นะ
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 03-03-2019 11:44:04
:: ๑๑ ::
ขอโอกาส


เกือบสัปดาห์แล้วที่ต๋องเทียวมารับส่งลูกสาวไปกลับโรงเรียนทุกวัน ทำให้ตอนนี้อันดาติดพ่อแจมากกว่าใครๆ หลายครั้งที่เจ้าตัวเล็กอยากให้ผู้เป็นพ่อค้างที่บ้านด้วย แต่ไอร์ไม่มีทางให้มันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ยิ่งทำอย่างนั้นต๋องยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ แค่อันดาปันใจไปให้มันก็รู้สึกหงุดหงิดมากพอแล้ว

“คุณหมอคะมีคนมารอพบข้างนอกค่ะ” พยาบาลสาวเดินเข้ามาในห้องตรวจ ขณะเจ้าตัวกำลังนั่งรอคนไข้คิวต่อไป

“ผมไม่ได้นัดใครไว้นะนอกจากคนไข้” ไอร์ทำหน้าสงสัยแล้วพยายามนึกว่าได้นัดใครไว้หรือเปล่า

“น่าจะเป็นญาติคุณหมอนะคะ เพราะมาพร้อมกับน้องอันดา”

ได้ยินอย่างนั้นก็พอจะรู้แล้วว่าเป็นใคร ปกติแล้วทั้งสองจะไปรอรับลูกสาวที่หน้าโรงเรียนพร้อมกัน แต่วันนี้ต๋องกลับไปก่อนเวลาแล้วรับตัวอันดามาก่อน หลังจากนั้นก็พาลูกสาวมาหาที่โรงพยาบาล

“ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ”

“อยู่ตรงหน้าประชาสัมพันธ์ค่ะ”

“เดี๋ยวผมออกไปละกัน” ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว เหลือคนไข้อีกหนึ่งคิวก็จะจบวัน

ไอร์ตรวจคนไข้เสร็จแล้วก็เก็บของเดินออกมาจากห้องตรวจ รีบเดินตรงไปยังประชาสัมพันธ์ก็เห็นสองพ่อลูกกำลังนั่งรออยู่ จึงเดินดุ่มๆ ไปหมายว่าจะด่าคนที่ไม่เคารพกฎกติกา

“คุณแม่มาแล้ววว” อันดารีบวิ่งเข้ามากอด

“ทำไมวันนี้ไม่รอแม่อยู่ที่โรงเรียนล่ะ” เสียงหวานเอ่ยกับลูกสาว

“วันนี้คุณพ่อพาน้องอันดามาเซอร์ไพรซ์คุณแม่ค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยบอก

“วันหลังรอแม่ที่โรงเรียนนะคะ ใครไปรับก็ไม่ต้องมา” พูดกับลูกแต่หันไปทำตาดุให้อีกคน

“ได้ไงนี่พ่อนะครับไม่ใช่คนอื่นซะหน่อย”

“ไม่รู้ล่ะ...ไปลูกกลับบ้านกัน” ไอร์จูงมือลูกสาวไปที่ลานจอดรถทันที ต๋องเองก็ได้แต่เดินตามหลังแล้วยิ้มที่มุมปากอย่างอารมณ์ดี

เดินมาถึงไอร์ก็สังเกตเห็นความผิดปกติของล้อรถที่มันยุบตัวลงกว่าเมื่อเช้า ไม่น่าเชื่อว่ารถที่จอดอยู่เฉยๆ จะยางรั่วได้ขนาดนี้ เจ้าตัวนั่งลงมองดูล้อรถทั้งสี่อย่างไม่สบอารมณ์

“คุณแม่คะรถเป็นอะไร” อันดายืนสะพายกระเป๋านักเรียนมองดูอยู่ข้างๆ

“รถยางรั่วน่ะลูก”

“แล้วเราจะกลับกันยังไงคะคุณแม่”

“เดี๋ยวแม่โทรเรียกช่างซ่อมก่อนนะลูกไปรอในรถก่อน”

“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” ต๋องเดินมาหาแล้วยืนมองดูด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ใช่แล้วนั่นมันเป็นฝีมือเจ้าตัวเอง

“ไม่มี! ไปไกลๆ เลย”

“กลับรถกูก็ได้พรุ่งนี้ค่อยให้ช่างมาซ่อม” ต๋องแนะนำ

“ไม่มีทาง...มึงกลับไปเลย”

“โอเค้ถ้ามึงไม่ต้องการความช่วยเหลือกูไปก็ได้” พูดเหมือนยอมง่ายๆ แต่เจ้าตัวกลับไปอุ้มลูกสาวออกมาจากรถ หลังจากนั้นก็กระซิบที่หูลูกสาวก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะตะโกนออกมา

“คุณแม่ตามมานะคะ” อันดาโบกมือให้ขณะกอดคอผู้เป็นพ่อเอาไว้แน่น

“อันดากลับมาหาแม่เดี๋ยวนี้นะ” ไอร์ลุกขึ้นยืนแล้วเท้าสะเอวด้วยความโมโห เอาลูกมาเป็นข้อต่อรองอีกแล้วหรือนี่มันน่าโมโหนัก ไอร์จำใจเดินตามไปเพราะเป็นห่วงลูกสาว กลัวว่าไอ้พ่อตัวดีจะพาไปที่อื่นแทนที่จะกลับบ้าน

ต๋องพาลูกขึ้นไปนั่งข้างคนขับแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยให้เสร็จสรรพ ส่วนไอร์นั่งอยู่เบาะหลังทำหน้าตาบึ้งตึ้งผิดจากลูกสาวที่รู้สึกจะร่าเริงเกินเหตุ หลังจากผู้เป็นพ่อบอกว่าจะพาไปเที่ยวแทนที่จะกลับบ้าน

“นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่” ไอร์เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจเมื่อคนขับรถเริ่มขับออกนอกเส้นทาง

“ก็ไม่ใช่ไง” เจ้าตัวยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดี

“เลี้ยวกลับไปที่บ้านเดี๋ยวนี้” ไอร์เริ่มทำเสียงเข้มขึ้นมา

“น้องอันดาอยากไปเที่ยวใช่ไหมคะ” ต๋องไม่สนใจแต่หันไปถามลูกสาวแทน เพื่อให้คำตอบของอันดาเป็นคำตัดสินของความไม่ลงรอยนี้

“ใช่ค่ะน้องอันดาอยากไปเที่ยว”

“เดี๋ยวพ่อจะพาไปนะคะ” พูดแล้วก็หันมายักคิ้วให้คนที่นั่งอยู่เบาะหลังผ่านกระจกหน้ารถ

“เย้! แปะๆ ๆ” เจ้าตัวเล็กส่งเสียงด้วยความดีใจพร้อมกับปรบมือเสียงดัง

“วันหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะกูไม่ชอบ”

“กูก็อยากจะทำอย่างนั้นนะแต่ลูกชอบน่ะสิก็เลยขัดไม่ได้...มึงเข้าใจกูนะ” ต๋องเอาเรื่องลูกมาอ้างอีกเช่นเคย และนั่นก็ทำให้ไอร์ต้องยอมแทบทุกครั้ง

“เอาลูกมาอ้างตลอด” เจ้าตัวทำหน้างอก่อนจะหันออกไปนอกรถ

ต๋องยิ้มกว้างเมื่อเห็นท่าทางนั่น มันทำให้รู้สึกอยากเข้าไปกอดเอาใจซะเหลือเกิน หากไม่มีลูกอยู่บนรถด้วยเขาคงจะทำอย่างนั้นไปแล้ว

เมื่อถึงที่หมายแล้วต๋องก็วนรถหาที่จอดรถ แล้วอุ้มลูกสาวเดินมาที่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อรู้ว่าต๋องพามาที่นี่ไอร์ก็นึกถึงความหลังขึ้นมาทันที เขาจำได้แล้วว่าวันนี้คือวันที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะพาไอ้เพื่อนรักมาทุกๆ ปี

“ถึงแล้วววชอบไหมครับอันดา” ต๋องอุ้มลูกสาวยืนดูทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า แสงแดดสีส้มตกกระทบบนผืนน้ำตลอดทั้งสายดูแล้วช่างสวยงามและรู้สึกผ่อนคลายไปในเวลาเดียวกัน

“ชอบค่ะคุณพ่อ”

“เดี๋ยววันหลังพ่อพามาอีกนะคะ”

“จริงๆ นะคะ”

“พ่อสัญญาค่ะ...ไม่เหมือนกับคุณแม่ที่เคยสัญญาว่าจะพาพ่อมาที่นี่ทุกปีแต่ก็ผิดสัญญา” ต๋องพูดกับลูกสาว แต่สายตากลับหันไปมองอีกคนที่กำลังยืนจับราวมองวิวฝั่งตรงข้าม

“คุณแม่ทำไมผิดสัญญาล่ะคะ” อันดาเอ่ยถามผู้เป็นแม่ทันทีที่ได้ยิน

ไอร์หันหน้ามามองลูกสาวพร้อมกับยิ้มกริ่มให้

“แม่ได้ผิดสัญญาซะหน่อยอันดาจำไม่ได้เหรอแม่พาอันดามาที่นี่ทุกปีเลยนะ” เขาทำตามสัญญาทุกปีเพราะถือว่าลูกคือตัวแทนต๋อง แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้มาตรงตามวันที่เคยได้สัญญาเอาไว้ นั่นเพราะกลัวว่าอาจจะเจออีกฝ่ายนั่นเอง

“น้องอันดาจำไม่ได้ค่ะ”

“เห็นไหมว่าแม่ไม่เคยผิดสัญญากับใครเลยนะ

“คุณแม่สัญญากับคุณพ่อไม่ใช่อันดาซะหน่อย” เด็กหญิงทำหน้าสงสัย

“ขี้สงสัยจริงๆ เจ้าตัวเล็ก...มาหาแม่มา” ไอร์อ้าแขนรอรับลูกสาวส่วนต๋องก็ยอมให้อันดาไปแต่โดยดี

ต๋องพอจะเข้าใจว่าทำไมไอร์ถึงได้บอกว่าไม่เคยผิดสัญญา เพราะอันดาเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของเขานั่นเอง ได้ยินอย่างนี้ยิ่งทำให้เจ้าตัวประทับใจในตัวไอร์มากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าลูกสาวคนนี้จะเกิดมาจากความไม่ได้ตั้งใจ แต่ถึงกระนั้นก็ต้องขอบคุณไอร์ที่ช่วยให้เจ้าตัวเล็กได้เกิดขึ้นมาเป็นพยานรัก อย่างน้อยมันก็ทำให้รู้สึกว่ากำลังจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์รออยู่ข้างหน้านี้แล้ว

ไอร์อุ้มลูกสาวตัวน้อยชมความงดงามของวิวทิวทัศน์ฝั่งตรงข้ามอย่างเพลินตา ส่วนต๋องยืนจ้องมองภาพนั้นด้วยความสุขใจที่เห็นเมียกับลูกอยู่ตรงหน้า มันอาจจะเป็นบุพเพสันนิวาสที่เขาได้เจอและรู้จักกับไอร์ ใครจะคาดคิดว่าคนๆ นี้จะมีสถานะเป็นทั้งเพื่อน เมียและแม่ของลูกในเวลาเดียวกัน เขาไม่มีทางปล่อยให้ไอร์จากไปไหนอีกเป็นอันขาด หลังจากนั้นเจ้าตัวก็เดินเข้าไปกอดจากด้านหลังอย่างอ่อนโยน

“มึงอย่าไล่กูไปไหนอีกเลยนะ กูอยากอยู่กับมึงอย่างนี้นานๆ” เสียงแผ่วเบาเอ่ยข้างใบหู ตอนแรกเจ้าตัวก็ว่าจะกระทุ้งศอกให้อีกฝ่ายคลายอ้อมกอด แต่เมื่อได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกได้ถึงความจริงใจ และน้ำเสียงนั่นก็ทำให้นึกถึงวันนั้นในอดีตที่เคยมาด้วยกัน...



*-*-*-*-*-*-*-*



อยู่ที่ริ่มฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณครึ่งชั่วโมงต๋องก็พาทั้งสองคนกลับมาที่บ้าน

“คุณย่าคะน้องอันดากลับมาแล้วว” เด็กหญิงตัวน้อยรีบวิ่งเข้าไปกอดผู้เป็นยายทันทีที่ลงจากรถ ส่วนพ่อและแม่ก็เดินตามหลังมาติดๆ

“คุณพ่อพาไปไหนมาเนี่ย” ปิ่นแก้วถามหลานสาว

“พาไปดูแม่น้ำมาค่ะ น้องอันดาชอบมากสวยที่สุดเลย” อันดาโม้ให้ยายฟัง

“อยากไปอีกไหมล่ะ”

“อยากสิคะ”

“ถ้างั้นน้องอันดาต้องเป็นเด็กดีนะคะ”

“ได้เล้ยย น้องอันดาจะเป็นเด็กดีทุกวันเลยค้า”

“เอากระเป๋าไปเก็บก่อนแล้วค่อยลงมากินข้าว ยายทำของโปรดน้องอันดาไว้เยอะเลย”

“เย้! คุณพ่อกินข้าวกับอันดาด้วยนะคะ” เด็กหญิงหันไปหาผู้เป็นพ่อ

ต๋องหันไปมองหน้าไอร์ทันทีเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่ชอบใจเอา วันนี้ยิ่งขัดใจเจ้าตัวมาหลายเรื่องแล้ว

“ก็แล้วแต่” พูดแล้วก็พาลูกสาวไปเปลี่ยนชุดด้านบน

ต๋องยิ้มกว้างเมื่อได้รับอนุญาตเป็นนัยๆ

ปิ่นแก้วเองก็พอจะดูออกว่าตอนนี้ลูกชายเริ่มจะใจอ่อนลงบ้างแล้ว เธอก็หวังว่าอีกไม่นานคงจะได้มีลูกเขยอย่างเป็นทางการกับเขาเสียที

ต๋องช่วยว่าที่แม่ยายจัดโต๊ะจนเสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นไม่นานแม่กับลูกก็เดินลงมาพร้อมกันในชุดไปรเวทใส่สบายๆ

“เชิญเลยคร้าบบบ” ต๋องเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้กับลูกสาวแล้วตามด้วยคนรัก แต่เจ้าตัวจับที่เก้าอี้ไว้ไม่ยอมรับความหวังดีจากอีกฝ่าย

“ทำอย่างกับอยู่บ้านตัวเองงั้นล่ะ” พูดแล้วก็เบ้ปากด้วยความหมั่นไส้

“ตอนนี้อาจจะไม่ใช่แต่วันหน้าก็ไม่แน่นะคร้าบบบ”

“อย่าหวังซะให้ยาก”

“เอาล่ะๆ กินข้าวกันเถอะ” ปิ่นแก้วส่ายหน้าให้กับความพ่อแง่แม่งอนของทั้งสองคน

ทุกคนลงมือทานข้าวเย็นมื้อพิเศษพร้อมกับแขกที่ไม่ค่อยอยากจะรับเชิญของไอร์ เด็กหญิงอันดาแลดูจะมีความสุขกับทุกๆ วันหลังจากที่ได้รู้ว่าตัวเองมีพ่อเหมือนกับคนอื่นๆ แล้ว อีกทั้งเจ้าตัวเล็กยังเป็นกาวใจเชื่อมความสัมพันธ์ของพ่อและแม่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

“น้องอันดาทานเยอะๆ นะคะจะได้โตเร็วๆ” ต๋องว่าพลางตักกับข้าวให้ลูกสาว

“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ ตักให้คุณแม่บ้างสิคะ”

ต๋องมองหน้าอีกคนทันทีเพราะกลัวจะโดนปฏิเสธเหมือนก่อนหน้านี้

“แม่ไม่ใช่เด็กๆ เหมือนอันดาซะหน่อย แม่ตักเองได้ค่ะ” ไอร์บอกกับลูกสาว

“แต่คุณแม่ก็เป็นเมียคุณพ่อไม่ใช่เหรอคะ” เด็กหญิงพูดตาแป๋ว

ต๋องและปิ่นแก้วได้ยินก็ถึงกับขำออกมาพร้อมกัน แต่ไอร์กลับหน้าแดงก่ำซะอย่างนั้น

“ใครบอกให้พูดอย่างนี้ห๊ะอันดา ทีหลังห้ามพูดอีกนะคะเข้าใจไหม”

“เพื่อนๆ ที่โรงเรียนเขาก็พูดกันอย่างนี้ ถ้าไม่มีคุณพ่อน้องอันดาก็ไม่ได้เกิดมาใช่ไหมคะ” ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุอันดากลับเริ่มยิงคำถามที่ทำให้ผู้เป็นแม่หน้าแดงมากยิ่งขึ้น นั่นช่างถูกใจพ่อที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ ซะเหลือเกิน

“ย้ายโรงเรียนซะเลยดีไหมเนี่ย เด็กขนาดนี้มาพูดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน”

“ไม่เอานะคะน้องอันดาไม่ย้ายโรงเรียนนะ” เจ้าตัวรีบพูดโต้กลับทันควัน

“ถ้าไม่อยากย้ายก็ห้ามพูดเรื่องอย่างนี้อีกนะ”

“ค่ะคุณแม่”

“ทำไมชอบดุลูกอยู่เรื่อยเลย อันดาพูดถูกแล้วเราเป็นผัวเมียกัน จะอายทำไมเนี่ยดีซะอีกลูกเราฉลาดขนาดนี้...ใช่ไหมคะอันดา” ต๋องพูดเอาใจลูกสาว

“ก็กูไม่ยอมรับมึงเป็น....เอ่อ...” เมื่อถึงคำท้ายประโยคเจ้าตัวกลับอ้ำอึ้งไม่กล้าพูดออกมา

“แต่กูยอมรับมึง...ให้มาเป็นทุกอย่างในชีวิตกูนะ” แม้จะอยู่บนโต๊ะทานข้าวแต่ต๋องก็ไม่อายที่จะกุมมือคนรักเอาไว้แน่น ไอร์พยายามดึงมือกลับแต่ต๋องไม่ยอม

ปิ่นแก้วและอันดาหันไปยิ้มให้กันอย่างพอใจ

“อือ หึ้ม” ปิ่นแก้วกระแอมไอเมื่อเห็นทั้งสองคนนิ่งเงียบ

“เอ่อ...ขอโทษนะครับแม่ที่เสียมารยาทบนโต๊ะอาหาร”

“ไม่เป็นไรจ๊ะแม่ไม่ถือ” ปิ่นแก้วยิ้มให้

“แม่อ่ะแทนที่จะหวงลูกตัวเอง” ไอร์มองค้อนใส่ผู้เป็นแม่

“ทำไมแม่จะไม่หวงล่ะไอร์ แต่ต๋องก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลซะหน่อย”

“สำหรับแม่อาจจะไม่ใช่ แต่สำหรับผมใช่” เจ้าตัวส่งสายตาพิฆาตไปให้ทันที

“ต๋องสู้ๆ นะลูกอย่าเพิ่งท้อล่ะ” ปิ่นแก้วพูดให้กำลังใจว่าที่ลูกเขย

“คุณแม่!” ยิ่งได้ยินอย่างนั้นไอร์ยิ่งงอนแม่หนักเข้าไปใหญ่

“แม่ไม่ได้เข้าข้างใครนะ แต่แม่กลัวต๋องจะท้อไปซะก่อน เพราะดูท่าทางลูกแม่จะใจแข็งซะเหลือเกิน”

“ขอบคุณแม่มากๆ นะครับผมจะสู้ไม่มีถอยเลยครับ”

“สู้ๆ นะคะคุณพ่อ”

“โอ๊ยทุกคนเป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย!” ไอร์รู้สึกหงุดหงิดที่โดนแย่งพรรคพวกไปหมด จึงลุกขึ้นเดินออกไปหน้าบ้านทันที

“ตามไปสิคะคุณพ่อ” เหมือนกับว่าทั้งลูกสาวและว่าที่แม่ยายต่างก็เอาใจช่วยเต็มที่

ต๋องยิ้มให้แล้วเดินตามออกไปทันที เมื่อมาถึงก็พบเจ้าตัวยืนกอดอกทำหน้าบึ้งอยู่หน้าบ้าน ต๋องเดินย่องเข้าไปคว้าหมับเข้าที่เอวก่อนจะสวมกอดเอาไว้แน่น

“เหี้ย! ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ” กำปั้นน้อยๆ พยายามทุบเข้าที่แขนรัวๆ

“ไม่ปล่อย!” เสียงเข้มเอ่ยที่ข้างใบหูจนคนที่โดนกอดอยู่ขนลุกชัน

“ถ้าไม่ปล่อยกูจะร้องให้แม่ได้ยิน”

“ร้องเล้ยย ก็แม่นั่นล่ะบอกให้กูตามมึงมา”

“แม่นะแม่” ไอร์บ่นอุบอิบเสียงเบา ไม่นึกเลยว่าจะเข้าข้างคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง ลูกสาวก็อีกคนตั้งแต่มีพ่อเข้ามาในชีวิต เขาก็ดูเหมือนจะมีบทบาทน้อยลงไปเรื่อยๆ

“อย่าโทษแม่เลย โทษกูเถอะที่รักมึงมากเกินไป”

“กูจะอ้วกอย่าพูดให้ได้ยินอีกเด็ดขาดเลย”

“ทำไมเหรอกลัวจะห้ามใจตัวเองไม่ได้ไง”

ฟอดด!!!!

พูดแล้วก็หอมแก้มฟอดใหญ่จนคนที่อยู่ในอ้อมกอดหน้าแดงขึ้นมาทันที

“ไอ้คนฉวยโอกาส”

“ยังน้อยกว่าที่มึงทำกับกูซะอีก”

“กูทำอะไรลืมไปหมดแล้วเว้ย”

“ถ้าจำไม่ได้กูจะเตือนความจำให้มึงเอง” ต๋องจับมือเรียวเข้ามาล้วงในกางเกงของตัวเองทันที

“อี๋!! ปล่อยมือกูเดี๋ยวนี้นะ” ไอร์ทำหน้ารังเกียจขยะแขยงซะเต็มประดา

“ทีตอนนั้นกูปั่นจักรยานมึงยังมาล้วงไข่กูเล่นเลย มึงจำไม่ได้เหรอ ฮึ”

“นั่นมันสมัยเด็กๆ เว้ยตอนนี้โตจนมีลูกกันแล้วยังจะมาเล่นแบบนี้อีก” เจ้าตัวโวยวาย

“ไม่ว่าตอนนั้นหรือตอนนี้มึงกูเป็นไอ้ไอร์ของกูเสมอไม่เคยเปลี่ยนเลยนะเว้ย” ต๋องเอ่ยข้างใบหูเสียงเบาก่อนจะปล่อยมือข้างที่ถูกล้วงให้เป็นอิสระ

“.............” ไอร์นิ่งไม่ยอมพูดอะไร ในใจก็คิดว่าทำไมเขาต้องกีดกันต๋องออกจากชีวิตขนาดนี้ด้วยนะ ในเมื่อตอนนี้ใจมันก็เรียกร้องให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมอยู่ทุกๆ วัน

“ขอโอกาสให้กูดูแลมึงกับลูกเถอะนะ พ่อกับแม่กูท่านก็เร่งให้กูพามึงกับลูกไปกราบท่านที่บ้านให้ได้”

“ตอนนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกูแล้ว.....”

“หมายความว่าไงวะ” ต๋องทำหน้าสงสัย

“ขึ้นอยู่กับมึงว่าจะมีความพยายามมากแค่ไหนต่างหาก” คนที่อยู่ในอ้อมกอดอมยิ้มเมื่อพูดจบประโยค

“หมายความว่ากูยังมีโอกาสใช่ไหมวะ มึงให้โอหาสกูใช่ไหมไอร์!” เจ้าตัวพูดด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“ก็แล้วแต่จะคิด...ถ้ากูไม่เห็นหน้ามึงทุกวันโอกาสมันก็จะริบหรี่ลงไปเรื่อยๆ”

ต๋องยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าความพยายามเริ่มได้ผลบ้างแล้ว ยิ่งรู้อย่างนั้นยิ่งกระชับอ้อมกอดเอาไว้แน่น ใบหน้าก็คลอเคลียที่ต้นคอขาวอย่างซุกซน

“พอได้แล้วกูจะเข้าไปละ ป่านนี้แม่กับอันดาคงกินข้าวเสร็จแล้ว” ไอร์พยายามแกะมือออก

“ก็ได้ครับ ผมยอมตามใจเมียทุกอย่างเลย”

ไอร์ที่กำลังยืนหันหลังให้อมยิ้มแล้วเดินนำหน้าเข้าไปในบ้าน โดยมีชายหนุ่มรูปร่างกำยำเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตามหลังไปติดๆ



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 03-03-2019 13:01:07
ใจอ่อนแล้วว  :-[ :-[

เอ๊ะ หรือไม่เคยใจแข็งมาตั้งแต่แรกนะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 03-03-2019 14:23:37
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-03-2019 20:03:57
ใจอ่อน หรือ อ่อนใจ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 03-03-2019 21:00:57
 :pig4: :pig4: :pig4:

ใจอ่อนเป็นเรื่องปกติ  เล่นตัวนิด ๆ จะได้ไม่รู้สึกว่าเป็นของตาย

ป.ล. เวลาพูดต่อหน้าหนูอันดาเนี่ย  อยากให้ปรับคำพูดสมัยพ่อขุนรามออกไปจัง  มันจะเป็นตัวอย่างไม่ดีต่อเด็กนะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 03-03-2019 21:34:20
น่ารักอ่านไปอมยิ้มไป
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 03-03-2019 21:57:45
หวานไปอีก
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-03-2019 01:26:20
ใจอ่อนแล้วหรอ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 04-03-2019 05:56:28
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 04-03-2019 06:26:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-03-2019 07:20:31
หึหึ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.11 ขอโอกาส [Up. 03-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 04-03-2019 14:18:42
รอนะคะ
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 05-03-2019 08:46:13
:: ๑๒ ::
แหวนเพชร


วันหยุดนี้ต๋องตั้งใจจะมาอยู่กับลูกสาวทั้งวัน โดยไม่ลืมที่จะถือดอกกุหลาบช่องามติดมือมาเหมือนเช่นเคย เมื่อมาถึงก็แปลกตาตรงที่ร้านขายข้าวแกงของปิ่นแก้วปิดทำการ เจ้าตัวจึงเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับความสงสัย ปกติแล้วไม่เคยเห็นร้านปิดแม้แต่วันเดียว แถมตอนนี้บ้านยังเงียบเชียบเหมือนไม่มีคนอยู่อีกด้วย

“แม่ครับ!” แขกผู้มาเยือนตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีใครขานรับแม้แต่คนเดียว “ไปไหนกันหมดเนี่ย” เอ่ยพร้อมกับมองหาเจ้าของบ้าน

“คุณพ่อค่ะ” อันดาเดินลงมาจากบันไดเพียงลำพัง ต๋องเห็นอย่างนั้นก็รีบเดินเข้าไปหาลูกสาว

“คุณยายกับคุณแม่ไปไหนกันหมดคะอันดา”

“อยู่ข้างบนค่ะคุณพ่อ”

“อ้าว! ไปทำอะไรกันอยู่ข้างบน”

“คณแม่ไม่สบายค่ะคุณยายเฝ้าอยู่”

“จริงดิ! คุณแม่เป็นอะไรมากไหมคะ” ต๋องได้ยินก็รู้สึกใจคอไม่ดี

“คุณพ่อขึ้นมาดูเองเลยค่ะ” อันดาจูงมือพ่อขึ้นไปทันที

เมื่อขึ้นมาชั้นบนของตัวบ้านอันดาก็พาเข้าไปในห้องนอน ต๋องรีบเดินไปยืนอยู่ข้างเตียงพร้อมกับจ้องมองคนรักด้วยความเป็นห่วง ส่วนปิ่นแก้วก็นั่งดูแลลูกชายอยู่ข้างๆ พร้อมกับเช็ดตัวให้

“สวัสดีครับแม่”

“สวัสดีจ๊ะโทษทีแม่ไม่ได้ลงไปรับข้างล่าง ได้ยินเสียงเรียกเลยให้อันดาลงไปแทน”

“ไม่เป็นไรครับแม่ ว่าแต่ไอร์เป็นอะไรมากไหมครับแล้วนี่ไปหาหมอมารึยัง” เจ้าตัวถามด้วยความเป็นห่วง สายตาก็จ้องมองไปที่ใบหน้าขาวที่ดูซีดเซียวกว่าทุกครั้ง

“ก่อนจะหลับเจ้าตัวบอกทานยาแล้วนอนพักก็หายจ๊ะ”

“ถ้างั้นเดี๋ยวผมขอเฝ้าไอร์เองนะครับแม่”

“ต๋องไม่มีธุระที่ไหนเหรอจ๊ะ”

“ไม่มีครับแม่วันนี้ผมตั้งใจจะมาอยู่ที่นี่ทั้งวันเลย”

“ถ้างั้นก็ตามใจจ๊ะ แม่ฝากไอร์ด้วยนะ เดี๋ยวแม่จะลงไปทำงานบ้านก่อนละกัน” ปิ่นแก้วยิ้มให้

“ครับแม่”

“แล้วอันดาล่ะลูกจะไปกับยายหรือจะอยู่กับพ่อ”

“น้องอันดาจะอยู่กับคุณพ่อค่ะ”

“ถ้างั้นก็อย่าดื้อนะเดี๋ยวยายลงไปล่ะนะ”

เมื่อปิ่นแก้วเดินลงไปแล้วต๋องก็วางช่อดอกกุหลาบไว้บนโต๊ะข้างเตียงนอน ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เตียงแล้วจับมือคนที่นอนป่วยเอาไว้พร้อมกับจ้องมองใบหน้าเรียว

“คุณพ่อคะคุณแม่จะหายเป็นไข้ไหม” เด็กหญิงอันดาเดินเข้ามานั่งข้างๆ

“หายสิคะ คุณแม่ไม่เป็นอะไรหรอกเดี๋ยวก็หาย” พูดพร้อมกับเอื้อมมือหนาไปจับที่กลางกระหม่อมลูกสาวเบาๆ

“คุณพ่ออยู่เฝ้าคุณแม่ตลอดไปได้ไหมคะ”

“ได้สิลูก พ่อจะเฝ้าคุณแม่ตลอดชีวิตเลยดีไหม”

“ดีค่ะคุณพ่ออันดาจะอยู่เฝ้าคุณแม่ด้วยคน”

“งั้นเรามานั่งเฝ้าคุณแม่กันนะ”

“ได้เล้ยย” อันด้าชูกำปั้นน้อยๆ ขึ้นอย่างอารมณ์ดี

ต๋องนั่งหยอกล้อเล่นกับลูกสาวอยู่นานจนเจ้าตัวเล็กหลับไป เขาอุ้มลูกสาวไปนอนที่ฟูกข้างๆ เตียงแล้วห่มผ้าให้ มองหน้าเจ้าตัวเล็กพร้อมกับยิ้มกริ่มอย่างมีความสุข

ผละจากลูกสาวตัวน้อยก็หันมาสนใจคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียง เขาใช้หลังมือแตะที่ต้นแขนและลำคอก็พบว่าตัวยังรุมๆ อยู่จึงนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้อีกครั้ง แล้วนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นใช้แขนเท้าบนเตียงเอาไว้มองหน้าคนรักอย่างไม่วางตา ยิ่งมองก็ยิ่งเคลิ้มริมฝีปากก็ยกยิ้มขึ้นมาตลอดเวลา เวลาที่สิ้นฤทธิ์อย่างนี้เขาแทบอยากจะจับกดเสียให้ได้ คนบ้าอะไรแม้กระทั่งเวลาหลับก็ยังสามารถยั่วยวนเขาได้ นั่งมองอยู่นานเปลือกตาก็ค่อยๆ ปรือลงไปเรื่อยๆ จนเจ้าตัวหลับไปในที่สุด กลายเป็นว่าตอนนี้มีเพียงเสียงของเครื่องปรับอากาศ ที่ดังเบาๆ อย่างสม่ำเสมอกล่อมทุกคนอยู่ภายในห้องเท่านั้น

หลังจากนั้นประมาณสองชั่วโมงคนป่วยก็เริ่มรู้สึกตัว ไข้ลดลงไปแล้วตอนนี้ก็มีเพียงอาการอ่อนเพลียจากการนอนซมอยู่เท่านั้น เจ้าตัวจะยกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากเพื่อเช็คไข้แต่ก็รู้สึกหน่วงๆ ยกไม่ขึ้น จึงหันมามองก็พบว่ามือเรียวถูกกุมเอาไว้จากคนที่นอนคล่ำหน้าอยู่ข้างเตียง มืออีกข้างก็ถือผ้าเอาไว้

เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มน้อยๆ ออกมา แล้วใช้มืออีกข้างมาเกลี่ยไรผมที่ปรกหน้าชายหนุ่มออก เผยให้เห็นใบหน้าคมที่กำลังนอนหลับเป็นตายเหมือนลูกแมวเชื่องๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น ช่วงระยะเวลาที่ต๋องเคยให้สัญญาไว้ไม่เคยทำให้ไอร์ผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว มันน่าจะถึงเวลาแล้วที่อันดาควรจะมีทั้งพ่อและแม่อยู่อย่างพร้อมหน้ากันเสียที

คนที่นอนหลับอยู่เริ่มรู้สึกตัวแล้วงัวเงียเงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อเห็นว่าคนป่วยรู้สึกตัวแล้วต๋องก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ

“ไอร์มึงเป็นยังไงบ้างวะ รู้สึกเวียนหัวหรือไม่สบายตัวรึเปล่า!” ต๋องเอ่ยออกมาอย่างลนลานด้วยความเป็นห่วงอีกฝ่าย

“กูหิวน้ำ” คนป่วยพูดเสียงเบาพร้มกับมองด้วยสายตาเป็นมิตร ไม่มีท่าทีต่อต้านแต่อย่างใด

“ได้ๆ รอแป๊บเดี๋ยวกูลงไปเอามาให้” พูดแล้วก็ลุกขึ้นไปเอาน้ำดื่มมาให้ทันที

หลังจากคนรักเดินลงไปแล้ว ไอร์ก็มองดูลูกสาวที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนฟูก เจ้าตัวก็ยิ้มน้อยๆ ออกมาที่เห็นต๋องดูแลลูกสาวเป็นอย่างดี ไม่นานนักเสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงที่เดินมาพร้อมกับแก้วน้ำดื่ม

“มาแล้วคร้าบบบ” เจ้าตัววางแก้วน้ำบนโต๊ะข้างๆ เตียงก่อนจะมาช่วยพยุงตัวคนป่วยให้เอนหลัง หลังจากนั้นก็ยกแก้วน้ำดื่มมาป้อน

“กูจับเองได้” ไอร์ไม่ยอมดื่มพร้อมกับจะจับแก้วไว้เอง

“อย่าดื้อสิวะเร็วๆ” ต๋องจับแก้วเอาไว้แน่น ยังไงซะเขาจะต้องเป็นคนป้อนให้ได้

เมื่อเห็นแววตาที่มุ่งมั่นนั้นไอร์ก็ยอมดื่มแต่โดยดี

“ดีขึ้นยัง” คนที่ถามจ้องหน้ารอคำตอบอย่างตั้งใจ

“อื้ม” ไอร์ตอบสั้นๆ

“ดีแล้วกูจะได้หายห่วง”

“นี่มึงห่วงกูจริงๆ เหรอ” แกล้งปรายตามองอย่างไม่เชื่อ

“ถ้าไม่ห่วงกูจะมานั่งเฝ้ามึงอย่างนี้เหรอวะ” เจ้าตัวทำหน้าจริงจัง

“มึงจะจริงจังเกินไปป่ะกูถามแค่นี้เอง”

“ก็กูกลัวมึงจะไม่เชื่อไง...วันนี้กูจะมาอยู่กับมึงและลูกทั้งวันเลยนะ”

“ใครอนุญาต”

“แม่” เจ้าตัวเอาแม่มาอ้างอีกตามเคย

ไอร์ถึงกับอมยิ้มเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าใช้มุขเดิมๆ อีกแล้ว

“มึงยิ้มแล้ว” เมื่อเห็นรอยยิ้มนั่นก็ทำให้หัวใจเริ่มพองโตขึ้นมาทันที

“ใครยิ้ม...” ทำหน้าเหรอหราแล้วก็หุบยิ้มทันที

“คนอะไรจะโกหกได้หน้าตายอย่างนี้ ถ้าไม่ป่วยอยู่นะจะจับทำโทษซะให้เข็ด”

“มึงกล้าเหรอ?” คนป่วยเริ่มทำเสียงโหดขึ้นมาทันที

“พูดไปงั้นล่ะคร้าบ ผมไม่กล้าหรอก” เจ้าตัวทำเสียงอ่อยยังไงซะก็ยอมต้องแพ้วันยังค่ำ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นไปหยิบช่อดอกกุหลาบมายื่นให้ “ดอกไม้สวยๆ สำหรับคุณครับ” นั่งคุกเข่าพร้อมยื่นช่อดอกกุหลาบให้ราวกับเป็นการขอแต่งงานซะอย่างนั้น

“เอากองไว้ตรงนั้นล่ะ”

“โด่ววว...ใจร้ายจัง รับไว้หน่อยเถอะไม่งั้นผมคงจะอกแตกตายแน่” เจ้าตัวทำสีหน้าออดอ้อนน่าสงสาร แทนที่ไอร์จะรู้สึกสงสารแต่กลับตลกเสียมากกว่า

“.........” เมินหน้าเล่นตัว

“นะๆ ๆ ๆ” ยังคงพยายามออดอ้อน

“ก็ได้ถือว่าตอบแทนที่มึงเอาน้ำมาให้กูละกัน” รับช่อดอกกุหลาบนั้นมาถือไว้

“ดอกกุหลาบหอมมากเลยนะลองดมดูสิ”

“ไม่! ได้คืบจะเอาศอก”

“ก็ได้ๆ ...ขาดอย่างเดียวจริงๆ” ต๋องพูดเปรยๆ ออกมา

“ขาดอะไร” คนที่นอนอยู่บนเตียงถามด้วยความสงสัย

“ก็ขาดแหวนไงก็จะเหมือนการขอแต่งงานแล้ว”

“มึงยังจะคิดถึงเรื่องอย่างนั้นอีกเหรอวะ”

“ก็คิดสิวะ ถึงมันจะข้ามขั้นไปแล้วแต่กูก็อยากจะทำให้มันถูกต้อง เอาไว้วันหลังก็จะมาขอมึงใหม่ละกัน”

“เพ้อไปคนเดียวเถอะ”

“อื้อ...” ระหว่างนั้นอันดาก็เริ่มรู้สึกตัว ส่งเสียงอ้อแอ้ทำให้ผู้เป็นพ่อหันขวับไปมองลูกสาวทันที

“อันดาตื่นแล้วเหรอลูก” ต๋องรีบเดินไปหาลูกสาวแล้วพยุงตัวขึ้นมา

ไอร์ใช้โอกาสนี้ก้มหน้าลงไปสูดกลิ่นหอมของดอกกุหลาบทันทีก่อนจะวางลงข้างๆ ตัว ถ้าขืนทำต่อหน้ามีหวังเขาได้เขินจนตัวบิดแน่นอน

“อันดามาหาแม่เร็วลูก” ไอร์เอ่ยกับลูกสาวขณะนั่งอยู่บนเตียง

“คุณแม่!” เมื่อเห็นว่าแม่รู้สึกตัวแล้วเด็กหญิงตัวน้อยก็รีบวิ่งมากอดทันที

“ทำยังกับแม่จะหายตัวไปซะอย่างนั้น”

“น้องอันดากลัวคุณแม่จะไม่ตื่น”

“แม่ไม่เป็นอะไรไปง่ายๆ หรอกค่ะ อย่าลืมนะว่าแม่เป็นหมอ” พูดแล้วก็หอมที่กลางกระหม่อมลูกสาว

“คุณพ่อเป็นห่วงคุณแม่มากๆ เลยนะคะ อันดาเห็นคุณพ่อจุ๊บที่หน้าผากคุณแม่ด้วย”

ไอร์หันขวับไปมองหน้าทันที คนที่ถูกกล่าวหาทำหน้าเหรอหรา เอาแล้วไงลูกสาวตัวดีเริ่มหางานให้เขาแล้ว

“โทษทีมันห้ามตัวเองไม่ได้” เจ้าตัวยิ้มแหยๆ ให้ ยอมรับแต่โดยดี

เด็กหญิงอันดายิ้มกริ่มขณะอยู่ในอ้อมกอดผู้เป็นแม่

ขณะนั้นเองปิ่นแก้วก็เดินเข้ามาในห้อง

“เป็นไงบ้างลูกดีขึ้นรึยัง”

“ดีขึ้นแล้วครับแม่”

“นี่ก็เที่ยงพอดีลงไปทานข้าวกันเถอะแม่เตรียมสำรับไว้รอข้างล่างแล้ว”

“ครับแม่”

“น้องอันดามากับยายเร็วลูกไปล้างหน้ากัน” อันดารีบเดินไปหาผู้เป็นยายทันที “เดี๋ยวตามลงไปละกันนะ” เธอบอกกับทั้งสองคนแล้วพาหลานสาวลงไปข้างล่าง

เมื่ออยู่ในห้องเพียงแค่สองคน ต๋องก็รีบไปพยุงตัวคนรักขึ้นจากเตียง

“ลุกเองได้น่า” คนที่เพิ่งจะหายป่วยเริ่มอวดเก่งขึ้นมา

“อย่าอวดเก่งเดี๋ยวก็ได้ล้มกันพอดี” พูดแล้วก็รวบเอวเอาไว้แน่น

“ปล่อยเถอะน่ากูเดินเองได้” เมื่อลุกขึ้นยืนอยู่ข้างเตียงแล้วไอร์ก็พยายามอยู่นิ่งๆ ก่อนจะแกะมืออีกคนออก

“เออๆ กูอยากจะรู้นักว่ามึงจะอวดเก่งได้สักกี่น้ำ” ต๋องจ้องมองคนที่ยืนโคลนเคลนอยู่อย่างขัดใจ เดินได้เพียงสองสามก้าวก็เกือบจะล้มลง ยังดีที่ต๋องอยู่ไม่ห่างเลยพยุงตัวเอาไว้ได้ทัน

“อวดเก่งเข้าไปจะตายโดยไม่รู้ตัวอยู่แล้ว” พูดแล้วก็อุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวทันที

“มึงทำบ้าอะไรเนี่ย!” กำปั้นที่แทบจะไม่มีเรี่ยงแรงทุบเบาๆ ที่อกแกร่ง มืออีกข้างก็คล้องคอเอาไว้เพราะกลัวจะหล่นลงที่พื้น

“อวดเก่งดีนักอย่างนี้ต้องโดนทำโทษ”

ฟอดดด!

ใบหน้าคมก้มลงมาสูดความหอมจากแก้มนุ่มแช่ไว้อยู่นานก่อนจะผละออกมาแล้วยิ้มกวนๆ ให้

“มึงฉวยโอกาสกูอีกแล้ว” ใบหน้าที่เคยซีดเซียวกลับมีเลือดฝาดขึ้นมาทันที

“กูไม่ได้ฉวยโอกาสนะเว้ย แต่มึงยั่วกูเองต่างหาก”

“กูยั่วมึงตรงไหน” ทำหน้าบึ้งใส่

“ก็...คอเสื้อมึงอ่ะมันกว๊างกว้าง” สายตาคมจ้องมองที่เนินอกขาวๆ

เมื่อเห็นอย่างนั้นไอร์ก็รีบดึงคอเสื้อขึ้นมาทันที

“ไอ้คนลามก มึงอ่านกินแม้กระทั่งคนป่วย ไอ้โรคจิต”

“ทำเป็นหวงตัวมากกว่านี้ก็เคยมาแล้วป่ะวะ” เจ้าตัวยิ้มกริ่มให้

“พอเลยๆ ถ้าไม่รีบลงไปก็ปล่อยกูลง”

“ไปแล้วคร้าบบบ”

พูดแล้วก็รีบอุ้มคนรักลงไปข้างล่างทันที วันนี้ต๋องอยู่กับลูกเมียทั้งวันอย่างที่พูดไว้ และนั่นทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเริ่มจะกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว มันทำให้ไอร์ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้เสียที



*-*-*-*-*-*



หลายวันต่อมาต๋องรีบออกจากบริษัทมารับลูกสาวเหมือนเช่นเคย แต่วันนี้เจ้าตัวมีอะไรที่พิเศษกว่านั้นเพราะตั้งใจจะมาขอคนรักแต่งงาน ก่อนมาโรงเรียนก็แวะไปรับกล่องกำมะหยี่สีแดงที่มีแหวนเพชรเม็ดโตอยู่ข้างในที่ร้านเพชรชื่อดังแห่งหนึ่ง

ยืนรออยู่ข้างรถได้ไม่นานก็ถึงเวลาเลิกเรียนของลูกสาว เด็กๆ เริ่มทยอยออกมาจากโรงเรียน โดยมีผู้ปกครองมารอรับกันอย่างพลุกพล่าน เด็กหญิงอันดาเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนทุกวัน ต๋องเห็นลูกสาวก็ยิ้มออกมาทันที เด็กหญิงอันดายกมือไหว้คุณครูที่มายืนส่งอยู่หน้าประตูรั้ว หลังจากนั้นก็รีบวิ่งมาหาผู้เป็นพ่อ ขณะเดียวกันต๋องก็จะเดินไปรับลูกสาวแต่ระหว่างนั้นเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

“อันดาระวังลูก!”

รถเก๋งสีขาวยี่ห้อดังวิ่งเข้ามาด้วยความเร็ว อันดาที่ยืนอยู่กลางถนนมองด้วยความตกใจ ต๋องรีบวิ่งเข้าไปผลักตัวลูกสาวออก ทำให้ร่างกำยำกระแทกเข้ากับหน้ารถอย่างจังจนกระเด็นออกไป

ตุบ!

กรี๊ดดดด!!!!

“ไอ้ต๋องงงงง!!” ไอร์เดินลงมาจากรถและเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จึงตะโกนออกมาด้วยความตกใจ แล้วรีบวิ่งเข้ามาในจุดเกิดเหตุ พร้อมกับนั่งลงข้างๆ ร่างที่นอนจมกองเลือดอยู่แล้วร้องไห้ด้วยความตกใจ

“ต๋องมึงอย่าเป็นอะไรนะ ฮือๆ ๆ ช่วยด้วยครับ เรียกรถพยาบาลให้ผมที” ไอร์ตะโกนเสียงดังอย่างกับคนไร้สติ

ร่างที่นอนอยู่บนพื้นยังพอมีสติขณะเลือดที่ศีรษะเริ่มไหลออกมาเรื่อยๆ ไอร์รีบเอาผ้าเช็ดหน้ามาห้ามเลือดเอาไว้

“อะ..ไอร์” คนที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นยิ้มน้อยๆ ออกมาก่อนจะพยายามล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง

“ต๋องมึงจะต้องไม่เป็นอะไร...อย่าหลับนะมึงกูอยู่ตรงนี้แล้ว ฮือๆ” พูดพร้อมกับร้องไห้เสียงดัง

“กูดีใจ.....” เจ้าตัวพยายามจะพูดต่อแต่เปลือกตากลับค่อยๆ ปิดตัวลง มือที่ถือกล่องกำมะหยี่สีแดงกำลังจะยื่นให้ก็เป็นอันต้องหล่นลงที่พื้นพร้อมกับสติที่หมดลงไป

“ต๋องงงงง!! ฮือๆ ๆ”

ไอร์ร้องไห้ราวจะขาดใจก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงแล้วเปิดดู เมื่อรู้ว่ามันคือแหวนเพชร ก็ทำให้นึกถึงคำพูดที่เคยบอกว่าจะขอแต่งงาน ยิ่งทำให้เจ้าตัวร้องไห้หนักเข้าไปใหญ่

มึงจะต้องไม่เป็นอะไรนะ มึงต้องอยู่กับกูและลูกนะต๋อง....กูรักมึง...ได้ยินไหมว่ากูรักมึง...



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-03-2019 11:20:09
อย่าเป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 05-03-2019 11:20:30
อ้าวเห้ย.. ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่าาา...  :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 05-03-2019 11:25:15
อุบัติเหตุครั้งนี้ คงจะทำให้รักกันมากขึ้น
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 05-03-2019 12:31:54
ขอให้ต๋องปลอดภัยนะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 05-03-2019 13:28:51
ดึงดราม่าไปอีก
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 05-03-2019 17:48:59
 :katai1: :katai1:
ต๋องอย่าเป็นอะไรนะะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 05-03-2019 20:32:45
 :pig4: :pig4: :pig4:

คุณหมอไอร์ตกใจเสียสติ  จนลืมความเป็นหมอในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเลยเหรอครัช?
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-03-2019 22:51:57
ใครฟ่ะขับรถโคตรเลวววววว ว่าแต่ว่า มันยังอยู่ในเขตโรงเรียนป่ะเนี่ย  :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-03-2019 23:11:56
จ้ะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 06-03-2019 10:51:20
เอ้าซะงั้น ต๋องอย่าเป็นอะไรนะ โอ้ยๆๆๆ รออ่านต่อค้าบ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 06-03-2019 16:00:11
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.12 แหวนเพชร [Up. 05-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-03-2019 07:45:50
 :pig4:
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.13 ไร้ความรู้สึก [Up. 07-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 07-03-2019 11:46:40
:: ๑๓ ::
ไร้ความรู้สึก


ตึก! ตึก! ตึก!

ครืนนน! .......

“ญาติรอข้างนอกก่อนนะคะ”

“ช่วยเพื่อนผมด้วยนะครับหมอ ฮึก..”

ไอร์ยืนปล่อยโฮมองตามรถเข็นที่กำลังพาร่างไร้สติ เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉานอย่างหมดอาลัยตายอยาก ภาพที่ต๋องโดนรถชนต่อหน้าต่อตายังคงฉายซ้ำวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา ยิ่งคิดยิ่งทำให้รู้สึกกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรไป มือเรียวที่สั่นเทาจับมือน้อยๆ ของลูกสาวเอาไว้แน่นไม่ให้ห่างกาย

“คุณพ่อจะตายไหมคะ ฮือๆ ๆ” เจ้าตัวเล็กร้องไห้เสียงดังเมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นพ่อก่อนหน้านี้

“ไม่หรอกลูก คุณพ่อจะต้องปลอดภัยเรามาส่งกำลังใจให้คุณพ่อกันนะ” คนเป็นแม่นั่งลงตรงหน้าลูกสาวแล้วประครองใบหน้าน้อยๆ เอาไว้อย่างอ่อนโยน เจ้าตัวน้อยจ้องตาผู้เป็นแม่แล้วฟังด้วยความตั้งใจ

“น้องอันดาจะเป็นกำลังให้คุณพ่อค่ะ”

“ดีแล้วลูกแต่ตอนนี้แม่จะพาน้องอันดาไปทำแผลก่อนนะ แล้วเราค่อยมานั่งเฝ้าคุณพ่อกัน” ไอร์จำเป็นต้องพาลูกสาวไปทำแผลถลอกที่หัวเข่าจากการล้มกระแทกพื้นเสียก่อน แม้ตอนนี้แทบไม่อยากออกห่างหน้าห้องฉุกเฉินแม้แต่น้อย

หลังจากพาลูกสาวไปทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไอร์ก็อุ้มเจ้าตัวเล็กมานั่งรอที่หน้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีผู้ใดออกมาจากห้อง เจ้าตัวนั่งจ้องมองประตูด้วยความกังวลใจ กลัวว่ามันจะสายเกินกว่าจะได้บอกว่ารักเขาคนนั้นมากแค่ไหน

สักพักประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออกมา พร้อมการปรากฏตัวของคุณหมอหน้าตี๋ที่สวมแว่นตาหนาเตอะ ดูท่าทางอิดโรยจากการช่วยชีวิตผู้ป่วยมานานนับชั่วโมง

“คุณหมอครับเพื่อนผมเป็นยังไงบ้าง” คนที่กำลังนั่งเครียดลุกขึ้นหน้าตาตื่นรีบเดินเข้าไปหาคุณหมอ

“ตอนนี้คนไข้ยังไม่พ้นขีดอันตรายเพราะได้รับการกระทบกระเทือนในหลายจุดโดยเฉพาะที่สมอง หมอต้องให้อยู่ในห้องไอซียูรอดูอาการไปเรื่อยๆ ก่อนครับ”

“คุณหมอต้องช่วยเพื่อนผมให้ได้นะครับผมขอร้องล่ะ ฮึก..” เจ้าตัวยกมือไหว้รัวๆ ในใจก็รู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งรู้ว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนนั่นมันไม่ดีแน่นอน

“หมอจะพยายามให้เต็มที่ครับ”

“แล้วผมจะเข้าไปเยี่ยมได้รึยังครับ”

“เดี๋ยวรออีกสักชั่วมึงนะครับ ผมจะให้พยาบาลมาแจ้งอีกที ตอนนี้คุณควรไปพักผ่อนบ้างนะครับดูท่าทางไม่ค่อยดีเลย”

“ครับคุณหมอ”

“ถ้างั้นผมขอตัวไปดูคนไข้รายอื่นก่อนละกัน อย่าคิดมากนะครับ”

“ครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” พูดแล้วก็ยกมือไหว้อีกครั้ง คุณหมอเองก็รับไหว้แล้วเดินออกไป

ไอร์มองที่ประตูห้องฉุกเฉินด้วยสายตาที่เวิ้งว้าง หวังว่าปาฏิหาริย์คงจะมีจริง ความดีและบุญกุศลที่เคยทำมาตลอดชีวิต จงดลบันดาลให้เพื่อนรักปลอดภัยด้วยเถิด เจ้าตัวได้แต่ภาวนาในใจ

หลังจากนั้นก็โทรไปแจ้งข่าวที่บ้านต๋อง และโทรหาผู้เป็นแม่ให้มารับตัวอันดากลับบ้าน ส่วนตัวเขาเองก็นั่งรอเวลาที่จะได้เข้าไปเยี่ยม

หลังจากโทรไปแจ้งข่าวได้ไม่นาน กานดาและวีระพลก็รีบเดินทางมาที่โรงพยาบาล

“หนูไอร์ต๋องเป็นยังไงบ้างลูก”

เมื่อเห็นคนทั้งสองเจ้าตัวก็ยกมือไหว้ทันที

“สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่”

“สวัสดีจ๊ะ”

“ตอนนี้รอให้พยาบาลเรียกเข้าไปครับ หมอบอกยังไม่พ้นขีดอันตรายต้องให้อยู่ในห้องไอซียูสักระยะเพื่อสังเกตอาการ” พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และเริ่มจะร้องไห้อีกครั้ง

“โธ่ ต๋องลูกแม่ ฮือๆ” กานดานั่งทรุดตัวลงที่เก้าอี้ก้มหน้าร้องไห้เสียงดังราวจะขาดใจ หล่อนกลัวว่าลูกชายจะเป็นอะไรไปเสียก่อนจะได้มีความสุขอย่างที่ได้ตั้งใจไว้ เมื่อคืนยังโทรมาปรึกษาเรื่องจะขอไอร์แต่งงานอยู่เลย ไม่นึกว่าเรื่องมันจะเกิดขึ้นกะทันหันอย่างนี้ ทำไมโชคชะตาต้องเล่นตลกกับชีวิตลูกชายหล่อนด้วยนะ

ทรงพลเดินเข้ามาโอบกอดปลอบใจภรรยา

“ทำใจดีๆ เอาไว้คุณลูกเราต้องไม่เป็นอะไร”

“ลูกเราจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคุณ”

“ใช่ลูกเราจะต้องปลอดภัย”

ไอร์มองดูคนทั้งสองแล้วก็ปลื้มใจแทนเพื่อนรัก ครอบครัวที่ต๋องเคยบอกเสมอว่าไม่มีความอบอุ่น เป็นครอบครัวที่แตกแยก แต่วันนี้เขาได้รู้แล้วว่ายังไงซะคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่เคยทอดทิ้งเราไปไหน แม้ต๋องจะไม่ได้ถูกเลี้ยงดูอย่างใส่ใจมากนัก แต่ถึงยังไงทั้งสองคนก็รักลูกไม่แพ้พ่อแม่คนอื่นๆ

ไม่นานนักพยาบาลสาวก็เดินออกมาจากห้อง

“เชิญญาติคนไข้เข้าไปเยี่ยมด้านในได้เลยค่ะ ตามดิฉันมาทางนี้ค่ะ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นทุกคนก็ยิ้มด้วยความดีใจที่จะได้เจอหน้าคนที่พวกเขารัก แต่คนที่มีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัดนั่นคือไอร์ เขากลัวจะทำใจไม่ได้ กลัวจะจิตตกกับภาพที่เห็นต่อจากนี้ไป

หลังจากเปลี่ยนชุดเพื่อป้องกันการติดเชื้อแล้ว ทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยไอซียู มองผ่านกระจกเข้าไปก็แทบใจสลาย คนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงมีผ้ากลอสสีขาวพันไว้รอบศีรษะมีรอยเลือดซึมออกมาเล็กน้อย สายยางเล็กๆ ห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด มีเครื่องช่วยหายใจที่ครอบเอาไว้บริเวณปากและจมูก ที่ขาข้างซ้ายก็ใส่เฝือกเอาไว้ สภาพตอนนี้ไม่เหลือเค้าโครงของต๋องคนเดิมเลยแม้แต่น้อย

“ฮือๆ ๆ ต๋องลูกแม่” กานดาแทบทรุดลงกับพื้นแต่สามีช่วยพยุงเอาไว้ได้ก่อน

ไอร์มองภาพตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด มือเรียวที่สั่นเทาค่อยๆ เอื้อมไปสัมผัสที่กระจกอย่างช้าๆ เหมือนต้องการสื่อให้คนที่นอนอยู่บนเตียง รู้ว่ามีใครบางคนกำลังยืนให้กำลังใจอยู่ตรงนี้ น้ำตาแห่งความโศกเศร้าไหลลงมาเป็นทางไม่ยอมหยุด

“เมื่อคืนนี้ต๋องโทรมาปรึกษาแม่ ฮึก” กานดาเอ่ยขึ้นแม้กำลังสะอื้นไห้อยู่ก็ตาม “ว่าจะขอไอร์แต่งงานดีไหม แม่ไม่นึกเลยว่ามันจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นเสียก่อน ฮือๆ”

“ขอแค่มันฟื้นขึ้นมาผมจะยอมมันทุกอย่าง ถ้ามันอยากแต่งงานผมก็จะแต่ง ฮึก.. แหวนวงนี้มันพยายามยื่นให้ผมก่อนจะหมดสติไป มึงต้องฟื้นขึ้นมาขอกูแต่งงานนะต๋อง...กูจะรอมึง” พูดพร้อมกับปาดน้ำตาออกจากแก้มไปด้วย แต่ถึงกระนั้นไอร์ก็ไม่สามารถห้ามให้มันไหลลงมาอีกได้

“ลูกต้องหายนะต๋อง ถึงแม้ว่าพ่อจะไม่เคยบอกรัก แต่พ่อก็รักลูกมากที่สุด ฟื้นขึ้นมาหาพวกเรานะลูก” วีระพลมองลูกชายตาละห้อยด้วยความเป็นห่วง ในใจก็รู้สึกผิดที่ต้องมาบอกรักลูกในวันที่เจ้าตัวนอนเจ็บปางตายอย่างนี้

ทั้งสามคนยืนจ้องมองผ่านกระจกด้วยความหวังว่าคนที่นอนอยู่ในนั้นจะปลอดภัย และฟื้นขึ้นมาหาพวกเขาอีกครั้ง



*-*-*-*-*-*-*



สองเดือนต่อมา

ตอนนี้ก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว ต๋องสามารถหายใจได้เองโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจ สามารถลืมตาและหลับตาได้เป็นปกติ แต่ไม่สามารถพูดคุยได้ ไม่รับรู้และไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น และที่สำคัญไม่สามารถขยับตัวได้เลย นั่นเป็นอาการของภาวะสภาพผักหรืออาการของเจ้าชายนิทรา เนื่องจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง หากครบหนึ่งปีแล้วยังอยู่ในสภาพเช่นนี้ ก็คงไม่มีโอกาสที่จะฟื้นขึ้นมาได้เป็นปกติอีกแล้ว

“คุณหมอครับ...ขอบคุณที่อนุญาตให้ผมพาแฟนกลับไปดูแลที่บ้านนะครับ” ตอนนี้เจ้าตัวพูดได้เต็มปากแล้วกับคำว่า ‘แฟน’ ที่อีกฝ่ายคงอยากได้ยินมาตลอด แม้ไม่รู้ว่ามันจะสายไปหรือเปล่าแต่เขาก็ยังจะทำทุกอย่างให้คนรักเท่าที่จะทำได้

“ยินดีครับ...ช่วงบ่ายก็ทำเรื่องออกได้เลย คุณเองก็เป็นหมอเหมือนกัน ผมคงไม่ห่วงเรื่องการดูแลผู้ป่วยแน่นอน” คุณหมอเจ้าของไข้กล่าวด้วยความเป็นกันเอง เพราะช่วงสองเดือนที่ผ่านมาไอร์เข้าออกโรงพยาบาลแทบทุกวัน จนเจ้าหน้าที่ทุกคนจำหน้าได้เป็นอย่างดี

“ขอบคุณที่วางใจผมนะครับ เดี๋ยวถ้ามีอะไรสงสัยผมอาจจะมาปรึกษาคุณหมอบ้าง” ไอร์ยังคงถ่อมตัวเพราะถึงจะเป็นหมอแต่ก็ต้องยอมรับว่านายแพทย์ที่ยืนอยู่ตรงหน้า มีความเชี่ยวชาญกว่าเขาเยอะ

“ยินดีครับคุณหมอ...เดี๋ยวผมขอตัวไปตรวจคนไข้ต่อนะครับ”

“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” เจ้าตัวยกมือไหว้อย่างนอบน้อม หลังจากนั้นคุณหมอเจ้าของไข้ก็เดินออกไปพร้อมกับพยาบาลสาวสวย

เรื่องที่จะพาต๋องไปรักษาตัวที่บ้าน ไอร์ได้ปรึกษากับพ่อและแม่ของเจ้าตัวเรียบร้อยแล้ว กานดาและวีระพลตอบตกลงโดยไม่ต้องติด เพราะมั่นใจว่าไอร์จะช่วยดูแลลูกชายได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญการได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกและเมียอาจจะทำให้ลูกชายฟื้นตัวในเร็ววันก็เป็นได้

“กูจะดูแลมึงเองนะต๋อง มึงต้องหายเป็นปกตินะเว้ย มึงต้องลุกขึ้นมาขอกูแต่งงานให้ได้นะ” แม้ว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงจะลืมตาได้เหมือนคนปกติ แต่เจ้าตัวก็ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ไอร์ยืนกุมมือหนาเอาไว้พร้อมกับมองหน้าคนป่วยด้วยความหวัง ตอนนี้สภาพร่างกายแทบจะปกติแล้ว จะมีก็เพียงแผลเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังไม่หายดีนัก และขาที่ยังใส่เฝือกเอาไว้เท่านั้นเอง

หลังจากนั้นไม่นานกานดาและวีระพลก็เดินเข้ามาในห้อง เพราะรู้ว่าวันนี้จะต้องย้ายตัวลูกชายไปรักษาตัวต่อที่บ้านของไอร์

“ไอร์มาแต่เช้าเลยนะลูก”

“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่” เจ้าตัวยกมือไหว้

“คุณหมอว่ายังไงบ้าง” พูดพลางลูบศีรษะของลูกชายอย่างเบามือ

“คุณหมอตรวจเสร็จแล้วไม่มีปัญหาอะไรครับ เดี๋ยวตอนบ่ายผมจะทำเรื่องให้รถโรงพยาบาลไปส่งที่บ้าน”

“ถ้าไม่มีไอร์แม่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ขอบใจนะลูกที่ช่วยดูแลต๋องมาตลอด” กานดายิ้มให้อย่างเอ็นดู

“ไม่เป็นไรครับแม่ไอ้ต๋องมันก็เพื่อนผมเหมือนกัน”

“จนป่านนี้แล้วยังจะเรียกว่าเพื่อนอยู่อีกเหรอจ๊ะ แม่ว่าต๋องคงอยากได้ยินคำอื่นมากกว่ามั้ง” กานดาแซวอีกฝ่าย

“จริงๆ แล้วผมเองก็อยากจะใช้คำว่าแฟน แต่พอดีมันชินกับคำว่าเพื่อนไปหน่อย” เจ้าตัวยิ้มแหยๆ

“ต่อไปนี้ไอร์ถือว่าเป็นลูกสะใภ้ของแม่แล้วนะ ถึงจะยังไม่ได้แต่งงานกันก็เถอะ”

“ครับแม่” เจ้าตัวยิ้มรับแต่โดยดี

“แล้วคลินิกเสร็จรึยังล่ะ”

“ใกล้แล้วครับเหลือตกแต่งภายในนิดหน่อยเท่านั้นเอง”

เมื่อรู้ว่าคนรักเป็นเจ้าชายนิทรา ไอร์ก็ตัดสินใจลาออกจากการเป็นหมอในโรงพยาบาลมาเปิดคลีนิกที่บ้าน เพราะจะได้มีเวลาดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา ส่วนร้านขายข้าวแกงของปิ่นแก้วยังคงเปิดอยู่ข้างๆ กัน

“มีอะไรให้พ่อกับแม่ช่วยก็บอกนะ” วีระพลเอ่ยกับลูกสะใภ้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เขาดีใจที่ได้ไอร์มาช่วยดูแลลูกชาย หากเป็นคนอื่นก็คงไม่วางใจได้เท่านี้ เพราะเด็กสองคนนี้ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะแยะมากมาย จนคิดว่าคงไม่สามารถแยกจากกันไปได้ และเชื่อว่าต๋องเองต้องหายเป็นปกติด้วยเพราะความรักความห่วงใยที่ไอร์มอบให้ไม่เคยห่าง

“ขอบคุณครับพ่อ”

“วันนี้พ่อกับแม่เคลียร์งานเรียบร้อยแล้ว จะไปส่งต๋องที่บ้านพร้อมกัน”

“ดีเลยครับผมจะได้โทรไปบอกคุณแม่ทำกับข้าวไว้เผื่อ”

“ถ้างั้นพ่อกับแม่ไม่เกรงใจนะ...ฝากท้องด้วยละกัน” กานดาจับมือลูกสะใภ้เอาไว้แน่น

“ยินดีเลยครับแม่”

ทั้งสามคนยิ้มให้กันก่อนจะนั่งเฝ้าคนป่วยที่นอนไร้ความรู้สึกอยู่บนเตียง รอเวลาที่จะพากลับไปรักษาตัวที่บ้าน



*-*-*-*-*-*-*



ตอนนี้รถพยาบาลมาจอดที่หน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ช่วยกันยกผู้ป่วยมานั่งรถเข็นแล้วเข็นเข้าไปในห้องที่ไอร์ได้จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ มีเตียงและเครื่องมือดูแลผู้ป่วยไม่ผิดเพี้ยนจากโรงพยาบาล มีประตูเชื่อมต่อกับคลินิก เพื่อให้เจ้าตัวสามารรถทำงานไปด้วยและเข้าไปดูแลได้ตลอดเวลา

กานดาและวีระพลกลับไปหลังจากทานมือเย็นเรียบร้อยแล้ว ไอร์ก็พาลูกสาวขึ้นไปอาบน้ำ ก่อนจะหอบที่นอนลงมาปูที่ข้างเตียงผู้ป่วย เขาและลูกสาวตั้งใจจะลงมานอนที่นี่จนกว่าต๋องจะหายเป็นปกติ แต่หากโชคร้ายไม่เป็นเช่นนั้น แม้ต้องใช้เวลาตลอดชีวิตเขาก็จะยอมอยู่อย่างนี้ไม่จากไปไหน หากอีกคนยังไม่สิ้นลมหายใจเขาก็ยังมีความหวังเสมอ

“ไม่ให้แม่มานอนด้วยจริงๆ นะลูก” ปิ่นแก้วเอ่ยขณะช่วยลูกชายจัดเตรียมที่นอน

“ครับแม่ แม่นอนในห้องเถอะผมกับอันดาจะนอนที่นี่เอง”

“ถ้ามีอะไรเรียกแม่ได้ตลอดเลยนะ”

“ครับแม่”

“แล้วนี่อันดาไปไหนซะล่ะ” พูดแล้วก็ชะเง้อมองหาหลานสาว

“อยู่ข้างบนครับสงสัยกำลังใส่เสื้อผ้าอยู่”

ไม่นานนักเจ้าตัวเล็กก็วิ่งแจ้นเข้ามาในห้องพร้อมกับตุ๊กตาหมีตัวโปรด รวมถึงกระเป๋านักเรียนที่ตั้งใจจะมาทำการบ้านอีกด้วย

“น้องอันดามาแล้วค้า” พูดแล้วก็กระโดดขึ้นกอดคอผู้เป็นยาย

“ทาแป้งซะหอมเชียวไหนมาให้ยายจุ๊บแก้มหน่อยสิ” ปิ่นแก้วจับตัวหลานสาวเข้ามากอดไว้แล้วหอมแก้มซ้ายขวาสลับกันอย่างชื่นใจ

“ให้น้องอันดาจุ๊บคุณยายบ้างสิ” ว่าแล้วก็หอมแก้มผู้เป็นยายคืน

“เดี๋ยวยายขึ้นข้างบนก่อน ช่วยแม่ดูแลพ่อดีๆ ล่ะ” ปิ่นแก้วบอกกับหลานสาว

“ค่ะคุณยาย”

หลังจากปิ่นแก้วออกไปจากห้องแล้ว ไอร์กับลูกสาวก็ช่วยกันเช็ดตัวให้คนที่นอนอยู่บนเตียง ไอร์จุ่มผ้าผืนเล็กๆ ลงในถังน้ำก่อนจะบิดจนหมาดแล้วส่งให้ลูกสาว

“น้องอันดาเช็ดแขนให้คุณพ่อนะคะ”

“ค่ะคุณแม่”

เด็กหญิงตัวน้อยรับผ้ามาแล้วบรรจงเช็ดบริเวณฝ่ามือของผู้เป็นพ่ออย่างตั้งใจ ส่วนไอร์เองก็จัดการเช็ดบริเวณใบหน้าและลำคอ เมื่อมองใบหน้าคมที่กำลังจ้องมองเพดานอยู่อย่างไร้ความรู้สึก เจ้าตัวก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาซึมออกมา ไอ้คนหน้าทะเล้นที่ชอบกวนตีนเขาในวันนั้นหายไปไหนแล้ว...

“ช่วยกลับมาเป็นคนเดิมของกูได้ไหมต๋อง”



กูจะไม่ทิ้งมึงไปไหน....กูจะอยู่กับมึงจนกว่าจะถึงลมหายใจสุดท้าย



หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.13 ไร้ความรู้สึก [Up. 07-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 07-03-2019 11:54:55
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.13 ไร้ความรู้สึก [Up. 07-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: FanclubPong ที่ 07-03-2019 13:20:59
โหยกำลังไปได้สวย ดันมาเกิดอุบัติเหตุก่อน
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.13 ไร้ความรู้สึก [Up. 07-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 07-03-2019 13:49:52
มาม่าไปอีก
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.13 ไร้ความรู้สึก [Up. 07-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-03-2019 14:26:30
ขอให้ต๋องอาการดีขึ้นและฟื้นกลับมาไวๆนะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.13 ไร้ความรู้สึก [Up. 07-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-03-2019 15:52:06
 :pig4: :pig4: :pig4:

โหย...มาม่าแบบรุนแรงเกือบชีวิต
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.13 ไร้ความรู้สึก [Up. 07-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 07-03-2019 20:43:28
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.13 ไร้ความรู้สึก [Up. 07-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-03-2019 21:19:17
ไม่นึกว่าคนเขียนจะใจร้ายเล่นมุกนี้กับอันดา สงสารเด็กมันนะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.13 ไร้ความรู้สึก [Up. 07-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-03-2019 22:55:20
เชื่อซิ ว่ามันต้องผ่านพ้นไปได้ด้วยดี รอนิดรอหน่อยแล้วกัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.13 ไร้ความรู้สึก [Up. 07-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-03-2019 00:15:34
เห้อออ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.13 ไร้ความรู้สึก [Up. 07-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 08-03-2019 12:51:37
ง่าาาา...  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 08-03-2019 14:52:47
:: ๑๔ ::
ความทรงจำสีจาง


แม้ตอนนี้เวลาจะผ่านมาสามเดือนแล้วแต่อาการต๋องก็ยังทรงตัว ไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้นแม้แต่น้อย ถึงกระนั้นไอร์ก็ยังคงดูแลคนรักไม่มีขาดตกบกพร่อง ควบคู่ไปกับการเปิดคลินิกรักษาคนไข้ โดยคิดอัตราค่ารักษาในราคาที่เหมาะสม เพื่อให้คนมีรายได้น้อยสามารถเข้ามาใช้บริการได้อย่างไม่ต้องกังวล

ด้วยความที่ต้องทำหลายอย่างควบคู่กัน ไอร์จำเป็นต้องจ้างคนมาดูแลต๋องในช่วงที่ทำงานในคลีนิค ส่วนตอนเย็นก็จะมาดูแลด้วยตัวเอง แต่ละวันผ่านไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและเศร้าใจ ที่เห็นคนรักอยู่ตรงหน้าแต่ไม่สามารถพูดโต้ตอบ ไม่สามารถรับรู้เรื่องราวที่เขาตั้งใจเล่าให้ฟังในทุกๆ วัน แต่นั่นไม่ได้ทำให้ไอร์ท้อเลยแม้แต่น้อย

“แค่กๆ ๆ” ขณะให้อาหารเหลวทางสายยาง อยู่ๆ คนป่วยที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงก็ไอแล้วสำลักออกมา ไอร์จึงหยุดให้อาหารทันที ก่อนจะพยายามจับตัวคะแคงด้านซ้ายเพื่อให้อาการดีขึ้น

“ทำไมถึงไอไม่ยอมหยุดนะ ปกติไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน” เจ้าตัวทำถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง แต่ครั้งนี้กลับมีความผิดปกติ

“แค่กๆ ๆ”

เมื่อเห็นคนรักไอไม่ยอมหยุดและมีอาการหายใจติดขัด เป็นเช่นนี้ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน นั่นเพราะอาหารเหลวที่ให้ไปอาจจะไหลเข้าสู่หลอดลม และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

“ไอร์! ต๋องเป็นอะไรลูก” เมื่อได้ยินเสียง ปิ่นแก้วก็รีบเดินเข้ามาพร้อมกับหลานสาวตัวน้อย

“คุณพ่อ!” อันดารีบวิ่งมายืนข้างเตียงด้วยความเป็นห่วงพ่อ

“แม่ช่วยโทรเรียกรถพยาบาลให้หน่อยครับ ต๋องกำลังแย่” ขณะจับตัวผู้ป่วยนอนตะแคงอยู่นั้น ไอร์ก็หันมาไหว้วานผู้เป็นแม่

“ได้จ๊ะเดี๋ยวแม่โทรตอนนี้เลย” ปิ่นแก้วรีบเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วโทรเรียกรถพยาบาลทันที

ระหว่างนั้นไอร์ก็พยายามดูแลคนรักไม่ให้คลาดสายตา ยิ่งเห็นอีกฝ่ายไอจนน้ำตาไหลยิ่งทำให้ไอร์ร้องไห้หนักเข้าไปใหญ่ ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาสำหรับผู้ป่วยประเภทนี้

“คุณพ่ออย่าเป็นอะไรนะคะ ฮึก” อันดายืนร้องไห้งอแงอยู่ข้างๆ ด้วยความสงสารผู้เป็นพ่อ

ไม่นานรถพยาบาลก็มาถึงหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่รีบเคลื่อนย้ายตัวผู้ป่วยขึ้นรถ ขณะที่ไอร์และลูกสาวก็ขึ้นรถตามไปด้วย



เมื่อมาถึงโรงพยาบาลคุณหมอเจ้าของไข้ที่เคยรักษา ก็เข้ามาดูอาการช่วยเหลือเบื้องต้นและตรวจร่างกายอย่างละเอียด ก่อนจะให้ยาหลังจากนั้นคนป่วยก็นอนหลับไปในที่สุด เมื่อทุกอย่างอยู่ในภาวะปกติแล้วไอร์ก็รู้สึกโล่งใจ ขณะนั่งเฝ้าอยู่ในห้องพักผู้ป่วย

“ต้องให้คนไข้อยู่โรงพยาบาลสักระยะก่อนนะครับ หมอกลัวว่าจะเกิดภาวะปอดบวม”

“ครับคุณหมอ ขอบคุณที่ช่วยแฟนผมจนอาการดีขึ้นนะครับ”

“ถือว่าคุณหมอยังมีสตินะครับ ถ้ามาช้ากว่านี้อีกนิดอาจเกิดการอุดตันที่หลอดลมแล้วเสียชีวิตได้”

“ต่อไปผมจะระวังเรื่องให้อาหารเหลวครับคุณหมอ” พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเพราะเป็นคนทำให้คนรักอาการหนักอย่างนี้

“ผมเชื่อว่าคุณทำดีที่สุดแล้วครับอย่ากังวลไปเลย” คุณหมอเอ่ยด้วยความเข้าใจ เพราะเรื่องอย่างนี้มันเกิดขึ้นบ่อยกับผู้ป่วยที่ให้อาหารทางสายยาง แม้จะดูแลดีสักแค่ไหนแต่เรื่องไม่คาดคิดมันก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

“ขอบคุณครับคุณหมอ”

“ถ้ามีอะไรผิดปกติกับคนไข้เรียกผมได้ตลอดเวลาเลยนะครับ”

“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” ไอร์ยกมือไหว้คุณหมอก่อนเจ้าตัวจะเดินออกไปจากห้อง

หลังจากห่มผ้าให้คนป่วยที่กำลังหลับอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว ไอร์ก็เดินมาหาลูกสาวที่นอนหลับอยู่บนโซฟาอีกฟากหนึ่ง อันดาก็อีกคนที่เข้มแข็งไม่แพ้กัน อยู่เคียงข้างไม่ห่างไปไหนรู้สึกโชคดีมากเหลือเกินที่มีลูกสาวเป็นเด็กดีเช่นนี้



ผ่านไปสองวันแล้วที่ต๋องนอนพักเพื่อสังเกตอาการที่โรงพยาบาล วันนี้คุณหมอเข้ามาตรวจอาการอย่างละเอียดก็ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้

หลังจากคุณหมอออกจากห้องไปแล้ว ไอร์ก็นั่งจ้องหน้าคนรักอยู่ข้างเตียงเพียงลำพัง ส่วนกานดาและวีระพลก็เพิ่งจะกลับไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ ระหว่างนั้นก็มีสายโทรเข้า เมื่อรู้ว่าเป็นอาจารย์หมอก็รีบกดรับสาย มัวแต่ยุ่งๆ จนลืมไปเลยว่าไม่ได้ติดต่อกับท่านนานหลายเดือนแล้ว

“สวัสดีครับอาจารย์หมอ”

[“สวัสดีไอร์เป็นยังไงบ้างเงียบไปเป็นนานเลย”]

“ผมต้องขอโทษอาจารย์ด้วยครับที่ไม่ได้ติดต่อไปเลย พอดีช่วงนี้ยุ่งๆ มีเรื่องนิดหน่อยครับ”]

[“อ้าวมีปัญหาอะไรให้อาจารย์ช่วยไหมล่ะ”]

“ตอนนี้ผมนั่งเฝ้าต๋องอยู่ที่โรงพยาบาลครับ มันโดนรถชนเมื่อหลายเดือนก่อน ตอนนี้เป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว” พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าแม้จะไม่ได้ตั้งใจให้อีกฝ่ายเป็นห่วงก็ตาม แต่ทุกอย่างมันออกมาจากใจ

[“ไอร์ต้องเข้มแข็งนะตอนนี้อยู่โรงพยาบาลไหนเดี๋ยวอาจารย์จะไปหา”]

“อยู่โรงพยาบาล XXX ครับ”

[“อีกยี่สิบนาทีเจอกัน”]

“ครับอาจารย์”



ระหว่างนั่งรออาจารย์เจ้าตัวก็นึกถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยได้ช่วยงานวิจัย เขาลืมอาจารย์หมอไปได้ยังไงกัน ขนาดคนที่ไม่มีมดลูก ไม่สามารถตั้งท้องได้ อาจารย์ยังทำให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้อย่างกับมีเวทย์มนตร์วิเศษ คิดอย่างนี้แล้วเจ้าตัวเลยเกิดความหวังขึ้นมา หวังว่าอาจารย์หมอจะช่วยเหลือให้ต๋องหายเป็นปกติได้

อาจารย์หมอเดินเข้ามาในห้องแล้วแต่ไอร์กลับนั่งเหม่อลอยเพราะมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย

“ต๋องเป็นยังไงบ้างไอร์” เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกระเช้าเยี่ยมผู้ป่วย

“สวัสดีครับอาจารย์” เจ้าตัวยกมือไหว้แล้วรับกระเช้ามาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงผู้ป่วย

“อาจารย์ไม่นึกเลยว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น” อาจารย์หมอเดินเข้าไปยืนข้างเตียง แล้วมองหน้าลูกชายเพื่อนด้วยความสงสาร

“ผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกันครับ เรื่องมันกำลังจะดีขึ้นอยู่แล้วเชียว” พูดแล้วก็ถอนหายใจอย่างหมดหวัง

“ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ ยิ่งนานวันเข้ายิ่งมีโอกาสหายเป็นปกติน้อยลงไปเรื่อยๆ” ว่าพลางมองหน้าคนป่วยที่กำลังหลับอยู่บนเตียง

“อาจารย์ครับ...ผมว่าอาจารย์อาจจะช่วยต๋องได้”

“อาจารย์ก็กำลังคิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่มันมีโอกาสเสี่ยงนะไอร์” ทั้งสองเข้าใจตรงกัน แม้ว่าเครื่อง ARM จะมีคุณสมบัติที่พิเศษมาก แต่มันก็ถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการสร้างมดลูกโดยตรง ถ้าจะใช้งานอื่นมันก็ต้องประยุกต์ใหม่ให้เข้ากับอาการที่ต๋องเป็นอยู่ในตอนนี้

“ถ้ามันจะทำให้ต๋องมีโอกาสหายเป็นปกติ ผมก็พร้อมที่จะยอมเสี่ยงครับอาจารย์ ผมมั่นใจว่าอาจารย์จะต้องทำได้ เครื่อง ARM ที่เราเคยใช้ผมรู้ว่ามันมีคุณสมบัติที่วิเศษมาก ขนาดทำให้ผมตั้งท้องได้ มันต้องทำให้ต๋องหายได้เช่นกันครับ” เจ้าตัวพูดด้วยความมั่นใจ

“เรื่องนี้เราต้องไปขออนุญาตพ่อกับแม่ของต๋องก่อนนะ”

“ครับ..ถ้ายังไงผมจะลองไปคุยกับท่านทั้งสองละกัน แล้วใช้เวลานานแค่ไหนกว่าอาจารย์จะพร้อมครับ”

“ขออาจารย์ศึกษาข้อมูลสักสองอาทิตย์ก่อน เพราะต้องประยุกต์ใช้เครื่องให้เหมาะสมกับโรคที่รักษา”

“ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยอาจารย์บอกได้เลยนะครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกไอร์ แค่ดูแลต๋องก็แทบไม่มีเวลาแล้ว อาจารย์มีนักศึกษาแพทย์มาช่วยงานประจำอยู่แล้วไม่ต้องห่วง”

“ขอบคุณอาจารย์หมอมากๆ เลยนะครับ อาจารย์เปรียบเสมือนพ่อที่ทำให้ชีวิตผมมีทุกวันนี้ ผมจะไม่ลืมบุญคุณอาจารย์เลยครับ” นอกจากแม่แล้วก็มีอาจารย์หมอนี่ล่ะที่ไอร์ให้ความเคารพนับถือเหมือนดังบุพการีแท้ๆ

“อาจารย์ก็รักไอร์เหมือนลูกแท้ๆ เลยนะ เรื่องไหนที่อาจารย์ช่วยเหลือได้อาจารย์ก็เต็มใจ” อาจารย์หมอยิ้มกริ่มให้ด้วยความเอ็นดู

“ถ้าว่างๆ อาจารย์ไปทานข้าวที่บ้านผมนะครับ ผมจะให้แม่ควงตะหลิวสุดฝีมือต้อนรับอาจารย์เลย”

“ได้สิถ้าว่างๆ เดี๋ยวอาจารย์จะโทรไปหาละกัน แต่ตอนนี้อาจารย์ขอตัวกลับไปที่มหาลัยก่อนนะ วันนี้นัดเด็กๆ ทำวิจัยกัน”

“ครับอาจารย์”

เดินไปส่งอาจารย์หมอที่หน้าห้อง ก่อนจะกลับเข้ามานั่งเฝ้าคนรักข้างเตียงเหมือนเดิม ไอร์จ้องมองใบหน้าคมที่กำลังนอนหลับไหลอยู่บนเตียง ก่อนจะเอื้อมมือเรียวไปสัมผัสอย่างแผ่วเบา เขาจะไม่รอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แม้ว่ามันอาจจะเสี่ยงแต่ก็ดีกว่านั่งรอไปวันๆ เท่านั้น

*-*-*-*-*-*



หนึ่งเดือนต่อมา

วันนี้ทุกคนมารวมตัวที่บ้านของไอร์อย่างพร้อมหน้าเพื่อมาเป็นกำลังใจให้ต๋อง หากการรักษาครั้งนี้ไม่ได้ผล ก็คงไม่พาคนรักไปรักษาที่ไหนอีกแล้ว คงจะดูแลที่บ้านเท่าที่จะทำได้ แต่ครั้งนี้ค่อนข้างมั่นใจในตัวอาจารย์หมอ เพราะท่านเป็นนายแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

ตอนนี้ทุกคนรออยู่หน้าห้องวิจัยของคณะแพทย์ คนที่อาจารย์หมออนุญาตให้เข้าไปข้างในได้ก็จะมีเพียงไอร์คนเดียวเท่านั้น เพราะเคยมาช่วยทำงานวิจัยและรู้จักกฎระเบียบในห้องเป็นอย่างดี

“ดิฉันฝากลูกชายด้วยนะคะอาจารย์” กานดาเอ่ยกับอาจารย์หมอ ขณะยืนอยู่หน้าห้องวิจัยพร้อมกับคนอื่นๆ

“ผมจะพยายามให้เต็มที่ครับไม่ต้องห่วง” อาจารย์หมอยิ้มให้

“ฝากลูกชายกูด้วยนะ” วีระพลที่เป็นเพื่อนกับอาจารย์หมอเอ่ยอย่างเป็นกันเอง

“ลูกมึงก็เหมือนลูกกู กูจะทำให้เต็มที่” อาจารย์หมอบอกกับเพื่อน

“ทุกคนรอที่นี่ก่อนนะครับ ถ้ายังไงเดี๋ยวผมจะออกมาแจ้งเป็นระยะๆ” ไอร์บอกกับทุกคน

“คุณแม่ต้องพาคุณพ่อคนเดิมของน้องอันดาออกมาเร็วๆ นะคะ” อันดาจับมือผู้เป็นแม่เอาไว้แน่น

“ค่ะแม่สัญญาน้องอันดาส่งกำลังใจให้คุณพ่อด้วยนะ” ไอร์กอดลูกสาวเอาไว้

“ไอร์ถึงเวลาแล้วเข้าไปกันเถอะ” อาจารย์หมอเอ่ยเรียกแล้วเดินนำหน้าเข้าไปก่อน

“ผมมั่นใจว่าต๋องจะต้องหายเป็นปกติครับทุกคน” เอ่ยกับทุกคนด้วยความหวังแล้วเดินตามอาจารย์หมอเข้าไปในห้องวิจัย



ภายในห้องวิจัยทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือที่ถูกพัฒนาโดยเทคโนโลยีชั้นสูง ร่างที่ไร้สตินอนอยู่บนเตียงพร้อมที่จะเคลื่อนตัวเข้าไปในเครื่อง ARM และเจ้าหน้าที่ที่ยืนเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ไอร์เดินเข้าไปยืนข้างๆ ก่อนจะจับมือคนรักเอาไว้แน่น หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะทำใจยอมรับทุกอย่างให้ได้

“มึงจะต้องหายนะต๋อง กูจะยืนอยู่ตรงนี้ข้างๆ มึงไม่ไปไหน” เอ่ยเช่นนั้นแล้วก็เดินถอยหลังออกมาสองสามก้าว เพราะอีกไม่กี่วินาทีก็จะเข้าสู่กระบวนการรักษาแล้ว

“โอเคแล้วนะไอร์” อาจารย์หมอถามย้ำอีกครั้ง เผื่อว่าลูกศิษย์ต้องการทำอะไรอีก

“ครับอาจารย์”

“รับได้ไหมถ้าผลที่ออกมามันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง”

“รับได้ครับ เพราะทุกวันนี้ก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว หากไม่มีอะไรดีขึ้นเลย มันก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเพื่อคนที่เรารักครับ”

“อาจารย์ได้ยินอย่างนี้ก็วางใจ กลัวว่าไอร์จะเสียใจจนไม่เป็นผู้เป็นคน ถ้างั้นอาจารย์จะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาแล้วนะ”

“ครับอาจารย์”

อาจารย์หมอหันไปสนใจหน้าจอมอนิเตอร์ที่อยู่ข้างๆ เครื่อง หลังจากนั้นเตียงก็เคลื่อนตัวเข้าไปในเครื่องอย่างช้าๆ เมื่อเครื่องเริ่มทำงานแสงสีส้มแถบยาวก็เคลื่อนผ่านร่างของต๋องตั้งแต่หัวจรดเท้า ขั้นตอนแรกจะเป็นการสแกนไปทั่วทั้งร่างกายเพื่อค้นหาส่วนที่สึกหรอหรือเสียสภาพการทำงาน หลังจากนั้นก็จะเป็นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและเส้นประสาทที่ได้รับความเสียหาย ส่วนขั้นตอนที่สามเป็นการฟื้นฟูสภาพร่างกาย และขั้นตอนสุดท้ายเป็นการดีท็อกซ์รังสีที่ตกค้างจากกระบวนการในครั้งนี้ ออกไปจากร่างกายให้หมด ทั้งสี่ขั้นตอนใช้เวลาเกือบห้าชั่วโมง

“10...9...8...7...6..5..4..3..2..1” อาจารย์หมอยืนนับถอยหลังพร้อมกับมองหน้าจอมอนิเตอร์อย่างตั้งใจ ก่อนที่จะมีเสียงลมดังฟู่จากตัวเครื่อง ไม่นานเตียงอัตโนมัติก็เคลื่อนตัวพาต๋องออกมาอย่างช้าๆ

ไอร์ยืนมองคนรักที่กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างมีความหวัง หัวใจเต้นถี่ระรัวเพราะอีกไม่กีวินาทีก็จะรู้แล้วว่าผลการรักษาเป็นอย่างไร แม้จะยังไม่รู้ชะตากรรมของอีกฝ่าย แต่น้ำตาแห่งความตื้นตันมันกลับไหลลงมาก่อนที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

เจ้าหน้าที่ชายสองคนเข้าไปยกร่างต๋องมาไว้บนเตียงผู้ป่วยอีกที ก่อนจะพาเข้าไปยังห้องพักผู้ป่วยที่อยู่ห้องถัดไป

“พร้อมรึยังไอร์” อาจารย์หมอเดินมาจับไหล่ลูกศิษย์แล้วบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ

“พร้อมแล้วครับ” พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วพรูลมออกจากปากบางอย่างช้าๆ เพื่อขจัดความตื่นเต้นออกไป

“ถ้างั้นเราไปหาต๋องกันเถอะ”

ไอร์เดินตามหลังอาจารย์เข้าไปในห้องอย่างกล้าๆ กลัวๆ

อาจารย์หมอเดินเข้าไปตรวจร่างกายต๋องอย่างละเอียดอีกครั้งโดยมีไอร์ยืนดูอยู่ข้างๆ

“ทุกอย่างปกติดีตอนนี้ก็รอให้ต๋องฟื้นขึ้นมาก่อน แต่อาจารย์ต้องบอกไว้ก่อนเรื่องนึงนะ” อาจารย์หมอถอนหายใจด้วยความกังวล

“อะไรครับอาจารย์” ตอนนี้เริ่มใจไม่ดีแล้วกลัวว่ามันอาจจะเป็นเรื่องร้ายแรง สังเกตจากสีหน้าอาจารย์หมอที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก

“สมองของต๋องได้รับการกระทบกระเทือนจนเสียหายไปบางส่วน กระบวนการสร้างเนื้อเยื่อและเส้นประสาทขึ้นมาใหม่มันอาจจะมีผลกับความทรงจำในบางช่วง แต่อาจารย์ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นช่วงไหนแค่นั้นเอง”

“ถ้าเป็นเรื่องนั้นผมไม่กลัวเลยครับ ขอแค่มันฟื้นขึ้นมาเดินและรับรู้ได้เหมือนคนปกติผมก็ดีใจแล้วครับ”

ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้นเจ้าหน้าที่ก็เอ่ยแทรกขึ้นมา

“อาจารย์ครับผู้ป่วยฟื้นแล้ว”

ทั้งสองหันขวับไปมองที่เตียงพร้อมกัน ไอร์ยิ้มทันทีเมื่อเห็นภาพที่รอคอยมานาน ต๋องค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาแล้วมองซ้ายมองขวาและขยับตัวได้เป็นปกติ

“ต๋องมึงหายแล้ว! ฮึก” ไอร์รีบเดินเข้าไปยืนข้างๆ แล้วร้องไห้โฮออกมาเสียงดัง

“ที่นี่ที่ไหน” คนที่เพิ่งจะฟื้นพูดด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนจะทำหน้าเหยเกเพราะรู้สึกปวดหนึบๆ ที่ศีรษะ

“ที่นี่คณะแพทย์มอเราไง” ไอร์ยิ้มกว้างเมื่ออีกฝ่ายสามารถพูดโต้ตอบได้ ถึงแม้จะยังแผ่วเบาอยู่ก็ตาม

“มึงพากูมาที่นี่ทำไม ทำกับกูอย่างนั้นยังไม่พอใจอีกเหรอวะ มึงจะทำอะไรกับกูอีก” แม้จะยังไม่มีเรี่ยวแรงมากพอ แต่คนที่นอนป่วยก็เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง เหมือนกำลังโกรธคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

ไอร์หันไปมองหน้าอาจารย์หมอทันที มันคงจะเป็นอย่างที่อาจารย์หมอเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ว่าความทรงจำบางส่วนอาจจะสูญเสียไป แต่เขาไม่กังวลอะไรแค่ต๋องฟื้นขึ้นมาก็ดีใจที่สุดแล้ว

หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 08-03-2019 15:11:02
ความทรงจำกลับไปช่วงที่เกิดเรื่องไม่พอใจกันเหรอ
แล้วอย่างนี้ใครจะง้อใคร
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 08-03-2019 19:28:12
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่าว...ความทรงจำหลังจากเกิดเรื่องนั้นตอนมหาลัย  หายไป

ก็ต้องใชเ้วลาสร้างใหม่แหละ  อิอิ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-03-2019 20:42:45
 :katai2-1: :katai2-1 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 08-03-2019 22:37:24
 :katai1: :katai1: :katai1:
เครียด
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 08-03-2019 22:52:41
หายก็ดีแล้ว อย่างอื่นค่อยว่ากัน
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-03-2019 23:40:29
-.-
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-03-2019 23:52:43
มีแนวโน้มจะได้ลูกชายมาแทนสามีนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-03-2019 00:47:04
เอาแล้วไงทีนี้
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 09-03-2019 01:11:34
เยี่ยมจ้าาา... สมองกระทบกระเทือน ความจำเสื่อม แต่ไปจำได้ช่วงที่มีปัญหากัน..
ไรแว้..  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 10-03-2019 01:54:41
ทสนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-03-2019 06:18:25
 :mew4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.14 ความทรงจำสีจาง [Up. 08-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-03-2019 08:05:11
น้องอันดาง้อเลยลูก
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up. 10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 10-03-2019 21:04:20
:: ๑๕ ::
จูบเตือนความจำ


แม้ว่าต๋องจะหายจากอาการป่วยจนเกือบเป็นปกติแล้ว แต่ก็ยังต้องทำกายภาพบำบัดต่ออีกเป็นเดือน เพราะกล้ามเนื้อขาค่อนข้างอ่อนแรง จากการนอนนิ่งอยู่บนเตียงมานานหลายเดือน รวมถึงขาที่หักก็เพิ่งจะถอดเฝือกออกได้ไม่นาน

วันนั้นต๋องเอาแต่ไล่ไอร์ให้ออกห่างโดยไม่ฟังอะไรทั้งนั้น แถมยังงอแงจะกลับคอนโดที่เคยพักขณะเรียน กานดาได้อธิบายเรื่องทุกอย่างให้ฟังทั้งหมดแต่ ลูกชายก็ไม่เชื่ออะไรทั้งนั้น เจ้าตัวเห็นว่าลูกชายกำลังป่วยอยู่จึงยอมพาไปที่คอนโดตามความต้องการ เมื่อเห็นว่ามีผู้เช่ารายใหม่แล้วต๋องจึงยอมกลับบ้านแต่โดยดี

ในเมื่อลูกชายสูญเสียความทรงจำในช่วงสำคัญไปแล้ว ทั้งสองคนจึงเริ่มต้นสร้างความทรงจำดีๆ ให้ใหม่อีกครั้ง กานดาและวีระพลใช้เวลาอยู่ที่บ้านกับลูกชายมากขึ้น ดูแลและเอาใจใส่จนเจ้าตัวรู้สึกประหลาดใจ

“ต๋องลูก”

“ครับแม่” เจ้าตัวขานรับแล้วหันหน้าไปมอง ขณะกำลังนั่งจ้องหน้าจอทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น

“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะมีคนมาทำกายภาพบำบัดให้ลูกที่บ้านนะจ๊ะ”

“ครับแม่...แล้ววันนี้แม่ไม่ไปอยู่บ้านโน้นหรอกเหรอครับ” ปกติช่วงเวลานี้กานดาจะไปอยู่กับแฟนใหม่ที่บ้านอีกหลัง จริงๆ แล้วกานดาและวีระพลได้หย่าขาดกันมาหลายปีแล้ว และตัวต๋องเองก็รับรู้มาตลอด

“ไม่จ๊ะวันนี้แม่จะอยู่กับต๋องและตอนเย็นพ่อก็จะกลับมาทานข้าวกับเราด้วยนะ” ยิ่งได้ฟังต๋องยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ตั้งแต่จำความได้พ่อกับแม่ไม่เคยจะใส่ใจเขาขนาดนี้มาก่อน

“แม่ครับที่บอกว่าผมสูญเสียความทรงจำมันคือเรื่องจริงเหรอ” ต๋องมองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยความสงสัย เคยพยายามคิดแต่มันก็คิดไม่ออก

“จริงจ๊ะลูกอย่างที่แม่เล่าให้ฟังทั้งหมดนั่นล่ะ ตอนนี้อาจจะยังจำอะไรไม่ได้แต่อย่าโกรธไอร์เลยนะลูก เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ต๋องมีเมียมีลูกแล้วนะ อย่าทำให้พวกเขาต้องเสียใจ”

“ผมไม่มีทางหายโกรธมันหรอกครับแม่ มันแอบวางยาเพื่อที่จะได้มีอะไรกับผม ผมจำได้เท่านี้ส่วนเรื่องอื่นผมไม่รู้จำไม่ได้ ผมรักมันแบบเพื่อนมาตลอดแต่มันกลับหักหลังผม แม่ผมไม่อยากเห็นหน้ามันอีก โอ๊ย!” ยิ่งคิดเรื่องนี้ยิ่งทำให้เจ้าตัวปวดหนึบๆ ที่ศีรษะจนต้องร้องเสียงหลงออกมา

“แม่รู้แล้วๆ อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลยนะลูก เอาเป็นว่าเราลืมเรื่องนี้ไปก่อนแล้วค่อยมาคุยกันวันหลังดีไหม?” กานดาพยายามกอดลูกชายเอาไว้ พยายามเกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์ก่อน

“ครับแม่”

แม้จะได้ยินได้ฟังจากปากผู้เป็นแม่ว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร แต่ตัวต๋องเองกลับยังเชื่อมันว่านี่คือปัจจุบัน เหตุการณ์ที่มีอะไรกันกับเพื่อนรักเหมือนเพิ่งเกิดมาเมื่อวาน มันเป็นไปไม่ได้ที่ไอร์จะตั้งท้องและเขาก็เป็นพ่อของเด็กคนนั้น

*-*-*-*-*-*-*



เมื่อรู้ว่าผู้เป็นพ่อจำตัวเองไม่ได้เลย เด็กหญิงอันดาก็เสียใจมากและร้องไห้ไม่ยอมหยุด ไอร์พยายามทำความเข้าใจกับลูกสาวว่าผู้เป็นพ่อสูญเสียความทรงจำไป เจ้าตัวก็เข้าใจและสัญญาว่าจะช่วยกันไปง้อเพื่อให้ได้พ่อคนเดิมกลับคืนมา

“น้องอันดาเข้าใจที่แม่บอกแล้วใช่ไหมลูก” เอ่ยขณะนั่งพร้อมหน้ากันทั้งสามคนอยู่ในห้องนั่งเล่น

“ค่ะคุณแม่น้องอันดาจะทำให้คุณพ่อกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้”

“ดีมากลูกรักของแม่” เอ่ยแล้วเอื้อมมือเรียวไปหยิกที่แก้มลูกสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดู

“ลูกได้แจ้งกับลูกน้องในคลินิครึยังว่าจะปิดทำการชั่วคราว”

“แจ้งแล้วครับแม่ผมไม่ให้พวกเขาตกงานกะทันหันแน่นอน ผมฝากให้ไปทำงานกับเพื่อนที่คลีนิคของมันแล้วครับ” เจ้าตัวบอกกกับผู้เป็นแม่ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ถ้าอย่างนั้นแม่ก็อุ่นใจกลัวว่าเราจะเป็นต้นเหตุให้พวกเขาขาดรายได้” ปิ่นแก้วยังคงเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเหมือนเดิม นั่นทำให้ลูกชายที่เธอเลี้ยงมากับมือมีนิสัยถอดแบบออกมาไม่ผิดเพี้ยน

“ผมเป็นลูกแม่นะครับไม่มีทางให้เกิดเรื่องอย่างนั้นแน่นอน”

“น้องอันดาดูเอาไว้นะจ๊ะ โตขึ้นมาหนูต้องเป็นคนดีมีน้ำใจเหมือนแม่นะรู้ไหม” ปิ่นแก้วเอ่ยกลับหลานสาวตัวน้อย ที่กำลังนั่งฟังทั้งสองคนคุยกันอย่างตั้งใจ

“ค่ะคุณยายน้องอันดาจะเป็นเด็กดี” เจ้าตัวน้อยยิ้มแก้มป่องจนผู้เป็นยายอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มฟอดใหญ่

“คนดีของยายน่ารักจริงๆ”

“พรุ่งนี้ผมจะไปส่งอันดาที่โรงเรียนก่อนแล้วค่อยไปหาต๋องนะครับแม่”

“จ๊ะเดี๋ยวแม่จะทำปิ่นโตไปฝากต๋องด้วย”

“อันดาอยากไปหาคุณพ่อจังเลยค่ะ ให้อันดาไปด้วยนะคะ” เด็กหญิงรีบโผเข้ามาอ้อนผู้เป็นแม่

“เอาไว้วันหยุดแม่จะพาไปนะคะ ไปอยู่ทั้งวันเลยดีไหม”

“เย้ๆ ๆ ดีค่ะ” เจ้าตัวน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

“ถ้างั้นน้องอันดาต้องตั้งใจเรียนนะแม่จะได้พาไปหาคุณพ่อบ่อยๆ”

“น้องอันดาสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนทุกวันเลยค่ะ”

“ดีมากลูกสาวแม่”

เมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้ที่จะได้เจอหน้าคนรักก็รู้สึกตื่นเต้นราวกับจะได้ไปออกเดทกันซะอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันเขาจะได้แก้ไขในสิ่งที่เคยทำผิดพลาดไว้ในอดีต ตอนนั้นเจ้าตัวเป็นคนเดินออกไปจากชีวิตต๋องตั้งสี่ปี แต่คราวนี้จะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้นอีก จะตามง้อจนกว่าต๋องจะยกโทษให้และยอมรับเขาในฐานะแฟนไม่ใช่เพื่อนอย่างที่เคยรู้สึกมาตลอด มันอาจจะเป็นโชคชะตาที่ทำให้เขาได้พิสูจน์ว่ารักต๋องมากแค่ไหน

*-*-*-*-*-*-*



วันรุ่งขึ้นไอร์รีบไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนแต่เช้า ก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านของต๋อง โดยไม่ลืมนำปิ่นโตที่ผู้เป็นแม่ฝากไปให้ด้วย กานดามายืนรอที่หน้าบ้านพร้อมกับวีระพล ทั้งสองยิ้มด้วยความยินดีที่ได้ไอร์มาดูแลลูกชายเหมือนเดิม เมื่อจอดรถแล้วก็เดินถือปิ่นโตเข้ามาหาคนทั้งสอง

“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่”

“สวัสดีจ๊ะลูก” กานดายิ้มกริ่มให้ด้วยความเอ็นดู

“พ่อกับแม่ตั้งใจมารอเลยนะเนี่ย” วีระพลเอ่ยกับลูกสะใภ้

“ขอบคุณครับ”

“แล้วนั่นถือปิ่นโตมาด้วย จะเอามาฝากใครกันจ๊ะ” กานดาเอ่ยแซวเพราะรู้ว่าคงเป็นใครไม่ได้นอกจากลูกชายของตัวเอง

“พอดีคุณแม่ท่านฝากมาให้ต๋องน่ะครับ”

“ถ้างั้นก็เข้าไปเถอะลูกพ่อกับแม่จะออกไปทำงานแล้ว...ฝากต๋องด้วยนะ”

“ครับคุณแม่ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลต๋องให้ดีที่สุด” เจ้าตัวรับปากด้วยความมั่นอกมั่นใจ

“แล้วก็อย่าลืมทำให้ต๋องคนเดิมกลับมาให้ได้นะจ๊ะ”

“เรื่องนั้นผมตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วครับ อีกไม่นานลูกชายคุณแม่ต้องติดผมแจเลยล่ะครับ” ไอร์พูดติดตลก วินาทีนี้ไม่มีเรื่องเศร้าหรือกังวลใจอีกแล้ว เขาจะเดินหน้าสร้างความสุขให้กับตัวเองและคนที่เขารักทุกๆ คน

“สู้ๆ นะ ช่วงนี้ลูกชายแม่อาจจะอารมณ์ร้ายไปนิดนึง”

“ไม่ใช่ปัญหาครับ” เจ้าตัวยิ้มด้วยความมั่นใจว่าจะรับมือไหวแน่นอน

“ถ้างั้นเราไปทำงานกันเถอะค่ะ” ทั้งสองยิ้มให้กำลังใจลูกสะใภ้ก่อนจะออกไปทำงานพร้อมกัน



ไอร์เดินเข้าไปในบ้านก็เห็นเป้าหมายกำลังนอนดูทีวีในห้องนั่งเล่น โดยมีสาวใช้นั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง เจ้าตัวเดินเข้าไปเงียบๆ ก่อนจะสะกิดสาวใช้ แล้วบอกให้นำปิ่นโตเข้าไปไว้ในครัวก่อน หล่อนทำตามโดยง่ายแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ

“คุณชายต๋องมีอะไรให้ผมรับใช้ไหมครับ” คนที่พูดยืนยิ้มให้อยู่ข้างหลัง

เมื่อได้ยินเสียงก็จำได้ทันทีว่าเป็นใครเจ้าตัวจึงหันหลังกลับไปมอง

“มึงมาทำเหี้ยอะไร กูไม่อยากเห็นหน้ามึง” มองด้วยหางตาแล้วหันกลับไปสนใจหน้าจอทีวีต่อ

“กูจะมาช่วยทำกายภาพบำบัดให้มึงหายเร็วๆ ไม่ดีใจรึไง” เอ่ยพร้อมกับเดินเข้ามานั่งที่โซฟาตัวข้างๆ แล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ

“อย่าบอกนะว่ามึงคือคนที่แม่กูบอกจะมาวันนี้” เมื่อนึกขึ้นได้ก็หันไปถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

“ก็ใช่น่ะสิกูจะมาดูแลมึงจนกว่าจะเดินได้เป็นปกติ”

“แต่กูไม่ต้องการมึงออกไปซะ!”

“ไม่! กูจะไม่ไปไหนทั้งนั้นเพราะกูต้องดูแลคนที่กูรัก” เจ้าตัวพูดออกไปโต้งๆ แต่ก่อนต๋องเคยมาตามง้อแล้วบอกรักเขาทุกวัน ต่อจากนี้เขาจะเป็นคนบอกรักต๋องทุกวันบ้าง

“ไอ้หน้าด้าน มึงวางยาให้กูเอ่อ....” เมื่อจะพูดถึงเรื่องคืนนั้นเจ้าตัวกลับหน้าแดงขึ้นมาซะดื้อๆ คืนนั้นมันมีความรู้สึกแปลกๆ ที่เขาเองก็อธิบายไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยานั่นหรือความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจกันแน่ แต่ยอมรับว่ามันเป็นการมีเซ็กส์ที่สุดยอดมาก จะติดก็ตรงที่เพื่อนรักที่เคยรู้จักกันมานานใช้วิธีนี้เพื่อได้ครอบครองตัวเขา มันเหมือนเป็นการหยามใจกันเหลือเกินนั่นคือสิ่งที่เขารับไม่ได้

“เอ่ออะไรว่ามาสิกูรอฟังอยู่” เจ้าตัวยิ้มแล้วเดินเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ

“ไม่เว้ย ออกไปไกลๆ ตีนกูเลย”

“ไม่!”

“ถ้ามึงไม่ไปกูจะไปเอง” ว่าแล้วก็พยายามลุกขึ้นยืนอย่างทุลุกทุเล ไอร์นั่งมองคนอวดเก่งดูซิว่าจะไปได้สักกี่น้ำ

โครม!

“โอ๊ย! เหี้ยเอ๊ย!” คนอวดเก่งนอนกองอยู่กับพื้น เมื่อไม่เป็นอย่างที่คิดต๋องก็อารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาทันที

“เก่งนักไม่ใช่เหรอลุกขึ้นสิวะ” ไอร์ยื้นมองอีกฝ่ายด้วยความสะใจ เป็นไงล่ะไม่เชื่อหมอก็ต้องเจออย่างนี้

“ไม่ต้องมายุ่งกับกู” นั่งก้มหน้าพยายามอยู่อย่างนั้นแต่ก็ยังลุกขึ้นไม่ได้ จนเจ้าตัวเริ่มโมโหให้ตัวเองที่ไม่สามารถทำตามที่ใจต้องการได้

“มานี่กูช่วย” ว่าแล้วก็นั่งลงข้างๆ แล้วยื่นมือเรียวให้

“ไม่ต้องยุ่ง กูไม่อยากแตะเนื้อต้องตัวมึงอีก” หันหน้าหนีไปอีกทาง

“โถๆ ๆ ทำเป็นหยิ่งมึงเป็นผัวกูแล้วนะเว้ยต๋อง ทุกส่วนในร่างกายกูมึงสัมผัสมาหมดแล้ว เท่านั้นยังไม่พอมึงเคยเอาน้องชายมึงมาเสียบที่ก้นกูอีกด้วย อย่างนี้เค้าเรียกว่าเกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงชัดๆ นี่หว่าหึๆ” ไอร์ทำหน้ากวนๆ อพร้อมกับยักคิ้วให้

“นั่นเพราะมึงวางยากูไง ถ้ากูรู้ตัวไม่มีทางทำอย่างนั้นเด็ดขาด อย่างมึงเทียบกับน้องดาวกูไม่ได้หรอก” ต๋องยังคิดว่าตัวเองคบกับดาวอยู่

“กูอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง ตอนนี้น้องดาวมึงแต่งงานมีลูกไปแล้วมั้ง ก็กูบอกแล้วไงว่ามึงน่ะความจำเสื่อม ตอนที่มึงคบกับน้องดาวนั่นตอนปีสี่ แต่ตอนนี้มันผ่านมาสี่ห้าปีแล้วโว้ย”

“ไม่จริงน้องดาวรักกูไม่มีทางไปแต่งงานกับคนอื่นแน่นอน” เจ้าตัวยังคงไม่เชื่อ

“ถ้างั้นมึงก็โทรไปถามน้องดาวของมึงดูสิว่าตอนนี้เค้าทำอะไรที่ไหนอยู่” ไอร์ท้าทายอีกฝ่าย

“ได้!” ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาค้นหาเบอร์โทรของอดีตคนรัก “เดี๋ยวมึงจะได้รู้ว่าความจิงมันเป็นยังไง” ยังดีที่ต๋องยังไม่ลบเบอร์โทรของดาวออกจากเครื่อง

“ฮัลโลครับน้องดาว”

[“สวัสดีค่ะนี่ใครพูดคะ”] แต่ดาวได้ลบเบอร์ต๋องออกจากเครื่องไปนานแล้ว

“ดาวนี่พี่เอง พี่ต๋องไงครับ”

[“อ้อ พี่ต๋องนั่นเองโทษทีค่ะตั้งแต่เราเลิกกันดาวก็ลบเบอร์พี่ออกจากเครื่องไปแล้ว แล้วนี่มีอะไรรึเปล่าทำไมอยู่ๆ ถึงโทรมาคะ”] เมื่อได้ยินอย่างนั้นเจ้าตัวก็หน้าซีดขึ้นมาทันที มันไม่จริงใช่ไหม ไม่อยากจะเชื่อเลยวันก่อนดาวยังบอกรักเขาอยู่แท้ๆ

“เราเลิกกันแล้วเหรอ?” เจ้าตัวถามลอยๆ ออกไป

[“ค่ะเราเลิกกันเกือบจะห้าปีแล้วนะคะ ตอนนี้ดาวแต่งงานมีลูกแล้ว พี่ต๋องเป็นอะไรมากรึเปล่าคะเนี่ย”] ระหว่างนั้นลูกสาวของเจ้าหล่อนก็ร้องไห้งอแงเสียงดัง [“พี่ต๋องคะดาวขอตัวไปดูลูกก่อนนะ แค่นี้นะคะ”] ดาวรีบตัดสายไปโดยไม่ยอมรอฟังอีกฝ่าย

ต๋องยังอึ้งไม่หายเจ้าตัวนั่งนิ่งอยู่กับที่ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่ไอร์พูดมามันคือเรื่องจริงทั้งหมด ทำไมเขาจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ

“ลุกขึ้นเร็ว...กูช่วย” เห็นสภาพของอีกฝ่ายก็อดสงสารไม่ได้ ว่าจะไม่ดราม่าอยู่แล้วเชียว คิดแล้วก็ยิ้มน้อยๆ ออกมา

“สะใจมึงแล้วล่ะสิ” เจ้าตัวยังคงนั่งอยู่อย่างนั้นอย่างกับเด็กเอาแต่ใจ

“สะใจสิวะต่อไปมึงก็เป็นของกูคนเดียวเท่านั้น” ยังไม่เลิกกวนอีกฝ่าย

“ฝันไปเถอะถึงน้องดาวจะเลิกกับกูไปแล้ว แต่กูก็ไม่เอามึงหรอก”

“อ้าว! แล้วที่มึงเอากูจนท้องไม่คิดจะรับผิดชอบเลยเหรอวะ”

“มึงคิดว่ากูโง่รึไงอย่างมึงนี่นะจะท้องได้” เจ้าตัวทำหน้าไม่เชื่ออย่างแรง

“เออกูนี่ล่ะท้องได้จะดูรอยผ่าป่ะละ” พูดแล้วก็เปิดหน้าท้องให้อีกฝ่ายดู แผลจากการผ่าคลอดยังคงมีร่องรอยหลงเหลือให้เห็นชัดเจน

“ไส่ติ่งป่ะวะ” แม้จะเห็นอย่างนั้นก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี

“ไส่ติ่งบ้านป้ามึงสิจะอยู่ตรงนี้ กูเป็นหมอนะเว้ยอย่ามาเถียง ถ้ามึงไม่เชื่อก็ทำกันอีกรอบไหมล่ะกูจะท้องให้มึงดู” พูดพร้อมทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ให้อีกฝ่าย

“ได้คืบจะเอาศอกคนอย่างมึงมีบุญได้กับกูแค่ครั้งเดียวเท่านั้นล่ะ”

“กูจะคอยดูว่ามึงจะทนได้สักกี่น้ำ กูจะเอามึงทำผัวอีกให้ได้คอยดู”

เจ้าตัวทำหน้าเอ๋อด้วยความตะลึง เพิ่งโดนเขาจัดไปไม่กี่วันมันแรดได้ขนาดนี้เลยเหรอ


“นี่มึงคือไอ้ไอร์เพื่อนกูคนเดิมป่ะวะ?”

“เปล่า! กูไม่ใช่ไอ้ไอร์เพื่อนมึง แต่กูเป็นเมียมึงต่างหากล่ะ”

ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดตอบกลับมาไอร์ก็โน้มใบหน้าเข้าไปประกบจูบทันที ต๋องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ส่วนอีกฝ่ายยกมือเรียวขึ้นไปโอบรอบต้นคอเอาไว้ไม่ให้คนรักหนีไปไหนได้อีก

อีกไม่นานมึงจะต้องจำทุกอย่างได้แน่นอน...กูมั่นใจ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up.10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 10-03-2019 21:25:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up.10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 10-03-2019 21:52:06
the new ไอร์ รุกแรงมากลู๊กก

ใจเย็นๆ ต๋องเพิ่งฟื้น 5555 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up.10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 10-03-2019 22:25:47
แรง!!!
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up.10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-03-2019 22:34:14
จ้ะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up.10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-03-2019 23:10:19
ต๋อง ถ้าแกทำอันดาเสียใจนะ เตรียมตัวไว้ให้ดี  :z6:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up.10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 10-03-2019 23:16:14
แซ่บมากไอซ์
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up.10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-03-2019 00:20:07
แซ่บ แซ่บ แซ่บ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up.10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 11-03-2019 01:49:21
ง้อได้ฮาร์ดคอมากค่ะน้องไอร์  o13
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up.10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 11-03-2019 10:20:16
หืมมมม.. อยากแซ่บ เรย.. หมอไอร์.. 55+
ต๋อง ถึงกะไปไม่ถูก.. 55+
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up.10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-03-2019 18:24:13
นิวไอร์  o13
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.15 จูบเตือนความจำ [Up.10-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 12-03-2019 21:45:02
คุณแม่ไอซ์จัดเต็มไปเลยจ้า
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 13-03-2019 22:03:27
:: ๑๖ ::
แผนลับ


การทำกายภาพบำบัดผ่านไปเกือบสัปดาห์ ทำให้ต๋องสามารถลุกขึ้นยืนทรงตัวเองได้แล้ว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองก็ดีขึ้นตามลำดับ ต๋องเริ่มจะใจอ่อนขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังมีอารมณ์โมโหร้ายในบางครั้ง แต่ไอร์ก็ยังพยายามเอาอกเอาใจอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ แม้อาจจะต้องเด็ดขาดบ้างในบางครั้ง ก็เพื่อให้การทำกายภาพบำบัดครั้งนี้ได้ผลเร็วขึ้น

วันนี้จะเป็นการฝึกหัดเดินนอกราว หลังจากหลายวันก่อนฝึกการทรงตัวในราวจนมีความมั่นคงดีแล้ว คนป่วยพยายามเดินทีละก้าวอย่างช้าๆ โดยมีคนรักยืนดูแลอยู่ตรงหน้าคอยลุ้นให้กำลังใจ และพร้อมจะยื่นมือรับหากอีกฝ่ายล้มลง

“ค่อยๆ เดิน...ดีอย่างนั้นล่ะ”

“เมื่อไหร่กูจะเดินได้คล่องซะทีวะรำคาญฉิบหาย” เจ้าตัวพยายามก้าวขาและทรงตัวอย่างระมัดระวัง แต่อารมณ์กลับเริ่มฉุนเฉียวเพราะโมโหที่เดินได้ตะกุกตะกักเช่นนี้

“มึงจะบ่นหาสวรรค์วิมานอะไรวะ ใจเย็นๆ ดิเดี๋ยวก็คล่อง” เอ่ยพร้อมกับจ้องมองคนรักไม่วางตา เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นจะช่วยได้ทันการณ์

“มึงหุบปากไปเลย ไม่ได้เป็นอย่างกูนี่”

“เออๆ กูจะยอมหุบปากแต่มึงต้องพยายามเดินต่อนะเว้ย” ไอร์เบ้ปากใส่คนรักแล้วยืนมองอย่างเงียบๆ

“กูมะ..ไม่ไหวแล้วว่ะ” คนที่กำลังเดินอยู่เริ่มรู้สึกปวดที่บริเวณกล้ามเนื้อขา ทำให้เจ้าตัวก้าวขาแทบไม่ออก

“อีกสองก้าวสู้ๆ สิวะ” ไอร์ยืนลุ้นอยู่ตรงหน้า

“เออๆ กูจะพยายาม” แม้ร่างกายจะไม่ค่อยไหวแล้วแต่ต๋องก็พยายามตั้งใจเดินมาให้ได้ เพราะรู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้เหลือเกิน เขาอยากจะเดินได้เต็มทนแล้ว

“อีกนิดนึงจะถึงแล้ว”

“กะ...กู”

โครม!!!

พูดไม่ทันขาดคำร่างสูงก็ล้มคะมำ ไอร์เห็นอย่างนั้นก็รีบเข้าไปรับตัวเอาไว้ ทำให้เจ้าตัวล้มลงที่พื้นรองรับน้ำหนักตัวของอีกฝ่าย ใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันแค่เพียงเสี้ยว ดวงตาคมจ้องมองคนที่นอนอยู่ใต้ร่างอย่างเป็นห่วงกลัวว่าจะบาดเจ็บ ลมหายใจเป่ารดแก้มของกันและกันทำให้อุณหภูมิใบหน้าเริ่มสูงขึ้น สายตาที่จ้องมองกันทำให้เกิดแรงดึงดูดที่มากล้น ต๋องจึงโน้มใบหน้าลงไปลิ้มรสชาติความหอมหวานของริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วง

“อื้อ” คนที่นอนอยู่ใต้ร่างส่งเสียงครวญครางในลำคอ เมื่อรสสัมผัสจากอีกฝ่ายช่างปลุกอารมณ์ได้มากเหลือเกิน

แม้ช่วงขาจะอ่อนแรงแต่ความสันทัดเรื่องการจูบยังคงเหมือนเดิม คนที่อยู่ใต้ร่างแทบจะขาดใจเพราะร่างสูงได้ตักตวงลมหายใจทั้งหมดอย่างไม่ให้ขาดตอน

“ถือว่าหายกันแล้ว” ร่างสูงเอ่ยหลังจากถอนริมฝีปากออกมาอย่างเสียดาย

“มึงทำมากกว่านี้ก็ได้นะกูยอม” ไอร์ยิ้มกริ่มให้พร้อมกับใช้ลิ้นสากเลียวนที่ริมฝีปากบางยั่วยวนอีกฝ่าย

“แรด” ทำหน้าเหรอหราแล้วพยายามจะลุกขึ้นนั่ง ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวรู้สึกเขินอายมากแค่ไหน

“ก็แรดแต่กับมึงเท่านั้นล่ะ”

พูดแล้วก็ลุกขึ้นมาพยุงตัวคนรักยืนขึ้น แล้วพาเดินไปนั่งที่โซฟา ด้วยความรู้สึกปวดเมื่อยที่บริเวณต้นขา ต๋องนั่งจึงนวดขาตัวเองอยู่เนืองๆ

“มึงปวดมากเลยเหรอ” ไอร์นั่งมองอย่างขัดลูกหูลูกตา

“ปวดสิวะไม่งั้นกูไม่นวดอย่างนี้หรอก”

ไอร์เดินไปหยิบยานวดมาแล้วนั่งลงที่พื้น จับขาของอีกฝ่ายมาวางพาดที่บริเวณหน้าตักของตัวเอง

“เดี๋ยวกูนวดให้”

“ไม่ต้องกูทำเอง”

“อย่าดื้อสิวะเดี๋ยวก็ไม่หายหรอก” บีบยานวดแล้วเริ่มทาบริเวณกล้ามเนื้อขาอย่างตั้งใจ “อีกไม่นานเดี๋ยวก็เดินได้เองล่ะ มึงอย่าเพิ่งท้อละกัน เพราะขนาดกูโดนมึงด่าไม่เว้นแต่ละวันยังอดทนได้เลย” เอ่ยขณะก้มหน้าใช้มือเรียวนวดอย่างขะมักเขม้น

ต๋องนั่งเงียบมองอีกฝ่ายแล้วก็เผลอยิ้มออกมา เขาเทใจให้ไอ้เพื่อนรักคนนี้ไปหมดแล้ว แต่ก็ตั้งแง่ไปอย่างนั้นเพื่อให้อีกฝ่ายเอาใจมันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

“มึงไม่เหนื่อยเหรอวะที่ต้องมาดูแลกู” อยู่ๆ เจ้าตัวก็ถามออกมา

“กูบอกแล้วไงเพื่อมึงกูทำได้ทุกอย่าง” เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้

“กูด่ามึงสารพัดแถมยังโมโหร้ายใส่เนี่ยนะ”

“มึงไม่ได้ตั้งใจทำอย่างนั้นใส่กูหรอก กูรู้ว่ามึงน่ะรักกูมาก”

“เหอะ! หลงตัวเองว่ะ” แยกเขี้ยวใส่แล้วหันไปอีกทางก่อนจะอมยิ้ม

“จริงๆ แล้ว ตอนมึงมาง้อกูกับลูกกูก็ด่ามึงไปเยอะเหมือนกันล่ะ พูดไปมึงก็คงจำไม่ได้”

“กูนี่นะไปตามง้อมึง” ชี้หน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินมา

“ก็เออสิ มึงตามมาง้อกูที่บ้านทุกวัน มารับมาส่งลูกไปโรงเรียน แถมยังถือช่อกุหลาบมาบอกรักกูทุกวันอีกด้วย ตอนนั้นกูก็ใจแข็งเหมือนมึงนี่ล่ะ ถ้ารู้ว่ามันจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นกูจะยอมใจอ่อนตั้งแต่ครั้งแรกเลย ดีไม่ดีเราอาจจะได้ลูกคนที่สองไปแล้วก็ได้” พูดแล้วก็อยากย้อนกลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีต

“เหอะ! ไม่ใช่ล่ะ” เจ้าตัวเบะหน้าทันที

“กูรู้ว่าพูดไปมึงก็ไม่เชื่อเพราะมึงจำไม่ได้ไง ยังไงกูก็จะพยายามทำให้มึงยอมรับกูกับลูกให้ได้ พรุ่งนี้อันดาจะมากับกูด้วย กูขอมึงเรื่องนึงเวลาอยู่กับลูกอย่าอารมณ์เสียเลยนะ” นวดขาเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา

“ได้ไม่มีปัญหา ยังไงซะอันดาก็เป็นลูกกู”

“อ้าว! พอเป็นอันดาทำไมมึงถึงยอมรับง่ายๆ อย่างนี้ล่ะ หรือว่ามึงจำเรื่องทั้งหมดได้แล้ว” เมื่อได้ยินอีกฝ่ายตอบรับโดยง่ายก็ยิ้มออกมาทันที เพราะนึกว่าความทรงจำเริ่มกลับคืนมา

“เปล่ากูยังจำอะไรไม่ได้เลย” พูดหน้าตาเฉยยิ่งทำให้คนที่ได้ฟังสงสัยเข้าไปใหญ่

“แล้วอะไรทำให้มึงยอมรับลูกได้ล่ะถ้างั้น”

“ก็นี่ไง” ต๋องยกโทรศัพท์มือถือขึ้นให้ดู

“โทรศัพท์มือถือเนี่ยนะ!”

“กูเห็นรูปที่เคยถ่ายกับอันดาไงก็เลยคิดว่าเด็กคนนี้คงจะเป็นคนที่กูเคยรักมาก เพราะในมือถือกูมีแต่รูปเด็กคนนี้เต็มไปหมดเลย” ต๋องเปิดรูปในโทรศัพท์มือถือให้ดู

“แล้วรูปกูล่ะไม่มีเลยเหรอวะ”

“ไม่มีเลยว่ะ”

ไอร์ลืมคิดไปเลยว่าช่วงเวลานั้นกีดกันต๋องไม่ให้เข้าหาตัวเอง จะมีเวลาไหนที่จะได้ถ่ายรูปด้วยกันล่ะ แต่ยังไงซะเขาก็เป็นแม่ของลูก รับลูกได้แต่รับแม่ไม่ได้มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย

“อันดาเป็นลูกกูกับมึง รับลูกได้ทำไมจะรับแม่ไม่ได้วะกูงงกับมึงจริงๆ”

“ก็มึงมันเป็นตัวต้นเหตุไง มึงต้องง้อกูอีกนานๆ กูอาจจะยอมญาติดีกับมึงก็ได้ น้ำที่กูเสียไปรู้ป่ะมันมีค่ามากแค่ไหน อยู่ๆ ก็มารีดน้ำเชื้อกูซะงั้นไอ้เพื่อนเลว” ต๋องพูดอย่างเป็นต่อ เพราะรู้ว่ายังไงซะอีกฝ่ายก็ต้องมาที่นี่ทุกวัน

“ก็กูรักมึงไง หรือมึงจะให้กูไปเอากับใครที่ไหนก็ไม่รู้มาเป็นพ่อของลูก มึงเองก็ควรภูมิใจที่ได้กูและมีลูกกับกูไอ้เพื่อนชั่ว” ไม่ยอมโดนด่าเพียงฝ่ายเดียวแน่ ถึงจะยังความจำเสื่อมอยู่ก็เถอะแต่ก็อดไม่ไหวจริงๆ

“กูไม่ภูมิใจอะไรในตัวมึงเลย แต่สำหรับอันดากูกลับรู้สึกภูมิใจเพราะดูๆ ไปแล้วหน้าเหมือนกูมาก”

“ไม่ยุติธรรมเลยว่ะ แต่ก็เอาเถอะยังไงซะกูก็ไม่มีทางยอมแพ้ สักวันมึงจะต้องยอมรับกูเป็นเมีย”

“ทำให้ได้อย่างที่พูดละกันกูจะคอยดู”

“มึงคอยดูละกัน สักวันมึงจะต้องหลงกูจนหัวปักหัวปำ”

“หลงตัวเองไปป่ะวะ ไอ้อ่อนเอ๊ย!”

“ก็นิดหน่อยคนมันหน้าตาดี แต่ถ้ากูทำเต็มที่แล้วมึงยังไม่ยอมหายโกรธกูสักที กูก็จะ....” พูดแล้วหยุดมองหน้าอีกฝ่าย

“ก็จะอะไร?”

“ก็จะหาพ่อใหม่ให้อันดาไงล่ะ ในเมื่อมึงไม่ต้องการกูก็จะไม่ง้อ ถ้าไม่ยอมรับกูเป็นเมียอย่าหวังว่ากูจะให้มึงเจอกับอันดาอีก” เจ้าตัวพูดออกไปเล่นๆ เพราะถึงยังไงซะคนที่นั่งอยู่ก็คงไม่รู้สึกอะไร ดีซะอีกจะได้ให้มันรู้ไปเลย ว่าอย่างอนเยอะไม่งั้นอาจจะเสียทั้งเมียและลูกไปพร้อมกัน

“ไม่ได้นะเว้ยลูกกูจะมีพ่อใหม่ไม่ได้” ต๋องรีบพูดโต้กลับเสียงดังอย่างลืมตัว

“กูน้อยใจนะเนี่ยหวงลูกแต่ไม่หวงเมีย” พูดแล้วก็ทำแก้มป่องงอนอีกฝ่าย แม้จะรู้ว่าคงไม่มีทางมาง้อแน่นอน

“ถ้ากูยังจำอะไรไม่ได้มึงก็ห้ามมีใครเด็ดขาดกู...สงสารอันดา”

“ไอ้คนเห็นแก่ตัวถ้ามึงจำอะไรไม่ได้ตลอดไป กูไม่ต้องแห้งเหี่ยวตายหรอกเหรอวะไอ้ต๋อง” พูดประชดประชันออกไป

“ไม่รู้ล่ะถ้ามึงยังรักลูกก็อย่าเพิ่งไปมีคนอื่น” พูดแล้วก็เอนหลังลงบนโซฟาแล้วหลับตาลงทันที

“เออๆ ก็ได้ กูเห็นแก่อันดานะเว้ยกูจะยังไม่มีแฟนใหม่”

คนที่นอนหลับตาอยู่ยกยิ้มมุมปากทันที ส่วนไอร์ก็มองคนรักอย่างเหนื่อยใจ ที่จริงแล้วไม่ได้ท้อใจหรืออยากมีใครใหม่ทั้งนั้น แต่เพราะอยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายมีความรู้สึกหึงหวงอะไรบ้างไหม ดูท่าทางแล้วคงไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่ก็ยังดีที่ยังยอมรับลูกสาวได้แล้ว ถึงแม้จะยังจำอะไรไม่ได้ก็ถือว่าสำเร็จไปอีกขั้น

*-*-*-*-*-*-*



เย็นวันนั้นต๋องนั่งดูรูปที่เคยถ่ายกับลูกสาวแล้วยิ้มอยู่คนเดียว จนกระทั่งกานดาเดินเข้ามาเห็นและได้เอ่ยแซวลูกชาย ปกติอารมณ์ดีอย่างนี้ซะที่ไหนกัน

“วันนี้ทำไมลูกชายแม่นั่งยิ้มอยู่คนเดียวมีอะไรพิเศษรึเปล่าน้า” เจ้าหล่อนเดินมาถึงแล้วนั่งลงข้างลูกชาย

“ผมดูรูปที่เคยถ่ายกับอันดาน่ะครับแม่” หันไปยิ้มให้ผู้เป็นแม่

“แล้วจำอะไรเกี่ยวกับลูกได้บ้างรึเปล่า ดูแล้วยิ้มอย่างนี้แม่แอบดีใจนะว่าเราจะจำอะไรได้ขึ้นมาบ้าง” กานดาภาวนาให้มันเป็นอย่างที่คิด เพราะนับวันลูกชายยิ่งอาการดีขึ้นเรื่อยๆ อยากให้รวมถึงเรื่องความทรงจำนี้ด้วย

“จริงๆ ผมจำเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้หมดแล้วครับ ตั่งแต่วันที่ได้เห็นรูปพวกนี้” ต๋องเปิดภาพนี้ดูเมื่อหลายวันก่อน แวบแรกที่เห็นทำให้ภาพต่างๆ ในความทรงจำ ที่เคยไปรับไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนฉายขึ้นในหัว และวันต่อมาก็พยายามนึกถึงเรื่องราวต่างๆ แม้จะนวนปวดศีรษะจนต้องทานยาพาราเซตามอลเข้าไปหลายเม็ด แต่มันก็ถือว่าคุ้มที่ตอนนี้ภาพความทรงจำเหล่านั้นได้กลับคืนมาแล้ว

“ต๋องไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมลูก แม่ดีใจที่สุดเลย” กานดายิ้มกว้างด้วยความดีใจ พลันสวมกอดลูกชายทันที น้ำตาแห่งความปิติตื้นตันก็ไหลรินลงมาเป็นทาง

“ผมก็ดีใจครับที่ความทรงจำดีๆ ระหว่างผมกับลูกกลับคืนมาแล้ว” เจ้าตัวก็ยิ้มกว้างไม่น้อยไปกว่าผู้เป็นแม่

“แล้วลูกบอกเรื่องนี้กับไอร์หรือยังล่ะ” ผละจากลูกชายก็เอื้อนเอ่ยออกมา

“ยังครับ...ผมยังไม่อยากบอกเรื่องนี้ให้ไอร์รู้”

“ทำไมล่ะลูก ถ้าไอร์รู้คงจะดีใจมาก”

“จะว่าผมเหมือนเด็กเอาแต่ใจก็ได้นะครับ แต่ผมอยากให้ไอร์มาง้อและมาดูแลผมอย่างนี้อีกสักพัก มันมีความสุขที่สุด” เป็นแผนที่เขาคิดเอาไว้เมื่อวันก่อน

“ไอ้ลูกชายคนนี้ร้ายจริงๆ ระวังหนูไอร์จะท้อใจแล้วไปหาพ่อใหม่ให้อันดาซะก่อนนะ” กานดาพูดขู่ลูกชายเอาไว้

“ผมเองก็กลัวๆ เหมือนกัน วันนี้มันยิ่งพูดถึงเรื่องนี้อยู่ด้วย มันพูดเหมือนแม่เลยว่าจะหาพ่อใหม่ให้อันดาถ้าผมยังงอนไม่เลิก” พูดแล้วก็เสียวสันหลังเพราะคนอย่างไอร์ ถ้าคิดจะทำอะไรแล้วต้องทำให้ได้ ขนาดอยากมีลูกกับเขาเจ้าตัวยังลงทุนวางแผนจนสำเร็จ

“เห็นไหมล่ะผิดจากที่แม่พูดซะที่ไหนกัน เล่นตัวนักระวังจะร้องไห้ขี้มูกโป่งนะ แม่ไม่ช่วยแล้วนะ” ชี้หน้าคาดโทษลูกชาย

“ครับแม่...แต่ผมมีอะไรจะให้แม่ช่วยอีกเรื่อง”

“จะให้แม่ช่วยอะไรล่ะ” กานดามองหน้าลูกชายด้วยความสงสัย

“ช่วย……..” เจ้าตัวเล่าถึงแผนการที่คิดเอาไว้เพื่อจะเซอร์ไพรซ์คนรัก

“ทำไมถึงได้ร้ายกาจอย่างนี้ลูกชายแม่ โอเคจ๊ะแม่จะช่วยเต็มที่เลย” ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เพิ่งจะฟื้นตัวจากอาการเจ้าชายนิทรามาหยกๆ จะคิดอะไรเด็ดๆ อย่างนี้ได้

“ขอบคุณครับ ผมรักแม่ที่สุดเลย” ว่าแล้วก็โผกอดผู้เป็นแม่ทันที

“แม่ก็รักลูกจ๊ะ”

ต๋องอยากขอบคุณทุกปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต ทำให้เจ้าตัวได้รู้จักกับคำว่าครอบครัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพ่อกับแม่ที่ในอดีตอาจจะไม่ได้ใส่ใจเขามากนัก แต่ตอนนี้ท่านทั้งสองต่างก็หมั่นมาดูแลมากขึ้นและให้กำลังในทุกๆ เรื่อง รวมถึงครอบครัวของต๋องเองที่แม้จะมีอุปสรรคมากมาย แต่ในอีกไม่ช้ามันจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ที่สุดเลยก็ว่าได้

หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 13-03-2019 22:11:47
คุยอะไรกัน ~_~
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-03-2019 22:41:15
รอดูเนาะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 13-03-2019 22:45:53
หืมมม.. อิต๋อง ร้ายกาจ..
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 13-03-2019 22:48:28
แผนเซอร์ไพรซ์ขอแต่งงานหรือป่าวว :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 13-03-2019 23:19:14
 :mew1:ช
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-03-2019 00:19:44
ติดใจการดูแลจากเมียล่ะซิท่า ระวังความแตกนะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-03-2019 00:23:33
 :pig4: :pig4: :pig4:

แผนสะใภ้อะไรหว่า?
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 14-03-2019 00:47:45
ต๋องแกร้ายกาจมาก จำได้แล้วแกล้งไอร์ จะมีแผนอะไรอีก
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-03-2019 01:47:45
แผนนี้มันต้องเด็ดดวงแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 14-03-2019 09:53:59
จะทำอะไรกัน  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.16 แผนลับ [Up.13-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 14-03-2019 12:32:06
ต๋องอย่าใจร้ายกับไอร์มากน้าาาา.
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 17-03-2019 22:30:52
:: ๑๗ ::
อาบน้ำ


เด็กหญิงตัวน้อยเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับผู้เป็นแม่ด้วยความร่าเริง เมื่อเห็นใครบางคนที่คุ้นเคยก็รีบวิ่งปรี่เข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึงเป็นที่สุด เจ้าตัวน้อยนั่งนับวันรอเพื่อให้วันนี้มาถึงเสียที

“อันดาคิดถึงคุณพ่อที่สุดเลยค่ะ” เอ่ยออกมาเสียงเจื้อยแจ้วขณะสวมกอดผู้เป็นพ่อเอาไว้แน่น

“พ่อก็คิดถึงหนูมาก” ผู้เป็นพ่อหอมแก้มลูกสาวฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึง หลังจากไม่ได้เจอหน้ากันเลยนับตั้งแต่ฟื้นจากอาการเจ้าชายนิทรา

“นี่คุณพ่อจำหนูได้แล้วเหรอคะ” เด็กหญิงตัวน้อยถามด้วยความดีใจ และมองหน้าผู้เป็นพ่อด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ยะ...ยังหรอกค่ะพ่อยังจำอะไรไม่ได้เลย” ต๋องพยายามแสดงสีหน้าเหมือนคนที่ยังสับสนทางความคิดอยู่เพื่อไม่ให้ไอร์สงสัย

“ว้าแย่จัง! น้องอันดาอุตส่าห์ดีใจ แต่ไม่เป็นไรนะคะ วันนี้น้องอันดาจะมาอยู่กับคุณพ่อทั้งวันเลย”

“จริงดิ พ่อดีใจที่สุดเลยรู้ไหมคะ” มือหนาทั้งสองข้างหยิกเบาๆ ที่แก้มนุ่มของลูกสาวอย่างหมั่นเขี้ยว

ไอร์มองท่าทีของอีกฝ่ายด้วยความสงสัย รู้สึกได้ถึงความเป็นต๋องคนเดิมที่เคยหยอกล้อเล่นกับลูกสาวก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ หรือเขาคิดไปเอง เจ้าตัวส่ายศีรษะไปมาเพราะยิ่งคิดยิ่งรู้สึกสับสนเข้าไปใหญ่

“น้องอันดาก็ดีใจที่สุดเลยค่ะ”

“วันนี้นอนค้างกับพ่อที่นี่นะ”

“ไม่ได้! อันดาต้องกลับไปอยู่เป็นเพื่อนยายที่บ้าน” ไอร์รีบเอ่ยแทรกเข้าไปทันที เขาไม่มีทางให้อันดานอนที่นี่แน่นอน นั่นเพราะรู้สึกหมั่นไส้ไอ้คนที่อยู่ตรงหน้าเสียจริงๆ พอลูกสาวมาทำเป็นกระดี๊กระด๊าซะเหลือเกิน แต่พอเห็นเขาเอาแต่ก่นด่าสารพัด

“ทำไมวะนี่ลูกสาวกู ทำไมจะให้นอนที่นี่ไม่ได้ ส่วนมึงเสร็จแล้วก็กลับไปหาแม่ซะ”

“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ไงวะ พูดไม่รู้เรื่อง” ทำหน้าดุใส่อีกคน

“ไหนมึงบอกจะตามใจกูไงล่ะ” ขุดเอาเรื่องเดิมที่เคยสัญญามาอ้าง

“ยกเว้นเรื่องนี้” เอ่ยอย่างไม่แคร์

“มึงไม่อยากให้ความทรงจำกูกลับมาเหมือนเดิมรึไงล่ะ ถ้ากูอยู่กับลูกมันอาจจะดีขึ้นกว่าเดิมก็ได้นะเว้ย”

“โอเคๆ ก็ได้ แต่กูจะค้างด้วย” ต้องยอมอย่างจำใจ นี่ถ้าไม่ป่วยอยู่จะจัดการซะให้เข็ดหลาบเลยทีเดียว

“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” พูดแล้วก็ยักคิ้วและยิ้มกวนใส่อย่างเป็นต่อ

“เย้ๆ วันนี้เราจะได้อยู่พร้อมหน้ากันสามคนเลย” เด็กหญิงอันดาดีใจยกใหญ่

“เดี๋ยววันนี้เราจะมาหัดเดินกันอีกนะ”

“เริ่มตอนนี้เลยไหมล่ะ กูมีกำลังใจแล้ววันนี้จะต้องดีกว่าเมื่อวานแน่” พูดอย่างมั่นอกมั่นใจพร้อมกับมองหน้าลูกสาวตัวน้อย

“ทำให้ได้อย่างที่พูดละกัน และอย่าบ่นต่อหน้าลูกล่ะ”

“แน่นอน” เอ่ยแล้วหันไปหาลูกสาว “วันนี้น้องอันดาเป็นกำลังใจให้พ่อด้วยนะลูก”

“ค่ะคุณพ่อ น้องอันดาจะนั่งเชียร์อยู่ข้างๆ เลย”

“สัญญาแล้วนะ” ต๋องชูนิ้วก้อยรอ

“สัญญาค่ะ” อันดายกนิ้วไปเกี่ยวก้อยกับผู้เป็นพ่อทันที



หลังจากนั้นไอร์ก็พยุงคนป่วยมาที่ลานห้องโถงเพื่อทำกายภาพบำบัด เป็นอีกครั้งที่เริ่มหัดเดินโดยไม่ใช้ราว วันนี้ดูเจ้าตัวตั้งใจขึ้นมากและไม่มีอารมณ์หงุดหงิดเหมือนเมื่อวาน นั่นอาจเป็นเพราะได้กำลังใจจากลูกสาวตัวน้อยที่ส่งเสียงเชียร์อยู่ไม่ห่าง ทำให้มีแรงฮึดสู้ขึ้นมาอย่างเต็มกำลัง

“คุณพ่อสู้ๆ คุณพ่อสู้ๆ” เด็กหญิงตัวน้อยส่งเสียงเชียร์อยู่ข้างๆ

ไอร์ยืนยิ้มรออยู่ตรงหน้าในระยะหลายเมตร นั่นเป็นเป้าหมายที่จะต้องทำให้ได้ในวันนี้ ต๋องมองหน้าคนรักแล้วสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าปอดเพื่อเรียกพลังทั้งหมด วันนี้ล่ะเขาจะต้องทำให้ได้ หากเดินไปถึงคนๆ นั้นได้จะกอดไม่ยอมปล่อยเลยคอยดู

“กูจะรอมึงอยู่ตรงนี้ มึงเดินมาหากูนะ” เอ่ยกับคนที่ยืนนิ่งพร้อมจะเดินหน้ามาหา

“คุณพ่อต้องทำได้แน่นอนค่ะ” เสียงเชียร์จากลูกสาวยังคงดังแว่วมาอยู่ตลอดเวลา

ต๋องค่อยๆ ก้าวขาเดินไปด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ ขาที่เคยก้าวอย่างไม่มั่นคง ตอนนี้กลับเริ่มนิ่งและเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ค่อยๆ ก้าวไปทีละก้าว ทีละก้าว และในที่สุดก็มายืนตรงหน้าคนรักได้สำเร็จก่อนจะยิ้มให้

“เย้!!!” ลูกสาวตัวน้อยที่นั่งเชียร์อยู่นั้นตะโกนลั่นด้วยความดีใจ

“มึงทำได้แล้ว” ไอร์ยิ้มให้คนรักที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“แต่ตอนนี้กูเมื่อยขาแล้ว” เอ่ยแค่นั้นแล้วโผเข้าไปกอดอีกฝ่ายอย่างแนบแน่น เพื่อผ่อนคลายความเมื่อล้า

“นี่แผนมึงป่ะ มาแต๊ะอั๋งกูเนี่ย” แม้จะพูดออกมาอย่างนั้นแต่ก็ยอมยืนนิ่งๆ ให้อีกฝ่ายกอดไว้

“เปล่ากูเมื่อยขาจริงๆ พากูไปนั่งหน่อยสิ” ผละจากอ้อมกอดแล้วเปลี่ยนเป็นกอดคอเอาไว้แทน

“เดินระวังๆ ล่ะเดี๋ยวจะล้มเอา” เอ่ยขณะพยุงอีกฝ่ายเดินมานั่งที่โซฟา

เด็กหญิงตัวน้อยมองพ่อกับแม่แล้วยิ้มอย่างเขินอาย ก่อนจะเดินตามหลังไปนั่งข้างผู้เป็นพ่อ

“คุณพ่อเก่งที่สุดเลยค่ะ”

“เพราะได้กำลังใจจากหนูไง”

“ไม่ใช่แค่น้องอันดาซะหน่อย แต่เพราะคุณแม่ด้วย อันดารู้หรอกน่าว่าคุณพ่อแกล้งไปกอดคุณแม่” เด็กหญิงตัวน้อยมองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างรู้ทัน

“พ่อจะทำอย่างนั้นทำไมล่ะ แม่ของลูกน่ากอดซะที่ไหนกัน”

“ต่อไปมึงก็ห้ามมากอดกูอีกถ้าปากจะหมาอย่างนี้” คำพูดแต่ละคำทำเอาเจ้าตัวถึงกับปรี๊ดแตก คนอะไรยิ่งนานวันยิ่งปากหมาเข้าไปใหญ่

“มึงนั่นล่ะห้ามมาอ่อยกูเด็ดขาด มึงก็รู้ว่าตอนนี้กูสนใจมึงซะที่ไหนกัน” พูดแล้วยกยิ้มใส่

“ว่าแต่กูหลงตัวเอง มึงเองก็เหมือนกันล่ะวะ” เบ้หน้าใส่ทันทีหลังจากพูดจบ

“หยุดทะเลาะกันได้แล้วค่ะ น้องอันดาหิวแล้ว”

“ลืมไปเลยว่าใกล้จะเที่ยงแล้ว ถ้างั้นเดี๋ยวแม่ไปอุ่นกับข้าวที่ยายทำมาให้ก่อน ลูกอยู่ดูแลคุณพ่อนะ”

“ค่ะคุณแม่”

“มึงดูแลลูกด้วยล่ะ”

“เออๆ ไปเถอะกูเองก็เริ่มหิวแล้ว”

ไอร์เดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารเที่ยงให้กับคนทั้งสอง ส่วนต๋องและลูกสาวก็นั่งดูทีวีรอ

“น้องอันดาคะ” ต๋องเอ่ยกับลูกสาวขณะเจ้าตัวเล็กกำลังสนใจมองหน้าจอทีวีอยู่ตรงหน้า

“คะคุณพ่อ” เจ้าตัวเล็กหันหน้ามามองทันที

“คุณพ่อมีความลับจะบอก”

“ความลับอะไรคะบอกมาเร็วๆ น้องอันดาอยากรู้จะแย่แล้ว” เจ้าตัวเล็กดูท่าทางตื่นเต้น

“พ่อจำเรื่องทั้งหมดได้แล้ว พ่อจำเรื่องราวเกี่ยวกับน้องอันดาได้ทุกเรื่องเลยค่ะ” ต๋องบอกกับลูกสาวตัวน้อย

“คุณพ่อไม่ได้โกหกใช่ไหมคะ เย้!!!” เด็กหญิงอันดาลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นด้วยความดีอกดีใจ ทำให้ต๋องยิ้มตามอย่างมีความสุข หลังจากนั้นเจ้าตัวเล็กก็วิ่งออกไป

“อันดาจะไปไหนลูก!”

“น้องอันดาจะไปบอกคุณแม่ค่ะ” เอ่ยหน้าตาใสซื่อ

“กลับมานี่ก่อนเร็ว” กวักมือเรียกลูกสาว

อันดาทำหน้างงเล็กน้อยแล้วเดินเข้ามาหาผู้เป็นพ่ออย่างว่าง่าย

“เรื่องนี้น้องอันดาสัญญาว่าจะไม่บอกคุณแม่ได้ไหม”

“ทำไมล่ะคะคุณพ่อ ถ้าคุณแม่รู้คงจะดีใจที่สุดเลย”

“พ่อจะเป็นคนบอกกับแม่เอง แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ อันดาเข้าใจใช่ไหมลูก” ต๋องพยายามพูดให้ลูกสาวเข้าใจในสิ่งที่ต้องการ

“เข้าใจค่ะคุณพ่อ”

“ถ้างั้นเราต้องช่วยพ่อนะ”

“ช่วยยังไงคะ”

“อันดาต้องอ้อนคุณแม่มาค้างกับพ่อบ่อยๆ เข้าใจไหมลูก”

“เข้าใจค่ะคุณพ่อ น้องอันดาจะช่วยคุณพ่อเอง” เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มแก้มป่องด้วยความเข้าใจ

“ดีมากลูกรักถ้างั้นเรารอคุณแม่อยู่ที่นี่ล่ะ สักพักก็คงมาแล้ว” ว่าแล้วก็อุ้มลูกสาวขึ้นมานั่งข้างๆ กอดเอาไว้ รอให้ไอร์มาเรียกไปทานข้าวอีกที



ไม่นานหลังจากนั้นคุณหมอสุดหล่อก็เดินออกมาจากครัว เมื่อเห็นสองพ่อลูกนั่งกอดกันดูทีวีอย่างมีความสุขก็อดยิ้มไม่ได้

“มาทานข้าวกันได้แล้วสองพ่อลูก” เดิมยิ้มเข้ามาหา

“อย่าเสียงดังดิ” ต๋องจุ๊ปากเพราะกลัวว่าลูกสาวจะตื่น นั่งดูทีวีไปได้สักพักปรากฏว่าเจ้าตัวน้อยก็เผลอหลับไป

“ทำไมหลับเร็วจังลูกสาวคนนี้” ไอร์เดินเข้าไปหาแล้วมองหน้าลูกสาวก่อนจะยิ้มที่มุมปาก

“ถ้างั้นเดี๋ยวกูจะยกมาให้มึงกินที่นี่ละกัน จะได้ดูอันดาไปด้วย”

“ขอบใจนะ”

“พูดคำนี้ก็เป็นเหรอวะ” ตั้งแต่มาช่วยดูแลนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำนี้จากปากอีกฝ่าย

“กูไม่ใช่คนใจร้ายใจดำขนาดนั้นสักหน่อย”

“เหรออ! ถ้างั้นก็หายงอนกูแล้วกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันสักทีสิวะ กูเหนื่อยจะตามใจมึงแล้วเนี่ย”

“ปากก็บอกว่ารักกูดูท่าจะไม่ใช่ซะแล้วมั้ง มาดูแลยังไม่ถึงเดือนก็ท้อซะแล้ว เฮ้อ..” พูดอย่างปลงๆ พร้อมกับส่ายหน้า

“มึงก็รีบจำอะไรให้ได้เร็วๆ สิวะ กูจะได้ไม่ต้องท้อ”

“จะยืนพูดอีกนานไหมเนี่ยกูหิวจะแย่แล้ว” พูดแล้วก็ลูบที่ท้องตัวเองปอยๆ สื่อว่าตอนนี้กำลังหิวเป็นที่สุด

“เออๆ รอแป๊บนึงละกันคุณชาย” เดินหน้าบึ้งไปในครัวทันที

ส่วนคนที่เป็นต้นเหตุนั้นกลับยิ้มกริ่มอย่างพอใจที่ได้แกล้งอีกฝ่าย อีกไม่นานหรอกไอร์มึงจะได้รู้ว่ากูรักมึงมากแค่ไหน

*-*-*-*-*-*-*



เมื่อถึงช่วงเย็นไอร์ก็พาลูกสาวตัวน้อยขึ้นไปอาบน้ำ เปลี่ยนชุดนอนแล้วลงมาข้างล่าง ก็เห็นเจ้าของบ้านนั่งดูทีวีสบายใจเฉิบอยู่ในห้องนั่งเล่น เห็นแล้วน่าหมั่นไส้ฉิบหาย

“วันนี้พ่อกับแม่มึงไม่กลับบ้านหรอกเหรอ” ตั้งแต่เช้าแล้วที่ไม่เห็นผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน ไอร์จึงถามด้วยความสงสัย

“วันนี้ท่านไม่มาค้างที่นี่เพราะรู้ว่ามึงจะคอยอยู่ดูแลกูทั้งคืนไงล่ะ”

“เรื่องทั้งหมดดูบังเอิญจังเลยเนาะ” เมื่อเหตุการณ์มันบังเอิญจนเกินไปเจ้าตัวจึงพูดออกไปขำๆ

“อย่ามโนสิวะ” ว่าให้อีกฝ่ายก่อนจะหันไปเอ่ยกับลูกสาวสุดที่รัก “อันดามาหาพ่อสิลูก”

เจ้าตัวน้อยเดินเข้าไปหาผู้เป็นพ่ออย่างว่าง่าย ต๋องกอดลูกสาวเอาไว้แน่นแล้วหอมแก้มทั้งสองข้างสลับไปมา

ฟอดด!!!

“ตัวหอมจังเลย”

“คุณแม่ทาแป้งให้น้องอันดาค่ะ ถ้าคุณพ่ออยากตัวหอมก็ให้คุณแม่ทาแป้งให้สิคะ”

“คุณพ่อไม่ใช่เด็กซะหน่อย คุณแม่คงไม่ทำอย่างนั้นให้แน่นอน” พูดแล้วปรายตามองอีกคน

“ใช่แล้วลูกคุณพ่อโตเป็นควะ...เอ่อ เป็นผู้ใหญ่แล้วทำเองได้ค่ะ” ไอร์บอกกับลูกสาว เกือบจะพลั้งปากด่าอีกฝ่ายต่อหน้าลูกเสียแล้ว

“ถ้างั้นคุณพ่อขึ้นไปอาบน้ำสิคะจะได้ไปนอนกัน”

“พ่อไปไม่ไหวน่ะสิลูกต้องมีคนช่วยพยุง” พูดกับลูกสาวแต่เหมือนตั้งใจให้อีกคนได้ยินและเห็นใจ

“ให้คุณแม่ช่วยสิคะ คุณแม่ช่วยพาคุณพ่อขึ้นไปอาบน้ำหน่อยสิคะ” อันดาส่งยิ้มให้พ่ออย่างรู้กัน แล้วหันไปบอกกับผู้เป็นแม่

“ได้ทีใช้แม่ใหญ่เลยนะเรา” ไอร์พูดขำๆ กับลูกสาว แล้วเดินไปพยุงตัวคนรักเดินขึ้นข้างบน

“ก็อันดาอยากให้คุณแม่ช่วยคุณพ่อนี่นา”

“ถ้ามึงไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวกูให้เด็กรับใช้มาช่วยก็ได้”

“อย่ามาทำเป็นเกรงใจรีบๆ ขึ้นไปเดี๋ยวจะได้นอนกัน”

“ยังไม่อาบน้ำจะชวนนอนแล้วเหรอวะ กูบอกไว้ก่อนเลยนะว่าห้ามมานอนใกล้กู” พูดไปอย่างนั้นล่ะแต่ในใจกลับตรงกันข้าม

“เออกูรู้แล้วว่ามึงเกลียดและขยะแขยงกูแค่ไหน กูจะนอนให้ห่างๆ มึงเลย”

ไอร์พยุงคนป่วยขึ้นไปบนห้องนอนโดยมีลูกสาวถือตุ๊กตาตัวโปรดเดินตามหลังไป



เมื่อเข้ามาในห้องนอนแล้วต๋องก็พยายามเดินด้วยตัวเอง เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนุ่งผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำ ไอร์จ้องมองการกระทำของอีกฝ่ายอย่างไม่วางตาเพราะกลัวจะลื่นหกล้ม ถ้าเป็นอย่างนั้นคงจะหายช้าเข้าไปอีก

“อันดานั่งดูทีวีอยู่นี่ก่อนนะลูกเดี๋ยวแม่ไปดูคุณพ่อก่อน”

“ค่ะคุณแม่” ในที่สุดเจ้าตัวก็ทนไม่ไหว จึงบอกกับลูกสาวแล้วเดินไปหน้าห้องน้ำ

ต๋องรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงจึงไม่ได้ล็อกประตูห้องน้ำ ก่อนจะทำเป็นร้องโอดโอยเหมือนกับว่าเกิดอุบัติเหตุในนั้น

“โอ๊ย!”

“ต๋องมึงเป็นอะไรวะ!” ยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำด้วยความเป็นห่วง เมื่อลองเปิดประตูก็พบว่าไม่ได้ล็อกจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไป

“โอยยย” แกล้งส่งเสียงร้องโอดโอยนั่งอยู่บนพื้นห้องน้ำในขณะเปลือยกายล่อนจ้อน

“มึงเป็นอะไรไหมวะ” แม้ว่าน้ำจากฝักบัวจะไหลลงมาเป็นสายแต่ไอร์ก็เดินตรงปรี่เข้าไปหา ก่อนจะพยายามพยุงตัวอีกคนขึ้น

“อย่าเพิ่งกูปวดขอนั่งก่อน” แกล้งทำเป็นบีบที่ต้นขาตัวเอง

พอตั้งสติได้ไอร์เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังเปลือยกายอยู่ จากใบหน้าขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำขึ้นมาทันที พร้อมกับเบนหน้าหนีไปอีกทาง

“แค่นี้ทนดูไม่ได้หรือไง” คนพูดยกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ หากตอนนี้ไม่แกล้งความจำเสื่อมอยู่ล่ะก็จะจับกดให้หนำใจเลยทีเดียว

“กูไม่ชินอ่ะที่เห็นคนอื่นล่อนจ้อนอย่างนี้ มึงหายปวดรึยังก็จะได้ออกไปสักที”

“โอ๊ยย ยังเลยว่ะมันปวดหนึบๆ ตรงนี้อ่ะช่วยนวดให้หน่อย” ต๋องจับที่ต้นขาตัวเองเอาไว้พร้อมกับจับมืออีกฝ่ายมาช่วยนวด

ไอร์กล้าๆ กลัวๆ เพราะบริเวณนั้นมันอยู่ใกล้น้องชายซะเหลือเกิน ทำไมต้องมาเกิดเหตุการณ์บ้าๆ อย่างนี้ด้วยนะ รู้หรือเปล่าว่ามันน่าอายมากแค่ไหน

“เดี๋ยวกูนวดให้ละกัน” ว่าแล้วก็ออกแรงบีบเบาๆ แต่กลับเบนหน้าหนีไปทางอื่น เพราะทนดูไอ้เจ้าน้อยชายของอีกฝ่ายที่มันกำลังพองตัวขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้ หากว่าต๋องไม่ได้ความจำเสื่อมอยู่ล่ะก็คงคิดว่านี่คือแผนของอีกฝ่ายแน่นอน

“อือออ ตรงนั่นล่ะดีขึ้นมากเลยว่ะ อาส์!!!” เมื่อได้ยินเสียงครวญครางของอีกฝ่ายก็หันขวับมามองทันที เสียงนี่มันเริ่มไม่ใช่ล่ะ พอเห็นอย่างนั้นคนที่วางแผนร้ายก็เปลี่ยนเสียงทันที

“โอ๊ยย! ปวดว่ะแต่ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว”

“กูว่าออกไปข้างนอกก่อนดีไหม จะได้เอายามานวดให้”

“ไม่ๆ อยู่ในนี้ล่ะนวดอีกแป๊บก็น่าจะหายแล้ว อีกอย่างกูยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย” ใครจะยอมให้ออกไปล่ะกำลังได้ที่พอดีเลย

“ถ้างั้นเดี๋ยวกูอาบต่อให้เองจะได้ออกไปพร้อมกัน กูเองก็เปียกไปกับมึงแล้วเนี่ย” เพื่อตัดรำคาญไอร์จึงอาสาช่วยเพื่อจะได้ออกไปจากตรงนี้เสียที ใจมันเต้นแรงไม่ยอมหยุดเมื่อเห็นไอ้น้องชายของอีกฝ่าย มันไม่ยอมหดตัวลงเสียที

“โอเคๆ ก็ได้”

พูดเหมือนไม่ได้เต็มใจแต่จริงๆ แล้วข้างในกลับรู้สึกเต็มอิ่มมากเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-03-2019 23:04:59
พ่อต๋องแข็งแรงแล้วเหรอคะ แหม่
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 17-03-2019 23:21:08
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 18-03-2019 00:02:58
อิต๋อง อิเจ้าแผนการ.. ชิ..
เด่วเหอะ ถ้าไอร์รุความจริงนะ ให้งอนยาวเรยยย...
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 18-03-2019 00:42:31
เจ้าแผนการจริงๆ555
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-03-2019 06:44:09
รออ่านตอนความลับแตก ต๋องตายแน่  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 18-03-2019 12:21:38
โห..ต๋องระวังด้วยย
ความลับไม่มีในโลกนะ  :hao7:

รอติดตามนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 18-03-2019 21:32:40
นางตอแหลลลลล
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 18-03-2019 22:39:46
นี่ขนาดยังไม่หายดียังหื่นขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 19-03-2019 02:41:50
คนเจ้าแผนการ!!!
ระวังเมียรู้ความจริงแล้วได้นอนนอกห้องนะ
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 19-03-2019 12:36:05
ร้ายๆๆๆๆๆๆ5555
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 19-03-2019 12:36:33
ร้ายๆๆๆๆๆๆ5555
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.17 อาบน้ำ [Up.17-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-03-2019 23:47:05
ติดตามๆ
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 20-03-2019 19:47:04
:: ๑๘ ::
แต่งงานกันนะ



หนึ่งเดือนต่อมา

ในที่สุดความพยายามในการทำกายภาพบำบัดก็ได้ผลเป็นอย่างดี ตอนนี้ต๋องเดินได้เป็นปกติดีแล้ว ทำให้หน้าที่ของไอร์ก็หมดลงตามไปด้วย แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังมาเยี่ยมเยียนที่บ้านทุกวันพร้อมกับลูกสาวตัวน้อย โดยยังไม่รู้ว่าคนรักจำเรื่องราวได้หมดแล้ว

“สวัสดีครับแม่” วันนี้ไอร์และลูกสาวมาบ้านถึงแต่เช้า ก่อนจะเจอผู้เป็นนายหญิงของบ้านนั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องโถงเพียงลำพัง เจ้าตัวกวาดสายตามองหาใครบางคนที่ทุกครั้งจะนั่งอยู่บริเวณนี้

“สวัสดีค่ะคุณย่า” เจ้าตัวน้อยยกมือไหว้ตาม

“สวัสดีจ๊ะไอร์ อันดามาให้ย่ากอดหน่อยสิลูก” ทักทายลูกสะใภ้แล้วก็หันมาเอ่ยกับหลานสาวตัวน้อย อันดารีบวิ่งเข้าไปให้ผู้เป็นย่ากอด ส่วนไอร์ยังคงมองหาคนรักอยู่ตลอดเวลา

“แล้วนี่ต๋องไม่อยู่เหรอครับแม่” เมื่อไม่เห็นก็เอ่ยถามอีกฝ่ายทันที

“ทานข้าวเช้าแล้วก็ขึ้นไปข้างบนเลยจ๊ะ”

“ถ้างั้นผมขอขึ้นไปหามันข้างบนนะครับแม่...อันดาไปหาพ่อกันลูก” เอ่ยเรียกลูกสาวทันที

“เดี๋ยวก่อนจ๊ะหนูไอร์แม่มีเรื่องจะพูดด้วย”

ไอร์ชะงักนิดหน่อยแล้วหันหน้ามามอง

“มีอะไรครับแม่”

“เมื่อคืนต๋องคุยกับแม่ว่าอยากจะแต่งงานจ๊ะ” กานดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับว่าได้ยกภูเขาออกจากอกเสียที

ได้ยินอย่างนั้นไอร์ก็ยกยิ้มขึ้นมา เพราะมั่นใจว่าคนที่ต๋องอยากจะแต่งงานด้วยคงเป็นตัวเองแน่นอน เพราะช่วงเวลาหลายเดือนมานี้ดูแลไม่เคยห่าง แม้ความจำจะยังไม่กลับมาเหมือนเดิม แต่เชื่อมั่นว่าต๋องคงเข้าใจในตัวเขามากขึ้น

“จริงๆ เหรอครับแม่ ในที่สุดมันก็เห็นความดีของผม” เจ้าตัวยิ้มกว้าง

“มันไม่ใช่อย่างนั้นลูกคือว่า....” กานดานิ่งเงียบชั่วขณะ ไม่อยากเอ่ยประโยคทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย เพราะรู้ว่านี่คือแผนของลูกชาย

“คืออะไรครับแม่” มองด้วยความสงสัยเมื่อเห็นสีหน้าของกานดาไม่ค่อยสู้ดีนัก

“คนที่ต๋องจะแต่งงานด้วยไม่ใช่ไอร์หรอกนะลูก แต่เป็นหนูเบลคนที่แม่กับพ่อเคยหาไว้ให้น่ะ”

“อะ...อะไรนะครับ มันไม่จริงใช่ไหมครับแม่ ทำไมอยู่ๆ มันถึงได้ตัดสินใจปุปปับอย่างนี้ มันจำผมไม่ได้แต่จำคนอื่นได้อย่างนั้นเหรอครับ...ฮึก ฮือๆ” ประโยคที่ได้ยินเปรียบเสมือนใบมีดคมที่กรีดลงกลางใจ มันเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส น้ำตาแห่งความเสียใจไหลพรากลงมาเป็นสาย ช่วงเวลาที่ผ่านมามันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม ทำไมต้องเป็นเขาที่ต้องเสียใจและผิดหวังมาตลอด

“คุณแม่อย่าร้องนะคะ” อันดาจับมือผู้เป็นแม่เอาไว้แน่นพยายามให้กำลังใจ

“แม่พยายามห้ามแล้วแต่ต๋องก็ยังไม่ฟัง แม่เองก็เพิ่งรู้ว่าทั้งสองคนแอบคุยโทรศัพท์กันทุกเย็น ความสัมพันธ์ถึงได้มาไกลขนาดนี้” เรื่องที่เธอเล่ามามันคือสคริปท์ที่ลูกชายบอกเอาไว้ทั้งสิ้น

“ทำไมมึงถึงทิ้งกูกับลูกได้ลงคอไอ้ต๋อง กูผิดหวังกับมึงจริงๆ ฮือๆ” นั่งทรุดตัวลงกับพื้นแล้วร้องไห้เสียงดังอย่างหมดหวัง ที่จะได้มีครอบครัวสมบูรณ์แบบ เขาโง่เองที่ยังจงรักภักดิ์ดีกับอีกฝ่ายมาตลอด จากนี้ไปอย่าได้เจอกันอีกตลอดชีวิตเลย

“คุณแม่อย่าร้องสิคะ แงๆ” เด็กหญิงอันดาร้องไห้กอดแม่เอาไว้แน่น

“ไอร์อย่าร้องสิลูกแม่ใจไม่ดีเลย แม่ขอโทษแทนต๋องด้วยนะ ลูกแม่มันไม่รักดี” กานดานั่งลงข้างๆ แล้วกอดลูกสะใภ้เพื่อปลอบใจ

“แม่ไม่ต้องขอโทษแทนมันหรอกครับ ผมผิดเองที่คิดว่าจะเปลี่ยนใจมันได้แต่ไม่ใช่เลย ผมฝากบอกมันด้วยนะครับว่านับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อย่ามาให้ผมกับลูกเห็นหน้าอีกเด็ดขาด” เมื่อตั้งสติได้แล้วก็ฝากความไปถึงอีกคน ที่ตอนนี้คงจะนอนคุยกับผู้หญิงของตัวเองอยู่ข้างบนอย่างสบายใจ

ไอร์ลุกขึ้นยืนจูงมือลูกสาวไม่ให้ห่างกาย ก่อนจะพรูลมออกจากปากเพื่อเรียกสติตัวเองกลับคืนมา

“แม่ไม่อยากให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้เลยจริงๆ” กานดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย

“แม่อย่าคิดมากเลยครับ ผมขอตัวกลับก่อน อ้อ...ถ้าแม่อยากเจออันดาก็ไปหาที่บ้านได้ทุกเมื่อเลยนะครับ แต่ห้ามพาไอ้คนเลวคนนั้นไปด้วยเด็ดขาด”

“ขอบใจไอร์มากนะลูกที่ยังไม่กีดกันแม่กับหลานทั้งที่เรื่องมันเป็นอย่างนี้แล้ว”

“แม่ไม่ได้ผิดครับผมมีเหตุผลพอ แล้วก็ฝากไอ้นี่คืนมันด้วยครับ” พูดจบก็ถอดแหวนเพชรที่ต๋องเคยให้ไว้ตอนเกิดอุบัติเหตุยื่นคืนให้

“ไอร์เก็บไว้เถอะลูก” กานดาไม่ยอมรับคืน

“ไม่ครับแม่ ผมกับมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว”

เห็นความเด็ดเดี่ยวของอีกฝ่ายกานดาก็ยอมรับมาโดยดี ไอร์ยกมือไหว้แล้วพาลูกสาวกลับบ้าน

“แม่ครับ” เมื่อเห็นลูกกับเมียออกจากบ้านไปแล้ว ต๋องก็ลงมาหาผู้แป็นแม่

“ลงมาได้แล้วเหรอไอ้ลูกชายตัวดี ทำแม่เสียผู้ใหญ่จริงๆ เลย” เอ็ดให้ลูกชายแล้วยื่นแหวนให้

“อ่ะ เอาคืนไป”

“แม่ว่าไอร์มันจะยอมแต่งงานกับผมไหมครับ” ถามด้วยความกังวลใจ เพราะเมื่อครู่เห็นน้ำตาของอีกฝ่าย รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดมากเหลือเกิน

“ถ้าเป็นแม่ไม่ยอมแต่งแน่นอน ทำเขาเสียใจซะขนาดนี้”

“แม่อ่ะ...ไม่ให้กำลังใจลูกชายเลยผมยิ่งกลัวๆ อยู่ด้วย”

“ก็จริงไหมล่ะ...ยิ่งเห็นอย่างนี้ยิ่งต้องใช้ความพยายามให้มากขึ้น แม่เชื่อว่าหากลูกทั้งสองคนรักกันมากพอไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ พรุ่งนี้เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวที่หล่อที่สุดได้เลยแม่เอาใจช่วย” แม้จะเอ็ดลูกชายไปก่อนหน้า แต่กานดาเองก็พร้อมสนับสนุนลูกชายเต็มที่

“ขอบคุณคร้าบบ ว่าแต่แม่คุยกับทางโน้นเรียบร้อยรึยังครับ”

“เรียบร้อยแล้วจ้า ทุกอย่างพร้อมแล้วตอนนี้ก็เหลือแต่ความพยายามของลูกว่าจะเอาชนะใจหนูไอร์ได้อีกครั้งหรือเปล่า”

“แน่นอนครับแม่ผมพร้อมแล้วที่จะไปขอลูกสะใภ้มาให้แม่” พูดด้วยความมั่นใจ พรุ่งนี้แล้วสินะสิ่งที่เขารอคอยมาตลอดก็จะเป็นจริง

กูจะพยายามเอาชนะใจมึงอีกครั้งให้ได้ไอร์



เมื่อมาถึงบ้านไอร์ก็รีบวิ่งปรี่เข้าไปกอดผู้เป็นแม่แล้วร้องไห้เสียงดัง ปิ่นแก้วพอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะหล่อนก็รู้เห็นเป็นใจในแผนการครั้งนี้ หลังจากได้คุยสายกับกานดาเมื่อวันก่อน

“ฮือๆ ๆ แม่ครับมันจบแล้ว”

“เกิดอะไรขึ้นลูก!” หล่อนจะยอมอดทนเห็นความเศร้าของลูกชายเพียงคืนนี้คืนเดียว เพราะพรุ่งนี้เช้ามันจะเป็นวันที่ไอร์มีความสุขที่สุดในชีวิต หากเจ้าตัวไม่ใจแข็งจนเกินไป

“ไอ้ต๋องมันจะแต่งงานกับคนอื่นครับแม่ ฮือๆ ๆ มันทำร้ายจิตใจผมอีกแล้ว ผมเกลียดมัน”

“ร้องออกมาให้พอเลยลูก แม่อยู่ตรงนี้แล้วให้ถือซะว่าหมดเวรหมดกรรมต่อกันแล้ว”

“ฮึก..ครับแม่ต่อไปนี้จะมีแค่เราเหมือนเดิมแล้วนะครับ อันดามันหาแม่ลูก” ไอร์สวมกอดผู้เป็นแม่และลูกสาวพร้อมๆ กัน นี่สินะครอบครัวที่แท้จริงที่ไม่ต้องไปไขว่คว้าหาที่ไหน

หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ไอร์ก็สังเกตภายในบ้านและเห็นถึงความผิดปกติ เพราะทุกอย่างดูผิดที่ผิดทางไปเสียหมด โต๊ะที่เคยเกะกะหน้าบ้านก็ถูกยกออกไปจนโล่ง เมื่อมองไปที่ร้านขายข้าวแกงก็มีคนงานกำลังช่วยกันจัดโต๊ะใหม่มีผ้าคลุมเก้าอี้อีกด้วย ราวกับจะมีงานเลี้ยงเกิดขึ้นซะอย่างนั้น

“แม่ครับทำไมบ้านเราดูแปลกๆ ไป มีอะไรที่ผมไม่รู้รึเปล่า” มองหน้าผู้เป็นแม่แล้วถามออกมา

“พรุ่งนี้แม่ว่าจะทำบุญบ้านจ๊ะ โทษทีที่ไม่ได้บอกลูกเพราะช่วงนี้เห็นว่ายุ่งๆ เรื่องต๋อง” ถ้าจะบอกว่าเป็นครั้งแรกที่โกหกลูกชายก็คงใช่

“ไม่เป็นไรครับแม่ ดีเหมือนกันจะได้ปัดเป่าเรื่องร้ายๆ ออกจากบ้านเราซะที ถ้างั้นวันนี้ผมจะช่วยแม่เตรียมงานให้เต็มที่เลยนะครับ” มีอะไรให้ทำก็ดีจะได้ไม่ต้องคิดเรื่องไอ้คนนั้นให้เสียน้ำตาอีก

“จ๊ะ...แล้วอันดาล่ะจะช่วยยายกับแม่ไหม”

“ช่วยสิคะคุณยาย” เจ้าตัวน้อยยิ้มหวานให้

“ถ้างั้นเราไปช่วยกันเตรียมงานดีกว่านะ”

หลังจากปลอบใจลูกชายจนรู้สึกดีขึ้นแล้วลูกชาย ปิ่นแก้วก็ไปดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน ส่วนไอร์และลูกสาวก็ช่วยงานอย่างขะมักเขม้น เพื่อจะได้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องเมื่อเช้าให้รู้สึกแย่

*-*-*-*-*-*-*



วันรุ่งขึ้นปิ่นแก้วตื่นแต่เช้าลงมาดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านอีกครั้ง ก่อนจะขึ้นไปหาลูกชายที่ห้องนอนเพื่อนำชุดไปให้ เป็นชุดที่ต๋องจัดเตรียมไว้ให้และเพิ่งจะนำมาส่งในช่วงเช้าตรู่

“ไอร์แต่งตัวรึยังลูก” เมื่อเห็นชุดที่ผู้เป็นแม่ถือมาด้วยไอร์ก็มองด้วยความสงสัย

“ยังครับแม่ ว่าแต่ชุดที่แม่ถือมานั่นของใครครับ”

“ของไอร์ไงลูกแม่เตรียมไว้ให้เองล่ะ ส่วนนี่ก็ของอันดา” หล่อนยื่นให้

“ต้องขนาดนี้เลยเหรอครับแม่แค่ทำบุญบ้านเองนะ” แม้จะรู้สึกแปลกใจแต่ก็ยอมรับมาแต่โดยดี เพราะมันคือความหวังดีของผู้เป็นแม่

“ทำบุญบ้านทั้งทีลูกแม่ก็ต้องหล่อที่สุด ส่วนหลานสาวก็ต้องน่ารักที่สุด”

“แล้วแม่ล่ะครับไม่เห็นเปลี่ยนชุดเลย”

“แม่จะไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้ล่ะ ไอร์อย่าเพิ่งลงไปข้างล่างจนกว่าแม่จะขึ้นมาตามนะ” ปิ่นแก้วบอกกับลูกชายไว้

“วันนี้แม่ดูแปลกๆ อีกแล้ว มีอะไรที่ยังไม่ได้บอกผมอีกหรือเปล่าครับ” ไอร์รู้สึกแปลกใจที่แม่ของตัวเองดูแปลกไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

“ไม่มีอะไรจริงๆ ลูก แม่แค่ตื่นเต้นไปหน่อย เพราะนานๆ ทีบ้านเราจะมีงานมงคล” ปิ่นแก้วหลบตาลูกชายแล้วรีบเดินลงไป

“คุณแม่คะเรามาเปลี่ยนชุดกันดีกว่า” อันดานำชุดมาทับทาบบนตัวด้วยท่าทางตื่นเต้น

“จ๊ะลูกมานี่เดียวแม่ใส่ให้”

ไอร์ใส่ชุดนางฟ้าให้ลูกสาวเสร็จแล้ว ก็เปลี่ยนชุดให้ตัวเองบ้าง ก่อนจะนั่งรออยู่ในห้องแม้ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลใด แต่ก็ยอมทำตามที่แม่บอกเอาไว้

“ถ้าคุณพ่อมาง้อ...คุณแม่จะยอมยกโทษให้ไหมคะ” อยู่ๆ อันดาก็ถามขึ้นมา จากที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นแล้ว ก็ทำให้ภาพต๋องลอยมาในหัวทันที

“ทำไมอันดาถามอย่างนี้ล่ะลูก คุณพ่อจะแต่งงานแล้วนะ ต่อไปนี้จะมีแค่เราสองคนนะคะ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อเห็นหน้าลูกสาวก็รู้สึกสงสาร กว่าจะผ่านอะไรกันมาได้จนถึงป่านนี้ ไม่รู้อะไรดลใจให้ต๋องเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้ายอย่างนี้

“แต่อันดาอยากมีพ่อนี่คะ อันดาอยากให้คุณพ่อกับคุณแม่อยู่ด้วยกัน” อันดาใช้ความใสซื่อโน้มน้าวผู้เป็นแม่ ก่อนที่ขบวนแห่ขันหมากจะมาถึงในอีกไม่ช้า หากถึงเวลานั้นแม่ของเจ้าตัวจะได้ใจอ่อนโดยง่าย

“มันเป็นไปไม่ได้แล้ว อันดาเข้าใจใช่ไหมลูก” มือเรียวสัมผัสที่เรือนผมแล้วลูบเบาๆ เพื่อให้ลูกสาวเข้าใจในสิ่งที่กล่าว

“โห่...ฮี้....โห๋....ฮี้...โห่........ฮี้......โห่ยยยยยย....”

“ฮิ้ววววว.....”

“โมงๆ โมงเท่งโมง......”

สิ้นเสียงโห่ก็มีเสียงกลองยาวดังขึ้น ไอร์ละสายตาจากใบหน้าลูกสาวแล้วรีบหันไปมองตามเสียง

“แถวนี้มีงานแต่งด้วยเหรอ” พูดกับตัวเองเบาๆ แล้วลุกออกไปดูที่ระเบียงหน้าบ้าน

อันดายิ้มกว้างทันทีเมื่อรู้ว่าขบวนแห่ขันหมากมาถึงแล้ว เจ้าตัวเล็กรีบเดินไปยืนข้างผู้เป็นแม่ ส่วนไอร์ยืนมองขบวนแห่ขันหมากที่กำลังเคลื่อนมาหน้าบ้าน เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเจ้าบ่าวก็รู้สึกคุ้นตา ต๋องมาในชุดสูทสีครีมสวมแว่นกันแดดถือช่อดอกไม้เล็กๆ เดินนำหน้าขบวนมาพร้อมกับกานดาและวีระพล

เมื่อรู้ว่าเจ้าบ่าวเป็นใครเจ้าตัวก็น้ำตาไหลทันที และรู้ว่ากำลังโดนทุกคนหลอกเข้าให้แล้ว ต๋องเห็นเจ้าสาวยืนอยู่หน้าระเบียงก็ยิ้มแล้วโบกมือทักทาย ไอร์เอาแต่ร้องไห้ก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง นั่งกอดเข่าก้มหน้าอยู่อย่างนั้น เขาจะไม่มีทางลงไปข้างล่างเด็ดขาด!

“คุณพ่อไม่มีทางแต่งงานกับคนอื่นแน่นอน เพราะคุณพ่อรักคุณแม่มากที่สุดในโลก” อันดานั่งลงข้างๆ แล้วกอดผู้เป็นแม่ไว้

“ฮือๆ แม่โง่เองที่โดนหลอก ไอ้คนบ้าทำไมต้องหลอกให้เสียใจขนาดนี้ด้วย” ตอนนี้เจ้าตัวสองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็โกรธที่โดนหลอกอย่างแนบเนียน แต่อีกใจก็รู้สึกโล่งที่ต๋องไม่ได้แต่งงานกับคนอื่น

“คุณแม่อย่าโกรธคุณพ่อเลยนะคะ ถ้าไม่มีคุณพ่อน้องอันดาคงจะเสียใจมาก” เมื่อคืนช่วงที่ไอร์กำลังอาบน้ำ ต๋องแอบโทรมาคุยกับลูกสาว พร้อมทั้งบอกให้เจ้าตัวเล็กช่วยหว่านล้อมผู้เป็นอีกด้วย

“ทุกคนคงจะรู้เรื่องหมดยกเว้นแม่สินะ” พูดพลางปาดน้ำตาออกจากแก้มขาว

ระหว่างนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“ไอร์เห็นขบวนแห่ขันหมากแล้วใช่ไหมลูก” ปิ่นแก้วเองก็รู้สึกเห็นใจลูกชาย เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนไม่ทันตั้งตัว เมื่อวานโดนหักอก แต่วันนี้กลับมาขอแต่งงานซะอย่างนั้น

“แม่รู้เรื่องมาตลอดใช่ไหมครับ มิน่าล่ะถึงได้ดูแปลกๆ บอกพวกเขากลับไปซะผมไม่อยากเห็นหน้าใครทั้งนั้น” ว่าแล้วก็หันหน้าหนีไปอีกทาง

“แม่ขอโทษนะไอร์แต่...”

“แม่ไม่ต้องพูดแล้วครับผมอยากอยู่คนเดียว”

ปิ่นแก้วเห็นอย่างนั้นก็กวักมือเรียกหลานสาวให้มาหา ก่อนจะพาลงไปข้างล่าง ส่วนไอร์ก็นั่งชันเข่าก้มหน้าร้องไห้อยู่บนเตียง ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาใส่แม่แม้แต่ครั้งเดียว เป็นเพราะไอ้บ้านั่นคนเดียวเลย

“ไอร์” เสียงเข้มที่คุ้นหูดังขึ้น ไอร์เงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายด้วยหางตาแล้วหันหลังให้

“ออกไปจากห้องกูเลย ไอ้คนเจ้าเล่ห์”

“กูขอโทษที่ทำลงไปเพราะอยากจะเซอร์ไพรซ์มึงเท่านั้นเอง” เดินไปนั่งตรงหน้าคนรักแล้วจ้องตา

“เท่านั้นเองเหรอ มึงพูดได้ยังไงรู้หรือเปล่าว่ากูเสียใจแค่ไหน ถ้ากูฆ่าตัวตายขึ้นมาใครจะอยู่กับลูก มึงไม่คิดบ้างเลยเหรอวะ ฮือๆ” ยิ่งเห็นหน้าหล่อๆ ของอีกฝ่ายยิ่งร้องไห้หนักขึ้น ต๋องไม่รอช้ารีบเข้าไปโอบกอดคนรักไว้แต่โดนเจ้าตัวปฏิเสธ ผลักจนล้มลงกับพื้น

“ตบหัวแล้วมาลูบหลัง คนอื่นรู้เรื่องกันหมดไม่เว้นแม้กระทั่งอันดา มีกูที่โง่คนเดียวจิตใจมึงทำด้วยอะไรวะไอ้เหี้ยต๋อง! มึงก็รู้ว่ากูรักมึงมากแค่ไหน ถ้ามึงไม่ออกไปกูจะเป็นคนออกไปเอง” ไอร์ลุกขึ้นแล้วจะเดินออกจากห้อง แต่แขกผู้มาเยือนรีบคว้าตัวมากอดจากด้านหลังไว้

“ไอร์กูขอโทษที่ทำอะไรโง่ๆ ลงไป กูสำนึกผิดแล้วยกโทษให้กูด้วยนะ ขอโอกาสให้กูได้ดูแลมึงกับลูกตลอดไปนะ กูรักมึงที่สุดในชีวิต กู..ฮึก...อยากให้มึงมีความสุข ‘แต่งงานกันนะ” คำนี้ที่กูอยากจะพูดกับมึงก่อนโดนรถชนในวันนั้น วันนี้กูได้พูดมันแล้ว แล้วมึงล่ะ..จะยอมยกโทษให้กูแล้วรับแหวนวงนี้ไว้อีกครั้งได้ไหม..ฮึก” พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาของลูกผู้ชายไหลลงมาไม่ขาดสาย ขณะสะอื้นไห้ต๋องก็หยิบแหวนในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายให้ทั้งที่ยังกอดคนรักอยู่

ไอร์กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อได้ฟังคำแก้ตัวที่กินใจเขาเหลือเกิน เจ้าตัวยืนนิ่งๆ ปล่อยให้คนรักสวมแหวนให้อย่างบรรจง ก่อนจะหันมามองหน้าหล่อๆ ที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา มือเรียวยกขึ้นไปปาดน้ำใสๆ เหล่านั้นออกให้อย่างเบามือแล้วยิ้มออกมา

“วันนี้มึงเป็นเจ้าบ่าวนะอย่าร้องไห้สิอายแขกกันพอดี” ต๋องยิ้มกว้างพร้อมกับปล่อยโฮเมื่อได้ยินประโยคนั้น ก่อนจะคว้ามือทั้งสองข้างของคนรักขึ้นมาโอบคอไว้

“วันนี้มึงก็เป็นเจ้าสาวนะหยุดร้องได้แล้ว...นับจากนี้มึงไม่ใช่เพื่อนกูอีกต่อไป แต่มึงคือ ‘เมีย’ ไอ้ต๋องคนนี้ เป็นเมียที่กูรักที่สุดและจะรักคนเดียวตลอดไป” เอ่ยพร้อมกับจ้องตาอย่างหวานซึ้งเป็นประกาย ทั้งสองค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าหากันอย่างช้าๆ จนริมฝีปากสัมผัสกันในที่สุด





หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-03-2019 21:14:00
 :pig4: :pig4: :pig4:

แต่งงานกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-03-2019 21:59:41
เล่นอะไรกันเนี่ยพวกแก
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-03-2019 23:06:21
ขอทีเถอะ ฐานของ สว. ใจเสีย  :fcuk:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 20-03-2019 23:17:46
มีมาม่าเล็กๆ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 21-03-2019 01:25:22
แต่งกันแล้วว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-03-2019 02:38:52
ดีใจด้วยยยย
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-03-2019 06:13:16
ต๋องดีนะที่ไอร์ไม่โกรธมาก แต่งงานกันดีแล้ว
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 21-03-2019 09:33:02
 :3123:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 21-03-2019 11:42:59
แบบว่า ทำให้เสียใจแล้วมาขอแต่ง แห่ขันหมาก..
มันจะสุขแต่ก็ไม่สุด..
แบบ ยังงง กะความคิด อิต๋องนะเนี้ย
ถ้าเป็น นุ้นไอร์นี้คือจะงอนไม่แต่งนะ.. 55+
ให้แห่ขันหมากเก้อไปเรยยย..
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 21-03-2019 21:53:40
 :hao5: :hao5:
ในทึ่สุดดด
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 21-03-2019 23:39:57
รอๆ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.18 แต่งงานกันนะ [Up.20-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 22-03-2019 06:33:51
 :pig4:
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 25-03-2019 21:09:51
:: ๑๙ ::
ห้องหอ


พิธีมงคลสมรสผ่านไปอย่างราบรื่น ท่ามกลางรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุขใจของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะคู่บ่าวสาวที่โปรยยิ้มตลอดทั้งวันไม่มีเหน็ดเหนื่อย แขกเหรื่อที่มาร่วมงานรวมถึงพ่อกับแม่และญาติๆ ของฝ่ายชายกลับไปจนหมดแล้ว จะเหลือก็แค่เจ้าบ่าวที่ต้องอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อในฐานะลูกเขยอย่างเป็นทางการ

กว่าจะเคลียร์งานเสร็จก็ตกเย็นแล้ว ทว่าปิ่นแก้วก็ตั้งใจลงมือทำกับข้าวเลี้ยงต้อนรับลูกเขยคนใหม่อย่างสุดฝีมือ

“วันนี้แม่ตั้งใจโชว์ฝีมือต้อนรับลูกเขยคนใหม่เลยนะต๋อง” ทุกคนกำลังนั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเย็นอย่างพร้อมหน้า หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน

“ขอบคุณครับแม่มากนะครับที่ดีกับผมมาตลอด ต่อไปนี้ผมสัญญาว่าจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุดครับ”

“ได้ยินอย่างนี้แม่ก็อุ่นใจ มีคนดูแลลูกหลานวันข้างหน้าจะได้นอนตายตาหลับ”

“แม่ก็พูดไปอย่าลืมนะว่าลูกชายคนนี้เป็นหมอ ผมไม่ยอมให้แม่เป็นอะไรไปง่ายๆ แน่นอน”

“อันดาโตขึ้นอยากเป็นหมอเหมือนคุณแม่จะได้ช่วยดูแลคุณยายด้วย”

“สงสัยคงจะอยู่เกินร้อยปีมั้งเราลูกกับหลานพูดซะขนาดนี้” พูดแล้วก็ขำออกมาเบาๆ ก่อนจะตักกับข้าวให้หลานสาวตัวน้อย “กินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ ก่อนจะได้มาดูแลยายอันดาอาจจะได้เลี้ยงน้องก่อนนะลูก” ปิ่นแก้วส่งยิ้มให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวมือใหม่

“เย้! อันดาจะได้มีน้องแล้ว” เมื่อรู้ว่าจะได้มีน้องเด็กหญิงก็มีท่าทีตื่นเต้นดีใจยกใหญ่

“คุณแม่ก็พูดให้ความหวังหลาน มีคนเดียวก็พอแล้ว แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่แล้วเนี่ย” ไอร์หันไปมองหน้าลูกสาวแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

“อ้าว! ทำไมพูดตัดความหวังลูกอย่างนั้นล่ะครับ” มองหน้าคนรักแล้วหันไปเอ่ยกับลูกสาวอีกที “อันดาไม่ต้องห่วงนะลูก พ่อสัญญาว่าอีกไม่นานหนูจะได้อุ้มน้องแน่นอน” พูดแล้วก็หันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่กลับได้สายตาพิฆาตคืนมา

“คุณพ่อพูดแล้วห้ามผิดสัญญาเด็ดขาดนะคะ”

“คร้าบบลูกพ่อ”

วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกชายและคนรักจะได้เข้าเรือนหอ ปิ่นแก้วจึงอยากเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้มีเวลาพูดคุยและอยู่ด้วยกันตามประสาคนเพิ่งแต่งงาน จึงจะพาหลานสาวไปนอนที่ห้องด้วยสักคืน

“คืนนี้น้องอันดาไปนอนกับยายนะจ๊ะ”

“ทำไมล่ะคะคุณยาย” เจ้าตัวน้อยหันไปมองยายด้วยท่าทีฉงน

“นั่นสิครับแม่ทำไมต้อง.....” พูดไม่ทันจบผู้เป็นแม่ก็เอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน

“วันนี้ลูกทั้งสองต้องเข้าเรือนหอไงล่ะ ให้อันดาไปนอนกับแม่ล่ะดีแล้ว เอาตามนี้แล้ววันหลังค่อยว่ากันใหม่”

“น้องอันดาวันนี้ไปนอนกับคุณยายก่อนนะลูก วันนี้พ่อกับแม่จะทำน้องให้หนูก่อน” ต๋องเอ่ยกับลูกสาวแล้วยกยิ้มอย่างพอใจ วันนี้ล่ะเขาจะทำทุกอย่างตามที่ใจต้องการ คิดแล้วก็นึกถึงเรือนร่างสมส่วน ผิวขาวนวลเนียนที่เคยสัมผัสในคืนนั้นเมื่อหลายปีก่อน แม้ช่วงเวลานั้นจะผ่านมานานแล้วแต่ก็จำได้ไม่เคยลืมเลือน

“ค่ะคุณพ่อ แล้วอย่าลืมที่สัญญานะ อันดาอยากอุ้มน้องเร็วๆ”

“ครับ...พ่อสัญญา”

เมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกันขนาดนี้แล้วมีหรือที่ไอร์จะโต้แย้งได้อีก เจ้าตัวเอาแต่นั่งเงียบและพยายามทำใจว่าคืนนี้คงต้องเจอศึกหนักอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ต๋องส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้หลายต่อหลายครั้ง สื่อว่าอีกฝ่ายคงไม่ปล่อยให้ได้หลับได้นอนเป็นแน่



หลังจากทานมือเย็นเรียบร้อยแล้ว ไอร์ก็พาลูกสาวขึ้นมาอาบน้ำและเปลี่ยนชุดนอน ก่อนจะพาไปที่ห้องนอนของแม่แล้วเดินกลับมาที่ห้องอีกครั้ง เมื่อก้าวขาเข้าไปในห้องก็เห็นอีกฝ่ายกำลังนั่งหล่ออยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยท่อนบน มีเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ที่ปกปิดส่วนล่างเอาไว้เท่านั้นเอง เห็นอย่างนั้นก็ใจเต้นตึกตัก ราวกับกับเด็กวัยรุ่นที่กำลังจะมีเซ็กส์ครั้งแรกซะอย่างนั้น

“มึง...อาบน้ำแล้วเหรอ” เดินเกาหลังคอแก้เขินไปนั่งอีกฝั่งของเตียง

“อาบแล้ว..และก็พร้อมแล้วด้วย” พูดแล้วข้ามฝั่งไปนั่งข้างๆ แล้วยิ้มหวานให้

“พะ...พร้อมอะไรวะ” คนพูดหน้าแดงก่ำ หัวใจเต้นแรง มือไม้สั่น ยิ่งถูกมือหนามาเกี่ยวที่เอว ยิ่งทำให้เลือดลมสูบฉีดอย่างบอกไม่ถูก

“อย่ามาทำเป็นอินโนเซ้นท์ มึงก็รู้ว่ากูหมายถึงอะไร” ว่าแล้วใบหน้าคมเคลื่อนเข้าไปใกล้ๆ จนริมฝีปากสัมผัสที่แก้มขาว แล้วสูดกลิ่นกายที่หอมหวนรัญจวนใจ

“มึง...จะเอาจริงดิวะ”

“เออสิวะ! มึงรู้ป่ะว่ากูรอวันนี้มานานแค่ไหน ก่อนหน้านี้เวลาช่วยตัวเองก็นึกถึงแต่หน้ามึง วันนี้คือฝันที่เป็นจริงของกูแล้ว หึๆ” พูดแล้วก็ผลักอีกฝ่ายนอนราบลงบนเตียงก่อนจะคร่อมตัวไว้ ส่งสายตาหื่นปานจะกลืนกินไปทั้งตัว

“มึงนี่โรคจิตอ่อนๆ เลยนะ ทำไปได้ไง”

“ต่อไปนี้กูจะเลิกเป็นโรคจิตแล้วล่ะ เพราะมึงอยู่ตรงหน้ากูแล้วนี่ไง” เสียงกระเส่าเอ่ยข้างใบหู พร้อมกับมือทั้งสองข้างที่สอดประสานกันตรึงไว้เหนือศีรษะ

“กูบอกตรงๆ มัน...ตื่นเต้นว่ะ เราไม่ได้มีอะไรกันนานแล้วกูกลัวเจ็บอ่ะ” เอ่ยออกมาด้วยท่าทางเหนียมอายเพราะห่างเรื่องนี้ไปเสียนาน

“ไม่ต้องห่วงกูจะทำให้เบาที่สุด ไม่ให้มึงต้องบอบช้ำแม้แต่น้อย” ว่าแล้วก็ค่อยๆ บรรจงประกบจูบอย่างนุ่มนวล หลังจากนั้นก็ส่งลิ้นเย็นเข้าไปลิ้มรสชาติความหอมหวาน ขณะริมฝีปากทั้งสองบดเบียดกัน มือเรียวก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้วเปลี่ยนมาคล้องที่คอของอีกฝ่ายไว้ ส่วนมือหนาก็ค่อยๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์ ที่ปกปิดเรือนร่างขาวนวลออกให้พ้นทาง

ร่างเปลือยเปล่าทั้งสองกอดก่ายกันอยู่บนเตียงนุ่มอย่างเร่าร้อน ต่างฝ่ายต่างปลดปล่อยอารมณ์ที่โหยหามาตลอด แต่เมื่อกำลังจะโดนลุกล้ำของสงวนไอร์ก็นึกอะไรขึ้นมาได้เสียก่อน

“ดะ...เดี๋ยว” มือเรียวดันอกแกร่งเอาไว้ ขณะที่อีกฝ่ายเตรียมพร้อมจ่อเจ้าโลกไปที่ช่องทางแล้ว ต้องขมวดคิ้วมองหน้าด้วยความสงสัย

“อะไรอีกวะกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แล้วเชียว” จิ๊ปากอย่างเสียดาย

“มึงใส่ถุงยางได้ป่ะวะกูกลัวท้อง”

“ไม่เอากูสัญญากับอันดาแล้วว่าจะทำน้องให้ กูต้องรักษาสัญญาสิวะ” จับมือเรียวที่กำลังดันอกตัวเองแล้วตรึงไว้บนเตียงแทน

“ไม่เอ้า!! อีกสักปีนะค่อยมีก็ได้ กูยังไม่พร้อมมม...” คนที่นอนอยู่ใต้ร่างยังดึงดันที่จะทำตามความต้องการของตัวเอง

“ไม่เอากูจะมีมึงห้ามกูไม่ได้หรอกโว้ยย” ต๋องพยายามจับน้องชายที่กำลังแข็งตรงจ่อไปที่ทางเข้า แม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามขยับตัวหนีก็ตาม

“ไอ้ต๋องมึงหยุดเลยยยย! ถ้าไม่ใส่ถุงก็ไม่ต้องมาเอากูเลย!”

“กูไม่เคยพกถุงยางเลยนี่หว่า แล้วมึงจะให้กูเอามาจากไหนล่ะ” เริ่มหงุดหงิดที่อีกฝ่ายไม่ยอมเสียที

“ถ้างั้นก็หยุดเลยไม่ต้องเอามันเข้ามาในตัวกู”

“มึงคิดเหรอว่ากูจะยอมง่ายๆ น้องชายกูมันพร้อมสู้ขนาดนี้แล้ว เตรียมตัวรับน้ำเชื้อกูได้แล้วไอ้ไอร์!” เจ้าตัวตรึงร่างอีกฝ่ายไว้แล้วจัดการยัดเยียดความเป็นชายเข้าไปอย่างช้าๆ

“อ๊ากกก!! ไอ้ต๋องไหนมึงบอกว่าจะทำเบาๆ ไงวะ กูเจ็บบบบบ!!!”

“ก็มึงไม่ยอมเองนี่หว่า เราจะมีลูกกันอีกคนนะครับที่รัก” เสียงกระเส่าเอ่ยข้างใบหู ขณะส่วนที่เชื่อมต่อกันยังคงถูกลุกล้ำอยู่เนืองๆ

“ไอ้เหี้ยต๋องงงงง!!!! อ๊ะๆ ๆ”



เช้าวันต่อมา

“ตื่นแล้วเหรอครับที่รัก”

ลืมตาขึ้นมาในตอนเช้าก็เห็นใบหน้าหล่อกำลังจ้องมองมาอยู่ก่อนแล้ว เห็นอย่างนั้นเจ้าตัวก็รีบหันหลังให้ทันที เพราะเมื่อคืนโดนอีกฝ่ายเล่นงานไปซะหลายรอบ จนรู้สึกเพลียและปวดเมื่อยไปทั่วทั้งร่าง ทั้งที่สัญญาว่าจะไม่ทำรุนแรง

“อย่ามาปากหวานแต่เช้าไอ้คนเลว” พูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ

ต๋องไม่รอช้ารีบเขยิบตัวมากอดคนรักจากด้านหลัง แล้วซุกไซร้ที่ซอกคอขาว ก่อนจะงับที่ติ่งหูเบาๆ เพื่อหยอกล้อเล่น

“อย่างอนสิครับที่รัก ผัวขอโทษนะที่ทำให้เมียเจ็บตัวไปซะหลายรอบ” พูดแล้วก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ก่อนที่มือหนาจะสะกิดยอดอกเล่นอย่างสนุกสนาน ทำให้น้องชายที่กำลังนอนหลับใหล เริ่มตื่นตัวและดุนที่ก้นของอีกฝ่ายเสียแล้ว

“ตื่นเช้ามาก็กวนตีนกูแต่เช้าเลยนะมึง เอามือมึงออกจากหัวนมกูเดี๋ยวนี้”

“ไม่!” ยังคงทำหน้าละเล้นแล้วหอมแก้มอีกฝ่ายไปหลายฟอดอย่างไม่เกรงกลัว

“ไม่หยุดใช่มั้ยยยย” ออกแรงหยิกมือหนาที่กำลังก่อกวนด้วยความหมั่นไส้

“โอ๊ยยย!!! เจ็บนะคร้าบบบบตัวเอง” ยอมหยุดแต่กลับเปลี่ยนเป็นกระชับกอดอีกฝ่ายแทน

“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเพราะเลย”

“ต่อไปนี้เราควรเปลี่ยนจากคำว่ากูมึง เป็นเค้ากับตัวเองนะ จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก”

“ไม่เอากูไม่ชิน อีกอย่างจะให้พูดเพราะๆ กับคนขี้กวนอย่างมึงคงไม่ไหวว่ะ”

“ถ้าไม่ยอมก็จะนอนกอดอย่างนี้เรื่อยๆ” พูดแล้วก็กดจมูกไปที่เรือนผมของคนรักแล้วสูดดมเข้าเต็มปอด “ขนาดผมยังหอมเลยนะเนี่ย”

“ทำไมถึงได้ดื้ออย่างนี้นะมึงอ่ะ” พยายามขยุกขยิกตัวในอ้อมกอด นั่นทำให้เจ้าของวงแขนแกร่งอมยิ้มด้วยความสะใจ

“ยังๆ ยังไม่หยุดอีกบอกให้เรียกว่าตัวเองไงล่ะ อย่างนี้ต้องโดนทำโทษ”

ฟอดดด!!!

“ไม่อาววว ก็บอกว่ามันไม่ชินนนน...”

“ไม่ชินก็ต้องพูด ลูกจะได้ไม่ต้องเอาคำหยาบจากเราไปใช้ไง หรือตัวเองอยากให้ลูกพูดไม่เพราะ”

“ก็ไม่อยากกก”

“ไม่อยากก็ต้องพูด..เร็วๆ เดี๋ยวจะปล่อยสัญญา” ไอร์เอียงหน้าไปจ้องตากับคนรัก ก่อนจะเอ่ยคำที่อีกฝ่ายต้องการได้ยินออกมา

“ตัวเองปล่อยเขาเถอะนะ” คนที่ได้ฟังยิ้มกริ่มแล้วโน้มใบหน้าไปหอมแก้ม

“พูดอย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย ปล่อยก็ได้แต่หลังจาก...แล้วนะ” ร่างสูงใช้สายตาโลมเลียไปที่เรือนร่างขาวนวล สื่อว่ากำลังต้องการทำเหมือนเมื่อคืนอีกครั้ง

“ไอ้คนไม่รักษาสัญาปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ” เมื่อรู้ว่าโดนอีกฝ่ายแกล้ง ก็รัวหมัดไปที่สีข้างอย่างเต็มแรง

“มีแรงแค่นี้รึไง” ต๋องพลิกตัวอีกฝ่ายนอนราบลงบนเตียงแล้วตรึงแขนทั้งสองข้างไว้ ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไป ใช้ปลายลิ้นสัมผัสกับยอดอกสีกลีบกุหลาบ

“อ๊ะ...ตะ..ต๋อง” เสียงกระเส่าดังขึ้นเมื่อโดนลิ้นเย็นเลียวนอยู่อย่างนั้น

แผล็บๆ ๆ

ยิ่งได้ยินอย่างนั้นยิ่งได้ใจ ไม่ยอมให้ขาดช่วงแม้แต่วินาทีเดียว

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“คุณพ่อคุณแม่คะตื่นรึยัง”

เมื่อได้ยินเสียงลูกสาวดังมาจากหน้าห้อง ทั้งสองคนก็รีบผละตัวออกจากกันทันที

“กะ..กูจะไปอาบน้ำก่อน” ทำหน้าเหรอหราแล้วรีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำ ส่วนต๋องก็รีบใส่เสื้อผ้าและพยายามควบคุมเจ้าโลกให้สงบลง หลังจากนั้นก็ไปเปิดประตูให้ลูกสาว

“ว่าไงครับคนดีของพ่อ”

“ทำไมเปิดช้าจังคะ น้องอันดารอตั้งนาน” เดินเข้ามาแล้วมองหาผู้เป็นแม่ “แล้วคุณแม่ไปไหนคะ”

“คุณแม่อาบน้ำอยู่ครับลูก แล้วหนูอาบน้ำรึยัง” เอ่ยถามขณะเจ้าตัวเล็กนั่งอยู่บนเตียงนอน

“อาบตั้งนานแล้วค่ะ คุณยายให้อันดามาเรียกไปคุณพ่อกับคุณแม่ไปกินข้าว”

“อ่อ...ลูกลงไปก่อนนะเดี๋ยวพ่อกับแม่ตามลงไป”

“ค่ะ...แล้วเมื่อคืนนี้คุณพ่อได้ทำน้องให้อันดารึเปล่าคะ” เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยถามด้วยความใสซื่อ

“เอ่อ..ทำสิลูกอีกไม่นานอันดาจะได้อุ้มน้องแน่นอนค่ะ”

“เย้ๆ ๆ น้องอันดาลงไปบอกคุณยายก่อนนะคะ” ว่าแล้วก็รีบวิ่งลงไปหาผู้เป็นยายที่ชั้นล่าง

เห็นกล้าๆ อย่างนี้ต๋องเองก็รู้สึกเขินอายอยู่เหมือนกัน ลงไปข้างล่างไม่รู้จะมองหน้าแม่ยายยังไงดี คิดแล้วก็ตลกตัวเอง

“เสร็จเร็วจัง” ไม่นานคนรักก็นุ่งผ้าขนหนูสีขาวออกมาจากห้องน้ำ เปลือยท่อนบนโชว์ผิวที่ขาวสะอาดชวนมอง

“ก็ไม่ช้าไง” ตอบกวนๆ ขณะใช้ผ้าเช็ดผมไปด้วย

“กวนตีนจังครับที่รัก” เดินตรงไปหาหมายจะสวมกอดแต่โดนมือเรียวดันที่อกไว้ก่อน

“หยุด! ..รีบไปอาบน้ำจะได้ลงไปกินข้าว แม่กับอันดารอนานแล้ว”

“คร้าบบบเมีย” ต๋องเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้าแล้วเข้าไปในห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี



หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็ลงมาข้างล่างพร้อมกัน โดยที่สำรับถูกจัดเตรียมไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ส่วนสองยายหลานกำลังนั่งดูทีวีรออยู่อีกฝั่ง

“เพราะมึงคนเดียวเลยถึงลงมาช้าอย่างนี้” ก่อนหน้าไอร์ไม่เคยให้แม่ต้องมานั่งรออย่างนี้เลย แถมยังไม่ได้ลงมาช่วยทำกับข้าวอีกต่างหาก

“ไหนสัญญาว่าจะเลิกพูดกูมึงแล้วไง”

“ลืมตัวอ่ะ เอาเป็นว่าเราพูดเฉพาะอยู่ต่อหน้าลูกละกัน”

“ก็ได้ครับที่รัก”

ยิ้มกริ่มแล้วจับมือเรียวไว้แน่นเดินตรงไปหาแม่ยายและลูกสาว ที่กำลังส่งยิ้มมาให้เช่นเดียวกัน

“ขอโทษครับแม่ที่วันนี้ไม่ได้ลงมาช่วยทำกับข้าวแถมยังให้รออีกต่างหาก” เดินมาถึงก็กล่าวคำขอโทษผู้เป็นแม่ก่อนเป็นอันดับแรก

“ไม่เป็นไรจ๊ะแม่เข้าใจ ข้าวใหม่ปลามันก็อย่างนี้ล่ะ อีกไม่นานแม่คงได้อุ้มหลานอีกคนแล้วสินะ” ปิ่นแก้วเอ่ยแซวพร้อมกับยิ้มให้ทั้งสองคน

“รับรองครับแม่อีกไม่เกินสองเดือนรู้ผล” ต๋องได้ทีก็กระชับกอดคนรักแล้วพาเดินไปที่โต๊ะสำรับ

“ต่อไปอันดาจะไปนอนกับคุณยายทุกวันเลย”

“ไม่เอานะลูกนอนกับแม่นี่ล่ะ” เอ่ยกับลูกสาวขณะคดข้าวใส่จานให้กับทุกคน

“ก็อันดาอยากมีน้องเร็วๆ นี่คะ” เจ้าตัวน้อยไม่ยอมหยุด ยื่งนานวันความฉลาดหลักแหลมยิ่งเพิ่มมากขึ้น แถมยังมีแววเจ้าเล่ห์เหมือนพ่ออีกต่างหาก

“เริ่มแก่แดดขึ้นทุกวันนะเรา”

“แก่แดดคืออะไรคะคุณแม่” เจ้าตัวน้อยมองตาแป๋วแล้วยิ้มให้

“นั่นไงไม่ใช่แก่แดดอย่างเดียวแล้ว ตอนนี้เริ่มซึมซับนิสัยกวนโอ๊ยจากพ่อมาอีกด้วย” พูดแล้วก็หันไปทำหน้าดุใส่สมาชิกใหม่ของบ้าน

“อ้าว! เกี่ยวอะไรกับเค้าอ่ะตัวเอง” ต๋องทำหน้างง จู่ๆ ก็มาโทษกันซะอย่างนั้น

“เกี่ยวสิที่อันดาเป็นอย่างนี้เพราะตัวเองไงล่ะ ข้าวตักเองเลยไม่ทำให้แล้ว” ทำหน้าบึ้งแล้ววางโถข้าวไว้ให้ข้างจาน เมื่อว่าลูกไม่ได้ก็ขอว่าพ่อละกัน

“แม่ดูสิครับอยู่ๆ ก็มางอนผมซะงั้น” เสียงเข้มเอ่ยประท้วงคนรัก

“งอนกันบ่อยๆ ก็ดีนะแม่ว่า” ปิ่นแก้วยิ้มอ่อนให้ลูกเขย

“อ้าว! ไหงเป็นงั้นล่ะครับแม่” เจ้าตัวนึกว่าแม่ยายจะเข้าข้างเสียอีก

“ยังไงซะแม่ก็ต้องเข้าข้างลูกอยู่แล้ว...ใช่ไหมครับแม่” ไอร์ยิ้มเยาะอีกฝ่าย ก่อนจะตักกับข้าวใส่จานให้ลูกสาวอย่างอารมณ์ดี

“แม่ไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น ที่บอกอย่างนั้นเพราะเขาว่าผัวเมียง้อกันบ่อยๆ จะทำให้มีลูกดกไงล่ะ”

“อ๋อเข้าใจล่ะครับ” ต๋องพยักหน้าสื่อว่าเข้าใจแล้วหันไปเอ่ยกับคนรัก “ต่อไปตัวเองก็งอนบ่อยๆ นะ เค้าจะง้อซะให้เข็ดเลย ฮ่าๆ ๆ”

“ชิส์!”

ไอร์ชักสีหน้าพร้อมกับเบ้ปากใส่อีกฝ่าย แล้วตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารโดยไม่สนใจ ส่วนต๋องก็เอาอกเอาใจคนรักด้วยการตักกับข้าวใส่จานให้อยู่เนืองๆ ไม่นานนักอาการงอนก็หายเป็นปลิดทิ้ง ความเป็นพ่อแง่แม่งอนของคนทั้งสอง ทำให้ปิ่นแก้วมองแล้วยิ้มตามอยู่ตลอดเวลา และนั่นก็ทำให้การรับประทานอาหารเช้ามื้อนั้น เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและอบอวลไปด้วยความสุข



---------------------------------------------

ตอนหน้าก็จะจบแล้วนะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 25-03-2019 21:38:13
มดขึ้นแล้ววว  :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-03-2019 21:51:12
พักนี้ต๋องกินเครื่องในเก่งนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 25-03-2019 22:30:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 25-03-2019 22:38:07
แอบหื่นนะเรา
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 25-03-2019 22:43:47
ตัวเอง เค้า โอ้ยยยจะหวานไปไหน
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-03-2019 00:07:12
จะจบแล้วเหรอ?
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 26-03-2019 10:16:17
 o18 อันดาเตรียมอุ้มน้องเลยลูก
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 26-03-2019 11:52:03
น้องอันดาาาาาาาา เดี๋ยวน้องมาช้านะลูกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 26-03-2019 12:12:48
หวานกันเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 26-03-2019 15:33:21
หืมมมม..
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.19 ห้องหอ [Up.25-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 26-03-2019 19:39:11
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 31-03-2019 11:57:35
:: ๒๐ ::
อวสาน


“เสร็จรึยังคร้าบบที่รัก”

“เสร็จแล้วคร้าบบ”

ไอร์จูงมือลูกสาวตัวน้อยลงมาจากห้องด้วยความเร่งรีบ วันนี้ทั้งสามคนจะรวมทีมไปตระเวนเที่ยวที่หัวหิน ถ้าจะบอกว่านี่คือการไปฮันนีมูนหลังจากแต่งงานก็คงจะใช่

“ว้าว! วันนี้ลูกพ่อน่ารักที่สุดๆ เลย” เอ่ยปากชมเมื่อเห็นลูกสาวสวมเสื้อยืดคอกลมสีชมพูลายดอกไม้ พับแขนให้ดูเท่ห์เข้าคู่กับกางเกงยีนสีคราม สะพายกระเป๋าใบเล็กๆ ลายตุ๊กตาบาร์บี้เดินยิ้มลงมา

“วันนี้คุณพ่อก็หล่อที่สุดเลยค่ะ”

“แล้วแม่ล่ะไม่หล่อบ้างรึไง” เห็นสองพ่อลูกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ก็อยากมีส่วนร่วมขึ้นมาบ้าง

“คุณแม่ไม่หล่อ แต่คุณแม่สวยยยย” เจ้าตัวน้อยตอบลากเสียงยาวขณะโดนผู้เป็นพ่ออุ้มไว้

“พ่อเห็นด้วยวันนี้คุณแม่สวยที่สุดเลย” ยิ้มพร้อมกับส่งจูบให้คนรัก จนไอร์ต้องแลบลิ้นตอบกลับแก้เขิน ก่อนจะยิ้มกว้างตามมาทีหลัง

ก่อนจะออกเดินทาง ไอร์ไม่ลืมที่จะเดินไปหาผู้เป็นแม่ ซึ่งมายืนรอส่งอยู่หน้าบ้าน

“แม่ไม่ไปกับพวกเราจริงๆ เหรอครับ” ถามย้ำอีกครั้งเผื่อผู้เป็นแม่จะเปลี่ยนใจ

“ไปกันเถอะแม่แก่แล้วคงเดินเที่ยวด้วยไม่ไหว ไปเที่ยวให้สนุกนะลูก” เอ่ยกับลูกชายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเหมือนทุกครั้ง

“ครับแม่เดี๋ยวผมจะซื้อของมาฝากละกัน ดูแลตัวเองด้วยนะครับ” ว่าแล้วก็โผเข้ากอด ผู้อยู่เบื้องหลังที่ทำให้เขามีทุกวันนี้

“จ๊ะ เดินทางปลอดภัยนะลูก”

“ครับแม่” เอ่ยกับแม่แล้วหันไปหาลูกสาว “อันดามาไหว้คุณยายก่อนสิลูก”

ต๋องได้ยินก็อุ้มลูกสาวเดินมาหา ก่อนจะวางเจ้าตัวเล็กลงที่พื้น แล้วเข้าไปกอดผู้เป็นยาย

“อันดาจะเอาน้ำทะเลมาฝากคุณยายนะคะ”

“จ้าหลานรักของยาย อย่างอแงเอาแต่ใจมากนักล่ะเข้าใจไหม”

“ค่ะคุณยาย”

“ไปกันเถอะลูกจะได้ถึงเร็วๆ”

ทั้งสามไหว้ผู้อาวุสโสประจำบ้าน หลังจากนั้นก็ขึ้นรถมุ่งหน้าไปยังหัวหินทันที



ขับรถเกือบสามชั่วโมงก็ถึงที่หมาย หลังจากนั้นก็เข้าไปเช็คอินในรีสอร์ทที่ได้โทรจองไว้ก่อนหน้านี้ รีสอร์ทแห่งนี้อยู่ติดชายทะเล เดินลงไปจากบ้านพักเพียงไม่กี่ก้าว ก็จะได้สัมผัสกับหาดทรายขาวและน้ำทะเลที่ใสจนมองเห็นผืนทรายด้านล่าง เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง

“เฮ้อ! ถึงซะที” ไอร์วางกระเป๋าลงที่พื้นแล้วนอนแผ่หราลงบนเตียงพร้อมกับลูกสาว

“นอนพักเอาแรงก่อนแล้วค่อยลงไปเล่นริมหาดกัน” ต๋องบอกกับลูกและเมีย

“แต่น้องอันดาอยากไปเล่นน้ำทะเลแล้วนี่นา” เด็กหญิงอันดาลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยกับผู้เป็นพ่อ

“นอนเอาแรงก่อนนะลูกตอนนี้แดดกำลังจ้า เดี๋ยวตอนเย็นๆ แม่จะพาหนูไปแน่นอน” ไอร์บอกกับลูกสาวตัวน้อย

“ค่ะคุณแม่” แม้จะดูร่าเริงแค่ไหนก็ตาม แต่ไอร์ก็ดูออกว่าเจ้าตัวเล็กอ่อนเพลียจากการนั่งรถอยู่ไม่น้อย เลยอยากให้นอนเอาแรงเสียก่อน

“เดี๋ยวแม่จะนอนเป็นเพื่อน”

“พ่อด้วย” ต๋องรีบขึ้นมานอนข้างลูกสาวแล้วจับมือไว้

แม้จะมีลูกสาวตัวน้อยนอนคั่นอยู่ตรงกลาง แต่คนทั้งสองก็ส่งยิ้มให้กันจนหลับไปในที่สุด



ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว ทั้งสองจึงทำตามสัญญานั่นคือพาลูกสาวลงไปเล่นน้ำทะเล ทั้งหมดเปลี่ยนชุดลำลองเดินจูงมือกันลงไปยังริมชายหาดด้วยรอยยิ้ม บริเวณริมหาดมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแต่ก็ไม่มากนัก บ้างก็มาแบบคู่รัก บ้างก็มากันเป็นครอบครัวใหญ่ บ้างก็มาคนเดียวตามประสาคนโสด แต่สิ่งที่เหมือนกันนั่นคือรอยยิ้มและความสุข ที่ได้จากการมาท่องเที่ยวในครั้งนี้

“คุณพ่อคุณแม่ลงไปเล่นน้ำกันเถอะค่ะ” ดูท่าทางอันดาจะรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อเห็นน้ำทะเลใสๆ ที่กำลังถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งเป็นระรอกอยู่ตรงหน้า

“ถ้างั้นก็ไปกันเล้ยย” สามคนพ่อแม่ลูกจับมือกันวิ่งลงไปยังน้ำทะเลอย่างไม่กลัวเปียกปอน เจ้าตัวน้อยลอยคอเล่นอยู่บริเวณน้ำตื้น โดยมีผู้เป็นพ่อและแม่คอยพยุงตัวไว้ไม่ห่าง

“สงสัยกลับบ้านคราวนี้ต้องให้ไปเรียนว่ายน้ำซะแล้วมั้ง...ดีไหมตัวเล็ก”

“ดีเลยค่ะคุณพ่อน้องอันดาอยากว่ายน้ำเก่งๆ” ดูท่าทางเด็กหญิงตัวน้อยจะชื่นชอบการว่ายน้ำเป็นพิเศษ เพราะตั้งแต่ลงมายังไม่ยอมขึ้นฝั่งเลย

“เคยคิดจะพาไปเรียนแต่พอดีช่วงนั้นไม่ค่อยว่างอ่ะ” ก่อนหน้าจะเจอกับต๋องอีกครั้งเคยคิดไว้ว่าจะพาลูกสาวไปเรียนว่ายน้ำอยู่เหมือนกัน แต่ติดตรงที่ยังไม่มีเวลาเพราะแค่รักษาคนไข้ก็เกือบจะหมดวันแล้ว

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเค้าพาลูกไปเองไม่ต้องห่วงนะ” ต๋องเอ่ยกับคนรักแล้วยิ้มกริ่มให้

“มีสามีดีๆ อะไรก็ดีไปหมด” พูดแล้วยิ้มตอบ

“มีภรรยาน่ารักอย่างนี้ยอมทุกอย่างเลยคร้าบบ” ยิ้มหน้าระรื่น

“ยอมทุกอย่างจริงอ่ะ” ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ใส่อีกฝ่าย

“จริ้ง”

ไม่รอช้าไอร์รีบขึ้นไปขี่หลังแล้วกอดคอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ถ้างั้นขออยู่บนนี้สักชั่วโมงนะ ฮ่าๆ ๆ”

“เอางี้เลยเหรอ”

“เอางี้ล่ะถ้ารักกันจริงก็อย่าปล่อยลงเด็ดขาด”

“น้องอันดาอยากขี่หลังคุณพ่อบ้าง” เมื่อเห็นอย่างนั้นอันดาก็เกาะแขนอ้อนผู้เป็นพ่อ

“ถ้าน้องอันดาอยากขี่หลังพ่อ ต้องหาทางเอาคุณแม่ลงมาให้ได้ก่อนนะคะ” ต๋องยืมมือลูกสาวจัดการกับอีกฝ่าย

“คุณแม่ลงมาเดี๋ยวนี้เลยน้า” อันดาพยายามดึงขาผู้เป็นแม่ให้ลงมา แต่ไอร์ยังคงกอดคอคนรักเอาไว้แน่น อยากจะแกล้งทั้งพ่อทั้งลูกพร้อมๆ กัน

“แม่ไม่ลง”

“โหวว ใจร้ายกับลูกจริงๆ เลยเนี่ย”

“ใจร้ายตรงไหน ตัวเองหนักก็บอกเถอะไม่ต้องเอาลูกมาอ้าง” ว่าแล้วก็ดึงหูอีกฝ่ายจนร้องเสียงหลงออกมา

“โอ๊ยๆ ๆ เจ็บนะคร้าบบเมียย”

“คุณแม่ลงมาเดี๋ยวนี้น้องอันดาจะขี่หลังคุณพ่อ” เด็กหญิงอันดายังคงดึงขาผู้เป็นแม่ไม่ยอมหยุด ทำให้ต๋องเดินเซแล้วลมลงไปในน้ำ

ตูมมม!!!

มือเรียวที่เคยเกาะกุมบริเวณต้นคอค่อยๆ คลายออกมา แล้วจับลูกสาวตัวน้อยขึ้นขี่หลังคนรักแทน หลังจากนั้นทั้งหมดก็ขึ้นฝั่งแล้วเปลี่ยนไปเดินเล่นบริเวณริมหาด ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงเมื่อถึงยามเย็น ทำให้ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับกลายเป็นสีส้มแดงและสะท้อนเงาลงบนผิวน้ำ ทำให้มีบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก

“บรรยากาศดีจังเลยเนาะ” เอ่ยขณะเดินเคียงข้างคนรัก ทอดสายตามองชายหาดที่ยาวสุดลูกหูลูกตาอย่างสบายใจ ส่วนเจ้าตัวน้อยก็นิ่งเงียบอยู่บนหลังผู้เป็นพ่อ

“อยู่สักเดือนดีไหมล่ะถ้างั้น”

“บ้าแล้ว...ใช่สิตัวเองอยู่ได้แต่เค้าต้องไปรักษาคนไข้น่ะสิ”

“แต่อันดาอยากอยู่ที่นี่นานๆ” จากที่นิ่งเงียบมานาน เด็กหญิงก็เอ่ยขึ้นบ้าง

“อันดาก็ต้องกลับไปเรียนไงลูก เอาไว้ช่วงปิดเทอมพ่อกับแม่จะพามาใหม่นะคะ” เอื้อมมือเรียวไปลูบศีรษะลูกสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดู

“คุณแม่สัญญาแล้วนะคะ”

“จ้าแม่สัญญา”

“อันดาจะไปเรียนว่ายน้ำให้เก่งๆ แล้วเราสามคนมาแข่งว่ายน้ำกันนะคะ”

“ได้เลยลูกรัก ว่ายน้ำเก่งตอนไหนพ่อจะพามาตอนนั้นเลยดีไหม” เอ่ยเอาใจลูกสาวสุดที่รัก

“ดีเลยค่ะ” ดีใจจนชูกำปั้นน้อยๆ ขึ้นข้างหนึ่ง

เดินเล่นริมหาดไปได้สักพักก็ต้องกลับมาที่รีสอร์ท นั่นเพราะดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับของฟ้าทำให้ทัศนวิสัยเริ่มมืดลงเรื่อยๆ มาถึงห้องพักแล้วทั้งหมดก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ หลังจากนั้นก็สั่งอาหารทะเลมาทานที่ระเบียงหน้าห้องนั่งชมแสงจันทร์ในยามค่ำคืน ลมโกรกโชยพัดมาอยู่เนื่องๆ ทำให้อากาศเย็นกำลังดี เหมาะแก่การนั่งดินเนอร์ใต้แสงเทียนเป็นที่สุด

“ค่อยๆ กินนะลูกเดี๋ยวจะติดคอเอา” ไอร์นั่งแกะเปลือกกุ้งเผาตัวโตส่งให้ลูกสาวอย่างไม่ขาดช่วง เจ้าตัวน้อยพยักหน้ารับ ดูท่าทางจะสนุกกับการกินมากเหลือเกิน

“แกะให้แต่ลูกแกะให้พ่อมั่งดิครับ” ต๋องนั่งมองคนทั้งสองอย่างมีความสุข ก่อนจะเรียกร้องความสนใจจากคนรักบ้าง

“มีมือก็แกะเองดิ โตแล้วนี่นา”

“ไม่เอาเค้าจะให้ตัวเองแกะให้” ทำสีหน้าท่าทางออดอ้อนซะเต็มที่

“สงสัยมาเที่ยวคราวนี้จะมีลูกสองคนมั้งเนี่ย” ปากก็เอ่ยไปอย่างนั้นแต่มือกลับยื่นกุ้งที่แกะแล้วให้คนรัก “อ่ะ”

“ไม่อาวว...อยากให้ป้อน” ต๋องทำตัวยังงอแงอย่างกับเด็ก

“ขนาดลูกยังกินเองได้เลย อย่าเยอะ!”

“นะๆ ๆ”

เมื่อเห็นใบหน้าหล่อที่ยื่นเข้ามาใกล้ก็ต้องใจอ่อน ไอร์หยิบกุ้งขึ้นไปป้อนให้คนรักแล้ว แต่โดนอีกฝ่ายจับมือเอาไว้ แล้วจุมพิตที่หลังมือตอบแทนก่อนจะปล่อยคืนมา

“พอใจรึยัง”

“พอใจที่สุดคร้าบบ” ยิ้มหวานให้อีกฝ่าย แต่ได้รับการแยกเขี้ยวกลับคืนมา

“อันดาเอาอีกไหมลูก”

“ไม่ค่ะอันดาท้องป่องแล้วเนี่ย” พูดแล้วก็ลูบที่ท้องตัวเองให้ผู้เป็นแม่ดู ไอร์เห็นอย่างนั้นก็หัวเราะออกมา

“ถ้างั้นก็เข้าไปล้างมือในห้องแล้วค่อยออกมานะลูก” ไอร์บอกกับลูกสาว

“ค่ะ” เจ้าตัวเล็กตอบรับแล้วดื่มน้ำจนหมดแก้ว หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปล้างมือตามคำสั่งของผู้เป็นแม่

เมื่อลูกสาวเดินไปแล้วต๋องก็เอ่ยประโยคสำคัญ ที่อยากจะบอกกับคนรักตั้งแต่เช้าแล้ว

“คืนนี้ขอนะ” ทำหน้าเจ้าเล่ห์พร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก

“จะบ้าเหรอลูกก็อยู่” คนที่ได้ยินทำหน้าเหวอเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเอ่ยประโยคนี้ออกมา

มาเที่ยวกับลูกยังจะคิดเรื่องนี้อยู่อีกไอ้คนลามก

“ก็รอให้ลูกหลับก่อนไง”

“แล้วถ้าลูกตื่นขึ้นมาเจอพอดีจะทำยังไง ไม่ต้องเอาปี๊บคลุมหัวเวลาคุยกับลูกเหรอวะ”

“ในห้องน้ำก็ได้”

“มึงนี่หื่นไม่เลือกที่เลยจริงๆ” ว่าให้อีกฝ่าย

“สรุปได้ป่ะละ” ทำหน้าหงอยเพราะคิดว่าคนรักคงไม่ยอมเป็นแน่

“อืม...ก็ได้แต่รอให้ลูกหลับก่อนนะช่วงดึกๆ โน่น” ในที่สุดเจ้าตัวก็ไม่อาจทนการรบเร้าของไอ้คนหน้าหล่อตรงหน้านี้ได้

“น่ารักที่สุดเลยคร้าบบบ” เอื้อมมือหนาไปหยิกเบาๆ ที่แก้มนุ่มด้วยความดีอกดีใจ ในเมื่อคนรักยังไม่มีวี่แววว่าจะท้อง เขาจะไม่ละทิ้งความพยายามอย่างแน่นอน

และคืนนั้นก็เป็นไปตามที่ได้พูดคุยตกลงกันไว้

ช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสามคนตระเวนเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในหัวหินได้สามวัน ต๋องก็พาลูกเมียเดินทางกลับมากรุงเทพมหานคร



หนึ่งเดือนผ่านไป

การใช้ชีวิตคู่เริ่มลงตัวมากขึ้น ทุกๆ วันผ่านพ้นไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม ไอร์กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลและเปิดคลีนิคควบคู่ไปด้วย ส่วนต๋องก็ตั้งใจทำงานจนเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่สามารถสร้างกำไรให้บริษัทได้เป็นกอบเป็นกำ และก็ไม่ลืมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีควบคู่ไปด้วย

ขณะนั่งทำงานอยู่ในห้องก็มีสายโทรเข้ามา ต๋องผละจากการอ่านเอกสารปึกใหญ่บนโต๊ะ แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูที่หน้าจอ ก่อนจะยิ้มกริ่มออกมาเมื่อรู้ว่าเป็นใคร

“ว่าไงครับที่รัก” รับสายแล้วหยอดคำหวานให้ทันที

[“วันนี้ไม่ต้องไปรับอันดาที่โรงเรียนนะ เดี๋ยวเค้าจะไปรับลูกเอง”] ปลายสายเอ่ย

“อ้าว! ทำไมล่ะ”

[“เอาน่า...อย่าถามเยอะเดี๋ยวจะไปรับเอง”]

“โอเค...ถ้างั้นเจอกันที่บ้านนะครับที่รัก”

[“ไม่ใช่ที่บ้านแต่ที่เดิมของเราต่างหากล่ะ”]

“ที่เดิมงั้นเหรอ..” เอ่ยพลางคิดไปด้วย ใช่สินะวันนี้เป็นวันที่ไอร์เคยสัญญาไว้นี่นา

[“อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้”]

“จำได้สิคร้าบบ ถ้างั้นเจอกันที่นั่นนะครับ”

[“เคๆ แล้วเจอกันนะ”]

วางสายไปแล้วต๋องก็ยกยิ้มออกมา นั่งนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนนี้ความสัมพันธ์จะพัฒนามาถึงขั้นนี้ได้ และรู้สึกโชคดีที่คู่ชีวิตคือไอ้เพื่อนรักคนนี้ คนที่รักและเข้าใจเขาทุกอย่าง มันคือพรหมลิขิตจริงๆ



เมื่อมาถึงต๋องก็ยืนรอลูกกับเมียอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ยืนทอดสายตามองดูทิวทัศน์ที่งดงามของวัดอรุณราชวราราม ในช่วงที่ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงมาบรรจบที่ยอดพระปรางค์ ท้องฟ้าที่เคยมีสีครามสดใสเปลี่ยนเป็นสีทองผ่องอำไพ ยิ่งตกกระทบลงบนผื้นน้ำเจ้าพระยายิ่งทำให้เกิดความงดงามเหลือคณานับ บวกกับเสียงเรือหางยาวที่ดังแว่วมาเป็นระยะๆ ยิ่งทำให้ผืนน้ำแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

“คุณพ่อคะ” ได้ยินเสียงที่คุ้นหูของลูกสาว ก็หันกลับมามองแล้วยิ้มให้ พร้อมอ้าแขนรอรับเจ้าตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด

“คิดถึงจังเลยเจ้าตัวเล็กของพ่อ” ว่าพร้อมกับหอมแก้มลูกสาวทั้งสองข้างสลับกันไปมา ด้วยความหมั่นเขี้ยว

“น้องอันดาก็คิดถึงคุณพ่อค่ะ”

“รอนานไหมอ่ะ”

“จะให้รอตลอดชีวิตก็รอได้” โปรยยิ้มให้อีกฝ่าย

“แหวะ! เลี่ยนจะแย่” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปยืนข้างๆ ขณะอีกฝ่ายยืนจับมือลูกสาวไว้

“ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน ที่นี่ก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยเนาะ” ไอร์ทอดสายตามองไปอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อชมความงดงามของวัดอรุณราชวรารามเหมือนเช่นเคย

“ใช่สวยเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เหมือนมึงที่ยังอยู่ข้างๆ กูตลอดไม่เคยหายไปไหนเหมือนกัน”

“ไหนบอกว่าเวลาอยู่ต่อหน้าลูกจะไม่พูดกูมึงไงล่ะ” หันไปมองหน้าคนรักแล้วยิ้มกริ่มให้

“พ่อขอพูดไม่เพราะวันนึงนะลูก” ต๋องก้มลงมาเอ่ยกับลูกสาวตัวน้อย ที่กำลังยืนจับแผงรั้วเหล็กชะโงกหน้ามองไปยังผืนน้ำกว้างอย่างตั้งใจ

“น้องอันดาอนุญาตค่ะ” ยิ้มให้ผู้เป็นพ่อแล้วหันไปสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าต่อ

“ต๋อง...กู....มีเรื่องจะบอก” ถอนหายใจเสียงดังแสดงสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำให้คนที่เห็นใจคอไม่ดีเอาเสียเลย

“เรื่องอะไรวะ? ทำไมมึงทำหน้าอย่างนั้นกูใจคอไม่ดีเลย” ขมวดคิ้วมองคนรักด้วยความเป็นห่วง

“ตอนนี้กู....ท้องได้สี่สัปดาห์แล้วว่ะ” พูดจบก็ยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย

“จริงดิ! เยสสส!! ในที่สุดกูก็ทำสำเร็จ” เมื่อได้ยินว่ากำลังจะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกคน ต๋องก็ดีใจยกใหญ่แล้วสวมกอดคนรักเอาไว้แน่น

“ปล่อยก่อนดิวะอึดอัด”

“โทษทีๆ กูดีใจไปหน่อย” ว่าแล้วก็หันไปเอ่ยกับลูกสาว “อันดาครับหนูจะได้อุ้มน้องแล้วนะดีใจไหม”

“เย้ๆ ๆ ๆ ! อันดาจะได้อุ้มน้องแล้ว” เจ้าตัวเล็กก็ดีใจไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อ กระโดดโลดเต้นเสียยกใหญ่

“สงสัยคงจะเป็นคืนนั้นในห้องน้ำแน่ๆ รู้อย่างนี้กูพาไปค้างนอกสถานที่ตั้งนานแล้ว”

“อย่ามโนมันอาจจะไม่ใช่ครั้งนั้นก็ได้เว้ย” ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย

“กูสัญญาว่าจะดูแลมึงกับลูกให้ดีที่สุด จนคนอื่นต้องอิจฉาเลยล่ะ” สัญญากับคนรักด้วยสีหน้ามุ่งมั่น

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ กูแค่ขออย่างเดียวก็พอ”

“อะไรวะ”

“ขอแค่มึงอย่าลืมกูกับลูกเหมือนคราวนั้น”

“กูสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน”

ทั้งสองมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน ก่อนจะหันไปมองทิวทัศน์สวยๆ ของผืนน้ำเจ้าพระยา มือน้อยๆ ของอันดาถูกพ่อกับแม่จับไว้คนละข้างอย่างมั่นคง สื่อว่าคนทั้งสองจะอยู่เคียงข้างลูกสาวคนนี้ตลอดไป



The End.


ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับ ในที่สุดก็จบแล้วแบบ Happy Ending เรื่องนี้มีขายในรูปแบบอีบุ๊กด้วยน้า อยากได้เก็บไว้อ่านโหลดได้ที่ www.mebmarket.com พิมพ์ชื่อเรื่องได้เลยจ้า
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 31-03-2019 12:08:47
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 31-03-2019 12:22:11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2จบแล้ว019]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 31-03-2019 13:06:22
 :pig4: จบแล้ววววววว
 :L1:ขอบคุณผู้แต่งค่ะ ในที่สุดบ้านนี้ก็มีความสุขซะที
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 31-03-2019 14:45:09
แฮปปี้ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 31-03-2019 23:37:11
ยินดีด้วยนะอันดา ที่จะมีน้อง  :mc4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 01-04-2019 00:16:14
มีน้องอีกคนแล้วววววววว  :katai2-1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 01-04-2019 01:32:12
เย้ ดีใจกับคุณพ่อลูกสองด้วยจ้าา :mc4: :mc4:

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 01-04-2019 17:48:49
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 01-04-2019 23:51:52
จบปิ๊ง
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-04-2019 09:16:52
จบแล้ว~ สนุกมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 02-04-2019 11:47:55
ในที่สุดก็มีน้องอีกคน o13 ขอบคุณค่ะสนุกมาก :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 02-04-2019 20:30:38
 :man1:

 :L2: :3123: :pig4: :pig4: :pig4: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 03-04-2019 17:48:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 09-04-2019 06:09:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 09-04-2019 17:26:05
สนุก เริ่องนี้น่ารักมาก ขอบคุณ ผู้แต่งมากจ้ส
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 09-04-2019 23:23:18
ขอบคุณนะคะ เนื้อเรื่องน่ารักดี  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 10-04-2019 20:40:12
 :pig4: :pig4: :pig4:

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 11-04-2019 09:24:15
ขอให้ได้ลูกชายนะ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 11-04-2019 11:23:15
ขอบคุณมากๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-05-2019 15:20:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 14-05-2019 23:08:22
ในที่สุดอันดาก็มีน้อง
ท้องนี้แฝดเลยหรือป่าว อิอิ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 29-05-2019 09:31:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 30-05-2019 02:16:23
 o13
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 26-06-2019 19:37:41
เรื่องน่ารักดีนะคะ แต่แค่เสียดายที่เขียนเรื่องดำเนินเร็วไปนิด 

อ่านแล้วห้วนไปเหมือนรวบรัดไม่ค่อยลื่นไหลเท่าที่ควร

แต่ก็  :pig4: :pig4: :pig4: มากค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 28-06-2019 23:10:01
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 02-07-2019 12:11:26
 o13 o13
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 07-07-2019 02:57:29
เป็นความน่ารักที่ลงตัว
ขอบคุณนักเขียนมากคะ :pig4: :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 04-08-2019 06:28:58
อยากอ่านตอนพิเศษคู่นี้เลยอะ   :L2:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 05-08-2019 21:35:10
 o13 o13 o13
 :mew1: :mew1: :mew1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 27-08-2019 01:53:00
สงสารไอร์ แอบรักเพื่อนแต่ต้องเจียมตัวด้วยอ่ะเนอะ แง
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 27-08-2019 02:21:51
แง ไอร์ก็เด็ดเดี่ยวมากเลยอ่ะ งี้แปลว่าไอร์ก็ต้องท้องระหว่างเรียนน่ะสิ
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 27-08-2019 02:41:52
โอ๊ยยยยยยยย แกจะเอายังไงต๋อง จะยอมทิ้งแฟนที่กำลังจะแต่งงานมาหาไอร์กับลูกจริงหรอ จะรักไอร์จริงๆ หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 28-08-2019 00:47:37
แง สงสารต๋องสงสารไอร์ ต๋องหายไวๆ นะจะได้มาจัดงานแต่งครอบครัวสุขสันต์
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 28-08-2019 21:58:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 28-08-2019 22:18:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 30-08-2019 16:17:12
เอาจนได้ 5555555
ลูกสองคนเลยทีนี้ ฟินมากกับนิยายเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 23-11-2019 18:41:04
น่ารักมากคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 09:55:10
 :pig4: